• 04-04-62/14 : หมี CNN / ระบอบกษัตริย์ชาติอื่นเป็นยังไง? กูไม่รู้ กูไม่สนใจ? แต่ระบบกษัตริย์ไทย หล่อมว๊าก! หัวใจล้วนๆ เทใจให้ราษฎรแบบที่ไหนในโลกก็ไม่มี? อย่าคิดว่าเหี้ยโปรยเศษเงินมาให้ แล้วพวกมรึงคิดจะล้มล้างสถาบัน ตราบใดที่ยังมีคนไทยหัวใจหล่อมว๊ากอยู่อีกมหาศาลเกลื่อนแผ่นดิน?

    พ่อสู้เรื่องระบบน้ำชลประทาน ให้น้ำหมุนเวียนไปทั่ว
    พ่อสู้เรื่องเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง ยามท่วม
    พ่อสู้เรื่องฝนเทียม ให้ชาวนา ชาวไร่ มีน้ำใช้ยามแล้งหนัก
    พ่อสู้เรื่องความยากจน กระจายรายได้ โครงการท้องถิ่น
    พ่อสู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง สอนช่วยตัวเอง
    พ่อสู้เรื่องความช่วยเหลือ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว
    พ่อสู้เรื่องการเกษตร การใช้พื้นที่ การพัฒนายั่งยืน
    พ่อสู้เรื่องความเท่าเทียม แบ่งปัน และยกระดับการศึกษา
    พ่อสู้เรื่องการดนตรี ศิลปะ รากเหง้า อนุรักษ์ประเพณีไทย
    พ่อสู้เรื่องแนวคิด ปรัชญา สติ ปัญญา เหตุและผล สั่งสอน
    พ่อสู้เรื่องความประหยัด อดออมคุ้มค่า รีไซเคิล กลับมาใช้
    พ่อสู้เรื่องป่าไม้ สัตว์ป่า สมดุลธรรมชาติ พันธุ์ไทย ปลูกป่า
    พ่อสู้เรื่องสินค้าไทย แปรรูป อาหาร ทะเล ผ้าไหม ผ้าฝ้าย
    พ่อสู้เรื่องความสามัคคี ปองครอง ยุติความขัดแย้งภายใน
    พ่อสู้เรื่องความเป็นชาตินิยม ภูมิใจความเป็นไทย ชื่อเสียง
    พ่อปกป้องแผ่นดินไทย การรุกรานจากต่างชาติ และมั่นคง
    พ่อเสียสละตนเอง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย
    พ่อเตือนสติ ให้ปัญญา พระบรมราโชวาททุกปี ตื่นคิด มีสติ
    พ่อแบ่งปันความรัก ความรู้ ไปยังเพื่อนบ้านรอบข้างด้วย
    พ่อสร้างมิตร เป็นที่รักชื่นชอบของทุกราชวงศ์ทั่วโลก
    พ่อไม่เคยโอ้อวดตนเอง และไม่ใช้อำนาจที่มี เพื่อแสดง
    พ่อทำนุบำรุงทุกศาสนาในชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสันติได้
    พ่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านทุกพื้นที่ทั้งแผ่นดิน ไปเยี่ยมเสมอ
    พ่อยึดถือทศพิษราชธรรมได้อย่างสมบูรณ์ จนวันสุดท้าย
    พ่อรู้ทุกอย่าง เข้าใจ เข้าถึง แก้ปัญหา พระบารมีเปี่ยมล้น

    มีอีกมากมายมหาศาล จนระลึกถึงน้ำพระคุณได้ไม่หมดสิ้น เป็นบุญของปวงชนชาวไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่หัวใจหล่อมว๊ากที่สุดใน 3 โลก ไม่มีพ่อ ก็คงไม่มีวันนี้ ไม่มีบรรพกษัตริย์ไทย ก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน "ราชวงศ์จักรี" จงเจริญยิ่งยืนนาน ตราบชั่วฟ้าดินสลาย!

    หมี CNN(ด้วยจิตสำนึกรักพ่อ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์)
    04 เม.ย. 62
    16.53 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    Jeerachart Jongsomchai / “ปฏิวัติฝรั่งเศส ของใคร โดยใคร เพื่อใคร ?”

    ... “สาเหตุของการปฏิวัติฝรั่งเศส” มีหลายแนวคิดหลักๆคือ

    ... มูลเหตุของการปฏิวัติมีความซับซ้อนและยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ เช่นปัจจัยภายในต่าง ๆ ของระบอบเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยทางเศรษฐกิจรวมถึงความหิวโหยและทุพโภชนาการในประชากรกลุ่มที่ยากแค้นที่สุด ซึ่งบางส่วนเกิดจากสภาพอากาศผิดปกติจาก “สภาพอากาศ” ความหนาวเย็นผิดฤดู ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกิจกรรมของภูเขาไฟที่ลากีและกริมสวอทน์

    ... ใน ค.ศ. 1783-1784 ประกอบกับ “ราคาอาหารที่สูงขึ้น” และ “ระบบการขนส่งที่ไม่เพียงพอ” ซึ่งขัดขวาง “การส่งสินค้าอาหารปริมาณมากจากพื้นที่ชนบทไปยังศูนย์กลางประชากรขนาดใหญ่” ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้สังคมฝรั่งเศสขาดเสถียรภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอย่างยิ่ง

    ... สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ “ภาวะใกล้จะล้มละลายของรัฐบาลจากค่าใช้จ่ายในสงครามที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมรบจำนวนมหาศาล” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามเจ็ดปี (1756 จนถึง 1763 หรือ “สงครามโลกครั้งที่ศูนย์” โดยเกี่ยวข้องกับทุกประเทศมหาอำนาจในยุโรป มีการสู้รบเกิดขึ้นในห้าทวีป สงครามเจ็ดปีเป็นสงครามระหว่างสองข้างด้วยกัน ข้างหนึ่งนำโดยบริเตนใหญ่ พร้อมด้วยปรัสเซียและกลุ่มนครรัฐเล็กในเยอรมัน กับอีกข้างหนึ่งที่นำด้วยฝรั่งเศส พร้อมด้วยออสเตรีย, รัสเซีย, สวีเดน และซัคเซิน โดยรัสเซียเปลี่ยนข้างอยู่ระยะหนึ่งในช่วงปลายของสงคราม ) และ “สงครามปฏิวัติอเมริกา” สงครามใหญ่เหล่านี้ก่อหนี้จำนวนมหาศาลให้แก่รัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากการสูญเสียการครอบครองพื้นที่อาณานิคมของฝรั่งเศสในทวีปอเมริกาเหนือ และการครอบงำทางพาณิชย์ของ “บริเตนใหญ่”ที่เพิ่มขึ้น ทั้ง “ระบบการเงิน” ที่ไม่มีประสิทธิภาพและล้าสมัยของฝรั่งเศสก็ไม่สามารถจัดการกับหนี้สาธารณะได้ ทางรัฐบาลพยายามจะแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม

    … การที่ฝรั่งเศส ช่วย “อเมริกา” รบกับ “อังกฤษ” นั้น ไม่ได้ต้องการให้เอกราช กับอเมริกาแต่เพราะต้องการตัดกำลังของอังกฤษคู่แข่งอาณานิคมของตัวเอง ( เหมือนตอนที่ อเมริกา หลังได้เอกราช ก็ได้ช่วย “ฟิลิปปินส์” กับ “คิวบา” เป็นเอกราชจากสเปนนั้น ไม่ได้ต้องการให้ทั้งสองชาติสัมผัสกับอิสรภาพ หรือตัวเองซาบซึ้งกับระบอบปประชาธิปไตย แต่ต้องการจะเป็นเจ้าอาณานิคมแทนเจ้าเดิม )

    ... หลังการปฏิวัติมีการ ยกเลิกระบบศักดินา ยุบมณฑลต่าง ๆ แบ่งประเทศออกเป็น 83 จังหวัด มีการพยายาม “รวมศูนย์อำนาจ” เข้าสู่ศูนย์เดียวที่ปารีส ไม่ยินยอมให้เป็นเอกเทศ จึงมีการต่อต้านขัดขืน

    ... กระแสความตื่นตัวและอารมณ์ของประชาชนได้เปลี่ยนทิศทางของการปฏิวัติจนลึกลงไปถึงรากฐาน ซึ่งปูทางให้กับการขึ้นสู่อำนาจของ “มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์” ที่เป็นนักกฎหมาย นักการเมือง และ “กลุ่มฌากอแบ็ง” และกลายมาเป็น “เผด็จการโดยแท้” ภายใต้ “สมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว” ในระหว่างปี ค.ศ. 1793 ถึง 1794 มีผู้ต่อต้านพวกเขาถูกสังหารถึงระหว่าง 16,000 ถึง 40,000 คน ( ในตอนนั้นมันคือการเปลี่ยนจาก “ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช” ไปสู่ระบอบ “เผด็จการ” )

    ... สโมสรฌากอแบ็ง Club des Jacobins เป็นสโมสรทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ก่อตั้งในช่วงการประชุมสภาฐานันดร ค.ศ. 1789 จากการรวมกลุ่มของ “พวกผู้แทน” จากแคว้น “ดัชชีเบรอตาญ” ที่เป็นแคว้นศักดินาแห่งหนึ่งนัฝรั่งเศส ที่เน้นการ “ต่อต้านราชวงศ์” หรือ “ล้มเจ้า” อันเป็นพวกต่อต้านระบอบกษัตริย์ เริ่มแรกมีสมาชิกไม่กี่คนและเป็นการรวมตัวอย่างลับ ๆ ก่อนที่ต่อมาได้พัฒนากลายเป็นขบวนการระดับชาติที่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้จัดตั้งสาธารณรัฐซึ่งมีสมาชิกมากกว่าครึ่งล้านคน อย่างไรก็ตาม หลังจากโค่นล้มระบบกษัตริย์สำเร็จและจัดตั&#3657
    04-04-62/14 : หมี CNN / ระบอบกษัตริย์ชาติอื่นเป็นยังไง? กูไม่รู้ กูไม่สนใจ? แต่ระบบกษัตริย์ไทย หล่อมว๊าก! หัวใจล้วนๆ เทใจให้ราษฎรแบบที่ไหนในโลกก็ไม่มี? อย่าคิดว่าเหี้ยโปรยเศษเงินมาให้ แล้วพวกมรึงคิดจะล้มล้างสถาบัน ตราบใดที่ยังมีคนไทยหัวใจหล่อมว๊ากอยู่อีกมหาศาลเกลื่อนแผ่นดิน? พ่อสู้เรื่องระบบน้ำชลประทาน ให้น้ำหมุนเวียนไปทั่ว พ่อสู้เรื่องเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง ยามท่วม พ่อสู้เรื่องฝนเทียม ให้ชาวนา ชาวไร่ มีน้ำใช้ยามแล้งหนัก พ่อสู้เรื่องความยากจน กระจายรายได้ โครงการท้องถิ่น พ่อสู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง สอนช่วยตัวเอง พ่อสู้เรื่องความช่วยเหลือ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว พ่อสู้เรื่องการเกษตร การใช้พื้นที่ การพัฒนายั่งยืน พ่อสู้เรื่องความเท่าเทียม แบ่งปัน และยกระดับการศึกษา พ่อสู้เรื่องการดนตรี ศิลปะ รากเหง้า อนุรักษ์ประเพณีไทย พ่อสู้เรื่องแนวคิด ปรัชญา สติ ปัญญา เหตุและผล สั่งสอน พ่อสู้เรื่องความประหยัด อดออมคุ้มค่า รีไซเคิล กลับมาใช้ พ่อสู้เรื่องป่าไม้ สัตว์ป่า สมดุลธรรมชาติ พันธุ์ไทย ปลูกป่า พ่อสู้เรื่องสินค้าไทย แปรรูป อาหาร ทะเล ผ้าไหม ผ้าฝ้าย พ่อสู้เรื่องความสามัคคี ปองครอง ยุติความขัดแย้งภายใน พ่อสู้เรื่องความเป็นชาตินิยม ภูมิใจความเป็นไทย ชื่อเสียง พ่อปกป้องแผ่นดินไทย การรุกรานจากต่างชาติ และมั่นคง พ่อเสียสละตนเอง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย พ่อเตือนสติ ให้ปัญญา พระบรมราโชวาททุกปี ตื่นคิด มีสติ พ่อแบ่งปันความรัก ความรู้ ไปยังเพื่อนบ้านรอบข้างด้วย พ่อสร้างมิตร เป็นที่รักชื่นชอบของทุกราชวงศ์ทั่วโลก พ่อไม่เคยโอ้อวดตนเอง และไม่ใช้อำนาจที่มี เพื่อแสดง พ่อทำนุบำรุงทุกศาสนาในชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ พ่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านทุกพื้นที่ทั้งแผ่นดิน ไปเยี่ยมเสมอ พ่อยึดถือทศพิษราชธรรมได้อย่างสมบูรณ์ จนวันสุดท้าย พ่อรู้ทุกอย่าง เข้าใจ เข้าถึง แก้ปัญหา พระบารมีเปี่ยมล้น มีอีกมากมายมหาศาล จนระลึกถึงน้ำพระคุณได้ไม่หมดสิ้น เป็นบุญของปวงชนชาวไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่หัวใจหล่อมว๊ากที่สุดใน 3 โลก ไม่มีพ่อ ก็คงไม่มีวันนี้ ไม่มีบรรพกษัตริย์ไทย ก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน "ราชวงศ์จักรี" จงเจริญยิ่งยืนนาน ตราบชั่วฟ้าดินสลาย! หมี CNN(ด้วยจิตสำนึกรักพ่อ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์) 04 เม.ย. 62 16.53 น. ------------------------------------------------------------------------— Jeerachart Jongsomchai / “ปฏิวัติฝรั่งเศส ของใคร โดยใคร เพื่อใคร ?” ... “สาเหตุของการปฏิวัติฝรั่งเศส” มีหลายแนวคิดหลักๆคือ ... มูลเหตุของการปฏิวัติมีความซับซ้อนและยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ เช่นปัจจัยภายในต่าง ๆ ของระบอบเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยทางเศรษฐกิจรวมถึงความหิวโหยและทุพโภชนาการในประชากรกลุ่มที่ยากแค้นที่สุด ซึ่งบางส่วนเกิดจากสภาพอากาศผิดปกติจาก “สภาพอากาศ” ความหนาวเย็นผิดฤดู ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกิจกรรมของภูเขาไฟที่ลากีและกริมสวอทน์ ... ใน ค.ศ. 1783-1784 ประกอบกับ “ราคาอาหารที่สูงขึ้น” และ “ระบบการขนส่งที่ไม่เพียงพอ” ซึ่งขัดขวาง “การส่งสินค้าอาหารปริมาณมากจากพื้นที่ชนบทไปยังศูนย์กลางประชากรขนาดใหญ่” ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้สังคมฝรั่งเศสขาดเสถียรภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอย่างยิ่ง ... สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ “ภาวะใกล้จะล้มละลายของรัฐบาลจากค่าใช้จ่ายในสงครามที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมรบจำนวนมหาศาล” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามเจ็ดปี (1756 จนถึง 1763 หรือ “สงครามโลกครั้งที่ศูนย์” โดยเกี่ยวข้องกับทุกประเทศมหาอำนาจในยุโรป มีการสู้รบเกิดขึ้นในห้าทวีป สงครามเจ็ดปีเป็นสงครามระหว่างสองข้างด้วยกัน ข้างหนึ่งนำโดยบริเตนใหญ่ พร้อมด้วยปรัสเซียและกลุ่มนครรัฐเล็กในเยอรมัน กับอีกข้างหนึ่งที่นำด้วยฝรั่งเศส พร้อมด้วยออสเตรีย, รัสเซีย, สวีเดน และซัคเซิน โดยรัสเซียเปลี่ยนข้างอยู่ระยะหนึ่งในช่วงปลายของสงคราม ) และ “สงครามปฏิวัติอเมริกา” สงครามใหญ่เหล่านี้ก่อหนี้จำนวนมหาศาลให้แก่รัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากการสูญเสียการครอบครองพื้นที่อาณานิคมของฝรั่งเศสในทวีปอเมริกาเหนือ และการครอบงำทางพาณิชย์ของ “บริเตนใหญ่”ที่เพิ่มขึ้น ทั้ง “ระบบการเงิน” ที่ไม่มีประสิทธิภาพและล้าสมัยของฝรั่งเศสก็ไม่สามารถจัดการกับหนี้สาธารณะได้ ทางรัฐบาลพยายามจะแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม … การที่ฝรั่งเศส ช่วย “อเมริกา” รบกับ “อังกฤษ” นั้น ไม่ได้ต้องการให้เอกราช กับอเมริกาแต่เพราะต้องการตัดกำลังของอังกฤษคู่แข่งอาณานิคมของตัวเอง ( เหมือนตอนที่ อเมริกา หลังได้เอกราช ก็ได้ช่วย “ฟิลิปปินส์” กับ “คิวบา” เป็นเอกราชจากสเปนนั้น ไม่ได้ต้องการให้ทั้งสองชาติสัมผัสกับอิสรภาพ หรือตัวเองซาบซึ้งกับระบอบปประชาธิปไตย แต่ต้องการจะเป็นเจ้าอาณานิคมแทนเจ้าเดิม ) ... หลังการปฏิวัติมีการ ยกเลิกระบบศักดินา ยุบมณฑลต่าง ๆ แบ่งประเทศออกเป็น 83 จังหวัด มีการพยายาม “รวมศูนย์อำนาจ” เข้าสู่ศูนย์เดียวที่ปารีส ไม่ยินยอมให้เป็นเอกเทศ จึงมีการต่อต้านขัดขืน ... กระแสความตื่นตัวและอารมณ์ของประชาชนได้เปลี่ยนทิศทางของการปฏิวัติจนลึกลงไปถึงรากฐาน ซึ่งปูทางให้กับการขึ้นสู่อำนาจของ “มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์” ที่เป็นนักกฎหมาย นักการเมือง และ “กลุ่มฌากอแบ็ง” และกลายมาเป็น “เผด็จการโดยแท้” ภายใต้ “สมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว” ในระหว่างปี ค.ศ. 1793 ถึง 1794 มีผู้ต่อต้านพวกเขาถูกสังหารถึงระหว่าง 16,000 ถึง 40,000 คน ( ในตอนนั้นมันคือการเปลี่ยนจาก “ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช” ไปสู่ระบอบ “เผด็จการ” ) ... สโมสรฌากอแบ็ง Club des Jacobins เป็นสโมสรทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ก่อตั้งในช่วงการประชุมสภาฐานันดร ค.ศ. 1789 จากการรวมกลุ่มของ “พวกผู้แทน” จากแคว้น “ดัชชีเบรอตาญ” ที่เป็นแคว้นศักดินาแห่งหนึ่งนัฝรั่งเศส ที่เน้นการ “ต่อต้านราชวงศ์” หรือ “ล้มเจ้า” อันเป็นพวกต่อต้านระบอบกษัตริย์ เริ่มแรกมีสมาชิกไม่กี่คนและเป็นการรวมตัวอย่างลับ ๆ ก่อนที่ต่อมาได้พัฒนากลายเป็นขบวนการระดับชาติที่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้จัดตั้งสาธารณรัฐซึ่งมีสมาชิกมากกว่าครึ่งล้านคน อย่างไรก็ตาม หลังจากโค่นล้มระบบกษัตริย์สำเร็จและจัดตั&#3657
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนยกระดับการส่งมอบยุทโธปกรณ์ทางทหารของอเมริกาที่ป้อนแก่ไต้หวัน ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดกับจีน ซึ่งกล่าวอ้างว่าเกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน จากคำยืนยันของ ไมค์ วอลต์ซ ว่าที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ
    .
    ระหว่างกล่าว ณ สถาบันสันติภาพในวอชิงตัน เมื่อวันอังคาร(14ม.ค.) วอลต์ซ สมาชิกสภาคองเกรสจากฟลอริดา เน้นย้ำว่า "เรามีสินค้าคงค้างกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ที่พวกเขาจ่ายเงินมา และเราจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้พวกเขาได้รับในสิ่งที่พวกเขายอมควักเงินเพื่อสิ่งนี้ ที่เรียกว่ามาตรการป้องปราม"
    .
    วอลต์ซ ยังยืนยันด้วยว่า รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ จะเดินหน้าแสวงหานโยบายครอบคลุมในเรื่องเกี่ยวกับไต้หวัน ยุทธศาสตร์นี้รวมไปถึงการติดตั้งแสนยานุภาพด้านการป้องกันตนเองแก่เกาะแห่งนี้ อาทิระบบขีปนาวุธเคลื่อนที่ โดรนและเทคโนโลยีสอดแนมล้ำสมัย ที่จะทำให้จีนแผ่นดินใหญ่อาจต้องทุ่มทุนมากกว่าเดิม หากคิดใช้กำลังเข้าควบคุมไต้หวัน
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมของไต้หวัน แถลงว่ามีแผนประจำการระบบป้องกันขีปนาวุธใหม่ที่จัดหาให้โดยสหรัฐฯ ในช่วงสิ้นปี โดยเผยว่าพวกเขาจะติดตั้งระบบอาวุธ NASAMS ที่ผลิตโดยนอร์เวย์ ในตำแหน่งต่างๆที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ทางเหนือของเกาะ
    .
    ปักกิ่งมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน ภายใต้หลักการ "จีนเดียว" และยืนยันว่าท้ายที่สุดจะมีการรวมชาติ ในนั้นรวมถึงผ่านการใช้กำลังถ้าจำเป็น นอกจากนี้แล้ว จีน ยังส่งเสียงคัดค้านซ้ำๆต่อการแทรกแซงใดๆของต่างชาติในประเด็นนี้ ในนั้นรวมถึงการที่สหรัฐฯขายอาวุธแก่ไต้หวัน โดยปักกิ่งมองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของพวกเขาและคุกคามเสถียรภาพในภูมิภาค
    .
    ไต้หวัน ปกครองตนเองมาตั้งแต่ปี 1949 ครั้งกองกำลังชาตินิยมล่าถอยไปยังเกาะแห่งนี้ หลังจากพ่ายแพ้ในสงคามกลางเมืองของจีน ปัจจุบันเหลือไม่กี่ประเทศที่ให้การยอมรับอธิปไตยของเกาะ และเกือบทั่วโลก ยึดถือจุดยืนของจีน ที่ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน
    .
    อย่างไรก็ตามในส่วนของสหรัฐฯ แม้อย่างเป็นทางการแล้ว ยืดถือนโยบายจีนเดียว แต่ยังคงป้อนอาวุธให้แก่เกาะแห่งนี้ และประสานความร่วมมือทางทหารกับรัฐบาลในไทเป
    .
    จีน ประณามซ้ำๆต่อกรณีสหรัฐฯขายอาวุธให้ไต้หวัน ว่าบั่นทอนเสถียรภาพและยั่วยุ และทำการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศถี่ๆรอบๆเกาะ เป็นการตอบโต้
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน จีนกำหนดมาตรการคว่ำบาตรบริษัทกลาโหม 7 แห่งของสหรัฐฯ และสั่งแบนส่งออกสินค้าที่สามารถใช้ในทั้งทางพาณิยช์และด้านการทหาร ไปยังบรรดาบริษัทอเมริกา ในนั้นรวมถึงโบอิ้ง, เจเนรัล ไดนามิกส์, ล็อคฮีด มาร์ติน และ เรย์เธียน ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจาก โจ ไบเดน ประธานาธิบดีที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง อนุมัติจัดหาอาวุธและยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมแก่ไต้หวัน อีก 571 ล้านดอลลาร์ ในเดือนธันวาคม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004692
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนยกระดับการส่งมอบยุทโธปกรณ์ทางทหารของอเมริกาที่ป้อนแก่ไต้หวัน ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดกับจีน ซึ่งกล่าวอ้างว่าเกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน จากคำยืนยันของ ไมค์ วอลต์ซ ว่าที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ . ระหว่างกล่าว ณ สถาบันสันติภาพในวอชิงตัน เมื่อวันอังคาร(14ม.ค.) วอลต์ซ สมาชิกสภาคองเกรสจากฟลอริดา เน้นย้ำว่า "เรามีสินค้าคงค้างกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ที่พวกเขาจ่ายเงินมา และเราจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้พวกเขาได้รับในสิ่งที่พวกเขายอมควักเงินเพื่อสิ่งนี้ ที่เรียกว่ามาตรการป้องปราม" . วอลต์ซ ยังยืนยันด้วยว่า รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ จะเดินหน้าแสวงหานโยบายครอบคลุมในเรื่องเกี่ยวกับไต้หวัน ยุทธศาสตร์นี้รวมไปถึงการติดตั้งแสนยานุภาพด้านการป้องกันตนเองแก่เกาะแห่งนี้ อาทิระบบขีปนาวุธเคลื่อนที่ โดรนและเทคโนโลยีสอดแนมล้ำสมัย ที่จะทำให้จีนแผ่นดินใหญ่อาจต้องทุ่มทุนมากกว่าเดิม หากคิดใช้กำลังเข้าควบคุมไต้หวัน . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมของไต้หวัน แถลงว่ามีแผนประจำการระบบป้องกันขีปนาวุธใหม่ที่จัดหาให้โดยสหรัฐฯ ในช่วงสิ้นปี โดยเผยว่าพวกเขาจะติดตั้งระบบอาวุธ NASAMS ที่ผลิตโดยนอร์เวย์ ในตำแหน่งต่างๆที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ทางเหนือของเกาะ . ปักกิ่งมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน ภายใต้หลักการ "จีนเดียว" และยืนยันว่าท้ายที่สุดจะมีการรวมชาติ ในนั้นรวมถึงผ่านการใช้กำลังถ้าจำเป็น นอกจากนี้แล้ว จีน ยังส่งเสียงคัดค้านซ้ำๆต่อการแทรกแซงใดๆของต่างชาติในประเด็นนี้ ในนั้นรวมถึงการที่สหรัฐฯขายอาวุธแก่ไต้หวัน โดยปักกิ่งมองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของพวกเขาและคุกคามเสถียรภาพในภูมิภาค . ไต้หวัน ปกครองตนเองมาตั้งแต่ปี 1949 ครั้งกองกำลังชาตินิยมล่าถอยไปยังเกาะแห่งนี้ หลังจากพ่ายแพ้ในสงคามกลางเมืองของจีน ปัจจุบันเหลือไม่กี่ประเทศที่ให้การยอมรับอธิปไตยของเกาะ และเกือบทั่วโลก ยึดถือจุดยืนของจีน ที่ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน . อย่างไรก็ตามในส่วนของสหรัฐฯ แม้อย่างเป็นทางการแล้ว ยืดถือนโยบายจีนเดียว แต่ยังคงป้อนอาวุธให้แก่เกาะแห่งนี้ และประสานความร่วมมือทางทหารกับรัฐบาลในไทเป . จีน ประณามซ้ำๆต่อกรณีสหรัฐฯขายอาวุธให้ไต้หวัน ว่าบั่นทอนเสถียรภาพและยั่วยุ และทำการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศถี่ๆรอบๆเกาะ เป็นการตอบโต้ . ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน จีนกำหนดมาตรการคว่ำบาตรบริษัทกลาโหม 7 แห่งของสหรัฐฯ และสั่งแบนส่งออกสินค้าที่สามารถใช้ในทั้งทางพาณิยช์และด้านการทหาร ไปยังบรรดาบริษัทอเมริกา ในนั้นรวมถึงโบอิ้ง, เจเนรัล ไดนามิกส์, ล็อคฮีด มาร์ติน และ เรย์เธียน ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจาก โจ ไบเดน ประธานาธิบดีที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง อนุมัติจัดหาอาวุธและยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมแก่ไต้หวัน อีก 571 ล้านดอลลาร์ ในเดือนธันวาคม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004692 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Haha
    11
    0 Comments 0 Shares 977 Views 0 Reviews
  • Gombak ศูนย์กลางคมนาคมใหม่ใกล้กัวลาลัมเปอร์

    ในอนาคตอันใกล้ มาเลเซียกำลังจะมีรถไฟความเร็วปานกลางสายใหม่ อีสต์โคสต์ เรล ลิงก์ (East Coast Rail Link) หรือ ECRL ระยะทาง 665 กิโลเมตร พาดผ่าน 4 รัฐ ได้แก่ รัฐกลันตัน ตรังกานู ปะหัง และสลังงอร์ มีสถานีรถไฟทั้งหมด 20 เฉพาะ รับ-ส่งผู้โดยสาร 10 สถานี และรับ-ส่งผู้โดยสารคู่กับขนส่งสินค้า 10 สถานี ตั้งเป้าที่จะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.2569 และเปิดให้บริการในเดือน ม.ค.2570

    ปลายทางของรถไฟสายนี้อยู่ที่อำเภอกอมบัค (Gombak) รัฐสลังงอร์ ทางทิศเหนือของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งมีสถานีรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) สายเกอลานา จายา (Kelana Jaya) หรือ KJL ให้บริการ ระยะทาง 46.4 กิโลเมตร มี 37 สถานี ผ่านสถานีกลางเคแอล เซ็นทรัล (KL Sentral) ไปยังสถานีปูตราไฮท์ส (Putra Heights) ปัจจุบันมีผู้โดยสารมากถึง 84 ล้านคน-เที่ยวต่อปี โดยสถานีกอมบัคเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2542

    สถานีกอมบัคห่างจากสถานีเคแอลเซ็นทรัล 15 สถานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 37 นาที เป็นอาคาร 2 ชั้น โดยชั้นล่างเป็นร้านสะดวกซื้อ ห้องบริการบัตรโดยสาร เครื่องจำหน่ายเหรียญโดยสารอัตโนมัติ เครื่องคีออสบัตร Touch 'n Go มีอาคารจอดแล้วจรอยู่อีกฝั่ง รองรับรถยนต์ได้ 1,441 คัน มีรถโดยสารฟีดเดอร์ (Feeder Bus) สาย T200 ไปมหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติมาเลเซีย (UIAM) และ T201 ไปยัง Hab Wira Damai ให้บริการ

    ทิศเหนือของอาคารจอดแล้วจร เป็นสถานที่ก่อสร้างสถานีกอมบัค ของโครงการ ECRL บนพื้นที่ 8.73 เฮคเตอร์ ริมแนวสันเขากอมบัค มีชานชาลายกระดับและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ที่จอดรถ จุดจอดรถรับส่ง ทางเดินที่มีหลังคาคลุม ที่พักพนักงาน และพื้นที่ภูมิทัศน์ วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทมาเลเซีย เรล ลิงก์ (MRL) และบริษัทไชน่า คอมมูนิเคชัน คอนสตรัคชัน (CCCC) ด้วยงบลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านริงกิต

    หากโครงการแล้วเสร็จ การเดินทางจากสถานีโกตาบารู (Kota Bharu) รัฐกลันตัน ไปยังสถานีกอมบัค จะใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง 45 นาที ใช้รถไฟ EMU รุ่น CR200J ทำความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    ส่วนด้านข้างสถานีกอมบัค เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารเบอร์เซอปาดูกอมบัค (Terminal Bersepadu Gombak หรือ TBG) สร้างขึ้นเพื่อรองรับรถทัวร์ที่จะไปรัฐชายฝั่งตะวันออก (East Coast) ได้แก่ รัฐปาหัง ตรังกานู และกลันตัน ลดความหนาแน่นของสถานีขนส่งผู้โดยสารเบอร์เซอปาดูเซอลาตัน (Terminal Bersepadu Selatan หรือ TBS) พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และที่พักภายในสถานีขนส่ง

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Gombak ศูนย์กลางคมนาคมใหม่ใกล้กัวลาลัมเปอร์ ในอนาคตอันใกล้ มาเลเซียกำลังจะมีรถไฟความเร็วปานกลางสายใหม่ อีสต์โคสต์ เรล ลิงก์ (East Coast Rail Link) หรือ ECRL ระยะทาง 665 กิโลเมตร พาดผ่าน 4 รัฐ ได้แก่ รัฐกลันตัน ตรังกานู ปะหัง และสลังงอร์ มีสถานีรถไฟทั้งหมด 20 เฉพาะ รับ-ส่งผู้โดยสาร 10 สถานี และรับ-ส่งผู้โดยสารคู่กับขนส่งสินค้า 10 สถานี ตั้งเป้าที่จะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.2569 และเปิดให้บริการในเดือน ม.ค.2570 ปลายทางของรถไฟสายนี้อยู่ที่อำเภอกอมบัค (Gombak) รัฐสลังงอร์ ทางทิศเหนือของกรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งมีสถานีรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) สายเกอลานา จายา (Kelana Jaya) หรือ KJL ให้บริการ ระยะทาง 46.4 กิโลเมตร มี 37 สถานี ผ่านสถานีกลางเคแอล เซ็นทรัล (KL Sentral) ไปยังสถานีปูตราไฮท์ส (Putra Heights) ปัจจุบันมีผู้โดยสารมากถึง 84 ล้านคน-เที่ยวต่อปี โดยสถานีกอมบัคเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2542 สถานีกอมบัคห่างจากสถานีเคแอลเซ็นทรัล 15 สถานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 37 นาที เป็นอาคาร 2 ชั้น โดยชั้นล่างเป็นร้านสะดวกซื้อ ห้องบริการบัตรโดยสาร เครื่องจำหน่ายเหรียญโดยสารอัตโนมัติ เครื่องคีออสบัตร Touch 'n Go มีอาคารจอดแล้วจรอยู่อีกฝั่ง รองรับรถยนต์ได้ 1,441 คัน มีรถโดยสารฟีดเดอร์ (Feeder Bus) สาย T200 ไปมหาวิทยาลัยอิสลามนานาชาติมาเลเซีย (UIAM) และ T201 ไปยัง Hab Wira Damai ให้บริการ ทิศเหนือของอาคารจอดแล้วจร เป็นสถานที่ก่อสร้างสถานีกอมบัค ของโครงการ ECRL บนพื้นที่ 8.73 เฮคเตอร์ ริมแนวสันเขากอมบัค มีชานชาลายกระดับและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ที่จอดรถ จุดจอดรถรับส่ง ทางเดินที่มีหลังคาคลุม ที่พักพนักงาน และพื้นที่ภูมิทัศน์ วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทมาเลเซีย เรล ลิงก์ (MRL) และบริษัทไชน่า คอมมูนิเคชัน คอนสตรัคชัน (CCCC) ด้วยงบลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านริงกิต หากโครงการแล้วเสร็จ การเดินทางจากสถานีโกตาบารู (Kota Bharu) รัฐกลันตัน ไปยังสถานีกอมบัค จะใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง 45 นาที ใช้รถไฟ EMU รุ่น CR200J ทำความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนด้านข้างสถานีกอมบัค เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารเบอร์เซอปาดูกอมบัค (Terminal Bersepadu Gombak หรือ TBG) สร้างขึ้นเพื่อรองรับรถทัวร์ที่จะไปรัฐชายฝั่งตะวันออก (East Coast) ได้แก่ รัฐปาหัง ตรังกานู และกลันตัน ลดความหนาแน่นของสถานีขนส่งผู้โดยสารเบอร์เซอปาดูเซอลาตัน (Terminal Bersepadu Selatan หรือ TBS) พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และที่พักภายในสถานีขนส่ง #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    Love
    5
    0 Comments 0 Shares 248 Views 0 Reviews
  • คณะบริหารไบเดนเสนอกรอบโครงใหม่จำกัดการส่งออกชิปเอไอ หวังสกัดจีน คู่แข่งตัวกลั่นในสงครามไฮเทค แต่กลับกลายเป็นการสร้างความกังวลในหมู่ผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศ ตลอดจนถึงอียู
    .
    ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียวก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พวกเจ้าหน้าที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุชัดเจนว่า กฎใหม่หล่านี้จะมีผลบังคับใช้ภายใน 120 วัน ดังนั้นจึงทำให้คณะบริหารของทรัมป์ต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะสานต่อหรือยกเลิกกรอบโครงเหล่านี้ที่จะส่งผลกระทบต่อ 120 ประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งเตือนว่า การระงับการใช้กฎนี้อาจเท่ากับเปิดโอกาสให้จีนมีเวลาสะสมมากขึ้นในการสะสมฮาร์ดแวร์ที่มาจากอเมริกา
    .
    เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวอ้างเมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค.) ว่า เดิมพันจะสูงมาก หากจีนกลายเป็นผู้กำหนดอนาคตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)
    .
    จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ขานรับว่า สิ่งสำคัญคือการรักษาความเป็นผู้นำของอเมริกาในด้านเอไอและการพัฒนาชิปเกี่ยวกับเอไอ และเสริมว่า กรอบโครงนี้ออกแบบมาเพื่อปกป้องเทคโนโลยีเอไอขั้นสูงสุด และให้ความมั่นใจว่า เทคโนโลยีนี้จะไม่ตกอยู่ในมือศัตรูต่างชาติ แต่ขณะเดียวกันจะสามารถเผยแพร่และแบ่งปันประโยชน์กับประเทศที่เป็นหุ้นส่วนของอเมริกา
    .
    แม้คณะบริหารชุดนี้ออกมาตรการจำกัดการส่งออกกับศัตรู เช่น จีนและรัสเซียไปแล้ว แต่พวกเขาอ้างว่าบางมาตรการยังมีช่องโหว่ และกฎล่าสุดมุ่งจะตั้งข้อจำกัดกับประเทศต่างๆ ในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น
    .
    ด้าน เอ็ด มิลส์ นักวิเคราะห์ของ เรย์มอนด์ เจมส์ ชี้ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับศูนย์ข้อมูลในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากบริษัทจีนใช้ศูนย์เหล่านั้นในการสร้างโมเดลเอไอด้วยเทคโนโลยีที่ตนเองไม่สามารถนำเข้าสู่จีนได้โดยตรง
    .
    อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่แล้ว สภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของอเมริกาเตือนไรมอนโดว่า การเร่งรีบใช้กฎใหม่ของคณะบริหารเดโมแครต อาจกลายเป็นการบ่อนทำลายห่วงโซ่อุปทานโลก และทำให้บริษัทอเมริกันเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
    .
    ต่อมาในวันจันทร์ สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอเมริกา (เอสไอเอ) แสดงความเห็นว่า ผิดหวังที่มีการเร่งรัดผลักดันนโยบายก่อนที่จะมีการเปลี่ยนผ่านคณะบริหาร
    .
    จอห์น นิวเฟอร์ ประธานและซีอีโอเอสไอเอ เตือนว่า กฎใหม่เสี่ยงทำให้เกิดความเสียหายยาวนานโดยไม่ตั้งใจกับเศรษฐกิจและขีดความสามารถแข่งขันระดับโลกของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และเอไอของอเมริกา เนื่องจากการทำเช่นนี้มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นการยกตลาดสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ให้แก่พวกคู่แข่ง
    .
    เอ็นวิเดีย บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ โพสต์บนบล็อก สำทับว่า แม้มีจุดประสงค์เพื่อต่อต้านจีน แต่มาตรการนี้ไม่ได้ช่วยส่งเสริมความมั่นคงของอเมริกาแต่อย่างใด
    .
    กฎใหม่นี้เนื้อหาสำคัญคือยกระดับการควบคุมการส่งออกชิป ด้วยการกำหนดให้ต้องมีการขออนุญาตสำหรับการส่งออก รวมทั้งการส่งออกต่อ และการถ่ายโอนภายในประเทศ ขณะที่ศูนย์ข้อมูลเอไอต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมมากขึ้นหากต้องการนำเข้าชิป รวมทั้งมีการเพิ่มความเข้มงวดในการแชร์โมเดลเอไอล้ำสมัย
    .
    กฎใหม่เหล่านี้มีข้อยกเว้นหลายอย่างสำหรับพันธมิตรและหุ้นส่วนสำคัญราว 20 ชาติ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอังกฤษ
    .
    อย่างไรก็ดี การตั้งข้อจำกัดกับบางประเทศในสหภาพยุโรป ทำให้เจ้าหน้าที่บรัสเซลส์ออกมาคัดค้านโดยระบุว่า การขายชิปเอไอขั้นสูงให้สมาชิกอียูถือเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับอเมริกา ไม่ใช่ความเสี่ยงด้านความมั่นคง
    .
    ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีนโยบายใหม่ของไบเดนว่า ละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศ พร้อมประกาศปกป้องผลประโยชน์ของชาติเต็มที่
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004280
    ..............
    Sondhi X
    คณะบริหารไบเดนเสนอกรอบโครงใหม่จำกัดการส่งออกชิปเอไอ หวังสกัดจีน คู่แข่งตัวกลั่นในสงครามไฮเทค แต่กลับกลายเป็นการสร้างความกังวลในหมู่ผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศ ตลอดจนถึงอียู . ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียวก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พวกเจ้าหน้าที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุชัดเจนว่า กฎใหม่หล่านี้จะมีผลบังคับใช้ภายใน 120 วัน ดังนั้นจึงทำให้คณะบริหารของทรัมป์ต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะสานต่อหรือยกเลิกกรอบโครงเหล่านี้ที่จะส่งผลกระทบต่อ 120 ประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งเตือนว่า การระงับการใช้กฎนี้อาจเท่ากับเปิดโอกาสให้จีนมีเวลาสะสมมากขึ้นในการสะสมฮาร์ดแวร์ที่มาจากอเมริกา . เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวอ้างเมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค.) ว่า เดิมพันจะสูงมาก หากจีนกลายเป็นผู้กำหนดอนาคตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) . จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ขานรับว่า สิ่งสำคัญคือการรักษาความเป็นผู้นำของอเมริกาในด้านเอไอและการพัฒนาชิปเกี่ยวกับเอไอ และเสริมว่า กรอบโครงนี้ออกแบบมาเพื่อปกป้องเทคโนโลยีเอไอขั้นสูงสุด และให้ความมั่นใจว่า เทคโนโลยีนี้จะไม่ตกอยู่ในมือศัตรูต่างชาติ แต่ขณะเดียวกันจะสามารถเผยแพร่และแบ่งปันประโยชน์กับประเทศที่เป็นหุ้นส่วนของอเมริกา . แม้คณะบริหารชุดนี้ออกมาตรการจำกัดการส่งออกกับศัตรู เช่น จีนและรัสเซียไปแล้ว แต่พวกเขาอ้างว่าบางมาตรการยังมีช่องโหว่ และกฎล่าสุดมุ่งจะตั้งข้อจำกัดกับประเทศต่างๆ ในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น . ด้าน เอ็ด มิลส์ นักวิเคราะห์ของ เรย์มอนด์ เจมส์ ชี้ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับศูนย์ข้อมูลในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากบริษัทจีนใช้ศูนย์เหล่านั้นในการสร้างโมเดลเอไอด้วยเทคโนโลยีที่ตนเองไม่สามารถนำเข้าสู่จีนได้โดยตรง . อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่แล้ว สภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของอเมริกาเตือนไรมอนโดว่า การเร่งรีบใช้กฎใหม่ของคณะบริหารเดโมแครต อาจกลายเป็นการบ่อนทำลายห่วงโซ่อุปทานโลก และทำให้บริษัทอเมริกันเป็นฝ่ายเสียเปรียบ . ต่อมาในวันจันทร์ สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอเมริกา (เอสไอเอ) แสดงความเห็นว่า ผิดหวังที่มีการเร่งรัดผลักดันนโยบายก่อนที่จะมีการเปลี่ยนผ่านคณะบริหาร . จอห์น นิวเฟอร์ ประธานและซีอีโอเอสไอเอ เตือนว่า กฎใหม่เสี่ยงทำให้เกิดความเสียหายยาวนานโดยไม่ตั้งใจกับเศรษฐกิจและขีดความสามารถแข่งขันระดับโลกของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และเอไอของอเมริกา เนื่องจากการทำเช่นนี้มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นการยกตลาดสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ให้แก่พวกคู่แข่ง . เอ็นวิเดีย บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ โพสต์บนบล็อก สำทับว่า แม้มีจุดประสงค์เพื่อต่อต้านจีน แต่มาตรการนี้ไม่ได้ช่วยส่งเสริมความมั่นคงของอเมริกาแต่อย่างใด . กฎใหม่นี้เนื้อหาสำคัญคือยกระดับการควบคุมการส่งออกชิป ด้วยการกำหนดให้ต้องมีการขออนุญาตสำหรับการส่งออก รวมทั้งการส่งออกต่อ และการถ่ายโอนภายในประเทศ ขณะที่ศูนย์ข้อมูลเอไอต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมมากขึ้นหากต้องการนำเข้าชิป รวมทั้งมีการเพิ่มความเข้มงวดในการแชร์โมเดลเอไอล้ำสมัย . กฎใหม่เหล่านี้มีข้อยกเว้นหลายอย่างสำหรับพันธมิตรและหุ้นส่วนสำคัญราว 20 ชาติ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอังกฤษ . อย่างไรก็ดี การตั้งข้อจำกัดกับบางประเทศในสหภาพยุโรป ทำให้เจ้าหน้าที่บรัสเซลส์ออกมาคัดค้านโดยระบุว่า การขายชิปเอไอขั้นสูงให้สมาชิกอียูถือเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับอเมริกา ไม่ใช่ความเสี่ยงด้านความมั่นคง . ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีนโยบายใหม่ของไบเดนว่า ละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศ พร้อมประกาศปกป้องผลประโยชน์ของชาติเต็มที่ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004280 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 1048 Views 0 Reviews
  • นับหนึ่งถึงอนาคต รถไฟฟ้าสายแรกปีนัง

    รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย กำลังจะมีรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) สายแรกเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ หลังจากเมื่อเดือน มี.ค.2567 รัฐบาลกลางมาเลเซีย รับช่วงต่อจากรัฐบาลท้องถิ่นรัฐปีนัง พัฒนาโครงการรถไฟรางเบาสายมูเทียร่า ไลน์ (Mutiara Line) โดยแต่งตั้งบริษัท เอ็มอาร์ที คอร์ป (MRT Corp) ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นทั้งหมด เป็นผู้พัฒนาโครงการ

    พิธีวางศิลาฤกษ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2568 บริเวณสถานที่ก่อสร้างสถานีบันดาร์ ศรี ปีนัง (Bandar Sri Pinang) โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นประธาน

    จากการลงพื้นที่ของ Newskit พบว่า สถานที่ก่อสร้างสถานีบันดาร์ ศรี ปีนัง (Bandar Sri Pinang) ติดกับทางด่วนลิม ชอง ยู (Lim Chong Eu) ใกล้กับมัสยิดอัล บัคฮารี่ (Al Bukhary) และทางจักรยานเลียบชายทะเล บริเวณฝั่งตะวันออกของเกาะปีนัง เมื่อข้ามแม่น้ำปีนังไปแล้วจะเป็นสถานีแมคคัลลัม ก่อนแยกเป็นสองสาย แยกซ้ายไปสถานีคอมตาร์ แยกขวาข้ามทะเลไปสถานีปีนังเซ็นทรัล

    ก่อนที่เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2568 จะมีการลงนามสัญญาก่อสร้างช่วงคอมตาร์-เกาะซิลิคอน (Komtar-Silicon Island) ระยะทาง 24 กิโลเมตร รวม 19 สถานี มูลค่าประมาณ 8,310 ล้านริงกิต (64,000 ล้านบาท) โดยมีกลุ่มกิจการร่วมค้าเอสอาร์เอส ที่บริษัทก่อสร้างกามูดา (Gamuda) ถือหุ้น 60% เป็นผู้รับเหมาในการก่อสร้าง โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 6 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2574

    ส่วนช่วงคอมตาร์-ปีนังเซ็นทรัล (Komtar-Penang Sentral) จากสถานีแมคคัลลัม (Macallum) ในเมืองจอร์จทาวน์ ผ่านช่องแคบปีนัง ระยะทาง 5.8 กิโลเมตร คาดว่าจะเปิดประมูลในเดือน ก.ค. 2568 และประกาศผลการประมูลในต้นปี 2569 ส่วนการประมูลระบบรถไฟฟ้าและการบำรุงรักษา กำลังดำเนินการ โดยมีกำหนดส่งข้อเสนอขั้นสุดท้ายในวันที่ 14 เม.ย. 2568

    นายแอนโทนี ลก รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวว่า โครงการนี้ได้รับการวางแผนอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้สามารถเข้าถึงศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่สำคัญได้อย่างราบรื่น สนับสนุนโครงการ Penang Silicon Design @5km+ การยกระดับท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง และเขตอุตสาหกรรมเสรีบายัน เลอปาส (Bayan Lepas)

    อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังมีปัญหาเรื่องที่ดินก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง บริเวณสถานีสุไหงนิบง (Sungai Nibong) ซึ่งเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีการจัดงานเทศกาลประจำปี เพสต้า ปูเลา ปีนัง (Pesta Pulau Pinang) มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2509 แต่ทาง MRT Corp ยืนยันว่าจะใช้พื้นที่ไม่มาก ก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงรองและพื้นที่พัฒนารอบสถานี (TOD) เท่านั้น

    #Newskit

    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    นับหนึ่งถึงอนาคต รถไฟฟ้าสายแรกปีนัง รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย กำลังจะมีรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) สายแรกเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ หลังจากเมื่อเดือน มี.ค.2567 รัฐบาลกลางมาเลเซีย รับช่วงต่อจากรัฐบาลท้องถิ่นรัฐปีนัง พัฒนาโครงการรถไฟรางเบาสายมูเทียร่า ไลน์ (Mutiara Line) โดยแต่งตั้งบริษัท เอ็มอาร์ที คอร์ป (MRT Corp) ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นทั้งหมด เป็นผู้พัฒนาโครงการ พิธีวางศิลาฤกษ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2568 บริเวณสถานที่ก่อสร้างสถานีบันดาร์ ศรี ปีนัง (Bandar Sri Pinang) โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นประธาน จากการลงพื้นที่ของ Newskit พบว่า สถานที่ก่อสร้างสถานีบันดาร์ ศรี ปีนัง (Bandar Sri Pinang) ติดกับทางด่วนลิม ชอง ยู (Lim Chong Eu) ใกล้กับมัสยิดอัล บัคฮารี่ (Al Bukhary) และทางจักรยานเลียบชายทะเล บริเวณฝั่งตะวันออกของเกาะปีนัง เมื่อข้ามแม่น้ำปีนังไปแล้วจะเป็นสถานีแมคคัลลัม ก่อนแยกเป็นสองสาย แยกซ้ายไปสถานีคอมตาร์ แยกขวาข้ามทะเลไปสถานีปีนังเซ็นทรัล ก่อนที่เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2568 จะมีการลงนามสัญญาก่อสร้างช่วงคอมตาร์-เกาะซิลิคอน (Komtar-Silicon Island) ระยะทาง 24 กิโลเมตร รวม 19 สถานี มูลค่าประมาณ 8,310 ล้านริงกิต (64,000 ล้านบาท) โดยมีกลุ่มกิจการร่วมค้าเอสอาร์เอส ที่บริษัทก่อสร้างกามูดา (Gamuda) ถือหุ้น 60% เป็นผู้รับเหมาในการก่อสร้าง โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 6 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2574 ส่วนช่วงคอมตาร์-ปีนังเซ็นทรัล (Komtar-Penang Sentral) จากสถานีแมคคัลลัม (Macallum) ในเมืองจอร์จทาวน์ ผ่านช่องแคบปีนัง ระยะทาง 5.8 กิโลเมตร คาดว่าจะเปิดประมูลในเดือน ก.ค. 2568 และประกาศผลการประมูลในต้นปี 2569 ส่วนการประมูลระบบรถไฟฟ้าและการบำรุงรักษา กำลังดำเนินการ โดยมีกำหนดส่งข้อเสนอขั้นสุดท้ายในวันที่ 14 เม.ย. 2568 นายแอนโทนี ลก รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวว่า โครงการนี้ได้รับการวางแผนอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้สามารถเข้าถึงศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่สำคัญได้อย่างราบรื่น สนับสนุนโครงการ Penang Silicon Design @5km+ การยกระดับท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง และเขตอุตสาหกรรมเสรีบายัน เลอปาส (Bayan Lepas) อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังมีปัญหาเรื่องที่ดินก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง บริเวณสถานีสุไหงนิบง (Sungai Nibong) ซึ่งเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีการจัดงานเทศกาลประจำปี เพสต้า ปูเลา ปีนัง (Pesta Pulau Pinang) มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2509 แต่ทาง MRT Corp ยืนยันว่าจะใช้พื้นที่ไม่มาก ก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงรองและพื้นที่พัฒนารอบสถานี (TOD) เท่านั้น #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 293 Views 0 Reviews
  • สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยกระดับมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว หลังมีข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกนักท่องเที่ยวจีนไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน หวังสร้างความเชื่อมั่น พร้อมรองรับสถานการณ์ในทุกมิติ

    จากกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวจีนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้ไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม

    วันนี้ (12 ม.ค.) พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปทท.ตร.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในทุกมิติ เพื่อความเชื่อมั่นในการเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย โดยมุ่งหวังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000003379

    #MGROnline #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #ยกระดับ #มาตรการดูแลความปลอดภัย #นักท่องเที่ยว #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #หลอกนักท่องเที่ยวจีน
    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยกระดับมาตรการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว หลังมีข่าวแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกนักท่องเที่ยวจีนไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน หวังสร้างความเชื่อมั่น พร้อมรองรับสถานการณ์ในทุกมิติ • จากกรณีที่นักท่องเที่ยวชาวจีนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้ไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในความปลอดภัยและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม • วันนี้ (12 ม.ค.) พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปทท.ตร.) เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในทุกมิติ เพื่อความเชื่อมั่นในการเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย โดยมุ่งหวังให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินการดังกล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000003379 • #MGROnline #สำนักงานตำรวจแห่งชาติ #ยกระดับ #มาตรการดูแลความปลอดภัย #นักท่องเที่ยว #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #หลอกนักท่องเที่ยวจีน
    0 Comments 0 Shares 198 Views 0 Reviews
  • " ที่มาของคำว่าทรัมป์บ้า!!!!! "

    Foreign Policy : ทรัมป์เคยพ่ายแพ้ต่ออิหร่านมาแล้ว
    กลยุทธ์ "ทฤษฎีคนบ้า" (Madman Theory) ของทรัมป์ในเวทีการเผชิญหน้ากับอิหร่าน กลับกลายเป็นหมากที่ไม่ได้ผล เพราะอิหร่านมองทะลุถึงเจตนาและวิธีการของทรัมป์อย่างชัดเจน
    นิตยสาร ฟอเรน โพลิซี (Foreign Policy) ซึ่งเป็นสื่อวิเคราะห์นโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ตีพิมพ์บทความชิ้นสำคัญ โดยระบุว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า "ทฤษฎีคนบ้า" ในการสร้างภาพลักษณ์ตนเองให้ดูเป็นผู้นำที่คาดเดาไม่ได้และเต็มไปด้วยความอันตราย แต่คำถามสำคัญคือ วิธีการนี้สามารถบีบให้อิหร่านเปลี่ยนพฤติกรรมได้หรือไม่ หรือกลับทำให้ความขัดแย้งยิ่งรุนแรงขึ้น?
    ทรัมป์เป็นที่รู้จักจากแนวทางที่ผิดแผกไปจากผู้นำทั่วไปในด้านการทูต หนึ่งในกลยุทธ์ที่เขานำมาใช้อย่างต่อเนื่องคือ "ทฤษฎีคนบ้า" ซึ่งมีรากฐานมาจากยุคสงครามเย็นในสมัยริชาร์ด นิกสัน แนวคิดนี้เชื่อว่า ผู้นำสามารถบีบให้คู่ต่อสู้ยอมอ่อนข้อได้โดยการแสดงออกถึงความไม่แน่นอนและการข่มขู่ที่ดูรุนแรง แต่สำหรับเวทีการปะทะกับอิหร่าน คำถามคือ ทฤษฎีนี้ช่วยทรัมป์ได้จริงหรือไม่ หรือกลับเป็นชนวนที่ทำให้สถานการณ์ยิ่งดิ่งลึกสู่ความรุนแรง?

    ทรัมป์และกลยุทธ์การเจรจาที่อิหร่านไม่สะทกสะท้าน
    โดนัลด์ ทรัมป์เคยพูดถึงแนวทางการเจรจาของเขาอย่างภาคภูมิใจ โดยในการสัมภาษณ์เมื่อปี 2018 เขากล่าวว่า "ผมเป็นนักเจรจาที่มักจะวางตัวเลือกที่หลากหลายไว้บนโต๊ะ เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามไม่อาจคาดเดาก้าวต่อไปของผมได้" หนึ่งในตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดของแนวทางนี้คือการข่มขู่ "ทำลายล้างอย่างสมบูรณ์" เกาหลีเหนือ ในสุนทรพจน์ที่สหประชาชาติ แต่เมื่อใช้วิธีเดียวกันนี้กับอิหร่าน ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่ทรัมป์หวังไว้

    นโยบาย “กดดันสูงสุด” และความล้มเหลวในการบีบอิหร่าน
    ในปี 2018 ทรัมป์ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ (JCPOA) และเริ่มดำเนินนโยบาย "กดดันสูงสุด" (Maximum Pressure) ด้วยความหวังว่าอิหร่านจะยอมรับข้อตกลงใหม่ที่เข้มงวดกว่าเดิม จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในขณะนั้น เปิดเผยในหนังสือของเขาว่า ทรัมป์เชื่อมั่นว่า "อิหร่านจะไม่สามารถทนต่อแรงกดดันทางเศรษฐกิจได้ และในที่สุดจะกลับมาที่โต๊ะเจรจา"

    การตอบโต้ของอิหร่าน: ท้าทายทุกแรงกดดัน
    แต่ความเป็นจริงกลับแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง อิหร่านไม่ได้เพียงแค่ปฏิเสธการเจรจา แต่ยังขยายโครงการนิวเคลียร์และเพิ่มปฏิบัติการของกลุ่มตัวแทนในภูมิภาคเพื่อแสดงถึงความไม่ยอมจำนน มูฮัมหมัด ญาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านในขณะนั้น กล่าวอย่างหนักแน่นว่า "ทรัมป์คิดว่าแรงกดดันจะทำให้เราอ่อนข้อ แต่ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่าชาวอิหร่านยืนหยัดในหน้าความกดดันเสมอ" ความพยายามของทรัมป์ในการบีบอิหร่านด้วยนโยบายกดดันสูงสุดจึงกลายเป็นการเดินเกมที่ไม่ได้ผล อิหร่านตอบโต้ด้วยการยืนหยัดและแสดงศักยภาพของตนเองให้เห็นอย่างชัดเจนในเวทีระหว่างประเทศ

    ปมร้อน: การสังหารสุไลมานีและความล้มเหลวของ "ทฤษฎีคนบ้า"
    หนึ่งในการตัดสินใจที่สร้างความสั่นสะเทือนที่สุดของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คือการออกคำสั่งให้สังหาร นายพลกอเซ็ม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ในเดือนมกราคม 2020 การโจมตีนี้เกิดขึ้นใกล้สนามบินกรุงแบกแดด และนำไปสู่การยกระดับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน อิหร่านตอบโต้การสังหารสุไลมานีด้วยการยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอเมริกันในอิรัก พร้อมประกาศว่าจะไม่ปฏิบัติตามข้อจำกัดที่ระบุไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์ (JCPOA) อีกต่อไป
    เมื่อ "ทฤษฎีคนบ้า" ไม่ได้ผล
    โรซานา แมคมานัส ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเพนน์สเตต อธิบายว่า "ทฤษฎีคนบ้า" จะได้ผลก็ต่อเมื่อคู่ต่อสู้เชื่อว่าผู้นำมีความไม่แน่นอนจริงในบางเรื่อง แต่หากผู้นำนั้นดูไม่สมเหตุสมผลจนเกินไป ความเชื่อถือในคำขู่จะลดลง และกลยุทธ์จะล้มเหลว ในกรณีของทรัมป์ นักวิเคราะห์หลายคนเห็นว่า พฤติกรรมของเขาเริ่มคาดเดาได้มากเกินไป เช่น การตัดสินใจไม่ตอบโต้ทางทหารหลังจากอิหร่านยิงโดรนอเมริกันตกในเดือนมิถุนายน 2019 การกระทำดังกล่าวส่งสัญญาณชัดเจนว่า ทรัมป์ไม่ต้องการทำสงคราม การส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกันนี้ทำให้อิหร่านไม่ยอมรับคำขู่ของเขาอย่างจริงจัง นโยบาย "กดดันสูงสุด" ของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มุ่งหวังให้อิหร่านอ่อนข้อและยอมทำตามข้อตกลงที่เข้มงวดกว่าเดิม กลับกลายเป็นหอกที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงตัวเอง อิหร่านไม่เพียงแต่ยืนหยัดต่อแรงกดดันทางเศรษฐกิจ แต่ยังใช้โอกาสนี้ขยายโครงการนิวเคลียร์และเสริมสร้างอิทธิพลในภูมิภาคให้แข็งแกร่งขึ้น
    เรซานา แมคมานัส นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเพนน์สเตต ออกโรงเตือนว่า "ผู้นำควรระวังไม่ให้ชื่อเสียงในความบ้าบิ่นกลายเป็นจุดอ่อนของตนเอง" เพราะเมื่อฝ่ายตรงข้ามเริ่มเข้าใจเกมและการกระทำที่ดูเหมือนเหนือความคาดหมาย กลยุทธ์ดังกล่าวอาจกลับกลายเป็นไร้ประสิทธิภาพ

    ดังนั้น หากทรัมป์ตัดสินใจหวนกลับมาใช้ "ทฤษฎีคนบ้า" อีกครั้ง สิ่งสำคัญที่เขาต้องพิจารณาคือคู่แข่ง โดยเฉพาะอิหร่าน ต่างคุ้นเคยกับเกมนี้ดีและพร้อมรับมือด้วยกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดกว่าเดิม ทรัมป์ไม่สามารถพึ่งพาความคาดเดาไม่ได้แบบเดิมอีกต่อไป เพราะการเล่นเกมซ้ำที่ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจดี อาจกลายเป็นหายนะในทางการทูต

    (เรียบเรียงโดยสมาคมนักเรียนไทยในอีร่าน)
    " ที่มาของคำว่าทรัมป์บ้า!!!!! " Foreign Policy : ทรัมป์เคยพ่ายแพ้ต่ออิหร่านมาแล้ว กลยุทธ์ "ทฤษฎีคนบ้า" (Madman Theory) ของทรัมป์ในเวทีการเผชิญหน้ากับอิหร่าน กลับกลายเป็นหมากที่ไม่ได้ผล เพราะอิหร่านมองทะลุถึงเจตนาและวิธีการของทรัมป์อย่างชัดเจน นิตยสาร ฟอเรน โพลิซี (Foreign Policy) ซึ่งเป็นสื่อวิเคราะห์นโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ตีพิมพ์บทความชิ้นสำคัญ โดยระบุว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า "ทฤษฎีคนบ้า" ในการสร้างภาพลักษณ์ตนเองให้ดูเป็นผู้นำที่คาดเดาไม่ได้และเต็มไปด้วยความอันตราย แต่คำถามสำคัญคือ วิธีการนี้สามารถบีบให้อิหร่านเปลี่ยนพฤติกรรมได้หรือไม่ หรือกลับทำให้ความขัดแย้งยิ่งรุนแรงขึ้น? ทรัมป์เป็นที่รู้จักจากแนวทางที่ผิดแผกไปจากผู้นำทั่วไปในด้านการทูต หนึ่งในกลยุทธ์ที่เขานำมาใช้อย่างต่อเนื่องคือ "ทฤษฎีคนบ้า" ซึ่งมีรากฐานมาจากยุคสงครามเย็นในสมัยริชาร์ด นิกสัน แนวคิดนี้เชื่อว่า ผู้นำสามารถบีบให้คู่ต่อสู้ยอมอ่อนข้อได้โดยการแสดงออกถึงความไม่แน่นอนและการข่มขู่ที่ดูรุนแรง แต่สำหรับเวทีการปะทะกับอิหร่าน คำถามคือ ทฤษฎีนี้ช่วยทรัมป์ได้จริงหรือไม่ หรือกลับเป็นชนวนที่ทำให้สถานการณ์ยิ่งดิ่งลึกสู่ความรุนแรง? ทรัมป์และกลยุทธ์การเจรจาที่อิหร่านไม่สะทกสะท้าน โดนัลด์ ทรัมป์เคยพูดถึงแนวทางการเจรจาของเขาอย่างภาคภูมิใจ โดยในการสัมภาษณ์เมื่อปี 2018 เขากล่าวว่า "ผมเป็นนักเจรจาที่มักจะวางตัวเลือกที่หลากหลายไว้บนโต๊ะ เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามไม่อาจคาดเดาก้าวต่อไปของผมได้" หนึ่งในตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดของแนวทางนี้คือการข่มขู่ "ทำลายล้างอย่างสมบูรณ์" เกาหลีเหนือ ในสุนทรพจน์ที่สหประชาชาติ แต่เมื่อใช้วิธีเดียวกันนี้กับอิหร่าน ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่ทรัมป์หวังไว้ นโยบาย “กดดันสูงสุด” และความล้มเหลวในการบีบอิหร่าน ในปี 2018 ทรัมป์ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ (JCPOA) และเริ่มดำเนินนโยบาย "กดดันสูงสุด" (Maximum Pressure) ด้วยความหวังว่าอิหร่านจะยอมรับข้อตกลงใหม่ที่เข้มงวดกว่าเดิม จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในขณะนั้น เปิดเผยในหนังสือของเขาว่า ทรัมป์เชื่อมั่นว่า "อิหร่านจะไม่สามารถทนต่อแรงกดดันทางเศรษฐกิจได้ และในที่สุดจะกลับมาที่โต๊ะเจรจา" การตอบโต้ของอิหร่าน: ท้าทายทุกแรงกดดัน แต่ความเป็นจริงกลับแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง อิหร่านไม่ได้เพียงแค่ปฏิเสธการเจรจา แต่ยังขยายโครงการนิวเคลียร์และเพิ่มปฏิบัติการของกลุ่มตัวแทนในภูมิภาคเพื่อแสดงถึงความไม่ยอมจำนน มูฮัมหมัด ญาวาด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านในขณะนั้น กล่าวอย่างหนักแน่นว่า "ทรัมป์คิดว่าแรงกดดันจะทำให้เราอ่อนข้อ แต่ประวัติศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่าชาวอิหร่านยืนหยัดในหน้าความกดดันเสมอ" ความพยายามของทรัมป์ในการบีบอิหร่านด้วยนโยบายกดดันสูงสุดจึงกลายเป็นการเดินเกมที่ไม่ได้ผล อิหร่านตอบโต้ด้วยการยืนหยัดและแสดงศักยภาพของตนเองให้เห็นอย่างชัดเจนในเวทีระหว่างประเทศ ปมร้อน: การสังหารสุไลมานีและความล้มเหลวของ "ทฤษฎีคนบ้า" หนึ่งในการตัดสินใจที่สร้างความสั่นสะเทือนที่สุดของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ คือการออกคำสั่งให้สังหาร นายพลกอเซ็ม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ในเดือนมกราคม 2020 การโจมตีนี้เกิดขึ้นใกล้สนามบินกรุงแบกแดด และนำไปสู่การยกระดับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน อิหร่านตอบโต้การสังหารสุไลมานีด้วยการยิงขีปนาวุธโจมตีฐานทัพอเมริกันในอิรัก พร้อมประกาศว่าจะไม่ปฏิบัติตามข้อจำกัดที่ระบุไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์ (JCPOA) อีกต่อไป เมื่อ "ทฤษฎีคนบ้า" ไม่ได้ผล โรซานา แมคมานัส ศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเพนน์สเตต อธิบายว่า "ทฤษฎีคนบ้า" จะได้ผลก็ต่อเมื่อคู่ต่อสู้เชื่อว่าผู้นำมีความไม่แน่นอนจริงในบางเรื่อง แต่หากผู้นำนั้นดูไม่สมเหตุสมผลจนเกินไป ความเชื่อถือในคำขู่จะลดลง และกลยุทธ์จะล้มเหลว ในกรณีของทรัมป์ นักวิเคราะห์หลายคนเห็นว่า พฤติกรรมของเขาเริ่มคาดเดาได้มากเกินไป เช่น การตัดสินใจไม่ตอบโต้ทางทหารหลังจากอิหร่านยิงโดรนอเมริกันตกในเดือนมิถุนายน 2019 การกระทำดังกล่าวส่งสัญญาณชัดเจนว่า ทรัมป์ไม่ต้องการทำสงคราม การส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกันนี้ทำให้อิหร่านไม่ยอมรับคำขู่ของเขาอย่างจริงจัง นโยบาย "กดดันสูงสุด" ของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มุ่งหวังให้อิหร่านอ่อนข้อและยอมทำตามข้อตกลงที่เข้มงวดกว่าเดิม กลับกลายเป็นหอกที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงตัวเอง อิหร่านไม่เพียงแต่ยืนหยัดต่อแรงกดดันทางเศรษฐกิจ แต่ยังใช้โอกาสนี้ขยายโครงการนิวเคลียร์และเสริมสร้างอิทธิพลในภูมิภาคให้แข็งแกร่งขึ้น เรซานา แมคมานัส นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเพนน์สเตต ออกโรงเตือนว่า "ผู้นำควรระวังไม่ให้ชื่อเสียงในความบ้าบิ่นกลายเป็นจุดอ่อนของตนเอง" เพราะเมื่อฝ่ายตรงข้ามเริ่มเข้าใจเกมและการกระทำที่ดูเหมือนเหนือความคาดหมาย กลยุทธ์ดังกล่าวอาจกลับกลายเป็นไร้ประสิทธิภาพ ดังนั้น หากทรัมป์ตัดสินใจหวนกลับมาใช้ "ทฤษฎีคนบ้า" อีกครั้ง สิ่งสำคัญที่เขาต้องพิจารณาคือคู่แข่ง โดยเฉพาะอิหร่าน ต่างคุ้นเคยกับเกมนี้ดีและพร้อมรับมือด้วยกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดกว่าเดิม ทรัมป์ไม่สามารถพึ่งพาความคาดเดาไม่ได้แบบเดิมอีกต่อไป เพราะการเล่นเกมซ้ำที่ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจดี อาจกลายเป็นหายนะในทางการทูต (เรียบเรียงโดยสมาคมนักเรียนไทยในอีร่าน)
    0 Comments 0 Shares 211 Views 0 Reviews
  • มีผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 20 ราย ถูกจับกุมฐานต้องสงสัยปล้นสะดม ระหว่างวิกฤตไฟป่ารุนแรงกำลังโหมกระพือเผาผลาญในลอสแองเจลิส เคาน์ตี ซ้ำเติมผู้ประสบภัย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
    .
    แคทรีน บาร์เกอร์ ผู้บริหารแอลแอ เคาน์ตี กล่าวระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) ว่าพวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของทางสำนักงาน ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยหลายคนในโซนยพ "ผมสัญญากับพวกคุณ พวกที่กระทำผิดต้องถูกลงโทษ คนเหล่านี้น่าละอายมาก พวกเขาออกล่าตามที่พักอาศัยของพวกเรา ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้"
    .
    เธอกล่าวต่อว่าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นจะเดินหน้าลาดตระเวนสอดส่องเหตุปล้นสะดม หรือพฤติกรรมทางอาญาอื่นไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม
    .
    โรเบิร์ต ลูนา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของแอลเอ เคาน์ตี ยืนยันระหว่างแถลงข่าวว่า พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจะเดินหน้าลาดตระเวนไม่อยู่กับที่ ประจำการตามจุดต่างๆ ปิดการเข้าออกถนน และมอบการคุ้มกัน ในความพยายามป้องกันเหตุปล้นสะดมและพฤติกรรมอาญาอื่นๆ
    .
    "ผมขอพูดให้ชัดเจนตรงนี้เลยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาและตอนเช้าวันนี้ เราจับกุมบุคคลได้ 20 ราย กลุ่มคนที่เลือกเข้าไปในพื้นที่ของเรา และซ้ำเติมประชาชนผู้น่าสงสาร ที่เป็นห่วงทรัพย์สินของตนเองเป็นอย่างมาก" ลูน่ากล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) "ครั้งที่เรามีคำสั่งอพยพ ตามกฎหมายแล้ว หากคุณยังอยู่ในพื้นที่ คุณก็จะมีความผิดลหุโทษอยู่แล้ว และหากคุณก่ออาชญากรรมบางอย่าง มันอาจถูกยกระดับกลายเป็นความผิดทางอาญาร้ายแรง"
    .
    "ลอสแองเจลิสอาจบังคับใช้เคอร์ฟิวหลัง 18.00 น. โดยอาจมีการกำหนดพื้นที่มีผลบังคับใช้อย่างเจาะจง แถวๆ บริเวณที่กำลังเผชิญไฟป่า 2 จุด" ลูนากล่าว พร้อมหวังว่าจะสามารถบังคับใช้ได้ภายในคืนวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) หรือไม่ก็วันศุกร์ (10 ม.ค.) ทั้งนี้ล่าสุดประกาศเคอร์ฟิวดังกล่าวได้มีการบังคับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    บาร์เกอร์ เน้นว่าเคอร์ฟิวไม่ได้เป็นการลงโทษพวกชาวบ้าน แต่เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยในพื้นที่ และเผยว่าเคอร์ฟิวนั้นเป็นไปตามคำขอของสภาเมืองแอคตาเดนา
    .
    ลูนา เสริมว่า "ขณะนี้มีการประกาศมาตรการเคอร์ฟิวขึ้นในช่วงเวลากลางคืน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการปกป้องทรัพย์สิน ป้องกันการโจรกรรม และการปล้นสะดมในพื้นที่ที่ประชาชนอพยพบังคับ หากมีผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนจะต้องถูกจับกุม"
    .
    กาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แถลงว่าเขาเห็นชอบคำร้องของทางแอล.เอ.เคาน์ตี ที่ขอใช้งานบุคลากรจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ดึงกำลังพล 8,000 นาย มาร่วมทำงานกับพวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นและรัฐบาล ในความพยายามควบคุมสถานการณ์ "เราจะไม่อดทนกับการปล้นสะดม" นิวซัมกล่าว
    .
    ส่วน นาธาน ฮอชแมน อัยการทั่วไปของเขตแอล.แอ.เคาน์ตี ก็ประณามการปล้นสะดมเช่นกัน "ถ้าคุณอยากเดินหน้าปล้นสะดม ถ้าคุณต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล้นครั้งใหญ่ ถ้าคุณต้องการมีส่วนร่วมกับกลโกงทางอินเทอร์เน็ต ที่ฉวยโอกาสกับผู้คนที่กำลังร้องขอเคลมประกันหรือขอรับสิทธิประโยชน์จากรัฐบาล เมื่อนั้นคุณจะถูกจับกุม จะถูกดำเนินคดี และโดนลงโทษอย่างเต็มพิกัดภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย"
    .
    ในสถานการณ์ล่าสุดของเหตุไฟป่า มีรายงานว่าไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดของลอสแองเจลิส มุ่งหน้าสู่ย่านต่างๆ ที่มันไม่เคยลุกลามไปถึงมาก่อนเลยในวันเสาร์ (11 ม.ค.) บีบให้ต้องมีการอพยพครั้งใหญ่ และกัดเซาะความหวังว่ากำลังควบคุมภัยพิบัตินี้ได้แล้ว
    .
    จนถึงตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่อย่างน้อย 11 ราย ในเหตุไฟป่าลุกลามหลายจุด เผาผลาญไปทั่วพื้นที่ชุมชน ทำลายล้างชุมชนต่างๆ ในสิ่งที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้คำจำกัดความว่าราวกับ "ฉากแห่งสงคราม"
    .
    เจ้าหน้าที่เผยว่าสามารถควบคุมไฟป่าที่เรียกว่าปาลิซาเดส ได้ 11% ในวันเสาร์ (11 ม.ค.) แต่มันกำลงลุกลามไปทางทิศตะวันตก หลังจากทำลายล้างพื้นที่ไปแล้วกว่า 22,600 เอเคอร์ (ราว 57,000 ไร่) ส่วนไฟป่าที่มีชื่อว่าอีตัน ทำลายล้างพื้นที่ไปกว่า 14,000 เอเคอร์ (ราว 35,000 ไร่) และควบคุมได้แล้ว 15%
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003319
    ..............
    Sondhi X
    มีผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 20 ราย ถูกจับกุมฐานต้องสงสัยปล้นสะดม ระหว่างวิกฤตไฟป่ารุนแรงกำลังโหมกระพือเผาผลาญในลอสแองเจลิส เคาน์ตี ซ้ำเติมผู้ประสบภัย จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา . แคทรีน บาร์เกอร์ ผู้บริหารแอลแอ เคาน์ตี กล่าวระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) ว่าพวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของทางสำนักงาน ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยหลายคนในโซนยพ "ผมสัญญากับพวกคุณ พวกที่กระทำผิดต้องถูกลงโทษ คนเหล่านี้น่าละอายมาก พวกเขาออกล่าตามที่พักอาศัยของพวกเรา ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้" . เธอกล่าวต่อว่าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นจะเดินหน้าลาดตระเวนสอดส่องเหตุปล้นสะดม หรือพฤติกรรมทางอาญาอื่นไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม . โรเบิร์ต ลูนา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของแอลเอ เคาน์ตี ยืนยันระหว่างแถลงข่าวว่า พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจะเดินหน้าลาดตระเวนไม่อยู่กับที่ ประจำการตามจุดต่างๆ ปิดการเข้าออกถนน และมอบการคุ้มกัน ในความพยายามป้องกันเหตุปล้นสะดมและพฤติกรรมอาญาอื่นๆ . "ผมขอพูดให้ชัดเจนตรงนี้เลยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาและตอนเช้าวันนี้ เราจับกุมบุคคลได้ 20 ราย กลุ่มคนที่เลือกเข้าไปในพื้นที่ของเรา และซ้ำเติมประชาชนผู้น่าสงสาร ที่เป็นห่วงทรัพย์สินของตนเองเป็นอย่างมาก" ลูน่ากล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) "ครั้งที่เรามีคำสั่งอพยพ ตามกฎหมายแล้ว หากคุณยังอยู่ในพื้นที่ คุณก็จะมีความผิดลหุโทษอยู่แล้ว และหากคุณก่ออาชญากรรมบางอย่าง มันอาจถูกยกระดับกลายเป็นความผิดทางอาญาร้ายแรง" . "ลอสแองเจลิสอาจบังคับใช้เคอร์ฟิวหลัง 18.00 น. โดยอาจมีการกำหนดพื้นที่มีผลบังคับใช้อย่างเจาะจง แถวๆ บริเวณที่กำลังเผชิญไฟป่า 2 จุด" ลูนากล่าว พร้อมหวังว่าจะสามารถบังคับใช้ได้ภายในคืนวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) หรือไม่ก็วันศุกร์ (10 ม.ค.) ทั้งนี้ล่าสุดประกาศเคอร์ฟิวดังกล่าวได้มีการบังคับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว . บาร์เกอร์ เน้นว่าเคอร์ฟิวไม่ได้เป็นการลงโทษพวกชาวบ้าน แต่เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งความปลอดภัยในพื้นที่ และเผยว่าเคอร์ฟิวนั้นเป็นไปตามคำขอของสภาเมืองแอคตาเดนา . ลูนา เสริมว่า "ขณะนี้มีการประกาศมาตรการเคอร์ฟิวขึ้นในช่วงเวลากลางคืน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการปกป้องทรัพย์สิน ป้องกันการโจรกรรม และการปล้นสะดมในพื้นที่ที่ประชาชนอพยพบังคับ หากมีผู้ใดกระทำการฝ่าฝืนจะต้องถูกจับกุม" . กาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แถลงว่าเขาเห็นชอบคำร้องของทางแอล.เอ.เคาน์ตี ที่ขอใช้งานบุคลากรจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ดึงกำลังพล 8,000 นาย มาร่วมทำงานกับพวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นและรัฐบาล ในความพยายามควบคุมสถานการณ์ "เราจะไม่อดทนกับการปล้นสะดม" นิวซัมกล่าว . ส่วน นาธาน ฮอชแมน อัยการทั่วไปของเขตแอล.แอ.เคาน์ตี ก็ประณามการปล้นสะดมเช่นกัน "ถ้าคุณอยากเดินหน้าปล้นสะดม ถ้าคุณต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล้นครั้งใหญ่ ถ้าคุณต้องการมีส่วนร่วมกับกลโกงทางอินเทอร์เน็ต ที่ฉวยโอกาสกับผู้คนที่กำลังร้องขอเคลมประกันหรือขอรับสิทธิประโยชน์จากรัฐบาล เมื่อนั้นคุณจะถูกจับกุม จะถูกดำเนินคดี และโดนลงโทษอย่างเต็มพิกัดภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย" . ในสถานการณ์ล่าสุดของเหตุไฟป่า มีรายงานว่าไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดของลอสแองเจลิส มุ่งหน้าสู่ย่านต่างๆ ที่มันไม่เคยลุกลามไปถึงมาก่อนเลยในวันเสาร์ (11 ม.ค.) บีบให้ต้องมีการอพยพครั้งใหญ่ และกัดเซาะความหวังว่ากำลังควบคุมภัยพิบัตินี้ได้แล้ว . จนถึงตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่อย่างน้อย 11 ราย ในเหตุไฟป่าลุกลามหลายจุด เผาผลาญไปทั่วพื้นที่ชุมชน ทำลายล้างชุมชนต่างๆ ในสิ่งที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้คำจำกัดความว่าราวกับ "ฉากแห่งสงคราม" . เจ้าหน้าที่เผยว่าสามารถควบคุมไฟป่าที่เรียกว่าปาลิซาเดส ได้ 11% ในวันเสาร์ (11 ม.ค.) แต่มันกำลงลุกลามไปทางทิศตะวันตก หลังจากทำลายล้างพื้นที่ไปแล้วกว่า 22,600 เอเคอร์ (ราว 57,000 ไร่) ส่วนไฟป่าที่มีชื่อว่าอีตัน ทำลายล้างพื้นที่ไปกว่า 14,000 เอเคอร์ (ราว 35,000 ไร่) และควบคุมได้แล้ว 15% . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003319 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    11
    0 Comments 0 Shares 830 Views 0 Reviews
  • ไต้หวันมีแผนประจำการระบบป้องกันขีปนาวุธใหม่ล้ำสมัยจากสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้ จากคำแถลงของกระทรวงกลาโหม ตามรายงานข่าวของไทเปนิวส์ พร้อมระบุว่า ระบบขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่อากาศล้ำสมัย NASAMS จะถูกติดตั้งในตำแหน่งต่างๆ ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ทางเหนือของเกาะ ในนั้นรวมถึงเขตซงซานของไทเป และเขตตั้นสุ่ย ในนิวไทเป
    .
    NASAMS ระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยกลางที่ผลิตโดยบริษัทสัญชาตินอร์เวย์ สามารถใช้จัดการกับเครื่องบิน อากาศยานไร้คนขับและขีปนาวุธร่อน มันเป็นระบบที่บูรณาการเทคโนโลยีเรดาร์ล้ำสมัยเข้ากับระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีทางทหาร สำหรับตอบโต้ภัยคุกคามทางอากาศต่างๆ
    .
    สำนักงานความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (DSCA) อนุมัติขายระบบ NASAMS จำนวน 3 ชุด แก่ไต้หวัน ส่วนหนึ่งในแพกเกจอาวุธ 2,000 ล้านดอลลาร์ ที่แถลงออกมาเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ซึ่งถือเป็นการอนุมัติขายอาวุธแก่ไต้หวันเป็นครั้งที่ 17 ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
    .
    กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า การประจำการอาวุธดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามเสริมความเข้มแข็งแก่ศักยภาพด้านการป้องกันตนเอง ตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวทางทหารที่เพิ่มขึ้นของจีน ในบริเวณช่องแคบไต้หวัน ทั้งนี้ NASAMS จะช่วยเสริมระบบป้องกันภัยทางอากาศต่างๆ ที่ไต้หวันมีอยู่ในปัจจุบัน ในนั้นรวมถึง Sky Sword II และ Sky Bow รวมไปถึงระบบขีปนาวุธล้ำสมัยแพทริออต PAC-3
    .
    นอกจากนี้ ไต้หวันยังลงนามสำหรับจัดหาระบบเรดาร์ electronic array แบบทั้ง L-band และไม่ใช่ L-band ซึ่งออกแบบมาเพื่อปรับปรุงอัตราการตรวจจับและต่อต้านการส่งสัญญาณรบกวน ระบบเรดาร์นี้จะถูกกระจายไปทั่วเกาะ มอบการป้องกันอย่างครอบคลุม ในขณะที่มีรายงานว่าทางกระทรวงจัดสรรงบประมาณสำหรับสัญญาณซื้อ NASAMS และเรดาร์ ไว้ที่ 737 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    .
    คำแถลงนี้มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดขั้่นสูงระหว่างปักกิ่งและไทเป เกี่ยวกับสถานะทางการเมืองของไต้หวัน โดยจีนมองเกาะปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตยแห่งนี้เป็นมณฑลหนึ่งของพวกเขาที่แยกตัวออกไป และประกาศจะทำการร่วมชาติกับไต้หวัน ในนั้นรวมถึงการใช้กำลังถ้าจำเป็น อย่างไรก็ตาม ไทเปปฏิเสธคำกล่าวอ้างของปักกิ่ง และยืนยันเกี่ยวกับอธิปไตยของตนเอง
    .
    รัฐบาลในไทเปประณามเกี่ยวกับการซ้อมรบทางทหารของปักกิ่งใกล้เกาะแห่งนี้ ที่ชักถี่ขึ้นในช่วงหลัง ว่าเป็นการยั่วยุและบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค
    .
    แม้สหรัฐฯ ยึดถืออย่างเป็นทางการต่อนโยบายจีนเดียว รับรองคำกล่าวอ้างของปักกิ่งที่มีเหนือไต้หวัน แต่พวกเขายังคงเดินหน้าขายอาวุธแก่เกาะแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนธันวาคม อเมริกาเพิ่งอนุมัติร่างกฎหมายกลาโหมฉบับหนึ่งมูลค่า 895,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในนั้นรวมถึงมาตรการต่างๆ ที่มีเจตนายกระดับสนับสนุนไทเป
    .
    ปักกิ่งคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ เล่นงานบริษัทกลาโหมอเมริกา 7 แห่งในเดือนธันวาคม และเมื่อช่วงต้นเดือน ได้แบนห้ามขายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ทั้งทางพลเรือนและทางทหารจำนวน 28 รายการ แก่เหล่าซัปพลายเออร์ของกองทัพอเมริกา อ้างว่ามีการละเมิดหลักการจีนเดียว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003316
    ..............
    Sondhi X
    ไต้หวันมีแผนประจำการระบบป้องกันขีปนาวุธใหม่ล้ำสมัยจากสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้ จากคำแถลงของกระทรวงกลาโหม ตามรายงานข่าวของไทเปนิวส์ พร้อมระบุว่า ระบบขีปนาวุธยิงจากภาคพื้นสู่อากาศล้ำสมัย NASAMS จะถูกติดตั้งในตำแหน่งต่างๆ ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ทางเหนือของเกาะ ในนั้นรวมถึงเขตซงซานของไทเป และเขตตั้นสุ่ย ในนิวไทเป . NASAMS ระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยกลางที่ผลิตโดยบริษัทสัญชาตินอร์เวย์ สามารถใช้จัดการกับเครื่องบิน อากาศยานไร้คนขับและขีปนาวุธร่อน มันเป็นระบบที่บูรณาการเทคโนโลยีเรดาร์ล้ำสมัยเข้ากับระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีทางทหาร สำหรับตอบโต้ภัยคุกคามทางอากาศต่างๆ . สำนักงานความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ (DSCA) อนุมัติขายระบบ NASAMS จำนวน 3 ชุด แก่ไต้หวัน ส่วนหนึ่งในแพกเกจอาวุธ 2,000 ล้านดอลลาร์ ที่แถลงออกมาเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ซึ่งถือเป็นการอนุมัติขายอาวุธแก่ไต้หวันเป็นครั้งที่ 17 ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน . กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า การประจำการอาวุธดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามเสริมความเข้มแข็งแก่ศักยภาพด้านการป้องกันตนเอง ตอบสนองต่อความเคลื่อนไหวทางทหารที่เพิ่มขึ้นของจีน ในบริเวณช่องแคบไต้หวัน ทั้งนี้ NASAMS จะช่วยเสริมระบบป้องกันภัยทางอากาศต่างๆ ที่ไต้หวันมีอยู่ในปัจจุบัน ในนั้นรวมถึง Sky Sword II และ Sky Bow รวมไปถึงระบบขีปนาวุธล้ำสมัยแพทริออต PAC-3 . นอกจากนี้ ไต้หวันยังลงนามสำหรับจัดหาระบบเรดาร์ electronic array แบบทั้ง L-band และไม่ใช่ L-band ซึ่งออกแบบมาเพื่อปรับปรุงอัตราการตรวจจับและต่อต้านการส่งสัญญาณรบกวน ระบบเรดาร์นี้จะถูกกระจายไปทั่วเกาะ มอบการป้องกันอย่างครอบคลุม ในขณะที่มีรายงานว่าทางกระทรวงจัดสรรงบประมาณสำหรับสัญญาณซื้อ NASAMS และเรดาร์ ไว้ที่ 737 ล้านดอลลาร์สหรัฐ . คำแถลงนี้มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดขั้่นสูงระหว่างปักกิ่งและไทเป เกี่ยวกับสถานะทางการเมืองของไต้หวัน โดยจีนมองเกาะปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตยแห่งนี้เป็นมณฑลหนึ่งของพวกเขาที่แยกตัวออกไป และประกาศจะทำการร่วมชาติกับไต้หวัน ในนั้นรวมถึงการใช้กำลังถ้าจำเป็น อย่างไรก็ตาม ไทเปปฏิเสธคำกล่าวอ้างของปักกิ่ง และยืนยันเกี่ยวกับอธิปไตยของตนเอง . รัฐบาลในไทเปประณามเกี่ยวกับการซ้อมรบทางทหารของปักกิ่งใกล้เกาะแห่งนี้ ที่ชักถี่ขึ้นในช่วงหลัง ว่าเป็นการยั่วยุและบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค . แม้สหรัฐฯ ยึดถืออย่างเป็นทางการต่อนโยบายจีนเดียว รับรองคำกล่าวอ้างของปักกิ่งที่มีเหนือไต้หวัน แต่พวกเขายังคงเดินหน้าขายอาวุธแก่เกาะแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อเดือนธันวาคม อเมริกาเพิ่งอนุมัติร่างกฎหมายกลาโหมฉบับหนึ่งมูลค่า 895,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในนั้นรวมถึงมาตรการต่างๆ ที่มีเจตนายกระดับสนับสนุนไทเป . ปักกิ่งคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ เล่นงานบริษัทกลาโหมอเมริกา 7 แห่งในเดือนธันวาคม และเมื่อช่วงต้นเดือน ได้แบนห้ามขายผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ทั้งทางพลเรือนและทางทหารจำนวน 28 รายการ แก่เหล่าซัปพลายเออร์ของกองทัพอเมริกา อ้างว่ามีการละเมิดหลักการจีนเดียว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003316 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 829 Views 0 Reviews
  • เดนมาร์กส่งสารอย่างลับๆ ไปถึงคณะทำงานของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าพวกเขามีความตั้งใจพูดคุยหารือเกี่ยวกับการยกระดับความมั่นคงในกรีนแลนด์ หรือเพิ่มประจำการกำลังพลอเมริกา โดยไม่จำเป็นต้องกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ใดๆ เหนือเกาะแห่งนี้ ตามรายงานของ Axios เว็บไซต์ข่าวสหรัฐฯ โดยอ้างแหล่งข่าว 2 คน
    .
    ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม พูดซ้ำๆ ว่าการเข้าควบคุมของสหรัฐฯ เหนือเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนกึ่งปกครองตนเองของเดนมาร์ก คือ "สิ่งจำเป็นอย่างที่สุด" เขาไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารหรือวิถีทางทางเศรษฐกิจ ในนั้นรวมถึงมาตรการรีดภาษีกับเดนมาร์ก เพื่อให้ได้มาซึ่งเกาะแห่งนี้
    .
    เว็บไซต์ข่าว Axios รายงานว่ารัฐบาลเดนมาร์กต้องการสร้างความเชื่อมั่นแก่ทรัมป์ ว่าความกังวลของเขาจะได้รับการจัดการ โดยไม่จำเป็นต้องกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ใดๆ เหนือเกาะกรีนแลนด์
    .
    อย่างไรก็ตาม โฆษกทีมเปลี่ยนผ่านของทรัมป์ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวของ Axios
    .
    เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีหญิงเดนมาร์ก เปิดเผยเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ เธอขอพบปะพูดคุยกับทรัมป์ แต่ไม่คาดหมายว่ามันจะเกิดขึ้นก่อนพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง ส่วน มูเต เอเกเด นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ ระบุว่าเขาพร้อมพุดคุยกับทรัมป์ แต่ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้เคารพต่อความปรารถนาที่จะเป็นเอกราชของเกาะแห่งนี้
    .
    ก่อนหน้านี้ เดนมาร์กยืนกรานมาตลอดว่า กรีนแลนด์ไม่ได้มีไว้ขาย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003315
    ..............
    Sondhi X
    เดนมาร์กส่งสารอย่างลับๆ ไปถึงคณะทำงานของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าพวกเขามีความตั้งใจพูดคุยหารือเกี่ยวกับการยกระดับความมั่นคงในกรีนแลนด์ หรือเพิ่มประจำการกำลังพลอเมริกา โดยไม่จำเป็นต้องกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ใดๆ เหนือเกาะแห่งนี้ ตามรายงานของ Axios เว็บไซต์ข่าวสหรัฐฯ โดยอ้างแหล่งข่าว 2 คน . ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม พูดซ้ำๆ ว่าการเข้าควบคุมของสหรัฐฯ เหนือเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนกึ่งปกครองตนเองของเดนมาร์ก คือ "สิ่งจำเป็นอย่างที่สุด" เขาไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารหรือวิถีทางทางเศรษฐกิจ ในนั้นรวมถึงมาตรการรีดภาษีกับเดนมาร์ก เพื่อให้ได้มาซึ่งเกาะแห่งนี้ . เว็บไซต์ข่าว Axios รายงานว่ารัฐบาลเดนมาร์กต้องการสร้างความเชื่อมั่นแก่ทรัมป์ ว่าความกังวลของเขาจะได้รับการจัดการ โดยไม่จำเป็นต้องกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ใดๆ เหนือเกาะกรีนแลนด์ . อย่างไรก็ตาม โฆษกทีมเปลี่ยนผ่านของทรัมป์ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับรายงานข่าวของ Axios . เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีหญิงเดนมาร์ก เปิดเผยเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ เธอขอพบปะพูดคุยกับทรัมป์ แต่ไม่คาดหมายว่ามันจะเกิดขึ้นก่อนพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง ส่วน มูเต เอเกเด นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ ระบุว่าเขาพร้อมพุดคุยกับทรัมป์ แต่ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้เคารพต่อความปรารถนาที่จะเป็นเอกราชของเกาะแห่งนี้ . ก่อนหน้านี้ เดนมาร์กยืนกรานมาตลอดว่า กรีนแลนด์ไม่ได้มีไว้ขาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003315 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    7
    0 Comments 0 Shares 748 Views 0 Reviews
  • อิสราเอลเป็นชาติที่สองต่อจากสหรัฐที่รีบแสดงความยินดีกับโจเซฟ อูน ประธานาธิบดีคนใหม่ของเลบานอน ตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างอูนกับสหรัฐและอิสราเอลที่มีมาก่อนเข้ารับตำแหน่ง

    นอกจากนี้ "กิเดียน ซาอาร์" รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ยังกล่าวสนับสนุนเลบานอนในการร่วมมือกันสร้างความปลอดภัยในภูมิภาค และยกระดับเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันในอนาคต

    มีรายงานล่าสุดว่าซาอุดีอาระเบีย ออกแถลงการณ์ยินดีต่อโจเซฟ อูน ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเลบานอนด้วยเช่นกัน นี่อาจเป็นการส่งสัญญาณถึงอิหร่านว่า อิทธิพลของพวกเขาหมดไปจากภูมิภาคนี้แล้ว
    อิสราเอลเป็นชาติที่สองต่อจากสหรัฐที่รีบแสดงความยินดีกับโจเซฟ อูน ประธานาธิบดีคนใหม่ของเลบานอน ตอกย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างอูนกับสหรัฐและอิสราเอลที่มีมาก่อนเข้ารับตำแหน่ง นอกจากนี้ "กิเดียน ซาอาร์" รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ยังกล่าวสนับสนุนเลบานอนในการร่วมมือกันสร้างความปลอดภัยในภูมิภาค และยกระดับเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันในอนาคต มีรายงานล่าสุดว่าซาอุดีอาระเบีย ออกแถลงการณ์ยินดีต่อโจเซฟ อูน ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเลบานอนด้วยเช่นกัน นี่อาจเป็นการส่งสัญญาณถึงอิหร่านว่า อิทธิพลของพวกเขาหมดไปจากภูมิภาคนี้แล้ว
    Like
    Sad
    6
    0 Comments 0 Shares 656 Views 0 Reviews
  • "รอเวรกรรมขจัดความอัปยศ"
    โสภณ องค์การณ์
    10 ตุลาคม 2567
    (งานเขียนชิ้นสุดท้าย)

    ตีพิมพ์ในผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 781 วันที่ 12-18 ตุลาคม 2567

    ผู้นำประเทศไทยอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ได้ไปออกงานระดับอินเตอร์

    งานแรกที่เมืองโดฮา กาตาร์ กลับมาสร้างความฮือฮาไม่ธรรมดา เป็นอย่างฮา

    งานที่สองไปนครเวียงจันทน์อาเซียนซัมมิต กระทบไหล่ผู้นำประเทศ ซึ่งล้วนมีวัยวุฒิ คุณวุฒิ ประสบการณ์ ความรู้ความสามารถเหนือกว่า

    สิ่งที่มาดามซอฟต์พาวเวอร์เวอร์ พึ่งโพย อวดอ้างได้ก็คือความเป็นผู้นำอายุน้อย วาระการเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีก็น้อย ส่วนจะมีอย่างอื่นน้อยหรือไม่คนไทยต้องเอาปี๊บคลุมหัวอีกรอบแล้ว

    ใครจะไปคิดว่า ความเฉิ่มจะปรากฏเร็วยิ่งกว่านายกฯหญิงคนแรกของประเทศซึ่งสร้างความฮือฮาเรื่องการยกอำเภอหาดใหญ่เป็นจังหวัด ยกให้เมืองซิดนีย์เป็นประเทศ และอะไรที่ทำให้ต้องทนต่อความอดสู

    มาดามซอฟต์พาวเวอร์เวอร์ เป็นลักษณะไม่ยอมคน เถียงฉอดๆ ชนิดคำไม่ตกฟาก และยังมีท่าทีไม่ใส่ใจต่อเสียงท้วงติง ไม่แยแสทั้งที่เป็นความผิดพลาด

    การที่กล่าวกับคณะทูตด้วยคำว่า "You guys" ถือว่าเป็นสุดยอดของความไม่รู้เรื่อง ขาดการศึกษา ประเภทที่ว่าต่อให้ยกขบวนการขี้ข้ามาแก้ต่างให้ก็คงไม่ไหว

    แสดงว่ามาดามไม่รู้อะไรจริงๆ ชีวิตที่ผ่านมาคงหลงระเริงกับชีวิตของลูกสาวคนรวยหลายพันล้านหรือมากกว่านั้น เสียงแว่วลือลั่นว่า นางใช้เงินช็อปปิ้งสัปดาห์ละ 5 ล้านบาท ก็คงไม่เกินจริง

    ดูชุดสวมใส่แต่ละวันพร้อมเครื่องประดับก็ไม่น่าจะต่ำกว่าระดับล้านบาท แต่จะไปแคร์อะไรในเมื่อเงินหาง่ายสำหรับตระกูลนี้ ยิ่งมีเงินก็ยิ่งงอกเงย ทั้งมีอำนาจก็เร่งการงอกของเงินจากหลายแหล่ง

    ไม่อย่างนั้นจะมีขบวนการขี้ข้า เป็นตัวประดับ เดินตามก้นกุมเป้าพินอบพิเทา ถ้าสั่งให้หามไปบนเสลี่ยงก็คงแย่งกันทำเอาหน้า เพื่อยกระดับขี้ข้าซึ่งมีต่างกัน

    มาดามจะรู้ตัวหรือไม่ว่า คนไทยที่มีจิตสำนึกจะรู้สึกอับอายขายหน้าทั้งประเทศเพราะมีหัวหน้าคณะรัฐมนตรีที่ไร้เดียงสาด้อยความรู้ความสามารถ มีอย่างเดียวคือความถือดี ไม่ฟังใคร ไม่สนใจ อาจจะไม่เห็นหัวคน มองว่าเป็นขี้ข้า

    ไม่มียุคใดที่ประเทศไทยจะ "ต้องทน" กับ "ความอัปยศ" เพราะมีผู้นำที่ด้อยความรู้ความสามารถเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เป็นตัวประหลาดในงานประชุมระดับนานาชาติ

    พ่อแม่ของเธอไม่รู้สึกอับอายบ้างเหรอที่ลูกสาวสุดที่รักถูกเยาะเย้ยถากถางเพราะความไม่ประสีประสาและมีพฤติกรรมสร้างความขบขันที่คนไทยหัวเราะไม่ออก

    เป็นการทำร้ายประเทศไทยอย่างเลือดเย็นที่สุด แม้แต่ประเทศด้อยพัฒนา หรือกำลังพัฒนามีประชากรไม่กี่หมื่นคน หาบนแผนที่โลกแทบไม่เจอ ก็ยังสามารถหาผู้นำที่เป็นตัวแทนของประเทศแล้วประชาชนไม่ต้องทนอับอาย

    แต่ประเทศไทยมีพลเมืองเกือบ 70 ล้านคน ต้องทนกับระบบการเมืองที่มีโครงสร้างไม่เปิดทางให้คนมีความรู้ความสามารถได้เป็นผู้นำ ทั้งที่มีความได้เปรียบหลายประเทศ มีนักท่องเที่ยวมากอันดับหนึ่งของโลก

    แต่ดันมีผู้นำอายุน้อยที่สุด และสร้างความขายหน้าที่สุด นี่ยังไม่ถึงสองเดือน ถ้าจะต้องทนถึงสิ้นปี ยังไม่รู้ว่าโรงงานทำปี๊บจะมีพอขายหรือไม่ คงต้องเอาถุงปุ๋ยหรือถุงดำแทน

    ยังดีที่กระบวนการทางกฎหมายค้างคาอยู่หลายเรื่องเพื่อจะตัดต่อความเป็นผู้นำของมาดาม รวมถึงความลำพองและอำนาจของบิดา อดีตนักโทษที่ไม่เคยติดคุกแม้แต่วันเดียว

    ทั้งหมดนี้คงเป็นกรรมไล่ตาม จะถึงพ่อหรือถึงลูกก่อนก็ยังต้องรอดู ความเป็นจริงก็คือลูกคนที่พ่อรักที่สุดจะต้องเจ็บปวดที่สุดเพราะความไม่รู้จักพอและความหลงในอำนาจ

    ยิ่งมาดามเชื่อว่าตัวเองมีความสามารถเป็นผู้นำประเทศได้ ทำให้การเร่งสภาวะหายนะให้เกิดขึ้นพร้อมกับกรรมเก่าที่ทำไว้กับประเทศชาติซึ่งถูกกอบโกยความมั่งคั่งทางด้านดีและระบบทุจริตประพฤติมิชอบ

    ทั้งพ่อและลูกรวมทั้งสาแหรกสมาชิกตระกูลจะรู้หรือไม่ว่าเวรกรรมมีจริง เท่าที่ผ่านมาก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว ยังไม่สำนึก ยังดันทุรัง ทำอะไรนอกลู่นอกทาง นอกกฎหมาย

    ขบวนการขี้คุกและขี้ข้ารับใช้ช่วยกันเร่งความเสื่อมโทรมให้แผ่นดินนี้

    พรรคร่วมรับประทานล้วนไร้จิตสำนึก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เพราะตลอดชีวิตการเมืองอยู่ในระบบคอร์รัปชั่นและกอบโกยผลประโยชน์จากทรัพยากรแผ่นดิน อยากร่วมรัฐบาลทั้งที่รู้ว่าต้องมีความชั่วร้าย

    ต้องยอมรับระดับความไม่อาย ไม่ประมาณตน ไม่รู้ข้อจำกัดความรู้ความสามารถของตนเอง ถ้าเป็นคนธรรมดาป่านนี้พยายามแทรกแผ่นดินหนีความอัปยศ เพราะแต่ละคนในตระกูลมีมลทินด่างพร้อยไม่มากก็น้อย

    ถ้าไม่มีอำนาจ ไม่มีเงินเครือข่าย ป่านนี้ติดคุกไปหลายรายเพราะพฤติกรรมนอกกฎหมาย จะเห็นได้จากจำนวนคนขี้ข้าขี้คุกในพรรคและยังคาคุกอยู่หลายคน ล้วนเกี่ยวกับคดีทุจริตคอร์รัปชันประพฤติมิชอบทั้งนั้น

    ยังดีแผ่นดินนี้แม้จะถูกคนชั่วร้ายหรือเครือข่ายทุรชนครอบงำ แต่ก็ไม่นานจนทำให้หายนะ แม้อยู่ในสภาพเสื่อมโทรมโครงสร้างทรุด ชาวบ้านยากจนถึงระดับอกไหม้ไส้ขม สิ้นไร้ไม้ตอก แต่ก็หวังว่าต้องมีวันจบสิ้น

    ครั้งที่จะถึงนี้ต้องใช้เวลาอีกนานหรือไม่สำหรับการสิ้นสุดของการครอบงำ การครอบครองอำนาจ และความหวังจะกอบโกยผลประโยชน์ครั้งสุดท้าย ต้องรอดูการทำงานของกระบวนการกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

    ที่สำคัญเวรกรรมมีจริง พิสูจน์ให้เห็นแล้ว รอบใหม่จะมาช้าหรือเร็ว คงไม่นานเกินรอ
    "รอเวรกรรมขจัดความอัปยศ" โสภณ องค์การณ์ 10 ตุลาคม 2567 (งานเขียนชิ้นสุดท้าย) ตีพิมพ์ในผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 781 วันที่ 12-18 ตุลาคม 2567 ผู้นำประเทศไทยอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ได้ไปออกงานระดับอินเตอร์ งานแรกที่เมืองโดฮา กาตาร์ กลับมาสร้างความฮือฮาไม่ธรรมดา เป็นอย่างฮา งานที่สองไปนครเวียงจันทน์อาเซียนซัมมิต กระทบไหล่ผู้นำประเทศ ซึ่งล้วนมีวัยวุฒิ คุณวุฒิ ประสบการณ์ ความรู้ความสามารถเหนือกว่า สิ่งที่มาดามซอฟต์พาวเวอร์เวอร์ พึ่งโพย อวดอ้างได้ก็คือความเป็นผู้นำอายุน้อย วาระการเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีก็น้อย ส่วนจะมีอย่างอื่นน้อยหรือไม่คนไทยต้องเอาปี๊บคลุมหัวอีกรอบแล้ว ใครจะไปคิดว่า ความเฉิ่มจะปรากฏเร็วยิ่งกว่านายกฯหญิงคนแรกของประเทศซึ่งสร้างความฮือฮาเรื่องการยกอำเภอหาดใหญ่เป็นจังหวัด ยกให้เมืองซิดนีย์เป็นประเทศ และอะไรที่ทำให้ต้องทนต่อความอดสู มาดามซอฟต์พาวเวอร์เวอร์ เป็นลักษณะไม่ยอมคน เถียงฉอดๆ ชนิดคำไม่ตกฟาก และยังมีท่าทีไม่ใส่ใจต่อเสียงท้วงติง ไม่แยแสทั้งที่เป็นความผิดพลาด การที่กล่าวกับคณะทูตด้วยคำว่า "You guys" ถือว่าเป็นสุดยอดของความไม่รู้เรื่อง ขาดการศึกษา ประเภทที่ว่าต่อให้ยกขบวนการขี้ข้ามาแก้ต่างให้ก็คงไม่ไหว แสดงว่ามาดามไม่รู้อะไรจริงๆ ชีวิตที่ผ่านมาคงหลงระเริงกับชีวิตของลูกสาวคนรวยหลายพันล้านหรือมากกว่านั้น เสียงแว่วลือลั่นว่า นางใช้เงินช็อปปิ้งสัปดาห์ละ 5 ล้านบาท ก็คงไม่เกินจริง ดูชุดสวมใส่แต่ละวันพร้อมเครื่องประดับก็ไม่น่าจะต่ำกว่าระดับล้านบาท แต่จะไปแคร์อะไรในเมื่อเงินหาง่ายสำหรับตระกูลนี้ ยิ่งมีเงินก็ยิ่งงอกเงย ทั้งมีอำนาจก็เร่งการงอกของเงินจากหลายแหล่ง ไม่อย่างนั้นจะมีขบวนการขี้ข้า เป็นตัวประดับ เดินตามก้นกุมเป้าพินอบพิเทา ถ้าสั่งให้หามไปบนเสลี่ยงก็คงแย่งกันทำเอาหน้า เพื่อยกระดับขี้ข้าซึ่งมีต่างกัน มาดามจะรู้ตัวหรือไม่ว่า คนไทยที่มีจิตสำนึกจะรู้สึกอับอายขายหน้าทั้งประเทศเพราะมีหัวหน้าคณะรัฐมนตรีที่ไร้เดียงสาด้อยความรู้ความสามารถ มีอย่างเดียวคือความถือดี ไม่ฟังใคร ไม่สนใจ อาจจะไม่เห็นหัวคน มองว่าเป็นขี้ข้า ไม่มียุคใดที่ประเทศไทยจะ "ต้องทน" กับ "ความอัปยศ" เพราะมีผู้นำที่ด้อยความรู้ความสามารถเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เป็นตัวประหลาดในงานประชุมระดับนานาชาติ พ่อแม่ของเธอไม่รู้สึกอับอายบ้างเหรอที่ลูกสาวสุดที่รักถูกเยาะเย้ยถากถางเพราะความไม่ประสีประสาและมีพฤติกรรมสร้างความขบขันที่คนไทยหัวเราะไม่ออก เป็นการทำร้ายประเทศไทยอย่างเลือดเย็นที่สุด แม้แต่ประเทศด้อยพัฒนา หรือกำลังพัฒนามีประชากรไม่กี่หมื่นคน หาบนแผนที่โลกแทบไม่เจอ ก็ยังสามารถหาผู้นำที่เป็นตัวแทนของประเทศแล้วประชาชนไม่ต้องทนอับอาย แต่ประเทศไทยมีพลเมืองเกือบ 70 ล้านคน ต้องทนกับระบบการเมืองที่มีโครงสร้างไม่เปิดทางให้คนมีความรู้ความสามารถได้เป็นผู้นำ ทั้งที่มีความได้เปรียบหลายประเทศ มีนักท่องเที่ยวมากอันดับหนึ่งของโลก แต่ดันมีผู้นำอายุน้อยที่สุด และสร้างความขายหน้าที่สุด นี่ยังไม่ถึงสองเดือน ถ้าจะต้องทนถึงสิ้นปี ยังไม่รู้ว่าโรงงานทำปี๊บจะมีพอขายหรือไม่ คงต้องเอาถุงปุ๋ยหรือถุงดำแทน ยังดีที่กระบวนการทางกฎหมายค้างคาอยู่หลายเรื่องเพื่อจะตัดต่อความเป็นผู้นำของมาดาม รวมถึงความลำพองและอำนาจของบิดา อดีตนักโทษที่ไม่เคยติดคุกแม้แต่วันเดียว ทั้งหมดนี้คงเป็นกรรมไล่ตาม จะถึงพ่อหรือถึงลูกก่อนก็ยังต้องรอดู ความเป็นจริงก็คือลูกคนที่พ่อรักที่สุดจะต้องเจ็บปวดที่สุดเพราะความไม่รู้จักพอและความหลงในอำนาจ ยิ่งมาดามเชื่อว่าตัวเองมีความสามารถเป็นผู้นำประเทศได้ ทำให้การเร่งสภาวะหายนะให้เกิดขึ้นพร้อมกับกรรมเก่าที่ทำไว้กับประเทศชาติซึ่งถูกกอบโกยความมั่งคั่งทางด้านดีและระบบทุจริตประพฤติมิชอบ ทั้งพ่อและลูกรวมทั้งสาแหรกสมาชิกตระกูลจะรู้หรือไม่ว่าเวรกรรมมีจริง เท่าที่ผ่านมาก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว ยังไม่สำนึก ยังดันทุรัง ทำอะไรนอกลู่นอกทาง นอกกฎหมาย ขบวนการขี้คุกและขี้ข้ารับใช้ช่วยกันเร่งความเสื่อมโทรมให้แผ่นดินนี้ พรรคร่วมรับประทานล้วนไร้จิตสำนึก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เพราะตลอดชีวิตการเมืองอยู่ในระบบคอร์รัปชั่นและกอบโกยผลประโยชน์จากทรัพยากรแผ่นดิน อยากร่วมรัฐบาลทั้งที่รู้ว่าต้องมีความชั่วร้าย ต้องยอมรับระดับความไม่อาย ไม่ประมาณตน ไม่รู้ข้อจำกัดความรู้ความสามารถของตนเอง ถ้าเป็นคนธรรมดาป่านนี้พยายามแทรกแผ่นดินหนีความอัปยศ เพราะแต่ละคนในตระกูลมีมลทินด่างพร้อยไม่มากก็น้อย ถ้าไม่มีอำนาจ ไม่มีเงินเครือข่าย ป่านนี้ติดคุกไปหลายรายเพราะพฤติกรรมนอกกฎหมาย จะเห็นได้จากจำนวนคนขี้ข้าขี้คุกในพรรคและยังคาคุกอยู่หลายคน ล้วนเกี่ยวกับคดีทุจริตคอร์รัปชันประพฤติมิชอบทั้งนั้น ยังดีแผ่นดินนี้แม้จะถูกคนชั่วร้ายหรือเครือข่ายทุรชนครอบงำ แต่ก็ไม่นานจนทำให้หายนะ แม้อยู่ในสภาพเสื่อมโทรมโครงสร้างทรุด ชาวบ้านยากจนถึงระดับอกไหม้ไส้ขม สิ้นไร้ไม้ตอก แต่ก็หวังว่าต้องมีวันจบสิ้น ครั้งที่จะถึงนี้ต้องใช้เวลาอีกนานหรือไม่สำหรับการสิ้นสุดของการครอบงำ การครอบครองอำนาจ และความหวังจะกอบโกยผลประโยชน์ครั้งสุดท้าย ต้องรอดูการทำงานของกระบวนการกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ที่สำคัญเวรกรรมมีจริง พิสูจน์ให้เห็นแล้ว รอบใหม่จะมาช้าหรือเร็ว คงไม่นานเกินรอ
    0 Comments 0 Shares 392 Views 0 Reviews
  • รัฐสภาเลบานอนมีมติเลือกนายพลโจเซฟ อูน (Joseph Aoun) ผู้บัญชาการกองทัพเลบานอน เป็นประธานาธิบดีคนที่ 14 ยุติสุญญากาศทางด้านผู้นำประเทศที่กินเวลานานถึง 2 ปี ซึ่งตำแหน่งประธานาธิบดีว่างลงตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2022

    โจเซฟ อูน จะดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 6 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากสหรัฐอเมริกาให้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีเลบานอน

    เจ้าหน้าที่สหรัฐเป็นชาวต่างประเทศกลุ่มแรกที่แสดงความยินดีกับประธานาธิบดีคนใหม่ของเลบานอน

    อูนกล่าวสุนทรพจน์หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของเลบานอนอย่างเป็นทางการ มีรายละเอียดที่น่าสนใจคือการรับปากจะแก้ไขทุกปัญหาสำคัญที่เลบานอนกำลังเผชิญอยู่:

    - เลบานอนไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้กับชาวปาเลสไตน์ได้ตลอดไป และสัญญาว่าจะไม่ให้สัญชาติแก่ชาวปาเลสไตน์ในเลบานอนในระหว่างดำรงตำแหน่ง และจะผลักดันพวกเขากลับคืนแผ่นดินของพวกเขา

    - จะเจรจาอย่างจริงจังกับรัฐบาลซีเรีย เพื่อยกระดับความเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน

    - ให้สัญญาว่ากองทัพเลบานอนจะเป็นหน่วยงานเดียวที่มีสิทธิถืออาวุธในเลบานอนได้ (บ่งบอกว่าต้องการสลายฮิซบอลเลาะห์!)

    - จะไม่มีการเลือกปฏิบัติ และไม่มีการคุ้มครองต่ออาชญากรทั้งหมด (หมายถึงฮิซบอลเลาะห์)

    - ให้คำมั่นว่าจะสร้างสิ่งที่ถูกทำลายจากการรุกรานของอิสราเอลขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และเรียกร้องให้ทุกคนร่วมมือกันปกป้องการรุกรานจากอิสราเอล

    - จะยึดนโยบายความเป็นกลางของประเทศ และจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อพันธมิตรทั้งหมดในแถบอ่าวเปอร์เซีย


    รัฐสภาเลบานอนมีมติเลือกนายพลโจเซฟ อูน (Joseph Aoun) ผู้บัญชาการกองทัพเลบานอน เป็นประธานาธิบดีคนที่ 14 ยุติสุญญากาศทางด้านผู้นำประเทศที่กินเวลานานถึง 2 ปี ซึ่งตำแหน่งประธานาธิบดีว่างลงตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2022 โจเซฟ อูน จะดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 6 ปี ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากสหรัฐอเมริกาให้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีเลบานอน เจ้าหน้าที่สหรัฐเป็นชาวต่างประเทศกลุ่มแรกที่แสดงความยินดีกับประธานาธิบดีคนใหม่ของเลบานอน อูนกล่าวสุนทรพจน์หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของเลบานอนอย่างเป็นทางการ มีรายละเอียดที่น่าสนใจคือการรับปากจะแก้ไขทุกปัญหาสำคัญที่เลบานอนกำลังเผชิญอยู่: - เลบานอนไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้กับชาวปาเลสไตน์ได้ตลอดไป และสัญญาว่าจะไม่ให้สัญชาติแก่ชาวปาเลสไตน์ในเลบานอนในระหว่างดำรงตำแหน่ง และจะผลักดันพวกเขากลับคืนแผ่นดินของพวกเขา - จะเจรจาอย่างจริงจังกับรัฐบาลซีเรีย เพื่อยกระดับความเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน - ให้สัญญาว่ากองทัพเลบานอนจะเป็นหน่วยงานเดียวที่มีสิทธิถืออาวุธในเลบานอนได้ (บ่งบอกว่าต้องการสลายฮิซบอลเลาะห์!) - จะไม่มีการเลือกปฏิบัติ และไม่มีการคุ้มครองต่ออาชญากรทั้งหมด (หมายถึงฮิซบอลเลาะห์) - ให้คำมั่นว่าจะสร้างสิ่งที่ถูกทำลายจากการรุกรานของอิสราเอลขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และเรียกร้องให้ทุกคนร่วมมือกันปกป้องการรุกรานจากอิสราเอล - จะยึดนโยบายความเป็นกลางของประเทศ และจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อพันธมิตรทั้งหมดในแถบอ่าวเปอร์เซีย
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 558 Views 0 Reviews
  • ม่านฟ้าเปิด
    ทวยเทพหลั่งน้ำตา
    สงสารมนุษย์
    ถูกมารครอบงำ
    เห็นผิดเป็นถูก

    ด้วยวิบากกรรมหนึ่ง
    ด้วยความจำกัดของปัญญาหนึ่ง
    ด้วยบุญกุศลที่มิเพียงพอหนึ่ง
    จึงช่วยได้เท่าที่จะช่วยได้
    อย่างน้อยก็ให้ได้รับรู้เป็นบทเรียน
    ให้จิตวิญญาณได้รับรู้
    เสริมสร้างให้จิตวิญญาณได้ยกระดับ
    ได้ก้าวพ้นความทุกข์ได้ในที่สุด

    วิงวอนคุรุเทพเทวา
    ให้มนุษย์รีบตื่นรู้
    เป็นปาฏิหาริย์ให้มนุษย์เข้าใจขีวิต
    เกิดปัญญาจิตที่แจ่มชัด
    ไม่ขัดแย้งทะเลาะกัน

    HOS.HOLY SHIFT
    9 มกราคม 2568
    ม่านฟ้าเปิด ทวยเทพหลั่งน้ำตา สงสารมนุษย์ ถูกมารครอบงำ เห็นผิดเป็นถูก ด้วยวิบากกรรมหนึ่ง ด้วยความจำกัดของปัญญาหนึ่ง ด้วยบุญกุศลที่มิเพียงพอหนึ่ง จึงช่วยได้เท่าที่จะช่วยได้ อย่างน้อยก็ให้ได้รับรู้เป็นบทเรียน ให้จิตวิญญาณได้รับรู้ เสริมสร้างให้จิตวิญญาณได้ยกระดับ ได้ก้าวพ้นความทุกข์ได้ในที่สุด วิงวอนคุรุเทพเทวา ให้มนุษย์รีบตื่นรู้ เป็นปาฏิหาริย์ให้มนุษย์เข้าใจขีวิต เกิดปัญญาจิตที่แจ่มชัด ไม่ขัดแย้งทะเลาะกัน HOS.HOLY SHIFT 9 มกราคม 2568
    0 Comments 0 Shares 107 Views 0 Reviews
  • สรุปไฮไลต์ผลิตภัณฑ์ใหม่จากแบรนด์ดังในงาน CES 2025
    ==LG==
    • LG M5 OLED TV: ทีวี OLED ที่ใช้เทคโนโลยี OLED สี่ชั้นจาก LG Display เพิ่มความสว่างและมีอัตราการรีเฟรช 165Hz เหมาะสำหรับเกมเมอร์
    • LG G5 OLED TV: มาพร้อมอัตรารีเฟรช 165Hz และโปรเซสเซอร์ Gen2 Alpha 11 ช่วยเสริมประสิทธิภาพการแสดงผล
    • LG UltraGear OLED Gaming Monitors: จอเกมมิ่งที่ใหญ่ขึ้น เร็วขึ้น และชาญฉลาดขึ้นด้วยฟีเจอร์ AI
    • LG SIGNATURE Appliances: เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ปรับแต่งการใช้งานตามผู้ใช้ด้วย AI
    • LG AI Home: ระบบบ้านอัจฉริยะที่ใช้การจดจำใบหน้าและเสียงเพื่อมอบข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพ

    ==Samsung==
    • Samsung Neo QLED TVs (Frame Pro): ทีวี Frame Pro พร้อมเทคโนโลยี Mini-LED เพิ่มคอนทราสต์และความสว่าง
    • Samsung AI TVs: ใช้ HDR Remastering และการยกระดับ AI เพื่อเพิ่มคุณภาพเนื้อหาเก่า
    • Samsung Vision AI Mobility Concept: ระบบตรวจจับภายในยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อความปลอดภัยและการปรับแต่งส่วนตัว

    ==Sony==
    • Sony Ultrafine Monitors: จอความละเอียด 6K พร้อมรองรับ Thunderbolt 5
    • Sony AI Integration: ระบบ AI ที่ปรับแต่งคำแนะนำเนื้อหาและรองรับการจดจำเสียง

    ==แบรนด์อื่นๆ==
    • TCL QM6K TV: ทีวี QLED ระดับเริ่มต้น ใช้เทคโนโลยี Mini LED พร้อมลำโพงซาวด์บาร์ฟรีสำหรับการสั่งจองล่วงหน้า
    • Dexcom Glucose Monitor: เครื่องตรวจระดับน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่องสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 วางขายทั่วไป
    • Swippitt Mobile Charger: ชาร์จมือถือได้ในเวลาเพียงสองวินาที
    • Lockly Styla Smart Lock: ระบบล็อกอัจฉริยะที่รวมตัวล็อก, เครื่องอ่านลายนิ้วมือ, RFID และกล้องวิดีโอ
    • Amazfit Active Smartwatch: สมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดพร้อมฟีเจอร์ติดตามสุขภาพ การนอน และการออกกำลังกาย
    สรุปไฮไลต์ผลิตภัณฑ์ใหม่จากแบรนด์ดังในงาน CES 2025 ==LG== • LG M5 OLED TV: ทีวี OLED ที่ใช้เทคโนโลยี OLED สี่ชั้นจาก LG Display เพิ่มความสว่างและมีอัตราการรีเฟรช 165Hz เหมาะสำหรับเกมเมอร์ • LG G5 OLED TV: มาพร้อมอัตรารีเฟรช 165Hz และโปรเซสเซอร์ Gen2 Alpha 11 ช่วยเสริมประสิทธิภาพการแสดงผล • LG UltraGear OLED Gaming Monitors: จอเกมมิ่งที่ใหญ่ขึ้น เร็วขึ้น และชาญฉลาดขึ้นด้วยฟีเจอร์ AI • LG SIGNATURE Appliances: เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะที่ปรับแต่งการใช้งานตามผู้ใช้ด้วย AI • LG AI Home: ระบบบ้านอัจฉริยะที่ใช้การจดจำใบหน้าและเสียงเพื่อมอบข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพ ==Samsung== • Samsung Neo QLED TVs (Frame Pro): ทีวี Frame Pro พร้อมเทคโนโลยี Mini-LED เพิ่มคอนทราสต์และความสว่าง • Samsung AI TVs: ใช้ HDR Remastering และการยกระดับ AI เพื่อเพิ่มคุณภาพเนื้อหาเก่า • Samsung Vision AI Mobility Concept: ระบบตรวจจับภายในยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อความปลอดภัยและการปรับแต่งส่วนตัว ==Sony== • Sony Ultrafine Monitors: จอความละเอียด 6K พร้อมรองรับ Thunderbolt 5 • Sony AI Integration: ระบบ AI ที่ปรับแต่งคำแนะนำเนื้อหาและรองรับการจดจำเสียง ==แบรนด์อื่นๆ== • TCL QM6K TV: ทีวี QLED ระดับเริ่มต้น ใช้เทคโนโลยี Mini LED พร้อมลำโพงซาวด์บาร์ฟรีสำหรับการสั่งจองล่วงหน้า • Dexcom Glucose Monitor: เครื่องตรวจระดับน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่องสำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 วางขายทั่วไป • Swippitt Mobile Charger: ชาร์จมือถือได้ในเวลาเพียงสองวินาที • Lockly Styla Smart Lock: ระบบล็อกอัจฉริยะที่รวมตัวล็อก, เครื่องอ่านลายนิ้วมือ, RFID และกล้องวิดีโอ • Amazfit Active Smartwatch: สมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดพร้อมฟีเจอร์ติดตามสุขภาพ การนอน และการออกกำลังกาย
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 Reviews
  • กลั่นหามาเล่า Ep.178 : ลบล้ม - เร่งรุ่ง

    เทคนิคจากการถอดประสบการณ์และการเรียนรู้หลังการให้คำปรึกษาแนะนำของวิทยากรที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์พัฒนาการจัดการตลอดเวลา 30 ปี

    รับฟังได้ที่ช่องทาง :
    https://youtu.be/RM3l7Vz4dh8
    https://youtu.be/27CpI3XNPCA
    https://youtu.be/tqri6kImwVM
    https://www.tiktok.com/@wasitprombutr/video/7457415104448007431?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7407669738484057617
    https://www.blockdit.com/posts/677e14e1cab7f1e04a7cb08c

    สนใจการพัฒนาทักษะแห่งอนาคตตอบโจทย์ทักษะสำคัญสำหรับปี 2025 โดยแบรนด์ 10X Consulting และ LIFE ALIGNMENTOR ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการ Accreditationด้านการพัฒนาศักยภาพบุคคล ทีม และองค์กรในระดับสากล เรามีทีมงานมืออาชีพซึ่งมีประสบการณ์พัฒนาผลิตภาพของบุคลากร ทีมและองค์กรมานานกว่า 30 ปี พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์สร้างการเติบโตพร้อมกับคุณ

    เดชฤทธิ์ กรุ๊ป
    ที่ปรึกษากลยุทธ์การจัดการองค์กร ทีม และการยกระดับศักยภาพบุคลากรสู่ความเป็นเลิศด้วยกระบวนการ “พัฒนาคนให้เก่งสร้างทีมแกร่งกระบวนการเยี่ยมผลลัพธ์ยอด”
    ผู้บริหารแบรนด์ 10X Consulting และ Life Alignmentor
    บริการครบเครื่องเรื่องพัฒนาศักยภาพ
    #เดชฤทธิ์กรุ๊ป
    #Dechritgroup
    #10Xconsulting
    #lifealignmentor
    พัฒนาองค์กรและผู้ประกอบการสร้างแบรนด์ไทยในระดับโลก
    www.10-xconsulting.com
    ปั้นคนให้เป็นแชมป์ด้วยพลังทวี
    “ผสานความดีxความเก่ง”
    www.lifealignmentor.com

    ติดต่อสอบถาม :
    LINE OFFICIAL: @10xconsulting, @lifealignmentor
    กลั่นหามาเล่า Ep.178 : ลบล้ม - เร่งรุ่ง เทคนิคจากการถอดประสบการณ์และการเรียนรู้หลังการให้คำปรึกษาแนะนำของวิทยากรที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์พัฒนาการจัดการตลอดเวลา 30 ปี รับฟังได้ที่ช่องทาง : https://youtu.be/RM3l7Vz4dh8 https://youtu.be/27CpI3XNPCA https://youtu.be/tqri6kImwVM https://www.tiktok.com/@wasitprombutr/video/7457415104448007431?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7407669738484057617 https://www.blockdit.com/posts/677e14e1cab7f1e04a7cb08c สนใจการพัฒนาทักษะแห่งอนาคตตอบโจทย์ทักษะสำคัญสำหรับปี 2025 โดยแบรนด์ 10X Consulting และ LIFE ALIGNMENTOR ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการ Accreditationด้านการพัฒนาศักยภาพบุคคล ทีม และองค์กรในระดับสากล เรามีทีมงานมืออาชีพซึ่งมีประสบการณ์พัฒนาผลิตภาพของบุคลากร ทีมและองค์กรมานานกว่า 30 ปี พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์สร้างการเติบโตพร้อมกับคุณ เดชฤทธิ์ กรุ๊ป ที่ปรึกษากลยุทธ์การจัดการองค์กร ทีม และการยกระดับศักยภาพบุคลากรสู่ความเป็นเลิศด้วยกระบวนการ “พัฒนาคนให้เก่งสร้างทีมแกร่งกระบวนการเยี่ยมผลลัพธ์ยอด” ผู้บริหารแบรนด์ 10X Consulting และ Life Alignmentor บริการครบเครื่องเรื่องพัฒนาศักยภาพ #เดชฤทธิ์กรุ๊ป #Dechritgroup #10Xconsulting #lifealignmentor พัฒนาองค์กรและผู้ประกอบการสร้างแบรนด์ไทยในระดับโลก www.10-xconsulting.com ปั้นคนให้เป็นแชมป์ด้วยพลังทวี “ผสานความดีxความเก่ง” www.lifealignmentor.com ติดต่อสอบถาม : LINE OFFICIAL: @10xconsulting, @lifealignmentor
    0 Comments 0 Shares 287 Views 0 Reviews
  • Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ขึ้นเวทีงาน CES 2025 เพื่อเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่เน้นด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และคลาวด์คอมพิวติ้ง โดยไฮไลต์สำคัญคือการเปิดตัว Copilot+ PCs หมวดหมู่ใหม่ของพีซีที่ใช้ Windows 11 ซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งาน AI ที่ทรงพลัง

    Copilot+ PCs ใช้โปรเซสเซอร์ล่าสุดจาก Intel, AMD และ Qualcomm ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพีซี Windows ที่เร็วที่สุด ฉลาดที่สุด และปลอดภัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมาพร้อมฟีเจอร์ AI อัจฉริยะ เช่น Copilot ที่สามารถสรุปการประชุมใน Teams สร้างเอกสารด้วยข้อมูลเพียงเล็กน้อย และทำให้การค้นหาใน Windows Search มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

    Microsoft ยังนำเสนอความก้าวหน้าของแพลตฟอร์มคลาวด์ Azure โดยเน้นบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยานยนต์ การคมนาคม และการผลิต บริษัทได้ประกาศความร่วมมือใหม่ ๆ เพื่อใช้ AI ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพในภาคส่วนเหล่านี้

    หนึ่งในจุดเด่นสำคัญคือการบูรณาการ Generative AI และ Agentic AI ในการออกแบบและผลิตยานยนต์ โดยแพลตฟอร์ม Azure ช่วยผู้ผลิตอุปกรณ์ OEM และซัพพลายเออร์ในการออกแบบ สร้าง ทดสอบ และตรวจสอบยานพาหนะรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนายานยนต์ที่ใช้ซอฟต์แวร์เป็นแกนหลัก (SDVs) ระบบช่วยขับขั้นสูง (ADAS) การขับเคลื่อนอัตโนมัติ (AD) และประสบการณ์ภายในรถยนต์

    ความอเนกประสงค์ของ SDVs และ AI ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และเปิดโอกาสใหม่ทางรายได้ การใช้แพลตฟอร์ม Azure ในการปรับปรุงระบบวิศวกรรมสามารถลดระยะเวลาพัฒนาผลิตภัณฑ์ ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มคุณภาพกับความร่วมมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ขึ้นเวทีงาน CES 2025 เพื่อเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่เน้นด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และคลาวด์คอมพิวติ้ง โดยไฮไลต์สำคัญคือการเปิดตัว Copilot+ PCs หมวดหมู่ใหม่ของพีซีที่ใช้ Windows 11 ซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งาน AI ที่ทรงพลัง Copilot+ PCs ใช้โปรเซสเซอร์ล่าสุดจาก Intel, AMD และ Qualcomm ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพีซี Windows ที่เร็วที่สุด ฉลาดที่สุด และปลอดภัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยมาพร้อมฟีเจอร์ AI อัจฉริยะ เช่น Copilot ที่สามารถสรุปการประชุมใน Teams สร้างเอกสารด้วยข้อมูลเพียงเล็กน้อย และทำให้การค้นหาใน Windows Search มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น Microsoft ยังนำเสนอความก้าวหน้าของแพลตฟอร์มคลาวด์ Azure โดยเน้นบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยานยนต์ การคมนาคม และการผลิต บริษัทได้ประกาศความร่วมมือใหม่ ๆ เพื่อใช้ AI ในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและเพิ่มประสิทธิภาพในภาคส่วนเหล่านี้ หนึ่งในจุดเด่นสำคัญคือการบูรณาการ Generative AI และ Agentic AI ในการออกแบบและผลิตยานยนต์ โดยแพลตฟอร์ม Azure ช่วยผู้ผลิตอุปกรณ์ OEM และซัพพลายเออร์ในการออกแบบ สร้าง ทดสอบ และตรวจสอบยานพาหนะรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนายานยนต์ที่ใช้ซอฟต์แวร์เป็นแกนหลัก (SDVs) ระบบช่วยขับขั้นสูง (ADAS) การขับเคลื่อนอัตโนมัติ (AD) และประสบการณ์ภายในรถยนต์ ความอเนกประสงค์ของ SDVs และ AI ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และเปิดโอกาสใหม่ทางรายได้ การใช้แพลตฟอร์ม Azure ในการปรับปรุงระบบวิศวกรรมสามารถลดระยะเวลาพัฒนาผลิตภัณฑ์ ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มคุณภาพกับความร่วมมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    0 Comments 0 Shares 200 Views 0 Reviews
  • คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือระบุว่า ระบบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกใหม่ที่ถูกใช้ในการทดสอบ จะช่วยป้องปรามบรรดาอริศัตรูของประเทศในภูมิภาคแปซิฟิก ตามรายงานของเคซีเอ็นเอ สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ
    .
    "ระบบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก จะช่วยควบคุมอย่างน่าเชือถือต่อคู่อริใดๆ ในภูมิภาคแปซิฟิก ที่สามารถก่อผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งรัฐของเรา" คิมกล่าว หลังจากเดินทางไปตรวจตราการยิงทดสอบด้วยตนเอง ตามรายงานของเคซีเอ็นเอ
    .
    การยิงทดสอบครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางเยือนเกาหลีใต้ พันธมิตรทางยุทธศาสตร์ของอเมริกาและคู่อริตัวฉกาจของเกาหลีเหนือ ซึ่งในทางเทคนิคแล้ว โซลและเปียงยาง ยังอยู่ในภาวะสงคราม
    .
    ในถ้อยแถลง คิม กล่าวอ้างว่าขีปนาวุธพุ่งเป็นระยะทาง 1,500 กิโลเมตร มากกว่าตัวเลข 1,100 กิโลเมตรที่ทางกองทัพเกาหลีใต้ระบุก่อนหน้านี้ และเดินทางด้วยความเร็วเหนือเสียง 12 เท่า ก่อนดิ่งลงสู่ทะเล "นี่คือแผนและความพยายามที่ชัดเจนสำหรับการป้องกันตนเอง ไม่ใช่แผนหรือปฏิบัติการรุกรานใดๆ" ผู้นำเกาหลีเหนือระบุ
    .
    อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าด้วยสมรรถนะของระบบขีปนาวุธนี้ "ทั่วโลกไม่อาจมองข้ามได้" พร้อมระบุมันสามารถจัดการกับการโจมตีทางทหารร้ายแรงใดๆ จากคู่อริหนึ่งๆ ขณะเดียวกัน ก็สามารถทำลายแนวป้องกันที่หนาแน่นใดๆ
    .
    "พัฒนาการในแสนยานุภาพด้านการป้องกันตนเองของเกาหลีเหนือ มีเป้าหมายเพื่อเร่งยกระดับแสนยานุภาพทางทหารให้รวดเร็วยิ่งขึ้น" คิมกล่าว
    .
    บลิงเคน และโช แท-ย็อล รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ ประณามการยิงทดสอบดังกล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วม โดยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่ามันแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการกระชับความเป็นพันธมิตรของ 3 ฝ่าย ที่ประกอบด้วยวอชิงตัน โซล และโตเกียว
    .
    การยิงทดสอบเมื่อวันจันทร์ (6 ม.ค.) ถือเป็นครั้งแรกของเกาหลีเหนือ นับตั้งแต่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน เกาหลีเหนือเคยทดสอบในสิ่งที่กล่าวอ้างว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) เชื้อเพลิงแข็ง ที่ล้ำสมัยและทรงแสนยานุภาพที่สุดของประเทศ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001576
    ..............
    Sondhi X
    คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือระบุว่า ระบบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกใหม่ที่ถูกใช้ในการทดสอบ จะช่วยป้องปรามบรรดาอริศัตรูของประเทศในภูมิภาคแปซิฟิก ตามรายงานของเคซีเอ็นเอ สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ . "ระบบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก จะช่วยควบคุมอย่างน่าเชือถือต่อคู่อริใดๆ ในภูมิภาคแปซิฟิก ที่สามารถก่อผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งรัฐของเรา" คิมกล่าว หลังจากเดินทางไปตรวจตราการยิงทดสอบด้วยตนเอง ตามรายงานของเคซีเอ็นเอ . การยิงทดสอบครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางเยือนเกาหลีใต้ พันธมิตรทางยุทธศาสตร์ของอเมริกาและคู่อริตัวฉกาจของเกาหลีเหนือ ซึ่งในทางเทคนิคแล้ว โซลและเปียงยาง ยังอยู่ในภาวะสงคราม . ในถ้อยแถลง คิม กล่าวอ้างว่าขีปนาวุธพุ่งเป็นระยะทาง 1,500 กิโลเมตร มากกว่าตัวเลข 1,100 กิโลเมตรที่ทางกองทัพเกาหลีใต้ระบุก่อนหน้านี้ และเดินทางด้วยความเร็วเหนือเสียง 12 เท่า ก่อนดิ่งลงสู่ทะเล "นี่คือแผนและความพยายามที่ชัดเจนสำหรับการป้องกันตนเอง ไม่ใช่แผนหรือปฏิบัติการรุกรานใดๆ" ผู้นำเกาหลีเหนือระบุ . อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าด้วยสมรรถนะของระบบขีปนาวุธนี้ "ทั่วโลกไม่อาจมองข้ามได้" พร้อมระบุมันสามารถจัดการกับการโจมตีทางทหารร้ายแรงใดๆ จากคู่อริหนึ่งๆ ขณะเดียวกัน ก็สามารถทำลายแนวป้องกันที่หนาแน่นใดๆ . "พัฒนาการในแสนยานุภาพด้านการป้องกันตนเองของเกาหลีเหนือ มีเป้าหมายเพื่อเร่งยกระดับแสนยานุภาพทางทหารให้รวดเร็วยิ่งขึ้น" คิมกล่าว . บลิงเคน และโช แท-ย็อล รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ ประณามการยิงทดสอบดังกล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วม โดยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่ามันแสดงให้เห็นถึงความสำคัญในการกระชับความเป็นพันธมิตรของ 3 ฝ่าย ที่ประกอบด้วยวอชิงตัน โซล และโตเกียว . การยิงทดสอบเมื่อวันจันทร์ (6 ม.ค.) ถือเป็นครั้งแรกของเกาหลีเหนือ นับตั้งแต่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ . ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน เกาหลีเหนือเคยทดสอบในสิ่งที่กล่าวอ้างว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) เชื้อเพลิงแข็ง ที่ล้ำสมัยและทรงแสนยานุภาพที่สุดของประเทศ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001576 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 862 Views 0 Reviews
  • ฝั่งธนยังต้องทน ก่อสร้างตลอดปี

    นับตั้งแต่ฝั่งธนบุรีมีการก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก บนถนนพระรามที่ 2 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน–ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) บนถนนสุขสวัสดิ์ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน และถนนประชาธิปก มาตั้งแต่ปี 2565 ทำการจราจรติดขัดทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็นแล้ว ในปี 2568 มีการก่อสร้างเพิ่มเติมทั้งทางยกระดับและรถไฟฟ้า คราวนี้กระทบโซนปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี ถึงถนนพุทธมณฑล สาย 4

    เริ่มจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.2568 เวลา 22.00 น. จะปิดสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชั่น และถนนสุทธาวาส เพื่อดำเนินงานก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางขุนนนท์ ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ใช้เส้นทางนี้ระหว่างแยกพรานนก สถานีรถไฟธนบุรี ข้ามสะพานไปยังฝั่งถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน เพื่อไปออกถนนบรมราชชนนี สถานีรถไฟชุมทางตลิ่งชัน ถึงถนนกาญจนาภิเษก ได้รับผลกระทบ

    โดยผู้รับจ้างจะรื้อถอนสะพานข้ามแยกดังกล่าวเพื่อก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางขุนนนท์ OR2 จากนั้นจะก่อสร้างสะพานทดแทน ในเดือน ธ.ค.2569 และคาดว่าจะเปิดใช้งานได้ในเดือน มิ.ย.2571 รวมระยะเวลาประมาณ 3 ปีครึ่ง

    อย่างต่อมา คือ การก่อสร้างส่วนต่อขยายทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 338 (ถนนบรมราชชนนี) ช่วงพุทธมณฑลสาย 3-พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทางประมาณ 4.7 กิโลเมตร ปีงบประมาณ 2568 ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 4,490 ล้านบาท แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 6 สัญญา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการคำนวณราคากลาง

    อีกโครงการหนึ่ง คือ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ทางยกระดับสายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ช่วงบางขุนเทียน–บางบัวทอง (M9) ระยะทาง 38 กิโลเมตร พาดผ่านพื้นที่เขตบางขุนเทียน เขตบางแค เขตตลิ่งชัน และเขตทวีวัฒนา กทม. กับ อ.บางกรวย อ.บางใหญ่ และ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังคณะรัฐมนตรีอนุมัติเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2567 คาดว่าจะเปิดประมูลปลายปี 2568 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี

    สำหรับส่วนต่อขยายถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 ที่จะแบ่งเบาการจราจรถนนเพชรเกษม และถนนบรมราชชนนี ได้แก่ โครงการต่อเชื่อมถนนพุทธมณฑลสาย 2-ถนนพุทธมณฑลสาย 3 ระยะทาง 3.4 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,532 ล้านบาท ปัจจุบันคืบหน้าแล้ว 72.14% คาดว่าจะเปิดให้บริการเดือน มิ.ย.2568 และโครงการต่อเชื่อมถนนพุทธมณฑลสาย 3-ถนนพุทธมณฑลสาย 4 สิ้นสุดบริเวณตรงข้ามปากซอยกระทุ่มล้ม 9 อ.สามพราน จ.นครปฐม ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,299.90 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 720 วัน สิ้นสุดสัญญาเดือน ก.ย.2569

    #Newskit
    ฝั่งธนยังต้องทน ก่อสร้างตลอดปี นับตั้งแต่ฝั่งธนบุรีมีการก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก บนถนนพระรามที่ 2 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน–ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) บนถนนสุขสวัสดิ์ ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน และถนนประชาธิปก มาตั้งแต่ปี 2565 ทำการจราจรติดขัดทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็นแล้ว ในปี 2568 มีการก่อสร้างเพิ่มเติมทั้งทางยกระดับและรถไฟฟ้า คราวนี้กระทบโซนปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี ถึงถนนพุทธมณฑล สาย 4 เริ่มจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.2568 เวลา 22.00 น. จะปิดสะพานข้ามถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชั่น และถนนสุทธาวาส เพื่อดำเนินงานก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางขุนนนท์ ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ใช้เส้นทางนี้ระหว่างแยกพรานนก สถานีรถไฟธนบุรี ข้ามสะพานไปยังฝั่งถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน เพื่อไปออกถนนบรมราชชนนี สถานีรถไฟชุมทางตลิ่งชัน ถึงถนนกาญจนาภิเษก ได้รับผลกระทบ โดยผู้รับจ้างจะรื้อถอนสะพานข้ามแยกดังกล่าวเพื่อก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินบางขุนนนท์ OR2 จากนั้นจะก่อสร้างสะพานทดแทน ในเดือน ธ.ค.2569 และคาดว่าจะเปิดใช้งานได้ในเดือน มิ.ย.2571 รวมระยะเวลาประมาณ 3 ปีครึ่ง อย่างต่อมา คือ การก่อสร้างส่วนต่อขยายทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 338 (ถนนบรมราชชนนี) ช่วงพุทธมณฑลสาย 3-พุทธมณฑลสาย 4 ระยะทางประมาณ 4.7 กิโลเมตร ปีงบประมาณ 2568 ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 4,490 ล้านบาท แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 6 สัญญา ขณะนี้อยู่ในระหว่างการคำนวณราคากลาง อีกโครงการหนึ่ง คือ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ทางยกระดับสายวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ช่วงบางขุนเทียน–บางบัวทอง (M9) ระยะทาง 38 กิโลเมตร พาดผ่านพื้นที่เขตบางขุนเทียน เขตบางแค เขตตลิ่งชัน และเขตทวีวัฒนา กทม. กับ อ.บางกรวย อ.บางใหญ่ และ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังคณะรัฐมนตรีอนุมัติเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2567 คาดว่าจะเปิดประมูลปลายปี 2568 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี สำหรับส่วนต่อขยายถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 ที่จะแบ่งเบาการจราจรถนนเพชรเกษม และถนนบรมราชชนนี ได้แก่ โครงการต่อเชื่อมถนนพุทธมณฑลสาย 2-ถนนพุทธมณฑลสาย 3 ระยะทาง 3.4 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,532 ล้านบาท ปัจจุบันคืบหน้าแล้ว 72.14% คาดว่าจะเปิดให้บริการเดือน มิ.ย.2568 และโครงการต่อเชื่อมถนนพุทธมณฑลสาย 3-ถนนพุทธมณฑลสาย 4 สิ้นสุดบริเวณตรงข้ามปากซอยกระทุ่มล้ม 9 อ.สามพราน จ.นครปฐม ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง 1,299.90 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 720 วัน สิ้นสุดสัญญาเดือน ก.ย.2569 #Newskit
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 379 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯ "มีความกังวลอย่างมาก" ที่รัสเซียอาจกำลังพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ จากสุ้มเสียงของ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา ระหว่างให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส
    .
    ความเห็นนี้เป็นการตอบคำกล่าวเกี่ยวกับคำกล่าวหารัสเซียข่มขู่ทางนิวเคลียร์ ดูเหมือนเป็นการอ้างถึงกรณีที่มอสโกเปลี่ยนแปลงหลักการทางนิวเคลียร์เมื่อปีที่แล้ว
    .
    รัสเซียอัปเดตหลักการทางนิวเคลียร์ ครั้งที่บรรดาผู้สนับสนุนตะวันตกของยูเครน ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ กำลังพิจารณาอนุญาตให้เคียฟใช้อาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้ โจมตีเล่นงานเป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย
    .
    ในเดือนพฤศจิกายน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย อนุมัติแก้ไขหลักการทางนิวเคลียร์ ขยายขอบเขตเงื่อนไขที่จะนำมาซึ่งการตอบโต้ทางนิวเคลียร์ โดยการอัปเดตดังกล่าว ในนั้นรวมถึงกรณีที่ถูกรุกรานโดยกองกำลังรัฐหรือกลุ่มรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง แต่อยู่ภายใต้การสนับสนุนของรัฐนิวเคลียร์ จะถูกมองว่าเป็น "การโจมตีร่วม"
    .
    อย่างไรก็ตาม หลักการดังกล่าวให้คำนิยามอาวุธนิวเคลียร์ว่าเป็น "มาตรการสุดขั้วและบีบบังคับ" และเน้นย้ำว่าเป้าหมายของมอสโกคือป้องกันความตึงเครียดที่อาจนำมาซึ่งความขัดแย้งทางทหาร ในนั้นรวมถึงความขัดแย้งทางนิวเคลียร์
    .
    บลิงเคน บอกว่าวอชิงตันมองความเคลื่อนไหวของรัสเซียในการเปลี่ยนแปลงหลักการดังกล่าวว่าเป็นการยกระดับความเสี่ยงสถานการณ์ลุกลามบานปลายทางนิวเคลียร์ "แม้หากความเป็นไปได้เพิ่มขึ้นแค่จาก 5% เป็น 15% ในเรื่องเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ มันก็ไม่มีอะไรร้ายแรงกว่านี้อีกแล้ว" รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว ก่อนหน้านี้เขาเคยวิจารณ์แผนอัปเดตหลักการนิวเคลียร์ของรัสเซียว่า "ไร้ความรับผิดชอบ" ครั้งที่มีการแถลงในเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในเดือนกันยายนปีก่อน
    .
    นอกจากนี้แล้ว บลิงเคน กล่าวอ้างว่า จีนอาจมีอิทธิพลเหนือรัสเซีย โน้มน้าวไม่ให้มอสโกใช้อาวุธนิวเคลียร์ "เรามีเหตุผลที่จะเชื่อว่าจีนพูดคุยกับรัสเซีย และบอกว่าอย่าไปถึงจุดนั้น" พร้อมบ่งชี้ว่า จีนอาจดำเนินการแบบเดียวกัน ครั้งที่สหรัฐฯ กล่าวหารัสเซีย กำลังวางแผนประจำการอาวุธนิวเคลียร์ในอวกาศ คำกล่าวหาที่มอสโกตอบโต้ว่าเป็น "ข่าวปลอม"
    .
    มอสโก คือชาติที่มีคลังแสงนิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในโลก และเจ้าหน้าที่รัสเซียเน้นย้ำว่าพวกเขาพิจารณาอาวุธชนิดนี้ในฐานะเป็น "ทางเลือกสุดท้าย"
    .
    หลังจากอัปเดตหลักการนิวเคลียร์ในเดือนพฤศจิกายน เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า "มอสโกสนับสนุนอย่างแน่วแน่ต่อการทำทุกอย่างเพื่อป้องกันสงครามนิวเคลียร์" พร้อมระบุว่าคลังแสงของรัสเซียมีเจตนาเพื่อป้องปรามการรุกรานและเป็นหนทางแห่งการป้องกันความขัดแย้งนิวเคลียร์
    .
    อย่างไรก็ตาม วังเครมลินระบุมาช้านานว่า ความเคลื่อนไหวยกระดับกองทัพสหรัฐฯ และประจำการขีปนาวุธศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ทั่วโลก อาจกระตุ้นการตอบโต้อย่างทัดเทียม โดยเมื่อเดือนที่แล้ว รัสเซียและเบลารุส ลงนามในสนธิสัญญาความมั่นคงที่จะทำให้การประจำการระบบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก "โอเรสชุก" ศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ของรัสเซีย ในเบลารุสในปีหน้าเป็นรูปธรรมขึ้นมา
    .
    ขีปนาวุธชนิดนี้ ทางมอสโกบอกว่าไม่มีระบบป้องกันขีปนาวุธไหนๆ ของตะวันตกในปัจจุบันที่สามารถสกัดได้ ขณะที่มันมีศักยภาพโจมตีไปถึงเป้าหมายต่างๆ ทั่วยุโรปภายในไม่กี่นาที
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001226
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯ "มีความกังวลอย่างมาก" ที่รัสเซียอาจกำลังพิจารณาใช้อาวุธนิวเคลียร์ จากสุ้มเสียงของ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกา ระหว่างให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส . ความเห็นนี้เป็นการตอบคำกล่าวเกี่ยวกับคำกล่าวหารัสเซียข่มขู่ทางนิวเคลียร์ ดูเหมือนเป็นการอ้างถึงกรณีที่มอสโกเปลี่ยนแปลงหลักการทางนิวเคลียร์เมื่อปีที่แล้ว . รัสเซียอัปเดตหลักการทางนิวเคลียร์ ครั้งที่บรรดาผู้สนับสนุนตะวันตกของยูเครน ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ กำลังพิจารณาอนุญาตให้เคียฟใช้อาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้ โจมตีเล่นงานเป้าหมายต่างๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย . ในเดือนพฤศจิกายน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย อนุมัติแก้ไขหลักการทางนิวเคลียร์ ขยายขอบเขตเงื่อนไขที่จะนำมาซึ่งการตอบโต้ทางนิวเคลียร์ โดยการอัปเดตดังกล่าว ในนั้นรวมถึงกรณีที่ถูกรุกรานโดยกองกำลังรัฐหรือกลุ่มรัฐที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง แต่อยู่ภายใต้การสนับสนุนของรัฐนิวเคลียร์ จะถูกมองว่าเป็น "การโจมตีร่วม" . อย่างไรก็ตาม หลักการดังกล่าวให้คำนิยามอาวุธนิวเคลียร์ว่าเป็น "มาตรการสุดขั้วและบีบบังคับ" และเน้นย้ำว่าเป้าหมายของมอสโกคือป้องกันความตึงเครียดที่อาจนำมาซึ่งความขัดแย้งทางทหาร ในนั้นรวมถึงความขัดแย้งทางนิวเคลียร์ . บลิงเคน บอกว่าวอชิงตันมองความเคลื่อนไหวของรัสเซียในการเปลี่ยนแปลงหลักการดังกล่าวว่าเป็นการยกระดับความเสี่ยงสถานการณ์ลุกลามบานปลายทางนิวเคลียร์ "แม้หากความเป็นไปได้เพิ่มขึ้นแค่จาก 5% เป็น 15% ในเรื่องเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ มันก็ไม่มีอะไรร้ายแรงกว่านี้อีกแล้ว" รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว ก่อนหน้านี้เขาเคยวิจารณ์แผนอัปเดตหลักการนิวเคลียร์ของรัสเซียว่า "ไร้ความรับผิดชอบ" ครั้งที่มีการแถลงในเรื่องนี้เป็นครั้งแรกในเดือนกันยายนปีก่อน . นอกจากนี้แล้ว บลิงเคน กล่าวอ้างว่า จีนอาจมีอิทธิพลเหนือรัสเซีย โน้มน้าวไม่ให้มอสโกใช้อาวุธนิวเคลียร์ "เรามีเหตุผลที่จะเชื่อว่าจีนพูดคุยกับรัสเซีย และบอกว่าอย่าไปถึงจุดนั้น" พร้อมบ่งชี้ว่า จีนอาจดำเนินการแบบเดียวกัน ครั้งที่สหรัฐฯ กล่าวหารัสเซีย กำลังวางแผนประจำการอาวุธนิวเคลียร์ในอวกาศ คำกล่าวหาที่มอสโกตอบโต้ว่าเป็น "ข่าวปลอม" . มอสโก คือชาติที่มีคลังแสงนิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดในโลก และเจ้าหน้าที่รัสเซียเน้นย้ำว่าพวกเขาพิจารณาอาวุธชนิดนี้ในฐานะเป็น "ทางเลือกสุดท้าย" . หลังจากอัปเดตหลักการนิวเคลียร์ในเดือนพฤศจิกายน เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า "มอสโกสนับสนุนอย่างแน่วแน่ต่อการทำทุกอย่างเพื่อป้องกันสงครามนิวเคลียร์" พร้อมระบุว่าคลังแสงของรัสเซียมีเจตนาเพื่อป้องปรามการรุกรานและเป็นหนทางแห่งการป้องกันความขัดแย้งนิวเคลียร์ . อย่างไรก็ตาม วังเครมลินระบุมาช้านานว่า ความเคลื่อนไหวยกระดับกองทัพสหรัฐฯ และประจำการขีปนาวุธศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ทั่วโลก อาจกระตุ้นการตอบโต้อย่างทัดเทียม โดยเมื่อเดือนที่แล้ว รัสเซียและเบลารุส ลงนามในสนธิสัญญาความมั่นคงที่จะทำให้การประจำการระบบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก "โอเรสชุก" ศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ของรัสเซีย ในเบลารุสในปีหน้าเป็นรูปธรรมขึ้นมา . ขีปนาวุธชนิดนี้ ทางมอสโกบอกว่าไม่มีระบบป้องกันขีปนาวุธไหนๆ ของตะวันตกในปัจจุบันที่สามารถสกัดได้ ขณะที่มันมีศักยภาพโจมตีไปถึงเป้าหมายต่างๆ ทั่วยุโรปภายในไม่กี่นาที . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001226 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    7
    0 Comments 0 Shares 944 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯ เดินหน้าขยายฐานทัพใหม่ทางตอนเหนือของซีเรีย!

    ภาพถ่ายขบวนรถมากกว่า 50 คัน กำลังขนส่งโครงสร้างขนาดใหญ่ พร้อมด้วยกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ ที่กำลังมุ่งหน้าสู่เมืองโคบานี (Kobani) ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของชาวเคิร์ดทางตอนเหนือของซีเรียเมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยมีกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ให้การคุ้มครอง

    หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการขยายฐานทัพของสหรัฐครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับการประจำการของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมุ่งเป้าไปที่การต่อต้านภัยคุกคามของตุรกีต่อชาวเคิร์ด
    สหรัฐฯ เดินหน้าขยายฐานทัพใหม่ทางตอนเหนือของซีเรีย! ภาพถ่ายขบวนรถมากกว่า 50 คัน กำลังขนส่งโครงสร้างขนาดใหญ่ พร้อมด้วยกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ ที่กำลังมุ่งหน้าสู่เมืองโคบานี (Kobani) ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของชาวเคิร์ดทางตอนเหนือของซีเรียเมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยมีกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ให้การคุ้มครอง หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการขยายฐานทัพของสหรัฐครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับการประจำการของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมุ่งเป้าไปที่การต่อต้านภัยคุกคามของตุรกีต่อชาวเคิร์ด
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 231 Views 0 Reviews
  • ฟินแลนด์ - หายนะทางการศึกษา

    พวกเราคงได้ยินว่า การศึกษาของฟินแลนด์ดีที่สุดในโลก นักเรียนฟินแลนด์เป็นนักเรียนที่มีความสุขที่สุดในโลก กันบ่อยๆ แล้ว

    วันนี้ผมเอาข้อเท็จจริง ที่ตรงข้ามกับการยกย่อง สรรเสริญ เยินยอ มาฝาก

    ฟินแลนด์เปลี่ยนแปลงและปรับปรุงการศึกษาของตนครั้งใหญ่ในยุค 70s โดยเลิกชั้นประถมและมัธยม ปรับเปลี่ยนหลักสูตรจากที่เคยเรียนวิชาพื้นฐานเป็นระดับจากง่ายไปยาก เป็นเรียนตามหัวข้อ เรียนเป็นโปรเจกต์ หลังจากนั้นมีการ ยกระดับการศึกษาอาชีวะและวิชาชีพให้มีความสำคัญเท่าเทียมกับการศึกษาเพื่อเตรียมเรียนต่อในมหาวิทยาลัย นำเอาระบบที่ใช้เด็กเป็นศูนย์กลาง เลิกการให้การบ้าน เลิกการสอบประจำปี จนเหลือแต่การสอบเพื่อเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาที่เรียกว่า Matriculation ที่เป็นการสอบระดับชาติ

    โรงเรียนและการศึกษาของฟินแลนด์ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดเมื่อประมาณ 25 ปีที่แล้ว ก่อนที่เด็กนักเรียนไม่ต้องทำการบ้าน ไม่ต้องสอบ

    หลังจากนั้นก็เสื่อมถอยตกตํ่าลงไปเรื่อยไปจนปัจจุบันไม่อาจกล่าวได้ว่ามีอะไรน่าชื่นชม นอกจากเรียนง่ายๆสบายๆ ซึ่งถูกจริตในหมู่คนที่ต้องการบั่นทอนบ่อนทำลายชาติ หรือโง่เง่า หรือขี้เกียจสันหลังยาวในบ้านเรา ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีกีบ ไม่ว่าจะเลี้ยงลูกที่ไหน ไม่ว่าจะเลี้ยงลูกครึ่งหรือควบครึ่งลูก

    ภาพด้านซ้ายมือ คือ ผลการสอบ ด้านวิชาการ (PISA) ของนักเรียนมัธยมปลายของประเทศต่างๆ

    คะแนนสอบการอ่านของนักเรียนฟินแลนด์ในปี 2022 ลดลงจากปี 2000 มากถึง 56 คะแนน

    ส่วนคะแนนสอบคณิตศาสตร์ของนักเรียนฟินแลนด์ในปี 2022 ลดลงจากปี 2003 มากถึง 79 คะแนน

    การศึกษาที่ห่วยลงย่อมส่งผลต่อคุณภาพนักเรียนที่เรียนจบ ฟินแลนด์มีปัญหาเศรษฐกิจชะงักงัน ปีนี้จีดีพีติดลบ 1% เมื่อเทียบกับปี 2023 ซึ่งติดลบกว่า 3% เมื่อเทียบกับ 2022 และตั้งแต่ 2008 แทบจะไม่มีการเติบโตของเศรษฐกิจเลย ซึ่งเป็นผลให้ประเทศยากจนลง มีหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามกราฟในภาพกลาง และคุณภาพชีวิตของคนฟินแลนด์ลดลง

    ในขณะเดียวกัน รัฐบาลฟินแลนด์โดยนักเลือกตั้งที่ผ่านการศึกษาฟินแลนด์เปิดรับผู้อพยพนับหมื่นๆคนต่อปี โดยคิดไม่ได้หรือไม่ได้คิดว่าจะมีผลอย่างไรบ้าง ทำให้เกิดปัญหาสังคมและเศรษฐกิจตามมาเพิ่มเติมด้วย

    ผลลัพธ์คือ คนหนุ่มสาวชาวฟินแลนด์อายุระหว่าง 20 ถึง 40 ปี โดยเฉพาะผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ จำนวนมากขึ้นๆอพยพออกจากฟินแลนด์ เพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า ตามภาพขวาสุด

    สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจและการจัดเก็บภาษีในรัฐสวัสดิการแห่งนี้อย่างรุนแรงต่อไป

    ทั้งหมดนี้ เป็นวงจรอุบาทว์ที่เริ่มจากการทำลายการศึกษา ทำลายโรงเรียน ด้วยความหวังดีโง่ๆที่อยากให้เด็กๆได้เรียนสบายๆ

    และหากในอนาคต มีใครเห่าหอนอวยว่าโรงเรียนและการศึกษาของฟินแลนด์ดีงามแค่ไหน เราสามารถแน่ใจได้ว่า ไอ้หรืออีนั่น ไม่รู้ห่านอะไรเลยแม้แต่น้อย”
    ฟินแลนด์ - หายนะทางการศึกษา พวกเราคงได้ยินว่า การศึกษาของฟินแลนด์ดีที่สุดในโลก นักเรียนฟินแลนด์เป็นนักเรียนที่มีความสุขที่สุดในโลก กันบ่อยๆ แล้ว วันนี้ผมเอาข้อเท็จจริง ที่ตรงข้ามกับการยกย่อง สรรเสริญ เยินยอ มาฝาก ฟินแลนด์เปลี่ยนแปลงและปรับปรุงการศึกษาของตนครั้งใหญ่ในยุค 70s โดยเลิกชั้นประถมและมัธยม ปรับเปลี่ยนหลักสูตรจากที่เคยเรียนวิชาพื้นฐานเป็นระดับจากง่ายไปยาก เป็นเรียนตามหัวข้อ เรียนเป็นโปรเจกต์ หลังจากนั้นมีการ ยกระดับการศึกษาอาชีวะและวิชาชีพให้มีความสำคัญเท่าเทียมกับการศึกษาเพื่อเตรียมเรียนต่อในมหาวิทยาลัย นำเอาระบบที่ใช้เด็กเป็นศูนย์กลาง เลิกการให้การบ้าน เลิกการสอบประจำปี จนเหลือแต่การสอบเพื่อเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาที่เรียกว่า Matriculation ที่เป็นการสอบระดับชาติ โรงเรียนและการศึกษาของฟินแลนด์ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดเมื่อประมาณ 25 ปีที่แล้ว ก่อนที่เด็กนักเรียนไม่ต้องทำการบ้าน ไม่ต้องสอบ หลังจากนั้นก็เสื่อมถอยตกตํ่าลงไปเรื่อยไปจนปัจจุบันไม่อาจกล่าวได้ว่ามีอะไรน่าชื่นชม นอกจากเรียนง่ายๆสบายๆ ซึ่งถูกจริตในหมู่คนที่ต้องการบั่นทอนบ่อนทำลายชาติ หรือโง่เง่า หรือขี้เกียจสันหลังยาวในบ้านเรา ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีกีบ ไม่ว่าจะเลี้ยงลูกที่ไหน ไม่ว่าจะเลี้ยงลูกครึ่งหรือควบครึ่งลูก ภาพด้านซ้ายมือ คือ ผลการสอบ ด้านวิชาการ (PISA) ของนักเรียนมัธยมปลายของประเทศต่างๆ คะแนนสอบการอ่านของนักเรียนฟินแลนด์ในปี 2022 ลดลงจากปี 2000 มากถึง 56 คะแนน ส่วนคะแนนสอบคณิตศาสตร์ของนักเรียนฟินแลนด์ในปี 2022 ลดลงจากปี 2003 มากถึง 79 คะแนน การศึกษาที่ห่วยลงย่อมส่งผลต่อคุณภาพนักเรียนที่เรียนจบ ฟินแลนด์มีปัญหาเศรษฐกิจชะงักงัน ปีนี้จีดีพีติดลบ 1% เมื่อเทียบกับปี 2023 ซึ่งติดลบกว่า 3% เมื่อเทียบกับ 2022 และตั้งแต่ 2008 แทบจะไม่มีการเติบโตของเศรษฐกิจเลย ซึ่งเป็นผลให้ประเทศยากจนลง มีหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามกราฟในภาพกลาง และคุณภาพชีวิตของคนฟินแลนด์ลดลง ในขณะเดียวกัน รัฐบาลฟินแลนด์โดยนักเลือกตั้งที่ผ่านการศึกษาฟินแลนด์เปิดรับผู้อพยพนับหมื่นๆคนต่อปี โดยคิดไม่ได้หรือไม่ได้คิดว่าจะมีผลอย่างไรบ้าง ทำให้เกิดปัญหาสังคมและเศรษฐกิจตามมาเพิ่มเติมด้วย ผลลัพธ์คือ คนหนุ่มสาวชาวฟินแลนด์อายุระหว่าง 20 ถึง 40 ปี โดยเฉพาะผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ จำนวนมากขึ้นๆอพยพออกจากฟินแลนด์ เพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า ตามภาพขวาสุด สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจและการจัดเก็บภาษีในรัฐสวัสดิการแห่งนี้อย่างรุนแรงต่อไป ทั้งหมดนี้ เป็นวงจรอุบาทว์ที่เริ่มจากการทำลายการศึกษา ทำลายโรงเรียน ด้วยความหวังดีโง่ๆที่อยากให้เด็กๆได้เรียนสบายๆ และหากในอนาคต มีใครเห่าหอนอวยว่าโรงเรียนและการศึกษาของฟินแลนด์ดีงามแค่ไหน เราสามารถแน่ใจได้ว่า ไอ้หรืออีนั่น ไม่รู้ห่านอะไรเลยแม้แต่น้อย”
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (2 ม.ค.) ความคาดเดาไม่ได้ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจช่วยยุติสงครามกับรัสเซีย พร้อมระบุสนับสนุนความคิดเกี่ยวกับการประจำการกองกำลังรักษาสันติภาพ เพื่อรับประกันข้อตกลงสันติภาพใดๆ กับมอสโก
    .
    ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เคยประกาศว่าเขาจะยุติความขัดแย้งที่ลากยาวมาเกือบ 3 ปี ภายใน 24 ชั่วโมง ครั้งที่ก้าวเข้าสู่อำนาจ ความกล่าวอ้างที่เรียกเสียงเคลือบแคลงใจจากเคียฟ ที่เกรงว่าพวกเขาอาจถูกบีบให้ยอมสละดินแดนแลกกับสันติภาพ
    .
    "เขาเข้มแข็งมากและคาดเดาไม่ได้ และผมอยากเห็นประธานาธิบดีทรัมป์ ใช้ความคาดเดาไม่ได้นี้กับรัสเซีย ผมเชื่อว่าเขาต้องการยุติสงครามอย่างแท้จริง" เซเลนสกีให้สัมภาษณ์กับยูเครนทีวี
    .
    ผู้นำยูเครนหาทางสานสัมพันธ์สร้างความเข้าในกับทรัมป์ และคณะทำงานของเขา นับตั้งแต่ศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลว่าที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกัน อาจชะลอเงินช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ ที่มีความสำคัญยิ่ง หรือไม่ก็ระงับความช่วยเหลือทั้งหมด
    .
    เซเลนสกี บอกว่าเขาสนับสนุนความคิดของฝรั่งเศส เกี่ยวกับการประจำการกองกำลังรักษาสันติภาพในยูเครน เพื่อรับประกันข้อตกลงสันติภาพใดๆ กับรัสเซียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่เน้นย้ำว่ามีความจำเป็นที่ต้องมีก้าวย่างหนึ่งๆ สำหรับมุ่งหน้าสู่การเข้าร่วมเป็นสมาชิกพันธมิตรทหารนาโต
    .
    "เราสนับสนุนความคิดริเริ่มนี้ แต่ฝรั่งเศสชาติเดียวไม่พอ เราจะไม่ต้องการเห็นเพียงแค่ 1 หรือ 2 ประเทศ ที่มาพร้อมกับแนวคิดริเริ่มนี้ มันควรมีความชัดเจนเกี่ยวกับหนทางที่มุ่งหน้าสู่นาโต" เซเลนสกีกล่าว
    .
    ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เคยหยิบยกความคิดเกี่ยวกับการส่งทหารตะวันตกเข้าไปยังยูเครนมาก่อนหน้านี้ โดยบอกเมื่อปีที่แล้วว่า การประจำการทหารตะวันตกในภาคพื้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจตัดความเป็นไปได้
    .
    ระหว่างการสัมภาษณ์ เซเลนสกี ยอมรับด้วยว่ากองทัพยูเครนกำลังประสบกับอาการเหนื่อยล้า ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของรัสเซีย ที่ยกระดับจู่โจมในแนวหน้าอย่างไม่ลดละ "พวกเขากำลังกดดันและพวกหนุ่มๆ กำลังเหนื่อยล้า"
    .
    สำนักข่าวเอเอฟพีทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากสถาบันศึกษาสงคราม พบว่ารัสเซียรุกคืบในยูเครนได้เกือบ 4,000 ตารางกิโลเมตรในปีที่แล้ว เนื่องจากกองทัพเคียฟประสบปัญหาขาดแคลนกำลังพลแบบรื้อรังและอ่อนล้า
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000533
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ให้สัมภาษณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (2 ม.ค.) ความคาดเดาไม่ได้ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อาจช่วยยุติสงครามกับรัสเซีย พร้อมระบุสนับสนุนความคิดเกี่ยวกับการประจำการกองกำลังรักษาสันติภาพ เพื่อรับประกันข้อตกลงสันติภาพใดๆ กับมอสโก . ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เคยประกาศว่าเขาจะยุติความขัดแย้งที่ลากยาวมาเกือบ 3 ปี ภายใน 24 ชั่วโมง ครั้งที่ก้าวเข้าสู่อำนาจ ความกล่าวอ้างที่เรียกเสียงเคลือบแคลงใจจากเคียฟ ที่เกรงว่าพวกเขาอาจถูกบีบให้ยอมสละดินแดนแลกกับสันติภาพ . "เขาเข้มแข็งมากและคาดเดาไม่ได้ และผมอยากเห็นประธานาธิบดีทรัมป์ ใช้ความคาดเดาไม่ได้นี้กับรัสเซีย ผมเชื่อว่าเขาต้องการยุติสงครามอย่างแท้จริง" เซเลนสกีให้สัมภาษณ์กับยูเครนทีวี . ผู้นำยูเครนหาทางสานสัมพันธ์สร้างความเข้าในกับทรัมป์ และคณะทำงานของเขา นับตั้งแต่ศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลว่าที่ประธานาธิบดีจากรีพับลิกัน อาจชะลอเงินช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ ที่มีความสำคัญยิ่ง หรือไม่ก็ระงับความช่วยเหลือทั้งหมด . เซเลนสกี บอกว่าเขาสนับสนุนความคิดของฝรั่งเศส เกี่ยวกับการประจำการกองกำลังรักษาสันติภาพในยูเครน เพื่อรับประกันข้อตกลงสันติภาพใดๆ กับรัสเซียที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่เน้นย้ำว่ามีความจำเป็นที่ต้องมีก้าวย่างหนึ่งๆ สำหรับมุ่งหน้าสู่การเข้าร่วมเป็นสมาชิกพันธมิตรทหารนาโต . "เราสนับสนุนความคิดริเริ่มนี้ แต่ฝรั่งเศสชาติเดียวไม่พอ เราจะไม่ต้องการเห็นเพียงแค่ 1 หรือ 2 ประเทศ ที่มาพร้อมกับแนวคิดริเริ่มนี้ มันควรมีความชัดเจนเกี่ยวกับหนทางที่มุ่งหน้าสู่นาโต" เซเลนสกีกล่าว . ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เคยหยิบยกความคิดเกี่ยวกับการส่งทหารตะวันตกเข้าไปยังยูเครนมาก่อนหน้านี้ โดยบอกเมื่อปีที่แล้วว่า การประจำการทหารตะวันตกในภาคพื้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจตัดความเป็นไปได้ . ระหว่างการสัมภาษณ์ เซเลนสกี ยอมรับด้วยว่ากองทัพยูเครนกำลังประสบกับอาการเหนื่อยล้า ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของรัสเซีย ที่ยกระดับจู่โจมในแนวหน้าอย่างไม่ลดละ "พวกเขากำลังกดดันและพวกหนุ่มๆ กำลังเหนื่อยล้า" . สำนักข่าวเอเอฟพีทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากสถาบันศึกษาสงคราม พบว่ารัสเซียรุกคืบในยูเครนได้เกือบ 4,000 ตารางกิโลเมตรในปีที่แล้ว เนื่องจากกองทัพเคียฟประสบปัญหาขาดแคลนกำลังพลแบบรื้อรังและอ่อนล้า . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000533 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    7
    14 Comments 0 Shares 2972 Views 1 Reviews
  • กรมทางหลวงชนบท สร้างถนนสาย พร.4001 แยก ทล.1022 - บ้านกลาง กว่า 32 กม. เชื่อม จ.แพร่ - จ.อุตรดิตถ์ เสร็จแล้ว ยกระดับมาตรฐานทาง เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางสะดวกในทุกฤดู ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ

    นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4001 แยก ทล.1022 - บ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ระยะทางรวม 32.457 กิโลเมตร โดยก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 2 ช่องจราจร ไป - กลับ ผิวจราจรกว้าง 5 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องหมายจราจรและสิ่งอำนวยความปลอดภัยให้กับประชาชน ใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 126.100 ล้านบาท

    เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีและเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชน เนื่องจากถนนเดิมได้รับผลกระทบในช่วงฤดูฝน ถูกน้ำป่าไหลหลากท่วมเส้นทาง ส่งผลให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตรวจการณ์อุทยานเดินทางด้วยความยากลำบาก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000000354

    #MGROnline #กรมทางหลวงชนบท
    กรมทางหลวงชนบท สร้างถนนสาย พร.4001 แยก ทล.1022 - บ้านกลาง กว่า 32 กม. เชื่อม จ.แพร่ - จ.อุตรดิตถ์ เสร็จแล้ว ยกระดับมาตรฐานทาง เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางสะดวกในทุกฤดู ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ • นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย พร.4001 แยก ทล.1022 - บ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ระยะทางรวม 32.457 กิโลเมตร โดยก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 2 ช่องจราจร ไป - กลับ ผิวจราจรกว้าง 5 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องหมายจราจรและสิ่งอำนวยความปลอดภัยให้กับประชาชน ใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 126.100 ล้านบาท • เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีและเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางให้กับประชาชน เนื่องจากถนนเดิมได้รับผลกระทบในช่วงฤดูฝน ถูกน้ำป่าไหลหลากท่วมเส้นทาง ส่งผลให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตรวจการณ์อุทยานเดินทางด้วยความยากลำบาก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000000354 • #MGROnline #กรมทางหลวงชนบท
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • คนร้ายรายหนึ่งสังหารชาวบ้านเสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย ในเหตุอาละวาดในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในมอนเตเนโกร ก่อนเสียชีวิตจากพิษบาดแผลอาการบาดเจ็บ ที่เกิดขึ้นจากความพยายามฆ่าตัวตาย จากการเปิดเผยของ ดานิโล ซาราโนวิค รัฐมนตรีมหาดไทยของประเทศแห่งนี้
    .
    ตำรวจระบุตัวตนมือปืนชื่อ อเล็กซานเดอร์ มาร์ติโนวิช วัย 24 ปี และบอกว่าคนร้ายรายนี้พยายามฆ่าตัวตายใกล้บ้านพักของตนเองในเมืองเซติเญ ขณะกำลังถูกตำรวจต้อนจนมุม
    .
    "ตอนที่เขาเห็นว่าเขาอยู่ในสถานการณ์ไร้ความหวัง เขาพยายามฆ่าตัวตาย เขาไม่ได้เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บ ณ จุดเกิดเหตุ แต่ไปเสียชีวิตระหว่างถูกลำเลียงตัวส่งโรงพยาบาล" ซาราโนวิค ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RTCG สื่อมวลชนแห่งรัฐมอนเตเนโกร อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับความพยายามฆ่าตัวตาย
    .
    มาร์ติโนวิช พยายามหลบหนีหลังจากกราดยิงเข้าใส่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองเซติเญ เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ห่างจากกรุงพอดกอรีตซา เมืองหลวงของมอนเตเนโกร ไปทางตะวันตกราว 38 กิโลเมตร ปลิดชีพชาวบ้านไป 4 ราย
    .
    จากนั้นมือปืนก็มุ่งหน้าไปยังจุดอื่นๆ อีก 3 แห่ง สังหารผู้คนไปอีกอย่างน้อย 6 ราย ในนั้นเป็นเด็ก 2 คน จากการเปิดเผยของตำรวจ นอกจากนี้ ยังมีคนอื่น 4 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
    .
    ตำรวจเปิดเผยว่า มาร์ติโนวิช เคยมีประวัติเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย
    .
    เมื่อช่วงค่ำวันพุธ (1 ม.ค.) ลาซาร์ เชปาโนวิช ผู้บัญชาการตำรวจ เชื่อว่าผู้ต้องสงสัยคงดื่มมาอย่างหนักก่อนลงมือไล่ยิงผู้คน ขณะที่นายกรัฐมนตรี มิโลจโก สปาจิช ระบุว่ามีเหตุกระทบกระทั่งกัน ก่อนหน้าการกราดยิง ความเห็นที่สอดคล้องกับความเห็นของตำรวจ ที่เชื่อว่าเหตุยิงกันในครั้งนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรม
    .
    เหตุกราดยิงหมู่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นน้อยมากๆ ในมอนเตเนโกร แต่ระยะหลังเริ่มพบเห็นบ่อยขึ้นเช่นกัน โดยหนล่าสุดเกิดขึ้นในเมืองเซติเญ เช่นกัน มี 11 ราย ในนั้นรวมถึงเด็ก 2 คนและมือปืนคนหนึ่งเสียชีวิตในเหตุโจมตีหมู่ดังกล่าว
    .
    ในเหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงแก่ผู้คนในประเทศที่มีประชากร 605,000 คน ทาง สปาจิช เรียกเหตุกราดยิงครั้งนี้ว่า "โศกนาฏกรรมอันน่าสยดสยอง" และประกาศไว้ทุกข์ทั่วประเทศ 3 วัน ทั้งนี้ ทางประธานาธิบดี ยาคอฟ มิลาโตวิช ก็รู้สึกขนลุกขนพองต่อเหตุโจมตีดังกล่าวเช่นกัน
    .
    แม้มีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนอันเข้มงวด บรรดาประเทศแถบบอลข่านตะวันตก ที่ประกอบด้วยเซอร์เบีย มอนเตเนโกร บอสเนีย แอลเบเนีย โคโซโว และมาซิโดเนียเหนือ ยังคงเต็มไปด้วยอาวุธ ส่วนใหญ่เป็นอาวุธที่มาจากสงครามนองเลือดในยุคทศวรรษ 1990 แต่บางส่วนย้อนกลับไปถึงยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 เลยทีเดียว
    .
    สปาจิช เปิดเผยว่าพวกเจ้าหน้าที่จะทำการพิจารณายกระดับกฎเกณฑ์การเป็นเจ้าของและพกพาอาวุธปืนสั้น ในนั้นอาจรวมถึงความเป็นไปได้ในการแบนอาวุธดังกล่าวโดยสิ้นเชิง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000249
    ..............
    Sondhi X
    คนร้ายรายหนึ่งสังหารชาวบ้านเสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย ในเหตุอาละวาดในเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในมอนเตเนโกร ก่อนเสียชีวิตจากพิษบาดแผลอาการบาดเจ็บ ที่เกิดขึ้นจากความพยายามฆ่าตัวตาย จากการเปิดเผยของ ดานิโล ซาราโนวิค รัฐมนตรีมหาดไทยของประเทศแห่งนี้ . ตำรวจระบุตัวตนมือปืนชื่อ อเล็กซานเดอร์ มาร์ติโนวิช วัย 24 ปี และบอกว่าคนร้ายรายนี้พยายามฆ่าตัวตายใกล้บ้านพักของตนเองในเมืองเซติเญ ขณะกำลังถูกตำรวจต้อนจนมุม . "ตอนที่เขาเห็นว่าเขาอยู่ในสถานการณ์ไร้ความหวัง เขาพยายามฆ่าตัวตาย เขาไม่ได้เสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บ ณ จุดเกิดเหตุ แต่ไปเสียชีวิตระหว่างถูกลำเลียงตัวส่งโรงพยาบาล" ซาราโนวิค ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RTCG สื่อมวลชนแห่งรัฐมอนเตเนโกร อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับความพยายามฆ่าตัวตาย . มาร์ติโนวิช พยายามหลบหนีหลังจากกราดยิงเข้าใส่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองเซติเญ เมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ห่างจากกรุงพอดกอรีตซา เมืองหลวงของมอนเตเนโกร ไปทางตะวันตกราว 38 กิโลเมตร ปลิดชีพชาวบ้านไป 4 ราย . จากนั้นมือปืนก็มุ่งหน้าไปยังจุดอื่นๆ อีก 3 แห่ง สังหารผู้คนไปอีกอย่างน้อย 6 ราย ในนั้นเป็นเด็ก 2 คน จากการเปิดเผยของตำรวจ นอกจากนี้ ยังมีคนอื่น 4 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการเสี่ยงต่อการเสียชีวิต . ตำรวจเปิดเผยว่า มาร์ติโนวิช เคยมีประวัติเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย . เมื่อช่วงค่ำวันพุธ (1 ม.ค.) ลาซาร์ เชปาโนวิช ผู้บัญชาการตำรวจ เชื่อว่าผู้ต้องสงสัยคงดื่มมาอย่างหนักก่อนลงมือไล่ยิงผู้คน ขณะที่นายกรัฐมนตรี มิโลจโก สปาจิช ระบุว่ามีเหตุกระทบกระทั่งกัน ก่อนหน้าการกราดยิง ความเห็นที่สอดคล้องกับความเห็นของตำรวจ ที่เชื่อว่าเหตุยิงกันในครั้งนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรม . เหตุกราดยิงหมู่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นน้อยมากๆ ในมอนเตเนโกร แต่ระยะหลังเริ่มพบเห็นบ่อยขึ้นเช่นกัน โดยหนล่าสุดเกิดขึ้นในเมืองเซติเญ เช่นกัน มี 11 ราย ในนั้นรวมถึงเด็ก 2 คนและมือปืนคนหนึ่งเสียชีวิตในเหตุโจมตีหมู่ดังกล่าว . ในเหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงแก่ผู้คนในประเทศที่มีประชากร 605,000 คน ทาง สปาจิช เรียกเหตุกราดยิงครั้งนี้ว่า "โศกนาฏกรรมอันน่าสยดสยอง" และประกาศไว้ทุกข์ทั่วประเทศ 3 วัน ทั้งนี้ ทางประธานาธิบดี ยาคอฟ มิลาโตวิช ก็รู้สึกขนลุกขนพองต่อเหตุโจมตีดังกล่าวเช่นกัน . แม้มีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนอันเข้มงวด บรรดาประเทศแถบบอลข่านตะวันตก ที่ประกอบด้วยเซอร์เบีย มอนเตเนโกร บอสเนีย แอลเบเนีย โคโซโว และมาซิโดเนียเหนือ ยังคงเต็มไปด้วยอาวุธ ส่วนใหญ่เป็นอาวุธที่มาจากสงครามนองเลือดในยุคทศวรรษ 1990 แต่บางส่วนย้อนกลับไปถึงยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 เลยทีเดียว . สปาจิช เปิดเผยว่าพวกเจ้าหน้าที่จะทำการพิจารณายกระดับกฎเกณฑ์การเป็นเจ้าของและพกพาอาวุธปืนสั้น ในนั้นอาจรวมถึงความเป็นไปได้ในการแบนอาวุธดังกล่าวโดยสิ้นเชิง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000249 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    5
    0 Comments 0 Shares 1300 Views 0 Reviews
More Results