• กมธ.ต่างประเทศ จ่อเชิญ อนุทิน-รมว.ต่างประเทศ ชี้แจง MOU แร่แรร์เอิร์ธ เรียกร้องเปิดข้อมูลทั้งหมด
    https://www.thai-tai.tv/news/22079/
    .
    #ไทยไท #สรัสนันท์อรรณนพพร #MOUแร่แรร์เอิร์ธ #กมธต่างประเทศ #อนุทิน #ภูมิรัฐศาสตร์
    กมธ.ต่างประเทศ จ่อเชิญ อนุทิน-รมว.ต่างประเทศ ชี้แจง MOU แร่แรร์เอิร์ธ เรียกร้องเปิดข้อมูลทั้งหมด https://www.thai-tai.tv/news/22079/ . #ไทยไท #สรัสนันท์อรรณนพพร #MOUแร่แรร์เอิร์ธ #กมธต่างประเทศ #อนุทิน #ภูมิรัฐศาสตร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึก "Rare Earth" เดือด! สหรัฐเปิดเกมตัดอิทธิพลจีน ขยายพันธมิตรดึงไทย-มาเลเซียเข้าห่วงโซ่อุปทานยุทธศาสตร์ โลกจับตาไทยจะได้โอกาสทองหรือกลายเป็นสมรภูมิใหม่ของมหาอำนาจ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102725

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด #RareEarth
    ศึก "Rare Earth" เดือด! สหรัฐเปิดเกมตัดอิทธิพลจีน ขยายพันธมิตรดึงไทย-มาเลเซียเข้าห่วงโซ่อุปทานยุทธศาสตร์ โลกจับตาไทยจะได้โอกาสทองหรือกลายเป็นสมรภูมิใหม่ของมหาอำนาจ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102725 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด #RareEarth
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10 ปัญหาใหญ่ที่ CISO และทีมไซเบอร์ต้องเผชิญในปี 2025 — จากภัยคุกคาม AI ถึงงบประมาณที่ไม่พอรับมือ

    บทความจาก CSO Online โดย Mary K. Pratt สรุป 10 ความท้าทายที่ผู้บริหารด้านความปลอดภัยข้อมูล (CISO) และทีมไซเบอร์ต้องเผชิญในยุคที่ภัยคุกคามซับซ้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจาก AI, quantum computing และการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมายอีกต่อไป

    ในปี 2025 งานของ CISO ไม่ใช่แค่ป้องกันข้อมูล แต่ต้องรับมือกับความเร็วของภัยคุกคามที่เกิดจาก AI, การขาดแคลนบุคลากร, งบประมาณที่ไม่พอ และความคาดหวังจากผู้บริหารที่ต้องการให้ “ทุกอย่างปลอดภัย” โดยไม่เพิ่มทรัพยากร

    ภัยคุกคามจาก AI ไม่ใช่แค่การโจมตีแบบใหม่ แต่ยังรวมถึงข้อมูลที่ AI สร้างขึ้นเอง ซึ่งอาจกลายเป็น “ภัยจากภายใน” โดยไม่ตั้งใจ เช่น ข้อมูลแชตหรือคำสั่งที่หลุดออกไปโดยไม่ผ่านการตรวจสอบ

    นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจาก quantum computing ที่อาจทำลายระบบเข้ารหัสในอนาคต และการโจมตีที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่น การเรียกค่าไถ่จากข้อมูลเด็กในโรงเรียน

    สรุป 10 ปัญหาใหญ่ที่ CISO ต้องเผชิญ

    การรักษาความปลอดภัยของโครงสร้าง AI
    ทีมยังไม่มีเครื่องมือหรือความรู้เพียงพอในการป้องกัน AI
    การใช้งาน AI เติบโตเร็วกว่าการวางมาตรการความปลอดภัย

    การโจมตีด้วย AI ที่เร็วและรุนแรงขึ้น
    เวลาที่แฮกเกอร์ใช้ในการเจาะระบบลดเหลือเพียงไม่กี่วินาที
    ต้องฝึกซ้อมรับมือแทบทุกวัน ไม่ใช่แค่เดือนละครั้ง

    การปกป้องข้อมูลในยุค AI
    ข้อมูลที่ AI สร้างขึ้นเอง เช่น แชตหรือคำสั่ง ต้องได้รับการจัดการ
    หลายองค์กรยังไม่รู้ว่าข้อมูลสำคัญอยู่ที่ไหน

    ภูมิทัศน์ภัยคุกคามที่ขยายตัว
    ระบบเชื่อมโยงกันมากขึ้น ทำให้จุดอ่อนเพิ่มขึ้น
    แฮกเกอร์มี supply chain ของตัวเองและใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพ

    การโจมตีที่โหดร้ายขึ้น
    ไม่มีเป้าหมายที่ “ปลอดภัย” อีกต่อไป เช่น โรงเรียนเด็กเล็กก็ถูกโจมตี
    แฮกเกอร์ไม่สนผลกระทบต่อเหยื่อ

    ข้อจำกัดด้านงบประมาณ
    งบเพิ่มขึ้นแต่ไม่ทันกับความรุนแรงของภัยคุกคาม
    ต้องลดต้นทุนโดยใช้ automation และ outsourcing

    การเตรียมพนักงานให้รับมือกับ phishing ขั้นสูง
    AI สร้างอีเมลหลอกลวงที่เหมือนจริงมาก
    ต้องฝึกซ้อม phishing simulation บ่อยขึ้น และมีบทลงโทษจริง

    ความเสี่ยงจาก quantum computing
    การเข้ารหัสปัจจุบันอาจถูกทำลายในอนาคต
    ต้องเริ่มวางแผนใช้ quantum-safe encryption

    การจัดลำดับความสำคัญ
    มีงานมากเกินไปแต่คนไม่พอ ต้องเลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุด
    ขาดแคลนบุคลากรด้านความปลอดภัยอย่างหนัก

    การประเมินความเสี่ยงให้ถูกต้อง
    ต้องเข้าใจความเสี่ยงที่ธุรกิจยอมรับได้
    ความเข้าใจระหว่าง CISO กับผู้บริหารลดลงจาก 84% เหลือ 64%

    คำเตือนสำหรับองค์กร
    อย่าคิดว่า AI จะปลอดภัยโดยอัตโนมัติ
    อย่ารอให้ quantum computing มาถึงก่อนจะเตรียมระบบ
    อย่ามองข้ามการฝึกพนักงาน แม้จะมีเทคโนโลยีป้องกันแล้ว

    https://www.csoonline.com/article/4077442/the-10-biggest-issues-cisos-and-cyber-teams-face-today-2.html
    🛡️ 10 ปัญหาใหญ่ที่ CISO และทีมไซเบอร์ต้องเผชิญในปี 2025 — จากภัยคุกคาม AI ถึงงบประมาณที่ไม่พอรับมือ บทความจาก CSO Online โดย Mary K. Pratt สรุป 10 ความท้าทายที่ผู้บริหารด้านความปลอดภัยข้อมูล (CISO) และทีมไซเบอร์ต้องเผชิญในยุคที่ภัยคุกคามซับซ้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจาก AI, quantum computing และการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมายอีกต่อไป ในปี 2025 งานของ CISO ไม่ใช่แค่ป้องกันข้อมูล แต่ต้องรับมือกับความเร็วของภัยคุกคามที่เกิดจาก AI, การขาดแคลนบุคลากร, งบประมาณที่ไม่พอ และความคาดหวังจากผู้บริหารที่ต้องการให้ “ทุกอย่างปลอดภัย” โดยไม่เพิ่มทรัพยากร ภัยคุกคามจาก AI ไม่ใช่แค่การโจมตีแบบใหม่ แต่ยังรวมถึงข้อมูลที่ AI สร้างขึ้นเอง ซึ่งอาจกลายเป็น “ภัยจากภายใน” โดยไม่ตั้งใจ เช่น ข้อมูลแชตหรือคำสั่งที่หลุดออกไปโดยไม่ผ่านการตรวจสอบ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจาก quantum computing ที่อาจทำลายระบบเข้ารหัสในอนาคต และการโจมตีที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่น การเรียกค่าไถ่จากข้อมูลเด็กในโรงเรียน 📌 สรุป 10 ปัญหาใหญ่ที่ CISO ต้องเผชิญ ✅ การรักษาความปลอดภัยของโครงสร้าง AI ➡️ ทีมยังไม่มีเครื่องมือหรือความรู้เพียงพอในการป้องกัน AI ➡️ การใช้งาน AI เติบโตเร็วกว่าการวางมาตรการความปลอดภัย ✅ การโจมตีด้วย AI ที่เร็วและรุนแรงขึ้น ➡️ เวลาที่แฮกเกอร์ใช้ในการเจาะระบบลดเหลือเพียงไม่กี่วินาที ➡️ ต้องฝึกซ้อมรับมือแทบทุกวัน ไม่ใช่แค่เดือนละครั้ง ✅ การปกป้องข้อมูลในยุค AI ➡️ ข้อมูลที่ AI สร้างขึ้นเอง เช่น แชตหรือคำสั่ง ต้องได้รับการจัดการ ➡️ หลายองค์กรยังไม่รู้ว่าข้อมูลสำคัญอยู่ที่ไหน ✅ ภูมิทัศน์ภัยคุกคามที่ขยายตัว ➡️ ระบบเชื่อมโยงกันมากขึ้น ทำให้จุดอ่อนเพิ่มขึ้น ➡️ แฮกเกอร์มี supply chain ของตัวเองและใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพ ✅ การโจมตีที่โหดร้ายขึ้น ➡️ ไม่มีเป้าหมายที่ “ปลอดภัย” อีกต่อไป เช่น โรงเรียนเด็กเล็กก็ถูกโจมตี ➡️ แฮกเกอร์ไม่สนผลกระทบต่อเหยื่อ ✅ ข้อจำกัดด้านงบประมาณ ➡️ งบเพิ่มขึ้นแต่ไม่ทันกับความรุนแรงของภัยคุกคาม ➡️ ต้องลดต้นทุนโดยใช้ automation และ outsourcing ✅ การเตรียมพนักงานให้รับมือกับ phishing ขั้นสูง ➡️ AI สร้างอีเมลหลอกลวงที่เหมือนจริงมาก ➡️ ต้องฝึกซ้อม phishing simulation บ่อยขึ้น และมีบทลงโทษจริง ✅ ความเสี่ยงจาก quantum computing ➡️ การเข้ารหัสปัจจุบันอาจถูกทำลายในอนาคต ➡️ ต้องเริ่มวางแผนใช้ quantum-safe encryption ✅ การจัดลำดับความสำคัญ ➡️ มีงานมากเกินไปแต่คนไม่พอ ต้องเลือกทำสิ่งที่สำคัญที่สุด ➡️ ขาดแคลนบุคลากรด้านความปลอดภัยอย่างหนัก ✅ การประเมินความเสี่ยงให้ถูกต้อง ➡️ ต้องเข้าใจความเสี่ยงที่ธุรกิจยอมรับได้ ➡️ ความเข้าใจระหว่าง CISO กับผู้บริหารลดลงจาก 84% เหลือ 64% ‼️ คำเตือนสำหรับองค์กร ⛔ อย่าคิดว่า AI จะปลอดภัยโดยอัตโนมัติ ⛔ อย่ารอให้ quantum computing มาถึงก่อนจะเตรียมระบบ ⛔ อย่ามองข้ามการฝึกพนักงาน แม้จะมีเทคโนโลยีป้องกันแล้ว https://www.csoonline.com/article/4077442/the-10-biggest-issues-cisos-and-cyber-teams-face-today-2.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The 10 biggest issues CISOs and cyber teams face today
    From escalating AI-enabled threats to budgets that don’t scale alongside expanding threat landscapes, security leaders are reshaping their agendas to address several key long-standing and emerging concerns.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • รมว.พาณิชย์ ยัน MOU แร่ธาตุสำคัญ "ไม่ผูกมัดทางกฎหมาย" ครม.-กฤษฎีกา ไฟเขียว ยกเลิกได้
    https://www.thai-tai.tv/news/22077/
    .
    #ไทยไท #ศุภจีสุธรรมพันธุ์ #MOUแร่ธาตุสำคัญ #แร่แรร์เอิร์ธ #ไม่ผูกมัดทางกฎหมาย #ภูมิรัฐศาสตร์

    รมว.พาณิชย์ ยัน MOU แร่ธาตุสำคัญ "ไม่ผูกมัดทางกฎหมาย" ครม.-กฤษฎีกา ไฟเขียว ยกเลิกได้ https://www.thai-tai.tv/news/22077/ . #ไทยไท #ศุภจีสุธรรมพันธุ์ #MOUแร่ธาตุสำคัญ #แร่แรร์เอิร์ธ #ไม่ผูกมัดทางกฎหมาย #ภูมิรัฐศาสตร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1inch จับมือ Innerworks เสริมเกราะ DeFi ด้วย AI ตรวจจับภัยคุกคามล่วงหน้า

    แพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ชั้นนำอย่าง 1inch ประกาศความร่วมมือกับ Innerworks บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อยกระดับการป้องกันภัยคุกคามในโลกคริปโต โดยใช้เทคโนโลยี AI เชิงคาดการณ์ (predictive AI) และการเจาะระบบเชิงจริยธรรม (RedTeam) เพื่อสร้าง “ระบบภูมิคุ้มกัน” ให้กับระบบนิเวศ DeFi

    ในยุคที่แฮกเกอร์เริ่มใช้ AI เพื่อเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์และโจมตีระบบอย่างแนบเนียน 1inch จึงตัดสินใจร่วมมือกับ Innerworks เพื่อเปลี่ยนแนวทางจาก “ตั้งรับ” เป็น “เชิงรุก” โดยใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมของภัยคุกคามล่วงหน้า และส่งข้อมูลให้ระบบป้องกันของ 1inch แบบอัตโนมัติ

    Innerworks ใช้แพลตฟอร์มที่เรียกว่า “Synthetic Threat Intelligence” ซึ่งรวมเอา AI, การฝึกแบบกระจาย (decentralized training) และการเจาะระบบเชิงจริยธรรม เพื่อเปิดโปง “playbook” ของแฮกเกอร์ก่อนที่พวกเขาจะลงมือจริง

    Sergej Kunz ผู้ร่วมก่อตั้ง 1inch กล่าวว่า “เรากำลังพลิกเกมกับแฮกเกอร์ โดยใช้ AI คาดการณ์การเคลื่อนไหวของพวกเขา และปรับระบบป้องกันให้ทันก่อนที่ภัยจะเกิดขึ้นจริง”

    Oli Quie ซีอีโอของ Innerworks เสริมว่า “แฮกเกอร์ยุคใหม่ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป แต่เป็น AI ที่สามารถเจาะระบบได้เกือบทุกแบบ เราจึงต้องสร้างภูมิคุ้มกันแบบรวมหมู่ให้กับโลกคริปโต”

    ความร่วมมือระหว่าง 1inch และ Innerworks
    ใช้ AI เชิงคาดการณ์เพื่อวิเคราะห์และป้องกันภัยคุกคามล่วงหน้า
    ใช้ RedTeam เจาะระบบเชิงจริยธรรมเพื่อเปิดโปงวิธีการของแฮกเกอร์
    ส่งข้อมูลภัยคุกคามเข้าสู่ระบบป้องกันของ 1inch แบบอัตโนมัติ

    จุดเด่นของเทคโนโลยี Innerworks
    แพลตฟอร์ม Synthetic Threat Intelligence
    ผสาน AI, การฝึกแบบกระจาย และการเจาะระบบ
    ป้องกันภัยไซเบอร์โดยไม่ต้องพึ่งการแจ้งเตือนจากผู้ใช้

    เป้าหมายของความร่วมมือ
    สร้าง “ระบบภูมิคุ้มกันรวม” ให้กับระบบนิเวศ DeFi
    ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของวงการคริปโต
    ปรับระบบให้ตอบสนองภัยคุกคามได้แบบเรียลไทม์

    คำเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามในโลก DeFi
    แฮกเกอร์เริ่มใช้ AI เลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์เพื่อหลอกระบบ
    การพึ่งพาการแจ้งเตือนจากผู้ใช้อาจไม่ทันต่อภัยคุกคาม
    ระบบที่ไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยอาจตกเป็นเป้าหมายง่ายขึ้น

    https://securityonline.info/1inch-partners-with-innerworks-to-strengthen-defi-security-through-ai-powered-threat-detection/
    🛡️ 1inch จับมือ Innerworks เสริมเกราะ DeFi ด้วย AI ตรวจจับภัยคุกคามล่วงหน้า แพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ชั้นนำอย่าง 1inch ประกาศความร่วมมือกับ Innerworks บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อยกระดับการป้องกันภัยคุกคามในโลกคริปโต โดยใช้เทคโนโลยี AI เชิงคาดการณ์ (predictive AI) และการเจาะระบบเชิงจริยธรรม (RedTeam) เพื่อสร้าง “ระบบภูมิคุ้มกัน” ให้กับระบบนิเวศ DeFi ในยุคที่แฮกเกอร์เริ่มใช้ AI เพื่อเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์และโจมตีระบบอย่างแนบเนียน 1inch จึงตัดสินใจร่วมมือกับ Innerworks เพื่อเปลี่ยนแนวทางจาก “ตั้งรับ” เป็น “เชิงรุก” โดยใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมของภัยคุกคามล่วงหน้า และส่งข้อมูลให้ระบบป้องกันของ 1inch แบบอัตโนมัติ Innerworks ใช้แพลตฟอร์มที่เรียกว่า “Synthetic Threat Intelligence” ซึ่งรวมเอา AI, การฝึกแบบกระจาย (decentralized training) และการเจาะระบบเชิงจริยธรรม เพื่อเปิดโปง “playbook” ของแฮกเกอร์ก่อนที่พวกเขาจะลงมือจริง Sergej Kunz ผู้ร่วมก่อตั้ง 1inch กล่าวว่า “เรากำลังพลิกเกมกับแฮกเกอร์ โดยใช้ AI คาดการณ์การเคลื่อนไหวของพวกเขา และปรับระบบป้องกันให้ทันก่อนที่ภัยจะเกิดขึ้นจริง” Oli Quie ซีอีโอของ Innerworks เสริมว่า “แฮกเกอร์ยุคใหม่ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป แต่เป็น AI ที่สามารถเจาะระบบได้เกือบทุกแบบ เราจึงต้องสร้างภูมิคุ้มกันแบบรวมหมู่ให้กับโลกคริปโต” ✅ ความร่วมมือระหว่าง 1inch และ Innerworks ➡️ ใช้ AI เชิงคาดการณ์เพื่อวิเคราะห์และป้องกันภัยคุกคามล่วงหน้า ➡️ ใช้ RedTeam เจาะระบบเชิงจริยธรรมเพื่อเปิดโปงวิธีการของแฮกเกอร์ ➡️ ส่งข้อมูลภัยคุกคามเข้าสู่ระบบป้องกันของ 1inch แบบอัตโนมัติ ✅ จุดเด่นของเทคโนโลยี Innerworks ➡️ แพลตฟอร์ม Synthetic Threat Intelligence ➡️ ผสาน AI, การฝึกแบบกระจาย และการเจาะระบบ ➡️ ป้องกันภัยไซเบอร์โดยไม่ต้องพึ่งการแจ้งเตือนจากผู้ใช้ ✅ เป้าหมายของความร่วมมือ ➡️ สร้าง “ระบบภูมิคุ้มกันรวม” ให้กับระบบนิเวศ DeFi ➡️ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของวงการคริปโต ➡️ ปรับระบบให้ตอบสนองภัยคุกคามได้แบบเรียลไทม์ ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามในโลก DeFi ⛔ แฮกเกอร์เริ่มใช้ AI เลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์เพื่อหลอกระบบ ⛔ การพึ่งพาการแจ้งเตือนจากผู้ใช้อาจไม่ทันต่อภัยคุกคาม ⛔ ระบบที่ไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัยอาจตกเป็นเป้าหมายง่ายขึ้น https://securityonline.info/1inch-partners-with-innerworks-to-strengthen-defi-security-through-ai-powered-threat-detection/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2 ปีผ่านไป
    “เอม อยากทำงานอะไรเหรอลูก?”
    ผมถามลูกสาวเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้
    เอมไม่เคยตอบตรง ๆ สักครั้ง แต่จะยิ้มแล้วพูดคำเดิมทุกทีว่า “หนูอยากรวย!”
    โอเค... จุดหมายชัด แต่เส้นทางยังเบลอมาก ตอนไปเรียนอังกฤษใหม่ ๆ เอมเริ่มจากงานง่าย ๆ ช่วยป้าแจ๊คกี้ทำสวน เก็บใบไม้ ตัดกิ่ง ขุดดิน จนเล็บดำกลับบ้านทุกเย็น โทรมาบอกพ่อว่า “ป๊า หนูได้งานแล้วนะ!” ผมดีใจสุดขีด คิดว่าได้ทำงานในออฟฟิศหรู ๆ สุดท้าย... “งานขุดหลุมปลูกต้นไม้ค่ะป๊า!”
    จากนั้นก็รับจ๊อบเป็นติวเตอร์ สอน online กับรุ่นน้องๆ ที่เมืองไทย มีรายได้พออวดพ่อแม่ได้บ้างแถมยังภูมิใจสุด ๆ ตอนบอกว่า“หนูมีนักเรียนแล้วนะป๊า ทั้งหมด 4 คน! (รวมไอ้อิ๊งน้องสาวคนเดียวที่หนูหลอกมาฝึกฟรีด้วย)
    ไม่นานก็ได้เป็น Student Ambassador ของมหาวิทยาลัย คอยต้อนรับ ดูแลนักศึกษาใหม่ และช่วยงานในวัน Open House ตามที่มหาวิทยาลัยมอบหมาย
    ตอนนั้นผมเริ่มเห็นแล้วว่า “หนูอยากรวย” ของเอม ไม่ได้หมายถึงอยากได้เงิน แต่มันแปลว่า “หนูอยากเก่ง อยากลอง อยากโต”
    จนวันหนึ่ง เอมบอกว่าได้งานที่ Pfizer “อู้หู ยิ่งใหญ่เลยนะลูก!” ผมพูดด้วยความภูมิใจ เอมยักไหล่ “ก็แค่เด็กฝึกงานธรรมดาเองป๊า”
    แต่ความไม่ธรรมดาก็คือ...เอมกล้า “ให้คะแนนหัวหน้า” ในระบบ feedback ของบริษัท ผมถาม “ทำไมถึงทำอย่างน้้นละลูก เดี๋ยวหัวหน้าไม่ปลื้มเอานะ”
    เอมตอบอย่างมั่นใจ “ก็อยากให้เขาเห็นว่าเรากล้า feedback ไงป๊า เผื่อเขาจะให้คะแนนกลับมาบ้าง 555” คะแนนเอาไปแลกของได้ แต่เรื่องมันไม่จบสวย เพราะหัวหน้าไม่เคยให้คะแนนกลับเลยครับ เรียกว่าให้ไปข้างเดียว เหมือนรักข้างเดียวแต่เป็นแบบในที่ทำงาน
    จนสัปดาห์ที่แล้ว หัวหน้าคนนั้นส่งอีเมลมาบอกเอมว่า “เอม เราอยากให้เธอมาช่วยสัมภาษณ์และคัดเลือกพนักงานใหม่กับทีมเรา”
    เอมอึ้ง “หนูเหรอคะ?! หรือจะให้หนูเป็นตัวอย่างว่าคนแบบนี้ไม่ควรรับ?”
    แต่หัวหน้าหัวเราะแล้วตอบว่า
    “ใช่สิ ปีนี้เรารับสองตำแหน่งเท่าเดิม มีคนสมัคร 550 คน (ปีที่แล้วมีคนสมัครมากกว่านี้อีก หัวหน้าบอก) เราอยากให้เธอเห็นว่าการคัดคน มันไม่ใช่เลือกคนเก่งที่สุด แต่เลือกคนที่อยากทำงานจริง ๆ”
    เอมเล่าให้ฟังถึงการสมัครงานที่ Pfizer ว่า
    “การสมัครงานที่ Pfizer เขาไม่ได้มองแค่คนที่เก่งหรือมีผลการเรียนดีเท่านั้นนะป๊า”
    “จริงเหรอลูก?” ผมถามด้วยความสนใจ
    “ใช่ค่ะ เขาเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ผลการเรียนดีสุด ๆ ก็ได้” เอมพูดด้วยความมั่นใจ
    “วันนั้นอาจจะมีคนที่ผลการเรียนไม่ดี แต่เขาอาจจะเก่งก็ได้ หรืออาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ผลการเรียนไม่ดี ตอนที่เขาเลือกคนเข้ามาทำงาน เขาไม่ได้ตัดสินแค่ผลการเรียน แต่เลือกคนที่มีทัศนคติที่ดี และมีความอยากทำงานจริง ๆ”
    “ถ้าเราแค่เลือกคนที่ผลการเรียนดีสุด ๆ โดยไม่สนใจคนที่อาจจะมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ทำให้ผลการเรียนไม่ดี เราก็อาจจะพลาดคนที่มีศักยภาพมาก ๆ ที่เราอยากได้ก็ได้นะ”
    ผมฟังแล้วก็รู้สึกภูมิใจในตัวลูกสาวขึ้นมาอีกนิด
    “Pfizer เขาเปิดกว้างจริง ๆ เลยนะลูก” ผมพูดด้วยความชื่นชม
    เอมยิ้มตอบ “ใช่ค่ะ ป๊า แล้วการให้โอกาสกับทุกคนก็ทำให้เราเจอคนที่หลากหลาย และทุกคนก็มีโอกาสเติบโตในทางของตัวเอง”
    วันนั้นเอม video call มาด้วยความภูมิใจที่ ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ใช่รอยยิ้มของ “คนอยากรวย” แต่เป็นรอยยิ้มของ “คนที่เริ่มเข้าใจว่า ความรวยจริง ๆ มันอยู่ตรงไหน”
    หนูน้อยผู้มากประสบการณ์ของปะป๊า
    (ตอนนี้ยังไม่รวย...แต่ท่าทางจะไปได้ไกลแน่นอน )
    2 ปีผ่านไป 📆⏳👣 “เอม อยากทำงานอะไรเหรอลูก?” ผมถามลูกสาวเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ เอมไม่เคยตอบตรง ๆ สักครั้ง แต่จะยิ้มแล้วพูดคำเดิมทุกทีว่า “หนูอยากรวย!” โอเค... จุดหมายชัด แต่เส้นทางยังเบลอมาก ตอนไปเรียนอังกฤษใหม่ ๆ เอมเริ่มจากงานง่าย ๆ ช่วยป้าแจ๊คกี้ทำสวน เก็บใบไม้ ตัดกิ่ง ขุดดิน จนเล็บดำกลับบ้านทุกเย็น โทรมาบอกพ่อว่า “ป๊า หนูได้งานแล้วนะ!” ผมดีใจสุดขีด คิดว่าได้ทำงานในออฟฟิศหรู ๆ สุดท้าย... “งานขุดหลุมปลูกต้นไม้ค่ะป๊า!” จากนั้นก็รับจ๊อบเป็นติวเตอร์ สอน online กับรุ่นน้องๆ ที่เมืองไทย มีรายได้พออวดพ่อแม่ได้บ้างแถมยังภูมิใจสุด ๆ ตอนบอกว่า“หนูมีนักเรียนแล้วนะป๊า ทั้งหมด 4 คน! (รวมไอ้อิ๊งน้องสาวคนเดียวที่หนูหลอกมาฝึกฟรีด้วย) ไม่นานก็ได้เป็น Student Ambassador ของมหาวิทยาลัย คอยต้อนรับ ดูแลนักศึกษาใหม่ และช่วยงานในวัน Open House ตามที่มหาวิทยาลัยมอบหมาย ตอนนั้นผมเริ่มเห็นแล้วว่า “หนูอยากรวย” ของเอม ไม่ได้หมายถึงอยากได้เงิน แต่มันแปลว่า “หนูอยากเก่ง อยากลอง อยากโต” จนวันหนึ่ง เอมบอกว่าได้งานที่ Pfizer “อู้หู ยิ่งใหญ่เลยนะลูก!” ผมพูดด้วยความภูมิใจ เอมยักไหล่ “ก็แค่เด็กฝึกงานธรรมดาเองป๊า” แต่ความไม่ธรรมดาก็คือ...เอมกล้า “ให้คะแนนหัวหน้า” ในระบบ feedback ของบริษัท ผมถาม “ทำไมถึงทำอย่างน้้นละลูก เดี๋ยวหัวหน้าไม่ปลื้มเอานะ” เอมตอบอย่างมั่นใจ “ก็อยากให้เขาเห็นว่าเรากล้า feedback ไงป๊า เผื่อเขาจะให้คะแนนกลับมาบ้าง 555” คะแนนเอาไปแลกของได้ แต่เรื่องมันไม่จบสวย เพราะหัวหน้าไม่เคยให้คะแนนกลับเลยครับ เรียกว่าให้ไปข้างเดียว เหมือนรักข้างเดียวแต่เป็นแบบในที่ทำงาน จนสัปดาห์ที่แล้ว หัวหน้าคนนั้นส่งอีเมลมาบอกเอมว่า “เอม เราอยากให้เธอมาช่วยสัมภาษณ์และคัดเลือกพนักงานใหม่กับทีมเรา” เอมอึ้ง “หนูเหรอคะ?! หรือจะให้หนูเป็นตัวอย่างว่าคนแบบนี้ไม่ควรรับ?” แต่หัวหน้าหัวเราะแล้วตอบว่า “ใช่สิ ปีนี้เรารับสองตำแหน่งเท่าเดิม มีคนสมัคร 550 คน (ปีที่แล้วมีคนสมัครมากกว่านี้อีก หัวหน้าบอก) เราอยากให้เธอเห็นว่าการคัดคน มันไม่ใช่เลือกคนเก่งที่สุด แต่เลือกคนที่อยากทำงานจริง ๆ” เอมเล่าให้ฟังถึงการสมัครงานที่ Pfizer ว่า “การสมัครงานที่ Pfizer เขาไม่ได้มองแค่คนที่เก่งหรือมีผลการเรียนดีเท่านั้นนะป๊า” “จริงเหรอลูก?” ผมถามด้วยความสนใจ “ใช่ค่ะ เขาเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ผลการเรียนดีสุด ๆ ก็ได้” เอมพูดด้วยความมั่นใจ “วันนั้นอาจจะมีคนที่ผลการเรียนไม่ดี แต่เขาอาจจะเก่งก็ได้ หรืออาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ผลการเรียนไม่ดี ตอนที่เขาเลือกคนเข้ามาทำงาน เขาไม่ได้ตัดสินแค่ผลการเรียน แต่เลือกคนที่มีทัศนคติที่ดี และมีความอยากทำงานจริง ๆ” “ถ้าเราแค่เลือกคนที่ผลการเรียนดีสุด ๆ โดยไม่สนใจคนที่อาจจะมีเหตุผลอะไรบางอย่างที่ทำให้ผลการเรียนไม่ดี เราก็อาจจะพลาดคนที่มีศักยภาพมาก ๆ ที่เราอยากได้ก็ได้นะ” ผมฟังแล้วก็รู้สึกภูมิใจในตัวลูกสาวขึ้นมาอีกนิด “Pfizer เขาเปิดกว้างจริง ๆ เลยนะลูก” ผมพูดด้วยความชื่นชม เอมยิ้มตอบ “ใช่ค่ะ ป๊า แล้วการให้โอกาสกับทุกคนก็ทำให้เราเจอคนที่หลากหลาย และทุกคนก็มีโอกาสเติบโตในทางของตัวเอง” วันนั้นเอม video call มาด้วยความภูมิใจที่ ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ใช่รอยยิ้มของ “คนอยากรวย” แต่เป็นรอยยิ้มของ “คนที่เริ่มเข้าใจว่า ความรวยจริง ๆ มันอยู่ตรงไหน” หนูน้อยผู้มากประสบการณ์ของปะป๊า ❤️ (ตอนนี้ยังไม่รวย...แต่ท่าทางจะไปได้ไกลแน่นอน 😆)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานข่าวว่า เฉิงตู J-20 เครื่องบินล่องหนรุ่น 5 ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน บินผ่านอีสเทิร์นชาแนลของช่องแคบเกาหลี โดยไม่ถูกตรวจจับใดๆเมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม ตามรายงานของเซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ในวันจันทร์(27ต.ค.) ว่ากันว่าเกาหลีใต้และญี่ปุ่นไม่สามารถติดตามแกะรอยเครื่องบินลำดังกล่าวระหว่างบินผ่าน คำกล่าวอ้างที่ก่อความกังวลเกี่ยวกับความพร้อมของระบบป้องกันภัยทางอากาศในภูมิภาค
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102694

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    มีรายงานข่าวว่า เฉิงตู J-20 เครื่องบินล่องหนรุ่น 5 ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน บินผ่านอีสเทิร์นชาแนลของช่องแคบเกาหลี โดยไม่ถูกตรวจจับใดๆเมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม ตามรายงานของเซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ในวันจันทร์(27ต.ค.) ว่ากันว่าเกาหลีใต้และญี่ปุ่นไม่สามารถติดตามแกะรอยเครื่องบินลำดังกล่าวระหว่างบินผ่าน คำกล่าวอ้างที่ก่อความกังวลเกี่ยวกับความพร้อมของระบบป้องกันภัยทางอากาศในภูมิภาค . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102694 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว


  • ..จริงๆย่อมาไทย สงครามที่คนไทยเจอจริงๆคือสงครามกฎหมาย ,จะผ่านด่านใดๆต้องอาศัยข้อกฎหมายในการปล้นชิง แย่งชิงได้อย่างใสซื่อ ชอบธรรมที่สุดเพราะทุกๆอย่างจะจบที่ข้อกฎหมายนำมาอ้าง มาหยิบยก การแย่งชิงใดๆจะบันทึกเป็นกฎกันให้ต่างบังคับกันให้ปฏิบัติ ใครเขียนกฎหมายได้ก็ยึดประเทศนั้นได้ ใครสร้างกฎหมาย ใครสร้างกฎ ใครทำลายกฎหมายก็สามารถทำตามสิ่งที่ตนต้องการได้หมด ทั้งสร้างทั้งทำ ,เรา..อยู่ในสงครามกฎหมาย ต่างชาติใช้กฎหมายภายในที่เปิดช่องเพื่อต้องให้มันเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย อย่างถูกต้องชอบธรรม จึงต้องยึดคนสร้างกฎหมายในไทยให้ได้ บีบบังคับ กดดันคนมีอำนาจสร้างกฎหมายให้มันปล้นชิงอย่างชอบธรรมให้ไม่น่าเกียจในยุคปัจจุบันนี้ให้ได้ mou43,44ก็ข้อกฎหมายทั้งนั้น,ผ่านอำนาจกฎหมายจากนายกฯหรือคณะครม. ก็มีกฎหมายมาค้ำคอหมด ต่างชาติจะทำอะไรได้ในไทยต้องผ่านกฎหมายไทย เขียนกฎหมายให้ต่างชาติทำได้ก่อน เช่นนั้นจะทำไม่ได้อย่างชอบธรรมอะไรใดๆเลย,การทำลายกฎหมายของการเอื้ออำนวยต่างชาติคือการปลดปล่อยประเทศไทยที่ถูกทาง ชอบธรรมโดยหลักสากลปกติ ไม่ต้องคิดมากอะไรและง่ายดายมาก เขียนกฎหมายใดๆได้หมดหากจะปกป้องอธิปไตยจากคนต่างประเทศ.
    ..สงครามที่เกิดกับไทยแท้จริงคือสงครามกฎหมายภายในเราเองโดยต่างชาติพยายามสร้างพยายามลงมือยิงเราผ่านช่องทางนี้ พยายามโจมตี พยายามยึดเมือง ยึดพื้นที่ที่ดิน ยึดครองที่ดินผ่านช่องทางกฎหมายให้ตนเองดูมีความชอบธรรมก่อน,เมื่อยึดใดๆได้แล้วหรือยึดพื้นที่ ยึดที่อยู่ที่อาศัย ยึดทรัพยากร ก็จะยึดทั้งประเทศไทยได้เบ็ดเสร็จต่อไป จึงกลับมาเขียนกฎหมายฉบับตนเองใหม่ทั้งหมดต่อไปในส่วนของมันที่ยึดครองประเทศไทยได้หมดแล้ว,
    ..ข่าวคราวยิวทำไมเกิดข่าวเด่นชัดในยุครัฐบาลอนุทิน มีสองกรณีคือต่อต้านยิว กับเป็นฝ่ายยิว ยอมรับยิว,แต่อย่าลืมว่า้พรรคภูมิใจไทยมุสลิมไม่น้อยเต็มพรรค ไม่พอใจยิวที่ทำกับปาเลสไตน์แน่นอน,คนอาหรับคนมุสลิมรู้ไส้รู้พุงรู้สันดานกันและกันอีก เขาคือศัตรูกันจึงไม่ชอบยิวอิสราเอลในภาพรวม,การต่อต้านยิวสายใต้ดินจึงเต็มที่,อย่าลืมว่าอิสลามไม่ดีในไทยรวมมือกับต่างชาติอิสลามนอกไทยจะยึดประเทศไทยก็มีเช่นกัน,ยิวเข้ามาขัดคอขัดจังหวะของกินตนย่อมไม่พอใจด้วย,กระบวนการสร้างความเกลียดยิวให้คนไทยมาเกลียดยิวจึงเริ่มขึ้น,ยิวก็ไซออนิสต์ก็ถูกสั่งสอนมาจากอนูคานีศาสนาดาเดียวกันกับอิสลาม ใครต่างศาสนาลัทธิความเชื่อมันคือศัตรูต่อพระเจ้ามันหมด ต้องไล่ล่ากำจัดทิ้งฆ่าสังหารคนต่างศาสนาตนที่ไม่ได้นับถือลัทธีรีตศาสนาแบบตนนั้นเอง มันอนูนาคีสั่งสอนแบบนี้ทั้งยิวซาตานไซออนิสต์ยุโรปทั้งอิสลามทั่วโลกเอาเด็กทำเมียไม่ผิดหลักศาสนา,ยิวที่ฆ่าคนปาเลสไตน์เด็ก คนแก่คนชรา หญิงชาย ล้วนมันมองแบบเดียวกันคือคนต่างศาสนาฆ่าได้ทันทีไม่ผิดต่อพระเจ้า ได้ขึ้นสวรรค์ด้วย อิสลามก็ฆ่าคนละทิ้งศาสนาละทิ้งพระเจ้า คนนอกศาสนาอิสลามไม่ผิดต่อพระเจ้า ช่วยกำจัดแทนพระเจ้า ได้ขึ้นสวรรค์โน้นเหมือนกัน ต่างดาวชั่วเลวแบบอนูนาคีชั่วเลวสั่งสอนทั้งอิสลามและยิวคริสต์ไซออนิสต์อิลูมินาติจึงอนาถโคตรๆแก่ผู้บริสุทธิ์ทั่วโลกชาวโลกในปัจจุบันให้หลงผิดทั้งโลก,ไทยจึงจะเป็นสนามบอลอีกแห่งให้คนยิวอิสราเอลตีกับอิสลามในไทยคงไม่นาน บัดสบที่สุดคืออิสลามยุแหย่ให้มาร่วมตียิวในสนามด้วย,ซึ่งจริงๆต้องไล่ถีบทั้งคู่ที่ไม่ดีออกจากประเทศไทยออกจากสนามไปตีกันเองในพื้นที่อื่น,เพราะประเทศไทยสงวนไว้ให้ยิวนิสัยดีคนดี อิสลามดีคนดี มาร่วมอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขได้ มาสร้างชาติไทยร่วมสร้างชาติไทย คนไทยและผู้มาร่วมอาศัยต่างประเทศมาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เมตตารักดีต่อกัน ช่วยเหลือกันและกัน ไม่ยึดครองยึดเอาเป็นของตนที่มาอาศัยแผ่นดินไทยอยู่ ไม่ก้าวล่วงทำร้ายทำลายกัน อิสระเสรีไปมาอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นสงบสุขสามัคคีกันแม้ต่างชาติต่างศาสนากัน มิใช่แดกกันแดกมนุษย์ ทำลายฆ่ากันบนแผ่นดินไทย เลอะเทอะต่อบ้านต่อเมืองต่อประเทศไทยต่อคนไทย จนลุแก่ปัจจัยทรัพย์สินเงินทองตนอำนาจเครือข่ายตนจนอยากยึดประเทศไทยถือว่าผิดสันดานผู้หลบภัยหลบหนีร้อนมาพึ่งเย็นบนแผ่นดินไทยมาก อาจสมควรตายและถูกกำจัดทิ้งออกจากประเทศไทยเช่นกันเป็นภัยอันตรายต่อเจ้าของประเทศไทยคือคนไทยเรา,เราจะไปอาศัยแล้วจะยึดบ้านเมืองเขาเหมือนกัน เขาหรือใครเขาจะยอมเช่นกัน,ประเทศไทยก็ยอมไม่ได้,ไม่มีชาติไหนที่อิสลามเต็มประเทศไทยสวัสดิการดีมากมาย,ไม่มีชาติไหนแบบไทย ยิวจะเต็มอ.ปาย เต็ม เกาะพะงัน เต็มภาคใต้เสรีอิสระขนาดนั้น,ไทยให้โอกาสคนทุกๆคนทั่วโลกมาเป็นคนดีเพื่อตนเองและเพื่อโลก มาร่วมสร้างสันติสุขร่วมกันย่อลงมาคือราชอาณาจักรไทยเขตประเทศไทยคืออย่างน้อย,การกวาดล้างปราบการคตโกงล้างทำความสะอาดเมืองไทยให้น่าอยู่โดยเฉพาะคนข้าราชการไทยเทา นักการเมืองไทยเทา เจ้าของกิจการไทยเทาเจ้าสัวชั่วเลวไทยเทาผูกขาดไร้กระจายความมั่งคั่งทางวัตถุให้สมดุลเจริญต่อจิตใจถือว่าคนเหล่านี้ขัดขวางการยกจิตยกใจทางดีงามคนไทยและคนดีๆที่หมายดีมาร่วมพักพิงมาเยือนอาศัยชั่วคราวในไทยให้จิตใจตกต่ำชั่วเลวไปด้วยถือว่าต้องถูกกวาดล้างและกำจัดทั้งหมด,สมมุติทางโลกเสียสมดุล รวยจนต่างกันมากเกินไปผ่านวิถีกฎหมายการปกครองของคนเทาๆในไทยเราแบบนี้,ค่าจริงจึงไม่สดใส จิตใจที่ดีงามของคนไทยและผู้มาเยือนท่องเที่ยวจะถือทำลายไปด้วย,วัตถุธาตุเจริญทางทรัพย์สินเงินทองต้องร่วมหล่อเลี้ยงจิตใจให้ดีงามไปด้วย อาหารทางวัตถุหล่อเลี้ยงอาหารทางจิตใจจิตวิญญาณคนไทยและคนมาเยือนเยี่ยมย่อมสมดุลควบคู่กันไปด้วย,เสมือนคนมีหนี้สินล้นเต็มตัว ย่อมฝันไปเลยจะมีจิตใจความคิดอ่านที่เป็นปกติได้ ทุกข์ทั้งทางวัตถุและจิตใจจึงตกต่ำก็อันเดียวกัน,การกวาดล้างทำลายจึงต้องจัดการคนเหล่านี้จริงจังภายในประเทศไทยเรานี้ล่ะ,กองทัพไทย ทหารไทยคือทางเดียวด้วยกฎอัยการศึกพิเศษแบบนี้เท่านั้นจริงเมื่อดูรูปกาลเวลาทั้งหมดภาพรวมมันเน่าเละหมดโดยอำนาจทางการเมืองของนักการเมืองในปัจจุบัน มันส่อไปทางชั่วเลวให้ชาติบ้านเมืองพินาศพิบัติพังพินาศสิ้นชาติชัดเจนแบบสืบทอดต่อยอดรับงานกันเป็นทอดๆมิให้ใครจับได้ด้วย ทำชั่วให้แบบแนบเนียนนั้นเอง,เดอะแก๊งทำลายชาติไทยชัดเจนนั้นเอง ทหารไทยทหารประชาชนทหารพระราชาจึงต้องเด็ดขาดจัดการมันเสีย.

    .............................

    สงครามไฮบริด คือ อะไร ทำไม คนไทย ต้องรู้จัก

    สงครามที่เรา รู้จักกัน ไม่ว่า จะเป็นสงครามในอดีต หรือในปัจจุบัน ล้วนเกี่ยวข้องกับการ แย่งชิง หรือ ยึดครอง ทรัพยากร ของคู่ต่อสู้ ตัวอย่างชัดๆ คือ วิกฤต รศ.112 ที่ฝรั่งเศสเอาเรือปืน เอากองทัพมา “ปล้น” แผ่นดินสยาม แถมเรียกค่าปฏิกรณ์สงครามเป็น “ เงินถุงแดง”
    ในปัจจุบันก็ไม่ต่างกัน ตัวอย่างชัดๆ คือ สงครามในอิสราเอล ที่แย่งชิงพื้นที่ทำกิน พื้นที่อาศัย ระหว่าง เจ้าของพื้นที่ ชาวปาเลสไตน์ กับ ชาวคาซาร์เรียน ยิว (Khazarian ) ที่ อ้างว่าเป็นชาวอิสราเอล ที่เอากองทัพมาเข่นฆ่า เด็ก สตรี และคนชรา ทำแม้แต่ทิ้งระเบิดถล่ม โรงพยาบาล เพื่อขับไล่คนปาเลสไตน์ออกจากพื้นที่ ที่ต้องการยึดครอง

    แต่นอกจากสงคราม “ในรูปแบบ ” ตามที่ยกตัวอย่างแล้ว ยังมี สงคราม “นอกรูปแบบ” ที่ใช้กลยุทธ์ ผสมผสาน (hybrid) ที่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ “ยึดครองทรัพยากร”
    เทียบให้เห็นภาพชัดๆ คือ สมัยก่อน โจรจะปล้น ก็เอาปืนจี้ แต่ปัจจุบันนี้ ใช้วิธี ฉ้อโกง หลอกลวง คอลเซนเตอร์ ไซเบอร์แอทแทก ฯลฯ เพื่อปล้นทรัพย์ ในระดับ ประเทศก็ไม่ต่างกัน
    สงครามดังกล่าวมีตั้งแต่
    1.สงครามการเงิน ตัวอย่างเช่น วิกฤติต้มยำกุ้ง
    2. สงครามข้อมูลข่าวสาร ให้ข้อมูลที่บิดเบือน หรือ ดึงความสนใจให้ไปสนใจเรื่องอื่นที่ไม่สำคัญ เพื่อทำเรื่องที่ต้องการ
    3. สงครามไซเบอร์ ตย เช่น กรณีระบบ คอมพิวเตอร์ที่พึ่งล่ม ทำคนติดค้างในสนามบิน🖥

    แต่สงครามที่พึ่ง สร้างความเสียหายให้กับหลายประเทศทั่วโลก เร็วๆ นี้ คือ “สงครามชีวภาพ” สงครามที่ใช้ “เชื้อโรค” ใช้ “ยา” เป็นอาวุธ
    สงครามที่เรารู้จัก กันว่า “การระบาดของโควิด”
    ซึ่ง มีข้อมูลชัดเจนว่า กระทรวงกลาโหม สหรัฐ เป็นผู้ให้ทุนวิจัย
    และ บริษัทยายักษ์ใหญ่ เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ บริษัทที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น กลุ่มเดียวกันกับ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ อุตสากรรมอาวุธ ของอเมริกา

    อาจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ ได้นำหลักฐานที่ยืนยันว่า การระบาดครั้งนี้มีการเตรียม การล่วงหน้า มีการให้ทุนสนับสนุน มีการ ถอนทุนคืน มาตีแผ่ เป็นบทความสาม ตอน ที่ คนไทยทุกคน และฝ่ายความมั่นคงควร “ต้องอ่าน”

    ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน โดย หมอดื้อ
    (ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต )


    (ตอนที่ 1)
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749

    (ตอนที่ 2)
    https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2797034

    (ตอนที่ 3)
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000057723
    ..จริงๆย่อมาไทย สงครามที่คนไทยเจอจริงๆคือสงครามกฎหมาย ,จะผ่านด่านใดๆต้องอาศัยข้อกฎหมายในการปล้นชิง แย่งชิงได้อย่างใสซื่อ ชอบธรรมที่สุดเพราะทุกๆอย่างจะจบที่ข้อกฎหมายนำมาอ้าง มาหยิบยก การแย่งชิงใดๆจะบันทึกเป็นกฎกันให้ต่างบังคับกันให้ปฏิบัติ ใครเขียนกฎหมายได้ก็ยึดประเทศนั้นได้ ใครสร้างกฎหมาย ใครสร้างกฎ ใครทำลายกฎหมายก็สามารถทำตามสิ่งที่ตนต้องการได้หมด ทั้งสร้างทั้งทำ ,เรา..อยู่ในสงครามกฎหมาย ต่างชาติใช้กฎหมายภายในที่เปิดช่องเพื่อต้องให้มันเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย อย่างถูกต้องชอบธรรม จึงต้องยึดคนสร้างกฎหมายในไทยให้ได้ บีบบังคับ กดดันคนมีอำนาจสร้างกฎหมายให้มันปล้นชิงอย่างชอบธรรมให้ไม่น่าเกียจในยุคปัจจุบันนี้ให้ได้ mou43,44ก็ข้อกฎหมายทั้งนั้น,ผ่านอำนาจกฎหมายจากนายกฯหรือคณะครม. ก็มีกฎหมายมาค้ำคอหมด ต่างชาติจะทำอะไรได้ในไทยต้องผ่านกฎหมายไทย เขียนกฎหมายให้ต่างชาติทำได้ก่อน เช่นนั้นจะทำไม่ได้อย่างชอบธรรมอะไรใดๆเลย,การทำลายกฎหมายของการเอื้ออำนวยต่างชาติคือการปลดปล่อยประเทศไทยที่ถูกทาง ชอบธรรมโดยหลักสากลปกติ ไม่ต้องคิดมากอะไรและง่ายดายมาก เขียนกฎหมายใดๆได้หมดหากจะปกป้องอธิปไตยจากคนต่างประเทศ. ..สงครามที่เกิดกับไทยแท้จริงคือสงครามกฎหมายภายในเราเองโดยต่างชาติพยายามสร้างพยายามลงมือยิงเราผ่านช่องทางนี้ พยายามโจมตี พยายามยึดเมือง ยึดพื้นที่ที่ดิน ยึดครองที่ดินผ่านช่องทางกฎหมายให้ตนเองดูมีความชอบธรรมก่อน,เมื่อยึดใดๆได้แล้วหรือยึดพื้นที่ ยึดที่อยู่ที่อาศัย ยึดทรัพยากร ก็จะยึดทั้งประเทศไทยได้เบ็ดเสร็จต่อไป จึงกลับมาเขียนกฎหมายฉบับตนเองใหม่ทั้งหมดต่อไปในส่วนของมันที่ยึดครองประเทศไทยได้หมดแล้ว, ..ข่าวคราวยิวทำไมเกิดข่าวเด่นชัดในยุครัฐบาลอนุทิน มีสองกรณีคือต่อต้านยิว กับเป็นฝ่ายยิว ยอมรับยิว,แต่อย่าลืมว่า้พรรคภูมิใจไทยมุสลิมไม่น้อยเต็มพรรค ไม่พอใจยิวที่ทำกับปาเลสไตน์แน่นอน,คนอาหรับคนมุสลิมรู้ไส้รู้พุงรู้สันดานกันและกันอีก เขาคือศัตรูกันจึงไม่ชอบยิวอิสราเอลในภาพรวม,การต่อต้านยิวสายใต้ดินจึงเต็มที่,อย่าลืมว่าอิสลามไม่ดีในไทยรวมมือกับต่างชาติอิสลามนอกไทยจะยึดประเทศไทยก็มีเช่นกัน,ยิวเข้ามาขัดคอขัดจังหวะของกินตนย่อมไม่พอใจด้วย,กระบวนการสร้างความเกลียดยิวให้คนไทยมาเกลียดยิวจึงเริ่มขึ้น,ยิวก็ไซออนิสต์ก็ถูกสั่งสอนมาจากอนูคานีศาสนาดาเดียวกันกับอิสลาม ใครต่างศาสนาลัทธิความเชื่อมันคือศัตรูต่อพระเจ้ามันหมด ต้องไล่ล่ากำจัดทิ้งฆ่าสังหารคนต่างศาสนาตนที่ไม่ได้นับถือลัทธีรีตศาสนาแบบตนนั้นเอง มันอนูนาคีสั่งสอนแบบนี้ทั้งยิวซาตานไซออนิสต์ยุโรปทั้งอิสลามทั่วโลกเอาเด็กทำเมียไม่ผิดหลักศาสนา,ยิวที่ฆ่าคนปาเลสไตน์เด็ก คนแก่คนชรา หญิงชาย ล้วนมันมองแบบเดียวกันคือคนต่างศาสนาฆ่าได้ทันทีไม่ผิดต่อพระเจ้า ได้ขึ้นสวรรค์ด้วย อิสลามก็ฆ่าคนละทิ้งศาสนาละทิ้งพระเจ้า คนนอกศาสนาอิสลามไม่ผิดต่อพระเจ้า ช่วยกำจัดแทนพระเจ้า ได้ขึ้นสวรรค์โน้นเหมือนกัน ต่างดาวชั่วเลวแบบอนูนาคีชั่วเลวสั่งสอนทั้งอิสลามและยิวคริสต์ไซออนิสต์อิลูมินาติจึงอนาถโคตรๆแก่ผู้บริสุทธิ์ทั่วโลกชาวโลกในปัจจุบันให้หลงผิดทั้งโลก,ไทยจึงจะเป็นสนามบอลอีกแห่งให้คนยิวอิสราเอลตีกับอิสลามในไทยคงไม่นาน บัดสบที่สุดคืออิสลามยุแหย่ให้มาร่วมตียิวในสนามด้วย,ซึ่งจริงๆต้องไล่ถีบทั้งคู่ที่ไม่ดีออกจากประเทศไทยออกจากสนามไปตีกันเองในพื้นที่อื่น,เพราะประเทศไทยสงวนไว้ให้ยิวนิสัยดีคนดี อิสลามดีคนดี มาร่วมอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขได้ มาสร้างชาติไทยร่วมสร้างชาติไทย คนไทยและผู้มาร่วมอาศัยต่างประเทศมาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เมตตารักดีต่อกัน ช่วยเหลือกันและกัน ไม่ยึดครองยึดเอาเป็นของตนที่มาอาศัยแผ่นดินไทยอยู่ ไม่ก้าวล่วงทำร้ายทำลายกัน อิสระเสรีไปมาอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นสงบสุขสามัคคีกันแม้ต่างชาติต่างศาสนากัน มิใช่แดกกันแดกมนุษย์ ทำลายฆ่ากันบนแผ่นดินไทย เลอะเทอะต่อบ้านต่อเมืองต่อประเทศไทยต่อคนไทย จนลุแก่ปัจจัยทรัพย์สินเงินทองตนอำนาจเครือข่ายตนจนอยากยึดประเทศไทยถือว่าผิดสันดานผู้หลบภัยหลบหนีร้อนมาพึ่งเย็นบนแผ่นดินไทยมาก อาจสมควรตายและถูกกำจัดทิ้งออกจากประเทศไทยเช่นกันเป็นภัยอันตรายต่อเจ้าของประเทศไทยคือคนไทยเรา,เราจะไปอาศัยแล้วจะยึดบ้านเมืองเขาเหมือนกัน เขาหรือใครเขาจะยอมเช่นกัน,ประเทศไทยก็ยอมไม่ได้,ไม่มีชาติไหนที่อิสลามเต็มประเทศไทยสวัสดิการดีมากมาย,ไม่มีชาติไหนแบบไทย ยิวจะเต็มอ.ปาย เต็ม เกาะพะงัน เต็มภาคใต้เสรีอิสระขนาดนั้น,ไทยให้โอกาสคนทุกๆคนทั่วโลกมาเป็นคนดีเพื่อตนเองและเพื่อโลก มาร่วมสร้างสันติสุขร่วมกันย่อลงมาคือราชอาณาจักรไทยเขตประเทศไทยคืออย่างน้อย,การกวาดล้างปราบการคตโกงล้างทำความสะอาดเมืองไทยให้น่าอยู่โดยเฉพาะคนข้าราชการไทยเทา นักการเมืองไทยเทา เจ้าของกิจการไทยเทาเจ้าสัวชั่วเลวไทยเทาผูกขาดไร้กระจายความมั่งคั่งทางวัตถุให้สมดุลเจริญต่อจิตใจถือว่าคนเหล่านี้ขัดขวางการยกจิตยกใจทางดีงามคนไทยและคนดีๆที่หมายดีมาร่วมพักพิงมาเยือนอาศัยชั่วคราวในไทยให้จิตใจตกต่ำชั่วเลวไปด้วยถือว่าต้องถูกกวาดล้างและกำจัดทั้งหมด,สมมุติทางโลกเสียสมดุล รวยจนต่างกันมากเกินไปผ่านวิถีกฎหมายการปกครองของคนเทาๆในไทยเราแบบนี้,ค่าจริงจึงไม่สดใส จิตใจที่ดีงามของคนไทยและผู้มาเยือนท่องเที่ยวจะถือทำลายไปด้วย,วัตถุธาตุเจริญทางทรัพย์สินเงินทองต้องร่วมหล่อเลี้ยงจิตใจให้ดีงามไปด้วย อาหารทางวัตถุหล่อเลี้ยงอาหารทางจิตใจจิตวิญญาณคนไทยและคนมาเยือนเยี่ยมย่อมสมดุลควบคู่กันไปด้วย,เสมือนคนมีหนี้สินล้นเต็มตัว ย่อมฝันไปเลยจะมีจิตใจความคิดอ่านที่เป็นปกติได้ ทุกข์ทั้งทางวัตถุและจิตใจจึงตกต่ำก็อันเดียวกัน,การกวาดล้างทำลายจึงต้องจัดการคนเหล่านี้จริงจังภายในประเทศไทยเรานี้ล่ะ,กองทัพไทย ทหารไทยคือทางเดียวด้วยกฎอัยการศึกพิเศษแบบนี้เท่านั้นจริงเมื่อดูรูปกาลเวลาทั้งหมดภาพรวมมันเน่าเละหมดโดยอำนาจทางการเมืองของนักการเมืองในปัจจุบัน มันส่อไปทางชั่วเลวให้ชาติบ้านเมืองพินาศพิบัติพังพินาศสิ้นชาติชัดเจนแบบสืบทอดต่อยอดรับงานกันเป็นทอดๆมิให้ใครจับได้ด้วย ทำชั่วให้แบบแนบเนียนนั้นเอง,เดอะแก๊งทำลายชาติไทยชัดเจนนั้นเอง ทหารไทยทหารประชาชนทหารพระราชาจึงต้องเด็ดขาดจัดการมันเสีย. ............................. 📣สงครามไฮบริด💥 คือ อะไร ⁉️ ทำไม คนไทย ต้องรู้จัก🔥💣 💣สงครามที่เรา รู้จักกัน ไม่ว่า จะเป็นสงครามในอดีต หรือในปัจจุบัน ล้วนเกี่ยวข้องกับการ แย่งชิง หรือ ยึดครอง ทรัพยากร ของคู่ต่อสู้ ตัวอย่างชัดๆ คือ วิกฤต รศ.112 ที่ฝรั่งเศสเอาเรือปืน เอากองทัพมา “ปล้น” แผ่นดินสยาม แถมเรียกค่าปฏิกรณ์สงครามเป็น “ เงินถุงแดง” 🔺 🔥ในปัจจุบันก็ไม่ต่างกัน ตัวอย่างชัดๆ คือ สงครามในอิสราเอล ที่แย่งชิงพื้นที่ทำกิน พื้นที่อาศัย ระหว่าง เจ้าของพื้นที่ ชาวปาเลสไตน์ กับ ชาวคาซาร์เรียน ยิว (Khazarian ) ที่ อ้างว่าเป็นชาวอิสราเอล ที่เอากองทัพมาเข่นฆ่า เด็ก สตรี และคนชรา ทำแม้แต่ทิ้งระเบิดถล่ม โรงพยาบาล เพื่อขับไล่คนปาเลสไตน์ออกจากพื้นที่ ที่ต้องการยึดครอง 💥แต่นอกจากสงคราม “ในรูปแบบ ” ตามที่ยกตัวอย่างแล้ว ยังมี สงคราม “นอกรูปแบบ” ที่ใช้กลยุทธ์ ผสมผสาน (hybrid) ที่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือ “ยึดครองทรัพยากร” เทียบให้เห็นภาพชัดๆ คือ สมัยก่อน โจรจะปล้น ก็เอาปืนจี้ แต่ปัจจุบันนี้ ใช้วิธี ฉ้อโกง หลอกลวง คอลเซนเตอร์ ไซเบอร์แอทแทก ฯลฯ เพื่อปล้นทรัพย์ ในระดับ ประเทศก็ไม่ต่างกัน สงครามดังกล่าวมีตั้งแต่ 1.สงครามการเงิน ตัวอย่างเช่น วิกฤติต้มยำกุ้ง 💵 2. สงครามข้อมูลข่าวสาร ให้ข้อมูลที่บิดเบือน หรือ ดึงความสนใจให้ไปสนใจเรื่องอื่นที่ไม่สำคัญ เพื่อทำเรื่องที่ต้องการ 📰 3. สงครามไซเบอร์ ตย เช่น กรณีระบบ คอมพิวเตอร์ที่พึ่งล่ม ทำคนติดค้างในสนามบิน🖥 แต่สงครามที่พึ่ง สร้างความเสียหายให้กับหลายประเทศทั่วโลก เร็วๆ นี้ คือ “สงครามชีวภาพ” สงครามที่ใช้ “เชื้อโรค” ใช้ “ยา” เป็นอาวุธ 💉😷 สงครามที่เรารู้จัก กันว่า “การระบาดของโควิด”🦠 ซึ่ง มีข้อมูลชัดเจนว่า กระทรวงกลาโหม สหรัฐ เป็นผู้ให้ทุนวิจัย และ บริษัทยายักษ์ใหญ่ เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ บริษัทที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น กลุ่มเดียวกันกับ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ อุตสากรรมอาวุธ ของอเมริกา อาจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ ได้นำหลักฐานที่ยืนยันว่า การระบาดครั้งนี้มีการเตรียม การล่วงหน้า มีการให้ทุนสนับสนุน มีการ ถอนทุนคืน มาตีแผ่ เป็นบทความสาม ตอน ที่ คนไทยทุกคน และฝ่ายความมั่นคงควร “ต้องอ่าน” ✍️ ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน โดย หมอดื้อ (ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ) (ตอนที่ 1) https://mgronline.com/daily/detail/9670000053749 (ตอนที่ 2) https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2797034 (ตอนที่ 3) https://mgronline.com/daily/detail/9670000057723
    MGRONLINE.COM
    ลับ ลวง พราง ชั่วร้าย ยาและวัคซีน (ตอนที่ 1)
    ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาอดีตหัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นที่รับทราบกันแล้วในปัจจุบัน การกำเนิดของไวรัสโควิดมาจากการสร้างในห้องแล็บ จากความร่วมมือของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และสถาบันว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เอาจริงๆนะแบบมองโลกร่วมกันในทางที่ดีงามหรือบวกสุดๆอีกมุมมองหนึ่ง.
    ..หากศาสนาใดๆก็ตามที่เมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้ว จะคนนับถือศาสนาลัทธินั้นๆด้วยก็ตาม หากไม่ก้าวล่วงกัน ทำลายทำร้ายกัน พากันอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขบนแผ่นดินไทย มอบอิสระเสรีให้กันและกัน ใครๆจะศึกษาค้นคว้าทดลองนับถือใดๆในศาสานานั้นๆที่ไม่ผิดธรรม ไปทางชั่ว ทุกๆคนสามารถเสรีเข้าสถานที่นั้นๆได้หมดบนแผ่นดินไทยไม่ปิดบังค่าจริงใดๆหากเป็นการพากันนับถือเพื่อยกระดับจิตใจตนให้ดีงาม สังคมอยู่ร่วมกันสงบสุขสันติ ก็สมควรส่งมอบสิ่งนี้ให้เสรีทางเลือกกันเอง,ดีชั่วต้องวิจารณ์เปิดเผยบนสังคมไทยได้ จะศาสนาใดๆก็ตาม ,จากนั้นให้สังคมชุมชนเลือกสิ่งดีๆงามๆให้ชีวิตเขาอิสระเสรีจริงๆ,ศาสนาใดผิดจากธรรมะจักรวาลต้องพิจารณาตนเองให้ยุบเลิกไปเสียจากแผ่นดินไทยมิให้ใครๆบนแผ่นดินไทยหรือผู้พามาเยือนมาหลงเข้าใจผิด เชื่อไปตามสิ่งผิดๆไม่ดีงามนั้นๆตลอดทำให้ระดับจิตใจดีงามของจิตวิญญาณตนตกต่ำหนักลงกว่าปกติไปเสีย,ประเทศไทยเราจะเสมือนที่คัดกรองแยกแยะของแท้ของปลอมทันทีนั้นเอง,ส่งผลให้ชาวโลกทั่วมุมโลกมีเจตจำนงเสรีอิสระในทางเลือกตนเองจริงบนแผ่นดินไทยจริง,ของปลอมใดๆของชั่วเลวใดๆที่มีบนแผ่นดินไทยต้องถูกกำจัดออกไปทันทีจากแผ่นดินไทย สำนักนี้ตอนรับเฉพาะคนดีจริงบนแผ่นดินไทยระดับมนุษยชาติจริงนั้นเอง อาทิรีตหรือลัทธิปีศาจซาตานใดๆมืดใดๆต้องไม่มีบนแผ่นดินไทยรวมทั้งคนที่นับถือนั้นด้วยต้องออกไปจากสำนักนี้คือแผ่นดินไทยทันทีนั้นเอง.

    ..สำนักอื่น ประเทศอื่นจะยอมรับคนชั่วคนเลว รีตชั่วรีตเลว ลัทธิชั่วลัทธิเลวก็ชั่งก็ตาม แต่บนแผ่นดินไทยสงวนไว้เพียงผู้แสวงหาค่าจริงทางด้านความดีงามเท่านั้นแก่ปัจเจกบุคคลนั้นๆที่มาสู่แผ่นดินไทยจากทั่วทุกมุมโลก เราเปิดเสรีแก่ผู้มีภาวะจิตใจอันงดงามเสมอพร้อมตั้งจิตตนเป็นคนดีมนุษยดีดีนั้นเอง,ประเทศไทยเป็นแผ่นดินพุทธภูมิ โดยพระเจ้าตากสินมหาราชได้ถวายแผ่นดินไทยนี้ทัังหมดมอบเป็นพุทธบูชาแทนประชาชนคนไทยลูกหลานอย่างเรามานานแล้ว,เรา..ประชาชนคนไทย เสมือนตนได้มาอาศัยวัดอยู่เพียงเท่านััน ศาสนาอื่นมิอาจคิดการใดเป็นอย่างอื่นหรือหมายมั่นว่าพระเจ้ามอบแผ่นดินไทยให้แก่ศาสนาตนคนต่างศาสนานั้นๆเถิด ท่านคิดผิดมหันต์,วัดนี้รองรับคนทุกๆศาสนามาเยือนเพื่อให้ดูตนดูจิตดูใจตนเองทั่วบริเวณวัดนี้ หาที่สงบสงัดเอาเองนั้นเอง,พิจารณาแล้วว่าไม่ถูกจริตสันดานตนก็ออกไปจากสำนักนี้ ออกไปจากวัดนี้ ออกไปจากประเทศไทยนี้เสีย.อย่ามาก่อความไม่สงบสุขวุ่นวายภายในวัดสถานที่วิเวกรบกวนปัจเจกบุคคลท่านอื่นที่แสวงหาทางหลุดพ้นตนที่ลงมาเกิดบนโลกและบนแผ่นดินไทยเลย,เพื่อยกจิตยกใจบุคคลใครมันทั่วโลกโดยมีสำนักนี้ โดยมีวัดนี้คือประเทศไทยเป็นสรณะที่อยู่ที่พึ่งบำเบ็ญตนทางเพียงชั่วคราวเถิดในชาวโลกใครมันที่มีบุญสัมพันธ์ทางดีงานแลก็ว่า.
    ..มนุษย์ทั่วโลกลงมาเกิดล้วนมิใช่เหตุบังเอิญใดๆ มีผิดมีพลาดกันสิ้นแม้อสูรกายเปรตผีซาตานล้วนมีใจปราถนาดีลึกๆหมายหลุดพ้นทุกข์กันหมดเช่นกัน,ประเทศไทยในเวลายุคสมัยนี้ถือว่าพร้อมและเป็นจังหวะอันดีงามมาก พลังงานอนันตจักรวาลพระเจ้าทางดีก็ส่งพลังงานมาเป็นอันมากถึงโลกเราแล้ว จังหวะดีงามนี้ไม่มีบ่อยนัก,ประเทศไทยก็ด้วย ไม่มีอะไรล้ำและเลิศกว่าบรรลุธรรมจักรวาลแน่นอน ,ต่างดาวทั่วอนันตจักรวาลก็ลงใจยอมรับทั้งหมดในข้อนี้.,AIยุคสมัยใดก็ล้ำสมัยใดๆเทียบไม่ได้ตลอดกาลสมัยล้ำที่ว่านั้น.
    ..ประเทศไทยหากเทียบกับทั้งหมดทั่วโลก ประเทศไทยยืนหนึ่งทั้งหมด ไร้ประเทศใดๆในทั่วโลกเทียบเคียงได้เลย.เพราะหากอ้างระบบเมทริกซ์สมมุติโลก คำสอนศาสนาทางพุทธที่ลงรายละเอียดสุด ตีแตกทุกๆข้อสงสัย อจิณไตยรู้เฉพาะตนอีก ยืนหนึ่งแท้จริงค่าจริงจบที่ศาสนาพุทธนี้และทุกๆคนทั่วโลกอาศัยเป็นสรณะเสรีรับเอาหรือไม่รับเอาไปปฏิบัติก็มิได้บังคับ,เจตจำนงเสรีสุดๆ,ละทิ้งก็ไม่ตามไปฆ่าสังหารให้สิ้นชีวิตว่าละทิ้งศาสนาหรือดูถูกพระเจ้า ดูถูกรีต ดูถูกลัทธิพวกตนหมู่ตน.,เสื่อมหรือไม่เสื่อมก็ไม่ยึดติดด้วย,ประเทศไทยจึงเสรีสุดๆ,แต่ชาวโลกที่มิใช่คนไทยที่ไม่เกิดบนแผ่นดินไทยก็ต้องสำรวมด้วยเคารพในสมมุติประเทศใครมันเบื้องต้นแก่กันและกัน.
    ..สำนักนี้ต้องรักษาไว้จนกว่าจะสิ้น5,000ปีพุทธกาลตามคำทำนายจริงๆไว้ก่อน.,ประเทศไทยเราคนไทยจึงต้องสามัคคีกันดำรงรักษาไว้มั่น,เพราะสุดท้ายจะเป็นคุณประโยชน์แก่ชาวโลกในที่สุด,ใครๆก็มาหลบฝนหลบร้อนหลบพายุนั้นเอง.ไม่มีใครอยากตายจึงมาพึ่งพาอาศัยหลบภัยบนแผ่นดินไทย บำบัดเยียวยารักษาตนทั้งทางกายและจิตใจนั้นเอง.,การสร้างความไม่สงบสุขบนสถานที่นี้จึงไม่สมควร,จะรบจะฆ่าฟันกันต่อไปก็จงออกไปฆ่าฟันกันเองข้างนอกนั้นเอง,สไตล์วัดจริงๆนั้นล่ะ,เขตอภัยทาน เราจึงพยายามไม่มีโทษประหารบนแผ่นดินไทยเรา.,เรา..จึงเห็นคนไม่ดีมากมายจากทั่วโลก ต่างพยายามไม่กระทำชั่วเลวสร้างความไม่สงบใดๆบนแผ่นดินไทย อยู่สงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นอันมาก แม้โคตรโหดเหี้ยมอำมหิตก็ตาม ต่างแสดงออกด้วยมิตรไมตรีจิตอันดีบนแผ่นดินไทย,มีเพียงคนกาก กระจอกอวดตนว่าแน่แสดงความชั่วว่าตนแน่แก่คนเหล่านี้ให้ขำขัน,เรา..เจ้าหน้าที่ร่วมกันกำจัดคนเทาๆชั่วๆนี้กากๆนี้กระจอกนี้ ไทยเทาไทยชั่วคนไทยชั่วเหล่านี้เพียงเล็กน้อยก็สงบสุขแล้ว, คนต่างชาติต่างประเทศดีๆก็มีมากมาย เรา..ประเทศไทยก็ควบคุมคนต่างประเทศต่างชาติที่ชั่วเลวจริงจังก็จบแล้ว ความสงบบนแผ่นดินไทยก็บังเกิดขึ้น อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จากจิตใจชั่วเลวก็ละลายเป็นคนจิตใจดีได้ แก้ตัวแก้ตนแก้จิตแก้ใจเป็นคนดีออกสู่โลกภายนอกได้,หลายคนหมายเกิดมาล้วนอยากเป็นคนดีด้วยกันหมด,โอกาสคือประเทศไทยเรานี้ล่ะ อาจช่วยผลิตคนดีคนจิตใจดีงามออกสู่โลกจรรโลงสร้างสรรค์โลกเราดีๆให้ดำรงอารยะธรรมจักรวาลพิเศษยอดเยี่ยมสุดยอดต่อไปได้,พระเจ้าตัดต่อพันธุกรรมสมมุติโลกนี้แบบใดก็ชั่ง เราคนทั่วทั้งโลกร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงหรืออัพเลเวลเราร่วมกันเหนือขีดจำกัดร่วมกันได้นั้นเอง,อาจไม่แพ้ใครๆใดๆทั่วอนันตจักรวาลโลกต่างๆนั้นๆนั้นเอง.


    https://vm.tiktok.com/ZSHvWKPrMYDdS-alLNm/
    ..เอาจริงๆนะแบบมองโลกร่วมกันในทางที่ดีงามหรือบวกสุดๆอีกมุมมองหนึ่ง. ..หากศาสนาใดๆก็ตามที่เมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้ว จะคนนับถือศาสนาลัทธินั้นๆด้วยก็ตาม หากไม่ก้าวล่วงกัน ทำลายทำร้ายกัน พากันอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขบนแผ่นดินไทย มอบอิสระเสรีให้กันและกัน ใครๆจะศึกษาค้นคว้าทดลองนับถือใดๆในศาสานานั้นๆที่ไม่ผิดธรรม ไปทางชั่ว ทุกๆคนสามารถเสรีเข้าสถานที่นั้นๆได้หมดบนแผ่นดินไทยไม่ปิดบังค่าจริงใดๆหากเป็นการพากันนับถือเพื่อยกระดับจิตใจตนให้ดีงาม สังคมอยู่ร่วมกันสงบสุขสันติ ก็สมควรส่งมอบสิ่งนี้ให้เสรีทางเลือกกันเอง,ดีชั่วต้องวิจารณ์เปิดเผยบนสังคมไทยได้ จะศาสนาใดๆก็ตาม ,จากนั้นให้สังคมชุมชนเลือกสิ่งดีๆงามๆให้ชีวิตเขาอิสระเสรีจริงๆ,ศาสนาใดผิดจากธรรมะจักรวาลต้องพิจารณาตนเองให้ยุบเลิกไปเสียจากแผ่นดินไทยมิให้ใครๆบนแผ่นดินไทยหรือผู้พามาเยือนมาหลงเข้าใจผิด เชื่อไปตามสิ่งผิดๆไม่ดีงามนั้นๆตลอดทำให้ระดับจิตใจดีงามของจิตวิญญาณตนตกต่ำหนักลงกว่าปกติไปเสีย,ประเทศไทยเราจะเสมือนที่คัดกรองแยกแยะของแท้ของปลอมทันทีนั้นเอง,ส่งผลให้ชาวโลกทั่วมุมโลกมีเจตจำนงเสรีอิสระในทางเลือกตนเองจริงบนแผ่นดินไทยจริง,ของปลอมใดๆของชั่วเลวใดๆที่มีบนแผ่นดินไทยต้องถูกกำจัดออกไปทันทีจากแผ่นดินไทย สำนักนี้ตอนรับเฉพาะคนดีจริงบนแผ่นดินไทยระดับมนุษยชาติจริงนั้นเอง อาทิรีตหรือลัทธิปีศาจซาตานใดๆมืดใดๆต้องไม่มีบนแผ่นดินไทยรวมทั้งคนที่นับถือนั้นด้วยต้องออกไปจากสำนักนี้คือแผ่นดินไทยทันทีนั้นเอง. ..สำนักอื่น ประเทศอื่นจะยอมรับคนชั่วคนเลว รีตชั่วรีตเลว ลัทธิชั่วลัทธิเลวก็ชั่งก็ตาม แต่บนแผ่นดินไทยสงวนไว้เพียงผู้แสวงหาค่าจริงทางด้านความดีงามเท่านั้นแก่ปัจเจกบุคคลนั้นๆที่มาสู่แผ่นดินไทยจากทั่วทุกมุมโลก เราเปิดเสรีแก่ผู้มีภาวะจิตใจอันงดงามเสมอพร้อมตั้งจิตตนเป็นคนดีมนุษยดีดีนั้นเอง,ประเทศไทยเป็นแผ่นดินพุทธภูมิ โดยพระเจ้าตากสินมหาราชได้ถวายแผ่นดินไทยนี้ทัังหมดมอบเป็นพุทธบูชาแทนประชาชนคนไทยลูกหลานอย่างเรามานานแล้ว,เรา..ประชาชนคนไทย เสมือนตนได้มาอาศัยวัดอยู่เพียงเท่านััน ศาสนาอื่นมิอาจคิดการใดเป็นอย่างอื่นหรือหมายมั่นว่าพระเจ้ามอบแผ่นดินไทยให้แก่ศาสนาตนคนต่างศาสนานั้นๆเถิด ท่านคิดผิดมหันต์,วัดนี้รองรับคนทุกๆศาสนามาเยือนเพื่อให้ดูตนดูจิตดูใจตนเองทั่วบริเวณวัดนี้ หาที่สงบสงัดเอาเองนั้นเอง,พิจารณาแล้วว่าไม่ถูกจริตสันดานตนก็ออกไปจากสำนักนี้ ออกไปจากวัดนี้ ออกไปจากประเทศไทยนี้เสีย.อย่ามาก่อความไม่สงบสุขวุ่นวายภายในวัดสถานที่วิเวกรบกวนปัจเจกบุคคลท่านอื่นที่แสวงหาทางหลุดพ้นตนที่ลงมาเกิดบนโลกและบนแผ่นดินไทยเลย,เพื่อยกจิตยกใจบุคคลใครมันทั่วโลกโดยมีสำนักนี้ โดยมีวัดนี้คือประเทศไทยเป็นสรณะที่อยู่ที่พึ่งบำเบ็ญตนทางเพียงชั่วคราวเถิดในชาวโลกใครมันที่มีบุญสัมพันธ์ทางดีงานแลก็ว่า. ..มนุษย์ทั่วโลกลงมาเกิดล้วนมิใช่เหตุบังเอิญใดๆ มีผิดมีพลาดกันสิ้นแม้อสูรกายเปรตผีซาตานล้วนมีใจปราถนาดีลึกๆหมายหลุดพ้นทุกข์กันหมดเช่นกัน,ประเทศไทยในเวลายุคสมัยนี้ถือว่าพร้อมและเป็นจังหวะอันดีงามมาก พลังงานอนันตจักรวาลพระเจ้าทางดีก็ส่งพลังงานมาเป็นอันมากถึงโลกเราแล้ว จังหวะดีงามนี้ไม่มีบ่อยนัก,ประเทศไทยก็ด้วย ไม่มีอะไรล้ำและเลิศกว่าบรรลุธรรมจักรวาลแน่นอน ,ต่างดาวทั่วอนันตจักรวาลก็ลงใจยอมรับทั้งหมดในข้อนี้.,AIยุคสมัยใดก็ล้ำสมัยใดๆเทียบไม่ได้ตลอดกาลสมัยล้ำที่ว่านั้น. ..ประเทศไทยหากเทียบกับทั้งหมดทั่วโลก ประเทศไทยยืนหนึ่งทั้งหมด ไร้ประเทศใดๆในทั่วโลกเทียบเคียงได้เลย.เพราะหากอ้างระบบเมทริกซ์สมมุติโลก คำสอนศาสนาทางพุทธที่ลงรายละเอียดสุด ตีแตกทุกๆข้อสงสัย อจิณไตยรู้เฉพาะตนอีก ยืนหนึ่งแท้จริงค่าจริงจบที่ศาสนาพุทธนี้และทุกๆคนทั่วโลกอาศัยเป็นสรณะเสรีรับเอาหรือไม่รับเอาไปปฏิบัติก็มิได้บังคับ,เจตจำนงเสรีสุดๆ,ละทิ้งก็ไม่ตามไปฆ่าสังหารให้สิ้นชีวิตว่าละทิ้งศาสนาหรือดูถูกพระเจ้า ดูถูกรีต ดูถูกลัทธิพวกตนหมู่ตน.,เสื่อมหรือไม่เสื่อมก็ไม่ยึดติดด้วย,ประเทศไทยจึงเสรีสุดๆ,แต่ชาวโลกที่มิใช่คนไทยที่ไม่เกิดบนแผ่นดินไทยก็ต้องสำรวมด้วยเคารพในสมมุติประเทศใครมันเบื้องต้นแก่กันและกัน. ..สำนักนี้ต้องรักษาไว้จนกว่าจะสิ้น5,000ปีพุทธกาลตามคำทำนายจริงๆไว้ก่อน.,ประเทศไทยเราคนไทยจึงต้องสามัคคีกันดำรงรักษาไว้มั่น,เพราะสุดท้ายจะเป็นคุณประโยชน์แก่ชาวโลกในที่สุด,ใครๆก็มาหลบฝนหลบร้อนหลบพายุนั้นเอง.ไม่มีใครอยากตายจึงมาพึ่งพาอาศัยหลบภัยบนแผ่นดินไทย บำบัดเยียวยารักษาตนทั้งทางกายและจิตใจนั้นเอง.,การสร้างความไม่สงบสุขบนสถานที่นี้จึงไม่สมควร,จะรบจะฆ่าฟันกันต่อไปก็จงออกไปฆ่าฟันกันเองข้างนอกนั้นเอง,สไตล์วัดจริงๆนั้นล่ะ,เขตอภัยทาน เราจึงพยายามไม่มีโทษประหารบนแผ่นดินไทยเรา.,เรา..จึงเห็นคนไม่ดีมากมายจากทั่วโลก ต่างพยายามไม่กระทำชั่วเลวสร้างความไม่สงบใดๆบนแผ่นดินไทย อยู่สงบเสงี่ยมเจียมตัวเป็นอันมาก แม้โคตรโหดเหี้ยมอำมหิตก็ตาม ต่างแสดงออกด้วยมิตรไมตรีจิตอันดีบนแผ่นดินไทย,มีเพียงคนกาก กระจอกอวดตนว่าแน่แสดงความชั่วว่าตนแน่แก่คนเหล่านี้ให้ขำขัน,เรา..เจ้าหน้าที่ร่วมกันกำจัดคนเทาๆชั่วๆนี้กากๆนี้กระจอกนี้ ไทยเทาไทยชั่วคนไทยชั่วเหล่านี้เพียงเล็กน้อยก็สงบสุขแล้ว, คนต่างชาติต่างประเทศดีๆก็มีมากมาย เรา..ประเทศไทยก็ควบคุมคนต่างประเทศต่างชาติที่ชั่วเลวจริงจังก็จบแล้ว ความสงบบนแผ่นดินไทยก็บังเกิดขึ้น อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จากจิตใจชั่วเลวก็ละลายเป็นคนจิตใจดีได้ แก้ตัวแก้ตนแก้จิตแก้ใจเป็นคนดีออกสู่โลกภายนอกได้,หลายคนหมายเกิดมาล้วนอยากเป็นคนดีด้วยกันหมด,โอกาสคือประเทศไทยเรานี้ล่ะ อาจช่วยผลิตคนดีคนจิตใจดีงามออกสู่โลกจรรโลงสร้างสรรค์โลกเราดีๆให้ดำรงอารยะธรรมจักรวาลพิเศษยอดเยี่ยมสุดยอดต่อไปได้,พระเจ้าตัดต่อพันธุกรรมสมมุติโลกนี้แบบใดก็ชั่ง เราคนทั่วทั้งโลกร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงหรืออัพเลเวลเราร่วมกันเหนือขีดจำกัดร่วมกันได้นั้นเอง,อาจไม่แพ้ใครๆใดๆทั่วอนันตจักรวาลโลกต่างๆนั้นๆนั้นเอง. https://vm.tiktok.com/ZSHvWKPrMYDdS-alLNm/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – บทนำ 1 – 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”

    บทนำ

    (1)

    จากประวัติศาสตร์ ที่ฝรั่งทั้งเขียนทั้งแต่ง และคนไทยเอามาแปล เป็นทั้งหนังสืออ่าน และบทเรียนประวัติศาสตร์สากล ทำให้เราเข้าใจ และเชื่อว่า สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นจาก เหตุการณ์ลอบฆ่าอาชดยุก ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ รัชทายาทของออสเตรีย-ฮังการี โดยชาวเซอรเบีย ที่เซราเจโว เมืองหลวงของเซอร์เบีย เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน คศ 1914

    มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และเป็นสายชนวนเส้นหนึ่ง ของสงครามโลกครั้งที่ 1 จริง แต่มันไม่ใช่ “สาเหตุ ” แท้จริงที่ทำให้เกิดสงครามโลก แม้เหตุการณ์นั้น จะทำให้ออสเตรียโกรธจัด ควันออกหูก็ตาม ออสเตรียกับเซอร์เบียขบเขี้ยวกันมานานแล้ว เนื่องจากออสเตรียซึ่งตอนนั้นคิดว่าตนเองกล้ามใหญ่ ไปผนวกเอาบอสเนียและเฮอเซโกวีนา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออตโตมาน มาเป็นของตน ตั้งแต่ประมาณปี คศ 1878 ทำให้เซอร์เบียซี่งถือว่าบอสเนียเป็นพวกเดียวกันตัว เป็นเดือดเป็นแค้นแทน และเอาความแค้นไปฝากใส่หูรัสเซีย ในฐานะลูกพี่ใหญ่ของพวกสลาฟ และกลุ่มนิกายออโธดอกซ์

    หลังจากมีการเจรจา ที่มีเค้าว่าจะล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้นอยู่ประมาณ 1 เดือน ในวันที่ 28 กรกฏาคม คศ 1914 ออสเตรียก็ประกาศสงครามกับเซอร์เบียรัฐเล็กกระจ้อย เพื่อให้รับผิดชอบการฆาตกรรมดังกล่าว ออสเตรียเชื่อว่า จะได้รับการช่วยเหลือจากเยอรมัน หากรัสเซียออกมาหนุนหลังให้เซอร์เบีย ออสเตรียคงต้องลุ้นหนักว่า เยอรมันจะมาช่วยทันไหม เพราะวันรุ่งขึ้น 29 กรกฏาคม รัสเซียก็ประกาศระดมพล เตรียมตัวรบแล้ว

    ในวันเดียวกันนั้น ไกเซอร์ของเยอรมัน ก็ส่งโทรเลขไปหาซาร์นิโคลัสของรัสเซีย ขอร้องไม่ให้เรียกระดมพล และคงเพราะมีไมตรีต่อกันฉันท์ญาติ ซาร์จึงระงับคำสั่งระดมพลไว้ชั่วคราว แต่ฝ่ายกองทัพของรัสเซียไม่ชอบใจ ที่ซาร์ออกอาการลังเล วันรุ่งขึ้น 30 กรกฏาคม จึงพากันเดินตบเท้า เข้าไปกล่อม แกมบีบให้ซาร์มีคำสั่งระดมพลต่อ

    คงมีใครอยากรบเต็มที วันที่ 31 กรกฏาคม ทูตเยอรมันประจำเมือง St Petersburg ก็เข้าไปพบซาร์ และยื่นหนังสือของเยอรมัน ที่ประกาศสงครามต่อรัสเซีย หลังจากนั้นก็เอามือปิดหน้าและเดินออกไปจากห้อง ไม่ใช่คนเยอรมันทุกคนอยากทำสงคราม โดยเฉพาะกับรัสเซีย ซึ่งแท้จริงแล้ว ไม่ได้เป็นศัตรูกับเยอรมัน
    เนื่องจากรู้ว่า ฝรั่งเศสและรัสเซียมีสัญญาให้การร่วมมือกันทางกองทัพ เยอรมันจึงตัดสินใจว่า จะต้องจัดการอย่างรวดเร็ว ให้ฝรั่งเศสหมอบราบเสียก่อนที่รัสเซียจะขยับมาช่วยทัน เพราะเยอรมันคาดว่า รัสเซียน่าจะใช้เวลานานในการระดมพล ขณะนั้นกองทัพของรัสเซียมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป วันที่ 3 สิงหาคม คศ 1914 เยอรมันจึงรีบประกาศสงครามกับฝรั่งเศส หลังจากนั้นเยอรมันก็เคลื่อนพลเข้าไปในเบลเยี่ยม เพื่อใช้เป็นทางข้ามไปโจมตีฝรั่งเศส

    อังกฤษคงกลัวน้อยหน้า เดี๋ยวเขาจะว่าเก่งแต่ปาก วันที่ 4 สิงหาคม คศ 1914 อังกฤษจึงรีบประกาศสงครามกับเยอรมันบ้าง โดยอ้างเหตุผลว่า เพื่อปกป้องความเป็นกลางของเบลเยี่ยม เป็นการอ้างเหตุผลการเข้าสงครามที่ตอแหลอย่างน่าทุเรศ เหตุผลจริงของอังกฤษในการทำสงคราม ชั่วร้ายเกินกว่าที่เราจะนึก แต่ที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ สถานะการเงินของอังกฤษ ขณะตัดสินใจประกาศทำสงครามกับเยอรมันนั้น อังกฤษอยู่ในสภาพล้มละลาย

    ถังแตกขนาดนั้น ทำไมอังกฤษยังคิดทำสงคราม และทำได้อย่างไร

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทนำ

    (2)

    ประมาณปี คศ 1890 อังกฤษ แม้จะอยู่บนเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้ว ก้อยของเท้าซ้าย แต่ก็สร้างเสริมตนเอง ด้วยความฉลาด เล่ห์เหลี่ยม และความชั่วร้าย จนโดดเด่น มีอำนาจทั้งในด้านการเมือง การทหาร และ การค้า และคิดเอาเองว่า ไม่มีใครจะกล้ามาทาบรัศมี จักรภพอังกฤษอันกว้างใหญ่ แผ่ไพศาลไปเกือบทั่วโลก จนดวงอาทิตย์หาที่ตกในจักรภพไม่ได้ เมื่อคิดอย่างนั้น อังกฤษก็พยายามทำทุกอย่าง ที่จะรักษาความเป็นที่หนึ่ง และเอาโลกใบนี้ให้อยู่ในกำมือของตนเองตลอดกาล หรือให้นานที่สุดเท่าที่จะยืดคอทำได้

    จะเอาโลกไว้ในกำมือ อังกฤษต้องทำให้ตนเองมีเสาหลัก หรืออำนาจควบคุมใน 3 เรื่อง

    – ควบคุมเส้นทางเดินเรือ

    – ควบคุมระบบการเงินการธนาคาร

    – ควบคุม หรือครอบครองทรัพยากรที่เป็นผลต่อยุทธศาสตร์ของตน
    เสาหลักแรก: การควบคุมเส้นทางเดินเรือ อังกฤษ ทำได้สำเร็จ โดยใช้บริษัทประกันภัยใหญ่หมายเลขหนึ่งของอังกฤษ Lloyd ซึ่งมีเครือข่ายทั่วโลก บวกกับการใช้เครือข่ายของธนาคารอังกฤษ เป็นผู้วางกฏ เกี่ยวกับการการขนส่งทางเรือ รวมทั้งใช้กองทัพเรือของตน ที่อังกฤษภูมิใจหนักหนาว่า ไม่มีใครเก่งเทียบ และไม่กล้าท้าทาย ทำหน้าที่เป็นเรือคุ้มกันภัย ให้กับเรือขนส่งสินค้าสัญชาติอังกฤษ โดยไม่ต้องทำประกันภัย ขณะที่คู่แข่ง ถูกบังคับให้ทำประกันภัยกับ Lloyd หรือคิดจะเสี่ยง กับการเจอภัยพิบัติกลางทะเล มันดูไม่ต่างกับการขู่กรรโชกของโจรสลัด

    สินเชื่อ และตั๋วแลกเงิน ที่จำเป็นต้องออกให้แก่กันในการค้าขาย และขนส่งสินค้าทางเรือ อังกฤษบีบให้ทำผ่านธนาคารของอังกฤษ ซึ่งเป็นธนาคารส่วนบุคคล ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Bank of England ซึ่งก็เป็นผลผลิต ของกลุ่มนักการเงินใน City of London ที่นำโดย เจ้าพ่อใหญ่ ตระกูล Rothschild และพวก เช่น Barings, Hambros เป็นต้น

    ประมาณ ปี 1900 อังกฤษ ยืนยืด อกแอ่น จนแทบหงายหลัง ประกาศว่า เรามีเสาหลักนี้ ตั้งตระหง่านเรียบร้อยแล้ว

    เสาหลักที่สอง: การควบคุบระบบการเงิน และระบบการธนาคาร อังกฤษวางแผนอย่างคร่ำเคร่ง แต่เงียบสนิท และผลของมัน ทำให้เกิดระบบธนาคารกลางในอังกฤษ และที่สำคัญ อังกฤษเป็นตัวการสำคัญ ในการวางแผนอีกต่อหนึ่ง ทำให้เกิด Federal Reserve System ในอเมริกา ในปี คศ 1913 ที่เรารู้จักกันในนาม Federal Reserve Bank หรือ ที่เรียกกันสั้นๆว่า Fed ซึ่งเป็นของเอกชน ไม่ใช่เป็นของรัฐ และเป็นเอกชนไม่กี่ตระกูล ที่ส่วนใหญ่เป็นเครือข่าย ของตระกูล Rothschild ของฝั่งอังกฤษ และ ตระกูล Rockefeller และ Morgan ของฝั่งอเมริกา

    Fed มีอำนาจมากมาย และมีอิสระหลายเรื่อง ที่ไม่ต้องอยู่ในความควบคุมของรัฐบาลอเมริกัน โดยเฉพาะ ในการพิมพ์ธนบัตร การกำหนดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่างสถาบัน ฯลฯ การตัดสินใจของ Fed มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจการเงิน ตลาดทุน ตลาดหุ้น ของอเมริกา และของโลก แม้แต่สมันน้อย ยังต้องคอยฟังว่า เฟด เขาว่าอะไร ฟังแล้ว รู้เรื่องจริงไหม เข้าใจไหม เป็นอีกเรื่อง แต่ต้องคอยฟัง ต้องพูดถึง เพราะมันเข้าสมัย และผู้บริหารบ้านเราก็แสนฉลาด เดินทุกก้าวตาม ที่เฟด บอก

    Fed จึงกลายเป็นตัวสำคัญในการชักใยการเงินโลกจนถึงทุกวันนี้ เป็นไปตามเป้าหมายของเสาหลักที่สอง ที่มีอานุภาพรุนแรงและยาวนานอย่างไม่น่าเชื่อ

    เสาหลักที่สาม: ควบคุม หรือครอบครอง ทรัพยากรที่มีผลสำคัญต่อยุทธศาสตร์ ในความหมายของอังกฤษ ขณะนั้น และยังมีผลจนถึงขณะนี้ก็คือ น้ำมัน! ซึ่งไม่ใช่มีความหมายเฉพาะกับอังกฤษเท่านั้น แต่มันมีความหมาย และมีผลกับโลกนี้ทั้งใบ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    20 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – บทนำ 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทนำ (1) จากประวัติศาสตร์ ที่ฝรั่งทั้งเขียนทั้งแต่ง และคนไทยเอามาแปล เป็นทั้งหนังสืออ่าน และบทเรียนประวัติศาสตร์สากล ทำให้เราเข้าใจ และเชื่อว่า สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นจาก เหตุการณ์ลอบฆ่าอาชดยุก ฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ รัชทายาทของออสเตรีย-ฮังการี โดยชาวเซอรเบีย ที่เซราเจโว เมืองหลวงของเซอร์เบีย เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน คศ 1914 มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และเป็นสายชนวนเส้นหนึ่ง ของสงครามโลกครั้งที่ 1 จริง แต่มันไม่ใช่ “สาเหตุ ” แท้จริงที่ทำให้เกิดสงครามโลก แม้เหตุการณ์นั้น จะทำให้ออสเตรียโกรธจัด ควันออกหูก็ตาม ออสเตรียกับเซอร์เบียขบเขี้ยวกันมานานแล้ว เนื่องจากออสเตรียซึ่งตอนนั้นคิดว่าตนเองกล้ามใหญ่ ไปผนวกเอาบอสเนียและเฮอเซโกวีนา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออตโตมาน มาเป็นของตน ตั้งแต่ประมาณปี คศ 1878 ทำให้เซอร์เบียซี่งถือว่าบอสเนียเป็นพวกเดียวกันตัว เป็นเดือดเป็นแค้นแทน และเอาความแค้นไปฝากใส่หูรัสเซีย ในฐานะลูกพี่ใหญ่ของพวกสลาฟ และกลุ่มนิกายออโธดอกซ์ หลังจากมีการเจรจา ที่มีเค้าว่าจะล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้นอยู่ประมาณ 1 เดือน ในวันที่ 28 กรกฏาคม คศ 1914 ออสเตรียก็ประกาศสงครามกับเซอร์เบียรัฐเล็กกระจ้อย เพื่อให้รับผิดชอบการฆาตกรรมดังกล่าว ออสเตรียเชื่อว่า จะได้รับการช่วยเหลือจากเยอรมัน หากรัสเซียออกมาหนุนหลังให้เซอร์เบีย ออสเตรียคงต้องลุ้นหนักว่า เยอรมันจะมาช่วยทันไหม เพราะวันรุ่งขึ้น 29 กรกฏาคม รัสเซียก็ประกาศระดมพล เตรียมตัวรบแล้ว ในวันเดียวกันนั้น ไกเซอร์ของเยอรมัน ก็ส่งโทรเลขไปหาซาร์นิโคลัสของรัสเซีย ขอร้องไม่ให้เรียกระดมพล และคงเพราะมีไมตรีต่อกันฉันท์ญาติ ซาร์จึงระงับคำสั่งระดมพลไว้ชั่วคราว แต่ฝ่ายกองทัพของรัสเซียไม่ชอบใจ ที่ซาร์ออกอาการลังเล วันรุ่งขึ้น 30 กรกฏาคม จึงพากันเดินตบเท้า เข้าไปกล่อม แกมบีบให้ซาร์มีคำสั่งระดมพลต่อ คงมีใครอยากรบเต็มที วันที่ 31 กรกฏาคม ทูตเยอรมันประจำเมือง St Petersburg ก็เข้าไปพบซาร์ และยื่นหนังสือของเยอรมัน ที่ประกาศสงครามต่อรัสเซีย หลังจากนั้นก็เอามือปิดหน้าและเดินออกไปจากห้อง ไม่ใช่คนเยอรมันทุกคนอยากทำสงคราม โดยเฉพาะกับรัสเซีย ซึ่งแท้จริงแล้ว ไม่ได้เป็นศัตรูกับเยอรมัน เนื่องจากรู้ว่า ฝรั่งเศสและรัสเซียมีสัญญาให้การร่วมมือกันทางกองทัพ เยอรมันจึงตัดสินใจว่า จะต้องจัดการอย่างรวดเร็ว ให้ฝรั่งเศสหมอบราบเสียก่อนที่รัสเซียจะขยับมาช่วยทัน เพราะเยอรมันคาดว่า รัสเซียน่าจะใช้เวลานานในการระดมพล ขณะนั้นกองทัพของรัสเซียมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป วันที่ 3 สิงหาคม คศ 1914 เยอรมันจึงรีบประกาศสงครามกับฝรั่งเศส หลังจากนั้นเยอรมันก็เคลื่อนพลเข้าไปในเบลเยี่ยม เพื่อใช้เป็นทางข้ามไปโจมตีฝรั่งเศส อังกฤษคงกลัวน้อยหน้า เดี๋ยวเขาจะว่าเก่งแต่ปาก วันที่ 4 สิงหาคม คศ 1914 อังกฤษจึงรีบประกาศสงครามกับเยอรมันบ้าง โดยอ้างเหตุผลว่า เพื่อปกป้องความเป็นกลางของเบลเยี่ยม เป็นการอ้างเหตุผลการเข้าสงครามที่ตอแหลอย่างน่าทุเรศ เหตุผลจริงของอังกฤษในการทำสงคราม ชั่วร้ายเกินกว่าที่เราจะนึก แต่ที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ สถานะการเงินของอังกฤษ ขณะตัดสินใจประกาศทำสงครามกับเยอรมันนั้น อังกฤษอยู่ในสภาพล้มละลาย ถังแตกขนาดนั้น ทำไมอังกฤษยังคิดทำสงคราม และทำได้อย่างไร นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทนำ (2) ประมาณปี คศ 1890 อังกฤษ แม้จะอยู่บนเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้ว ก้อยของเท้าซ้าย แต่ก็สร้างเสริมตนเอง ด้วยความฉลาด เล่ห์เหลี่ยม และความชั่วร้าย จนโดดเด่น มีอำนาจทั้งในด้านการเมือง การทหาร และ การค้า และคิดเอาเองว่า ไม่มีใครจะกล้ามาทาบรัศมี จักรภพอังกฤษอันกว้างใหญ่ แผ่ไพศาลไปเกือบทั่วโลก จนดวงอาทิตย์หาที่ตกในจักรภพไม่ได้ เมื่อคิดอย่างนั้น อังกฤษก็พยายามทำทุกอย่าง ที่จะรักษาความเป็นที่หนึ่ง และเอาโลกใบนี้ให้อยู่ในกำมือของตนเองตลอดกาล หรือให้นานที่สุดเท่าที่จะยืดคอทำได้ จะเอาโลกไว้ในกำมือ อังกฤษต้องทำให้ตนเองมีเสาหลัก หรืออำนาจควบคุมใน 3 เรื่อง – ควบคุมเส้นทางเดินเรือ – ควบคุมระบบการเงินการธนาคาร – ควบคุม หรือครอบครองทรัพยากรที่เป็นผลต่อยุทธศาสตร์ของตน เสาหลักแรก: การควบคุมเส้นทางเดินเรือ อังกฤษ ทำได้สำเร็จ โดยใช้บริษัทประกันภัยใหญ่หมายเลขหนึ่งของอังกฤษ Lloyd ซึ่งมีเครือข่ายทั่วโลก บวกกับการใช้เครือข่ายของธนาคารอังกฤษ เป็นผู้วางกฏ เกี่ยวกับการการขนส่งทางเรือ รวมทั้งใช้กองทัพเรือของตน ที่อังกฤษภูมิใจหนักหนาว่า ไม่มีใครเก่งเทียบ และไม่กล้าท้าทาย ทำหน้าที่เป็นเรือคุ้มกันภัย ให้กับเรือขนส่งสินค้าสัญชาติอังกฤษ โดยไม่ต้องทำประกันภัย ขณะที่คู่แข่ง ถูกบังคับให้ทำประกันภัยกับ Lloyd หรือคิดจะเสี่ยง กับการเจอภัยพิบัติกลางทะเล มันดูไม่ต่างกับการขู่กรรโชกของโจรสลัด สินเชื่อ และตั๋วแลกเงิน ที่จำเป็นต้องออกให้แก่กันในการค้าขาย และขนส่งสินค้าทางเรือ อังกฤษบีบให้ทำผ่านธนาคารของอังกฤษ ซึ่งเป็นธนาคารส่วนบุคคล ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Bank of England ซึ่งก็เป็นผลผลิต ของกลุ่มนักการเงินใน City of London ที่นำโดย เจ้าพ่อใหญ่ ตระกูล Rothschild และพวก เช่น Barings, Hambros เป็นต้น ประมาณ ปี 1900 อังกฤษ ยืนยืด อกแอ่น จนแทบหงายหลัง ประกาศว่า เรามีเสาหลักนี้ ตั้งตระหง่านเรียบร้อยแล้ว เสาหลักที่สอง: การควบคุบระบบการเงิน และระบบการธนาคาร อังกฤษวางแผนอย่างคร่ำเคร่ง แต่เงียบสนิท และผลของมัน ทำให้เกิดระบบธนาคารกลางในอังกฤษ และที่สำคัญ อังกฤษเป็นตัวการสำคัญ ในการวางแผนอีกต่อหนึ่ง ทำให้เกิด Federal Reserve System ในอเมริกา ในปี คศ 1913 ที่เรารู้จักกันในนาม Federal Reserve Bank หรือ ที่เรียกกันสั้นๆว่า Fed ซึ่งเป็นของเอกชน ไม่ใช่เป็นของรัฐ และเป็นเอกชนไม่กี่ตระกูล ที่ส่วนใหญ่เป็นเครือข่าย ของตระกูล Rothschild ของฝั่งอังกฤษ และ ตระกูล Rockefeller และ Morgan ของฝั่งอเมริกา Fed มีอำนาจมากมาย และมีอิสระหลายเรื่อง ที่ไม่ต้องอยู่ในความควบคุมของรัฐบาลอเมริกัน โดยเฉพาะ ในการพิมพ์ธนบัตร การกำหนดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมระหว่างสถาบัน ฯลฯ การตัดสินใจของ Fed มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจการเงิน ตลาดทุน ตลาดหุ้น ของอเมริกา และของโลก แม้แต่สมันน้อย ยังต้องคอยฟังว่า เฟด เขาว่าอะไร ฟังแล้ว รู้เรื่องจริงไหม เข้าใจไหม เป็นอีกเรื่อง แต่ต้องคอยฟัง ต้องพูดถึง เพราะมันเข้าสมัย และผู้บริหารบ้านเราก็แสนฉลาด เดินทุกก้าวตาม ที่เฟด บอก Fed จึงกลายเป็นตัวสำคัญในการชักใยการเงินโลกจนถึงทุกวันนี้ เป็นไปตามเป้าหมายของเสาหลักที่สอง ที่มีอานุภาพรุนแรงและยาวนานอย่างไม่น่าเชื่อ เสาหลักที่สาม: ควบคุม หรือครอบครอง ทรัพยากรที่มีผลสำคัญต่อยุทธศาสตร์ ในความหมายของอังกฤษ ขณะนั้น และยังมีผลจนถึงขณะนี้ก็คือ น้ำมัน! ซึ่งไม่ใช่มีความหมายเฉพาะกับอังกฤษเท่านั้น แต่มันมีความหมาย และมีผลกับโลกนี้ทั้งใบ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 20 เม.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง คนวัดปรอท
    “คนวัดปรอท”

    สงสัยลูกกระเป๋งจะไปรายงานว่า มีคนนินทานักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ว่า ถึงกับไปไม่เป็น ยืนเซ่ออยู่กลางสี่แยก เมื่อเห็นนายกรัฐมนตรีรัสเซีย คุณหน้าเฉย Dmitry Medvedev ยิ้มหวาน ดมดอกไม้กับคุณแก้มยุ้ย นายกรัฐมนตรีไทยเมื่อต้นเดือนเมษานี้เอง เลยต้องรีบควานหา คนวัดปรอทคนใหม่ เอามานั่งวัดอุณหภูมิของทุกพรรค ทุกพวก ทุกกลุ่ม ทุกกอง ฯลฯ ในแดนสมันน้อยว่า มันร้อนไปทางไหน เย็นไปทางไหน เอาให้แน่ๆ เพราะคนเก่า ใช้ปรอทไม่เป็น ใช้เป็นแต่เซลฟี่ ฮา

    พณะโอบามา ออกข่าวเมื่อวันสงกรานต์นี่เองว่า จะเสนอให้นาย Glyn Townsend Davies ผู้ที่คร่ำหวอด อยู่ในกิจการต่างด้านประเทศ เรียกว่า เป็นนักการทูตมืออาชีพ มีประวัติการทำงานยาวเหยียด มาเป็นเอกอัครราชทูตอเมริกา ประจำราชอาณาจักรไทย ทำหน้าที่วัดปรอทการเมืองไทยทุกตารางนิ้วเสียใหม่ หลังจากที่ปล่อยให้สำนักถนนวิทยุเงียบเหงามากว่า 6 เดือน จนเสียรางวัดให้เขาดมดอกไม้ แย้มยิ้ม เหมือนเย้ยใคร

    ประวัติเด่นของนาย Davies ที่เขาบรรยายส่งมา ผมว่ารายการแรก ต้องยกให้เรื่องน้องคิมของผม ดูเหมือนนาย Davies นี่จะเป็นคนที่เอ็นดูน้องคิม เจ้าพ่อเกาหลีเหนือเป็นพิเศษ ดูแลนโยบายเกาหลีเหนือช่วงปี 2012-2014 และเคยสรุปเสนอรัฐสภาว่า ไม่เป็นประโยชน์อันใดที่จะพูดคุยกับน้องคิมให้รู้เรื่อง ถ้าอเมริกาอยากจะหารือเรื่องเกาหลี เหนือ โน่น ไปพบผู้ปกครองน้องคิม อาเฮียแห่งแผ่นดินใหญ่ จะรู้เรื่องเร็วกว่า แสดงว่า คนวัดปรอทคนนี้ น่าจะเป็นผู้ชำนาญงาน แหม แต่เหมาเอาง่ายๆ ว่า น้องคิมเป็นเด็กในปกครองของอา เฮีย นี่ ผมก็ไม่รู้นะ ว่าน้องเขาจะชอบใจไหม น้องเขาโตแล้ว เขาตัดสินใจเองได้น่า ว่าจะส่งของขวัญให้ใคร ที่ไหน และเมื่อไหร่ ฮาอีกที

    ประวัติเด่นรายการที่สอง นาย Davies เคยเป็นตัวแทน ของนักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ช่วงปี 2009-2012 ใน International Atomic Energy Agency (IAEA) หรือ ไอ้เออีเอ ที่เป็นไม้เบื่อ ไม้เมาของ Saddam แห่งอืรัค คอยตามตรวจว่า ซัดดัมมีนิวเคลียร์ติดตัวไว้กี่ลูก ผลการตรวจ ไม่เจอซักลูก แต่ดันได้น้ำมันไปหลายปั้ม คนอิรัคตายไปหลายแสน ไม่มีบ้านเหลือให้ซุกหัวอีกหลายล้านคน และตอนนี้ ไอ้เอกับอีเอ ก็กำลังรีรอ ว่า จะเป็นไม้เบื่อ หรือจะไปเมา กับอิหร่านดี อีกไม่กี่เดือนก็รู้กัน

    แต่ประวัติเรื่องนี้จะเอามาทำอะไรที่แดนสมันน้อยได้ครับ หรือจะมาดู ว่าการยิงบ้องไฟของเรานี่ จะเข้าข่ายที่ ไอ้เอกับอีเอมันข้องใจ

    ประวัติเด่นรายการที่สาม คือ เป็นผู้ดูแลกิจการด้านเอเซียตะวันออก และแปซิฟิก ช่วงปี 2006-2009 แสดงว่ารู้จักผู้คนแถบนี้ดี คงไม่น่าจะใช่ประเภท กางแขนเเป็นอีแร้ง รำวงให้คนไทยดู แบบยายกุ้งแห้ง อย่านึกว่าทำแบบนั้นแล้วคนไทยจะชอบนะครับ มีแต่ไอ้พวกสอพลอที่ชื่นชม ถามลุงแก่ๆอย่างผม ผมว่าน่าทุเรศครับ คนเราน่าจะเจริญพอ ที่คิดสร้างไมตรีด้วยวิธีอื่นได้ดีกว่านี้ นึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร ก็อย่าส่งมาให้เสียรางวัดไปกว่าเดิมเลย แค่นี้ก็เขียนด่าจะไม่ทันอยู่แล้ว
    แต่ที่ผมสนใจประวัติ คนวัดปรอทคนนี้ คือแกเคยทำงานอยู่ในสภาความมั่นคง National Security Council ช่วงรัฐบาลคลินตัน ประธานาธิบดีขวัญใจเด็กฝึกงาน และจบปริญญาโทด้าน ยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาติ national security strategy จาก National War College

    และที่น่าสนใจ อีกเรื่อง คือ ข่าว ลงวันที่ 13 เมษายน 2015 ของThe Leaderboard ซึ่ง CogitAsia หน่วยงาน ของ CSIS Center for Strategic & International Studies ถังขยะความคิด ซึ่งเป็นเหมือนหน่วยราชการ ของอเมริกา ออกข่าวเกี่ยวกับการที่นายโอบามา เสนอชื่อคนวัดปรอทคนใหม่ของอเมริกา ประจำประเทศไทย โดยระบุว่า ประเทศไทย ซึ่งเคยเป็นพันธมิตร ที่แข็งแรงที่สุด ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ แต่หลังจากการปฏิวัติของไทย เมื่อปี 2014 ความสัมพันธ์ของอเมริกากับไทย ก็สั่นคลอน ในฐานะนักการทูตมืออาชีพ นาย Davies จึงเป็นที่คาดหวังว่า เขาจะใช้ความรู้เกี่ยวกับวิกฤติทางการทูต ให้เป็นประโยชน์สำหรับสถานะการณ์ทางการเมืองของที่ยังมองอะไรไม่ชัดเจน….

    ทั้งหมดนี้ แปลว่าอะไรครับ แปลว่า อเมริกาปล่อยให้สมันน้อย หลุดมือไม่ได้เด็ดขาด รู้ว่า ยายกุ้งแห้งเซลฟี่ จะหมดเทอม อเมริกาก็ยังไม่หาใครมาแทน ทิ้งช่วงอยู่กว่า 6 เดือน เพื่อรอดูว่า การเมืองสมันน้อยจะไปทางไหนแน่ หลังจากมีการปฏิวัติ อเมริการอจนชัดเจนว่า สมันน้อยเริ่มมองโลกกว้าง ออกคบเพื่อนมากขึ้น รูปนายกแก้มยุ้ยของไทย จับมือ ยิ้มหวานกับอาเฮีย ก็ทำให้อเมริกาคิดหนักแล้ว แต่เมื่อนายกแก้มยุ้ย ชวนนายกหน้าเฉย จากรัสเซียดมดอกไม้นี่ อเมริกาคงตัดสินใจได้ ว่าควรจะรีบส่งคนวัดปรอท แบบผู้ชำนาญด้านยุทธศาสตร์ มาประจำการได้แล้ว

    แต่ถ้าอเมริกาคิดจะใช้ยุทธศาสตร์แบบเดิมๆ บีบคอสมันน้อย ให้ยืนนิ่งอยู่ในคอก แล้วสั่งซ้ายหัน ขวาหัน เหมือนอย่างเดิมน่าจะเป็นไปได้ยาก อเมริกายังยืนเซ่ออยู่กลางสี่แยกจริงๆ ยังอ่านไม่ออกว่า การเมืองของสมันน้อยหลังการปฏิวัติ และจากนี้ไป จะไปทางไหน ส่งพวกปากเสียมาเสือกหลายรอบ ต้ังแต่สมันน้อยปฏิวัติ แทนที่จะได้ผล ทำท่าจะเสียทั้งผลทั้งต้น เสียทั้งต้น นี่เรื่องใหญ่ อเมริการับไม่ได้หรอก

    ทางออกตอนนี้ ของนักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง จึงต้องส่งคนวัดปรอท ชนิดผู้ชำนาญการ มาทำการวัดปรอท ทุกตารางนิ้วในแดนสมันน้อยใหม่หมด และดูจากประสพการณ์ และการข่าว คนวัดปรอท คนใหม่นี้ น่าจะไม่ใช่แค่มายืนๆ เดินๆ แล้วเอาปรอทแหย่ปากสมันน้อย คนวัดปรอทอาจจะมีวิธี ทำให้ปรอทร้อน ถึงร้อนจัด หรือเย็นจัดในบางสถานที่ บางกลุ่มด้วย

    เราจึงต้องจับตาดูคนวัดปรอทคนใหม่นี้ให้ดี เรากำลังมุ่งหน้าที่จะออกมาจากคอก สู่การเป็นอิสระชนแล้ว ก็เดินอย่างสง่าผ่าเผย รักษาอธิปไตย และความเป็นกลางของประเทศให้ดี เมื่อรัฐบาลเลือกเดินนโยบายที่จะไม่ให้ใครมาจูงจมูก เราประชาชนก็สมควรสนับสนุน ไม่ใช่คิดแต่จะคบเพื่อน แค่คนใดคนหนึ่ง โดยเฉพาะด้วยแค่ความคุ้นเคย แถมให้มันบีบซ้ายกระตุกขวาได้อยู่เรื่อยๆ เราไม่ได้เป็นเมืองขึ้นใคร จะคบเพื่อนกี่คนก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา ขอให้เพื่อนรู้จักเคารพ และเห็นคุณค่าของความเป็นเพื่อนกัน เรื่องในบ้านเพื่อนก็ให้เกียรติกันบ้าง อย่าเสือกทุกเรื่อง ยิ่งบางเรื่อง ไม่บังควร ผ่านมา 60 ปี ยังไม่เรียนรู้ จะเป็นเพื่อนกันต่อไปทำไม
    อย่านึกว่าสมันน้อยโง่หมด สีที่ฟอกย้อมไว้ มันถลอกลอกไปแยะแล้ว เพราะพฤติกรรมความเสือก ความตะกระ ความกร่าง ความเจ้าเล่ห์ ของอเมริกาเองนั่นแหละ

    จะมาเดินวัดปรอทกันใหม่ ก็หัดเรียนรู้ใหม่ ไอ้พวกที่ชอบมาอ่านเพจผม แล้วรวนเครื่องผม อย่ารวนเปล่า นายใหม่จะมาแล้ว แปลไว้ให้อ่านเลย จะได้ประหยัดเวลามาวัดปรอทแถวนี้

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 เม.ย. 2558
    เรื่อง คนวัดปรอท “คนวัดปรอท” สงสัยลูกกระเป๋งจะไปรายงานว่า มีคนนินทานักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ว่า ถึงกับไปไม่เป็น ยืนเซ่ออยู่กลางสี่แยก เมื่อเห็นนายกรัฐมนตรีรัสเซีย คุณหน้าเฉย Dmitry Medvedev ยิ้มหวาน ดมดอกไม้กับคุณแก้มยุ้ย นายกรัฐมนตรีไทยเมื่อต้นเดือนเมษานี้เอง เลยต้องรีบควานหา คนวัดปรอทคนใหม่ เอามานั่งวัดอุณหภูมิของทุกพรรค ทุกพวก ทุกกลุ่ม ทุกกอง ฯลฯ ในแดนสมันน้อยว่า มันร้อนไปทางไหน เย็นไปทางไหน เอาให้แน่ๆ เพราะคนเก่า ใช้ปรอทไม่เป็น ใช้เป็นแต่เซลฟี่ ฮา พณะโอบามา ออกข่าวเมื่อวันสงกรานต์นี่เองว่า จะเสนอให้นาย Glyn Townsend Davies ผู้ที่คร่ำหวอด อยู่ในกิจการต่างด้านประเทศ เรียกว่า เป็นนักการทูตมืออาชีพ มีประวัติการทำงานยาวเหยียด มาเป็นเอกอัครราชทูตอเมริกา ประจำราชอาณาจักรไทย ทำหน้าที่วัดปรอทการเมืองไทยทุกตารางนิ้วเสียใหม่ หลังจากที่ปล่อยให้สำนักถนนวิทยุเงียบเหงามากว่า 6 เดือน จนเสียรางวัดให้เขาดมดอกไม้ แย้มยิ้ม เหมือนเย้ยใคร ประวัติเด่นของนาย Davies ที่เขาบรรยายส่งมา ผมว่ารายการแรก ต้องยกให้เรื่องน้องคิมของผม ดูเหมือนนาย Davies นี่จะเป็นคนที่เอ็นดูน้องคิม เจ้าพ่อเกาหลีเหนือเป็นพิเศษ ดูแลนโยบายเกาหลีเหนือช่วงปี 2012-2014 และเคยสรุปเสนอรัฐสภาว่า ไม่เป็นประโยชน์อันใดที่จะพูดคุยกับน้องคิมให้รู้เรื่อง ถ้าอเมริกาอยากจะหารือเรื่องเกาหลี เหนือ โน่น ไปพบผู้ปกครองน้องคิม อาเฮียแห่งแผ่นดินใหญ่ จะรู้เรื่องเร็วกว่า แสดงว่า คนวัดปรอทคนนี้ น่าจะเป็นผู้ชำนาญงาน แหม แต่เหมาเอาง่ายๆ ว่า น้องคิมเป็นเด็กในปกครองของอา เฮีย นี่ ผมก็ไม่รู้นะ ว่าน้องเขาจะชอบใจไหม น้องเขาโตแล้ว เขาตัดสินใจเองได้น่า ว่าจะส่งของขวัญให้ใคร ที่ไหน และเมื่อไหร่ ฮาอีกที ประวัติเด่นรายการที่สอง นาย Davies เคยเป็นตัวแทน ของนักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ช่วงปี 2009-2012 ใน International Atomic Energy Agency (IAEA) หรือ ไอ้เออีเอ ที่เป็นไม้เบื่อ ไม้เมาของ Saddam แห่งอืรัค คอยตามตรวจว่า ซัดดัมมีนิวเคลียร์ติดตัวไว้กี่ลูก ผลการตรวจ ไม่เจอซักลูก แต่ดันได้น้ำมันไปหลายปั้ม คนอิรัคตายไปหลายแสน ไม่มีบ้านเหลือให้ซุกหัวอีกหลายล้านคน และตอนนี้ ไอ้เอกับอีเอ ก็กำลังรีรอ ว่า จะเป็นไม้เบื่อ หรือจะไปเมา กับอิหร่านดี อีกไม่กี่เดือนก็รู้กัน แต่ประวัติเรื่องนี้จะเอามาทำอะไรที่แดนสมันน้อยได้ครับ หรือจะมาดู ว่าการยิงบ้องไฟของเรานี่ จะเข้าข่ายที่ ไอ้เอกับอีเอมันข้องใจ ประวัติเด่นรายการที่สาม คือ เป็นผู้ดูแลกิจการด้านเอเซียตะวันออก และแปซิฟิก ช่วงปี 2006-2009 แสดงว่ารู้จักผู้คนแถบนี้ดี คงไม่น่าจะใช่ประเภท กางแขนเเป็นอีแร้ง รำวงให้คนไทยดู แบบยายกุ้งแห้ง อย่านึกว่าทำแบบนั้นแล้วคนไทยจะชอบนะครับ มีแต่ไอ้พวกสอพลอที่ชื่นชม ถามลุงแก่ๆอย่างผม ผมว่าน่าทุเรศครับ คนเราน่าจะเจริญพอ ที่คิดสร้างไมตรีด้วยวิธีอื่นได้ดีกว่านี้ นึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร ก็อย่าส่งมาให้เสียรางวัดไปกว่าเดิมเลย แค่นี้ก็เขียนด่าจะไม่ทันอยู่แล้ว แต่ที่ผมสนใจประวัติ คนวัดปรอทคนนี้ คือแกเคยทำงานอยู่ในสภาความมั่นคง National Security Council ช่วงรัฐบาลคลินตัน ประธานาธิบดีขวัญใจเด็กฝึกงาน และจบปริญญาโทด้าน ยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาติ national security strategy จาก National War College และที่น่าสนใจ อีกเรื่อง คือ ข่าว ลงวันที่ 13 เมษายน 2015 ของThe Leaderboard ซึ่ง CogitAsia หน่วยงาน ของ CSIS Center for Strategic & International Studies ถังขยะความคิด ซึ่งเป็นเหมือนหน่วยราชการ ของอเมริกา ออกข่าวเกี่ยวกับการที่นายโอบามา เสนอชื่อคนวัดปรอทคนใหม่ของอเมริกา ประจำประเทศไทย โดยระบุว่า ประเทศไทย ซึ่งเคยเป็นพันธมิตร ที่แข็งแรงที่สุด ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ แต่หลังจากการปฏิวัติของไทย เมื่อปี 2014 ความสัมพันธ์ของอเมริกากับไทย ก็สั่นคลอน ในฐานะนักการทูตมืออาชีพ นาย Davies จึงเป็นที่คาดหวังว่า เขาจะใช้ความรู้เกี่ยวกับวิกฤติทางการทูต ให้เป็นประโยชน์สำหรับสถานะการณ์ทางการเมืองของที่ยังมองอะไรไม่ชัดเจน…. ทั้งหมดนี้ แปลว่าอะไรครับ แปลว่า อเมริกาปล่อยให้สมันน้อย หลุดมือไม่ได้เด็ดขาด รู้ว่า ยายกุ้งแห้งเซลฟี่ จะหมดเทอม อเมริกาก็ยังไม่หาใครมาแทน ทิ้งช่วงอยู่กว่า 6 เดือน เพื่อรอดูว่า การเมืองสมันน้อยจะไปทางไหนแน่ หลังจากมีการปฏิวัติ อเมริการอจนชัดเจนว่า สมันน้อยเริ่มมองโลกกว้าง ออกคบเพื่อนมากขึ้น รูปนายกแก้มยุ้ยของไทย จับมือ ยิ้มหวานกับอาเฮีย ก็ทำให้อเมริกาคิดหนักแล้ว แต่เมื่อนายกแก้มยุ้ย ชวนนายกหน้าเฉย จากรัสเซียดมดอกไม้นี่ อเมริกาคงตัดสินใจได้ ว่าควรจะรีบส่งคนวัดปรอท แบบผู้ชำนาญด้านยุทธศาสตร์ มาประจำการได้แล้ว แต่ถ้าอเมริกาคิดจะใช้ยุทธศาสตร์แบบเดิมๆ บีบคอสมันน้อย ให้ยืนนิ่งอยู่ในคอก แล้วสั่งซ้ายหัน ขวาหัน เหมือนอย่างเดิมน่าจะเป็นไปได้ยาก อเมริกายังยืนเซ่ออยู่กลางสี่แยกจริงๆ ยังอ่านไม่ออกว่า การเมืองของสมันน้อยหลังการปฏิวัติ และจากนี้ไป จะไปทางไหน ส่งพวกปากเสียมาเสือกหลายรอบ ต้ังแต่สมันน้อยปฏิวัติ แทนที่จะได้ผล ทำท่าจะเสียทั้งผลทั้งต้น เสียทั้งต้น นี่เรื่องใหญ่ อเมริการับไม่ได้หรอก ทางออกตอนนี้ ของนักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง จึงต้องส่งคนวัดปรอท ชนิดผู้ชำนาญการ มาทำการวัดปรอท ทุกตารางนิ้วในแดนสมันน้อยใหม่หมด และดูจากประสพการณ์ และการข่าว คนวัดปรอท คนใหม่นี้ น่าจะไม่ใช่แค่มายืนๆ เดินๆ แล้วเอาปรอทแหย่ปากสมันน้อย คนวัดปรอทอาจจะมีวิธี ทำให้ปรอทร้อน ถึงร้อนจัด หรือเย็นจัดในบางสถานที่ บางกลุ่มด้วย เราจึงต้องจับตาดูคนวัดปรอทคนใหม่นี้ให้ดี เรากำลังมุ่งหน้าที่จะออกมาจากคอก สู่การเป็นอิสระชนแล้ว ก็เดินอย่างสง่าผ่าเผย รักษาอธิปไตย และความเป็นกลางของประเทศให้ดี เมื่อรัฐบาลเลือกเดินนโยบายที่จะไม่ให้ใครมาจูงจมูก เราประชาชนก็สมควรสนับสนุน ไม่ใช่คิดแต่จะคบเพื่อน แค่คนใดคนหนึ่ง โดยเฉพาะด้วยแค่ความคุ้นเคย แถมให้มันบีบซ้ายกระตุกขวาได้อยู่เรื่อยๆ เราไม่ได้เป็นเมืองขึ้นใคร จะคบเพื่อนกี่คนก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา ขอให้เพื่อนรู้จักเคารพ และเห็นคุณค่าของความเป็นเพื่อนกัน เรื่องในบ้านเพื่อนก็ให้เกียรติกันบ้าง อย่าเสือกทุกเรื่อง ยิ่งบางเรื่อง ไม่บังควร ผ่านมา 60 ปี ยังไม่เรียนรู้ จะเป็นเพื่อนกันต่อไปทำไม อย่านึกว่าสมันน้อยโง่หมด สีที่ฟอกย้อมไว้ มันถลอกลอกไปแยะแล้ว เพราะพฤติกรรมความเสือก ความตะกระ ความกร่าง ความเจ้าเล่ห์ ของอเมริกาเองนั่นแหละ จะมาเดินวัดปรอทกันใหม่ ก็หัดเรียนรู้ใหม่ ไอ้พวกที่ชอบมาอ่านเพจผม แล้วรวนเครื่องผม อย่ารวนเปล่า นายใหม่จะมาแล้ว แปลไว้ให้อ่านเลย จะได้ประหยัดเวลามาวัดปรอทแถวนี้ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 เม.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวประชาสัมพันธ์
    เกี่ยวกับโครงการบทเพลงเทิดพระเกียรติ คีตามาลัยเทิดไท้พระพันปี
    ========================================
    .
    โครงการบทเพลงเทิดพระเกียรติ คีตามาลัยเทิดไท้พระพันปี เกิดขึ้นจากการริเริ่มของสมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมป์ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับศิลปินกลุ่มนักประพันธ์เพลงจิตอาสา และคณะบุคคลผู้มีความจงรักภักดี นำโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ศิลปินศิลปาธร สาขาดนตรีปี พ.ศ.2560 ได้ร่วมกันสร้างสรรค์และจัดทำอัลบั้มบทเพลงเทิดพระเกียรติถวายแด่พระบาทสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงขึ้น โดยมีจุดประสงค์นอกจากเพื่อเทิดพระเกียรติแล้ว ยังเป็นการนำเสนอบทเพลงที่ถ่ายทอดเรื่องราวอันซาบซึ้งประทับใจและเป็นที่จดจำของปวงชนชาวไทยเกี่ยวกับพระองค์ท่านจำนวนทั้งสิ้น ๑๐ บทเพลง ในการนี้ พงศ์พรหม หัวหน้าโครงการที่ดูแลในส่วนของการสร้างสรรค์บทเพลงได้กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของงานว่า...
    .
    "ผมจะมีความคุ้นเคยกับศิลปินนักร้องกลุ่มหนึ่งที่ถวายงานการแสดงให้สมเด็จพระพันปีฯ มานานนับสิบปี อาทิเช่น คุณอิสริยา คูประเสริฐ คุณกันยารัตน์ กุยสุวรรณ พันเอกนายแพทย์วิภู กำเหนิดดี คุณอภิภู โสรพิมาย.. เรามักสนทนากันบ่อยๆ ว่าสมเด็จพระพันปีท่านไม่มีเพลงของพระองค์ท่านให้นึกถึงได้เลย เราก็ช่วยกันคิดว่ามีเพลงอะไรบ้างนะที่เราพอจะคุ้นเคย ก็นึกไม่ออก เราก็เลยเอ่ยปากตั้งใจกันไว้ว่าสักวันเมื่อมีโอกาสอำนวยเรามาช่วยกันทำเพลงถวายพระองค์ท่านสักชุดหนึ่งดีไหม ทุกคนก็เห็นว่าดี ก็ลั่นวาจากันไว้อย่างนั้น จนกระทั่งเมื่อต้นปีที่แล้ว พ.ศ. 2565 เป็นปีที่สมเด็จพระพันปีหลวงฯ ท่านจะมีพระชนมายุครบ 90 พรรษา ผมก็คิดว่านี่แหละที่เป็นโอกาสที่ดี ก็เลยนัดมาเจอกันแล้วเริ่มงานกันตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2565 โดยตั้งใจว่าต้องทำให้เสร็จสองเพลงก่อน ให้ทันวันเฉลิมพระชนม์พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ก็มีเพลงแรกชื่อ "เพลงไหมแพรวา" คุณดลชัย บุณยะรัตเวช ขับร้อง อีกเพลงชื่อ "สุดหัวใจ" คุณกันยารัตน์ กุยสุวรรณ ขับร้อง ก็ทำกันเสร็จทันออกมาให้ได้ฟังกันในวันเฉลิมพระชนม์พรรษาปีที่แล้ว จากนั้นเราก็แต่งเพลงเพิ่ม มีนักร้องมาร่วมอีกหลายคน อาทิ คุณสุนทรี เวชานนท์ คุณปาน ธนพร แวกประยูร ม.ล.วันรัชดา วรวุฒิ กลุ่มนักร้องเยาวชนจากว๊อยซ์อคาเดมีหกคน.. ได้ทำการบันทึกเสียงมาเรื่อยๆ จนเสร็จสิ้นครบทั้ง 10 เพลงเมื่อเดือนมกราคม 2566 ต้นปีนี้เอง โดยที่ศิลปินทุกคนไม่ว่าจะขับร้องหรือเล่นดนตรี รวมทั้งนักแต่งเพลงที่มาช่วยกันทำงานทุกคน ต่างมาร่วมกันทำงานนี้ถวายด้วยจิตอาสา ไม่มีใครคิดค่าทำงานใดๆ ทั้งสิ้น"...
    .
    "แต่แน่นอนว่าการทำงานโครงการขนาดนี้ย่อมมีค่าใช้จ่าย ในขั้นแรกก็มีเพื่อนๆ ที่มีความจงรักภักดีสองสามท่านช่วยกันสนับสนุนให้งานเริ่มดำเนินไปได้ ต่อมาเนื่องจากผมเป็นนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ผมนำโครงการไปปรึกษากับเพื่อนนักเรียนเก่าราชวิทย์ด้วยกัน คือ พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส ก็เลยได้สมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มาสนับสนุนงบประมาณในขั้นตอนการบันทึกเสียง ประสานงานหาผู้สนับสนุนในส่วนของห้องบันทึกเสียง การผลิตมิวสิควิดิโอ การผลิตแพคเกจ จนกระทั่งกระบวนการสร้างสรรค์ทั้งหมดสำเร็จเสร็จสิ้น"...
    .
    "เมื่อผลงานทั้งหมดบันทึกเสียงเสร็จ ผมได้นำโครงการไปเรียนปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่อีกสองท่านว่าจะทำการเผยแพร่โครงการออกไปอย่างไรบ้าง ท่านแรกคือคุณสมยศ เกียรติอร่ามกุล ผู้บริหารท่านหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และอีกท่านคือ คุณประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมโดยทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสจะทำการผลิตสารคดีเพลงจำนวนหกเรื่อง และละครเทิดพระเกียรติอีกสามเรื่อง โดยทางกระทรวงวัฒนธรรมจะรับผิดชอบในการดูแลและเผยแพร่คอนเท้นท์ ประชาสัมพันธ์ทางภาครัฐและสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองและถวายพระพรในช่วงวโรกาสวันเฉลิมพระชนม์พรรษา 12 สิงหาคม 2566 ที่กำลังจะมาถึงนี้"
    .
    โครงการอัลบั้มบทเพลงเทิดพระเกียรตินี้ จะทำการผลิตออกมาในรูปของแพคเกจที่ประณีตสวยงามสมพระเกียรติ กล่องบรรจุใช้กระดาษรีไซเคิลของไทยและหมึกถั่วเหลืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในแพคเกจประกอบไปด้วยภาพวาดปกพระฉายาสาทิสลักษณ์โดยศิลปินทัศนศิลป์ นิติกร กรัยวิเชียร โปสการ์ดภาพวาดพระฉายาสาทิสลักษณ์ โดยศิลปินทัศนศิลป์ สุวิทย์ ใจป้อม จำนวน 10 ภาพ ภาพประกอบด้านในโดยศิลปิน ปันนรัตน์ บวรภัคพาณิช และเครดิตการ์ดยูเอสบีขนาดความจุ 16 กิกาไบ๊ต์ ท่ีบรรจุไฟล์เพลงรายละเอียดสูงทั้งสิบเพลง ทั้งแบบเพลงเต็มและแบ๊คกิ้งแทร็ค ไฟล์มิวสิควิดิโอขนาดฟูลเอชดีทั้งสิบเพลง และข้อมูลของบทเพลงในอัลบั้ม
    .
    แพคเกจอัลบั้มนี้จะไม่มีวางจำหน่าย แต่จะเผยแพร่ผ่านทางกิจกรรมที่ไม่แสวงผลกำไรทางการค้าเท่านั้น ผู้ที่สนใจทั่วไปสามารถดาวน์โหลดไฟล์บทเพลงได้ฟรีผ่านทางเฟซบุ๊คเพจของโครงการ https://www.facebook.com/songsforqueensirikit/
    (หรือตามลิ๊งค์ที่อยู่ล่างสุดในโพสนี้)
    รักพระพันปี กรุณาช่วยกันกดไล๊ค์ กดแชร์ ร่วมกันเผยแพร่
    .
    .
    ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักของโครงการที่ให้ความอนุเคราะห์จนโครงการ คีตามาลัยเทิดไท้พระพันปีนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ได้แก่..
    - สมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์
    - สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
    - กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม
    - บริษัท ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์ จำกัด
    - บริษัท IFCG จำกัด (มหาชน)
    - บริษัท พีที พลัส จำกัด
    - บริษัท ลอรีส จำกัด (ออด๊าซ)
    - บริษัท ไทย ทีเอเอ็น อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด
    .
    ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบทเพลงทั้งสิบเพลง
    ในอัลบั้มชุดนี้บทเพลงที่ประพันธขึ้นประกอบด้วยบทเพลงทั้งสิ้น ๑๐ เพลง ดังนี้
    .
    ๑. บทเพลงชื่อ "เพลงไหมแพรวา" ขับร้องโดย ดลชัย บุณยะรัตเวช ประพันธ์ทำนองและคำร้องโดย ภาณุ เทศะศิริ เรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผ้าไหมแพรวาที่สมเด็จพระพันปีทรงอุปถัมภ์จนกลายเป็นราชินีผ้าไหมไทยที่เลื่องลือทั่วโลก
    .
    ๒. บทเพลงชื่อ "สุดหัวใจ" ขับร้องโดย กันยารัตน์ กุยสุวรรณ ประพันธ์ทำนองและคำร้องโดย ศรีจิตรา นานานุกูล เรียบเรียงดนตรีโดย รัฐกรณ์ โกมล - เป็นการถ่ายทอดความรักความผูกพันที่พสกนิกรชาวไทยมีต่อสมเด็จพระพันปีผ่านมุมมองข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่
    .
    ๓. บทเพลงชื่อ "ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ" ขับร้องโดย ดลชัย บุณยะรัตเวช ประพันธ์ทำนอง-คำร้องและเรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - เป็นเรื่องของชาวนาและเกษตรแผนใหม่ตามแนวพระราชดำริและการรักษาองค์ความรู้ภูมิปัญญาประเพณีท้องถิ่น
    .
    ๔. บทเพลงชื่อ "โพธิ์ทองของปวงไทย" ขับร้องโดย ด.ญ. มนภทริตา ทองเกิด, ด.ญ. จิรัชญา ศรีนุช, ด.ญ. ธนัชญา ศรีนุช, ด.ญ. ศิตภัทร ตันติเวสส, ด.ญ. นภัสร์นันท์ วงศ์วิวัฒน์, ด.ญ. ปวริศา เติมจิตรอารีย์ ประพันธ์คำร้องโดย ชโลธร ควรหาเวช ประพันธ์ทำนองและเรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - เป็นการบรรยายพระมหากรุณาธิคุณและพระกรณีกิจมากมายที่พระพันปีทรงทุ่มเท ผ่านมุมมองเยาวชน
    .
    ๕. บทเพลงชื่อ "พ่อเป็นน้ำ แม่เป็นป่า" ขับร้องโดย หม่อมหลวงวันรัชดา วรวุฒิ และตัวแทนชาวไทยภูเขาหกเผ่า ประพันธ์ทำนองและคำร้องโดย โอฬาร เนตรหาญ เรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามแนวพระราชดำริและความผูกพันของชาวไทยภูเขากับพระพันปีหลวง
    .
    ๖. บทเพลงชื่อ "ภาพพันปี" ขับร้องโดย อิสริยา คูประเสริฐ ประพันธ์ทำนองและคำร้องโดย ธนชัย ยงพิพัฒน์วงศ์ และ ชาตรี ทับละม่อม เรียบเรียงดนตรีโดย รัฐกรณ์ โกมล - เป็นเพลงพรรณาให้เห็นความรักและความทุ่มเทของพระพันปีที่มีต่อพสกนิกร ผ่านภาพถ่ายมากมายที่ประทับอยู่ในความทรงจำของคนไทยมานานแสนนาน
    .
    ๗. บทเพลงชื่อ "คนโขน" ขับร้องโดย อภิภู โสรพิมาย ประพันธ์ทำนองและคำร้องโดย ศรีจิตรา นานานุกูล และ พงศ์พรหม สนิทวงศ์ณ อยุธยา เรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - เป็นเพลงเกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีที่มีต่อนาฏศิลป์โขนไทย
    .
    ๘. บทเพลงชื่อ "กายเราคือเสาหลัก" ขับร้องโดย พันเอกนายแพทย์วิภู กำเนิดดี ประพันธ์ทำนอง-คำร้องและเรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - เป็นเพลงเกี่ยวกับตำรวจตระเวนชายแดน ความรักที่พวกเขามีต่อชาติ ต่อสถาบัน และความห่วงใยเมตตาของพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีที่มีต่อพวกเขา
    .
    ๙. บทเพลงชื่อ "ศิลปาชีพ" ขับร้องโดย สุนทรี เวชานนท์ ประพันธ์ทำนองโดย วีระ วัฒนะจันทรกุล ประพันธ์คำร้องโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เรียบเรียงดนตรีโดย วีระ วัฒนะจันทรกุล และ ปวรินทร์ พิเกณฑ์ - ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจด้านศิลปาชีพ โดยถ่ายทอดด้วยภาษาพื้นถิ่นล้านนา
    .
    ๑๐. บทเพลงชื่อ "กางเขนแดง หัวใจขาว" ขับร้องโดย ธนพร แวกประยูร (ปาน ธนพร) ประพันธ์คำร้องโดย ชาตรี ทับละม่อม ประพันธ์ทำนองและเรียบเรียงดนตรีโดย รัฐกรณ์ โกมล - เรื่องราวเกี่ยวกับแพทย์พยาบาลที่เสียสละตนเองเพื่อสืบสานปณิธานพระพันปีที่ทรงเป็นสภานายิกาสภากาชาดไทย
    .
    ============================================
    สามารถดาวน์โหลดเพลงทั้งหมดมาฟังฟรีได้ที่
    https://soundcloud.com/pongprom.../sets/rvjqypbout7k...
    (ดาวน์โหลดอยู่ที่เครื่องหมาย ••• บนแทร็ค)
    ============================================
    ต้องการนำบทเพลงไปขับร้องหรือทำกิจกรรม ดาวน์โหลด Backingtrack ที่นี่
    https://soundcloud.com/pongprom.../sets/backingtrack...
    (ดาวน์โหลดอยู่ที่เครื่องหมาย ••• บนแทร็ค)
    -------------------------------------------------------------
    เฟซบุ๊คเพจของโครงการ https://www.facebook.com/songsforqueensirikit/
    -------------------------------------------------------------
    ข้อมูลทั้งหมดของโครงการ คีตามาลัยเทิดไท้พระพันปี สำหรับสื่อมวลชน (Press Kit)
    https://drive.google.com/.../1o0bROjNZGeM20GDkzGgiNBtVh4g...
    .
    สามารถ Streaming เพลงจากอัลบั้ม #คีตามาลัยเทิดไท้พระพันปี ที่...
    .
    Spotify
    https://open.spotify.com/album/3ctqdqlVfGywJ4vLIaE3GE
    .
    ============================================
    รักพระพันปี ร่วมกันเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
    ข่าวประชาสัมพันธ์ เกี่ยวกับโครงการบทเพลงเทิดพระเกียรติ คีตามาลัยเทิดไท้พระพันปี ======================================== . โครงการบทเพลงเทิดพระเกียรติ คีตามาลัยเทิดไท้พระพันปี เกิดขึ้นจากการริเริ่มของสมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมป์ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับศิลปินกลุ่มนักประพันธ์เพลงจิตอาสา และคณะบุคคลผู้มีความจงรักภักดี นำโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ศิลปินศิลปาธร สาขาดนตรีปี พ.ศ.2560 ได้ร่วมกันสร้างสรรค์และจัดทำอัลบั้มบทเพลงเทิดพระเกียรติถวายแด่พระบาทสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงขึ้น โดยมีจุดประสงค์นอกจากเพื่อเทิดพระเกียรติแล้ว ยังเป็นการนำเสนอบทเพลงที่ถ่ายทอดเรื่องราวอันซาบซึ้งประทับใจและเป็นที่จดจำของปวงชนชาวไทยเกี่ยวกับพระองค์ท่านจำนวนทั้งสิ้น ๑๐ บทเพลง ในการนี้ พงศ์พรหม หัวหน้าโครงการที่ดูแลในส่วนของการสร้างสรรค์บทเพลงได้กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของงานว่า... . "ผมจะมีความคุ้นเคยกับศิลปินนักร้องกลุ่มหนึ่งที่ถวายงานการแสดงให้สมเด็จพระพันปีฯ มานานนับสิบปี อาทิเช่น คุณอิสริยา คูประเสริฐ คุณกันยารัตน์ กุยสุวรรณ พันเอกนายแพทย์วิภู กำเหนิดดี คุณอภิภู โสรพิมาย.. เรามักสนทนากันบ่อยๆ ว่าสมเด็จพระพันปีท่านไม่มีเพลงของพระองค์ท่านให้นึกถึงได้เลย เราก็ช่วยกันคิดว่ามีเพลงอะไรบ้างนะที่เราพอจะคุ้นเคย ก็นึกไม่ออก เราก็เลยเอ่ยปากตั้งใจกันไว้ว่าสักวันเมื่อมีโอกาสอำนวยเรามาช่วยกันทำเพลงถวายพระองค์ท่านสักชุดหนึ่งดีไหม ทุกคนก็เห็นว่าดี ก็ลั่นวาจากันไว้อย่างนั้น จนกระทั่งเมื่อต้นปีที่แล้ว พ.ศ. 2565 เป็นปีที่สมเด็จพระพันปีหลวงฯ ท่านจะมีพระชนมายุครบ 90 พรรษา ผมก็คิดว่านี่แหละที่เป็นโอกาสที่ดี ก็เลยนัดมาเจอกันแล้วเริ่มงานกันตั้งแต่เดือนกรกฏาคม 2565 โดยตั้งใจว่าต้องทำให้เสร็จสองเพลงก่อน ให้ทันวันเฉลิมพระชนม์พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ก็มีเพลงแรกชื่อ "เพลงไหมแพรวา" คุณดลชัย บุณยะรัตเวช ขับร้อง อีกเพลงชื่อ "สุดหัวใจ" คุณกันยารัตน์ กุยสุวรรณ ขับร้อง ก็ทำกันเสร็จทันออกมาให้ได้ฟังกันในวันเฉลิมพระชนม์พรรษาปีที่แล้ว จากนั้นเราก็แต่งเพลงเพิ่ม มีนักร้องมาร่วมอีกหลายคน อาทิ คุณสุนทรี เวชานนท์ คุณปาน ธนพร แวกประยูร ม.ล.วันรัชดา วรวุฒิ กลุ่มนักร้องเยาวชนจากว๊อยซ์อคาเดมีหกคน.. ได้ทำการบันทึกเสียงมาเรื่อยๆ จนเสร็จสิ้นครบทั้ง 10 เพลงเมื่อเดือนมกราคม 2566 ต้นปีนี้เอง โดยที่ศิลปินทุกคนไม่ว่าจะขับร้องหรือเล่นดนตรี รวมทั้งนักแต่งเพลงที่มาช่วยกันทำงานทุกคน ต่างมาร่วมกันทำงานนี้ถวายด้วยจิตอาสา ไม่มีใครคิดค่าทำงานใดๆ ทั้งสิ้น"... . "แต่แน่นอนว่าการทำงานโครงการขนาดนี้ย่อมมีค่าใช้จ่าย ในขั้นแรกก็มีเพื่อนๆ ที่มีความจงรักภักดีสองสามท่านช่วยกันสนับสนุนให้งานเริ่มดำเนินไปได้ ต่อมาเนื่องจากผมเป็นนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ผมนำโครงการไปปรึกษากับเพื่อนนักเรียนเก่าราชวิทย์ด้วยกัน คือ พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส ก็เลยได้สมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มาสนับสนุนงบประมาณในขั้นตอนการบันทึกเสียง ประสานงานหาผู้สนับสนุนในส่วนของห้องบันทึกเสียง การผลิตมิวสิควิดิโอ การผลิตแพคเกจ จนกระทั่งกระบวนการสร้างสรรค์ทั้งหมดสำเร็จเสร็จสิ้น"... . "เมื่อผลงานทั้งหมดบันทึกเสียงเสร็จ ผมได้นำโครงการไปเรียนปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่อีกสองท่านว่าจะทำการเผยแพร่โครงการออกไปอย่างไรบ้าง ท่านแรกคือคุณสมยศ เกียรติอร่ามกุล ผู้บริหารท่านหนึ่งของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส และอีกท่านคือ คุณประสพ เรียงเงิน ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมโดยทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสจะทำการผลิตสารคดีเพลงจำนวนหกเรื่อง และละครเทิดพระเกียรติอีกสามเรื่อง โดยทางกระทรวงวัฒนธรรมจะรับผิดชอบในการดูแลและเผยแพร่คอนเท้นท์ ประชาสัมพันธ์ทางภาครัฐและสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันเฉลิมฉลองและถวายพระพรในช่วงวโรกาสวันเฉลิมพระชนม์พรรษา 12 สิงหาคม 2566 ที่กำลังจะมาถึงนี้" . โครงการอัลบั้มบทเพลงเทิดพระเกียรตินี้ จะทำการผลิตออกมาในรูปของแพคเกจที่ประณีตสวยงามสมพระเกียรติ กล่องบรรจุใช้กระดาษรีไซเคิลของไทยและหมึกถั่วเหลืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในแพคเกจประกอบไปด้วยภาพวาดปกพระฉายาสาทิสลักษณ์โดยศิลปินทัศนศิลป์ นิติกร กรัยวิเชียร โปสการ์ดภาพวาดพระฉายาสาทิสลักษณ์ โดยศิลปินทัศนศิลป์ สุวิทย์ ใจป้อม จำนวน 10 ภาพ ภาพประกอบด้านในโดยศิลปิน ปันนรัตน์ บวรภัคพาณิช และเครดิตการ์ดยูเอสบีขนาดความจุ 16 กิกาไบ๊ต์ ท่ีบรรจุไฟล์เพลงรายละเอียดสูงทั้งสิบเพลง ทั้งแบบเพลงเต็มและแบ๊คกิ้งแทร็ค ไฟล์มิวสิควิดิโอขนาดฟูลเอชดีทั้งสิบเพลง และข้อมูลของบทเพลงในอัลบั้ม . แพคเกจอัลบั้มนี้จะไม่มีวางจำหน่าย แต่จะเผยแพร่ผ่านทางกิจกรรมที่ไม่แสวงผลกำไรทางการค้าเท่านั้น ผู้ที่สนใจทั่วไปสามารถดาวน์โหลดไฟล์บทเพลงได้ฟรีผ่านทางเฟซบุ๊คเพจของโครงการ https://www.facebook.com/songsforqueensirikit/ (หรือตามลิ๊งค์ที่อยู่ล่างสุดในโพสนี้) รักพระพันปี กรุณาช่วยกันกดไล๊ค์ กดแชร์ ร่วมกันเผยแพร่ . . ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลักของโครงการที่ให้ความอนุเคราะห์จนโครงการ คีตามาลัยเทิดไท้พระพันปีนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ได้แก่.. - สมาคมนักเรียนเก่า ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ - สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส - กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม - บริษัท ธนัทเฮิร์บ พาณิชย์ จำกัด - บริษัท IFCG จำกัด (มหาชน) - บริษัท พีที พลัส จำกัด - บริษัท ลอรีส จำกัด (ออด๊าซ) - บริษัท ไทย ทีเอเอ็น อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด . ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบทเพลงทั้งสิบเพลง ในอัลบั้มชุดนี้บทเพลงที่ประพันธขึ้นประกอบด้วยบทเพลงทั้งสิ้น ๑๐ เพลง ดังนี้ . ๑. บทเพลงชื่อ "เพลงไหมแพรวา" ขับร้องโดย ดลชัย บุณยะรัตเวช ประพันธ์ทำนองและคำร้องโดย ภาณุ เทศะศิริ เรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผ้าไหมแพรวาที่สมเด็จพระพันปีทรงอุปถัมภ์จนกลายเป็นราชินีผ้าไหมไทยที่เลื่องลือทั่วโลก . ๒. บทเพลงชื่อ "สุดหัวใจ" ขับร้องโดย กันยารัตน์ กุยสุวรรณ ประพันธ์ทำนองและคำร้องโดย ศรีจิตรา นานานุกูล เรียบเรียงดนตรีโดย รัฐกรณ์ โกมล - เป็นการถ่ายทอดความรักความผูกพันที่พสกนิกรชาวไทยมีต่อสมเด็จพระพันปีผ่านมุมมองข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ . ๓. บทเพลงชื่อ "ปลูกวันแม่ เกี่ยววันพ่อ" ขับร้องโดย ดลชัย บุณยะรัตเวช ประพันธ์ทำนอง-คำร้องและเรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - เป็นเรื่องของชาวนาและเกษตรแผนใหม่ตามแนวพระราชดำริและการรักษาองค์ความรู้ภูมิปัญญาประเพณีท้องถิ่น . ๔. บทเพลงชื่อ "โพธิ์ทองของปวงไทย" ขับร้องโดย ด.ญ. มนภทริตา ทองเกิด, ด.ญ. จิรัชญา ศรีนุช, ด.ญ. ธนัชญา ศรีนุช, ด.ญ. ศิตภัทร ตันติเวสส, ด.ญ. นภัสร์นันท์ วงศ์วิวัฒน์, ด.ญ. ปวริศา เติมจิตรอารีย์ ประพันธ์คำร้องโดย ชโลธร ควรหาเวช ประพันธ์ทำนองและเรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - เป็นการบรรยายพระมหากรุณาธิคุณและพระกรณีกิจมากมายที่พระพันปีทรงทุ่มเท ผ่านมุมมองเยาวชน . ๕. บทเพลงชื่อ "พ่อเป็นน้ำ แม่เป็นป่า" ขับร้องโดย หม่อมหลวงวันรัชดา วรวุฒิ และตัวแทนชาวไทยภูเขาหกเผ่า ประพันธ์ทำนองและคำร้องโดย โอฬาร เนตรหาญ เรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามแนวพระราชดำริและความผูกพันของชาวไทยภูเขากับพระพันปีหลวง . ๖. บทเพลงชื่อ "ภาพพันปี" ขับร้องโดย อิสริยา คูประเสริฐ ประพันธ์ทำนองและคำร้องโดย ธนชัย ยงพิพัฒน์วงศ์ และ ชาตรี ทับละม่อม เรียบเรียงดนตรีโดย รัฐกรณ์ โกมล - เป็นเพลงพรรณาให้เห็นความรักและความทุ่มเทของพระพันปีที่มีต่อพสกนิกร ผ่านภาพถ่ายมากมายที่ประทับอยู่ในความทรงจำของคนไทยมานานแสนนาน . ๗. บทเพลงชื่อ "คนโขน" ขับร้องโดย อภิภู โสรพิมาย ประพันธ์ทำนองและคำร้องโดย ศรีจิตรา นานานุกูล และ พงศ์พรหม สนิทวงศ์ณ อยุธยา เรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - เป็นเพลงเกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีที่มีต่อนาฏศิลป์โขนไทย . ๘. บทเพลงชื่อ "กายเราคือเสาหลัก" ขับร้องโดย พันเอกนายแพทย์วิภู กำเนิดดี ประพันธ์ทำนอง-คำร้องและเรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - เป็นเพลงเกี่ยวกับตำรวจตระเวนชายแดน ความรักที่พวกเขามีต่อชาติ ต่อสถาบัน และความห่วงใยเมตตาของพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีที่มีต่อพวกเขา . ๙. บทเพลงชื่อ "ศิลปาชีพ" ขับร้องโดย สุนทรี เวชานนท์ ประพันธ์ทำนองโดย วีระ วัฒนะจันทรกุล ประพันธ์คำร้องโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เรียบเรียงดนตรีโดย วีระ วัฒนะจันทรกุล และ ปวรินทร์ พิเกณฑ์ - ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจด้านศิลปาชีพ โดยถ่ายทอดด้วยภาษาพื้นถิ่นล้านนา . ๑๐. บทเพลงชื่อ "กางเขนแดง หัวใจขาว" ขับร้องโดย ธนพร แวกประยูร (ปาน ธนพร) ประพันธ์คำร้องโดย ชาตรี ทับละม่อม ประพันธ์ทำนองและเรียบเรียงดนตรีโดย รัฐกรณ์ โกมล - เรื่องราวเกี่ยวกับแพทย์พยาบาลที่เสียสละตนเองเพื่อสืบสานปณิธานพระพันปีที่ทรงเป็นสภานายิกาสภากาชาดไทย . ============================================ สามารถดาวน์โหลดเพลงทั้งหมดมาฟังฟรีได้ที่ https://soundcloud.com/pongprom.../sets/rvjqypbout7k... (ดาวน์โหลดอยู่ที่เครื่องหมาย ••• บนแทร็ค) ============================================ ต้องการนำบทเพลงไปขับร้องหรือทำกิจกรรม ดาวน์โหลด Backingtrack ที่นี่ https://soundcloud.com/pongprom.../sets/backingtrack... (ดาวน์โหลดอยู่ที่เครื่องหมาย ••• บนแทร็ค) ------------------------------------------------------------- เฟซบุ๊คเพจของโครงการ https://www.facebook.com/songsforqueensirikit/ ------------------------------------------------------------- ข้อมูลทั้งหมดของโครงการ คีตามาลัยเทิดไท้พระพันปี สำหรับสื่อมวลชน (Press Kit) https://drive.google.com/.../1o0bROjNZGeM20GDkzGgiNBtVh4g... . สามารถ Streaming เพลงจากอัลบั้ม #คีตามาลัยเทิดไท้พระพันปี ที่... . Spotify https://open.spotify.com/album/3ctqdqlVfGywJ4vLIaE3GE . ============================================ รักพระพันปี ร่วมกันเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยถึงการกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 26 และการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ประเทศไทยยืนยันให้ความร่วมมือแก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ สแกมเมอร์ โดยไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเพื่อหาพลังของภูมิภาคในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้เป็นรูปธรรมและจริงจัง เป็นการร่วมมือระดับนานาชาติ โดยพูดคุยกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ถึงวิธีการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแล้ว

    -ประชาชนควรได้รู้
    -ยังไม่เปิดจุดผ่านแดน
    -MOU 43 เสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญ
    -ตลาดใหม่หนุนส่งออก
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยถึงการกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 26 และการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ประเทศไทยยืนยันให้ความร่วมมือแก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ สแกมเมอร์ โดยไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเพื่อหาพลังของภูมิภาคในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้เป็นรูปธรรมและจริงจัง เป็นการร่วมมือระดับนานาชาติ โดยพูดคุยกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ถึงวิธีการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแล้ว -ประชาชนควรได้รู้ -ยังไม่เปิดจุดผ่านแดน -MOU 43 เสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญ -ตลาดใหม่หนุนส่งออก
    Like
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • จีนเร่งผลิต “เรดาร์ควอนตัม” – เทคโนโลยีใหม่ที่อาจลบล้างยุคเครื่องบินล่องหน

    เรดาร์แบบเดิมใช้คลื่นวิทยุสะท้อนจากวัตถุเพื่อวัดตำแหน่งและความเร็ว แต่เครื่องบินล่องหนอย่าง F-22 Raptor ถูกออกแบบมาเพื่อลดการสะท้อนคลื่น ทำให้เรดาร์ทั่วไปตรวจจับได้ยาก

    จีนจึงหันมาใช้ “เรดาร์ควอนตัม” ที่อาศัยหลักการพัวพันควอนตัม (quantum entanglement) โดยสร้างคู่โฟตอนที่ฝังข้อมูลร่วมกันไว้ โฟตอนหนึ่งถูกส่งออกไป ส่วนอีกตัวเก็บไว้ในหน่วยความจำควอนตัม หากโฟตอนที่สะท้อนกลับมาตรงกับตัวที่เก็บไว้ แสดงว่ามีวัตถุอยู่ตรงนั้นแน่นอน

    ปัญหาคือการสร้างโฟตอนพัวพันที่เดินทางไกลยังทำได้ยาก และการเก็บรักษาความพัวพันต้องใช้สภาพแวดล้อมที่เย็นจัดใกล้ศูนย์องศาสัมบูรณ์ ซึ่งยังไม่เหมาะกับการใช้งานภาคสนาม

    อย่างไรก็ตาม จีนได้เริ่มผลิต “เครื่องจับโฟตอน” ที่สามารถตรวจจับโฟตอนเดียวในทะเลของสัญญาณรบกวนได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเรดาร์ควอนตัม โดยเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาโดยศูนย์วิจัยในมณฑลอานฮุย และเริ่มผลิตในเดือนตุลาคม 2025

    แม้ยังไม่มีระบบเรดาร์ควอนตัมที่ใช้งานได้จริง แต่ความก้าวหน้าของจีนทำให้ประเทศตะวันตกเริ่มวิตก เพราะหากเทคโนโลยีนี้สำเร็จ อาจทำให้เครื่องบินล่องหนของสหรัฐฯ และพันธมิตรหมดความได้เปรียบในสนามรบ

    วิธีการทำงานของเรดาร์ควอนตัมโดยใช้ Quantum Entanglement
    ยิงโฟตอนที่พัวพันกันออกไป
    ระบบจะสร้างโฟตอนเป็นคู่:
      • ตัวหนึ่งเรียกว่า signal photon ถูกยิงออกไปในอากาศ
      • อีกตัวเรียกว่า idler photon ถูกเก็บไว้ในระบบเรดาร์

    ถ้า signal photon สะท้อนกลับจากวัตถุ (เช่น เครื่องบินล่องหน)
    ระบบจะตรวจสอบว่าโฟตอนที่กลับมามี “ลายเซ็นควอนตัม” ตรงกับ idler photon หรือไม่
    ถ้าตรงกัน แสดงว่าโฟตอนนั้นสะท้อนจากวัตถุจริง ไม่ใช่สัญญาณรบกวน

    ผลลัพธ์คือสามารถระบุตำแหน่งของเครื่องบินล่องหนได้
    แม้เครื่องบินจะสะท้อนคลื่นน้อยมาก แต่โฟตอนที่พัวพันกันจะยังคงมีความสัมพันธ์เฉพาะ
    ทำให้เรดาร์สามารถ “รู้” ได้ว่าโฟตอนที่กลับมาเป็นของตัวเอง ไม่ใช่สัญญาณสุ่ม

    สรุปเนื้อหาจากข่าวและสาระเพิ่มเติม
    ความก้าวหน้าของจีน
    เริ่มผลิตเครื่องจับโฟตอนในเดือนตุลาคม 2025
    พัฒนาโดยศูนย์วิจัยในมณฑลอานฮุย
    เครื่องจับโฟตอนสามารถแยกโฟตอนเดียวจากสัญญาณรบกวนได้

    ความท้าทายทางเทคนิค
    โฟตอนพัวพันที่เดินทางไกลยังสร้างได้ยาก
    ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิใกล้ศูนย์องศาสัมบูรณ์
    ยังไม่มีระบบที่ใช้งานได้จริงในสนามรบ

    https://www.slashgear.com/2003308/china-building-world-first-quantum-radar-track-stealth-fighter-jets/
    🛰️ จีนเร่งผลิต “เรดาร์ควอนตัม” – เทคโนโลยีใหม่ที่อาจลบล้างยุคเครื่องบินล่องหน เรดาร์แบบเดิมใช้คลื่นวิทยุสะท้อนจากวัตถุเพื่อวัดตำแหน่งและความเร็ว แต่เครื่องบินล่องหนอย่าง F-22 Raptor ถูกออกแบบมาเพื่อลดการสะท้อนคลื่น ทำให้เรดาร์ทั่วไปตรวจจับได้ยาก จีนจึงหันมาใช้ “เรดาร์ควอนตัม” ที่อาศัยหลักการพัวพันควอนตัม (quantum entanglement) โดยสร้างคู่โฟตอนที่ฝังข้อมูลร่วมกันไว้ โฟตอนหนึ่งถูกส่งออกไป ส่วนอีกตัวเก็บไว้ในหน่วยความจำควอนตัม หากโฟตอนที่สะท้อนกลับมาตรงกับตัวที่เก็บไว้ แสดงว่ามีวัตถุอยู่ตรงนั้นแน่นอน ปัญหาคือการสร้างโฟตอนพัวพันที่เดินทางไกลยังทำได้ยาก และการเก็บรักษาความพัวพันต้องใช้สภาพแวดล้อมที่เย็นจัดใกล้ศูนย์องศาสัมบูรณ์ ซึ่งยังไม่เหมาะกับการใช้งานภาคสนาม อย่างไรก็ตาม จีนได้เริ่มผลิต “เครื่องจับโฟตอน” ที่สามารถตรวจจับโฟตอนเดียวในทะเลของสัญญาณรบกวนได้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเรดาร์ควอนตัม โดยเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาโดยศูนย์วิจัยในมณฑลอานฮุย และเริ่มผลิตในเดือนตุลาคม 2025 แม้ยังไม่มีระบบเรดาร์ควอนตัมที่ใช้งานได้จริง แต่ความก้าวหน้าของจีนทำให้ประเทศตะวันตกเริ่มวิตก เพราะหากเทคโนโลยีนี้สำเร็จ อาจทำให้เครื่องบินล่องหนของสหรัฐฯ และพันธมิตรหมดความได้เปรียบในสนามรบ 🧠 วิธีการทำงานของเรดาร์ควอนตัมโดยใช้ Quantum Entanglement ✅ ยิงโฟตอนที่พัวพันกันออกไป ➡️ ระบบจะสร้างโฟตอนเป็นคู่:   • ตัวหนึ่งเรียกว่า signal photon ถูกยิงออกไปในอากาศ   • อีกตัวเรียกว่า idler photon ถูกเก็บไว้ในระบบเรดาร์ ✅ ถ้า signal photon สะท้อนกลับจากวัตถุ (เช่น เครื่องบินล่องหน) ➡️ ระบบจะตรวจสอบว่าโฟตอนที่กลับมามี “ลายเซ็นควอนตัม” ตรงกับ idler photon หรือไม่ ➡️ ถ้าตรงกัน แสดงว่าโฟตอนนั้นสะท้อนจากวัตถุจริง ไม่ใช่สัญญาณรบกวน ✅ ผลลัพธ์คือสามารถระบุตำแหน่งของเครื่องบินล่องหนได้ ➡️ แม้เครื่องบินจะสะท้อนคลื่นน้อยมาก แต่โฟตอนที่พัวพันกันจะยังคงมีความสัมพันธ์เฉพาะ ➡️ ทำให้เรดาร์สามารถ “รู้” ได้ว่าโฟตอนที่กลับมาเป็นของตัวเอง ไม่ใช่สัญญาณสุ่ม 📌 สรุปเนื้อหาจากข่าวและสาระเพิ่มเติม ✅ ความก้าวหน้าของจีน ➡️ เริ่มผลิตเครื่องจับโฟตอนในเดือนตุลาคม 2025 ➡️ พัฒนาโดยศูนย์วิจัยในมณฑลอานฮุย ➡️ เครื่องจับโฟตอนสามารถแยกโฟตอนเดียวจากสัญญาณรบกวนได้ ✅ ความท้าทายทางเทคนิค ➡️ โฟตอนพัวพันที่เดินทางไกลยังสร้างได้ยาก ➡️ ต้องเก็บรักษาในอุณหภูมิใกล้ศูนย์องศาสัมบูรณ์ ➡️ ยังไม่มีระบบที่ใช้งานได้จริงในสนามรบ https://www.slashgear.com/2003308/china-building-world-first-quantum-radar-track-stealth-fighter-jets/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    China Is Attempting To Mass Produce 'World-First' Quantum Radars For This One Purpose - SlashGear
    China has managed to produce a key component of quantum radar, meaning the US's stealth fleet could be rendered virtually obsolete overnight.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แคลิฟอร์เนียผ่านฤดูร้อนปี 2025 โดยไม่ต้องออกคำเตือน Flex Alert – สัญญาณดีจากพลังงานสะอาดและระบบจัดการใหม่”

    ฤดูร้อนในแคลิฟอร์เนียมักเป็นช่วงเวลาที่ระบบไฟฟ้าต้องเผชิญกับความท้าทายจากอุณหภูมิสูงและการใช้พลังงานที่พุ่งขึ้น แต่ในปี 2025 รัฐสามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้โดยไม่ต้องออกคำเตือน “Flex Alert” เลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการบริหารจัดการพลังงาน

    Flex Alert คือคำเตือนที่ออกโดย California ISO เพื่อขอให้ประชาชนลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาวิกฤต เช่น ปิดเครื่องปรับอากาศหรือเลื่อนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อหลีกเลี่ยงการดับไฟแบบหมุนเวียน (rolling blackout)

    ปีนี้ แคลิฟอร์เนียสามารถหลีกเลี่ยง Flex Alert ได้ด้วยการลงทุนในระบบกักเก็บพลังงาน (battery storage) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์และลม ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ตอบสนองความต้องการได้ดีขึ้น

    ความสำเร็จในการจัดการพลังงานปี 2025
    ไม่มีการออก Flex Alert ตลอดฤดูร้อน
    ระบบไฟฟ้ารับมือกับความต้องการสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ปัจจัยที่ช่วยให้หลีกเลี่ยงวิกฤต
    การลงทุนใน battery storage เพิ่มขึ้น
    การใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น solar และ wind
    การปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้มีความยืดหยุ่น

    ความหมายเชิงนโยบาย
    แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดสามารถทำได้จริง
    ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลในช่วงวิกฤต

    คำเตือนสำหรับอนาคต
    แม้ปีนี้จะไม่มี Flex Alert แต่สภาพอากาศสุดขั้วอาจกลับมาอีก
    ต้องลงทุนต่อเนื่องในระบบกักเก็บพลังงานและโครงข่ายไฟฟ้า
    การบริหารความต้องการพลังงานยังต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน

    https://www.latimes.com/environment/story/2025-10-17/california-made-it-through-another-summer-without-a-flex-alert
    📰 “แคลิฟอร์เนียผ่านฤดูร้อนปี 2025 โดยไม่ต้องออกคำเตือน Flex Alert – สัญญาณดีจากพลังงานสะอาดและระบบจัดการใหม่” ฤดูร้อนในแคลิฟอร์เนียมักเป็นช่วงเวลาที่ระบบไฟฟ้าต้องเผชิญกับความท้าทายจากอุณหภูมิสูงและการใช้พลังงานที่พุ่งขึ้น แต่ในปี 2025 รัฐสามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้โดยไม่ต้องออกคำเตือน “Flex Alert” เลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการบริหารจัดการพลังงาน Flex Alert คือคำเตือนที่ออกโดย California ISO เพื่อขอให้ประชาชนลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาวิกฤต เช่น ปิดเครื่องปรับอากาศหรือเลื่อนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อหลีกเลี่ยงการดับไฟแบบหมุนเวียน (rolling blackout) ปีนี้ แคลิฟอร์เนียสามารถหลีกเลี่ยง Flex Alert ได้ด้วยการลงทุนในระบบกักเก็บพลังงาน (battery storage) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์และลม ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ตอบสนองความต้องการได้ดีขึ้น ✅ ความสำเร็จในการจัดการพลังงานปี 2025 ➡️ ไม่มีการออก Flex Alert ตลอดฤดูร้อน ➡️ ระบบไฟฟ้ารับมือกับความต้องการสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ปัจจัยที่ช่วยให้หลีกเลี่ยงวิกฤต ➡️ การลงทุนใน battery storage เพิ่มขึ้น ➡️ การใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น solar และ wind ➡️ การปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้มีความยืดหยุ่น ✅ ความหมายเชิงนโยบาย ➡️ แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดสามารถทำได้จริง ➡️ ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลในช่วงวิกฤต ‼️ คำเตือนสำหรับอนาคต ⛔ แม้ปีนี้จะไม่มี Flex Alert แต่สภาพอากาศสุดขั้วอาจกลับมาอีก ⛔ ต้องลงทุนต่อเนื่องในระบบกักเก็บพลังงานและโครงข่ายไฟฟ้า ⛔ การบริหารความต้องการพลังงานยังต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน https://www.latimes.com/environment/story/2025-10-17/california-made-it-through-another-summer-without-a-flex-alert
    WWW.LATIMES.COM
    California invests big in battery energy storage — and leaves rolling blackouts behind
    Batteries that pair with clean solar and wind energy or just bolster electrical grids in general have completely taken off and are making a big difference on the California grid.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ ลงนามข้อตกลงการค้าและแร่ธาตุสำคัญกับ 4 ชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในวันอาทิตย์ (26) ในความพยายามท่ีจะแก้ปัญหาความไม่สมดุลทางการค้าและกระจายห่วงโซ่อุปทานท่ามกลางการควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายากที่เข้มงวดขึ้นของจีน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102309

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สหรัฐฯ ลงนามข้อตกลงการค้าและแร่ธาตุสำคัญกับ 4 ชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในวันอาทิตย์ (26) ในความพยายามท่ีจะแก้ปัญหาความไม่สมดุลทางการค้าและกระจายห่วงโซ่อุปทานท่ามกลางการควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายากที่เข้มงวดขึ้นของจีน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000102309 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีคนสรุป ที่สุดของในหลวง ร.9.ไว้ดีมาก

    พระมหากษัตริย์รูปงามที่สุด
    เป็นนักเรียนนอก
    พูดได้หลายภาษา
    เป็นสุภาพบุรุษ
    แต่งกายดีที่สุด
    กิริยามารยาทดีเยี่ยม
    มีอารมณ์ขัน
    โรแมนติคมาก
    รักเดียวใจเดียว
    รักการศึกษา
    รักภาษาไทย
    รักสัตว์
    รักชาติที่สุด
    รักประชาชนที่สุด
    มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่สุด
    บำเพ็ญทานยิ่งกว่าผู้ใดทั้งสิ้น
    เป็นผู้มีศีลมั่นคง
    มีสมาธิในการทำงานอย่างยิ่ง
    รู้ธรรมลึกซึ้งที่สุด
    มีความเมตตาที่สุด
    มีความกรุณาที่สุด
    มีความเสียสละที่สุด
    มีความเพียรที่สุด
    มีความอดทนที่สุด
    มีความกตัญญูที่สุด
    มีสติปัญญาลึกซึ้งที่สุด
    มีความรู้มากที่สุด
    ฉลาดที่สุด
    เป็นนักปราชญ์
    เป็นครู
    เป็นศิลปิน
    เป็นจิตรกร
    เป็นนักเขียน
    เป็นนักแปล
    เป็นนักประดิษฐ์
    เป็นนักพัฒนา
    เป็นนักสำรวจ
    เป็นนักเดินทาง
    เป็นนักกีฬา
    เก่งวิทยาศาสตร์
    เก่งวิศวะ
    เก่งเทคโนโลยี่
    เก่งสื่อสาร
    เก่งอักษรศาสตร์
    เก่งเศรษฐศาสตร์
    เก่งภูมิศาสตร์
    เก่งกฎหมาย
    เก่งการทหาร
    เก่งเกษตร
    เก่งเรื่องป่า
    เก่งเรื่องดินที่สุด
    เก่งเรื่องน้ำที่สุด
    เก่งเรื่องฝนที่สุด
    เก่งถ่ายรูปที่สุด
    เก่งดนตรีที่สุด

    เป็นมหาราชานักรบที่เก่ง และเหนื่อยที่สุดในโลก เอาชนะความยากจนให้กับประขาชนชาวไทย ทั้งประเทศ

    ทำประโยชน์ให้ประเทศไทยมากที่สุด

    #สรุปแล้ว...พระองค์ ทรงมีพระอัจฉริยภาพรอบรู้ในทุกๆเรื่อง ทุกๆด้าน...ที่มนุษย์บนโลกใบนี้ ทำได้...ตั้งแต่ น้ำ จรดพื้นดิน ขึ้นบนแผ่นฟ้า และลงมายังใต้พื้นดิน ใต้มหาสมุทรเพราะ พระองค์ท่าน ทรงเป็น พระบรมมหาโพธิสัตว์เจ้า...ทรงบำเพ็ญพระมหาปรมัตถบารมี...เพื่อที่จะทรง ตรัสรู้ อนุตร เอนกสัมโพธิญาณ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอนาคตกาลเบื้องหน้า
    มีคนสรุป ที่สุดของในหลวง ร.9.ไว้ดีมาก พระมหากษัตริย์รูปงามที่สุด เป็นนักเรียนนอก พูดได้หลายภาษา เป็นสุภาพบุรุษ แต่งกายดีที่สุด กิริยามารยาทดีเยี่ยม มีอารมณ์ขัน โรแมนติคมาก รักเดียวใจเดียว รักการศึกษา รักภาษาไทย รักสัตว์ รักชาติที่สุด รักประชาชนที่สุด มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่สุด บำเพ็ญทานยิ่งกว่าผู้ใดทั้งสิ้น เป็นผู้มีศีลมั่นคง มีสมาธิในการทำงานอย่างยิ่ง รู้ธรรมลึกซึ้งที่สุด มีความเมตตาที่สุด มีความกรุณาที่สุด มีความเสียสละที่สุด มีความเพียรที่สุด มีความอดทนที่สุด มีความกตัญญูที่สุด มีสติปัญญาลึกซึ้งที่สุด มีความรู้มากที่สุด ฉลาดที่สุด เป็นนักปราชญ์ เป็นครู เป็นศิลปิน เป็นจิตรกร เป็นนักเขียน เป็นนักแปล เป็นนักประดิษฐ์ เป็นนักพัฒนา เป็นนักสำรวจ เป็นนักเดินทาง เป็นนักกีฬา เก่งวิทยาศาสตร์ เก่งวิศวะ เก่งเทคโนโลยี่ เก่งสื่อสาร เก่งอักษรศาสตร์ เก่งเศรษฐศาสตร์ เก่งภูมิศาสตร์ เก่งกฎหมาย เก่งการทหาร เก่งเกษตร เก่งเรื่องป่า เก่งเรื่องดินที่สุด เก่งเรื่องน้ำที่สุด เก่งเรื่องฝนที่สุด เก่งถ่ายรูปที่สุด เก่งดนตรีที่สุด เป็นมหาราชานักรบที่เก่ง และเหนื่อยที่สุดในโลก เอาชนะความยากจนให้กับประขาชนชาวไทย ทั้งประเทศ ทำประโยชน์ให้ประเทศไทยมากที่สุด #สรุปแล้ว...พระองค์ ทรงมีพระอัจฉริยภาพรอบรู้ในทุกๆเรื่อง ทุกๆด้าน...ที่มนุษย์บนโลกใบนี้ ทำได้...ตั้งแต่ น้ำ จรดพื้นดิน ขึ้นบนแผ่นฟ้า และลงมายังใต้พื้นดิน ใต้มหาสมุทร😍😍😍เพราะ พระองค์ท่าน ทรงเป็น พระบรมมหาโพธิสัตว์เจ้า...ทรงบำเพ็ญพระมหาปรมัตถบารมี...เพื่อที่จะทรง ตรัสรู้ อนุตร เอนกสัมโพธิญาณ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอนาคตกาลเบื้องหน้า😇😇
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย

    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2568 เวลา 21.21 น. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการสงบ หลังทรงพระประชวรจากภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิต สิริพระชนมพรรษาปีที่ 93 นำมาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจของพสกนิกรชาวไทย เปรียบดังสูญเสียแม่ของแผ่นดิน ด้วยทรงประกอบพระราชกรณียกิจตลอดพระชนม์ชีพ เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ให้พสกนิกรชาวไทยอยู่ดีกินดี บ้านเมืองสงบร่มเย็นด้วยพระบารมีตลอดมา

    เมื่อเวลา 16.26 น. วันที่ 26 ต.ค. 2568 ขบวนรถเชิญพระบรมศพ ออกจากอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ไปยังพระที่นั่งพิมานรัตยา พระบรมมหาราชวัง โดยมีพสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศ แต่งกายไว้ทุกข์สีดำ เดินทางมาร่วมส่งเสด็จตลอดทางเป็นจำนวนมาก สำนักพระราชวัง อนุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.

    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชสมภพเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ส.ค. 2475 เป็นพระธิดาองค์ใหญ่ของพลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ กับหม่อมหลวงบัว กิติยากร ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจน้อยใหญ่ ทั้งการเชิดชูศิลปวัฒนธรรมไทย มีพระราชดำริในการออกแบบเครื่องแต่งกายชุดไทยประจำชาติที่เรียกว่า "ชุดไทยพระราชนิยม" การส่งเสริมศิลปาชีพ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต อาชีพ และความเป็นอยู่ พร้อมกับอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปะพื้นบ้าน เช่น การปั้น การทอ และการจักสาน ให้เป็นที่ประจักษ์ รวมทั้งการอนุรักษ์โขน ศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย

    ขณะเดียวกัน ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจด้านการส่งเสริมอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยเฉพาะโครงการป่ารักน้ำ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริฯ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและการบุกรุกป่า นอกจากนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างห้องสมุดอเนกประสงค์ "ศาลารวมใจ" การจัดหน่วยแพทย์พระราชทาน การรับคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ การรับนักเรียนในพระบรมราชานุเคราะห์ การก่อตั้งมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้การสงเคราะห์แก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครผู้บาดเจ็บหรือพิการ และการรับกิจการลูกเสือชาวบ้านไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เป็นต้น

    ด้วยพระราชินีคู่บุญบารมีในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนนานัปการ จึงเป็นที่รักยิ่งแก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์

    #Newskit
    พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2568 เวลา 21.21 น. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ด้วยพระอาการสงบ หลังทรงพระประชวรจากภาวะติดเชื้อในกระแสพระโลหิต สิริพระชนมพรรษาปีที่ 93 นำมาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจของพสกนิกรชาวไทย เปรียบดังสูญเสียแม่ของแผ่นดิน ด้วยทรงประกอบพระราชกรณียกิจตลอดพระชนม์ชีพ เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ให้พสกนิกรชาวไทยอยู่ดีกินดี บ้านเมืองสงบร่มเย็นด้วยพระบารมีตลอดมา เมื่อเวลา 16.26 น. วันที่ 26 ต.ค. 2568 ขบวนรถเชิญพระบรมศพ ออกจากอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ไปยังพระที่นั่งพิมานรัตยา พระบรมมหาราชวัง โดยมีพสกนิกรทุกหมู่เหล่าจากทั่วสารทิศ แต่งกายไว้ทุกข์สีดำ เดินทางมาร่วมส่งเสด็จตลอดทางเป็นจำนวนมาก สำนักพระราชวัง อนุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม พระบรมมหาราชวัง ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชสมภพเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ส.ค. 2475 เป็นพระธิดาองค์ใหญ่ของพลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ กับหม่อมหลวงบัว กิติยากร ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจน้อยใหญ่ ทั้งการเชิดชูศิลปวัฒนธรรมไทย มีพระราชดำริในการออกแบบเครื่องแต่งกายชุดไทยประจำชาติที่เรียกว่า "ชุดไทยพระราชนิยม" การส่งเสริมศิลปาชีพ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต อาชีพ และความเป็นอยู่ พร้อมกับอนุรักษ์และส่งเสริมงานศิลปะพื้นบ้าน เช่น การปั้น การทอ และการจักสาน ให้เป็นที่ประจักษ์ รวมทั้งการอนุรักษ์โขน ศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย ขณะเดียวกัน ทรงปฏิบัติพระราชกรณีกิจด้านการส่งเสริมอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยเฉพาะโครงการป่ารักน้ำ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ตามพระราชดำริฯ เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและการบุกรุกป่า นอกจากนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างห้องสมุดอเนกประสงค์ "ศาลารวมใจ" การจัดหน่วยแพทย์พระราชทาน การรับคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ การรับนักเรียนในพระบรมราชานุเคราะห์ การก่อตั้งมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้การสงเคราะห์แก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครผู้บาดเจ็บหรือพิการ และการรับกิจการลูกเสือชาวบ้านไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เป็นต้น ด้วยพระราชินีคู่บุญบารมีในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนนานัปการ จึงเป็นที่รักยิ่งแก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิจนิรันดร์ #Newskit
    Love
    1
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นหน้าซีด เจ้าหน้าที่รีบสอพลอว่า ใช่แล้วพณะท่าน เขากำลังยั่วยุเรา เพราะเขารู้ว่าท่านจะมา เออ เอ็งไม่เห็นหน้าพณะท่านหรือไง ถึงได้สอพลอแบบนี้

    หมากที่ทั้ง 2 ฝ่ายเขาเดินกันในแถบแปซิฟิก รอบนี้ น่าจะแปลว่า เขตร้อนระอุ จะไม่ได้เกิดขึ้นที่ตะวันออกกลางอย่างเดียว แปซิฟิกก็มีสิทธิเหมือนกัน อาจจะไม่มาในรูปแบบเดียวกับที่ตะวันออกกลาง ที่เป้าหมายคือต้องการแต่ปั้ม ไม่ต้องการคน แต่ที่แปซิฟิก เป้าหมายของอเมริกา คือ ต้องการใช้ลูกกะเป๋งทั้งหลาย เป็นกันชน คือ ทั้งกัน และชนกับจีน พี่เบิ้มใหญ่ตัวจริง ของแปซิฟิก

    ยุทธศาสตร์กันชน เล่นได้หลายรูปแบบ มีทั้ง ลูกสั้น ลูกยาว ใช้เวลาสั้น หรือลากกันยืดเยื้อ

    เขียนเหมือนเรื่องสนุก แต่จริงๆ มันไม่สนุกนะครับ ถ้าเขาจะใช้ยุทธศาสตร์กันชนกัน นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ไม่มีทางปล่อยสมันน้อย ให้หลุดมือเด็ดขาด คงจำได้นะครับ ผมเคยอธิบายถึง เส้นทาง และภูมิศาสตร์แถบนี้ ไว้ในนิทานเรื่องยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก จนถึง เรื่องกบกระโดดมาแล้วว่า นักล่าคิดจะทำอะไร และในแผนต่างๆของนักล่า สมันน้อยมีความหมาย ความสำคัญอย่างไร

    เมื่อสมันน้อยเล่นเชิญเพื่อนใหม่ สัมพันธ์เก่า 120 ปี มาดมดอกไม้ด้วยกันแบบนี้ นักล่าจะปล่อยไปได้ยังไง มันทั้งเสียหน้า เสียเงิน และที่สำคัญ เสียแผน ทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง

    ถ้าเอาสมันน้อยกลับมาอยู่ในอุ้งมืออย่างเดิมไม่ได้ หวังว่านักล่าปีกเหี่ยวคงไม่ใช้มาตรการกระทืบสมันน้อยให้ตายคาตีน
    ถ้านักล่าเลือกอย่างหลัง นักล่าจะต้องเอาพม่า คว้าคอคุณน้าอองซาน ให้อยู่มือเสียก่อน มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คงไม่เกินความสามารถของนักล่า อันที่จริงคุณน้าแกก็ชอบอยู่ในมือฝรั่งอยู่แล้ว ก็ของมันคุ้นกัน แต่พวกพี่หม่องทหารสินะ ที่ยังไม่อยู่มือทั้งหมด เขาว่าบางพวกก็ยังนึกถึงพวกอาเฮีย ที่มาช่วยยามยากเอาไว้ คราวนี้จะถีบอาเฮียทิ้งหรือ ข่าวว่าเป็นไปได้ ไอ้พวกนักล่า มันมีวิธีล๊อกคอพวกพี่หม่องเขา ไว้ นึกไม่ถึงว่า พี่หม่องทหาร จะมีจุดโหว่ขนาดนั้น คงต้องขอยืม ความเห็นของ อาจารย์ฐิตินันท์ มาใช้กรณีนี้บ้าง ว่า การไปซบฝ่ายตะวันตก ที่พี่หม่องไม่รู้จักใจจริงของเขา มันอาจจะได้ผลแค่ระยะสั้น...เช่นกัน…ดูกันไปนะครับ

    ถ้าเป็นอย่างนั้น พณะหน้าเซียว รัฐมนตรีกลาโหม ของนักล่า คงต้องรีบจัดทริป 2 เดินสายมาพม่า เร็วๆนี้ และถ้ามาพม่า และไม่แวะไทย สมันน้อยก็จะได้รู้ใจเพื่อนเก่า พอที่จะตัดสินใจได้เด็ดขาดเสียที และต้ังกระบวนท่ารับให้ดี แต่มันคงยังไม่ทำอะไรชัดเจนโฉ่งฉ่างอย่างนั้น คงจะแวะมาเยี่ยมสมันน้อยด้วย คราวนี้แหละ นับเป็นโอกาสอันดีของสมันน้อย ที่จะเล่นบทถ่วงดุลอำนาจระหว่างประเทศ อย่างฉลาด กล้าหาญ และจริงจัง

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    12 เมย. 2558
    เป็นหน้าซีด เจ้าหน้าที่รีบสอพลอว่า ใช่แล้วพณะท่าน เขากำลังยั่วยุเรา เพราะเขารู้ว่าท่านจะมา เออ เอ็งไม่เห็นหน้าพณะท่านหรือไง ถึงได้สอพลอแบบนี้ หมากที่ทั้ง 2 ฝ่ายเขาเดินกันในแถบแปซิฟิก รอบนี้ น่าจะแปลว่า เขตร้อนระอุ จะไม่ได้เกิดขึ้นที่ตะวันออกกลางอย่างเดียว แปซิฟิกก็มีสิทธิเหมือนกัน อาจจะไม่มาในรูปแบบเดียวกับที่ตะวันออกกลาง ที่เป้าหมายคือต้องการแต่ปั้ม ไม่ต้องการคน แต่ที่แปซิฟิก เป้าหมายของอเมริกา คือ ต้องการใช้ลูกกะเป๋งทั้งหลาย เป็นกันชน คือ ทั้งกัน และชนกับจีน พี่เบิ้มใหญ่ตัวจริง ของแปซิฟิก ยุทธศาสตร์กันชน เล่นได้หลายรูปแบบ มีทั้ง ลูกสั้น ลูกยาว ใช้เวลาสั้น หรือลากกันยืดเยื้อ เขียนเหมือนเรื่องสนุก แต่จริงๆ มันไม่สนุกนะครับ ถ้าเขาจะใช้ยุทธศาสตร์กันชนกัน นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ไม่มีทางปล่อยสมันน้อย ให้หลุดมือเด็ดขาด คงจำได้นะครับ ผมเคยอธิบายถึง เส้นทาง และภูมิศาสตร์แถบนี้ ไว้ในนิทานเรื่องยุทธศาสตร์สร้อยไข่มุก จนถึง เรื่องกบกระโดดมาแล้วว่า นักล่าคิดจะทำอะไร และในแผนต่างๆของนักล่า สมันน้อยมีความหมาย ความสำคัญอย่างไร เมื่อสมันน้อยเล่นเชิญเพื่อนใหม่ สัมพันธ์เก่า 120 ปี มาดมดอกไม้ด้วยกันแบบนี้ นักล่าจะปล่อยไปได้ยังไง มันทั้งเสียหน้า เสียเงิน และที่สำคัญ เสียแผน ทางยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง ถ้าเอาสมันน้อยกลับมาอยู่ในอุ้งมืออย่างเดิมไม่ได้ หวังว่านักล่าปีกเหี่ยวคงไม่ใช้มาตรการกระทืบสมันน้อยให้ตายคาตีน ถ้านักล่าเลือกอย่างหลัง นักล่าจะต้องเอาพม่า คว้าคอคุณน้าอองซาน ให้อยู่มือเสียก่อน มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คงไม่เกินความสามารถของนักล่า อันที่จริงคุณน้าแกก็ชอบอยู่ในมือฝรั่งอยู่แล้ว ก็ของมันคุ้นกัน แต่พวกพี่หม่องทหารสินะ ที่ยังไม่อยู่มือทั้งหมด เขาว่าบางพวกก็ยังนึกถึงพวกอาเฮีย ที่มาช่วยยามยากเอาไว้ คราวนี้จะถีบอาเฮียทิ้งหรือ ข่าวว่าเป็นไปได้ ไอ้พวกนักล่า มันมีวิธีล๊อกคอพวกพี่หม่องเขา ไว้ นึกไม่ถึงว่า พี่หม่องทหาร จะมีจุดโหว่ขนาดนั้น คงต้องขอยืม ความเห็นของ อาจารย์ฐิตินันท์ มาใช้กรณีนี้บ้าง ว่า การไปซบฝ่ายตะวันตก ที่พี่หม่องไม่รู้จักใจจริงของเขา มันอาจจะได้ผลแค่ระยะสั้น...เช่นกัน…ดูกันไปนะครับ ถ้าเป็นอย่างนั้น พณะหน้าเซียว รัฐมนตรีกลาโหม ของนักล่า คงต้องรีบจัดทริป 2 เดินสายมาพม่า เร็วๆนี้ และถ้ามาพม่า และไม่แวะไทย สมันน้อยก็จะได้รู้ใจเพื่อนเก่า พอที่จะตัดสินใจได้เด็ดขาดเสียที และต้ังกระบวนท่ารับให้ดี แต่มันคงยังไม่ทำอะไรชัดเจนโฉ่งฉ่างอย่างนั้น คงจะแวะมาเยี่ยมสมันน้อยด้วย คราวนี้แหละ นับเป็นโอกาสอันดีของสมันน้อย ที่จะเล่นบทถ่วงดุลอำนาจระหว่างประเทศ อย่างฉลาด กล้าหาญ และจริงจัง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 12 เมย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง ฉากใหม่
    “ฉากใหม่”

    (1)

    เมื่อต้นอาทิตย์ (7,8 เม.ย) เราได้เห็นรูปถ่าย และข่าว ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงฉากการเมืองระหว่างประเทศของไทยที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

    เป็นรูปของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย กำลังยิ้ม อย่างที่เขาเรียกว่า ไม่ใช่ยิ้มแค่ปาก กับ นาย Dmitry Medvedev นายกรัฐมนตรีของรัสเซีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนหน้าเฉย ตานิ่ง แต่คราวนี้ คุณหน้าเฉย ยิ้มออก คงเป็นยิ้ม ที่นานๆ จะหลุดมาให้เห็น จึงเป็นรูปที่น่าจะสร้างอารมณ์หลากหลายแก่ผู้ที่เห็น

    ผู้นำของรัสเซีย มาเป็นแขกของรัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรก หลังจากทิ้งช่วงห่างนานถึง 25 ปี หลังสงครามเย็น ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซียอย่างเป็นทางการ ก็เย็นตามอุณหภูมิ ที่กลุ่มผู้นำโลกฝั่งตะวันตกต้ังไว้ให้ สมันน้อยว่าง่าย เชื่อฟังลูกพี่ใหญ่เสมอ ไม่เคยคัดค้าน ขัดขืน หรือเปลี่ยนแปลง ปรอทแสดงอุณหภูมิความสัมพันธ์กับรัสเซีย ที่อเมริกาเป็นผู้มาติดต้ังและกำกับไว้ จึงเย็นยะเยือกค้างเป็นทางการ อยู่อย่างนั้น

    มาถึงเดือนเมษายน ปีนี้ ขณะที่บ้านเรากำลังอยู่กลางฤดูร้อน อุณหภูมิความร้อนของเดือนเมษายน ในไทย ร้อนแรงจนแสบตัว และอาจจะแสบไปทั้งหลัง และหัวใจของใครหลายคน แต่ระหว่างไทยรัสเซีย อุณหภูมิความสัมพันธ์ กลับเริ่มอุ่นกำลังดี ความเย็นชาค่อยๆจางออกไป การเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิระดับนี้ น่าจะเป็นข่าวใหญ่ไม่น้อย เพราะมันเกิดขึ้นนอกเหนือคำสั่งของลูกพี่ใหญ่ ปรอทจำกัดอุณภูมิ ที่ตั้งไว้ ใช้การไม่ได้เสียแล้ว แต่จะถาวร หรือชั่วคราว คงต้องติดตามดูกันต่อไป

    น่าสนใจ ที่สำนักข่าวใหญ่ๆ เกือบทั้งหมด หลีกเลี่ยงที่จะให้ความสนใจ ให้ราคากับข่าวปรอทเสียนี้ แม้ว่ามันอาจมีผลกระทบไม่น้อย กับการเมืองในภูมิภาคนี้ และอาจจะกระทบไปถึงการเมืองระดับโลกด้วย

    นายกรัฐมนตรีรัสเซีย บอกว่า ประเทศไทย เป็นเพื่อนเก่าแก่ที่สุดของรัส เซียในเอเซียแปซิฟิก อีก 2 ปี เราจะได้ฉลองครบ 120 ปี ของความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแล้วนะ เราทั้ง 2 ประเทศ มาถึงตรงนี้ เพราะเรามีความเข้าใจในวัฒนธรรม ความเป็นเพื่อน และมีความเคารพให้แก่กัน คุณนายกหน้าเฉยเข้าใจพูด

    นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนคำสนทนาฉันท์มิตร ที่มีมารยาทแล้ว ไทยกับรัสเซีย ยังลงนามในบันทึกความเข้าใจ เกี่ยวกับการร่วมมือ ด้านการค้า การพลังงาน การลงทุน การท่องเที่ยว วัฒนธรรม และกฏหมาย อีกด้วย

    จากการสัมภาษณ์ คุณหน้าเฉย นาย Dmitry Medvedev นายกรัฐมนตรีรัสเซีย โดยนายสุทธิชัย หยุ่น สื่อใหญ่ ซึ่งบอกว่า ไทยนับว่ารัสเซียเป็นเพื่อนแท้ เมื่อเทียบกับสัมพันธ์ระหว่างไทย กับเพื่อนตะวันตก ที่ตอนนี้กำลังออกรสเปรี้ยว หลังจากที่มีการปฏิวัติ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร คุณหน้าเฉยตอบว่า เราให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในไทยนะ แต่เราให้ความสนใจอย่างเคารพ we do it with respect … เราแสดงออกอย่างผู้ที่เจริญแล้ว ….ประเทศที่เป็นเอกราช ก็ต้องแก้ปัญหาภายในประเทศของตน ด้วยตนเอง

    อืม คุณหน้าเฉย นี่แกแสนสุภาพ แต่ คำที่พูดลอยฝากไปถึงใครนี่ เจ็บไม่เบา
    ส่วนนาย ฐิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อ ยู เอส เอ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการมาของนายกรัฐมนตรีรัสเซียว่า เป็นการมาช่วยรักษาหน้าให้กับ พลเอก ประยุทธ ได้ไม่น้อย แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้น เนื่องจากไทยกำลังปกครองโดยรัฐบาลทหาร ที่มาจากการปฏิวัติ และรัสเซียก็เป็นตัวแทนของขั้วอำนาจคนละฝั่ง กับพวกตะวันตก ที่กำลังไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ นายฐิตินันท์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ (การเข้าไปซบจีน กับรัสเซีย) ได้ผลแค่ระยะสั้น ในการคานการแสดงออกของฝั่งตะวันตก แต่มันอาจจะมีผลกระทบในระยะใกลได้ ในฐานะเป็นมิตรเก่าแก่ที่สุดของอเมริกาในภูมิภาคนี้ เครื่องถ่ายเอกสาร ยังทำงานได้ดี สมยี่ห้อ

    สำหรับคนทั่วไปบ้านเรา อาจมีบางคน มองด้วยความหงุดหงิดว่า ลุงตู่กำลังทำอะไร เราจะเปลี่ยนไปคบกับรัสเซีย ไม่เอาอเมริกาเพื่อนเก่าแก่แล้วหรือ ลุงตู่ทำได้ไง ไว้ใจได้ที่ไหน รัสเซียน่ะมาเฟียโหดทั้งนั้นนะ ไปดูแถวพัทยา ภูเก็ต สิ เห็นแล้วสยอง จนขนลุกไปหมด

    แต่บางคนก็อาจถูกใจ บอก เออ หัดคบเพื่อนใหม่เสียบ้าง มัวแต่เชื่อไอ้ก๊วนปีกเหี่ยวใบตองแห้งอยู่ได้ ถูกมันต้มเปื่อยมา 60 กว่าปีแล้ว น่าจะเปลี่ยนนโยบายมานานแล้ว เผื่อเพื่อนเก่าจะได้รู้จักปรับปรุงตัว

    และก็อาจมีพวกที่ยังหลงยุค ตกข่าว มองด้วยความไม่สบอารมณ์ นี่เราไปคบกับรัสเซียได้ไง เขาเป็นคอมมูนิสต์นะ เดี๋ยวพวกอยากเปลี่ยนการปกครองไม่เอาสถาบัน ก็ตีปีกดีใจ นึกว่ามีพวกมาสนับสนุน แถมรัฐบาลยังไปต้อนรับยิ้มหวานกับเขาเสียอีก

    แต่ก็ยังคงมีอีกหลายคน ที่ไม่สนใจ ไม่รับรู้ว่า ลุงตู่กับคุณหน้าเฉย เขากำลังทำอะไรกัน ดี หรือไม่ดี กับประเทศของตัวอย่างไร เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่แต่กับเรื่องส่วนตัว หรือมัวแต่สนใจว่านางเอกสาวคนนั้น ตกลงเธอมีกิ๊กอยู่เมืองนอก หรือเมืองไทยกันแน่… เหล่านี้ เป็นเรื่องธรรมดาของ ผู้คนในแดนสมันน้อย

    และที่เราน่าจะสนใจกันบ้าง เพราะมันย่อมมีผลกระทบถึงบ้านเรา แน่นอน คือปฏิกิริยา ของเพื่อนเก่า นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ที่น่าจะกำลังเครียดจัด เพราะว่า เหยื่อ ที่อยู่ในกำมือมานาน และมีเค้าว่าจะต้องรับใช้งานสำคัญ อาจกำลังจะหลุดมือไป ข่าวลือว่า นักล่า ถึงกับส่งทีมมาหาข่าวหลายทีม หลายวงการ ยิ่งแถวโรงแรมใหญ่กลางเมือง ที่อยู่ใกล้ๆกัน 2 โรง ทีมหาข่าวแทบจะเดินชนกันตาย เดินแถวนั้น มันจะได้ข่าวอะไร แถวนั้นมันมีแต่ก๊อสสิบโฮโส ข่าวที่ได้มันถึงได้หยำเฟอะ เลอะเทอะ พาเอานักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ได้ข่าวไขว้เขวไปหมด

    (2)

    มีอีกาคาบข่าว ไปบอกนักล่าใบตองแห้งมาพักใหญ่แล้วว่า สมันน้อยอาจไม่คิดอยู่ใต้ปีกเหี่ยวๆของนักล่าใบตองแห้ง แบบเป็นสมาชิกตลอดชีพอีกแล้ว สมันน้อยกำลังมองหาเพื่อนคนอื่นในป่าอันกว้างใหญ่นี้เหมือนกัน

    มันเป็นไปได้ยังไง นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ไม่เชื่อข่าวอีกา ก็เราครอบสมันน้อยจนอยู่หมัด ประกบทุกพรรค ทุกพวก ทุกกลุ่ม ทุกกระทรวง ทุกกองทัพ ไม่มีหลุด แล้วมันจะหลุดมือ ไปได้ยังไง (โว้ย) นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้งปลอบใจตัวเอง ว่ามันคงเป็นแค่ข่าวลือ

    แต่พอรูปยิ้มหวาน ระหว่างคุณแก้มยุ้ย กับคุณหน้าเฉย ออกกระจายเต็มหน้าสื่อ เขาว่าวันนั้น อุณหภูมิแถวถนนวิทยุ ขึ้นสูงกว่าเขตอื่น ขนาดเอาน้ำใส่แก้ววางหน้าสถานทูต ไม่ต้องเสียเวลาต้ม แล้วนี่เราจะรายงานไปทางวอชิงตันว่าไง เราไปหาใคร ทุกคนก็บอกว่า เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เรารักกัน เราไม่ทิ้งกัน แล้วรูปแบบนี้มันออกมาได้ไง

    มันเป็นการบังเอิญหรือไร เราเพิ่งบีบสมันน้อยจนเกือบจะ เละคามือ ให้เลิกกฏอัยการศึก สมันน้อยทำหน้าใสซื่อ บอกจะพิจารณาด่วน แล้วก็ยกเลิกจริง แต่ดันออก ม 44 ซึ่งร้อน และแรงกว่า กฏอัยการศึกอีก สมันน้อยไม่รู้เรื่อง หรือสมันน้อยย้อนเกล็ดเรา แล้วยังเอาไอ้หน้าเฉย มาบอกว่า เราเคารพการแก้ปัญหาภายในบ้านของผู้อื่น นี่มันเลิกกฏไม่ถึง 10 วัน มันเชิญคนมาแดกเราได้ มันเตี้ยมกันใช่ไหม
    ประมาณ 15 ปี ที่ผ่านมา นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง แม้จะซื้อไพ่ไว้ทุกใบตามสันดาน แต่เพราะเลือกใช้นโยบาย ยุให้แยก แยงจนแตก แล้วเข้าครอง นักล่าจึงให้ราคาไพ่บางใบ เกินราคาอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะดันไปประเมินว่า เป็นไพ่ที่จะทำให้ แดนสมันน้อยแตก และนักล่า จะได้เข้าครอบครองแดนสมันน้อยอ ย่างเบ็ดเสร็จ (เสียที) แต่ นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง คำนวณพลาด นอกจากให้ราคาเกิน จนขาดทุนย่อยยับแล้ว การพยายามเอาทุนคืนของนักล่าใบตองแห้ง ด้วยการเข้ามาเสือก มาวุ่นวายในบ้านเมืองของสมันน้อย อย่างไม่เห็นแก่หน้า และศักดิ์ศรีของเจ้าของบ้าน ยิ่งทำให้แผนเขมือบเมืองของนักล่า ทำท่าว่า จะไปไม่รอด

    ผ่านไปหลายวัน จนถึงวันนี้ ยังไม่มีข่าวว่า นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง จะแก้เกม ที่เสียแต้มอย่างหมดรูปคราวนี้อย่างไร รัสเซียมาเร็ว ด่า(ฝาก)เร็ว กลับเร็ว สมันน้อยซึ่งเคยอ้อยสร้อย คราวนี้กลับยกฉาก มาเปลี่ยนอย่างฉับไวเช่นเดียวกัน นานๆ จะทำให้นักล่า มึนรับประทานถึงกับยังไปไม่เป็น ยืนเซ่อ อยู่กลางสี่แยก

    แม้นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง จะยังยืนคาสี่แยก ยังไม่รู้จะหยิบบทไหนมาเล่นต่อ แต่ไม่ต้องห่วง นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง มีเครื่องถ่ายเอกสารให้ใช้แยะ ให้มันออกมาเสี้ยมขัดตาทัพไปก่อน

    ลองอ่านการสัมภาษณ์ของ Deutsche Welle (DW) เมื่อวันที่ 8 เมษายน ออกมาเร็วทันใจ โดยผู้ตอบคือ นาย Zachary Abuza นักค้นคว้าอิสระ และเป็นนักเขียน เรื่องการก่อความไม่สงบทางภาคใต้ของไทย “The Insurgency in Southern Thailand” ซึ่งจัดพิมพ์โดย United States Institute of Peace

    นาย Abuza บอกว่า ขณะที่ หลายประเทศทางตะวันตก กระอักกระอ่วนใจอย่างยิ่ง ที่จะทำธุรกิจกับรัฐบาลทหารของไทย รัฐบาลไทย ก็เลยต้องเบนเข็มไปทางรัสเซียและจีน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศก็ฉวยโอกาสนี้ หาประโยชน์ให้ตัวเสียด้วย

    เขาว่า การมาของรัสเซีย ไม่มีอะไรทางเนื้อหาสาระหรอก มันเป็นเชิงสัญลักษญ์เสียมากกว่า กรุงเทพฯ กำลังส่งสัญญานไปทางวอชิงตัน ซึ่งเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญา
    ( treaty ally) ว่าตนเองก็มีทางเลือกนะ เท่านั้นเอง นอกจากนี้ สัมพันธ์ระหว่างฝ่ายทหารของไทยกับจีนที่กำลังงอกงาม เพราะไทยกำลังจะซื้ออาวุธจากจีน และจีน ก็กำลังจีบไทยเพื่อจะเข้ามาใช้ฐานทัพที่สัตตหีบ (อู่ตะเภา) ของไทย โดยจีนจะเป็นผู้ออกเงินปรับปรุงฐานทัพให้

    นาย Abuza สาธยายต่อไปว่า เศรษฐกิจไทยก็กำลังแย่ เพราะนักลงทุนจากตะวันตก และญี่ปุ่น ต่างเปลี่ยนทิศ มุ่งหน้า ไปเวียตนาม ฟิลิปปีนส์ และอินโดนีเซียแทน
    ส่วนเป้าหมายของรัสเซีย ก็คือต้องการส่งสัญญานไปถึงวอชิงตันว่า อำนาจของรัสเซีย ก็มีไปทั่วโลก แม้แต่ในภูมิภาค ที่อเมริกาคิดว่ามีแต่เพื่อนของตน และขณะที่สัมพันธ์ของอเมริกา/เวียตนาม กำลังดีวันดีคืน รัสเซียก็จะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ด้วยค่าใช้จ่ายที่รัสเซียให้กับเวียตนาม มันก็เช่นเดียวกัน เหมือนกับที่รัสเซียกำลังสนุกสนาน กับการอ้าแขนรับของไทย ซึ่งเป็นมิตรกับอเมริกามายาวนาน ด้วยค่าใช้จ่ายของอเมริกา

    เป็นไงครับ บททวงบุญุคุญรายการนี้ไม่เบาเลย พูดซะผมเกือบเคลิ้ม ถ้าไม่พล่ามจนมั่วเรื่องนักลงทุนหนีไทย ไปใช้ฟิลิปปินส์ ผมคงเชื่อหมดจนตกเก้าอี้ สร้างโรงงานสู้ใต้ฝุ่น สนุก ฉ.ห. เลย อย่าลืมเอาอุปกรณ์ช่วยชีวิตแจกคนงานไว้ล่วงหน้าด้วยแล้วกัน

    (3)

    น่าสนใจ การเดินหมากของฝ่ายอเมริกา กับ จีน/รัส เซีย ในภูมิภาคแปซิฟิก อเมริกาประกาศว่า เราเป็นเจ้าแห่ง แปซิฟิก และจะเป็นอยู่ตลอดไป เราไม่เคยหายไปไหน ขนาดไม่หายไปไหน แต่เพียงแค่อาทิตย์เดียวที่ผ่านมา เจ้าแห่งแปซิฟิก ดูเหมือนจะถูกอีกฝ่ายเดินเกม ลูบคมเสียหน้าม้าน เสียไปหลายหมาก ยังแก้ไม่ได้ จากนี้ไป ไม่รู้ว่าแปซิฟิกจะร้อนตามตะวันออกกลางหรือไม่

    ก่อนมาเมืองไทย คุณหน้าเฉยแวะไปเยี่ยมเวียตนามก่อน ไปจับมือเวียตนาม ที่เขาลือว่าเลือกซบปีกเหี่ยวๆของนักล่าใบตองแห้งเรียบร้อย แล้ว ข่าวว่าคุณหน้าเฉย ทำหน้าเฉยถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ตกลงฐานทัพที่ Cam Rahn Bay น่ะ จะให้อเมริกามาใช้ หรือ จะให้รัสเซียใช้ เวียตนามบอกว่า ไม่น่าต้องถาม ใครถล่มเราจนราบไปทั้งเมือง และใครช่วยเรา เราแยกแยะได้ยามจำเป็น และยามจำเป็นน่าจะใกล้มาถึงแล้ว ประโยคหลังนี่ ผมเดาเอาจากสีหน้า ของพณะนายกรัฐมนตรีเวียตนาม ที่ยากจะบรรยาย

    และวันเดียวกันกับที่ คุณหน้าเฉยเดินทางออกจากเวียตนาม มาเมืองไทย คุณหน้าเซียว นายAsh Carter รัฐมนตรีกลาโหม คนใหม่ของอเมริกา เพิ่งแกะออกจากกล่องหมาดๆ ก็มีรายการเดินสายเข้ามาเยี่ยมแปซิฟิก คร้ังแรกในฐานะพณะท่านเหมือนกัน พณะหน้าเซียว แวะเยี่ยมลูกเลี้ยงทั้ง 2 แห่ง วันอังคารที่ 7 เมษา เยี่ยมญี่ปุ่น วันพฤหัสที่ 9 เมษา เยี่ยมเกาหลีใต้

    ก่อนมาถึงเกาหลีใต้ พณะหน้าเซียว ได้รับการต้อนรับอย่างน่าประทับใจ น้องคิมของผมส่งของขวัญไปให้ จากเกาหลีเหนือ เป็นการทดลองยิงจรวดระยะใกล้ ข้ามมาลงกลางทะเลใกล้เกาหลีใต้ วันอังคาร น้องคิมส่งให้ 2 ลูก น้องคิมไม่แน่ใจ เกรงว่าของขวัญจะน้อยไป วันศุกร์เลยเพิ่มจำนวน ส่งไป 4 ลูก เล่นเอา พณะรัฐมนตรีเพิ่งออกจากกล่อง ถึงกับรำพึงว่า ถ้าไอ้ที่เขายิงทดลองมานี่ เป็นการต้อนรับผม ผมก็เป็นปลื้มนะ ปลื้มจนหน้าเซียวเพิ่มระดับ
    เรื่อง ฉากใหม่ “ฉากใหม่” (1) เมื่อต้นอาทิตย์ (7,8 เม.ย) เราได้เห็นรูปถ่าย และข่าว ที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงฉากการเมืองระหว่างประเทศของไทยที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เป็นรูปของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย กำลังยิ้ม อย่างที่เขาเรียกว่า ไม่ใช่ยิ้มแค่ปาก กับ นาย Dmitry Medvedev นายกรัฐมนตรีของรัสเซีย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคนหน้าเฉย ตานิ่ง แต่คราวนี้ คุณหน้าเฉย ยิ้มออก คงเป็นยิ้ม ที่นานๆ จะหลุดมาให้เห็น จึงเป็นรูปที่น่าจะสร้างอารมณ์หลากหลายแก่ผู้ที่เห็น ผู้นำของรัสเซีย มาเป็นแขกของรัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรก หลังจากทิ้งช่วงห่างนานถึง 25 ปี หลังสงครามเย็น ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซียอย่างเป็นทางการ ก็เย็นตามอุณหภูมิ ที่กลุ่มผู้นำโลกฝั่งตะวันตกต้ังไว้ให้ สมันน้อยว่าง่าย เชื่อฟังลูกพี่ใหญ่เสมอ ไม่เคยคัดค้าน ขัดขืน หรือเปลี่ยนแปลง ปรอทแสดงอุณหภูมิความสัมพันธ์กับรัสเซีย ที่อเมริกาเป็นผู้มาติดต้ังและกำกับไว้ จึงเย็นยะเยือกค้างเป็นทางการ อยู่อย่างนั้น มาถึงเดือนเมษายน ปีนี้ ขณะที่บ้านเรากำลังอยู่กลางฤดูร้อน อุณหภูมิความร้อนของเดือนเมษายน ในไทย ร้อนแรงจนแสบตัว และอาจจะแสบไปทั้งหลัง และหัวใจของใครหลายคน แต่ระหว่างไทยรัสเซีย อุณหภูมิความสัมพันธ์ กลับเริ่มอุ่นกำลังดี ความเย็นชาค่อยๆจางออกไป การเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิระดับนี้ น่าจะเป็นข่าวใหญ่ไม่น้อย เพราะมันเกิดขึ้นนอกเหนือคำสั่งของลูกพี่ใหญ่ ปรอทจำกัดอุณภูมิ ที่ตั้งไว้ ใช้การไม่ได้เสียแล้ว แต่จะถาวร หรือชั่วคราว คงต้องติดตามดูกันต่อไป น่าสนใจ ที่สำนักข่าวใหญ่ๆ เกือบทั้งหมด หลีกเลี่ยงที่จะให้ความสนใจ ให้ราคากับข่าวปรอทเสียนี้ แม้ว่ามันอาจมีผลกระทบไม่น้อย กับการเมืองในภูมิภาคนี้ และอาจจะกระทบไปถึงการเมืองระดับโลกด้วย นายกรัฐมนตรีรัสเซีย บอกว่า ประเทศไทย เป็นเพื่อนเก่าแก่ที่สุดของรัส เซียในเอเซียแปซิฟิก อีก 2 ปี เราจะได้ฉลองครบ 120 ปี ของความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแล้วนะ เราทั้ง 2 ประเทศ มาถึงตรงนี้ เพราะเรามีความเข้าใจในวัฒนธรรม ความเป็นเพื่อน และมีความเคารพให้แก่กัน คุณนายกหน้าเฉยเข้าใจพูด นอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนคำสนทนาฉันท์มิตร ที่มีมารยาทแล้ว ไทยกับรัสเซีย ยังลงนามในบันทึกความเข้าใจ เกี่ยวกับการร่วมมือ ด้านการค้า การพลังงาน การลงทุน การท่องเที่ยว วัฒนธรรม และกฏหมาย อีกด้วย จากการสัมภาษณ์ คุณหน้าเฉย นาย Dmitry Medvedev นายกรัฐมนตรีรัสเซีย โดยนายสุทธิชัย หยุ่น สื่อใหญ่ ซึ่งบอกว่า ไทยนับว่ารัสเซียเป็นเพื่อนแท้ เมื่อเทียบกับสัมพันธ์ระหว่างไทย กับเพื่อนตะวันตก ที่ตอนนี้กำลังออกรสเปรี้ยว หลังจากที่มีการปฏิวัติ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร คุณหน้าเฉยตอบว่า เราให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในไทยนะ แต่เราให้ความสนใจอย่างเคารพ we do it with respect … เราแสดงออกอย่างผู้ที่เจริญแล้ว ….ประเทศที่เป็นเอกราช ก็ต้องแก้ปัญหาภายในประเทศของตน ด้วยตนเอง อืม คุณหน้าเฉย นี่แกแสนสุภาพ แต่ คำที่พูดลอยฝากไปถึงใครนี่ เจ็บไม่เบา ส่วนนาย ฐิตินันท์ พงศ์สุทธิรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ เครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อ ยู เอส เอ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการมาของนายกรัฐมนตรีรัสเซียว่า เป็นการมาช่วยรักษาหน้าให้กับ พลเอก ประยุทธ ได้ไม่น้อย แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้น เนื่องจากไทยกำลังปกครองโดยรัฐบาลทหาร ที่มาจากการปฏิวัติ และรัสเซียก็เป็นตัวแทนของขั้วอำนาจคนละฝั่ง กับพวกตะวันตก ที่กำลังไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ นายฐิตินันท์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ (การเข้าไปซบจีน กับรัสเซีย) ได้ผลแค่ระยะสั้น ในการคานการแสดงออกของฝั่งตะวันตก แต่มันอาจจะมีผลกระทบในระยะใกลได้ ในฐานะเป็นมิตรเก่าแก่ที่สุดของอเมริกาในภูมิภาคนี้ เครื่องถ่ายเอกสาร ยังทำงานได้ดี สมยี่ห้อ สำหรับคนทั่วไปบ้านเรา อาจมีบางคน มองด้วยความหงุดหงิดว่า ลุงตู่กำลังทำอะไร เราจะเปลี่ยนไปคบกับรัสเซีย ไม่เอาอเมริกาเพื่อนเก่าแก่แล้วหรือ ลุงตู่ทำได้ไง ไว้ใจได้ที่ไหน รัสเซียน่ะมาเฟียโหดทั้งนั้นนะ ไปดูแถวพัทยา ภูเก็ต สิ เห็นแล้วสยอง จนขนลุกไปหมด แต่บางคนก็อาจถูกใจ บอก เออ หัดคบเพื่อนใหม่เสียบ้าง มัวแต่เชื่อไอ้ก๊วนปีกเหี่ยวใบตองแห้งอยู่ได้ ถูกมันต้มเปื่อยมา 60 กว่าปีแล้ว น่าจะเปลี่ยนนโยบายมานานแล้ว เผื่อเพื่อนเก่าจะได้รู้จักปรับปรุงตัว และก็อาจมีพวกที่ยังหลงยุค ตกข่าว มองด้วยความไม่สบอารมณ์ นี่เราไปคบกับรัสเซียได้ไง เขาเป็นคอมมูนิสต์นะ เดี๋ยวพวกอยากเปลี่ยนการปกครองไม่เอาสถาบัน ก็ตีปีกดีใจ นึกว่ามีพวกมาสนับสนุน แถมรัฐบาลยังไปต้อนรับยิ้มหวานกับเขาเสียอีก แต่ก็ยังคงมีอีกหลายคน ที่ไม่สนใจ ไม่รับรู้ว่า ลุงตู่กับคุณหน้าเฉย เขากำลังทำอะไรกัน ดี หรือไม่ดี กับประเทศของตัวอย่างไร เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่แต่กับเรื่องส่วนตัว หรือมัวแต่สนใจว่านางเอกสาวคนนั้น ตกลงเธอมีกิ๊กอยู่เมืองนอก หรือเมืองไทยกันแน่… เหล่านี้ เป็นเรื่องธรรมดาของ ผู้คนในแดนสมันน้อย และที่เราน่าจะสนใจกันบ้าง เพราะมันย่อมมีผลกระทบถึงบ้านเรา แน่นอน คือปฏิกิริยา ของเพื่อนเก่า นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ที่น่าจะกำลังเครียดจัด เพราะว่า เหยื่อ ที่อยู่ในกำมือมานาน และมีเค้าว่าจะต้องรับใช้งานสำคัญ อาจกำลังจะหลุดมือไป ข่าวลือว่า นักล่า ถึงกับส่งทีมมาหาข่าวหลายทีม หลายวงการ ยิ่งแถวโรงแรมใหญ่กลางเมือง ที่อยู่ใกล้ๆกัน 2 โรง ทีมหาข่าวแทบจะเดินชนกันตาย เดินแถวนั้น มันจะได้ข่าวอะไร แถวนั้นมันมีแต่ก๊อสสิบโฮโส ข่าวที่ได้มันถึงได้หยำเฟอะ เลอะเทอะ พาเอานักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ได้ข่าวไขว้เขวไปหมด (2) มีอีกาคาบข่าว ไปบอกนักล่าใบตองแห้งมาพักใหญ่แล้วว่า สมันน้อยอาจไม่คิดอยู่ใต้ปีกเหี่ยวๆของนักล่าใบตองแห้ง แบบเป็นสมาชิกตลอดชีพอีกแล้ว สมันน้อยกำลังมองหาเพื่อนคนอื่นในป่าอันกว้างใหญ่นี้เหมือนกัน มันเป็นไปได้ยังไง นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง ไม่เชื่อข่าวอีกา ก็เราครอบสมันน้อยจนอยู่หมัด ประกบทุกพรรค ทุกพวก ทุกกลุ่ม ทุกกระทรวง ทุกกองทัพ ไม่มีหลุด แล้วมันจะหลุดมือ ไปได้ยังไง (โว้ย) นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้งปลอบใจตัวเอง ว่ามันคงเป็นแค่ข่าวลือ แต่พอรูปยิ้มหวาน ระหว่างคุณแก้มยุ้ย กับคุณหน้าเฉย ออกกระจายเต็มหน้าสื่อ เขาว่าวันนั้น อุณหภูมิแถวถนนวิทยุ ขึ้นสูงกว่าเขตอื่น ขนาดเอาน้ำใส่แก้ววางหน้าสถานทูต ไม่ต้องเสียเวลาต้ม แล้วนี่เราจะรายงานไปทางวอชิงตันว่าไง เราไปหาใคร ทุกคนก็บอกว่า เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เรารักกัน เราไม่ทิ้งกัน แล้วรูปแบบนี้มันออกมาได้ไง มันเป็นการบังเอิญหรือไร เราเพิ่งบีบสมันน้อยจนเกือบจะ เละคามือ ให้เลิกกฏอัยการศึก สมันน้อยทำหน้าใสซื่อ บอกจะพิจารณาด่วน แล้วก็ยกเลิกจริง แต่ดันออก ม 44 ซึ่งร้อน และแรงกว่า กฏอัยการศึกอีก สมันน้อยไม่รู้เรื่อง หรือสมันน้อยย้อนเกล็ดเรา แล้วยังเอาไอ้หน้าเฉย มาบอกว่า เราเคารพการแก้ปัญหาภายในบ้านของผู้อื่น นี่มันเลิกกฏไม่ถึง 10 วัน มันเชิญคนมาแดกเราได้ มันเตี้ยมกันใช่ไหม ประมาณ 15 ปี ที่ผ่านมา นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง แม้จะซื้อไพ่ไว้ทุกใบตามสันดาน แต่เพราะเลือกใช้นโยบาย ยุให้แยก แยงจนแตก แล้วเข้าครอง นักล่าจึงให้ราคาไพ่บางใบ เกินราคาอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะดันไปประเมินว่า เป็นไพ่ที่จะทำให้ แดนสมันน้อยแตก และนักล่า จะได้เข้าครอบครองแดนสมันน้อยอ ย่างเบ็ดเสร็จ (เสียที) แต่ นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง คำนวณพลาด นอกจากให้ราคาเกิน จนขาดทุนย่อยยับแล้ว การพยายามเอาทุนคืนของนักล่าใบตองแห้ง ด้วยการเข้ามาเสือก มาวุ่นวายในบ้านเมืองของสมันน้อย อย่างไม่เห็นแก่หน้า และศักดิ์ศรีของเจ้าของบ้าน ยิ่งทำให้แผนเขมือบเมืองของนักล่า ทำท่าว่า จะไปไม่รอด ผ่านไปหลายวัน จนถึงวันนี้ ยังไม่มีข่าวว่า นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง จะแก้เกม ที่เสียแต้มอย่างหมดรูปคราวนี้อย่างไร รัสเซียมาเร็ว ด่า(ฝาก)เร็ว กลับเร็ว สมันน้อยซึ่งเคยอ้อยสร้อย คราวนี้กลับยกฉาก มาเปลี่ยนอย่างฉับไวเช่นเดียวกัน นานๆ จะทำให้นักล่า มึนรับประทานถึงกับยังไปไม่เป็น ยืนเซ่อ อยู่กลางสี่แยก แม้นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง จะยังยืนคาสี่แยก ยังไม่รู้จะหยิบบทไหนมาเล่นต่อ แต่ไม่ต้องห่วง นักล่าปีกเหี่ยวใบตองแห้ง มีเครื่องถ่ายเอกสารให้ใช้แยะ ให้มันออกมาเสี้ยมขัดตาทัพไปก่อน ลองอ่านการสัมภาษณ์ของ Deutsche Welle (DW) เมื่อวันที่ 8 เมษายน ออกมาเร็วทันใจ โดยผู้ตอบคือ นาย Zachary Abuza นักค้นคว้าอิสระ และเป็นนักเขียน เรื่องการก่อความไม่สงบทางภาคใต้ของไทย “The Insurgency in Southern Thailand” ซึ่งจัดพิมพ์โดย United States Institute of Peace นาย Abuza บอกว่า ขณะที่ หลายประเทศทางตะวันตก กระอักกระอ่วนใจอย่างยิ่ง ที่จะทำธุรกิจกับรัฐบาลทหารของไทย รัฐบาลไทย ก็เลยต้องเบนเข็มไปทางรัสเซียและจีน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศก็ฉวยโอกาสนี้ หาประโยชน์ให้ตัวเสียด้วย เขาว่า การมาของรัสเซีย ไม่มีอะไรทางเนื้อหาสาระหรอก มันเป็นเชิงสัญลักษญ์เสียมากกว่า กรุงเทพฯ กำลังส่งสัญญานไปทางวอชิงตัน ซึ่งเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญา ( treaty ally) ว่าตนเองก็มีทางเลือกนะ เท่านั้นเอง นอกจากนี้ สัมพันธ์ระหว่างฝ่ายทหารของไทยกับจีนที่กำลังงอกงาม เพราะไทยกำลังจะซื้ออาวุธจากจีน และจีน ก็กำลังจีบไทยเพื่อจะเข้ามาใช้ฐานทัพที่สัตตหีบ (อู่ตะเภา) ของไทย โดยจีนจะเป็นผู้ออกเงินปรับปรุงฐานทัพให้ นาย Abuza สาธยายต่อไปว่า เศรษฐกิจไทยก็กำลังแย่ เพราะนักลงทุนจากตะวันตก และญี่ปุ่น ต่างเปลี่ยนทิศ มุ่งหน้า ไปเวียตนาม ฟิลิปปีนส์ และอินโดนีเซียแทน ส่วนเป้าหมายของรัสเซีย ก็คือต้องการส่งสัญญานไปถึงวอชิงตันว่า อำนาจของรัสเซีย ก็มีไปทั่วโลก แม้แต่ในภูมิภาค ที่อเมริกาคิดว่ามีแต่เพื่อนของตน และขณะที่สัมพันธ์ของอเมริกา/เวียตนาม กำลังดีวันดีคืน รัสเซียก็จะไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้น ด้วยค่าใช้จ่ายที่รัสเซียให้กับเวียตนาม มันก็เช่นเดียวกัน เหมือนกับที่รัสเซียกำลังสนุกสนาน กับการอ้าแขนรับของไทย ซึ่งเป็นมิตรกับอเมริกามายาวนาน ด้วยค่าใช้จ่ายของอเมริกา เป็นไงครับ บททวงบุญุคุญรายการนี้ไม่เบาเลย พูดซะผมเกือบเคลิ้ม ถ้าไม่พล่ามจนมั่วเรื่องนักลงทุนหนีไทย ไปใช้ฟิลิปปินส์ ผมคงเชื่อหมดจนตกเก้าอี้ สร้างโรงงานสู้ใต้ฝุ่น สนุก ฉ.ห. เลย อย่าลืมเอาอุปกรณ์ช่วยชีวิตแจกคนงานไว้ล่วงหน้าด้วยแล้วกัน (3) น่าสนใจ การเดินหมากของฝ่ายอเมริกา กับ จีน/รัส เซีย ในภูมิภาคแปซิฟิก อเมริกาประกาศว่า เราเป็นเจ้าแห่ง แปซิฟิก และจะเป็นอยู่ตลอดไป เราไม่เคยหายไปไหน ขนาดไม่หายไปไหน แต่เพียงแค่อาทิตย์เดียวที่ผ่านมา เจ้าแห่งแปซิฟิก ดูเหมือนจะถูกอีกฝ่ายเดินเกม ลูบคมเสียหน้าม้าน เสียไปหลายหมาก ยังแก้ไม่ได้ จากนี้ไป ไม่รู้ว่าแปซิฟิกจะร้อนตามตะวันออกกลางหรือไม่ ก่อนมาเมืองไทย คุณหน้าเฉยแวะไปเยี่ยมเวียตนามก่อน ไปจับมือเวียตนาม ที่เขาลือว่าเลือกซบปีกเหี่ยวๆของนักล่าใบตองแห้งเรียบร้อย แล้ว ข่าวว่าคุณหน้าเฉย ทำหน้าเฉยถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อม ตกลงฐานทัพที่ Cam Rahn Bay น่ะ จะให้อเมริกามาใช้ หรือ จะให้รัสเซียใช้ เวียตนามบอกว่า ไม่น่าต้องถาม ใครถล่มเราจนราบไปทั้งเมือง และใครช่วยเรา เราแยกแยะได้ยามจำเป็น และยามจำเป็นน่าจะใกล้มาถึงแล้ว ประโยคหลังนี่ ผมเดาเอาจากสีหน้า ของพณะนายกรัฐมนตรีเวียตนาม ที่ยากจะบรรยาย และวันเดียวกันกับที่ คุณหน้าเฉยเดินทางออกจากเวียตนาม มาเมืองไทย คุณหน้าเซียว นายAsh Carter รัฐมนตรีกลาโหม คนใหม่ของอเมริกา เพิ่งแกะออกจากกล่องหมาดๆ ก็มีรายการเดินสายเข้ามาเยี่ยมแปซิฟิก คร้ังแรกในฐานะพณะท่านเหมือนกัน พณะหน้าเซียว แวะเยี่ยมลูกเลี้ยงทั้ง 2 แห่ง วันอังคารที่ 7 เมษา เยี่ยมญี่ปุ่น วันพฤหัสที่ 9 เมษา เยี่ยมเกาหลีใต้ ก่อนมาถึงเกาหลีใต้ พณะหน้าเซียว ได้รับการต้อนรับอย่างน่าประทับใจ น้องคิมของผมส่งของขวัญไปให้ จากเกาหลีเหนือ เป็นการทดลองยิงจรวดระยะใกล้ ข้ามมาลงกลางทะเลใกล้เกาหลีใต้ วันอังคาร น้องคิมส่งให้ 2 ลูก น้องคิมไม่แน่ใจ เกรงว่าของขวัญจะน้อยไป วันศุกร์เลยเพิ่มจำนวน ส่งไป 4 ลูก เล่นเอา พณะรัฐมนตรีเพิ่งออกจากกล่อง ถึงกับรำพึงว่า ถ้าไอ้ที่เขายิงทดลองมานี่ เป็นการต้อนรับผม ผมก็เป็นปลื้มนะ ปลื้มจนหน้าเซียวเพิ่มระดับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภูมะเขือคือชัยสมรภูมิที่สุดยอดอีกแห่ง แตกนัยยะต่างๆรวมถึงเขตดินแดนได้มากมาย ทางจุดที่ตั้งก็กินขาด ตั้งสาระพัดอาวุธดีกว่าเขาพระวิหารเพราะมิใช่ปราสาทมีอะไรมาครอบงำหัวในกฎเกณฑ์ข้อนั้นนี้โน้นต่างๆ,สันปันน้ำก็ตอกย้ำลงไปชัดเจน,เส้นขีดพรมแดนก็ตีกินล้ำมาในฝั่งไทยเราไม่ได้,แม้จะบุกไปยึดพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณคืนได้ตลอดมลฑลบูรพาเราทั้งหมดคืนมาจากฝรั่งเศสไปคืนผิดประเทศก็เป็นจุดที่ตั้งฐานทัพที่ดีด้วยและอื่นๆตรึม,สรุปภูมะเขือ ทหารไทยเราแลกมาด้วยกายและใจตลอดพลีชีพให้ได้มา หากรัฐบาลเจรจาไปทางเสียดินแดนอธิปไตยไทย ทางกองทัพไทยเรา สามารถประกาศกฎอัยการศึกอย่างเป็นทางการทั่วทั้งประเทศไทยทันทีได้เลย,รัฐบาลนี้ไม่ซื่อสัตย์ด้วยตำตาว่าภูมะเขือคือแดนดินอธิปไตยไทยแต่ตกลงยินยอมเจรจาลงนามมิชอบให้เสียอธิปไตยไทยแม้จะกรณีmou43,44มาบังหน้าก็ต้องโมฆะตกไปทันทีเพราะ ร.5ตกลงเสาเขตแดนสยามชัดเจนแล้วที่1:1ถึง73เสาหลักเขตแดนจบไปแล้ว,ไม่รวมฝรั่งเศสคืนพื้นที่ดินแดนผิดประเทศไปอีกซึ่งเรา..ประเทศไทยมีสิทธิชอบธรรมเรียกร้องเอากลับคืนมาด้วยในยุคปัจจุบันได้สบายอีก.,เสา73หลักเขตนี้อาจไร้ความหมายไปทันทีด้วย.ครึ่งประเทศเขมรเดิมคือดินแดนแผ่นดินไทยปกครองก่อนฝรั่งเศสมาปล้นชิงไปแล้วคืนผิดประเทศเท่านั้น.,ไล่ความคดีกันฝรั่งเศสและอเมริกาผิดเต็มๆตัวสร้างความขัดแย้งวุ่นวายจริงแม้ในเวลาในปัจจุบันนี้ด้วย.,อเมริกาฝรั่งเศสจริงๆพวกนี้สมควรล่มสลายล้มละลายไปด้วยเลย ทำผิดต่อชาติประเทศทั่วโลกไม่น้อย ทำชั่วเลวก็มากนั้นเองบนใบหน้าอ้างมนุษยธรรมและสันติภาพ.


    https://youtube.com/watch?v=en3poYz7H-g&si=54Z7w8p6uekomgRp
    ภูมะเขือคือชัยสมรภูมิที่สุดยอดอีกแห่ง แตกนัยยะต่างๆรวมถึงเขตดินแดนได้มากมาย ทางจุดที่ตั้งก็กินขาด ตั้งสาระพัดอาวุธดีกว่าเขาพระวิหารเพราะมิใช่ปราสาทมีอะไรมาครอบงำหัวในกฎเกณฑ์ข้อนั้นนี้โน้นต่างๆ,สันปันน้ำก็ตอกย้ำลงไปชัดเจน,เส้นขีดพรมแดนก็ตีกินล้ำมาในฝั่งไทยเราไม่ได้,แม้จะบุกไปยึดพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณคืนได้ตลอดมลฑลบูรพาเราทั้งหมดคืนมาจากฝรั่งเศสไปคืนผิดประเทศก็เป็นจุดที่ตั้งฐานทัพที่ดีด้วยและอื่นๆตรึม,สรุปภูมะเขือ ทหารไทยเราแลกมาด้วยกายและใจตลอดพลีชีพให้ได้มา หากรัฐบาลเจรจาไปทางเสียดินแดนอธิปไตยไทย ทางกองทัพไทยเรา สามารถประกาศกฎอัยการศึกอย่างเป็นทางการทั่วทั้งประเทศไทยทันทีได้เลย,รัฐบาลนี้ไม่ซื่อสัตย์ด้วยตำตาว่าภูมะเขือคือแดนดินอธิปไตยไทยแต่ตกลงยินยอมเจรจาลงนามมิชอบให้เสียอธิปไตยไทยแม้จะกรณีmou43,44มาบังหน้าก็ต้องโมฆะตกไปทันทีเพราะ ร.5ตกลงเสาเขตแดนสยามชัดเจนแล้วที่1:1ถึง73เสาหลักเขตแดนจบไปแล้ว,ไม่รวมฝรั่งเศสคืนพื้นที่ดินแดนผิดประเทศไปอีกซึ่งเรา..ประเทศไทยมีสิทธิชอบธรรมเรียกร้องเอากลับคืนมาด้วยในยุคปัจจุบันได้สบายอีก.,เสา73หลักเขตนี้อาจไร้ความหมายไปทันทีด้วย.ครึ่งประเทศเขมรเดิมคือดินแดนแผ่นดินไทยปกครองก่อนฝรั่งเศสมาปล้นชิงไปแล้วคืนผิดประเทศเท่านั้น.,ไล่ความคดีกันฝรั่งเศสและอเมริกาผิดเต็มๆตัวสร้างความขัดแย้งวุ่นวายจริงแม้ในเวลาในปัจจุบันนี้ด้วย.,อเมริกาฝรั่งเศสจริงๆพวกนี้สมควรล่มสลายล้มละลายไปด้วยเลย ทำผิดต่อชาติประเทศทั่วโลกไม่น้อย ทำชั่วเลวก็มากนั้นเองบนใบหน้าอ้างมนุษยธรรมและสันติภาพ. https://youtube.com/watch?v=en3poYz7H-g&si=54Z7w8p6uekomgRp
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่ทัพภาคที่ 2 หารือผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา เห็นพ้องปรับอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง สร้างเสถียรภาพชายแดน เตรียมตั้งกลไก AOT และนัดหารือวันเริ่มปฏิบัติอีกครั้งหลัง 26 ตุลาคมนี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000101963

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    แม่ทัพภาคที่ 2 หารือผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา เห็นพ้องปรับอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง สร้างเสถียรภาพชายแดน เตรียมตั้งกลไก AOT และนัดหารือวันเริ่มปฏิบัติอีกครั้งหลัง 26 ตุลาคมนี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000101963 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง ปั่นหัวเสี่ยปั้ม
    “ปั่นหัวเสี่ยปั้ม”

    (1)

    ตะวันออกกลางร้อนระอุขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันซาอุ ดิ ทนร้อนไม่ไหว ลุกออกมาไล่ถล่มพวก Houthi ในเยเมน แหม เสี่ยก็ใจร้อนไปได้ ช่วงนี้ที่ไหนๆ ก็ร้อนทั้งนั้น อุณหภูมิบ้านสมันน้อย ยังพุ่งปรืดร้อนไปถึง 44 องศาเลยคร้าบ

    ทำไมเสี่ยซาอุต้องเป็นเดือดเป็นร้อน ที่พวก Houthi เขาจะลุกขึ้นมาขับไล่รัฐบาลมืออ่อนในบ้านของเขา

    Foreign Affairs นิตยสาร ของ Council on Foreign Relations (CFR) ถังขยะความคิดจอมจุ้น ลงบทความเรื่อง Houthi and the Blowback เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ 2015 นี้ บอกว่า ซาอุดิกำลังใช้กระสุนนัดเดียวยิงนกหลายตัว ซาอุดิถือว่า การที่พวก Houthi กล้าลุกหือขึ้นมาสู้กับรัฐบาลตัวก็เพราะมีลูกพี่อิหร่าน เสี่ยนิวเคลียร์ยุแยง ถ้าเสี่ยใหญ่ซาอุทำเฉย ก็เหมือนจะยอมให้อิหร่านขี่คอ แต่ถ้าปราบ Houthi ให้หมอบราบได้ บารมีของเสี่ยใหญ่ซาอุ ก็จะฉายแสงสำแดงรัศมี ให้ลูกกระเป๋งแถบอ่าว Gulf Cooperation Coucil (GCC) นับถือในความเป็นพี่ใหญ่ของเสี่ยซาอุ ที่สามารถจัดระเบียบในตะวันออกกลางได้ โดยไม่ต้องประสาทหลอนกันว่า เรื่องมันจะบานปลาย เพราะความไม่สมดุลยของอำนาจในตะวันออกกลาง ระหว่างซาอุดิอารเบียกับอิหร่าน หมายความว่าไม่ได้กลัวอิหร่านจนหดหมดอีกแล้ว

    ถังขยะความคิด CFR ซึ่งเหมือนเป็นผู้ออกใบสั่งนโยบาย ของไอ้นักล่า บอกว่า เสี่ยปั้มทำได้น่า ยิงมันแรงๆ นัดเดียว แล้วได้นกหลายตัวน่ะ ถ้าเล่นให้เป็น ยิงให้แม่น มันจะเป็นการช่วยไม่ให้สถานการณ์การเมืองในตะวันออกกลาง ร้อนฉ่าขึ้นไปอีก เพราะเสี่ยใหญ่ จะกลายเป็นผู้คุมตะวันออกกลาง

    นี่มันปั่นให้พวกเสี่ยตะวันออกกลางเขาขี่อูฐมาชนกันเองนี่หว่า ไอ้นักล่าใบตองแห้งสงสัยมีแผนชั่ว

    เยเมน เป็นหนามตำใจของซาอุดิ และกลุ่มประเทศที่อยู่ริมอ่าว รวมทั้งโอมาน มาตั้งแต่ เยเมนตั้งประเทศแล้ว เพราะรสนิยมเยเมน ออกไปทางชอบสีแดง ฝักฝ่ายในลัทธิมาร์กซ ฯลฯ แถมระยะหลัง ยังพ่วงเอาพวกกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง พวกอัลกออิดะ เข้าไปสามัคคีชุมนุมกันอีกด้วย ยิ่งทำให้ ซาอุดิอารเบียที่หลังบ้านติดกับเยเมน นอนหลับแบบผวา ไม่ว่านอนกลางวัน หรือนอนกลางคืน ยิ่งมาเห็น พวก Houthi ทำท่าจะชนะในการไล่รัฐบาลของตัว เสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน คนรวยแต่ขวัญอ่อน ก็ยิ่งผวาหนัก

    นี่ถ้า Houthi ซึ่งเป็นชีอ่ะ และมีอิหร่านหนุน ยึดเยเมนไปได้ พวกเรามิควันโขมงทั้งเมืองหรือ เสี่ยซาอุจึงต้องสั่งระดมพลพรรค ลูกกระเป๋ง ทั้งหลาย เช่น บาห์เรน อียิปต์ จอร์แดน คูเวต มอรอคโค ปากีสถาน กาต้าร์ ซูดาน เอมิเรต มาช่วยกันสำแดงเดช ไม่ให้พวก Houthi ยึดครองเยเมน และมาปิดอ่าวเอเดน Gulf of Aden ด้านเยเมน
    เสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันซาอุ โวยข้ามทะเลทรายให้เข้าหูท่านประธานาธิบดีนักล่าใบตองแห้งว่า การใช้กำลังทางอากาศของพวกเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน ไม่แน่ว่าจะสามารถจัดการให้เรื่องราวในเยเมนสงบราบเรียบได้หรอกนะ และถ้ามันไม่สงบ ผลกระทบของมันจะบานไปในหลายประเทศเลย และรัศมีอิทธิพลของเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน ก็จะแผ่วลงอย่างน่าใจหาย ไอ้ที่จะให้เสี่ยใหญ่ดูแลเด็กๆแถวอ่าว พวก GCC คงเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ที่สำคัญ มันจะไปกระตุ้นต่อมฮึกเหิมของอิหร่านเสี่ยนิวเคลียร์อย่างช่วยไม่ได้ และแน่นอนเสี่ยนิวเคลียร์ก็คงแบ่งเอาความฮึกเหิมไปทิ้งใว้ใน อิรัค ซีเรีย เลบานอน เยเมน และที่อื่นๆ อีก คิดแล้วเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันก็รันทดใจ รวยซะเปล่า แต่หามีความสุขไม่ มันเป็นการรำพึงที่น่าสนใจ ว่านักล่าใบตองแห้งจะตอบรับอย่างไร

    ถังขยะความคิดรีบเติมเชื้อ กลัวเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันจะระทมไม่พอ บอกว่า อะไรกัน สัมพันธ์ระหว่าง ซาอุดิกับอเมริกาก็ยังแข็งแรง ไม่ได้สั่นคลอนเสียหน่อย ไม่ต้อง ป ส ด ไปก่อน และที่คนแถวนี้พูดกันลั่นไปหมดว่า อเมริกากำลังประะเคนข้อเสนอใส่ถาดทองให้อิหร่าน แลกกับข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์ มันเป็นแค่ข่าวลือเข้าใจไหม คิดมากไปได้น่าเสี่ย

    แม้หลายคน ในรัฐบาลใบตองแห้ง อาจจะบอกว่า เสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน ทำเกินไป ไม่ควรจะต้องไปยกระดับ ยกกำลัง ไปให้ความสำคัญกับพวก Houthi ถึงขนาดนี้ ซึ่งจะทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ทั้งในบ้านตัวเองและในภูมิภาค แต่ในความเป็นจริงด้านยุทธศาสตร์แล้ว เสี่ยใหญ่ไม่ได้ทำพลาดเรื่องเยเมน มันสมควรแล้วที่เสี่ยใหญ่จะต้องประสาทรับประทาน สถานการณ์ในเยเมน เป็นเรื่องคอขาดบาดตายของซาอุดิอารเบียทีเดียว

    อันที่จริงไม่ใช่เรื่องคอขาดของเสี่ยปั้มน้ำมันฝ่ายเดียว

    หากเยเมน ยอมให้อิหร่านมานั่งสบายใจอยู่ที่ Bab El Mandebของเยเมน ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือระหว่าง Red sea (ทะเลแดง) อ่าวเอเดน ( Gulf of Aden) และคลองสุเอซ ซึ่งอิหร่านได้พยายามที่จะควบคุมช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) ซึ่งเกือบหนึ่งในสี่ ของน้ำมันโลก จะต้องผ่าน แทนที่จะกล่าวหาว่าเสี่ยใหญ่ซาอุ ป ส ด ทางวอชิงตันนั่นแหละ ควรทบทวนท่าทีของตนบ้าง หรือทางวอชิตันมีแผนอะไร ที่เสี่ยใหญ่ไม่รู้ ไม่เฉลียวใจ

    (2)

    ไปเอาแผนที่มาดูกันหน่อย จะได้เข้าใจหัวอกเสี่ยใหญ่ซาอุว่า ขวัญแข็ง หรือขวัญอ่อน ประสาทรับประทาน

    ด้านเหนือของซาอุดิอารเบียติดกับจอร์แดน ซี่งเป็นเด็กอยู่ในบัญชีรายจ่าย ของเสี่ยใหญ่ซาอุ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องห่วง ตัดทิ้งไปได้ ถัดไปเป็น อิรัค และเหนืออิรัคเป็นเลบานอน ทั้ง 2 ประเทศ เสี่ยใหญ่ซาอุ กล่าวหา (หรือเป็นเรื่องจริง ! ) ว่า อยู่ในบัญชีรายจ่ายของอิหร่านเสี่ยนิวเคลียร์ ถ้าเป็นเรื่องจริง และถ้าเยเมนตกไปอยู่ในมือ Houthi ซึ่งซาอุก็ว่าอิหร่านสนับสนุนด้วย เช่นกัน ถ้าเด็กในบัญชีอิหร่าน ทั้ง 3 รายการ จับมือกัน ซาอุดิ เท่ากับถูกล็อก ทั้งข้างบนข้างล่าง และประตูออกทะเลของ ซาอุดิอารเบียจะถูกบีบเหลือให้ออกด้านเดียว คือออกได้เฉพาะทางอ่าวเปอร์เซีย

    แปลว่าอะไรครับ แปลว่าซาอุดิอารเบียถูกบีบให้ไป เดินผ่านปากของอิหร่าน ไปสู่ทะเลที่ อ่าวโอมานเท่านั้น ผ่านกลุ่มประเทศแถบอ่าว เช่น บาห์เรน การ์ต้า อามิเรต โอมาน ฯลฯ แล้วไปออกอ่าว แถบนั้นเต็มไปด้วยฐานทัพอากาศ และฐานทัพเรือที่ประเทศเหล่านั้น ยอมให้อเมริกาขนกองกำลัง ขนอาวุธมาตั้งอยูเต็ม เพื่อเป็นการดักคออิหร่านไว้ และด้วยความพร้อมใจของพวกเสี่ยคนรวย แต่ขวัญอ่อนทั้งหลาย ที่อยากอุ่นอยู่ในเงื้อมมือของนักล่าใบตองแห้ง เออ แดดทะเลทรายมันคงแรงจริง พวกเสี่ยเขาถึงคิดได้เพี้ยนกันแบบนั้น
    ดูๆก็ ไม่น่าจะเป็นปัญหากับเสี่ยใหญ่ซาอุ ที่มีฐานทัพนักล่าใบตองแห้งอยู่เต็มแถบปากอ่าว แต่เมื่อมันเยื้องอยู่กับปากอิหร่าน ก็ต้องถามเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันซาอุว่า ด่าอิหร่านเอาไว้แยะ กล้าเดินผ่านปากเขาไหม หรือว่ากล้า เพราะมีฐานทัพของยอดรักนักล่าใบตองแห้ง ต้ังฐานกระจายไว้เต็มอยู่ตรงแถบนั้น

    เสี่ยก็คิดให้ดีแล้วกันว่า ยามนี้มีฐานทัพของไอ้นักล่าใบตองแห้งอยู่ใกล้ตัว มันเป็นโชคดีหรือโชคร้าย เผลอๆจะเป็นตัวล่อเป้า ไม่ใช่เฉพาะแต่ตัวเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันเท่าน้ันนะ ที่ต้องระวัง ลูกกระเป๋งที่เอาใจเจ้านายให้เขามาตั้งฐานทัพน่ะอยู่ริมอ่าวน่ะ ระวังจะโดนทะลายหายไปพร้อมกับฐานทัพด้วย

    Duncan Campbell สื่อกัดติดเรื่องของนาย Edward Snowden จอมแฉ รายงานว่า จากข้อมูลที่จอมแฉทะยอยปล่อยออกมา เมือง Seeb ในรัฐโอมาน เป็นชุมสายใหญ่ของสายไยแก้ว fiber optic ชื่อรหัส CIRCUIT ที่โอมานยอมให้ GCHQ (Government Communication Headquarters) ของอังกฤษ มาติดตั้งระบบ CIRCUIT ของ ECHELON เครื่องดักสัญญานสุดยอดไว้ตั้งแต่ปี 2009 เพื่อเก็บข้อมูลทุกชิ้นที่ผ่าน ไปมาในแถบนั้น และแชร์ข้อมูลกับพวก 5 ตา the Five Eyes คือ อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแคนาดา หลังจากนั้นข้อมูลจะวิ่งขึ้นฝั่งไปถูกเก็บอยู่ที่ คอนวอล (Cornwall) ของอังกฤษ เหมือนกับที่ไปติดตั้งไว้ที่สวีเดน คอยดักข้อมูลของรัสเซีย

    คราวนี้ คงคอยดักข้อมูลของอิหร่านที่อยู่เยื้องกัน แถมเส้นทางเดินเรือแถบน้ัน อาเฮียของคุณพี่ปูตินเขาก็ชอบใช้ขนน้ำมันจากอาฟริกาไปจีน เรื่องดักฟังที่สวีเดน เขาว่าทำให้สวีเดนได้รับการเยี่ยมเยียน จากเรือดำน้ำรัสเซียถึงหน้ากรุงสต๊อกโฮม คราวนี้ ไม่รู้อาเฮียและอิหร่าน และ ฯลฯ จะส่งอะไรไปเยี่ยมโอมาน

    แค่มีฐานทัพของไอ้นักล่าใบตองแห้ง อยู่แถบอ่าว ก็เป็นเป้าล่อพอแล้ว คราวนี้ยังมี ลูกปิงปอง ECHELON เครื่องดักสัญญานเป็นสายล่อฟ้า คอยอยู่ที่โอมาน ผมก็กลุ้มใจแทนเสี่ยใหญ่ปั้มนำ้มันซาอุจริงๆ ว่าจะตัดสินใจเดินทางไหน ที่จะทำให้ไม่ต้องทุกข์ระทม แต่ดูจากเรื่องราว และบทความของ Foreign Affairs แล้ว ผมคลับคล้าย คราวนี้ เสี่ยใหญ่ซาอุ จะถูกหลอกใช้ ให้เป็นเครื่องสังเวยยังไงไม่รู้ เขามีแผนอยากได้แต่ปั้มน้ำมัน ไม่อยากได้คนคุมปั้มติดไปด้วย เสี่ยพอนึกออกไหมครับ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    3 เม.ย. 2558
    เรื่อง ปั่นหัวเสี่ยปั้ม “ปั่นหัวเสี่ยปั้ม” (1) ตะวันออกกลางร้อนระอุขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันซาอุ ดิ ทนร้อนไม่ไหว ลุกออกมาไล่ถล่มพวก Houthi ในเยเมน แหม เสี่ยก็ใจร้อนไปได้ ช่วงนี้ที่ไหนๆ ก็ร้อนทั้งนั้น อุณหภูมิบ้านสมันน้อย ยังพุ่งปรืดร้อนไปถึง 44 องศาเลยคร้าบ ทำไมเสี่ยซาอุต้องเป็นเดือดเป็นร้อน ที่พวก Houthi เขาจะลุกขึ้นมาขับไล่รัฐบาลมืออ่อนในบ้านของเขา Foreign Affairs นิตยสาร ของ Council on Foreign Relations (CFR) ถังขยะความคิดจอมจุ้น ลงบทความเรื่อง Houthi and the Blowback เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ 2015 นี้ บอกว่า ซาอุดิกำลังใช้กระสุนนัดเดียวยิงนกหลายตัว ซาอุดิถือว่า การที่พวก Houthi กล้าลุกหือขึ้นมาสู้กับรัฐบาลตัวก็เพราะมีลูกพี่อิหร่าน เสี่ยนิวเคลียร์ยุแยง ถ้าเสี่ยใหญ่ซาอุทำเฉย ก็เหมือนจะยอมให้อิหร่านขี่คอ แต่ถ้าปราบ Houthi ให้หมอบราบได้ บารมีของเสี่ยใหญ่ซาอุ ก็จะฉายแสงสำแดงรัศมี ให้ลูกกระเป๋งแถบอ่าว Gulf Cooperation Coucil (GCC) นับถือในความเป็นพี่ใหญ่ของเสี่ยซาอุ ที่สามารถจัดระเบียบในตะวันออกกลางได้ โดยไม่ต้องประสาทหลอนกันว่า เรื่องมันจะบานปลาย เพราะความไม่สมดุลยของอำนาจในตะวันออกกลาง ระหว่างซาอุดิอารเบียกับอิหร่าน หมายความว่าไม่ได้กลัวอิหร่านจนหดหมดอีกแล้ว ถังขยะความคิด CFR ซึ่งเหมือนเป็นผู้ออกใบสั่งนโยบาย ของไอ้นักล่า บอกว่า เสี่ยปั้มทำได้น่า ยิงมันแรงๆ นัดเดียว แล้วได้นกหลายตัวน่ะ ถ้าเล่นให้เป็น ยิงให้แม่น มันจะเป็นการช่วยไม่ให้สถานการณ์การเมืองในตะวันออกกลาง ร้อนฉ่าขึ้นไปอีก เพราะเสี่ยใหญ่ จะกลายเป็นผู้คุมตะวันออกกลาง นี่มันปั่นให้พวกเสี่ยตะวันออกกลางเขาขี่อูฐมาชนกันเองนี่หว่า ไอ้นักล่าใบตองแห้งสงสัยมีแผนชั่ว เยเมน เป็นหนามตำใจของซาอุดิ และกลุ่มประเทศที่อยู่ริมอ่าว รวมทั้งโอมาน มาตั้งแต่ เยเมนตั้งประเทศแล้ว เพราะรสนิยมเยเมน ออกไปทางชอบสีแดง ฝักฝ่ายในลัทธิมาร์กซ ฯลฯ แถมระยะหลัง ยังพ่วงเอาพวกกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง พวกอัลกออิดะ เข้าไปสามัคคีชุมนุมกันอีกด้วย ยิ่งทำให้ ซาอุดิอารเบียที่หลังบ้านติดกับเยเมน นอนหลับแบบผวา ไม่ว่านอนกลางวัน หรือนอนกลางคืน ยิ่งมาเห็น พวก Houthi ทำท่าจะชนะในการไล่รัฐบาลของตัว เสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน คนรวยแต่ขวัญอ่อน ก็ยิ่งผวาหนัก นี่ถ้า Houthi ซึ่งเป็นชีอ่ะ และมีอิหร่านหนุน ยึดเยเมนไปได้ พวกเรามิควันโขมงทั้งเมืองหรือ เสี่ยซาอุจึงต้องสั่งระดมพลพรรค ลูกกระเป๋ง ทั้งหลาย เช่น บาห์เรน อียิปต์ จอร์แดน คูเวต มอรอคโค ปากีสถาน กาต้าร์ ซูดาน เอมิเรต มาช่วยกันสำแดงเดช ไม่ให้พวก Houthi ยึดครองเยเมน และมาปิดอ่าวเอเดน Gulf of Aden ด้านเยเมน เสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันซาอุ โวยข้ามทะเลทรายให้เข้าหูท่านประธานาธิบดีนักล่าใบตองแห้งว่า การใช้กำลังทางอากาศของพวกเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน ไม่แน่ว่าจะสามารถจัดการให้เรื่องราวในเยเมนสงบราบเรียบได้หรอกนะ และถ้ามันไม่สงบ ผลกระทบของมันจะบานไปในหลายประเทศเลย และรัศมีอิทธิพลของเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน ก็จะแผ่วลงอย่างน่าใจหาย ไอ้ที่จะให้เสี่ยใหญ่ดูแลเด็กๆแถวอ่าว พวก GCC คงเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ที่สำคัญ มันจะไปกระตุ้นต่อมฮึกเหิมของอิหร่านเสี่ยนิวเคลียร์อย่างช่วยไม่ได้ และแน่นอนเสี่ยนิวเคลียร์ก็คงแบ่งเอาความฮึกเหิมไปทิ้งใว้ใน อิรัค ซีเรีย เลบานอน เยเมน และที่อื่นๆ อีก คิดแล้วเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันก็รันทดใจ รวยซะเปล่า แต่หามีความสุขไม่ มันเป็นการรำพึงที่น่าสนใจ ว่านักล่าใบตองแห้งจะตอบรับอย่างไร ถังขยะความคิดรีบเติมเชื้อ กลัวเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันจะระทมไม่พอ บอกว่า อะไรกัน สัมพันธ์ระหว่าง ซาอุดิกับอเมริกาก็ยังแข็งแรง ไม่ได้สั่นคลอนเสียหน่อย ไม่ต้อง ป ส ด ไปก่อน และที่คนแถวนี้พูดกันลั่นไปหมดว่า อเมริกากำลังประะเคนข้อเสนอใส่ถาดทองให้อิหร่าน แลกกับข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์ มันเป็นแค่ข่าวลือเข้าใจไหม คิดมากไปได้น่าเสี่ย แม้หลายคน ในรัฐบาลใบตองแห้ง อาจจะบอกว่า เสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมัน ทำเกินไป ไม่ควรจะต้องไปยกระดับ ยกกำลัง ไปให้ความสำคัญกับพวก Houthi ถึงขนาดนี้ ซึ่งจะทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ทั้งในบ้านตัวเองและในภูมิภาค แต่ในความเป็นจริงด้านยุทธศาสตร์แล้ว เสี่ยใหญ่ไม่ได้ทำพลาดเรื่องเยเมน มันสมควรแล้วที่เสี่ยใหญ่จะต้องประสาทรับประทาน สถานการณ์ในเยเมน เป็นเรื่องคอขาดบาดตายของซาอุดิอารเบียทีเดียว อันที่จริงไม่ใช่เรื่องคอขาดของเสี่ยปั้มน้ำมันฝ่ายเดียว หากเยเมน ยอมให้อิหร่านมานั่งสบายใจอยู่ที่ Bab El Mandebของเยเมน ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือระหว่าง Red sea (ทะเลแดง) อ่าวเอเดน ( Gulf of Aden) และคลองสุเอซ ซึ่งอิหร่านได้พยายามที่จะควบคุมช่องแคบฮอร์มุซ (Strait of Hormuz) ซึ่งเกือบหนึ่งในสี่ ของน้ำมันโลก จะต้องผ่าน แทนที่จะกล่าวหาว่าเสี่ยใหญ่ซาอุ ป ส ด ทางวอชิงตันนั่นแหละ ควรทบทวนท่าทีของตนบ้าง หรือทางวอชิตันมีแผนอะไร ที่เสี่ยใหญ่ไม่รู้ ไม่เฉลียวใจ (2) ไปเอาแผนที่มาดูกันหน่อย จะได้เข้าใจหัวอกเสี่ยใหญ่ซาอุว่า ขวัญแข็ง หรือขวัญอ่อน ประสาทรับประทาน ด้านเหนือของซาอุดิอารเบียติดกับจอร์แดน ซี่งเป็นเด็กอยู่ในบัญชีรายจ่าย ของเสี่ยใหญ่ซาอุ เพราะฉะนั้น ไม่ต้องห่วง ตัดทิ้งไปได้ ถัดไปเป็น อิรัค และเหนืออิรัคเป็นเลบานอน ทั้ง 2 ประเทศ เสี่ยใหญ่ซาอุ กล่าวหา (หรือเป็นเรื่องจริง ! ) ว่า อยู่ในบัญชีรายจ่ายของอิหร่านเสี่ยนิวเคลียร์ ถ้าเป็นเรื่องจริง และถ้าเยเมนตกไปอยู่ในมือ Houthi ซึ่งซาอุก็ว่าอิหร่านสนับสนุนด้วย เช่นกัน ถ้าเด็กในบัญชีอิหร่าน ทั้ง 3 รายการ จับมือกัน ซาอุดิ เท่ากับถูกล็อก ทั้งข้างบนข้างล่าง และประตูออกทะเลของ ซาอุดิอารเบียจะถูกบีบเหลือให้ออกด้านเดียว คือออกได้เฉพาะทางอ่าวเปอร์เซีย แปลว่าอะไรครับ แปลว่าซาอุดิอารเบียถูกบีบให้ไป เดินผ่านปากของอิหร่าน ไปสู่ทะเลที่ อ่าวโอมานเท่านั้น ผ่านกลุ่มประเทศแถบอ่าว เช่น บาห์เรน การ์ต้า อามิเรต โอมาน ฯลฯ แล้วไปออกอ่าว แถบนั้นเต็มไปด้วยฐานทัพอากาศ และฐานทัพเรือที่ประเทศเหล่านั้น ยอมให้อเมริกาขนกองกำลัง ขนอาวุธมาตั้งอยูเต็ม เพื่อเป็นการดักคออิหร่านไว้ และด้วยความพร้อมใจของพวกเสี่ยคนรวย แต่ขวัญอ่อนทั้งหลาย ที่อยากอุ่นอยู่ในเงื้อมมือของนักล่าใบตองแห้ง เออ แดดทะเลทรายมันคงแรงจริง พวกเสี่ยเขาถึงคิดได้เพี้ยนกันแบบนั้น ดูๆก็ ไม่น่าจะเป็นปัญหากับเสี่ยใหญ่ซาอุ ที่มีฐานทัพนักล่าใบตองแห้งอยู่เต็มแถบปากอ่าว แต่เมื่อมันเยื้องอยู่กับปากอิหร่าน ก็ต้องถามเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันซาอุว่า ด่าอิหร่านเอาไว้แยะ กล้าเดินผ่านปากเขาไหม หรือว่ากล้า เพราะมีฐานทัพของยอดรักนักล่าใบตองแห้ง ต้ังฐานกระจายไว้เต็มอยู่ตรงแถบนั้น เสี่ยก็คิดให้ดีแล้วกันว่า ยามนี้มีฐานทัพของไอ้นักล่าใบตองแห้งอยู่ใกล้ตัว มันเป็นโชคดีหรือโชคร้าย เผลอๆจะเป็นตัวล่อเป้า ไม่ใช่เฉพาะแต่ตัวเสี่ยใหญ่ปั้มน้ำมันเท่าน้ันนะ ที่ต้องระวัง ลูกกระเป๋งที่เอาใจเจ้านายให้เขามาตั้งฐานทัพน่ะอยู่ริมอ่าวน่ะ ระวังจะโดนทะลายหายไปพร้อมกับฐานทัพด้วย Duncan Campbell สื่อกัดติดเรื่องของนาย Edward Snowden จอมแฉ รายงานว่า จากข้อมูลที่จอมแฉทะยอยปล่อยออกมา เมือง Seeb ในรัฐโอมาน เป็นชุมสายใหญ่ของสายไยแก้ว fiber optic ชื่อรหัส CIRCUIT ที่โอมานยอมให้ GCHQ (Government Communication Headquarters) ของอังกฤษ มาติดตั้งระบบ CIRCUIT ของ ECHELON เครื่องดักสัญญานสุดยอดไว้ตั้งแต่ปี 2009 เพื่อเก็บข้อมูลทุกชิ้นที่ผ่าน ไปมาในแถบนั้น และแชร์ข้อมูลกับพวก 5 ตา the Five Eyes คือ อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแคนาดา หลังจากนั้นข้อมูลจะวิ่งขึ้นฝั่งไปถูกเก็บอยู่ที่ คอนวอล (Cornwall) ของอังกฤษ เหมือนกับที่ไปติดตั้งไว้ที่สวีเดน คอยดักข้อมูลของรัสเซีย คราวนี้ คงคอยดักข้อมูลของอิหร่านที่อยู่เยื้องกัน แถมเส้นทางเดินเรือแถบน้ัน อาเฮียของคุณพี่ปูตินเขาก็ชอบใช้ขนน้ำมันจากอาฟริกาไปจีน เรื่องดักฟังที่สวีเดน เขาว่าทำให้สวีเดนได้รับการเยี่ยมเยียน จากเรือดำน้ำรัสเซียถึงหน้ากรุงสต๊อกโฮม คราวนี้ ไม่รู้อาเฮียและอิหร่าน และ ฯลฯ จะส่งอะไรไปเยี่ยมโอมาน แค่มีฐานทัพของไอ้นักล่าใบตองแห้ง อยู่แถบอ่าว ก็เป็นเป้าล่อพอแล้ว คราวนี้ยังมี ลูกปิงปอง ECHELON เครื่องดักสัญญานเป็นสายล่อฟ้า คอยอยู่ที่โอมาน ผมก็กลุ้มใจแทนเสี่ยใหญ่ปั้มนำ้มันซาอุจริงๆ ว่าจะตัดสินใจเดินทางไหน ที่จะทำให้ไม่ต้องทุกข์ระทม แต่ดูจากเรื่องราว และบทความของ Foreign Affairs แล้ว ผมคลับคล้าย คราวนี้ เสี่ยใหญ่ซาอุ จะถูกหลอกใช้ ให้เป็นเครื่องสังเวยยังไงไม่รู้ เขามีแผนอยากได้แต่ปั้มน้ำมัน ไม่อยากได้คนคุมปั้มติดไปด้วย เสี่ยพอนึกออกไหมครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 3 เม.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระสังกัจจายน์หลวงปู่เทพโลกอุดร กรุวังหน้า
    พระสังกัจจายน์หลวงปู่เทพโลกอุดร เนื้อผงพุทธคุณสีเขียว หายาก กรุวังหน้า //อธิษฐาน​จิตโดยหลวงปู่เทพ​โลก​อุดร​ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ค้าขายดี เลื่อนยศ มหาเสน่ห์ โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรีและป้องกันคุณไสยและภูตผีปีศาจ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** หลวงปู่​เทพ​โลก​อุดร พิมพ์พระสังกัจจายน์​ กรุวังหน้า สร้างโดยโดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 เป็นพระพิมพ์ที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ โดยช่างหลวงในยุคสมัยนั้นได้สรรสร้างงานชั้นดี ด้วยจินตนาการล้ำเลิศ ทั้งมีผู้ทรงภูมิธรรมสูงส่ง ได้อธิษฐานจิต ปลุกเสก ไว้สืบอายุพระพุทธศาสนา จึงเป็นมรดกทางพระพุทธศาสนาบนแผ่นดินสยาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์และรักษาไว้ให้ลูกหลานตราบนานเท่านาน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    พระสังกัจจายน์หลวงปู่เทพโลกอุดร กรุวังหน้า พระสังกัจจายน์หลวงปู่เทพโลกอุดร เนื้อผงพุทธคุณสีเขียว หายาก กรุวังหน้า //อธิษฐาน​จิตโดยหลวงปู่เทพ​โลก​อุดร​ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณเมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ค้าขายดี เลื่อนยศ มหาเสน่ห์ โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรีและป้องกันคุณไสยและภูตผีปีศาจ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** หลวงปู่​เทพ​โลก​อุดร พิมพ์พระสังกัจจายน์​ กรุวังหน้า สร้างโดยโดยกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ มีพระบัณฑูรให้สร้างขึ้น โดยช่างสิบหมู่แห่งวังหน้าเป็นผู้สร้าง และนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงที่วัดบวรสถานสุทธาวาส (พระอุโบสถประจำวังหน้า) มีการอาราธนาคณะหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร และ หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และ หรือ กลุ่มหลวงปู่องค์อภิญญาใหญ่ (เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน , หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า , หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร , หลวงปู่กรมพระยาปวเรศ เป็นต้น) อธิษฐานจิต ระหว่างปี พ.ศ.2400- 2428 เป็นพระพิมพ์ที่งดงามด้วยพุทธศิลป์ โดยช่างหลวงในยุคสมัยนั้นได้สรรสร้างงานชั้นดี ด้วยจินตนาการล้ำเลิศ ทั้งมีผู้ทรงภูมิธรรมสูงส่ง ได้อธิษฐานจิต ปลุกเสก ไว้สืบอายุพระพุทธศาสนา จึงเป็นมรดกทางพระพุทธศาสนาบนแผ่นดินสยาม ควรค่าแก่การอนุรักษ์และรักษาไว้ให้ลูกหลานตราบนานเท่านาน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อสงค์หลังอาจารย์สีแก้ว วัดคงคาวดี วัดปากบาง จ.สงขลา
    เหรียญหลวงพ่อสงค์หลังอาจารย์สีแก้ว วัดคงคาวดี (วัดปากบาง) อำเภอควนเนียง จ.สงขลา ปี2540 // พระดีพิธีใหญ่ พระมีประสบการณ์มาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ มหาอุด แคล้วคลาด คงกระพัน เมตตา โชคลาภ ป้องกันอันตรายทั้งปวงเสริมดวงชะตาเพิ่มสิริมงคล เสน่ห์เมตตามหานิยม เพิ่มบารมี เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป ฯลฯ

    ** วัดคงคาวดี (วัดปากบาง) อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา มีหลวงพ่อสงค์เป็นที่เคารพบูชามีชื่อเสียงในด้านคงกระพันธ์ชาตรีและเมตตามหานิยมในด้านอื่น โดยหลวงพ่อสงค์เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์กับอาจารย์สีแก้ว วัดไทรใหญ่ ตำบลควนรู อำเภอรัตภูมิ ภายในอุโบสถวัดคงคาวดีมีภาพเขียน จิตกรรมฝาผนังโดยศิลปินพื้นบ้าน และครูจูหลิง ปงกันมูล วาดไว้ก่อนเสียชีวิต **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อสงค์หลังอาจารย์สีแก้ว วัดคงคาวดี วัดปากบาง จ.สงขลา เหรียญหลวงพ่อสงค์หลังอาจารย์สีแก้ว วัดคงคาวดี (วัดปากบาง) อำเภอควนเนียง จ.สงขลา ปี2540 // พระดีพิธีใหญ่ พระมีประสบการณ์มาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ มหาอุด แคล้วคลาด คงกระพัน เมตตา โชคลาภ ป้องกันอันตรายทั้งปวงเสริมดวงชะตาเพิ่มสิริมงคล เสน่ห์เมตตามหานิยม เพิ่มบารมี เป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป ฯลฯ ** วัดคงคาวดี (วัดปากบาง) อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา มีหลวงพ่อสงค์เป็นที่เคารพบูชามีชื่อเสียงในด้านคงกระพันธ์ชาตรีและเมตตามหานิยมในด้านอื่น โดยหลวงพ่อสงค์เป็นศิษย์ร่วมอาจารย์กับอาจารย์สีแก้ว วัดไทรใหญ่ ตำบลควนรู อำเภอรัตภูมิ ภายในอุโบสถวัดคงคาวดีมีภาพเขียน จิตกรรมฝาผนังโดยศิลปินพื้นบ้าน และครูจูหลิง ปงกันมูล วาดไว้ก่อนเสียชีวิต ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts