• ใบบัวบก หรือ ภาษาล้านนา เรียกว่า”ผักหนอก” นอกจากจะนำมาจิ้มน้ำพริก หรือคั้นน้ำใบบัวบก ที่หอมเย็นแก้ร้อนใน

    คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลศิริราช ค้นพบว่า ใบบัวบก มีสารไตรเทอร์ปินอยด์ ไกลโคไซด์ เมื่อใช้ที่ความเข้มข้นเพียง 1% ใช้เป็นยาทาภายนอก มีคุณสมบัติช่วยเร่งการสมานแผลทั้งในแนวลึกและแนวกว้างได้ดีกว่ายาต้านการอักเสบอื่นๆ โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) หรือสตีรอยด์ (Steroid) ซึ่งมีผลเพียงรักษาตามพยาธิสภาพ แต่ไม่ช่วยเร่งการสมานแผล...
    ใบบัวบก หรือ ภาษาล้านนา เรียกว่า”ผักหนอก” นอกจากจะนำมาจิ้มน้ำพริก หรือคั้นน้ำใบบัวบก ที่หอมเย็นแก้ร้อนใน คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลศิริราช ค้นพบว่า ใบบัวบก มีสารไตรเทอร์ปินอยด์ ไกลโคไซด์ เมื่อใช้ที่ความเข้มข้นเพียง 1% ใช้เป็นยาทาภายนอก มีคุณสมบัติช่วยเร่งการสมานแผลทั้งในแนวลึกและแนวกว้างได้ดีกว่ายาต้านการอักเสบอื่นๆ โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) หรือสตีรอยด์ (Steroid) ซึ่งมีผลเพียงรักษาตามพยาธิสภาพ แต่ไม่ช่วยเร่งการสมานแผล...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • เห็ดย่าง

    เมนู(มังสะวิรัติ) อาหารคลีน ที่ทำกินได้ง่ายๆ โดยนำเห็ดนางฟ้า คลุกกับเกลือทะเลป่น ย่างกับไฟเตาถ่าน จะได้ความหอม และรสชาติไม่ต่างจาก ปลาหมึกย่าง.

    น้ำจิ้มซีฟู๊ด พริกขี้หนู กระเทียม รากผักชี สับปะรด น้ำมะนาว ซีอิ๊วขาว และเกลือ.
    เห็ดย่าง เมนู(มังสะวิรัติ) อาหารคลีน ที่ทำกินได้ง่ายๆ โดยนำเห็ดนางฟ้า คลุกกับเกลือทะเลป่น ย่างกับไฟเตาถ่าน จะได้ความหอม และรสชาติไม่ต่างจาก ปลาหมึกย่าง. น้ำจิ้มซีฟู๊ด พริกขี้หนู กระเทียม รากผักชี สับปะรด น้ำมะนาว ซีอิ๊วขาว และเกลือ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความรู้สึก ดี ดี..
    อเมริกัน..นับล้านคนที่ใส่ใจต่อสุขภาพ หันมากินผัก
    ความรู้สึก ดี ดี.. อเมริกัน..นับล้านคนที่ใส่ใจต่อสุขภาพ หันมากินผัก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • "The Chinese Revolution"

    ฉันเป็นชาวจีน(รุ่นใหม่) ที่อุตส่าห์ตะแบง ข้ามน้ำ ข้ามทะเล..ไปเรียนหนังสือกลับมา เริ่มมีเหตุผล(มากขึ้น) สได้ก่อการปฏิวัติกับครอบครัว โดยไม่ยอมเซ่นไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ ด้วยสุราและเนื้อสัตว์...แต่ยังคงเซ่นไหว้ตามพิธีดั้งเดิม ด้วยพืชผัก ผลไม้ ไม่จุดธูป ไม่จุดเทียน แต่ใช้เทียนและธูปไฟฟ้า โอนเงินทองไปสู่ปรภพด้วยบริการทางออนไลน์ เป็นผลสำเร็จมาแล้วหลายครอบครัว

    เป็นที่ทราบโดยชัดเจนว่า #มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ซึ่งสามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์

    1) ชนิดของฟัน
    ธรรมชาติสร้างฟันมนุษย์เป็นฟันซี่เรียงแถว สำหรับกัด บด เคี้ยว #แตกต่างจากสัตว์กินเนื้อที่มีเขี้ยวสำหรับการฉีก ล่าเหยื่อ

    2) ความเป็นกรด-ด่างของน้ำลาย
    มนุษย์มีน้ำลายที่เป็นด่างสำหรับย่อยแป้งและเซลลูโลสจากพืช #ต่างจากน้ำลายสัตว์กินเนื้อที่เป็นกรด สัตว์กินเนื้อไม่ได้ล่าเหยื่อทุกวัน การล่าแต่ละครั้งสามารถกินได้หลายวัน น้ำลายที่เป็นกรดธรรมชาติประทานมาให้เพื่อใช้ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์จากบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้(ล่าเหยื่อ) และใช้ในการย่อยเนื้อสัตว์ที่บูดเน่า.

    3) ชนิดของกรดในกระเพาะอาหาร
    มนุษย์มีน้ำย่อยที่เป็นกรดอ่อน สำหรับการย่อยเซลลูโลสและแป้งในกลุ่มอะมีโลส และมีปริมาณน้ำย่อย(น้อย)ไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์
    #ต่างจากน้ำย่อยในกระเพาะสัตว์กินเนื้อ ที่เป็นเอ็มไซม์เพ็พซินและทริปซิน เป็นกรดอย่างแรงกว่า20เท่าและมีปริมาณมากกว่าน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของมนุษย์ 5เท่า สำหรับการย่อยเนื้อสัตว์และกระดูกโดยเฉพาะ

    4) สัดส่วนความยาวของลำไส้ ต่อ ความยาวลำตัว
    (ความยาวลำตัว=ความยาวปากถึงรูตูด)

    มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ธรรมชาติจึงออกแบบให้มีลำไส้ยาว 7-10เท่าของความยาวลำตัว เพื่อดูดซึมสารอาหารจากพืชได้สำเร็จใน 4-6ชั่วโมง หากมนุษย์กินเนื้อสัตว์ กระเพาะไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้หมด ต่อจากนั้น..เป็นหน้าที่ของลำไส้ใช้เวลาย่อยและดูดซึมเนื้อสัตว์ 48-72ชั่วโมง ทำให้เกิดการบูดเน่า เกิดสารพิษ และจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ แก๊สที่มีพิษ ซึ่งทำให้บั่นทอนสุขภาพ อายุสั้นด้วยโรคต่างๆและโรคมะเร็ง

    #ต่างจากลำไส้สัตว์กินเนื้อที่มีความยาวไม่เกิน3เท่าของความยาวลำตัว กิน ย่อย ถ่ายรวดเร็วไม่มีปัญหาเรื่องความเป็นพิษในลำไส้.

    ครอบครัว..ให้ความเข้าใจและหันมากินผัก ผลไม้ ทำให้มีสุขภาพที่ดี มีอายุยืน(อายุขัยวัฒนา) กันทุกๆคน เมื่อจากโลกนี้ไปก็จะไปมีชิวิตนิรันดร์ในสายคริสต์ก็ไปอยู่บนสวรรค์กับพระผู้เป็นเจ้า สายพุทธศาสนาจะเข้าสู่โหมดนิพพาน(Nirvana)ได้ไม่ยากนัก เมื่อถือศีล(บริสุทธิ์)ย่อมเกิดสมาธิได้ไม่ยากนักเพราะไม่มีความพยาบาทอาฆาตแค้นจากชีวิตสัตว์มารบกวน จึงเกิดแสงสว่างแห่งปัญญานำไปตามทางสายเอกเข้าสู่นิพพานดับสูญ..ไม่ต้องเป็นสัมภเวสี ทนทุกข์ทรมาน เร่ร่อน ขอส่วนบุญตามสถานที่ต่างๆ หรือ วนเวียน ว่าย ตาย เกิด..อยู่เช่นนี้ ไม่เบื่อ บ้างหรือ?

    พระพุทธเจ้า ห้ามกินเนื้อสัตว์(อกัปปิยมังสะ) 10 ชนิด
    #และสัตว์ที่กินได้ต้องไม่เป็น ปวัตตมังสะ(ฆ่าเพื่อตน) และไม่เป็นอุททิสมังสะ(ฆ่าเพื่อผู้อื่น) หมายความว่า #เป็นสัตว์ที่ตายเองไม่ใช่สัตว์ทื่ถูกฆ่า จึงจะกินได้.

    ***แปลเป็นไทยว่า "สัตว์ที่ตายเอง ไม่ใช่สัตว์ที่ถูกฆ่า"
    ดังนั้น..การกินเนื้อสัตว์ ผิดทั้งพระและโยม นะจ๊ะ(ชาวพุทธ)

    สัตว์..มันก็คิดได้ คิดเป็น มนุษย์ลากมันเข้าหลักประหาร สัตว์มันรู้ มันรักตัว กลัวตาย มันร้องไห้ ดิ้นรน ไม่สงสารมันบ้างหรือไร?

    สัตว์มันมองดูมนุษย์เซ่นไหว้ เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ
    ตรุษจีน สาร์ทจีน..ฆ่าพวกกูไหว้เจ้า --->ได้บุญ
    พอปลายปีเทศกาลกินเจ..ไม่ฆ่าพวกกู-->ได้บุญ
    อย่าให้สัตว์พูดว่า "ตกลงพวกมึง จะเอายังงัยกับชีวิตของพวกมึง" !!!

    อมตะวาจา ของ Yeo MING กล่าวว่า
    "When the buying stops, the killing can too"
    อาจแปลได้ว่า "ผู้กินเนื้อสัตว์..คือหุ้นส่วนร่วมฆ่า" เช่นเดียวกัน ค่ะ
    .
    .
    Pachäree Wõng
    November20,2024
    Sausalito, California.
    "The Chinese Revolution" ฉันเป็นชาวจีน(รุ่นใหม่) ที่อุตส่าห์ตะแบง ข้ามน้ำ ข้ามทะเล..ไปเรียนหนังสือกลับมา เริ่มมีเหตุผล(มากขึ้น) สได้ก่อการปฏิวัติกับครอบครัว โดยไม่ยอมเซ่นไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ ด้วยสุราและเนื้อสัตว์...แต่ยังคงเซ่นไหว้ตามพิธีดั้งเดิม ด้วยพืชผัก ผลไม้ ไม่จุดธูป ไม่จุดเทียน แต่ใช้เทียนและธูปไฟฟ้า โอนเงินทองไปสู่ปรภพด้วยบริการทางออนไลน์ เป็นผลสำเร็จมาแล้วหลายครอบครัว เป็นที่ทราบโดยชัดเจนว่า #มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ซึ่งสามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ 1) ชนิดของฟัน ธรรมชาติสร้างฟันมนุษย์เป็นฟันซี่เรียงแถว สำหรับกัด บด เคี้ยว #แตกต่างจากสัตว์กินเนื้อที่มีเขี้ยวสำหรับการฉีก ล่าเหยื่อ 2) ความเป็นกรด-ด่างของน้ำลาย มนุษย์มีน้ำลายที่เป็นด่างสำหรับย่อยแป้งและเซลลูโลสจากพืช #ต่างจากน้ำลายสัตว์กินเนื้อที่เป็นกรด สัตว์กินเนื้อไม่ได้ล่าเหยื่อทุกวัน การล่าแต่ละครั้งสามารถกินได้หลายวัน น้ำลายที่เป็นกรดธรรมชาติประทานมาให้เพื่อใช้ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์จากบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้(ล่าเหยื่อ) และใช้ในการย่อยเนื้อสัตว์ที่บูดเน่า. 3) ชนิดของกรดในกระเพาะอาหาร มนุษย์มีน้ำย่อยที่เป็นกรดอ่อน สำหรับการย่อยเซลลูโลสและแป้งในกลุ่มอะมีโลส และมีปริมาณน้ำย่อย(น้อย)ไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ #ต่างจากน้ำย่อยในกระเพาะสัตว์กินเนื้อ ที่เป็นเอ็มไซม์เพ็พซินและทริปซิน เป็นกรดอย่างแรงกว่า20เท่าและมีปริมาณมากกว่าน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของมนุษย์ 5เท่า สำหรับการย่อยเนื้อสัตว์และกระดูกโดยเฉพาะ 4) สัดส่วนความยาวของลำไส้ ต่อ ความยาวลำตัว (ความยาวลำตัว=ความยาวปากถึงรูตูด) มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ธรรมชาติจึงออกแบบให้มีลำไส้ยาว 7-10เท่าของความยาวลำตัว เพื่อดูดซึมสารอาหารจากพืชได้สำเร็จใน 4-6ชั่วโมง หากมนุษย์กินเนื้อสัตว์ กระเพาะไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้หมด ต่อจากนั้น..เป็นหน้าที่ของลำไส้ใช้เวลาย่อยและดูดซึมเนื้อสัตว์ 48-72ชั่วโมง ทำให้เกิดการบูดเน่า เกิดสารพิษ และจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ แก๊สที่มีพิษ ซึ่งทำให้บั่นทอนสุขภาพ อายุสั้นด้วยโรคต่างๆและโรคมะเร็ง #ต่างจากลำไส้สัตว์กินเนื้อที่มีความยาวไม่เกิน3เท่าของความยาวลำตัว กิน ย่อย ถ่ายรวดเร็วไม่มีปัญหาเรื่องความเป็นพิษในลำไส้. ครอบครัว..ให้ความเข้าใจและหันมากินผัก ผลไม้ ทำให้มีสุขภาพที่ดี มีอายุยืน(อายุขัยวัฒนา) กันทุกๆคน เมื่อจากโลกนี้ไปก็จะไปมีชิวิตนิรันดร์ในสายคริสต์ก็ไปอยู่บนสวรรค์กับพระผู้เป็นเจ้า สายพุทธศาสนาจะเข้าสู่โหมดนิพพาน(Nirvana)ได้ไม่ยากนัก เมื่อถือศีล(บริสุทธิ์)ย่อมเกิดสมาธิได้ไม่ยากนักเพราะไม่มีความพยาบาทอาฆาตแค้นจากชีวิตสัตว์มารบกวน จึงเกิดแสงสว่างแห่งปัญญานำไปตามทางสายเอกเข้าสู่นิพพานดับสูญ..ไม่ต้องเป็นสัมภเวสี ทนทุกข์ทรมาน เร่ร่อน ขอส่วนบุญตามสถานที่ต่างๆ หรือ วนเวียน ว่าย ตาย เกิด..อยู่เช่นนี้ ไม่เบื่อ บ้างหรือ? พระพุทธเจ้า ห้ามกินเนื้อสัตว์(อกัปปิยมังสะ) 10 ชนิด #และสัตว์ที่กินได้ต้องไม่เป็น ปวัตตมังสะ(ฆ่าเพื่อตน) และไม่เป็นอุททิสมังสะ(ฆ่าเพื่อผู้อื่น) หมายความว่า #เป็นสัตว์ที่ตายเองไม่ใช่สัตว์ทื่ถูกฆ่า จึงจะกินได้. ***แปลเป็นไทยว่า "สัตว์ที่ตายเอง ไม่ใช่สัตว์ที่ถูกฆ่า" ดังนั้น..การกินเนื้อสัตว์ ผิดทั้งพระและโยม นะจ๊ะ(ชาวพุทธ) สัตว์..มันก็คิดได้ คิดเป็น มนุษย์ลากมันเข้าหลักประหาร สัตว์มันรู้ มันรักตัว กลัวตาย มันร้องไห้ ดิ้นรน ไม่สงสารมันบ้างหรือไร? สัตว์มันมองดูมนุษย์เซ่นไหว้ เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ ตรุษจีน สาร์ทจีน..ฆ่าพวกกูไหว้เจ้า --->ได้บุญ พอปลายปีเทศกาลกินเจ..ไม่ฆ่าพวกกู-->ได้บุญ อย่าให้สัตว์พูดว่า "ตกลงพวกมึง จะเอายังงัยกับชีวิตของพวกมึง" !!! อมตะวาจา ของ Yeo MING กล่าวว่า "When the buying stops, the killing can too" อาจแปลได้ว่า "ผู้กินเนื้อสัตว์..คือหุ้นส่วนร่วมฆ่า" เช่นเดียวกัน ค่ะ . . Pachäree Wõng November20,2024 Sausalito, California.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • การขยายพันธุ์..ผักชีใบเลื่อย ด้วยเมล็ด

    (ขวามือ)คือ ดอกและเมล็ด เมื่อนำมาแยกเมล็ดออก(ซ้ายมือ)
    นำมาตากแห้ง เก็บไว้ในที่แห้ง และเย็น เก็บได้หลายปี

    เมล็ด มีขนาดเล็กมาก ใช้ไม้จิ้มฟันจุ่มน้ำ แตะเมล็ด ไปปลูกใต้ต้นเดิม รดน้ำด้วยสเปรย์น้ำแบบละอองในเวลาเช้า เย็น ไม่กี่วันก็งอกเป็นต้นอ่อน แล้วย้ายปลูกเมื่อต้นแข็งแรง
    การขยายพันธุ์..ผักชีใบเลื่อย ด้วยเมล็ด (ขวามือ)คือ ดอกและเมล็ด เมื่อนำมาแยกเมล็ดออก(ซ้ายมือ) นำมาตากแห้ง เก็บไว้ในที่แห้ง และเย็น เก็บได้หลายปี เมล็ด มีขนาดเล็กมาก ใช้ไม้จิ้มฟันจุ่มน้ำ แตะเมล็ด ไปปลูกใต้ต้นเดิม รดน้ำด้วยสเปรย์น้ำแบบละอองในเวลาเช้า เย็น ไม่กี่วันก็งอกเป็นต้นอ่อน แล้วย้ายปลูกเมื่อต้นแข็งแรง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นาฬิกาชีวิต จังหวะเวลาที่กำหนดสุขภาพ
    ทุกวัน..จะชอบเขียนเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ คือ ไม่กินเนื้อสัตว์ ละเว้นการเบียดเบียนตามหลักพุทธศาสนา คือ ถือศีลข้อที่๑(บริสุทธิ์) ทำให้เลือดในร่างกายไม่เป็นกรด ปัญหาเรื่องกระดูกพรุนไม่เกิด และมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ไม่ต้องเป็นภาระทางราชการ หรือ ต้องสูญเสียเงินทองมากมายเมื่อเข้าสู่วัยชรา.
    วันนี้..ที่บ้านมีพะโล้ฟองเต้าหู้ กับ ผักกาดจอ หม้อใหญ่ๆ เป็นอาหารหลัก ทำเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คงกินได้หลายวัน
    วันนี้จึงไม่โม้เรื่องอาหาร เพราะเคยเขียนเผยแพร่แล้ว
    วันนี้พูดเรื่องสำคัญ..มากเท่ากับเรื่องอาหาร คือ
    วินัย ของ การทำงานในร่างกาย ปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ ถูกที่ ถูกเวลา ตลอดเวลา ๒๔ชั่วโมง ก็ สำคัญมาก ซึ่งวันนี้ จะนำเสนอให้ทราบ ดังนี้
    เหตุผลตามธรรมชาติ
    #ทำไมต้องนอนสามทุ่มตื่นตีสาม?
    ต้องดื่มน้ำหลังตื่นนอน ขับถ่ายของเสีย กินอาหารให้ตรงเวลา
    #ทำไมเวลาเก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมงเช้า(ห้ามนอน..เด็ดขาด)
    บ่ายโมงถึงบ่ายสามไม่ควรกินอาหาร
    #บ่ายสามถึงห้าโมงเย็นเป็นเวลาออกกำลังกาย
    --->สามทุ่ม(ต้อง)เข้านอน(ห่มผ้า)ให้อบอุ่น ไม่ควรอาบน้ำเย็น
    #สี่ทุ่มถึงตีสามคือเวลาของฮอร์โมนเมลาโทนิน(หลั่ง)
    --->ต้อง(ห่มผ้า)นอนหลับให้สนิท และ ปิดไฟให้มืด
    จึงจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาว 120 ปี
    #นาฬิกาชีวิต คือ การดูแลรักษาสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัด ให้มีสุขภาพที่ดีอายุยืนนาน ตามศาสตร์การแพทย์จีน อายุรเวทของอินเดีย และอียิปต์โบราณได้ค้นพบ และบันทึกตรงกันว่า
    #อวัยวะในร่างกายมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ #อวัยวะตัน --->หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ และไต #อวัยวะกลวง --->กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ และ ระบบความร้อนในร่างกาย
    ทั้งหมดรวมได้ 12 อวัยวะ ควบคุมการไหลเวียนด้วยพลังชีวิตที่เรียกว่า.. “ #ลมปราณ” หมุนเวียนเป็นวัฏจักรทุก 2 ชั่วโมง ตามลำดับ
    ดังนั้นใน 1วัน=12อวัยวะX2ชั่วโมง จึงเท่ากับ 24ชั่วโมง (พอดีเป๊ะ)
    นี่แหละ คือ วัฏจักรของการทำงาน(ตามปกติ)ของอวัยวะในร่างกายมนุษย์ ที่เรียกว่า #นาฬิกาชีวิต นั่นเอง ค่ะ
    #ตารางการเดินลมปราณในแต่ละวัน จึงเป็นการดูแลสุขภาพอย่างง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับ..”นาฬิกาชีวิต” ได้ดังนี้...
    เวลา 01.00-03.00น. ควรเป็นเวลาของ #ตับ มีหน้าที่เป็นโรงงานกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้นในช่วงเวลานี้ร่างกาย #ควรนอนหลับให้สนิทเพื่อให้ตับได้ขจัดสารพิษออกจากร่างกายหากไม่หลับในช่วงนี้จะทำให้สะสมพิษทำให้เกิดอาการเพลีย เหนื่อยง่าย
    โรคต่างที่เกิดจากพิษสารเคมีสะสมจะทำให้ป่วยง่าย+เรื้อรัง-ตายอย่างเวทนาและทุกข์ทรมาน นะคะ(ขอ บอก)
    เวลา 03.00-05.00น. #ควรตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น ฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก..ลึกๆ ช้าๆ..สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสาย ทำให้สุขภาพปอดและร่างกายโดยรวมจะดีไปด้วย
    #การดื่มน้ำอุ่นในช่วงนี้และการซิทอัป--->จะกระตุ้น(เร่ง)การทำงานของลำไส้ใหญ่ ซึ่งทำงานในช่วงต่อไป..
    เวลา 05.00-07.00น. เป็นช่วงเวลาของ #การทำงานลำไส้ใหญ่ บีบรัดตัวได้ดีที่สุด เป็นเวลาขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย การไม่ขับถ่ายในช่วงเวลานี้ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดซึมกลับไป สะสมสารพิษ สะสม ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เวลา 05.45-06.00น.เป็นเวลาที่ดีที่สุด ของ #การฝึกสมาธิ เพราะในขณะที่ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ&แปรงฟัน..เสร็จ ปลอดโปร่ง..#โล่งทั้งกายและใจไม่มีเรื่องเครียด เรื่องงานมากวนใจ ฝึกนั่งสมาธิในช่วงนี้(ทุกวัน)สามารถเข้าถึงสมาธิได้สำเร็จ(ง่าย)มาก..ค่ะ
    เวลา 07.00-09.00น. คือช่วงเวลาของ #กระเพาะอาหาร ต้องกินอาหารเช้าเป็นมื้อหลักที่มีสารอาหารอย่างครบถ้วน หากไม่กินมื้อเช้า(มื้อสำคัญ)จะเป็นโรคกระเพาะอย่างรวดเร็ว และสะสมเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในระยะยาว
    เวลา 09.00-011.00น. เป็นเวลาของ #ม้าม ควบคุมเม็ดเลือดขาว กำจัดเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ ดังนั้นผู้ที่นอนในช่วงนี้จะส่งผลให้ม้ามอ่อนแอ มี #ภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ติดเชื้อเป็นโรคต่างๆได้ง่าย
    เวลา 11.00-13.00น. ช่วงพักเที่ยง เป็นช่วงเวลาของ #หัวใจ ควรพักผ่อน..สบายๆ งดน้ำชา กาแฟ หลีกเลี่ยงความเครียดซึ่งทำให้หัวใจเต้นแรง ทำงานหนักเกิน ส่งผลให้หัวใจวายได้อย่างง่ายๆ ในช่วงเวลาเที่ยง จ๊ะ
    เวลา 13.00-15.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ลำไส้เล็ก ในช่วงนี้ร่างกายส่งพลังงานทั้งหมดไปยังลำไส้เล็กเพื่อการดูดซึม #การกินอาหารในช่วงนี้จะไปขัดขวางโอกาสทองของระบบดูดซีมที่ต้องแบ่งพลังงานไปใช้ในการย่อยในกระเพาะอาหาร ช่วงนี้สมองในส่วนความจำจะทำงานได้ดีที่สุดในรอบวัน
    เวลา 15.00-17.00น. เวลาของ #กระเพาะปัสสาวะ และการขับเหงื่อ #จึงควรออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ เหมาะกับการอบซาวน่าเพื่อให้เหงื่อออก สำหรับหนุ่มสาวที่ทำงานในช่วงนี้ ก็สามารถใช้ท่าการออกกำลังกายในสำนักงาน หรือเดินไป-มา ขึ้น-ลงบันได เพื่อส่งเสริมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะได้..เช่นกัน
    เวลา 17.00-19.00น. #ช่วงเวลาของไต มีหน้าที่รักษาสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย โดยกำจัดส่วนเกินออกทางปัสสาวะและเหงื่อ #เวลาช่วงนี้จึงควรทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง ไม่หลับ เป็นช่วงCool Down หรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ต่อจากการออกกำลังกายอย่างหนัก..ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
    เวลา 19.00-21.00น. ช่วงนี้เป็นเวลาที่ #เยื่อหุ้มหัวใจ..บางที่สุด จึงควรระวังอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจ โกรธ เสียใจ การที่ทำให้ตื่นตัวมากๆส่งผลให้เยื่อหุ้มหัวใจฉีกขาดได้ง่าย ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงควรปิดโทรศัพท์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ
    เวลา 21.00-23.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ระบบความร้อนในร่างกาย ซึ่งตามธรรมชาติ..ในช่วงเวลานี้อากาศเริ่มเย็น ร่างกายคนเราต้องสร้างความร้อนขึ้น จึงไม่ควรอาบน้ำหรือดื่มน้ำเย็น และควรเข้านอนในช่วงเวลานี้ ควรดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วก่อนนอนเพื่อส่งเสริมการทำงานของถุงน้ำดีในเวลาถัดไป.
    เวลา 23.00-01.00น. เวลาของ #ถุงน้ำดี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่หลับ ร่างกายจะอยู่ในสภาพที่ขาดน้ำ อวัยวะต่างๆจะดึงน้ำจากถุงน้ำดี..แล้วนำไปใช้ หากน้ำในถุงน้ำดีข้นเกินไปอาจส่งผลให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติได้ #หากไม่นอนในช่วงนี้จะเกิดถุงไขมันใต้ตา และไขมันพอกตับ
    .
    .
    เจริญธรรม สำนึกดี
    Pachäree Wõng
    November21, 2024
    Sausalito, California.
    #นาฬิกาชีวิต จังหวะเวลาที่กำหนดสุขภาพ ทุกวัน..จะชอบเขียนเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ คือ ไม่กินเนื้อสัตว์ ละเว้นการเบียดเบียนตามหลักพุทธศาสนา คือ ถือศีลข้อที่๑(บริสุทธิ์) ทำให้เลือดในร่างกายไม่เป็นกรด ปัญหาเรื่องกระดูกพรุนไม่เกิด และมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ไม่ต้องเป็นภาระทางราชการ หรือ ต้องสูญเสียเงินทองมากมายเมื่อเข้าสู่วัยชรา. วันนี้..ที่บ้านมีพะโล้ฟองเต้าหู้ กับ ผักกาดจอ หม้อใหญ่ๆ เป็นอาหารหลัก ทำเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คงกินได้หลายวัน วันนี้จึงไม่โม้เรื่องอาหาร เพราะเคยเขียนเผยแพร่แล้ว วันนี้พูดเรื่องสำคัญ..มากเท่ากับเรื่องอาหาร คือ วินัย ของ การทำงานในร่างกาย ปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ ถูกที่ ถูกเวลา ตลอดเวลา ๒๔ชั่วโมง ก็ สำคัญมาก ซึ่งวันนี้ จะนำเสนอให้ทราบ ดังนี้ เหตุผลตามธรรมชาติ #ทำไมต้องนอนสามทุ่มตื่นตีสาม? ต้องดื่มน้ำหลังตื่นนอน ขับถ่ายของเสีย กินอาหารให้ตรงเวลา #ทำไมเวลาเก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมงเช้า(ห้ามนอน..เด็ดขาด) บ่ายโมงถึงบ่ายสามไม่ควรกินอาหาร #บ่ายสามถึงห้าโมงเย็นเป็นเวลาออกกำลังกาย --->สามทุ่ม(ต้อง)เข้านอน(ห่มผ้า)ให้อบอุ่น ไม่ควรอาบน้ำเย็น #สี่ทุ่มถึงตีสามคือเวลาของฮอร์โมนเมลาโทนิน(หลั่ง) --->ต้อง(ห่มผ้า)นอนหลับให้สนิท และ ปิดไฟให้มืด จึงจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาว 120 ปี #นาฬิกาชีวิต คือ การดูแลรักษาสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัด ให้มีสุขภาพที่ดีอายุยืนนาน ตามศาสตร์การแพทย์จีน อายุรเวทของอินเดีย และอียิปต์โบราณได้ค้นพบ และบันทึกตรงกันว่า #อวัยวะในร่างกายมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ #อวัยวะตัน --->หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ และไต #อวัยวะกลวง --->กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ และ ระบบความร้อนในร่างกาย ทั้งหมดรวมได้ 12 อวัยวะ ควบคุมการไหลเวียนด้วยพลังชีวิตที่เรียกว่า.. “ #ลมปราณ” หมุนเวียนเป็นวัฏจักรทุก 2 ชั่วโมง ตามลำดับ ดังนั้นใน 1วัน=12อวัยวะX2ชั่วโมง จึงเท่ากับ 24ชั่วโมง (พอดีเป๊ะ) นี่แหละ คือ วัฏจักรของการทำงาน(ตามปกติ)ของอวัยวะในร่างกายมนุษย์ ที่เรียกว่า #นาฬิกาชีวิต นั่นเอง ค่ะ #ตารางการเดินลมปราณในแต่ละวัน จึงเป็นการดูแลสุขภาพอย่างง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับ..”นาฬิกาชีวิต” ได้ดังนี้... เวลา 01.00-03.00น. ควรเป็นเวลาของ #ตับ มีหน้าที่เป็นโรงงานกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้นในช่วงเวลานี้ร่างกาย #ควรนอนหลับให้สนิทเพื่อให้ตับได้ขจัดสารพิษออกจากร่างกายหากไม่หลับในช่วงนี้จะทำให้สะสมพิษทำให้เกิดอาการเพลีย เหนื่อยง่าย โรคต่างที่เกิดจากพิษสารเคมีสะสมจะทำให้ป่วยง่าย+เรื้อรัง-ตายอย่างเวทนาและทุกข์ทรมาน นะคะ(ขอ บอก) เวลา 03.00-05.00น. #ควรตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น ฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก..ลึกๆ ช้าๆ..สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสาย ทำให้สุขภาพปอดและร่างกายโดยรวมจะดีไปด้วย #การดื่มน้ำอุ่นในช่วงนี้และการซิทอัป--->จะกระตุ้น(เร่ง)การทำงานของลำไส้ใหญ่ ซึ่งทำงานในช่วงต่อไป.. เวลา 05.00-07.00น. เป็นช่วงเวลาของ #การทำงานลำไส้ใหญ่ บีบรัดตัวได้ดีที่สุด เป็นเวลาขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย การไม่ขับถ่ายในช่วงเวลานี้ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดซึมกลับไป สะสมสารพิษ สะสม ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เวลา 05.45-06.00น.เป็นเวลาที่ดีที่สุด ของ #การฝึกสมาธิ เพราะในขณะที่ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ&แปรงฟัน..เสร็จ ปลอดโปร่ง..#โล่งทั้งกายและใจไม่มีเรื่องเครียด เรื่องงานมากวนใจ ฝึกนั่งสมาธิในช่วงนี้(ทุกวัน)สามารถเข้าถึงสมาธิได้สำเร็จ(ง่าย)มาก..ค่ะ เวลา 07.00-09.00น. คือช่วงเวลาของ #กระเพาะอาหาร ต้องกินอาหารเช้าเป็นมื้อหลักที่มีสารอาหารอย่างครบถ้วน หากไม่กินมื้อเช้า(มื้อสำคัญ)จะเป็นโรคกระเพาะอย่างรวดเร็ว และสะสมเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในระยะยาว เวลา 09.00-011.00น. เป็นเวลาของ #ม้าม ควบคุมเม็ดเลือดขาว กำจัดเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ ดังนั้นผู้ที่นอนในช่วงนี้จะส่งผลให้ม้ามอ่อนแอ มี #ภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ติดเชื้อเป็นโรคต่างๆได้ง่าย เวลา 11.00-13.00น. ช่วงพักเที่ยง เป็นช่วงเวลาของ #หัวใจ ควรพักผ่อน..สบายๆ งดน้ำชา กาแฟ หลีกเลี่ยงความเครียดซึ่งทำให้หัวใจเต้นแรง ทำงานหนักเกิน ส่งผลให้หัวใจวายได้อย่างง่ายๆ ในช่วงเวลาเที่ยง จ๊ะ เวลา 13.00-15.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ลำไส้เล็ก ในช่วงนี้ร่างกายส่งพลังงานทั้งหมดไปยังลำไส้เล็กเพื่อการดูดซึม #การกินอาหารในช่วงนี้จะไปขัดขวางโอกาสทองของระบบดูดซีมที่ต้องแบ่งพลังงานไปใช้ในการย่อยในกระเพาะอาหาร ช่วงนี้สมองในส่วนความจำจะทำงานได้ดีที่สุดในรอบวัน เวลา 15.00-17.00น. เวลาของ #กระเพาะปัสสาวะ และการขับเหงื่อ #จึงควรออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ เหมาะกับการอบซาวน่าเพื่อให้เหงื่อออก สำหรับหนุ่มสาวที่ทำงานในช่วงนี้ ก็สามารถใช้ท่าการออกกำลังกายในสำนักงาน หรือเดินไป-มา ขึ้น-ลงบันได เพื่อส่งเสริมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะได้..เช่นกัน เวลา 17.00-19.00น. #ช่วงเวลาของไต มีหน้าที่รักษาสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย โดยกำจัดส่วนเกินออกทางปัสสาวะและเหงื่อ #เวลาช่วงนี้จึงควรทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง ไม่หลับ เป็นช่วงCool Down หรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ต่อจากการออกกำลังกายอย่างหนัก..ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เวลา 19.00-21.00น. ช่วงนี้เป็นเวลาที่ #เยื่อหุ้มหัวใจ..บางที่สุด จึงควรระวังอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจ โกรธ เสียใจ การที่ทำให้ตื่นตัวมากๆส่งผลให้เยื่อหุ้มหัวใจฉีกขาดได้ง่าย ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงควรปิดโทรศัพท์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ เวลา 21.00-23.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ระบบความร้อนในร่างกาย ซึ่งตามธรรมชาติ..ในช่วงเวลานี้อากาศเริ่มเย็น ร่างกายคนเราต้องสร้างความร้อนขึ้น จึงไม่ควรอาบน้ำหรือดื่มน้ำเย็น และควรเข้านอนในช่วงเวลานี้ ควรดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วก่อนนอนเพื่อส่งเสริมการทำงานของถุงน้ำดีในเวลาถัดไป. เวลา 23.00-01.00น. เวลาของ #ถุงน้ำดี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่หลับ ร่างกายจะอยู่ในสภาพที่ขาดน้ำ อวัยวะต่างๆจะดึงน้ำจากถุงน้ำดี..แล้วนำไปใช้ หากน้ำในถุงน้ำดีข้นเกินไปอาจส่งผลให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติได้ #หากไม่นอนในช่วงนี้จะเกิดถุงไขมันใต้ตา และไขมันพอกตับ . . เจริญธรรม สำนึกดี Pachäree Wõng November21, 2024 Sausalito, California.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 521 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำเอาเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงและแฟนคลับพากันส่งกำลังใจและร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก หลังนักร้อง "โตโน่ ภาคิน" ที่ได้ออกมาเผยข่าวเศร้า สูญเสียอาม่าอันเป็นที่รัก จากไปอย่างสงบ ในวัย 106 ปี

    โดย "โตโน่" ได้โพสต์ภาพของอาม่า พร้อมเขียนข้อความอาลัยไว้ว่า "หลับให้สบายในโลกนี้ แล้วคอยคุ้มครองโน่จากบนฟ้านะครับม่า

    เลือดของอาม่า เลือดของอาป๊าอยู่ในตัวโน่ คอยเป็นพลัง คอยเป็นกำลังใจ คอยย้ำเตือน ให้โน่มีความมุ่งมั่น ความอดทน ในการทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จ ทั้งเรื่องของส่วนรวม และเรื่องส่วนตัวนะครับม่า”

    ขอบคุณสำหรับไข่เจียว ผักกาดดอง กุนเชียงทอด ในตอนที่โน่เป็นเด็กนะครับ บ๊ายบายครับ อาม่า BYE BYE อาม่าฮวย แซ่เตียว อายุ 106 ปี”

    #MGROnline #โตโน่
    ทำเอาเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงและแฟนคลับพากันส่งกำลังใจและร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก หลังนักร้อง "โตโน่ ภาคิน" ที่ได้ออกมาเผยข่าวเศร้า สูญเสียอาม่าอันเป็นที่รัก จากไปอย่างสงบ ในวัย 106 ปี • โดย "โตโน่" ได้โพสต์ภาพของอาม่า พร้อมเขียนข้อความอาลัยไว้ว่า "หลับให้สบายในโลกนี้ แล้วคอยคุ้มครองโน่จากบนฟ้านะครับม่า • เลือดของอาม่า เลือดของอาป๊าอยู่ในตัวโน่ คอยเป็นพลัง คอยเป็นกำลังใจ คอยย้ำเตือน ให้โน่มีความมุ่งมั่น ความอดทน ในการทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จ ทั้งเรื่องของส่วนรวม และเรื่องส่วนตัวนะครับม่า” • ขอบคุณสำหรับไข่เจียว ผักกาดดอง กุนเชียงทอด ในตอนที่โน่เป็นเด็กนะครับ บ๊ายบายครับ อาม่า BYE BYE อาม่าฮวย แซ่เตียว อายุ 106 ปี” • #MGROnline #โตโน่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิ่มปลาเผาถนนกัลปพฤกษ์ "ร้านปลาเผาเจ้านี้ตั้งอยู่แถวราชพฤกษ์ รายการอาหารที่นิยมคือ "ปลาเผา" ชนิดต่าง ๆ เช่น ปลาช่อน, ปลาทับทิม, ปลากะพง วันนี้สั่งเป็น "ประกะพงย่างเกลือ" มากิน เนื้อปลากะพงสด หวาน บริเวณท้องปลาจะใส่สมุนไพรตำเพื่อดับกลิ่นคาวปลา กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดและน้ำจิ้มแจ่วแล้วแซ่บมาก นอกจากนี้ยังมีผักเคียงอย่าง "กะหล่ำปลี" และ "มะเขือเผา" มาให้อีกด้วย”

    #ปลาเผา #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    อิ่มปลาเผาถนนกัลปพฤกษ์ "ร้านปลาเผาเจ้านี้ตั้งอยู่แถวราชพฤกษ์ รายการอาหารที่นิยมคือ "ปลาเผา" ชนิดต่าง ๆ เช่น ปลาช่อน, ปลาทับทิม, ปลากะพง วันนี้สั่งเป็น "ประกะพงย่างเกลือ" มากิน เนื้อปลากะพงสด หวาน บริเวณท้องปลาจะใส่สมุนไพรตำเพื่อดับกลิ่นคาวปลา กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดและน้ำจิ้มแจ่วแล้วแซ่บมาก นอกจากนี้ยังมีผักเคียงอย่าง "กะหล่ำปลี" และ "มะเขือเผา" มาให้อีกด้วย” #ปลาเผา #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิ่มปลาเผาถนนกัลปพฤกษ์ "ร้านปลาเผาเจ้านี้ตั้งอยู่แถวราชพฤกษ์ รายการอาหารที่นิยมคือ "ปลาเผา" ชนิดต่าง ๆ เช่น ปลาช่อน, ปลาทับทิม, ปลากะพง วันนี้สั่งเป็น "ประกะพงย่างเกลือ" มากิน เนื้อปลากะพงสด หวาน บริเวณท้องปลาจะใส่สมุนไพรตำเพื่อดับกลิ่นคาวปลา กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดและน้ำจิ้มแจ่วแล้วแซ่บมาก นอกจากนี้ยังมีผักเคียงอย่าง "กะหล่ำปลี" และ "มะเขือเผา" มาให้อีกด้วย”

    #ปลาเผา #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    อิ่มปลาเผาถนนกัลปพฤกษ์ "ร้านปลาเผาเจ้านี้ตั้งอยู่แถวราชพฤกษ์ รายการอาหารที่นิยมคือ "ปลาเผา" ชนิดต่าง ๆ เช่น ปลาช่อน, ปลาทับทิม, ปลากะพง วันนี้สั่งเป็น "ประกะพงย่างเกลือ" มากิน เนื้อปลากะพงสด หวาน บริเวณท้องปลาจะใส่สมุนไพรตำเพื่อดับกลิ่นคาวปลา กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดและน้ำจิ้มแจ่วแล้วแซ่บมาก นอกจากนี้ยังมีผักเคียงอย่าง "กะหล่ำปลี" และ "มะเขือเผา" มาให้อีกด้วย” #ปลาเผา #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • การทานอาหารตามธาตุเจ้าเรือน เป็นศาสตร์แห่งการรักษาสุขภาพด้วยการทานอาหาร ซึ่งตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทยได้กล่าวว่า ร่างกายของคนเรานั้นล้วนประกอบขึ้นด้วยธาตุต่างๆ ได้แก่ธาตุไฟ ธาตุลม ธาตุน้ำ ธาตุดิน เมื่อธาตุทั้งสี่ในร่างกายสมดุลแล้ว จะไม่ค่อยเจ็บป่วย แต่หากขาดสมดุลแล้วจะเกิดการเจ็บป่วยจากจุดอ่อนด้านสุขภาพของคนตามธาตุเจ้าเรือน
    ธาตุไฟ คือ ผู้ที่เกิด (เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์-มีนาคม)
    ผู้ที่เกิดธาตุนี้ขี้ร้อน หงุดหงิดง่าย เป็นลมพิษ ปวดหัวบ่อย ผิวแห้งและท้องผูกบ่อย
    ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเย็น รสขม รสจืด เพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกาย โดยเมนูตัวอย่างที่แนะนำ เช่น ต้มจืดฟักหมู ต้มจืดตำลึง แตงกวาผัดไข่ น้ำเก๊กฮวย เป็นต้น
    ธาตุลม คือ ผู้ที่เกิด (เดือนเมษายน-พฤษภาคม-มิถุนายน)
    ผู้ที่เกิดธาตุลม มักมีลมอยู่ภายในร่างกายค่อนข้างมาก ก็จะส่งผลให้มีอาการท้องอืด ปวดเส้น หน้ามืด วิงเวียน ปวดหัว นอนไม่หลับ
    ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเผ็ดร้อน เพื่อกระจายและลดธาตุลม ได้แก่ ต้มยำกุ้ง ไก่ผัดขิง ต้มข่าไก่ บัวลอยน้ำขิง เป็นต้น
    ธาตุน้ำ คือ ผู้ที่เกิด (เดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน)
    ผู้ที่เกิดธาตุน้ำจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก โรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อยสำหรับผู้ที่เกิดธาตุน้ำได้แก่ โรคภูมิแพ้ น้ำเหลืองเสีย ขาบวม อ้วน โรคเนื้องอก ซีสต์
    ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเปรี้ยว รสขม เพื่อปรับสมดุลน้ำในร่างกาย ได้แก่ ต้มจืดมะระ แกงส้มดอกแค ห่อหมกใบยอ น้ำใบบัวบก เป็นต้น
    ธาตุดิน คือ ผู้ที่เกิด (ตุลาคม-พฤศจิกายน-ธันวาคม)
    ผู้ที่เกิดธาตุดินควรรับประทานอาหารรส ฝาด หวาน มัน เค็ม เพื่อบำรุงกำลัง ได้แก่ แกงคั่วขนุน สะตอผัดกุ้ง ผัดฟัดทอง ผัดผักหวาน น้ำอ้อย เป็นต้น
    ----
    สนใจผลิตภัณฑ์และขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่…
    Line OA : https://lin.ee/MOFhjQs
    Facebook : https://www.facebook.com/qr?id=100090076934583
    #โปรโมชั่นสุดคุ้ม #ผลิตภัณฑ์สมุนไพร #ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม #สยามไภษัชย์ #วิลิตา #เฮอร์บาติก้า #Siamphaisat #Vilita #Herbatika #thaitimes
    การทานอาหารตามธาตุเจ้าเรือน เป็นศาสตร์แห่งการรักษาสุขภาพด้วยการทานอาหาร ซึ่งตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทยได้กล่าวว่า ร่างกายของคนเรานั้นล้วนประกอบขึ้นด้วยธาตุต่างๆ ได้แก่ธาตุไฟ ธาตุลม ธาตุน้ำ ธาตุดิน เมื่อธาตุทั้งสี่ในร่างกายสมดุลแล้ว จะไม่ค่อยเจ็บป่วย แต่หากขาดสมดุลแล้วจะเกิดการเจ็บป่วยจากจุดอ่อนด้านสุขภาพของคนตามธาตุเจ้าเรือน ธาตุไฟ คือ ผู้ที่เกิด (เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์-มีนาคม) ผู้ที่เกิดธาตุนี้ขี้ร้อน หงุดหงิดง่าย เป็นลมพิษ ปวดหัวบ่อย ผิวแห้งและท้องผูกบ่อย ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเย็น รสขม รสจืด เพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกาย โดยเมนูตัวอย่างที่แนะนำ เช่น ต้มจืดฟักหมู ต้มจืดตำลึง แตงกวาผัดไข่ น้ำเก๊กฮวย เป็นต้น ธาตุลม คือ ผู้ที่เกิด (เดือนเมษายน-พฤษภาคม-มิถุนายน) ผู้ที่เกิดธาตุลม มักมีลมอยู่ภายในร่างกายค่อนข้างมาก ก็จะส่งผลให้มีอาการท้องอืด ปวดเส้น หน้ามืด วิงเวียน ปวดหัว นอนไม่หลับ ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเผ็ดร้อน เพื่อกระจายและลดธาตุลม ได้แก่ ต้มยำกุ้ง ไก่ผัดขิง ต้มข่าไก่ บัวลอยน้ำขิง เป็นต้น ธาตุน้ำ คือ ผู้ที่เกิด (เดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน) ผู้ที่เกิดธาตุน้ำจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก โรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อยสำหรับผู้ที่เกิดธาตุน้ำได้แก่ โรคภูมิแพ้ น้ำเหลืองเสีย ขาบวม อ้วน โรคเนื้องอก ซีสต์ ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเปรี้ยว รสขม เพื่อปรับสมดุลน้ำในร่างกาย ได้แก่ ต้มจืดมะระ แกงส้มดอกแค ห่อหมกใบยอ น้ำใบบัวบก เป็นต้น ธาตุดิน คือ ผู้ที่เกิด (ตุลาคม-พฤศจิกายน-ธันวาคม) ผู้ที่เกิดธาตุดินควรรับประทานอาหารรส ฝาด หวาน มัน เค็ม เพื่อบำรุงกำลัง ได้แก่ แกงคั่วขนุน สะตอผัดกุ้ง ผัดฟัดทอง ผัดผักหวาน น้ำอ้อย เป็นต้น ---- สนใจผลิตภัณฑ์และขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่… Line OA : https://lin.ee/MOFhjQs Facebook : https://www.facebook.com/qr?id=100090076934583 #โปรโมชั่นสุดคุ้ม #ผลิตภัณฑ์สมุนไพร #ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม #สยามไภษัชย์ #วิลิตา #เฮอร์บาติก้า #Siamphaisat #Vilita #Herbatika #thaitimes
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองปลูกผักสลัด19วัน โตช้าไปหน่อย #ความสุขอยู่รอบตัวเรา
    ลองปลูกผักสลัด19วัน โตช้าไปหน่อย #ความสุขอยู่รอบตัวเรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • เมื่อคืนนี้ผมนอนไม่ค่อยจะหลับเลยครับ เพราะอินจัดหลังฟังอ.ยักษ์ กับ อ.โจน ประกอบกับผักเริ่มงอกต้นกล้าแล้ว แต่ค่อยๆงอก แต่ก็คอยรดน้ำเช้าเย็น ถ้าไม่มีฝนลงมา ส่วนตัวผมอยากลองปลูกพืชผักแบบว่าให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนและมากกว่า แต่ที่แน่ๆ สารอาหารเยอะกว่าผักฉีดสารอีกด้วยครับ หวาน หอม อร่อยมากเลยทีเดียวครับ
    เมื่อคืนนี้ผมนอนไม่ค่อยจะหลับเลยครับ เพราะอินจัดหลังฟังอ.ยักษ์ กับ อ.โจน ประกอบกับผักเริ่มงอกต้นกล้าแล้ว แต่ค่อยๆงอก แต่ก็คอยรดน้ำเช้าเย็น ถ้าไม่มีฝนลงมา ส่วนตัวผมอยากลองปลูกพืชผักแบบว่าให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนและมากกว่า แต่ที่แน่ๆ สารอาหารเยอะกว่าผักฉีดสารอีกด้วยครับ หวาน หอม อร่อยมากเลยทีเดียวครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • บ่อเก็บเพื่อการเกษตรกับงานแผ่นHDPEความหนา1.2มม.
    เจ้าของโครงการ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด(มหาชน)
    สถานที่ ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่
    บ่อเก็บเพื่อการเกษตรกับงานแผ่นHDPEความหนา1.2มม. เจ้าของโครงการ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด(มหาชน) สถานที่ ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาหารไทยเฉิดฉาย มิชลินไกด์มาเลย์ฯ

    การประกาศรางวัลร้านอาหารมิชลินไกด์ กัวลาลัมเปอร์และปีนัง ปี 2025 (MICHELIN Guide Kuala Lumpur & Penang 2025) ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2567 มีร้านอาหารในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรัฐปีนังได้รับการคัดเลือก 143 แห่ง โดยมี 25 แห่ง ได้รับการคัดเลือกเป็นครั้งแรก พร้อมเปิดตัวร้านที่ได้รับรางวัล Green Star หรือรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลกแห่งแรกในประเทศมาเลเซีย คือ ร้านเดวากาน (Dewakan) ที่นอกจากจะรักษารางวัลมิชลิน 2 ดาวด้วยเมนูอาหารที่โดดเด่นแล้ว ยังพยายามจัดหาวัตถุดิบในท้องถิ่นและใช้เป็นส่วนผสมให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเสริมรสชาติแบบดั้งเดิมของมาเลเซีย วัตถุดิบส่วนเกินยังนำไปหมักเป็นซอสโฮมเมดเพื่อลดขยะ ถือเป็นแรงบันดาลใจให้ร้านอาหารอื่นนำแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้

    ร้านใหม่ 2 แห่งได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ได้แก่ ชิมบายเชฟหนุ่ม (Chim By Chef Noom) ร้านอาหารไทยร่วมสมัย สืบทอดอาหารไทยดั้งเดิม แต่มีการปรับเปลี่ยนเมนูที่สร้างสรรค์และการจัดจานอย่างมีสไตล์ อีกทั้งเชฟอัซมี อาหมัด กามาล ยังได้รับรางวัล Service Award อีกรางวัลหนึ่ง ส่วนอีกร้านหนึ่งคือ โมลินา (Molina) ที่มีเมนูสร้างสรรค์ที่ผสมผสานเทคนิคแบบฝรั่งเศส กลิ่นอายแบบนอร์ดิก และกลิ่นอายแบบเอเชียอย่างลงตัว โดยเชฟกีโยม เดอปูร์แตร์ ได้รับรางวัล Opening of the Year Award

    รางวัลบิบกรูมองด์ (Bib Gourmand) ร้านอาหารอร่อยและราคาสมเหตุสมผล มีร้านใหม่ 12 แห่ง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ 5 แห่ง และปีนัง 7 แห่ง หนึ่งในนั้นคือร้าน BM Yam Rice ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม ที่เลื่อนระดับขึ้นจาก MICHELIN Selected เมนูเด่นคือซุปหมูและเครื่องในหมูรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมข้าวแยมไรซ์ (Yam Rice) เป็นหนึ่งในร้านอาหารราคาจับต้องได้ที่โดดเด่นที่สุดในมาเลเซีย ส่วนร้านอาหารหมวดหมู่ MICHELIN Selected มีร้านใหม่เพิ่มเติม 10 ร้าน รวมเป็น 80 ร้าน

    สำหรับร้านชิมบายเชฟหนุ่ม ตั้งอยู่ในอาคาร TSLAW Tower ย่านตุน ราซัก เอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange) เจ้าของร้านคือเชฟหนุ่ม ธนินธร จันทรวรรณ แห่งร้านชิมบายสยามวิสดอม (Chim by Siam Wisdom) ย่านสามเสน กรุงเทพฯ โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพจากญี่ปุ่น ร่วมกับเครื่องเทศ ผลไม้ และผักในท้องถิ่น เมนูเด่นของร้านคือ The Lost Recipe ต้มยำสูตรโบราณกว่า 200 ปี ที่มีรสชาติกลมกล่อมลงตัว

    อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมีการจัดทำคู่มือมิชลินไกด์แล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์เริ่มจากฉบับปี 2016 ประเทศไทยเริ่มจากฉบับปี 2018 มาเลเซียและและเวียดนาม เริ่มจากฉบับปี 2023

    #Newskit #MICHELINGuideMY #ChimbyChefNoom
    อาหารไทยเฉิดฉาย มิชลินไกด์มาเลย์ฯ การประกาศรางวัลร้านอาหารมิชลินไกด์ กัวลาลัมเปอร์และปีนัง ปี 2025 (MICHELIN Guide Kuala Lumpur & Penang 2025) ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2567 มีร้านอาหารในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และรัฐปีนังได้รับการคัดเลือก 143 แห่ง โดยมี 25 แห่ง ได้รับการคัดเลือกเป็นครั้งแรก พร้อมเปิดตัวร้านที่ได้รับรางวัล Green Star หรือรางวัลดาวมิชลินรักษ์โลกแห่งแรกในประเทศมาเลเซีย คือ ร้านเดวากาน (Dewakan) ที่นอกจากจะรักษารางวัลมิชลิน 2 ดาวด้วยเมนูอาหารที่โดดเด่นแล้ว ยังพยายามจัดหาวัตถุดิบในท้องถิ่นและใช้เป็นส่วนผสมให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเสริมรสชาติแบบดั้งเดิมของมาเลเซีย วัตถุดิบส่วนเกินยังนำไปหมักเป็นซอสโฮมเมดเพื่อลดขยะ ถือเป็นแรงบันดาลใจให้ร้านอาหารอื่นนำแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ ร้านใหม่ 2 แห่งได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ได้แก่ ชิมบายเชฟหนุ่ม (Chim By Chef Noom) ร้านอาหารไทยร่วมสมัย สืบทอดอาหารไทยดั้งเดิม แต่มีการปรับเปลี่ยนเมนูที่สร้างสรรค์และการจัดจานอย่างมีสไตล์ อีกทั้งเชฟอัซมี อาหมัด กามาล ยังได้รับรางวัล Service Award อีกรางวัลหนึ่ง ส่วนอีกร้านหนึ่งคือ โมลินา (Molina) ที่มีเมนูสร้างสรรค์ที่ผสมผสานเทคนิคแบบฝรั่งเศส กลิ่นอายแบบนอร์ดิก และกลิ่นอายแบบเอเชียอย่างลงตัว โดยเชฟกีโยม เดอปูร์แตร์ ได้รับรางวัล Opening of the Year Award รางวัลบิบกรูมองด์ (Bib Gourmand) ร้านอาหารอร่อยและราคาสมเหตุสมผล มีร้านใหม่ 12 แห่ง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ 5 แห่ง และปีนัง 7 แห่ง หนึ่งในนั้นคือร้าน BM Yam Rice ย่านบูกิตเมอร์ตาจัม ที่เลื่อนระดับขึ้นจาก MICHELIN Selected เมนูเด่นคือซุปหมูและเครื่องในหมูรสชาติเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมข้าวแยมไรซ์ (Yam Rice) เป็นหนึ่งในร้านอาหารราคาจับต้องได้ที่โดดเด่นที่สุดในมาเลเซีย ส่วนร้านอาหารหมวดหมู่ MICHELIN Selected มีร้านใหม่เพิ่มเติม 10 ร้าน รวมเป็น 80 ร้าน สำหรับร้านชิมบายเชฟหนุ่ม ตั้งอยู่ในอาคาร TSLAW Tower ย่านตุน ราซัก เอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange) เจ้าของร้านคือเชฟหนุ่ม ธนินธร จันทรวรรณ แห่งร้านชิมบายสยามวิสดอม (Chim by Siam Wisdom) ย่านสามเสน กรุงเทพฯ โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพจากญี่ปุ่น ร่วมกับเครื่องเทศ ผลไม้ และผักในท้องถิ่น เมนูเด่นของร้านคือ The Lost Recipe ต้มยำสูตรโบราณกว่า 200 ปี ที่มีรสชาติกลมกล่อมลงตัว อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมีการจัดทำคู่มือมิชลินไกด์แล้ว 4 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์เริ่มจากฉบับปี 2016 ประเทศไทยเริ่มจากฉบับปี 2018 มาเลเซียและและเวียดนาม เริ่มจากฉบับปี 2023 #Newskit #MICHELINGuideMY #ChimbyChefNoom
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 582 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิชาการสิ่งแวดล้อมตั้งคำถาม ตอนนี้โลกแย่มากๆยังคิดจะลอยกระทงอีกหรือ วอนอย่าซ้ำเติมแม่น้ำ ถามใครคิดลอยกระทงใน ชี้ทะเลสุโขทัยไม่ติดทะเลลอยทำไมเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ทะเล ให้สัมภาษณ์กับ มติชนออนไลน์ ว่า ถึงวันนี้ ตนคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องลอยกระทง เพราะสถานภาพของโลกตอนนี้แย่มากๆ การลอยกระทง เหมือนเป็นการซ้ำเติมแม่น้ำ คือ เติมขยะลงไปในน้ำ จึงไม่รู้จะลอยกระทงไปทำไมผศ.ดร.ธรณ์กล่าวว่า การลอยกระทงที่เลวร้าย คือ ทำลายสภาพแวดล้อมนั้นมี 3 ลำดับ คือ 1.ลอยกระทงในทะเล เป็นความคิดที่ห่วยที่สุด ไม่รู้ว่าใคร เอาความคิดนี้มาจากไหน เท่าที่ตนทราบคือ ประเพณีลอยกระทงเริ่มที่ จ.สุโขทัย และเท่าที่ทราบ สุโขทัยก็ไม่ได้ติดทะเล 2.ลอยกระทงในแหล่งน้ำไหลที่ไม่มีคนเก็บ กระทงก็ลอยไปเรื่อยๆ บางอันออกทะเล สัตว์ทะเลไม่รู้อีโหน่อีเหน่ กินเข้าไปก็ตาย และทรมานอย่างยิ่งก่อนจะตาย 3.ลอยกระทงขนมปังในบ่อน้ำปิด ปีที่แล้ว มีหลายแห่งปลาตายเกือบหมดบ่อ เพราะน้ำเน่า และขนมปังก็ไม่ใช่อาหารปลา” ผศ.ดร.ธรณ์กล่าวผศ.ดร.ธรณ์กล่าวว่า ต่อให้ลอย แล้วมีการเก็บ ก็แยกขยะยากเพราะมีแม็กซ์เย็บใบตองอยู่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ โลกร้อนหญ้าทะเลตายจนพะยูนต้องย้ายหนีมาอยู่ที่ ภูเก็ต และพื้นที่หาดราไวย์ ที่มีเจ้าหลังขาวว่ายน้ำเล่น ชาวบ้านเห็นทุกวัน มีเจ้าหน้าที่ทดลองเอาผักไปปลูกในน้ำให้กิน มันก็ว่ายมากิน ถ้าใครเอากระทงไปลอย คิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก“สำหรับเด็กน้อยที่อยากลอยกระทงกับพ่อแม่ ก็ลอยในอ่างที่บ้านได้ ลอยแล้วก็แยกขยะทิ้ง ไม่ต้องออกไปลอยนอกบ้าน หรืออยากจัดงานลอยกระทงก็จัดไป แต่ไม่ต้องลอย ไม่ต้องเอาขยะไปใส่ในน้ำปลาตายน้ำเน่า” ผศ.ดร.ธรณ์กล่าวhttps://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4898661
    นักวิชาการสิ่งแวดล้อมตั้งคำถาม ตอนนี้โลกแย่มากๆยังคิดจะลอยกระทงอีกหรือ วอนอย่าซ้ำเติมแม่น้ำ ถามใครคิดลอยกระทงใน ชี้ทะเลสุโขทัยไม่ติดทะเลลอยทำไมเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ทะเล ให้สัมภาษณ์กับ มติชนออนไลน์ ว่า ถึงวันนี้ ตนคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องลอยกระทง เพราะสถานภาพของโลกตอนนี้แย่มากๆ การลอยกระทง เหมือนเป็นการซ้ำเติมแม่น้ำ คือ เติมขยะลงไปในน้ำ จึงไม่รู้จะลอยกระทงไปทำไมผศ.ดร.ธรณ์กล่าวว่า การลอยกระทงที่เลวร้าย คือ ทำลายสภาพแวดล้อมนั้นมี 3 ลำดับ คือ 1.ลอยกระทงในทะเล เป็นความคิดที่ห่วยที่สุด ไม่รู้ว่าใคร เอาความคิดนี้มาจากไหน เท่าที่ตนทราบคือ ประเพณีลอยกระทงเริ่มที่ จ.สุโขทัย และเท่าที่ทราบ สุโขทัยก็ไม่ได้ติดทะเล 2.ลอยกระทงในแหล่งน้ำไหลที่ไม่มีคนเก็บ กระทงก็ลอยไปเรื่อยๆ บางอันออกทะเล สัตว์ทะเลไม่รู้อีโหน่อีเหน่ กินเข้าไปก็ตาย และทรมานอย่างยิ่งก่อนจะตาย 3.ลอยกระทงขนมปังในบ่อน้ำปิด ปีที่แล้ว มีหลายแห่งปลาตายเกือบหมดบ่อ เพราะน้ำเน่า และขนมปังก็ไม่ใช่อาหารปลา” ผศ.ดร.ธรณ์กล่าวผศ.ดร.ธรณ์กล่าวว่า ต่อให้ลอย แล้วมีการเก็บ ก็แยกขยะยากเพราะมีแม็กซ์เย็บใบตองอยู่ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานี้ โลกร้อนหญ้าทะเลตายจนพะยูนต้องย้ายหนีมาอยู่ที่ ภูเก็ต และพื้นที่หาดราไวย์ ที่มีเจ้าหลังขาวว่ายน้ำเล่น ชาวบ้านเห็นทุกวัน มีเจ้าหน้าที่ทดลองเอาผักไปปลูกในน้ำให้กิน มันก็ว่ายมากิน ถ้าใครเอากระทงไปลอย คิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก“สำหรับเด็กน้อยที่อยากลอยกระทงกับพ่อแม่ ก็ลอยในอ่างที่บ้านได้ ลอยแล้วก็แยกขยะทิ้ง ไม่ต้องออกไปลอยนอกบ้าน หรืออยากจัดงานลอยกระทงก็จัดไป แต่ไม่ต้องลอย ไม่ต้องเอาขยะไปใส่ในน้ำปลาตายน้ำเน่า” ผศ.ดร.ธรณ์กล่าวhttps://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4898661
    Like
    4
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 410 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไอเดียกระทงจากสวนหลังบ้าน : [News story]

    รับวันลอยกระทง ไอเดียการทำกระทงจากพืชผัก ใบไม้ วัสดุธรรมชาติที่หาได้ในสวนหลังบ้าน
    ไอเดียกระทงจากสวนหลังบ้าน : [News story] รับวันลอยกระทง ไอเดียการทำกระทงจากพืชผัก ใบไม้ วัสดุธรรมชาติที่หาได้ในสวนหลังบ้าน
    Like
    Love
    19
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1644 มุมมอง 191 0 รีวิว
  • รับวันลอยกระทง ไอเดียการทำกระทงจากพืชผัก ใบไม้ วัสดุธรรมชาติที่หาได้ในสวนหลังบ้าน
    #Newsstory #News1 #ลอยกระทง #กระทงธรรมชาติ #ไอเดียกระทงธรรมชาติ #ลอยกระมง2557 #ไอเดียกระทง
    รับวันลอยกระทง ไอเดียการทำกระทงจากพืชผัก ใบไม้ วัสดุธรรมชาติที่หาได้ในสวนหลังบ้าน #Newsstory #News1 #ลอยกระทง #กระทงธรรมชาติ #ไอเดียกระทงธรรมชาติ #ลอยกระมง2557 #ไอเดียกระทง
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 757 มุมมอง 60 0 รีวิว
  • วันนี้เหนื่อยมาก คือนำเมล็ดผักที่ล้นถาดหลุมลงในกระถางอื่นๆและถุงปลูก เพื่อแยกให้งอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รดน้ำเช้าเย็น ถ้าอากาศร้อนจัดก็พยายามรดฝอย เช้า เที่ยง เย็น ก็ได้ เพื่อให้พืชที่โตจะได้โตอย่างมีประสิทธิภาพครับ และเมื่อวานกับวันนี้ได้เพาะต้นคะน้ากวางตุ้งฮ่องกง เอาไว้กินกับข้าวหุงหม่าล่า ไม่ก็ใส่รวมกับหม่าล่าหุงข้าวกินเองไว้นั่นเองครับ
    วันนี้เหนื่อยมาก คือนำเมล็ดผักที่ล้นถาดหลุมลงในกระถางอื่นๆและถุงปลูก เพื่อแยกให้งอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ รดน้ำเช้าเย็น ถ้าอากาศร้อนจัดก็พยายามรดฝอย เช้า เที่ยง เย็น ก็ได้ เพื่อให้พืชที่โตจะได้โตอย่างมีประสิทธิภาพครับ และเมื่อวานกับวันนี้ได้เพาะต้นคะน้ากวางตุ้งฮ่องกง เอาไว้กินกับข้าวหุงหม่าล่า ไม่ก็ใส่รวมกับหม่าล่าหุงข้าวกินเองไว้นั่นเองครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • #โรคเกาต์สามารถทำให้เกิดโรคไตได้หลายแบบ เช่น ✅ทำให้เกิดนิ่วในไต " และ" 👉ทำให้เกิดไตวายเป็นผลมาจากการที่กรดยูริกในเลือดได้มีการกรองผ่านไต และทำการขับออกทางไตมากกว่าปกติ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดไตวายได้📍กรดยูริก มาจากไหน❓👉กรดยูริก (Uric Acid) เป็นสารที่เกิดจากกระบวนการทางเคมีในร่างกายตามธรรมชาติ ✅ในขณะที่มีการสร้างหรือซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีกรดยูริกสูง เช่น สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ ยอดผัก ถั่วต่างๆ หรือการดื่มเครื่องดื่ม เช่น เบียร์ น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลฟรุคโตส (FRUCTOSE)👉ถ้าผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา อาการโรคเก๊าจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น และอาจเป็นอันตรายต่อข้อต่อ เส้นเอ็น และเนื้อเยื่อไตเสื่อม นิ่วในไต "จะดีกว่าไหมให้ดีเก๊าท์ดูแลคุณสิคะ"🍀ดีเก๊าท์จะช่วยคนที่เป็นโรคเก๊าท์อย่างไร❓1. ขับและลดปริมาณกรดยูริคซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเก๊าท์2. ลดอาการปวดตามข้อในผู้ป่วยโรคเก๊าท์3. บํารุงไตให้แข็งแรงลดภาวะไตเสื่อมปรับสมดุลกรดยูริคในร่างกาย4. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลน้ำตาลและไขมันในเลือดและช่วยปรับระดับความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ5. บำรุงระบบไหลเวียนโลหิตและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย📍D-KOUT ดี-เก๊าท์👉สินค้าพร้อมส่ง ของแท้👉บ.จัดส่งเองถึงหน้าบ้านท่าน✅ขนาดบรรจุ : 1 กล่อง 3 แผง แผงละ 10 เม็ด รวม 30 เม็ด ↪ อย. 10-1-15456-5-0018☎️สอบถามสั่งซื้อ 062-704-7711 คุณอ้อ.#โรคเก๊าท์ #เกาต์ #เก๊าท์ #ไต #ปวดตามข้อ #ปวดนิ้วมือ #ปวดเท้า #ปวดข้อ #ยาเกาต์ #ลดกรดยูริค #Dkout #บำรุงไต #ลดปวดบวมแดง #แก้โรคเก๊าท์ #ดีเค๊าท์ #หยุดเก๊าท์ #หยุดปวด #ฟื้นฟูไต #ปูดบวม #คุณอ้อดีเก๊าท์ #ดีเก๊าท์ของแท้ #รูมาตอยด์ #ข้ออักเสบ #สมุนไพร #ขมิ้นชัน
    #โรคเกาต์สามารถทำให้เกิดโรคไตได้หลายแบบ เช่น ✅ทำให้เกิดนิ่วในไต " และ" 👉ทำให้เกิดไตวายเป็นผลมาจากการที่กรดยูริกในเลือดได้มีการกรองผ่านไต และทำการขับออกทางไตมากกว่าปกติ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดไตวายได้📍กรดยูริก มาจากไหน❓👉กรดยูริก (Uric Acid) เป็นสารที่เกิดจากกระบวนการทางเคมีในร่างกายตามธรรมชาติ ✅ในขณะที่มีการสร้างหรือซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ และอีกส่วนหนึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีกรดยูริกสูง เช่น สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ ยอดผัก ถั่วต่างๆ หรือการดื่มเครื่องดื่ม เช่น เบียร์ น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลฟรุคโตส (FRUCTOSE)👉ถ้าผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา อาการโรคเก๊าจะรุนแรงมากยิ่งขึ้น และอาจเป็นอันตรายต่อข้อต่อ เส้นเอ็น และเนื้อเยื่อไตเสื่อม นิ่วในไต "จะดีกว่าไหมให้ดีเก๊าท์ดูแลคุณสิคะ"🍀ดีเก๊าท์จะช่วยคนที่เป็นโรคเก๊าท์อย่างไร❓1. ขับและลดปริมาณกรดยูริคซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเก๊าท์2. ลดอาการปวดตามข้อในผู้ป่วยโรคเก๊าท์3. บํารุงไตให้แข็งแรงลดภาวะไตเสื่อมปรับสมดุลกรดยูริคในร่างกาย4. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลน้ำตาลและไขมันในเลือดและช่วยปรับระดับความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ5. บำรุงระบบไหลเวียนโลหิตและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย📍D-KOUT ดี-เก๊าท์👉สินค้าพร้อมส่ง ของแท้👉บ.จัดส่งเองถึงหน้าบ้านท่าน✅ขนาดบรรจุ : 1 กล่อง 3 แผง แผงละ 10 เม็ด รวม 30 เม็ด ↪ อย. 10-1-15456-5-0018☎️สอบถามสั่งซื้อ 062-704-7711 คุณอ้อ.#โรคเก๊าท์ #เกาต์ #เก๊าท์ #ไต #ปวดตามข้อ #ปวดนิ้วมือ #ปวดเท้า #ปวดข้อ #ยาเกาต์ #ลดกรดยูริค #Dkout #บำรุงไต #ลดปวดบวมแดง #แก้โรคเก๊าท์ #ดีเค๊าท์ #หยุดเก๊าท์ #หยุดปวด #ฟื้นฟูไต #ปูดบวม #คุณอ้อดีเก๊าท์ #ดีเก๊าท์ของแท้ #รูมาตอยด์ #ข้ออักเสบ #สมุนไพร #ขมิ้นชัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 572 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิต ตอนเกษียณได้อยู่กับสวน ปลูกต้นไม้ พืชผักสวนครัว ทานเองบ้าง ส่วนที่เหลือก็แบ่งขาย ปลอดภัยไร้สารเคมี ทั้งผักชี พริกใบชะพลู ขิง และปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ตามคำแนะนำของเพื่อน ทุกวันนี้ก็ได้เก็บขายให้เพื่อนคนนั้นค่ะ
    ชีวิต ตอนเกษียณได้อยู่กับสวน ปลูกต้นไม้ พืชผักสวนครัว ทานเองบ้าง ส่วนที่เหลือก็แบ่งขาย ปลอดภัยไร้สารเคมี ทั้งผักชี พริกใบชะพลู ขิง และปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ตามคำแนะนำของเพื่อน ทุกวันนี้ก็ได้เก็บขายให้เพื่อนคนนั้นค่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิต ตอนเกษียณได้อยู่กับสวน ปลูกต้นไม้ พืชผักสวนครัว ทานเองบ้าง ส่วนที่เหลือก็แบ่งขาย ปลอดภัยไร้สารเคมี ทั้งผักชี พริกใบชะพลู ขิง และปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ตามคำแนะนำของเพื่อน ทุกวันนี้ก็ได้เก็บขายให้เพื่อนคนนั้นค่ะ
    ชีวิต ตอนเกษียณได้อยู่กับสวน ปลูกต้นไม้ พืชผักสวนครัว ทานเองบ้าง ส่วนที่เหลือก็แบ่งขาย ปลอดภัยไร้สารเคมี ทั้งผักชี พริกใบชะพลู ขิง และปลูกมะม่วงหาวมะนาวโห่ตามคำแนะนำของเพื่อน ทุกวันนี้ก็ได้เก็บขายให้เพื่อนคนนั้นค่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทยอยปลูกวันละนิด
    พอมีผักธรรมชาติได้กินครับ
    สวนลุงยงค์ อำเภอสันป่าตอง

    #คนปลูกธรรมธุรกิจศิษย์ยักษ์กะโจน
    #เงินทองเป็นของมายาข้าวผักปลาสิของจริง
    ทยอยปลูกวันละนิด พอมีผักธรรมชาติได้กินครับ สวนลุงยงค์ อำเภอสันป่าตอง #คนปลูกธรรมธุรกิจศิษย์ยักษ์กะโจน #เงินทองเป็นของมายาข้าวผักปลาสิของจริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธรรมธุรกิจ คือ …

    วิสาหกิจเพื่อสังคม ที่ธรรมธุรกิจด้านอาหาร สุขภาพ และการท่องเที่ยว เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจพอเพียง โดยคนปลูกธรรมธุรกิจศิษย์ยักษ์กะโจน ต้องปลูกให้พอกินก่อน ไม่ใช่ปลูกเพื่อขายก่อน ต้องใช้น้ำหมักสมุนไพรรสจืดเต็มรอบการผลิต ต้องไม่ซื้อของคนอื่นมาขาย และต้องตั้งราคาที่เป็นธรรม

    เราเป็นคนกลางในการรวบรวมของเหลือกินจากแต่ละบ้าน มาส่งมอบให้คนกินในเมือง ผ่านตลาดนัดธรรมชาติ รถธรรมธุรกิจ การขายส่ง การขายออนไลน์ ร้านอาหารยักษ์กะโจน และยักษ์กะโจนมาร์ท

    เรามีเป้าหมายที่จะขยายร้านยักษ์กะโจนมาร์ท ให้ครบ ๖๙ สาขา ในพื้นที่กรุงเทพ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ที่มี ๖๙ เขต หรือ เขตละสาขายภายในปี ๖๙

    ทุกคนยังสามารถเป็นเจ้าของวิสาหกิจเพื่อสังคมนี้ร่วมกันได้เพียงกดปุ่มซื้อหุ้นธรรมธุรกิจที่ Line @Thamturakit

    https://lin.ee/6U71hZy

    #ซื้อหุ้นอุดหนุนบอกต่อ
    #เงินทองเป็นของมายาข้าวผักปลาสิของจริง
    #ธรรมธุรกิจเพื่อสังคมเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจพอเพียง
    ธรรมธุรกิจ คือ … วิสาหกิจเพื่อสังคม ที่ธรรมธุรกิจด้านอาหาร สุขภาพ และการท่องเที่ยว เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจพอเพียง โดยคนปลูกธรรมธุรกิจศิษย์ยักษ์กะโจน ต้องปลูกให้พอกินก่อน ไม่ใช่ปลูกเพื่อขายก่อน ต้องใช้น้ำหมักสมุนไพรรสจืดเต็มรอบการผลิต ต้องไม่ซื้อของคนอื่นมาขาย และต้องตั้งราคาที่เป็นธรรม เราเป็นคนกลางในการรวบรวมของเหลือกินจากแต่ละบ้าน มาส่งมอบให้คนกินในเมือง ผ่านตลาดนัดธรรมชาติ รถธรรมธุรกิจ การขายส่ง การขายออนไลน์ ร้านอาหารยักษ์กะโจน และยักษ์กะโจนมาร์ท เรามีเป้าหมายที่จะขยายร้านยักษ์กะโจนมาร์ท ให้ครบ ๖๙ สาขา ในพื้นที่กรุงเทพ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ที่มี ๖๙ เขต หรือ เขตละสาขายภายในปี ๖๙ ทุกคนยังสามารถเป็นเจ้าของวิสาหกิจเพื่อสังคมนี้ร่วมกันได้เพียงกดปุ่มซื้อหุ้นธรรมธุรกิจที่ Line @Thamturakit https://lin.ee/6U71hZy #ซื้อหุ้นอุดหนุนบอกต่อ #เงินทองเป็นของมายาข้าวผักปลาสิของจริง #ธรรมธุรกิจเพื่อสังคมเพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจพอเพียง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับผักมาจัดเรียง
    เมื่อ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑
    ได้มีโอกาสนำพืชผักไปตกแต่งและจัดสถานที่รับเสด็จ ฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ในงานประชุมวิชาการองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ ฯ ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม โดยใช้ปูเล่ กับผักสลัด
    จับผักมาจัดเรียง เมื่อ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ได้มีโอกาสนำพืชผักไปตกแต่งและจัดสถานที่รับเสด็จ ฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ในงานประชุมวิชาการองค์การเกษตรกรในอนาคตแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ ฯ ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม โดยใช้ปูเล่ กับผักสลัด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ผมคงกลับมา Active เรื่องของการอัพเดทเนื้อเรื่องแล้วละครับ เพราะเร่งดูโซมะจนจบทั้งซีซั่น 3 และซีซั่น 4 จากนั้นก็ดูซีซั่น 5 เรื่องนึงและของดดูเพราะผมมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะเป็นกองๆเลยครับ รดน้ำต้นไม้ อาศัยจังหวะเพาะผักเพื่อไว้กินเองเป็นขั้นตอนแรก ตอนนี้ยังไม่ขึ้นต้นกล้าเลยครับ ก็ต้องรอเวลาสัก 1-2 สัปดาห์ ผักเริ่มงอกขึ้นครับ และใช้เศษพืชแห้งและเสียแล้วในการเป็นปุ๋ยและฝังไว้ใต้ดินเพื่อให้พืชเติบโตเร็วขึ้นได้เต็มที่ แต่ก็พยายามรดบ่อยๆ
    ส่วนตัวผมก็มีหลายอย่างที่ต้องทำ ไม่ว่าจะงานเขียนโปรแกรม งานปูทางเพื่อปลูกอะไรมาบ้าง และงานอดิเรกที่เกี่ยวกับความรู้ในการแต่งเนื้อเรื่องพัฒนาเกมส์ล้วนๆครับ
    วันนี้ผมคงกลับมา Active เรื่องของการอัพเดทเนื้อเรื่องแล้วละครับ เพราะเร่งดูโซมะจนจบทั้งซีซั่น 3 และซีซั่น 4 จากนั้นก็ดูซีซั่น 5 เรื่องนึงและของดดูเพราะผมมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะเป็นกองๆเลยครับ รดน้ำต้นไม้ อาศัยจังหวะเพาะผักเพื่อไว้กินเองเป็นขั้นตอนแรก ตอนนี้ยังไม่ขึ้นต้นกล้าเลยครับ ก็ต้องรอเวลาสัก 1-2 สัปดาห์ ผักเริ่มงอกขึ้นครับ และใช้เศษพืชแห้งและเสียแล้วในการเป็นปุ๋ยและฝังไว้ใต้ดินเพื่อให้พืชเติบโตเร็วขึ้นได้เต็มที่ แต่ก็พยายามรดบ่อยๆ ส่วนตัวผมก็มีหลายอย่างที่ต้องทำ ไม่ว่าจะงานเขียนโปรแกรม งานปูทางเพื่อปลูกอะไรมาบ้าง และงานอดิเรกที่เกี่ยวกับความรู้ในการแต่งเนื้อเรื่องพัฒนาเกมส์ล้วนๆครับ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts