• บทความกฎหมาย EP.48

    อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิด หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนามอนุสัญญาออตตาวา ถือเป็นหลักหมุดหมายสำคัญในทางกฎหมายระหว่างประเทศที่เปลี่ยนผ่านจากการควบคุมอาวุธแบบดั้งเดิมไปสู่การคุ้มครองสิทธิทางมนุษยธรรมอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีแก่นแท้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการยุติความเสียหายที่มิอาจเลือกปฏิบัติได้ระหว่างพลเรือนและคู่สงคราม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศในเรื่องความจำเป็นทางการทหารและการแบ่งแยกกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน พันธกรณีหลักภายใต้อนุสัญญานี้กำหนดให้รัฐภาคีต้องยุติการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมทั้งมีหน้าที่ตามกฎหมายในการทำลายคลังแสงทุ่นระเบิดในครอบครองภายในระยะเวลาที่กำหนด และที่สำคัญที่สุดคือภาระหน้าที่ตามมาตราที่ห้าในการสำรวจและกวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดให้เสร็จสิ้นเพื่อคืนพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ประชาชน ในบริบทของพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชาซึ่งเคยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในอดีต การปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการทำลายอาวุธ แต่คือการแสดงเจตจำนงทางกฎหมายที่ต้องการเยียวยาผลกระทบจากสงครามอย่างเป็นรูปธรรม โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารและนักทำลายล้างวัตถุระเบิดในการตรวจค้นและกวาดล้างทุ่นระเบิดถือเป็นภารกิจที่มีฐานอำนาจรองรับจากกฎหมายเพื่อสร้างความมั่นคงในมิติใหม่ที่ไม่ใช่การสะสมอาวุธแต่คือการสร้างความปลอดภัยให้แก่พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนเพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตและประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างปกติตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล นอกจากนี้อนุสัญญายังเน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างประเทศและการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นมิติทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และการสร้างความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐภาคีในการกำจัดภัยคุกคามที่ตกค้างจากความขัดแย้งในอดีตให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่ทับซ้อนและแนวพรมแดนอย่างถาวร

    บทสรุปความสำเร็จของอนุสัญญาออตตาวาจึงมิได้วัดเพียงจำนวนทุ่นระเบิดที่ถูกขุดขึ้นมาทำลายลงไปเท่านั้น แต่คือการสร้างบรรทัดฐานทางจริยธรรมที่กลายเป็นกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งได้รับการยอมรับจากรัฐส่วนใหญ่ทั่วโลกในการปฏิเสธการใช้อาวุธที่มีลักษณะโหดร้ายและส่งผลกระทบต่อเนื่องยาวนานเกินกว่าความจำเป็นทางการทหาร การรักษาความร่วมมือระหว่างประเทศในการกวาดล้างทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชาโดยกำลังพลทหารที่มีความเชี่ยวชาญคือการตอกย้ำว่ากฎหมายสามารถเปลี่ยนสนามรบในอดีตให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการพัฒนาและสันติภาพได้ และเป็นการยืนยันว่าสิทธิในชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ย่อมอยู่เหนือยุทธศาสตร์ทางการทหารใดๆ ทั้งสิ้น การก้าวไปสู่โลกที่ไร้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจึงเป็นพันธกิจทางกฎหมายและมนุษยธรรมที่สำคัญยิ่งซึ่งมวลมนุษยชาติจะต้องร่วมกันรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของอนุสัญญาฉบับนี้ไว้เพื่อส่งต่อพื้นดินที่ปลอดภัยให้แก่คนรุ่นหลังสืบไป
    บทความกฎหมาย EP.48 อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการทำลายทุ่นระเบิด หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนามอนุสัญญาออตตาวา ถือเป็นหลักหมุดหมายสำคัญในทางกฎหมายระหว่างประเทศที่เปลี่ยนผ่านจากการควบคุมอาวุธแบบดั้งเดิมไปสู่การคุ้มครองสิทธิทางมนุษยธรรมอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีแก่นแท้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการยุติความเสียหายที่มิอาจเลือกปฏิบัติได้ระหว่างพลเรือนและคู่สงคราม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศในเรื่องความจำเป็นทางการทหารและการแบ่งแยกกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน พันธกรณีหลักภายใต้อนุสัญญานี้กำหนดให้รัฐภาคีต้องยุติการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมทั้งมีหน้าที่ตามกฎหมายในการทำลายคลังแสงทุ่นระเบิดในครอบครองภายในระยะเวลาที่กำหนด และที่สำคัญที่สุดคือภาระหน้าที่ตามมาตราที่ห้าในการสำรวจและกวาดล้างพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดให้เสร็จสิ้นเพื่อคืนพื้นที่ปลอดภัยให้แก่ประชาชน ในบริบทของพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชาซึ่งเคยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในอดีต การปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการทำลายอาวุธ แต่คือการแสดงเจตจำนงทางกฎหมายที่ต้องการเยียวยาผลกระทบจากสงครามอย่างเป็นรูปธรรม โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารและนักทำลายล้างวัตถุระเบิดในการตรวจค้นและกวาดล้างทุ่นระเบิดถือเป็นภารกิจที่มีฐานอำนาจรองรับจากกฎหมายเพื่อสร้างความมั่นคงในมิติใหม่ที่ไม่ใช่การสะสมอาวุธแต่คือการสร้างความปลอดภัยให้แก่พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนเพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตและประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างปกติตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล นอกจากนี้อนุสัญญายังเน้นย้ำถึงความร่วมมือระหว่างประเทศและการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งเป็นมิติทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และการสร้างความรับผิดชอบร่วมกันของรัฐภาคีในการกำจัดภัยคุกคามที่ตกค้างจากความขัดแย้งในอดีตให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่ทับซ้อนและแนวพรมแดนอย่างถาวร บทสรุปความสำเร็จของอนุสัญญาออตตาวาจึงมิได้วัดเพียงจำนวนทุ่นระเบิดที่ถูกขุดขึ้นมาทำลายลงไปเท่านั้น แต่คือการสร้างบรรทัดฐานทางจริยธรรมที่กลายเป็นกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งได้รับการยอมรับจากรัฐส่วนใหญ่ทั่วโลกในการปฏิเสธการใช้อาวุธที่มีลักษณะโหดร้ายและส่งผลกระทบต่อเนื่องยาวนานเกินกว่าความจำเป็นทางการทหาร การรักษาความร่วมมือระหว่างประเทศในการกวาดล้างทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชาโดยกำลังพลทหารที่มีความเชี่ยวชาญคือการตอกย้ำว่ากฎหมายสามารถเปลี่ยนสนามรบในอดีตให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการพัฒนาและสันติภาพได้ และเป็นการยืนยันว่าสิทธิในชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ย่อมอยู่เหนือยุทธศาสตร์ทางการทหารใดๆ ทั้งสิ้น การก้าวไปสู่โลกที่ไร้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจึงเป็นพันธกิจทางกฎหมายและมนุษยธรรมที่สำคัญยิ่งซึ่งมวลมนุษยชาติจะต้องร่วมกันรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของอนุสัญญาฉบับนี้ไว้เพื่อส่งต่อพื้นดินที่ปลอดภัยให้แก่คนรุ่นหลังสืบไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นอีกครั้งที่อเมริกา พยายามเข้ามาแทรกแซงยุติการสู้รบรอบ 2 ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตามคราวนี้ วอชิงตัน ได้ส่งเสียงเพิ่มเติมเข้ามา เรียกร้องให้ทั้ง 2 ประเทศ ถอนอาวุธหนักและหยุดวางทุ่นระเบิด ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของไทยมาช้านาน ตั้งแต่ก่อนการปะทะรอบ 2 และปฏิบัติตามปฏิญญาสันติภาพกัวลาลัมเปอร์เต็มรูปแบบ
    .
    "เรายินดีที่พวกผู้นำอาเซียน กำลังมารวมตัวกันในสัปดาห์นี้ เพื่อสนับสนุนกัมพูชาและไทย ยึดถือพันธสัญญาของพวกเขาอย่างเต็มที่ เพื่อยุติความขัดแย้ง" ทอมมี พิกกอตต์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกล่าว
    .
    เสียงเรียกร้องครั้งใหม่นี้ มีขึ้นก่อนหน้าการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งจะมีขึ้นในวันจันทร์(22ธ.ค.) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
    .
    นายสีหศักดิ์​พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เน้นย้ำก่อนออกเดินทางไปยังกัวลาลัมเปอร์ ว่าการประชุมของอาเซียนในครั้งนี้ จะเป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศอื่น ๆ ไม่สามารถใช้ในการกดดันไทยได้ เนื่องจากไทยมีจุดยืน ท่าที และแนวปฏิบัติที่ตั้งอยู่บนหลักการสากล ความชอบธรรม ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ โดยไทยมิได้เป็นผู้ริเริ่มการปะทะในครั้งนี้ และเงื่อนไขของไทยในการยุติความขัดแย้งมีความชัดเจนมาโดยตลอด
    .
    กระทรวงการต่างประเทศของไทยเน้นย้ำจุดยืน 2 ข้อ ก็คือ 1 กัมพูชาต้องเป็นฝ่ายประกาศหยุดยิงก่อน 2.การหยุดยิงจะต้องเกิดขึ้นจริง อย่างต่อเนื่องและมีการสังเกตการณ์ และ3.ฝ่ายกัมพูชาต้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับฝ่ายไทยอย่างจริงจัง
    .
    เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุรัฐบาลอเมริกา คาดหวังว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้งภายในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อยุติการสู้รบระลอกล่าสุดระหว่างไทยและกัมพูชา
    .
    ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้อ้างความสำเร็จในการผลักดันให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิงก่อนหน้านี้ และจัดให้ข้อพิพาทไทย-กัมพูชาอยู่ในรายชื่อสงครามที่เขาอ้างว่า "ได้รับการแก้ไขแล้ว"
    .
    "ทั้งสองฝ่ายได้ให้คำมั่นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรและลงนามแล้ว" รูบิโอ กล่าว "ปัจจุบันคำมั่นสัญญาเหล่านั้นไม่ได้รับการปฏิบัติตาม เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันและกัน ดังนั้น ภารกิจในตอนนี้คือการนำพวกเขากลับมาเจรจากันอีกครั้ง"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123011

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เป็นอีกครั้งที่อเมริกา พยายามเข้ามาแทรกแซงยุติการสู้รบรอบ 2 ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตามคราวนี้ วอชิงตัน ได้ส่งเสียงเพิ่มเติมเข้ามา เรียกร้องให้ทั้ง 2 ประเทศ ถอนอาวุธหนักและหยุดวางทุ่นระเบิด ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของไทยมาช้านาน ตั้งแต่ก่อนการปะทะรอบ 2 และปฏิบัติตามปฏิญญาสันติภาพกัวลาลัมเปอร์เต็มรูปแบบ . "เรายินดีที่พวกผู้นำอาเซียน กำลังมารวมตัวกันในสัปดาห์นี้ เพื่อสนับสนุนกัมพูชาและไทย ยึดถือพันธสัญญาของพวกเขาอย่างเต็มที่ เพื่อยุติความขัดแย้ง" ทอมมี พิกกอตต์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกล่าว . เสียงเรียกร้องครั้งใหม่นี้ มีขึ้นก่อนหน้าการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งจะมีขึ้นในวันจันทร์(22ธ.ค.) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย . นายสีหศักดิ์​พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เน้นย้ำก่อนออกเดินทางไปยังกัวลาลัมเปอร์ ว่าการประชุมของอาเซียนในครั้งนี้ จะเป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศอื่น ๆ ไม่สามารถใช้ในการกดดันไทยได้ เนื่องจากไทยมีจุดยืน ท่าที และแนวปฏิบัติที่ตั้งอยู่บนหลักการสากล ความชอบธรรม ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ โดยไทยมิได้เป็นผู้ริเริ่มการปะทะในครั้งนี้ และเงื่อนไขของไทยในการยุติความขัดแย้งมีความชัดเจนมาโดยตลอด . กระทรวงการต่างประเทศของไทยเน้นย้ำจุดยืน 2 ข้อ ก็คือ 1 กัมพูชาต้องเป็นฝ่ายประกาศหยุดยิงก่อน 2.การหยุดยิงจะต้องเกิดขึ้นจริง อย่างต่อเนื่องและมีการสังเกตการณ์ และ3.ฝ่ายกัมพูชาต้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับฝ่ายไทยอย่างจริงจัง . เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุรัฐบาลอเมริกา คาดหวังว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้งภายในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อยุติการสู้รบระลอกล่าสุดระหว่างไทยและกัมพูชา . ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้อ้างความสำเร็จในการผลักดันให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิงก่อนหน้านี้ และจัดให้ข้อพิพาทไทย-กัมพูชาอยู่ในรายชื่อสงครามที่เขาอ้างว่า "ได้รับการแก้ไขแล้ว" . "ทั้งสองฝ่ายได้ให้คำมั่นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรและลงนามแล้ว" รูบิโอ กล่าว "ปัจจุบันคำมั่นสัญญาเหล่านั้นไม่ได้รับการปฏิบัติตาม เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันและกัน ดังนั้น ภารกิจในตอนนี้คือการนำพวกเขากลับมาเจรจากันอีกครั้ง" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123011 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวบ้านชุมชนต้นม่วง ต.ปงป่าหวาย อ.เด่นชัย จ.แพร่ ผวาหนัก หลังพบผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจเพิ่มต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หลายรายมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก เวียนศีรษะ บางรายมีเลือดปนเสมหะ และถูกแพทย์แนะนำให้ย้ายออกจากพื้นที่
    .
    ชาวบ้านระบุว่า ปัญหาเกิดขึ้นหลังมีโรงงานแปรรูปไม้ผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลตั้งอยู่ใกล้ชุมชน ล่าสุดพบผู้ป่วยมีใบรับรองแพทย์แล้วกว่า 20 ราย หลายครอบครัวจำใจอพยพออกจากบ้าน ไปอาศัยอยู่ในที่ดินญาติ ขณะที่ผู้สูงอายุและผู้พิการจำนวนหนึ่งยังต้องทนอยู่กับอาการป่วยภายในหมู่บ้าน
    .
    แกนนำชาวบ้านเรียกร้องให้สาธารณสุขจังหวัดแพร่ เร่งเข้าตรวจสอบและสอบสวนสาเหตุของการเจ็บป่วย หวั่นสถานการณ์ลุกลามรุนแรง หากปล่อยไว้โดยไม่มีมาตรการแก้ไข อาจเกิดการสูญเสียในอนาคต
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122863
    .
    #News1live #News1 #เด่นชัย #แพร่ #โรงงานชีวมวล #ผลกระทบชุมชน #สิ่งแวดล้อม #สุขภาพประชาชน
    ชาวบ้านชุมชนต้นม่วง ต.ปงป่าหวาย อ.เด่นชัย จ.แพร่ ผวาหนัก หลังพบผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจเพิ่มต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หลายรายมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก เวียนศีรษะ บางรายมีเลือดปนเสมหะ และถูกแพทย์แนะนำให้ย้ายออกจากพื้นที่ . ชาวบ้านระบุว่า ปัญหาเกิดขึ้นหลังมีโรงงานแปรรูปไม้ผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลตั้งอยู่ใกล้ชุมชน ล่าสุดพบผู้ป่วยมีใบรับรองแพทย์แล้วกว่า 20 ราย หลายครอบครัวจำใจอพยพออกจากบ้าน ไปอาศัยอยู่ในที่ดินญาติ ขณะที่ผู้สูงอายุและผู้พิการจำนวนหนึ่งยังต้องทนอยู่กับอาการป่วยภายในหมู่บ้าน . แกนนำชาวบ้านเรียกร้องให้สาธารณสุขจังหวัดแพร่ เร่งเข้าตรวจสอบและสอบสวนสาเหตุของการเจ็บป่วย หวั่นสถานการณ์ลุกลามรุนแรง หากปล่อยไว้โดยไม่มีมาตรการแก้ไข อาจเกิดการสูญเสียในอนาคต . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122863 . #News1live #News1 #เด่นชัย #แพร่ #โรงงานชีวมวล #ผลกระทบชุมชน #สิ่งแวดล้อม #สุขภาพประชาชน
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิกฤตหน่วยความจำโลกดันราคา PC ปี 2026 พุ่งสูงสุด 8% — ผู้ผลิตบางรายถึงขั้นขายเครื่อง “ไม่มี RAM”

    รายงานล่าสุดจาก IDC ชี้ว่าอุตสาหกรรมพีซีกำลังเข้าสู่ช่วง “พายุราคา” ครั้งใหญ่ในปี 2026 เนื่องจากวิกฤตหน่วยความจำ NAND และ DRAM ที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตหลายรายเริ่มปรับราคาพีซีเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2025 และมีแนวโน้มว่าราคาจะพุ่งสูงสุดถึง 8% ในปีหน้า ซึ่งเป็นผลจากการขาดแคลนชิปหน่วยความจำที่ถูกดูดไปใช้ในศูนย์ข้อมูล AI อย่างมหาศาล

    บริษัทใหญ่ทั้ง Dell และ Lenovo ต่างประกาศขึ้นราคาพีซีสูงสุดถึง 15% ขณะที่ผู้ผลิตบางรายเริ่มใช้วิธีสุดขั้ว เช่น การขายพีซีแบบ “ไม่มี RAM” เพื่อให้ลูกค้าหาซื้อแรมเอง เนื่องจากต้นทุนสูงจนไม่สามารถใส่มาในเครื่องได้โดยไม่ขาดทุน นอกจากนี้ Framework ยังหยุดขาย RAM แบบแยกชิ้นเพื่อป้องกันการกว้านซื้อไปปั่นราคา ซึ่งสะท้อนถึงความตึงตัวของตลาดหน่วยความจำในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    สาเหตุหลักของวิกฤตนี้มาจากการที่ผู้ผลิตชิปเลือกทุ่มกำลังผลิตไปที่ HBM (High Bandwidth Memory) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของชิป AI รุ่นใหม่ ทำให้ DRAM และ NAND สำหรับผู้บริโภคถูกลดลำดับความสำคัญลงอย่างหนัก แม้ผู้ผลิตจะสามารถสร้างโรงงานใหม่เพื่อเพิ่มกำลังผลิตได้ แต่ต้องใช้เงินลงทุนระดับหลายพันล้านดอลลาร์และใช้เวลาหลายปี ซึ่งไม่สอดคล้องกับความไม่แน่นอนของตลาด AI ที่อาจเกิดฟองสบู่ได้ทุกเมื่อ

    IDC เตือนว่าผู้บริโภคควรเตรียมรับมือกับราคาที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ RAM และ SSD ที่อาจขึ้นราคาอีกตลอดปี 2026 ผู้เชี่ยวชาญบางรายแนะนำว่าหากจำเป็นต้องอัปเกรด ควรทำเร็วกว่าเดิม แต่ถ้าระบบยังใช้งานได้ดี อาจรอให้ตลาดกลับมาสมดุล ซึ่งอาจใช้เวลาตั้งแต่ 6 เดือนจนถึง 10 ปี ขึ้นอยู่กับว่าความต้องการด้าน AI จะชะลอตัวลงเมื่อใด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    IDC คาดราคา PC ปี 2026 เพิ่มขึ้น 4–8%
    เกิดจากวิกฤต DRAM และ NAND ทั่วโลก
    ตลาดพีซีอาจหดตัวสูงสุดถึง 8.9%

    ผู้ผลิตเริ่มขึ้นราคาหนัก
    Dell และ Lenovo ปรับขึ้นสูงสุด 15%
    บางรายขายพีซี “ไม่มี RAM” ให้ลูกค้าหามาใส่เอง

    HBM แย่งกำลังผลิตจาก DRAM/NAND
    ผู้ผลิตทุ่มกำลังผลิตให้ชิป AI เพราะกำไรสูงกว่า
    โรงงานใหม่ใช้เงินมหาศาลและใช้เวลาหลายปี

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนผู้บริโภค
    ถ้าจำเป็นต้องอัปเกรด ควรทำเร็ว
    ถ้าระบบยังดี อาจรอจนตลาดนิ่ง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/idc-expects-average-pc-prices-to-jump-by-up-to-8-percent-in-2026-due-to-crushing-memory-shortages-some-vendors-already-selling-pre-builts-without-ram
    💥 วิกฤตหน่วยความจำโลกดันราคา PC ปี 2026 พุ่งสูงสุด 8% — ผู้ผลิตบางรายถึงขั้นขายเครื่อง “ไม่มี RAM” รายงานล่าสุดจาก IDC ชี้ว่าอุตสาหกรรมพีซีกำลังเข้าสู่ช่วง “พายุราคา” ครั้งใหญ่ในปี 2026 เนื่องจากวิกฤตหน่วยความจำ NAND และ DRAM ที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตหลายรายเริ่มปรับราคาพีซีเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2025 และมีแนวโน้มว่าราคาจะพุ่งสูงสุดถึง 8% ในปีหน้า ซึ่งเป็นผลจากการขาดแคลนชิปหน่วยความจำที่ถูกดูดไปใช้ในศูนย์ข้อมูล AI อย่างมหาศาล บริษัทใหญ่ทั้ง Dell และ Lenovo ต่างประกาศขึ้นราคาพีซีสูงสุดถึง 15% ขณะที่ผู้ผลิตบางรายเริ่มใช้วิธีสุดขั้ว เช่น การขายพีซีแบบ “ไม่มี RAM” เพื่อให้ลูกค้าหาซื้อแรมเอง เนื่องจากต้นทุนสูงจนไม่สามารถใส่มาในเครื่องได้โดยไม่ขาดทุน นอกจากนี้ Framework ยังหยุดขาย RAM แบบแยกชิ้นเพื่อป้องกันการกว้านซื้อไปปั่นราคา ซึ่งสะท้อนถึงความตึงตัวของตลาดหน่วยความจำในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สาเหตุหลักของวิกฤตนี้มาจากการที่ผู้ผลิตชิปเลือกทุ่มกำลังผลิตไปที่ HBM (High Bandwidth Memory) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของชิป AI รุ่นใหม่ ทำให้ DRAM และ NAND สำหรับผู้บริโภคถูกลดลำดับความสำคัญลงอย่างหนัก แม้ผู้ผลิตจะสามารถสร้างโรงงานใหม่เพื่อเพิ่มกำลังผลิตได้ แต่ต้องใช้เงินลงทุนระดับหลายพันล้านดอลลาร์และใช้เวลาหลายปี ซึ่งไม่สอดคล้องกับความไม่แน่นอนของตลาด AI ที่อาจเกิดฟองสบู่ได้ทุกเมื่อ IDC เตือนว่าผู้บริโภคควรเตรียมรับมือกับราคาที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ RAM และ SSD ที่อาจขึ้นราคาอีกตลอดปี 2026 ผู้เชี่ยวชาญบางรายแนะนำว่าหากจำเป็นต้องอัปเกรด ควรทำเร็วกว่าเดิม แต่ถ้าระบบยังใช้งานได้ดี อาจรอให้ตลาดกลับมาสมดุล ซึ่งอาจใช้เวลาตั้งแต่ 6 เดือนจนถึง 10 ปี ขึ้นอยู่กับว่าความต้องการด้าน AI จะชะลอตัวลงเมื่อใด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ IDC คาดราคา PC ปี 2026 เพิ่มขึ้น 4–8% ➡️ เกิดจากวิกฤต DRAM และ NAND ทั่วโลก ➡️ ตลาดพีซีอาจหดตัวสูงสุดถึง 8.9% ✅ ผู้ผลิตเริ่มขึ้นราคาหนัก ➡️ Dell และ Lenovo ปรับขึ้นสูงสุด 15% ➡️ บางรายขายพีซี “ไม่มี RAM” ให้ลูกค้าหามาใส่เอง ✅ HBM แย่งกำลังผลิตจาก DRAM/NAND ➡️ ผู้ผลิตทุ่มกำลังผลิตให้ชิป AI เพราะกำไรสูงกว่า ➡️ โรงงานใหม่ใช้เงินมหาศาลและใช้เวลาหลายปี ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนผู้บริโภค ➡️ ถ้าจำเป็นต้องอัปเกรด ควรทำเร็ว ➡️ ถ้าระบบยังดี อาจรอจนตลาดนิ่ง https://www.tomshardware.com/tech-industry/idc-expects-average-pc-prices-to-jump-by-up-to-8-percent-in-2026-due-to-crushing-memory-shortages-some-vendors-already-selling-pre-builts-without-ram
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tencent ใช้ “ช่องโหว่การเช่าเซิร์ฟเวอร์” เพื่อเข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 แม้ถูกสหรัฐแบน

    รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Tencent สามารถเข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 ซึ่งเป็นหนึ่งในชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดของ NVIDIA แม้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐ โดยอาศัย “ช่องโหว่การเช่า (rental loophole)” ผ่านผู้ให้บริการคลาวด์นอกจีนที่ยังสามารถซื้อและให้เช่าเซิร์ฟเวอร์ที่มีชิปต้องห้ามได้

    แม้สหรัฐจะห้ามไม่ให้ NVIDIA ส่งออกชิประดับสูง เช่น H100, H200, B100 และ B200 ไปยังจีนโดยตรง แต่กฎไม่ได้ห้ามบริษัทจีนจากการ เช่า เซิร์ฟเวอร์ที่มีชิปเหล่านี้จากผู้ให้บริการในต่างประเทศ นี่คือช่องว่างที่ Tencent ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

    รายงานชี้ว่า Tencent ได้เข้าถึง B200 ผ่านผู้ให้บริการคลาวด์ในสิงคโปร์และยุโรป ซึ่งยังสามารถซื้อชิป Blackwell ได้ตามปกติ และให้บริการเช่า GPU cluster แบบ remote access ทำให้ Tencent สามารถฝึกโมเดลขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องนำฮาร์ดแวร์เข้าประเทศจีนโดยตรง

    นี่เป็นตัวอย่างล่าสุดของ “AI export control cat‑and‑mouse game” ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อบริษัทจีนใช้วิธีเช่า GPU cluster ในต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ขณะที่สหรัฐพยายามปิดช่องโหว่เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สิ่งที่เกิดขึ้น
    Tencent เข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 ผ่านการเช่าเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ
    แม้สหรัฐแบนการส่งออก แต่กฎไม่ได้ห้ามการ “เช่า” GPU cluster
    ผู้ให้บริการคลาวด์ในสิงคโปร์และยุโรปยังสามารถซื้อและให้เช่า B200 ได้

    ทำไมช่องโหว่นี้ถึงเกิดขึ้น
    Export control ของสหรัฐเน้น “การส่งออกฮาร์ดแวร์” ไม่ใช่ “การเข้าถึงระยะไกล”
    บริษัทจีนสามารถใช้บริการคลาวด์นอกประเทศได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
    NVIDIA ไม่สามารถควบคุมการใช้งานชิปหลังจากขายให้ผู้ให้บริการคลาวด์แล้ว

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    บริษัทจีนยังสามารถฝึกโมเดลขนาดใหญ่ได้แม้ถูกแบน
    ผู้ให้บริการคลาวด์นอกจีนได้ประโยชน์จากดีมานด์ GPU ที่สูงขึ้น
    สหรัฐอาจต้องออกกฎใหม่เพื่อปิดช่องโหว่นี้

    บริบทเชิงภูมิรัฐศาสตร์
    การแข่งขัน AI ระหว่างสหรัฐ–จีนกำลังย้ายจาก “ฮาร์ดแวร์” ไปสู่ “การควบคุมการเข้าถึง”
    ช่องโหว่การเช่าอาจกลายเป็นประเด็นถกเถียงระดับนโยบายในปี 2026
    NVIDIA อยู่ในตำแหน่งลำบาก เพราะต้องขายชิปให้ได้ แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎสหรัฐ

    https://wccftech.com/china-tencent-gains-access-to-nvidia-blackwell-ai-chips-by-leveraging-the-rental-loophole/
    🧩 Tencent ใช้ “ช่องโหว่การเช่าเซิร์ฟเวอร์” เพื่อเข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 แม้ถูกสหรัฐแบน รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Tencent สามารถเข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 ซึ่งเป็นหนึ่งในชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดของ NVIDIA แม้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐ โดยอาศัย “ช่องโหว่การเช่า (rental loophole)” ผ่านผู้ให้บริการคลาวด์นอกจีนที่ยังสามารถซื้อและให้เช่าเซิร์ฟเวอร์ที่มีชิปต้องห้ามได้ แม้สหรัฐจะห้ามไม่ให้ NVIDIA ส่งออกชิประดับสูง เช่น H100, H200, B100 และ B200 ไปยังจีนโดยตรง แต่กฎไม่ได้ห้ามบริษัทจีนจากการ เช่า เซิร์ฟเวอร์ที่มีชิปเหล่านี้จากผู้ให้บริการในต่างประเทศ นี่คือช่องว่างที่ Tencent ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ รายงานชี้ว่า Tencent ได้เข้าถึง B200 ผ่านผู้ให้บริการคลาวด์ในสิงคโปร์และยุโรป ซึ่งยังสามารถซื้อชิป Blackwell ได้ตามปกติ และให้บริการเช่า GPU cluster แบบ remote access ทำให้ Tencent สามารถฝึกโมเดลขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องนำฮาร์ดแวร์เข้าประเทศจีนโดยตรง นี่เป็นตัวอย่างล่าสุดของ “AI export control cat‑and‑mouse game” ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อบริษัทจีนใช้วิธีเช่า GPU cluster ในต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ขณะที่สหรัฐพยายามปิดช่องโหว่เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สิ่งที่เกิดขึ้น ➡️ Tencent เข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 ผ่านการเช่าเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ ➡️ แม้สหรัฐแบนการส่งออก แต่กฎไม่ได้ห้ามการ “เช่า” GPU cluster ➡️ ผู้ให้บริการคลาวด์ในสิงคโปร์และยุโรปยังสามารถซื้อและให้เช่า B200 ได้ ✅ ทำไมช่องโหว่นี้ถึงเกิดขึ้น ➡️ Export control ของสหรัฐเน้น “การส่งออกฮาร์ดแวร์” ไม่ใช่ “การเข้าถึงระยะไกล” ➡️ บริษัทจีนสามารถใช้บริการคลาวด์นอกประเทศได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ➡️ NVIDIA ไม่สามารถควบคุมการใช้งานชิปหลังจากขายให้ผู้ให้บริการคลาวด์แล้ว ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ บริษัทจีนยังสามารถฝึกโมเดลขนาดใหญ่ได้แม้ถูกแบน ➡️ ผู้ให้บริการคลาวด์นอกจีนได้ประโยชน์จากดีมานด์ GPU ที่สูงขึ้น ➡️ สหรัฐอาจต้องออกกฎใหม่เพื่อปิดช่องโหว่นี้ ✅ บริบทเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ➡️ การแข่งขัน AI ระหว่างสหรัฐ–จีนกำลังย้ายจาก “ฮาร์ดแวร์” ไปสู่ “การควบคุมการเข้าถึง” ➡️ ช่องโหว่การเช่าอาจกลายเป็นประเด็นถกเถียงระดับนโยบายในปี 2026 ➡️ NVIDIA อยู่ในตำแหน่งลำบาก เพราะต้องขายชิปให้ได้ แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎสหรัฐ https://wccftech.com/china-tencent-gains-access-to-nvidia-blackwell-ai-chips-by-leveraging-the-rental-loophole/
    WCCFTECH.COM
    China's Tencent Gains Access to the "Banned" NVIDIA's Blackwell B200 AI Chips by Leveraging the Rental Loophole in U.S. Export Controls
    While Blackwell is banned from being exported to China, domestic AI giants have found their workarounds to access NVIDIA's latest technology.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • Garage: วัตถุดิบใหม่ของ Distributed Object Storage ที่ออกแบบมาให้ “รอด” แม้ไม่มีดาต้าเซ็นเตอร์

    Garage คือ object storage แบบ S3‑compatible ที่ถูกออกแบบด้วยแนวคิดตรงข้ามกับคลาวด์ยักษ์ใหญ่—แทนที่จะต้องการดาต้าเซ็นเตอร์ระดับ hyperscale มันถูกสร้างมาเพื่อ ทำงานได้แม้บนเครื่องมือเก่า เครือข่ายไม่เสถียร และโครงสร้างพื้นฐานที่กระจัดกระจาย จุดเด่นคือความสามารถในการ replicate ข้อมูลแบบ 3‑zone redundancy โดยไม่ต้องมี backbone เฉพาะทาง ทำให้เหมาะกับองค์กรขนาดเล็ก, ชุมชน, edge cluster, หรือแม้แต่ผู้ใช้ที่ต้องการ self‑host storage ที่ทนทานจริงๆ

    หัวใจของ Garage คือการออกแบบให้ lightweight, self‑contained และ operator‑friendly ทีมพัฒนาเป็น sysadmin มาก่อน จึงให้ความสำคัญกับการ deploy ง่าย, debug ง่าย และไม่ต้องพึ่ง dependency ภายนอก ตัวซอฟต์แวร์เป็น binary เดียวที่รันได้บน Linux ทุกดิสโทร และรองรับทั้ง x86_64, ARMv7 และ ARMv8 ทำให้สามารถสร้างคลัสเตอร์จากเครื่องมือมือสองหรือฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่แล้วได้ทันที

    ในเชิงสถาปัตยกรรม Garage ยืนอยู่บนไหล่ของงานวิจัยระดับโลก เช่น Dynamo, CRDT และ Maglev load balancing ซึ่งช่วยให้ระบบสามารถทนต่อ network partition, latency สูง, และ disk failure ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือการนำแนวคิดของ distributed system ระดับ hyperscale มาปรับให้ใช้งานได้ในระดับ “ทุกคนเข้าถึงได้” โดยไม่ต้องมีงบประมาณระดับองค์กรใหญ่

    Garage ยังได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการยุโรปหลายรอบ เช่น NGI POINTER, NLnet และ NGI0 ซึ่งสะท้อนว่า ecosystem ด้าน open infrastructure กำลังเติบโต และมีความต้องการระบบเก็บข้อมูลที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่ผูกขาดกับผู้ให้บริการรายใหญ่ หาก Garage เติบโตต่อเนื่อง มันอาจกลายเป็นหนึ่งในเสาหลักของ decentralized cloud ในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    จุดเด่นของ Garage
    ออกแบบให้ทำงานได้แม้ไม่มีดาต้าเซ็นเตอร์หรือ backbone เฉพาะทาง
    binary เดียว ไม่มี dependency ติดตั้งง่ายบน Linux ทุกดิสโทร
    รองรับฮาร์ดแวร์หลากหลาย รวมถึงเครื่องมือมือสอง

    ความสามารถด้านความทนทาน
    replicate ข้อมูล 3 โซนเพื่อความทนทานสูง
    ทนต่อ network failure, latency, disk failure และ human error
    ใช้แนวคิดจาก Dynamo, CRDT และ Maglev load balancing

    ความต้องการระบบที่ต่ำ
    CPU x86_64 หรือ ARM รุ่นเก่าได้
    RAM เพียง 1 GB
    network latency ≤ 200 ms และ bandwidth ≥ 50 Mbps

    ความเข้ากันได้และการใช้งาน
    รองรับ Amazon S3 API ใช้กับแอปที่รองรับ S3 ได้ทันที
    เหมาะกับ hosting, media storage, backup และ edge cluster

    การสนับสนุนจากโครงการยุโรป
    ได้ทุนจาก NGI POINTER, NLnet, NGI0 Entrust และ NGI0 Commons หลายรอบ
    สะท้อนความสำคัญของ open infrastructure ต่อ ecosystem ยุโรป

    ประเด็นที่ต้องระวัง
    ต้องออกแบบ topology ให้ดีเพื่อให้ redundancy ทำงานเต็มประสิทธิภาพ
    ไม่เหมาะกับ workload ที่ต้องการ throughput ระดับ hyperscale
    ผู้ใช้ต้องมีความเข้าใจพื้นฐานด้าน distributed storage

    https://garagehq.deuxfleurs.fr/
    🏗️ Garage: วัตถุดิบใหม่ของ Distributed Object Storage ที่ออกแบบมาให้ “รอด” แม้ไม่มีดาต้าเซ็นเตอร์ Garage คือ object storage แบบ S3‑compatible ที่ถูกออกแบบด้วยแนวคิดตรงข้ามกับคลาวด์ยักษ์ใหญ่—แทนที่จะต้องการดาต้าเซ็นเตอร์ระดับ hyperscale มันถูกสร้างมาเพื่อ ทำงานได้แม้บนเครื่องมือเก่า เครือข่ายไม่เสถียร และโครงสร้างพื้นฐานที่กระจัดกระจาย จุดเด่นคือความสามารถในการ replicate ข้อมูลแบบ 3‑zone redundancy โดยไม่ต้องมี backbone เฉพาะทาง ทำให้เหมาะกับองค์กรขนาดเล็ก, ชุมชน, edge cluster, หรือแม้แต่ผู้ใช้ที่ต้องการ self‑host storage ที่ทนทานจริงๆ หัวใจของ Garage คือการออกแบบให้ lightweight, self‑contained และ operator‑friendly ทีมพัฒนาเป็น sysadmin มาก่อน จึงให้ความสำคัญกับการ deploy ง่าย, debug ง่าย และไม่ต้องพึ่ง dependency ภายนอก ตัวซอฟต์แวร์เป็น binary เดียวที่รันได้บน Linux ทุกดิสโทร และรองรับทั้ง x86_64, ARMv7 และ ARMv8 ทำให้สามารถสร้างคลัสเตอร์จากเครื่องมือมือสองหรือฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่แล้วได้ทันที ในเชิงสถาปัตยกรรม Garage ยืนอยู่บนไหล่ของงานวิจัยระดับโลก เช่น Dynamo, CRDT และ Maglev load balancing ซึ่งช่วยให้ระบบสามารถทนต่อ network partition, latency สูง, และ disk failure ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือการนำแนวคิดของ distributed system ระดับ hyperscale มาปรับให้ใช้งานได้ในระดับ “ทุกคนเข้าถึงได้” โดยไม่ต้องมีงบประมาณระดับองค์กรใหญ่ Garage ยังได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการยุโรปหลายรอบ เช่น NGI POINTER, NLnet และ NGI0 ซึ่งสะท้อนว่า ecosystem ด้าน open infrastructure กำลังเติบโต และมีความต้องการระบบเก็บข้อมูลที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่ผูกขาดกับผู้ให้บริการรายใหญ่ หาก Garage เติบโตต่อเนื่อง มันอาจกลายเป็นหนึ่งในเสาหลักของ decentralized cloud ในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ จุดเด่นของ Garage ➡️ ออกแบบให้ทำงานได้แม้ไม่มีดาต้าเซ็นเตอร์หรือ backbone เฉพาะทาง ➡️ binary เดียว ไม่มี dependency ติดตั้งง่ายบน Linux ทุกดิสโทร ➡️ รองรับฮาร์ดแวร์หลากหลาย รวมถึงเครื่องมือมือสอง ✅ ความสามารถด้านความทนทาน ➡️ replicate ข้อมูล 3 โซนเพื่อความทนทานสูง ➡️ ทนต่อ network failure, latency, disk failure และ human error ➡️ ใช้แนวคิดจาก Dynamo, CRDT และ Maglev load balancing ✅ ความต้องการระบบที่ต่ำ ➡️ CPU x86_64 หรือ ARM รุ่นเก่าได้ ➡️ RAM เพียง 1 GB ➡️ network latency ≤ 200 ms และ bandwidth ≥ 50 Mbps ✅ ความเข้ากันได้และการใช้งาน ➡️ รองรับ Amazon S3 API ใช้กับแอปที่รองรับ S3 ได้ทันที ➡️ เหมาะกับ hosting, media storage, backup และ edge cluster ✅ การสนับสนุนจากโครงการยุโรป ➡️ ได้ทุนจาก NGI POINTER, NLnet, NGI0 Entrust และ NGI0 Commons หลายรอบ ➡️ สะท้อนความสำคัญของ open infrastructure ต่อ ecosystem ยุโรป ‼️ ประเด็นที่ต้องระวัง ⛔ ต้องออกแบบ topology ให้ดีเพื่อให้ redundancy ทำงานเต็มประสิทธิภาพ ⛔ ไม่เหมาะกับ workload ที่ต้องการ throughput ระดับ hyperscale ⛔ ผู้ใช้ต้องมีความเข้าใจพื้นฐานด้าน distributed storage https://garagehq.deuxfleurs.fr/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • Darktable 5.4: อัปเดตใหม่ เพิ่มการรองรับกล้องรุ่นล่าสุดและยกระดับเวิร์กโฟลว์ RAW

    Darktable 5.4 มาพร้อมการอัปเดตสำคัญที่เน้นการรองรับกล้องรุ่นใหม่จาก Canon หลายรุ่น ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ช่างภาพที่ต้องการเวิร์กโฟลว์ RAW ที่เสถียรและแม่นยำมากขึ้นบน Linux การเพิ่มการรองรับกล้องใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำไฟล์ RAW จากกล้องระดับโปรเข้ามาแก้ไขได้ทันทีโดยไม่ต้องรอแพตช์เสริมเหมือนในอดีต ทำให้ Darktable ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ช่างภาพสาย Linux ไว้ใจมากที่สุด

    แม้เนื้อหาในหน้าเว็บจะเน้นไปที่การรองรับกล้องใหม่ แต่ในภาพรวม Darktable 5.4 ยังสะท้อนถึงแนวโน้มของซอฟต์แวร์แต่งภาพโอเพ่นซอร์สที่พยายามไล่ตามความเร็วของวงการกล้องที่ออกโมเดลใหม่แทบทุกปี การอัปเดตแบบต่อเนื่องนี้ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และยังทำให้ Darktable เป็นตัวเลือกที่แข็งแรงขึ้นเมื่อเทียบกับ Lightroom หรือ Capture One ในมุมของความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ล่าสุด

    ในมุมของ ecosystem การที่ Darktable รองรับกล้องใหม่ได้เร็วขึ้นเป็นผลจากการร่วมมือของชุมชนผู้พัฒนาและผู้ใช้ที่ช่วยส่งตัวอย่างไฟล์ RAW เพื่อให้ทีมงานปรับปรุงโมดูล demosaic และ color profile ได้แม่นยำขึ้น นี่คือพลังของโอเพ่นซอร์สที่ทำให้ซอฟต์แวร์เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องรอค่ายกล้องปล่อย SDK อย่างเป็นทางการ

    สุดท้าย การอัปเดตครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณว่าซอฟต์แวร์แต่งภาพบน Linux กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้ใช้ต้องการเครื่องมือที่ทั้งฟรี ทรงพลัง และรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่อย่างรวดเร็ว ซึ่ง Darktable 5.4 ก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามันยังคงเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่ตอบโจทย์สายถ่ายภาพได้ดีที่สุดในโลกโอเพ่นซอร์ส

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไฮไลต์จาก Darktable 5.4
    เพิ่มการรองรับกล้อง Canon EOS R1, R5 Mark II, PowerShot D10, S100V และ S2 IS
    ปรับปรุงความเข้ากันได้ของไฟล์ RAW สำหรับกล้องรุ่นใหม่
    ยกระดับเวิร์กโฟลว์สำหรับช่างภาพที่ใช้ Linux

    ความสำคัญต่อผู้ใช้
    ผู้ใช้สามารถนำไฟล์ RAW จากกล้องใหม่มาใช้งานได้ทันที
    ลดความจำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์ proprietary บนระบบอื่น
    ทำให้ Darktable เป็นตัวเลือกที่มั่นคงสำหรับงานถ่ายภาพระดับโปร

    บริบทจากโลกโอเพ่นซอร์ส
    การอัปเดตเร็วขึ้นเกิดจากความร่วมมือของชุมชน
    การรองรับกล้องใหม่ช่วยให้ Darktable แข่งขันกับ Lightroom ได้ดีขึ้น
    Ecosystem ของซอฟต์แวร์แต่งภาพบน Linux แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ

    สิ่งที่ต้องระวัง
    การรองรับกล้องใหม่อาจยังไม่สมบูรณ์ในบางกรณี ต้องรอการปรับปรุงเพิ่มเติม
    ผู้ใช้บางรายอาจพบความคลาดเคลื่อนของ color profile ในช่วงแรก
    ฟีเจอร์ใหม่อาจยังไม่รองรับปลั๊กอินบางตัว

    https://9to5linux.com/darktable-5-4-open-source-raw-image-editor-improves-camera-support
    📸 Darktable 5.4: อัปเดตใหม่ เพิ่มการรองรับกล้องรุ่นล่าสุดและยกระดับเวิร์กโฟลว์ RAW Darktable 5.4 มาพร้อมการอัปเดตสำคัญที่เน้นการรองรับกล้องรุ่นใหม่จาก Canon หลายรุ่น ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ช่างภาพที่ต้องการเวิร์กโฟลว์ RAW ที่เสถียรและแม่นยำมากขึ้นบน Linux การเพิ่มการรองรับกล้องใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำไฟล์ RAW จากกล้องระดับโปรเข้ามาแก้ไขได้ทันทีโดยไม่ต้องรอแพตช์เสริมเหมือนในอดีต ทำให้ Darktable ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ช่างภาพสาย Linux ไว้ใจมากที่สุด แม้เนื้อหาในหน้าเว็บจะเน้นไปที่การรองรับกล้องใหม่ แต่ในภาพรวม Darktable 5.4 ยังสะท้อนถึงแนวโน้มของซอฟต์แวร์แต่งภาพโอเพ่นซอร์สที่พยายามไล่ตามความเร็วของวงการกล้องที่ออกโมเดลใหม่แทบทุกปี การอัปเดตแบบต่อเนื่องนี้ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และยังทำให้ Darktable เป็นตัวเลือกที่แข็งแรงขึ้นเมื่อเทียบกับ Lightroom หรือ Capture One ในมุมของความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ล่าสุด ในมุมของ ecosystem การที่ Darktable รองรับกล้องใหม่ได้เร็วขึ้นเป็นผลจากการร่วมมือของชุมชนผู้พัฒนาและผู้ใช้ที่ช่วยส่งตัวอย่างไฟล์ RAW เพื่อให้ทีมงานปรับปรุงโมดูล demosaic และ color profile ได้แม่นยำขึ้น นี่คือพลังของโอเพ่นซอร์สที่ทำให้ซอฟต์แวร์เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องรอค่ายกล้องปล่อย SDK อย่างเป็นทางการ สุดท้าย การอัปเดตครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณว่าซอฟต์แวร์แต่งภาพบน Linux กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้ใช้ต้องการเครื่องมือที่ทั้งฟรี ทรงพลัง และรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่อย่างรวดเร็ว ซึ่ง Darktable 5.4 ก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามันยังคงเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่ตอบโจทย์สายถ่ายภาพได้ดีที่สุดในโลกโอเพ่นซอร์ส 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไฮไลต์จาก Darktable 5.4 ➡️ เพิ่มการรองรับกล้อง Canon EOS R1, R5 Mark II, PowerShot D10, S100V และ S2 IS ➡️ ปรับปรุงความเข้ากันได้ของไฟล์ RAW สำหรับกล้องรุ่นใหม่ ➡️ ยกระดับเวิร์กโฟลว์สำหรับช่างภาพที่ใช้ Linux ✅ ความสำคัญต่อผู้ใช้ ➡️ ผู้ใช้สามารถนำไฟล์ RAW จากกล้องใหม่มาใช้งานได้ทันที ➡️ ลดความจำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์ proprietary บนระบบอื่น ➡️ ทำให้ Darktable เป็นตัวเลือกที่มั่นคงสำหรับงานถ่ายภาพระดับโปร ✅ บริบทจากโลกโอเพ่นซอร์ส ➡️ การอัปเดตเร็วขึ้นเกิดจากความร่วมมือของชุมชน ➡️ การรองรับกล้องใหม่ช่วยให้ Darktable แข่งขันกับ Lightroom ได้ดีขึ้น ➡️ Ecosystem ของซอฟต์แวร์แต่งภาพบน Linux แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ‼️ สิ่งที่ต้องระวัง ⛔ การรองรับกล้องใหม่อาจยังไม่สมบูรณ์ในบางกรณี ต้องรอการปรับปรุงเพิ่มเติม ⛔ ผู้ใช้บางรายอาจพบความคลาดเคลื่อนของ color profile ในช่วงแรก ⛔ ฟีเจอร์ใหม่อาจยังไม่รองรับปลั๊กอินบางตัว https://9to5linux.com/darktable-5-4-open-source-raw-image-editor-improves-camera-support
    9TO5LINUX.COM
    Darktable 5.4 Open-Source RAW Image Editor Improves Camera Support - 9to5Linux
    Darktable 5.4 open-source RAW image editor is now available for download with support for new cameras, new noise profiles, and bug fixes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • PkgForge: ก้าวใหม่ของแอปพกพาบน Linux ที่ไม่ผูกติดดิสโทร

    PkgForge ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้ Linux เจอมานานหลายปี—แอปที่ “รันได้บนบางดิสโทร แต่พังบนอีกดิสโทรหนึ่ง” แม้จะมี Flatpak, Snap และ AppImage อยู่แล้ว แต่แต่ละแบบก็ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องมี daemon, runtime หรือระบบรองรับเฉพาะทางก่อนจึงจะรันได้ PkgForge จึงเสนอแนวคิดใหม่: ทำให้แอปพกพาได้จริงโดยลดการพึ่งพา dependency ของระบบให้มากที่สุด และจัดการผ่าน ecosystem ที่มีความเป็นระเบียบและตรวจสอบได้มากกว่า

    หัวใจสำคัญของ PkgForge คือ Soar ตัวจัดการแพ็กเกจที่ทำงานคู่กับดิสโทรของผู้ใช้ ไม่ได้มาแทนที่ apt หรือ dnf แต่ทำหน้าที่เป็น “เลเยอร์พกพา” ที่ติดตั้งแอปจาก repository แบบ curated พร้อม build logs และ checksum ที่ตรวจสอบได้ จุดนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากสคริปต์ติดตั้งแบบสุ่มที่ผู้ใช้ Linux มักเจอเมื่อดาวน์โหลดแอปจากเว็บต่างๆ

    นอกจากนี้ PkgForge ยังมีองค์ประกอบเสริม เช่น SoarPkgs, BinCache, และ PkgCache ซึ่งรองรับตั้งแต่ static binaries ไปจนถึง portable desktop apps โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบเดียว เช่น AppImage, AppBundle, FlatImage, RunImage หรือแม้แต่ GameImage สำหรับเกมที่มี asset จำนวนมาก แนวคิดนี้สะท้อนเทรนด์ใหม่ของโอเพ่นซอร์สที่เน้น “ความยืดหยุ่นเหนือรูปแบบ” เพื่อให้ผู้ใช้เลือกสิ่งที่เหมาะกับงานมากที่สุด

    แม้ PkgForge ยังไม่ได้ถูกใช้เป็นช่องทางหลักของแอปใหญ่ๆ แต่ชุมชนเริ่มขยับตัว เช่นโครงการ AnyLinux AppImage ที่ทำให้ AppImage รันได้แม้ไม่มี FUSE หรือ user namespace ซึ่งช่วยลดปัญหาคลาสสิกของ AppImage ลงอย่างมาก หากโครงการเติบโตต่อเนื่อง มันอาจกลายเป็นรากฐานสำคัญของอนาคตแอปพกพาบน Linux ที่แท้จริง—ไม่ใช่แค่ในเชิงเทคนิค แต่ในเชิง ecosystem ด้วย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    แนวคิดหลักของ PkgForge
    มุ่งสร้างแอปพกพาที่รันได้บนทุกดิสโทรโดยลด dependency ให้มากที่สุด
    ไม่ใช่รูปแบบแพ็กเกจใหม่ แต่เป็น ecosystem ที่จัดการ portable apps อย่างเป็นระบบ
    เน้นความโปร่งใส เช่น build logs และ checksum verification

    บทบาทของ Soar
    ทำงานคู่กับ package manager ของดิสโทร ไม่ได้มาแทนที่
    จัดการติดตั้ง อัปเดต ลบ และรันแอปแบบพกพา
    รองรับการย้ายระบบหรือใช้งานบน USB ได้ง่ายขึ้น

    ประเภทแพ็กเกจที่รองรับ
    AppImage, AppBundle, Archive, FlatImage, GameImage, RunImage
    Static binaries สำหรับ CLI tools
    เลือกใช้รูปแบบที่เหมาะกับซอฟต์แวร์แต่ละตัว ไม่บังคับรูปแบบเดียว

    ความเคลื่อนไหวในชุมชน
    AnyLinux AppImage ทำให้ AppImage ใช้งานได้กว้างขึ้น
    มีแอปยอดนิยมหลายตัวเริ่มรองรับผ่าน Soar เช่น OBS Studio, Ghostty, Cromite
    แนวโน้ม portable ecosystem เริ่มชัดเจนขึ้นในโลก Linux

    ข้อจำกัดและสิ่งที่ต้องระวัง
    ยังไม่ใช่ช่องทางหลักของนักพัฒนาแอปส่วนใหญ่
    ผู้ใช้ต้องเข้าใจว่าบางรูปแบบยังต้องพึ่งฟีเจอร์ของระบบ เช่น FUSE หรือ user namespace
    การจัดการแบบ manual (ถ้าไม่ใช้ Soar) อาจเพิ่มภาระเรื่องอัปเดตและ integration

    https://itsfoss.com/pkgforge/
    🧰 PkgForge: ก้าวใหม่ของแอปพกพาบน Linux ที่ไม่ผูกติดดิสโทร PkgForge ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้ Linux เจอมานานหลายปี—แอปที่ “รันได้บนบางดิสโทร แต่พังบนอีกดิสโทรหนึ่ง” แม้จะมี Flatpak, Snap และ AppImage อยู่แล้ว แต่แต่ละแบบก็ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องมี daemon, runtime หรือระบบรองรับเฉพาะทางก่อนจึงจะรันได้ PkgForge จึงเสนอแนวคิดใหม่: ทำให้แอปพกพาได้จริงโดยลดการพึ่งพา dependency ของระบบให้มากที่สุด และจัดการผ่าน ecosystem ที่มีความเป็นระเบียบและตรวจสอบได้มากกว่า หัวใจสำคัญของ PkgForge คือ Soar ตัวจัดการแพ็กเกจที่ทำงานคู่กับดิสโทรของผู้ใช้ ไม่ได้มาแทนที่ apt หรือ dnf แต่ทำหน้าที่เป็น “เลเยอร์พกพา” ที่ติดตั้งแอปจาก repository แบบ curated พร้อม build logs และ checksum ที่ตรวจสอบได้ จุดนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากสคริปต์ติดตั้งแบบสุ่มที่ผู้ใช้ Linux มักเจอเมื่อดาวน์โหลดแอปจากเว็บต่างๆ นอกจากนี้ PkgForge ยังมีองค์ประกอบเสริม เช่น SoarPkgs, BinCache, และ PkgCache ซึ่งรองรับตั้งแต่ static binaries ไปจนถึง portable desktop apps โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบเดียว เช่น AppImage, AppBundle, FlatImage, RunImage หรือแม้แต่ GameImage สำหรับเกมที่มี asset จำนวนมาก แนวคิดนี้สะท้อนเทรนด์ใหม่ของโอเพ่นซอร์สที่เน้น “ความยืดหยุ่นเหนือรูปแบบ” เพื่อให้ผู้ใช้เลือกสิ่งที่เหมาะกับงานมากที่สุด แม้ PkgForge ยังไม่ได้ถูกใช้เป็นช่องทางหลักของแอปใหญ่ๆ แต่ชุมชนเริ่มขยับตัว เช่นโครงการ AnyLinux AppImage ที่ทำให้ AppImage รันได้แม้ไม่มี FUSE หรือ user namespace ซึ่งช่วยลดปัญหาคลาสสิกของ AppImage ลงอย่างมาก หากโครงการเติบโตต่อเนื่อง มันอาจกลายเป็นรากฐานสำคัญของอนาคตแอปพกพาบน Linux ที่แท้จริง—ไม่ใช่แค่ในเชิงเทคนิค แต่ในเชิง ecosystem ด้วย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ แนวคิดหลักของ PkgForge ➡️ มุ่งสร้างแอปพกพาที่รันได้บนทุกดิสโทรโดยลด dependency ให้มากที่สุด ➡️ ไม่ใช่รูปแบบแพ็กเกจใหม่ แต่เป็น ecosystem ที่จัดการ portable apps อย่างเป็นระบบ ➡️ เน้นความโปร่งใส เช่น build logs และ checksum verification ✅ บทบาทของ Soar ➡️ ทำงานคู่กับ package manager ของดิสโทร ไม่ได้มาแทนที่ ➡️ จัดการติดตั้ง อัปเดต ลบ และรันแอปแบบพกพา ➡️ รองรับการย้ายระบบหรือใช้งานบน USB ได้ง่ายขึ้น ✅ ประเภทแพ็กเกจที่รองรับ ➡️ AppImage, AppBundle, Archive, FlatImage, GameImage, RunImage ➡️ Static binaries สำหรับ CLI tools ➡️ เลือกใช้รูปแบบที่เหมาะกับซอฟต์แวร์แต่ละตัว ไม่บังคับรูปแบบเดียว ✅ ความเคลื่อนไหวในชุมชน ➡️ AnyLinux AppImage ทำให้ AppImage ใช้งานได้กว้างขึ้น ➡️ มีแอปยอดนิยมหลายตัวเริ่มรองรับผ่าน Soar เช่น OBS Studio, Ghostty, Cromite ➡️ แนวโน้ม portable ecosystem เริ่มชัดเจนขึ้นในโลก Linux ‼️ ข้อจำกัดและสิ่งที่ต้องระวัง ⛔ ยังไม่ใช่ช่องทางหลักของนักพัฒนาแอปส่วนใหญ่ ⛔ ผู้ใช้ต้องเข้าใจว่าบางรูปแบบยังต้องพึ่งฟีเจอร์ของระบบ เช่น FUSE หรือ user namespace ⛔ การจัดการแบบ manual (ถ้าไม่ใช้ Soar) อาจเพิ่มภาระเรื่องอัปเดตและ integration https://itsfoss.com/pkgforge/
    ITSFOSS.COM
    Linux Apps Without Distro Lock-In? Explore This Lesser Known Snap and Flatpak Alternative
    Meet PkgForge: A Distro-Independent Portable Apps 'Foundry' for Linux Users
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • พลโท บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก และอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้แทน ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ตรวจสภาพพื้นที่บริเวณปราสาทตาควาย และเนิน 350 อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ หลังทหารไทยสามารถควบคุมพื้นที่ได้ตามเป้าหมาย
    .
    การลงพื้นที่ครั้งนี้มีขึ้นเพื่อประเมินสภาพพื้นที่จริง หลังถูกใช้เป็นฐานที่มั่นในการสู้รบ พร้อมตรวจสอบความเรียบร้อยด้านความมั่นคง และติดตามผลการปฏิบัติการของกำลังพลในแนวหน้า
    .
    ในโอกาสนี้ พลโท บุญสิน ได้เชิดชูเกียรติและให้กำลังใจทหารกล้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง จนสามารถผลักดันฝ่ายตรงข้ามและยึดคืนพื้นที่ได้สำเร็จ พร้อมย้ำว่าความเสียสละของกำลังพลทุกนายจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การปกป้องอธิปไตยของชาติ
    .
    พลโท บุญสิน ยืนยันว่ากองทัพไทยจะดูแลและยืนเคียงข้างกำลังพลทุกคนอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศอย่างต่อเนื่อง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122735
    .
    #News1live #News1 #กองทัพบก #ปราสาทตาควาย #เนิน350 #อธิปไตยไทย
    พลโท บุญสิน พาดกลาง ที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก และอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะผู้แทน ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ตรวจสภาพพื้นที่บริเวณปราสาทตาควาย และเนิน 350 อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ หลังทหารไทยสามารถควบคุมพื้นที่ได้ตามเป้าหมาย . การลงพื้นที่ครั้งนี้มีขึ้นเพื่อประเมินสภาพพื้นที่จริง หลังถูกใช้เป็นฐานที่มั่นในการสู้รบ พร้อมตรวจสอบความเรียบร้อยด้านความมั่นคง และติดตามผลการปฏิบัติการของกำลังพลในแนวหน้า . ในโอกาสนี้ พลโท บุญสิน ได้เชิดชูเกียรติและให้กำลังใจทหารกล้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง จนสามารถผลักดันฝ่ายตรงข้ามและยึดคืนพื้นที่ได้สำเร็จ พร้อมย้ำว่าความเสียสละของกำลังพลทุกนายจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การปกป้องอธิปไตยของชาติ . พลโท บุญสิน ยืนยันว่ากองทัพไทยจะดูแลและยืนเคียงข้างกำลังพลทุกคนอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาความมั่นคงและอธิปไตยของประเทศอย่างต่อเนื่อง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122735 . #News1live #News1 #กองทัพบก #ปราสาทตาควาย #เนิน350 #อธิปไตยไทย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุเรือนำนักท่องเที่ยวล่มกลางแม่น้ำโขง บริเวณหน้าถ้ำติ่ง ตรงข้ามบ้านปากอู ใกล้เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว หลังเรือช้าที่ล่องมาจากเมืองปากแบ่ง ชนแก่งหินกลางลำน้ำ ส่งผลให้เรือค่อย ๆ จมลง
    .
    เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม เวลาประมาณ 15.40 น. บนเรือลำดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปราว 120 คน รวมถึงผู้โดยสารชาวลาว โดยหลังเกิดเหตุมีเรือและชาวบ้านเข้าช่วยเหลือ สามารถอพยพนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งได้เกือบทั้งหมด
    .
    อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้โดยสารชาวลาวเพศหญิง 1 ราย พร้อมบุตรสาวอายุ 3 ปี และ 1 ปี สูญหายไปในกระแสน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยประดาน้ำจากกาชาดแขวงหลวงพระบางได้เร่งค้นหาต่อเนื่อง แต่จนถึงช่วงเย็นของวันที่ 19 ธันวาคม ยังไม่พบผู้สูญหายทั้ง 3 คน
    .
    การล่องเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงถือเป็นเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเส้นทางจากเมืองปากแบ่งและเมืองห้วยซายมายังหลวงพระบาง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122601
    .
    #News1live #News1 #หลวงพระบาง #แม่น้ำโขง #เรือล่ม #ข่าวต่างประเทศ #อุบัติเหตุ
    เกิดเหตุเรือนำนักท่องเที่ยวล่มกลางแม่น้ำโขง บริเวณหน้าถ้ำติ่ง ตรงข้ามบ้านปากอู ใกล้เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว หลังเรือช้าที่ล่องมาจากเมืองปากแบ่ง ชนแก่งหินกลางลำน้ำ ส่งผลให้เรือค่อย ๆ จมลง . เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม เวลาประมาณ 15.40 น. บนเรือลำดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวชาวยุโรปราว 120 คน รวมถึงผู้โดยสารชาวลาว โดยหลังเกิดเหตุมีเรือและชาวบ้านเข้าช่วยเหลือ สามารถอพยพนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่งได้เกือบทั้งหมด . อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าผู้โดยสารชาวลาวเพศหญิง 1 ราย พร้อมบุตรสาวอายุ 3 ปี และ 1 ปี สูญหายไปในกระแสน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยประดาน้ำจากกาชาดแขวงหลวงพระบางได้เร่งค้นหาต่อเนื่อง แต่จนถึงช่วงเย็นของวันที่ 19 ธันวาคม ยังไม่พบผู้สูญหายทั้ง 3 คน . การล่องเรือท่องเที่ยวในแม่น้ำโขงถือเป็นเส้นทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเส้นทางจากเมืองปากแบ่งและเมืองห้วยซายมายังหลวงพระบาง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122601 . #News1live #News1 #หลวงพระบาง #แม่น้ำโขง #เรือล่ม #ข่าวต่างประเทศ #อุบัติเหตุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพไทยส่งสัญญาณไปยังชนชั้นนำของกัมพูชา ยืนยันจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่อง และจะไม่ยุติการโจมตีจนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะยอมรับเงื่อนไขทั้ง 3 ประการที่รัฐบาลไทยเสนอ เพื่อเปิดทางสู่การหยุดยิงและการเจรจาสันติภาพ
    .
    พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ แถลงที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย–กัมพูชา ระบุว่า การปฏิบัติการทางทหารของไทยตั้งแต่เริ่มต้น มุ่งเป้าเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น โดยกรณีที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นการโจมตีพื้นที่พลเรือนหรือสถานศึกษา เป็นข้อมูลบิดเบือนที่ไม่เป็นความจริง
    .
    โฆษกกองทัพอากาศยืนยันว่า เป้าหมายบางแห่ง เช่น กาสิโนร้าง ถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา จึงจำเป็นต้องเข้าทำลายซ้ำ ขณะเดียวกันยังได้โจมตีสะพานโอจิก จังหวัดอุดรมีชัย ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปยังพื้นที่ปราสาทตาควายและเนิน 350 เพื่อริดรอนขีดความสามารถทางทหารของฝ่ายตรงข้าม
    .
    การโจมตีดังกล่าวใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูง มุ่งตัดเส้นทางสำหรับยานพาหนะทางทหาร โดยยังคงเปิดให้ประชาชนสามารถเดินเท้าหรือใช้รถจักรยานยนต์ข้ามได้ และหากตรวจพบว่ากัมพูชายังพยายามใช้เส้นทางดังกล่าวในการส่งกำลังบำรุง กองทัพไทยจะดำเนินการโจมตีซ้ำทันที
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122728
    .
    #News1live #News1 #กองทัพไทย #สถานการณ์ชายแดน #เนิน350 #ปราสาทตาควาย #ความมั่นคง
    กองทัพไทยส่งสัญญาณไปยังชนชั้นนำของกัมพูชา ยืนยันจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่อง และจะไม่ยุติการโจมตีจนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะยอมรับเงื่อนไขทั้ง 3 ประการที่รัฐบาลไทยเสนอ เพื่อเปิดทางสู่การหยุดยิงและการเจรจาสันติภาพ . พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ แถลงที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย–กัมพูชา ระบุว่า การปฏิบัติการทางทหารของไทยตั้งแต่เริ่มต้น มุ่งเป้าเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น โดยกรณีที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นการโจมตีพื้นที่พลเรือนหรือสถานศึกษา เป็นข้อมูลบิดเบือนที่ไม่เป็นความจริง . โฆษกกองทัพอากาศยืนยันว่า เป้าหมายบางแห่ง เช่น กาสิโนร้าง ถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา จึงจำเป็นต้องเข้าทำลายซ้ำ ขณะเดียวกันยังได้โจมตีสะพานโอจิก จังหวัดอุดรมีชัย ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปยังพื้นที่ปราสาทตาควายและเนิน 350 เพื่อริดรอนขีดความสามารถทางทหารของฝ่ายตรงข้าม . การโจมตีดังกล่าวใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูง มุ่งตัดเส้นทางสำหรับยานพาหนะทางทหาร โดยยังคงเปิดให้ประชาชนสามารถเดินเท้าหรือใช้รถจักรยานยนต์ข้ามได้ และหากตรวจพบว่ากัมพูชายังพยายามใช้เส้นทางดังกล่าวในการส่งกำลังบำรุง กองทัพไทยจะดำเนินการโจมตีซ้ำทันที . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122728 . #News1live #News1 #กองทัพไทย #สถานการณ์ชายแดน #เนิน350 #ปราสาทตาควาย #ความมั่นคง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพบกยกย่องความกล้าหาญและการเสียสละของ จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา กำลังพลกองร้อยอาวุธเบา ร.23 พัน.3 ที่สละชีวิตในสนามรบ เพื่อปกป้องเพื่อนร่วมรบระหว่างปฏิบัติภารกิจโจมตีที่หมาย “เนิน 350”
    .
    เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 เวลา 10.10 น. ขณะหน่วยได้รับภารกิจเข้าโจมตี ฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธยิงสนับสนุนและอาวุธเล็งตรงอย่างต่อเนื่อง โดยกำลังพลทั้งสองนายได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นชุดยิงคุ้มครอง รั้งท้าย ปักหลักต่อสู้เพื่อเปิดทางให้กำลังพลส่วนใหญ่ถอนกำลังได้อย่างปลอดภัย
    .
    การยืนหยัดต่อสู้จนวาระสุดท้ายของทั้งสองนาย ส่งผลให้เพื่อนร่วมรบสามารถรอดพ้นจากอันตราย และถือเป็นการเสียชีวิตในสนามรบอย่างสมศักดิ์ศรีของทหารกล้า
    .
    ปัจจุบันอยู่ระหว่างการลำเลียงร่างออกจากพื้นที่การรบด้วยความระมัดระวังสูงสุด เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดแสวงเครื่องในพื้นที่
    .
    พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวยกย่องว่า ความเสียสละของทั้งสองนายเป็นแบบอย่างของทหารอาชีพ ผู้ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและผืนแผ่นดินไทยจนลมหายใจสุดท้าย
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122676
    .
    #News1live #News1 #ทหารกล้า #เนิน350 #กองทัพบก #เสียสละเพื่อชาติ #จารึกไว้ในแผ่นดิน
    กองทัพบกยกย่องความกล้าหาญและการเสียสละของ จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา กำลังพลกองร้อยอาวุธเบา ร.23 พัน.3 ที่สละชีวิตในสนามรบ เพื่อปกป้องเพื่อนร่วมรบระหว่างปฏิบัติภารกิจโจมตีที่หมาย “เนิน 350” . เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 เวลา 10.10 น. ขณะหน่วยได้รับภารกิจเข้าโจมตี ฝ่ายตรงข้ามใช้อาวุธยิงสนับสนุนและอาวุธเล็งตรงอย่างต่อเนื่อง โดยกำลังพลทั้งสองนายได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นชุดยิงคุ้มครอง รั้งท้าย ปักหลักต่อสู้เพื่อเปิดทางให้กำลังพลส่วนใหญ่ถอนกำลังได้อย่างปลอดภัย . การยืนหยัดต่อสู้จนวาระสุดท้ายของทั้งสองนาย ส่งผลให้เพื่อนร่วมรบสามารถรอดพ้นจากอันตราย และถือเป็นการเสียชีวิตในสนามรบอย่างสมศักดิ์ศรีของทหารกล้า . ปัจจุบันอยู่ระหว่างการลำเลียงร่างออกจากพื้นที่การรบด้วยความระมัดระวังสูงสุด เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดแสวงเครื่องในพื้นที่ . พลโท วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวยกย่องว่า ความเสียสละของทั้งสองนายเป็นแบบอย่างของทหารอาชีพ ผู้ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและผืนแผ่นดินไทยจนลมหายใจสุดท้าย . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122676 . #News1live #News1 #ทหารกล้า #เนิน350 #กองทัพบก #เสียสละเพื่อชาติ #จารึกไว้ในแผ่นดิน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอากาศไทยเปิดเผยการปฏิบัติการใช้เครื่องบิน F-16 โจมตี “สะพานโอร์จิก” ในจังหวัดอุดรมีชัยของกัมพูชา ด้วยอาวุธชั้นสูง เข้าเป้าหมายอย่างแม่นยำ เพื่อ ตัดเส้นทางการส่งกำลังพลและอาวุธ ไปยังพื้นที่เนิน 350 และปราสาทตาควาย
    .
    พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ ระบุว่า การโจมตีมุ่งเฉพาะโครงสร้างสะพานสำหรับยานพาหนะ เพื่อขัดขวางการลำเลียงกำลังบำรุงทางทหาร โดยยังเหลือโครงสร้างให้ประชาชนใช้เดินเท้าหรือรถจักรยานยนต์ได้ เพื่อลดผลกระทบต่อพลเรือน
    .
    โฆษกกองทัพอากาศย้ำว่า หากฝ่ายกัมพูชายังใช้เส้นทางดังกล่าวในการส่งกำลังไปแนวหน้า กองทัพอากาศพร้อมปฏิบัติการซ้ำ และจะดำเนินการทางทหารอย่างต่อเนื่อง จนกว่ากัมพูชาจะยอมรับเงื่อนไขทั้ง 3 ประการของรัฐบาลไทย เพื่อนำไปสู่การหยุดยิงและการเจรจาเพื่อสันติภาพ
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122681
    .
    #News1live #News1 #กองทัพอากาศ #สะพานโอร์จิก #เนิน350 #ปราสาทตาควาย #สถานการณ์ชายแดน
    กองทัพอากาศไทยเปิดเผยการปฏิบัติการใช้เครื่องบิน F-16 โจมตี “สะพานโอร์จิก” ในจังหวัดอุดรมีชัยของกัมพูชา ด้วยอาวุธชั้นสูง เข้าเป้าหมายอย่างแม่นยำ เพื่อ ตัดเส้นทางการส่งกำลังพลและอาวุธ ไปยังพื้นที่เนิน 350 และปราสาทตาควาย . พล.อ.ท.จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ ระบุว่า การโจมตีมุ่งเฉพาะโครงสร้างสะพานสำหรับยานพาหนะ เพื่อขัดขวางการลำเลียงกำลังบำรุงทางทหาร โดยยังเหลือโครงสร้างให้ประชาชนใช้เดินเท้าหรือรถจักรยานยนต์ได้ เพื่อลดผลกระทบต่อพลเรือน . โฆษกกองทัพอากาศย้ำว่า หากฝ่ายกัมพูชายังใช้เส้นทางดังกล่าวในการส่งกำลังไปแนวหน้า กองทัพอากาศพร้อมปฏิบัติการซ้ำ และจะดำเนินการทางทหารอย่างต่อเนื่อง จนกว่ากัมพูชาจะยอมรับเงื่อนไขทั้ง 3 ประการของรัฐบาลไทย เพื่อนำไปสู่การหยุดยิงและการเจรจาเพื่อสันติภาพ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122681 . #News1live #News1 #กองทัพอากาศ #สะพานโอร์จิก #เนิน350 #ปราสาทตาควาย #สถานการณ์ชายแดน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกกองทัพบกยืนยันความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ระบุว่า กองทัพภาคที่ 2 สามารถควบคุมพื้นที่บริเวณเนิน 350 และปราสาทตาควายได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสถาปนาความมั่นคงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
    .
    รายงานดังกล่าวมีขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 20 ธันวาคม โดยฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ในเบื้องต้นได้สำเร็จ หลังการปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ดังกล่าว
    .
    พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้พบร่างกำลังพลที่เสียชีวิต 2 นาย ได้แก่ จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา ขณะนี้อยู่ระหว่างการเคลื่อนย้ายร่างกลับยังพื้นที่ส่วนหลัง เพื่อนำกลับสู่ภูมิลำเนา
    .
    กองทัพบกระบุว่า จะมีการรายงานรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบต่อไป
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122619
    .
    #News1live #News1 #เนิน350 #ปราสาทตาควาย #กองทัพบก #ทหารกล้า #สถานการณ์ชายแดน
    โฆษกกองทัพบกยืนยันความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ระบุว่า กองทัพภาคที่ 2 สามารถควบคุมพื้นที่บริเวณเนิน 350 และปราสาทตาควายได้แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสถาปนาความมั่นคงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง . รายงานดังกล่าวมีขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 20 ธันวาคม โดยฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ในเบื้องต้นได้สำเร็จ หลังการปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ดังกล่าว . พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้พบร่างกำลังพลที่เสียชีวิต 2 นาย ได้แก่ จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา ขณะนี้อยู่ระหว่างการเคลื่อนย้ายร่างกลับยังพื้นที่ส่วนหลัง เพื่อนำกลับสู่ภูมิลำเนา . กองทัพบกระบุว่า จะมีการรายงานรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบต่อไป . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122619 . #News1live #News1 #เนิน350 #ปราสาทตาควาย #กองทัพบก #ทหารกล้า #สถานการณ์ชายแดน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลอร่า บรานิแกน (Laura Branigan) ถือเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงที่โดดเด่นที่สุดในยุค 1980s ด้วยเสียงร้องที่ทรงพลังและมีเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้เธอได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เธอเกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 1952 ในเมืองเมานต์คิสโก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวชาวไอริช-อเมริกัน โดยเป็นลูกคนที่สี่ในห้าคน พ่อของเธอชื่อเจมส์ บรานิแกน ซีเนียร์ เป็นนายหน้าซื้อขายหุ้นและกองทุนรวม ส่วนแม่ชื่อแคธลีน (นามสกุลเดิม โอแฮร์) เธอเติบโตในเมืองอาร์มองก์และได้รับการศึกษาจากโรงเรียนคาทอลิกในชัปปาควา ก่อนจบมัธยมจากไบแรมฮิลส์ไฮสคูลในปี 1970 จากนั้นเธอเข้าศึกษาที่ American Academy of Dramatic Arts ในนิวยอร์คระหว่างปี 1970-1972 ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะการแสดงและร้องเพลงของเธอ ในช่วงต้นอาชีพ เธอเคยทำงานหลากหลาย เช่น เป็นนักร้องแบ็กอัพให้กับเลนาร์ด โคเฮน ในทัวร์ยุโรปปี 1976 และเป็นสมาชิกวงโฟล์ก-ร็อกชื่อ Meadow ซึ่งออกอัลบั้ม The Friend Ship ในปี 1973 พร้อมซิงเกิล "When You Were Young" และ "Cane and Able" แต่หลังวงยุบ เธอเซ็นสัญญากับ Atlantic Records ในปี 1979 ผ่านการแนะนำจากผู้จัดการซิด เบิร์นสไตน์

    อาชีพหลักของบรานิแกนเริ่มพุ่งขึ้นในปี 1982 ด้วยอัลบั้มแรก Branigan ที่มีเพลงฮิต "Gloria" (คัฟเวอร์จากเพลงอิตาลีของอุมแบร์โต โตซซี) ซึ่งขึ้นอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 นาน 3 สัปดาห์ อยู่ในชาร์ตนาน 36 สัปดาห์ (สถิติสำหรับศิลปินหญิงในขณะนั้น) และได้รับการรับรองแพลตตินัม นอกจากนี้ยังขึ้นอันดับ 1 ในออสเตรเลียและแคนาดา รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่สาขา Best Female Pop Vocal Performance ในปี 1983 เธอมีส่วนร่วมในซาวด์แทร็กภาพยนตร์ Flashdance ในปี 1983 ซึ่งได้รับรางวัลแกรมมี่และออสการ์สำหรับอัลบั้มโดยรวม และปรากฏตัวในรายการทีวีชื่อดังอย่าง Saturday Night Live, CHiPs, Automan และ Knight Rider อัลบั้มที่สอง Branigan 2 ในปี 1983 มีเพลงฮิต "Solitaire" (ท็อป 10 ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเพลงฮิตแรกของไดแอน วอร์เรน) และ "How Am I Supposed to Live Without You" (อันดับ 12 บน Hot 100 และอันดับ 1 บน Adult Contemporary นาน 3 สัปดาห์ เขียนร่วมโดยไมเคิล โบลตัน) ในปี 1984 อัลบั้ม Self Control กลายเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเธอ ได้รับการรับรองแพลตตินัม และมีเพลงฮิตอย่าง "Self Control", "Ti Amo" (อันดับ 2 ในออสเตรเลีย คัฟเวอร์จากโตซซีอีกเพลง), "The Lucky One" (ชนะรางวัล Grand Prix ที่ Tokyo Music Festival) และ "Satisfaction" เธอยังมีส่วนในซาวด์แทร็ก Ghostbusters ด้วยเพลง "Hot Night" และปรากฏในซีรีส์ Miami Vice อัลบั้มต่อๆ มา เช่น Hold Me (1985) มี "Spanish Eddie" และ "I Found Someone", Touch (1987) มี "Shattered Glass" และ "The Power of Love" (กลับสู่ท็อป 40 ในสหรัฐฯ), อัลบั้มชื่อตัวเองในปี 1990 มี "Moonlight on Water" และ "Never in a Million Years" และอัลบั้มสุดท้าย Over My Heart ในปี 1993 นอกจากร้องเพลง เธอยังแสดงในภาพยนตร์อย่าง Mugsy's Girls (1985) และ Backstage (1988) รวมถึงละครเวที Love, Janis ในฐานะจานิส จอปลิน ในปี 2002 ในช่วงปี 1990s เธอหยุดพักหลังสามีเสียชีวิต แต่กลับมาร้องเพลงดูเอ็ตกับเดวิด แฮสเซลฮอฟฟ์ สำหรับ Baywatch และพยายามคัมแบ็กในช่วงต้น 2000s แต่ประสบอุบัติเหตุตกบันไดหักขาทั้งสองข้างในปี 2001 ทำให้ต้องพักฟื้น 6 เดือน บรานิแกนเสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2004 ที่บ้านในอีสต์ควอก นิวยอร์ก จากอาการโป่งพองของหลอดเลือดสมองที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย หลังจากปวดหัวต่อเนื่องหลายสัปดาห์โดยไม่ได้ไปพบแพทย์ เถ้าถ่านของเธอถูกโปรยลงในลองไอส์แลนด์ซาวด์ เพลงของเธอได้รับความนิยมใหม่ในปี 2019 เมื่อ "Gloria" กลายเป็นเพลงชัยชนะอย่างไม่เป็นทางการของทีมฮอกกี้ St. Louis Blues ในฤดูกาล 2018-19 นำไปสู่การชนะสแตนลีย์คัพครั้งแรก และทำให้เพลงพุ่งขึ้นชาร์ตและสตรีมมิง

    เพลง "Self Control" มีจุดเริ่มต้นจากผลงานของนักร้องอิตาลีราฟ (ราฟฟาเอเล รีเอโฟลี) ซึ่งเขียนร่วมกับกีอันคาร์โล บิกัซซีและสตีฟ พิคโคโล จัดเรียงโดยเซลโซ วาลลี และโปรดิวซ์โดยบิกัซซี ออกในเดือนกุมภาพันธ์ 1984 เป็นซิงเกิลจากอัลบั้ม Raf ภายใต้ค่าย Carrere Records เวอร์ชัน 7 นิ้วยาว 4:21 นาที และ 12 นิ้วยาว 6:08 นาที โดยมีเพลง B-side เป็น "Self Control (Part Two)" และ "Running Away" ตามลำดับ เวอร์ชันของราฟมีส่วนแร็พซึ่งหายากสำหรับศิลปินผิวขาวในขณะนั้น และประสบความสำเร็จในยุโรป โดยขึ้นอันดับ 1 ในอิตาลี (7 สัปดาห์ไม่ต่อเนื่อง) และสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 2 ในเยอรมนีตะวันตก อันดับ 7 ในออสเตรีย และอันดับ 40 ในฝรั่งเศส ได้รับการรับรองโกลด์ในอิตาลี (50,000 ยูนิต) และติดอันดับปี 1984 ที่ 10 ในสวิตเซอร์แลนด์ และ 15 ในเยอรมนีตะวันตก ในปีเดียวกัน ลอร่า บรานิแกนนำมาคัฟเวอร์และออกเมื่อวันที่ 19 เมษายน 1984 เป็นเพลงนำจากอัลบั้ม Self Control ภายใต้ Atlantic Records โปรดิวซ์โดยแจ็ค ไวต์และร็อบบี้ บูคานัน จัดเรียงโดยฮาโรลด์ ฟัลเตอร์เมเยอร์และบูคานัน บันทึกเสียงในเยอรมนีตะวันตกและลอสแองเจลิส การปรับเปลี่ยนจากเวอร์ชันราฟรวมถึงการแทนที่คีย์บอร์ดฮุกด้วยกีตาร์ริฟฟ์และเพิ่มเพอร์คัสชันที่คมชัด มิวสิกวิดีโอกำกับโดยวิลเลียม ฟรีดกิน ถ่ายทำในนิวเจอร์ซีย์และนิวยอร์คซิตี้ แต่ถูก MTV ถือว่ารุนแรงเกินไป ทำให้ต้องตัดต่อและออกอากาศเฉพาะช่วงดึก ส่งผลให้บรานิแกนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง American Music Awards ปี 1985 สาขา Favorite Pop/Rock Female Video Artist (แต่แพ้ให้ไซนดี ลอเปอร์) เธอแสดงเพลงนี้ในรายการทีวีหลายแห่ง เช่น The Tonight Show Starring Johnny Carson (27 เมษายน 1984), The Merv Griffin Show, Solid Gold (12 พฤษภาคม 1984), American Bandstand (9 มิถุนายน 1984) และ Rock Rolls On

    ในแง่ความหมาย เพลง "Self Control" บรรยายถึงการสูญเสียการควบคุมตนเองในชีวิตกลางคืน ท่ามกลางแสงสีและสิ่งยั่วยวน โดยผู้บรรยายรู้สึกว่ากลางวันไร้ความหมายแต่กลางคืนคือโลกที่แท้จริง ท่อนเพลงหลักอย่าง "You take my self, you take my self control" แสดงถึงการยอมจำนนต่ออิทธิพลภายนอก ซึ่งอาจเป็นกลางคืน คนรัก หรือสิ่งเสพติด บรานิแกนอธิบายว่ามันเกี่ยวกับการสูญเสียการควบคุมให้กับกลางคืนหรือใครบางคน โดยในมิวสิกวิดีโอมีผู้ชายสวมหน้ากากแทนกลางคืนที่พาเธอเข้าสู่โลกนั้น การวิเคราะห์บางชิ้นชี้ว่ามันสะท้อนไลฟ์สไตล์ที่เกินขอบเขตในยุค 1980s ซึ่งเต็มไปด้วยการบริโภคและการปลดปล่อยตัวเอง แต่ก็มีความตึงเครียดระหว่างความดึงดูดและอันตราย การตีความอื่นๆ รวมถึงมุมมองว่ามันเกี่ยวกับหญิงสาวที่ชีวิตกลางวันปกติแต่กลางคืนกลายเป็น "creatures of the night" ที่ไม่อาจต่อต้านอนาคตใหม่ได้ ทำให้ต้องเชื่อว่าพรุ่งนี้ไม่มีจริง เพลงนี้ยังถูกนำไปตีความในแง่การต่อสู้ภายในจิตใจหรือแม้กระทั่งการเสพติด nightlife ที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยง

    สำหรับความสำเร็จระดับโลก เวอร์ชันของบรานิแกนขึ้นอันดับ 1 ในออสเตรีย แคนาดา เดนมาร์ก ฟินแลนด์ โปรตุเกส แอฟริกาใต้ สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 2 ในนอร์เวย์และไอร์แลนด์ อันดับ 3 ในออสเตรเลีย อันดับ 4 บน US Billboard Hot 100 (เข้าชาร์ตที่ 63 เมื่อ 8 เมษายน 1984 ขึ้นสูงสุด 4 นาน 2 สัปดาห์เมื่อ 24 มิถุนายน 1984 และอยู่ในชาร์ต 19 สัปดาห์ โดย 6 สัปดาห์ในท็อป 10) และอันดับ 5 บน UK Singles Chart สำหรับปี 1984 มันเป็นเพลงอันดับ 1 ในเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการรับรองโกลด์ในเดนมาร์ก (45,000 ยูนิต) ฝรั่งเศส (500,000 ยูนิต) เยอรมนี (500,000 ยูนิต) สเปน (30,000 ยูนิต) และซิลเวอร์ในสหราชอาณาจักร (250,000 ยูนิต) ทั้งสองเวอร์ชัน (ราฟและบรานิแกน) ครองชาร์ตยุโรปในฤดูร้อน 1984 โดยสลับอันดับ 1 ในสวิตเซอร์แลนด์หลายครั้ง และจุดประกายกระแส Italo disco ในยุโรปแผ่นดินใหญ่ เพลงนี้กลายเป็นเพลงกำหนดยุค 1980s และถูกนำไปรีเมกหลายครั้ง เช่น โดยริกกี้ มาร์ติน ในปี 1993 (เป็นภาษาสเปนชื่อ "Que Día Es Hoy" ขึ้นอันดับ 26 บน US Hot Latin Songs), Royal Gigolos ในปี 2005 (ท็อป 20 ในเดนมาร์กและฟินแลนด์), Infernal ในปี 2006 (ท็อป 10 ในเดนมาร์กและฟินแลนด์), รีเมกแดนซ์โดยบรานิแกนเองในปี 2004 (อันดับ 10 บน US Dance Singles Sales), Kendra Erika ในปี 2018 (อันดับ 1 บน US Dance Club Songs), Eelke Kleijn และ Lee Cabrera ในปี 2023 และ Fast Boy ในปี 2024 (เปลี่ยนชื่อเป็น "Wave") นอกจากนี้ยังปรากฏในวัฒนธรรมป็อป เช่น ในตอน "The Great McCarthy" ของ Miami Vice ปี 1984 และเกม Grand Theft Auto: Vice City

    เพลง "Self Control" ไม่เพียงเป็นจุดสูงสุดในอาชีพของลอร่า บรานิแกน แต่ยังเป็นตัวแทนของยุคสมัยที่ผสมผสานดนตรีอิตาลีกับป็อปอเมริกัน ทำให้มันยังคงได้รับการยกย่องและนำไปใช้ในสื่อสมัยใหม่จนถึงปัจจุบัน

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://www.youtube.com/watch?v=RP0_8J7uxhs
    ลอร่า บรานิแกน (Laura Branigan) ถือเป็นหนึ่งในนักร้องหญิงที่โดดเด่นที่สุดในยุค 1980s ด้วยเสียงร้องที่ทรงพลังและมีเอกลักษณ์ ซึ่งทำให้เธอได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เธอเกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 1952 ในเมืองเมานต์คิสโก นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวชาวไอริช-อเมริกัน โดยเป็นลูกคนที่สี่ในห้าคน พ่อของเธอชื่อเจมส์ บรานิแกน ซีเนียร์ เป็นนายหน้าซื้อขายหุ้นและกองทุนรวม ส่วนแม่ชื่อแคธลีน (นามสกุลเดิม โอแฮร์) เธอเติบโตในเมืองอาร์มองก์และได้รับการศึกษาจากโรงเรียนคาทอลิกในชัปปาควา ก่อนจบมัธยมจากไบแรมฮิลส์ไฮสคูลในปี 1970 จากนั้นเธอเข้าศึกษาที่ American Academy of Dramatic Arts ในนิวยอร์คระหว่างปี 1970-1972 ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะการแสดงและร้องเพลงของเธอ ในช่วงต้นอาชีพ เธอเคยทำงานหลากหลาย เช่น เป็นนักร้องแบ็กอัพให้กับเลนาร์ด โคเฮน ในทัวร์ยุโรปปี 1976 และเป็นสมาชิกวงโฟล์ก-ร็อกชื่อ Meadow ซึ่งออกอัลบั้ม The Friend Ship ในปี 1973 พร้อมซิงเกิล "When You Were Young" และ "Cane and Able" แต่หลังวงยุบ เธอเซ็นสัญญากับ Atlantic Records ในปี 1979 ผ่านการแนะนำจากผู้จัดการซิด เบิร์นสไตน์ 🌠 🎤 อาชีพหลักของบรานิแกนเริ่มพุ่งขึ้นในปี 1982 ด้วยอัลบั้มแรก Branigan ที่มีเพลงฮิต "Gloria" (คัฟเวอร์จากเพลงอิตาลีของอุมแบร์โต โตซซี) ซึ่งขึ้นอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 นาน 3 สัปดาห์ อยู่ในชาร์ตนาน 36 สัปดาห์ (สถิติสำหรับศิลปินหญิงในขณะนั้น) และได้รับการรับรองแพลตตินัม นอกจากนี้ยังขึ้นอันดับ 1 ในออสเตรเลียและแคนาดา รวมถึงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่สาขา Best Female Pop Vocal Performance ในปี 1983 เธอมีส่วนร่วมในซาวด์แทร็กภาพยนตร์ Flashdance ในปี 1983 ซึ่งได้รับรางวัลแกรมมี่และออสการ์สำหรับอัลบั้มโดยรวม และปรากฏตัวในรายการทีวีชื่อดังอย่าง Saturday Night Live, CHiPs, Automan และ Knight Rider อัลบั้มที่สอง Branigan 2 ในปี 1983 มีเพลงฮิต "Solitaire" (ท็อป 10 ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเพลงฮิตแรกของไดแอน วอร์เรน) และ "How Am I Supposed to Live Without You" (อันดับ 12 บน Hot 100 และอันดับ 1 บน Adult Contemporary นาน 3 สัปดาห์ เขียนร่วมโดยไมเคิล โบลตัน) ในปี 1984 อัลบั้ม Self Control กลายเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเธอ ได้รับการรับรองแพลตตินัม และมีเพลงฮิตอย่าง "Self Control", "Ti Amo" (อันดับ 2 ในออสเตรเลีย คัฟเวอร์จากโตซซีอีกเพลง), "The Lucky One" (ชนะรางวัล Grand Prix ที่ Tokyo Music Festival) และ "Satisfaction" เธอยังมีส่วนในซาวด์แทร็ก Ghostbusters ด้วยเพลง "Hot Night" และปรากฏในซีรีส์ Miami Vice อัลบั้มต่อๆ มา เช่น Hold Me (1985) มี "Spanish Eddie" และ "I Found Someone", Touch (1987) มี "Shattered Glass" และ "The Power of Love" (กลับสู่ท็อป 40 ในสหรัฐฯ), อัลบั้มชื่อตัวเองในปี 1990 มี "Moonlight on Water" และ "Never in a Million Years" และอัลบั้มสุดท้าย Over My Heart ในปี 1993 นอกจากร้องเพลง เธอยังแสดงในภาพยนตร์อย่าง Mugsy's Girls (1985) และ Backstage (1988) รวมถึงละครเวที Love, Janis ในฐานะจานิส จอปลิน ในปี 2002 ในช่วงปี 1990s เธอหยุดพักหลังสามีเสียชีวิต แต่กลับมาร้องเพลงดูเอ็ตกับเดวิด แฮสเซลฮอฟฟ์ สำหรับ Baywatch และพยายามคัมแบ็กในช่วงต้น 2000s แต่ประสบอุบัติเหตุตกบันไดหักขาทั้งสองข้างในปี 2001 ทำให้ต้องพักฟื้น 6 เดือน บรานิแกนเสียชีวิตอย่างกะทันหันเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2004 ที่บ้านในอีสต์ควอก นิวยอร์ก จากอาการโป่งพองของหลอดเลือดสมองที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย หลังจากปวดหัวต่อเนื่องหลายสัปดาห์โดยไม่ได้ไปพบแพทย์ เถ้าถ่านของเธอถูกโปรยลงในลองไอส์แลนด์ซาวด์ เพลงของเธอได้รับความนิยมใหม่ในปี 2019 เมื่อ "Gloria" กลายเป็นเพลงชัยชนะอย่างไม่เป็นทางการของทีมฮอกกี้ St. Louis Blues ในฤดูกาล 2018-19 นำไปสู่การชนะสแตนลีย์คัพครั้งแรก และทำให้เพลงพุ่งขึ้นชาร์ตและสตรีมมิง 💿 เพลง "Self Control" มีจุดเริ่มต้นจากผลงานของนักร้องอิตาลีราฟ (ราฟฟาเอเล รีเอโฟลี) ซึ่งเขียนร่วมกับกีอันคาร์โล บิกัซซีและสตีฟ พิคโคโล จัดเรียงโดยเซลโซ วาลลี และโปรดิวซ์โดยบิกัซซี ออกในเดือนกุมภาพันธ์ 1984 เป็นซิงเกิลจากอัลบั้ม Raf ภายใต้ค่าย Carrere Records เวอร์ชัน 7 นิ้วยาว 4:21 นาที และ 12 นิ้วยาว 6:08 นาที โดยมีเพลง B-side เป็น "Self Control (Part Two)" และ "Running Away" ตามลำดับ เวอร์ชันของราฟมีส่วนแร็พซึ่งหายากสำหรับศิลปินผิวขาวในขณะนั้น และประสบความสำเร็จในยุโรป โดยขึ้นอันดับ 1 ในอิตาลี (7 สัปดาห์ไม่ต่อเนื่อง) และสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 2 ในเยอรมนีตะวันตก อันดับ 7 ในออสเตรีย และอันดับ 40 ในฝรั่งเศส ได้รับการรับรองโกลด์ในอิตาลี (50,000 ยูนิต) และติดอันดับปี 1984 ที่ 10 ในสวิตเซอร์แลนด์ และ 15 ในเยอรมนีตะวันตก ในปีเดียวกัน ลอร่า บรานิแกนนำมาคัฟเวอร์และออกเมื่อวันที่ 19 เมษายน 1984 เป็นเพลงนำจากอัลบั้ม Self Control ภายใต้ Atlantic Records โปรดิวซ์โดยแจ็ค ไวต์และร็อบบี้ บูคานัน จัดเรียงโดยฮาโรลด์ ฟัลเตอร์เมเยอร์และบูคานัน บันทึกเสียงในเยอรมนีตะวันตกและลอสแองเจลิส การปรับเปลี่ยนจากเวอร์ชันราฟรวมถึงการแทนที่คีย์บอร์ดฮุกด้วยกีตาร์ริฟฟ์และเพิ่มเพอร์คัสชันที่คมชัด มิวสิกวิดีโอกำกับโดยวิลเลียม ฟรีดกิน ถ่ายทำในนิวเจอร์ซีย์และนิวยอร์คซิตี้ แต่ถูก MTV ถือว่ารุนแรงเกินไป ทำให้ต้องตัดต่อและออกอากาศเฉพาะช่วงดึก ส่งผลให้บรานิแกนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง American Music Awards ปี 1985 สาขา Favorite Pop/Rock Female Video Artist (แต่แพ้ให้ไซนดี ลอเปอร์) เธอแสดงเพลงนี้ในรายการทีวีหลายแห่ง เช่น The Tonight Show Starring Johnny Carson (27 เมษายน 1984), The Merv Griffin Show, Solid Gold (12 พฤษภาคม 1984), American Bandstand (9 มิถุนายน 1984) และ Rock Rolls On 📝 ในแง่ความหมาย เพลง "Self Control" บรรยายถึงการสูญเสียการควบคุมตนเองในชีวิตกลางคืน ท่ามกลางแสงสีและสิ่งยั่วยวน โดยผู้บรรยายรู้สึกว่ากลางวันไร้ความหมายแต่กลางคืนคือโลกที่แท้จริง ท่อนเพลงหลักอย่าง "You take my self, you take my self control" แสดงถึงการยอมจำนนต่ออิทธิพลภายนอก ซึ่งอาจเป็นกลางคืน คนรัก หรือสิ่งเสพติด บรานิแกนอธิบายว่ามันเกี่ยวกับการสูญเสียการควบคุมให้กับกลางคืนหรือใครบางคน โดยในมิวสิกวิดีโอมีผู้ชายสวมหน้ากากแทนกลางคืนที่พาเธอเข้าสู่โลกนั้น การวิเคราะห์บางชิ้นชี้ว่ามันสะท้อนไลฟ์สไตล์ที่เกินขอบเขตในยุค 1980s ซึ่งเต็มไปด้วยการบริโภคและการปลดปล่อยตัวเอง แต่ก็มีความตึงเครียดระหว่างความดึงดูดและอันตราย การตีความอื่นๆ รวมถึงมุมมองว่ามันเกี่ยวกับหญิงสาวที่ชีวิตกลางวันปกติแต่กลางคืนกลายเป็น "creatures of the night" ที่ไม่อาจต่อต้านอนาคตใหม่ได้ ทำให้ต้องเชื่อว่าพรุ่งนี้ไม่มีจริง เพลงนี้ยังถูกนำไปตีความในแง่การต่อสู้ภายในจิตใจหรือแม้กระทั่งการเสพติด nightlife ที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยง 🏅 สำหรับความสำเร็จระดับโลก เวอร์ชันของบรานิแกนขึ้นอันดับ 1 ในออสเตรีย แคนาดา เดนมาร์ก ฟินแลนด์ โปรตุเกส แอฟริกาใต้ สวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 2 ในนอร์เวย์และไอร์แลนด์ อันดับ 3 ในออสเตรเลีย อันดับ 4 บน US Billboard Hot 100 (เข้าชาร์ตที่ 63 เมื่อ 8 เมษายน 1984 ขึ้นสูงสุด 4 นาน 2 สัปดาห์เมื่อ 24 มิถุนายน 1984 และอยู่ในชาร์ต 19 สัปดาห์ โดย 6 สัปดาห์ในท็อป 10) และอันดับ 5 บน UK Singles Chart สำหรับปี 1984 มันเป็นเพลงอันดับ 1 ในเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการรับรองโกลด์ในเดนมาร์ก (45,000 ยูนิต) ฝรั่งเศส (500,000 ยูนิต) เยอรมนี (500,000 ยูนิต) สเปน (30,000 ยูนิต) และซิลเวอร์ในสหราชอาณาจักร (250,000 ยูนิต) ทั้งสองเวอร์ชัน (ราฟและบรานิแกน) ครองชาร์ตยุโรปในฤดูร้อน 1984 โดยสลับอันดับ 1 ในสวิตเซอร์แลนด์หลายครั้ง และจุดประกายกระแส Italo disco ในยุโรปแผ่นดินใหญ่ เพลงนี้กลายเป็นเพลงกำหนดยุค 1980s และถูกนำไปรีเมกหลายครั้ง เช่น โดยริกกี้ มาร์ติน ในปี 1993 (เป็นภาษาสเปนชื่อ "Que Día Es Hoy" ขึ้นอันดับ 26 บน US Hot Latin Songs), Royal Gigolos ในปี 2005 (ท็อป 20 ในเดนมาร์กและฟินแลนด์), Infernal ในปี 2006 (ท็อป 10 ในเดนมาร์กและฟินแลนด์), รีเมกแดนซ์โดยบรานิแกนเองในปี 2004 (อันดับ 10 บน US Dance Singles Sales), Kendra Erika ในปี 2018 (อันดับ 1 บน US Dance Club Songs), Eelke Kleijn และ Lee Cabrera ในปี 2023 และ Fast Boy ในปี 2024 (เปลี่ยนชื่อเป็น "Wave") นอกจากนี้ยังปรากฏในวัฒนธรรมป็อป เช่น ในตอน "The Great McCarthy" ของ Miami Vice ปี 1984 และเกม Grand Theft Auto: Vice City 💃 เพลง "Self Control" ไม่เพียงเป็นจุดสูงสุดในอาชีพของลอร่า บรานิแกน แต่ยังเป็นตัวแทนของยุคสมัยที่ผสมผสานดนตรีอิตาลีกับป็อปอเมริกัน ทำให้มันยังคงได้รับการยกย่องและนำไปใช้ในสื่อสมัยใหม่จนถึงปัจจุบัน 🌟💫 #ลุงเล่าหลานฟัง https://www.youtube.com/watch?v=RP0_8J7uxhs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung พลิกเกมตลาด HBM แซง Micron หลังโชว์ศักยภาพ HBM3E และ HBM4

    หลังจากช่วงต้นปี 2025 ที่ Samsung ดูเหมือนจะตามหลังคู่แข่งในตลาด HBM แต่การปรับโครงสร้างภายในและการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีอย่างจริงจังทำให้บริษัทสามารถกลับมาทวงพื้นที่ได้สำเร็จ โดยเฉพาะเมื่อ AMD และ NVIDIA เริ่มหันมาใช้กระบวนการผลิต HBM3E และ HBM4 ของ Samsung ซึ่งเป็นสัญญาณว่าผู้ผลิตรายใหญ่ในอุตสาหกรรม AI เริ่มให้ความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีของบริษัทมากขึ้น

    ในไตรมาส 3 ปี 2025 Samsung สามารถทำยอดขาย HBM จนมีส่วนแบ่งตลาด 22% แซงหน้า Micron แม้ยังตามหลัง SK hynix อยู่ แต่ก็ถือเป็นการฟื้นตัวครั้งใหญ่จากปีที่แล้วที่ส่วนแบ่งเคยอยู่ที่ 40% ก่อนจะร่วงลงอย่างหนัก การกลับมาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาด DRAM และ HBM ทั่วโลกกำลังเผชิญภาวะขาดแคลน ทำให้ผู้ผลิตที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ทันกลายเป็นผู้ได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ทันที

    ความได้เปรียบสำคัญของ Samsung คือความเร็ว pin speed ของ HBM4 ที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม รวมถึงแผนการตั้งราคาที่แข่งขันได้ ซึ่งช่วยดึงดูดลูกค้ารายใหญ่ที่ต้องการหน่วยความจำสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น NVIDIA Rubin และ AMD Instinct MI400 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 การที่ Samsung สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านเทคโนโลยีและราคา ทำให้บริษัทกลับมาเป็นผู้เล่นที่น่ากลัวในตลาดนี้อีกครั้ง

    เมื่อเข้าสู่ปี 2026 ผลลัพธ์ของการลงทุนด้าน HBM จะยิ่งชัดเจนขึ้น เพราะผลิตภัณฑ์ที่ใช้ HBM4 จะเริ่มเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Samsung กลับมาท้าทาย SK hynix อย่างจริงจังในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจากความต้องการด้าน AI, LLM, และระบบประมวลผลความเร็วสูงทั่วโลก

    สรุปประเด็นสำคัญแบบ
    Samsung ฟื้นตัวในตลาด HBM
    ส่วนแบ่งตลาด Q3 2025 ขึ้นมาที่ 22% แซง Micron
    การปรับนโยบายภายในและเร่งพัฒนาเทคโนโลยีช่วยให้กลับมามีบทบาทอีกครั้ง

    การดึงลูกค้ารายใหญ่กลับมา
    AMD และ NVIDIA เริ่มใช้ HBM3E และ HBM4 ของ Samsung
    ความเร็ว pin speed ของ HBM4 สูงที่สุดในอุตสาหกรรม ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

    บริบทตลาด HBM และ DRAM
    ตลาดกำลังขาดแคลนอย่างหนัก ทำให้ผู้ผลิตที่เพิ่มกำลังผลิตได้มีความได้เปรียบ
    ความต้องการจาก AI และ Data Center พุ่งสูงต่อเนื่องทั่วโลก

    ผลกระทบเชิงกลยุทธ์
    Samsung มีโอกาสกลับมาท้าทาย SK hynix ในปี 2026
    การตั้งราคาที่แข่งขันได้ช่วยดึงลูกค้าระดับองค์กรกลับมา

    ประเด็นเสี่ยงและคำเตือนที่ควรจับตา
    ความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน
    ความต้องการ HBM สูงกว่ากำลังผลิตรวมของ Samsung, SK hynix และ Micron อาจทำให้เกิดคอขวดต่อเนื่อง

    ความท้าทายด้านการแข่งขัน
    SK hynix ยังคงเป็นผู้นำตลาด และอาจเร่งเปิดตัว HBM4E เพื่อตอบโต้
    หาก Samsungไม่สามารถรักษาคุณภาพและ yield rate ของ HBM4 ได้ อาจเสียโมเมนตัมอีกครั้ง

    https://wccftech.com/the-tables-are-turning-for-samsung-in-the-hbm-market/
    🚀 Samsung พลิกเกมตลาด HBM แซง Micron หลังโชว์ศักยภาพ HBM3E และ HBM4 หลังจากช่วงต้นปี 2025 ที่ Samsung ดูเหมือนจะตามหลังคู่แข่งในตลาด HBM แต่การปรับโครงสร้างภายในและการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีอย่างจริงจังทำให้บริษัทสามารถกลับมาทวงพื้นที่ได้สำเร็จ โดยเฉพาะเมื่อ AMD และ NVIDIA เริ่มหันมาใช้กระบวนการผลิต HBM3E และ HBM4 ของ Samsung ซึ่งเป็นสัญญาณว่าผู้ผลิตรายใหญ่ในอุตสาหกรรม AI เริ่มให้ความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีของบริษัทมากขึ้น ในไตรมาส 3 ปี 2025 Samsung สามารถทำยอดขาย HBM จนมีส่วนแบ่งตลาด 22% แซงหน้า Micron แม้ยังตามหลัง SK hynix อยู่ แต่ก็ถือเป็นการฟื้นตัวครั้งใหญ่จากปีที่แล้วที่ส่วนแบ่งเคยอยู่ที่ 40% ก่อนจะร่วงลงอย่างหนัก การกลับมาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาด DRAM และ HBM ทั่วโลกกำลังเผชิญภาวะขาดแคลน ทำให้ผู้ผลิตที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ทันกลายเป็นผู้ได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ทันที ความได้เปรียบสำคัญของ Samsung คือความเร็ว pin speed ของ HBM4 ที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม รวมถึงแผนการตั้งราคาที่แข่งขันได้ ซึ่งช่วยดึงดูดลูกค้ารายใหญ่ที่ต้องการหน่วยความจำสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่น NVIDIA Rubin และ AMD Instinct MI400 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 การที่ Samsung สามารถตอบโจทย์ทั้งด้านเทคโนโลยีและราคา ทำให้บริษัทกลับมาเป็นผู้เล่นที่น่ากลัวในตลาดนี้อีกครั้ง เมื่อเข้าสู่ปี 2026 ผลลัพธ์ของการลงทุนด้าน HBM จะยิ่งชัดเจนขึ้น เพราะผลิตภัณฑ์ที่ใช้ HBM4 จะเริ่มเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Samsung กลับมาท้าทาย SK hynix อย่างจริงจังในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจากความต้องการด้าน AI, LLM, และระบบประมวลผลความเร็วสูงทั่วโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญแบบ ✅ Samsung ฟื้นตัวในตลาด HBM ➡️ ส่วนแบ่งตลาด Q3 2025 ขึ้นมาที่ 22% แซง Micron ➡️ การปรับนโยบายภายในและเร่งพัฒนาเทคโนโลยีช่วยให้กลับมามีบทบาทอีกครั้ง ✅ การดึงลูกค้ารายใหญ่กลับมา ➡️ AMD และ NVIDIA เริ่มใช้ HBM3E และ HBM4 ของ Samsung ➡️ ความเร็ว pin speed ของ HBM4 สูงที่สุดในอุตสาหกรรม ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ✅ บริบทตลาด HBM และ DRAM ➡️ ตลาดกำลังขาดแคลนอย่างหนัก ทำให้ผู้ผลิตที่เพิ่มกำลังผลิตได้มีความได้เปรียบ ➡️ ความต้องการจาก AI และ Data Center พุ่งสูงต่อเนื่องทั่วโลก ✅ ผลกระทบเชิงกลยุทธ์ ➡️ Samsung มีโอกาสกลับมาท้าทาย SK hynix ในปี 2026 ➡️ การตั้งราคาที่แข่งขันได้ช่วยดึงลูกค้าระดับองค์กรกลับมา ⚠️ ประเด็นเสี่ยงและคำเตือนที่ควรจับตา ‼️ ความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน ⛔ ความต้องการ HBM สูงกว่ากำลังผลิตรวมของ Samsung, SK hynix และ Micron อาจทำให้เกิดคอขวดต่อเนื่อง ‼️ ความท้าทายด้านการแข่งขัน ⛔ SK hynix ยังคงเป็นผู้นำตลาด และอาจเร่งเปิดตัว HBM4E เพื่อตอบโต้ ⛔ หาก Samsungไม่สามารถรักษาคุณภาพและ yield rate ของ HBM4 ได้ อาจเสียโมเมนตัมอีกครั้ง https://wccftech.com/the-tables-are-turning-for-samsung-in-the-hbm-market/
    WCCFTECH.COM
    The Tables Are Turning for Samsung in the HBM Market, as It Has Now Overtaken Micron After Recent HBM3E & HBM4 Breakthroughs
    Samsung's HBM business has managed to make a massive comeback, as the firm now sees its quarterly market share surpassing that of Micron's.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA อาจยุติ RTX 5060 Ti 16GB เพราะต้นทุน VRAM พุ่งสูง

    รายงานล่าสุดระบุว่า NVIDIA อาจพิจารณายุติการผลิต RTX 5060 Ti รุ่น 16GB เนื่องจากต้นทุน VRAM โดยเฉพาะ GDDR6/GDDR6X เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความตึงตัวของซัพพลายเชนหน่วยความจำทั่วโลก ซึ่งถูกกดดันจากความต้องการด้าน AI, เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์พกพาที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในปีที่ผ่านมา

    ในเชิงกลยุทธ์ การตัดสินใจเช่นนี้อาจเป็นสัญญาณว่า NVIDIA ต้องการ รักษา margin ของซีรีส์ระดับกลาง โดยเลือกผลักดันรุ่น VRAM ต่ำกว่าแทน เพื่อไม่ให้ราคาขายปลีกสูงเกินไปจนชนกับรุ่นระดับสูงกว่าในไลน์อัปของตัวเอง นอกจากนี้ยังสะท้อนความจริงที่ว่า ตลาดเกมมิ่งไม่ได้เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของอุตสาหกรรม GPU อีกต่อไป เมื่อเทียบกับตลาด AI และ Data Center ที่พร้อมจ่ายราคาสูงกว่าอย่างมาก

    ในมุมของผู้บริโภค การหายไปของรุ่น 16GB อาจทำให้ตลาดระดับกลางขาด “ตัวเลือกที่สมดุล” ระหว่างราคาและความจุ VRAM โดยเฉพาะในยุคที่เกม AAA และงานสร้างสรรค์ต้องการ VRAM มากขึ้นเรื่อย ๆ การลดตัวเลือกลงอาจทำให้ผู้ใช้ต้องขยับไปซื้อรุ่นที่แพงกว่าโดยปริยาย ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่หลายคนกังวล

    สุดท้าย ข่าวลือนี้ยังสะท้อนภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมว่า ต้นทุน VRAM กลายเป็นตัวแปรเชิงกลยุทธ์ที่กำหนดทิศทางผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่แค่สเปกหรือประสิทธิภาพอีกต่อไป และอาจเป็นสัญญาณว่าตลาด GPU ระดับกลางกำลังเข้าสู่ยุคที่ “ความจุ VRAM” จะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาโครงสร้างราคาในไลน์อัปทั้งหมดของผู้ผลิต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข่าวลือการยุติ RTX 5060 Ti 16GB
    สาเหตุหลักคือราคาหน่วยความจำ VRAM เพิ่มสูงขึ้น
    NVIDIA ต้องการรักษา margin ของผลิตภัณฑ์ระดับกลาง

    ผลกระทบต่อผู้บริโภค
    ตัวเลือก GPU ระดับกลางที่มี VRAM สูงอาจลดลง
    ผู้ใช้บางกลุ่มอาจต้องขยับไปซื้อรุ่นที่แพงกว่า

    บริบทตลาดหน่วยความจำโลก
    ความต้องการ VRAM จากตลาด AI และ Data Center เพิ่มขึ้น
    ซัพพลายเชนหน่วยความจำยังตึงตัวต่อเนื่อง

    ผลต่อกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของ NVIDIA
    อาจเน้นรุ่น VRAM ต่ำกว่าเพื่อควบคุมราคา
    ป้องกันการชนกันของราคาในไลน์อัป

    ความเสี่ยงและคำเตือนที่ควรจับตา
    ตลาด GPU ระดับกลางอาจมีราคาแพงขึ้นในปีถัดไป
    เกม AAA รุ่นใหม่อาจต้องการ VRAM มากขึ้น ทำให้รุ่น 8GB เริ่มไม่เพียงพอ
    ผู้บริโภคอาจถูกบังคับให้ซื้อรุ่นสูงขึ้นโดยไม่ตั้งใจ

    https://wccftech.com/rtx-5060-ti-16-gb-rumored-to-be-at-risk-of-discontinuation-due-to-increasing-vram-prices/
    ⚠️ NVIDIA อาจยุติ RTX 5060 Ti 16GB เพราะต้นทุน VRAM พุ่งสูง รายงานล่าสุดระบุว่า NVIDIA อาจพิจารณายุติการผลิต RTX 5060 Ti รุ่น 16GB เนื่องจากต้นทุน VRAM โดยเฉพาะ GDDR6/GDDR6X เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนความตึงตัวของซัพพลายเชนหน่วยความจำทั่วโลก ซึ่งถูกกดดันจากความต้องการด้าน AI, เซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์พกพาที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในปีที่ผ่านมา ในเชิงกลยุทธ์ การตัดสินใจเช่นนี้อาจเป็นสัญญาณว่า NVIDIA ต้องการ รักษา margin ของซีรีส์ระดับกลาง โดยเลือกผลักดันรุ่น VRAM ต่ำกว่าแทน เพื่อไม่ให้ราคาขายปลีกสูงเกินไปจนชนกับรุ่นระดับสูงกว่าในไลน์อัปของตัวเอง นอกจากนี้ยังสะท้อนความจริงที่ว่า ตลาดเกมมิ่งไม่ได้เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของอุตสาหกรรม GPU อีกต่อไป เมื่อเทียบกับตลาด AI และ Data Center ที่พร้อมจ่ายราคาสูงกว่าอย่างมาก ในมุมของผู้บริโภค การหายไปของรุ่น 16GB อาจทำให้ตลาดระดับกลางขาด “ตัวเลือกที่สมดุล” ระหว่างราคาและความจุ VRAM โดยเฉพาะในยุคที่เกม AAA และงานสร้างสรรค์ต้องการ VRAM มากขึ้นเรื่อย ๆ การลดตัวเลือกลงอาจทำให้ผู้ใช้ต้องขยับไปซื้อรุ่นที่แพงกว่าโดยปริยาย ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่หลายคนกังวล สุดท้าย ข่าวลือนี้ยังสะท้อนภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมว่า ต้นทุน VRAM กลายเป็นตัวแปรเชิงกลยุทธ์ที่กำหนดทิศทางผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่แค่สเปกหรือประสิทธิภาพอีกต่อไป และอาจเป็นสัญญาณว่าตลาด GPU ระดับกลางกำลังเข้าสู่ยุคที่ “ความจุ VRAM” จะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาโครงสร้างราคาในไลน์อัปทั้งหมดของผู้ผลิต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข่าวลือการยุติ RTX 5060 Ti 16GB ➡️ สาเหตุหลักคือราคาหน่วยความจำ VRAM เพิ่มสูงขึ้น ➡️ NVIDIA ต้องการรักษา margin ของผลิตภัณฑ์ระดับกลาง ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภค ➡️ ตัวเลือก GPU ระดับกลางที่มี VRAM สูงอาจลดลง ➡️ ผู้ใช้บางกลุ่มอาจต้องขยับไปซื้อรุ่นที่แพงกว่า ✅ บริบทตลาดหน่วยความจำโลก ➡️ ความต้องการ VRAM จากตลาด AI และ Data Center เพิ่มขึ้น ➡️ ซัพพลายเชนหน่วยความจำยังตึงตัวต่อเนื่อง ✅ ผลต่อกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ของ NVIDIA ➡️ อาจเน้นรุ่น VRAM ต่ำกว่าเพื่อควบคุมราคา ➡️ ป้องกันการชนกันของราคาในไลน์อัป ‼️ ความเสี่ยงและคำเตือนที่ควรจับตา ⛔ ตลาด GPU ระดับกลางอาจมีราคาแพงขึ้นในปีถัดไป ⛔ เกม AAA รุ่นใหม่อาจต้องการ VRAM มากขึ้น ทำให้รุ่น 8GB เริ่มไม่เพียงพอ ⛔ ผู้บริโภคอาจถูกบังคับให้ซื้อรุ่นสูงขึ้นโดยไม่ตั้งใจ https://wccftech.com/rtx-5060-ti-16-gb-rumored-to-be-at-risk-of-discontinuation-due-to-increasing-vram-prices/
    WCCFTECH.COM
    RTX 5060 Ti 16 GB Rumored To Be At Risk Of Discontinuation Due To Increasing VRAM Prices
    As per a report, NVIDIA could halt the production of the GeForce RTX 5060 Ti 16 GB GPU due to high VRAM prices.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทดสอบยาว 3 ปีเผยผลชัด — OLED ทนกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ รุ่นส่วนใหญ่ใช้งานเกิน 10,000 ชั่วโมง

    การทดสอบความทนทานของทีวีจำนวน 102 เครื่อง ที่ดำเนินต่อเนื่องกว่า 3 ปี โดยสถาบันวิจัยด้านภาพและทีวี (ตามรายงานของ Tom’s Hardware) เผยผลที่น่าประหลาดใจว่า OLED มีความทนทานสูงกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านอายุการใช้งานและความเสถียรของภาพ โดยทีวี OLED ส่วนใหญ่สามารถทำงานได้เกิน 10,000 ชั่วโมง โดยไม่มีอาการเสื่อมที่ส่งผลต่อการใช้งานจริง.

    จากการทดสอบ พบว่า มีทีวีเสียทั้งหมด 20 เครื่องจาก 102 เครื่อง โดยสัดส่วนความเสียหายเกิดขึ้นในกลุ่ม LCD มากกว่าอย่างชัดเจน ขณะที่ OLED มีอัตราความล้มเหลวต่ำกว่ามาก ซึ่งสวนทางกับความเชื่อดั้งเดิมที่มักมองว่า OLED เสี่ยงต่อการ burn‑in และเสื่อมสภาพเร็วกว่า LCD การทดสอบนี้จึงเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชี้ว่าเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่มีความทนทานกว่าที่หลายคนคาดไว้.

    ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ OLED รุ่นใหม่ทนขึ้นมาจากการพัฒนา วัสดุอินทรีย์รุ่นใหม่, ระบบควบคุมพิกเซล, และ อัลกอริทึมป้องกัน burn‑in ที่ฉลาดขึ้นมาก รวมถึงการออกแบบ panel ที่รองรับความสว่างสูงโดยไม่เร่งพิกเซลจนเกินไป ขณะที่ LCD แม้จะไม่มีปัญหา burn‑in แต่กลับมีอัตราความล้มเหลวด้าน backlight, power board และ panel defect สูงกว่าในการทดสอบระยะยาว.

    ผลการทดสอบนี้ยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดทีวีระดับพรีเมียม ซึ่งกำลังขยับไปสู่ OLED เป็นหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการคุณภาพภาพสูงสุดและความทนทานที่พิสูจน์ได้จริงจากการใช้งานระยะยาว.

    การทดสอบ 3 ปีพบว่า OLED ทนกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ
    OLED ส่วนใหญ่ใช้งานได้เกิน 10,000 ชั่วโมง
    LCD มีอัตราความล้มเหลวสูงกว่าอย่างชัดเจน

    ทีวีเสียทั้งหมด 20 เครื่องจาก 102 เครื่อง
    ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดในกลุ่ม LCD
    OLED มีอัตราความล้มเหลวต่ำกว่าที่คาดไว้

    เทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่มีระบบป้องกัน burn‑in ที่ดีขึ้นมาก
    วัสดุอินทรีย์รุ่นใหม่
    อัลกอริทึมควบคุมพิกเซลที่ฉลาดขึ้น

    ตลาดพรีเมียมกำลังขยับไปสู่ OLED เป็นมาตรฐานใหม่
    คุณภาพภาพสูงกว่า
    ความทนทานพิสูจน์ได้จากการใช้งานจริง

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    การทดสอบเกิดในสภาพแวดล้อมควบคุม
    ผลลัพธ์อาจแตกต่างในบ้านที่มีความสว่างสูงหรือเปิดทิ้งยาว

    OLED ยังมีความเสี่ยง burn‑in หากใช้งานผิดประเภท
    เช่น เปิดภาพนิ่งนานหลายชั่วโมงทุกวัน

    LCD ยังมีข้อดีในด้านความสว่างสูงสุดและราคาที่ถูกกว่า
    ผู้ใช้บางกลุ่มอาจยังเหมาะกับ LCD มากกว่า

    https://www.tomshardware.com/monitors/televisions/three-year-test-shows-oled-is-significantly-more-reliable-than-lcd-with-most-lasting-more-than-10-000-hours-20-tvs-failed-out-of-102-tested
    📺⏳ ทดสอบยาว 3 ปีเผยผลชัด — OLED ทนกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ รุ่นส่วนใหญ่ใช้งานเกิน 10,000 ชั่วโมง การทดสอบความทนทานของทีวีจำนวน 102 เครื่อง ที่ดำเนินต่อเนื่องกว่า 3 ปี โดยสถาบันวิจัยด้านภาพและทีวี (ตามรายงานของ Tom’s Hardware) เผยผลที่น่าประหลาดใจว่า OLED มีความทนทานสูงกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในด้านอายุการใช้งานและความเสถียรของภาพ โดยทีวี OLED ส่วนใหญ่สามารถทำงานได้เกิน 10,000 ชั่วโมง โดยไม่มีอาการเสื่อมที่ส่งผลต่อการใช้งานจริง. จากการทดสอบ พบว่า มีทีวีเสียทั้งหมด 20 เครื่องจาก 102 เครื่อง โดยสัดส่วนความเสียหายเกิดขึ้นในกลุ่ม LCD มากกว่าอย่างชัดเจน ขณะที่ OLED มีอัตราความล้มเหลวต่ำกว่ามาก ซึ่งสวนทางกับความเชื่อดั้งเดิมที่มักมองว่า OLED เสี่ยงต่อการ burn‑in และเสื่อมสภาพเร็วกว่า LCD การทดสอบนี้จึงเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชี้ว่าเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่มีความทนทานกว่าที่หลายคนคาดไว้. ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ OLED รุ่นใหม่ทนขึ้นมาจากการพัฒนา วัสดุอินทรีย์รุ่นใหม่, ระบบควบคุมพิกเซล, และ อัลกอริทึมป้องกัน burn‑in ที่ฉลาดขึ้นมาก รวมถึงการออกแบบ panel ที่รองรับความสว่างสูงโดยไม่เร่งพิกเซลจนเกินไป ขณะที่ LCD แม้จะไม่มีปัญหา burn‑in แต่กลับมีอัตราความล้มเหลวด้าน backlight, power board และ panel defect สูงกว่าในการทดสอบระยะยาว. ผลการทดสอบนี้ยังสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของตลาดทีวีระดับพรีเมียม ซึ่งกำลังขยับไปสู่ OLED เป็นหลัก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการคุณภาพภาพสูงสุดและความทนทานที่พิสูจน์ได้จริงจากการใช้งานระยะยาว. ✅ การทดสอบ 3 ปีพบว่า OLED ทนกว่า LCD อย่างมีนัยสำคัญ ➡️ OLED ส่วนใหญ่ใช้งานได้เกิน 10,000 ชั่วโมง ➡️ LCD มีอัตราความล้มเหลวสูงกว่าอย่างชัดเจน ✅ ทีวีเสียทั้งหมด 20 เครื่องจาก 102 เครื่อง ➡️ ความเสียหายส่วนใหญ่เกิดในกลุ่ม LCD ➡️ OLED มีอัตราความล้มเหลวต่ำกว่าที่คาดไว้ ✅ เทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่มีระบบป้องกัน burn‑in ที่ดีขึ้นมาก ➡️ วัสดุอินทรีย์รุ่นใหม่ ➡️ อัลกอริทึมควบคุมพิกเซลที่ฉลาดขึ้น ✅ ตลาดพรีเมียมกำลังขยับไปสู่ OLED เป็นมาตรฐานใหม่ ➡️ คุณภาพภาพสูงกว่า ➡️ ความทนทานพิสูจน์ได้จากการใช้งานจริง ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ การทดสอบเกิดในสภาพแวดล้อมควบคุม ⛔ ผลลัพธ์อาจแตกต่างในบ้านที่มีความสว่างสูงหรือเปิดทิ้งยาว ‼️ OLED ยังมีความเสี่ยง burn‑in หากใช้งานผิดประเภท ⛔ เช่น เปิดภาพนิ่งนานหลายชั่วโมงทุกวัน ‼️ LCD ยังมีข้อดีในด้านความสว่างสูงสุดและราคาที่ถูกกว่า ⛔ ผู้ใช้บางกลุ่มอาจยังเหมาะกับ LCD มากกว่า https://www.tomshardware.com/monitors/televisions/three-year-test-shows-oled-is-significantly-more-reliable-than-lcd-with-most-lasting-more-than-10-000-hours-20-tvs-failed-out-of-102-tested
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ปิดการรองรับ PlanetWeb 3.0 — Dreamcast สูญเสียเว็บเบราว์เซอร์ที่อยู่รอดมา 25 ปี

    เบราว์เซอร์ PlanetWeb 3.0 ของ Sega Dreamcast ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2001 และยังคง “ใช้งานได้” อย่างน่าประหลาดใจมานานกว่า 25 ปี เพิ่งถูก Google ปิดการรองรับอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้บริการหลักของ Google ไม่ตอบสนองต่อโปรโตคอล SSL/TLS เก่าอีกต่อไป ทำให้เบราว์เซอร์นี้แทบไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ได้แล้ว.

    PlanetWeb เป็นเบราว์เซอร์ที่มากับ Dreamcast ตั้งแต่ยุค dial‑up และแม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้าสมัย เช่น SSL เก่า, JavaScript engine รุ่นโบราณ และ ciphers ที่ไม่ปลอดภัย แต่ก็ยังสามารถเข้าถึงบริการของ Google ได้จนถึงปี 2025 ซึ่งถือว่ายาวนานเกินคาดอย่างมาก การปิดครั้งนี้จึงเป็นเหมือน “การปิดฉากยุคอินเทอร์เน็ต 1.0” ที่ยังหลงเหลืออยู่ในเครื่องเกมคอนโซล.

    แม้บริการของ Google จะไม่รองรับแล้ว แต่ชุมชน Dreamcast ยังคงมีทางเลือก เช่น FrogFind.de ซึ่งเป็นเสิร์ชเอนจินที่ออกแบบมาให้รองรับเบราว์เซอร์เก่า รวมถึงเซิร์ฟเวอร์เกมออนไลน์ของ Phantasy Star Online และ Quake III Arena ที่ยังคงเปิดให้เล่นอยู่ ทำให้ Dreamcast ยังคงมีชีวิตในชุมชน retro gaming อย่างเหนียวแน่น.

    เหตุการณ์นี้สะท้อนความทนทานของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ยุคเก่า รวมถึงพลังของชุมชนที่ยังคงดูแล ecosystem ของ Dreamcast แม้เวลาจะผ่านไปกว่าสองทศวรรษ และยังเป็นสัญญาณว่าบริการเว็บสมัยใหม่กำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคที่ความเข้ากันได้ย้อนหลัง (backward compatibility) จะยิ่งลดลงเรื่อยๆ.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Google ปิดการรองรับ PlanetWeb 3.0 อย่างเป็นทางการ
    Dreamcast ไม่สามารถเข้าถึงบริการ Google ได้อีก
    สาเหตุจาก SSL/TLS และ JavaScript engine ที่ล้าสมัย

    PlanetWeb อยู่รอดมาอย่างเหลือเชื่อกว่า 25 ปี
    เปิดตัวปี 2001 พร้อม Dreamcast
    ใช้เทคโนโลยีเว็บยุค dial‑up

    ชุมชนยังมีทางเลือกอื่นสำหรับ Dreamcast
    FrogFind.de รองรับเบราว์เซอร์เก่า
    เซิร์ฟเวอร์เกมออนไลน์ยังเปิดอยู่หลายเกม

    เป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดยุคเว็บเก่า
    บริการสมัยใหม่ลดการรองรับโปรโตคอลเก่าอย่างต่อเนื่อง

    ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน
    Dreamcast จะใช้งานเว็บสมัยใหม่แทบไม่ได้แล้ว
    ไม่มีการอัปเดตความปลอดภัยหรือโปรโตคอลใหม่

    บริการเว็บเก่าอาจทยอยปิดตัวตามมา
    ความเข้ากันได้ย้อนหลังจะลดลงเรื่อยๆ

    ผู้ใช้ควรระวังการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เก่า
    โปรโตคอลเก่าอาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/the-sega-dreamcasts-planetweb-3-0-browser-was-killed-by-google-this-week-big-gs-services-no-longer-respond-to-this-quarter-century-old-software
    🕹️📡 Google ปิดการรองรับ PlanetWeb 3.0 — Dreamcast สูญเสียเว็บเบราว์เซอร์ที่อยู่รอดมา 25 ปี เบราว์เซอร์ PlanetWeb 3.0 ของ Sega Dreamcast ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 2001 และยังคง “ใช้งานได้” อย่างน่าประหลาดใจมานานกว่า 25 ปี เพิ่งถูก Google ปิดการรองรับอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้บริการหลักของ Google ไม่ตอบสนองต่อโปรโตคอล SSL/TLS เก่าอีกต่อไป ทำให้เบราว์เซอร์นี้แทบไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ได้แล้ว. PlanetWeb เป็นเบราว์เซอร์ที่มากับ Dreamcast ตั้งแต่ยุค dial‑up และแม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้าสมัย เช่น SSL เก่า, JavaScript engine รุ่นโบราณ และ ciphers ที่ไม่ปลอดภัย แต่ก็ยังสามารถเข้าถึงบริการของ Google ได้จนถึงปี 2025 ซึ่งถือว่ายาวนานเกินคาดอย่างมาก การปิดครั้งนี้จึงเป็นเหมือน “การปิดฉากยุคอินเทอร์เน็ต 1.0” ที่ยังหลงเหลืออยู่ในเครื่องเกมคอนโซล. แม้บริการของ Google จะไม่รองรับแล้ว แต่ชุมชน Dreamcast ยังคงมีทางเลือก เช่น FrogFind.de ซึ่งเป็นเสิร์ชเอนจินที่ออกแบบมาให้รองรับเบราว์เซอร์เก่า รวมถึงเซิร์ฟเวอร์เกมออนไลน์ของ Phantasy Star Online และ Quake III Arena ที่ยังคงเปิดให้เล่นอยู่ ทำให้ Dreamcast ยังคงมีชีวิตในชุมชน retro gaming อย่างเหนียวแน่น. เหตุการณ์นี้สะท้อนความทนทานของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ยุคเก่า รวมถึงพลังของชุมชนที่ยังคงดูแล ecosystem ของ Dreamcast แม้เวลาจะผ่านไปกว่าสองทศวรรษ และยังเป็นสัญญาณว่าบริการเว็บสมัยใหม่กำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุคที่ความเข้ากันได้ย้อนหลัง (backward compatibility) จะยิ่งลดลงเรื่อยๆ. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Google ปิดการรองรับ PlanetWeb 3.0 อย่างเป็นทางการ ➡️ Dreamcast ไม่สามารถเข้าถึงบริการ Google ได้อีก ➡️ สาเหตุจาก SSL/TLS และ JavaScript engine ที่ล้าสมัย ✅ PlanetWeb อยู่รอดมาอย่างเหลือเชื่อกว่า 25 ปี ➡️ เปิดตัวปี 2001 พร้อม Dreamcast ➡️ ใช้เทคโนโลยีเว็บยุค dial‑up ✅ ชุมชนยังมีทางเลือกอื่นสำหรับ Dreamcast ➡️ FrogFind.de รองรับเบราว์เซอร์เก่า ➡️ เซิร์ฟเวอร์เกมออนไลน์ยังเปิดอยู่หลายเกม ✅ เป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดยุคเว็บเก่า ➡️ บริการสมัยใหม่ลดการรองรับโปรโตคอลเก่าอย่างต่อเนื่อง ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / คำเตือน ‼️ Dreamcast จะใช้งานเว็บสมัยใหม่แทบไม่ได้แล้ว ⛔ ไม่มีการอัปเดตความปลอดภัยหรือโปรโตคอลใหม่ ‼️ บริการเว็บเก่าอาจทยอยปิดตัวตามมา ⛔ ความเข้ากันได้ย้อนหลังจะลดลงเรื่อยๆ ‼️ ผู้ใช้ควรระวังการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์เก่า ⛔ โปรโตคอลเก่าอาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/the-sega-dreamcasts-planetweb-3-0-browser-was-killed-by-google-this-week-big-gs-services-no-longer-respond-to-this-quarter-century-old-software
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าฯ มุกดาหาร นำคณะลงพื้นที่ตรวจเข้มการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ด่านศุลกากรสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 2 หลังมีมาตรการตัดการส่งน้ำมันไปยังกัมพูชา
    .
    ย้ำกำชับทุกหน่วยงานเพิ่มการตรวจสอบเชิงลึก ป้องกันลักลอบขนส่งน้ำมันอ้อมผ่าน สปป.ลาว ไปยังชายแดนลาว–กัมพูชา
    .
    ด่านศุลกากรระบุ ปริมาณการส่งออกน้ำมันผ่านด่านมุกดาหารเพิ่มขึ้นจากการย้ายเส้นทาง แต่ภาพรวมยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ และเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย
    .
    ผู้ว่าฯ ยืนยันเดินหน้าตรวจเข้มต่อเนื่อง เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122307
    .
    #News1live #News1 #มุกดาหาร #ด่านชายแดน #ความมั่นคง
    ผู้ว่าฯ มุกดาหาร นำคณะลงพื้นที่ตรวจเข้มการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ด่านศุลกากรสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 2 หลังมีมาตรการตัดการส่งน้ำมันไปยังกัมพูชา . ย้ำกำชับทุกหน่วยงานเพิ่มการตรวจสอบเชิงลึก ป้องกันลักลอบขนส่งน้ำมันอ้อมผ่าน สปป.ลาว ไปยังชายแดนลาว–กัมพูชา . ด่านศุลกากรระบุ ปริมาณการส่งออกน้ำมันผ่านด่านมุกดาหารเพิ่มขึ้นจากการย้ายเส้นทาง แต่ภาพรวมยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ และเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย . ผู้ว่าฯ ยืนยันเดินหน้าตรวจเข้มต่อเนื่อง เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122307 . #News1live #News1 #มุกดาหาร #ด่านชายแดน #ความมั่นคง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • อบจ.สงขลา เดินหน้าปฏิบัติการเชิงรุก แก้ปัญหาขยะจากอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ หลังมีการขนถ่ายขยะจำนวนมากจากจุดพักขยะชั่วคราวในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ มายังบ่อขยะเทศบาลตำบลเกาะแต้ว ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับขยะในโครงการฟื้นฟูเมืองหลังวิกฤตน้ำท่วม
    .
    เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อม วันนี้ (15 ธ.ค. 2568) องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา โดยกองสาธารณสุข ได้นำทีมปฏิบัติการลงพื้นที่ใช้ “โดรน” บินฉีดพ่นน้ำยาดับกลิ่น ฆ่าเชื้อ และกำจัดแมลง ในจุดที่เข้าถึงยาก ควบคู่กับการเดินเท้าฉีดพ่นน้ำยาในพื้นที่แนวราบ
    .
    การปฏิบัติการดังกล่าวเน้นฉีดพ่นบริเวณขยะใหม่ที่เพิ่งขนย้ายเข้ามา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดกลิ่น ลดการสะสมของเชื้อโรค และช่วยชะลอปัญหามลพิษที่อาจส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง
    .
    อบจ.สงขลา ยืนยันจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเดินหน้ามาตรการด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมความเสี่ยงจากขยะน้ำท่วมและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่และบริเวณโดยรอบ
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122467
    .
    #news1live #news1 #สงขลา #หาดใหญ่ #ขยะน้ำท่วม #อบจสงขลา #โดรนพ่นน้ำยา #สาธารณสุข #ฟื้นฟูหลังน้ำท่วม
    อบจ.สงขลา เดินหน้าปฏิบัติการเชิงรุก แก้ปัญหาขยะจากอุทกภัยในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ หลังมีการขนถ่ายขยะจำนวนมากจากจุดพักขยะชั่วคราวในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ มายังบ่อขยะเทศบาลตำบลเกาะแต้ว ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับขยะในโครงการฟื้นฟูเมืองหลังวิกฤตน้ำท่วม . เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อม วันนี้ (15 ธ.ค. 2568) องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา โดยกองสาธารณสุข ได้นำทีมปฏิบัติการลงพื้นที่ใช้ “โดรน” บินฉีดพ่นน้ำยาดับกลิ่น ฆ่าเชื้อ และกำจัดแมลง ในจุดที่เข้าถึงยาก ควบคู่กับการเดินเท้าฉีดพ่นน้ำยาในพื้นที่แนวราบ . การปฏิบัติการดังกล่าวเน้นฉีดพ่นบริเวณขยะใหม่ที่เพิ่งขนย้ายเข้ามา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดกลิ่น ลดการสะสมของเชื้อโรค และช่วยชะลอปัญหามลพิษที่อาจส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง . อบจ.สงขลา ยืนยันจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเดินหน้ามาตรการด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุมความเสี่ยงจากขยะน้ำท่วมและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่และบริเวณโดยรอบ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122467 . #news1live #news1 #สงขลา #หาดใหญ่ #ขยะน้ำท่วม #อบจสงขลา #โดรนพ่นน้ำยา #สาธารณสุข #ฟื้นฟูหลังน้ำท่วม
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • MS-PC Farm B860I Mini-ITX รุ่นแรกที่มี 4 DIMM

    Maxsun เปิดตัวเมนบอร์ด MS-PC Farm B860I ซึ่งเป็น Mini-ITX รุ่นแรกในตลาด consumer ที่มี 4 DIMM slots รองรับหน่วยความจำ DDR5 สูงสุดถึง 256GB พร้อมฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ เช่น IPMI remote management และ PCIe 5.0 MCIO expansion

    โดยปกติเมนบอร์ด Mini-ITX จะมีเพียง 2 DIMM slots ทำให้จำกัดความจุหน่วยความจำ แต่ Maxsun ได้สร้างความแตกต่างด้วย MS-PC Farm B860I ที่มีถึง 4 DIMM slots ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในตลาด consumer ที่พบในฟอร์มแฟกเตอร์นี้. สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งหน่วยความจำ DDR5 ได้สูงสุดถึง 256GB ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นไปได้เฉพาะในเมนบอร์ดขนาดใหญ่หรือรุ่นสำหรับเซิร์ฟเวอร์

    ฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ในบอร์ด consumer
    นอกจากความจุหน่วยความจำที่มากขึ้นแล้ว บอร์ดนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่ปกติพบในเซิร์ฟเวอร์ เช่น IPMI remote management ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบและควบคุมเมนบอร์ดจากระยะไกลได้ รวมถึง MCIO connection ที่รองรับการขยาย PCIe 5.0 สำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลความเร็วสูง.

    การใช้งานและกลุ่มเป้าหมาย
    Maxsun เปิดตัวบอร์ดนี้ภายใต้ซีรีส์ “Farm” โดยเน้นตลาด internet cafes และ eSports ที่ต้องการเครื่องขนาดเล็กแต่ทรงพลัง การออกแบบระบบระบายความร้อนก็ถูกปรับปรุงเพื่อรองรับการทำงานหนักต่อเนื่อง เช่น การเล่นเกมหรือการประมวลผลที่ใช้หน่วยความจำสูง.

    จุดเด่นและข้อควรระวัง
    แม้จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Mini-ITX แต่การเพิ่ม DIMM slots อาจทำให้การจัดการพื้นที่ PCB ซับซ้อนขึ้น และผู้ใช้ต้องพิจารณาเรื่องค่าใช้จ่ายของ DDR5 ความจุสูง รวมถึงความเข้ากันได้กับระบบที่ใช้งานอยู่

    สรุปเป็นหัวข้อ
    คุณสมบัติหลักของ MS-PC Farm B860I
    Mini-ITX รุ่นแรกในตลาด consumer ที่มี 4 DIMM slots
    รองรับ DDR5 สูงสุด 256GB

    ฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์
    IPMI remote management สำหรับควบคุมจากระยะไกล
    MCIO connection รองรับ PCIe 5.0 expansion

    กลุ่มเป้าหมายและการใช้งาน
    เน้น internet cafes และ eSports
    ระบบระบายความร้อนปรับปรุงเพื่อรองรับ workload หนัก

    ข้อควรระวัง
    ค่าใช้จ่ายสูงสำหรับ DDR5 ความจุใหญ่
    ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้กับระบบที่ใช้งานอยู่

    https://wccftech.com/maxsun-debuts-ms-pc-farm-b860i/
    🖥️ MS-PC Farm B860I Mini-ITX รุ่นแรกที่มี 4 DIMM Maxsun เปิดตัวเมนบอร์ด MS-PC Farm B860I ซึ่งเป็น Mini-ITX รุ่นแรกในตลาด consumer ที่มี 4 DIMM slots รองรับหน่วยความจำ DDR5 สูงสุดถึง 256GB พร้อมฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ เช่น IPMI remote management และ PCIe 5.0 MCIO expansion โดยปกติเมนบอร์ด Mini-ITX จะมีเพียง 2 DIMM slots ทำให้จำกัดความจุหน่วยความจำ แต่ Maxsun ได้สร้างความแตกต่างด้วย MS-PC Farm B860I ที่มีถึง 4 DIMM slots ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในตลาด consumer ที่พบในฟอร์มแฟกเตอร์นี้. สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งหน่วยความจำ DDR5 ได้สูงสุดถึง 256GB ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นไปได้เฉพาะในเมนบอร์ดขนาดใหญ่หรือรุ่นสำหรับเซิร์ฟเวอร์ ⚡ ฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ในบอร์ด consumer นอกจากความจุหน่วยความจำที่มากขึ้นแล้ว บอร์ดนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่ปกติพบในเซิร์ฟเวอร์ เช่น IPMI remote management ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบและควบคุมเมนบอร์ดจากระยะไกลได้ รวมถึง MCIO connection ที่รองรับการขยาย PCIe 5.0 สำหรับอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลความเร็วสูง. 🌐 การใช้งานและกลุ่มเป้าหมาย Maxsun เปิดตัวบอร์ดนี้ภายใต้ซีรีส์ “Farm” โดยเน้นตลาด internet cafes และ eSports ที่ต้องการเครื่องขนาดเล็กแต่ทรงพลัง การออกแบบระบบระบายความร้อนก็ถูกปรับปรุงเพื่อรองรับการทำงานหนักต่อเนื่อง เช่น การเล่นเกมหรือการประมวลผลที่ใช้หน่วยความจำสูง. ⚠️ จุดเด่นและข้อควรระวัง แม้จะเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Mini-ITX แต่การเพิ่ม DIMM slots อาจทำให้การจัดการพื้นที่ PCB ซับซ้อนขึ้น และผู้ใช้ต้องพิจารณาเรื่องค่าใช้จ่ายของ DDR5 ความจุสูง รวมถึงความเข้ากันได้กับระบบที่ใช้งานอยู่ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ คุณสมบัติหลักของ MS-PC Farm B860I ➡️ Mini-ITX รุ่นแรกในตลาด consumer ที่มี 4 DIMM slots ➡️ รองรับ DDR5 สูงสุด 256GB ✅ ฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ ➡️ IPMI remote management สำหรับควบคุมจากระยะไกล ➡️ MCIO connection รองรับ PCIe 5.0 expansion ✅ กลุ่มเป้าหมายและการใช้งาน ➡️ เน้น internet cafes และ eSports ➡️ ระบบระบายความร้อนปรับปรุงเพื่อรองรับ workload หนัก ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ค่าใช้จ่ายสูงสำหรับ DDR5 ความจุใหญ่ ⛔ ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้กับระบบที่ใช้งานอยู่ https://wccftech.com/maxsun-debuts-ms-pc-farm-b860i/
    WCCFTECH.COM
    Maxsun Debuts MS-PC Farm B860I, A Rare Four DIMM Mini ITX Motherboard
    Motherboard maker Maxsun has launched a few new Intel motherboards including a model called MS-PC Farm B860I with 4 DIMMs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA 590: ก้าวใหม่ของไดรเวอร์ Linux

    NVIDIA ประกาศออกไดรเวอร์ 590 สำหรับ Linux เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2025 โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้ Wayland พบเจอมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในบั๊กสำคัญที่ถูกแก้ไขคือ PowerMizer preferred mode ที่ไม่สามารถเลือกได้ในแผงควบคุม nvidia-settings บน Wayland ซึ่งก่อนหน้านี้สร้างความไม่สะดวกให้ผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งการใช้พลังงานและประสิทธิภาพของ GPU

    การปรับปรุงที่สำคัญ
    Wayland Improvements: เพิ่มความเสถียรและการทำงานร่วมกับ compositor บน Wayland ให้ดีขึ้น
    Bug Fixes: แก้ไขบั๊กที่เกี่ยวข้องกับการตั้งค่า PowerMizer และการทำงานของ control panel
    Compatibility Updates: ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Linux kernel รุ่นใหม่ ๆ เพื่อรองรับการใช้งานในระบบที่อัปเดตล่าสุด

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux
    การปรับปรุงนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า NVIDIA กำลังให้ความสำคัญกับ Wayland มากขึ้น ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่หลายดิสทริบิวชันกำลังผลักดันให้มาแทน X11 การแก้ไขบั๊กและเพิ่มความเสถียรในเวอร์ชัน 590 ถือเป็นสัญญาณบวกต่อผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและความเข้ากันได้ในระบบ Linux สมัยใหม่

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    การอัปเดตนี้ไม่ใช่เพียงการแก้บั๊ก แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ว่า NVIDIA กำลังเดินหน้า สนับสนุน Wayland อย่างจริงจัง ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันจากชุมชนโอเพ่นซอร์สที่เคยวิจารณ์ว่า NVIDIA ไม่ให้ความสำคัญกับ Linux ecosystem เท่าที่ควร

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    NVIDIA 590 Linux Driver ออกแล้ว
    เน้นการปรับปรุง Wayland และแก้ไขบั๊ก PowerMizer

    ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Kernel รุ่นใหม่
    เพิ่มความเข้ากันได้และเสถียรภาพของระบบ

    สัญญาณเชิงกลยุทธ์
    NVIDIA แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุน Wayland อย่างจริงจัง

    คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป
    หากยังใช้ X11 อาจไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการปรับปรุงในเวอร์ชันนี้

    ความเสี่ยงจากการอัปเดตทันที
    ผู้ใช้บางดิสทริบิวชันอาจเจอ incompatibility ชั่วคราว ควรรอแพ็กเกจที่เสถียรจาก repo ของดิสทริบิวชัน

    https://9to5linux.com/nvidia-590-linux-graphics-driver-released-with-more-wayland-improvements
    🖥️ NVIDIA 590: ก้าวใหม่ของไดรเวอร์ Linux NVIDIA ประกาศออกไดรเวอร์ 590 สำหรับ Linux เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2025 โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้ Wayland พบเจอมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในบั๊กสำคัญที่ถูกแก้ไขคือ PowerMizer preferred mode ที่ไม่สามารถเลือกได้ในแผงควบคุม nvidia-settings บน Wayland ซึ่งก่อนหน้านี้สร้างความไม่สะดวกให้ผู้ใช้ที่ต้องการปรับแต่งการใช้พลังงานและประสิทธิภาพของ GPU 🔧 การปรับปรุงที่สำคัญ 🎗️ Wayland Improvements: เพิ่มความเสถียรและการทำงานร่วมกับ compositor บน Wayland ให้ดีขึ้น 🎗️ Bug Fixes: แก้ไขบั๊กที่เกี่ยวข้องกับการตั้งค่า PowerMizer และการทำงานของ control panel 🎗️ Compatibility Updates: ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Linux kernel รุ่นใหม่ ๆ เพื่อรองรับการใช้งานในระบบที่อัปเดตล่าสุด 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux การปรับปรุงนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่า NVIDIA กำลังให้ความสำคัญกับ Wayland มากขึ้น ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่หลายดิสทริบิวชันกำลังผลักดันให้มาแทน X11 การแก้ไขบั๊กและเพิ่มความเสถียรในเวอร์ชัน 590 ถือเป็นสัญญาณบวกต่อผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและความเข้ากันได้ในระบบ Linux สมัยใหม่ 📈 มุมมองเชิงกลยุทธ์ การอัปเดตนี้ไม่ใช่เพียงการแก้บั๊ก แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ว่า NVIDIA กำลังเดินหน้า สนับสนุน Wayland อย่างจริงจัง ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันจากชุมชนโอเพ่นซอร์สที่เคยวิจารณ์ว่า NVIDIA ไม่ให้ความสำคัญกับ Linux ecosystem เท่าที่ควร 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ NVIDIA 590 Linux Driver ออกแล้ว ➡️ เน้นการปรับปรุง Wayland และแก้ไขบั๊ก PowerMizer ✅ ปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Kernel รุ่นใหม่ ➡️ เพิ่มความเข้ากันได้และเสถียรภาพของระบบ ✅ สัญญาณเชิงกลยุทธ์ ➡️ NVIDIA แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุน Wayland อย่างจริงจัง ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ หากยังใช้ X11 อาจไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่จากการปรับปรุงในเวอร์ชันนี้ ‼️ ความเสี่ยงจากการอัปเดตทันที ⛔ ผู้ใช้บางดิสทริบิวชันอาจเจอ incompatibility ชั่วคราว ควรรอแพ็กเกจที่เสถียรจาก repo ของดิสทริบิวชัน https://9to5linux.com/nvidia-590-linux-graphics-driver-released-with-more-wayland-improvements
    9TO5LINUX.COM
    NVIDIA 590 Linux Graphics Driver Released with More Wayland Improvements - 9to5Linux
    NVIDIA 590.48.01 graphics driver is now available for download for Linux, FreeBSD, and Solaris systems with various bug fixes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • Fwupd 2.0.19: อัปเดตใหม่เพื่อความปลอดภัยและการรองรับฮาร์ดแวร์

    Fwupd 2.0.19 ซึ่งพัฒนาโดย Richard Hughes ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2025 ถือเป็น การอัปเดตครั้งที่ 19 ของซีรีส์ 2.0 จุดเด่นคือการเพิ่มการรองรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์สำหรับ Lenovo Sapphire Folio Keyboard ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใหม่ที่ต้องการการดูแลด้านเฟิร์มแวร์โดยตรงจากระบบ Linux

    ฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุงคำสั่ง
    เวอร์ชันนี้เพิ่มคำสั่งใหม่ใน fwupdtool สำหรับการ คำนวณและค้นหา CRCs รวมถึงการปรับปรุงคำสั่ง fwupdmgr get-history ให้แสดงเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ใหม่ได้ถูกต้องเสมอ อีกทั้งยังมีการปรับปรุงการอัปเดต Intel GPU FWDATA section และการเคารพคำสั่ง --force เมื่อผู้ใช้ติดตั้งเฟิร์มแวร์

    การแก้ไขบั๊กและความปลอดภัย
    Fwupd 2.0.19 ยังแก้ไขบั๊กหลายรายการ เช่น integer underflow ที่เกิดขึ้นเมื่อ parsing ไฟล์ PE ที่เป็นอันตราย, regression ในการตรวจสอบสถานะของ Dell dock และการ timeout ของ fuzzer เมื่อ parsing Synaptics-RMI SBL container การแก้ไขเหล่านี้ช่วยเพิ่มความมั่นคงและลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของระบบ

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux
    แม้จะเป็นการอัปเดตเล็ก แต่ Fwupd 2.0.19 แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องในการพัฒนาเครื่องมืออัปเดตเฟิร์มแวร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของระบบ Linux สมัยใหม่ โดยเฉพาะในยุคที่อุปกรณ์ใหม่ ๆ เช่นคีย์บอร์ดหรือ GPU ต้องการการอัปเดตเฟิร์มแวร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    รองรับ Lenovo Sapphire Folio Keyboard
    เพิ่มการอัปเดตเฟิร์มแวร์สำหรับอุปกรณ์ใหม่โดยตรงใน Linux

    เพิ่มคำสั่งใหม่ใน fwupdtool
    ใช้สำหรับคำนวณและค้นหา CRCs

    ปรับปรุงคำสั่ง fwupdmgr
    แสดงเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ใหม่ได้ถูกต้อง และเคารพ --force

    แก้ไขบั๊กด้านความปลอดภัย
    Integer underflow, regression Dell dock, และ fuzzer timeout

    คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป
    ควรติดตั้ง fwupd จาก repository ที่เสถียรของดิสทริบิวชัน ไม่ควรใช้ source tarball หากไม่มั่นใจ

    ความเสี่ยงจากไฟล์ PE ที่เป็นอันตราย
    หากไม่อัปเดต อาจเสี่ยงต่อการโจมตีที่ใช้ช่องโหว่ในการ parsing

    https://9to5linux.com/fwupd-2-0-19-linux-firmware-updater-supports-lenovo-sapphire-folio-keyboard
    🔧 Fwupd 2.0.19: อัปเดตใหม่เพื่อความปลอดภัยและการรองรับฮาร์ดแวร์ Fwupd 2.0.19 ซึ่งพัฒนาโดย Richard Hughes ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2025 ถือเป็น การอัปเดตครั้งที่ 19 ของซีรีส์ 2.0 จุดเด่นคือการเพิ่มการรองรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์สำหรับ Lenovo Sapphire Folio Keyboard ซึ่งเป็นอุปกรณ์ใหม่ที่ต้องการการดูแลด้านเฟิร์มแวร์โดยตรงจากระบบ Linux 🖥️ ฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุงคำสั่ง เวอร์ชันนี้เพิ่มคำสั่งใหม่ใน fwupdtool สำหรับการ คำนวณและค้นหา CRCs รวมถึงการปรับปรุงคำสั่ง fwupdmgr get-history ให้แสดงเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ใหม่ได้ถูกต้องเสมอ อีกทั้งยังมีการปรับปรุงการอัปเดต Intel GPU FWDATA section และการเคารพคำสั่ง --force เมื่อผู้ใช้ติดตั้งเฟิร์มแวร์ 🛡️ การแก้ไขบั๊กและความปลอดภัย Fwupd 2.0.19 ยังแก้ไขบั๊กหลายรายการ เช่น integer underflow ที่เกิดขึ้นเมื่อ parsing ไฟล์ PE ที่เป็นอันตราย, regression ในการตรวจสอบสถานะของ Dell dock และการ timeout ของ fuzzer เมื่อ parsing Synaptics-RMI SBL container การแก้ไขเหล่านี้ช่วยเพิ่มความมั่นคงและลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของระบบ 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้ Linux แม้จะเป็นการอัปเดตเล็ก แต่ Fwupd 2.0.19 แสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องในการพัฒนาเครื่องมืออัปเดตเฟิร์มแวร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของระบบ Linux สมัยใหม่ โดยเฉพาะในยุคที่อุปกรณ์ใหม่ ๆ เช่นคีย์บอร์ดหรือ GPU ต้องการการอัปเดตเฟิร์มแวร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ รองรับ Lenovo Sapphire Folio Keyboard ➡️ เพิ่มการอัปเดตเฟิร์มแวร์สำหรับอุปกรณ์ใหม่โดยตรงใน Linux ✅ เพิ่มคำสั่งใหม่ใน fwupdtool ➡️ ใช้สำหรับคำนวณและค้นหา CRCs ✅ ปรับปรุงคำสั่ง fwupdmgr ➡️ แสดงเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ใหม่ได้ถูกต้อง และเคารพ --force ✅ แก้ไขบั๊กด้านความปลอดภัย ➡️ Integer underflow, regression Dell dock, และ fuzzer timeout ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ ควรติดตั้ง fwupd จาก repository ที่เสถียรของดิสทริบิวชัน ไม่ควรใช้ source tarball หากไม่มั่นใจ ‼️ ความเสี่ยงจากไฟล์ PE ที่เป็นอันตราย ⛔ หากไม่อัปเดต อาจเสี่ยงต่อการโจมตีที่ใช้ช่องโหว่ในการ parsing https://9to5linux.com/fwupd-2-0-19-linux-firmware-updater-supports-lenovo-sapphire-folio-keyboard
    9TO5LINUX.COM
    Fwupd 2.0.19 Linux Firmware Updater Supports Lenovo Sapphire Folio Keyboard - 9to5Linux
    Fwupd 2.0.19 Linux firmware updater is now available for download with support for the Lenovo Sapphire Folio keyboard.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปีใหม่ 69 เปิดมอเตอร์เวย์ M6 วิ่งฉิวบางปะอินถึงนครราชสีมา

    ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา จะเปิดให้ประชาชนสัญจรเป็นการชั่วคราว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ช่วงบางปะอิน-ปากช่อง-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2568 ถึง 5 ม.ค. 2569 โดยไม่เก็บค่าผ่านทาง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ลดความแออัดของเส้นทางหลักอย่างถนนพหลโยธิน และถนนมิตรภาพ รวมทั้งแบ่งเบาภาระการจราจรสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    โดยทิศทางขาออกกรุงเทพฯ จากด่านบางปะอิน-ปากช่อง เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 2568 เวลา 00.01 น. ถึง 1 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. เท่านั้น เนื่องจากการก่อสร้างตอน 4 (สะพานข้ามหนองน้ำ) ยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องเบี่ยงการจราจรตั้งแต่กิโลเมตรที่ 10+150 ถึง 30+800 หลังจากนั้นทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯ จากปากช่อง-บางปะอิน เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 2 ม.ค. 2569 เวลา 06.00 น. ถึง 5 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. ส่วนช่วงปากช่อง-นครราชสีมา เปิดให้สัญจรสองทิศทางตลอด 24 ชั่วโมง

    สำหรับทางเข้า-ออกด่านบางปะอินจะมี 3 ทิศทาง ได้แก่ 1. ด้านถนนกาญจนาภิเษก (ทางหลวงหมายเลข 9) เลยทางแยกต่างระดับเชียงราก (ทางหลวงหมายเลข 347) มุ่งหน้าบางปะอินเล็กน้อย 2. ด้านถนนพหลโยธิน เลยปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านใหญ่วังน้อย ขาขึ้น กม.54 3. ด้านทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 ก่อนถึงทางออกบางปะอิน โปรดสังเกตป้ายบอกทางสีน้ำเงิน ระบุว่า "มอเตอร์เวย์ M6 ปากช่อง นครราชสีมา" เนื่องจากแอปพลิเคชันบอกทางอาจยังไม่อัปเดตเส้นทาง

    เนื่องจากการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ครั้งนี้ยังไม่เต็มรูปแบบ เพราะฉะนั้นใช้ได้เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ อีกทั้งไม่มีปั๊มน้ำมันหรือ EV Charger กลางทาง จึงควรเติมน้ำมันหรือชาร์จไฟให้เพียงพอต่อการเดินทางระยะยาว ถ้ามาจากถนนพหลโยธิน เมื่อเลยทางแยกต่างระดับบางปะอิน กม.53-54 จะมีปั๊มน้ำมันเชลล์, บางจาก และ PTT Station แต่ถ้ามาจากมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 เลยทางแยกต่างระดับธัญบุรีไปแล้ว ใช้ทางออก 2 (คลองหลวง-หนองเสือ) จะมีปั๊มน้ำมัน PTT Station, บางจาก และคาลเท็กซ์ ที่เข้า-ออกทางหลักได้

    สำหรับผู้ที่มาจากภาคใต้ ผ่านถนนพระรามที่ 2 และจังหวัดสมุทรสาคร สามารถใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ที่ด่านมหาชัย 1 ต่อเนื่องทางพิเศษกาญจนาภิเษกที่ด่านบางขุนเทียน ต่อเนื่องมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ที่ด่านบางแก้ว เสียค่าผ่านทางที่ด่านทับช้าง และด่านธัญบุรี เพื่อเข้ามอเตอร์เวย์หมายเลข 6 ได้ ซึ่งจากด่านมหาชัย 1 ถึงจังหวัดนครราชสีมา คิดเป็นระยะทางประมาณ 320 กิโลเมตร

    #Newskit
    ปีใหม่ 69 เปิดมอเตอร์เวย์ M6 วิ่งฉิวบางปะอินถึงนครราชสีมา ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา จะเปิดให้ประชาชนสัญจรเป็นการชั่วคราว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ช่วงบางปะอิน-ปากช่อง-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2568 ถึง 5 ม.ค. 2569 โดยไม่เก็บค่าผ่านทาง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ลดความแออัดของเส้นทางหลักอย่างถนนพหลโยธิน และถนนมิตรภาพ รวมทั้งแบ่งเบาภาระการจราจรสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยทิศทางขาออกกรุงเทพฯ จากด่านบางปะอิน-ปากช่อง เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 2568 เวลา 00.01 น. ถึง 1 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. เท่านั้น เนื่องจากการก่อสร้างตอน 4 (สะพานข้ามหนองน้ำ) ยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องเบี่ยงการจราจรตั้งแต่กิโลเมตรที่ 10+150 ถึง 30+800 หลังจากนั้นทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯ จากปากช่อง-บางปะอิน เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 2 ม.ค. 2569 เวลา 06.00 น. ถึง 5 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. ส่วนช่วงปากช่อง-นครราชสีมา เปิดให้สัญจรสองทิศทางตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับทางเข้า-ออกด่านบางปะอินจะมี 3 ทิศทาง ได้แก่ 1. ด้านถนนกาญจนาภิเษก (ทางหลวงหมายเลข 9) เลยทางแยกต่างระดับเชียงราก (ทางหลวงหมายเลข 347) มุ่งหน้าบางปะอินเล็กน้อย 2. ด้านถนนพหลโยธิน เลยปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านใหญ่วังน้อย ขาขึ้น กม.54 3. ด้านทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 ก่อนถึงทางออกบางปะอิน โปรดสังเกตป้ายบอกทางสีน้ำเงิน ระบุว่า "มอเตอร์เวย์ M6 ปากช่อง นครราชสีมา" เนื่องจากแอปพลิเคชันบอกทางอาจยังไม่อัปเดตเส้นทาง เนื่องจากการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ครั้งนี้ยังไม่เต็มรูปแบบ เพราะฉะนั้นใช้ได้เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ อีกทั้งไม่มีปั๊มน้ำมันหรือ EV Charger กลางทาง จึงควรเติมน้ำมันหรือชาร์จไฟให้เพียงพอต่อการเดินทางระยะยาว ถ้ามาจากถนนพหลโยธิน เมื่อเลยทางแยกต่างระดับบางปะอิน กม.53-54 จะมีปั๊มน้ำมันเชลล์, บางจาก และ PTT Station แต่ถ้ามาจากมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 เลยทางแยกต่างระดับธัญบุรีไปแล้ว ใช้ทางออก 2 (คลองหลวง-หนองเสือ) จะมีปั๊มน้ำมัน PTT Station, บางจาก และคาลเท็กซ์ ที่เข้า-ออกทางหลักได้ สำหรับผู้ที่มาจากภาคใต้ ผ่านถนนพระรามที่ 2 และจังหวัดสมุทรสาคร สามารถใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ที่ด่านมหาชัย 1 ต่อเนื่องทางพิเศษกาญจนาภิเษกที่ด่านบางขุนเทียน ต่อเนื่องมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ที่ด่านบางแก้ว เสียค่าผ่านทางที่ด่านทับช้าง และด่านธัญบุรี เพื่อเข้ามอเตอร์เวย์หมายเลข 6 ได้ ซึ่งจากด่านมหาชัย 1 ถึงจังหวัดนครราชสีมา คิดเป็นระยะทางประมาณ 320 กิโลเมตร #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts