• วีรบุรุษ ที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี สง่างาม
    ที่เราเคารพนับถืออย่างภาคภูมิใจคือ
    ทหาร ตชด. ประชาชน ที่เสียสละ
    เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ป้องปกรักษาแผ่นดิน เท่านั้นครับฮะ!!
    วีรบุรุษ ที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี สง่างาม ที่เราเคารพนับถืออย่างภาคภูมิใจคือ ทหาร ตชด. ประชาชน ที่เสียสละ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ป้องปกรักษาแผ่นดิน เท่านั้นครับฮะ!!
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 6 – พระเจ้าเงินตรา

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 6 : พระเจ้าเงินตรา
    ไม่นานเกินรอ ทางฝั่งอเมริกาในปี ค.ศ.1907 การเงินประเทศเกิดอาการสะอึก จากฝีมือที่มองไม่เห็น ทำให้วงการธนาคารเกิดอาการซวนเซ ข่าวลือว่าเป็นแผนการของ J.P Morgan นก 2 หัว พยายามกดดันให้รัฐบาลอเมริกัน สร้างระบบการธนาคารที่มั่นคง ปี ค.ศ.1910 ได้มีการประชุมกันที่ Jekyll Island ซึ่งมีการวางแผนที่จะตั้ง National Reserve Association มีสาขา 15 แห่ง ควบคุมโดยนายธนาคาร ซึ่งได้รับมอบอำนาจมาจากรัฐบาลกลาง เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นธนาคารกลาง สามารถพิมพ์เงินเองได้ และให้เงินยืมแก่ธนาคารเอกชนได้ ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ยินยอมเดินตามแผนนี้เกือบทุกอ ย่าง ในที่สุด ปี ค.ศ.1913 Federal Reserve หรือ Fed ก็ก่อตั้งขึ้น สามารถหารายได้เองได้ กำหนดงบประมาณของตนเองได้ โดยไม่ต้องผ่านสภาสูง Fed มีสาขา 12 แห่ง แต่ละแห่งถือหุ้นโดยธนาคารพาณิชย์ (ผมได้เคยเล่านิทานตอนนี้ไว้อย่างละเอียด อยู่ในนิทานเรื่องมายากลยุทธ ท่านใดยังไม่เคยอ่าน ช่วยกลับไปอ่านหน่อยนะครับ จะได้ไม่ต้องเขียนซ้ำ)
    แล้วอำนาจที่แท้จริงในการครองโลก ก็อยู่ในกำมือของกลุ่มผู้ถือหุ้นเอกชน Anglo American Establishment ไม่กี่ตระกูล ซึ่งเป็นเจ้าของธนาคารระหว่างประเทศ ที่เข้าไปถือหุ้นในธนาคารกลางของโลกทั้งนั้นแหละ คือผู้มีอำนาจควบคุมโลกตัวจริง เป็นผู้สร้างผู้ปกครองผู้บริหารประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ ใครมันจะทำอะไรได้ถ้าไม่มีเงิน เงินเท่านั้น ที่มนุษย์ทั่วไปมองเห็นและให้ความเคารพนับถือ เชื่อ ใช้ บูชา ทุนคืออำนาจ อำนาจคือทุน จริงหรือไม่
    ที่ว่าไม่กี่ตระกูลที่ครองโลกอยู่ขณะนี้เป็นใครบ้างล่ะ มารู้จักชื่อแซ่พระเจ้าเงินตรากันหน่อย เขาว่ามี 8 ตระกูล หรือกลุ่ม หรือก๊วน แล้วแต่จะเรียก 4 ก๊วนอยู่ทางฝั่งอเมริกา อีก 4 อยู่ทางอังกฤษและยุโรป
    ฝั่งอเมริกา
    – Goldman Sachs
    – Rockefellers
    – Lehman of New York
    – Kuhn Loebs of New York
    ฝั่งอังกฤษและยุโรป
    – Rothschilds of Paris, London
    – Warburg of Hamburg
    – Lazards of Paris
    – Israel Moses Seifs of Rome
    กว่าจะมาเป็น 8 ก๊วนคนโคตรรวย เขาผ่านการหักหลัง หักคอ ควบรวม ไปจนถึงคลุมถุงให้แต่งงาน เพื่อจะรักษาความรวยและเลือดเนื้อ เชื้อไข คนรวย ให้อยู่แต่ในกลุ่มก้อนเดียวกัน ส่วน BIS ซึ่งเป็นธนาคารกลางตัวแม่ มีอิทธิพลสูงสุด ควบคุมธนาคารเกือบทั้งหมดในประเทศ แถบตะวันตก และประเทศที่กำลังพัฒนา (อย่างเราๆ ) ก็ถือหุ้นโดย Federal Reserve (ของอเมริกา), Bank of England, Bank of Italy, Bank of Canada, Swiss National Bank, Nederlandsche Bank, Bundesbank และ Bank of France โดยมี 8 ก๊วนคนโคตรรวย ต่างถือหุ้นใน 8 ธนาคารกลางดังกล่าวอีกต่อหนึ่ง
    ประธาน BIS คนแรกคือ นาย Gates McGarrah ซึ่งมาจาก Chase Manhatton Bank ของตระกูล Rockefeller และเป็นเจ้าหน้าที่ของ Federal Reserve ด้วย นาย McGarrah นี้ เป็นปู่ของนาย Richard McGarrah Helmes หัวหน้า CIA ตัวใหญ่ สมัย ค.ศ.1966-1973
    รัฐบาลอเมริกาเอง ในประวัติศาสตร์ก็ขยาด BIS และพยายามที่จะล้ม BIS มาแล้ว ในการประชุมที่ Bretton Woods เมื่อปี ค.ศ.1944 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ถูก 8 ก๊วนโคตรรวยจับมือกันป่วน นอกจากล้ม BIS ไม่ได้แล้ว 8 ก๊วน ยังท้าทายด้วยการตั้ง IMF และ World Bank ตามแผนของพวกเขา เพื่อสั่งสอนรัฐบาลอเมริกันอีก
    BIS ถือ 10% ของเงินสำรอง (Reserves) ในประมาณ 80 ธนาคารกลางทั่วโลก รวมทั้งใน IMF และสถาบันการเงินนานาชาติอีกหลายแห่ง BIS นอกจากเป็นแม่ใหญ่ของธนาคารกลางของ 8 ก๊วนแล้ว ยังแอบทำกิจกรรมสำคัญด้วยคือ เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการเงินและเศรษฐกิจของทั้งโลก (รู้มากที่สุด ได้เปรียบมากที่สุด) และเป็นแหล่งเงินกู้ให้ธนาคารพาณิชย์กู้ ในเวลาวิกฤติเพื่อไม่ให้สถาบันการเงินโลกล้มระเนระนาดด้วย ยังมีข้อมูลน่าศึกษาเกี่ยวกับ BIS อีกแยะ วันนี้เอาแค่ให้เห็นภาพกว้างๆ ก่อน
    คนเล่านิทาน
    30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 6 – พระเจ้าเงินตรา นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 6 : พระเจ้าเงินตรา ไม่นานเกินรอ ทางฝั่งอเมริกาในปี ค.ศ.1907 การเงินประเทศเกิดอาการสะอึก จากฝีมือที่มองไม่เห็น ทำให้วงการธนาคารเกิดอาการซวนเซ ข่าวลือว่าเป็นแผนการของ J.P Morgan นก 2 หัว พยายามกดดันให้รัฐบาลอเมริกัน สร้างระบบการธนาคารที่มั่นคง ปี ค.ศ.1910 ได้มีการประชุมกันที่ Jekyll Island ซึ่งมีการวางแผนที่จะตั้ง National Reserve Association มีสาขา 15 แห่ง ควบคุมโดยนายธนาคาร ซึ่งได้รับมอบอำนาจมาจากรัฐบาลกลาง เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นธนาคารกลาง สามารถพิมพ์เงินเองได้ และให้เงินยืมแก่ธนาคารเอกชนได้ ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ยินยอมเดินตามแผนนี้เกือบทุกอ ย่าง ในที่สุด ปี ค.ศ.1913 Federal Reserve หรือ Fed ก็ก่อตั้งขึ้น สามารถหารายได้เองได้ กำหนดงบประมาณของตนเองได้ โดยไม่ต้องผ่านสภาสูง Fed มีสาขา 12 แห่ง แต่ละแห่งถือหุ้นโดยธนาคารพาณิชย์ (ผมได้เคยเล่านิทานตอนนี้ไว้อย่างละเอียด อยู่ในนิทานเรื่องมายากลยุทธ ท่านใดยังไม่เคยอ่าน ช่วยกลับไปอ่านหน่อยนะครับ จะได้ไม่ต้องเขียนซ้ำ) แล้วอำนาจที่แท้จริงในการครองโลก ก็อยู่ในกำมือของกลุ่มผู้ถือหุ้นเอกชน Anglo American Establishment ไม่กี่ตระกูล ซึ่งเป็นเจ้าของธนาคารระหว่างประเทศ ที่เข้าไปถือหุ้นในธนาคารกลางของโลกทั้งนั้นแหละ คือผู้มีอำนาจควบคุมโลกตัวจริง เป็นผู้สร้างผู้ปกครองผู้บริหารประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ ใครมันจะทำอะไรได้ถ้าไม่มีเงิน เงินเท่านั้น ที่มนุษย์ทั่วไปมองเห็นและให้ความเคารพนับถือ เชื่อ ใช้ บูชา ทุนคืออำนาจ อำนาจคือทุน จริงหรือไม่ ที่ว่าไม่กี่ตระกูลที่ครองโลกอยู่ขณะนี้เป็นใครบ้างล่ะ มารู้จักชื่อแซ่พระเจ้าเงินตรากันหน่อย เขาว่ามี 8 ตระกูล หรือกลุ่ม หรือก๊วน แล้วแต่จะเรียก 4 ก๊วนอยู่ทางฝั่งอเมริกา อีก 4 อยู่ทางอังกฤษและยุโรป ฝั่งอเมริกา – Goldman Sachs – Rockefellers – Lehman of New York – Kuhn Loebs of New York ฝั่งอังกฤษและยุโรป – Rothschilds of Paris, London – Warburg of Hamburg – Lazards of Paris – Israel Moses Seifs of Rome กว่าจะมาเป็น 8 ก๊วนคนโคตรรวย เขาผ่านการหักหลัง หักคอ ควบรวม ไปจนถึงคลุมถุงให้แต่งงาน เพื่อจะรักษาความรวยและเลือดเนื้อ เชื้อไข คนรวย ให้อยู่แต่ในกลุ่มก้อนเดียวกัน ส่วน BIS ซึ่งเป็นธนาคารกลางตัวแม่ มีอิทธิพลสูงสุด ควบคุมธนาคารเกือบทั้งหมดในประเทศ แถบตะวันตก และประเทศที่กำลังพัฒนา (อย่างเราๆ ) ก็ถือหุ้นโดย Federal Reserve (ของอเมริกา), Bank of England, Bank of Italy, Bank of Canada, Swiss National Bank, Nederlandsche Bank, Bundesbank และ Bank of France โดยมี 8 ก๊วนคนโคตรรวย ต่างถือหุ้นใน 8 ธนาคารกลางดังกล่าวอีกต่อหนึ่ง ประธาน BIS คนแรกคือ นาย Gates McGarrah ซึ่งมาจาก Chase Manhatton Bank ของตระกูล Rockefeller และเป็นเจ้าหน้าที่ของ Federal Reserve ด้วย นาย McGarrah นี้ เป็นปู่ของนาย Richard McGarrah Helmes หัวหน้า CIA ตัวใหญ่ สมัย ค.ศ.1966-1973 รัฐบาลอเมริกาเอง ในประวัติศาสตร์ก็ขยาด BIS และพยายามที่จะล้ม BIS มาแล้ว ในการประชุมที่ Bretton Woods เมื่อปี ค.ศ.1944 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ถูก 8 ก๊วนโคตรรวยจับมือกันป่วน นอกจากล้ม BIS ไม่ได้แล้ว 8 ก๊วน ยังท้าทายด้วยการตั้ง IMF และ World Bank ตามแผนของพวกเขา เพื่อสั่งสอนรัฐบาลอเมริกันอีก BIS ถือ 10% ของเงินสำรอง (Reserves) ในประมาณ 80 ธนาคารกลางทั่วโลก รวมทั้งใน IMF และสถาบันการเงินนานาชาติอีกหลายแห่ง BIS นอกจากเป็นแม่ใหญ่ของธนาคารกลางของ 8 ก๊วนแล้ว ยังแอบทำกิจกรรมสำคัญด้วยคือ เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการเงินและเศรษฐกิจของทั้งโลก (รู้มากที่สุด ได้เปรียบมากที่สุด) และเป็นแหล่งเงินกู้ให้ธนาคารพาณิชย์กู้ ในเวลาวิกฤติเพื่อไม่ให้สถาบันการเงินโลกล้มระเนระนาดด้วย ยังมีข้อมูลน่าศึกษาเกี่ยวกับ BIS อีกแยะ วันนี้เอาแค่ให้เห็นภาพกว้างๆ ก่อน คนเล่านิทาน 30 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 5 – สร้างพระเจ้าองค์ใหม่
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 5 : สร้างพระเจ้าองค์ใหม่
    หลัง Anglo American Establishment กอดคอจับมือกันชัดเจน เมื่อประมาณ ค.ศ.1890 ทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมกันสร้างกลไก สร้างระบบด้านการเงินการธนาคารเป็นอันดับแรก เพื่อเอาตัวเองนำหน้าชักใยรัฐบาล และลดบทบาทของประเทศ
    ระบบธนาคารกลาง เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ.1694 ที่อังกฤษ เป็นการรวมตัวกันของ เครือข่ายธนาคารกลางนานาชาติ ซึ่งไม่ได้เป็นของรัฐ แต่เป็นของเอกชน ! มีผู้ถือหุ้นเป็นเอกชนคนโคตรรวย ธนาคารกลางนี้เป็นผู้อนุญาตให้ รัฐบาล (จำกันให้ดี เงินเป็นใหญ่กว่ารัฐบาล มาตั้งแต่ ค.ศ.1694 แล้ว !) ในการพิมพ์ธนบัตร เงินสกุลต่างๆ ของแต่ละประเทศ โดยอนุญาตให้กำหนดอัตราดอกเบี้ย และทำกำไรจากดอกเบี้ยนั้น ธนาคารกลางเหล่านี้ เป็นผู้ให้เงินกู้แก่รัฐบาล และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม เท่ากับควบคุมลูกค้าใหญ่ 2 กลุ่ม 2 ขาของประเทศไปพร้อมๆ กัน ต่อมาภายหลังประมาณ ปี ค.ศ.1930 ธนาคารกลางเหล่านี้ พร้อมใจกันอยู่ในระบบที่พวกตัว เองสร้างขึ้น เรียกว่า Bank for International Settlements (BIS) ตั้งอยู่ที่เมือง Basle ในสวิสเซอร์แลนด์ เป็นธนาคารของเอกชนเช่นเดียวกัน ทำหน้าที่เป็นธนาคารกลางของเหล่าสมาชิกซึ่งเป็นธนาคารกลางต่างๆ (เขียนแล้วมึนเอง คนอ่านก็คงมึน) เอาแบบง่ายๆ BIS ธนาคารกลางตัวแม่นี้ถือหุ้นโดย ธนาคารกลางตัว ลูกๆ ทั้งหลาย ธนาคารกลางตัวลูกก็ถือหุ้นโดยพวกเอกชนคนโคตรรวยอีกต่อหนึ่ง สรุปว่า พวกคนรวยลงทุนลงขันกันเอง เพื่อตั้งธนาคารกลาง และไม่ให้ใครมายุ่ง เขาดูแลเงินของเขากันเอง ตั้งกฎกติกาเอง โดยให้แม่ BIS คุม รัฐบาลได้แต่ทำตาปริบๆ ดู หน้าจ๋อย มือกุม ก้มหน้า รับคำสั่งรับอำนาจมาจากคนรวยอีกทีหนึ่ง เข้าใจไหม คนรวยใหญ่กว่ารัฐบาล ถึงพูดกันว่าเงินเป็นพระเจ้า
    ระบบธนาคารกลางนี้ หลังจากเกิดขึ้นครั้งแรกที่ London ไปได้สวย คนรวยติดใจ จึงขยายตัวข้ามมาในทวีปยุโรปตะวันตก และกระจายทั่วไปในทวีปยุโรป การปฏิวัติในฝรั่งเศส ทำให้นโปเลียนขึ้นมามีอำนาจ และยอมให้บรรดานายทุนที่รวมตัวกันให้เงินกู้นโปเลียนไปทำการปฏิวัตินั่นแหละ จับมือร่วมกันจัดตั้งธนาคารในฝรั่งเศสขึ้น เป็นธนาคารส่วนบุคคล ที่พวกนายทุนนี้ควบคุมกันเอง รัฐบาลไม่เกี่ยว ธนาคารนี้เป็นต้นกำเนิดของตระกูลโคตรรวยทางฝั่งยุโรป คือ ตระกูล Rothshilds ชาวยิวในยุโรป ซึ่งขยายธุรกิจการเงินของตระกูล โดยการตั้งธนาคารใน London, Paris, Frankfurt, Vienna และ Naples ทำให้ตระกูลนี้ยิ่งรวยเละขึ้นไปอีก และยิ่งรวยเพิ่มขึ้น จากการไปถือหางทุกฝ่ายในการรบทุกครั้งของนโปเลียน (ต้นกำเนิดของการถือไพ่ทุกใบในการต่อสู้ มีเงินซื้อไพ่ทุกใบ มีไพ่ให้เลือกเล่นแยะ เล่นยังไงก็ชนะ ยกเว้นโคตรโง่ หรือ โคตรเลว จนเทวดาบอกมีเงินมากมายมหาศาลแค่ไหนก็ช่วยอะไรพวกเจ้าไม่ได้ ตัวอย่างกำลังมีให้เห็นในบ้านเรา !)
    นาย Carroll Quigley นักประวัติศาสตร์ นักทฤษฎี เจ้าความคิดกำเนิดแห่งศิวิไลย์ของมนุษยชาติ แห่งมหาวิทยาลัย Georgetown เขียนไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งบรรดาสาวกทั้งหลายถือเป็นคัมภีร์ ชื่อ Tragedy and Hope บอกว่าในช่วง ค.ศ.18101850 พวกวาณิชธนกิจใน London ได้สร้าง ธนาคารแห่งอังกฤษ (Bank of England) ตลาดหุ้นและตลาดเงินแห่ง London และไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็ขยายธุรกิจ โดยการสร้างธนาคารย่อยในระดับเมือง ต่างๆ ดำเนินกิจการ ในรูปแบบของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารออมสิน รวมทั้งทำธุรกิจประกันภัย ธุรกิจ 3 อย่างนี้ มันหมุนเงิน สร้างเงินในตัวของมันเองตามวงจร เขาจึงรวมธุรกิจพวกนี้ไว้ด้วยกัน ในระดับที่ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนเป็นระดับระหว่างประเทศ จากเมืองไปสู่ประเทศ และด้วยวิธีนี้พวกเขาสามารถชักใย ควบคุมการไหลเข้าออก ของเงินระหว่างประเทศ แน่นอนการดำเนินการแบบนี้ ถึงแม้ในบางครั้งอาจจะควบคุมไม่ได้เบ็ดเสร็จ แต่ก็เรียกว่ามีอิทธิพล เหนือทั้งรัฐบาลและธุรกิจอุตสาหกรรม เงินไม่มี กิจการต่างๆไม่ว่าทางการเมืองหรือธุรกิจก็เป็นง่อยเรียบร้อย ตรงไปตรงมา ไม่ต้องฉลาดมากก็คิดได้ ขอให้มีเงินไว้ก่อน !
    ในขณะเดียวกัน ทางอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก ในอเมริกาก็มีการรวมตัวของกลุ่มธนาคารและธุรกิจอุตสาหกรรมในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน โดยพวก Morgans, Astors, Vanderbilts, Rockefellers และ Carnegies กลุ่มทุนพวกนี้ก็เริ่มครอบงำอุตสาหกรรมทั้งหมด ตลอดศตวรรษที่ 19 และต่อมาผลประโยชน์ของนายทุนทั้ง 2 ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคก็เชื่อมโยงกัน คนมีเงินก็ย่อมเลือกที่จะคบกับคนมีเงินด้วยกัน Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น
    คนรวยมีเงินแล้วก็อยากมีอำนาจ เป็นโรคเดียวกันทั้งนั้น ไม่มีใครต่างกัน กลับมาดูคนรวยที่อังกฤษ พวกคนรวยในอังกฤษเริ่มจับกลุ่มรวมตัวกัน เพื่อแสดงอิทธิพลของตนในระดับชาติ ช่วงนั้นนักล่าแถบนั้น กำลังรุมทิ้งเหยื่ออยู่แถวอาฟริกา ซึ่งเกือบทุกประเทศในอาฟริกา ยกเว้นเอธิโอเปีย ตกเป็นอาณานิคมของนักล่าผมทองจากอังกฤษและยุโรปทั้งสิ้น นักล่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้นคือ นาย Cecil Rhodes นักล่าชาวอังกฤษเป็นคนลงไม้ลงมือล่า แต่กระเป๋าที่อุดหนุนให้เขาปฏิบัติการล่า คือ ตระกูล Rothshilds ซึ่งในช่วงนั้น เป็นแหล่งเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก นาย Cecil Rhodes เป็นคนสุดโต่งอีกคนหนึ่ง เขามองว่าอเมริกายังเป็นอาณานิ คมของจักรภพอังกฤษอยู่ จะปล่อยให้มาทำท่ารวยยะโส เดินหน้าเชิด เทียบชั้นกับอังกฤษ เจ้านายเก่าแบบนี้น่ะ มันจะมากไปหน่อยไหม นาย Rhodes มองตัวเองไม่ใช่แค่เป็นนักล่าเงินรางวัล แต่เขาเป็นนักสร้างอาณาจักร empire builder อย่าลืมเขาสร้างเมือง Rhodesia ในอาฟริกา ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Zimbabwe
    Carroll Quigley เล่าต่อไปว่า ค.ศ.1891 คนโคตรรวยอังกฤษ 3 หนุ่ม แอบพบกัน เพื่อสมคบกันสร้างสมาคมลับ 3 หนุ่มคือนาย Cecil Rhodes, William T. Stead พี่เบิ้มแห่งวงการหนังสือพิมพ์สมัยนั้น (น่าสังเกตว่า ถ้าจะทำอะไรให้ดังต้องมีสื่อยักษ์มาร่วม มิน่าเล่า มันถึงอยากเป็นสื่อใหญ่กันทั้งนั้น ถีบตัวเองขึ้นมา จนลืมจรรยาบรรณ ฐานันดรที่ 4) และนาย Reginald Baliol Brett ซึ่งเป็นพระสหายผู้ได้รับความไว้วางใจ จากพระราชินีวิกตอเรีย แห่งจักรภพอังกฤษ และต่อมาก็ได้เป็นที่ปรึกษาผู้ มีอิทธิพลต่อพระเจ้า Edward ที่ 7 และพระเจ้า George ที่ 5 ปู่ของพระราชินีElizabeth ที่ 2 ของอังกฤษคนปัจจุบัน สมาคมลับนี้มีนาย Rhodes เป็นหัวหน้า และพระอันดับอีก 3 คน คือ นาย Stead, นาย Brett และคนสุดท้ายแต่มาแรง คือ นาย Alfred Milner
    วัตถุประสงค์ของสมาคมลับนี้ ซึ่งต่อไปจะนำฝูงโดยนาย Alfred Milner คือจัดการให้อังกฤษปกครองไปทั่วโลก ด้วยระบบของอังกฤษ ไม่ว่าจะในด้านปกครองประชาชนหรือทำการค้า พูดให้ชัด เป้าหมายคือจัดการให้อเมริกากลับมาอยู่ในอาณานิคมของอังกฤษ ใช้ระบบอังกฤษดำเนินชีวิต และอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม Rothshilds และกลุ่มธนาคารต่างๆ เต็มที่อย่างลับๆ
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 5 – สร้างพระเจ้าองค์ใหม่ นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 5 : สร้างพระเจ้าองค์ใหม่ หลัง Anglo American Establishment กอดคอจับมือกันชัดเจน เมื่อประมาณ ค.ศ.1890 ทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมกันสร้างกลไก สร้างระบบด้านการเงินการธนาคารเป็นอันดับแรก เพื่อเอาตัวเองนำหน้าชักใยรัฐบาล และลดบทบาทของประเทศ ระบบธนาคารกลาง เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ.1694 ที่อังกฤษ เป็นการรวมตัวกันของ เครือข่ายธนาคารกลางนานาชาติ ซึ่งไม่ได้เป็นของรัฐ แต่เป็นของเอกชน ! มีผู้ถือหุ้นเป็นเอกชนคนโคตรรวย ธนาคารกลางนี้เป็นผู้อนุญาตให้ รัฐบาล (จำกันให้ดี เงินเป็นใหญ่กว่ารัฐบาล มาตั้งแต่ ค.ศ.1694 แล้ว !) ในการพิมพ์ธนบัตร เงินสกุลต่างๆ ของแต่ละประเทศ โดยอนุญาตให้กำหนดอัตราดอกเบี้ย และทำกำไรจากดอกเบี้ยนั้น ธนาคารกลางเหล่านี้ เป็นผู้ให้เงินกู้แก่รัฐบาล และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม เท่ากับควบคุมลูกค้าใหญ่ 2 กลุ่ม 2 ขาของประเทศไปพร้อมๆ กัน ต่อมาภายหลังประมาณ ปี ค.ศ.1930 ธนาคารกลางเหล่านี้ พร้อมใจกันอยู่ในระบบที่พวกตัว เองสร้างขึ้น เรียกว่า Bank for International Settlements (BIS) ตั้งอยู่ที่เมือง Basle ในสวิสเซอร์แลนด์ เป็นธนาคารของเอกชนเช่นเดียวกัน ทำหน้าที่เป็นธนาคารกลางของเหล่าสมาชิกซึ่งเป็นธนาคารกลางต่างๆ (เขียนแล้วมึนเอง คนอ่านก็คงมึน) เอาแบบง่ายๆ BIS ธนาคารกลางตัวแม่นี้ถือหุ้นโดย ธนาคารกลางตัว ลูกๆ ทั้งหลาย ธนาคารกลางตัวลูกก็ถือหุ้นโดยพวกเอกชนคนโคตรรวยอีกต่อหนึ่ง สรุปว่า พวกคนรวยลงทุนลงขันกันเอง เพื่อตั้งธนาคารกลาง และไม่ให้ใครมายุ่ง เขาดูแลเงินของเขากันเอง ตั้งกฎกติกาเอง โดยให้แม่ BIS คุม รัฐบาลได้แต่ทำตาปริบๆ ดู หน้าจ๋อย มือกุม ก้มหน้า รับคำสั่งรับอำนาจมาจากคนรวยอีกทีหนึ่ง เข้าใจไหม คนรวยใหญ่กว่ารัฐบาล ถึงพูดกันว่าเงินเป็นพระเจ้า ระบบธนาคารกลางนี้ หลังจากเกิดขึ้นครั้งแรกที่ London ไปได้สวย คนรวยติดใจ จึงขยายตัวข้ามมาในทวีปยุโรปตะวันตก และกระจายทั่วไปในทวีปยุโรป การปฏิวัติในฝรั่งเศส ทำให้นโปเลียนขึ้นมามีอำนาจ และยอมให้บรรดานายทุนที่รวมตัวกันให้เงินกู้นโปเลียนไปทำการปฏิวัตินั่นแหละ จับมือร่วมกันจัดตั้งธนาคารในฝรั่งเศสขึ้น เป็นธนาคารส่วนบุคคล ที่พวกนายทุนนี้ควบคุมกันเอง รัฐบาลไม่เกี่ยว ธนาคารนี้เป็นต้นกำเนิดของตระกูลโคตรรวยทางฝั่งยุโรป คือ ตระกูล Rothshilds ชาวยิวในยุโรป ซึ่งขยายธุรกิจการเงินของตระกูล โดยการตั้งธนาคารใน London, Paris, Frankfurt, Vienna และ Naples ทำให้ตระกูลนี้ยิ่งรวยเละขึ้นไปอีก และยิ่งรวยเพิ่มขึ้น จากการไปถือหางทุกฝ่ายในการรบทุกครั้งของนโปเลียน (ต้นกำเนิดของการถือไพ่ทุกใบในการต่อสู้ มีเงินซื้อไพ่ทุกใบ มีไพ่ให้เลือกเล่นแยะ เล่นยังไงก็ชนะ ยกเว้นโคตรโง่ หรือ โคตรเลว จนเทวดาบอกมีเงินมากมายมหาศาลแค่ไหนก็ช่วยอะไรพวกเจ้าไม่ได้ ตัวอย่างกำลังมีให้เห็นในบ้านเรา !) นาย Carroll Quigley นักประวัติศาสตร์ นักทฤษฎี เจ้าความคิดกำเนิดแห่งศิวิไลย์ของมนุษยชาติ แห่งมหาวิทยาลัย Georgetown เขียนไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งบรรดาสาวกทั้งหลายถือเป็นคัมภีร์ ชื่อ Tragedy and Hope บอกว่าในช่วง ค.ศ.18101850 พวกวาณิชธนกิจใน London ได้สร้าง ธนาคารแห่งอังกฤษ (Bank of England) ตลาดหุ้นและตลาดเงินแห่ง London และไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็ขยายธุรกิจ โดยการสร้างธนาคารย่อยในระดับเมือง ต่างๆ ดำเนินกิจการ ในรูปแบบของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารออมสิน รวมทั้งทำธุรกิจประกันภัย ธุรกิจ 3 อย่างนี้ มันหมุนเงิน สร้างเงินในตัวของมันเองตามวงจร เขาจึงรวมธุรกิจพวกนี้ไว้ด้วยกัน ในระดับที่ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนเป็นระดับระหว่างประเทศ จากเมืองไปสู่ประเทศ และด้วยวิธีนี้พวกเขาสามารถชักใย ควบคุมการไหลเข้าออก ของเงินระหว่างประเทศ แน่นอนการดำเนินการแบบนี้ ถึงแม้ในบางครั้งอาจจะควบคุมไม่ได้เบ็ดเสร็จ แต่ก็เรียกว่ามีอิทธิพล เหนือทั้งรัฐบาลและธุรกิจอุตสาหกรรม เงินไม่มี กิจการต่างๆไม่ว่าทางการเมืองหรือธุรกิจก็เป็นง่อยเรียบร้อย ตรงไปตรงมา ไม่ต้องฉลาดมากก็คิดได้ ขอให้มีเงินไว้ก่อน ! ในขณะเดียวกัน ทางอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก ในอเมริกาก็มีการรวมตัวของกลุ่มธนาคารและธุรกิจอุตสาหกรรมในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน โดยพวก Morgans, Astors, Vanderbilts, Rockefellers และ Carnegies กลุ่มทุนพวกนี้ก็เริ่มครอบงำอุตสาหกรรมทั้งหมด ตลอดศตวรรษที่ 19 และต่อมาผลประโยชน์ของนายทุนทั้ง 2 ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคก็เชื่อมโยงกัน คนมีเงินก็ย่อมเลือกที่จะคบกับคนมีเงินด้วยกัน Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น คนรวยมีเงินแล้วก็อยากมีอำนาจ เป็นโรคเดียวกันทั้งนั้น ไม่มีใครต่างกัน กลับมาดูคนรวยที่อังกฤษ พวกคนรวยในอังกฤษเริ่มจับกลุ่มรวมตัวกัน เพื่อแสดงอิทธิพลของตนในระดับชาติ ช่วงนั้นนักล่าแถบนั้น กำลังรุมทิ้งเหยื่ออยู่แถวอาฟริกา ซึ่งเกือบทุกประเทศในอาฟริกา ยกเว้นเอธิโอเปีย ตกเป็นอาณานิคมของนักล่าผมทองจากอังกฤษและยุโรปทั้งสิ้น นักล่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้นคือ นาย Cecil Rhodes นักล่าชาวอังกฤษเป็นคนลงไม้ลงมือล่า แต่กระเป๋าที่อุดหนุนให้เขาปฏิบัติการล่า คือ ตระกูล Rothshilds ซึ่งในช่วงนั้น เป็นแหล่งเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก นาย Cecil Rhodes เป็นคนสุดโต่งอีกคนหนึ่ง เขามองว่าอเมริกายังเป็นอาณานิ คมของจักรภพอังกฤษอยู่ จะปล่อยให้มาทำท่ารวยยะโส เดินหน้าเชิด เทียบชั้นกับอังกฤษ เจ้านายเก่าแบบนี้น่ะ มันจะมากไปหน่อยไหม นาย Rhodes มองตัวเองไม่ใช่แค่เป็นนักล่าเงินรางวัล แต่เขาเป็นนักสร้างอาณาจักร empire builder อย่าลืมเขาสร้างเมือง Rhodesia ในอาฟริกา ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Zimbabwe Carroll Quigley เล่าต่อไปว่า ค.ศ.1891 คนโคตรรวยอังกฤษ 3 หนุ่ม แอบพบกัน เพื่อสมคบกันสร้างสมาคมลับ 3 หนุ่มคือนาย Cecil Rhodes, William T. Stead พี่เบิ้มแห่งวงการหนังสือพิมพ์สมัยนั้น (น่าสังเกตว่า ถ้าจะทำอะไรให้ดังต้องมีสื่อยักษ์มาร่วม มิน่าเล่า มันถึงอยากเป็นสื่อใหญ่กันทั้งนั้น ถีบตัวเองขึ้นมา จนลืมจรรยาบรรณ ฐานันดรที่ 4) และนาย Reginald Baliol Brett ซึ่งเป็นพระสหายผู้ได้รับความไว้วางใจ จากพระราชินีวิกตอเรีย แห่งจักรภพอังกฤษ และต่อมาก็ได้เป็นที่ปรึกษาผู้ มีอิทธิพลต่อพระเจ้า Edward ที่ 7 และพระเจ้า George ที่ 5 ปู่ของพระราชินีElizabeth ที่ 2 ของอังกฤษคนปัจจุบัน สมาคมลับนี้มีนาย Rhodes เป็นหัวหน้า และพระอันดับอีก 3 คน คือ นาย Stead, นาย Brett และคนสุดท้ายแต่มาแรง คือ นาย Alfred Milner วัตถุประสงค์ของสมาคมลับนี้ ซึ่งต่อไปจะนำฝูงโดยนาย Alfred Milner คือจัดการให้อังกฤษปกครองไปทั่วโลก ด้วยระบบของอังกฤษ ไม่ว่าจะในด้านปกครองประชาชนหรือทำการค้า พูดให้ชัด เป้าหมายคือจัดการให้อเมริกากลับมาอยู่ในอาณานิคมของอังกฤษ ใช้ระบบอังกฤษดำเนินชีวิต และอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม Rothshilds และกลุ่มธนาคารต่างๆ เต็มที่อย่างลับๆ คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 4 – ทองห่อผ้าขี้ริ้ว
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 4 : ทองห่อผ้าขี้ริ้ว
    อำนาจคือทุน ทุนคืออำนาจ คาถาง่ายๆ สั้นๆ ท่องให้ฟังอยู่ในนิทานเกือบทุกเรื่อง โลกใบนี้ไม่ได้ซับซ้อนเกินเข้าใจ ความซับซ้อนถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้เหยื่อสับสนมึนงง แล้วจะได้ถูกล่าง่ายขึ้นต่างหาก
    การจะสร้างนักล่าหมายเลขหนึ่งขึ้นมาครองโลก แบบไม่มีใครกล้ามาท้าทาย ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ มันออกจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเพ้อฝันเสียด้วยซ้ำ แต่มันมีคนคิดจริง ขบวนการสร้างนักล่า ใช้เวลาทั้งหมดกว่า 100 ปี เริ่มตั้งแต่ประมาณ ปี ค.ศ.1890 คนคิดสร้างไม่ได้คิดเล่นๆ เขาคิดจริง ทำจริง อดทน วางแผน เป็นขั้นเป็นตอน และที่สำคัญคนคิดนอกจากมีทุนหนามหึมาแล้ว มันต้องมีความบ้าเต็มขั้น มีความอยากทะเยอทะยานเต็มร้อย บวกกับความเหี้ยมโหด อีกไม่รู้กี่พันเท่า มันถึงจะทำได้
    มันเป็นความคิดของพวกนายทุนที่เป็นเจ้าของ และมีอำนาจเหนือธนาคารกลาง และตลาดหุ้น ตลาดทุนที่ Wall Street และ London ไม่กี่ตระกูล ที่หวังจะจัดระเบียบโลกใหม่อย่างที่เขาต้องการ เป็นโลกที่ควบคุมด้วยเงิน ด้วยระบบการเงินที่พวกเขาวางแผนคิดสร้างมานั้น จะทำให้พวกเขาเป็นผู้ควบคุมชักใย รัฐบาล กองทัพ และประชาชนอีกต่อหนึ่งไม่ว่าเป็นชนชาติใด โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือการครองโลก และจัดระเบียบโลกใหม่
    มันไม่ง่ายนักหรอก แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของพวกเขา พวกเขาคิดว่าถ้าเราสามารถสร้างระบบที่ให้เราเป็นผู้ สร้าง เงินได้ การควบคุมปริมาณและกระแสเงินของโลกนี้ ก็อยู่ในมือพวกเรา ระบบนี้จะทำงานไม่ต่างกับการควบคุมด้วยอาวุธ แต่มันเป็นอาวุธทางการเงิน
    New World Order จัดระเบียบโลกใหม่ Globalization โลกาภิวัฒน์เป็นหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ประมาณ 500 ปี มาแล้ว (นานแล้วครับ แต่ใช้เวลานานมาก กว่าสมันน้อยจะรู้เรื่อง) เรื่องราวมันย้อนไปตั้งแต่สมัยอเมริกายังถูกนับเป็นอาณานิคม อยู่ในอำนาจของอังกฤษ ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1600 กว่าประมาณนั้น อิทธิพลของอังกฤษครอบงำอเมริกาจนถึงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้อเมริกาจะทำสงครามกลางเมืองเหนือใต้เมื่อ ค.ศ.1861 – 1865 โดยฝ่ายเหนือมีอังกฤษสนับสนุน ฝ่ายใต้มีฝรั่งเศสสนับสนุน และอ้างว่าอังกฤษไม่สามารถจะกระทืบอเมริกาซ้ำได้ ต้องถอยกองทัพกลับไปก็ตาม แต่คราบของอังกฤษก็ยังคงครอบอเมริกาอยู่อย่างที่อเมริกาไม่รู้ตัวหรือแกล้งไม่รู้ตัว
    อิทธิพลของอังกฤษ ระบบของอังกฤษในด้านการค้าครอบงำอเมริกามาตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1700 แล้ว ก็พวกที่อพยพมาอยู่อเมริกาส่วนหนึ่ง (ไม่น้อย) ก็มาจากอังกฤษนั่นแหละ นอกจากพูดภาษาเดียวกันแล้ว อิทธิพลและวัฒนธรรม ผู้อพยพก็เก็บใส่กระเป๋าเอาติดมาด้วย
    ประมาณปี ค.ศ.1890 หลังอเมริกาปฏิวัติอุตสาหกรรม เกิดเศรษฐีใหม่ขึ้นมาหลายตระกูล ในอเมริกา เช่น Rockefeller, J.P Morgan, Astors, Vanderbits, Carnegies ฯลฯ
    อเมริกาจะเป็นคนรวยแบบไหนล่ะ แบบอินเดียนแดงเจ้าของถิ่นที่อเมริกาไล่ล่าเขา แล้วยึดเอาดินแดนเขามาหรือ ถ้างั้นก็ต้องเดินห้อยลูกปัด เอาขนนกติดหัว แน่นอนอเมริกาไม่เอาหรอกอเมริกาต้องเลือกเป็นคนรวยแบบที่ผู้ดีอังกฤษเขาเป็นกัน แบบที่อเมริกาแอบนับถือปนเกรงกลัวและอิจฉา เพราะรู้สึกด้อยกว่าเขา จึงต้องอพยพมาก่อร่างสร้างตัวในดินแดนใหม่นั่นแหละ ระบบอังกฤษจึงยังครอบงำอเมริกาในหลายๆ รูปแบบ ไม่มากก็น้อย จนถึงทุกวันนี้
    เมื่อคนอเมริกันเริ่มรวย รวยพอที่จะเดินเชิดหน้าในสังคมโลก ก็เริ่มทำการค้าแบบคนอังกฤษ ในระบบอังกฤษ โดยเฉพาะด้านการเงิน และการอุตสาหกรรม ประมาณปี ค.ศ.1890 การร่วมมือ รวมลงทุนระหว่างคนรวยฝั่งอเมริกากับฝั่งอังกฤษก็เริ่มเพิ่มขึ้น Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น แนวคิดที่จะครองโลกร่วมกัน จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้น
    อังกฤษรู้อยู่แก่ใจว่า วันหนึ่งดวงอาทิตย์ต้องตกดินในดินแดนที่ เคย เป็นอาณานิคมของตัว จะอุ้มจะแบกอาณานิคมไปตลอดกาล เป็นไปไม่ได้ อังกฤษเองไม่มีทรัพยากรของตัวเอง เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ที่แผ่ไพศาลมาได้ขนาดนี้ ก็ต้องชื่นชมในความตะกรามทยานอยากได้อย่างสุดขีด แล้วจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นประวัติศาสตร์ หลุดมือไปหมดกระนั้นหรือ อังกฤษเป็นนักล่ารุ่นเก๋า ย่อมมองเห็น ใครจะขึ้นมาเป็นนักล่ารุ่นใหม่ ดูท่วงทีลีลาของนักล่ารุ่นใหม่แล้ว แยกกันเดินคงเหนื่อย ร่วมกันเดินหลอกชาวบ้านน่าจะรุ่งกว่า ว่าแล้วคนรวย 2 ฝากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกก็จับมือกัน แท้จริงแล้วใครนำใคร ใครหลอกใคร เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูไปอีกนาน น่าสนใจอย่างยิ่งจนถึงทุกวันนี้ ย้ำ จนถึงทุกวันนี้ !
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 4 – ทองห่อผ้าขี้ริ้ว นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 4 : ทองห่อผ้าขี้ริ้ว อำนาจคือทุน ทุนคืออำนาจ คาถาง่ายๆ สั้นๆ ท่องให้ฟังอยู่ในนิทานเกือบทุกเรื่อง โลกใบนี้ไม่ได้ซับซ้อนเกินเข้าใจ ความซับซ้อนถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้เหยื่อสับสนมึนงง แล้วจะได้ถูกล่าง่ายขึ้นต่างหาก การจะสร้างนักล่าหมายเลขหนึ่งขึ้นมาครองโลก แบบไม่มีใครกล้ามาท้าทาย ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ มันออกจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเพ้อฝันเสียด้วยซ้ำ แต่มันมีคนคิดจริง ขบวนการสร้างนักล่า ใช้เวลาทั้งหมดกว่า 100 ปี เริ่มตั้งแต่ประมาณ ปี ค.ศ.1890 คนคิดสร้างไม่ได้คิดเล่นๆ เขาคิดจริง ทำจริง อดทน วางแผน เป็นขั้นเป็นตอน และที่สำคัญคนคิดนอกจากมีทุนหนามหึมาแล้ว มันต้องมีความบ้าเต็มขั้น มีความอยากทะเยอทะยานเต็มร้อย บวกกับความเหี้ยมโหด อีกไม่รู้กี่พันเท่า มันถึงจะทำได้ มันเป็นความคิดของพวกนายทุนที่เป็นเจ้าของ และมีอำนาจเหนือธนาคารกลาง และตลาดหุ้น ตลาดทุนที่ Wall Street และ London ไม่กี่ตระกูล ที่หวังจะจัดระเบียบโลกใหม่อย่างที่เขาต้องการ เป็นโลกที่ควบคุมด้วยเงิน ด้วยระบบการเงินที่พวกเขาวางแผนคิดสร้างมานั้น จะทำให้พวกเขาเป็นผู้ควบคุมชักใย รัฐบาล กองทัพ และประชาชนอีกต่อหนึ่งไม่ว่าเป็นชนชาติใด โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือการครองโลก และจัดระเบียบโลกใหม่ มันไม่ง่ายนักหรอก แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของพวกเขา พวกเขาคิดว่าถ้าเราสามารถสร้างระบบที่ให้เราเป็นผู้ สร้าง เงินได้ การควบคุมปริมาณและกระแสเงินของโลกนี้ ก็อยู่ในมือพวกเรา ระบบนี้จะทำงานไม่ต่างกับการควบคุมด้วยอาวุธ แต่มันเป็นอาวุธทางการเงิน New World Order จัดระเบียบโลกใหม่ Globalization โลกาภิวัฒน์เป็นหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ประมาณ 500 ปี มาแล้ว (นานแล้วครับ แต่ใช้เวลานานมาก กว่าสมันน้อยจะรู้เรื่อง) เรื่องราวมันย้อนไปตั้งแต่สมัยอเมริกายังถูกนับเป็นอาณานิคม อยู่ในอำนาจของอังกฤษ ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1600 กว่าประมาณนั้น อิทธิพลของอังกฤษครอบงำอเมริกาจนถึงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้อเมริกาจะทำสงครามกลางเมืองเหนือใต้เมื่อ ค.ศ.1861 – 1865 โดยฝ่ายเหนือมีอังกฤษสนับสนุน ฝ่ายใต้มีฝรั่งเศสสนับสนุน และอ้างว่าอังกฤษไม่สามารถจะกระทืบอเมริกาซ้ำได้ ต้องถอยกองทัพกลับไปก็ตาม แต่คราบของอังกฤษก็ยังคงครอบอเมริกาอยู่อย่างที่อเมริกาไม่รู้ตัวหรือแกล้งไม่รู้ตัว อิทธิพลของอังกฤษ ระบบของอังกฤษในด้านการค้าครอบงำอเมริกามาตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1700 แล้ว ก็พวกที่อพยพมาอยู่อเมริกาส่วนหนึ่ง (ไม่น้อย) ก็มาจากอังกฤษนั่นแหละ นอกจากพูดภาษาเดียวกันแล้ว อิทธิพลและวัฒนธรรม ผู้อพยพก็เก็บใส่กระเป๋าเอาติดมาด้วย ประมาณปี ค.ศ.1890 หลังอเมริกาปฏิวัติอุตสาหกรรม เกิดเศรษฐีใหม่ขึ้นมาหลายตระกูล ในอเมริกา เช่น Rockefeller, J.P Morgan, Astors, Vanderbits, Carnegies ฯลฯ อเมริกาจะเป็นคนรวยแบบไหนล่ะ แบบอินเดียนแดงเจ้าของถิ่นที่อเมริกาไล่ล่าเขา แล้วยึดเอาดินแดนเขามาหรือ ถ้างั้นก็ต้องเดินห้อยลูกปัด เอาขนนกติดหัว แน่นอนอเมริกาไม่เอาหรอกอเมริกาต้องเลือกเป็นคนรวยแบบที่ผู้ดีอังกฤษเขาเป็นกัน แบบที่อเมริกาแอบนับถือปนเกรงกลัวและอิจฉา เพราะรู้สึกด้อยกว่าเขา จึงต้องอพยพมาก่อร่างสร้างตัวในดินแดนใหม่นั่นแหละ ระบบอังกฤษจึงยังครอบงำอเมริกาในหลายๆ รูปแบบ ไม่มากก็น้อย จนถึงทุกวันนี้ เมื่อคนอเมริกันเริ่มรวย รวยพอที่จะเดินเชิดหน้าในสังคมโลก ก็เริ่มทำการค้าแบบคนอังกฤษ ในระบบอังกฤษ โดยเฉพาะด้านการเงิน และการอุตสาหกรรม ประมาณปี ค.ศ.1890 การร่วมมือ รวมลงทุนระหว่างคนรวยฝั่งอเมริกากับฝั่งอังกฤษก็เริ่มเพิ่มขึ้น Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น แนวคิดที่จะครองโลกร่วมกัน จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้น อังกฤษรู้อยู่แก่ใจว่า วันหนึ่งดวงอาทิตย์ต้องตกดินในดินแดนที่ เคย เป็นอาณานิคมของตัว จะอุ้มจะแบกอาณานิคมไปตลอดกาล เป็นไปไม่ได้ อังกฤษเองไม่มีทรัพยากรของตัวเอง เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ที่แผ่ไพศาลมาได้ขนาดนี้ ก็ต้องชื่นชมในความตะกรามทยานอยากได้อย่างสุดขีด แล้วจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นประวัติศาสตร์ หลุดมือไปหมดกระนั้นหรือ อังกฤษเป็นนักล่ารุ่นเก๋า ย่อมมองเห็น ใครจะขึ้นมาเป็นนักล่ารุ่นใหม่ ดูท่วงทีลีลาของนักล่ารุ่นใหม่แล้ว แยกกันเดินคงเหนื่อย ร่วมกันเดินหลอกชาวบ้านน่าจะรุ่งกว่า ว่าแล้วคนรวย 2 ฝากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกก็จับมือกัน แท้จริงแล้วใครนำใคร ใครหลอกใคร เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูไปอีกนาน น่าสนใจอย่างยิ่งจนถึงทุกวันนี้ ย้ำ จนถึงทุกวันนี้ ! คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • คดีแตงโมคืบหน้า 90% พบความน่าสงสัย!? : [THE MESSAGE]

    นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน และ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน คุณแม่แตงโม นำพยานเอกสารเพิ่มซึ่งได้จากศาลจังหวัดนนทบุรี มอบให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนคดีแตงโม โดยนายปานเทพ เผย เอกสารที่นำมามอบให้ อาทิ วัตถุพยานโจทก์-จำเลยอ้างส่ง 14 ชิ้น, หนังสือนำส่งวัตถุพยาน สำเนารายงานผลการตรวจชันสูตรศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยได้คัดมาเกือบทั้งหมดขาดเพียง 3 ชิ้น ด้านคุณแม่แตงโม เผย ยังคิดถึงลูกสาวยังพูดกับน้องทุกวัน เชื่อน้องโดนสะกดวิญญาณอยู่ที่วัดค้างคาว อีกไม่กี่วันจะเป็นวันเกิดของน้องโมจะทำบุญให้ลูก ความหวังของแม่ตอนนี้อยู่ที่พยานเอกสารเหล่านี้ทั้งหมด อยากรู้ว่าใครทำลูกเรา หากทำจริงทำเพราะเหตุผลใด ขณะที่ พ.ต.ต.ณฐพล เผยความคืบหน้าสำนวนการสืบสวนมีถึง 90% ซึ่งได้ส่งภาพถ่ายสำคัญ 4 ภาพ ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบว่าภาพมีการแก้ไขดัดแปลงหรือไม่ สำหรับข้อมูลการกู้โทรศัพท์ของคุณแตงโมได้มาบางส่วนแล้ว แต่ได้ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจซ้ำอีก เตรียมลงพื้นที่อีกครั้งต้นเดือน ต.ค. นี้
    คดีแตงโมคืบหน้า 90% พบความน่าสงสัย!? : [THE MESSAGE] นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน และ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน คุณแม่แตงโม นำพยานเอกสารเพิ่มซึ่งได้จากศาลจังหวัดนนทบุรี มอบให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนคดีแตงโม โดยนายปานเทพ เผย เอกสารที่นำมามอบให้ อาทิ วัตถุพยานโจทก์-จำเลยอ้างส่ง 14 ชิ้น, หนังสือนำส่งวัตถุพยาน สำเนารายงานผลการตรวจชันสูตรศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยได้คัดมาเกือบทั้งหมดขาดเพียง 3 ชิ้น ด้านคุณแม่แตงโม เผย ยังคิดถึงลูกสาวยังพูดกับน้องทุกวัน เชื่อน้องโดนสะกดวิญญาณอยู่ที่วัดค้างคาว อีกไม่กี่วันจะเป็นวันเกิดของน้องโมจะทำบุญให้ลูก ความหวังของแม่ตอนนี้อยู่ที่พยานเอกสารเหล่านี้ทั้งหมด อยากรู้ว่าใครทำลูกเรา หากทำจริงทำเพราะเหตุผลใด ขณะที่ พ.ต.ต.ณฐพล เผยความคืบหน้าสำนวนการสืบสวนมีถึง 90% ซึ่งได้ส่งภาพถ่ายสำคัญ 4 ภาพ ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบว่าภาพมีการแก้ไขดัดแปลงหรือไม่ สำหรับข้อมูลการกู้โทรศัพท์ของคุณแตงโมได้มาบางส่วนแล้ว แต่ได้ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจซ้ำอีก เตรียมลงพื้นที่อีกครั้งต้นเดือน ต.ค. นี้
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 0 Reviews
  • ..โปรดเกล้าฯได้3วัน มันก็รีบคุยเรื่องเปิดด่าน
    ..วันที่7ก.ย.68 ,วันที่8,9,10 วันที่10มันคุยเปิดด่านเลย,
    ..สรุป ม.144 ลงหน้างานจริงเสียทีเถอะ เรา..ประชาชนรอนานพอแล้วเนปาลอาจเกิดที่ไทยได้, คดีฮั้วสว,คดีเขากระโดง ,คดียุบพรรคภูมิใจไทย ยุบพรรคเพื่อไทยท่านทำอะไรอยู่ อย่ากินเงินภาษีแผ่นดินนี้ให้หนักแผ่นดินเลย, เร่งเดินเรื่องเถอะ

    https://www.thaipbs.or.th/news/content/356256
    ..โปรดเกล้าฯได้3วัน มันก็รีบคุยเรื่องเปิดด่าน ..วันที่7ก.ย.68 ,วันที่8,9,10 วันที่10มันคุยเปิดด่านเลย, ..สรุป ม.144 ลงหน้างานจริงเสียทีเถอะ เรา..ประชาชนรอนานพอแล้วเนปาลอาจเกิดที่ไทยได้, คดีฮั้วสว,คดีเขากระโดง ,คดียุบพรรคภูมิใจไทย ยุบพรรคเพื่อไทยท่านทำอะไรอยู่ อย่ากินเงินภาษีแผ่นดินนี้ให้หนักแผ่นดินเลย, เร่งเดินเรื่องเถอะ https://www.thaipbs.or.th/news/content/356256
    WWW.THAIPBS.OR.TH
    โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "อนุทิน ชาญวีรกูล" เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "อนุทิน ชาญวีรกูล" เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • “พีระพันธุ์” ฝากรัฐบาลใหม่เดินหน้าสูตร Pool Gas ใหม่ – ย้ำ “ใครทำก็ได้ ขอให้ทำเพื่อประโยชน์ประชาชน”
    https://www.thai-tai.tv/news/21449/
    .
    #ไทยไท #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #ค่าไฟฟ้า #พลังงาน #PoolGas #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    “พีระพันธุ์” ฝากรัฐบาลใหม่เดินหน้าสูตร Pool Gas ใหม่ – ย้ำ “ใครทำก็ได้ ขอให้ทำเพื่อประโยชน์ประชาชน” https://www.thai-tai.tv/news/21449/ . #ไทยไท #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #ค่าไฟฟ้า #พลังงาน #PoolGas #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • #หนูชุดเปิดด่าน
    #ทีมเจรจาเปิดด่าน
    #ทหารไทยจะตายขาขาดก็ชั่งเปิดด่านไว้ก่อน.
    #แผ่นดินไทยไม่ได้คืนก็ชั่วเปิดด่านไว้ก่อน.
    #หนองจานเขมรยังอยู่ก็ชั่งเปิดด่านไว้ก่อน.
    #ยังขัดแย้งส่วนไหนก็ชั่งเปิดด่านไว้ก่อน
    #รัฐบาล10กันยาเปิดด่าน
    #รัฐบาล3วันทำการรีบเจรจาเปิดด่าน
    #รัฐบาล3วันเปิดด่าน



    https://youtube.com/shorts/qn9A9chpYwE?si=BflycKxA27fSjFn_
    #หนูชุดเปิดด่าน #ทีมเจรจาเปิดด่าน #ทหารไทยจะตายขาขาดก็ชั่งเปิดด่านไว้ก่อน. #แผ่นดินไทยไม่ได้คืนก็ชั่วเปิดด่านไว้ก่อน. #หนองจานเขมรยังอยู่ก็ชั่งเปิดด่านไว้ก่อน. #ยังขัดแย้งส่วนไหนก็ชั่งเปิดด่านไว้ก่อน #รัฐบาล10กันยาเปิดด่าน #รัฐบาล3วันทำการรีบเจรจาเปิดด่าน #รัฐบาล3วันเปิดด่าน https://youtube.com/shorts/qn9A9chpYwE?si=BflycKxA27fSjFn_
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • “Apple A19 Pro แรงทะลุเดสก์ท็อป — ชิป iPhone 17 Pro ใหม่ แซง Ryzen 9 ในการทดสอบแบบแกนเดียว”

    Apple ยังคงเดินหน้าสร้างความประหลาดใจในวงการชิปสมาร์ตโฟน ล่าสุดกับการเปิดตัว A19 Pro สำหรับ iPhone 17 Pro และ Pro Max ที่ไม่เพียงแค่แรงกว่า A18 Pro รุ่นก่อนหน้า แต่ยังสามารถเอาชนะชิปเดสก์ท็อประดับสูงอย่าง AMD Ryzen 9 9950X ได้ในการทดสอบแบบ single-thread บน Geekbench 6

    A19 Pro ใช้สถาปัตยกรรมแบบ 2P+4E (2 แกนประสิทธิภาพ + 4 แกนประหยัดพลังงาน) ความเร็วสูงสุด 4.26 GHz พร้อมปรับปรุง branch prediction และเพิ่ม front-end bandwidth ทำให้ประสิทธิภาพต่อรอบคำสั่งดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยคะแนน single-thread อยู่ที่ 3,895 ซึ่งสูงกว่า Ryzen 9 9950X ถึง 11.8% และสูงกว่า Apple M4 ถึง 5.3%

    ด้านกราฟิก A19 Pro ก็ไม่น้อยหน้า ด้วย GPU แบบ 6-cluster ที่ทำคะแนนได้ถึง 45,657 บน Geekbench Metal — เพิ่มขึ้นจาก A18 Pro ถึง 37% และใกล้เคียงกับ GPU ใน iPad Air รุ่น M2/M3 รวมถึง Radeon 890M ของ AMD

    แม้คะแนน multi-thread จะยังตามหลังชิปเดสก์ท็อปอย่าง Ryzen และ Core i9 แต่ก็ถือว่าแรงขึ้นจากรุ่นก่อนถึง 12% และเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปบนมือถือ โดย Apple ยังใช้เทคโนโลยีการผลิต N3P จาก TSMC ซึ่งช่วยเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์และลดการใช้พลังงานได้ถึง 10%

    ประสิทธิภาพของ A19 Pro
    คะแนน single-thread Geekbench 6 สูงถึง 3,895 — แซง Ryzen 9 9950X และ Apple M4
    คะแนน multi-thread อยู่ที่ 9,746 — เพิ่มขึ้น 12% จาก A18 Pro
    ใช้สถาปัตยกรรม 2P+4E ความเร็วสูงสุด 4.26 GHz พร้อม cache ใหญ่ขึ้น 50%
    ผลิตด้วยเทคโนโลยี N3P จาก TSMC — เพิ่มประสิทธิภาพและลดพลังงาน

    ประสิทธิภาพด้านกราฟิก
    GPU แบบ 6-cluster ทำคะแนน Metal ได้ 45,657 — เพิ่มขึ้น 37% จากรุ่นก่อน
    ความเร็วในการประมวลผลภาพ เช่น Gaussian Blur สูงถึง 3.53 Gpixels/sec
    ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ iPad Air รุ่น M2/M3 และ Radeon 890M
    รองรับงานหนัก เช่น depth-of-field, face detection, particle physics ได้ดี

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    A19 Pro ถูกใช้ใน iPhone 17 Pro และ Pro Max พร้อม vapor chamber cooling
    Apple เน้นการเพิ่ม IPC มากกว่าการเร่งความถี่สูงสุด
    ชิปนี้ยังไม่สามารถแซง Ryzen 9 หรือ Core i9 ในงาน multi-thread ได้
    เหมาะกับงานที่เน้นประสิทธิภาพต่อแกน เช่น เกม, AI inference, การตัดต่อ

    คำเตือนและข้อจำกัด
    คะแนน Geekbench ยังไม่สะท้อนประสิทธิภาพจริงในทุกแอปพลิเคชัน
    A19 Pro ยังตามหลัง Ryzen 9 และ Core i9 ในงาน multi-thread อย่างชัดเจน
    Apple ไม่เปิดเผยรายละเอียด GPU อย่างเป็นทางการ — ข้อมูลยังไม่สมบูรณ์
    การเพิ่มประสิทธิภาพจากรุ่นก่อนหน้าอยู่ที่ 11–12% ซึ่งน้อยกว่ารุ่นก่อน
    การเปรียบเทียบกับชิปเดสก์ท็อปต้องพิจารณบริบทการใช้งานที่ต่างกัน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/apples-a19-pro-beats-ryzen-9-9950x-in-single-thread-geekbench-tests-iphone-17-pro-chip-packs-11-12-percent-cpu-performance-bump-gpu-performance-up-37-percent-over-predecessor
    🚀 “Apple A19 Pro แรงทะลุเดสก์ท็อป — ชิป iPhone 17 Pro ใหม่ แซง Ryzen 9 ในการทดสอบแบบแกนเดียว” Apple ยังคงเดินหน้าสร้างความประหลาดใจในวงการชิปสมาร์ตโฟน ล่าสุดกับการเปิดตัว A19 Pro สำหรับ iPhone 17 Pro และ Pro Max ที่ไม่เพียงแค่แรงกว่า A18 Pro รุ่นก่อนหน้า แต่ยังสามารถเอาชนะชิปเดสก์ท็อประดับสูงอย่าง AMD Ryzen 9 9950X ได้ในการทดสอบแบบ single-thread บน Geekbench 6 A19 Pro ใช้สถาปัตยกรรมแบบ 2P+4E (2 แกนประสิทธิภาพ + 4 แกนประหยัดพลังงาน) ความเร็วสูงสุด 4.26 GHz พร้อมปรับปรุง branch prediction และเพิ่ม front-end bandwidth ทำให้ประสิทธิภาพต่อรอบคำสั่งดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยคะแนน single-thread อยู่ที่ 3,895 ซึ่งสูงกว่า Ryzen 9 9950X ถึง 11.8% และสูงกว่า Apple M4 ถึง 5.3% ด้านกราฟิก A19 Pro ก็ไม่น้อยหน้า ด้วย GPU แบบ 6-cluster ที่ทำคะแนนได้ถึง 45,657 บน Geekbench Metal — เพิ่มขึ้นจาก A18 Pro ถึง 37% และใกล้เคียงกับ GPU ใน iPad Air รุ่น M2/M3 รวมถึง Radeon 890M ของ AMD แม้คะแนน multi-thread จะยังตามหลังชิปเดสก์ท็อปอย่าง Ryzen และ Core i9 แต่ก็ถือว่าแรงขึ้นจากรุ่นก่อนถึง 12% และเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปบนมือถือ โดย Apple ยังใช้เทคโนโลยีการผลิต N3P จาก TSMC ซึ่งช่วยเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์และลดการใช้พลังงานได้ถึง 10% ✅ ประสิทธิภาพของ A19 Pro ➡️ คะแนน single-thread Geekbench 6 สูงถึง 3,895 — แซง Ryzen 9 9950X และ Apple M4 ➡️ คะแนน multi-thread อยู่ที่ 9,746 — เพิ่มขึ้น 12% จาก A18 Pro ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม 2P+4E ความเร็วสูงสุด 4.26 GHz พร้อม cache ใหญ่ขึ้น 50% ➡️ ผลิตด้วยเทคโนโลยี N3P จาก TSMC — เพิ่มประสิทธิภาพและลดพลังงาน ✅ ประสิทธิภาพด้านกราฟิก ➡️ GPU แบบ 6-cluster ทำคะแนน Metal ได้ 45,657 — เพิ่มขึ้น 37% จากรุ่นก่อน ➡️ ความเร็วในการประมวลผลภาพ เช่น Gaussian Blur สูงถึง 3.53 Gpixels/sec ➡️ ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ iPad Air รุ่น M2/M3 และ Radeon 890M ➡️ รองรับงานหนัก เช่น depth-of-field, face detection, particle physics ได้ดี ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ A19 Pro ถูกใช้ใน iPhone 17 Pro และ Pro Max พร้อม vapor chamber cooling ➡️ Apple เน้นการเพิ่ม IPC มากกว่าการเร่งความถี่สูงสุด ➡️ ชิปนี้ยังไม่สามารถแซง Ryzen 9 หรือ Core i9 ในงาน multi-thread ได้ ➡️ เหมาะกับงานที่เน้นประสิทธิภาพต่อแกน เช่น เกม, AI inference, การตัดต่อ ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ คะแนน Geekbench ยังไม่สะท้อนประสิทธิภาพจริงในทุกแอปพลิเคชัน ⛔ A19 Pro ยังตามหลัง Ryzen 9 และ Core i9 ในงาน multi-thread อย่างชัดเจน ⛔ Apple ไม่เปิดเผยรายละเอียด GPU อย่างเป็นทางการ — ข้อมูลยังไม่สมบูรณ์ ⛔ การเพิ่มประสิทธิภาพจากรุ่นก่อนหน้าอยู่ที่ 11–12% ซึ่งน้อยกว่ารุ่นก่อน ⛔ การเปรียบเทียบกับชิปเดสก์ท็อปต้องพิจารณบริบทการใช้งานที่ต่างกัน https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/apples-a19-pro-beats-ryzen-9-9950x-in-single-thread-geekbench-tests-iphone-17-pro-chip-packs-11-12-percent-cpu-performance-bump-gpu-performance-up-37-percent-over-predecessor
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • “เวียดนามสั่นสะเทือนจากการเจาะฐานข้อมูลเครดิตระดับชาติ — กลุ่ม ShinyHunters ถูกสงสัยอยู่เบื้องหลัง”

    เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2025 เวียดนามเผชิญกับเหตุการณ์ไซเบอร์ครั้งใหญ่ เมื่อฐานข้อมูลของศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (CIC) ซึ่งอยู่ภายใต้ธนาคารกลางของประเทศ ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ โดยมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไม่ถูกต้อง และยังอยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายทั้งหมด

    CIC เป็นหน่วยงานที่เก็บข้อมูลสำคัญ เช่น รายละเอียดส่วนตัว ข้อมูลการชำระเงิน เครดิตการ์ด การวิเคราะห์ความเสี่ยง และประวัติทางการเงินของประชาชนและองค์กรทั่วประเทศ โดยเบื้องต้นมีการสงสัยว่ากลุ่มแฮกเกอร์นานาชาติชื่อ ShinyHunters ซึ่งเคยโจมตีบริษัทใหญ่ระดับโลกอย่าง Google, Microsoft และ Qantas อาจอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้

    แม้ระบบบริการข้อมูลเครดิตยังคงทำงานได้ตามปกติ แต่เว็บไซต์ของ CIC ไม่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ และยังไม่มีการเปิดเผยจำนวนบัญชีที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน

    หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของเวียดนาม เช่น VNCERT และ A05 ได้เข้ามาร่วมตรวจสอบและดำเนินมาตรการตอบโต้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนและองค์กรไม่ดาวน์โหลดหรือเผยแพร่ข้อมูลที่รั่วไหล และให้ปฏิบัติตามมาตรฐาน TCVN 14423:2025 เพื่อเสริมความปลอดภัยของระบบสารสนเทศที่สำคัญ

    รายละเอียดเหตุการณ์การโจมตีข้อมูลเครดิตในเวียดนาม
    เกิดขึ้นกับศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (CIC) ภายใต้ธนาคารกลางเวียดนาม
    ข้อมูลที่ถูกเข้าถึงรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล การชำระเงิน และเครดิตการ์ด
    สงสัยว่ากลุ่ม ShinyHunters อยู่เบื้องหลังการโจมตี
    ระบบบริการยังคงทำงานได้ตามปกติ แต่เว็บไซต์ CIC ไม่สามารถเข้าถึงได้

    การตอบสนองจากหน่วยงานรัฐ
    VNCERT และ A05 เข้าตรวจสอบและดำเนินมาตรการตอบโต้
    มีการเก็บหลักฐานและข้อมูลเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
    แนะนำให้หน่วยงานต่าง ๆ ปฏิบัติตามมาตรฐาน TCVN 14423:2025
    เตือนประชาชนไม่ให้ดาวน์โหลดหรือเผยแพร่ข้อมูลที่รั่วไหล

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ShinyHunters เคยโจมตีบริษัทใหญ่ระดับโลกหลายแห่งตั้งแต่ปี 2020
    รายงานจาก Viettel ระบุว่าเวียดนามมีบัญชีรั่วไหลกว่า 14.5 ล้านบัญชีในปี 2024
    คิดเป็น 12% ของการรั่วไหลข้อมูลทั่วโลก — สะท้อนความเปราะบางของระบบ
    กลุ่มแฮกเกอร์เสนอขายข้อมูลกว่า 160 ล้านรายการในฟอรั่มใต้ดิน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/12/vietnam-investigates-cyberattack-on-creditors-data
    🔓 “เวียดนามสั่นสะเทือนจากการเจาะฐานข้อมูลเครดิตระดับชาติ — กลุ่ม ShinyHunters ถูกสงสัยอยู่เบื้องหลัง” เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2025 เวียดนามเผชิญกับเหตุการณ์ไซเบอร์ครั้งใหญ่ เมื่อฐานข้อมูลของศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (CIC) ซึ่งอยู่ภายใต้ธนาคารกลางของประเทศ ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ โดยมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลอย่างไม่ถูกต้อง และยังอยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายทั้งหมด CIC เป็นหน่วยงานที่เก็บข้อมูลสำคัญ เช่น รายละเอียดส่วนตัว ข้อมูลการชำระเงิน เครดิตการ์ด การวิเคราะห์ความเสี่ยง และประวัติทางการเงินของประชาชนและองค์กรทั่วประเทศ โดยเบื้องต้นมีการสงสัยว่ากลุ่มแฮกเกอร์นานาชาติชื่อ ShinyHunters ซึ่งเคยโจมตีบริษัทใหญ่ระดับโลกอย่าง Google, Microsoft และ Qantas อาจอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ แม้ระบบบริการข้อมูลเครดิตยังคงทำงานได้ตามปกติ แต่เว็บไซต์ของ CIC ไม่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ และยังไม่มีการเปิดเผยจำนวนบัญชีที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของเวียดนาม เช่น VNCERT และ A05 ได้เข้ามาร่วมตรวจสอบและดำเนินมาตรการตอบโต้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนและองค์กรไม่ดาวน์โหลดหรือเผยแพร่ข้อมูลที่รั่วไหล และให้ปฏิบัติตามมาตรฐาน TCVN 14423:2025 เพื่อเสริมความปลอดภัยของระบบสารสนเทศที่สำคัญ ✅ รายละเอียดเหตุการณ์การโจมตีข้อมูลเครดิตในเวียดนาม ➡️ เกิดขึ้นกับศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (CIC) ภายใต้ธนาคารกลางเวียดนาม ➡️ ข้อมูลที่ถูกเข้าถึงรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล การชำระเงิน และเครดิตการ์ด ➡️ สงสัยว่ากลุ่ม ShinyHunters อยู่เบื้องหลังการโจมตี ➡️ ระบบบริการยังคงทำงานได้ตามปกติ แต่เว็บไซต์ CIC ไม่สามารถเข้าถึงได้ ✅ การตอบสนองจากหน่วยงานรัฐ ➡️ VNCERT และ A05 เข้าตรวจสอบและดำเนินมาตรการตอบโต้ ➡️ มีการเก็บหลักฐานและข้อมูลเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ➡️ แนะนำให้หน่วยงานต่าง ๆ ปฏิบัติตามมาตรฐาน TCVN 14423:2025 ➡️ เตือนประชาชนไม่ให้ดาวน์โหลดหรือเผยแพร่ข้อมูลที่รั่วไหล ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ShinyHunters เคยโจมตีบริษัทใหญ่ระดับโลกหลายแห่งตั้งแต่ปี 2020 ➡️ รายงานจาก Viettel ระบุว่าเวียดนามมีบัญชีรั่วไหลกว่า 14.5 ล้านบัญชีในปี 2024 ➡️ คิดเป็น 12% ของการรั่วไหลข้อมูลทั่วโลก — สะท้อนความเปราะบางของระบบ ➡️ กลุ่มแฮกเกอร์เสนอขายข้อมูลกว่า 160 ล้านรายการในฟอรั่มใต้ดิน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/12/vietnam-investigates-cyberattack-on-creditors-data
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Vietnam investigates cyberattack on creditors data
    HANOI (Reuters) - A large database in Vietnam containing data on creditors has been attacked by hackers, and the impact of the breach is still being assessed, according to the country's cybersecurity agency as well as a document seen by Reuters.
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • ส่งทองไปกัมพูชาพุ่ง ส่อพิรุธพัวพันสแกมเมอร์ : [NEWS UPDATE]

    นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เผย ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ตั้งข้อสังเกตสาเหตุเงินบาทแข็งค่าเร็วและรุนแรง ส่วนหนึ่งมาจากความผิดปกติในการส่งออกทองคำไปกัมพูชา ซึ่งเดือน ม.ค.-ก.ค. 2568 ไทยส่งออกทองคำไปกัมพูชา เป็นอันดับ 2 รองจากสวิตเซอร์แลนด์ มูลค่ากว่า 2,149 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 68,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.3% คิดเป็น 28.2% เมื่อเทียบกับการส่งออกทองคำทั้งหมด ถือเป็นอัตราที่สูงมาก ทั้งที่กัมพูชาเป็นประเทศเล็กๆ โดยกัมพูชามีปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ จึงกังวลว่าจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจใต้ดินหรือไม่ อาจเป็นปัจจัยที่คาดไม่ถึง เพราะเป็นเศรษฐกิจนอกระบบ การส่งออกทองคำไปกัมพูชา อาจมีทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ต้องหารือกับรัฐบาลใหม่

    -ต้องถอนกำลังก่อนเปิดด่าน

    -นิยามที่คุมขังต้องชัดเจน

    -แก้หมวด 15 ก่อนประชามติ

    -หวังคนละครึ่งหมุนเงินแสนล้าน
    ส่งทองไปกัมพูชาพุ่ง ส่อพิรุธพัวพันสแกมเมอร์ : [NEWS UPDATE] นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เผย ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ตั้งข้อสังเกตสาเหตุเงินบาทแข็งค่าเร็วและรุนแรง ส่วนหนึ่งมาจากความผิดปกติในการส่งออกทองคำไปกัมพูชา ซึ่งเดือน ม.ค.-ก.ค. 2568 ไทยส่งออกทองคำไปกัมพูชา เป็นอันดับ 2 รองจากสวิตเซอร์แลนด์ มูลค่ากว่า 2,149 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 68,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.3% คิดเป็น 28.2% เมื่อเทียบกับการส่งออกทองคำทั้งหมด ถือเป็นอัตราที่สูงมาก ทั้งที่กัมพูชาเป็นประเทศเล็กๆ โดยกัมพูชามีปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ จึงกังวลว่าจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจใต้ดินหรือไม่ อาจเป็นปัจจัยที่คาดไม่ถึง เพราะเป็นเศรษฐกิจนอกระบบ การส่งออกทองคำไปกัมพูชา อาจมีทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ต้องหารือกับรัฐบาลใหม่ -ต้องถอนกำลังก่อนเปิดด่าน -นิยามที่คุมขังต้องชัดเจน -แก้หมวด 15 ก่อนประชามติ -หวังคนละครึ่งหมุนเงินแสนล้าน
    Like
    Sad
    2
    0 Comments 0 Shares 239 Views 0 0 Reviews
  • เนทันยาฮู:
    "เราจะทำตามเป้าหมายของเรา ว่ารัฐปาเลสไตน์จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก ที่นี่เป็นดินแดนของเรา"

    ชัดเจนว่าไม่มีความคิดเรื่องเจรจาหยุดยิง และการทำสงครามกับฮามาสที่ผ่านมา โดยอ้างเรื่องตัวประกัน เป็นเพียงคำหลอกลวงของอิสราเอล!
    เนทันยาฮู: "เราจะทำตามเป้าหมายของเรา ว่ารัฐปาเลสไตน์จะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก ที่นี่เป็นดินแดนของเรา" ชัดเจนว่าไม่มีความคิดเรื่องเจรจาหยุดยิง และการทำสงครามกับฮามาสที่ผ่านมา โดยอ้างเรื่องตัวประกัน เป็นเพียงคำหลอกลวงของอิสราเอล!
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 0 Reviews
  • SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep310 (live)
    “ปากท้อง” สำคัญกว่า “แผ่นดิน” หนุนเปิดด่านชายแดน ไทย - กัมพูชา ผลประโยชน์ใคร?

    คลิก https://m.youtube.com/watch?v=1blGsfmD-JQ
    🔴SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep310 (live) “ปากท้อง” สำคัญกว่า “แผ่นดิน” หนุนเปิดด่านชายแดน ไทย - กัมพูชา ผลประโยชน์ใคร? • คลิก https://m.youtube.com/watch?v=1blGsfmD-JQ
    Like
    Love
    25
    14 Comments 0 Shares 502 Views 1 Reviews
  • ‘จิรัฏฐ์’ ชี้แผ่นดินเรายังอยู่! แต่คนกำลังเดือดร้อนจริง! วอนรัฐหยุดใช้มาตรการปิดด่านค้าขาย!
    https://www.thai-tai.tv/news/21435/
    .
    #ไทยไท #จิรัฏฐ์ทองสุวรรณ์ #พรรคประชาชน #ชายแดนไทยกัมพูชา #ตลาดโรงเกลือ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ‘จิรัฏฐ์’ ชี้แผ่นดินเรายังอยู่! แต่คนกำลังเดือดร้อนจริง! วอนรัฐหยุดใช้มาตรการปิดด่านค้าขาย! https://www.thai-tai.tv/news/21435/ . #ไทยไท #จิรัฏฐ์ทองสุวรรณ์ #พรรคประชาชน #ชายแดนไทยกัมพูชา #ตลาดโรงเกลือ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • คุณสนธิคะ #ใครส่งอาวุธมาเสริมให้กัมพูชาๆมันเสริมอาวุธและกองกำลังประชิดชายแดนไทยตลอดเวลา ลอบกัดวางระเบิดไม่หยุดยั่วยุทุกอย่าง ใครเป็นแบ็คให้มัน พวกจีนเทาฟอกเงินสกปรกเป็นอาวุธเพื่อมาทำร้ายไทย#แล้วจีน&รัสเซียร่วมด้วยหรือไม่??อาสนธิสนิทสืบข่าวให้หน่อยคะ#ไอพวกนักการเมืองชั่วๆอ้างปากท้องประชาชน"^^แต่จริงคือปากท้องของพวกมันมากกว่า#กระสันอยากเปิดด่านเหลือเกินผลประโยชน์ส่วนตัวบ่อนการพนัน ไม่สนใจแผ่นดินชาติบ้านเมือง พวกมันต้องการให้เหตุปัจจัยนำประชาชนลงถนนงั้นหรือ หากประชาชนหมดความอดทนเดี๋ยวจะเป็นแบบเนปาลประเทศชาติจะพังพินาศใครจะรับผิดชอบ #การที่กัมพูชามันกำแหงขนาดนี้ได้ต้องมีแบ็คใหญ่อยู่เบื้องหลังแน่ๆ.."มันคือใคร?คะ#ไอพวกเขมรไม่จำเป็นต้องเจรจามันไม่มีสัจจะในหมู่โจร พูดอย่างทำอย่าง"ขอบอกไว้เลยถ้าไทยอยู่ไม่ได้ประเทศแถบนี้ก็พังไปทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสงครามตัวแทนหรืออะไรก็ตาม "จีนคือหัวมังกร"ไทยก็คือหางมังกรไม่มีใครขาดใครได้หรอก#ถ้าสงครามโลกเกิดที่ไทยอเมริกาก็จบเหมือนกัน มันไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์ แต่มันเหนือกว่านิวเคลียร์เสียอีก"นักการเมืองโกงกินกันจนทำให้ประเทศชาติไม่ไปไหนเลย คราวนี้ประชาชนสุดทนจริงๆกับการไปหยุดกองทัพเพื่อช่วยกัมพูชาได้เตรียมตัว เสริมกำลังทหารและอาวุธทั้งฝึกการใช้อาวุธและโดรนทุกอย่างใครฝึกให้..?"คนที่นัดหมายแล้วไม่ตรงต่อเวลาถือว่าเป็นการดูถูกอีกฝ่ายอย่างชัดเจน มันเริ่มก่อนแต่แซรงทำตัวเป็น"เหยื่อใครเชื่อมันก็โง่ไม่มีอะไรเปรียบ"ขออ.สนธิเจาะข้อมูลลึกๆออกมาเลยคะพรุ่งนี้ หนูนอนไม่ค่อยหลับเลยว่าศัตรูของไทยมันคือใคร "คนในชาติเดียวกันร่วมมือกับศัตรูเพื่อฆ่าคนไทย เราไว้ใจใครไม่ได้เลยบอกตรงๆ"24ปีกับระบอบทักกี้บ้านเมืองก็บอบช้ำมามากเกินทน ประชาชนลำบากยากเข็นแต่พวกนักการเมืองกับร่ำรวยมหาศาลอยู่อย่างสุขสบายเข้าไปสมัยเดียวก็มีทรัพย์มากมาย มันคืออะไร ทางภาคเหนือประชาชนเจอน้ำท่วมใหญ่ติดต่อกันมาหลายปี นักการเมืองบริหารจัดการระบบป้องกันยังไงถึงท่วมซ้ำซาก ประชาชนลำบากไม่เคยเหลียวแล จ้องแต่จะแบ่งเค็กกัน มองบ้างซิคนที่เลือกพวกคุณเข้าไป ได้ทำอะไรเพื่อเขาบ้างไหม..ไม่เคยเห็นมี จ้องแต่จะฟอกขาวตัวเองและพวกพ้อง "ถ้าประชาชนไร้ที่พึ่งประชาชนก็จะพึ่งตัวเอง ถ้าคนจำนวนมากออกมาคุณจะฆ่าทั้งหมดได้ไหมถามจริงๆ อาสนธิรอฟังนะคะพรุ่งนี้🖥
    คุณสนธิคะ #ใครส่งอาวุธมาเสริมให้กัมพูชาๆมันเสริมอาวุธและกองกำลังประชิดชายแดนไทยตลอดเวลา ลอบกัดวางระเบิดไม่หยุดยั่วยุทุกอย่าง ใครเป็นแบ็คให้มัน พวกจีนเทาฟอกเงินสกปรกเป็นอาวุธเพื่อมาทำร้ายไทย#แล้วจีน&รัสเซียร่วมด้วยหรือไม่??อาสนธิสนิทสืบข่าวให้หน่อยคะ#ไอพวกนักการเมืองชั่วๆอ้างปากท้องประชาชน"^^แต่จริงคือปากท้องของพวกมันมากกว่า#กระสันอยากเปิดด่านเหลือเกินผลประโยชน์ส่วนตัวบ่อนการพนัน ไม่สนใจแผ่นดินชาติบ้านเมือง พวกมันต้องการให้เหตุปัจจัยนำประชาชนลงถนนงั้นหรือ หากประชาชนหมดความอดทนเดี๋ยวจะเป็นแบบเนปาลประเทศชาติจะพังพินาศใครจะรับผิดชอบ #การที่กัมพูชามันกำแหงขนาดนี้ได้ต้องมีแบ็คใหญ่อยู่เบื้องหลังแน่ๆ.."มันคือใคร?คะ🤔#ไอพวกเขมรไม่จำเป็นต้องเจรจามันไม่มีสัจจะในหมู่โจร พูดอย่างทำอย่าง"ขอบอกไว้เลยถ้าไทยอยู่ไม่ได้ประเทศแถบนี้ก็พังไปทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสงครามตัวแทนหรืออะไรก็ตาม "จีนคือหัวมังกร"ไทยก็คือหางมังกรไม่มีใครขาดใครได้หรอก#ถ้าสงครามโลกเกิดที่ไทยอเมริกาก็จบเหมือนกัน มันไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์ แต่มันเหนือกว่านิวเคลียร์เสียอีก"นักการเมืองโกงกินกันจนทำให้ประเทศชาติไม่ไปไหนเลย คราวนี้ประชาชนสุดทนจริงๆกับการไปหยุดกองทัพเพื่อช่วยกัมพูชาได้เตรียมตัว เสริมกำลังทหารและอาวุธทั้งฝึกการใช้อาวุธและโดรนทุกอย่างใครฝึกให้..?"คนที่นัดหมายแล้วไม่ตรงต่อเวลาถือว่าเป็นการดูถูกอีกฝ่ายอย่างชัดเจน มันเริ่มก่อนแต่แซรงทำตัวเป็น"เหยื่อใครเชื่อมันก็โง่ไม่มีอะไรเปรียบ🙄"ขออ.สนธิเจาะข้อมูลลึกๆออกมาเลยคะพรุ่งนี้ หนูนอนไม่ค่อยหลับเลยว่าศัตรูของไทยมันคือใคร "คนในชาติเดียวกันร่วมมือกับศัตรูเพื่อฆ่าคนไทย เราไว้ใจใครไม่ได้เลยบอกตรงๆ"24ปีกับระบอบทักกี้บ้านเมืองก็บอบช้ำมามากเกินทน ประชาชนลำบากยากเข็นแต่พวกนักการเมืองกับร่ำรวยมหาศาลอยู่อย่างสุขสบายเข้าไปสมัยเดียวก็มีทรัพย์มากมาย มันคืออะไร ทางภาคเหนือประชาชนเจอน้ำท่วมใหญ่ติดต่อกันมาหลายปี นักการเมืองบริหารจัดการระบบป้องกันยังไงถึงท่วมซ้ำซาก ประชาชนลำบากไม่เคยเหลียวแล จ้องแต่จะแบ่งเค็กกัน มองบ้างซิคนที่เลือกพวกคุณเข้าไป ได้ทำอะไรเพื่อเขาบ้างไหม..ไม่เคยเห็นมี จ้องแต่จะฟอกขาวตัวเองและพวกพ้อง "ถ้าประชาชนไร้ที่พึ่งประชาชนก็จะพึ่งตัวเอง ถ้าคนจำนวนมากออกมาคุณจะฆ่าทั้งหมดได้ไหมถามจริงๆ อาสนธิรอฟังนะคะพรุ่งนี้🔊🎧🖥💡
    Yay
    1
    0 Comments 0 Shares 103 Views 0 Reviews
  • ..พล.อ.รังษี อย่าให้จีนมาถือการลงทุนมากกว่าไทยเลยนะ ไม่ดีแน่นอน นี้คือการครอบงำกิจการ ครอบงำการปฏิบัติงานอธิปไตยของชาตินะ จะทำอะไรก็ต้องขออนุญาตจีนแล้วนะนั้น อันตรายมาก,แนวคิดนี้ท่านพลาดใหญ่หลวงเลยนะ,การดำรงอธิปไตยไทยได้ดีที่สุดคือเป็นเจ้าของ100% ให้บริการดูแลเขาเต็มที่ก็พอ เสมือนห้องประชุมงานเลี้ยงที่สถานที่คือของเรา100%ผลประโยชน์ด้านงานสถานที่คือรับเต็มๆ100%
    เราบริหารจัดการสั่งการบัญชาการอะไร ปรับปรุงแบบไหนอิสระเต็มที่ ไม่ต้องรออนุญาตอนุมัติจากใคร รอใครมาเห็นชอบด้วย บริหารจัดการได้100%.

    ..จะรถไฟระบบรางความเร็วสูงจะรีบร้อนอะไร เรามีกำลังเท่าไรก็ทำเองเท่านั้นก่อน,ที่ดินและระบบรางเป็นตังเป็นทุนของเราเองสร้าง ความเป็นเจ้าของเราก็100%เต็ม พื้นที่บริหารจัดการรางรถไฟทั้งหมดเราบริหารจัดการเอง,เชื่อมรถไฟจีน จีนแค่เอารถไฟจีนของตัวเองมาวิ่งแค่นั้น ห้ามมีสิทธิใดๆในอธิปไตยดินแดนบนแผ่นดินไทยเราให้บรืหารจัดการยุ่งยาก,ผลประโยชน์ทั้งหมดจะตกแก่คนไทยในชาติเราเอง,เช่นสถานีพักระหว่างทางขึ้นลง คนไทยสร้างศูนย์การค้าการตลาดประชาชนเองร่วมกัน นักท่องเที่ยวลงจอดแวะซื้อขายบนเขตพื้นที่บริหารจัดการเราผู้เดียว ตังก็หมุนเวียนทันทีภายในประเทศไทยเรา รถไฟจีนมาหน้าที่ขนคนขนสินค้าบริการตนตามเป้าหมายปลายทางแค่นั้น,ไทยไม่เป็นหนี้ตังจีนมาเร่งรีบลงทุนงานก่อสร้างด้วย,เราจัดการข้าราชการทุจริตจริงจังจบก็สบายทันที โปร่งใสสร้างความเชื่อถือได้แล้ว ไม่ยากอะไร,อย่าเป็นแบบลาว จีนสร้างเแ็นของจีนหมดตลอดที่ดินสร้างรางรถไฟ นี้เสียอธิปไตยบริหารจัดการบนแผ่นดินตนชัดเจน,ความโลภลักษณะนี้อันตรายต่อลูกหลานเราเองในคนรุ่นหลังๆเราอาจด่าโคตรเหง้าว่าขายชาติขายสิทธิอธิปไตยตนเองได้,

    ..ขุดคลองคิดกระก็ขุดเอง100%ห้ามต่างชาติมายุ่ง
    ..สร้างแลนด์บริดจ์ข้างคลองคอดกระทั้งสองข้างก็ห้ามใครมายุ่ง,ระดมทุนจากภาคประชาชนทั้งประเทศไทยได้ สร้างมันขึ้นมาสิ.,ตั้งเป็นกองทุนคลองไทยแห่งชาติก็ได้ สร้างบริษัทบริหารจัดการคลองคอดกระและแลนด์บริดจ์เอง,ไม่ต้องให้มหาอำนาจใดมาแดกตังมากอบโกยเม็ดเงินมหาศาลนี้ง่ายๆจะจีนจะอเมริกาก็ตามที่เป็นเขตราชอาณาจักรอธิปไตยไทยนี้,เม็ดเงินมหาศาลจากการบริหารจัดการคลองคอดกระ จากแลนด์บริดจ์อาจกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีได้ทั่วประ้ทศไทยเราโดยเฉพาะเขตคลองคอดกระและแลนด์บริดจ์นี้.,จะไปให้จีนถือมากกว่าไทยทำไม,ใช่ไม่ได้ เสมือนหมอบกราบสยบใต้ตีนจีนเกินไป ไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีเพราะนี้คือดินแดนแผ่นดินไทย เขตอธิปไตยไทยคลองไทยเราขุดเองระเบิดเองจะทำไม,จีนอเมริกามาบีบหมายบังคับจะแดกด้วยใช้ไม่ได้,ให้สามารถสร้างงานบริการเต็มที่ที่ลูกค้าทั่วโลกผ่านเข้าออกคลองไทยเรา,ต่างชาติจะมาแทรกแซงสั่งการใดๆไม่ได้ เราจะปิดจะเปิดคลองไทยมันคืออธิปไตยไทย100% รวมรางรถไฟความเร็วสูงด้วย ปิดระบบรางเพื่อความมั่นคงของไทยก็ได้ตลอดเวลาอีก ใครจะมาปรับเอาความเสียหายกับเราก็ไม่ได้,รางรถไฟเราสร้างเองไม่ต้องกู้ตังใครถูกต้องที่สุด ดำเนินทางสายกลางถูกแล้ว.

    ..จริงๆเราสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยเราทันทีได้ง่ายๆ พลิกหน้ามือมารอดมาตั้งหลักตั้งฐานได้ทันทีกันเลย นั้นคือ ยกเลิกสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมดที่ไม่ผ่านสภาประชาธิปไตยใดๆเลย ซึ่งเป็นกิจการความมั่นคงโดยตรงด้านพลังงานขับเคลื่อนทุกๆบริบทกิจกรรมภายในประเทศไทยเรา ต้องโมฆะทันที ยึดคืนสู่สามัญใหม่ให้ถูกต้องเป็นธรรมกว่าในอดีตๆที่ผ่านๆมา,เศรษฐกิจจะพลิกฟื้นทันที เราสามารถส่งทหารไปผลิตเองใช้ในประเทศก่อนได้ ขายน้ำมันราคาไม่แพงแก่ประชาชนแลัอุตสาหกรรมภายในประเทศที่เป็นของคนไทยก่อน สัญชาติไทย100%หุ้นไทยก่อน,ใครมีต่างชาติถือหุ้นด้วยก็อีกราคาต่างหาก,เกษตรกรสามารถซื้อน้ำมันราคาลิตรละ1-2บาทได้ ขนส่งก็อาจลิตรละ0.90บาท ,ค่าครองชีพค่าขนส่งจะลดลงทันที,ราคาสินค้าจะปรับฐานใหม่ภายในประเทศ ทุกๆอย่างจะปรับฐานใหม่หมดจะเชื่อมโยงกระทบทางที่ดีหมด,ราคาสินค้าเราจะต้นทุนต่ำ สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ทันที ข้าวจากตันละ400-600$,อาจลดเหลือ200-300$ ต้นทุนแค่10$ต่อตัน,กำไรกว่า100$พอใจมั้ย,คนซื้อก็พอใจประหยัดตังได้อีก,ความอุดมสมบูรณ์จะกลับคืนมาทันที,นักเรียนนักศึกษาจากปกติพกตังหลายร้อยบาทไปโรงเรียนไปมหาลัยตื๊ดๆทีก็หมดไปหลายร้อย,ปัจจุบันตื๊ดๆที ได้สินค้าอาหารกับข้าวกินจนอิ่มจนเหลือทุกๆวันเพราะ10-20บาทอาจเทียบกับพกตังไปในกระเป๋ากว่าพันกว่าหมื่นบาทกันเลย,ข้าวอาหารก๋วยเตี๋ยวอาจชามละ0.25บาทนั้นเอง,น้ำมันเติมมอไซค์ไปโรงเรียนไปมหาลัยอาจแค่ลิตรละ0.5-1บาทสำหรับนักเรียนนักศึกษาก็ได้,1บาทได้2ลิตรเกือบเต็มถัง.2บาท4ลิตรล้นถังมอไซค์แน่นอน,
    ..ต้นเหตุเศรษฐกิจจริงๆตอนนี้คือน้ำมันคือพลังงาน จะรบจะทำสงครามกันเครื่องจักรปัจจุบันกินน้ำมันหมด,
    ..ไทยเรายึดบ่อน้ำมันจากอีลิทต่างชาติdeep state หลายๆปัญหาจบแน่นอน,ยึดสัก20-30บ่อมาผลิตขายเองในไทยดูสิ จะเห็นผลทันที ทุกๆคนไทยใช้รถ ขนส่งสินค้าใช้รถ ราคาสินค้าบวกต้นทุนขนส่งหมด,ต้นทุนต้นน้ำแบบเกษตรกร โรงงานผู้ผลิตต่างๆลดลง กำไรเขาก็มากได้ ลดค่าใช้จ่ายรวมอีก,ต้นน้ำถูก ปลายน้ำก็ถูกทันที
    ..จริงๆปัญหาประเทศไทยตัวโคตรพ่อโคตรแมร่งจริงๆคือบ่อน้ำมันในไทยเรา,ยึดคืนมาทั้งหมดที่ถูกปล้นจากสัญญาสัมปทานเอาเปรียบประเทศไทยมานานก็จบแล้ว.,ไปเดินอ้อมปัญหาจริงๆทำไม.ลดค่าน้ำมันลิตรละ0.50-1บาทในไทย ลดค่าไฟฟ้า 0.15-0.25บาทต่อหน่วย ,เศรษฐกิจทั่วประเทศไทยฟื้นฟูทันที,จากนั้นค่อยแก้ไปทีละจุดๆต่อไป,ขายน้ำมันในราคาตลาดโลกเมื่อส่งออก,วิกฤติไทยแก้ได้แน่นอน.,ที่เขมรใช้1:200,000ก็ฝรั่งเศสอเมริกาหรือหลายชาติต่างอยากได้แดกบ่อน้ำมันในอ่าวไทยเรานี้ด้วยล่ะ,ก่อนไปพลังงานสะอาดอื่นๆที่สร้างค่าเสถียรการใช้งานปลอดภัยได้แล้ว.,แต่คงหลายสิบปีหรือหลายร้อยปีกันเลย.


    https://youtube.com/watch?v=41WZaOg8ZFo&si=RViZxHzSvx9JtmUZ
    ..พล.อ.รังษี อย่าให้จีนมาถือการลงทุนมากกว่าไทยเลยนะ ไม่ดีแน่นอน นี้คือการครอบงำกิจการ ครอบงำการปฏิบัติงานอธิปไตยของชาตินะ จะทำอะไรก็ต้องขออนุญาตจีนแล้วนะนั้น อันตรายมาก,แนวคิดนี้ท่านพลาดใหญ่หลวงเลยนะ,การดำรงอธิปไตยไทยได้ดีที่สุดคือเป็นเจ้าของ100% ให้บริการดูแลเขาเต็มที่ก็พอ เสมือนห้องประชุมงานเลี้ยงที่สถานที่คือของเรา100%ผลประโยชน์ด้านงานสถานที่คือรับเต็มๆ100% เราบริหารจัดการสั่งการบัญชาการอะไร ปรับปรุงแบบไหนอิสระเต็มที่ ไม่ต้องรออนุญาตอนุมัติจากใคร รอใครมาเห็นชอบด้วย บริหารจัดการได้100%. ..จะรถไฟระบบรางความเร็วสูงจะรีบร้อนอะไร เรามีกำลังเท่าไรก็ทำเองเท่านั้นก่อน,ที่ดินและระบบรางเป็นตังเป็นทุนของเราเองสร้าง ความเป็นเจ้าของเราก็100%เต็ม พื้นที่บริหารจัดการรางรถไฟทั้งหมดเราบริหารจัดการเอง,เชื่อมรถไฟจีน จีนแค่เอารถไฟจีนของตัวเองมาวิ่งแค่นั้น ห้ามมีสิทธิใดๆในอธิปไตยดินแดนบนแผ่นดินไทยเราให้บรืหารจัดการยุ่งยาก,ผลประโยชน์ทั้งหมดจะตกแก่คนไทยในชาติเราเอง,เช่นสถานีพักระหว่างทางขึ้นลง คนไทยสร้างศูนย์การค้าการตลาดประชาชนเองร่วมกัน นักท่องเที่ยวลงจอดแวะซื้อขายบนเขตพื้นที่บริหารจัดการเราผู้เดียว ตังก็หมุนเวียนทันทีภายในประเทศไทยเรา รถไฟจีนมาหน้าที่ขนคนขนสินค้าบริการตนตามเป้าหมายปลายทางแค่นั้น,ไทยไม่เป็นหนี้ตังจีนมาเร่งรีบลงทุนงานก่อสร้างด้วย,เราจัดการข้าราชการทุจริตจริงจังจบก็สบายทันที โปร่งใสสร้างความเชื่อถือได้แล้ว ไม่ยากอะไร,อย่าเป็นแบบลาว จีนสร้างเแ็นของจีนหมดตลอดที่ดินสร้างรางรถไฟ นี้เสียอธิปไตยบริหารจัดการบนแผ่นดินตนชัดเจน,ความโลภลักษณะนี้อันตรายต่อลูกหลานเราเองในคนรุ่นหลังๆเราอาจด่าโคตรเหง้าว่าขายชาติขายสิทธิอธิปไตยตนเองได้, ..ขุดคลองคิดกระก็ขุดเอง100%ห้ามต่างชาติมายุ่ง ..สร้างแลนด์บริดจ์ข้างคลองคอดกระทั้งสองข้างก็ห้ามใครมายุ่ง,ระดมทุนจากภาคประชาชนทั้งประเทศไทยได้ สร้างมันขึ้นมาสิ.,ตั้งเป็นกองทุนคลองไทยแห่งชาติก็ได้ สร้างบริษัทบริหารจัดการคลองคอดกระและแลนด์บริดจ์เอง,ไม่ต้องให้มหาอำนาจใดมาแดกตังมากอบโกยเม็ดเงินมหาศาลนี้ง่ายๆจะจีนจะอเมริกาก็ตามที่เป็นเขตราชอาณาจักรอธิปไตยไทยนี้,เม็ดเงินมหาศาลจากการบริหารจัดการคลองคอดกระ จากแลนด์บริดจ์อาจกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีได้ทั่วประ้ทศไทยเราโดยเฉพาะเขตคลองคอดกระและแลนด์บริดจ์นี้.,จะไปให้จีนถือมากกว่าไทยทำไม,ใช่ไม่ได้ เสมือนหมอบกราบสยบใต้ตีนจีนเกินไป ไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีเพราะนี้คือดินแดนแผ่นดินไทย เขตอธิปไตยไทยคลองไทยเราขุดเองระเบิดเองจะทำไม,จีนอเมริกามาบีบหมายบังคับจะแดกด้วยใช้ไม่ได้,ให้สามารถสร้างงานบริการเต็มที่ที่ลูกค้าทั่วโลกผ่านเข้าออกคลองไทยเรา,ต่างชาติจะมาแทรกแซงสั่งการใดๆไม่ได้ เราจะปิดจะเปิดคลองไทยมันคืออธิปไตยไทย100% รวมรางรถไฟความเร็วสูงด้วย ปิดระบบรางเพื่อความมั่นคงของไทยก็ได้ตลอดเวลาอีก ใครจะมาปรับเอาความเสียหายกับเราก็ไม่ได้,รางรถไฟเราสร้างเองไม่ต้องกู้ตังใครถูกต้องที่สุด ดำเนินทางสายกลางถูกแล้ว. ..จริงๆเราสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยเราทันทีได้ง่ายๆ พลิกหน้ามือมารอดมาตั้งหลักตั้งฐานได้ทันทีกันเลย นั้นคือ ยกเลิกสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมดที่ไม่ผ่านสภาประชาธิปไตยใดๆเลย ซึ่งเป็นกิจการความมั่นคงโดยตรงด้านพลังงานขับเคลื่อนทุกๆบริบทกิจกรรมภายในประเทศไทยเรา ต้องโมฆะทันที ยึดคืนสู่สามัญใหม่ให้ถูกต้องเป็นธรรมกว่าในอดีตๆที่ผ่านๆมา,เศรษฐกิจจะพลิกฟื้นทันที เราสามารถส่งทหารไปผลิตเองใช้ในประเทศก่อนได้ ขายน้ำมันราคาไม่แพงแก่ประชาชนแลัอุตสาหกรรมภายในประเทศที่เป็นของคนไทยก่อน สัญชาติไทย100%หุ้นไทยก่อน,ใครมีต่างชาติถือหุ้นด้วยก็อีกราคาต่างหาก,เกษตรกรสามารถซื้อน้ำมันราคาลิตรละ1-2บาทได้ ขนส่งก็อาจลิตรละ0.90บาท ,ค่าครองชีพค่าขนส่งจะลดลงทันที,ราคาสินค้าจะปรับฐานใหม่ภายในประเทศ ทุกๆอย่างจะปรับฐานใหม่หมดจะเชื่อมโยงกระทบทางที่ดีหมด,ราคาสินค้าเราจะต้นทุนต่ำ สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ทันที ข้าวจากตันละ400-600$,อาจลดเหลือ200-300$ ต้นทุนแค่10$ต่อตัน,กำไรกว่า100$พอใจมั้ย,คนซื้อก็พอใจประหยัดตังได้อีก,ความอุดมสมบูรณ์จะกลับคืนมาทันที,นักเรียนนักศึกษาจากปกติพกตังหลายร้อยบาทไปโรงเรียนไปมหาลัยตื๊ดๆทีก็หมดไปหลายร้อย,ปัจจุบันตื๊ดๆที ได้สินค้าอาหารกับข้าวกินจนอิ่มจนเหลือทุกๆวันเพราะ10-20บาทอาจเทียบกับพกตังไปในกระเป๋ากว่าพันกว่าหมื่นบาทกันเลย,ข้าวอาหารก๋วยเตี๋ยวอาจชามละ0.25บาทนั้นเอง,น้ำมันเติมมอไซค์ไปโรงเรียนไปมหาลัยอาจแค่ลิตรละ0.5-1บาทสำหรับนักเรียนนักศึกษาก็ได้,1บาทได้2ลิตรเกือบเต็มถัง.2บาท4ลิตรล้นถังมอไซค์แน่นอน, ..ต้นเหตุเศรษฐกิจจริงๆตอนนี้คือน้ำมันคือพลังงาน จะรบจะทำสงครามกันเครื่องจักรปัจจุบันกินน้ำมันหมด, ..ไทยเรายึดบ่อน้ำมันจากอีลิทต่างชาติdeep state หลายๆปัญหาจบแน่นอน,ยึดสัก20-30บ่อมาผลิตขายเองในไทยดูสิ จะเห็นผลทันที ทุกๆคนไทยใช้รถ ขนส่งสินค้าใช้รถ ราคาสินค้าบวกต้นทุนขนส่งหมด,ต้นทุนต้นน้ำแบบเกษตรกร โรงงานผู้ผลิตต่างๆลดลง กำไรเขาก็มากได้ ลดค่าใช้จ่ายรวมอีก,ต้นน้ำถูก ปลายน้ำก็ถูกทันที ..จริงๆปัญหาประเทศไทยตัวโคตรพ่อโคตรแมร่งจริงๆคือบ่อน้ำมันในไทยเรา,ยึดคืนมาทั้งหมดที่ถูกปล้นจากสัญญาสัมปทานเอาเปรียบประเทศไทยมานานก็จบแล้ว.,ไปเดินอ้อมปัญหาจริงๆทำไม.ลดค่าน้ำมันลิตรละ0.50-1บาทในไทย ลดค่าไฟฟ้า 0.15-0.25บาทต่อหน่วย ,เศรษฐกิจทั่วประเทศไทยฟื้นฟูทันที,จากนั้นค่อยแก้ไปทีละจุดๆต่อไป,ขายน้ำมันในราคาตลาดโลกเมื่อส่งออก,วิกฤติไทยแก้ได้แน่นอน.,ที่เขมรใช้1:200,000ก็ฝรั่งเศสอเมริกาหรือหลายชาติต่างอยากได้แดกบ่อน้ำมันในอ่าวไทยเรานี้ด้วยล่ะ,ก่อนไปพลังงานสะอาดอื่นๆที่สร้างค่าเสถียรการใช้งานปลอดภัยได้แล้ว.,แต่คงหลายสิบปีหรือหลายร้อยปีกันเลย. https://youtube.com/watch?v=41WZaOg8ZFo&si=RViZxHzSvx9JtmUZ
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • นักการเมืองพร้อมใจ!!! 'พริษฐ์'! เผย 3 พรรคการเมืองเห็นพ้อง! เดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายในสัปดาห์หน้า
    https://www.thai-tai.tv/news/21433/
    .
    #ไทยไท #พริษฐ์วัชรสินธุ #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ประชามติ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    นักการเมืองพร้อมใจ!!! 'พริษฐ์'! เผย 3 พรรคการเมืองเห็นพ้อง! เดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายในสัปดาห์หน้า https://www.thai-tai.tv/news/21433/ . #ไทยไท #พริษฐ์วัชรสินธุ #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ประชามติ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • เกาหลีเหนือน่าถล่มญี่ปุ่นแทนไทยสักดอกนะ,สงครามโลกก็อาจเริ่มจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธถล่มญี่ปุ่นนี้ล่ะ,สั่งสอนแทนจีนที่อวยขีปนาวุธญี่ปุ่นขู่จีนแทนอเมริกานั้นล่ะ,อเมริกามรเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นตัวแทนอเมริกา,จีนมีเกาหลีเหนือค้ำยันญี่ปุ่นและเกาหลีใต้.,อาจจะเห็นการสั่งสอนญี่ปุ่นเร็วๆนี้ก็ได้,ญี่ปุ่นไม่มีทางมาอยู่กับจีน,เขมรก็ไม่มีทางซื่อสัตย์กับจีน ผลงานการหักหลังจีนคือเครื่องยืนยัน ตบหน้าเต็มๆเหยียบหัวด้วย,อเมริกาเข้ายึดกิจการจีนทั้งเขมรนั้นเอง.ยึดเขมรแน่นอน,เพราะเขมรจะล้างหนี้จีนได้หมดก็ต้องไปหันหาอเมริกาเท่านั้น.,จึงไม่แปลกใจที่ญี่ปุ่นพยายามช่วยเหลืออเมริกาในไทยอย่างเปิดเผย,แบบไม่สนใจจีนจะรู้ความจริง,ญี่ปุ่นค้านอำนาจตังในเขมรกับจีนโดยอเมริกาหนุนหลังค้ำประกันความปลอดภัยให้,เกาหลีใต้ก็ด้วย จนบริหารจัดการน้ำผูกขาดทั้งเขมร,ตึกจีน โรงงานจีน ฐานผลิตจีนต้องใช้น้ำในเขมรเป็นปัจจัยการผลิตแน่นอน,อเมริกาควบคุมเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้,แร่เอิร์ธอีกที่อเมริกาจะชิงจากจีนในเขมร,ศึกศักดิ์ศรีเต็มๆระหว่างจีนกับอเมริกาในเขมร ฮุนเซนโกงตังจีนหักหลังจีนชักดาบจีนจึงคบอเมริกาอย่างออกนอกหน้า,โดยแสดงเจตนาเข้าเป็นสมาชิกอินโดแปซิฟิก,อเมริกาแบนเขมรแค่ฉากละครปาหี่,จีนถูกเขมรหักหลังทรยศเต็มๆ,เขมรมันไม่ยอมใช้หนี้จีนแน่นอน,มันแค้นใจที่จีนกดขี่มันยึดครองที่ดินมันเป็นอันมากในเขมรตกไปเป็นของจีนสร้างนั้นนี้เต็มเขมร,รวมท่าเรือเรียมด้วยแบบพูดอะไรไม่ได้,การทรยศหักหลังคือทางเดียวเพื่อเอาแผ่นดินเขมรมาจากจีน ล้างหนี้สินจากจีนได้ก็แบบนี้ด้วย,จังหวะสงครามปะทะอาจมุกหนึ่งก็ด้วย,เรียกความสนใจจากอเมริกามาตบหน้าจีนสำเร็จด้วย.
    ..เขมร ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อเมริกา ฝรั่งเศสและชาติขี้ข้าอเมริกาทั้งหมดคือแก๊งเดียวกัน,ในเวลานี้,ใครๆก็เป็นหนี้จีน,หากจีนสิ้นชาติล้มสลาย ชาติต่างๆที่เป็นลูกหนี้จีน จะถูกล้างหนี้หมดรวมทั้งอเมริกาที่จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของอเมริกาด้วย มหาสงครามล้างหนี้ฆ่าเจ้าหนี้จึงเกิดขึ้น,ลาวก็ถูกจีนกดขี่มิน้อยเก็บกดแรงแค้นมหาศาลแน่นอน,เวียดนามก็ด้วย,พม่ายิ่งโหด,ยิ่งจีนชั่วนอกแถวหนีตายมาพม่ามาเขมรยิ่งจะพร้อมใจกันกำจัดจีนแผ่นดินใหญ่,รัสเชียถ้าจีนอ่อนแอก็จัดการจีนเหมือนในอดีตนั้นล่ะ อินเดียยิ่งคู่ปรับตลอดกาลของจีนปกติอยู่แล้วแค้นนี้ไม่ลืมหรอก,จีนจึงมีเกาหลีเหนือและไทยเท่านั้นที่เป็นมิตรแท้ได้,ไม่หักหลังจีน,ส่วนในนานรัฐบาลเลวชั่วอาจมีตามที่อเมริกาสั่งได้,แต่พื้นฐานโดยสถาบันกษัตริย์เรา ญาติพี่น้องกันชัดเจน คนจีนเป็นอันมากก็อยู่ในไทย,ได้สัญชาติไทยด้วย,จีนยุคใหม่อาจกบฎแนวสัมพันธ์นี้ได้แต่เมื่อตื่นรู้จะเข้าใจความเป็นจริงว่าไทยกับจีนสายใยแน่นหนามาก.กระทบโกรธกันบ้างก็มิเคยทำร้ายทำลายกันจริงอะไรแต่กลับช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดเรื่อยมา.
    ..ลาว เวียดนาม เขมร พม่า แม้อยากทำสงครามยึดประเทศไทยก็ต้องมองหน้าจีนก่อนนั้นเอง.,ปัจจุบันเราก็ถล่มชาติรอบข้างนี้อย่างง่ายดายได้เช่นกัน,แต่เราไม่ทำ,เรารักสงบ,แต่เมื่อใดเราสิ้นอดทน พัฒนาการทางอาวุธเราก็ไใ่แพ้ชาติใดๆในโลกได้เมื่อเราตั้งใจจะทำมันจริงจังแบบนั้น,ขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์เราก็สามารถสร้างได้สบายมาก,10,000-20,000กม.อาจสร้างได้ธรรมดาด้วย,อย่าลืมว่าเราสามารถถอดจิตวิญญาณไปแลกเปลี่ยนวิวัฒนาการจากจักรวาลอื่นที่ล้ำๆขอความช่วยเหลือได้นะ,แค่เราจะทำหรือไม่.
    ..ศูนย์กลางพลังจักรวาลก็อยู่ที่ประเทศไทยเราแล้ว.

    https://youtube.com/shorts/iD2NnXgY51I?si=MLlq2Jubw_S5UNI_
    เกาหลีเหนือน่าถล่มญี่ปุ่นแทนไทยสักดอกนะ,สงครามโลกก็อาจเริ่มจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธถล่มญี่ปุ่นนี้ล่ะ,สั่งสอนแทนจีนที่อวยขีปนาวุธญี่ปุ่นขู่จีนแทนอเมริกานั้นล่ะ,อเมริกามรเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นตัวแทนอเมริกา,จีนมีเกาหลีเหนือค้ำยันญี่ปุ่นและเกาหลีใต้.,อาจจะเห็นการสั่งสอนญี่ปุ่นเร็วๆนี้ก็ได้,ญี่ปุ่นไม่มีทางมาอยู่กับจีน,เขมรก็ไม่มีทางซื่อสัตย์กับจีน ผลงานการหักหลังจีนคือเครื่องยืนยัน ตบหน้าเต็มๆเหยียบหัวด้วย,อเมริกาเข้ายึดกิจการจีนทั้งเขมรนั้นเอง.ยึดเขมรแน่นอน,เพราะเขมรจะล้างหนี้จีนได้หมดก็ต้องไปหันหาอเมริกาเท่านั้น.,จึงไม่แปลกใจที่ญี่ปุ่นพยายามช่วยเหลืออเมริกาในไทยอย่างเปิดเผย,แบบไม่สนใจจีนจะรู้ความจริง,ญี่ปุ่นค้านอำนาจตังในเขมรกับจีนโดยอเมริกาหนุนหลังค้ำประกันความปลอดภัยให้,เกาหลีใต้ก็ด้วย จนบริหารจัดการน้ำผูกขาดทั้งเขมร,ตึกจีน โรงงานจีน ฐานผลิตจีนต้องใช้น้ำในเขมรเป็นปัจจัยการผลิตแน่นอน,อเมริกาควบคุมเกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้,แร่เอิร์ธอีกที่อเมริกาจะชิงจากจีนในเขมร,ศึกศักดิ์ศรีเต็มๆระหว่างจีนกับอเมริกาในเขมร ฮุนเซนโกงตังจีนหักหลังจีนชักดาบจีนจึงคบอเมริกาอย่างออกนอกหน้า,โดยแสดงเจตนาเข้าเป็นสมาชิกอินโดแปซิฟิก,อเมริกาแบนเขมรแค่ฉากละครปาหี่,จีนถูกเขมรหักหลังทรยศเต็มๆ,เขมรมันไม่ยอมใช้หนี้จีนแน่นอน,มันแค้นใจที่จีนกดขี่มันยึดครองที่ดินมันเป็นอันมากในเขมรตกไปเป็นของจีนสร้างนั้นนี้เต็มเขมร,รวมท่าเรือเรียมด้วยแบบพูดอะไรไม่ได้,การทรยศหักหลังคือทางเดียวเพื่อเอาแผ่นดินเขมรมาจากจีน ล้างหนี้สินจากจีนได้ก็แบบนี้ด้วย,จังหวะสงครามปะทะอาจมุกหนึ่งก็ด้วย,เรียกความสนใจจากอเมริกามาตบหน้าจีนสำเร็จด้วย. ..เขมร ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อเมริกา ฝรั่งเศสและชาติขี้ข้าอเมริกาทั้งหมดคือแก๊งเดียวกัน,ในเวลานี้,ใครๆก็เป็นหนี้จีน,หากจีนสิ้นชาติล้มสลาย ชาติต่างๆที่เป็นลูกหนี้จีน จะถูกล้างหนี้หมดรวมทั้งอเมริกาที่จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของอเมริกาด้วย มหาสงครามล้างหนี้ฆ่าเจ้าหนี้จึงเกิดขึ้น,ลาวก็ถูกจีนกดขี่มิน้อยเก็บกดแรงแค้นมหาศาลแน่นอน,เวียดนามก็ด้วย,พม่ายิ่งโหด,ยิ่งจีนชั่วนอกแถวหนีตายมาพม่ามาเขมรยิ่งจะพร้อมใจกันกำจัดจีนแผ่นดินใหญ่,รัสเชียถ้าจีนอ่อนแอก็จัดการจีนเหมือนในอดีตนั้นล่ะ อินเดียยิ่งคู่ปรับตลอดกาลของจีนปกติอยู่แล้วแค้นนี้ไม่ลืมหรอก,จีนจึงมีเกาหลีเหนือและไทยเท่านั้นที่เป็นมิตรแท้ได้,ไม่หักหลังจีน,ส่วนในนานรัฐบาลเลวชั่วอาจมีตามที่อเมริกาสั่งได้,แต่พื้นฐานโดยสถาบันกษัตริย์เรา ญาติพี่น้องกันชัดเจน คนจีนเป็นอันมากก็อยู่ในไทย,ได้สัญชาติไทยด้วย,จีนยุคใหม่อาจกบฎแนวสัมพันธ์นี้ได้แต่เมื่อตื่นรู้จะเข้าใจความเป็นจริงว่าไทยกับจีนสายใยแน่นหนามาก.กระทบโกรธกันบ้างก็มิเคยทำร้ายทำลายกันจริงอะไรแต่กลับช่วยเหลือซึ่งกันและกันตลอดเรื่อยมา. ..ลาว เวียดนาม เขมร พม่า แม้อยากทำสงครามยึดประเทศไทยก็ต้องมองหน้าจีนก่อนนั้นเอง.,ปัจจุบันเราก็ถล่มชาติรอบข้างนี้อย่างง่ายดายได้เช่นกัน,แต่เราไม่ทำ,เรารักสงบ,แต่เมื่อใดเราสิ้นอดทน พัฒนาการทางอาวุธเราก็ไใ่แพ้ชาติใดๆในโลกได้เมื่อเราตั้งใจจะทำมันจริงจังแบบนั้น,ขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์เราก็สามารถสร้างได้สบายมาก,10,000-20,000กม.อาจสร้างได้ธรรมดาด้วย,อย่าลืมว่าเราสามารถถอดจิตวิญญาณไปแลกเปลี่ยนวิวัฒนาการจากจักรวาลอื่นที่ล้ำๆขอความช่วยเหลือได้นะ,แค่เราจะทำหรือไม่. ..ศูนย์กลางพลังจักรวาลก็อยู่ที่ประเทศไทยเราแล้ว. https://youtube.com/shorts/iD2NnXgY51I?si=MLlq2Jubw_S5UNI_
    0 Comments 0 Shares 116 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 3 – ซ่อนรูป
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 3 : ซ่อนรูป
    ในปี ค.ศ.1940 หลวงพ่อ CFR ก็ทำการศึกษาวางแผนระยะยาวเพิ่มเติมอีก เกี่ยวกับเศรษฐกิจของอเมริการะหว่างการทำสงคราม ซึ่งจะต้องมีการดูแลจัดการเกี่ยวกับเรื่องปากท้อง เงินทอง เพื่อให้อเมริกา นักล่าเข้าไปทำสงครามแบบสบายใจ หลวงพ่อนี่ดูแลแบบ ไม่มีตกไม่หล่นเลย รอบคอบมาก พวกเขาสรุปว่า อเมริกาต้องหาทางทำให้เกิดรายได้เข้าประเทศ โดยหาหรือสร้างตลาดใหญ่ สำหรับรองรับการผลิตสินค้าของอเมริกา และเพื่อให้แน่ใจว่า อเมริกาจะเข้าไปถึงแหล่งวัตถุดิบในบริเวณที่ประทับตรา ควบคุม (ขโมย !) ได้อย่างสะดวกเสรี ปราศจากการปิดกั้น หรือต้องตีตั๋วผ่าน รวมทั้งดูแลส่วนที่เกี่ยวกับ การค้าขาย การลงทุน เพื่อให้การล่าราบรื่น ไม่มีสดุด ติดขัด อเมริกาจำเป็นต้องมีกองทัพอันแข็งแกร่ง Military Supremacy เพื่อการนี้ด้วย แม่เจ้าโว้ย ! ฟันน้ำนมยังไม่ขึ้น พี่เลี้ยงสั่งให้แยกเขี้ยวแล้ว
    เริ่มต้น Grand Area Project บอกว่าศึกษาเพื่อเตรียมให้อเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 และดูแลเศรษฐกิจของอเมริการะหว่างรบ ไม่ใช่รบๆ ไปกระเป๋าฉีก กางเกงขาด มันคงทุลักทุเล ทุเรศน่าดู แต่นั่นแหละพี่เลี้ยงนักล่าระดับหลวงพ่อ CFR ทำอะไรจะให้มันเปิดเผยเหมือนยืนล่อนจ้อนอยู่หน้าจอได้ยังไง มันต้องซ่อนต้องซ้อนกันหน่อย แท้จริงแล้ว Grand Area Project ได้ถูกออกแบบตั้งแต่แรก เพื่อให้อเมริกาเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่งของโลกเป็นผู้ครองโลก คุมเศรษฐกิจโลกทั้งหมด หลังสงครามโลกสิ้นสุดลง และเพื่อจะควบคุมเศรษฐกิจตามเป้าหมาย ก็จะต้องมีการจัดตั้งองค์กรระหว่างประเทศขึ้นอีกเพียบ เพื่อมาจัดตั้งระบบวางกฎระเบียบ ที่เหมาะสมกับการค้า การลงทุน และระบบการเงินระหว่างประเทศ ให้ทุกอย่างอยู่ในระบบเดียวกับที่อเมริกาต้องการ เอาถึงขนาดนั้นเลยล่ะ และเพื่อจะให้ได้ผลเช่นนั้น อเมริกาจะต้องมีกองกำลังกล้ามใหญ่เอาไว้เบ่ง เวลาพูดจะได้มีคนฟัง ไม่ใช่ทำหูทวนลม แบบนี้เสียหน้ามาถึงหลวงพ่อCFR ด้วย
    น่าสนใจจริงๆ Grand Area Project นี้ ออกแบบไว้ล่วงหน้า โดยใช้ข้อสมมุติฐานว่า
1. อเมริกาต้องเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง
2. เยอรมันจะต้องเป็นผู้แพ้สงครามในตอบจบ
3. หลังจากสงครามโลกจบ อเมริกาจะก้าวขึ้นเป็นพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งขึ้นครองโลก หลวงพ่อ CFR ไม่ใช่ธรรมดา ไม่ได้ทำนายหรือศึกษาเหตุการณ์ แต่ดูเหมือนจะ สร้าง เหตุการณ์ได้ด้วย ! ?
    ภายหลังจากเหตุการณ์ Pearl Harbor เมื่อ ค.ศ.1941 อเมริกาประกาศตัวโดดเข้าเล่นสงครามโลกด้วยจริงๆ ทันทีที่อเมริกาประกาศ CFR รีบออกข่าวตามไปติดๆ สำทับว่าฝ่ายอักษะแพ้สงครามแน่นอน แค่ยังไม่ออกข่าวว่าจะแพ้วันไหน เท่านั้นเอง และพร้อมกันนั้น CFR ขอแก้ไข Grand Area ทุ่งใหญ่ ไม่ใช่มีแค่ 4 แหล่ง ตามที่ศึกษาไว้ตอนแรก แต่มันต้องหมายรวมถึงโลกทั้งใบนี้ด้วย โอ้โห ! หลวงพ่อ CFR หนุนนักล่าสุดตัวไปเต็มตีนเลย แนวความคิดการจัดระเบียบโลกใหม่ จึงเกิดขึ้น (New World Order !) เราจำเป็นต้องจัดระเบียบใหม่ เกี่ยวกับการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ซึ่งต้องสอดคล้องกันกับแผนการ ที่จะให้อเมริกาเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง การรวมเป็นหนึ่งเดียวของประเทศทั้งหลายในโลก Unification จึงควรเป็นเป้าหมาย ตามแนวทางความคิดของ CFR พี่เลี้ยง/รัฐบาลอเมริกัน หรือควรจะเรียกว่าผู้กำกับหรือเจ้าของ ! ?
    แล้วเพื่อให้การดำเนินการเป็นไป ตามแผน พี่เลี้ยงบอกนักล่า จำเป็น ต้องเข้าไปมีส่วนร่วม ในกิจการภายในบ้าน (Internal Affairs) ของประเทศหลัก ที่นักล่าจะไป (หลอก) เอาวัตถุดิบที่อยู่ในบ้านเขามา ใช้ ต้องเข้าไปควบคุม ไปล้วงลูก ไปจัดการบ้านของพวกเขา ให้เป็นไปตามแผนเรา และต้องทำให้ประเทศนั้น นอกเหนือจาก ยินยอม ส่งวัถตุดิบให้เราแล้ว เราต้องทำให้เขารู้สึก อยาก ที่จะเป็นผู้บริโภคสินค้าที่เราผลิต (ด้วยวัตถุดิบของเขา) อีกด้วย นี่มันเดินหมากกิน 3 ต่อเลยนะ เพื่อให้นโยบายทั้งหมดสัมฤทธิผล เราจะต้องจัดตั้ง IMF และ IBRD (Bank For Reconstruction and Development ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น World Bank) มาเป็นส่วนสำคัญในการชักใย
    พี่เลี้ยง CFR บอกหน่วยงานพวกนี้ จำเป็นต้องมี เพื่อมาทำหน้าที่สร้างกลไกที่จะทำให้เงินสกุลของประเทศโลก ที่ 3 ที่เราจะไปลงทุน และค้าขายด้วย มีความมั่นคงมีเสถียรภาพ (ใช้ศัพท์วิชาการเลยนะลุง) แหม ! ถ้าเงินของไอ้พวกโลกที่ 3 มันขึ้นลงแบบลิฟท์เสีย ผู้ลงทุนสร้างนักล่าก็ล้มทั้งยืน ซิโยม แล้ว CFR ก็ลงมือร่างแผนการจัดตั้ง World Bank กับ IMF ตั้งแต่ ค.ศ.1941 ในที่สุดโดยการประชุมที่ Bretton Woods ค.ศ.1944 World Bank และ IMF ก็คลอด
    แต่ถึงยังงั้นก็เถอะ พี่เลี้ยง CFR ก็ยังเป็นห่วง พวกเขาดูแลนักล่าแบบพี่เลี้ยงมือโปร จะล่าเหยื่อกินแบบตะกรุมตะกรามให้ชาวบ้านเขาด่าได้ยังไง เรามันพวกครีม อยู่ชั้นบนของขนมเค้กเป็นชนชั้นสูงของสังคมมิใช่หรือ ฉะนั้นเราต้องเอาผ้าเช็ดปากมาปิดปาก เวลาจะอ้าปากเคี้ยว อำพรางตัวเองหน่อย ตั้งอะไรขึ้นมาบังหน้า แล้วเราคุมมันอีกต่อไม่ดีหรือ United Nations สหประชาชาติยังไงเล่า เพราะนายทุนกระเป๋าใหญ่ของ CFR อย่างมูลนิธิ Rockefeller และ Carnegie Corporation ต่างก็เคยฝัน อยากให้ประเทศต่างๆ รวมตัวกันเป็น League of Nations ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบใหม่ๆ แล้ว แต่ไม่ได้ประโยชน์อะไรหนักหนา ก็ได้แต่มารวมตัวกัน คุยกันหลวมๆ เหมือนมางานสังสรร ระดับ CFR จะคิดจะทำอะไรมันต้องหนักแน่นแม่นยำกว่านั้น มันต้องเป็นเครื่องมือของการล่าเหยื่อชนิดพิเศษ Informal Agenda Group จึงถูก CFR ตั้งขึ้นมาทำการบ้าน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1942 (ไอ้พวกนี้มันบ้าจัดตั้งหน่วยงานกันจริงนะ!) เพื่อสร้างฉาก จัดการ ให้มีหน่วยงานตามเป้าหมาย คือ องค์การสหประชาชาติ United Nations นั้นแหละ
    คณะสร้างฉากนี้มีสมาชิกทำงาน 6 คน รวมทั้งตัวนาย Cordell Hull รัฐมนตรีของ State Department คณะสร้างฉากนี้นอกเหนือจากตัวรัฐมนตรีแล้ว ที่เหลืออีก 5 คน เป็นสมาชิกของ CFR ทั้งสิ้น คณะสร้างฉาก ได้ข้อสรุปว่า เพื่อไม่ให้ชาวบ้านจับได้ไล่ทัน ว่าเราจะทำอะไร เราควรเอาตัวละครอื่นมาร่วมเข้า ฉากด้วย เป้ามันจะได้กระจาย เช่น สหภาพโซเวียต แคนาดา อังกฤษ ซึ่งประธานาธิบดี Roosevelt ก็ตกลง (คุณประธานาธิบดีนี่ เวลาหลวงพ่อ CFR เสนอ มีบ้างไหมที่แกไม่ตกลงชักสงสัย) ดังนั้นปี ค.ศ.1944 องค์กรสหประชาชาติก็ถูกจัดตั้งขึ้นเรียบร้อย มีกฎบัตร จัดร่างตีตราประทับอย่างถูกต้อง โดยลากเอาสมาชิก CFR ที่เป็นนักกฎหมายอีกเป็นกระบุง เข้ามาดูแล เข้ามาร่วมจัดร่างด้วย CFR ทำงานกันเป็นทีมแบบนี้ นายทุนกระเป๋าหนัก John D. Rockefeller หน้าบานยิ้มจนหุบปากไม่ลง ว่าแล้วก็ยกที่ดินกลางเมืองนิวยอร์ค ราคา 8.5 ล้านเหรียญ ให้เป็นของขวัญ (สมัยนั้น แปลว่าแยะนะครับ สมัยนี้ก็แยะ ถ้าเป็นเงินของเรา) เพื่อสร้างตึกสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ
    ตกลงนับตั้งแต่ ค.ศ.1939 เป็นต้นมา อเมริกานักล่าอยู่ภายใต้การกำกับชักใยอย่างเปิดเผย โดยกลุ่มพี่เลี้ยง CFR ตกลงหลวงพ่อ CFR เป็นเจ้าของนักล่า หรือแค่เป็นผู้จัดการ ยังมีใครอื่นที่กำกับหลวงพ่ออีกหรือเปล่า เรารู้กันแน่ไหมว่าใครเป็นคนสั่งให้โลกหมุน ใครเป็นคนกำหนดอนาคตของโลกใบนี้
    คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 3 – ซ่อนรูป นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 3 : ซ่อนรูป ในปี ค.ศ.1940 หลวงพ่อ CFR ก็ทำการศึกษาวางแผนระยะยาวเพิ่มเติมอีก เกี่ยวกับเศรษฐกิจของอเมริการะหว่างการทำสงคราม ซึ่งจะต้องมีการดูแลจัดการเกี่ยวกับเรื่องปากท้อง เงินทอง เพื่อให้อเมริกา นักล่าเข้าไปทำสงครามแบบสบายใจ หลวงพ่อนี่ดูแลแบบ ไม่มีตกไม่หล่นเลย รอบคอบมาก พวกเขาสรุปว่า อเมริกาต้องหาทางทำให้เกิดรายได้เข้าประเทศ โดยหาหรือสร้างตลาดใหญ่ สำหรับรองรับการผลิตสินค้าของอเมริกา และเพื่อให้แน่ใจว่า อเมริกาจะเข้าไปถึงแหล่งวัตถุดิบในบริเวณที่ประทับตรา ควบคุม (ขโมย !) ได้อย่างสะดวกเสรี ปราศจากการปิดกั้น หรือต้องตีตั๋วผ่าน รวมทั้งดูแลส่วนที่เกี่ยวกับ การค้าขาย การลงทุน เพื่อให้การล่าราบรื่น ไม่มีสดุด ติดขัด อเมริกาจำเป็นต้องมีกองทัพอันแข็งแกร่ง Military Supremacy เพื่อการนี้ด้วย แม่เจ้าโว้ย ! ฟันน้ำนมยังไม่ขึ้น พี่เลี้ยงสั่งให้แยกเขี้ยวแล้ว เริ่มต้น Grand Area Project บอกว่าศึกษาเพื่อเตรียมให้อเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 และดูแลเศรษฐกิจของอเมริการะหว่างรบ ไม่ใช่รบๆ ไปกระเป๋าฉีก กางเกงขาด มันคงทุลักทุเล ทุเรศน่าดู แต่นั่นแหละพี่เลี้ยงนักล่าระดับหลวงพ่อ CFR ทำอะไรจะให้มันเปิดเผยเหมือนยืนล่อนจ้อนอยู่หน้าจอได้ยังไง มันต้องซ่อนต้องซ้อนกันหน่อย แท้จริงแล้ว Grand Area Project ได้ถูกออกแบบตั้งแต่แรก เพื่อให้อเมริกาเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่งของโลกเป็นผู้ครองโลก คุมเศรษฐกิจโลกทั้งหมด หลังสงครามโลกสิ้นสุดลง และเพื่อจะควบคุมเศรษฐกิจตามเป้าหมาย ก็จะต้องมีการจัดตั้งองค์กรระหว่างประเทศขึ้นอีกเพียบ เพื่อมาจัดตั้งระบบวางกฎระเบียบ ที่เหมาะสมกับการค้า การลงทุน และระบบการเงินระหว่างประเทศ ให้ทุกอย่างอยู่ในระบบเดียวกับที่อเมริกาต้องการ เอาถึงขนาดนั้นเลยล่ะ และเพื่อจะให้ได้ผลเช่นนั้น อเมริกาจะต้องมีกองกำลังกล้ามใหญ่เอาไว้เบ่ง เวลาพูดจะได้มีคนฟัง ไม่ใช่ทำหูทวนลม แบบนี้เสียหน้ามาถึงหลวงพ่อCFR ด้วย น่าสนใจจริงๆ Grand Area Project นี้ ออกแบบไว้ล่วงหน้า โดยใช้ข้อสมมุติฐานว่า
1. อเมริกาต้องเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง
2. เยอรมันจะต้องเป็นผู้แพ้สงครามในตอบจบ
3. หลังจากสงครามโลกจบ อเมริกาจะก้าวขึ้นเป็นพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งขึ้นครองโลก หลวงพ่อ CFR ไม่ใช่ธรรมดา ไม่ได้ทำนายหรือศึกษาเหตุการณ์ แต่ดูเหมือนจะ สร้าง เหตุการณ์ได้ด้วย ! ? ภายหลังจากเหตุการณ์ Pearl Harbor เมื่อ ค.ศ.1941 อเมริกาประกาศตัวโดดเข้าเล่นสงครามโลกด้วยจริงๆ ทันทีที่อเมริกาประกาศ CFR รีบออกข่าวตามไปติดๆ สำทับว่าฝ่ายอักษะแพ้สงครามแน่นอน แค่ยังไม่ออกข่าวว่าจะแพ้วันไหน เท่านั้นเอง และพร้อมกันนั้น CFR ขอแก้ไข Grand Area ทุ่งใหญ่ ไม่ใช่มีแค่ 4 แหล่ง ตามที่ศึกษาไว้ตอนแรก แต่มันต้องหมายรวมถึงโลกทั้งใบนี้ด้วย โอ้โห ! หลวงพ่อ CFR หนุนนักล่าสุดตัวไปเต็มตีนเลย แนวความคิดการจัดระเบียบโลกใหม่ จึงเกิดขึ้น (New World Order !) เราจำเป็นต้องจัดระเบียบใหม่ เกี่ยวกับการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ซึ่งต้องสอดคล้องกันกับแผนการ ที่จะให้อเมริกาเป็นนักล่าหมายเลขหนึ่ง การรวมเป็นหนึ่งเดียวของประเทศทั้งหลายในโลก Unification จึงควรเป็นเป้าหมาย ตามแนวทางความคิดของ CFR พี่เลี้ยง/รัฐบาลอเมริกัน หรือควรจะเรียกว่าผู้กำกับหรือเจ้าของ ! ? แล้วเพื่อให้การดำเนินการเป็นไป ตามแผน พี่เลี้ยงบอกนักล่า จำเป็น ต้องเข้าไปมีส่วนร่วม ในกิจการภายในบ้าน (Internal Affairs) ของประเทศหลัก ที่นักล่าจะไป (หลอก) เอาวัตถุดิบที่อยู่ในบ้านเขามา ใช้ ต้องเข้าไปควบคุม ไปล้วงลูก ไปจัดการบ้านของพวกเขา ให้เป็นไปตามแผนเรา และต้องทำให้ประเทศนั้น นอกเหนือจาก ยินยอม ส่งวัถตุดิบให้เราแล้ว เราต้องทำให้เขารู้สึก อยาก ที่จะเป็นผู้บริโภคสินค้าที่เราผลิต (ด้วยวัตถุดิบของเขา) อีกด้วย นี่มันเดินหมากกิน 3 ต่อเลยนะ เพื่อให้นโยบายทั้งหมดสัมฤทธิผล เราจะต้องจัดตั้ง IMF และ IBRD (Bank For Reconstruction and Development ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น World Bank) มาเป็นส่วนสำคัญในการชักใย พี่เลี้ยง CFR บอกหน่วยงานพวกนี้ จำเป็นต้องมี เพื่อมาทำหน้าที่สร้างกลไกที่จะทำให้เงินสกุลของประเทศโลก ที่ 3 ที่เราจะไปลงทุน และค้าขายด้วย มีความมั่นคงมีเสถียรภาพ (ใช้ศัพท์วิชาการเลยนะลุง) แหม ! ถ้าเงินของไอ้พวกโลกที่ 3 มันขึ้นลงแบบลิฟท์เสีย ผู้ลงทุนสร้างนักล่าก็ล้มทั้งยืน ซิโยม แล้ว CFR ก็ลงมือร่างแผนการจัดตั้ง World Bank กับ IMF ตั้งแต่ ค.ศ.1941 ในที่สุดโดยการประชุมที่ Bretton Woods ค.ศ.1944 World Bank และ IMF ก็คลอด แต่ถึงยังงั้นก็เถอะ พี่เลี้ยง CFR ก็ยังเป็นห่วง พวกเขาดูแลนักล่าแบบพี่เลี้ยงมือโปร จะล่าเหยื่อกินแบบตะกรุมตะกรามให้ชาวบ้านเขาด่าได้ยังไง เรามันพวกครีม อยู่ชั้นบนของขนมเค้กเป็นชนชั้นสูงของสังคมมิใช่หรือ ฉะนั้นเราต้องเอาผ้าเช็ดปากมาปิดปาก เวลาจะอ้าปากเคี้ยว อำพรางตัวเองหน่อย ตั้งอะไรขึ้นมาบังหน้า แล้วเราคุมมันอีกต่อไม่ดีหรือ United Nations สหประชาชาติยังไงเล่า เพราะนายทุนกระเป๋าใหญ่ของ CFR อย่างมูลนิธิ Rockefeller และ Carnegie Corporation ต่างก็เคยฝัน อยากให้ประเทศต่างๆ รวมตัวกันเป็น League of Nations ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบใหม่ๆ แล้ว แต่ไม่ได้ประโยชน์อะไรหนักหนา ก็ได้แต่มารวมตัวกัน คุยกันหลวมๆ เหมือนมางานสังสรร ระดับ CFR จะคิดจะทำอะไรมันต้องหนักแน่นแม่นยำกว่านั้น มันต้องเป็นเครื่องมือของการล่าเหยื่อชนิดพิเศษ Informal Agenda Group จึงถูก CFR ตั้งขึ้นมาทำการบ้าน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1942 (ไอ้พวกนี้มันบ้าจัดตั้งหน่วยงานกันจริงนะ!) เพื่อสร้างฉาก จัดการ ให้มีหน่วยงานตามเป้าหมาย คือ องค์การสหประชาชาติ United Nations นั้นแหละ คณะสร้างฉากนี้มีสมาชิกทำงาน 6 คน รวมทั้งตัวนาย Cordell Hull รัฐมนตรีของ State Department คณะสร้างฉากนี้นอกเหนือจากตัวรัฐมนตรีแล้ว ที่เหลืออีก 5 คน เป็นสมาชิกของ CFR ทั้งสิ้น คณะสร้างฉาก ได้ข้อสรุปว่า เพื่อไม่ให้ชาวบ้านจับได้ไล่ทัน ว่าเราจะทำอะไร เราควรเอาตัวละครอื่นมาร่วมเข้า ฉากด้วย เป้ามันจะได้กระจาย เช่น สหภาพโซเวียต แคนาดา อังกฤษ ซึ่งประธานาธิบดี Roosevelt ก็ตกลง (คุณประธานาธิบดีนี่ เวลาหลวงพ่อ CFR เสนอ มีบ้างไหมที่แกไม่ตกลงชักสงสัย) ดังนั้นปี ค.ศ.1944 องค์กรสหประชาชาติก็ถูกจัดตั้งขึ้นเรียบร้อย มีกฎบัตร จัดร่างตีตราประทับอย่างถูกต้อง โดยลากเอาสมาชิก CFR ที่เป็นนักกฎหมายอีกเป็นกระบุง เข้ามาดูแล เข้ามาร่วมจัดร่างด้วย CFR ทำงานกันเป็นทีมแบบนี้ นายทุนกระเป๋าหนัก John D. Rockefeller หน้าบานยิ้มจนหุบปากไม่ลง ว่าแล้วก็ยกที่ดินกลางเมืองนิวยอร์ค ราคา 8.5 ล้านเหรียญ ให้เป็นของขวัญ (สมัยนั้น แปลว่าแยะนะครับ สมัยนี้ก็แยะ ถ้าเป็นเงินของเรา) เพื่อสร้างตึกสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ ตกลงนับตั้งแต่ ค.ศ.1939 เป็นต้นมา อเมริกานักล่าอยู่ภายใต้การกำกับชักใยอย่างเปิดเผย โดยกลุ่มพี่เลี้ยง CFR ตกลงหลวงพ่อ CFR เป็นเจ้าของนักล่า หรือแค่เป็นผู้จัดการ ยังมีใครอื่นที่กำกับหลวงพ่ออีกหรือเปล่า เรารู้กันแน่ไหมว่าใครเป็นคนสั่งให้โลกหมุน ใครเป็นคนกำหนดอนาคตของโลกใบนี้ คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 2 – ทุ่งใหญ่
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 2 : ทุ่งใหญ่
    CFR แอบทำโครงการลับๆ อย่างเงียบๆ และต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1939 ถึง 1945 ชื่อ War and Peace Studies ซึ่งเป็นการประสานงานร่วมมือกันระหว่างสมาชิกของ CFR กับ State Department ของรัฐบาล แต่เงินทุนที่ใช่ในการทำโครงการนี้ทั้งหมด ไม่ต้องบอกก็คงเดากันออก มาจากนายทุนโคตรรวย กระเป๋าของมูลนิธิ Rockefeller ทั้งหมด (อย่าเพิ่งเบื่อชื่อนี้นะครับ ถึงเบื่อ ก็ต้องทนเอา เพราะเขาเป็นตัวจริงเสียงจริง ในการกำกับพวกพี่เลี้ยง หรือเรียกให้ถูก น่าจะต้องใช้คำว่า เขาเป็น เจ้าของ คงไม่เป็นการแดกดันเขานัก)
    โครงการ War and Peace Studies นี้ วัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อสร้างให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิอเมริกา เช่นเดียวกับ จักรวรรดิ หรือจักรภพอังกฤษ เพียงแต่จะเป็นจักรวรรดินักล่าที่วิธีการล่าต่างกัน อังกฤษเป็นนักล่าอาณานิคมที่ต้องการขยายดินแดน เพราะประเทศตัวเองเป็นเกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ต้องการเอาประเทศของคนอื่นมาเป็นอาณานิคม เพื่อขยายอาณาจักรตัวเอง เพื่อปกครองและเพื่อใช้ทรัพยากรของเขา เพื่อสร้างความเจริญและความยิ่งใหญ่ของตนเอง แหม ! ให้ใครๆ เรียกว่า Empress of India หรือ Viceroy of Burma มันก็สมเป็นนายเหนือของอาณานิคมกร่างดีออก ภูมิใจนักหนากับประโยคที่พูดซ้ำซากว่า ดวงอาทิตย์ไม่มีวันตกในจักรภพอังกฤษ แสดงให้เห็นถึงอาณาจักรที่กว้างใหญ่ไพศาล
    แต่ผู้คิดสร้างอเมริกานักล่ารุ่นใหม่บอก คิดแบบนั้นมันไม่ฉลาดเท่าไหร่หรอก เอาไปทำไมประเทศคนอื่น ต้องไปเลี้ยงดูประชาชนพลเมืองเขาอีก ตัวเล็ก ตัวดำ ตัวเหลือง พูดกันไม่รู้เรื่อง คิดก็ต่างกัน ไม่เอาหรอก เราอย่าไปคิดเอาประเทศเขามาเป็นอาณานิคมเลยนะ ภาระมันแยะ เราแค่คิดวิธีที่จะทำอะไรก็ได้ ในแผ่นดินเขาดีกว่า ใช้ทรัพยากร ใช้คน ใช้เงิน ใช้กลอุบายทุกอย่าง ให้ผู้คนในแผ่นดินนั้น มันตกหลุมเราทุกประการ โดยเราไม่ต้องไปรับผิดชอบว่าเขาเป็นคนของเรา มันไม่ดีกว่าหรือ เราแค่อ้างว่าเราจะนำความเจริญมาให้เขา เราทำเพื่อความเจริญของโลก แค่นั้น เขาก็รีบเปิดประตูเมืองรับเรามือไม้สั่นไปหมดแล้ว
    แล้วเราอย่าไปเรียกตัวเองว่า จักรวรรดิอเมริกาด้วย มันล่อแหลม (ต่อความล้มเหลว !) ในทางตรงกันข้าม เรากลับต้องปลอมตัว (ลวงโลก) ว่า อเมริกาต่างหากที่เป็นผู้สนับสนุนให้เสรีภาพ อิสระภาพให้เกิดขึ้นกับประเทศอาณานิคม (ถือโอกาสตบหน้าอังกฤษแถมให้) ให้มีประชาธิปไตยเกิดขึ้นในโลกอันสวยงามใบนี้ และให้มีเสรีภาพในการทำมาค้าขาย ไม่มีการปิดกั้น โดยเราจะใช้กลไกที่จะเราจะตั้งขึ้นใหม่ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่โลกจะดูไม่รู้ จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
    มันเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ ที่สวยหรู ที่บิดเบือนความจริง ลวงโลก ที่ได้ผลอย่างยอดเยี่ยมที่สุดแห่งศตวรรษ จนบัดนี้ยังไม่มีโฆษณาชวนเชื่อใดมาลบล้างได้ !
    ตราบใดที่เศรษฐกิจของอเมริการุ่งเรือง แบงค์ดอลล่าร์สีเขียวของอเมริกา ยังเป็นแผ่นกระดาษที่โลกยอมรับและต้องการ การลวงโลกแบบนี้จะบอกว่าไม่สำเร็จ ได้อย่างไร และตราบใดที่ยุโรปตะวันตก ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และเอเซียตะวันออก เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ฯลฯ ยังต้องพึ่งพากองทัพ (ที่อ้างว่า) เกรียงไกรของอเมริกาในการปกป้องภูมิภาคของตน นี่แหละคือข้อพิสูจน์ว่า จักรวรรดิอเมริกามีจริงเป็นจริง จักรวรรดิอเมริกา พี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ใหญ่อย่างชนิด ไม่มีใครกล้ามาท้าทาย (แน่ใจหรือเปล่า ? !)
    นอกจากนี้ โครงการ War and Peace Studies นี้ เสนอความคิด และแนวทาง (shopping list) เพื่อให้อเมริกาปฏิบัติการอีกมากมาย ภายหลังสงครามโลกสิ้นสุด ที่สำคัญคือเขากำหนด บริเวณ ของโลกใบนี้ที่อเมริกาจะต้องประทับตรา ควบคุมหรือครอบครอง เพื่อส่งเสริมให้อเมริกามีเศรษฐกิจที่แข็งแรง บริเวณที่อเมริกาจะควบคุมนี้เขาเรียกกันว่า “Grand Area” ทุ่งใหญ่สำหรับนักล่า ซึ่งอยู่ในบริเวณต่อไปนี้
– ลาตินอเมริกา (ดินแดนกว้างใหญ่ ทรัพยากรแยะ นักล่าจะเอาไว้ทำอะไร ถ้าจำไม่ได้ช่วยกลับไปอ่านนิทานมายากลยุทธอีกรอบนะครับ)
– ยุโรป ซึ่งจะต้องยับเยินหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุด (เป็นพี่เลี้ยงที่สุดเจ๋งจริงๆ คาดการณ์ได้แม่นยำเหมือนลงมือจัดการเอง ! ! เป็นการควบคุมให้ล้มอย่างมีระเบียบ ฮา)
– เหล่าอดีตอาณานิคมของจักรภพอังกฤษ (นายเหนือเจ๊ง แล้วขี้ข้าจะทำยังไง ไม่ฉวยโอกาสฉกมาตอนนี้ แล้วจะไปรอหลังสงครามโลกครั้งหน้าหรือไง)
– เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (มาแล้ว ทุ่งหญ้าของพวกเราไง ที่เหล่าสมันน้อยอยู่แบบกินอิ่ม นอนหลับ ตื่นมาก็วิ่งเล่นเต๊าะแต๊ะน่ารัก) เพราะบริเวณนี้ ยังอุดมสมบูรณ์ มีแหล่งทรัพยากรและวัตถุดิบ ที่ Great Britain และญี่ปุ่น จะได้ใช้สอย ในฐานะผู้ผลิต และเหล่าสมันน้อยในทุ่งหญ้านี้จะได้ใช้สอย ในฐานะผู้บริโภคผลผลิต ของญี่ปุ่น (โอ ! นายท่าน ช่างเก่งจริงๆ อ่านขาดล่วงหน้า ตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกแบบนี้ ถ้านักการเมืองไทยมันรู้ว่า CFR สุดโปรดของผม มันเยี่ยมขนาดนี้นะ หมอดูอีที เห็นทีจะหมดอาชีพ มิน่าเล่าไอ้หมาไนโจรร้ายมันถึงไปใช้บริการของไอ้ก๊วนพวกนี้ !)
    ดังนั้นโปรดเข้าใจด้วย เวลาเขาพูดถึงผลประโยชน์ของอเมริกา เขาบอกว่าจะต้องนับเอา Grand Area ทุ่งใหญ่ รวมทั้งการปกป้อง คุมครองดูแลทุ่งใหญ่นี้ เข้าไปด้วย อ้าว ! สมันน้อยกลายเป็นผลประโยชน์ของเขา ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยนะ รู้ตัวกันบ้างหรือเปล่า และในที่สุดจะรวมไปถึงโจทย์ที่ว่า จะพิจารณาปกป้องเวียตนาม ให้พ้นจากลัทธิคอมมิวนิสต์ด้วย หรือไม่ นี่เขียนไว้ตั้งแต่ ค.ศ.1939 นะเนี่ย ! ศักดิ์สิทธิจริงๆ หลวงพ่อ CFR ! ผมเลื่อนตำแหน่งให้แล้ว เพราะการวิเคราะห์ แบบนี้ หมอดูคนไหนก็ไม่มีทางสู้หลวงพ่อ CFR ได้แน่นอน
    คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 2 – ทุ่งใหญ่ นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 2 : ทุ่งใหญ่ CFR แอบทำโครงการลับๆ อย่างเงียบๆ และต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1939 ถึง 1945 ชื่อ War and Peace Studies ซึ่งเป็นการประสานงานร่วมมือกันระหว่างสมาชิกของ CFR กับ State Department ของรัฐบาล แต่เงินทุนที่ใช่ในการทำโครงการนี้ทั้งหมด ไม่ต้องบอกก็คงเดากันออก มาจากนายทุนโคตรรวย กระเป๋าของมูลนิธิ Rockefeller ทั้งหมด (อย่าเพิ่งเบื่อชื่อนี้นะครับ ถึงเบื่อ ก็ต้องทนเอา เพราะเขาเป็นตัวจริงเสียงจริง ในการกำกับพวกพี่เลี้ยง หรือเรียกให้ถูก น่าจะต้องใช้คำว่า เขาเป็น เจ้าของ คงไม่เป็นการแดกดันเขานัก) โครงการ War and Peace Studies นี้ วัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อสร้างให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิอเมริกา เช่นเดียวกับ จักรวรรดิ หรือจักรภพอังกฤษ เพียงแต่จะเป็นจักรวรรดินักล่าที่วิธีการล่าต่างกัน อังกฤษเป็นนักล่าอาณานิคมที่ต้องการขยายดินแดน เพราะประเทศตัวเองเป็นเกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ต้องการเอาประเทศของคนอื่นมาเป็นอาณานิคม เพื่อขยายอาณาจักรตัวเอง เพื่อปกครองและเพื่อใช้ทรัพยากรของเขา เพื่อสร้างความเจริญและความยิ่งใหญ่ของตนเอง แหม ! ให้ใครๆ เรียกว่า Empress of India หรือ Viceroy of Burma มันก็สมเป็นนายเหนือของอาณานิคมกร่างดีออก ภูมิใจนักหนากับประโยคที่พูดซ้ำซากว่า ดวงอาทิตย์ไม่มีวันตกในจักรภพอังกฤษ แสดงให้เห็นถึงอาณาจักรที่กว้างใหญ่ไพศาล แต่ผู้คิดสร้างอเมริกานักล่ารุ่นใหม่บอก คิดแบบนั้นมันไม่ฉลาดเท่าไหร่หรอก เอาไปทำไมประเทศคนอื่น ต้องไปเลี้ยงดูประชาชนพลเมืองเขาอีก ตัวเล็ก ตัวดำ ตัวเหลือง พูดกันไม่รู้เรื่อง คิดก็ต่างกัน ไม่เอาหรอก เราอย่าไปคิดเอาประเทศเขามาเป็นอาณานิคมเลยนะ ภาระมันแยะ เราแค่คิดวิธีที่จะทำอะไรก็ได้ ในแผ่นดินเขาดีกว่า ใช้ทรัพยากร ใช้คน ใช้เงิน ใช้กลอุบายทุกอย่าง ให้ผู้คนในแผ่นดินนั้น มันตกหลุมเราทุกประการ โดยเราไม่ต้องไปรับผิดชอบว่าเขาเป็นคนของเรา มันไม่ดีกว่าหรือ เราแค่อ้างว่าเราจะนำความเจริญมาให้เขา เราทำเพื่อความเจริญของโลก แค่นั้น เขาก็รีบเปิดประตูเมืองรับเรามือไม้สั่นไปหมดแล้ว แล้วเราอย่าไปเรียกตัวเองว่า จักรวรรดิอเมริกาด้วย มันล่อแหลม (ต่อความล้มเหลว !) ในทางตรงกันข้าม เรากลับต้องปลอมตัว (ลวงโลก) ว่า อเมริกาต่างหากที่เป็นผู้สนับสนุนให้เสรีภาพ อิสระภาพให้เกิดขึ้นกับประเทศอาณานิคม (ถือโอกาสตบหน้าอังกฤษแถมให้) ให้มีประชาธิปไตยเกิดขึ้นในโลกอันสวยงามใบนี้ และให้มีเสรีภาพในการทำมาค้าขาย ไม่มีการปิดกั้น โดยเราจะใช้กลไกที่จะเราจะตั้งขึ้นใหม่ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ แต่โลกจะดูไม่รู้ จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน มันเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ ที่สวยหรู ที่บิดเบือนความจริง ลวงโลก ที่ได้ผลอย่างยอดเยี่ยมที่สุดแห่งศตวรรษ จนบัดนี้ยังไม่มีโฆษณาชวนเชื่อใดมาลบล้างได้ ! ตราบใดที่เศรษฐกิจของอเมริการุ่งเรือง แบงค์ดอลล่าร์สีเขียวของอเมริกา ยังเป็นแผ่นกระดาษที่โลกยอมรับและต้องการ การลวงโลกแบบนี้จะบอกว่าไม่สำเร็จ ได้อย่างไร และตราบใดที่ยุโรปตะวันตก ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และเอเซียตะวันออก เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ฯลฯ ยังต้องพึ่งพากองทัพ (ที่อ้างว่า) เกรียงไกรของอเมริกาในการปกป้องภูมิภาคของตน นี่แหละคือข้อพิสูจน์ว่า จักรวรรดิอเมริกามีจริงเป็นจริง จักรวรรดิอเมริกา พี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ใหญ่อย่างชนิด ไม่มีใครกล้ามาท้าทาย (แน่ใจหรือเปล่า ? !) นอกจากนี้ โครงการ War and Peace Studies นี้ เสนอความคิด และแนวทาง (shopping list) เพื่อให้อเมริกาปฏิบัติการอีกมากมาย ภายหลังสงครามโลกสิ้นสุด ที่สำคัญคือเขากำหนด บริเวณ ของโลกใบนี้ที่อเมริกาจะต้องประทับตรา ควบคุมหรือครอบครอง เพื่อส่งเสริมให้อเมริกามีเศรษฐกิจที่แข็งแรง บริเวณที่อเมริกาจะควบคุมนี้เขาเรียกกันว่า “Grand Area” ทุ่งใหญ่สำหรับนักล่า ซึ่งอยู่ในบริเวณต่อไปนี้
– ลาตินอเมริกา (ดินแดนกว้างใหญ่ ทรัพยากรแยะ นักล่าจะเอาไว้ทำอะไร ถ้าจำไม่ได้ช่วยกลับไปอ่านนิทานมายากลยุทธอีกรอบนะครับ)
– ยุโรป ซึ่งจะต้องยับเยินหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุด (เป็นพี่เลี้ยงที่สุดเจ๋งจริงๆ คาดการณ์ได้แม่นยำเหมือนลงมือจัดการเอง ! ! เป็นการควบคุมให้ล้มอย่างมีระเบียบ ฮา)
– เหล่าอดีตอาณานิคมของจักรภพอังกฤษ (นายเหนือเจ๊ง แล้วขี้ข้าจะทำยังไง ไม่ฉวยโอกาสฉกมาตอนนี้ แล้วจะไปรอหลังสงครามโลกครั้งหน้าหรือไง)
– เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (มาแล้ว ทุ่งหญ้าของพวกเราไง ที่เหล่าสมันน้อยอยู่แบบกินอิ่ม นอนหลับ ตื่นมาก็วิ่งเล่นเต๊าะแต๊ะน่ารัก) เพราะบริเวณนี้ ยังอุดมสมบูรณ์ มีแหล่งทรัพยากรและวัตถุดิบ ที่ Great Britain และญี่ปุ่น จะได้ใช้สอย ในฐานะผู้ผลิต และเหล่าสมันน้อยในทุ่งหญ้านี้จะได้ใช้สอย ในฐานะผู้บริโภคผลผลิต ของญี่ปุ่น (โอ ! นายท่าน ช่างเก่งจริงๆ อ่านขาดล่วงหน้า ตั้งแต่ก่อนเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกแบบนี้ ถ้านักการเมืองไทยมันรู้ว่า CFR สุดโปรดของผม มันเยี่ยมขนาดนี้นะ หมอดูอีที เห็นทีจะหมดอาชีพ มิน่าเล่าไอ้หมาไนโจรร้ายมันถึงไปใช้บริการของไอ้ก๊วนพวกนี้ !) ดังนั้นโปรดเข้าใจด้วย เวลาเขาพูดถึงผลประโยชน์ของอเมริกา เขาบอกว่าจะต้องนับเอา Grand Area ทุ่งใหญ่ รวมทั้งการปกป้อง คุมครองดูแลทุ่งใหญ่นี้ เข้าไปด้วย อ้าว ! สมันน้อยกลายเป็นผลประโยชน์ของเขา ตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยนะ รู้ตัวกันบ้างหรือเปล่า และในที่สุดจะรวมไปถึงโจทย์ที่ว่า จะพิจารณาปกป้องเวียตนาม ให้พ้นจากลัทธิคอมมิวนิสต์ด้วย หรือไม่ นี่เขียนไว้ตั้งแต่ ค.ศ.1939 นะเนี่ย ! ศักดิ์สิทธิจริงๆ หลวงพ่อ CFR ! ผมเลื่อนตำแหน่งให้แล้ว เพราะการวิเคราะห์ แบบนี้ หมอดูคนไหนก็ไม่มีทางสู้หลวงพ่อ CFR ได้แน่นอน คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 1 : พี่เลี้ยงนางนม
    อเมริกาพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ที่วันนี้กำลังถูกท้าทาย จะรักษาตำแหน่งหมายเลขหนึ่งได้หรือไม่ ได้อีกนานเท่าไร ชาวโลกกำลังจับตามอง อเมริกา ขยับขา อ้าแขน แหกปาก ไม่ว่าจะทำอะไรเป็นข่าวไปทั่วโลก แต่เป็นข่าวในทางร้ายมากกว่าดี แต่ถึงอย่างนี้ก็ยังมีชาวโลกสวยชื่นชอบอเมริกา ผู้นำความเจริญมาสู่โลก ผู้นำเศรษฐกิจเสรี โลกาภิวัฒน์มันไปทุกอย่าง ไม่ ว่าการค้า การศึกษา วัฒนธรรม ฯลฯ ไม่มีอเมริกาเป็นเพื่อน ไม่มีอเมริกาตบหัวลูบหลัง หรืออเมริกาไม่เห็นด้วย ไม่ว่าเรื่องอะไร จะเป็นจะตายเสียให้ได้
    แต่ถ้าถามชาวแหกคอกไม่ว่าพันธ์เทศพันธ์ไทย ต่างบอก ถุด ! อเมริกา มันก็แค่นักล่า(อาณานิคม)รุ่นใหม่ กระสันอยากจะป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่ใจไม่ถึงที่จะประกาศให้โลกรู้ ได้แต่ทำตัวหน้าไหว้หลังหลอก อย่างงี้นักเลงจริงเขาดูถูก (โปรดนึกถึงหน้าพี่ปูตินเวลาพูดกับนายโอบามาก็แล้วกัน) แล้วสมันน้อยว่าไงจ๊ะ เห็นอเมริกาเป็นพี่เบิ้ม ผู้นำ ผู้พิทักษ์ ผู้ปกครอง ฯลฯ หรือเป็นนักล่ารุ่นใหม่ ไม่ต่างกับจิ๊กโก๋ปากซอย กล้าเบ่งแต่กับผู้อ่อนแอกว่า เจอนักเลงใหญ่อย่างพี่ปู หรือแค่อาเฮียยืนหน้าเฉย อย่าติดเบรคใส่เกียร์ว่างก็แล้วกัน
    แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพึ่งลงมติ นี่ยังไม่ถึงตีสี่ มีเวลาตัดสินใจ อ่านนิทานกันไปเรื่อยๆก่อนแล้วกัน อ่านๆไปก็จะมองออกเองแหละ ว่าอเมริกาเป็นพี่เบิ้มผู้พิทักษ์ของโลกสวย หรือเป็นนักล่าของชาวแหกคอก รู้จักเขาให้ชัดเจน จะได้รู้ว่าควรจะปฏิบัติตัวเองหรือปฏิบัติกับอเมริกาอย่างไร
    นักวิเคราะห์การเมืองรุ่นใหม่(สมัยนั้น) ต่างประสานเสียงเชียร์ บอกว่าอเมริกาเป็นนักล่าแน่นอนที่สุดและไม่ได้เป็นนักล่าแบบอุบัติเหตุ ไม่ใช่ประเภทเป็นเด็กกำพร้าไม่มีใครเลี้ยงดู เลยต้องปากถีบตีนกัด ออกมาล่าเหยื่อเลี้ยงตัวเองตั้งกะเด็ก ไม่ใช่นะ อย่าเข้าใจผิดเด็ดขาด อเมริกาเป็นลูกคนรวย ที่ถูกเลี้ยง ถูกฝึก ถูกเลือกให้เป็นนักล่าเหยื่อต่างหาก ถูกเลือก เข้าใจไหม (America was chosen to be an empire) มันมีการวางยุทธศาสตร์ หารือ วางแผนและปฏิบัติการให้อเมริกาเป็นนักล่าเป็น American Empire !
    เอาละซิ แล้วใครล่ะที่เป็นพี่เลี้ยงนางนม เป็นคนฝึก เป็นคนวางแผนให้อเมริกาเป็นนักล่า จะรู้ให้แน่ต้องแกะรอยเก่าของนักล่าย้อนไปให้เห็นภาพตั้งแต่ ยังเป็นละอ่อน เริ่มตั้งไข่ ดูว่าเขาหัดเดิน หัดคลานอย่างไร ใครเป็นพี่เลี้ยง เป็นพี่เลี้ยงแบบไหน ประเภทวิ่งไปตามเนินเขา แล้วร้องเพลง The Sound of Music หรือเปล่า (ท่านที่เกิดไม่ทันหนังเรื่องนี้ ขออำไพนะครับ ถึงไม่เคยดู ก็น่าจะเคยได้ยินเพลงบ้างน่า พระเอกมีลูกเป็นพรวน เมียตาย หรือไงเนี่ย ผมก็จำไม่ค่อยได้ จ้างนางเอกมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ดูแลเด็ก ในที่สุดพระเอกก็รักกับคุณพี่เลี้ยงตามฟอร์ม เด็กก็ดีใจไชโย เรื่องแสนจะธรรมดา สมัยนั้น ไม่มีอะไรซับซ้อนจนแบบเดาไมได้ ไม่ใช่หนังจบแล้ว หันหน้ามองกัน เลิกลั่ก มึนไปหมด ไม่มีครับ) หรือถ้าไม่เป็นพี่เลี้ยงแต่เป็นแม่เลี้ยง แบบแม่เลี้ยงใจร้ายของหนูน้อย Cinderella หนังการ์ตูนยอดฮิตของ Walt Disney ก่อนมาทำเป็นหนังใหญ่ เห็นไหมครับ ขนาดจะอธิบายเรื่องพี่เลี้ยง แม่เลี้ยง ยังต้องยกตัวอย่างหนัง Hollywood เลย เห็นอิทธิพลของเขาไหม จะให้ยกตัวอย่างเป็นปลาบู่ทอง จะมีใครรู้เรื่องบ้าง
    ผู้ที่ร่วมมือกัน ทำหน้าที่พี่เลี้ยง ป้อนนม ป้อนน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม จับอเมริกาตั้งไข่ หัดเดิน ซ้อมให้เป็นนักล่า ไม่ใช่ใครที่ไหนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า แต่เป็นกลุ่มชนชั้นนำในสังคมอเมริกา คือ พวก Elites นั่นแหละ ที่ประกอบด้วย นายธนาคารและบรรดาบริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมของอเมริกา (Americas Industrial Revolution) ในปลายศตวรรษที่ 19 รวมทั้งพวกมูลนิธิ ที่อ้างตัวว่าก่อตั้งขึ้นมาเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ Philanthropic Foundations (พวกมูลนิธิแบบนี้น่ะในบ้านเราก็มีจับตากันให้ดี สอดไส้กันง่ายเหลือเกิน) สถาบันการศึกษาชั้นนำต่างๆ และสถาบันที่เป็นถังความคิด (Think Tank) รวมทั้งกลุ่มทุนธุรกิจ ซึ่งเดินกร่างอยู่บนเส้นทางของอำนาจ สรุปง่ายๆ ว่าเป็นกลุ่มคน ที่ถ้าเปรียบแบบฝรั่ง เขาก็จะบอกว่าเป็นเหมือนพวก cream หรือ topping ที่อยู่ชั้นบนสุดของขนมเค้กนั่นแหละ คือกลุ่มผู้ที่ทำหน้าที่พี่เลี้ยงนักล่า
    ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น พี่เลี้ยงนักล่าที่เดินร้องเพลงเชียร์นำมาก่อนคือพวกนักยุทธศาสตร์อเมริกัน เริ่มประสานเสียงเรียกหา New Global American Empire จักรวรรดิอเมริกาที่จะครองโลกอ ยู่ไหน นำโดย Henry R. Luce บัณฑิตจากมหาวิทยาลัย Yale ผู้ก่อตั้งหนังสือ Time Magazine, Life และ Fortune ซึ่งเป็นลูกพี่ใหญ่ในวงการสำนักพิมพ์ ที่มีอิทธิพลในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 และเป็นหัวหน้ากองเชียร์ เสียงดังของพรรค Republican ซึ่งต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์อย่างเปิดเผย ขนาดไปเป็นที่ปรึกษาให้กับพวกนักการเมืองเผด็จการทางฝั่งยุโรป เช่น Mussolini ของอิตาลีและพวกนาซีของเยอรมัน ด้วยความเชื่อว่าวิถีของเผด็จการ จะหยุดการแพร่พันธ์ของคอมมิวนิสต์ได้ เชื่อกันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
    ในปี ค.ศ.1941 นาย Luce เขียนบทความดังเป็นพลุแตก (แบบนิทานจิกโก๋ปากซอย ฮา) ลงในนิตยสาร Life ชื่อ The American Century ศตวรรษของอเมริกา เขาบอกว่าศตวรรษที่ 20 นี้ จะเป็นเวลาของอเมริกา เป็นช่วงเวลาที่โลกจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้นำโลกตัวจริงมาแล้ว มันไม่เหมือนกับการเป็นจักรวรรดิแบบโรม หรือเจ็งกิสข่านหรือจักรภพอังกฤษ ที่ทำเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่จะเป็นจักรวรรดิเพื่อมนุษย์ชาติทั้งปวง ไม่ใช่เฉพาะแต่อเมริกันชนเท่านั้น ว่าเข้านั่น พูดแบบอเมริกันแท้ ไม่มีเทียมเลยคุณพี่ คุณพี่ Luce นี่นอกจากเชียร์สุดลิ่ม และยังเป็นนักฝันดีอีกด้วย
    ในขณะที่นาย Luce เป็นนักร้องนำ เขียนบทความสรรเสริญอเมริกา ลงทุนผ่านปากกา แต่ผู้ที่ลงแรง ลงมือ ลงขัน จัดการให้ ศตวรรษอเมริกาเกิดขึ้นจริงๆ ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด มาจากความคิดริเริ่มและการผลัก ดันของ the Council on Foreign Relations (CFR) กลุ่มนักคิด นักวางแผนโคตรชั่ว ตัวแสบนั่นเอง และนักยุทธศาสตร์คนสำคัญ CFR ที่เป็นหัวรถจักร ของรถไฟสายพี่เลี้ยง คือนาย Dean Acheson นาย Acheson นี้ มีประวัติน่าสนใจ เขาเป็นทนายความ ต่อมาเปลี่ยนเส้นทางมาเข้าวงการ เมือง ไต่กระไดขึ้นมาเรื่อย จนในที่สุดได้เป็น Secretary of State ช่วงปี ค.ศ.1949 – 1953 สมัยนาย Truman เป็นประธานาธิบดี เขามีส่วนสำคัญในการร่างนโยบาย ตปท. ของอเมริกาในช่วงสงครามเย็น (เอ! ใครเอาอย่างนะ จากทนายหน้าหอ มาเป็น รอ มอ ตอ ต่างประเทศ)
    ตั้งแต่ปี ค.ศ.1939 เมื่อเยอรมันบุกโปแลนด์ นาย Acheson เขียนหนังสือเรื่อง An American Attitude เป็นใบสั่งล่วงหน้าว่า หลัง สงครามโลกจบ อเมริกาจะต้องทำอะบ้าง (เขาสั่งกันได้ตั้งแต่ก่อนเข้าไปร่วมทำสงคราม) สิ่งที่สำคัญอเมริกาจะต้องทำคือ ทำให้โลกมีเสรีภาพในทางเศรษฐกิจการค้า หลังจากนั้นนาย Acheson ก็เป็นหนึ่งในคณะผู้ทำงานของ CFR ในการวางแผน ตั้งไข่ ให้แก่นักล่า หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง
    แม้ว่าอเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการในปลายปี ค.ศ.1941 แต่ CFR วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้วว่า อเมริกาจะต้องเข้าสู่สงครามโลก เลิกยืนกอดอกดูอยู่ข้างสนามแบบนั้นมันจะไปได้เรื่องอะไร กระโดดลงไปในสนามรบได้แล้ว อันที่จริงพวกเขาวางแผนตั้งแต่ก่อนสงครามโลกจะเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ ที่จะให้อเมริกากระโจนลงไปในสนามรบ
    คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 1 : พี่เลี้ยงนางนม อเมริกาพี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งของโลก ที่วันนี้กำลังถูกท้าทาย จะรักษาตำแหน่งหมายเลขหนึ่งได้หรือไม่ ได้อีกนานเท่าไร ชาวโลกกำลังจับตามอง อเมริกา ขยับขา อ้าแขน แหกปาก ไม่ว่าจะทำอะไรเป็นข่าวไปทั่วโลก แต่เป็นข่าวในทางร้ายมากกว่าดี แต่ถึงอย่างนี้ก็ยังมีชาวโลกสวยชื่นชอบอเมริกา ผู้นำความเจริญมาสู่โลก ผู้นำเศรษฐกิจเสรี โลกาภิวัฒน์มันไปทุกอย่าง ไม่ ว่าการค้า การศึกษา วัฒนธรรม ฯลฯ ไม่มีอเมริกาเป็นเพื่อน ไม่มีอเมริกาตบหัวลูบหลัง หรืออเมริกาไม่เห็นด้วย ไม่ว่าเรื่องอะไร จะเป็นจะตายเสียให้ได้ แต่ถ้าถามชาวแหกคอกไม่ว่าพันธ์เทศพันธ์ไทย ต่างบอก ถุด ! อเมริกา มันก็แค่นักล่า(อาณานิคม)รุ่นใหม่ กระสันอยากจะป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่ใจไม่ถึงที่จะประกาศให้โลกรู้ ได้แต่ทำตัวหน้าไหว้หลังหลอก อย่างงี้นักเลงจริงเขาดูถูก (โปรดนึกถึงหน้าพี่ปูตินเวลาพูดกับนายโอบามาก็แล้วกัน) แล้วสมันน้อยว่าไงจ๊ะ เห็นอเมริกาเป็นพี่เบิ้ม ผู้นำ ผู้พิทักษ์ ผู้ปกครอง ฯลฯ หรือเป็นนักล่ารุ่นใหม่ ไม่ต่างกับจิ๊กโก๋ปากซอย กล้าเบ่งแต่กับผู้อ่อนแอกว่า เจอนักเลงใหญ่อย่างพี่ปู หรือแค่อาเฮียยืนหน้าเฉย อย่าติดเบรคใส่เกียร์ว่างก็แล้วกัน แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพึ่งลงมติ นี่ยังไม่ถึงตีสี่ มีเวลาตัดสินใจ อ่านนิทานกันไปเรื่อยๆก่อนแล้วกัน อ่านๆไปก็จะมองออกเองแหละ ว่าอเมริกาเป็นพี่เบิ้มผู้พิทักษ์ของโลกสวย หรือเป็นนักล่าของชาวแหกคอก รู้จักเขาให้ชัดเจน จะได้รู้ว่าควรจะปฏิบัติตัวเองหรือปฏิบัติกับอเมริกาอย่างไร นักวิเคราะห์การเมืองรุ่นใหม่(สมัยนั้น) ต่างประสานเสียงเชียร์ บอกว่าอเมริกาเป็นนักล่าแน่นอนที่สุดและไม่ได้เป็นนักล่าแบบอุบัติเหตุ ไม่ใช่ประเภทเป็นเด็กกำพร้าไม่มีใครเลี้ยงดู เลยต้องปากถีบตีนกัด ออกมาล่าเหยื่อเลี้ยงตัวเองตั้งกะเด็ก ไม่ใช่นะ อย่าเข้าใจผิดเด็ดขาด อเมริกาเป็นลูกคนรวย ที่ถูกเลี้ยง ถูกฝึก ถูกเลือกให้เป็นนักล่าเหยื่อต่างหาก ถูกเลือก เข้าใจไหม (America was chosen to be an empire) มันมีการวางยุทธศาสตร์ หารือ วางแผนและปฏิบัติการให้อเมริกาเป็นนักล่าเป็น American Empire ! เอาละซิ แล้วใครล่ะที่เป็นพี่เลี้ยงนางนม เป็นคนฝึก เป็นคนวางแผนให้อเมริกาเป็นนักล่า จะรู้ให้แน่ต้องแกะรอยเก่าของนักล่าย้อนไปให้เห็นภาพตั้งแต่ ยังเป็นละอ่อน เริ่มตั้งไข่ ดูว่าเขาหัดเดิน หัดคลานอย่างไร ใครเป็นพี่เลี้ยง เป็นพี่เลี้ยงแบบไหน ประเภทวิ่งไปตามเนินเขา แล้วร้องเพลง The Sound of Music หรือเปล่า (ท่านที่เกิดไม่ทันหนังเรื่องนี้ ขออำไพนะครับ ถึงไม่เคยดู ก็น่าจะเคยได้ยินเพลงบ้างน่า พระเอกมีลูกเป็นพรวน เมียตาย หรือไงเนี่ย ผมก็จำไม่ค่อยได้ จ้างนางเอกมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ดูแลเด็ก ในที่สุดพระเอกก็รักกับคุณพี่เลี้ยงตามฟอร์ม เด็กก็ดีใจไชโย เรื่องแสนจะธรรมดา สมัยนั้น ไม่มีอะไรซับซ้อนจนแบบเดาไมได้ ไม่ใช่หนังจบแล้ว หันหน้ามองกัน เลิกลั่ก มึนไปหมด ไม่มีครับ) หรือถ้าไม่เป็นพี่เลี้ยงแต่เป็นแม่เลี้ยง แบบแม่เลี้ยงใจร้ายของหนูน้อย Cinderella หนังการ์ตูนยอดฮิตของ Walt Disney ก่อนมาทำเป็นหนังใหญ่ เห็นไหมครับ ขนาดจะอธิบายเรื่องพี่เลี้ยง แม่เลี้ยง ยังต้องยกตัวอย่างหนัง Hollywood เลย เห็นอิทธิพลของเขาไหม จะให้ยกตัวอย่างเป็นปลาบู่ทอง จะมีใครรู้เรื่องบ้าง ผู้ที่ร่วมมือกัน ทำหน้าที่พี่เลี้ยง ป้อนนม ป้อนน้ำ เปลี่ยนผ้าอ้อม จับอเมริกาตั้งไข่ หัดเดิน ซ้อมให้เป็นนักล่า ไม่ใช่ใครที่ไหนที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า แต่เป็นกลุ่มชนชั้นนำในสังคมอเมริกา คือ พวก Elites นั่นแหละ ที่ประกอบด้วย นายธนาคารและบรรดาบริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ๆ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมของอเมริกา (Americas Industrial Revolution) ในปลายศตวรรษที่ 19 รวมทั้งพวกมูลนิธิ ที่อ้างตัวว่าก่อตั้งขึ้นมาเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ Philanthropic Foundations (พวกมูลนิธิแบบนี้น่ะในบ้านเราก็มีจับตากันให้ดี สอดไส้กันง่ายเหลือเกิน) สถาบันการศึกษาชั้นนำต่างๆ และสถาบันที่เป็นถังความคิด (Think Tank) รวมทั้งกลุ่มทุนธุรกิจ ซึ่งเดินกร่างอยู่บนเส้นทางของอำนาจ สรุปง่ายๆ ว่าเป็นกลุ่มคน ที่ถ้าเปรียบแบบฝรั่ง เขาก็จะบอกว่าเป็นเหมือนพวก cream หรือ topping ที่อยู่ชั้นบนสุดของขนมเค้กนั่นแหละ คือกลุ่มผู้ที่ทำหน้าที่พี่เลี้ยงนักล่า ก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 2 จะเริ่มต้น พี่เลี้ยงนักล่าที่เดินร้องเพลงเชียร์นำมาก่อนคือพวกนักยุทธศาสตร์อเมริกัน เริ่มประสานเสียงเรียกหา New Global American Empire จักรวรรดิอเมริกาที่จะครองโลกอ ยู่ไหน นำโดย Henry R. Luce บัณฑิตจากมหาวิทยาลัย Yale ผู้ก่อตั้งหนังสือ Time Magazine, Life และ Fortune ซึ่งเป็นลูกพี่ใหญ่ในวงการสำนักพิมพ์ ที่มีอิทธิพลในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 และเป็นหัวหน้ากองเชียร์ เสียงดังของพรรค Republican ซึ่งต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์อย่างเปิดเผย ขนาดไปเป็นที่ปรึกษาให้กับพวกนักการเมืองเผด็จการทางฝั่งยุโรป เช่น Mussolini ของอิตาลีและพวกนาซีของเยอรมัน ด้วยความเชื่อว่าวิถีของเผด็จการ จะหยุดการแพร่พันธ์ของคอมมิวนิสต์ได้ เชื่อกันแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ในปี ค.ศ.1941 นาย Luce เขียนบทความดังเป็นพลุแตก (แบบนิทานจิกโก๋ปากซอย ฮา) ลงในนิตยสาร Life ชื่อ The American Century ศตวรรษของอเมริกา เขาบอกว่าศตวรรษที่ 20 นี้ จะเป็นเวลาของอเมริกา เป็นช่วงเวลาที่โลกจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ผู้นำโลกตัวจริงมาแล้ว มันไม่เหมือนกับการเป็นจักรวรรดิแบบโรม หรือเจ็งกิสข่านหรือจักรภพอังกฤษ ที่ทำเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่จะเป็นจักรวรรดิเพื่อมนุษย์ชาติทั้งปวง ไม่ใช่เฉพาะแต่อเมริกันชนเท่านั้น ว่าเข้านั่น พูดแบบอเมริกันแท้ ไม่มีเทียมเลยคุณพี่ คุณพี่ Luce นี่นอกจากเชียร์สุดลิ่ม และยังเป็นนักฝันดีอีกด้วย ในขณะที่นาย Luce เป็นนักร้องนำ เขียนบทความสรรเสริญอเมริกา ลงทุนผ่านปากกา แต่ผู้ที่ลงแรง ลงมือ ลงขัน จัดการให้ ศตวรรษอเมริกาเกิดขึ้นจริงๆ ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด มาจากความคิดริเริ่มและการผลัก ดันของ the Council on Foreign Relations (CFR) กลุ่มนักคิด นักวางแผนโคตรชั่ว ตัวแสบนั่นเอง และนักยุทธศาสตร์คนสำคัญ CFR ที่เป็นหัวรถจักร ของรถไฟสายพี่เลี้ยง คือนาย Dean Acheson นาย Acheson นี้ มีประวัติน่าสนใจ เขาเป็นทนายความ ต่อมาเปลี่ยนเส้นทางมาเข้าวงการ เมือง ไต่กระไดขึ้นมาเรื่อย จนในที่สุดได้เป็น Secretary of State ช่วงปี ค.ศ.1949 – 1953 สมัยนาย Truman เป็นประธานาธิบดี เขามีส่วนสำคัญในการร่างนโยบาย ตปท. ของอเมริกาในช่วงสงครามเย็น (เอ! ใครเอาอย่างนะ จากทนายหน้าหอ มาเป็น รอ มอ ตอ ต่างประเทศ) ตั้งแต่ปี ค.ศ.1939 เมื่อเยอรมันบุกโปแลนด์ นาย Acheson เขียนหนังสือเรื่อง An American Attitude เป็นใบสั่งล่วงหน้าว่า หลัง สงครามโลกจบ อเมริกาจะต้องทำอะบ้าง (เขาสั่งกันได้ตั้งแต่ก่อนเข้าไปร่วมทำสงคราม) สิ่งที่สำคัญอเมริกาจะต้องทำคือ ทำให้โลกมีเสรีภาพในทางเศรษฐกิจการค้า หลังจากนั้นนาย Acheson ก็เป็นหนึ่งในคณะผู้ทำงานของ CFR ในการวางแผน ตั้งไข่ ให้แก่นักล่า หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง แม้ว่าอเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการในปลายปี ค.ศ.1941 แต่ CFR วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้วว่า อเมริกาจะต้องเข้าสู่สงครามโลก เลิกยืนกอดอกดูอยู่ข้างสนามแบบนั้นมันจะไปได้เรื่องอะไร กระโดดลงไปในสนามรบได้แล้ว อันที่จริงพวกเขาวางแผนตั้งแต่ก่อนสงครามโลกจะเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ ที่จะให้อเมริกากระโจนลงไปในสนามรบ คนเล่านิทาน
29 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • สมมุติว่า ตัวจริงตายไปแล้ว ตั้งแต่เดินเข้ามาประเทศไทยครั้งแรก จะขังใคร.

    สมมุติว่า ตัวจริงอยู่ดูไบซึ่งตัวจริงนั้นล่ะบินำปดูไบ,แต่ตอนกลับมาจากดูไบ มันคือตัวปลอม ตัวโคลน ตัวใส่หน้ากากโทนี่ จะขังใคร ขังอะไร.
    ..สมมุติว่าเรา..ประชาชนถูกหลอก ทั้งหมดจะเป็นอย่างไร,ความจริงคือจะเปิดเผยตอนไหน ก็น่าสงสัยอีก.

    ..https://youtube.com/shorts/00wGpxtBJSw?si=TFASWLV45ZpNngNI
    สมมุติว่า ตัวจริงตายไปแล้ว ตั้งแต่เดินเข้ามาประเทศไทยครั้งแรก จะขังใคร. สมมุติว่า ตัวจริงอยู่ดูไบซึ่งตัวจริงนั้นล่ะบินำปดูไบ,แต่ตอนกลับมาจากดูไบ มันคือตัวปลอม ตัวโคลน ตัวใส่หน้ากากโทนี่ จะขังใคร ขังอะไร. ..สมมุติว่าเรา..ประชาชนถูกหลอก ทั้งหมดจะเป็นอย่างไร,ความจริงคือจะเปิดเผยตอนไหน ก็น่าสงสัยอีก. ..https://youtube.com/shorts/00wGpxtBJSw?si=TFASWLV45ZpNngNI
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • ..อ.ปานเทพ ทำถูกต้องมาก ต้องแบบนี้ แฉชื่อประเทศที่สามอย่างตรงไปตรงมา มันกล้าสั่งมันกล้ามาบีบมากดดัน ต้องกล้าถูกคนไทยทั้งประเทศมารับรู้การกระทำของมัน
    .. เลิกปกปิดเลิกปิดบังชื่อประเทศที่สามกันอีกต่อไป แฉความจริงแบบลักษณะนี้ออกมา เรา..ประชาชนก็สามารถร่วมแก้ไขต้นเหตุของปัญหาร่วมกันได้.
    ..ญี่ปุ่นเป็นประเทศสันดานหมามาแต่ใดมาตั้งแต่ก่อการอยากใหญ่ก่อสงครามโลก
    ..ญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่สามเจ้าเดียวแน่นอน แต่เมื่อแฉว่าญี่ปุ่นก็คือชาติญี่ปุ่น นักลงทุนญี่ปุ่นนี้นั้นเอง.
    ..ใจหมามาแทรกแซงอธิปไตยไทย เกาหลีเหนือสมควรยิงขีปนาวุธถล่มญี่ปุ่นเลย,เกาะผีบ้าจะจมทะเลทั้งประเทศเวลาไหนก็ไม่รู้ เกาะซาตานแรปทีเลียนเสพกามทั้งเกาะเอามันส์บ้ากามสารพัดตามสันดานแรปทีเลี่ยนสัตว์เลื้อยคลาน กษัตริย์มันในอดีตก่อนระเบิดสองเกาะนางากับฮิโรชิมันก็สัตว์เลื้อยคลานขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองจนมีกฎห้ามมองหน้ากษัตริย์เกิดขึ้นเพราะหน้าตากษัตริย์คือพวกสัตว์เลื้อยคลาน ประชาชนรับรู้จะล้มล้างมัน จึงฆ่าทุกๆคนที่ไปเห็นใบหน้าพวกมัน,ใต้เกาะญี่ปุ่นคืออุโมงค์ขนาดใหญ่ยักษ์เผ่าสัตว์เลื้อยคลานแดกมนุษย์เป็นอันมาก เพาะมนุษย์โคลนมนุษย์เป็นฟาร์มใต้ดินไว้แดกเป็นจำนวนมาก.ญี่ปุ่นคือตาอเมริกาตัวพ่อ ตัวกดขี่ไทยคือญี่ปุ่นนี้ล่ะ, ฝรั่งเศสก็ตาอเมริกา,อย่าแปลกใจทำไมเราเสียมลฑลบูรพาเราคือพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณเพราะญี่ปุ่นนี้คือฝ่ายพวกมันกับฝรั่งเศสอังกฤษอเมริกา ญี่ปุ่นคือไส้ศึกตัวพ่ออีกตัว,ตัวแทนอเมริกาเป็นceoตัวแทนฝรั่งมาปกครองดูแลสายพานผลประโยชน์ของฝรั่งทั้งประเทศไทย ดูตัวอย่างที่ชัดเจนคือการผลิตรถยนต์ มันกดขี่ห้ามคนไทยสามารถผลิตมาแข่งกับมันอิสระได้,ซื้อข้าราชการนักการเมืองขายชาติไว้ทำงานทุกๆวงการให้มัน,ชาติไทยเราจึงไม่เจริญไปไหน,แถมเสื่อมศีลธรรมคู่ขนานเจริญเพียงวัตถุแค่นั้น,ง่ายๆญี่ปุ่นไม่ใช่มิตรจริงอะไรหรอก,นอมินีอีลิทdeep stateแรปทีเลี่ยนดีๆนี้ล่ะ,สังเกตุมันใช้มุกแบบอเมริกาพิมพ์แบงค์ใช้เองได้สิ,อเมริกาก็พิมพ์แบงค์ใช้เองตามอำเภอใจ,ญี่ปุ่นขี้ข้ามือขวาในฝั่งเอเชียเลยก็ได้ สันดานเดียวกับอเมริกานั้นล่ะ,สันดานนี้ดูง่ายๆคือมวยไทยไปชกที่ญี่ปุ่น มันโกงคนไทยสารพัดรูปแบบเพื่อเอาชนะนักมวยไทยเรา ยุคล่าสุดคือบัวขวาK-1มันนั้นล่ะ,เราถูกสื่อในไทยเราที่มันซื้อสื่อหลักเราด้วยเงินได้มาล้างสมองคนไทยเราให้ชอบญี่ปุ่นแบบมัน,
    ..ธาตุแท้ญี่ปุ่นมันก็สันดานเดียวกับเขมรนั้นล่ะ,
    ..คนไทยเราจึงต้องช่วยเหลือกันเองเท่านั้น,สามัคคีเราคนไทยเท่านั้นจึงจะรอดในวิกฤติยุคนี้,เรามิอาจพึงใครนอกประเทศจริงจังเป็นหลักได้,พระเจ้าสอนให้เองพึงตนเองให้ได้ก่อนนั้นถูกต้องที่สุด,
    ..ญี่ปุ่นมาแทรกแซงภัยคุกคามรุกรานไทย,สันดานไม่ต่างจากอเมริการีบมาแทรกให้ต้องหยุดยิงนั้นล่ะ มุกเดียวกัน
    ..แต่ญี่ปุ่นมาแทรกมาแซงมาแทรกแซงขัดขวางในการจัดการเขมรด้วยการบีบไทยให้ต้องเปิดด่าน,บริบทพื้นฐานเพื่ออีลิทไม่ต้องการให้ไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้เพราะถ้าจัดการเขมรเด็ดขาดได้ ภูมิภาคนี้จะสงบสุขทันที ซึ่งอีลิทdeep stateยอมรับไม่ได้จะเสียแผนทั้งหมด,ต้องทำลายกลยุทธทางสงครามของไทยด้านการแทรกแซงบีบำทยต้องเปิดด่านให้ได้โดยส่งญี่ปุ่นกล้าตายมารับบทรับงานหน้างานครั้งนี้แทนมาเลย์อเมริกาที่เล่นไปแล้ว,กำกับงานละครโดยCIAประจำภูมิภาคนี้อีกล่ะ,งานสร้างความวุ่นวายไม่สงบสุขงานสร้างความโกลาหลแตกแยกต้องCIAยุยงปลุกปั่นเสมอ,มือที่สามตัวพ่อกำกับมือที่สามสำรองอีกที.
    ..ประเทศที่สามไม่น่าจะแค่ชาติญี่ปุ่น มีอเมริกา มีฝรั่งเศส ชาติอาหรับเลว ชาติยุโรปชั่วอีกตรึม งานหลักคือสร้างความไม่สงบสุขสันติในภูมิภาคนี้ ห้ามไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้ แหล่งอาหาร เนื้อมนุษย์ค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์จะหายไปทันที อาหารดีๆเนื้อคนเนื้อเด็กๆจะหายไปทันทีจะขาดตลาดทั่วโลกในลัทธิตาเดียวแดกมนุษย์นี้ ตลอดฮับฟอกเงิน ฮับอาชญากรรมสากลข้ามชาติทำเงินในเขมรจะหายไปด้วย สแกมเมอร์เดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะหายไปทันที บ่อนคาสิโน ค้ายาเถื่อน ค้าอาวุธชีวภาพตัวพ่อด้วยที่แอบซ่อนไว้อีกตรึมไม่ต่างจากฝั่งยูเครนเลยล่ะ,ใต้ดินใต้อุโมงค์ในเขมรอีกขุดไว้ขนาดใหญ่เป็นฐานจะถูกทำลายทันที,ไม่ต่างจากพวกขายชาติที่ให้อเมริกาสร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่ฐานขนาดใหญ่ที่เชียงใหม่แก่อเมริกานั้นล่ะ,ฮับรวบรวมเนื้อสดค้ามนุษย์จากฝั่งพม่าได้มากมายกันเลย ,ทะลุรถไฟฟ้าใต้เปลือกโลกใต้ดินวิ่งไปยุโรปอเมริกาความเร็วกว่า3,000กม.ถึง8,000กม.ต่อชม.อีก,
    ..สรุปญี่ปุ่นเหี้ยทำลายความมั่นคงสงบสุขในภูมิภาคเรานี้ก็ด้วย ในไทยยิ่งชัดเจน,ญี่ปุ่นใช้เวียดนามส่งสินค้าบรรทุกสินค้าไปค้าขายได้,เห็นว่าไทยปิดด่าน สามารถใช้ฐานลาว เวียดนามค้าขายแทนได้,ไม่จำเป็นใช้อ้างไทย หากมิตรสหายที่ดีจริงจะไม่ทำแบบนี้,เอาภัยรุกรานคุกคามอธิปไตยไทยที่เขมรกำลังโจมตีไทย ยิงระเบิดใส่ไทยก่อนใส่ประชาชนไทยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก่อน ใส่โรงพยาบาลไทยที่ไม่รู้ห่าอะไรด้วยเลยก่อน สายข่าวสืบทราบชัดเจนว่ามันล็อกวิถีระเยิดยิงตกของการตกได้ ความน่าจะเป็นจะถึงจะตกระเบิดได้หรือการตกถูกได้,ญี่ปุ่นทำในจังหวะนี้ผิดวิสัยผิดปกติด้วย.ไส้ศึกศัตรูคือญี่ปุ่นนี้ก็ด้วย.หากข่าวนี้จริง,ญี่ปุ่นถ้าไปตกลงเจรจาทางลับกับอเมริกากับฝรั่งเศสหากขนเสบียงอาวุธช่วยเขมรชนะไทย ญี่ปุ่นก็มีส่วนได้ทรัพยากรมีค่ามากมายกว่า20ล้านล้านบาทอาจถึง100ล้านล้านบาทในอ่าวไทยและตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมรด้วย,สถานะญี่ปุ่นกับไทยจึงดูเหมาะสมยุ่งเกี่ยวออกตัวไม่น่าเกียจแบบอเมริกาฝรั่งเศสมาเลย์เพราะอ้างการลงทุนในเขมรอ้างการค้าขายไม่ได้แบบใก้ไทยเช่นญี่ปุ่นกว่าก็ไม่ได้,ญี่ปุ่นจึงเป็นตัวเลือกการแทรกแซงหน้างานครั้งนี้ดีที่สุดเนียนๆที่สุดนิ่มนวลที่สุด,ไม่มีใครออกมากล้าแฉชื่อประเทศที่สามได้หรอก รัฐบาลนายกฯหนูปกปิดให้อย่างดีแน่นอน,สามารถแทรกแซงยุทธการยุทธวิธีการเด็ดศึกเขมรได้แน่นอน ขัดขวางทหารไทยทำลายศักยภาพทางสงครามทหารเขมรได้แน่นอน,การเปิดด่าน ชาติที่สนับสนุนเขมร ขายอาวุธให้เขมรได้ขายได้ค้าแน่นอนจากเงินมืดเงินบ่อนของเขมรจากเงินแก๊งสแกมเมอร์ในเขมรมันซื้ออาวุธซื้อเสบียงพร้อมส่งตรงเวลาตามไส้ศึกในไทยเปิดจุดผ่อนปรนเปิดด่านให้เราขนส่งกำลังพลช่วยทหารเขมรชนะไทยได้แน่นอน.,ต้องฝากประเทศที่สามแบบญี่ปุ่นแล้วนะ เราฝรั่งเศสจะล่มละลายแล้ว อเมริกาก็ด้วย ญี่ปุ่นแกก็อักเสบทางการเงินด้วยนี้,มาจัดการไทยปล้นไทยอย่างชอบธรรมแดกได้จริงไม่อับอายโลกแค่เชียร์เขมรยึด1:200,000,สั่งไส้ศึกในไทยจะเปลี่ยนใครก็กอดmou43,44,tor46ไว้ให้แน่นด้วย,รับรองว่ามือที่สามประเทศสร้างความแตกแยกวุ่นวายแทรกแซงชาตินั้นแทรกแซงชาตินี้แบบเราสบายแน่นอน.ตังมหาศาลจากไทยเลย.แกญี่ปุ่นบีบไทยเปิดด่านให้ได้ ส่งสินค้าอาวุธและเสบียงให้ทหารเขมรรบชนะไทยให้ได้ ตุนอาวุธตุนเสบียงก่อน ยอมๆตกลงรับปากลมๆใสกระดาษกับไทยก่อนนะเขมร,ชนะไทยแน่นอนจากไส้ศึกภายในประเทศไทยมันเองคนในกองทัพไทยมันเอง.

    https://youtube.com/shorts/8br86PtN-yg?si=OtkRfTsleWOCTPaP
    ..อ.ปานเทพ ทำถูกต้องมาก ต้องแบบนี้ แฉชื่อประเทศที่สามอย่างตรงไปตรงมา มันกล้าสั่งมันกล้ามาบีบมากดดัน ต้องกล้าถูกคนไทยทั้งประเทศมารับรู้การกระทำของมัน .. เลิกปกปิดเลิกปิดบังชื่อประเทศที่สามกันอีกต่อไป แฉความจริงแบบลักษณะนี้ออกมา เรา..ประชาชนก็สามารถร่วมแก้ไขต้นเหตุของปัญหาร่วมกันได้. ..ญี่ปุ่นเป็นประเทศสันดานหมามาแต่ใดมาตั้งแต่ก่อการอยากใหญ่ก่อสงครามโลก ..ญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่สามเจ้าเดียวแน่นอน แต่เมื่อแฉว่าญี่ปุ่นก็คือชาติญี่ปุ่น นักลงทุนญี่ปุ่นนี้นั้นเอง. ..ใจหมามาแทรกแซงอธิปไตยไทย เกาหลีเหนือสมควรยิงขีปนาวุธถล่มญี่ปุ่นเลย,เกาะผีบ้าจะจมทะเลทั้งประเทศเวลาไหนก็ไม่รู้ เกาะซาตานแรปทีเลียนเสพกามทั้งเกาะเอามันส์บ้ากามสารพัดตามสันดานแรปทีเลี่ยนสัตว์เลื้อยคลาน กษัตริย์มันในอดีตก่อนระเบิดสองเกาะนางากับฮิโรชิมันก็สัตว์เลื้อยคลานขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองจนมีกฎห้ามมองหน้ากษัตริย์เกิดขึ้นเพราะหน้าตากษัตริย์คือพวกสัตว์เลื้อยคลาน ประชาชนรับรู้จะล้มล้างมัน จึงฆ่าทุกๆคนที่ไปเห็นใบหน้าพวกมัน,ใต้เกาะญี่ปุ่นคืออุโมงค์ขนาดใหญ่ยักษ์เผ่าสัตว์เลื้อยคลานแดกมนุษย์เป็นอันมาก เพาะมนุษย์โคลนมนุษย์เป็นฟาร์มใต้ดินไว้แดกเป็นจำนวนมาก.ญี่ปุ่นคือตาอเมริกาตัวพ่อ ตัวกดขี่ไทยคือญี่ปุ่นนี้ล่ะ, ฝรั่งเศสก็ตาอเมริกา,อย่าแปลกใจทำไมเราเสียมลฑลบูรพาเราคือพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณเพราะญี่ปุ่นนี้คือฝ่ายพวกมันกับฝรั่งเศสอังกฤษอเมริกา ญี่ปุ่นคือไส้ศึกตัวพ่ออีกตัว,ตัวแทนอเมริกาเป็นceoตัวแทนฝรั่งมาปกครองดูแลสายพานผลประโยชน์ของฝรั่งทั้งประเทศไทย ดูตัวอย่างที่ชัดเจนคือการผลิตรถยนต์ มันกดขี่ห้ามคนไทยสามารถผลิตมาแข่งกับมันอิสระได้,ซื้อข้าราชการนักการเมืองขายชาติไว้ทำงานทุกๆวงการให้มัน,ชาติไทยเราจึงไม่เจริญไปไหน,แถมเสื่อมศีลธรรมคู่ขนานเจริญเพียงวัตถุแค่นั้น,ง่ายๆญี่ปุ่นไม่ใช่มิตรจริงอะไรหรอก,นอมินีอีลิทdeep stateแรปทีเลี่ยนดีๆนี้ล่ะ,สังเกตุมันใช้มุกแบบอเมริกาพิมพ์แบงค์ใช้เองได้สิ,อเมริกาก็พิมพ์แบงค์ใช้เองตามอำเภอใจ,ญี่ปุ่นขี้ข้ามือขวาในฝั่งเอเชียเลยก็ได้ สันดานเดียวกับอเมริกานั้นล่ะ,สันดานนี้ดูง่ายๆคือมวยไทยไปชกที่ญี่ปุ่น มันโกงคนไทยสารพัดรูปแบบเพื่อเอาชนะนักมวยไทยเรา ยุคล่าสุดคือบัวขวาK-1มันนั้นล่ะ,เราถูกสื่อในไทยเราที่มันซื้อสื่อหลักเราด้วยเงินได้มาล้างสมองคนไทยเราให้ชอบญี่ปุ่นแบบมัน, ..ธาตุแท้ญี่ปุ่นมันก็สันดานเดียวกับเขมรนั้นล่ะ, ..คนไทยเราจึงต้องช่วยเหลือกันเองเท่านั้น,สามัคคีเราคนไทยเท่านั้นจึงจะรอดในวิกฤติยุคนี้,เรามิอาจพึงใครนอกประเทศจริงจังเป็นหลักได้,พระเจ้าสอนให้เองพึงตนเองให้ได้ก่อนนั้นถูกต้องที่สุด, ..ญี่ปุ่นมาแทรกแซงภัยคุกคามรุกรานไทย,สันดานไม่ต่างจากอเมริการีบมาแทรกให้ต้องหยุดยิงนั้นล่ะ มุกเดียวกัน ..แต่ญี่ปุ่นมาแทรกมาแซงมาแทรกแซงขัดขวางในการจัดการเขมรด้วยการบีบไทยให้ต้องเปิดด่าน,บริบทพื้นฐานเพื่ออีลิทไม่ต้องการให้ไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้เพราะถ้าจัดการเขมรเด็ดขาดได้ ภูมิภาคนี้จะสงบสุขทันที ซึ่งอีลิทdeep stateยอมรับไม่ได้จะเสียแผนทั้งหมด,ต้องทำลายกลยุทธทางสงครามของไทยด้านการแทรกแซงบีบำทยต้องเปิดด่านให้ได้โดยส่งญี่ปุ่นกล้าตายมารับบทรับงานหน้างานครั้งนี้แทนมาเลย์อเมริกาที่เล่นไปแล้ว,กำกับงานละครโดยCIAประจำภูมิภาคนี้อีกล่ะ,งานสร้างความวุ่นวายไม่สงบสุขงานสร้างความโกลาหลแตกแยกต้องCIAยุยงปลุกปั่นเสมอ,มือที่สามตัวพ่อกำกับมือที่สามสำรองอีกที. ..ประเทศที่สามไม่น่าจะแค่ชาติญี่ปุ่น มีอเมริกา มีฝรั่งเศส ชาติอาหรับเลว ชาติยุโรปชั่วอีกตรึม งานหลักคือสร้างความไม่สงบสุขสันติในภูมิภาคนี้ ห้ามไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้ แหล่งอาหาร เนื้อมนุษย์ค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์จะหายไปทันที อาหารดีๆเนื้อคนเนื้อเด็กๆจะหายไปทันทีจะขาดตลาดทั่วโลกในลัทธิตาเดียวแดกมนุษย์นี้ ตลอดฮับฟอกเงิน ฮับอาชญากรรมสากลข้ามชาติทำเงินในเขมรจะหายไปด้วย สแกมเมอร์เดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะหายไปทันที บ่อนคาสิโน ค้ายาเถื่อน ค้าอาวุธชีวภาพตัวพ่อด้วยที่แอบซ่อนไว้อีกตรึมไม่ต่างจากฝั่งยูเครนเลยล่ะ,ใต้ดินใต้อุโมงค์ในเขมรอีกขุดไว้ขนาดใหญ่เป็นฐานจะถูกทำลายทันที,ไม่ต่างจากพวกขายชาติที่ให้อเมริกาสร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่ฐานขนาดใหญ่ที่เชียงใหม่แก่อเมริกานั้นล่ะ,ฮับรวบรวมเนื้อสดค้ามนุษย์จากฝั่งพม่าได้มากมายกันเลย ,ทะลุรถไฟฟ้าใต้เปลือกโลกใต้ดินวิ่งไปยุโรปอเมริกาความเร็วกว่า3,000กม.ถึง8,000กม.ต่อชม.อีก, ..สรุปญี่ปุ่นเหี้ยทำลายความมั่นคงสงบสุขในภูมิภาคเรานี้ก็ด้วย ในไทยยิ่งชัดเจน,ญี่ปุ่นใช้เวียดนามส่งสินค้าบรรทุกสินค้าไปค้าขายได้,เห็นว่าไทยปิดด่าน สามารถใช้ฐานลาว เวียดนามค้าขายแทนได้,ไม่จำเป็นใช้อ้างไทย หากมิตรสหายที่ดีจริงจะไม่ทำแบบนี้,เอาภัยรุกรานคุกคามอธิปไตยไทยที่เขมรกำลังโจมตีไทย ยิงระเบิดใส่ไทยก่อนใส่ประชาชนไทยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก่อน ใส่โรงพยาบาลไทยที่ไม่รู้ห่าอะไรด้วยเลยก่อน สายข่าวสืบทราบชัดเจนว่ามันล็อกวิถีระเยิดยิงตกของการตกได้ ความน่าจะเป็นจะถึงจะตกระเบิดได้หรือการตกถูกได้,ญี่ปุ่นทำในจังหวะนี้ผิดวิสัยผิดปกติด้วย.ไส้ศึกศัตรูคือญี่ปุ่นนี้ก็ด้วย.หากข่าวนี้จริง,ญี่ปุ่นถ้าไปตกลงเจรจาทางลับกับอเมริกากับฝรั่งเศสหากขนเสบียงอาวุธช่วยเขมรชนะไทย ญี่ปุ่นก็มีส่วนได้ทรัพยากรมีค่ามากมายกว่า20ล้านล้านบาทอาจถึง100ล้านล้านบาทในอ่าวไทยและตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมรด้วย,สถานะญี่ปุ่นกับไทยจึงดูเหมาะสมยุ่งเกี่ยวออกตัวไม่น่าเกียจแบบอเมริกาฝรั่งเศสมาเลย์เพราะอ้างการลงทุนในเขมรอ้างการค้าขายไม่ได้แบบใก้ไทยเช่นญี่ปุ่นกว่าก็ไม่ได้,ญี่ปุ่นจึงเป็นตัวเลือกการแทรกแซงหน้างานครั้งนี้ดีที่สุดเนียนๆที่สุดนิ่มนวลที่สุด,ไม่มีใครออกมากล้าแฉชื่อประเทศที่สามได้หรอก รัฐบาลนายกฯหนูปกปิดให้อย่างดีแน่นอน,สามารถแทรกแซงยุทธการยุทธวิธีการเด็ดศึกเขมรได้แน่นอน ขัดขวางทหารไทยทำลายศักยภาพทางสงครามทหารเขมรได้แน่นอน,การเปิดด่าน ชาติที่สนับสนุนเขมร ขายอาวุธให้เขมรได้ขายได้ค้าแน่นอนจากเงินมืดเงินบ่อนของเขมรจากเงินแก๊งสแกมเมอร์ในเขมรมันซื้ออาวุธซื้อเสบียงพร้อมส่งตรงเวลาตามไส้ศึกในไทยเปิดจุดผ่อนปรนเปิดด่านให้เราขนส่งกำลังพลช่วยทหารเขมรชนะไทยได้แน่นอน.,ต้องฝากประเทศที่สามแบบญี่ปุ่นแล้วนะ เราฝรั่งเศสจะล่มละลายแล้ว อเมริกาก็ด้วย ญี่ปุ่นแกก็อักเสบทางการเงินด้วยนี้,มาจัดการไทยปล้นไทยอย่างชอบธรรมแดกได้จริงไม่อับอายโลกแค่เชียร์เขมรยึด1:200,000,สั่งไส้ศึกในไทยจะเปลี่ยนใครก็กอดmou43,44,tor46ไว้ให้แน่นด้วย,รับรองว่ามือที่สามประเทศสร้างความแตกแยกวุ่นวายแทรกแซงชาตินั้นแทรกแซงชาตินี้แบบเราสบายแน่นอน.ตังมหาศาลจากไทยเลย.แกญี่ปุ่นบีบไทยเปิดด่านให้ได้ ส่งสินค้าอาวุธและเสบียงให้ทหารเขมรรบชนะไทยให้ได้ ตุนอาวุธตุนเสบียงก่อน ยอมๆตกลงรับปากลมๆใสกระดาษกับไทยก่อนนะเขมร,ชนะไทยแน่นอนจากไส้ศึกภายในประเทศไทยมันเองคนในกองทัพไทยมันเอง. https://youtube.com/shorts/8br86PtN-yg?si=OtkRfTsleWOCTPaP
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • ค้นบ้านอดีตเมียกำนันลี พบปืน 4 กระบอก : [NEWS UPDATE]
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สนธิกำลังตรวจค้นในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว หลังได้รับเบาะแสว่ามีโกดังขนาดใหญ่ ลักลอบค้าขายสินค้าข้ามแดนผิดกฎหมาย โดยตรวจค้นครั้งแรกที่โกดังไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย พบน้ำดื่มบรรจุแพ็กและลังน้ำผลไม้ จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านเลขที่ 30 หมู่ 3 ตำบลโนนหมากมุ่น ซึ่งอยู่ห่างจุดตรวจ ตชด.40 บ้านหนองจานเพียง 100 เมตร พบอาวุธปืน 4 กระบอก พร้อมใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ได้แก่ ปืนยาว BROWNING ขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นางทองลัด กันหา), อาวุธปืนสั้น SMITH & WESSON ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นางทองลัด กันหา), อาวุธปืนยาว CZ ขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นายประทิศ ญาณปัญญา บุตรชายนางทองลัด), อาวุธปืนสั้น CZ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นายประทิศ ญาณปัญญา บุตรชายนางทองลัด) เจ้าหน้าที่ยังพบภาพถ่ายของ "กำนันลี" อดีตสามีนางทองลัด ซึ่งเป็นอดีตทหารกัมพูชา ติดอยู่ในบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อนำไปประกอบการสืบสวนสอบสวนต่อไป


    กัมพูชาละเมิดหยุดยิงซ้ำๆ

    ที่ดินเขากระโดงไม่ต้มคนดู

    เงินวัดบางคลานหาย 30 ล้าน

    ลดอายุความผิดอาญาเด็ก
    ค้นบ้านอดีตเมียกำนันลี พบปืน 4 กระบอก : [NEWS UPDATE] ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สนธิกำลังตรวจค้นในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว หลังได้รับเบาะแสว่ามีโกดังขนาดใหญ่ ลักลอบค้าขายสินค้าข้ามแดนผิดกฎหมาย โดยตรวจค้นครั้งแรกที่โกดังไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย พบน้ำดื่มบรรจุแพ็กและลังน้ำผลไม้ จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านเลขที่ 30 หมู่ 3 ตำบลโนนหมากมุ่น ซึ่งอยู่ห่างจุดตรวจ ตชด.40 บ้านหนองจานเพียง 100 เมตร พบอาวุธปืน 4 กระบอก พร้อมใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ได้แก่ ปืนยาว BROWNING ขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นางทองลัด กันหา), อาวุธปืนสั้น SMITH & WESSON ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นางทองลัด กันหา), อาวุธปืนยาว CZ ขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นายประทิศ ญาณปัญญา บุตรชายนางทองลัด), อาวุธปืนสั้น CZ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นายประทิศ ญาณปัญญา บุตรชายนางทองลัด) เจ้าหน้าที่ยังพบภาพถ่ายของ "กำนันลี" อดีตสามีนางทองลัด ซึ่งเป็นอดีตทหารกัมพูชา ติดอยู่ในบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อนำไปประกอบการสืบสวนสอบสวนต่อไป กัมพูชาละเมิดหยุดยิงซ้ำๆ ที่ดินเขากระโดงไม่ต้มคนดู เงินวัดบางคลานหาย 30 ล้าน ลดอายุความผิดอาญาเด็ก
    Like
    Angry
    6
    0 Comments 0 Shares 433 Views 0 0 Reviews
  • รมต.และทีมคณะเจรจาสุมหัวทำลายความสามัคคีคนในชาติ,และตั้งใจเปิดด่านผ่อนปรนเพื่อผลประโยชน์เขมร ย่ำยีหัวใจครอบครัวคนที่ตายไปจากเขมรยิงใส่คนไทยเรา ตลอดมองข้ามและหลับหูหลับตาด้อยค่าทหารไทยที่ต่อสู้เสียสละถึงชีวิตเพื่อทำลายภัยคุกคามอธิปไตยของชาติ,คณะทีมเจรจานี้ไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับคนไทยทั้งประเทศ ชอบเอื้อประโยชน์เขมรทุกๆครั้งที่มีโอกาสโดยเฉพาะประเด็นการเปิดด่าน ตั้งใจเอาแต่จะเปิดด่าน พยายามจะพูดจะสั่งการเปิดด่านให้ได้ ผิดวิสัยผู้รักชาติบ้านเมืองพึงกระทำต่อภัยรุกรานจากศัตรู และโน้มเอียงเข้าข้างศัตรูตลอดเรื่อยมา,
    ..ทนายคนไทยเราสมควรฟ้องดำเนินคดี ม.157 ม.119 ที่ไม่พยายามเจรจาผลักดันเขมรที่ยึดดินแดนไทยออกจากแผ่นดินไทย มองข้ามเขมรยึดดินแดนไทยชัดเจนด้วย,เจตนาไม่พูดเจตนาให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยด้วย.ทีมคณะเจรจานี้ไม่ก่อประโยชน์ใดๆต่ออธิปไตยปกป้องๆกันประเทศตนเลย.สมควรสั่งยุติการทำหน้าที่ทันที,นายกฯหนู เป็นรัฐบาลที่ไม่น่าไว้วางใจแล้วในตอนนี้,ไม่ยกเลิกท่าทีจะเปิดด่านจุผ่อนปรนด้วย เสมือนรับรู้ รู้เห็นเป็นใจกัน มองข้ามจิตใจเรา..ประชาชนคนไทยทั้งประเทศด้วย.

    https://youtube.com/watch?v=QVC-9E2sC1Q&si=toxhlM8qIm0xlDXP
    รมต.และทีมคณะเจรจาสุมหัวทำลายความสามัคคีคนในชาติ,และตั้งใจเปิดด่านผ่อนปรนเพื่อผลประโยชน์เขมร ย่ำยีหัวใจครอบครัวคนที่ตายไปจากเขมรยิงใส่คนไทยเรา ตลอดมองข้ามและหลับหูหลับตาด้อยค่าทหารไทยที่ต่อสู้เสียสละถึงชีวิตเพื่อทำลายภัยคุกคามอธิปไตยของชาติ,คณะทีมเจรจานี้ไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับคนไทยทั้งประเทศ ชอบเอื้อประโยชน์เขมรทุกๆครั้งที่มีโอกาสโดยเฉพาะประเด็นการเปิดด่าน ตั้งใจเอาแต่จะเปิดด่าน พยายามจะพูดจะสั่งการเปิดด่านให้ได้ ผิดวิสัยผู้รักชาติบ้านเมืองพึงกระทำต่อภัยรุกรานจากศัตรู และโน้มเอียงเข้าข้างศัตรูตลอดเรื่อยมา, ..ทนายคนไทยเราสมควรฟ้องดำเนินคดี ม.157 ม.119 ที่ไม่พยายามเจรจาผลักดันเขมรที่ยึดดินแดนไทยออกจากแผ่นดินไทย มองข้ามเขมรยึดดินแดนไทยชัดเจนด้วย,เจตนาไม่พูดเจตนาให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยด้วย.ทีมคณะเจรจานี้ไม่ก่อประโยชน์ใดๆต่ออธิปไตยปกป้องๆกันประเทศตนเลย.สมควรสั่งยุติการทำหน้าที่ทันที,นายกฯหนู เป็นรัฐบาลที่ไม่น่าไว้วางใจแล้วในตอนนี้,ไม่ยกเลิกท่าทีจะเปิดด่านจุผ่อนปรนด้วย เสมือนรับรู้ รู้เห็นเป็นใจกัน มองข้ามจิตใจเรา..ประชาชนคนไทยทั้งประเทศด้วย. https://youtube.com/watch?v=QVC-9E2sC1Q&si=toxhlM8qIm0xlDXP
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
More Results