• สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงาน ห้างดังฯ แจ้งจับ3 หนุ่มอเมริกัน เล่นพิเรนทร์โดดร่มชั้นดาดฟ้า พบกลุ่มผู้ก่อเหตุมีประวัติการลักลอบขึ้นอาคารสูงและก่อเหตุกระโดดร่มมาหลายอาคารในยุโรป และเอเชีย เป็นมืออาชีพ

    วันนี้ (2 ม.ค.) เพจ “POLICETV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ได้โพสต์รายงานกรณี 3 หนุ่มอเมริกัน เล่นพิเรนทร์โดดร่มชั้นดาดฟ้าบนห้างย่านสุขุมวิท ทางห้างดังฯ แจ้งจับจ่อเอาผิดข้อหาบุกรุก

    ทางเพจรายงานว่า “กรณีผู้ใช้บัญชี Tiktok ชื่อ "armankremer" โพสต์คลิปวีดีโอลักษณะการเล่นกระโดดร่มบนอาคารสูงในประเทศไทย พร้อมข้อความระบุว่า "Business trip to Bangkok และแฮชแท็ก #bangkok #basejump #parachute #city #night #urban #urbex #basejumping #skydiving #parkour "

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000000459

    #MGROnline #โดดร่ม #ดาดฟ้า
    สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงาน ห้างดังฯ แจ้งจับ3 หนุ่มอเมริกัน เล่นพิเรนทร์โดดร่มชั้นดาดฟ้า พบกลุ่มผู้ก่อเหตุมีประวัติการลักลอบขึ้นอาคารสูงและก่อเหตุกระโดดร่มมาหลายอาคารในยุโรป และเอเชีย เป็นมืออาชีพ • วันนี้ (2 ม.ค.) เพจ “POLICETV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ได้โพสต์รายงานกรณี 3 หนุ่มอเมริกัน เล่นพิเรนทร์โดดร่มชั้นดาดฟ้าบนห้างย่านสุขุมวิท ทางห้างดังฯ แจ้งจับจ่อเอาผิดข้อหาบุกรุก • ทางเพจรายงานว่า “กรณีผู้ใช้บัญชี Tiktok ชื่อ "armankremer" โพสต์คลิปวีดีโอลักษณะการเล่นกระโดดร่มบนอาคารสูงในประเทศไทย พร้อมข้อความระบุว่า "Business trip to Bangkok และแฮชแท็ก #bangkok #basejump #parachute #city #night #urban #urbex #basejumping #skydiving #parkour " • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000000459 • #MGROnline #โดดร่ม #ดาดฟ้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เจ้าของขายเอง อาคารพาณิชย์ 5 ชั้นตรงข้ามศรีไทยคอนโด ประชาอุทิศ 33 ชั้นล่างแบ่งให้ 7-11 เช่าสัญญากับ CP all 10 ปีต่อ 10 ปี ค่าเช่าปรับขึ้น 10% ทุก 3 ปี ปีนี้เป็นปีที่ 3 เหลือสัญญาอีก 7 ปี
    - สภาพทรัพย์เป็นทรัพย์ที่มีรายได้ระยะยาว ต่อเติมเต็มพื้นที่ มีปั๊มน้ำและแทงค์น้ำความจุ 1000 ลิตร มีแอร์ทุกห้อง ส่วนดาดฟ้าต่อเติมกั้นห้องทำเป็นห้องพระ พื้นและบันไดปูกระเบื้องเกรดดี มีห้องน้ำทุกชั้นสุขภัณฑ์อย่างดีเครื่องทำน้ำร้อนทุกห้องเจ้าของพักอยู่เอง สภาพพร้อมอยู่ไม่ได้ปล่อยทิ้งร้าง
    *************************)
    #แหล่งที่มาของรายได้ต่อเดือน
    1.รับรายได้จากค่าเช่า 7-11 และแผงนัดหน้าบ้าน 2 แผง รวมรับรายได้เดือนละ 24,200 บาท
    2.รับรายได้จากค่าเช่าแผงนัดหน้าบ้าน 6,000 บาท/เดือน
    3.สามารถกั้นห้องเช่าชั้น 2 - ชั้น 5 ได้อีก 4-8 ห้อง มีห้องน้ำทุกชั้น รับรายได้เพิ่ม
    - รวมซื้ออาคารแล้วรับรายได้ 2 ทางจำนวน 30,200 บาท/เดือน หรือ 362,400 บาท/ปี
    - ขายทรัพย์ราคา 7.2 ล้าน
    - ทำเลค้าขายดีมากอยู่ตรงข้ามศรีไทยคอนโด
    *************************
    ท่านใดสนใจ ซื้อตึก-รับรายได้ทุกเดือน-ค้าขายได้-คุ้มกว่าฝากประจำ
    ติดต่อเจ้าของอาคาร
    👉 097-1819111 อ.จุรินทร์
    👉 083-0614654 คุณกรณ์

    #ขายอาคารพานิชย์ #รับค่าเช่า #ทำเลดี #ค้าขายได้ #เซเว่น #ย่านชุมชน #ศรีไทยคอนโด #ประชาอุทฺศ #ทุ่งครุ #บางมด
    #เจ้าของขายเอง อาคารพาณิชย์ 5 ชั้นตรงข้ามศรีไทยคอนโด ประชาอุทิศ 33 ชั้นล่างแบ่งให้ 7-11 เช่าสัญญากับ CP all 10 ปีต่อ 10 ปี ค่าเช่าปรับขึ้น 10% ทุก 3 ปี ปีนี้เป็นปีที่ 3 เหลือสัญญาอีก 7 ปี - สภาพทรัพย์เป็นทรัพย์ที่มีรายได้ระยะยาว ต่อเติมเต็มพื้นที่ มีปั๊มน้ำและแทงค์น้ำความจุ 1000 ลิตร มีแอร์ทุกห้อง ส่วนดาดฟ้าต่อเติมกั้นห้องทำเป็นห้องพระ พื้นและบันไดปูกระเบื้องเกรดดี มีห้องน้ำทุกชั้นสุขภัณฑ์อย่างดีเครื่องทำน้ำร้อนทุกห้องเจ้าของพักอยู่เอง สภาพพร้อมอยู่ไม่ได้ปล่อยทิ้งร้าง *************************) #แหล่งที่มาของรายได้ต่อเดือน 1.รับรายได้จากค่าเช่า 7-11 และแผงนัดหน้าบ้าน 2 แผง รวมรับรายได้เดือนละ 24,200 บาท 2.รับรายได้จากค่าเช่าแผงนัดหน้าบ้าน 6,000 บาท/เดือน 3.สามารถกั้นห้องเช่าชั้น 2 - ชั้น 5 ได้อีก 4-8 ห้อง มีห้องน้ำทุกชั้น รับรายได้เพิ่ม - รวมซื้ออาคารแล้วรับรายได้ 2 ทางจำนวน 30,200 บาท/เดือน หรือ 362,400 บาท/ปี - ขายทรัพย์ราคา 7.2 ล้าน - ทำเลค้าขายดีมากอยู่ตรงข้ามศรีไทยคอนโด ************************* ท่านใดสนใจ ซื้อตึก-รับรายได้ทุกเดือน-ค้าขายได้-คุ้มกว่าฝากประจำ ติดต่อเจ้าของอาคาร 👉 097-1819111 อ.จุรินทร์ 👉 083-0614654 คุณกรณ์ #ขายอาคารพานิชย์ #รับค่าเช่า #ทำเลดี #ค้าขายได้ #เซเว่น #ย่านชุมชน #ศรีไทยคอนโด #ประชาอุทฺศ #ทุ่งครุ #บางมด
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 446 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=3JxhVsjcrpg
    บทสนทนาเช็คอินที่โรงแรม
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเช็คอินที่โรงแรม
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ
    มาทดสอบความรู้ของเราและพัฒนาทักษะไปด้วยกันเถอะ! คุณพร้อมไหม? มาเริ่มกันเลย!

    #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #โรงแรม

    The conversations from the clip :

    Anna: Good evening! We have a reservation for tonight.
    Receptionist: Good evening! Welcome. Could I have your names, please?
    Mark: Sure. My name is Mark, and this is Anna.
    Receptionist: Thank you. Let me check... Ah, I see your reservation here for a standard double room for two nights.
    Anna: Yes, that's correct.
    Receptionist: May I see your ID or passport for registration?
    Mark: Of course. Here are both of our passports.
    Receptionist: Thank you very much. How would you like to pay – by credit card or cash?
    Anna: We’ll pay by credit card, please.
    Receptionist: All right. Just one moment... Here’s your keycard for Room 310.
    Mark: Thank you! By the way, is breakfast included?
    Receptionist: Yes, it is. Breakfast is served from 7 AM to 10 AM in the dining area.
    Anna: Wonderful. Does the hotel have Wi-Fi, and is it free?
    Receptionist: Yes, Wi-Fi is complimentary. The network name and password are printed on the keycard holder.
    Mark: Perfect. And does the hotel have a pool?
    Receptionist: Yes, our pool is on the rooftop, and it’s open from 8 AM to 8 PM.
    Mark: Great! One last question: Is there a late check-out option?
    Receptionist: Yes, you can check out as late as 2 PM for an additional fee.
    Anna: Perfect. Thanks for all the help!
    Receptionist: My pleasure! Enjoy your stay.

    นักท่องเที่ยว 1 (แอนนา): สวัสดีค่ะ! เรามีการจองสำหรับคืนนี้ค่ะ
    พนักงานต้อนรับ: สวัสดีครับ! ยินดีต้อนรับครับ ขอทราบชื่อของคุณด้วยครับ
    นักท่องเที่ยว 2 (มาร์ค): ได้เลยครับ ผมชื่อมาร์ค และนี่คือแอนนาครับ
    พนักงานต้อนรับ: ขอบคุณมากครับ ให้ผมตรวจสอบก่อนนะครับ... อ๋อ ผมเจอการจองของคุณแล้วครับ เป็นห้องพักแบบดับเบิลมาตรฐานสำหรับสองคืน
    แอนนา: ใช่ค่ะ ถูกต้องเลย
    พนักงานต้อนรับ: ขอเอกสารบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตสำหรับลงทะเบียนด้วยครับ
    มาร์ค: ได้เลยครับ นี่คือพาสปอร์ตของเราสองคนครับ
    พนักงานต้อนรับ: ขอบคุณมากครับ คุณต้องการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือเงินสดครับ
    แอนนา: เราจะชำระด้วยบัตรเครดิตค่ะ
    พนักงานต้อนรับ: ได้เลยครับ สักครู่นะครับ... นี่ครับ กุญแจห้องของคุณ ห้อง 310
    มาร์ค: ขอบคุณครับ! เอ่อ ขอถามหน่อยครับ อาหารเช้ารวมอยู่ในที่พักไหมครับ
    พนักงานต้อนรับ: รวมครับ อาหารเช้าจะเสิร์ฟตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 10 โมงเช้าที่บริเวณห้องอาหารครับ
    แอนนา: เยี่ยมเลยค่ะ โรงแรมมี Wi-Fi ให้บริการไหมคะ และฟรีหรือเปล่า?
    พนักงานต้อนรับ: มีครับ Wi-Fi ให้บริการฟรี ชื่อเครือข่ายและรหัสผ่านจะพิมพ์อยู่ที่ซองใส่คีย์การ์ดครับ
    มาร์ค: สมบูรณ์แบบเลยครับ แล้วโรงแรมมีสระว่ายน้ำไหมครับ
    พนักงานต้อนรับ: มีครับ สระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้นดาดฟ้า เปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่มครับ
    มาร์ค: เยี่ยมมากครับ! อีกคำถามหนึ่ง มีบริการเช็กเอาต์ล่าช้าไหมครับ?
    พนักงานต้อนรับ: มีครับ คุณสามารถเช็กเอาต์ได้ถึงบ่ายสอง โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
    แอนนา: เยี่ยมไปเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะ
    พนักงานต้อนรับ: ยินดีอย่างยิ่งครับ ขอให้คุณมีความสุขกับการเข้าพักนะครับ

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Reservation (เรซ-เซอร์-เว-ชั่น) n. แปลว่า การจอง
    Receptionist (รี-เซพ-ชั่น-นิสท์) n. แปลว่า พนักงานต้อนรับ
    Standard (สแตน-เดิร์ด) adj. แปลว่า มาตรฐาน
    Double room (ดับ-เบิล รูม) n. แปลว่า ห้องพักสำหรับสองคน
    ID (ไอ-ดี) n. แปลว่า บัตรประจำตัว
    Passport (พาส-พอร์ท) n. แปลว่า หนังสือเดินทาง
    Registration (เรจ-จิส-เทร-ชั่น) n. แปลว่า การลงทะเบียน
    Complimentary (คอม-พลิ-เมน-ทา-รี) adj. แปลว่า ไม่มีค่าใช้จ่าย
    Keycard (คีย์-การ์ด) n. แปลว่า บัตรกุญแจ
    Dining area (ได-นิ่ง แอ-เรีย) n. แปลว่า พื้นที่รับประทานอาหาร
    Rooftop (รูฟ-ท็อป) n. แปลว่า ดาดฟ้า
    Included (อิน-คลูด-เด็ด) adj. แปลว่า รวมอยู่ด้วย
    Fee (ฟี) n. แปลว่า ค่าธรรมเนียม
    Check-out (เช็ค-เอาท์) v. แปลว่า เช็กเอาต์/ออกจากโรงแรม
    Complimentary Wi-Fi (คอม-พลิ-เมน-ทา-รี ไว-ไฟ) n. แปลว่า ไวไฟฟรี
    https://www.youtube.com/watch?v=3JxhVsjcrpg บทสนทนาเช็คอินที่โรงแรม (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเช็คอินที่โรงแรม มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ มาทดสอบความรู้ของเราและพัฒนาทักษะไปด้วยกันเถอะ! คุณพร้อมไหม? มาเริ่มกันเลย! #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #โรงแรม The conversations from the clip : Anna: Good evening! We have a reservation for tonight. Receptionist: Good evening! Welcome. Could I have your names, please? Mark: Sure. My name is Mark, and this is Anna. Receptionist: Thank you. Let me check... Ah, I see your reservation here for a standard double room for two nights. Anna: Yes, that's correct. Receptionist: May I see your ID or passport for registration? Mark: Of course. Here are both of our passports. Receptionist: Thank you very much. How would you like to pay – by credit card or cash? Anna: We’ll pay by credit card, please. Receptionist: All right. Just one moment... Here’s your keycard for Room 310. Mark: Thank you! By the way, is breakfast included? Receptionist: Yes, it is. Breakfast is served from 7 AM to 10 AM in the dining area. Anna: Wonderful. Does the hotel have Wi-Fi, and is it free? Receptionist: Yes, Wi-Fi is complimentary. The network name and password are printed on the keycard holder. Mark: Perfect. And does the hotel have a pool? Receptionist: Yes, our pool is on the rooftop, and it’s open from 8 AM to 8 PM. Mark: Great! One last question: Is there a late check-out option? Receptionist: Yes, you can check out as late as 2 PM for an additional fee. Anna: Perfect. Thanks for all the help! Receptionist: My pleasure! Enjoy your stay. นักท่องเที่ยว 1 (แอนนา): สวัสดีค่ะ! เรามีการจองสำหรับคืนนี้ค่ะ พนักงานต้อนรับ: สวัสดีครับ! ยินดีต้อนรับครับ ขอทราบชื่อของคุณด้วยครับ นักท่องเที่ยว 2 (มาร์ค): ได้เลยครับ ผมชื่อมาร์ค และนี่คือแอนนาครับ พนักงานต้อนรับ: ขอบคุณมากครับ ให้ผมตรวจสอบก่อนนะครับ... อ๋อ ผมเจอการจองของคุณแล้วครับ เป็นห้องพักแบบดับเบิลมาตรฐานสำหรับสองคืน แอนนา: ใช่ค่ะ ถูกต้องเลย พนักงานต้อนรับ: ขอเอกสารบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตสำหรับลงทะเบียนด้วยครับ มาร์ค: ได้เลยครับ นี่คือพาสปอร์ตของเราสองคนครับ พนักงานต้อนรับ: ขอบคุณมากครับ คุณต้องการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือเงินสดครับ แอนนา: เราจะชำระด้วยบัตรเครดิตค่ะ พนักงานต้อนรับ: ได้เลยครับ สักครู่นะครับ... นี่ครับ กุญแจห้องของคุณ ห้อง 310 มาร์ค: ขอบคุณครับ! เอ่อ ขอถามหน่อยครับ อาหารเช้ารวมอยู่ในที่พักไหมครับ พนักงานต้อนรับ: รวมครับ อาหารเช้าจะเสิร์ฟตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 10 โมงเช้าที่บริเวณห้องอาหารครับ แอนนา: เยี่ยมเลยค่ะ โรงแรมมี Wi-Fi ให้บริการไหมคะ และฟรีหรือเปล่า? พนักงานต้อนรับ: มีครับ Wi-Fi ให้บริการฟรี ชื่อเครือข่ายและรหัสผ่านจะพิมพ์อยู่ที่ซองใส่คีย์การ์ดครับ มาร์ค: สมบูรณ์แบบเลยครับ แล้วโรงแรมมีสระว่ายน้ำไหมครับ พนักงานต้อนรับ: มีครับ สระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้นดาดฟ้า เปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่มครับ มาร์ค: เยี่ยมมากครับ! อีกคำถามหนึ่ง มีบริการเช็กเอาต์ล่าช้าไหมครับ? พนักงานต้อนรับ: มีครับ คุณสามารถเช็กเอาต์ได้ถึงบ่ายสอง โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ แอนนา: เยี่ยมไปเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะ พนักงานต้อนรับ: ยินดีอย่างยิ่งครับ ขอให้คุณมีความสุขกับการเข้าพักนะครับ Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Reservation (เรซ-เซอร์-เว-ชั่น) n. แปลว่า การจอง Receptionist (รี-เซพ-ชั่น-นิสท์) n. แปลว่า พนักงานต้อนรับ Standard (สแตน-เดิร์ด) adj. แปลว่า มาตรฐาน Double room (ดับ-เบิล รูม) n. แปลว่า ห้องพักสำหรับสองคน ID (ไอ-ดี) n. แปลว่า บัตรประจำตัว Passport (พาส-พอร์ท) n. แปลว่า หนังสือเดินทาง Registration (เรจ-จิส-เทร-ชั่น) n. แปลว่า การลงทะเบียน Complimentary (คอม-พลิ-เมน-ทา-รี) adj. แปลว่า ไม่มีค่าใช้จ่าย Keycard (คีย์-การ์ด) n. แปลว่า บัตรกุญแจ Dining area (ได-นิ่ง แอ-เรีย) n. แปลว่า พื้นที่รับประทานอาหาร Rooftop (รูฟ-ท็อป) n. แปลว่า ดาดฟ้า Included (อิน-คลูด-เด็ด) adj. แปลว่า รวมอยู่ด้วย Fee (ฟี) n. แปลว่า ค่าธรรมเนียม Check-out (เช็ค-เอาท์) v. แปลว่า เช็กเอาต์/ออกจากโรงแรม Complimentary Wi-Fi (คอม-พลิ-เมน-ทา-รี ไว-ไฟ) n. แปลว่า ไวไฟฟรี
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 865 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขาย อาคารพาณิชย์
    อยู่ที่ถนนอโศกมนตรี 3 คูหา 6 ชั้น รวมดาดฟ้า
    ราคา 90 ล้านบาท

    การเดินทาง สะดวกที่สุดถ้ามาโดยรถไฟฟ้า ลงสถานีสุขุมวิทอโศก แล้วออกทาง exit สยามสมาคม
    เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอซอยเล็กๆ ข้ามซอยเล็ก เห็นเซเว่น 7-11
    อยู่ประมาณติดกับเซเว่น 155 / 4-7 ถ้าเดินจากสยามสมาคม จะอยู่ฝั่งซ้ายมือฝั่งเดียว กับสยามสมาคมถนนอโศกมนตรี
    พื้นที่เศรษฐกิจสุขุมวิท 21 ตรงข้ามธนาคาร SCB ตึกชิโนไทย
    สามารถจอดรถเข้าออก หรือพักเสียค่าจอดรถรายเดือนได้ ที่ตึกชิโนไทย ตรงข้าม
    สามารถทะลุซอยอารีย์อ้อม มาทางเทอร์มินอล 21 และโรงแรมแกรนด์เทอร์มินอล ด้านหลังเป็นสีลม ,
    ด้านหน้ารัชดาภิเษกพื้นที่ไกล้เคียง

    ที่จอดรถ เช่าสยามสมาคมด้านข้างเอาครับเดินประมาณ 500 เมตร

    ทำเล ใจกลางเมือง สุขุมวิท

    ขนาดพื้นที่ รวม 42 ตารางวา อาคารพาณิชย์ 3 คูหา 6 ชั้น รวมดาดฟ้า
    ราคา 90 ล้านบาท

    +++++++++++++++++++

    ประสงค์ซื้อต้องแสดงเอกสารหลักการเงินมาเป็น Bank Statement. หรือ Bank Guaranteed
    ของธนาคารไทย และจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย

    1) ผู้ประสงค์ซื้อทำหนังสือเจตจำนงประสงค์ซื้อ
    2) ผู้ประสงค์ซื้อต้องแสดงเอกสารหลักการเงินมาเป็น Bank Statement. หรือ Bank Guaranteed
    ของธนาคารไทย และจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย
    3) ยื่นเอกสารตามข้อ 1 และ 2 หลังเจ้าของตรวจสอบเอกสารถูกต้องแล้ว จะนัดเจรจาภายใน 3 วัน
    4) เมื่อสัญญาซื้อขายเกิดขึ้น ผู้ซื้อต้องวางเงิน 50%+3 ของราคาซื้อขายสุทธิ และต้องโอนภายใน
    60-180 วัน.

    https://www.connectrealestates.com/property/asoke-bld/

    สอบถามได้ที่ https://lin.ee/niqQSKh
    หรือ Line : @connectrealestates (มี @)
    ขาย อาคารพาณิชย์ อยู่ที่ถนนอโศกมนตรี 3 คูหา 6 ชั้น รวมดาดฟ้า ราคา 90 ล้านบาท การเดินทาง สะดวกที่สุดถ้ามาโดยรถไฟฟ้า ลงสถานีสุขุมวิทอโศก แล้วออกทาง exit สยามสมาคม เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอซอยเล็กๆ ข้ามซอยเล็ก เห็นเซเว่น 7-11 อยู่ประมาณติดกับเซเว่น 155 / 4-7 ถ้าเดินจากสยามสมาคม จะอยู่ฝั่งซ้ายมือฝั่งเดียว กับสยามสมาคมถนนอโศกมนตรี พื้นที่เศรษฐกิจสุขุมวิท 21 ตรงข้ามธนาคาร SCB ตึกชิโนไทย สามารถจอดรถเข้าออก หรือพักเสียค่าจอดรถรายเดือนได้ ที่ตึกชิโนไทย ตรงข้าม สามารถทะลุซอยอารีย์อ้อม มาทางเทอร์มินอล 21 และโรงแรมแกรนด์เทอร์มินอล ด้านหลังเป็นสีลม , ด้านหน้ารัชดาภิเษกพื้นที่ไกล้เคียง ที่จอดรถ เช่าสยามสมาคมด้านข้างเอาครับเดินประมาณ 500 เมตร ทำเล ใจกลางเมือง สุขุมวิท ขนาดพื้นที่ รวม 42 ตารางวา อาคารพาณิชย์ 3 คูหา 6 ชั้น รวมดาดฟ้า ราคา 90 ล้านบาท +++++++++++++++++++ ประสงค์ซื้อต้องแสดงเอกสารหลักการเงินมาเป็น Bank Statement. หรือ Bank Guaranteed ของธนาคารไทย และจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย 1) ผู้ประสงค์ซื้อทำหนังสือเจตจำนงประสงค์ซื้อ 2) ผู้ประสงค์ซื้อต้องแสดงเอกสารหลักการเงินมาเป็น Bank Statement. หรือ Bank Guaranteed ของธนาคารไทย และจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย 3) ยื่นเอกสารตามข้อ 1 และ 2 หลังเจ้าของตรวจสอบเอกสารถูกต้องแล้ว จะนัดเจรจาภายใน 3 วัน 4) เมื่อสัญญาซื้อขายเกิดขึ้น ผู้ซื้อต้องวางเงิน 50%+3 ของราคาซื้อขายสุทธิ และต้องโอนภายใน 60-180 วัน. https://www.connectrealestates.com/property/asoke-bld/ สอบถามได้ที่ https://lin.ee/niqQSKh หรือ Line : @connectrealestates (มี @)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมูกระทะคนรวย ร้านหมูกระทะสุดชิล มาในฟีล Rooftop กับตัวร้าน 2 ชั้น มีชั้น 2 และ ชั้น 4 ถ้า walk in จะได้นั่งชั้น 2 แต่ถ้าจองผ่านไลน์ของร้านมาล่วงหน้า จะได้นั่งชั้น 4 วิวดาดฟ้าสวยๆ บอกเลยว่าวัตถุดิบสดใหม่ สะอาดถูกหลักอนามัยมาก น้ำจิ้มก็อร่อยเด็ดถึงใจ มีให้เลือกถึง 4 รสชาติกันไปเลย ของทานเล่นก็ดีต่อใจ ไม่ว่าจะเป็น หมูสามชั้นทอดน้ำปลา ไส้อ่อนทอดกระเทียม รวมถึงเมนูส้มตำ จะพลาดไม่ได้แล้วน้า

    พิกัด : https://goo.gl/maps/ezAtda1sFB16vp5Z6
    ที่อยู่ : 266 9 ถ.พระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
    เปิดบริการ : 12.00 - 24.00 น.
    โทร : 08-8566-5655
    #หมูกระทะ #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    หมูกระทะคนรวย ร้านหมูกระทะสุดชิล มาในฟีล Rooftop กับตัวร้าน 2 ชั้น มีชั้น 2 และ ชั้น 4 ถ้า walk in จะได้นั่งชั้น 2 แต่ถ้าจองผ่านไลน์ของร้านมาล่วงหน้า จะได้นั่งชั้น 4 วิวดาดฟ้าสวยๆ บอกเลยว่าวัตถุดิบสดใหม่ สะอาดถูกหลักอนามัยมาก น้ำจิ้มก็อร่อยเด็ดถึงใจ มีให้เลือกถึง 4 รสชาติกันไปเลย ของทานเล่นก็ดีต่อใจ ไม่ว่าจะเป็น หมูสามชั้นทอดน้ำปลา ไส้อ่อนทอดกระเทียม รวมถึงเมนูส้มตำ จะพลาดไม่ได้แล้วน้า พิกัด : https://goo.gl/maps/ezAtda1sFB16vp5Z6 ที่อยู่ : 266 9 ถ.พระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เปิดบริการ : 12.00 - 24.00 น. โทร : 08-8566-5655 #หมูกระทะ #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1085 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ปริศนาแมวดำทั้ง7

    เรื่องสั้นนักสืบ จากผลงานเขียนโดย เอลเลอรี ควีน แปลโดย กันยรัตน์

    หนึ่งในเรื่องจากหนังสือ ปรัศนี รวมนิยายนักสืบเรื่องสั้นที่สรรแล้ว จากยอดนักเขียนชื่อก้องหลายคน

    เลือกเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังเป็นเรื่องแรกก่อน นับเป็นเรื่องสั้นขนาดกลางที่อ่านสนุก มีแทรกอารมณ์ขันบางช่วง

    ตัวเอกของเรื่องก็ชื่อเดียวกับคนเขียนนั่นแหละ

    เปิดเรื่องด้วยการที่ ยอดชายของเรื่องต้องการหาซื้อหมาสักตัว จึงเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านซึ่งเป็นสาวสวยคนหนึ่ง หญิงสาวมีอัธยาศัยดี ช่างจ้อ บอกว่าพันธุ์ที่ควีนต้องการนั้นไม่มี ถ้าอีกพันธุ์ได้ไหม คุยไปคุยมาเกิดกรี๊ดกร๊าดเมื่อทราบว่าชายตรงหน้าคือคนดัง เอลเลอรี ควีน ทีนี้จ้อไม่หยุด เปรยถามว่าคุณควีนพักอยู่แถวใกล้ๆนี้ คงรู้จักหญิงคนหนึ่งที่ชื่อ..กระมัง เพราะเธอก็เป็นลูกค้าของร้านเช่นกัน ควีนบอกไม่รู้จักแต่สนใจชื่อที่แปลกของหญิงคนนั้น เจ้าของร้านจึงเล่าว่าเป็นสตรีชราเดินเหินไม่ได้ เมื่อสักหกเดือนก่อน น้องสาวที่หน้าคล้ายกัน อายุห่างกันไม่มากมาอยู่ด้วยที่ห้องของเธอเพื่อดูแล แต่เข้ากันไม่ได้ เพราะคนน้องรักแมวมาก เคยมาซื้อแมวดำตัวผู้ตาเขียวจากที่ร้าน แล้วอีกสองวันต่อมาโทรศัพท์บอกขอนำมาคืน เพราะพี่สาวเกลียดแมว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มาคืน

    เธอเล่าต่อไปว่า ที่น่าแปลกคือ จากนั้นไม่นานคนพี่ที่เดินไม่ได้ก็โทรมาที่ร้าน ขอให้หาแมวสีเดียวกันตัวผู้ ที่เหมือนตัวที่น้องสาวเคยซื้อไปในราคาไม่แพง แล้วให้นำไปส่งที่แฟลตในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นเวลาที่น้องสาวจะไม่อยู่เพราะออกไปเดินเล่นข้างนอก ด้วยความที่ไม่อยากให้น้องสาวทราบจึงห้ามคนขายไม่ให้บอก ทุกครั้งที่นำแมวไปส่งจึงไม่เคยพบหญิงชราคนน้อง น่าแปลกกว่านั้นคือคนพี่จะโทรมาสั่งแมวสัปดาห์ละครั้ง รวมกว่า5สัปดาห์เข้าแล้ว ทั้งที่เป็นคนเกลียดแมว เรื่องนี้สะดุดใจนักสืบควีนมาก จึงอยากลองไปเจอกับหญิงชราคนพี่ที่ป่วยเดินไม่ได้ โดยขอให้เจ้าของร้านสาวพาไป โดยจะอ้างว่าควีนสั่งแมวไว้ก่อน พอแมวถูกขายให้หญิงชราไปจึงไม่ยอม ต้องการมาคุยทำความตกลง สาวเจ้าของร้านตกลงช่วย เพราะดูเธอชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเป็นกิจวัตร และวันนี้ได้เวลาที่ต้องไปตามนัดพอดี

    เมื่อไปถึงแฟลตที่หญิงชราอาศัย ทั้งสองกดกริ่งหลายหน ส่งเสียงดังเรียก แต่กลับไม่ได้รับการเปิดประตู ขวดนมสดวางตั้งไว้ที่หน้าประตูสองขวด ควีนรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล ประตูก็ล็อก ซึ่งต่างจากที่สาวขายแมวบอกว่าทุกครั้งที่มาส่งแมวช่วงเวลานี้ ประตูจะเปิดเพราะคนน้องจะออกไปข้างนอกแล้วไม่ล็อก ทั้งสองจึงลองไปสอบถามกับทางสำนักงานของคนดูแลตึกนามสกุล พอตเตอร์ แต่ปรากฏสามีที่ดูแลตึกไม่อยู่ ภรรยาออกมารับหน้าถามมีธุระอะไร พอทราบว่าทั้งสองมาหาหญิงชราแต่เข้าไม่ได้เพราะประตูล็อก และมีขวดนมวางไว้สองขวดจึงแปลกใจ ควีนสอบถามว่าเห็นหรือคุยกับหญิงชราครั้งสุดท้ายเมื่อไร ภรรยาคนดูแลบอกว่าน่าจะสองวันก่อน พอถูกถามถึงสามี ก็ตอบว่าไปทำงานพิเศษช่วงครึ่งวันที่โรงงานเคมี คงจะกลับช่วงเย็น เธอบอกอีกว่าหญิงชราเรียกสามีไปช่วยทาสีซ่อมแซมในห้องช่วงบ่ายหรือเย็นมาเกือบเดือนแล้ว โดยจะให้ค่าจ้างด้วย

    ควีนกับสาวขายแมวจึงขอมาสเตอร์คีย์ แล้วย้อนจะไปไขประตูห้องหญิงชรา ทว่าควีนได้ยินเสียง มีคนอยู่ในห้อง และคนคนนั้นได้หาอะไรมาขัดไม่ให้เขาผลักประตูเข้าไปได้ สุดท้ายจึงต้องออกแรงพุ่งชนจนประตูเปิด แต่คนที่อยู่ในห้องรีบหนีหลบออกทางหน้าต่างแล้วปีนบันไดวนขึ้นบนดาดฟ้าหนีไปแล้ว เขาจึงตรวจสภาพในห้อง ขณะนั้นมีชายคนหนึ่งมายืนหน้าประตูอย่างงุนงง บอกเป็นหลานมาพบหญิงชรา ตามที่เธอได้เขียนจดหมายส่งหาเขา เขาติดธุระจึงมาช้า พอทราบว่าอาจเกิดเหตุไม่ดีขึ้นกับหญิงชราทั้งสองก็ตกใจ ควีนสอบถามเขาและขอดูจดหมาย เนื้อความในนั้นหญิงชรากำลังกลัวเพราะคาดว่าตนกำลังตกอยู่ในอันตรายอะไรสักอย่าง ขอให้หลานช่วยมาหาโดยเร็วที่สุด ควีนถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเขา ได้ทราบว่าป้าทั้งสองไม่ค่อยลงรอยกัน ป้าคนโตพอมีเงินเก็บก้อนหนึ่ง แต่ไม่ไว้ใจธนาคาร และไม่ไว้ใจน้องสาว จึงแอบเก็บเงินไว้สักแห่งในห้อง เธอกลัวว่าน้องสาวจะขโมยเงินนี้ไป ควีนแนะให้เขาเข้าพักโรงแรมแถวใกล้ ๆ เพื่อรอฟังข่าวต่อไป

    ปรากฏว่าหญิงชราหายตัวไป มีแต่เตียงว่างเปล่ายับยู่ยี่ เธอเดินไม่ได้ แต่กลับไม่อยู่ในห้อง คนน้องก็น่าจะไม่ได้อยู่ที่นี่มาอย่างน้อยสองวันเช่นกัน ถึงมีขวดนมวางหน้าประตู ที่น่าแปลกคือไม่เห็นแมวเลยสักตัว ทั้งที่ควรจะมีอยู่ 7 ตัว ควีนตรวจจานอาหารที่มีอาหารเหลืออยู่ เขาตรวจหาลายนิ้วมือบนช้อน ส้อมและมีด แต่ไม่พบลายนิ้วมือใครเลย เขาวานเจ้าของร้านขายแมวให้นำเอาอาหารที่เหลือนี้ไปส่งตรวจกับ ดอกเตอร์คนหนึ่ง จากนั้นตัวเองก็จะสำรวจต่อให้ทั่ว ก่อนสาวสวยร้านแมวจะออกจากห้อง ควีนส่งเสียงด้วยความตกใจ ให้รีบมาดูที่อ่างอาบน้ำ ที่สุดทั้งสองจึงเห็นว่ามีซากแมวดำตัวหนึ่งนอนตายจมกองเลือดในสภาพน่าอนาถ ที่หัวถูกทุบแหลกเละด้วยแปรงถูตัวที่ถูกทิ้งไว้ใกล้ ๆ

    ควีนได้ไปพบภรรยาคนดูแลตึกอีกครั้ง คราวนี้นายพอตเตอร์ผู้ดูแลกลับมาจากทำงานแล้ว จึงสอบถามเพิ่มเติมว่าเคยเห็นแมวตายในช่วงที่ผ่านมาบ้างไหม ภรรยานายพอตเตอร์ตกใจ บอกว่าใช่ ทำไมถึงรู้ ส่วนสามีบอกว่าใช่พบกระโหลกแมวในเตาเผาขยะหกตัว สัปดาห์ละตัว ไม่คิดว่าเจ้าของจะโหดเหี้ยมขนาดนี้ ควีนเดินไปสำรวจรอบ ๆ เตาเผาขยะ รวบรวมหลักฐานเพิ่ม เมื่อสาวร้านขายแมวกลับมาพร้อมแจ้งว่าตรวจไม่พบอะไรในอาหารที่เหลือ ควีนสรุปว่าควรเป็นเช่นนั้น ที่สุดเขาพออนุมานได้แล้วว่าหญิงชราทั้งสองน่าจะตายไปแล้ว

    คนพี่คงระแวงว่าน้องสาวจะวางยาพิษตนเพื่อหวังเงินที่เก็บซ่อนไว้ จึงสั่งซื้อแมวมาทั้งที่เกลียด เพื่อใช้ทดสอบกินอาหารก่อน ถ้าแมวปลอดภัยตนจึงจะกินอาหาร แต่เนื่องจากคนร้ายวางยาทุกสัปดาห์ แมวจึงตายทำให้ต้องสั่งแมวตัวใหม่ และต้องการไม่ให้น้องสาวสงสัยจึงเลือกที่สีและขนาดรวมถึงเพศเดียวกับแมวของน้องสาว เมื่อแมวตายเพราะพิษ ก็คงจะห่อศพแล้วฝากเมียคนดูแลให้ไปทิ้งในเตาเผารวมกับขยะอื่น แต่ครั้งสุดท้าย คนร้ายคงเปลี่ยนแผน ไม่ใส่ยาพิษในอาหารเพราะทำมาหกครั้งไม่สำเร็จ จึงทายาพิษที่ช้อน ส้อม มีดแทน แมวกินไม่เป็นไร หญิงชราจึงกินอาหารจานนั้นและตายจากพิษที่ติดกับสิ่งที่เธอไม่ทันระวัง คนร้ายจึงเช็ดทำลายหลักฐาน และฆ่าแมวตัวที่เหลือด้วยวิธีอำมหิต และคนร้ายต้องไม่ใช่น้องสาวแน่ เพราะเธอรักแมว คงไม่กล้าพอที่จะลงมือฆ่าแมว น่าจะมาเห็นเหตุการณ์เข้าจึงถูกฆ่าปิดปาก ส่วนศพของทั้งสองคงถูกเอาไปใส่เตาเผาขยะ แล้วเช่นนั้นคนร้ายคือใครล่ะ

    ขณะสาวร้านขายแมวถามควีน ทั้งสองได้ยินเสียงไขกุญแจห้อง ที่แท้คนร้ายนึกว่าคงไม่มีคนอยู่ในห้องแล้ว และย้อนกลับมาเพื่อต้องการหาเงินที่หญิงชราซ่อนไว้ ควีนรีบพาตัวหญิงสาวไปแอบในตู้เสื้อผ้า ส่วนเขาออกไปตะลุมบอนกับคนร้าย ขณะจะพลาดท่าถูกคนร้ายเอามีดเสียบ หญิงสาวถลันออกจากตู้เตะไปที่ข้อมือชายคนนั้นที่เธอยังไม่เห็นหน้า ควีนร้องบอกให้ไปเปิดประตู ทันใดนั้นตำรวจหลายคนกรูเข้ามา จากนั้นเธอก็สลบไป

    ฟื้นอีกที เธอรีบถามใครคือคนร้าย ควีนบอกจะเป็นใครได้อีก นอกจากคนที่เข้ามาทาสีในห้องอยู่เกือบเดือน และทำงานโรงงานเคมีสามารถหายาพิษได้ง่าย อีกทั้งมีกุญแจห้องอีกดอก และคอยจัดการทิ้งขยะในเตาเผา ดีที่ควีนแอบโทรแจ้งตำรวจไว้ให้มาช่วยก่อนหน้านั้น และก็มาทันเวลาพอดี

    📌ส่วนเงินที่หญิงชราแอบไว้ พบซ่อนในหนังสือเล่มหนึ่ง! ใต้เตียงนอน

    📌 ที่น่าสนใจที่สุดคือ คนร้ายรายนี้ชื่อว่า แฮรี่ พอตเตอร์!

    #เรื่องสั้น
    #เรื่องสั้นแปล
    #กันยรัตน์
    #แมวดำ
    #สืบสวน
    #คดีปริศนา
    #เอลเลอรีควีน
    #นักสืบ
    #thaitimes
    #ปริศนาแมวดำทั้ง7 เรื่องสั้นนักสืบ จากผลงานเขียนโดย เอลเลอรี ควีน แปลโดย กันยรัตน์ หนึ่งในเรื่องจากหนังสือ ปรัศนี รวมนิยายนักสืบเรื่องสั้นที่สรรแล้ว จากยอดนักเขียนชื่อก้องหลายคน เลือกเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟังเป็นเรื่องแรกก่อน นับเป็นเรื่องสั้นขนาดกลางที่อ่านสนุก มีแทรกอารมณ์ขันบางช่วง ตัวเอกของเรื่องก็ชื่อเดียวกับคนเขียนนั่นแหละ เปิดเรื่องด้วยการที่ ยอดชายของเรื่องต้องการหาซื้อหมาสักตัว จึงเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านซึ่งเป็นสาวสวยคนหนึ่ง หญิงสาวมีอัธยาศัยดี ช่างจ้อ บอกว่าพันธุ์ที่ควีนต้องการนั้นไม่มี ถ้าอีกพันธุ์ได้ไหม คุยไปคุยมาเกิดกรี๊ดกร๊าดเมื่อทราบว่าชายตรงหน้าคือคนดัง เอลเลอรี ควีน ทีนี้จ้อไม่หยุด เปรยถามว่าคุณควีนพักอยู่แถวใกล้ๆนี้ คงรู้จักหญิงคนหนึ่งที่ชื่อ..กระมัง เพราะเธอก็เป็นลูกค้าของร้านเช่นกัน ควีนบอกไม่รู้จักแต่สนใจชื่อที่แปลกของหญิงคนนั้น เจ้าของร้านจึงเล่าว่าเป็นสตรีชราเดินเหินไม่ได้ เมื่อสักหกเดือนก่อน น้องสาวที่หน้าคล้ายกัน อายุห่างกันไม่มากมาอยู่ด้วยที่ห้องของเธอเพื่อดูแล แต่เข้ากันไม่ได้ เพราะคนน้องรักแมวมาก เคยมาซื้อแมวดำตัวผู้ตาเขียวจากที่ร้าน แล้วอีกสองวันต่อมาโทรศัพท์บอกขอนำมาคืน เพราะพี่สาวเกลียดแมว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มาคืน เธอเล่าต่อไปว่า ที่น่าแปลกคือ จากนั้นไม่นานคนพี่ที่เดินไม่ได้ก็โทรมาที่ร้าน ขอให้หาแมวสีเดียวกันตัวผู้ ที่เหมือนตัวที่น้องสาวเคยซื้อไปในราคาไม่แพง แล้วให้นำไปส่งที่แฟลตในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นเวลาที่น้องสาวจะไม่อยู่เพราะออกไปเดินเล่นข้างนอก ด้วยความที่ไม่อยากให้น้องสาวทราบจึงห้ามคนขายไม่ให้บอก ทุกครั้งที่นำแมวไปส่งจึงไม่เคยพบหญิงชราคนน้อง น่าแปลกกว่านั้นคือคนพี่จะโทรมาสั่งแมวสัปดาห์ละครั้ง รวมกว่า5สัปดาห์เข้าแล้ว ทั้งที่เป็นคนเกลียดแมว เรื่องนี้สะดุดใจนักสืบควีนมาก จึงอยากลองไปเจอกับหญิงชราคนพี่ที่ป่วยเดินไม่ได้ โดยขอให้เจ้าของร้านสาวพาไป โดยจะอ้างว่าควีนสั่งแมวไว้ก่อน พอแมวถูกขายให้หญิงชราไปจึงไม่ยอม ต้องการมาคุยทำความตกลง สาวเจ้าของร้านตกลงช่วย เพราะดูเธอชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเป็นกิจวัตร และวันนี้ได้เวลาที่ต้องไปตามนัดพอดี เมื่อไปถึงแฟลตที่หญิงชราอาศัย ทั้งสองกดกริ่งหลายหน ส่งเสียงดังเรียก แต่กลับไม่ได้รับการเปิดประตู ขวดนมสดวางตั้งไว้ที่หน้าประตูสองขวด ควีนรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล ประตูก็ล็อก ซึ่งต่างจากที่สาวขายแมวบอกว่าทุกครั้งที่มาส่งแมวช่วงเวลานี้ ประตูจะเปิดเพราะคนน้องจะออกไปข้างนอกแล้วไม่ล็อก ทั้งสองจึงลองไปสอบถามกับทางสำนักงานของคนดูแลตึกนามสกุล พอตเตอร์ แต่ปรากฏสามีที่ดูแลตึกไม่อยู่ ภรรยาออกมารับหน้าถามมีธุระอะไร พอทราบว่าทั้งสองมาหาหญิงชราแต่เข้าไม่ได้เพราะประตูล็อก และมีขวดนมวางไว้สองขวดจึงแปลกใจ ควีนสอบถามว่าเห็นหรือคุยกับหญิงชราครั้งสุดท้ายเมื่อไร ภรรยาคนดูแลบอกว่าน่าจะสองวันก่อน พอถูกถามถึงสามี ก็ตอบว่าไปทำงานพิเศษช่วงครึ่งวันที่โรงงานเคมี คงจะกลับช่วงเย็น เธอบอกอีกว่าหญิงชราเรียกสามีไปช่วยทาสีซ่อมแซมในห้องช่วงบ่ายหรือเย็นมาเกือบเดือนแล้ว โดยจะให้ค่าจ้างด้วย ควีนกับสาวขายแมวจึงขอมาสเตอร์คีย์ แล้วย้อนจะไปไขประตูห้องหญิงชรา ทว่าควีนได้ยินเสียง มีคนอยู่ในห้อง และคนคนนั้นได้หาอะไรมาขัดไม่ให้เขาผลักประตูเข้าไปได้ สุดท้ายจึงต้องออกแรงพุ่งชนจนประตูเปิด แต่คนที่อยู่ในห้องรีบหนีหลบออกทางหน้าต่างแล้วปีนบันไดวนขึ้นบนดาดฟ้าหนีไปแล้ว เขาจึงตรวจสภาพในห้อง ขณะนั้นมีชายคนหนึ่งมายืนหน้าประตูอย่างงุนงง บอกเป็นหลานมาพบหญิงชรา ตามที่เธอได้เขียนจดหมายส่งหาเขา เขาติดธุระจึงมาช้า พอทราบว่าอาจเกิดเหตุไม่ดีขึ้นกับหญิงชราทั้งสองก็ตกใจ ควีนสอบถามเขาและขอดูจดหมาย เนื้อความในนั้นหญิงชรากำลังกลัวเพราะคาดว่าตนกำลังตกอยู่ในอันตรายอะไรสักอย่าง ขอให้หลานช่วยมาหาโดยเร็วที่สุด ควีนถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเขา ได้ทราบว่าป้าทั้งสองไม่ค่อยลงรอยกัน ป้าคนโตพอมีเงินเก็บก้อนหนึ่ง แต่ไม่ไว้ใจธนาคาร และไม่ไว้ใจน้องสาว จึงแอบเก็บเงินไว้สักแห่งในห้อง เธอกลัวว่าน้องสาวจะขโมยเงินนี้ไป ควีนแนะให้เขาเข้าพักโรงแรมแถวใกล้ ๆ เพื่อรอฟังข่าวต่อไป ปรากฏว่าหญิงชราหายตัวไป มีแต่เตียงว่างเปล่ายับยู่ยี่ เธอเดินไม่ได้ แต่กลับไม่อยู่ในห้อง คนน้องก็น่าจะไม่ได้อยู่ที่นี่มาอย่างน้อยสองวันเช่นกัน ถึงมีขวดนมวางหน้าประตู ที่น่าแปลกคือไม่เห็นแมวเลยสักตัว ทั้งที่ควรจะมีอยู่ 7 ตัว ควีนตรวจจานอาหารที่มีอาหารเหลืออยู่ เขาตรวจหาลายนิ้วมือบนช้อน ส้อมและมีด แต่ไม่พบลายนิ้วมือใครเลย เขาวานเจ้าของร้านขายแมวให้นำเอาอาหารที่เหลือนี้ไปส่งตรวจกับ ดอกเตอร์คนหนึ่ง จากนั้นตัวเองก็จะสำรวจต่อให้ทั่ว ก่อนสาวสวยร้านแมวจะออกจากห้อง ควีนส่งเสียงด้วยความตกใจ ให้รีบมาดูที่อ่างอาบน้ำ ที่สุดทั้งสองจึงเห็นว่ามีซากแมวดำตัวหนึ่งนอนตายจมกองเลือดในสภาพน่าอนาถ ที่หัวถูกทุบแหลกเละด้วยแปรงถูตัวที่ถูกทิ้งไว้ใกล้ ๆ ควีนได้ไปพบภรรยาคนดูแลตึกอีกครั้ง คราวนี้นายพอตเตอร์ผู้ดูแลกลับมาจากทำงานแล้ว จึงสอบถามเพิ่มเติมว่าเคยเห็นแมวตายในช่วงที่ผ่านมาบ้างไหม ภรรยานายพอตเตอร์ตกใจ บอกว่าใช่ ทำไมถึงรู้ ส่วนสามีบอกว่าใช่พบกระโหลกแมวในเตาเผาขยะหกตัว สัปดาห์ละตัว ไม่คิดว่าเจ้าของจะโหดเหี้ยมขนาดนี้ ควีนเดินไปสำรวจรอบ ๆ เตาเผาขยะ รวบรวมหลักฐานเพิ่ม เมื่อสาวร้านขายแมวกลับมาพร้อมแจ้งว่าตรวจไม่พบอะไรในอาหารที่เหลือ ควีนสรุปว่าควรเป็นเช่นนั้น ที่สุดเขาพออนุมานได้แล้วว่าหญิงชราทั้งสองน่าจะตายไปแล้ว คนพี่คงระแวงว่าน้องสาวจะวางยาพิษตนเพื่อหวังเงินที่เก็บซ่อนไว้ จึงสั่งซื้อแมวมาทั้งที่เกลียด เพื่อใช้ทดสอบกินอาหารก่อน ถ้าแมวปลอดภัยตนจึงจะกินอาหาร แต่เนื่องจากคนร้ายวางยาทุกสัปดาห์ แมวจึงตายทำให้ต้องสั่งแมวตัวใหม่ และต้องการไม่ให้น้องสาวสงสัยจึงเลือกที่สีและขนาดรวมถึงเพศเดียวกับแมวของน้องสาว เมื่อแมวตายเพราะพิษ ก็คงจะห่อศพแล้วฝากเมียคนดูแลให้ไปทิ้งในเตาเผารวมกับขยะอื่น แต่ครั้งสุดท้าย คนร้ายคงเปลี่ยนแผน ไม่ใส่ยาพิษในอาหารเพราะทำมาหกครั้งไม่สำเร็จ จึงทายาพิษที่ช้อน ส้อม มีดแทน แมวกินไม่เป็นไร หญิงชราจึงกินอาหารจานนั้นและตายจากพิษที่ติดกับสิ่งที่เธอไม่ทันระวัง คนร้ายจึงเช็ดทำลายหลักฐาน และฆ่าแมวตัวที่เหลือด้วยวิธีอำมหิต และคนร้ายต้องไม่ใช่น้องสาวแน่ เพราะเธอรักแมว คงไม่กล้าพอที่จะลงมือฆ่าแมว น่าจะมาเห็นเหตุการณ์เข้าจึงถูกฆ่าปิดปาก ส่วนศพของทั้งสองคงถูกเอาไปใส่เตาเผาขยะ แล้วเช่นนั้นคนร้ายคือใครล่ะ ขณะสาวร้านขายแมวถามควีน ทั้งสองได้ยินเสียงไขกุญแจห้อง ที่แท้คนร้ายนึกว่าคงไม่มีคนอยู่ในห้องแล้ว และย้อนกลับมาเพื่อต้องการหาเงินที่หญิงชราซ่อนไว้ ควีนรีบพาตัวหญิงสาวไปแอบในตู้เสื้อผ้า ส่วนเขาออกไปตะลุมบอนกับคนร้าย ขณะจะพลาดท่าถูกคนร้ายเอามีดเสียบ หญิงสาวถลันออกจากตู้เตะไปที่ข้อมือชายคนนั้นที่เธอยังไม่เห็นหน้า ควีนร้องบอกให้ไปเปิดประตู ทันใดนั้นตำรวจหลายคนกรูเข้ามา จากนั้นเธอก็สลบไป ฟื้นอีกที เธอรีบถามใครคือคนร้าย ควีนบอกจะเป็นใครได้อีก นอกจากคนที่เข้ามาทาสีในห้องอยู่เกือบเดือน และทำงานโรงงานเคมีสามารถหายาพิษได้ง่าย อีกทั้งมีกุญแจห้องอีกดอก และคอยจัดการทิ้งขยะในเตาเผา ดีที่ควีนแอบโทรแจ้งตำรวจไว้ให้มาช่วยก่อนหน้านั้น และก็มาทันเวลาพอดี 📌ส่วนเงินที่หญิงชราแอบไว้ พบซ่อนในหนังสือเล่มหนึ่ง! ใต้เตียงนอน 📌 ที่น่าสนใจที่สุดคือ คนร้ายรายนี้ชื่อว่า แฮรี่ พอตเตอร์! #เรื่องสั้น #เรื่องสั้นแปล #กันยรัตน์ #แมวดำ #สืบสวน #คดีปริศนา #เอลเลอรีควีน #นักสืบ #thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1360 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมัยที่ผมยังเด็ก...

    ในละแวกบ้าน...
    ตึกที่หลังใหญ่สุดแถวนั้น ก็คงจะเป็น "คูย่งล้ง" เป็นตึกที่ผมฝันอยู่ตลอดว่า ถ้าวันหนึ่งได้ขึ้นไปชั้นบนสุด (ตอนนั้น ยังไม่รู้จักคำว่า ดาดฟ้า) แล้วได้มองลงมายังด้านล่าง คงจะแจ่ม น่าดู...

    ตึกนี้ ดูแปลกตา ดูมี"อะไร" มากกว่าตึกแถวในสมัยนั้น
    ผมมีโอกาสได้พูดคุย สอบถาม กับทายาทรุ่นที่3 ของตึกนี้ ได้ความว่า อาคารหลังนี้ ออกแบบโดยสถาปนิก ซึ่งเป็น "อา" ของเจ้าของตึก ซึ่งจบ สถาปัตยกรรมศาสตร์ จากลาดกระบัง .....

    เหมือนที่ผมคิดเลย ว่า อาคารถึงมี ครีบ มีพื้นที่เปิดโล่งกลางตัวบ้าน เพื่อนำแสงธรรมชาติมาให้ความสว่างแก่ภายในอาคาร...

    ถัด"คูย่งล้ง"มาทางเหนือ ตอนนี้ เป็นร้าน บาร์บีกริลล์
    เมื่อก่อนนี้ ส่วนตรงนี้จะเป็นตรอก ลึกเข้าไปข้างใน....

    ในตรอกนี้ มีครอบครับหนึ่ง สามีชื่อแอ้ เมียชื่อ จัน
    ครอบครัวนี้มีอาชีพตัดผ้า เย็บผ้า และเลี้ยงหมู
    เมื่อก่อนนั้น ในตรอกนั้น จะมีโรงหมูด้วย

    ในยามที่เด็กๆ รุ่นราวคราวเดียวกับผม จะไปตกปลาริมตลิ่ง พวกเราก็จะไปขุดเอาไส้เดือนแดงแถวๆโรงหมู เพื่อเอาไปเกี่ยวเบ็ด

    เมื่อเป็นโรงหมู ก็แน่ละครับ กลิ่นตลบอบอวล ไปทั้งย่าน ยิ่งเวลาหน้าฝน อากาศชื้นๆนะครับ ไม่ต้องไปพูดถึงเลย...

    แถวปากตรอกเลี้ยงหมู เคยมีร้านอาหาร ชื่อ"มุ่ยสูน" ไปเปิดอยู่พักนึง
    ร้านนี้ จำหน่ายอาหารจีน อาหารตามสั่ง คงพอจะเทียบได้กับร้านอาหารระดับเหลาได้ เพราะในเวลานั้นร้านอาหารตามสั่งไม่ได้มีดาษดื่นแบบทุกวันนี้

    ร้าน "มุ่ยสูน" นี้ เคยมาเปิด ตรงหัวมุม ที่เป็นร้าน "เตี๋ยวเต็มโต๊ะ" ในปัจจุบัน อยู่พักหนึ่ง

    "มุ่ยสูน" ตรงหัวมุมนี้ เป็นร้านที่ทำให้ผมรู้จัก "เบียร์สิงห์" เป็นครั้งแรกในชีวิต....
    .
    .
    ในปีนั้น ...
    ผมอยู่ชั้น ป3.หรือ ป4.นี่แหละ..

    ปกติแล้วครอบครัวคนจีน มักจะมีประเพณีไหว้บรรพบุรุษ
    ปีนั้น ญาติๆ ทางแม่ ก็มารวมตัวไหว้บรรพบุรุษที่บ้านที่ผมอยู่ เพราะอาม่า เป็นศูนย์กลางของลูกๆ
    พอไหว้เสร็จก็จะเอาอาหารเหล่านั้น มาทานร่วมกัน
    เด็กก็โต๊ะหนึ่ง...
    ผู้ใหญ่ก็โต๊ะหนึ่ง...

    แต่..ผมกลับไม่ได้ไปนั่งทาน
    ผมไปเดินเตร็ดเตร่แถวๆโต๊ะผู้ใหญ่ ญาติๆก็กินไป คุยไป

    คราวนี้ ลุงของผม คือ "ลุงสว่าง" ซึ่งผมเรียกแกว่า "กู๋หว่าง"
    เห็นผมวนเวียนแถวนั้นเลยบอกว่า

    "เฮ้ย ป้อม ลื้อเดินไปซื้อเบียร์ให้อั๊วหน่อย เอาเบียร์สิงห์นะ 2ขวด "
    พร้อมเอาเงินขยุ้มนึง ยัดใส่มือผม
    ผมก็เดินข้ามตรงไปร้าน "มุ่ยสูน" หัวมุมถนน พร้อมซื้อเบียร์สิงห์ตามสั่ง

    ผมยังจำได้...
    ระหว่างหิ้วเบียร์ เดินกลับบ้าน ต้องผ่านร้าน "คูย่งล้ง"
    ด้วยความที่ว่ายังเด็ก ไม่ประสา เดินไปก็เขย่าถุงใส่เบียร์ไป
    จนเถ้าแก่ "คูย่งล้ง" เห็นเข้า เลยร้องเตือนว่า

    "อย่าเขย่านะ เดี๋ยวตอน เปิด มันจะพุ่งออกมา"
    ผมเลยค่อยๆ ประคองเบียร์2ขวด นั้นจนส่งถึงมือ "กู๋หว่าง" พร้อมตังทอน

    แล้วผมก็หันหลัง เพื่อจะไปเล่นกะพี่น้อง เด็กๆ..

    "เดี๋ยวก่อน"
    กู๋หว่างเรียกผม
    "เอาเงินทอนไปกินขนม"....

    โอ้โห!
    ผมนี่ลิงโลดเลยทีเดียว เงิน10กว่า 20บาทสมัย30กว่าปีก่อน นี่ มันเยอะมาก!
    ยิ่งในความรู้สึกของเด็กน้อยที่ได้เงินไปโรงเรียนวันละ2บาท...
    อย่างผม...

    ผมจำได้ว่า...
    ตั้งแต่ปีนั้น เป็นต้นมา ผมวนเวียน รอวิ่งซืี้อเบียร์ ให้ "กู๋หว่าง" ตลอด ....
    จนเข้าไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพ...

    ความทรงจำเกี่ยวกับละแวกบ้านของผม
    ก็ค่อยๆจางลง
    ตามวันเวลาที่ผ่านไป....
    สมัยที่ผมยังเด็ก... ในละแวกบ้าน... ตึกที่หลังใหญ่สุดแถวนั้น ก็คงจะเป็น "คูย่งล้ง" เป็นตึกที่ผมฝันอยู่ตลอดว่า ถ้าวันหนึ่งได้ขึ้นไปชั้นบนสุด (ตอนนั้น ยังไม่รู้จักคำว่า ดาดฟ้า) แล้วได้มองลงมายังด้านล่าง คงจะแจ่ม น่าดู... ตึกนี้ ดูแปลกตา ดูมี"อะไร" มากกว่าตึกแถวในสมัยนั้น ผมมีโอกาสได้พูดคุย สอบถาม กับทายาทรุ่นที่3 ของตึกนี้ ได้ความว่า อาคารหลังนี้ ออกแบบโดยสถาปนิก ซึ่งเป็น "อา" ของเจ้าของตึก ซึ่งจบ สถาปัตยกรรมศาสตร์ จากลาดกระบัง ..... เหมือนที่ผมคิดเลย ว่า อาคารถึงมี ครีบ มีพื้นที่เปิดโล่งกลางตัวบ้าน เพื่อนำแสงธรรมชาติมาให้ความสว่างแก่ภายในอาคาร... ถัด"คูย่งล้ง"มาทางเหนือ ตอนนี้ เป็นร้าน บาร์บีกริลล์ เมื่อก่อนนี้ ส่วนตรงนี้จะเป็นตรอก ลึกเข้าไปข้างใน.... ในตรอกนี้ มีครอบครับหนึ่ง สามีชื่อแอ้ เมียชื่อ จัน ครอบครัวนี้มีอาชีพตัดผ้า เย็บผ้า และเลี้ยงหมู เมื่อก่อนนั้น ในตรอกนั้น จะมีโรงหมูด้วย ในยามที่เด็กๆ รุ่นราวคราวเดียวกับผม จะไปตกปลาริมตลิ่ง พวกเราก็จะไปขุดเอาไส้เดือนแดงแถวๆโรงหมู เพื่อเอาไปเกี่ยวเบ็ด เมื่อเป็นโรงหมู ก็แน่ละครับ กลิ่นตลบอบอวล ไปทั้งย่าน ยิ่งเวลาหน้าฝน อากาศชื้นๆนะครับ ไม่ต้องไปพูดถึงเลย... แถวปากตรอกเลี้ยงหมู เคยมีร้านอาหาร ชื่อ"มุ่ยสูน" ไปเปิดอยู่พักนึง ร้านนี้ จำหน่ายอาหารจีน อาหารตามสั่ง คงพอจะเทียบได้กับร้านอาหารระดับเหลาได้ เพราะในเวลานั้นร้านอาหารตามสั่งไม่ได้มีดาษดื่นแบบทุกวันนี้ ร้าน "มุ่ยสูน" นี้ เคยมาเปิด ตรงหัวมุม ที่เป็นร้าน "เตี๋ยวเต็มโต๊ะ" ในปัจจุบัน อยู่พักหนึ่ง "มุ่ยสูน" ตรงหัวมุมนี้ เป็นร้านที่ทำให้ผมรู้จัก "เบียร์สิงห์" เป็นครั้งแรกในชีวิต.... . . ในปีนั้น ... ผมอยู่ชั้น ป3.หรือ ป4.นี่แหละ.. ปกติแล้วครอบครัวคนจีน มักจะมีประเพณีไหว้บรรพบุรุษ ปีนั้น ญาติๆ ทางแม่ ก็มารวมตัวไหว้บรรพบุรุษที่บ้านที่ผมอยู่ เพราะอาม่า เป็นศูนย์กลางของลูกๆ พอไหว้เสร็จก็จะเอาอาหารเหล่านั้น มาทานร่วมกัน เด็กก็โต๊ะหนึ่ง... ผู้ใหญ่ก็โต๊ะหนึ่ง... แต่..ผมกลับไม่ได้ไปนั่งทาน ผมไปเดินเตร็ดเตร่แถวๆโต๊ะผู้ใหญ่ ญาติๆก็กินไป คุยไป คราวนี้ ลุงของผม คือ "ลุงสว่าง" ซึ่งผมเรียกแกว่า "กู๋หว่าง" เห็นผมวนเวียนแถวนั้นเลยบอกว่า "เฮ้ย ป้อม ลื้อเดินไปซื้อเบียร์ให้อั๊วหน่อย เอาเบียร์สิงห์นะ 2ขวด " พร้อมเอาเงินขยุ้มนึง ยัดใส่มือผม ผมก็เดินข้ามตรงไปร้าน "มุ่ยสูน" หัวมุมถนน พร้อมซื้อเบียร์สิงห์ตามสั่ง ผมยังจำได้... ระหว่างหิ้วเบียร์ เดินกลับบ้าน ต้องผ่านร้าน "คูย่งล้ง" ด้วยความที่ว่ายังเด็ก ไม่ประสา เดินไปก็เขย่าถุงใส่เบียร์ไป จนเถ้าแก่ "คูย่งล้ง" เห็นเข้า เลยร้องเตือนว่า "อย่าเขย่านะ เดี๋ยวตอน เปิด มันจะพุ่งออกมา" ผมเลยค่อยๆ ประคองเบียร์2ขวด นั้นจนส่งถึงมือ "กู๋หว่าง" พร้อมตังทอน แล้วผมก็หันหลัง เพื่อจะไปเล่นกะพี่น้อง เด็กๆ.. "เดี๋ยวก่อน" กู๋หว่างเรียกผม "เอาเงินทอนไปกินขนม".... โอ้โห! ผมนี่ลิงโลดเลยทีเดียว เงิน10กว่า 20บาทสมัย30กว่าปีก่อน นี่ มันเยอะมาก! ยิ่งในความรู้สึกของเด็กน้อยที่ได้เงินไปโรงเรียนวันละ2บาท... อย่างผม... ผมจำได้ว่า... ตั้งแต่ปีนั้น เป็นต้นมา ผมวนเวียน รอวิ่งซืี้อเบียร์ ให้ "กู๋หว่าง" ตลอด .... จนเข้าไปเรียนหนังสือที่กรุงเทพ... ความทรงจำเกี่ยวกับละแวกบ้านของผม ก็ค่อยๆจางลง ตามวันเวลาที่ผ่านไป....
    Like
    3
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 441 มุมมอง 0 รีวิว
  • SEBAGO
    CAMPSIDES
    Mens Suede Boat Moc Toe Lace Up Slip On Shoes
    Size. EUR 41 /26(26.5) cm

    🔥 Price : 750฿

    รองเท้าทรงเรือรุ่น Campsides เป็นรองเท้ารุ่นยอดนิยมรุ่นหนึ่งของ Sebago แบรนด์คุณภาพจากสหรัฐอเมริกา ที่ผสมผสานความคลาสสิกของรองเท้าทรงเรือเข้ากับความทันสมัยของวัสดุหนังกลับ ทำให้ได้รองเท้าที่มีทั้งความเรียบหรูและสบายเท้า เหมาะสำหรับการสวมใส่ในหลากหลายโอกาส

    รองเท้าคู่นี้มาด้วยหนังกลับคุณภาพสูงในสไตล์ Boat Moc โดดเด่นด้วยการปิดแบบผูกเชือกที่สวมใส่สบายและดีไซน์หัวม็อคที่ทันสมัย ​​ พื้นรองเท้าด้านนอกทำจากยางให้การยึดเกาะและความทนทานที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่ซับในและพื้นรองเท้าด้านในทำจากหนังช่วยให้สวมใส่สบายสูงสุด รองเท้าคู่นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Campsides และมีรูปแบบรองเท้าทรงเรือแบบคลาสสิก

    ✅ จุดเด่นของ Sebago Campsides Suede Boat Moc :-
    🔹วัสดุหนังกลับคุณภาพสูง : ทำให้รองเท้ามีความนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี และมีลุคที่ดูพรีเมียม
    🔹ดีไซน์คลาสสิก : รูปทรงของรองเท้าเรือแบบดั้งเดิมที่ไม่เคยตกยุค
    🔹พื้นรองเท้าที่ยึดเกาะได้ดี : เหมาะสำหรับการเดินบนพื้นผิวที่ลื่น
    🔹ความทนทาน : ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทำให้รองเท้าใช้งานได้ยาวนาน

    👉 เรื่องราว :-
    Sebago เป็นแบรนด์รองเท้าที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านรองเท้าเรือ (Boat Shoes) ที่มีความคลาสสิกและเป็นที่นิยมอย่างมากทั่วโลก แบรนด์นี้ก่อตั้งขึ้นใน สหรัฐอเมริกา โดยมีจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจดังนี้

    กำเนิดจากชาวประมงในรัฐเมน
    🔹ต้นกำเนิด : เรื่องราวของ Sebago เริ่มต้นขึ้นในรัฐเมน สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรัฐที่มีชื่อเสียงในด้านอุตสาหกรรมการทำเรือและการประมง ชาวประมงในแถบนี้ต้องการรองเท้าที่สามารถสวมใส่ได้อย่างสบายและยึดเกาะได้ดีบนดาดฟ้าเรือ
    🔹การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ : จากความต้องการดังกล่าว ทำให้เกิดการออกแบบรองเท้าเรือที่มีลักษณะเด่นคือ พื้นรองเท้าแบบยางที่มีร่องลึกเพื่อช่วยในการยึดเกาะ และมีเชือกหนังที่พันรอบข้อเท้าเพื่อให้รองเท้ากระชับเท้ามากขึ้น
    🔹ความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก : รองเท้า Sebago ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่เหล่าคนดังและนักกีฬาในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 1970 ทำให้แบรนด์นี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
    SEBAGO CAMPSIDES Mens Suede Boat Moc Toe Lace Up Slip On Shoes Size. EUR 41 /26(26.5) cm 🔥 Price : 750฿ รองเท้าทรงเรือรุ่น Campsides เป็นรองเท้ารุ่นยอดนิยมรุ่นหนึ่งของ Sebago แบรนด์คุณภาพจากสหรัฐอเมริกา ที่ผสมผสานความคลาสสิกของรองเท้าทรงเรือเข้ากับความทันสมัยของวัสดุหนังกลับ ทำให้ได้รองเท้าที่มีทั้งความเรียบหรูและสบายเท้า เหมาะสำหรับการสวมใส่ในหลากหลายโอกาส รองเท้าคู่นี้มาด้วยหนังกลับคุณภาพสูงในสไตล์ Boat Moc โดดเด่นด้วยการปิดแบบผูกเชือกที่สวมใส่สบายและดีไซน์หัวม็อคที่ทันสมัย ​​ พื้นรองเท้าด้านนอกทำจากยางให้การยึดเกาะและความทนทานที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่ซับในและพื้นรองเท้าด้านในทำจากหนังช่วยให้สวมใส่สบายสูงสุด รองเท้าคู่นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Campsides และมีรูปแบบรองเท้าทรงเรือแบบคลาสสิก ✅ จุดเด่นของ Sebago Campsides Suede Boat Moc :- 🔹วัสดุหนังกลับคุณภาพสูง : ทำให้รองเท้ามีความนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี และมีลุคที่ดูพรีเมียม 🔹ดีไซน์คลาสสิก : รูปทรงของรองเท้าเรือแบบดั้งเดิมที่ไม่เคยตกยุค 🔹พื้นรองเท้าที่ยึดเกาะได้ดี : เหมาะสำหรับการเดินบนพื้นผิวที่ลื่น 🔹ความทนทาน : ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทำให้รองเท้าใช้งานได้ยาวนาน 👉 เรื่องราว :- Sebago เป็นแบรนด์รองเท้าที่มีชื่อเสียงโด่งดัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านรองเท้าเรือ (Boat Shoes) ที่มีความคลาสสิกและเป็นที่นิยมอย่างมากทั่วโลก แบรนด์นี้ก่อตั้งขึ้นใน สหรัฐอเมริกา โดยมีจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจดังนี้ กำเนิดจากชาวประมงในรัฐเมน 🔹ต้นกำเนิด : เรื่องราวของ Sebago เริ่มต้นขึ้นในรัฐเมน สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นรัฐที่มีชื่อเสียงในด้านอุตสาหกรรมการทำเรือและการประมง ชาวประมงในแถบนี้ต้องการรองเท้าที่สามารถสวมใส่ได้อย่างสบายและยึดเกาะได้ดีบนดาดฟ้าเรือ 🔹การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ : จากความต้องการดังกล่าว ทำให้เกิดการออกแบบรองเท้าเรือที่มีลักษณะเด่นคือ พื้นรองเท้าแบบยางที่มีร่องลึกเพื่อช่วยในการยึดเกาะ และมีเชือกหนังที่พันรอบข้อเท้าเพื่อให้รองเท้ากระชับเท้ามากขึ้น 🔹ความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลก : รองเท้า Sebago ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในหมู่เหล่าคนดังและนักกีฬาในช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 1970 ทำให้แบรนด์นี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้เหตุการณ์จะผ่านมากว่า 2 ทศวรรษแล้ว แต่ก็ยังคงมีหลักฐานและภาพใหม่ ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ปรากฏให้เห็น โดยล่าสุดเป็นคลิปวิดีโอที่ภาพมีความละเอียดสูงซึ่งชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งนำมาโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มยูทูบ ทำให้ผู้ที่เข้ามาชมต้องตกตะลึงกับภาพที่แสนจะคมชัดของนาทีที่อาคารแฝดเริ่มถล่มลงสู่พื้น...

    ผู้ที่นำคลิปนี้มาโพสต์ไว้เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมาคือ เคย์ ซึงิโมโตะ คลิปดังกล่าวถ่ายจากบริเวณดาดฟ้าของอาคารเลขที่ 64 ย่านเซนต์มาร์คส์ เพลซ นครนิวยอร์ก ถ่ายด้วยกล้องวิดีโอโซนี่รุ่น VX2000 ติดเลนส์เทเลคอนเวอร์เตอร์
    ซึงิโมโตะเขียนอธิบายไว้ว่า เขาตัดสินใจที่นำคลิปวิดีโอนี้มาโพสต์ออนไลน์ในตอนนี้ก็เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ส่วนสาเหตุที่เพิ่งนำมาโพสต์ก็เพราะว่าเขาเพิ่งจะค้นเจอคลิปนี้จากข้าวของในอดีตที่เก็บเอาไว้

    คลิปที่ ซึงิ โมโตะโพสต์ไว้นั้นมีคลิปฉบับเต็มที่กินเวลายาวนานเป็นชั่วโมงและคลิปที่สั้นกว่า ซึ่งตัดเฉพาะช่วงเวลาที่อาคารแฝดเวิลด์เทรดฯ เริ่มถล่มลงมา

    คลิปดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในเวลาไม่นาน เนื่องจากความคมชัดของภาพและเป็นภาพที่ถ่ายจากมุมใหม่ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน 
    ซึงิโมโตะตอบคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนั้นที่มีชาวเน็ตถามเข้ามาว่า ตอนที่เขาตื่นขึ้นมาในเช้าวันเกิดเหตุ (11 ก.ย. 2544) เขาก็พบว่ามีคนจำนวนมากบนท้องถนนที่กำลังจ้องมองไปทางทิศใต้ก่อนที่เขาจะเห็นว่าอาคารเวิลด์เทรดฯ ทางทิศเหนือกำลังเกิดเพลิงไหม้

    หลังจากที่เห็นเครื่องบินโดยสารพุ่งชนอาคารเวิลด์เทรดฯ หลังที่ 2 เขาก็รีบคว้ากล้องและอุปกรณ์บันทึกภาพมาถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ โดยมีความตั้งใจว่าจะนำภาพที่ถ่ายได้ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้เพราะความวุ่นวายโกลาหลหลังจากนั้น

    ผู้ที่เข้ามาชมคลิปของซึงิโมโตะหลายคนแสดงความขอบคุณที่เขานำภาพเหตุการณ์มาแบ่งปันให้ได้ชม นอกจากนี้ คลิปของเขายังเป็นแรงกระตุ้นให้คนอื่น ๆ ร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์และสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 9/11 อีกด้วย

    ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/3702227/

    https://youtu.be/8TexFDMtomU?si=Drt6f7fbs0H8HaQU
    แม้เหตุการณ์จะผ่านมากว่า 2 ทศวรรษแล้ว แต่ก็ยังคงมีหลักฐานและภาพใหม่ ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ปรากฏให้เห็น โดยล่าสุดเป็นคลิปวิดีโอที่ภาพมีความละเอียดสูงซึ่งชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งนำมาโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มยูทูบ ทำให้ผู้ที่เข้ามาชมต้องตกตะลึงกับภาพที่แสนจะคมชัดของนาทีที่อาคารแฝดเริ่มถล่มลงสู่พื้น... ผู้ที่นำคลิปนี้มาโพสต์ไว้เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมาคือ เคย์ ซึงิโมโตะ คลิปดังกล่าวถ่ายจากบริเวณดาดฟ้าของอาคารเลขที่ 64 ย่านเซนต์มาร์คส์ เพลซ นครนิวยอร์ก ถ่ายด้วยกล้องวิดีโอโซนี่รุ่น VX2000 ติดเลนส์เทเลคอนเวอร์เตอร์ ซึงิโมโตะเขียนอธิบายไว้ว่า เขาตัดสินใจที่นำคลิปวิดีโอนี้มาโพสต์ออนไลน์ในตอนนี้ก็เพื่อเก็บไว้เป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ส่วนสาเหตุที่เพิ่งนำมาโพสต์ก็เพราะว่าเขาเพิ่งจะค้นเจอคลิปนี้จากข้าวของในอดีตที่เก็บเอาไว้ คลิปที่ ซึงิ โมโตะโพสต์ไว้นั้นมีคลิปฉบับเต็มที่กินเวลายาวนานเป็นชั่วโมงและคลิปที่สั้นกว่า ซึ่งตัดเฉพาะช่วงเวลาที่อาคารแฝดเวิลด์เทรดฯ เริ่มถล่มลงมา คลิปดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในเวลาไม่นาน เนื่องจากความคมชัดของภาพและเป็นภาพที่ถ่ายจากมุมใหม่ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน  ซึงิโมโตะตอบคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันนั้นที่มีชาวเน็ตถามเข้ามาว่า ตอนที่เขาตื่นขึ้นมาในเช้าวันเกิดเหตุ (11 ก.ย. 2544) เขาก็พบว่ามีคนจำนวนมากบนท้องถนนที่กำลังจ้องมองไปทางทิศใต้ก่อนที่เขาจะเห็นว่าอาคารเวิลด์เทรดฯ ทางทิศเหนือกำลังเกิดเพลิงไหม้ หลังจากที่เห็นเครื่องบินโดยสารพุ่งชนอาคารเวิลด์เทรดฯ หลังที่ 2 เขาก็รีบคว้ากล้องและอุปกรณ์บันทึกภาพมาถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ โดยมีความตั้งใจว่าจะนำภาพที่ถ่ายได้ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้เพราะความวุ่นวายโกลาหลหลังจากนั้น ผู้ที่เข้ามาชมคลิปของซึงิโมโตะหลายคนแสดงความขอบคุณที่เขานำภาพเหตุการณ์มาแบ่งปันให้ได้ชม นอกจากนี้ คลิปของเขายังเป็นแรงกระตุ้นให้คนอื่น ๆ ร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์และสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 9/11 อีกด้วย ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/3702227/ https://youtu.be/8TexFDMtomU?si=Drt6f7fbs0H8HaQU
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว