• ตอนแรกหลายองค์กรคิดว่า “ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่แล้ว” น่าจะพอเอาอยู่กับ AI — เพราะก็มี patch, มี asset inventory, มี firewall อยู่แล้ว แต่วันนี้กลายเป็นว่า... AI คือสัตว์คนละสายพันธุ์เลยครับ

    เพราะ AI ขยายพื้นที่โจมตีออกไปถึง API, third-party, supply chain และยังมีความเสี่ยงใหม่แบบเฉพาะตัว เช่น model poisoning, prompt injection, data inference ซึ่งไม่เคยต้องรับมือในโลก legacy มาก่อน

    และแม้ว่าองค์กรจะลงทุนกับ AI อย่างหนัก แต่เกือบครึ่ง (46%) ของโครงการ AI ถูกหยุดกลางคันหรือไม่เคยได้ไปถึง production ด้วยซ้ำ — ส่วนใหญ่เกิดจากความล้มเหลวในด้าน governance, ความเสี่ยง, ข้อมูลไม่สะอาด และขาดทีมที่เข้าใจ AI จริง ๆ

    ข่าวนี้จึงเสนอบทบาทใหม่ 5 แบบที่ CISO ต้องกลายร่างเป็น: “นักกฎหมาย, นักวิเคราะห์, ครู, นักวิจัย และนักสร้างพันธมิตร”

    ✅ 5 ขั้นตอนสำคัญที่ CISO ต้องทำเพื่อรักษาความปลอดภัยของ AI:
    ✅ 1. เริ่มทุกอย่างด้วยโมเดล AI Governance ที่แข็งแรงและครอบคลุม  
    • ต้องมี alignment ระหว่างทีมธุรกิจ–เทคโนโลยีว่า AI จะใช้ทำอะไร และใช้อย่างไร  
    • สร้าง framework ที่รวม ethics, compliance, transparency และ success metrics  
    • ใช้แนวทางจาก NIST AI RMF, ISO/IEC 42001:2023, UNESCO AI Ethics, RISE และ CARE

    ✅ 2. พัฒนา “มุมมองความเสี่ยงของ AI” ที่ต่อเนื่องและลึกกว่าระบบปกติ  
    • สร้าง AI asset inventory, risk register, และ software bill of materials  
    • ติดตามภัยคุกคามเฉพาะ AI เช่น data leakage, model drift, prompt injection  
    • ใช้ MITRE ATLAS และตรวจสอบ vendor + third-party supply chain อย่างใกล้ชิด

    ✅ 3. ขยายนิยาม “data integrity” ให้ครอบคลุมถึงโมเดล AI ด้วย  
    • ไม่ใช่แค่ข้อมูลไม่โดนแก้ไข แต่รวมถึง bias, fairness และ veracity  
    • เช่นเคยมีกรณี Amazon และ UK ใช้ AI ที่กลายเป็นอคติทางเพศและสีผิว

    ✅ 4. ยกระดับ “AI literacy” ให้ทั้งองค์กรเข้าใจและใช้งานอย่างปลอดภัย  
    • เริ่มจากทีม Security → Dev → ฝ่ายธุรกิจ  
    • สอน OWASP Top 10 for LLMs, Google’s SAIF, CSA Secure AI  
    • End user ต้องรู้เรื่อง misuse, data leak และ deepfake ด้วย

    ✅ 5. มอง AI Security แบบ “ผู้ช่วย” ไม่ใช่ “อัตโนมัติเต็มขั้น”  
    • ใช้ AI ช่วย triage alert, คัด log, วิเคราะห์ risk score แต่ยังต้องมีคนคุม  
    • พิจารณาผู้ให้บริการ AI Security อย่างรอบคอบ เพราะหลายเจ้าแค่ “แปะป้าย AI” แต่ยังไม่ mature

    https://www.csoonline.com/article/4011384/the-cisos-5-step-guide-to-securing-ai-operations.html
    ตอนแรกหลายองค์กรคิดว่า “ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่แล้ว” น่าจะพอเอาอยู่กับ AI — เพราะก็มี patch, มี asset inventory, มี firewall อยู่แล้ว แต่วันนี้กลายเป็นว่า... AI คือสัตว์คนละสายพันธุ์เลยครับ เพราะ AI ขยายพื้นที่โจมตีออกไปถึง API, third-party, supply chain และยังมีความเสี่ยงใหม่แบบเฉพาะตัว เช่น model poisoning, prompt injection, data inference ซึ่งไม่เคยต้องรับมือในโลก legacy มาก่อน และแม้ว่าองค์กรจะลงทุนกับ AI อย่างหนัก แต่เกือบครึ่ง (46%) ของโครงการ AI ถูกหยุดกลางคันหรือไม่เคยได้ไปถึง production ด้วยซ้ำ — ส่วนใหญ่เกิดจากความล้มเหลวในด้าน governance, ความเสี่ยง, ข้อมูลไม่สะอาด และขาดทีมที่เข้าใจ AI จริง ๆ ข่าวนี้จึงเสนอบทบาทใหม่ 5 แบบที่ CISO ต้องกลายร่างเป็น: “นักกฎหมาย, นักวิเคราะห์, ครู, นักวิจัย และนักสร้างพันธมิตร” ✅ 5 ขั้นตอนสำคัญที่ CISO ต้องทำเพื่อรักษาความปลอดภัยของ AI: ✅ 1. เริ่มทุกอย่างด้วยโมเดล AI Governance ที่แข็งแรงและครอบคลุม   • ต้องมี alignment ระหว่างทีมธุรกิจ–เทคโนโลยีว่า AI จะใช้ทำอะไร และใช้อย่างไร   • สร้าง framework ที่รวม ethics, compliance, transparency และ success metrics   • ใช้แนวทางจาก NIST AI RMF, ISO/IEC 42001:2023, UNESCO AI Ethics, RISE และ CARE ✅ 2. พัฒนา “มุมมองความเสี่ยงของ AI” ที่ต่อเนื่องและลึกกว่าระบบปกติ   • สร้าง AI asset inventory, risk register, และ software bill of materials   • ติดตามภัยคุกคามเฉพาะ AI เช่น data leakage, model drift, prompt injection   • ใช้ MITRE ATLAS และตรวจสอบ vendor + third-party supply chain อย่างใกล้ชิด ✅ 3. ขยายนิยาม “data integrity” ให้ครอบคลุมถึงโมเดล AI ด้วย   • ไม่ใช่แค่ข้อมูลไม่โดนแก้ไข แต่รวมถึง bias, fairness และ veracity   • เช่นเคยมีกรณี Amazon และ UK ใช้ AI ที่กลายเป็นอคติทางเพศและสีผิว ✅ 4. ยกระดับ “AI literacy” ให้ทั้งองค์กรเข้าใจและใช้งานอย่างปลอดภัย   • เริ่มจากทีม Security → Dev → ฝ่ายธุรกิจ   • สอน OWASP Top 10 for LLMs, Google’s SAIF, CSA Secure AI   • End user ต้องรู้เรื่อง misuse, data leak และ deepfake ด้วย ✅ 5. มอง AI Security แบบ “ผู้ช่วย” ไม่ใช่ “อัตโนมัติเต็มขั้น”   • ใช้ AI ช่วย triage alert, คัด log, วิเคราะห์ risk score แต่ยังต้องมีคนคุม   • พิจารณาผู้ให้บริการ AI Security อย่างรอบคอบ เพราะหลายเจ้าแค่ “แปะป้าย AI” แต่ยังไม่ mature https://www.csoonline.com/article/4011384/the-cisos-5-step-guide-to-securing-ai-operations.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The CISO’s 5-step guide to securing AI operations
    Security leaders must become AI cheerleaders, risk experts, data stewards, teachers, and researchers. Here’s how to lead your organization toward more secure and effective AI use.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในยุคที่ชีวิตเราผูกกับบัญชีออนไลน์สารพัด มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจำรหัสผ่านทั้งหมดได้เอง — นี่ยังไม่นับเรื่อง “ใช้ซ้ำรหัสเดิม” ซึ่งเป็นด่านแรกที่แฮกเกอร์ชอบที่สุด

    แต่โชคดีที่ปัจจุบันมี Password Manager ฟรีดี ๆ มากมายที่ไม่เพียงเก็บรหัสผ่านอย่างปลอดภัย แต่ยังช่วยสร้างรหัสผ่านใหม่, เติมรหัสให้อัตโนมัติ และซิงค์ข้ามอุปกรณ์ได้ด้วย ซึ่งจากการจัดอันดับล่าสุด 10 แอปที่ได้รับความนิยมและเชื่อถือได้บน Android มีทั้งแบบคลาวด์และแบบเก็บข้อมูลในเครื่องเอง

    ที่น่าสนใจคือ บางแอปเปิดให้ใช้ฟีเจอร์ระดับพรีเมียมโดยไม่ต้องเสียเงินเลย เช่น:
    - Proton Pass ใช้ได้ไม่จำกัดอุปกรณ์ + สร้าง 2FA ในตัว + รองรับ passkeys
    - Bitwarden เป็นโอเพนซอร์สและใช้ได้บนทุกแพลตฟอร์ม + มี 2FA ฟรี
    - KeePassDX เก็บไฟล์รหัสแบบ local + ปลอดคลาวด์ + ไม่มีโฆษณา

    ในขณะที่แอปบางตัวอย่าง LastPass หรือ Dashlane มีข้อจำกัด เช่น จำกัดจำนวนรหัสผ่าน หรือใช้งานได้แค่อุปกรณ์เดียวพร้อมกันในเวอร์ชันฟรี

    🧪🧪 แอป Password Manager ฟรีที่น่าสนใจใน Android ปี 2025:
    ✅ Proton Pass  
    • ใช้ได้ทุกอุปกรณ์ ฟรี ไม่จำกัดจำนวนรหัสผ่าน  
    • มี 2FA และสร้าง email alias ได้ในตัว  
    • รองรับ passkeys และการเติมรหัสแบบ autofill  
    • เจ้าของเดียวกับ Proton Mail — เน้นความเป็นส่วนตัว

    ✅ Bitwarden  
    • โอเพนซอร์ส + ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยภายนอก  
    • ฟรีทุกฟีเจอร์หลัก ใช้ได้หลายอุปกรณ์  
    • มี 2FA, generator, และ autofill ครบ  
    • มีรุ่นพรีเมียม $10/ปี ถ้าต้องการเก็บไฟล์เข้ารหัส

    ✅ NordPass (Free)  
    • จัดเก็บรหัสไม่จำกัด และมี autofill  
    • อินเทอร์เฟซใช้ง่าย มีจัดเก็บโน้ต/บัตรเครดิตด้วย  
    • ข้อจำกัด: ใช้ได้แค่ 1 อุปกรณ์พร้อมกันในเวอร์ชันฟรี

    ✅ Avira Password Manager  
    • ใช้ซิงค์ข้ามอุปกรณ์ได้ + มีแจ้งเตือนรหัสอ่อน  
    • มี browser extension รองรับ autofill  
    • ข้อจำกัด: ฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่างต้องเสียเงิน

    ✅ KeePassDX  
    • เก็บข้อมูลเป็นไฟล์ local (ตามมาตรฐาน KeePass)  
    • ไม่มีคลาวด์ = ความเป็นส่วนตัวสูง  
    • รองรับ biometric unlock และ autofill  
    • เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ชำนาญและต้องการควบคุมเต็มที่

    ✅ Dashlane (Free)  
    • ใช้ได้ 25 รหัสผ่าน + autofill ทำงานดี  
    • มีระบบตรวจสุขภาพรหัสผ่าน  
    • ข้อจำกัด: ซิงค์ข้ามอุปกรณ์ต้องอัปเกรดเป็นพรีเมียม

    ✅ RoboForm  
    • ใช้งานได้ข้ามอุปกรณ์ + มี generator  
    • อินเทอร์เฟซไม่หวือหวาแต่ใช้ง่าย  
    • มีฟีเจอร์เก็บฟอร์ม/รหัสแบบ auto-fill

    ✅ LastPass (Free)  
    • จัดการรหัสผ่าน/โน้ต + autofill ทำงานดี  
    • ข้อจำกัด: ใช้ได้เพียง “อุปกรณ์ประเภทเดียว” (เช่นเฉพาะมือถือ)  
    • ไม่รองรับซิงค์มือถือ+คอมพร้อมกันในเวอร์ชันฟรี

    ✅ Total Password  
    • อินเทอร์เฟซใช้ง่าย + autofill ดี  
    • ราคาเริ่มต้น $1.99/เดือน ถ้าต้องการเกินฟีเจอร์ฟรี

    ✅ 1Password (Trial)  
    • ทดลองใช้งานได้ 14 วัน มีฟีเจอร์ครบ  
    • หลังหมดช่วงทดลองต้องเสียเงิน  
    • มีระบบแบ่งปันรหัสและเก็บข้อมูลอื่น ๆ เช่นบัตรเครดิต

    https://computercity.com/software/best-free-password-manager-for-android
    ในยุคที่ชีวิตเราผูกกับบัญชีออนไลน์สารพัด มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจำรหัสผ่านทั้งหมดได้เอง — นี่ยังไม่นับเรื่อง “ใช้ซ้ำรหัสเดิม” ซึ่งเป็นด่านแรกที่แฮกเกอร์ชอบที่สุด แต่โชคดีที่ปัจจุบันมี Password Manager ฟรีดี ๆ มากมายที่ไม่เพียงเก็บรหัสผ่านอย่างปลอดภัย แต่ยังช่วยสร้างรหัสผ่านใหม่, เติมรหัสให้อัตโนมัติ และซิงค์ข้ามอุปกรณ์ได้ด้วย ซึ่งจากการจัดอันดับล่าสุด 10 แอปที่ได้รับความนิยมและเชื่อถือได้บน Android มีทั้งแบบคลาวด์และแบบเก็บข้อมูลในเครื่องเอง ที่น่าสนใจคือ บางแอปเปิดให้ใช้ฟีเจอร์ระดับพรีเมียมโดยไม่ต้องเสียเงินเลย เช่น: - Proton Pass ใช้ได้ไม่จำกัดอุปกรณ์ + สร้าง 2FA ในตัว + รองรับ passkeys - Bitwarden เป็นโอเพนซอร์สและใช้ได้บนทุกแพลตฟอร์ม + มี 2FA ฟรี - KeePassDX เก็บไฟล์รหัสแบบ local + ปลอดคลาวด์ + ไม่มีโฆษณา ในขณะที่แอปบางตัวอย่าง LastPass หรือ Dashlane มีข้อจำกัด เช่น จำกัดจำนวนรหัสผ่าน หรือใช้งานได้แค่อุปกรณ์เดียวพร้อมกันในเวอร์ชันฟรี 🧪🧪 แอป Password Manager ฟรีที่น่าสนใจใน Android ปี 2025: ✅ Proton Pass   • ใช้ได้ทุกอุปกรณ์ ฟรี ไม่จำกัดจำนวนรหัสผ่าน   • มี 2FA และสร้าง email alias ได้ในตัว   • รองรับ passkeys และการเติมรหัสแบบ autofill   • เจ้าของเดียวกับ Proton Mail — เน้นความเป็นส่วนตัว ✅ Bitwarden   • โอเพนซอร์ส + ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยภายนอก   • ฟรีทุกฟีเจอร์หลัก ใช้ได้หลายอุปกรณ์   • มี 2FA, generator, และ autofill ครบ   • มีรุ่นพรีเมียม $10/ปี ถ้าต้องการเก็บไฟล์เข้ารหัส ✅ NordPass (Free)   • จัดเก็บรหัสไม่จำกัด และมี autofill   • อินเทอร์เฟซใช้ง่าย มีจัดเก็บโน้ต/บัตรเครดิตด้วย   • ข้อจำกัด: ใช้ได้แค่ 1 อุปกรณ์พร้อมกันในเวอร์ชันฟรี ✅ Avira Password Manager   • ใช้ซิงค์ข้ามอุปกรณ์ได้ + มีแจ้งเตือนรหัสอ่อน   • มี browser extension รองรับ autofill   • ข้อจำกัด: ฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่างต้องเสียเงิน ✅ KeePassDX   • เก็บข้อมูลเป็นไฟล์ local (ตามมาตรฐาน KeePass)   • ไม่มีคลาวด์ = ความเป็นส่วนตัวสูง   • รองรับ biometric unlock และ autofill   • เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ชำนาญและต้องการควบคุมเต็มที่ ✅ Dashlane (Free)   • ใช้ได้ 25 รหัสผ่าน + autofill ทำงานดี   • มีระบบตรวจสุขภาพรหัสผ่าน   • ข้อจำกัด: ซิงค์ข้ามอุปกรณ์ต้องอัปเกรดเป็นพรีเมียม ✅ RoboForm   • ใช้งานได้ข้ามอุปกรณ์ + มี generator   • อินเทอร์เฟซไม่หวือหวาแต่ใช้ง่าย   • มีฟีเจอร์เก็บฟอร์ม/รหัสแบบ auto-fill ✅ LastPass (Free)   • จัดการรหัสผ่าน/โน้ต + autofill ทำงานดี   • ข้อจำกัด: ใช้ได้เพียง “อุปกรณ์ประเภทเดียว” (เช่นเฉพาะมือถือ)   • ไม่รองรับซิงค์มือถือ+คอมพร้อมกันในเวอร์ชันฟรี ✅ Total Password   • อินเทอร์เฟซใช้ง่าย + autofill ดี   • ราคาเริ่มต้น $1.99/เดือน ถ้าต้องการเกินฟีเจอร์ฟรี ✅ 1Password (Trial)   • ทดลองใช้งานได้ 14 วัน มีฟีเจอร์ครบ   • หลังหมดช่วงทดลองต้องเสียเงิน   • มีระบบแบ่งปันรหัสและเก็บข้อมูลอื่น ๆ เช่นบัตรเครดิต https://computercity.com/software/best-free-password-manager-for-android
    COMPUTERCITY.COM
    Best Free Password Managers for Android
    Managing passwords can be tricky, especially when you're on the go with your Android device. With so many apps and websites needing login information, it's
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนใช้ CapCut เพราะมันฟรี ใช้ง่าย และมีลูกเล่นที่ดีมาก…แต่หลังจากอัปเดตข้อกำหนดการใช้งาน (Terms of Service) ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวเตือนว่า ผู้ใช้แทบไม่ได้เป็นเจ้าของเนื้อหาของตัวเองแล้ว

    CapCut เขียนเงื่อนไขว่า เมื่อคุณอัปโหลดวิดีโอ รูปภาพ หรือเสียงใด ๆ เข้าไปในระบบ (แม้แต่อันที่ไม่ได้กดเผยแพร่ก็ตาม) คุณจะมอบ สิทธิใช้งานแบบ “ทั่วโลก, ถาวร, โอนต่อได้, และไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์” ให้ CapCut ใช้ผลงานของคุณ — ทั้งใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และผลงานสร้างสรรค์ของคุณ เพื่อทำอะไรก็ได้ รวมถึงการใช้ในโฆษณา โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้าหรือให้ค่าตอบแทนใด ๆ

    สิ่งที่น่ากังวลยิ่งขึ้นคือ ถึงคุณจะลบบัญชี CapCut ไปแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นก็ยังเป็นของ CapCut ตลอดไป เพราะเขาเขียนว่า "perpetual" — ไม่มีหมดอายุ

    แถมไม่มีวิธี opt-out ด้วย...หมายความว่าแค่คุณใช้งานก็ถือว่ายอมรับโดยอัตโนมัติ

    ✅ CapCut อัปเดตข้อตกลงการใช้งาน โดยอ้างสิทธิในผลงานของผู้ใช้แบบถาวรและโอนต่อได้  
    • ครอบคลุมถึงภาพใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และงานตัดต่อทั้งหมด  
    • ใช้ได้แม้ผู้ใช้จะลบบัญชีแล้ว

    ✅ ข้อตกลงใหม่นี้ครอบคลุมถึงเนื้อหาทั้งหมดที่อัปโหลด — แม้จะไม่ได้เผยแพร่ก็ตาม  
    • รวมถึงคลิป draft, voiceover, หรือไฟล์ชั่วคราว

    ✅ CapCut ไม่มีระบบ opt-out — หากใช้งานถือว่ายอมรับข้อตกลงทันที  
    • ใช้กับทั้งผู้ใช้งานส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้เนื้อหาของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจละเมิดกฎหมายสิทธิภาพลักษณ์ (right of publicity)  
    • แต่การบังคับใช้ลำบากมากเพราะผู้ใช้กดยอมรับแล้วใน ToS

    ✅ ทางเลือกของผู้ใช้งานคือเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมอื่น เช่น DaVinci Resolve หรือ Adobe Premiere ที่ให้ความเป็นเจ้าของผลงานแก่ผู้ใช้ชัดเจนกว่า

    https://www.techradar.com/pro/popular-video-editing-app-capcut-wants-to-use-any-content-you-produce-for-free-forever-heres-what-you-should-know
    หลายคนใช้ CapCut เพราะมันฟรี ใช้ง่าย และมีลูกเล่นที่ดีมาก…แต่หลังจากอัปเดตข้อกำหนดการใช้งาน (Terms of Service) ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวเตือนว่า ผู้ใช้แทบไม่ได้เป็นเจ้าของเนื้อหาของตัวเองแล้ว CapCut เขียนเงื่อนไขว่า เมื่อคุณอัปโหลดวิดีโอ รูปภาพ หรือเสียงใด ๆ เข้าไปในระบบ (แม้แต่อันที่ไม่ได้กดเผยแพร่ก็ตาม) คุณจะมอบ สิทธิใช้งานแบบ “ทั่วโลก, ถาวร, โอนต่อได้, และไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์” ให้ CapCut ใช้ผลงานของคุณ — ทั้งใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และผลงานสร้างสรรค์ของคุณ เพื่อทำอะไรก็ได้ รวมถึงการใช้ในโฆษณา โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้าหรือให้ค่าตอบแทนใด ๆ สิ่งที่น่ากังวลยิ่งขึ้นคือ ถึงคุณจะลบบัญชี CapCut ไปแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นก็ยังเป็นของ CapCut ตลอดไป เพราะเขาเขียนว่า "perpetual" — ไม่มีหมดอายุ แถมไม่มีวิธี opt-out ด้วย...หมายความว่าแค่คุณใช้งานก็ถือว่ายอมรับโดยอัตโนมัติ ✅ CapCut อัปเดตข้อตกลงการใช้งาน โดยอ้างสิทธิในผลงานของผู้ใช้แบบถาวรและโอนต่อได้   • ครอบคลุมถึงภาพใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และงานตัดต่อทั้งหมด   • ใช้ได้แม้ผู้ใช้จะลบบัญชีแล้ว ✅ ข้อตกลงใหม่นี้ครอบคลุมถึงเนื้อหาทั้งหมดที่อัปโหลด — แม้จะไม่ได้เผยแพร่ก็ตาม   • รวมถึงคลิป draft, voiceover, หรือไฟล์ชั่วคราว ✅ CapCut ไม่มีระบบ opt-out — หากใช้งานถือว่ายอมรับข้อตกลงทันที   • ใช้กับทั้งผู้ใช้งานส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้เนื้อหาของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจละเมิดกฎหมายสิทธิภาพลักษณ์ (right of publicity)   • แต่การบังคับใช้ลำบากมากเพราะผู้ใช้กดยอมรับแล้วใน ToS ✅ ทางเลือกของผู้ใช้งานคือเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมอื่น เช่น DaVinci Resolve หรือ Adobe Premiere ที่ให้ความเป็นเจ้าของผลงานแก่ผู้ใช้ชัดเจนกว่า https://www.techradar.com/pro/popular-video-editing-app-capcut-wants-to-use-any-content-you-produce-for-free-forever-heres-what-you-should-know
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปกติในชิปคอมพิวเตอร์ การส่งข้อมูลระหว่างส่วนต่าง ๆ จะใช้กระแสไฟฟ้า (electrons) แต่ข้อจำกัดคือมันร้อน ใช้พลังงานเยอะ และช้าเมื่อเทียบกับความเร็วของ “แสง”

    ทีมจาก Fudan University เลยเปิดตัว “multiplexer แบบใช้แสง” หรือชิปที่รับข้อมูลจากหลายช่อง แล้วส่งออกผ่านช่องเดียว — โดยใช้ “แสงเลเซอร์” แทนกระแสไฟฟ้า

    ชิปตัวนี้สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงถึง 38 Tbps (terabits per second) เร็วพอจะส่งพารามิเตอร์ของ LLM (เช่น ChatGPT ขนาดใหญ่) ได้ 4.75 ล้านล้านพารามิเตอร์ต่อวินาที

    ที่สำคัญคือมันทำงานร่วมกับระบบที่ใช้ CMOS (พื้นฐานของชิปยุคปัจจุบัน) ได้ — แปลว่าไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ช่วยลด latency ระหว่างโลกของ “แสง” กับ “ไฟฟ้า”

    แม้ข้อมูลจะมาจากสื่อของรัฐบาลจีน แต่ก็มีรายงานว่า ทีมส่งผลวิจัยนี้ไปยังวารสาร Nature แล้ว — ถ้าได้รับการตีพิมพ์เมื่อไร ก็ถือเป็นหลักฐานเชิงวิชาการที่น่าเชื่อถือ

    นักวิเคราะห์ในจีนเชื่อว่า ภายใน 3–5 ปีข้างหน้า เราอาจได้เห็น CPU หรือหน่วยความจำที่ใช้การสื่อสารด้วย “แสงเต็มระบบ” ก็เป็นได้!

    ✅ ทีมจากมหาวิทยาลัย Fudan พัฒนาชิป multiplexer แบบ photonic — ส่งข้อมูลด้วยแสงแทนไฟฟ้า  
    • ชื่อทางเทคนิคคือ “silicon photonic integrated high-order mode multiplexer”  
    • เป็นชิปในตระกูล silicon photonics

    ✅ ความเร็วการส่งข้อมูลสูงถึง 38 Tbps  
    • รองรับโหลดการประมวลผลระดับ LLM ขนาดหลายร้อยพันล้านพารามิเตอร์

    ✅ สามารถเชื่อมต่อกับระบบที่ใช้ CMOS (เช่น CPU, RAM แบบเดิม) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  
    • ลด latency ในการเชื่อมระหว่าง photonic–electronic

    ✅ ทีมวิจัยยื่นผลการวิจัยไปยังวารสาร Nature แล้ว รอการพิจารณา  
    • หากผ่านตีพิมพ์จะเพิ่มเครดิตอย่างมากในวงการวิชาการ

    ✅ จีนกำลังเร่งพัฒนา photonic chip และมีเป้าหมายจะใช้เต็มรูปแบบภายใน 3–5 ปี  
    • เริ่มเข้าสู่สนาม post-Moore’s Law อย่างจริงจัง

    ✅ นักวิเคราะห์ระบุว่าระบบ photonic มีศักยภาพสูงกว่าชิปอิเล็กทรอนิกส์ด้านความเร็วและพลังงาน  
    • ตัวอย่าง: สวิตช์ photonic สำหรับ AI cluster รองรับสูงถึง 400 Tb/s เช่นจาก Nvidia

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-researchers-invent-silicon-photonic-multiplexer-chip-that-uses-light-instead-of-electricity-for-communication-ccp-says-chinas-early-steps-into-light-based-chips-precede-major-breakthroughs-in-three-years
    ปกติในชิปคอมพิวเตอร์ การส่งข้อมูลระหว่างส่วนต่าง ๆ จะใช้กระแสไฟฟ้า (electrons) แต่ข้อจำกัดคือมันร้อน ใช้พลังงานเยอะ และช้าเมื่อเทียบกับความเร็วของ “แสง” ทีมจาก Fudan University เลยเปิดตัว “multiplexer แบบใช้แสง” หรือชิปที่รับข้อมูลจากหลายช่อง แล้วส่งออกผ่านช่องเดียว — โดยใช้ “แสงเลเซอร์” แทนกระแสไฟฟ้า ชิปตัวนี้สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงถึง 38 Tbps (terabits per second) เร็วพอจะส่งพารามิเตอร์ของ LLM (เช่น ChatGPT ขนาดใหญ่) ได้ 4.75 ล้านล้านพารามิเตอร์ต่อวินาที ที่สำคัญคือมันทำงานร่วมกับระบบที่ใช้ CMOS (พื้นฐานของชิปยุคปัจจุบัน) ได้ — แปลว่าไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ช่วยลด latency ระหว่างโลกของ “แสง” กับ “ไฟฟ้า” แม้ข้อมูลจะมาจากสื่อของรัฐบาลจีน แต่ก็มีรายงานว่า ทีมส่งผลวิจัยนี้ไปยังวารสาร Nature แล้ว — ถ้าได้รับการตีพิมพ์เมื่อไร ก็ถือเป็นหลักฐานเชิงวิชาการที่น่าเชื่อถือ นักวิเคราะห์ในจีนเชื่อว่า ภายใน 3–5 ปีข้างหน้า เราอาจได้เห็น CPU หรือหน่วยความจำที่ใช้การสื่อสารด้วย “แสงเต็มระบบ” ก็เป็นได้! ✅ ทีมจากมหาวิทยาลัย Fudan พัฒนาชิป multiplexer แบบ photonic — ส่งข้อมูลด้วยแสงแทนไฟฟ้า   • ชื่อทางเทคนิคคือ “silicon photonic integrated high-order mode multiplexer”   • เป็นชิปในตระกูล silicon photonics ✅ ความเร็วการส่งข้อมูลสูงถึง 38 Tbps   • รองรับโหลดการประมวลผลระดับ LLM ขนาดหลายร้อยพันล้านพารามิเตอร์ ✅ สามารถเชื่อมต่อกับระบบที่ใช้ CMOS (เช่น CPU, RAM แบบเดิม) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ   • ลด latency ในการเชื่อมระหว่าง photonic–electronic ✅ ทีมวิจัยยื่นผลการวิจัยไปยังวารสาร Nature แล้ว รอการพิจารณา   • หากผ่านตีพิมพ์จะเพิ่มเครดิตอย่างมากในวงการวิชาการ ✅ จีนกำลังเร่งพัฒนา photonic chip และมีเป้าหมายจะใช้เต็มรูปแบบภายใน 3–5 ปี   • เริ่มเข้าสู่สนาม post-Moore’s Law อย่างจริงจัง ✅ นักวิเคราะห์ระบุว่าระบบ photonic มีศักยภาพสูงกว่าชิปอิเล็กทรอนิกส์ด้านความเร็วและพลังงาน   • ตัวอย่าง: สวิตช์ photonic สำหรับ AI cluster รองรับสูงถึง 400 Tb/s เช่นจาก Nvidia https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-researchers-invent-silicon-photonic-multiplexer-chip-that-uses-light-instead-of-electricity-for-communication-ccp-says-chinas-early-steps-into-light-based-chips-precede-major-breakthroughs-in-three-years
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • City of Ember กู้วิกฤติมหานครใต้พิภพ (2008)
    City of Ember กู้วิกฤติมหานครใต้พิภพ (2008)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • ปกติเราเข้าใจว่าแผงโซลาร์เซลล์ต้องใช้พื้นที่มาก เพราะวัสดุที่แปลงแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า (เช่น ซิลิคอน หรือแบเรียมไทเทเนต) ยังมีประสิทธิภาพไม่สูงมาก แต่ที่เยอรมนี ทีมวิจัยจาก Martin Luther University กลับค้นพบว่า ถ้านำผลึกบางเฉียบ (แค่ 200 นาโนเมตร) ของวัสดุบางชนิดมาเรียงซ้อนกันอย่างแม่นยำ ผลลัพธ์คือ “กระแสไฟฟ้าที่แรงขึ้นเป็นพันเท่า” จากวัสดุปริมาณเท่าเดิม

    หัวใจของเทคนิคนี้คือการสลับชั้นของ แบเรียมไทเทเนต (BaTiO₃) กับผลึกอื่นอย่าง สตรอนเชียมไทเทเนต และ แคลเซียมไทเทเนต ทำให้พฤติกรรมของอิเล็กตรอนเปลี่ยนไป เสมือนว่าสร้าง “ทางด่วน” ให้ประจุไฟฟ้าไหลผ่านได้ง่ายขึ้น

    ยิ่งกว่านั้น พวกเขาทำโครงสร้างซ้อนชั้นแบบนี้ 500 ชั้นในแต่ละแผ่น แต่ใช้วัสดุแบบเดิมน้อยลงถึง 2 ใน 3! ประสิทธิภาพก็ยังคงเสถียรต่อเนื่องยาวนานกว่า 6 เดือน—แน่นอนว่าเรื่องนี้อาจปฏิวัติการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ในเมืองที่พื้นที่จำกัด หรือในอุปกรณ์พกพา เช่น โน้ตบุ๊ก หรือแม้แต่เซ็นเซอร์ IoT ในอนาคต

    ✅ เทคนิคใหม่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าจากแสงได้ถึง 1,000 เท่า  
    • โดยวางชั้นผลึกบางพิเศษของ BaTiO₃ สลับกับวัสดุอื่นอย่าง SrTiO₃ และ CaTiO₃  
    • โครงสร้างแบบ “แซนด์วิชผลึก” นี้มีความสามารถดูดซับแสงและกระตุ้นอิเล็กตรอนสูงมาก

    ✅ ใช้ปริมาณวัสดุหลักน้อยลง แต่ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น  
    • ใช้ BaTiO₃ น้อยลงถึง 2/3 แต่ได้กระแสไฟมากขึ้น  
    • ทำให้แผงมีขนาดเล็กลง ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับการใช้งานในเมือง

    ✅ เสถียรภาพสูง – ประสิทธิภาพคงที่นาน 6 เดือนในการทดสอบ  
    • ไม่ต้องใช้บรรจุภัณฑ์พิเศษ  
    • ง่ายต่อการผลิตและทนทานต่อสภาพแวดล้อม

    ✅ ใช้เทคนิค “Laser Deposition” สร้างชั้นผลึกได้แม่นยำระดับนาโน  
    • แต่ละชั้นบางเพียง 200 nm รวมทั้งหมด 500 ชั้น

    ✅ เหมาะสำหรับแผงโซลาร์เซลล์ขนาดเล็กหรืออุปกรณ์พกพา  
    • เช่น เซ็นเซอร์, อุปกรณ์ IoT, โน้ตบุ๊ก หรือมือถือในอนาคต

    ‼️ ยังอยู่ในขั้นวิจัย – ไม่ใช่เทคโนโลยีพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์  
    • ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเรื่องความทนทานระยะยาวและต้นทุนการผลิต

    ‼️ กระบวนการผลิตระดับนาโนต้องใช้ความแม่นยำสูง  
    • อาจทำให้ต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่าการผลิตแบบดั้งเดิม

    ‼️ ศักยภาพขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่คุมได้เฉพาะในห้องทดลอง  
    • ยังไม่ชัดว่าจะให้ประสิทธิภาพเท่าเดิมภายใต้แสงธรรมชาติหรือแสงอาทิตย์เต็มสเปกตรัม

    ‼️ ประสิทธิภาพสูงมากในสภาพแสงเลเซอร์ แต่ต้องรอดูผลกับแสงแดดจริง  
    • ต้องรอการทดสอบภาคสนามเพื่อวัดประสิทธิภาพเชิงพาณิชย์

    https://www.techspot.com/news/108338-scientists-achieve-1000-fold-increase-solar-electricity-using.html
    ปกติเราเข้าใจว่าแผงโซลาร์เซลล์ต้องใช้พื้นที่มาก เพราะวัสดุที่แปลงแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า (เช่น ซิลิคอน หรือแบเรียมไทเทเนต) ยังมีประสิทธิภาพไม่สูงมาก แต่ที่เยอรมนี ทีมวิจัยจาก Martin Luther University กลับค้นพบว่า ถ้านำผลึกบางเฉียบ (แค่ 200 นาโนเมตร) ของวัสดุบางชนิดมาเรียงซ้อนกันอย่างแม่นยำ ผลลัพธ์คือ “กระแสไฟฟ้าที่แรงขึ้นเป็นพันเท่า” จากวัสดุปริมาณเท่าเดิม หัวใจของเทคนิคนี้คือการสลับชั้นของ แบเรียมไทเทเนต (BaTiO₃) กับผลึกอื่นอย่าง สตรอนเชียมไทเทเนต และ แคลเซียมไทเทเนต ทำให้พฤติกรรมของอิเล็กตรอนเปลี่ยนไป เสมือนว่าสร้าง “ทางด่วน” ให้ประจุไฟฟ้าไหลผ่านได้ง่ายขึ้น ยิ่งกว่านั้น พวกเขาทำโครงสร้างซ้อนชั้นแบบนี้ 500 ชั้นในแต่ละแผ่น แต่ใช้วัสดุแบบเดิมน้อยลงถึง 2 ใน 3! ประสิทธิภาพก็ยังคงเสถียรต่อเนื่องยาวนานกว่า 6 เดือน—แน่นอนว่าเรื่องนี้อาจปฏิวัติการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ในเมืองที่พื้นที่จำกัด หรือในอุปกรณ์พกพา เช่น โน้ตบุ๊ก หรือแม้แต่เซ็นเซอร์ IoT ในอนาคต ✅ เทคนิคใหม่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าจากแสงได้ถึง 1,000 เท่า   • โดยวางชั้นผลึกบางพิเศษของ BaTiO₃ สลับกับวัสดุอื่นอย่าง SrTiO₃ และ CaTiO₃   • โครงสร้างแบบ “แซนด์วิชผลึก” นี้มีความสามารถดูดซับแสงและกระตุ้นอิเล็กตรอนสูงมาก ✅ ใช้ปริมาณวัสดุหลักน้อยลง แต่ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น   • ใช้ BaTiO₃ น้อยลงถึง 2/3 แต่ได้กระแสไฟมากขึ้น   • ทำให้แผงมีขนาดเล็กลง ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับการใช้งานในเมือง ✅ เสถียรภาพสูง – ประสิทธิภาพคงที่นาน 6 เดือนในการทดสอบ   • ไม่ต้องใช้บรรจุภัณฑ์พิเศษ   • ง่ายต่อการผลิตและทนทานต่อสภาพแวดล้อม ✅ ใช้เทคนิค “Laser Deposition” สร้างชั้นผลึกได้แม่นยำระดับนาโน   • แต่ละชั้นบางเพียง 200 nm รวมทั้งหมด 500 ชั้น ✅ เหมาะสำหรับแผงโซลาร์เซลล์ขนาดเล็กหรืออุปกรณ์พกพา   • เช่น เซ็นเซอร์, อุปกรณ์ IoT, โน้ตบุ๊ก หรือมือถือในอนาคต ‼️ ยังอยู่ในขั้นวิจัย – ไม่ใช่เทคโนโลยีพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์   • ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเรื่องความทนทานระยะยาวและต้นทุนการผลิต ‼️ กระบวนการผลิตระดับนาโนต้องใช้ความแม่นยำสูง   • อาจทำให้ต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่าการผลิตแบบดั้งเดิม ‼️ ศักยภาพขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่คุมได้เฉพาะในห้องทดลอง   • ยังไม่ชัดว่าจะให้ประสิทธิภาพเท่าเดิมภายใต้แสงธรรมชาติหรือแสงอาทิตย์เต็มสเปกตรัม ‼️ ประสิทธิภาพสูงมากในสภาพแสงเลเซอร์ แต่ต้องรอดูผลกับแสงแดดจริง   • ต้องรอการทดสอบภาคสนามเพื่อวัดประสิทธิภาพเชิงพาณิชย์ https://www.techspot.com/news/108338-scientists-achieve-1000-fold-increase-solar-electricity-using.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists achieve 1,000-fold increase in solar electricity using ultra-thin layers
    At the core of this discovery, published in Science Advances, is barium titanate (BaTiO₃), a material known for its ability to convert light into electricity, though not...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • #โคราชเดินหน้าขับเคลื่อนการเป็นเมืองไมซ์ซิตี้
    .
    วันนี้ (17 มิถุนายน 2568) นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมการประเมินเมืองไมซ์ซิตี้จังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 1/2568 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมในการประชุมหารือ ณ.ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
    .
    ตามที่จังหวัดนครราชสีมาได้รับการรับรองในการเป็นเมืองไมซ์ซิตี้ ตั้งแต่ ปี 2563 โดยผลการรับรับรองมีอ ายุ 5 ปี และครบกําหนดในปี 2568 นี้ จังหวัดจึงได้แจ้งความประสงค์ไปยังสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อขอรับการทบทวนและประเมินศักยภาพเมืองไมซ์ซิตี้ ในปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะเป็นการรักษาและเสริมสร้างความมั่นคงของจังหวัดนครราชสีมาในฐานะเมืองไมซ์ตี้ อย่างยั่งยืนต่อไป
    .
    ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมาได้ผ่านการประเมินจาก สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” ในการเป็นเมืองไมซ์ ซิตี้ (MICE CITY) แห่งใหม่ 1 ใน 7 ของประเทศ ตามหลักเกณฑ์ 8 ด้าน ประกอบด้วย ความสะดวกในการเข้าสู่เมืองและสถานที่จัดงาน การสนับสนุนการจัดงานไมซ์จากการจัดงานของเมือง กิจกรรมเพิ่มเติมนอกเหนือจากการประชุม ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก สถานที่จัดงานและสิ่งอำนวยความสะดวก ภาพลักษณ์ และความมีชื่อเสียงของเมือง สภาพแวดล้อมของเมือง และความเสี่ยงในการยกเลิกงานและการรักษาความปลอดภัย
    .
    โดยจากการประเมินของจังหวัดทั่วประเทศมีเกณฑ์มาตรฐานโดยรวมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3.5 และเกณฑ์รายข้อไม่ต่ำกว่า 3 คะแนน การประเมินครั้งที่แล้ว ทางจังหวัดนครราชสีมาได้รับเกณฑ์มาตรฐานโดยรวมร้อยละ 3.8
    #โคราชเดินหน้าขับเคลื่อนการเป็นเมืองไมซ์ซิตี้ . วันนี้ (17 มิถุนายน 2568) นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมการประเมินเมืองไมซ์ซิตี้จังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 1/2568 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมในการประชุมหารือ ณ.ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา . ตามที่จังหวัดนครราชสีมาได้รับการรับรองในการเป็นเมืองไมซ์ซิตี้ ตั้งแต่ ปี 2563 โดยผลการรับรับรองมีอ ายุ 5 ปี และครบกําหนดในปี 2568 นี้ จังหวัดจึงได้แจ้งความประสงค์ไปยังสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อขอรับการทบทวนและประเมินศักยภาพเมืองไมซ์ซิตี้ ในปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะเป็นการรักษาและเสริมสร้างความมั่นคงของจังหวัดนครราชสีมาในฐานะเมืองไมซ์ตี้ อย่างยั่งยืนต่อไป . ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมาได้ผ่านการประเมินจาก สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” ในการเป็นเมืองไมซ์ ซิตี้ (MICE CITY) แห่งใหม่ 1 ใน 7 ของประเทศ ตามหลักเกณฑ์ 8 ด้าน ประกอบด้วย ความสะดวกในการเข้าสู่เมืองและสถานที่จัดงาน การสนับสนุนการจัดงานไมซ์จากการจัดงานของเมือง กิจกรรมเพิ่มเติมนอกเหนือจากการประชุม ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก สถานที่จัดงานและสิ่งอำนวยความสะดวก ภาพลักษณ์ และความมีชื่อเสียงของเมือง สภาพแวดล้อมของเมือง และความเสี่ยงในการยกเลิกงานและการรักษาความปลอดภัย . โดยจากการประเมินของจังหวัดทั่วประเทศมีเกณฑ์มาตรฐานโดยรวมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3.5 และเกณฑ์รายข้อไม่ต่ำกว่า 3 คะแนน การประเมินครั้งที่แล้ว ทางจังหวัดนครราชสีมาได้รับเกณฑ์มาตรฐานโดยรวมร้อยละ 3.8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • #โคราชเดินหน้าขับเคลื่อนการเป็นเมืองไมซ์ซิตี้
    .
    วันนี้ (17 มิถุนายน 2568) นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมการประเมินเมืองไมซ์ซิตี้จังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 1/2568 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมในการประชุมหารือ ณ.ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
    .
    ตามที่จังหวัดนครราชสีมาได้รับการรับรองในการเป็นเมืองไมซ์ซิตี้ ตั้งแต่ ปี 2563 โดยผลการรับรับรองมีอ ายุ 5 ปี และครบกําหนดในปี 2568 นี้ จังหวัดจึงได้แจ้งความประสงค์ไปยังสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อขอรับการทบทวนและประเมินศักยภาพเมืองไมซ์ซิตี้ ในปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะเป็นการรักษาและเสริมสร้างความมั่นคงของจังหวัดนครราชสีมาในฐานะเมืองไมซ์ตี้ อย่างยั่งยืนต่อไป
    .
    ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมาได้ผ่านการประเมินจาก สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” ในการเป็นเมืองไมซ์ ซิตี้ (MICE CITY) แห่งใหม่ 1 ใน 7 ของประเทศ ตามหลักเกณฑ์ 8 ด้าน ประกอบด้วย ความสะดวกในการเข้าสู่เมืองและสถานที่จัดงาน การสนับสนุนการจัดงานไมซ์จากการจัดงานของเมือง กิจกรรมเพิ่มเติมนอกเหนือจากการประชุม ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก สถานที่จัดงานและสิ่งอำนวยความสะดวก ภาพลักษณ์ และความมีชื่อเสียงของเมือง สภาพแวดล้อมของเมือง และความเสี่ยงในการยกเลิกงานและการรักษาความปลอดภัย
    .
    โดยจากการประเมินของจังหวัดทั่วประเทศมีเกณฑ์มาตรฐานโดยรวมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3.5 และเกณฑ์รายข้อไม่ต่ำกว่า 3 คะแนน การประเมินครั้งที่แล้ว ทางจังหวัดนครราชสีมาได้รับเกณฑ์มาตรฐานโดยรวมร้อยละ 3.8
    #โคราชเดินหน้าขับเคลื่อนการเป็นเมืองไมซ์ซิตี้ . วันนี้ (17 มิถุนายน 2568) นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมการประเมินเมืองไมซ์ซิตี้จังหวัดนครราชสีมา ครั้งที่ 1/2568 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมในการประชุมหารือ ณ.ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา . ตามที่จังหวัดนครราชสีมาได้รับการรับรองในการเป็นเมืองไมซ์ซิตี้ ตั้งแต่ ปี 2563 โดยผลการรับรับรองมีอ ายุ 5 ปี และครบกําหนดในปี 2568 นี้ จังหวัดจึงได้แจ้งความประสงค์ไปยังสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อขอรับการทบทวนและประเมินศักยภาพเมืองไมซ์ซิตี้ ในปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะเป็นการรักษาและเสริมสร้างความมั่นคงของจังหวัดนครราชสีมาในฐานะเมืองไมซ์ตี้ อย่างยั่งยืนต่อไป . ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมาได้ผ่านการประเมินจาก สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ “ทีเส็บ” ในการเป็นเมืองไมซ์ ซิตี้ (MICE CITY) แห่งใหม่ 1 ใน 7 ของประเทศ ตามหลักเกณฑ์ 8 ด้าน ประกอบด้วย ความสะดวกในการเข้าสู่เมืองและสถานที่จัดงาน การสนับสนุนการจัดงานไมซ์จากการจัดงานของเมือง กิจกรรมเพิ่มเติมนอกเหนือจากการประชุม ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก สถานที่จัดงานและสิ่งอำนวยความสะดวก ภาพลักษณ์ และความมีชื่อเสียงของเมือง สภาพแวดล้อมของเมือง และความเสี่ยงในการยกเลิกงานและการรักษาความปลอดภัย . โดยจากการประเมินของจังหวัดทั่วประเทศมีเกณฑ์มาตรฐานโดยรวมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3.5 และเกณฑ์รายข้อไม่ต่ำกว่า 3 คะแนน การประเมินครั้งที่แล้ว ทางจังหวัดนครราชสีมาได้รับเกณฑ์มาตรฐานโดยรวมร้อยละ 3.8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเปลี่ยนอะไหล่แท็บเล็ต: วิธีประหยัดเงินและยืดอายุการใช้งาน
    แท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะใช้ทำงาน เรียน หรือเพื่อความบันเทิง แต่เมื่อเกิดปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ เช่น หน้าจอแตก แบตเตอรี่เสื่อม หรือพอร์ตชาร์จเสีย การเปลี่ยนอะไหล่แทนการซื้อเครื่องใหม่สามารถช่วยประหยัดเงินได้มาก

    เหตุผลที่ควรซ่อมแทนการซื้อใหม่
    ✅ แท็บเล็ตใหม่มีราคาสูง โดยเฉพาะรุ่นพรีเมียม เช่น iPad Pro หรือ Galaxy Tab S9 Ultra.
    ✅ การเปลี่ยนอะไหล่ช่วยลดค่าใช้จ่าย เช่น การเปลี่ยนหน้าจอหรือแบตเตอรี่มีราคาถูกกว่าการซื้อเครื่องใหม่หลายเท่า.
    ✅ ชุดซ่อม DIY มีจำหน่ายพร้อมเครื่องมือและคู่มือ ทำให้การซ่อมเองเป็นเรื่องง่ายขึ้น แม้แต่ผู้เริ่มต้น.

    อะไหล่แท็บเล็ตที่ควรเปลี่ยนและข้อควรระวัง
    ✅ หน้าจอ เป็นอะไหล่ที่เปลี่ยนบ่อยที่สุดหลังจากการตกกระแทก ควรเลือกหน้าจอที่มีกาวติดตั้งมาให้แล้ว.
    ✅ แบตเตอรี่ มีอายุการใช้งานประมาณ 300-500 รอบการชาร์จ ก่อนที่จะเริ่มเสื่อม.
    ✅ พอร์ตชาร์จ อาจหลวมจากการใช้งานบ่อย ควรตรวจสอบว่าพอร์ตเป็นแบบโมดูลหรือแบบต้องบัดกรี.
    ‼️ การเปลี่ยนหน้าจอและพอร์ตชาร์จต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะอาจทำให้สายแพรภายในเสียหาย.
    ‼️ บางอะไหล่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น ปืนลมร้อนหรือแผ่นแม่เหล็กสำหรับจัดเรียงสกรู.

    เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการซ่อม
    ✅ ไขควงความละเอียดสูง สำหรับเปิดฝาแท็บเล็ต.
    ✅ เครื่องมืองัดพลาสติก เพื่อถอดหน้าจอโดยไม่ทำให้เกิดรอย.
    ✅ ถุงมือป้องกันไฟฟ้าสถิต เพื่อป้องกันความเสียหายต่อวงจรภายใน.

    เคล็ดลับการซ่อมให้สำเร็จ
    ✅ ดูวิดีโอสอนก่อนเริ่มซ่อม เพื่อเข้าใจขั้นตอนอย่างละเอียด.
    ✅ ใช้พื้นที่ทำงานที่สะอาดและไม่มีไฟฟ้าสถิต เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์.
    ‼️ อย่าประกอบเครื่องกลับก่อนทดสอบอะไหล่ใหม่ เพราะอาจต้องแกะออกมาแก้ไขอีกครั้ง.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซ่อมแท็บเล็ต
    ✅ อะไหล่แท็บเล็ตที่ได้รับความนิยม เช่น หน้าจอ iPad 9, พอร์ตชาร์จ Galaxy Tab A7 และแบตเตอรี่แท็บเล็ต Onn.
    ✅ การเลือกอะไหล่ที่เหมาะสม ควรตรวจสอบรุ่นแท็บเล็ตก่อนซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าเข้ากันได้.
    ‼️ การซ่อมบางประเภทอาจต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ เช่น การเปลี่ยนพอร์ตชาร์จที่ต้องบัดกรี.

    https://computercity.com/tablets/tablet-replacement-parts
    การเปลี่ยนอะไหล่แท็บเล็ต: วิธีประหยัดเงินและยืดอายุการใช้งาน แท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะใช้ทำงาน เรียน หรือเพื่อความบันเทิง แต่เมื่อเกิดปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ เช่น หน้าจอแตก แบตเตอรี่เสื่อม หรือพอร์ตชาร์จเสีย การเปลี่ยนอะไหล่แทนการซื้อเครื่องใหม่สามารถช่วยประหยัดเงินได้มาก เหตุผลที่ควรซ่อมแทนการซื้อใหม่ ✅ แท็บเล็ตใหม่มีราคาสูง โดยเฉพาะรุ่นพรีเมียม เช่น iPad Pro หรือ Galaxy Tab S9 Ultra. ✅ การเปลี่ยนอะไหล่ช่วยลดค่าใช้จ่าย เช่น การเปลี่ยนหน้าจอหรือแบตเตอรี่มีราคาถูกกว่าการซื้อเครื่องใหม่หลายเท่า. ✅ ชุดซ่อม DIY มีจำหน่ายพร้อมเครื่องมือและคู่มือ ทำให้การซ่อมเองเป็นเรื่องง่ายขึ้น แม้แต่ผู้เริ่มต้น. อะไหล่แท็บเล็ตที่ควรเปลี่ยนและข้อควรระวัง ✅ หน้าจอ เป็นอะไหล่ที่เปลี่ยนบ่อยที่สุดหลังจากการตกกระแทก ควรเลือกหน้าจอที่มีกาวติดตั้งมาให้แล้ว. ✅ แบตเตอรี่ มีอายุการใช้งานประมาณ 300-500 รอบการชาร์จ ก่อนที่จะเริ่มเสื่อม. ✅ พอร์ตชาร์จ อาจหลวมจากการใช้งานบ่อย ควรตรวจสอบว่าพอร์ตเป็นแบบโมดูลหรือแบบต้องบัดกรี. ‼️ การเปลี่ยนหน้าจอและพอร์ตชาร์จต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะอาจทำให้สายแพรภายในเสียหาย. ‼️ บางอะไหล่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น ปืนลมร้อนหรือแผ่นแม่เหล็กสำหรับจัดเรียงสกรู. เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการซ่อม ✅ ไขควงความละเอียดสูง สำหรับเปิดฝาแท็บเล็ต. ✅ เครื่องมืองัดพลาสติก เพื่อถอดหน้าจอโดยไม่ทำให้เกิดรอย. ✅ ถุงมือป้องกันไฟฟ้าสถิต เพื่อป้องกันความเสียหายต่อวงจรภายใน. เคล็ดลับการซ่อมให้สำเร็จ ✅ ดูวิดีโอสอนก่อนเริ่มซ่อม เพื่อเข้าใจขั้นตอนอย่างละเอียด. ✅ ใช้พื้นที่ทำงานที่สะอาดและไม่มีไฟฟ้าสถิต เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์. ‼️ อย่าประกอบเครื่องกลับก่อนทดสอบอะไหล่ใหม่ เพราะอาจต้องแกะออกมาแก้ไขอีกครั้ง. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซ่อมแท็บเล็ต ✅ อะไหล่แท็บเล็ตที่ได้รับความนิยม เช่น หน้าจอ iPad 9, พอร์ตชาร์จ Galaxy Tab A7 และแบตเตอรี่แท็บเล็ต Onn. ✅ การเลือกอะไหล่ที่เหมาะสม ควรตรวจสอบรุ่นแท็บเล็ตก่อนซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าเข้ากันได้. ‼️ การซ่อมบางประเภทอาจต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ เช่น การเปลี่ยนพอร์ตชาร์จที่ต้องบัดกรี. https://computercity.com/tablets/tablet-replacement-parts
    COMPUTERCITY.COM
    Tablet Replacement Parts Guide: Save Money and Extend Your Device’s Life
    Tablets have become indispensable for work, school, entertainment, and even creative tasks. From iPads to Galaxy Tabs and Amazon Fire tablets, these compact
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..อนาคตจะเกิดที่ไทย,เพราะจะปราบปรามครั้งใหญ่เช่นกันคงเร็วๆนี้ ,แต่ไม่ใช่แบบทรัมป์แต่คือการยึดอำนาจและมีนายกฯพิเศษสั่งดารกวาดล้าง,เรามีรายชื่อและข้อมูลทั้งหมดในมือแล้ว,กฎอัยการศึกได้ประกาศใช้เพื่อการหลบหนีออกนอกประเทศในจุดที่นิยมแล้ว.

    ..🛑 คำเตือนผู้รักชาติ: ระวังและอย่าอยู่ในบริเวณเหล่านี้ — วางแผนก่อวินาศกรรม 1,500 เมืองในวันที่ 14 มิถุนายน — แอนติฟาปล่อยการโจมตีแบบประสานงานต่อขบวนพาเหรดของทรัมป์

    🛑 14 มิถุนายน 2025 — เมืองต่างๆ ของสหรัฐฯ กว่า 1,500 แห่งตกเป็นเป้าหมายของความโกลาหลจากปฏิบัติการประสานงาน "No Kings Day" ของแอนติฟา ภายใต้หน้ากากของการประท้วง เป็นการก่อความไม่สงบที่แท้จริงกำลังเกิดขึ้น ทรัมป์พร้อมเสมอ ผู้รักชาติ อย่ายอมแพ้
    👉 อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่: https://amg-news.com/warning-patriots-be-careful-do-not-be-in-these-areas-1500-city-sabotage-planned-for-june-14-antifa-unleashes-coordinated-attack-on-trumps-parade/
    ..อนาคตจะเกิดที่ไทย,เพราะจะปราบปรามครั้งใหญ่เช่นกันคงเร็วๆนี้ ,แต่ไม่ใช่แบบทรัมป์แต่คือการยึดอำนาจและมีนายกฯพิเศษสั่งดารกวาดล้าง,เรามีรายชื่อและข้อมูลทั้งหมดในมือแล้ว,กฎอัยการศึกได้ประกาศใช้เพื่อการหลบหนีออกนอกประเทศในจุดที่นิยมแล้ว. ..🛑 คำเตือนผู้รักชาติ: ระวังและอย่าอยู่ในบริเวณเหล่านี้ — วางแผนก่อวินาศกรรม 1,500 เมืองในวันที่ 14 มิถุนายน — แอนติฟาปล่อยการโจมตีแบบประสานงานต่อขบวนพาเหรดของทรัมป์ 🛑 14 มิถุนายน 2025 — เมืองต่างๆ ของสหรัฐฯ กว่า 1,500 แห่งตกเป็นเป้าหมายของความโกลาหลจากปฏิบัติการประสานงาน "No Kings Day" ของแอนติฟา ภายใต้หน้ากากของการประท้วง เป็นการก่อความไม่สงบที่แท้จริงกำลังเกิดขึ้น ทรัมป์พร้อมเสมอ ผู้รักชาติ อย่ายอมแพ้ 👉 อ่านเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่: https://amg-news.com/warning-patriots-be-careful-do-not-be-in-these-areas-1500-city-sabotage-planned-for-june-14-antifa-unleashes-coordinated-attack-on-trumps-parade/
    AMG-NEWS.COM
    WARNING PATRIOTS: BE CAREFUL & DO NOT BE IN THESE AREAS — 1,500-CITY SABOTAGE PLANNED FOR JUNE 14 — ANTIFA UNLEASHES COORDINATED ATTACK ON TRUMP’S PARADE - amg-news.com - American Media Group
    June 14, 2025 — Over 1,500 U.S. cities targeted for chaos by Antifa’s coordinated “No Kings Day” operation. Under the guise of protest, a real insurgency is unfolding. Trump stands ready. Patriots, don’t back down.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📣 ประชาสัมพันธ์เอกสารเผยแพร่
    - 📋 #คู่มือสำหรับประชาชน : การอนุญาตโฆษณาด้วยการปิด ทิ้ง โปรยแผ่นประกาศ หรือใบปลิวในที่สาธารณะ เทศบาลนครนครราชสีมา

    โดย งานรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง (เทศกิจ) ฝ่ายปกครอง สำนักปลัดเทศบาลนครนครราชสีมา
    .
    ติดตามข่าวสารจากเทศบาลนครนครราชสีมาได้ที่
    🌐 เว็บไซต์ : www.koratcity.go.th
    📘 www.facebook.com/PRmunicipalitykorat
    📸 www.instagram.com/koratcity.1
    📹 www.youtube.com/channel/UCfA8JqPeQpZkPobvlR3UrNQ
    🎵 www.tiktok.com/@pr.koratcity
    📱 Line Official Account : https://lin.ee/tEoZH6e

    #เทศบาลนครนครราชสีมา
    #งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครนครราชสีมา
    #กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ
    #ฝ่ายบริการและเผยแพร่วิชาการ
    #คนเมืองโคราช #Appkoratcity #สายด่วน1132
    #โคราชบ้านเอ็ง #นครราชสีมา #Koratcity
    📣 ประชาสัมพันธ์เอกสารเผยแพร่ - 📋 #คู่มือสำหรับประชาชน : การอนุญาตโฆษณาด้วยการปิด ทิ้ง โปรยแผ่นประกาศ หรือใบปลิวในที่สาธารณะ เทศบาลนครนครราชสีมา โดย งานรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง (เทศกิจ) ฝ่ายปกครอง สำนักปลัดเทศบาลนครนครราชสีมา . ติดตามข่าวสารจากเทศบาลนครนครราชสีมาได้ที่ 🌐 เว็บไซต์ : www.koratcity.go.th 📘 www.facebook.com/PRmunicipalitykorat 📸 www.instagram.com/koratcity.1 📹 www.youtube.com/channel/UCfA8JqPeQpZkPobvlR3UrNQ 🎵 www.tiktok.com/@pr.koratcity 📱 Line Official Account : https://lin.ee/tEoZH6e #เทศบาลนครนครราชสีมา #งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครนครราชสีมา #กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ #ฝ่ายบริการและเผยแพร่วิชาการ #คนเมืองโคราช #Appkoratcity #สายด่วน1132 #โคราชบ้านเอ็ง #นครราชสีมา #Koratcity
    LIN.EE
    เทศบาลนครนครราชสีมา | LINE Official Account
    เทศบาลนครนครราชสีมา's LINE official account profile page. Add them as a friend for the latest news.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📣 ประชาสัมพันธ์เอกสารเผยแพร่
    - 📋 #คู่มือสำหรับประชาชน : การอนุญาตโฆษณาด้วยการปิด ทิ้ง โปรยแผ่นประกาศ หรือใบปลิวในที่สาธารณะ เทศบาลนครนครราชสีมา

    โดย งานรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง (เทศกิจ) ฝ่ายปกครอง สำนักปลัดเทศบาลนครนครราชสีมา
    .
    ติดตามข่าวสารจากเทศบาลนครนครราชสีมาได้ที่
    🌐 เว็บไซต์ : www.koratcity.go.th
    📘 www.facebook.com/PRmunicipalitykorat
    📸 www.instagram.com/koratcity.1
    📹 www.youtube.com/channel/UCfA8JqPeQpZkPobvlR3UrNQ
    🎵 www.tiktok.com/@pr.koratcity
    📱 Line Official Account : https://lin.ee/tEoZH6e

    #เทศบาลนครนครราชสีมา
    #งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครนครราชสีมา
    #กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ
    #ฝ่ายบริการและเผยแพร่วิชาการ
    #คนเมืองโคราช #Appkoratcity #สายด่วน1132
    #โคราชบ้านเอ็ง #นครราชสีมา #Koratcity
    📣 ประชาสัมพันธ์เอกสารเผยแพร่ - 📋 #คู่มือสำหรับประชาชน : การอนุญาตโฆษณาด้วยการปิด ทิ้ง โปรยแผ่นประกาศ หรือใบปลิวในที่สาธารณะ เทศบาลนครนครราชสีมา โดย งานรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง (เทศกิจ) ฝ่ายปกครอง สำนักปลัดเทศบาลนครนครราชสีมา . ติดตามข่าวสารจากเทศบาลนครนครราชสีมาได้ที่ 🌐 เว็บไซต์ : www.koratcity.go.th 📘 www.facebook.com/PRmunicipalitykorat 📸 www.instagram.com/koratcity.1 📹 www.youtube.com/channel/UCfA8JqPeQpZkPobvlR3UrNQ 🎵 www.tiktok.com/@pr.koratcity 📱 Line Official Account : https://lin.ee/tEoZH6e #เทศบาลนครนครราชสีมา #งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครนครราชสีมา #กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ #ฝ่ายบริการและเผยแพร่วิชาการ #คนเมืองโคราช #Appkoratcity #สายด่วน1132 #โคราชบ้านเอ็ง #นครราชสีมา #Koratcity
    LIN.EE
    เทศบาลนครนครราชสีมา | LINE Official Account
    เทศบาลนครนครราชสีมา's LINE official account profile page. Add them as a friend for the latest news.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📣 ประกาศ #การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเมืองนครราชสีมา จะดำเนินการปรับปรุงคืนผิวจราจร 1 ช่องทาง โครงการก่อสร้างปรับปรุงระบบไฟฟ้าเคเบิลใต้ดิน
    บริเวณหน้าสำนักงานคุมประพฤติ
    🗓️ ระหว่างวันที่ 11-14 มิ.ย. 68
    #โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว #ขออภัยในความไม่สะดวก
    .
    ติดตามข่าวสารจากเทศบาลนครนครราชสีมาได้ที่
    🌐 เว็บไซต์ : www.koratcity.go.th
    📘 www.facebook.com/PRmunicipalitykorat
    📸 www.instagram.com/koratcity.1
    📹 www.youtube.com/channel/UCfA8JqPeQpZkPobvlR3UrNQ
    🎵 www.tiktok.com/@pr.koratcity
    📱 Line Official Account : https://lin.ee/tEoZH6e

    #เทศบาลนครนครราชสีมา
    #งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครนครราชสีมา
    #กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ
    #ฝ่ายบริการและเผยแพร่วิชาการ
    #คนเมืองโคราช #Appkoratcity #สายด่วน1132
    #โคราชบ้านเอ็ง #นครราชสีมา #Koratcity
    📣 ประกาศ #การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเมืองนครราชสีมา จะดำเนินการปรับปรุงคืนผิวจราจร 1 ช่องทาง โครงการก่อสร้างปรับปรุงระบบไฟฟ้าเคเบิลใต้ดิน บริเวณหน้าสำนักงานคุมประพฤติ 🗓️ ระหว่างวันที่ 11-14 มิ.ย. 68 #โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว #ขออภัยในความไม่สะดวก . ติดตามข่าวสารจากเทศบาลนครนครราชสีมาได้ที่ 🌐 เว็บไซต์ : www.koratcity.go.th 📘 www.facebook.com/PRmunicipalitykorat 📸 www.instagram.com/koratcity.1 📹 www.youtube.com/channel/UCfA8JqPeQpZkPobvlR3UrNQ 🎵 www.tiktok.com/@pr.koratcity 📱 Line Official Account : https://lin.ee/tEoZH6e #เทศบาลนครนครราชสีมา #งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครนครราชสีมา #กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ #ฝ่ายบริการและเผยแพร่วิชาการ #คนเมืองโคราช #Appkoratcity #สายด่วน1132 #โคราชบ้านเอ็ง #นครราชสีมา #Koratcity
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📣 ประกาศ #การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเมืองนครราชสีมา จะดำเนินการปรับปรุงคืนผิวจราจร 1 ช่องทาง โครงการก่อสร้างปรับปรุงระบบไฟฟ้าเคเบิลใต้ดิน
    บริเวณหน้าสำนักงานคุมประพฤติ
    🗓️ ระหว่างวันที่ 11-14 มิ.ย. 68
    #โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว #ขออภัยในความไม่สะดวก
    .
    ติดตามข่าวสารจากเทศบาลนครนครราชสีมาได้ที่
    🌐 เว็บไซต์ : www.koratcity.go.th
    📘 www.facebook.com/PRmunicipalitykorat
    📸 www.instagram.com/koratcity.1
    📹 www.youtube.com/channel/UCfA8JqPeQpZkPobvlR3UrNQ
    🎵 www.tiktok.com/@pr.koratcity
    📱 Line Official Account : https://lin.ee/tEoZH6e

    #เทศบาลนครนครราชสีมา
    #งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครนครราชสีมา
    #กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ
    #ฝ่ายบริการและเผยแพร่วิชาการ
    #คนเมืองโคราช #Appkoratcity #สายด่วน1132
    #โคราชบ้านเอ็ง #นครราชสีมา #Koratcity
    📣 ประกาศ #การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาเมืองนครราชสีมา จะดำเนินการปรับปรุงคืนผิวจราจร 1 ช่องทาง โครงการก่อสร้างปรับปรุงระบบไฟฟ้าเคเบิลใต้ดิน บริเวณหน้าสำนักงานคุมประพฤติ 🗓️ ระหว่างวันที่ 11-14 มิ.ย. 68 #โปรดหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว #ขออภัยในความไม่สะดวก . ติดตามข่าวสารจากเทศบาลนครนครราชสีมาได้ที่ 🌐 เว็บไซต์ : www.koratcity.go.th 📘 www.facebook.com/PRmunicipalitykorat 📸 www.instagram.com/koratcity.1 📹 www.youtube.com/channel/UCfA8JqPeQpZkPobvlR3UrNQ 🎵 www.tiktok.com/@pr.koratcity 📱 Line Official Account : https://lin.ee/tEoZH6e #เทศบาลนครนครราชสีมา #งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครนครราชสีมา #กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ #ฝ่ายบริการและเผยแพร่วิชาการ #คนเมืองโคราช #Appkoratcity #สายด่วน1132 #โคราชบ้านเอ็ง #นครราชสีมา #Koratcity
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 Intel Panther Lake: ก้าวสำคัญสู่ยุค AI และประสิทธิภาพสูง
    Intel กำลังเตรียมเปิดตัว Panther Lake ซึ่งเป็น ซีพียูรุ่นใหม่ที่ใช้กระบวนการผลิต 18A (1.8nm-class) โดยเน้นไปที่ การเพิ่มประสิทธิภาพและการประมวลผล AI

    Panther Lake จะเปิดตัวใน ครึ่งหลังของปี 2025 และจะถูกใช้ใน แล็ปท็อปและอุปกรณ์พกพา โดยใช้ RibbonFET และ PowerVia ซึ่งช่วยให้ ประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Intel Panther Lake จะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2025 และวางจำหน่ายในต้นปี 2026
    - ใช้กระบวนการผลิต 18A (1.8nm-class) พร้อมเทคโนโลยี RibbonFET และ PowerVia
    - ใช้สถาปัตยกรรม Multi-Chip Module (MCM) แบบ 5 Tile
    - มี Cougar Cove P-cores และ Darkmont E-cores เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
    - กราฟิก Xe3 Celestial iGPU อาจเทียบเท่ากับ GPU แยกระดับเริ่มต้น
    - รองรับ LPDDR5X และ DDR5 เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์หน่วยความจำ

    🔥 การแข่งขันในตลาด AI และอุปกรณ์พกพา
    Intel ตั้งเป้าให้ Panther Lake แข่งขันกับ Apple Silicon, Snapdragon X Elite และ AMD Strix Point โดยเน้นไปที่ การประมวลผล AI และประสิทธิภาพสูงในอุปกรณ์พกพา

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Panther Lake จะไม่มีรุ่นสำหรับเดสก์ท็อปในช่วงเปิดตัว
    - ต้องติดตามว่าประสิทธิภาพของ Xe3 Celestial iGPU จะสามารถแข่งขันกับ GPU แยกได้จริงหรือไม่
    - การใช้กระบวนการผลิต 18A อาจมีความท้าทายด้านต้นทุนและการผลิต
    - ต้องรอดูว่า Intel จะสามารถแข่งขันกับ Apple และ Qualcomm ในตลาด AI ได้หรือไม่

    https://computercity.com/hardware/processors/intel-panther-lake-coming-in-2025-latest-news
    🚀 Intel Panther Lake: ก้าวสำคัญสู่ยุค AI และประสิทธิภาพสูง Intel กำลังเตรียมเปิดตัว Panther Lake ซึ่งเป็น ซีพียูรุ่นใหม่ที่ใช้กระบวนการผลิต 18A (1.8nm-class) โดยเน้นไปที่ การเพิ่มประสิทธิภาพและการประมวลผล AI Panther Lake จะเปิดตัวใน ครึ่งหลังของปี 2025 และจะถูกใช้ใน แล็ปท็อปและอุปกรณ์พกพา โดยใช้ RibbonFET และ PowerVia ซึ่งช่วยให้ ประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Intel Panther Lake จะเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2025 และวางจำหน่ายในต้นปี 2026 - ใช้กระบวนการผลิต 18A (1.8nm-class) พร้อมเทคโนโลยี RibbonFET และ PowerVia - ใช้สถาปัตยกรรม Multi-Chip Module (MCM) แบบ 5 Tile - มี Cougar Cove P-cores และ Darkmont E-cores เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ - กราฟิก Xe3 Celestial iGPU อาจเทียบเท่ากับ GPU แยกระดับเริ่มต้น - รองรับ LPDDR5X และ DDR5 เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์หน่วยความจำ 🔥 การแข่งขันในตลาด AI และอุปกรณ์พกพา Intel ตั้งเป้าให้ Panther Lake แข่งขันกับ Apple Silicon, Snapdragon X Elite และ AMD Strix Point โดยเน้นไปที่ การประมวลผล AI และประสิทธิภาพสูงในอุปกรณ์พกพา ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Panther Lake จะไม่มีรุ่นสำหรับเดสก์ท็อปในช่วงเปิดตัว - ต้องติดตามว่าประสิทธิภาพของ Xe3 Celestial iGPU จะสามารถแข่งขันกับ GPU แยกได้จริงหรือไม่ - การใช้กระบวนการผลิต 18A อาจมีความท้าทายด้านต้นทุนและการผลิต - ต้องรอดูว่า Intel จะสามารถแข่งขันกับ Apple และ Qualcomm ในตลาด AI ได้หรือไม่ https://computercity.com/hardware/processors/intel-panther-lake-coming-in-2025-latest-news
    COMPUTERCITY.COM
    Intel Panther Lake Coming In 2025: Latest News
    Intel’s Panther Lake processors are shaping up to be one of the company’s most ambitious generational shifts in years—bringing together bleeding-edge
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากปีนังไปกัวลาลัมเปอร์ รถไฟเร็วกว่าเครื่องบิน?

    การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย เปิดตัวห้องรับรองผู้โดยสารชั้นธุรกิจ (Business Class) ที่ชื่อว่า รูบี้ เลาจน์ (Ruby Lounge) ที่สถานีรถไฟบัตเตอร์เวิร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2568 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารชั้นธุรกิจของบริการรถไฟ ETS พักคอยแยกจากห้องโถงผู้โดยสารรวม รองรับได้ 40 ที่นั่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งตู้กดน้ำดื่ม เครื่องดื่มร้อน ห้องน้ำแยกเฉพาะ ช่องปลั๊กไฟ โดยจะเปิดให้ผู้โดยสารชั้นธุรกิจเข้าใช้บริการก่อนเวลารถไฟออก 1 ชั่วโมง นับเป็นแห่งที่สองต่อจากสถานี KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์

    บริการถไฟ ETS ชั้นธุรกิจ (Business Class) ขบวน Platinum (EP) และ Express (EX) ไปยังปลายทางกรุงกัวลาลัมเปอร์ และสถานีเซกามัต รัฐยะโฮร์ แต่ละขบวนจะมีที่นั่งชั้นธุรกิจ 36 ที่นั่ง นอกจากผู้โดยสารจะได้ใช้บริการ Ruby Lounge แล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งที่นั่งกว้างขึ้น ไฟอ่านหนังสือ ช่องเสียบปลั๊กและยูเอสบี หน้าจอส่วนตัว โดยจ่ายในราคาที่สูงกว่าที่นั่งปกติ แต่ระหว่างการเดินทางมีอาหารและของว่างให้บริการตลอดการเดินทาง ปัจจุบันค่าโดยสารชั้นธุรกิจระหว่างบัตเตอร์เวิร์ธ ถึง KL Sentral ราคาเริ่มต้นที่ 167-176 ริงกิตต่อเที่ยว (1,286-1,355 บาท)

    ที่ผ่านมามีผู้โดยสารจากปีนังส่วนหนึ่งนิยมใช้บริการรถไฟ ETS แทนที่จะเดินทางด้วยเครื่องบิน เพราะเมื่อเทียบกับการเดินทางไปสนามบินปีนัง การรอเที่ยวบินและพบปัญหาเที่ยวบินล่าช้า และการเดินทางจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) หรือสนามบินซูบัง (SZB) ไปยังใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์นั้นยุ่งยากและเสียเวลาพอกัน เมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยรถไฟใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมงเศษเท่านั้น นอกจากนี้ยังนั่งสบายกว่าเครื่องบิน ผู้โดยสารส่วนมากเป็นบุคคลวีไอพีและนักธุรกิจ

    นูรูล อัซฮา โมคมิน (Nurul Azha Mokmin) ผู้จัดการทั่วไปแผนกบริการ ETS และ Intercity ของ KTMB กล่าวกับสำนักข่าวเบอร์นามา ว่าจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟ ETS เพิ่มขึ้น 10% ต่อปี และยังคงมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งโครงการรถไฟทางคู่เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู กำลังจะแล้วเสร็จ ก่อนหน้านี้ KTMB ได้รับมอบขบวนรถไฟ ETS ใหม่จำนวน 2 ชุด จากทั้งหมด 10 ชุด มูลค่า 400 ล้านริงกิต เพื่อยกระดับคุณภาพและขีดความสามารถในการให้บริการ ขณะนี้อยู่ในระหว่างทดสอบการให้บริการ คาดว่าจะเริ่มให้บริการเส้นทางเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bharu) ตั้งแต่ปี 2569 หลังจากนั้นจะเปิดเส้นทางใหม่ ยะโฮร์บาห์รู-บัตเตอร์เวิร์ธ และยะโฮร์บาห์รู-ปาดังเบซาร์อีกด้วย

    #Newskit
    จากปีนังไปกัวลาลัมเปอร์ รถไฟเร็วกว่าเครื่องบิน? การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย เปิดตัวห้องรับรองผู้โดยสารชั้นธุรกิจ (Business Class) ที่ชื่อว่า รูบี้ เลาจน์ (Ruby Lounge) ที่สถานีรถไฟบัตเตอร์เวิร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2568 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารชั้นธุรกิจของบริการรถไฟ ETS พักคอยแยกจากห้องโถงผู้โดยสารรวม รองรับได้ 40 ที่นั่ง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งตู้กดน้ำดื่ม เครื่องดื่มร้อน ห้องน้ำแยกเฉพาะ ช่องปลั๊กไฟ โดยจะเปิดให้ผู้โดยสารชั้นธุรกิจเข้าใช้บริการก่อนเวลารถไฟออก 1 ชั่วโมง นับเป็นแห่งที่สองต่อจากสถานี KL Sentral กรุงกัวลาลัมเปอร์ บริการถไฟ ETS ชั้นธุรกิจ (Business Class) ขบวน Platinum (EP) และ Express (EX) ไปยังปลายทางกรุงกัวลาลัมเปอร์ และสถานีเซกามัต รัฐยะโฮร์ แต่ละขบวนจะมีที่นั่งชั้นธุรกิจ 36 ที่นั่ง นอกจากผู้โดยสารจะได้ใช้บริการ Ruby Lounge แล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งที่นั่งกว้างขึ้น ไฟอ่านหนังสือ ช่องเสียบปลั๊กและยูเอสบี หน้าจอส่วนตัว โดยจ่ายในราคาที่สูงกว่าที่นั่งปกติ แต่ระหว่างการเดินทางมีอาหารและของว่างให้บริการตลอดการเดินทาง ปัจจุบันค่าโดยสารชั้นธุรกิจระหว่างบัตเตอร์เวิร์ธ ถึง KL Sentral ราคาเริ่มต้นที่ 167-176 ริงกิตต่อเที่ยว (1,286-1,355 บาท) ที่ผ่านมามีผู้โดยสารจากปีนังส่วนหนึ่งนิยมใช้บริการรถไฟ ETS แทนที่จะเดินทางด้วยเครื่องบิน เพราะเมื่อเทียบกับการเดินทางไปสนามบินปีนัง การรอเที่ยวบินและพบปัญหาเที่ยวบินล่าช้า และการเดินทางจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์ (KUL) หรือสนามบินซูบัง (SZB) ไปยังใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์นั้นยุ่งยากและเสียเวลาพอกัน เมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยรถไฟใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมงเศษเท่านั้น นอกจากนี้ยังนั่งสบายกว่าเครื่องบิน ผู้โดยสารส่วนมากเป็นบุคคลวีไอพีและนักธุรกิจ นูรูล อัซฮา โมคมิน (Nurul Azha Mokmin) ผู้จัดการทั่วไปแผนกบริการ ETS และ Intercity ของ KTMB กล่าวกับสำนักข่าวเบอร์นามา ว่าจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟ ETS เพิ่มขึ้น 10% ต่อปี และยังคงมีความต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งโครงการรถไฟทางคู่เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู กำลังจะแล้วเสร็จ ก่อนหน้านี้ KTMB ได้รับมอบขบวนรถไฟ ETS ใหม่จำนวน 2 ชุด จากทั้งหมด 10 ชุด มูลค่า 400 ล้านริงกิต เพื่อยกระดับคุณภาพและขีดความสามารถในการให้บริการ ขณะนี้อยู่ในระหว่างทดสอบการให้บริการ คาดว่าจะเริ่มให้บริการเส้นทางเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bharu) ตั้งแต่ปี 2569 หลังจากนั้นจะเปิดเส้นทางใหม่ ยะโฮร์บาห์รู-บัตเตอร์เวิร์ธ และยะโฮร์บาห์รู-ปาดังเบซาร์อีกด้วย #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📧 วิธีเปลี่ยนจาก Yahoo Mail ไปใช้ Gmail อย่างราบรื่น
    หากคุณกำลังมองหาวิธี ย้ายจาก Yahoo Mail ไปใช้ Gmail โดยไม่ให้เกิดปัญหาในการรับส่งอีเมลหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ Google มีเครื่องมือที่ช่วยให้การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นไปอย่างง่ายดาย

    มีหลายวิธีในการเปลี่ยนมาใช้ Gmail โดยขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการ เชื่อมต่อบัญชี Yahoo กับ Gmail หรือ ย้ายอีเมลทั้งหมดไปยัง Gmail

    1️⃣ Gmailify – วิธีที่เร็วที่สุดในการเชื่อมต่อ Yahoo กับ Gmail
    - เปิด Gmail และไปที่ Settings > Accounts and Import
    - เลือก Check mail from other accounts > Add a mail account
    - ป้อนที่อยู่อีเมล Yahoo และเลือก Link accounts with Gmailify
    - ทำตามขั้นตอนเพื่ออนุญาตให้ Gmail เชื่อมต่อกับ Yahoo

    ✅ ข้อดีของ Gmailify
    - ใช้ ฟิลเตอร์สแปมของ Gmail เพื่อป้องกันอีเมลขยะ
    - ใช้ ระบบค้นหาและจัดหมวดหมู่ของ Gmail
    - สามารถส่งอีเมลจาก Gmail โดยใช้ที่อยู่ Yahoo ได้
    - ไม่ต้องเปลี่ยนที่อยู่อีเมลทันที

    ‼️ ข้อจำกัดของ Gmailify
    - ไม่สามารถนำเข้าอีเมลเก่าจาก Yahoo ได้
    - ต้องเชื่อมต่อบัญชี Yahoo กับ Gmail ตลอดเวลา

    2️⃣ POP3 Import – วิธีนำเข้าอีเมลเก่าจาก Yahoo ไปยัง Gmail
    - ไปที่ Settings > Accounts and Import ใน Gmail
    - เลือก Check mail from other accounts > Add a mail account
    - ป้อนที่อยู่อีเมล Yahoo และเลือก Import using POP3

    ใช้ค่าการตั้งค่าดังนี้:
    - POP Server: pop.mail.yahoo.com
    - Port: 995
    - SSL: เปิดใช้งาน

    ✅ ข้อดีของ POP3 Import
    - นำเข้าอีเมลเก่าจาก Yahoo ไปยัง Gmail ได้
    - เป็นวิธีฟรีที่ใช้ได้กับบัญชี Gmail ทุกประเภท

    ‼️ ข้อจำกัดของ POP3 Import
    - นำเข้าเฉพาะอีเมลใน Inbox เท่านั้น (ไม่รวมโฟลเดอร์อื่น ๆ)
    - ไม่สามารถรักษาโครงสร้างโฟลเดอร์เดิมได้
    - อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวันในการนำเข้าอีเมลจำนวนมาก

    3️⃣ ใช้บริการของบุคคลที่สาม – วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการย้ายข้อมูลทั้งหมด
    - VaultMe – ย้ายอีเมล, โฟลเดอร์, สถานะอ่าน/ยังไม่ได้อ่าน และไฟล์แนบ
    - MailJerry – ย้ายทุกโฟลเดอร์ รวมถึง Inbox, Sent, Drafts และโฟลเดอร์ที่กำหนดเอง
    - BitRecover Yahoo to Gmail Wizard – รองรับการย้ายข้อมูลแบบเลือกเฉพาะโฟลเดอร์หรือช่วงเวลา

    ✅ ข้อดีของบริการบุคคลที่สาม
    - สามารถย้ายอีเมลทั้งหมด รวมถึงโฟลเดอร์และโครงสร้างเดิม
    - รองรับการย้ายข้อมูลแบบเลือกเฉพาะบางส่วน
    - มีระบบเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล

    ‼️ ข้อจำกัดของบริการบุคคลที่สาม
    - เป็นบริการแบบเสียเงิน
    - ต้องใช้รหัสผ่านแอป Yahoo เพื่อให้การย้ายข้อมูลทำงานได้

    🚀 วิธีป้องกันการสูญเสียอีเมลระหว่างการเปลี่ยนแปลง
    หากคุณต้องการให้ อีเมลใหม่จาก Yahoo ถูกส่งไปยัง Gmail โดยอัตโนมัติ ในระหว่างที่คุณกำลังเปลี่ยนระบบ:
    - ไปที่ Yahoo Mail > Settings > More Settings > Mailboxes
    - เลือกบัญชี Yahoo และเพิ่มที่อยู่ Gmail ใน Forwarding
    - Yahoo จะส่งลิงก์ยืนยันไปยัง Gmail ให้คุณคลิกเพื่อเปิดใช้งาน

    ‼️ ข้อจำกัดของการส่งต่ออีเมล
    - ต้องใช้บัญชี Yahoo Mail Plus (แบบเสียเงิน) เพื่อเปิดใช้งานการส่งต่ออีเมล
    - หากต้องการวิธีฟรี ให้ใช้ Gmailify แทน

    📅 วิธีนำเข้ารายชื่อผู้ติดต่อและปฏิทินจาก Yahoo ไป Gmail
    ✅ นำเข้ารายชื่อผู้ติดต่อ
    - ไปที่ Yahoo Mail > Contacts > More options > Export (CSV)
    - ใน Gmail ไปที่ Google Contacts > Import > Upload CSV file

    ✅ นำเข้าปฏิทิน
    - ใน Yahoo Calendar ให้ ส่งออกกิจกรรมเป็นไฟล์ .ics
    - ใน Google Calendar ไปที่ Settings > Import & Export แล้วอัปโหลดไฟล์ .ics

    🔄 คำแนะนำสุดท้าย
    หากคุณกำลังเปลี่ยนจาก Yahoo ไป Gmail ควรเปิดใช้งานทั้งสองบัญชีพร้อมกันเป็นเวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอีเมลสำคัญสูญหาย

    https://computercity.com/software/email/how-to-switch-from-yahoo-mail-to-gmail-2025-guide
    📧 วิธีเปลี่ยนจาก Yahoo Mail ไปใช้ Gmail อย่างราบรื่น หากคุณกำลังมองหาวิธี ย้ายจาก Yahoo Mail ไปใช้ Gmail โดยไม่ให้เกิดปัญหาในการรับส่งอีเมลหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ Google มีเครื่องมือที่ช่วยให้การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นไปอย่างง่ายดาย มีหลายวิธีในการเปลี่ยนมาใช้ Gmail โดยขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการ เชื่อมต่อบัญชี Yahoo กับ Gmail หรือ ย้ายอีเมลทั้งหมดไปยัง Gmail 1️⃣ Gmailify – วิธีที่เร็วที่สุดในการเชื่อมต่อ Yahoo กับ Gmail - เปิด Gmail และไปที่ Settings > Accounts and Import - เลือก Check mail from other accounts > Add a mail account - ป้อนที่อยู่อีเมล Yahoo และเลือก Link accounts with Gmailify - ทำตามขั้นตอนเพื่ออนุญาตให้ Gmail เชื่อมต่อกับ Yahoo ✅ ข้อดีของ Gmailify - ใช้ ฟิลเตอร์สแปมของ Gmail เพื่อป้องกันอีเมลขยะ - ใช้ ระบบค้นหาและจัดหมวดหมู่ของ Gmail - สามารถส่งอีเมลจาก Gmail โดยใช้ที่อยู่ Yahoo ได้ - ไม่ต้องเปลี่ยนที่อยู่อีเมลทันที ‼️ ข้อจำกัดของ Gmailify - ไม่สามารถนำเข้าอีเมลเก่าจาก Yahoo ได้ - ต้องเชื่อมต่อบัญชี Yahoo กับ Gmail ตลอดเวลา 2️⃣ POP3 Import – วิธีนำเข้าอีเมลเก่าจาก Yahoo ไปยัง Gmail - ไปที่ Settings > Accounts and Import ใน Gmail - เลือก Check mail from other accounts > Add a mail account - ป้อนที่อยู่อีเมล Yahoo และเลือก Import using POP3 ใช้ค่าการตั้งค่าดังนี้: - POP Server: pop.mail.yahoo.com - Port: 995 - SSL: เปิดใช้งาน ✅ ข้อดีของ POP3 Import - นำเข้าอีเมลเก่าจาก Yahoo ไปยัง Gmail ได้ - เป็นวิธีฟรีที่ใช้ได้กับบัญชี Gmail ทุกประเภท ‼️ ข้อจำกัดของ POP3 Import - นำเข้าเฉพาะอีเมลใน Inbox เท่านั้น (ไม่รวมโฟลเดอร์อื่น ๆ) - ไม่สามารถรักษาโครงสร้างโฟลเดอร์เดิมได้ - อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวันในการนำเข้าอีเมลจำนวนมาก 3️⃣ ใช้บริการของบุคคลที่สาม – วิธีที่ดีที่สุดสำหรับการย้ายข้อมูลทั้งหมด - VaultMe – ย้ายอีเมล, โฟลเดอร์, สถานะอ่าน/ยังไม่ได้อ่าน และไฟล์แนบ - MailJerry – ย้ายทุกโฟลเดอร์ รวมถึง Inbox, Sent, Drafts และโฟลเดอร์ที่กำหนดเอง - BitRecover Yahoo to Gmail Wizard – รองรับการย้ายข้อมูลแบบเลือกเฉพาะโฟลเดอร์หรือช่วงเวลา ✅ ข้อดีของบริการบุคคลที่สาม - สามารถย้ายอีเมลทั้งหมด รวมถึงโฟลเดอร์และโครงสร้างเดิม - รองรับการย้ายข้อมูลแบบเลือกเฉพาะบางส่วน - มีระบบเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล ‼️ ข้อจำกัดของบริการบุคคลที่สาม - เป็นบริการแบบเสียเงิน - ต้องใช้รหัสผ่านแอป Yahoo เพื่อให้การย้ายข้อมูลทำงานได้ 🚀 วิธีป้องกันการสูญเสียอีเมลระหว่างการเปลี่ยนแปลง หากคุณต้องการให้ อีเมลใหม่จาก Yahoo ถูกส่งไปยัง Gmail โดยอัตโนมัติ ในระหว่างที่คุณกำลังเปลี่ยนระบบ: - ไปที่ Yahoo Mail > Settings > More Settings > Mailboxes - เลือกบัญชี Yahoo และเพิ่มที่อยู่ Gmail ใน Forwarding - Yahoo จะส่งลิงก์ยืนยันไปยัง Gmail ให้คุณคลิกเพื่อเปิดใช้งาน ‼️ ข้อจำกัดของการส่งต่ออีเมล - ต้องใช้บัญชี Yahoo Mail Plus (แบบเสียเงิน) เพื่อเปิดใช้งานการส่งต่ออีเมล - หากต้องการวิธีฟรี ให้ใช้ Gmailify แทน 📅 วิธีนำเข้ารายชื่อผู้ติดต่อและปฏิทินจาก Yahoo ไป Gmail ✅ นำเข้ารายชื่อผู้ติดต่อ - ไปที่ Yahoo Mail > Contacts > More options > Export (CSV) - ใน Gmail ไปที่ Google Contacts > Import > Upload CSV file ✅ นำเข้าปฏิทิน - ใน Yahoo Calendar ให้ ส่งออกกิจกรรมเป็นไฟล์ .ics - ใน Google Calendar ไปที่ Settings > Import & Export แล้วอัปโหลดไฟล์ .ics 🔄 คำแนะนำสุดท้าย หากคุณกำลังเปลี่ยนจาก Yahoo ไป Gmail ควรเปิดใช้งานทั้งสองบัญชีพร้อมกันเป็นเวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอีเมลสำคัญสูญหาย https://computercity.com/software/email/how-to-switch-from-yahoo-mail-to-gmail-2025-guide
    COMPUTERCITY.COM
    How To Switch from Yahoo Mail to Gmail (2025 Guide)
    Switching from Yahoo Mail to Gmail in 2025 doesn’t have to be a tech nightmare. Whether you're looking for seamless inbox integration or a full email
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • 👓 Apple ยกเลิกโครงการแว่น AR – ก้าวต่อไปของเทคโนโลยีสวมใส่
    Apple ได้ ยกเลิกโครงการแว่น AR ที่มีรหัส N107 ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับ Vision Pro โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง การนำทาง, การแจ้งเตือน และการขยายแอป ผ่านแว่นตาที่มีดีไซน์เรียบง่าย

    แม้จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ Apple พบข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นปัญหาหลักของอุปกรณ์ AR
    - ต้นแบบแรกต้องเชื่อมต่อกับ iPhone เพื่อประมวลผล แต่ใช้พลังงานมากเกินไป
    - การเปลี่ยนไปใช้ Mac เพื่อช่วยประมวลผล ทำให้เกิดประสบการณ์ที่ไม่ราบรื่น
    - ต้นทุนการผลิตสูงและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ Apple ตัดสินใจยกเลิกโครงการ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Apple ยกเลิกโครงการแว่น AR รหัส N107 เนื่องจากข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์
    - ปัญหาหลักคืออายุการใช้งานแบตเตอรี่และต้นทุนการผลิตที่สูง
    - ต้นแบบแรกต้องเชื่อมต่อกับ iPhone แต่ใช้พลังงานมากเกินไป
    - Apple กำลังพัฒนาชิปเฉพาะสำหรับแว่นอัจฉริยะ ซึ่งอาจเปิดตัวในปี 2026
    - คาดว่า Apple อาจเปิดตัวแว่นอัจฉริยะรุ่นใหม่ในปี 2028

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะยกเลิกโครงการ N107 แต่ Apple ยังไม่ละทิ้งตลาดแว่นอัจฉริยะ
    - ต้องติดตามว่าการพัฒนาชิปเฉพาะสำหรับแว่นจะสามารถแก้ปัญหาแบตเตอรี่ได้หรือไม่
    - คู่แข่งอย่าง Meta และ Google กำลังเร่งพัฒนาแว่นอัจฉริยะของตนเอง
    - Apple อาจรอให้เทคโนโลยีแบตเตอรี่และการประมวลผลก้าวหน้าก่อนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

    แม้ Apple จะยกเลิกโครงการแว่น AR ในตอนนี้ แต่ บริษัทยังคงพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เช่น VisionOS และชิปสำหรับอุปกรณ์สวมใส่ ซึ่งอาจช่วยให้ Apple สามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบกว่าในอนาคต

    https://computercity.com/hardware/vr/apple-reportedly-cancels-ar-video-glasses-whats-next-for-its-wearable-future
    👓 Apple ยกเลิกโครงการแว่น AR – ก้าวต่อไปของเทคโนโลยีสวมใส่ Apple ได้ ยกเลิกโครงการแว่น AR ที่มีรหัส N107 ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับ Vision Pro โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง การนำทาง, การแจ้งเตือน และการขยายแอป ผ่านแว่นตาที่มีดีไซน์เรียบง่าย แม้จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ Apple พบข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นปัญหาหลักของอุปกรณ์ AR - ต้นแบบแรกต้องเชื่อมต่อกับ iPhone เพื่อประมวลผล แต่ใช้พลังงานมากเกินไป - การเปลี่ยนไปใช้ Mac เพื่อช่วยประมวลผล ทำให้เกิดประสบการณ์ที่ไม่ราบรื่น - ต้นทุนการผลิตสูงและปัญหาห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ Apple ตัดสินใจยกเลิกโครงการ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Apple ยกเลิกโครงการแว่น AR รหัส N107 เนื่องจากข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ - ปัญหาหลักคืออายุการใช้งานแบตเตอรี่และต้นทุนการผลิตที่สูง - ต้นแบบแรกต้องเชื่อมต่อกับ iPhone แต่ใช้พลังงานมากเกินไป - Apple กำลังพัฒนาชิปเฉพาะสำหรับแว่นอัจฉริยะ ซึ่งอาจเปิดตัวในปี 2026 - คาดว่า Apple อาจเปิดตัวแว่นอัจฉริยะรุ่นใหม่ในปี 2028 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะยกเลิกโครงการ N107 แต่ Apple ยังไม่ละทิ้งตลาดแว่นอัจฉริยะ - ต้องติดตามว่าการพัฒนาชิปเฉพาะสำหรับแว่นจะสามารถแก้ปัญหาแบตเตอรี่ได้หรือไม่ - คู่แข่งอย่าง Meta และ Google กำลังเร่งพัฒนาแว่นอัจฉริยะของตนเอง - Apple อาจรอให้เทคโนโลยีแบตเตอรี่และการประมวลผลก้าวหน้าก่อนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ แม้ Apple จะยกเลิกโครงการแว่น AR ในตอนนี้ แต่ บริษัทยังคงพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เช่น VisionOS และชิปสำหรับอุปกรณ์สวมใส่ ซึ่งอาจช่วยให้ Apple สามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบกว่าในอนาคต https://computercity.com/hardware/vr/apple-reportedly-cancels-ar-video-glasses-whats-next-for-its-wearable-future
    COMPUTERCITY.COM
    Apple Reportedly Cancels AR Video Glasses – What’s Next for Its Wearable Future?
    Apple has reportedly scrapped its long-rumored AR video glasses project, codenamed N107, marking a major pivot in the company’s vision for lightweight
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🎮 Microsoft Agility SDK DirectX: การอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ Ray Tracing
    Microsoft ได้เปิดตัว Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับ Shader Execution Reordering (SER) และ Opacity Micromaps (OMM) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Ray Tracing บนฮาร์ดแวร์ของ NVIDIA

    Agility SDK DirectX มี สองเวอร์ชันหลัก ได้แก่ 1.717-preview และ 1.616-retail โดยแต่ละเวอร์ชันมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ นักพัฒนาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเกมที่ใช้ Ray Tracing ได้อย่างมีนัยสำคัญ

    Shader Execution Reordering (SER) ช่วยให้ GPU สามารถจัดเรียงเธรดใหม่ เพื่อให้การประมวลผลมีความต่อเนื่องมากขึ้น ลดความแตกต่างของการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2 เท่า

    Opacity Micromaps (OMM) ช่วยให้ ฮาร์ดแวร์สามารถจัดการกับวัตถุที่มีความโปร่งใสได้ดีขึ้น ลดการเรียกใช้ AnyHit shader และเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2.3 เท่า

    นอกจากนี้ยังมี Direct3D Video Encoding Updates ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น HEVC Reference List extension และ การเข้ารหัสแบบสองรอบ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของวิดีโอ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft เปิดตัว Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ที่รองรับ SER และ OMM
    - SER ช่วยให้ GPU สามารถจัดเรียงเธรดใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2 เท่า
    - OMM ช่วยให้ฮาร์ดแวร์จัดการวัตถุโปร่งใสได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2.3 เท่า
    - Direct3D Video Encoding Updates เพิ่มฟีเจอร์ HEVC Reference List extension และการเข้ารหัสแบบสองรอบ
    - NVIDIA เป็นผู้ผลิตรายแรกที่รองรับ OMM บน RTX GPUs

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - SER และ OMM ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ ซึ่งอาจไม่สามารถใช้งานได้บน GPU รุ่นเก่า
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่น เช่น AMD และ Intel จะเพิ่มการรองรับ OMM หรือไม่
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้เกมที่ใช้ Ray Tracing ต้องปรับปรุงโค้ดเพื่อใช้ฟีเจอร์ใหม่
    - ต้องรอดูว่าการอัปเดตนี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของเกมในระยะยาวอย่างไร

    Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ช่วยให้ Ray Tracing มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจทำให้ เกมที่ใช้เทคโนโลยีนี้สามารถรันได้เร็วขึ้นบนฮาร์ดแวร์ที่รองรับ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้พัฒนาเกมจะนำฟีเจอร์เหล่านี้ไปใช้มากน้อยเพียงใด

    https://wccftech.com/microsoft-agility-sdk-directx-shader-execution-reordering-opacity-micromaps-support-huge-ray-tracing-improvements-on-nvidia/
    🎮 Microsoft Agility SDK DirectX: การอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ Ray Tracing Microsoft ได้เปิดตัว Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับ Shader Execution Reordering (SER) และ Opacity Micromaps (OMM) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Ray Tracing บนฮาร์ดแวร์ของ NVIDIA Agility SDK DirectX มี สองเวอร์ชันหลัก ได้แก่ 1.717-preview และ 1.616-retail โดยแต่ละเวอร์ชันมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ นักพัฒนาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเกมที่ใช้ Ray Tracing ได้อย่างมีนัยสำคัญ Shader Execution Reordering (SER) ช่วยให้ GPU สามารถจัดเรียงเธรดใหม่ เพื่อให้การประมวลผลมีความต่อเนื่องมากขึ้น ลดความแตกต่างของการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2 เท่า Opacity Micromaps (OMM) ช่วยให้ ฮาร์ดแวร์สามารถจัดการกับวัตถุที่มีความโปร่งใสได้ดีขึ้น ลดการเรียกใช้ AnyHit shader และเพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2.3 เท่า นอกจากนี้ยังมี Direct3D Video Encoding Updates ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น HEVC Reference List extension และ การเข้ารหัสแบบสองรอบ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของวิดีโอ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft เปิดตัว Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ที่รองรับ SER และ OMM - SER ช่วยให้ GPU สามารถจัดเรียงเธรดใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2 เท่า - OMM ช่วยให้ฮาร์ดแวร์จัดการวัตถุโปร่งใสได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพได้สูงสุด 2.3 เท่า - Direct3D Video Encoding Updates เพิ่มฟีเจอร์ HEVC Reference List extension และการเข้ารหัสแบบสองรอบ - NVIDIA เป็นผู้ผลิตรายแรกที่รองรับ OMM บน RTX GPUs ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - SER และ OMM ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ ซึ่งอาจไม่สามารถใช้งานได้บน GPU รุ่นเก่า - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่น เช่น AMD และ Intel จะเพิ่มการรองรับ OMM หรือไม่ - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้เกมที่ใช้ Ray Tracing ต้องปรับปรุงโค้ดเพื่อใช้ฟีเจอร์ใหม่ - ต้องรอดูว่าการอัปเดตนี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของเกมในระยะยาวอย่างไร Agility SDK DirectX รุ่นใหม่ช่วยให้ Ray Tracing มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจทำให้ เกมที่ใช้เทคโนโลยีนี้สามารถรันได้เร็วขึ้นบนฮาร์ดแวร์ที่รองรับ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้พัฒนาเกมจะนำฟีเจอร์เหล่านี้ไปใช้มากน้อยเพียงใด https://wccftech.com/microsoft-agility-sdk-directx-shader-execution-reordering-opacity-micromaps-support-huge-ray-tracing-improvements-on-nvidia/
    WCCFTECH.COM
    Microsoft Agility SDK DirectX Now Adds Shader Execution Reordering & Opacity Micromaps Support, Huge Ray Tracing Improvements On NVIDIA Hardware
    Microsoft has released its latest Agility SDK, DirectX, which brings major ray tracing improvements with SER & OMM support.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚡ AI อาจใช้พลังงานมากกว่าการขุด Bitcoin และบางประเทศภายในปี 2025
    การเติบโตของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังสร้างผลกระทบต่อ โครงสร้างพลังงานโลก โดยมีการคาดการณ์ว่า AI อาจใช้พลังงานมากกว่าการขุด Bitcoin และบางประเทศภายในปี 2025

    การขยายตัวของ Generative AI ทำให้เกิดการลงทุนมหาศาลใน ศูนย์ข้อมูลและฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะ AI accelerators จาก Nvidia และ AMD ซึ่งมีการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    นักวิจัย Alex de Vries-Gao จาก Vrije Universiteit Amsterdam วิเคราะห์ข้อมูลจาก สเปกอุปกรณ์, การคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และรายงานของบริษัท เพื่อประเมิน ปริมาณการผลิตและการใช้พลังงานของฮาร์ดแวร์ AI

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - AI อาจใช้พลังงานมากกว่าการขุด Bitcoin และบางประเทศภายในปี 2025
    - AI คาดว่าจะใช้พลังงานเกือบครึ่งหนึ่งของศูนย์ข้อมูลทั้งหมดภายในปีหน้า
    - Nvidia H100 AI accelerator ใช้พลังงาน 700 วัตต์ต่อหน่วย
    - ฮาร์ดแวร์ AI ที่ผลิตในปี 2023-2024 อาจต้องใช้พลังงานระหว่าง 5.3 ถึง 9.4 กิกะวัตต์
    - TSMC วางแผนเพิ่มกำลังการผลิต CoWoS packaging technology เป็นสองเท่าในปี 2025

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การเติบโตของ AI อาจทำให้การใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในสองปี
    - บางโครงการกำลังใช้โครงสร้างพื้นฐานพลังงานฟอสซิล เช่น โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 4.5 กิกะวัตต์ เพื่อรองรับ AI
    - การใช้พลังงานของ AI ขึ้นอยู่กับแหล่งพลังงาน หากใช้พลังงานจากฟอสซิล อาจเพิ่มการปล่อยคาร์บอน
    - บริษัทเทคโนโลยีมักไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงานของ AI ซึ่งอาจส่งผลต่อเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม

    การเติบโตของ AI อาจทำให้ ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และส่งผลต่อ นโยบายพลังงานและสิ่งแวดล้อมทั่วโลก อย่างไรก็ตาม

    https://www.techspot.com/news/108140-ai-could-soon-consume-more-electricity-than-bitcoin.html
    ⚡ AI อาจใช้พลังงานมากกว่าการขุด Bitcoin และบางประเทศภายในปี 2025 การเติบโตของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังสร้างผลกระทบต่อ โครงสร้างพลังงานโลก โดยมีการคาดการณ์ว่า AI อาจใช้พลังงานมากกว่าการขุด Bitcoin และบางประเทศภายในปี 2025 การขยายตัวของ Generative AI ทำให้เกิดการลงทุนมหาศาลใน ศูนย์ข้อมูลและฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะ AI accelerators จาก Nvidia และ AMD ซึ่งมีการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นักวิจัย Alex de Vries-Gao จาก Vrije Universiteit Amsterdam วิเคราะห์ข้อมูลจาก สเปกอุปกรณ์, การคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และรายงานของบริษัท เพื่อประเมิน ปริมาณการผลิตและการใช้พลังงานของฮาร์ดแวร์ AI ✅ ข้อมูลจากข่าว - AI อาจใช้พลังงานมากกว่าการขุด Bitcoin และบางประเทศภายในปี 2025 - AI คาดว่าจะใช้พลังงานเกือบครึ่งหนึ่งของศูนย์ข้อมูลทั้งหมดภายในปีหน้า - Nvidia H100 AI accelerator ใช้พลังงาน 700 วัตต์ต่อหน่วย - ฮาร์ดแวร์ AI ที่ผลิตในปี 2023-2024 อาจต้องใช้พลังงานระหว่าง 5.3 ถึง 9.4 กิกะวัตต์ - TSMC วางแผนเพิ่มกำลังการผลิต CoWoS packaging technology เป็นสองเท่าในปี 2025 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การเติบโตของ AI อาจทำให้การใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในสองปี - บางโครงการกำลังใช้โครงสร้างพื้นฐานพลังงานฟอสซิล เช่น โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 4.5 กิกะวัตต์ เพื่อรองรับ AI - การใช้พลังงานของ AI ขึ้นอยู่กับแหล่งพลังงาน หากใช้พลังงานจากฟอสซิล อาจเพิ่มการปล่อยคาร์บอน - บริษัทเทคโนโลยีมักไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการใช้พลังงานของ AI ซึ่งอาจส่งผลต่อเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม การเติบโตของ AI อาจทำให้ ความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และส่งผลต่อ นโยบายพลังงานและสิ่งแวดล้อมทั่วโลก อย่างไรก็ตาม https://www.techspot.com/news/108140-ai-could-soon-consume-more-electricity-than-bitcoin.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI could soon consume more electricity than Bitcoin mining and entire countries
    The rapid expansion of generative AI has triggered a boom in data center construction and hardware production. As AI applications become more complex and are more widely...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📱 Xiaomi 16: สมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปี 2025
    Xiaomi เตรียมเปิดตัว Xiaomi 16 ในเดือนตุลาคม 2025 โดยมาพร้อมกับ Snapdragon 8 Elite 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดของ Qualcomm ในขณะนี้

    Xiaomi 16 ได้รับการออกแบบใหม่ให้มี ดีไซน์แบบ dual-tone glass และ metal finish ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ หน้าจอ 6.3 นิ้ว 2K AMOLED ที่รองรับ 120Hz adaptive refresh rate และ LTPO technology

    ระบบกล้องของ Xiaomi 16 ประกอบด้วย เซ็นเซอร์ 50MP สามตัว ได้แก่ เลนส์หลักขนาด 1/1.3 นิ้ว, เลนส์ ultra-wide และเลนส์ telephoto ที่มี AI-assisted macro support

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Xiaomi 16 ใช้ Snapdragon 8 Elite 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดของ Qualcomm
    - หน้าจอ 6.3 นิ้ว 2K AMOLED พร้อม 120Hz adaptive refresh rate และ LTPO technology
    - ระบบกล้องประกอบด้วยเซ็นเซอร์ 50MP สามตัว พร้อม AI-assisted macro support
    - แบตเตอรี่ 6,800mAh รองรับการชาร์จเร็ว 100W แบบมีสาย และ 50W แบบไร้สาย
    - ดีไซน์ dual-tone glass และ metal finish ได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ต้องติดตามว่าประสิทธิภาพของ Snapdragon 8 Elite 2 จะสามารถแข่งขันกับ Apple A19 ได้หรือไม่
    - การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 อาจทำให้ Xiaomi 16 ถูกเปรียบเทียบกับคู่แข่งโดยตรง
    - ต้องรอดูว่าระบบ AI-assisted macro จะสามารถเพิ่มคุณภาพของภาพถ่ายได้จริงหรือไม่
    - ราคาของ Xiaomi 16 อาจสูงขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า เนื่องจากการใช้วัสดุระดับพรีเมียม

    Xiaomi 16 อาจเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ทรงพลังที่สุดของปี 2025 โดยเน้น AI integration และประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะตอบรับดีไซน์ใหม่และฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาอย่างไร

    https://computercity.com/phones/xiaomi-16-the-next-flagship-powerhouse-arrives-late-2025
    📱 Xiaomi 16: สมาร์ทโฟนเรือธงแห่งปี 2025 Xiaomi เตรียมเปิดตัว Xiaomi 16 ในเดือนตุลาคม 2025 โดยมาพร้อมกับ Snapdragon 8 Elite 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดของ Qualcomm ในขณะนี้ Xiaomi 16 ได้รับการออกแบบใหม่ให้มี ดีไซน์แบบ dual-tone glass และ metal finish ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ หน้าจอ 6.3 นิ้ว 2K AMOLED ที่รองรับ 120Hz adaptive refresh rate และ LTPO technology ระบบกล้องของ Xiaomi 16 ประกอบด้วย เซ็นเซอร์ 50MP สามตัว ได้แก่ เลนส์หลักขนาด 1/1.3 นิ้ว, เลนส์ ultra-wide และเลนส์ telephoto ที่มี AI-assisted macro support ✅ ข้อมูลจากข่าว - Xiaomi 16 ใช้ Snapdragon 8 Elite 2 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ทรงพลังที่สุดของ Qualcomm - หน้าจอ 6.3 นิ้ว 2K AMOLED พร้อม 120Hz adaptive refresh rate และ LTPO technology - ระบบกล้องประกอบด้วยเซ็นเซอร์ 50MP สามตัว พร้อม AI-assisted macro support - แบตเตอรี่ 6,800mAh รองรับการชาร์จเร็ว 100W แบบมีสาย และ 50W แบบไร้สาย - ดีไซน์ dual-tone glass และ metal finish ได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ต้องติดตามว่าประสิทธิภาพของ Snapdragon 8 Elite 2 จะสามารถแข่งขันกับ Apple A19 ได้หรือไม่ - การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก iPhone 17 อาจทำให้ Xiaomi 16 ถูกเปรียบเทียบกับคู่แข่งโดยตรง - ต้องรอดูว่าระบบ AI-assisted macro จะสามารถเพิ่มคุณภาพของภาพถ่ายได้จริงหรือไม่ - ราคาของ Xiaomi 16 อาจสูงขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า เนื่องจากการใช้วัสดุระดับพรีเมียม Xiaomi 16 อาจเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่ทรงพลังที่สุดของปี 2025 โดยเน้น AI integration และประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้จะตอบรับดีไซน์ใหม่และฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาอย่างไร https://computercity.com/phones/xiaomi-16-the-next-flagship-powerhouse-arrives-late-2025
    COMPUTERCITY.COM
    Xiaomi 16: The Next Flagship Powerhouse Arrives Late 2025
    Xiaomi is once again poised to shake up the premium smartphone market with the upcoming launch of the Xiaomi 16, expected to debut in October 2025. Building
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังเตรียมเปิดตัว Nova Lake-S ซึ่งเป็น CPU รุ่นใหม่ ที่ใช้ LGA-1954 socket โดยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสถาปัตยกรรมและการจัดการพลังงาน

    Nova Lake-S จะเป็น การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุด ในสถาปัตยกรรมของ Intel ในรอบหลายปี โดยใช้ 14A (1.4nm-class) node สำหรับ compute tiles และอาจใช้ TSMC 2nm สำหรับบางส่วนของชิป

    นอกจากนี้ Intel ยังเน้น AI acceleration โดยเพิ่ม Neural Processing Units (NPUs) เพื่อรองรับงานด้าน AI-based photo editing, real-time video effects และ generative AI tools

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Nova Lake-S ใช้ LGA-1954 socket ซึ่งมี 1,954 contact pads
    - Core configuration ประกอบด้วย 16 P-cores (Coyote Cove), 32 E-cores (Arctic Wolf) และ 4 low-power E-cores
    - ใช้ 14A (1.4nm-class) node สำหรับ compute tiles และอาจใช้ TSMC 2nm สำหรับบางส่วนของชิป
    - 900-series chipsets เช่น Z990 และ H970 จะรองรับ DDR5-6400+, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4 และ Thunderbolt 5
    - AI acceleration จะเป็นจุดเด่น โดยมี NPUs ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานด้าน AI

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ต้องใช้เมนบอร์ดใหม่ เนื่องจาก LGA-1954 ไม่รองรับ CPU รุ่นเก่า
    - แม้จะใช้ขนาด socket เดิม แต่การออกแบบ heat spreader อาจต้องใช้ mounting kits ใหม่
    - การแข่งขันกับ AMD Zen 6 อาจทำให้ตลาด CPU มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
    - ต้องรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน

    Nova Lake-S และ LGA-1954 เป็นก้าวสำคัญของ Intel ในการพัฒนา CPU ที่รองรับ AI และ multi-threaded workloads อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ยังต้องจับตาดูว่าผู้ใช้จะตอบรับอย่างไร

    https://computercity.com/hardware/processors/intels-lga-1954-socket-and-nova-lake-s-cpus
    Intel กำลังเตรียมเปิดตัว Nova Lake-S ซึ่งเป็น CPU รุ่นใหม่ ที่ใช้ LGA-1954 socket โดยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสถาปัตยกรรมและการจัดการพลังงาน Nova Lake-S จะเป็น การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุด ในสถาปัตยกรรมของ Intel ในรอบหลายปี โดยใช้ 14A (1.4nm-class) node สำหรับ compute tiles และอาจใช้ TSMC 2nm สำหรับบางส่วนของชิป นอกจากนี้ Intel ยังเน้น AI acceleration โดยเพิ่ม Neural Processing Units (NPUs) เพื่อรองรับงานด้าน AI-based photo editing, real-time video effects และ generative AI tools ✅ ข้อมูลจากข่าว - Nova Lake-S ใช้ LGA-1954 socket ซึ่งมี 1,954 contact pads - Core configuration ประกอบด้วย 16 P-cores (Coyote Cove), 32 E-cores (Arctic Wolf) และ 4 low-power E-cores - ใช้ 14A (1.4nm-class) node สำหรับ compute tiles และอาจใช้ TSMC 2nm สำหรับบางส่วนของชิป - 900-series chipsets เช่น Z990 และ H970 จะรองรับ DDR5-6400+, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4 และ Thunderbolt 5 - AI acceleration จะเป็นจุดเด่น โดยมี NPUs ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานด้าน AI ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ต้องใช้เมนบอร์ดใหม่ เนื่องจาก LGA-1954 ไม่รองรับ CPU รุ่นเก่า - แม้จะใช้ขนาด socket เดิม แต่การออกแบบ heat spreader อาจต้องใช้ mounting kits ใหม่ - การแข่งขันกับ AMD Zen 6 อาจทำให้ตลาด CPU มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ - ต้องรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน Nova Lake-S และ LGA-1954 เป็นก้าวสำคัญของ Intel ในการพัฒนา CPU ที่รองรับ AI และ multi-threaded workloads อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ยังต้องจับตาดูว่าผู้ใช้จะตอบรับอย่างไร https://computercity.com/hardware/processors/intels-lga-1954-socket-and-nova-lake-s-cpus
    COMPUTERCITY.COM
    Intel’s LGA-1954 Socket and Nova Lake-S CPUs
    Intel is preparing for another leap in desktop computing with the upcoming Nova Lake-S processors and a brand-new socket: LGA-1954. Despite just launching the
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • M.2 vs SSD: ความแตกต่างที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้งาน

    หลายคนอาจสับสนระหว่าง M.2 กับ SSD แต่จริง ๆ แล้ว M.2 เป็นเพียงรูปแบบของ SSD ไม่ใช่เทคโนโลยีที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดย M.2 SSD มีขนาดเล็กและเชื่อมต่อโดยตรงกับเมนบอร์ด ในขณะที่ SSD แบบ 2.5 นิ้วใช้สาย SATA ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน

    🔍 ข้อแตกต่างระหว่าง M.2 และ SSD แบบ 2.5 นิ้ว
    ✅ M.2 เป็นรูปแบบของ SSD ที่มีขนาดเล็กและติดตั้งโดยตรงบนเมนบอร์ด
    - ไม่ต้องใช้สาย SATA และสายไฟเพิ่มเติม

    ✅ M.2 SSD ที่ใช้ NVMe มีความเร็วสูงกว่ารุ่นที่ใช้ SATA
    - PCIe Gen5 NVMe SSD สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 14,000 MB/s
    - SATA SSD มีความเร็วสูงสุดที่ 550 MB/s

    ✅ M.2 SSD เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น เกมมิ่งและงานตัดต่อวิดีโอ
    - ใช้พื้นที่น้อยและมีความเร็วสูง

    ✅ SSD แบบ 2.5 นิ้วยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดระบบเก่า
    - เหมาะสำหรับ คอมพิวเตอร์ที่ไม่มีช่อง M.2

    ✅ เมนบอร์ดรุ่นใหม่รองรับ M.2 มากขึ้น ทำให้ SATA SSD เริ่มลดความนิยมลง
    - ปัจจุบัน เมนบอร์ดส่วนใหญ่มีช่อง M.2 อย่างน้อย 2-4 ช่อง

    ⚠️ ข้อควรระวังและผลกระทบที่ต้องติดตาม
    ‼️ M.2 NVMe SSD อาจมีความร้อนสูง โดยเฉพาะรุ่น Gen4 และ Gen5
    - ควร ใช้ฮีตซิงค์เพื่อช่วยระบายความร้อน

    ‼️ SSD แบบ 2.5 นิ้วมีราคาต่อ GB ถูกกว่า M.2 NVMe SSD
    - เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการความจุสูงในราคาประหยัด

    https://computercity.com/hardware/storage/m-2-vs-ssd
    M.2 vs SSD: ความแตกต่างที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้งาน หลายคนอาจสับสนระหว่าง M.2 กับ SSD แต่จริง ๆ แล้ว M.2 เป็นเพียงรูปแบบของ SSD ไม่ใช่เทคโนโลยีที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดย M.2 SSD มีขนาดเล็กและเชื่อมต่อโดยตรงกับเมนบอร์ด ในขณะที่ SSD แบบ 2.5 นิ้วใช้สาย SATA ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน 🔍 ข้อแตกต่างระหว่าง M.2 และ SSD แบบ 2.5 นิ้ว ✅ M.2 เป็นรูปแบบของ SSD ที่มีขนาดเล็กและติดตั้งโดยตรงบนเมนบอร์ด - ไม่ต้องใช้สาย SATA และสายไฟเพิ่มเติม ✅ M.2 SSD ที่ใช้ NVMe มีความเร็วสูงกว่ารุ่นที่ใช้ SATA - PCIe Gen5 NVMe SSD สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 14,000 MB/s - SATA SSD มีความเร็วสูงสุดที่ 550 MB/s ✅ M.2 SSD เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น เกมมิ่งและงานตัดต่อวิดีโอ - ใช้พื้นที่น้อยและมีความเร็วสูง ✅ SSD แบบ 2.5 นิ้วยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดระบบเก่า - เหมาะสำหรับ คอมพิวเตอร์ที่ไม่มีช่อง M.2 ✅ เมนบอร์ดรุ่นใหม่รองรับ M.2 มากขึ้น ทำให้ SATA SSD เริ่มลดความนิยมลง - ปัจจุบัน เมนบอร์ดส่วนใหญ่มีช่อง M.2 อย่างน้อย 2-4 ช่อง ⚠️ ข้อควรระวังและผลกระทบที่ต้องติดตาม ‼️ M.2 NVMe SSD อาจมีความร้อนสูง โดยเฉพาะรุ่น Gen4 และ Gen5 - ควร ใช้ฮีตซิงค์เพื่อช่วยระบายความร้อน ‼️ SSD แบบ 2.5 นิ้วมีราคาต่อ GB ถูกกว่า M.2 NVMe SSD - เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการความจุสูงในราคาประหยัด https://computercity.com/hardware/storage/m-2-vs-ssd
    COMPUTERCITY.COM
    M.2 vs SSD
    Confused about M.2 drives versus SSDs? Many computer users struggle with this terminology when upgrading storage. M.2 is actually a form factor (physical
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD กำลังเตรียมเปิดตัว RX 10000 Series พร้อมสถาปัตยกรรม RDNA 5

    AMD กำลังเดินหน้าพัฒนา GPU รุ่นใหม่ภายใต้สถาปัตยกรรม RDNA 5 ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 โดยมีการปรับปรุงด้าน Ray Tracing, AI Acceleration และการออกแบบ Compute Unit ใหม่ทั้งหมด

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RX 10000 Series และ RDNA 5
    ✅ RX 10000 Series อาจใช้กระบวนการผลิต 3nm แทน 5nm ของ RDNA 4
    - ช่วยให้ ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นและลดการใช้พลังงาน

    ✅ AMD อาจนำการออกแบบแบบ Chiplet มาใช้กับทุกโมเดล ไม่ใช่แค่รุ่น Workstation
    - ทำให้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดชิป

    ✅ Ray Tracing จะได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่
    - คาดว่า จะสามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้ดีขึ้นในด้านการเรนเดอร์แสงและเงา

    ✅ รองรับ DisplayPort 2.2 และ AI-powered Frame Generation
    - ช่วยให้ การเล่นเกมมีความลื่นไหลมากขึ้น

    ✅ AMD กำลังขยายตลาดไปยัง AI และ Workstation GPU ด้วย Radeon AI Pro R9700
    - มี 32GB GDDR6 และฮาร์ดแวร์เร่งความเร็วสำหรับ AI Inference

    ‼️ RX 10000 Series อาจเปิดตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
    - คาดว่า จะเปิดตัวกลางถึงปลายปี 2026

    https://computercity.com/hardware/video-cards/the-current-state-of-amd-gpus-and-what-comes-after-rdna-4
    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว RX 10000 Series พร้อมสถาปัตยกรรม RDNA 5 AMD กำลังเดินหน้าพัฒนา GPU รุ่นใหม่ภายใต้สถาปัตยกรรม RDNA 5 ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 โดยมีการปรับปรุงด้าน Ray Tracing, AI Acceleration และการออกแบบ Compute Unit ใหม่ทั้งหมด 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RX 10000 Series และ RDNA 5 ✅ RX 10000 Series อาจใช้กระบวนการผลิต 3nm แทน 5nm ของ RDNA 4 - ช่วยให้ ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นและลดการใช้พลังงาน ✅ AMD อาจนำการออกแบบแบบ Chiplet มาใช้กับทุกโมเดล ไม่ใช่แค่รุ่น Workstation - ทำให้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดชิป ✅ Ray Tracing จะได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ - คาดว่า จะสามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้ดีขึ้นในด้านการเรนเดอร์แสงและเงา ✅ รองรับ DisplayPort 2.2 และ AI-powered Frame Generation - ช่วยให้ การเล่นเกมมีความลื่นไหลมากขึ้น ✅ AMD กำลังขยายตลาดไปยัง AI และ Workstation GPU ด้วย Radeon AI Pro R9700 - มี 32GB GDDR6 และฮาร์ดแวร์เร่งความเร็วสำหรับ AI Inference ‼️ RX 10000 Series อาจเปิดตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ - คาดว่า จะเปิดตัวกลางถึงปลายปี 2026 https://computercity.com/hardware/video-cards/the-current-state-of-amd-gpus-and-what-comes-after-rdna-4
    COMPUTERCITY.COM
    The Current State of AMD GPUs and What Comes After RDNA 4
    AMD’s Radeon RX 9000 series, unveiled in 2025, marks the company’s most aggressive push yet into the mid-range and professional GPU markets—leveraging RDNA 4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปงาน Computex 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ภายใต้ธีม “AI Next” ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน้น AI, หุ่นยนต์, เทคโนโลยีรุ่นถัดไป และการเคลื่อนที่แห่งอนาคต นี่คือสรุปผลิตภัณฑ์ใหม่เด่นๆ จากงาน:

    1️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก NVIDIA
    • GeForce RTX 50 Series: การ์ดจอรุ่นใหม่ เช่น RTX 5060, 5070 Ti, 5080, และ 5090 เน้นประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมและงาน AI มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi Frame Generation เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด.
    • DGX Spark และ DGX Station: อุปกรณ์สำหรับการวิจัยและพัฒนา AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI.
    • NVLink Fusion: เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบกึ่งสำเร็จรูป ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพสำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI.
    • AI Infrastructure: NVIDIA ผลักดันวิสัยทัศน์โรงงาน AI และการพัฒนา agentic AI รวมถึง physical AI สำหรับหุ่นยนต์และโทรคมนาคม.

    2️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Intel
    • Core Ultra 200V Series Processors: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI, ความปลอดภัย และความเร็วสำหรับงานทุกประเภท.
    • Xeon 6 Processors และ Gaudi 3 AI Accelerators: ออกแบบสำหรับศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น.
    • Intel Arc Pro B50 และ B60: การ์ดกราฟิกสำหรับงาน AI และเวิร์คสเตชันระดับมืออาชีพ.

    3️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก AMD
    • Radeon RX 9060 XT: การ์ดจอรุ่นใหม่ ใช้สถาปัตยกรรม Navi 44 มีหน่วยความจำ GDDR6 สูงสุด 16GB และเพิ่มประสิทธิภาพ Ray Tracing 2 เท่า ราคาเริ่มต้น 299 ดอลลาร์.
    • Ryzen Threadripper 9000 Series: CPU สำหรับเดสก์ท็อปและเวิร์คสเตชัน รุ่นท็อป Ryzen 9 9995WX มี 96 คอร์ 192 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.4GHz.
    • Ryzen AI Max: CPU สำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์ เพิ่มประสิทธิภาพและแบตเตอรี่.

    4️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MSI
    • Claw A8 BZ2EM และ Claw 7 A2HM: เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ รองรับทั้งโปรเซสเซอร์ Intel และ AMD มีรุ่น Polar Tempest Edition สีขาวพร้อมสตอเรจเพิ่มเป็น 2 เท่า.
    • QD-OLED Monitor และ MEG Vision X AI PC: จอมอนิเตอร์และพีซีที่ผสาน AI เช่น AI Care Sensor และ AI Navigator เพื่อป้องกัน burn-in และปรับแต่งการตั้งค่า.
    • Titan 18 HX Dragon Edition: เดสก์ท็อปพรีเมียมพร้อมจอสัมผัส 13 นิ้วที่ด้านหน้า รองรับ RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 CPU.

    5️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก ASUS
    • ROG Ally X และ ROG Ally 2 (คาดการณ์): เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Z2 Extreme และอาจมี Windows รุ่นปรับแต่งให้เหมาะกับแฮนด์เฮลด์.
    • ProArt RTX 5080: การ์ดจอสำหรับครีเอเตอร์ มีพอร์ต USB-C และสล็อต M.2 SSD พร้อมดีไซน์ไม้เทียม.
    • ROG Bulwark Dock: ด็อก 7-in-1 สำหรับแฮนด์เฮลด์ รองรับ 4K 144Hz ผ่าน HDMI 2.1.

    6️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MediaTek
    • AI Solutions: นำเสนอวิสัยทัศน์ “AI for Everyone: From Edge to Cloud” รวมถึง AI ในสมาร์ทโฟน บ้านอัจฉริยะ รถยนต์ และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ผสานกับ NVIDIA สำหรับโซลูชัน AI ครบวงจร.
    • Smart Auto Central และ Hybrid AI Computing: โซลูชันสำหรับยานยนต์และการประมวลผลแบบผสมผสานระหว่าง edge และ cloud.

    7️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Kingston
    • XS1000 และ XS2000 SSD: SSD แบบพกพาดีไซน์ใหม่ เน้นความเร็วและพกพาสะดวก.
    • DataTraveler Exodia S USB Flash Drive: แฟลชไดรฟ์ USB 3.2 Gen 1 ดีไซน์เพรียวบาง ใช้งานง่าย.
    • Future City Showcase: นำเสนอโซลูชันหน่วยความจำสำหรับ AI, หุ่นยนต์, เกมมิ่ง และอุตสาหกรรมการบิน.

    8️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก GIGABYTE
    • AORUS MASTER 16 AI PC: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI.
    • GIGAPOD และ AIOps Platform: โซลูชันซูเปอร์คอมพิวติ้งสำหรับ AI และศูนย์ข้อมูล.
    • BRIX AI Mini-PCs: มินิพีซีที่ใช้ AMD Ryzen 7 PRO และ Intel Core Ultra CPU พร้อม NPU สำหรับ edge computing.

    9️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Supermicro
    • High-Performance Server Architectures: เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงและโซลูชันระบายความร้อนด้วยของเหลวสำหรับ AI และ HPC.
    • Green Computing Initiatives: เทคโนโลยีประหยัดพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูล.

    🔟 ผลิตภัณฑ์อื่นๆ
    • Acer Predator Triton 14 AI: แล็ปท็อปเกมมิ่งดีไซน์พรีเมียม ใช้ RTX 50-series และมีสารเคลือบป้องกันรอยนิ้วมือ.
    • Acer PD243Y E: จอมอนิเตอร์พกพาแบบ dual-screen สำหรับการทำงานนอกสถานที่.
    • Cherry MX Honey Switches: สวิตช์คีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึกแบบเมคานิคอลแต่ลดเสียงรบกวน.
    • Phison aiDAPTIV+: โซลูชันสำหรับการฝึก LLM ในสถานที่โดยไม่ต้องใช้ GPU จำนวนมาก เน้นความเป็นส่วนตัวและประหยัดต้นทุน.
    • V-Color Xfinity Manta DDR5 RAM: RAM พร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลเช่น ความเร็วและแรงดันไฟ.
    • Thermaltake MineCube 360: ระบบระบายความร้อน AIO พร้อมจอ 720x720 แสดงภาพ Minecraft.

    💯 สรุป 💯
    งาน Computex 2025 เน้นหนักไปที่ AI ในทุกมิติ ตั้งแต่การ์ดจอ, CPU, เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์, แล็ปท็อป, ไปจนถึงโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูลและ edge computing นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพการเล่นเกม, การประหยัดพลังงาน และอุปกรณ์พกพาที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ผู้ผลิตอย่าง NVIDIA, Intel, AMD, MSI, ASUS, MediaTek และ Kingston ต่างนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจ
    สรุปงาน Computex 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ภายใต้ธีม “AI Next” ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน้น AI, หุ่นยนต์, เทคโนโลยีรุ่นถัดไป และการเคลื่อนที่แห่งอนาคต นี่คือสรุปผลิตภัณฑ์ใหม่เด่นๆ จากงาน: 1️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก NVIDIA • GeForce RTX 50 Series: การ์ดจอรุ่นใหม่ เช่น RTX 5060, 5070 Ti, 5080, และ 5090 เน้นประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมและงาน AI มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi Frame Generation เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด. • DGX Spark และ DGX Station: อุปกรณ์สำหรับการวิจัยและพัฒนา AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI. • NVLink Fusion: เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบกึ่งสำเร็จรูป ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพสำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI. • AI Infrastructure: NVIDIA ผลักดันวิสัยทัศน์โรงงาน AI และการพัฒนา agentic AI รวมถึง physical AI สำหรับหุ่นยนต์และโทรคมนาคม. 2️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Intel • Core Ultra 200V Series Processors: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI, ความปลอดภัย และความเร็วสำหรับงานทุกประเภท. • Xeon 6 Processors และ Gaudi 3 AI Accelerators: ออกแบบสำหรับศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น. • Intel Arc Pro B50 และ B60: การ์ดกราฟิกสำหรับงาน AI และเวิร์คสเตชันระดับมืออาชีพ. 3️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก AMD • Radeon RX 9060 XT: การ์ดจอรุ่นใหม่ ใช้สถาปัตยกรรม Navi 44 มีหน่วยความจำ GDDR6 สูงสุด 16GB และเพิ่มประสิทธิภาพ Ray Tracing 2 เท่า ราคาเริ่มต้น 299 ดอลลาร์. • Ryzen Threadripper 9000 Series: CPU สำหรับเดสก์ท็อปและเวิร์คสเตชัน รุ่นท็อป Ryzen 9 9995WX มี 96 คอร์ 192 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.4GHz. • Ryzen AI Max: CPU สำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์ เพิ่มประสิทธิภาพและแบตเตอรี่. 4️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MSI • Claw A8 BZ2EM และ Claw 7 A2HM: เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ รองรับทั้งโปรเซสเซอร์ Intel และ AMD มีรุ่น Polar Tempest Edition สีขาวพร้อมสตอเรจเพิ่มเป็น 2 เท่า. • QD-OLED Monitor และ MEG Vision X AI PC: จอมอนิเตอร์และพีซีที่ผสาน AI เช่น AI Care Sensor และ AI Navigator เพื่อป้องกัน burn-in และปรับแต่งการตั้งค่า. • Titan 18 HX Dragon Edition: เดสก์ท็อปพรีเมียมพร้อมจอสัมผัส 13 นิ้วที่ด้านหน้า รองรับ RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 CPU. 5️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก ASUS • ROG Ally X และ ROG Ally 2 (คาดการณ์): เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Z2 Extreme และอาจมี Windows รุ่นปรับแต่งให้เหมาะกับแฮนด์เฮลด์. • ProArt RTX 5080: การ์ดจอสำหรับครีเอเตอร์ มีพอร์ต USB-C และสล็อต M.2 SSD พร้อมดีไซน์ไม้เทียม. • ROG Bulwark Dock: ด็อก 7-in-1 สำหรับแฮนด์เฮลด์ รองรับ 4K 144Hz ผ่าน HDMI 2.1. 6️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MediaTek • AI Solutions: นำเสนอวิสัยทัศน์ “AI for Everyone: From Edge to Cloud” รวมถึง AI ในสมาร์ทโฟน บ้านอัจฉริยะ รถยนต์ และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ผสานกับ NVIDIA สำหรับโซลูชัน AI ครบวงจร. • Smart Auto Central และ Hybrid AI Computing: โซลูชันสำหรับยานยนต์และการประมวลผลแบบผสมผสานระหว่าง edge และ cloud. 7️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Kingston • XS1000 และ XS2000 SSD: SSD แบบพกพาดีไซน์ใหม่ เน้นความเร็วและพกพาสะดวก. • DataTraveler Exodia S USB Flash Drive: แฟลชไดรฟ์ USB 3.2 Gen 1 ดีไซน์เพรียวบาง ใช้งานง่าย. • Future City Showcase: นำเสนอโซลูชันหน่วยความจำสำหรับ AI, หุ่นยนต์, เกมมิ่ง และอุตสาหกรรมการบิน. 8️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก GIGABYTE • AORUS MASTER 16 AI PC: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI. • GIGAPOD และ AIOps Platform: โซลูชันซูเปอร์คอมพิวติ้งสำหรับ AI และศูนย์ข้อมูล. • BRIX AI Mini-PCs: มินิพีซีที่ใช้ AMD Ryzen 7 PRO และ Intel Core Ultra CPU พร้อม NPU สำหรับ edge computing. 9️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Supermicro • High-Performance Server Architectures: เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงและโซลูชันระบายความร้อนด้วยของเหลวสำหรับ AI และ HPC. • Green Computing Initiatives: เทคโนโลยีประหยัดพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูล. 🔟 ผลิตภัณฑ์อื่นๆ • Acer Predator Triton 14 AI: แล็ปท็อปเกมมิ่งดีไซน์พรีเมียม ใช้ RTX 50-series และมีสารเคลือบป้องกันรอยนิ้วมือ. • Acer PD243Y E: จอมอนิเตอร์พกพาแบบ dual-screen สำหรับการทำงานนอกสถานที่. • Cherry MX Honey Switches: สวิตช์คีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึกแบบเมคานิคอลแต่ลดเสียงรบกวน. • Phison aiDAPTIV+: โซลูชันสำหรับการฝึก LLM ในสถานที่โดยไม่ต้องใช้ GPU จำนวนมาก เน้นความเป็นส่วนตัวและประหยัดต้นทุน. • V-Color Xfinity Manta DDR5 RAM: RAM พร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลเช่น ความเร็วและแรงดันไฟ. • Thermaltake MineCube 360: ระบบระบายความร้อน AIO พร้อมจอ 720x720 แสดงภาพ Minecraft. 💯 สรุป 💯 งาน Computex 2025 เน้นหนักไปที่ AI ในทุกมิติ ตั้งแต่การ์ดจอ, CPU, เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์, แล็ปท็อป, ไปจนถึงโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูลและ edge computing นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพการเล่นเกม, การประหยัดพลังงาน และอุปกรณ์พกพาที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ผู้ผลิตอย่าง NVIDIA, Intel, AMD, MSI, ASUS, MediaTek และ Kingston ต่างนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 519 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts