• ผู้นำสมาร์ทซิตี้ (Smart City Leader) หมายถึง บุคคลหรือทีมที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง และสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ

    ### คุณลักษณะสำคัญของผู้นำสมาร์ทซิตี้:
    1. **วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์**
    - กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ลดการปล่อยคาร์บอน เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด หรือพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะ
    - สร้างแผนงานที่สอดคล้องกับบริบทของเมือง เช่น การแก้ปัญหาจราจร หรือการจัดการขยะ

    2. **การใช้เทคโนโลยีและข้อมูล**
    - นำเทคโนโลยี IoT (Internet of Things), Big Data, AI, และระบบคลาวด์มาใช้ในการเก็บ-วิเคราะห์ข้อมูลเมือง
    - ตัวอย่าง: ระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ระบบจราจรอัจฉริยะ

    3. **การมีส่วนร่วมของประชาชน**
    - สร้างแพลตฟอร์มให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (เช่น แอปพลิเคชันรายงานปัญหาสาธารณะ)
    - ส่งเสริมการรับรู้ข้อมูลแบบเปิด (Open Data)

    4. **ความร่วมมือระหว่างภาคส่วน**
    - ร่วมมือกับภาคเอกชน มหาวิทยาลัย และชุมชน ในการพัฒนาโซลูชัน เช่น การสร้างเครือข่าย Wi-Fi ฟรี หรือโครงการพลังงานทดแทน

    5. **ความยั่งยืน**
    - มุ่งเน้นการพัฒนาเมืองด้วยหลัก ESG (Environmental, Social, Governance) เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน หรือการออกแบบพื้นที่สีเขียว

    ### ตัวอย่างเมืองอัจฉริยะระดับโลก:
    - **สิงคโปร์**: ใช้เทคโนโลยีจัดการจราจรและระบบสุขภาพดิจิทัล
    - **บาร์เซโลนา**: นำ IoT มาใช้ในการจัดการน้ำและพลังงาน
    - **โตเกียว**: พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับสังคมสูงวัยด้วยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ

    ### ความท้าทายของผู้นำสมาร์ทซิตี้:
    - **ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล**: การจัดการข้อมูลประชาชนต้องมีความปลอดภัย
    - **ความเหลื่อมล้ำดิจิทัล**: ต้องให้ทุกกลุ่มเข้าถึงเทคโนโลยีได้เท่าเทียม
    - **การลงทุน**: ต้องสมดุลระหว่างค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ระยะยาว

    ผู้นำสมาร์ทซิตี้จึงไม่เพียงต้องมีความรู้ด้านเทคโนโลยี แต่ต้องมีทักษะการสื่อสาร การบริหารโครงการขนาดใหญ่ และความเข้าใจในความต้องการของประชาชนอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างเมืองที่ "อัจฉริยะ" อย่างแท้จริง
    ผู้นำสมาร์ทซิตี้ (Smart City Leader) หมายถึง บุคคลหรือทีมที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเมือง และสร้างความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ### คุณลักษณะสำคัญของผู้นำสมาร์ทซิตี้: 1. **วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์** - กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ลดการปล่อยคาร์บอน เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด หรือพัฒนาระบบขนส่งอัจฉริยะ - สร้างแผนงานที่สอดคล้องกับบริบทของเมือง เช่น การแก้ปัญหาจราจร หรือการจัดการขยะ 2. **การใช้เทคโนโลยีและข้อมูล** - นำเทคโนโลยี IoT (Internet of Things), Big Data, AI, และระบบคลาวด์มาใช้ในการเก็บ-วิเคราะห์ข้อมูลเมือง - ตัวอย่าง: ระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ระบบจราจรอัจฉริยะ 3. **การมีส่วนร่วมของประชาชน** - สร้างแพลตฟอร์มให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ (เช่น แอปพลิเคชันรายงานปัญหาสาธารณะ) - ส่งเสริมการรับรู้ข้อมูลแบบเปิด (Open Data) 4. **ความร่วมมือระหว่างภาคส่วน** - ร่วมมือกับภาคเอกชน มหาวิทยาลัย และชุมชน ในการพัฒนาโซลูชัน เช่น การสร้างเครือข่าย Wi-Fi ฟรี หรือโครงการพลังงานทดแทน 5. **ความยั่งยืน** - มุ่งเน้นการพัฒนาเมืองด้วยหลัก ESG (Environmental, Social, Governance) เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน หรือการออกแบบพื้นที่สีเขียว ### ตัวอย่างเมืองอัจฉริยะระดับโลก: - **สิงคโปร์**: ใช้เทคโนโลยีจัดการจราจรและระบบสุขภาพดิจิทัล - **บาร์เซโลนา**: นำ IoT มาใช้ในการจัดการน้ำและพลังงาน - **โตเกียว**: พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับสังคมสูงวัยด้วยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ### ความท้าทายของผู้นำสมาร์ทซิตี้: - **ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล**: การจัดการข้อมูลประชาชนต้องมีความปลอดภัย - **ความเหลื่อมล้ำดิจิทัล**: ต้องให้ทุกกลุ่มเข้าถึงเทคโนโลยีได้เท่าเทียม - **การลงทุน**: ต้องสมดุลระหว่างค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ระยะยาว ผู้นำสมาร์ทซิตี้จึงไม่เพียงต้องมีความรู้ด้านเทคโนโลยี แต่ต้องมีทักษะการสื่อสาร การบริหารโครงการขนาดใหญ่ และความเข้าใจในความต้องการของประชาชนอย่างลึกซึ้ง เพื่อสร้างเมืองที่ "อัจฉริยะ" อย่างแท้จริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • 09-04-68/01 : หมี CNN / "หมีตะนอย" EP25 ตอน WORLD OF THE MATRIX ตอบทุกคำถามคาใจ อีทรัมปป์ ปูติน สีจิ้นผิง เล่นอาไยกันอยู่? การ์ตูนซิมป์สัน แจ้งไว้ว่า อีทรัมปป์ จะตายในวันที่ 12 เมษายนนี้(สงกรานต์ได้กลับบ้านเก่า) อะไรที่คนเริ่มเชื่อ มันคือการสะกดจิต จูงจมูก สิ่งเดียวที่จะกรองมรึงจากสิ่งหลอกลวง ภาพมายา นั่นคือ "สติคิด ปัญญาตามมาทันที" รอดูว่าคำทำนายอีการ์ตูนซิมป์สันจะเข้าเป้าอีกเหมือนเคยหรือไม่ ส่วนตัวมองสวน เพราะทฤษฎีนี้ มันจะเกิดขึ้นได้เพื่อเป้าหมายเดียว คือนำโลกสู่ WWIII โดยอเมริกาจะปฎิวัติตัวเองครั้งใหญ่ ลอบฆ่าผู้นำ ไม่ใช่ครั้งแรก อีทรัมปป์ถูกจัดฉากล่อเป้าสังหารมา 3 ครั้งแล้ว ตั้งแต่ทรัมปป์ 1.0 แล้วมาเกิดก่อนเลือกตั้ง 2 ครั้ง นั่นยิ่งชัด โลกคือละคร!

    ที่ว่า "สติ" คืออะไร? การ์ตูนซิมป์สัน ใครเขียน ใครแต่ง? แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นตรงกับเนื้อหาในการ์ตูน มันไม่ใช่บังเอิญ แต่เป็นการส่งสัญญานบอกให้คนในสมาคมลับทำงานต่างหาก สิ่งที่ต้องเกิดขึ้น จากใบสั่งของ DEEP STATE ยิ่งชัดเจนว่า การ์ตูนซิมป์สันเป็นของใคร? มันคือ "ขั้นตอน การล้างสมอง" ทุกฉาก กำกับโดยใครกันล่ะ? เค้าถึงเรียกไงล่ะว่า "โลกคือละคร" THE MATRIX อย่าลืมว่าใครคือเจ้าพ่อหนังฮอลีวู๊ดสิ? เหยียบดวงจันทร์ปลอมยังทำมาแล้ว ระเบิดทั้งตึก จัดฉากเครื่องบินชนตึก เอาชีวิตชาวอเมริกัน 3000 ตัวไปบูชายันต์ เพื่อแลกกับมติผ่านในสภาครองเกรซ เอางบแสนล้านไปถลุง เปิดสงครามใส่อิรักเพื่อปล้นทองคำ และยึดบ่อน้ำมันเค้าแบบหน้าด้านๆ โดยอ้างประชาธิปไตย สิ่งเหล่านี้ ควายจะมองไม่เห็น และไม่มีวันได้รู้ความจริง จนกว่ามันจะเปิดดวงตาที่3 ได้สำเร็จ เพราะบุญมันน้อย สติไม่มี ถูกซาตานครอบงำ ดังนั้น ความจริง หรือแสง จะเป็นตัวเปิดตาควายทั้งโลก เมื่อเปิดแล้ว มรึงจะรู้ทะลุภพมิติทั้งหมด ดวงตาเห็นธรรม ไอ้ที่ดิ้นรนมาทั้งชีวิต เพื่อแลกกับสิ่งที่ไม่มีตัวตน ไปเพื่อ? นั่นแหละ เค้าเรียกวังวน หรือลูปของกรรมไม่จบสิ้น อยากหลุดพ้น ง่ายนิดเดียว ลด ละ เลิก ปล่อยวาง ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำร้ายใคร จงให้ด้วยสติ และจงรับด้วยปัญญา

    ทฤษฎีสมคบคิด ที่กระจายอยู่ในโซเชี่ยลตอนนี้มันมีที่มาเสมอ หากมองโลกความเป็นจริง แค่ตำแหน่ง ปธน.สหรัฐ แค่อีทรัมปป์ตัวเดียว ไม่อาจจะโคน DEEP STATE ลงทั้งโคตรได้ดอกน่ะ ไม่งั้น ป่านนี้ คงมีปธน.หลายคนทำไปนานแล้ว แล้วจะพบจุดจบแบบที่ JFK โดนไงล่ะ ไม่แปลกทีมงานทรัมปป์มีตระกูล JFK อยู่ด้วย เพราะเค้าต้องการล้างแค้นเอาคืนให้ปู่เค้าไงล่ะ เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์สหรัฐซะใหม่ ทำไมอีทรัมปป์จะไม่รู้ ลำพังแค่กู จะมีอำนาจอะไรไปสั่งบรรดาขี้ข้า DEEP STATE ที่เกาะกินแผ่นดินนี้มา ตั้งแต่ปล้นสะดมภ์แผ่นดินอินเดียนแดงเค้า ตั้งประเทศอเมริกาใหม่ ชุดแรกก็มาจากอังกฤษ ใครล่ะ ประจำสาขาอังกฤษ ก็อี FREEMASON เจ้าเก่า ขาประจำ ดังนั้น ดวงเมืองอีสหรัฐ ถึงกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า มันคือแหล่งอำนาจมืดโลก ที่ถูกควบคุมโดยเหี้ยต่างดาวที่ชื่อ "อีเรปทีเรี่ยน" เจ้านายอียิวระยำสลัดหมาอีกที เรื่องอีเรปทีเรี่ยนปล่อยให้สภาแสงเค้าจัดการไป มวยถูกคู่ ส่วนอียิวเหี้ย มวลมนุษยชาติจะจัดการกันเอง แบ่งคู่ชกกันเรียบร้อย?

    ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ อีทรัมปป์จำเป็นต้องมืออาชีพ รู้งาน ใคร..ผู้มีอำนาจสูงสุด ใคร..เหนือกว่า และมีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้จริง ล้มอีเหี้ยยิวขี้ข้า และอีเรปทีเรี่ยนไปพร้อมกัน พลังที่ว่านี้ หาได้จาก มอสโคว์ และปักกิ่ง เหมือนสภาแสง เค้าจะระบุตัวชัดเจน ว่าจะให้ใครมากู้โลกคืนจากอีเรปทีเรี่ยน หวยไปออก "ปูติน และสีจิ้นผิง" ฟังแล้วเหมือนโลกการ์ตูน มีพระเอก มีผู้ร้าย ชีวิตจริง มันก็ไม่แตกต่างจากนี้ดอก ทฤษฎีสงครามการค้าที่อีทรัมปป์ล่ออยู่ ชงอยู่ เพื่อให้สีจิ้นผิงตบ มันคือการสมยอม และต้องการหั่นแหล่งรายได้ไอ้พวกฟรีเมสัน เจ้าพ่อตลาดหุ้น ธนาคาร คลังโลก ที่ดูแลโดย CITY OF LONDON เมื่อโลกเศรษฐกิจพังยับ จะนำไปสู่สงครามใหญ่ นั่นคือสิ่งที่มนุษย์ส่วนใหญ่คิด แต่สิ่งที่อีทรัมปป์ต้องการ แล้วดึงสีจิ้นผิง ปูติน เข้าร่วมแสดงละครฉากใหญ่นี้ เพื่อลดบทบาท อิทธิพลของ DEEP STATE ในสหรัฐ และทำลายท่อน้ำเลี้ยง CITY OF LONDON ไปในตัว ถามว่าสีจิ้นผิงรู้มั้ย? ตอนนี้ ยังตอบไม่ได้ เพราะเป็นแค่ข้อสังเกตุ ทฤษฎีแผนปลดระวางเหี้ย จะรู้ได้ก็ต้องเมื่อ มีการกระทำแล้วจริงเท่านั้น ดังนั้น หมีจึงมาสรปุและชี้เป้าให้ดูว่า ต้องจับตาดูอะไร อะไรคือจริง อะไรคือเท็จ ให้ไปดูทิศทางการเงินโลก ให้ไปดูกระแสเงินโลก ให้ไปดูฐานการค้าทั้งโลก และตัวเลขจริง ว่าใครแท้จริงกำหนดทิศทางตลาดโลกได้จริง

    หากสังเกตุ ช่วงนี้มันสอดคล้องกันหลายอย่าง อยู่ดีดี วงการแฟชั่นโลกที่อีฟรีเมสันกินหัวคิวอยู่ หุ้นร่วงระนาว ยอดตก กระแสไม่คลั่งแบรนด์เนม ที่อียิว และกลุ่ม ELITE พยายามจะปั่นมายาวนานนับศตวรรษ เริ่มสั่นคลอน ไม่ได้ตามเป้า อย่าลืมว่า โรงงานผลิตจากไหน วัตถุดิบจากใคร? แรงงานใครทำ? คำตอบทั้งหมดคือ "เอเซีย" ตะวันตกที่เกิดเพราะใช้พลังงานเอเซีย ใช้แรงงานเอเซีย แอฟริกา ลาติน ใช้วัตถุดิบจากเอเซียเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเซมิคอนดั๊กเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัย 4 ทั้งหมด นี่คือที่มาว่าทำไม อีทรัมปป์จะลากตัวเหี้ยยานแม่ลงได้จริง มรึงต้องใช้พลังจากเอเซียเท่านั้น เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ที่อยู่สูงกว่า โดยสภาแสง เค้ากำหนดคู่ต่อกรอำนาจมืดไว้ล่วงหน้ามาก่อนนับ 1000 ปีแล้ว ไม่งั้น มรึงจะเจอคนอย่างปูติน สีจิ้นผิง ที่โคตรอัจฉริยะเหนือมนุษย์ได้อย่างไร? เอเซียเนี่ยแหละจะขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลก แบบที่โลกไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น ที่กูชี้เป้าให้มรึงเก็บบ้าน ที่ดิน คอนโด เอาไว้ เพราะต้องการจะสื่อว่า นี่คือแผ่นดินทองคำของจริง ราคาจึงไม่ใช่คำตอบ คำตอบแท้จริงคือ ใครเป็นผู้ครอบครองพื้นที่ตรงนี้ต่างหาก เพราะมันจะปลูก จะสร้าง จะทำอะไรก็เจริญงอกงามง่ายดาย ดินแดนแห่งพลังงานบวกมาเต็มตรีน คลื่นความถี่ระดับสูง หมู่เทวดา ฟ้าดิน มาจุติลง ถึงได้ชื่อ ดินแดนสุวรรณภูมิไงล่ะ เก็บสินทรัพย์ให้ดีดี มรึงรวยแน่ กูท้า? และจะรวยกันทั้งแผ่นดิน เมื่อเปลี่ยนการปกครองกลับคืนสู่ที่ที่ควรจะเป็น "พ่อปกครองลูก" สิ่งเดียวที่เป็นตัวตนของเรา

    ไม่แปลก มอ 112 ทำงานอีกแล้ว กองทัพสั่งฟ้องตรง สัญญานชัดยิ่งกว่า "ปาท่องโก๋คู่" หน้าที่กองทัพคืออะไร ใครหมิ่น บ่อนทำลาย คิดร้ายต่อราชวงศ์จักรี ใครมันจะเก็บไว้ทำพ่อง? พ่อมรึง หากไม่รักษาดูแลให้ดี มรึงยังจะเรียกตัวเองเป็นลูกมั้ย? เชื่อกูเหอะว่า หลังยุบสภา จะมีสส. สว. พาเหรดกันเดินเข้าคุกกันอีกเพี๊ยบ นักวิชาการทั้งหลาย ที่รับงานเหี้ยเค้ามา จะไม่มีใครรอด ทั้งหมด ไม่ตายในคุก ก็เผ่นออกนอกสิ้น เพราะเวลาแห่งการชำระล้างแผ่นดิน ขับไล่เสนียดจัญไรมาถึงแล้ว อะไรที่โพสกันในโซเชี่ยล มันถูกส่งต่อกันมา เพื่อบ่งบอกอะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น ทุกอย่างมีตัวเบื้องหลังกำหนดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแสง หรือฝ่ายมืด โลกเดินหน้าเต็มกำลังแล้ว อย่าได้เสียดาย หรือหันไปมองข้างหลัง ยังยึดติดกับอดีต ภาพมายาที่มรึงลิ้มรสชาดแล้วติดใจ มันคือยาพิษ สิ่งดีดีกำลังจะเกิด ไม่ว่าจะถูกใจมรึงหรือไม่ แต่นั่นคือทางรอดของโลก ไม่มีใครได้ดั่งใจทุกอย่าง ได้มาอย่าง ก็ต้องยอมเสียอีกอย่าง แต่จงเลือกสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ต้องมี สิ่งที่ขาดไม่ได้ นั่นคือทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด โลกสู้กับอะไร? ความอยู่รอดของโลกขึ้นอยู่กับอะไร? คำตอบเดียว "ศีล สมาธิ ปัญญา" ไม่เกี่ยวศาสนา แต่เป็น FACT ข้อเท็จจริง ที่มรึงจะได้เจอผู้สร้างมรึงนั่นเอง

    ปล.อีทรัมปป์ได้เลือกแล้ว หนทางจากนี้ จะมีแต่แรง แรงขึ้น แรงที่สุด ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด DEEP STATE เป็นแค่ชื่อเรียก แต่องค์กรลับใต้ดินทั่วโลก ที่ทำงานประสานกัน ต่างรู้ดีว่า "อีกฝ่าย(สภาแสงสว่าง)" กำลังจะมาทำการชำระล้างโลก การต่อสู้ทุก 100 ปี เกิดขึ้นเป็นปฎิทินจักรวาลเสมอ เพราะเราอยู่ในโลก THE MATRIX มีบทบาทอะไรก็เล่นกันไป หลุดพ้นเมื่อไหร่ ดวงตาที่ 3 เปิดเมื่อไหร่ มรึงจะเจอผู้มีพระคุณที่ผ่านมาทั้งหมดในภพภูมิที่สูงกว่าที่มรึงจะเข้าใจได้ เพราะสมองคนเราถูกปิดกั้นอยู่ มนุษย์เป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้าง ดังนั้น เป็นดาบ 2 คม ใช้ถูกทางก็แจ่มจรัส ใช้ผิดทางก็นรกอเวจี เหมือนพระเจ้าได้ให้การตัดสินใจทั้งหมดไว้ที่มรึง มรึงเลือกเอง ใครเลือกอะไรก็ได้อย่างงั้น กูเลือกไว้นานแล้ว เดินหน้าลุย มรึงก็เลือกแล้ว ถึงได้มาเจอกันในภพชาตินี้ ได้มากู้ชาติ บ้านเมืองพร้อมกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน นั่นคือ "คน 2 แผ่นดิน" นั่นเอง

    ปล.2 ในวัน 11 กันยายน 2568 ครบรอบ 9 ปีเต็ม กลุ่มโรนิน 500 กูเคยบอกแล้วว่า ปีนี้ต้องพิเศษสุดติ่งกระดิ่งหมี ของแทนใจ ที่ระลึก บอกได้ว่า "ชัดเจนทุกอณูแห่งความรัก" แน่นอน ต้องมีสัญลักษณ์ เลข 9 คนในรัชการที่ 9 พ่วงต่อรัชกาลที่ 10 ปีที่ 9 ของบ้านโรนิน แจ้งไว้ก่อน สมาชิกท่านใด ที่อยู่ต่างประเทศ ติดต่อญาติ คนรู้จัก เพื่องฝูงไว้ล่วงหน้าได้เลย การส่งพัศดุจากมือแอดมินนิดหน่อย จะส่งได้เฉพาะภายในประเทศเท่านั้น ท่านต้องให้ผู้รับที่อยู่ประเทศไทยส่งต่อให้ท่านอีกทีนึง ที่พูดล่วงหน้า เพราะบอกเลยว่า มันชัดเจนที่สุด สิ่งที่ทำมาตลอด 9 ปีเต็ม อยู่ในสิ่งที่จะมอบให้นี้ นัยยะซ่อนนัยยะ 3 ชั้น กับอีกเกลียวครึ่งรอบ มรึงจะเยอะไปไหน? หมีได้เลือกแล้ว สิ่งนี้อาจจะหายากหน่อย หากผลิตในจำนวนมาก แต่ไม่เกินความสามารถแอดมินนิดหน่อย และทีมงาน รวมทั้งสมาชิกบางท่าน ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน ทำเท่าที่งบมี ทำด้วยใจ ไม่สนมูลค่า ดังนั้น ทุกอย่างที่ได้ส่งมอบไป คืองานที่เน้นคุณภาพ ปราณีต และใส่ใจ มันคือของขวัญแทนใจจากบ้านนี้ สู่ลูกบ้านที่มีจิตใจเดียวกันมาโดยตลอด 9 ปี มันต้องดัง มันต้องปัง ให้สมกับที่เป็นลูกพ่ออยู่หัวในรัชกาลที่ 9 คนดีศรีอโยธยา ไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง สู้ไปด้วยกัน ตายไปด้วยกัน จะเป็นผีก็จะอยู่เฝ้าแผ่นดินพ่อกู นี่คือ "จิต" ที่มันผูกร่วมกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ไม่รู้กี่ภพ กี่สมัย พลังจึงก่อเกิดขึ้นมาให้เห็นเด่นชัดเช่นนี้ ด้วยรักและปลาทู

    หมี CNN(หมีตะนอย จะโพสเฉพาะเรื่อง เพื่อให้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกันว่า มันกำลังจะเกิดเหี้ยอะไรขึ้นนับจากนี้ เกมส์ไม่แรง โลกไม่เปลี่ยน เหี้ยมันแพ้ยับ ถึงได้สู้ตายถวายหัวเช่นนี้ อีทรัมปป์ไปไม่รอด หากไม่ได้ขั้วใหม่เข้ามาช่วยล้างบาง น่าจะเรียก "ทีมเฉพาะกิจ" เสร็จศึกใหญ่ แล้วค่อยมากัดกันต่อ แต่ตอนนี้ กำจัดศัตรูของมวลมนุษยชาติก่อน เชื่อว่ากูโพสปุ๊บ เดี๋ยวมีตามลบอีกเหมือนเคย เพราะเรื่องแบบนี้ จะมีใครมาเล่าให้พวกมรึงฟังกันล่ะ หากไม่บร๊า ก็เสียสติ กูถึงต้องเรียบเรียงให้เข้าใจ ว่าโลกมันคือละครอย่างไร? แต่ละคนมีบทบาทของตัวเอง เล่นให้สุด แล้วจบที่เป้าหมายเดียว)
    09 เมษายน 68
    10.22 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    09-04-68/01 : หมี CNN / "หมีตะนอย" EP25 ตอน WORLD OF THE MATRIX ตอบทุกคำถามคาใจ อีทรัมปป์ ปูติน สีจิ้นผิง เล่นอาไยกันอยู่? การ์ตูนซิมป์สัน แจ้งไว้ว่า อีทรัมปป์ จะตายในวันที่ 12 เมษายนนี้(สงกรานต์ได้กลับบ้านเก่า) อะไรที่คนเริ่มเชื่อ มันคือการสะกดจิต จูงจมูก สิ่งเดียวที่จะกรองมรึงจากสิ่งหลอกลวง ภาพมายา นั่นคือ "สติคิด ปัญญาตามมาทันที" รอดูว่าคำทำนายอีการ์ตูนซิมป์สันจะเข้าเป้าอีกเหมือนเคยหรือไม่ ส่วนตัวมองสวน เพราะทฤษฎีนี้ มันจะเกิดขึ้นได้เพื่อเป้าหมายเดียว คือนำโลกสู่ WWIII โดยอเมริกาจะปฎิวัติตัวเองครั้งใหญ่ ลอบฆ่าผู้นำ ไม่ใช่ครั้งแรก อีทรัมปป์ถูกจัดฉากล่อเป้าสังหารมา 3 ครั้งแล้ว ตั้งแต่ทรัมปป์ 1.0 แล้วมาเกิดก่อนเลือกตั้ง 2 ครั้ง นั่นยิ่งชัด โลกคือละคร! ที่ว่า "สติ" คืออะไร? การ์ตูนซิมป์สัน ใครเขียน ใครแต่ง? แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นตรงกับเนื้อหาในการ์ตูน มันไม่ใช่บังเอิญ แต่เป็นการส่งสัญญานบอกให้คนในสมาคมลับทำงานต่างหาก สิ่งที่ต้องเกิดขึ้น จากใบสั่งของ DEEP STATE ยิ่งชัดเจนว่า การ์ตูนซิมป์สันเป็นของใคร? มันคือ "ขั้นตอน การล้างสมอง" ทุกฉาก กำกับโดยใครกันล่ะ? เค้าถึงเรียกไงล่ะว่า "โลกคือละคร" THE MATRIX อย่าลืมว่าใครคือเจ้าพ่อหนังฮอลีวู๊ดสิ? เหยียบดวงจันทร์ปลอมยังทำมาแล้ว ระเบิดทั้งตึก จัดฉากเครื่องบินชนตึก เอาชีวิตชาวอเมริกัน 3000 ตัวไปบูชายันต์ เพื่อแลกกับมติผ่านในสภาครองเกรซ เอางบแสนล้านไปถลุง เปิดสงครามใส่อิรักเพื่อปล้นทองคำ และยึดบ่อน้ำมันเค้าแบบหน้าด้านๆ โดยอ้างประชาธิปไตย สิ่งเหล่านี้ ควายจะมองไม่เห็น และไม่มีวันได้รู้ความจริง จนกว่ามันจะเปิดดวงตาที่3 ได้สำเร็จ เพราะบุญมันน้อย สติไม่มี ถูกซาตานครอบงำ ดังนั้น ความจริง หรือแสง จะเป็นตัวเปิดตาควายทั้งโลก เมื่อเปิดแล้ว มรึงจะรู้ทะลุภพมิติทั้งหมด ดวงตาเห็นธรรม ไอ้ที่ดิ้นรนมาทั้งชีวิต เพื่อแลกกับสิ่งที่ไม่มีตัวตน ไปเพื่อ? นั่นแหละ เค้าเรียกวังวน หรือลูปของกรรมไม่จบสิ้น อยากหลุดพ้น ง่ายนิดเดียว ลด ละ เลิก ปล่อยวาง ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ทำร้ายใคร จงให้ด้วยสติ และจงรับด้วยปัญญา ทฤษฎีสมคบคิด ที่กระจายอยู่ในโซเชี่ยลตอนนี้มันมีที่มาเสมอ หากมองโลกความเป็นจริง แค่ตำแหน่ง ปธน.สหรัฐ แค่อีทรัมปป์ตัวเดียว ไม่อาจจะโคน DEEP STATE ลงทั้งโคตรได้ดอกน่ะ ไม่งั้น ป่านนี้ คงมีปธน.หลายคนทำไปนานแล้ว แล้วจะพบจุดจบแบบที่ JFK โดนไงล่ะ ไม่แปลกทีมงานทรัมปป์มีตระกูล JFK อยู่ด้วย เพราะเค้าต้องการล้างแค้นเอาคืนให้ปู่เค้าไงล่ะ เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์สหรัฐซะใหม่ ทำไมอีทรัมปป์จะไม่รู้ ลำพังแค่กู จะมีอำนาจอะไรไปสั่งบรรดาขี้ข้า DEEP STATE ที่เกาะกินแผ่นดินนี้มา ตั้งแต่ปล้นสะดมภ์แผ่นดินอินเดียนแดงเค้า ตั้งประเทศอเมริกาใหม่ ชุดแรกก็มาจากอังกฤษ ใครล่ะ ประจำสาขาอังกฤษ ก็อี FREEMASON เจ้าเก่า ขาประจำ ดังนั้น ดวงเมืองอีสหรัฐ ถึงกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า มันคือแหล่งอำนาจมืดโลก ที่ถูกควบคุมโดยเหี้ยต่างดาวที่ชื่อ "อีเรปทีเรี่ยน" เจ้านายอียิวระยำสลัดหมาอีกที เรื่องอีเรปทีเรี่ยนปล่อยให้สภาแสงเค้าจัดการไป มวยถูกคู่ ส่วนอียิวเหี้ย มวลมนุษยชาติจะจัดการกันเอง แบ่งคู่ชกกันเรียบร้อย? ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ อีทรัมปป์จำเป็นต้องมืออาชีพ รู้งาน ใคร..ผู้มีอำนาจสูงสุด ใคร..เหนือกว่า และมีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้จริง ล้มอีเหี้ยยิวขี้ข้า และอีเรปทีเรี่ยนไปพร้อมกัน พลังที่ว่านี้ หาได้จาก มอสโคว์ และปักกิ่ง เหมือนสภาแสง เค้าจะระบุตัวชัดเจน ว่าจะให้ใครมากู้โลกคืนจากอีเรปทีเรี่ยน หวยไปออก "ปูติน และสีจิ้นผิง" ฟังแล้วเหมือนโลกการ์ตูน มีพระเอก มีผู้ร้าย ชีวิตจริง มันก็ไม่แตกต่างจากนี้ดอก ทฤษฎีสงครามการค้าที่อีทรัมปป์ล่ออยู่ ชงอยู่ เพื่อให้สีจิ้นผิงตบ มันคือการสมยอม และต้องการหั่นแหล่งรายได้ไอ้พวกฟรีเมสัน เจ้าพ่อตลาดหุ้น ธนาคาร คลังโลก ที่ดูแลโดย CITY OF LONDON เมื่อโลกเศรษฐกิจพังยับ จะนำไปสู่สงครามใหญ่ นั่นคือสิ่งที่มนุษย์ส่วนใหญ่คิด แต่สิ่งที่อีทรัมปป์ต้องการ แล้วดึงสีจิ้นผิง ปูติน เข้าร่วมแสดงละครฉากใหญ่นี้ เพื่อลดบทบาท อิทธิพลของ DEEP STATE ในสหรัฐ และทำลายท่อน้ำเลี้ยง CITY OF LONDON ไปในตัว ถามว่าสีจิ้นผิงรู้มั้ย? ตอนนี้ ยังตอบไม่ได้ เพราะเป็นแค่ข้อสังเกตุ ทฤษฎีแผนปลดระวางเหี้ย จะรู้ได้ก็ต้องเมื่อ มีการกระทำแล้วจริงเท่านั้น ดังนั้น หมีจึงมาสรปุและชี้เป้าให้ดูว่า ต้องจับตาดูอะไร อะไรคือจริง อะไรคือเท็จ ให้ไปดูทิศทางการเงินโลก ให้ไปดูกระแสเงินโลก ให้ไปดูฐานการค้าทั้งโลก และตัวเลขจริง ว่าใครแท้จริงกำหนดทิศทางตลาดโลกได้จริง หากสังเกตุ ช่วงนี้มันสอดคล้องกันหลายอย่าง อยู่ดีดี วงการแฟชั่นโลกที่อีฟรีเมสันกินหัวคิวอยู่ หุ้นร่วงระนาว ยอดตก กระแสไม่คลั่งแบรนด์เนม ที่อียิว และกลุ่ม ELITE พยายามจะปั่นมายาวนานนับศตวรรษ เริ่มสั่นคลอน ไม่ได้ตามเป้า อย่าลืมว่า โรงงานผลิตจากไหน วัตถุดิบจากใคร? แรงงานใครทำ? คำตอบทั้งหมดคือ "เอเซีย" ตะวันตกที่เกิดเพราะใช้พลังงานเอเซีย ใช้แรงงานเอเซีย แอฟริกา ลาติน ใช้วัตถุดิบจากเอเซียเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเซมิคอนดั๊กเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นปัจจัย 4 ทั้งหมด นี่คือที่มาว่าทำไม อีทรัมปป์จะลากตัวเหี้ยยานแม่ลงได้จริง มรึงต้องใช้พลังจากเอเซียเท่านั้น เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ที่อยู่สูงกว่า โดยสภาแสง เค้ากำหนดคู่ต่อกรอำนาจมืดไว้ล่วงหน้ามาก่อนนับ 1000 ปีแล้ว ไม่งั้น มรึงจะเจอคนอย่างปูติน สีจิ้นผิง ที่โคตรอัจฉริยะเหนือมนุษย์ได้อย่างไร? เอเซียเนี่ยแหละจะขึ้นสู่จุดสูงสุดของโลก แบบที่โลกไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น ที่กูชี้เป้าให้มรึงเก็บบ้าน ที่ดิน คอนโด เอาไว้ เพราะต้องการจะสื่อว่า นี่คือแผ่นดินทองคำของจริง ราคาจึงไม่ใช่คำตอบ คำตอบแท้จริงคือ ใครเป็นผู้ครอบครองพื้นที่ตรงนี้ต่างหาก เพราะมันจะปลูก จะสร้าง จะทำอะไรก็เจริญงอกงามง่ายดาย ดินแดนแห่งพลังงานบวกมาเต็มตรีน คลื่นความถี่ระดับสูง หมู่เทวดา ฟ้าดิน มาจุติลง ถึงได้ชื่อ ดินแดนสุวรรณภูมิไงล่ะ เก็บสินทรัพย์ให้ดีดี มรึงรวยแน่ กูท้า? และจะรวยกันทั้งแผ่นดิน เมื่อเปลี่ยนการปกครองกลับคืนสู่ที่ที่ควรจะเป็น "พ่อปกครองลูก" สิ่งเดียวที่เป็นตัวตนของเรา ไม่แปลก มอ 112 ทำงานอีกแล้ว กองทัพสั่งฟ้องตรง สัญญานชัดยิ่งกว่า "ปาท่องโก๋คู่" หน้าที่กองทัพคืออะไร ใครหมิ่น บ่อนทำลาย คิดร้ายต่อราชวงศ์จักรี ใครมันจะเก็บไว้ทำพ่อง? พ่อมรึง หากไม่รักษาดูแลให้ดี มรึงยังจะเรียกตัวเองเป็นลูกมั้ย? เชื่อกูเหอะว่า หลังยุบสภา จะมีสส. สว. พาเหรดกันเดินเข้าคุกกันอีกเพี๊ยบ นักวิชาการทั้งหลาย ที่รับงานเหี้ยเค้ามา จะไม่มีใครรอด ทั้งหมด ไม่ตายในคุก ก็เผ่นออกนอกสิ้น เพราะเวลาแห่งการชำระล้างแผ่นดิน ขับไล่เสนียดจัญไรมาถึงแล้ว อะไรที่โพสกันในโซเชี่ยล มันถูกส่งต่อกันมา เพื่อบ่งบอกอะไรบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น ทุกอย่างมีตัวเบื้องหลังกำหนดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายแสง หรือฝ่ายมืด โลกเดินหน้าเต็มกำลังแล้ว อย่าได้เสียดาย หรือหันไปมองข้างหลัง ยังยึดติดกับอดีต ภาพมายาที่มรึงลิ้มรสชาดแล้วติดใจ มันคือยาพิษ สิ่งดีดีกำลังจะเกิด ไม่ว่าจะถูกใจมรึงหรือไม่ แต่นั่นคือทางรอดของโลก ไม่มีใครได้ดั่งใจทุกอย่าง ได้มาอย่าง ก็ต้องยอมเสียอีกอย่าง แต่จงเลือกสิ่งที่ดีที่สุด สิ่งที่ต้องมี สิ่งที่ขาดไม่ได้ นั่นคือทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด โลกสู้กับอะไร? ความอยู่รอดของโลกขึ้นอยู่กับอะไร? คำตอบเดียว "ศีล สมาธิ ปัญญา" ไม่เกี่ยวศาสนา แต่เป็น FACT ข้อเท็จจริง ที่มรึงจะได้เจอผู้สร้างมรึงนั่นเอง ปล.อีทรัมปป์ได้เลือกแล้ว หนทางจากนี้ จะมีแต่แรง แรงขึ้น แรงที่สุด ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด DEEP STATE เป็นแค่ชื่อเรียก แต่องค์กรลับใต้ดินทั่วโลก ที่ทำงานประสานกัน ต่างรู้ดีว่า "อีกฝ่าย(สภาแสงสว่าง)" กำลังจะมาทำการชำระล้างโลก การต่อสู้ทุก 100 ปี เกิดขึ้นเป็นปฎิทินจักรวาลเสมอ เพราะเราอยู่ในโลก THE MATRIX มีบทบาทอะไรก็เล่นกันไป หลุดพ้นเมื่อไหร่ ดวงตาที่ 3 เปิดเมื่อไหร่ มรึงจะเจอผู้มีพระคุณที่ผ่านมาทั้งหมดในภพภูมิที่สูงกว่าที่มรึงจะเข้าใจได้ เพราะสมองคนเราถูกปิดกั้นอยู่ มนุษย์เป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้าง ดังนั้น เป็นดาบ 2 คม ใช้ถูกทางก็แจ่มจรัส ใช้ผิดทางก็นรกอเวจี เหมือนพระเจ้าได้ให้การตัดสินใจทั้งหมดไว้ที่มรึง มรึงเลือกเอง ใครเลือกอะไรก็ได้อย่างงั้น กูเลือกไว้นานแล้ว เดินหน้าลุย มรึงก็เลือกแล้ว ถึงได้มาเจอกันในภพชาตินี้ ได้มากู้ชาติ บ้านเมืองพร้อมกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน นั่นคือ "คน 2 แผ่นดิน" นั่นเอง ปล.2 ในวัน 11 กันยายน 2568 ครบรอบ 9 ปีเต็ม กลุ่มโรนิน 500 กูเคยบอกแล้วว่า ปีนี้ต้องพิเศษสุดติ่งกระดิ่งหมี ของแทนใจ ที่ระลึก บอกได้ว่า "ชัดเจนทุกอณูแห่งความรัก" แน่นอน ต้องมีสัญลักษณ์ เลข 9 คนในรัชการที่ 9 พ่วงต่อรัชกาลที่ 10 ปีที่ 9 ของบ้านโรนิน แจ้งไว้ก่อน สมาชิกท่านใด ที่อยู่ต่างประเทศ ติดต่อญาติ คนรู้จัก เพื่องฝูงไว้ล่วงหน้าได้เลย การส่งพัศดุจากมือแอดมินนิดหน่อย จะส่งได้เฉพาะภายในประเทศเท่านั้น ท่านต้องให้ผู้รับที่อยู่ประเทศไทยส่งต่อให้ท่านอีกทีนึง ที่พูดล่วงหน้า เพราะบอกเลยว่า มันชัดเจนที่สุด สิ่งที่ทำมาตลอด 9 ปีเต็ม อยู่ในสิ่งที่จะมอบให้นี้ นัยยะซ่อนนัยยะ 3 ชั้น กับอีกเกลียวครึ่งรอบ มรึงจะเยอะไปไหน? หมีได้เลือกแล้ว สิ่งนี้อาจจะหายากหน่อย หากผลิตในจำนวนมาก แต่ไม่เกินความสามารถแอดมินนิดหน่อย และทีมงาน รวมทั้งสมาชิกบางท่าน ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน ทำเท่าที่งบมี ทำด้วยใจ ไม่สนมูลค่า ดังนั้น ทุกอย่างที่ได้ส่งมอบไป คืองานที่เน้นคุณภาพ ปราณีต และใส่ใจ มันคือของขวัญแทนใจจากบ้านนี้ สู่ลูกบ้านที่มีจิตใจเดียวกันมาโดยตลอด 9 ปี มันต้องดัง มันต้องปัง ให้สมกับที่เป็นลูกพ่ออยู่หัวในรัชกาลที่ 9 คนดีศรีอโยธยา ไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง สู้ไปด้วยกัน ตายไปด้วยกัน จะเป็นผีก็จะอยู่เฝ้าแผ่นดินพ่อกู นี่คือ "จิต" ที่มันผูกร่วมกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน ไม่รู้กี่ภพ กี่สมัย พลังจึงก่อเกิดขึ้นมาให้เห็นเด่นชัดเช่นนี้ ด้วยรักและปลาทู หมี CNN(หมีตะนอย จะโพสเฉพาะเรื่อง เพื่อให้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกันว่า มันกำลังจะเกิดเหี้ยอะไรขึ้นนับจากนี้ เกมส์ไม่แรง โลกไม่เปลี่ยน เหี้ยมันแพ้ยับ ถึงได้สู้ตายถวายหัวเช่นนี้ อีทรัมปป์ไปไม่รอด หากไม่ได้ขั้วใหม่เข้ามาช่วยล้างบาง น่าจะเรียก "ทีมเฉพาะกิจ" เสร็จศึกใหญ่ แล้วค่อยมากัดกันต่อ แต่ตอนนี้ กำจัดศัตรูของมวลมนุษยชาติก่อน เชื่อว่ากูโพสปุ๊บ เดี๋ยวมีตามลบอีกเหมือนเคย เพราะเรื่องแบบนี้ จะมีใครมาเล่าให้พวกมรึงฟังกันล่ะ หากไม่บร๊า ก็เสียสติ กูถึงต้องเรียบเรียงให้เข้าใจ ว่าโลกมันคือละครอย่างไร? แต่ละคนมีบทบาทของตัวเอง เล่นให้สุด แล้วจบที่เป้าหมายเดียว) 09 เมษายน 68 10.22 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี Peter Diamandis นักวิทยาศาสตร์อนาคตผู้ก่อตั้ง XPRIZE Foundation ได้เผยถึงความเป็นไปได้ที่เทคโนโลยีจะช่วยชะลอ หยุด หรือแม้กระทั่งย้อนเวลากระบวนการชรา โดยอาศัยความก้าวหน้าที่ก่อเกิดจากการรวมตัวของ AI, เซ็นเซอร์, การคำนวณ, และชีววิทยาเซลล์เดียว ซึ่งเขาเรียกช่วงเวลานี้ว่า "การปฏิวัติสุขภาพช่วงชีวิต" (Healthspan Revolution)

    ✅ AI และการวิเคราะห์ข้อมูล
    - AI กำลังขับเคลื่อนความสามารถในการจัดการข้อมูลชีวภาพขนาดมหาศาล เพื่อเปิดเผยความลับของกระบวนการชราผ่านการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้ง

    ✅ การปรับเปลี่ยน Epigenome
    - Diamandis เชื่อมั่นว่า การรีโปรแกรม Epigenome ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมการทำงานของยีนในเซลล์ จะสามารถทำให้เซลล์กลับคืนสู่สภาพที่อ่อนเยาว์

    ✅ "ความเร็วหลบหนีของอายุยืน" (Longevity Escape Velocity)
    - เขาคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปี เราอาจเข้าสู่จุดที่เทคโนโลยีสามารถยืดอายุคนได้มากกว่าหนึ่งปีสำหรับทุกปีที่เราอยู่ ซึ่งหมายความว่ากระบวนการชราจะถูกชะลอจนถึงขั้นหยุดนิ่ง

    ✅ มุมมองที่ต้องวิเคราะห์เพิ่ม:
    - แม้ว่าการทำนายของ Diamandis จะน่าตื่นเต้น แต่มีนักวิจารณ์ที่เตือนให้เราระมัดระวัง เนื่องจากคำพูดของนักวิทยาศาสตร์อนาคตบางคนมักมีแนวโน้มที่จะ มองโลกในแง่ดีเกินไป และเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ทางธุรกิจ

    https://www.techspot.com/news/107440-futurist-key-living-longer-making-2030s-ndash-ai.html
    ในวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี Peter Diamandis นักวิทยาศาสตร์อนาคตผู้ก่อตั้ง XPRIZE Foundation ได้เผยถึงความเป็นไปได้ที่เทคโนโลยีจะช่วยชะลอ หยุด หรือแม้กระทั่งย้อนเวลากระบวนการชรา โดยอาศัยความก้าวหน้าที่ก่อเกิดจากการรวมตัวของ AI, เซ็นเซอร์, การคำนวณ, และชีววิทยาเซลล์เดียว ซึ่งเขาเรียกช่วงเวลานี้ว่า "การปฏิวัติสุขภาพช่วงชีวิต" (Healthspan Revolution) ✅ AI และการวิเคราะห์ข้อมูล - AI กำลังขับเคลื่อนความสามารถในการจัดการข้อมูลชีวภาพขนาดมหาศาล เพื่อเปิดเผยความลับของกระบวนการชราผ่านการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้ง ✅ การปรับเปลี่ยน Epigenome - Diamandis เชื่อมั่นว่า การรีโปรแกรม Epigenome ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมการทำงานของยีนในเซลล์ จะสามารถทำให้เซลล์กลับคืนสู่สภาพที่อ่อนเยาว์ ✅ "ความเร็วหลบหนีของอายุยืน" (Longevity Escape Velocity) - เขาคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปี เราอาจเข้าสู่จุดที่เทคโนโลยีสามารถยืดอายุคนได้มากกว่าหนึ่งปีสำหรับทุกปีที่เราอยู่ ซึ่งหมายความว่ากระบวนการชราจะถูกชะลอจนถึงขั้นหยุดนิ่ง ✅ มุมมองที่ต้องวิเคราะห์เพิ่ม: - แม้ว่าการทำนายของ Diamandis จะน่าตื่นเต้น แต่มีนักวิจารณ์ที่เตือนให้เราระมัดระวัง เนื่องจากคำพูดของนักวิทยาศาสตร์อนาคตบางคนมักมีแนวโน้มที่จะ มองโลกในแง่ดีเกินไป และเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ทางธุรกิจ https://www.techspot.com/news/107440-futurist-key-living-longer-making-2030s-ndash-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Futurist says the key to living longer is making it to the 2030s – AI will take it from there
    On a recent Apple Podcast, Diamandis expanded upon a tweet in which he advised people to stay alive until the next decade and not die from "something...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..อีกด้านอีกมุมคู่ขนานสงครามข่าวต่างๆที่โพสต์ๆที่แชร์ๆกัน,จริงเท็จ ใคร่ครวญ&ตรองกันเอง&ร่วมกัน
    ..🇺🇸🎪 เมืองอัจฉริยะ ลอสแองเจลิส 2028นี่คือคำอธิบายเหตุไฟไหม้https://ita.lacity.gov/smartla2028https://t.me/australiaforfreedom
    ..อีกด้านอีกมุมคู่ขนานสงครามข่าวต่างๆที่โพสต์ๆที่แชร์ๆกัน,จริงเท็จ ใคร่ครวญ&ตรองกันเอง&ร่วมกัน ..🇺🇸🎪 เมืองอัจฉริยะ ลอสแองเจลิส 2028นี่คือคำอธิบายเหตุไฟไหม้https://ita.lacity.gov/smartla2028https://t.me/australiaforfreedom
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กำลังพัฒนายุทธศาสตร์ใหม่ด้านความปลอดภัยภายใน "ProtectEU" โดยมีเป้าหมาย ป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ อาชญากรรม และการก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม หนึ่งในข้อเสนอที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดคือ แนวคิดให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส ซึ่งอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว

    ✅ ProtectEU ตั้งเป้าปรับปรุงระบบข่าวกรองและขยายอำนาจ Europol
    - มีการเสนอให้ สร้างแพลตฟอร์ม Single Intelligence Analysis Capacity เพื่อช่วยให้ประเทศสมาชิกแบ่งปันข้อมูลกันได้ง่ายขึ้น
    - Europol อาจถูกพัฒนาเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทคล้าย FBI ของยุโรป

    ✅ ข้อถกเถียงเกี่ยวกับช่องทางเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส
    - คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอให้มี "การเข้าถึงข้อมูลอย่างถูกกฎหมาย" สำหรับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
    - นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า การสร้างช่องทางพิเศษ (backdoor) ให้รัฐบาล อาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์ใช้ประโยชน์ได้

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าแนวคิดนี้มีข้อบกพร่องทางเทคนิค
    - ช่องทางเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส ไม่สามารถทำให้ปลอดภัยได้ 100%
    - มีกรณีในอดีตที่ช่องโหว่ดังกล่าวถูกกลุ่มแฮกเกอร์และอาชญากรไซเบอร์ใช้โจมตี

    ✅ ProtectEU ยังรวมข้อเสนออื่น เช่น การควบคุมอาชญากรรมออนไลน์และความร่วมมือกับประเทศนอก EU
    - มีแผน สร้างระบบป้องกันภัยไซเบอร์ให้แข็งแกร่งขึ้น และเพิ่มกฎระเบียบที่เข้มงวดกับเครือข่ายอาชญากรรม
    - ความร่วมมือจะขยายไปยัง ละตินอเมริกาและเมดิเตอร์เรเนียน แต่ไม่มีการกล่าวถึงสหรัฐฯ

    https://www.techspot.com/news/107408-europe-proposes-backdoors-encrypted-platforms-under-new-security.html
    คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กำลังพัฒนายุทธศาสตร์ใหม่ด้านความปลอดภัยภายใน "ProtectEU" โดยมีเป้าหมาย ป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ อาชญากรรม และการก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม หนึ่งในข้อเสนอที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดคือ แนวคิดให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส ซึ่งอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว ✅ ProtectEU ตั้งเป้าปรับปรุงระบบข่าวกรองและขยายอำนาจ Europol - มีการเสนอให้ สร้างแพลตฟอร์ม Single Intelligence Analysis Capacity เพื่อช่วยให้ประเทศสมาชิกแบ่งปันข้อมูลกันได้ง่ายขึ้น - Europol อาจถูกพัฒนาเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทคล้าย FBI ของยุโรป ✅ ข้อถกเถียงเกี่ยวกับช่องทางเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส - คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอให้มี "การเข้าถึงข้อมูลอย่างถูกกฎหมาย" สำหรับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย - นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า การสร้างช่องทางพิเศษ (backdoor) ให้รัฐบาล อาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์ใช้ประโยชน์ได้ ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าแนวคิดนี้มีข้อบกพร่องทางเทคนิค - ช่องทางเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส ไม่สามารถทำให้ปลอดภัยได้ 100% - มีกรณีในอดีตที่ช่องโหว่ดังกล่าวถูกกลุ่มแฮกเกอร์และอาชญากรไซเบอร์ใช้โจมตี ✅ ProtectEU ยังรวมข้อเสนออื่น เช่น การควบคุมอาชญากรรมออนไลน์และความร่วมมือกับประเทศนอก EU - มีแผน สร้างระบบป้องกันภัยไซเบอร์ให้แข็งแกร่งขึ้น และเพิ่มกฎระเบียบที่เข้มงวดกับเครือข่ายอาชญากรรม - ความร่วมมือจะขยายไปยัง ละตินอเมริกาและเมดิเตอร์เรเนียน แต่ไม่มีการกล่าวถึงสหรัฐฯ https://www.techspot.com/news/107408-europe-proposes-backdoors-encrypted-platforms-under-new-security.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Europe proposes backdoors in encrypted platforms under new security strategy
    The recently announced ProtectEU plan aims to safeguard Europe from internal threats, European Commission President Ursula von der Leyen stated, emphasizing that security is a fundamental pillar...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เปิดตัวฟีเจอร์จัดการแบตเตอรี่ใหม่ใน Pixel 9a ที่ลดความจุสูงสุดเมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ เพื่อ ช่วยให้แบตเสื่อมช้าลงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น อย่างไรก็ตาม อาจทำให้ระยะเวลาการใช้งานแบตลดลงเล็กน้อย และไม่มีตัวเลือกให้ปิดฟีเจอร์นี้ Android 16 จะเพิ่มเมนู Battery Health เพื่อให้ผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลแบตเตอรี่ได้ละเอียดขึ้น

    ✅ Battery Health Assistance—ลดความจุสูงสุดของแบตหลังครบ 200 รอบการชาร์จ
    - ฟีเจอร์นี้จะ ค่อย ๆ ลดระดับแบตเตอรี่สูงสุดเมื่อใช้งานถึง 1,000 รอบการชาร์จ
    - เป้าหมายคือ ช่วยลดอัตราการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติในแบตลิเธียมไอออน

    ✅ Google อ้างว่าฟีเจอร์นี้ช่วยให้แบตมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
    - ปกติแล้วแบตเตอรี่เสื่อมลงตามระยะเวลา แต่ระบบใหม่นี้ จัดการกระบวนการลดความจุอย่างค่อยเป็นค่อยไป
    - ช่วยให้ Pixel 9a ยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีแม้ใช้งานไปหลายปี

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้—อาจทำให้ระยะเวลาการใช้งานแบตลดลงเล็กน้อย
    - Google เตือนว่า ผู้ใช้จะเห็นการลดลงของเวลาการใช้งานแบตเตอรี่เมื่อเวลาผ่านไป
    - การปรับลดความจุสูงสุดยังมีผลต่อ ความเร็วในการชาร์จ

    ✅ ไม่มีตัวเลือกให้ปิดฟีเจอร์—ระบบทำงานโดยอัตโนมัติ
    - ฟีเจอร์นี้ บังคับใช้ใน Pixel 9a และจะมีในรุ่นถัดไป
    - ไม่มีตัวเลือกให้ผู้ใช้ ปิดหรือแก้ไขค่าการลดความจุ

    ✅ Android 16 จะเพิ่มเมนู Battery Health ให้ดูข้อมูลแบตเตอรี่ได้ละเอียดขึ้น
    - Google เตรียมเพิ่ม เมนูใหม่ที่แสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และสถิติรอบการชาร์จ

    https://www.techspot.com/news/107405-google-new-battery-tech-lower-capacity-over-time.html
    Google เปิดตัวฟีเจอร์จัดการแบตเตอรี่ใหม่ใน Pixel 9a ที่ลดความจุสูงสุดเมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ เพื่อ ช่วยให้แบตเสื่อมช้าลงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น อย่างไรก็ตาม อาจทำให้ระยะเวลาการใช้งานแบตลดลงเล็กน้อย และไม่มีตัวเลือกให้ปิดฟีเจอร์นี้ Android 16 จะเพิ่มเมนู Battery Health เพื่อให้ผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลแบตเตอรี่ได้ละเอียดขึ้น ✅ Battery Health Assistance—ลดความจุสูงสุดของแบตหลังครบ 200 รอบการชาร์จ - ฟีเจอร์นี้จะ ค่อย ๆ ลดระดับแบตเตอรี่สูงสุดเมื่อใช้งานถึง 1,000 รอบการชาร์จ - เป้าหมายคือ ช่วยลดอัตราการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติในแบตลิเธียมไอออน ✅ Google อ้างว่าฟีเจอร์นี้ช่วยให้แบตมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น - ปกติแล้วแบตเตอรี่เสื่อมลงตามระยะเวลา แต่ระบบใหม่นี้ จัดการกระบวนการลดความจุอย่างค่อยเป็นค่อยไป - ช่วยให้ Pixel 9a ยังคงมีประสิทธิภาพที่ดีแม้ใช้งานไปหลายปี ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้—อาจทำให้ระยะเวลาการใช้งานแบตลดลงเล็กน้อย - Google เตือนว่า ผู้ใช้จะเห็นการลดลงของเวลาการใช้งานแบตเตอรี่เมื่อเวลาผ่านไป - การปรับลดความจุสูงสุดยังมีผลต่อ ความเร็วในการชาร์จ ✅ ไม่มีตัวเลือกให้ปิดฟีเจอร์—ระบบทำงานโดยอัตโนมัติ - ฟีเจอร์นี้ บังคับใช้ใน Pixel 9a และจะมีในรุ่นถัดไป - ไม่มีตัวเลือกให้ผู้ใช้ ปิดหรือแก้ไขค่าการลดความจุ ✅ Android 16 จะเพิ่มเมนู Battery Health ให้ดูข้อมูลแบตเตอรี่ได้ละเอียดขึ้น - Google เตรียมเพิ่ม เมนูใหม่ที่แสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และสถิติรอบการชาร์จ https://www.techspot.com/news/107405-google-new-battery-tech-lower-capacity-over-time.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google's new battery tech will lower capacity over time, whether you like it or not
    The feature, called "Battery Health Assistance," is essentially a software mechanism that automatically lowers the maximum charge level on your Pixel 9a after every 200 charge cycles....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 36% (ล่าสุดปรับอีกครั้งเป็น 37%) หนึ่งในทางออกคือ ไทยต้องเล่นบทบาทนำในอาเซียน เพื่อผ่านวิกฤตครั้งนี้ให้ได้.ประเด็นเร่งด่วนในระยะสั้นที่ไทยต้องเร่งผลักดันผ่านคณะทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูง และที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อให้ทันก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้คือ.รับมือกับมาตรการทางทางการค้าของสหรัฐอเมริการ่วมกัน เพราะสมาชิกอาเซียนโดนกันถ้วนหน้า กัมพูชา 49% สปป ลาว 48% เวียดนาม 46% เมียนมา 44% ไทย 36-37% อินโดนีเซีย 32% มาเลเซียและบรูไน 24% ฟิลิปปินส์ 17% หรือแม้แต่สิงคโปร์ก็โดนภาษี 10% เราต้องคำนวณร่วมกันว่า อัตราที่ทรัมป์กล่าวอ้าง นั่นคือ x2 ของอัตราภาษีเหล่านี้ คืออัตราจริงหรือไม่ ที่มาเป็นอย่างไร ถ้าไม่จริงต้องเร่งปฏิเสธ (ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่าจะใช่อัตราที่ถูกต้อง รวมทั้งมีผู้คำนวณแล้วว่าตัวเลขชุดนี้ แท้จริงแล้วคือ สัดส่วนมูลค่าการขาดดุลการค้าต่อมูลค่าการนำเข้าที่สหรัฐนำเข้าสินค้าจากแต่ละประเทศ).จากนั้น ต้องคิดต่อว่าหากให้แต่ละประเทศสมาชิกเจรจากับสหรัฐ (ซึ่งจะมีเวลาเตรียมตัวสั้นมาก) เพื่อลดผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้า อำนาจการต่อรองของแต่ละสมาชิกเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาคือ เรื่องจิ๊บจ๊อยขี้ประติ๋ว แต่หากประชาคมอาเซียนรวมตัวกัน นี้คือตลาดของประชาชนเรือน 700 ล้านประชากร ที่มีรายได้สูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลก และเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญ ดังนั้น อาเซียนต้องร่วมมือกัน อาเซียนต้องเดินหน้าต่อรองด้วยกัน .อาเซียนต้องไม่ดำเนินมาตรการที่ขัดแข้งขัดขาซึ่งกันและกัน มาตรการจำพวกตั้งภาษีตอบโต้กัน หรือเลียนแบบมาตรการทางการค้าเพื่อตอบโต้ซึ่งกันและกัน (Tariff Retaliation and/or Trade Emulation) รวมทั้งนโยบายประเภทเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ขอทานจากประเทศเพื่อบ้าน (Beggar-thy-neighbor) อาทิ ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงดูดเงินทุน แข่งกันให้สิทธิพิเศษทางการค้าการลงทุนจนวายวอดทั้งภูมิภาค ฯลฯ เหล่านี้ต้องไม่เกิดขึ้น .จากนั้นทั้งอาเซียนต้องร่วมกัน.1. แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า อาเซียนคืออาเซียน อาเซียนมีจุดแข็งของตนเอง อาเซียนพร้อมสนับสนุนการค้า การลงทุนเสรี อาเซียนสนับสนุนกฎกติการแบบพหุภาคีนิยม และอาเซียนไม่ได้เป็นเขตอิทธิพลของมหาอำนาจใดมหาอำนาจหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น จีน สหรัฐ หรือ มหาอำนาจใดๆ.2. เร่งสำรวจผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากมาตรการทางการค้าที่สหรัฐประกาศ ณ วันที่ 2 เมษายน ว่าแต่ละประเทศได้รับผลกระทบอย่างไร และหากเราร่วมมือกัน เราต้องการตจะกำหนดทิศทางการเจรจาอย่างไร แน่นอนว่า ทุกประเทศ ทุกคน คงไม่ได้สิ่งที่ต้องการทั้งหมด แต่ต้องมีการจัดลำดับความสำคัญ บางเรื่อง บางประเทศ คงต้องยอมถอย เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อบางภาคการผลิต บางประเทศ และจากนั้นค่อยไปหารือกันว่าอาเซียนจะช่วยการเยียวยาผลกระทบซึ่งกันและกันได้อย่างไร เร่งปรึกษาหารือกับวิสาหกิจสหรัฐที่ทำการค้า ทำการลงทุนอยู่แล้วในอาเซียน ว่าพวกเขามีข้อเสนอแนะใดบ้าง.3. เร่งสำรวจว่าแต่ละประเทศมีช่องทาง มีสายสัมพันธ์ มีแนวทางการติดต่อประสานงานกับประธานาธิบดีทรัมป์ และทีมงานที่ภักดีของเขา รวมทั้งผู้สนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของเขาในช่องทางใดบ้าง มีอะไรที่จะเป็นจุดสำคัญที่จะทำให้คนเหล่านี้ต้องการเป็นสะพานเพื่อเปิดการเจรจาระหว่างอาเซียนกับสหรัฐ.4. วางยุทธศาสตร์การเจรจาร่วมกัน โดยการจัดทำ “ยุทธศาสตร์ราชสีห์กับหนู” นำเสนอนโยบายที่ทำให้ทรัมป์ต้องให้ความสนใจอาเซียน (ทรัมป์เคยมาเยือนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ฟิลิปปินส์ในปี 2017 แต่ไม่เคยเข้าประชุมกับผู้นำอาเซียน) อาเซียนต้องเป็นหนูที่แสดงความเกรงใจนบนอบในระยะปัจจุบัน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแสดงให้เห็นโอกาสที่สหรัฐจะได้จากการร่วมมือกับในอนาคต มีอะไรที่เราจะเสนอกับอาเซียนได้บ้าง อาทิ ความต้องการในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของอาเซียนร่วมกันในอีก 5 ปีต่อจากนี้ ความต้องการในการซื้อสินค้าและบริการที่เป็น Billing ขนาดใหญ่ อาทิ การจัดหาเครื่องบินพาณิชย์ของสายการบินต่างๆ ในประเทศอาเซียนที่มีตลาดการบินขนาดใหญ่และเป็น Hub ทางการบินที่สำคัญ, การจัดซื้อ Software และ Hardware สำหรับระบบบริหาร ASEAN Smart City Network รวมทั้งความต้องการในการจัดซื้อบริการเหล่านี้สำหรับการบริหารกิจการทั้งของรัฐบาลและของภาคเอกชนในอาเซียน, ความต้องการซื้ออุปกรณ์และองค์ความรู้ในการติดตั้งเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อการสร้างโรงไฟฟ้าและศักยภาพของการผลิตพลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมดิจิตอลที่ผู้ประกอบการสหรัฐต้องการ, ทรัพยากรธรรมชาติของอาเซียนที่สหรัฐดิ้นรนแสวงหาอยู่ ณ ขณะนี้, ไปจนถึงการเปิดโอกาสให้กลุ่มทุนคาสิโนแห่ง Las Vegas ได้มีโอกาสในการทำธุรกิจในอาเซียนในประเทศที่กำลังเดินหน้านโยบายการเปิดบ่อน (ส่วนตัวผู้เขียนไม่เห็นด้วยกับการเปิดบ่อนคาสิโนที่มอมเมาประชาชน แต่หากรัฐบาลจะดันทุรังเปิดให้ได้ อย่างน้อยก็ต้องเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ เพราะต้องอย่าลืมว่าผู้สนับสนุนทรัมป์ก็เป็นกลุ่มทุนคาสิโนยักษ์ใหญ่) ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นอำนาจต่อรองที่หนูตัวนี้จะรอดจากเงื้อมมือราชสีห์ด้วยกันทั้งสิ้น.5. และเนื่องจาก ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม ได้รับสิทธิ์ในการเป็น Partner Country ของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ BRICS ในขณะที่อินโดนีเซียได้รับสิทธิ์เป็น Full Member ของ BRICS เรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่หนูน้อยอาเซียนต้องดำเนินการด้วยนั่นก็คือ เร่งเจรจากับผู้นำบราซิลที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS ในปีนี้ ว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะรับอาเซียนทั้ง 10 ประเทศเข้าเป็นสมาชิก เพราะหนูตัวนี้บางครั้งก็ต้องพึ่งพาราชสีห์อีกตัวมากดดันราชสีห์อันทพาลตัวเก่า การแสวงหาโอกาส การแสวงหาตลาดใหม่ๆ ที่จะเป็นทางเลือกเพื่อมาทดแทนตลาดการค้าที่กำลังจะเสียไป เป็นทางเลือกที่เรามีสิทธิ์ในฐานะรัฐอธิปไตย.ขอเรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายของไทยต้องมีวิสัยทัศน์ มีความกล้าหาญในการเล่นบทบาทนำของประเทศไทยในประชาคมอาเซียน เราต้องมีข้อเสนอกับประชาคมอาเซียนเพื่อรับมือมาตรการกีดกันทางการค้าจะสหรัฐร่วมกัน.รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนามคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.ปล. รบกวนช่วยกัน Share นะครับ เราต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าง ไม่งั้นไทยจะหายไปจากจอเรดาร์
    สหรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 36% (ล่าสุดปรับอีกครั้งเป็น 37%) หนึ่งในทางออกคือ ไทยต้องเล่นบทบาทนำในอาเซียน เพื่อผ่านวิกฤตครั้งนี้ให้ได้.ประเด็นเร่งด่วนในระยะสั้นที่ไทยต้องเร่งผลักดันผ่านคณะทำงานของเจ้าหน้าที่ระดับสูง และที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อให้ทันก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้คือ.รับมือกับมาตรการทางทางการค้าของสหรัฐอเมริการ่วมกัน เพราะสมาชิกอาเซียนโดนกันถ้วนหน้า กัมพูชา 49% สปป ลาว 48% เวียดนาม 46% เมียนมา 44% ไทย 36-37% อินโดนีเซีย 32% มาเลเซียและบรูไน 24% ฟิลิปปินส์ 17% หรือแม้แต่สิงคโปร์ก็โดนภาษี 10% เราต้องคำนวณร่วมกันว่า อัตราที่ทรัมป์กล่าวอ้าง นั่นคือ x2 ของอัตราภาษีเหล่านี้ คืออัตราจริงหรือไม่ ที่มาเป็นอย่างไร ถ้าไม่จริงต้องเร่งปฏิเสธ (ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่าจะใช่อัตราที่ถูกต้อง รวมทั้งมีผู้คำนวณแล้วว่าตัวเลขชุดนี้ แท้จริงแล้วคือ สัดส่วนมูลค่าการขาดดุลการค้าต่อมูลค่าการนำเข้าที่สหรัฐนำเข้าสินค้าจากแต่ละประเทศ).จากนั้น ต้องคิดต่อว่าหากให้แต่ละประเทศสมาชิกเจรจากับสหรัฐ (ซึ่งจะมีเวลาเตรียมตัวสั้นมาก) เพื่อลดผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้า อำนาจการต่อรองของแต่ละสมาชิกเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกาคือ เรื่องจิ๊บจ๊อยขี้ประติ๋ว แต่หากประชาคมอาเซียนรวมตัวกัน นี้คือตลาดของประชาชนเรือน 700 ล้านประชากร ที่มีรายได้สูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลก และเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญ ดังนั้น อาเซียนต้องร่วมมือกัน อาเซียนต้องเดินหน้าต่อรองด้วยกัน .อาเซียนต้องไม่ดำเนินมาตรการที่ขัดแข้งขัดขาซึ่งกันและกัน มาตรการจำพวกตั้งภาษีตอบโต้กัน หรือเลียนแบบมาตรการทางการค้าเพื่อตอบโต้ซึ่งกันและกัน (Tariff Retaliation and/or Trade Emulation) รวมทั้งนโยบายประเภทเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ขอทานจากประเทศเพื่อบ้าน (Beggar-thy-neighbor) อาทิ ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงดูดเงินทุน แข่งกันให้สิทธิพิเศษทางการค้าการลงทุนจนวายวอดทั้งภูมิภาค ฯลฯ เหล่านี้ต้องไม่เกิดขึ้น .จากนั้นทั้งอาเซียนต้องร่วมกัน.1. แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า อาเซียนคืออาเซียน อาเซียนมีจุดแข็งของตนเอง อาเซียนพร้อมสนับสนุนการค้า การลงทุนเสรี อาเซียนสนับสนุนกฎกติการแบบพหุภาคีนิยม และอาเซียนไม่ได้เป็นเขตอิทธิพลของมหาอำนาจใดมหาอำนาจหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น จีน สหรัฐ หรือ มหาอำนาจใดๆ.2. เร่งสำรวจผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากมาตรการทางการค้าที่สหรัฐประกาศ ณ วันที่ 2 เมษายน ว่าแต่ละประเทศได้รับผลกระทบอย่างไร และหากเราร่วมมือกัน เราต้องการตจะกำหนดทิศทางการเจรจาอย่างไร แน่นอนว่า ทุกประเทศ ทุกคน คงไม่ได้สิ่งที่ต้องการทั้งหมด แต่ต้องมีการจัดลำดับความสำคัญ บางเรื่อง บางประเทศ คงต้องยอมถอย เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อบางภาคการผลิต บางประเทศ และจากนั้นค่อยไปหารือกันว่าอาเซียนจะช่วยการเยียวยาผลกระทบซึ่งกันและกันได้อย่างไร เร่งปรึกษาหารือกับวิสาหกิจสหรัฐที่ทำการค้า ทำการลงทุนอยู่แล้วในอาเซียน ว่าพวกเขามีข้อเสนอแนะใดบ้าง.3. เร่งสำรวจว่าแต่ละประเทศมีช่องทาง มีสายสัมพันธ์ มีแนวทางการติดต่อประสานงานกับประธานาธิบดีทรัมป์ และทีมงานที่ภักดีของเขา รวมทั้งผู้สนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของเขาในช่องทางใดบ้าง มีอะไรที่จะเป็นจุดสำคัญที่จะทำให้คนเหล่านี้ต้องการเป็นสะพานเพื่อเปิดการเจรจาระหว่างอาเซียนกับสหรัฐ.4. วางยุทธศาสตร์การเจรจาร่วมกัน โดยการจัดทำ “ยุทธศาสตร์ราชสีห์กับหนู” นำเสนอนโยบายที่ทำให้ทรัมป์ต้องให้ความสนใจอาเซียน (ทรัมป์เคยมาเยือนการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ฟิลิปปินส์ในปี 2017 แต่ไม่เคยเข้าประชุมกับผู้นำอาเซียน) อาเซียนต้องเป็นหนูที่แสดงความเกรงใจนบนอบในระยะปัจจุบัน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแสดงให้เห็นโอกาสที่สหรัฐจะได้จากการร่วมมือกับในอนาคต มีอะไรที่เราจะเสนอกับอาเซียนได้บ้าง อาทิ ความต้องการในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของอาเซียนร่วมกันในอีก 5 ปีต่อจากนี้ ความต้องการในการซื้อสินค้าและบริการที่เป็น Billing ขนาดใหญ่ อาทิ การจัดหาเครื่องบินพาณิชย์ของสายการบินต่างๆ ในประเทศอาเซียนที่มีตลาดการบินขนาดใหญ่และเป็น Hub ทางการบินที่สำคัญ, การจัดซื้อ Software และ Hardware สำหรับระบบบริหาร ASEAN Smart City Network รวมทั้งความต้องการในการจัดซื้อบริการเหล่านี้สำหรับการบริหารกิจการทั้งของรัฐบาลและของภาคเอกชนในอาเซียน, ความต้องการซื้ออุปกรณ์และองค์ความรู้ในการติดตั้งเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อการสร้างโรงไฟฟ้าและศักยภาพของการผลิตพลังงานสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมดิจิตอลที่ผู้ประกอบการสหรัฐต้องการ, ทรัพยากรธรรมชาติของอาเซียนที่สหรัฐดิ้นรนแสวงหาอยู่ ณ ขณะนี้, ไปจนถึงการเปิดโอกาสให้กลุ่มทุนคาสิโนแห่ง Las Vegas ได้มีโอกาสในการทำธุรกิจในอาเซียนในประเทศที่กำลังเดินหน้านโยบายการเปิดบ่อน (ส่วนตัวผู้เขียนไม่เห็นด้วยกับการเปิดบ่อนคาสิโนที่มอมเมาประชาชน แต่หากรัฐบาลจะดันทุรังเปิดให้ได้ อย่างน้อยก็ต้องเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ เพราะต้องอย่าลืมว่าผู้สนับสนุนทรัมป์ก็เป็นกลุ่มทุนคาสิโนยักษ์ใหญ่) ฯลฯ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นอำนาจต่อรองที่หนูตัวนี้จะรอดจากเงื้อมมือราชสีห์ด้วยกันทั้งสิ้น.5. และเนื่องจาก ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม ได้รับสิทธิ์ในการเป็น Partner Country ของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ BRICS ในขณะที่อินโดนีเซียได้รับสิทธิ์เป็น Full Member ของ BRICS เรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่หนูน้อยอาเซียนต้องดำเนินการด้วยนั่นก็คือ เร่งเจรจากับผู้นำบราซิลที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกลุ่ม BRICS ในปีนี้ ว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะรับอาเซียนทั้ง 10 ประเทศเข้าเป็นสมาชิก เพราะหนูตัวนี้บางครั้งก็ต้องพึ่งพาราชสีห์อีกตัวมากดดันราชสีห์อันทพาลตัวเก่า การแสวงหาโอกาส การแสวงหาตลาดใหม่ๆ ที่จะเป็นทางเลือกเพื่อมาทดแทนตลาดการค้าที่กำลังจะเสียไป เป็นทางเลือกที่เรามีสิทธิ์ในฐานะรัฐอธิปไตย.ขอเรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายของไทยต้องมีวิสัยทัศน์ มีความกล้าหาญในการเล่นบทบาทนำของประเทศไทยในประชาคมอาเซียน เราต้องมีข้อเสนอกับประชาคมอาเซียนเพื่อรับมือมาตรการกีดกันทางการค้าจะสหรัฐร่วมกัน.รองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนามคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.ปล. รบกวนช่วยกัน Share นะครับ เราต้องลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าง ไม่งั้นไทยจะหายไปจากจอเรดาร์
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 488 มุมมอง 0 รีวิว
  • NFL ได้ประกาศว่าจะนำระบบ Hawk-Eye Technology ของ Sony มาใช้แทนการวัดระยะ First Down ด้วยโซ่แบบดั้งเดิม เริ่มต้นใน ฤดูกาล 2025–26 โดยเทคโนโลยีนี้มี 6 กล้อง 8K เพื่อจับตำแหน่งบอลด้วยความละเอียดสูง ซึ่งช่วยลดเวลาการตัดสินจาก 70 วินาที เหลือเพียง 30 วินาที

    ✅ Hawk-Eye จะถูกนำไปใช้ในทุกสนามของ NFL รวมถึงเวทีระดับนานาชาติ
    - ระบบนี้จะทำงานร่วมกับ Art McNally GameDay Central Officiating Center ในนิวยอร์ก
    - ผู้ชมทั้งในสนามและทางโทรทัศน์จะเห็น ภาพจำลองแบบเสมือนจริงของระยะ First Down ในเวลาจริง

    ✅ ระบบใหม่ช่วยตัดสินได้เร็วขึ้น แต่ไม่ได้ขจัดข้อผิดพลาดทั้งหมด
    - แม้ Hawk-Eye จะช่วยวัดระยะได้แม่นยำขึ้น แต่การตัดสินที่เป็นข้อถกเถียงส่วนใหญ่เกิดจาก การกำหนดตำแหน่งบอลครั้งแรกโดยกรรมการ
    - เช่นในเกม AFC Championship ระหว่าง Buffalo Bills กับ Kansas City Chiefs กรรมการตัดสินให้ Josh Allen ไม่ถึงระยะ First Down ซึ่งกล้องไม่สามารถช่วยแก้ไขการตัดสินนี้ได้

    ✅ ทีมงานที่ใช้โซ่แบบดั้งเดิมยังคงอยู่เป็นระบบสำรอง
    - หาก Hawk-Eye มีปัญหาทางเทคนิค ทีมงานจะถูกเรียกมาวัดระยะด้วยวิธีดั้งเดิมทันที

    ✅ Hawk-Eye Technology ถูกใช้ในกีฬาอื่นมาแล้ว
    - ระบบนี้เป็น มาตรฐานในการตัดสินเส้นบอลของฟุตบอล, เทนนิส, คริกเก็ต และรักบี้
    - กว่า 23 จาก 25 ลีกกีฬาระดับโลกใช้เทคโนโลยีนี้

    https://www.techspot.com/news/107388-nfl-replace-chains-sony-8k-cameras-hawk-eye.html
    NFL ได้ประกาศว่าจะนำระบบ Hawk-Eye Technology ของ Sony มาใช้แทนการวัดระยะ First Down ด้วยโซ่แบบดั้งเดิม เริ่มต้นใน ฤดูกาล 2025–26 โดยเทคโนโลยีนี้มี 6 กล้อง 8K เพื่อจับตำแหน่งบอลด้วยความละเอียดสูง ซึ่งช่วยลดเวลาการตัดสินจาก 70 วินาที เหลือเพียง 30 วินาที ✅ Hawk-Eye จะถูกนำไปใช้ในทุกสนามของ NFL รวมถึงเวทีระดับนานาชาติ - ระบบนี้จะทำงานร่วมกับ Art McNally GameDay Central Officiating Center ในนิวยอร์ก - ผู้ชมทั้งในสนามและทางโทรทัศน์จะเห็น ภาพจำลองแบบเสมือนจริงของระยะ First Down ในเวลาจริง ✅ ระบบใหม่ช่วยตัดสินได้เร็วขึ้น แต่ไม่ได้ขจัดข้อผิดพลาดทั้งหมด - แม้ Hawk-Eye จะช่วยวัดระยะได้แม่นยำขึ้น แต่การตัดสินที่เป็นข้อถกเถียงส่วนใหญ่เกิดจาก การกำหนดตำแหน่งบอลครั้งแรกโดยกรรมการ - เช่นในเกม AFC Championship ระหว่าง Buffalo Bills กับ Kansas City Chiefs กรรมการตัดสินให้ Josh Allen ไม่ถึงระยะ First Down ซึ่งกล้องไม่สามารถช่วยแก้ไขการตัดสินนี้ได้ ✅ ทีมงานที่ใช้โซ่แบบดั้งเดิมยังคงอยู่เป็นระบบสำรอง - หาก Hawk-Eye มีปัญหาทางเทคนิค ทีมงานจะถูกเรียกมาวัดระยะด้วยวิธีดั้งเดิมทันที ✅ Hawk-Eye Technology ถูกใช้ในกีฬาอื่นมาแล้ว - ระบบนี้เป็น มาตรฐานในการตัดสินเส้นบอลของฟุตบอล, เทนนิส, คริกเก็ต และรักบี้ - กว่า 23 จาก 25 ลีกกีฬาระดับโลกใช้เทคโนโลยีนี้ https://www.techspot.com/news/107388-nfl-replace-chains-sony-8k-cameras-hawk-eye.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    NFL to replace chains with Sony's 8K cameras and Hawk-Eye technology for measuring first downs
    The change will take effect in the 2025 – 26 season, beginning with the kickoff game on September 4 in Philadelphia. The NFL expects the technology to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักพัฒนาสร้าง WattWise ซึ่งเป็น เครื่องมือโอเพ่นซอร์ส ที่ช่วยลดการใช้พลังงานของ PC และเซิร์ฟเวอร์ ตามราคาค่าไฟ ระบบนี้ใช้ สมาร์ทปลั๊ก Kasa และปรับความเร็วซีพียู โดยอัตโนมัติ ตามช่วงเวลาที่ค่าไฟแพง นักพัฒนาวางแผนให้ WattWise รองรับสมาร์ทปลั๊กหลายแบรนด์และสามารถควบคุมพลังงานของจีพียูได้ด้วย

    ✅ WattWise ทำงานอย่างไร?
    - ใช้ สมาร์ทปลั๊ก Kasa และ Home Assistant เพื่อติดตามการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์
    - ใช้อัลกอริธึม Proportional-Integral (PI) Controller เพื่อปรับความเร็วซีพียูตาม โหลดของระบบและราคาพลังงาน
    - ตัวอย่างเช่น การลดความเร็ว AMD EPYC จาก 3.7 GHz เหลือ 1.5 GHz สามารถลดการใช้ไฟได้ 225 วัตต์

    ✅ การควบคุมการทำงานของซีพียูและจีพียูแบบอัตโนมัติ
    - แอปสามารถปรับลดความเร็วของ ซีพียูและจีพียู ตามช่วงเวลาที่ค่าไฟสูง
    - นักพัฒนาตั้งเป้าให้ รองรับสมาร์ทปลั๊กหลายตัวและแบรนด์อื่น ๆ นอกเหนือจาก Kasa ในอนาคต

    ✅ ลดต้นทุนค่าไฟสำหรับผู้ใช้เซิร์ฟเวอร์และ Workstation
    - ระบบ สามารถลดค่าไฟฟ้าสำหรับเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานสูง
    - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์และลดค่าใช้จ่าย

    ✅ โอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License—ทุกคนสามารถใช้ได้ฟรี
    - นักพัฒนาเปิดให้ดาวน์โหลดจาก GitHub และเปิดรับความคิดเห็นเพื่อพัฒนาเพิ่มเติม
    - ปัจจุบันยังมีเฉพาะ Dashboard UI และระบบปรับลดพลังงานกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา

    https://www.tomshardware.com/software/applications/open-source-tool-designed-to-throttle-pc-and-server-performance-based-on-electricity-pricing-lightweight-cli-can-automatically-limit-clocks-during-peak-hours
    นักพัฒนาสร้าง WattWise ซึ่งเป็น เครื่องมือโอเพ่นซอร์ส ที่ช่วยลดการใช้พลังงานของ PC และเซิร์ฟเวอร์ ตามราคาค่าไฟ ระบบนี้ใช้ สมาร์ทปลั๊ก Kasa และปรับความเร็วซีพียู โดยอัตโนมัติ ตามช่วงเวลาที่ค่าไฟแพง นักพัฒนาวางแผนให้ WattWise รองรับสมาร์ทปลั๊กหลายแบรนด์และสามารถควบคุมพลังงานของจีพียูได้ด้วย ✅ WattWise ทำงานอย่างไร? - ใช้ สมาร์ทปลั๊ก Kasa และ Home Assistant เพื่อติดตามการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ - ใช้อัลกอริธึม Proportional-Integral (PI) Controller เพื่อปรับความเร็วซีพียูตาม โหลดของระบบและราคาพลังงาน - ตัวอย่างเช่น การลดความเร็ว AMD EPYC จาก 3.7 GHz เหลือ 1.5 GHz สามารถลดการใช้ไฟได้ 225 วัตต์ ✅ การควบคุมการทำงานของซีพียูและจีพียูแบบอัตโนมัติ - แอปสามารถปรับลดความเร็วของ ซีพียูและจีพียู ตามช่วงเวลาที่ค่าไฟสูง - นักพัฒนาตั้งเป้าให้ รองรับสมาร์ทปลั๊กหลายตัวและแบรนด์อื่น ๆ นอกเหนือจาก Kasa ในอนาคต ✅ ลดต้นทุนค่าไฟสำหรับผู้ใช้เซิร์ฟเวอร์และ Workstation - ระบบ สามารถลดค่าไฟฟ้าสำหรับเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานสูง - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ควบคุมการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์และลดค่าใช้จ่าย ✅ โอเพ่นซอร์สภายใต้ MIT License—ทุกคนสามารถใช้ได้ฟรี - นักพัฒนาเปิดให้ดาวน์โหลดจาก GitHub และเปิดรับความคิดเห็นเพื่อพัฒนาเพิ่มเติม - ปัจจุบันยังมีเฉพาะ Dashboard UI และระบบปรับลดพลังงานกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา https://www.tomshardware.com/software/applications/open-source-tool-designed-to-throttle-pc-and-server-performance-based-on-electricity-pricing-lightweight-cli-can-automatically-limit-clocks-during-peak-hours
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Beijing Betavolt New Energy Technology ได้เปิดตัวแบตเตอรี่ BV100 ซึ่งเป็นนวัตกรรมแบตเตอรี่พลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็กเท่ากับเหรียญ โดยใช้ นิกเกิล-63 เป็นแหล่งพลังงานและมีอายุการใช้งาน ยาวนานถึง 50 ปี โดยไม่ต้องชาร์จหรือบำรุงรักษา ความก้าวหน้าครั้งนี้ช่วยให้ Betavolt กลายเป็นผู้นำในตลาดแบตเตอรี่นิวเคลียร์ ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในจีน สหรัฐฯ และยุโรป

    เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์เพชรรุ่นที่สี่
    - BV100 เป็นแบตเตอรี่นิวเคลียร์ตัวแรกที่ใช้ เซมิคอนดักเตอร์เพชรสองชั้น ซึ่งช่วยแปลงพลังงานจากการสลายตัวของนิกเกิล-63 ให้เป็นไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    คุณสมบัติที่โดดเด่นเหนือแบตเตอรี่ทั่วไป
    - ความหนาแน่นพลังงานมากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 เท่า
    - ทนต่ออุณหภูมิสุดขั้ว ตั้งแต่ -60°C ถึง +120°C
    - ไม่เสี่ยงต่อการลุกไหม้หรือระเบิด เช่นเดียวกับแบตเตอรี่เคมี

    การใช้งานและแผนพัฒนาในอนาคต
    - ปัจจุบัน BV100 มีพลังงานที่ 100 ไมโรวัตต์ที่ 3 โวลต์ ซึ่งยังไม่เพียงพอสำหรับสมาร์ทโฟนหรือแล็ปท็อป แต่บริษัทมีแผนเปิดตัวแบตเตอรี่รุ่น 1 วัตต์ ภายในปีนี้เพื่อรองรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ขึ้น เช่น โดรนที่บินได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จ

    ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม
    - Betavolt กำลังจดสิทธิบัตรและขยายการพัฒนานานาชาติ ซึ่งรวมถึงการใช้งานใน อุปกรณ์การแพทย์, หุ่นยนต์ขนาดเล็ก, AI และอุตสาหกรรมอวกาศ
    - บริษัทคู่แข่งอย่าง City Labs (สหรัฐฯ) และ Arkenlight (อังกฤษ) ก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยีคล้ายกัน

    https://www.techspot.com/news/107357-coin-sized-nuclear-3v-battery-50-year-lifespan.html
    บริษัท Beijing Betavolt New Energy Technology ได้เปิดตัวแบตเตอรี่ BV100 ซึ่งเป็นนวัตกรรมแบตเตอรี่พลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็กเท่ากับเหรียญ โดยใช้ นิกเกิล-63 เป็นแหล่งพลังงานและมีอายุการใช้งาน ยาวนานถึง 50 ปี โดยไม่ต้องชาร์จหรือบำรุงรักษา ความก้าวหน้าครั้งนี้ช่วยให้ Betavolt กลายเป็นผู้นำในตลาดแบตเตอรี่นิวเคลียร์ ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในจีน สหรัฐฯ และยุโรป เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์เพชรรุ่นที่สี่ - BV100 เป็นแบตเตอรี่นิวเคลียร์ตัวแรกที่ใช้ เซมิคอนดักเตอร์เพชรสองชั้น ซึ่งช่วยแปลงพลังงานจากการสลายตัวของนิกเกิล-63 ให้เป็นไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณสมบัติที่โดดเด่นเหนือแบตเตอรี่ทั่วไป - ความหนาแน่นพลังงานมากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 เท่า - ทนต่ออุณหภูมิสุดขั้ว ตั้งแต่ -60°C ถึง +120°C - ไม่เสี่ยงต่อการลุกไหม้หรือระเบิด เช่นเดียวกับแบตเตอรี่เคมี การใช้งานและแผนพัฒนาในอนาคต - ปัจจุบัน BV100 มีพลังงานที่ 100 ไมโรวัตต์ที่ 3 โวลต์ ซึ่งยังไม่เพียงพอสำหรับสมาร์ทโฟนหรือแล็ปท็อป แต่บริษัทมีแผนเปิดตัวแบตเตอรี่รุ่น 1 วัตต์ ภายในปีนี้เพื่อรองรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ขึ้น เช่น โดรนที่บินได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จ ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม - Betavolt กำลังจดสิทธิบัตรและขยายการพัฒนานานาชาติ ซึ่งรวมถึงการใช้งานใน อุปกรณ์การแพทย์, หุ่นยนต์ขนาดเล็ก, AI และอุตสาหกรรมอวกาศ - บริษัทคู่แข่งอย่าง City Labs (สหรัฐฯ) และ Arkenlight (อังกฤษ) ก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยีคล้ายกัน https://www.techspot.com/news/107357-coin-sized-nuclear-3v-battery-50-year-lifespan.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Coin-sized nuclear 3V battery with 50-year lifespan enters mass production
    Energy storage technology has reached a transformative milestone as the BV100, a miniature atomic energy battery, enters mass production. Popular Mechanic notes that the coin-sized cell from...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงความก้าวหน้าของบริษัท DapuStor ผู้ผลิต SSD ประสิทธิภาพสูงจากจีน ที่เปิดตัว Roealsen6 R6101 7.68TB SSD ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น "สุดยอดงานวิศวกรรม" ด้วยความเร็วในการอ่านแบบต่อเนื่องถึง 14,600 MB/s และการเขียนที่ 11,000 MB/s SSD รุ่นนี้ใช้ตัวควบคุม DP800 และเทคโนโลยี PCIe 5.0 ที่เหนือกว่า PCIe 4.0 ถึงสองเท่า

    ความโดดเด่นในการทดสอบ:
    - ผลทดสอบพบว่า SSD รุ่นนี้สามารถทำสถิติใหม่ในระดับ 4K random read IOPS ที่สูงถึง 3.62 ล้าน ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% จากรุ่นอื่น ๆ ในตลาด.

    ความสามารถในงานหลากหลาย:
    - SSD สามารถทำงานในลักษณะโหลดงานผสมได้ดีจนสามารถแข่งขันกับ SSD ระดับ 3-DWPD ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า.

    การออกแบบที่ตอบโจทย์:
    - SSD ใช้ 3D eTLC NAND Flash และโปรโตคอล NVMe 2.0 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการอ่าน-เขียน และเหมาะกับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลที่ต้องการความเร็วและความเสถียร.

    ความคาดหวังในอนาคต:
    - SSD รุ่นใหม่ที่มีความจุสูงถึง 122.88TB อยู่ในขั้นตอนการพัฒนา ซึ่งอาจสร้างการเปลี่ยนแปลงสำคัญในตลาดเซิร์ฟเวอร์.

    https://www.techradar.com/pro/an-engineering-masterpiece-reviewer-raves-about-fastest-large-capacity-ssd-ever-built-but-it-wont-be-cheap
    ข่าวนี้พูดถึงความก้าวหน้าของบริษัท DapuStor ผู้ผลิต SSD ประสิทธิภาพสูงจากจีน ที่เปิดตัว Roealsen6 R6101 7.68TB SSD ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น "สุดยอดงานวิศวกรรม" ด้วยความเร็วในการอ่านแบบต่อเนื่องถึง 14,600 MB/s และการเขียนที่ 11,000 MB/s SSD รุ่นนี้ใช้ตัวควบคุม DP800 และเทคโนโลยี PCIe 5.0 ที่เหนือกว่า PCIe 4.0 ถึงสองเท่า ความโดดเด่นในการทดสอบ: - ผลทดสอบพบว่า SSD รุ่นนี้สามารถทำสถิติใหม่ในระดับ 4K random read IOPS ที่สูงถึง 3.62 ล้าน ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% จากรุ่นอื่น ๆ ในตลาด. ความสามารถในงานหลากหลาย: - SSD สามารถทำงานในลักษณะโหลดงานผสมได้ดีจนสามารถแข่งขันกับ SSD ระดับ 3-DWPD ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า. การออกแบบที่ตอบโจทย์: - SSD ใช้ 3D eTLC NAND Flash และโปรโตคอล NVMe 2.0 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการอ่าน-เขียน และเหมาะกับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลที่ต้องการความเร็วและความเสถียร. ความคาดหวังในอนาคต: - SSD รุ่นใหม่ที่มีความจุสูงถึง 122.88TB อยู่ในขั้นตอนการพัฒนา ซึ่งอาจสร้างการเปลี่ยนแปลงสำคัญในตลาดเซิร์ฟเวอร์. https://www.techradar.com/pro/an-engineering-masterpiece-reviewer-raves-about-fastest-large-capacity-ssd-ever-built-but-it-wont-be-cheap
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 313 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องลอกหนัง รุ่น 500 สแตนเลส #ทดลองลอกหนังปลาจาระเม็ด
    เครื่องลอกหนัง เหมาะสำหรับการลอกหนังสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ หรือหนังปลา เป็นต้น และใช้กันอย่างแพร่หลายในบริษัทแปรรูปอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงแรมสามารถปรับความหนาของหนังได้ตั้งแต่ หนา 0.5-6 มม. ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบนั้นๆ
    ชุดใบมีด ใบมีดนำเข้าจากเยอรมัน ใช้งานง่าย

    รายละเอียด
    📌 Capacity 300kg/hour
    📌 Voltage 220 V/50 HZ
    📌 Peeling thickness 0.6-6 MM
    📌 Blade length 500mm
    📌 Material sus 304
    📌 Weight 130kg
    📌 Dimension 750*710*880 mm

    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน

    สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ
    เวลาเปิดทำการ :
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00
    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼

    m.me/yonghahheng 👈🏻แชทเลย
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/HV4lSKp
    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #กระทะสับ #ลอกมันหนังไก่ #เครื่องลอกมัน #เครื่องลอกหนัง #หนังไก่ทอด #ลอกหนังไก่ทอด #ปอกกระเทียม #เครื่องปอกเปลือก #เครื่องบด #บดหมู #ลอกหนังปลา #เครื่องบดอาหาร #เครื่องบดโครงไก่ #เครื่องหั่นหมู #เครื่องหั่นพริกแห้ง #เครื่องหั่นพริก #หั่นพริกทอดกรอบ #แหนมหมู #หั่นปลาหมึกกรอบ #หั่นพริกทอดกรอบ #หั่นปลาดุก #สับผัก #หั่นใบไม้ #เครื่องลอกมันหมู #ลอกหนังหมู
    เครื่องลอกหนัง รุ่น 500 สแตนเลส #ทดลองลอกหนังปลาจาระเม็ด เครื่องลอกหนัง เหมาะสำหรับการลอกหนังสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ หรือหนังปลา เป็นต้น และใช้กันอย่างแพร่หลายในบริษัทแปรรูปอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงแรมสามารถปรับความหนาของหนังได้ตั้งแต่ หนา 0.5-6 มม. ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบนั้นๆ ชุดใบมีด ใบมีดนำเข้าจากเยอรมัน ใช้งานง่าย รายละเอียด 📌 Capacity 300kg/hour 📌 Voltage 220 V/50 HZ 📌 Peeling thickness 0.6-6 MM 📌 Blade length 500mm 📌 Material sus 304 📌 Weight 130kg 📌 Dimension 750*710*880 mm ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ เวลาเปิดทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼ m.me/yonghahheng 👈🏻แชทเลย LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/HV4lSKp 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #กระทะสับ #ลอกมันหนังไก่ #เครื่องลอกมัน #เครื่องลอกหนัง #หนังไก่ทอด #ลอกหนังไก่ทอด #ปอกกระเทียม #เครื่องปอกเปลือก #เครื่องบด #บดหมู #ลอกหนังปลา #เครื่องบดอาหาร #เครื่องบดโครงไก่ #เครื่องหั่นหมู #เครื่องหั่นพริกแห้ง #เครื่องหั่นพริก #หั่นพริกทอดกรอบ #แหนมหมู #หั่นปลาหมึกกรอบ #หั่นพริกทอดกรอบ #หั่นปลาดุก #สับผัก #หั่นใบไม้ #เครื่องลอกมันหมู #ลอกหนังหมู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 495 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักฟิสิกส์กลุ่มหนึ่งได้เผยแนวคิดเกี่ยวกับการใช้พลังงานจากการหมุนของโลกเพื่อผลิตไฟฟ้า โดยผลการทดลองล่าสุดของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าอาจเป็นไปได้ที่จะสร้างกระแสไฟฟ้าผ่านสนามแม่เหล็กของโลก งานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Physical Review Research และอ้างอิงงานจากปี 2016 รวมถึงแนวคิดที่ย้อนกลับไปถึงปี 1832

    การทดลองใช้กระบอกทรงกระบอกที่ทำจาก manganese-zinc ferrite ในมุมที่เฉพาะเจาะจง และวัดกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 18 ไมโครโวลต์ เมื่อหมุนกระบอกไป 90 องศา กระแสไฟฟ้ากลับกลายเป็นศูนย์ และกลับมาอีกครั้งด้วยสัญญาณตรงข้ามเมื่อหมุนไปอีก 90 องศา อย่างไรก็ตาม หากใช้กระบอกแบบตัน กลับไม่มีแรงดันไฟฟ้าเกิดขึ้นเลย

    ผลกระทบจากการใช้อุปกรณ์อื่น:
    - การทดลองในกรง Faraday ไม่สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้ แสดงให้เห็นว่าผลลัพธ์นี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกปิดกั้น.

    ความแม่นยำของการทดลอง:
    - การทดลองดำเนินการในห้องทดลองใต้ดินที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างเคร่งครัด เพื่อลดสิ่งรบกวน เช่น คลื่นวิทยุหรือความร้อน.

    ข้อจำกัดและการต่อยอด:
    - แม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นที่น่าตื่นเต้น แต่การสร้างกระแสไฟฟ้าที่ได้ยังเล็กมาก และยังต้องการการทดลองซ้ำโดยกลุ่มวิจัยอื่น ๆ เพื่อยืนยันผลลัพธ์.

    ศักยภาพในการประยุกต์ใช้ในอนาคต:
    - หากแนวคิดนี้ได้รับการพัฒนา การใช้พลังงานจากการหมุนของโลกอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการผลิตพลังงานสะอาดและลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานฟอสซิล.

    https://www.techspot.com/news/107303-scientists-use-earth-rotational-energy-generate-electricity.html
    นักฟิสิกส์กลุ่มหนึ่งได้เผยแนวคิดเกี่ยวกับการใช้พลังงานจากการหมุนของโลกเพื่อผลิตไฟฟ้า โดยผลการทดลองล่าสุดของพวกเขาแสดงให้เห็นว่าอาจเป็นไปได้ที่จะสร้างกระแสไฟฟ้าผ่านสนามแม่เหล็กของโลก งานวิจัยนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Physical Review Research และอ้างอิงงานจากปี 2016 รวมถึงแนวคิดที่ย้อนกลับไปถึงปี 1832 การทดลองใช้กระบอกทรงกระบอกที่ทำจาก manganese-zinc ferrite ในมุมที่เฉพาะเจาะจง และวัดกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 18 ไมโครโวลต์ เมื่อหมุนกระบอกไป 90 องศา กระแสไฟฟ้ากลับกลายเป็นศูนย์ และกลับมาอีกครั้งด้วยสัญญาณตรงข้ามเมื่อหมุนไปอีก 90 องศา อย่างไรก็ตาม หากใช้กระบอกแบบตัน กลับไม่มีแรงดันไฟฟ้าเกิดขึ้นเลย ผลกระทบจากการใช้อุปกรณ์อื่น: - การทดลองในกรง Faraday ไม่สามารถสร้างแรงดันไฟฟ้าได้ แสดงให้เห็นว่าผลลัพธ์นี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกปิดกั้น. ความแม่นยำของการทดลอง: - การทดลองดำเนินการในห้องทดลองใต้ดินที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างเคร่งครัด เพื่อลดสิ่งรบกวน เช่น คลื่นวิทยุหรือความร้อน. ข้อจำกัดและการต่อยอด: - แม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นที่น่าตื่นเต้น แต่การสร้างกระแสไฟฟ้าที่ได้ยังเล็กมาก และยังต้องการการทดลองซ้ำโดยกลุ่มวิจัยอื่น ๆ เพื่อยืนยันผลลัพธ์. ศักยภาพในการประยุกต์ใช้ในอนาคต: - หากแนวคิดนี้ได้รับการพัฒนา การใช้พลังงานจากการหมุนของโลกอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการผลิตพลังงานสะอาดและลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานฟอสซิล. https://www.techspot.com/news/107303-scientists-use-earth-rotational-energy-generate-electricity.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists use Earth's rotational energy to generate electricity
    The study, published in the journal Physical Review Research, builds on work the team conducted back in 2016 and an idea dating back to at least 1832....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • Iran unveils footage of 'missile city' as Israel threatens to attack Tehran
    Iran unveils footage of 'missile city' as Israel threatens to attack Tehran
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • Microsoft เปิดตัว DirectX Raytracing (DXR) 1.2 และ Neural Rendering ที่ช่วยเพิ่มความเร็วของ GPU จาก AMD, Intel, และ NVIDIA สูงสุด 10 เท่า เทคโนโลยีใหม่นี้ช่วยให้ภาพในเกมและหนัง 3D ดูสมจริงขึ้น โดยลดการใช้ทรัพยากรฮาร์ดแวร์และทำให้เล่นเกมไหลลื่นกว่าเดิม นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับวงการกราฟิกที่กำลังมองหาเทคโนโลยีที่เร็วขึ้นและคุ้มค่า

    เทคโนโลยีที่เปลี่ยนโฉมวงการ:
    - Microsoft ได้นำเสนอ Opacity Micromaps (OMM) ซึ่งช่วยลดการคำนวณในงานกราฟิกที่เกี่ยวกับพื้นผิวแบบโปร่งใส โดยการเก็บข้อมูลการโปร่งใสล่วงหน้า.
    - อีกนวัตกรรมคือ Neural Rendering ซึ่งใช้การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อเร่งการสร้างภาพให้เร็วขึ้นและลดการใช้ทรัพยากร GPU.

    ประโยชน์สำหรับผู้ใช้งาน:
    - เทคโนโลยีใหม่ช่วยปรับปรุงเฟรมเรตในเกมแบบเรียลไทม์ และลดปัญหาการสะดุด (stuttering) ในกราฟิกที่ซับซ้อน.
    - นักพัฒนาสามารถสร้างภาพในเกมที่ดูสมจริงขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีราคาแพงเกินไป.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม:
    - นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับนักพัฒนาเกมและสตูดิโอภาพยนตร์ที่ต้องการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความคมชัดของภาพ.
    - NVIDIA และ AMD เตรียมปรับปรุงไดรเวอร์ให้เข้ากับ DXR 1.2 เพื่อดึงศักยภาพของฮาร์ดแวร์ออกมาได้เต็มที่

    https://www.techpowerup.com/334455/microsoft-directx-raytracing-1-2-and-neural-rendering-brings-up-to-10x-speedup-for-amd-intel-and-nvidia-gpus
    Microsoft เปิดตัว DirectX Raytracing (DXR) 1.2 และ Neural Rendering ที่ช่วยเพิ่มความเร็วของ GPU จาก AMD, Intel, และ NVIDIA สูงสุด 10 เท่า เทคโนโลยีใหม่นี้ช่วยให้ภาพในเกมและหนัง 3D ดูสมจริงขึ้น โดยลดการใช้ทรัพยากรฮาร์ดแวร์และทำให้เล่นเกมไหลลื่นกว่าเดิม นี่ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับวงการกราฟิกที่กำลังมองหาเทคโนโลยีที่เร็วขึ้นและคุ้มค่า เทคโนโลยีที่เปลี่ยนโฉมวงการ: - Microsoft ได้นำเสนอ Opacity Micromaps (OMM) ซึ่งช่วยลดการคำนวณในงานกราฟิกที่เกี่ยวกับพื้นผิวแบบโปร่งใส โดยการเก็บข้อมูลการโปร่งใสล่วงหน้า. - อีกนวัตกรรมคือ Neural Rendering ซึ่งใช้การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อเร่งการสร้างภาพให้เร็วขึ้นและลดการใช้ทรัพยากร GPU. ประโยชน์สำหรับผู้ใช้งาน: - เทคโนโลยีใหม่ช่วยปรับปรุงเฟรมเรตในเกมแบบเรียลไทม์ และลดปัญหาการสะดุด (stuttering) ในกราฟิกที่ซับซ้อน. - นักพัฒนาสามารถสร้างภาพในเกมที่ดูสมจริงขึ้นได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีราคาแพงเกินไป. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม: - นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับนักพัฒนาเกมและสตูดิโอภาพยนตร์ที่ต้องการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความคมชัดของภาพ. - NVIDIA และ AMD เตรียมปรับปรุงไดรเวอร์ให้เข้ากับ DXR 1.2 เพื่อดึงศักยภาพของฮาร์ดแวร์ออกมาได้เต็มที่ https://www.techpowerup.com/334455/microsoft-directx-raytracing-1-2-and-neural-rendering-brings-up-to-10x-speedup-for-amd-intel-and-nvidia-gpus
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Microsoft DirectX Raytracing 1.2 and Neural Rendering Brings up to 10x Speedup for AMD, Intel, and NVIDIA GPUs
    Microsoft's DirectX Raytracing (DXR) 1.2 announcement at GDC 2025 introduces two technical innovations that address fundamental ray tracing performance bottlenecks. Opacity micromaps (OMM) reduce the computational overhead in alpha-tested geometry by storing pre-computed opacity data, eliminating re...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากไทยไปสิงคโปร์ แบบไม่บินด้วยรถไฟ

    หลังจากที่รถไฟ ETS (Electric Train Service) ขยายเส้นทางจากสถานีเกอมัส (Gemas) รัฐเนอเกอรีเซิมบีลัน ไปยังสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา สำหรับชาวรัฐยะโฮร์อาจเรียกได้ว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ของพวกเขา ที่ได้เห็นรถไฟที่ทันสมัย พร้อมกับโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru) ระยะทาง 192 กิโลเมตร ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2568 ช่วยลดเวลาการเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รู จาก 7 ชั่วโมงเหลือ 4 ชั่วโมง 30 นาที

    เมื่อเกิดคำถามว่าจากกรุงเทพฯ ไปสิงคโปร์แบบไม่บิน ด้วยรถไฟเป็นไปได้หรือไม่ จึงลองทำการบ้าน พบว่าจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไปยังด่านวู้ดแลนด์ (Woodlands) ด้วยรถไฟจะใช้เวลาเกือบ 40 ชั่วโมง ต่อขบวนรถไฟ 4 ต่อ ได้แก่ ขบวนที่ 45 กรุงเทพอภิวัฒน์-ปาดังเบซาร์, ขบวนที่ EG9425 ปาดังเบซาร์-เซกามัต, ขบวนที่ ES41 ขึ้นจากสถานีเซกามัต ลงที่สถานี JB Sentral และรถไฟ Shuttle Tebrau ไปที่สถานี Woodlands ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งช่วงเช้าตั้งแต่ 05.00-07.30 น. รถไฟออกทุกครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นรถออกช่วงครึ่งวันเช้าเวลา 08.45, 10.00, 11.30 และ 12.45 น.

    รถไฟ ETS จากสถานีปาดังเบซาร์ถึงเซกามัต มีวันละ 1 เที่ยว และที่นั่งมีจำนวนจำกัด แนะนำให้จองตั๋วรถไฟแต่เนิ่นๆ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน KTMB แม้ทางรถไฟจะถูกพัฒนาให้เป็นรถไฟทางคู่ แต่ก็อาจมีเหตุสุดวิสัย เช่น ภัยธรรมชาติ สายไฟฟ้าที่จ่ายให้ขบวนรถไฟขาด หรือกรณีรถจักรดีเซลขัดข้อง มักใช้วิธีคืนเงินแล้วให้เดินทางต่อด้วยรูปแบบอื่น ไม่มีรถรับส่งแบบประเทศไทย จึงต้องคิดแผนสองเผื่อไว้ด้วย

    ส่วนขาขึ้นจากสิงคโปร์ไปกรุงเทพฯ พบว่าเวลาเดินรถไม่สอดคล้องกัน รถไฟ ETS จากสถานีเซกามัตไปปาดังเบซาร์ มีวันละ 1 เที่ยว ได้แก่ ขบวนที่ EG9420 รถออกเวลา 07.55 น. เพราะฉะนั้นถ้านั่งรถไฟ KTM Intercity ไปลงที่สถานีเซกามัตแล้วยังคงต้องการนั่งรถไฟ ETS ไปสถานีปาดังเบซาร์ อาจต้องพักค้างคืนที่เซกามัต 1 คืน

    หรือถ้าจะค้างคืนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ต้องต่อรถทัวร์ที่สถานีขนส่ง อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ไปยังสถานีขนส่ง TBS ใช้เวลา 4 ชั่วโมง มีรถถึง 21.00 น. ตอนเช้าต่อรถไฟจากสถานี KL Sentral ไปสถานีปาดังเบซาร์ แล้วต่อรถไฟขบวนที่ 46 เวลา 18.00 น. เวลามาเลเซีย ถึงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 09.05 น. วันถัดไป

    หากโครงการรถไฟทางคู่เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู เปิดใช้งานเต็มรูปแบบ และรถไฟ ETS ขยายการให้บริการถึงสถานี JB Sentral จะอัปเดตแผนการเดินทางให้ทราบต่อไป

    #Newskit
    จากไทยไปสิงคโปร์ แบบไม่บินด้วยรถไฟ หลังจากที่รถไฟ ETS (Electric Train Service) ขยายเส้นทางจากสถานีเกอมัส (Gemas) รัฐเนอเกอรีเซิมบีลัน ไปยังสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา สำหรับชาวรัฐยะโฮร์อาจเรียกได้ว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ของพวกเขา ที่ได้เห็นรถไฟที่ทันสมัย พร้อมกับโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru) ระยะทาง 192 กิโลเมตร ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2568 ช่วยลดเวลาการเดินทางจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รู จาก 7 ชั่วโมงเหลือ 4 ชั่วโมง 30 นาที เมื่อเกิดคำถามว่าจากกรุงเทพฯ ไปสิงคโปร์แบบไม่บิน ด้วยรถไฟเป็นไปได้หรือไม่ จึงลองทำการบ้าน พบว่าจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไปยังด่านวู้ดแลนด์ (Woodlands) ด้วยรถไฟจะใช้เวลาเกือบ 40 ชั่วโมง ต่อขบวนรถไฟ 4 ต่อ ได้แก่ ขบวนที่ 45 กรุงเทพอภิวัฒน์-ปาดังเบซาร์, ขบวนที่ EG9425 ปาดังเบซาร์-เซกามัต, ขบวนที่ ES41 ขึ้นจากสถานีเซกามัต ลงที่สถานี JB Sentral และรถไฟ Shuttle Tebrau ไปที่สถานี Woodlands ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งช่วงเช้าตั้งแต่ 05.00-07.30 น. รถไฟออกทุกครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นรถออกช่วงครึ่งวันเช้าเวลา 08.45, 10.00, 11.30 และ 12.45 น. รถไฟ ETS จากสถานีปาดังเบซาร์ถึงเซกามัต มีวันละ 1 เที่ยว และที่นั่งมีจำนวนจำกัด แนะนำให้จองตั๋วรถไฟแต่เนิ่นๆ ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน KTMB แม้ทางรถไฟจะถูกพัฒนาให้เป็นรถไฟทางคู่ แต่ก็อาจมีเหตุสุดวิสัย เช่น ภัยธรรมชาติ สายไฟฟ้าที่จ่ายให้ขบวนรถไฟขาด หรือกรณีรถจักรดีเซลขัดข้อง มักใช้วิธีคืนเงินแล้วให้เดินทางต่อด้วยรูปแบบอื่น ไม่มีรถรับส่งแบบประเทศไทย จึงต้องคิดแผนสองเผื่อไว้ด้วย ส่วนขาขึ้นจากสิงคโปร์ไปกรุงเทพฯ พบว่าเวลาเดินรถไม่สอดคล้องกัน รถไฟ ETS จากสถานีเซกามัตไปปาดังเบซาร์ มีวันละ 1 เที่ยว ได้แก่ ขบวนที่ EG9420 รถออกเวลา 07.55 น. เพราะฉะนั้นถ้านั่งรถไฟ KTM Intercity ไปลงที่สถานีเซกามัตแล้วยังคงต้องการนั่งรถไฟ ETS ไปสถานีปาดังเบซาร์ อาจต้องพักค้างคืนที่เซกามัต 1 คืน หรือถ้าจะค้างคืนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ต้องต่อรถทัวร์ที่สถานีขนส่ง อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ไปยังสถานีขนส่ง TBS ใช้เวลา 4 ชั่วโมง มีรถถึง 21.00 น. ตอนเช้าต่อรถไฟจากสถานี KL Sentral ไปสถานีปาดังเบซาร์ แล้วต่อรถไฟขบวนที่ 46 เวลา 18.00 น. เวลามาเลเซีย ถึงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 09.05 น. วันถัดไป หากโครงการรถไฟทางคู่เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู เปิดใช้งานเต็มรูปแบบ และรถไฟ ETS ขยายการให้บริการถึงสถานี JB Sentral จะอัปเดตแผนการเดินทางให้ทราบต่อไป #Newskit
    Like
    Love
    6
    5 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 406 มุมมอง 0 รีวิว
  • Foxconn เพิ่งประกาศผลประกอบการของปี 2024 ซึ่งถือเป็นปีแห่งความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 17 ปี โดยรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ ที่สำคัญ Foxconn ยังเดินหน้าลุยตลาด AI server และรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ปี 2025 นี้พวกเขายังตั้งเป้าทำให้ตลาด AI server เติบโตเป็นสองเท่าและเน้นสร้างความร่วมมือกับผู้ผลิตระดับโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า

    ผลการดำเนินงานและการเติบโต:
    - รายได้รวมของปี 2024 สูงถึง 6.86 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน เพิ่มขึ้น 11.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
    - กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 10.6% ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นถึง 20.5%

    การพัฒนาเทคโนโลยี AI และ EV:
    - Foxconn วางแผนพัฒนาแพลตฟอร์ม 3 ด้าน ได้แก่ Smart Manufacturing, Smart EV และ Smart City โดยใช้ Generative AI และระบบ AI server เพื่อเสริมศักยภาพและลดต้นทุนการผลิต
    - ในปี 2025 Foxconn คาดการณ์ว่ารายได้จาก AI server จะเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบทั้งรายไตรมาสและรายปี

    แผนธุรกิจอนาคต:
    - บริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของ AI server เป็นอย่างน้อย 40%
    - มีความร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะลงนามในสัญญาภายใน 1-2 เดือน และเตรียมผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Model B และ Model C ในตลาดอเมริกาเหนือในช่วงครึ่งหลังของปี 2025

    https://www.techpowerup.com/334122/foxconn-reports-17-year-high-in-fy2024-q4-financial-results
    Foxconn เพิ่งประกาศผลประกอบการของปี 2024 ซึ่งถือเป็นปีแห่งความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 17 ปี โดยรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ ที่สำคัญ Foxconn ยังเดินหน้าลุยตลาด AI server และรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ปี 2025 นี้พวกเขายังตั้งเป้าทำให้ตลาด AI server เติบโตเป็นสองเท่าและเน้นสร้างความร่วมมือกับผู้ผลิตระดับโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ผลการดำเนินงานและการเติบโต: - รายได้รวมของปี 2024 สูงถึง 6.86 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน เพิ่มขึ้น 11.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา - กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 10.6% ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นถึง 20.5% การพัฒนาเทคโนโลยี AI และ EV: - Foxconn วางแผนพัฒนาแพลตฟอร์ม 3 ด้าน ได้แก่ Smart Manufacturing, Smart EV และ Smart City โดยใช้ Generative AI และระบบ AI server เพื่อเสริมศักยภาพและลดต้นทุนการผลิต - ในปี 2025 Foxconn คาดการณ์ว่ารายได้จาก AI server จะเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบทั้งรายไตรมาสและรายปี แผนธุรกิจอนาคต: - บริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของ AI server เป็นอย่างน้อย 40% - มีความร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะลงนามในสัญญาภายใน 1-2 เดือน และเตรียมผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Model B และ Model C ในตลาดอเมริกาเหนือในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 https://www.techpowerup.com/334122/foxconn-reports-17-year-high-in-fy2024-q4-financial-results
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Foxconn Reports 17-Year High in FY2024 & Q4 Financial Results
    Hon Hai Technology Group ("Foxconn") today announced its full year and fourth quarter 2024 financial results. Full year 2024 net profit reached NT$152.7 billion, resulting in earnings per share of NT$11.01, a 17-year-high. At the same time, the Group announced that it will distribute a cash divid...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนนี้เทคโนโลยี Generative AI หรือ AI สร้างสรรค์ กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกไซเบอร์ซีเคียวริตี้ไปอย่างมาก เพราะมันช่วยให้เราตรวจจับภัยคุกคามอย่างรวดเร็ว และเพิ่มความสามารถในการป้องกันระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในขณะเดียวกัน เจ้า AI ตัวนี้ก็เป็นเหมือนดาบสองคม เพราะผู้ไม่หวังดีก็ใช้มันสร้างความเสียหายที่ซับซ้อนและยากต่อการจัดการขึ้นด้วย เช่น การหลอกลวงแบบฟิชชิงที่ดูเหมือนจริงจนน่ากลัว ดังนั้น องค์กรต้องเร่งฝึกอบรมทีมงานให้เก่งขึ้นในเรื่องนี้ และที่สำคัญกว่านั้นคือการบริหารจัดการข้อมูลให้ AI ใช้งานได้ง่ายและครบถ้วนมากขึ้น จะได้ช่วยสร้างระบบป้องกันที่แข็งแกร่งและตามทันโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วนี้

    https://www.techradar.com/pro/security/take-it-or-leave-it-generative-ai-has-a-long-way-to-go-as-siloed-data-and-abuse-of-its-capacity-remain-a-downside-though-it-is-a-game-changer-for-security-teams
    ตอนนี้เทคโนโลยี Generative AI หรือ AI สร้างสรรค์ กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลกไซเบอร์ซีเคียวริตี้ไปอย่างมาก เพราะมันช่วยให้เราตรวจจับภัยคุกคามอย่างรวดเร็ว และเพิ่มความสามารถในการป้องกันระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในขณะเดียวกัน เจ้า AI ตัวนี้ก็เป็นเหมือนดาบสองคม เพราะผู้ไม่หวังดีก็ใช้มันสร้างความเสียหายที่ซับซ้อนและยากต่อการจัดการขึ้นด้วย เช่น การหลอกลวงแบบฟิชชิงที่ดูเหมือนจริงจนน่ากลัว ดังนั้น องค์กรต้องเร่งฝึกอบรมทีมงานให้เก่งขึ้นในเรื่องนี้ และที่สำคัญกว่านั้นคือการบริหารจัดการข้อมูลให้ AI ใช้งานได้ง่ายและครบถ้วนมากขึ้น จะได้ช่วยสร้างระบบป้องกันที่แข็งแกร่งและตามทันโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วนี้ https://www.techradar.com/pro/security/take-it-or-leave-it-generative-ai-has-a-long-way-to-go-as-siloed-data-and-abuse-of-its-capacity-remain-a-downside-though-it-is-a-game-changer-for-security-teams
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงความน่าสนใจของโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดจาก AMD รุ่น Ryzen 9 9950X3D ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับนักเล่นเกมและนักสร้างคอนเทนต์ อย่างไรก็ตาม การทดสอบล่าสุดพบว่าชิปนี้กลับทำงานได้ดีกว่าบน Windows 10 เมื่อเทียบกับ Windows 11 โดยเฉพาะในเกมที่ต้องใช้การประมวลผลจาก CPU อย่างเข้มข้น

    การทดสอบโดย Tech YES City พบว่า Ryzen 9 9950X3D ทำเฟรมเรตได้สูงกว่าใน Windows 10 ในเกมยอดนิยม เช่น CS2 ที่ความละเอียด 1080p โดยใน Windows 10 เฉลี่ยที่ 745fps แต่ใน Windows 11 เฉลี่ยลดลงมาเป็น 729fps และตกลงไปถึง 710fps เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ VBS (Virtualization-based Security) ซึ่งแสดงถึงความแตกต่างถึง 9.2% ในบางกรณี เช่น เกม Fortnite ในการตั้งค่าต่ำสุด

    ปัญหานี้เกิดขึ้นแม้แต่กับ Windows 11 รุ่นปรับแต่ง (custom-tuned version) แสดงให้เห็นว่าปัญหาความเข้ากันได้นี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขในระดับที่ดีพอ ข่าวนี้จึงสะท้อนถึงความกังวลว่า Windows 11 อาจจะยังไม่พร้อมสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกเพียงปีเศษก่อนที่ Microsoft จะยุติการสนับสนุน Windows 10 ในปี 2025

    https://www.techradar.com/computing/cpu/amds-most-powerful-processor-ever-actually-runs-better-on-windows-10-than-windows-11
    ข่าวนี้พูดถึงความน่าสนใจของโปรเซสเซอร์ใหม่ล่าสุดจาก AMD รุ่น Ryzen 9 9950X3D ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโปรเซสเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับนักเล่นเกมและนักสร้างคอนเทนต์ อย่างไรก็ตาม การทดสอบล่าสุดพบว่าชิปนี้กลับทำงานได้ดีกว่าบน Windows 10 เมื่อเทียบกับ Windows 11 โดยเฉพาะในเกมที่ต้องใช้การประมวลผลจาก CPU อย่างเข้มข้น การทดสอบโดย Tech YES City พบว่า Ryzen 9 9950X3D ทำเฟรมเรตได้สูงกว่าใน Windows 10 ในเกมยอดนิยม เช่น CS2 ที่ความละเอียด 1080p โดยใน Windows 10 เฉลี่ยที่ 745fps แต่ใน Windows 11 เฉลี่ยลดลงมาเป็น 729fps และตกลงไปถึง 710fps เมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์ VBS (Virtualization-based Security) ซึ่งแสดงถึงความแตกต่างถึง 9.2% ในบางกรณี เช่น เกม Fortnite ในการตั้งค่าต่ำสุด ปัญหานี้เกิดขึ้นแม้แต่กับ Windows 11 รุ่นปรับแต่ง (custom-tuned version) แสดงให้เห็นว่าปัญหาความเข้ากันได้นี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขในระดับที่ดีพอ ข่าวนี้จึงสะท้อนถึงความกังวลว่า Windows 11 อาจจะยังไม่พร้อมสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม แม้ว่าจะเหลือเวลาอีกเพียงปีเศษก่อนที่ Microsoft จะยุติการสนับสนุน Windows 10 ในปี 2025 https://www.techradar.com/computing/cpu/amds-most-powerful-processor-ever-actually-runs-better-on-windows-10-than-windows-11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท KIOXIA ได้เปิดตัว SSD รุ่นใหม่ที่มีความจุสูงถึง 122.88 เทราไบต์ (TB) ซึ่งเป็น SSD ตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยี BiCS FLASH generation 8 และหน่วยความจำ QLC แบบ 3D ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับงานที่เกี่ยวข้องกับ AI และการจัดการข้อมูลมหาศาล

    สิ่งที่น่าสนใจคือ SSD รุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อแบบ PCIe 5.0 ซึ่งให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 128 GT/s พร้อมทั้งมี dual-port capability ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในกรณีที่ระบบมีความผิดพลาด และสามารถเชื่อมต่อกับหลายระบบคอมพิวเตอร์ได้พร้อมกัน ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในระบบ hybrid cloud และ multi-cloud

    SSD ตัวนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้าน AI โดยเฉพาะ เช่น การฝึกฝนโมเดลภาษาใหญ่ (LLMs) การจัดการฐานข้อมูลแบบเวกเตอร์ และการดึงข้อมูลมาใช้สำหรับการปรับปรุงโมเดล AI อย่างรวดเร็ว

    อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ KIOXIA ยังพัฒนาเทคโนโลยีที่ชื่อว่า AiSAQ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานแบบ Retrieval Augmented Generation (RAG) โดยลดการพึ่งพาหน่วยความจำแบบ DRAM ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงลง และยังช่วยประหยัดพลังงานต่อเทราไบต์เมื่อเทียบกับ SSD ขนาดเล็กกว่า

    แน่นอนว่า SSD ตัวนี้ถือเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่ต้องการ ความจุสูงขึ้นและความเร็วในการประมวลผลที่มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์งานด้าน AI ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

    https://www.techpowerup.com/334049/kioxia-unveils-high-capacity-lc9-series-122-88-tb-nvme-ssds-for-ai-applications
    บริษัท KIOXIA ได้เปิดตัว SSD รุ่นใหม่ที่มีความจุสูงถึง 122.88 เทราไบต์ (TB) ซึ่งเป็น SSD ตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยี BiCS FLASH generation 8 และหน่วยความจำ QLC แบบ 3D ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับงานที่เกี่ยวข้องกับ AI และการจัดการข้อมูลมหาศาล สิ่งที่น่าสนใจคือ SSD รุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อแบบ PCIe 5.0 ซึ่งให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 128 GT/s พร้อมทั้งมี dual-port capability ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในกรณีที่ระบบมีความผิดพลาด และสามารถเชื่อมต่อกับหลายระบบคอมพิวเตอร์ได้พร้อมกัน ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในระบบ hybrid cloud และ multi-cloud SSD ตัวนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้าน AI โดยเฉพาะ เช่น การฝึกฝนโมเดลภาษาใหญ่ (LLMs) การจัดการฐานข้อมูลแบบเวกเตอร์ และการดึงข้อมูลมาใช้สำหรับการปรับปรุงโมเดล AI อย่างรวดเร็ว อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ KIOXIA ยังพัฒนาเทคโนโลยีที่ชื่อว่า AiSAQ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานแบบ Retrieval Augmented Generation (RAG) โดยลดการพึ่งพาหน่วยความจำแบบ DRAM ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงลง และยังช่วยประหยัดพลังงานต่อเทราไบต์เมื่อเทียบกับ SSD ขนาดเล็กกว่า แน่นอนว่า SSD ตัวนี้ถือเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่ต้องการ ความจุสูงขึ้นและความเร็วในการประมวลผลที่มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์งานด้าน AI ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว https://www.techpowerup.com/334049/kioxia-unveils-high-capacity-lc9-series-122-88-tb-nvme-ssds-for-ai-applications
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    KIOXIA Unveils High-Capacity LC9 Series 122.88 TB NVMe SSDs for AI Applications
    KIOXIA America, Inc. today announced the development of its new LC9 Series 122.88 terabyte (TB) capacity NVMe SSD in a 2.5-inch form factor - the first SSD built with the company's BiCS FLASH generation 8 3D flash memory technology QLC 2 terabit (Tb) die. As AI systems become increasingly sophist...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานีต่อไป...เซกามัต จุดหมายแรกรัฐยะโฮร์

    15 มี.ค.2568 การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย จะขยายการเดินรถไฟ ETS (Electric Train Service) ไปถึงสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ ซึ่งเป็น 1 ใน 11 สถานีของโครงการรถไฟทางคู่เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru) ระยะทาง 192 กิโลเมตร ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2568

    สถานีเซกามัตแห่งใหม่ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2567 มีสิ่งอำนวยความสะดวกได้แก่ ลิฟต์ บันไดเลื่อน ห้องน้ำ กล้องวงจรปิด CCTV ห้องละหมาด ลานจอดรถรองรับรถยนต์ได้ 97 คัน รถจักรยานยนต์ 49 คัน และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ (OKU) เช่น ที่จอดรถ ห้องน้ำ ปัจจุบันให้บริการรถไฟ KTM Intercity ขบวน ERT สายตุมปัต-เจบีเซ็นทรัล (Tumpat-JB Sentral) และขบวน ES สายเกอมัส-เจบีเซ็นทรัล (Gemas-JB Sentral)

    เมืองเซกามัต ห่างจากเมืองยะโฮร์บาห์รู 172 กิโลเมตร ประชาชนมีอาชีพทำการเกษตร สวนปาล์ม สวนยางพารา และมีทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียง มีสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ จตุรัสเซกามัต (Dataran Segamat) แลนด์มาร์คของเมือง มีหอนาฬิกาและสวนภูมิทัศน์ สำหรับจัดงานสำคัญและกิจกรรมต่างๆ

    สะพานรถไฟเก่า (Segamat Old Iron Railway Bridge) เป็นสะพานเหล็ก ข้ามแม่น้ำเซกามัต สร้างขึ้นในปี 2452 กระทั่งก่อสร้างทางรถไฟยกระดับในปี 2561 เมื่อแล้วเสร็จจึงได้ปิดใช้สะพาน ปัจจุบันได้ปรับภูมิทัศน์เป็นจุดถ่ายรูปเช็กอิน

    สะพานบูโละห์ กาซัป (Buloh Kasap Bridge) ข้ามแม่น้ำมัวร์ สร้างขึ้นโดยอังกฤษ ที่ก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 1 จากยะโฮร์บาห์รูไปยังบูกิตกายูฮิตัม แต่ได้ทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อขัดขวางไม่ให้ทหารญี่ปุ่นเข้าไปที่สิงคโปร์

    ร็อคการ์เดน (Rock Garden) หรือสวนบาตูฮัมปาร์ (Taman Bunga Batu Hampar) สวนสาธารณะใจกลางเมือง เป็นที่ตั้งของบ้านพักเจ้าหน้าที่ และพระราชวังฮิงกาปของราชวงศ์ยะโฮร์ มีสนามเด็กเล่น ลู่วิ่งจ็อกกิ้ง และร้านกาแฟ

    วอลเตอร์ส ฟาร์ม (Walters Farm) แหล่งท่องเที่ยวฟาร์มสเตย์ มีทั้งสวนสัตว์ขนาดเล็ก สวนน้ำ สวนสนุก รวมทั้งกิจกรรมนันทนาการอื่นๆ (มีค่าผ่านประตู)

    อุทยานแห่งชาติกูนุง เลดัง (Gunung Ledang) ห่างจากตัวเมือง 35 กิโลเมตร เป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับเดินป่า ตั้งแคมป์ และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติ

    ป่านันทนาการสุไหงบันตัง (Sungai Bantang) ห่างจากตัวเมือง 65 กิโลเมตร เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติ นิยมทำกิจกรรมทั้งปิกนิก เดินป่า และเล่นน้ำตกในแม่น้ำบันตัง

    นอกจากนี้ ยังสามารถขึ้นรถบัสไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รูได้อีกด้วย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที

    #Newskit
    สถานีต่อไป...เซกามัต จุดหมายแรกรัฐยะโฮร์ 15 มี.ค.2568 การรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย จะขยายการเดินรถไฟ ETS (Electric Train Service) ไปถึงสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ ซึ่งเป็น 1 ใน 11 สถานีของโครงการรถไฟทางคู่เกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru) ระยะทาง 192 กิโลเมตร ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2568 สถานีเซกามัตแห่งใหม่ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 15 พ.ค.2567 มีสิ่งอำนวยความสะดวกได้แก่ ลิฟต์ บันไดเลื่อน ห้องน้ำ กล้องวงจรปิด CCTV ห้องละหมาด ลานจอดรถรองรับรถยนต์ได้ 97 คัน รถจักรยานยนต์ 49 คัน และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ (OKU) เช่น ที่จอดรถ ห้องน้ำ ปัจจุบันให้บริการรถไฟ KTM Intercity ขบวน ERT สายตุมปัต-เจบีเซ็นทรัล (Tumpat-JB Sentral) และขบวน ES สายเกอมัส-เจบีเซ็นทรัล (Gemas-JB Sentral) เมืองเซกามัต ห่างจากเมืองยะโฮร์บาห์รู 172 กิโลเมตร ประชาชนมีอาชีพทำการเกษตร สวนปาล์ม สวนยางพารา และมีทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียง มีสถานที่ท่องเที่ยว อาทิ จตุรัสเซกามัต (Dataran Segamat) แลนด์มาร์คของเมือง มีหอนาฬิกาและสวนภูมิทัศน์ สำหรับจัดงานสำคัญและกิจกรรมต่างๆ สะพานรถไฟเก่า (Segamat Old Iron Railway Bridge) เป็นสะพานเหล็ก ข้ามแม่น้ำเซกามัต สร้างขึ้นในปี 2452 กระทั่งก่อสร้างทางรถไฟยกระดับในปี 2561 เมื่อแล้วเสร็จจึงได้ปิดใช้สะพาน ปัจจุบันได้ปรับภูมิทัศน์เป็นจุดถ่ายรูปเช็กอิน สะพานบูโละห์ กาซัป (Buloh Kasap Bridge) ข้ามแม่น้ำมัวร์ สร้างขึ้นโดยอังกฤษ ที่ก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 1 จากยะโฮร์บาห์รูไปยังบูกิตกายูฮิตัม แต่ได้ทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เพื่อขัดขวางไม่ให้ทหารญี่ปุ่นเข้าไปที่สิงคโปร์ ร็อคการ์เดน (Rock Garden) หรือสวนบาตูฮัมปาร์ (Taman Bunga Batu Hampar) สวนสาธารณะใจกลางเมือง เป็นที่ตั้งของบ้านพักเจ้าหน้าที่ และพระราชวังฮิงกาปของราชวงศ์ยะโฮร์ มีสนามเด็กเล่น ลู่วิ่งจ็อกกิ้ง และร้านกาแฟ วอลเตอร์ส ฟาร์ม (Walters Farm) แหล่งท่องเที่ยวฟาร์มสเตย์ มีทั้งสวนสัตว์ขนาดเล็ก สวนน้ำ สวนสนุก รวมทั้งกิจกรรมนันทนาการอื่นๆ (มีค่าผ่านประตู) อุทยานแห่งชาติกูนุง เลดัง (Gunung Ledang) ห่างจากตัวเมือง 35 กิโลเมตร เป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับเดินป่า ตั้งแคมป์ และเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ธรรมชาติ ป่านันทนาการสุไหงบันตัง (Sungai Bantang) ห่างจากตัวเมือง 65 กิโลเมตร เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติ นิยมทำกิจกรรมทั้งปิกนิก เดินป่า และเล่นน้ำตกในแม่น้ำบันตัง นอกจากนี้ ยังสามารถขึ้นรถบัสไปยังเมืองยะโฮร์บาห์รูได้อีกด้วย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที #Newskit
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 800 มุมมอง 0 รีวิว
  • Western Digital เปิดตัวฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่ล่าสุด WD Red Pro 26TB ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในระบบ NAS (Network-Attached Storage) และ DAS (Direct-Attached Storage) สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานระดับมืออาชีพที่ต้องการความจุขนาดใหญ่และความเสถียรสูง

    WD Red Pro 26TB นี้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น แพลตฟอร์มที่ซีลด้วยฮีเลียม 11 ชั้น ซึ่งช่วยเพิ่มความจุและลดการสั่นสะเทือน มาพร้อมกับการบันทึกข้อมูลแบบ Conventional Magnetic Recording (CMR) และเทคโนโลยี OptiNAND ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูล ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 272 MB/s และรองรับการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือนอย่างหนัก เหมาะสำหรับการใช้งานแบบต่อเนื่อง 24/7 โดยฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้มีการรับประกันยาวนานถึง 5 ปี และราคาเริ่มต้นที่ $569.99

    นอกจากนี้ Western Digital ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่รองรับการใช้งาน DAS เช่น G-Drive ความจุ 26TB ที่เน้นการใช้งานง่ายและพกพาสะดวก ไปจนถึง G-RAID Shuttle 8 ซึ่งสามารถรองรับความจุสูงสุดถึง 208TB เหมาะสำหรับกลุ่มมืออาชีพด้านการสร้างสรรค์เนื้อหา ที่ต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/wd-red-pro-26tb-hits-the-market-for-usd569-new-capacity-enables-portable-208tb-raid-solution-for-usd8-299
    Western Digital เปิดตัวฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่ล่าสุด WD Red Pro 26TB ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในระบบ NAS (Network-Attached Storage) และ DAS (Direct-Attached Storage) สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานระดับมืออาชีพที่ต้องการความจุขนาดใหญ่และความเสถียรสูง WD Red Pro 26TB นี้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น แพลตฟอร์มที่ซีลด้วยฮีเลียม 11 ชั้น ซึ่งช่วยเพิ่มความจุและลดการสั่นสะเทือน มาพร้อมกับการบันทึกข้อมูลแบบ Conventional Magnetic Recording (CMR) และเทคโนโลยี OptiNAND ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูล ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูงถึง 272 MB/s และรองรับการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือนอย่างหนัก เหมาะสำหรับการใช้งานแบบต่อเนื่อง 24/7 โดยฮาร์ดดิสก์รุ่นนี้มีการรับประกันยาวนานถึง 5 ปี และราคาเริ่มต้นที่ $569.99 นอกจากนี้ Western Digital ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่รองรับการใช้งาน DAS เช่น G-Drive ความจุ 26TB ที่เน้นการใช้งานง่ายและพกพาสะดวก ไปจนถึง G-RAID Shuttle 8 ซึ่งสามารถรองรับความจุสูงสุดถึง 208TB เหมาะสำหรับกลุ่มมืออาชีพด้านการสร้างสรรค์เนื้อหา ที่ต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/wd-red-pro-26tb-hits-the-market-for-usd569-new-capacity-enables-portable-208tb-raid-solution-for-usd8-299
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • รถไฟ ETS มาเลเซีย ขยายถึงเซกามัต รัฐยะโฮร์

    สิ้นสุดการรอคอยสำหรับการขยายเส้นทางรถไฟ ETS (Electric Train Service) ของการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย จากเดิมสิ้นสุดที่สถานีเกอมัส (Gemas) รัฐเนกรีเซมบีลัน ขยายไปถึงสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ หลังเจอโรคเลื่อนไปหลายเดือน ล่าสุดประกาศว่าจะเปิดให้บริการในวันที่ 15 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป จากต้นทางสถานีปาดังเบซาร์ (Padang Besar) รัฐปะลิส ติดชายแดนไทย-มาเลเซีย จ.สงขลา และสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง

    โดยปรับเปลี่ยนต้นทางและปลายทางจากเดิมสถานีเกอมัส เป็นสถานีเซกามัต โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนเวลาเดินรถ ได้แก่ ขบวนที่ EG9420 เซกามัต-ปาดังเบซาร์ ออกจากสถานีเซกามัต 07.55 น. ผ่านสถานีเกอมัส 08.12 น. สถานี KL Sentral 10.41 น. ถึงสถานีปาดังเบซาร์ 16.18 น.

    ขบวนที่ EG9425 ปาดังเบซาร์-เซกามัต ออกจากสถานีปาดังเบซาร์ 15.55 น. (เวลามาเลเซีย เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) ผ่านสถานี KL Sentral 21.39 น. สถานีเกอมัส 00.05 น. (วันถัดไป) ถึงสถานีเซกามัต 00.20 น. (วันถัดไป)

    ขบวนที่ EG9322 เซกามัต-บัตเตอร์เวิร์ธ ออกจากสถานีเซกามัต 15.35 น. ผ่านสถานีเกอมัส 15.52 น. สถานี KL Sentral 18.22 น. ถึงสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ 22.42 น.

    ขบวนที่ EG9321 ออกจากสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ 07.50 น. ผ่านสถานี KL Sentral 12.15 น. สถานีเกอมัส 14.42 น. ถึงสถานีเซกามัต 14.57 น.

    ค่าโดยสารช่วงเซกามัต-ปาดังเบซาร์ เริ่มต้นที่ 101 ริงกิต (773 บาท) ส่วนช่วงเซกามัต-บัตเตอร์เวิร์ธ เริ่มต้นที่ 84 ริงกิต (643 บาท) สำรองที่นั่งได้ที่แอปพลิเคชัน KTMB Mobile ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2568 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป หรือที่เครื่อง Kiosk ของ KTM Berhad ทุกสถานี รับบัตร VISA และ Mastercard

    จากสถานีเซกามัต มีสถานีขนส่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานี มีรถบัสให้บริการไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) สถานีขนส่งลาร์คิน ยะโฮร์บาห์รู (Larkin, Johor Bharu) มะละกา (Malacca) และกวนตัน (Kuantan) ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ แต่หากเดินทางด้วยรถไฟขบวน EG9425 จากปาดังเบซาร์ สามารถต่อรถไฟ KTM Intercity ไปยังสถานีเจบี เซ็นทรัล (JB Sentral) เพื่อไปประเทศสิงคโปร์ โดยขบวนที่ ES41 ออกจากสถานีเซกามัตเวลา 02.36 น. ถึงสถานีเจบี เซ็นทรัล 06.25 น.

    ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru Electrified Double-Tracking Rail Project หรือ Gemas - JB EDTP) ระยะทาง 192 กิโลเมตร รัฐบาลท้องถิ่นรัฐยะโฮร์เปิดเผยว่าใกล้เสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะเปิดตัวประมาณเดือน ส.ค.2568

    #Newskit
    รถไฟ ETS มาเลเซีย ขยายถึงเซกามัต รัฐยะโฮร์ สิ้นสุดการรอคอยสำหรับการขยายเส้นทางรถไฟ ETS (Electric Train Service) ของการรถไฟมาลายา (KTM Berhad) ประเทศมาเลเซีย จากเดิมสิ้นสุดที่สถานีเกอมัส (Gemas) รัฐเนกรีเซมบีลัน ขยายไปถึงสถานีเซกามัต (Segamat) รัฐยะโฮร์ หลังเจอโรคเลื่อนไปหลายเดือน ล่าสุดประกาศว่าจะเปิดให้บริการในวันที่ 15 มี.ค. 2568 เป็นต้นไป จากต้นทางสถานีปาดังเบซาร์ (Padang Besar) รัฐปะลิส ติดชายแดนไทย-มาเลเซีย จ.สงขลา และสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ (Butterworth) รัฐปีนัง โดยปรับเปลี่ยนต้นทางและปลายทางจากเดิมสถานีเกอมัส เป็นสถานีเซกามัต โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนเวลาเดินรถ ได้แก่ ขบวนที่ EG9420 เซกามัต-ปาดังเบซาร์ ออกจากสถานีเซกามัต 07.55 น. ผ่านสถานีเกอมัส 08.12 น. สถานี KL Sentral 10.41 น. ถึงสถานีปาดังเบซาร์ 16.18 น. ขบวนที่ EG9425 ปาดังเบซาร์-เซกามัต ออกจากสถานีปาดังเบซาร์ 15.55 น. (เวลามาเลเซีย เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง) ผ่านสถานี KL Sentral 21.39 น. สถานีเกอมัส 00.05 น. (วันถัดไป) ถึงสถานีเซกามัต 00.20 น. (วันถัดไป) ขบวนที่ EG9322 เซกามัต-บัตเตอร์เวิร์ธ ออกจากสถานีเซกามัต 15.35 น. ผ่านสถานีเกอมัส 15.52 น. สถานี KL Sentral 18.22 น. ถึงสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ 22.42 น. ขบวนที่ EG9321 ออกจากสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ 07.50 น. ผ่านสถานี KL Sentral 12.15 น. สถานีเกอมัส 14.42 น. ถึงสถานีเซกามัต 14.57 น. ค่าโดยสารช่วงเซกามัต-ปาดังเบซาร์ เริ่มต้นที่ 101 ริงกิต (773 บาท) ส่วนช่วงเซกามัต-บัตเตอร์เวิร์ธ เริ่มต้นที่ 84 ริงกิต (643 บาท) สำรองที่นั่งได้ที่แอปพลิเคชัน KTMB Mobile ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2568 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป หรือที่เครื่อง Kiosk ของ KTM Berhad ทุกสถานี รับบัตร VISA และ Mastercard จากสถานีเซกามัต มีสถานีขนส่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานี มีรถบัสให้บริการไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur) สถานีขนส่งลาร์คิน ยะโฮร์บาห์รู (Larkin, Johor Bharu) มะละกา (Malacca) และกวนตัน (Kuantan) ตั้งแต่เช้าถึงค่ำ แต่หากเดินทางด้วยรถไฟขบวน EG9425 จากปาดังเบซาร์ สามารถต่อรถไฟ KTM Intercity ไปยังสถานีเจบี เซ็นทรัล (JB Sentral) เพื่อไปประเทศสิงคโปร์ โดยขบวนที่ ES41 ออกจากสถานีเซกามัตเวลา 02.36 น. ถึงสถานีเจบี เซ็นทรัล 06.25 น. ส่วนโครงการรถไฟทางคู่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเกอมัส-ยะโฮร์บาห์รู (Gemas-Johor Bahru Electrified Double-Tracking Rail Project หรือ Gemas - JB EDTP) ระยะทาง 192 กิโลเมตร รัฐบาลท้องถิ่นรัฐยะโฮร์เปิดเผยว่าใกล้เสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะเปิดตัวประมาณเดือน ส.ค.2568 #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 502 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาแบตเตอรี่ที่สามารถแปลงพลังงานนิวเคลียร์เป็นไฟฟ้าโดยการใช้การปล่อยแสง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตตได้คิดค้นเทคโนโลยีนี้เพื่อให้เราสามารถนำของเสียจากนิวเคลียร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้

    ในงานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร Optical Materials: X อธิบายว่าการแผ่รังสีแกมมาสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กได้ โดยต้นแบบแบตเตอรี่ขนาดเพียงสี่ลูกบาศก์เซนติเมตรนี้ใช้คริสตัลสกิลเลอเตอร์ที่มีความหนาแน่นสูง ซึ่งเมื่อถูกแผ่รังสีจะปล่อยแสงออกมา จากนั้นเซลล์แสงอาทิตย์จะเปลี่ยนแสงนี้เป็นไฟฟ้า

    นักวิจัยได้ทดสอบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่นี้โดยใช้ซีเซียม-137 และโคบอลต์-60 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ฟิชชันหลักจากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ใช้แล้ว โดยพบว่าแบตเตอรี่สามารถผลิตพลังงานได้ 288 นาโนวัตต์เมื่อใช้ซีเซียม-137 และเพิ่มเป็น 1.5 ไมโครวัตต์เมื่อใช้โคบอลต์-60 เพียงพอสำหรับการใช้งานในเซนเซอร์ขนาดเล็ก

    นักวิจัยมองว่าแบตเตอรี่ชนิดนี้สามารถนำไปใช้ในบริเวณที่มีการผลิตของเสียนิวเคลียร์ เช่น สระเก็บเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ หรือในระบบนิวเคลียร์สำหรับการสำรวจอวกาศและใต้น้ำ

    สิ่งที่น่าสนใจคือ แบตเตอรี่นี้ไม่ใช้วัสดุกัมมันตรังสี ทำให้สามารถจัดการได้อย่างปลอดภัย แบตเตอรี่ประเภทนี้อาจเป็นก้าวสำคัญในการนำของเสียที่ถือว่าเป็นภาระมาใช้เป็นแหล่งพลังงานที่มีค่า

    ในอนาคต นักวิจัยหวังว่าจะสามารถพัฒนาแบตเตอรี่ที่สามารถผลิตพลังงานได้มากขึ้นและใช้งานในสภาพแวดล้อมจริงได้ แต่การขยายเทคโนโลยีนี้ยังคงเผชิญกับความท้าทายโดยเฉพาะด้านต้นทุนการผลิต

    https://www.techspot.com/news/106997-scientists-develop-battery-converts-nuclear-energy-electricity-light.html
    นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาแบตเตอรี่ที่สามารถแปลงพลังงานนิวเคลียร์เป็นไฟฟ้าโดยการใช้การปล่อยแสง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตตได้คิดค้นเทคโนโลยีนี้เพื่อให้เราสามารถนำของเสียจากนิวเคลียร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ในงานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร Optical Materials: X อธิบายว่าการแผ่รังสีแกมมาสามารถนำมาใช้เพื่อสร้างไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กได้ โดยต้นแบบแบตเตอรี่ขนาดเพียงสี่ลูกบาศก์เซนติเมตรนี้ใช้คริสตัลสกิลเลอเตอร์ที่มีความหนาแน่นสูง ซึ่งเมื่อถูกแผ่รังสีจะปล่อยแสงออกมา จากนั้นเซลล์แสงอาทิตย์จะเปลี่ยนแสงนี้เป็นไฟฟ้า นักวิจัยได้ทดสอบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่นี้โดยใช้ซีเซียม-137 และโคบอลต์-60 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ฟิชชันหลักจากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่ใช้แล้ว โดยพบว่าแบตเตอรี่สามารถผลิตพลังงานได้ 288 นาโนวัตต์เมื่อใช้ซีเซียม-137 และเพิ่มเป็น 1.5 ไมโครวัตต์เมื่อใช้โคบอลต์-60 เพียงพอสำหรับการใช้งานในเซนเซอร์ขนาดเล็ก นักวิจัยมองว่าแบตเตอรี่ชนิดนี้สามารถนำไปใช้ในบริเวณที่มีการผลิตของเสียนิวเคลียร์ เช่น สระเก็บเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ หรือในระบบนิวเคลียร์สำหรับการสำรวจอวกาศและใต้น้ำ สิ่งที่น่าสนใจคือ แบตเตอรี่นี้ไม่ใช้วัสดุกัมมันตรังสี ทำให้สามารถจัดการได้อย่างปลอดภัย แบตเตอรี่ประเภทนี้อาจเป็นก้าวสำคัญในการนำของเสียที่ถือว่าเป็นภาระมาใช้เป็นแหล่งพลังงานที่มีค่า ในอนาคต นักวิจัยหวังว่าจะสามารถพัฒนาแบตเตอรี่ที่สามารถผลิตพลังงานได้มากขึ้นและใช้งานในสภาพแวดล้อมจริงได้ แต่การขยายเทคโนโลยีนี้ยังคงเผชิญกับความท้าทายโดยเฉพาะด้านต้นทุนการผลิต https://www.techspot.com/news/106997-scientists-develop-battery-converts-nuclear-energy-electricity-light.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists develop battery that converts nuclear energy into electricity via light emission
    A study published in Optical Materials: X outlines how ambient gamma radiation can be harvested to generate electricity for microelectronics. The prototype battery, measuring just four cubic...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความขัดแย้งระหว่างพ่อกับลูกของหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศแห่งนี้ และมีความเป็นและความตายของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของสิงคโปร์อย่าง City Developments Ltd (CDL) เป็นเดิมพัน ได้ปะทุขึ้นต่อหน้าสาธารณชนในสัปดาห์นี้ การโต้เถียงกันระหว่างประธานบริหารของ CDL คือ กัวลิ่งหมิง (Kwek Leng Beng) และลูกชายของเขา คือ กัวอี้จื้อ (Sherman Kwek) ได้เปิดเผยถึงรอยร้าวที่ลึกซึ้งภายในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับสี่ของสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ในอันดับมหาเศรษฐฐีชั้นนำที่จัดอันดับโดย Forbesศึกสายเลือกครั้งนี้เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาเรื่องความผิดพลาดขององค์กร การละเมิดการกำกับดูแล และความสัมพันธ์ส่วนตัวกำลังคุกคามที่จะยกระดับเป็นการต่อสู้ในศาลเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งในอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เรื่องพิพาทของทั้งคู่เดิมทีเป็นเรื่องในบริษัท แต่ปรากฏต่อสาธารณชนครั้งแรกของปัญหาเกิดขึ้นเมื่อวันพุธ เมื่อ CDL ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี Straits Times ของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เรียกร้องให้หยุดการซื้อขายกะทันหัน ตามด้วยแถลงการณ์ยกเลิกการสรุปผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2024 ที่กำหนดไว้จากนั้นก็เกิดเรื่องที่น่าตกตะลึง นั่นคือ กัวลิ่งหมิง (Kwek Leng Beng) ผู้นำตระกูลวัย 84 ปี กล่าวหาลูกชายและซีอีโอของ CDL ต่อสาธารณะว่าวางแผน "พยายามก่อรัฐประหารในระดับคณะกรรมการ"ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า กัวอี้จื้อ (Sherman Kwek) ลูกชายคนเล็ก พร้อมด้วยคณะกรรมการส่วนใหญ่ ได้แต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติมอีก 2 คนเพื่อ "รวมอำนาจการควบคุมคณะกรรมการ" และ CDL เพื่อขัดขวางการแย่งชิงอำนาจ กัวลิ่งหมิง ผู้เป็นพ่อได้ยื่นฟ้องและต่อมาประกาศว่าเขาได้รับคำสั่งศาลให้หยุดการเปลี่ยนแปลงในคณะกรรมการและฝ่ายบริหารของ CDL Groupกัวอี้จื้อ วัย 49 ปี ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบอสตัน ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยกล่าวว่า "เราไม่ได้พยายามขับไล่ประธาน"เขาเรียกการเคลื่อนไหวของพ่อว่าเป็นการ "ซุ่มโจมตี" แต่กลับชี้ไปที่ที่มาชองความตึงเครียดที่ลึกซึ้งกว่า นั่นคือ แคเธอรีน วู (Catherine Wu) ที่ปรึกษาคณะกรรมการของบริษัทลูก CDL แต่ลูกชายของเขากล่าวหาว่าแทรกแซงกิจการของบริษัทกัวอี้จื้อ กล่าวว่า "เธอแทรกแซงในเรื่องต่างๆ มากเกินกว่าขอบเขตของเธอ และเธอมีอิทธิพลมหาศาล เรื่องเหล่านี้สร้างปัญหาให้กับเราในฐานะกรรมการ""เนื่องจากความสัมพันธ์อันยาวนานของเธอกับประธานบริษัท (ผู้เป็นพ่อ) ความพยายามในการจัดการสถานการณ์จึงทำไปด้วยความอ่อนไหว แต่ก็ไร้ผล" กัวอี้จื้อ ผู้เป็นลูก กล่าวข้อพิพาทดังกล่าวได้เปิดเผยถึงการแย่งชิงอำนาจภายใน CDL ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ตามมูลค่าตลาด และตระกูลกัว ซึ่งอาณาจักรของพวกเขามีมูลค่า 11,500 ล้านดอลลาร์ตามการจัดอันดับของนิตยสาร Forbesในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ กัวลิ่งหมิง ได้ยื่นคำร้องให้ กัวอี้จื้อ ออกจากตำแหน่ง CEO โดยระบุว่าลูกชายกระทำการให้เกิด "ความผิดพลาดหลายครั้ง" โดยอ้างถึงการขาดทุนมหาศาล 1.4 พันล้านดอลลาร์ใน "ความล้มเหลว" ในปี 2020 และการตัดสินใจลงทุนที่ผิดพลาดในสหราชอาณาจักรราคาหุ้นของ CDL ยัง "ทำผลงานได้ต่ำกว่าคู่แข่งอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ (กัวอี้จื้อ) เข้ารับตำแหน่งผู้นำในปี 2018" กัวลิ่งหมิง ผู้ก่อตั้งบริษัทกล่าว"(คนหนุ่มสาว) อาจทำผิดพลาดในอาชีพการงานได้ และนั่นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่การหลีกเลี่ยงกฎหมายการกำกับดูแลกิจการถือเป็นการล้ำเส้น" กัวลิ่งหมิง กล่าว"ในฐานะพ่อ การไล่ลูกชายออกไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย" แต่ผลที่ตามมา "ก็สูงเกินไปที่จะปล่อยให้การยึดอำนาจโดยไม่คิดหน้าคิดหลังมาทำให้บริษัทไม่มั่นคง" เขากล่าวหุ้นของบริษัทมูลค่า 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐยังคงถูกระงับ และ CDL ถูกปรับลดระดับโดยบริษัทต่างๆ รวมถึง JPMorgan Chase & Co ตามรายงานของ Bloomberg'การกระทำที่ไม่รอบคอบ'CDL เริ่มต้นจากธุรกิจที่ขาดทุนตอนที่ กัวลิ่งหมิง พ่อของเขา กัวฟางเฟิง (Kwek Hong Png) และพี่ชายของเขา กัวลิ่วอวี้ (Kwek Leng Joo) ซื้อกิจการในปี 1971ภายใต้การบริหารของ กัวลิ่งหมิง บริษัทได้ขยายตัวอย่างมาก โดยปัจจุบันพอร์ตโฟลิโอของบริษัทครอบคลุมถึงที่พักอาศัย สำนักงาน โรงแรม ศูนย์การค้า และการพัฒนาแบบบูรณาการในสิงคโปร์ รวมถึงจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และทั่วทั้งยุโรปการที่บริษัทเข้าสู่ธุรกิจโรงแรมทำให้บริษัทในเครือ Millennium & Copthorne Hotels กลายเป็นกลุ่มโรงแรมระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในศูนย์กลางการเงิน โดยมีทรัพย์สินรวมถึงโรงแรม The Biltmore ในย่าน Mayfair ของลอนดอน และ Millennium ในย่าน Wall Street และ Times Square ของนิวยอร์กกัวลิ่งหมิง กล่าวว่าการรักษามรดกของเขาไว้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาต่อสู้กับลูกชายและพันธมิตรในห้องประชุมของเขา“การกระทำที่ไร้ความรอบคอบของกลุ่มที่พยายามจะรวมอำนาจควบคุมที่ไร้การควบคุมเข้าด้วยกันนั้นไม่เพียงแต่ทำลายรากฐานของการปกครองของ CDL เท่านั้น แต่ยังทำให้มรดกที่เราสร้างมาตลอดหลายทศวรรษตกอยู่ในความเสี่ยงอีกด้วย” กัวลิ่งหมิง กล่าวขณะนี้ศาลเข้ามาเกี่ยวข้องและผู้นำของ CDL ก็ตกเป็นเป้าหมาย ความขัดแย้งในครอบครัวที่ขมขื่นนี้ยังไม่จบสิ้นกัวอี้จื้อ ได้ปกป้องการเคลื่อนไหวของเขาในการปลด แคเทอรีน วู ออกจากคณะกรรมการบริษัท Millennium & Copthorne เนื่องจาก "จำเป็น" สำหรับผลประโยชน์ของ CDL โดยเสริมว่ากรรมการส่วนใหญ่จะยังคง "รักษาการกำกับดูแลกิจการและความรับผิดชอบขององค์กรต่อไป"กัวลิ่งหมิง พ่อของเขาซึ่งไม่ได้กล่าวถึง วู ในคำตอบของตนยืนยันว่า "การลิดรอนอำนาจที่สำคัญใดๆ ของประธานบริหารถือเป็นการก่อรัฐประหาร"“ตอนนี้เป็นเรื่องของศาล และผมจะปล่อยให้ศาลตัดสิน ความยุติธรรมย่อมมีชัยเสมอ” กัวลิ่งหมิง กล่าวAgence France-PressePhoto Kwek Leng Beng by Roslan RAHMAN / AFP
    ความขัดแย้งระหว่างพ่อกับลูกของหนึ่งในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศแห่งนี้ และมีความเป็นและความตายของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของสิงคโปร์อย่าง City Developments Ltd (CDL) เป็นเดิมพัน ได้ปะทุขึ้นต่อหน้าสาธารณชนในสัปดาห์นี้ การโต้เถียงกันระหว่างประธานบริหารของ CDL คือ กัวลิ่งหมิง (Kwek Leng Beng) และลูกชายของเขา คือ กัวอี้จื้อ (Sherman Kwek) ได้เปิดเผยถึงรอยร้าวที่ลึกซึ้งภายในตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับสี่ของสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ในอันดับมหาเศรษฐฐีชั้นนำที่จัดอันดับโดย Forbesศึกสายเลือกครั้งนี้เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาเรื่องความผิดพลาดขององค์กร การละเมิดการกำกับดูแล และความสัมพันธ์ส่วนตัวกำลังคุกคามที่จะยกระดับเป็นการต่อสู้ในศาลเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งในอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เรื่องพิพาทของทั้งคู่เดิมทีเป็นเรื่องในบริษัท แต่ปรากฏต่อสาธารณชนครั้งแรกของปัญหาเกิดขึ้นเมื่อวันพุธ เมื่อ CDL ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี Straits Times ของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เรียกร้องให้หยุดการซื้อขายกะทันหัน ตามด้วยแถลงการณ์ยกเลิกการสรุปผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2024 ที่กำหนดไว้จากนั้นก็เกิดเรื่องที่น่าตกตะลึง นั่นคือ กัวลิ่งหมิง (Kwek Leng Beng) ผู้นำตระกูลวัย 84 ปี กล่าวหาลูกชายและซีอีโอของ CDL ต่อสาธารณะว่าวางแผน "พยายามก่อรัฐประหารในระดับคณะกรรมการ"ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า กัวอี้จื้อ (Sherman Kwek) ลูกชายคนเล็ก พร้อมด้วยคณะกรรมการส่วนใหญ่ ได้แต่งตั้งกรรมการเพิ่มเติมอีก 2 คนเพื่อ "รวมอำนาจการควบคุมคณะกรรมการ" และ CDL เพื่อขัดขวางการแย่งชิงอำนาจ กัวลิ่งหมิง ผู้เป็นพ่อได้ยื่นฟ้องและต่อมาประกาศว่าเขาได้รับคำสั่งศาลให้หยุดการเปลี่ยนแปลงในคณะกรรมการและฝ่ายบริหารของ CDL Groupกัวอี้จื้อ วัย 49 ปี ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบอสตัน ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยกล่าวว่า "เราไม่ได้พยายามขับไล่ประธาน"เขาเรียกการเคลื่อนไหวของพ่อว่าเป็นการ "ซุ่มโจมตี" แต่กลับชี้ไปที่ที่มาชองความตึงเครียดที่ลึกซึ้งกว่า นั่นคือ แคเธอรีน วู (Catherine Wu) ที่ปรึกษาคณะกรรมการของบริษัทลูก CDL แต่ลูกชายของเขากล่าวหาว่าแทรกแซงกิจการของบริษัทกัวอี้จื้อ กล่าวว่า "เธอแทรกแซงในเรื่องต่างๆ มากเกินกว่าขอบเขตของเธอ และเธอมีอิทธิพลมหาศาล เรื่องเหล่านี้สร้างปัญหาให้กับเราในฐานะกรรมการ""เนื่องจากความสัมพันธ์อันยาวนานของเธอกับประธานบริษัท (ผู้เป็นพ่อ) ความพยายามในการจัดการสถานการณ์จึงทำไปด้วยความอ่อนไหว แต่ก็ไร้ผล" กัวอี้จื้อ ผู้เป็นลูก กล่าวข้อพิพาทดังกล่าวได้เปิดเผยถึงการแย่งชิงอำนาจภายใน CDL ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ตามมูลค่าตลาด และตระกูลกัว ซึ่งอาณาจักรของพวกเขามีมูลค่า 11,500 ล้านดอลลาร์ตามการจัดอันดับของนิตยสาร Forbesในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ กัวลิ่งหมิง ได้ยื่นคำร้องให้ กัวอี้จื้อ ออกจากตำแหน่ง CEO โดยระบุว่าลูกชายกระทำการให้เกิด "ความผิดพลาดหลายครั้ง" โดยอ้างถึงการขาดทุนมหาศาล 1.4 พันล้านดอลลาร์ใน "ความล้มเหลว" ในปี 2020 และการตัดสินใจลงทุนที่ผิดพลาดในสหราชอาณาจักรราคาหุ้นของ CDL ยัง "ทำผลงานได้ต่ำกว่าคู่แข่งอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ (กัวอี้จื้อ) เข้ารับตำแหน่งผู้นำในปี 2018" กัวลิ่งหมิง ผู้ก่อตั้งบริษัทกล่าว"(คนหนุ่มสาว) อาจทำผิดพลาดในอาชีพการงานได้ และนั่นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่การหลีกเลี่ยงกฎหมายการกำกับดูแลกิจการถือเป็นการล้ำเส้น" กัวลิ่งหมิง กล่าว"ในฐานะพ่อ การไล่ลูกชายออกไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย" แต่ผลที่ตามมา "ก็สูงเกินไปที่จะปล่อยให้การยึดอำนาจโดยไม่คิดหน้าคิดหลังมาทำให้บริษัทไม่มั่นคง" เขากล่าวหุ้นของบริษัทมูลค่า 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐยังคงถูกระงับ และ CDL ถูกปรับลดระดับโดยบริษัทต่างๆ รวมถึง JPMorgan Chase & Co ตามรายงานของ Bloomberg'การกระทำที่ไม่รอบคอบ'CDL เริ่มต้นจากธุรกิจที่ขาดทุนตอนที่ กัวลิ่งหมิง พ่อของเขา กัวฟางเฟิง (Kwek Hong Png) และพี่ชายของเขา กัวลิ่วอวี้ (Kwek Leng Joo) ซื้อกิจการในปี 1971ภายใต้การบริหารของ กัวลิ่งหมิง บริษัทได้ขยายตัวอย่างมาก โดยปัจจุบันพอร์ตโฟลิโอของบริษัทครอบคลุมถึงที่พักอาศัย สำนักงาน โรงแรม ศูนย์การค้า และการพัฒนาแบบบูรณาการในสิงคโปร์ รวมถึงจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และทั่วทั้งยุโรปการที่บริษัทเข้าสู่ธุรกิจโรงแรมทำให้บริษัทในเครือ Millennium & Copthorne Hotels กลายเป็นกลุ่มโรงแรมระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในศูนย์กลางการเงิน โดยมีทรัพย์สินรวมถึงโรงแรม The Biltmore ในย่าน Mayfair ของลอนดอน และ Millennium ในย่าน Wall Street และ Times Square ของนิวยอร์กกัวลิ่งหมิง กล่าวว่าการรักษามรดกของเขาไว้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาต่อสู้กับลูกชายและพันธมิตรในห้องประชุมของเขา“การกระทำที่ไร้ความรอบคอบของกลุ่มที่พยายามจะรวมอำนาจควบคุมที่ไร้การควบคุมเข้าด้วยกันนั้นไม่เพียงแต่ทำลายรากฐานของการปกครองของ CDL เท่านั้น แต่ยังทำให้มรดกที่เราสร้างมาตลอดหลายทศวรรษตกอยู่ในความเสี่ยงอีกด้วย” กัวลิ่งหมิง กล่าวขณะนี้ศาลเข้ามาเกี่ยวข้องและผู้นำของ CDL ก็ตกเป็นเป้าหมาย ความขัดแย้งในครอบครัวที่ขมขื่นนี้ยังไม่จบสิ้นกัวอี้จื้อ ได้ปกป้องการเคลื่อนไหวของเขาในการปลด แคเทอรีน วู ออกจากคณะกรรมการบริษัท Millennium & Copthorne เนื่องจาก "จำเป็น" สำหรับผลประโยชน์ของ CDL โดยเสริมว่ากรรมการส่วนใหญ่จะยังคง "รักษาการกำกับดูแลกิจการและความรับผิดชอบขององค์กรต่อไป"กัวลิ่งหมิง พ่อของเขาซึ่งไม่ได้กล่าวถึง วู ในคำตอบของตนยืนยันว่า "การลิดรอนอำนาจที่สำคัญใดๆ ของประธานบริหารถือเป็นการก่อรัฐประหาร"“ตอนนี้เป็นเรื่องของศาล และผมจะปล่อยให้ศาลตัดสิน ความยุติธรรมย่อมมีชัยเสมอ” กัวลิ่งหมิง กล่าวAgence France-PressePhoto Kwek Leng Beng by Roslan RAHMAN / AFP
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 677 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts