• Intel กำลังเตรียมเปิดตัว Nova Lake-S ซึ่งเป็น CPU รุ่นใหม่ ที่ใช้ LGA-1954 socket โดยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสถาปัตยกรรมและการจัดการพลังงาน

    Nova Lake-S จะเป็น การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุด ในสถาปัตยกรรมของ Intel ในรอบหลายปี โดยใช้ 14A (1.4nm-class) node สำหรับ compute tiles และอาจใช้ TSMC 2nm สำหรับบางส่วนของชิป

    นอกจากนี้ Intel ยังเน้น AI acceleration โดยเพิ่ม Neural Processing Units (NPUs) เพื่อรองรับงานด้าน AI-based photo editing, real-time video effects และ generative AI tools

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Nova Lake-S ใช้ LGA-1954 socket ซึ่งมี 1,954 contact pads
    - Core configuration ประกอบด้วย 16 P-cores (Coyote Cove), 32 E-cores (Arctic Wolf) และ 4 low-power E-cores
    - ใช้ 14A (1.4nm-class) node สำหรับ compute tiles และอาจใช้ TSMC 2nm สำหรับบางส่วนของชิป
    - 900-series chipsets เช่น Z990 และ H970 จะรองรับ DDR5-6400+, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4 และ Thunderbolt 5
    - AI acceleration จะเป็นจุดเด่น โดยมี NPUs ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานด้าน AI

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ต้องใช้เมนบอร์ดใหม่ เนื่องจาก LGA-1954 ไม่รองรับ CPU รุ่นเก่า
    - แม้จะใช้ขนาด socket เดิม แต่การออกแบบ heat spreader อาจต้องใช้ mounting kits ใหม่
    - การแข่งขันกับ AMD Zen 6 อาจทำให้ตลาด CPU มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
    - ต้องรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน

    Nova Lake-S และ LGA-1954 เป็นก้าวสำคัญของ Intel ในการพัฒนา CPU ที่รองรับ AI และ multi-threaded workloads อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ยังต้องจับตาดูว่าผู้ใช้จะตอบรับอย่างไร

    https://computercity.com/hardware/processors/intels-lga-1954-socket-and-nova-lake-s-cpus
    Intel กำลังเตรียมเปิดตัว Nova Lake-S ซึ่งเป็น CPU รุ่นใหม่ ที่ใช้ LGA-1954 socket โดยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสถาปัตยกรรมและการจัดการพลังงาน Nova Lake-S จะเป็น การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุด ในสถาปัตยกรรมของ Intel ในรอบหลายปี โดยใช้ 14A (1.4nm-class) node สำหรับ compute tiles และอาจใช้ TSMC 2nm สำหรับบางส่วนของชิป นอกจากนี้ Intel ยังเน้น AI acceleration โดยเพิ่ม Neural Processing Units (NPUs) เพื่อรองรับงานด้าน AI-based photo editing, real-time video effects และ generative AI tools ✅ ข้อมูลจากข่าว - Nova Lake-S ใช้ LGA-1954 socket ซึ่งมี 1,954 contact pads - Core configuration ประกอบด้วย 16 P-cores (Coyote Cove), 32 E-cores (Arctic Wolf) และ 4 low-power E-cores - ใช้ 14A (1.4nm-class) node สำหรับ compute tiles และอาจใช้ TSMC 2nm สำหรับบางส่วนของชิป - 900-series chipsets เช่น Z990 และ H970 จะรองรับ DDR5-6400+, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4 และ Thunderbolt 5 - AI acceleration จะเป็นจุดเด่น โดยมี NPUs ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานด้าน AI ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ต้องใช้เมนบอร์ดใหม่ เนื่องจาก LGA-1954 ไม่รองรับ CPU รุ่นเก่า - แม้จะใช้ขนาด socket เดิม แต่การออกแบบ heat spreader อาจต้องใช้ mounting kits ใหม่ - การแข่งขันกับ AMD Zen 6 อาจทำให้ตลาด CPU มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ - ต้องรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน Nova Lake-S และ LGA-1954 เป็นก้าวสำคัญของ Intel ในการพัฒนา CPU ที่รองรับ AI และ multi-threaded workloads อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ยังต้องจับตาดูว่าผู้ใช้จะตอบรับอย่างไร https://computercity.com/hardware/processors/intels-lga-1954-socket-and-nova-lake-s-cpus
    COMPUTERCITY.COM
    Intel’s LGA-1954 Socket and Nova Lake-S CPUs
    Intel is preparing for another leap in desktop computing with the upcoming Nova Lake-S processors and a brand-new socket: LGA-1954. Despite just launching the
    0 Comments 0 Shares 114 Views 0 Reviews
  • M.2 vs SSD: ความแตกต่างที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้งาน

    หลายคนอาจสับสนระหว่าง M.2 กับ SSD แต่จริง ๆ แล้ว M.2 เป็นเพียงรูปแบบของ SSD ไม่ใช่เทคโนโลยีที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดย M.2 SSD มีขนาดเล็กและเชื่อมต่อโดยตรงกับเมนบอร์ด ในขณะที่ SSD แบบ 2.5 นิ้วใช้สาย SATA ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน

    🔍 ข้อแตกต่างระหว่าง M.2 และ SSD แบบ 2.5 นิ้ว
    ✅ M.2 เป็นรูปแบบของ SSD ที่มีขนาดเล็กและติดตั้งโดยตรงบนเมนบอร์ด
    - ไม่ต้องใช้สาย SATA และสายไฟเพิ่มเติม

    ✅ M.2 SSD ที่ใช้ NVMe มีความเร็วสูงกว่ารุ่นที่ใช้ SATA
    - PCIe Gen5 NVMe SSD สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 14,000 MB/s
    - SATA SSD มีความเร็วสูงสุดที่ 550 MB/s

    ✅ M.2 SSD เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น เกมมิ่งและงานตัดต่อวิดีโอ
    - ใช้พื้นที่น้อยและมีความเร็วสูง

    ✅ SSD แบบ 2.5 นิ้วยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดระบบเก่า
    - เหมาะสำหรับ คอมพิวเตอร์ที่ไม่มีช่อง M.2

    ✅ เมนบอร์ดรุ่นใหม่รองรับ M.2 มากขึ้น ทำให้ SATA SSD เริ่มลดความนิยมลง
    - ปัจจุบัน เมนบอร์ดส่วนใหญ่มีช่อง M.2 อย่างน้อย 2-4 ช่อง

    ⚠️ ข้อควรระวังและผลกระทบที่ต้องติดตาม
    ‼️ M.2 NVMe SSD อาจมีความร้อนสูง โดยเฉพาะรุ่น Gen4 และ Gen5
    - ควร ใช้ฮีตซิงค์เพื่อช่วยระบายความร้อน

    ‼️ SSD แบบ 2.5 นิ้วมีราคาต่อ GB ถูกกว่า M.2 NVMe SSD
    - เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการความจุสูงในราคาประหยัด

    https://computercity.com/hardware/storage/m-2-vs-ssd
    M.2 vs SSD: ความแตกต่างที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้งาน หลายคนอาจสับสนระหว่าง M.2 กับ SSD แต่จริง ๆ แล้ว M.2 เป็นเพียงรูปแบบของ SSD ไม่ใช่เทคโนโลยีที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดย M.2 SSD มีขนาดเล็กและเชื่อมต่อโดยตรงกับเมนบอร์ด ในขณะที่ SSD แบบ 2.5 นิ้วใช้สาย SATA ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน 🔍 ข้อแตกต่างระหว่าง M.2 และ SSD แบบ 2.5 นิ้ว ✅ M.2 เป็นรูปแบบของ SSD ที่มีขนาดเล็กและติดตั้งโดยตรงบนเมนบอร์ด - ไม่ต้องใช้สาย SATA และสายไฟเพิ่มเติม ✅ M.2 SSD ที่ใช้ NVMe มีความเร็วสูงกว่ารุ่นที่ใช้ SATA - PCIe Gen5 NVMe SSD สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 14,000 MB/s - SATA SSD มีความเร็วสูงสุดที่ 550 MB/s ✅ M.2 SSD เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น เกมมิ่งและงานตัดต่อวิดีโอ - ใช้พื้นที่น้อยและมีความเร็วสูง ✅ SSD แบบ 2.5 นิ้วยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดระบบเก่า - เหมาะสำหรับ คอมพิวเตอร์ที่ไม่มีช่อง M.2 ✅ เมนบอร์ดรุ่นใหม่รองรับ M.2 มากขึ้น ทำให้ SATA SSD เริ่มลดความนิยมลง - ปัจจุบัน เมนบอร์ดส่วนใหญ่มีช่อง M.2 อย่างน้อย 2-4 ช่อง ⚠️ ข้อควรระวังและผลกระทบที่ต้องติดตาม ‼️ M.2 NVMe SSD อาจมีความร้อนสูง โดยเฉพาะรุ่น Gen4 และ Gen5 - ควร ใช้ฮีตซิงค์เพื่อช่วยระบายความร้อน ‼️ SSD แบบ 2.5 นิ้วมีราคาต่อ GB ถูกกว่า M.2 NVMe SSD - เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการความจุสูงในราคาประหยัด https://computercity.com/hardware/storage/m-2-vs-ssd
    COMPUTERCITY.COM
    M.2 vs SSD
    Confused about M.2 drives versus SSDs? Many computer users struggle with this terminology when upgrading storage. M.2 is actually a form factor (physical
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • AMD กำลังเตรียมเปิดตัว RX 10000 Series พร้อมสถาปัตยกรรม RDNA 5

    AMD กำลังเดินหน้าพัฒนา GPU รุ่นใหม่ภายใต้สถาปัตยกรรม RDNA 5 ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 โดยมีการปรับปรุงด้าน Ray Tracing, AI Acceleration และการออกแบบ Compute Unit ใหม่ทั้งหมด

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RX 10000 Series และ RDNA 5
    ✅ RX 10000 Series อาจใช้กระบวนการผลิต 3nm แทน 5nm ของ RDNA 4
    - ช่วยให้ ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นและลดการใช้พลังงาน

    ✅ AMD อาจนำการออกแบบแบบ Chiplet มาใช้กับทุกโมเดล ไม่ใช่แค่รุ่น Workstation
    - ทำให้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดชิป

    ✅ Ray Tracing จะได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่
    - คาดว่า จะสามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้ดีขึ้นในด้านการเรนเดอร์แสงและเงา

    ✅ รองรับ DisplayPort 2.2 และ AI-powered Frame Generation
    - ช่วยให้ การเล่นเกมมีความลื่นไหลมากขึ้น

    ✅ AMD กำลังขยายตลาดไปยัง AI และ Workstation GPU ด้วย Radeon AI Pro R9700
    - มี 32GB GDDR6 และฮาร์ดแวร์เร่งความเร็วสำหรับ AI Inference

    ‼️ RX 10000 Series อาจเปิดตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
    - คาดว่า จะเปิดตัวกลางถึงปลายปี 2026

    https://computercity.com/hardware/video-cards/the-current-state-of-amd-gpus-and-what-comes-after-rdna-4
    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว RX 10000 Series พร้อมสถาปัตยกรรม RDNA 5 AMD กำลังเดินหน้าพัฒนา GPU รุ่นใหม่ภายใต้สถาปัตยกรรม RDNA 5 ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 โดยมีการปรับปรุงด้าน Ray Tracing, AI Acceleration และการออกแบบ Compute Unit ใหม่ทั้งหมด 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RX 10000 Series และ RDNA 5 ✅ RX 10000 Series อาจใช้กระบวนการผลิต 3nm แทน 5nm ของ RDNA 4 - ช่วยให้ ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นและลดการใช้พลังงาน ✅ AMD อาจนำการออกแบบแบบ Chiplet มาใช้กับทุกโมเดล ไม่ใช่แค่รุ่น Workstation - ทำให้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดชิป ✅ Ray Tracing จะได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ - คาดว่า จะสามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้ดีขึ้นในด้านการเรนเดอร์แสงและเงา ✅ รองรับ DisplayPort 2.2 และ AI-powered Frame Generation - ช่วยให้ การเล่นเกมมีความลื่นไหลมากขึ้น ✅ AMD กำลังขยายตลาดไปยัง AI และ Workstation GPU ด้วย Radeon AI Pro R9700 - มี 32GB GDDR6 และฮาร์ดแวร์เร่งความเร็วสำหรับ AI Inference ‼️ RX 10000 Series อาจเปิดตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ - คาดว่า จะเปิดตัวกลางถึงปลายปี 2026 https://computercity.com/hardware/video-cards/the-current-state-of-amd-gpus-and-what-comes-after-rdna-4
    COMPUTERCITY.COM
    The Current State of AMD GPUs and What Comes After RDNA 4
    AMD’s Radeon RX 9000 series, unveiled in 2025, marks the company’s most aggressive push yet into the mid-range and professional GPU markets—leveraging RDNA 4
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • สรุปงาน Computex 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ภายใต้ธีม “AI Next” ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน้น AI, หุ่นยนต์, เทคโนโลยีรุ่นถัดไป และการเคลื่อนที่แห่งอนาคต นี่คือสรุปผลิตภัณฑ์ใหม่เด่นๆ จากงาน:

    1️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก NVIDIA
    • GeForce RTX 50 Series: การ์ดจอรุ่นใหม่ เช่น RTX 5060, 5070 Ti, 5080, และ 5090 เน้นประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมและงาน AI มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi Frame Generation เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด.
    • DGX Spark และ DGX Station: อุปกรณ์สำหรับการวิจัยและพัฒนา AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI.
    • NVLink Fusion: เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบกึ่งสำเร็จรูป ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพสำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI.
    • AI Infrastructure: NVIDIA ผลักดันวิสัยทัศน์โรงงาน AI และการพัฒนา agentic AI รวมถึง physical AI สำหรับหุ่นยนต์และโทรคมนาคม.

    2️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Intel
    • Core Ultra 200V Series Processors: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI, ความปลอดภัย และความเร็วสำหรับงานทุกประเภท.
    • Xeon 6 Processors และ Gaudi 3 AI Accelerators: ออกแบบสำหรับศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น.
    • Intel Arc Pro B50 และ B60: การ์ดกราฟิกสำหรับงาน AI และเวิร์คสเตชันระดับมืออาชีพ.

    3️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก AMD
    • Radeon RX 9060 XT: การ์ดจอรุ่นใหม่ ใช้สถาปัตยกรรม Navi 44 มีหน่วยความจำ GDDR6 สูงสุด 16GB และเพิ่มประสิทธิภาพ Ray Tracing 2 เท่า ราคาเริ่มต้น 299 ดอลลาร์.
    • Ryzen Threadripper 9000 Series: CPU สำหรับเดสก์ท็อปและเวิร์คสเตชัน รุ่นท็อป Ryzen 9 9995WX มี 96 คอร์ 192 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.4GHz.
    • Ryzen AI Max: CPU สำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์ เพิ่มประสิทธิภาพและแบตเตอรี่.

    4️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MSI
    • Claw A8 BZ2EM และ Claw 7 A2HM: เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ รองรับทั้งโปรเซสเซอร์ Intel และ AMD มีรุ่น Polar Tempest Edition สีขาวพร้อมสตอเรจเพิ่มเป็น 2 เท่า.
    • QD-OLED Monitor และ MEG Vision X AI PC: จอมอนิเตอร์และพีซีที่ผสาน AI เช่น AI Care Sensor และ AI Navigator เพื่อป้องกัน burn-in และปรับแต่งการตั้งค่า.
    • Titan 18 HX Dragon Edition: เดสก์ท็อปพรีเมียมพร้อมจอสัมผัส 13 นิ้วที่ด้านหน้า รองรับ RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 CPU.

    5️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก ASUS
    • ROG Ally X และ ROG Ally 2 (คาดการณ์): เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Z2 Extreme และอาจมี Windows รุ่นปรับแต่งให้เหมาะกับแฮนด์เฮลด์.
    • ProArt RTX 5080: การ์ดจอสำหรับครีเอเตอร์ มีพอร์ต USB-C และสล็อต M.2 SSD พร้อมดีไซน์ไม้เทียม.
    • ROG Bulwark Dock: ด็อก 7-in-1 สำหรับแฮนด์เฮลด์ รองรับ 4K 144Hz ผ่าน HDMI 2.1.

    6️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MediaTek
    • AI Solutions: นำเสนอวิสัยทัศน์ “AI for Everyone: From Edge to Cloud” รวมถึง AI ในสมาร์ทโฟน บ้านอัจฉริยะ รถยนต์ และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ผสานกับ NVIDIA สำหรับโซลูชัน AI ครบวงจร.
    • Smart Auto Central และ Hybrid AI Computing: โซลูชันสำหรับยานยนต์และการประมวลผลแบบผสมผสานระหว่าง edge และ cloud.

    7️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Kingston
    • XS1000 และ XS2000 SSD: SSD แบบพกพาดีไซน์ใหม่ เน้นความเร็วและพกพาสะดวก.
    • DataTraveler Exodia S USB Flash Drive: แฟลชไดรฟ์ USB 3.2 Gen 1 ดีไซน์เพรียวบาง ใช้งานง่าย.
    • Future City Showcase: นำเสนอโซลูชันหน่วยความจำสำหรับ AI, หุ่นยนต์, เกมมิ่ง และอุตสาหกรรมการบิน.

    8️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก GIGABYTE
    • AORUS MASTER 16 AI PC: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI.
    • GIGAPOD และ AIOps Platform: โซลูชันซูเปอร์คอมพิวติ้งสำหรับ AI และศูนย์ข้อมูล.
    • BRIX AI Mini-PCs: มินิพีซีที่ใช้ AMD Ryzen 7 PRO และ Intel Core Ultra CPU พร้อม NPU สำหรับ edge computing.

    9️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Supermicro
    • High-Performance Server Architectures: เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงและโซลูชันระบายความร้อนด้วยของเหลวสำหรับ AI และ HPC.
    • Green Computing Initiatives: เทคโนโลยีประหยัดพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูล.

    🔟 ผลิตภัณฑ์อื่นๆ
    • Acer Predator Triton 14 AI: แล็ปท็อปเกมมิ่งดีไซน์พรีเมียม ใช้ RTX 50-series และมีสารเคลือบป้องกันรอยนิ้วมือ.
    • Acer PD243Y E: จอมอนิเตอร์พกพาแบบ dual-screen สำหรับการทำงานนอกสถานที่.
    • Cherry MX Honey Switches: สวิตช์คีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึกแบบเมคานิคอลแต่ลดเสียงรบกวน.
    • Phison aiDAPTIV+: โซลูชันสำหรับการฝึก LLM ในสถานที่โดยไม่ต้องใช้ GPU จำนวนมาก เน้นความเป็นส่วนตัวและประหยัดต้นทุน.
    • V-Color Xfinity Manta DDR5 RAM: RAM พร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลเช่น ความเร็วและแรงดันไฟ.
    • Thermaltake MineCube 360: ระบบระบายความร้อน AIO พร้อมจอ 720x720 แสดงภาพ Minecraft.

    💯 สรุป 💯
    งาน Computex 2025 เน้นหนักไปที่ AI ในทุกมิติ ตั้งแต่การ์ดจอ, CPU, เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์, แล็ปท็อป, ไปจนถึงโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูลและ edge computing นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพการเล่นเกม, การประหยัดพลังงาน และอุปกรณ์พกพาที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ผู้ผลิตอย่าง NVIDIA, Intel, AMD, MSI, ASUS, MediaTek และ Kingston ต่างนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจ
    สรุปงาน Computex 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 พฤษภาคม 2568 ณ กรุงไทเป ไต้หวัน ภายใต้ธีม “AI Next” ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน้น AI, หุ่นยนต์, เทคโนโลยีรุ่นถัดไป และการเคลื่อนที่แห่งอนาคต นี่คือสรุปผลิตภัณฑ์ใหม่เด่นๆ จากงาน: 1️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก NVIDIA • GeForce RTX 50 Series: การ์ดจอรุ่นใหม่ เช่น RTX 5060, 5070 Ti, 5080, และ 5090 เน้นประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมและงาน AI มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi Frame Generation เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด. • DGX Spark และ DGX Station: อุปกรณ์สำหรับการวิจัยและพัฒนา AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล AI. • NVLink Fusion: เทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน AI แบบกึ่งสำเร็จรูป ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพสำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI. • AI Infrastructure: NVIDIA ผลักดันวิสัยทัศน์โรงงาน AI และการพัฒนา agentic AI รวมถึง physical AI สำหรับหุ่นยนต์และโทรคมนาคม. 2️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Intel • Core Ultra 200V Series Processors: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI, ความปลอดภัย และความเร็วสำหรับงานทุกประเภท. • Xeon 6 Processors และ Gaudi 3 AI Accelerators: ออกแบบสำหรับศูนย์ข้อมูลสมัยใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น. • Intel Arc Pro B50 และ B60: การ์ดกราฟิกสำหรับงาน AI และเวิร์คสเตชันระดับมืออาชีพ. 3️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก AMD • Radeon RX 9060 XT: การ์ดจอรุ่นใหม่ ใช้สถาปัตยกรรม Navi 44 มีหน่วยความจำ GDDR6 สูงสุด 16GB และเพิ่มประสิทธิภาพ Ray Tracing 2 เท่า ราคาเริ่มต้น 299 ดอลลาร์. • Ryzen Threadripper 9000 Series: CPU สำหรับเดสก์ท็อปและเวิร์คสเตชัน รุ่นท็อป Ryzen 9 9995WX มี 96 คอร์ 192 เธรด ความเร็วสูงสุด 5.4GHz. • Ryzen AI Max: CPU สำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์ เพิ่มประสิทธิภาพและแบตเตอรี่. 4️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MSI • Claw A8 BZ2EM และ Claw 7 A2HM: เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ รองรับทั้งโปรเซสเซอร์ Intel และ AMD มีรุ่น Polar Tempest Edition สีขาวพร้อมสตอเรจเพิ่มเป็น 2 เท่า. • QD-OLED Monitor และ MEG Vision X AI PC: จอมอนิเตอร์และพีซีที่ผสาน AI เช่น AI Care Sensor และ AI Navigator เพื่อป้องกัน burn-in และปรับแต่งการตั้งค่า. • Titan 18 HX Dragon Edition: เดสก์ท็อปพรีเมียมพร้อมจอสัมผัส 13 นิ้วที่ด้านหน้า รองรับ RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 CPU. 5️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก ASUS • ROG Ally X และ ROG Ally 2 (คาดการณ์): เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์รุ่นใหม่ ใช้โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen Z2 Extreme และอาจมี Windows รุ่นปรับแต่งให้เหมาะกับแฮนด์เฮลด์. • ProArt RTX 5080: การ์ดจอสำหรับครีเอเตอร์ มีพอร์ต USB-C และสล็อต M.2 SSD พร้อมดีไซน์ไม้เทียม. • ROG Bulwark Dock: ด็อก 7-in-1 สำหรับแฮนด์เฮลด์ รองรับ 4K 144Hz ผ่าน HDMI 2.1. 6️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก MediaTek • AI Solutions: นำเสนอวิสัยทัศน์ “AI for Everyone: From Edge to Cloud” รวมถึง AI ในสมาร์ทโฟน บ้านอัจฉริยะ รถยนต์ และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ผสานกับ NVIDIA สำหรับโซลูชัน AI ครบวงจร. • Smart Auto Central และ Hybrid AI Computing: โซลูชันสำหรับยานยนต์และการประมวลผลแบบผสมผสานระหว่าง edge และ cloud. 7️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Kingston • XS1000 และ XS2000 SSD: SSD แบบพกพาดีไซน์ใหม่ เน้นความเร็วและพกพาสะดวก. • DataTraveler Exodia S USB Flash Drive: แฟลชไดรฟ์ USB 3.2 Gen 1 ดีไซน์เพรียวบาง ใช้งานง่าย. • Future City Showcase: นำเสนอโซลูชันหน่วยความจำสำหรับ AI, หุ่นยนต์, เกมมิ่ง และอุตสาหกรรมการบิน. 8️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก GIGABYTE • AORUS MASTER 16 AI PC: ได้รับรางวัล COMPUTEX 2025 Best Choice Award เน้นประสิทธิภาพ AI. • GIGAPOD และ AIOps Platform: โซลูชันซูเปอร์คอมพิวติ้งสำหรับ AI และศูนย์ข้อมูล. • BRIX AI Mini-PCs: มินิพีซีที่ใช้ AMD Ryzen 7 PRO และ Intel Core Ultra CPU พร้อม NPU สำหรับ edge computing. 9️⃣ ผลิตภัณฑ์จาก Supermicro • High-Performance Server Architectures: เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงและโซลูชันระบายความร้อนด้วยของเหลวสำหรับ AI และ HPC. • Green Computing Initiatives: เทคโนโลยีประหยัดพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูล. 🔟 ผลิตภัณฑ์อื่นๆ • Acer Predator Triton 14 AI: แล็ปท็อปเกมมิ่งดีไซน์พรีเมียม ใช้ RTX 50-series และมีสารเคลือบป้องกันรอยนิ้วมือ. • Acer PD243Y E: จอมอนิเตอร์พกพาแบบ dual-screen สำหรับการทำงานนอกสถานที่. • Cherry MX Honey Switches: สวิตช์คีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึกแบบเมคานิคอลแต่ลดเสียงรบกวน. • Phison aiDAPTIV+: โซลูชันสำหรับการฝึก LLM ในสถานที่โดยไม่ต้องใช้ GPU จำนวนมาก เน้นความเป็นส่วนตัวและประหยัดต้นทุน. • V-Color Xfinity Manta DDR5 RAM: RAM พร้อมจอ LCD แสดงข้อมูลเช่น ความเร็วและแรงดันไฟ. • Thermaltake MineCube 360: ระบบระบายความร้อน AIO พร้อมจอ 720x720 แสดงภาพ Minecraft. 💯 สรุป 💯 งาน Computex 2025 เน้นหนักไปที่ AI ในทุกมิติ ตั้งแต่การ์ดจอ, CPU, เกมมิ่งแฮนด์เฮลด์, แล็ปท็อป, ไปจนถึงโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูลและ edge computing นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพการเล่นเกม, การประหยัดพลังงาน และอุปกรณ์พกพาที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ผู้ผลิตอย่าง NVIDIA, Intel, AMD, MSI, ASUS, MediaTek และ Kingston ต่างนำเสนอนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคทั่วไปและภาคธุรกิจ
    0 Comments 0 Shares 394 Views 0 Reviews
  • แฮกเกอร์จีนโจมตีหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นในสหรัฐฯ ผ่านช่องโหว่ Trimble Cityworks

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Cisco Talos พบว่าหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นในสหรัฐฯ ถูกโจมตีโดยกลุ่มแฮกเกอร์จีนที่ใช้ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ Trimble Cityworks ซึ่งเป็นระบบ GIS สำหรับการจัดการโครงสร้างพื้นฐานและการอนุญาตต่าง ๆ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการโจมตีของแฮกเกอร์จีน
    ✅ แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ CVE-2025-0994 ใน Trimble Cityworks เพื่อเจาะระบบ
    - ช่องโหว่นี้ เป็นบั๊ก deserialization ที่มีความรุนแรงระดับสูง (8.6/10)

    ✅ Cisco พบว่าการโจมตีเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม 2025
    - แฮกเกอร์ ใช้ช่องโหว่เพื่อเข้าถึงระบบของหน่วยงานท้องถิ่นในสหรัฐฯ

    ✅ แฮกเกอร์ติดตั้งมัลแวร์ Rust-based loader เพื่อแพร่กระจาย Cobalt Strike และ VSHell
    - ทำให้ สามารถเข้าถึงระบบได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน

    ✅ Trimble ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025
    - อัปเดต Cityworks เป็นเวอร์ชัน 15.8.9 และ 23.10 เพื่อลดความเสี่ยง

    ✅ US Cybersecurity and Infrastructure Agency (CISA) ออกคำเตือนให้หน่วยงานเร่งติดตั้งแพตช์
    - หน่วยงานรัฐบาลกลาง ได้รับคำสั่งให้แก้ไขช่องโหว่ภายในเวลาที่กำหนด

    https://www.techradar.com/pro/security/us-local-governments-targeted-by-chinese-hackers
    แฮกเกอร์จีนโจมตีหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นในสหรัฐฯ ผ่านช่องโหว่ Trimble Cityworks นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Cisco Talos พบว่าหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นในสหรัฐฯ ถูกโจมตีโดยกลุ่มแฮกเกอร์จีนที่ใช้ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ Trimble Cityworks ซึ่งเป็นระบบ GIS สำหรับการจัดการโครงสร้างพื้นฐานและการอนุญาตต่าง ๆ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการโจมตีของแฮกเกอร์จีน ✅ แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ CVE-2025-0994 ใน Trimble Cityworks เพื่อเจาะระบบ - ช่องโหว่นี้ เป็นบั๊ก deserialization ที่มีความรุนแรงระดับสูง (8.6/10) ✅ Cisco พบว่าการโจมตีเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคม 2025 - แฮกเกอร์ ใช้ช่องโหว่เพื่อเข้าถึงระบบของหน่วยงานท้องถิ่นในสหรัฐฯ ✅ แฮกเกอร์ติดตั้งมัลแวร์ Rust-based loader เพื่อแพร่กระจาย Cobalt Strike และ VSHell - ทำให้ สามารถเข้าถึงระบบได้อย่างต่อเนื่องและยาวนาน ✅ Trimble ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 - อัปเดต Cityworks เป็นเวอร์ชัน 15.8.9 และ 23.10 เพื่อลดความเสี่ยง ✅ US Cybersecurity and Infrastructure Agency (CISA) ออกคำเตือนให้หน่วยงานเร่งติดตั้งแพตช์ - หน่วยงานรัฐบาลกลาง ได้รับคำสั่งให้แก้ไขช่องโหว่ภายในเวลาที่กำหนด https://www.techradar.com/pro/security/us-local-governments-targeted-by-chinese-hackers
    WWW.TECHRADAR.COM
    US local governments targeted by Chinese hackers
    We now know what the Trimble Cityworks bug was used for
    0 Comments 0 Shares 169 Views 0 Reviews
  • RTX 5090: การ์ดจอสุดทรงพลังที่ต้องการฮาร์ดแวร์ระดับสูงเพื่อรองรับ

    NVIDIA เปิดตัว GeForce RTX 5090 ซึ่งเป็นการ์ดจอระดับเรือธงที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม Blackwell โดยมี VRAM GDDR7 ขนาด 32GB และใช้พลังงานสูงถึง 575W ทำให้ ต้องการระบบที่มีพลังงานและการระบายความร้อนที่เหมาะสม

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX 5090
    ✅ ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
    - รองรับ Ray Tracing รุ่นที่ 4 และ Tensor Cores รุ่นที่ 5
    - มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi-Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม

    ✅ VRAM GDDR7 ขนาด 32GB
    - ช่วยให้ สามารถเล่นเกมระดับ 8K และรองรับงาน AI ได้ดีขึ้น

    ✅ ต้องใช้พลังงานสูงถึง 575W
    - NVIDIA แนะนำให้ใช้ PSU ขนาด 1000W–1200W ที่มีมาตรฐาน 80+ Platinum

    ✅ ใช้ขั้วต่อพลังงานแบบ 16-pin 12V-2×6 PCIe Gen 5
    - ต้องใช้ PSU ที่รองรับหรืออะแดปเตอร์จากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Corsair หรือ Seasonic

    ✅ ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดี
    - การ์ดจอมีขนาดใหญ่ ต้องใช้เคสแบบ Full Tower หรือ Super Tower
    - แนะนำให้ใช้ ระบบระบายความร้อนแบบ AIO Liquid Cooling

    ✅ รองรับ PCIe 5.0 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
    - ควรใช้ เมนบอร์ดที่รองรับ เช่น Intel Z790 หรือ AMD X870

    ✅ ต้องใช้ CPU และ RAM ที่ทรงพลังเพื่อป้องกันคอขวด
    - แนะนำให้ใช้ Core i9-14900K หรือ Ryzen 9 9950X พร้อม RAM DDR5 ขนาด 32GB

    ✅ มีปัญหาสต็อกในช่วงแรก แต่คาดว่าจะมีสินค้าพร้อมในไตรมาสที่ 2 ปี 2025
    - NVIDIA แนะนำให้ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้

    ‼️ ต้องใช้ PSU ขนาดใหญ่และระบบระบายความร้อนที่ดี
    - หากระบบไม่รองรับ อาจเกิดปัญหาความร้อนสูงและไฟฟ้าดับ

    ‼️ ต้องใช้เคสที่มีพื้นที่เพียงพอ
    - RTX 5090 มีขนาดใหญ่กว่า RTX 4090 และอาจไม่พอดีกับเคสขนาดเล็ก

    https://computercity.com/hardware/video-cards/is-your-pc-ready-for-the-rtx-5090-specs-power-supply-and-cooling-guide
    RTX 5090: การ์ดจอสุดทรงพลังที่ต้องการฮาร์ดแวร์ระดับสูงเพื่อรองรับ NVIDIA เปิดตัว GeForce RTX 5090 ซึ่งเป็นการ์ดจอระดับเรือธงที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม Blackwell โดยมี VRAM GDDR7 ขนาด 32GB และใช้พลังงานสูงถึง 575W ทำให้ ต้องการระบบที่มีพลังงานและการระบายความร้อนที่เหมาะสม 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ RTX 5090 ✅ ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น - รองรับ Ray Tracing รุ่นที่ 4 และ Tensor Cores รุ่นที่ 5 - มีฟีเจอร์ DLSS 4 และ Multi-Frame Generation ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม ✅ VRAM GDDR7 ขนาด 32GB - ช่วยให้ สามารถเล่นเกมระดับ 8K และรองรับงาน AI ได้ดีขึ้น ✅ ต้องใช้พลังงานสูงถึง 575W - NVIDIA แนะนำให้ใช้ PSU ขนาด 1000W–1200W ที่มีมาตรฐาน 80+ Platinum ✅ ใช้ขั้วต่อพลังงานแบบ 16-pin 12V-2×6 PCIe Gen 5 - ต้องใช้ PSU ที่รองรับหรืออะแดปเตอร์จากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Corsair หรือ Seasonic ✅ ต้องการระบบระบายความร้อนที่ดี - การ์ดจอมีขนาดใหญ่ ต้องใช้เคสแบบ Full Tower หรือ Super Tower - แนะนำให้ใช้ ระบบระบายความร้อนแบบ AIO Liquid Cooling ✅ รองรับ PCIe 5.0 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด - ควรใช้ เมนบอร์ดที่รองรับ เช่น Intel Z790 หรือ AMD X870 ✅ ต้องใช้ CPU และ RAM ที่ทรงพลังเพื่อป้องกันคอขวด - แนะนำให้ใช้ Core i9-14900K หรือ Ryzen 9 9950X พร้อม RAM DDR5 ขนาด 32GB ✅ มีปัญหาสต็อกในช่วงแรก แต่คาดว่าจะมีสินค้าพร้อมในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 - NVIDIA แนะนำให้ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ ‼️ ต้องใช้ PSU ขนาดใหญ่และระบบระบายความร้อนที่ดี - หากระบบไม่รองรับ อาจเกิดปัญหาความร้อนสูงและไฟฟ้าดับ ‼️ ต้องใช้เคสที่มีพื้นที่เพียงพอ - RTX 5090 มีขนาดใหญ่กว่า RTX 4090 และอาจไม่พอดีกับเคสขนาดเล็ก https://computercity.com/hardware/video-cards/is-your-pc-ready-for-the-rtx-5090-specs-power-supply-and-cooling-guide
    COMPUTERCITY.COM
    Is Your PC Ready for the RTX 5090? Specs, Power Supply, and Cooling Guide
    The NVIDIA GeForce RTX 5090 is here—and it’s a beast. Launched on January 30, 2025, after its debut at CES, this $1,999 flagship GPU from NVIDIA is built for
    0 Comments 0 Shares 187 Views 0 Reviews
  • วิธีติดตั้ง Windows 11 โดยใช้บัญชีผู้ใช้แบบ Local (ไม่ต้องใช้บัญชี Microsoft)

    Windows 11 มีแนวโน้มบังคับให้ผู้ใช้สร้างหรือเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft ระหว่างการติดตั้ง แต่ยังมีวิธี สร้างบัญชี Local ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

    🔍 ขั้นตอนการติดตั้ง Windows 11 โดยใช้บัญชี Local
    ✅ เริ่มต้นการติดตั้ง Windows 11 ด้วย USB หรือ ISO
    - เลือก ประเทศ/ภูมิภาค, ภาษา และรูปแบบแป้นพิมพ์

    ✅ ใช้คำสั่งพิเศษเพื่อเข้าถึง Command Prompt
    - กด Ctrl + Shift + F10 หรือ Ctrl + Shift + J ที่หน้าจอเลือกแป้นพิมพ์

    ✅ พิมพ์คำสั่งเพื่อบังคับให้ Windows สร้างบัญชี Local
    - ใช้คำสั่ง WinJS.Application.restart(\"ms-cxh://LOCALONLY\")

    ✅ ตั้งค่าบัญชี Local และรหัสผ่าน (ถ้ามี)
    - ระบบจะ ข้ามขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft

    ✅ ดำเนินการติดตั้ง Windows 11 จนเสร็จสิ้น
    - สามารถ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเปิดใช้งาน Windows ได้ภายหลัง

    https://computercity.com/software/windows/how-to-set-up-windows-11-with-a-local-user-account-bypassing-microsoft-account
    วิธีติดตั้ง Windows 11 โดยใช้บัญชีผู้ใช้แบบ Local (ไม่ต้องใช้บัญชี Microsoft) Windows 11 มีแนวโน้มบังคับให้ผู้ใช้สร้างหรือเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft ระหว่างการติดตั้ง แต่ยังมีวิธี สร้างบัญชี Local ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 🔍 ขั้นตอนการติดตั้ง Windows 11 โดยใช้บัญชี Local ✅ เริ่มต้นการติดตั้ง Windows 11 ด้วย USB หรือ ISO - เลือก ประเทศ/ภูมิภาค, ภาษา และรูปแบบแป้นพิมพ์ ✅ ใช้คำสั่งพิเศษเพื่อเข้าถึง Command Prompt - กด Ctrl + Shift + F10 หรือ Ctrl + Shift + J ที่หน้าจอเลือกแป้นพิมพ์ ✅ พิมพ์คำสั่งเพื่อบังคับให้ Windows สร้างบัญชี Local - ใช้คำสั่ง WinJS.Application.restart(\"ms-cxh://LOCALONLY\") ✅ ตั้งค่าบัญชี Local และรหัสผ่าน (ถ้ามี) - ระบบจะ ข้ามขั้นตอนการเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Microsoft ✅ ดำเนินการติดตั้ง Windows 11 จนเสร็จสิ้น - สามารถ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเปิดใช้งาน Windows ได้ภายหลัง https://computercity.com/software/windows/how-to-set-up-windows-11-with-a-local-user-account-bypassing-microsoft-account
    COMPUTERCITY.COM
    How to Set Up Windows 11 With a Local User Account (Bypassing Microsoft Account)
    Setting up Windows 11 has become increasingly tied to Microsoft’s ecosystem. In recent builds—especially for Windows 11 Home and Pro—Microsoft nudges users
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • GPT-5: การพัฒนา AI ที่ทะเยอทะยานที่สุดของ OpenAI

    OpenAI เตรียมเปิดตัว GPT-5 ในช่วงปลายปี 2025 โดยมุ่งเน้น การรวมทุกความสามารถของ AI ไว้ในโมเดลเดียว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เข้าถึงฟีเจอร์ที่หลากหลายโดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างโมเดลต่าง ๆ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ GPT-5
    ✅ GPT-5 จะรวมทุกความสามารถของ OpenAI ไว้ในโมเดลเดียว
    - รองรับ การสร้างข้อความ, วิเคราะห์ภาพ, ช่วยเขียนโค้ด และโต้ตอบด้วยเสียง

    ✅ คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025
    - CEO Sam Altman ยืนยันว่า GPT-5 กำลังจะมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    ✅ พัฒนาให้มีความสามารถด้านเหตุผลและตรรกะที่ดีขึ้น
    - สามารถ จัดการงานหลายขั้นตอนและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้แม่นยำขึ้น

    ✅ รองรับอินพุตและเอาต์พุตแบบมัลติโหมด
    - สามารถ ประมวลผลข้อความ, ภาพ, เสียง และวิดีโอในอินเทอร์เฟซเดียว

    ✅ มีหน่วยความจำที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้สามารถจดจำบริบทของการสนทนาได้ดีขึ้น
    - ช่วยให้ สามารถทำงานต่อเนื่องในโครงการระยะยาวได้โดยไม่สูญเสียข้อมูลก่อนหน้า

    ✅ ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
    - OpenAI ร่วมมือกับ CoreWeave เพื่อใช้ GPU ระดับสูงในการประมวลผล

    ✅ ลดปัญหาการสร้างข้อมูลผิดพลาด (Hallucination) ด้วยระบบตรวจสอบข้อเท็จจริง
    - ใช้ เทคนิค Retrieval-Augmented Generation (RAG) เพื่อเพิ่มความแม่นยำ

    https://computercity.com/artificial-intelligence/gpt-5-release-expected-in-late-2025-openais-most-ambitious-model-yet
    GPT-5: การพัฒนา AI ที่ทะเยอทะยานที่สุดของ OpenAI OpenAI เตรียมเปิดตัว GPT-5 ในช่วงปลายปี 2025 โดยมุ่งเน้น การรวมทุกความสามารถของ AI ไว้ในโมเดลเดียว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เข้าถึงฟีเจอร์ที่หลากหลายโดยไม่ต้องสลับไปมาระหว่างโมเดลต่าง ๆ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ GPT-5 ✅ GPT-5 จะรวมทุกความสามารถของ OpenAI ไว้ในโมเดลเดียว - รองรับ การสร้างข้อความ, วิเคราะห์ภาพ, ช่วยเขียนโค้ด และโต้ตอบด้วยเสียง ✅ คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025 - CEO Sam Altman ยืนยันว่า GPT-5 กำลังจะมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ✅ พัฒนาให้มีความสามารถด้านเหตุผลและตรรกะที่ดีขึ้น - สามารถ จัดการงานหลายขั้นตอนและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้แม่นยำขึ้น ✅ รองรับอินพุตและเอาต์พุตแบบมัลติโหมด - สามารถ ประมวลผลข้อความ, ภาพ, เสียง และวิดีโอในอินเทอร์เฟซเดียว ✅ มีหน่วยความจำที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้สามารถจดจำบริบทของการสนทนาได้ดีขึ้น - ช่วยให้ สามารถทำงานต่อเนื่องในโครงการระยะยาวได้โดยไม่สูญเสียข้อมูลก่อนหน้า ✅ ได้รับการสนับสนุนจากโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ - OpenAI ร่วมมือกับ CoreWeave เพื่อใช้ GPU ระดับสูงในการประมวลผล ✅ ลดปัญหาการสร้างข้อมูลผิดพลาด (Hallucination) ด้วยระบบตรวจสอบข้อเท็จจริง - ใช้ เทคนิค Retrieval-Augmented Generation (RAG) เพื่อเพิ่มความแม่นยำ https://computercity.com/artificial-intelligence/gpt-5-release-expected-in-late-2025-openais-most-ambitious-model-yet
    COMPUTERCITY.COM
    GPT-5 Release Expected in Late 2025 – OpenAI’s Most Ambitious Model Yet
    OpenAI’s next flagship model, GPT-5, is shaping up to be one of the most anticipated AI releases of the decade. With a targeted release window of late 2025,
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
  • Night Cityscape
    Night Cityscape
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • 12 เมืองในสหรัฐฯ ที่มีการเติบโตของงานและเงินเดือนด้านความปลอดภัยไซเบอร์สูงสุด

    บทความนี้ วิเคราะห์เมืองที่มีโอกาสเติบโตด้านอาชีพความปลอดภัยไซเบอร์ โดยพิจารณาจาก แนวโน้มการจ้างงาน, ค่าครองชีพ และการลงทุนจากบริษัทร่วมทุน ซึ่งช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์สามารถเลือกสถานที่ทำงานที่เหมาะสมกับอนาคตของตนเอง

    🔍 ปัจจัยสำคัญในการเลือกเมืองสำหรับอาชีพความปลอดภัยไซเบอร์
    ✅ แนวโน้มอาชีพ
    - เมืองที่มีตำแหน่งงานมากขึ้น ช่วยให้โอกาสเติบโตในสายอาชีพดีขึ้น
    - การเพิ่มขึ้นของเงินเดือน สะท้อนถึงความต้องการที่สูงในตลาดแรงงาน

    ✅ ค่าครองชีพ
    - รายได้สูงอาจถูกลดค่าลงในพื้นที่ที่มีค่าครองชีพสูง
    - การย้ายจากเมืองที่มีค่าครองชีพสูงไปยังเมืองที่มีค่าครองชีพต่ำ ช่วยให้เงินเดือนมีมูลค่ามากขึ้น

    ✅ การลงทุนจากบริษัทร่วมทุน (Venture Capital)
    - เมืองที่มีการลงทุนสูง มักมีโอกาสเติบโตทางอาชีพที่มั่นคงกว่า
    - การลงทุนในเทคโนโลยี ช่วยกระตุ้นความต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์

    🏆 12 เมืองที่มีการเติบโตของงานและเงินเดือนด้านความปลอดภัยไซเบอร์สูงสุดในปี 2025
    ✅ Indianapolis – มีอัตราเพิ่มขึ้นของเงินเดือนสูงสุดที่ 17.2%
    ✅ Raleigh, N.C. – มีการเติบโตของตำแหน่งงาน 59%
    ✅ Cleveland – มีอัตราเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานสูงสุดที่ 60%
    ✅ Kansas City, Mo. – มีการเติบโตของเงินเดือน 13.7%
    ✅ San Francisco – เงินเดือนเฉลี่ยสูงสุดที่ $157,660
    ✅ Columbus, Ohio – มีการเติบโตของตำแหน่งงาน 34.3%
    ✅ Pittsburgh – มีการเติบโตของตำแหน่งงาน 22.5%
    ✅ Omaha, Neb. – มีการเติบโตของเงินเดือน 10.6%
    ✅ Cincinnati – มีการเติบโตของตำแหน่งงาน 34.1%
    ✅ Seattle – มีการเติบโตของเงินเดือน 13.3%
    ✅ Boston – มีการเติบโตของตำแหน่งงาน 14.6%
    ✅ Birmingham, Ala. – มีค่าครองชีพต่ำที่สุดในกลุ่ม

    ‼️ ค่าครองชีพในบางเมืองอาจลดมูลค่าของเงินเดือนลง
    - เช่น San Francisco และ Seattle มีค่าครองชีพสูง ทำให้รายได้จริงลดลง

    ‼️ บางเมืองอาจมีการเติบโตของตำแหน่งงานลดลง
    - เช่น Seattle มีอัตราการจ้างงานลดลง 8.6%

    https://www.csoonline.com/article/3988368/top-12-us-cities-for-cybersecurity-job-and-salary-growth.html
    12 เมืองในสหรัฐฯ ที่มีการเติบโตของงานและเงินเดือนด้านความปลอดภัยไซเบอร์สูงสุด บทความนี้ วิเคราะห์เมืองที่มีโอกาสเติบโตด้านอาชีพความปลอดภัยไซเบอร์ โดยพิจารณาจาก แนวโน้มการจ้างงาน, ค่าครองชีพ และการลงทุนจากบริษัทร่วมทุน ซึ่งช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์สามารถเลือกสถานที่ทำงานที่เหมาะสมกับอนาคตของตนเอง 🔍 ปัจจัยสำคัญในการเลือกเมืองสำหรับอาชีพความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ แนวโน้มอาชีพ - เมืองที่มีตำแหน่งงานมากขึ้น ช่วยให้โอกาสเติบโตในสายอาชีพดีขึ้น - การเพิ่มขึ้นของเงินเดือน สะท้อนถึงความต้องการที่สูงในตลาดแรงงาน ✅ ค่าครองชีพ - รายได้สูงอาจถูกลดค่าลงในพื้นที่ที่มีค่าครองชีพสูง - การย้ายจากเมืองที่มีค่าครองชีพสูงไปยังเมืองที่มีค่าครองชีพต่ำ ช่วยให้เงินเดือนมีมูลค่ามากขึ้น ✅ การลงทุนจากบริษัทร่วมทุน (Venture Capital) - เมืองที่มีการลงทุนสูง มักมีโอกาสเติบโตทางอาชีพที่มั่นคงกว่า - การลงทุนในเทคโนโลยี ช่วยกระตุ้นความต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ 🏆 12 เมืองที่มีการเติบโตของงานและเงินเดือนด้านความปลอดภัยไซเบอร์สูงสุดในปี 2025 ✅ Indianapolis – มีอัตราเพิ่มขึ้นของเงินเดือนสูงสุดที่ 17.2% ✅ Raleigh, N.C. – มีการเติบโตของตำแหน่งงาน 59% ✅ Cleveland – มีอัตราเพิ่มขึ้นของตำแหน่งงานสูงสุดที่ 60% ✅ Kansas City, Mo. – มีการเติบโตของเงินเดือน 13.7% ✅ San Francisco – เงินเดือนเฉลี่ยสูงสุดที่ $157,660 ✅ Columbus, Ohio – มีการเติบโตของตำแหน่งงาน 34.3% ✅ Pittsburgh – มีการเติบโตของตำแหน่งงาน 22.5% ✅ Omaha, Neb. – มีการเติบโตของเงินเดือน 10.6% ✅ Cincinnati – มีการเติบโตของตำแหน่งงาน 34.1% ✅ Seattle – มีการเติบโตของเงินเดือน 13.3% ✅ Boston – มีการเติบโตของตำแหน่งงาน 14.6% ✅ Birmingham, Ala. – มีค่าครองชีพต่ำที่สุดในกลุ่ม ‼️ ค่าครองชีพในบางเมืองอาจลดมูลค่าของเงินเดือนลง - เช่น San Francisco และ Seattle มีค่าครองชีพสูง ทำให้รายได้จริงลดลง ‼️ บางเมืองอาจมีการเติบโตของตำแหน่งงานลดลง - เช่น Seattle มีอัตราการจ้างงานลดลง 8.6% https://www.csoonline.com/article/3988368/top-12-us-cities-for-cybersecurity-job-and-salary-growth.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Top 12 US cities for cybersecurity job and salary growth
    These dozen cities stand out as the most promising destinations for cybersecurity professionals due to their strong job growth, rising salaries, and long-term career potential.
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • แบตเตอรี่ชีวภาพ: นวัตกรรมใหม่ที่ใช้แบคทีเรียสร้างพลังงาน

    นักวิจัยจาก Shenzhen Institutes of Advanced Technology (SIAT) และ Shenzhen University ได้พัฒนา แบตเตอรี่ชีวภาพที่ใช้แบคทีเรียเป็นแหล่งพลังงาน โดยสามารถ สร้างไฟฟ้าและชาร์จตัวเองได้หลายรอบ โดยไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแบตเตอรี่ชีวภาพ
    ✅ ใช้แบคทีเรียที่มีคุณสมบัติทางไฟฟ้า (Electroactive Bacteria) ในการสร้างพลังงาน
    - แบคทีเรียถูก บรรจุในไฮโดรเจลที่มีส่วนประกอบของอัลจิเนต

    ✅ สามารถชาร์จตัวเองได้ถึง 10 รอบโดยไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก
    - อาศัย กระบวนการเมตาบอลิซึมของแบคทีเรียในการสร้างไฟฟ้า

    ✅ แบตเตอรี่มีขนาดเล็กเพียง 20 มม. และสูง 3.2 มม.
    - สามารถ ปรับแต่งรูปทรงได้ด้วยเทคโนโลยี 3D Printing

    ✅ ไม่มีการใช้โลหะหายาก เช่น โคบอลต์หรือลิเธียม และไม่มีสารพิษ
    - ทำให้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเหมาะสำหรับการใช้งานทางการแพทย์

    ✅ สามารถใช้กระตุ้นเส้นประสาทไซแอติกและวากัสเพื่อควบคุมความดันโลหิต
    - อาจนำไปสู่ การพัฒนาเทคโนโลยีการรักษาทางกายภาพบำบัดในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/forget-critical-metals-this-battery-generates-electricity-using-bacteria
    แบตเตอรี่ชีวภาพ: นวัตกรรมใหม่ที่ใช้แบคทีเรียสร้างพลังงาน นักวิจัยจาก Shenzhen Institutes of Advanced Technology (SIAT) และ Shenzhen University ได้พัฒนา แบตเตอรี่ชีวภาพที่ใช้แบคทีเรียเป็นแหล่งพลังงาน โดยสามารถ สร้างไฟฟ้าและชาร์จตัวเองได้หลายรอบ โดยไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแบตเตอรี่ชีวภาพ ✅ ใช้แบคทีเรียที่มีคุณสมบัติทางไฟฟ้า (Electroactive Bacteria) ในการสร้างพลังงาน - แบคทีเรียถูก บรรจุในไฮโดรเจลที่มีส่วนประกอบของอัลจิเนต ✅ สามารถชาร์จตัวเองได้ถึง 10 รอบโดยไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก - อาศัย กระบวนการเมตาบอลิซึมของแบคทีเรียในการสร้างไฟฟ้า ✅ แบตเตอรี่มีขนาดเล็กเพียง 20 มม. และสูง 3.2 มม. - สามารถ ปรับแต่งรูปทรงได้ด้วยเทคโนโลยี 3D Printing ✅ ไม่มีการใช้โลหะหายาก เช่น โคบอลต์หรือลิเธียม และไม่มีสารพิษ - ทำให้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเหมาะสำหรับการใช้งานทางการแพทย์ ✅ สามารถใช้กระตุ้นเส้นประสาทไซแอติกและวากัสเพื่อควบคุมความดันโลหิต - อาจนำไปสู่ การพัฒนาเทคโนโลยีการรักษาทางกายภาพบำบัดในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/forget-critical-metals-this-battery-generates-electricity-using-bacteria
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Forget critical metals, this battery generates electricity using bacteria
    Researchers in China have developed a completely new form of bio-battery based on bacteria, capable of generating its own electricity and recharging itself for several cycles.
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews
  • AI ช่วยสร้างเรซูเม่ที่โดดเด่นในปี 2025

    การแข่งขันในตลาดงานกำลังเข้มข้นขึ้น และการใช้ AI Resume Builder สามารถช่วยให้ผู้สมัครงานมีความได้เปรียบมากขึ้น เครื่องมือเหล่านี้ไม่เพียงแค่สร้างเรซูเม่แบบพื้นฐาน แต่ยังช่วย ปรับแต่งให้เหมาะสมกับระบบ ATS (Applicant Tracking System) ตรวจสอบคำสำคัญ และให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์

    🔍 เครื่องมือ AI Resume Builder ที่ดีที่สุดในปี 2025
    ✅ Rezi – เหมาะสำหรับการสร้างเรซูเม่ที่ผ่านระบบ ATS
    - ใช้ AI วิเคราะห์คำสำคัญจากประกาศรับสมัครงาน
    - มีตัวช่วยสร้างจดหมายสมัครงานในตัว

    ✅ Teal – เหมาะสำหรับผู้ที่สมัครงานหลายตำแหน่ง
    - มีระบบติดตามใบสมัครและช่วยปรับแต่งเรซูเม่
    - มีส่วนขยาย Chrome สำหรับบันทึกประกาศงาน

    ✅ Kickresume – เหมาะสำหรับเรซูเม่ที่มีดีไซน์สวยงาม
    - มีตัวอย่างเรซูเม่จากมืออาชีพ
    - มีระบบตรวจสอบไวยากรณ์ในตัว

    ✅ Resume.io – เหมาะสำหรับการสร้างเรซูเม่แบบรวดเร็ว
    - มีระบบลากและวางที่ใช้งานง่าย
    - มีตัวช่วยเขียนเรซูเม่ด้วย AI

    ✅ Enhancv – เหมาะสำหรับการสร้างแบรนด์ส่วนตัว
    - เน้นการเล่าเรื่องและการนำเสนอทักษะ
    - มีตัวช่วยสร้างจดหมายสมัครงานด้วย AI

    https://computercity.com/artificial-intelligence/the-best-ai-resume-writer-websites-and-tools
    AI ช่วยสร้างเรซูเม่ที่โดดเด่นในปี 2025 การแข่งขันในตลาดงานกำลังเข้มข้นขึ้น และการใช้ AI Resume Builder สามารถช่วยให้ผู้สมัครงานมีความได้เปรียบมากขึ้น เครื่องมือเหล่านี้ไม่เพียงแค่สร้างเรซูเม่แบบพื้นฐาน แต่ยังช่วย ปรับแต่งให้เหมาะสมกับระบบ ATS (Applicant Tracking System) ตรวจสอบคำสำคัญ และให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์ 🔍 เครื่องมือ AI Resume Builder ที่ดีที่สุดในปี 2025 ✅ Rezi – เหมาะสำหรับการสร้างเรซูเม่ที่ผ่านระบบ ATS - ใช้ AI วิเคราะห์คำสำคัญจากประกาศรับสมัครงาน - มีตัวช่วยสร้างจดหมายสมัครงานในตัว ✅ Teal – เหมาะสำหรับผู้ที่สมัครงานหลายตำแหน่ง - มีระบบติดตามใบสมัครและช่วยปรับแต่งเรซูเม่ - มีส่วนขยาย Chrome สำหรับบันทึกประกาศงาน ✅ Kickresume – เหมาะสำหรับเรซูเม่ที่มีดีไซน์สวยงาม - มีตัวอย่างเรซูเม่จากมืออาชีพ - มีระบบตรวจสอบไวยากรณ์ในตัว ✅ Resume.io – เหมาะสำหรับการสร้างเรซูเม่แบบรวดเร็ว - มีระบบลากและวางที่ใช้งานง่าย - มีตัวช่วยเขียนเรซูเม่ด้วย AI ✅ Enhancv – เหมาะสำหรับการสร้างแบรนด์ส่วนตัว - เน้นการเล่าเรื่องและการนำเสนอทักษะ - มีตัวช่วยสร้างจดหมายสมัครงานด้วย AI https://computercity.com/artificial-intelligence/the-best-ai-resume-writer-websites-and-tools
    COMPUTERCITY.COM
    The Best Ai “Resume Writer” Websites and Tools
    With competition heating up across industries, using AI resume builders in 2025 can give job seekers a powerful edge. Today’s top tools go beyond basic
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • Intel ปรับกลยุทธ์ AI ด้วย Jaguar Shores และเทคโนโลยี 18A

    Intel ประกาศแผนพัฒนา AI ใหม่โดยเน้นไปที่ Jaguar Shores ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ระดับ Rack-Scale ที่ออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA และรองรับการประมวลผล AI ในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Jaguar Shores และเทคโนโลยี 18A
    ✅ Jaguar Shores เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่รวม CPU, GPU, IPU และระบบเครือข่ายเข้าด้วยกัน
    - ช่วยให้ สามารถประมวลผล AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ ใช้เทคโนโลยี 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดของ Intel
    - มี RibbonFET transistors และ PowerVia เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

    ✅ Falcon Shores ถูกยกเลิกและเปลี่ยนเป็นแพลตฟอร์มทดสอบภายใน
    - Intel เลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่ Jaguar Shores แทน

    ✅ Jaguar Shores รองรับ AI inference และการปรับใช้โมเดล AI ในศูนย์ข้อมูล
    - ออกแบบมาเพื่อ ลดความล่าช้าในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่

    ✅ ใช้ Silicon Photonics เพื่อเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อระหว่างชิป
    - ทำให้ สามารถส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้เร็วขึ้นและลดการใช้พลังงาน

    https://computercity.com/artificial-intelligence/intel-betting-big-on-rack-scale-ai-with-jaguar-shores-and-18a-process-node
    Intel ปรับกลยุทธ์ AI ด้วย Jaguar Shores และเทคโนโลยี 18A Intel ประกาศแผนพัฒนา AI ใหม่โดยเน้นไปที่ Jaguar Shores ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ระดับ Rack-Scale ที่ออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA และรองรับการประมวลผล AI ในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Jaguar Shores และเทคโนโลยี 18A ✅ Jaguar Shores เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่รวม CPU, GPU, IPU และระบบเครือข่ายเข้าด้วยกัน - ช่วยให้ สามารถประมวลผล AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ ใช้เทคโนโลยี 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้าที่สุดของ Intel - มี RibbonFET transistors และ PowerVia เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ✅ Falcon Shores ถูกยกเลิกและเปลี่ยนเป็นแพลตฟอร์มทดสอบภายใน - Intel เลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่ Jaguar Shores แทน ✅ Jaguar Shores รองรับ AI inference และการปรับใช้โมเดล AI ในศูนย์ข้อมูล - ออกแบบมาเพื่อ ลดความล่าช้าในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ✅ ใช้ Silicon Photonics เพื่อเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อระหว่างชิป - ทำให้ สามารถส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้เร็วขึ้นและลดการใช้พลังงาน https://computercity.com/artificial-intelligence/intel-betting-big-on-rack-scale-ai-with-jaguar-shores-and-18a-process-node
    COMPUTERCITY.COM
    Intel Lays Out Its AI Roadmap With Huge Rack-Scale Bets On Jaguar Shores and 18A
    Intel is overhauling its AI hardware strategy with Jaguar Shores, a next-generation AI accelerator platform that marks a radical shift from chip-centric
    0 Comments 0 Shares 162 Views 0 Reviews
  • นิวออร์ลีนส์ใช้ AI ตรวจจับใบหน้าโดยไม่มีการแจ้งต่อสาธารณะ

    เมืองนิวออร์ลีนส์ ใช้ระบบตรวจจับใบหน้าด้วย AI โดยไม่มีการแจ้งต่อสาธารณะหรือการกำกับดูแลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับ สิทธิความเป็นส่วนตัวและการละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการใช้ AI ตรวจจับใบหน้าในนิวออร์ลีนส์
    ✅ ระบบใช้กล้อง AI กว่า 200 ตัวเพื่อตรวจจับใบหน้าแบบเรียลไทม์
    - เมื่อพบใบหน้าที่ตรงกับฐานข้อมูล ระบบจะส่งการแจ้งเตือนไปยังตำรวจทันที

    ✅ ระบบนี้ดำเนินการโดยองค์กรไม่แสวงหากำไรชื่อ Project NOLA ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ
    - ทำให้เกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและการกำกับดูแล

    ✅ ฐานข้อมูลมีใบหน้ากว่า 30,000 รายจากบันทึกของตำรวจ
    - ระบบสามารถ ติดตามบุคคลย้อนหลังได้ถึง 30 วัน

    ✅ ตำรวจสามารถใช้ข้อมูลจากระบบนี้เพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็ว
    - มีรายงานว่า ระบบช่วยให้ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างน้อย 34 ราย

    ✅ เทคโนโลยีสามารถตรวจจับใบหน้าจากระยะไกลถึง 700 ฟุต
    - ใช้ การจดจำใบหน้า, เสื้อผ้า และลักษณะทางกายภาพ

    https://www.techspot.com/news/107990-city-divided-facial-recognition-technology-shadows-new-orleans.html
    นิวออร์ลีนส์ใช้ AI ตรวจจับใบหน้าโดยไม่มีการแจ้งต่อสาธารณะ เมืองนิวออร์ลีนส์ ใช้ระบบตรวจจับใบหน้าด้วย AI โดยไม่มีการแจ้งต่อสาธารณะหรือการกำกับดูแลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับ สิทธิความเป็นส่วนตัวและการละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการใช้ AI ตรวจจับใบหน้าในนิวออร์ลีนส์ ✅ ระบบใช้กล้อง AI กว่า 200 ตัวเพื่อตรวจจับใบหน้าแบบเรียลไทม์ - เมื่อพบใบหน้าที่ตรงกับฐานข้อมูล ระบบจะส่งการแจ้งเตือนไปยังตำรวจทันที ✅ ระบบนี้ดำเนินการโดยองค์กรไม่แสวงหากำไรชื่อ Project NOLA ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ - ทำให้เกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับ ความโปร่งใสและการกำกับดูแล ✅ ฐานข้อมูลมีใบหน้ากว่า 30,000 รายจากบันทึกของตำรวจ - ระบบสามารถ ติดตามบุคคลย้อนหลังได้ถึง 30 วัน ✅ ตำรวจสามารถใช้ข้อมูลจากระบบนี้เพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็ว - มีรายงานว่า ระบบช่วยให้ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้อย่างน้อย 34 ราย ✅ เทคโนโลยีสามารถตรวจจับใบหน้าจากระยะไกลถึง 700 ฟุต - ใช้ การจดจำใบหน้า, เสื้อผ้า และลักษณะทางกายภาพ https://www.techspot.com/news/107990-city-divided-facial-recognition-technology-shadows-new-orleans.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New Orleans used AI surveillance without public knowledge or full oversight
    For two years, New Orleans quietly served as a testing ground for one of the most ambitious – and controversial – uses of facial recognition in American...
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • วิธีกู้คืนอีเมลที่ถูกลบจากถังขยะ

    การลบอีเมลโดยไม่ได้ตั้งใจอาจเป็นเรื่องน่าหงุดหงิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอีเมลนั้นถูกลบออกจากถังขยะไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีในการกู้คืนอีเมลที่ถูกลบ แม้ว่าจะถูกลบออกจากถังขยะแล้วก็ตาม ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการอีเมลที่คุณใช้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการกู้คืนอีเมลที่ถูกลบ
    ✅ Gmail สามารถกู้คืนอีเมลที่ถูกลบจากถังขยะได้ภายใน 30 วัน
    - ผู้ใช้สามารถ ค้นหาอีเมลที่อาจถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ "All Mail" หรือขอความช่วยเหลือจาก Google Support

    ✅ Outlook มีโฟลเดอร์ "Recoverable Items" ที่ช่วยให้กู้คืนอีเมลที่ถูกลบได้
    - อีเมลที่ถูกลบจากถังขยะ จะถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์นี้เป็นเวลา 14-30 วัน

    ✅ Yahoo Mail อาจสามารถกู้คืนอีเมลที่ถูกลบได้ภายใน 7 วัน
    - ผู้ใช้ต้อง ส่งคำขอไปยัง Yahoo เพื่อกู้คืนอีเมลที่สูญหาย

    ✅ Apple Mail (iCloud) ไม่มีตัวเลือกกู้คืนอีเมลหลังจากถังขยะถูกล้าง
    - อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ Mac สามารถใช้ Time Machine เพื่อกู้คืนอีเมลที่ถูกลบได้

    ✅ หากไม่มีตัวเลือกกู้คืนจากผู้ให้บริการอีเมล อาจต้องใช้ซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลหรือขอความช่วยเหลือจากฝ่ายสนับสนุน
    - เช่น Google Takeout หรือโปรแกรมสำรองข้อมูลอีเมลของบุคคลที่สาม

    https://computercity.com/software/email/how-to-recover-emails-deleted-from-trash
    วิธีกู้คืนอีเมลที่ถูกลบจากถังขยะ การลบอีเมลโดยไม่ได้ตั้งใจอาจเป็นเรื่องน่าหงุดหงิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอีเมลนั้นถูกลบออกจากถังขยะไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีในการกู้คืนอีเมลที่ถูกลบ แม้ว่าจะถูกลบออกจากถังขยะแล้วก็ตาม ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการอีเมลที่คุณใช้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการกู้คืนอีเมลที่ถูกลบ ✅ Gmail สามารถกู้คืนอีเมลที่ถูกลบจากถังขยะได้ภายใน 30 วัน - ผู้ใช้สามารถ ค้นหาอีเมลที่อาจถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ "All Mail" หรือขอความช่วยเหลือจาก Google Support ✅ Outlook มีโฟลเดอร์ "Recoverable Items" ที่ช่วยให้กู้คืนอีเมลที่ถูกลบได้ - อีเมลที่ถูกลบจากถังขยะ จะถูกเก็บไว้ในโฟลเดอร์นี้เป็นเวลา 14-30 วัน ✅ Yahoo Mail อาจสามารถกู้คืนอีเมลที่ถูกลบได้ภายใน 7 วัน - ผู้ใช้ต้อง ส่งคำขอไปยัง Yahoo เพื่อกู้คืนอีเมลที่สูญหาย ✅ Apple Mail (iCloud) ไม่มีตัวเลือกกู้คืนอีเมลหลังจากถังขยะถูกล้าง - อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ Mac สามารถใช้ Time Machine เพื่อกู้คืนอีเมลที่ถูกลบได้ ✅ หากไม่มีตัวเลือกกู้คืนจากผู้ให้บริการอีเมล อาจต้องใช้ซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลหรือขอความช่วยเหลือจากฝ่ายสนับสนุน - เช่น Google Takeout หรือโปรแกรมสำรองข้อมูลอีเมลของบุคคลที่สาม https://computercity.com/software/email/how-to-recover-emails-deleted-from-trash
    COMPUTERCITY.COM
    How to Recover Emails Deleted from Trash
    Accidentally deleting emails from the trash can be frustrating. If you’ve emptied your trash, retrieving those emails might seem impossible. There are ways to
    0 Comments 0 Shares 181 Views 0 Reviews
  • รีวิว GeForce RTX 5060: การ์ดจอราคาประหยัดที่มาพร้อม DLSS 4 และ GDDR7

    Nvidia เปิดตัว GeForce RTX 5060 ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 โดยเป็นการ์ดจอระดับเริ่มต้นที่ออกแบบมาสำหรับ เกมเมอร์ที่เล่นที่ความละเอียด 1080p ด้วยราคา $299 การ์ดจอรุ่นนี้มาพร้อม GDDR7, DLSS 4 และ Multi-Frame Generation (MFG) แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ GeForce RTX 5060
    ✅ RTX 5060 ใช้ชิป Blackwell พร้อม 3,840 CUDA Cores และ Boost Clock 2.5 GHz
    - ให้ ประสิทธิภาพที่ดีสำหรับเกมที่รองรับ DLSS 4

    ✅ มีหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 8GB และอินเทอร์เฟซหน่วยความจำ 128-bit
    - แม้จะเร็ว แต่ความจุ 8GB อาจไม่เพียงพอสำหรับเกมที่ใช้ทรัพยากรสูง

    ✅ รองรับพอร์ตแสดงผล DisplayPort 2.1b สามพอร์ต และ HDMI 2.1b หนึ่งพอร์ต
    - ทำให้ สามารถเชื่อมต่อหลายหน้าจอได้ง่ายขึ้น

    ✅ DLSS 4 และ Multi-Frame Generation ช่วยเพิ่มเฟรมเรตในเกมที่รองรับ
    - เช่น Doom: The Dark Ages สามารถรันที่ 200+ FPS ที่ Ultra 1080p

    ✅ การ์ดจอมีค่าใช้จ่ายพลังงานเพียง 115W และมีระบบระบายความร้อนที่ดี
    - เหมาะสำหรับ พีซีขนาดเล็กและระบบที่ใช้พลังงานต่ำ

    ℹ️ℹ️ℹ️ ลุงดู Review หลายเจ้า (เจ้าเล็กๆ) สรุปให้ง่ายๆ ขาเกม ถ้ามี RTX3060 อยู่ในมือ อย่าซื้อรุ่นนี้ รอรุ่นถัดไป หรือลงทุนไปซื้อ 5060Ti RAM 16GB แทนครับ

    https://computercity.com/hardware/video-cards/geforce-rtx-5060-review-nvidias-299-entry-level-challenger
    รีวิว GeForce RTX 5060: การ์ดจอราคาประหยัดที่มาพร้อม DLSS 4 และ GDDR7 Nvidia เปิดตัว GeForce RTX 5060 ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 โดยเป็นการ์ดจอระดับเริ่มต้นที่ออกแบบมาสำหรับ เกมเมอร์ที่เล่นที่ความละเอียด 1080p ด้วยราคา $299 การ์ดจอรุ่นนี้มาพร้อม GDDR7, DLSS 4 และ Multi-Frame Generation (MFG) แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ GeForce RTX 5060 ✅ RTX 5060 ใช้ชิป Blackwell พร้อม 3,840 CUDA Cores และ Boost Clock 2.5 GHz - ให้ ประสิทธิภาพที่ดีสำหรับเกมที่รองรับ DLSS 4 ✅ มีหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 8GB และอินเทอร์เฟซหน่วยความจำ 128-bit - แม้จะเร็ว แต่ความจุ 8GB อาจไม่เพียงพอสำหรับเกมที่ใช้ทรัพยากรสูง ✅ รองรับพอร์ตแสดงผล DisplayPort 2.1b สามพอร์ต และ HDMI 2.1b หนึ่งพอร์ต - ทำให้ สามารถเชื่อมต่อหลายหน้าจอได้ง่ายขึ้น ✅ DLSS 4 และ Multi-Frame Generation ช่วยเพิ่มเฟรมเรตในเกมที่รองรับ - เช่น Doom: The Dark Ages สามารถรันที่ 200+ FPS ที่ Ultra 1080p ✅ การ์ดจอมีค่าใช้จ่ายพลังงานเพียง 115W และมีระบบระบายความร้อนที่ดี - เหมาะสำหรับ พีซีขนาดเล็กและระบบที่ใช้พลังงานต่ำ ℹ️ℹ️ℹ️ ลุงดู Review หลายเจ้า (เจ้าเล็กๆ) สรุปให้ง่ายๆ ขาเกม ถ้ามี RTX3060 อยู่ในมือ อย่าซื้อรุ่นนี้ รอรุ่นถัดไป หรือลงทุนไปซื้อ 5060Ti RAM 16GB แทนครับ https://computercity.com/hardware/video-cards/geforce-rtx-5060-review-nvidias-299-entry-level-challenger
    COMPUTERCITY.COM
    GeForce RTX 5060 Review: Nvidia’s $299 Entry-Level Challenger
    Nvidia’s GeForce RTX 5060 officially launched on May 19, 2025, as part of the RTX 50 series lineup, aimed squarely at 1080p gamers on a budget. With a $299
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • 10 ส่วนขยาย Chrome ที่นักเล่นเกมควรมีในปี 2025

    Google Chrome ไม่ได้เป็นเพียงเบราว์เซอร์สำหรับการท่องเว็บ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักเล่นเกมที่ต้องการ เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมผ่านเบราว์เซอร์ โดยมีส่วนขยายที่ช่วยให้การเล่นเกมสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ บล็อกโฆษณา, ปรับปรุงประสิทธิภาพเกม หรือช่วยติดตามดีลเกมราคาถูก

    ✅ Twitch Adblock – บล็อกโฆษณาบน Twitch
    - ช่วยให้ ดูสตรีมเกมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีโฆษณาขัดจังหวะ

    ✅ GameTrack – ติดตามเกมที่เล่นและเกมที่อยากได้
    - ซิงค์กับ Steam, GOG และ Epic Games เพื่อช่วยจัดการรายการเกม

    ✅ Loom – บันทึกวิดีโอเกมเพียงคลิกเดียว
    - เหมาะสำหรับ นักสร้างคอนเทนต์และผู้เล่นที่ต้องการแชร์คลิปเกม

    ✅ FPS Monitor Web Companion – แสดงข้อมูลประสิทธิภาพเกมแบบเรียลไทม์
    - ช่วยให้ ผู้เล่นสามารถปรับแต่งการตั้งค่าเพื่อให้เกมลื่นไหลขึ้น

    ✅ Augmented Steam – เพิ่มฟีเจอร์ให้กับ Steam
    - แสดง ประวัติราคาของเกม, รีวิว และตัวกรองการค้นหาที่ดีขึ้น

    ✅ Discord Screen Share Fix – แก้ปัญหาจอดำเมื่อแชร์หน้าจอผ่าน Discord
    - ปรับปรุง การตั้งค่าฮาร์ดแวร์เพื่อให้การแชร์หน้าจอราบรื่นขึ้น

    ✅ uBlock Origin – บล็อกโฆษณาและตัวติดตามข้อมูล
    - ลด การใช้ทรัพยากรระบบและช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น

    ✅ GameDeals – แจ้งเตือนดีลเกมราคาถูก
    - แสดง ราคาล่าสุดจากหลายแพลตฟอร์ม เช่น Steam และ Epic Games

    ✅ Twitch Now – แจ้งเตือนเมื่อสตรีมเมอร์ที่ติดตามเริ่มไลฟ์
    - ช่วยให้ ไม่พลาดการแข่งขัน eSports หรือสตรีมเกมที่ชื่นชอบ

    ✅ Stadia+ – ปรับปรุง UI ของบริการเกมบนคลาวด์
    - เพิ่ม ตัวเลือกการตั้งค่าคุณภาพภาพและการบันทึกเกม

    https://computercity.com/software/browsers/10-essential-chrome-extensions-for-gamers
    10 ส่วนขยาย Chrome ที่นักเล่นเกมควรมีในปี 2025 Google Chrome ไม่ได้เป็นเพียงเบราว์เซอร์สำหรับการท่องเว็บ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักเล่นเกมที่ต้องการ เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมผ่านเบราว์เซอร์ โดยมีส่วนขยายที่ช่วยให้การเล่นเกมสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ บล็อกโฆษณา, ปรับปรุงประสิทธิภาพเกม หรือช่วยติดตามดีลเกมราคาถูก ✅ Twitch Adblock – บล็อกโฆษณาบน Twitch - ช่วยให้ ดูสตรีมเกมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีโฆษณาขัดจังหวะ ✅ GameTrack – ติดตามเกมที่เล่นและเกมที่อยากได้ - ซิงค์กับ Steam, GOG และ Epic Games เพื่อช่วยจัดการรายการเกม ✅ Loom – บันทึกวิดีโอเกมเพียงคลิกเดียว - เหมาะสำหรับ นักสร้างคอนเทนต์และผู้เล่นที่ต้องการแชร์คลิปเกม ✅ FPS Monitor Web Companion – แสดงข้อมูลประสิทธิภาพเกมแบบเรียลไทม์ - ช่วยให้ ผู้เล่นสามารถปรับแต่งการตั้งค่าเพื่อให้เกมลื่นไหลขึ้น ✅ Augmented Steam – เพิ่มฟีเจอร์ให้กับ Steam - แสดง ประวัติราคาของเกม, รีวิว และตัวกรองการค้นหาที่ดีขึ้น ✅ Discord Screen Share Fix – แก้ปัญหาจอดำเมื่อแชร์หน้าจอผ่าน Discord - ปรับปรุง การตั้งค่าฮาร์ดแวร์เพื่อให้การแชร์หน้าจอราบรื่นขึ้น ✅ uBlock Origin – บล็อกโฆษณาและตัวติดตามข้อมูล - ลด การใช้ทรัพยากรระบบและช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น ✅ GameDeals – แจ้งเตือนดีลเกมราคาถูก - แสดง ราคาล่าสุดจากหลายแพลตฟอร์ม เช่น Steam และ Epic Games ✅ Twitch Now – แจ้งเตือนเมื่อสตรีมเมอร์ที่ติดตามเริ่มไลฟ์ - ช่วยให้ ไม่พลาดการแข่งขัน eSports หรือสตรีมเกมที่ชื่นชอบ ✅ Stadia+ – ปรับปรุง UI ของบริการเกมบนคลาวด์ - เพิ่ม ตัวเลือกการตั้งค่าคุณภาพภาพและการบันทึกเกม https://computercity.com/software/browsers/10-essential-chrome-extensions-for-gamers
    COMPUTERCITY.COM
    10 Essential Chrome Extensions for Gamers
    Google Chrome has become an essential tool for many gamers, offering a platform for cloud gaming, browser games, and access to gaming-focused websites. With
    0 Comments 0 Shares 225 Views 0 Reviews
  • YouTube Music vs Spotify: บริการสตรีมเพลงที่ดีที่สุดในปี 2025

    ในปี 2025 YouTube Music และ Spotify ยังคงเป็นสองแพลตฟอร์มสตรีมเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น คลังเพลง, คุณภาพเสียง, การค้นพบเพลงใหม่ และการรองรับอุปกรณ์ต่าง ๆ

    ✅ คลังเพลงและเนื้อหา
    - ทั้งสองแพลตฟอร์มมี เพลงมากกว่า 100 ล้านเพลง
    - YouTube Music มีเพลงรีมิกซ์, เพลงที่อัปโหลดโดยแฟน ๆ และเพลงที่ถูกล็อกโซน
    - Spotify มี Spotify Singles และบันทึกการแสดงสดที่คัดสรรโดยทีมบรรณาธิการ

    ✅ การค้นพบเพลงใหม่และการปรับแต่งตามผู้ใช้
    - Spotify ใช้ AI และอัลกอริธึมขั้นสูงในการสร้างเพลย์ลิสต์ส่วนตัว เช่น Discover Weekly และ Release Radar
    - YouTube Music อ้างอิงจากประวัติการดูบน YouTube ซึ่งอาจทำให้การแนะนำเพลงมีความหลากหลายมากขึ้น

    ✅ คุณภาพเสียง
    - Spotify มี HiFi Tier ที่ให้เสียงแบบ Lossless FLAC
    - YouTube Music ยังไม่มี HiFi Tier แต่ใช้ AAC ที่มีประสิทธิภาพสูง

    ✅ แผนราคาและความคุ้มค่า
    - ทั้งสองแพลตฟอร์มมี แผนฟรีที่มีโฆษณา
    - YouTube Music รวมอยู่ใน YouTube Premium ซึ่งให้บริการวิดีโอแบบไม่มีโฆษณาด้วย
    - Spotify มีแผน Duo ที่เหมาะสำหรับสองคนในราคาประหยัด

    ✅ การรองรับอุปกรณ์และการใช้งาน
    - Spotify รองรับ Apple CarPlay, Xbox, Discord และอุปกรณ์อื่น ๆ
    - YouTube Music เหมาะกับอุปกรณ์ในระบบ Google เช่น Pixel และ Android TV

    https://computercity.com/streaming/streaming-services/youtube-music-vs-spotify-which-music-streaming-service-wins-in-2025
    YouTube Music vs Spotify: บริการสตรีมเพลงที่ดีที่สุดในปี 2025 ในปี 2025 YouTube Music และ Spotify ยังคงเป็นสองแพลตฟอร์มสตรีมเพลงที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยแต่ละแพลตฟอร์มมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น คลังเพลง, คุณภาพเสียง, การค้นพบเพลงใหม่ และการรองรับอุปกรณ์ต่าง ๆ ✅ คลังเพลงและเนื้อหา - ทั้งสองแพลตฟอร์มมี เพลงมากกว่า 100 ล้านเพลง - YouTube Music มีเพลงรีมิกซ์, เพลงที่อัปโหลดโดยแฟน ๆ และเพลงที่ถูกล็อกโซน - Spotify มี Spotify Singles และบันทึกการแสดงสดที่คัดสรรโดยทีมบรรณาธิการ ✅ การค้นพบเพลงใหม่และการปรับแต่งตามผู้ใช้ - Spotify ใช้ AI และอัลกอริธึมขั้นสูงในการสร้างเพลย์ลิสต์ส่วนตัว เช่น Discover Weekly และ Release Radar - YouTube Music อ้างอิงจากประวัติการดูบน YouTube ซึ่งอาจทำให้การแนะนำเพลงมีความหลากหลายมากขึ้น ✅ คุณภาพเสียง - Spotify มี HiFi Tier ที่ให้เสียงแบบ Lossless FLAC - YouTube Music ยังไม่มี HiFi Tier แต่ใช้ AAC ที่มีประสิทธิภาพสูง ✅ แผนราคาและความคุ้มค่า - ทั้งสองแพลตฟอร์มมี แผนฟรีที่มีโฆษณา - YouTube Music รวมอยู่ใน YouTube Premium ซึ่งให้บริการวิดีโอแบบไม่มีโฆษณาด้วย - Spotify มีแผน Duo ที่เหมาะสำหรับสองคนในราคาประหยัด ✅ การรองรับอุปกรณ์และการใช้งาน - Spotify รองรับ Apple CarPlay, Xbox, Discord และอุปกรณ์อื่น ๆ - YouTube Music เหมาะกับอุปกรณ์ในระบบ Google เช่น Pixel และ Android TV https://computercity.com/streaming/streaming-services/youtube-music-vs-spotify-which-music-streaming-service-wins-in-2025
    COMPUTERCITY.COM
    YouTube Music vs Spotify: Which Music Streaming Service Wins in 2025?
    Music streaming in 2025 is no longer just about access to songs—it's about ecosystems, personalization, content depth, and how seamlessly audio integrates
    0 Comments 0 Shares 188 Views 0 Reviews
  • Fiber Optic vs. 5G Home Internet: เทคโนโลยีไหนเหมาะกับคุณที่สุด?

    ในปี 2025 การเลือกอินเทอร์เน็ตบ้านที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ เทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุดคือ Fiber Optic Internet และ 5G Home Internet ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป

    ✅ Fiber Optic ใช้แสงในการส่งข้อมูลผ่านสายแก้วนำแสง
    - ให้ ความเร็วสูงและเสถียรภาพที่ดีเยี่ยม

    ✅ 5G Home Internet ใช้สัญญาณไร้สายจากเสาส่งสัญญาณ
    - ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินสาย

    ✅ Fiber Optic มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 5+ Gbps
    - ส่วน 5G มีความเร็วสูงสุด 1 Gbps ขึ้นอยู่กับสัญญาณ

    ✅ Latency ของ Fiber ต่ำมาก เหมาะสำหรับเกมออนไลน์และวิดีโอคอล
    - 5G มี Latency ปานกลาง ดีกว่า 4G แต่ยังไม่เทียบเท่า Fiber

    ✅ Fiber มีเสถียรภาพสูง ไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ
    - 5G อาจ ได้รับผลกระทบจากสิ่งกีดขวางและความหนาแน่นของเครือข่าย

    ✅ ค่าใช้จ่ายของ Fiber อยู่ที่ $50–$100 ต่อเดือน
    - ส่วน 5G มีราคาถูกกว่า เริ่มต้นที่ $25–$70

    ‼️ Fiber อาจไม่สามารถติดตั้งได้ในพื้นที่ชนบท
    - ต้องตรวจสอบ ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน

    https://computercity.com/internet/fiber-optic-vs-5g-home-internet-which-ones-better-for-you
    Fiber Optic vs. 5G Home Internet: เทคโนโลยีไหนเหมาะกับคุณที่สุด? ในปี 2025 การเลือกอินเทอร์เน็ตบ้านที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ เทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุดคือ Fiber Optic Internet และ 5G Home Internet ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ✅ Fiber Optic ใช้แสงในการส่งข้อมูลผ่านสายแก้วนำแสง - ให้ ความเร็วสูงและเสถียรภาพที่ดีเยี่ยม ✅ 5G Home Internet ใช้สัญญาณไร้สายจากเสาส่งสัญญาณ - ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินสาย ✅ Fiber Optic มีความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 5+ Gbps - ส่วน 5G มีความเร็วสูงสุด 1 Gbps ขึ้นอยู่กับสัญญาณ ✅ Latency ของ Fiber ต่ำมาก เหมาะสำหรับเกมออนไลน์และวิดีโอคอล - 5G มี Latency ปานกลาง ดีกว่า 4G แต่ยังไม่เทียบเท่า Fiber ✅ Fiber มีเสถียรภาพสูง ไม่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ - 5G อาจ ได้รับผลกระทบจากสิ่งกีดขวางและความหนาแน่นของเครือข่าย ✅ ค่าใช้จ่ายของ Fiber อยู่ที่ $50–$100 ต่อเดือน - ส่วน 5G มีราคาถูกกว่า เริ่มต้นที่ $25–$70 ‼️ Fiber อาจไม่สามารถติดตั้งได้ในพื้นที่ชนบท - ต้องตรวจสอบ ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน https://computercity.com/internet/fiber-optic-vs-5g-home-internet-which-ones-better-for-you
    COMPUTERCITY.COM
    Fiber Optic vs. 5G Home Internet: Which One’s Better for You?
    With internet speeds skyrocketing and more connected devices than ever, choosing the right home internet solution matters. Two technologies stand out in 2025:
    0 Comments 0 Shares 208 Views 0 Reviews
  • วิธีปิด Microsoft Defender ใน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์

    Microsoft Defender เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ติดตั้งมากับ Windows 11 ซึ่งให้การป้องกันแบบเรียลไทม์ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายอาจต้องการปิดใช้งานเพื่อใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสอื่น หรือเพื่อปรับแต่งระบบให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะทาง

    ✅ ปิด Microsoft Defender ชั่วคราวผ่าน Windows Security
    - เปิด Settings โดยกด Win + I
    - ไปที่ Privacy & Security > Windows Security
    - คลิก Virus & threat protection และเลือก Manage settings
    - ปิด Real-time protection (Windows จะเปิดกลับมาเองหลังรีบูต)

    ✅ ปิด Microsoft Defender ถาวรผ่าน Group Policy Editor (เฉพาะ Windows 11 Pro/Enterprise)
    - กด Win + R และพิมพ์ gpedit.msc
    - ไปที่ Computer Configuration > Administrative Templates > Windows Components > Microsoft Defender Antivirus
    - ดับเบิลคลิก Turn off Microsoft Defender Antivirus และตั้งค่าเป็น Enabled
    - คลิก Apply และ OK จากนั้นรีสตาร์ทเครื่อง

    ✅ ปิด Microsoft Defender ผ่าน Registry Editor (สำหรับ Windows 11 Home)
    - กด Win + R และพิมพ์ regedit
    - ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Policies\Microsoft\Windows Defender
    - คลิกขวาและเลือก New > DWORD (32-bit) Value
    - ตั้งชื่อเป็น DisableAntiSpyware และตั้งค่าเป็น 1
    - รีสตาร์ทเครื่องเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล

    https://computercity.com/software/windows/disable-microsoft-defender-in-windows-11
    วิธีปิด Microsoft Defender ใน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์ Microsoft Defender เป็นโปรแกรมป้องกันไวรัสที่ติดตั้งมากับ Windows 11 ซึ่งให้การป้องกันแบบเรียลไทม์ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บางรายอาจต้องการปิดใช้งานเพื่อใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสอื่น หรือเพื่อปรับแต่งระบบให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะทาง ✅ ปิด Microsoft Defender ชั่วคราวผ่าน Windows Security - เปิด Settings โดยกด Win + I - ไปที่ Privacy & Security > Windows Security - คลิก Virus & threat protection และเลือก Manage settings - ปิด Real-time protection (Windows จะเปิดกลับมาเองหลังรีบูต) ✅ ปิด Microsoft Defender ถาวรผ่าน Group Policy Editor (เฉพาะ Windows 11 Pro/Enterprise) - กด Win + R และพิมพ์ gpedit.msc - ไปที่ Computer Configuration > Administrative Templates > Windows Components > Microsoft Defender Antivirus - ดับเบิลคลิก Turn off Microsoft Defender Antivirus และตั้งค่าเป็น Enabled - คลิก Apply และ OK จากนั้นรีสตาร์ทเครื่อง ✅ ปิด Microsoft Defender ผ่าน Registry Editor (สำหรับ Windows 11 Home) - กด Win + R และพิมพ์ regedit - ไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Policies\Microsoft\Windows Defender - คลิกขวาและเลือก New > DWORD (32-bit) Value - ตั้งชื่อเป็น DisableAntiSpyware และตั้งค่าเป็น 1 - รีสตาร์ทเครื่องเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงมีผล https://computercity.com/software/windows/disable-microsoft-defender-in-windows-11
    COMPUTERCITY.COM
    Steps To Disable Microsoft Defender in Windows 11
    Microsoft Defender is a built-in antivirus solution for Windows 11 that offers real-time protection against threats. While it is useful for many users, some
    0 Comments 0 Shares 250 Views 0 Reviews
  • Instagram ค้างบน iPhone: วิธีแก้ไขและป้องกันปัญหา

    ผู้ใช้ iPhone หลายคนพบว่า Instagram ค้างหรือทำงานช้าลง ซึ่งอาจเกิดจาก แอปเวอร์ชันเก่า, ปัญหา iOS, แคชที่มากเกินไป หรือพื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณ แก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

    ✅ แอป Instagram เวอร์ชันเก่า
    - แอปที่ไม่ได้อัปเดต อาจไม่เข้ากันกับ iOS เวอร์ชันล่าสุด

    ✅ iOS มีบั๊กหรือข้อผิดพลาด
    - อัปเดต iOS อาจทำให้เกิดปัญหาชั่วคราวกับแอปบางตัว

    ✅ แคชของแอปมีมากเกินไป
    - ข้อมูลที่สะสมในแอป อาจทำให้การทำงานช้าลง

    ✅ พื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ
    - หาก iPhone มีพื้นที่เหลือน้อย อาจส่งผลต่อการทำงานของแอป

    ✅ แอปอื่นรบกวนการทำงานของ Instagram
    - แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง อาจทำให้ Instagram ค้าง

    ✅ ปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    - สัญญาณ Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือที่ไม่เสถียร อาจทำให้แอปโหลดช้า

    https://computercity.com/internet/social-media/instagram-freezing-iphone
    Instagram ค้างบน iPhone: วิธีแก้ไขและป้องกันปัญหา ผู้ใช้ iPhone หลายคนพบว่า Instagram ค้างหรือทำงานช้าลง ซึ่งอาจเกิดจาก แอปเวอร์ชันเก่า, ปัญหา iOS, แคชที่มากเกินไป หรือพื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณ แก้ไขปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ✅ แอป Instagram เวอร์ชันเก่า - แอปที่ไม่ได้อัปเดต อาจไม่เข้ากันกับ iOS เวอร์ชันล่าสุด ✅ iOS มีบั๊กหรือข้อผิดพลาด - อัปเดต iOS อาจทำให้เกิดปัญหาชั่วคราวกับแอปบางตัว ✅ แคชของแอปมีมากเกินไป - ข้อมูลที่สะสมในแอป อาจทำให้การทำงานช้าลง ✅ พื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ - หาก iPhone มีพื้นที่เหลือน้อย อาจส่งผลต่อการทำงานของแอป ✅ แอปอื่นรบกวนการทำงานของ Instagram - แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง อาจทำให้ Instagram ค้าง ✅ ปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต - สัญญาณ Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือที่ไม่เสถียร อาจทำให้แอปโหลดช้า https://computercity.com/internet/social-media/instagram-freezing-iphone
    COMPUTERCITY.COM
    Instagram Freezing On iPhone: Troubleshooting and Solutions
    Instagram freezing on your iPhone can be really frustrating. Not only does it interrupt your social media experience, but it can also make your phone lag. The
    0 Comments 0 Shares 191 Views 0 Reviews
  • วิธีตั้งค่าจอคู่บน Mac เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

    การใช้ จอคู่บน Mac สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การตัดต่อวิดีโอ, การสตรีมเนื้อหา และการจัดการงานหลายอย่างพร้อมกัน คู่มือนี้จะช่วยให้คุณ ตั้งค่าจอคู่บน Mac ได้อย่างถูกต้อง และ ปรับแต่งการแสดงผลให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ

    ✅ ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณรองรับจอคู่
    - ไปที่ Apple Menu > About This Mac > More Info
    - คลิก System Report > Graphics/Displays เพื่อดูจำนวนจอที่รองรับ

    ✅ เชื่อมต่อจอภาพเข้ากับ Mac ด้วยสายที่เหมาะสม
    - ใช้ Thunderbolt, USB-C, HDMI หรือ DisplayPort ตามประเภทของจอภาพ

    ✅ เปิดเครื่อง Mac และจอภาพทั้งหมด
    - หากจอไม่ถูกตรวจพบ ไปที่ System Settings > Displays และคลิก Add Display

    ✅ ปรับแต่งการจัดเรียงจอภาพให้ตรงกับการตั้งค่าบนโต๊ะทำงาน
    - ไปที่ System Settings > Displays แล้วลากตำแหน่งจอให้ตรงกับการจัดวางจริง

    ✅ ตั้งค่าความละเอียดและการแสดงผลให้เหมาะสม
    - เลือก Default หรือ Scaled Resolution เพื่อให้ภาพคมชัดที่สุด

    ✅ เปิดใช้งานโหมด Mirror หรือ Extended Display ตามความต้องการ
    - Mirror Display: แสดงเนื้อหาเดียวกันบนทั้งสองจอ
    - Extended Display: ใช้จอที่สองเป็นพื้นที่ทำงานเพิ่มเติม

    https://computercity.com/desktops/mac/set-up-dual-monitors-on-a-mac
    วิธีตั้งค่าจอคู่บน Mac เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การใช้ จอคู่บน Mac สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การตัดต่อวิดีโอ, การสตรีมเนื้อหา และการจัดการงานหลายอย่างพร้อมกัน คู่มือนี้จะช่วยให้คุณ ตั้งค่าจอคู่บน Mac ได้อย่างถูกต้อง และ ปรับแต่งการแสดงผลให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ ✅ ตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของคุณรองรับจอคู่ - ไปที่ Apple Menu > About This Mac > More Info - คลิก System Report > Graphics/Displays เพื่อดูจำนวนจอที่รองรับ ✅ เชื่อมต่อจอภาพเข้ากับ Mac ด้วยสายที่เหมาะสม - ใช้ Thunderbolt, USB-C, HDMI หรือ DisplayPort ตามประเภทของจอภาพ ✅ เปิดเครื่อง Mac และจอภาพทั้งหมด - หากจอไม่ถูกตรวจพบ ไปที่ System Settings > Displays และคลิก Add Display ✅ ปรับแต่งการจัดเรียงจอภาพให้ตรงกับการตั้งค่าบนโต๊ะทำงาน - ไปที่ System Settings > Displays แล้วลากตำแหน่งจอให้ตรงกับการจัดวางจริง ✅ ตั้งค่าความละเอียดและการแสดงผลให้เหมาะสม - เลือก Default หรือ Scaled Resolution เพื่อให้ภาพคมชัดที่สุด ✅ เปิดใช้งานโหมด Mirror หรือ Extended Display ตามความต้องการ - Mirror Display: แสดงเนื้อหาเดียวกันบนทั้งสองจอ - Extended Display: ใช้จอที่สองเป็นพื้นที่ทำงานเพิ่มเติม https://computercity.com/desktops/mac/set-up-dual-monitors-on-a-mac
    COMPUTERCITY.COM
    Set Up Dual Monitors on a Mac
    Setting up dual monitors on a Mac can boost productivity. Connecting two screens lets you multitask, edit videos, or even stream content more efficiently.
    0 Comments 0 Shares 200 Views 0 Reviews
  • วิธีแก้ไขปัญหา 100% Disk Usage บน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์

    หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้า ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการกระตุก และเมื่อเปิด Task Manager พบว่า Disk Usage อยู่ที่ 100% ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น Windows Search Indexing, SysMain (Superfetch), Antivirus ที่ทำงานหนักเกินไป, ไดรเวอร์ที่ล้าสมัย หรือแอปพลิเคชันที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไป

    ✅ ตรวจสอบ Task Manager เพื่อดูว่าแอปใดใช้ดิสก์มากที่สุด
    - กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager
    - ไปที่แท็บ Processes และเรียงลำดับตาม Disk Usage

    ✅ ปิด Windows Search Indexing ชั่วคราวหรือถาวร
    - ใช้คำสั่ง net.exe stop "Windows Search" ใน Command Prompt
    - หรือไปที่ Services.msc แล้วปิด Windows Search

    ✅ ปิด SysMain (Superfetch) ซึ่งอาจทำให้ดิสก์ทำงานหนักเกินไป
    - ไปที่ Services.msc และปิด SysMain

    ✅ ตรวจสอบว่า Antivirus กำลังใช้ทรัพยากรดิสก์มากเกินไป
    - ลองปิด Real-time Protection ชั่วคราวเพื่อดูว่าปัญหาดีขึ้นหรือไม่

    ✅ อัปเดตไดรเวอร์และ Windows ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    - ไปที่ Device Manager และอัปเดต Storage Controllers และ Disk Drives

    ✅ ปิดแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานตอนเริ่มต้นระบบ
    - ไปที่ Task Manager > Startup Apps และปิดแอปที่ไม่จำเป็น

    ✅ รัน System File Checker (SFC) และ DISM เพื่อซ่อมแซมไฟล์ระบบที่เสียหาย
    - ใช้คำสั่ง sfc /scannow และ DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth

    ✅ เปลี่ยนไปใช้ High Performance Power Plan
    - ไปที่ Control Panel > Power Options และเลือก High Performance

    ✅ ปิดหรือจำกัดการซิงค์ของ OneDrive
    - ไปที่ OneDrive Settings > Sync and Backup และปิดการซิงค์ที่ไม่จำเป็น

    ✅ ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง
    - ไปที่ Settings > Apps > Installed Apps และปิด Background App Permissions

    https://computercity.com/software/windows/100-disk-usage-on-windows-11
    วิธีแก้ไขปัญหา 100% Disk Usage บน Windows 11: คู่มือฉบับสมบูรณ์ หากคอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้า ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการกระตุก และเมื่อเปิด Task Manager พบว่า Disk Usage อยู่ที่ 100% ปัญหานี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น Windows Search Indexing, SysMain (Superfetch), Antivirus ที่ทำงานหนักเกินไป, ไดรเวอร์ที่ล้าสมัย หรือแอปพลิเคชันที่ทำงานเบื้องหลังมากเกินไป ✅ ตรวจสอบ Task Manager เพื่อดูว่าแอปใดใช้ดิสก์มากที่สุด - กด Ctrl + Shift + Esc เพื่อเปิด Task Manager - ไปที่แท็บ Processes และเรียงลำดับตาม Disk Usage ✅ ปิด Windows Search Indexing ชั่วคราวหรือถาวร - ใช้คำสั่ง net.exe stop "Windows Search" ใน Command Prompt - หรือไปที่ Services.msc แล้วปิด Windows Search ✅ ปิด SysMain (Superfetch) ซึ่งอาจทำให้ดิสก์ทำงานหนักเกินไป - ไปที่ Services.msc และปิด SysMain ✅ ตรวจสอบว่า Antivirus กำลังใช้ทรัพยากรดิสก์มากเกินไป - ลองปิด Real-time Protection ชั่วคราวเพื่อดูว่าปัญหาดีขึ้นหรือไม่ ✅ อัปเดตไดรเวอร์และ Windows ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด - ไปที่ Device Manager และอัปเดต Storage Controllers และ Disk Drives ✅ ปิดแอปพลิเคชันที่เปิดใช้งานตอนเริ่มต้นระบบ - ไปที่ Task Manager > Startup Apps และปิดแอปที่ไม่จำเป็น ✅ รัน System File Checker (SFC) และ DISM เพื่อซ่อมแซมไฟล์ระบบที่เสียหาย - ใช้คำสั่ง sfc /scannow และ DISM /Online /Cleanup-Image /RestoreHealth ✅ เปลี่ยนไปใช้ High Performance Power Plan - ไปที่ Control Panel > Power Options และเลือก High Performance ✅ ปิดหรือจำกัดการซิงค์ของ OneDrive - ไปที่ OneDrive Settings > Sync and Backup และปิดการซิงค์ที่ไม่จำเป็น ✅ ปิดแอปที่ทำงานเบื้องหลัง - ไปที่ Settings > Apps > Installed Apps และปิด Background App Permissions https://computercity.com/software/windows/100-disk-usage-on-windows-11
    COMPUTERCITY.COM
    How To Fix 100% Disk Usage on Windows 11: Step-by-Step Guide
    If your Windows 11 PC is slow, unresponsive, or constantly lagging, and Task Manager shows “100% Disk Usage,” you're not alone. This frustrating issue affects
    0 Comments 0 Shares 296 Views 0 Reviews
  • Microsoft ปลดพนักงาน 6,000 คน เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรและมุ่งเน้น AI

    Microsoft ได้ประกาศ ปลดพนักงานประมาณ 6,000 ถึง 7,000 คน หรือคิดเป็น 3% ของพนักงานทั่วโลก โดยการปรับโครงสร้างครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ลดลำดับชั้นขององค์กรและเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนา AI

    ✅ การปลดพนักงานครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อทุกระดับและทุกแผนก
    - รวมถึง LinkedIn, Xbox และ HoloLens

    ✅ Microsoft ต้องการลดจำนวนผู้จัดการต่อวิศวกร
    - เพื่อให้ การตัดสินใจและนวัตกรรมเกิดขึ้นเร็วขึ้น

    ✅ บริษัทมีรายได้ 70 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด แต่ยังคงปรับโครงสร้างเพื่ออนาคต
    - CFO Amy Hood ระบุว่า Microsoft ต้องการความคล่องตัวมากขึ้น

    ✅ Microsoft ลงทุน 80 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ในปีนี้
    - รวมถึง Azure AI, Copilot และ GitHub AI

    ✅ การปลดพนักงานครั้งนี้เป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 2023
    - ครั้งนั้น Microsoft ปลดพนักงาน 10,000 คน

    https://computercity.com/software/microsoft-accidentally-removes-copilot-in-windows-update
    Microsoft ปลดพนักงาน 6,000 คน เพื่อปรับโครงสร้างองค์กรและมุ่งเน้น AI Microsoft ได้ประกาศ ปลดพนักงานประมาณ 6,000 ถึง 7,000 คน หรือคิดเป็น 3% ของพนักงานทั่วโลก โดยการปรับโครงสร้างครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ลดลำดับชั้นขององค์กรและเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนา AI ✅ การปลดพนักงานครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อทุกระดับและทุกแผนก - รวมถึง LinkedIn, Xbox และ HoloLens ✅ Microsoft ต้องการลดจำนวนผู้จัดการต่อวิศวกร - เพื่อให้ การตัดสินใจและนวัตกรรมเกิดขึ้นเร็วขึ้น ✅ บริษัทมีรายได้ 70 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด แต่ยังคงปรับโครงสร้างเพื่ออนาคต - CFO Amy Hood ระบุว่า Microsoft ต้องการความคล่องตัวมากขึ้น ✅ Microsoft ลงทุน 80 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ในปีนี้ - รวมถึง Azure AI, Copilot และ GitHub AI ✅ การปลดพนักงานครั้งนี้เป็นการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ปี 2023 - ครั้งนั้น Microsoft ปลดพนักงาน 10,000 คน https://computercity.com/software/microsoft-accidentally-removes-copilot-in-windows-update
    COMPUTERCITY.COM
    New Microsoft Layoffs Hit 6,000 Jobs – 3% Of Their Global Workforce
    Microsoft has initiated a sweeping round of layoffs, cutting approximately 6,000 to 7,000 positions—or about 3% of its global workforce—as part of a broader
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • SanDisk เปิดตัว WD Black SN8100: SSD ที่เร็วที่สุดในโลก พร้อมความจุสูงสุด 8TB

    SanDisk ได้เปิดตัว WD Black SN8100 ซึ่งเป็น NVMe SSD ที่เร็วที่สุดในโลก โดยมีความเร็วในการอ่านสูงสุด 14,900MB/s และความจุสูงสุด 8TB ออกแบบมาเพื่อ เกมเมอร์, นักสร้างคอนเทนต์ และ AI workloads

    ✅ WD Black SN8100 เป็น PCIe Gen 5.0 NVMe SSD ที่เร็วที่สุดในตลาด
    - มีความเร็วในการอ่าน 14,900MB/s และเขียน 14,000MB/s

    ✅ ใช้เทคโนโลยี BiCS8 TLC 3D CBA NAND
    - ช่วยให้ มีโปรไฟล์ต่ำและปรับปรุงการระบายความร้อน

    ✅ มีประสิทธิภาพพลังงานดีขึ้น 100% เมื่อเทียบกับ PCIe Gen 4.0 SSD
    - ใช้พลังงานเฉลี่ยเพียง 7W

    ✅ รองรับ IOPS สูงถึง 2,300,000 บนรุ่น 2TB และ 4TB
    - ช่วยให้ การเข้าถึงข้อมูลแบบสุ่มเร็วขึ้น

    ✅ มีรุ่นพร้อมฮีตซิงค์และ RGB LED ที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025
    - ฮีตซิงค์ทำจาก อะลูมิเนียมอโนไดซ์เพื่อช่วยลดอุณหภูมิ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/sandisks-new-wd-black-sn8100-claims-to-be-the-worlds-fastest-nvme-ssd-14-900mb-s-read-speeds-and-up-to-8tb-in-capacity
    SanDisk เปิดตัว WD Black SN8100: SSD ที่เร็วที่สุดในโลก พร้อมความจุสูงสุด 8TB SanDisk ได้เปิดตัว WD Black SN8100 ซึ่งเป็น NVMe SSD ที่เร็วที่สุดในโลก โดยมีความเร็วในการอ่านสูงสุด 14,900MB/s และความจุสูงสุด 8TB ออกแบบมาเพื่อ เกมเมอร์, นักสร้างคอนเทนต์ และ AI workloads ✅ WD Black SN8100 เป็น PCIe Gen 5.0 NVMe SSD ที่เร็วที่สุดในตลาด - มีความเร็วในการอ่าน 14,900MB/s และเขียน 14,000MB/s ✅ ใช้เทคโนโลยี BiCS8 TLC 3D CBA NAND - ช่วยให้ มีโปรไฟล์ต่ำและปรับปรุงการระบายความร้อน ✅ มีประสิทธิภาพพลังงานดีขึ้น 100% เมื่อเทียบกับ PCIe Gen 4.0 SSD - ใช้พลังงานเฉลี่ยเพียง 7W ✅ รองรับ IOPS สูงถึง 2,300,000 บนรุ่น 2TB และ 4TB - ช่วยให้ การเข้าถึงข้อมูลแบบสุ่มเร็วขึ้น ✅ มีรุ่นพร้อมฮีตซิงค์และ RGB LED ที่จะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025 - ฮีตซิงค์ทำจาก อะลูมิเนียมอโนไดซ์เพื่อช่วยลดอุณหภูมิ https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/sandisks-new-wd-black-sn8100-claims-to-be-the-worlds-fastest-nvme-ssd-14-900mb-s-read-speeds-and-up-to-8tb-in-capacity
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
More Results