• Goodnight my dear friends 🥱😪
    Hope you sleep well on rainy night 😇😴
    Goodnight my dear friends 🥱😪 Hope you sleep well on rainy night 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛡️ Microsoft และ CrowdStrike ร่วมมือเพื่อปรับปรุงการตั้งชื่อกลุ่มภัยคุกคาม
    Microsoft และ CrowdStrike ได้ประกาศความร่วมมือเพื่อ ปรับปรุงการตั้งชื่อกลุ่มภัยคุกคามไซเบอร์ ซึ่งจะช่วยให้ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถตอบสนองต่อการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ปัจจุบัน แต่ละบริษัทมีระบบการตั้งชื่อกลุ่มภัยคุกคามของตัวเอง ทำให้ กลุ่มเดียวกันอาจมีชื่อแตกต่างกันไปในแต่ละองค์กร ตัวอย่างเช่น Microsoft เรียกกลุ่มหนึ่งว่า Midnight Blizzard แต่บริษัทอื่นอาจเรียกกลุ่มเดียวกันว่า Cozy Bear, APT29 หรือ UNC2452

    ความแตกต่างนี้ ทำให้เกิดความสับสนและล่าช้าในการตอบสนองต่อภัยคุกคาม เนื่องจาก นักวิเคราะห์ต้องใช้เวลามากขึ้นในการจับคู่ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft และ CrowdStrike ร่วมมือกันเพื่อปรับปรุงการตั้งชื่อกลุ่มภัยคุกคามไซเบอร์
    - ปัจจุบันแต่ละบริษัทมีระบบการตั้งชื่อของตัวเอง ทำให้กลุ่มเดียวกันอาจมีชื่อแตกต่างกัน
    - ตัวอย่างเช่น Microsoft เรียกกลุ่มหนึ่งว่า Midnight Blizzard แต่บริษัทอื่นอาจเรียกว่า Cozy Bear หรือ APT29
    - ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถตอบสนองต่อการโจมตีได้เร็วขึ้น
    - Google/Mandiant และ Palo Alto Networks' Unit 42 อาจเข้าร่วมโครงการนี้ในอนาคต

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Microsoft และ CrowdStrike ไม่ได้สร้างมาตรฐานเดียวกัน แต่เพียงแค่จับคู่ชื่อที่ใช้กันทั่วไป
    - ต้องติดตามว่าบริษัทอื่น ๆ จะเข้าร่วมโครงการนี้หรือไม่
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจต้องใช้เวลาสักระยะก่อนที่จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
    - ยังไม่มีข้อมูลว่าการจับคู่ชื่อจะครอบคลุมกลุ่มภัยคุกคามทั้งหมดหรือไม่

    ความร่วมมือนี้ช่วยให้ การตอบสนองต่อภัยคุกคามมีความชัดเจนมากขึ้น และอาจช่วยให้ องค์กรสามารถรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม

    https://www.neowin.net/news/microsoft-and-crowdstrike-announce-partnership-on-threat-actor-naming/
    🛡️ Microsoft และ CrowdStrike ร่วมมือเพื่อปรับปรุงการตั้งชื่อกลุ่มภัยคุกคาม Microsoft และ CrowdStrike ได้ประกาศความร่วมมือเพื่อ ปรับปรุงการตั้งชื่อกลุ่มภัยคุกคามไซเบอร์ ซึ่งจะช่วยให้ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถตอบสนองต่อการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัจจุบัน แต่ละบริษัทมีระบบการตั้งชื่อกลุ่มภัยคุกคามของตัวเอง ทำให้ กลุ่มเดียวกันอาจมีชื่อแตกต่างกันไปในแต่ละองค์กร ตัวอย่างเช่น Microsoft เรียกกลุ่มหนึ่งว่า Midnight Blizzard แต่บริษัทอื่นอาจเรียกกลุ่มเดียวกันว่า Cozy Bear, APT29 หรือ UNC2452 ความแตกต่างนี้ ทำให้เกิดความสับสนและล่าช้าในการตอบสนองต่อภัยคุกคาม เนื่องจาก นักวิเคราะห์ต้องใช้เวลามากขึ้นในการจับคู่ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft และ CrowdStrike ร่วมมือกันเพื่อปรับปรุงการตั้งชื่อกลุ่มภัยคุกคามไซเบอร์ - ปัจจุบันแต่ละบริษัทมีระบบการตั้งชื่อของตัวเอง ทำให้กลุ่มเดียวกันอาจมีชื่อแตกต่างกัน - ตัวอย่างเช่น Microsoft เรียกกลุ่มหนึ่งว่า Midnight Blizzard แต่บริษัทอื่นอาจเรียกว่า Cozy Bear หรือ APT29 - ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถตอบสนองต่อการโจมตีได้เร็วขึ้น - Google/Mandiant และ Palo Alto Networks' Unit 42 อาจเข้าร่วมโครงการนี้ในอนาคต ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Microsoft และ CrowdStrike ไม่ได้สร้างมาตรฐานเดียวกัน แต่เพียงแค่จับคู่ชื่อที่ใช้กันทั่วไป - ต้องติดตามว่าบริษัทอื่น ๆ จะเข้าร่วมโครงการนี้หรือไม่ - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจต้องใช้เวลาสักระยะก่อนที่จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน - ยังไม่มีข้อมูลว่าการจับคู่ชื่อจะครอบคลุมกลุ่มภัยคุกคามทั้งหมดหรือไม่ ความร่วมมือนี้ช่วยให้ การตอบสนองต่อภัยคุกคามมีความชัดเจนมากขึ้น และอาจช่วยให้ องค์กรสามารถรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม https://www.neowin.net/news/microsoft-and-crowdstrike-announce-partnership-on-threat-actor-naming/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft and Crowdstrike announce partnership on threat actor naming
    Different security companies use unique internal procedures to name cyberattacks and threat actors, leading to inconsistencies, confusion, and delays in response.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my dear friends 🥱😪
    Hope you sleep well on rainy night 😇😴
    Goodnight my dear friends 🥱😪 Hope you sleep well on rainy night 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกมคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน: การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ กับการรีดความสามารถผ่านการเขียนโค้ด

    ในยุคปัจจุบัน เกมคอมพิวเตอร์ได้ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านกราฟิกที่สมจริงราวกับภาพยนตร์ โลกเปิดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด และฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น การจำลองฟิสิกส์ขั้นสูงหรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชาญฉลาด อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าเหล่านี้มาพร้อมกับความต้องการทรัพยากรระบบที่สูงขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น CPU, GPU หรือหน่วยความจำที่ต้องทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ คำถามที่เกิดขึ้นคือ เกมที่ดีควรพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังเพียงอย่างเดียว หรือควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุด? บทความนี้จะวิเคราะห์ทั้งสองแนวทาง พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และมองไปยังอนาคตของการพัฒนาเกม

    1️⃣ การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่แรงขึ้น
    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ เช่น GPU และ CPU รุ่นใหม่ ๆ ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่าง NVIDIA RTX ที่รองรับ Ray Tracing ซึ่งช่วยให้แสง สะท้อน และเงาในเกมสมจริงยิ่งขึ้น หรือ CPU ที่มีจำนวนคอร์และเธรดมากขึ้นเพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อน เช่น AI Physics ในเกม AAA (เกมที่มีงบประมาณสูง) ตัวอย่างเช่น Cyberpunk 2077 หรือ Starfield ที่ใช้ทรัพยากรระบบมหาศาลเพื่อสร้างประสบการณ์ภาพที่ตระการตา

    นักพัฒนาเกม AAA มักเลือกแนวทาง “ปล่อยให้ฮาร์ดแวร์จัดการ” โดยอาศัยพลังของเครื่องรุ่นใหม่เพื่อลดความซับซ้อนในการพัฒนา

    ✅ ข้อดี ของแนวทางนี้คือ:
    - การพัฒนาเกมเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลา optimize มาก
    - สามารถใช้ฟีเจอร์สมัยใหม่ เช่น Ray Tracing หรือ AI-driven NPC
    - กราฟิกที่สวยงามและสมจริง ตรงตามความคาดหวังของผู้เล่น

    ❌ ข้อเสีย:
    - ผู้เล่นที่ใช้เครื่องระดับกลางหรือล่างอาจไม่สามารถเล่นได้ หรือต้องลดกราฟิกลงจนเสียประสบการณ์
    - การใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น อาจทำให้เครื่องร้อนหรือสิ้นเปลืองพลังงาน
    - ค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดฮาร์ดแวร์สูงสำหรับผู้เล่น

    2️⃣ การรีดประสิทธิภาพผ่านการเขียนโค้ด
    ในทางตรงกันข้าม การเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพหรือ optimization เป็นหัวใจสำคัญของเกมที่ต้องการให้เล่นได้ลื่นไหลบนเครื่องหลากหลายระดับ เทคนิคที่นิยมใช้ ได้แก่:
    - ลด Draw Calls: ลดจำนวนครั้งที่ GPU ต้องวาดวัตถุในฉาก
    - Occlusion Culling: ตัดการประมวลผลวัตถุที่อยู่นอกมุมมองของผู้เล่น
    - Level of Detail (LOD): ปรับความละเอียดของโมเดลตามระยะห่างจากกล้อง
    - Multithreading: กระจายงานไปยังคอร์ CPU หลายตัวเพื่อประมวลผลพร้อมกัน
    - ตัวอย่างเกมอินดี้ เช่น Hollow Knight หรือ Stardew Valley แสดงให้เห็นว่า การ optimize ที่ดีสามารถสร้างเกมที่ลื่นไหลและสวยงามได้ แม้จะใช้ทรัพยากรน้อย

    ✅ ข้อดี ของแนวทางนี้:
    - รองรับเครื่องสเปคหลากหลาย ทำให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้น
    - ระหยัดพลังงานและลดความร้อนของเครื่อง
    - มีเสถียรภาพสูง ลดปัญหาค้างหรือกระตุก

    ❌ ข้อเสีย:
    - ใช้เวลาและทรัพยากรในการพัฒนานานขึ้น
    - ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ของนักพัฒนาในระดับสูง

    3️⃣ ตัวอย่างเปรียบเทียบ
    ลองเปรียบเทียบเกม AAA เช่น Cyberpunk 2077 ที่ต้องการสเปคสูง (เช่น RTX 3080 เพื่อ Ray Tracing เต็มรูปแบบ) กับเกมอินดี้อย่าง Hollow Knight ที่ใช้ทรัพยากรน้อยแต่ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม:

    👉 ความลื่นไหล: Cyberpunk 2077 อาจกระตุกบนเครื่องสเปคต่ำ แม้ลดกราฟิกแล้ว ส่วน Hollow Knight ลื่นไหลแม้บนเครื่องเก่า
    👉 ความร้อนของเครื่อง: เกม AAA มักทำให้เครื่องร้อนและพัดลมทำงานหนัก ขณะที่เกมอินดี้ใช้พลังงานน้อยกว่า
    👉 ความเสถียร: เกมที่ optimize ดีมักมีบั๊กน้อยกว่าและรันได้นานโดยไม่ crash

    ประสบการณ์ของผู้เล่นจึงขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีเครื่องที่แรงพอหรือไม่ และนักพัฒนาให้ความสำคัญกับ optimization มากน้อยเพียงใด

    4️⃣ สรุปและมุมมองอนาคต
    นักพัฒนาในปัจจุบันต้องเผชิญกับทางเลือกที่ท้าทาย: ใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์ทรงพลังเพื่อสร้างเกมที่อลังการ หรือทุ่มเทให้กับการ optimize เพื่อให้เข้าถึงผู้เล่นทุกกลุ่ม? เกมเอนจินอย่าง Unreal Engine และ Unity ช่วยลดช่องว่างนี้ โดยมีเครื่องมือในตัวที่ช่วยทั้งด้านกราฟิกและ optimization เช่น การจัดการ LOD หรือการเรนเดอร์ที่มีประสิทธิภาพ

    ในอนาคต การบาลานซ์ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จะสำคัญยิ่งขึ้น นักพัฒนาควรคำนึงถึง ประสบการณ์ของผู้เล่น เป็นหลัก ไม่ใช่แค่กราฟิกที่สวยงาม การ optimize ที่ดีจะช่วยให้เกมเข้าถึงผู้เล่นได้กว้างขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องอัปเกรดเครื่องใหม่เสมอไป

    ℹ️ℹ️ บทส่งท้าย ℹ️ℹ️
    การพัฒนาเกมในอนาคตไม่ควรยึดติดที่กราฟิกหรือพลังของฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว แต่ควรเน้นที่ ประสบการณ์ที่สมดุล นักพัฒนาควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกมสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลบนเครื่องทุกระดับ สร้างความพึงพอใจให้ผู้เล่นโดยไม่ต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์ราคาแพง การ optimize ไม่ใช่แค่เทคนิค แต่คือกุญแจสู่การสร้างเกมที่ยั่งยืนและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
    เกมคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน: การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ กับการรีดความสามารถผ่านการเขียนโค้ด ในยุคปัจจุบัน เกมคอมพิวเตอร์ได้ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านกราฟิกที่สมจริงราวกับภาพยนตร์ โลกเปิดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด และฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น การจำลองฟิสิกส์ขั้นสูงหรือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ชาญฉลาด อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าเหล่านี้มาพร้อมกับความต้องการทรัพยากรระบบที่สูงขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น CPU, GPU หรือหน่วยความจำที่ต้องทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ คำถามที่เกิดขึ้นคือ เกมที่ดีควรพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังเพียงอย่างเดียว หรือควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุด? บทความนี้จะวิเคราะห์ทั้งสองแนวทาง พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และมองไปยังอนาคตของการพัฒนาเกม 1️⃣ การพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่แรงขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ เช่น GPU และ CPU รุ่นใหม่ ๆ ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่าง NVIDIA RTX ที่รองรับ Ray Tracing ซึ่งช่วยให้แสง สะท้อน และเงาในเกมสมจริงยิ่งขึ้น หรือ CPU ที่มีจำนวนคอร์และเธรดมากขึ้นเพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อน เช่น AI Physics ในเกม AAA (เกมที่มีงบประมาณสูง) ตัวอย่างเช่น Cyberpunk 2077 หรือ Starfield ที่ใช้ทรัพยากรระบบมหาศาลเพื่อสร้างประสบการณ์ภาพที่ตระการตา นักพัฒนาเกม AAA มักเลือกแนวทาง “ปล่อยให้ฮาร์ดแวร์จัดการ” โดยอาศัยพลังของเครื่องรุ่นใหม่เพื่อลดความซับซ้อนในการพัฒนา ✅ ข้อดี ของแนวทางนี้คือ: - การพัฒนาเกมเร็วขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลา optimize มาก - สามารถใช้ฟีเจอร์สมัยใหม่ เช่น Ray Tracing หรือ AI-driven NPC - กราฟิกที่สวยงามและสมจริง ตรงตามความคาดหวังของผู้เล่น ❌ ข้อเสีย: - ผู้เล่นที่ใช้เครื่องระดับกลางหรือล่างอาจไม่สามารถเล่นได้ หรือต้องลดกราฟิกลงจนเสียประสบการณ์ - การใช้ทรัพยากรเกินความจำเป็น อาจทำให้เครื่องร้อนหรือสิ้นเปลืองพลังงาน - ค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดฮาร์ดแวร์สูงสำหรับผู้เล่น 2️⃣ การรีดประสิทธิภาพผ่านการเขียนโค้ด ในทางตรงกันข้าม การเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพหรือ optimization เป็นหัวใจสำคัญของเกมที่ต้องการให้เล่นได้ลื่นไหลบนเครื่องหลากหลายระดับ เทคนิคที่นิยมใช้ ได้แก่: - ลด Draw Calls: ลดจำนวนครั้งที่ GPU ต้องวาดวัตถุในฉาก - Occlusion Culling: ตัดการประมวลผลวัตถุที่อยู่นอกมุมมองของผู้เล่น - Level of Detail (LOD): ปรับความละเอียดของโมเดลตามระยะห่างจากกล้อง - Multithreading: กระจายงานไปยังคอร์ CPU หลายตัวเพื่อประมวลผลพร้อมกัน - ตัวอย่างเกมอินดี้ เช่น Hollow Knight หรือ Stardew Valley แสดงให้เห็นว่า การ optimize ที่ดีสามารถสร้างเกมที่ลื่นไหลและสวยงามได้ แม้จะใช้ทรัพยากรน้อย ✅ ข้อดี ของแนวทางนี้: - รองรับเครื่องสเปคหลากหลาย ทำให้เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้น - ระหยัดพลังงานและลดความร้อนของเครื่อง - มีเสถียรภาพสูง ลดปัญหาค้างหรือกระตุก ❌ ข้อเสีย: - ใช้เวลาและทรัพยากรในการพัฒนานานขึ้น - ต้องใช้ความรู้และประสบการณ์ของนักพัฒนาในระดับสูง 3️⃣ ตัวอย่างเปรียบเทียบ ลองเปรียบเทียบเกม AAA เช่น Cyberpunk 2077 ที่ต้องการสเปคสูง (เช่น RTX 3080 เพื่อ Ray Tracing เต็มรูปแบบ) กับเกมอินดี้อย่าง Hollow Knight ที่ใช้ทรัพยากรน้อยแต่ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม: 👉 ความลื่นไหล: Cyberpunk 2077 อาจกระตุกบนเครื่องสเปคต่ำ แม้ลดกราฟิกแล้ว ส่วน Hollow Knight ลื่นไหลแม้บนเครื่องเก่า 👉 ความร้อนของเครื่อง: เกม AAA มักทำให้เครื่องร้อนและพัดลมทำงานหนัก ขณะที่เกมอินดี้ใช้พลังงานน้อยกว่า 👉 ความเสถียร: เกมที่ optimize ดีมักมีบั๊กน้อยกว่าและรันได้นานโดยไม่ crash ประสบการณ์ของผู้เล่นจึงขึ้นอยู่กับว่าพวกเขามีเครื่องที่แรงพอหรือไม่ และนักพัฒนาให้ความสำคัญกับ optimization มากน้อยเพียงใด 4️⃣ สรุปและมุมมองอนาคต นักพัฒนาในปัจจุบันต้องเผชิญกับทางเลือกที่ท้าทาย: ใช้ประโยชน์จากฮาร์ดแวร์ทรงพลังเพื่อสร้างเกมที่อลังการ หรือทุ่มเทให้กับการ optimize เพื่อให้เข้าถึงผู้เล่นทุกกลุ่ม? เกมเอนจินอย่าง Unreal Engine และ Unity ช่วยลดช่องว่างนี้ โดยมีเครื่องมือในตัวที่ช่วยทั้งด้านกราฟิกและ optimization เช่น การจัดการ LOD หรือการเรนเดอร์ที่มีประสิทธิภาพ ในอนาคต การบาลานซ์ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จะสำคัญยิ่งขึ้น นักพัฒนาควรคำนึงถึง ประสบการณ์ของผู้เล่น เป็นหลัก ไม่ใช่แค่กราฟิกที่สวยงาม การ optimize ที่ดีจะช่วยให้เกมเข้าถึงผู้เล่นได้กว้างขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องอัปเกรดเครื่องใหม่เสมอไป ℹ️ℹ️ บทส่งท้าย ℹ️ℹ️ การพัฒนาเกมในอนาคตไม่ควรยึดติดที่กราฟิกหรือพลังของฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว แต่ควรเน้นที่ ประสบการณ์ที่สมดุล นักพัฒนาควรให้ความสำคัญกับการเขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกมสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลบนเครื่องทุกระดับ สร้างความพึงพอใจให้ผู้เล่นโดยไม่ต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์ราคาแพง การ optimize ไม่ใช่แค่เทคนิค แต่คือกุญแจสู่การสร้างเกมที่ยั่งยืนและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my sweet heart 🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    Goodnight my sweet heart 🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • A rainy night in a charming Santorini street.
    A rainy night in a charming Santorini street.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my sweet heart 🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    Goodnight my sweet heart 🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my dear friends 🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    Goodnight my dear friends 🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my sweet heart 🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    Goodnight my sweet heart 🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my dear friends 🥱😪
    Hope you sleep well on rainy night 😇😴
    Goodnight my dear friends 🥱😪 Hope you sleep well on rainy night 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my dear friends 🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    Goodnight my dear friends 🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my dear friends 🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    Goodnight my dear friends 🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • คอนแทคเลนส์มองเห็นกลางคืน: เทคโนโลยีแห่งอนาคตของแว่นตา

    นักวิจัยจาก University of Science and Technology of China ได้พัฒนา คอนแทคเลนส์ที่สามารถรับรู้แสงอินฟราเรดได้ โดยใช้ นาโนอนุภาคที่เปลี่ยนแสงอินฟราเรดเป็นแสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ทำให้ ผู้ใช้สามารถมองเห็นทั้งแสงธรรมชาติและแสงอินฟราเรดพร้อมกัน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคอนแทคเลนส์มองเห็นกลางคืน
    ✅ คอนแทคเลนส์สามารถรับรู้แสงอินฟราเรดได้โดยไม่ต้องใช้แหล่งพลังงานภายนอก
    - แตกต่างจาก แว่นตามองกลางคืนทั่วไปที่ต้องใช้แบตเตอรี่

    ✅ เลนส์มีความโปร่งใส ทำให้สามารถมองเห็นแสงธรรมชาติและแสงอินฟราเรดพร้อมกัน
    - ช่วยให้ สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย เช่น หมอกหรือฝุ่น

    ✅ นาโนอนุภาคสามารถเปลี่ยนแสงอินฟราเรดเป็นแสงสีที่มองเห็นได้
    - ทำให้ สามารถตรวจจับวัตถุที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

    ✅ สามารถใช้ในอุตสาหกรรมความปลอดภัยและการช่วยเหลือฉุกเฉิน
    - เช่น การค้นหาผู้สูญหายในสภาพแวดล้อมที่มืดหรือมีควัน

    ✅ เทคโนโลยีนี้อาจช่วยผู้ที่มีภาวะตาบอดสีให้สามารถรับรู้สีได้ดีขึ้น
    - โดย เปลี่ยนแสงที่มองไม่เห็นให้เป็นสีที่สามารถรับรู้ได้

    https://www.techspot.com/news/108030-night-vision-contact-lenses-offer-glimpse-future-eyewear.html
    คอนแทคเลนส์มองเห็นกลางคืน: เทคโนโลยีแห่งอนาคตของแว่นตา นักวิจัยจาก University of Science and Technology of China ได้พัฒนา คอนแทคเลนส์ที่สามารถรับรู้แสงอินฟราเรดได้ โดยใช้ นาโนอนุภาคที่เปลี่ยนแสงอินฟราเรดเป็นแสงสีแดง เขียว และน้ำเงิน ทำให้ ผู้ใช้สามารถมองเห็นทั้งแสงธรรมชาติและแสงอินฟราเรดพร้อมกัน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับคอนแทคเลนส์มองเห็นกลางคืน ✅ คอนแทคเลนส์สามารถรับรู้แสงอินฟราเรดได้โดยไม่ต้องใช้แหล่งพลังงานภายนอก - แตกต่างจาก แว่นตามองกลางคืนทั่วไปที่ต้องใช้แบตเตอรี่ ✅ เลนส์มีความโปร่งใส ทำให้สามารถมองเห็นแสงธรรมชาติและแสงอินฟราเรดพร้อมกัน - ช่วยให้ สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย เช่น หมอกหรือฝุ่น ✅ นาโนอนุภาคสามารถเปลี่ยนแสงอินฟราเรดเป็นแสงสีที่มองเห็นได้ - ทำให้ สามารถตรวจจับวัตถุที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ✅ สามารถใช้ในอุตสาหกรรมความปลอดภัยและการช่วยเหลือฉุกเฉิน - เช่น การค้นหาผู้สูญหายในสภาพแวดล้อมที่มืดหรือมีควัน ✅ เทคโนโลยีนี้อาจช่วยผู้ที่มีภาวะตาบอดสีให้สามารถรับรู้สีได้ดีขึ้น - โดย เปลี่ยนแสงที่มองไม่เห็นให้เป็นสีที่สามารถรับรู้ได้ https://www.techspot.com/news/108030-night-vision-contact-lenses-offer-glimpse-future-eyewear.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Night vision contact lenses offer a glimpse into the future of eyewear
    Contact lenses and eyeglasses could one day enable people to see beyond the natural visible light spectrum. Eyewear equipped with this special technology holds promise for enhancing...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • Night Cityscape
    Night Cityscape
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my dear friends 🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    Goodnight my dear friends 🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้กำกับเกม Avowed ลาออกจาก Obsidian Entertainment เพื่อเข้าร่วม Netflix Games

    Carrie Patel ผู้กำกับเกม Avowed ของ Obsidian Entertainment ประกาศลาออกจากสตูดิโอหลังจากทำงานมานานกว่า 12 ปี โดยเธอจะเข้ารับตำแหน่ง Game Director ที่ Night School Studio ซึ่งเป็นสตูดิโอเกมของ Netflix

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ Carrie Patel
    ✅ Carrie Patel เคยเป็นนักเขียนและนักออกแบบเนื้อเรื่องให้กับเกม RPG ชื่อดังหลายเกม
    - รวมถึง Pillars of Eternity, The Outer Worlds และ Avowed

    ✅ เธอได้รับตำแหน่ง Game Director ครั้งแรกใน The Outer Worlds: Peril on Gorgon expansion
    - และต่อมา เป็นผู้กำกับเกม Avowed ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2025

    ✅ Night School Studio เป็นผู้พัฒนาเกมอินดี้ที่ Netflix เข้าซื้อกิจการในปี 2021
    - มีผลงานเกมดัง เช่น Oxenfree, Afterparty และ Oxenfree II: Lost Signals

    ✅ Obsidian Entertainment ยังคงเดินหน้าพัฒนาเกมใหม่ เช่น The Outer Worlds 2
    - ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในปี 2025 โดยมี Brandon Adler เป็นผู้กำกับ

    ✅ Obsidian ประกาศแผนอัปเดตเกม Avowed รวมถึงโหมด New Game+, อาวุธใหม่ และความสามารถใหม่
    - เพื่อ เพิ่มประสบการณ์การเล่นให้กับผู้เล่น

    https://www.neowin.net/news/obsidian-director-behind-avowed-leaves-studio-to-take-position-at-netflix-games/
    ผู้กำกับเกม Avowed ลาออกจาก Obsidian Entertainment เพื่อเข้าร่วม Netflix Games Carrie Patel ผู้กำกับเกม Avowed ของ Obsidian Entertainment ประกาศลาออกจากสตูดิโอหลังจากทำงานมานานกว่า 12 ปี โดยเธอจะเข้ารับตำแหน่ง Game Director ที่ Night School Studio ซึ่งเป็นสตูดิโอเกมของ Netflix 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ Carrie Patel ✅ Carrie Patel เคยเป็นนักเขียนและนักออกแบบเนื้อเรื่องให้กับเกม RPG ชื่อดังหลายเกม - รวมถึง Pillars of Eternity, The Outer Worlds และ Avowed ✅ เธอได้รับตำแหน่ง Game Director ครั้งแรกใน The Outer Worlds: Peril on Gorgon expansion - และต่อมา เป็นผู้กำกับเกม Avowed ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2025 ✅ Night School Studio เป็นผู้พัฒนาเกมอินดี้ที่ Netflix เข้าซื้อกิจการในปี 2021 - มีผลงานเกมดัง เช่น Oxenfree, Afterparty และ Oxenfree II: Lost Signals ✅ Obsidian Entertainment ยังคงเดินหน้าพัฒนาเกมใหม่ เช่น The Outer Worlds 2 - ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในปี 2025 โดยมี Brandon Adler เป็นผู้กำกับ ✅ Obsidian ประกาศแผนอัปเดตเกม Avowed รวมถึงโหมด New Game+, อาวุธใหม่ และความสามารถใหม่ - เพื่อ เพิ่มประสบการณ์การเล่นให้กับผู้เล่น https://www.neowin.net/news/obsidian-director-behind-avowed-leaves-studio-to-take-position-at-netflix-games/
    WWW.NEOWIN.NET
    Obsidian director behind Avowed leaves studio to take position at Netflix Games
    Obsidian Entertainment's latest RPG, Avowed, was released only a few months ago, and its director has now announced that she is moving over to Netflix's gaming division.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อแตกต่างระหว่างคนสำเร็จกับคนล้มเหลวคือ

    “คนล้มเหลว” มักใช้พลังงานไปกับการหาเหตุผลในการกล่าวโทษผู้อื่นว่าเป็นต้นเหตุทำให้ตัวเองไม่สำเร็จ โดยที่ไม่เคยโทษตัวเองว่าสาเหตุเป็นเพราะไม่เคยพัฒนา เรียนรู้ และลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ
    ดั่งสุภาษิตอังกฤษที่ว่า
    “ พวกช่างที่ไม่มีฝีมือ
    มักโทษเครื่องมือว่าไม่ดี ”

    “คนสำเร็จ” คือคนที่ใช้พลังงานอยู่ที่
    ตัวเอง100 เปอร์เซ็นต์ ในการเรียนรู้ พัฒนา และลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ

    แจงขอเลือกที่จะเป็นคนสำเร็จ😊
    ว่าแล้ว ขอตัวไปดื่ม Ugo flow ดูแลลำไส้
    ก่อนนอนนะคะ

    Good night ค่ะทุกคน 🌙💤

    #คนล้มเหลวต่างจากคนสำเร็จอย่างไร
    #moveon
    #ugoflow
    #flow
    #ปรับสมดุลลําไส้
    ข้อแตกต่างระหว่างคนสำเร็จกับคนล้มเหลวคือ “คนล้มเหลว” มักใช้พลังงานไปกับการหาเหตุผลในการกล่าวโทษผู้อื่นว่าเป็นต้นเหตุทำให้ตัวเองไม่สำเร็จ โดยที่ไม่เคยโทษตัวเองว่าสาเหตุเป็นเพราะไม่เคยพัฒนา เรียนรู้ และลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ ดั่งสุภาษิตอังกฤษที่ว่า “ พวกช่างที่ไม่มีฝีมือ มักโทษเครื่องมือว่าไม่ดี ” “คนสำเร็จ” คือคนที่ใช้พลังงานอยู่ที่ ตัวเอง100 เปอร์เซ็นต์ ในการเรียนรู้ พัฒนา และลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ แจงขอเลือกที่จะเป็นคนสำเร็จ😊 ว่าแล้ว ขอตัวไปดื่ม Ugo flow ดูแลลำไส้ ก่อนนอนนะคะ Good night ค่ะทุกคน 🌙💤 #คนล้มเหลวต่างจากคนสำเร็จอย่างไร #moveon #ugoflow #flow #ปรับสมดุลลําไส้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my dear friends 🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    Goodnight my dear friends 🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my dear friends 🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    📱Wallpapers
    Goodnight my dear friends 🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴 📱Wallpapers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my sweet heart 💖🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    📱Wallpaper
    Goodnight my sweet heart 💖🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴 📱Wallpaper
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my sweet heart 🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    Goodnight my sweet heart 🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my dear friends 🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    Goodnight my dear friends 🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my dear friends 🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    Goodnight my dear friends 🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • Copilot Vision อัปเดตใหม่: ช่วยนำทางและแนะนำการใช้งาน Windows 11 ได้ดีขึ้น

    Microsoft ได้เปิดตัว Copilot Vision รุ่นอัปเดตใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ แชร์หน้าต่างแอปและขอให้ Copilot นำทางเพื่อทำงานต่าง ๆ ได้ เช่น เปิดใช้งาน Night Light หรือเพิ่มข้อความในวิดีโอผ่าน Clipchamp นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ Copilot Vision สามารถทำงานร่วมกับสองแอปพร้อมกัน

    ✅ สามารถแชร์หน้าต่างแอปและให้ Copilot นำทางเพื่อทำงานต่าง ๆ ได้
    - เช่น เปิดใช้งาน Night Light หรือเพิ่มข้อความในวิดีโอผ่าน Clipchamp

    ✅ Copilot Vision สามารถทำงานร่วมกับสองแอปพร้อมกัน
    - เช่น เปรียบเทียบรายการแพ็คของสำหรับการเดินทางกับรายการออนไลน์

    ✅ การอัปเดตนี้เปิดให้ใช้งานใน Windows Insider เวอร์ชัน 1.25044.92 หรือสูงกว่า
    - แต่ Copilot Vision พร้อมฟีเจอร์ Highlights และ Dual-App Support มีให้ใช้เฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น

    ✅ Copilot สามารถค้นหาไฟล์ใน Windows 11 และตอบคำถามเกี่ยวกับแอปที่กำลังทำงานอยู่
    - ช่วยให้ การใช้งาน Windows 11 มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ Copilot App มีตัวเลือกใหม่ในเมนูคลิกขวาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถถาม Copilot เกี่ยวกับไฟล์ได้เร็วขึ้น
    - สามารถ ปิดฟีเจอร์นี้ได้โดยแก้ไขรีจิสทรีของระบบ

    https://www.neowin.net/news/copilot-vision-can-now-show-you-how-to-do-stuff-in-windows-11/
    Copilot Vision อัปเดตใหม่: ช่วยนำทางและแนะนำการใช้งาน Windows 11 ได้ดีขึ้น Microsoft ได้เปิดตัว Copilot Vision รุ่นอัปเดตใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ แชร์หน้าต่างแอปและขอให้ Copilot นำทางเพื่อทำงานต่าง ๆ ได้ เช่น เปิดใช้งาน Night Light หรือเพิ่มข้อความในวิดีโอผ่าน Clipchamp นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ Copilot Vision สามารถทำงานร่วมกับสองแอปพร้อมกัน ✅ สามารถแชร์หน้าต่างแอปและให้ Copilot นำทางเพื่อทำงานต่าง ๆ ได้ - เช่น เปิดใช้งาน Night Light หรือเพิ่มข้อความในวิดีโอผ่าน Clipchamp ✅ Copilot Vision สามารถทำงานร่วมกับสองแอปพร้อมกัน - เช่น เปรียบเทียบรายการแพ็คของสำหรับการเดินทางกับรายการออนไลน์ ✅ การอัปเดตนี้เปิดให้ใช้งานใน Windows Insider เวอร์ชัน 1.25044.92 หรือสูงกว่า - แต่ Copilot Vision พร้อมฟีเจอร์ Highlights และ Dual-App Support มีให้ใช้เฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้น ✅ Copilot สามารถค้นหาไฟล์ใน Windows 11 และตอบคำถามเกี่ยวกับแอปที่กำลังทำงานอยู่ - ช่วยให้ การใช้งาน Windows 11 มีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ Copilot App มีตัวเลือกใหม่ในเมนูคลิกขวาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถถาม Copilot เกี่ยวกับไฟล์ได้เร็วขึ้น - สามารถ ปิดฟีเจอร์นี้ได้โดยแก้ไขรีจิสทรีของระบบ https://www.neowin.net/news/copilot-vision-can-now-show-you-how-to-do-stuff-in-windows-11/
    WWW.NEOWIN.NET
    Copilot Vision can now show you how to do stuff in Windows 11
    Microsoft is upgrading Copilot Vision on Windows with a very helpful new feature and the ability to work with more than one app.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • Goodnight my dear friends 🥱😪
    Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    Goodnight my dear friends 🥱😪 Hope you sleep well and have sweet dreams 😇😴
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts