• เมื่อกว่า 1 ปีก่อนมีภาพยนตร์จีนชื่อว่า #NoMoreBets เปิดเผยเรื่องขบวนการคอลเซนเตอร์ จนทำให้นักท่องเที่ยวจีนหวาดกลัว และไม่กล้าเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย....แต่ว่า นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต. สำนักนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้แก้ปัญหาด้วยการ⛔️ สั่งห้ามภาพยนต์เรื่องดังกล่าวฉายในประเทศไทย.วันนี้ดูได้ทาง Netflix เรื่องราวในหนังยังเหมือนเดิม และคราวนี้ ไทยจะได้รับผลกระทบที่หนักกว่าด้วย เพราะ "มาตรการเด็ดขาด" จากจีนกำลังจะเริ่มขึ้น⛔หนังที่ถูกอ้างว่า "ทำลายการท่องเที่ยว" ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหวาดหวั่นไม่มาเที่ยวเมืองไทย ถึงขนาดที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ต้องไปพบกับทูต #จีน เพื่อชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในหนังไม่ใช่ประเทศไทย ทั้งขบวนการหลอกลวงออนไลน์, แก็งคอลเซนเตอร์, ขบวนการค้ามนุษย์ ที่หลอกคนมาทำงาน มีการลักพาตัว, กักขัง, ทรมาน จนถึงฆาตกรรม.หนังเรื่อง No More Bets ทำรายได้ในจีนได้สูงถึง 20,000 ล้านบาท ( ไม่ได้พิมพ์ผิด ! "2 หมื่นล้าน") และมีผู้เข้าชมในประเทศจีนมากกว่า 100 ล้านคน ผู้ที่ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ต่างพูดกันปากต่อปากว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เปิดเผยถึงความน่ากลัวของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ จนเกิดกระแสว่า "ถ้าคนไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มขึ้น 1 คน ก็จะมีคนที่ถูกหลอกลวงลดน้อยลงอีก 1 คน" .ในเมืองไทย สำนักข่าวต่าง ๆ รายงานเรื่องผลกระทบต่อการท่องที่ยวจากหนังเรื่องนี้มากมาย แต่ว่าน่าจะไม่มีใครได้ดูหนังเรื่องนี้อย่างเด็มๆ ส่วนใหญ่จะแค่ "ฟังเขาเล่ามา" อีกที ...แต่ฉันได้ดูหนังเรื่องนี้ 3 รอบ และคิดว่าถ้ามี DVD หรือให้ดาวน์โหลด ก็เต็มใจจะซื้อเก็บไว้.No More Bets หรือชื่อภาษาจีนคือ "กูจู้อีจื้อ" #孤注一掷 ซึ่งเป็นสำนวนจีน ที่แปลว่า "เดิมพันครั้งสุดท้าย" ตัวเอกในหนังมี 2 คน คนหนึ่งเป็นชายหนุ่มที่เป็นโปรแกรมเมอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ อีกคนหนึ่งเป็นนางแบบสาวสวย ทั้งสองคนถูกหลอกลวงว่า จะว่าได้ไปทำงานได้เงินเดือนสูง ๆ ในต่างประเทศ แต่เมื่อเดินทางไปถึงแล้ว กลับพบว่านี่คือขบวนการหลอกลวงออนไลน์.ภาพยนตร์มีฉากที่หัวหน้าขบวนการคอลเซนเตอร์พูดกับ คนที่มาทำงานด้วยว่า มี 2 ทางเลือก หนึ่งคือหลอกเงินเข้ามา สองก็คือหลอกคนให้มาทำงานด้วย.ขบวนการนี้จะใช้อุบายต่าง ๆ เพื่อหลอกเอาทรัพย์สินจากเหยื่อ คนที่ทำงานกับขบวนการนี้เล่าว่า ถึงขนาดมีคู่มือ มีการอบรมวิธีการพูด มีการสร้างเรื่องราวต่าง ๆ เป็นเหมือนบทละครเป็นร้อยเป็นพันเรื่อง เพื่อหลอกให้เหยื่อตายใจหลงเชื่อ .นอกจากการหลอกลวงให้โอนเงิน และการขโมยข้อมูลส่วนตัวแล้ว แหล่งรายได้หลักของขบวนการนี้ก็คือ การพนันออนไลน์.สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขบวนการหลอกลวงและพนันออนไลน์แพร่หลายอย่างมาก ก็คือ ผู้ที่เข้าร่วมในขบวนการนี้ ไม่รู้สึกผิด คนเหล่านี้คิดว่าเหยื่อคือคนโลภ แต่ความจริงแล้ว เหยื่อจำนวนมากถูกหลอกลวงจนสิ้นเนื้อประดาตัว สูญเงินเกษียณ เงินที่ใช้เลี้ยงดูครอบครัว เหยื่อบางรายบ้านแตกสาแหรกขาด หรือถึงกับฆ่าตัวตายจบชีวิตตัวเองก็มี⚓️เพลงนำของหนังใช้ชื่อว่า "หมดเนื้อหมดตัว" #千金散尽 เปรียบเทียบว่า เรือลำหนึ่งที่อยากจะกลับเข้าฝั่ง แต่ว่าเมื่อถอนสมอ กางใบเรือกลับพบว่าเต็มไปด้วยรอยทะลุจนแทบจะแล่นต่อไปไม่ไหว...ความ "กล้าหาญ" ถ้ามากเกินไปก็จะเป็น "ลำพอง" ความ "ฉลาด" ถ้าใช้ไม่ถูกก็จะกลายเป็น "เล่ห์เหลี่ยม" .ความน่ากลัวของขบวนการหลอกลวงก็คือ เหยื่อจำนวนมากไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกหลอก พอนึกจะ "กลับเนื้อกลัวตัว" ก็สายไปแล้ว "กลับไม่ได้ไปไม่ถึง".No More Bets ทำให้ผู้คนตระหนักว่า ขบวนการหลอกลวงใกล้ตัวกว่าที่เราคาดคิด หลายคนคงเคยได้รับโทรศัพท์ SMS หรือข้อความในโซเชียลมีเดีย ที่มาจากแก็งค์เหล่านี้ และถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า โทรศัพท์และข้อความเหล่านี้มีมากขึ้นทุกวัน พวกเราหลายคนอาจจะกดลบข้อความทิ้งหรือวางสายโทรศัพท์ไป แต่ว่ายังมีผู้สูงอายุ เยาวชน และคนอีกมากมายที่ไม่รู้เท่าทันจนตกเป็นเหยื่อ .มีอีกหลายกรณีที่เหยื่อเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นคนที่มีการศึกษา เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ก็ยังถูกหลอกลวงได้...อย่าคิดว่าไม่มีโอกาสตกเป็นเหยื่อขบวนการหลอกลวง .ในภาพยนตร์บอกว่า คนเรามีจุดอ่อน 2 อย่าง คือ ความโลภ และความหลง เพราะว่า ใครๆ ก็อยากมีงานที่ดี มีเงินใช้ และก็หลงคิดไปว่า ตัวเองคงจะไม่โชคร้ายถึงขนาดที่ต้อง "ทุ่มสุดตัว วางเดิมพันครั้งสุดท้าย" เหมือนกับชื่อของภาพยนตร์ คือ No More Bets ที่มา เพจบูรพาไม่แพ้ .
    เมื่อกว่า 1 ปีก่อนมีภาพยนตร์จีนชื่อว่า #NoMoreBets เปิดเผยเรื่องขบวนการคอลเซนเตอร์ จนทำให้นักท่องเที่ยวจีนหวาดกลัว และไม่กล้าเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย....แต่ว่า นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต. สำนักนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้แก้ปัญหาด้วยการ⛔️ สั่งห้ามภาพยนต์เรื่องดังกล่าวฉายในประเทศไทย.วันนี้ดูได้ทาง Netflix เรื่องราวในหนังยังเหมือนเดิม และคราวนี้ ไทยจะได้รับผลกระทบที่หนักกว่าด้วย เพราะ "มาตรการเด็ดขาด" จากจีนกำลังจะเริ่มขึ้น⛔หนังที่ถูกอ้างว่า "ทำลายการท่องเที่ยว" ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหวาดหวั่นไม่มาเที่ยวเมืองไทย ถึงขนาดที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ต้องไปพบกับทูต #จีน เพื่อชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในหนังไม่ใช่ประเทศไทย ทั้งขบวนการหลอกลวงออนไลน์, แก็งคอลเซนเตอร์, ขบวนการค้ามนุษย์ ที่หลอกคนมาทำงาน มีการลักพาตัว, กักขัง, ทรมาน จนถึงฆาตกรรม.หนังเรื่อง No More Bets ทำรายได้ในจีนได้สูงถึง 20,000 ล้านบาท ( ไม่ได้พิมพ์ผิด ! "2 หมื่นล้าน") และมีผู้เข้าชมในประเทศจีนมากกว่า 100 ล้านคน ผู้ที่ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ต่างพูดกันปากต่อปากว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เปิดเผยถึงความน่ากลัวของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ จนเกิดกระแสว่า "ถ้าคนไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้เพิ่มขึ้น 1 คน ก็จะมีคนที่ถูกหลอกลวงลดน้อยลงอีก 1 คน" .ในเมืองไทย สำนักข่าวต่าง ๆ รายงานเรื่องผลกระทบต่อการท่องที่ยวจากหนังเรื่องนี้มากมาย แต่ว่าน่าจะไม่มีใครได้ดูหนังเรื่องนี้อย่างเด็มๆ ส่วนใหญ่จะแค่ "ฟังเขาเล่ามา" อีกที ...แต่ฉันได้ดูหนังเรื่องนี้ 3 รอบ และคิดว่าถ้ามี DVD หรือให้ดาวน์โหลด ก็เต็มใจจะซื้อเก็บไว้.No More Bets หรือชื่อภาษาจีนคือ "กูจู้อีจื้อ" #孤注一掷 ซึ่งเป็นสำนวนจีน ที่แปลว่า "เดิมพันครั้งสุดท้าย" ตัวเอกในหนังมี 2 คน คนหนึ่งเป็นชายหนุ่มที่เป็นโปรแกรมเมอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ อีกคนหนึ่งเป็นนางแบบสาวสวย ทั้งสองคนถูกหลอกลวงว่า จะว่าได้ไปทำงานได้เงินเดือนสูง ๆ ในต่างประเทศ แต่เมื่อเดินทางไปถึงแล้ว กลับพบว่านี่คือขบวนการหลอกลวงออนไลน์.ภาพยนตร์มีฉากที่หัวหน้าขบวนการคอลเซนเตอร์พูดกับ คนที่มาทำงานด้วยว่า มี 2 ทางเลือก หนึ่งคือหลอกเงินเข้ามา สองก็คือหลอกคนให้มาทำงานด้วย.ขบวนการนี้จะใช้อุบายต่าง ๆ เพื่อหลอกเอาทรัพย์สินจากเหยื่อ คนที่ทำงานกับขบวนการนี้เล่าว่า ถึงขนาดมีคู่มือ มีการอบรมวิธีการพูด มีการสร้างเรื่องราวต่าง ๆ เป็นเหมือนบทละครเป็นร้อยเป็นพันเรื่อง เพื่อหลอกให้เหยื่อตายใจหลงเชื่อ .นอกจากการหลอกลวงให้โอนเงิน และการขโมยข้อมูลส่วนตัวแล้ว แหล่งรายได้หลักของขบวนการนี้ก็คือ การพนันออนไลน์.สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขบวนการหลอกลวงและพนันออนไลน์แพร่หลายอย่างมาก ก็คือ ผู้ที่เข้าร่วมในขบวนการนี้ ไม่รู้สึกผิด คนเหล่านี้คิดว่าเหยื่อคือคนโลภ แต่ความจริงแล้ว เหยื่อจำนวนมากถูกหลอกลวงจนสิ้นเนื้อประดาตัว สูญเงินเกษียณ เงินที่ใช้เลี้ยงดูครอบครัว เหยื่อบางรายบ้านแตกสาแหรกขาด หรือถึงกับฆ่าตัวตายจบชีวิตตัวเองก็มี⚓️เพลงนำของหนังใช้ชื่อว่า "หมดเนื้อหมดตัว" #千金散尽 เปรียบเทียบว่า เรือลำหนึ่งที่อยากจะกลับเข้าฝั่ง แต่ว่าเมื่อถอนสมอ กางใบเรือกลับพบว่าเต็มไปด้วยรอยทะลุจนแทบจะแล่นต่อไปไม่ไหว...ความ "กล้าหาญ" ถ้ามากเกินไปก็จะเป็น "ลำพอง" ความ "ฉลาด" ถ้าใช้ไม่ถูกก็จะกลายเป็น "เล่ห์เหลี่ยม" .ความน่ากลัวของขบวนการหลอกลวงก็คือ เหยื่อจำนวนมากไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกหลอก พอนึกจะ "กลับเนื้อกลัวตัว" ก็สายไปแล้ว "กลับไม่ได้ไปไม่ถึง".No More Bets ทำให้ผู้คนตระหนักว่า ขบวนการหลอกลวงใกล้ตัวกว่าที่เราคาดคิด หลายคนคงเคยได้รับโทรศัพท์ SMS หรือข้อความในโซเชียลมีเดีย ที่มาจากแก็งค์เหล่านี้ และถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่า โทรศัพท์และข้อความเหล่านี้มีมากขึ้นทุกวัน พวกเราหลายคนอาจจะกดลบข้อความทิ้งหรือวางสายโทรศัพท์ไป แต่ว่ายังมีผู้สูงอายุ เยาวชน และคนอีกมากมายที่ไม่รู้เท่าทันจนตกเป็นเหยื่อ .มีอีกหลายกรณีที่เหยื่อเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นคนที่มีการศึกษา เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ก็ยังถูกหลอกลวงได้...อย่าคิดว่าไม่มีโอกาสตกเป็นเหยื่อขบวนการหลอกลวง .ในภาพยนตร์บอกว่า คนเรามีจุดอ่อน 2 อย่าง คือ ความโลภ และความหลง เพราะว่า ใครๆ ก็อยากมีงานที่ดี มีเงินใช้ และก็หลงคิดไปว่า ตัวเองคงจะไม่โชคร้ายถึงขนาดที่ต้อง "ทุ่มสุดตัว วางเดิมพันครั้งสุดท้าย" เหมือนกับชื่อของภาพยนตร์ คือ No More Bets ที่มา เพจบูรพาไม่แพ้ .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • เงินดอลลาร์ - ทองคำ อาจต้องรอดูตั้งแต่ 2 เดือนแรก ถึงหลัง 6 เดือน นับจากที่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง (20/01/2568)
    .
    เงินหยวนจีน มีโอกาสอ่อนค่าลง จากมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ และ การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ...
    .
    ส่วน ประเทศไทย รอดูหลังเดือน 4 ไปแล้ว ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่อะไรรึเปล่า...???
    .
    ส่วนใครจะ หาพ่อหาแม่ ไอ้ควาย หรือ หาไอ้ควาย...!!!
    .
    ก็เอาที่สะดวกครับ...
    .
    ใครที่เล่นหุ้น อ่านกราฟ เรียน Technical มาบ้าง อาจจะคุ้นๆกับคำนี้ครับ...
    .
    "History Repeats Itself"
    .
    เรามักจะคาดเดาไปต่างๆนาๆว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
    .
    ถ้าเราลองย้อนกลับไปพินิจพิเคราะห์กราฟย้อนหลัง เรามักจะเจอ กราฟ ที่หน้าตารูปร่างมันซ้ำเดิมอยู่เนืองๆ เพราะว่า...
    .
    พฤติกรรม ของมนุษย์ มันไม่เคยเปลี่ยน...!!!
    .
    มนุษย์ ส่วนใหญ่พอสมควร ไม่เคยเรียนรู้ที่จะควบคุม "ความโลภ-ความกลัว" ที่อยู่ในใจของตัวเองได้เลย...
    .
    🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    เงินดอลลาร์ - ทองคำ อาจต้องรอดูตั้งแต่ 2 เดือนแรก ถึงหลัง 6 เดือน นับจากที่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่ง (20/01/2568) . เงินหยวนจีน มีโอกาสอ่อนค่าลง จากมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ และ การอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ... . ส่วน ประเทศไทย รอดูหลังเดือน 4 ไปแล้ว ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่อะไรรึเปล่า...??? . ส่วนใครจะ หาพ่อหาแม่ ไอ้ควาย หรือ หาไอ้ควาย...!!! . ก็เอาที่สะดวกครับ... . ใครที่เล่นหุ้น อ่านกราฟ เรียน Technical มาบ้าง อาจจะคุ้นๆกับคำนี้ครับ... . "History Repeats Itself" . เรามักจะคาดเดาไปต่างๆนาๆว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร . ถ้าเราลองย้อนกลับไปพินิจพิเคราะห์กราฟย้อนหลัง เรามักจะเจอ กราฟ ที่หน้าตารูปร่างมันซ้ำเดิมอยู่เนืองๆ เพราะว่า... . พฤติกรรม ของมนุษย์ มันไม่เคยเปลี่ยน...!!! . มนุษย์ ส่วนใหญ่พอสมควร ไม่เคยเรียนรู้ที่จะควบคุม "ความโลภ-ความกลัว" ที่อยู่ในใจของตัวเองได้เลย... . 🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • #CLเปลี่ยนข้อตกลงไม่แฟร์หรา
    จริงๆ พี่คิงส์คิดว่าจะมีใครซักคนมาเปิดเรื่องนี้
    แล้วอีกอย่าง ก็อยากให้ไอ่พวกที่เคยเชื่ออิดาคุ๊กกี้
    ว่าเรื่องปูเป็นหนอน กรูมโน แล้วมารุมด่ากรูอะ ให้มันได้อิ่มเอม
    กับคนที่พวกเมิงเคยปกป้อง เออกรูเป็นคนแบบนี้แหละ 55
    เอา เข้าเรื่อง ได้เวลาคุยกันละนะรู้แหละว่ารอ
    อันแรกก่อนนะ
    กรณี การตกลง หรือการเปลี่ยนข้อตกลง
    คำถามคือ มันจะเกิดขึ้นได้ แล้วร่วมงานกัน
    มันต้องโอเคฝ่ายเดียว หรือทั้งสองฝ่าย
    ตอบ มันต้องอ่าน ทำความเข้าใจ และตกลงกัน
    ทั้งสองฝ่าย ถูกต้องที่สุด
    ดังนั้น อิปูเป็นหนอน ข้อตกลงในการรับเป็นเงินเดือน ถ้าเมิงไม่เห็นด้วยเมิงก็ปฏิเสธไปได้ แต่นี่ เมิงก็ทำต่อ แล้วเมิงจะมาร้องโอดโอยเฮี้ยไร
    ข้อที่สองข้อสำคัญ
    คือ นิสัยเมิง มันเล่าไม่หมดอะ เล่าในแบบที่ตัวเองดูสวย
    ทั้งๆที่ทั้งแก่ ทั้งเหี่ยว และพฤติกรรมก็หนอนสุดๆ
    ทำไมเมิงไม่เล่าล่ะ ว่าตอนแรก การรับงาน
    เป็นรูปแบบที่ เมิงเป็นคนติดต่องาน และเมิงก็ใช้บริษัทเมิง
    รับงาน และเมิงก็ไดในลักษณะที่จ่ายให้ CL จากบริษัทเมิง
    แต่เมื่อตต มันมีอะไรที่ต้องลงทุนมากขึ้น CL มันมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
    ก็จำเป็นต้องจดบริษัทเอง และต้องบริหารรายจ่ายต่างๆ
    เนี่ย พอๆกับ 4 ป้าเลย คือคิดแต่เงินเข้า แต่ไม่คิดว่า ค่าบริหารจัดการ
    มันมีมากมายแค่ไหน
    แล้วพอทำเป็นบริษัท ที่ต้องลงทุนและมีฟิ๊กคอสเพิ่มมหาศาล
    ในฐานะผู้บริหาร ต้องคำนวนสิ่งที่เป็นไปได้ ว่าจะทำอย่างไร ถึงจะสามารถทำให้กิจการเดินได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ พอมีรายได้มามากๆ ก็ทำตัวเหมือนสามล้อถูกห๋วย เหมือนที่พี่ๆบางบ้านเป็น แล้วพอเงินหมด ก็มาไถ๋น้องชายอะไรแบบนี้
    ดังนั้น แบบรายเดือนที่ได้ ทำไมไม่บอกหล่ะ ว่ามันก็ไม่น้อยกว่าที่เคยได้รับ ในอดีต ซึ่งจุดนั้น เมิงเองก็ตกลงเอง
    ข้อต่อมา พอเมิงเห็นว่า รายรับมันมากขึ้น เมิงตะหากที่เก็บความโลภไว้ในใจ ว่าถ้าเป็นเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม เมิงคงได้มากมายก่ายกอง
    อิห่านจิก ถ้าเค้าต้องให้เมิงมากขนาดนั้น คำถาม แล้วค่าพนักงานค่าบุคลากร ขนาดทีมตากล้องต่างๆ ยังต้องจ้างทั้งหมด แล้วงานมันจะเดินต่อยังไง
    เออ เอาประมาณนี้แหละ
    แล้วเนี่ย พอกรูมาก่อนกาล พวกเมิงก็นะ หาว่ากรูเป็น CL บ้างแหละ
    หาว่าเป็นใครไม่รู้ ชื่อเบสบ้างหละ หรือเป็นคิงส์โพธิ์แนนบ้างแหละ พอกรูช่วย ผสห เรื่องอิแฝดมิ๊จฉ๋าชีพ ก็บอกกรูเป็นโอมบ้างแหละ พอกรูตามข่าวเรื่องน้องแตงโม พวกเมิงก็บอกกรูเป็นพี่อัจฉริยะอีกแหละ เหนื่อยหว่ะ ไม่ได้เหนื่อยเรื่องตีแผ่ความจริงนะ
    เหนื่อยกับความจินตาการ ว่ากรูเป็นคนนั้นคนนี้นี่แหละ แต่อย่ารู้เลย ว่ากรูคือใคร รู้แค่กรูคือคิงส์โพธิ์แดง ที่ขอยืนข้างความถูกต้องละกัน
    และยืนยันอีกครั้งว่ากรูไม่ใช่ด้อมชาลี แต่กรูเช็คหมดแล้ว ว่าน้องมันคือคนดีที่ถูกอธรรม ซึ่งในเวลาที่อิป้าศรีธัญญา ร่วมกับปูเป็นหนอนในนิทาน เปย์ 4 ป้าข้างบ้านพี่คิงส์ มารุมด่าน้องชาไทย เวลานั้น อิป้าดาคุ๊กกี้ก็ดันไปเข้าข้าง 4 ป้า ไม่พอ ยังให้สาวกตัวเองที่เป็นแฟนคลับชาไทย ไปอุดหนุนอิ 4ป้า ที่กำลังด่าน้องชายอีก แล้วยังพูดอีกว่า น้องชาไทยอาจจะผิดจริง อิเฮี้ย กรูดูละ ถ้ากรูไม่ออกตัวช่วยน้องมัน งานนี้น้องมันโดนรุมบังไลไส้แน่นวล
    ไอ่กรูแม่มมมก็เป็นคนแบบนี้ เห็นใครถูกรังแกกไม่ได้จริงๆหวะ
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #CLเปลี่ยนข้อตกลงไม่แฟร์หรา จริงๆ พี่คิงส์คิดว่าจะมีใครซักคนมาเปิดเรื่องนี้ แล้วอีกอย่าง ก็อยากให้ไอ่พวกที่เคยเชื่ออิดาคุ๊กกี้ ว่าเรื่องปูเป็นหนอน กรูมโน แล้วมารุมด่ากรูอะ ให้มันได้อิ่มเอม กับคนที่พวกเมิงเคยปกป้อง เออกรูเป็นคนแบบนี้แหละ 55 เอา เข้าเรื่อง ได้เวลาคุยกันละนะรู้แหละว่ารอ อันแรกก่อนนะ กรณี การตกลง หรือการเปลี่ยนข้อตกลง คำถามคือ มันจะเกิดขึ้นได้ แล้วร่วมงานกัน มันต้องโอเคฝ่ายเดียว หรือทั้งสองฝ่าย ตอบ มันต้องอ่าน ทำความเข้าใจ และตกลงกัน ทั้งสองฝ่าย ถูกต้องที่สุด ดังนั้น อิปูเป็นหนอน ข้อตกลงในการรับเป็นเงินเดือน ถ้าเมิงไม่เห็นด้วยเมิงก็ปฏิเสธไปได้ แต่นี่ เมิงก็ทำต่อ แล้วเมิงจะมาร้องโอดโอยเฮี้ยไร ข้อที่สองข้อสำคัญ คือ นิสัยเมิง มันเล่าไม่หมดอะ เล่าในแบบที่ตัวเองดูสวย ทั้งๆที่ทั้งแก่ ทั้งเหี่ยว และพฤติกรรมก็หนอนสุดๆ ทำไมเมิงไม่เล่าล่ะ ว่าตอนแรก การรับงาน เป็นรูปแบบที่ เมิงเป็นคนติดต่องาน และเมิงก็ใช้บริษัทเมิง รับงาน และเมิงก็ไดในลักษณะที่จ่ายให้ CL จากบริษัทเมิง แต่เมื่อตต มันมีอะไรที่ต้องลงทุนมากขึ้น CL มันมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ก็จำเป็นต้องจดบริษัทเอง และต้องบริหารรายจ่ายต่างๆ เนี่ย พอๆกับ 4 ป้าเลย คือคิดแต่เงินเข้า แต่ไม่คิดว่า ค่าบริหารจัดการ มันมีมากมายแค่ไหน แล้วพอทำเป็นบริษัท ที่ต้องลงทุนและมีฟิ๊กคอสเพิ่มมหาศาล ในฐานะผู้บริหาร ต้องคำนวนสิ่งที่เป็นไปได้ ว่าจะทำอย่างไร ถึงจะสามารถทำให้กิจการเดินได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ พอมีรายได้มามากๆ ก็ทำตัวเหมือนสามล้อถูกห๋วย เหมือนที่พี่ๆบางบ้านเป็น แล้วพอเงินหมด ก็มาไถ๋น้องชายอะไรแบบนี้ ดังนั้น แบบรายเดือนที่ได้ ทำไมไม่บอกหล่ะ ว่ามันก็ไม่น้อยกว่าที่เคยได้รับ ในอดีต ซึ่งจุดนั้น เมิงเองก็ตกลงเอง ข้อต่อมา พอเมิงเห็นว่า รายรับมันมากขึ้น เมิงตะหากที่เก็บความโลภไว้ในใจ ว่าถ้าเป็นเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม เมิงคงได้มากมายก่ายกอง อิห่านจิก ถ้าเค้าต้องให้เมิงมากขนาดนั้น คำถาม แล้วค่าพนักงานค่าบุคลากร ขนาดทีมตากล้องต่างๆ ยังต้องจ้างทั้งหมด แล้วงานมันจะเดินต่อยังไง เออ เอาประมาณนี้แหละ แล้วเนี่ย พอกรูมาก่อนกาล พวกเมิงก็นะ หาว่ากรูเป็น CL บ้างแหละ หาว่าเป็นใครไม่รู้ ชื่อเบสบ้างหละ หรือเป็นคิงส์โพธิ์แนนบ้างแหละ พอกรูช่วย ผสห เรื่องอิแฝดมิ๊จฉ๋าชีพ ก็บอกกรูเป็นโอมบ้างแหละ พอกรูตามข่าวเรื่องน้องแตงโม พวกเมิงก็บอกกรูเป็นพี่อัจฉริยะอีกแหละ เหนื่อยหว่ะ ไม่ได้เหนื่อยเรื่องตีแผ่ความจริงนะ เหนื่อยกับความจินตาการ ว่ากรูเป็นคนนั้นคนนี้นี่แหละ แต่อย่ารู้เลย ว่ากรูคือใคร รู้แค่กรูคือคิงส์โพธิ์แดง ที่ขอยืนข้างความถูกต้องละกัน และยืนยันอีกครั้งว่ากรูไม่ใช่ด้อมชาลี แต่กรูเช็คหมดแล้ว ว่าน้องมันคือคนดีที่ถูกอธรรม ซึ่งในเวลาที่อิป้าศรีธัญญา ร่วมกับปูเป็นหนอนในนิทาน เปย์ 4 ป้าข้างบ้านพี่คิงส์ มารุมด่าน้องชาไทย เวลานั้น อิป้าดาคุ๊กกี้ก็ดันไปเข้าข้าง 4 ป้า ไม่พอ ยังให้สาวกตัวเองที่เป็นแฟนคลับชาไทย ไปอุดหนุนอิ 4ป้า ที่กำลังด่าน้องชายอีก แล้วยังพูดอีกว่า น้องชาไทยอาจจะผิดจริง อิเฮี้ย กรูดูละ ถ้ากรูไม่ออกตัวช่วยน้องมัน งานนี้น้องมันโดนรุมบังไลไส้แน่นวล ไอ่กรูแม่มมมก็เป็นคนแบบนี้ เห็นใครถูกรังแกกไม่ได้จริงๆหวะ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเข้าเห็นคลิป หอบพระ (ทองคำ) พร้อมกรอบ (ทองคำ) ไปขายเซียน...ถ้าแท้หมด เกิน 100 ล้าน...แต่มันไม่ใช่สักกะอย่าง...ไม่ว่า พระ หรือทอง...ไปประมูลมาใน live ชิ้นละ 2_3000 ด้วยความโลภ...!! คิดสักนิดไหม..ว่ามันจะเป็นไปได้ไง...แค่ราคาขายหลอมทิ้ง..ก็เกินแล้ว...เดี๋ยวนี้มีพัฒนา เอาไปจะดฉากออกจากตู้เซฟก็มี...ห้อยป้ายราคา (ปลอมๆ ) ไว้หลักแสน ก็มี..เอาถุงแดงแบบร้านทองใส่ก็มี... #แค่คิดสักนิดก็ไม่โดนแล้ว
    เมื่อเข้าเห็นคลิป หอบพระ (ทองคำ) พร้อมกรอบ (ทองคำ) ไปขายเซียน...ถ้าแท้หมด เกิน 100 ล้าน...แต่มันไม่ใช่สักกะอย่าง...ไม่ว่า พระ หรือทอง...ไปประมูลมาใน live ชิ้นละ 2_3000 ด้วยความโลภ...!! คิดสักนิดไหม..ว่ามันจะเป็นไปได้ไง...แค่ราคาขายหลอมทิ้ง..ก็เกินแล้ว...เดี๋ยวนี้มีพัฒนา เอาไปจะดฉากออกจากตู้เซฟก็มี...ห้อยป้ายราคา (ปลอมๆ ) ไว้หลักแสน ก็มี..เอาถุงแดงแบบร้านทองใส่ก็มี... #แค่คิดสักนิดก็ไม่โดนแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความโลภต่างหากที่ทำให้เราเห็นกงจักรที่อเมริกายื่นมาให้เป็นดอกบัว #เปลือยธารินทร์ สถาบันต่าง ๆ รวมทั้งภาคเอกชน เริ่มเป็นประตูสวรรค์ของการยืมเงินถูกมาใช้ ถ้าเป็นธนาคารก็ยืมถูกมาปล่อยแพง ถ้าเป็นบริษัทก็ประหยัดต้นทุนเกือบ 10%
    https://youtu.be/xl3LMN8qEag
    ความโลภต่างหากที่ทำให้เราเห็นกงจักรที่อเมริกายื่นมาให้เป็นดอกบัว #เปลือยธารินทร์ สถาบันต่าง ๆ รวมทั้งภาคเอกชน เริ่มเป็นประตูสวรรค์ของการยืมเงินถูกมาใช้ ถ้าเป็นธนาคารก็ยืมถูกมาปล่อยแพง ถ้าเป็นบริษัทก็ประหยัดต้นทุนเกือบ 10% https://youtu.be/xl3LMN8qEag
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • การยึดมั่นถือมั่นในอารมณ์ที่ขวางทางปฏิบัติ

    อารมณ์ที่ขัดขวางความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม
    คือ อารมณ์ที่ฝักฝ่ายของ ราคะ (ความโลภ), โทสะ (ความโกรธ), และโมหะ (ความหลง)
    เพราะอารมณ์เหล่านี้ทำให้จิตติดอยู่ในวงจรแห่งความยึดมั่น ถือมั่น
    ก่อให้เกิดอาการ "ไม่อยากปล่อย" หรือ "เร่าร้อนกระวนกระวาย"

    ---

    ทำไมราคะ โทสะ โมหะ ขวางการปฏิบัติ?

    1. ราคะ: ความยึดติดในความพึงพอใจ เช่น ความสุขจากสิ่งที่ชอบ
    ทำให้จิตไม่สงบ มัวหลงอยู่ในอารมณ์ชื่นชมและยึดไว้
    ขวางไม่ให้เห็นความไม่เที่ยงของสิ่งที่พึงใจ

    2. โทสะ: ความขุ่นมัวจากสิ่งที่ไม่พอใจ
    ทำให้จิตเร่าร้อน ฟุ้งซ่าน และยึดติดกับความอยากแก้แค้น
    ขวางการฝึกสติและการเจริญเมตตา

    3. โมหะ: ความไม่รู้ สำคัญผิด ยึดมั่นในตัวตน
    ทำให้จิตไม่ปล่อยวาง ติดอยู่ในความหลง เช่น "ฉันถูก" หรือ "เขาผิด"

    ขวางการเข้าใจธรรมชาติของกายและใจ

    ---

    การหลุดพ้นจากการยึดมั่นในอารมณ์

    1. "ไม่เข้าข้างอารมณ์ฝ่ายอกุศล"
    ฝึกให้รู้ว่า ราคะ โทสะ โมหะ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดับไป
    ไม่ตามใจอารมณ์ เช่น การเอาชนะโทสะด้วยเมตตา หรือข่มราคะด้วยสติ

    2. "เอาใจออกห่าง"
    เมื่ออารมณ์เกิดขึ้น ให้ดูเฉยๆ เห็นมันเป็นเพียงสิ่งที่เกิดและดับ
    ตั้งจิตว่าแม้อารมณ์เหล่านี้จะเกิด ก็จะใช้มันเป็นเครื่องฝึกจิต

    3. "ฝึกดูความไม่เที่ยง"
    เห็นว่าอารมณ์ใดๆ ล้วนไม่เที่ยง เช่น ความโลภที่เคยรุนแรงก็จางไป
    ฝึกให้จิตปล่อยวาง โดยสังเกตความผันแปรของอารมณ์

    4. "ใช้สติเป็นเครื่องมือ"
    สติช่วยให้เห็นอารมณ์ชัดเจนว่า ไม่ใช่ตัวเรา
    เมื่อมีสติ อารมณ์จะอ่อนกำลังลง ไม่สามารถครอบงำจิตได้

    ---

    สรุป

    หากเรายึดมั่นใน ราคะ โทสะ โมหะ จิตจะติดอยู่ในวงจรของความทุกข์
    แต่หากเราฝึก "ไม่เข้าข้าง" และ "เอาใจออกห่าง" จากอารมณ์เหล่านี้
    พร้อมทั้งมองเห็นความไม่เที่ยงและใช้สติควบคุม
    จิตจะค่อยๆ หลุดพ้นจากพันธนาการ
    และการปฏิบัติธรรมจะก้าวหน้าไปได้อย่างมั่นคงครับ!
    การยึดมั่นถือมั่นในอารมณ์ที่ขวางทางปฏิบัติ อารมณ์ที่ขัดขวางความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม คือ อารมณ์ที่ฝักฝ่ายของ ราคะ (ความโลภ), โทสะ (ความโกรธ), และโมหะ (ความหลง) เพราะอารมณ์เหล่านี้ทำให้จิตติดอยู่ในวงจรแห่งความยึดมั่น ถือมั่น ก่อให้เกิดอาการ "ไม่อยากปล่อย" หรือ "เร่าร้อนกระวนกระวาย" --- ทำไมราคะ โทสะ โมหะ ขวางการปฏิบัติ? 1. ราคะ: ความยึดติดในความพึงพอใจ เช่น ความสุขจากสิ่งที่ชอบ ทำให้จิตไม่สงบ มัวหลงอยู่ในอารมณ์ชื่นชมและยึดไว้ ขวางไม่ให้เห็นความไม่เที่ยงของสิ่งที่พึงใจ 2. โทสะ: ความขุ่นมัวจากสิ่งที่ไม่พอใจ ทำให้จิตเร่าร้อน ฟุ้งซ่าน และยึดติดกับความอยากแก้แค้น ขวางการฝึกสติและการเจริญเมตตา 3. โมหะ: ความไม่รู้ สำคัญผิด ยึดมั่นในตัวตน ทำให้จิตไม่ปล่อยวาง ติดอยู่ในความหลง เช่น "ฉันถูก" หรือ "เขาผิด" ขวางการเข้าใจธรรมชาติของกายและใจ --- การหลุดพ้นจากการยึดมั่นในอารมณ์ 1. "ไม่เข้าข้างอารมณ์ฝ่ายอกุศล" ฝึกให้รู้ว่า ราคะ โทสะ โมหะ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดับไป ไม่ตามใจอารมณ์ เช่น การเอาชนะโทสะด้วยเมตตา หรือข่มราคะด้วยสติ 2. "เอาใจออกห่าง" เมื่ออารมณ์เกิดขึ้น ให้ดูเฉยๆ เห็นมันเป็นเพียงสิ่งที่เกิดและดับ ตั้งจิตว่าแม้อารมณ์เหล่านี้จะเกิด ก็จะใช้มันเป็นเครื่องฝึกจิต 3. "ฝึกดูความไม่เที่ยง" เห็นว่าอารมณ์ใดๆ ล้วนไม่เที่ยง เช่น ความโลภที่เคยรุนแรงก็จางไป ฝึกให้จิตปล่อยวาง โดยสังเกตความผันแปรของอารมณ์ 4. "ใช้สติเป็นเครื่องมือ" สติช่วยให้เห็นอารมณ์ชัดเจนว่า ไม่ใช่ตัวเรา เมื่อมีสติ อารมณ์จะอ่อนกำลังลง ไม่สามารถครอบงำจิตได้ --- สรุป หากเรายึดมั่นใน ราคะ โทสะ โมหะ จิตจะติดอยู่ในวงจรของความทุกข์ แต่หากเราฝึก "ไม่เข้าข้าง" และ "เอาใจออกห่าง" จากอารมณ์เหล่านี้ พร้อมทั้งมองเห็นความไม่เที่ยงและใช้สติควบคุม จิตจะค่อยๆ หลุดพ้นจากพันธนาการ และการปฏิบัติธรรมจะก้าวหน้าไปได้อย่างมั่นคงครับ!
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • #รวมคำสอนผิด คน…ธรรม (จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด...)

    1. พระอรหันต์ฆ่าตัวตาย ทำการุณยฆาต❌
    ที่ถูกคือ>> พระอรหันต์ไม่ฆ่าตัวตาย
    สมดังคำที่พระสารีบุตรกล่าวว่า
    เราไม่ยินดีความตาย
    ไม่ปรารถนาความเป็น
    แต่เรารอเวลาแตกดับ (ปรินิพพาน)
    เหมือนลูกจ้างรอค่าจ้างฉะนั้น.
    และการุณยฆาตไม่ใช่การฆ่าตัวเอง

    2. พระพุทธเจ้าไม่เคยใช้กุศโลบาย❌
    ที่ถูกคือ>> พระพุทธเจ้าเป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ด้วยอุบายเครื่องแนะนำอย่างวิจิตร มีอาฬวกยักษ์เป็นต้น. แม้คำสอนทั้งหมดก็มีอุบายสอน เช่นอุบายเครื่องสงบจิต.

    3. พุทธคุณในพระเครื่องไม่มี❌
    ที่ถูกคือ>> พุทธคุณในพระเครื่องมีทั้งมีและไม่มี ที่มีเพราะเหตุปัจจัยถึงพร้อม คือ ผู้สวดพระปริตรมีศีล ไม่มีความโลภอยากได้ลาภสักการะ สวดด้วยความอนุเคราะห์ ด้วยศรัทธา บาลีไม่ผิดเพี้ยน ย่อมมีอานุภาพ/ ส่วนที่ไม่มีอานุภาพก็ตรงกันข้ามกัน (ตัวอย่างตั่ง(ที่นั่ง)ที่พระองคุลิมาลนั่งทำสัจกิริยา ก็มีอานุภาพตลอดกัป)

    4. พระปริตรป้องกันภัยไม่ได้
    พระปริตรขัดกับหลักกรรมและสุขทุกข์ไม่มีใครบันดาล❌
    ที่ถูกคือ >> กรรมและสุขทุกข์ไม่มีใครบันดาลนั้นหมายความว่า “สุขทุกข์ไม่ได้เกิดจากพระผู้สร้าง เช่นพระอิศวรนิรมิต” / พระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธพระผู้สร้าง เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งเหตุและปัจจัย ไม่ได้เกิดขึ้นเองลอยๆหรือใครบันดาล >> พระปริตรเป็นกุศลกรรม ไม่ใช่ใครบันดาล แต่เกิดจากกรรมในปัจจุบัน ที่บุคคลนั้นได้กล่าวสัจจกิริยา หรือ สวดพระปริตร ซึ่งเป็นกุศลที่ให้ผลในปัจจุบัน ตามหลักแห่งกรรม เป็น ทิฐธรรมเวทนียกรรม
    >> และพระปริตรก็มีเหตุปัจจัยอื่นเป็นตัวแปรที่ให้ผลไม่ได้ทุกคน จึงแทนโรงพยาบาลไม่ได้ แต่ผู้มีศรัทธา ไม่ทำกรรมหนัก ไม่สวดด้วยกิเลส และยังไม่หมดอายุขัย พระปริตรย่อมช่วยได้.

    5. สร้างศาลาใหญ่ไว้ให้หมานอนเกาขี้กาก❌ ที่ถูกคือ ทำบุญในศาสนาของพระพุทธเจ้าผู้มีคุณหาประมาณมิได้ ไม่ควรกำหนดว่าเท่านั้นเท่านี้ มีตัวอย่างพระลกุณฏกะ ในอดีตท่านแนะนำชาวบ้านให้สร้างเจดีย์จากใหญ่ให้เหลือเล็กลง ด้วยวิบากกรรมนั้นท่านจึงเกิดมาตัวเล็กเตี้ยเหมือนสามเณร

    6. บวชพระ, บวชตามประเพณี, บวชหน้าไฟ ไม่เป็นการทดแทนบุญคุณพ่อแม่❌ ที่ถูกคือ>> การบวชแม้ไม่ใช่การทดแทนคุณพ่อแม่สูงสุด แต่ก็เป็นการทดแทนคุณได้ เพราะการบวชทำให้พ่อแม่เกิดกุศลจิต พ่อแม่ได้ทำบุญใส่บาตรพระลูกชายเป็นต้น การทำให้พ่อแม่เกิดกุศลจิตได้ เป็นการทดแทนคุณอย่างหนึ่ง

    7. สัมภเวสี คือช่วงรออัตภาพการเกิด คือเวลาที่กายแตกตายแต่สี่ขันธ์ยังยึดรูปอยู่ยังรู้อยู่เรียกช่วงนี้ว่าสัมภเวสี❌ ที่ถูกคือ >> สัมภเวสี คือ ผู้ที่แสวงหาที่เกิด, ผู้ที่ยังต้องเกิด คือ พระเสขะและปุถุชน ยกเว้นพระอรหันต์ เพราะยังละภวสังโยชน์ยังไม่ได้.
    👉 สัมภเวสี ตามนัยแห่งกำเนิด 4 คือ
    1. เกิดในไข่ (ขณะอยู่ในไข่ เรียกสัมภเวสี ออกจากไข่ได้แล้วเรียกว่าภูต คือเกิดแล้ว)
    2. เกิดในครรภ์ (ขณะอยู่ในรก เรียกสัมภเวสี คลอดออกมาแล้วเรียกว่าภูต คือเกิดแล้ว)
    3. เกิดในเถ้าไคล และ 4. เกิดแบบผุดเกิด
    (ขณะแห่งปฐมจิต เรียกสัมภเวสี
    ขณะแห่งจิตดวงที่สอง ชื่อว่าภูต คือเกิดแล้ว)
    มาใน : อรรถกถาเมตตสูตร

    8. อมตะธาตุยึดขันธ์ห้า❌
    ที่ถูกคือ>> อมตะธาตุยึดขันธ์๕ไม่ได้
    เพราะอมตะธาตุคือนิพพาน

    9. โสดาปัตติมรรค ละสังโยชน์ข้อแรก
    โสดาปัตติผล ละสังโยชน์อีกสองข้อ❌
    ที่ถูกคือ>> โสดาปัตติมัคคจิต เป็นจิตที่ประหาณจิตโลภที่เป็นทิฏฐิสัมปยุตต ๔ ดวง และโมหมูลจิตที่เป็นวิจิกิจฉาสัมปยุตต ๑ ดวง อย่างเด็ดขาด เป็นสมุจเฉทประหาณ รวมประหาณ อกุศลจิต ๕ ดวง เด็ดขาด /โสดาปัตติผลจิต เป็นจิตที่เกิดขึ้นเพื่อเสวยสุขจากการที่โสดาปัตติมรรคญาณได้ทำการประหาณแล้ว

    10. ลอยกระทง ไปขอขมาทำไมแม่น้ำ ไปทะเลาะกับแม่น้ำเหรอจึงต้องขอขมา / วันลอยกระทงตามหลักคำสอนพระพุทธเจ้าคือวันดอกโกมุทบาน❌
    ที่ถูกคือ>> การรู้คุณแม่น้ำถือว่าเป็นผู้รู้คุณในสรรพสิ่ง สมดังคำที่พระองค์ตรัสว่า "บุคคลนั่งหรือนอนที่ร่มเงาของต้นไม้ใด ไม่พึงหักรานกิ่งของต้นไม้นั้น เพราะผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นคนเลวทราม" ดังนั้นสิ่งที่มีอุปการะแก่ชีวิตเราล้วนมีคุณเพียงแค่เราจะเห็นคุณนั้นหรือไม่ ส่วนน้ำนั้นคนโบราณเห็นว่าใช้น้ำมาทั้งปี ทำไร่ ทำนา ใช้ชำระกายทั้งดื่มกิน เขาก็ระลึกรู้คุณเป็นพิเศษ ก็ถือได้ว่าเขาเป็นคนดีเลยทีเดียว
    / และวันลอยกระทงตามหลักคำสอนพระพุทธเจ้าคือวันดอกโกมุทบาน❌ ไม่ควรกล่าวอ้างอย่างนั้น เพราะดอกโกมุทบานเป็นเพียงคำขยายของพระจันทร์ เพราะวันนั้นเป็นวันพระจันทร์เต็มดวงในฤดูฝน ดอกโกมุทบานก็บานทั้งฤดูอยู่แล้ว ดอกโกมุทบานเป็นเพียงผู้ร่วมงาน ประธานคือพระจันทร์เต็มดวง ดังนั้นจึงไม่ควรเอาแขกร่วมงานมาตั้งชื้อวัน

    11. ใครแย้งว่าสอนผิด จะอ้างว่าเขาอิจฉาริษยา❌
    ที่ถูกคือ>> ผู้ชี้โทษ ไม่ใช่เพราะอิจฉาริษยา แต่เป็นการติเตียนตามธรรม เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้ใครมาบิดเบือน / ทราบว่าที่คุณพูดเอามาจากสักกปัญหาสูตร
    ท้าวสักกะได้ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า “ทำไมสัตว์ทั้งหลายมีความปรารถนาไม่มีเวร ไม่ถูกเบียดเบียนฯลฯ แต่เพราะอะไรพวกเขาจึงยังคงมีเวร ถูกเบียดเบียนอยู่”
    พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ”เพราะมีอิสสา(ความริษยา) และมัจฉริยะ(ความตระหนี่) สัตว์ทั้งหลายจึงจองเวรกัน เบียดเบียนกัน ซึ่งท่านใช้สูตรนี้มาสอนลูกศิษย์ และลูกศิษย์ก็เที่ยวไปว่าคนเห็นต่างว่าอิจฉาริษยาอาจารย์เขา /ทำไมคุณไม่ใช้สูตรผู้ชี้โทษคือผู้ชี้ขุมทรัพย์มาสอน.

    ✍️ที่สอนถูกก็มี ผิดก็ควรแก้ไข
    หวังว่าท่านจะระวังในการสอนมากขึ้น

    #แค่ผ่านตา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องชี้แจง
    >> ผู้เขียน : โลก กะ ธรรม กับม่อน

    Credit : เปรมวดี ก๋งชิน
    #รวมคำสอนผิด คน…ธรรม (จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด...) 1. พระอรหันต์ฆ่าตัวตาย ทำการุณยฆาต❌ ที่ถูกคือ>> พระอรหันต์ไม่ฆ่าตัวตาย สมดังคำที่พระสารีบุตรกล่าวว่า เราไม่ยินดีความตาย ไม่ปรารถนาความเป็น แต่เรารอเวลาแตกดับ (ปรินิพพาน) เหมือนลูกจ้างรอค่าจ้างฉะนั้น. และการุณยฆาตไม่ใช่การฆ่าตัวเอง 2. พระพุทธเจ้าไม่เคยใช้กุศโลบาย❌ ที่ถูกคือ>> พระพุทธเจ้าเป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ด้วยอุบายเครื่องแนะนำอย่างวิจิตร มีอาฬวกยักษ์เป็นต้น. แม้คำสอนทั้งหมดก็มีอุบายสอน เช่นอุบายเครื่องสงบจิต. 3. พุทธคุณในพระเครื่องไม่มี❌ ที่ถูกคือ>> พุทธคุณในพระเครื่องมีทั้งมีและไม่มี ที่มีเพราะเหตุปัจจัยถึงพร้อม คือ ผู้สวดพระปริตรมีศีล ไม่มีความโลภอยากได้ลาภสักการะ สวดด้วยความอนุเคราะห์ ด้วยศรัทธา บาลีไม่ผิดเพี้ยน ย่อมมีอานุภาพ/ ส่วนที่ไม่มีอานุภาพก็ตรงกันข้ามกัน (ตัวอย่างตั่ง(ที่นั่ง)ที่พระองคุลิมาลนั่งทำสัจกิริยา ก็มีอานุภาพตลอดกัป) 4. พระปริตรป้องกันภัยไม่ได้ พระปริตรขัดกับหลักกรรมและสุขทุกข์ไม่มีใครบันดาล❌ ที่ถูกคือ >> กรรมและสุขทุกข์ไม่มีใครบันดาลนั้นหมายความว่า “สุขทุกข์ไม่ได้เกิดจากพระผู้สร้าง เช่นพระอิศวรนิรมิต” / พระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธพระผู้สร้าง เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งเหตุและปัจจัย ไม่ได้เกิดขึ้นเองลอยๆหรือใครบันดาล >> พระปริตรเป็นกุศลกรรม ไม่ใช่ใครบันดาล แต่เกิดจากกรรมในปัจจุบัน ที่บุคคลนั้นได้กล่าวสัจจกิริยา หรือ สวดพระปริตร ซึ่งเป็นกุศลที่ให้ผลในปัจจุบัน ตามหลักแห่งกรรม เป็น ทิฐธรรมเวทนียกรรม >> และพระปริตรก็มีเหตุปัจจัยอื่นเป็นตัวแปรที่ให้ผลไม่ได้ทุกคน จึงแทนโรงพยาบาลไม่ได้ แต่ผู้มีศรัทธา ไม่ทำกรรมหนัก ไม่สวดด้วยกิเลส และยังไม่หมดอายุขัย พระปริตรย่อมช่วยได้. 5. สร้างศาลาใหญ่ไว้ให้หมานอนเกาขี้กาก❌ ที่ถูกคือ ทำบุญในศาสนาของพระพุทธเจ้าผู้มีคุณหาประมาณมิได้ ไม่ควรกำหนดว่าเท่านั้นเท่านี้ มีตัวอย่างพระลกุณฏกะ ในอดีตท่านแนะนำชาวบ้านให้สร้างเจดีย์จากใหญ่ให้เหลือเล็กลง ด้วยวิบากกรรมนั้นท่านจึงเกิดมาตัวเล็กเตี้ยเหมือนสามเณร 6. บวชพระ, บวชตามประเพณี, บวชหน้าไฟ ไม่เป็นการทดแทนบุญคุณพ่อแม่❌ ที่ถูกคือ>> การบวชแม้ไม่ใช่การทดแทนคุณพ่อแม่สูงสุด แต่ก็เป็นการทดแทนคุณได้ เพราะการบวชทำให้พ่อแม่เกิดกุศลจิต พ่อแม่ได้ทำบุญใส่บาตรพระลูกชายเป็นต้น การทำให้พ่อแม่เกิดกุศลจิตได้ เป็นการทดแทนคุณอย่างหนึ่ง 7. สัมภเวสี คือช่วงรออัตภาพการเกิด คือเวลาที่กายแตกตายแต่สี่ขันธ์ยังยึดรูปอยู่ยังรู้อยู่เรียกช่วงนี้ว่าสัมภเวสี❌ ที่ถูกคือ >> สัมภเวสี คือ ผู้ที่แสวงหาที่เกิด, ผู้ที่ยังต้องเกิด คือ พระเสขะและปุถุชน ยกเว้นพระอรหันต์ เพราะยังละภวสังโยชน์ยังไม่ได้. 👉 สัมภเวสี ตามนัยแห่งกำเนิด 4 คือ 1. เกิดในไข่ (ขณะอยู่ในไข่ เรียกสัมภเวสี ออกจากไข่ได้แล้วเรียกว่าภูต คือเกิดแล้ว) 2. เกิดในครรภ์ (ขณะอยู่ในรก เรียกสัมภเวสี คลอดออกมาแล้วเรียกว่าภูต คือเกิดแล้ว) 3. เกิดในเถ้าไคล และ 4. เกิดแบบผุดเกิด (ขณะแห่งปฐมจิต เรียกสัมภเวสี ขณะแห่งจิตดวงที่สอง ชื่อว่าภูต คือเกิดแล้ว) มาใน : อรรถกถาเมตตสูตร 8. อมตะธาตุยึดขันธ์ห้า❌ ที่ถูกคือ>> อมตะธาตุยึดขันธ์๕ไม่ได้ เพราะอมตะธาตุคือนิพพาน 9. โสดาปัตติมรรค ละสังโยชน์ข้อแรก โสดาปัตติผล ละสังโยชน์อีกสองข้อ❌ ที่ถูกคือ>> โสดาปัตติมัคคจิต เป็นจิตที่ประหาณจิตโลภที่เป็นทิฏฐิสัมปยุตต ๔ ดวง และโมหมูลจิตที่เป็นวิจิกิจฉาสัมปยุตต ๑ ดวง อย่างเด็ดขาด เป็นสมุจเฉทประหาณ รวมประหาณ อกุศลจิต ๕ ดวง เด็ดขาด /โสดาปัตติผลจิต เป็นจิตที่เกิดขึ้นเพื่อเสวยสุขจากการที่โสดาปัตติมรรคญาณได้ทำการประหาณแล้ว 10. ลอยกระทง ไปขอขมาทำไมแม่น้ำ ไปทะเลาะกับแม่น้ำเหรอจึงต้องขอขมา / วันลอยกระทงตามหลักคำสอนพระพุทธเจ้าคือวันดอกโกมุทบาน❌ ที่ถูกคือ>> การรู้คุณแม่น้ำถือว่าเป็นผู้รู้คุณในสรรพสิ่ง สมดังคำที่พระองค์ตรัสว่า "บุคคลนั่งหรือนอนที่ร่มเงาของต้นไม้ใด ไม่พึงหักรานกิ่งของต้นไม้นั้น เพราะผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นคนเลวทราม" ดังนั้นสิ่งที่มีอุปการะแก่ชีวิตเราล้วนมีคุณเพียงแค่เราจะเห็นคุณนั้นหรือไม่ ส่วนน้ำนั้นคนโบราณเห็นว่าใช้น้ำมาทั้งปี ทำไร่ ทำนา ใช้ชำระกายทั้งดื่มกิน เขาก็ระลึกรู้คุณเป็นพิเศษ ก็ถือได้ว่าเขาเป็นคนดีเลยทีเดียว / และวันลอยกระทงตามหลักคำสอนพระพุทธเจ้าคือวันดอกโกมุทบาน❌ ไม่ควรกล่าวอ้างอย่างนั้น เพราะดอกโกมุทบานเป็นเพียงคำขยายของพระจันทร์ เพราะวันนั้นเป็นวันพระจันทร์เต็มดวงในฤดูฝน ดอกโกมุทบานก็บานทั้งฤดูอยู่แล้ว ดอกโกมุทบานเป็นเพียงผู้ร่วมงาน ประธานคือพระจันทร์เต็มดวง ดังนั้นจึงไม่ควรเอาแขกร่วมงานมาตั้งชื้อวัน 11. ใครแย้งว่าสอนผิด จะอ้างว่าเขาอิจฉาริษยา❌ ที่ถูกคือ>> ผู้ชี้โทษ ไม่ใช่เพราะอิจฉาริษยา แต่เป็นการติเตียนตามธรรม เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้ใครมาบิดเบือน / ทราบว่าที่คุณพูดเอามาจากสักกปัญหาสูตร ท้าวสักกะได้ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า “ทำไมสัตว์ทั้งหลายมีความปรารถนาไม่มีเวร ไม่ถูกเบียดเบียนฯลฯ แต่เพราะอะไรพวกเขาจึงยังคงมีเวร ถูกเบียดเบียนอยู่” พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ”เพราะมีอิสสา(ความริษยา) และมัจฉริยะ(ความตระหนี่) สัตว์ทั้งหลายจึงจองเวรกัน เบียดเบียนกัน ซึ่งท่านใช้สูตรนี้มาสอนลูกศิษย์ และลูกศิษย์ก็เที่ยวไปว่าคนเห็นต่างว่าอิจฉาริษยาอาจารย์เขา /ทำไมคุณไม่ใช้สูตรผู้ชี้โทษคือผู้ชี้ขุมทรัพย์มาสอน. ✍️ที่สอนถูกก็มี ผิดก็ควรแก้ไข หวังว่าท่านจะระวังในการสอนมากขึ้น #แค่ผ่านตา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องชี้แจง >> ผู้เขียน : โลก กะ ธรรม กับม่อน Credit : เปรมวดี ก๋งชิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในวาระขึ้นปีใหม่นี้ หากระลึกถึงคติแห่งพร หรือมงคลทางพระพุทธศาสนาดังกล่าว และหันมาขอพรอย่างนี้กันให้มากขึ้น พรอย่างนี้ไม่ต้องไปขอจากใคร ให้ขอจากตนเอง คือ ขอให้ตนเองเว้นความประพฤติต่างๆ ที่ชั่วร้าย ขอให้ตนเองสร้างคุณความดี ขอให้ตนเองระงับใจจากความโลภโกรธหลง พรเหล่านี้ตนเองเท่านั้นที่จะให้ได้ ใครอื่นจะขอหรือแนะนำตักเตือนสักเท่าไร ถ้าตนเองไม่ทำแล้วก็ไม่สำเร็จประโยชน์

    พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า “จงเตือนตนด้วยตนเอง จงพิจารณาตนด้วยตนเอง ท่านมีสติคุ้มครองตนได้แล้ว เป็นผู้เห็นภัยในโทษ แม้เพียงเล็กน้อย จักอยู่เป็นสุข” นี้คือวิธีขอพรตนเองของพระพุทธเจ้าผู้เลิศล้ำ ขอให้พรนี้ จงสำเร็จแก่ทุกๆ ท่าน
    .
    --- สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
    ในวาระขึ้นปีใหม่นี้ หากระลึกถึงคติแห่งพร หรือมงคลทางพระพุทธศาสนาดังกล่าว และหันมาขอพรอย่างนี้กันให้มากขึ้น พรอย่างนี้ไม่ต้องไปขอจากใคร ให้ขอจากตนเอง คือ ขอให้ตนเองเว้นความประพฤติต่างๆ ที่ชั่วร้าย ขอให้ตนเองสร้างคุณความดี ขอให้ตนเองระงับใจจากความโลภโกรธหลง พรเหล่านี้ตนเองเท่านั้นที่จะให้ได้ ใครอื่นจะขอหรือแนะนำตักเตือนสักเท่าไร ถ้าตนเองไม่ทำแล้วก็ไม่สำเร็จประโยชน์ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า “จงเตือนตนด้วยตนเอง จงพิจารณาตนด้วยตนเอง ท่านมีสติคุ้มครองตนได้แล้ว เป็นผู้เห็นภัยในโทษ แม้เพียงเล็กน้อย จักอยู่เป็นสุข” นี้คือวิธีขอพรตนเองของพระพุทธเจ้าผู้เลิศล้ำ ขอให้พรนี้ จงสำเร็จแก่ทุกๆ ท่าน . --- สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • บ้านเมืองต้องการคนดีมีจริยธรรมสุจริต เป็นผู้นำประเทศ มิใช่นักโทษคดีทุจริต ซึ่งไม่ยอมติดคุก แสแสร้งแกล้งป่วย อาศัยการสนันสนุนของทาสผู้ภักดี ช่วยเหลือ พากันทำผิด เยาะเย้ยกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมของประเทศให้สูญเสียความศักดิ์สิทธิ์

    ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ การนิรโทรกรรมผูทำผิด ม.112 การแบ่งผลประโยชน์พลังงานในพื้นที่ทับซ้อนกับขะแม โดยอาศัย MOU โมฆะ ฯลฯ ล้วนเป็นกลเกมส์โกงจากนักโทษคดีทุจริตทักษิณล้วน ๆ

    คนโกหกเป็นปกติธุระ จะไม่ทำชั่วนั้น อยู่ในฐานะที่เป็นไปไม่ได้ ยกตัวอย่าง การทำ MOU44 และJC44 ก็เป็นฝีมือของทักษิณล้วน ๆ เขาทำไปโดยเจตนา เพื่อกอบโกยทรัพย์พลังงานในอ่าวไทยร่วมกับฮุนเซน ตามความโลภในกมลสันดาลโดยชัดแจ้ง

    ทักษิณทำ MOU44 โดยไม่ผ่านรัฐสภา ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด แต่กลับทำ JC44 รับรอง MOU44 ร่วมกับฮุนเซน แทนที่จะให้รัฐสภาไทยพิจารณา เจตนาในประเด็นนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทักษิณไม่ให้ความเชื่อถือ ไม่ยอมรับ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแม้แต่น้อย

    เพราะความอยากเป็นประธานประเทศของทักษิณ เป็นเหตุจูงใจให้เขาไม่สนใจพระบรมราชโองการของพ่อ ร.๙ แม้แต่น้อย วันนี้เขากลับมาเร่งรีบ อ้างพื้นที่ทับซ้อนตาม MOU44 ที่ตนตกลงรับรองไว้ร่วมกับฮุนเซน ตั้งแต่ พ.ศ. 2544 โน้นแล้ว

    การรีบเร่งแก้รัฐธรรมนูญ 60 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญป้องกันและปราบโกงที่ดีที่สุด จึงไม่ต้องแปลกใจว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ เป็นสิ่งที่นักการชั่วฝ่ายทักษิณ จะต้องแก้ไขให้ได้ เพียงอ้างว่าเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการบังหน้า

    เส้นทางเดินทุกย่างก้าวของทักษิณ เป็นไปเพื่อตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศไทยชัดเจน ทุกวันเขาจะขายฝัน ปั้นน้ำให้เป็นตัว เพื่อให้คนส่วนหนึ่งหลงเชื่อ ทำแม้กระทั้งเอาน้องสาว และลูกสาว ซึ่งหาปัญญาไม่ได้ มาสืบทอดอำนาจของตนโดยไม่ละอายใจ

    หากคนไทยไม่ตื่นรู้ และปล่อยผ่านรอยเหยียบย่ำกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของนักโทษชายเทวดาชั้น 14 ​ไปได้ นิรโทษกรรมคดี ม.112 ได้ แก้รัฐธรรมนูญตามใจโจร ผ่านไปได้ วันนั้น หมายถึงวันที่ "เปรตเผด็จการ"ครองเมือง ในตำแห่งประธานาธิบดีคนแรกของประเทศไทย

    บ้านเมืองต้องการคนดีมีจริยธรรมสุจริต เป็นผู้นำประเทศ มิใช่นักโทษคดีทุจริต ซึ่งไม่ยอมติดคุก แสแสร้งแกล้งป่วย อาศัยการสนันสนุนของทาสผู้ภักดี ช่วยเหลือ พากันทำผิด เยาะเย้ยกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมของประเทศให้สูญเสียความศักดิ์สิทธิ์ ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ การนิรโทรกรรมผูทำผิด ม.112 การแบ่งผลประโยชน์พลังงานในพื้นที่ทับซ้อนกับขะแม โดยอาศัย MOU โมฆะ ฯลฯ ล้วนเป็นกลเกมส์โกงจากนักโทษคดีทุจริตทักษิณล้วน ๆ คนโกหกเป็นปกติธุระ จะไม่ทำชั่วนั้น อยู่ในฐานะที่เป็นไปไม่ได้ ยกตัวอย่าง การทำ MOU44 และJC44 ก็เป็นฝีมือของทักษิณล้วน ๆ เขาทำไปโดยเจตนา เพื่อกอบโกยทรัพย์พลังงานในอ่าวไทยร่วมกับฮุนเซน ตามความโลภในกมลสันดาลโดยชัดแจ้ง ทักษิณทำ MOU44 โดยไม่ผ่านรัฐสภา ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด แต่กลับทำ JC44 รับรอง MOU44 ร่วมกับฮุนเซน แทนที่จะให้รัฐสภาไทยพิจารณา เจตนาในประเด็นนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทักษิณไม่ให้ความเชื่อถือ ไม่ยอมรับ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญแม้แต่น้อย เพราะความอยากเป็นประธานประเทศของทักษิณ เป็นเหตุจูงใจให้เขาไม่สนใจพระบรมราชโองการของพ่อ ร.๙ แม้แต่น้อย วันนี้เขากลับมาเร่งรีบ อ้างพื้นที่ทับซ้อนตาม MOU44 ที่ตนตกลงรับรองไว้ร่วมกับฮุนเซน ตั้งแต่ พ.ศ. 2544 โน้นแล้ว การรีบเร่งแก้รัฐธรรมนูญ 60 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญป้องกันและปราบโกงที่ดีที่สุด จึงไม่ต้องแปลกใจว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ เป็นสิ่งที่นักการชั่วฝ่ายทักษิณ จะต้องแก้ไขให้ได้ เพียงอ้างว่าเป็นรัฐธรรมนูญเผด็จการบังหน้า เส้นทางเดินทุกย่างก้าวของทักษิณ เป็นไปเพื่อตำแหน่งประธานาธิบดีของประเทศไทยชัดเจน ทุกวันเขาจะขายฝัน ปั้นน้ำให้เป็นตัว เพื่อให้คนส่วนหนึ่งหลงเชื่อ ทำแม้กระทั้งเอาน้องสาว และลูกสาว ซึ่งหาปัญญาไม่ได้ มาสืบทอดอำนาจของตนโดยไม่ละอายใจ หากคนไทยไม่ตื่นรู้ และปล่อยผ่านรอยเหยียบย่ำกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของนักโทษชายเทวดาชั้น 14 ​ไปได้ นิรโทษกรรมคดี ม.112 ได้ แก้รัฐธรรมนูญตามใจโจร ผ่านไปได้ วันนั้น หมายถึงวันที่ "เปรตเผด็จการ"ครองเมือง ในตำแห่งประธานาธิบดีคนแรกของประเทศไทย
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22/12/67

    ลองฝึกสมาธิของอกล้วยคิดว่าดี ถูกจริต เข้าถึงง่าย เลยเอามาฝากค่ะ

    ฝึกสมาธิ
    สรัางบุญอันยิ่งใหญ่ด้วยณาฌที่ฝึกได้ทันที เริ่ม20~50 นาที
    อานันตสมาธิ
    https://youtu.be/xqNyukxzcLQ?si=RexOouMk9lE7ARUv
    ขอขมากรรม

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
    3 จบ
    ข้าพูเจ้า ซื่อ ~นามสกุลตัวเอง
    (นางยุพเยาว์ไชยศรีมณีพรรณ)ขอตั้งจิตอธิฐานขอขมากรรมที่ได้กระทำความผิดอกุศล พูดผิด คิดผิด ด้วยกาย วาจา ใจ หากข้าพเจ้าเคยลบหลู่ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระอริยสงฆ์ พระโพธิสัตว์
    เคยลบหลู่ นิดามารดา ครูบาอาจารย์ หรือผู้มีพระคุณ ข้าพเจ้าขอขมาในความไม่ละอาย และไม่เกรงกลัวต่อบาป ซุบซิปนินทา ใส่ร้ายป้ายสี ชอบเพ็งโทษโยนความผิดให้ผู้อื่น ยุยงส่งเสริมให้แตกความสามัคคี ติดสินบน หักหลังเห็นแก่ตัว ผิดศีล
    บัดนี้ ข้าพเจ้าสำนักผิดแล้วในการกระทำทั้งปวง ด้วยกาย วาจา ใจ ขอให้ท่านทุกรูปทุกนาม ทุกจิต ทุกดวงวิญญาณ ทุกภูมิ โปรดงดโทษ อโหสิกรรมให้เป็นอภัยทาน ให้ขาดจาการกันในชาตินี้
    ข้าพเจ้สจะสำรวมระวังในการคิด การพูด ในการกระทำาต่อไป
    ข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐานในสิ่งผิดและถอนคำสาบแช่งทุกชนิดที่กระทำด้วยจิตริษยาอาฆาตพยาบาท กระทำด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลงจองล้างจองผลาญเบียดเบียนผู้อื่น ด้วยกาย วาจา ใจ
    โดยมีอวิชาตัณหา อุปาทาน มานะทิฐิโดยรู้เท่าไม่ถึงกาล
    ข้าพเจ้าขอถอนอธิษฐานสิ่งผิดๆเหล่านี้ณ.บัดนี้
    บัดนี้ข้าพเจ้าสำนึกผิดแล้วและจะคอยระวังการพูด การคิด การระวัง ในคราวต่อๆไป ไม่ให้ทำผิดซ้ำอีก
    พุธธัง ธัมมัง สังฆัง สะรังนังกะฉามิ
    ต้องรู้จักผิดบาปที่เรากระทำไปชีวิตเราจะได้ดีขึ้นมีอิริโอตะปะ ละอายเกรงกลัวต่อบาป
    กระทำกรรมชั่ว ต้ององได้รับผลชั่วมุ่งกระทำกรมรดี ที่อ.กล้วยสอนนี้ เป็นความดีอันยิ่งใหญ่ เมื่อมีจิตสูงสุดแล้วให้แผ่เมตตา

    แผ่เมตตา
    สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
    ขออุทิศส่วนบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วนี้ และก่อนหน้านี้ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า ให้บิดามารดา ครูบาอาจารย์ของข้าพเจ้า และสรรพสัตว์ทั้งหลายในทั้ง 3 โลก ให้ญาติมิตรพี่น้อง ให้มิตรสหาย เจ้านายลูกน้อง ให้เทพเทวดาให้พรม ให้ผู้ที่อยู่ในอบายภูมิทั้งปวง และผู้ที่จองล้างจองผลาญ เป็นอริศัตรูของข้าพเจ้ว ขอให้มารับบุญทุกท่าน ขอให้อย่าได้มีความพยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ขอให้มีความสุขความเจริญ พ้นทุกข์พ้นภัยทุกท่าน ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้ตัวข้าพเจ้าเองให้พ้นทุกข์ พ้นกรรมทั้งปวง ให้มีชีวิตที่เจริญยื่งขึ้น ด้วยสุขะ พละและนิพพานเทอญ สาธุ
    ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงถึงความสุข ปราศจากความทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีความคับแค้นใจ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด
    cr:อ.กล้วย
    22/12/67 ลองฝึกสมาธิของอกล้วยคิดว่าดี ถูกจริต เข้าถึงง่าย เลยเอามาฝากค่ะ ฝึกสมาธิ สรัางบุญอันยิ่งใหญ่ด้วยณาฌที่ฝึกได้ทันที เริ่ม20~50 นาที อานันตสมาธิ https://youtu.be/xqNyukxzcLQ?si=RexOouMk9lE7ARUv ขอขมากรรม นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ 3 จบ ข้าพูเจ้า ซื่อ ~นามสกุลตัวเอง (นางยุพเยาว์ไชยศรีมณีพรรณ)ขอตั้งจิตอธิฐานขอขมากรรมที่ได้กระทำความผิดอกุศล พูดผิด คิดผิด ด้วยกาย วาจา ใจ หากข้าพเจ้าเคยลบหลู่ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระอริยสงฆ์ พระโพธิสัตว์ เคยลบหลู่ นิดามารดา ครูบาอาจารย์ หรือผู้มีพระคุณ ข้าพเจ้าขอขมาในความไม่ละอาย และไม่เกรงกลัวต่อบาป ซุบซิปนินทา ใส่ร้ายป้ายสี ชอบเพ็งโทษโยนความผิดให้ผู้อื่น ยุยงส่งเสริมให้แตกความสามัคคี ติดสินบน หักหลังเห็นแก่ตัว ผิดศีล บัดนี้ ข้าพเจ้าสำนักผิดแล้วในการกระทำทั้งปวง ด้วยกาย วาจา ใจ ขอให้ท่านทุกรูปทุกนาม ทุกจิต ทุกดวงวิญญาณ ทุกภูมิ โปรดงดโทษ อโหสิกรรมให้เป็นอภัยทาน ให้ขาดจาการกันในชาตินี้ ข้าพเจ้สจะสำรวมระวังในการคิด การพูด ในการกระทำาต่อไป ข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐานในสิ่งผิดและถอนคำสาบแช่งทุกชนิดที่กระทำด้วยจิตริษยาอาฆาตพยาบาท กระทำด้วยความโลภ ความโกรธ ความหลงจองล้างจองผลาญเบียดเบียนผู้อื่น ด้วยกาย วาจา ใจ โดยมีอวิชาตัณหา อุปาทาน มานะทิฐิโดยรู้เท่าไม่ถึงกาล ข้าพเจ้าขอถอนอธิษฐานสิ่งผิดๆเหล่านี้ณ.บัดนี้ บัดนี้ข้าพเจ้าสำนึกผิดแล้วและจะคอยระวังการพูด การคิด การระวัง ในคราวต่อๆไป ไม่ให้ทำผิดซ้ำอีก พุธธัง ธัมมัง สังฆัง สะรังนังกะฉามิ ต้องรู้จักผิดบาปที่เรากระทำไปชีวิตเราจะได้ดีขึ้นมีอิริโอตะปะ ละอายเกรงกลัวต่อบาป กระทำกรรมชั่ว ต้ององได้รับผลชั่วมุ่งกระทำกรมรดี ที่อ.กล้วยสอนนี้ เป็นความดีอันยิ่งใหญ่ เมื่อมีจิตสูงสุดแล้วให้แผ่เมตตา แผ่เมตตา สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพยาปัชฌา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ขออุทิศส่วนบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วนี้ และก่อนหน้านี้ให้กับเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า ให้บิดามารดา ครูบาอาจารย์ของข้าพเจ้า และสรรพสัตว์ทั้งหลายในทั้ง 3 โลก ให้ญาติมิตรพี่น้อง ให้มิตรสหาย เจ้านายลูกน้อง ให้เทพเทวดาให้พรม ให้ผู้ที่อยู่ในอบายภูมิทั้งปวง และผู้ที่จองล้างจองผลาญ เป็นอริศัตรูของข้าพเจ้ว ขอให้มารับบุญทุกท่าน ขอให้อย่าได้มีความพยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ขอให้มีความสุขความเจริญ พ้นทุกข์พ้นภัยทุกท่าน ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้ตัวข้าพเจ้าเองให้พ้นทุกข์ พ้นกรรมทั้งปวง ให้มีชีวิตที่เจริญยื่งขึ้น ด้วยสุขะ พละและนิพพานเทอญ สาธุ ขอสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงถึงความสุข ปราศจากความทุกข์ ไม่มีเวร ไม่มีภัย ไม่มีความคับแค้นใจ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด cr:อ.กล้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ถ้าจริงนี่พี่คิงส์ต้องถึงกับสตั๊นเลยนะ
    ไม่ต้องทำห่านจิกอะไร เดือนนึงโชว์หน้าพ่น
    ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องรับผิดชอบค่าพนักงาน
    ไม่มีรายจ่ายใดๆที่เกียวกับการบรอดแคส
    ไม่ต้องจ่ายให้อิผจกปูนิติบุคคลหมู่บ้าน
    พวกเมิงได้ตังกันละ มาเสนอหน้า
    เดือนละ 2 รอบ ถ้าเสนอหน้ามากกว่านั้นก็ได้เพิ่ม
    .........................................................................................
    ถ้าข้อมูลนี่จริง
    แล้วที่พวกเมิงบอกว่า ไปขอให้น้องเพิ่มค่าตอบแทน
    และน้องไม่ให้้ เมิงเลยเลือกเวย์มาทางอิ ผจกปูนิติบุคคลหมู่บ้านพี่คิงส์
    แล้วพูดหน้าตาเฉยว่า อยากมั่นคง มั่งคั่งอะนะ
    ได้เฉลี่ยขั้นต่ำ ที่น้องให้ค่าตอบแทน
    เดือนละ กี่หมื่นก็แล้วแต่
    หรือถ้าจะบอกว่าเฉพาะคอสตูมได้สามหมื่น
    หรือบลาๆ ได้เท่าไหร่ก็ไตาม จะหมื่นจะสามหมื่นจะห้าหมื่น
    ถ้าพวกเมิงบอกไม่พอ อีxxx
    ถ้ามีสมองซักนิดนึงนะที่ซุยว่าจบป.ตรีทั้ง 4 คนอะ
    เอาเวลาอีก 20 กว่าวัน ไปทำมาหาแดรกเพิ่มสิ
    ถ้าสิ่งทีน้องเมิงให้ได้จะกี่หมื่นมันยังไม่สามารถสนองตอบต่อความต้องการอันไม่มีที่สุดสุดได้
    นี่คือที่ว่าน้องเมิงมาว่าไม่มีดีเลยเนี่ยนะ
    แล้วก็ไปอยู่ฝั่งคนที่เคยด่ามารดาตัวเองกลางไลฟ์อะนะ
    กรรูว่า เป็นความโลภภแล้วหวว่ะ
    ไม่ใช่ให้น้อย ไม่ใช่ไม่พอ
    แต่ไม่รู้จักพอมากว่า
    อิเวง
    4 NERAKUN
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ถ้าจริงนี่พี่คิงส์ต้องถึงกับสตั๊นเลยนะ ไม่ต้องทำห่านจิกอะไร เดือนนึงโชว์หน้าพ่น ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องรับผิดชอบค่าพนักงาน ไม่มีรายจ่ายใดๆที่เกียวกับการบรอดแคส ไม่ต้องจ่ายให้อิผจกปูนิติบุคคลหมู่บ้าน พวกเมิงได้ตังกันละ มาเสนอหน้า เดือนละ 2 รอบ ถ้าเสนอหน้ามากกว่านั้นก็ได้เพิ่ม ......................................................................................... ถ้าข้อมูลนี่จริง แล้วที่พวกเมิงบอกว่า ไปขอให้น้องเพิ่มค่าตอบแทน และน้องไม่ให้้ เมิงเลยเลือกเวย์มาทางอิ ผจกปูนิติบุคคลหมู่บ้านพี่คิงส์ แล้วพูดหน้าตาเฉยว่า อยากมั่นคง มั่งคั่งอะนะ ได้เฉลี่ยขั้นต่ำ ที่น้องให้ค่าตอบแทน เดือนละ กี่หมื่นก็แล้วแต่ หรือถ้าจะบอกว่าเฉพาะคอสตูมได้สามหมื่น หรือบลาๆ ได้เท่าไหร่ก็ไตาม จะหมื่นจะสามหมื่นจะห้าหมื่น ถ้าพวกเมิงบอกไม่พอ อีxxx ถ้ามีสมองซักนิดนึงนะที่ซุยว่าจบป.ตรีทั้ง 4 คนอะ เอาเวลาอีก 20 กว่าวัน ไปทำมาหาแดรกเพิ่มสิ ถ้าสิ่งทีน้องเมิงให้ได้จะกี่หมื่นมันยังไม่สามารถสนองตอบต่อความต้องการอันไม่มีที่สุดสุดได้ นี่คือที่ว่าน้องเมิงมาว่าไม่มีดีเลยเนี่ยนะ แล้วก็ไปอยู่ฝั่งคนที่เคยด่ามารดาตัวเองกลางไลฟ์อะนะ กรรูว่า เป็นความโลภภแล้วหวว่ะ ไม่ใช่ให้น้อย ไม่ใช่ไม่พอ แต่ไม่รู้จักพอมากว่า อิเวง 4 NERAKUN #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • หากินกับความโลภของมนุษย์ ใช้ได้ทุกยุคสมัย โลภอยากรวย โลภอยากขึ้นสวรรค์ อะไรก็สุดแล้วแต่..
    หากินกับความโลภของมนุษย์ ใช้ได้ทุกยุคสมัย โลภอยากรวย โลภอยากขึ้นสวรรค์ อะไรก็สุดแล้วแต่..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • การบริหารงานแบบ "ดีระดับหนึ่ง" เพื่อสุขภาพจิตที่ดีในยุคแห่งการแข่งขันที่ดุดันนี้ การคาดหวังผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากทีมงานกลายเป็นเรื่องปกติในองค์กร แต่ในทางพุทธศาสตร์และการบริหารที่คำนึงถึงสุขภาพจิต ความคาดหวังที่มากเกินไปอาจนำมาซึ่งความเครียดที่ไม่จำเป็นทั้งในระดับบุคคลและองค์กร---ปัญหาที่เกิดจากความคาดหวัง1. ความเครียดจากการเป็น "ที่หนึ่ง"ความคาดหวังจากหัวหน้าหรือองค์กรให้เป็นเบอร์หนึ่ง อาจสร้างแรงกดดันที่สูงจนทีมงานเสียสุขภาพจิตผลข้างเคียง: เครียด, ไมเกรน, อาการนอนไม่หลับ, และการเบื่อหน่ายงาน2. สุขภาพเสียเพื่อ "ผลลัพธ์ดีเลิศ"แม้จะได้ผลลัพธ์ที่ดีจากการทำงานหนัก แต่ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสุขภาพของทีมงานกลับสูงสิ่งนี้ทำให้องค์กรได้ผลลัพธ์ที่ไม่ยั่งยืน---แนวทางแก้ไข: ใช้ความเพียร แทนความโลภในทางพุทธศาสตร์:"ความโลภ" ในการเป็นเบอร์หนึ่ง ควรถูกแทนที่ด้วย "ความเพียร" ที่ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ความเพียรอย่างตั้งใจโดยไม่ถูกผลลัพธ์ครอบงำ จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีโดยธรรมชาติถ้าผลลัพธ์ "ดีพอ" ในวันของเรา มันอาจกลายเป็น "ดีที่สุด" โดยไม่ต้องฝืน---หลักปฏิบัติสำหรับองค์กร1. ตั้งเป้าหมายที่สมเหตุสมผลเป้าหมายไม่ควรเน้นแต่ "ชัยชนะ" แต่ควรเน้น "กระบวนการที่มีคุณภาพ"ผลลัพธ์ที่ดีจะตามมาเองเมื่อทีมงานทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดี2. สนับสนุนสุขภาพจิตของทีมงานสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ยืดหยุ่นมีการตรวจสอบสุขภาพจิตและร่างกายของทีมงานเป็นระยะ3. ปรับมุมมองของ "ความสำเร็จ"มองความสำเร็จในแง่ของความยั่งยืน ไม่ใช่แค่การเป็นเบอร์หนึ่งให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าของทีมมากกว่าผลลัพธ์สุดท้าย---ข้อคิดจากพุทธศาสตร์การคาดหวังสูงโดยปราศจากเมตตาต่อตัวเองและทีมงาน อาจนำไปสู่ความทุกข์มากกว่าความสำเร็จ"ความดี" ที่ยั่งยืนไม่ได้อยู่ที่การเป็นที่หนึ่งเสมอไป แต่อยู่ที่การทำงานด้วยความเพียรและความสุขใจในกระบวนการผลที่ดีระดับหนึ่ง หากตรงกับเวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสม อาจกลายเป็นผลดีที่สุดได้เองบทสรุป:แทนที่จะคาดคั้นเอาผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ลองเน้นการทำงานด้วย ความเพียรที่สมดุล และ สุขภาพจิตที่ดี ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและดีที่สุดในระยะยาวจะตามมาเอง!
    การบริหารงานแบบ "ดีระดับหนึ่ง" เพื่อสุขภาพจิตที่ดีในยุคแห่งการแข่งขันที่ดุดันนี้ การคาดหวังผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากทีมงานกลายเป็นเรื่องปกติในองค์กร แต่ในทางพุทธศาสตร์และการบริหารที่คำนึงถึงสุขภาพจิต ความคาดหวังที่มากเกินไปอาจนำมาซึ่งความเครียดที่ไม่จำเป็นทั้งในระดับบุคคลและองค์กร---ปัญหาที่เกิดจากความคาดหวัง1. ความเครียดจากการเป็น "ที่หนึ่ง"ความคาดหวังจากหัวหน้าหรือองค์กรให้เป็นเบอร์หนึ่ง อาจสร้างแรงกดดันที่สูงจนทีมงานเสียสุขภาพจิตผลข้างเคียง: เครียด, ไมเกรน, อาการนอนไม่หลับ, และการเบื่อหน่ายงาน2. สุขภาพเสียเพื่อ "ผลลัพธ์ดีเลิศ"แม้จะได้ผลลัพธ์ที่ดีจากการทำงานหนัก แต่ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสุขภาพของทีมงานกลับสูงสิ่งนี้ทำให้องค์กรได้ผลลัพธ์ที่ไม่ยั่งยืน---แนวทางแก้ไข: ใช้ความเพียร แทนความโลภในทางพุทธศาสตร์:"ความโลภ" ในการเป็นเบอร์หนึ่ง ควรถูกแทนที่ด้วย "ความเพียร" ที่ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ความเพียรอย่างตั้งใจโดยไม่ถูกผลลัพธ์ครอบงำ จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีโดยธรรมชาติถ้าผลลัพธ์ "ดีพอ" ในวันของเรา มันอาจกลายเป็น "ดีที่สุด" โดยไม่ต้องฝืน---หลักปฏิบัติสำหรับองค์กร1. ตั้งเป้าหมายที่สมเหตุสมผลเป้าหมายไม่ควรเน้นแต่ "ชัยชนะ" แต่ควรเน้น "กระบวนการที่มีคุณภาพ"ผลลัพธ์ที่ดีจะตามมาเองเมื่อทีมงานทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดี2. สนับสนุนสุขภาพจิตของทีมงานสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ยืดหยุ่นมีการตรวจสอบสุขภาพจิตและร่างกายของทีมงานเป็นระยะ3. ปรับมุมมองของ "ความสำเร็จ"มองความสำเร็จในแง่ของความยั่งยืน ไม่ใช่แค่การเป็นเบอร์หนึ่งให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าของทีมมากกว่าผลลัพธ์สุดท้าย---ข้อคิดจากพุทธศาสตร์การคาดหวังสูงโดยปราศจากเมตตาต่อตัวเองและทีมงาน อาจนำไปสู่ความทุกข์มากกว่าความสำเร็จ"ความดี" ที่ยั่งยืนไม่ได้อยู่ที่การเป็นที่หนึ่งเสมอไป แต่อยู่ที่การทำงานด้วยความเพียรและความสุขใจในกระบวนการผลที่ดีระดับหนึ่ง หากตรงกับเวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสม อาจกลายเป็นผลดีที่สุดได้เองบทสรุป:แทนที่จะคาดคั้นเอาผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ลองเน้นการทำงานด้วย ความเพียรที่สมดุล และ สุขภาพจิตที่ดี ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและดีที่สุดในระยะยาวจะตามมาเอง!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝ่ายหวังยึดคุมทแกล้ว ถอนถอย แผนชั่วหาใช่ชัยชนะพลอย โห่ร้องทหารทุกเหล่าชะลอย ไป่คิด ดีใจหากมุ่งมั่นทำดีพ้อง ปกป้องชาติไทย ประชาชีขอให้เจริญธรรมและสุขสวัสดี ข่าวการ “ถอดถอน” ร่างแก้ไข พรบ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ๒๕๕๑ ของนักการเมืองในระบอบทักษิณ หาใช่เป็น “ชัยชนะ” ของทแกล้วกล้าไทยรักไทยไม่ แต่เป็นเพราะ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์และประชาชนคนไทยไม่เห็นด้วย คนไทยมองเห็นภัยพิบัติของชาติถ้า “นักการเมืองไทย” ควบคุม “กองทัพเหมือนพวกเขาควบคุมข้าราชการประจำอื่นๆ ที่ไม่ใช่ทหาร” มีตัวอย่าง ๑ เรื่องอดีต “ปลัดกระทรวงคมนาคม” มีเงินสดเก็บไว้ในบ้านนับเป็นร้อยๆ ล้าน!:- (เรื่องนี้มิใช่เป็นการประจานซ้ำเติมนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม แต่เป็นบทเรียนเชิงกรณีศึกษาและเปรียบเทียบ)นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม (ที่สายนักการเมืองกลุ่มหนึ่งปั้นขึ้นมา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการทุจริตคอรัปชัน ลองไปหาอ่านเอาเองนะครับ (ใน Thaipublica.Comและไทยโพสต์และอื่นๆ) เหตุเกิดเพราะบ้านนายสุพจน์ถูกโจรกรรม ขโมยเงินไป “๖ ล้านบาท แต่โจรให้การกับตำรวจว่า “ในตู้เสื้อผ้าของนายสุพจน์ยังมีเงินซ่อนไว้อีกมากมาย”เรื่องนี้ผ่านสาธารณะสังคมและสื่อ “ปปช.จึงเข้ามาตรวจสอบพบว่านายสุพจน์ “ร่ำรวยผิดปกติ” และพบว่าผิดจริงตามที่โจรให้การจึงส่งฟ้อง “ศาลฎีกาพิพากษา จำคุก ๑๐ เดือน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม (กรรมการการบินไทยจำกัด ด้วย) ไม่รอลงอาญาและยึดทรัพย์บ้างส่วน (เท่านั้น) เพราะปิดบังบัญชีทรัพย์สินที่ผมหยิบยกเรื่องนี้เพราะว่า “การแต่งตั้งปลัดกระทรวงนั้นอยู่ในอำนาจของ ครม.!งบประมาณของแต่ละกระทรวงเป็นเค็กก้อนใหญ่ สามารถชำแหละแบ่งกันในกลุ่มนักการเมืองที่มีอำนาจรัฐและตามจำนวน ส.ส.ในสภา จึงเป็นที่มาของระบบโควต้าแบ่งปัน)ถ้านักการเมืองคุม “ทหารเพียงคนเดียว” กลุ่มนักการเมืองบางคนบางกลุ่มนั้นนั้น สามารถคุมการทุจริตตลอดแนวชายแดนทั้งประเทศการค้าของเถื่อนจะเฟื่องฟูตลอดแนวชายแดน ยาเสพติด ค้าคน ค้าอาวุธ ค้ารถขโมยและสิ้นค้าเถิ่อนอื่นๆ อีกมากมาย ลองจินตนาการเอาเองนะครับสรุปว่า “เรื่องจริงที่เป็นประวัติศาสตร์การเมือง การทุจริตในประเทศไทย เคยมี นายทหารที่เป็นนายกรัฐมนตรีเอง ๒ ท่านเท่านั้นที่เป็นเผด็จการทหารและเป็นนายกรัฐมนตรีถูกกฎหมายที่ตัวท่านเองสร้างขึ้นมา เอาผิดฐานทุจริตคอรัปชันจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ถูกรัฐบาลจอมพลถนอมยึดทรัพย์ ๖๐๔ ล้านบาทในปี ๒๕๐๖ เข้าคลังและรัฐบาลอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ยึดทรัพย์ จอมพลถนอม กิตติขจร ๔๗๐ ล้านบาทในปี ๒๕๑๖แต่นายทักษิณ ชินวัตร ถูกยึดทรัพย์ ๔๖,๐๐๐ บาทแม้ตัวเงินไม่ได้หรือสามารถวัด “ดีกรีกิเลสความโลภ ความชั่วได้แต่พฤติกรรม “โกงเงินเท่ากัน”ข้อคิด “กรรมมีจริง บาปมีจริง :Vachara Riddhagni ”
    ฝ่ายหวังยึดคุมทแกล้ว ถอนถอย แผนชั่วหาใช่ชัยชนะพลอย โห่ร้องทหารทุกเหล่าชะลอย ไป่คิด ดีใจหากมุ่งมั่นทำดีพ้อง ปกป้องชาติไทย ประชาชีขอให้เจริญธรรมและสุขสวัสดี ข่าวการ “ถอดถอน” ร่างแก้ไข พรบ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ๒๕๕๑ ของนักการเมืองในระบอบทักษิณ หาใช่เป็น “ชัยชนะ” ของทแกล้วกล้าไทยรักไทยไม่ แต่เป็นเพราะ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์และประชาชนคนไทยไม่เห็นด้วย คนไทยมองเห็นภัยพิบัติของชาติถ้า “นักการเมืองไทย” ควบคุม “กองทัพเหมือนพวกเขาควบคุมข้าราชการประจำอื่นๆ ที่ไม่ใช่ทหาร” มีตัวอย่าง ๑ เรื่องอดีต “ปลัดกระทรวงคมนาคม” มีเงินสดเก็บไว้ในบ้านนับเป็นร้อยๆ ล้าน!:- (เรื่องนี้มิใช่เป็นการประจานซ้ำเติมนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม แต่เป็นบทเรียนเชิงกรณีศึกษาและเปรียบเทียบ)นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม (ที่สายนักการเมืองกลุ่มหนึ่งปั้นขึ้นมา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการทุจริตคอรัปชัน ลองไปหาอ่านเอาเองนะครับ (ใน Thaipublica.Comและไทยโพสต์และอื่นๆ) เหตุเกิดเพราะบ้านนายสุพจน์ถูกโจรกรรม ขโมยเงินไป “๖ ล้านบาท แต่โจรให้การกับตำรวจว่า “ในตู้เสื้อผ้าของนายสุพจน์ยังมีเงินซ่อนไว้อีกมากมาย”เรื่องนี้ผ่านสาธารณะสังคมและสื่อ “ปปช.จึงเข้ามาตรวจสอบพบว่านายสุพจน์ “ร่ำรวยผิดปกติ” และพบว่าผิดจริงตามที่โจรให้การจึงส่งฟ้อง “ศาลฎีกาพิพากษา จำคุก ๑๐ เดือน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม (กรรมการการบินไทยจำกัด ด้วย) ไม่รอลงอาญาและยึดทรัพย์บ้างส่วน (เท่านั้น) เพราะปิดบังบัญชีทรัพย์สินที่ผมหยิบยกเรื่องนี้เพราะว่า “การแต่งตั้งปลัดกระทรวงนั้นอยู่ในอำนาจของ ครม.!งบประมาณของแต่ละกระทรวงเป็นเค็กก้อนใหญ่ สามารถชำแหละแบ่งกันในกลุ่มนักการเมืองที่มีอำนาจรัฐและตามจำนวน ส.ส.ในสภา จึงเป็นที่มาของระบบโควต้าแบ่งปัน)ถ้านักการเมืองคุม “ทหารเพียงคนเดียว” กลุ่มนักการเมืองบางคนบางกลุ่มนั้นนั้น สามารถคุมการทุจริตตลอดแนวชายแดนทั้งประเทศการค้าของเถื่อนจะเฟื่องฟูตลอดแนวชายแดน ยาเสพติด ค้าคน ค้าอาวุธ ค้ารถขโมยและสิ้นค้าเถิ่อนอื่นๆ อีกมากมาย ลองจินตนาการเอาเองนะครับสรุปว่า “เรื่องจริงที่เป็นประวัติศาสตร์การเมือง การทุจริตในประเทศไทย เคยมี นายทหารที่เป็นนายกรัฐมนตรีเอง ๒ ท่านเท่านั้นที่เป็นเผด็จการทหารและเป็นนายกรัฐมนตรีถูกกฎหมายที่ตัวท่านเองสร้างขึ้นมา เอาผิดฐานทุจริตคอรัปชันจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ถูกรัฐบาลจอมพลถนอมยึดทรัพย์ ๖๐๔ ล้านบาทในปี ๒๕๐๖ เข้าคลังและรัฐบาลอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ยึดทรัพย์ จอมพลถนอม กิตติขจร ๔๗๐ ล้านบาทในปี ๒๕๑๖แต่นายทักษิณ ชินวัตร ถูกยึดทรัพย์ ๔๖,๐๐๐ บาทแม้ตัวเงินไม่ได้หรือสามารถวัด “ดีกรีกิเลสความโลภ ความชั่วได้แต่พฤติกรรม “โกงเงินเท่ากัน”ข้อคิด “กรรมมีจริง บาปมีจริง :Vachara Riddhagni ”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 459 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระเจ้าพิมพิสาร..ก็มีกรรมหนักถูกเจ้าชายอชาตศัตรูผู้ลูกเกิดความโลภล้นพ้น จับพระบิดาขัง เชือดฝ่าเท้าทาเกลือไม่ให้เดินจงกรม พระเจ้าพิมพิสารท่านคลานจงกรมเอา..
    พระเจ้าพิมพิสาร..ก็มีกรรมหนักถูกเจ้าชายอชาตศัตรูผู้ลูกเกิดความโลภล้นพ้น จับพระบิดาขัง เชือดฝ่าเท้าทาเกลือไม่ให้เดินจงกรม พระเจ้าพิมพิสารท่านคลานจงกรมเอา..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อความโลภบังตา ยามชราก็ต้องนอนตาราง
    ประเทศไทยในเวลานี้มีเรื่องราวที่วุ่นวาย ชวนหนหวยกันเยอะมาก ล่าสุด เกิดคดีฉ้อโกงครั้งใหญ่ ของหมอบุญ นายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรีที่คาดกันว่าอาจมีมูลค่าเสียหายมากถึงระดับหมื่นล้านบาท
    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตํารวจได้สรุปข้อเท็จจริงว่า หมอบุญและพวก มีการระดมทุนชักชวน ให้นายแพทย์บุญ นําไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ 16,000 พันล้านบาท จํานวนห้าโครงการประกอบด้วย โครงการสร้างศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า4 000 ล้านบาท โครงการเวลเนสเซ็นเตอร์ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ําเจ้าพระยา 4-5 พัน ล้านบาท โครงการสร้างโรงพยาบาลในสปป ลาว 3 แห่งรวม 2,000,ล้านบาท โครงการโรงพยาบาลในเวียดนาม 4-5 พันล้านบาท และ โครงการเมดิคอลอินเทเลเจนท์ อําเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี งบลงทุนหนึ่งร้อยล้านบาท
    ซึ่งพฤติกรรมในการหาแหล่งเงินทุนนั้นมีลักษณะการไปกู้ยืมกับแหล่งเงินกู้โดยมีภรรยาและลูกสาวเป็นผู้ค้ําประกัน เซ็นสลักหลังในเช็คทุกฉบับมอบให้ผู้เสียหาย
    หลังเปิดโครงการใหญ่ล่อลวงเหยื่อกระเป๋าหนักกว่า 247 คน โดยอดีตเมียกับลูก เข้ามอบตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาด้วยการอ้างว่าถูกปลอมลายมือชื่อเซ็นค้ําประกันเงินกู้ เมื่อหมอบุญได้หลบหนีออกนอกประเทศเท่ากับว่าคนที่ต้องรับผิดชอบ คือคนในครอบครัวอย่างที่ปรากฏให้เห็น
    ความน่าเชื่อถือที่เคยมีนั้นสูญสลายไปในพริบตาโดยปริยาย สําหรับหมอบุญนั้น ครั้งหนึ่งเคยได้รับยกย่องว่าเป็นฮีโร่ของประเทศไทยในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิดสิบเก้าภายหลังประกาศเตรียมนําเข้าวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์มาให้กับประชาชน แต่กลิ่นแปลกแปลกก็เริ่มเกิดขึ้นเนื่องจากเวลาผ่านไปการนําเข้าวัคซีนของหมอบุญยังไม่เกิดขึ้นแม้แต่เข็มเดียว ทําให้ถูกมองว่าเป็นเพียงการปั่นกระแสเท่านั้น
    ไม่เชื่อก็เชื่อว่าเหตุใดที่คนรวยมหาศาลเป็นเจ้าของโรงพยาบาลที่ดําเนินการภายใต้บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ถึงไม่รู้จักพอเช่นนี้ มองในแง่ทฤษฎีเกี่ยวกับมานุษยวิทยาแน่นอนว่า พื้นฐานของมนุษย์นั้นย่อมมีความต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด คนรวยแล้วก็อยากรวยขึ้นไปอีก ถ้ารวยตามปกติไม่ได้ ก็ต้องหาทางลัด หากินจากความไว้ใจของประชาชนที่มีเพื่อแสวงหาประโยชน์ก่อนเอาทรัพย์สินที่ได้มา ไปนอนเกาะในต่างประเทศ อันเป็นวิธีการพื้นฐานที่โจรในเสื้อสูทนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายสังคมไทยภายใต้ระบบทุนนิยมสุดโต่งเช่นนี้ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    เมื่อความโลภบังตา ยามชราก็ต้องนอนตาราง ประเทศไทยในเวลานี้มีเรื่องราวที่วุ่นวาย ชวนหนหวยกันเยอะมาก ล่าสุด เกิดคดีฉ้อโกงครั้งใหญ่ ของหมอบุญ นายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรีที่คาดกันว่าอาจมีมูลค่าเสียหายมากถึงระดับหมื่นล้านบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตํารวจได้สรุปข้อเท็จจริงว่า หมอบุญและพวก มีการระดมทุนชักชวน ให้นายแพทย์บุญ นําไปลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ 16,000 พันล้านบาท จํานวนห้าโครงการประกอบด้วย โครงการสร้างศูนย์มะเร็งย่านปิ่นเกล้า4 000 ล้านบาท โครงการเวลเนสเซ็นเตอร์ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ําเจ้าพระยา 4-5 พัน ล้านบาท โครงการสร้างโรงพยาบาลในสปป ลาว 3 แห่งรวม 2,000,ล้านบาท โครงการโรงพยาบาลในเวียดนาม 4-5 พันล้านบาท และ โครงการเมดิคอลอินเทเลเจนท์ อําเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี งบลงทุนหนึ่งร้อยล้านบาท ซึ่งพฤติกรรมในการหาแหล่งเงินทุนนั้นมีลักษณะการไปกู้ยืมกับแหล่งเงินกู้โดยมีภรรยาและลูกสาวเป็นผู้ค้ําประกัน เซ็นสลักหลังในเช็คทุกฉบับมอบให้ผู้เสียหาย หลังเปิดโครงการใหญ่ล่อลวงเหยื่อกระเป๋าหนักกว่า 247 คน โดยอดีตเมียกับลูก เข้ามอบตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาด้วยการอ้างว่าถูกปลอมลายมือชื่อเซ็นค้ําประกันเงินกู้ เมื่อหมอบุญได้หลบหนีออกนอกประเทศเท่ากับว่าคนที่ต้องรับผิดชอบ คือคนในครอบครัวอย่างที่ปรากฏให้เห็น ความน่าเชื่อถือที่เคยมีนั้นสูญสลายไปในพริบตาโดยปริยาย สําหรับหมอบุญนั้น ครั้งหนึ่งเคยได้รับยกย่องว่าเป็นฮีโร่ของประเทศไทยในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิดสิบเก้าภายหลังประกาศเตรียมนําเข้าวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์มาให้กับประชาชน แต่กลิ่นแปลกแปลกก็เริ่มเกิดขึ้นเนื่องจากเวลาผ่านไปการนําเข้าวัคซีนของหมอบุญยังไม่เกิดขึ้นแม้แต่เข็มเดียว ทําให้ถูกมองว่าเป็นเพียงการปั่นกระแสเท่านั้น ไม่เชื่อก็เชื่อว่าเหตุใดที่คนรวยมหาศาลเป็นเจ้าของโรงพยาบาลที่ดําเนินการภายใต้บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ถึงไม่รู้จักพอเช่นนี้ มองในแง่ทฤษฎีเกี่ยวกับมานุษยวิทยาแน่นอนว่า พื้นฐานของมนุษย์นั้นย่อมมีความต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด คนรวยแล้วก็อยากรวยขึ้นไปอีก ถ้ารวยตามปกติไม่ได้ ก็ต้องหาทางลัด หากินจากความไว้ใจของประชาชนที่มีเพื่อแสวงหาประโยชน์ก่อนเอาทรัพย์สินที่ได้มา ไปนอนเกาะในต่างประเทศ อันเป็นวิธีการพื้นฐานที่โจรในเสื้อสูทนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายสังคมไทยภายใต้ระบบทุนนิยมสุดโต่งเช่นนี้ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 681 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อความโลภบังตา ยามชราก็ต้องนอนตาราง
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    เมื่อความโลภบังตา ยามชราก็ต้องนอนตาราง #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • สิงโต .. ตัวหนึ่งเห็น, หมาบ้า : เดินใกล้เข้ามามัน.. จึงรีบเดินเลี่ยง, ไปทางอื่นลูกสิงโต, เห็นจึงพูดกับ : พ่อว่า...... “ เจอเสือตัวใหญ่ๆ พ่อ, ยังกล้าสู้กับมันแต่...“ เจอหมาบ้า, ตัวเดียว ”... พ่อ, กลับเดินหลบ“ ช่างขายหน้า..เสียจริง,จริง ”พ่อ : ได้ยินดังนั้น, จึงบอกกับลูกว่า...ลูกพ่อ : การเอาชนะหมา, ตัวหนึ่งนั้น...... เป็นเรื่อง “ มีเกียรตินักหรือ..? ”ลูกสิงโต : ส่ายหัว“ หากโดน, หมาบ้ากัด จะไม่ยิ่งซวย, กว่าหรือ ”ลูกสิงโต : พยักหน้า“ จำไว้น๊ะ..ลูก มิใช่ว่า... ใครทั้งหมดล้วนคู่ควร .. ที่เราจะ “ ต่อกรด้วย ”... ผู้คนในสังคม, ทุกวันนี้...ล้วนตกอยู่ใน... สภาวะที่เครียด, กลัดกลุ้มไม่ว่า... จะเรื่องปากท้อง, ครอบครัวทุกคน... ต่างมี “ ความโลภ, โกรธ, หลง ”... เปรียบเหมือน, มี..“ ขยะอยู่เต็มหัวใจ ”ไม่ว่า... พบใคร, ที่ไหน, มักจะหาโอกาสที่จะ... เทขยะเหล่านี้, ออกไปให้พ้น “ จากตัวเอง ”... ฉะนั้น, อย่าได้ไป..ใส่ใจเลยจง..“ ยิ้มให้กับเค้า ”..แล้วเดินจากไป... ตั้งหน้าตั้งตา, ทำงานของเรา..ให้ลุล่วง... อย่าไปรับ, เอา “ ขยะ ” เหล่านั้น, มาใส่หัวมัน... คู่ควรแล้วหรือ..? สำหรับ..“ ผู้มีปัญญา ”... เรา, จะไม่ไปทะเลาะ เพื่อ..“ เอาชนะ, คนแบบนั้น ”
    สิงโต .. ตัวหนึ่งเห็น, หมาบ้า : เดินใกล้เข้ามามัน.. จึงรีบเดินเลี่ยง, ไปทางอื่นลูกสิงโต, เห็นจึงพูดกับ : พ่อว่า...... “ เจอเสือตัวใหญ่ๆ พ่อ, ยังกล้าสู้กับมันแต่...“ เจอหมาบ้า, ตัวเดียว ”... พ่อ, กลับเดินหลบ“ ช่างขายหน้า..เสียจริง,จริง ”พ่อ : ได้ยินดังนั้น, จึงบอกกับลูกว่า...ลูกพ่อ : การเอาชนะหมา, ตัวหนึ่งนั้น...... เป็นเรื่อง “ มีเกียรตินักหรือ..? ”ลูกสิงโต : ส่ายหัว“ หากโดน, หมาบ้ากัด จะไม่ยิ่งซวย, กว่าหรือ ”ลูกสิงโต : พยักหน้า“ จำไว้น๊ะ..ลูก มิใช่ว่า... ใครทั้งหมดล้วนคู่ควร .. ที่เราจะ “ ต่อกรด้วย ”... ผู้คนในสังคม, ทุกวันนี้...ล้วนตกอยู่ใน... สภาวะที่เครียด, กลัดกลุ้มไม่ว่า... จะเรื่องปากท้อง, ครอบครัวทุกคน... ต่างมี “ ความโลภ, โกรธ, หลง ”... เปรียบเหมือน, มี..“ ขยะอยู่เต็มหัวใจ ”ไม่ว่า... พบใคร, ที่ไหน, มักจะหาโอกาสที่จะ... เทขยะเหล่านี้, ออกไปให้พ้น “ จากตัวเอง ”... ฉะนั้น, อย่าได้ไป..ใส่ใจเลยจง..“ ยิ้มให้กับเค้า ”..แล้วเดินจากไป... ตั้งหน้าตั้งตา, ทำงานของเรา..ให้ลุล่วง... อย่าไปรับ, เอา “ ขยะ ” เหล่านั้น, มาใส่หัวมัน... คู่ควรแล้วหรือ..? สำหรับ..“ ผู้มีปัญญา ”... เรา, จะไม่ไปทะเลาะ เพื่อ..“ เอาชนะ, คนแบบนั้น ”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องหลวงพ่อฤาษีขึ้นไปบนนิพพาน #ฟังพระพุทธองค์ทรงสอนบารมี๑๐ทัศ..." วันนี้ต้องสอนบรรดาท่านพุทธบริษัท เรียกว่าเอากันเฉือนขั้นสุดท้ายเลย เรียกว่าทิ้งทวนหรือทิ้งไพ่ใบสุดท้าย และพุ่งทวนเล่มใหญ่ท้ายสุดที่มีอยู่..🌸นั่นคือคำแนะนำขององค์สมเด็จพระบรมครู ที่เรียกว่า.. บารมี ๑๐ ทัศ* วันนั้นสอนบารมี ๑๐ ทัศ แก่บรรดาท่านพุทธบริษัท ท่านทั้งหลายจะมีความเข้าใจหรือไม่เข้าใจเพียงใด อาตมาก็ไม่ทราบ เพราะสอนไม่ค่อยตรงเป้าหมาย..🌸 เมื่อสอนเสร็จ เวลาผ่านไปก็ดับไฟ สั่งให้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายพากันเจริญพระกรรมฐาน ทรงสติสัมปชัญญะ คือว่า.. ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติให้มั่น กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ใช้คำภาวนา หรือพิจารณาตามอัธยาศัย เพราะการภาวนาก็ดี พิจารณาก็ดี นี่ อาตมาไม่ขัดใจใคร ใครเคยทำแบบไหนคล่องมาแล้ว ให้ทำอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง เพราะอะไร..🌼 เพราะว่า.. การภาวนาหรือพิจารณาที่ทำมาแล้ว ถ้าไม่ผิดก็ไม่ควรจะเปลี่ยน เพราะแบบปฏิบัติมีมากด้วยกัน ไม่จำเป็นว่าจะต้องทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ จึงจะถูก ทำอย่างไรก็ตาม ถ้าปรารภจิตเป็นสมาธิระงับจากนิวรณ์ หรือปรารภจิตเป็นปฏิปักษ์กับขันธ์ ๕ ใช้ได้หมด ถ้าตรงกับแนวคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระบรมสุคตแล้ว อาตมาไม่ปฏิเสธการปฏิบัติของบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน..* เมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัทเริ่มปฏิบัติ อาตมาก็คิดในใจว่า.. ร่างกายไม่ดีแบบนี้ เราจะทนมันอยู่ทำไม ไปเสียจากร่างกายดีกว่า ปล่อยให้มันนั่งอยู่ตรงนี้ พอสัญญาณบอกเวลาปรากฏเราจึงจะกลับมา.* ฉะนั้น จึงไปได้เสียจากกาย ไปไหว้พระ จะไปแบบไหนอันนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท อาตมาไม่บอก บอกไม่ได้.. ไปอย่างไร ไปโดยวิธีไหน อยากรู้ก็ปฏิบัติกันเอาเอง.🌼 แต่ความจริงมันก็ไม่ใช่ของดีเด่นอะไรนัก การไปได้ มาได้ ถ้าใจเหลิงเกินไปก็ลงนรกได้ ไม่ใช่ของพิเศษ เมื่อออกไปแล้วก็พบองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์* นี่ขวางกับชาวบ้านเขาแล้ว เขาบอกว่า.. พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว จะพบได้ยังไง นั่นมันเรื่องของเขา บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย นี่มันเรื่องของอาตมา อาตมาพบกันได้ก็แล้วกัน.🌸 เมื่อพบแล้ว ก็เข้าไปนมัสการองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว พอเงยหน้าขึ้นมา..🌸 พระองค์ก็ทรงตรัสถามว่า : " สัมพเกษี วันนี้เธอสอนบารมี ๑๐ ทัศใช่ไหม.?"🌸 ก็กราบทูลพระองค์ท่านว่า : " ใช่พระพุทธเจ้าข้า "🌸 พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสถามว่า : " สัมพเกษี บารมีแปลว่าอะไร.? ”* ตอนนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ขอได้โปรดทราบว่า.. ถ้าอาตมาสอนถูก พระองค์จะไม่ตรัสแบบนั้น อาตมารู้ทันรู้เท่าเข้าใจทันทีว่า.. การสอนวันนี้ผิดพุทธพจน์บทพระบาลี..🌼 นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท การสอนนี้ ไม่ใช่ว่ามันจะถูกเสมอไป มันก็ผิดได้เหมือนกัน เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตร มีพระพุทธฎีกาตรัสถามแบบนั้น อาตมาก็ทราบ..🌼 จึงได้กราบทูลพระพุทธองค์ว่า : " ข้าพระพุทธเจ้าไม่แน่ใจนัก พระพุทธเจ้าข้า แต่ที่เรียนกันมา ครูสอนว่า บารมี แปลว่า เต็ม "🌼 พระพุทธองค์ จึงตรัสถามว่า : " อะไรมันเต็ม และมันเต็มแบบไหน สมมุติว่า เธอจะปฏิบัติในทานบารมี.. ทำยังไง ทานบารมีมันถึงจะเต็ม ถ้าหากว่า จะนำของมาให้เต็มโลก เธอจะไปขนมาจากไหน.. ถ้าเราไม่นำของมาให้ ทำยังไงทานบารมีมันจึงจะเต็ม "🌼 แบบนี้มันก็อยู่ด้วยกันทั้งนั้นแหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้าคนอย่างอาตมา ถ้าหากว่า ท่านที่เป็นนักปราชญ์ ดีกว่าอาตมาก็ไม่เป็นไร ท่านไปได้ เพราะท่านมีความเข้าใจ ท่านมีความฉลาด อาตมาบอกแล้วนี่ ว่า.. อาตมามีความรู้ไม่เท่าหางอึ่ง คือยาวไม่เท่าหางอึ่ง หรือไม่แค่หางอึ่ง เพราะความโง่มันมาก..🌼 เมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคตรัสแบบนั้น..🌼 ก็ทูลถามพระองค์ว่า : " ข้าพระพุทธเจ้า ไม่เข้าใจในบารมีพระพุทธเจ้าข้า "🌺 พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า : " สัมพเกษี เธอเข้าใจ ไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่ว่าเธอดีแต่เฉพาะบริโภคเองเท่านั้น แต่การที่จะแบ่งปันให้บุคคลอื่นน่ะ เธอไม่มีความฉลาด การที่เธอตั้งกำลังใจในบารมี ๑๐ ทัศ เป็น ๓๐ ทัศ ด้วยกัน ๓ ชั้น เธอทำได้ แต่ว่าวันนี้ เธอสอนท่านบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย เธอทำไม่ถูก เธอจงมีความเข้าใจเสียใหม่ว่า.. คำว่า บารมี มันแปลว่า เต็ม แต่อะไรมันเต็ม ตถาคตจะบอกให้ว่า.. บารมีนี่ควรจะแปลว่า "กำลังใจเต็ม "* นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท จำไว้ให้ดีว่า.. คำว่า บารมี ก็คือกำลังใจ ทำกำลังใจให้เต็ม..🌺 ตอนนี้ซิ ชักจะฉลาดขึ้นมาทันที มานึกในใจว่า เรานี่มันแสนจะโง่เสียมาก🌺 กำลังใจเต็ม ตอนไหน บรรดาท่านพุทธบริษัท ท่านก็ทรงให้ทวนเรื่องบารมี ๑๐ ทัศ ว่ามีอะไรบ้าง อาตมาก็ถวายคำตอบแก่พระองค์ว่า..๑. ทานบารมี๒. ศีลบารมี๓. เนกขัมมบารมี๔. ปัญญาบารมี๕. วิริยบารมี๖. ขันติบารมี๗. สัจจบารมี๘. อธิษฐานบารมี๙. เมตตาบารมี๑๐. อุเบกขาบารมี* องค์สมเด็จพระชินสีห์ จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า : " สัมพเกษีถูกแล้ว บารมีทั้งหมดนี้ใช้กำลังใจ สร้างกำลังใจให้มันทรงอยู่ในใจทั้งหมด ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ ไม่มีอะไรบกพร่องคือ..๑. จิตของเรา พร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ.๒. จิตพร้อมในการทรงศีล..🌻 นี่ซิ บรรดาท่านพุทธบริษัท พร้อมในการทรงศีลเป็นปกติ ไม่ใช่ปล่อยให้ศีลมันหล่นหายไป..๓. จิตพร้อมในการทรง เนกขัมมะ เป็นปกติ..🌻 เนกขัมมะ ก็แปลว่า การถือบวช บวชผมยาว บวชผมสั้น บวชโกนหัว ไม่โกนหัวได้ทั้งนั้น..๔. จิตพร้อมที่จะใช้ ปัญญา เป็นเครื่องประหัตประหารอุปาทานให้พินาศไป..๕. วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ..๖. ขันติ มีทั้งอดทั้งทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์..๗. สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลาว่า เราจะจริงทุกอย่าง ไม่มีอะไรในคำว่าไม่จริงสำหรับเรา ในด้านของการทำความดี..๘. อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะพระนิพพาน๙. เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตน เสมอด้วยบุคคลอื่น๑๐. อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ ในเมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว อย่างที่เธอเป็นในวันนี้..💎 อุเบกขาบารมี ตัวนี้ พระองค์ทรงตรัสว่า : ตรงกับภาษาไทยที่ใช้กันเป็นปกติว่า " ช่างมัน " ขันติบารมีนี่ก็เหมือนกัน ใช้คำว่า " ช่างมัน " ตรงตัวดี..* นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ทั้งหลายโดยถ้วนหน้า วันนี้ยังไม่สอนอะไรบรรดาท่านพุทธบริษัท เรามาคุยกันในคำว่า " บารมี " เสียก่อน เพื่อที่จะให้บรรดาพระโยคาวจรทั้งหลาย ได้ทราบชัดว่า.. บารมีที่องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์ ให้เราสร้างให้มันเต็มนั้น ก็คือ สร้างกำลังใจ ปลูกฝังกำลังใจ ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์สมบูรณ์.. 💎 ไม่ใช่ว่า เราจะมานั่งคิด จะมานอนคิด เราจะมาทรงจิตว่า เอ๊..! บารมีของเรามันไม่มีนี่ ชาติก่อนบารมีของเรามันไม่พอ บารมีของเรายังไม่เต็ม เราจะเป็นพระโสดาบัน สกิทาคา อนาคา อรหันต์ ยังไงได้..* ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย มีความเข้าใจตามนี้ พอยังจะรู้รึยังว่า.. เราจะสามารถะสร้างบารมีได้ ด้วยอาศัยกำลังใจ 💎 ความดีของบรรดาท่านพุทธบริษัท มีกำลังใจอย่างเดียวเท่านั้น ที่เราจะสามารถทำมันให้ดีหรือไม่ดี อันนี้ก็ตรงกับพระบาลีที่องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ในเรื่อง พระจักขุบาล ว่า.." มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา "" ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จด้วยใจ " 💎 นี่ความจริง เรื่องนี้ก็เรียนกันมาแล้วท่านบรรดาพุทธบริษัท แต่เวลาปฏิบัติจริง ๆ ทำไมมันถึงลืมก็ไม่ทราบ..💎 เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย หวังว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน คงจะเข้าใจคำว่า บารมี แล้วอย่าลืม บารมี แปลว่าเต็ม แต่ส่วนที่เราจะทำให้เต็มนั้นก็คือ กำลังใจ ให้กำลังใจมันพร้อม พร้อมที่จะทรงความดีในด้านบารมีไว้..💎 ถ้ากำลังใจของเราพร้อมทรงบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ครบถ้วนเพียงใด บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ความเป็นพระอริยเจ้าเป็นของง่าย..* ที่นำบารมีทั้ง ๑๐ ประการ มากล่าวในตอนนี้ ก็เพราะว่า.. ในตอนต้น พูดเรื่องพระโสดาบันเข้าไว้ เห็นว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายอาจจะคิดว่า.. แหม.. มันยากเกินไป ถ้ากำลังใจในการสร้างตนเป็นพระโสดาบัน มันยังครบถ้วนไม่ได้ ก็หันมาจัดการกับบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ให้มันครบถ้วนบริบูรณ์..* ทาน การให้ เป็นการตัดความโลภ.* ศีล เราก็ตัดความโกรธ* เนกขัมมะ ตัดอารมณ์ของกามคุณ* ปัญญา ตัดความโง่* วิริยะ ตัดความขี้เกียจ* ขันติ ตัดความไม่รู้จักการอดทน* สัจจะ ตัดความไม่จริงใจ มีอารมณ์ใจกลับกลอก* อธิษฐาน ทรงกำลังไว้ให้สมบูรณ์บริบูรณ์* เมตตา สร้างความเยือกเย็นของจิตใจ* อุเบกขา วางเฉยเข้าไว้ในเรื่องของกาย เราไม่ปรารภ🌺 เท่านี้แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทสมบูรณ์เพียงใด คำว่า.. พระโสดาบัน นั้น บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จะรู้สึกว่าง่ายเกินไปสำหรับบรรดาท่านพุทธบริษัท..🌼 ทำไมจึงว่าอย่างนั้น.. ก็เพราะว่า คนที่มีบารมีเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ มีกำลังใจเต็มทุกอย่างใน ๑๐ ประการนี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เรียกว่า "พระโสดาบัน" แล้ว ท่านเรียกว่าอะไร.. ท่านเรียกว่า "พระขีณาสพ" แปลว่า ผู้มีอาสวะอันสิ้นไปแล้ว หรือเรียกว่า "พระอรหัตผล" เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนาอันดับสูงสุด เข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้..🌸 เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้..🌷 ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทุกท่าน สวัสดี..."( จากหนังสือ *บารมี ๑๐* โดย พระราชพรหมยานฯ หน้าที่ ๘-๑๖ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี) #ที่มานิพพานังปรมังสุขัง.
    #เรื่องหลวงพ่อฤาษีขึ้นไปบนนิพพาน #ฟังพระพุทธองค์ทรงสอนบารมี๑๐ทัศ..." วันนี้ต้องสอนบรรดาท่านพุทธบริษัท เรียกว่าเอากันเฉือนขั้นสุดท้ายเลย เรียกว่าทิ้งทวนหรือทิ้งไพ่ใบสุดท้าย และพุ่งทวนเล่มใหญ่ท้ายสุดที่มีอยู่..🌸นั่นคือคำแนะนำขององค์สมเด็จพระบรมครู ที่เรียกว่า.. บารมี ๑๐ ทัศ* วันนั้นสอนบารมี ๑๐ ทัศ แก่บรรดาท่านพุทธบริษัท ท่านทั้งหลายจะมีความเข้าใจหรือไม่เข้าใจเพียงใด อาตมาก็ไม่ทราบ เพราะสอนไม่ค่อยตรงเป้าหมาย..🌸 เมื่อสอนเสร็จ เวลาผ่านไปก็ดับไฟ สั่งให้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายพากันเจริญพระกรรมฐาน ทรงสติสัมปชัญญะ คือว่า.. ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติให้มั่น กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ใช้คำภาวนา หรือพิจารณาตามอัธยาศัย เพราะการภาวนาก็ดี พิจารณาก็ดี นี่ อาตมาไม่ขัดใจใคร ใครเคยทำแบบไหนคล่องมาแล้ว ให้ทำอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง เพราะอะไร..🌼 เพราะว่า.. การภาวนาหรือพิจารณาที่ทำมาแล้ว ถ้าไม่ผิดก็ไม่ควรจะเปลี่ยน เพราะแบบปฏิบัติมีมากด้วยกัน ไม่จำเป็นว่าจะต้องทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ จึงจะถูก ทำอย่างไรก็ตาม ถ้าปรารภจิตเป็นสมาธิระงับจากนิวรณ์ หรือปรารภจิตเป็นปฏิปักษ์กับขันธ์ ๕ ใช้ได้หมด ถ้าตรงกับแนวคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระบรมสุคตแล้ว อาตมาไม่ปฏิเสธการปฏิบัติของบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน..* เมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัทเริ่มปฏิบัติ อาตมาก็คิดในใจว่า.. ร่างกายไม่ดีแบบนี้ เราจะทนมันอยู่ทำไม ไปเสียจากร่างกายดีกว่า ปล่อยให้มันนั่งอยู่ตรงนี้ พอสัญญาณบอกเวลาปรากฏเราจึงจะกลับมา.* ฉะนั้น จึงไปได้เสียจากกาย ไปไหว้พระ จะไปแบบไหนอันนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท อาตมาไม่บอก บอกไม่ได้.. ไปอย่างไร ไปโดยวิธีไหน อยากรู้ก็ปฏิบัติกันเอาเอง.🌼 แต่ความจริงมันก็ไม่ใช่ของดีเด่นอะไรนัก การไปได้ มาได้ ถ้าใจเหลิงเกินไปก็ลงนรกได้ ไม่ใช่ของพิเศษ เมื่อออกไปแล้วก็พบองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์* นี่ขวางกับชาวบ้านเขาแล้ว เขาบอกว่า.. พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว จะพบได้ยังไง นั่นมันเรื่องของเขา บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย นี่มันเรื่องของอาตมา อาตมาพบกันได้ก็แล้วกัน.🌸 เมื่อพบแล้ว ก็เข้าไปนมัสการองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว พอเงยหน้าขึ้นมา..🌸 พระองค์ก็ทรงตรัสถามว่า : " สัมพเกษี วันนี้เธอสอนบารมี ๑๐ ทัศใช่ไหม.?"🌸 ก็กราบทูลพระองค์ท่านว่า : " ใช่พระพุทธเจ้าข้า "🌸 พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสถามว่า : " สัมพเกษี บารมีแปลว่าอะไร.? ”* ตอนนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ขอได้โปรดทราบว่า.. ถ้าอาตมาสอนถูก พระองค์จะไม่ตรัสแบบนั้น อาตมารู้ทันรู้เท่าเข้าใจทันทีว่า.. การสอนวันนี้ผิดพุทธพจน์บทพระบาลี..🌼 นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท การสอนนี้ ไม่ใช่ว่ามันจะถูกเสมอไป มันก็ผิดได้เหมือนกัน เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตร มีพระพุทธฎีกาตรัสถามแบบนั้น อาตมาก็ทราบ..🌼 จึงได้กราบทูลพระพุทธองค์ว่า : " ข้าพระพุทธเจ้าไม่แน่ใจนัก พระพุทธเจ้าข้า แต่ที่เรียนกันมา ครูสอนว่า บารมี แปลว่า เต็ม "🌼 พระพุทธองค์ จึงตรัสถามว่า : " อะไรมันเต็ม และมันเต็มแบบไหน สมมุติว่า เธอจะปฏิบัติในทานบารมี.. ทำยังไง ทานบารมีมันถึงจะเต็ม ถ้าหากว่า จะนำของมาให้เต็มโลก เธอจะไปขนมาจากไหน.. ถ้าเราไม่นำของมาให้ ทำยังไงทานบารมีมันจึงจะเต็ม "🌼 แบบนี้มันก็อยู่ด้วยกันทั้งนั้นแหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้าคนอย่างอาตมา ถ้าหากว่า ท่านที่เป็นนักปราชญ์ ดีกว่าอาตมาก็ไม่เป็นไร ท่านไปได้ เพราะท่านมีความเข้าใจ ท่านมีความฉลาด อาตมาบอกแล้วนี่ ว่า.. อาตมามีความรู้ไม่เท่าหางอึ่ง คือยาวไม่เท่าหางอึ่ง หรือไม่แค่หางอึ่ง เพราะความโง่มันมาก..🌼 เมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคตรัสแบบนั้น..🌼 ก็ทูลถามพระองค์ว่า : " ข้าพระพุทธเจ้า ไม่เข้าใจในบารมีพระพุทธเจ้าข้า "🌺 พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า : " สัมพเกษี เธอเข้าใจ ไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่ว่าเธอดีแต่เฉพาะบริโภคเองเท่านั้น แต่การที่จะแบ่งปันให้บุคคลอื่นน่ะ เธอไม่มีความฉลาด การที่เธอตั้งกำลังใจในบารมี ๑๐ ทัศ เป็น ๓๐ ทัศ ด้วยกัน ๓ ชั้น เธอทำได้ แต่ว่าวันนี้ เธอสอนท่านบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย เธอทำไม่ถูก เธอจงมีความเข้าใจเสียใหม่ว่า.. คำว่า บารมี มันแปลว่า เต็ม แต่อะไรมันเต็ม ตถาคตจะบอกให้ว่า.. บารมีนี่ควรจะแปลว่า "กำลังใจเต็ม "* นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท จำไว้ให้ดีว่า.. คำว่า บารมี ก็คือกำลังใจ ทำกำลังใจให้เต็ม..🌺 ตอนนี้ซิ ชักจะฉลาดขึ้นมาทันที มานึกในใจว่า เรานี่มันแสนจะโง่เสียมาก🌺 กำลังใจเต็ม ตอนไหน บรรดาท่านพุทธบริษัท ท่านก็ทรงให้ทวนเรื่องบารมี ๑๐ ทัศ ว่ามีอะไรบ้าง อาตมาก็ถวายคำตอบแก่พระองค์ว่า..๑. ทานบารมี๒. ศีลบารมี๓. เนกขัมมบารมี๔. ปัญญาบารมี๕. วิริยบารมี๖. ขันติบารมี๗. สัจจบารมี๘. อธิษฐานบารมี๙. เมตตาบารมี๑๐. อุเบกขาบารมี* องค์สมเด็จพระชินสีห์ จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า : " สัมพเกษีถูกแล้ว บารมีทั้งหมดนี้ใช้กำลังใจ สร้างกำลังใจให้มันทรงอยู่ในใจทั้งหมด ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ ไม่มีอะไรบกพร่องคือ..๑. จิตของเรา พร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ.๒. จิตพร้อมในการทรงศีล..🌻 นี่ซิ บรรดาท่านพุทธบริษัท พร้อมในการทรงศีลเป็นปกติ ไม่ใช่ปล่อยให้ศีลมันหล่นหายไป..๓. จิตพร้อมในการทรง เนกขัมมะ เป็นปกติ..🌻 เนกขัมมะ ก็แปลว่า การถือบวช บวชผมยาว บวชผมสั้น บวชโกนหัว ไม่โกนหัวได้ทั้งนั้น..๔. จิตพร้อมที่จะใช้ ปัญญา เป็นเครื่องประหัตประหารอุปาทานให้พินาศไป..๕. วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ..๖. ขันติ มีทั้งอดทั้งทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์..๗. สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลาว่า เราจะจริงทุกอย่าง ไม่มีอะไรในคำว่าไม่จริงสำหรับเรา ในด้านของการทำความดี..๘. อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะพระนิพพาน๙. เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตน เสมอด้วยบุคคลอื่น๑๐. อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ ในเมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว อย่างที่เธอเป็นในวันนี้..💎 อุเบกขาบารมี ตัวนี้ พระองค์ทรงตรัสว่า : ตรงกับภาษาไทยที่ใช้กันเป็นปกติว่า " ช่างมัน " ขันติบารมีนี่ก็เหมือนกัน ใช้คำว่า " ช่างมัน " ตรงตัวดี..* นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ทั้งหลายโดยถ้วนหน้า วันนี้ยังไม่สอนอะไรบรรดาท่านพุทธบริษัท เรามาคุยกันในคำว่า " บารมี " เสียก่อน เพื่อที่จะให้บรรดาพระโยคาวจรทั้งหลาย ได้ทราบชัดว่า.. บารมีที่องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์ ให้เราสร้างให้มันเต็มนั้น ก็คือ สร้างกำลังใจ ปลูกฝังกำลังใจ ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์สมบูรณ์.. 💎 ไม่ใช่ว่า เราจะมานั่งคิด จะมานอนคิด เราจะมาทรงจิตว่า เอ๊..! บารมีของเรามันไม่มีนี่ ชาติก่อนบารมีของเรามันไม่พอ บารมีของเรายังไม่เต็ม เราจะเป็นพระโสดาบัน สกิทาคา อนาคา อรหันต์ ยังไงได้..* ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย มีความเข้าใจตามนี้ พอยังจะรู้รึยังว่า.. เราจะสามารถะสร้างบารมีได้ ด้วยอาศัยกำลังใจ 💎 ความดีของบรรดาท่านพุทธบริษัท มีกำลังใจอย่างเดียวเท่านั้น ที่เราจะสามารถทำมันให้ดีหรือไม่ดี อันนี้ก็ตรงกับพระบาลีที่องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ในเรื่อง พระจักขุบาล ว่า.." มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา "" ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จด้วยใจ " 💎 นี่ความจริง เรื่องนี้ก็เรียนกันมาแล้วท่านบรรดาพุทธบริษัท แต่เวลาปฏิบัติจริง ๆ ทำไมมันถึงลืมก็ไม่ทราบ..💎 เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย หวังว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน คงจะเข้าใจคำว่า บารมี แล้วอย่าลืม บารมี แปลว่าเต็ม แต่ส่วนที่เราจะทำให้เต็มนั้นก็คือ กำลังใจ ให้กำลังใจมันพร้อม พร้อมที่จะทรงความดีในด้านบารมีไว้..💎 ถ้ากำลังใจของเราพร้อมทรงบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ครบถ้วนเพียงใด บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ความเป็นพระอริยเจ้าเป็นของง่าย..* ที่นำบารมีทั้ง ๑๐ ประการ มากล่าวในตอนนี้ ก็เพราะว่า.. ในตอนต้น พูดเรื่องพระโสดาบันเข้าไว้ เห็นว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายอาจจะคิดว่า.. แหม.. มันยากเกินไป ถ้ากำลังใจในการสร้างตนเป็นพระโสดาบัน มันยังครบถ้วนไม่ได้ ก็หันมาจัดการกับบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ให้มันครบถ้วนบริบูรณ์..* ทาน การให้ เป็นการตัดความโลภ.* ศีล เราก็ตัดความโกรธ* เนกขัมมะ ตัดอารมณ์ของกามคุณ* ปัญญา ตัดความโง่* วิริยะ ตัดความขี้เกียจ* ขันติ ตัดความไม่รู้จักการอดทน* สัจจะ ตัดความไม่จริงใจ มีอารมณ์ใจกลับกลอก* อธิษฐาน ทรงกำลังไว้ให้สมบูรณ์บริบูรณ์* เมตตา สร้างความเยือกเย็นของจิตใจ* อุเบกขา วางเฉยเข้าไว้ในเรื่องของกาย เราไม่ปรารภ🌺 เท่านี้แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทสมบูรณ์เพียงใด คำว่า.. พระโสดาบัน นั้น บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จะรู้สึกว่าง่ายเกินไปสำหรับบรรดาท่านพุทธบริษัท..🌼 ทำไมจึงว่าอย่างนั้น.. ก็เพราะว่า คนที่มีบารมีเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ มีกำลังใจเต็มทุกอย่างใน ๑๐ ประการนี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เรียกว่า "พระโสดาบัน" แล้ว ท่านเรียกว่าอะไร.. ท่านเรียกว่า "พระขีณาสพ" แปลว่า ผู้มีอาสวะอันสิ้นไปแล้ว หรือเรียกว่า "พระอรหัตผล" เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนาอันดับสูงสุด เข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้..🌸 เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้..🌷 ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทุกท่าน สวัสดี..."( จากหนังสือ *บารมี ๑๐* โดย พระราชพรหมยานฯ หน้าที่ ๘-๑๖ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี) #ที่มานิพพานังปรมังสุขัง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1089 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทาน เป็นเครื่องกำจัดกิเลสอย่างหยาบ คือ ความโลภ เพราะการให้ทานเป็นการลดความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ถี่เหนียว และความคับแคบในจิตใจให้น้อยลง ทำให้เราไม่ยึดติดในวัตถุสิ่งของ อีกทั้งสิ่งที่เราบริจาคหรือให้ทานแก่ผู้อื่น ก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นประโยชน์ต่อผู้รับและสังคมโดยส่วนรวม ผู้ที่ได้บุญจากทานมัยย่อมเป็นคน .
    ทาน เป็นเครื่องกำจัดกิเลสอย่างหยาบ คือ ความโลภ เพราะการให้ทานเป็นการลดความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ถี่เหนียว และความคับแคบในจิตใจให้น้อยลง ทำให้เราไม่ยึดติดในวัตถุสิ่งของ อีกทั้งสิ่งที่เราบริจาคหรือให้ทานแก่ผู้อื่น ก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและเป็นประโยชน์ต่อผู้รับและสังคมโดยส่วนรวม ผู้ที่ได้บุญจากทานมัยย่อมเป็นคน .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ อย่าอยู่ด้วยความโลภ หลงนะ ให้อยู่กับความดี ศิล ธรรม
    เรามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ อย่าอยู่ด้วยความโลภ หลงนะ ให้อยู่กับความดี ศิล ธรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความโลภของนักการเมือง คือขายแผ่นดิน ล้มล้างแผ่นดิน เพื่อผลประโยชน์ของตน
    ความโลภของนักการเมือง คือขายแผ่นดิน ล้มล้างแผ่นดิน เพื่อผลประโยชน์ของตน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำลายคนมามากแล้ว ...ความโลภ ...มีแล้ว อยากมีอีก...เพราะเสพติดการมั่งมี...สุดท้าย ไม่เลือกวิธีการ...
    ทำลายคนมามากแล้ว ...ความโลภ ...มีแล้ว อยากมีอีก...เพราะเสพติดการมั่งมี...สุดท้าย ไม่เลือกวิธีการ...
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องฉาวโฉ่ ทนายตั้ม คนต่ำซาม
    หลงเพลินกาม แล้วยึดมั่น ในตัณหา
    เรื่องศีลธรรม เกรงกลัวบาป ไม่นำพา
    แสวงหา ด้วยความโลภ สนองกาม

    วิบากตาม เจตนากรรม มันส่งผล
    ให้ชีวิต ต้องดิ่งลง วัฏฐสงสาร
    เนรคุณ คนใจดี เหลือประมาณ
    จึงต้องทุุกข์ ทรมาน ไปจนตาย

    จดจำไว้ เป็นบทเรียน อย่าทำบาป
    ความกตัญญู นั้นหายาก มีความหมาย
    เป็นหนึ่งใน ห้ารัตนะ ส่องประกาย
    เป็นทนาย มีศีลธรรม รู้คุณคน
    เรื่องฉาวโฉ่ ทนายตั้ม คนต่ำซาม หลงเพลินกาม แล้วยึดมั่น ในตัณหา เรื่องศีลธรรม เกรงกลัวบาป ไม่นำพา แสวงหา ด้วยความโลภ สนองกาม วิบากตาม เจตนากรรม มันส่งผล ให้ชีวิต ต้องดิ่งลง วัฏฐสงสาร เนรคุณ คนใจดี เหลือประมาณ จึงต้องทุุกข์ ทรมาน ไปจนตาย จดจำไว้ เป็นบทเรียน อย่าทำบาป ความกตัญญู นั้นหายาก มีความหมาย เป็นหนึ่งใน ห้ารัตนะ ส่องประกาย เป็นทนาย มีศีลธรรม รู้คุณคน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พี่อ้อย-จตุพร อุบลเลิศ” เป็นใคร มาจากไหน
    .
    วันนี้เรามาฟังความจริงที่มีหนึ่งเดียว จากผม สนธิ ลิ้มทองกุล ที่จะขอเปิดตัว "คุณอ้อย" จตุพร อุบลเลิศ ทุกคนสงสัยว่าคุณอ้อย รวยมาจากไหน ถึงหลงกลโอนเงินลงทุนไปให้ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้มากมายมหาศาลถึง 71 ล้านบาท แล้วทนายตั้ม ก็อ้างว่าให้โดยเสน่หา ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
    .
    "พี่อ้อย จตุพร" ทุกวันนี้อายุ 58-59 ปีแล้ว เป็นชาวอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยกำเนิด คุณพ่อเป็นตำรวจชั้นประทวน ยศจ่าสิบตำรวจ คุณแม่เป็นชาวนา ชื่อ สมพิศ อุบลเลิศ ชีวิตวัยเด็กเต็มไปด้วยความยากลำบาก พ่อแม่แยกทางกัน ส่วนตัวคุณอ้อยเองนั้นจบแค่ ป.6 จากโรงเรียนประถมในอำเภอปากช่อง ก่อนจะออกมาทำงานเร่ขายถั่วต้มกับเพื่อนสนิทที่รักกันมาก ก็คือ "พี่น้อย" ซึ่งปัจจุบันเป็นเลขาฯ คุณอ้อย
    .
    หลังจากนั้นแล้วต่างคนต่างแยกย้ายไป พี่อ้อย ได้สามีเป็นคนเยอรมัน ไปอยู่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่อายุ 21 ปี ส่วนพี่น้อยทำงานคุมบ่อทราย คุมรถเข้า-ออก ดูเอกสารหลักฐาน ดูบัญชี เขาทำอะไรละเอียดลออ จดจำวันที่ วัน ว. เวลา น. เก็บหลักฐานเอกสารต่างๆ ไว้ครบถ้วนหมด ด้วยเหตุนี้ ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พี่อ้อยเปลี่ยนสถานภาพเป็นมหาเศรษฐินีขึ้นมา ก็เลยดึงพี่น้อยมาเป็นเลขาฯส่วนตัว มอบหมายให้จัดการเรื่องราวต่างๆ
    .
    แกร่ำรวยขึ้นมา มีข่าวจากสื่อฝรั่งเศสกรณีผู้ถูกรางวัลล็อตเตอรียูโร จำนวน 157 ล้านยูโร หรือราวๆ เกือบ 6,000 ล้านบาท เมื่อปี 2563 พอแกร่ำรวยขึ้นมาก็เกิดความสำนึกรักบ้านเกิดมาก เอาเงินซื้อวัคซีนที่มาฉีดให้คนปากช่อง กันโรคระบาด มีทั้งรถกู้ภัย รถพยาบาล แต่สิ่งที่พี่อ้อย หรือคุณจตุพร ทุ่มเทให้มากที่สุดนั้น คือโรงเรียนเก่าที่เคยเรียน ชื่อว่าโรงเรียนวัดขนงพระเหนือ จึงเริ่มการสนับสนุนโรงเรียนแห่งนี้ก่อนที่จะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีเสียด้วยซ้ำ รวมจากวันนั้นถึงวันนี้ ร้อยกว่าล้านบาท จนได้รับฉายาจากครูอาจารย์ ชาวบ้านในพื้นที่ ว่าเป็น "นางฟ้าเดินดิน"
    .
    คณะอาจารย์โรงเรียนวัดขนงพระเหนือได้พูดกับคุณนพรัฐ พรวนสุข ขอใช้สิทธิ์พาดพิงและขอชี้แจงไปยังสื่อ (คือคุณหมาแก่ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์) เพราะรู้ว่าออกข่าวด้อยค่าโรงเรียนอย่างขาดความเข้าใจ
    .
    นอกจากนี้ บนผนังอาคาร มีภาพถ่ายของษิทรา เบี้ยบังเกิด มาร่วมพิธีที่โรงเรียน พวกครู คณะครูเขาบอกว่ามั่นใจว่าจะไม่ได้เห็นทนายตั้มอีกแล้ว และกรุณาไม่อยากให้กลับมา เพราะสิ่งที่ทนายตั้มกระทำกับพี่อ้อยนั้น เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่สุด ทำไมคนดีๆระดับนางฟ้าเดินดิน ต้องมาถูกฉ้อโกงจากทนายตั้ม ที่พี่อ้อยให้ใจและไว้วางใจ
    .
    พี่อ้อยเป็นคนมีจิตสำนึกที่ดี จิตใจงดงามที่เป็นบุญเป็นกุศล และผมเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นบุญหนุนส่งให้พี่อ้อยโชคดีขนาดนี้ ก่อนที่จะโชคร้ายมาเจอคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด และคนที่เจอคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด โชคร้ายทุกคน
    .
    คุณษิทรา คุณรู้หรือเปล่า สิ่งที่คุณทำกับเขาไม่ใช่การเนรคุณกับพี่อ้อย จตุพร คนที่เคยไว้ใจคุณ มีพระคุณกับคุณ อายบ้างไหม ว่าความโลภของคุณมันได้ทำร้ายตัวคุณเอง แต่ยังทำร้ายคนจำนวนมาก
    “พี่อ้อย-จตุพร อุบลเลิศ” เป็นใคร มาจากไหน . วันนี้เรามาฟังความจริงที่มีหนึ่งเดียว จากผม สนธิ ลิ้มทองกุล ที่จะขอเปิดตัว "คุณอ้อย" จตุพร อุบลเลิศ ทุกคนสงสัยว่าคุณอ้อย รวยมาจากไหน ถึงหลงกลโอนเงินลงทุนไปให้ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ได้มากมายมหาศาลถึง 71 ล้านบาท แล้วทนายตั้ม ก็อ้างว่าให้โดยเสน่หา ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด . "พี่อ้อย จตุพร" ทุกวันนี้อายุ 58-59 ปีแล้ว เป็นชาวอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยกำเนิด คุณพ่อเป็นตำรวจชั้นประทวน ยศจ่าสิบตำรวจ คุณแม่เป็นชาวนา ชื่อ สมพิศ อุบลเลิศ ชีวิตวัยเด็กเต็มไปด้วยความยากลำบาก พ่อแม่แยกทางกัน ส่วนตัวคุณอ้อยเองนั้นจบแค่ ป.6 จากโรงเรียนประถมในอำเภอปากช่อง ก่อนจะออกมาทำงานเร่ขายถั่วต้มกับเพื่อนสนิทที่รักกันมาก ก็คือ "พี่น้อย" ซึ่งปัจจุบันเป็นเลขาฯ คุณอ้อย . หลังจากนั้นแล้วต่างคนต่างแยกย้ายไป พี่อ้อย ได้สามีเป็นคนเยอรมัน ไปอยู่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่อายุ 21 ปี ส่วนพี่น้อยทำงานคุมบ่อทราย คุมรถเข้า-ออก ดูเอกสารหลักฐาน ดูบัญชี เขาทำอะไรละเอียดลออ จดจำวันที่ วัน ว. เวลา น. เก็บหลักฐานเอกสารต่างๆ ไว้ครบถ้วนหมด ด้วยเหตุนี้ ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พี่อ้อยเปลี่ยนสถานภาพเป็นมหาเศรษฐินีขึ้นมา ก็เลยดึงพี่น้อยมาเป็นเลขาฯส่วนตัว มอบหมายให้จัดการเรื่องราวต่างๆ . แกร่ำรวยขึ้นมา มีข่าวจากสื่อฝรั่งเศสกรณีผู้ถูกรางวัลล็อตเตอรียูโร จำนวน 157 ล้านยูโร หรือราวๆ เกือบ 6,000 ล้านบาท เมื่อปี 2563 พอแกร่ำรวยขึ้นมาก็เกิดความสำนึกรักบ้านเกิดมาก เอาเงินซื้อวัคซีนที่มาฉีดให้คนปากช่อง กันโรคระบาด มีทั้งรถกู้ภัย รถพยาบาล แต่สิ่งที่พี่อ้อย หรือคุณจตุพร ทุ่มเทให้มากที่สุดนั้น คือโรงเรียนเก่าที่เคยเรียน ชื่อว่าโรงเรียนวัดขนงพระเหนือ จึงเริ่มการสนับสนุนโรงเรียนแห่งนี้ก่อนที่จะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีเสียด้วยซ้ำ รวมจากวันนั้นถึงวันนี้ ร้อยกว่าล้านบาท จนได้รับฉายาจากครูอาจารย์ ชาวบ้านในพื้นที่ ว่าเป็น "นางฟ้าเดินดิน" . คณะอาจารย์โรงเรียนวัดขนงพระเหนือได้พูดกับคุณนพรัฐ พรวนสุข ขอใช้สิทธิ์พาดพิงและขอชี้แจงไปยังสื่อ (คือคุณหมาแก่ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์) เพราะรู้ว่าออกข่าวด้อยค่าโรงเรียนอย่างขาดความเข้าใจ . นอกจากนี้ บนผนังอาคาร มีภาพถ่ายของษิทรา เบี้ยบังเกิด มาร่วมพิธีที่โรงเรียน พวกครู คณะครูเขาบอกว่ามั่นใจว่าจะไม่ได้เห็นทนายตั้มอีกแล้ว และกรุณาไม่อยากให้กลับมา เพราะสิ่งที่ทนายตั้มกระทำกับพี่อ้อยนั้น เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่สุด ทำไมคนดีๆระดับนางฟ้าเดินดิน ต้องมาถูกฉ้อโกงจากทนายตั้ม ที่พี่อ้อยให้ใจและไว้วางใจ . พี่อ้อยเป็นคนมีจิตสำนึกที่ดี จิตใจงดงามที่เป็นบุญเป็นกุศล และผมเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเป็นบุญหนุนส่งให้พี่อ้อยโชคดีขนาดนี้ ก่อนที่จะโชคร้ายมาเจอคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด และคนที่เจอคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด โชคร้ายทุกคน . คุณษิทรา คุณรู้หรือเปล่า สิ่งที่คุณทำกับเขาไม่ใช่การเนรคุณกับพี่อ้อย จตุพร คนที่เคยไว้ใจคุณ มีพระคุณกับคุณ อายบ้างไหม ว่าความโลภของคุณมันได้ทำร้ายตัวคุณเอง แต่ยังทำร้ายคนจำนวนมาก
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 992 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts