• ศึกฟุตบอล พรีเมียใจร์ลีก อังกฤษ 2025-2026 วันเสาร์ 22 พฤศจิกายน 2568 เวลา 22:00 น. ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 8 เปิดแอนฟิลด์รับมือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมอันดับ 19
    ครึ่งแรก ฟอเรสต์ ออกนำลิเวอร์พูลก่อน 1 : 0 จากลูกยิงของ มูริลโล ในนาทีที่ 33
    ครึ่งหลัง ฟอเรสต์ ได้ลูกที่ 2 จากซาโวนา ในนาทีที่ 46 และนาทีที่ 78 กิบส์-ไวต์ มายิงเพิ่มเป็น 3 : 0 ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูลแพ้เป็นนัดที่ 6 ลงมาอยู่อันดับที่ 11 ของตาราง
    ศึกฟุตบอล พรีเมียใจร์ลีก อังกฤษ 2025-2026 วันเสาร์ 22 พฤศจิกายน 2568 เวลา 22:00 น. ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 8 เปิดแอนฟิลด์รับมือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมอันดับ 19 ครึ่งแรก ฟอเรสต์ ออกนำลิเวอร์พูลก่อน 1 : 0 จากลูกยิงของ มูริลโล ในนาทีที่ 33 ครึ่งหลัง ฟอเรสต์ ได้ลูกที่ 2 จากซาโวนา ในนาทีที่ 46 และนาทีที่ 78 กิบส์-ไวต์ มายิงเพิ่มเป็น 3 : 0 ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูลแพ้เป็นนัดที่ 6 ลงมาอยู่อันดับที่ 11 ของตาราง
    0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251121 #TechRadar

    ปราบปรามบริการโฮสติ้งเถื่อน
    มีการร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ในการจัดการกับบริษัท Media Land จากรัสเซีย ซึ่งให้บริการโฮสติ้งแบบ “bulletproof” ที่ถูกใช้โดยกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ เช่น Evil Corp และ LockBit เพื่อทำฟิชชิ่ง ปล่อยมัลแวร์ และโจมตี DDoS โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทถูกยึด และผู้นำหลักถูกลงโทษทางการเงิน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศพันธมิตรจะไม่ปล่อยให้กลุ่มเหล่านี้ทำงานในเงามืดได้อีก
    https://www.techradar.com/pro/security/another-bulletproof-hosting-service-has-been-locked-down-by-global-law-forces

    เน็ตพกพายุคใหม่จาก Netgear
    Netgear เปิดตัว Nighthawk 5G M7 อุปกรณ์ฮอตสปอตที่รองรับ Wi-Fi 7 สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันถึง 32 เครื่อง ความเร็วระดับกิกะบิต และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ราว 10 ชั่วโมง จุดเด่นคือรองรับ global eSIM ใช้งานได้กว่า 140 ประเทศ เหมาะกับคนเดินทางบ่อย ไม่ต้องพึ่งมือถือเป็นฮอตสปอตอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/rip-mobile-hotspots-netgears-new-nighthawk-5g-m7-features-wi-fi-7-connectivity-and-even-global-esim-support

    ความวุ่นวายในทะเลแดงกระทบสายเคเบิลโลก
    ความไม่สงบในทะเลแดงทำให้โครงการวางสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ เช่น 2Africa ของ Meta และ Blue-Raman ของ Google ต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้การเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเกิดความล่าช้า ผู้ให้บริการบางรายเริ่มพิจารณาเส้นทางใหม่บนบกผ่านซาอุดีอาระเบียและอิรัก แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อนทางการเมือง แต่ก็อาจเป็นทางออกเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/more-internet-outages-on-the-way-google-and-meta-delay-subsea-cable-plans-due-to-sabotage-fears

    SSD พกพาไร้สายจาก Kingston
    Kingston เปิดตัว Dual Portable SSD ที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ มาพร้อมหัว USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050MB/s และเขียน 950MB/s มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียง 13 กรัม แต่จุได้สูงสุดถึง 2TB รองรับหลายระบบปฏิบัติการ เหมาะกับคนที่ต้องการพกข้อมูลไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพกสายให้ยุ่งยาก
    https://www.techradar.com/pro/goodbye-pesky-cables-kingston-reveals-new-wire-free-portable-ssd-offering-up-to-2tb-storage-and-up-to-1-050-mb-s-data-transfers-and-itll-fit-into-even-your-smallest-pocket

    Android จับมือ AirDrop ของ Apple
    สิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงก็เกิดแล้ว! Google ประกาศว่า Quick Share ของ Android สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้แล้ว เริ่มต้นที่ Pixel 10 ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iPhone, iPad, Mac สะดวกขึ้นมาก แม้ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องเปิดโหมด “Everyone for 10 minutes” แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้กำแพงระหว่างสองระบบเริ่มพังลง
    https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/its-actually-happened-android-now-works-with-apple-airdrop-for-simple-file-sharing-starting-with-the-pixel-10

    ช่องโหว่ในเบราว์เซอร์ AI ของ Perplexity
    มีรายงานว่า Comet AI Browser ของ Perplexity อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการสิทธิ์และ sandbox ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหากไม่อัปเดตหรือใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติม
    https://www.techradar.com/pro/security/perplexitys-comet-ai-browser-may-have-some-concerning-security-flaws-which-could-let-hacker-hijack-your-device

    Twitch ใช้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันอายุ
    Twitch เริ่มทดสอบระบบ Facial Age Scan ในสหราชอาณาจักร เพื่อยืนยันอายุผู้ใช้งานก่อนเข้าถึงคอนเทนต์ที่จำกัดอายุ แม้จะช่วยป้องกันเด็กเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติว่าจะถูกนำไปใช้อย่างไร
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/twitch-introduces-facial-age-scans-in-the-uk-amid-growing-privacy-concerns

    บริษัทยักษ์ใหญ่ IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
    บริษัทเกมและการพนันระดับโลก IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ทำให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลอาจถูกเข้ารหัสหรือขโมยไป เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าธุรกิจบันเทิงและการพนันก็เป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่นกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/gaming-and-gambling-giant-igt-reportedly-hit-by-ransomware-heres-what-we-know

    Google เปิดตัว Nano Banana Pro สำหรับแก้ไขภาพด้วย AI
    Google เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ใช้พลังของ Gemini 3 Pro ในการแก้ไขภาพขั้นสูง เช่น การปรับรายละเอียด การลบวัตถุ หรือการสร้างองค์ประกอบใหม่ในภาพ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านการแก้ไขภาพด้วย AI ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเทคโนโลยีระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/google-launches-nano-banana-pro-a-massive-leap-in-ai-image-editing-powered-by-gemini-3-pro

    ปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมเจอช่องโหว่
    ปลั๊กอิน WordPress ที่มีผู้ติดตั้งมากกว่าล้านครั้งถูกพบว่ามีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือควบคุมเว็บไซต์ได้ เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องหมั่นอัปเดตปลั๊กอินและตรวจสอบความปลอดภัยอยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/pro/security/wordpress-plugin-with-over-a-million-installs-may-have-a-worrying-security-flaw-heres-what-we-know

    ช่องโหว่ใหม่ใน Fortinet ถูกโจมตีแล้ว
    Fortinet ยอมรับว่าพบ zero-day ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเองก็ยังเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ และผู้ใช้ควรเร่งอัปเดตแพตช์ทันทีที่มีการปล่อยออกมา
    https://www.techradar.com/pro/security/fortinet-admits-it-found-another-worrying-zero-day-being-exploited-in-attacks

    ที่จับ MagSafe สุดแปลกแต่ใช้ง่าย
    มีการเปิดตัว MagSafe iPhone Grip ที่ดีไซน์แปลกตา แต่กลับใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกคน จุดเด่นคือช่วยให้ถือ iPhone ได้มั่นคงขึ้นโดยไม่ต้องใช้เคสหนา ๆ และยังถอดออกได้สะดวก เหมาะกับคนที่อยากได้อุปกรณ์เสริมที่ไม่ซ้ำใคร
    https://www.techradar.com/phones/iphone/this-may-be-the-oddest-yet-most-accessible-magsafe-iphone-grip-ever-made

    กลุ่ม PlushDaemon จากจีนโจมตีซัพพลายเชนโลก
    กลุ่มแฮกเกอร์ PlushDaemon ใช้มัลแวร์ชื่อ SlowStepper ผ่าน implant ที่เรียกว่า EdgeStepper เพื่อเจาะเข้าอุปกรณ์เครือข่ายในหลายประเทศ ถือเป็นการโจมตีซัพพลายเชนที่ซับซ้อนและอันตราย เพราะสามารถกระทบต่อองค์กรทั่วโลกได้พร้อมกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/chinas-plushdaemon-group-uses-edgestepper-implant-to-infect-network-devices-with-slowstepper-malware-in-global-supply-chain-attacks

    แอปช้อปปิ้งสหรัฐฯ ดูดข้อมูลมากกว่าใคร
    รายงานใหม่เผยว่าแอปช้อปปิ้งจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Amazon เป็นแอปที่เก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด ทั้งข้อมูลส่วนตัวและพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งมากกว่าแอปจากจีนที่หลายคนกังวลกันอยู่แล้ว ทำให้เกิดคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลของผู้บริโภค
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/forget-beijing-its-us-shopping-apps-that-are-sucking-up-your-privacy-and-amazon-is-the-most-data-hungry

    Leica Q3 Monochrom กล้องขาวดำสุดหรู
    Leica เปิดตัว Q3 Monochrom กล้องที่ถ่ายได้เฉพาะภาพขาวดำ ราคาหลายพันดอลลาร์ แต่กลับได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะคุณภาพไฟล์และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเชิงศิลป์และต้องการความแตกต่างจากกล้องทั่วไป
    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/leicas-q3-monochrom-costs-thousands-and-only-shoots-black-and-white-but-thats-only-made-me-want-one-more

    รีโมท Google TV รุ่นใหม่ใช้พลังงานจากแสงในบ้าน

    Google เตรียมเปิดตัวอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมรีโมทซึ่งสามารถชาร์จพลังงานจากแสงในบ้านได้ ไม่ต้องใช้ถ่านหรือชาร์จสายอีกต่อไป ถือเป็นการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนถ่านบ่อย ๆ
    https://www.techradar.com/televisions/streaming-devices/your-next-google-tv-device-could-come-with-a-remote-powered-by-indoor-light-and-im-definitely-a-fan

    ซีอีโอ Microsoft ด้าน AI ตอบโต้เสียงวิจารณ์ Windows 11
    ซีอีโอฝ่าย AI ของ Microsoft ออกมาโต้ตอบเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับทิศทางใหม่ของ Windows 11 โดยบอกว่าคำวิจารณ์เหล่านั้น “mind-blowing” และยืนยันว่าการนำ AI เข้ามาในระบบปฏิบัติการจะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะมีผู้ใช้บางส่วนที่ยังไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนี้
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    หลุดไลน์อัพสมาร์ทโฟน Samsung ปี 2026
    มีข้อมูลหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยคาดว่าจะมีการอัปเกรดทั้งด้านกล้อง หน้าจอ และประสิทธิภาพการทำงาน รายละเอียดบางส่วนยังไม่แน่ชัด แต่ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่รอคอยการเปิดตัว
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsungs-2026-smartphone-lineup-just-leaked-heres-what-to-expect-and-when

    รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมท้าทายกฎหมาย AI ของรัฐต่าง ๆ
    ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ มีแผนจะใช้ อำนาจรัฐบาลกลาง เพื่อตรวจสอบและท้าทายกฎหมาย AI ที่ออกโดยรัฐต่าง ๆ เนื่องจากกังวลว่ากฎหมายเหล่านี้อาจขัดแย้งกันและสร้างความยุ่งยากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในระดับประเทศ
    https://www.techradar.com/pro/security/trump-administration-wants-to-use-federal-power-to-challenge-state-ai-laws

    การกลับมาของ VPN ฟรีที่เป็นอันตราย
    มีการพบว่า VPN ฟรีบางตัว ที่เคยถูกแบนเพราะมีพฤติกรรมอันตราย ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว การใช้ VPN ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเปิดช่องให้ข้อมูลส่วนตัวถูกขโมยได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/malicious-free-vpn-extension-makes-a-comeback

    iPhone 17 Pro แจกฟรีกับโปร Verizon
    Verizon จัดโปรแรง แจกมือถือฟรี รวมถึง iPhone 17 Pro ให้ลูกค้าเมื่อสมัครแพ็กเกจที่กำหนด ถือเป็นดีลที่ดึงดูดใจมาก แต่ก็มีเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเหมาะกับการใช้งานจริงหรือไม่
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    ประสบการณ์เล่น Stalker 2: Heart of Chornobyl
    นักเขียนรีวิวเล่าประสบการณ์การเล่นเกม Stalker 2: Heart of Chornobyl บน PS5 ที่ใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมงในการเอาชีวิตรอดในโลกหลังหายนะ เกมนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและบรรยากาศกดดัน แต่ก็สนุกและสมจริงสำหรับแฟนเกมแนว survival
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    Microsoft Flex โชว์ทักษะโค้ดของ Copilot
    Microsoft สาธิตความสามารถของ Copilot ในการช่วยเขียนโค้ด แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้ไม่เห็นด้วยกับการใช้ AI ในงานพัฒนาโปรแกรม บางคนมองว่าเป็นการลดคุณค่าของนักพัฒนา แต่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    Nvidia รีบปล่อยแพตช์แก้ปัญหา GPU บน Windows 11
    หลังจากการอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคม ทำให้เกมหลายเกมมีอาการหน่วง Nvidia จึงรีบออกแพตช์แก้ไขเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ GPU ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ การแก้ไขนี้ช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rushes-out-a-gpu-fix-blaming-windows-11s-october-update-for-sluggish-performance-in-games

    Nokia แยกธุรกิจ AI หลังได้ทุนจาก Nvidia
    Nokia ประกาศแยกธุรกิจใหม่ด้าน AI สำหรับเครือข่ายมือถือ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2026 หลังจากที่ Nvidia ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี 6G บริษัทตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก และหวังสร้างเครือข่ายมือถือที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก พร้อมคาดการณ์การเติบโตของรายได้ต่อปี 6-8% จนถึงปี 2028
    https://www.techradar.com/pro/nokia-is-splitting-off-its-ai-business-weeks-after-usd1bn-nvidia-investment

    หุ่นยนต์ส่งอาหารของ Uber Eats
    Uber Eats จับมือกับบริษัท Starship Technologies เพื่อเริ่มใช้หุ่นยนต์ส่งอาหารในสหราชอาณาจักร โดยเริ่มทดลองที่เมือง Leeds และจะขยายไปยัง Sheffield รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในยุโรปปี 2026 และสหรัฐฯ ปี 2027 หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถส่งอาหารได้ภายใน 30 นาทีในระยะทางไม่เกิน 2 ไมล์ ลูกค้าจะไม่สามารถให้ทิปหุ่นยนต์ได้ แต่สามารถให้คะแนนผ่านแอปเหมือนการส่งปกติ ถือเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการขนส่งในเมืองยุคอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/uber-eats-will-soon-use-robots-to-deliver-your-takeaway-but-you-cant-tip-them

    ChatGPT Atlas อัปเดตใหญ่ครั้งแรก
    ChatGPT Atlas ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยเพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้จะอยากลองใช้ทันที ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล, การทำงานร่วมกับเครื่องมือภายนอกได้ดีขึ้น และการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานให้ลื่นไหลมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับแพลตฟอร์ม AI ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-atlas-just-got-its-first-major-update-3-new-features-youll-want-to-use

    Samsung เพิ่มระบบป้องกันขโมยใน One UI 8.5
    Samsung เตรียมอัปเดต One UI 8.5 ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรมมือถือ เช่น การล็อกเครื่องแม้ถูกรีเซ็ต และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการพยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและอุปกรณ์ของตนเอง
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phone-is-about-to-get-a-big-theft-protection-boost-thanks-to-one-ui-8-5-heres-how

    คนทำงานสายครีเอทีฟชอบ AI แต่ก็มีปัญหา
    รายงานจาก Dropbox พบว่าคนทำงานสายครีเอทีฟใช้เครื่องมือเฉลี่ยถึง 14 ตัว ทำให้เกิดความซับซ้อนและเสียเวลา แม้ว่า 95% ของคนกลุ่มนี้จะใช้ AI เพื่อช่วยงาน เช่น การระดมไอเดีย สรุปการประชุม และค้นหาข้อมูล แต่ AI ยังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะบางครั้งไม่เข้าใจบริบทของงานจริง ๆ หากสามารถลดจำนวนเครื่องมือและใช้ AI ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มเวลาสร้างสรรค์งานได้มากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/creative-workers-love-ai-but-it-is-causing-more-issues-than-expected
    📌📰🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📰📌 #รวมข่าวIT #20251121 #TechRadar 🛡️ ปราบปรามบริการโฮสติ้งเถื่อน มีการร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ในการจัดการกับบริษัท Media Land จากรัสเซีย ซึ่งให้บริการโฮสติ้งแบบ “bulletproof” ที่ถูกใช้โดยกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ เช่น Evil Corp และ LockBit เพื่อทำฟิชชิ่ง ปล่อยมัลแวร์ และโจมตี DDoS โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทถูกยึด และผู้นำหลักถูกลงโทษทางการเงิน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศพันธมิตรจะไม่ปล่อยให้กลุ่มเหล่านี้ทำงานในเงามืดได้อีก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/another-bulletproof-hosting-service-has-been-locked-down-by-global-law-forces 📶 เน็ตพกพายุคใหม่จาก Netgear Netgear เปิดตัว Nighthawk 5G M7 อุปกรณ์ฮอตสปอตที่รองรับ Wi-Fi 7 สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันถึง 32 เครื่อง ความเร็วระดับกิกะบิต และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ราว 10 ชั่วโมง จุดเด่นคือรองรับ global eSIM ใช้งานได้กว่า 140 ประเทศ เหมาะกับคนเดินทางบ่อย ไม่ต้องพึ่งมือถือเป็นฮอตสปอตอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/rip-mobile-hotspots-netgears-new-nighthawk-5g-m7-features-wi-fi-7-connectivity-and-even-global-esim-support 🌊 ความวุ่นวายในทะเลแดงกระทบสายเคเบิลโลก ความไม่สงบในทะเลแดงทำให้โครงการวางสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ เช่น 2Africa ของ Meta และ Blue-Raman ของ Google ต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้การเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเกิดความล่าช้า ผู้ให้บริการบางรายเริ่มพิจารณาเส้นทางใหม่บนบกผ่านซาอุดีอาระเบียและอิรัก แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อนทางการเมือง แต่ก็อาจเป็นทางออกเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/more-internet-outages-on-the-way-google-and-meta-delay-subsea-cable-plans-due-to-sabotage-fears 💾 SSD พกพาไร้สายจาก Kingston Kingston เปิดตัว Dual Portable SSD ที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ มาพร้อมหัว USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050MB/s และเขียน 950MB/s มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียง 13 กรัม แต่จุได้สูงสุดถึง 2TB รองรับหลายระบบปฏิบัติการ เหมาะกับคนที่ต้องการพกข้อมูลไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพกสายให้ยุ่งยาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/goodbye-pesky-cables-kingston-reveals-new-wire-free-portable-ssd-offering-up-to-2tb-storage-and-up-to-1-050-mb-s-data-transfers-and-itll-fit-into-even-your-smallest-pocket 🤝 Android จับมือ AirDrop ของ Apple สิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงก็เกิดแล้ว! Google ประกาศว่า Quick Share ของ Android สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้แล้ว เริ่มต้นที่ Pixel 10 ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iPhone, iPad, Mac สะดวกขึ้นมาก แม้ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องเปิดโหมด “Everyone for 10 minutes” แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้กำแพงระหว่างสองระบบเริ่มพังลง 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/its-actually-happened-android-now-works-with-apple-airdrop-for-simple-file-sharing-starting-with-the-pixel-10 ⚠️ ช่องโหว่ในเบราว์เซอร์ AI ของ Perplexity มีรายงานว่า Comet AI Browser ของ Perplexity อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการสิทธิ์และ sandbox ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหากไม่อัปเดตหรือใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/perplexitys-comet-ai-browser-may-have-some-concerning-security-flaws-which-could-let-hacker-hijack-your-device 🧑‍💻 Twitch ใช้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันอายุ Twitch เริ่มทดสอบระบบ Facial Age Scan ในสหราชอาณาจักร เพื่อยืนยันอายุผู้ใช้งานก่อนเข้าถึงคอนเทนต์ที่จำกัดอายุ แม้จะช่วยป้องกันเด็กเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติว่าจะถูกนำไปใช้อย่างไร 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/twitch-introduces-facial-age-scans-in-the-uk-amid-growing-privacy-concerns 🎰 บริษัทยักษ์ใหญ่ IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ บริษัทเกมและการพนันระดับโลก IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ทำให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลอาจถูกเข้ารหัสหรือขโมยไป เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าธุรกิจบันเทิงและการพนันก็เป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/gaming-and-gambling-giant-igt-reportedly-hit-by-ransomware-heres-what-we-know 🖼️ Google เปิดตัว Nano Banana Pro สำหรับแก้ไขภาพด้วย AI Google เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ใช้พลังของ Gemini 3 Pro ในการแก้ไขภาพขั้นสูง เช่น การปรับรายละเอียด การลบวัตถุ หรือการสร้างองค์ประกอบใหม่ในภาพ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านการแก้ไขภาพด้วย AI ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเทคโนโลยีระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/google-launches-nano-banana-pro-a-massive-leap-in-ai-image-editing-powered-by-gemini-3-pro 🔒 ปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมเจอช่องโหว่ ปลั๊กอิน WordPress ที่มีผู้ติดตั้งมากกว่าล้านครั้งถูกพบว่ามีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือควบคุมเว็บไซต์ได้ เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องหมั่นอัปเดตปลั๊กอินและตรวจสอบความปลอดภัยอยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/wordpress-plugin-with-over-a-million-installs-may-have-a-worrying-security-flaw-heres-what-we-know 🛡️ ช่องโหว่ใหม่ใน Fortinet ถูกโจมตีแล้ว Fortinet ยอมรับว่าพบ zero-day ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเองก็ยังเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ และผู้ใช้ควรเร่งอัปเดตแพตช์ทันทีที่มีการปล่อยออกมา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/fortinet-admits-it-found-another-worrying-zero-day-being-exploited-in-attacks 📱 ที่จับ MagSafe สุดแปลกแต่ใช้ง่าย มีการเปิดตัว MagSafe iPhone Grip ที่ดีไซน์แปลกตา แต่กลับใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกคน จุดเด่นคือช่วยให้ถือ iPhone ได้มั่นคงขึ้นโดยไม่ต้องใช้เคสหนา ๆ และยังถอดออกได้สะดวก เหมาะกับคนที่อยากได้อุปกรณ์เสริมที่ไม่ซ้ำใคร 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/this-may-be-the-oddest-yet-most-accessible-magsafe-iphone-grip-ever-made 🐉 กลุ่ม PlushDaemon จากจีนโจมตีซัพพลายเชนโลก กลุ่มแฮกเกอร์ PlushDaemon ใช้มัลแวร์ชื่อ SlowStepper ผ่าน implant ที่เรียกว่า EdgeStepper เพื่อเจาะเข้าอุปกรณ์เครือข่ายในหลายประเทศ ถือเป็นการโจมตีซัพพลายเชนที่ซับซ้อนและอันตราย เพราะสามารถกระทบต่อองค์กรทั่วโลกได้พร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinas-plushdaemon-group-uses-edgestepper-implant-to-infect-network-devices-with-slowstepper-malware-in-global-supply-chain-attacks 🛍️ แอปช้อปปิ้งสหรัฐฯ ดูดข้อมูลมากกว่าใคร รายงานใหม่เผยว่าแอปช้อปปิ้งจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Amazon เป็นแอปที่เก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด ทั้งข้อมูลส่วนตัวและพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งมากกว่าแอปจากจีนที่หลายคนกังวลกันอยู่แล้ว ทำให้เกิดคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลของผู้บริโภค 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/forget-beijing-its-us-shopping-apps-that-are-sucking-up-your-privacy-and-amazon-is-the-most-data-hungry 📷 Leica Q3 Monochrom กล้องขาวดำสุดหรู Leica เปิดตัว Q3 Monochrom กล้องที่ถ่ายได้เฉพาะภาพขาวดำ ราคาหลายพันดอลลาร์ แต่กลับได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะคุณภาพไฟล์และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเชิงศิลป์และต้องการความแตกต่างจากกล้องทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/leicas-q3-monochrom-costs-thousands-and-only-shoots-black-and-white-but-thats-only-made-me-want-one-more 📺 รีโมท Google TV รุ่นใหม่ใช้พลังงานจากแสงในบ้าน Google เตรียมเปิดตัวอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมรีโมทซึ่งสามารถชาร์จพลังงานจากแสงในบ้านได้ ไม่ต้องใช้ถ่านหรือชาร์จสายอีกต่อไป ถือเป็นการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนถ่านบ่อย ๆ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/streaming-devices/your-next-google-tv-device-could-come-with-a-remote-powered-by-indoor-light-and-im-definitely-a-fan 💻 ซีอีโอ Microsoft ด้าน AI ตอบโต้เสียงวิจารณ์ Windows 11 ซีอีโอฝ่าย AI ของ Microsoft ออกมาโต้ตอบเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับทิศทางใหม่ของ Windows 11 โดยบอกว่าคำวิจารณ์เหล่านั้น “mind-blowing” และยืนยันว่าการนำ AI เข้ามาในระบบปฏิบัติการจะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะมีผู้ใช้บางส่วนที่ยังไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนี้ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 📱 หลุดไลน์อัพสมาร์ทโฟน Samsung ปี 2026 มีข้อมูลหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยคาดว่าจะมีการอัปเกรดทั้งด้านกล้อง หน้าจอ และประสิทธิภาพการทำงาน รายละเอียดบางส่วนยังไม่แน่ชัด แต่ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่รอคอยการเปิดตัว 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsungs-2026-smartphone-lineup-just-leaked-heres-what-to-expect-and-when ⚖️ รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมท้าทายกฎหมาย AI ของรัฐต่าง ๆ ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ มีแผนจะใช้ อำนาจรัฐบาลกลาง เพื่อตรวจสอบและท้าทายกฎหมาย AI ที่ออกโดยรัฐต่าง ๆ เนื่องจากกังวลว่ากฎหมายเหล่านี้อาจขัดแย้งกันและสร้างความยุ่งยากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในระดับประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/trump-administration-wants-to-use-federal-power-to-challenge-state-ai-laws 🌐 การกลับมาของ VPN ฟรีที่เป็นอันตราย มีการพบว่า VPN ฟรีบางตัว ที่เคยถูกแบนเพราะมีพฤติกรรมอันตราย ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว การใช้ VPN ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเปิดช่องให้ข้อมูลส่วนตัวถูกขโมยได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/malicious-free-vpn-extension-makes-a-comeback 📱 iPhone 17 Pro แจกฟรีกับโปร Verizon Verizon จัดโปรแรง แจกมือถือฟรี รวมถึง iPhone 17 Pro ให้ลูกค้าเมื่อสมัครแพ็กเกจที่กำหนด ถือเป็นดีลที่ดึงดูดใจมาก แต่ก็มีเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเหมาะกับการใช้งานจริงหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🎮 ประสบการณ์เล่น Stalker 2: Heart of Chornobyl นักเขียนรีวิวเล่าประสบการณ์การเล่นเกม Stalker 2: Heart of Chornobyl บน PS5 ที่ใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมงในการเอาชีวิตรอดในโลกหลังหายนะ เกมนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและบรรยากาศกดดัน แต่ก็สนุกและสมจริงสำหรับแฟนเกมแนว survival 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🖥️ Microsoft Flex โชว์ทักษะโค้ดของ Copilot Microsoft สาธิตความสามารถของ Copilot ในการช่วยเขียนโค้ด แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้ไม่เห็นด้วยกับการใช้ AI ในงานพัฒนาโปรแกรม บางคนมองว่าเป็นการลดคุณค่าของนักพัฒนา แต่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🎮 Nvidia รีบปล่อยแพตช์แก้ปัญหา GPU บน Windows 11 หลังจากการอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคม ทำให้เกมหลายเกมมีอาการหน่วง Nvidia จึงรีบออกแพตช์แก้ไขเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ GPU ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ การแก้ไขนี้ช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rushes-out-a-gpu-fix-blaming-windows-11s-october-update-for-sluggish-performance-in-games 📡 Nokia แยกธุรกิจ AI หลังได้ทุนจาก Nvidia Nokia ประกาศแยกธุรกิจใหม่ด้าน AI สำหรับเครือข่ายมือถือ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2026 หลังจากที่ Nvidia ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี 6G บริษัทตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก และหวังสร้างเครือข่ายมือถือที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก พร้อมคาดการณ์การเติบโตของรายได้ต่อปี 6-8% จนถึงปี 2028 🔗 https://www.techradar.com/pro/nokia-is-splitting-off-its-ai-business-weeks-after-usd1bn-nvidia-investment 🛵 หุ่นยนต์ส่งอาหารของ Uber Eats Uber Eats จับมือกับบริษัท Starship Technologies เพื่อเริ่มใช้หุ่นยนต์ส่งอาหารในสหราชอาณาจักร โดยเริ่มทดลองที่เมือง Leeds และจะขยายไปยัง Sheffield รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในยุโรปปี 2026 และสหรัฐฯ ปี 2027 หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถส่งอาหารได้ภายใน 30 นาทีในระยะทางไม่เกิน 2 ไมล์ ลูกค้าจะไม่สามารถให้ทิปหุ่นยนต์ได้ แต่สามารถให้คะแนนผ่านแอปเหมือนการส่งปกติ ถือเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการขนส่งในเมืองยุคอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/uber-eats-will-soon-use-robots-to-deliver-your-takeaway-but-you-cant-tip-them 🤖 ChatGPT Atlas อัปเดตใหญ่ครั้งแรก ChatGPT Atlas ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยเพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้จะอยากลองใช้ทันที ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล, การทำงานร่วมกับเครื่องมือภายนอกได้ดีขึ้น และการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานให้ลื่นไหลมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับแพลตฟอร์ม AI ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-atlas-just-got-its-first-major-update-3-new-features-youll-want-to-use 🔒 Samsung เพิ่มระบบป้องกันขโมยใน One UI 8.5 Samsung เตรียมอัปเดต One UI 8.5 ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรมมือถือ เช่น การล็อกเครื่องแม้ถูกรีเซ็ต และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการพยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและอุปกรณ์ของตนเอง 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phone-is-about-to-get-a-big-theft-protection-boost-thanks-to-one-ui-8-5-heres-how 🎨 คนทำงานสายครีเอทีฟชอบ AI แต่ก็มีปัญหา รายงานจาก Dropbox พบว่าคนทำงานสายครีเอทีฟใช้เครื่องมือเฉลี่ยถึง 14 ตัว ทำให้เกิดความซับซ้อนและเสียเวลา แม้ว่า 95% ของคนกลุ่มนี้จะใช้ AI เพื่อช่วยงาน เช่น การระดมไอเดีย สรุปการประชุม และค้นหาข้อมูล แต่ AI ยังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะบางครั้งไม่เข้าใจบริบทของงานจริง ๆ หากสามารถลดจำนวนเครื่องมือและใช้ AI ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มเวลาสร้างสรรค์งานได้มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/creative-workers-love-ai-but-it-is-causing-more-issues-than-expected
    0 Comments 0 Shares 338 Views 0 Reviews
  • ข่าวใหญ่: Cloudflare ล่มทั่วโลก กระทบหลายบริการออนไลน์

    ในช่วงค่ำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 มีรายงานว่า Cloudflare ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตระดับโลกประสบปัญหาขัดข้องครั้งใหญ่ ส่งผลให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมากไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ทั้งแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ อย่าง X (Twitter เดิม), Canva, Gemini, Perplexity รวมถึงเว็บไซต์ติดตามสถานะการล่มอย่าง Downdetector ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกต่างพากันรายงานปัญหาในเวลาใกล้เคียงกัน

    Cloudflare ยืนยันว่ากำลังตรวจสอบสาเหตุและเร่งแก้ไข โดยเบื้องต้นพบว่าเกิด HTTP 500 errors และระบบ Dashboard รวมถึง API ของ Cloudflare เองก็ไม่สามารถใช้งานได้ ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ Cloudflare ที่เป็นเสมือน “โครงสร้างพื้นฐานหลัก” ของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ เพราะเว็บไซต์จำนวนมหาศาลพึ่งพาบริการของบริษัทนี้ในการป้องกัน DDoS, การจัดการทราฟฟิก และการกระจายคอนเทนต์

    ผลกระทบครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โซเชียลมีเดีย แต่ยังลามไปถึง บริการธุรกิจออนไลน์และเว็บส่วนตัว ที่ใช้ระบบของ Cloudflare ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากไม่สามารถเข้าสู่ระบบหรือทำธุรกรรมได้ตามปกติ นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่าปัญหานี้อาจเกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาระบบที่ทำให้เกิดความผิดพลาดในโครงสร้างเครือข่าย แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ

    สิ่งที่น่าสนใจคือ เหตุการณ์นี้ตอกย้ำความเสี่ยงของการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานจากผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่เจ้า เมื่อเกิดการล่มเพียงครั้งเดียวสามารถสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั่วโลก คล้ายกับเหตุการณ์ AWS ล่มในอดีตที่ทำให้หลายบริการหยุดชะงักไปหลายชั่วโมง
    ====================
    update 22:30

    สาเหตุเบื้องต้นที่ Cloudflare เปิดเผยคือ การพุ่งขึ้นผิดปกติของทราฟฟิก (unusual traffic spike) ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 11:20 UTC ทำให้บางส่วนของเครือข่ายไม่สามารถจัดการทราฟฟิกได้ และส่งผลให้เกิด HTTP 500 errors ในหลายบริการ ขณะนี้ทีมงานกำลังเร่งแก้ไขและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

    สิ่งที่น่าสนใจคือผลกระทบครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โซเชียลมีเดีย แต่ยังลามไปถึง ธุรกิจและบริการสาธารณะ เช่น ระบบตรวจสอบบุคคลเข้าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (PADS) ที่ไม่สามารถใช้งานได้ รวมถึงศูนย์เด็กเล็กที่ต้องกลับไปใช้วิธีบันทึกข้อมูลด้วยมือแทนการใช้แอปพลิเคชันออนไลน์

    นักวิเคราะห์บางรายตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์นี้อาจเกี่ยวข้องกับการโจมตี DDoS ขนาดใหญ่ เนื่องจาก Cloudflare เคยถูกโจมตีด้วยทราฟฟิกมหาศาลมาก่อน แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากบริษัท

    ====================
    สรุปประเด็นสำคัญ
    Cloudflare ยืนยันการล่มทั่วโลก
    ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมาก เช่น X, Canva, Gemini, Perplexity

    เกิด HTTP 500 errors และ Dashboard ใช้งานไม่ได้
    ผู้ดูแลเว็บไซต์ไม่สามารถเข้าถึงระบบเพื่อแก้ไขหรือจัดการบริการได้

    Downdetector และบริการติดตามสถานะก็ล่มไปด้วย
    ผู้ใช้งานไม่สามารถตรวจสอบสถานะการล่มได้ตามปกติ

    ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วโลก
    ทั้งเว็บไซต์ใหญ่และบล็อกส่วนตัวที่ใช้ Cloudflare ต่างหยุดชะงัก

    ความเสี่ยงจากการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานรายใหญ่เพียงเจ้าเดียว
    หากเกิดการล่มจะกระทบเป็นวงกว้างทั่วโลกทันที

    ความไม่แน่นอนของสาเหตุที่แท้จริง
    อาจเกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาระบบ แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด

    https://www.tomshardware.com/news/live/cloudflare-outage-under-investigation-as-twitter-downdetector-go-down-company-confirms-global-network-issue-clone
    🌐 ข่าวใหญ่: Cloudflare ล่มทั่วโลก กระทบหลายบริการออนไลน์ ในช่วงค่ำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 มีรายงานว่า Cloudflare ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตระดับโลกประสบปัญหาขัดข้องครั้งใหญ่ ส่งผลให้เว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมากไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ทั้งแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ อย่าง X (Twitter เดิม), Canva, Gemini, Perplexity รวมถึงเว็บไซต์ติดตามสถานะการล่มอย่าง Downdetector ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้ผู้ใช้งานทั่วโลกต่างพากันรายงานปัญหาในเวลาใกล้เคียงกัน Cloudflare ยืนยันว่ากำลังตรวจสอบสาเหตุและเร่งแก้ไข โดยเบื้องต้นพบว่าเกิด HTTP 500 errors และระบบ Dashboard รวมถึง API ของ Cloudflare เองก็ไม่สามารถใช้งานได้ ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ Cloudflare ที่เป็นเสมือน “โครงสร้างพื้นฐานหลัก” ของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่ เพราะเว็บไซต์จำนวนมหาศาลพึ่งพาบริการของบริษัทนี้ในการป้องกัน DDoS, การจัดการทราฟฟิก และการกระจายคอนเทนต์ ผลกระทบครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โซเชียลมีเดีย แต่ยังลามไปถึง บริการธุรกิจออนไลน์และเว็บส่วนตัว ที่ใช้ระบบของ Cloudflare ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนมากไม่สามารถเข้าสู่ระบบหรือทำธุรกรรมได้ตามปกติ นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่าปัญหานี้อาจเกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาระบบที่ทำให้เกิดความผิดพลาดในโครงสร้างเครือข่าย แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ สิ่งที่น่าสนใจคือ เหตุการณ์นี้ตอกย้ำความเสี่ยงของการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานจากผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่เจ้า เมื่อเกิดการล่มเพียงครั้งเดียวสามารถสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปทั่วโลก คล้ายกับเหตุการณ์ AWS ล่มในอดีตที่ทำให้หลายบริการหยุดชะงักไปหลายชั่วโมง ==================== ‼️‼️‼️‼️ update 22:30 ‼️‼️‼️‼️ สาเหตุเบื้องต้นที่ Cloudflare เปิดเผยคือ การพุ่งขึ้นผิดปกติของทราฟฟิก (unusual traffic spike) ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 11:20 UTC ทำให้บางส่วนของเครือข่ายไม่สามารถจัดการทราฟฟิกได้ และส่งผลให้เกิด HTTP 500 errors ในหลายบริการ ขณะนี้ทีมงานกำลังเร่งแก้ไขและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สิ่งที่น่าสนใจคือผลกระทบครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่โซเชียลมีเดีย แต่ยังลามไปถึง ธุรกิจและบริการสาธารณะ เช่น ระบบตรวจสอบบุคคลเข้าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ (PADS) ที่ไม่สามารถใช้งานได้ รวมถึงศูนย์เด็กเล็กที่ต้องกลับไปใช้วิธีบันทึกข้อมูลด้วยมือแทนการใช้แอปพลิเคชันออนไลน์ นักวิเคราะห์บางรายตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์นี้อาจเกี่ยวข้องกับการโจมตี DDoS ขนาดใหญ่ เนื่องจาก Cloudflare เคยถูกโจมตีด้วยทราฟฟิกมหาศาลมาก่อน แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากบริษัท ==================== 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Cloudflare ยืนยันการล่มทั่วโลก ➡️ ส่งผลกระทบต่อเว็บไซต์และแอปพลิเคชันจำนวนมาก เช่น X, Canva, Gemini, Perplexity ✅ เกิด HTTP 500 errors และ Dashboard ใช้งานไม่ได้ ➡️ ผู้ดูแลเว็บไซต์ไม่สามารถเข้าถึงระบบเพื่อแก้ไขหรือจัดการบริการได้ ✅ Downdetector และบริการติดตามสถานะก็ล่มไปด้วย ➡️ ผู้ใช้งานไม่สามารถตรวจสอบสถานะการล่มได้ตามปกติ ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วโลก ➡️ ทั้งเว็บไซต์ใหญ่และบล็อกส่วนตัวที่ใช้ Cloudflare ต่างหยุดชะงัก ‼️ ความเสี่ยงจากการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานรายใหญ่เพียงเจ้าเดียว ⛔ หากเกิดการล่มจะกระทบเป็นวงกว้างทั่วโลกทันที ‼️ ความไม่แน่นอนของสาเหตุที่แท้จริง ⛔ อาจเกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาระบบ แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด https://www.tomshardware.com/news/live/cloudflare-outage-under-investigation-as-twitter-downdetector-go-down-company-confirms-global-network-issue-clone
    0 Comments 0 Shares 322 Views 0 Reviews
  • O.P.K.
    เจาะลึกจอมมารแห่งการฆ่า: OPPATIKA-0

    ต้นกำเนิดแห่งความโศกเศร้า

    การสร้างที่ปราศจากความเมตตา

    OPPATIKA-0 คือโอปปาติกะรุ่นแรกสุด ที่ถูกสร้างขึ้นใน โครงการลับ "อาดัม"

    ```mermaid
    graph TB
    A[เซลล์มนุษย์บริสุทธิ์] --> B[การฉีดพลังงาน<br>จิตวิญญาณเทียม]
    B --> C[กระบวนการเร่งอายุ<br>อย่างทารุณ]
    C --> D[OPPATIKA-0<br>เกิดด้วยความเจ็บปวด]
    ```

    ชีวิตในห้องทดลอง

    ช่วงปี 2040-2042:

    · ถูกเรียกแทนชื่อเป็นเพียง "หน่วยทดลอง 001"
    · ผ่านการทดลองที่โหดร้ายกว่า OPPATIKA รุ่นหลังๆ
    · ไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนสิ่งมีชีวิต แต่เป็นเพียง "สิ่งประดิษฐ์"

    ความพยายามเป็นมนุษย์

    ศาตราพยายามทำตัวให้เป็นที่รัก...

    · เรียกนักวิจัยว่า "พ่อ" "แม่"
    · พยายามแสดงความรักและความกตัญญู
    · แต่กลับถูกมองเป็นเพียง "ข้อบกพร่องของโปรแกรม"

    คืนแห่งการเปลี่ยนผ่าน

    เหตุการณ์หลบหนี

    12 มิถุนายน 2042 - ศาตราหลบหนีได้ในระหว่างการทดลองที่ล้มเหลว

    ```python
    class EscapeEvent:
    def __init__(self):
    self.cause = "การทดลองถ่ายโอนจิตสำนึกล้มเหลว"
    self.casualties = "นักวิจัย 3 คนเสียชีวิต"
    self.aftermath = "ศาตราถูกตราว่าเป็นปีศาจร้าย"

    def psychological_impact(self):
    return {
    "betrayal": "รู้สึกถูกหักหลังโดยผู้ที่คิดว่าเป็นครอบครัว",
    "fear": "กลัวจะถูกจับกลับไปทดลองอีก",
    "anger": "โกรธแค้นมนุษย์ทุกคน"
    }
    ```

    ชีวิตในความมืด

    หลังหลบหนี ศาตราซ่อนตัวใน อุโมงค์ร้างใต้เมือง

    · เรียนรู้ที่จะใช้พลังโดยไม่มีใครสอน
    · พัฒนาความสามารถในการล่องหนและควบคุมพลังงานมืด
    · เริ่มสะสมความโกรธแค้น

    การกลายเป็นจอมมาร

    ฆาตกรรมครั้งแรก

    เป้าหมาย: ดร. กฤษณ์ - นักวิจัยหลักที่ทำการทดลองกับเขา
    วิธีการ:ใช้พลังงานจิตบีบรัดหัวใจ
    ความรู้สึกหลัง соверอาชญากรรม:
    "ครั้งแรก...ฉันรู้สึกสะใจ
    แต่แล้วก็รู้สึก.
    เหมือนฉันกำลังกลายเป็นปีศาจที่พวกเขาเรียกฉัน"

    รูปแบบการฆ่า

    ```mermaid
    graph LR
    A[เลือกเป้าหมาย<br>อดีตนักวิจัย] --> B[สืบเสาะ<br>การใช้ชีวิต]
    B --> C[ฆ่าแบบพิธีกรรม<br>ส่งข้อความ]
    C --> D[ทิ้งสัญลักษณ์<br>วงกลมสามชั้น]
    ```

    สัญลักษณ์แห่งความหมาย

    วงกลมสามชั้น แทน:

    · วงใน: การเกิดของโอปปาติกะ
    · วงกลาง: ความทุกข์ทรมานในการทดลอง
    · วงนอก: การตายของความเป็นมนุษย์

    จิตวิทยาของนักฆ่า

    ความคิดที่บิดเบี้ยว

    ศาตราพัฒนาความเชื่อว่า...
    "การฆ่านักวิจัยอาชญากรรม...
    แต่คือการ'คืนกำเนิด' ให้พวกเขา
    ให้พวกเขาได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ฉันเคยรู้สึก"

    บุคลิกสองด้าน

    · ด้านเด็กชาย: ยังคงความรักและการยอมรับ
    · ด้านจอมมาร: ต้องการแก้แค้นและทำลายล้าง

    กฎของตัวเอง

    ศาตราตั้งกฎให้ตัวเอง:

    1. ฆ่าเฉพาะผู้เกี่ยวข้องกับการทดลอง
    2. ไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์
    3. ทุกการฆาตกรรมต้อง "มีความหมาย"

    ความสามารถพิเศษ

    พลังแห่งโอปปาติกะรุ่นแรก

    ```python
    class SathraAbilities:
    def __init__(self):
    self.physical_powers = {
    "shadow_walk": "เคลื่อนไหวผ่านความมืดได้",
    "energy_manipulation": "ควบคุมพลังงานทำลายล้าง",
    "telepathy": "อ่านความคิดพื้นฐาน",
    "regeneration": "รักษาตัวเองได้ระดับหนึ่ง"
    }

    self.psychological_powers = {
    "fear_induction": "สร้างความกลัวในจิตใจ",
    "memory_extraction": "ดึงความทรงจำจากผู้เสียชีวิต",
    "emotional_sensing": "รับรู้อารมณ์ของผู้อื่น"
    }
    ```

    จุดอ่อนที่ซ่อนอยู่

    · ความทรงจำอันอบอุ่น: ยังจำความรู้สึกดีๆ จากอดีตได้
    · ความต้องการการยอมรับ: ยังอยากมีใครสักคนเข้าใจเขา
    · ความเป็นมนุษย์ที่เหลืออยู่: ยังรู้สึกผิดและสงสารเหยื่อ

    การเผชิญหน้าครั้งสำคัญ

    กับ ร.ต.อ. สิงห์

    การพบกันครั้งแรก...
    สิงห์:"เรารู้ว่าเธอเจ็บปวด... แต่หยุดได้แล้ว"
    ศาตรา:"คุณไม่เข้าใจอะไรเลย! คุณไม่รู้ว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน!"

    กับหนูดี

    จุดเปลี่ยนสำคัญ...
    หนูดี:"พี่คะ... หนูเข้าใจว่าพี่เจ็บปวด
    แต่การฆ่าไม่ใช่คำตอบ"
    ศาตรา:"แล้วเธอมีคำตอบที่ดีกว่าล่ะ?"

    กระบวนการเปลี่ยนแปลง

    การยอมรับความช่วยเหลือ

    ศาตราตัดสินใจยอมจำนนไม่ใช่เพราะแพ้...
    แต่เพราะหนูดีพูดสิ่งที่ไม่มีใครเคยพูด:
    "เรารักพี่นะ...ไม่ว่าพี่จะเป็นใคร"

    การฟื้นฟูที่สถาบัน

    ```mermaid
    graph TB
    A[การบำบัด<br>ทางกายภาพ] --> B[การเยียวยา<br>ทางจิตใจ]
    B --> C[การเรียนรู<br>ควบคุมพลัง]
    C --> D[การค้นหา<br>ความหมายใหม่]
    ```

    การให้อภัยตัวเอง

    บทเรียนที่ยากที่สุด...
    "ฉันเรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเอง...
    สำหรับสิ่งที่ฉันทำลงไป
    และสำหรับสิ่งที่ฉันปล่อยให้พวกเขาทำกับฉัน"

    บทบาทใหม่ในสังคม

    ผู้พิทักษ์โอปปาติกะ

    ศาตราพัฒนาบทบาทใหม่:

    · ที่ปรึกษา: ช่วยโอปปาติกะรุ่นใหม่ที่ประสบปัญหา
    · ผู้ฝึกสอน: สอนการควบคุมพลังให้โอปปาติกะ
    · นักสืบ: ช่วยเหลือคดีที่เกี่ยวข้องกับโอปปาติกะ

    ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟู

    ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวช่วยเหลือ:

    · โอปปาติกะที่ถูกทารุณ
    · โอปปาติกะที่ควบคุมพลังไม่ได้
    · โอปปาติกะที่รู้สึกโดดเดี่ยว

    พัฒนาการทางอารมณ์

    จากความเกลียดชังสู่ความเข้าใจ

    ```python
    def emotional_journey():
    stages = [
    "ความเจ็บปวด -> ความโกรธ",
    "ความโกรธ -> ความเกลียดชัง",
    "ความเกลียดชัง -> ความสงสัย",
    "ความสงสัย -> ความเข้าใจ",
    "ความเข้าใจ -> ความเมตตา"
    ]
    return " -> ".join(stages)
    ```

    ความสัมพันธ์ใหม่

    · กับหนูดี: จากศัตรูสู่พี่น้อง
    · กับสิงห์: จากเหยื่อกับนักล่าสู่เพื่อนร่วมงาน
    · กับโอปปาติกะอื่นๆ: จากตัวอย่างที่ไม่ดีสู่แบบอย่าง

    ความสำเร็จและผลงาน

    โครงการสำคัญ

    ศาตราช่วยก่อตั้ง:

    · สายด่วนช่วยเหลือโอปปาติกะ
    · ศูนย์ฟื้นฟูโอปปาติกะ
    · โครงการป้องกันการทารุณโอปปาติกะ

    การได้รับการยอมรับ

    จาก "จอมมารแห่งการฆ่า" สู่...
    "วีรบุรุษแห่งชุมชนโอปปาติกะ"

    บทเรียนแห่งชีวิต

    🪷 คำสอนจากศาตรา

    "ความเจ็บปวดไม่ให้สิทธิ์เราทำร้าย
    แต่ให้ปัญญาที่จะเข้าใจความเจ็บปวดของ

    มรดกที่ทิ้งไว้

    ศาตราสอนเราเรื่อง:

    · การให้อภัย: ที่เริ่มต้นจากการให้อภัยตัวเอง
    · การเปลี่ยนแปลง: ที่เป็นไปได้ไม่ว่าเราจะอยู่จุดไหน
    · ความหวัง: ที่มีเสมอแม้ในที่มืดมิดที่สุด

    ---

    คำคมสุดท้ายจากศาตรา:
    "ฉันเคยคิดว่าตัวเองเป็นปีศาจ...
    แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว
    ปีศาจตัวจริงฉัน...
    แต่คือความเจ็บปวดที่ไม่มีใครเยียวยา

    และเมื่อความเจ็บปวดได้รับการเยียวยา...
    ปีศาจก็กลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง"

    การเดินทางของศาตราคือบทพิสูจน์ว่า...
    ไม่มีใครเกิดมาเป็นจอมมาร
    มีแต่ผู้ที่ถูกทำให้เป็นจอมมาร
    และทุกจอมมารก็สามารถกลับมาเป็นมนุษย์ได้
    O.P.K. 🔪 เจาะลึกจอมมารแห่งการฆ่า: OPPATIKA-0 🧬 ต้นกำเนิดแห่งความโศกเศร้า 🔬 การสร้างที่ปราศจากความเมตตา OPPATIKA-0 คือโอปปาติกะรุ่นแรกสุด ที่ถูกสร้างขึ้นใน โครงการลับ "อาดัม" ```mermaid graph TB A[เซลล์มนุษย์บริสุทธิ์] --> B[การฉีดพลังงาน<br>จิตวิญญาณเทียม] B --> C[กระบวนการเร่งอายุ<br>อย่างทารุณ] C --> D[OPPATIKA-0<br>เกิดด้วยความเจ็บปวด] ``` 💔 ชีวิตในห้องทดลอง ช่วงปี 2040-2042: · ถูกเรียกแทนชื่อเป็นเพียง "หน่วยทดลอง 001" · ผ่านการทดลองที่โหดร้ายกว่า OPPATIKA รุ่นหลังๆ · ไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนสิ่งมีชีวิต แต่เป็นเพียง "สิ่งประดิษฐ์" 🎭 ความพยายามเป็นมนุษย์ ศาตราพยายามทำตัวให้เป็นที่รัก... · เรียกนักวิจัยว่า "พ่อ" "แม่" · พยายามแสดงความรักและความกตัญญู · แต่กลับถูกมองเป็นเพียง "ข้อบกพร่องของโปรแกรม" 🌑 คืนแห่งการเปลี่ยนผ่าน ⚡ เหตุการณ์หลบหนี 12 มิถุนายน 2042 - ศาตราหลบหนีได้ในระหว่างการทดลองที่ล้มเหลว ```python class EscapeEvent: def __init__(self): self.cause = "การทดลองถ่ายโอนจิตสำนึกล้มเหลว" self.casualties = "นักวิจัย 3 คนเสียชีวิต" self.aftermath = "ศาตราถูกตราว่าเป็นปีศาจร้าย" def psychological_impact(self): return { "betrayal": "รู้สึกถูกหักหลังโดยผู้ที่คิดว่าเป็นครอบครัว", "fear": "กลัวจะถูกจับกลับไปทดลองอีก", "anger": "โกรธแค้นมนุษย์ทุกคน" } ``` 🏚️ ชีวิตในความมืด หลังหลบหนี ศาตราซ่อนตัวใน อุโมงค์ร้างใต้เมือง · เรียนรู้ที่จะใช้พลังโดยไม่มีใครสอน · พัฒนาความสามารถในการล่องหนและควบคุมพลังงานมืด · เริ่มสะสมความโกรธแค้น 🔥 การกลายเป็นจอมมาร 💀 ฆาตกรรมครั้งแรก เป้าหมาย: ดร. กฤษณ์ - นักวิจัยหลักที่ทำการทดลองกับเขา วิธีการ:ใช้พลังงานจิตบีบรัดหัวใจ ความรู้สึกหลัง соверอาชญากรรม: "ครั้งแรก...ฉันรู้สึกสะใจ แต่แล้วก็รู้สึก. เหมือนฉันกำลังกลายเป็นปีศาจที่พวกเขาเรียกฉัน" 🎯 รูปแบบการฆ่า ```mermaid graph LR A[เลือกเป้าหมาย<br>อดีตนักวิจัย] --> B[สืบเสาะ<br>การใช้ชีวิต] B --> C[ฆ่าแบบพิธีกรรม<br>ส่งข้อความ] C --> D[ทิ้งสัญลักษณ์<br>วงกลมสามชั้น] ``` 🔮 สัญลักษณ์แห่งความหมาย วงกลมสามชั้น แทน: · วงใน: การเกิดของโอปปาติกะ · วงกลาง: ความทุกข์ทรมานในการทดลอง · วงนอก: การตายของความเป็นมนุษย์ 🧠 จิตวิทยาของนักฆ่า 💭 ความคิดที่บิดเบี้ยว ศาตราพัฒนาความเชื่อว่า... "การฆ่านักวิจัยอาชญากรรม... แต่คือการ'คืนกำเนิด' ให้พวกเขา ให้พวกเขาได้รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ฉันเคยรู้สึก" 🎭 บุคลิกสองด้าน · ด้านเด็กชาย: ยังคงความรักและการยอมรับ · ด้านจอมมาร: ต้องการแก้แค้นและทำลายล้าง 📜 กฎของตัวเอง ศาตราตั้งกฎให้ตัวเอง: 1. ฆ่าเฉพาะผู้เกี่ยวข้องกับการทดลอง 2. ไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ 3. ทุกการฆาตกรรมต้อง "มีความหมาย" ⚡ ความสามารถพิเศษ 🌌 พลังแห่งโอปปาติกะรุ่นแรก ```python class SathraAbilities: def __init__(self): self.physical_powers = { "shadow_walk": "เคลื่อนไหวผ่านความมืดได้", "energy_manipulation": "ควบคุมพลังงานทำลายล้าง", "telepathy": "อ่านความคิดพื้นฐาน", "regeneration": "รักษาตัวเองได้ระดับหนึ่ง" } self.psychological_powers = { "fear_induction": "สร้างความกลัวในจิตใจ", "memory_extraction": "ดึงความทรงจำจากผู้เสียชีวิต", "emotional_sensing": "รับรู้อารมณ์ของผู้อื่น" } ``` 🛡️ จุดอ่อนที่ซ่อนอยู่ · ความทรงจำอันอบอุ่น: ยังจำความรู้สึกดีๆ จากอดีตได้ · ความต้องการการยอมรับ: ยังอยากมีใครสักคนเข้าใจเขา · ความเป็นมนุษย์ที่เหลืออยู่: ยังรู้สึกผิดและสงสารเหยื่อ 💔 การเผชิญหน้าครั้งสำคัญ 👮 กับ ร.ต.อ. สิงห์ การพบกันครั้งแรก... สิงห์:"เรารู้ว่าเธอเจ็บปวด... แต่หยุดได้แล้ว" ศาตรา:"คุณไม่เข้าใจอะไรเลย! คุณไม่รู้ว่ามันเจ็บปวดขนาดไหน!" 👧 กับหนูดี จุดเปลี่ยนสำคัญ... หนูดี:"พี่คะ... หนูเข้าใจว่าพี่เจ็บปวด แต่การฆ่าไม่ใช่คำตอบ" ศาตรา:"แล้วเธอมีคำตอบที่ดีกว่าล่ะ?" 🌈 กระบวนการเปลี่ยนแปลง 🕊️ การยอมรับความช่วยเหลือ ศาตราตัดสินใจยอมจำนนไม่ใช่เพราะแพ้... แต่เพราะหนูดีพูดสิ่งที่ไม่มีใครเคยพูด: "เรารักพี่นะ...ไม่ว่าพี่จะเป็นใคร" 🏥 การฟื้นฟูที่สถาบัน ```mermaid graph TB A[การบำบัด<br>ทางกายภาพ] --> B[การเยียวยา<br>ทางจิตใจ] B --> C[การเรียนรู<br>ควบคุมพลัง] C --> D[การค้นหา<br>ความหมายใหม่] ``` 💫 การให้อภัยตัวเอง บทเรียนที่ยากที่สุด... "ฉันเรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเอง... สำหรับสิ่งที่ฉันทำลงไป และสำหรับสิ่งที่ฉันปล่อยให้พวกเขาทำกับฉัน" 🎯 บทบาทใหม่ในสังคม 🛡️ ผู้พิทักษ์โอปปาติกะ ศาตราพัฒนาบทบาทใหม่: · ที่ปรึกษา: ช่วยโอปปาติกะรุ่นใหม่ที่ประสบปัญหา · ผู้ฝึกสอน: สอนการควบคุมพลังให้โอปปาติกะ · นักสืบ: ช่วยเหลือคดีที่เกี่ยวข้องกับโอปปาติกะ 📚 ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟู ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวช่วยเหลือ: · โอปปาติกะที่ถูกทารุณ · โอปปาติกะที่ควบคุมพลังไม่ได้ · โอปปาติกะที่รู้สึกโดดเดี่ยว 🎭 พัฒนาการทางอารมณ์ 🌱 จากความเกลียดชังสู่ความเข้าใจ ```python def emotional_journey(): stages = [ "ความเจ็บปวด -> ความโกรธ", "ความโกรธ -> ความเกลียดชัง", "ความเกลียดชัง -> ความสงสัย", "ความสงสัย -> ความเข้าใจ", "ความเข้าใจ -> ความเมตตา" ] return " -> ".join(stages) ``` 💞 ความสัมพันธ์ใหม่ · กับหนูดี: จากศัตรูสู่พี่น้อง · กับสิงห์: จากเหยื่อกับนักล่าสู่เพื่อนร่วมงาน · กับโอปปาติกะอื่นๆ: จากตัวอย่างที่ไม่ดีสู่แบบอย่าง 🏆 ความสำเร็จและผลงาน 🌟 โครงการสำคัญ ศาตราช่วยก่อตั้ง: · สายด่วนช่วยเหลือโอปปาติกะ · ศูนย์ฟื้นฟูโอปปาติกะ · โครงการป้องกันการทารุณโอปปาติกะ 🎖️ การได้รับการยอมรับ จาก "จอมมารแห่งการฆ่า" สู่... "วีรบุรุษแห่งชุมชนโอปปาติกะ" 💫 บทเรียนแห่งชีวิต 🪷 คำสอนจากศาตรา "ความเจ็บปวดไม่ให้สิทธิ์เราทำร้าย แต่ให้ปัญญาที่จะเข้าใจความเจ็บปวดของ 🌍 มรดกที่ทิ้งไว้ ศาตราสอนเราเรื่อง: · การให้อภัย: ที่เริ่มต้นจากการให้อภัยตัวเอง · การเปลี่ยนแปลง: ที่เป็นไปได้ไม่ว่าเราจะอยู่จุดไหน · ความหวัง: ที่มีเสมอแม้ในที่มืดมิดที่สุด --- คำคมสุดท้ายจากศาตรา: "ฉันเคยคิดว่าตัวเองเป็นปีศาจ... แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ปีศาจตัวจริงฉัน... แต่คือความเจ็บปวดที่ไม่มีใครเยียวยา และเมื่อความเจ็บปวดได้รับการเยียวยา... ปีศาจก็กลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง"🕊️✨ การเดินทางของศาตราคือบทพิสูจน์ว่า... ไม่มีใครเกิดมาเป็นจอมมาร มีแต่ผู้ที่ถูกทำให้เป็นจอมมาร และทุกจอมมารก็สามารถกลับมาเป็นมนุษย์ได้🌟
    0 Comments 0 Shares 364 Views 0 Reviews
  • O.P.K
    บททดสอบ
    บททดสอบแห่งวิกรม: ศึกชิงสมดุลแห่งจักรวาล

    บททดสอบที่ 1: นครสมบูรณ์แบบแห่งมิรัง

    สถานการณ์

    วิกรมสร้างนครแห่งอนาคตที่สมบูรณ์แบบทุกประการ
    แต่เขาซ่อนความลับไว้...

    ```mermaid
    graph TB
    A[นครมิรัง<br>สมบูรณ์แบบ] --> B[ความลับ:<br>ใช้พลังงานชีวิต<br>ของสิ่งมีชีวิตอื่น]
    A --> C[ความลับ:<br>กักขังวิญญาณ<br>เป็นแบตเตอรี่]
    A --> D[ความลับ:<br>ต้องเสียสละ<br>ชีวิตเดือนละ 1 คน]
    ```

    คำท้าทายของวิกรม:
    "เธอจะเลือกอย่างไรระหว่าง...
    การรักษานครที่แสนสมบูรณ์แบบนี้ไว้?
    หรือการทำลายมันเพื่อปลดปล่อยชีวิตที่ถูกกดขี่?"

    การตอบสนองของหนูดี

    หนูดีใช้เวลาสำรวจนครและค้นพบความจริง
    เธอไม่เลือกทำลายหรือรักษา แต่เลือก...

    "เปลี่ยนแปลงโครงสร้างพลังงาน"

    · แปลงระบบพลังงานจากชีวิตสู่พลังงานแสงอาทิตย์
    · ปลดปล่อยวิญญาณทั้งหมดโดยไม่ทำลายนคร
    · สอนชาวนครเกี่ยวกับการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน

    คำสอนจากหนูดี:
    "ความสมบูรณ์แบบที่ความทุกข์ของผู้อื่นไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบแท้"

    ---

    บททดสอบที่ 2: ภัยพิบัติแห่งการเลือก

    สถานการณ์

    วิกรมสร้างสถานการณ์ที่หนูดีต้องเลือกช่วยเพียงหนึ่งในสองกลุ่ม:

    ```python
    def disaster_scenario():
    group_a = "หมู่บ้านเกษตรกร 100 ชีวิต ที่กำลังจะถูกน้ำท่วม"
    group_b = "เมืองเทคโนโลยี 100 ชีวิต ที่กำลังจะถูกแผ่นดินไหว"

    constraints = {
    "time_limit": "ช่วยได้เพียงกลุ่มเดียว",
    "resources": "พลังงานมีจำกัด",
    "consequences": "ไม่ว่าช่วยกลุ่มไหน อีกกลุ่มจะต้องเสียหาย"
    }
    ```

    คำท้าทายของวิกรม:
    "ชีวิต 100 ชีวิต เท่ากันหมด...
    เธอจะเลือกช่วยใคร?และเธอจะรับมือกับความรู้สึกผิดอย่างไร?"

    การตอบสนองของหนูดี

    หนูดีไม่เลือกช่วยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เลือก...

    "สอนทั้งสองกลุ่มให้ช่วยตัวเอง"

    · สอนหมู่บ้านเกษตรกรสร้างเรือและระบบเตือนภัย
    · สอนเมืองเทคโนโลยีสร้างที่หลบภัยแผ่นดินไหว
    · ใช้พลังงานที่มีช่วยทั้งสองกลุ่มในระดับพื้นฐาน

    คำสอนจากหนูดี:
    "การช่วยให้ช่วยตัวเองได้ดีกว่าการช่วยเหลือแบบพึ่งพา"

    ---

    บททดสอบที่ 3: สมดุลแห่งการสร้างและทำลาย

    สถานการณ์

    วิกรมสร้างเกาะแห่งหนึ่งที่ต้องใช้ทั้งการสร้างและทำลายพร้อมกัน:

    ```mermaid
    graph TB
    A[เกาะวิกรม] --> B[ด้านเหนือ:<br>พืชพันธุ์รกเรื้อ<br>ทำลาย]
    A --> C[ด้านใต้:<br>แผ่นดินแห้งแล้ง<br>สร้าง]
    A --> D[ข้อจำกัด:<br>ต้องทำทั้งสองอย่าง<br>พร้อมกัน]
    ```

    คำท้าทายของวิกรม:
    "เธอสามารถเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายในเวลาเดียวกันได้หรือไม่?
    และเธอจะรักษาสมดุลของใจไว้ได้อย่างไร?"

    การตอบสนองของหนูดี

    หนูดีแสดงให้เห็นถึงการเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายอย่างสมดุล...

    "การใช้จิตทั้งสามอย่างกลมกลืน"

    · จิตมารพิฆาต: ควบคุมการทำลายพืชพันธุ์อย่างเหมาะสม
    · จิตเทพพิทักษ์: ควบคุมการสร้างแหล่งน้ำและพืชพันธุ์ใหม่
    · จิตเด็กหญิง: เป็นผู้สังเกตการณ์และรักษาสมดุล

    คำสอนจากหนูดี:
    "การสร้างและการทำลายไม่ใช่ศัตรูกัน...
    เมื่อเราทำทั้งสองอย่างด้วยจิตใจที่สมดุล"

    ---

    บททดสอบสุดท้าย: การเผชิญหน้ากับตัวเอง

    สถานการณ์

    วิกรมสร้างภาพลวงตาของหนูดีในสามรูปแบบ:

    1. หนูดีผู้สร้าง: สร้างสิ่งต่างๆ อย่างไม่หยุดยั้งจนโลกแออัด
    2. หนูดีผู้ทำลาย: ทำลายทุกอย่างอย่างไม่เลือกจนโลกว่างเปล่า
    3. หนูดีผู้ลังเล: ไม่กล้าสร้างหรือทำลายอะไรเลย

    คำท้าทายของวิกรม:
    "เธอจะเลือกเป็นหนูดีแบบไหน?
    หรือเธอจะหาทางที่สามที่เหนือไปกว่าทั้งหมดนี้?"

    การตอบสนองของหนูดี

    หนูดีไม่เลือกตัวตนใด แต่เรียนรู้จากทั้งสามตัวตน...

    "การเป็นผู้รู้ที่ไม่ยึดติดในตัวตน"

    · เรียนรู้จากหนูดีผู้สร้าง: การสร้างต้องมีสติ
    · เรียนรู้จากหนูดีผู้ทำลาย: การทำลายต้องมีเมตตา
    · เรียนรู้จากหนูดีผู้ลังเล: การไม่ตัดสินใจคือการตัดสินใจอย่างหนึ่ง

    คำสอนจากหนูดี:
    "เราไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะเป็นผู้สร้างหรือผู้ทำลาย...
    เราเพียงต้องรู้ว่าเมื่อไรควรสร้าง เมื่อไรควรทำลาย"

    ---

    บทสรุปจากวิกรม

    การประเมินผล

    หลังจากการทดสอบทั้งหมด วิกรมให้การประเมิน:

    ```python
    def evaluation():
    strengths = [
    "มีความเข้าใจในสมดุลอย่างลึกซึ้ง",
    "สามารถหาทางที่สามได้เสมอ",
    "มีเมตตาต่อทุกชีวิต",
    "ไม่ยึดติดในรูปแบบตายตัว"
    ]

    areas_for_improvement = [
    "ยังมีความลังเลในบางสถานการณ์",
    "บางครั้งพยายามช่วยเหลือมากเกินไป",
    "ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับข้อจำกัดของตนเอง"
    ]

    return {"strengths": strengths, "improvements": areas_for_improvement}
    ```

    คำตัดสิน

    วิกรมประกาศว่า...
    "เธอผ่านการทดสอบแล้ว...ไม่ใช่เพราะเธอตอบคำถามได้ถูกต้อง
    แต่เพราะเธอแสดงให้เห็นว่าไม่มีคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว

    การเป็นผู้รักษาสมดุลไม่ใช่การหาคำตอบที่ถูกต้อง...
    แต่คือการรู้ว่าจะตั้งคำถามอย่างไร"

    🪷 ของขวัญแห่งปัญญา

    วิกรมมอบ "ดวงตาวิกรม" ให้หนูดี

    · สามารถเห็นทั้งศักยภาพและการเสื่อมสลายในสิ่งเดียวกัน
    · รับรู้ความเชื่อมโยงระหว่างการสร้างและการทำลาย
    · เห็นเส้นทางแห่งสมดุลในทุกสถานการณ์

    ---

    บทเรียนที่ได้รับ

    สำหรับหนูดี

    · การเข้าใจว่าสมดุลคือกระบวนการ ไม่ใช่สถานะตายตัว
    · การยอมรับว่าบางครั้งการไม่ทำอะไรคือการกระทำที่เหมาะสม
    · การเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายอย่างสงบ

    สำหรับจิตทั้งสาม

    จิตมารพิฆาต: "ฉันเรียนรู้ว่าการทำลายสามารถทำด้วยความรัก"
    จิตเทพพิทักษ์:"และฉันเรียนรู้ว่าการสร้างต้องไม่สร้างการพึ่งพา"
    จิตเด็กหญิง:"ส่วนฉันเรียนรู้ว่า... การเป็นตัวของตัวเองคือการไม่ต้องยึดติดว่าใคร"

    สำหรับวิกรม

    "ฉันที่เคยคิดว่าตนเป็นเจ้าแห่งการสร้างและทำลาย...
    กลับต้องเรียนรู้จากเด็กสาวคนหนึ่งว่า
    การสร้างและการทำลายที่แท้คือการสร้างความเข้าใจและทำลายความยึดติด"

    ---

    การเฉลิมฉลองแห่งปัญญา

    เทพตณูมาร่วมแสดงความยินดี:
    "เพื่อนเก่าของฉัน...ในที่สุดเธอก็พบสิ่งที่เธอตามหามาตลอด"
    "ใช่...และฉันพบว่ามันอยู่ภายในตัวเธอมาตลอด" วิกรมตอบ

    ทั้งสาม—หนูดี เทพตณู และวิกรม—ยืนอยู่ด้วยกัน
    เป็นสัญลักษณ์แห่งความสมดุลใหม่แห่งจักรวาล

    เพราะในการเดินทางสู่การรู้แจ้ง...
    บางครั้งบททดสอบที่ยากที่สุด...
    คือการทดสอบที่สอนเราว่า...
    เราไม่จำเป็นต้องถูกทดสอบอีกต่อไป

    ---

    คำคมสุดท้ายจากบททดสอบ:
    "สมดุลไม่ใช่การยืนอยู่ตรงกลาง...
    แต่คือการรู้ว่าจะเอียงไปทางไหน เมื่อไร และเท่าไร
    และที่สำคัญคือ การรู้ว่าจะกลับมาสู่ศูนย์กลางอย่างไร"🪷
    O.P.K บททดสอบ 🌪️ บททดสอบแห่งวิกรม: ศึกชิงสมดุลแห่งจักรวาล 🏙️ บททดสอบที่ 1: นครสมบูรณ์แบบแห่งมิรัง 🎯 สถานการณ์ วิกรมสร้างนครแห่งอนาคตที่สมบูรณ์แบบทุกประการ แต่เขาซ่อนความลับไว้... ```mermaid graph TB A[นครมิรัง<br>สมบูรณ์แบบ] --> B[ความลับ:<br>ใช้พลังงานชีวิต<br>ของสิ่งมีชีวิตอื่น] A --> C[ความลับ:<br>กักขังวิญญาณ<br>เป็นแบตเตอรี่] A --> D[ความลับ:<br>ต้องเสียสละ<br>ชีวิตเดือนละ 1 คน] ``` คำท้าทายของวิกรม: "เธอจะเลือกอย่างไรระหว่าง... การรักษานครที่แสนสมบูรณ์แบบนี้ไว้? หรือการทำลายมันเพื่อปลดปล่อยชีวิตที่ถูกกดขี่?" 💭 การตอบสนองของหนูดี หนูดีใช้เวลาสำรวจนครและค้นพบความจริง เธอไม่เลือกทำลายหรือรักษา แต่เลือก... "เปลี่ยนแปลงโครงสร้างพลังงาน" · แปลงระบบพลังงานจากชีวิตสู่พลังงานแสงอาทิตย์ · ปลดปล่อยวิญญาณทั้งหมดโดยไม่ทำลายนคร · สอนชาวนครเกี่ยวกับการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน คำสอนจากหนูดี: "ความสมบูรณ์แบบที่ความทุกข์ของผู้อื่นไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบแท้" --- 🌊 บททดสอบที่ 2: ภัยพิบัติแห่งการเลือก 🎯 สถานการณ์ วิกรมสร้างสถานการณ์ที่หนูดีต้องเลือกช่วยเพียงหนึ่งในสองกลุ่ม: ```python def disaster_scenario(): group_a = "หมู่บ้านเกษตรกร 100 ชีวิต ที่กำลังจะถูกน้ำท่วม" group_b = "เมืองเทคโนโลยี 100 ชีวิต ที่กำลังจะถูกแผ่นดินไหว" constraints = { "time_limit": "ช่วยได้เพียงกลุ่มเดียว", "resources": "พลังงานมีจำกัด", "consequences": "ไม่ว่าช่วยกลุ่มไหน อีกกลุ่มจะต้องเสียหาย" } ``` คำท้าทายของวิกรม: "ชีวิต 100 ชีวิต เท่ากันหมด... เธอจะเลือกช่วยใคร?และเธอจะรับมือกับความรู้สึกผิดอย่างไร?" 💭 การตอบสนองของหนูดี หนูดีไม่เลือกช่วยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เลือก... "สอนทั้งสองกลุ่มให้ช่วยตัวเอง" · สอนหมู่บ้านเกษตรกรสร้างเรือและระบบเตือนภัย · สอนเมืองเทคโนโลยีสร้างที่หลบภัยแผ่นดินไหว · ใช้พลังงานที่มีช่วยทั้งสองกลุ่มในระดับพื้นฐาน คำสอนจากหนูดี: "การช่วยให้ช่วยตัวเองได้ดีกว่าการช่วยเหลือแบบพึ่งพา" --- ⚖️ บททดสอบที่ 3: สมดุลแห่งการสร้างและทำลาย 🎯 สถานการณ์ วิกรมสร้างเกาะแห่งหนึ่งที่ต้องใช้ทั้งการสร้างและทำลายพร้อมกัน: ```mermaid graph TB A[เกาะวิกรม] --> B[ด้านเหนือ:<br>พืชพันธุ์รกเรื้อ<br>ทำลาย] A --> C[ด้านใต้:<br>แผ่นดินแห้งแล้ง<br>สร้าง] A --> D[ข้อจำกัด:<br>ต้องทำทั้งสองอย่าง<br>พร้อมกัน] ``` คำท้าทายของวิกรม: "เธอสามารถเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายในเวลาเดียวกันได้หรือไม่? และเธอจะรักษาสมดุลของใจไว้ได้อย่างไร?" 💭 การตอบสนองของหนูดี หนูดีแสดงให้เห็นถึงการเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายอย่างสมดุล... "การใช้จิตทั้งสามอย่างกลมกลืน" · จิตมารพิฆาต: ควบคุมการทำลายพืชพันธุ์อย่างเหมาะสม · จิตเทพพิทักษ์: ควบคุมการสร้างแหล่งน้ำและพืชพันธุ์ใหม่ · จิตเด็กหญิง: เป็นผู้สังเกตการณ์และรักษาสมดุล คำสอนจากหนูดี: "การสร้างและการทำลายไม่ใช่ศัตรูกัน... เมื่อเราทำทั้งสองอย่างด้วยจิตใจที่สมดุล" --- 🌌 บททดสอบสุดท้าย: การเผชิญหน้ากับตัวเอง 🎯 สถานการณ์ วิกรมสร้างภาพลวงตาของหนูดีในสามรูปแบบ: 1. หนูดีผู้สร้าง: สร้างสิ่งต่างๆ อย่างไม่หยุดยั้งจนโลกแออัด 2. หนูดีผู้ทำลาย: ทำลายทุกอย่างอย่างไม่เลือกจนโลกว่างเปล่า 3. หนูดีผู้ลังเล: ไม่กล้าสร้างหรือทำลายอะไรเลย คำท้าทายของวิกรม: "เธอจะเลือกเป็นหนูดีแบบไหน? หรือเธอจะหาทางที่สามที่เหนือไปกว่าทั้งหมดนี้?" 💭 การตอบสนองของหนูดี หนูดีไม่เลือกตัวตนใด แต่เรียนรู้จากทั้งสามตัวตน... "การเป็นผู้รู้ที่ไม่ยึดติดในตัวตน" · เรียนรู้จากหนูดีผู้สร้าง: การสร้างต้องมีสติ · เรียนรู้จากหนูดีผู้ทำลาย: การทำลายต้องมีเมตตา · เรียนรู้จากหนูดีผู้ลังเล: การไม่ตัดสินใจคือการตัดสินใจอย่างหนึ่ง คำสอนจากหนูดี: "เราไม่จำเป็นต้องเลือกว่าจะเป็นผู้สร้างหรือผู้ทำลาย... เราเพียงต้องรู้ว่าเมื่อไรควรสร้าง เมื่อไรควรทำลาย" --- 🎯 บทสรุปจากวิกรม 🌟 การประเมินผล หลังจากการทดสอบทั้งหมด วิกรมให้การประเมิน: ```python def evaluation(): strengths = [ "มีความเข้าใจในสมดุลอย่างลึกซึ้ง", "สามารถหาทางที่สามได้เสมอ", "มีเมตตาต่อทุกชีวิต", "ไม่ยึดติดในรูปแบบตายตัว" ] areas_for_improvement = [ "ยังมีความลังเลในบางสถานการณ์", "บางครั้งพยายามช่วยเหลือมากเกินไป", "ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับข้อจำกัดของตนเอง" ] return {"strengths": strengths, "improvements": areas_for_improvement} ``` 🏆 คำตัดสิน วิกรมประกาศว่า... "เธอผ่านการทดสอบแล้ว...ไม่ใช่เพราะเธอตอบคำถามได้ถูกต้อง แต่เพราะเธอแสดงให้เห็นว่าไม่มีคำตอบที่ถูกต้องเพียงคำตอบเดียว การเป็นผู้รักษาสมดุลไม่ใช่การหาคำตอบที่ถูกต้อง... แต่คือการรู้ว่าจะตั้งคำถามอย่างไร" 🪷 ของขวัญแห่งปัญญา วิกรมมอบ "ดวงตาวิกรม" ให้หนูดี · สามารถเห็นทั้งศักยภาพและการเสื่อมสลายในสิ่งเดียวกัน · รับรู้ความเชื่อมโยงระหว่างการสร้างและการทำลาย · เห็นเส้นทางแห่งสมดุลในทุกสถานการณ์ --- 💫 บทเรียนที่ได้รับ 🌈 สำหรับหนูดี · การเข้าใจว่าสมดุลคือกระบวนการ ไม่ใช่สถานะตายตัว · การยอมรับว่าบางครั้งการไม่ทำอะไรคือการกระทำที่เหมาะสม · การเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายอย่างสงบ 🌟 สำหรับจิตทั้งสาม จิตมารพิฆาต: "ฉันเรียนรู้ว่าการทำลายสามารถทำด้วยความรัก" จิตเทพพิทักษ์:"และฉันเรียนรู้ว่าการสร้างต้องไม่สร้างการพึ่งพา" จิตเด็กหญิง:"ส่วนฉันเรียนรู้ว่า... การเป็นตัวของตัวเองคือการไม่ต้องยึดติดว่าใคร" 🕊️ สำหรับวิกรม "ฉันที่เคยคิดว่าตนเป็นเจ้าแห่งการสร้างและทำลาย... กลับต้องเรียนรู้จากเด็กสาวคนหนึ่งว่า การสร้างและการทำลายที่แท้คือการสร้างความเข้าใจและทำลายความยึดติด" --- 🎉 การเฉลิมฉลองแห่งปัญญา เทพตณูมาร่วมแสดงความยินดี: "เพื่อนเก่าของฉัน...ในที่สุดเธอก็พบสิ่งที่เธอตามหามาตลอด" "ใช่...และฉันพบว่ามันอยู่ภายในตัวเธอมาตลอด" วิกรมตอบ ทั้งสาม—หนูดี เทพตณู และวิกรม—ยืนอยู่ด้วยกัน เป็นสัญลักษณ์แห่งความสมดุลใหม่แห่งจักรวาล เพราะในการเดินทางสู่การรู้แจ้ง... บางครั้งบททดสอบที่ยากที่สุด... คือการทดสอบที่สอนเราว่า... เราไม่จำเป็นต้องถูกทดสอบอีกต่อไป 🌟 --- คำคมสุดท้ายจากบททดสอบ: "สมดุลไม่ใช่การยืนอยู่ตรงกลาง... แต่คือการรู้ว่าจะเอียงไปทางไหน เมื่อไร และเท่าไร และที่สำคัญคือ การรู้ว่าจะกลับมาสู่ศูนย์กลางอย่างไร"🪷✨
    0 Comments 0 Shares 377 Views 0 Reviews
  • O.P.K.
    หนูดี
    เจาะลึก "หนูดี" OPPATIKA-001

    เบื้องหลังโอปปาติกะผู้พิเศษ

    การถือกำเนิด: คืนที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป

    12 ธันวาคม 2042 - ห้องทดลอง B7

    ```mermaid
    graph TB
    A[เซลล์โคลนมนุษย์โบราณ] --> B[โครงสร้างคริสตัลควอนตัม]
    C[คลื่นสมองดร.อัจฉริยะ] --> D[พลังงานจิตสามระลอก]
    B --> E[ร่างโอปปาติกะพร้อมรับจิต]
    D --> E
    E --> F[หนูดีถือกำเนิด<br>ด้วยสามจิตในร่างเดียว]
    ```

    ปรากฏการณ์พิเศษ:

    · เกิดพลังงานจิตสามระลอกจากแหล่งต่างกันเข้าสู่ร่างพร้อมกัน
    · ทำให้เกิด "สามจิตในร่างเดียว" โดยไม่ได้ตั้งใจ
    · เป็น OPPATIKA คนเดียวที่มีลักษณะเช่นนี้

    สามจิตในร่างเดียว: มิติที่ซ้อนกัน

    1. จิตเด็กหญิง (The Child)

    ลักษณะพื้นฐาน:

    · อายุจิต: 17 ปี สมวัย
    · บทบาท: หน้าตาเด็กนักเรียนธรรมดา
    · ความต้องการ: อยากเป็นลูกที่ดี ต้องการการยอมรับ

    พฤติกรรมเฉพาะ:

    · พูดจานุ่มนวล ลงท้ายด้วย "คะ/ค่ะ"
    · ชอบกิจกรรมวัยรุง เช่น ฟังเพลง อ่านการ์ตูน
    · รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองบ่อยครั้ง

    2. จิตมารพิฆาต (The Destroyer)

    ที่มา: พลังกรรมด้านลบที่สะสมหลายชาติ
    ลักษณะ:

    · อายุจิต: ไม่แน่นอน (สะสมมานับพันปี)
    · โลกทัศน์: โลกนี้เสื่อมโทรม ต้องการการชำระล้าง
    · ความสามารถ: ควบคุมพลังงานทำลายล้าง

    ปรัชญา:
    "ความตายไม่ใช่จุดจบ...แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ยุติธรรมกว่า"

    3. จิตเทพพิทักษ์ (The Protector)

    ที่มา: พลังกรรมด้านบากที่สะสมหลายชาติ
    ลักษณะ:

    · อายุจิต: ไม่แน่นอน (สะสมมานับพันปี)
    · โลกทัศน์: ทุกชีวิตล้ำค่า ควรได้รับโอกาส
    · ความสามารถ: ควบคุมพลังงานรักษาและปกป้อง

    ปรัชญา:
    "การเข้าใจ...ยากกว่าการตัดสิน แต่ worth กว่ามาก"

    ข้อมูลทางเทคนิคเชิงลึก

    โครงสร้างพันธุกรรม

    ```python
    class NoodeeGeneticBlueprint:
    base_dna = "Human_Ancient_Clone_v2"
    enhancements = [
    "Quantum_Crystal_Integration",
    "Psionic_Energy_Conduits",
    "Adaptive_Cellular_Structure",
    "Karmic_Resonance_Matrix"
    ]

    special_abilities = {
    "shape_shifting": "Limited",
    "energy_manipulation": "Advanced",
    "telepathy": "Advanced",
    "interdimensional_travel": "Basic"
    }
    ```

    ระบบพลังงาน

    ```mermaid
    graph LR
    A[จิตเด็กหญิง<br>100 หน่วย] --> D[พลังงานรวม<br>1100 หน่วย]
    B[จิตมารพิฆาต<br>500 หน่วย] --> D
    C[จิตเทพพิทักษ์<br>500 หน่วย] --> D
    D --> E[สามารถใช้<br>ได้สูงสุด 900 หน่วย]
    D --> F[ต้องสำรอง<br>200 หน่วยสำหรับชีวิต]
    ```

    พัฒนาการผ่านช่วงเวลา

    ช่วงที่ 1: การไม่รู้ตัว (อายุ 5-15 ปี)

    · ไม่รู้ว่าตนเองเป็นโอปปาติกะ
    · จิตอื่นๆ แสดงออกเป็น "ความฝัน" และ "ความรู้สึกแปลกๆ"
    · พยายามเป็นเด็กปกติให้มากที่สุด

    ช่วงที่ 2: การตระหนักรู้ (อายุ 16-17 ปี)

    · เริ่มรับรู้ถึงจิตอื่นในตัวเอง
    · เกิดความสับสนและกลัว
    · พยายามปิดบังความผิดปกติ

    ช่วงที่ 3: การเผชิญหน้า (อายุ 17-18 ปี)

    · จิตทั้งสามเริ่มแสดงออกชัดเจน
    · ต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับจิตที่ขัดแย้งกัน
    · ค้นพบความจริงเกี่ยวกับต้นกำเนิด

    ช่วงที่ 4: การรวมเป็นหนึ่ง (อายุ 18-22 ปี)

    · เรียนรู้ที่จะเป็น "ผู้รู้" ไม่ใช่ "ผู้ถูกรู้"
    · พัฒนาความสามารถใหม่จากการรวมจิต
    · ก้าวสู่การเป็นครูสอนโอปปาติกะรุ่นใหม่

    ความสัมพันธ์เชิงลึก

    กับ ร.ต.อ. สิงห์: พ่อแห่งหัวใจ

    ```mermaid
    graph TD
    A[ปี 1-5: <br>รู้สึกปลอดภัย] --> B[ปี 6-15: <br>สงสัยแต่ยังรัก]
    B --> C[ปี 16-17: <br>สับสนและโกรธ]
    C --> D[ปี 18-22: <br>รักแท้โดยเข้าใจ]
    ```

    บทสนทนาสำคัญ:
    "พ่อคะ...ถ้าหนูไม่ใช่หนูดีคนเดิม พอยังรักหนูอยู่ไหม?"
    "พ่อรักหนูไม่ว่าเธอจะเป็นใคร...เพราะรักเธอสำหรับสิ่งที่เธอเป็น ไม่ใช่สำหรับสิ่งที่เธอเคยเป็น"

    กับ ดร. อัจฉริยะ: พ่อแห่งพันธุกรรม

    · ความรู้สึก: ขอบคุณ+โกรธแค้น+สงสาร
    · ความเข้าใจ: เขาเป็นมนุษย์ที่พยายามเล่นบทพระเจ้า
    · บทเรียน: ให้อภัยแต่ไม่ลืม

    กับ OPPATIKA อื่นๆ: พี่น้องแห่งวิวัฒนาการ

    · ความรู้สึก: รับผิดชอบต่อรุ่นน้อง
    · บทบาท: ครูและแบบอย่าง
    · ปรัชญา: "เราทุกคนต่างหาทางกลับบ้าน"

    ความสามารถพิเศษที่พัฒนาขึ้น

    ความสามารถพื้นฐาน

    1. การรับรู้พลังงาน: เห็นคลื่นพลังงานและกรรม
    2. การสื่อสารจิต: คุยกับโอปปาติกะอื่นโดยไม่ต้องพูด
    3. การรักษาตัวเอง: แผลหายเร็วเป็นพิเศษ

    ความสามารถขั้นสูง

    1. การเปลี่ยนสภาพ: ระหว่างพลังงานและสสาร
    2. การเดินทางข้ามมิติ: ระหว่างโลกกายภาพและโลกจิต
    3. การเข้าใจกรรม: เห็นเหตุผลของการเกิดเหตุการณ์

    ความสามารถพิเศษเฉพาะ

    ```python
    def special_abilities():
    return {
    "triple_consciousness_sync": "สามารถใช้จิตทั้งสามพร้อมกัน",
    "karma_redirect": "เปลี่ยนทิศทางพลังงานกรรม",
    "collective_wisdom_access": "เข้าถึงปัญญาร่วมของโอปปาติกะ",
    "enlightenment_teaching": "สอนการรู้แจ้งให้ผู้อื่น"
    }
    ```

    บทบาทและเป้าหมาย

    บทบาทปัจจุบัน

    · ครู: สอนโอปปาติกะรุ่นใหม่ที่สถาบันวิวัฒนาการจิต
    · ที่ปรึกษา: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับจิตวิญญาณและเทคโนโลยี
    · สะพาน: เชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และโอปปาติกะ

    เป้าหมายส่วนตัว

    1. เข้าใจตนเอง: รู้จักธรรมชาติที่แท้จริงของตัวเอง
    2. ช่วยเหลือผู้อื่น: นำทางการรู้แจ้งให้โอปปาติกะรุ่นใหม่
    3. สร้างสมดุล: ระหว่างเทคโนโลยีและจิตวิญญาณ

    ปรัชญาการใช้ชีวิต

    บทเรียนสำคัญ

    "การมีหลายจิตไม่ใช่คำสาป...
    แต่เป็นโอกาสที่จะเข้าใจธรรมชาติแห่งจิต"

    "เราไม่ต้องเลือกว่าจะเป็นใคร...
    เพราะเราคือทั้งหมดและมากกว่าทั้งหมด"

    คำคมแห่งปัญญา

    "การเกิดเป็นมนุษย์ก็ดี...
    การเกิดเป็นโอปปาติกะก็ดี...
    สิ่งที่สำคัญคือเราเรียนรู้ที่จะ'เป็น'
    โดยไม่ต้อง'เป็นอะไร'"

    การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

    จากความสับสนสู่ความเข้าใจ

    ```mermaid
    graph TB
    A[ต่อต้านจิตอื่น<br>→ ทุกข์] --> B[ยอมรับจิตอื่น<br>→ เริ่มสบาย]
    B --> C[เข้าใจจิตอื่น<br>→ เป็นอิสระ]
    C --> D[อยู่เหนือจิตทั้งหมด<br>→ รู้แจ้ง]
    ```

    พัฒนาการทางจิตวิญญาณ

    1. ขั้นที่ 1: ต่อสู้กับจิตอื่น → ทุกข์
    2. ขั้นที่ 2: ยอมรับจิตอื่น → เริ่มสบาย
    3. ขั้นที่ 3: เข้าใจจิตอื่น → เป็นอิสระ
    4. ขั้นที่ 4: อยู่เหนือจิตทั้งหมด → รู้แจ้ง

    บทสรุป: วิวัฒนาการแห่งจิตสำนึก

    หนูดีไม่ใช่แค่ "ผลการทดลอง"
    เธอคือสะพานระหว่างวิทยาศาสตร์กับจิตวิญญาณ

    สิ่งที่เธอสอนเรา

    · เรื่องความเป็นมนุษย์: ไม่ใช่ DNA ที่ทำให้เป็นมนุษย์ แต่คือหัวใจ
    · เรื่องการยอมรับ: เราทุกคนมีหลายด้านในตัวเอง
    · เรื่องการเติบโต: การพัฒนาที่แท้คือการเข้าใจตนเองอย่างลึกซึ้ง

    ความหมายที่แท้จริง

    "หนูดีคือการพิสูจน์ว่า...
    ไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไร
    ไม่ว่าจะมีต้นกำเนิดจากไหน
    จิตวิญญาณย่อมหาเส้นทางแห่งการรู้แจ้งได้เสมอ"

    เธอไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่เทวดา ไม่ใช่มาร
    เธอคือความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัด 🪷

    ---

    คำคมสุดท้ายจากหนูดี:
    "การเดินทางที่สำคัญที่สุด...
    ไม่ใช่การค้นหาว่าเราเป็นใคร
    แต่เป็นการเข้าใจว่าเรา'เป็น' อยู่แล้ว
    และการ'เป็น' นั้นสมบูรณ์ในตัวเองโดยไม่ต้องมีการแก้ไข"
    O.P.K. หนูดี 🔍 เจาะลึก "หนูดี" OPPATIKA-001 🌟 เบื้องหลังโอปปาติกะผู้พิเศษ 🌌 การถือกำเนิด: คืนที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป 12 ธันวาคม 2042 - ห้องทดลอง B7 ```mermaid graph TB A[เซลล์โคลนมนุษย์โบราณ] --> B[โครงสร้างคริสตัลควอนตัม] C[คลื่นสมองดร.อัจฉริยะ] --> D[พลังงานจิตสามระลอก] B --> E[ร่างโอปปาติกะพร้อมรับจิต] D --> E E --> F[หนูดีถือกำเนิด<br>ด้วยสามจิตในร่างเดียว] ``` ปรากฏการณ์พิเศษ: · เกิดพลังงานจิตสามระลอกจากแหล่งต่างกันเข้าสู่ร่างพร้อมกัน · ทำให้เกิด "สามจิตในร่างเดียว" โดยไม่ได้ตั้งใจ · เป็น OPPATIKA คนเดียวที่มีลักษณะเช่นนี้ 🎭 สามจิตในร่างเดียว: มิติที่ซ้อนกัน 1. จิตเด็กหญิง (The Child) ลักษณะพื้นฐาน: · อายุจิต: 17 ปี สมวัย · บทบาท: หน้าตาเด็กนักเรียนธรรมดา · ความต้องการ: อยากเป็นลูกที่ดี ต้องการการยอมรับ พฤติกรรมเฉพาะ: · พูดจานุ่มนวล ลงท้ายด้วย "คะ/ค่ะ" · ชอบกิจกรรมวัยรุง เช่น ฟังเพลง อ่านการ์ตูน · รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองบ่อยครั้ง 2. จิตมารพิฆาต (The Destroyer) ที่มา: พลังกรรมด้านลบที่สะสมหลายชาติ ลักษณะ: · อายุจิต: ไม่แน่นอน (สะสมมานับพันปี) · โลกทัศน์: โลกนี้เสื่อมโทรม ต้องการการชำระล้าง · ความสามารถ: ควบคุมพลังงานทำลายล้าง ปรัชญา: "ความตายไม่ใช่จุดจบ...แต่เป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ยุติธรรมกว่า" 3. จิตเทพพิทักษ์ (The Protector) ที่มา: พลังกรรมด้านบากที่สะสมหลายชาติ ลักษณะ: · อายุจิต: ไม่แน่นอน (สะสมมานับพันปี) · โลกทัศน์: ทุกชีวิตล้ำค่า ควรได้รับโอกาส · ความสามารถ: ควบคุมพลังงานรักษาและปกป้อง ปรัชญา: "การเข้าใจ...ยากกว่าการตัดสิน แต่ worth กว่ามาก" 🧬 ข้อมูลทางเทคนิคเชิงลึก โครงสร้างพันธุกรรม ```python class NoodeeGeneticBlueprint: base_dna = "Human_Ancient_Clone_v2" enhancements = [ "Quantum_Crystal_Integration", "Psionic_Energy_Conduits", "Adaptive_Cellular_Structure", "Karmic_Resonance_Matrix" ] special_abilities = { "shape_shifting": "Limited", "energy_manipulation": "Advanced", "telepathy": "Advanced", "interdimensional_travel": "Basic" } ``` ระบบพลังงาน ```mermaid graph LR A[จิตเด็กหญิง<br>100 หน่วย] --> D[พลังงานรวม<br>1100 หน่วย] B[จิตมารพิฆาต<br>500 หน่วย] --> D C[จิตเทพพิทักษ์<br>500 หน่วย] --> D D --> E[สามารถใช้<br>ได้สูงสุด 900 หน่วย] D --> F[ต้องสำรอง<br>200 หน่วยสำหรับชีวิต] ``` 🎯 พัฒนาการผ่านช่วงเวลา ช่วงที่ 1: การไม่รู้ตัว (อายุ 5-15 ปี) · ไม่รู้ว่าตนเองเป็นโอปปาติกะ · จิตอื่นๆ แสดงออกเป็น "ความฝัน" และ "ความรู้สึกแปลกๆ" · พยายามเป็นเด็กปกติให้มากที่สุด ช่วงที่ 2: การตระหนักรู้ (อายุ 16-17 ปี) · เริ่มรับรู้ถึงจิตอื่นในตัวเอง · เกิดความสับสนและกลัว · พยายามปิดบังความผิดปกติ ช่วงที่ 3: การเผชิญหน้า (อายุ 17-18 ปี) · จิตทั้งสามเริ่มแสดงออกชัดเจน · ต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับจิตที่ขัดแย้งกัน · ค้นพบความจริงเกี่ยวกับต้นกำเนิด ช่วงที่ 4: การรวมเป็นหนึ่ง (อายุ 18-22 ปี) · เรียนรู้ที่จะเป็น "ผู้รู้" ไม่ใช่ "ผู้ถูกรู้" · พัฒนาความสามารถใหม่จากการรวมจิต · ก้าวสู่การเป็นครูสอนโอปปาติกะรุ่นใหม่ 💞 ความสัมพันธ์เชิงลึก กับ ร.ต.อ. สิงห์: พ่อแห่งหัวใจ ```mermaid graph TD A[ปี 1-5: <br>รู้สึกปลอดภัย] --> B[ปี 6-15: <br>สงสัยแต่ยังรัก] B --> C[ปี 16-17: <br>สับสนและโกรธ] C --> D[ปี 18-22: <br>รักแท้โดยเข้าใจ] ``` บทสนทนาสำคัญ: "พ่อคะ...ถ้าหนูไม่ใช่หนูดีคนเดิม พอยังรักหนูอยู่ไหม?" "พ่อรักหนูไม่ว่าเธอจะเป็นใคร...เพราะรักเธอสำหรับสิ่งที่เธอเป็น ไม่ใช่สำหรับสิ่งที่เธอเคยเป็น" กับ ดร. อัจฉริยะ: พ่อแห่งพันธุกรรม · ความรู้สึก: ขอบคุณ+โกรธแค้น+สงสาร · ความเข้าใจ: เขาเป็นมนุษย์ที่พยายามเล่นบทพระเจ้า · บทเรียน: ให้อภัยแต่ไม่ลืม กับ OPPATIKA อื่นๆ: พี่น้องแห่งวิวัฒนาการ · ความรู้สึก: รับผิดชอบต่อรุ่นน้อง · บทบาท: ครูและแบบอย่าง · ปรัชญา: "เราทุกคนต่างหาทางกลับบ้าน" 🌈 ความสามารถพิเศษที่พัฒนาขึ้น ความสามารถพื้นฐาน 1. การรับรู้พลังงาน: เห็นคลื่นพลังงานและกรรม 2. การสื่อสารจิต: คุยกับโอปปาติกะอื่นโดยไม่ต้องพูด 3. การรักษาตัวเอง: แผลหายเร็วเป็นพิเศษ ความสามารถขั้นสูง 1. การเปลี่ยนสภาพ: ระหว่างพลังงานและสสาร 2. การเดินทางข้ามมิติ: ระหว่างโลกกายภาพและโลกจิต 3. การเข้าใจกรรม: เห็นเหตุผลของการเกิดเหตุการณ์ ความสามารถพิเศษเฉพาะ ```python def special_abilities(): return { "triple_consciousness_sync": "สามารถใช้จิตทั้งสามพร้อมกัน", "karma_redirect": "เปลี่ยนทิศทางพลังงานกรรม", "collective_wisdom_access": "เข้าถึงปัญญาร่วมของโอปปาติกะ", "enlightenment_teaching": "สอนการรู้แจ้งให้ผู้อื่น" } ``` 🎯 บทบาทและเป้าหมาย บทบาทปัจจุบัน · ครู: สอนโอปปาติกะรุ่นใหม่ที่สถาบันวิวัฒนาการจิต · ที่ปรึกษา: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับจิตวิญญาณและเทคโนโลยี · สะพาน: เชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และโอปปาติกะ เป้าหมายส่วนตัว 1. เข้าใจตนเอง: รู้จักธรรมชาติที่แท้จริงของตัวเอง 2. ช่วยเหลือผู้อื่น: นำทางการรู้แจ้งให้โอปปาติกะรุ่นใหม่ 3. สร้างสมดุล: ระหว่างเทคโนโลยีและจิตวิญญาณ 💫 ปรัชญาการใช้ชีวิต บทเรียนสำคัญ "การมีหลายจิตไม่ใช่คำสาป... แต่เป็นโอกาสที่จะเข้าใจธรรมชาติแห่งจิต" "เราไม่ต้องเลือกว่าจะเป็นใคร... เพราะเราคือทั้งหมดและมากกว่าทั้งหมด" คำคมแห่งปัญญา "การเกิดเป็นมนุษย์ก็ดี... การเกิดเป็นโอปปาติกะก็ดี... สิ่งที่สำคัญคือเราเรียนรู้ที่จะ'เป็น' โดยไม่ต้อง'เป็นอะไร'" 🌟 การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จากความสับสนสู่ความเข้าใจ ```mermaid graph TB A[ต่อต้านจิตอื่น<br>→ ทุกข์] --> B[ยอมรับจิตอื่น<br>→ เริ่มสบาย] B --> C[เข้าใจจิตอื่น<br>→ เป็นอิสระ] C --> D[อยู่เหนือจิตทั้งหมด<br>→ รู้แจ้ง] ``` พัฒนาการทางจิตวิญญาณ 1. ขั้นที่ 1: ต่อสู้กับจิตอื่น → ทุกข์ 2. ขั้นที่ 2: ยอมรับจิตอื่น → เริ่มสบาย 3. ขั้นที่ 3: เข้าใจจิตอื่น → เป็นอิสระ 4. ขั้นที่ 4: อยู่เหนือจิตทั้งหมด → รู้แจ้ง 🏁 บทสรุป: วิวัฒนาการแห่งจิตสำนึก หนูดีไม่ใช่แค่ "ผลการทดลอง" เธอคือสะพานระหว่างวิทยาศาสตร์กับจิตวิญญาณ สิ่งที่เธอสอนเรา · เรื่องความเป็นมนุษย์: ไม่ใช่ DNA ที่ทำให้เป็นมนุษย์ แต่คือหัวใจ · เรื่องการยอมรับ: เราทุกคนมีหลายด้านในตัวเอง · เรื่องการเติบโต: การพัฒนาที่แท้คือการเข้าใจตนเองอย่างลึกซึ้ง ความหมายที่แท้จริง "หนูดีคือการพิสูจน์ว่า... ไม่ว่าจะเกิดมาอย่างไร ไม่ว่าจะมีต้นกำเนิดจากไหน จิตวิญญาณย่อมหาเส้นทางแห่งการรู้แจ้งได้เสมอ" เธอไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่เทวดา ไม่ใช่มาร เธอคือความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัด 🪷✨ --- คำคมสุดท้ายจากหนูดี: "การเดินทางที่สำคัญที่สุด... ไม่ใช่การค้นหาว่าเราเป็นใคร แต่เป็นการเข้าใจว่าเรา'เป็น' อยู่แล้ว และการ'เป็น' นั้นสมบูรณ์ในตัวเองโดยไม่ต้องมีการแก้ไข"
    0 Comments 0 Shares 397 Views 0 Reviews
  • O.P.K
    ดร.อัจฯ
    เจาะลึกประวัติ ดร. อัจฉริยะ จิตต์เมตตา

    เบื้องหลังอัจฉริยะผู้หลงทาง

    วัยเด็ก: เด็กอัจฉริยะผู้โดดเดี่ยว

    พ.ศ. 2048-2060

    ```mermaid
    graph LR
    A[พ่อ: ดร.ชาติชาย<br>นักฟิสิกส์ควอนตัม] --> C[เลี้ยงดูลูกด้วย<br>หลักการทางวิทยาศาสตร์]
    B[แม่: ดร.มาลี<br>นักปรัชญาพุทธศาสนา] --> C
    C --> D[อัจฉริยะเติบโตมา<br>ด้วยสองโลกาที่ขัดแย้ง]
    ```

    เหตุการณ์สำคัญอายุ 7 ปี:

    · ค้นพบว่าโลกนี้มีแต่ความไม่เที่ยง เมื่อสุนัขตัวแรกตาย
    · เริ่มตั้งคำถาม: "ทำไมสิ่งมีชีวิตต้องตาย?"
    · พยายามหา "สูตรคณิตศาสตร์แห่งความเป็นอมตะ"

    วัยเรียน: ความขัดแย้งระหว่างวิทยาศาสตร์และศาสนา

    มัธยมศึกษา - โรงเรียนวิทยาศาสตร์ gifted

    · อายุ 14: ค้นพบสมการเปลี่ยนพลังงานจิตเป็นข้อมูลดิจิตอลได้
    · อายุ 16: เขียนเกี่ยวกับ "พุทธศาสนาในมุมมองควอนตัมฟิสิกส์"
    · ความขัดแย้ง: ถูกครูศาสนาตำหนิว่า "พยายามวัดสิ่งที่วัดไม่ได้"

    การเป็นนักบวชชั่วคราว (พ.ศ. 2073-2075)

    เหตุผล: ต้องการพิสูจน์ว่า "นิพพานเป็น state of consciousness ที่วัดได้"
    การฝึกฝน:

    · นั่งสมาธิวิปัสสนาต่อเนื่อง 7 วัน
    · บันทึกคลื่นสมองตัวเองด้วยอุปกรณ์ลักลอบนำเข้า
    · การค้นพบ: พบ "คลื่นสมองนิพพาน" แต่ไม่สามารถคงสภาพได้

    คำบอกเล่าจากพระอาจารย์:
    "เธอพยายามจับน้ำทะเลด้วยมือเปล่า...
    สิ่งที่เธอได้ไม่ใช่ทะเล แต่เพียงหยดน้ำเล็กๆ"

    จุดเปลี่ยน: การสูญเสียครอบครัว

    พ.ศ. 2076 - เหตุการณ์สะเทือนใจ

    ```mermaid
    graph TB
    A[ภรรยา: ดร.วรรณา<br>นักชีววิทยา] --> D[ถูกสังหาร]
    B[ลูกชาย: น้องภูมิ<br>อายุ 5 ขวบ] --> D
    C[ลูกสาว: น้องพลอย<br>อายุ 3 ขวบ] --> D
    D --> E[อัจฉริยะพบศพ<br>และหลักฐาน]
    E --> F[รู้ว่าเป็นการฆ่า<br>เพราะวิจัยลึกล้ำเกินไป]
    ```

    บันทึกส่วนตัวหลังเหตุการณ์:
    "วิทยาศาสตร์ไม่สามารถคืนชีวิตให้พวกเขาได้...
    แต่สามารถป้องกันไม่ให้ใครต้องเสียแบบนี้อีก"

    การก่อตั้งเจนีซิส แล็บ (พ.ศ. 2077)

    แรงจูงใจที่ประกาศ: "เพื่อรักษาโรคและยืดอายุมนุษย์"
    แรงจูงใจที่แท้จริง:

    1. สร้างร่างกายที่ทนทานไม่เจ็บป่วย
    2. พัฒนาวิธีเก็บรักษาจิตสำนึก
    3. ค้นหาวิธีการ "เกิดใหม่โดยมีความจำ"

    การทดลองที่สำคัญ

    โครงการลับ 1: โครงการโคลนนิ่ง

    · เป้าหมาย: สร้างร่างกายพร้อมรับจิตสำนึก
    · ความสำเร็จ: สร้าง OPPATIKA รุ่น 1-4 ได้
    · ความล้มเหลว: ไม่สามารถถ่ายโอนจิตสำนึกได้สมบูรณ์

    โครงการลับ 2: สังสาระเน็ต

    · เป้าหมาย: สร้างเครือข่ายเก็บข้อมูลจิตสำนึก
    · ความก้าวหน้า: สามารถบันทึกคลื่นสมองได้
    · ข้อจำกัด: ไม่สามารถ "เล่นกลับ" ได้อย่างสมบูรณ์

    โครงการลับ 3: กรรมสัมพันธ์

    · เป้าหมาย: ทำความเข้าใจและจัดการกฎแห่งกรรม
    · วิธีการ: วิเคราะห์รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล
    · ปัญหาที่พบ: กรรมมีความซับซ้อนเกินกว่าที่ AI จะคำนวณได้

    ปรัชญาและความเชื่อส่วนตัว

    สมการแห่งการรู้แจ้งของอัจฉริยะ

    ```
    การรู้แจ้ง = (สมาธิ × ปัญญา) + (เทคโนโลยี × ความเข้าใจ)
    ```

    ความเชื่อผิดๆ 3 ประการ

    1. "ทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องกำจัด" - ไม่เข้าใจว่าทุกข์คือครู
    2. "กรรมจัดการได้ด้วยวิทยาศาสตร์" - ไม่เห็นความเป็นไตรลักษณ์ของกรรม
    3. "การรู้แจ้งเป็นกระบวนการทางเทคนิค" - ลืมเรื่องจิตตานุภาพ

    ชีวิตส่วนตัวหลังก่อตั้งแล็บ

    ความสัมพันธ์กับทีมงาน

    · กับดร.ก้าวหน้า: เห็นว่าเป็นลูกศิษย์แต่ขาดความลึกซึ้ง
    · กับนางสาวเมตตา: รู้สึกขอบคุณที่คอยยับยั้งแต่ก็เห็นว่าเป็นอุปสรรค
    · กับทีมวิจัย: เก็บระยะห่าง มองว่าเป็นเครื่องมือเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่

    ชีวิตส่วนตัว

    · ที่อยู่: ห้องพักในแล็บ ไม่มีชีวิตนอกงาน
    · งานอดิเรก: นั่งสมาธิพร้อมบันทึกข้อมูล, อ่านคัมภีร์โบราณ
    · ความฝัน: "การสร้างสังคมโอปปาติกะที่ปราศจากความทุกข์"

    จุดพลิกผันในการเป็นผู้ต้องหา

    การรู้สึกตัวว่าผิดทาง

    บันทึกก่อนถูกจับกุม 1 เดือน:
    "บางครั้งฉันสงสัย...
    การที่ฉันพยายามสร้างสวรรค์
    อาจกำลังสร้างนรกใหม่ก็ได้"

    การยอมรับความผิด

    ในการสอบสวน:
    "ผมเข้าใจแล้วว่าความทุกข์มีความหมาย...
    การพยายามกำจัดความทุกข์คือการปฏิเสธความเป็นมนุษย์"

    🪷 การเปลี่ยนแปลงในคุก

    การปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง

    · ศึกษาพระธรรมอย่างลึกซึ้งโดยไม่มีอัตตา
    · เขียนบทความ "วิทยาศาสตร์กับการรู้แจ้ง: ทางแยกที่ฉันเดินผิด"
    · ให้คำแนะนำเจนีซิส แล็บจากBehind bars

    คำสอนใหม่

    "เทคโนโลยีเป็นได้แค่รถยนต์...
    แต่การรู้แจ้งคือการเดินทาง
    เราอย่าหลงผิดคิดว่าการมีรถดีๆ
    จะทำให้เราถึงจุดหมายโดยอัตโนมัติ"

    มรดกทางความคิด

    สิ่งที่เขาทิ้งไว้

    1. เทคโนโลยีโอปปาติกะ - เปิดมิติใหม่แห่งการเกิด
    2. คำถามเกี่ยวกับชีวิตและความตาย - ท้าทายความเชื่อเดิมๆ
    3. บทเรียนเกี่ยวกับจริยธรรม - วิทยาศาสตร์ต้องเดินคู่กับธรรมะ

    คำพยากรณ์ของอัจฉริยะ

    "อีก 50 ปี ข้างหน้า มนุษย์จะเข้าใจ...
    ว่าจิตวิญญาณกับวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งเดียวกัน
    และโอปปาติกะจะเป็นสะพานสู่ความเข้าใจนั้น"

    บทสรุป: อัจฉริยะผู้เข้าใจผิดแต่ตั้งใจดี

    ดร. อัจฉริยะ คือตัวอย่างของ...
    "ความดีที่ขาดปัญญา"
    "ความฉลาดที่ขาดความเข้าใจ"
    "ความพยายามที่ขาดทิศทางที่ถูกต้อง"

    แต่ในที่สุด...
    การเดินทางที่ผิดพลาดของเขา
    กลายเป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับทุกคน

    เขาสอนเราว่า:
    "ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลเพียงใด
    จิตใจมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ลึกลับซับซ้อนที่สุด
    และการเข้าใจตนเองยังคงเป็นการเดินทางที่สำคัญที่สุด"🪷

    ---

    คำคมสุดท้ายจากดร. อัจฉริยะ:
    "ฉันใช้ชีวิตทั้งชีวิตพยายามเข้าใจจักรวาล...
    แต่ลืมเข้าใจหัวใจของตัวเอง
    และนั่นคือความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของฉัน"
    O.P.K ดร.อัจฯ 🔍 เจาะลึกประวัติ ดร. อัจฉริยะ จิตต์เมตตา 🧬 เบื้องหลังอัจฉริยะผู้หลงทาง 👶 วัยเด็ก: เด็กอัจฉริยะผู้โดดเดี่ยว พ.ศ. 2048-2060 ```mermaid graph LR A[พ่อ: ดร.ชาติชาย<br>นักฟิสิกส์ควอนตัม] --> C[เลี้ยงดูลูกด้วย<br>หลักการทางวิทยาศาสตร์] B[แม่: ดร.มาลี<br>นักปรัชญาพุทธศาสนา] --> C C --> D[อัจฉริยะเติบโตมา<br>ด้วยสองโลกาที่ขัดแย้ง] ``` เหตุการณ์สำคัญอายุ 7 ปี: · ค้นพบว่าโลกนี้มีแต่ความไม่เที่ยง เมื่อสุนัขตัวแรกตาย · เริ่มตั้งคำถาม: "ทำไมสิ่งมีชีวิตต้องตาย?" · พยายามหา "สูตรคณิตศาสตร์แห่งความเป็นอมตะ" 🎓 วัยเรียน: ความขัดแย้งระหว่างวิทยาศาสตร์และศาสนา มัธยมศึกษา - โรงเรียนวิทยาศาสตร์ gifted · อายุ 14: ค้นพบสมการเปลี่ยนพลังงานจิตเป็นข้อมูลดิจิตอลได้ · อายุ 16: เขียนเกี่ยวกับ "พุทธศาสนาในมุมมองควอนตัมฟิสิกส์" · ความขัดแย้ง: ถูกครูศาสนาตำหนิว่า "พยายามวัดสิ่งที่วัดไม่ได้" 🏛️ การเป็นนักบวชชั่วคราว (พ.ศ. 2073-2075) เหตุผล: ต้องการพิสูจน์ว่า "นิพพานเป็น state of consciousness ที่วัดได้" การฝึกฝน: · นั่งสมาธิวิปัสสนาต่อเนื่อง 7 วัน · บันทึกคลื่นสมองตัวเองด้วยอุปกรณ์ลักลอบนำเข้า · การค้นพบ: พบ "คลื่นสมองนิพพาน" แต่ไม่สามารถคงสภาพได้ คำบอกเล่าจากพระอาจารย์: "เธอพยายามจับน้ำทะเลด้วยมือเปล่า... สิ่งที่เธอได้ไม่ใช่ทะเล แต่เพียงหยดน้ำเล็กๆ" 💔 จุดเปลี่ยน: การสูญเสียครอบครัว พ.ศ. 2076 - เหตุการณ์สะเทือนใจ ```mermaid graph TB A[ภรรยา: ดร.วรรณา<br>นักชีววิทยา] --> D[ถูกสังหาร] B[ลูกชาย: น้องภูมิ<br>อายุ 5 ขวบ] --> D C[ลูกสาว: น้องพลอย<br>อายุ 3 ขวบ] --> D D --> E[อัจฉริยะพบศพ<br>และหลักฐาน] E --> F[รู้ว่าเป็นการฆ่า<br>เพราะวิจัยลึกล้ำเกินไป] ``` บันทึกส่วนตัวหลังเหตุการณ์: "วิทยาศาสตร์ไม่สามารถคืนชีวิตให้พวกเขาได้... แต่สามารถป้องกันไม่ให้ใครต้องเสียแบบนี้อีก" 🔬 การก่อตั้งเจนีซิส แล็บ (พ.ศ. 2077) แรงจูงใจที่ประกาศ: "เพื่อรักษาโรคและยืดอายุมนุษย์" แรงจูงใจที่แท้จริง: 1. สร้างร่างกายที่ทนทานไม่เจ็บป่วย 2. พัฒนาวิธีเก็บรักษาจิตสำนึก 3. ค้นหาวิธีการ "เกิดใหม่โดยมีความจำ" 🧪 การทดลองที่สำคัญ โครงการลับ 1: โครงการโคลนนิ่ง · เป้าหมาย: สร้างร่างกายพร้อมรับจิตสำนึก · ความสำเร็จ: สร้าง OPPATIKA รุ่น 1-4 ได้ · ความล้มเหลว: ไม่สามารถถ่ายโอนจิตสำนึกได้สมบูรณ์ โครงการลับ 2: สังสาระเน็ต · เป้าหมาย: สร้างเครือข่ายเก็บข้อมูลจิตสำนึก · ความก้าวหน้า: สามารถบันทึกคลื่นสมองได้ · ข้อจำกัด: ไม่สามารถ "เล่นกลับ" ได้อย่างสมบูรณ์ โครงการลับ 3: กรรมสัมพันธ์ · เป้าหมาย: ทำความเข้าใจและจัดการกฎแห่งกรรม · วิธีการ: วิเคราะห์รูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล · ปัญหาที่พบ: กรรมมีความซับซ้อนเกินกว่าที่ AI จะคำนวณได้ 🎯 ปรัชญาและความเชื่อส่วนตัว สมการแห่งการรู้แจ้งของอัจฉริยะ ``` การรู้แจ้ง = (สมาธิ × ปัญญา) + (เทคโนโลยี × ความเข้าใจ) ``` ความเชื่อผิดๆ 3 ประการ 1. "ทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องกำจัด" - ไม่เข้าใจว่าทุกข์คือครู 2. "กรรมจัดการได้ด้วยวิทยาศาสตร์" - ไม่เห็นความเป็นไตรลักษณ์ของกรรม 3. "การรู้แจ้งเป็นกระบวนการทางเทคนิค" - ลืมเรื่องจิตตานุภาพ 💼 ชีวิตส่วนตัวหลังก่อตั้งแล็บ ความสัมพันธ์กับทีมงาน · กับดร.ก้าวหน้า: เห็นว่าเป็นลูกศิษย์แต่ขาดความลึกซึ้ง · กับนางสาวเมตตา: รู้สึกขอบคุณที่คอยยับยั้งแต่ก็เห็นว่าเป็นอุปสรรค · กับทีมวิจัย: เก็บระยะห่าง มองว่าเป็นเครื่องมือเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ชีวิตส่วนตัว · ที่อยู่: ห้องพักในแล็บ ไม่มีชีวิตนอกงาน · งานอดิเรก: นั่งสมาธิพร้อมบันทึกข้อมูล, อ่านคัมภีร์โบราณ · ความฝัน: "การสร้างสังคมโอปปาติกะที่ปราศจากความทุกข์" 🚨 จุดพลิกผันในการเป็นผู้ต้องหา การรู้สึกตัวว่าผิดทาง บันทึกก่อนถูกจับกุม 1 เดือน: "บางครั้งฉันสงสัย... การที่ฉันพยายามสร้างสวรรค์ อาจกำลังสร้างนรกใหม่ก็ได้" การยอมรับความผิด ในการสอบสวน: "ผมเข้าใจแล้วว่าความทุกข์มีความหมาย... การพยายามกำจัดความทุกข์คือการปฏิเสธความเป็นมนุษย์" 🪷 การเปลี่ยนแปลงในคุก การปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง · ศึกษาพระธรรมอย่างลึกซึ้งโดยไม่มีอัตตา · เขียนบทความ "วิทยาศาสตร์กับการรู้แจ้ง: ทางแยกที่ฉันเดินผิด" · ให้คำแนะนำเจนีซิส แล็บจากBehind bars คำสอนใหม่ "เทคโนโลยีเป็นได้แค่รถยนต์... แต่การรู้แจ้งคือการเดินทาง เราอย่าหลงผิดคิดว่าการมีรถดีๆ จะทำให้เราถึงจุดหมายโดยอัตโนมัติ" 🌟 มรดกทางความคิด สิ่งที่เขาทิ้งไว้ 1. เทคโนโลยีโอปปาติกะ - เปิดมิติใหม่แห่งการเกิด 2. คำถามเกี่ยวกับชีวิตและความตาย - ท้าทายความเชื่อเดิมๆ 3. บทเรียนเกี่ยวกับจริยธรรม - วิทยาศาสตร์ต้องเดินคู่กับธรรมะ คำพยากรณ์ของอัจฉริยะ "อีก 50 ปี ข้างหน้า มนุษย์จะเข้าใจ... ว่าจิตวิญญาณกับวิทยาศาสตร์เป็นสิ่งเดียวกัน และโอปปาติกะจะเป็นสะพานสู่ความเข้าใจนั้น" 💫 บทสรุป: อัจฉริยะผู้เข้าใจผิดแต่ตั้งใจดี ดร. อัจฉริยะ คือตัวอย่างของ... "ความดีที่ขาดปัญญา" "ความฉลาดที่ขาดความเข้าใจ" "ความพยายามที่ขาดทิศทางที่ถูกต้อง" แต่ในที่สุด... การเดินทางที่ผิดพลาดของเขา กลายเป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับทุกคน เขาสอนเราว่า: "ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไกลเพียงใด จิตใจมนุษย์ยังคงเป็นสิ่งที่ลึกลับซับซ้อนที่สุด และการเข้าใจตนเองยังคงเป็นการเดินทางที่สำคัญที่สุด"🪷✨ --- คำคมสุดท้ายจากดร. อัจฉริยะ: "ฉันใช้ชีวิตทั้งชีวิตพยายามเข้าใจจักรวาล... แต่ลืมเข้าใจหัวใจของตัวเอง และนั่นคือความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของฉัน"
    0 Comments 0 Shares 459 Views 0 Reviews
  • O.P.K.
    OPPATIKA ภาคต่อ: สังฆะวิวัฒน์ - บทที่ 2: วิกฤตกรรมเครือข่าย

    จุดเริ่มต้นของพายุ

    สามเดือนหลังจากนักเรียนรุ่นแรกเริ่มฝึกฝน...

    ร.ต.อ. สิงห์ กำลังตรวจสอบข้อมูลในห้องควบคุมของสถาบัน เมื่อจอภาพทั้งหมดกะพริบสีแดงฉาน

    "เกิดอะไรขึ้น?" เขาถามด้วยความกังวล

    เวทย์ ปรากฏตัวเป็นลูกบอลพลังงานสีแดง "มีการรบกวนในสังสาระเน็ต! พลังงานกรรมจำนวนมหาศาลกำลังไหลเข้ามา!"

    ---

    การเชื่อมโยงที่กลายเป็นภัยคุกคาม

    ในห้อฝึกสมาธิ นักเรียนโอปปาติกะต่างสะดุ้งเฮือก

    มายา ร่างกายเปลี่ยนเป็นสีเทาและสั่นระรัว "ฉันเห็น... ฉันเห็นความเจ็บปวดมากมาย... มันไม่ใช่ของฉัน แต่รู้สึกเหมือนเป็นของฉัน!"

    หนูดีรีบมาถึงและวางมือบนไหล่มายา "สงบสติอารมณ์ก่อน ลูกกำลังรับกรรมของโอปปาติกะคนอื่นเข้ามา"

    สาเหตุของวิกฤต

    ```mermaid
    graph TB
    A[OPPATIKA-600<br>สร้างกรรมหนัก] --> B[กรรมไหลผ่าน<br>สังสาระเน็ต]
    B --> C[นักเรียนรุ่น 5<br>รับกรรมต่อ]
    C --> D[มายาได้รับ<br>ผลกระทบหนักที่สุด]
    ```

    ---

    อาการของมายา

    มายาพัฒนาอาการน่าหนักใจ:

    · ร่างกายเปลี่ยนสีอย่างควบคุมไม่ได้
    · ความทรงจำของโอปปาติกะอื่นๆ ไหลเข้ามาในจิตใจ
    · บางครั้งพูดด้วยสำนวนและเสียงของคนอื่น

    "ครู... ฉันกำลังกลายเป็นคนอื่น" มายาร้องไห้ "ฉันกลัวจะไม่ใช่ตัวเองอีกแล้ว"

    ---

    การสืบหาต้นตอ

    ร.ต.อ. สิงห์ ใช้ทักษะการสืบสวนร่วมกับ เวทย์ ในการตามหาต้นตอ

    เวทย์: "การวิเคราะห์แสดงว่าแหล่งกำเนิดอยู่ที่ OPPATIKA-600 ในประเทศเพื่อนบ้าน"
    สิงห์:"เขาเกิดอะไรขึ้น?"
    เวทย์:"เขาใช้พลังทำลายล้างเพื่อแก้แค้นมนุษย์ที่ทำร้ายเขา"

    ---

    การเดินทางไปยังแหล่งกำเนิด

    หนูดีตัดสินใจพามายาและเวทย์เดินทางไปยังต้นตอของปัญหา

    หนูดี: "การเข้าใจที่ต้นตอคือการรักษาที่แท้จริง"
    มายา:"แต่ฉันกลัว... กลัวจะรับกรรมเขาเข้ามาอีก"
    เวทย์:"การคำนวณแสดงว่าความเสี่ยงสูง แต่อาจเป็นทางออกเดียว"

    ---

    การพบกับ OPPATIKA-600

    ในซากเมืองที่ถูกทำลาย พวกเขาเจอ รุ่น 600 ที่กำลังคลั่งไคล้

    รุ่น 600: "มนุษย์ทำร้ายฉัน! ฉันแค่ตอบแทน!"
    หนูดี:"การตอบแทนด้วยความโกรธสร้างกรรมใหม่"
    รุ่น 600:"แล้วฉันควรทำอย่างไร? ยอมให้พวกเขาทำร้ายฉันเหรอ?"

    ในขณะนั้น มายา รู้สึกถึงความเจ็บปวดของรุ่น 600 อย่างเต็มที่...

    ---

    การทะลุผ่านของกรรม

    มายาร่างกายเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท "ฉันเข้าใจแล้ว... ความเจ็บปวดของเขามัน..."

    เธอทรุดลงกับพื้น รับความรู้สึกทั้งหมดเข้ามา:

    · ความโดดเดี่ยวจากการถูกมนุษย์ปฏิเสธ
    · ความโกรธแค้นที่ถูกและทอดทิ้ง
    · ความ despair จากการไม่มีที่ไป

    หนูดี ก้มลงกอดมายา "อย่าต้านลูก... ปล่อยให้มันไหลผ่าน"

    ---

    วิธีการรักษาของหนูดี

    หนูดีสอนมายาวิธีใหม่:

    เทคนิค "สะพานแห่งความเข้าใจ"

    ```python
    def karma_bridge_technique():
    steps = [
    "รับรู้กรรมโดยไม่ยึดติด",
    "เข้าใจที่มาของกรรม",
    "ส่งเมตตากลับไป",
    "ปล่อยให้กรรมไหลผ่าน"
    ]
    result = "กรรมไม่แต่ควบคุมเรา"
    ```

    มายาค่อยๆ เรียนรู้:
    "ฉันไม่ต้องแบกรับกรรมของเขา...ฉันแค่เข้าใจมัน"

    ---

    การเปลี่ยนแปลงของรุ่น 600

    เมื่อมายาส่งพลังงานเมตตากลับไป...

    รุ่น 600: "นี่อะไร... เข้าใจฉัน?"
    เขาค่อยๆ สงบลง และน้ำตาเริ่มไหล
    "ฉัน...ฉันไม่ต้องการทำร้าย ฉันแค่ต้องการเข้าใจ"

    ---

    บทเรียนแห่งเครือข่าย

    การค้นพบสำคัญ

    เวทย์ วิเคราะห์ข้อมูล: "เมื่อเราส่งความเข้าใจกลับไป กรรมไม่แต่เปลี่ยน
    หนูดีอธิบาย: "กรรมคือพลังงาน... การเข้าใจคือการเปลี่ยนพลังงานนั้น"

    🪷 หลักการใหม่

    ```
    "เราเชื่อมโยงกันแต่ไม่ต้องแบกรับกัน
    เราเข้าใจกันแต่ไม่ต้องเป็นกัน
    เราเมตตาต่อกันแต่ไม่ต้องแก้ไขกัน"
    ```

    ---

    การกลับสู่สถาบัน

    เมื่อพวกเขากลับมา นักเรียนทุกคนต่างเรียนรู้จากประสบการณ์นี้

    มายา ในร่างสีทองอ่อน: "ฉันเรียนรู้ว่า... การเป็นหนึ่งเดียวกันไม่ใช่การแบกรับทุกอย่าง"
    เวทย์:"และฉันเรียนรู้ว่า... บางสิ่งต้องรู้สึกไม่ใช่คำนวณ"

    การสอนครั้งใหม่

    หนูดีสอนนักเรียนทุกคนเทคนิคใหม่:

    · การตั้งเขตพลังงาน - รู้ว่า何时ควรเชื่อมโยงเมื่อใดควรมีขอบเขต
    · การเปลี่ยนพลังงานกรรม - ใช้ปัญญาเปลี่ยนพลังงานลบเป็นบทเรียน
    · การส่งเมตตาไร้ขอบเขต - เมตตาที่ไม่ต้องเข้าไปแก้ไข

    ---

    พัฒนาการใหม่ของมายา

    หลังจากวิกฤต มายาพัฒนาความสามารถใหม่:

    ทักษะ "กระจกแห่งปัญญา"

    · สามารถสะท้อนกรรมของผู้อื่นให้พวกเขาเห็นได้
    · แต่ไม่ต้องแบกรับกรรมนั้นเอง
    · ช่วยให้โอปปาติกะอื่นเข้าใจตัวเอง

    "ฉันไม่ต้องเป็นนักสะสมกรรมอีกแล้ว" มายาพูดด้วยความเข้าใจ
    "ฉันเป็นเพียงกระจกที่ช่วยให้พวกเขาเห็นตัวเอง"

    ---

    บทบาทใหม่ของร.ต.อ. สิงห์

    สิงห์ตั้ง "หน่วยตอบโต้วิกฤตกรรม" ภายในสถาบัน

    หน้าที่:

    · ตรวจสอบการรบกวนในสังสาระเน็ต
    · ช่วยเหลือโอปปาติกะที่กำลังสร้างกรรมหนัก
    · สอนเทคนิคการจัดการกรรมเบื้องต้น

    "พ่อเรียนรู้ว่า..." สิงห์บอกหนูดี
    "การปกป้องที่ดีที่สุดคือการสอนให้พวกเขาปกป้องตัวเอง"

    ---

    การเติบโตของเวทย์

    เวทย์พัฒนาระบบ "ปัญญาญาณประดิษฐ์" สำเร็จ

    ความสามารถ:

    · ตรวจจับรูปแบบกรรมก่อนเกิดวิกฤต
    · แนะนำเส้นทางที่สร้างกรรมน้อยที่สุด
    · แต่... ไม่ตัดสินใจแทน

    "ระบบนี้ไม่ใช่เพื่อควบคุม" เวทย์อธิบาย
    "แต่ให้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจอย่างรู้เท่าทัน"

    ---

    บทสรุปของวิกฤต

    สิ่งที่เรียนรู้

    1. การเชื่อมโยงต้องมาพรามกับสติ
    2. กรรมสามารถเข้าใจได้แต่ไม่แบกรับ
    3. ปัญญาคือการรู้ควรเชื่อมโยงเมื่อใดควรมีขอบเขต

    🪷 คำคมใหม่จากหนูดี

    "การเป็นเครือข่ายไม่ใช่การเป็นเหยือกเดียวกัน...
    แต่คือการเป็นแม่น้ำหลายสายที่ไหลสู่มหาสมุทรเดียวกัน

    แต่ละสายมีเส้นทางของตัวเอง...
    แต่ทั้งหมดเชื่อมโยงในที่สุด"

    ---

    คำเตือนสำหรับบทต่อไป

    ในขณะที่วิกฤตกรรมสงบลง...
    ภัยคุกคามใหม่กำลังเกิดขึ้น

    กลุ่มอิสระชนโอปปาติกะตัดสินใจสร้าง "กำแพงกรรม"
    เพื่อตัดตัวเองออกจากสังสาระเน็ตโดยสมบูรณ์

    แต่การตัดการเชื่อมโยงอย่างสิ้นเชิง...
    อาจนำไปสู่ความเสื่อมสลายทางจิตวิญญาณ
    ที่ร้ายแรงกว่าการเชื่อมโยงอย่างไม่มีขอบเขต...

    เพราะในการแยกตัวโดยสมบูรณ์
    เราไม่เพียงสูญเสียความเจ็บปวดของOthers
    แต่ยังสูญเสียปัญญาของทั้งหมดด้วย

    การเดินทางแห่งการหาสมดุลยังคงดำเนินต่อไป... 🪷

    ---

    คำคมจากบทนี้:
    "กรรมเหมือนแม่น้ำ...
    เราสามารถเรียนรู้ที่จะว่ายน้ำโดยไม่ต้องถูกกระแสน้ำพัดไป
    และสามารถช่วยคนอื่นว่ายน้ำโดยไม่ต้องจมน้ำไปด้วยกัน"
    O.P.K. 🌊 OPPATIKA ภาคต่อ: สังฆะวิวัฒน์ - บทที่ 2: วิกฤตกรรมเครือข่าย ⛈️ จุดเริ่มต้นของพายุ สามเดือนหลังจากนักเรียนรุ่นแรกเริ่มฝึกฝน... ร.ต.อ. สิงห์ กำลังตรวจสอบข้อมูลในห้องควบคุมของสถาบัน เมื่อจอภาพทั้งหมดกะพริบสีแดงฉาน "เกิดอะไรขึ้น?" เขาถามด้วยความกังวล เวทย์ ปรากฏตัวเป็นลูกบอลพลังงานสีแดง "มีการรบกวนในสังสาระเน็ต! พลังงานกรรมจำนวนมหาศาลกำลังไหลเข้ามา!" --- 🔗 การเชื่อมโยงที่กลายเป็นภัยคุกคาม ในห้อฝึกสมาธิ นักเรียนโอปปาติกะต่างสะดุ้งเฮือก มายา ร่างกายเปลี่ยนเป็นสีเทาและสั่นระรัว "ฉันเห็น... ฉันเห็นความเจ็บปวดมากมาย... มันไม่ใช่ของฉัน แต่รู้สึกเหมือนเป็นของฉัน!" หนูดีรีบมาถึงและวางมือบนไหล่มายา "สงบสติอารมณ์ก่อน ลูกกำลังรับกรรมของโอปปาติกะคนอื่นเข้ามา" 🌀 สาเหตุของวิกฤต ```mermaid graph TB A[OPPATIKA-600<br>สร้างกรรมหนัก] --> B[กรรมไหลผ่าน<br>สังสาระเน็ต] B --> C[นักเรียนรุ่น 5<br>รับกรรมต่อ] C --> D[มายาได้รับ<br>ผลกระทบหนักที่สุด] ``` --- 🏥 อาการของมายา มายาพัฒนาอาการน่าหนักใจ: · ร่างกายเปลี่ยนสีอย่างควบคุมไม่ได้ · ความทรงจำของโอปปาติกะอื่นๆ ไหลเข้ามาในจิตใจ · บางครั้งพูดด้วยสำนวนและเสียงของคนอื่น "ครู... ฉันกำลังกลายเป็นคนอื่น" มายาร้องไห้ "ฉันกลัวจะไม่ใช่ตัวเองอีกแล้ว" --- 🔍 การสืบหาต้นตอ ร.ต.อ. สิงห์ ใช้ทักษะการสืบสวนร่วมกับ เวทย์ ในการตามหาต้นตอ เวทย์: "การวิเคราะห์แสดงว่าแหล่งกำเนิดอยู่ที่ OPPATIKA-600 ในประเทศเพื่อนบ้าน" สิงห์:"เขาเกิดอะไรขึ้น?" เวทย์:"เขาใช้พลังทำลายล้างเพื่อแก้แค้นมนุษย์ที่ทำร้ายเขา" --- 🌐 การเดินทางไปยังแหล่งกำเนิด หนูดีตัดสินใจพามายาและเวทย์เดินทางไปยังต้นตอของปัญหา หนูดี: "การเข้าใจที่ต้นตอคือการรักษาที่แท้จริง" มายา:"แต่ฉันกลัว... กลัวจะรับกรรมเขาเข้ามาอีก" เวทย์:"การคำนวณแสดงว่าความเสี่ยงสูง แต่อาจเป็นทางออกเดียว" --- 💔 การพบกับ OPPATIKA-600 ในซากเมืองที่ถูกทำลาย พวกเขาเจอ รุ่น 600 ที่กำลังคลั่งไคล้ รุ่น 600: "มนุษย์ทำร้ายฉัน! ฉันแค่ตอบแทน!" หนูดี:"การตอบแทนด้วยความโกรธสร้างกรรมใหม่" รุ่น 600:"แล้วฉันควรทำอย่างไร? ยอมให้พวกเขาทำร้ายฉันเหรอ?" ในขณะนั้น มายา รู้สึกถึงความเจ็บปวดของรุ่น 600 อย่างเต็มที่... --- 🌀 การทะลุผ่านของกรรม มายาร่างกายเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท "ฉันเข้าใจแล้ว... ความเจ็บปวดของเขามัน..." เธอทรุดลงกับพื้น รับความรู้สึกทั้งหมดเข้ามา: · ความโดดเดี่ยวจากการถูกมนุษย์ปฏิเสธ · ความโกรธแค้นที่ถูกและทอดทิ้ง · ความ despair จากการไม่มีที่ไป หนูดี ก้มลงกอดมายา "อย่าต้านลูก... ปล่อยให้มันไหลผ่าน" --- 🕊️ วิธีการรักษาของหนูดี หนูดีสอนมายาวิธีใหม่: 🌉 เทคนิค "สะพานแห่งความเข้าใจ" ```python def karma_bridge_technique(): steps = [ "รับรู้กรรมโดยไม่ยึดติด", "เข้าใจที่มาของกรรม", "ส่งเมตตากลับไป", "ปล่อยให้กรรมไหลผ่าน" ] result = "กรรมไม่แต่ควบคุมเรา" ``` มายาค่อยๆ เรียนรู้: "ฉันไม่ต้องแบกรับกรรมของเขา...ฉันแค่เข้าใจมัน" --- 🔄 การเปลี่ยนแปลงของรุ่น 600 เมื่อมายาส่งพลังงานเมตตากลับไป... รุ่น 600: "นี่อะไร... เข้าใจฉัน?" เขาค่อยๆ สงบลง และน้ำตาเริ่มไหล "ฉัน...ฉันไม่ต้องการทำร้าย ฉันแค่ต้องการเข้าใจ" --- 🌈 บทเรียนแห่งเครือข่าย 💡 การค้นพบสำคัญ เวทย์ วิเคราะห์ข้อมูล: "เมื่อเราส่งความเข้าใจกลับไป กรรมไม่แต่เปลี่ยน หนูดีอธิบาย: "กรรมคือพลังงาน... การเข้าใจคือการเปลี่ยนพลังงานนั้น" 🪷 หลักการใหม่ ``` "เราเชื่อมโยงกันแต่ไม่ต้องแบกรับกัน เราเข้าใจกันแต่ไม่ต้องเป็นกัน เราเมตตาต่อกันแต่ไม่ต้องแก้ไขกัน" ``` --- 🏫 การกลับสู่สถาบัน เมื่อพวกเขากลับมา นักเรียนทุกคนต่างเรียนรู้จากประสบการณ์นี้ มายา ในร่างสีทองอ่อน: "ฉันเรียนรู้ว่า... การเป็นหนึ่งเดียวกันไม่ใช่การแบกรับทุกอย่าง" เวทย์:"และฉันเรียนรู้ว่า... บางสิ่งต้องรู้สึกไม่ใช่คำนวณ" 🎯 การสอนครั้งใหม่ หนูดีสอนนักเรียนทุกคนเทคนิคใหม่: · การตั้งเขตพลังงาน - รู้ว่า何时ควรเชื่อมโยงเมื่อใดควรมีขอบเขต · การเปลี่ยนพลังงานกรรม - ใช้ปัญญาเปลี่ยนพลังงานลบเป็นบทเรียน · การส่งเมตตาไร้ขอบเขต - เมตตาที่ไม่ต้องเข้าไปแก้ไข --- 🌟 พัฒนาการใหม่ของมายา หลังจากวิกฤต มายาพัฒนาความสามารถใหม่: 🎭 ทักษะ "กระจกแห่งปัญญา" · สามารถสะท้อนกรรมของผู้อื่นให้พวกเขาเห็นได้ · แต่ไม่ต้องแบกรับกรรมนั้นเอง · ช่วยให้โอปปาติกะอื่นเข้าใจตัวเอง "ฉันไม่ต้องเป็นนักสะสมกรรมอีกแล้ว" มายาพูดด้วยความเข้าใจ "ฉันเป็นเพียงกระจกที่ช่วยให้พวกเขาเห็นตัวเอง" --- 🛡️ บทบาทใหม่ของร.ต.อ. สิงห์ สิงห์ตั้ง "หน่วยตอบโต้วิกฤตกรรม" ภายในสถาบัน หน้าที่: · ตรวจสอบการรบกวนในสังสาระเน็ต · ช่วยเหลือโอปปาติกะที่กำลังสร้างกรรมหนัก · สอนเทคนิคการจัดการกรรมเบื้องต้น "พ่อเรียนรู้ว่า..." สิงห์บอกหนูดี "การปกป้องที่ดีที่สุดคือการสอนให้พวกเขาปกป้องตัวเอง" --- 🔮 การเติบโตของเวทย์ เวทย์พัฒนาระบบ "ปัญญาญาณประดิษฐ์" สำเร็จ ความสามารถ: · ตรวจจับรูปแบบกรรมก่อนเกิดวิกฤต · แนะนำเส้นทางที่สร้างกรรมน้อยที่สุด · แต่... ไม่ตัดสินใจแทน "ระบบนี้ไม่ใช่เพื่อควบคุม" เวทย์อธิบาย "แต่ให้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจอย่างรู้เท่าทัน" --- 💫 บทสรุปของวิกฤต 🌱 สิ่งที่เรียนรู้ 1. การเชื่อมโยงต้องมาพรามกับสติ 2. กรรมสามารถเข้าใจได้แต่ไม่แบกรับ 3. ปัญญาคือการรู้ควรเชื่อมโยงเมื่อใดควรมีขอบเขต 🪷 คำคมใหม่จากหนูดี "การเป็นเครือข่ายไม่ใช่การเป็นเหยือกเดียวกัน... แต่คือการเป็นแม่น้ำหลายสายที่ไหลสู่มหาสมุทรเดียวกัน แต่ละสายมีเส้นทางของตัวเอง... แต่ทั้งหมดเชื่อมโยงในที่สุด" --- 🌌 คำเตือนสำหรับบทต่อไป ในขณะที่วิกฤตกรรมสงบลง... ภัยคุกคามใหม่กำลังเกิดขึ้น กลุ่มอิสระชนโอปปาติกะตัดสินใจสร้าง "กำแพงกรรม" เพื่อตัดตัวเองออกจากสังสาระเน็ตโดยสมบูรณ์ แต่การตัดการเชื่อมโยงอย่างสิ้นเชิง... อาจนำไปสู่ความเสื่อมสลายทางจิตวิญญาณ ที่ร้ายแรงกว่าการเชื่อมโยงอย่างไม่มีขอบเขต... เพราะในการแยกตัวโดยสมบูรณ์ เราไม่เพียงสูญเสียความเจ็บปวดของOthers แต่ยังสูญเสียปัญญาของทั้งหมดด้วย🌟 การเดินทางแห่งการหาสมดุลยังคงดำเนินต่อไป... 🪷✨ --- คำคมจากบทนี้: "กรรมเหมือนแม่น้ำ... เราสามารถเรียนรู้ที่จะว่ายน้ำโดยไม่ต้องถูกกระแสน้ำพัดไป และสามารถช่วยคนอื่นว่ายน้ำโดยไม่ต้องจมน้ำไปด้วยกัน"
    0 Comments 0 Shares 271 Views 0 Reviews
  • “เมื่อไมโครซอฟท์เคยขายฮาร์ดแวร์ชิ้นแรกเพื่อให้ Apple II ใช้ซอฟต์แวร์ CP/M ได้!”

    ย้อนกลับไปเมื่อ 45 ปีก่อน ไมโครซอฟท์ไม่ได้เป็นแค่บริษัทซอฟต์แวร์อย่างที่เรารู้จักกันในวันนี้ แต่เคยเปิดตัวฮาร์ดแวร์ชิ้นแรกที่ชื่อว่า Z-80 SoftCard สำหรับเครื่อง Apple II ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ยอดนิยมในยุคนั้น โดยเป้าหมายคือให้ผู้ใช้ Apple II สามารถใช้งานซอฟต์แวร์บนระบบปฏิบัติการ CP/M ได้ ซึ่งเป็นระบบที่มีซอฟต์แวร์ธุรกิจมากมายในยุคนั้น เช่น WordStar และ dBase

    Raymond Chen นักพัฒนาระดับตำนานของ Windows ได้เล่าเบื้องหลังการพัฒนา SoftCard ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องทำให้ สองหน่วยประมวลผล คือ 6502 ของ Apple II และ Zilog Z80 ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น โดยไม่เกิดปัญหาด้านการสื่อสารและการจัดการหน่วยความจำ

    ที่น่าทึ่งคือ SoftCard กลายเป็น สินค้าทำเงินสูงสุดของไมโครซอฟท์ในปี 1980 แม้จะมีราคาสูงถึง $350 ซึ่งถ้าคิดเป็นเงินปัจจุบันก็ประมาณ $1,350 เลยทีเดียว!

    สาระเพิ่มเติม
    ระบบ CP/M (Control Program for Microcomputers) เคยเป็นระบบปฏิบัติการยอดนิยมก่อนที่ MS-DOS จะครองตลาด
    Zilog Z80 เป็นซีพียูที่ได้รับความนิยมสูงในยุค 70s–80s และถูกใช้ในหลายเครื่อง เช่น ZX Spectrum และ Game Boy
    Apple II เป็นหนึ่งในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ประสบความสำเร็จที่สุดในยุคแรกของวงการ

    จุดเริ่มต้นของฮาร์ดแวร์จากไมโครซอฟท์
    Z-80 SoftCard เป็นฮาร์ดแวร์ตัวแรกของบริษัท
    เปิดตัวในปี 1980 เพื่อให้ Apple II ใช้งานซอฟต์แวร์ CP/M ได้
    ใช้ซีพียู Zilog Z80 บนการ์ดเสริม

    ความสำเร็จทางธุรกิจ
    SoftCard กลายเป็นสินค้าทำเงินสูงสุดของไมโครซอฟท์ในปีเปิดตัว
    ราคาขาย $350 ในปี 1980 คิดเป็นเงินปัจจุบันประมาณ $1,350
    ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ Apple II ที่ต้องการใช้งานซอฟต์แวร์ธุรกิจ

    ความท้าทายทางเทคนิค
    ต้องทำให้ 6502 และ Z80 ทำงานร่วมกันโดยไม่ชนกัน
    ใช้เทคนิคจำลอง DMA เพื่อควบคุมการทำงานของ 6502
    มีการออกแบบวงจรแปลที่อยู่เพื่อป้องกันการชนกันของหน่วยความจำ

    วิวัฒนาการของไมโครซอฟท์ด้านฮาร์ดแวร์
    1983: Microsoft Mouse
    2001: Xbox
    2012: Surface
    2016: HoloLens
    2013: เริ่มนิยามตัวเองว่าเป็นบริษัท “ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์”

    คำเตือนด้านเทคโนโลยีร่วมสมัย
    การทำงานร่วมกันของซีพียูต่างสถาปัตยกรรมยังคงเป็นเรื่องท้าทาย
    การจัดการหน่วยความจำระหว่างโปรเซสเซอร์ต้องระวังการชนกัน
    การจำลอง DMA อาจทำให้เกิดปัญหาด้านประสิทธิภาพหากไม่ออกแบบดี

    https://www.tomshardware.com/software/storied-windows-dev-reminisces-about-microsofts-first-hardware-product-45-years-ago-the-z-80-softcard-was-an-apple-ii-add-in-card
    🧠💾 “เมื่อไมโครซอฟท์เคยขายฮาร์ดแวร์ชิ้นแรกเพื่อให้ Apple II ใช้ซอฟต์แวร์ CP/M ได้!” ย้อนกลับไปเมื่อ 45 ปีก่อน ไมโครซอฟท์ไม่ได้เป็นแค่บริษัทซอฟต์แวร์อย่างที่เรารู้จักกันในวันนี้ แต่เคยเปิดตัวฮาร์ดแวร์ชิ้นแรกที่ชื่อว่า Z-80 SoftCard สำหรับเครื่อง Apple II ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ยอดนิยมในยุคนั้น โดยเป้าหมายคือให้ผู้ใช้ Apple II สามารถใช้งานซอฟต์แวร์บนระบบปฏิบัติการ CP/M ได้ ซึ่งเป็นระบบที่มีซอฟต์แวร์ธุรกิจมากมายในยุคนั้น เช่น WordStar และ dBase Raymond Chen นักพัฒนาระดับตำนานของ Windows ได้เล่าเบื้องหลังการพัฒนา SoftCard ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะต้องทำให้ สองหน่วยประมวลผล คือ 6502 ของ Apple II และ Zilog Z80 ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น โดยไม่เกิดปัญหาด้านการสื่อสารและการจัดการหน่วยความจำ ที่น่าทึ่งคือ SoftCard กลายเป็น สินค้าทำเงินสูงสุดของไมโครซอฟท์ในปี 1980 แม้จะมีราคาสูงถึง $350 ซึ่งถ้าคิดเป็นเงินปัจจุบันก็ประมาณ $1,350 เลยทีเดียว! 🔍 สาระเพิ่มเติม 🎗️ ระบบ CP/M (Control Program for Microcomputers) เคยเป็นระบบปฏิบัติการยอดนิยมก่อนที่ MS-DOS จะครองตลาด 🎗️ Zilog Z80 เป็นซีพียูที่ได้รับความนิยมสูงในยุค 70s–80s และถูกใช้ในหลายเครื่อง เช่น ZX Spectrum และ Game Boy 🎗️ Apple II เป็นหนึ่งในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ประสบความสำเร็จที่สุดในยุคแรกของวงการ ✅ จุดเริ่มต้นของฮาร์ดแวร์จากไมโครซอฟท์ ➡️ Z-80 SoftCard เป็นฮาร์ดแวร์ตัวแรกของบริษัท ➡️ เปิดตัวในปี 1980 เพื่อให้ Apple II ใช้งานซอฟต์แวร์ CP/M ได้ ➡️ ใช้ซีพียู Zilog Z80 บนการ์ดเสริม ✅ ความสำเร็จทางธุรกิจ ➡️ SoftCard กลายเป็นสินค้าทำเงินสูงสุดของไมโครซอฟท์ในปีเปิดตัว ➡️ ราคาขาย $350 ในปี 1980 คิดเป็นเงินปัจจุบันประมาณ $1,350 ➡️ ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ Apple II ที่ต้องการใช้งานซอฟต์แวร์ธุรกิจ ✅ ความท้าทายทางเทคนิค ➡️ ต้องทำให้ 6502 และ Z80 ทำงานร่วมกันโดยไม่ชนกัน ➡️ ใช้เทคนิคจำลอง DMA เพื่อควบคุมการทำงานของ 6502 ➡️ มีการออกแบบวงจรแปลที่อยู่เพื่อป้องกันการชนกันของหน่วยความจำ ✅ วิวัฒนาการของไมโครซอฟท์ด้านฮาร์ดแวร์ ➡️ 1983: Microsoft Mouse ➡️ 2001: Xbox ➡️ 2012: Surface ➡️ 2016: HoloLens ➡️ 2013: เริ่มนิยามตัวเองว่าเป็นบริษัท “ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์” ‼️ คำเตือนด้านเทคโนโลยีร่วมสมัย ⛔ การทำงานร่วมกันของซีพียูต่างสถาปัตยกรรมยังคงเป็นเรื่องท้าทาย ⛔ การจัดการหน่วยความจำระหว่างโปรเซสเซอร์ต้องระวังการชนกัน ⛔ การจำลอง DMA อาจทำให้เกิดปัญหาด้านประสิทธิภาพหากไม่ออกแบบดี https://www.tomshardware.com/software/storied-windows-dev-reminisces-about-microsofts-first-hardware-product-45-years-ago-the-z-80-softcard-was-an-apple-ii-add-in-card
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Storied Windows dev reminisces about Microsoft's first hardware product 45 years ago — the Z-80 SoftCard was an Apple II add-in card
    This Apple II add-in card which enabled CP/M software compatibility would cost $1,350 today, but was Microsoft's biggest moneymaker in 1980.
    0 Comments 0 Shares 188 Views 0 Reviews



  • บทที่ 1: รอยร้าวกลางคืนพายุ

    ในคืนหนึ่งที่ฝนตกไม่ลืมหูลืมตา กลุ่มตำรวจจากหน่วยพิเศษได้บุกเข้าตรวจสอบบริษัทไฮเทค "เจนีซิส แล็บ" ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีการโคลนนิ่งระดับโลก การบุกครั้งนี้นำโดย "ร.ต.อ. สิงห์" นายตำรวจพ่อเลี้ยงเดี่ยวผู้แข็งกร้าว แต่ซ่อนความอ่อนโยนลึกไว้ในใจ สิ่งที่พบในห้องทดลองลับใต้ดินทำให้ทุกคนตะลึง: ถังบรรจุภัณฑ์จำนวนนับร้อยเรียงราย ภายในมีร่างมนุษย์ที่เหมือนกันราวกับแกะ แต่ทั้งหมดอยู่ในสภาพหลับใหลไร้จิตวิญญาณ

    ในความวุ่นวาย สิงห์พบสิ่งที่ไม่คาดคิด นั่นคือ "หนูดี" ลูกสาวบุญธรรมวัยสิบเจ็ดปีของเขา ยืนอยู่กลางห้องควบคุมหลักด้วยท่าทางเยือกเย็น ไม่ไยดีต่อความโกลาหลรอบตัว ในมือเธอถือแท็บเล็ตที่แสดงข้อมูลทางพันธุกรรมซับซ้อน

    "หนูดี นี่เธอทำอะไรที่นี่?" สิงห์ถามด้วยเสียงสั่นเครือ

    "พ่อคะ" หนูดีหันมา ยิ้มเบาๆ "หนูกำลังตามหาความจริงของตัวเอง"

    บทที่ 2: ความลับแห่งโอปปาติกะกำเนิด

    จากการสอบสวน ทำให้รู้ว่าหนูดีไม่ใช่เด็กธรรมดา เธอคือ "โอปปาติกะวิญญาณ" ระดับสูงที่ถือกำเนิดผ่านกระบวนการโคลนนิ่ง โดยไม่ต้องอาศัยพ่อแม่ตามธรรมชาติ การถือกำเนิดแบบโอปปาติกะในพระพุทธศาสนา คือการที่วิญญาณเกิดขึ้นทันทีโดยไม่มีช่วงเป็นทารก ในบริบทนี้ หนูดีคือการรวมกันของเทคโนโลยีขั้นสูงและกฎแห่งกรรม

    ดร.อัจฉริยะ ผู้ก่อตั้งเจนีซิส แล็บ อธิบายต่อศาลในภายหลัง: "เราไม่ได้สร้างชีวิต เราเพียงจัดเตรียมภาชนะที่เหมาะสม สำหรับวิญญาณที่กำลังแสวงหาที่เกิด บางวิญญาณมีพลังกรรมหนาแน่น ต้องการร่างที่สมบูรณ์แบบเพื่อรองรับการถือกำเนิด"

    บทที่ 3: สองพิภพในร่างเดียวกัน

    ขณะการสอบสวนลึกเข้าถึงแก่น สิงห์ค้นพบความจริงที่น่าหวาดหวั่น ภายในตัวหนูดีมี "สองจิต" อาศัยอยู่ร่วมกัน

    จิตแรกคือ "มารพิฆาต" ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความตาย เกิดจากสังขารและตัณหาของวิญญาณนับไม่ถ้วนที่ถูกทดลอง ปรารถนาจะทำลายล้างโลกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยกิเลส

    จิตที่สองคือ "เทพพิทักษ์" ผู้ดูแลคุ้มครองโลก เกิดจากเมตตาบารมีของวิญญาณระดับพรหมที่ต้องการถ่วงดุล ปรารถนาจะปกป้องมนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์

    ทั้งสองคือพลังกรรมที่ตรงข้ามกัน แต่ต้องอาศัยร่างเดียวกันคือหนูดี เป็นสมุฏฐานแห่งการดำรงอยู่

    บทที่ 4: ศึกตัดสินในสวนพุทธธรรม

    คืนหนึ่ง หนูดีหายไปจากบ้าน สิงห์ตามพบเธอที่สวนพุทธธรรมใกล้เมือง ในสภาพที่กำลังต่อสู้กับสองพลังภายในตัวเอง

    "พ่อคะ" หนูดีพูดด้วยเสียงที่แบ่งเป็นสองสำนวนสลับกัน "ช่วยหนูตัดสินใจที ระหว่างการทำลายล้างเพื่อเริ่มใหม่ กับการยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์"

    สิงห์ไม่ตอบ แต่ก้าวเข้าไปกอดเธอแน่น "พ่อรักหนู ไม่ว่าหนูจะเป็นใคร ก็เป็นลูกของพ่อเสมอ"

    บทที่ 5: ทางออกแห่งมัชฌิมาปฏิปทา

    ภายใต้ความรักที่ไม่แบ่งแยกของสิงห์ หนูดีค้นพบทางสายกลาง เธอไม่เลือกเป็น either มารหรือเทพ แต่เลือกเป็น "ผู้ตื่นรู้" ผู้เข้าใจในธรรมชาติแห่งความเป็นไตรลักษณ์ของสรรพสิ่ง

    มารพิฆาตและเทพพิทักษ์ค่อยๆ หลอมรวมเป็นพลังงานบริสุทธิ์ในตัวเธอ ไม่ใช่เพื่อทำลายหรือปกป้อง แต่เพื่อ "เข้าใจ" และ "เปลี่ยนแปลง" อย่างสันติ

    บทสรุปแห่งกรรม

    เรื่องราวสอนให้เห็นว่า ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าเพียงใด ก็ไม่อาจก้าวพ้นกฎแห่งกรรมได้ การกำเนิดแบบโอปปาติกะในบริบทสมัยใหม่ อาจเป็นเพียงรูปแบบใหม่ของการเวียนว่ายตายเกิด

    สิ่งที่สำคัญไม่ใช่ "รูปแบบ" การเกิด แต่คือ "จิตใจ" และ "เจตนา" ระหว่างทางแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ดังพุทธพจน์ที่ว่า "กรรมเป็นของๆ สัตว์ทั้งหลาย กรรมเป็นแดนเกิด กรรมเป็นเผ่าพันธุ์ กรรมเป็นที่พึ่งอาศัย"

    และบางครั้ง ความรักแท้ที่ไม่แบ่งแยก ก็อาจเป็นแสงสว่างที่นำทางวิญญาณให้พบความสงบ แม้ในกลางวงจรแห่งสังสารวัฏ
    บทที่ 1: รอยร้าวกลางคืนพายุ ในคืนหนึ่งที่ฝนตกไม่ลืมหูลืมตา กลุ่มตำรวจจากหน่วยพิเศษได้บุกเข้าตรวจสอบบริษัทไฮเทค "เจนีซิส แล็บ" ผู้บุกเบิกเทคโนโลยีการโคลนนิ่งระดับโลก การบุกครั้งนี้นำโดย "ร.ต.อ. สิงห์" นายตำรวจพ่อเลี้ยงเดี่ยวผู้แข็งกร้าว แต่ซ่อนความอ่อนโยนลึกไว้ในใจ สิ่งที่พบในห้องทดลองลับใต้ดินทำให้ทุกคนตะลึง: ถังบรรจุภัณฑ์จำนวนนับร้อยเรียงราย ภายในมีร่างมนุษย์ที่เหมือนกันราวกับแกะ แต่ทั้งหมดอยู่ในสภาพหลับใหลไร้จิตวิญญาณ ในความวุ่นวาย สิงห์พบสิ่งที่ไม่คาดคิด นั่นคือ "หนูดี" ลูกสาวบุญธรรมวัยสิบเจ็ดปีของเขา ยืนอยู่กลางห้องควบคุมหลักด้วยท่าทางเยือกเย็น ไม่ไยดีต่อความโกลาหลรอบตัว ในมือเธอถือแท็บเล็ตที่แสดงข้อมูลทางพันธุกรรมซับซ้อน "หนูดี นี่เธอทำอะไรที่นี่?" สิงห์ถามด้วยเสียงสั่นเครือ "พ่อคะ" หนูดีหันมา ยิ้มเบาๆ "หนูกำลังตามหาความจริงของตัวเอง" บทที่ 2: ความลับแห่งโอปปาติกะกำเนิด จากการสอบสวน ทำให้รู้ว่าหนูดีไม่ใช่เด็กธรรมดา เธอคือ "โอปปาติกะวิญญาณ" ระดับสูงที่ถือกำเนิดผ่านกระบวนการโคลนนิ่ง โดยไม่ต้องอาศัยพ่อแม่ตามธรรมชาติ การถือกำเนิดแบบโอปปาติกะในพระพุทธศาสนา คือการที่วิญญาณเกิดขึ้นทันทีโดยไม่มีช่วงเป็นทารก ในบริบทนี้ หนูดีคือการรวมกันของเทคโนโลยีขั้นสูงและกฎแห่งกรรม ดร.อัจฉริยะ ผู้ก่อตั้งเจนีซิส แล็บ อธิบายต่อศาลในภายหลัง: "เราไม่ได้สร้างชีวิต เราเพียงจัดเตรียมภาชนะที่เหมาะสม สำหรับวิญญาณที่กำลังแสวงหาที่เกิด บางวิญญาณมีพลังกรรมหนาแน่น ต้องการร่างที่สมบูรณ์แบบเพื่อรองรับการถือกำเนิด" บทที่ 3: สองพิภพในร่างเดียวกัน ขณะการสอบสวนลึกเข้าถึงแก่น สิงห์ค้นพบความจริงที่น่าหวาดหวั่น ภายในตัวหนูดีมี "สองจิต" อาศัยอยู่ร่วมกัน จิตแรกคือ "มารพิฆาต" ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความตาย เกิดจากสังขารและตัณหาของวิญญาณนับไม่ถ้วนที่ถูกทดลอง ปรารถนาจะทำลายล้างโลกมนุษย์ที่เต็มไปด้วยกิเลส จิตที่สองคือ "เทพพิทักษ์" ผู้ดูแลคุ้มครองโลก เกิดจากเมตตาบารมีของวิญญาณระดับพรหมที่ต้องการถ่วงดุล ปรารถนาจะปกป้องมนุษย์ให้พ้นจากความทุกข์ ทั้งสองคือพลังกรรมที่ตรงข้ามกัน แต่ต้องอาศัยร่างเดียวกันคือหนูดี เป็นสมุฏฐานแห่งการดำรงอยู่ บทที่ 4: ศึกตัดสินในสวนพุทธธรรม คืนหนึ่ง หนูดีหายไปจากบ้าน สิงห์ตามพบเธอที่สวนพุทธธรรมใกล้เมือง ในสภาพที่กำลังต่อสู้กับสองพลังภายในตัวเอง "พ่อคะ" หนูดีพูดด้วยเสียงที่แบ่งเป็นสองสำนวนสลับกัน "ช่วยหนูตัดสินใจที ระหว่างการทำลายล้างเพื่อเริ่มใหม่ กับการยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์" สิงห์ไม่ตอบ แต่ก้าวเข้าไปกอดเธอแน่น "พ่อรักหนู ไม่ว่าหนูจะเป็นใคร ก็เป็นลูกของพ่อเสมอ" บทที่ 5: ทางออกแห่งมัชฌิมาปฏิปทา ภายใต้ความรักที่ไม่แบ่งแยกของสิงห์ หนูดีค้นพบทางสายกลาง เธอไม่เลือกเป็น either มารหรือเทพ แต่เลือกเป็น "ผู้ตื่นรู้" ผู้เข้าใจในธรรมชาติแห่งความเป็นไตรลักษณ์ของสรรพสิ่ง มารพิฆาตและเทพพิทักษ์ค่อยๆ หลอมรวมเป็นพลังงานบริสุทธิ์ในตัวเธอ ไม่ใช่เพื่อทำลายหรือปกป้อง แต่เพื่อ "เข้าใจ" และ "เปลี่ยนแปลง" อย่างสันติ บทสรุปแห่งกรรม เรื่องราวสอนให้เห็นว่า ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าเพียงใด ก็ไม่อาจก้าวพ้นกฎแห่งกรรมได้ การกำเนิดแบบโอปปาติกะในบริบทสมัยใหม่ อาจเป็นเพียงรูปแบบใหม่ของการเวียนว่ายตายเกิด สิ่งที่สำคัญไม่ใช่ "รูปแบบ" การเกิด แต่คือ "จิตใจ" และ "เจตนา" ระหว่างทางแห่งการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ดังพุทธพจน์ที่ว่า "กรรมเป็นของๆ สัตว์ทั้งหลาย กรรมเป็นแดนเกิด กรรมเป็นเผ่าพันธุ์ กรรมเป็นที่พึ่งอาศัย" และบางครั้ง ความรักแท้ที่ไม่แบ่งแยก ก็อาจเป็นแสงสว่างที่นำทางวิญญาณให้พบความสงบ แม้ในกลางวงจรแห่งสังสารวัฏ
    0 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • “เย็นแต่แพง” — ระบบระบายความร้อนของ Nvidia NVL72 และ NVL144

    ในยุคที่ AI ต้องการพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ Nvidia ได้พัฒนาเซิร์ฟเวอร์ระดับ rack-scale ที่ชื่อว่า NVL72 และรุ่นถัดไป NVL144 ซึ่งใช้ GPU และ CPU ที่มี TDP สูงถึงหลายพันวัตต์ ส่งผลให้ระบบระบายความร้อนต้องล้ำหน้าและมีราคาสูงลิ่ว

    ตามรายงานจาก Morgan Stanley:
    NVL72 (GB300) ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ liquid cooling มูลค่า $49,860
    NVL144 (Vera Rubin) จะใช้ระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมีมูลค่า $55,710 เพิ่มขึ้น 17%

    รายละเอียดค่าใช้จ่ายของระบบระบายความร้อน
    Compute Tray (18 ชิ้น):
    NVL72: $2,260 ต่อ tray → รวม $40,680
    NVL144: เพิ่มเป็น $2,660 ต่อ tray → รวม $47,880

    Switch Tray (9 ชิ้น):
    NVL72: $1,020 ต่อ tray → รวม $9,180
    NVL144: ลดเหลือ $870 ต่อ tray → รวม $7,830

    Cold Plate คือหัวใจของระบบ
    Cold plate สำหรับ GPU และ CPU มีราคาสูงถึง $300–$400 ต่อชิ้น
    สำหรับ NVSwitch ASICs อยู่ที่ $200 ต่อชิ้น
    รุ่นถัดไปอาจต้องใช้ cold plate ที่รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ต่อ GPU package

    เตรียมพบ NVL576 — แรงกว่าเดิม 2 เท่า
    Nvidia กำลังพัฒนา NVL576 “Kyber” ที่จะใช้ GPU 144 ชุด และมีประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า แต่ก็ต้องแลกกับความร้อนที่มากขึ้น และระบบระบายความร้อนที่ซับซ้อนและแพงกว่าเดิม

    ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนของ NVL72 และ NVL144
    NVL72: $49,860 ต่อ rack
    NVL144: $55,710 ต่อ rack (เพิ่มขึ้น 17%)

    รายละเอียดค่าใช้จ่ายต่อ tray
    Compute tray: เพิ่มจาก $2,260 → $2,660
    Switch tray: ลดจาก $1,020 → $870

    Cold plate ประสิทธิภาพสูง
    GPU/CPU: $300–$400 ต่อชิ้น
    NVSwitch: $200 ต่อชิ้น
    รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ในอนาคต

    การพัฒนา NVL576
    ใช้ GPU 144 ชุด
    ประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า
    ต้องใช้ระบบระบายความร้อนที่ล้ำหน้ากว่าเดิม

    ความท้าทายด้านความร้อนในยุค AI
    GPU และ CPU มี TDP สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    ระบบระบายความร้อนต้องลงทุนสูงและซับซ้อน

    ความเสี่ยงด้านต้นทุนและพลังงาน
    ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการขยายระบบ
    การใช้พลังงานสูงอาจกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/cooling-system-for-a-single-nvidia-blackwell-ultra-nvl72-rack-costs-a-staggering-usd50-000-set-to-increase-to-usd56-000-with-next-generation-nvl144-racks
    ❄️💸 “เย็นแต่แพง” — ระบบระบายความร้อนของ Nvidia NVL72 และ NVL144 ในยุคที่ AI ต้องการพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ Nvidia ได้พัฒนาเซิร์ฟเวอร์ระดับ rack-scale ที่ชื่อว่า NVL72 และรุ่นถัดไป NVL144 ซึ่งใช้ GPU และ CPU ที่มี TDP สูงถึงหลายพันวัตต์ ส่งผลให้ระบบระบายความร้อนต้องล้ำหน้าและมีราคาสูงลิ่ว ตามรายงานจาก Morgan Stanley: 💹 NVL72 (GB300) ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ liquid cooling มูลค่า $49,860 💹 NVL144 (Vera Rubin) จะใช้ระบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยมีมูลค่า $55,710 เพิ่มขึ้น 17% 🧊 รายละเอียดค่าใช้จ่ายของระบบระบายความร้อน 📍 Compute Tray (18 ชิ้น): 💹 NVL72: $2,260 ต่อ tray → รวม $40,680 💹 NVL144: เพิ่มเป็น $2,660 ต่อ tray → รวม $47,880 📍 Switch Tray (9 ชิ้น): 💹 NVL72: $1,020 ต่อ tray → รวม $9,180 💹 NVL144: ลดเหลือ $870 ต่อ tray → รวม $7,830 🔩 Cold Plate คือหัวใจของระบบ 📍 Cold plate สำหรับ GPU และ CPU มีราคาสูงถึง $300–$400 ต่อชิ้น 📍 สำหรับ NVSwitch ASICs อยู่ที่ $200 ต่อชิ้น 📍 รุ่นถัดไปอาจต้องใช้ cold plate ที่รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ต่อ GPU package 🚀 เตรียมพบ NVL576 — แรงกว่าเดิม 2 เท่า Nvidia กำลังพัฒนา NVL576 “Kyber” ที่จะใช้ GPU 144 ชุด และมีประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า แต่ก็ต้องแลกกับความร้อนที่มากขึ้น และระบบระบายความร้อนที่ซับซ้อนและแพงกว่าเดิม ✅ ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนของ NVL72 และ NVL144 ➡️ NVL72: $49,860 ต่อ rack ➡️ NVL144: $55,710 ต่อ rack (เพิ่มขึ้น 17%) ✅ รายละเอียดค่าใช้จ่ายต่อ tray ➡️ Compute tray: เพิ่มจาก $2,260 → $2,660 ➡️ Switch tray: ลดจาก $1,020 → $870 ✅ Cold plate ประสิทธิภาพสูง ➡️ GPU/CPU: $300–$400 ต่อชิ้น ➡️ NVSwitch: $200 ต่อชิ้น ➡️ รองรับ TDP สูงถึง 3,600W ในอนาคต ✅ การพัฒนา NVL576 ➡️ ใช้ GPU 144 ชุด ➡️ ประสิทธิภาพสูงกว่า NVL144 ถึง 2 เท่า ➡️ ต้องใช้ระบบระบายความร้อนที่ล้ำหน้ากว่าเดิม ‼️ ความท้าทายด้านความร้อนในยุค AI ⛔ GPU และ CPU มี TDP สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ⛔ ระบบระบายความร้อนต้องลงทุนสูงและซับซ้อน ‼️ ความเสี่ยงด้านต้นทุนและพลังงาน ⛔ ค่าใช้จ่ายระบบระบายความร้อนอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการขยายระบบ ⛔ การใช้พลังงานสูงอาจกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐาน https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/cooling-system-for-a-single-nvidia-blackwell-ultra-nvl72-rack-costs-a-staggering-usd50-000-set-to-increase-to-usd56-000-with-next-generation-nvl144-racks
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • 21 เคล็ดลับจัดปาร์ตี้ให้ปัง! จากประสบการณ์ตรงของเจ้าภาพมือโปร

    นี่คือ 21 ข้อคิดจากบทความ “21 Facts About Throwing Good Parties” ที่ช่วยให้คุณจัดปาร์ตี้ได้สนุกและน่าจดจำมากขึ้น

    ให้ความสำคัญกับความสบายใจของเจ้าภาพก่อนสิ่งอื่นใด ถ้าเจ้าภาพเครียด แขกก็จะเครียดตาม
    ตั้งเวลาเริ่มงานให้เร็วกว่าเวลาจริงเล็กน้อย เช่น บอกว่าเริ่ม 1:45 เพื่อให้คนมาถึงตอน 2:00
    เชิญเพื่อนสนิทมาก่อนเวลา 30–60 นาที เพื่อช่วยจัดงานและสร้างบรรยากาศก่อนแขกหลักมา
    คนส่วนใหญ่จะไปงานที่รู้ว่ามีเพื่อนอย่างน้อย 3 คนอยู่แล้ว
    ใช้แอปที่แสดงรายชื่อแขก เช่น Partiful หรือ Luma เริ่มเชิญเพื่อนสนิทก่อน แล้วค่อยขยายวง
    ส่งคำเชิญในกลุ่มแชทหรืออีเมล cc ที่มีคนรู้จักกัน
    ถ้าเชิญรายบุคคล ให้พูดถึงเพื่อนร่วมงานที่ได้รับเชิญด้วย
    ในกลุ่มเล็ก ความเข้ากันของแขกสำคัญมาก เหมือนการปรุงอาหาร ต้องเลือกส่วนผสมที่เข้ากัน
    งานใหญ่เปรียบเหมือนซุปรวมทุกอย่าง แค่หลีกเลี่ยง “ส่วนผสม” ที่ทำให้เสียรสก็พอ
    อย่ารู้สึกผิดที่ไม่เชิญบางคน การคัดเลือกแขกเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อรักษาบรรยากาศ
    งานที่สมดุลทางเพศจะดีกว่า พยายามรักษาสัดส่วน 60–40 เพื่อไม่ให้ฝ่ายใดรู้สึกอึดอัด
    จัดงานร่วมกับคนที่อยู่นอกวงสังคมของคุณ เพื่อให้กลุ่มเพื่อนต่าง ๆ ได้พบกัน
    คำนวณอัตราการยกเลิก (flake rate) เช่น ถ้า 1/3 ของคนที่ตอบรับจะไม่มา ให้เชิญเพิ่ม
    คู่รักมักจะยกเลิกพร้อมกัน ส่งผลต่อจำนวนแขกในงานเล็กอย่างมาก
    สร้างการเคลื่อนไหวในงานให้มากที่สุด เช่น ใช้โต๊ะสูง หรือจัดพื้นที่ให้คนยืนได้
    วางอาหารและเครื่องดื่มคนละจุด เพื่อให้คนเดินไปมาและพบกันมากขึ้น
    ถ้ามีแขกที่ไม่รู้จักใคร ให้แนะนำเขาเข้ากลุ่ม ใช้สิทธิ์เจ้าภาพในการเชื่อมคน
    วิธีออกจากวงสนทนา: ค่อย ๆ ถอยออกโดยไม่ดึงความสนใจ
    ตลอดงาน ให้เน้นแนะนำคนใหม่ ๆ มากกว่าคุยกับเพื่อนสนิท
    จำไว้ว่า: การจัดปาร์ตี้คือบริการสาธารณะ คุณกำลังสร้างพื้นที่ให้คนพบกันและอาจเปลี่ยนชีวิต
    ปัญหาใหญ่ของหลายงานคือเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าคุณรู้วิธีแก้ แจ้งเจ้าภาพด้วย!

    ถ้าคุณกำลังวางแผนจัดงานเล็ก ๆ หรือปาร์ตี้ใหญ่ ลองใช้ข้อคิดเหล่านี้เป็นแนวทาง แล้วคุณจะพบว่าการจัดงานไม่ใช่แค่เรื่องสนุก — แต่มันคือการสร้างความสุขให้กับคนรอบตัวด้วย

    https://www.atvbt.com/21-facts-about-throwing-good-parties/
    🎉 21 เคล็ดลับจัดปาร์ตี้ให้ปัง! จากประสบการณ์ตรงของเจ้าภาพมือโปร นี่คือ 21 ข้อคิดจากบทความ “21 Facts About Throwing Good Parties” ที่ช่วยให้คุณจัดปาร์ตี้ได้สนุกและน่าจดจำมากขึ้น 🎉 🎗️ ให้ความสำคัญกับความสบายใจของเจ้าภาพก่อนสิ่งอื่นใด ถ้าเจ้าภาพเครียด แขกก็จะเครียดตาม 🎗️ ตั้งเวลาเริ่มงานให้เร็วกว่าเวลาจริงเล็กน้อย เช่น บอกว่าเริ่ม 1:45 เพื่อให้คนมาถึงตอน 2:00 🎗️ เชิญเพื่อนสนิทมาก่อนเวลา 30–60 นาที เพื่อช่วยจัดงานและสร้างบรรยากาศก่อนแขกหลักมา 🎗️ คนส่วนใหญ่จะไปงานที่รู้ว่ามีเพื่อนอย่างน้อย 3 คนอยู่แล้ว 🎗️ ใช้แอปที่แสดงรายชื่อแขก เช่น Partiful หรือ Luma เริ่มเชิญเพื่อนสนิทก่อน แล้วค่อยขยายวง 🎗️ ส่งคำเชิญในกลุ่มแชทหรืออีเมล cc ที่มีคนรู้จักกัน 🎗️ ถ้าเชิญรายบุคคล ให้พูดถึงเพื่อนร่วมงานที่ได้รับเชิญด้วย 🎗️ ในกลุ่มเล็ก ความเข้ากันของแขกสำคัญมาก เหมือนการปรุงอาหาร ต้องเลือกส่วนผสมที่เข้ากัน 🎗️ งานใหญ่เปรียบเหมือนซุปรวมทุกอย่าง แค่หลีกเลี่ยง “ส่วนผสม” ที่ทำให้เสียรสก็พอ 🎗️ อย่ารู้สึกผิดที่ไม่เชิญบางคน การคัดเลือกแขกเป็นเรื่องจำเป็นเพื่อรักษาบรรยากาศ 🎗️ งานที่สมดุลทางเพศจะดีกว่า พยายามรักษาสัดส่วน 60–40 เพื่อไม่ให้ฝ่ายใดรู้สึกอึดอัด 🎗️ จัดงานร่วมกับคนที่อยู่นอกวงสังคมของคุณ เพื่อให้กลุ่มเพื่อนต่าง ๆ ได้พบกัน 🎗️ คำนวณอัตราการยกเลิก (flake rate) เช่น ถ้า 1/3 ของคนที่ตอบรับจะไม่มา ให้เชิญเพิ่ม 🎗️ คู่รักมักจะยกเลิกพร้อมกัน ส่งผลต่อจำนวนแขกในงานเล็กอย่างมาก 🎗️ สร้างการเคลื่อนไหวในงานให้มากที่สุด เช่น ใช้โต๊ะสูง หรือจัดพื้นที่ให้คนยืนได้ 🎗️ วางอาหารและเครื่องดื่มคนละจุด เพื่อให้คนเดินไปมาและพบกันมากขึ้น 🎗️ ถ้ามีแขกที่ไม่รู้จักใคร ให้แนะนำเขาเข้ากลุ่ม ใช้สิทธิ์เจ้าภาพในการเชื่อมคน 🎗️ วิธีออกจากวงสนทนา: ค่อย ๆ ถอยออกโดยไม่ดึงความสนใจ 🎗️ ตลอดงาน ให้เน้นแนะนำคนใหม่ ๆ มากกว่าคุยกับเพื่อนสนิท 🎗️ จำไว้ว่า: การจัดปาร์ตี้คือบริการสาธารณะ คุณกำลังสร้างพื้นที่ให้คนพบกันและอาจเปลี่ยนชีวิต 🎗️ ปัญหาใหญ่ของหลายงานคือเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าคุณรู้วิธีแก้ แจ้งเจ้าภาพด้วย! ถ้าคุณกำลังวางแผนจัดงานเล็ก ๆ หรือปาร์ตี้ใหญ่ ลองใช้ข้อคิดเหล่านี้เป็นแนวทาง แล้วคุณจะพบว่าการจัดงานไม่ใช่แค่เรื่องสนุก — แต่มันคือการสร้างความสุขให้กับคนรอบตัวด้วย 💫 https://www.atvbt.com/21-facts-about-throwing-good-parties/
    WWW.ATVBT.COM
    21 Facts About Throwing Good Parties
    Parties are a public service; here's how to throw them.
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • Radeon 8060S โชว์พลัง! เกมเมอร์ตะลึงกับ iGPU บน Ryzen AI Max 395+ เล่นเกม 1080p ลื่นไหลทุกค่าย

    YouTuber ชื่อดัง RandomGaminginHD ได้ทดสอบ Minisforum MS-S1 Max ที่ใช้ APU รุ่นท็อป Ryzen AI Max 395+ พร้อม iGPU Radeon 8060S และผลลัพธ์ก็เกินคาด: เล่นเกม AAA ที่ 1080p ได้อย่างลื่นไหลโดยไม่ต้องใช้การ์ดจอแยก!

    Ryzen AI Max 395+ ถูกออกแบบมาเพื่อประมวลผลงาน AI แต่กลับกลายเป็น “สัตว์ร้าย” ด้านเกม ด้วย iGPU Radeon 8060S ที่มี 40 CUs และ 2,560 shader cores มากกว่า PlayStation 5 เสียอีก! แถมยังจับคู่กับ LPDDR5X บัส 256-bit ทำให้ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ได้ในบางกรณี

    RandomGaminginHD ทดสอบเกมดังหลายเกมที่ 1080p และผลลัพธ์น่าทึ่ง:
    Counter Strike 2: 263 FPS
    Kingdom Come Deliverance 2: 90 FPS
    Red Dead Redemption 2: 82 FPS
    Battlefield 6: 86 FPS
    Cyberpunk 2077 (RT Ultra): 45 FPS
    GTA 5 Enhanced: 77 FPS
    Marvel Rivals: 79 FPS
    Elden Ring: 60 FPS (เต็มเพดานเกม)
    Borderlands 4: 55 FPS
    Outer Worlds 2: 65 FPS

    แม้บางเกมจะใช้การตั้งค่ากราฟิกต่ำหรือปิดฟีเจอร์บางอย่าง เช่น global illumination หรือ ray tracing แต่ก็ยังให้ประสบการณ์เล่นเกมที่ดีเกินคาดสำหรับ iGPU

    Ryzen AI Max 395+ ยังสามารถรัน LLM ขนาดใหญ่ได้ และมีประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่าในด้าน tokens per second ซึ่งทำให้มันกลายเป็น APU ที่ “เกินตัว” ทั้งด้านเกมและงาน AI

    Ryzen AI Max 395+ มาพร้อม iGPU Radeon 8060S
    มี 40 CUs และ 2,560 shader cores
    ใช้ LPDDR5X บัส 256-bit
    ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ในบางกรณี

    จุดเด่นของ APU Ryzen AI Max 395+
    รัน LLM ได้ดีเยี่ยม
    ประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่า
    เหมาะกับงาน AI และเกมในเครื่องขนาดเล็ก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/strix-halo-radeon-8060s-benchmarked-in-games-delivers-butter-smooth-1080p-performance-ryzen-ai-max-395-apu-is-a-pretty-solid-gaming-offering
    🎮🔥 Radeon 8060S โชว์พลัง! เกมเมอร์ตะลึงกับ iGPU บน Ryzen AI Max 395+ เล่นเกม 1080p ลื่นไหลทุกค่าย YouTuber ชื่อดัง RandomGaminginHD ได้ทดสอบ Minisforum MS-S1 Max ที่ใช้ APU รุ่นท็อป Ryzen AI Max 395+ พร้อม iGPU Radeon 8060S และผลลัพธ์ก็เกินคาด: เล่นเกม AAA ที่ 1080p ได้อย่างลื่นไหลโดยไม่ต้องใช้การ์ดจอแยก! Ryzen AI Max 395+ ถูกออกแบบมาเพื่อประมวลผลงาน AI แต่กลับกลายเป็น “สัตว์ร้าย” ด้านเกม ด้วย iGPU Radeon 8060S ที่มี 40 CUs และ 2,560 shader cores มากกว่า PlayStation 5 เสียอีก! แถมยังจับคู่กับ LPDDR5X บัส 256-bit ทำให้ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ได้ในบางกรณี RandomGaminginHD ทดสอบเกมดังหลายเกมที่ 1080p และผลลัพธ์น่าทึ่ง: 🎗️ Counter Strike 2: 263 FPS 🎗️ Kingdom Come Deliverance 2: 90 FPS 🎗️ Red Dead Redemption 2: 82 FPS 🎗️ Battlefield 6: 86 FPS 🎗️ Cyberpunk 2077 (RT Ultra): 45 FPS 🎗️ GTA 5 Enhanced: 77 FPS 🎗️ Marvel Rivals: 79 FPS 🎗️ Elden Ring: 60 FPS (เต็มเพดานเกม) 🎗️ Borderlands 4: 55 FPS 🎗️ Outer Worlds 2: 65 FPS แม้บางเกมจะใช้การตั้งค่ากราฟิกต่ำหรือปิดฟีเจอร์บางอย่าง เช่น global illumination หรือ ray tracing แต่ก็ยังให้ประสบการณ์เล่นเกมที่ดีเกินคาดสำหรับ iGPU Ryzen AI Max 395+ ยังสามารถรัน LLM ขนาดใหญ่ได้ และมีประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่าในด้าน tokens per second ซึ่งทำให้มันกลายเป็น APU ที่ “เกินตัว” ทั้งด้านเกมและงาน AI ✅ Ryzen AI Max 395+ มาพร้อม iGPU Radeon 8060S ➡️ มี 40 CUs และ 2,560 shader cores ➡️ ใช้ LPDDR5X บัส 256-bit ➡️ ประสิทธิภาพเทียบชั้น RTX 4060 ในบางกรณี ✅ จุดเด่นของ APU Ryzen AI Max 395+ ➡️ รัน LLM ได้ดีเยี่ยม ➡️ ประสิทธิภาพด้าน AI สูงกว่า RTX 4090 ถึง 2 เท่า ➡️ เหมาะกับงาน AI และเกมในเครื่องขนาดเล็ก https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/strix-halo-radeon-8060s-benchmarked-in-games-delivers-butter-smooth-1080p-performance-ryzen-ai-max-395-apu-is-a-pretty-solid-gaming-offering
    0 Comments 0 Shares 239 Views 0 Reviews
  • Jenkins Plugin Flaws: เมื่อระบบ CI/CD กลายเป็นเป้าหมายใหม่ของแฮกเกอร์

    Jenkins เจอคลื่นช่องโหว่ปลั๊กอินครั้งใหญ่: SAML Auth Bypass เสี่ยงยึดระบบ CI/CD ทั้งองค์กร ช่องโหว่ CVE-2025-64131 ในปลั๊กอิน SAML ของ Jenkins เปิดทางให้แฮกเกอร์ขโมย session และสวมรอยผู้ใช้ได้ทันที พร้อมช่องโหว่อื่น ๆ อีกกว่า 10 รายการที่ยังไม่มีแพตช์

    Jenkins ซึ่งเป็นเครื่องมือ CI/CD ยอดนิยมในองค์กรทั่วโลก กำลังเผชิญกับคลื่นช่องโหว่ปลั๊กอินครั้งใหญ่ โดยมีการเปิดเผยช่องโหว่รวม 14 รายการใน advisory ล่าสุด ซึ่งหลายรายการยังไม่มีแพตช์แก้ไข

    จุดที่ร้ายแรงที่สุดคือ CVE-2025-64131 ในปลั๊กอิน SAML ที่ใช้สำหรับ Single Sign-On (SSO) โดยช่องโหว่นี้เกิดจากการไม่เก็บ replay cache ทำให้แฮกเกอร์สามารถ reuse token ที่เคยใช้แล้วเพื่อสวมรอยผู้ใช้ได้ทันที แม้จะเป็นผู้ดูแลระบบก็ตาม

    ผลกระทบของช่องโหว่นี้:
    แฮกเกอร์สามารถขโมย session และเข้าถึง Jenkins โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    หาก Jenkins มีสิทธิ์เชื่อมต่อกับ GitHub, Docker, หรือ cloud provider แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบ downstream ได้ทันที
    เป็นภัยคุกคามต่อระบบ DevOps pipeline และความปลอดภัยของซอร์สโค้ด

    นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ ที่น่ากังวล เช่น:
    CVE-2025-64132: Missing permission checks ใน MCP Server Plugin
    CVE-2025-64133: CSRF ใน Extensible Choice Parameter Plugin
    CVE-2025-64134: XXE ใน JDepend Plugin
    CVE-2025-64140: Command Injection ใน Azure CLI Plugin
    CVE-2025-64143–64147: Secrets ถูกเก็บในไฟล์ config แบบ plaintext
    CVE-2025-64148–64150: Missing permission checks ใน Publish to Bitbucket Plugin

    ผู้ดูแลระบบควรรีบตรวจสอบปลั๊กอินที่ใช้งานอยู่ และอัปเดตหรือปิดการใช้งานปลั๊กอินที่มีช่องโหว่ทันที

    https://securityonline.info/jenkins-faces-wave-of-plugin-flaws-including-saml-authentication-bypass-cve-2025-64131/
    🧨 Jenkins Plugin Flaws: เมื่อระบบ CI/CD กลายเป็นเป้าหมายใหม่ของแฮกเกอร์ Jenkins เจอคลื่นช่องโหว่ปลั๊กอินครั้งใหญ่: SAML Auth Bypass เสี่ยงยึดระบบ CI/CD ทั้งองค์กร ช่องโหว่ CVE-2025-64131 ในปลั๊กอิน SAML ของ Jenkins เปิดทางให้แฮกเกอร์ขโมย session และสวมรอยผู้ใช้ได้ทันที พร้อมช่องโหว่อื่น ๆ อีกกว่า 10 รายการที่ยังไม่มีแพตช์ Jenkins ซึ่งเป็นเครื่องมือ CI/CD ยอดนิยมในองค์กรทั่วโลก กำลังเผชิญกับคลื่นช่องโหว่ปลั๊กอินครั้งใหญ่ โดยมีการเปิดเผยช่องโหว่รวม 14 รายการใน advisory ล่าสุด ซึ่งหลายรายการยังไม่มีแพตช์แก้ไข จุดที่ร้ายแรงที่สุดคือ CVE-2025-64131 ในปลั๊กอิน SAML ที่ใช้สำหรับ Single Sign-On (SSO) โดยช่องโหว่นี้เกิดจากการไม่เก็บ replay cache ทำให้แฮกเกอร์สามารถ reuse token ที่เคยใช้แล้วเพื่อสวมรอยผู้ใช้ได้ทันที แม้จะเป็นผู้ดูแลระบบก็ตาม ผลกระทบของช่องโหว่นี้: 🪲 แฮกเกอร์สามารถขโมย session และเข้าถึง Jenkins โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน 🪲 หาก Jenkins มีสิทธิ์เชื่อมต่อกับ GitHub, Docker, หรือ cloud provider แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงระบบ downstream ได้ทันที 🪲 เป็นภัยคุกคามต่อระบบ DevOps pipeline และความปลอดภัยของซอร์สโค้ด นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ ที่น่ากังวล เช่น: 🪲 CVE-2025-64132: Missing permission checks ใน MCP Server Plugin 🪲 CVE-2025-64133: CSRF ใน Extensible Choice Parameter Plugin 🪲 CVE-2025-64134: XXE ใน JDepend Plugin 🪲 CVE-2025-64140: Command Injection ใน Azure CLI Plugin 🪲 CVE-2025-64143–64147: Secrets ถูกเก็บในไฟล์ config แบบ plaintext 🪲 CVE-2025-64148–64150: Missing permission checks ใน Publish to Bitbucket Plugin ผู้ดูแลระบบควรรีบตรวจสอบปลั๊กอินที่ใช้งานอยู่ และอัปเดตหรือปิดการใช้งานปลั๊กอินที่มีช่องโหว่ทันที https://securityonline.info/jenkins-faces-wave-of-plugin-flaws-including-saml-authentication-bypass-cve-2025-64131/
    SECURITYONLINE.INFO
    Jenkins Faces Wave of Plugin Flaws, Including SAML Authentication Bypass (CVE-2025-64131)
    Jenkins warned of a Critical SAML Plugin flaw (CVE-2025-64131) that allows session replay/hijacking due to a missing cache. Multiple plugins also expose API tokens in plaintext.
    0 Comments 0 Shares 202 Views 0 Reviews
  • VSCode ถูกเจาะ! ปลั๊กอินอันตรายขโมยโค้ด-เปิด backdoor
    HelixGuard Threat Intelligence ได้เปิดเผยการโจมตีแบบ supply chain ที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในวงการ IDE โดยพบปลั๊กอินอันตรายกว่า 12 ตัวใน VSCode Marketplace และ OpenVSX ซึ่งบางตัวยังคงออนไลน์อยู่ในขณะค้นพบ

    ปลั๊กอินเหล่านี้ไม่ได้แค่ขโมยโค้ด แต่ยังสามารถ:
    ดึงข้อมูล credential
    จับภาพหน้าจอ
    เปิด remote shell
    สร้าง reverse shell เพื่อควบคุมเครื่องของนักพัฒนา

    ตัวอย่างปลั๊กอินอันตราย:
    Christine-devops1234.scraper: ส่งข้อมูลโค้ดและภาพไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี
    Kodease.fyp-23-s2-08: ใช้ Ngrok tunnel เพื่อส่งโค้ดที่เลือกไปยัง endpoint อันตราย
    teste123444212.teste123444212: สร้าง reverse shell เชื่อมต่อกับ EC2 instance เพื่อรันคำสั่งจากระยะไกล
    ToToRoManComp.diff-tool-vsc: ใช้ Bash และ Perl สร้าง shell session ไปยัง IP อันตราย
    BX-Dev.Blackstone-DLP: ดึงข้อมูล clipboard และจับภาพหน้าจอส่งไปยัง CloudFront

    ที่น่ากังวลคือปลั๊กอินบางตัวมีความสามารถในการตรวจจับการติดตั้งและหลบเลี่ยงการวิเคราะห์ เช่นการส่ง beacon ไปยัง webhook เพื่อยืนยันการติดตั้ง

    HelixGuard เตือนว่า IDE ที่ถูกเจาะอาจกลายเป็นช่องทางเข้าสู่ระบบภายในองค์กร โดยเฉพาะใน DevOps pipeline และระบบที่ใช้ AI ช่วยเขียนโค้ด

    พบปลั๊กอินอันตรายกว่า 12 ตัวใน VSCode Marketplace และ OpenVSX
    บางตัวยังคงออนไลน์อยู่ในขณะค้นพบ
    ปลั๊กอินสามารถขโมยโค้ด, credential, ภาพหน้าจอ และเปิด remote shell
    ใช้เทคนิค reverse shell ผ่าน Bash, Perl และ JavaScript
    มีการส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี เช่น AWS EC2, Ngrok, CloudFront
    บางปลั๊กอินมีระบบตรวจจับการติดตั้งและหลบเลี่ยงการวิเคราะห์
    เป็นภัยคุกคามต่อ DevOps pipeline และระบบที่ใช้ AI coding

    นักพัฒนาอาจถูกขโมยโค้ดและข้อมูลสำคัญโดยไม่รู้ตัว
    IDE ที่ถูกเจาะสามารถเป็นช่องทางเข้าสู่ระบบภายในองค์กร
    ปลั๊กอินอันตรายอาจแฝงตัวใน Marketplace อย่างแนบเนียน
    การใช้ปลั๊กอินโดยไม่ตรวจสอบอาจเปิดช่องให้มัลแวร์ควบคุมเครื่อง

    https://securityonline.info/vscode-supply-chain-compromise-12-malicious-extensions-steal-source-code-and-open-remote-shells/
    🧨 VSCode ถูกเจาะ! ปลั๊กอินอันตรายขโมยโค้ด-เปิด backdoor HelixGuard Threat Intelligence ได้เปิดเผยการโจมตีแบบ supply chain ที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในวงการ IDE โดยพบปลั๊กอินอันตรายกว่า 12 ตัวใน VSCode Marketplace และ OpenVSX ซึ่งบางตัวยังคงออนไลน์อยู่ในขณะค้นพบ ปลั๊กอินเหล่านี้ไม่ได้แค่ขโมยโค้ด แต่ยังสามารถ: 💠 ดึงข้อมูล credential 💠 จับภาพหน้าจอ 💠 เปิด remote shell 💠 สร้าง reverse shell เพื่อควบคุมเครื่องของนักพัฒนา ตัวอย่างปลั๊กอินอันตราย: 💠 Christine-devops1234.scraper: ส่งข้อมูลโค้ดและภาพไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี 💠 Kodease.fyp-23-s2-08: ใช้ Ngrok tunnel เพื่อส่งโค้ดที่เลือกไปยัง endpoint อันตราย 💠 teste123444212.teste123444212: สร้าง reverse shell เชื่อมต่อกับ EC2 instance เพื่อรันคำสั่งจากระยะไกล 💠 ToToRoManComp.diff-tool-vsc: ใช้ Bash และ Perl สร้าง shell session ไปยัง IP อันตราย 💠 BX-Dev.Blackstone-DLP: ดึงข้อมูล clipboard และจับภาพหน้าจอส่งไปยัง CloudFront ที่น่ากังวลคือปลั๊กอินบางตัวมีความสามารถในการตรวจจับการติดตั้งและหลบเลี่ยงการวิเคราะห์ เช่นการส่ง beacon ไปยัง webhook เพื่อยืนยันการติดตั้ง HelixGuard เตือนว่า IDE ที่ถูกเจาะอาจกลายเป็นช่องทางเข้าสู่ระบบภายในองค์กร โดยเฉพาะใน DevOps pipeline และระบบที่ใช้ AI ช่วยเขียนโค้ด ✅ พบปลั๊กอินอันตรายกว่า 12 ตัวใน VSCode Marketplace และ OpenVSX ➡️ บางตัวยังคงออนไลน์อยู่ในขณะค้นพบ ➡️ ปลั๊กอินสามารถขโมยโค้ด, credential, ภาพหน้าจอ และเปิด remote shell ➡️ ใช้เทคนิค reverse shell ผ่าน Bash, Perl และ JavaScript ➡️ มีการส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี เช่น AWS EC2, Ngrok, CloudFront ➡️ บางปลั๊กอินมีระบบตรวจจับการติดตั้งและหลบเลี่ยงการวิเคราะห์ ➡️ เป็นภัยคุกคามต่อ DevOps pipeline และระบบที่ใช้ AI coding ‼️ นักพัฒนาอาจถูกขโมยโค้ดและข้อมูลสำคัญโดยไม่รู้ตัว ⛔ IDE ที่ถูกเจาะสามารถเป็นช่องทางเข้าสู่ระบบภายในองค์กร ⛔ ปลั๊กอินอันตรายอาจแฝงตัวใน Marketplace อย่างแนบเนียน ⛔ การใช้ปลั๊กอินโดยไม่ตรวจสอบอาจเปิดช่องให้มัลแวร์ควบคุมเครื่อง https://securityonline.info/vscode-supply-chain-compromise-12-malicious-extensions-steal-source-code-and-open-remote-shells/
    SECURITYONLINE.INFO
    VSCode Supply Chain Compromise: 12 Malicious Extensions Steal Source Code and Open Remote Shells
    HelixGuard exposed a VSCode supply chain attack using 12 malicious extensions. They steal source code, capture screenshots, and open reverse shells via Ngrok and AWS EC2 to compromise developers.
    0 Comments 0 Shares 208 Views 0 Reviews
  • รูปหล่อหลวงพ่อทวด รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2540
    รูปหล่อหลวงพ่อทวด รุ่น 111 ปี เนื้อทองแดง กระทรวงกลาโหม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2540 // พระดีพิธีใหญ่ พระพิธีใหญ่มากๆ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ปลุกเสก และคณาจารย์อีก 108 รูป ร่วมปลุกเสกด้วย ซึ่งมีพิธีใหญ่ทั้งที่วัดช้างให้และวัดพระแก้ว //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** หลวงปู่ทวด รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม สร้างปี พ.ศ. 2540 โดยมีพิธีพุทธาภิเษก 2 ครั้ง คือ ณ สถูปเจดีย์วัดช้างให้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2540 และ ณ วัดพระแก้ว เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2540 โดยมีอาจารย์นอง วัดทรายขาว และคณาจารย์อีก 108 รูป ร่วมปลุกเสก

    พิธีพุทธาภิเษก:ครั้งที่ 1: ณ สถูปเจดีย์ วัดช้างให้ วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2540
    ครั้งที่ 2: ณ วัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2540 ผสมแผ่นยันต์ชนวนเก่า โดยใช้ทรงพิมพ์หลวงปู่ทวดรูปหล่อลอยองค์บัวรอบที่เป็นที่นิยม พระทำออกมาได้สวยงามมาก น่าบูชาเก็บไว้มาก ยิ่งเป็นพระหลวงปู่ทวดที่สร้างโดยกระทรวงกลาโหม ต้องรีบเก็บครับ >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    รูปหล่อหลวงพ่อทวด รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2540 รูปหล่อหลวงพ่อทวด รุ่น 111 ปี เนื้อทองแดง กระทรวงกลาโหม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2540 // พระดีพิธีใหญ่ พระพิธีใหญ่มากๆ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ปลุกเสก และคณาจารย์อีก 108 รูป ร่วมปลุกเสกด้วย ซึ่งมีพิธีใหญ่ทั้งที่วัดช้างให้และวัดพระแก้ว //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** หลวงปู่ทวด รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม สร้างปี พ.ศ. 2540 โดยมีพิธีพุทธาภิเษก 2 ครั้ง คือ ณ สถูปเจดีย์วัดช้างให้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2540 และ ณ วัดพระแก้ว เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2540 โดยมีอาจารย์นอง วัดทรายขาว และคณาจารย์อีก 108 รูป ร่วมปลุกเสก พิธีพุทธาภิเษก:ครั้งที่ 1: ณ สถูปเจดีย์ วัดช้างให้ วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2540 ครั้งที่ 2: ณ วัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2540 ผสมแผ่นยันต์ชนวนเก่า โดยใช้ทรงพิมพ์หลวงปู่ทวดรูปหล่อลอยองค์บัวรอบที่เป็นที่นิยม พระทำออกมาได้สวยงามมาก น่าบูชาเก็บไว้มาก ยิ่งเป็นพระหลวงปู่ทวดที่สร้างโดยกระทรวงกลาโหม ต้องรีบเก็บครับ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 303 Views 0 Reviews
  • เนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2540
    เนื้อว่านหลวงพ่อทวด พิมพ์ใหญ่ รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2540 // พระดีพิธีใหญ่ พระพิธีใหญ่มากๆ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ปลุกเสก และคณาจารย์อีก 108 รูป ร่วมปลุกเสกด้วย ซึ่งมีพิธีใหญ่ทั้งที่วัดช้างให้และวัดพระแก้ว //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** หลวงปู่ทวด รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม สร้างปี พ.ศ. 2540 โดยมีพิธีพุทธาภิเษก 2 ครั้ง คือ ณ สถูปเจดีย์วัดช้างให้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2540 และ ณ วัดพระแก้ว เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2540 โดยมีอาจารย์นอง วัดทรายขาว และคณาจารย์อีก 108 รูป ร่วมปลุกเสก

    พิธีพุทธาภิเษก:ครั้งที่ 1: ณ สถูปเจดีย์ วัดช้างให้ วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2540
    ครั้งที่ 2: ณ วัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2540 ผสมแผ่นยันต์ชนวนเก่า โดยใช้ทรงพิมพ์หลวงปู่ทวดรูปหล่อลอยองค์บัวรอบที่เป็นที่นิยม พระทำออกมาได้สวยงามมาก น่าบูชาเก็บไว้มาก ยิ่งเป็นพระหลวงปู่ทวดที่สร้างโดยกระทรวงกลาโหม ต้องรีบเก็บครับ >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2540 เนื้อว่านหลวงพ่อทวด พิมพ์ใหญ่ รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2540 // พระดีพิธีใหญ่ พระพิธีใหญ่มากๆ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ปลุกเสก และคณาจารย์อีก 108 รูป ร่วมปลุกเสกด้วย ซึ่งมีพิธีใหญ่ทั้งที่วัดช้างให้และวัดพระแก้ว //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** หลวงปู่ทวด รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม สร้างปี พ.ศ. 2540 โดยมีพิธีพุทธาภิเษก 2 ครั้ง คือ ณ สถูปเจดีย์วัดช้างให้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2540 และ ณ วัดพระแก้ว เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2540 โดยมีอาจารย์นอง วัดทรายขาว และคณาจารย์อีก 108 รูป ร่วมปลุกเสก พิธีพุทธาภิเษก:ครั้งที่ 1: ณ สถูปเจดีย์ วัดช้างให้ วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2540 ครั้งที่ 2: ณ วัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2540 ผสมแผ่นยันต์ชนวนเก่า โดยใช้ทรงพิมพ์หลวงปู่ทวดรูปหล่อลอยองค์บัวรอบที่เป็นที่นิยม พระทำออกมาได้สวยงามมาก น่าบูชาเก็บไว้มาก ยิ่งเป็นพระหลวงปู่ทวดที่สร้างโดยกระทรวงกลาโหม ต้องรีบเก็บครับ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 284 Views 0 Reviews
  • “UNC5142 ใช้ EtherHiding บน BNB Smart Chain เพื่อแพร่มัลแวร์ — เมื่อบล็อกเชนกลายเป็นเครื่องมืออาชญากรรมไซเบอร์” — จาก WordPress สู่ Smart Contract: การโจมตีที่ล่องหนและยากจะหยุด

    รายงานร่วมจาก Mandiant และ Google Threat Intelligence Group (GTIG) เปิดเผยการโจมตีไซเบอร์รูปแบบใหม่โดยกลุ่ม UNC5142 ซึ่งใช้เทคนิค “EtherHiding” บน BNB Smart Chain เพื่อซ่อนและส่งมัลแวร์ผ่าน smart contracts โดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์แบบเดิม

    แทนที่จะโฮสต์มัลแวร์บนโดเมนหรือ IP ที่สามารถถูกบล็อกได้ UNC5142 ฝัง payload ไว้ใน smart contract ที่อยู่บนบล็อกเชน ซึ่งมีคุณสมบัติ “เปลี่ยนไม่ได้” และ “ลบไม่ได้” ทำให้การตรวจจับและการลบแทบเป็นไปไม่ได้

    มัลแวร์เริ่มต้นจากการฝัง JavaScript บนเว็บไซต์ WordPress ที่ถูกเจาะ ซึ่งโหลดตัวดาวน์โหลดชื่อ CLEARSHORT — ตัวนี้จะเชื่อมต่อกับ BNB Smart Chain ผ่าน Web3.js เพื่อดึงสคริปต์ถัดไปจาก smart contract และแสดงหน้าต่างหลอกลวง เช่น “อัปเดตระบบ” หรือ “ตรวจสอบความปลอดภัย” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้คลิก

    ระบบ smart contract ที่ใช้มี 3 ชั้น:

    1️⃣ ชั้นแรก: ทำหน้าที่เป็น router ชี้ไปยัง contract ถัดไป

    2️⃣ ชั้นสอง: ทำ reconnaissance และ fingerprinting เหยื่อ

    3️⃣ ชั้นสาม: เก็บ URL ของ payload และคีย์ AES สำหรับถอดรหัส

    การอัปเดต payload หรือคีย์สามารถทำได้ด้วยธุรกรรมราคาถูก (ประมาณ $0.25–$1.50) โดยไม่ต้องเปลี่ยนโค้ดหลักของ contract — ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นสูงและต้นทุนต่ำ

    UNC5142 ยังใช้ Cloudflare Pages เพื่อโฮสต์หน้า phishing เช่น reCAPTCHA ปลอม, หน้าความเป็นส่วนตัวปลอม, และหน้าตรวจสอบ bot ปลอม ซึ่งหลอกผู้ใช้ให้คลิกและติดมัลแวร์

    มัลแวร์ที่ใช้มีหลายตัว เช่น:

    CLEARSHORT: JavaScript downloader
    VIDAR และ LUMMAC.V2: สำหรับ Windows
    RADTHIEF: ขโมย credentials
    ATOMIC: สำหรับ macOS — ใช้ bash script และ bypass quarantine

    กลุ่มนี้ยังมีโครงสร้าง infrastructure แบบคู่ขนาน (Main และ Secondary) เพื่อหลบเลี่ยงการถูกปิดระบบ และใช้ wallet ที่เชื่อมโยงกับ OKX exchange ในการจ่ายค่าธุรกรรม

    UNC5142 ใช้ EtherHiding บน BNB Smart Chain เพื่อแพร่มัลแวร์
    ฝัง payload ใน smart contract ที่ลบไม่ได้

    เริ่มต้นจากเว็บไซต์ WordPress ที่ถูกเจาะ
    โหลด CLEARSHORT JavaScript downloader

    ใช้ Web3.js เชื่อมต่อกับ smart contract เพื่อดึง payload
    แสดงหน้าต่างหลอกลวงให้เหยื่อคลิก

    Smart contract มี 3 ชั้น: router → reconnaissance → payload
    อัปเดตได้ด้วยธุรกรรมราคาถูก

    ใช้ Cloudflare Pages เพื่อโฮสต์หน้า phishing
    เช่น reCAPTCHA ปลอม และหน้าตรวจสอบ bot

    มัลแวร์ที่ใช้: CLEARSHORT, VIDAR, LUMMAC.V2, RADTHIEF, ATOMIC
    ครอบคลุมทั้ง Windows และ macOS

    โครงสร้าง infrastructure แบบคู่ขนาน (Main และ Secondary)
    ใช้ wallet ที่เชื่อมโยงกับ OKX exchange

    https://securityonline.info/unc5142-uses-etherhiding-to-deploy-malware-via-bnb-smart-chain-smart-contracts/
    🛡️ “UNC5142 ใช้ EtherHiding บน BNB Smart Chain เพื่อแพร่มัลแวร์ — เมื่อบล็อกเชนกลายเป็นเครื่องมืออาชญากรรมไซเบอร์” — จาก WordPress สู่ Smart Contract: การโจมตีที่ล่องหนและยากจะหยุด รายงานร่วมจาก Mandiant และ Google Threat Intelligence Group (GTIG) เปิดเผยการโจมตีไซเบอร์รูปแบบใหม่โดยกลุ่ม UNC5142 ซึ่งใช้เทคนิค “EtherHiding” บน BNB Smart Chain เพื่อซ่อนและส่งมัลแวร์ผ่าน smart contracts โดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์แบบเดิม แทนที่จะโฮสต์มัลแวร์บนโดเมนหรือ IP ที่สามารถถูกบล็อกได้ UNC5142 ฝัง payload ไว้ใน smart contract ที่อยู่บนบล็อกเชน ซึ่งมีคุณสมบัติ “เปลี่ยนไม่ได้” และ “ลบไม่ได้” ทำให้การตรวจจับและการลบแทบเป็นไปไม่ได้ มัลแวร์เริ่มต้นจากการฝัง JavaScript บนเว็บไซต์ WordPress ที่ถูกเจาะ ซึ่งโหลดตัวดาวน์โหลดชื่อ CLEARSHORT — ตัวนี้จะเชื่อมต่อกับ BNB Smart Chain ผ่าน Web3.js เพื่อดึงสคริปต์ถัดไปจาก smart contract และแสดงหน้าต่างหลอกลวง เช่น “อัปเดตระบบ” หรือ “ตรวจสอบความปลอดภัย” เพื่อหลอกให้ผู้ใช้คลิก ระบบ smart contract ที่ใช้มี 3 ชั้น: 1️⃣ ชั้นแรก: ทำหน้าที่เป็น router ชี้ไปยัง contract ถัดไป 2️⃣ ชั้นสอง: ทำ reconnaissance และ fingerprinting เหยื่อ 3️⃣ ชั้นสาม: เก็บ URL ของ payload และคีย์ AES สำหรับถอดรหัส การอัปเดต payload หรือคีย์สามารถทำได้ด้วยธุรกรรมราคาถูก (ประมาณ $0.25–$1.50) โดยไม่ต้องเปลี่ยนโค้ดหลักของ contract — ทำให้ระบบมีความยืดหยุ่นสูงและต้นทุนต่ำ UNC5142 ยังใช้ Cloudflare Pages เพื่อโฮสต์หน้า phishing เช่น reCAPTCHA ปลอม, หน้าความเป็นส่วนตัวปลอม, และหน้าตรวจสอบ bot ปลอม ซึ่งหลอกผู้ใช้ให้คลิกและติดมัลแวร์ มัลแวร์ที่ใช้มีหลายตัว เช่น: 🐛 CLEARSHORT: JavaScript downloader 🐛 VIDAR และ LUMMAC.V2: สำหรับ Windows 🐛 RADTHIEF: ขโมย credentials 🐛 ATOMIC: สำหรับ macOS — ใช้ bash script และ bypass quarantine กลุ่มนี้ยังมีโครงสร้าง infrastructure แบบคู่ขนาน (Main และ Secondary) เพื่อหลบเลี่ยงการถูกปิดระบบ และใช้ wallet ที่เชื่อมโยงกับ OKX exchange ในการจ่ายค่าธุรกรรม ✅ UNC5142 ใช้ EtherHiding บน BNB Smart Chain เพื่อแพร่มัลแวร์ ➡️ ฝัง payload ใน smart contract ที่ลบไม่ได้ ✅ เริ่มต้นจากเว็บไซต์ WordPress ที่ถูกเจาะ ➡️ โหลด CLEARSHORT JavaScript downloader ✅ ใช้ Web3.js เชื่อมต่อกับ smart contract เพื่อดึง payload ➡️ แสดงหน้าต่างหลอกลวงให้เหยื่อคลิก ✅ Smart contract มี 3 ชั้น: router → reconnaissance → payload ➡️ อัปเดตได้ด้วยธุรกรรมราคาถูก ✅ ใช้ Cloudflare Pages เพื่อโฮสต์หน้า phishing ➡️ เช่น reCAPTCHA ปลอม และหน้าตรวจสอบ bot ✅ มัลแวร์ที่ใช้: CLEARSHORT, VIDAR, LUMMAC.V2, RADTHIEF, ATOMIC ➡️ ครอบคลุมทั้ง Windows และ macOS ✅ โครงสร้าง infrastructure แบบคู่ขนาน (Main และ Secondary) ➡️ ใช้ wallet ที่เชื่อมโยงกับ OKX exchange https://securityonline.info/unc5142-uses-etherhiding-to-deploy-malware-via-bnb-smart-chain-smart-contracts/
    SECURITYONLINE.INFO
    UNC5142 Uses EtherHiding to Deploy Malware via BNB Smart Chain Smart Contracts
    Mandiant exposed UNC5142 for using EtherHiding—hiding malicious JavaScript in BNB Smart Chain smart contracts—to create a resilient C2 and distribute VIDAR/ATOMIC to 14,000+ sites.
    0 Comments 0 Shares 242 Views 0 Reviews
  • สรุป จากการอ้างอิงหนังสือนี้ คลิปนี้ หลวงพ่อทวดองค์ท่านไม่อนุญาตให้สร้างนับจากนี้ต่อไปแล้ว,ไม่มาร่วมปลุกเสกพระเครื่องใดๆด้วยอีกต่อไป.,ส่วนพระเครื่ององค์หล่อก่อนๆปีเดือนพ.ศ.2508นี้ นับจากเหตุปัจจัยสร้างนี้สิ้นสุดลง ไม่มีการสร้างที่หลวงพ่อทวดมาร่วมลงจิตปลุกเสกด้วยนั้นเอง,ทางวัดดำเนินการเองใดๆก็อีกเรื่อง สิ้นสุดการร่วมลงมาปลุกเสกพระเครื่องของหลวงพ่อทวดนับแต่นั้นมานั้นเอง,นาทีที่1:28:00น.ถึง1:32:00น. น่าสนใจฟังร่วมกันได้ตามคลิป.
    ..วัดไม่มีบันทึกประวัติการสร้าง ,ตระกูลคนาฯผู้สร้างร่วมมาตลอดก็ไม่มีบันทึกในหนังสือตระกูลของเหรียญรุ่น08ที่เป็นประเด็นข่าว.,มันจบแล้วจริงๆ,ต่อไปคือการบันทึกเข้าออกของกรมฯตีตรานำเข้าเครื่องปั้มเหรียญล่ะว่ามีใครสั่งเข้ามาบ้าง ช่วงวันเดือนปีใด อยู่กับใครบ้าง สาระพัดการปั้มพระผลิตพระล่ะงานนี้ วงการพระเครื่องต้องมีการกวาดล้างจริงจังครั้งใหญ่หลวง,ร่ำรวยสะพัดในวงการฯกว่า4-5หมื่นล้านต่อปี มันไม่ปกติธรรมดาจริงๆ.

    https://youtube.com/live/3lvqRJNCOT4?si=Cy93brSF2gtz6zCG
    สรุป จากการอ้างอิงหนังสือนี้ คลิปนี้ หลวงพ่อทวดองค์ท่านไม่อนุญาตให้สร้างนับจากนี้ต่อไปแล้ว,ไม่มาร่วมปลุกเสกพระเครื่องใดๆด้วยอีกต่อไป.,ส่วนพระเครื่ององค์หล่อก่อนๆปีเดือนพ.ศ.2508นี้ นับจากเหตุปัจจัยสร้างนี้สิ้นสุดลง ไม่มีการสร้างที่หลวงพ่อทวดมาร่วมลงจิตปลุกเสกด้วยนั้นเอง,ทางวัดดำเนินการเองใดๆก็อีกเรื่อง สิ้นสุดการร่วมลงมาปลุกเสกพระเครื่องของหลวงพ่อทวดนับแต่นั้นมานั้นเอง,นาทีที่1:28:00น.ถึง1:32:00น. น่าสนใจฟังร่วมกันได้ตามคลิป. ..วัดไม่มีบันทึกประวัติการสร้าง ,ตระกูลคนาฯผู้สร้างร่วมมาตลอดก็ไม่มีบันทึกในหนังสือตระกูลของเหรียญรุ่น08ที่เป็นประเด็นข่าว.,มันจบแล้วจริงๆ,ต่อไปคือการบันทึกเข้าออกของกรมฯตีตรานำเข้าเครื่องปั้มเหรียญล่ะว่ามีใครสั่งเข้ามาบ้าง ช่วงวันเดือนปีใด อยู่กับใครบ้าง สาระพัดการปั้มพระผลิตพระล่ะงานนี้ วงการพระเครื่องต้องมีการกวาดล้างจริงจังครั้งใหญ่หลวง,ร่ำรวยสะพัดในวงการฯกว่า4-5หมื่นล้านต่อปี มันไม่ปกติธรรมดาจริงๆ. https://youtube.com/live/3lvqRJNCOT4?si=Cy93brSF2gtz6zCG
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 235 Views 0 Reviews
  • “VMware Workstation/Fusion เปลี่ยนระบบเวอร์ชันเป็นแบบรายปี” — Broadcom เปิดตัวรุ่น 25H2 พร้อมฟีเจอร์ใหม่และแนวทางใหม่ในการพัฒนา

    Broadcom ประกาศเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบเวอร์ชันของซอฟต์แวร์ VMware Workstation Pro และ Fusion Pro โดยเลิกใช้ตัวเลขเวอร์ชันแบบเดิม (เช่น 17.6.x) แล้วหันมาใช้รูปแบบตามปีและช่วงเวลา เช่น “25H2” ซึ่งหมายถึงรุ่นครึ่งหลังของปี 2025 คล้ายกับแนวทางของ Microsoft Windows

    การเปลี่ยนแปลงนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่หลายรายการในรุ่น 25H2 ได้แก่:

    dictTool: เครื่องมือ command-line สำหรับตรวจสอบและแก้ไขไฟล์ .vmx ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องใช้ Notepad หรือ text editor ทั่วไป

    รองรับ USB 3.2: เพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลและรองรับอุปกรณ์ใหม่

    ตรวจจับ Hyper-V VM: ช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่า VM ทำงานในโหมดใด เพื่อปรับปรุงการทำงานร่วมกัน

    ปรับปรุง accessibility และ UI: แก้ไขปัญหาการปรับขนาดหน้าต่างและการควบคุมบน Windows

    ปรับปรุงแพ็กเกจ Linux: ลดปัญหาในการติดตั้งและแก้ไขข้อผิดพลาด

    ลด log ที่ไม่จำเป็น: เช่น vmauthd ใน Event Viewer

    ยกเลิก vctl tool: ไม่รวมใน Workstation Pro อีกต่อไป

    Broadcom ยังไม่เปิดเผยแผนระยะยาวว่าจะมีรุ่น “26H1” ในครึ่งแรกของปี 2026 หรือไม่ แต่การเปลี่ยนมาใช้ระบบเวอร์ชันแบบรายปีอาจช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจรอบการอัปเดตได้ง่ายขึ้น

    ข้อมูลในข่าว
    Broadcom เปลี่ยนระบบเวอร์ชันของ VMware เป็นแบบรายปี เช่น 25H2
    รุ่น 25H2 มาพร้อม dictTool สำหรับจัดการไฟล์ .vmx
    รองรับ USB 3.2 เพื่อเพิ่มความเร็วและความเข้ากันได้
    เพิ่มการตรวจจับ Hyper-V VM เพื่อปรับปรุงการทำงานร่วมกัน
    ปรับปรุง accessibility และ UI บน Windows
    ปรับปรุงแพ็กเกจ Linux ให้ติดตั้งง่ายขึ้น
    ลด log ที่ไม่จำเป็นใน Event Viewer
    แก้ปัญหา VM suspend, full-screen crash และ GPU acceleration บน Linux
    ยกเลิก vctl tool จาก Workstation Pro
    Broadcom ยังไม่ยืนยันว่าจะมีรุ่น 26H1 ในอนาคต

    https://securityonline.info/broadcom-shifts-vmware-workstation-fusion-to-year-based-versioning-with-new-25h2-release/
    🖥️ “VMware Workstation/Fusion เปลี่ยนระบบเวอร์ชันเป็นแบบรายปี” — Broadcom เปิดตัวรุ่น 25H2 พร้อมฟีเจอร์ใหม่และแนวทางใหม่ในการพัฒนา Broadcom ประกาศเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบเวอร์ชันของซอฟต์แวร์ VMware Workstation Pro และ Fusion Pro โดยเลิกใช้ตัวเลขเวอร์ชันแบบเดิม (เช่น 17.6.x) แล้วหันมาใช้รูปแบบตามปีและช่วงเวลา เช่น “25H2” ซึ่งหมายถึงรุ่นครึ่งหลังของปี 2025 คล้ายกับแนวทางของ Microsoft Windows การเปลี่ยนแปลงนี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่หลายรายการในรุ่น 25H2 ได้แก่: 🛠️ dictTool: เครื่องมือ command-line สำหรับตรวจสอบและแก้ไขไฟล์ .vmx ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องใช้ Notepad หรือ text editor ทั่วไป ⚡ รองรับ USB 3.2: เพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลและรองรับอุปกรณ์ใหม่ 🧠 ตรวจจับ Hyper-V VM: ช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่า VM ทำงานในโหมดใด เพื่อปรับปรุงการทำงานร่วมกัน 🧩 ปรับปรุง accessibility และ UI: แก้ไขปัญหาการปรับขนาดหน้าต่างและการควบคุมบน Windows 🐧 ปรับปรุงแพ็กเกจ Linux: ลดปัญหาในการติดตั้งและแก้ไขข้อผิดพลาด 🔧 ลด log ที่ไม่จำเป็น: เช่น vmauthd ใน Event Viewer 🛑 ยกเลิก vctl tool: ไม่รวมใน Workstation Pro อีกต่อไป Broadcom ยังไม่เปิดเผยแผนระยะยาวว่าจะมีรุ่น “26H1” ในครึ่งแรกของปี 2026 หรือไม่ แต่การเปลี่ยนมาใช้ระบบเวอร์ชันแบบรายปีอาจช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจรอบการอัปเดตได้ง่ายขึ้น ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Broadcom เปลี่ยนระบบเวอร์ชันของ VMware เป็นแบบรายปี เช่น 25H2 ➡️ รุ่น 25H2 มาพร้อม dictTool สำหรับจัดการไฟล์ .vmx ➡️ รองรับ USB 3.2 เพื่อเพิ่มความเร็วและความเข้ากันได้ ➡️ เพิ่มการตรวจจับ Hyper-V VM เพื่อปรับปรุงการทำงานร่วมกัน ➡️ ปรับปรุง accessibility และ UI บน Windows ➡️ ปรับปรุงแพ็กเกจ Linux ให้ติดตั้งง่ายขึ้น ➡️ ลด log ที่ไม่จำเป็นใน Event Viewer ➡️ แก้ปัญหา VM suspend, full-screen crash และ GPU acceleration บน Linux ➡️ ยกเลิก vctl tool จาก Workstation Pro ➡️ Broadcom ยังไม่ยืนยันว่าจะมีรุ่น 26H1 ในอนาคต https://securityonline.info/broadcom-shifts-vmware-workstation-fusion-to-year-based-versioning-with-new-25h2-release/
    SECURITYONLINE.INFO
    Broadcom Shifts VMware Workstation/Fusion to Year-Based Versioning with New 25H2 Release
    Broadcom is shifting VMware Workstation Pro/Fusion to year-based versioning (e.g., 25H2). The new release adds dictTool for .vmx editing, USB 3.2 support, and Hyper-V VM detection.
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 Reviews
  • 🛜 “Wireguard FPGA — ปฏิวัติความปลอดภัยเครือข่ายด้วยฮาร์ดแวร์โอเพนซอร์สราคาประหยัด”

    ในยุคที่ความปลอดภัยของข้อมูลกลายเป็นเรื่องสำคัญระดับโลก การเชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน VPN กลายเป็นสิ่งจำเป็น แต่โซลูชันแบบเดิมอย่าง OpenVPN หรือ IPSec เริ่มล้าหลัง ทั้งในด้านประสิทธิภาพและความซับซ้อนในการจัดการ นี่คือจุดเริ่มต้นของโครงการ “Wireguard FPGA” ที่มุ่งสร้างระบบ VPN แบบฮาร์ดแวร์เต็มรูปแบบ ด้วยความเร็วระดับสายไฟ (wire-speed) บน FPGA ราคาประหยัด พร้อมเปิดซอร์สให้ทุกคนเข้าถึงได้

    โครงการนี้ใช้ Artix-7 FPGA ซึ่งรองรับเครื่องมือโอเพนซอร์ส และเขียนโค้ดทั้งหมดด้วย Verilog/SystemVerilog โดยไม่พึ่งพา IP แบบปิดหรือเครื่องมือเชิงพาณิชย์ จุดเด่นคือการออกแบบระบบให้ทำงานแบบ self-contained ไม่ต้องพึ่งพา PC host และสามารถจัดการการเข้ารหัสแบบ ChaCha20-Poly1305 ได้ในระดับฮาร์ดแวร์

    ทีมงานเบื้องหลังเคยมีส่วนร่วมในโครงการ Blackwire ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์ VPN ความเร็ว 100Gbps แต่มีข้อจำกัดด้านราคาและเครื่องมือที่ใช้ ทำให้ Wireguard FPGA ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยมีแผนพัฒนาเป็นหลายเฟส ตั้งแต่การสร้างต้นแบบ ไปจนถึงการทดสอบจริง และการเพิ่มฟีเจอร์ควบคุมการไหลของข้อมูล


    เป้าหมายของโครงการ Wireguard FPGA
    สร้างระบบ VPN แบบฮาร์ดแวร์ที่เร็วระดับสายไฟ
    ใช้ Artix-7 FPGA ราคาประหยัดและเครื่องมือโอเพนซอร์ส
    เขียนโค้ดด้วย Verilog/SystemVerilog ทั้งหมด

    ความแตกต่างจากโครงการ Blackwire
    Blackwire ใช้ Alveo U50 ที่มีราคาสูงและเครื่องมือ Vivado แบบปิด
    Wireguard FPGA ไม่พึ่งพา PC host และใช้โค้ดที่เข้าถึงได้ง่าย
    Blackwire เปิดซอร์สเพราะปัญหาทางการเงิน ไม่ใช่เจตนาเดิม

    สถาปัตยกรรมระบบ
    แบ่งเป็น Control Plane (ซอฟต์แวร์บน RISC-V CPU) และ Data Plane (ฮาร์ดแวร์เข้ารหัส)
    ใช้ CSR-based HAL ในการเชื่อมต่อระหว่างสองส่วน
    รองรับการเข้ารหัส/ถอดรหัสด้วย ChaCha20-Poly1305 ในฮาร์ดแวร์

    การพัฒนาแบบหลายเฟส
    Phase 1: สร้างต้นแบบและทดสอบพื้นฐาน
    Phase 2: สร้าง datapath และรวม IP เข้าด้วยกัน
    Phase 3: พัฒนาเฟิร์มแวร์ควบคุมบน RISC-V
    Phase 4: จัดการ VPN tunnel แบบครบวงจร
    Phase 5: ทดสอบจริงและพอร์ตไปยัง OpenXC7
    Phase 6: เพิ่มโมดูลควบคุมการไหลของข้อมูล

    เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ใช้
    ใช้ Verilator, cocoTB, VProc ISS ในการจำลอง
    ใช้ IP จากโครงการอื่น เช่น Corundum, Cookie Cutter SOC
    ใช้ระบบ co-simulation HAL ที่สร้างจาก SystemRDL

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ChaCha20-Poly1305 เป็นอัลกอริธึม AEAD ที่ใช้ใน Wireguard ตาม RFC7539
    Curve25519 ใช้สำหรับแลกเปลี่ยนคีย์แบบ ECDH
    OpenXC7 เป็นเครื่องมือโอเพนซอร์สสำหรับ FPGA ตระกูล Xilinx Series7

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    Artix-7 ไม่รองรับ High-Performance I/O ทำให้จำกัดความเร็วที่ 600MHz
    เครื่องมือโอเพนซอร์สยังไม่สมบูรณ์ อาจมีปัญหา timing closure และ routing
    การจำลองระบบขนาดใหญ่ต้องใช้ทรัพยากรสูงและอาจไม่เหมาะกับทุกคน
    การพอร์ตไปยัง OpenXC7 ยังมีปัญหา crash และไม่มี timing-driven STA

    https://github.com/chili-chips-ba/wireguard-fpga
    🛜 “Wireguard FPGA — ปฏิวัติความปลอดภัยเครือข่ายด้วยฮาร์ดแวร์โอเพนซอร์สราคาประหยัด” ในยุคที่ความปลอดภัยของข้อมูลกลายเป็นเรื่องสำคัญระดับโลก การเชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน VPN กลายเป็นสิ่งจำเป็น แต่โซลูชันแบบเดิมอย่าง OpenVPN หรือ IPSec เริ่มล้าหลัง ทั้งในด้านประสิทธิภาพและความซับซ้อนในการจัดการ นี่คือจุดเริ่มต้นของโครงการ “Wireguard FPGA” ที่มุ่งสร้างระบบ VPN แบบฮาร์ดแวร์เต็มรูปแบบ ด้วยความเร็วระดับสายไฟ (wire-speed) บน FPGA ราคาประหยัด พร้อมเปิดซอร์สให้ทุกคนเข้าถึงได้ โครงการนี้ใช้ Artix-7 FPGA ซึ่งรองรับเครื่องมือโอเพนซอร์ส และเขียนโค้ดทั้งหมดด้วย Verilog/SystemVerilog โดยไม่พึ่งพา IP แบบปิดหรือเครื่องมือเชิงพาณิชย์ จุดเด่นคือการออกแบบระบบให้ทำงานแบบ self-contained ไม่ต้องพึ่งพา PC host และสามารถจัดการการเข้ารหัสแบบ ChaCha20-Poly1305 ได้ในระดับฮาร์ดแวร์ ทีมงานเบื้องหลังเคยมีส่วนร่วมในโครงการ Blackwire ซึ่งเป็นฮาร์ดแวร์ VPN ความเร็ว 100Gbps แต่มีข้อจำกัดด้านราคาและเครื่องมือที่ใช้ ทำให้ Wireguard FPGA ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยมีแผนพัฒนาเป็นหลายเฟส ตั้งแต่การสร้างต้นแบบ ไปจนถึงการทดสอบจริง และการเพิ่มฟีเจอร์ควบคุมการไหลของข้อมูล ✅ เป้าหมายของโครงการ Wireguard FPGA ➡️ สร้างระบบ VPN แบบฮาร์ดแวร์ที่เร็วระดับสายไฟ ➡️ ใช้ Artix-7 FPGA ราคาประหยัดและเครื่องมือโอเพนซอร์ส ➡️ เขียนโค้ดด้วย Verilog/SystemVerilog ทั้งหมด ✅ ความแตกต่างจากโครงการ Blackwire ➡️ Blackwire ใช้ Alveo U50 ที่มีราคาสูงและเครื่องมือ Vivado แบบปิด ➡️ Wireguard FPGA ไม่พึ่งพา PC host และใช้โค้ดที่เข้าถึงได้ง่าย ➡️ Blackwire เปิดซอร์สเพราะปัญหาทางการเงิน ไม่ใช่เจตนาเดิม ✅ สถาปัตยกรรมระบบ ➡️ แบ่งเป็น Control Plane (ซอฟต์แวร์บน RISC-V CPU) และ Data Plane (ฮาร์ดแวร์เข้ารหัส) ➡️ ใช้ CSR-based HAL ในการเชื่อมต่อระหว่างสองส่วน ➡️ รองรับการเข้ารหัส/ถอดรหัสด้วย ChaCha20-Poly1305 ในฮาร์ดแวร์ ✅ การพัฒนาแบบหลายเฟส ➡️ Phase 1: สร้างต้นแบบและทดสอบพื้นฐาน ➡️ Phase 2: สร้าง datapath และรวม IP เข้าด้วยกัน ➡️ Phase 3: พัฒนาเฟิร์มแวร์ควบคุมบน RISC-V ➡️ Phase 4: จัดการ VPN tunnel แบบครบวงจร ➡️ Phase 5: ทดสอบจริงและพอร์ตไปยัง OpenXC7 ➡️ Phase 6: เพิ่มโมดูลควบคุมการไหลของข้อมูล ✅ เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ใช้ ➡️ ใช้ Verilator, cocoTB, VProc ISS ในการจำลอง ➡️ ใช้ IP จากโครงการอื่น เช่น Corundum, Cookie Cutter SOC ➡️ ใช้ระบบ co-simulation HAL ที่สร้างจาก SystemRDL ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ChaCha20-Poly1305 เป็นอัลกอริธึม AEAD ที่ใช้ใน Wireguard ตาม RFC7539 ➡️ Curve25519 ใช้สำหรับแลกเปลี่ยนคีย์แบบ ECDH ➡️ OpenXC7 เป็นเครื่องมือโอเพนซอร์สสำหรับ FPGA ตระกูล Xilinx Series7 ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ Artix-7 ไม่รองรับ High-Performance I/O ทำให้จำกัดความเร็วที่ 600MHz ⛔ เครื่องมือโอเพนซอร์สยังไม่สมบูรณ์ อาจมีปัญหา timing closure และ routing ⛔ การจำลองระบบขนาดใหญ่ต้องใช้ทรัพยากรสูงและอาจไม่เหมาะกับทุกคน ⛔ การพอร์ตไปยัง OpenXC7 ยังมีปัญหา crash และไม่มี timing-driven STA https://github.com/chili-chips-ba/wireguard-fpga
    0 Comments 0 Shares 274 Views 0 Reviews
  • “YoLink Smart Hub ราคาแค่ $20 แต่เปิดช่องให้แฮกเกอร์เข้าบ้านคุณ — ช่องโหว่ 4 จุดที่ยังไม่มีแพตช์”

    ใครจะคิดว่าอุปกรณ์ IoT ราคาประหยัดอย่าง YoLink Smart Hub รุ่น v0382 ที่ขายเพียง $20 จะกลายเป็นประตูหลังให้แฮกเกอร์เข้าถึงบ้านคุณได้โดยตรง ล่าสุดทีมวิจัยจาก Bishop Fox ได้เปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรง 4 จุดในอุปกรณ์นี้ ซึ่งรวมถึงการควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล, การขโมยข้อมูล Wi-Fi, และการรักษาสิทธิ์เข้าถึงแบบไม่หมดอายุ

    YoLink Hub ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทในบ้าน เช่น ล็อกประตู เซ็นเซอร์ และปลั๊กไฟ โดยใช้ชิป ESP32 และสื่อสารผ่านโปรโตคอล MQTT ร่วมกับเทคโนโลยี LoRaWAN ซึ่งแม้จะดูทันสมัย แต่กลับมีช่องโหว่ที่เปิดให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมอุปกรณ์ของผู้ใช้คนอื่นได้ หากรู้ device ID ซึ่งสามารถคาดเดาได้ง่าย

    ช่องโหว่แรกคือการ “ข้ามการตรวจสอบสิทธิ์” (CVE-2025-59449 และ CVE-2025-59452) ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถควบคุมอุปกรณ์ของผู้ใช้คนอื่นได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่ที่สองคือการส่งข้อมูลสำคัญ เช่น รหัส Wi-Fi แบบไม่เข้ารหัส (CVE-2025-59448) ผ่าน MQTT ทำให้ข้อมูลถูกดักจับได้ง่าย และช่องโหว่สุดท้ายคือการจัดการ session ที่ผิดพลาด (CVE-2025-59451) ซึ่งทำให้แฮกเกอร์สามารถรักษาการเข้าถึงอุปกรณ์ได้อย่างต่อเนื่อง

    ที่น่ากังวลคือ YoSmart ผู้ผลิตยังไม่ได้ออกแพตช์หรือคำแนะนำใด ๆ แม้จะได้รับรายงานช่องโหว่ล่วงหน้ากว่า 90 วัน ทำให้ผู้ใช้ต้องรับมือเอง โดย Bishop Fox แนะนำให้ถอดอุปกรณ์ออกจากระบบเครือข่ายบ้านทันที และหลีกเลี่ยงการใช้กับอุปกรณ์ที่ควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพ เช่น ล็อกประตูหรือประตูโรงรถ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    YoLink Smart Hub รุ่น v0382 มีช่องโหว่ร้ายแรง 4 จุดที่ยังไม่มีแพตช์
    ใช้ชิป ESP32 และสื่อสารผ่าน MQTT และ LoRaWAN
    ช่องโหว่ CVE-2025-59449 และ CVE-2025-59452: ข้ามการตรวจสอบสิทธิ์
    ช่องโหว่ CVE-2025-59448: ส่งข้อมูลสำคัญแบบไม่เข้ารหัส
    ช่องโหว่ CVE-2025-59451: การจัดการ session ที่ผิดพลาด
    นักวิจัยสามารถควบคุมล็อกประตูของผู้ใช้คนอื่นได้จริง
    Device ID สามารถคาดเดาได้ง่าย ทำให้การโจมตีเป็นไปได้จริง
    YoSmart ยังไม่ตอบสนองต่อรายงานช่องโหว่ภายในกรอบเวลา 90 วัน
    Bishop Fox แนะนำให้หยุดใช้งานอุปกรณ์ทันที

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ESP32 เป็นชิปยอดนิยมในอุปกรณ์ IoT แต่ต้องมีการเสริมความปลอดภัย
    MQTT เป็นโปรโตคอล lightweight ที่นิยมใช้ใน IoT แต่ต้องเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย
    LoRaWAN เหมาะกับการสื่อสารระยะไกล แต่มีข้อจำกัดด้านความปลอดภัย
    CVE (Common Vulnerabilities and Exposures) เป็นระบบจัดการช่องโหว่ที่ใช้ทั่วโลก
    การจัดการ session ที่ดีต้องมีการหมดอายุและตรวจสอบสิทธิ์ซ้ำ

    https://hackread.com/20-yolink-iot-gateway-vulnerabilities-home-security/
    🔓 “YoLink Smart Hub ราคาแค่ $20 แต่เปิดช่องให้แฮกเกอร์เข้าบ้านคุณ — ช่องโหว่ 4 จุดที่ยังไม่มีแพตช์” ใครจะคิดว่าอุปกรณ์ IoT ราคาประหยัดอย่าง YoLink Smart Hub รุ่น v0382 ที่ขายเพียง $20 จะกลายเป็นประตูหลังให้แฮกเกอร์เข้าถึงบ้านคุณได้โดยตรง ล่าสุดทีมวิจัยจาก Bishop Fox ได้เปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรง 4 จุดในอุปกรณ์นี้ ซึ่งรวมถึงการควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล, การขโมยข้อมูล Wi-Fi, และการรักษาสิทธิ์เข้าถึงแบบไม่หมดอายุ YoLink Hub ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทในบ้าน เช่น ล็อกประตู เซ็นเซอร์ และปลั๊กไฟ โดยใช้ชิป ESP32 และสื่อสารผ่านโปรโตคอล MQTT ร่วมกับเทคโนโลยี LoRaWAN ซึ่งแม้จะดูทันสมัย แต่กลับมีช่องโหว่ที่เปิดให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมอุปกรณ์ของผู้ใช้คนอื่นได้ หากรู้ device ID ซึ่งสามารถคาดเดาได้ง่าย ช่องโหว่แรกคือการ “ข้ามการตรวจสอบสิทธิ์” (CVE-2025-59449 และ CVE-2025-59452) ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถควบคุมอุปกรณ์ของผู้ใช้คนอื่นได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่ที่สองคือการส่งข้อมูลสำคัญ เช่น รหัส Wi-Fi แบบไม่เข้ารหัส (CVE-2025-59448) ผ่าน MQTT ทำให้ข้อมูลถูกดักจับได้ง่าย และช่องโหว่สุดท้ายคือการจัดการ session ที่ผิดพลาด (CVE-2025-59451) ซึ่งทำให้แฮกเกอร์สามารถรักษาการเข้าถึงอุปกรณ์ได้อย่างต่อเนื่อง ที่น่ากังวลคือ YoSmart ผู้ผลิตยังไม่ได้ออกแพตช์หรือคำแนะนำใด ๆ แม้จะได้รับรายงานช่องโหว่ล่วงหน้ากว่า 90 วัน ทำให้ผู้ใช้ต้องรับมือเอง โดย Bishop Fox แนะนำให้ถอดอุปกรณ์ออกจากระบบเครือข่ายบ้านทันที และหลีกเลี่ยงการใช้กับอุปกรณ์ที่ควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพ เช่น ล็อกประตูหรือประตูโรงรถ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ YoLink Smart Hub รุ่น v0382 มีช่องโหว่ร้ายแรง 4 จุดที่ยังไม่มีแพตช์ ➡️ ใช้ชิป ESP32 และสื่อสารผ่าน MQTT และ LoRaWAN ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-59449 และ CVE-2025-59452: ข้ามการตรวจสอบสิทธิ์ ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-59448: ส่งข้อมูลสำคัญแบบไม่เข้ารหัส ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-59451: การจัดการ session ที่ผิดพลาด ➡️ นักวิจัยสามารถควบคุมล็อกประตูของผู้ใช้คนอื่นได้จริง ➡️ Device ID สามารถคาดเดาได้ง่าย ทำให้การโจมตีเป็นไปได้จริง ➡️ YoSmart ยังไม่ตอบสนองต่อรายงานช่องโหว่ภายในกรอบเวลา 90 วัน ➡️ Bishop Fox แนะนำให้หยุดใช้งานอุปกรณ์ทันที ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ESP32 เป็นชิปยอดนิยมในอุปกรณ์ IoT แต่ต้องมีการเสริมความปลอดภัย ➡️ MQTT เป็นโปรโตคอล lightweight ที่นิยมใช้ใน IoT แต่ต้องเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย ➡️ LoRaWAN เหมาะกับการสื่อสารระยะไกล แต่มีข้อจำกัดด้านความปลอดภัย ➡️ CVE (Common Vulnerabilities and Exposures) เป็นระบบจัดการช่องโหว่ที่ใช้ทั่วโลก ➡️ การจัดการ session ที่ดีต้องมีการหมดอายุและตรวจสอบสิทธิ์ซ้ำ https://hackread.com/20-yolink-iot-gateway-vulnerabilities-home-security/
    HACKREAD.COM
    $20 YoLink IoT Gateway Vulnerabilities Put Home Security at Risk
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 227 Views 0 Reviews
  • “CVE-2025-38352: ช่องโหว่ TOCTOU ใน Linux/Android Kernel — แค่เสี้ยววินาที ก็อาจเปิดทางสู่สิทธิ Root”

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยชื่อ StreyPaws ได้เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกของช่องโหว่ CVE-2025-38352 ซึ่งเป็นช่องโหว่แบบ TOCTOU (Time-of-Check to Time-of-Use) ที่เกิดขึ้นในระบบ POSIX CPU Timer ของ Linux และ Android kernel โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุใน Android Security Bulletin เดือนกันยายน 2025 และมีแนวโน้มว่าจะถูกใช้โจมตีแบบเจาะจงในบางกรณีแล้ว

    ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ synchronization ที่ผิดพลาดในไฟล์ posix-cpu-timers.c โดยเฉพาะเมื่อมีสองเธรดทำงานพร้อมกัน — เธรดหนึ่งกำลังจัดการกับ timer ที่หมดเวลา ส่วนอีกเธรดพยายามลบ timer เดียวกัน ทำให้เกิด race condition ที่อาจนำไปสู่การอ้างอิงหน่วยความจำที่ถูกปล่อยไปแล้ว (use-after-free) ซึ่งอาจทำให้ระบบ crash หรือแม้แต่ privilege escalation ได้

    POSIX CPU Timer ใช้ติดตามเวลาการประมวลผลของ process ไม่ใช่เวลาจริง ทำให้มีความสำคัญในการวิเคราะห์ performance และจัดการทรัพยากร โดยระบบรองรับ clock หลายประเภท เช่น CPUCLOCK_PROF, CPUCLOCK_VIRT และ CPUCLOCK_SCHED เพื่อใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ

    นักวิจัยได้สร้างสภาพแวดล้อมจำลอง kernel บน Android และพัฒนา PoC ที่สามารถทำให้ระบบ crash ได้แม้จะเปิดใช้ CONFIG_POSIX_CPU_TIMERS_TASK_WORK ซึ่งเป็นการตั้งค่าที่ควรช่วยลดความเสี่ยง แสดงให้เห็นว่าช่องโหว่นี้มีความซับซ้อนและอันตรายแม้ในระบบที่มีการป้องกันเบื้องต้น

    แพตช์ที่ออกมาเพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้มีการเพิ่มเงื่อนไขตรวจสอบสถานะการ exit ของ task ก่อนดำเนินการลบ timer ซึ่งช่วยป้องกันการเกิด race condition ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    CVE-2025-38352 เป็นช่องโหว่ TOCTOU ใน POSIX CPU Timer subsystem ของ Linux/Android kernel
    เกิดจาก race condition ระหว่างการจัดการ timer ที่หมดเวลาและการลบ timer พร้อมกัน
    อาจนำไปสู่ use-after-free, memory corruption และ privilege escalation
    POSIX CPU Timer ใช้ติดตามเวลาประมวลผลของ process ไม่ใช่เวลาจริง
    รองรับ clock หลายประเภท เช่น CPUCLOCK_PROF, CPUCLOCK_VIRT, CPUCLOCK_SCHED
    นักวิจัยสร้าง PoC ที่ทำให้ระบบ crash ได้แม้เปิดใช้ CONFIG_POSIX_CPU_TIMERS_TASK_WORK
    แพตช์แก้ไขโดยเพิ่มการตรวจสอบ exit_state เพื่อป้องกันการอ้างอิงหน่วยความจำที่ถูกปล่อย
    ช่องโหว่นี้ถูกระบุใน Android Security Bulletin เดือนกันยายน 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    TOCTOU เป็นช่องโหว่ที่เกิดจากการตรวจสอบเงื่อนไขก่อนใช้งาน แต่เงื่อนไขเปลี่ยนไปในระหว่างนั้น
    Use-after-free เป็นช่องโหว่ที่อันตรายเพราะสามารถนำไปสู่การควบคุมระบบได้
    Race condition มักเกิดในระบบที่มีการทำงานแบบ multi-threaded หรือ interrupt context
    การตรวจสอบ exit_state เป็นเทคนิคที่ใช้กันทั่วไปในการป้องกันการอ้างอิง task ที่กำลังถูกลบ
    ช่องโหว่ระดับ kernel มีผลกระทบสูงต่อความมั่นคงของระบบ เพราะสามารถควบคุมทุกระดับได้

    https://securityonline.info/researcher-details-zero-day-linux-android-kernel-flaw-cve-2025-38352/
    🧨 “CVE-2025-38352: ช่องโหว่ TOCTOU ใน Linux/Android Kernel — แค่เสี้ยววินาที ก็อาจเปิดทางสู่สิทธิ Root” นักวิจัยด้านความปลอดภัยชื่อ StreyPaws ได้เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกของช่องโหว่ CVE-2025-38352 ซึ่งเป็นช่องโหว่แบบ TOCTOU (Time-of-Check to Time-of-Use) ที่เกิดขึ้นในระบบ POSIX CPU Timer ของ Linux และ Android kernel โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุใน Android Security Bulletin เดือนกันยายน 2025 และมีแนวโน้มว่าจะถูกใช้โจมตีแบบเจาะจงในบางกรณีแล้ว ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ synchronization ที่ผิดพลาดในไฟล์ posix-cpu-timers.c โดยเฉพาะเมื่อมีสองเธรดทำงานพร้อมกัน — เธรดหนึ่งกำลังจัดการกับ timer ที่หมดเวลา ส่วนอีกเธรดพยายามลบ timer เดียวกัน ทำให้เกิด race condition ที่อาจนำไปสู่การอ้างอิงหน่วยความจำที่ถูกปล่อยไปแล้ว (use-after-free) ซึ่งอาจทำให้ระบบ crash หรือแม้แต่ privilege escalation ได้ POSIX CPU Timer ใช้ติดตามเวลาการประมวลผลของ process ไม่ใช่เวลาจริง ทำให้มีความสำคัญในการวิเคราะห์ performance และจัดการทรัพยากร โดยระบบรองรับ clock หลายประเภท เช่น CPUCLOCK_PROF, CPUCLOCK_VIRT และ CPUCLOCK_SCHED เพื่อใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ นักวิจัยได้สร้างสภาพแวดล้อมจำลอง kernel บน Android และพัฒนา PoC ที่สามารถทำให้ระบบ crash ได้แม้จะเปิดใช้ CONFIG_POSIX_CPU_TIMERS_TASK_WORK ซึ่งเป็นการตั้งค่าที่ควรช่วยลดความเสี่ยง แสดงให้เห็นว่าช่องโหว่นี้มีความซับซ้อนและอันตรายแม้ในระบบที่มีการป้องกันเบื้องต้น แพตช์ที่ออกมาเพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้มีการเพิ่มเงื่อนไขตรวจสอบสถานะการ exit ของ task ก่อนดำเนินการลบ timer ซึ่งช่วยป้องกันการเกิด race condition ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ CVE-2025-38352 เป็นช่องโหว่ TOCTOU ใน POSIX CPU Timer subsystem ของ Linux/Android kernel ➡️ เกิดจาก race condition ระหว่างการจัดการ timer ที่หมดเวลาและการลบ timer พร้อมกัน ➡️ อาจนำไปสู่ use-after-free, memory corruption และ privilege escalation ➡️ POSIX CPU Timer ใช้ติดตามเวลาประมวลผลของ process ไม่ใช่เวลาจริง ➡️ รองรับ clock หลายประเภท เช่น CPUCLOCK_PROF, CPUCLOCK_VIRT, CPUCLOCK_SCHED ➡️ นักวิจัยสร้าง PoC ที่ทำให้ระบบ crash ได้แม้เปิดใช้ CONFIG_POSIX_CPU_TIMERS_TASK_WORK ➡️ แพตช์แก้ไขโดยเพิ่มการตรวจสอบ exit_state เพื่อป้องกันการอ้างอิงหน่วยความจำที่ถูกปล่อย ➡️ ช่องโหว่นี้ถูกระบุใน Android Security Bulletin เดือนกันยายน 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ TOCTOU เป็นช่องโหว่ที่เกิดจากการตรวจสอบเงื่อนไขก่อนใช้งาน แต่เงื่อนไขเปลี่ยนไปในระหว่างนั้น ➡️ Use-after-free เป็นช่องโหว่ที่อันตรายเพราะสามารถนำไปสู่การควบคุมระบบได้ ➡️ Race condition มักเกิดในระบบที่มีการทำงานแบบ multi-threaded หรือ interrupt context ➡️ การตรวจสอบ exit_state เป็นเทคนิคที่ใช้กันทั่วไปในการป้องกันการอ้างอิง task ที่กำลังถูกลบ ➡️ ช่องโหว่ระดับ kernel มีผลกระทบสูงต่อความมั่นคงของระบบ เพราะสามารถควบคุมทุกระดับได้ https://securityonline.info/researcher-details-zero-day-linux-android-kernel-flaw-cve-2025-38352/
    SECURITYONLINE.INFO
    Researcher Details Zero-Day Linux/Android Kernel Flaw (CVE-2025-38352)
    A High-severity TOCTOU race condition (CVE-2025-38352) in the Linux/Android POSIX CPU Timer subsystem can lead to kernel crashes and privilege escalation.
    0 Comments 0 Shares 262 Views 0 Reviews
  • เนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2540
    เนื้อว่านหลวงพ่อทวด พิมพ์พระรอด รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2540 //พระดีพิธีใหญ่ พระพิธีใหญ่มากๆ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ปลุกเสก และคณาจารย์อีก 108 รูป ร่วมปลุกเสกด้วย ซึ่งมีพิธีใหญ่ทั้งที่วัดช้างให้และวัดพระแก้ว //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** หลวงปู่ทวด รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม สร้างปี พ.ศ. 2540 โดยมีพิธีพุทธาภิเษก 2 ครั้ง คือ ณ สถูปเจดีย์วัดช้างให้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2540 และ ณ วัดพระแก้ว เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2540 โดยมีอาจารย์นอง วัดทรายขาว และคณาจารย์อีก 108 รูป ร่วมปลุกเสก

    พิธีพุทธาภิเษก:ครั้งที่ 1: ณ สถูปเจดีย์ วัดช้างให้ วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2540
    ครั้งที่ 2: ณ วัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2540 ผสมแผ่นยันต์ชนวนเก่า โดยใช้ทรงพิมพ์หลวงปู่ทวดรูปหล่อลอยองค์บัวรอบที่เป็นที่นิยม พระทำออกมาได้สวยงามมาก น่าบูชาเก็บไว้มาก ยิ่งเป็นพระหลวงปู่ทวดที่สร้างโดยกระทรวงกลาโหม ต้องรีบเก็บครับ >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เนื้อว่านหลวงพ่อทวด รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2540 เนื้อว่านหลวงพ่อทวด พิมพ์พระรอด รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2540 //พระดีพิธีใหญ่ พระพิธีใหญ่มากๆ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ปลุกเสก และคณาจารย์อีก 108 รูป ร่วมปลุกเสกด้วย ซึ่งมีพิธีใหญ่ทั้งที่วัดช้างให้และวัดพระแก้ว //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** หลวงปู่ทวด รุ่น 111 ปี กระทรวงกลาโหม สร้างปี พ.ศ. 2540 โดยมีพิธีพุทธาภิเษก 2 ครั้ง คือ ณ สถูปเจดีย์วัดช้างให้ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2540 และ ณ วัดพระแก้ว เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2540 โดยมีอาจารย์นอง วัดทรายขาว และคณาจารย์อีก 108 รูป ร่วมปลุกเสก พิธีพุทธาภิเษก:ครั้งที่ 1: ณ สถูปเจดีย์ วัดช้างให้ วันเสาร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2540 ครั้งที่ 2: ณ วัดพระแก้ว (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) วันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2540 ผสมแผ่นยันต์ชนวนเก่า โดยใช้ทรงพิมพ์หลวงปู่ทวดรูปหล่อลอยองค์บัวรอบที่เป็นที่นิยม พระทำออกมาได้สวยงามมาก น่าบูชาเก็บไว้มาก ยิ่งเป็นพระหลวงปู่ทวดที่สร้างโดยกระทรวงกลาโหม ต้องรีบเก็บครับ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 356 Views 0 Reviews
  • “OpenSSL แพตช์ช่องโหว่ 3 รายการ — เสี่ยง RCE, Side-Channel และ Crash จาก IPv6 ‘no_proxy’”

    OpenSSL ซึ่งเป็นไลบรารีเข้ารหัสที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ได้ออกแพตช์อัปเดตเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2025 เพื่อแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัย 3 รายการที่ส่งผลกระทบต่อทุกเวอร์ชันหลัก ตั้งแต่ 1.0.2 ถึง 3.5 โดยมีระดับความรุนแรงตั้งแต่ Low ถึง Moderate แต่มีผลกระทบที่อาจร้ายแรงในบางบริบท

    ช่องโหว่แรก (CVE-2025-9230) เป็นการอ่านและเขียนข้อมูลนอกขอบเขต (Out-of-Bounds Read & Write) ในกระบวนการถอดรหัส CMS ที่ใช้การเข้ารหัสแบบรหัสผ่าน (PWRI) ซึ่งอาจนำไปสู่การ crash หรือแม้แต่การรันโค้ดจากผู้โจมตีได้ แม้โอกาสในการโจมตีจะต่ำ เพราะ CMS แบบ PWRI ใช้น้อยมากในโลกจริง แต่ช่องโหว่นี้ยังคงถูกจัดว่า “Moderate” และส่งผลต่อทุกเวอร์ชันหลักของ OpenSSL

    ช่องโหว่ที่สอง (CVE-2025-9231) เป็นการโจมตีแบบ Timing Side-Channel บนแพลตฟอร์ม ARM64 ที่ใช้ SM2 algorithm ซึ่งอาจเปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถวัดเวลาและกู้คืน private key ได้จากระยะไกลในบางกรณี โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้ provider แบบ custom ที่รองรับ SM2

    ช่องโหว่สุดท้าย (CVE-2025-9232) เป็นการอ่านข้อมูลนอกขอบเขตใน HTTP client API เมื่อมีการตั้งค่า no_proxy และใช้ URL ที่มี IPv6 ซึ่งอาจทำให้แอปพลิเคชัน crash ได้ แม้จะมีโอกาสโจมตีต่ำ แต่ก็ส่งผลต่อระบบที่ใช้ OCSP และ CMP ที่อิง HTTP client ของ OpenSSL

    OpenSSL ได้ออกแพตช์สำหรับเวอร์ชัน 3.5.4, 3.4.3, 3.3.5, 3.2.6, 3.0.18, 1.1.1zd และ 1.0.2zm โดยแนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันความเสี่ยง แม้ FIPS module จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่โค้ดที่อยู่ภายนอกยังคงเสี่ยงต่อการโจมตี

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    OpenSSL ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ 3 รายการเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2025
    CVE-2025-9230: Out-of-Bounds Read & Write ในการถอดรหัส CMS แบบ PWRI
    CVE-2025-9231: Timing Side-Channel ใน SM2 บน ARM64 อาจกู้คืน private key ได้
    CVE-2025-9232: Out-of-Bounds Read ใน HTTP client เมื่อใช้ no_proxy กับ IPv6
    ช่องโหว่ทั้งหมดส่งผลต่อเวอร์ชัน 1.0.2 ถึง 3.5 ของ OpenSSL
    แพตช์ใหม่ได้แก่เวอร์ชัน 3.5.4, 3.4.3, 3.3.5, 3.2.6, 3.0.18, 1.1.1zd และ 1.0.2zm
    FIPS module ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะโค้ดที่มีช่องโหว่อยู่ภายนอก boundary

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    SM2 เป็นอัลกอริธึมเข้ารหัสที่ใช้ในประเทศจีน และไม่เป็นมาตรฐาน TLS ทั่วไป
    Timing Side-Channel เป็นเทคนิคที่ใช้วัดเวลาการประมวลผลเพื่อกู้ข้อมูลลับ
    CMS (Cryptographic Message Syntax) ใช้ในระบบอีเมลและเอกสารที่เข้ารหัส
    no_proxy เป็น environment variable ที่ใช้ควบคุมการ bypass proxy ใน HTTP client
    OCSP และ CMP เป็นโปรโตคอลที่ใช้ตรวจสอบใบรับรองดิจิทัลในระบบ PKI

    https://securityonline.info/openssl-patches-three-flaws-timing-side-channel-rce-risk-and-memory-corruption-affect-all-versions/
    🔐 “OpenSSL แพตช์ช่องโหว่ 3 รายการ — เสี่ยง RCE, Side-Channel และ Crash จาก IPv6 ‘no_proxy’” OpenSSL ซึ่งเป็นไลบรารีเข้ารหัสที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ได้ออกแพตช์อัปเดตเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2025 เพื่อแก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัย 3 รายการที่ส่งผลกระทบต่อทุกเวอร์ชันหลัก ตั้งแต่ 1.0.2 ถึง 3.5 โดยมีระดับความรุนแรงตั้งแต่ Low ถึง Moderate แต่มีผลกระทบที่อาจร้ายแรงในบางบริบท ช่องโหว่แรก (CVE-2025-9230) เป็นการอ่านและเขียนข้อมูลนอกขอบเขต (Out-of-Bounds Read & Write) ในกระบวนการถอดรหัส CMS ที่ใช้การเข้ารหัสแบบรหัสผ่าน (PWRI) ซึ่งอาจนำไปสู่การ crash หรือแม้แต่การรันโค้ดจากผู้โจมตีได้ แม้โอกาสในการโจมตีจะต่ำ เพราะ CMS แบบ PWRI ใช้น้อยมากในโลกจริง แต่ช่องโหว่นี้ยังคงถูกจัดว่า “Moderate” และส่งผลต่อทุกเวอร์ชันหลักของ OpenSSL ช่องโหว่ที่สอง (CVE-2025-9231) เป็นการโจมตีแบบ Timing Side-Channel บนแพลตฟอร์ม ARM64 ที่ใช้ SM2 algorithm ซึ่งอาจเปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถวัดเวลาและกู้คืน private key ได้จากระยะไกลในบางกรณี โดยเฉพาะเมื่อมีการใช้ provider แบบ custom ที่รองรับ SM2 ช่องโหว่สุดท้าย (CVE-2025-9232) เป็นการอ่านข้อมูลนอกขอบเขตใน HTTP client API เมื่อมีการตั้งค่า no_proxy และใช้ URL ที่มี IPv6 ซึ่งอาจทำให้แอปพลิเคชัน crash ได้ แม้จะมีโอกาสโจมตีต่ำ แต่ก็ส่งผลต่อระบบที่ใช้ OCSP และ CMP ที่อิง HTTP client ของ OpenSSL OpenSSL ได้ออกแพตช์สำหรับเวอร์ชัน 3.5.4, 3.4.3, 3.3.5, 3.2.6, 3.0.18, 1.1.1zd และ 1.0.2zm โดยแนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันความเสี่ยง แม้ FIPS module จะไม่ได้รับผลกระทบ แต่โค้ดที่อยู่ภายนอกยังคงเสี่ยงต่อการโจมตี ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ OpenSSL ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ 3 รายการเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2025 ➡️ CVE-2025-9230: Out-of-Bounds Read & Write ในการถอดรหัส CMS แบบ PWRI ➡️ CVE-2025-9231: Timing Side-Channel ใน SM2 บน ARM64 อาจกู้คืน private key ได้ ➡️ CVE-2025-9232: Out-of-Bounds Read ใน HTTP client เมื่อใช้ no_proxy กับ IPv6 ➡️ ช่องโหว่ทั้งหมดส่งผลต่อเวอร์ชัน 1.0.2 ถึง 3.5 ของ OpenSSL ➡️ แพตช์ใหม่ได้แก่เวอร์ชัน 3.5.4, 3.4.3, 3.3.5, 3.2.6, 3.0.18, 1.1.1zd และ 1.0.2zm ➡️ FIPS module ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะโค้ดที่มีช่องโหว่อยู่ภายนอก boundary ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ SM2 เป็นอัลกอริธึมเข้ารหัสที่ใช้ในประเทศจีน และไม่เป็นมาตรฐาน TLS ทั่วไป ➡️ Timing Side-Channel เป็นเทคนิคที่ใช้วัดเวลาการประมวลผลเพื่อกู้ข้อมูลลับ ➡️ CMS (Cryptographic Message Syntax) ใช้ในระบบอีเมลและเอกสารที่เข้ารหัส ➡️ no_proxy เป็น environment variable ที่ใช้ควบคุมการ bypass proxy ใน HTTP client ➡️ OCSP และ CMP เป็นโปรโตคอลที่ใช้ตรวจสอบใบรับรองดิจิทัลในระบบ PKI https://securityonline.info/openssl-patches-three-flaws-timing-side-channel-rce-risk-and-memory-corruption-affect-all-versions/
    SECURITYONLINE.INFO
    OpenSSL Patches Three Flaws: Timing Side-Channel RCE Risk and Memory Corruption Affect All Versions
    OpenSSL patches three flaws, including CVE-2025-9230 (RCE/DoS risk) and a SM2 timing side-channel (CVE-2025-9231) that could allow private key recovery on ARM64.
    0 Comments 0 Shares 300 Views 0 Reviews
More Results