• 23 นาที 15 วินาที – ความจริงหรือแค่ตัวเลขที่เล่าต่อกันมา?

    คุณอาจเคยได้ยินว่า “หลังจากถูกขัดจังหวะ จะใช้เวลา 23 นาที 15 วินาทีในการกลับเข้าสู่โฟกัส” ฟังดูเฉพาะเจาะจงและน่ากลัวใช่ไหม? Geoffrey Oberien ก็คิดแบบนั้น เขาแค่ต้องการอ้างอิงตัวเลขนี้ให้เพื่อนร่วมงาน แต่กลับกลายเป็นการผจญภัย 20 นาทีที่เต็มไปด้วยความสงสัย

    เขาค้นหางานวิจัยต้นฉบับที่ระบุตัวเลขนี้ และพบว่าหลายบทความอ้างถึงงานวิจัยชื่อ “The Cost of Interrupted Work: More Speed and Stress” โดย Gloria Mark แต่เมื่อเปิดอ่านจริง ๆ กลับไม่พบตัวเลข 23 นาที 15 วินาทีเลย

    งานวิจัยนั้นพูดถึงผลกระทบของการขัดจังหวะ เช่น ความเครียดที่เพิ่มขึ้น และเวลาที่ใช้ในงานหลักที่ลดลง แต่ไม่ได้พูดถึง “เวลาฟื้นตัว” หลังจากการขัดจังหวะ

    Geoffrey อ่านงานวิจัยอีกหลายฉบับ เช่น “Disruption and Recovery of Computing Tasks” ที่ระบุว่าอาจใช้เวลา 11–16 นาทีในการกลับเข้าสู่โฟกัส แต่ก็ไม่มีการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับช่วงเวลานี้

    สุดท้าย เขาพบว่าตัวเลข 23 นาที 15 วินาทีมาจาก “การให้สัมภาษณ์” ของ Gloria Mark กับสื่อหลายแห่ง เช่น Fast Company และ Wall Street Journal ไม่ใช่จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์

    นั่นหมายความว่า ตัวเลขนี้อาจเป็น “ค่าเฉลี่ยโดยประมาณ” จากประสบการณ์ของผู้วิจัย ไม่ใช่ผลลัพธ์จากการทดลองที่สามารถตรวจสอบได้

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    ตัวเลข “23 นาที 15 วินาที” ถูกอ้างถึงในหลายบทความเกี่ยวกับ productivity
    Geoffrey Oberien พยายามค้นหางานวิจัยต้นฉบับที่ระบุตัวเลขนี้
    งานวิจัย “The Cost of Interrupted Work” ไม่ได้กล่าวถึงตัวเลขนี้เลย
    งานวิจัยอื่น ๆ เช่น “Disruption and Recovery of Computing Tasks” ระบุช่วงเวลา 11–16 นาที
    ตัวเลข 23:15 มาจากการสัมภาษณ์ Gloria Mark ไม่ใช่จากงานวิจัยตีพิมพ์
    มีบทความมากกว่า 20 ชิ้นที่อ้างถึงตัวเลขนี้โดยไม่มีหลักฐานรองรับ
    งานวิจัยของ Gloria Mark พบว่า 82% ของงานที่ถูกขัดจังหวะจะกลับมาทำต่อในวันเดียวกัน
    การขัดจังหวะที่เกี่ยวข้องกับงานเดิมอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้
    การขัดจังหวะที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น การคุยเรื่องซีรีส์ อาจทำให้ฟื้นตัวช้ากว่า
    การพักเบรกที่ตั้งใจต่างจากการขัดจังหวะที่ไม่คาดคิด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Gloria Mark เป็นนักวิจัยด้าน digital distraction จาก University of California, Irvine
    งานวิจัยของเธอเชื่อมโยงการขัดจังหวะกับความเครียดและ productivity ที่ลดลง
    ตัวเลข 23:15 ถูกอ้างถึงใน Lifehacker, Fast Company, และ Wall Street Journal
    ไม่มีหลักฐานเชิงสถิติที่ยืนยันตัวเลขนี้ในงานวิจัยที่ตีพิมพ์
    การขัดจังหวะซ้ำ ๆ อาจทำให้ productivity ลดลงมากกว่าที่คาด
    การจัดการ context switch เป็นทักษะสำคัญของนักพัฒนาและผู้บริหาร

    https://blog.oberien.de/2023/11/05/23-minutes-15-seconds.html
    🎙️ 23 นาที 15 วินาที – ความจริงหรือแค่ตัวเลขที่เล่าต่อกันมา? คุณอาจเคยได้ยินว่า “หลังจากถูกขัดจังหวะ จะใช้เวลา 23 นาที 15 วินาทีในการกลับเข้าสู่โฟกัส” ฟังดูเฉพาะเจาะจงและน่ากลัวใช่ไหม? Geoffrey Oberien ก็คิดแบบนั้น เขาแค่ต้องการอ้างอิงตัวเลขนี้ให้เพื่อนร่วมงาน แต่กลับกลายเป็นการผจญภัย 20 นาทีที่เต็มไปด้วยความสงสัย เขาค้นหางานวิจัยต้นฉบับที่ระบุตัวเลขนี้ และพบว่าหลายบทความอ้างถึงงานวิจัยชื่อ “The Cost of Interrupted Work: More Speed and Stress” โดย Gloria Mark แต่เมื่อเปิดอ่านจริง ๆ กลับไม่พบตัวเลข 23 นาที 15 วินาทีเลย งานวิจัยนั้นพูดถึงผลกระทบของการขัดจังหวะ เช่น ความเครียดที่เพิ่มขึ้น และเวลาที่ใช้ในงานหลักที่ลดลง แต่ไม่ได้พูดถึง “เวลาฟื้นตัว” หลังจากการขัดจังหวะ Geoffrey อ่านงานวิจัยอีกหลายฉบับ เช่น “Disruption and Recovery of Computing Tasks” ที่ระบุว่าอาจใช้เวลา 11–16 นาทีในการกลับเข้าสู่โฟกัส แต่ก็ไม่มีการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับช่วงเวลานี้ สุดท้าย เขาพบว่าตัวเลข 23 นาที 15 วินาทีมาจาก “การให้สัมภาษณ์” ของ Gloria Mark กับสื่อหลายแห่ง เช่น Fast Company และ Wall Street Journal ไม่ใช่จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ นั่นหมายความว่า ตัวเลขนี้อาจเป็น “ค่าเฉลี่ยโดยประมาณ” จากประสบการณ์ของผู้วิจัย ไม่ใช่ผลลัพธ์จากการทดลองที่สามารถตรวจสอบได้ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ ตัวเลข “23 นาที 15 วินาที” ถูกอ้างถึงในหลายบทความเกี่ยวกับ productivity ➡️ Geoffrey Oberien พยายามค้นหางานวิจัยต้นฉบับที่ระบุตัวเลขนี้ ➡️ งานวิจัย “The Cost of Interrupted Work” ไม่ได้กล่าวถึงตัวเลขนี้เลย ➡️ งานวิจัยอื่น ๆ เช่น “Disruption and Recovery of Computing Tasks” ระบุช่วงเวลา 11–16 นาที ➡️ ตัวเลข 23:15 มาจากการสัมภาษณ์ Gloria Mark ไม่ใช่จากงานวิจัยตีพิมพ์ ➡️ มีบทความมากกว่า 20 ชิ้นที่อ้างถึงตัวเลขนี้โดยไม่มีหลักฐานรองรับ ➡️ งานวิจัยของ Gloria Mark พบว่า 82% ของงานที่ถูกขัดจังหวะจะกลับมาทำต่อในวันเดียวกัน ➡️ การขัดจังหวะที่เกี่ยวข้องกับงานเดิมอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ ➡️ การขัดจังหวะที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น การคุยเรื่องซีรีส์ อาจทำให้ฟื้นตัวช้ากว่า ➡️ การพักเบรกที่ตั้งใจต่างจากการขัดจังหวะที่ไม่คาดคิด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Gloria Mark เป็นนักวิจัยด้าน digital distraction จาก University of California, Irvine ➡️ งานวิจัยของเธอเชื่อมโยงการขัดจังหวะกับความเครียดและ productivity ที่ลดลง ➡️ ตัวเลข 23:15 ถูกอ้างถึงใน Lifehacker, Fast Company, และ Wall Street Journal ➡️ ไม่มีหลักฐานเชิงสถิติที่ยืนยันตัวเลขนี้ในงานวิจัยที่ตีพิมพ์ ➡️ การขัดจังหวะซ้ำ ๆ อาจทำให้ productivity ลดลงมากกว่าที่คาด ➡️ การจัดการ context switch เป็นทักษะสำคัญของนักพัฒนาและผู้บริหาร https://blog.oberien.de/2023/11/05/23-minutes-15-seconds.html
    0 Comments 0 Shares 145 Views 0 Reviews
  • Yesterday Once More: เสียงเพลงที่พาย้อนเวลา

    ย้อนกลับไปในวัยเด็กของผม ช่วงเวลาที่บ้านเต็มไปด้วยเสียงดนตรีจากชุดเครื่องเสียงสุดหรูของพ่อ เขามักจะเปิดเพลงเพื่อโชว์ลำโพงที่ให้เสียงใสกิ๊งราวกับคริสตัล แม้ว่าตอนนั้นจะเล่นจากเทปคาสเซ็ทเก่าๆ แต่สุนทรียภาพของดนตรีที่ไหลออกมานั้นไม่ได้ต่างอะไรจากการเล่นแผ่นเสียงไวนิลหรือซีดีสมัยนี้เลยครับ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยความอบอุ่นและความทรงจำดีๆ โดยเฉพาะเพลงหนึ่งที่พ่อชอบเปิดบ่อยๆ นั่นคือ "Yesterday Once More" ของ The Carpenters เพลงนี้ไม่ใช่แค่เสียงเพลงธรรมดา แต่เป็นเหมือนประตูเวลาที่พาผมย้อนกลับไปหาช่วงเวลาที่เรียบง่ายและเต็มไปด้วยความสุข

    วง The Carpenters เกิดจากสองพี่น้องคู่บุญอย่าง Karen และ Richard Carpenter ที่เติบโตมาในเมือง New Haven รัฐ Connecticut สหรัฐอเมริกา ก่อนจะย้ายมาอยู่ Downey ใน California เมื่อปี 1963 เพื่อไล่ตามความฝันทางดนตรี Richard ผู้พี่ชายเกิดปี 1946 เป็นนักเปียโนตัวฉกาจและชอบจัดเรียงเสียงประสาน เขาเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่เด็กและต่อมาเข้าเรียนที่ California State University, Long Beach ส่วน Karen น้องสาวเกิดปี 1950 เดิมทีเล่นกลองก่อนจะค้นพบพรสวรรค์ในเสียงร้องคอนทราลโตที่อบอุ่นและนุ่มนวลราวกับกำมะหยี่ พวกเขาเริ่มเล่นดนตรีด้วยกันตั้งแต่ปี 1965 ในรูปแบบวงแจ๊สชื่อ Richard Carpenter Trio ร่วมกับเพื่อน Wesley Jacobs จากนั้นพัฒนามาเป็นวง Spectrum ที่เล่นเพลงแนว middle-of-the-road แต่ยังไม่ดังเปรี้ยง จนกระทั่งปี 1969 พวกเขาตัดสินใจเป็นดูโอ้อย่างเป็นทางการและเซ็นสัญญากับค่าย A&M Records โดยใช้ชื่อ "Carpenters" แบบไม่มี "The" นำหน้า เพื่อให้ดูทันสมัยเหมือนวงร็อกดังๆ อย่าง Buffalo Springfield หรือ Jefferson Airplane

    จากจุดเริ่มต้นที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก The Carpenters ค่อยๆ สร้างชื่อเสียงด้วยสไตล์ซอฟต์ร็อกที่ผสมผสานฮาร์โมนีใกล้ชิดและเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Karen เพลงฮิตแรกๆ อย่าง "(They Long to Be) Close to You" และ "We've Only Just Begun" ในปี 1970 ทำให้พวกเขาพุ่งขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 อย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเพลงดังอีกเพียบ เช่น "Superstar", "Rainy Days and Mondays" และ "Top of the World" ที่ทำให้พวกเขาได้รับรางวัล Grammy ถึง 3 ตัว รวมถึง Best New Artist และ Best Contemporary Performance by a Duo, Group or Chorus ตลอดช่วงทศวรรษ 1970 พวกเขาออกอัลบั้มถึง 10 ชุด โดยแต่ละชุดขายได้มากกว่า 1 ล้านแผ่น โดยเฉพาะอัลบั้มรวบฮิต "The Singles: 1969-1973" ที่ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Top 200 พวกเขาทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก ออกทีวีสเปเชียล และกลายเป็นศิลปินขายดีที่สุดในแนว easy listening และ adult contemporary ด้วยยอดขายแผ่นเสียงรวมกว่า 100 ล้านแผ่นทั่วโลก ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ขายดีที่สุดตลอดกาล

    แต่เพลงที่ทำให้ผมหลงรักวงนี้อย่างหัวปักหัวปำคือ "Yesterday Once More" ที่ออกมาในปี 1973 จากอัลบั้ม "Now & Then" เพลงนี้เขียนโดย Richard ร่วมกับ John Bettis เพื่อเล่าเรื่องความคิดถึงเพลงเก่าๆ ที่เคยฟังในวัยเยาว์ เหมือนกับที่ผมฟังจากเครื่องเสียงของพ่อ มันเริ่มต้นด้วยเสียงเปียโนนุ่มๆ ตามด้วยเสียงร้องของ Karen ที่ชวนให้หวนนึกถึงวันเก่าๆ และยังมีเซกเวย์เชื่อมไปยังเมดเลย์เพลงคลาสสิกยุค 60s ที่ทำเหมือนรายการวิทยุเก่าๆ บนข้าง B ของอัลบั้ม เพลงนี้ถูกบันทึกที่ A&M Studios ใน Los Angeles และปล่อยซิงเกิลเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1973 ด้วยความยาว 3:56 นาที มันเดบิวต์บนชาร์ต Cash Box ที่อันดับ 71 ก่อนพุ่งขึ้นสู่อันดับ 1 ในเดือนสิงหาคม และติดอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 (ถูก "Bad, Bad Leroy Brown" ของ Jim Croce เบียดตก) แต่ครองอันดับ 1 บน Adult Contemporary Chart ซึ่งเป็นเพลงที่ 8 ของพวกเขาที่ทำได้ในรอบ 4 ปี

    ความดังของ "Yesterday Once More" ไม่ได้จำกัดแค่ในอเมริกา มันขึ้นอันดับ 2 ใน UK ซึ่งเป็นซิงเกิลขายดีที่สุดของพวกเขาในเกาะอังกฤษ ขายได้กว่า 250,000 แผ่น และได้รับการรับรอง Silver จาก BPI ในญี่ปุ่นเพลงนี้ฮิตระเบิด ขายได้กว่า 600,000 แผ่นภายในกลางปี 1974 และกลายเป็นเพลงที่ขายดีที่สุดของ The Carpenters ในประเทศนั้น ตามด้วยอันดับ 1 ในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และแคนาดา รวมถึงอันดับสูงๆ ในออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ และนิวซีแลนด์ มันได้รับการรับรอง Gold จาก RIAA ในอเมริกาด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านแผ่น Richard เองเคยบอกในสารคดีญี่ปุ่นว่านี่คือเพลงโปรดที่เขาแต่ง และเขายังเล่นเวอร์ชันบรรเลงในคอนเสิร์ตหลายครั้ง เพลงนี้ถูกคัฟเวอร์โดยศิลปินมากมาย เช่น วง Candies ในญี่ปุ่นปี 1974, Redd Kross ในเวอร์ชันร็อก และ Priscilla Chan ในคอนเสิร์ต farewell ปี 1989 มันยังถูกใช้ในสื่อต่างๆ เพื่อถ่ายทอดความคิดถึง เช่น ในภาพยนตร์หรือโฆษณาที่ชวนนึกถึงอดีต

    แม้ The Carpenters จะดังเปรี้ยงปร้าง แต่ชีวิตของพวกเขาก็มีด้านมืด Richard เคยติด Quaalude ในช่วงปลาย 1970s จนต้องหยุดทัวร์และเข้ารับการบำบัด ส่วน Karen ต่อสู้กับโรค anorexia nervosa ที่ทำให้เธอผอมแห้งและสุขภาพทรุดโทรม จนเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1983 ขณะอายุเพียง 32 ปี เหตุการณ์นี้ทำให้โลกช็อกและจุดประกายให้คนหันมาสนใจโรคการกินผิดปกติมากขึ้น หลังจากนั้น Richard ยังคงทำงานเดี่ยวและออกอัลบั้ม posthumous เช่น "Voice of the Heart" ในปี 1983 แต่ไม่มีอะไรแทนที่เสียงร้องของ Karen ได้ มรดกของ The Carpenters ยังคงอยู่ พวกเขาอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังอย่าง Michael Jackson, Scott Weiland และศิลปินญี่ปุ่นหลายคน Rolling Stone จัดให้พวกเขาเป็นหนึ่งใน 20 Greatest Duos of All Time และ Karen เป็นหนึ่งในนักร้องหญิงยอดเยี่ยม เพลงของพวกเขามักถูกใช้ในงานแต่งงานหรือเพลงประกอบชีวิต เพราะความงดงามและความโรแมนติกที่เหนือกาลเวลา

    ทุกครั้งที่ผมได้ยิน "Yesterday Once More" มันไม่ใช่แค่เพลง แต่เป็นเรื่องราวของความทรงจำ ของพี่น้องคู่นี้ที่สร้างเสียงเพลงอมตะ และของช่วงเวลาที่ผมใช้กับพ่อ มันทำให้ผมรู้สึกว่า อดีตยังคงกลับมาอีกครั้ง เหมือนชื่อเพลง.. Yesterday Once More

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://youtu.be/ywB8vjMnoEw
    Yesterday Once More: 🎵 เสียงเพลงที่พาย้อนเวลา ⌛ 🎵 ย้อนกลับไปในวัยเด็กของผม ช่วงเวลาที่บ้านเต็มไปด้วยเสียงดนตรีจากชุดเครื่องเสียงสุดหรูของพ่อ เขามักจะเปิดเพลงเพื่อโชว์ลำโพงที่ให้เสียงใสกิ๊งราวกับคริสตัล แม้ว่าตอนนั้นจะเล่นจากเทปคาสเซ็ทเก่าๆ แต่สุนทรียภาพของดนตรีที่ไหลออกมานั้นไม่ได้ต่างอะไรจากการเล่นแผ่นเสียงไวนิลหรือซีดีสมัยนี้เลยครับ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยความอบอุ่นและความทรงจำดีๆ โดยเฉพาะเพลงหนึ่งที่พ่อชอบเปิดบ่อยๆ นั่นคือ "Yesterday Once More" ของ The Carpenters เพลงนี้ไม่ใช่แค่เสียงเพลงธรรมดา แต่เป็นเหมือนประตูเวลาที่พาผมย้อนกลับไปหาช่วงเวลาที่เรียบง่ายและเต็มไปด้วยความสุข 📻 วง The Carpenters เกิดจากสองพี่น้องคู่บุญอย่าง Karen และ Richard Carpenter ที่เติบโตมาในเมือง New Haven รัฐ Connecticut สหรัฐอเมริกา ก่อนจะย้ายมาอยู่ Downey ใน California เมื่อปี 1963 เพื่อไล่ตามความฝันทางดนตรี Richard ผู้พี่ชายเกิดปี 1946 เป็นนักเปียโนตัวฉกาจและชอบจัดเรียงเสียงประสาน เขาเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่เด็กและต่อมาเข้าเรียนที่ California State University, Long Beach ส่วน Karen น้องสาวเกิดปี 1950 เดิมทีเล่นกลองก่อนจะค้นพบพรสวรรค์ในเสียงร้องคอนทราลโตที่อบอุ่นและนุ่มนวลราวกับกำมะหยี่ 🎹🥁 พวกเขาเริ่มเล่นดนตรีด้วยกันตั้งแต่ปี 1965 ในรูปแบบวงแจ๊สชื่อ Richard Carpenter Trio ร่วมกับเพื่อน Wesley Jacobs จากนั้นพัฒนามาเป็นวง Spectrum ที่เล่นเพลงแนว middle-of-the-road แต่ยังไม่ดังเปรี้ยง จนกระทั่งปี 1969 พวกเขาตัดสินใจเป็นดูโอ้อย่างเป็นทางการและเซ็นสัญญากับค่าย A&M Records โดยใช้ชื่อ "Carpenters" แบบไม่มี "The" นำหน้า เพื่อให้ดูทันสมัยเหมือนวงร็อกดังๆ อย่าง Buffalo Springfield หรือ Jefferson Airplane จากจุดเริ่มต้นที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก The Carpenters ค่อยๆ สร้างชื่อเสียงด้วยสไตล์ซอฟต์ร็อกที่ผสมผสานฮาร์โมนีใกล้ชิดและเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Karen เพลงฮิตแรกๆ อย่าง "(They Long to Be) Close to You" และ "We've Only Just Begun" ในปี 1970 ทำให้พวกเขาพุ่งขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 อย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเพลงดังอีกเพียบ เช่น "Superstar", "Rainy Days and Mondays" และ "Top of the World" ที่ทำให้พวกเขาได้รับรางวัล Grammy ถึง 3 ตัว รวมถึง Best New Artist และ Best Contemporary Performance by a Duo, Group or Chorus 🌟 ตลอดช่วงทศวรรษ 1970 พวกเขาออกอัลบั้มถึง 10 ชุด โดยแต่ละชุดขายได้มากกว่า 1 ล้านแผ่น โดยเฉพาะอัลบั้มรวบฮิต "The Singles: 1969-1973" ที่ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Top 200 พวกเขาทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก ออกทีวีสเปเชียล และกลายเป็นศิลปินขายดีที่สุดในแนว easy listening และ adult contemporary ด้วยยอดขายแผ่นเสียงรวมกว่า 100 ล้านแผ่นทั่วโลก ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ขายดีที่สุดตลอดกาล แต่เพลงที่ทำให้ผมหลงรักวงนี้อย่างหัวปักหัวปำคือ "Yesterday Once More" ที่ออกมาในปี 1973 จากอัลบั้ม "Now & Then" เพลงนี้เขียนโดย Richard ร่วมกับ John Bettis เพื่อเล่าเรื่องความคิดถึงเพลงเก่าๆ ที่เคยฟังในวัยเยาว์ เหมือนกับที่ผมฟังจากเครื่องเสียงของพ่อ มันเริ่มต้นด้วยเสียงเปียโนนุ่มๆ ตามด้วยเสียงร้องของ Karen ที่ชวนให้หวนนึกถึงวันเก่าๆ และยังมีเซกเวย์เชื่อมไปยังเมดเลย์เพลงคลาสสิกยุค 60s ที่ทำเหมือนรายการวิทยุเก่าๆ บนข้าง B ของอัลบั้ม 🎸 เพลงนี้ถูกบันทึกที่ A&M Studios ใน Los Angeles และปล่อยซิงเกิลเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1973 ด้วยความยาว 3:56 นาที มันเดบิวต์บนชาร์ต Cash Box ที่อันดับ 71 ก่อนพุ่งขึ้นสู่อันดับ 1 ในเดือนสิงหาคม และติดอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 (ถูก "Bad, Bad Leroy Brown" ของ Jim Croce เบียดตก) แต่ครองอันดับ 1 บน Adult Contemporary Chart ซึ่งเป็นเพลงที่ 8 ของพวกเขาที่ทำได้ในรอบ 4 ปี ความดังของ "Yesterday Once More" ไม่ได้จำกัดแค่ในอเมริกา มันขึ้นอันดับ 2 ใน UK ซึ่งเป็นซิงเกิลขายดีที่สุดของพวกเขาในเกาะอังกฤษ ขายได้กว่า 250,000 แผ่น และได้รับการรับรอง Silver จาก BPI ในญี่ปุ่นเพลงนี้ฮิตระเบิด ขายได้กว่า 600,000 แผ่นภายในกลางปี 1974 และกลายเป็นเพลงที่ขายดีที่สุดของ The Carpenters ในประเทศนั้น ตามด้วยอันดับ 1 ในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และแคนาดา รวมถึงอันดับสูงๆ ในออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ และนิวซีแลนด์ 📈 มันได้รับการรับรอง Gold จาก RIAA ในอเมริกาด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านแผ่น Richard เองเคยบอกในสารคดีญี่ปุ่นว่านี่คือเพลงโปรดที่เขาแต่ง และเขายังเล่นเวอร์ชันบรรเลงในคอนเสิร์ตหลายครั้ง เพลงนี้ถูกคัฟเวอร์โดยศิลปินมากมาย เช่น วง Candies ในญี่ปุ่นปี 1974, Redd Kross ในเวอร์ชันร็อก และ Priscilla Chan ในคอนเสิร์ต farewell ปี 1989 มันยังถูกใช้ในสื่อต่างๆ เพื่อถ่ายทอดความคิดถึง เช่น ในภาพยนตร์หรือโฆษณาที่ชวนนึกถึงอดีต แม้ The Carpenters จะดังเปรี้ยงปร้าง แต่ชีวิตของพวกเขาก็มีด้านมืด Richard เคยติด Quaalude ในช่วงปลาย 1970s จนต้องหยุดทัวร์และเข้ารับการบำบัด ส่วน Karen ต่อสู้กับโรค anorexia nervosa ที่ทำให้เธอผอมแห้งและสุขภาพทรุดโทรม จนเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1983 ขณะอายุเพียง 32 ปี เหตุการณ์นี้ทำให้โลกช็อกและจุดประกายให้คนหันมาสนใจโรคการกินผิดปกติมากขึ้น 💔 หลังจากนั้น Richard ยังคงทำงานเดี่ยวและออกอัลบั้ม posthumous เช่น "Voice of the Heart" ในปี 1983 แต่ไม่มีอะไรแทนที่เสียงร้องของ Karen ได้ มรดกของ The Carpenters ยังคงอยู่ พวกเขาอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังอย่าง Michael Jackson, Scott Weiland และศิลปินญี่ปุ่นหลายคน Rolling Stone จัดให้พวกเขาเป็นหนึ่งใน 20 Greatest Duos of All Time และ Karen เป็นหนึ่งในนักร้องหญิงยอดเยี่ยม เพลงของพวกเขามักถูกใช้ในงานแต่งงานหรือเพลงประกอบชีวิต เพราะความงดงามและความโรแมนติกที่เหนือกาลเวลา ทุกครั้งที่ผมได้ยิน "Yesterday Once More" มันไม่ใช่แค่เพลง แต่เป็นเรื่องราวของความทรงจำ ของพี่น้องคู่นี้ที่สร้างเสียงเพลงอมตะ และของช่วงเวลาที่ผมใช้กับพ่อ มันทำให้ผมรู้สึกว่า อดีตยังคงกลับมาอีกครั้ง เหมือนชื่อเพลง.. Yesterday Once More 🌹 #ลุงเล่าหลานฟัง https://youtu.be/ywB8vjMnoEw
    0 Comments 0 Shares 304 Views 0 Reviews
  • NVMe 2.3: ยกระดับ SSD ให้ฉลาดขึ้น ปลอดภัยขึ้น และทนทานต่อความล้มเหลวมากขึ้น

    กลุ่ม NVM Express ได้เปิดตัวมาตรฐาน NVMe 2.3 ซึ่งเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่ครอบคลุมทั้งชุดคำสั่งการจัดเก็บข้อมูลและโปรโตคอลการส่งข้อมูล เช่น PCIe, RDMA และ TCP โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ SSD มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ประหยัดพลังงาน และสามารถฟื้นตัวจากความล้มเหลวได้ดีขึ้น

    หนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือ Rapid Path Failure Recovery (RPFR) ซึ่งช่วยให้ระบบสามารถเปลี่ยนเส้นทางการสื่อสารไปยังช่องทางสำรองได้ทันทีเมื่อเกิดปัญหาระหว่าง host กับ storage subsystem ลดโอกาสข้อมูลเสียหายและ downtime

    ด้านการจัดการพลังงาน NVMe 2.3 เพิ่มฟีเจอร์ Power Limit Config ที่ให้ผู้ดูแลระบบกำหนดขีดจำกัดการใช้พลังงานของ SSD ได้ และ Self-Reported Drive Power ที่ช่วยให้ SSD รายงานการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ ซึ่งเหมาะกับการวางแผนพลังงานและตรวจจับปัญหาแต่เนิ่นๆ

    ในด้านความปลอดภัย มีฟีเจอร์ Sanitize Per Namespace ที่ช่วยลบข้อมูลเฉพาะบางส่วนของ SSD โดยไม่กระทบข้อมูลอื่น และ Configurable Device Personality ที่ให้ SSD ปรับโหมดการทำงานได้ตามความต้องการ เช่น โหมดประหยัดพลังงานหรือโหมดประสิทธิภาพสูง

    แม้ฟีเจอร์เหล่านี้จะมีประโยชน์มากในระดับองค์กร แต่การนำไปใช้ใน SSD สำหรับผู้บริโภคทั่วไปยังขึ้นอยู่กับผู้ผลิตว่าจะนำไปใช้อย่างจริงจังหรือไม่

    ข้อมูลจากข่าวหลัก
    NVMe 2.3 เปิดตัวพร้อมอัปเดต 11 รายการในชุดคำสั่งและโปรโตคอลการส่งข้อมูล
    Rapid Path Failure Recovery ช่วยให้ระบบเปลี่ยนเส้นทางการสื่อสารเมื่อเกิดปัญหา
    Power Limit Config ให้ผู้ดูแลระบบกำหนดขีดจำกัดการใช้พลังงานของ SSD
    Self-Reported Drive Power ช่วยให้ SSD รายงานการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์
    Sanitize Per Namespace ลบข้อมูลเฉพาะบางส่วนของ SSD ได้อย่างปลอดภัย
    Configurable Device Personality ให้ SSD ปรับโหมดการทำงานตามความต้องการ
    NVMe Management Interface อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 2.1 และ NVMe Boot เป็นเวอร์ชัน 1.3
    ฟีเจอร์ใหม่เน้นความยืดหยุ่น ความปลอดภัย และการจัดการพลังงานในระดับองค์กร

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    NVMe 2.3 รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูล, ระบบ AI, และแอปพลิเคชันที่ใช้ข้อมูลหนัก
    RPFR ลดโอกาสข้อมูลเสียหายจากการสื่อสารล้มเหลวในระบบขนาดใหญ่
    Power Limit Config เหมาะกับเซิร์ฟเวอร์รุ่นเก่าที่มีข้อจำกัดด้านพลังงาน
    Self-Reported Drive Power ช่วยวางแผนพลังงานและตรวจจับปัญหาได้แต่เนิ่นๆ
    Sanitize Per Namespace เหมาะกับการรีไทร์หรือรีไซเคิล SSD โดยไม่ลบข้อมูลทั้งหมด
    Configurable Device Personality ช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการ SSD หลายรุ่น

    https://www.techradar.com/pro/finally-future-ssds-are-set-to-be-more-energy-efficient-and-more-secure-thanks-to-a-new-set-of-guidelines
    🚀 NVMe 2.3: ยกระดับ SSD ให้ฉลาดขึ้น ปลอดภัยขึ้น และทนทานต่อความล้มเหลวมากขึ้น กลุ่ม NVM Express ได้เปิดตัวมาตรฐาน NVMe 2.3 ซึ่งเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่ครอบคลุมทั้งชุดคำสั่งการจัดเก็บข้อมูลและโปรโตคอลการส่งข้อมูล เช่น PCIe, RDMA และ TCP โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้ SSD มีความยืดหยุ่นมากขึ้น ประหยัดพลังงาน และสามารถฟื้นตัวจากความล้มเหลวได้ดีขึ้น หนึ่งในฟีเจอร์เด่นคือ Rapid Path Failure Recovery (RPFR) ซึ่งช่วยให้ระบบสามารถเปลี่ยนเส้นทางการสื่อสารไปยังช่องทางสำรองได้ทันทีเมื่อเกิดปัญหาระหว่าง host กับ storage subsystem ลดโอกาสข้อมูลเสียหายและ downtime ด้านการจัดการพลังงาน NVMe 2.3 เพิ่มฟีเจอร์ Power Limit Config ที่ให้ผู้ดูแลระบบกำหนดขีดจำกัดการใช้พลังงานของ SSD ได้ และ Self-Reported Drive Power ที่ช่วยให้ SSD รายงานการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ ซึ่งเหมาะกับการวางแผนพลังงานและตรวจจับปัญหาแต่เนิ่นๆ ในด้านความปลอดภัย มีฟีเจอร์ Sanitize Per Namespace ที่ช่วยลบข้อมูลเฉพาะบางส่วนของ SSD โดยไม่กระทบข้อมูลอื่น และ Configurable Device Personality ที่ให้ SSD ปรับโหมดการทำงานได้ตามความต้องการ เช่น โหมดประหยัดพลังงานหรือโหมดประสิทธิภาพสูง แม้ฟีเจอร์เหล่านี้จะมีประโยชน์มากในระดับองค์กร แต่การนำไปใช้ใน SSD สำหรับผู้บริโภคทั่วไปยังขึ้นอยู่กับผู้ผลิตว่าจะนำไปใช้อย่างจริงจังหรือไม่ ✅ ข้อมูลจากข่าวหลัก ➡️ NVMe 2.3 เปิดตัวพร้อมอัปเดต 11 รายการในชุดคำสั่งและโปรโตคอลการส่งข้อมูล ➡️ Rapid Path Failure Recovery ช่วยให้ระบบเปลี่ยนเส้นทางการสื่อสารเมื่อเกิดปัญหา ➡️ Power Limit Config ให้ผู้ดูแลระบบกำหนดขีดจำกัดการใช้พลังงานของ SSD ➡️ Self-Reported Drive Power ช่วยให้ SSD รายงานการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ ➡️ Sanitize Per Namespace ลบข้อมูลเฉพาะบางส่วนของ SSD ได้อย่างปลอดภัย ➡️ Configurable Device Personality ให้ SSD ปรับโหมดการทำงานตามความต้องการ ➡️ NVMe Management Interface อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 2.1 และ NVMe Boot เป็นเวอร์ชัน 1.3 ➡️ ฟีเจอร์ใหม่เน้นความยืดหยุ่น ความปลอดภัย และการจัดการพลังงานในระดับองค์กร ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ NVMe 2.3 รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูล, ระบบ AI, และแอปพลิเคชันที่ใช้ข้อมูลหนัก ➡️ RPFR ลดโอกาสข้อมูลเสียหายจากการสื่อสารล้มเหลวในระบบขนาดใหญ่ ➡️ Power Limit Config เหมาะกับเซิร์ฟเวอร์รุ่นเก่าที่มีข้อจำกัดด้านพลังงาน ➡️ Self-Reported Drive Power ช่วยวางแผนพลังงานและตรวจจับปัญหาได้แต่เนิ่นๆ ➡️ Sanitize Per Namespace เหมาะกับการรีไทร์หรือรีไซเคิล SSD โดยไม่ลบข้อมูลทั้งหมด ➡️ Configurable Device Personality ช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการ SSD หลายรุ่น https://www.techradar.com/pro/finally-future-ssds-are-set-to-be-more-energy-efficient-and-more-secure-thanks-to-a-new-set-of-guidelines
    0 Comments 0 Shares 185 Views 0 Reviews
  • Bigme B13: จอ ePaper สีแบบพกพารุ่นแรกของโลกเพื่อสายตาและงานเอกสาร

    Bigme B13 คือจอมอนิเตอร์ขนาด 13.3 นิ้วที่ใช้เทคโนโลยี ePaper สี ซึ่งต่างจากจอ LCD หรือ OLED ตรงที่ให้ภาพเหมือนกระดาษจริง ลดแสงสะท้อนและความเมื่อยล้าของสายตา เหมาะสำหรับการอ่านเอกสาร, แก้ไขข้อความ และท่องเว็บ

    จอนี้มีความละเอียดสูงถึง 3200x2400 พิกเซล อัตราส่วนภาพ 4:3 และรองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบสาย (USB-C, HDMI) และไร้สาย (AirPlay, Miracast, DLNA) พร้อมโหมดการใช้งานหลายแบบ เช่น โหมดข้อความ, โหมดภาพ, โหมดวิดีโอ และโหมดเว็บ ที่ปรับ refresh rate และความคมชัดตามลักษณะงาน

    Bigme B13 ยังมีฟีเจอร์เสริม เช่น ระบบปรับแสงหน้าจอได้ทั้งความสว่างและอุณหภูมิสี, ลำโพงคู่ในตัว, ช่องเสียบหูฟัง และขาตั้งแม่เหล็กที่สามารถติดกับแล็ปท็อปเพื่อใช้งานแบบสองจอได้อย่างสะดวก

    แม้จะมีจุดเด่นเรื่องการถนอมสายตาและความพกพาสะดวก แต่จอนี้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำของสี เช่น การออกแบบกราฟิกหรือการตัดต่อภาพ และราคาก็ยังค่อนข้างสูงที่ $699–$729

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ใช้หน้าจอ Kaleido 3 ซึ่งให้ความละเอียด 300PPI สำหรับขาวดำ และ 150PPI สำหรับสี
    รองรับการเล่นวิดีโอที่ 30Hz ด้วยเทคโนโลยี refresh เฉพาะของ Bigme
    ใช้งานได้กับ Windows, macOS, Android และ iOS รวมถึง Linux บางรุ่น
    มีรีโมตและเคสแถมมาในกล่อง พร้อมบอดี้อลูมิเนียมที่แข็งแรง
    Bigme ยังมีรุ่นจอใหญ่ 25.3 นิ้ว (B251) สำหรับงานระดับมืออาชีพ
    คู่แข่งในตลาด ePaper monitor ได้แก่ Dasung และ Onyx ซึ่งมีรุ่นจำกัด

    https://www.techradar.com/pro/the-worlds-first-portable-color-epaper-monitor-has-gone-on-sale-but-dont-expect-it-to-be-affordable-just-yet
    🧠 Bigme B13: จอ ePaper สีแบบพกพารุ่นแรกของโลกเพื่อสายตาและงานเอกสาร Bigme B13 คือจอมอนิเตอร์ขนาด 13.3 นิ้วที่ใช้เทคโนโลยี ePaper สี ซึ่งต่างจากจอ LCD หรือ OLED ตรงที่ให้ภาพเหมือนกระดาษจริง ลดแสงสะท้อนและความเมื่อยล้าของสายตา เหมาะสำหรับการอ่านเอกสาร, แก้ไขข้อความ และท่องเว็บ จอนี้มีความละเอียดสูงถึง 3200x2400 พิกเซล อัตราส่วนภาพ 4:3 และรองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบสาย (USB-C, HDMI) และไร้สาย (AirPlay, Miracast, DLNA) พร้อมโหมดการใช้งานหลายแบบ เช่น โหมดข้อความ, โหมดภาพ, โหมดวิดีโอ และโหมดเว็บ ที่ปรับ refresh rate และความคมชัดตามลักษณะงาน Bigme B13 ยังมีฟีเจอร์เสริม เช่น ระบบปรับแสงหน้าจอได้ทั้งความสว่างและอุณหภูมิสี, ลำโพงคู่ในตัว, ช่องเสียบหูฟัง และขาตั้งแม่เหล็กที่สามารถติดกับแล็ปท็อปเพื่อใช้งานแบบสองจอได้อย่างสะดวก แม้จะมีจุดเด่นเรื่องการถนอมสายตาและความพกพาสะดวก แต่จอนี้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำของสี เช่น การออกแบบกราฟิกหรือการตัดต่อภาพ และราคาก็ยังค่อนข้างสูงที่ $699–$729 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ใช้หน้าจอ Kaleido 3 ซึ่งให้ความละเอียด 300PPI สำหรับขาวดำ และ 150PPI สำหรับสี ➡️ รองรับการเล่นวิดีโอที่ 30Hz ด้วยเทคโนโลยี refresh เฉพาะของ Bigme ➡️ ใช้งานได้กับ Windows, macOS, Android และ iOS รวมถึง Linux บางรุ่น ➡️ มีรีโมตและเคสแถมมาในกล่อง พร้อมบอดี้อลูมิเนียมที่แข็งแรง ➡️ Bigme ยังมีรุ่นจอใหญ่ 25.3 นิ้ว (B251) สำหรับงานระดับมืออาชีพ ➡️ คู่แข่งในตลาด ePaper monitor ได้แก่ Dasung และ Onyx ซึ่งมีรุ่นจำกัด https://www.techradar.com/pro/the-worlds-first-portable-color-epaper-monitor-has-gone-on-sale-but-dont-expect-it-to-be-affordable-just-yet
    0 Comments 0 Shares 199 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากอนาคต (ที่ใกล้เข้ามา): เมื่อ Debian ตัดสินใจแก้ปัญหา Y2K38 ก่อนจะสายเกินไป

    ย้อนกลับไปปี 2000 โลกเคยเผชิญกับ “Y2K bug” ที่ทำให้หลายคนกลัวว่าเครื่องบินจะตกและธนาคารจะล่ม เพราะระบบคอมพิวเตอร์ใช้แค่สองหลักในการเก็บปี พอเข้าสู่ปี 2000 ก็คิดว่าเป็น 1900 แทน

    ตอนนี้เรากำลังเผชิญกับปัญหาใหม่ที่คล้ายกันในปี 2038: ระบบ Unix ที่ใช้ตัวเลขจำนวนวินาทีตั้งแต่ปี 1970 เก็บไว้ในตัวแปร 32-bit จะเต็มในวันที่ 19 มกราคม 2038 เวลา 03:14:07 UTC และเมื่อเพิ่มอีกวินาทีเดียว ระบบจะ “ล้น” และกลับไปเป็นปี 1901!

    Debian ซึ่งเป็นหนึ่งใน Linux distro ที่เก่าแก่ที่สุด กำลังแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยจะเปลี่ยนไปใช้ตัวแปรเวลาแบบ 64-bit แม้แต่ในระบบ 32-bit ที่ยังใช้งานอยู่ในอุปกรณ์ราคาประหยัด เช่น รถยนต์, IoT, ทีวี, และเราเตอร์

    Debian เตรียมแก้ปัญหา Y2K38 ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ time_t แบบ 64-bit
    เริ่มใช้ใน Debian 13 “Trixie” ทั้งในระบบ 64-bit และ 32-bit
    time_t แบบใหม่จะไม่ล้นจนถึงอีก 292 พันล้านปี

    Y2K38 เกิดจากการใช้ signed 32-bit integer ในการเก็บเวลา Unix
    เก็บได้สูงสุดถึง 2,147,483,647 วินาทีหลังปี 1970
    เมื่อถึง 03:14:07 UTC วันที่ 19 ม.ค. 2038 จะล้นและกลายเป็นปี 1901

    Debian เป็น distro ที่ยังใช้ในอุปกรณ์ 32-bit จำนวนมาก
    เช่น ระบบควบคุมอาคาร, รถยนต์, ทีวี, Android ราคาถูก
    คาดว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะยังใช้งานอยู่เมื่อถึงปี 2038

    การเปลี่ยนไปใช้ 64-bit time_t ต้องแก้ไขมากกว่า 6,429 แพ็กเกจใน Debian
    เป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่กระทบถึง ABI (Application Binary Interface)
    ต้องแก้พร้อมกันในทุกไลบรารีที่เกี่ยวข้อง

    บางสถาปัตยกรรมจะยังคงใช้ 32-bit time_t เพื่อความเข้ากันได้
    เช่น i386 จะยังใช้แบบเดิมเพื่อรองรับ binary เก่า
    อาจมีการสร้าง ABI ใหม่ชื่อ i686 ที่รองรับ 64-bit time_t หากมีความต้องการ

    ระบบที่ยังใช้ 32-bit time_t จะล้มเหลวเมื่อถึงปี 2038
    อาจเกิดการย้อนเวลา, ข้อมูลเสียหาย, หรือระบบหยุดทำงาน
    กระทบต่อระบบฝังตัวที่ไม่สามารถอัปเดตได้ง่าย

    การเปลี่ยนไปใช้ 64-bit time_t อาจทำให้แอปพลิเคชันบางตัวพัง
    ต้องตรวจสอบว่าโปรแกรมรองรับการเปลี่ยนแปลง ABI
    นักพัฒนาควรทดสอบซอฟต์แวร์กับ Debian รุ่นใหม่ล่วงหน้า

    อุปกรณ์ราคาถูกที่ยังผลิตอยู่วันนี้อาจยังใช้ 32-bit และเสี่ยงต่อ Y2K38
    เช่น Android ราคาถูก, IoT, และระบบควบคุมอุตสาหกรรม
    หากไม่ใช้ OS ที่แก้ปัญหาไว้แล้ว อาจต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ใหม่

    บางระบบปฏิบัติการอื่นยังไม่แก้ปัญหา Y2K38 อย่างจริงจัง
    เช่น Windows รุ่นเก่า หรือ embedded OS ที่ไม่มีการอัปเดต
    อาจเกิดปัญหาแบบเงียบๆ เมื่อถึงปี 2038

    https://www.theregister.com/2025/07/25/y2k38_bug_debian/
    🕰️ เรื่องเล่าจากอนาคต (ที่ใกล้เข้ามา): เมื่อ Debian ตัดสินใจแก้ปัญหา Y2K38 ก่อนจะสายเกินไป ย้อนกลับไปปี 2000 โลกเคยเผชิญกับ “Y2K bug” ที่ทำให้หลายคนกลัวว่าเครื่องบินจะตกและธนาคารจะล่ม เพราะระบบคอมพิวเตอร์ใช้แค่สองหลักในการเก็บปี พอเข้าสู่ปี 2000 ก็คิดว่าเป็น 1900 แทน ตอนนี้เรากำลังเผชิญกับปัญหาใหม่ที่คล้ายกันในปี 2038: ระบบ Unix ที่ใช้ตัวเลขจำนวนวินาทีตั้งแต่ปี 1970 เก็บไว้ในตัวแปร 32-bit จะเต็มในวันที่ 19 มกราคม 2038 เวลา 03:14:07 UTC และเมื่อเพิ่มอีกวินาทีเดียว ระบบจะ “ล้น” และกลับไปเป็นปี 1901! Debian ซึ่งเป็นหนึ่งใน Linux distro ที่เก่าแก่ที่สุด กำลังแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยจะเปลี่ยนไปใช้ตัวแปรเวลาแบบ 64-bit แม้แต่ในระบบ 32-bit ที่ยังใช้งานอยู่ในอุปกรณ์ราคาประหยัด เช่น รถยนต์, IoT, ทีวี, และเราเตอร์ ✅ Debian เตรียมแก้ปัญหา Y2K38 ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ time_t แบบ 64-bit ➡️ เริ่มใช้ใน Debian 13 “Trixie” ทั้งในระบบ 64-bit และ 32-bit ➡️ time_t แบบใหม่จะไม่ล้นจนถึงอีก 292 พันล้านปี ✅ Y2K38 เกิดจากการใช้ signed 32-bit integer ในการเก็บเวลา Unix ➡️ เก็บได้สูงสุดถึง 2,147,483,647 วินาทีหลังปี 1970 ➡️ เมื่อถึง 03:14:07 UTC วันที่ 19 ม.ค. 2038 จะล้นและกลายเป็นปี 1901 ✅ Debian เป็น distro ที่ยังใช้ในอุปกรณ์ 32-bit จำนวนมาก ➡️ เช่น ระบบควบคุมอาคาร, รถยนต์, ทีวี, Android ราคาถูก ➡️ คาดว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะยังใช้งานอยู่เมื่อถึงปี 2038 ✅ การเปลี่ยนไปใช้ 64-bit time_t ต้องแก้ไขมากกว่า 6,429 แพ็กเกจใน Debian ➡️ เป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่กระทบถึง ABI (Application Binary Interface) ➡️ ต้องแก้พร้อมกันในทุกไลบรารีที่เกี่ยวข้อง ✅ บางสถาปัตยกรรมจะยังคงใช้ 32-bit time_t เพื่อความเข้ากันได้ ➡️ เช่น i386 จะยังใช้แบบเดิมเพื่อรองรับ binary เก่า ➡️ อาจมีการสร้าง ABI ใหม่ชื่อ i686 ที่รองรับ 64-bit time_t หากมีความต้องการ ‼️ ระบบที่ยังใช้ 32-bit time_t จะล้มเหลวเมื่อถึงปี 2038 ⛔ อาจเกิดการย้อนเวลา, ข้อมูลเสียหาย, หรือระบบหยุดทำงาน ⛔ กระทบต่อระบบฝังตัวที่ไม่สามารถอัปเดตได้ง่าย ‼️ การเปลี่ยนไปใช้ 64-bit time_t อาจทำให้แอปพลิเคชันบางตัวพัง ⛔ ต้องตรวจสอบว่าโปรแกรมรองรับการเปลี่ยนแปลง ABI ⛔ นักพัฒนาควรทดสอบซอฟต์แวร์กับ Debian รุ่นใหม่ล่วงหน้า ‼️ อุปกรณ์ราคาถูกที่ยังผลิตอยู่วันนี้อาจยังใช้ 32-bit และเสี่ยงต่อ Y2K38 ⛔ เช่น Android ราคาถูก, IoT, และระบบควบคุมอุตสาหกรรม ⛔ หากไม่ใช้ OS ที่แก้ปัญหาไว้แล้ว อาจต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ใหม่ ‼️ บางระบบปฏิบัติการอื่นยังไม่แก้ปัญหา Y2K38 อย่างจริงจัง ⛔ เช่น Windows รุ่นเก่า หรือ embedded OS ที่ไม่มีการอัปเดต ⛔ อาจเกิดปัญหาแบบเงียบๆ เมื่อถึงปี 2038 https://www.theregister.com/2025/07/25/y2k38_bug_debian/
    0 Comments 0 Shares 239 Views 0 Reviews
  • ..คลิปนี้อีกคลิปหนึ่งที่แฉพวกขายชาติ ทหารนายพลขายชาติตัวพ่อและทำมาโดยตลอด รับใช้พวกขายชาติตลอดเรื่อยมา,เดอะแก๊งขายชาตินั้นเอง.
    ..ต้องจุดกระแสยกเลิกmou43และ mou44ให้ทั่วประเทศ,สื่อหลักไทยจากเข้าข้างนักการเมืองขายชาติอีลิท deep stateตน ต้องหันมาชู#ยกเลิกmou43:44ได้แล้ว

    #ยกเลิกmou43และmou44

    https://youtube.com/watch?v=ul5CYxZWpNI&si=Zmqglk1WmGkTRh5-
    ..คลิปนี้อีกคลิปหนึ่งที่แฉพวกขายชาติ ทหารนายพลขายชาติตัวพ่อและทำมาโดยตลอด รับใช้พวกขายชาติตลอดเรื่อยมา,เดอะแก๊งขายชาตินั้นเอง. ..ต้องจุดกระแสยกเลิกmou43และ mou44ให้ทั่วประเทศ,สื่อหลักไทยจากเข้าข้างนักการเมืองขายชาติอีลิท deep stateตน ต้องหันมาชู#ยกเลิกmou43:44ได้แล้ว #ยกเลิกmou43และmou44 https://youtube.com/watch?v=ul5CYxZWpNI&si=Zmqglk1WmGkTRh5-
    0 Comments 0 Shares 146 Views 0 Reviews
  • คำทำนาย พื้นดวงชะตา ของคนที่เกิดในแต่ละนักษัตร ทั้ง 12 ราศี ในเดือนสิงหาคม 2568 ว่าพื้นดวงชะตาของแต่ละคนมี การเปลี่ยนแปลงทางด้านบวกหรือด้านลบอย่างไร เรื่องใดโดดเด่นและเรื่องใดต้องระมัดระวังแก้ไข
    ในเดือน สิงหาคมเป็นเดือน กะซินนักษัตร วอก พลังโลหะธาตุไม้ ตามหลักโป้ยหยี่ซีเถียวโหราศาสตร์จีน พลังธาตุของปีมะเส็งเป็นคู่ฮะที่สอดคล้องส่งเสริมพลังธาตุของเดือนวอก ส่งผลให้สถานะการณ์ในเดือนนี้เป็นเดือนแห่งการประสานผลประโยชน์ ร่วมมือร่วมใจ ธุรกิจการค้าก้าวหน้า สิ่งที่ติดขัดได้รับการแก้ไข ส่งผลดีต่อธุรกิจซื้อมาขายไป การลงทุนตลาดหุ้น เทคโนโลยี นวัตกรรม ร้านอาหาร สถานบันเทิง
    ในเดือนนี้ คนที่เกิดในนักษัตรที่มีพลังธาตุสอดคล้องกับเดือน วอกจะได้รับผลดีและหากนักษัตรใด มีพื้นดวงขัดแย้ง ก็ต้องระวังผลเสียที่เข้ากระทบ เช่นกัน

    https://youtu.be/UL8j4DFC2aA

    ดูดวง 12 นักษัตร เดือนสิงหาคม 2568

    00:00 บทนำ
    01:25 ดวง ปีชวด (หนู)
    03:15 ดวง ปีฉลู (วัว)
    05:19 ดวง ปีขาล (เสือ)
    07:19 ดวง ปีเถาะ (กระต่าย)
    09:14 ดวง ปีมะโรง (งูใหญ่)
    11:10 ดวง ปีมะเส็ง (งูเล็ก)
    13:00 ดวง ปีมะเมีย (ม้า)
    15:09 ดวง ปีมะแม (แพะ)
    17:02 ดวง ปีวอก (ลิง)
    19:00 ดวง ปีระกา (ไก่)
    21:05 ดวง ปีจอ (หมา)
    23:13 ดวง ปีกุน (หมู)
    คำทำนายนี้มีผล ตั้งแต่วันที่ วันที่ 7 สิงหาคมถึงวันที่ 6 กันยายน 2568
    คำทำนาย พื้นดวงชะตา ของคนที่เกิดในแต่ละนักษัตร ทั้ง 12 ราศี ในเดือนสิงหาคม 2568 ว่าพื้นดวงชะตาของแต่ละคนมี การเปลี่ยนแปลงทางด้านบวกหรือด้านลบอย่างไร เรื่องใดโดดเด่นและเรื่องใดต้องระมัดระวังแก้ไข ในเดือน สิงหาคมเป็นเดือน กะซินนักษัตร วอก พลังโลหะธาตุไม้ ตามหลักโป้ยหยี่ซีเถียวโหราศาสตร์จีน พลังธาตุของปีมะเส็งเป็นคู่ฮะที่สอดคล้องส่งเสริมพลังธาตุของเดือนวอก ส่งผลให้สถานะการณ์ในเดือนนี้เป็นเดือนแห่งการประสานผลประโยชน์ ร่วมมือร่วมใจ ธุรกิจการค้าก้าวหน้า สิ่งที่ติดขัดได้รับการแก้ไข ส่งผลดีต่อธุรกิจซื้อมาขายไป การลงทุนตลาดหุ้น เทคโนโลยี นวัตกรรม ร้านอาหาร สถานบันเทิง ในเดือนนี้ คนที่เกิดในนักษัตรที่มีพลังธาตุสอดคล้องกับเดือน วอกจะได้รับผลดีและหากนักษัตรใด มีพื้นดวงขัดแย้ง ก็ต้องระวังผลเสียที่เข้ากระทบ เช่นกัน https://youtu.be/UL8j4DFC2aA ดูดวง 12 นักษัตร เดือนสิงหาคม 2568 00:00 บทนำ 01:25 ดวง ปีชวด (หนู) 03:15 ดวง ปีฉลู (วัว) 05:19 ดวง ปีขาล (เสือ) 07:19 ดวง ปีเถาะ (กระต่าย) 09:14 ดวง ปีมะโรง (งูใหญ่) 11:10 ดวง ปีมะเส็ง (งูเล็ก) 13:00 ดวง ปีมะเมีย (ม้า) 15:09 ดวง ปีมะแม (แพะ) 17:02 ดวง ปีวอก (ลิง) 19:00 ดวง ปีระกา (ไก่) 21:05 ดวง ปีจอ (หมา) 23:13 ดวง ปีกุน (หมู) คำทำนายนี้มีผล ตั้งแต่วันที่ วันที่ 7 สิงหาคมถึงวันที่ 6 กันยายน 2568
    0 Comments 1 Shares 219 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากอวกาศ: เมื่อดาวเทียมของ Elon Musk “หลุดลิงก์” ทั่วโลก

    เหตุการณ์เริ่มต้นจากผู้ใช้บน Reddit ที่สังเกตว่า Starlink มีปัญหาในการเชื่อมต่อ และพบข้อความแจ้งเตือนบนหน้าเว็บไซต์หลักของ Starlink ว่า:

    “Starlink is currently experiencing a service outage. Our team is investigating.”

    แต่เมื่อพยายามเข้าเว็บไซต์กลับพบข้อความผิดพลาด เช่น:
    - Error 503: Request timed out
    - Error 54113: Server overloaded

    ซึ่งแสดงว่าเซิร์ฟเวอร์ของ Starlink อาจถูกโหลดหนักจากผู้ใช้ที่พยายามตรวจสอบสถานะบริการ

    จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมจาก SpaceX หรือ Elon Musk ว่าเกิดอะไรขึ้นกับระบบดาวเทียมที่ครอบคลุมทั่วโลกนี้

    Starlink เกิดเหตุขัดข้องทั่วโลกในวันที่ 24 กรกฎาคม 2025
    ผู้ใช้หลายพันรายรายงานว่าไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้

    เว็บไซต์ Starlink แสดงข้อความแจ้งเตือนว่ากำลังตรวจสอบปัญหา
    “Starlink is currently experiencing a service outage. Our team is investigating.”

    เว็บไซต์หลักของ Starlink ไม่สามารถเข้าถึงได้
    แสดงข้อความ Error 503 และ Error 54113 ซึ่งอาจเกิดจากเซิร์ฟเวอร์ล่ม

    การรายงานเริ่มต้นจากผู้ใช้ Reddit และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
    แสดงถึงความนิยมและการพึ่งพา Starlink ในหลายพื้นที่

    https://www.neowin.net/news/elon-musks-starlink-loses-all-links-as-it-goes-down-with-a-global-outage/
    🎙️ เรื่องเล่าจากอวกาศ: เมื่อดาวเทียมของ Elon Musk “หลุดลิงก์” ทั่วโลก เหตุการณ์เริ่มต้นจากผู้ใช้บน Reddit ที่สังเกตว่า Starlink มีปัญหาในการเชื่อมต่อ และพบข้อความแจ้งเตือนบนหน้าเว็บไซต์หลักของ Starlink ว่า: 🔖 “Starlink is currently experiencing a service outage. Our team is investigating.” แต่เมื่อพยายามเข้าเว็บไซต์กลับพบข้อความผิดพลาด เช่น: - Error 503: Request timed out - Error 54113: Server overloaded ซึ่งแสดงว่าเซิร์ฟเวอร์ของ Starlink อาจถูกโหลดหนักจากผู้ใช้ที่พยายามตรวจสอบสถานะบริการ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมจาก SpaceX หรือ Elon Musk ว่าเกิดอะไรขึ้นกับระบบดาวเทียมที่ครอบคลุมทั่วโลกนี้ ✅ Starlink เกิดเหตุขัดข้องทั่วโลกในวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 ➡️ ผู้ใช้หลายพันรายรายงานว่าไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ✅ เว็บไซต์ Starlink แสดงข้อความแจ้งเตือนว่ากำลังตรวจสอบปัญหา ➡️ “Starlink is currently experiencing a service outage. Our team is investigating.” ✅ เว็บไซต์หลักของ Starlink ไม่สามารถเข้าถึงได้ ➡️ แสดงข้อความ Error 503 และ Error 54113 ซึ่งอาจเกิดจากเซิร์ฟเวอร์ล่ม ✅ การรายงานเริ่มต้นจากผู้ใช้ Reddit และแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ➡️ แสดงถึงความนิยมและการพึ่งพา Starlink ในหลายพื้นที่ https://www.neowin.net/news/elon-musks-starlink-loses-all-links-as-it-goes-down-with-a-global-outage/
    WWW.NEOWIN.NET
    Elon Musk's Starlink loses all links as it goes down with a global outage
    Starlink services are currently down and out, as users worldwide are reporting they are unable to access such services as a result of a possible global outage.
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อเกมม็อดกลายเป็นประตูสู่การโจรกรรมคริปโต

    เรื่องเริ่มจากการสืบสวนของ Doctor Web ในรัสเซีย ซึ่งพบว่าแฮกเกอร์ใช้เทคนิค DLL Search Order Hijacking โดยวางไฟล์ DLL ปลอมในโฟลเดอร์ของแอปเป้าหมาย เพื่อให้ระบบโหลดไฟล์ปลอมแทนของจริง ทำให้มัลแวร์สามารถเข้าถึงข้อมูลภายในแอปได้โดยตรง

    มัลแวร์ Scavenger ถูกปลอมเป็นไฟล์เกมม็อด เช่น “performance patch” ของเกม Oblivion Remastered หรือไฟล์ .ASI สำหรับ GTA ซึ่งเมื่อผู้ใช้ติดตั้งตามคำแนะนำ มัลแวร์จะเริ่มทำงานเป็นขั้นตอน:

    1️⃣ Trojan.Scavenger1: ปลอมเป็นไฟล์ DLL เกม

    2️⃣ Trojan.Scavenger2: ดาวน์โหลดโมดูลเพิ่มเติม

    3️⃣ Trojan.Scavenger3: แฝงตัวในเบราว์เซอร์ Chromium เช่น Chrome, Edge, Opera
    - ปิดระบบ sandbox และการตรวจสอบ extension
    - แก้ไข extension ยอดนิยม เช่น MetaMask, Bitwarden, LastPass
    - ส่งข้อมูล mnemonic และรหัสผ่านไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์

    4️⃣ Trojan.Scavenger4: เจาะเข้าแอป Exodus เพื่อขโมย private key และ mnemonic

    มัลแวร์ยังมีความสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับ:
    - ตรวจสอบว่าอยู่ใน VM หรือ debug environment แล้วหยุดทำงาน
    - ใช้การ handshake แบบเข้ารหัสก่อนสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์

    แม้ Doctor Web จะแจ้งนักพัฒนาแอปให้แก้ไขช่องโหว่ DLL hijacking แต่หลายรายปฏิเสธ ทำให้ผู้ใช้ต้องระวังเอง เช่น หลีกเลี่ยงการใช้เกมเถื่อน, ไม่โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ และอัปเดตแอนตี้ไวรัสเสมอ

    https://hackread.com/scavenger-trojan-crypto-wallets-game-mods-browser-flaws/
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อเกมม็อดกลายเป็นประตูสู่การโจรกรรมคริปโต เรื่องเริ่มจากการสืบสวนของ Doctor Web ในรัสเซีย ซึ่งพบว่าแฮกเกอร์ใช้เทคนิค DLL Search Order Hijacking โดยวางไฟล์ DLL ปลอมในโฟลเดอร์ของแอปเป้าหมาย เพื่อให้ระบบโหลดไฟล์ปลอมแทนของจริง ทำให้มัลแวร์สามารถเข้าถึงข้อมูลภายในแอปได้โดยตรง มัลแวร์ Scavenger ถูกปลอมเป็นไฟล์เกมม็อด เช่น “performance patch” ของเกม Oblivion Remastered หรือไฟล์ .ASI สำหรับ GTA ซึ่งเมื่อผู้ใช้ติดตั้งตามคำแนะนำ มัลแวร์จะเริ่มทำงานเป็นขั้นตอน: 1️⃣ Trojan.Scavenger1: ปลอมเป็นไฟล์ DLL เกม 2️⃣ Trojan.Scavenger2: ดาวน์โหลดโมดูลเพิ่มเติม 3️⃣ Trojan.Scavenger3: แฝงตัวในเบราว์เซอร์ Chromium เช่น Chrome, Edge, Opera - ปิดระบบ sandbox และการตรวจสอบ extension - แก้ไข extension ยอดนิยม เช่น MetaMask, Bitwarden, LastPass - ส่งข้อมูล mnemonic และรหัสผ่านไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์ 4️⃣ Trojan.Scavenger4: เจาะเข้าแอป Exodus เพื่อขโมย private key และ mnemonic มัลแวร์ยังมีความสามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับ: - ตรวจสอบว่าอยู่ใน VM หรือ debug environment แล้วหยุดทำงาน - ใช้การ handshake แบบเข้ารหัสก่อนสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ แม้ Doctor Web จะแจ้งนักพัฒนาแอปให้แก้ไขช่องโหว่ DLL hijacking แต่หลายรายปฏิเสธ ทำให้ผู้ใช้ต้องระวังเอง เช่น หลีกเลี่ยงการใช้เกมเถื่อน, ไม่โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ และอัปเดตแอนตี้ไวรัสเสมอ https://hackread.com/scavenger-trojan-crypto-wallets-game-mods-browser-flaws/
    HACKREAD.COM
    Scavenger Trojan Targets Crypto Wallets via Game Mods and Browser Flaws
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 269 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากเกมเก่าที่เปล่งแสงใหม่: เมื่อ RTX Remix เปลี่ยนเกมยุค 2000 ให้กลายเป็นงานศิลป์

    Nvidia เปิดตัวชุดเครื่องมือ RTX Remix อย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยให้ modder เข้าถึง SDK ที่สามารถเพิ่ม path tracing เข้าไปในเกมเก่า — ซึ่งต่างจาก ray tracing ทั่วไป เพราะ path tracing จำลองแสงแบบเต็มระบบ รวมถึงแสงสะท้อน, เงา, และแสงกระจายจากพื้นผิวต่าง ๆ

    การแข่งขันครั้งนี้มีเงินรางวัลรวม $50,000 โดยรางวัลสูงสุดคือ $20,000 ซึ่งจะประกาศผลในวันที่ 5 สิงหาคมนี้

    ตัวอย่างเกมที่ถูกปรับปรุงแล้ว:
    - Vampire: The Masquerade – Bloodlines: ใช้ Source Engine และได้รับการปรับแสงใหม่ทั้งหมด พร้อมรักษาบรรยากาศเดิม
    - Painkiller: เพิ่มแสงแบบ hand-placed, เปลี่ยน texture เป็นแบบ PBR, และเพิ่มเอฟเฟกต์ใหม่
    - Need for Speed: Underground และ Colin McRae Rally 3: ปรับแสง, เพิ่มโมเดลใหม่, และใส่ volumetric lighting
    - Sonic Adventure, Portal 2, Black Mesa, Republic Commando และ Jedi Outcast: อยู่ระหว่างการปรับปรุง

    แม้ path tracing จะใช้ในเกมใหม่อย่าง Cyberpunk 2077 และ Alan Wake 2 แต่ในเกมเก่าที่มี geometry ง่าย ๆ ผลลัพธ์กลับยิ่งน่าทึ่ง เพราะแสงสามารถเปลี่ยนบรรยากาศของเกมได้อย่างสิ้นเชิง

    Nvidia จัดการแข่งขัน RTX Remix Mod Contest เพื่อปรับปรุงเกมเก่าด้วย path tracing
    เงินรางวัลรวม $50,000 โดยรางวัลสูงสุดคือ $20,000

    RTX Remix เป็นเครื่องมือสำหรับเพิ่ม path tracing ในเกม DirectX 8 และ 9
    จำลองแสงแบบเต็มระบบ รวมถึงเงา, แสงสะท้อน, และแสงกระจาย

    เกมที่ถูกปรับปรุงแล้ว ได้แก่ Vampire: Bloodlines, Painkiller, NFS Underground, Colin McRae Rally 3
    มีการเปลี่ยน texture, เพิ่มแสง, และปรับโมเดลใหม่

    Path tracing มีผลชัดเจนในเกมเก่าที่มี geometry ง่าย
    เพราะแสงสามารถเปลี่ยนบรรยากาศของเกมได้อย่างสิ้นเชิง

    Modder ต้องปรับ texture และ material ใหม่เพื่อให้แสงทำงานได้ถูกต้อง
    ไม่ใช่แค่เปิดฟีเจอร์ แต่ต้องปรับโครงสร้างภาพทั้งหมด

    เกมอื่นที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง ได้แก่ Portal 2, Sonic Adventure, Black Mesa, Jedi Outcast
    บางเกมสามารถเล่นได้แล้วในเวอร์ชัน mod

    https://www.techspot.com/news/108768-nvidia-rtx-remix-contest-shows-how-ray-tracing.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากเกมเก่าที่เปล่งแสงใหม่: เมื่อ RTX Remix เปลี่ยนเกมยุค 2000 ให้กลายเป็นงานศิลป์ Nvidia เปิดตัวชุดเครื่องมือ RTX Remix อย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยให้ modder เข้าถึง SDK ที่สามารถเพิ่ม path tracing เข้าไปในเกมเก่า — ซึ่งต่างจาก ray tracing ทั่วไป เพราะ path tracing จำลองแสงแบบเต็มระบบ รวมถึงแสงสะท้อน, เงา, และแสงกระจายจากพื้นผิวต่าง ๆ การแข่งขันครั้งนี้มีเงินรางวัลรวม $50,000 โดยรางวัลสูงสุดคือ $20,000 ซึ่งจะประกาศผลในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ ตัวอย่างเกมที่ถูกปรับปรุงแล้ว: - Vampire: The Masquerade – Bloodlines: ใช้ Source Engine และได้รับการปรับแสงใหม่ทั้งหมด พร้อมรักษาบรรยากาศเดิม - Painkiller: เพิ่มแสงแบบ hand-placed, เปลี่ยน texture เป็นแบบ PBR, และเพิ่มเอฟเฟกต์ใหม่ - Need for Speed: Underground และ Colin McRae Rally 3: ปรับแสง, เพิ่มโมเดลใหม่, และใส่ volumetric lighting - Sonic Adventure, Portal 2, Black Mesa, Republic Commando และ Jedi Outcast: อยู่ระหว่างการปรับปรุง แม้ path tracing จะใช้ในเกมใหม่อย่าง Cyberpunk 2077 และ Alan Wake 2 แต่ในเกมเก่าที่มี geometry ง่าย ๆ ผลลัพธ์กลับยิ่งน่าทึ่ง เพราะแสงสามารถเปลี่ยนบรรยากาศของเกมได้อย่างสิ้นเชิง ✅ Nvidia จัดการแข่งขัน RTX Remix Mod Contest เพื่อปรับปรุงเกมเก่าด้วย path tracing ➡️ เงินรางวัลรวม $50,000 โดยรางวัลสูงสุดคือ $20,000 ✅ RTX Remix เป็นเครื่องมือสำหรับเพิ่ม path tracing ในเกม DirectX 8 และ 9 ➡️ จำลองแสงแบบเต็มระบบ รวมถึงเงา, แสงสะท้อน, และแสงกระจาย ✅ เกมที่ถูกปรับปรุงแล้ว ได้แก่ Vampire: Bloodlines, Painkiller, NFS Underground, Colin McRae Rally 3 ➡️ มีการเปลี่ยน texture, เพิ่มแสง, และปรับโมเดลใหม่ ✅ Path tracing มีผลชัดเจนในเกมเก่าที่มี geometry ง่าย ➡️ เพราะแสงสามารถเปลี่ยนบรรยากาศของเกมได้อย่างสิ้นเชิง ✅ Modder ต้องปรับ texture และ material ใหม่เพื่อให้แสงทำงานได้ถูกต้อง ➡️ ไม่ใช่แค่เปิดฟีเจอร์ แต่ต้องปรับโครงสร้างภาพทั้งหมด ✅ เกมอื่นที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง ได้แก่ Portal 2, Sonic Adventure, Black Mesa, Jedi Outcast ➡️ บางเกมสามารถเล่นได้แล้วในเวอร์ชัน mod https://www.techspot.com/news/108768-nvidia-rtx-remix-contest-shows-how-ray-tracing.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia's RTX Remix contest shows how ray tracing can transform classic games, more mods become available
    Nvidia's $50,000 RTX Remix mod contest ends early next month, and around two dozen projects have taken up the challenge to demonstrate how the company's ray tracing...
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกใต้น้ำ: สหรัฐฯ เตรียมห้ามเทคโนโลยีจีนในสายเคเบิลสื่อสารระหว่างประเทศ

    สายเคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่รับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศถึง 99% แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีรายงานว่าจีนมีบทบาทในเหตุการณ์ที่สายเคเบิลถูกตัดหรือถูกแทรกแซง เช่น:

    - ปี 2023: ไต้หวันกล่าวหาจีนว่าตัดสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตของเกาะ Matsu
    - ปี 2024: สายเคเบิลระหว่างฟินแลนด์และเอสโตเนียถูกตัดโดยเรือบรรทุกน้ำมันที่เชื่อว่าเป็น “เรือเงา” ของจีน
    - ปี 2025: มีรายงานว่าจีนพัฒนาอุปกรณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำที่ลึกถึง 4,000 เมตร

    เพื่อรับมือกับภัยคุกคามเหล่านี้ FCC เตรียมออกกฎใหม่ที่ห้ามบริษัทใด ๆ เชื่อมต่อสายเคเบิลใต้น้ำกับสหรัฐฯ หากใช้เทคโนโลยีจากบริษัทจีน เช่น Huawei และ ZTE ซึ่งอยู่ใน “entity list” ของ FCC

    กฎใหม่ยังรวมถึงการจำกัดการออกใบอนุญาตให้บริษัทจีนสร้างหรือดำเนินการสายเคเบิล, การจำกัดข้อตกลงเช่าความจุ, และการส่งเสริมการใช้เรือซ่อมสายเคเบิลของสหรัฐฯ รวมถึงเทคโนโลยีที่ “เชื่อถือได้” จากพันธมิตรต่างประเทศ

    FCC เตรียมออกกฎห้ามใช้เทคโนโลยีจีนในสายเคเบิลใต้น้ำที่เชื่อมต่อกับสหรัฐฯ
    เพื่อป้องกันภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากต่างชาติ โดยเฉพาะจีน

    กฎใหม่จะใช้กับบริษัทใน “entity list” เช่น Huawei และ ZTE
    ซึ่งเคยถูกสั่งให้ถอนจากโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมในสหรัฐฯ

    จะมีการจำกัดการออกใบอนุญาตให้บริษัทจีนสร้างหรือดำเนินการสายเคเบิล
    รวมถึงจำกัดข้อตกลงเช่าความจุและการเข้าถึงระบบ

    FCC ต้องการส่งเสริมการใช้เรือซ่อมสายเคเบิลของสหรัฐฯ
    และเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้จากพันธมิตรต่างประเทศ

    สายเคเบิลใต้น้ำรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศถึง 99%
    เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง

    การห้ามเทคโนโลยีจีนอาจกระทบต่อความร่วมมือระหว่างประเทศ
    โดยเฉพาะในโครงการสายเคเบิลที่มีหลายประเทศร่วมลงทุน

    การจำกัดใบอนุญาตอาจทำให้การขยายโครงสร้างพื้นฐานล่าช้า
    ส่งผลต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศในบางภูมิภาค

    การกล่าวหาจีนว่าเป็นภัยคุกคามอาจเพิ่มความตึงเครียดทางการเมือง
    โดยเฉพาะเมื่อยังไม่มีหลักฐานทางเทคนิคที่เปิดเผยต่อสาธารณะ

    การพัฒนาอุปกรณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำอาจนำไปสู่การแข่งขันด้านอาวุธไซเบอร์
    เพิ่มความเสี่ยงต่อโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั่วโลก

    https://www.techspot.com/news/108705-fcc-moves-ban-chinese-tech-undersea-cables.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกใต้น้ำ: สหรัฐฯ เตรียมห้ามเทคโนโลยีจีนในสายเคเบิลสื่อสารระหว่างประเทศ สายเคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่รับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศถึง 99% แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีรายงานว่าจีนมีบทบาทในเหตุการณ์ที่สายเคเบิลถูกตัดหรือถูกแทรกแซง เช่น: - ปี 2023: ไต้หวันกล่าวหาจีนว่าตัดสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตของเกาะ Matsu - ปี 2024: สายเคเบิลระหว่างฟินแลนด์และเอสโตเนียถูกตัดโดยเรือบรรทุกน้ำมันที่เชื่อว่าเป็น “เรือเงา” ของจีน - ปี 2025: มีรายงานว่าจีนพัฒนาอุปกรณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำที่ลึกถึง 4,000 เมตร เพื่อรับมือกับภัยคุกคามเหล่านี้ FCC เตรียมออกกฎใหม่ที่ห้ามบริษัทใด ๆ เชื่อมต่อสายเคเบิลใต้น้ำกับสหรัฐฯ หากใช้เทคโนโลยีจากบริษัทจีน เช่น Huawei และ ZTE ซึ่งอยู่ใน “entity list” ของ FCC กฎใหม่ยังรวมถึงการจำกัดการออกใบอนุญาตให้บริษัทจีนสร้างหรือดำเนินการสายเคเบิล, การจำกัดข้อตกลงเช่าความจุ, และการส่งเสริมการใช้เรือซ่อมสายเคเบิลของสหรัฐฯ รวมถึงเทคโนโลยีที่ “เชื่อถือได้” จากพันธมิตรต่างประเทศ ✅ FCC เตรียมออกกฎห้ามใช้เทคโนโลยีจีนในสายเคเบิลใต้น้ำที่เชื่อมต่อกับสหรัฐฯ ➡️ เพื่อป้องกันภัยคุกคามด้านความมั่นคงจากต่างชาติ โดยเฉพาะจีน ✅ กฎใหม่จะใช้กับบริษัทใน “entity list” เช่น Huawei และ ZTE ➡️ ซึ่งเคยถูกสั่งให้ถอนจากโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมในสหรัฐฯ ✅ จะมีการจำกัดการออกใบอนุญาตให้บริษัทจีนสร้างหรือดำเนินการสายเคเบิล ➡️ รวมถึงจำกัดข้อตกลงเช่าความจุและการเข้าถึงระบบ ✅ FCC ต้องการส่งเสริมการใช้เรือซ่อมสายเคเบิลของสหรัฐฯ ➡️ และเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้จากพันธมิตรต่างประเทศ ✅ สายเคเบิลใต้น้ำรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศถึง 99% ➡️ เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง ‼️ การห้ามเทคโนโลยีจีนอาจกระทบต่อความร่วมมือระหว่างประเทศ ⛔ โดยเฉพาะในโครงการสายเคเบิลที่มีหลายประเทศร่วมลงทุน ‼️ การจำกัดใบอนุญาตอาจทำให้การขยายโครงสร้างพื้นฐานล่าช้า ⛔ ส่งผลต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศในบางภูมิภาค ‼️ การกล่าวหาจีนว่าเป็นภัยคุกคามอาจเพิ่มความตึงเครียดทางการเมือง ⛔ โดยเฉพาะเมื่อยังไม่มีหลักฐานทางเทคนิคที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ‼️ การพัฒนาอุปกรณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำอาจนำไปสู่การแข่งขันด้านอาวุธไซเบอร์ ⛔ เพิ่มความเสี่ยงต่อโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั่วโลก https://www.techspot.com/news/108705-fcc-moves-ban-chinese-tech-undersea-cables.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    FCC moves to ban Chinese tech from undersea cables
    According to a statement from FCC Chairman Brendan Carr, the FCC will vote on rules to "unleash submarine cable investment to accelerate the buildout of AI infrastructure,...
    0 Comments 0 Shares 356 Views 0 Reviews
  • ♣ ทีมกีฬาเขมรพ่ายยับทั่วหล้า ล่าสุดโดนวอลเลย์บอลชายไทยเผาเครื่อง 3:0 เซต ชาวเน็ตเขมรยังอ้างว่าออมมือ สภาพนี้จะแห่มาซีเกมส์ทำไมตั้ง 1,500 กว่าคน
    #7ดอกจิก
    ♣ ทีมกีฬาเขมรพ่ายยับทั่วหล้า ล่าสุดโดนวอลเลย์บอลชายไทยเผาเครื่อง 3:0 เซต ชาวเน็ตเขมรยังอ้างว่าออมมือ สภาพนี้จะแห่มาซีเกมส์ทำไมตั้ง 1,500 กว่าคน #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 171 Views 0 Reviews
  • เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 Elon Musk และทีม xAI เปิดตัว Grok 4 ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบมัลติโหมดรุ่นล่าสุด โดยมีจุดเด่นด้านการเข้าใจภาษา การแก้โจทย์คณิตศาสตร์ และการให้เหตุผลอย่างลึกซึ้ง

    Grok 4 มีหลายเวอร์ชัน โดยเวอร์ชัน “Heavy” ที่ใช้เครื่องมือหลายตัวพร้อมกัน (multi-agent tools) ทำคะแนนได้สูงมากในหลายการทดสอบ เช่น:
    - Humanity’s Last Exam (HLE): Grok 4 Heavy ทำคะแนนได้ 44.4% สูงกว่า Gemini 2.5 Pro ที่ใช้เครื่องมือ (26.9%)
    - ARC-AGI-2: Grok 4 ได้ 16.2% ซึ่งสูงกว่า Claude Opus 4 เกือบเท่าตัว
    - MMLU: ได้คะแนน 86.6% และมี Intelligence Index สูงถึง 73 ซึ่งนำหน้าทั้ง OpenAI และ Google

    ในด้าน STEM และการเขียนโค้ด:
    - GPQA: Grok 4 ได้ 87.5%, ส่วน Grok 4 Heavy ได้ 88.9%
    - AIME: Grok 4 Heavy ได้คะแนนเต็ม 100%
    - SWE-Bench: Grok 4 Code (จะเปิดตัวเดือนสิงหาคม) ทำคะแนนได้ 72–75%

    Elon Musk ระบุว่า Grok 4 “แทบไม่เคยตอบผิดในข้อสอบฟิสิกส์หรือคณิตศาสตร์เลย” และสามารถตรวจจับข้อผิดพลาดในคำถามได้ด้วย

    ด้านราคาการใช้งาน:
    - API ราคาเท่า Grok 3: $3/$15 ต่อ 1 ล้าน tokens

    แพ็กเกจผู้ใช้ทั่วไป:
    - ฟรี: เข้าถึง Grok 3 แบบจำกัด
    - SuperGrok ($30/เดือน): เข้าถึง Grok 3 และ Grok 4
    - SuperGrok Heavy ($300/เดือน): เข้าถึง Grok 3, Grok 4 และ Grok 4 Heavy

    https://www.neowin.net/news/elon-musks-xai-launches-grok-4-claiming-top-spot-among-industry-ai-models/
    เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 Elon Musk และทีม xAI เปิดตัว Grok 4 ซึ่งเป็นโมเดล AI แบบมัลติโหมดรุ่นล่าสุด โดยมีจุดเด่นด้านการเข้าใจภาษา การแก้โจทย์คณิตศาสตร์ และการให้เหตุผลอย่างลึกซึ้ง Grok 4 มีหลายเวอร์ชัน โดยเวอร์ชัน “Heavy” ที่ใช้เครื่องมือหลายตัวพร้อมกัน (multi-agent tools) ทำคะแนนได้สูงมากในหลายการทดสอบ เช่น: - Humanity’s Last Exam (HLE): Grok 4 Heavy ทำคะแนนได้ 44.4% สูงกว่า Gemini 2.5 Pro ที่ใช้เครื่องมือ (26.9%) - ARC-AGI-2: Grok 4 ได้ 16.2% ซึ่งสูงกว่า Claude Opus 4 เกือบเท่าตัว - MMLU: ได้คะแนน 86.6% และมี Intelligence Index สูงถึง 73 ซึ่งนำหน้าทั้ง OpenAI และ Google ในด้าน STEM และการเขียนโค้ด: - GPQA: Grok 4 ได้ 87.5%, ส่วน Grok 4 Heavy ได้ 88.9% - AIME: Grok 4 Heavy ได้คะแนนเต็ม 100% - SWE-Bench: Grok 4 Code (จะเปิดตัวเดือนสิงหาคม) ทำคะแนนได้ 72–75% Elon Musk ระบุว่า Grok 4 “แทบไม่เคยตอบผิดในข้อสอบฟิสิกส์หรือคณิตศาสตร์เลย” และสามารถตรวจจับข้อผิดพลาดในคำถามได้ด้วย ด้านราคาการใช้งาน: - API ราคาเท่า Grok 3: $3/$15 ต่อ 1 ล้าน tokens แพ็กเกจผู้ใช้ทั่วไป: - ฟรี: เข้าถึง Grok 3 แบบจำกัด - SuperGrok ($30/เดือน): เข้าถึง Grok 3 และ Grok 4 - SuperGrok Heavy ($300/เดือน): เข้าถึง Grok 3, Grok 4 และ Grok 4 Heavy https://www.neowin.net/news/elon-musks-xai-launches-grok-4-claiming-top-spot-among-industry-ai-models/
    WWW.NEOWIN.NET
    Elon Musk's xAI launches Grok 4, claiming top spot among industry AI models
    Elon Musk's xAI has launched its new flagship AI model, Grok-4, which demonstrates leading performance in various academic, reasoning, and coding benchmarks.
    0 Comments 0 Shares 229 Views 0 Reviews
  • วันปาฏิโมกข์(วันพระใหญ่) ขึ้น ๑๕ เดือน ๘ ปีมะเส็ง เป็นวันอาสาฬหบูชา พระภิกษุสงฆ์ทำการสวดพระปาฏิโมกข์และนำพาประชาชนเวียนเทียนฯลฯ

    วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันเพ็ญ (วันขึ้น 15 ค่ำ) เดือน 8 เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ระลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา (ธรรมเทศนากัณฑ์แรก) โปรดพระปัญจวัคคีย์ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี. การแสดงธรรมครั้งนี้ถือเป็นการประกาศพระพุทธศาสนาอย่างเป็นทางการ และยังเป็นวันที่เกิดพระรัตนตรัยครบองค์ 3 เป็นครั้งแรก คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์.
    เหตุการณ์สำคัญในวันอาสาฬหบูชา:
    การแสดงปฐมเทศนา:
    พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมที่ตรัสรู้เป็นครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ (กลุ่มพระภิกษุ 5 รูป) ชื่อว่า "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร".
    การเกิดพระสงฆ์รูปแรก:
    หลังจากการแสดงธรรม พระอัญญาโกณฑัญญะได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา.
    การเกิดพระรัตนตรัยครบองค์ 3:
    ด้วยเหตุการณ์ที่พระอัญญาโกณฑัญญะได้บรรลุธรรมและขอบวช ทำให้พระรัตนตรัย (พระพุทธ, พระธรรม, พระสงฆ์) ครบถ้วนบริบูรณ์เป็นครั้งแรก.
    ความสำคัญของวันอาสาฬหบูชา:
    เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ชาวพุทธทั่วโลกให้ความสำคัญ.
    เป็นวันที่ชาวพุทธจะเข้าวัดทำบุญ ฟังธรรม รักษาศีล และเวียนเทียน เพื่อระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย.
    เป็นวันที่ระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในการประกาศพระพุทธศาสนา และการเกิดของพระรัตนตรัย.
    วันปาฏิโมกข์(วันพระใหญ่) ขึ้น ๑๕ เดือน ๘ ปีมะเส็ง เป็นวันอาสาฬหบูชา พระภิกษุสงฆ์ทำการสวดพระปาฏิโมกข์และนำพาประชาชนเวียนเทียนฯลฯ วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันเพ็ญ (วันขึ้น 15 ค่ำ) เดือน 8 เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ระลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา (ธรรมเทศนากัณฑ์แรก) โปรดพระปัญจวัคคีย์ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี. การแสดงธรรมครั้งนี้ถือเป็นการประกาศพระพุทธศาสนาอย่างเป็นทางการ และยังเป็นวันที่เกิดพระรัตนตรัยครบองค์ 3 เป็นครั้งแรก คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์. เหตุการณ์สำคัญในวันอาสาฬหบูชา: การแสดงปฐมเทศนา: พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมที่ตรัสรู้เป็นครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ (กลุ่มพระภิกษุ 5 รูป) ชื่อว่า "ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร". การเกิดพระสงฆ์รูปแรก: หลังจากการแสดงธรรม พระอัญญาโกณฑัญญะได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา. การเกิดพระรัตนตรัยครบองค์ 3: ด้วยเหตุการณ์ที่พระอัญญาโกณฑัญญะได้บรรลุธรรมและขอบวช ทำให้พระรัตนตรัย (พระพุทธ, พระธรรม, พระสงฆ์) ครบถ้วนบริบูรณ์เป็นครั้งแรก. ความสำคัญของวันอาสาฬหบูชา: เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ชาวพุทธทั่วโลกให้ความสำคัญ. เป็นวันที่ชาวพุทธจะเข้าวัดทำบุญ ฟังธรรม รักษาศีล และเวียนเทียน เพื่อระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย. เป็นวันที่ระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในการประกาศพระพุทธศาสนา และการเกิดของพระรัตนตรัย.
    0 Comments 0 Shares 324 Views 0 Reviews
  • เกาะฟูก๊วก ไข่มุกแห่งเวียดนามใต้
    ทะเลใส หาดสวย สนุก ครบจบในทริปเดียว!

    เดินทางได้ตั้งแต่ พ.ย. 68 - มี.ค. 69
    บินตรงสบาย ๆ กับ Thai VietJet Air (VZ)
    ราคาเริ่มต้นเพียง 12,900.-

    ไฮไลท์ทริป
    นั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก!
    พักผ่อนที่ Hon Thom Beach
    สนุกกับสวนสนุก + สวนน้ำระดับโลก VinWonders
    ชมสัตว์ทะเลที่ Vinpearl Aquarium
    สะพานจูบ Kiss Bridge + Mediterranean Town สุดโรแมนติก
    เดินตลาดกลางคืน Duong Dong
    ชมโชว์สุดตระการตาที่ Grand World Phu Quoc

    ไฟลท์บิน
    VZ980 BKK-PQC 09:20-10:40
    VZ981 PQC-BKK 11:45-13:05

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e0b7a2

    ดูทัวร์เวียดนามทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/8d0826

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์เวียดนาม #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #PhuQuoc #เวียดนามใต้ #เที่ยวเวียดนาม #เกาะฟูก๊วก #กระเช้าทะเล #VinWonders #KissBridge #MediterraneanTown #DuongDongNightMarket #เที่ยวฟูก๊วก #GrandWorldPhuQuoc #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #กัมพูชา #สนธิ
    📣 เกาะฟูก๊วก ไข่มุกแห่งเวียดนามใต้ 🏝️✨ 🌊 ทะเลใส หาดสวย สนุก ครบจบในทริปเดียว! 📆 เดินทางได้ตั้งแต่ พ.ย. 68 - มี.ค. 69 ✈️ บินตรงสบาย ๆ กับ Thai VietJet Air (VZ) 💰 ราคาเริ่มต้นเพียง 12,900.- 🌟 ไฮไลท์ทริป 🚠 นั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก! 🏖️ พักผ่อนที่ Hon Thom Beach 🎢 สนุกกับสวนสนุก + สวนน้ำระดับโลก VinWonders 🐠 ชมสัตว์ทะเลที่ Vinpearl Aquarium 🌅 สะพานจูบ Kiss Bridge + Mediterranean Town สุดโรแมนติก 🌙 เดินตลาดกลางคืน Duong Dong 🎆 ชมโชว์สุดตระการตาที่ Grand World Phu Quoc 📍ไฟลท์บิน VZ980 BKK-PQC 09:20-10:40 VZ981 PQC-BKK 11:45-13:05 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e0b7a2 ดูทัวร์เวียดนามทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/8d0826 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์เวียดนาม #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #PhuQuoc #เวียดนามใต้ #เที่ยวเวียดนาม #เกาะฟูก๊วก #กระเช้าทะเล #VinWonders #KissBridge #MediterraneanTown #DuongDongNightMarket #เที่ยวฟูก๊วก #GrandWorldPhuQuoc #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #กัมพูชา #สนธิ
    0 Comments 0 Shares 608 Views 0 Reviews
  • ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ.

    ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล
    BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม!

    ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน

    แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต

    BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ!

    คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้

    NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ

    BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว!

    ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง

    “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์

    BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา!
    จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ

    ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป

    BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม!

    ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง

    ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น

    BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ!

    บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว!

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น

    BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย!

    นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์

    นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม

    BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก!

    ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา

    นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน

    BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม!

    NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา

    และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่

    BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้!

    ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง

    ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด

    บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก

    1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่

    2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์

    3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง

    4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น

    5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต

    6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ

    7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ

    8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต

    9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส

    11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน

    12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร

    13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ

    15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย

    17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง

    18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก

    19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

    20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง

    21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป

    22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด

    24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น


    25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว
    26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม

    27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA

    28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง

    29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย
    30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม

    ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่

    31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง

    บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ. ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม! ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ! คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้ NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว! ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์ BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา! จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม! ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ! บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว! นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย! นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก! ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม! NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่ BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้! ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก 1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่ 2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์ 3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง 4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น 5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต 6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ 7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ 8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต 9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ 10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส 11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน 12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร 13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ 14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ 15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ 16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย 17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง 18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก 19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ 20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง 21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป 22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ 23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด 24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น 25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว 26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม 27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA 28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง 29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย 30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่ 31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    0 Comments 0 Shares 1027 Views 0 Reviews
  • ยังมีสมาชิกบางท่าน เพิกเฉยต่อบทบาทของ CIA ที่มีต่อประเทศไทย
    อยู่ นี่คือการสรุปย่อๆเท่าที่หามาได้ ในอนาคตจะพูดเรื่องความสำคัญของไทยในสายตา CIA

    การเคลื่อนไหวของ CIA ในประเทศไทย เป็นเรื่องที่มีทั้งข้อมูลที่เปิดเผยและข้อมูลที่เป็นความลับมาก ซึ่งบางส่วนถูกเปิดโปงผ่านเอกสารประวัติศาสตร์ หรือแหล่งข่าวอย่าง Wikileaks, บันทึกของนักข่าวสายความมั่นคง และงานวิชาการ



    สรุป “การเคลื่อนไหวของ CIA ในไทย” แบ่งเป็น 3 ยุคหลัก



    1. ยุคสงครามเย็น (1950s–1980s): ฐานข่าวกรอง-ฐานทัพลับ

    จุดประสงค์หลัก: ต่อต้านคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    ไทย = พันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในภูมิภาค
    • CIA ใช้ไทยเป็น “ฐานปฏิบัติการลับ (covert ops base)” เพื่อ:
    • สนับสนุนฝ่ายต่อต้านคอมมิวนิสต์ใน ลาว–เวียดนาม–กัมพูชา
    • ส่งกำลังทางอากาศ ลำเลียงข่าวกรอง และฝึกกองกำลังลับ

    ตัวอย่างที่เป็นที่รู้กัน:
    • ฐานทัพ อุดรธานี (เรียกในบางวงว่า “Udon CIA base”) ใช้เป็นที่ตั้งของ Air America สายการบินลับของ CIA
    • การฝึก “กองกำลังเงา” ในลาว-เขมร โดยมีเจ้าหน้าที่ CIA ประจำที่ไทย
    • ปฏิบัติการ Operation Cold Chop / Operation Hardnose: ส่งสายลับเข้าไปในจีนตอนใต้จากชายแดนไทย-พม่า



    2. ยุคหลังสงครามเย็น – 9/11 (1990s–2000s): ข่าวกรองและต่อต้านก่อการร้าย

    จุดประสงค์หลัก: ปราบก่อการร้าย-เครือข่ายอิสลามหัวรุนแรง
    • หลังเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐฯ เริ่มจับตาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะแหล่งกบดานของกลุ่มหัวรุนแรง
    • CIA ร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด เช่น:
    • แลกเปลี่ยนข่าวกรองกับตำรวจไทยและหน่วยข่าวทหาร
    • ติดตามเครือข่ายอัลกออิดะห์ในเอเชีย
    • ปฏิบัติการลับเพื่อจับกุมหรือสอบสวนผู้ต้องสงสัย

    กรณีที่ถูกเปิดเผย:
    • ปี 2002–2003: CIA ใช้สถานที่ลับในไทยเป็น “black site” (คุกลับนอกอเมริกา) เพื่อสอบสวนผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย เช่น อับู ซูไบดะห์ (Abu Zubaydah)
    • สถานที่นี้เชื่อกันว่าอยู่ทางภาคตะวันออกของไทย
    • ถูกเปิดเผยในรายงานวุฒิสภาสหรัฐฯ ปี 2014 ว่าใช้ “enhanced interrogation techniques” (การทรมาน)
    • CIA มีบทบาทร่วมในการล่าและส่งตัวผู้ต้องสงสัยจากไทยไปยังประเทศที่สาม (extraordinary rendition)



    3. ยุคใหม่ (2010s–ปัจจุบัน): แข่งอิทธิพลจีน-ไซเบอร์-การเมือง

    จุดประสงค์หลัก:
    1. จับตาจีนในไทย (BRI, 5G, การทหาร, ดิจิทัล)
    2. สกัดรัสเซียในเอเชีย
    3. ติดตามการเคลื่อนไหวทางการเมือง–กลุ่มเคลื่อนไหว
    4. ร่วมมือด้านไซเบอร์/ต่อต้านการแทรกแซง

    รูปแบบที่ปรากฏ:
    • การติดต่อกับนักการเมือง-นักเคลื่อนไหว ที่สนับสนุนเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน (เช่น NGO, นักศึกษาบางกลุ่ม)
    • ติดตามการลงทุนของจีน ในโครงการอย่างรถไฟความเร็วสูง, EEC, ท่าเรือน้ำลึก
    • ใช้ สถานทูตและหน่วยงานต่างประเทศ (USAID, IRI, NED) เป็นช่องทางซัพพอร์ตทางอ้อม
    • ปี 2020s: สื่อรายงานว่ารัสเซียและจีนพยายามตั้ง “สถานีดักฟัง” และ CIA พยายามห้ามไทยอนุญาต



    มุมที่คนไทยหลายคนอาจไม่รู้:
    • CIA ไม่จำเป็นต้อง “ลงมือ” เองทุกครั้ง แต่ใช้ Soft Power + ปฏิบัติการผ่านหน่วยงานในพื้นที่
    • ความร่วมมือข่าวกรองไทย–สหรัฐฯ เข้มแข็งต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับ สันติบาล, หน่วยข่าวทหาร, ปอท.
    • CIA ในไทยมักมี “เจ้าหน้าที่ภายใต้สถานทูต” (official cover) ซึ่งไม่ได้แสดงตัวเป็น CIA โดยตรง



    สรุปภาพรวม:

    CIA เคยมีและอาจยังคงมีบทบาทในไทย
    โดยเป้าหมายเปลี่ยนไปตามยุคสมัย:
    ยุคคอมมิวนิสต์ → ต่อต้านพรรคแดงในอินโดจีน
    ยุคหลัง 9/11 → ก่อการร้าย-จับผู้ต้องสงสัย
    ยุคปัจจุบัน → แข่งกับจีน-รัสเซีย, ไซเบอร์, การเมืองภายในไทย
    ยังมีสมาชิกบางท่าน เพิกเฉยต่อบทบาทของ CIA ที่มีต่อประเทศไทย อยู่ นี่คือการสรุปย่อๆเท่าที่หามาได้ ในอนาคตจะพูดเรื่องความสำคัญของไทยในสายตา CIA การเคลื่อนไหวของ CIA ในประเทศไทย เป็นเรื่องที่มีทั้งข้อมูลที่เปิดเผยและข้อมูลที่เป็นความลับมาก ซึ่งบางส่วนถูกเปิดโปงผ่านเอกสารประวัติศาสตร์ หรือแหล่งข่าวอย่าง Wikileaks, บันทึกของนักข่าวสายความมั่นคง และงานวิชาการ ⸻ 🔍 สรุป “การเคลื่อนไหวของ CIA ในไทย” แบ่งเป็น 3 ยุคหลัก ⸻ 🇺🇸 1. ยุคสงครามเย็น (1950s–1980s): ฐานข่าวกรอง-ฐานทัพลับ จุดประสงค์หลัก: ต่อต้านคอมมิวนิสต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ • 🇹🇭 ไทย = พันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในภูมิภาค • CIA ใช้ไทยเป็น “ฐานปฏิบัติการลับ (covert ops base)” เพื่อ: • สนับสนุนฝ่ายต่อต้านคอมมิวนิสต์ใน ลาว–เวียดนาม–กัมพูชา • ส่งกำลังทางอากาศ ลำเลียงข่าวกรอง และฝึกกองกำลังลับ 💥 ตัวอย่างที่เป็นที่รู้กัน: • ฐานทัพ อุดรธานี (เรียกในบางวงว่า “Udon CIA base”) ใช้เป็นที่ตั้งของ Air America สายการบินลับของ CIA • การฝึก “กองกำลังเงา” ในลาว-เขมร โดยมีเจ้าหน้าที่ CIA ประจำที่ไทย • ปฏิบัติการ Operation Cold Chop / Operation Hardnose: ส่งสายลับเข้าไปในจีนตอนใต้จากชายแดนไทย-พม่า ⸻ 🕵️‍♂️ 2. ยุคหลังสงครามเย็น – 9/11 (1990s–2000s): ข่าวกรองและต่อต้านก่อการร้าย จุดประสงค์หลัก: ปราบก่อการร้าย-เครือข่ายอิสลามหัวรุนแรง • หลังเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐฯ เริ่มจับตาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฐานะแหล่งกบดานของกลุ่มหัวรุนแรง • CIA ร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด เช่น: • แลกเปลี่ยนข่าวกรองกับตำรวจไทยและหน่วยข่าวทหาร • ติดตามเครือข่ายอัลกออิดะห์ในเอเชีย • ปฏิบัติการลับเพื่อจับกุมหรือสอบสวนผู้ต้องสงสัย 💣 กรณีที่ถูกเปิดเผย: • ปี 2002–2003: CIA ใช้สถานที่ลับในไทยเป็น “black site” (คุกลับนอกอเมริกา) เพื่อสอบสวนผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย เช่น อับู ซูไบดะห์ (Abu Zubaydah) • สถานที่นี้เชื่อกันว่าอยู่ทางภาคตะวันออกของไทย • ถูกเปิดเผยในรายงานวุฒิสภาสหรัฐฯ ปี 2014 ว่าใช้ “enhanced interrogation techniques” (การทรมาน) • CIA มีบทบาทร่วมในการล่าและส่งตัวผู้ต้องสงสัยจากไทยไปยังประเทศที่สาม (extraordinary rendition) ⸻ 🌐 3. ยุคใหม่ (2010s–ปัจจุบัน): แข่งอิทธิพลจีน-ไซเบอร์-การเมือง จุดประสงค์หลัก: 1. จับตาจีนในไทย (BRI, 5G, การทหาร, ดิจิทัล) 2. สกัดรัสเซียในเอเชีย 3. ติดตามการเคลื่อนไหวทางการเมือง–กลุ่มเคลื่อนไหว 4. ร่วมมือด้านไซเบอร์/ต่อต้านการแทรกแซง รูปแบบที่ปรากฏ: • การติดต่อกับนักการเมือง-นักเคลื่อนไหว ที่สนับสนุนเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน (เช่น NGO, นักศึกษาบางกลุ่ม) • ติดตามการลงทุนของจีน ในโครงการอย่างรถไฟความเร็วสูง, EEC, ท่าเรือน้ำลึก • ใช้ สถานทูตและหน่วยงานต่างประเทศ (USAID, IRI, NED) เป็นช่องทางซัพพอร์ตทางอ้อม • ปี 2020s: สื่อรายงานว่ารัสเซียและจีนพยายามตั้ง “สถานีดักฟัง” และ CIA พยายามห้ามไทยอนุญาต ⸻ 🧭 มุมที่คนไทยหลายคนอาจไม่รู้: • CIA ไม่จำเป็นต้อง “ลงมือ” เองทุกครั้ง แต่ใช้ Soft Power + ปฏิบัติการผ่านหน่วยงานในพื้นที่ • ความร่วมมือข่าวกรองไทย–สหรัฐฯ เข้มแข็งต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับ สันติบาล, หน่วยข่าวทหาร, ปอท. • CIA ในไทยมักมี “เจ้าหน้าที่ภายใต้สถานทูต” (official cover) ซึ่งไม่ได้แสดงตัวเป็น CIA โดยตรง ⸻ ✅ สรุปภาพรวม: CIA เคยมีและอาจยังคงมีบทบาทในไทย โดยเป้าหมายเปลี่ยนไปตามยุคสมัย: 🔸 ยุคคอมมิวนิสต์ → ต่อต้านพรรคแดงในอินโดจีน 🔸 ยุคหลัง 9/11 → ก่อการร้าย-จับผู้ต้องสงสัย 🔸 ยุคปัจจุบัน → แข่งกับจีน-รัสเซีย, ไซเบอร์, การเมืองภายในไทย
    0 Comments 0 Shares 592 Views 0 Reviews
  • Common Grammar Mistakes You May Be Making

    It’s no secret that English is a tough and pretty weird language to learn. There are so many grammar rules and exceptions that even the best of us make mistakes every now and then. However, some grammar mistakes are more common than others. In fact, you might be making some simple grammar mistakes without even knowing it. To do our part in helping everybody become a grammar great, we’ve put together a list that will help solve some of the most common grammar mistakes out there. Keep this list handy before you turn in your next paper or hit send on that important email to be the boss!

    Mistake 1: who or whom?
    Let’s start with a biggie: who and whom are a pair of commonly confused pronouns that are often used to ask questions or refer to unknown people. In short, who is a subject pronoun while whom is an object pronoun. This means that you would use who as you would use I, he, she, and they, and you would use whom in the same places as me, him, them, and us. For example:

    Who (subject) ate my lunch?
    You went to the beach with whom (object)?
    But interrogative sentences often jumble word order around, and many writers hesitate to place the object whom at the beginning of the sentence. Although correct, it just seems odd. For example:

    Whom (object) did you (subject) ask questions to?
    All of that said, in informal speech and writing, speakers will often opt for who where whom has traditionally been used. To learn much more about the differences between who and whom, check out our guide When Do You Use “Who” vs. “Whom”?

    Mistake 2: who or that?
    Who is back again to confuse us. Who and that are another pair of pronouns that can be easily mixed up. Generally speaking, who is used to refer to people (and possibly named animals) and that is used to refer to non-living things (and possibly unnamed animals). For example:

    Who lives here? (refers to a person or people)
    I never want to see that again. (refers to a thing or unnamed animal)
    Both who and that can also be used as relative pronouns to introduce relative clauses that describe nouns. As before, who is typically used to refer to people while that is used to refer to objects.

    I sat by the girl (person) who was wearing a hat.
    Kelly bought a car (object) that has good gas mileage.
    That being said, that is often used to describe people in informal writing. For example:

    He just met the girl that moved in next door.
    Most style guides recommend avoiding using that in this way in formal writing.

    Mistake 3: commas—all the commas
    We move from the apostrophe to possibly the most dreaded punctuation mark of all: the comma. It is hard to know where to even begin with commas, as they are the source of many, many grammar errors. To really master commas, you are best off checking out our amazing guide to proper comma usage. For now, we’ll just look at a couple of common comma mistakes to avoid:

    Common comma mistake: the splice
    This mistake occurs when a comma appears where it shouldn’t. When joining two independent clauses, a comma needs to be followed by a conjunction. But using a comma by itself (as in the first sentence below) is considered an error.

    Mistake: I like strawberry ice cream, my sister doesn’t.
    Fixed: I like strawberry ice cream, but my sister doesn’t.

    Common comma mistake: tricky subordinate clauses
    Subordinate clauses do not require a comma, and it is considered a mistake to use one.

    Mistake: Luke avoids cats, because he is allergic to them.
    Fixed: Luke avoids cats because he is allergic to them.

    Subordinate clauses begin with subordinating conjunctions, such as because, after, before, since, or although.

    Mistake 4: its or it’s?
    Only a single apostrophe separates the frustrating duo if its and it’s. The word its is a possessive pronoun that is used like the words my, his, her, and our. The word it’s is a contraction for the phrase “it is” or “it has.” Despite how similar they look, its and it’s have completely different meanings and usage. For example:

    The door fell off its (possessive) hinges.
    The idea is really bad but it’s (“it is”) the only one we have.
    This common mistake likely has to do with the fact that an apostrophe is used to form the possessive of nouns such as Dave’s or Canada’s. As weird as it looks, its is in fact a possessive despite not using an apostrophe.

    If you are still a little lost, our thorough guide to its and it’s can provide more assistance in separating these two very similar words.

    Mistake 5: their, there, and they’re? (And what about your or you’re?)
    Their, there, and they’re are a trio of homophones that frequently get mistaken for one another. However, they all have different, unique meanings. Let’s look at each one.

    Their is the possessive form of they, and it can be used in place of either the singular or plural they to express ownership or possession. For example:

    The scientists put on their lab coats.
    They’re is a contraction of they are and fills in for it to shorten sentences. For example:

    Becky and Jayden were supposed to be here already, but they’re (“they are”) late.
    There is a word that usually means “that place” as in Tokyo looks so exciting; I wish I could go there. It has a few other meanings, but it isn’t a synonym of either their or they’re.

    Your and you’re are another pair of homophones that commonly get mixed up. Like their, your is the possessive form of the singular and plural you. Like they’re, you’re is a contraction that stands for “you are.” Here are examples of how we use these two similar words:

    I like your jacket. (possession)
    You’re (“you are”) smarter than you think.

    Mistake 6: me or I?
    At first glance, me and I seem simple enough: I is a subject pronoun and me is an object pronoun. We use I as the subject of sentences/clauses and me as the object. For example:

    I (subject) went to sleep.
    Erica likes me (object).
    However, it can be easy to forget these rules when sentences get more complicated, and it gets harder to figure out if something is a subject or object.

    Chris, Daniela, and I (compound subject) played soccer.
    Dad sent birthday presents to my sister and me (compound object).
    The main source of this confusion might be the word than, which can be used as either a conjunction or a preposition. Because of this, both of the following sentences are correct:

    Nobody sings karaoke better than I.
    Nobody sings karaoke better than me.

    Mistake 7: dangling modifiers
    When we use modifiers such as adverbial or participial phrases, we typically want to place them as close to the word they modify as possible. Otherwise, a sentence may end up with a type of mistake called a “dangling modifier.” A dangling modifier is a phrase or clause that either appears to modify the wrong things or seems to modify nothing at all. This common grammar mistake can result in confusing or unintentionally funny sentences. To fix these misplaced modifiers, you’ll want to place them close to the word they modify and make it clear which word or part of the sentence they modify. For example:

    Mistake: While driving, a bear walked in front of my car. (Is a bear driving something?)
    Fixed: While I was driving my car, a bear walked in front of me.

    Mistake: Rubbing their hands together, the winter weather was harsh and cold. (Whoever is rubbing their hands is missing.)
    Fixed: Rubbing their hands together, the explorers tried to stay warm in the harsh and cold winter weather.

    Mistake: Yesterday, I found a stray dog in my underpants. (Was the dog hiding inside your underpants?)
    Fixed: While wearing just my underpants, I found a stray dog yesterday.

    Mistake 8: pronoun antecedents
    When we use pronouns, they must agree in number with their antecedents. The antecedent is the noun that a pronoun is filling in for. It is a mistake to use a plural pronoun with a singular antecedent and a singular pronoun with a plural antecedent. For example:

    Mistake: The bees hid in its hive.
    Fixed: The bees hid in their hive.

    Additionally, we wouldn’t use its to refer to a person, nor would we use personal pronouns to refer to non-living things.

    Mistake: The zoo that Amanda owns is having her grand opening tomorrow.
    Fixed: The zoo that Amanda owns is having its grand opening tomorrow.

    At the same time, it should be clear in a sentence what a pronoun’s antecedent actually is. Avoid making the mistake of having missing or unclear antecedents.

    Missing antecedent: I looked everywhere but couldn’t find her. (Who is her?)
    Unclear antecedent: The toaster was next to the sink when it broke. (What broke? Does “it” refer to the toaster or the sink?)

    To learn a lot more about pronouns and how to use them, check out our great guide to pronouns here.

    Mistake 9: semicolons
    For many, the semicolon is not a punctuation mark that sees a lot of use, which may explain why people make mistakes when trying to use it. As it turns out, semicolons are fairly simple to use. The main thing to remember when using a semicolon is that the sentence following the semicolon doesn’t begin with a capital letter unless it begins with a proper noun. For example:

    I love cats; they are cute and smart.
    Jack and Jill went up a hill; Jill made it up first.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Common Grammar Mistakes You May Be Making It’s no secret that English is a tough and pretty weird language to learn. There are so many grammar rules and exceptions that even the best of us make mistakes every now and then. However, some grammar mistakes are more common than others. In fact, you might be making some simple grammar mistakes without even knowing it. To do our part in helping everybody become a grammar great, we’ve put together a list that will help solve some of the most common grammar mistakes out there. Keep this list handy before you turn in your next paper or hit send on that important email to be the boss! Mistake 1: who or whom? Let’s start with a biggie: who and whom are a pair of commonly confused pronouns that are often used to ask questions or refer to unknown people. In short, who is a subject pronoun while whom is an object pronoun. This means that you would use who as you would use I, he, she, and they, and you would use whom in the same places as me, him, them, and us. For example: Who (subject) ate my lunch? You went to the beach with whom (object)? But interrogative sentences often jumble word order around, and many writers hesitate to place the object whom at the beginning of the sentence. Although correct, it just seems odd. For example: Whom (object) did you (subject) ask questions to? All of that said, in informal speech and writing, speakers will often opt for who where whom has traditionally been used. To learn much more about the differences between who and whom, check out our guide When Do You Use “Who” vs. “Whom”? Mistake 2: who or that? Who is back again to confuse us. Who and that are another pair of pronouns that can be easily mixed up. Generally speaking, who is used to refer to people (and possibly named animals) and that is used to refer to non-living things (and possibly unnamed animals). For example: Who lives here? (refers to a person or people) I never want to see that again. (refers to a thing or unnamed animal) Both who and that can also be used as relative pronouns to introduce relative clauses that describe nouns. As before, who is typically used to refer to people while that is used to refer to objects. I sat by the girl (person) who was wearing a hat. Kelly bought a car (object) that has good gas mileage. That being said, that is often used to describe people in informal writing. For example: He just met the girl that moved in next door. Most style guides recommend avoiding using that in this way in formal writing. Mistake 3: commas—all the commas We move from the apostrophe to possibly the most dreaded punctuation mark of all: the comma. It is hard to know where to even begin with commas, as they are the source of many, many grammar errors. To really master commas, you are best off checking out our amazing guide to proper comma usage. For now, we’ll just look at a couple of common comma mistakes to avoid: Common comma mistake: the splice This mistake occurs when a comma appears where it shouldn’t. When joining two independent clauses, a comma needs to be followed by a conjunction. But using a comma by itself (as in the first sentence below) is considered an error. ❌ Mistake: I like strawberry ice cream, my sister doesn’t. ✅ Fixed: I like strawberry ice cream, but my sister doesn’t. Common comma mistake: tricky subordinate clauses Subordinate clauses do not require a comma, and it is considered a mistake to use one. ❌ Mistake: Luke avoids cats, because he is allergic to them. ✅ Fixed: Luke avoids cats because he is allergic to them. Subordinate clauses begin with subordinating conjunctions, such as because, after, before, since, or although. Mistake 4: its or it’s? Only a single apostrophe separates the frustrating duo if its and it’s. The word its is a possessive pronoun that is used like the words my, his, her, and our. The word it’s is a contraction for the phrase “it is” or “it has.” Despite how similar they look, its and it’s have completely different meanings and usage. For example: The door fell off its (possessive) hinges. The idea is really bad but it’s (“it is”) the only one we have. This common mistake likely has to do with the fact that an apostrophe is used to form the possessive of nouns such as Dave’s or Canada’s. As weird as it looks, its is in fact a possessive despite not using an apostrophe. If you are still a little lost, our thorough guide to its and it’s can provide more assistance in separating these two very similar words. Mistake 5: their, there, and they’re? (And what about your or you’re?) Their, there, and they’re are a trio of homophones that frequently get mistaken for one another. However, they all have different, unique meanings. Let’s look at each one. Their is the possessive form of they, and it can be used in place of either the singular or plural they to express ownership or possession. For example: The scientists put on their lab coats. They’re is a contraction of they are and fills in for it to shorten sentences. For example: Becky and Jayden were supposed to be here already, but they’re (“they are”) late. There is a word that usually means “that place” as in Tokyo looks so exciting; I wish I could go there. It has a few other meanings, but it isn’t a synonym of either their or they’re. Your and you’re are another pair of homophones that commonly get mixed up. Like their, your is the possessive form of the singular and plural you. Like they’re, you’re is a contraction that stands for “you are.” Here are examples of how we use these two similar words: I like your jacket. (possession) You’re (“you are”) smarter than you think. Mistake 6: me or I? At first glance, me and I seem simple enough: I is a subject pronoun and me is an object pronoun. We use I as the subject of sentences/clauses and me as the object. For example: I (subject) went to sleep. Erica likes me (object). However, it can be easy to forget these rules when sentences get more complicated, and it gets harder to figure out if something is a subject or object. Chris, Daniela, and I (compound subject) played soccer. Dad sent birthday presents to my sister and me (compound object). The main source of this confusion might be the word than, which can be used as either a conjunction or a preposition. Because of this, both of the following sentences are correct: Nobody sings karaoke better than I. Nobody sings karaoke better than me. Mistake 7: dangling modifiers When we use modifiers such as adverbial or participial phrases, we typically want to place them as close to the word they modify as possible. Otherwise, a sentence may end up with a type of mistake called a “dangling modifier.” A dangling modifier is a phrase or clause that either appears to modify the wrong things or seems to modify nothing at all. This common grammar mistake can result in confusing or unintentionally funny sentences. To fix these misplaced modifiers, you’ll want to place them close to the word they modify and make it clear which word or part of the sentence they modify. For example: ❌ Mistake: While driving, a bear walked in front of my car. (Is a bear driving something?) ✅ Fixed: While I was driving my car, a bear walked in front of me. ❌ Mistake: Rubbing their hands together, the winter weather was harsh and cold. (Whoever is rubbing their hands is missing.) ✅ Fixed: Rubbing their hands together, the explorers tried to stay warm in the harsh and cold winter weather. ❌ Mistake: Yesterday, I found a stray dog in my underpants. (Was the dog hiding inside your underpants?) ✅ Fixed: While wearing just my underpants, I found a stray dog yesterday. Mistake 8: pronoun antecedents When we use pronouns, they must agree in number with their antecedents. The antecedent is the noun that a pronoun is filling in for. It is a mistake to use a plural pronoun with a singular antecedent and a singular pronoun with a plural antecedent. For example: ❌ Mistake: The bees hid in its hive. ✅ Fixed: The bees hid in their hive. Additionally, we wouldn’t use its to refer to a person, nor would we use personal pronouns to refer to non-living things. ❌ Mistake: The zoo that Amanda owns is having her grand opening tomorrow. ✅ Fixed: The zoo that Amanda owns is having its grand opening tomorrow. At the same time, it should be clear in a sentence what a pronoun’s antecedent actually is. Avoid making the mistake of having missing or unclear antecedents. Missing antecedent: I looked everywhere but couldn’t find her. (Who is her?) Unclear antecedent: The toaster was next to the sink when it broke. (What broke? Does “it” refer to the toaster or the sink?) To learn a lot more about pronouns and how to use them, check out our great guide to pronouns here. Mistake 9: semicolons For many, the semicolon is not a punctuation mark that sees a lot of use, which may explain why people make mistakes when trying to use it. As it turns out, semicolons are fairly simple to use. The main thing to remember when using a semicolon is that the sentence following the semicolon doesn’t begin with a capital letter unless it begins with a proper noun. For example: I love cats; they are cute and smart. Jack and Jill went up a hill; Jill made it up first. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 Comments 0 Shares 852 Views 0 Reviews
  • สงครามโลกครั้งที่ 3: ตระกูลรอธส์ไชลด์เพิ่งจุดชนวนความขัดแย้งผ่านอิสราเอล
    การโจมตีอิหร่านไม่ใช่การตอบโต้ แต่เป็นพิธีกรรม

    นี่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับอิสราเอลกับอิหร่าน แต่เป็นเรื่องของพวกโลกาภิวัตน์ที่ดึงคันโยกสุดท้าย ชนชั้นสูงสายเลือดเดียวกันกับที่วางแผนสงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามโลกครั้งที่ 2 และ "ความขัดแย้ง" ทั้งหมดนับแต่นั้นมา 17 มิถุนายน 2025 — วันที่ลัทธิความตายของตระกูลรอธส์ไชลด์-ไซออนิสต์ประกาศสงครามกับมนุษยชาติ

    การโจมตีของอิสราเอลได้รับการสนับสนุนเงินทุนล่วงหน้า ได้รับการอนุมัติล่วงหน้า และวางแผนไว้ล่วงหน้า การโจมตีทางอากาศที่กำหนดเป้าหมายที่นาตันซ์และฟอร์โดว์ไม่ได้เกี่ยวกับการป้องกัน แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิดความโกลาหลทั่วโลกเพื่อทำลายระบบ พลเรือน 60 คน เด็ก 20 คน ถูกเผาในเตหะราน นั่นไม่ใช่การกระทำโดยอ้อม แต่เป็นนามบัตร ข้อความจากกลุ่มผู้มีอำนาจลูซิเฟอร์ที่แสวงหากำไรจากเลือด

    แหล่งข่าววงในของ CENTCOM ยืนยันว่าดาวเทียมทหารของสหรัฐฯ ถูกเปลี่ยนเส้นทางเพื่อสนับสนุนอิสราเอลไม่กี่วันก่อนที่ระเบิดลูกแรกจะถูกทิ้ง นี่ไม่ใช่การป้องกัน แต่เป็นการประสานงาน เป็นกับดักที่ตั้งใจจะบีบให้ประธานาธิบดีทรัมป์เข้าสู่สงครามที่เขาไม่เคยต้องการ

    ศัตรูของทรัมป์เปิดฉากสงครามครั้งนี้เพื่อทำลายเขา พวกเขาไม่สามารถหยุดเขาในการเลือกตั้ง พวกเขาไม่สามารถควบคุมเขาด้วยโควิด การถอดถอน และการต่อสู้ทางกฎหมาย ตอนนี้พวกเขาต้องการบีบให้เขาสนับสนุนเครื่องจักรสงคราม เขาไม่ได้หวั่นไหว แต่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น

    เนทันยาฮูไม่ได้รับใช้อิสราเอล เขารับใช้คลาอุส ชวาบ แลร์รี ฟิงค์ และกลุ่มค้ายาในดาวอส อิสราเอลคือหุ่นเชิด ขีปนาวุธคือข้อความ

    การตอบสนองของอิหร่าน? โดรนและขีปนาวุธ 370 ลำ ไม่ใช่การแก้แค้น ความยุติธรรม การก่อวินาศกรรม การลอบสังหาร และการคว่ำบาตรหลายปี ตอนนี้? ตึกอพาร์ตเมนต์ของอิสราเอลถูกทำลาย โดมเหล็กล้นหลาม — ถูกรบกวนทางไซเบอร์โดยกองกำลังที่สนับสนุน BRICS รัสเซียและจีนกำลังเฝ้าดู — และพร้อมแล้ว

    ทำไมตอนนี้ เพราะกลุ่มโลกาภิวัตน์กำลังผลักดันขั้นตอนสุดท้าย:

    – ทำลายเปโตรดอลลาร์
    – เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลพร้อมการระบุตัวตนแบบไบโอเมตริก
    – ระงับบัญชีเงินเกษียณ “เพื่อความมั่นคงของชาติ”

    – อ้างเหตุผลในการเฝ้าระวังและเซ็นเซอร์ AI ภายใต้กฎอัยการศึก
    – ท่วมยุโรปด้วยผู้อพยพเพื่อทำลายการต่อต้านของชาตินิยม
    – ใช้สงครามโลกครั้งที่ 3 เพื่อลบล้างอำนาจอธิปไตยของชาติ — ตลอดไป

    กาซ่าเป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจ ภารกิจที่แท้จริง: รีเซ็ตโลก บังคับให้มนุษยชาติควบคุมทั้งหมด แต่ความจริงกลับรั่วไหล:

    – ข่าวกรองของรัสเซียยืนยันว่าระเบิดของอิสราเอลกำหนดเป้าหมายพลเรือน
    – บุคคลภายในของ Mossad กำลังรั่วไหลแผนดังกล่าว
    – ผู้แจ้งเบาะแสของ CENTCOM ยอมรับว่าไม่เคยเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์

    ตอนนี้ทรัมป์กำลังทำงานร่วมกับ BRICS เบื้องหลัง การประชุมสุดยอดสันติภาพคู่ขนาน ไม่มี NATO ไม่มี UN ไม่มี WEF เป้าหมายคืออะไร? ยุติการสังหารหมู่ ทำลายระบบ ปลดปล่อยโลก

    ถึงชนชั้นสูง: พิธีกรรมของคุณล้มเหลว มนุษย์มองเห็นคุณ และพายุที่คุณต้องการ? มันกำลังหันกลับมาต่อต้านคุณ

    นี่ไม่ใช่สงคราม แต่เป็นการกบฏเพื่อรีเซ็ตโลก
    และครั้งนี้ คุณแพ้
    สงครามโลกครั้งที่ 3: ตระกูลรอธส์ไชลด์เพิ่งจุดชนวนความขัดแย้งผ่านอิสราเอล การโจมตีอิหร่านไม่ใช่การตอบโต้ แต่เป็นพิธีกรรม นี่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับอิสราเอลกับอิหร่าน แต่เป็นเรื่องของพวกโลกาภิวัตน์ที่ดึงคันโยกสุดท้าย ชนชั้นสูงสายเลือดเดียวกันกับที่วางแผนสงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามโลกครั้งที่ 2 และ "ความขัดแย้ง" ทั้งหมดนับแต่นั้นมา 17 มิถุนายน 2025 — วันที่ลัทธิความตายของตระกูลรอธส์ไชลด์-ไซออนิสต์ประกาศสงครามกับมนุษยชาติ การโจมตีของอิสราเอลได้รับการสนับสนุนเงินทุนล่วงหน้า ได้รับการอนุมัติล่วงหน้า และวางแผนไว้ล่วงหน้า การโจมตีทางอากาศที่กำหนดเป้าหมายที่นาตันซ์และฟอร์โดว์ไม่ได้เกี่ยวกับการป้องกัน แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิดความโกลาหลทั่วโลกเพื่อทำลายระบบ พลเรือน 60 คน เด็ก 20 คน ถูกเผาในเตหะราน นั่นไม่ใช่การกระทำโดยอ้อม แต่เป็นนามบัตร ข้อความจากกลุ่มผู้มีอำนาจลูซิเฟอร์ที่แสวงหากำไรจากเลือด แหล่งข่าววงในของ CENTCOM ยืนยันว่าดาวเทียมทหารของสหรัฐฯ ถูกเปลี่ยนเส้นทางเพื่อสนับสนุนอิสราเอลไม่กี่วันก่อนที่ระเบิดลูกแรกจะถูกทิ้ง นี่ไม่ใช่การป้องกัน แต่เป็นการประสานงาน เป็นกับดักที่ตั้งใจจะบีบให้ประธานาธิบดีทรัมป์เข้าสู่สงครามที่เขาไม่เคยต้องการ ศัตรูของทรัมป์เปิดฉากสงครามครั้งนี้เพื่อทำลายเขา พวกเขาไม่สามารถหยุดเขาในการเลือกตั้ง พวกเขาไม่สามารถควบคุมเขาด้วยโควิด การถอดถอน และการต่อสู้ทางกฎหมาย ตอนนี้พวกเขาต้องการบีบให้เขาสนับสนุนเครื่องจักรสงคราม เขาไม่ได้หวั่นไหว แต่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น เนทันยาฮูไม่ได้รับใช้อิสราเอล เขารับใช้คลาอุส ชวาบ แลร์รี ฟิงค์ และกลุ่มค้ายาในดาวอส อิสราเอลคือหุ่นเชิด ขีปนาวุธคือข้อความ การตอบสนองของอิหร่าน? โดรนและขีปนาวุธ 370 ลำ ไม่ใช่การแก้แค้น ความยุติธรรม การก่อวินาศกรรม การลอบสังหาร และการคว่ำบาตรหลายปี ตอนนี้? ตึกอพาร์ตเมนต์ของอิสราเอลถูกทำลาย โดมเหล็กล้นหลาม — ถูกรบกวนทางไซเบอร์โดยกองกำลังที่สนับสนุน BRICS รัสเซียและจีนกำลังเฝ้าดู — และพร้อมแล้ว ทำไมตอนนี้ เพราะกลุ่มโลกาภิวัตน์กำลังผลักดันขั้นตอนสุดท้าย: – ทำลายเปโตรดอลลาร์ – เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลพร้อมการระบุตัวตนแบบไบโอเมตริก – ระงับบัญชีเงินเกษียณ “เพื่อความมั่นคงของชาติ” – อ้างเหตุผลในการเฝ้าระวังและเซ็นเซอร์ AI ภายใต้กฎอัยการศึก – ท่วมยุโรปด้วยผู้อพยพเพื่อทำลายการต่อต้านของชาตินิยม – ใช้สงครามโลกครั้งที่ 3 เพื่อลบล้างอำนาจอธิปไตยของชาติ — ตลอดไป กาซ่าเป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจ ภารกิจที่แท้จริง: รีเซ็ตโลก บังคับให้มนุษยชาติควบคุมทั้งหมด แต่ความจริงกลับรั่วไหล: – ข่าวกรองของรัสเซียยืนยันว่าระเบิดของอิสราเอลกำหนดเป้าหมายพลเรือน – บุคคลภายในของ Mossad กำลังรั่วไหลแผนดังกล่าว – ผู้แจ้งเบาะแสของ CENTCOM ยอมรับว่าไม่เคยเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ ตอนนี้ทรัมป์กำลังทำงานร่วมกับ BRICS เบื้องหลัง การประชุมสุดยอดสันติภาพคู่ขนาน ไม่มี NATO ไม่มี UN ไม่มี WEF เป้าหมายคืออะไร? ยุติการสังหารหมู่ ทำลายระบบ ปลดปล่อยโลก ถึงชนชั้นสูง: พิธีกรรมของคุณล้มเหลว มนุษย์มองเห็นคุณ และพายุที่คุณต้องการ? มันกำลังหันกลับมาต่อต้านคุณ นี่ไม่ใช่สงคราม แต่เป็นการกบฏเพื่อรีเซ็ตโลก และครั้งนี้ คุณแพ้
    0 Comments 0 Shares 567 Views 0 Reviews
  • "ดูเหมือนการเจรจาใดๆที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่มีผลอีกต่อไป"

    คำปราศรัยทางโทรทัศน์ครั้งที่สองของผู้นำสูงสุดอิหร่าน อาลี คาเมเนอี ต่อประชาชนอิหร่าน หลังจากที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่ออิหร่านอย่างรุนแรง โดยที่อิหร่านยังไม่มีการยั่วยุใดๆ

    18 มิถุนายน 2025
    .

    “ในนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาปรานี

    ข้าพเจ้าขอส่งคำทักทายไปยังประชาชาติอิหร่านอันยิ่งใหญ่

    หัวข้อแรกที่ข้าพเจ้าอยากจะพูดถึงคือการยกย่องประชาชนอันเป็นที่รักของเรา เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของเราโดยศัตรูที่เพิ่งเกิดขึ้น ประชาชนอิหร่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีสติ กล้าหาญ และตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบัน การเคลื่อนไหวที่ประชาชนของเราได้นำเสนอต่อโลกในวันอีดอัล-กาดิรนั้นเป็นสิ่งที่พิเศษมาก การรวมตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การที่พวกเขาเข้าร่วมละหมาดวันศุกร์และการเดินขบวนหลังจากนั้น ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานของความเป็นผู้ใหญ่ของประชาชนอิหร่าน และการผสมผสานที่หยั่งรากลึกระหว่างเหตุผลและจิตวิญญาณกับความกล้าหาญและจังหวะเวลาที่สมบูรณ์แบบในหมู่ประชาชาติอันเป็นที่รักของเรา

    ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ประทานความสามารถทางศีลธรรมและวัตถุแก่ประชาชนผู้ศรัทธาเหล่านี้ด้วยพระคุณของพระองค์ ข้าพเจ้าต้องกล่าวถึงการกระทำอันทรงพลังและเป็นสัญลักษณ์ของผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์หญิงที่ยืนหยัดมั่นคงต่อหน้าความเย่อหยิ่งของศัตรูด้วย การตักบีร (พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่) ของเธอและการแสดง ความเข้มแข็งของประชาชนต่อทั้งโลกเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และมีค่าอย่างยิ่ง

    หัวข้อที่สองคือเหตุการณ์วันนี้ การโจมตีประเทศของเราอย่างโง่เขลาและร้ายกาจโดยกลุ่มไซออนิสต์ เกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังเจรจาทางอ้อมผ่านคนกลางกับฝ่ายอเมริกา ไม่มีอะไรจากอิหร่านที่บ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวทางทหารที่ก้าวร้าวหรือยั่วยุ

    แน่นอนว่าตั้งแต่แรก คาดว่าสหรัฐฯ มีส่วนรู้เห็นในการกระทำอันชั่วร้ายของกลุ่มไซออนิสต์ แต่ด้วยแถลงการณ์ครั้งแรกที่ออกมา ความคาดหวังนี้ก็ยิ่งได้รับการยืนยันมากขึ้นทุกวัน

    ประชาชนอิหร่านยืนหยัดต่อต้านสงครามที่ถูกบังคับ เช่นเดียวกับที่พวกเขายืนหยัดต่อต้านสันติภาพที่ถูกบังคับ ประชาชนอิหร่านไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งของใคร ฉันคาดหวังว่าปัญญาชน นักเขียน และบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะผู้ที่มีผู้ชมทั่วโลก จะชี้แจงและอธิบายความจริงเหล่านี้ พวกเขาต้องไม่อนุญาตให้ศัตรูบิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านการโฆษณาชวนเชื่อที่หลอกลวง

    ศัตรูไซออนิสต์ได้กระทำความผิดพลาดร้ายแรงและอาชญากรรมร้ายแรง และจะต้องถูกลงโทษ—และกำลังถูกลงโทษ ถูกลงโทษ การลงโทษที่ประชาชนอิหร่านและกองกำลังติดอาวุธของเราได้รับ การลงโทษที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และการลงโทษที่เตรียมไว้สำหรับอนาคต ถือเป็นการลงโทษที่รุนแรงซึ่งทำให้อิหร่านอ่อนแอลงแล้ว แม้แต่การแทรกแซงและถ้อยแถลงของพันธมิตรอเมริกันก็เป็นสัญญาณของความอ่อนแอและไร้ความสามารถ

    ประการสุดท้ายคือ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกคำขู่ เขาขู่เรา และในเวลาเดียวกัน—อย่างน่าขันและไร้ยางอาย—เรียกร้องให้ประชาชนอิหร่านยอมจำนนต่อเขา พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างแท้จริง

    ประการแรก คำขู่มีผลเฉพาะกับผู้ที่กลัวเท่านั้น ประชาชนอิหร่านได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่หวั่นไหวเมื่อเผชิญกับคำขู่ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า:
    “อย่าทำให้อ่อนแอหรือเสียใจ เพราะเจ้าจะได้เปรียบหากเจ้าเป็นผู้ศรัทธา” (อัลกุรอาน 3:139)

    การคุกคามไม่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมหรือความคิดของชาวอิหร่าน

    ประการที่สอง การบอกให้ชาวอิหร่านมาและยอมจำนน นี่ไม่ใช่คำพูดที่มีเหตุผล ผู้ที่รู้จักอิหร่าน รู้จักชาวอิหร่านและประวัติศาสตร์ของอิหร่าน จะไม่มีวันพูดคำดังกล่าว ยอมจำนนต่ออะไร? ชาวอิหร่านไม่ต้องยอมจำนน เราไม่ได้โจมตีใคร และภายใต้สถานการณ์ใดๆ เราจะไม่ยอมรับการรุกรานจากใคร และเราจะไม่ยอมจำนนต่อมัน นี่คือเหตุผลและจิตวิญญาณของชาติอิหร่าน

    แน่นอนว่าชาวอเมริกันที่คุ้นเคยกับการเมืองในภูมิภาคนี้รู้ดีว่าการที่สหรัฐฯ เข้าร่วมในความขัดแย้งครั้งนี้จะส่งผลเสียต่อพวกเขาเองโดยสิ้นเชิง ความสูญเสียที่พวกเขาจะต้องเผชิญจะมากกว่าที่อิหร่านจะทนได้ หากอเมริกาเข้าสู่สนามรบนี้ด้วยกำลังทหาร พวกเขาจะต้องสูญเสียอย่างไม่สามารถแก้ไขได้

    ฉันขอให้คนที่รักของเราจำโองการอันสูงส่งนี้ไว้เสมอ:
    “ชัยชนะมาจาก “อัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ” (อัลกุรอาน 3:126)

    ขอบคุณพระเจ้า ชีวิตยังคงดำเนินไปตามปกติ อย่าให้ศัตรูรู้สึกถึงความกลัวหรือความอ่อนแอจากคุณ”
    "ดูเหมือนการเจรจาใดๆที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่มีผลอีกต่อไป" คำปราศรัยทางโทรทัศน์ครั้งที่สองของผู้นำสูงสุดอิหร่าน อาลี คาเมเนอี ต่อประชาชนอิหร่าน หลังจากที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่ออิหร่านอย่างรุนแรง โดยที่อิหร่านยังไม่มีการยั่วยุใดๆ 18 มิถุนายน 2025 . “ในนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาปรานี ข้าพเจ้าขอส่งคำทักทายไปยังประชาชาติอิหร่านอันยิ่งใหญ่ หัวข้อแรกที่ข้าพเจ้าอยากจะพูดถึงคือการยกย่องประชาชนอันเป็นที่รักของเรา เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของเราโดยศัตรูที่เพิ่งเกิดขึ้น ประชาชนอิหร่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีสติ กล้าหาญ และตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบัน การเคลื่อนไหวที่ประชาชนของเราได้นำเสนอต่อโลกในวันอีดอัล-กาดิรนั้นเป็นสิ่งที่พิเศษมาก การรวมตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การที่พวกเขาเข้าร่วมละหมาดวันศุกร์และการเดินขบวนหลังจากนั้น ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานของความเป็นผู้ใหญ่ของประชาชนอิหร่าน และการผสมผสานที่หยั่งรากลึกระหว่างเหตุผลและจิตวิญญาณกับความกล้าหาญและจังหวะเวลาที่สมบูรณ์แบบในหมู่ประชาชาติอันเป็นที่รักของเรา ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ประทานความสามารถทางศีลธรรมและวัตถุแก่ประชาชนผู้ศรัทธาเหล่านี้ด้วยพระคุณของพระองค์ ข้าพเจ้าต้องกล่าวถึงการกระทำอันทรงพลังและเป็นสัญลักษณ์ของผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์หญิงที่ยืนหยัดมั่นคงต่อหน้าความเย่อหยิ่งของศัตรูด้วย การตักบีร (พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่) ของเธอและการแสดง ความเข้มแข็งของประชาชนต่อทั้งโลกเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และมีค่าอย่างยิ่ง หัวข้อที่สองคือเหตุการณ์วันนี้ การโจมตีประเทศของเราอย่างโง่เขลาและร้ายกาจโดยกลุ่มไซออนิสต์ เกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังเจรจาทางอ้อมผ่านคนกลางกับฝ่ายอเมริกา ไม่มีอะไรจากอิหร่านที่บ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวทางทหารที่ก้าวร้าวหรือยั่วยุ แน่นอนว่าตั้งแต่แรก คาดว่าสหรัฐฯ มีส่วนรู้เห็นในการกระทำอันชั่วร้ายของกลุ่มไซออนิสต์ แต่ด้วยแถลงการณ์ครั้งแรกที่ออกมา ความคาดหวังนี้ก็ยิ่งได้รับการยืนยันมากขึ้นทุกวัน ประชาชนอิหร่านยืนหยัดต่อต้านสงครามที่ถูกบังคับ เช่นเดียวกับที่พวกเขายืนหยัดต่อต้านสันติภาพที่ถูกบังคับ ประชาชนอิหร่านไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งของใคร ฉันคาดหวังว่าปัญญาชน นักเขียน และบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะผู้ที่มีผู้ชมทั่วโลก จะชี้แจงและอธิบายความจริงเหล่านี้ พวกเขาต้องไม่อนุญาตให้ศัตรูบิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านการโฆษณาชวนเชื่อที่หลอกลวง ศัตรูไซออนิสต์ได้กระทำความผิดพลาดร้ายแรงและอาชญากรรมร้ายแรง และจะต้องถูกลงโทษ—และกำลังถูกลงโทษ ถูกลงโทษ การลงโทษที่ประชาชนอิหร่านและกองกำลังติดอาวุธของเราได้รับ การลงโทษที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และการลงโทษที่เตรียมไว้สำหรับอนาคต ถือเป็นการลงโทษที่รุนแรงซึ่งทำให้อิหร่านอ่อนแอลงแล้ว แม้แต่การแทรกแซงและถ้อยแถลงของพันธมิตรอเมริกันก็เป็นสัญญาณของความอ่อนแอและไร้ความสามารถ ประการสุดท้ายคือ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกคำขู่ เขาขู่เรา และในเวลาเดียวกัน—อย่างน่าขันและไร้ยางอาย—เรียกร้องให้ประชาชนอิหร่านยอมจำนนต่อเขา พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างแท้จริง ประการแรก คำขู่มีผลเฉพาะกับผู้ที่กลัวเท่านั้น ประชาชนอิหร่านได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่หวั่นไหวเมื่อเผชิญกับคำขู่ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า: “อย่าทำให้อ่อนแอหรือเสียใจ เพราะเจ้าจะได้เปรียบหากเจ้าเป็นผู้ศรัทธา” (อัลกุรอาน 3:139) การคุกคามไม่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมหรือความคิดของชาวอิหร่าน ประการที่สอง การบอกให้ชาวอิหร่านมาและยอมจำนน นี่ไม่ใช่คำพูดที่มีเหตุผล ผู้ที่รู้จักอิหร่าน รู้จักชาวอิหร่านและประวัติศาสตร์ของอิหร่าน จะไม่มีวันพูดคำดังกล่าว ยอมจำนนต่ออะไร? ชาวอิหร่านไม่ต้องยอมจำนน เราไม่ได้โจมตีใคร และภายใต้สถานการณ์ใดๆ เราจะไม่ยอมรับการรุกรานจากใคร และเราจะไม่ยอมจำนนต่อมัน นี่คือเหตุผลและจิตวิญญาณของชาติอิหร่าน แน่นอนว่าชาวอเมริกันที่คุ้นเคยกับการเมืองในภูมิภาคนี้รู้ดีว่าการที่สหรัฐฯ เข้าร่วมในความขัดแย้งครั้งนี้จะส่งผลเสียต่อพวกเขาเองโดยสิ้นเชิง ความสูญเสียที่พวกเขาจะต้องเผชิญจะมากกว่าที่อิหร่านจะทนได้ หากอเมริกาเข้าสู่สนามรบนี้ด้วยกำลังทหาร พวกเขาจะต้องสูญเสียอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ ฉันขอให้คนที่รักของเราจำโองการอันสูงส่งนี้ไว้เสมอ: “ชัยชนะมาจาก “อัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ” (อัลกุรอาน 3:126) ขอบคุณพระเจ้า ชีวิตยังคงดำเนินไปตามปกติ อย่าให้ศัตรูรู้สึกถึงความกลัวหรือความอ่อนแอจากคุณ”
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 455 Views 16 0 Reviews
  • Intel เตรียมเปิดตัว Nova Lake-S รุ่นถัดไปของซีพียูฝั่งเดสก์ท็อปใน ครึ่งหลังของปี 2026 ที่มาพร้อมแนวคิดใหม่ทั้งด้าน “สถาปัตยกรรม” และ “ขุมพลัง” ตัวท็อป Core Ultra 9 385K จะมีถึง 52 คอร์! โดยแบ่งเป็น 16 คอร์แรงจัด (P-core), 32 คอร์ประหยัด (E-core) และ 4 คอร์พลังต่ำพิเศษ (LPE-core) เรียกว่าเป็นการกระโดดจากรุ่นปัจจุบันที่มีสูงสุดแค่ 24 คอร์ แบบไม่เห็นฝุ่น

    แต่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการเปลี่ยนผ่านไปสู่ “ระบบแยกแผ่น (tile-based)” ซึ่งแต่ละกลุ่มคอร์จะถูกวางอยู่บนไดแยกกัน คล้ายกับแนวคิดของชิป Apple M-Series หรือ AMD 3D V-Cache เพื่อให้บริหารพลังงานและประสิทธิภาพได้แบบละเอียดสุด ๆ

    Intel ยังใส่ใจสายกราฟิกด้วยการแยกส่วน iGPU ออกเป็นสองกลุ่มชัดเจน: Xe3 “Celestial” สำหรับเรนเดอร์ และ Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอ/จอภาพ — ลดภาระเครื่องและเพิ่มเฟรมเรตสำหรับทั้งงานสร้างสรรค์และเกม

    Nova Lake-S ยังมาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่หมด ตั้งแต่ LGA 1854 Socket, แรม DDR5 8000+ MT/s, ไปจนถึง 48 เลน PCIe และระบบ USB/SATA แบบขยายเต็มพิกัด

    Nova Lake-S จะเป็นซีรีส์เดสก์ท็อปใหม่ของ Intel ที่เปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่  
    • เริ่มวางจำหน่ายครึ่งหลังปี 2026  
    • ใช้ดีไซน์แบบ tile-based คล้ายกับชิปยุคใหม่ เช่น Meteor Lake

    Core Ultra 9 385K: มีสูงสุดถึง 52 คอร์!  
    • แบ่งเป็น: 16 P-core + 32 E-core + 4 LPE-core  
    • เปรียบเทียบแล้วมากกว่ารุ่นก่อน (24 คอร์) เกินเท่าตัว

    ซีรีส์อื่นก็แรงไม่แพ้กัน  
    • Core Ultra 7: 42 คอร์  
    • Core Ultra 5: มีตั้งแต่ 18 ถึง 28 คอร์  
    • Core Ultra 3: รุ่นเล็กสุดยังมีถึง 16 คอร์ (พร้อม LPE-core)

    แรมและสถาปัตยกรรมใหม่  
    • รองรับ DDR5 สูงสุด 8000 MT/s และอาจไปถึง 10,000+ MT/s  
    • ใช้ Socket ใหม่ LGA 1854 และชิปเซต 900 ซีรีส์

    ระบบกราฟิกในตัวแบบไฮบริด แยกเรนเดอร์/วิดีโอ  
    • Xe3 “Celestial” สำหรับเกมและกราฟิก  
    • Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอและจอภาพ

    เป้าหมาย: สู้กับ AMD Zen 6 แบบจัง ๆ  
    • Intel มุ่งหวังทวงบัลลังก์ซีพียูเดสก์ท็อปคืนจากคู่แข่ง

    ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่เพื่อใช้ Nova Lake-S  
    • ใช้ LGA 1854 socket และชิปเซตรุ่นใหม่ทั้งหมด  
    • ไม่สามารถใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดปัจจุบัน

    ยังไม่มีการทดสอบจริง — ตัวเลขทั้งหมดมาจาก “ข่าวหลุด”  
    • ต้องรอ benchmark และประสิทธิภาพจริงจากผู้ผลิตหรือผู้ใช้งาน

    จำนวนคอร์ที่มากขึ้นอาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป  
    • ถ้าซอฟต์แวร์ไม่ปรับให้รองรับการทำงานแบบ multi-thread อาจไม่ใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่า

    TDP ระดับ 150W บ่งชี้ว่าอาจต้องระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น  
    • โดยเฉพาะรุ่น Core Ultra 9 / 7 ที่มีคอร์จำนวนมาก

    https://www.techspot.com/news/108337-intel-nova-lake-s-cpus-bring-massive-architectural.html
    Intel เตรียมเปิดตัว Nova Lake-S รุ่นถัดไปของซีพียูฝั่งเดสก์ท็อปใน ครึ่งหลังของปี 2026 ที่มาพร้อมแนวคิดใหม่ทั้งด้าน “สถาปัตยกรรม” และ “ขุมพลัง” ตัวท็อป Core Ultra 9 385K จะมีถึง 52 คอร์! โดยแบ่งเป็น 16 คอร์แรงจัด (P-core), 32 คอร์ประหยัด (E-core) และ 4 คอร์พลังต่ำพิเศษ (LPE-core) เรียกว่าเป็นการกระโดดจากรุ่นปัจจุบันที่มีสูงสุดแค่ 24 คอร์ แบบไม่เห็นฝุ่น แต่ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการเปลี่ยนผ่านไปสู่ “ระบบแยกแผ่น (tile-based)” ซึ่งแต่ละกลุ่มคอร์จะถูกวางอยู่บนไดแยกกัน คล้ายกับแนวคิดของชิป Apple M-Series หรือ AMD 3D V-Cache เพื่อให้บริหารพลังงานและประสิทธิภาพได้แบบละเอียดสุด ๆ Intel ยังใส่ใจสายกราฟิกด้วยการแยกส่วน iGPU ออกเป็นสองกลุ่มชัดเจน: Xe3 “Celestial” สำหรับเรนเดอร์ และ Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอ/จอภาพ — ลดภาระเครื่องและเพิ่มเฟรมเรตสำหรับทั้งงานสร้างสรรค์และเกม Nova Lake-S ยังมาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่หมด ตั้งแต่ LGA 1854 Socket, แรม DDR5 8000+ MT/s, ไปจนถึง 48 เลน PCIe และระบบ USB/SATA แบบขยายเต็มพิกัด ✅ Nova Lake-S จะเป็นซีรีส์เดสก์ท็อปใหม่ของ Intel ที่เปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่   • เริ่มวางจำหน่ายครึ่งหลังปี 2026   • ใช้ดีไซน์แบบ tile-based คล้ายกับชิปยุคใหม่ เช่น Meteor Lake ✅ Core Ultra 9 385K: มีสูงสุดถึง 52 คอร์!   • แบ่งเป็น: 16 P-core + 32 E-core + 4 LPE-core   • เปรียบเทียบแล้วมากกว่ารุ่นก่อน (24 คอร์) เกินเท่าตัว ✅ ซีรีส์อื่นก็แรงไม่แพ้กัน   • Core Ultra 7: 42 คอร์   • Core Ultra 5: มีตั้งแต่ 18 ถึง 28 คอร์   • Core Ultra 3: รุ่นเล็กสุดยังมีถึง 16 คอร์ (พร้อม LPE-core) ✅ แรมและสถาปัตยกรรมใหม่   • รองรับ DDR5 สูงสุด 8000 MT/s และอาจไปถึง 10,000+ MT/s   • ใช้ Socket ใหม่ LGA 1854 และชิปเซต 900 ซีรีส์ ✅ ระบบกราฟิกในตัวแบบไฮบริด แยกเรนเดอร์/วิดีโอ   • Xe3 “Celestial” สำหรับเกมและกราฟิก   • Xe4 “Druid” สำหรับวิดีโอและจอภาพ ✅ เป้าหมาย: สู้กับ AMD Zen 6 แบบจัง ๆ   • Intel มุ่งหวังทวงบัลลังก์ซีพียูเดสก์ท็อปคืนจากคู่แข่ง ‼️ ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่เพื่อใช้ Nova Lake-S   • ใช้ LGA 1854 socket และชิปเซตรุ่นใหม่ทั้งหมด   • ไม่สามารถใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดปัจจุบัน ‼️ ยังไม่มีการทดสอบจริง — ตัวเลขทั้งหมดมาจาก “ข่าวหลุด”   • ต้องรอ benchmark และประสิทธิภาพจริงจากผู้ผลิตหรือผู้ใช้งาน ‼️ จำนวนคอร์ที่มากขึ้นอาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป   • ถ้าซอฟต์แวร์ไม่ปรับให้รองรับการทำงานแบบ multi-thread อาจไม่ใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่า ‼️ TDP ระดับ 150W บ่งชี้ว่าอาจต้องระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น   • โดยเฉพาะรุ่น Core Ultra 9 / 7 ที่มีคอร์จำนวนมาก https://www.techspot.com/news/108337-intel-nova-lake-s-cpus-bring-massive-architectural.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel's Nova Lake-S CPUs to bring massive architectural overhaul, up to 52 cores
    The flagship Core Ultra 9 385K model could feature a staggering 52 cores, comprising 16 high-performance P-cores, 32 efficiency-focused E-cores, and four 4 low-power LPE-cores – making...
    0 Comments 0 Shares 315 Views 0 Reviews
  • "มันเป็นแผนการที่ถูกกำหนดมาตลอดจากความร่วมมือของสหรัฐและอิสราเอล"

    อิสราเอลคือตัวแทนสหรัฐที่มีหน้าที่ทำงาน "สกปรก" ข้ามเส้นแดงด้านมนุษยธรรมให้สหรัฐ ประเทศที่มีหน้าที่แสร้งทำตัวเป็นฝ่ายคนดีมีคุณธรรม สหรัฐจึงมีหน้าที่ต้องปกป้องอิสราเอลมาตลอดหลายสิบปี (ซุ้มมือปืนที่มีนายเป็นนักการเมืองอิทธิพลสูงคอยคุ้มกะลาหัว)

    ย้อนดูคำสัมภาษณ์ของ เวสลีย์ คลาร์ก เมื่อปี 2003:

    "เราวางแผนจะบุกเจ็ดประเทศ"
    จากเหตุการณ์ในอิหร่านขณะนี้ โดยมีตัวเริ่มต้นคือ "อิสราเอล" ที่เป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อน เพียงแค่อ้องว่าอิสราเอล "กำลังจะ" มีนิวเคลียร์และ "อาจจะ" เป็นภัยกับตนเอง

    ย้อนไปฟังคำพูดของ นายพลเวสลีย์ คลาร์ก (Wesley Clark) อดีตผู้บัญชาการกองกำลังพันธมิตรในสงครามโคโซโวระหว่างดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตรยุโรปของนาโต้ระหว่างปี 2540 ถึง 2543

    เขากล่าวว่า หลังเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐมุ่งหมายที่จะ 
    "กำจัด 7 ประเทศภายใน 5 ปี ได้แก่
    -อิรัก
    -ซีเรีย
    -เลบานอน
    -ลิเบีย
    -โซมาเลีย
    -ซูดาน
    -และปิดท้ายด้วยอิหร่าน"

    แม้ว่าระยะเวลาไม่ได้จบลงภายใน 5 ปี ตามกำหนด แต่เส้นทางการทำลายประเทศเหล่านั้นตามรายชื่อที่ระบุ ยังคงดำเนินต่อมา


    .
    https://www.aljazeera.com/news/2003/9/22/us-plans-to-attack-seven-muslim-states

    .

    https://www.chinadaily.com.cn/a/202109/24/WS614d2604a310cdd39bc6b2f4.html


    "มันเป็นแผนการที่ถูกกำหนดมาตลอดจากความร่วมมือของสหรัฐและอิสราเอล" อิสราเอลคือตัวแทนสหรัฐที่มีหน้าที่ทำงาน "สกปรก" ข้ามเส้นแดงด้านมนุษยธรรมให้สหรัฐ ประเทศที่มีหน้าที่แสร้งทำตัวเป็นฝ่ายคนดีมีคุณธรรม สหรัฐจึงมีหน้าที่ต้องปกป้องอิสราเอลมาตลอดหลายสิบปี (ซุ้มมือปืนที่มีนายเป็นนักการเมืองอิทธิพลสูงคอยคุ้มกะลาหัว) ย้อนดูคำสัมภาษณ์ของ เวสลีย์ คลาร์ก เมื่อปี 2003: "เราวางแผนจะบุกเจ็ดประเทศ" จากเหตุการณ์ในอิหร่านขณะนี้ โดยมีตัวเริ่มต้นคือ "อิสราเอล" ที่เป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อน เพียงแค่อ้องว่าอิสราเอล "กำลังจะ" มีนิวเคลียร์และ "อาจจะ" เป็นภัยกับตนเอง 👉ย้อนไปฟังคำพูดของ นายพลเวสลีย์ คลาร์ก (Wesley Clark) อดีตผู้บัญชาการกองกำลังพันธมิตรในสงครามโคโซโวระหว่างดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตรยุโรปของนาโต้ระหว่างปี 2540 ถึง 2543 👉เขากล่าวว่า หลังเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐมุ่งหมายที่จะ  "กำจัด 7 ประเทศภายใน 5 ปี ได้แก่ -อิรัก -ซีเรีย -เลบานอน -ลิเบีย -โซมาเลีย -ซูดาน -และปิดท้ายด้วยอิหร่าน" 👉แม้ว่าระยะเวลาไม่ได้จบลงภายใน 5 ปี ตามกำหนด แต่เส้นทางการทำลายประเทศเหล่านั้นตามรายชื่อที่ระบุ ยังคงดำเนินต่อมา . https://www.aljazeera.com/news/2003/9/22/us-plans-to-attack-seven-muslim-states . https://www.chinadaily.com.cn/a/202109/24/WS614d2604a310cdd39bc6b2f4.html
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 427 Views 0 Reviews
  • ..เปลี่ยนรัฐบาลเถอะ,ไร้น้ำยาพอแล้ว,เด็ดขาดเหี้ยอะไรก็ไม่ทำ,ปิดด่านคือปิดด่าน ห้ามการเข้าออก เสือกผีบ้าอะไร เข้าออกปกติตอรกลางวันเหมือนเดิม ปาหี่ละครลิงโชว์ ทหารไทยเราก็พอเถอะอย่าไปร่วมเล่นกับเหี้ยรัฐบาลเครือญาติแต่งงานกับฮุนเซนด้วยเลย,ปิดด่าน ตัดน้ำมันตัดอาหาร ตัดเครื่องใช้ตัดเสบียงมันทั้งหมดสิ เหี้ยทำห่าอะไรแบบนีั,ตัดเน็ตตัดคลื่นความถี่ใช้เครื่องตัดสัญญาณทุกๆความถี่ของทหารด้วย อย่าให้ความถี่คลื่อมือถือสัญญาณวิทยุใดเข้ามาในไทยได้,มันอ้างตัดเน็ตมัน แล้วไทยเสือกอ้างว่าเขมรตัดเน็ตแล้ว ไทยไม่จำเป็นต้องตัดเน็ตเขมรอย่างเป็นทางการพะนะ อาจมามุกช่วยเหลือทางอ้อมแบบนีัอีก,ไทยจึงต้องทำเป็นหนังสือประกาศเป็นทางการว่าตัดเน็ตเขมรและหน้างานทำจริงด้วย เพราะมันอาจมาใช้ของเราลับหลังนั้นล่ะ ทำทีอ้างตัดเน็ตตนบังหน้าเพื่อยังคงจะได้ใช้เน็ตไทยที่ไม่ตัดเน็ตเขมรส่งมาเขมรนั้นล่ะ,
    ..ปิดด่านคือเปิดด่าน อาจเปิดแค่11:00-13:00น.พอ,และปิดถาวรเลย อย่ามาเหี้ยส่งท่อน้ำเลี้ยงห่าเหวปกติแบบนี้,กลยุทธผีบ้าจัดการภัยคุกคามกับศัตรูรุกรานเด็ดขาดห่าอะไรแบบนี้,ถ้าเทียบสงครามสนามรบสมัยอยุธยา ไทยมิส่งเสบียงให้ข้าศึกพม่าสบายๆเลี้ยงทหารพม่าให้มีเรี่ยวแรงแล้วมาทำสงครามกับไทยจนชนะเหรอ,ตรรกะปิดด่านผีบ้า เด็กๆปัญญาอ่อนก็ดูออกว่า ทำเล่นขายของ,แอ็คชั่นแสดงหลอกคนไทยไปวันๆเอง.งี่เหง้าเลอะเทอะ ปิดด่านคือปิดเส้นทางเสบียงข้าศึกภัยรุกรานชาติตน,ชาติมันจะเป็นอะไรสนใจทำพ่อทำแม่มันทำไมเมื่อรุกรานอธิปไตยภัยความมั่นคงเรา.
    https://youtu.be/ANeE2ZbTDiU?si=MWozmVGAO_iXeZm5
    ..เปลี่ยนรัฐบาลเถอะ,ไร้น้ำยาพอแล้ว,เด็ดขาดเหี้ยอะไรก็ไม่ทำ,ปิดด่านคือปิดด่าน ห้ามการเข้าออก เสือกผีบ้าอะไร เข้าออกปกติตอรกลางวันเหมือนเดิม ปาหี่ละครลิงโชว์ ทหารไทยเราก็พอเถอะอย่าไปร่วมเล่นกับเหี้ยรัฐบาลเครือญาติแต่งงานกับฮุนเซนด้วยเลย,ปิดด่าน ตัดน้ำมันตัดอาหาร ตัดเครื่องใช้ตัดเสบียงมันทั้งหมดสิ เหี้ยทำห่าอะไรแบบนีั,ตัดเน็ตตัดคลื่นความถี่ใช้เครื่องตัดสัญญาณทุกๆความถี่ของทหารด้วย อย่าให้ความถี่คลื่อมือถือสัญญาณวิทยุใดเข้ามาในไทยได้,มันอ้างตัดเน็ตมัน แล้วไทยเสือกอ้างว่าเขมรตัดเน็ตแล้ว ไทยไม่จำเป็นต้องตัดเน็ตเขมรอย่างเป็นทางการพะนะ อาจมามุกช่วยเหลือทางอ้อมแบบนีัอีก,ไทยจึงต้องทำเป็นหนังสือประกาศเป็นทางการว่าตัดเน็ตเขมรและหน้างานทำจริงด้วย เพราะมันอาจมาใช้ของเราลับหลังนั้นล่ะ ทำทีอ้างตัดเน็ตตนบังหน้าเพื่อยังคงจะได้ใช้เน็ตไทยที่ไม่ตัดเน็ตเขมรส่งมาเขมรนั้นล่ะ, ..ปิดด่านคือเปิดด่าน อาจเปิดแค่11:00-13:00น.พอ,และปิดถาวรเลย อย่ามาเหี้ยส่งท่อน้ำเลี้ยงห่าเหวปกติแบบนี้,กลยุทธผีบ้าจัดการภัยคุกคามกับศัตรูรุกรานเด็ดขาดห่าอะไรแบบนี้,ถ้าเทียบสงครามสนามรบสมัยอยุธยา ไทยมิส่งเสบียงให้ข้าศึกพม่าสบายๆเลี้ยงทหารพม่าให้มีเรี่ยวแรงแล้วมาทำสงครามกับไทยจนชนะเหรอ,ตรรกะปิดด่านผีบ้า เด็กๆปัญญาอ่อนก็ดูออกว่า ทำเล่นขายของ,แอ็คชั่นแสดงหลอกคนไทยไปวันๆเอง.งี่เหง้าเลอะเทอะ ปิดด่านคือปิดเส้นทางเสบียงข้าศึกภัยรุกรานชาติตน,ชาติมันจะเป็นอะไรสนใจทำพ่อทำแม่มันทำไมเมื่อรุกรานอธิปไตยภัยความมั่นคงเรา. https://youtu.be/ANeE2ZbTDiU?si=MWozmVGAO_iXeZm5
    0 Comments 0 Shares 238 Views 0 Reviews
  • สติก่อนคำ! หรือปากก่อนใจ?
    หลายคนมี “อาการปากไว ใจช้า”
    ยังไม่ทันตั้งสติ… ปากก็ไปก่อนแล้ว!
    และที่ร้ายกว่านั้น
    คือพอหลุดคำแรงๆ ออกไปแล้ว
    กลับ “ต้องยิงต่อให้จบ!”
    เหมือนง้างนกแล้ว ก็ต้องลั่นไก

    คำเดียว...พังทั้งสัมพันธ์
    คำเดียว...ทำใจอีกฝ่ายล้มทั้งยืน
    คำเดียว...อาจทำลายศรัทธาที่กว่าจะสร้างใช้เวลาหลายปี

    ---

    แต่ธรรมะไม่ทิ้งใครนะครับ
    แม้จะหลุดแล้ว ก็ใช้ “โทสะ” เป็นครูได้
    แค่คุณ “เจริญสติ” อย่างจริงจัง
    ไม่ใช่แค่รู้ว่า “ฉันโกรธ”
    แต่ รู้ลึกลงไปในโครงสร้างของโทสะ

    ลองเช็กตัวเองเวลาเกิดอารมณ์ร้อน
    คุณเห็น 4 ข้อนี้ แค่ไหน?

    ---

    ข้อที่ 1:
    คุณหลุดคำแรงที่สุดออกมาไหม
    ทั้งที่รู้ว่ามันร้ายแรง?
    ถ้ายับยั้งได้ – นั่นคือ “สติขั้นต้น” เกิดแล้ว

    ข้อที่ 2:
    ตอนกำลังโกรธ รู้ไหมว่ากำลังเป็นยักษ์?
    หรือแค่รู้เบลอๆ รู้ไม่ทัน?
    ถ้ารู้ชัดว่ายักษ์มา – นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

    ข้อที่ 3:
    คุณรู้จุดที่ความขัดเคือง “เริ่มเบาลง” ได้ไหม?
    (ฮินต์: ลมหายใจเริ่มเย็นลง รู้สึกหายใจได้ประณีตขึ้น)

    ข้อที่ 4:
    คุณเห็นไหมว่า…
    จิตก่อนโกรธ กับจิตหลังโกรธ มันเป็น “คนละดวงจิต”?
    ถ้าเห็นได้ – แปลว่าคุณกำลังก้าวเข้าสู่ “จิตตานุปัสสนา” แล้ว

    ---

    โทสะไม่ใช่ศัตรู
    ถ้าเรากล้า “อยู่กับมันอย่างรู้เท่าทัน”
    สติจะค่อยๆ แทรกซึม
    จนคุณเห็นว่า…
    “จิตที่เคยเป็นภูเขาไฟพ่นลาวา”
    สงบลงได้… โดยไม่ต้องฝืน

    นั่นแหละ
    ธรรมชาติของการเจริญสติที่แท้จริง
    ไม่ได้อยู่แค่ในถ้ำ หรือบนหมอนรองนั่ง
    แต่อยู่ใน “ตอนปากกับใจแยกกันทำงาน”
    แล้วคุณ...เลือกฝ่ายไหนดี?

    ---

    อย่าลืมทบทวน 4 ข้อนี้
    หลังมีปากเสียงครั้งหน้า...
    คุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

    #เจริญสติในชีวิตจริง
    #โทสะไม่ใช่ศัตรูถ้ารู้ทัน
    #ปากไวใจเร็วต้องฝึกให้ทัน
    #ธรรมะเข้าใจง่าย
    #รู้เท่าทันจิต
    #มองโทสะเป็นครู
    #MindfulConflict
    🧠💥 สติก่อนคำ! หรือปากก่อนใจ? หลายคนมี “อาการปากไว ใจช้า” ยังไม่ทันตั้งสติ… ปากก็ไปก่อนแล้ว! และที่ร้ายกว่านั้น คือพอหลุดคำแรงๆ ออกไปแล้ว กลับ “ต้องยิงต่อให้จบ!” เหมือนง้างนกแล้ว ก็ต้องลั่นไก 😶 คำเดียว...พังทั้งสัมพันธ์ 😮 คำเดียว...ทำใจอีกฝ่ายล้มทั้งยืน 😔 คำเดียว...อาจทำลายศรัทธาที่กว่าจะสร้างใช้เวลาหลายปี --- 📍แต่ธรรมะไม่ทิ้งใครนะครับ แม้จะหลุดแล้ว ก็ใช้ “โทสะ” เป็นครูได้ แค่คุณ “เจริญสติ” อย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่รู้ว่า “ฉันโกรธ” แต่ รู้ลึกลงไปในโครงสร้างของโทสะ ลองเช็กตัวเองเวลาเกิดอารมณ์ร้อน คุณเห็น 4 ข้อนี้ แค่ไหน? 👇 --- ✅ ข้อที่ 1: คุณหลุดคำแรงที่สุดออกมาไหม ทั้งที่รู้ว่ามันร้ายแรง? ถ้ายับยั้งได้ – นั่นคือ “สติขั้นต้น” เกิดแล้ว ✅ ข้อที่ 2: ตอนกำลังโกรธ รู้ไหมว่ากำลังเป็นยักษ์? หรือแค่รู้เบลอๆ รู้ไม่ทัน? ถ้ารู้ชัดว่ายักษ์มา – นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ✅ ข้อที่ 3: คุณรู้จุดที่ความขัดเคือง “เริ่มเบาลง” ได้ไหม? (ฮินต์: ลมหายใจเริ่มเย็นลง รู้สึกหายใจได้ประณีตขึ้น) ✅ ข้อที่ 4: คุณเห็นไหมว่า… จิตก่อนโกรธ กับจิตหลังโกรธ มันเป็น “คนละดวงจิต”? ถ้าเห็นได้ – แปลว่าคุณกำลังก้าวเข้าสู่ “จิตตานุปัสสนา” แล้ว --- 🌿 โทสะไม่ใช่ศัตรู ถ้าเรากล้า “อยู่กับมันอย่างรู้เท่าทัน” สติจะค่อยๆ แทรกซึม จนคุณเห็นว่า… “จิตที่เคยเป็นภูเขาไฟพ่นลาวา” สงบลงได้… โดยไม่ต้องฝืน นั่นแหละ ธรรมชาติของการเจริญสติที่แท้จริง ไม่ได้อยู่แค่ในถ้ำ หรือบนหมอนรองนั่ง แต่อยู่ใน “ตอนปากกับใจแยกกันทำงาน” แล้วคุณ...เลือกฝ่ายไหนดี? --- 📌 อย่าลืมทบทวน 4 ข้อนี้ หลังมีปากเสียงครั้งหน้า... คุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 🙏 #เจริญสติในชีวิตจริง #โทสะไม่ใช่ศัตรูถ้ารู้ทัน #ปากไวใจเร็วต้องฝึกให้ทัน #ธรรมะเข้าใจง่าย #รู้เท่าทันจิต #มองโทสะเป็นครู #MindfulConflict
    0 Comments 0 Shares 427 Views 0 Reviews
  • Shell เปิดตัว DLC Fluid S3: นวัตกรรมใหม่สำหรับการระบายความร้อนในศูนย์ข้อมูล
    Shell ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทน้ำมันและก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดตัว DLC Fluid S3 ซึ่งเป็น สารหล่อเย็นแบบของเหลวโดยตรง ที่ออกแบบมาเพื่อ รองรับความต้องการด้านความร้อนของศูนย์ข้อมูล AI และการประมวลผลประสิทธิภาพสูง

    DLC Fluid S3 เป็น สารหล่อเย็นที่ใช้โพรพิลีนไกลคอล ซึ่งสามารถ ลดอุณหภูมิของเซิร์ฟเวอร์ที่มีความหนาแน่นสูง โดย ส่งความเย็นไปยังส่วนที่สร้างความร้อนโดยตรง เช่น CPU และ GPU

    Shell ระบุว่า ของเหลวนี้สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) ได้ถึง 27% เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ซึ่งช่วย ลดความจำเป็นในการใช้เครื่องปรับอากาศที่ใช้พลังงานสูง

    นอกจากนี้ DLC Fluid S3 ยัง มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และ มีสารป้องกันการกัดกร่อนสำหรับโลหะหลายประเภท รวมถึง มีสารเรืองแสงเพื่อช่วยตรวจจับการรั่วไหลได้ง่ายขึ้น

    ข้อมูลจากข่าว
    - Shell เปิดตัว DLC Fluid S3 ซึ่งเป็นสารหล่อเย็นแบบของเหลวโดยตรงสำหรับศูนย์ข้อมูล AI
    - ใช้โพรพิลีนไกลคอลเพื่อระบายความร้อนให้กับ CPU และ GPU โดยตรง
    - ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) ได้ถึง 27% เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ
    - มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และมีสารป้องกันการกัดกร่อนสำหรับโลหะหลายประเภท
    - มีสารเรืองแสงเพื่อช่วยตรวจจับการรั่วไหลได้ง่ายขึ้น

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะช่วยลดการใช้พลังงาน แต่ต้องติดตามว่าการนำไปใช้จริงจะมีผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลหรือไม่
    - ต้องตรวจสอบว่าของเหลวนี้สามารถทำงานร่วมกับระบบระบายความร้อนที่มีอยู่เดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
    - การเปลี่ยนจากระบบระบายความร้อนด้วยอากาศไปเป็นของเหลวอาจต้องใช้ต้นทุนสูงในช่วงแรก
    - ต้องติดตามว่าผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลรายใหญ่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในวงกว้างหรือไม่

    DLC Fluid S3 อาจช่วยให้ ศูนย์ข้อมูลสามารถจัดการกับความร้อนที่เพิ่มขึ้นจากการประมวลผล AI ได้ดีขึ้น และ ลดการใช้พลังงานโดยรวม อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลในระยะยาวอย่างไร

    https://www.techradar.com/pro/one-of-worlds-largest-oil-companies-just-launched-a-unique-cooling-fluid-for-data-centers-and-ai-chips-and-i-cant-believe-who-it-is
    ❄️ Shell เปิดตัว DLC Fluid S3: นวัตกรรมใหม่สำหรับการระบายความร้อนในศูนย์ข้อมูล Shell ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทน้ำมันและก๊าซที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดตัว DLC Fluid S3 ซึ่งเป็น สารหล่อเย็นแบบของเหลวโดยตรง ที่ออกแบบมาเพื่อ รองรับความต้องการด้านความร้อนของศูนย์ข้อมูล AI และการประมวลผลประสิทธิภาพสูง DLC Fluid S3 เป็น สารหล่อเย็นที่ใช้โพรพิลีนไกลคอล ซึ่งสามารถ ลดอุณหภูมิของเซิร์ฟเวอร์ที่มีความหนาแน่นสูง โดย ส่งความเย็นไปยังส่วนที่สร้างความร้อนโดยตรง เช่น CPU และ GPU Shell ระบุว่า ของเหลวนี้สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) ได้ถึง 27% เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ซึ่งช่วย ลดความจำเป็นในการใช้เครื่องปรับอากาศที่ใช้พลังงานสูง นอกจากนี้ DLC Fluid S3 ยัง มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และ มีสารป้องกันการกัดกร่อนสำหรับโลหะหลายประเภท รวมถึง มีสารเรืองแสงเพื่อช่วยตรวจจับการรั่วไหลได้ง่ายขึ้น ✅ ข้อมูลจากข่าว - Shell เปิดตัว DLC Fluid S3 ซึ่งเป็นสารหล่อเย็นแบบของเหลวโดยตรงสำหรับศูนย์ข้อมูล AI - ใช้โพรพิลีนไกลคอลเพื่อระบายความร้อนให้กับ CPU และ GPU โดยตรง - ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (PUE) ได้ถึง 27% เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ - มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น และมีสารป้องกันการกัดกร่อนสำหรับโลหะหลายประเภท - มีสารเรืองแสงเพื่อช่วยตรวจจับการรั่วไหลได้ง่ายขึ้น ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะช่วยลดการใช้พลังงาน แต่ต้องติดตามว่าการนำไปใช้จริงจะมีผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลหรือไม่ - ต้องตรวจสอบว่าของเหลวนี้สามารถทำงานร่วมกับระบบระบายความร้อนที่มีอยู่เดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ - การเปลี่ยนจากระบบระบายความร้อนด้วยอากาศไปเป็นของเหลวอาจต้องใช้ต้นทุนสูงในช่วงแรก - ต้องติดตามว่าผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลรายใหญ่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในวงกว้างหรือไม่ DLC Fluid S3 อาจช่วยให้ ศูนย์ข้อมูลสามารถจัดการกับความร้อนที่เพิ่มขึ้นจากการประมวลผล AI ได้ดีขึ้น และ ลดการใช้พลังงานโดยรวม อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูลในระยะยาวอย่างไร https://www.techradar.com/pro/one-of-worlds-largest-oil-companies-just-launched-a-unique-cooling-fluid-for-data-centers-and-ai-chips-and-i-cant-believe-who-it-is
    0 Comments 0 Shares 212 Views 0 Reviews
More Results