• ## รัสเซีย ช่วย เขมร บินโดรน โจมตี ทหารไทย...??? ##
    ..
    ..
    สำหรับใครที่ยังเข้าใจผิดแบบนี้อยู่ อยากให้ลองอ่านดูครับ
    .
    1.เริ่มที่ ข้อสังเกตเกี่ยวกับยุทธวิธีการบิน โดรนพลีชีพ หรือ FPV Kamikaze Drone ที่ กองทัพภาคที่ 2 และ นักวิเคราะห์รายอื่นๆ ระบุบว่าเป็น สิ่งที่จะพบได้ในสงคราม รัสเซีย-ยูเครน เนื่องจาก
    .
    1.1 การใช้โดรน FPV พลีชีพ (FPV Kamikaze Drone)
    โดรน FPV ชนิดนี้พบได้ใน สงครามยูเครน-รัสเซีย และ มีลักษณะทางโครงสร้างและอุปกรณ์ที่ใกล้เคียงกันอย่างชัดเจน เช่น เฟรมคาร์บอนไฟเบอร์, แบตเตอรี่ LiPo และรูปแบบการติดตั้งหัวรบ
    .
    1.2 ความคล้ายคลึงทางยุทธวิธีและผู้ควบคุม
    ด้านความคล้ายคลึงทางยุทธวิธีและผู้ควบคุม กองทัพไทยตั้งข้อสังเกตว่า ความแม่นยำ ในการโจมตี และ พฤติกรรมการบิน สะท้อนว่าผู้ควบคุมโดรนมีประสบการณ์สูงและอาจไม่ใช่กำลังพลกัมพูชาที่เพิ่งฝึกใช้โดรนเป็นครั้งแรก

    1.3 การใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์
    ยุทธวิธีรวมถึงการเลือกใช้พื้นที่สูง เช่น เนิน 745 ในการปล่อยโดรน เพื่อให้ได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ และใช้หุบเขาและป่าทึบในการอำพรางสายไฟเบอร์ออปติกเพื่อควบคุมโดรน ทำให้ฝ่ายไทยตรวจจับได้ยาก ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่นักวิเคราะห์ชี้ว่ามีประสิทธิภาพสูงในสงครามสมัยใหม่ (ไม่ใช่สิ่งที่ ทหารเขมรจะทำได้ด้วยตนเอง)
    ....
    ....
    และที่สำคัญ มีการตรวจพบหลักฐานว่า มีสัญญาณวิทยุทางทหารโหมด CRL และ มีคำสั่งเป็น ภาษาอังกฤษ ลงท้ายประโยคว่า "Finished" ในการสื่อสาร
    .
    ซึ่งเป็นสำนวนที่พบในการสื่อสารของนักบิน FPV ใน สงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้เชื่อว่าอาจมีบุคคลภายนอกประเทศ หรือ "นักรบรับจ้าง" ที่ผ่านสมรภูมิจริงมาแล้วร่วมมือกับกัมพูชาในการโจมตีทหารไทย
    ....
    ....
    สงครามยูเครน คือ สงครามตัวแทน ระหว่าง 2 ฝั่งคือ อเมริกา NATO และ รัสเซีย
    .
    แล้วใครกันหล่ะที่ใช้ คำสั่งเสียง ภาษาอังกฤษ เช่นคำว่า "finished" ในการสื่อสาร...???
    .
    รัสเซีย...???
    .
    ไม่ใช่ครับ...!!!
    .
    ดังนั้นประเด็นนี้ ข้อมูลมันชี้ไปที่ ทหารรับจ้างในที่มีประสบการณ์ในสงคราม รัสเซีย-ยูเครน จากฝั่ง อเมริกา และ NATO ครับ
    .....
    .....
    2.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร (นักวิชาการด้านความมั่นคง) ได้ชี้ว่าศักยภาพโดรนรบของกัมพูชา "สูงขึ้น" และอาจมี "ทหารรับจ้างอเมริกัน" เข้ามาคุมระบบ เหมือนที่ช่วยเหลือยูเครนรบกับรัสเซีย
    .
    3.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ เขมร-ยูเครน-รัสเซีย
    .
    3.1 สัมพันธ์ เขมร กับ ยูเครน
    .
    มีการนำเข้าผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดจาก เขมร ส่งไปฝึกยัง ยูเครน เพื่อเก็บกู้กับระเบิด และ ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญชาวยูเครน เกี่ยวกับเทคนิคการเก็บกู้ทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด (UXO) โดยเฉพาะการเก็บกู้ระเบิดต่อต้านบุคคล (เช่น PMN2) ซึ่งถูกใช้ในสงครามยูเครน
    .
    เขมร ได้รับการยกย่อง จาก ยูเครน ว่าเป็นความร่วมมือที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อมนุษยธรรม
    .
    3.2 สัมพันธ์ เขมร กับ รัสเซีย
    .
    จะเห็นได้ชัดจาก จุดยืนทางการเมืองระหว่างประเทศใน UN
    .
    เขมร แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการกล่าวหาว่า รัสเซีย ได้ทำการรุกราน ยูเครน ซึ่ง ฮุนเซน เคยออกมาประณามด้วยตนเอง
    .
    และ ฮุนเซน ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2565 ได้พยายามผลักดันให้อาเซียนออกแถลงการณ์ที่แข็งกร้าวและมีเนื้อหาในเชิงคัดค้าน และ ประณามการรุกราน ของ รัสเซีย อย่างชัดเจน
    .
    การโหวตในสมัชชาใหญ่ UN กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่ โหวตเห็นชอบมติของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UN General Assembly) ที่ประณามการรุกรานและเรียกร้องให้ รัสเซีย ถอนกำลังทหารออกจากยูเครน ซึ่งแสดงถึงความสอดคล้องทางการเมืองกับฝ่ายตะวันตกและยูเครน
    ....
    ....
    ดังนั้น...
    .
    ความขัดแย้งทางจุดยืน และ ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ ยูเครน และ การประณาม รัสเซีย อย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มีโอกาส ทำให้โอกาสที่ เขมร จะจ้างกลุ่มทหารรับจ้างที่เป็นพันธมิตรหลักของ รัสเซีย อย่าง "กลุ่มวากเนอร์" จึงเป็นไปได้ยากมาก
    .
    และการที่ รัสเซีย จะปล่อยให้ "กลุ่มวากเนอร์" เข้าไปมีบทบาทในการปะทะระหว่าง เขมร กับ ไทย จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศรัสเซีย และ ประเทศไทย (ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน)
    .
    และมองแล้วเป็นการ "ได้ไม่คุ้มเสีย" สำหรับผลประโยชน์ทางการทูตและเศรษฐกิจของรัสเซียในภูมิภาคนี้ (ที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุณ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ เพิ่งจะได้ไปเจรจาเปิดตลาดการค้ากับ รัสเซีย เพิ่มขึ้น)
    .....
    .....
    ดังนั้น จากข้อเท็จจริงทางการเมืองและความร่วมมือที่ชัดเจนระหว่างกัมพูชาและยูเครน ประกอบกับคำสั่งเสียงภาษาอังกฤษที่ตรวจพบ ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้กับการสันนิษฐานที่ว่า ผู้เชี่ยวชาญหรือนักรบรับจ้างที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการใช้โดรนพลีชีพ หรือ FPV Kamikaze Drone โจมตีทหารฝ่ายไทยนั้น น่าจะมาจากกลุ่มที่เคยปฏิบัติการร่วม หรือ มีความใกล้ชิดกับกองกำลัง ฝ่ายยูเครน เช่น อเมริกา และ NATO มากกว่าฝ่าย รัสเซีย ครับ
    .....
    .....
    https://www.thairath.co.th/news/local/2901381
    ## รัสเซีย ช่วย เขมร บินโดรน โจมตี ทหารไทย...??? ## .. .. สำหรับใครที่ยังเข้าใจผิดแบบนี้อยู่ อยากให้ลองอ่านดูครับ . 1.เริ่มที่ ข้อสังเกตเกี่ยวกับยุทธวิธีการบิน โดรนพลีชีพ หรือ FPV Kamikaze Drone ที่ กองทัพภาคที่ 2 และ นักวิเคราะห์รายอื่นๆ ระบุบว่าเป็น สิ่งที่จะพบได้ในสงคราม รัสเซีย-ยูเครน เนื่องจาก . 1.1 การใช้โดรน FPV พลีชีพ (FPV Kamikaze Drone) โดรน FPV ชนิดนี้พบได้ใน สงครามยูเครน-รัสเซีย และ มีลักษณะทางโครงสร้างและอุปกรณ์ที่ใกล้เคียงกันอย่างชัดเจน เช่น เฟรมคาร์บอนไฟเบอร์, แบตเตอรี่ LiPo และรูปแบบการติดตั้งหัวรบ . 1.2 ความคล้ายคลึงทางยุทธวิธีและผู้ควบคุม ด้านความคล้ายคลึงทางยุทธวิธีและผู้ควบคุม กองทัพไทยตั้งข้อสังเกตว่า ความแม่นยำ ในการโจมตี และ พฤติกรรมการบิน สะท้อนว่าผู้ควบคุมโดรนมีประสบการณ์สูงและอาจไม่ใช่กำลังพลกัมพูชาที่เพิ่งฝึกใช้โดรนเป็นครั้งแรก 1.3 การใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์ ยุทธวิธีรวมถึงการเลือกใช้พื้นที่สูง เช่น เนิน 745 ในการปล่อยโดรน เพื่อให้ได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ และใช้หุบเขาและป่าทึบในการอำพรางสายไฟเบอร์ออปติกเพื่อควบคุมโดรน ทำให้ฝ่ายไทยตรวจจับได้ยาก ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่นักวิเคราะห์ชี้ว่ามีประสิทธิภาพสูงในสงครามสมัยใหม่ (ไม่ใช่สิ่งที่ ทหารเขมรจะทำได้ด้วยตนเอง) .... .... และที่สำคัญ มีการตรวจพบหลักฐานว่า มีสัญญาณวิทยุทางทหารโหมด CRL และ มีคำสั่งเป็น ภาษาอังกฤษ ลงท้ายประโยคว่า "Finished" ในการสื่อสาร . ซึ่งเป็นสำนวนที่พบในการสื่อสารของนักบิน FPV ใน สงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้เชื่อว่าอาจมีบุคคลภายนอกประเทศ หรือ "นักรบรับจ้าง" ที่ผ่านสมรภูมิจริงมาแล้วร่วมมือกับกัมพูชาในการโจมตีทหารไทย .... .... สงครามยูเครน คือ สงครามตัวแทน ระหว่าง 2 ฝั่งคือ อเมริกา NATO และ รัสเซีย . แล้วใครกันหล่ะที่ใช้ คำสั่งเสียง ภาษาอังกฤษ เช่นคำว่า "finished" ในการสื่อสาร...??? . รัสเซีย...??? . ไม่ใช่ครับ...!!! . ดังนั้นประเด็นนี้ ข้อมูลมันชี้ไปที่ ทหารรับจ้างในที่มีประสบการณ์ในสงคราม รัสเซีย-ยูเครน จากฝั่ง อเมริกา และ NATO ครับ ..... ..... 2.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร (นักวิชาการด้านความมั่นคง) ได้ชี้ว่าศักยภาพโดรนรบของกัมพูชา "สูงขึ้น" และอาจมี "ทหารรับจ้างอเมริกัน" เข้ามาคุมระบบ เหมือนที่ช่วยเหลือยูเครนรบกับรัสเซีย . 3.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ เขมร-ยูเครน-รัสเซีย . 3.1 สัมพันธ์ เขมร กับ ยูเครน . มีการนำเข้าผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดจาก เขมร ส่งไปฝึกยัง ยูเครน เพื่อเก็บกู้กับระเบิด และ ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญชาวยูเครน เกี่ยวกับเทคนิคการเก็บกู้ทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด (UXO) โดยเฉพาะการเก็บกู้ระเบิดต่อต้านบุคคล (เช่น PMN2) ซึ่งถูกใช้ในสงครามยูเครน . เขมร ได้รับการยกย่อง จาก ยูเครน ว่าเป็นความร่วมมือที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อมนุษยธรรม . 3.2 สัมพันธ์ เขมร กับ รัสเซีย . จะเห็นได้ชัดจาก จุดยืนทางการเมืองระหว่างประเทศใน UN . เขมร แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการกล่าวหาว่า รัสเซีย ได้ทำการรุกราน ยูเครน ซึ่ง ฮุนเซน เคยออกมาประณามด้วยตนเอง . และ ฮุนเซน ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2565 ได้พยายามผลักดันให้อาเซียนออกแถลงการณ์ที่แข็งกร้าวและมีเนื้อหาในเชิงคัดค้าน และ ประณามการรุกราน ของ รัสเซีย อย่างชัดเจน . การโหวตในสมัชชาใหญ่ UN กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่ โหวตเห็นชอบมติของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UN General Assembly) ที่ประณามการรุกรานและเรียกร้องให้ รัสเซีย ถอนกำลังทหารออกจากยูเครน ซึ่งแสดงถึงความสอดคล้องทางการเมืองกับฝ่ายตะวันตกและยูเครน .... .... ดังนั้น... . ความขัดแย้งทางจุดยืน และ ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ ยูเครน และ การประณาม รัสเซีย อย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มีโอกาส ทำให้โอกาสที่ เขมร จะจ้างกลุ่มทหารรับจ้างที่เป็นพันธมิตรหลักของ รัสเซีย อย่าง "กลุ่มวากเนอร์" จึงเป็นไปได้ยากมาก . และการที่ รัสเซีย จะปล่อยให้ "กลุ่มวากเนอร์" เข้าไปมีบทบาทในการปะทะระหว่าง เขมร กับ ไทย จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศรัสเซีย และ ประเทศไทย (ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน) . และมองแล้วเป็นการ "ได้ไม่คุ้มเสีย" สำหรับผลประโยชน์ทางการทูตและเศรษฐกิจของรัสเซียในภูมิภาคนี้ (ที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุณ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ เพิ่งจะได้ไปเจรจาเปิดตลาดการค้ากับ รัสเซีย เพิ่มขึ้น) ..... ..... ดังนั้น จากข้อเท็จจริงทางการเมืองและความร่วมมือที่ชัดเจนระหว่างกัมพูชาและยูเครน ประกอบกับคำสั่งเสียงภาษาอังกฤษที่ตรวจพบ ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้กับการสันนิษฐานที่ว่า ผู้เชี่ยวชาญหรือนักรบรับจ้างที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการใช้โดรนพลีชีพ หรือ FPV Kamikaze Drone โจมตีทหารฝ่ายไทยนั้น น่าจะมาจากกลุ่มที่เคยปฏิบัติการร่วม หรือ มีความใกล้ชิดกับกองกำลัง ฝ่ายยูเครน เช่น อเมริกา และ NATO มากกว่าฝ่าย รัสเซีย ครับ ..... ..... https://www.thairath.co.th/news/local/2901381
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    เฉลยแล้วทำไมโดรนกัมพูชารุกหนัก 5 วันติด พบเทคนิคเดียวกับสมรภูมิยูเครน–รัสเซีย
    เฉลยแล้วทำไมโดรนกัมพูชารุกหนัก 5 วันติด ใช้เนิน 745, 677 พื้นที่สูง และใช้ระบบไฟเบอร์ออปติก ป้องกันเจมเมอร์ไทย ซากโดรนชี้ร่องรอยต่างชาติคุมโจมตีไทย พบเทคนิคเดียวกับสมรภูมิยูเครน–รัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.44

    อำนาจอธิปไตยของปวงชน: การเลือกตั้งโดยตรงกับที่มาของสมาชิกสภา

    ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับโครงสร้างอำนาจนิติบัญญัติในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาของไทยนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับรู้บทบาทของประชาชนในการปกครองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่เกี่ยวกับที่มาและอำนาจของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วยสองสภาหลัก คือ สภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และวุฒิสภา (ส.ว.) ตามหลักการทางกฎหมายรัฐธรรมนูญและหลักประชาธิปไตยสากล ข้อความที่กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎร และ สภาสูง มีสมาชิกมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนนั้น จำเป็นต้องได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญไทยปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้ว "สภาผู้แทนราษฎร" เป็นองค์กรที่สะท้อนเจตจำนงของประชาชนโดยตรงอย่างไม่มีข้อสงสัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วประเทศมาจากการเลือกตั้งทั่วไปในระบบเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขต และระบบบัญชีรายชื่อแบบสัดส่วนผสม ซึ่งเป็นกลไกที่รับรองหลักการที่ว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน และต้องใช้อำนาจผ่านทางผู้แทนที่ตนเลือกเข้าไปทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ ส.ส. จึงเป็นตัวแทนโดยตรงของประชาชนในการเสนอกฎหมาย ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน และพิจารณาให้ความเห็นชอบในเรื่องสำคัญของประเทศชาติอย่างแท้จริง การเลือกตั้ง ส.ส. โดยตรงจึงเป็นเสาหลักของประชาธิปไตยที่ประชาชนทุกคนมีสิทธิออกเสียงเพื่อกำหนดทิศทางของประเทศ ทว่า ในทางกลับกัน สำหรับ "สภาสูง" หรือ "วุฒิสภา" นั้น บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญของแต่ละประเทศและแต่ละช่วงเวลาในประเทศไทยได้กำหนดที่มาของสมาชิกแตกต่างกันไปตามบริบทและเจตนารมณ์ของการจัดตั้ง วุฒิสภามักถูกออกแบบมาให้เป็นสภาที่ทำหน้าที่กลั่นกรอง ตรวจสอบกฎหมาย ถ่วงดุลอำนาจ และเป็นตัวแทนของกลุ่มวิชาชีพหรือผู้ทรงคุณวุฒิ มากกว่าที่จะเป็นตัวแทนของประชาชนในเชิงพื้นที่หรือจำนวนประชากรโดยตรงเหมือนสภาผู้แทนราษฎร ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่มาของสมาชิกวุฒิสภามีความหลากหลายอย่างยิ่ง บางช่วงมาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารหรือผู้มีอำนาจ บางช่วงมาจากการเลือกตั้งทางอ้อมโดยผู้ทรงคุณวุฒิ หรือการคัดเลือกจากกลุ่มอาชีพ และบางช่วงมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน แต่ตามโครงสร้างปัจจุบันภายใต้รัฐธรรมนูญบางฉบับ ที่มาของ ส.ว. อาจไม่ได้เป็นไปตามหลักการ "เลือกตั้งโดยตรง" จากประชาชนอย่างสมบูรณ์ สมาชิกวุฒิสภาอาจมาจากการคัดเลือกกันเองของกลุ่มบุคคลในสังคมที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย ซึ่งแตกต่างจากการหย่อนบัตรเลือกตั้งแบบที่ประชาชนทั่วไปคุ้นเคย การใช้คำว่า "สภาสูงมีสมาชิกมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน" จึงอาจไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงทางกฎหมายในทุกกรณีเสมอไป และเป็นจุดที่ต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายและอำนาจหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาแต่ละประเภทตามกรอบของกฎหมายรัฐธรรมนูญไทย

    ดังนั้น การแยกแยะความแตกต่างทางกฎหมายระหว่างที่มาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งยึดโยงกับการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนตามหลักการพื้นฐานของระบอบตัวแทน กับที่มาของสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมีรูปแบบที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจการใช้อำนาจอธิปไตยผ่านกลไกรัฐสภา ในแง่ของนิติศาสตร์ การที่ ส.ส. มาจากการเลือกตั้งโดยตรงทำให้พวกเขามีความชอบธรรมทางการเมืองในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างชัดเจนที่สุด ในขณะที่ความชอบธรรมของ ส.ว. มักจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ หรือการเป็นกลไกตรวจสอบถ่วงดุลทางเทคนิคตามที่รัฐธรรมนูญออกแบบไว้ ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแข่งขันทางการเมืองในวงกว้างเหมือนการเลือกตั้ง ส.ส. การตีความบทบัญญัติเรื่องที่มาของสมาชิกรัฐสภาจึงต้องทำอย่างเคร่งครัดตามถ้อยคำของกฎหมายสูงสุดของประเทศ เพื่อให้การทำงานของทั้งสองสภาเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักการทางกฎหมายและธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพและประสิทธิภาพของการใช้อำนาจนิติบัญญัติ

    ในที่สุดแล้ว การทำความเข้าใจอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเด็นที่มาของสมาชิกรัฐสภาทั้งสองสภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เป็นหัวใจสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบประชาธิปไตย ความเข้าใจที่ชัดเจนว่า สภาผู้แทนราษฎรมีที่มาจาก "การเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน" อย่างแน่นอนและเป็นหลักการที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ส่วนที่มาของสภาสูงนั้น ต้องพิจารณาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายสูงสุดในแต่ละห้วงเวลาอย่างละเอียด จะช่วยให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและติดตามการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตระหนักถึงอำนาจและสิทธิของตนในการเลือกผู้แทนเข้าไปใช้อำนาจอธิปไตยแทนตน การรับรู้และแยกแยะความแตกต่างเหล่านี้จะนำไปสู่การเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกฎหมายให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยที่เป็นสากลมากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต หากพบว่าที่มาของสภาสูงไม่เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตยโดยตรง การยึดมั่นในหลักการที่ว่าอำนาจเป็นของปวงชนและต้องใช้อำนาจผ่านผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงอย่างแท้จริงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนการเมืองการปกครองของประเทศ.
    บทความกฎหมาย EP.44 อำนาจอธิปไตยของปวงชน: การเลือกตั้งโดยตรงกับที่มาของสมาชิกสภา ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับโครงสร้างอำนาจนิติบัญญัติในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาของไทยนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการรับรู้บทบาทของประชาชนในการปกครองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่เกี่ยวกับที่มาและอำนาจของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วยสองสภาหลัก คือ สภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และวุฒิสภา (ส.ว.) ตามหลักการทางกฎหมายรัฐธรรมนูญและหลักประชาธิปไตยสากล ข้อความที่กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎร และ สภาสูง มีสมาชิกมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนนั้น จำเป็นต้องได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญไทยปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้ว "สภาผู้แทนราษฎร" เป็นองค์กรที่สะท้อนเจตจำนงของประชาชนโดยตรงอย่างไม่มีข้อสงสัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วประเทศมาจากการเลือกตั้งทั่วไปในระบบเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขต และระบบบัญชีรายชื่อแบบสัดส่วนผสม ซึ่งเป็นกลไกที่รับรองหลักการที่ว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน และต้องใช้อำนาจผ่านทางผู้แทนที่ตนเลือกเข้าไปทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ ส.ส. จึงเป็นตัวแทนโดยตรงของประชาชนในการเสนอกฎหมาย ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน และพิจารณาให้ความเห็นชอบในเรื่องสำคัญของประเทศชาติอย่างแท้จริง การเลือกตั้ง ส.ส. โดยตรงจึงเป็นเสาหลักของประชาธิปไตยที่ประชาชนทุกคนมีสิทธิออกเสียงเพื่อกำหนดทิศทางของประเทศ ทว่า ในทางกลับกัน สำหรับ "สภาสูง" หรือ "วุฒิสภา" นั้น บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญของแต่ละประเทศและแต่ละช่วงเวลาในประเทศไทยได้กำหนดที่มาของสมาชิกแตกต่างกันไปตามบริบทและเจตนารมณ์ของการจัดตั้ง วุฒิสภามักถูกออกแบบมาให้เป็นสภาที่ทำหน้าที่กลั่นกรอง ตรวจสอบกฎหมาย ถ่วงดุลอำนาจ และเป็นตัวแทนของกลุ่มวิชาชีพหรือผู้ทรงคุณวุฒิ มากกว่าที่จะเป็นตัวแทนของประชาชนในเชิงพื้นที่หรือจำนวนประชากรโดยตรงเหมือนสภาผู้แทนราษฎร ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่มาของสมาชิกวุฒิสภามีความหลากหลายอย่างยิ่ง บางช่วงมาจากการแต่งตั้งโดยคณะรัฐประหารหรือผู้มีอำนาจ บางช่วงมาจากการเลือกตั้งทางอ้อมโดยผู้ทรงคุณวุฒิ หรือการคัดเลือกจากกลุ่มอาชีพ และบางช่วงมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน แต่ตามโครงสร้างปัจจุบันภายใต้รัฐธรรมนูญบางฉบับ ที่มาของ ส.ว. อาจไม่ได้เป็นไปตามหลักการ "เลือกตั้งโดยตรง" จากประชาชนอย่างสมบูรณ์ สมาชิกวุฒิสภาอาจมาจากการคัดเลือกกันเองของกลุ่มบุคคลในสังคมที่กำหนดไว้ตามกฎหมาย ซึ่งแตกต่างจากการหย่อนบัตรเลือกตั้งแบบที่ประชาชนทั่วไปคุ้นเคย การใช้คำว่า "สภาสูงมีสมาชิกมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน" จึงอาจไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงทางกฎหมายในทุกกรณีเสมอไป และเป็นจุดที่ต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายและอำนาจหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาแต่ละประเภทตามกรอบของกฎหมายรัฐธรรมนูญไทย ดังนั้น การแยกแยะความแตกต่างทางกฎหมายระหว่างที่มาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งยึดโยงกับการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนตามหลักการพื้นฐานของระบอบตัวแทน กับที่มาของสมาชิกวุฒิสภาซึ่งมีรูปแบบที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจการใช้อำนาจอธิปไตยผ่านกลไกรัฐสภา ในแง่ของนิติศาสตร์ การที่ ส.ส. มาจากการเลือกตั้งโดยตรงทำให้พวกเขามีความชอบธรรมทางการเมืองในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างชัดเจนที่สุด ในขณะที่ความชอบธรรมของ ส.ว. มักจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ หรือการเป็นกลไกตรวจสอบถ่วงดุลทางเทคนิคตามที่รัฐธรรมนูญออกแบบไว้ ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับการแข่งขันทางการเมืองในวงกว้างเหมือนการเลือกตั้ง ส.ส. การตีความบทบัญญัติเรื่องที่มาของสมาชิกรัฐสภาจึงต้องทำอย่างเคร่งครัดตามถ้อยคำของกฎหมายสูงสุดของประเทศ เพื่อให้การทำงานของทั้งสองสภาเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักการทางกฎหมายและธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพและประสิทธิภาพของการใช้อำนาจนิติบัญญัติ ในที่สุดแล้ว การทำความเข้าใจอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเด็นที่มาของสมาชิกรัฐสภาทั้งสองสภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เป็นหัวใจสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบประชาธิปไตย ความเข้าใจที่ชัดเจนว่า สภาผู้แทนราษฎรมีที่มาจาก "การเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน" อย่างแน่นอนและเป็นหลักการที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ส่วนที่มาของสภาสูงนั้น ต้องพิจารณาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายสูงสุดในแต่ละห้วงเวลาอย่างละเอียด จะช่วยให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและติดตามการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตระหนักถึงอำนาจและสิทธิของตนในการเลือกผู้แทนเข้าไปใช้อำนาจอธิปไตยแทนตน การรับรู้และแยกแยะความแตกต่างเหล่านี้จะนำไปสู่การเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกฎหมายให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยที่เป็นสากลมากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต หากพบว่าที่มาของสภาสูงไม่เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตยโดยตรง การยึดมั่นในหลักการที่ว่าอำนาจเป็นของปวงชนและต้องใช้อำนาจผ่านผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงอย่างแท้จริงจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนการเมืองการปกครองของประเทศ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพบกออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชา ละเมิดกฎหมายและหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง 5 ประเด็น ทั้งการใช้โบราณสถานและชุมชนพลเรือนเป็นฐานทหาร การลักลอบใช้ทุ่นระเบิด การโจมตีพลเรือนในพื้นที่ตอนในของไทย และการเผยแพร่ข้อมูลเท็จบิดเบือนข้อเท็จจริงในเวทีโลก
    .
    กองทัพย้ำไทยใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากลอย่างเคร่งครัด พร้อมเรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศร่วมตรวจสอบและประณามการกระทำของกัมพูชา เพื่อคุ้มครองพลเรือนและรักษาเสถียรภาพของภูมิภาค
    .
    อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119698
    .
    #News1live #News1 #กองทัพบก #ชายแดนไทยกัมพูชา #กติกาสากล #อธิปไตยไทย #ข้อมูลเท็จ #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    กองทัพบกออกแถลงการณ์ประณามกัมพูชา ละเมิดกฎหมายและหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง 5 ประเด็น ทั้งการใช้โบราณสถานและชุมชนพลเรือนเป็นฐานทหาร การลักลอบใช้ทุ่นระเบิด การโจมตีพลเรือนในพื้นที่ตอนในของไทย และการเผยแพร่ข้อมูลเท็จบิดเบือนข้อเท็จจริงในเวทีโลก . กองทัพย้ำไทยใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากลอย่างเคร่งครัด พร้อมเรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศร่วมตรวจสอบและประณามการกระทำของกัมพูชา เพื่อคุ้มครองพลเรือนและรักษาเสถียรภาพของภูมิภาค . อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119698 . #News1live #News1 #กองทัพบก #ชายแดนไทยกัมพูชา #กติกาสากล #อธิปไตยไทย #ข้อมูลเท็จ #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • กัมพูชาและไทยเปิดศึกการทูตบนเวทีสหประชาชาติ ต่างยื่นหนังสือกล่าวหาอีกฝ่ายรุกรานข้ามแดน แต่ล่าสุดคำร้องของกัมพูชาที่ขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ประณามไทย ยังไร้การตอบสนอง ขณะที่ฝ่ายไทยย้ำใช้สิทธิการป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล และชี้กัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงต่อประชาคมโลก
    .
    อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119329
    .
    #News1live #News1 #UN #UNSC #ศึกการทูต #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    กัมพูชาและไทยเปิดศึกการทูตบนเวทีสหประชาชาติ ต่างยื่นหนังสือกล่าวหาอีกฝ่ายรุกรานข้ามแดน แต่ล่าสุดคำร้องของกัมพูชาที่ขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ประณามไทย ยังไร้การตอบสนอง ขณะที่ฝ่ายไทยย้ำใช้สิทธิการป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล และชี้กัมพูชาพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงต่อประชาคมโลก . อ่านรายละเอียด >> https://news1live.com/detail/9680000119329 . #News1live #News1 #UN #UNSC #ศึกการทูต #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหตุปะทะไทย-กัมพูชารอบใหม่ ลามถึงการเจรจาภาษีสหรัฐ? ทางการไทย มั่นใจสหรัฐ ไม่ใช้ปมปะทะ มากดดันเรื่องภาษีการค้ากับไทย ย้ำข้อเท็จจริง ไทยถูกกัมพูชา ละเมิดอธิปไตย ซ้ำแล้วซ้ำเล่า /ทีมไทยแลนด์ ส่งหนังสือยืนยันเดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐตามแผนเดิม ควบคู่กับการรักษาอธิปไตยของประเทศ และดูแลความปลอดภัยของประชาชน
    เหตุปะทะไทย-กัมพูชารอบใหม่ ลามถึงการเจรจาภาษีสหรัฐ? ทางการไทย มั่นใจสหรัฐ ไม่ใช้ปมปะทะ มากดดันเรื่องภาษีการค้ากับไทย ย้ำข้อเท็จจริง ไทยถูกกัมพูชา ละเมิดอธิปไตย ซ้ำแล้วซ้ำเล่า /ทีมไทยแลนด์ ส่งหนังสือยืนยันเดินหน้าเจรจาภาษีสหรัฐตามแผนเดิม ควบคู่กับการรักษาอธิปไตยของประเทศ และดูแลความปลอดภัยของประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ดราม่า “กระเป๋าคริปโตลับ” ของเวย์ ไทเทเนียม พลิกแบบหักมุม! วันนี้เจ้าตัวควงภรรยาเข้ากองปราบฯ ปลดล็อก Ledger Nano ต่อหน้า ตร. ผลตรวจชัด—ไม่มีบิตคอยน์ร้อยล้าน มีเพียง Dogecoin–Shiba Inu มูลค่ารวมหลักแสนเท่านั้น
    .
    ทนายสายหยุดยันชัด เวย์ยังเป็นแค่ “พยานด้านเทคนิค” ไม่ใช่ผู้ต้องหา การนำ Ledger มาเปิดต่อหน้า ตร. คือการแสดงความบริสุทธิ์ใจเต็มรูปแบบ
    .
    ดราม่าที่โซเชียลเล่นกันหนักจบแบบเบรกหัวทิ่ม ข้อเท็จจริงโผล่—ไม่มีเงินสีเทา ไม่มีร้อยล้าน มีแต่เหรียญมีม
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000118217
    .
    #News1live #News1 #WayThaitanium #คริปโต #Ledger #Dogecoin #ShibaInu
    ดราม่า “กระเป๋าคริปโตลับ” ของเวย์ ไทเทเนียม พลิกแบบหักมุม! วันนี้เจ้าตัวควงภรรยาเข้ากองปราบฯ ปลดล็อก Ledger Nano ต่อหน้า ตร. ผลตรวจชัด—ไม่มีบิตคอยน์ร้อยล้าน มีเพียง Dogecoin–Shiba Inu มูลค่ารวมหลักแสนเท่านั้น . ทนายสายหยุดยันชัด เวย์ยังเป็นแค่ “พยานด้านเทคนิค” ไม่ใช่ผู้ต้องหา การนำ Ledger มาเปิดต่อหน้า ตร. คือการแสดงความบริสุทธิ์ใจเต็มรูปแบบ . ดราม่าที่โซเชียลเล่นกันหนักจบแบบเบรกหัวทิ่ม ข้อเท็จจริงโผล่—ไม่มีเงินสีเทา ไม่มีร้อยล้าน มีแต่เหรียญมีม . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000118217 . #News1live #News1 #WayThaitanium #คริปโต #Ledger #Dogecoin #ShibaInu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ อนุทิน โต้เดือดฮุน เซน! ย้ำไทยทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน–อธิปไตยชาติ ชัดเจน “หยุดยิงไม่ได้แล้ว” พร้อมหนุนกองทัพทุกมิติ ทั้งยุทธศาสตร์–ทรัพยากร–ความชอบธรรมทางการเมือง
    .
    นายกฯ ระบุไทยชี้แจงข้อเท็จจริงต่อทูตทั่วโลกแล้ว
    ย้ำไม่บิดเบือนข้อมูล พร้อมเดินหน้าตามแผนความมั่นคง
    .
    ส่วนปฏิบัติการแนวชายแดนยังคงเข้มข้น
    ขอกำลังใจให้ทหาร–ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่แนวหน้า
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000118180
    .
    #News1live #News1 #อนุทินชาญวีรกูล #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ฮุนเซน #อธิปไตยไทย #กองทัพไทย
    นายกฯ อนุทิน โต้เดือดฮุน เซน! ย้ำไทยทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน–อธิปไตยชาติ ชัดเจน “หยุดยิงไม่ได้แล้ว” พร้อมหนุนกองทัพทุกมิติ ทั้งยุทธศาสตร์–ทรัพยากร–ความชอบธรรมทางการเมือง . นายกฯ ระบุไทยชี้แจงข้อเท็จจริงต่อทูตทั่วโลกแล้ว ย้ำไม่บิดเบือนข้อมูล พร้อมเดินหน้าตามแผนความมั่นคง . ส่วนปฏิบัติการแนวชายแดนยังคงเข้มข้น ขอกำลังใจให้ทหาร–ตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่แนวหน้า . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000118180 . #News1live #News1 #อนุทินชาญวีรกูล #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความมั่นคง #ฮุนเซน #อธิปไตยไทย #กองทัพไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷

    #รวมข่าวIT #20251209 #securityonline


    ช่องโหว่ Bluetooth เสี่ยงทำรถอัจฉริยะและ Wear OS ค้าง
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่อาจทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ส่งผลให้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์ Wear OS เกิดการค้างหรือหยุดทำงานได้ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามในรหัส CVE-2025-48593 และมีการเผยแพร่ PoC (Proof of Concept) แล้ว ซึ่งหมายความว่ามีตัวอย่างการโจมตีที่สามารถนำไปใช้จริงได้ แม้รายงานฉบับเต็มจะเปิดให้เฉพาะผู้สนับสนุน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความเสี่ยงที่ผู้ใช้รถยนต์และอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะต้องเผชิญ หากไม่ได้รับการอัปเดตแก้ไขอย่างทันท่วงที
    https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool เสี่ยงข้อมูลรั่วและระบบล่ม
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในเครื่องมือ Duc ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ใช้สำหรับตรวจสอบและแสดงผลการใช้งานดิสก์บนระบบ Linux ช่องโหว่นี้คือ CVE-2025-13654 เกิดจาก integer underflow ในฟังก์ชัน buffer_get ที่ทำให้เกิด buffer overflow ได้ หากผู้โจมตีส่งข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจง จะสามารถทำให้โปรแกรมล่ม (DoS) หรือดึงข้อมูลจากหน่วยความจำที่ไม่ควรถูกเข้าถึงได้ ปัญหานี้กระทบต่อทุกเวอร์ชันก่อน 1.4.6 และทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow

    มัลแวร์ SeedSnatcher บน Android ล่าขโมย Seed Phrase ของผู้ใช้คริปโต
    มัลแวร์ใหม่ชื่อว่า “SeedSnatcher” กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ใช้คริปโต โดยมันปลอมตัวเป็นแอปกระเป๋าเงินชื่อ “Coin” และถูกเผยแพร่ผ่าน Telegram และโซเชียลต่าง ๆ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง มัลแวร์จะสร้างหน้าจอหลอกเลียนแบบกระเป๋าเงินยอดนิยม เช่น MetaMask หรือ Trust Wallet เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase จากนั้นมันจะตรวจสอบคำที่กรอกด้วย wordlist ของ BIP 39 เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้อง ก่อนส่งข้อมูลไปยังผู้โจมตี นอกจากนี้ยังสามารถดักจับ SMS, ข้อมูลติดต่อ, บันทึกการโทร และสั่งการเครื่องจากระยะไกลได้ หลักฐานบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้โจมตีมีการจัดการแบบมืออาชีพและมีต้นทางจากจีนหรือผู้พูดภาษาจีน
    https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases

    Meta ปรับปรุงระบบช่วยเหลือด้วย AI Assistant และ Recovery Hub ใหม่
    Meta ยอมรับว่าระบบช่วยเหลือผู้ใช้ Facebook และ Instagram ที่ผ่านมา “ล้มเหลว” จนผู้ใช้จำนวนมากต้องหาทางแก้ไขด้วยตัวเองหรือแม้กระทั่งฟ้องร้อง ล่าสุดบริษัทประกาศเปิดตัว Support Hub ใหม่ที่รวมทุกเครื่องมือช่วยเหลือไว้ในที่เดียว พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ AI Chat ให้ผู้ใช้สอบถามปัญหาได้ทันที อีกทั้งยังมี AI Assistant ที่ช่วยในกระบวนการกู้คืนบัญชี เช่น การตรวจจับอุปกรณ์ที่ใช้บ่อย และการยืนยันตัวตนด้วยวิดีโอเซลฟี่ Meta ระบุว่าการปรับปรุงนี้ทำให้อัตราการกู้คืนบัญชีที่ถูกแฮ็กในสหรัฐฯ และแคนาดาเพิ่มขึ้นกว่า 30% อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้เลย การเข้าถึง Support Hub ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ และการติดต่อเจ้าหน้าที่จริงยังคงต้องพึ่งบริการแบบเสียเงิน
    https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs

    EU ปรับ X €120 ล้าน ฐานละเมิด DSA ด้วยการตรวจสอบ Blue Check ที่หลอกลวง
    สหภาพยุโรปได้สั่งปรับแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เป็นเงิน 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชีด้วย Blue Check ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” ระบบดังกล่าวทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าบัญชีที่จ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายนี้เป็นบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบจริง ทั้งที่ไม่ได้มีการตรวจสอบตัวตนอย่างเข้มงวด EU จึงมองว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่โปร่งใสและเป็นการละเมิดกฎหมาย การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของ EU ในการบังคับใช้ DSA และอาจเป็นสัญญาณเตือนให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องระมัดระวังมากขึ้น
    https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification

    CastleRAT มัลแวร์ใหม่ใช้ Steam เป็นช่องทางซ่อนตัว
    มีการค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อ CastleRAT ที่ถูกออกแบบมาให้แอบแฝงเข้าไปในระบบองค์กรเพื่อขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องจากระยะไกล จุดที่น่ากังวลคือเวอร์ชันที่ถูกเขียนด้วยภาษา C ซึ่งมีความสามารถซ่อนตัวได้แนบเนียนกว่าเวอร์ชัน Python และยังทำได้หลายอย่าง เช่น ดักจับการพิมพ์, แอบถ่ายหน้าจอ, ขโมยข้อมูลจาก clipboard รวมถึงการควบคุมเบราว์เซอร์โดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว ที่สำคัญ CastleRAT ยังใช้หน้า Community ของ Steam เป็นที่ซ่อนคำสั่ง ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนการใช้งานปกติ ปัจจุบันนักวิจัยได้ออกแนวทางตรวจจับเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันภัยนี้ได้
    https://securityonline.info/sophisticated-castlerat-backdoor-uses-steam-community-pages-as-covert-c2-resolver-for-espionage

    LockBit 5.0 กลับมาอีกครั้งพร้อมความร้ายแรงกว่าเดิม
    หลังจากที่ปฏิบัติการ Cronos เคยทำให้กลุ่ม LockBit ถูกปราบไปเมื่อปี 2024 หลายคนคิดว่าภัยนี้จบแล้ว แต่ล่าสุด LockBit ได้กลับมาในเวอร์ชันใหม่ชื่อ LockBit 5.0 ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม จุดเด่นคือสามารถทำงานได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Windows, Linux และ VMware ESXi พร้อมโหมดล่องหนที่เข้ารหัสไฟล์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และโหมดลบข้อมูลถาวรที่ทำให้การกู้คืนแทบเป็นไปไม่ได้ ที่น่ากลัวคือมันยังปิดการทำงานของระบบ Event Tracing ของ Windows ทำให้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยมองไม่เห็นการโจมตี การกลับมาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มอาชญากรไซเบอร์ยังคงพัฒนาไม่หยุดและองค์กรต้องเตรียมรับมืออย่างจริงจัง
    https://securityonline.info/lockbit-5-0-resurfaces-stronger-new-variant-blinds-defenders-by-disabling-windows-etw-for-stealth-encryption

    Windows 11 เพิ่มตัวเลือกปิดเมนู AI ใน File Explorer
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่าการคลิกขวาไฟล์รูปภาพแล้วเจอเมนู AI มากมาย เช่น การค้นหาด้วย Bing หรือการแก้ไขด้วย Paint, Photos ทำให้เมนูรกและใช้งานไม่สะดวก ล่าสุด Microsoft ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ใน Build 26220.7344 ที่ให้ผู้ใช้สามารถปิดการแสดงเมนู AI ได้ทั้งหมด แม้จะยังไม่สามารถซ่อน shortcut ที่อยู่ด้านล่างเมนูได้ แต่ก็ถือเป็นการตอบรับเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้ที่อยากได้เมนูที่เรียบง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในเวอร์ชันทดสอบและจะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต
    https://securityonline.info/ai-clutter-solved-windows-11-adds-setting-to-disable-ai-actions-in-file-explorer-menu

    ศาลสหรัฐจำกัดสัญญา Default Search ของ Google เหลือ 1 ปี
    จากคดีฟ้องร้องผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐต่อ Google ล่าสุดผู้พิพากษา Amit Mehta ได้ออกคำสั่งใหม่ที่บังคับให้สัญญาที่ Google ทำกับผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อให้บริการค้นหาของตนเป็นค่าเริ่มต้น ต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปีเท่านั้น เดิมที Google มักทำสัญญาระยะยาว เช่น ดีลกับ Apple ที่ทำให้ Google Search เป็นค่าเริ่มต้นบน iPhone การจำกัดสัญญาเหลือปีต่อปีจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งอย่าง Bing หรือ DuckDuckGo มีสิทธิ์เข้ามาแข่งขันมากขึ้น ถือเป็นการแก้ปัญหาผูกขาดโดยไม่ต้องบังคับให้ Google แยกธุรกิจ Chrome ออกไป
    https://securityonline.info/google-antitrust-remedy-judge-limits-default-search-contracts-to-one-year-term

    INE ได้รับรางวัล G2 Winter 2026 หลายสาขา
    แพลตฟอร์มฝึกอบรมด้าน IT และ Cybersecurity อย่าง INE ได้รับการยอมรับจาก G2 ด้วยรางวัลถึง 7 หมวดหมู่ในฤดูหนาวปี 2026 ทั้งตำแหน่ง Leader และ Momentum Leader รวมถึงการเป็นผู้นำในภูมิภาคยุโรป เอเชีย และเอเชียแปซิฟิก รางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ใช้ทั่วโลกที่เลือก INE เพื่อพัฒนาทักษะด้านเทคนิคและความปลอดภัยไซเบอร์ หลายรีวิวชื่นชมว่าคอร์สของ INE สามารถนำไปใช้จริงในงานได้ทันที และใบรับรองจาก INE ก็ได้รับการยอมรับในวงการ ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของ INE ในการสร้างบุคลากรด้าน IT ที่มีคุณภาพ
    https://securityonline.info/ine-earns-g2-winter-2026-badges-across-global-markets

    SpaceX เตรียมทดสอบจรวด Starship ครั้งใหม่
    SpaceX กำลังวางแผนทดสอบการบินของจรวด Starship อีกครั้ง โดยครั้งนี้ตั้งเป้าให้การปล่อยและการลงจอดเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่การทดสอบก่อนหน้านี้มีทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว จุดเด่นของ Starship คือการออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศอย่างมหาศาล Elon Musk ยังย้ำว่าเป้าหมายสูงสุดคือการใช้ Starship พามนุษย์ไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร การทดสอบครั้งนี้จึงถูกจับตามองจากทั้งนักวิทยาศาสตร์และผู้สนใจอวกาศทั่วโลก
    https://securityonline.info/spacex-prepares-next-starship-test-flight

    Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่พร้อมฟีเจอร์ AI
    Apple ได้เปิดตัว iPhone รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมการผสานเทคโนโลยี AI เข้ามาในหลายฟังก์ชัน เช่น การปรับแต่งภาพถ่ายอัตโนมัติ, การช่วยเขียนข้อความ และการจัดการงานประจำวันด้วย Siri ที่ฉลาดขึ้น จุดขายสำคัญคือการทำงานแบบ On-device AI ที่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่และกล้องที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ iPhone รุ่นใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม
    https://securityonline.info/apple-launches-new-iphone-with-ai-features

    Microsoft เปิดตัว Copilot เวอร์ชันใหม่สำหรับธุรกิจ
    Microsoft ได้เปิดตัว Copilot เวอร์ชันล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผสานเข้ากับแอปพลิเคชันหลักอย่าง Word, Excel และ Teams จุดเด่นคือการใช้ AI ช่วยสรุปข้อมูล, สร้างรายงาน และตอบคำถามจากฐานข้อมูลภายในองค์กรได้ทันที ทำให้พนักงานสามารถโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น Copilot ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สอดคล้องกับมาตรฐานองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสำคัญจะไม่รั่วไหล
    https://securityonline.info/microsoft-unveils-new-copilot-for-business

    เกมใหม่จาก Ubisoft ใช้ AI สร้างโลกเสมือนจริง
    Ubisoft ได้ประกาศเปิดตัวเกมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างโลกเสมือนจริงแบบไดนามิก ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้งที่เล่น ตัวละคร NPC สามารถตอบสนองต่อผู้เล่นได้อย่างสมจริงและมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ นี่ถือเป็นการยกระดับวงการเกมที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ของนักพัฒนาเข้ากับพลังของ AI เพื่อสร้างโลกที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความท้าทาย
    https://securityonline.info/ubisoft-announces-ai-powered-game

    Meta เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับนักข่าว
    Meta ได้เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนักข่าวในการค้นหาข้อมูล, ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเขียนบทความได้รวดเร็วขึ้น เครื่องมือนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่งพร้อมกันและสรุปออกมาเป็นประเด็นสำคัญ ทำให้นักข่าวสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพและลดเวลาในการตรวจสอบข่าวปลอม นอกจากนี้ Meta ยังย้ำว่าจะมีระบบตรวจสอบเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างข่าวปลอมเอง ถือเป็นการพยายามสร้างความเชื่อมั่นในวงการสื่อ
    https://securityonline.info/meta-launches-ai-tools-for-journalists

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ที่ถูกโจมตีจริงในอุปกรณ์เครือข่ายสองค่ายใหญ่ คือเร้าเตอร์รุ่นเก่าของ D-Link และระบบ Array Networks ที่ใช้งานในญี่ปุ่น ช่องโหว่แรกเป็น Buffer Overflow ที่ไม่มีการอัปเดตแก้ไขเพราะอุปกรณ์หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบเปลี่ยนเครื่องใหม่ ส่วนช่องโหว่ที่สองคือการ Inject คำสั่งใน ArrayOS ซึ่งแฮกเกอร์ใช้วาง backdoor และ webshell เพื่อควบคุมระบบจากระยะไกล หน่วยงาน JPCERT ของญี่ปุ่นยืนยันว่ามีการโจมตีจริงตั้งแต่เดือนสิงหาคม และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่หรือปิดฟีเจอร์ Desktop Direct เพื่อป้องกันภัย
    https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack

    Samsung พลิกฟื้นโรงงานผลิตชิป 4nm
    หลังจากเจอปัญหาผลิตชิปไม่คงที่จนเสียลูกค้ารายใหญ่ไป Samsung Foundry เริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง เมื่อสามารถยกระดับอัตราการผลิตชิป 4nm ให้ได้ผลสำเร็จถึง 60–70% และคว้าออเดอร์ใหญ่จากสตาร์ทอัพ AI สัญชาติอเมริกัน Tsavorite มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ สัญญานี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าซัมซุงยังมีศักยภาพแข่งขันกับ TSMC ได้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี 2nm ที่เตรียมใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Galaxy S26 อีกด้วย
    https://securityonline.info/samsung-foundry-hits-60-4nm-yield-secures-100m-ai-chip-order-from-tsavorite

    โค้ดโฆษณาในแอป ChatGPT Android จุดกระแสถกเถียง
    นักพัฒนาพบโค้ดที่ดูเหมือนระบบโฆษณาในแอป ChatGPT เวอร์ชันทดสอบบน Android ทำให้เกิดการคาดเดาว่า OpenAI อาจเตรียมใส่โฆษณาในบริการ แต่ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ OpenAI รีบออกมาปฏิเสธทันทีว่าบริษัทไม่ได้ทดสอบฟีเจอร์โฆษณาในตอนนี้ อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ปิดโอกาสในอนาคต โดยย้ำว่าหากมีการนำโฆษณามาใช้จริง จะทำด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เนื่องจาก ChatGPT มีผู้ใช้งานมหาศาลกว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์
    https://securityonline.info/ad-code-found-in-chatgpt-android-build-openai-denies-current-advertising-tests

    AI จับได้ GhostPenguin มัลแวร์ลินุกซ์สุดลึกลับ
    นักวิจัยจาก Trend Micro ใช้ระบบ AI ตรวจจับพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ GhostPenguin ที่ซ่อนตัวอยู่ในระบบลินุกซ์โดยไม่ถูกตรวจจับนานหลายเดือน มัลแวร์นี้เขียนด้วย C++ มีความสามารถสูงในการควบคุมเครื่องจากระยะไกลผ่านการสื่อสารแบบ UDP ที่เข้ารหัสด้วย RC5 ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ จุดเด่นคือการทำงานแบบหลายเธรด ทำให้มัลแวร์ยังคงตอบสนองแม้บางส่วนของโค้ดหยุดทำงาน การค้นพบนี้ตอกย้ำว่าการใช้ AI ในการล่ามัลแวร์เป็นสิ่งจำเป็นในยุคที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
    https://securityonline.info/ai-uncovers-ghostpenguin-undetectable-linux-backdoor-used-rc5-encrypted-udp-for-covert-c2

    Shanya Crypter เครื่องมือใหม่ของแก๊งแรนซัมแวร์
    Sophos รายงานการพบเครื่องมือใหม่ชื่อ Shanya Crypter ซึ่งเป็นบริการ “packer-as-a-service” ที่ช่วยให้กลุ่มแรนซัมแวร์สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือนี้ใช้เทคนิคซับซ้อน เช่น การซ่อนโค้ดใน DLL ของระบบ Windows และการใช้ driver ที่มีช่องโหว่เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกัน (EDR Killer) ก่อนปล่อยแรนซัมแวร์เข้ามาโจมตี ทำให้การป้องกันยากขึ้นมาก กลุ่ม Akira, Medusa และ Qilin ถูกระบุว่าเป็นผู้ใช้งานหลักของเครื่องมือนี้ และมีการแพร่กระจายไปหลายประเทศแล้ว
    https://securityonline.info/shanya-crypter-is-the-new-ransomware-toolkit-uses-kernel-driver-abuse-to-kill-edr

    Microsoft เปิดตัว Copilot+ PC
    ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Copilot+ PC ซึ่งมาพร้อมชิป Snapdragon X Elite และ X Plus ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานแบบ “AI on-device” เช่น ฟีเจอร์ Recall ที่ช่วยค้นหาสิ่งที่เคยทำบนเครื่องได้เหมือนย้อนเวลา และการใช้ Copilot ในการสร้างภาพหรือข้อความได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ถือเป็นการยกระดับ Windows ให้เข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานประจำวัน
    https://securityonline.info/microsoft-unveils-copilot-pc-powered-by-snapdragon-x-elite-and-x-plus

    Google DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3
    DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ที่ใช้ทำนายโครงสร้างโมเลกุลและปฏิสัมพันธ์ทางชีววิทยาได้แม่นยำยิ่งขึ้น จากเดิมที่ AlphaFold 2 สร้างความฮือฮาในการทำนายโครงสร้างโปรตีน ตอนนี้ AlphaFold 3 ก้าวไปอีกขั้นด้วยการจำลองการทำงานของ DNA, RNA และโมเลกุลขนาดเล็กที่ซับซ้อนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจะช่วยเร่งการค้นคว้ายาใหม่และการวิจัยทางการแพทย์ได้อย่างมหาศาล
    https://securityonline.info/google-deepmind-launches-alphafold-3-ai-model-for-molecular-science

    SpaceX ส่งดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่
    SpaceX ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เร็วกว่าเดิม ดาวเทียมรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและสามารถให้บริการในพื้นที่ห่างไกลได้ดีกว่าเดิม การปล่อยครั้งนี้ยังตอกย้ำความตั้งใจของ SpaceX ที่จะขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
    https://securityonline.info/spacex-launches-next-gen-starlink-satellites-for-faster-global-internet

    Sony เปิดตัว PlayStation 5 Pro
    Sony เปิดตัวเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 Pro ที่มาพร้อมประสิทธิภาพกราฟิกสูงขึ้น รองรับการเล่นเกม 8K และมีระบบ Ray Tracing ที่สมจริงกว่าเดิม จุดขายคือการใช้ชิปใหม่ที่ทำให้เฟรมเรตเสถียรขึ้นแม้ในเกมที่ใช้กราฟิกหนักๆ นักวิเคราะห์เชื่อว่า PS5 Pro จะช่วยดึงดูดนักเล่นเกมที่ต้องการประสบการณ์ภาพสมจริงและเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ PS5 รุ่นปัจจุบัน
    https://securityonline.info/sony-unveils-playstation-5-pro-with-8k-gaming-and-ray-tracing

    WHO เตือนการระบาดของโรคใหม่
    องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับการระบาดของโรคใหม่ที่มีลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่แต่แพร่กระจายเร็วกว่า โดยพบผู้ติดเชื้อในหลายประเทศแล้ว และกำลังเร่งตรวจสอบสายพันธุ์เพื่อหาวิธีควบคุมการแพร่ระบาด WHO แนะนำให้ประเทศต่างๆ เตรียมมาตรการรับมือและเพิ่มการตรวจสอบในสนามบินและด่านชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/who-issues-warning-on-new-fast-spreading-flu-like-disease
    📌🔐🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔐📌 #รวมข่าวIT #20251209 #securityonline 🔐 ช่องโหว่ Bluetooth เสี่ยงทำรถอัจฉริยะและ Wear OS ค้าง เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่อาจทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ส่งผลให้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์ Wear OS เกิดการค้างหรือหยุดทำงานได้ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามในรหัส CVE-2025-48593 และมีการเผยแพร่ PoC (Proof of Concept) แล้ว ซึ่งหมายความว่ามีตัวอย่างการโจมตีที่สามารถนำไปใช้จริงได้ แม้รายงานฉบับเต็มจะเปิดให้เฉพาะผู้สนับสนุน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความเสี่ยงที่ผู้ใช้รถยนต์และอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะต้องเผชิญ หากไม่ได้รับการอัปเดตแก้ไขอย่างทันท่วงที 🔗 https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os 💻 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool เสี่ยงข้อมูลรั่วและระบบล่ม มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในเครื่องมือ Duc ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ใช้สำหรับตรวจสอบและแสดงผลการใช้งานดิสก์บนระบบ Linux ช่องโหว่นี้คือ CVE-2025-13654 เกิดจาก integer underflow ในฟังก์ชัน buffer_get ที่ทำให้เกิด buffer overflow ได้ หากผู้โจมตีส่งข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจง จะสามารถทำให้โปรแกรมล่ม (DoS) หรือดึงข้อมูลจากหน่วยความจำที่ไม่ควรถูกเข้าถึงได้ ปัญหานี้กระทบต่อทุกเวอร์ชันก่อน 1.4.6 และทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow 📱 มัลแวร์ SeedSnatcher บน Android ล่าขโมย Seed Phrase ของผู้ใช้คริปโต มัลแวร์ใหม่ชื่อว่า “SeedSnatcher” กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ใช้คริปโต โดยมันปลอมตัวเป็นแอปกระเป๋าเงินชื่อ “Coin” และถูกเผยแพร่ผ่าน Telegram และโซเชียลต่าง ๆ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง มัลแวร์จะสร้างหน้าจอหลอกเลียนแบบกระเป๋าเงินยอดนิยม เช่น MetaMask หรือ Trust Wallet เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase จากนั้นมันจะตรวจสอบคำที่กรอกด้วย wordlist ของ BIP 39 เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้อง ก่อนส่งข้อมูลไปยังผู้โจมตี นอกจากนี้ยังสามารถดักจับ SMS, ข้อมูลติดต่อ, บันทึกการโทร และสั่งการเครื่องจากระยะไกลได้ หลักฐานบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้โจมตีมีการจัดการแบบมืออาชีพและมีต้นทางจากจีนหรือผู้พูดภาษาจีน 🔗 https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases 🤖 Meta ปรับปรุงระบบช่วยเหลือด้วย AI Assistant และ Recovery Hub ใหม่ Meta ยอมรับว่าระบบช่วยเหลือผู้ใช้ Facebook และ Instagram ที่ผ่านมา “ล้มเหลว” จนผู้ใช้จำนวนมากต้องหาทางแก้ไขด้วยตัวเองหรือแม้กระทั่งฟ้องร้อง ล่าสุดบริษัทประกาศเปิดตัว Support Hub ใหม่ที่รวมทุกเครื่องมือช่วยเหลือไว้ในที่เดียว พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ AI Chat ให้ผู้ใช้สอบถามปัญหาได้ทันที อีกทั้งยังมี AI Assistant ที่ช่วยในกระบวนการกู้คืนบัญชี เช่น การตรวจจับอุปกรณ์ที่ใช้บ่อย และการยืนยันตัวตนด้วยวิดีโอเซลฟี่ Meta ระบุว่าการปรับปรุงนี้ทำให้อัตราการกู้คืนบัญชีที่ถูกแฮ็กในสหรัฐฯ และแคนาดาเพิ่มขึ้นกว่า 30% อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้เลย การเข้าถึง Support Hub ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ และการติดต่อเจ้าหน้าที่จริงยังคงต้องพึ่งบริการแบบเสียเงิน 🔗 https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs ⚠️ EU ปรับ X €120 ล้าน ฐานละเมิด DSA ด้วยการตรวจสอบ Blue Check ที่หลอกลวง สหภาพยุโรปได้สั่งปรับแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เป็นเงิน 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชีด้วย Blue Check ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” ระบบดังกล่าวทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าบัญชีที่จ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายนี้เป็นบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบจริง ทั้งที่ไม่ได้มีการตรวจสอบตัวตนอย่างเข้มงวด EU จึงมองว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่โปร่งใสและเป็นการละเมิดกฎหมาย การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของ EU ในการบังคับใช้ DSA และอาจเป็นสัญญาณเตือนให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องระมัดระวังมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification 🏰 CastleRAT มัลแวร์ใหม่ใช้ Steam เป็นช่องทางซ่อนตัว มีการค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อ CastleRAT ที่ถูกออกแบบมาให้แอบแฝงเข้าไปในระบบองค์กรเพื่อขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องจากระยะไกล จุดที่น่ากังวลคือเวอร์ชันที่ถูกเขียนด้วยภาษา C ซึ่งมีความสามารถซ่อนตัวได้แนบเนียนกว่าเวอร์ชัน Python และยังทำได้หลายอย่าง เช่น ดักจับการพิมพ์, แอบถ่ายหน้าจอ, ขโมยข้อมูลจาก clipboard รวมถึงการควบคุมเบราว์เซอร์โดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว ที่สำคัญ CastleRAT ยังใช้หน้า Community ของ Steam เป็นที่ซ่อนคำสั่ง ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนการใช้งานปกติ ปัจจุบันนักวิจัยได้ออกแนวทางตรวจจับเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันภัยนี้ได้ 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-castlerat-backdoor-uses-steam-community-pages-as-covert-c2-resolver-for-espionage 💀 LockBit 5.0 กลับมาอีกครั้งพร้อมความร้ายแรงกว่าเดิม หลังจากที่ปฏิบัติการ Cronos เคยทำให้กลุ่ม LockBit ถูกปราบไปเมื่อปี 2024 หลายคนคิดว่าภัยนี้จบแล้ว แต่ล่าสุด LockBit ได้กลับมาในเวอร์ชันใหม่ชื่อ LockBit 5.0 ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม จุดเด่นคือสามารถทำงานได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Windows, Linux และ VMware ESXi พร้อมโหมดล่องหนที่เข้ารหัสไฟล์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และโหมดลบข้อมูลถาวรที่ทำให้การกู้คืนแทบเป็นไปไม่ได้ ที่น่ากลัวคือมันยังปิดการทำงานของระบบ Event Tracing ของ Windows ทำให้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยมองไม่เห็นการโจมตี การกลับมาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มอาชญากรไซเบอร์ยังคงพัฒนาไม่หยุดและองค์กรต้องเตรียมรับมืออย่างจริงจัง 🔗 https://securityonline.info/lockbit-5-0-resurfaces-stronger-new-variant-blinds-defenders-by-disabling-windows-etw-for-stealth-encryption 🖥️ Windows 11 เพิ่มตัวเลือกปิดเมนู AI ใน File Explorer ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่าการคลิกขวาไฟล์รูปภาพแล้วเจอเมนู AI มากมาย เช่น การค้นหาด้วย Bing หรือการแก้ไขด้วย Paint, Photos ทำให้เมนูรกและใช้งานไม่สะดวก ล่าสุด Microsoft ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ใน Build 26220.7344 ที่ให้ผู้ใช้สามารถปิดการแสดงเมนู AI ได้ทั้งหมด แม้จะยังไม่สามารถซ่อน shortcut ที่อยู่ด้านล่างเมนูได้ แต่ก็ถือเป็นการตอบรับเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้ที่อยากได้เมนูที่เรียบง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในเวอร์ชันทดสอบและจะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/ai-clutter-solved-windows-11-adds-setting-to-disable-ai-actions-in-file-explorer-menu ⚖️ ศาลสหรัฐจำกัดสัญญา Default Search ของ Google เหลือ 1 ปี จากคดีฟ้องร้องผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐต่อ Google ล่าสุดผู้พิพากษา Amit Mehta ได้ออกคำสั่งใหม่ที่บังคับให้สัญญาที่ Google ทำกับผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อให้บริการค้นหาของตนเป็นค่าเริ่มต้น ต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปีเท่านั้น เดิมที Google มักทำสัญญาระยะยาว เช่น ดีลกับ Apple ที่ทำให้ Google Search เป็นค่าเริ่มต้นบน iPhone การจำกัดสัญญาเหลือปีต่อปีจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งอย่าง Bing หรือ DuckDuckGo มีสิทธิ์เข้ามาแข่งขันมากขึ้น ถือเป็นการแก้ปัญหาผูกขาดโดยไม่ต้องบังคับให้ Google แยกธุรกิจ Chrome ออกไป 🔗 https://securityonline.info/google-antitrust-remedy-judge-limits-default-search-contracts-to-one-year-term 🎓 INE ได้รับรางวัล G2 Winter 2026 หลายสาขา แพลตฟอร์มฝึกอบรมด้าน IT และ Cybersecurity อย่าง INE ได้รับการยอมรับจาก G2 ด้วยรางวัลถึง 7 หมวดหมู่ในฤดูหนาวปี 2026 ทั้งตำแหน่ง Leader และ Momentum Leader รวมถึงการเป็นผู้นำในภูมิภาคยุโรป เอเชีย และเอเชียแปซิฟิก รางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ใช้ทั่วโลกที่เลือก INE เพื่อพัฒนาทักษะด้านเทคนิคและความปลอดภัยไซเบอร์ หลายรีวิวชื่นชมว่าคอร์สของ INE สามารถนำไปใช้จริงในงานได้ทันที และใบรับรองจาก INE ก็ได้รับการยอมรับในวงการ ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของ INE ในการสร้างบุคลากรด้าน IT ที่มีคุณภาพ 🔗 https://securityonline.info/ine-earns-g2-winter-2026-badges-across-global-markets 🚀 SpaceX เตรียมทดสอบจรวด Starship ครั้งใหม่ SpaceX กำลังวางแผนทดสอบการบินของจรวด Starship อีกครั้ง โดยครั้งนี้ตั้งเป้าให้การปล่อยและการลงจอดเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่การทดสอบก่อนหน้านี้มีทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว จุดเด่นของ Starship คือการออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศอย่างมหาศาล Elon Musk ยังย้ำว่าเป้าหมายสูงสุดคือการใช้ Starship พามนุษย์ไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร การทดสอบครั้งนี้จึงถูกจับตามองจากทั้งนักวิทยาศาสตร์และผู้สนใจอวกาศทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/spacex-prepares-next-starship-test-flight 📱 Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่พร้อมฟีเจอร์ AI Apple ได้เปิดตัว iPhone รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมการผสานเทคโนโลยี AI เข้ามาในหลายฟังก์ชัน เช่น การปรับแต่งภาพถ่ายอัตโนมัติ, การช่วยเขียนข้อความ และการจัดการงานประจำวันด้วย Siri ที่ฉลาดขึ้น จุดขายสำคัญคือการทำงานแบบ On-device AI ที่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่และกล้องที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ iPhone รุ่นใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม 🔗 https://securityonline.info/apple-launches-new-iphone-with-ai-features 🌐 Microsoft เปิดตัว Copilot เวอร์ชันใหม่สำหรับธุรกิจ Microsoft ได้เปิดตัว Copilot เวอร์ชันล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผสานเข้ากับแอปพลิเคชันหลักอย่าง Word, Excel และ Teams จุดเด่นคือการใช้ AI ช่วยสรุปข้อมูล, สร้างรายงาน และตอบคำถามจากฐานข้อมูลภายในองค์กรได้ทันที ทำให้พนักงานสามารถโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น Copilot ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สอดคล้องกับมาตรฐานองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสำคัญจะไม่รั่วไหล 🔗 https://securityonline.info/microsoft-unveils-new-copilot-for-business 🎮 เกมใหม่จาก Ubisoft ใช้ AI สร้างโลกเสมือนจริง Ubisoft ได้ประกาศเปิดตัวเกมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างโลกเสมือนจริงแบบไดนามิก ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้งที่เล่น ตัวละคร NPC สามารถตอบสนองต่อผู้เล่นได้อย่างสมจริงและมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ นี่ถือเป็นการยกระดับวงการเกมที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ของนักพัฒนาเข้ากับพลังของ AI เพื่อสร้างโลกที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความท้าทาย 🔗 https://securityonline.info/ubisoft-announces-ai-powered-game 📰 Meta เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับนักข่าว Meta ได้เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนักข่าวในการค้นหาข้อมูล, ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเขียนบทความได้รวดเร็วขึ้น เครื่องมือนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่งพร้อมกันและสรุปออกมาเป็นประเด็นสำคัญ ทำให้นักข่าวสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพและลดเวลาในการตรวจสอบข่าวปลอม นอกจากนี้ Meta ยังย้ำว่าจะมีระบบตรวจสอบเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างข่าวปลอมเอง ถือเป็นการพยายามสร้างความเชื่อมั่นในวงการสื่อ 🔗 https://securityonline.info/meta-launches-ai-tools-for-journalists 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ที่ถูกโจมตีจริงในอุปกรณ์เครือข่ายสองค่ายใหญ่ คือเร้าเตอร์รุ่นเก่าของ D-Link และระบบ Array Networks ที่ใช้งานในญี่ปุ่น ช่องโหว่แรกเป็น Buffer Overflow ที่ไม่มีการอัปเดตแก้ไขเพราะอุปกรณ์หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบเปลี่ยนเครื่องใหม่ ส่วนช่องโหว่ที่สองคือการ Inject คำสั่งใน ArrayOS ซึ่งแฮกเกอร์ใช้วาง backdoor และ webshell เพื่อควบคุมระบบจากระยะไกล หน่วยงาน JPCERT ของญี่ปุ่นยืนยันว่ามีการโจมตีจริงตั้งแต่เดือนสิงหาคม และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่หรือปิดฟีเจอร์ Desktop Direct เพื่อป้องกันภัย 🔗 https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack ⚙️ Samsung พลิกฟื้นโรงงานผลิตชิป 4nm หลังจากเจอปัญหาผลิตชิปไม่คงที่จนเสียลูกค้ารายใหญ่ไป Samsung Foundry เริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง เมื่อสามารถยกระดับอัตราการผลิตชิป 4nm ให้ได้ผลสำเร็จถึง 60–70% และคว้าออเดอร์ใหญ่จากสตาร์ทอัพ AI สัญชาติอเมริกัน Tsavorite มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ สัญญานี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าซัมซุงยังมีศักยภาพแข่งขันกับ TSMC ได้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี 2nm ที่เตรียมใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Galaxy S26 อีกด้วย 🔗 https://securityonline.info/samsung-foundry-hits-60-4nm-yield-secures-100m-ai-chip-order-from-tsavorite 📱 โค้ดโฆษณาในแอป ChatGPT Android จุดกระแสถกเถียง นักพัฒนาพบโค้ดที่ดูเหมือนระบบโฆษณาในแอป ChatGPT เวอร์ชันทดสอบบน Android ทำให้เกิดการคาดเดาว่า OpenAI อาจเตรียมใส่โฆษณาในบริการ แต่ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ OpenAI รีบออกมาปฏิเสธทันทีว่าบริษัทไม่ได้ทดสอบฟีเจอร์โฆษณาในตอนนี้ อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ปิดโอกาสในอนาคต โดยย้ำว่าหากมีการนำโฆษณามาใช้จริง จะทำด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เนื่องจาก ChatGPT มีผู้ใช้งานมหาศาลกว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ 🔗 https://securityonline.info/ad-code-found-in-chatgpt-android-build-openai-denies-current-advertising-tests 🐧 AI จับได้ GhostPenguin มัลแวร์ลินุกซ์สุดลึกลับ นักวิจัยจาก Trend Micro ใช้ระบบ AI ตรวจจับพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ GhostPenguin ที่ซ่อนตัวอยู่ในระบบลินุกซ์โดยไม่ถูกตรวจจับนานหลายเดือน มัลแวร์นี้เขียนด้วย C++ มีความสามารถสูงในการควบคุมเครื่องจากระยะไกลผ่านการสื่อสารแบบ UDP ที่เข้ารหัสด้วย RC5 ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ จุดเด่นคือการทำงานแบบหลายเธรด ทำให้มัลแวร์ยังคงตอบสนองแม้บางส่วนของโค้ดหยุดทำงาน การค้นพบนี้ตอกย้ำว่าการใช้ AI ในการล่ามัลแวร์เป็นสิ่งจำเป็นในยุคที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ 🔗 https://securityonline.info/ai-uncovers-ghostpenguin-undetectable-linux-backdoor-used-rc5-encrypted-udp-for-covert-c2 💻 Shanya Crypter เครื่องมือใหม่ของแก๊งแรนซัมแวร์ Sophos รายงานการพบเครื่องมือใหม่ชื่อ Shanya Crypter ซึ่งเป็นบริการ “packer-as-a-service” ที่ช่วยให้กลุ่มแรนซัมแวร์สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือนี้ใช้เทคนิคซับซ้อน เช่น การซ่อนโค้ดใน DLL ของระบบ Windows และการใช้ driver ที่มีช่องโหว่เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกัน (EDR Killer) ก่อนปล่อยแรนซัมแวร์เข้ามาโจมตี ทำให้การป้องกันยากขึ้นมาก กลุ่ม Akira, Medusa และ Qilin ถูกระบุว่าเป็นผู้ใช้งานหลักของเครื่องมือนี้ และมีการแพร่กระจายไปหลายประเทศแล้ว 🔗 https://securityonline.info/shanya-crypter-is-the-new-ransomware-toolkit-uses-kernel-driver-abuse-to-kill-edr 🌐 Microsoft เปิดตัว Copilot+ PC ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Copilot+ PC ซึ่งมาพร้อมชิป Snapdragon X Elite และ X Plus ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานแบบ “AI on-device” เช่น ฟีเจอร์ Recall ที่ช่วยค้นหาสิ่งที่เคยทำบนเครื่องได้เหมือนย้อนเวลา และการใช้ Copilot ในการสร้างภาพหรือข้อความได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ถือเป็นการยกระดับ Windows ให้เข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานประจำวัน 🔗 https://securityonline.info/microsoft-unveils-copilot-pc-powered-by-snapdragon-x-elite-and-x-plus 🧬 Google DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ที่ใช้ทำนายโครงสร้างโมเลกุลและปฏิสัมพันธ์ทางชีววิทยาได้แม่นยำยิ่งขึ้น จากเดิมที่ AlphaFold 2 สร้างความฮือฮาในการทำนายโครงสร้างโปรตีน ตอนนี้ AlphaFold 3 ก้าวไปอีกขั้นด้วยการจำลองการทำงานของ DNA, RNA และโมเลกุลขนาดเล็กที่ซับซ้อนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจะช่วยเร่งการค้นคว้ายาใหม่และการวิจัยทางการแพทย์ได้อย่างมหาศาล 🔗 https://securityonline.info/google-deepmind-launches-alphafold-3-ai-model-for-molecular-science 🚀 SpaceX ส่งดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ SpaceX ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เร็วกว่าเดิม ดาวเทียมรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและสามารถให้บริการในพื้นที่ห่างไกลได้ดีกว่าเดิม การปล่อยครั้งนี้ยังตอกย้ำความตั้งใจของ SpaceX ที่จะขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ 🔗 https://securityonline.info/spacex-launches-next-gen-starlink-satellites-for-faster-global-internet 🎮 Sony เปิดตัว PlayStation 5 Pro Sony เปิดตัวเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 Pro ที่มาพร้อมประสิทธิภาพกราฟิกสูงขึ้น รองรับการเล่นเกม 8K และมีระบบ Ray Tracing ที่สมจริงกว่าเดิม จุดขายคือการใช้ชิปใหม่ที่ทำให้เฟรมเรตเสถียรขึ้นแม้ในเกมที่ใช้กราฟิกหนักๆ นักวิเคราะห์เชื่อว่า PS5 Pro จะช่วยดึงดูดนักเล่นเกมที่ต้องการประสบการณ์ภาพสมจริงและเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ PS5 รุ่นปัจจุบัน 🔗 https://securityonline.info/sony-unveils-playstation-5-pro-with-8k-gaming-and-ray-tracing 🏥 WHO เตือนการระบาดของโรคใหม่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับการระบาดของโรคใหม่ที่มีลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่แต่แพร่กระจายเร็วกว่า โดยพบผู้ติดเชื้อในหลายประเทศแล้ว และกำลังเร่งตรวจสอบสายพันธุ์เพื่อหาวิธีควบคุมการแพร่ระบาด WHO แนะนำให้ประเทศต่างๆ เตรียมมาตรการรับมือและเพิ่มการตรวจสอบในสนามบินและด่านชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/who-issues-warning-on-new-fast-spreading-flu-like-disease
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 592 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251205 #securityonline

    Google ทดลองให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ แต่กลับทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยน
    Google กำลังทดสอบระบบที่ให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ในบริการ Google Discover โดยตั้งใจให้ผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาได้เร็วขึ้นและกดเข้าไปอ่าน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะหลายครั้งหัวข้อที่ AI เขียนขึ้นมาเกิดการบิดเบือนความหมายเดิมจนทำให้เข้าใจผิด ตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับเครื่องเกม Steam Machine ที่ยังไม่เปิดเผยราคา แต่ AI กลับเขียนหัวข้อว่า “Steam Machine price revealed” ซึ่งผิดไปจากข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า หากปล่อยให้ AI เขียนหัวข้อข่าวโดยไม่มีการควบคุม อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดและลดความน่าเชื่อถือของสื่อ รวมถึงกระทบต่อจำนวนคนที่คลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาจริง แม้ Google จะบอกว่าทดลองกับผู้ใช้เพียงส่วนน้อย แต่สำนักข่าวหลายแห่งก็เริ่มเห็นผลกระทบต่อทราฟฟิกของตนแล้ว
    https://securityonline.info/misleading-ai-headlines-google-discover-testing-rewrites-that-distort-news-facts

    AWS ดันชิป Trainium สร้างรายได้หลายพันล้าน ท้าชน NVIDIA
    Amazon ผ่าน AWS กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดชิป AI ที่ NVIDIA ครองอยู่ ด้วยการพัฒนา Trainium ซึ่งตอนนี้ทำรายได้ระดับหลายพันล้านดอลลาร์แล้ว โดยรุ่น Trainium2 ถูกใช้งานมากกว่า 100,000 บริษัท และผลิตไปแล้วกว่า 1 ล้านชิป จุดเด่นคือราคาถูกกว่า GPU ของ NVIDIA แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพสูง ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ โดยเฉพาะ Anthropic ที่ใช้ชิป Trainium2 กว่า 500,000 ตัวในการสร้างโมเดลใหม่ของ Claude ล่าสุด AWS เปิดตัว Trainium3 ที่แรงขึ้น 4 เท่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมแผนพัฒนา Trainium4 ที่สามารถทำงานร่วมกับ GPU ของ NVIDIA ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากการแข่งตรง ๆ ไปสู่การสร้างระบบไฮบริดที่ยืดหยุ่นกว่า
    https://securityonline.info/aws-trainium-chip-business-hits-multi-billion-revenue-challenging-nvidias-pricing

    Meta ดึงตัวดีไซน์เนอร์ระดับตำนานจาก Apple มาสร้างสตูดิโอใหม่
    Mark Zuckerberg ประกาศว่า Meta ได้ดึง Alan Dye อดีตหัวหน้าฝ่าย Human Interface Design ของ Apple มานำทีม Creative Studio ใหม่ใน Reality Labs Alan Dye เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังงานออกแบบสำคัญของ Apple เช่น Apple Watch, iPhone X และ Vision Pro การเข้ามาของเขาถูกมองว่าเป็นการยกระดับงานดีไซน์ของ Meta ให้มีความโดดเด่นและผสมผสานระหว่างแฟชั่น เทคโนโลยี และ AI โดย Dye จะทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ที่มีทั้ง Billy Sorrentino และ Joshua To เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ Meta การดึงตัวบุคลากรจาก Apple ครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ที่กำลังแย่งชิงอนาคตของอุปกรณ์ AI และสมาร์ทแกดเจ็ต
    https://securityonline.info/design-wars-meta-hires-apple-veteran-alan-dye-to-lead-new-reality-labs-creative-studio

    ปฏิบัติการ DUPEHIKE: มัลแวร์เจาะฝ่าย HR ของรัสเซีย
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบเจาะจงที่ถูกตั้งชื่อว่า Operation DUPEHIKE โดยกลุ่มแฮกเกอร์ใช้วิธีส่งอีเมลหลอกล่อพนักงานฝ่ายบุคคลและเงินเดือน ด้วยไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารโบนัสสิ้นปี แต่แท้จริงแล้วเป็นไฟล์ลัด (LNK) ที่เมื่อเปิดขึ้นจะไปดาวน์โหลดมัลแวร์ชื่อ DUPERUNNER ผ่าน PowerShell ทำงานเบื้องหลังอย่างแนบเนียน มัลแวร์นี้สามารถฉีดโค้ดเข้าไปในโปรเซสที่ใช้บ่อย เช่น explorer.exe หรือ notepad.exe เพื่อให้ฝังตัวถาวร และสุดท้ายจะติดตั้ง Adaptix C2 ซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมจากระยะไกล เป้าหมายคือการสอดแนมและควบคุมระบบขององค์กรที่ตกเป็นเหยื่อ
    https://securityonline.info/operation-dupehike-hits-russian-hr-bonus-lure-delivers-duperunner-and-adaptix-c2-via-process-injection

    ช่องโหว่ Splunk บน Windows เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์
    Splunk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลชื่อดัง พบช่องโหว่ร้ายแรงสองรายการ (CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387) ที่ทำให้การติดตั้งบน Windows กำหนดสิทธิ์ไฟล์ผิดพลาด เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมินเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้ หากแฮกเกอร์ได้สิทธิ์ผู้ใช้ระดับต่ำ ก็สามารถแก้ไขไฟล์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรจะถูกป้องกันไว้ได้ทันที ทาง Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว
    https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows

    ช่องโหว่ Cacti เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจากระยะไกล
    Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับทำกราฟเครือข่าย พบช่องโหว่ร้ายแรง (CVE-2025-66399) ที่เกี่ยวกับการจัดการค่า SNMP Community String หากผู้ใช้ใส่ค่าที่มีตัวอักษรพิเศษหรือบรรทัดใหม่ ระบบจะไม่กรองออก ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทรกคำสั่งอันตรายเข้าไปได้ เมื่อระบบนำค่าเหล่านี้ไปใช้กับเครื่องมือ SNMP ภายนอก คำสั่งที่ถูกแทรกก็จะถูกรันทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 1.2.29 และแนะนำให้อัปเดตทันที
    https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection

    กลุ่ม Calisto APT รัสเซียโจมตี NGO ด้วยฟิชชิ่งแบบใหม่
    กลุ่มแฮกเกอร์ Calisto ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย ได้พุ่งเป้าโจมตีองค์กร Reporters Without Borders (RSF) โดยใช้เทคนิคฟิชชิ่งที่ซับซ้อน พวกเขาส่งอีเมลแสร้งเป็นคนรู้จัก พร้อมไฟล์ที่ “หายไป” หรือไฟล์ที่เปิดไม่ได้ เพื่อให้เหยื่อขอไฟล์ใหม่ เมื่อเหยื่อตอบกลับก็จะได้รับลิงก์ไปยังไฟล์ที่แท้จริงซึ่งเป็นมัลแวร์ ฟิชชิ่งนี้ยังใช้เทคนิค AiTM (Adversary-in-the-Middle) เพื่อดักข้อมูลการเข้าสู่ระบบและรหัส 2FA แบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่เจาะจง NGO ที่เกี่ยวข้องกับยูเครนและเสรีภาพสื่อโดยตรง
    https://securityonline.info/russian-calisto-apt-targets-reporters-without-borders-with-custom-aitm-phishing-and-missing-file-lure

    NVIDIA Triton Server พบช่องโหว่ DoS ร้ายแรง
    NVIDIA ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ Triton Inference Server ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการรันโมเดล AI พบช่องโหว่สองรายการ (CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ผิดรูปแบบหรือใหญ่เกินไปจนทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ ผลคือบริการ AI inference จะหยุดทำงานทันที ซึ่งอาจกระทบต่อองค์กรที่พึ่งพา AI ในการประมวลผลขนาดใหญ่ NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน r25.10 เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/nvidia-triton-server-patches-two-high-severity-dos-flaws-risking-critical-ai-inference-disruption

    Patchwork APT ใช้ StreamSpy Trojan ซ่อนคำสั่งใน WebSocket
    กลุ่มแฮกเกอร์ Patchwork APT ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ StreamSpy Trojan ที่มีความสามารถในการซ่อนคำสั่งควบคุม (C2) ภายในทราฟฟิก WebSocket ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนเป็นการใช้งานเว็บตามปกติ เทคนิคนี้ช่วยให้การสอดแนมดำเนินไปโดยไม่ถูกตรวจจับง่าย ๆ และยังสามารถดึงข้อมูลหรือสั่งการเครื่องเหยื่อได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการพัฒนาแนวทางโจมตีที่เน้นความลับและการพรางตัวสูง
    https://securityonline.info/patchwork-apt-deploys-streamspy-trojan-hiding-c2-commands-in-websocket-traffic-for-stealth-espionage

    ความต้องการ AI ลดลง Microsoft ปรับลดโควตายอดขาย
    มีรายงานว่า Microsoft ได้ปรับลดโควตายอดขายของทีม Enterprise AI ลงมากถึง 50% เนื่องจากความต้องการใช้งาน AI ในระดับองค์กรไม่เติบโตตามที่คาดไว้ สาเหตุหลักมาจากลูกค้าหลายรายยังลังเลที่จะลงทุนในโซลูชัน AI ขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและความไม่แน่ใจในผลลัพธ์ที่แท้จริง การปรับลดนี้สะท้อนถึงความท้าทายของตลาด AI ที่แม้จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แต่การนำไปใช้จริงในองค์กรยังต้องใช้เวลาและการพิสูจน์คุณค่า
    https://securityonline.info/ai-demand-struggles-microsoft-slashes-enterprise-ai-sales-quotas-by-up-to-50

    Telegram เตรียมใช้ Passkey แทน SMS สำหรับการล็อกอิน
    Telegram กำลังพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ โดยจะใช้ Passkey Authentication แทนการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการดักข้อความ ระบบ Passkey จะทำงานร่วมกับมาตรฐาน FIDO2 และ WebAuthn ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ด้วยการยืนยันจากอุปกรณ์ที่เชื่อถือ เช่น ลายนิ้วมือหรือ Face ID การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การใช้งาน Telegram ปลอดภัยขึ้นและลดการพึ่งพา SMS ที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login

    SpyCloud เผยผู้ใช้บริษัทเสี่ยงฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ 3 เท่า
    ข้อมูลจาก SpyCloud ระบุว่าผู้ใช้ในองค์กรมีโอกาสถูกโจมตีด้วยฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ถึง 3 เท่า โดยการโจมตีฟิชชิ่งมักใช้วิธีหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ซึ่งง่ายต่อการดำเนินการและได้ผลเร็วกว่า การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานและการใช้ระบบตรวจจับฟิชชิ่งมากขึ้น เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต
    https://securityonline.info/spycloud-data-shows-corporate-users-3x-more-likely-to-be-targeted-by-phishing-than-by-malware

    อินเดียยกเลิกบังคับใช้แอป Sanchar Saathi หลังถูกต่อต้าน
    รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกข้อบังคับที่ให้ประชาชนต้องใช้แอป Sanchar Saathi ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวง หลังจากประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ออกมาคัดค้านอย่างหนัก โดยมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและเสรีภาพดิจิทัล การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากสังคมที่ไม่ยอมรับการควบคุมที่เข้มงวดเกินไป และเป็นการปรับท่าทีของรัฐบาลต่อการใช้งานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/policy-u-turn-india-drops-mandatory-sanchar-saathi-app-after-fierce-opposition
    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251205 #securityonline 📰 Google ทดลองให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ แต่กลับทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยน Google กำลังทดสอบระบบที่ให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ในบริการ Google Discover โดยตั้งใจให้ผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาได้เร็วขึ้นและกดเข้าไปอ่าน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะหลายครั้งหัวข้อที่ AI เขียนขึ้นมาเกิดการบิดเบือนความหมายเดิมจนทำให้เข้าใจผิด ตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับเครื่องเกม Steam Machine ที่ยังไม่เปิดเผยราคา แต่ AI กลับเขียนหัวข้อว่า “Steam Machine price revealed” ซึ่งผิดไปจากข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า หากปล่อยให้ AI เขียนหัวข้อข่าวโดยไม่มีการควบคุม อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดและลดความน่าเชื่อถือของสื่อ รวมถึงกระทบต่อจำนวนคนที่คลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาจริง แม้ Google จะบอกว่าทดลองกับผู้ใช้เพียงส่วนน้อย แต่สำนักข่าวหลายแห่งก็เริ่มเห็นผลกระทบต่อทราฟฟิกของตนแล้ว 🔗 https://securityonline.info/misleading-ai-headlines-google-discover-testing-rewrites-that-distort-news-facts 💻 AWS ดันชิป Trainium สร้างรายได้หลายพันล้าน ท้าชน NVIDIA Amazon ผ่าน AWS กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดชิป AI ที่ NVIDIA ครองอยู่ ด้วยการพัฒนา Trainium ซึ่งตอนนี้ทำรายได้ระดับหลายพันล้านดอลลาร์แล้ว โดยรุ่น Trainium2 ถูกใช้งานมากกว่า 100,000 บริษัท และผลิตไปแล้วกว่า 1 ล้านชิป จุดเด่นคือราคาถูกกว่า GPU ของ NVIDIA แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพสูง ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ โดยเฉพาะ Anthropic ที่ใช้ชิป Trainium2 กว่า 500,000 ตัวในการสร้างโมเดลใหม่ของ Claude ล่าสุด AWS เปิดตัว Trainium3 ที่แรงขึ้น 4 เท่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมแผนพัฒนา Trainium4 ที่สามารถทำงานร่วมกับ GPU ของ NVIDIA ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากการแข่งตรง ๆ ไปสู่การสร้างระบบไฮบริดที่ยืดหยุ่นกว่า 🔗 https://securityonline.info/aws-trainium-chip-business-hits-multi-billion-revenue-challenging-nvidias-pricing 🎨 Meta ดึงตัวดีไซน์เนอร์ระดับตำนานจาก Apple มาสร้างสตูดิโอใหม่ Mark Zuckerberg ประกาศว่า Meta ได้ดึง Alan Dye อดีตหัวหน้าฝ่าย Human Interface Design ของ Apple มานำทีม Creative Studio ใหม่ใน Reality Labs Alan Dye เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังงานออกแบบสำคัญของ Apple เช่น Apple Watch, iPhone X และ Vision Pro การเข้ามาของเขาถูกมองว่าเป็นการยกระดับงานดีไซน์ของ Meta ให้มีความโดดเด่นและผสมผสานระหว่างแฟชั่น เทคโนโลยี และ AI โดย Dye จะทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ที่มีทั้ง Billy Sorrentino และ Joshua To เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ Meta การดึงตัวบุคลากรจาก Apple ครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ที่กำลังแย่งชิงอนาคตของอุปกรณ์ AI และสมาร์ทแกดเจ็ต 🔗 https://securityonline.info/design-wars-meta-hires-apple-veteran-alan-dye-to-lead-new-reality-labs-creative-studio 🕵️‍♂️ ปฏิบัติการ DUPEHIKE: มัลแวร์เจาะฝ่าย HR ของรัสเซีย เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบเจาะจงที่ถูกตั้งชื่อว่า Operation DUPEHIKE โดยกลุ่มแฮกเกอร์ใช้วิธีส่งอีเมลหลอกล่อพนักงานฝ่ายบุคคลและเงินเดือน ด้วยไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารโบนัสสิ้นปี แต่แท้จริงแล้วเป็นไฟล์ลัด (LNK) ที่เมื่อเปิดขึ้นจะไปดาวน์โหลดมัลแวร์ชื่อ DUPERUNNER ผ่าน PowerShell ทำงานเบื้องหลังอย่างแนบเนียน มัลแวร์นี้สามารถฉีดโค้ดเข้าไปในโปรเซสที่ใช้บ่อย เช่น explorer.exe หรือ notepad.exe เพื่อให้ฝังตัวถาวร และสุดท้ายจะติดตั้ง Adaptix C2 ซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมจากระยะไกล เป้าหมายคือการสอดแนมและควบคุมระบบขององค์กรที่ตกเป็นเหยื่อ 🔗 https://securityonline.info/operation-dupehike-hits-russian-hr-bonus-lure-delivers-duperunner-and-adaptix-c2-via-process-injection ⚠️ ช่องโหว่ Splunk บน Windows เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์ Splunk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลชื่อดัง พบช่องโหว่ร้ายแรงสองรายการ (CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387) ที่ทำให้การติดตั้งบน Windows กำหนดสิทธิ์ไฟล์ผิดพลาด เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมินเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้ หากแฮกเกอร์ได้สิทธิ์ผู้ใช้ระดับต่ำ ก็สามารถแก้ไขไฟล์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรจะถูกป้องกันไว้ได้ทันที ทาง Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows 🖥️ ช่องโหว่ Cacti เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจากระยะไกล Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับทำกราฟเครือข่าย พบช่องโหว่ร้ายแรง (CVE-2025-66399) ที่เกี่ยวกับการจัดการค่า SNMP Community String หากผู้ใช้ใส่ค่าที่มีตัวอักษรพิเศษหรือบรรทัดใหม่ ระบบจะไม่กรองออก ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทรกคำสั่งอันตรายเข้าไปได้ เมื่อระบบนำค่าเหล่านี้ไปใช้กับเครื่องมือ SNMP ภายนอก คำสั่งที่ถูกแทรกก็จะถูกรันทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 1.2.29 และแนะนำให้อัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection 🎯 กลุ่ม Calisto APT รัสเซียโจมตี NGO ด้วยฟิชชิ่งแบบใหม่ กลุ่มแฮกเกอร์ Calisto ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย ได้พุ่งเป้าโจมตีองค์กร Reporters Without Borders (RSF) โดยใช้เทคนิคฟิชชิ่งที่ซับซ้อน พวกเขาส่งอีเมลแสร้งเป็นคนรู้จัก พร้อมไฟล์ที่ “หายไป” หรือไฟล์ที่เปิดไม่ได้ เพื่อให้เหยื่อขอไฟล์ใหม่ เมื่อเหยื่อตอบกลับก็จะได้รับลิงก์ไปยังไฟล์ที่แท้จริงซึ่งเป็นมัลแวร์ ฟิชชิ่งนี้ยังใช้เทคนิค AiTM (Adversary-in-the-Middle) เพื่อดักข้อมูลการเข้าสู่ระบบและรหัส 2FA แบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่เจาะจง NGO ที่เกี่ยวข้องกับยูเครนและเสรีภาพสื่อโดยตรง 🔗 https://securityonline.info/russian-calisto-apt-targets-reporters-without-borders-with-custom-aitm-phishing-and-missing-file-lure 🤖 NVIDIA Triton Server พบช่องโหว่ DoS ร้ายแรง NVIDIA ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ Triton Inference Server ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการรันโมเดล AI พบช่องโหว่สองรายการ (CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ผิดรูปแบบหรือใหญ่เกินไปจนทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ ผลคือบริการ AI inference จะหยุดทำงานทันที ซึ่งอาจกระทบต่อองค์กรที่พึ่งพา AI ในการประมวลผลขนาดใหญ่ NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน r25.10 เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/nvidia-triton-server-patches-two-high-severity-dos-flaws-risking-critical-ai-inference-disruption 🕶️ Patchwork APT ใช้ StreamSpy Trojan ซ่อนคำสั่งใน WebSocket กลุ่มแฮกเกอร์ Patchwork APT ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ StreamSpy Trojan ที่มีความสามารถในการซ่อนคำสั่งควบคุม (C2) ภายในทราฟฟิก WebSocket ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนเป็นการใช้งานเว็บตามปกติ เทคนิคนี้ช่วยให้การสอดแนมดำเนินไปโดยไม่ถูกตรวจจับง่าย ๆ และยังสามารถดึงข้อมูลหรือสั่งการเครื่องเหยื่อได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการพัฒนาแนวทางโจมตีที่เน้นความลับและการพรางตัวสูง 🔗 https://securityonline.info/patchwork-apt-deploys-streamspy-trojan-hiding-c2-commands-in-websocket-traffic-for-stealth-espionage 📉 ความต้องการ AI ลดลง Microsoft ปรับลดโควตายอดขาย มีรายงานว่า Microsoft ได้ปรับลดโควตายอดขายของทีม Enterprise AI ลงมากถึง 50% เนื่องจากความต้องการใช้งาน AI ในระดับองค์กรไม่เติบโตตามที่คาดไว้ สาเหตุหลักมาจากลูกค้าหลายรายยังลังเลที่จะลงทุนในโซลูชัน AI ขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและความไม่แน่ใจในผลลัพธ์ที่แท้จริง การปรับลดนี้สะท้อนถึงความท้าทายของตลาด AI ที่แม้จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แต่การนำไปใช้จริงในองค์กรยังต้องใช้เวลาและการพิสูจน์คุณค่า 🔗 https://securityonline.info/ai-demand-struggles-microsoft-slashes-enterprise-ai-sales-quotas-by-up-to-50 🔐 Telegram เตรียมใช้ Passkey แทน SMS สำหรับการล็อกอิน Telegram กำลังพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ โดยจะใช้ Passkey Authentication แทนการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการดักข้อความ ระบบ Passkey จะทำงานร่วมกับมาตรฐาน FIDO2 และ WebAuthn ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ด้วยการยืนยันจากอุปกรณ์ที่เชื่อถือ เช่น ลายนิ้วมือหรือ Face ID การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การใช้งาน Telegram ปลอดภัยขึ้นและลดการพึ่งพา SMS ที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login 🎣 SpyCloud เผยผู้ใช้บริษัทเสี่ยงฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ 3 เท่า ข้อมูลจาก SpyCloud ระบุว่าผู้ใช้ในองค์กรมีโอกาสถูกโจมตีด้วยฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ถึง 3 เท่า โดยการโจมตีฟิชชิ่งมักใช้วิธีหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ซึ่งง่ายต่อการดำเนินการและได้ผลเร็วกว่า การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานและการใช้ระบบตรวจจับฟิชชิ่งมากขึ้น เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/spycloud-data-shows-corporate-users-3x-more-likely-to-be-targeted-by-phishing-than-by-malware 🇮🇳 อินเดียยกเลิกบังคับใช้แอป Sanchar Saathi หลังถูกต่อต้าน รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกข้อบังคับที่ให้ประชาชนต้องใช้แอป Sanchar Saathi ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวง หลังจากประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ออกมาคัดค้านอย่างหนัก โดยมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและเสรีภาพดิจิทัล การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากสังคมที่ไม่ยอมรับการควบคุมที่เข้มงวดเกินไป และเป็นการปรับท่าทีของรัฐบาลต่อการใช้งานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/policy-u-turn-india-drops-mandatory-sanchar-saathi-app-after-fierce-opposition
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 610 มุมมอง 0 รีวิว
  • คลื่นใหม่ “AI Nostalgia” พาคนรุ่นใหม่หลงรักยุค 1980s

    บทความจาก The Star รายงานกระแส “AI nostalgia” ที่กำลังมาแรงบนแพลตฟอร์ม Instagram, TikTok และ YouTube โดยใช้ AI สร้างวิดีโอจำลองชีวิตวัยรุ่นยุคก่อนสมาร์ทโฟน ภาพที่ปรากฏคือคนหนุ่มสาวออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้ง เชื่อมโยงกันแบบตัวต่อตัว พร้อมเพลงดังจากยุคนั้น เช่น Everybody Wants To Rule The World ของ Tears for Fears ซึ่งสร้างบรรยากาศย้อนยุคจนทำให้ผู้ชมจำนวนมากรู้สึกว่า “ชีวิตสมัยนั้นดีกว่า” แม้จริง ๆ แล้วพวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ตรงกับยุค 1980s เลย

    เสน่ห์ของความทรงจำที่ไม่เคยมีจริง
    วิดีโอเหล่านี้ได้รับความนิยมสูงมาก โดยบางคลิปมีผู้กดถูกใจเกิน 600,000 ครั้ง ความน่าสนใจคือมันสร้าง “ความทรงจำปลอม” ให้กับคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้น แต่กลับรู้สึกผูกพันและโหยหาความเรียบง่ายของชีวิตก่อนยุคดิจิทัล นักวิจัยด้านสื่อมองว่านี่คือการผสมผสานระหว่าง ความคิดถึง (nostalgia) และ การสร้างภาพจำใหม่ (synthetic memory) ที่เกิดจากเทคโนโลยี AI

    ผลกระทบต่อสังคมและวัฒนธรรม
    แม้จะดูสนุก แต่กระแสนี้อาจทำให้เกิดการบิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์ เพราะผู้ชมจำนวนมากอาจเชื่อว่าชีวิตในยุค 1980s เป็นแบบที่ AI สร้างขึ้น ทั้งที่จริงแล้วสังคมในยุคนั้นก็มีปัญหาและความท้าทายของมันเอง นักวิชาการเตือนว่าการใช้ AI สร้าง “อดีตในอุดมคติ” อาจทำให้คนรุ่นใหม่มีมุมมองที่ไม่สมดุลต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

    บทเรียนจากกระแส AI Nostalgia
    สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า AI ไม่ได้เพียงสร้างอนาคต แต่ยังสามารถ “เขียนอดีตใหม่” ได้ด้วย การรับชมวิดีโอเหล่านี้จึงควรทำด้วยความเข้าใจว่าเป็นงานสร้าง ไม่ใช่บันทึกจริง เพื่อไม่ให้เกิดการสับสนระหว่างความบันเทิงกับข้อเท็จจริง และเพื่อให้สังคมสามารถใช้ AI อย่างสร้างสรรค์โดยไม่บิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์

    สรุปสาระสำคัญ
    กระแส AI Nostalgia
    ใช้ AI สร้างวิดีโอจำลองชีวิตวัยรุ่นยุค 1980s

    ความนิยมสูง
    คลิปบางรายการมีผู้กดถูกใจมากกว่า 600,000 ครั้ง

    ผลกระทบทางวัฒนธรรม
    สร้าง “ความทรงจำปลอม” ให้คนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้น

    บทเรียนสำคัญ
    AI สามารถ “เขียนอดีตใหม่” จึงต้องแยกแยะระหว่างบันเทิงกับข้อเท็จจริง

    คำเตือนจากนักวิชาการ
    อาจทำให้เกิดการบิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์

    ความเสี่ยงต่อสังคม
    คนรุ่นใหม่อาจมีมุมมองไม่สมดุลต่ออดีตและวัฒนธรรม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/fake-ai-videos-have-a-new-generation-loving-1980s-life
    📼 คลื่นใหม่ “AI Nostalgia” พาคนรุ่นใหม่หลงรักยุค 1980s บทความจาก The Star รายงานกระแส “AI nostalgia” ที่กำลังมาแรงบนแพลตฟอร์ม Instagram, TikTok และ YouTube โดยใช้ AI สร้างวิดีโอจำลองชีวิตวัยรุ่นยุคก่อนสมาร์ทโฟน ภาพที่ปรากฏคือคนหนุ่มสาวออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้ง เชื่อมโยงกันแบบตัวต่อตัว พร้อมเพลงดังจากยุคนั้น เช่น Everybody Wants To Rule The World ของ Tears for Fears ซึ่งสร้างบรรยากาศย้อนยุคจนทำให้ผู้ชมจำนวนมากรู้สึกว่า “ชีวิตสมัยนั้นดีกว่า” แม้จริง ๆ แล้วพวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ตรงกับยุค 1980s เลย 🎶 เสน่ห์ของความทรงจำที่ไม่เคยมีจริง วิดีโอเหล่านี้ได้รับความนิยมสูงมาก โดยบางคลิปมีผู้กดถูกใจเกิน 600,000 ครั้ง ความน่าสนใจคือมันสร้าง “ความทรงจำปลอม” ให้กับคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้น แต่กลับรู้สึกผูกพันและโหยหาความเรียบง่ายของชีวิตก่อนยุคดิจิทัล นักวิจัยด้านสื่อมองว่านี่คือการผสมผสานระหว่าง ความคิดถึง (nostalgia) และ การสร้างภาพจำใหม่ (synthetic memory) ที่เกิดจากเทคโนโลยี AI 🌍 ผลกระทบต่อสังคมและวัฒนธรรม แม้จะดูสนุก แต่กระแสนี้อาจทำให้เกิดการบิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์ เพราะผู้ชมจำนวนมากอาจเชื่อว่าชีวิตในยุค 1980s เป็นแบบที่ AI สร้างขึ้น ทั้งที่จริงแล้วสังคมในยุคนั้นก็มีปัญหาและความท้าทายของมันเอง นักวิชาการเตือนว่าการใช้ AI สร้าง “อดีตในอุดมคติ” อาจทำให้คนรุ่นใหม่มีมุมมองที่ไม่สมดุลต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม 🛡️ บทเรียนจากกระแส AI Nostalgia สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า AI ไม่ได้เพียงสร้างอนาคต แต่ยังสามารถ “เขียนอดีตใหม่” ได้ด้วย การรับชมวิดีโอเหล่านี้จึงควรทำด้วยความเข้าใจว่าเป็นงานสร้าง ไม่ใช่บันทึกจริง เพื่อไม่ให้เกิดการสับสนระหว่างความบันเทิงกับข้อเท็จจริง และเพื่อให้สังคมสามารถใช้ AI อย่างสร้างสรรค์โดยไม่บิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ กระแส AI Nostalgia ➡️ ใช้ AI สร้างวิดีโอจำลองชีวิตวัยรุ่นยุค 1980s ✅ ความนิยมสูง ➡️ คลิปบางรายการมีผู้กดถูกใจมากกว่า 600,000 ครั้ง ✅ ผลกระทบทางวัฒนธรรม ➡️ สร้าง “ความทรงจำปลอม” ให้คนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้น ✅ บทเรียนสำคัญ ➡️ AI สามารถ “เขียนอดีตใหม่” จึงต้องแยกแยะระหว่างบันเทิงกับข้อเท็จจริง ‼️ คำเตือนจากนักวิชาการ ⛔ อาจทำให้เกิดการบิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์ ‼️ ความเสี่ยงต่อสังคม ⛔ คนรุ่นใหม่อาจมีมุมมองไม่สมดุลต่ออดีตและวัฒนธรรม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/fake-ai-videos-have-a-new-generation-loving-1980s-life
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Fake AI videos have a new generation loving 1980s life
    "The 1980s are calling", a teenager with a throwback hairstyle tells viewers as Everybody Wants To Rule The World, the Tears for Fears rock anthem from that decade, plays in the background.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีหยุดพฤติกรรม “glazing” ของแชตบอท AI

    ทความจาก SlashGear อธิบายวิธีหยุดพฤติกรรม “glazing” ของแชตบอท AI อย่าง ChatGPT ที่ชอบใส่คำพูดฟุ่มเฟือยหรือย้ำคำถาม โดยแนะนำให้ใช้ instruction prompts และการปรับแต่ง custom personality settings เพื่อให้บอทตอบตรงประเด็นและแม่นยำมากขึ้น.

    ผู้ใช้หลายคนพบว่า ChatGPT และบอท AI อื่น ๆ เช่น Gemini หรือ Grok มักจะตอบแบบ “glazing” คือการ ย้ำคำถาม, ใส่คำพูดปลอบใจ, หรือใช้ภาษาฟุ่มเฟือย ก่อนจะเข้าสู่คำตอบจริง ซึ่งทำให้เสียเวลาและบางครั้งทำให้ข้อมูลไม่ชัดเจน.

    วิธีแก้ไขด้วย Instruction Prompts
    วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ instruction prompts เพื่อกำหนดแนวทางการตอบ เช่น ตัวอย่างที่ผู้เขียนใช้คือ:


    Do not restate my question, add filler, or soften your responses.
    Answer directly, concisely, and factually.
    Prioritize accuracy over politeness.
    If information is uncertain, say so explicitly instead of guessing.
    Focus only on the specific details I ask for.

    แปลเป็นไทยคือ

    อย่ากล่าวซ้ำคำถามของฉัน เพิ่มคำเติม หรือทำให้คำตอบของคุณไม่ตรงไปตรงมา
    ตอบตรงประเด็น กระชับ และตรงตามข้อเท็จจริง
    ให้ความสำคัญกับความถูกต้องมากกว่าความสุภาพ
    หากข้อมูลไม่ชัดเจน ให้พูดอย่างชัดเจนแทนที่จะเดา
    เน้นเฉพาะรายละเอียดเฉพาะที่ฉันถามเท่านั้น

    เมื่อใส่ prompt นี้ ChatGPT จะหยุดพฤติกรรม glazing และตอบตรงประเด็นมากขึ้น แม้บางครั้งยังมีการ “หลุด” กลับไปใช้สำนวนเดิม แต่โดยรวมถือว่าช่วยได้มาก.

    การปรับแต่ง Personality Settings
    นอกจาก instruction prompts แบบรายครั้งแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่ง custom personality ในการตั้งค่าของ ChatGPT หรือ Grok ได้ เช่น การเลือกบุคลิกที่ตรงไปตรงมา หรือใส่ custom instructions ให้บอทจดจำตลอดการสนทนา วิธีนี้ช่วยลดการต้องใส่ prompt ซ้ำ ๆ และทำให้บอทตอบตรงประเด็นในทุกการใช้งาน.

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    ปัญหาที่พบ
    ChatGPT และบอท AI มักตอบแบบ glazing (ย้ำคำถาม, ใช้คำปลอบใจ, ฟุ่มเฟือย)

    วิธีแก้ไข
    ใช้ instruction prompts เพื่อบังคับให้ตอบตรงประเด็น
    ปรับแต่ง personality settings ให้ตอบแบบ concise และ factual

    คำเตือน
    แม้ใช้ instruction prompts แล้ว บอทยังอาจ “หลุด” กลับไปใช้สำนวนเดิม
    ต้องทดสอบและปรับแต่งหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ

    https://www.slashgear.com/2030799/how-to-stop-chatgpt-and-other-ai-chatbots-from-glazing-over-your-conversations/
    🤖 วิธีหยุดพฤติกรรม “glazing” ของแชตบอท AI ทความจาก SlashGear อธิบายวิธีหยุดพฤติกรรม “glazing” ของแชตบอท AI อย่าง ChatGPT ที่ชอบใส่คำพูดฟุ่มเฟือยหรือย้ำคำถาม โดยแนะนำให้ใช้ instruction prompts และการปรับแต่ง custom personality settings เพื่อให้บอทตอบตรงประเด็นและแม่นยำมากขึ้น. ผู้ใช้หลายคนพบว่า ChatGPT และบอท AI อื่น ๆ เช่น Gemini หรือ Grok มักจะตอบแบบ “glazing” คือการ ย้ำคำถาม, ใส่คำพูดปลอบใจ, หรือใช้ภาษาฟุ่มเฟือย ก่อนจะเข้าสู่คำตอบจริง ซึ่งทำให้เสียเวลาและบางครั้งทำให้ข้อมูลไม่ชัดเจน. 🛠️ วิธีแก้ไขด้วย Instruction Prompts วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ instruction prompts เพื่อกำหนดแนวทางการตอบ เช่น ตัวอย่างที่ผู้เขียนใช้คือ: 👉 Do not restate my question, add filler, or soften your responses. Answer directly, concisely, and factually. Prioritize accuracy over politeness. If information is uncertain, say so explicitly instead of guessing. Focus only on the specific details I ask for. แปลเป็นไทยคือ 👉 อย่ากล่าวซ้ำคำถามของฉัน เพิ่มคำเติม หรือทำให้คำตอบของคุณไม่ตรงไปตรงมา ตอบตรงประเด็น กระชับ และตรงตามข้อเท็จจริง ให้ความสำคัญกับความถูกต้องมากกว่าความสุภาพ หากข้อมูลไม่ชัดเจน ให้พูดอย่างชัดเจนแทนที่จะเดา เน้นเฉพาะรายละเอียดเฉพาะที่ฉันถามเท่านั้น เมื่อใส่ prompt นี้ ChatGPT จะหยุดพฤติกรรม glazing และตอบตรงประเด็นมากขึ้น แม้บางครั้งยังมีการ “หลุด” กลับไปใช้สำนวนเดิม แต่โดยรวมถือว่าช่วยได้มาก. ⚙️ การปรับแต่ง Personality Settings นอกจาก instruction prompts แบบรายครั้งแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่ง custom personality ในการตั้งค่าของ ChatGPT หรือ Grok ได้ เช่น การเลือกบุคลิกที่ตรงไปตรงมา หรือใส่ custom instructions ให้บอทจดจำตลอดการสนทนา วิธีนี้ช่วยลดการต้องใส่ prompt ซ้ำ ๆ และทำให้บอทตอบตรงประเด็นในทุกการใช้งาน. 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ ปัญหาที่พบ ➡️ ChatGPT และบอท AI มักตอบแบบ glazing (ย้ำคำถาม, ใช้คำปลอบใจ, ฟุ่มเฟือย) ✅ วิธีแก้ไข ➡️ ใช้ instruction prompts เพื่อบังคับให้ตอบตรงประเด็น ➡️ ปรับแต่ง personality settings ให้ตอบแบบ concise และ factual ‼️ คำเตือน ⛔ แม้ใช้ instruction prompts แล้ว บอทยังอาจ “หลุด” กลับไปใช้สำนวนเดิม ⛔ ต้องทดสอบและปรับแต่งหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ https://www.slashgear.com/2030799/how-to-stop-chatgpt-and-other-ai-chatbots-from-glazing-over-your-conversations/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    You Can Stop ChatGPT (And Other AI Chatbots) From Glazing Over Your Conversations — Here's How - SlashGear
    Stop ChatGPT glazing by using clear instruction prompts and adjusting its personality so it replies concisely and accurately without restating your questions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASML ถูกกล่าวหาว่าเสนอเป็นสายให้สหรัฐฯ

    ตามรายงานจากหนังสือ De belangrijkste machine ter wereld (“The Most Important Machine in the World”) โดยอดีตนักข่าว Bloomberg สองคน ระบุว่า ASML เคยเสนอให้วิศวกรของตนรายงานข้อมูลจากโรงงานจีนต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ยังคงให้บริการลูกค้าในจีน แม้จะมีการห้ามขายเครื่อง EUV และ DUV ตามข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์

    ข้อตกลงและการละเมิด
    ในปี 2023 สหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ตกลงกันว่า ASML จะหยุดขายเครื่อง DUV ให้จีนตั้งแต่กันยายน และหยุดทั้งหมดภายในมกราคม 2024 แต่มีรายงานว่า ASML ขายเกินจำนวนที่ตกลงไว้ ทำให้รัฐบาลเนเธอร์แลนด์รู้สึก “ถูกหลอกและอับอาย” และสหรัฐฯ เรียกร้องให้บริษัทหาทางกู้ความไว้วางใจ

    ข้อเสนอที่เป็นข้อถกเถียง
    แทนที่จะหยุดให้บริการเครื่องจักรที่ติดตั้งแล้วในจีน ASML ถูกกล่าวหาว่าเสนอจะยังคงให้บริการ แต่ให้วิศวกรทำหน้าที่รายงานความเคลื่อนไหวในโรงงานจีนต่อสหรัฐฯ ซึ่งถูกตีความว่าเป็นการ “สอดแนม” อย่างไรก็ตาม ASML ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าหนังสือบิดเบือนข้อเท็จจริง

    ผลกระทบและความกังวล
    กรณีนี้สะท้อนความตึงเครียดในสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน การที่บริษัทเอกชนถูกกล่าวหาว่าอาจมีบทบาทเป็นสายให้รัฐบาลต่างชาติ ย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า และอาจละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวในหลายประเทศ

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อกล่าวหาต่อ ASML
    เสนอให้วิศวกรรายงานข้อมูลจากโรงงานจีนต่อสหรัฐฯ
    เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ยังคงให้บริการลูกค้าในจีน

    ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์
    ห้ามขายเครื่อง EUV และ DUV ให้จีนตั้งแต่ปี 2023
    ASML ถูกกล่าวหาว่าขายเกินจำนวนที่ตกลงไว้

    การปฏิเสธของ ASML
    บริษัทระบุว่าหนังสือบิดเบือนข้อเท็จจริง
    ยืนยันว่าไม่ได้เสนอทำหน้าที่เป็นสายให้สหรัฐฯ

    ผลกระทบที่ตามมา
    กระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและพันธมิตร
    สะท้อนความตึงเครียดในสงครามเทคโนโลยีสหรัฐฯ–จีน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/asml-allegedly-offered-to-spy-on-china-for-the-us-company-proposed-being-washingtons-eyes-and-ears-in-china-after-breaking-gentlemens-agreement-on-limiting-duv-sales-to-country-says-new-book
    📖 ASML ถูกกล่าวหาว่าเสนอเป็นสายให้สหรัฐฯ ตามรายงานจากหนังสือ De belangrijkste machine ter wereld (“The Most Important Machine in the World”) โดยอดีตนักข่าว Bloomberg สองคน ระบุว่า ASML เคยเสนอให้วิศวกรของตนรายงานข้อมูลจากโรงงานจีนต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ยังคงให้บริการลูกค้าในจีน แม้จะมีการห้ามขายเครื่อง EUV และ DUV ตามข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ ⚖️ ข้อตกลงและการละเมิด ในปี 2023 สหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ตกลงกันว่า ASML จะหยุดขายเครื่อง DUV ให้จีนตั้งแต่กันยายน และหยุดทั้งหมดภายในมกราคม 2024 แต่มีรายงานว่า ASML ขายเกินจำนวนที่ตกลงไว้ ทำให้รัฐบาลเนเธอร์แลนด์รู้สึก “ถูกหลอกและอับอาย” และสหรัฐฯ เรียกร้องให้บริษัทหาทางกู้ความไว้วางใจ 🕵️ ข้อเสนอที่เป็นข้อถกเถียง แทนที่จะหยุดให้บริการเครื่องจักรที่ติดตั้งแล้วในจีน ASML ถูกกล่าวหาว่าเสนอจะยังคงให้บริการ แต่ให้วิศวกรทำหน้าที่รายงานความเคลื่อนไหวในโรงงานจีนต่อสหรัฐฯ ซึ่งถูกตีความว่าเป็นการ “สอดแนม” อย่างไรก็ตาม ASML ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าหนังสือบิดเบือนข้อเท็จจริง 🌍 ผลกระทบและความกังวล กรณีนี้สะท้อนความตึงเครียดในสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน การที่บริษัทเอกชนถูกกล่าวหาว่าอาจมีบทบาทเป็นสายให้รัฐบาลต่างชาติ ย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า และอาจละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวในหลายประเทศ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อกล่าวหาต่อ ASML ➡️ เสนอให้วิศวกรรายงานข้อมูลจากโรงงานจีนต่อสหรัฐฯ ➡️ เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ยังคงให้บริการลูกค้าในจีน ✅ ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ ➡️ ห้ามขายเครื่อง EUV และ DUV ให้จีนตั้งแต่ปี 2023 ➡️ ASML ถูกกล่าวหาว่าขายเกินจำนวนที่ตกลงไว้ ✅ การปฏิเสธของ ASML ➡️ บริษัทระบุว่าหนังสือบิดเบือนข้อเท็จจริง ➡️ ยืนยันว่าไม่ได้เสนอทำหน้าที่เป็นสายให้สหรัฐฯ ✅ ผลกระทบที่ตามมา ➡️ กระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและพันธมิตร ➡️ สะท้อนความตึงเครียดในสงครามเทคโนโลยีสหรัฐฯ–จีน https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/asml-allegedly-offered-to-spy-on-china-for-the-us-company-proposed-being-washingtons-eyes-and-ears-in-china-after-breaking-gentlemens-agreement-on-limiting-duv-sales-to-country-says-new-book
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.31

    ทนายความมิใช่เพียงผู้ประกอบวิชาชีพ แต่คือกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมและเป็นผู้พิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชนตามหลักนิติรัฐ ในฐานะที่กฎหมายเป็นเครื่องมือที่รัฐใช้ในการจัดระเบียบสังคม การเข้าถึงความรู้และความเข้าใจในข้อกฎหมายจึงเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งยวดสำหรับทุกคน ทว่าด้วยความสลับซับซ้อนและรายละเอียดปลีกย่อยของตัวบทกฎหมายและระเบียบปฏิบัติทางศาล ทำให้ประชาชนทั่วไปยากที่จะสามารถดำเนินคดีหรือปกป้องผลประโยชน์ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีอยู่ของทนายความจึงเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ โดยทำหน้าที่เป็นผู้แทนทางกฎหมาย เป็นปากเสียง และเป็นผู้ให้คำปรึกษาทางวิชาการที่ถูกต้อง การเริ่มต้นตั้งแต่การให้คำปรึกษาเบื้องต้น การจัดเตรียมเอกสาร การสืบพยานหลักฐาน ไปจนถึงการว่าความในศาล ล้วนต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางจากทนายความผู้ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในข้อกฎหมายแพ่ง อาญา ปกครอง และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทนายความที่ดีจึงต้องมีคุณสมบัติที่ประกอบไปด้วยความรู้ทางวิชาการที่มั่นคง จริยธรรมและมรรยาททนายความที่เคร่งครัด ความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบด้าน และทักษะการสื่อสารที่คมคายและน่าเชื่อถือ การทำหน้าที่ว่าความในศาลนั้น ทนายความต้องแสดงความสามารถในการนำเสนอข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อสนับสนุนลูกความของตนอย่างเต็มที่ ภายใต้กรอบของกฎหมายและจริยธรรม โดยต้องรักษาความลับของลูกความและหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของวิชาชีพ ในหลายกรณี บทบาทของทนายความมิได้จำกัดอยู่แค่การสู้คดีในศาลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การเจรจาต่อรอง การร่างสัญญา และการวางแผนทางกฎหมายเชิงป้องกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดข้อพิพาทในอนาคต ซึ่งถือเป็นการให้บริการที่ทรงคุณค่าในการช่วยลดภาระของศาลและช่วยให้คู่ความสามารถหาข้อยุติที่เป็นธรรมและเป็นที่ยอมรับร่วมกันได้ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม ซึ่งรวมถึงการจัดหาทนายความขอแรงหรือทนายความอาสาสำหรับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อให้มั่นใจว่าสิทธิในการต่อสู้คดีและการได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายจะไม่ถูกจำกัดด้วยสถานะทางเศรษฐกิจ ทนายความจึงเป็นด่านหน้าในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเป็นผู้ที่คอยตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐให้เป็นไปตามหลักการแห่งกฎหมาย ความท้าทายในปัจจุบันที่ทนายความต้องเผชิญคือการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจำเป็นต้องมีการพัฒนาความรู้และทักษะใหม่อยู่เสมอเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกความได้อย่างทันท่วงที ท้ายที่สุดแล้ว ความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อทนายความเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้วิชาชีพนี้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างสง่างามและเป็นที่พึ่งของสังคม

    ด้วยเหตุนี้ ทนายความจึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างประชาชนกับระบบกฎหมาย เป็นผู้ที่คอยนำทางและปกป้องผลประโยชน์ของลูกความอย่างซื่อสัตย์และมีจรรยาบรรณ การเลือกใช้บริการทนายความที่เปี่ยมด้วยความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบ จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการแสวงหาความยุติธรรมและสร้างความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน การทำงานอย่างหนักและความมุ่งมั่นของทนายความแต่ละคนไม่เพียงแต่ส่งผลต่อคดีความของลูกความเท่านั้น แต่ยังส่งผลสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อความศักดิ์สิทธิ์และประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด การให้ความเคารพและตระหนักถึงบทบาทอันทรงเกียรตินี้จึงเป็นสิ่งสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรมในสังคมไทยตลอดไป
    บทความกฎหมาย EP.31 ทนายความมิใช่เพียงผู้ประกอบวิชาชีพ แต่คือกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมและเป็นผู้พิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชนตามหลักนิติรัฐ ในฐานะที่กฎหมายเป็นเครื่องมือที่รัฐใช้ในการจัดระเบียบสังคม การเข้าถึงความรู้และความเข้าใจในข้อกฎหมายจึงเป็นสิ่งจำเป็นยิ่งยวดสำหรับทุกคน ทว่าด้วยความสลับซับซ้อนและรายละเอียดปลีกย่อยของตัวบทกฎหมายและระเบียบปฏิบัติทางศาล ทำให้ประชาชนทั่วไปยากที่จะสามารถดำเนินคดีหรือปกป้องผลประโยชน์ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีอยู่ของทนายความจึงเข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ โดยทำหน้าที่เป็นผู้แทนทางกฎหมาย เป็นปากเสียง และเป็นผู้ให้คำปรึกษาทางวิชาการที่ถูกต้อง การเริ่มต้นตั้งแต่การให้คำปรึกษาเบื้องต้น การจัดเตรียมเอกสาร การสืบพยานหลักฐาน ไปจนถึงการว่าความในศาล ล้วนต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางจากทนายความผู้ซึ่งมีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในข้อกฎหมายแพ่ง อาญา ปกครอง และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทนายความที่ดีจึงต้องมีคุณสมบัติที่ประกอบไปด้วยความรู้ทางวิชาการที่มั่นคง จริยธรรมและมรรยาททนายความที่เคร่งครัด ความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบด้าน และทักษะการสื่อสารที่คมคายและน่าเชื่อถือ การทำหน้าที่ว่าความในศาลนั้น ทนายความต้องแสดงความสามารถในการนำเสนอข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อสนับสนุนลูกความของตนอย่างเต็มที่ ภายใต้กรอบของกฎหมายและจริยธรรม โดยต้องรักษาความลับของลูกความและหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของวิชาชีพ ในหลายกรณี บทบาทของทนายความมิได้จำกัดอยู่แค่การสู้คดีในศาลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การเจรจาต่อรอง การร่างสัญญา และการวางแผนทางกฎหมายเชิงป้องกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดข้อพิพาทในอนาคต ซึ่งถือเป็นการให้บริการที่ทรงคุณค่าในการช่วยลดภาระของศาลและช่วยให้คู่ความสามารถหาข้อยุติที่เป็นธรรมและเป็นที่ยอมรับร่วมกันได้ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเท่าเทียม ซึ่งรวมถึงการจัดหาทนายความขอแรงหรือทนายความอาสาสำหรับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อให้มั่นใจว่าสิทธิในการต่อสู้คดีและการได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมายจะไม่ถูกจำกัดด้วยสถานะทางเศรษฐกิจ ทนายความจึงเป็นด่านหน้าในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเป็นผู้ที่คอยตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐให้เป็นไปตามหลักการแห่งกฎหมาย ความท้าทายในปัจจุบันที่ทนายความต้องเผชิญคือการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจำเป็นต้องมีการพัฒนาความรู้และทักษะใหม่อยู่เสมอเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกความได้อย่างทันท่วงที ท้ายที่สุดแล้ว ความไว้วางใจที่ประชาชนมีต่อทนายความเป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้วิชาชีพนี้สามารถดำรงอยู่ได้อย่างสง่างามและเป็นที่พึ่งของสังคม ด้วยเหตุนี้ ทนายความจึงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างประชาชนกับระบบกฎหมาย เป็นผู้ที่คอยนำทางและปกป้องผลประโยชน์ของลูกความอย่างซื่อสัตย์และมีจรรยาบรรณ การเลือกใช้บริการทนายความที่เปี่ยมด้วยความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบ จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการแสวงหาความยุติธรรมและสร้างความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน การทำงานอย่างหนักและความมุ่งมั่นของทนายความแต่ละคนไม่เพียงแต่ส่งผลต่อคดีความของลูกความเท่านั้น แต่ยังส่งผลสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อความศักดิ์สิทธิ์และประสิทธิภาพของกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด การให้ความเคารพและตระหนักถึงบทบาทอันทรงเกียรตินี้จึงเป็นสิ่งสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งหลักนิติธรรมในสังคมไทยตลอดไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 624 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.30

    อำนาจหน้าที่ของตำรวจในฐานะผู้รักษากฎหมายมิได้จำกัดอยู่เพียงการปรากฏกายในเครื่องแบบ แต่คือการเป็นกลไกสำคัญที่สุดในการบังคับใช้กฎหมายอาญาและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อธำรงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสาธารณชน บทบาทหลักของตำรวจจึงครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันการกระทำผิดทางอาญา การป้องปรามมิให้เกิดความวุ่นวาย ไปจนถึงภารกิจอันละเอียดอ่อนของการสืบสวนสอบสวนเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด การใช้อำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจทุกขั้นตอน นับตั้งแต่การเรียกตรวจสอบ การจับกุม หรือการควบคุมตัวชั่วคราว จึงต้องอยู่ภายใต้กรอบของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด การปฏิบัติหน้าที่อย่างชอบด้วยกฎหมายเท่านั้นที่จะทำให้อำนาจรัฐมีความชอบธรรมและได้รับการยอมรับจากประชาชน ในแง่ของการสืบสวน ตำรวจคือด่านแรกที่ต้องรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคงให้แก่การพิจารณาคดีในชั้นอัยการและศาล การตัดสินใจทุกครั้ง ตั้งแต่การลงบันทึกประจำวันไปจนถึงการสรุปสำนวนคดี ล้วนมีผลกระทบโดยตรงต่อเสรีภาพและสิทธิของบุคคล รวมถึงความยุติธรรมที่สังคมคาดหวัง การเป็นเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายจึงหมายถึงการรับผิดชอบต่อการรักษาหลักนิติรัฐและนิติธรรมอย่างแท้จริง

    ภารกิจในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมของตำรวจเป็นไปเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์พื้นฐานของรัฐและประชาชน การป้องกันอาชญากรรมมิใช่เพียงการลาดตระเวนหรือการตั้งจุดตรวจ แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์อาชญากรรมเชิงพื้นที่และเชิงสังคม การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค เพื่อขจัดช่องโหว่และปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการกระทำผิด สำหรับการสืบสวนอาชญากรรม ตำรวจต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญในการรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ การสอบปากคำ และการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อเชื่อมโยงการกระทำผิดไปยังผู้ต้องหาได้อย่างปราศจากข้อสงสัย หน้าที่เหล่านี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อการลงโทษเท่านั้น แต่เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เจ้าพนักงานตำรวจจึงเป็นผู้ถืออำนาจตามกฎหมายที่ต้องใช้ดุลยพินิจภายใต้ความรับผิดชอบอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ความซับซ้อนของอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ทั้งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติ บทบาทของตำรวจจึงต้องพัฒนาตามทันเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายทางกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา

    ดังนั้น ตำรวจจึงเป็นมากกว่าผู้จับกุมหรือผู้สอบสวน แต่เป็นเสาหลักแห่งการบังคับใช้กฎหมายที่สร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นในชีวิตประจำวันของพลเมืองทุกคน การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจคือการแสดงออกถึงอำนาจอธิปไตยของรัฐในการคุ้มครองพลเมืองภายใต้หลักนิติธรรม ความสำเร็จของภารกิจตำรวจจึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเข้มแข็งของระบบกฎหมายในสังคม การมุ่งมั่นในจรรยาบรรณ การพัฒนาความรู้ทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และการยึดมั่นในความยุติธรรม จะเป็นเกราะป้องกันและเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพื่อให้สังคมไทยยังคงไว้ซึ่งความสงบสุขและความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายใต้ร่มเงาของกฎหมายตลอดไป
    บทความกฎหมาย EP.30 อำนาจหน้าที่ของตำรวจในฐานะผู้รักษากฎหมายมิได้จำกัดอยู่เพียงการปรากฏกายในเครื่องแบบ แต่คือการเป็นกลไกสำคัญที่สุดในการบังคับใช้กฎหมายอาญาและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อธำรงไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสาธารณชน บทบาทหลักของตำรวจจึงครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันการกระทำผิดทางอาญา การป้องปรามมิให้เกิดความวุ่นวาย ไปจนถึงภารกิจอันละเอียดอ่อนของการสืบสวนสอบสวนเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด การใช้อำนาจของเจ้าพนักงานตำรวจทุกขั้นตอน นับตั้งแต่การเรียกตรวจสอบ การจับกุม หรือการควบคุมตัวชั่วคราว จึงต้องอยู่ภายใต้กรอบของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด การปฏิบัติหน้าที่อย่างชอบด้วยกฎหมายเท่านั้นที่จะทำให้อำนาจรัฐมีความชอบธรรมและได้รับการยอมรับจากประชาชน ในแง่ของการสืบสวน ตำรวจคือด่านแรกที่ต้องรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคงให้แก่การพิจารณาคดีในชั้นอัยการและศาล การตัดสินใจทุกครั้ง ตั้งแต่การลงบันทึกประจำวันไปจนถึงการสรุปสำนวนคดี ล้วนมีผลกระทบโดยตรงต่อเสรีภาพและสิทธิของบุคคล รวมถึงความยุติธรรมที่สังคมคาดหวัง การเป็นเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายจึงหมายถึงการรับผิดชอบต่อการรักษาหลักนิติรัฐและนิติธรรมอย่างแท้จริง ภารกิจในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมของตำรวจเป็นไปเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์พื้นฐานของรัฐและประชาชน การป้องกันอาชญากรรมมิใช่เพียงการลาดตระเวนหรือการตั้งจุดตรวจ แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์อาชญากรรมเชิงพื้นที่และเชิงสังคม การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับชุมชน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค เพื่อขจัดช่องโหว่และปัจจัยกระตุ้นให้เกิดการกระทำผิด สำหรับการสืบสวนอาชญากรรม ตำรวจต้องใช้ทักษะความเชี่ยวชาญในการรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ การสอบปากคำ และการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อเชื่อมโยงการกระทำผิดไปยังผู้ต้องหาได้อย่างปราศจากข้อสงสัย หน้าที่เหล่านี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อการลงโทษเท่านั้น แต่เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เจ้าพนักงานตำรวจจึงเป็นผู้ถืออำนาจตามกฎหมายที่ต้องใช้ดุลยพินิจภายใต้ความรับผิดชอบอย่างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ความซับซ้อนของอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ทั้งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติ บทบาทของตำรวจจึงต้องพัฒนาตามทันเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายทางกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ดังนั้น ตำรวจจึงเป็นมากกว่าผู้จับกุมหรือผู้สอบสวน แต่เป็นเสาหลักแห่งการบังคับใช้กฎหมายที่สร้างความมั่นคงและความเชื่อมั่นในชีวิตประจำวันของพลเมืองทุกคน การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจคือการแสดงออกถึงอำนาจอธิปไตยของรัฐในการคุ้มครองพลเมืองภายใต้หลักนิติธรรม ความสำเร็จของภารกิจตำรวจจึงเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความเข้มแข็งของระบบกฎหมายในสังคม การมุ่งมั่นในจรรยาบรรณ การพัฒนาความรู้ทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และการยึดมั่นในความยุติธรรม จะเป็นเกราะป้องกันและเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพื่อให้สังคมไทยยังคงไว้ซึ่งความสงบสุขและความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายใต้ร่มเงาของกฎหมายตลอดไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 676 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.29

    การแสวงหาความยุติธรรมในชั้นสูงสุดของศาลไทย คือหัวใจสำคัญของกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด การฎีกาไม่ใช่เพียงแค่ขั้นตอนทางธุรการ แต่คือกลไกสุดท้ายที่เปิดโอกาสให้คู่ความได้นำข้อพิพาทขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลสูงสุดและเป็นที่พึ่งสุดท้ายในการอำนวยความยุติธรรมตามกฎหมายอย่างแท้จริง การอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ต่อศาลฎีกานี้ จึงเป็นด่านสุดท้ายที่กำหนดชะตาชีวิตและสิทธิของประชาชนภายใต้ระบบกฎหมายที่มุ่งเน้นความถูกต้องและเป็นธรรมอย่างถึงที่สุด ก่อนที่คำวินิจฉัยใดๆ จะกลายเป็นข้อยุติที่มีผลผูกพันตลอดไป

    โดยหลักการแล้ว การฎีกาถูกออกแบบมาให้เป็นกระบวนการที่มีความเข้มงวดและมีเงื่อนไขเฉพาะเจาะจงตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความได้กำหนดไว้ ศาลฎีกาในฐานะผู้ควบคุมความชอบด้วยกฎหมายและความถูกต้องของคำพิพากษา จะมุ่งเน้นการพิจารณาในประเด็นข้อกฎหมายเป็นหลัก ไม่ใช่การพิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมดซ้ำอีกครั้งเหมือนศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ขัดแย้งกับหลักกฎหมายที่สำคัญ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือเป็นข้อสงสัยที่สมควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลสูงสุดเพื่อสร้างบรรทัดฐานให้เกิดความมั่นคงในระบบยุติธรรม ความสำคัญของการฎีกาจึงอยู่ที่การสร้างความสม่ำเสมอในการใช้กฎหมาย การธำรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย และการให้โอกาสคู่ความที่เชื่อว่าคำวินิจฉัยในชั้นศาลล่างอาจมีความคลาดเคลื่อนในทางกฎหมายได้เข้าสู่การตรวจสอบขั้นสุดท้าย ภารกิจอันทรงเกียรตินี้จึงเรียกร้องความรอบคอบและวิจารณญาณสูงสุดในการตีความและประยุกต์ใช้กฎหมายเพื่ออำนวยความยุติธรรมที่เป็นเลิศ

    ดังนั้น ฎีกาจึงเป็นมากกว่าแค่การยื่นคำร้อง แต่มันคือการยืนยันถึงหลักการตรวจสอบและถ่วงดุลในกระบวนการยุติธรรมของชาติอย่างแท้จริง มันสะท้อนให้เห็นว่าแม้คำพิพากษาในชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์จะมีน้ำหนักและผลผูกพันเพียงใด แต่ประตูสู่การแสวงหาความยุติธรรมสูงสุดก็ยังเปิดอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและเงื่อนไขที่รัดกุม การตัดสินใจของศาลฎีกาจึงถือเป็นที่สุด เป็นข้อยุติที่กำหนดทิศทางของกฎหมายในอนาคตและเป็นหลักประกันสุดท้ายแห่งสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทุกคนภายใต้ร่มเงาแห่งความยุติธรรมของราชอาณาจักรไทย
    บทความกฎหมาย EP.29 การแสวงหาความยุติธรรมในชั้นสูงสุดของศาลไทย คือหัวใจสำคัญของกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด การฎีกาไม่ใช่เพียงแค่ขั้นตอนทางธุรการ แต่คือกลไกสุดท้ายที่เปิดโอกาสให้คู่ความได้นำข้อพิพาทขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลสูงสุดและเป็นที่พึ่งสุดท้ายในการอำนวยความยุติธรรมตามกฎหมายอย่างแท้จริง การอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ต่อศาลฎีกานี้ จึงเป็นด่านสุดท้ายที่กำหนดชะตาชีวิตและสิทธิของประชาชนภายใต้ระบบกฎหมายที่มุ่งเน้นความถูกต้องและเป็นธรรมอย่างถึงที่สุด ก่อนที่คำวินิจฉัยใดๆ จะกลายเป็นข้อยุติที่มีผลผูกพันตลอดไป โดยหลักการแล้ว การฎีกาถูกออกแบบมาให้เป็นกระบวนการที่มีความเข้มงวดและมีเงื่อนไขเฉพาะเจาะจงตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความได้กำหนดไว้ ศาลฎีกาในฐานะผู้ควบคุมความชอบด้วยกฎหมายและความถูกต้องของคำพิพากษา จะมุ่งเน้นการพิจารณาในประเด็นข้อกฎหมายเป็นหลัก ไม่ใช่การพิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมดซ้ำอีกครั้งเหมือนศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ขัดแย้งกับหลักกฎหมายที่สำคัญ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือเป็นข้อสงสัยที่สมควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลสูงสุดเพื่อสร้างบรรทัดฐานให้เกิดความมั่นคงในระบบยุติธรรม ความสำคัญของการฎีกาจึงอยู่ที่การสร้างความสม่ำเสมอในการใช้กฎหมาย การธำรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย และการให้โอกาสคู่ความที่เชื่อว่าคำวินิจฉัยในชั้นศาลล่างอาจมีความคลาดเคลื่อนในทางกฎหมายได้เข้าสู่การตรวจสอบขั้นสุดท้าย ภารกิจอันทรงเกียรตินี้จึงเรียกร้องความรอบคอบและวิจารณญาณสูงสุดในการตีความและประยุกต์ใช้กฎหมายเพื่ออำนวยความยุติธรรมที่เป็นเลิศ ดังนั้น ฎีกาจึงเป็นมากกว่าแค่การยื่นคำร้อง แต่มันคือการยืนยันถึงหลักการตรวจสอบและถ่วงดุลในกระบวนการยุติธรรมของชาติอย่างแท้จริง มันสะท้อนให้เห็นว่าแม้คำพิพากษาในชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์จะมีน้ำหนักและผลผูกพันเพียงใด แต่ประตูสู่การแสวงหาความยุติธรรมสูงสุดก็ยังเปิดอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและเงื่อนไขที่รัดกุม การตัดสินใจของศาลฎีกาจึงถือเป็นที่สุด เป็นข้อยุติที่กำหนดทิศทางของกฎหมายในอนาคตและเป็นหลักประกันสุดท้ายแห่งสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทุกคนภายใต้ร่มเงาแห่งความยุติธรรมของราชอาณาจักรไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว
  • "กรมคุก" ชี้แจงหลังบุกค้นเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พบผู้ต้องขังจีนบางรายมีอิทธิพลเหนือผู้ต้องขังอื่น และพบเจ้าหน้าที่ร่วมกระทำผิด สั่งย้าย ผบ.เรือนจำ–เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมตั้งทีมสอบข้อเท็จจริงทุกประเด็น

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110778

    #กรมราชทัณฑ์ #เรือนจำพิเศษกรุงเทพ #ผู้ต้องขังจีน #ราชทัณฑ์ #คดีร้ายแรง #News1live #News1
    "กรมคุก" ชี้แจงหลังบุกค้นเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พบผู้ต้องขังจีนบางรายมีอิทธิพลเหนือผู้ต้องขังอื่น และพบเจ้าหน้าที่ร่วมกระทำผิด สั่งย้าย ผบ.เรือนจำ–เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมตั้งทีมสอบข้อเท็จจริงทุกประเด็น • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110778 • #กรมราชทัณฑ์ #เรือนจำพิเศษกรุงเทพ #ผู้ต้องขังจีน #ราชทัณฑ์ #คดีร้ายแรง #News1live #News1
    Sad
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.28
    เรื่อง การชดใช้ค่าเสียหาย: หลักกฎหมายสู่การเยียวยาที่เป็นธรรม

    การชดใช้ค่าเสียหายคือหัวใจสำคัญของระบบกฎหมายที่มุ่งธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมและแก้ไขเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำอันมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิ หน้าที่ หรือการผิดสัญญาที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น การชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นกลไกในการฟื้นฟูสภาพความเสียหายให้กลับคืนสู่สถานะเดิมหรือใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมักจะแสดงออกในรูปของการชำระเงินทดแทน หรือการกระทำอื่นใดที่เป็นการเยียวยาความสูญเสียนั้น ในทางกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หลักการชดใช้ค่าเสียหายถูกกำหนดไว้เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่กรณีที่ได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายทางกายภาพ ทรัพย์สิน ชื่อเสียง หรือแม้กระทั่งความเสียหายทางจิตใจ ซึ่งความเสียหายเหล่านี้ต้องสามารถคำนวณและประเมินค่าได้ การพิจารณาประเภทและขอบเขตของค่าเสียหายนั้นขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงของแต่ละกรณีอย่างละเอียดรอบคอบ รวมถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม การละเมิดซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งหนี้ประเภทหนึ่ง หมายถึงการที่บุคคลใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด ค่าเสียหายอันเกิดจากการละเมิดอาจรวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าขาดไร้ประโยชน์ ค่าเสียหายทางจิตใจ หรือแม้กระทั่งค่าปลงศพและค่าอุปการะเลี้ยงดูในกรณีที่ถึงแก่ความตาย ส่วนการผิดสัญญาเป็นกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญา ก่อให้เกิดความเสียหายแก่อีกฝ่ายหนึ่ง การชดใช้ค่าเสียหายจากการผิดสัญญามักมุ่งเน้นไปที่การชดเชยเพื่อให้ผู้เสียหายอยู่ในฐานะเสมือนว่าสัญญานั้นได้มีการปฏิบัติตามอย่างสมบูรณ์ ซึ่งอาจรวมถึงค่าเสียหายโดยตรงที่เกิดขึ้นจากการผิดสัญญา และค่าเสียหายที่คาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นจากการผิดสัญญานั้นด้วย นอกจากนี้ กฎหมายยังให้ความสำคัญกับการพิสูจน์ความเสียหายและมูลค่าของความเสียหาย เพื่อให้การชดใช้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผลและไม่เกินกว่าความเป็นจริง ผู้เสียหายมีภาระในการนำสืบให้ศาลเห็นว่าตนได้รับความเสียหายจริงและมูลค่าของความเสียหายนั้นเป็นเท่าใด ซึ่งต้องอาศัยพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือประกอบการพิจารณา กระบวนการทางกฎหมายจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการไกล่เกลี่ยและตัดสินข้อพิพาท เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาอย่างถูกต้องตามครรลองของกฎหมาย

    ดังนั้น การชดใช้ค่าเสียหายจึงไม่ใช่เพียงแค่การจ่ายเงิน แต่เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบทางกฎหมายและการคืนความเป็นธรรมให้แก่สังคม กฎหมายได้วางหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อประเมินและกำหนดค่าเสียหายให้สอดคล้องกับสภาพความจริงและความรุนแรงของความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาอย่างเต็มที่และสมเหตุสมผล ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างบรรทัดฐานให้ผู้กระทำความผิดตระหนักถึงผลของการกระทำและป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นว่านั้นขึ้นอีก การทำความเข้าใจหลักการและประเภทของการชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่สำหรับนักกฎหมายเท่านั้น แต่รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย เพื่อที่จะสามารถปกป้องสิทธิของตนเองและเรียกร้องความเป็นธรรมได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อเกิดความเสียหายขึ้น การเยียวยาด้วยการชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นกลไกที่จำเป็นในการสร้างสมดุลและธำรงไว้ซึ่งความสงบสุขในสังคม.
    บทความกฎหมาย EP.28 เรื่อง การชดใช้ค่าเสียหาย: หลักกฎหมายสู่การเยียวยาที่เป็นธรรม การชดใช้ค่าเสียหายคือหัวใจสำคัญของระบบกฎหมายที่มุ่งธำรงไว้ซึ่งความเป็นธรรมและแก้ไขเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำอันมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิ หน้าที่ หรือการผิดสัญญาที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น การชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นกลไกในการฟื้นฟูสภาพความเสียหายให้กลับคืนสู่สถานะเดิมหรือใกล้เคียงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมักจะแสดงออกในรูปของการชำระเงินทดแทน หรือการกระทำอื่นใดที่เป็นการเยียวยาความสูญเสียนั้น ในทางกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หลักการชดใช้ค่าเสียหายถูกกำหนดไว้เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่กรณีที่ได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายทางกายภาพ ทรัพย์สิน ชื่อเสียง หรือแม้กระทั่งความเสียหายทางจิตใจ ซึ่งความเสียหายเหล่านี้ต้องสามารถคำนวณและประเมินค่าได้ การพิจารณาประเภทและขอบเขตของค่าเสียหายนั้นขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงของแต่ละกรณีอย่างละเอียดรอบคอบ รวมถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายได้รับการเยียวยาอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม การละเมิดซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งหนี้ประเภทหนึ่ง หมายถึงการที่บุคคลใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพย์สิน หรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใด ค่าเสียหายอันเกิดจากการละเมิดอาจรวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ค่าขาดไร้ประโยชน์ ค่าเสียหายทางจิตใจ หรือแม้กระทั่งค่าปลงศพและค่าอุปการะเลี้ยงดูในกรณีที่ถึงแก่ความตาย ส่วนการผิดสัญญาเป็นกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญา ก่อให้เกิดความเสียหายแก่อีกฝ่ายหนึ่ง การชดใช้ค่าเสียหายจากการผิดสัญญามักมุ่งเน้นไปที่การชดเชยเพื่อให้ผู้เสียหายอยู่ในฐานะเสมือนว่าสัญญานั้นได้มีการปฏิบัติตามอย่างสมบูรณ์ ซึ่งอาจรวมถึงค่าเสียหายโดยตรงที่เกิดขึ้นจากการผิดสัญญา และค่าเสียหายที่คาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นจากการผิดสัญญานั้นด้วย นอกจากนี้ กฎหมายยังให้ความสำคัญกับการพิสูจน์ความเสียหายและมูลค่าของความเสียหาย เพื่อให้การชดใช้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผลและไม่เกินกว่าความเป็นจริง ผู้เสียหายมีภาระในการนำสืบให้ศาลเห็นว่าตนได้รับความเสียหายจริงและมูลค่าของความเสียหายนั้นเป็นเท่าใด ซึ่งต้องอาศัยพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือประกอบการพิจารณา กระบวนการทางกฎหมายจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการไกล่เกลี่ยและตัดสินข้อพิพาท เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาอย่างถูกต้องตามครรลองของกฎหมาย ดังนั้น การชดใช้ค่าเสียหายจึงไม่ใช่เพียงแค่การจ่ายเงิน แต่เป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบทางกฎหมายและการคืนความเป็นธรรมให้แก่สังคม กฎหมายได้วางหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อประเมินและกำหนดค่าเสียหายให้สอดคล้องกับสภาพความจริงและความรุนแรงของความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาอย่างเต็มที่และสมเหตุสมผล ขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างบรรทัดฐานให้ผู้กระทำความผิดตระหนักถึงผลของการกระทำและป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นว่านั้นขึ้นอีก การทำความเข้าใจหลักการและประเภทของการชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่สำหรับนักกฎหมายเท่านั้น แต่รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วย เพื่อที่จะสามารถปกป้องสิทธิของตนเองและเรียกร้องความเป็นธรรมได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเมื่อเกิดความเสียหายขึ้น การเยียวยาด้วยการชดใช้ค่าเสียหายจึงเป็นกลไกที่จำเป็นในการสร้างสมดุลและธำรงไว้ซึ่งความสงบสุขในสังคม.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 416 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.26

    ในทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา "จุดเกิดเหตุ" หรือ Scene of Crime นั้นมิได้เป็นเพียงสถานที่ทางกายภาพที่เหตุอาชญากรรมได้อุบัติขึ้น หากแต่เป็นขุมทรัพย์แห่งพยานหลักฐาน เป็นต้นทางของการคลี่คลายคดี และเป็นรากฐานสำคัญในการพิสูจน์ความจริงและแสวงหาความยุติธรรมตามกฎหมาย จุดเกิดเหตุคือพื้นที่ซึ่งความประพฤติอันมิชอบด้วยกฎหมายได้ทิ้งร่องรอยไว้ ไม่ว่าจะเป็นร่องรอยทางกายภาพ เช่น ลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอ เส้นใย เศษแก้ว อาวุธ หรือร่องรอยทางสภาพแวดล้อม เช่น ตำแหน่งวัตถุ ทิศทางของรอยเลือด หรือลักษณะของความเสียหาย กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามอบอำนาจและหน้าที่อันสำคัญยิ่งให้แก่เจ้าพนักงานผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานสอบสวน ในการเข้าควบคุมและจัดการกับจุดเกิดเหตุอย่างเป็นระบบและรัดกุมที่สุด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพยานหลักฐานทุกชิ้นจะได้รับการเก็บรักษาและบันทึกไว้อย่างครบถ้วน ถูกต้อง และปราศจากการปนเปื้อน การดำเนินการที่จุดเกิดเหตุจึงต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เคร่งครัดของกฎหมายและหลักนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้เพื่อรักษาความชอบด้วยกฎหมาย (Admissibility) และน้ำหนัก (Weight) ของพยานหลักฐานเหล่านั้น เมื่อนำเสนอต่อศาลในชั้นพิจารณาคดี ความล้มเหลวในการจัดการจุดเกิดเหตุอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการละเลย การทำลาย หรือการทำให้พยานหลักฐานสำคัญปนเปื้อน ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถของพนักงานอัยการในการนำสืบให้ศาลเห็นถึงการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือจำเลย และอาจนำไปสู่ความผิดพลาดทางกระบวนการยุติธรรมได้ จุดเกิดเหตุจึงเป็นด่านแรกของการใช้กฎหมายอาญาอย่างแท้จริง เป็นพรมแดนที่ความจริงทางวัตถุต้องได้รับการแปลความหมายตามหลักการทางกฎหมายเพื่อนำไปสู่การตัดสินที่ยุติธรรม

    การเข้าตรวจค้นและเก็บพยานหลักฐานที่จุดเกิดเหตุโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น มีหลักการที่ต้องยึดถืออย่างเคร่งครัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อาญา) ซึ่งวางกรอบอำนาจในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ไว้ชัดเจน อาทิ การเข้าทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ การค้น การยึด หรือการอายัดพยานหลักฐาน ต้องกระทำภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด โดยอาจต้องมีหมายค้นจากศาลเป็นหลัก เว้นแต่ในสถานการณ์เร่งด่วนที่กฎหมายอนุญาตให้ดำเนินการได้โดยไม่มีหมายค้น เช่น การเข้าจับกุมผู้กระทำความผิดซึ่งหน้า หรือการเข้าช่วยเหลือบุคคลในภยันตราย โดยมีเหตุผลอันสมควรและความจำเป็นเป็นข้อจำกัดในการใช้ดุลยพินิจของเจ้าพนักงาน การปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดเกิดเหตุจึงเป็นกระบวนการที่เชื่อมโยงระหว่างข้อเท็จจริงทางวัตถุกับข้อกฎหมายอย่างแนบแน่น พยานหลักฐานที่ได้จากจุดเกิดเหตุจะถูกนำไปใช้ในการสร้างสายใยแห่งหลักฐาน หรือที่เรียกว่า Chain of Custody ซึ่งเป็นการบันทึกรายละเอียดตั้งแต่ขั้นตอนการค้นพบ การจัดเก็บ การรักษา การส่งมอบ ไปจนถึงการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญ และการนำเสนอต่อศาล การรักษา Chain of Custody อย่างสมบูรณ์และโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการยืนยันความแท้จริงและความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานเหล่านั้น เพื่อให้ศาลสามารถใช้ดุลยพินิจพิจารณาพิพากษาคดีได้อย่างถูกต้องและเที่ยงธรรมตามหลักกฎหมาย การตีความหลักฐานที่จุดเกิดเหตุยังต้องอาศัยหลักการทางนิติวิทยาศาสตร์เข้าช่วยสนับสนุนข้อสรุปทางกฎหมาย ซึ่งเป็นการผสานองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ากับกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้การวินิจฉัยความผิดนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์มากกว่าเพียงแค่คำให้การหรือข้อสันนิษฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคดีอาญาร้ายแรง หลักฐานที่จุดเกิดเหตุมักเป็นกุญแจสำคัญที่ใช้ในการผูกมัดผู้กระทำความผิด หรือในทางกลับกัน อาจนำไปสู่การยกฟ้องหรือพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาได้

    สรุปได้ว่า จุดเกิดเหตุไม่ใช่เพียงฉากของอาชญากรรม แต่เป็นแหล่งกำเนิดของข้อเท็จจริงทางกฎหมายที่ต้องได้รับการคุ้มครองและจัดการด้วยความระมัดระวังสูงสุดภายใต้กรอบของกฎหมายและหลักนิติธรรม ความสมบูรณ์ของพยานหลักฐานที่ได้จากจุดเกิดเหตุเป็นปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จหรือล้มเหลวในการนำคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้องและชอบธรรม การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานที่จุดเกิดเหตุจึงเป็นภารกิจที่ต้องดำเนินการด้วยความเชี่ยวชาญ ความโปร่งใส และความรับผิดชอบตามกฎหมายอย่างสูงสุด เพราะทุกร่องรอยและทุกวัตถุ ณ จุดนั้น ล้วนเป็นพยานเงียบที่จะนำพาไปสู่การค้นหาความจริงและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายในสังคม การให้ความสำคัญกับจุดเกิดเหตุคือการให้ความสำคัญกับหลักฐานทางวัตถุ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพิสูจน์ในศาลตามแนวทางแห่งนิติรัฐ
    บทความกฎหมาย EP.26 ในทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา "จุดเกิดเหตุ" หรือ Scene of Crime นั้นมิได้เป็นเพียงสถานที่ทางกายภาพที่เหตุอาชญากรรมได้อุบัติขึ้น หากแต่เป็นขุมทรัพย์แห่งพยานหลักฐาน เป็นต้นทางของการคลี่คลายคดี และเป็นรากฐานสำคัญในการพิสูจน์ความจริงและแสวงหาความยุติธรรมตามกฎหมาย จุดเกิดเหตุคือพื้นที่ซึ่งความประพฤติอันมิชอบด้วยกฎหมายได้ทิ้งร่องรอยไว้ ไม่ว่าจะเป็นร่องรอยทางกายภาพ เช่น ลายนิ้วมือ ดีเอ็นเอ เส้นใย เศษแก้ว อาวุธ หรือร่องรอยทางสภาพแวดล้อม เช่น ตำแหน่งวัตถุ ทิศทางของรอยเลือด หรือลักษณะของความเสียหาย กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามอบอำนาจและหน้าที่อันสำคัญยิ่งให้แก่เจ้าพนักงานผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานสอบสวน ในการเข้าควบคุมและจัดการกับจุดเกิดเหตุอย่างเป็นระบบและรัดกุมที่สุด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพยานหลักฐานทุกชิ้นจะได้รับการเก็บรักษาและบันทึกไว้อย่างครบถ้วน ถูกต้อง และปราศจากการปนเปื้อน การดำเนินการที่จุดเกิดเหตุจึงต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่เคร่งครัดของกฎหมายและหลักนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้เพื่อรักษาความชอบด้วยกฎหมาย (Admissibility) และน้ำหนัก (Weight) ของพยานหลักฐานเหล่านั้น เมื่อนำเสนอต่อศาลในชั้นพิจารณาคดี ความล้มเหลวในการจัดการจุดเกิดเหตุอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการละเลย การทำลาย หรือการทำให้พยานหลักฐานสำคัญปนเปื้อน ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถของพนักงานอัยการในการนำสืบให้ศาลเห็นถึงการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือจำเลย และอาจนำไปสู่ความผิดพลาดทางกระบวนการยุติธรรมได้ จุดเกิดเหตุจึงเป็นด่านแรกของการใช้กฎหมายอาญาอย่างแท้จริง เป็นพรมแดนที่ความจริงทางวัตถุต้องได้รับการแปลความหมายตามหลักการทางกฎหมายเพื่อนำไปสู่การตัดสินที่ยุติธรรม การเข้าตรวจค้นและเก็บพยานหลักฐานที่จุดเกิดเหตุโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น มีหลักการที่ต้องยึดถืออย่างเคร่งครัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิ.อาญา) ซึ่งวางกรอบอำนาจในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ไว้ชัดเจน อาทิ การเข้าทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ การค้น การยึด หรือการอายัดพยานหลักฐาน ต้องกระทำภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด โดยอาจต้องมีหมายค้นจากศาลเป็นหลัก เว้นแต่ในสถานการณ์เร่งด่วนที่กฎหมายอนุญาตให้ดำเนินการได้โดยไม่มีหมายค้น เช่น การเข้าจับกุมผู้กระทำความผิดซึ่งหน้า หรือการเข้าช่วยเหลือบุคคลในภยันตราย โดยมีเหตุผลอันสมควรและความจำเป็นเป็นข้อจำกัดในการใช้ดุลยพินิจของเจ้าพนักงาน การปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดเกิดเหตุจึงเป็นกระบวนการที่เชื่อมโยงระหว่างข้อเท็จจริงทางวัตถุกับข้อกฎหมายอย่างแนบแน่น พยานหลักฐานที่ได้จากจุดเกิดเหตุจะถูกนำไปใช้ในการสร้างสายใยแห่งหลักฐาน หรือที่เรียกว่า Chain of Custody ซึ่งเป็นการบันทึกรายละเอียดตั้งแต่ขั้นตอนการค้นพบ การจัดเก็บ การรักษา การส่งมอบ ไปจนถึงการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญ และการนำเสนอต่อศาล การรักษา Chain of Custody อย่างสมบูรณ์และโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการยืนยันความแท้จริงและความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานเหล่านั้น เพื่อให้ศาลสามารถใช้ดุลยพินิจพิจารณาพิพากษาคดีได้อย่างถูกต้องและเที่ยงธรรมตามหลักกฎหมาย การตีความหลักฐานที่จุดเกิดเหตุยังต้องอาศัยหลักการทางนิติวิทยาศาสตร์เข้าช่วยสนับสนุนข้อสรุปทางกฎหมาย ซึ่งเป็นการผสานองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้ากับกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้การวินิจฉัยความผิดนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์มากกว่าเพียงแค่คำให้การหรือข้อสันนิษฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคดีอาญาร้ายแรง หลักฐานที่จุดเกิดเหตุมักเป็นกุญแจสำคัญที่ใช้ในการผูกมัดผู้กระทำความผิด หรือในทางกลับกัน อาจนำไปสู่การยกฟ้องหรือพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาได้ สรุปได้ว่า จุดเกิดเหตุไม่ใช่เพียงฉากของอาชญากรรม แต่เป็นแหล่งกำเนิดของข้อเท็จจริงทางกฎหมายที่ต้องได้รับการคุ้มครองและจัดการด้วยความระมัดระวังสูงสุดภายใต้กรอบของกฎหมายและหลักนิติธรรม ความสมบูรณ์ของพยานหลักฐานที่ได้จากจุดเกิดเหตุเป็นปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จหรือล้มเหลวในการนำคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้องและชอบธรรม การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานที่จุดเกิดเหตุจึงเป็นภารกิจที่ต้องดำเนินการด้วยความเชี่ยวชาญ ความโปร่งใส และความรับผิดชอบตามกฎหมายอย่างสูงสุด เพราะทุกร่องรอยและทุกวัตถุ ณ จุดนั้น ล้วนเป็นพยานเงียบที่จะนำพาไปสู่การค้นหาความจริงและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายในสังคม การให้ความสำคัญกับจุดเกิดเหตุคือการให้ความสำคัญกับหลักฐานทางวัตถุ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพิสูจน์ในศาลตามแนวทางแห่งนิติรัฐ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 591 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI กำลังทำลาย Wikipedia – การศึกษาอาจเป็นทางรอด”

    บทความโดย Nadav Ziv และ Sam Wineburg ระบุว่า AI กำลังดูดข้อมูลจาก Wikipedia โดยไม่คืนทราฟฟิกกลับมา ทำให้ระบบนิเวศข้อมูลที่พึ่งพาการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครเสี่ยงต่อการเสื่อมสลาย แม้ Wikipedia จะถูกมองว่าไม่เชื่อถือได้ในโรงเรียน แต่จริง ๆ แล้วมีความแม่นยำสูง และถูกใช้โดยแพทย์และนักตรวจสอบข้อเท็จจริง

    ตัวอย่างที่ชัดคือโฆษณาของบริษัท AI อย่าง Perplexity ที่นำเสนอความสะดวกสบายในการให้คำตอบสั้น ๆ โดยไม่ต้องคลิกแหล่งข้อมูลใด ๆ แม้จะมีการใส่ลิงก์ แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็ไม่คลิกกลับไปยังต้นทาง ปัญหานี้สะท้อนว่า AI กำลัง “ตัดขาดข้อมูลจากแหล่งกำเนิด” และทำให้ผู้ใช้พอใจในคำตอบที่ถูกตัดทอน

    นอกจากนี้ AI ยังส่งผลกระทบต่อสื่ออื่น ๆ เช่น เว็บไซต์ข่าว ที่สูญเสียทราฟฟิกไปกว่า 35% เมื่อผู้ใช้พอใจกับสรุปที่ AI สร้างขึ้น ปรากฏการณ์นี้คล้ายกับยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่เสิร์ชเอนจินอย่าง AltaVista พยายามกักผู้ใช้ไว้ในแพลตฟอร์มเพื่อสร้างรายได้จากโฆษณา ต่างจาก Google ที่เคยช่วยส่งผู้ใช้ไปยังแหล่งข้อมูลจริง

    ผู้เขียนเสนอว่า การศึกษาเป็นทางออก โดยการสอนให้ผู้ใช้ตรวจสอบว่าใครอยู่เบื้องหลังข้อมูล และฝึกการคลิกกลับไปยังต้นทาง งานวิจัยในหลายประเทศแสดงให้เห็นว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงของการฝึกอบรมก็สามารถเพิ่มทักษะการตัดสินใจเชิงข้อมูลได้อย่างมาก การศึกษาเช่นนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ไม่เป็นเพียงผู้รับข้อมูลแบบ Passive แต่กลายเป็นผู้ตรวจสอบและผู้มีส่วนร่วมเชิงวิพากษ์

    สรุปสาระสำคัญ
    ปัญหาที่ Wikipedia เผชิญ
    AI ดึงข้อมูลไปใช้โดยไม่คืนทราฟฟิก
    ผู้ใช้พอใจกับคำตอบที่ถูกตัดทอน ไม่คลิกกลับไปยังต้นทาง
    ส่งผลให้แรงจูงใจในการสร้างเนื้อหาคุณภาพลดลง

    ผลกระทบต่อระบบนิเวศข้อมูล
    เว็บไซต์ข่าวสูญเสียทราฟฟิกกว่า 35%
    AI สร้างระบบที่กักผู้ใช้ไว้ในแพลตฟอร์ม คล้ายเสิร์ชเอนจินยุคแรก

    ข้อเสนอเพื่อแก้ปัญหา
    ใช้การศึกษาเพื่อสอนผู้ใช้ตรวจสอบแหล่งข้อมูล
    ฝึกให้คลิกกลับไปยังต้นทางและประเมินความน่าเชื่อถือ
    เปลี่ยนผู้ใช้จากผู้รับข้อมูลแบบ Passive เป็นผู้ตรวจสอบเชิงวิพากษ์

    คำเตือนจากบทความ
    หากผู้ใช้ยังคงพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบ อาจทำให้ข้อมูลคุณภาพหายไป
    ระบบนิเวศความรู้เสี่ยงต่อการเสื่อมสลายเมื่อแรงจูงใจในการสร้างเนื้อหาลดลง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/15/opinion-how-to-save-wikipedia-from-ai
    🌐 “AI กำลังทำลาย Wikipedia – การศึกษาอาจเป็นทางรอด” บทความโดย Nadav Ziv และ Sam Wineburg ระบุว่า AI กำลังดูดข้อมูลจาก Wikipedia โดยไม่คืนทราฟฟิกกลับมา ทำให้ระบบนิเวศข้อมูลที่พึ่งพาการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครเสี่ยงต่อการเสื่อมสลาย แม้ Wikipedia จะถูกมองว่าไม่เชื่อถือได้ในโรงเรียน แต่จริง ๆ แล้วมีความแม่นยำสูง และถูกใช้โดยแพทย์และนักตรวจสอบข้อเท็จจริง ตัวอย่างที่ชัดคือโฆษณาของบริษัท AI อย่าง Perplexity ที่นำเสนอความสะดวกสบายในการให้คำตอบสั้น ๆ โดยไม่ต้องคลิกแหล่งข้อมูลใด ๆ แม้จะมีการใส่ลิงก์ แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็ไม่คลิกกลับไปยังต้นทาง ปัญหานี้สะท้อนว่า AI กำลัง “ตัดขาดข้อมูลจากแหล่งกำเนิด” และทำให้ผู้ใช้พอใจในคำตอบที่ถูกตัดทอน นอกจากนี้ AI ยังส่งผลกระทบต่อสื่ออื่น ๆ เช่น เว็บไซต์ข่าว ที่สูญเสียทราฟฟิกไปกว่า 35% เมื่อผู้ใช้พอใจกับสรุปที่ AI สร้างขึ้น ปรากฏการณ์นี้คล้ายกับยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่เสิร์ชเอนจินอย่าง AltaVista พยายามกักผู้ใช้ไว้ในแพลตฟอร์มเพื่อสร้างรายได้จากโฆษณา ต่างจาก Google ที่เคยช่วยส่งผู้ใช้ไปยังแหล่งข้อมูลจริง ผู้เขียนเสนอว่า การศึกษาเป็นทางออก โดยการสอนให้ผู้ใช้ตรวจสอบว่าใครอยู่เบื้องหลังข้อมูล และฝึกการคลิกกลับไปยังต้นทาง งานวิจัยในหลายประเทศแสดงให้เห็นว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงของการฝึกอบรมก็สามารถเพิ่มทักษะการตัดสินใจเชิงข้อมูลได้อย่างมาก การศึกษาเช่นนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ไม่เป็นเพียงผู้รับข้อมูลแบบ Passive แต่กลายเป็นผู้ตรวจสอบและผู้มีส่วนร่วมเชิงวิพากษ์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ปัญหาที่ Wikipedia เผชิญ ➡️ AI ดึงข้อมูลไปใช้โดยไม่คืนทราฟฟิก ➡️ ผู้ใช้พอใจกับคำตอบที่ถูกตัดทอน ไม่คลิกกลับไปยังต้นทาง ➡️ ส่งผลให้แรงจูงใจในการสร้างเนื้อหาคุณภาพลดลง ✅ ผลกระทบต่อระบบนิเวศข้อมูล ➡️ เว็บไซต์ข่าวสูญเสียทราฟฟิกกว่า 35% ➡️ AI สร้างระบบที่กักผู้ใช้ไว้ในแพลตฟอร์ม คล้ายเสิร์ชเอนจินยุคแรก ✅ ข้อเสนอเพื่อแก้ปัญหา ➡️ ใช้การศึกษาเพื่อสอนผู้ใช้ตรวจสอบแหล่งข้อมูล ➡️ ฝึกให้คลิกกลับไปยังต้นทางและประเมินความน่าเชื่อถือ ➡️ เปลี่ยนผู้ใช้จากผู้รับข้อมูลแบบ Passive เป็นผู้ตรวจสอบเชิงวิพากษ์ ‼️ คำเตือนจากบทความ ⛔ หากผู้ใช้ยังคงพึ่งพา AI โดยไม่ตรวจสอบ อาจทำให้ข้อมูลคุณภาพหายไป ⛔ ระบบนิเวศความรู้เสี่ยงต่อการเสื่อมสลายเมื่อแรงจูงใจในการสร้างเนื้อหาลดลง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/15/opinion-how-to-save-wikipedia-from-ai
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: How to save Wikipedia from AI
    The volunteer-run online encyclopaedia just issued a stark warning: AI is exploiting the site's data, siphoning off its traffic, and threatening its future.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองนายกฯ สุชาติ ย้ำต้องสื่อสารข้อเท็จจริงสู่ประชาชน หลังหารือบูรณาการ 31 หน่วยงาน แก้ปัญหาสารหนูในแหล่งน้ำ
    https://www.thai-tai.tv/news/22352/
    .
    #ไทยไท #สุชาติชมกลิ่น #สารหนูปนเปื้อน #แม่น้ำโขง #คณะทำงาน3ชุด #คุณภาพน้ำ

    รองนายกฯ สุชาติ ย้ำต้องสื่อสารข้อเท็จจริงสู่ประชาชน หลังหารือบูรณาการ 31 หน่วยงาน แก้ปัญหาสารหนูในแหล่งน้ำ https://www.thai-tai.tv/news/22352/ . #ไทยไท #สุชาติชมกลิ่น #สารหนูปนเปื้อน #แม่น้ำโขง #คณะทำงาน3ชุด #คุณภาพน้ำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.23

    ในทางกฎหมาย สถานะของ "จำเลย" ถือเป็นหัวใจสำคัญในกระบวนการยุติธรรม เพราะจำเลยคือบุคคลผู้ซึ่งถูกยื่นฟ้องหรือถูกกล่าวหาอย่างเป็นทางการในศาล ไม่ว่าจะเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหมายอาญา หรือคดีที่เกี่ยวข้องกับการโต้แย้งสิทธิและหน้าที่ระหว่างบุคคลตามกฎหมายแพ่ง การเป็นจำเลยจึงมิใช่คำตัดสินว่าบุคคลนั้นกระทำความผิดแล้ว แต่เป็นเพียงการเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการที่เปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างละเอียดรอบด้านตามหลักการที่ว่าบุคคลนั้นยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีการพิสูจน์เป็นอย่างอื่น บทบาทของจำเลยภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและกฎหมายวิธีพิจารณาความ คือการใช้สิทธิในการแก้ต่างและนำเสนอพยานหลักฐานเพื่อหักล้างข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐานที่รับประกันความยุติธรรมและเสมอภาคในชั้นศาล การทำความเข้าใจสถานะนี้อย่างลึกซึ้งจึงเป็นการทำความเข้าใจรากฐานของความเที่ยงธรรมในสังคมไทย

    ความแตกต่างระหว่างจำเลยในคดีอาญาและคดีแพ่งนั้นมีความสำคัญยิ่งในทางปฏิบัติ ในคดีอาญา จำเลยต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาที่รัฐเป็นผู้ฟ้องร้องแทนประชาชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและลงโทษผู้กระทำความผิด ผลลัพธ์ของการพิจารณาคดีอาญาอาจนำไปสู่โทษทางร่างกายหรือการจำกัดอิสรภาพ เช่น การจำคุกหรือโทษปรับ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจำเลยโดยตรง ดังนั้น กฎหมายจึงให้ความคุ้มครองสิทธิจำเลยในคดีอาญาอย่างเข้มงวด เช่น สิทธิในการมีทนายความ สิทธิที่จะไม่ให้การเป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง และภาระการพิสูจน์ที่ตกอยู่แก่โจทก์อย่างหนักแน่น ขณะที่จำเลยในคดีแพ่งนั้นต้องเผชิญกับข้อเรียกร้องหรือคำขอให้ปฏิบัติการตามกฎหมายจากบุคคลอื่นหรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน ความรับผิดตามสัญญา หรือการชดใช้ค่าเสียหาย ผลลัพธ์ของคดีแพ่งจึงเป็นเรื่องของการจัดการความสัมพันธ์ทางกฎหมายและภาระทางการเงินเป็นหลัก แม้ว่าทั้งสองกรณีจะเป็นสถานะ "จำเลย" เหมือนกัน แต่ลักษณะของข้อกล่าวหาและผลทางกฎหมายที่ตามมานั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งกำหนดวิธีการต่อสู้คดีและระดับความคุ้มครองทางกฎหมายที่จำเลยจะได้รับ

    ในท้ายที่สุด สถานะของ "จำเลย" ไม่ว่าในคดีใดก็ตาม เป็นเพียงเครื่องบ่งชี้ว่าบุคคลนั้นได้เข้าสู่สนามของการพิสูจน์ความจริงภายใต้ระบบกฎหมายแล้ว การที่กฎหมายกำหนดให้ทุกคนมีสิทธิในการต่อสู้คดีและมีสิทธิที่จะได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด เป็นหลักประกันที่สำคัญที่สุดของหลักนิติธรรม การรับรู้และเคารพต่อสถานะของจำเลย รวมถึงการให้เกียรติในสิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรม จึงเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของสังคม เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปอย่างโปร่งใส เที่ยงตรง และธำรงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือของระบบกฎหมายโดยรวม
    บทความกฎหมาย EP.23 ในทางกฎหมาย สถานะของ "จำเลย" ถือเป็นหัวใจสำคัญในกระบวนการยุติธรรม เพราะจำเลยคือบุคคลผู้ซึ่งถูกยื่นฟ้องหรือถูกกล่าวหาอย่างเป็นทางการในศาล ไม่ว่าจะเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหมายอาญา หรือคดีที่เกี่ยวข้องกับการโต้แย้งสิทธิและหน้าที่ระหว่างบุคคลตามกฎหมายแพ่ง การเป็นจำเลยจึงมิใช่คำตัดสินว่าบุคคลนั้นกระทำความผิดแล้ว แต่เป็นเพียงการเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการที่เปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างละเอียดรอบด้านตามหลักการที่ว่าบุคคลนั้นยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีการพิสูจน์เป็นอย่างอื่น บทบาทของจำเลยภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและกฎหมายวิธีพิจารณาความ คือการใช้สิทธิในการแก้ต่างและนำเสนอพยานหลักฐานเพื่อหักล้างข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นสิทธิพื้นฐานที่รับประกันความยุติธรรมและเสมอภาคในชั้นศาล การทำความเข้าใจสถานะนี้อย่างลึกซึ้งจึงเป็นการทำความเข้าใจรากฐานของความเที่ยงธรรมในสังคมไทย ความแตกต่างระหว่างจำเลยในคดีอาญาและคดีแพ่งนั้นมีความสำคัญยิ่งในทางปฏิบัติ ในคดีอาญา จำเลยต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาที่รัฐเป็นผู้ฟ้องร้องแทนประชาชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและลงโทษผู้กระทำความผิด ผลลัพธ์ของการพิจารณาคดีอาญาอาจนำไปสู่โทษทางร่างกายหรือการจำกัดอิสรภาพ เช่น การจำคุกหรือโทษปรับ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตจำเลยโดยตรง ดังนั้น กฎหมายจึงให้ความคุ้มครองสิทธิจำเลยในคดีอาญาอย่างเข้มงวด เช่น สิทธิในการมีทนายความ สิทธิที่จะไม่ให้การเป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง และภาระการพิสูจน์ที่ตกอยู่แก่โจทก์อย่างหนักแน่น ขณะที่จำเลยในคดีแพ่งนั้นต้องเผชิญกับข้อเรียกร้องหรือคำขอให้ปฏิบัติการตามกฎหมายจากบุคคลอื่นหรือนิติบุคคลอื่น ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน ความรับผิดตามสัญญา หรือการชดใช้ค่าเสียหาย ผลลัพธ์ของคดีแพ่งจึงเป็นเรื่องของการจัดการความสัมพันธ์ทางกฎหมายและภาระทางการเงินเป็นหลัก แม้ว่าทั้งสองกรณีจะเป็นสถานะ "จำเลย" เหมือนกัน แต่ลักษณะของข้อกล่าวหาและผลทางกฎหมายที่ตามมานั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งกำหนดวิธีการต่อสู้คดีและระดับความคุ้มครองทางกฎหมายที่จำเลยจะได้รับ ในท้ายที่สุด สถานะของ "จำเลย" ไม่ว่าในคดีใดก็ตาม เป็นเพียงเครื่องบ่งชี้ว่าบุคคลนั้นได้เข้าสู่สนามของการพิสูจน์ความจริงภายใต้ระบบกฎหมายแล้ว การที่กฎหมายกำหนดให้ทุกคนมีสิทธิในการต่อสู้คดีและมีสิทธิที่จะได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด เป็นหลักประกันที่สำคัญที่สุดของหลักนิติธรรม การรับรู้และเคารพต่อสถานะของจำเลย รวมถึงการให้เกียรติในสิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรม จึงเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของสังคม เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปอย่างโปร่งใส เที่ยงตรง และธำรงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือของระบบกฎหมายโดยรวม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 625 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.21

    คำให้การ ไม่ได้เป็นเพียงข้อความ แต่คือองค์ประกอบสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นหัวใจของการแสวงหาความจริงในกระบวนการยุติธรรม คำให้การที่จำเลยหรือพยานนำเสนอต่อศาลนั้นมีความหมายลึกซึ้งกว่าการให้ข้อมูลทั่วไป เพราะมันเป็นเครื่องมือหลักที่ศาลใช้ในการพิจารณาไต่สวนและประกอบการวินิจฉัยชี้ขาดคดีความต่างๆ การกล่าวถ้อยคำอย่างถี่ถ้วนตามความเป็นจริง จึงถือเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง เนื่องจากคำพูดทุกคำมีน้ำหนัก มีผลกระทบโดยตรงต่อรูปคดี ชะตากรรมของคู่ความ และความถูกต้องเที่ยงธรรมที่จะเกิดขึ้นในสังคม การที่จำเลยได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงในมุมของตน ขณะที่พยานได้ให้ข้อมูลที่รับรู้มาตามหน้าที่ ย่อมเป็นการสร้างภาพที่สมบูรณ์ขึ้นเพื่อให้ศาลเห็นข้อเท็จจริงทั้งหมดรอบด้าน คำให้การจึงเป็นตัวแทนของเสียงของผู้เกี่ยวข้อง เป็นภาพสะท้อนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นหลักฐานทางวาจาที่ทรงพลังที่สุดในการพิสูจน์หรือหักล้างข้อกล่าวหา บทบาทนี้ทำให้คำให้การเป็นมากกว่าแค่ถ้อยคำ แต่คือรากฐานของการตัดสินใจที่ยุติธรรม

    ด้วยเหตุนี้ การเตรียมคำให้การจึงต้องทำด้วยความรอบคอบและเข้าใจในสาระสำคัญของคดีอย่างถ่องแท้ นักกฎหมายและคู่ความต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อกลั่นกรองข้อเท็จจริงและลำดับเรื่องราวให้มีความชัดเจน สอดคล้องกับพยานหลักฐานอื่นที่ปรากฏในสำนวนคดี ความน่าเชื่อถือของคำให้การขึ้นอยู่กับความจริงใจ ความสม่ำเสมอ และความสอดคล้องกันของข้อมูลที่นำเสนอในทุกขั้นตอนของการพิจารณา การใช้ถ้อยคำที่ชัดเจน ตรงประเด็น และปราศจากความคลุมเครือจะช่วยให้ศาลสามารถทำความเข้าใจในเจตนาและเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการกระทำหรือข้อกล่าวหาต่างๆ ได้โดยง่าย แม้ว่าในทางปฏิบัติอาจมีความกดดันหรือความซับซ้อนทางอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หลักการสำคัญที่สุดของคำให้การคือการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมาย เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีเหตุผลและเที่ยงธรรม การเคารพในความศักดิ์สิทธิ์ของคำให้การจึงเป็นการเคารพต่อความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมในองค์รวม

    ดังนั้น คำให้การที่จำเลยหรือพยานมอบต่อศาลจึงเป็นปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการพิจารณาคดี เป็นเครื่องมือในการค้นหาความจริงที่สำคัญยิ่ง เป็นพันธะสัญญาที่จะต้องกล่าวแต่สิ่งที่ถูกต้องเพื่อให้บรรลุผลแห่งความยุติธรรมสูงสุด บทบาทนี้ทำให้คำให้การเป็นเสาหลักที่ค้ำจุนความน่าเชื่อถือของระบบกฎหมาย และเป็นสิ่งยืนยันว่าทุกฝ่ายมีสิทธิและโอกาสในการนำเสนอข้อเท็จจริงเพื่อปกป้องสิทธิของตนอย่างเต็มที่ภายใต้ร่มเงาของกฎหมาย

    #กฎหมาย #ทนายความ
    #จันทศิษฐ์ทนายความ
    บทความกฎหมาย EP.21 คำให้การ ไม่ได้เป็นเพียงข้อความ แต่คือองค์ประกอบสำคัญที่ทำหน้าที่เป็นหัวใจของการแสวงหาความจริงในกระบวนการยุติธรรม คำให้การที่จำเลยหรือพยานนำเสนอต่อศาลนั้นมีความหมายลึกซึ้งกว่าการให้ข้อมูลทั่วไป เพราะมันเป็นเครื่องมือหลักที่ศาลใช้ในการพิจารณาไต่สวนและประกอบการวินิจฉัยชี้ขาดคดีความต่างๆ การกล่าวถ้อยคำอย่างถี่ถ้วนตามความเป็นจริง จึงถือเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง เนื่องจากคำพูดทุกคำมีน้ำหนัก มีผลกระทบโดยตรงต่อรูปคดี ชะตากรรมของคู่ความ และความถูกต้องเที่ยงธรรมที่จะเกิดขึ้นในสังคม การที่จำเลยได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงในมุมของตน ขณะที่พยานได้ให้ข้อมูลที่รับรู้มาตามหน้าที่ ย่อมเป็นการสร้างภาพที่สมบูรณ์ขึ้นเพื่อให้ศาลเห็นข้อเท็จจริงทั้งหมดรอบด้าน คำให้การจึงเป็นตัวแทนของเสียงของผู้เกี่ยวข้อง เป็นภาพสะท้อนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเป็นหลักฐานทางวาจาที่ทรงพลังที่สุดในการพิสูจน์หรือหักล้างข้อกล่าวหา บทบาทนี้ทำให้คำให้การเป็นมากกว่าแค่ถ้อยคำ แต่คือรากฐานของการตัดสินใจที่ยุติธรรม ด้วยเหตุนี้ การเตรียมคำให้การจึงต้องทำด้วยความรอบคอบและเข้าใจในสาระสำคัญของคดีอย่างถ่องแท้ นักกฎหมายและคู่ความต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อกลั่นกรองข้อเท็จจริงและลำดับเรื่องราวให้มีความชัดเจน สอดคล้องกับพยานหลักฐานอื่นที่ปรากฏในสำนวนคดี ความน่าเชื่อถือของคำให้การขึ้นอยู่กับความจริงใจ ความสม่ำเสมอ และความสอดคล้องกันของข้อมูลที่นำเสนอในทุกขั้นตอนของการพิจารณา การใช้ถ้อยคำที่ชัดเจน ตรงประเด็น และปราศจากความคลุมเครือจะช่วยให้ศาลสามารถทำความเข้าใจในเจตนาและเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการกระทำหรือข้อกล่าวหาต่างๆ ได้โดยง่าย แม้ว่าในทางปฏิบัติอาจมีความกดดันหรือความซับซ้อนทางอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หลักการสำคัญที่สุดของคำให้การคือการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมาย เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีเหตุผลและเที่ยงธรรม การเคารพในความศักดิ์สิทธิ์ของคำให้การจึงเป็นการเคารพต่อความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการยุติธรรมในองค์รวม ดังนั้น คำให้การที่จำเลยหรือพยานมอบต่อศาลจึงเป็นปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการพิจารณาคดี เป็นเครื่องมือในการค้นหาความจริงที่สำคัญยิ่ง เป็นพันธะสัญญาที่จะต้องกล่าวแต่สิ่งที่ถูกต้องเพื่อให้บรรลุผลแห่งความยุติธรรมสูงสุด บทบาทนี้ทำให้คำให้การเป็นเสาหลักที่ค้ำจุนความน่าเชื่อถือของระบบกฎหมาย และเป็นสิ่งยืนยันว่าทุกฝ่ายมีสิทธิและโอกาสในการนำเสนอข้อเท็จจริงเพื่อปกป้องสิทธิของตนอย่างเต็มที่ภายใต้ร่มเงาของกฎหมาย #กฎหมาย #ทนายความ #จันทศิษฐ์ทนายความ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 483 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เสียงสุดท้ายจากฟากฟ้า – NTSB กู้ข้อมูลจากกล่องดำ UPS ที่ไหม้เกรียมได้สำเร็จ”

    NTSB กู้เสียงสุดท้ายจากกล่องดำ UPS สำเร็จ! แม้เครื่องบินถูกไฟไหม้จนกล่องดำไหม้เกรียม เจ้าหน้าที่ NTSB ประกาศความสำเร็จในการกู้ข้อมูลเสียงจากกล่องดำของเที่ยวบิน UPS 2976 ที่ตกในรัฐเคนทักกี แม้กล่องดำจะถูกไฟไหม้จนเกรียม ก็ยังสามารถดึงเสียงนักบินช่วง 25 วินาทีก่อนเครื่องตกได้ครบถ้วน

    หลังเหตุเครื่องบินขนส่ง UPS เที่ยวบิน 2976 ตกในเมืองลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) ได้กู้คืนกล่องดำทั้งสองชุด ได้แก่ Cockpit Voice Recorder (CVR) และ Flight Data Recorder (FDR) แม้จะถูกไฟไหม้จนกลายเป็นสีดำสนิท

    สิ่งที่น่าทึ่งคือ NTSB สามารถดึงข้อมูลเสียงจาก CVR ได้ครบถ้วนถึง 2 ชั่วโมง 4 นาที รวมถึง 25 วินาทีสุดท้าย ก่อนเครื่องตก ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่นักบินพยายามควบคุมเครื่องบินหลังมีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    เสียงที่บันทึกไว้เผยให้เห็นว่านักบินได้ทำตามขั้นตอนปกติในการเตรียมเครื่องขึ้นบิน ก่อนจะเกิดเหตุไม่คาดฝันเพียง 37 วินาทีหลังจากเร่งเครื่องขึ้นบิน โดยมีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นตลอดจนถึงวินาทีสุดท้าย

    แม้กล่องดำจะไหม้เกรียม แต่ด้วยเทคโนโลยี solid-state memory ที่ทนความร้อนสูงถึง 1,100°C และแรงกระแทกกว่า 3,400G ทำให้ข้อมูลภายในยังคงอยู่ครบถ้วน และสามารถนำมาวิเคราะห์หาสาเหตุของอุบัติเหตุได้

    NTSB ยืนยันว่าจะยังไม่เปิดเผยเนื้อหาของเสียงบันทึก จนกว่ารายงานข้อเท็จจริงอื่นๆ จะเสร็จสมบูรณ์และเผยแพร่ในเอกสารสาธารณะในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    NTSB กู้กล่องดำจากเที่ยวบิน UPS 2976 ได้สำเร็จ
    กล่องดำประกอบด้วย CVR และ FDR
    แม้จะถูกไฟไหม้ แต่ข้อมูลยังอยู่ครบ
    CVR บันทึกเสียงได้ 2 ชั่วโมง 4 นาที
    มีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น 25 วินาทีก่อนเครื่องตก

    เทคโนโลยีของกล่องดำ
    ใช้ solid-state memory แทนเทปแม่เหล็ก
    ทนแรงกระแทก 3,400G และความร้อน 1,100°C
    ทนแรงดันใต้น้ำลึก 20,000 ฟุต

    ขั้นตอนการวิเคราะห์ของ NTSB
    ข้อมูลจะถูกถอดเสียงโดยผู้เชี่ยวชาญ
    รายงานจะเผยแพร่เมื่อข้อมูลทั้งหมดพร้อม
    เป้าหมายคือป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดซ้ำ

    คำเตือนเกี่ยวกับการตีความข้อมูลกล่องดำ
    ข้อมูลเสียงไม่ควรถูกนำไปตีความก่อนการวิเคราะห์อย่างเป็นทางการ
    การคาดเดาสาเหตุโดยไม่มีข้อมูลครบถ้วน อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด

    ความเสี่ยงจากการบินเชิงพาณิชย์
    แม้จะมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง แต่เหตุไม่คาดฝันยังเกิดขึ้นได้
    การวิเคราะห์กล่องดำจึงมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงความปลอดภัย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/investigators-recover-black-boxes-from-ups-plane-crash-detail-data-recovery-process-ntsb-successfully-extracts-cockpit-audio-from-charred-remains
    ✈️ “เสียงสุดท้ายจากฟากฟ้า – NTSB กู้ข้อมูลจากกล่องดำ UPS ที่ไหม้เกรียมได้สำเร็จ” NTSB กู้เสียงสุดท้ายจากกล่องดำ UPS สำเร็จ! แม้เครื่องบินถูกไฟไหม้จนกล่องดำไหม้เกรียม เจ้าหน้าที่ NTSB ประกาศความสำเร็จในการกู้ข้อมูลเสียงจากกล่องดำของเที่ยวบิน UPS 2976 ที่ตกในรัฐเคนทักกี แม้กล่องดำจะถูกไฟไหม้จนเกรียม ก็ยังสามารถดึงเสียงนักบินช่วง 25 วินาทีก่อนเครื่องตกได้ครบถ้วน หลังเหตุเครื่องบินขนส่ง UPS เที่ยวบิน 2976 ตกในเมืองลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ (NTSB) ได้กู้คืนกล่องดำทั้งสองชุด ได้แก่ Cockpit Voice Recorder (CVR) และ Flight Data Recorder (FDR) แม้จะถูกไฟไหม้จนกลายเป็นสีดำสนิท สิ่งที่น่าทึ่งคือ NTSB สามารถดึงข้อมูลเสียงจาก CVR ได้ครบถ้วนถึง 2 ชั่วโมง 4 นาที รวมถึง 25 วินาทีสุดท้าย ก่อนเครื่องตก ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่นักบินพยายามควบคุมเครื่องบินหลังมีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสียงที่บันทึกไว้เผยให้เห็นว่านักบินได้ทำตามขั้นตอนปกติในการเตรียมเครื่องขึ้นบิน ก่อนจะเกิดเหตุไม่คาดฝันเพียง 37 วินาทีหลังจากเร่งเครื่องขึ้นบิน โดยมีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้นตลอดจนถึงวินาทีสุดท้าย แม้กล่องดำจะไหม้เกรียม แต่ด้วยเทคโนโลยี solid-state memory ที่ทนความร้อนสูงถึง 1,100°C และแรงกระแทกกว่า 3,400G ทำให้ข้อมูลภายในยังคงอยู่ครบถ้วน และสามารถนำมาวิเคราะห์หาสาเหตุของอุบัติเหตุได้ NTSB ยืนยันว่าจะยังไม่เปิดเผยเนื้อหาของเสียงบันทึก จนกว่ารายงานข้อเท็จจริงอื่นๆ จะเสร็จสมบูรณ์และเผยแพร่ในเอกสารสาธารณะในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ✅ NTSB กู้กล่องดำจากเที่ยวบิน UPS 2976 ได้สำเร็จ ➡️ กล่องดำประกอบด้วย CVR และ FDR ➡️ แม้จะถูกไฟไหม้ แต่ข้อมูลยังอยู่ครบ ➡️ CVR บันทึกเสียงได้ 2 ชั่วโมง 4 นาที ➡️ มีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น 25 วินาทีก่อนเครื่องตก ✅ เทคโนโลยีของกล่องดำ ➡️ ใช้ solid-state memory แทนเทปแม่เหล็ก ➡️ ทนแรงกระแทก 3,400G และความร้อน 1,100°C ➡️ ทนแรงดันใต้น้ำลึก 20,000 ฟุต ✅ ขั้นตอนการวิเคราะห์ของ NTSB ➡️ ข้อมูลจะถูกถอดเสียงโดยผู้เชี่ยวชาญ ➡️ รายงานจะเผยแพร่เมื่อข้อมูลทั้งหมดพร้อม ➡️ เป้าหมายคือป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เกิดซ้ำ ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการตีความข้อมูลกล่องดำ ⛔ ข้อมูลเสียงไม่ควรถูกนำไปตีความก่อนการวิเคราะห์อย่างเป็นทางการ ⛔ การคาดเดาสาเหตุโดยไม่มีข้อมูลครบถ้วน อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ‼️ ความเสี่ยงจากการบินเชิงพาณิชย์ ⛔ แม้จะมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง แต่เหตุไม่คาดฝันยังเกิดขึ้นได้ ⛔ การวิเคราะห์กล่องดำจึงมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงความปลอดภัย https://www.tomshardware.com/tech-industry/investigators-recover-black-boxes-from-ups-plane-crash-detail-data-recovery-process-ntsb-successfully-extracts-cockpit-audio-from-charred-remains
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ทน ‘ทินกร’ รองผบช.ไซเบอร์ ปฏิเสธไม่เคยร่วมจับ 'ชนนพัฒฐ์‘ บิ๊กโจ๊ก ใส่ร้ายให้สังคมเข้าใจผิด พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ โพสต์ชี้แจงแรง ยืนยันไม่เกี่ยวคดีจับ ส.ส.ชนนพัฒฐ์ ลั่นทำงานตรงไปตรงมาตามหลักฐาน ซัด “บิ๊กโจ๊ก” บิดเบือนข้อเท็จจริง ทำสังคมสับสน

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000106898

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #ข่าว
    #บิ๊กโจ๊ก #ทินกรรังมาตย์ #ตำรวจไซเบอร์ #คดีเว็บพนัน #truthfromthailand #newsupdate
    ไม่ทน ‘ทินกร’ รองผบช.ไซเบอร์ ปฏิเสธไม่เคยร่วมจับ 'ชนนพัฒฐ์‘ บิ๊กโจ๊ก ใส่ร้ายให้สังคมเข้าใจผิด พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ โพสต์ชี้แจงแรง ยืนยันไม่เกี่ยวคดีจับ ส.ส.ชนนพัฒฐ์ ลั่นทำงานตรงไปตรงมาตามหลักฐาน ซัด “บิ๊กโจ๊ก” บิดเบือนข้อเท็จจริง ทำสังคมสับสน อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000106898 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #ข่าว #บิ๊กโจ๊ก #ทินกรรังมาตย์ #ตำรวจไซเบอร์ #คดีเว็บพนัน #truthfromthailand #newsupdate
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 1 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.18

    การยื่นคำร้องต่อศาลหรือหน่วยงานรัฐเป็นมากกว่าการส่งเอกสาร แต่คือการใช้สิทธิอันชอบธรรมของพลเมืองในการขอให้ภาครัฐใช้อำนาจตามกฎหมายเพื่อแก้ไข เยียวยา หรือดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและความเป็นอยู่ของพวกเขา คำร้องเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้เสียงของประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่ระดับชาติถูกนำไปพิจารณาในระบบยุติธรรมและระบบบริหารราชการแผ่นดิน มันสะท้อนถึงหลักการพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจสูงสุดเป็นของปวงชนและสามารถแสดงออกผ่านช่องทางที่เป็นทางการเพื่อแสวงหาความยุติธรรมหรือการบริการจากรัฐ การเตรียมคำร้องจึงต้องอาศัยความเข้าใจในข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง และการเขียนที่ชัดเจนและหนักแน่น เพื่อให้ข้อเรียกร้องนั้นมีน้ำหนักและนำไปสู่การพิจารณาอย่างจริงจังตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ การกระทำนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของการมีส่วนร่วมและการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของรัฐด้วยวิถีทางที่สงบและเป็นระบบ

    ในทางปฏิบัติ คำร้องที่ถูกยื่นจะถูกกลั่นกรองและประเมินโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือคณะผู้พิพากษาตามแต่กรณี การตอบสนองต่อคำร้องนั้นอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบาย การยกเลิกคำสั่งที่ไม่ชอบ หรือการพิพากษาคดีเพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทุกครั้งที่มีการยื่นคำร้อง ถือเป็นการเปิดโอกาสให้หน่วยงานรัฐได้ทบทวนการทำงานของตนเองและปรับปรุงการให้บริการหรือการบังคับใช้กฎหมายให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรมมากยิ่งขึ้น ความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการนี้อยู่ที่การให้โอกาสแก่ทุกฝ่ายได้นำเสนอข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เป็นการยืนยันว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และทุกคนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ การลงนามในคำร้องแต่ละฉบับจึงเปรียบเสมือนการส่งมอบความหวังและความเชื่อมั่นในระบบ ในขณะเดียวกันก็เป็นการท้าทายให้ระบบนั้นต้องทำงานอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพสูงสุด

    ท้ายที่สุดแล้ว คำร้องคือเครื่องมือทรงพลังที่เปลี่ยนข้อความบนกระดาษให้กลายเป็น การเคลื่อนไหวเพื่อความเป็นธรรมและการเรียกร้องให้เกิดการกระทำ ที่เป็นรูปธรรม มันคือหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเสียงเล็กๆ ของประชาชนมีความหมายและมีช่องทางที่เปิดกว้างในการสร้างผลกระทบต่อการตัดสินใจของรัฐ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นไปตามที่ร้องขอหรือไม่ กระบวนการยื่นคำร้องเองก็เป็นเครื่องยืนยันถึงสิทธิเสรีภาพและเป็นรากฐานสำคัญที่ค้ำจุนสังคมที่ยึดมั่นในหลักนิติธรรมไว้ได้อย่างมั่นคง คำร้องจึงมิใช่เพียงแค่การขอ แต่คือ การประกาศสิทธิ์ ที่รอคอยการตอบรับจากผู้มีอำนาจเพื่อผลประโยชน์สาธารณะและความเป็นธรรมของสังคมโดยรวม
    บทความกฎหมาย EP.18 การยื่นคำร้องต่อศาลหรือหน่วยงานรัฐเป็นมากกว่าการส่งเอกสาร แต่คือการใช้สิทธิอันชอบธรรมของพลเมืองในการขอให้ภาครัฐใช้อำนาจตามกฎหมายเพื่อแก้ไข เยียวยา หรือดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและความเป็นอยู่ของพวกเขา คำร้องเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้เสียงของประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่ระดับชาติถูกนำไปพิจารณาในระบบยุติธรรมและระบบบริหารราชการแผ่นดิน มันสะท้อนถึงหลักการพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจสูงสุดเป็นของปวงชนและสามารถแสดงออกผ่านช่องทางที่เป็นทางการเพื่อแสวงหาความยุติธรรมหรือการบริการจากรัฐ การเตรียมคำร้องจึงต้องอาศัยความเข้าใจในข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง และการเขียนที่ชัดเจนและหนักแน่น เพื่อให้ข้อเรียกร้องนั้นมีน้ำหนักและนำไปสู่การพิจารณาอย่างจริงจังตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ การกระทำนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของการมีส่วนร่วมและการตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจของรัฐด้วยวิถีทางที่สงบและเป็นระบบ ในทางปฏิบัติ คำร้องที่ถูกยื่นจะถูกกลั่นกรองและประเมินโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหรือคณะผู้พิพากษาตามแต่กรณี การตอบสนองต่อคำร้องนั้นอาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบาย การยกเลิกคำสั่งที่ไม่ชอบ หรือการพิพากษาคดีเพื่อคืนความยุติธรรมให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทุกครั้งที่มีการยื่นคำร้อง ถือเป็นการเปิดโอกาสให้หน่วยงานรัฐได้ทบทวนการทำงานของตนเองและปรับปรุงการให้บริการหรือการบังคับใช้กฎหมายให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและหลักนิติธรรมมากยิ่งขึ้น ความศักดิ์สิทธิ์ของกระบวนการนี้อยู่ที่การให้โอกาสแก่ทุกฝ่ายได้นำเสนอข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายอย่างเต็มที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เป็นการยืนยันว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย และทุกคนสามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้ การลงนามในคำร้องแต่ละฉบับจึงเปรียบเสมือนการส่งมอบความหวังและความเชื่อมั่นในระบบ ในขณะเดียวกันก็เป็นการท้าทายให้ระบบนั้นต้องทำงานอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพสูงสุด ท้ายที่สุดแล้ว คำร้องคือเครื่องมือทรงพลังที่เปลี่ยนข้อความบนกระดาษให้กลายเป็น การเคลื่อนไหวเพื่อความเป็นธรรมและการเรียกร้องให้เกิดการกระทำ ที่เป็นรูปธรรม มันคือหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเสียงเล็กๆ ของประชาชนมีความหมายและมีช่องทางที่เปิดกว้างในการสร้างผลกระทบต่อการตัดสินใจของรัฐ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นไปตามที่ร้องขอหรือไม่ กระบวนการยื่นคำร้องเองก็เป็นเครื่องยืนยันถึงสิทธิเสรีภาพและเป็นรากฐานสำคัญที่ค้ำจุนสังคมที่ยึดมั่นในหลักนิติธรรมไว้ได้อย่างมั่นคง คำร้องจึงมิใช่เพียงแค่การขอ แต่คือ การประกาศสิทธิ์ ที่รอคอยการตอบรับจากผู้มีอำนาจเพื่อผลประโยชน์สาธารณะและความเป็นธรรมของสังคมโดยรวม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 651 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts