• อสูรกายในคราบครูภัยร้ายใกล้ตัวครอบครัวไทย : ถอนหมุดข่าว 07-10-68
    อสูรกายในคราบครูภัยร้ายใกล้ตัวครอบครัวไทย : ถอนหมุดข่าว 07-10-68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • พระสมเด็จปรกโพธิ์ข้างแจกัน เจ้าคุณเที่ยง วัดระฆัง
    พระสมเด็จปรกโพธิ์ข้างแจกัน (ยุคแรก) เนื้อมวลสารผงเก่ามากมาย เช่น ผงวิเศษ ผงอิทธิเจ ผงปัถมัง ผงมหาราช เจ้าคุณเที่ยง วัดระฆัง // พระดีพิธีใหญ่ !! มีหลวงปู่หิน หลวงปู่นาค และพระคณาจารย์มากมายร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณความร่มเย็นเป็นสุข และ ความอุดมสมบูรณ์ เมตตามหานิยม ทำให้คนรักคนเมตตา โชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง ส่งเสริมมหาโชค มหาลาภ และมหาโภคทรัพย์ สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผู้บูชา >>

    ** เจ้าคุณเที่ยง "พระเทพวิสุทธิเมธี" (เที่ยง อคฺคธมฺโม) เจ้าอารามวัดระฆังฯ กรุงเทพฯ ท่านเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากลูกศิษย์ลูกหาและ พุทธสาสนิกกาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก หลวงพ่อเที่ยง เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ตั้งแต่สมัยดำรงสมณศักดิ์เป็นพระราชวิสุทธิกวี แต่เรียกท่านด้วยความเคารพว่า หลวงพ่อเที่ยง ท่านเป็นพระที่ทรงภูมิรู้ทางด้านบาลีเป็นเอกอุ และความสามารถในการประพันธ์เป็นยอด เรียกว่าหายใจเป็นบทกลอนก็แล้วกัน เป็นพระภิกษุที่มีปฏิปทางดงาม กราบไหว้กันได้สนิทใจ **

    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระสมเด็จปรกโพธิ์ข้างแจกัน เจ้าคุณเที่ยง วัดระฆัง พระสมเด็จปรกโพธิ์ข้างแจกัน (ยุคแรก) เนื้อมวลสารผงเก่ามากมาย เช่น ผงวิเศษ ผงอิทธิเจ ผงปัถมัง ผงมหาราช เจ้าคุณเที่ยง วัดระฆัง // พระดีพิธีใหญ่ !! มีหลวงปู่หิน หลวงปู่นาค และพระคณาจารย์มากมายร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณความร่มเย็นเป็นสุข และ ความอุดมสมบูรณ์ เมตตามหานิยม ทำให้คนรักคนเมตตา โชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง ส่งเสริมมหาโชค มหาลาภ และมหาโภคทรัพย์ สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ผู้บูชา >> ** เจ้าคุณเที่ยง "พระเทพวิสุทธิเมธี" (เที่ยง อคฺคธมฺโม) เจ้าอารามวัดระฆังฯ กรุงเทพฯ ท่านเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากลูกศิษย์ลูกหาและ พุทธสาสนิกกาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก หลวงพ่อเที่ยง เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ตั้งแต่สมัยดำรงสมณศักดิ์เป็นพระราชวิสุทธิกวี แต่เรียกท่านด้วยความเคารพว่า หลวงพ่อเที่ยง ท่านเป็นพระที่ทรงภูมิรู้ทางด้านบาลีเป็นเอกอุ และความสามารถในการประพันธ์เป็นยอด เรียกว่าหายใจเป็นบทกลอนก็แล้วกัน เป็นพระภิกษุที่มีปฏิปทางดงาม กราบไหว้กันได้สนิทใจ ** ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ไทยก้าวใหม่’ ตัวแปรการเมือง ชิงฐานเสียงคนรุ่นใหม่ : ข่าวลึกปมลับ 07-10-68
    ‘ไทยก้าวใหม่’ ตัวแปรการเมือง ชิงฐานเสียงคนรุ่นใหม่ : ข่าวลึกปมลับ 07-10-68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ปารีณาไม่เนียน อ้างไม่รู้รุกที่ป่า เป็นนักการเมืองแท้ๆ… (7/10/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #ปารีณา
    #การเมืองไทย
    #รุกที่ป่า
    #ข่าววันนี้
    #newsupdate
    #ข่าวtiktok
    #เทรนวันนี้
    ปารีณาไม่เนียน อ้างไม่รู้รุกที่ป่า เป็นนักการเมืองแท้ๆ… (7/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #ปารีณา #การเมืองไทย #รุกที่ป่า #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok #เทรนวันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • กฎหมายมีไว้จัดการคนผิด หรือจัดการขั้วตรงข้าม (7/10/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #การเมืองไทย
    #กฎหมายไทย
    #สองมาตรฐาน
    #ยุติธรรม
    #ข่าววันนี้
    #newsupdate
    #ข่าวtiktok
    กฎหมายมีไว้จัดการคนผิด หรือจัดการขั้วตรงข้าม (7/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #การเมืองไทย #กฎหมายไทย #สองมาตรฐาน #ยุติธรรม #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 'อนุทิน' ปัดล้วงลูกคดี 'ทักษิณ' ยันรัฐบาลใหม่ไม่เกี่ยว ปม 'ทวี สอดส่อง' ลงนามยกฎีกาอภัยโทษเดิม
    https://www.thai-tai.tv/news/21794/
    .
    #อนุทินชาญวีรกูล #ทักษิณชินวัตร #ยกฎีกาอภัยโทษ #พ.ต.อ.ทวีสอดส่อง #กระทรวงยุติธรรม #การเมืองไทย #ดีเอสไอ #การโยกย้ายข้าราชการ

    'อนุทิน' ปัดล้วงลูกคดี 'ทักษิณ' ยันรัฐบาลใหม่ไม่เกี่ยว ปม 'ทวี สอดส่อง' ลงนามยกฎีกาอภัยโทษเดิม https://www.thai-tai.tv/news/21794/ . #อนุทินชาญวีรกูล #ทักษิณชินวัตร #ยกฎีกาอภัยโทษ #พ.ต.อ.ทวีสอดส่อง #กระทรวงยุติธรรม #การเมืองไทย #ดีเอสไอ #การโยกย้ายข้าราชการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10 เกมหลังสุด ไทยvsไต้หวัน (07/10/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #เอเชียนคัพ #TikTokการกีฬา
    10 เกมหลังสุด ไทยvsไต้หวัน (07/10/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #เอเชียนคัพ #TikTokการกีฬา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • อำนาจ รื่นเริง (07/10/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #นักมวย #อดีตแชมป์โลก IBF #ติดสุราเรื้อรัง
    อำนาจ รื่นเริง (07/10/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #นักมวย #อดีตแชมป์โลก IBF #ติดสุราเรื้อรัง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เขมรผิดแผน หวังไทยง้อแรงงานสุดท้ายซึม…!!! (7/10/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #กัมพูชา
    #แรงงานกัมพูชา
    #เศรษฐกิจไทย
    #แรงงานต่างด้าว
    #ชายแดนไทยกัมพูชา
    #ข่าววันนี้
    #newsupdate
    #ข่าวtiktok
    เขมรผิดแผน หวังไทยง้อแรงงานสุดท้ายซึม…!!! (7/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #กัมพูชา #แรงงานกัมพูชา #เศรษฐกิจไทย #แรงงานต่างด้าว #ชายแดนไทยกัมพูชา #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • คปท. คัดค้านแลนด์บริดจ์-ศูนย์กลางการเงิน-ต่างชาติเช่าที่ 99 ปี จี้รัฐบาลดำเนินการไล่ข้าราชการช่วย 'ทักษิณ'
    https://www.thai-tai.tv/news/21793/
    .
    #คปท #ทำเนียบรัฐบาล #อนุทินชาญวีรกูล #MOU43-44 #แลนด์บริดจ์ #กาสิโน #ชายแดนไทยกัมพูชา #ทักษิณชินวัตร #ประชามติ #บ้านหนองจาน

    คปท. คัดค้านแลนด์บริดจ์-ศูนย์กลางการเงิน-ต่างชาติเช่าที่ 99 ปี จี้รัฐบาลดำเนินการไล่ข้าราชการช่วย 'ทักษิณ' https://www.thai-tai.tv/news/21793/ . #คปท #ทำเนียบรัฐบาล #อนุทินชาญวีรกูล #MOU43-44 #แลนด์บริดจ์ #กาสิโน #ชายแดนไทยกัมพูชา #ทักษิณชินวัตร #ประชามติ #บ้านหนองจาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ กล่าวว่าเขาได้ตัดสินใจไปแล้ว (แต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซนต์) เกี่ยวกับการจัดหาขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล Tomahawk ให้แก่ยูเครน ทรัมป์เน้นย้ำว่าเขาต้องการทราบอย่างจริงจังเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการใช้งานของยูเครน เนื่องจากเขาไม่ต้องการให้เกิดการ ยกระดับความขัดแย้ง กับรัสเซียขึ้นไปอีก

    "พวกเขาจะทำอะไรกับขีปนาวุธเหล่านี้"
    "พวกเขาจะมีเป้าหมายส่งมันไปที่ไหน?"
    "ผมคงต้องถามคำถามนั้นแล้วล่ะ"
    ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
    ทรัมป์ กล่าวว่าเขาได้ตัดสินใจไปแล้ว (แต่ยังไม่ร้อยเปอร์เซนต์) เกี่ยวกับการจัดหาขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล Tomahawk ให้แก่ยูเครน ทรัมป์เน้นย้ำว่าเขาต้องการทราบอย่างจริงจังเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายในการใช้งานของยูเครน เนื่องจากเขาไม่ต้องการให้เกิดการ ยกระดับความขัดแย้ง กับรัสเซียขึ้นไปอีก "พวกเขาจะทำอะไรกับขีปนาวุธเหล่านี้" "พวกเขาจะมีเป้าหมายส่งมันไปที่ไหน?" "ผมคงต้องถามคำถามนั้นแล้วล่ะ" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เลขาฯ ครม. ย้ำเรื่องลับมาก ปม 'ทักษิณ' ขอพระราชทานอภัยโทษ ชี้ไม่จำเป็นต้องเข้า ครม. ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว
    https://www.thai-tai.tv/news/21791/
    .
    #ทักษิณชินวัตร #ขอพระราชทานอภัยโทษ #ณัฐฎ์จารีอนันตศิลป์ #เลขาธิการครม. #เรื่องลับมาก #กระทรวงยุติธรรม #การเมืองไทย #ขั้นตอนราชการ

    เลขาฯ ครม. ย้ำเรื่องลับมาก ปม 'ทักษิณ' ขอพระราชทานอภัยโทษ ชี้ไม่จำเป็นต้องเข้า ครม. ดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว https://www.thai-tai.tv/news/21791/ . #ทักษิณชินวัตร #ขอพระราชทานอภัยโทษ #ณัฐฎ์จารีอนันตศิลป์ #เลขาธิการครม. #เรื่องลับมาก #กระทรวงยุติธรรม #การเมืองไทย #ขั้นตอนราชการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Maxsun เปิดตัวการ์ดจอ Dual Arc Pro B60 รุ่นระบายความร้อนด้วยน้ำ — VRAM 48GB ต่อใบ พร้อมรองรับ AI รุ่นใหญ่ในเครื่องเดียว”

    Maxsun ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จากจีนสร้างความฮือฮาอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ที่ใช้ชิป Intel Arc Pro B60 สองตัวในใบเดียว พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ single-slot ซึ่งถือเป็นการออกแบบที่บางและทรงพลังที่สุดในกลุ่มการ์ดจอระดับ workstation ณ ขณะนี้

    การ์ดรุ่นนี้มีหน่วยความจำรวม 48GB (24GB ต่อ GPU) และสามารถติดตั้งได้สูงสุดถึง 7 ใบในเครื่องเดียวบนเมนบอร์ด Maxsun W790 ซึ่งหมายถึง VRAM รวม 336GB — มากพอสำหรับการรันโมเดล AI ขนาดหลายร้อยพันล้านพารามิเตอร์แบบ local โดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์

    Maxsun ร่วมมือกับบริษัทญี่ปุ่นชื่อ abee ในการออกแบบระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งช่วยให้การ์ดมีขนาดบางลงและสามารถติดตั้งในช่อง PCIe ได้ครบทุกช่องแบบเต็มสปีด โดยไม่ต้องใช้ bridge chip แต่ใช้เทคโนโลยี PCIe 5.0 x8 แบบ native จากชิป BMG-G21 ของ Intel

    นอกจากนี้ Maxsun ยังอ้างถึง “Project Battlematrix” ของ Intel ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ GPU หลายตัวสามารถแชร์หน่วยความจำและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะไม่มี NVLink แบบของ NVIDIA ก็ตาม

    การ์ดรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงาน AI inference, การเรนเดอร์ระดับสูง และการประมวลผลแบบ edge โดยมีเป้าหมายหลักคือกลุ่มสตาร์ทอัพด้าน AI และห้องวิจัยที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในพื้นที่จำกัด

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Maxsun เปิดตัวการ์ดจอ Dual Arc Pro B60 รุ่นระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ single-slot
    ใช้ชิป Intel Arc Pro B60 สองตัวต่อใบ รวม VRAM 48GB
    สามารถติดตั้งได้สูงสุด 7 ใบในเครื่องเดียว รวม VRAM 336GB
    ใช้ระบบระบายความร้อนจาก abee ช่วยให้การ์ดบางลงและติดตั้งได้ครบทุกช่อง
    ไม่ใช้ bridge chip แต่ใช้ PCIe 5.0 x8 แบบ native จากชิป BMG-G21
    รองรับการทำงานร่วมกันของ GPU ผ่าน Project Battlematrix ของ Intel
    มี DisplayPort 2.1 และ HDMI 2.1b แยกสำหรับแต่ละ GPU
    ใช้พลังงานจากหัวต่อ 12V-2x6 pin รองรับสูงสุด 600W
    เหมาะสำหรับงาน AI inference, การเรนเดอร์ และ edge computing
    วางเป้าหมายที่กลุ่ม AI startup และห้องวิจัยที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Project Battlematrix เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ GPU หลายตัวทำงานร่วมกันผ่าน CPU-level coherency
    Intel ยังไม่มี NVLink แบบ NVIDIA แต่ใช้ PCIe Gen 5 และ CXL เพื่อแชร์ทรัพยากร
    การ์ดแบบ dual-GPU เคยเป็นที่นิยมในยุค Radeon HD 5970 และ GTX 690
    การ์ดรุ่นนี้สามารถประมวลผล inference ได้ถึง 2758 INT8 TOPS — สูงกว่า RTX 5090 ถึง 66%
    ราคาต่อใบคาดว่าจะอยู่ที่ $1300–$1500 หากติดตั้ง 7 ใบจะอยู่ที่ราว $10,000

    https://www.techpowerup.com/341639/maxsun-liquid-cools-dual-arc-pro-b60-with-48-gb-of-total-vram
    🧠 “Maxsun เปิดตัวการ์ดจอ Dual Arc Pro B60 รุ่นระบายความร้อนด้วยน้ำ — VRAM 48GB ต่อใบ พร้อมรองรับ AI รุ่นใหญ่ในเครื่องเดียว” Maxsun ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์จากจีนสร้างความฮือฮาอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ที่ใช้ชิป Intel Arc Pro B60 สองตัวในใบเดียว พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ single-slot ซึ่งถือเป็นการออกแบบที่บางและทรงพลังที่สุดในกลุ่มการ์ดจอระดับ workstation ณ ขณะนี้ การ์ดรุ่นนี้มีหน่วยความจำรวม 48GB (24GB ต่อ GPU) และสามารถติดตั้งได้สูงสุดถึง 7 ใบในเครื่องเดียวบนเมนบอร์ด Maxsun W790 ซึ่งหมายถึง VRAM รวม 336GB — มากพอสำหรับการรันโมเดล AI ขนาดหลายร้อยพันล้านพารามิเตอร์แบบ local โดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ Maxsun ร่วมมือกับบริษัทญี่ปุ่นชื่อ abee ในการออกแบบระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งช่วยให้การ์ดมีขนาดบางลงและสามารถติดตั้งในช่อง PCIe ได้ครบทุกช่องแบบเต็มสปีด โดยไม่ต้องใช้ bridge chip แต่ใช้เทคโนโลยี PCIe 5.0 x8 แบบ native จากชิป BMG-G21 ของ Intel นอกจากนี้ Maxsun ยังอ้างถึง “Project Battlematrix” ของ Intel ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ GPU หลายตัวสามารถแชร์หน่วยความจำและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะไม่มี NVLink แบบของ NVIDIA ก็ตาม การ์ดรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในงาน AI inference, การเรนเดอร์ระดับสูง และการประมวลผลแบบ edge โดยมีเป้าหมายหลักคือกลุ่มสตาร์ทอัพด้าน AI และห้องวิจัยที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในพื้นที่จำกัด ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Maxsun เปิดตัวการ์ดจอ Dual Arc Pro B60 รุ่นระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ single-slot ➡️ ใช้ชิป Intel Arc Pro B60 สองตัวต่อใบ รวม VRAM 48GB ➡️ สามารถติดตั้งได้สูงสุด 7 ใบในเครื่องเดียว รวม VRAM 336GB ➡️ ใช้ระบบระบายความร้อนจาก abee ช่วยให้การ์ดบางลงและติดตั้งได้ครบทุกช่อง ➡️ ไม่ใช้ bridge chip แต่ใช้ PCIe 5.0 x8 แบบ native จากชิป BMG-G21 ➡️ รองรับการทำงานร่วมกันของ GPU ผ่าน Project Battlematrix ของ Intel ➡️ มี DisplayPort 2.1 และ HDMI 2.1b แยกสำหรับแต่ละ GPU ➡️ ใช้พลังงานจากหัวต่อ 12V-2x6 pin รองรับสูงสุด 600W ➡️ เหมาะสำหรับงาน AI inference, การเรนเดอร์ และ edge computing ➡️ วางเป้าหมายที่กลุ่ม AI startup และห้องวิจัยที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Project Battlematrix เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ GPU หลายตัวทำงานร่วมกันผ่าน CPU-level coherency ➡️ Intel ยังไม่มี NVLink แบบ NVIDIA แต่ใช้ PCIe Gen 5 และ CXL เพื่อแชร์ทรัพยากร ➡️ การ์ดแบบ dual-GPU เคยเป็นที่นิยมในยุค Radeon HD 5970 และ GTX 690 ➡️ การ์ดรุ่นนี้สามารถประมวลผล inference ได้ถึง 2758 INT8 TOPS — สูงกว่า RTX 5090 ถึง 66% ➡️ ราคาต่อใบคาดว่าจะอยู่ที่ $1300–$1500 หากติดตั้ง 7 ใบจะอยู่ที่ราว $10,000 https://www.techpowerup.com/341639/maxsun-liquid-cools-dual-arc-pro-b60-with-48-gb-of-total-vram
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • “JEDEC เปิดตัวมาตรฐาน UFS 5.0 — ความเร็วทะลุ 10.8 GB/s เพื่อโลกแห่ง AI และอุปกรณ์พกพา”

    JEDEC สมาคมเทคโนโลยีโซลิดสเตต ได้ประกาศใกล้เสร็จสิ้นการพัฒนามาตรฐาน Universal Flash Storage (UFS) เวอร์ชัน 5.0 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่จาก UFS 4.1 ที่เปิดตัวในปี 2024 โดย UFS 5.0 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์พกพาและระบบคอมพิวเตอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ใช้พลังงานต่ำ เช่น สมาร์ทโฟน อุปกรณ์สวมใส่ คอนโซลเกม รถยนต์ และระบบ edge computing

    UFS 5.0 จะสามารถทำความเร็วในการอ่าน/เขียนแบบต่อเนื่องได้สูงถึง 10.8 GB/s โดยใช้เทคโนโลยีจาก MIPI Alliance ได้แก่ M-PHY เวอร์ชัน 6.0 และ UniPro เวอร์ชัน 3.0 ซึ่งช่วยเพิ่มแบนด์วิดท์ของอินเทอร์เฟซได้ถึง 46.6 Gb/s ต่อเลน และรองรับการทำงานแบบสองเลนเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

    นอกจากความเร็วแล้ว UFS 5.0 ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพื่อความปลอดภัยและความเสถียร เช่น inline hashing เพื่อป้องกันข้อมูลเสียหาย, ระบบ equalization เพื่อรักษาคุณภาพสัญญาณ และการแยกแหล่งจ่ายไฟระหว่าง PHY กับหน่วยความจำเพื่อป้องกันสัญญาณรบกวน

    มาตรฐานใหม่นี้ยังคงรองรับฮาร์ดแวร์เดิมจาก UFS 4.x เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถอัปเกรดได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างระบบทั้งหมด

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    JEDEC ใกล้เปิดตัวมาตรฐาน UFS 5.0 สำหรับอุปกรณ์พกพาและระบบคอมพิวเตอร์
    ความเร็วในการอ่าน/เขียนแบบต่อเนื่องสูงสุดถึง 10.8 GB/s
    ใช้เทคโนโลยี MIPI M-PHY 6.0 และ UniPro 3.0 เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์
    รองรับการทำงานแบบสองเลนที่ความเร็ว 46.6 Gb/s ต่อเลน
    เพิ่มฟีเจอร์ inline hashing เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล
    มีระบบ equalization เพื่อรักษาคุณภาพสัญญาณ
    แยกแหล่งจ่ายไฟระหว่าง PHY กับหน่วยความจำเพื่อป้องกันสัญญาณรบกวน
    ยังคงรองรับฮาร์ดแวร์จาก UFS 4.x เพื่อความสะดวกในการอัปเกรด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    UFS ถูกใช้ในสมาร์ทโฟนระดับเรือธง เช่น Galaxy S และ iPhone รุ่นใหม่
    มาตรฐาน UFS ช่วยให้การโหลดแอปและเกมเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
    MIPI Alliance เป็นองค์กรที่พัฒนาโปรโตคอลการเชื่อมต่อสำหรับอุปกรณ์พกพาทั่วโลก
    Inline hashing เป็นเทคนิคที่ใช้ในระบบจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กรเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
    การแยกแหล่งจ่ายไฟช่วยลดความร้อนและเพิ่มเสถียรภาพของระบบ

    https://www.techpowerup.com/341645/jedec-ufs-5-0-standard-to-deliver-sequential-performance-up-to-10-8-gb-s
    ⚡ “JEDEC เปิดตัวมาตรฐาน UFS 5.0 — ความเร็วทะลุ 10.8 GB/s เพื่อโลกแห่ง AI และอุปกรณ์พกพา” JEDEC สมาคมเทคโนโลยีโซลิดสเตต ได้ประกาศใกล้เสร็จสิ้นการพัฒนามาตรฐาน Universal Flash Storage (UFS) เวอร์ชัน 5.0 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่จาก UFS 4.1 ที่เปิดตัวในปี 2024 โดย UFS 5.0 ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์พกพาและระบบคอมพิวเตอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงแต่ใช้พลังงานต่ำ เช่น สมาร์ทโฟน อุปกรณ์สวมใส่ คอนโซลเกม รถยนต์ และระบบ edge computing UFS 5.0 จะสามารถทำความเร็วในการอ่าน/เขียนแบบต่อเนื่องได้สูงถึง 10.8 GB/s โดยใช้เทคโนโลยีจาก MIPI Alliance ได้แก่ M-PHY เวอร์ชัน 6.0 และ UniPro เวอร์ชัน 3.0 ซึ่งช่วยเพิ่มแบนด์วิดท์ของอินเทอร์เฟซได้ถึง 46.6 Gb/s ต่อเลน และรองรับการทำงานแบบสองเลนเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากความเร็วแล้ว UFS 5.0 ยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เพื่อความปลอดภัยและความเสถียร เช่น inline hashing เพื่อป้องกันข้อมูลเสียหาย, ระบบ equalization เพื่อรักษาคุณภาพสัญญาณ และการแยกแหล่งจ่ายไฟระหว่าง PHY กับหน่วยความจำเพื่อป้องกันสัญญาณรบกวน มาตรฐานใหม่นี้ยังคงรองรับฮาร์ดแวร์เดิมจาก UFS 4.x เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถอัปเกรดได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างระบบทั้งหมด ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ JEDEC ใกล้เปิดตัวมาตรฐาน UFS 5.0 สำหรับอุปกรณ์พกพาและระบบคอมพิวเตอร์ ➡️ ความเร็วในการอ่าน/เขียนแบบต่อเนื่องสูงสุดถึง 10.8 GB/s ➡️ ใช้เทคโนโลยี MIPI M-PHY 6.0 และ UniPro 3.0 เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์ ➡️ รองรับการทำงานแบบสองเลนที่ความเร็ว 46.6 Gb/s ต่อเลน ➡️ เพิ่มฟีเจอร์ inline hashing เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล ➡️ มีระบบ equalization เพื่อรักษาคุณภาพสัญญาณ ➡️ แยกแหล่งจ่ายไฟระหว่าง PHY กับหน่วยความจำเพื่อป้องกันสัญญาณรบกวน ➡️ ยังคงรองรับฮาร์ดแวร์จาก UFS 4.x เพื่อความสะดวกในการอัปเกรด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ UFS ถูกใช้ในสมาร์ทโฟนระดับเรือธง เช่น Galaxy S และ iPhone รุ่นใหม่ ➡️ มาตรฐาน UFS ช่วยให้การโหลดแอปและเกมเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ➡️ MIPI Alliance เป็นองค์กรที่พัฒนาโปรโตคอลการเชื่อมต่อสำหรับอุปกรณ์พกพาทั่วโลก ➡️ Inline hashing เป็นเทคนิคที่ใช้ในระบบจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กรเพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ➡️ การแยกแหล่งจ่ายไฟช่วยลดความร้อนและเพิ่มเสถียรภาพของระบบ https://www.techpowerup.com/341645/jedec-ufs-5-0-standard-to-deliver-sequential-performance-up-to-10-8-gb-s
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งกัมพูชา เมื่อเร็วๆนี้เผยแพร่ข้อมูลสถิติด้านการท่องเที่ยว พบผู้มาเยือนต่างชาติเดินทางเข้ากัมพูชาลดลงถึง 38.4% ในเดือนสิงหาคม 2025 ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดกับ 2 เพื่อนบ้านอย่างไทยและเวียดนาม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000095749

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    กระทรวงการท่องเที่ยวแห่งกัมพูชา เมื่อเร็วๆนี้เผยแพร่ข้อมูลสถิติด้านการท่องเที่ยว พบผู้มาเยือนต่างชาติเดินทางเข้ากัมพูชาลดลงถึง 38.4% ในเดือนสิงหาคม 2025 ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดกับ 2 เพื่อนบ้านอย่างไทยและเวียดนาม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000095749 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮุนเซนเดือดหนัก ถามหาศีลธรรมจากไทย ตัวเองมีด้วย..??? (7/10/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #ฮุนเซน
    #กัมพูชา
    #ชายแดนไทยกัมพูชา
    #ศีลธรรม
    #การเมืองต่างประเทศ
    #ข่าววันนี้
    #newsupdate
    #ข่าวtiktok
    ฮุนเซนเดือดหนัก ถามหาศีลธรรมจากไทย ตัวเองมีด้วย..??? (7/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #ฮุนเซน #กัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ศีลธรรม #การเมืองต่างประเทศ #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รีบดูผลงานรัฐธรรมนูญปี60 นักการเมืองโดนแบบนี้ชอบมั๊ย (7/10/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #รัฐธรรมนูญ60
    #การเมืองไทย
    #นักการเมือง
    #ข่าววันนี้
    #newsupdate
    #ข่าวtiktok
    #เทรนวันนี้
    รีบดูผลงานรัฐธรรมนูญปี60 นักการเมืองโดนแบบนี้ชอบมั๊ย (7/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #รัฐธรรมนูญ60 #การเมืองไทย #นักการเมือง #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok #เทรนวันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • MOU43 ไทยจะ "ถอย" ไม่จบสิ้น!!!

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #MOU43
    #ชายแดนไทยกัมพูชา
    #ฮุนเซน
    #ความมั่นคง
    #ข่าววันนี้
    #newsupdate
    #ข่าวtiktok
    MOU43 ไทยจะ "ถอย" ไม่จบสิ้น!!! #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #MOU43 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ฮุนเซน #ความมั่นคง #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • น้ำเงินผงาด ฮั้วสว.สะดุดเพราะแบบนี้...???

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #สว
    #การเมืองไทย
    #วุฒิสภา
    #ฮั้วการเมือง
    #เทรนวันนี้
    #ข่าววันนี้
    #ข่าวtiktok
    #newsupdate
    น้ำเงินผงาด ฮั้วสว.สะดุดเพราะแบบนี้...??? #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #สว #การเมืองไทย #วุฒิสภา #ฮั้วการเมือง #เทรนวันนี้ #ข่าววันนี้ #ข่าวtiktok #newsupdate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “CISO ยุคใหม่ต้องคิดใหม่ — เมื่อ AI เปลี่ยนเกมความปลอดภัยจากพื้นฐานสู่กลยุทธ์”

    ในยุคที่ AI กลายเป็นหัวใจของการดำเนินธุรกิจทั่วโลก ผู้บริหารด้านความปลอดภัยข้อมูล (CISO) กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่ในด้านเทคโนโลยี แต่รวมถึงบทบาทในองค์กรและวิธีคิดเชิงกลยุทธ์ โดยรายงานจาก CSO Online ระบุว่า AI ไม่ได้เข้ามาแทนที่ระบบความปลอดภัยเดิม แต่กลับขยายช่องว่างระหว่างองค์กรที่เตรียมพร้อมกับองค์กรที่ยังล้าหลัง

    Joe Oleksak จาก Plante Moran ชี้ว่า AI เร่งทั้งการโจมตีและการป้องกัน ทำให้ “ความเร็ว” กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่สุด และย้ำว่า “AI ไม่ใช่กระสุนวิเศษ” เพราะมันขยายผลของทุกข้อผิดพลาด เช่น การตั้งสิทธิ์ผิด การแบ่งเครือข่ายไม่ดี หรือการเก็บข้อมูลในโฟลเดอร์ที่ไม่ปลอดภัย

    ในองค์กรที่มีการลงทุนด้านความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง AI กลายเป็นเครื่องมือเสริมประสิทธิภาพ แต่ในองค์กรที่ละเลยเรื่องนี้ AI กลับทำให้ช่องโหว่เดิมรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อแฮกเกอร์ใช้ AI สร้าง phishing, deepfake และการสแกนระบบได้เร็วและถูกลง

    Deneen DeFiore จาก United Airlines ระบุว่า AI ทำให้ CISO มีบทบาทในระดับกลยุทธ์มากขึ้น โดยต้องร่วมมือกับผู้บริหารทุกฝ่ายตั้งแต่ต้น เพื่อให้การใช้ AI เป็นไปอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และปลอดภัย

    Jason Lander จาก Aya Healthcare เสริมว่า AI เปลี่ยนวิธีทำงานของทีม IT และทีมความปลอดภัยให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยเน้นการทำงานเชิงรุกและการวางระบบที่ยืดหยุ่น พร้อมทั้งใช้ AI เพื่อจัดการงานซ้ำซ้อนและเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจ

    Jill Knesek จาก BlackLine มองว่า AI ช่วยลดภาระของทีม SOC (Security Operations Center) โดยสามารถใช้ AI แทนการจ้างคนเพิ่มในบางช่วงเวลา เช่น กลางคืนหรือวันหยุด พร้อมเน้นว่าการฝึกอบรมและวัฒนธรรมองค์กรยังคงเป็นหัวใจของความปลอดภัย

    สุดท้าย Oleksak เตือนว่า AI ไม่ใช่กลยุทธ์ แต่เป็นเครื่องมือที่ต้องใช้ด้วยความเข้าใจ โดยแนะนำให้เริ่มจากการประเมินความเสี่ยง แล้วค่อยเลือกใช้ AI ในจุดที่เหมาะสม เช่น การวิเคราะห์ log หรือการตรวจจับ phishing พร้อมเน้นว่า “การตัดสินใจของมนุษย์” ยังเป็นสิ่งที่ AI ไม่สามารถแทนที่ได้

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    AI เร่งทั้งการโจมตีและการป้องกัน ทำให้ความเร็วกลายเป็นปัจจัยสำคัญ
    AI ขยายผลของข้อผิดพลาด เช่น การตั้งสิทธิ์ผิดหรือการจัดการข้อมูลไม่ดี
    องค์กรที่ลงทุนด้านความปลอดภัยมาแล้วจะได้ประโยชน์จาก AI มากกว่า
    แฮกเกอร์ใช้ AI สร้าง phishing และ deepfake ได้เร็วและถูกลง
    CISO มีบทบาทเชิงกลยุทธ์มากขึ้นในองค์กรยุค AI
    United Airlines ใช้ AI อย่างโปร่งใสและเน้นความรับผิดชอบร่วมกัน
    Aya Healthcare ใช้ AI เพื่อจัดการงานซ้ำซ้อนและเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจ
    BlackLine ใช้ AI ลดภาระทีม SOC และวางแผนจ้างงานแบบกระจาย
    การฝึกอบรมและวัฒนธรรมองค์กรยังคงเป็นหัวใจของความปลอดภัย
    Oleksak แนะนำให้ใช้ AI แบบมีเป้าหมาย เช่น การวิเคราะห์ log หรือ phishing

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Deloitte พบว่า 43% ขององค์กรในสหรัฐฯ ใช้ AI ในโปรแกรมความปลอดภัย
    โมเดล federated learning ถูกใช้เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในการพัฒนา AI
    การใช้ AI ใน SOC ช่วยลด false positives และเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับภัยคุกคาม
    หลายองค์กรเริ่มจัดทีมแบบ agile ที่รวม threat analyst, engineer และ data scientist
    การใช้ AI อย่างมีจริยธรรมกลายเป็นหัวข้อสำคัญในระดับผู้บริหารทั่วโลก

    https://www.csoonline.com/article/4066733/cisos-rethink-the-security-organization-for-the-ai-era.html
    🛡️ “CISO ยุคใหม่ต้องคิดใหม่ — เมื่อ AI เปลี่ยนเกมความปลอดภัยจากพื้นฐานสู่กลยุทธ์” ในยุคที่ AI กลายเป็นหัวใจของการดำเนินธุรกิจทั่วโลก ผู้บริหารด้านความปลอดภัยข้อมูล (CISO) กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่ในด้านเทคโนโลยี แต่รวมถึงบทบาทในองค์กรและวิธีคิดเชิงกลยุทธ์ โดยรายงานจาก CSO Online ระบุว่า AI ไม่ได้เข้ามาแทนที่ระบบความปลอดภัยเดิม แต่กลับขยายช่องว่างระหว่างองค์กรที่เตรียมพร้อมกับองค์กรที่ยังล้าหลัง Joe Oleksak จาก Plante Moran ชี้ว่า AI เร่งทั้งการโจมตีและการป้องกัน ทำให้ “ความเร็ว” กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่สุด และย้ำว่า “AI ไม่ใช่กระสุนวิเศษ” เพราะมันขยายผลของทุกข้อผิดพลาด เช่น การตั้งสิทธิ์ผิด การแบ่งเครือข่ายไม่ดี หรือการเก็บข้อมูลในโฟลเดอร์ที่ไม่ปลอดภัย ในองค์กรที่มีการลงทุนด้านความปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง AI กลายเป็นเครื่องมือเสริมประสิทธิภาพ แต่ในองค์กรที่ละเลยเรื่องนี้ AI กลับทำให้ช่องโหว่เดิมรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อแฮกเกอร์ใช้ AI สร้าง phishing, deepfake และการสแกนระบบได้เร็วและถูกลง Deneen DeFiore จาก United Airlines ระบุว่า AI ทำให้ CISO มีบทบาทในระดับกลยุทธ์มากขึ้น โดยต้องร่วมมือกับผู้บริหารทุกฝ่ายตั้งแต่ต้น เพื่อให้การใช้ AI เป็นไปอย่างโปร่งใส ยุติธรรม และปลอดภัย Jason Lander จาก Aya Healthcare เสริมว่า AI เปลี่ยนวิธีทำงานของทีม IT และทีมความปลอดภัยให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยเน้นการทำงานเชิงรุกและการวางระบบที่ยืดหยุ่น พร้อมทั้งใช้ AI เพื่อจัดการงานซ้ำซ้อนและเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจ Jill Knesek จาก BlackLine มองว่า AI ช่วยลดภาระของทีม SOC (Security Operations Center) โดยสามารถใช้ AI แทนการจ้างคนเพิ่มในบางช่วงเวลา เช่น กลางคืนหรือวันหยุด พร้อมเน้นว่าการฝึกอบรมและวัฒนธรรมองค์กรยังคงเป็นหัวใจของความปลอดภัย สุดท้าย Oleksak เตือนว่า AI ไม่ใช่กลยุทธ์ แต่เป็นเครื่องมือที่ต้องใช้ด้วยความเข้าใจ โดยแนะนำให้เริ่มจากการประเมินความเสี่ยง แล้วค่อยเลือกใช้ AI ในจุดที่เหมาะสม เช่น การวิเคราะห์ log หรือการตรวจจับ phishing พร้อมเน้นว่า “การตัดสินใจของมนุษย์” ยังเป็นสิ่งที่ AI ไม่สามารถแทนที่ได้ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ AI เร่งทั้งการโจมตีและการป้องกัน ทำให้ความเร็วกลายเป็นปัจจัยสำคัญ ➡️ AI ขยายผลของข้อผิดพลาด เช่น การตั้งสิทธิ์ผิดหรือการจัดการข้อมูลไม่ดี ➡️ องค์กรที่ลงทุนด้านความปลอดภัยมาแล้วจะได้ประโยชน์จาก AI มากกว่า ➡️ แฮกเกอร์ใช้ AI สร้าง phishing และ deepfake ได้เร็วและถูกลง ➡️ CISO มีบทบาทเชิงกลยุทธ์มากขึ้นในองค์กรยุค AI ➡️ United Airlines ใช้ AI อย่างโปร่งใสและเน้นความรับผิดชอบร่วมกัน ➡️ Aya Healthcare ใช้ AI เพื่อจัดการงานซ้ำซ้อนและเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจ ➡️ BlackLine ใช้ AI ลดภาระทีม SOC และวางแผนจ้างงานแบบกระจาย ➡️ การฝึกอบรมและวัฒนธรรมองค์กรยังคงเป็นหัวใจของความปลอดภัย ➡️ Oleksak แนะนำให้ใช้ AI แบบมีเป้าหมาย เช่น การวิเคราะห์ log หรือ phishing ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Deloitte พบว่า 43% ขององค์กรในสหรัฐฯ ใช้ AI ในโปรแกรมความปลอดภัย ➡️ โมเดล federated learning ถูกใช้เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลในการพัฒนา AI ➡️ การใช้ AI ใน SOC ช่วยลด false positives และเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับภัยคุกคาม ➡️ หลายองค์กรเริ่มจัดทีมแบบ agile ที่รวม threat analyst, engineer และ data scientist ➡️ การใช้ AI อย่างมีจริยธรรมกลายเป็นหัวข้อสำคัญในระดับผู้บริหารทั่วโลก https://www.csoonline.com/article/4066733/cisos-rethink-the-security-organization-for-the-ai-era.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    CISOs rethink the security organization for the AI era
    As AI becomes more ingrained in business strategies, CISOs are re-examining their security organizations to keep up with the pace and potential of the technology.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • “YouTuber วัย 17 ปีในสหรัฐฯ ไลฟ์สดพูดถึง ‘การล้างแค้น’ ก่อนขับรถชนเด็กหญิงสองคนเสียชีวิต — คดีสะเทือนสังคมที่เริ่มจากโลกออนไลน์”

    เหตุการณ์สะเทือนขวัญในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อ Vincent Battiloro วัย 17 ปี ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมสองกระทง หลังจากขับรถด้วยความเร็วกว่า 112 กม./ชม. พุ่งชนเด็กหญิงสองคนที่กำลังขี่จักรยานไฟฟ้าในเมือง Cranford เมื่อปลายเดือนกันยายน 2025

    ก่อนเกิดเหตุไม่กี่วัน Battiloro ได้เผยแพร่ไลฟ์สตรีมบน YouTube ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 40,000 คน โดยพูดถึงความแค้นที่มีต่อหนึ่งในเหยื่อคือ Maria Niotis พร้อมกล่าวหาว่าเธอและแม่เป็นต้นเหตุให้เขาถูกพักการเรียนจากข้อกล่าวหาเรื่องสื่อลามกเด็ก ซึ่งเขาปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าเป็นเรื่อง “ไร้สาระ” และ “จะปฏิเสธไปจนตาย”

    ในไลฟ์สตรีมเมื่อวันที่ 23 กันยายน เขาใช้โทรศัพท์เบอร์เผา (burner phone) สั่งพิซซ่าไปส่งที่บ้านของเหยื่อ พร้อมพูดเย้ยว่า “ขอให้สนุกกับพิซซ่าของแกนะ ไอ้…” ก่อนจะกลับไปเล่นเกม MLB ต่อหน้าผู้ชม

    หลังเกิดเหตุ เขายังไลฟ์อีกครั้งในวันที่ 30 กันยายน โดยกล่าวว่า “มีเรื่องมากกว่าที่คุณรู้” และอ้างว่าเขาไม่สามารถพูดถึงรายละเอียดได้ในตอนนั้น แม้จะถูกผู้ชมถล่มด้วยคำถามและคำด่าทอ เช่น “ฆาตกร” และ “เมื่อไหร่จะไลฟ์จากคุก”

    ครอบครัวของเหยื่อทั้งสอง — Maria Niotis และ Isabella Salas — ระบุว่า Battiloro เคยสะกดรอยตาม Maria มาหลายเดือน และวางแผนโจมตีเธออย่างชัดเจน โดยมีการยื่นคำร้องขอคำสั่งห้ามเข้าใกล้ก่อนเกิดเหตุ

    แม้ Battiloro จะยังไม่ถูกตัดสินว่าเป็นผู้ใหญ่ในทางกฎหมาย แต่เขาถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมระดับแรก (first-degree murder) และได้รับใบสั่งกว่า 15 ฉบับจากการขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ ขับเร็วเกินกำหนด และขับรถโดยประมาท

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Vincent Battiloro อายุ 17 ปี ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมสองกระทง
    เหยื่อคือ Maria Niotis และ Isabella Salas อายุ 17 ปี ทั้งคู่
    Battiloro ขับรถด้วยความเร็ว 112 กม./ชม. ในเขตจำกัด 40 กม./ชม.
    เขาเคยไลฟ์สตรีมพูดถึง “การล้างแค้น” และกล่าวหาว่าเหยื่อทำให้เขาถูกพักการเรียน
    ไลฟ์สตรีมหลังเกิดเหตุยังพูดถึง “มีเรื่องมากกว่าที่คุณรู้”
    ครอบครัวเหยื่อระบุว่าเขาสะกดรอยตาม Maria มาหลายเดือน
    มีการยื่นคำร้องขอคำสั่งห้ามเข้าใกล้ก่อนเกิดเหตุ
    Battiloro ถูกออกใบสั่งกว่า 15 ฉบับจากการขับรถผิดกฎหมาย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    YouTube ลบช่องของ Battiloro หลังเกิดเหตุ
    คดีนี้สะท้อนปัญหาการใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือคุกคาม
    การไลฟ์สตรีมหลังเกิดเหตุอาจถูกใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาล
    กฎหมายในหลายรัฐของสหรัฐฯ อนุญาตให้พิจารณาเยาวชนเป็นผู้ใหญ่ในคดีร้ายแรง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/06/youtuber-in-us-harassed-teen-girl-ranted-about-039vengeance039-in-livestreams-before-deadly-crash
    📹 “YouTuber วัย 17 ปีในสหรัฐฯ ไลฟ์สดพูดถึง ‘การล้างแค้น’ ก่อนขับรถชนเด็กหญิงสองคนเสียชีวิต — คดีสะเทือนสังคมที่เริ่มจากโลกออนไลน์” เหตุการณ์สะเทือนขวัญในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อ Vincent Battiloro วัย 17 ปี ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมสองกระทง หลังจากขับรถด้วยความเร็วกว่า 112 กม./ชม. พุ่งชนเด็กหญิงสองคนที่กำลังขี่จักรยานไฟฟ้าในเมือง Cranford เมื่อปลายเดือนกันยายน 2025 ก่อนเกิดเหตุไม่กี่วัน Battiloro ได้เผยแพร่ไลฟ์สตรีมบน YouTube ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 40,000 คน โดยพูดถึงความแค้นที่มีต่อหนึ่งในเหยื่อคือ Maria Niotis พร้อมกล่าวหาว่าเธอและแม่เป็นต้นเหตุให้เขาถูกพักการเรียนจากข้อกล่าวหาเรื่องสื่อลามกเด็ก ซึ่งเขาปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าเป็นเรื่อง “ไร้สาระ” และ “จะปฏิเสธไปจนตาย” ในไลฟ์สตรีมเมื่อวันที่ 23 กันยายน เขาใช้โทรศัพท์เบอร์เผา (burner phone) สั่งพิซซ่าไปส่งที่บ้านของเหยื่อ พร้อมพูดเย้ยว่า “ขอให้สนุกกับพิซซ่าของแกนะ ไอ้…” ก่อนจะกลับไปเล่นเกม MLB ต่อหน้าผู้ชม หลังเกิดเหตุ เขายังไลฟ์อีกครั้งในวันที่ 30 กันยายน โดยกล่าวว่า “มีเรื่องมากกว่าที่คุณรู้” และอ้างว่าเขาไม่สามารถพูดถึงรายละเอียดได้ในตอนนั้น แม้จะถูกผู้ชมถล่มด้วยคำถามและคำด่าทอ เช่น “ฆาตกร” และ “เมื่อไหร่จะไลฟ์จากคุก” ครอบครัวของเหยื่อทั้งสอง — Maria Niotis และ Isabella Salas — ระบุว่า Battiloro เคยสะกดรอยตาม Maria มาหลายเดือน และวางแผนโจมตีเธออย่างชัดเจน โดยมีการยื่นคำร้องขอคำสั่งห้ามเข้าใกล้ก่อนเกิดเหตุ แม้ Battiloro จะยังไม่ถูกตัดสินว่าเป็นผู้ใหญ่ในทางกฎหมาย แต่เขาถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมระดับแรก (first-degree murder) และได้รับใบสั่งกว่า 15 ฉบับจากการขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ ขับเร็วเกินกำหนด และขับรถโดยประมาท ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Vincent Battiloro อายุ 17 ปี ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมสองกระทง ➡️ เหยื่อคือ Maria Niotis และ Isabella Salas อายุ 17 ปี ทั้งคู่ ➡️ Battiloro ขับรถด้วยความเร็ว 112 กม./ชม. ในเขตจำกัด 40 กม./ชม. ➡️ เขาเคยไลฟ์สตรีมพูดถึง “การล้างแค้น” และกล่าวหาว่าเหยื่อทำให้เขาถูกพักการเรียน ➡️ ไลฟ์สตรีมหลังเกิดเหตุยังพูดถึง “มีเรื่องมากกว่าที่คุณรู้” ➡️ ครอบครัวเหยื่อระบุว่าเขาสะกดรอยตาม Maria มาหลายเดือน ➡️ มีการยื่นคำร้องขอคำสั่งห้ามเข้าใกล้ก่อนเกิดเหตุ ➡️ Battiloro ถูกออกใบสั่งกว่า 15 ฉบับจากการขับรถผิดกฎหมาย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ YouTube ลบช่องของ Battiloro หลังเกิดเหตุ ➡️ คดีนี้สะท้อนปัญหาการใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือคุกคาม ➡️ การไลฟ์สตรีมหลังเกิดเหตุอาจถูกใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาล ➡️ กฎหมายในหลายรัฐของสหรัฐฯ อนุญาตให้พิจารณาเยาวชนเป็นผู้ใหญ่ในคดีร้ายแรง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/06/youtuber-in-us-harassed-teen-girl-ranted-about-039vengeance039-in-livestreams-before-deadly-crash
    WWW.THESTAR.COM.MY
    YouTuber in US harassed teen girl, ranted about 'vengeance' in livestreams before deadly crash
    For hours at a clip, the 17-year-old from Garwood played MLB games, ranted about sports and politics and occasionally veered into darker topics to his more than 40,000 followers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AstraZeneca ทุ่ม 555 ล้านดอลลาร์ จับมือ Algen พัฒนาเทคโนโลยีตัดต่อยีนด้วย AI — เป้าหมายใหม่ของการรักษาโรคภูมิคุ้มกัน”

    AstraZeneca บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่จากอังกฤษ-สวีเดน ได้ลงนามข้อตกลงมูลค่า 555 ล้านดอลลาร์กับ Algen Biotechnologies บริษัทไบโอเทคจากซานฟรานซิสโก เพื่อร่วมพัฒนาเทคโนโลยีการรักษาโรคด้วยการตัดต่อยีนแบบ CRISPR โดยใช้แพลตฟอร์ม AI ที่ชื่อว่า “AlgenBrain” ซึ่งสามารถวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างยีนกับโรคได้อย่างแม่นยำ

    ข้อตกลงนี้ให้ AstraZeneca สิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการพัฒนาและจำหน่ายยาที่ได้จากเทคโนโลยีนี้ โดยเน้นไปที่โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคอักเสบเรื้อรัง หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง โดย Algen จะได้รับเงินล่วงหน้าและเงินตามเป้าหมายการพัฒนาและการอนุมัติ ซึ่งรวมกันแล้วอาจสูงถึง 555 ล้านดอลลาร์

    Algen เป็นบริษัทที่แยกตัวออกมาจากห้องวิจัยของมหาวิทยาลัย UC Berkeley ซึ่งเป็นที่ที่ Jennifer Doudna ผู้ได้รับรางวัลโนเบลได้พัฒนาเทคโนโลยี CRISPR ขึ้นมา โดยแพลตฟอร์ม AlgenBrain ใช้การวิเคราะห์ RNA แบบไดนามิกในเซลล์มนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับโรค เพื่อหาจุดแทรกแซงที่สามารถย้อนกลับกระบวนการของโรคได้

    แม้ AstraZeneca จะไม่ซื้อหุ้นของ Algen ในข้อตกลงนี้ แต่ก็ถือเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับเป้าหมายของบริษัทในการเพิ่มยอดขายเป็น 80 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 โดยเฉพาะในกลุ่มโรคระบบภูมิคุ้มกันที่สร้างรายได้กว่า 4.2 พันล้านดอลลาร์ในครึ่งแรกของปี 2025

    ข้อตกลงนี้ยังสะท้อนแนวโน้มของอุตสาหกรรมยา ที่หันมาใช้ AI และการตัดต่อยีนเพื่อเร่งการค้นพบยาใหม่ ๆ โดยมีบริษัทใหญ่อื่น ๆ เช่น Roche, BMS และ J&J ที่ร่วมมือกันพัฒนาโมเดล AI แบบ federated เพื่อค้นหายาโดยไม่ต้องแชร์ข้อมูลดิบ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    AstraZeneca ลงนามข้อตกลงมูลค่า 555 ล้านดอลลาร์กับ Algen Biotechnologies
    ข้อตกลงให้สิทธิ์พัฒนาและจำหน่ายยาจากเทคโนโลยี CRISPR โดยใช้ AI
    เน้นการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน
    Algen ใช้แพลตฟอร์ม AlgenBrain วิเคราะห์ RNA ในเซลล์มนุษย์
    ข้อมูล RNA ถูกเชื่อมโยงกับผลลัพธ์ทางชีวภาพเพื่อหาจุดแทรกแซงของโรค
    AstraZeneca ไม่ซื้อหุ้นของ Algen แต่ให้เงินล่วงหน้าและตาม milestone
    เป้าหมายของ AstraZeneca คือยอดขาย 80 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
    กลุ่มโรคภูมิคุ้มกันสร้างรายได้กว่า 4.2 พันล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรกของ 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Algen แยกตัวจากห้องวิจัยของ Jennifer Doudna ผู้พัฒนา CRISPR
    แพลตฟอร์ม AlgenBrain ใช้การตัดต่อยีนแบบ single-cell และการเรียนรู้เชิงลึก
    AstraZeneca เคยร่วมมือกับ BenevolentAI และ Tempus AI ในการพัฒนายา
    อุตสาหกรรมยาเริ่มใช้โมเดล federated learning เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
    การใช้ AI ช่วยลดเวลาและต้นทุนในการค้นคว้ายาใหม่ แต่ยังต้องพิสูจน์ผลลัพธ์ในระยะยาว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/06/astrazeneca-inks-555-million-gene-editing-technology-deal-with-algen-ft-reports
    🧬 “AstraZeneca ทุ่ม 555 ล้านดอลลาร์ จับมือ Algen พัฒนาเทคโนโลยีตัดต่อยีนด้วย AI — เป้าหมายใหม่ของการรักษาโรคภูมิคุ้มกัน” AstraZeneca บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่จากอังกฤษ-สวีเดน ได้ลงนามข้อตกลงมูลค่า 555 ล้านดอลลาร์กับ Algen Biotechnologies บริษัทไบโอเทคจากซานฟรานซิสโก เพื่อร่วมพัฒนาเทคโนโลยีการรักษาโรคด้วยการตัดต่อยีนแบบ CRISPR โดยใช้แพลตฟอร์ม AI ที่ชื่อว่า “AlgenBrain” ซึ่งสามารถวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างยีนกับโรคได้อย่างแม่นยำ ข้อตกลงนี้ให้ AstraZeneca สิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการพัฒนาและจำหน่ายยาที่ได้จากเทคโนโลยีนี้ โดยเน้นไปที่โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคอักเสบเรื้อรัง หรือโรคแพ้ภูมิตัวเอง โดย Algen จะได้รับเงินล่วงหน้าและเงินตามเป้าหมายการพัฒนาและการอนุมัติ ซึ่งรวมกันแล้วอาจสูงถึง 555 ล้านดอลลาร์ Algen เป็นบริษัทที่แยกตัวออกมาจากห้องวิจัยของมหาวิทยาลัย UC Berkeley ซึ่งเป็นที่ที่ Jennifer Doudna ผู้ได้รับรางวัลโนเบลได้พัฒนาเทคโนโลยี CRISPR ขึ้นมา โดยแพลตฟอร์ม AlgenBrain ใช้การวิเคราะห์ RNA แบบไดนามิกในเซลล์มนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับโรค เพื่อหาจุดแทรกแซงที่สามารถย้อนกลับกระบวนการของโรคได้ แม้ AstraZeneca จะไม่ซื้อหุ้นของ Algen ในข้อตกลงนี้ แต่ก็ถือเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่เสริมความแข็งแกร่งให้กับเป้าหมายของบริษัทในการเพิ่มยอดขายเป็น 80 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 โดยเฉพาะในกลุ่มโรคระบบภูมิคุ้มกันที่สร้างรายได้กว่า 4.2 พันล้านดอลลาร์ในครึ่งแรกของปี 2025 ข้อตกลงนี้ยังสะท้อนแนวโน้มของอุตสาหกรรมยา ที่หันมาใช้ AI และการตัดต่อยีนเพื่อเร่งการค้นพบยาใหม่ ๆ โดยมีบริษัทใหญ่อื่น ๆ เช่น Roche, BMS และ J&J ที่ร่วมมือกันพัฒนาโมเดล AI แบบ federated เพื่อค้นหายาโดยไม่ต้องแชร์ข้อมูลดิบ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ AstraZeneca ลงนามข้อตกลงมูลค่า 555 ล้านดอลลาร์กับ Algen Biotechnologies ➡️ ข้อตกลงให้สิทธิ์พัฒนาและจำหน่ายยาจากเทคโนโลยี CRISPR โดยใช้ AI ➡️ เน้นการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน ➡️ Algen ใช้แพลตฟอร์ม AlgenBrain วิเคราะห์ RNA ในเซลล์มนุษย์ ➡️ ข้อมูล RNA ถูกเชื่อมโยงกับผลลัพธ์ทางชีวภาพเพื่อหาจุดแทรกแซงของโรค ➡️ AstraZeneca ไม่ซื้อหุ้นของ Algen แต่ให้เงินล่วงหน้าและตาม milestone ➡️ เป้าหมายของ AstraZeneca คือยอดขาย 80 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ➡️ กลุ่มโรคภูมิคุ้มกันสร้างรายได้กว่า 4.2 พันล้านดอลลาร์ในครึ่งปีแรกของ 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Algen แยกตัวจากห้องวิจัยของ Jennifer Doudna ผู้พัฒนา CRISPR ➡️ แพลตฟอร์ม AlgenBrain ใช้การตัดต่อยีนแบบ single-cell และการเรียนรู้เชิงลึก ➡️ AstraZeneca เคยร่วมมือกับ BenevolentAI และ Tempus AI ในการพัฒนายา ➡️ อุตสาหกรรมยาเริ่มใช้โมเดล federated learning เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ➡️ การใช้ AI ช่วยลดเวลาและต้นทุนในการค้นคว้ายาใหม่ แต่ยังต้องพิสูจน์ผลลัพธ์ในระยะยาว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/06/astrazeneca-inks-555-million-gene-editing-technology-deal-with-algen-ft-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AstraZeneca inks $555 million gene-editing technology deal with Algen, FT reports
    (Reuters) -AstraZeneca has signed a $555 million deal with a San Francisco-based biotech business Algen Biotechnologies, The Financial Times reported on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Bruno Le Maire ยุติบทบาทที่ ASML หลังรัฐบาลฝรั่งเศสล่ม — สะเทือนวงการชิปยุโรป”

    Bruno Le Maire อดีตรัฐมนตรีคลังของฝรั่งเศส ได้ยุติบทบาทที่ปรึกษาพิเศษของบริษัท ASML ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจาก Le Maire ถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลใหม่ของฝรั่งเศส แต่รัฐบาลดังกล่าวกลับล่มภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการแต่งตั้ง

    Le Maire ได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษของคณะกรรมการบริหาร ASML ตั้งแต่ปี 2024 โดยมีบทบาทสำคัญในการให้คำแนะนำด้านการลงทุนเพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศของอุตสาหกรรมชิปในยุโรป ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของสหภาพยุโรปในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ และจีน

    ASML เพิ่งลงทุนกว่า 1.3 พันล้านยูโรในบริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI ของฝรั่งเศสชื่อ Mistral AI ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบปี และสะท้อนถึงความพยายามของยุโรปในการผลักดันเทคโนโลยีล้ำหน้าให้เติบโตภายในภูมิภาค

    แม้ ASML จะปฏิเสธให้ความเห็นว่า Le Maire จะกลับมารับตำแหน่งอีกหรือไม่หลังจากการล่มของรัฐบาล แต่การถอนตัวครั้งนี้ก็สร้างคำถามถึงเสถียรภาพของการผลักดันนโยบายเทคโนโลยีในยุโรป และบทบาทของนักการเมืองระดับสูงในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงระดับโลก

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Bruno Le Maire ยุติบทบาทที่ปรึกษาพิเศษของ ASML
    เขาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังของฝรั่งเศส และถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีกลาโหม
    รัฐบาลฝรั่งเศสชุดใหม่ล่มภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการแต่งตั้ง
    Le Maire ได้รับตำแหน่งที่ ASML ตั้งแต่ปี 2024 เพื่อให้คำแนะนำด้านการลงทุน
    ASML เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก
    ASML ลงทุน 1.3 พันล้านยูโรในบริษัท Mistral AI ของฝรั่งเศส
    การลงทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เสริมสร้างระบบชิปในยุโรป
    ASML ปฏิเสธให้ความเห็นว่า Le Maire จะกลับมารับตำแหน่งอีกหรือไม่

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ASML เป็นบริษัทเดียวในโลกที่ผลิตเครื่อง EUV lithography ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตชิประดับ 3 นาโนเมตร
    Mistral AI เป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลฝรั่งเศสเพื่อแข่งขันกับ OpenAI และ Anthropic
    การพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศทำให้ยุโรปต้องเร่งสร้างความมั่นคงด้านชิป
    Le Maire เคยผลักดันโครงการ European Chips Act เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปภายในภูมิภาค
    การล่มของรัฐบาลฝรั่งเศสอาจส่งผลต่อความต่อเนื่องของนโยบายเทคโนโลยีระดับชาติ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/06/bruno-le-maire-no-longer-advising-asml-company-says
    🇪🇺 “Bruno Le Maire ยุติบทบาทที่ ASML หลังรัฐบาลฝรั่งเศสล่ม — สะเทือนวงการชิปยุโรป” Bruno Le Maire อดีตรัฐมนตรีคลังของฝรั่งเศส ได้ยุติบทบาทที่ปรึกษาพิเศษของบริษัท ASML ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจาก Le Maire ถูกเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมในรัฐบาลใหม่ของฝรั่งเศส แต่รัฐบาลดังกล่าวกลับล่มภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการแต่งตั้ง Le Maire ได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษของคณะกรรมการบริหาร ASML ตั้งแต่ปี 2024 โดยมีบทบาทสำคัญในการให้คำแนะนำด้านการลงทุนเพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศของอุตสาหกรรมชิปในยุโรป ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของสหภาพยุโรปในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ และจีน ASML เพิ่งลงทุนกว่า 1.3 พันล้านยูโรในบริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI ของฝรั่งเศสชื่อ Mistral AI ซึ่งเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบปี และสะท้อนถึงความพยายามของยุโรปในการผลักดันเทคโนโลยีล้ำหน้าให้เติบโตภายในภูมิภาค แม้ ASML จะปฏิเสธให้ความเห็นว่า Le Maire จะกลับมารับตำแหน่งอีกหรือไม่หลังจากการล่มของรัฐบาล แต่การถอนตัวครั้งนี้ก็สร้างคำถามถึงเสถียรภาพของการผลักดันนโยบายเทคโนโลยีในยุโรป และบทบาทของนักการเมืองระดับสูงในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงระดับโลก ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Bruno Le Maire ยุติบทบาทที่ปรึกษาพิเศษของ ASML ➡️ เขาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังของฝรั่งเศส และถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีกลาโหม ➡️ รัฐบาลฝรั่งเศสชุดใหม่ล่มภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังการแต่งตั้ง ➡️ Le Maire ได้รับตำแหน่งที่ ASML ตั้งแต่ปี 2024 เพื่อให้คำแนะนำด้านการลงทุน ➡️ ASML เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดในโลก ➡️ ASML ลงทุน 1.3 พันล้านยูโรในบริษัท Mistral AI ของฝรั่งเศส ➡️ การลงทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เสริมสร้างระบบชิปในยุโรป ➡️ ASML ปฏิเสธให้ความเห็นว่า Le Maire จะกลับมารับตำแหน่งอีกหรือไม่ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ASML เป็นบริษัทเดียวในโลกที่ผลิตเครื่อง EUV lithography ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตชิประดับ 3 นาโนเมตร ➡️ Mistral AI เป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลฝรั่งเศสเพื่อแข่งขันกับ OpenAI และ Anthropic ➡️ การพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศทำให้ยุโรปต้องเร่งสร้างความมั่นคงด้านชิป ➡️ Le Maire เคยผลักดันโครงการ European Chips Act เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปภายในภูมิภาค ➡️ การล่มของรัฐบาลฝรั่งเศสอาจส่งผลต่อความต่อเนื่องของนโยบายเทคโนโลยีระดับชาติ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/06/bruno-le-maire-no-longer-advising-asml-company-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Bruno Le Maire no longer advising ASML, company says
    (Reuters) -France's former finance minister Bruno Le Maire is no longer an advisor at ASML, a spokesperson for the Dutch chip equipment maker told Reuters on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อุตสาหกรรมสิ่งทอในบังกลาเทศพลิกวิกฤตขยะด้วยเทคโนโลยี — เมื่อเศษผ้ากลายเป็นโอกาสระดับพันล้าน”

    บังกลาเทศ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกเสื้อผ้าอันดับสองของโลก กำลังเผชิญกับปัญหาขยะสิ่งทอจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะเศษผ้าจากการผลิตที่ยังไม่ได้ถูกนำกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันประเทศสามารถรีไซเคิลเศษผ้าก่อนการบริโภคได้เพียง 5–7% เท่านั้น และมีเพียงไม่ถึง 5% ที่ถูกนำไปอัปไซเคิลเป็นสินค้าต่าง ๆ เช่น พรมตุ๊กตาและผ้าห่ม

    เพื่อแก้ปัญหานี้ บริษัท Reverse Resources ได้พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยติดตามและจัดการขยะสิ่งทอแบบเรียลไทม์ โดยระบบจะช่วยให้โรงงานสามารถแยกประเภทเศษผ้า ติดป้ายกำกับ และลงทะเบียนข้อมูลบนคลาวด์ พร้อมติดตามการเคลื่อนย้ายระหว่างโรงงาน ผู้จัดการขยะ และผู้รีไซเคิล

    ระบบนี้ช่วยให้โรงงานได้รับราคาที่ดีขึ้นสำหรับเศษผ้า และแบรนด์สามารถตรวจสอบเส้นทางของขยะที่เกิดจากซัพพลายเออร์ได้อย่างโปร่งใส ปัจจุบันมีโรงงานกว่า 410 แห่งและแบรนด์ระดับโลกกว่า 60 รายเข้าร่วมแพลตฟอร์มนี้ แม้จะยังครอบคลุมเพียง 1% ของตลาด แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่

    รายงานจาก GIZ และ H&M ระบุว่า ขยะสิ่งทอมากกว่า 55% ถูกส่งออกไปยังประเทศที่มีศูนย์รีไซเคิลพัฒนาแล้ว เช่น เวียดนาม ฟินแลนด์ สวีเดน อินเดีย และจีน ส่วนที่เหลือถูกนำไปใช้เป็นวัสดุยัดไส้ เผาเพื่อผลิตไฟฟ้า หรือฝังกลบ

    การติดตามขยะด้วยข้อมูลดิจิทัลไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้จัดการขยะรายเล็กในบังกลาเทศสามารถเข้าถึงตลาดรีไซเคิลระดับโลกได้โดยตรง ลดการพึ่งพาผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นที่เคยควบคุมการจัดการขยะแบบไม่เป็นทางการ

    นอกจากนี้ กฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรปที่บังคับให้ผู้ผลิตต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเก็บและรีไซเคิลสิ่งทอ จะยิ่งผลักดันให้แบรนด์แฟชั่นใช้วัสดุรีไซเคิลมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าโรงงานในบังกลาเทศต้องปรับตัวให้สามารถจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    บังกลาเทศสามารถรีไซเคิลขยะสิ่งทอได้เพียง 5–7% และอัปไซเคิลไม่ถึง 5%
    ขยะมากกว่า 55% ถูกส่งออกไปยังประเทศที่มีศูนย์รีไซเคิลพัฒนาแล้ว
    Reverse Resources พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อจัดการขยะสิ่งทอ
    ระบบช่วยแยกประเภทเศษผ้า ติดป้าย และติดตามการเคลื่อนย้าย
    โรงงานได้รับราคาที่ดีขึ้นเมื่อแยกและติดตามเศษผ้า
    แบรนด์สามารถตรวจสอบเส้นทางของขยะจากซัพพลายเออร์ได้
    ปัจจุบันมีโรงงานกว่า 410 แห่งและแบรนด์กว่า 60 รายเข้าร่วม
    การจัดการขยะแบบดิจิทัลช่วยลดการพึ่งพาผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น
    กฎหมายใหม่ของ EU บังคับให้ผู้ผลิตรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรีไซเคิล
    การรีไซเคิลในประเทศอาจเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้ถึง 5 พันล้านดอลลาร์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Reverse Resources ตั้งเป้าติดตามขยะสิ่งทอทั่วโลก 2.5 ล้านตันต่อปีภายในปี 2030
    การรีไซเคิลแบบ textile-to-textile ช่วยลดการใช้วัสดุใหม่และลดการปล่อย CO₂
    การใช้แพลตฟอร์ม SaaS ช่วยสร้างห่วงโซ่อุปทานที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ
    การแยกขยะตามชนิดเส้นใยตั้งแต่ต้นทางช่วยเพิ่มมูลค่าและลดขั้นตอน
    การจัดการขยะอย่างมีข้อมูลช่วยให้โรงงานเข้าถึงตลาดรีไซเคิลระดับโลกได้ง่ายขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/07/bangladesh039s-textile-firms-turn-to-technology-to-sort-waste-crisis
    🧵 “อุตสาหกรรมสิ่งทอในบังกลาเทศพลิกวิกฤตขยะด้วยเทคโนโลยี — เมื่อเศษผ้ากลายเป็นโอกาสระดับพันล้าน” บังกลาเทศ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกเสื้อผ้าอันดับสองของโลก กำลังเผชิญกับปัญหาขยะสิ่งทอจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะเศษผ้าจากการผลิตที่ยังไม่ได้ถูกนำกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันประเทศสามารถรีไซเคิลเศษผ้าก่อนการบริโภคได้เพียง 5–7% เท่านั้น และมีเพียงไม่ถึง 5% ที่ถูกนำไปอัปไซเคิลเป็นสินค้าต่าง ๆ เช่น พรมตุ๊กตาและผ้าห่ม เพื่อแก้ปัญหานี้ บริษัท Reverse Resources ได้พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยติดตามและจัดการขยะสิ่งทอแบบเรียลไทม์ โดยระบบจะช่วยให้โรงงานสามารถแยกประเภทเศษผ้า ติดป้ายกำกับ และลงทะเบียนข้อมูลบนคลาวด์ พร้อมติดตามการเคลื่อนย้ายระหว่างโรงงาน ผู้จัดการขยะ และผู้รีไซเคิล ระบบนี้ช่วยให้โรงงานได้รับราคาที่ดีขึ้นสำหรับเศษผ้า และแบรนด์สามารถตรวจสอบเส้นทางของขยะที่เกิดจากซัพพลายเออร์ได้อย่างโปร่งใส ปัจจุบันมีโรงงานกว่า 410 แห่งและแบรนด์ระดับโลกกว่า 60 รายเข้าร่วมแพลตฟอร์มนี้ แม้จะยังครอบคลุมเพียง 1% ของตลาด แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ รายงานจาก GIZ และ H&M ระบุว่า ขยะสิ่งทอมากกว่า 55% ถูกส่งออกไปยังประเทศที่มีศูนย์รีไซเคิลพัฒนาแล้ว เช่น เวียดนาม ฟินแลนด์ สวีเดน อินเดีย และจีน ส่วนที่เหลือถูกนำไปใช้เป็นวัสดุยัดไส้ เผาเพื่อผลิตไฟฟ้า หรือฝังกลบ การติดตามขยะด้วยข้อมูลดิจิทัลไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้จัดการขยะรายเล็กในบังกลาเทศสามารถเข้าถึงตลาดรีไซเคิลระดับโลกได้โดยตรง ลดการพึ่งพาผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นที่เคยควบคุมการจัดการขยะแบบไม่เป็นทางการ นอกจากนี้ กฎหมายใหม่ของสหภาพยุโรปที่บังคับให้ผู้ผลิตต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเก็บและรีไซเคิลสิ่งทอ จะยิ่งผลักดันให้แบรนด์แฟชั่นใช้วัสดุรีไซเคิลมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าโรงงานในบังกลาเทศต้องปรับตัวให้สามารถจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ บังกลาเทศสามารถรีไซเคิลขยะสิ่งทอได้เพียง 5–7% และอัปไซเคิลไม่ถึง 5% ➡️ ขยะมากกว่า 55% ถูกส่งออกไปยังประเทศที่มีศูนย์รีไซเคิลพัฒนาแล้ว ➡️ Reverse Resources พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อจัดการขยะสิ่งทอ ➡️ ระบบช่วยแยกประเภทเศษผ้า ติดป้าย และติดตามการเคลื่อนย้าย ➡️ โรงงานได้รับราคาที่ดีขึ้นเมื่อแยกและติดตามเศษผ้า ➡️ แบรนด์สามารถตรวจสอบเส้นทางของขยะจากซัพพลายเออร์ได้ ➡️ ปัจจุบันมีโรงงานกว่า 410 แห่งและแบรนด์กว่า 60 รายเข้าร่วม ➡️ การจัดการขยะแบบดิจิทัลช่วยลดการพึ่งพาผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น ➡️ กฎหมายใหม่ของ EU บังคับให้ผู้ผลิตรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรีไซเคิล ➡️ การรีไซเคิลในประเทศอาจเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้ถึง 5 พันล้านดอลลาร์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Reverse Resources ตั้งเป้าติดตามขยะสิ่งทอทั่วโลก 2.5 ล้านตันต่อปีภายในปี 2030 ➡️ การรีไซเคิลแบบ textile-to-textile ช่วยลดการใช้วัสดุใหม่และลดการปล่อย CO₂ ➡️ การใช้แพลตฟอร์ม SaaS ช่วยสร้างห่วงโซ่อุปทานที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ➡️ การแยกขยะตามชนิดเส้นใยตั้งแต่ต้นทางช่วยเพิ่มมูลค่าและลดขั้นตอน ➡️ การจัดการขยะอย่างมีข้อมูลช่วยให้โรงงานเข้าถึงตลาดรีไซเคิลระดับโลกได้ง่ายขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/07/bangladesh039s-textile-firms-turn-to-technology-to-sort-waste-crisis
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Bangladesh's textile firms turn to technology to sort waste crisis
    Digital tracing helps Bangladesh sort management of textile waste and could boost exports.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ระวัง! แอปปลอม Signal และ ToTok แฝงสปายแวร์โจมตีผู้ใช้ Android ใน UAE — ขโมยข้อมูลส่วนตัวแบบเงียบ ๆ”

    นักวิจัยจาก ESET ได้เปิดเผยแคมเปญสปายแวร์ใหม่ที่กำลังระบาดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยใช้เทคนิคหลอกลวงผ่านแอปปลอมของ Signal และ ToTok ซึ่งเป็นแอปส่งข้อความที่ผู้ใช้ไว้วางใจ โดยแอปปลอมเหล่านี้ไม่ได้อยู่ใน Google Play หรือ App Store แต่ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบหน้าตาแอปจริงอย่างแนบเนียน

    แคมเปญนี้ประกอบด้วยมัลแวร์สองสายพันธุ์ ได้แก่

    ProSpy (Android/Spy.ProSpy): ปลอมเป็น Signal Encryption Plugin และ ToTok Pro
    ToSpy (Android/Spy.ToSpy): ปลอมเป็นแอป ToTok โดยตรง

    เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง APK จากเว็บไซต์ปลอม แอปจะขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล เช่น รายชื่อผู้ติดต่อ ข้อความ ไฟล์ และข้อมูลสำรองการแชท โดยเฉพาะ ToSpy จะมุ่งเป้าไปที่ไฟล์ .ttkmbackup ซึ่งเป็นไฟล์สำรองของ ToTok โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกเข้ารหัสด้วย AES และส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุมที่ยังคงทำงานอยู่ในปี 2025

    ProSpy ยังมีเทคนิคซ่อนตัวขั้นสูง เช่น เปลี่ยนไอคอนเป็น Google Play Services และเปิดหน้าข้อมูลของแอปจริงเมื่อแตะไอคอน ทำให้ผู้ใช้ไม่สงสัยว่าเป็นมัลแวร์

    ESET พบว่าแคมเปญนี้เริ่มต้นตั้งแต่กลางปี 2022 และยังคงดำเนินอยู่ โดยมีการใช้เว็บไซต์ปลอมที่ลงท้ายด้วย .ae.net ซึ่งบ่งชี้ว่าเน้นโจมตีผู้ใช้ใน UAE โดยเฉพาะ

    เพื่อป้องกันตัวเอง ผู้ใช้ควรติดตั้งแอปจากแหล่งทางการเท่านั้น ปิดการติดตั้งจากแหล่งไม่รู้จัก และเปิดใช้งาน Google Play Protect ซึ่งจะบล็อกมัลแวร์ที่รู้จักโดยอัตโนมัติ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    พบมัลแวร์สองสายพันธุ์คือ ProSpy และ ToSpy ที่ปลอมเป็นแอป Signal และ ToTok
    แอปปลอมไม่ได้อยู่ใน Store ทางการ ต้องติดตั้ง APK จากเว็บไซต์ปลอม
    ProSpy ปลอมเป็น Signal Encryption Plugin และ ToTok Pro
    ToSpy ปลอมเป็นแอป ToTok โดยตรง และมุ่งเป้าไปที่ไฟล์สำรอง .ttkmbackup
    แอปขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น รายชื่อ ข้อความ ไฟล์ และข้อมูลแชท
    ข้อมูลถูกเข้ารหัสด้วย AES และส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุม
    ProSpy ใช้เทคนิคซ่อนตัวโดยเปลี่ยนไอคอนเป็น Google Play Services
    แคมเปญเริ่มตั้งแต่ปี 2022 และยังคงดำเนินอยู่ในปี 2025
    ESET แจ้ง Google แล้ว และ Play Protect บล็อกมัลแวร์โดยอัตโนมัติ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ToTok เคยถูกถอดออกจาก Google Play และ App Store ในปี 2019 จากข้อกล่าวหาเรื่องการสอดแนม
    Signal เป็นแอปเข้ารหัสที่มีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก
    การโจมตีแบบนี้เรียกว่า “social engineering” โดยใช้ความไว้วางใจในแบรนด์เพื่อหลอกลวง
    การติดตั้ง APK จากแหล่งภายนอกเป็นช่องทางหลักของมัลแวร์ Android
    การใช้ไอคอนและชื่อแอปที่เหมือนของจริงช่วยให้มัลแวร์หลบเลี่ยงการตรวจจับได้

    https://hackread.com/spyware-fake-signal-totok-apps-uae-android-users/
    📱 “ระวัง! แอปปลอม Signal และ ToTok แฝงสปายแวร์โจมตีผู้ใช้ Android ใน UAE — ขโมยข้อมูลส่วนตัวแบบเงียบ ๆ” นักวิจัยจาก ESET ได้เปิดเผยแคมเปญสปายแวร์ใหม่ที่กำลังระบาดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยใช้เทคนิคหลอกลวงผ่านแอปปลอมของ Signal และ ToTok ซึ่งเป็นแอปส่งข้อความที่ผู้ใช้ไว้วางใจ โดยแอปปลอมเหล่านี้ไม่ได้อยู่ใน Google Play หรือ App Store แต่ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบหน้าตาแอปจริงอย่างแนบเนียน แคมเปญนี้ประกอบด้วยมัลแวร์สองสายพันธุ์ ได้แก่ 🐛 ProSpy (Android/Spy.ProSpy): ปลอมเป็น Signal Encryption Plugin และ ToTok Pro 🐛 ToSpy (Android/Spy.ToSpy): ปลอมเป็นแอป ToTok โดยตรง เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง APK จากเว็บไซต์ปลอม แอปจะขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูล เช่น รายชื่อผู้ติดต่อ ข้อความ ไฟล์ และข้อมูลสำรองการแชท โดยเฉพาะ ToSpy จะมุ่งเป้าไปที่ไฟล์ .ttkmbackup ซึ่งเป็นไฟล์สำรองของ ToTok โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกเข้ารหัสด้วย AES และส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุมที่ยังคงทำงานอยู่ในปี 2025 ProSpy ยังมีเทคนิคซ่อนตัวขั้นสูง เช่น เปลี่ยนไอคอนเป็น Google Play Services และเปิดหน้าข้อมูลของแอปจริงเมื่อแตะไอคอน ทำให้ผู้ใช้ไม่สงสัยว่าเป็นมัลแวร์ ESET พบว่าแคมเปญนี้เริ่มต้นตั้งแต่กลางปี 2022 และยังคงดำเนินอยู่ โดยมีการใช้เว็บไซต์ปลอมที่ลงท้ายด้วย .ae.net ซึ่งบ่งชี้ว่าเน้นโจมตีผู้ใช้ใน UAE โดยเฉพาะ เพื่อป้องกันตัวเอง ผู้ใช้ควรติดตั้งแอปจากแหล่งทางการเท่านั้น ปิดการติดตั้งจากแหล่งไม่รู้จัก และเปิดใช้งาน Google Play Protect ซึ่งจะบล็อกมัลแวร์ที่รู้จักโดยอัตโนมัติ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ พบมัลแวร์สองสายพันธุ์คือ ProSpy และ ToSpy ที่ปลอมเป็นแอป Signal และ ToTok ➡️ แอปปลอมไม่ได้อยู่ใน Store ทางการ ต้องติดตั้ง APK จากเว็บไซต์ปลอม ➡️ ProSpy ปลอมเป็น Signal Encryption Plugin และ ToTok Pro ➡️ ToSpy ปลอมเป็นแอป ToTok โดยตรง และมุ่งเป้าไปที่ไฟล์สำรอง .ttkmbackup ➡️ แอปขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น รายชื่อ ข้อความ ไฟล์ และข้อมูลแชท ➡️ ข้อมูลถูกเข้ารหัสด้วย AES และส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุม ➡️ ProSpy ใช้เทคนิคซ่อนตัวโดยเปลี่ยนไอคอนเป็น Google Play Services ➡️ แคมเปญเริ่มตั้งแต่ปี 2022 และยังคงดำเนินอยู่ในปี 2025 ➡️ ESET แจ้ง Google แล้ว และ Play Protect บล็อกมัลแวร์โดยอัตโนมัติ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ToTok เคยถูกถอดออกจาก Google Play และ App Store ในปี 2019 จากข้อกล่าวหาเรื่องการสอดแนม ➡️ Signal เป็นแอปเข้ารหัสที่มีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก ➡️ การโจมตีแบบนี้เรียกว่า “social engineering” โดยใช้ความไว้วางใจในแบรนด์เพื่อหลอกลวง ➡️ การติดตั้ง APK จากแหล่งภายนอกเป็นช่องทางหลักของมัลแวร์ Android ➡️ การใช้ไอคอนและชื่อแอปที่เหมือนของจริงช่วยให้มัลแวร์หลบเลี่ยงการตรวจจับได้ https://hackread.com/spyware-fake-signal-totok-apps-uae-android-users/
    HACKREAD.COM
    Spyware Disguised as Signal and ToTok Apps Targets UAE Android Users
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts