• "ทหารมีไว้ทำไม"
    กองทัพสหรัฐส่งทหารและเจ้าหน้าที่เข้าช่วยดับไฟป่าในแอลเอ ไม่ใช่เพียงแค่นี้ แต่ยังเข้าช่วยเหลือในภารกิจเต็มรูปแบบในการช่วยชีวิตผู้คน ฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเศษซาก

    นาวิกโยธิน 500 นายจากค่ายเพนเดิลตันกำลังปฏิบัติหน้าที่ภาคพื้นดิน เคลียร์เส้นทาง จัดส่งเสบียง และนำการกู้ภัย

    นอกจากนี้ กองทัพเรือยังส่งเฮลิคอปเตอร์จำนวน 10 ลำพร้อมถังน้ำเข้าไปช่วย
    "ทหารมีไว้ทำไม" กองทัพสหรัฐส่งทหารและเจ้าหน้าที่เข้าช่วยดับไฟป่าในแอลเอ ไม่ใช่เพียงแค่นี้ แต่ยังเข้าช่วยเหลือในภารกิจเต็มรูปแบบในการช่วยชีวิตผู้คน ฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เป็นเศษซาก นาวิกโยธิน 500 นายจากค่ายเพนเดิลตันกำลังปฏิบัติหน้าที่ภาคพื้นดิน เคลียร์เส้นทาง จัดส่งเสบียง และนำการกู้ภัย นอกจากนี้ กองทัพเรือยังส่งเฮลิคอปเตอร์จำนวน 10 ลำพร้อมถังน้ำเข้าไปช่วย
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 53 0 รีวิว
  • รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ค้นพบยุทธการการแทรกซึมทางไซเบอร์จากจีนที่มุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเกาะกวม ยุทธการนี้เรียกว่า Volt Typhoon และมีเป้าหมายเพื่อขัดขวางการปฏิบัติการทางทหารและพลเรือนในกรณีที่เกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับไต้หวัน

    Volt Typhoon มุ่งเน้นการแทรกซึมระบบปฏิบัติการเพื่อเตรียมการก่อวินาศกรรม โดยสร้างช่องโหว่ในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ระบบน้ำ, โครงข่ายไฟฟ้า, และเครือข่ายการสื่อสาร ใช้เทคนิคการเลียนแบบผู้ใช้ที่ถูกต้องตามปกติ ทำให้การตรวจจับทำได้ยาก ต้องอาศัยการระบุความผิดปกติ เช่น รูปแบบการเข้าสู่ระบบที่ไม่ปกติ

    รัฐบาลสหรัฐฯ ตรวจพบ ยุทธการ Volt Typhoon โดยบังเอิญจากการเข้าตรวจสอบกิจกรรมเครือข่ายที่ผิดปกติที่ Guam Power Authority (GPA) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการไฟฟ้าเพียงรายเดียวบนเกาะ GPA มีความสำคัญทางทหารเนื่องจากจัดหาพลังงานให้กับกองทัพเรือสหรัฐฯ ประมาณ 20%

    หน่วยงานรัฐบาลกลาง เช่น FBI, NSA, และ Coast Guard ได้ส่งทีมไปติดตั้งระบบตรวจสอบทั่วโครงข่ายพลังงาน, ท่าเรือ, และเครือข่ายโทรคมนาคมในกวม อย่างไรก็ตาม โครงสร้างพื้นฐานของกวมที่มีการจัดการโดยเอกชนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้การป้องกันแบบบูรณาการณ์ทำได้ยาก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/u-s-uncovers-hacking-campaign-targeting-guams-critical-infrastructure-suspected-chinese-volt-typhoon-hacks-could-disrupt-the-defense-of-taiwan
    รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ค้นพบยุทธการการแทรกซึมทางไซเบอร์จากจีนที่มุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเกาะกวม ยุทธการนี้เรียกว่า Volt Typhoon และมีเป้าหมายเพื่อขัดขวางการปฏิบัติการทางทหารและพลเรือนในกรณีที่เกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับไต้หวัน Volt Typhoon มุ่งเน้นการแทรกซึมระบบปฏิบัติการเพื่อเตรียมการก่อวินาศกรรม โดยสร้างช่องโหว่ในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น ระบบน้ำ, โครงข่ายไฟฟ้า, และเครือข่ายการสื่อสาร ใช้เทคนิคการเลียนแบบผู้ใช้ที่ถูกต้องตามปกติ ทำให้การตรวจจับทำได้ยาก ต้องอาศัยการระบุความผิดปกติ เช่น รูปแบบการเข้าสู่ระบบที่ไม่ปกติ รัฐบาลสหรัฐฯ ตรวจพบ ยุทธการ Volt Typhoon โดยบังเอิญจากการเข้าตรวจสอบกิจกรรมเครือข่ายที่ผิดปกติที่ Guam Power Authority (GPA) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการไฟฟ้าเพียงรายเดียวบนเกาะ GPA มีความสำคัญทางทหารเนื่องจากจัดหาพลังงานให้กับกองทัพเรือสหรัฐฯ ประมาณ 20% หน่วยงานรัฐบาลกลาง เช่น FBI, NSA, และ Coast Guard ได้ส่งทีมไปติดตั้งระบบตรวจสอบทั่วโครงข่ายพลังงาน, ท่าเรือ, และเครือข่ายโทรคมนาคมในกวม อย่างไรก็ตาม โครงสร้างพื้นฐานของกวมที่มีการจัดการโดยเอกชนเป็นส่วนใหญ่ ทำให้การป้องกันแบบบูรณาการณ์ทำได้ยาก https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/u-s-uncovers-hacking-campaign-targeting-guams-critical-infrastructure-suspected-chinese-volt-typhoon-hacks-could-disrupt-the-defense-of-taiwan
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    US uncovers hacking campaign targeting Guam's critical infrastructure
    Guam's infrastructure is essential to U.S. Navy operations in the Pacific.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบ 'ชามซุด-ดิน จาบบาร์' ชาวเทกซัสวัย 42 ปี ที่ถูกกล่าวหาขับรถกระบะพุ่งชนผู้คนที่กำลังฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในนิวออร์ลีนส์ เคยรับใช้กองทัพสหรัฐฯ นานกว่า 13 ปี ในนั้นรวมถึงประจำการในอัฟกานิสถาน ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตของเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 15 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน
    .
    พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจากรัฐบาลกลางและในระดับท้องถิ่นในนิวออร์ลีนส์ เชื่อว่า จาบบาร์ ไม่ได้ลงมือเพียงลำพังและกำลังตามล่าพวกผู้สมคบคิด ส่วนทางเอฟบีไอเผยว่า จาบบาร์ มีธงของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ผืนหนึ่งในรถกระบะและพวกเขามองเหตุโจมตีครั้งนี้ เป็นไปได้ว่าอาจเป็นการก่อการร้าย
    .
    ในขณะที่ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอธิบายได้ว่าทำไม จาบบาร์ พลเมืองสหรัฐฯ ที่ว่ากันว่าเกิดและเติบโตในเทกซัส ถึงลงมือโจมตีในนิวออร์ลีนส์ ทั้งนี้ จาบบาร์ เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ หลังยิงปะทะกับตำรวจ
    .
    เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกองทัพเผยว่า จาบบาร์ เคยสังกัดกองทัพสหรัฐฯ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรมนุษย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2015 จากนั้นเขาก็เข้าร่วมในทหารกองหนุน ฐานะผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านไอที จนถึงปี 2020 มียศสิบโทในช่วงท้ายของการรับราชการทหาร
    .
    นอกจากนี้ จาบบาร์ ยังคงประจำการในอัฟกานิสถาน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2009 ถึงเดือนมกราคม 2010 จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่
    .
    ก่อนรับใช้กองทัพบก เคยสมัครเข้าร่วมกองทัพเรือในเดือนสิงหาคม 2004 ภายใต้โครงการ delayed entry program (โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อรับรองทหารเกณฑ์ใหม่เข้าสู่กองทัพ ก่อนส่งไปฝึกขั้นพื้นฐาน" แต่เขาถูกปลดออกในอีก 1 เดือนต่อมา จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กองทัพเรือรายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
    .
    ขณะเดียวกัน ในประวัตินิติบุคคล ยังพบว่า จาบบาร์ เกี่ยวข้องกับหลายธุรกิจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์
    .
    เอฟบีไอ เชื่อว่า จาบบาร์ เช่ารถกระบะฟอร์ด ที่เขาใช้ขับพุ่งชนฝูงชนในย่านเฟรนช์ ควอเตอร์ ของนิวออร์ลีนส์ ในช่วงเช้ามืดของวันพุธ (1 ม.ค.) จากนั้นก็เปิดฉากยิงใส่ตำรวจ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 35 รายและเสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน ก่อนที่ต่อมาเอฟบีไอ ได้มีการปรับเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 15 ราย
    .
    การพบธงของไอเอสในรถกระบะ กระตุ้นให้มีการสืบสวนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย นอกจากนี้ ทีมสืบสวนยังพบอาวุธและวัตถุต้องสงสัยที่เป็นไปได้ว่าจะเป็นวัตถุระเบิดในยานพาหนะคันดังกล่าว เช่นเดียวกับวัตถุต้องสงสัยอื่นๆ ที่อาจเป็นวัตถุระเบิดในย่านเฟรนช์ ควอเตอร์ ด้วย
    .
    "เราไม่เชื่อว่าจาบบาร์ อยู่เบื้องหลังเพียงคนเดียว เรากำลังไล่ล่าเชิงรุกในทุกเบาะแส ในนั้นรวมถึงพวกที่ทราบว่ามั่วสุมคลุกคลีกับเขา" อเลเทีย ดันแคน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเอฟบีไอระบุ
    .
    จากบันทึกของศาล พบว่า จาบบาร์ หย่าร้างในปี 2022 หลังจากแยกกันอยู่กับภรรยามา 5 ปี ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 1 คน
    .
    ดูเหมือนว่า เขาไม่มีประวัติก่ออาชญากรรมรุนแรงใดๆ ก่อนลงมือโจมตี โดย จาบาร์ เคยโดนเพียงแค่ข้อหาความผิดลหุโทษในปี 2022 ฐานขโมยทรัพย์สิน และเคยถูกจับในปี 2005 ฐานขับขี่โดยใบอนุญาตหมดอายุ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000236
    ..............
    Sondhi X
    พบ 'ชามซุด-ดิน จาบบาร์' ชาวเทกซัสวัย 42 ปี ที่ถูกกล่าวหาขับรถกระบะพุ่งชนผู้คนที่กำลังฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในนิวออร์ลีนส์ เคยรับใช้กองทัพสหรัฐฯ นานกว่า 13 ปี ในนั้นรวมถึงประจำการในอัฟกานิสถาน ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตของเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 15 ราย และบาดเจ็บหลายสิบคน . พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจากรัฐบาลกลางและในระดับท้องถิ่นในนิวออร์ลีนส์ เชื่อว่า จาบบาร์ ไม่ได้ลงมือเพียงลำพังและกำลังตามล่าพวกผู้สมคบคิด ส่วนทางเอฟบีไอเผยว่า จาบบาร์ มีธงของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ผืนหนึ่งในรถกระบะและพวกเขามองเหตุโจมตีครั้งนี้ เป็นไปได้ว่าอาจเป็นการก่อการร้าย . ในขณะที่ยังคงอยู่ระหว่างการสืบสวน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอธิบายได้ว่าทำไม จาบบาร์ พลเมืองสหรัฐฯ ที่ว่ากันว่าเกิดและเติบโตในเทกซัส ถึงลงมือโจมตีในนิวออร์ลีนส์ ทั้งนี้ จาบบาร์ เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ หลังยิงปะทะกับตำรวจ . เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกองทัพเผยว่า จาบบาร์ เคยสังกัดกองทัพสหรัฐฯ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรมนุษย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2015 จากนั้นเขาก็เข้าร่วมในทหารกองหนุน ฐานะผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านไอที จนถึงปี 2020 มียศสิบโทในช่วงท้ายของการรับราชการทหาร . นอกจากนี้ จาบบาร์ ยังคงประจำการในอัฟกานิสถาน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ 2009 ถึงเดือนมกราคม 2010 จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ . ก่อนรับใช้กองทัพบก เคยสมัครเข้าร่วมกองทัพเรือในเดือนสิงหาคม 2004 ภายใต้โครงการ delayed entry program (โปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อรับรองทหารเกณฑ์ใหม่เข้าสู่กองทัพ ก่อนส่งไปฝึกขั้นพื้นฐาน" แต่เขาถูกปลดออกในอีก 1 เดือนต่อมา จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่กองทัพเรือรายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ . ขณะเดียวกัน ในประวัตินิติบุคคล ยังพบว่า จาบบาร์ เกี่ยวข้องกับหลายธุรกิจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ . เอฟบีไอ เชื่อว่า จาบบาร์ เช่ารถกระบะฟอร์ด ที่เขาใช้ขับพุ่งชนฝูงชนในย่านเฟรนช์ ควอเตอร์ ของนิวออร์ลีนส์ ในช่วงเช้ามืดของวันพุธ (1 ม.ค.) จากนั้นก็เปิดฉากยิงใส่ตำรวจ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 35 รายและเสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน ก่อนที่ต่อมาเอฟบีไอ ได้มีการปรับเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 15 ราย . การพบธงของไอเอสในรถกระบะ กระตุ้นให้มีการสืบสวนเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย นอกจากนี้ ทีมสืบสวนยังพบอาวุธและวัตถุต้องสงสัยที่เป็นไปได้ว่าจะเป็นวัตถุระเบิดในยานพาหนะคันดังกล่าว เช่นเดียวกับวัตถุต้องสงสัยอื่นๆ ที่อาจเป็นวัตถุระเบิดในย่านเฟรนช์ ควอเตอร์ ด้วย . "เราไม่เชื่อว่าจาบบาร์ อยู่เบื้องหลังเพียงคนเดียว เรากำลังไล่ล่าเชิงรุกในทุกเบาะแส ในนั้นรวมถึงพวกที่ทราบว่ามั่วสุมคลุกคลีกับเขา" อเลเทีย ดันแคน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเอฟบีไอระบุ . จากบันทึกของศาล พบว่า จาบบาร์ หย่าร้างในปี 2022 หลังจากแยกกันอยู่กับภรรยามา 5 ปี ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 1 คน . ดูเหมือนว่า เขาไม่มีประวัติก่ออาชญากรรมรุนแรงใดๆ ก่อนลงมือโจมตี โดย จาบาร์ เคยโดนเพียงแค่ข้อหาความผิดลหุโทษในปี 2022 ฐานขโมยทรัพย์สิน และเคยถูกจับในปี 2005 ฐานขับขี่โดยใบอนุญาตหมดอายุ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000236 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1280 มุมมอง 0 รีวิว
  • 6 พ.ย.พ.ศ.2310 วันกอบกู้เอกราชไทยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในเดือนตุลาคม พ.ศ.2310
    เจ้าตากได้ยกกองทัพเรือจากจันทบุรีเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วเข้าโจมตีข้าศึกที่เมืองธนบุรี
    เมื่อเจ้าตากยึดเมืองธนบุรีและปราบนายทองอินได้แล้ว จึงเคลื่อนทัพต่อไปที่กรุงศรีอยุธยา
    เข้ายึดค่ายโพธิ์สามต้น ปราบพม่าจนราบคาบ จึงสามารถกอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมา
    เมื่อวันศุกร์ เดือน 12 ขึ้น 15 ค่ำ จุลศักราช 1129 ปีกุน นพศก เวลาบ่ายโมงเศษ ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2310
    เวลาประมาณ13.00 น. ใช้เวลา 7 เดือนหลังจากคราวเสียกรุงศรีอยุธยา
    6 พ.ย.พ.ศ.2310 วันกอบกู้เอกราชไทยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในเดือนตุลาคม พ.ศ.2310 เจ้าตากได้ยกกองทัพเรือจากจันทบุรีเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วเข้าโจมตีข้าศึกที่เมืองธนบุรี เมื่อเจ้าตากยึดเมืองธนบุรีและปราบนายทองอินได้แล้ว จึงเคลื่อนทัพต่อไปที่กรุงศรีอยุธยา เข้ายึดค่ายโพธิ์สามต้น ปราบพม่าจนราบคาบ จึงสามารถกอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนมา เมื่อวันศุกร์ เดือน 12 ขึ้น 15 ค่ำ จุลศักราช 1129 ปีกุน นพศก เวลาบ่ายโมงเศษ ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ.2310 เวลาประมาณ13.00 น. ใช้เวลา 7 เดือนหลังจากคราวเสียกรุงศรีอยุธยา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • “ภูมิธรรม” ชี้ MOU 44 ถูกปั่นจนออกนอกอวกาศ ยันเป็นเพียงสนธิสัญญาตีกรอบให้เจรจาโดยสันติ รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรที่ต่างจากในอดีต แต่ถูกปลุกขึ้นมาจนเป้นเรื่องใหญ่โต ส่วนปมถูกร้องอย่าด่วนตัดสินจะเป็นปลายทางของรัฐบาลปี 68 ยัน "ทักษิณ" ทำได้ช่วย พท.หาเสียงได้ เพราะกฎหมายเปิดช่อง เหมือน "ธนาธร-ปิยบุตร" ยังช่วยพรรคประชาชนได้

    วันที่ (28 ธ.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี MOU 44 ที่อาจจะส่งผลให้มวลชนบางกลุ่ม ออกมาเคลื่อนไหวในปีหน้า ว่า ตนยังยึดหลักเดิมว่าควรใช้ความอดทนอดกลั้นและความเข้าใจ MOU44 ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ที่บ่นพูดคุยกันทั้งหมด ย้ำว่ารัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรเลยที่แตกต่างจากรัฐบาลในอดีตทุกยุคทุกสมัย และยังไม่มีจุดเริ่มต้นเลย ถูกปลุกขึ้นมาโดยอะไรก็ไม่รู้และกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เราพยายามอธิบาย ก็กลายเป็นว่าเหมือนเรื่องมันเกิดแล้วเรามาแก้ตัว หรือออกมาปกป้อง

    “MOU44 กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ รู้ดีที่สุด ไม่มีใครรู้เรื่องหลักกฏหมาย ระหว่างประเทศเรื่องดินแดนดีเท่ากรมสนธิสัญญาฯ นักกฏหมายระหว่างประเทศที่เชี่ยวชาญเป็นที่ยอมรับในนานาประเทศก็อยู่ที่กรมนั้น ถึงได้ให้กรมนั้นแถลงข่าว ซึ่งก็แถลงข่าวชัดเจน แต่กลับถูกจับมาเป็นประเด็น ทั้งเกาะกูดจะถูกยึด ตนไปเยี่ยมมาเขาก็อยู่กันมีความสุขดีไม่มีปัญหาอะไร และก็ยังไม่เคยมีใครมาอ้างสิทธิ์ว่าเกาะกูดเป็นของคนนั้นคนนี้ อีกทั้งผมไปเยี่ยมกองทัพเรือ ที่ดูแลเกาะกูดเขาก็ยังตั้งอยู่ในที่มั่น”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000124648

    #MGROnline #ภูมิธรรม #MOU44
    “ภูมิธรรม” ชี้ MOU 44 ถูกปั่นจนออกนอกอวกาศ ยันเป็นเพียงสนธิสัญญาตีกรอบให้เจรจาโดยสันติ รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรที่ต่างจากในอดีต แต่ถูกปลุกขึ้นมาจนเป้นเรื่องใหญ่โต ส่วนปมถูกร้องอย่าด่วนตัดสินจะเป็นปลายทางของรัฐบาลปี 68 ยัน "ทักษิณ" ทำได้ช่วย พท.หาเสียงได้ เพราะกฎหมายเปิดช่อง เหมือน "ธนาธร-ปิยบุตร" ยังช่วยพรรคประชาชนได้ • วันที่ (28 ธ.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี MOU 44 ที่อาจจะส่งผลให้มวลชนบางกลุ่ม ออกมาเคลื่อนไหวในปีหน้า ว่า ตนยังยึดหลักเดิมว่าควรใช้ความอดทนอดกลั้นและความเข้าใจ MOU44 ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ที่บ่นพูดคุยกันทั้งหมด ย้ำว่ารัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรเลยที่แตกต่างจากรัฐบาลในอดีตทุกยุคทุกสมัย และยังไม่มีจุดเริ่มต้นเลย ถูกปลุกขึ้นมาโดยอะไรก็ไม่รู้และกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เราพยายามอธิบาย ก็กลายเป็นว่าเหมือนเรื่องมันเกิดแล้วเรามาแก้ตัว หรือออกมาปกป้อง • “MOU44 กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ รู้ดีที่สุด ไม่มีใครรู้เรื่องหลักกฏหมาย ระหว่างประเทศเรื่องดินแดนดีเท่ากรมสนธิสัญญาฯ นักกฏหมายระหว่างประเทศที่เชี่ยวชาญเป็นที่ยอมรับในนานาประเทศก็อยู่ที่กรมนั้น ถึงได้ให้กรมนั้นแถลงข่าว ซึ่งก็แถลงข่าวชัดเจน แต่กลับถูกจับมาเป็นประเด็น ทั้งเกาะกูดจะถูกยึด ตนไปเยี่ยมมาเขาก็อยู่กันมีความสุขดีไม่มีปัญหาอะไร และก็ยังไม่เคยมีใครมาอ้างสิทธิ์ว่าเกาะกูดเป็นของคนนั้นคนนี้ อีกทั้งผมไปเยี่ยมกองทัพเรือ ที่ดูแลเกาะกูดเขาก็ยังตั้งอยู่ในที่มั่น” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9670000124648 • #MGROnline #ภูมิธรรม #MOU44
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ ทวงคำตอบ กรณี MOU44 และ JC44 กับรัฐบาล ##
    ..
    ..
    ข้อเรียกร้อง ย่ออย่างสั้นที่สุดคือ...
    .
    1.ขอให้นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี รักษาอธิปไตยของชาติ
    2.ขอให้นายกรัฐมนตรี นำเรื่อง MOU44 และ JC44 เข้า ครม. ลงมติ และ ส่ง ศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตีความว่า การทำ MOU44 และ JC44 ชอบด้วย รัฐธรรมนูญหรือไม่
    3.หาก ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า MOU44 และ JC44 ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ ขอให้เพิกถอน MOU44 และ JC44 ไป
    4.หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า MOU44 และ JC44 ไม่ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ ขอให้ รัฐบาลไปเจรจา กับ กัมพูชา เพื่อยกเลิก MOU44 และ JC44 เพื่อป้องกันความสุ่มเสี่ยงที่ประเทศไทย อาจจะเสียเปรียบในอนาคต บนเวทีสากล หรือ ศาลโลก
    5.ขอให้ยุติการตั้ง คณะกรรมาธิการร่วมทางเทคนิค ระหว่างไทยกับกัมพูชาด้านทะเล หรือ JTC เอาไว้ก่อน
    6.ขอให้รัฐบาลเปิดเวทีสาธารณะ เพื่อเสวนาและให้ความรู้ประชาชน และ สุดท้ายให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้
    .
    แต่ คำตอบของ นายกรัฐมนตรี คือ เห็นหนังสือร้องเรียนแล้ว ได้ส่งให้กระทรวงการต่างประเทศแล้ว หากมีเรื่องใดจะร้องทุกข์ให้มาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 111
    .
    สรุปคำตอบของ ท่านนายกรัฐมนตรี คือ ถามวัว ตอบควาย...!!!
    .
    เนื่องจาก ครบกำหนด 15 วันแล้ว และ ท่าตอบไม่ตรงคำถาม ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ จึงได้มาทวงถามคำตอบอีกครั้ง...
    ...
    ...
    โดยในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 นายกรัฐมนตรี มอบหมาย นาย สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง หอบหิ้ว ข้าราชการนับ 10 หน่วยงาน มาร่วมประชุมรับหน้า ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ
    .
    เช่น...
    .
    1.ที่ปรึกษาสำนักปลัดสำนักยนายกรัฐมนตรี
    2.ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
    3.ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน
    4.ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน
    5.ผู้อำนวยการส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชน
    6.ผู้อำนวยการกองกฎหมายกรมสนธิสัญญา ***
    7.รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล
    8.สำนักนโยบายและแผนกองบัญชาการกองทัพเรือ ***
    9.ตัวแทนกองบัญชาการกองทัพเรือ ***
    10.ผู้อำนวยการด้านกองความมั่นคงทางทะเล ***
    11.นักการทูตชำนาญการกระทรวงการต่างประเทศ ***
    12.นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการสภาความนั่นคงแห่งชาติ ***
    ...
    ...
    ผมว่าการเชิญข้าราชการเหล่านี้มาคุยเป็นเรื่องดีครับ แต่ในทางที่ถูกคือควรจะเปิดเผยต่อสาธารณะชนครับ
    .
    แน่นอนว่า วิธีนี้อาจเป็นการรักษาหน้าของ ข้าราชการที่ถูกเรียกมาให้ข้อมูลยันกับ คุณลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ
    .
    เพราะบางท่านอาจถูกบังคับให้มาด้วย ตำแหน่งหน้าที่ และ สายการบังคับบัญชา โดยที่ท่านเหล่านั้น อาจจะไม่ได้เต็มใจมาค้านข้อมูลของภาคประชาชนก็ได้
    .
    มีข้อสังเกตุว่า การตระเตรียมการนำข้าราชการหลาย 10 ท่าน มาในวันนั้น ไม่ได้มีการแจ้งภาคประชาชนมากก่อน
    .
    เพราะภาคประชาชนเพียงมาทวงคำตอบ จึงไม่ได้เตรียมเอกสารหรือข้อมูลมาเพื่อพูดคุยกัน
    .
    แต่เมื่อเริ่มประชุม ฝ่ายตัวแทนรัฐบาลกลับ เริ่มต้น ให้ ภาคประชาชนถามคำถามที่ค้างคาใจ...
    .
    แม้กระนั้น อาจารย์ปานเทพ ก็เทพ สมชื่อ จัดหนักข้อมูชุดใหญ่ให้ที่ประชุม แถม เสริม และ แย้ง ข้อมูลของ ผู้อำนวยการกองกฎหมายกรมสนธิสัญญา ที่พูดไม่ครบถ้วนกระบวนความ จนความหมายผิดเพียนไปได้อย่างหนักแน่น จนอึ้งไปกันหมดทุกคน...
    ...
    ...
    ประเด็นสำคัญคือ
    .
    พระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงกำหนดวิธีการเจรจาไว้แล้ว ว่า ให้ใช้หลักกฎหมายสากล ซึ่งก็คือ เส้นมัธยฐาน
    .
    แต่ MOU44 และ JC44 ที่จัดทำขึ้นโดยไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของสภา จึง ขัดต่อบทบัญญัตของ รัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ การทำหนังสือสัญญาใดๆระหว่างประเทศ เป็น อำนาจ ของ พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพระประมุขของประเทศ
    .
    เมื่อเป็นหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ จึงต้องผ่านความเห็นชอบของสภา
    .
    เมื่อไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของสภา ดังนั้น MOU44 และ JC44 จึงเป็น เอกสารเถื่อน มีผลป็น โมฆะ มาตั้งแต่ต้น
    .
    แถม MOU44 ยัง มีแผนที่ไหล่ทวีป ที่วาดเอาตามอำเภอใจของ กัมพูชา แนบท้ายมาใน MOU44 อีกด้วย
    .
    มีผลเป็นการ "รับรู้" และ เป็นครั้งแรก ที่เอกสารของประเทศไทย ได้มี แผนที่ไหล่ทวีป ที่วาดเอาตามอำเภอใจของ กัมพูชา เข้ามาสู้ระบบเอกสารของประเทศไทยอย่างทางการ
    .
    มีผลเป็นการที่ รัฐบาล และ หน่วยงานรัฐใดๆที่เกี่ยวข้อง "รับรู้" และ "ไม่ปฎิเสธ" แผนที่ไหล่ทวีป ที่วาดเอาตามอำเภอใจของ กัมพูชา
    .
    อีกทั้งใน MOU44 ยังมีเนื้อหาที่ ทำให้เกิดความพยายามที่จะยอมรับพื้นที่อ้างสิทธิระหว่างไทยกับกัมพูชา ด้านใต้ ละติจูดที่ 11 องศา ลงมา
    .
    ว่าเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันเป็นที่ยุติแล้ว มีจำนวน 16,000 ตารางกิโลเมตร ที่ไม่ต้องมีการตกลงเรื่องเขตแดนกันอีก
    .
    โดยกำหนดพื้นที่ด้านใต้ ละติจูดที่ 11 องศา ให้แบ่งผลประโยชน์กัน ระหว่าง ประเทศไทย กับ กัมพูชา
    .
    ซึ่งวิธีการดังกล่าง เป็นการ ตกลงกันเป็นอย่างอื่น นอกเหนือจาก หลักกฎหมาย ของ กฎหมายสากลทางทะเล (เส้น มัธยฐาน)
    .
    ซึ่งจะทำให้ ประเทศไทย สูญเสียผลประโยชน์เกินกว่าความเป็นจริง และ เป็นการ ขัดพระบรมราชโองการ ประกาศเขตไหล่ทวีป ของ ในหลวงรัชการที่ 9 ซึ่งได้กำหนด วิธีการเจรจาไว้เป็นหนึ่งเดียว ตลอดไป...
    .
    สรุป สุดท้าน ภาคประชาชน ขอให้ รัฐบาลทำให้สือตอบกลับมาเป็น ลายลักษณ์อักษร หากท่านทำผิดกฎหมาย ภาคประชาชน จะไปดำเนินคดีกับท่านเอง
    .
    และได้ บอกกล่าวว่าปีหน้าจะ ไปยื่นหนังสือที่
    1.รัฐสภา
    2.กระทรวงการต่างประเทศ และ
    3.กองทัพเรือ
    .
    เรื่อง ดินแดน อำนาจอธิปไตย และ สิทธิอธิปไตย เป็นเรื่องที่คุกรุ่นอยู่ในใจของประชาชนครับ
    .
    สุดท้ายของฝากไว้...
    ....
    ....
    ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119

    ผู้ใดกระทำการใด ๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
    ....
    ....
    https://youtu.be/pee-3jgOGrQ?si=VEkike7oS8olHZqn
    ## ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ ทวงคำตอบ กรณี MOU44 และ JC44 กับรัฐบาล ## .. .. ข้อเรียกร้อง ย่ออย่างสั้นที่สุดคือ... . 1.ขอให้นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี รักษาอธิปไตยของชาติ 2.ขอให้นายกรัฐมนตรี นำเรื่อง MOU44 และ JC44 เข้า ครม. ลงมติ และ ส่ง ศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตีความว่า การทำ MOU44 และ JC44 ชอบด้วย รัฐธรรมนูญหรือไม่ 3.หาก ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า MOU44 และ JC44 ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ ขอให้เพิกถอน MOU44 และ JC44 ไป 4.หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า MOU44 และ JC44 ไม่ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ ขอให้ รัฐบาลไปเจรจา กับ กัมพูชา เพื่อยกเลิก MOU44 และ JC44 เพื่อป้องกันความสุ่มเสี่ยงที่ประเทศไทย อาจจะเสียเปรียบในอนาคต บนเวทีสากล หรือ ศาลโลก 5.ขอให้ยุติการตั้ง คณะกรรมาธิการร่วมทางเทคนิค ระหว่างไทยกับกัมพูชาด้านทะเล หรือ JTC เอาไว้ก่อน 6.ขอให้รัฐบาลเปิดเวทีสาธารณะ เพื่อเสวนาและให้ความรู้ประชาชน และ สุดท้ายให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ . แต่ คำตอบของ นายกรัฐมนตรี คือ เห็นหนังสือร้องเรียนแล้ว ได้ส่งให้กระทรวงการต่างประเทศแล้ว หากมีเรื่องใดจะร้องทุกข์ให้มาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 111 . สรุปคำตอบของ ท่านนายกรัฐมนตรี คือ ถามวัว ตอบควาย...!!! . เนื่องจาก ครบกำหนด 15 วันแล้ว และ ท่าตอบไม่ตรงคำถาม ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ จึงได้มาทวงถามคำตอบอีกครั้ง... ... ... โดยในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 นายกรัฐมนตรี มอบหมาย นาย สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง หอบหิ้ว ข้าราชการนับ 10 หน่วยงาน มาร่วมประชุมรับหน้า ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ . เช่น... . 1.ที่ปรึกษาสำนักปลัดสำนักยนายกรัฐมนตรี 2.ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี 3.ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน 4.ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน 5.ผู้อำนวยการส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชน 6.ผู้อำนวยการกองกฎหมายกรมสนธิสัญญา *** 7.รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล 8.สำนักนโยบายและแผนกองบัญชาการกองทัพเรือ *** 9.ตัวแทนกองบัญชาการกองทัพเรือ *** 10.ผู้อำนวยการด้านกองความมั่นคงทางทะเล *** 11.นักการทูตชำนาญการกระทรวงการต่างประเทศ *** 12.นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการสภาความนั่นคงแห่งชาติ *** ... ... ผมว่าการเชิญข้าราชการเหล่านี้มาคุยเป็นเรื่องดีครับ แต่ในทางที่ถูกคือควรจะเปิดเผยต่อสาธารณะชนครับ . แน่นอนว่า วิธีนี้อาจเป็นการรักษาหน้าของ ข้าราชการที่ถูกเรียกมาให้ข้อมูลยันกับ คุณลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ . เพราะบางท่านอาจถูกบังคับให้มาด้วย ตำแหน่งหน้าที่ และ สายการบังคับบัญชา โดยที่ท่านเหล่านั้น อาจจะไม่ได้เต็มใจมาค้านข้อมูลของภาคประชาชนก็ได้ . มีข้อสังเกตุว่า การตระเตรียมการนำข้าราชการหลาย 10 ท่าน มาในวันนั้น ไม่ได้มีการแจ้งภาคประชาชนมากก่อน . เพราะภาคประชาชนเพียงมาทวงคำตอบ จึงไม่ได้เตรียมเอกสารหรือข้อมูลมาเพื่อพูดคุยกัน . แต่เมื่อเริ่มประชุม ฝ่ายตัวแทนรัฐบาลกลับ เริ่มต้น ให้ ภาคประชาชนถามคำถามที่ค้างคาใจ... . แม้กระนั้น อาจารย์ปานเทพ ก็เทพ สมชื่อ จัดหนักข้อมูชุดใหญ่ให้ที่ประชุม แถม เสริม และ แย้ง ข้อมูลของ ผู้อำนวยการกองกฎหมายกรมสนธิสัญญา ที่พูดไม่ครบถ้วนกระบวนความ จนความหมายผิดเพียนไปได้อย่างหนักแน่น จนอึ้งไปกันหมดทุกคน... ... ... ประเด็นสำคัญคือ . พระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงกำหนดวิธีการเจรจาไว้แล้ว ว่า ให้ใช้หลักกฎหมายสากล ซึ่งก็คือ เส้นมัธยฐาน . แต่ MOU44 และ JC44 ที่จัดทำขึ้นโดยไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของสภา จึง ขัดต่อบทบัญญัตของ รัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ การทำหนังสือสัญญาใดๆระหว่างประเทศ เป็น อำนาจ ของ พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพระประมุขของประเทศ . เมื่อเป็นหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ จึงต้องผ่านความเห็นชอบของสภา . เมื่อไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของสภา ดังนั้น MOU44 และ JC44 จึงเป็น เอกสารเถื่อน มีผลป็น โมฆะ มาตั้งแต่ต้น . แถม MOU44 ยัง มีแผนที่ไหล่ทวีป ที่วาดเอาตามอำเภอใจของ กัมพูชา แนบท้ายมาใน MOU44 อีกด้วย . มีผลเป็นการ "รับรู้" และ เป็นครั้งแรก ที่เอกสารของประเทศไทย ได้มี แผนที่ไหล่ทวีป ที่วาดเอาตามอำเภอใจของ กัมพูชา เข้ามาสู้ระบบเอกสารของประเทศไทยอย่างทางการ . มีผลเป็นการที่ รัฐบาล และ หน่วยงานรัฐใดๆที่เกี่ยวข้อง "รับรู้" และ "ไม่ปฎิเสธ" แผนที่ไหล่ทวีป ที่วาดเอาตามอำเภอใจของ กัมพูชา . อีกทั้งใน MOU44 ยังมีเนื้อหาที่ ทำให้เกิดความพยายามที่จะยอมรับพื้นที่อ้างสิทธิระหว่างไทยกับกัมพูชา ด้านใต้ ละติจูดที่ 11 องศา ลงมา . ว่าเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันเป็นที่ยุติแล้ว มีจำนวน 16,000 ตารางกิโลเมตร ที่ไม่ต้องมีการตกลงเรื่องเขตแดนกันอีก . โดยกำหนดพื้นที่ด้านใต้ ละติจูดที่ 11 องศา ให้แบ่งผลประโยชน์กัน ระหว่าง ประเทศไทย กับ กัมพูชา . ซึ่งวิธีการดังกล่าง เป็นการ ตกลงกันเป็นอย่างอื่น นอกเหนือจาก หลักกฎหมาย ของ กฎหมายสากลทางทะเล (เส้น มัธยฐาน) . ซึ่งจะทำให้ ประเทศไทย สูญเสียผลประโยชน์เกินกว่าความเป็นจริง และ เป็นการ ขัดพระบรมราชโองการ ประกาศเขตไหล่ทวีป ของ ในหลวงรัชการที่ 9 ซึ่งได้กำหนด วิธีการเจรจาไว้เป็นหนึ่งเดียว ตลอดไป... . สรุป สุดท้าน ภาคประชาชน ขอให้ รัฐบาลทำให้สือตอบกลับมาเป็น ลายลักษณ์อักษร หากท่านทำผิดกฎหมาย ภาคประชาชน จะไปดำเนินคดีกับท่านเอง . และได้ บอกกล่าวว่าปีหน้าจะ ไปยื่นหนังสือที่ 1.รัฐสภา 2.กระทรวงการต่างประเทศ และ 3.กองทัพเรือ . เรื่อง ดินแดน อำนาจอธิปไตย และ สิทธิอธิปไตย เป็นเรื่องที่คุกรุ่นอยู่ในใจของประชาชนครับ . สุดท้ายของฝากไว้... .... .... ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 ผู้ใดกระทำการใด ๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต .... .... https://youtu.be/pee-3jgOGrQ?si=VEkike7oS8olHZqn
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 382 มุมมอง 0 รีวิว
  • 26 ธ.ค. 2024 -รายงานข่าวจากสื่อ South China Morning Post ระบุว่า ปักกิ่งปลดนายพลอีก 2 นายจากตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาของกองทัพปลดแอกประชาชน (PLA) เนื่องจากจีนยังคงดำเนินการปราบปรามการทุจริตในกองทัพของประเทศ

    ในประกาศเมื่อวันพุธที่25 ธันวาคมนี้ คณะกรรมการถาวรของสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ยืนยันว่าพลโทโยว ไห่เทา อดีตรองผู้บัญชาการกองทัพจีน และพลเรือเอกหลี่ เผิงเฉิง อดีตผู้บัญชาการกองทัพเรือของกองบัญชาการกองทัพภาคใต้ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ถูกปลดออกจากตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาสูงสุดของประเทศ

    แถลงการณ์ของ NPC ฉบับหนึ่งระบุว่านายพลโยวและนายพลหลี่ถูกสงสัยว่า “ละเมิดกฎหมายและวินัยอย่างร้ายแรง” ซึ่งโดยปกติแล้วหมายถึงการทุจริต

    การปลดนายพลทั้งสองเกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงบุคลากรจำนวนมากภายในกองทัพปลดแอกประชาชนจีน โดยมีนายทหารอาวุโสหลายคนถูกปลดออกจากตำแหน่งเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าทุจริต เช่น เหมียวฮัว สมาชิกคณะกรรมาธิการทหารกลางที่มีอำนาจและผู้อำนวยการฝ่ายงานการเมือง ถูกสอบสวนเรื่องการทุจริตในเดือนพฤศจิกายน นายพลคุณ วัย 66 ปี ได้รับตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองทัพในช่วงต้นปี 2016 ก่อนหน้านี้ เขาเคยดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองทัพภาคหนานจิง และได้รับการเลื่อนยศเป็นพลโทในปี 2014

    นายพลเรือ หลี่ วัย 61 ปี เคยดำรงตำแหน่งต่างๆ มาก่อน รวมทั้งรองเสนาธิการกองเรือทะเลเหนือของกองทัพเรือ PLA ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยอุปกรณ์ของกองทัพเรือ และเสนาธิการกองเรือทะเลตะวันออก
    26 ธ.ค. 2024 -รายงานข่าวจากสื่อ South China Morning Post ระบุว่า ปักกิ่งปลดนายพลอีก 2 นายจากตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาของกองทัพปลดแอกประชาชน (PLA) เนื่องจากจีนยังคงดำเนินการปราบปรามการทุจริตในกองทัพของประเทศ ในประกาศเมื่อวันพุธที่25 ธันวาคมนี้ คณะกรรมการถาวรของสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ยืนยันว่าพลโทโยว ไห่เทา อดีตรองผู้บัญชาการกองทัพจีน และพลเรือเอกหลี่ เผิงเฉิง อดีตผู้บัญชาการกองทัพเรือของกองบัญชาการกองทัพภาคใต้ของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ถูกปลดออกจากตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาสูงสุดของประเทศ แถลงการณ์ของ NPC ฉบับหนึ่งระบุว่านายพลโยวและนายพลหลี่ถูกสงสัยว่า “ละเมิดกฎหมายและวินัยอย่างร้ายแรง” ซึ่งโดยปกติแล้วหมายถึงการทุจริต การปลดนายพลทั้งสองเกิดขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงบุคลากรจำนวนมากภายในกองทัพปลดแอกประชาชนจีน โดยมีนายทหารอาวุโสหลายคนถูกปลดออกจากตำแหน่งเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าทุจริต เช่น เหมียวฮัว สมาชิกคณะกรรมาธิการทหารกลางที่มีอำนาจและผู้อำนวยการฝ่ายงานการเมือง ถูกสอบสวนเรื่องการทุจริตในเดือนพฤศจิกายน นายพลคุณ วัย 66 ปี ได้รับตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองทัพในช่วงต้นปี 2016 ก่อนหน้านี้ เขาเคยดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองทัพภาคหนานจิง และได้รับการเลื่อนยศเป็นพลโทในปี 2014 นายพลเรือ หลี่ วัย 61 ปี เคยดำรงตำแหน่งต่างๆ มาก่อน รวมทั้งรองเสนาธิการกองเรือทะเลเหนือของกองทัพเรือ PLA ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยอุปกรณ์ของกองทัพเรือ และเสนาธิการกองเรือทะเลตะวันออก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ ทวงคำตอบ กรณี MOU44 และ JC44 กับรัฐบาล ##
    ..
    ..
    ข้อเรียกร้อง ย่ออย่างสั้นที่สุดคือ...
    .
    1.ขอให้นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี รักษาอธิปไตยของชาติ

    2.ขอให้นายกรัฐมนตรี นำเรื่อง MOU44 และ JC44 เข้า ครม. ลงมติ และ ส่ง ศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตีความว่า การทำ MOU44 และ JC44 ชอบด้วย รัฐธรรมนูญหรือไม่

    3.หาก ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า MOU44 และ JC44 ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ ขอให้เพิกถอน MOU44 และ JC44 ไป

    4.หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า MOU44 และ JC44 ไม่ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ ขอให้ รัฐบาลไปเจรจา กับ กัมพูชา เพื่อยกเลิก MOU44 และ JC44 เพื่อป้องกันความสุ่มเสี่ยงที่ประเทศไทย อาจจะเสียเปรียบในอนาคต บนเวทีสากล หรือ ศาลโลก

    5.ขอให้ยุติการตั้ง คณะกรรมาธิการร่วมทางเทคนิค ระหว่างไทยกับกัมพูชาด้านทะเล หรือ JTC เอาไว้ก่อน

    6.ขอให้รัฐบาลเปิดเวทีสาธารณะ เพื่อเสวนาและให้ความรู้ประชาชน และ สุดท้ายให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้
    .
    แต่ คำตอบของ นายกรัฐมนตรี คือ เห็นหนังสือร้องเรียนแล้ว ได้ส่งให้กระทรวงการต่างประเทศแล้ว หากมีเรื่องใดจะร้องทุกข์ให้มาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 111
    .
    สรุปคำตอบของ ท่านนายกรัฐมนตรี คือ ถามวัว ตอบควาย...!!!
    .
    เนื่องจาก ครบกำหนด 15 วันแล้ว และ ท่านตอบไม่ตรงคำถาม ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ จึงได้มาทวงถามคำตอบอีกครั้ง...
    ...
    ...
    โดยในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 นายกรัฐมนตรี มอบหมาย นาย สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง หอบหิ้ว ข้าราชการนับ 10 หน่วยงาน มาร่วมประชุมรับหน้า ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ
    .
    เช่น...
    .
    1.ที่ปรึกษาสำนักปลัดสำนักยนายกรัฐมนตรี
    2.ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
    3.ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน
    4.ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน
    5.ผู้อำนวยการส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชน
    6.ผู้อำนวยการกองกฎหมายกรมสนธิสัญญา ***
    7.รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล
    8.สำนักนโยบายและแผนกองบัญชาการกองทัพเรือ ***
    9.ตัวแทนกองบัญชาการกองทัพเรือ ***
    10.ผู้อำนวยการด้านกองความมั่นคงทางทะเล ***
    11.นักการทูตชำนาญการกระทรวงการต่างประเทศ ***
    12.นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการสภาความนั่นคงแห่งชาติ ***
    ...
    ...
    ผมว่าการเชิญข้าราชการเหล่านี้มาคุยเป็นเรื่องดีครับ แต่ในทางที่ถูกคือควรจะเปิดเผยต่อสาธารณะชนครับ
    .
    แน่นอนว่า วิธีนี้อาจเป็นการรักษาหน้าของ ข้าราชการที่ถูกเรียกมาให้ข้อมูลยันกับ คุณลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ
    .
    เพราะบางท่านอาจถูกบังคับให้มาด้วย ตำแหน่งหน้าที่ และ สายการบังคับบัญชา โดยที่ท่านเหล่านั้น อาจจะไม่ได้เต็มใจมาค้านข้อมูลของภาคประชาชนก็ได้
    .
    มีข้อสังเกตุว่า การตระเตรียมการนำข้าราชการหลาย 10 ท่าน มาในวันนั้น ไม่ได้มีการแจ้งภาคประชาชนมากก่อน
    .
    เพราะภาคประชาชนเพียงมาทวงคำตอบ จึงไม่ได้เตรียมเอกสารหรือข้อมูลมาเพื่อพูดคุยกัน
    .
    แต่เมื่อเริ่มประชุม ฝ่ายตัวแทนรัฐบาลกลับ เริ่มต้น ให้ ภาคประชาชนถามคำถามที่ค้างคาใจ...
    .
    แม้กระนั้น อาจารย์ปานเทพ ก็เทพ สมชื่อ จัดหนักข้อมูชุดใหญ่ให้ที่ประชุม แถม เสริม และ แย้ง ข้อมูลของ ผู้อำนวยการกองกฎหมายกรมสนธิสัญญา ที่พูดไม่ครบถ้วนกระบวนความ จนความหมายผิดเพียนไปได้อย่างหนักแน่น จนอึ้งไปกันหมดทุกคน...
    ...
    ...
    ประเด็นสำคัญคือ
    .
    พระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงกำหนดวิธีการเจรจาไว้แล้ว ว่า ให้ใช้หลักกฎหมายสากล ซึ่งก็คือ เส้นมัธยฐาน
    .
    แต่ MOU44 และ JC44 ที่จัดทำขึ้นโดยไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของสภา จึง ขัดต่อบทบัญญัตของ รัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ การทำหนังสือสัญญาใดๆระหว่างประเทศ เป็น อำนาจ ของ พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพระประมุขของประเทศ
    .
    เมื่อเป็นหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ จึงต้องผ่านความเห็นชอบของสภา
    .
    เมื่อไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของสภา ดังนั้น MOU44 และ JC44 จึงเป็น เอกสารเถื่อน มีผลป็น โมฆะ มาตั้งแต่ต้น
    .
    แถม MOU44 ยัง มีแผนที่ไหล่ทวีป ที่วาดเอาตามอำเภอใจของ กัมพูชา แนบท้ายมาใน MOU44 อีกด้วย
    .
    มีผลเป็นการ "รับรู้" และ เป็นครั้งแรก ที่เอกสารของประเทศไทย ได้มี แผนที่ไหล่ทวีป ที่วาดเอาตามอำเภอใจของ กัมพูชา เข้ามาสู้ระบบเอกสารของประเทศไทยอย่างทางการ
    .
    มีผลเป็นการที่ รัฐบาล และ หน่วยงานรัฐใดๆที่เกี่ยวข้อง "รับรู้" และ "ไม่ปฎิเสธ" แผนที่ไหล่ทวีป ที่วาดเอาตามอำเภอใจของ กัมพูชา
    .
    อีกทั้งใน MOU44 ยังมีเนื้อหาที่ ทำให้เกิดความพยายามที่จะยอมรับพื้นที่อ้างสิทธิระหว่างไทยกับกัมพูชา ด้านใต้ ละติจูดที่ 11 องศา ลงมา
    .
    ว่าเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันเป็นที่ยุติแล้ว มีจำนวน 16,000 ตารางกิโลเมตร ที่ไม่ต้องมีการตกลงเรื่องเขตแดนกันอีก
    .
    โดยกำหนดพื้นที่ด้านใต้ ละติจูดที่ 11 องศา ให้แบ่งผลประโยชน์กัน ระหว่าง ประเทศไทย กับ กัมพูชา
    .
    ซึ่งวิธีการดังกล่าง เป็นการ ตกลงกันเป็นอย่างอื่น นอกเหนือจาก หลักกฎหมาย ของ กฎหมายสากลทางทะเล (เส้น มัธยฐาน)
    .
    ซึ่งจะทำให้ ประเทศไทย สูญเสียผลประโยชน์เกินกว่าความเป็นจริง และ เป็นการ ขัดพระบรมราชโองการ ประกาศเขตไหล่ทวีป ของ ในหลวงรัชการที่ 9 ซึ่งได้กำหนด วิธีการเจรจาไว้เป็นหนึ่งเดียว ตลอดไป...
    .
    สรุป สุดท้าน ภาคประชาชน ขอให้ รัฐบาลทำให้สือตอบกลับมาเป็น ลายลักษณ์อักษร หากท่านทำผิดกฎหมาย ภาคประชาชน จะไปดำเนินคดีกับท่านเอง
    .
    และได้ บอกกล่าวว่าปีหน้าจะ ไปยื่นหนังสือที่
    1.รัฐสภา
    2.กระทรวงการต่างประเทศ และ
    3.กองทัพเรือ
    .
    เรื่อง ดินแดน อำนาจอธิปไตย และ สิทธิอธิปไตย เป็นเรื่องที่คุกรุ่นอยู่ในใจของประชาชนครับ
    .
    สุดท้ายของฝากไว้...
    ....
    ....
    ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119

    ผู้ใดกระทำการใด ๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
    ....
    ....
    https://youtu.be/wR4PZ-c5ExA?si=onTI6IaLFkxZfEnv
    ## ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ ทวงคำตอบ กรณี MOU44 และ JC44 กับรัฐบาล ## .. .. ข้อเรียกร้อง ย่ออย่างสั้นที่สุดคือ... . 1.ขอให้นายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรี รักษาอธิปไตยของชาติ 2.ขอให้นายกรัฐมนตรี นำเรื่อง MOU44 และ JC44 เข้า ครม. ลงมติ และ ส่ง ศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตีความว่า การทำ MOU44 และ JC44 ชอบด้วย รัฐธรรมนูญหรือไม่ 3.หาก ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า MOU44 และ JC44 ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ ขอให้เพิกถอน MOU44 และ JC44 ไป 4.หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า MOU44 และ JC44 ไม่ขัดหรือแย้งต่อ รัฐธรรมนูญ ขอให้ รัฐบาลไปเจรจา กับ กัมพูชา เพื่อยกเลิก MOU44 และ JC44 เพื่อป้องกันความสุ่มเสี่ยงที่ประเทศไทย อาจจะเสียเปรียบในอนาคต บนเวทีสากล หรือ ศาลโลก 5.ขอให้ยุติการตั้ง คณะกรรมาธิการร่วมทางเทคนิค ระหว่างไทยกับกัมพูชาด้านทะเล หรือ JTC เอาไว้ก่อน 6.ขอให้รัฐบาลเปิดเวทีสาธารณะ เพื่อเสวนาและให้ความรู้ประชาชน และ สุดท้ายให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ . แต่ คำตอบของ นายกรัฐมนตรี คือ เห็นหนังสือร้องเรียนแล้ว ได้ส่งให้กระทรวงการต่างประเทศแล้ว หากมีเรื่องใดจะร้องทุกข์ให้มาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 111 . สรุปคำตอบของ ท่านนายกรัฐมนตรี คือ ถามวัว ตอบควาย...!!! . เนื่องจาก ครบกำหนด 15 วันแล้ว และ ท่านตอบไม่ตรงคำถาม ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ จึงได้มาทวงถามคำตอบอีกครั้ง... ... ... โดยในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 นายกรัฐมนตรี มอบหมาย นาย สมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง หอบหิ้ว ข้าราชการนับ 10 หน่วยงาน มาร่วมประชุมรับหน้า ลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ . เช่น... . 1.ที่ปรึกษาสำนักปลัดสำนักยนายกรัฐมนตรี 2.ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี 3.ผู้อำนวยการศูนย์บริการประชาชน 4.ผู้เชี่ยวชาญด้านมวลชน 5.ผู้อำนวยการส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชน 6.ผู้อำนวยการกองกฎหมายกรมสนธิสัญญา *** 7.รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล 8.สำนักนโยบายและแผนกองบัญชาการกองทัพเรือ *** 9.ตัวแทนกองบัญชาการกองทัพเรือ *** 10.ผู้อำนวยการด้านกองความมั่นคงทางทะเล *** 11.นักการทูตชำนาญการกระทรวงการต่างประเทศ *** 12.นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการสภาความนั่นคงแห่งชาติ *** ... ... ผมว่าการเชิญข้าราชการเหล่านี้มาคุยเป็นเรื่องดีครับ แต่ในทางที่ถูกคือควรจะเปิดเผยต่อสาธารณะชนครับ . แน่นอนว่า วิธีนี้อาจเป็นการรักษาหน้าของ ข้าราชการที่ถูกเรียกมาให้ข้อมูลยันกับ คุณลุงสนธิ และ อาจารย์ปานเทพ . เพราะบางท่านอาจถูกบังคับให้มาด้วย ตำแหน่งหน้าที่ และ สายการบังคับบัญชา โดยที่ท่านเหล่านั้น อาจจะไม่ได้เต็มใจมาค้านข้อมูลของภาคประชาชนก็ได้ . มีข้อสังเกตุว่า การตระเตรียมการนำข้าราชการหลาย 10 ท่าน มาในวันนั้น ไม่ได้มีการแจ้งภาคประชาชนมากก่อน . เพราะภาคประชาชนเพียงมาทวงคำตอบ จึงไม่ได้เตรียมเอกสารหรือข้อมูลมาเพื่อพูดคุยกัน . แต่เมื่อเริ่มประชุม ฝ่ายตัวแทนรัฐบาลกลับ เริ่มต้น ให้ ภาคประชาชนถามคำถามที่ค้างคาใจ... . แม้กระนั้น อาจารย์ปานเทพ ก็เทพ สมชื่อ จัดหนักข้อมูชุดใหญ่ให้ที่ประชุม แถม เสริม และ แย้ง ข้อมูลของ ผู้อำนวยการกองกฎหมายกรมสนธิสัญญา ที่พูดไม่ครบถ้วนกระบวนความ จนความหมายผิดเพียนไปได้อย่างหนักแน่น จนอึ้งไปกันหมดทุกคน... ... ... ประเด็นสำคัญคือ . พระบรมราชโองการ ประกาศกำหนดเขตไหล่ทวีปของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงกำหนดวิธีการเจรจาไว้แล้ว ว่า ให้ใช้หลักกฎหมายสากล ซึ่งก็คือ เส้นมัธยฐาน . แต่ MOU44 และ JC44 ที่จัดทำขึ้นโดยไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของสภา จึง ขัดต่อบทบัญญัตของ รัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ การทำหนังสือสัญญาใดๆระหว่างประเทศ เป็น อำนาจ ของ พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นพระประมุขของประเทศ . เมื่อเป็นหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ จึงต้องผ่านความเห็นชอบของสภา . เมื่อไม่ได้ผ่านความเห็นชอบของสภา ดังนั้น MOU44 และ JC44 จึงเป็น เอกสารเถื่อน มีผลป็น โมฆะ มาตั้งแต่ต้น . แถม MOU44 ยัง มีแผนที่ไหล่ทวีป ที่วาดเอาตามอำเภอใจของ กัมพูชา แนบท้ายมาใน MOU44 อีกด้วย . มีผลเป็นการ "รับรู้" และ เป็นครั้งแรก ที่เอกสารของประเทศไทย ได้มี แผนที่ไหล่ทวีป ที่วาดเอาตามอำเภอใจของ กัมพูชา เข้ามาสู้ระบบเอกสารของประเทศไทยอย่างทางการ . มีผลเป็นการที่ รัฐบาล และ หน่วยงานรัฐใดๆที่เกี่ยวข้อง "รับรู้" และ "ไม่ปฎิเสธ" แผนที่ไหล่ทวีป ที่วาดเอาตามอำเภอใจของ กัมพูชา . อีกทั้งใน MOU44 ยังมีเนื้อหาที่ ทำให้เกิดความพยายามที่จะยอมรับพื้นที่อ้างสิทธิระหว่างไทยกับกัมพูชา ด้านใต้ ละติจูดที่ 11 องศา ลงมา . ว่าเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันเป็นที่ยุติแล้ว มีจำนวน 16,000 ตารางกิโลเมตร ที่ไม่ต้องมีการตกลงเรื่องเขตแดนกันอีก . โดยกำหนดพื้นที่ด้านใต้ ละติจูดที่ 11 องศา ให้แบ่งผลประโยชน์กัน ระหว่าง ประเทศไทย กับ กัมพูชา . ซึ่งวิธีการดังกล่าง เป็นการ ตกลงกันเป็นอย่างอื่น นอกเหนือจาก หลักกฎหมาย ของ กฎหมายสากลทางทะเล (เส้น มัธยฐาน) . ซึ่งจะทำให้ ประเทศไทย สูญเสียผลประโยชน์เกินกว่าความเป็นจริง และ เป็นการ ขัดพระบรมราชโองการ ประกาศเขตไหล่ทวีป ของ ในหลวงรัชการที่ 9 ซึ่งได้กำหนด วิธีการเจรจาไว้เป็นหนึ่งเดียว ตลอดไป... . สรุป สุดท้าน ภาคประชาชน ขอให้ รัฐบาลทำให้สือตอบกลับมาเป็น ลายลักษณ์อักษร หากท่านทำผิดกฎหมาย ภาคประชาชน จะไปดำเนินคดีกับท่านเอง . และได้ บอกกล่าวว่าปีหน้าจะ ไปยื่นหนังสือที่ 1.รัฐสภา 2.กระทรวงการต่างประเทศ และ 3.กองทัพเรือ . เรื่อง ดินแดน อำนาจอธิปไตย และ สิทธิอธิปไตย เป็นเรื่องที่คุกรุ่นอยู่ในใจของประชาชนครับ . สุดท้ายของฝากไว้... .... .... ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 ผู้ใดกระทำการใด ๆ เพื่อให้ราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต .... .... https://youtu.be/wR4PZ-c5ExA?si=onTI6IaLFkxZfEnv
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไหวไหม! สื่อแฉเรือพิฆาตสหรัฐฯ ลำเดิม หวิดสอยเครื่องบินรบพวกเดียวกันร่วงอีกลำ

    เครื่องบินขับไล่ของกองทัพเรืออีกลำรอดพ้นจากการถูกเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ซึ่งเป็นเรือลำเดียวกับที่สหรัฐอ้างว่ายิงพวกเดียวกันร่วงอย่างหวุดหวิด เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างปฏิบัติการโจมตีพวกกบฏฮูตีในเยเมน ตามรายงานของสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวในกองทัพ

    รายงานระบุว่า เครื่องบินขับไล่ F/A-18F Super Hornet อีกลำ พบว่าตนเองตกเป็นเป้าหมายของขีปนาวุธลูกหนึ่งจากเรือ Gettysburg เช่นกัน ระหว่างที่กำลังเตรียมการลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman (CVN-75) มีการยิงขีปนาวุธ SM-2 เฉียดใกล้เข้ามาในระยะเพียงแค่ 30 เมตรเท่านั้น ทำให้นักบินต้องบินหลบหลีกทันที

    ทางด้านทางกองทัพเรือสหรัฐฯ ออกมายอมรับตามที่สื่อนำเสนอว่า เรือ Gettysburg ยิงขีปนาวุธ SM-2 ลูกที่ 2 ออกไปจริง และบอกว่าพวกเขาอยู่ระหว่างสืบสวนว่าขีปนาวุธลูกดังกล่าวล็อกเป้าไปที่เครื่องบินขับไล่ลำที่ 2 จริงหรือไม่
    ไหวไหม! สื่อแฉเรือพิฆาตสหรัฐฯ ลำเดิม หวิดสอยเครื่องบินรบพวกเดียวกันร่วงอีกลำ เครื่องบินขับไล่ของกองทัพเรืออีกลำรอดพ้นจากการถูกเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ซึ่งเป็นเรือลำเดียวกับที่สหรัฐอ้างว่ายิงพวกเดียวกันร่วงอย่างหวุดหวิด เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างปฏิบัติการโจมตีพวกกบฏฮูตีในเยเมน ตามรายงานของสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวในกองทัพ รายงานระบุว่า เครื่องบินขับไล่ F/A-18F Super Hornet อีกลำ พบว่าตนเองตกเป็นเป้าหมายของขีปนาวุธลูกหนึ่งจากเรือ Gettysburg เช่นกัน ระหว่างที่กำลังเตรียมการลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman (CVN-75) มีการยิงขีปนาวุธ SM-2 เฉียดใกล้เข้ามาในระยะเพียงแค่ 30 เมตรเท่านั้น ทำให้นักบินต้องบินหลบหลีกทันที ทางด้านทางกองทัพเรือสหรัฐฯ ออกมายอมรับตามที่สื่อนำเสนอว่า เรือ Gettysburg ยิงขีปนาวุธ SM-2 ลูกที่ 2 ออกไปจริง และบอกว่าพวกเขาอยู่ระหว่างสืบสวนว่าขีปนาวุธลูกดังกล่าวล็อกเป้าไปที่เครื่องบินขับไล่ลำที่ 2 จริงหรือไม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงสายวันนี้(24 ธ.ค.) คุณสนธิ ลิ้มทองกุล และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เดินทางไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทวงถาม นายกฯ หลังครบ 15วัน ที่ได้ยื่นหนังสือ ขอให้เพิกถอน MOU 254 และ JC2544
    .
    ก่อนที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมข้าราชการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กองทัพเรือ กระทรวงมหาดไทย สมช. เป็นต้น จะเชิญคณะขึ้นไปพูดคุยที่ห้องประชุมชั้น 3
    ……
    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #MOU44 #เกาะกูด
    ช่วงสายวันนี้(24 ธ.ค.) คุณสนธิ ลิ้มทองกุล และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เดินทางไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทวงถาม นายกฯ หลังครบ 15วัน ที่ได้ยื่นหนังสือ ขอให้เพิกถอน MOU 254 และ JC2544 . ก่อนที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมข้าราชการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กองทัพเรือ กระทรวงมหาดไทย สมช. เป็นต้น จะเชิญคณะขึ้นไปพูดคุยที่ห้องประชุมชั้น 3 …… #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #MOU44 #เกาะกูด
    Like
    Love
    Haha
    48
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 4085 มุมมอง 2 รีวิว
  • ฟิลิปปินส์แถลงแผนจะซื้อขีปนาวุธไทฟอนจากสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวที่กระตุ้นเสียงโวยวายจากจีน ที่บอกว่าเป็นการยั่วยุและไร้ความรับผิดชอบ และเตือนว่า "การแข่งขันสะสมอาวุธ (arms race)" ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกใกล้เข้ามาทุกขณะ
    .
    พลโทรอย กาลิโด เสนาธิการกองทัพบกของฟิลิปปินส์ แถลงในวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ว่าประเทศของเขาจะซื้อระบบขีปนาวุธพิสัยกลาง ที่กองทัพสหรัฐฯ ส่งเข้ามาประจำการในฟิลิปปินส์อยู่ก่อนแล้ว สำหรับซ้อมรบร่วมประจำปี "เพื่อประโยชน์แห่งการปกป้องอธิปไตยของเรา"
    .
    จีน ประณามการตัดสินใจดังกล่าวของฟิลิปปินส์ ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่ยั่วยุและอันตราย "มันเป็นการเลือกที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างที่สุดในประวัติศาสตร์ของประชาชนของพวกเขาเองและประชาชนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ มันยังเป็นการเลือกที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างที่สุดสำหรับความมั่นคงในภูมิภาค" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุ "ภูมิภาคแห่งนี้ต้องการสันติภาพและความรุ่งเรือง ไม่ใช่ขีปนาวุธและการเผชิญหน้า"
    .
    ปักกิ่งกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้สวนทางกับกฎหมายระหว่างประเทศ และประจำการกองทัพเรือและยามชายฝั่ง ในความเคลื่อนไหวที่ยกระดับเผชิญหน้ากับบรรดาชาติเพื่อนบ้าน ในนั้นรวมถึงฟิลิปปินส์ เกี่ยวกับประเด็นพิพาทเรื่องแนวปะการังและน่านน้ำ
    .
    พลโทกาลิโด เผยว่าการจัดซื้อนี้ยังไม่อยู่ในงบประมาณปี 2025 แต่คาดหมายว่าทางกองทัพจะใช้เวลา 2 ปีหรือมากกว่านั้น สำหรับเดินหน้าจัดซื้อระบบอาวุธใหม่นี้โดยเสร็จสมบูรณ์
    .
    แท่นยิงขีปนาวุธไทฟอน ที่ติดตั้งบนภาคพื้น เป็นยุทโธปกรณ์ที่ทางบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน พัฒนาขึ้นเพื่อป้อนแก่กองทัพสหรัฐฯ มันมีพิสัยทำการ 480 กิโลเมตร และขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาเวอร์ชันที่มีระยะทำการไกลกว่าเดิม
    .
    ทางพลโทกาลิโด บอกว่า ระบไทฟอนจะสามารถช่วยให้กองทัพฟิลิปปินส์ ปกป้องกองกำลังที่อยู่นอกชายฝั่งได้ไกลถึง 370 กิโลเมตร ซึ่งเป็นขอบเขตไกลสุดของสิทธิทางทะเลของประเทศ ภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยกฎหมายทะเล
    .
    เขากล่าวว่าขีปนาวุธไทฟอน จะช่วยปกป้อง "ทรัพย์สินลอยน้ำของเรา" อ้างถึงเรือของกองทัพเรือ เรือยามฝั่ง และเรืออื่นๆ
    .
    ต่ง จวิน รัฐมตรีกลาโหมจีน เตือนเมื่อเดือนมิถุนายน ว่าการที่กองทัพสหรัฐฯ ประจำการระบบขีปนาวุธไทฟอนในฟิลิปปินส์ก่อนหน้านั้น "กำลังก่อความเสียหายร้ายแรงแก่ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค"
    .
    อย่างไรก็ตาม ทางพลโทกาลิโด ปฏิเสธเสียงวิจารณ์ดังกล่าว บอกว่าประเทศของเขา "ไม่ควรสนใจประเทศอื่นๆ ที่มองว่ามันก่อความเสียหายแก่ความมั่นคง เพราะว่าเขาไม่มีแผนกระทำการใดๆ ที่เกินเลยผลประโยชน์ของประเทศของเรา"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123192
    ..............
    Sondhi X
    ฟิลิปปินส์แถลงแผนจะซื้อขีปนาวุธไทฟอนจากสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวที่กระตุ้นเสียงโวยวายจากจีน ที่บอกว่าเป็นการยั่วยุและไร้ความรับผิดชอบ และเตือนว่า "การแข่งขันสะสมอาวุธ (arms race)" ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกใกล้เข้ามาทุกขณะ . พลโทรอย กาลิโด เสนาธิการกองทัพบกของฟิลิปปินส์ แถลงในวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ว่าประเทศของเขาจะซื้อระบบขีปนาวุธพิสัยกลาง ที่กองทัพสหรัฐฯ ส่งเข้ามาประจำการในฟิลิปปินส์อยู่ก่อนแล้ว สำหรับซ้อมรบร่วมประจำปี "เพื่อประโยชน์แห่งการปกป้องอธิปไตยของเรา" . จีน ประณามการตัดสินใจดังกล่าวของฟิลิปปินส์ ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่ยั่วยุและอันตราย "มันเป็นการเลือกที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างที่สุดในประวัติศาสตร์ของประชาชนของพวกเขาเองและประชาชนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ มันยังเป็นการเลือกที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างที่สุดสำหรับความมั่นคงในภูมิภาค" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุ "ภูมิภาคแห่งนี้ต้องการสันติภาพและความรุ่งเรือง ไม่ใช่ขีปนาวุธและการเผชิญหน้า" . ปักกิ่งกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้สวนทางกับกฎหมายระหว่างประเทศ และประจำการกองทัพเรือและยามชายฝั่ง ในความเคลื่อนไหวที่ยกระดับเผชิญหน้ากับบรรดาชาติเพื่อนบ้าน ในนั้นรวมถึงฟิลิปปินส์ เกี่ยวกับประเด็นพิพาทเรื่องแนวปะการังและน่านน้ำ . พลโทกาลิโด เผยว่าการจัดซื้อนี้ยังไม่อยู่ในงบประมาณปี 2025 แต่คาดหมายว่าทางกองทัพจะใช้เวลา 2 ปีหรือมากกว่านั้น สำหรับเดินหน้าจัดซื้อระบบอาวุธใหม่นี้โดยเสร็จสมบูรณ์ . แท่นยิงขีปนาวุธไทฟอน ที่ติดตั้งบนภาคพื้น เป็นยุทโธปกรณ์ที่ทางบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน พัฒนาขึ้นเพื่อป้อนแก่กองทัพสหรัฐฯ มันมีพิสัยทำการ 480 กิโลเมตร และขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาเวอร์ชันที่มีระยะทำการไกลกว่าเดิม . ทางพลโทกาลิโด บอกว่า ระบไทฟอนจะสามารถช่วยให้กองทัพฟิลิปปินส์ ปกป้องกองกำลังที่อยู่นอกชายฝั่งได้ไกลถึง 370 กิโลเมตร ซึ่งเป็นขอบเขตไกลสุดของสิทธิทางทะเลของประเทศ ภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยกฎหมายทะเล . เขากล่าวว่าขีปนาวุธไทฟอน จะช่วยปกป้อง "ทรัพย์สินลอยน้ำของเรา" อ้างถึงเรือของกองทัพเรือ เรือยามฝั่ง และเรืออื่นๆ . ต่ง จวิน รัฐมตรีกลาโหมจีน เตือนเมื่อเดือนมิถุนายน ว่าการที่กองทัพสหรัฐฯ ประจำการระบบขีปนาวุธไทฟอนในฟิลิปปินส์ก่อนหน้านั้น "กำลังก่อความเสียหายร้ายแรงแก่ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค" . อย่างไรก็ตาม ทางพลโทกาลิโด ปฏิเสธเสียงวิจารณ์ดังกล่าว บอกว่าประเทศของเขา "ไม่ควรสนใจประเทศอื่นๆ ที่มองว่ามันก่อความเสียหายแก่ความมั่นคง เพราะว่าเขาไม่มีแผนกระทำการใดๆ ที่เกินเลยผลประโยชน์ของประเทศของเรา" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123192 .............. Sondhi X
    Like
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 724 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇺🇸 นักบินกองทัพเรือสหรัฐฯ ๒ นาย ถูกยิงตกเหนือทะเลแดง ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเหตุการณ์ "ยิงพวกเดียวกัน", กองทัพสหรัฐฯ กล่าว
    .
    JUST IN: 🇺🇸 Two US Navy pilots shot down over Red Sea in apparent "friendly fire" incident, US military says.
    .
    10:05 AM · Dec 22, 2024 · 267.6K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1870667046603915271
    🇺🇸 นักบินกองทัพเรือสหรัฐฯ ๒ นาย ถูกยิงตกเหนือทะเลแดง ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเหตุการณ์ "ยิงพวกเดียวกัน", กองทัพสหรัฐฯ กล่าว . JUST IN: 🇺🇸 Two US Navy pilots shot down over Red Sea in apparent "friendly fire" incident, US military says. . 10:05 AM · Dec 22, 2024 · 267.6K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1870667046603915271
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มฮูตีอ้างว่าได้ยิงเครื่องบิน F/A-18 ของกองทัพเรือสหรัฐตกในทะเลแดง หลังจากที่ก่อนหน้านี้สหรัฐระบุว่าเป็นอุบัติเหตุจากการ "ยิงกันเอง"

    กองทัพเยเมนระบุเพิ่มเติมว่า พวกเขาโจมตีเรือ USS Truman และเรือรบของสหรัฐฯ หลายลำด้วยขีปนาวุธร่อน 8 ลูก โดรนอีก 17 ลำ และในระหว่างปฏิบัติการ เครื่องบิน F-18 ของสหรัฐฯ ก็ถูกยิงตกด้วยขีปนาวุธ ขณะที่เรือรบอเมริกากำลังพยายามสกัดกั้นโดรน/ขีปนาวุธของเยเมน

    ก่อนหน้านี้ กองทัพสหรัฐยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็น "อุบัติเหตุ" โดยเป็นความผิดพลาดจาก "การยิงกันเอง" ลูกเรือทั้งสองคนสามารถดีดตัวออกจากเครื่องได้อย่างปลอดภัย และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยหนึ่งราย

    อย่างไรก็ตาม มีการวิจารณ์กันมากมายถึงการประกาศที่ออกมาจากสหรัฐ เนื่องจากมันไม่สมเหตุสมผล การติดตามด้วยเรดาร์นั้นเปรียบได้กับการติดป้ายชื่อไว้บนอุปกรณ์ในอากาศที่มีคนควบคุม แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะเป็นกรณีของการระบุเป้าหมายที่ผิดพลาด มีบางอย่างอื่นเกิดขึ้นและพวกเขากำลังปกปิดมันไว้
    กลุ่มฮูตีอ้างว่าได้ยิงเครื่องบิน F/A-18 ของกองทัพเรือสหรัฐตกในทะเลแดง หลังจากที่ก่อนหน้านี้สหรัฐระบุว่าเป็นอุบัติเหตุจากการ "ยิงกันเอง" กองทัพเยเมนระบุเพิ่มเติมว่า พวกเขาโจมตีเรือ USS Truman และเรือรบของสหรัฐฯ หลายลำด้วยขีปนาวุธร่อน 8 ลูก โดรนอีก 17 ลำ และในระหว่างปฏิบัติการ เครื่องบิน F-18 ของสหรัฐฯ ก็ถูกยิงตกด้วยขีปนาวุธ ขณะที่เรือรบอเมริกากำลังพยายามสกัดกั้นโดรน/ขีปนาวุธของเยเมน ก่อนหน้านี้ กองทัพสหรัฐยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็น "อุบัติเหตุ" โดยเป็นความผิดพลาดจาก "การยิงกันเอง" ลูกเรือทั้งสองคนสามารถดีดตัวออกจากเครื่องได้อย่างปลอดภัย และได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยหนึ่งราย อย่างไรก็ตาม มีการวิจารณ์กันมากมายถึงการประกาศที่ออกมาจากสหรัฐ เนื่องจากมันไม่สมเหตุสมผล การติดตามด้วยเรดาร์นั้นเปรียบได้กับการติดป้ายชื่อไว้บนอุปกรณ์ในอากาศที่มีคนควบคุม แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะเป็นกรณีของการระบุเป้าหมายที่ผิดพลาด มีบางอย่างอื่นเกิดขึ้นและพวกเขากำลังปกปิดมันไว้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานเหตุการณ์ยิงกันเองของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในทะเลแดง

    เครื่องบิน F/A-18F Super Hornet ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman (CVN-75) ถูกเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ยิงตกโดยไม่ได้ตั้งใจในทะเลแดงใกล้เยเมน

    “นักบินทั้งสองได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย จากการประเมินเบื้องต้นพบว่าลูกเรือคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย”

    “เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากการยิงของศัตรู และขณะนี้กำลังดำเนินการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบ”

    เจ้าหน้าที่กองทัพเรือแจ้งต่อ USNI News ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ หรือประมาณ 19.00 น. ตามเวลาชายฝั่งตะวันออกของวันเสาร์

    เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ซึ่งมีฐานทัพอยู่ที่ฐานทัพเรือนอร์ฟอร์ก รัฐเวอร์จิเนีย ได้รับมอบหมายให้เข้าสู่ทะเลแดงพร้อมกับเรือบรรทุกเครื่องบินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของกองเรือและติดตามนาวิกโยธินสหรัฐ

    เรือลาดตระเวนมีแท่นยิงแนวตั้งมากกว่า 100 แท่นซึ่งสามารถยิงขีปนาวุธที่สามารถสกัดกั้นภัยคุกคามต่างๆ ได้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยว่าลูกเรือของเรือลาดตระเวนใช้อาวุธชนิดใดในเหตุการณ์นี้
    มีรายงานเหตุการณ์ยิงกันเองของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในทะเลแดง เครื่องบิน F/A-18F Super Hornet ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry S. Truman (CVN-75) ถูกเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ยิงตกโดยไม่ได้ตั้งใจในทะเลแดงใกล้เยเมน “นักบินทั้งสองได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย จากการประเมินเบื้องต้นพบว่าลูกเรือคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย” “เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากการยิงของศัตรู และขณะนี้กำลังดำเนินการสืบสวนอย่างเต็มรูปแบบ” เจ้าหน้าที่กองทัพเรือแจ้งต่อ USNI News ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันอาทิตย์ หรือประมาณ 19.00 น. ตามเวลาชายฝั่งตะวันออกของวันเสาร์ เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถีชั้น Ticonderoga USS Gettysburg (CG-64) ซึ่งมีฐานทัพอยู่ที่ฐานทัพเรือนอร์ฟอร์ก รัฐเวอร์จิเนีย ได้รับมอบหมายให้เข้าสู่ทะเลแดงพร้อมกับเรือบรรทุกเครื่องบินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของกองเรือและติดตามนาวิกโยธินสหรัฐ เรือลาดตระเวนมีแท่นยิงแนวตั้งมากกว่า 100 แท่นซึ่งสามารถยิงขีปนาวุธที่สามารถสกัดกั้นภัยคุกคามต่างๆ ได้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยว่าลูกเรือของเรือลาดตระเวนใช้อาวุธชนิดใดในเหตุการณ์นี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • มิคาอิล บัดนิเชนโก ผู้บริหารของอู่ต่อเรือ Sevmash กล่าวว่าเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดอาวุธปล่อยนำวิถีลำใหม่ของรัสเซียชั้น Yasen-M (Project 885) "Arkhangelsk" ผ่านการทดสอบและเตรียมส่งมอบให้กองทัพเรือรัสเซียแล้ว
    มิคาอิล บัดนิเชนโก ผู้บริหารของอู่ต่อเรือ Sevmash กล่าวว่าเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดอาวุธปล่อยนำวิถีลำใหม่ของรัสเซียชั้น Yasen-M (Project 885) "Arkhangelsk" ผ่านการทดสอบและเตรียมส่งมอบให้กองทัพเรือรัสเซียแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • อังกฤษประกาศแพ็คเกจความช่วยเหลือทางการทหารมูลค่า 283 ล้านดอลลาร์สำหรับยูเครน

    แพ็คเกจดังกล่าวรวมถึงอุปกรณ์ทางทหารมูลค่ากว่า 92 ล้านปอนด์ (115 ล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนกองทัพเรือยูเครน รวมถึงเรือเร็วขนาดเล็กและโดรนลาดตระเวน นอกจากนี้ ยังมีเงินอีก 39 ล้านปอนด์ (49 ล้านดอลลาร์) ที่จะใช้ในการจัดหาระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ต่อต้านโดรนกว่า 1,000 ระบบ
    อังกฤษประกาศแพ็คเกจความช่วยเหลือทางการทหารมูลค่า 283 ล้านดอลลาร์สำหรับยูเครน แพ็คเกจดังกล่าวรวมถึงอุปกรณ์ทางทหารมูลค่ากว่า 92 ล้านปอนด์ (115 ล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนกองทัพเรือยูเครน รวมถึงเรือเร็วขนาดเล็กและโดรนลาดตระเวน นอกจากนี้ ยังมีเงินอีก 39 ล้านปอนด์ (49 ล้านดอลลาร์) ที่จะใช้ในการจัดหาระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ต่อต้านโดรนกว่า 1,000 ระบบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ในอดีต 19 ธันวาคม 2423 วันประสูติ “เสด็จเตี่ย-กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์”พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอลำดับที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมารดาคือ เจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ ไวยวัฒน์ ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาม พ.ศ.2423พระองค์ทรงได้รับถวายพระสมัญญาจากกองทัพเรือว่าเป็น “พระบิดาของกองทัพเรือไทย” และต่อมาได้แก้ไขเป็น “องค์บิดาของทหารเรือไทย” เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2544 จากพระกรณียกิจของพระองค์ที่ทรงวางรากฐานและพัฒนาปรับปรุงทหารเรือสยามให้เจริญก้าวหน้าตามแบบประเทศตะวันตก
    วันนี้ในอดีต 19 ธันวาคม 2423 วันประสูติ “เสด็จเตี่ย-กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์”พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอลำดับที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมารดาคือ เจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ ไวยวัฒน์ ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาม พ.ศ.2423พระองค์ทรงได้รับถวายพระสมัญญาจากกองทัพเรือว่าเป็น “พระบิดาของกองทัพเรือไทย” และต่อมาได้แก้ไขเป็น “องค์บิดาของทหารเรือไทย” เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2544 จากพระกรณียกิจของพระองค์ที่ทรงวางรากฐานและพัฒนาปรับปรุงทหารเรือสยามให้เจริญก้าวหน้าตามแบบประเทศตะวันตก
    Love
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปแล้ว 1,000,000 นาย!

    “นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการพิเศษ กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งรวมทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีรถถังและรถหุ้มเกราะประมาณ 20,000 คัน”

    รายงานโดย พล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารของกองทัพรัสเซีย

    ประเด็นอื่นที่น่าสนใจของ เกราซิมอฟ:
    - เฉพาะในพื้นที่ภูมิภาคเคิร์ส กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปมากกว่า 42,000 นาย รถถังและรถหุ้มเกราะมากกว่า 1,800 คัน

    - การจัดตั้งกองทหารชุดแรกที่ติดตั้งระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ S-500 ซึ่งสามารถป้องกันขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ได้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว

    - มีการปลดปล่อยนิคมมากกว่า 190 แห่งในปีนี้ รวมพื้นที่ประมาณ 4,500 ตารางกิโลเมตร อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย

    - การติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ภาคพื้นดินของกองทัพรัสเซียเสร็จสมบูรณ์แล้ว

    - ในปี 2024 มีการจัดตั้งในส่วนของกองกำลังภาคพื้นดิน(กองทัพบก) เพิ่มเติม ประกอบด้วย 2 กองทัพ 1 กองพลทหาร และ 16 หน่วยทหาร รวมถึงเขตทหารอีก 2 เขต

    - กองทัพเรือรัสเซียจะได้รับเรือดำน้ำนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์คลาส Borei-A จำนวน 3 ลำภายในปี 2028
    กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปแล้ว 1,000,000 นาย! “นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการพิเศษ กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งรวมทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีรถถังและรถหุ้มเกราะประมาณ 20,000 คัน” รายงานโดย พล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารของกองทัพรัสเซีย ประเด็นอื่นที่น่าสนใจของ เกราซิมอฟ: - เฉพาะในพื้นที่ภูมิภาคเคิร์ส กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปมากกว่า 42,000 นาย รถถังและรถหุ้มเกราะมากกว่า 1,800 คัน - การจัดตั้งกองทหารชุดแรกที่ติดตั้งระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ S-500 ซึ่งสามารถป้องกันขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ได้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว - มีการปลดปล่อยนิคมมากกว่า 190 แห่งในปีนี้ รวมพื้นที่ประมาณ 4,500 ตารางกิโลเมตร อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย - การติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ภาคพื้นดินของกองทัพรัสเซียเสร็จสมบูรณ์แล้ว - ในปี 2024 มีการจัดตั้งในส่วนของกองกำลังภาคพื้นดิน(กองทัพบก) เพิ่มเติม ประกอบด้วย 2 กองทัพ 1 กองพลทหาร และ 16 หน่วยทหาร รวมถึงเขตทหารอีก 2 เขต - กองทัพเรือรัสเซียจะได้รับเรือดำน้ำนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์คลาส Borei-A จำนวน 3 ลำภายในปี 2028
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เรายังไม่เห็นสัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ว่ารัสเซียจะถอนกำลังออกจากซีเรียทั้งหมด"
    รัฐมนตรีกลาโหมตุรกี ยาซาร์ กูแลร์(Yaşar Güler) เปิดเผยผ่านการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ TRT ถึงท่าทีของรัสเซีย

    กูแลร์ยังกล่าวอีกว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่ของซีเรียในการเจรจาข้อตกลงกับรัสเซีย และเชื่อว่ารัสเซียจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาการประจำการในซีเรียไว้

    นอกจากนี้เขายังปฏิเสธข่าวเกี่ยวกับตุรกีเปิดพื้นที่น่านฟ้าในการหลบหนีของอัสซาดไปยังรัสเซีย

    ก่อนหน้านี้มีรายงานการเคลื่อนไหวของกองกำลังรัสเซียผ่านทางสื่อต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากฝ่ายรัสเซียแต่อย่างใด

    จากข้อมูลล่าสุด ปัจจุบันรัสเซียยังคงรักษากำลังทหารไว้ในพื้นที่สำคัญ โดยเฉพาะฐานทัพสำคัญ 2 แห่ง ได้แก่ ฐานส่งกำลังบำรุงของกองทัพเรือที่เมืองท่าทาร์ทัส ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 1971 ตามข้อตกลงกับสหภาพโซเวียต และฐานทัพอากาศคไมมิมในจังหวัดลาตาเกียใกล้เมืองจาเบลบลา ที่จัดตั้งในปี 2015 เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการของกองทัพซีเรีย
    "เรายังไม่เห็นสัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ว่ารัสเซียจะถอนกำลังออกจากซีเรียทั้งหมด" รัฐมนตรีกลาโหมตุรกี ยาซาร์ กูแลร์(Yaşar Güler) เปิดเผยผ่านการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ TRT ถึงท่าทีของรัสเซีย กูแลร์ยังกล่าวอีกว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่ของซีเรียในการเจรจาข้อตกลงกับรัสเซีย และเชื่อว่ารัสเซียจะทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาการประจำการในซีเรียไว้ นอกจากนี้เขายังปฏิเสธข่าวเกี่ยวกับตุรกีเปิดพื้นที่น่านฟ้าในการหลบหนีของอัสซาดไปยังรัสเซีย ก่อนหน้านี้มีรายงานการเคลื่อนไหวของกองกำลังรัสเซียผ่านทางสื่อต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากฝ่ายรัสเซียแต่อย่างใด จากข้อมูลล่าสุด ปัจจุบันรัสเซียยังคงรักษากำลังทหารไว้ในพื้นที่สำคัญ โดยเฉพาะฐานทัพสำคัญ 2 แห่ง ได้แก่ ฐานส่งกำลังบำรุงของกองทัพเรือที่เมืองท่าทาร์ทัส ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 1971 ตามข้อตกลงกับสหภาพโซเวียต และฐานทัพอากาศคไมมิมในจังหวัดลาตาเกียใกล้เมืองจาเบลบลา ที่จัดตั้งในปี 2015 เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการของกองทัพซีเรีย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพการประเมินจำนวนเรือรบของ "กองทัพเรือซีเรีย" ที่ถูกจมโดยการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในลาตาเกียและตาร์ทัส

    ทางด้าน "อาบู โมฮัมหมัด อัล-โจลานี" ผู้นำซีเรียคนใหม่ทำได้เพียงวิงวอนนานาชาติเข้าแทรกแซงและช่วยเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดการโจมตี
    ภาพการประเมินจำนวนเรือรบของ "กองทัพเรือซีเรีย" ที่ถูกจมโดยการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในลาตาเกียและตาร์ทัส ทางด้าน "อาบู โมฮัมหมัด อัล-โจลานี" ผู้นำซีเรียคนใหม่ทำได้เพียงวิงวอนนานาชาติเข้าแทรกแซงและช่วยเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดการโจมตี
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรือรบ USS Savannah ของกองทัพเรือสหรัฐฯ จะเข้าเทียบท่าที่กัมพูชา ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของจีนเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ส่งสัญญาณฟื้นสัมพันธ์!

    กระทรวงกลาโหมกัมพูชาเปิดเผยว่าเรือรบ USS Savannah จะเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือสีหนุวิลล์ในระหว่างวันที่ 16-20 ธันวาคม โดยเรือรบ USS Savannah จัดอยู่ในประเภทเรือรบชายฝั่ง มีลูกเรือ 103 คน กระทรวงฯ กล่าว

    การเยือนครั้งนี้สหรัฐแสดงท่าทีชัดเจนถึงการ "เสริมสร้างและขยายสายสัมพันธ์มิตรภาพ ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี" ระหว่างสองประเทศ

    ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศไม่สู้ดีนัก วอชิงตันวิจารณ์รัฐบาลกัมพูชาว่ามีการปราบปรามทางการเมืองและละเมิดสิทธิมนุษยชนมาตลอด

    "แต่สหรัฐอาจจำเป็นต้องมองข้ามเรื่องเหล่านี้ไป" เพราะไม่สบายใจเกี่ยวกับการยกระดับฐานทัพเรือกัมพูชาใกล้สีหนุวิลล์ ซึ่งฐานทัพดังกล่าวจะถูกเรือของจีนนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของปักกิ่งในภูมิภาค
    เรือรบ USS Savannah ของกองทัพเรือสหรัฐฯ จะเข้าเทียบท่าที่กัมพูชา ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของจีนเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ส่งสัญญาณฟื้นสัมพันธ์! กระทรวงกลาโหมกัมพูชาเปิดเผยว่าเรือรบ USS Savannah จะเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือสีหนุวิลล์ในระหว่างวันที่ 16-20 ธันวาคม โดยเรือรบ USS Savannah จัดอยู่ในประเภทเรือรบชายฝั่ง มีลูกเรือ 103 คน กระทรวงฯ กล่าว การเยือนครั้งนี้สหรัฐแสดงท่าทีชัดเจนถึงการ "เสริมสร้างและขยายสายสัมพันธ์มิตรภาพ ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี" ระหว่างสองประเทศ ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศไม่สู้ดีนัก วอชิงตันวิจารณ์รัฐบาลกัมพูชาว่ามีการปราบปรามทางการเมืองและละเมิดสิทธิมนุษยชนมาตลอด "แต่สหรัฐอาจจำเป็นต้องมองข้ามเรื่องเหล่านี้ไป" เพราะไม่สบายใจเกี่ยวกับการยกระดับฐานทัพเรือกัมพูชาใกล้สีหนุวิลล์ ซึ่งฐานทัพดังกล่าวจะถูกเรือของจีนนำไปใช้เพื่อประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของปักกิ่งในภูมิภาค
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองเรือยุทธการ เปิดฉากฝึกปฏิบัติการ “ยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก”สร้างกองเรือเข้มแข็ง ฝึกความพร้อมรบ ณ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 15 หาดยาว ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000119902

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กองเรือยุทธการ เปิดฉากฝึกปฏิบัติการ “ยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก”สร้างกองเรือเข้มแข็ง ฝึกความพร้อมรบ ณ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 15 หาดยาว ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000119902 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Yay
    22
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1113 มุมมอง 1 รีวิว
  • #Hoist #transfer #ปฎิบัติการร่วม ระหว่าง #เรือที่เล็กที่สุด กับ #อากาศยานใน #กองทัพเรือ ฝึก ฝึก ฝึก พร้อมปกป้องดูแลรักษา #เขตแดน #ทะเล #อธิปไตยไทย #ทรัพยากร ในทะเล #พื้นที่ทางทะเล #แผ่นดินไทย #ชาติไทย #ประเทศไทย เราต้องรักษาไว้ #ยิ่งชีพ #จงรักภักดี #สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย
    https://youtu.be/-vQkB5oILPA
    #Hoist #transfer #ปฎิบัติการร่วม ระหว่าง #เรือที่เล็กที่สุด กับ #อากาศยานใน #กองทัพเรือ ฝึก ฝึก ฝึก พร้อมปกป้องดูแลรักษา #เขตแดน #ทะเล #อธิปไตยไทย #ทรัพยากร ในทะเล #พื้นที่ทางทะเล #แผ่นดินไทย #ชาติไทย #ประเทศไทย เราต้องรักษาไว้ #ยิ่งชีพ #จงรักภักดี #สามัคคีเป็นพลังค้ำจุนแผ่นดินไทย https://youtu.be/-vQkB5oILPA
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักข่าวกัมพูชาหลายแห่งรายงานว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนเกาะกูดกับไทย โดยระบุอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลกัมพูชาจะไม่ประนีประนอมบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักร
    .
    ผู้นำเขมรได้แสดงความคิดเห็นดังกล่าวตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย. โดยระบุว่าการเจรจาประเด็นเรื่องชายแดนต้องใช้เวลาและการเตรียมการอย่างรอบคอบ
    .
    “สิ่งนี้คือความรับผิดชอบของเรา และเราจะไม่สูญเสียดินแดนหรืออธิปไตย โปรดไว้ใจเราในเรื่องนี้” ผู้นำกัมพูชา กล่าว
    .
    ฮุน มาเนต กล่าวเสริมว่ารัฐบาลกัมพูชาใช้วิถีทางที่ผ่านการไตร่ตรองอย่างรอบคอบและมีวุฒิภาวะ ไม่ตอบสนองอย่างหุนหันพลันแล่น
    .
    “ปัญหาเกาะกูดต้องได้รับการแก้ไขอย่างมีวุฒิภาวะทางการเมืองและความรับผิดชอบ โดยให้ความสำคัญกับบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยของชาติเป็นอย่างแรก” ฮุน มาเนต กล่าว
    .
    นายกรัฐมนตรีกัมพูชาชี้แจงว่า การเจรจาระหว่างกัมพูชาและไทยยังคงดำเนินต่อไป และยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆ ดังนั้นการอ้างว่าเสียเกาะกูดให้ไทยนั้นไม่มีมูลความจริง และย้ำว่าการตอบสนองอย่างใจเย็นของรัฐบาลนั้นเป็นความตั้งใจ ด้วยมีเป้าหมายที่จะแก้ปัญหาผ่านช่องทางทางการทูต มากกว่าที่จะเพิ่มความตึงเครียด
    .
    “การคิดถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นสิ่งสำคัญ แต่เราต้องเข้าใจว่าเมื่อใดควรดำเนินการและดำเนินการอย่างไร” ฮุน มาเนต ระบุ
    .
    รัฐบาลกัมพูชาดำเนินการแก้ไขปัญหาชายแดนด้วยการใช้กลไกอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่ผ่านแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก หรือกลไกสื่อ ฮุน มาเนต กล่าวเสริม และว่ากลไกการแก้ไขอย่างเป็นทางการคือกลไกที่ตกลงกันโดยรัฐบาลกัมพูชาและไทย คือคณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) และคณะกรรมการเทคนิคร่วม (JTC) ซึ่งคณะกรรมการเหล่านี้ทำหน้าที่เจรจาเรื่องการกำหนดเขตแดนทางบกและกำหนดเขตแดนทางทะเล
    .
    “ขณะนี้ชายแดนกัมพูชา-ไทย บรรลุข้อตกลงเพียงพรมแดนทางบก ที่ครอบคลุมระยะทาง 805 กิโลเมตร และหลักเขต 73 หลัก รัฐบาลของทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงไปแล้ว 42 หลัก” ฮุน มาเนต กล่าว และว่าประเด็นเรื่องเกาะกูดยังอยู่ระหว่างเจรจา ยังไม่มีข้อตกลงใดๆ ดังนั้น เกาะนี้จึงยังไม่ถูกยกให้ใคร
    .
    เขายอมรับว่ามีความคิดเห็นและคำวิจารณ์มากมายเกี่ยวกับปัญหาเกาะกูดจากไทย แต่เน้นย้ำว่ารัฐบาลจะไม่นำไฟเข้ามาในบ้านของตัวเอง
    .
    ฮุน มาเนต เสริมว่ากัมพูชาและไทยได้เจรจากันมาตั้งแต่ปี 2549 เกี่ยวกับการกำหนดเขตแดน แต่การหารือเกี่ยวกับดินแดนทางบกและทางทะเลยังไม่เสร็จสิ้นและยังคงดำเนินต่อไป
    .
    ขณะเดียวกัน ฮุนเซน ประธานสภาสูงของกัมพูชา ได้วิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองฝ่ายค้านในต่างประเทศที่พยายามเปลี่ยนประเด็นเกาะกูดให้กลายเป็นความขัดแย้งชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทยผ่านการยุยงปลุกปั่นประชาชน แม้ว่าสองรัฐบาลจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาโดยสันติ
    .
    ทั้งนี้ อดีตผู้นำเขมรยังได้กล่าวย้อนถึงเรื่องการเจรจาร่วมกันกับ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการเจาะน้ำมันที่เกาะกูด แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในแผนนี้ และในปี 2544 ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ แต่ไม่มีการหารืออย่างละเอียดในช่วง 23 ปีที่ผ่านมา
    .
    “รัฐบาลทั้งสองประเทศกำลังเจรจากันอย่างสันติเกี่ยวกับปัญหาเกาะกูด แต่ในไทย กลุ่มหัวรุนแรงเรียกร้องให้รัฐบาลอ้างสิทธิเกาะกูดจากกัมพูชา ขณะที่กลุ่มฝ่ายค้านหัวรุนแรงของกัมพูชาในต่างประเทศเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาเข้าร่วมการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลฟ้องศาลระหว่างประเทศเพื่อเรียกร้องเกาะกูดคืน” ฮุนเซน กล่าว
    .
    ฮุนเซนกล่าวว่า ความพยายามของฝ่ายค้านในต่างประเทศครั้งนี้อาจส่งผลร้ายแรงต่อประเทศ
    .
    “ครั้งแล้วครั้งเล่าที่กลุ่มฝ่ายค้านกดดันประชาชนและขัดขวางไม่ให้พวกเขาอยู่กันอย่างสันติ ด้วยการปลุกระดมให้เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล บางทีอาจถึงเวลาที่ต้องตราพวกเขาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย เพราะพวกเขากำลังยุยงให้เกิดความขัดแย้งด้วยอาวุธระหว่างกัมพูชาและไทย” อดีตผู้นำเขมร กล่าว
    .
    นอกจากนี้ ฮุนเซนยังเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาและชาวไทยเชื่อมั่นในรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายในการแก้ไขปัญหาเกาะกูดด้วยสันติวิธี และขอให้กองทัพบกและกองทัพเรือกัมพูชาไม่ระดมกำลังเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว
    .
    อดีตผู้นำเขมรเตือนว่าบาดแผลจากสงครามที่ปราสาทพระวิหาร ปราสาทตาเมือน และปราสาทตากระบัย และความทุกข์ทรมานของประชาชนกัมพูชาและไทยจากการสูญเสียคนรักหรือได้รับบาดเจ็บจากสงครามเหล่านั้นยังคงไม่สิ้นสุด
    .
    “การยุติข้อพิพาทจะดำเนินต่อไป แต่ด้วยการเจรจา เรายังไม่ได้ใช้ความเป็นไปได้ทั้งหมดของการเจรจาทวิภาคี” ฮุนเซน กล่าว.
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119176
    ..............
    Sondhi X
    สำนักข่าวกัมพูชาหลายแห่งรายงานว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทชายแดนเกาะกูดกับไทย โดยระบุอย่างชัดเจนว่ารัฐบาลกัมพูชาจะไม่ประนีประนอมบูรณภาพแห่งดินแดนของราชอาณาจักร . ผู้นำเขมรได้แสดงความคิดเห็นดังกล่าวตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย. โดยระบุว่าการเจรจาประเด็นเรื่องชายแดนต้องใช้เวลาและการเตรียมการอย่างรอบคอบ . “สิ่งนี้คือความรับผิดชอบของเรา และเราจะไม่สูญเสียดินแดนหรืออธิปไตย โปรดไว้ใจเราในเรื่องนี้” ผู้นำกัมพูชา กล่าว . ฮุน มาเนต กล่าวเสริมว่ารัฐบาลกัมพูชาใช้วิถีทางที่ผ่านการไตร่ตรองอย่างรอบคอบและมีวุฒิภาวะ ไม่ตอบสนองอย่างหุนหันพลันแล่น . “ปัญหาเกาะกูดต้องได้รับการแก้ไขอย่างมีวุฒิภาวะทางการเมืองและความรับผิดชอบ โดยให้ความสำคัญกับบูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยของชาติเป็นอย่างแรก” ฮุน มาเนต กล่าว . นายกรัฐมนตรีกัมพูชาชี้แจงว่า การเจรจาระหว่างกัมพูชาและไทยยังคงดำเนินต่อไป และยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆ ดังนั้นการอ้างว่าเสียเกาะกูดให้ไทยนั้นไม่มีมูลความจริง และย้ำว่าการตอบสนองอย่างใจเย็นของรัฐบาลนั้นเป็นความตั้งใจ ด้วยมีเป้าหมายที่จะแก้ปัญหาผ่านช่องทางทางการทูต มากกว่าที่จะเพิ่มความตึงเครียด . “การคิดถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นสิ่งสำคัญ แต่เราต้องเข้าใจว่าเมื่อใดควรดำเนินการและดำเนินการอย่างไร” ฮุน มาเนต ระบุ . รัฐบาลกัมพูชาดำเนินการแก้ไขปัญหาชายแดนด้วยการใช้กลไกอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่ผ่านแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก หรือกลไกสื่อ ฮุน มาเนต กล่าวเสริม และว่ากลไกการแก้ไขอย่างเป็นทางการคือกลไกที่ตกลงกันโดยรัฐบาลกัมพูชาและไทย คือคณะกรรมการเขตแดนร่วม (JBC) และคณะกรรมการเทคนิคร่วม (JTC) ซึ่งคณะกรรมการเหล่านี้ทำหน้าที่เจรจาเรื่องการกำหนดเขตแดนทางบกและกำหนดเขตแดนทางทะเล . “ขณะนี้ชายแดนกัมพูชา-ไทย บรรลุข้อตกลงเพียงพรมแดนทางบก ที่ครอบคลุมระยะทาง 805 กิโลเมตร และหลักเขต 73 หลัก รัฐบาลของทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงไปแล้ว 42 หลัก” ฮุน มาเนต กล่าว และว่าประเด็นเรื่องเกาะกูดยังอยู่ระหว่างเจรจา ยังไม่มีข้อตกลงใดๆ ดังนั้น เกาะนี้จึงยังไม่ถูกยกให้ใคร . เขายอมรับว่ามีความคิดเห็นและคำวิจารณ์มากมายเกี่ยวกับปัญหาเกาะกูดจากไทย แต่เน้นย้ำว่ารัฐบาลจะไม่นำไฟเข้ามาในบ้านของตัวเอง . ฮุน มาเนต เสริมว่ากัมพูชาและไทยได้เจรจากันมาตั้งแต่ปี 2549 เกี่ยวกับการกำหนดเขตแดน แต่การหารือเกี่ยวกับดินแดนทางบกและทางทะเลยังไม่เสร็จสิ้นและยังคงดำเนินต่อไป . ขณะเดียวกัน ฮุนเซน ประธานสภาสูงของกัมพูชา ได้วิพากษ์วิจารณ์นักการเมืองฝ่ายค้านในต่างประเทศที่พยายามเปลี่ยนประเด็นเกาะกูดให้กลายเป็นความขัดแย้งชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทยผ่านการยุยงปลุกปั่นประชาชน แม้ว่าสองรัฐบาลจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาโดยสันติ . ทั้งนี้ อดีตผู้นำเขมรยังได้กล่าวย้อนถึงเรื่องการเจรจาร่วมกันกับ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการเจาะน้ำมันที่เกาะกูด แต่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในแผนนี้ และในปี 2544 ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ แต่ไม่มีการหารืออย่างละเอียดในช่วง 23 ปีที่ผ่านมา . “รัฐบาลทั้งสองประเทศกำลังเจรจากันอย่างสันติเกี่ยวกับปัญหาเกาะกูด แต่ในไทย กลุ่มหัวรุนแรงเรียกร้องให้รัฐบาลอ้างสิทธิเกาะกูดจากกัมพูชา ขณะที่กลุ่มฝ่ายค้านหัวรุนแรงของกัมพูชาในต่างประเทศเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาเข้าร่วมการชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลฟ้องศาลระหว่างประเทศเพื่อเรียกร้องเกาะกูดคืน” ฮุนเซน กล่าว . ฮุนเซนกล่าวว่า ความพยายามของฝ่ายค้านในต่างประเทศครั้งนี้อาจส่งผลร้ายแรงต่อประเทศ . “ครั้งแล้วครั้งเล่าที่กลุ่มฝ่ายค้านกดดันประชาชนและขัดขวางไม่ให้พวกเขาอยู่กันอย่างสันติ ด้วยการปลุกระดมให้เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล บางทีอาจถึงเวลาที่ต้องตราพวกเขาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย เพราะพวกเขากำลังยุยงให้เกิดความขัดแย้งด้วยอาวุธระหว่างกัมพูชาและไทย” อดีตผู้นำเขมร กล่าว . นอกจากนี้ ฮุนเซนยังเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาและชาวไทยเชื่อมั่นในรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายในการแก้ไขปัญหาเกาะกูดด้วยสันติวิธี และขอให้กองทัพบกและกองทัพเรือกัมพูชาไม่ระดมกำลังเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว . อดีตผู้นำเขมรเตือนว่าบาดแผลจากสงครามที่ปราสาทพระวิหาร ปราสาทตาเมือน และปราสาทตากระบัย และความทุกข์ทรมานของประชาชนกัมพูชาและไทยจากการสูญเสียคนรักหรือได้รับบาดเจ็บจากสงครามเหล่านั้นยังคงไม่สิ้นสุด . “การยุติข้อพิพาทจะดำเนินต่อไป แต่ด้วยการเจรจา เรายังไม่ได้ใช้ความเป็นไปได้ทั้งหมดของการเจรจาทวิภาคี” ฮุนเซน กล่าว. . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119176 .............. Sondhi X
    Angry
    Like
    Yay
    Haha
    Sad
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 882 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทเปกล่าวหาจีนขยายการซ้อมรบรอบไต้หวันในเวลานี้ เพื่อขีด “เส้นแดง” ห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยว เป็นการต้อนรับว่าที่ประธานาธิบดีใหม่ของอเมริกา พร้อมตราหน้าปักกิ่งเป็น “ตัวก่อปัญหา” ขณะที่จีนฟาดกลับ บอก “คนนอก” และ “พวกแบ่งแยกดินแดน” กำลังบ่อนทำลายเสถียรภาพช่องแคบไต้หวัน ย้ำพร้อมทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ
    .
    ไต้หวันกำลังเร่งออกมากล่าวหาว่า จีนกำลังซ้อมรบทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี โดยมีการจำลองสถานการณ์ทั้งการโจมตีเรือต่างชาติเพื่อไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาแทรกแซง และการปิดเส้นทางเดินเรือรอบเกาะไต้หวัน
    .
    กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันแถลงเมื่อวันพุธ (11 ธ.ค.)ว่า การที่จีนเพิ่มกิจกรรมทางทหารรอบเกาะไต้หวันเช่นนี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่า ปักกิ่งเป็น “ตัวก่อปัญหา”
    .
    ส่วนเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านความมั่นคงแห่งชาติคนหนึ่งของไต้หวันกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธ เช่นกันว่า จีนเริ่มวางแผนการซ้อมรบนี้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยมีเป้าหมายเพื่อโชว์ว่า จีนสามารถปิดล้อมไต้หวันและ “ขีดเส้นแดง” ห้ามชาติภายนอกเข้ามาล่วงล้ำแทรกแซง ก่อนหน้าที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้นปีหน้า
    .
    เจ้าหน้าที่อาวุโสไต้หวันผู้นี้อธิบายว่า ในการซ้อมรบคราวนี้ เรือของกองทัพจีนได้ฝึกซ้อมจำลองการโจมตีเรือต่างชาติที่จะรุกล้ำเข้ามา ขณะที่เรือหน่วยยามฝั่งฝึกการสกัดเรือสินค้า และขัดขวางและปิดกั้นเส้นทางเดินเรือ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ผู้นี้สำทับว่า จีนยังได้ร่วมซ้อมรบกับรัสเซียเมื่อเดือนที่แล้ว
    .
    ไทเประบุว่า การซ้อมรบทางทะเลครั้งนี้ใหญ่กว่าเมื่อปี 2022 ที่ปักกิ่งตอบโต้การเยือนไต้หวันของแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในขณะนั้น ซึ่งถือเป็นการซ้อมรบใหญ่ที่สุดของจีนรอบเกาะไต้หวัน
    .
    ด้าน ชู เสี่ยวหวง นักวิเคราะห์ทางการทหารในไทเป ชี้ว่า การซ้อมรบของจีนเป็นการประกาศความพร้อมในการสู้รบอย่างแท้จริง โดยในทะเลจีนตะวันออกนั้น ดูเหมือนจีนกำลังเตรียมปฏิบัติการทางอากาศขนาดใหญ่เพื่อเผชิญหน้ากับกองทัพเรืออเมริกา ขณะที่การเคลื่อนกองเรือขนาดใหญ่เข้ามาทางตะวันออกของไต้หวัน บ่งชี้ยุทธศาสตร์การปิดล้อมเกาะ ตัดขาดชีพจรทางเศรษฐกิจและทรัพยากรสำคัญ
    .
    กระนั้น เจ้าหน้าที่ทหารคนหนึ่งของอเมริกา กล่าวว่า เวลานี้จีนเพิ่มการเคลื่อนพลเข้ามาในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้จริงๆ แต่ยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับการซ้อมรบใหญ่หลายครั้งที่ผ่านมา
    .
    เห็นกันว่าการเยือนประเทศในแถบแปซิฟิกของประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวันก่อนหน้านี้ ที่มีการแวะที่ฮาวายและเกาะกวมของสหรัฐฯ ก็เป็นเรื่องที่สร้างความเดือดดาลให้ปักกิ่งที่อ้ากรรมสิทธิ์เหนือไต้หวัน
    .
    อย่างไรก็ดี สำหรับฝ่ายปักกิ่งเองนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประกาศจากกองทัพจีนหรือสื่อของทางการปักกิ่ง เกี่ยวกับการเพิ่มกิจกรรมทางทหารอย่างคึกคัก ทั้งในทะเลจีนตะวันออก ช่องแคบไต้หวัน ทะเลจีนใต้ หรือมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกคราวนี้
    .
    ปกติแล้วจีนมักประกาศแจ้งล่วงหน้าเรื่องการซ้อมรบ แต่เจ้าหน้าที่ไต้หวันอธิบายว่า การที่ปักกิ่งนิ่งเงียบในครั้งนี้อาจเนื่องมาจากไม่ต้องการบดบังความสำคัญของการประชุมทบทวนผลงานทางเศรษฐกิจประจำปี ซึ่งเป็นการประชุมแบบปิดลับของพวกผู้นำจีนที่กำหนดจัดขึ้นในวันพุธ (11 )
    .
    สำหรับปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการของปักกิ่งนั้น เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวตามปกติเมื่อวันพุธว่า การก่อกวนสันติภาพและเสถียรภาพช่องแคบไต้หวันเป็นงานของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในไต้หวันที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติ
    .
    เมื่อถูกถามว่า การซ้อมรบเป็นการขีดเส้นแดงก่อนที่ทรัมป์จะกลับสู่ทำเนียบขาวหรือไม่ เหมาตอบว่า ประเด็นไต้หวันถือเป็นเส้นตายในความสัมพันธ์ปักกิ่ง-วอชิงตันที่ไม่ควรก้าวล่วงอยู่แล้ว และเป็นจุดยืนอันถาวรของจีน
    .
    วันเดียวกันนั้น ทางด้าน จู เฟิ่งเหลียน โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน เมื่อถูกถามเกี่ยวกับกิจกรรมทางทหารที่เพิ่มขึ้นในระยะนี้ ได้กล่าวตอบว่า จีนจะดำเนินมาตรการทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ และสำทับว่า รัฐบาลจีนเพิ่มการเฝ้าระวังแนวโน้มที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในไต้หวันกำลังสมคบคิดกับต่างชาติ
    .
    ไต้หวันระบุว่า จีนเวลานี้กำลังซ้อมรบทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยมีการระดมเรือจากองทัพเรือจำนวน 60 ลำและเรือของหน่วยยามฝั่งอีก 30 ลำ เคลื่อนเข้ามาใกล้แนว “ห่วงโซ่เกาะชั้นที่หนึ่ง” ตั้งแต่หมู่เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น ลงมาจนถึงทะเลจีนใต้
    .
    ขณะที่กระทรวงกลาโหมไต้หวัน แถลงว่า ในวันพุธได้ตรวจพบเครื่องบินจีนรอบเกาะไต้หวัน 53 ลำ เพิ่มขึ้นจาก 47 ลำเมื่อวันอังคาร
    .
    คาเรน กัว โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีไต้หวัน แถลงว่า กิจกรรมทางทหารของจีนเป็นอุปสรรคต่อเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างโจ่งแจ้ง และปักกิ่งควรยุติการยั่วยุทั้งหมดทันที พร้อมย้ำว่า การเดินทางไปต่างประเทศของประธานาธิบดีไต้หวันเป็นธรรมเนียมปกติ และจีนไม่ควรใช้เป็นข้ออ้างในการยั่วยุ
    .
    วันเดียวกันนั้น ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวจากฐานทัพอเมริกันในญี่ปุ่นว่า อเมริกากำลังจับตากิจกรรมล่าสุดของจีน และรับประกันว่า จะไม่มีใครทำอะไรที่ทำให้สถานะดั้งเดิมในช่องแคบไต้หวันเปลี่ยนแปลง รวมทั้งจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยให้ไต้หวันสามารถป้องกันตนเอง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119170
    ..............
    Sondhi X
    ไทเปกล่าวหาจีนขยายการซ้อมรบรอบไต้หวันในเวลานี้ เพื่อขีด “เส้นแดง” ห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยว เป็นการต้อนรับว่าที่ประธานาธิบดีใหม่ของอเมริกา พร้อมตราหน้าปักกิ่งเป็น “ตัวก่อปัญหา” ขณะที่จีนฟาดกลับ บอก “คนนอก” และ “พวกแบ่งแยกดินแดน” กำลังบ่อนทำลายเสถียรภาพช่องแคบไต้หวัน ย้ำพร้อมทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ . ไต้หวันกำลังเร่งออกมากล่าวหาว่า จีนกำลังซ้อมรบทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี โดยมีการจำลองสถานการณ์ทั้งการโจมตีเรือต่างชาติเพื่อไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาแทรกแซง และการปิดเส้นทางเดินเรือรอบเกาะไต้หวัน . กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันแถลงเมื่อวันพุธ (11 ธ.ค.)ว่า การที่จีนเพิ่มกิจกรรมทางทหารรอบเกาะไต้หวันเช่นนี้เป็นหลักฐานชัดเจนว่า ปักกิ่งเป็น “ตัวก่อปัญหา” . ส่วนเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านความมั่นคงแห่งชาติคนหนึ่งของไต้หวันกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธ เช่นกันว่า จีนเริ่มวางแผนการซ้อมรบนี้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยมีเป้าหมายเพื่อโชว์ว่า จีนสามารถปิดล้อมไต้หวันและ “ขีดเส้นแดง” ห้ามชาติภายนอกเข้ามาล่วงล้ำแทรกแซง ก่อนหน้าที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ต้นปีหน้า . เจ้าหน้าที่อาวุโสไต้หวันผู้นี้อธิบายว่า ในการซ้อมรบคราวนี้ เรือของกองทัพจีนได้ฝึกซ้อมจำลองการโจมตีเรือต่างชาติที่จะรุกล้ำเข้ามา ขณะที่เรือหน่วยยามฝั่งฝึกการสกัดเรือสินค้า และขัดขวางและปิดกั้นเส้นทางเดินเรือ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ผู้นี้สำทับว่า จีนยังได้ร่วมซ้อมรบกับรัสเซียเมื่อเดือนที่แล้ว . ไทเประบุว่า การซ้อมรบทางทะเลครั้งนี้ใหญ่กว่าเมื่อปี 2022 ที่ปักกิ่งตอบโต้การเยือนไต้หวันของแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในขณะนั้น ซึ่งถือเป็นการซ้อมรบใหญ่ที่สุดของจีนรอบเกาะไต้หวัน . ด้าน ชู เสี่ยวหวง นักวิเคราะห์ทางการทหารในไทเป ชี้ว่า การซ้อมรบของจีนเป็นการประกาศความพร้อมในการสู้รบอย่างแท้จริง โดยในทะเลจีนตะวันออกนั้น ดูเหมือนจีนกำลังเตรียมปฏิบัติการทางอากาศขนาดใหญ่เพื่อเผชิญหน้ากับกองทัพเรืออเมริกา ขณะที่การเคลื่อนกองเรือขนาดใหญ่เข้ามาทางตะวันออกของไต้หวัน บ่งชี้ยุทธศาสตร์การปิดล้อมเกาะ ตัดขาดชีพจรทางเศรษฐกิจและทรัพยากรสำคัญ . กระนั้น เจ้าหน้าที่ทหารคนหนึ่งของอเมริกา กล่าวว่า เวลานี้จีนเพิ่มการเคลื่อนพลเข้ามาในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้จริงๆ แต่ยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับการซ้อมรบใหญ่หลายครั้งที่ผ่านมา . เห็นกันว่าการเยือนประเทศในแถบแปซิฟิกของประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวันก่อนหน้านี้ ที่มีการแวะที่ฮาวายและเกาะกวมของสหรัฐฯ ก็เป็นเรื่องที่สร้างความเดือดดาลให้ปักกิ่งที่อ้ากรรมสิทธิ์เหนือไต้หวัน . อย่างไรก็ดี สำหรับฝ่ายปักกิ่งเองนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประกาศจากกองทัพจีนหรือสื่อของทางการปักกิ่ง เกี่ยวกับการเพิ่มกิจกรรมทางทหารอย่างคึกคัก ทั้งในทะเลจีนตะวันออก ช่องแคบไต้หวัน ทะเลจีนใต้ หรือมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกคราวนี้ . ปกติแล้วจีนมักประกาศแจ้งล่วงหน้าเรื่องการซ้อมรบ แต่เจ้าหน้าที่ไต้หวันอธิบายว่า การที่ปักกิ่งนิ่งเงียบในครั้งนี้อาจเนื่องมาจากไม่ต้องการบดบังความสำคัญของการประชุมทบทวนผลงานทางเศรษฐกิจประจำปี ซึ่งเป็นการประชุมแบบปิดลับของพวกผู้นำจีนที่กำหนดจัดขึ้นในวันพุธ (11 ) . สำหรับปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการของปักกิ่งนั้น เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวตามปกติเมื่อวันพุธว่า การก่อกวนสันติภาพและเสถียรภาพช่องแคบไต้หวันเป็นงานของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในไต้หวันที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติ . เมื่อถูกถามว่า การซ้อมรบเป็นการขีดเส้นแดงก่อนที่ทรัมป์จะกลับสู่ทำเนียบขาวหรือไม่ เหมาตอบว่า ประเด็นไต้หวันถือเป็นเส้นตายในความสัมพันธ์ปักกิ่ง-วอชิงตันที่ไม่ควรก้าวล่วงอยู่แล้ว และเป็นจุดยืนอันถาวรของจีน . วันเดียวกันนั้น ทางด้าน จู เฟิ่งเหลียน โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน เมื่อถูกถามเกี่ยวกับกิจกรรมทางทหารที่เพิ่มขึ้นในระยะนี้ ได้กล่าวตอบว่า จีนจะดำเนินมาตรการทั้งหมดที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ และสำทับว่า รัฐบาลจีนเพิ่มการเฝ้าระวังแนวโน้มที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในไต้หวันกำลังสมคบคิดกับต่างชาติ . ไต้หวันระบุว่า จีนเวลานี้กำลังซ้อมรบทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยมีการระดมเรือจากองทัพเรือจำนวน 60 ลำและเรือของหน่วยยามฝั่งอีก 30 ลำ เคลื่อนเข้ามาใกล้แนว “ห่วงโซ่เกาะชั้นที่หนึ่ง” ตั้งแต่หมู่เกาะทางใต้ของญี่ปุ่น ลงมาจนถึงทะเลจีนใต้ . ขณะที่กระทรวงกลาโหมไต้หวัน แถลงว่า ในวันพุธได้ตรวจพบเครื่องบินจีนรอบเกาะไต้หวัน 53 ลำ เพิ่มขึ้นจาก 47 ลำเมื่อวันอังคาร . คาเรน กัว โฆษกสำนักงานประธานาธิบดีไต้หวัน แถลงว่า กิจกรรมทางทหารของจีนเป็นอุปสรรคต่อเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างโจ่งแจ้ง และปักกิ่งควรยุติการยั่วยุทั้งหมดทันที พร้อมย้ำว่า การเดินทางไปต่างประเทศของประธานาธิบดีไต้หวันเป็นธรรมเนียมปกติ และจีนไม่ควรใช้เป็นข้ออ้างในการยั่วยุ . วันเดียวกันนั้น ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวจากฐานทัพอเมริกันในญี่ปุ่นว่า อเมริกากำลังจับตากิจกรรมล่าสุดของจีน และรับประกันว่า จะไม่มีใครทำอะไรที่ทำให้สถานะดั้งเดิมในช่องแคบไต้หวันเปลี่ยนแปลง รวมทั้งจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อช่วยให้ไต้หวันสามารถป้องกันตนเอง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119170 .............. Sondhi X
    Like
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 914 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts