• ความล่าช้าของโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 สร้างไม่เสร็จซักที จนถูกเรียกเป็น ‘ถนน 7 ชั่วโคตร’ กับอุบัติเหตุความสูญเสียที่เกิดขึ้นซ้ำซาก แต่กระทรวงคมนาคม ยังมั่นใจจะปิดตำนาน‘ถนน 7 ชั่วโคตร’ภายในปี68 !! รวมทั้งดรามา สะพานลอยคนเดินข้าม หน้าตลาดทะเลไทย บริเวณการก่อสร้าง มอเตอร์เวย์ M82 จะใช้ทางเดินเบี่ยงถึง 15 ต.ค.68 ติดตั้งสะพานลอยใหม่แล้วเสร็จ 1 พ.ย.68
    ความล่าช้าของโครงการก่อสร้างบนถนนพระราม 2 สร้างไม่เสร็จซักที จนถูกเรียกเป็น ‘ถนน 7 ชั่วโคตร’ กับอุบัติเหตุความสูญเสียที่เกิดขึ้นซ้ำซาก แต่กระทรวงคมนาคม ยังมั่นใจจะปิดตำนาน‘ถนน 7 ชั่วโคตร’ภายในปี68 !! รวมทั้งดรามา สะพานลอยคนเดินข้าม หน้าตลาดทะเลไทย บริเวณการก่อสร้าง มอเตอร์เวย์ M82 จะใช้ทางเดินเบี่ยงถึง 15 ต.ค.68 ติดตั้งสะพานลอยใหม่แล้วเสร็จ 1 พ.ย.68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • #กระทรวงพลังงาน ขนาดความอร่อยเทียบเท่า

    #กระทรวงคมนาคม #อย่ามาตอแหล
    #กระทรวงพลังงาน ขนาดความอร่อยเทียบเท่า #กระทรวงคมนาคม #อย่ามาตอแหล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สนธิ" ชี้ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจแพทองธาร ขึ้นอยู่กับสองพรรคใหญ่เพื่อไทย-ภูมิใจไทย การเมืองไทยประชาธิปไตย 4 วินาที พูดต่อหน้าจับมือลับหลัง

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยสำหรับสถานการณ์การเมือง และฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ขึ้นอยู่กับว่าพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยจะคุยกันได้หรือไม่ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องการงบอุดหนุน "โมโตจีพี 500 ล้าน" ถ้าให้ไปไม่น่าจะมีปัญหา ตนคิดว่าหากเรามองการเมืองไทยแบบไร้เดียงสา เราจะไม่เข้าใจอะไรเลย เหมือนการไปสนใจเฉพาะต้นไม้ต้นเดียวไม่มองทั้งป่า และทุกวันนี้การเมืองไทยไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อเมืองไทย มีแต่ประโยชน์ของแต่ละพรรคการเมืองว่าจะตกลงกันได้หรือไม่ ล่าสุดที่ได้ติดตามข่าว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โวยวายว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000025365

    #MGROnline #สนธิ #แพทองธาร
    "สนธิ" ชี้ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจแพทองธาร ขึ้นอยู่กับสองพรรคใหญ่เพื่อไทย-ภูมิใจไทย การเมืองไทยประชาธิปไตย 4 วินาที พูดต่อหน้าจับมือลับหลัง • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยสำหรับสถานการณ์การเมือง และฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ขึ้นอยู่กับว่าพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยจะคุยกันได้หรือไม่ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องการงบอุดหนุน "โมโตจีพี 500 ล้าน" ถ้าให้ไปไม่น่าจะมีปัญหา ตนคิดว่าหากเรามองการเมืองไทยแบบไร้เดียงสา เราจะไม่เข้าใจอะไรเลย เหมือนการไปสนใจเฉพาะต้นไม้ต้นเดียวไม่มองทั้งป่า และทุกวันนี้การเมืองไทยไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อเมืองไทย มีแต่ประโยชน์ของแต่ละพรรคการเมืองว่าจะตกลงกันได้หรือไม่ ล่าสุดที่ได้ติดตามข่าว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โวยวายว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000025365 • #MGROnline #สนธิ #แพทองธาร
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทางด่วนสองชั้น หายนะคนกรุงฯ

    เหตุคานสะพานทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (Double Deck) ที่ก่อสร้างซ้อนทับอยู่บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ในโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 ทรุดตัวบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางดาวคะนอง แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ เมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย สูญหาย 2 ราย บาดเจ็บ 27 ราย โครงสร้างทางพิเศษเฉลิมมหานคร ขาออก อายุกว่า 40 ปี พังลง 1 ช่วงเสา ต้องปิดการจราจรอย่างน้อย 1 เดือน

    นับเป็นอีกโศกนาฎกรรมจากการก่อสร้างทางยกระดับขนาดใหญ่ หลังเหตุการณ์คานสะพานถล่ม โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ที่สร้างคร่อมทางหลักบนถนนพระรามที่ 2 จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 9 คน ต้องปิดการจราจรเพื่อเคลียร์พื้นที่ก่อสร้างนานเกือบครึ่งเดือน ผ่านไปเพียงไม่ถึง 4 เดือนกลับเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอย ท่ามกลางสังคมต่างถามหาความรับผิดชอบจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ถึงบัดนี้ผลการสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการก็ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะแต่อย่างใด

    ก่อนหน้านี้ นายสุริยะ และผู้บริหารการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มีความพยายามผลักดันโครงการแก้ไขปัญหาจราจรบนทางพิเศษระยะที่ 1 ซึ่งจะมีการก่อสร้างโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 หรือ ดับเบิล เด็ค (Double Deck) ช่วงงามวงศ์วานถึงพระราม 9 ระยะทาง 17 กิโลเมตร โดยเจรจาให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน แลกกับการขยายระยะเวลาสัมปทานระบบทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ที่เพิ่งขยายสัญญาจากกรณีพิพาทค่าโง่ทางด่วน จากเดิมหมดลงในปี 2563 ไปสิ้นสุดในปี 2578 แต่บอกไม่ได้ว่ากี่ปี กลายเป็นที่วิจารณ์ว่าเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนหรือไม่ แทนที่สัญญาสัมปทานหมดลงแล้วจะได้ใช้ทางด่วนในราคาถูกลง

    อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้น่าคิดว่า การทำทางด่วนดับเบิล เด็ค อาจไม่เหมาะสมในเวลานี้ หากมาตรฐานการก่อสร้างของผู้รับเหมาในปัจจุบันยังมีความหละหลวม ก่อให้เกิดโศกนาฎกรรม เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และสร้างปัญหากระทบกับผู้ใช้รถใช้ถนนบ่อยครั้ง เกิดความสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ขณะที่ภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม ยังคงแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ วัวหายล้อมคอก มากกว่าหามาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด หากปล่อยให้การก่อสร้างดับเบิล เด็คเกิดขึ้นจริง เมื่อเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอยในครั้งนี้เกิดขึ้นอีก ความพินาศฉิบหายของผู้ใช้ทางพิเศษ ที่มีจำนวนกว่า 1.8 ล้านคันต่อวันจะบรรลัยยิ่งขึ้นแน่นอน

    #Newskit
    ทางด่วนสองชั้น หายนะคนกรุงฯ เหตุคานสะพานทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (Double Deck) ที่ก่อสร้างซ้อนทับอยู่บนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ในโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 ทรุดตัวบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางดาวคะนอง แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ เมื่อคืนวันที่ 15 มี.ค. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย สูญหาย 2 ราย บาดเจ็บ 27 ราย โครงสร้างทางพิเศษเฉลิมมหานคร ขาออก อายุกว่า 40 ปี พังลง 1 ช่วงเสา ต้องปิดการจราจรอย่างน้อย 1 เดือน นับเป็นอีกโศกนาฎกรรมจากการก่อสร้างทางยกระดับขนาดใหญ่ หลังเหตุการณ์คานสะพานถล่ม โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ที่สร้างคร่อมทางหลักบนถนนพระรามที่ 2 จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 9 คน ต้องปิดการจราจรเพื่อเคลียร์พื้นที่ก่อสร้างนานเกือบครึ่งเดือน ผ่านไปเพียงไม่ถึง 4 เดือนกลับเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอย ท่ามกลางสังคมต่างถามหาความรับผิดชอบจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ถึงบัดนี้ผลการสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการก็ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ นายสุริยะ และผู้บริหารการทางพิเศษแห่งประเทศไทย มีความพยายามผลักดันโครงการแก้ไขปัญหาจราจรบนทางพิเศษระยะที่ 1 ซึ่งจะมีการก่อสร้างโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 หรือ ดับเบิล เด็ค (Double Deck) ช่วงงามวงศ์วานถึงพระราม 9 ระยะทาง 17 กิโลเมตร โดยเจรจาให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน แลกกับการขยายระยะเวลาสัมปทานระบบทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ที่เพิ่งขยายสัญญาจากกรณีพิพาทค่าโง่ทางด่วน จากเดิมหมดลงในปี 2563 ไปสิ้นสุดในปี 2578 แต่บอกไม่ได้ว่ากี่ปี กลายเป็นที่วิจารณ์ว่าเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนหรือไม่ แทนที่สัญญาสัมปทานหมดลงแล้วจะได้ใช้ทางด่วนในราคาถูกลง อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้น่าคิดว่า การทำทางด่วนดับเบิล เด็ค อาจไม่เหมาะสมในเวลานี้ หากมาตรฐานการก่อสร้างของผู้รับเหมาในปัจจุบันยังมีความหละหลวม ก่อให้เกิดโศกนาฎกรรม เกิดความสูญเสียทั้งชีวิต และสร้างปัญหากระทบกับผู้ใช้รถใช้ถนนบ่อยครั้ง เกิดความสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ ขณะที่ภาครัฐโดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม ยังคงแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ วัวหายล้อมคอก มากกว่าหามาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด หากปล่อยให้การก่อสร้างดับเบิล เด็คเกิดขึ้นจริง เมื่อเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอยในครั้งนี้เกิดขึ้นอีก ความพินาศฉิบหายของผู้ใช้ทางพิเศษ ที่มีจำนวนกว่า 1.8 ล้านคันต่อวันจะบรรลัยยิ่งขึ้นแน่นอน #Newskit
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทล.เร่งสอบ”คานปูน-โครงสร้างเหล็ก” พระราม 2 ถล่ม พบประเด็นตัวยึดคานและทรัสหลุด หาสาเหตุเกิดจากขั้นตอนการทำงานหรือตัววัสดุมีปัญหา คาดสรุปในสัปดาห์นี้ ยันรับเหมาใช้แรงงานต่างด้าวได้ในงานทั่วไป ส่วนงานเฉพาะทางบุคลากรต้องมีใบรับรองตามระเบียบ

    จากกรณีกรณีคานปูน (Segment) และโครงสร้างเหล็ก (Launching Gantry Crane) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย -บ้านแพ้ว ตอน 1 พังถล่ม เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีต่อ บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด และบริษัท พีเอสซีไอ คอนสตรัคชัน จำกัด ผู้รับเหมาในความผิด ฐานใช้แรงงานต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิ และความปลอดภัยอาชีวะอนามัยไปแล้วนั้น

    นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ในส่วนของกรมทางหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมการตรวจสอบในทุกมิติ ทั้งตัวโครงสร้างเหล็ก Launching Gantry และแผ่นปูน (ทรัส) เรื่องการบริหารจัดการระหว่างก่อสร้าง รวมทั้งหมด 5 ประเด็น

    ทั้งนี้ มีการตรวจสอบเรื่องวัสดุ พบมีประเด็นเรื่องตัวยึดระหว่างคานคอนกรีตและทรัส อาจมีปัญหา ซึ่งจะต้องมีการทดสอบวัสดุ เพื่อดูว่าสาเหตุที่ตัวยึดคานหลุดนั้น เกิดจากการทำงานหรือตัววัสดุมีปัญหา โดยจะสรุปผลการสอบสวนภายในสัปดาห์นี้ และจะรายงานกระทรวงคมนาคมรับทราบต่อไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000023136

    #MGROnline #โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข82 #คานปูน #โครงสร้างเหล็ก #พระราม2
    ทล.เร่งสอบ”คานปูน-โครงสร้างเหล็ก” พระราม 2 ถล่ม พบประเด็นตัวยึดคานและทรัสหลุด หาสาเหตุเกิดจากขั้นตอนการทำงานหรือตัววัสดุมีปัญหา คาดสรุปในสัปดาห์นี้ ยันรับเหมาใช้แรงงานต่างด้าวได้ในงานทั่วไป ส่วนงานเฉพาะทางบุคลากรต้องมีใบรับรองตามระเบียบ • จากกรณีกรณีคานปูน (Segment) และโครงสร้างเหล็ก (Launching Gantry Crane) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ใช้ก่อสร้างทางยกระดับ โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย -บ้านแพ้ว ตอน 1 พังถล่ม เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2567 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีต่อ บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด และบริษัท พีเอสซีไอ คอนสตรัคชัน จำกัด ผู้รับเหมาในความผิด ฐานใช้แรงงานต่างด้าวทำงานนอกเหนือสิทธิ และความปลอดภัยอาชีวะอนามัยไปแล้วนั้น • นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า ในส่วนของกรมทางหลวง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมการตรวจสอบในทุกมิติ ทั้งตัวโครงสร้างเหล็ก Launching Gantry และแผ่นปูน (ทรัส) เรื่องการบริหารจัดการระหว่างก่อสร้าง รวมทั้งหมด 5 ประเด็น • ทั้งนี้ มีการตรวจสอบเรื่องวัสดุ พบมีประเด็นเรื่องตัวยึดระหว่างคานคอนกรีตและทรัส อาจมีปัญหา ซึ่งจะต้องมีการทดสอบวัสดุ เพื่อดูว่าสาเหตุที่ตัวยึดคานหลุดนั้น เกิดจากการทำงานหรือตัววัสดุมีปัญหา โดยจะสรุปผลการสอบสวนภายในสัปดาห์นี้ และจะรายงานกระทรวงคมนาคมรับทราบต่อไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000023136 • #MGROnline #โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข82 #คานปูน #โครงสร้างเหล็ก #พระราม2
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุ้นเปิดสถานีขนส่งใหม่ TBG ก่อนเทศกาลอีดิลฟิตรี

    แม้สถานีขนส่งผู้โดยสารแบบบูรณาการกอมบัค (ภาษามาเลย์ Terminal Bersepadu Gombak หรือ TBG) เมืองกอมบัค รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย จะเลื่อนให้บริการจากเดิมวันที่ 16 ก.พ. ออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ก็มีความคืบหน้าจากการตรวจสอบความพร้อมในการให้บริการ ของนายแอนโทเนีย โลค รมว.คมนาคมมาเลเซียและคณะ เมื่อวันที่ 4 มี.ค. โดยคาดว่าจะเริ่มทดลองให้บริการในวันที่ 15 มี.ค. ในเส้นทางชายฝั่งทะเลตะวันออก ปลายทางรัฐปะหัง รัฐตรังกานู และรัฐกลันตัน

    นายแอนโทเนีย กล่าวว่า หากสถานีขนส่งกอมบัคสามารถเปิดเต็มรูปแบบภายในสิ้นเดือน มี.ค. จะช่วยลดปัญหาการจราจรที่สถานีขนส่งแบบบูรณาการ TBS (ภาษามาเลย์ Terminal Bersepadu Selatan) ในช่วงเทศกาลอีดิลฟิตรีได้ ซึ่งกระทรวงคมนาคม และกรมโยธาธิการมาเลเซีย จะตรวจสอบครั้งสุดท้ายภายในปลายสัปดาห์หน้า นอกจากรถบัสด่วนแล้ว ยังเชื่อมต่อกับรถบัสระหว่างเมือง และรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) กอมบัค รวมทั้งโครงการรถไฟ ECRL ที่คืบหน้าแล้ว 79%

    อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วที่สถานีขนส่งกอมบัคยังไม่เปิดให้บริการ ผู้โดยสารยังคงซื้อตั๋วได้สถานีขนส่ง TBS เช่นเดิม โดยการเปิดให้บริการนอกจากจะมีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม และฮอลล์เอนกประสงค์แล้ว ยังมีแพลตฟอร์มเฉพาะเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการอีกด้วย

    สำหรับสถานีขนส่งกอมบัค (TBG) ตั้งอยู่ที่ถนนวงแหวนรอบกลางสายที่ 2 (MRR2) กรุงกัวลาลัมเปอร์ ใกล้กับด่านเก็บค่าผ่านทางกอมบัค และสถานีรถไฟฟ้ากอมบัค ปลายทางของรถไฟฟ้า LRT สายเกลานา จายา (Kelana Jaya Line) ซึ่งสามารถเดินทางได้จากสถานีกลาง KL Sentral และสถานี KLCC เป็นอาคารสูง 7 ชั้น พร้อมด้วยพื้นที่เชิงพาณิชย์รวม 1.1 ล้านตารางฟุต 350 ร้านค้า โดยรัฐบาลให้สัมปทานกับเอกชนในการก่อสร้าง ภายใต้โครงการริเริ่มทางการเงินของภาคเอกชน (PFI) ซึ่งบริษัทซีลัน (Zelan) เจ้าของธุรกิจวิศวกรรมและก่อสร้าง ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลมาเลเซีย ระยะเวลา 25 ปี

    อนึ่ง กรุงกัวลาลัมเปอร์ มีสถานีขนส่งแบบบูรณาการ TBS เป็นสถานีขนส่งหลัก เปิดให้บริการเมื่อปี 2554 และมีสถานีขนส่งย่อย เช่น สถานีขนส่งปูดูเซ็นทรัล (Pudu Sentral) ซึ่งเป็นอดีตสถานีขนส่งหลักก่อนย้ายไป TBS ใกล้กันจะมีสถานีขนส่งโกตารายา (Kota Raya) อีกด้านหนึ่งยังมีสถานีขนส่งเปอเกลิลิง (Pekeliling) ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าตี้ตี้วังซา (Titiwangsa) หรือจะเป็นสถานีขนส่งเฮนเทียนดูตาร์ (Hentian Duta) ไปยังปลายทางรัฐตอนเหนือ เช่น ปีนัง เคดะห์ เปรัค ปะลิส และที่สถานี KL Sentral ยังมีรถทัวร์ให้บริการอีกด้วย

    #Newskit
    ลุ้นเปิดสถานีขนส่งใหม่ TBG ก่อนเทศกาลอีดิลฟิตรี แม้สถานีขนส่งผู้โดยสารแบบบูรณาการกอมบัค (ภาษามาเลย์ Terminal Bersepadu Gombak หรือ TBG) เมืองกอมบัค รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย จะเลื่อนให้บริการจากเดิมวันที่ 16 ก.พ. ออกไปอย่างไม่มีกำหนด แต่ก็มีความคืบหน้าจากการตรวจสอบความพร้อมในการให้บริการ ของนายแอนโทเนีย โลค รมว.คมนาคมมาเลเซียและคณะ เมื่อวันที่ 4 มี.ค. โดยคาดว่าจะเริ่มทดลองให้บริการในวันที่ 15 มี.ค. ในเส้นทางชายฝั่งทะเลตะวันออก ปลายทางรัฐปะหัง รัฐตรังกานู และรัฐกลันตัน นายแอนโทเนีย กล่าวว่า หากสถานีขนส่งกอมบัคสามารถเปิดเต็มรูปแบบภายในสิ้นเดือน มี.ค. จะช่วยลดปัญหาการจราจรที่สถานีขนส่งแบบบูรณาการ TBS (ภาษามาเลย์ Terminal Bersepadu Selatan) ในช่วงเทศกาลอีดิลฟิตรีได้ ซึ่งกระทรวงคมนาคม และกรมโยธาธิการมาเลเซีย จะตรวจสอบครั้งสุดท้ายภายในปลายสัปดาห์หน้า นอกจากรถบัสด่วนแล้ว ยังเชื่อมต่อกับรถบัสระหว่างเมือง และรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) กอมบัค รวมทั้งโครงการรถไฟ ECRL ที่คืบหน้าแล้ว 79% อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วที่สถานีขนส่งกอมบัคยังไม่เปิดให้บริการ ผู้โดยสารยังคงซื้อตั๋วได้สถานีขนส่ง TBS เช่นเดิม โดยการเปิดให้บริการนอกจากจะมีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม และฮอลล์เอนกประสงค์แล้ว ยังมีแพลตฟอร์มเฉพาะเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการอีกด้วย สำหรับสถานีขนส่งกอมบัค (TBG) ตั้งอยู่ที่ถนนวงแหวนรอบกลางสายที่ 2 (MRR2) กรุงกัวลาลัมเปอร์ ใกล้กับด่านเก็บค่าผ่านทางกอมบัค และสถานีรถไฟฟ้ากอมบัค ปลายทางของรถไฟฟ้า LRT สายเกลานา จายา (Kelana Jaya Line) ซึ่งสามารถเดินทางได้จากสถานีกลาง KL Sentral และสถานี KLCC เป็นอาคารสูง 7 ชั้น พร้อมด้วยพื้นที่เชิงพาณิชย์รวม 1.1 ล้านตารางฟุต 350 ร้านค้า โดยรัฐบาลให้สัมปทานกับเอกชนในการก่อสร้าง ภายใต้โครงการริเริ่มทางการเงินของภาคเอกชน (PFI) ซึ่งบริษัทซีลัน (Zelan) เจ้าของธุรกิจวิศวกรรมและก่อสร้าง ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลมาเลเซีย ระยะเวลา 25 ปี อนึ่ง กรุงกัวลาลัมเปอร์ มีสถานีขนส่งแบบบูรณาการ TBS เป็นสถานีขนส่งหลัก เปิดให้บริการเมื่อปี 2554 และมีสถานีขนส่งย่อย เช่น สถานีขนส่งปูดูเซ็นทรัล (Pudu Sentral) ซึ่งเป็นอดีตสถานีขนส่งหลักก่อนย้ายไป TBS ใกล้กันจะมีสถานีขนส่งโกตารายา (Kota Raya) อีกด้านหนึ่งยังมีสถานีขนส่งเปอเกลิลิง (Pekeliling) ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าตี้ตี้วังซา (Titiwangsa) หรือจะเป็นสถานีขนส่งเฮนเทียนดูตาร์ (Hentian Duta) ไปยังปลายทางรัฐตอนเหนือ เช่น ปีนัง เคดะห์ เปรัค ปะลิส และที่สถานี KL Sentral ยังมีรถทัวร์ให้บริการอีกด้วย #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคาะวันเปิด LRT3 มาเลเซีย 30 กันยายน 2025

    ในที่สุดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาสายชาห์อลัม (Shah Alam Line) หรือ LRT3 รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เชื่อมระหว่างสถานีบันดาร์ อูตามา (Bandar Utama) กับสถานีโยฮัน เซเตีย (Johan Setia) มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 30 ก.ย. 2568 หลังส่งมอบโครงการให้กับบริษัท ปราซารานา (Prasarana) ในวันที่ 31 ก.ค. 2568 ตามที่กระทรวงคมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยเมื่อวันพุธ (26 ก.พ.) ระบุว่าความคืบหน้าของโครงการอยู่ที่ 98.16%

    สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบาสายที่ 3 (LRT3) ถือเป็นระบบขนส่งมวลชนลำดับที่ 11 ในหุบเขาแคลง มีระยะทาง 37 กิโลเมตร รวมทั้งอุโมงค์ความยาว 2 กิโลเมตร พาดผ่านเขตเปตาลิง จายา (Petaling Jaya) ชาห์อลัม (Shah Alam) และแคลง (Klang) รองรับประชากรมากกว่า 2 ล้านคน มีสถานีรถไฟฟ้า 20 สถานี และอีก 5 สถานีที่ก่อสร้างเพิ่มเติม พร้อมที่จอดรถ 6 สถานี รองรับรถยนต์รวม 2,000 คัน

    ส่วนขบวนรถมี 3 ตู้ รวม 22 ขบวน ผลิตโดยบริษัท CRRC Corporation รองรับผู้โดยสารสูงสุด 18,630 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ให้บริการความถี่ทุก 6 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 67,000 เที่ยวคนต่อวัน

    จุดเริ่มต้นอยู่ที่สถานีบันดาร์ อูตามา ใกล้กับศูนย์การค้าวันอูตามา (1 Utama) ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ผ่านสถานที่สำคัญอย่างสนามกีฬาชาห์อลัม (Stadium Shah Alam) มัสยิดสุลต่านซาลาฮุดดินอับดุลอาซิซ (Masjid Sultan Salahuddin Abdul Aziz Shah) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยียูไอทีเอ็ม (UiTM) โครงการไอ-ซิตี้ (i-City) สวนสนุกไอ-ซิตี้ ธีมพาร์ค (i-City Theme Park) มัสยิดบันดาร์ดิราจาแคลงอูตารา (Masjid Bandar Diraja Klang Utara)

    มีสถานีเชื่อมต่อ ได้แก่ 1. สถานีบันดาร์ อูตามา เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สายกาจัง (MRT Kajang Line) เส้นทางระหว่างสถานีควาซาดามานซารา (Kwasa Damansara) กับสถานีกาจัง (Kajang) ผ่านสถานีบูกิตบินตัง (Bukit Bintang) และสถานีตุนราซัคเอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange)

    2. สถานีเกลนมารี 2 (Glenmarie 2) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า LRT สายเกลานา จายา (Kelana Jaya Line) เส้นทางระหว่างสถานีปูตราไฮต์ (Putra Heights) กับสถานีกอมบัค (Gombak) ผ่านสถานีเคแอล เซ็นทรัล (KL Sentral) และสถานีเคแอลซีซี (KLCC) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์

    อนึ่ง ที่สถานีเซคชันตูจู (Seksyen 7) บริเวณเขต 7 ของรัฐสลังงอร์ มีศูนย์การค้าเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ (Central i-City) ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาจากประเทศไทย ลงทุนร่วมกับไอ-เบอร์ฮัด (I-Berhad) เปิดให้บริการเมื่อปี 2562

    #Newskit
    เคาะวันเปิด LRT3 มาเลเซีย 30 กันยายน 2025 ในที่สุดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาสายชาห์อลัม (Shah Alam Line) หรือ LRT3 รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เชื่อมระหว่างสถานีบันดาร์ อูตามา (Bandar Utama) กับสถานีโยฮัน เซเตีย (Johan Setia) มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 30 ก.ย. 2568 หลังส่งมอบโครงการให้กับบริษัท ปราซารานา (Prasarana) ในวันที่ 31 ก.ค. 2568 ตามที่กระทรวงคมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยเมื่อวันพุธ (26 ก.พ.) ระบุว่าความคืบหน้าของโครงการอยู่ที่ 98.16% สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบาสายที่ 3 (LRT3) ถือเป็นระบบขนส่งมวลชนลำดับที่ 11 ในหุบเขาแคลง มีระยะทาง 37 กิโลเมตร รวมทั้งอุโมงค์ความยาว 2 กิโลเมตร พาดผ่านเขตเปตาลิง จายา (Petaling Jaya) ชาห์อลัม (Shah Alam) และแคลง (Klang) รองรับประชากรมากกว่า 2 ล้านคน มีสถานีรถไฟฟ้า 20 สถานี และอีก 5 สถานีที่ก่อสร้างเพิ่มเติม พร้อมที่จอดรถ 6 สถานี รองรับรถยนต์รวม 2,000 คัน ส่วนขบวนรถมี 3 ตู้ รวม 22 ขบวน ผลิตโดยบริษัท CRRC Corporation รองรับผู้โดยสารสูงสุด 18,630 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ให้บริการความถี่ทุก 6 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 67,000 เที่ยวคนต่อวัน จุดเริ่มต้นอยู่ที่สถานีบันดาร์ อูตามา ใกล้กับศูนย์การค้าวันอูตามา (1 Utama) ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ผ่านสถานที่สำคัญอย่างสนามกีฬาชาห์อลัม (Stadium Shah Alam) มัสยิดสุลต่านซาลาฮุดดินอับดุลอาซิซ (Masjid Sultan Salahuddin Abdul Aziz Shah) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยียูไอทีเอ็ม (UiTM) โครงการไอ-ซิตี้ (i-City) สวนสนุกไอ-ซิตี้ ธีมพาร์ค (i-City Theme Park) มัสยิดบันดาร์ดิราจาแคลงอูตารา (Masjid Bandar Diraja Klang Utara) มีสถานีเชื่อมต่อ ได้แก่ 1. สถานีบันดาร์ อูตามา เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สายกาจัง (MRT Kajang Line) เส้นทางระหว่างสถานีควาซาดามานซารา (Kwasa Damansara) กับสถานีกาจัง (Kajang) ผ่านสถานีบูกิตบินตัง (Bukit Bintang) และสถานีตุนราซัคเอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange) 2. สถานีเกลนมารี 2 (Glenmarie 2) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า LRT สายเกลานา จายา (Kelana Jaya Line) เส้นทางระหว่างสถานีปูตราไฮต์ (Putra Heights) กับสถานีกอมบัค (Gombak) ผ่านสถานีเคแอล เซ็นทรัล (KL Sentral) และสถานีเคแอลซีซี (KLCC) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ อนึ่ง ที่สถานีเซคชันตูจู (Seksyen 7) บริเวณเขต 7 ของรัฐสลังงอร์ มีศูนย์การค้าเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ (Central i-City) ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาจากประเทศไทย ลงทุนร่วมกับไอ-เบอร์ฮัด (I-Berhad) เปิดให้บริการเมื่อปี 2562 #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากการสำรวจนิด้าโพลเมื่อถามถึงความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 34.58 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 32.60 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 20.00 ระบุว่า ไม่พอใจเลย และร้อยละ 12.82 ระบุว่า พอใจมาก ด้านความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 32.60 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 31.76 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 22.28 ระบุว่า ไม่พอใจเลย และร้อยละ 13.36 ระบุว่า พอใจมาก สำหรับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 36.41 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 26.26 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นเลย ร้อยละ 25.04 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อมั่น และร้อยละ 12.29 ระบุว่า เชื่อมั่นมาก ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานในแต่ละกระทรวงของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า กระทรวงสาธารณสุข ตัวอย่าง ร้อยละ 32.45 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.16 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 19.08 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 17.02 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.29 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตัวอย่าง ร้อยละ 32.14 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.25 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 17.02 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 15.04 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.55 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงพลังงาน ตัวอย่าง ร้อยละ 32.98 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 20.31 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 14.11 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 1.76 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการคลัง ตัวอย่าง ร้อยละ 33.82 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.79 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 22.75 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 13.59 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.05 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตัวอย่าง ร้อยละ 30.38 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.47 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 21.14 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 13.44 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 5.57 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตัวอย่าง ร้อยละ 32.29 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.39 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 18.70 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 13.21 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 6.41 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.48 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 20.46 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.98 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.24 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 29.92 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 28.55 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 18.09 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.52 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 10.92 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวอย่าง ร้อยละ 34.35 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 28.70 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 22.14 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.29 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.52 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงวัฒนธรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 31.53 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.54 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 17.94 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.29 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.70 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงศึกษาธิการ ตัวอย่าง ร้อยละ 35.04 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.08 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 19.08 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.29 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 3.51 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงมหาดไทย ตัวอย่าง ร้อยละ 36.03 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 26.26 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 24.27 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 11.91 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 1.53 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตัวอย่าง ร้อยละ 32.82 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.00 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 21.99 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 11.91 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 3.28 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงอุตสาหกรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 30.92 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 18.01 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 11.68 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.55 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงยุติธรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 32.90 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.02 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 24.50 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 11.53 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 4.05 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงคมนาคม ตัวอย่าง ร้อยละ 36.03 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.47 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 21.37 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.92 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.21 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตัวอย่าง ร้อยละ 33.44 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 31.00 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 19.69 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.76 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 5.11 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงแรงงาน ตัวอย่าง ร้อยละ 35.80 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 25.65 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 25.42 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.53 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.60 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงกลาโหม ตัวอย่าง ร้อยละ 36.56 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 28.63 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 21.60 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.31 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.90 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ ตัวอย่าง ร้อยละ 35.95 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 26.49 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 25.80 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 9.39 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.37 ระบุว่า ไม่มีข้อมูล
    จากการสำรวจนิด้าโพลเมื่อถามถึงความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 34.58 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 32.60 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 20.00 ระบุว่า ไม่พอใจเลย และร้อยละ 12.82 ระบุว่า พอใจมาก ด้านความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 32.60 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 31.76 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 22.28 ระบุว่า ไม่พอใจเลย และร้อยละ 13.36 ระบุว่า พอใจมาก สำหรับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 36.41 ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อมั่น รองลงมา ร้อยละ 26.26 ระบุว่า ไม่เชื่อมั่นเลย ร้อยละ 25.04 ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อมั่น และร้อยละ 12.29 ระบุว่า เชื่อมั่นมาก ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานในแต่ละกระทรวงของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า กระทรวงสาธารณสุข ตัวอย่าง ร้อยละ 32.45 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.16 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 19.08 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 17.02 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.29 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตัวอย่าง ร้อยละ 32.14 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.25 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 17.02 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 15.04 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.55 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงพลังงาน ตัวอย่าง ร้อยละ 32.98 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 20.31 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 14.11 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 1.76 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการคลัง ตัวอย่าง ร้อยละ 33.82 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.79 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 22.75 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 13.59 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.05 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตัวอย่าง ร้อยละ 30.38 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.47 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 21.14 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 13.44 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 5.57 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตัวอย่าง ร้อยละ 32.29 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.39 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 18.70 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 13.21 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 6.41 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.48 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 20.46 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.98 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.24 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 29.92 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 28.55 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 18.09 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.52 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 10.92 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวอย่าง ร้อยละ 34.35 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 28.70 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 22.14 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.29 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.52 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงวัฒนธรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 31.53 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.54 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 17.94 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.29 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.70 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงศึกษาธิการ ตัวอย่าง ร้อยละ 35.04 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.08 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 19.08 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 12.29 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 3.51 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงมหาดไทย ตัวอย่าง ร้อยละ 36.03 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 26.26 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 24.27 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 11.91 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 1.53 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตัวอย่าง ร้อยละ 32.82 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.00 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 21.99 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 11.91 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 3.28 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงอุตสาหกรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 30.92 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 30.84 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 18.01 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 11.68 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 8.55 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงยุติธรรม ตัวอย่าง ร้อยละ 32.90 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 27.02 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 24.50 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 11.53 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 4.05 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงคมนาคม ตัวอย่าง ร้อยละ 36.03 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 29.47 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 21.37 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.92 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.21 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตัวอย่าง ร้อยละ 33.44 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ รองลงมา ร้อยละ 31.00 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 19.69 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.76 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 5.11 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงแรงงาน ตัวอย่าง ร้อยละ 35.80 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 25.65 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 25.42 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.53 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.60 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงกลาโหม ตัวอย่าง ร้อยละ 36.56 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 28.63 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 21.60 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 10.31 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.90 ระบุว่า ไม่มีข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ ตัวอย่าง ร้อยละ 35.95 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 26.49 ระบุว่า ไม่พอใจเลย ร้อยละ 25.80 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 9.39 ระบุว่า พอใจมาก และร้อยละ 2.37 ระบุว่า ไม่มีข้อมูล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'พิชัย' เก้าอี้ยังมั่นคง ไร้สัญญาณปรับ ครม.ถล่มปัญหาสินค้าเกษตร
    .
    สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยเกิดความระส่ำเล็กน้อย ภายหลังมีความเคลื่อนไหวของส.ส.ที่ไม่พอใจกับการทำหน้าที่ของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ที่ไม่สามารถทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้นได้ จนเกิดความกังวลอาจส่งผลต่อฐานคะแนนเสียงของพรรค ในเรื่องนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ที่ผ่านมาพรรครับฟังความเห็นของส.ส.มาโดยตลอด
    .
    "ความจริงต้องทำควบคู่กันไป เวทีต่างประเทศก็สำคัญ เพราะมีการประชุมระดับทวิภาคี รวมถึงเวทีอื่นๆ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็มีบทบาทสำคัญ ทั้งนี้หากนายพิชัยไม่ได้เดินทางไปประชุมเวทีต่างประเทศ ก็น่าจะมีเวลามาฟังความเห็นของ ส.ส.ในพรรคได้ แต่เชื่อว่าไม่มีอะไร ไม่นานสถานการณ์ก็น่าจะดีขึ้น หน้าที่สำคัญของรัฐมนตรีอันดับแรกคือ พยายามปฎิบัติหน้าที่ในส่วนที่รับผิดชอบ ให้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล หากงานของตัวเองไปได้ดี ก็จะได้ผลตอบรับจากประชาชนดี" นายสุริยะ กล่าว
    .
    นายสุริยะ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่ายังไม่มีความคิดที่จะปรับคณะรัฐมนตรี ดังนั้นคนอื่นจะพูดอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ทั้งหมดอยู่ที่นายกฯ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการปรับครม. เพียงคนเดียวเท่านั้น
    .
    ด้าน นายพิชัย ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีเรียกเข้าพบเพื่อหารือถึงการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าทางเกษตร ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ภายในพรรคเพื่อไทย แต่ระบุว่าได้มีการหารือกับคนในพรรคเพื่อไทยบางส่วนแล้ว พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้กังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
    .
    ขณะที่ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระการพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่เพาะปลูกข้าว อันเนื่องมาจากราคาตกต่ำ ซึ่งมี สส.รัฐบาลและฝ่ายค้าน พร้อมใจกันเสนอญัตติรวม 7 ร่างโดยภายหลังการเสนอหลักการ ได้มีการเปิดให้ ส.ส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่โจมตีไปที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ซึ่งกำกับดูแลเรื่องข้าว โดยนายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า จากข่าวที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีว่าพี่น้องเกษตรกรชาวนาได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือราคาข้าวตกต่ำ และมีการชุมนุมปิดถนนเดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล ตนจะไม่พูดเรื่องตัวเลข เพราะตัวเลขมันเยอะเหลือเกิน ทุกคนทราบดีอยู่แล้วการ การแก้ปัญหาระยะสั้น เพราะฉะนั้น การที่กำลังประชุมกันใน คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ต้องเร่งด่วน
    .
    “ถ้าพูดเรื่องข้าว เราไม่เอ่ยถึงกระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ได้ เพราะกระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงที่มีรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าขาย เพราะฉะนั้น ถึงแม้จะเป็นพรรคเดียวกัน เป็นรัฐบาลด้วยกัน แต่ก็ต้องมีการติติง แม้กระทั่งในพรรคเพื่อไทยของตน ก็มีการได้คุยกันแล้ว วันนี้ทุกพรรคการเมืองก็เห็นพ้องต้องกัน รัฐบาลปฏิเสธความรับผิดชอบในเรื่องนี้ไม่ได้ ตัวแทนเกษตรกรไม่มีใน นบข.ทุกอย่างอยู่ในห้องแอร์ เขาก็ลงถนนสิ” นายธีระชัย กล่าว
    .
    นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า ไม่แปลกใจที่เห็นพี่น้องมาประท้วงกันในหลายจังหวัด พี่น้องเกษตรกรอยู่ไม่ไหวหรอกทำไมรัฐบาลเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงพาณิชย์ไม่มีมาตรการที่ชัดเจนออกมาที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรอย่างไรเลย อยากจะฝากถึงรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 กระทรวงหลัก กระทรวงพาณิชย์ , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการคลังให้ช่วยเร่งรัดในการออกมาตรการต่างๆ ที่จะมาช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในระยะสั้นเฉพาะหน้าตรงนี้
    ..............
    Sondhi X
    'พิชัย' เก้าอี้ยังมั่นคง ไร้สัญญาณปรับ ครม.ถล่มปัญหาสินค้าเกษตร . สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยเกิดความระส่ำเล็กน้อย ภายหลังมีความเคลื่อนไหวของส.ส.ที่ไม่พอใจกับการทำหน้าที่ของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ที่ไม่สามารถทำให้ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้นได้ จนเกิดความกังวลอาจส่งผลต่อฐานคะแนนเสียงของพรรค ในเรื่องนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ที่ผ่านมาพรรครับฟังความเห็นของส.ส.มาโดยตลอด . "ความจริงต้องทำควบคู่กันไป เวทีต่างประเทศก็สำคัญ เพราะมีการประชุมระดับทวิภาคี รวมถึงเวทีอื่นๆ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็มีบทบาทสำคัญ ทั้งนี้หากนายพิชัยไม่ได้เดินทางไปประชุมเวทีต่างประเทศ ก็น่าจะมีเวลามาฟังความเห็นของ ส.ส.ในพรรคได้ แต่เชื่อว่าไม่มีอะไร ไม่นานสถานการณ์ก็น่าจะดีขึ้น หน้าที่สำคัญของรัฐมนตรีอันดับแรกคือ พยายามปฎิบัติหน้าที่ในส่วนที่รับผิดชอบ ให้มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล หากงานของตัวเองไปได้ดี ก็จะได้ผลตอบรับจากประชาชนดี" นายสุริยะ กล่าว . นายสุริยะ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีบอกแล้วว่ายังไม่มีความคิดที่จะปรับคณะรัฐมนตรี ดังนั้นคนอื่นจะพูดอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ทั้งหมดอยู่ที่นายกฯ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการปรับครม. เพียงคนเดียวเท่านั้น . ด้าน นายพิชัย ซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีเรียกเข้าพบเพื่อหารือถึงการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าทางเกษตร ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ภายในพรรคเพื่อไทย แต่ระบุว่าได้มีการหารือกับคนในพรรคเพื่อไทยบางส่วนแล้ว พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้กังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น . ขณะที่ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระการพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่เพาะปลูกข้าว อันเนื่องมาจากราคาตกต่ำ ซึ่งมี สส.รัฐบาลและฝ่ายค้าน พร้อมใจกันเสนอญัตติรวม 7 ร่างโดยภายหลังการเสนอหลักการ ได้มีการเปิดให้ ส.ส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่โจมตีไปที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ซึ่งกำกับดูแลเรื่องข้าว โดยนายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า จากข่าวที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีว่าพี่น้องเกษตรกรชาวนาได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือราคาข้าวตกต่ำ และมีการชุมนุมปิดถนนเดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล ตนจะไม่พูดเรื่องตัวเลข เพราะตัวเลขมันเยอะเหลือเกิน ทุกคนทราบดีอยู่แล้วการ การแก้ปัญหาระยะสั้น เพราะฉะนั้น การที่กำลังประชุมกันใน คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ต้องเร่งด่วน . “ถ้าพูดเรื่องข้าว เราไม่เอ่ยถึงกระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ได้ เพราะกระทรวงพาณิชย์เป็นกระทรวงที่มีรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าขาย เพราะฉะนั้น ถึงแม้จะเป็นพรรคเดียวกัน เป็นรัฐบาลด้วยกัน แต่ก็ต้องมีการติติง แม้กระทั่งในพรรคเพื่อไทยของตน ก็มีการได้คุยกันแล้ว วันนี้ทุกพรรคการเมืองก็เห็นพ้องต้องกัน รัฐบาลปฏิเสธความรับผิดชอบในเรื่องนี้ไม่ได้ ตัวแทนเกษตรกรไม่มีใน นบข.ทุกอย่างอยู่ในห้องแอร์ เขาก็ลงถนนสิ” นายธีระชัย กล่าว . นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า ไม่แปลกใจที่เห็นพี่น้องมาประท้วงกันในหลายจังหวัด พี่น้องเกษตรกรอยู่ไม่ไหวหรอกทำไมรัฐบาลเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงพาณิชย์ไม่มีมาตรการที่ชัดเจนออกมาที่จะช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรอย่างไรเลย อยากจะฝากถึงรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 กระทรวงหลัก กระทรวงพาณิชย์ , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการคลังให้ช่วยเร่งรัดในการออกมาตรการต่างๆ ที่จะมาช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรในระยะสั้นเฉพาะหน้าตรงนี้ .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    Haha
    16
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2573 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทช.ติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำดักจับฝุ่น PM2.5 บริเวณถนนและสะพานทั่วกทม.สะพานพระราม 5 สะพานพระราม 7 สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สะพานซังฮี้ และสะพานภูมิพล 1, 2 พร้อมคุมเข้มพื้นที่ก่อสร้าง ฉีดพรมน้ำ ทำความสะอาด ขอประชาชน หยุดเผาหญ้า เผาขยะ

    นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหามลภาวะทางอากาศที่รุนแรงมากขึ้นจากฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวมีผลต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการตามมาตรการลดมลพิษทางอากาศ และรับมือฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่กระจายอยู่ปริมาณมาก เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ภายใต้แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000009767

    #MGROnline #เครื่องพ่นละอองน้ำ #ดักจับฝุ่น
    ทช.ติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้ำดักจับฝุ่น PM2.5 บริเวณถนนและสะพานทั่วกทม.สะพานพระราม 5 สะพานพระราม 7 สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า สะพานซังฮี้ และสะพานภูมิพล 1, 2 พร้อมคุมเข้มพื้นที่ก่อสร้าง ฉีดพรมน้ำ ทำความสะอาด ขอประชาชน หยุดเผาหญ้า เผาขยะ • นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหามลภาวะทางอากาศที่รุนแรงมากขึ้นจากฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวมีผลต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการตามมาตรการลดมลพิษทางอากาศ และรับมือฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่กระจายอยู่ปริมาณมาก เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ภายใต้แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000009767 • #MGROnline #เครื่องพ่นละอองน้ำ #ดักจับฝุ่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 680 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึกชิงนายก อบจ. ดุเดือดจนทักษิณยังหนาวหลัง
    ทักษิณ ชินวัตร ออกปากยอมรับ สนามเลือกตั้งนายกอบจ ศรีสะเกษ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ บ้านใหญ่ไตรสรณกุล สูสีกัน ทักษิณยอมรับความจริง เพราะแม้พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยจะกวาด สส. เกือบค่อนจังหวัด
    แต่เมื่อเจาะลงไปในสนามท้องถิ่นบ้านใหญ่ ไตรสรณกุล ได้ตําแหน่งมาหลายปีสร้างผลงานเอาไว้มากมาย ในขณะที่ผู้สมัครนายกอบจของพรรคเพื่อไทยอย่างเสี่ยปู๊วิวัฒน์ชัย เป็นพวกกระดูกคนละเบอร์กับแชมป์เก่าอย่างนายกส้มเกลี้ยง เทียบกันให้ชัดชัดสนามเลือกตั้งส.ส.ศรีสะเกษที่เพิ่งผ่านมา พรรคเพื่อไทยหอบส.ส.เข้าสภาเกือบจะยกจังหวัดตกอยู่ไม่กี่เขต
    แต่หนึ่งในนั้นมีเสี่ยปู๊รวมอยู่ด้วย กระแสพรรคเพื่อไทยในศรีสะเกษเมื่อก่อนมีมาก โดยเฉพาะแคมเปญไล่หนูตีงูเห่า ที่เล่นเอาภาคภูมิใจไทยช็อตปั่นแต้มไม่ขึ้นพรรคเพื่อไทยแทบไม่ต้องออกแรงมาก นักการเมืองที่นั่นพาเหรดกันเข้าวิน แต่เสี่ยปู๊ดันตกขบวนทั้งที่ทําตัวเป็นหัวโจกค่ายสีแดงในจังหวัดถึงขั้นต้องพิจารณากันว่าต้องไม่เอาอ่าวขนาดไหน ขนาดกระแสพรรคเพื่อไทยดีขนาดนี้แต่ดันสอบตก
    หลังการเลือกตั้งเสี่ยปู๊ เข้ามาสังกัดก๊ก สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม ท่อน้ําเลี้ยงนัมเบอร์วันของพรรคเพื่อไทยก่อนจะได้รับการปลอบใจให้มีตําแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
    พอได้อยู่กับท่อน้ําเลี้ยงแล้วคึกมีความหวัง กระแสไม่ได้ หันไปพึ่งกระสุนขอลงชิงชัยเก้าอี้นายก อบจ ศรีสะเกษ ดูสักตั้ง กระแสส่วนตัวในจังหวัดเป็นรองแต่ขอพึ่งบารมีทักษิณและสุริยะ เพื่อเข้าไปบริหารการเมืองท้องถิ่นดินแดนทุเรียนภูเขาไฟก็ยัง
    ยอมรับตรงๆว่าคะแนนสูสี ทั้งที่ความเป็นจริง ความนิยมในจังหวัดแชมป์เก่าเหนือกว่าหลายขุม ขณะที่นายกส้มเกลี้ยง เหนือกว่า เสี่ยปู๊ที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าพื้นเพเป็นคนอุบลราชธานีด้วยซ้ํา
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    ศึกชิงนายก อบจ. ดุเดือดจนทักษิณยังหนาวหลัง ทักษิณ ชินวัตร ออกปากยอมรับ สนามเลือกตั้งนายกอบจ ศรีสะเกษ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ บ้านใหญ่ไตรสรณกุล สูสีกัน ทักษิณยอมรับความจริง เพราะแม้พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยจะกวาด สส. เกือบค่อนจังหวัด แต่เมื่อเจาะลงไปในสนามท้องถิ่นบ้านใหญ่ ไตรสรณกุล ได้ตําแหน่งมาหลายปีสร้างผลงานเอาไว้มากมาย ในขณะที่ผู้สมัครนายกอบจของพรรคเพื่อไทยอย่างเสี่ยปู๊วิวัฒน์ชัย เป็นพวกกระดูกคนละเบอร์กับแชมป์เก่าอย่างนายกส้มเกลี้ยง เทียบกันให้ชัดชัดสนามเลือกตั้งส.ส.ศรีสะเกษที่เพิ่งผ่านมา พรรคเพื่อไทยหอบส.ส.เข้าสภาเกือบจะยกจังหวัดตกอยู่ไม่กี่เขต แต่หนึ่งในนั้นมีเสี่ยปู๊รวมอยู่ด้วย กระแสพรรคเพื่อไทยในศรีสะเกษเมื่อก่อนมีมาก โดยเฉพาะแคมเปญไล่หนูตีงูเห่า ที่เล่นเอาภาคภูมิใจไทยช็อตปั่นแต้มไม่ขึ้นพรรคเพื่อไทยแทบไม่ต้องออกแรงมาก นักการเมืองที่นั่นพาเหรดกันเข้าวิน แต่เสี่ยปู๊ดันตกขบวนทั้งที่ทําตัวเป็นหัวโจกค่ายสีแดงในจังหวัดถึงขั้นต้องพิจารณากันว่าต้องไม่เอาอ่าวขนาดไหน ขนาดกระแสพรรคเพื่อไทยดีขนาดนี้แต่ดันสอบตก หลังการเลือกตั้งเสี่ยปู๊ เข้ามาสังกัดก๊ก สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม ท่อน้ําเลี้ยงนัมเบอร์วันของพรรคเพื่อไทยก่อนจะได้รับการปลอบใจให้มีตําแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พอได้อยู่กับท่อน้ําเลี้ยงแล้วคึกมีความหวัง กระแสไม่ได้ หันไปพึ่งกระสุนขอลงชิงชัยเก้าอี้นายก อบจ ศรีสะเกษ ดูสักตั้ง กระแสส่วนตัวในจังหวัดเป็นรองแต่ขอพึ่งบารมีทักษิณและสุริยะ เพื่อเข้าไปบริหารการเมืองท้องถิ่นดินแดนทุเรียนภูเขาไฟก็ยัง ยอมรับตรงๆว่าคะแนนสูสี ทั้งที่ความเป็นจริง ความนิยมในจังหวัดแชมป์เก่าเหนือกว่าหลายขุม ขณะที่นายกส้มเกลี้ยง เหนือกว่า เสี่ยปู๊ที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าพื้นเพเป็นคนอุบลราชธานีด้วยซ้ํา ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 762 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เผยหลังประชุม ครม. ของบกลางแค่ 185 ล้าน จากที่จะขอ 329 ล้าน แจงชดเชยเฉพาะบีทีเอส-ขสมก. ส่วน รฟม. มีรายได้เป็นของตัวเองแล้วก็ให้รับภาระไป
    .
    วันนี้ (28 ม.ค.) จากกรณีที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าจะขออนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำเงินไปจ่ายชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถไฟฟ้า และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จากมาตรการให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า และรถเมล์ฟรี ระหว่างวันที่ 25-31 ม.ค. จากเดิมที่ระบุไว้ 140 ล้านบาท แต่ต้องเพิ่มเป็น 329.82 ล้านบาท เพราะการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขอกันงบประมาณไว้เพื่อใช้ในโครงการอื่นๆ เป็นจำนวน 144 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ขอเพิ่ม 51 ล้านบาท และเมื่อนำไปรวมกับเงินที่ต้องจ่ายชดเชยให้กับบริษัทบีทีเอส (BTS) จำนวน 133 ล้านบาท ทำให้กระทรวงคมนาคมต้องยื่นของบกลางเพิ่มขึ้น ตามที่ให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้วนั้น
    .
    ล่าสุด นายสุริยะ ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุม ครม. ว่า รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยให้ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 133.84 ล้านบาท และจ่ายชดเชยให้กับ ขสมก. จำนวน 51.7 ล้านบาท รวมเป็นจะเสนอจำนวนงบกลางทั้งสิ้น 185.54 ล้านบาท ส่วนเงินชดเชยที่จะจ่ายให้กับ รฟม. เดิมทีครั้งแรกกระทรวงฯ คาดว่าจะใช้งบกลางมาจ่ายชดเชย จำนวน 144 ล้านบาท แต่ถูกมองว่า รฟม. มีรายได้เป็นของตัวเอง ก็ให้ใช้งบประมาณของ รฟม. เอง
    .
    สาเหตุที่ต้องตัดงบประมาณตรงนี้ออก เพราะรัฐบาลต้องการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ หากหน่วยงานไหนที่มีรายได้เป็นของตัวเอง และมีเพียงพอ ก็ให้ใช้รายได้ของตัวเองไปก่อน ฉะนั้นเรื่องนี้ก็ให้ รฟม. รับภาระไป ส่วนจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5 แสนคน กระทรวงคมนาคมจะไปต่อรองกับผู้ประกอบการว่าจะไม่ชดเชยให้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนได้พูดคุยกับผู้ประกอบการแล้ว และผู้ประกอบการก็รับในหลักการดังกล่าว
    .
    เมื่อถามว่า บีทีเอสต้องการวางบิลที่ 200 ล้านบาท จะไม่ให้แล้วใช่หรือไม่ โดยจะจ่ายให้แค่ 133 ล้านบาท นายสุริยะกล่าวว่า คิดว่าบีทีเอสคงจะคิดตามข้อเท็จจริงที่ว่ามีผู้ใช้บริการเท่าใดก็จะเก็บเงินเท่านั้น แต่รัฐบาลจะจ่ายชดเชยตามตัวเลขที่เปิดให้บริการฟรี 7 วัน ซึ่งในหลักการเชื่อว่าไม่มีปัญหา
    .
    รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ในการประชุม ครม. วันนี้ ยังไม่มีการพิจารณางบกลางเพื่อชดเชยผู้ประกอบการรถไฟฟ้าและ ขสมก. แต่อย่างใด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..
    .........
    Sondhi X
    รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เผยหลังประชุม ครม. ของบกลางแค่ 185 ล้าน จากที่จะขอ 329 ล้าน แจงชดเชยเฉพาะบีทีเอส-ขสมก. ส่วน รฟม. มีรายได้เป็นของตัวเองแล้วก็ให้รับภาระไป . วันนี้ (28 ม.ค.) จากกรณีที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าจะขออนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำเงินไปจ่ายชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถไฟฟ้า และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จากมาตรการให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า และรถเมล์ฟรี ระหว่างวันที่ 25-31 ม.ค. จากเดิมที่ระบุไว้ 140 ล้านบาท แต่ต้องเพิ่มเป็น 329.82 ล้านบาท เพราะการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขอกันงบประมาณไว้เพื่อใช้ในโครงการอื่นๆ เป็นจำนวน 144 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่ขอเพิ่ม 51 ล้านบาท และเมื่อนำไปรวมกับเงินที่ต้องจ่ายชดเชยให้กับบริษัทบีทีเอส (BTS) จำนวน 133 ล้านบาท ทำให้กระทรวงคมนาคมต้องยื่นของบกลางเพิ่มขึ้น ตามที่ให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแล้วนั้น . ล่าสุด นายสุริยะ ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุม ครม. ว่า รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยให้ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 133.84 ล้านบาท และจ่ายชดเชยให้กับ ขสมก. จำนวน 51.7 ล้านบาท รวมเป็นจะเสนอจำนวนงบกลางทั้งสิ้น 185.54 ล้านบาท ส่วนเงินชดเชยที่จะจ่ายให้กับ รฟม. เดิมทีครั้งแรกกระทรวงฯ คาดว่าจะใช้งบกลางมาจ่ายชดเชย จำนวน 144 ล้านบาท แต่ถูกมองว่า รฟม. มีรายได้เป็นของตัวเอง ก็ให้ใช้งบประมาณของ รฟม. เอง . สาเหตุที่ต้องตัดงบประมาณตรงนี้ออก เพราะรัฐบาลต้องการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ หากหน่วยงานไหนที่มีรายได้เป็นของตัวเอง และมีเพียงพอ ก็ให้ใช้รายได้ของตัวเองไปก่อน ฉะนั้นเรื่องนี้ก็ให้ รฟม. รับภาระไป ส่วนจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5 แสนคน กระทรวงคมนาคมจะไปต่อรองกับผู้ประกอบการว่าจะไม่ชดเชยให้ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ตนได้พูดคุยกับผู้ประกอบการแล้ว และผู้ประกอบการก็รับในหลักการดังกล่าว . เมื่อถามว่า บีทีเอสต้องการวางบิลที่ 200 ล้านบาท จะไม่ให้แล้วใช่หรือไม่ โดยจะจ่ายให้แค่ 133 ล้านบาท นายสุริยะกล่าวว่า คิดว่าบีทีเอสคงจะคิดตามข้อเท็จจริงที่ว่ามีผู้ใช้บริการเท่าใดก็จะเก็บเงินเท่านั้น แต่รัฐบาลจะจ่ายชดเชยตามตัวเลขที่เปิดให้บริการฟรี 7 วัน ซึ่งในหลักการเชื่อว่าไม่มีปัญหา . รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ในการประชุม ครม. วันนี้ ยังไม่มีการพิจารณางบกลางเพื่อชดเชยผู้ประกอบการรถไฟฟ้าและ ขสมก. แต่อย่างใด . อ่านเพิ่มเติม.. ......... Sondhi X
    Like
    Angry
    Sad
    Love
    18
    5 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2079 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม เผยของบกลางชดเชยผู้ประกอบการเดินรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน งอกขึ้นจาก 140 ล้าน เป็น 329.82 ล้าน อ้าง รฟม. เปลี่ยนใจของบฯ ไว้ใช้โครงการอื่น ส่วน ขสมก. ขอเพิ่ม 51 ล้าน แต่ยังอ้างทำเพื่อประชาชน เพราะสุดท้ายก็เป็นเงินของรัฐอยู่ดี
    .
    วันนี้ (28 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม กล่าวถึงการของบกลาง 140 ล้านบาท เพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำเงินไปจ่ายชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถไฟฟ้า และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จากมาตรการให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า และรถเมล์ฟรี ระหว่างวันที่ 25-31 ม.ค. ว่า หลังจากเปิดให้บริการฟรี 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. มีประชาชนใช้บริการในมาตรการดังกล่าว ประมาณ 500,000 คน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขเดิม 45 ถึง 60% โดยเฉพาะใน 2 วันที่ผ่านมา
    .
    ส่วนที่มีหลายฝ่ายท้วงติงว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นไม่ได้มาจากผู้ใช้รถยนต์นั้น นายสุริยะ กล่าวว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ประเมินตัวเลขจากกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งใน กทม. มีการใช้รถใช้ถนนประมาณวันละ 10 ล้านคัน เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลครึ่งหนึ่ง ประมาณ 5 ล้านคัน 10 และพบว่า จากมาตรการดังกล่าว มีการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลลดลง 10% หรือประมาณ 5 แสนคัน
    .
    สำหรับงบกลาง ที่กระทรวงคมนาคมจะขออนุมัติจากที่ประชุม ครม. จากเดิมที่ระบุไว้ 140 ล้านบาท แต่ต้องเพิ่มเป็น 329.82 ล้านบาท เนื่องจากเดิม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไม่ของบประมาณไว้ แต่ภายหลัง รฟม. แจ้งว่าจะขอกันงบประมาณไว้เพื่อใช้ในโครงการอื่นๆ เป็นจำนวน 144 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับ ขสมก. ที่ขอเพิ่ม 51 ล้านบาท และเมื่อนำไปรวมกับเงินที่ต้องจ่ายชดเชยให้กับบริษัทบีทีเอส (BTS) จำนวน 133 ล้านบาท ทำให้กระทรวงคมนาคมต้องยื่นของบกลางเพิ่มขึ้น
    .
    เมื่อถามว่าผู้บริหารรถไฟฟ้าบีทีเอส ระบุว่า ในส่วนของบริษัทฯ มีการประเมินเงินชดเชยจากมาตรการของรัฐบาลอยู่ที่ 200 ล้านบาทนั้น นายสุริยะ ระบุว่า นี่เป็นตัวเลขที่บีทีเอสคิดย้อนหลังไป 7 วัน แต่รัฐบาลจะชดเชย 7 วันที่ออกมาตรการ คือ 25 – 31 ม.ค. 2568 ถามว่าบริษัทบีทีเอสได้วางบิลที่กระทรวงคมนาคมแล้วหรือยัง นายสุริยะ ระบุว่า ยังไม่ได้วางบิล เพราะต้องรอให้ครบกำหนด 7 วัน
    .
    เมื่อถามว่ามีแนวโน้มจะขยายมาตรการดังกล่าวอีกหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ขอประเมินสถานการณ์ให้รอบด้าน ส่วนที่ว่ามีความกังวลหรือไม่ จากที่เคยขอ 140 ล้านบาท ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์แล้ว แต่ตัวเลขจริงพุ่งสูงถึง 329 ล้านบาท นายสุริยะ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้คือการทำเพื่อประชาชน เพราะตัวเลข 140 ล้านบาท ยังไม่รวมกับรถเมล์ ขสมก. แต่สุดท้ายไม่ว่าจะเป็น เงินของ ขสมก. หรืองบกลางของรัฐบาล ก็ถือว่าเป็นงบประมาณของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ย้ำว่ารัฐบาลมีเพดานในการจ่ายเงินชดเชยไม่ให้เกิน 329 ล้านบาท
    .
    เมื่อถามว่า มาตรการครั้งหน้า หากมีการดำเนินการอีกจะมีการขอความร่วมมือภาคเอกชนให้บริการฟรีหรือไม่ นายสุริยะ ความจริงรัฐบาลสามารถขอความร่วมมือจากภาคเอกชนได้ แต่ภาคเอกชนก็มีการลงทุน ตัวเลขผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ถ้าคิดแบบจำนวนเต็มรัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชยเยอะกว่านี้อีก ซึ่งรัฐบาลขอแค่ 7 วัน เยอะกว่านี้จะไม่เพิ่มให้ ถามว่าที่ประชุม ครม. จะเห็นชอบงบกลางหรือไม่ หลังจากของบเพิ่มขึ้น นายสุริยะ ระบุว่า ต้องอธิบายว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็นของ รฟม. จากเดิมที่จะให้ รฟม. รับผิดชอบ ซึ่งขอย้ำว่า สุดท้ายแล้วก็เป็นเงินของรัฐบาลอยู่ดี.
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008789
    .........
    Sondhi X
    รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม เผยของบกลางชดเชยผู้ประกอบการเดินรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน งอกขึ้นจาก 140 ล้าน เป็น 329.82 ล้าน อ้าง รฟม. เปลี่ยนใจของบฯ ไว้ใช้โครงการอื่น ส่วน ขสมก. ขอเพิ่ม 51 ล้าน แต่ยังอ้างทำเพื่อประชาชน เพราะสุดท้ายก็เป็นเงินของรัฐอยู่ดี . วันนี้ (28 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม กล่าวถึงการของบกลาง 140 ล้านบาท เพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำเงินไปจ่ายชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถไฟฟ้า และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จากมาตรการให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า และรถเมล์ฟรี ระหว่างวันที่ 25-31 ม.ค. ว่า หลังจากเปิดให้บริการฟรี 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. มีประชาชนใช้บริการในมาตรการดังกล่าว ประมาณ 500,000 คน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขเดิม 45 ถึง 60% โดยเฉพาะใน 2 วันที่ผ่านมา . ส่วนที่มีหลายฝ่ายท้วงติงว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นไม่ได้มาจากผู้ใช้รถยนต์นั้น นายสุริยะ กล่าวว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ประเมินตัวเลขจากกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งใน กทม. มีการใช้รถใช้ถนนประมาณวันละ 10 ล้านคัน เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลครึ่งหนึ่ง ประมาณ 5 ล้านคัน 10 และพบว่า จากมาตรการดังกล่าว มีการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลลดลง 10% หรือประมาณ 5 แสนคัน . สำหรับงบกลาง ที่กระทรวงคมนาคมจะขออนุมัติจากที่ประชุม ครม. จากเดิมที่ระบุไว้ 140 ล้านบาท แต่ต้องเพิ่มเป็น 329.82 ล้านบาท เนื่องจากเดิม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไม่ของบประมาณไว้ แต่ภายหลัง รฟม. แจ้งว่าจะขอกันงบประมาณไว้เพื่อใช้ในโครงการอื่นๆ เป็นจำนวน 144 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับ ขสมก. ที่ขอเพิ่ม 51 ล้านบาท และเมื่อนำไปรวมกับเงินที่ต้องจ่ายชดเชยให้กับบริษัทบีทีเอส (BTS) จำนวน 133 ล้านบาท ทำให้กระทรวงคมนาคมต้องยื่นของบกลางเพิ่มขึ้น . เมื่อถามว่าผู้บริหารรถไฟฟ้าบีทีเอส ระบุว่า ในส่วนของบริษัทฯ มีการประเมินเงินชดเชยจากมาตรการของรัฐบาลอยู่ที่ 200 ล้านบาทนั้น นายสุริยะ ระบุว่า นี่เป็นตัวเลขที่บีทีเอสคิดย้อนหลังไป 7 วัน แต่รัฐบาลจะชดเชย 7 วันที่ออกมาตรการ คือ 25 – 31 ม.ค. 2568 ถามว่าบริษัทบีทีเอสได้วางบิลที่กระทรวงคมนาคมแล้วหรือยัง นายสุริยะ ระบุว่า ยังไม่ได้วางบิล เพราะต้องรอให้ครบกำหนด 7 วัน . เมื่อถามว่ามีแนวโน้มจะขยายมาตรการดังกล่าวอีกหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ขอประเมินสถานการณ์ให้รอบด้าน ส่วนที่ว่ามีความกังวลหรือไม่ จากที่เคยขอ 140 ล้านบาท ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์แล้ว แต่ตัวเลขจริงพุ่งสูงถึง 329 ล้านบาท นายสุริยะ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้คือการทำเพื่อประชาชน เพราะตัวเลข 140 ล้านบาท ยังไม่รวมกับรถเมล์ ขสมก. แต่สุดท้ายไม่ว่าจะเป็น เงินของ ขสมก. หรืองบกลางของรัฐบาล ก็ถือว่าเป็นงบประมาณของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ย้ำว่ารัฐบาลมีเพดานในการจ่ายเงินชดเชยไม่ให้เกิน 329 ล้านบาท . เมื่อถามว่า มาตรการครั้งหน้า หากมีการดำเนินการอีกจะมีการขอความร่วมมือภาคเอกชนให้บริการฟรีหรือไม่ นายสุริยะ ความจริงรัฐบาลสามารถขอความร่วมมือจากภาคเอกชนได้ แต่ภาคเอกชนก็มีการลงทุน ตัวเลขผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ถ้าคิดแบบจำนวนเต็มรัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชยเยอะกว่านี้อีก ซึ่งรัฐบาลขอแค่ 7 วัน เยอะกว่านี้จะไม่เพิ่มให้ ถามว่าที่ประชุม ครม. จะเห็นชอบงบกลางหรือไม่ หลังจากของบเพิ่มขึ้น นายสุริยะ ระบุว่า ต้องอธิบายว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเป็นของ รฟม. จากเดิมที่จะให้ รฟม. รับผิดชอบ ซึ่งขอย้ำว่า สุดท้ายแล้วก็เป็นเงินของรัฐบาลอยู่ดี. . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008789 ......... Sondhi X
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1649 มุมมอง 0 รีวิว
  • สส.เพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาล เคลมค่าฝุ่นดีขึ้น เพราะนโยบายขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน มีประชาชนใช้รถสาธารณะมากขึ้น ส่วนที่ สว.วิจารณ์บริหารประเทศไร้เดียงสา บอกมาเลยว่าจะให้แก้อย่างไร ไม่ใช่สร้างแต่วาทกรรมด่ากัน
    .
    วันนี้ (27 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ของรัฐบาล ว่า วันนี้ค่าฝุ่นดีขึ้น เนื่องจากกระทรวงคมนาคมออกนโยบายขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน มีประชาชนใช้รถสาธารณะมากขึ้น มีการประสานงานให้ชะลอการก่อสร้างบางส่วนที่เกิดมลพิษในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ส่วนทางต่างจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดมีการขอความร่วมมือลดการเผา และงดการซื้ออ้อยเผาไหม้ ตนเชื่อว่าขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้น
    .
    เมื่อถามถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มองว่ามาตรการของรัฐบาลอาจจะไม่ดีพอในการแก้ไขปัญหา เหมือนคนไทยต้องเผชิญชะตากรรมกับการบริหารประเทศอย่างไร้เดียงสา นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ไร้เดียงสา สว. ที่มีความรู้บอกมาเลยว่าจะให้แก้อย่างไร เสนอะแนะรัฐบาลได้ เป็นนักการเมืองไม่ใช่มาสร้างแต่วาทกรรมด่ากัน ตอนนี้รัฐบาลก็แก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดในประเทศไทยเท่านั้น จะให้แก้ไขอะไรก็พูดจากันดีๆ ใช้วาจาด้อยค่าไม่เหมาะสมที่จะเป็นนักการเมือง
    .
    “มีอะไรก็บอกได้ไม่กล้าบอกรัฐบาลมาบอกผม ผมจะไปรับฟัง วุฒิคนไหนล่ะไปว่ารัฐบาลไร้เดียงสา แบบนี้ไม่ใช่นักการเมืองที่ดี” นายวิสุทธิ์ กล่าว
    .
    ส่วนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งรัดอยู่ ตนตามมาตลอด วันนี้อย่ามอบแต่รัฐบาลแก้ไขเพียงอย่างเดียว ประชาชนทั้งประเทศต้องมีส่วนช่วยกัน ต้องมีการตักเตือนกัน ส่วนที่มีภาพประชาชนเซลฟี่ภาพเผาอ้อยลงโซเชียลนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็โดนจับไปแล้ว ใครเผาก็โดนจับ เพราะฉะนั้นประชาชนควรตรวจดูใครเผาหญ้าเผาป่าช่วงนี้ต้องแจ้งไปทางอำเภอ เจ้าหน้าที่พร้อมดำเนินการอยู่แล้ว และเมื่อถามถึงปัญหาฝุ่นควันข้ามแดน นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหาแนวทางในการเจรจาเพื่อลดการเผาอยู่
    .
    ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางราง ระบุว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของมาตรการขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน พบว่ามีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 1,634,446 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นถึง 45.29% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันเสาร์ในสามสัปดาห์ของเดือน ม.ค. 2568 ขณะที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ระบุว่า มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 175,974 คน หรือเพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับวันเสาร์ที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008543
    .........
    Sondhi X
    สส.เพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาล เคลมค่าฝุ่นดีขึ้น เพราะนโยบายขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน มีประชาชนใช้รถสาธารณะมากขึ้น ส่วนที่ สว.วิจารณ์บริหารประเทศไร้เดียงสา บอกมาเลยว่าจะให้แก้อย่างไร ไม่ใช่สร้างแต่วาทกรรมด่ากัน . วันนี้ (27 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ของรัฐบาล ว่า วันนี้ค่าฝุ่นดีขึ้น เนื่องจากกระทรวงคมนาคมออกนโยบายขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน มีประชาชนใช้รถสาธารณะมากขึ้น มีการประสานงานให้ชะลอการก่อสร้างบางส่วนที่เกิดมลพิษในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ส่วนทางต่างจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดมีการขอความร่วมมือลดการเผา และงดการซื้ออ้อยเผาไหม้ ตนเชื่อว่าขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้น . เมื่อถามถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) มองว่ามาตรการของรัฐบาลอาจจะไม่ดีพอในการแก้ไขปัญหา เหมือนคนไทยต้องเผชิญชะตากรรมกับการบริหารประเทศอย่างไร้เดียงสา นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ไร้เดียงสา สว. ที่มีความรู้บอกมาเลยว่าจะให้แก้อย่างไร เสนอะแนะรัฐบาลได้ เป็นนักการเมืองไม่ใช่มาสร้างแต่วาทกรรมด่ากัน ตอนนี้รัฐบาลก็แก้ปัญหาอย่างเต็มที่ ปัญหาดังกล่าวไม่ได้เกิดในประเทศไทยเท่านั้น จะให้แก้ไขอะไรก็พูดจากันดีๆ ใช้วาจาด้อยค่าไม่เหมาะสมที่จะเป็นนักการเมือง . “มีอะไรก็บอกได้ไม่กล้าบอกรัฐบาลมาบอกผม ผมจะไปรับฟัง วุฒิคนไหนล่ะไปว่ารัฐบาลไร้เดียงสา แบบนี้ไม่ใช่นักการเมืองที่ดี” นายวิสุทธิ์ กล่าว . ส่วนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งรัดอยู่ ตนตามมาตลอด วันนี้อย่ามอบแต่รัฐบาลแก้ไขเพียงอย่างเดียว ประชาชนทั้งประเทศต้องมีส่วนช่วยกัน ต้องมีการตักเตือนกัน ส่วนที่มีภาพประชาชนเซลฟี่ภาพเผาอ้อยลงโซเชียลนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็โดนจับไปแล้ว ใครเผาก็โดนจับ เพราะฉะนั้นประชาชนควรตรวจดูใครเผาหญ้าเผาป่าช่วงนี้ต้องแจ้งไปทางอำเภอ เจ้าหน้าที่พร้อมดำเนินการอยู่แล้ว และเมื่อถามถึงปัญหาฝุ่นควันข้ามแดน นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ประสานกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหาแนวทางในการเจรจาเพื่อลดการเผาอยู่ . ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางราง ระบุว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของมาตรการขึ้นรถไฟฟ้าและรถเมล์ฟรี 7 วัน พบว่ามีผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 1,634,446 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้นถึง 45.29% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันเสาร์ในสามสัปดาห์ของเดือน ม.ค. 2568 ขณะที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ระบุว่า มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 175,974 คน หรือเพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับวันเสาร์ที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008543 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    Love
    18
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1790 มุมมอง 0 รีวิว

  • “บ้านเพื่อคนไทย”ยอดทะลัก “นายกฯ”กดปุ่มเปิดตัว แค่ 3 ชั่วโมงครึ่งประชาชนแห่ลงทะเบียนผ่านเวป ถึง 23 ล้านคน “สุริยะ”เผนหลังตรวจคุณสมบัติยังเกิน ให้กองสลากกำหนดวิธีจับสลาก ย้ำเป้าหมายก่อนหมดวาระรัฐบาลเพื่อไทย ปี70จะให้มีบ้านเพื่อคนไทยจำนวน 3 แสนยูนิต

    นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทย ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยรอบพื้นที่สถานีรถไฟที่มีศักยภาพ โดยเปิดโครงการนำร่อง 4 พื้นที่ ได้แก่ บางซื่อ กม.11, ธนบุรี ,เชียงราก, เชียงใหม่ สำหรับผู้สนใจต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นตามที่กำหนด เมื่อปิดลงทะเบียนแล้ว ตามกระบวนการจะส่งข้อมูลทั้งหมด ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ตรวจสอบคุณสมบัติ เมื่อได้ผู้ผ่านคุณสมบัติแล้วหากจำนวนเกินก็จะให้กองสลากฯ สุ่มเหมือนออกล็อตเตอรี จะหาวิธีการ แรนดอม หรือจับสลาก ส่วน กรรมสิทธิ์อยู่ได้ถึง 99 ปี แต่เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายให้ที่ 30 ปี บวก 30 ปี ซึ่งจะมีการแก้ไขกฎหมายให้เป็น 99 ปี ต่อไป

    สำหรับพื้นที่บางซื่อ กม.11 นั้น เริ่มต้นจะมีประมาณ 1,700 ห้อง คาดว่าจะมีประมาณ 5 อาคาร รวมประมาณ เกือบ 10,000 ห้อง แต่หากมีความต้องการเพิ่มจะปรับขยายเป็นอาคาร 45 ชั้นได้ โดยเป้าหมายรัฐบาลก่อนหมดวาระพรรคเพื่อไทยในปี2570จะให้มีบ้านเพื่อคนไทยจำนวน 300,000 ยูนิต

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000005308

    #MGROnline #บ้านเพื่อคนไทย
    “บ้านเพื่อคนไทย”ยอดทะลัก “นายกฯ”กดปุ่มเปิดตัว แค่ 3 ชั่วโมงครึ่งประชาชนแห่ลงทะเบียนผ่านเวป ถึง 23 ล้านคน “สุริยะ”เผนหลังตรวจคุณสมบัติยังเกิน ให้กองสลากกำหนดวิธีจับสลาก ย้ำเป้าหมายก่อนหมดวาระรัฐบาลเพื่อไทย ปี70จะให้มีบ้านเพื่อคนไทยจำนวน 3 แสนยูนิต • นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการบ้านเพื่อคนไทย ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยรอบพื้นที่สถานีรถไฟที่มีศักยภาพ โดยเปิดโครงการนำร่อง 4 พื้นที่ ได้แก่ บางซื่อ กม.11, ธนบุรี ,เชียงราก, เชียงใหม่ สำหรับผู้สนใจต้องมีคุณสมบัติเบื้องต้นตามที่กำหนด เมื่อปิดลงทะเบียนแล้ว ตามกระบวนการจะส่งข้อมูลทั้งหมด ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ตรวจสอบคุณสมบัติ เมื่อได้ผู้ผ่านคุณสมบัติแล้วหากจำนวนเกินก็จะให้กองสลากฯ สุ่มเหมือนออกล็อตเตอรี จะหาวิธีการ แรนดอม หรือจับสลาก ส่วน กรรมสิทธิ์อยู่ได้ถึง 99 ปี แต่เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายให้ที่ 30 ปี บวก 30 ปี ซึ่งจะมีการแก้ไขกฎหมายให้เป็น 99 ปี ต่อไป • สำหรับพื้นที่บางซื่อ กม.11 นั้น เริ่มต้นจะมีประมาณ 1,700 ห้อง คาดว่าจะมีประมาณ 5 อาคาร รวมประมาณ เกือบ 10,000 ห้อง แต่หากมีความต้องการเพิ่มจะปรับขยายเป็นอาคาร 45 ชั้นได้ โดยเป้าหมายรัฐบาลก่อนหมดวาระพรรคเพื่อไทยในปี2570จะให้มีบ้านเพื่อคนไทยจำนวน 300,000 ยูนิต • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000005308 • #MGROnline #บ้านเพื่อคนไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 508 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧐🧐🧐
    กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้รายงานว่า เครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน (Cockpit Voice Recorder - CVR) และกล่องบันทึกการบิน หรือ Flight Data Recorder (FDR / black box) ของสายการบินเชจู แอร์ (Jeju Air) เที่ยวบิน 2216 ซึ่งตกที่สนามบินมูอันของเกาหลีใต้เมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หยุดบันทึกข้อมูลนานถึง 4 นาที ก่อนที่เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 จะตก

    จนถึงขณะนี้ ยังไม่ทราบว่าเหตุใดเครื่องจึงหยุดบันทึกไป กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ระบุ
    🧐🧐🧐 กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้รายงานว่า เครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน (Cockpit Voice Recorder - CVR) และกล่องบันทึกการบิน หรือ Flight Data Recorder (FDR / black box) ของสายการบินเชจู แอร์ (Jeju Air) เที่ยวบิน 2216 ซึ่งตกที่สนามบินมูอันของเกาหลีใต้เมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หยุดบันทึกข้อมูลนานถึง 4 นาที ก่อนที่เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 จะตก จนถึงขณะนี้ ยังไม่ทราบว่าเหตุใดเครื่องจึงหยุดบันทึกไป กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ระบุ
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยื่นซักฟอกรัฐบาล หลังวาเลนไทน์ 'สุริยะ' จ่อโดนด้วย
    .
    หนึ่งในไฮไลต์ของการเมืองที่้หลายฝ่ายต่างจับตา คือ การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคประชาชน ซึ่งจะเป็นศึกใหญ่ครั้งสำคัญของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเรื่องนี้ทางพรรคประชาชนประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่าจะมีการยื่นญัตติดังกล่าวอย่างแน่นอน
    .
    นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยว่า ขอให้จับตาว่าถ้าหมดห้วงเวลาแห่งความรักในช่วง วันที่ 14 ก.พ.เมื่อไหร่ ก็จะเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งความจริงอันโหดร้ายของรัฐบาล เมื่อนั้นก็ส่งสัญญาณถึงรัฐบาลว่าความผิดสำเร็จแล้ว ทำอะไรก็ไม่ทัน รัฐบาลทำใจเถอะ
    .
    “มีเรื่องของกระทรวงคมนาคมด้วย ให้ปักธงเลยว่าอย่าคิดว่านามสกุลจึงรุ่งเรืองกิจแล้วจะรอด แล้วจะไม่โดน แต่จะโดนหนักกว่าใครด้วย ทำอะไรไว้รู้อยู่แก่ใจ ไม่ใช่คิดว่านามสกุลจึงรุ่งเรืองกิจ แล้วจะปลอดภัย" นายวิโรจน์ กล่าวยืนยัน
    .
    นายวิโรจน์ ระบุอีกว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้สัญญาทำนองว่าในปี2568 ชีวิตประชาชนจะดีขึ้นนั้น ขออำนวยอวยพรให้มันเป็นอย่างที่นายกพูดจริงๆสักทีเหมือนกัน เพราะประชาชนก็รอมานานแล้ว พูดมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกิน มีใช้ ตั้งแต่ตอนหาเสียง แต่มันก็ไม่เป็นจริงสักครั้ง ส่วนเรื่องปัญหาค่าไฟ ไม่แก้ที่ต้นตอ ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นกฎหมายที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่ำๆจะออก ก็ยังไม่ออกสักที ยังไม่รู้ว่าออกกฎหมายมาแล้ว การบังคับใช้กฎหมาย จะมีประสิทธิภาพแค่ไหน รวมถึงการปราบยาเสพติด ยาบ้ายังราคาถูก ถ้าปราบได้จริงยาบ้าต้องแพงขึ้นตามกลไกตลาด วันนี้ยาบ้า ก็ยังหาง่าย และราคาถูกอยู่เหมือนเดิม การปราบยาก็ยังเป็นแค่ภาพลวงตา
    ..............
    Sondhi X
    ยื่นซักฟอกรัฐบาล หลังวาเลนไทน์ 'สุริยะ' จ่อโดนด้วย . หนึ่งในไฮไลต์ของการเมืองที่้หลายฝ่ายต่างจับตา คือ การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคประชาชน ซึ่งจะเป็นศึกใหญ่ครั้งสำคัญของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเรื่องนี้ทางพรรคประชาชนประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่าจะมีการยื่นญัตติดังกล่าวอย่างแน่นอน . นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยว่า ขอให้จับตาว่าถ้าหมดห้วงเวลาแห่งความรักในช่วง วันที่ 14 ก.พ.เมื่อไหร่ ก็จะเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งความจริงอันโหดร้ายของรัฐบาล เมื่อนั้นก็ส่งสัญญาณถึงรัฐบาลว่าความผิดสำเร็จแล้ว ทำอะไรก็ไม่ทัน รัฐบาลทำใจเถอะ . “มีเรื่องของกระทรวงคมนาคมด้วย ให้ปักธงเลยว่าอย่าคิดว่านามสกุลจึงรุ่งเรืองกิจแล้วจะรอด แล้วจะไม่โดน แต่จะโดนหนักกว่าใครด้วย ทำอะไรไว้รู้อยู่แก่ใจ ไม่ใช่คิดว่านามสกุลจึงรุ่งเรืองกิจ แล้วจะปลอดภัย" นายวิโรจน์ กล่าวยืนยัน . นายวิโรจน์ ระบุอีกว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้สัญญาทำนองว่าในปี2568 ชีวิตประชาชนจะดีขึ้นนั้น ขออำนวยอวยพรให้มันเป็นอย่างที่นายกพูดจริงๆสักทีเหมือนกัน เพราะประชาชนก็รอมานานแล้ว พูดมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกิน มีใช้ ตั้งแต่ตอนหาเสียง แต่มันก็ไม่เป็นจริงสักครั้ง ส่วนเรื่องปัญหาค่าไฟ ไม่แก้ที่ต้นตอ ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นกฎหมายที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่ำๆจะออก ก็ยังไม่ออกสักที ยังไม่รู้ว่าออกกฎหมายมาแล้ว การบังคับใช้กฎหมาย จะมีประสิทธิภาพแค่ไหน รวมถึงการปราบยาเสพติด ยาบ้ายังราคาถูก ถ้าปราบได้จริงยาบ้าต้องแพงขึ้นตามกลไกตลาด วันนี้ยาบ้า ก็ยังหาง่าย และราคาถูกอยู่เหมือนเดิม การปราบยาก็ยังเป็นแค่ภาพลวงตา .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    10
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1623 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจเกาหลีใต้บุกค้นสำนักงานของสายการบินเชจู แอร์ บริษัทผู้บริหารจัดการท่าอากาศยานมูอัน รวมถึงสำนักงานการบินพลเรือนประจำภูมิภาคของกระทรวงคมนาคม โดยเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมเครื่องบินเชจู แอร์เมื่อช่วงสิ้นปีที่มีผู้เสียชีวิตถึง 179 คน และเป็นอุบัติเหตุการบินครั้งเลวร้ายที่สุดของเกาหลีใต้
    .
    เที่ยวบิน 2216 ของเชจู แอร์ ที่ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในกรุงเทพฯ มุ่งหน้าเมืองมูอัน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ประสบอุบัติเหตุขณะลงจอดเนื่องจากล้อไม่กาง ทำให้ส่วนท้องเครื่องบินไถลไปตามรันเวย์และชนกับแผงคอนกรีตที่สุดรันเวย์ก่อนระเบิดพร้อมกับเกิดเพลิงลุกท่วมเมื่อวันอาทิตย์ (29 ธ.ค.) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 179 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 2 คน จากผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 181 คน
    .
    กล่องดำทั้ง 2 กล่องของเที่ยวบินนี้ถูกค้นพบเก็บกู้มาได้แล้ว และจู จองวาน รัฐมนตรีช่วยคมนาคมฝ่ายการบินพลเรือน แถลงในวันพฤหัสฯ (2) ว่า การแปลงข้อมูลจากกล่องดำที่เป็นอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบิน ให้เป็นไฟล์เสียงนั้นเสร็จสิ้นแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนกล่องดำอีกกล่องหนึ่งที่เป็นบันทึกข้อมูลการบิน ซึ่งปรากฏว่าได้รับความเสียหายนั้น ได้จัดส่งไปให้ทางอเมริกาช่วยวิเคราะห์แล้ว
    .
    วันเดียวกันนั้น ตำรวจจังหวัดชอลลาแถลงว่า ได้ยกกำลังเข้าค้นสำนักงานบริษัทผู้ดำเนินการท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ซึ่งเป็นจุดที่เที่ยวบิน 2216 ของเชจู แอร์ประสบอุบัติเหตุ สำนักงานการบินพลเรือนประจำภูมิภาคของกระทรวงคมนาคมในเมืองมูอัน และสำนักงานของเชจู แอร์ในกรุงโซล เพื่อยึดเอกสารและหลักฐานเกี่ยวกับการปฏิบัติงานและการซ่อมบำรุงเครื่องบิน ตลอดจนถึงการดำเนินการเกี่ยวกับสิ่งอำนวยสะดวกต่างๆ ภายในสนามบิน
    .
    สำนักข่าวยอนฮัปรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ว่า การเข้าตรวจค้นคราวนี้ใช้หมายค้นซึ่งได้รับอนุมัติโดยอิงกับข้อกล่าวหาว่ามีการประมาทเลินเล่อของผู้ประกอบวิชาชีพจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต
    .
    เวลาเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศหลายคนซึ่งตั้งคำถามเกี่ยวกับสาเหตุของการระเบิดของเครื่องบิน กำลังพุ่งความสนใจไปที่การถมคันทางที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเสาสัญญาณบอกตำแหน่งแนวกึ่งกลางรันเวย์ที่ใช้นำทางในการลงจอด โดยที่ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นระบุว่า อยู่ใกล้ปลายรันเวย์มากเกินไป
    .
    นัจเมดิน เมชเกติ ศาสตราจารย์วิศวกรรมของมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ชี้ว่า โครงสร้างตายตัวของเสาสัญญาณดังกล่าวถูกพิสูจน์แล้วว่ามีอันตราย เมื่อเครื่องบินไถลเข้าชน และเสริมว่า เสาสัญญาณนำทางของสนามบินมูอันมีแนวโน้มว่า ติดตั้งอยู่บนโครงสร้างคอนกรีตแทนที่จะเป็นเสาหรือหอโลหะตามมาตรฐานทั่วไป
    .
    ขณะที่รัฐมนตรีช่วยจู บอกว่า กระทรวงคมนาคมกำลังตรวจสอบอุปกรณ์ระบุตำแหน่งแนวกึ่งกลางรันเวย์ในสนามบินทั่วประเทศ
    .
    การสอบสวนเหตุโศกนาฏกรรมเที่ยวบินเชจู แอร์ ที่ดำเนินกันอยู่ในขณะนี้ นอกจากทางฝ่ายเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้แล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติของอเมริกา (เอ็นทีเอสบี) สำนักงานการบินกลางของรัฐบาลสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) และตัวแทนจากบริษัทโบอิ้งร่วมตรวจสอบด้วย
    .
    นอกจากนั้น เกาหลีใต้ยังประกาศตรวจสอบเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ทุกลำที่ดำเนินการโดยสายการบินของเกาหลีใต้ โดยเน้นที่ชุดฐานล้อที่ดูเหมือนขัดข้องระหว่างเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันอาทิตย์
    .
    ชอย ซังม็อก รักษาการประธานาธิบดี แถลงเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า ต้องเร่งดำเนินการทันที หากการตรวจสอบดังกล่าวพบปัญหาใดๆ นอกจากนั้น กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องตรวจสอบการซ่อมบำรุงอย่างละเอียด รวมทั้งให้ความรู้และการฝึกอบรมอย่างเหมาะสม
    .
    ก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยว่าสายการบิน 6 แห่งของเกาหลีใต้ใช้เครื่องโบอิ้ง 737-800 รวมทั้งสิ้น 101 ลำ
    .
    ชอยยังขอให้ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ รวมทั้งขอให้ตำรวจดำเนินการกับผู้ที่โพสต์ข้อความประสงค์ร้ายและข่าวปลอมเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมนี้บนโซเชียลมีเดีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000529
    ..............
    Sondhi X
    ตำรวจเกาหลีใต้บุกค้นสำนักงานของสายการบินเชจู แอร์ บริษัทผู้บริหารจัดการท่าอากาศยานมูอัน รวมถึงสำนักงานการบินพลเรือนประจำภูมิภาคของกระทรวงคมนาคม โดยเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมเครื่องบินเชจู แอร์เมื่อช่วงสิ้นปีที่มีผู้เสียชีวิตถึง 179 คน และเป็นอุบัติเหตุการบินครั้งเลวร้ายที่สุดของเกาหลีใต้ . เที่ยวบิน 2216 ของเชจู แอร์ ที่ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในกรุงเทพฯ มุ่งหน้าเมืองมูอัน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ประสบอุบัติเหตุขณะลงจอดเนื่องจากล้อไม่กาง ทำให้ส่วนท้องเครื่องบินไถลไปตามรันเวย์และชนกับแผงคอนกรีตที่สุดรันเวย์ก่อนระเบิดพร้อมกับเกิดเพลิงลุกท่วมเมื่อวันอาทิตย์ (29 ธ.ค.) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 179 คน ในจำนวนนี้เป็นคนไทย 2 คน จากผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 181 คน . กล่องดำทั้ง 2 กล่องของเที่ยวบินนี้ถูกค้นพบเก็บกู้มาได้แล้ว และจู จองวาน รัฐมนตรีช่วยคมนาคมฝ่ายการบินพลเรือน แถลงในวันพฤหัสฯ (2) ว่า การแปลงข้อมูลจากกล่องดำที่เป็นอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบิน ให้เป็นไฟล์เสียงนั้นเสร็จสิ้นแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนกล่องดำอีกกล่องหนึ่งที่เป็นบันทึกข้อมูลการบิน ซึ่งปรากฏว่าได้รับความเสียหายนั้น ได้จัดส่งไปให้ทางอเมริกาช่วยวิเคราะห์แล้ว . วันเดียวกันนั้น ตำรวจจังหวัดชอลลาแถลงว่า ได้ยกกำลังเข้าค้นสำนักงานบริษัทผู้ดำเนินการท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ซึ่งเป็นจุดที่เที่ยวบิน 2216 ของเชจู แอร์ประสบอุบัติเหตุ สำนักงานการบินพลเรือนประจำภูมิภาคของกระทรวงคมนาคมในเมืองมูอัน และสำนักงานของเชจู แอร์ในกรุงโซล เพื่อยึดเอกสารและหลักฐานเกี่ยวกับการปฏิบัติงานและการซ่อมบำรุงเครื่องบิน ตลอดจนถึงการดำเนินการเกี่ยวกับสิ่งอำนวยสะดวกต่างๆ ภายในสนามบิน . สำนักข่าวยอนฮัปรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ว่า การเข้าตรวจค้นคราวนี้ใช้หมายค้นซึ่งได้รับอนุมัติโดยอิงกับข้อกล่าวหาว่ามีการประมาทเลินเล่อของผู้ประกอบวิชาชีพจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต . เวลาเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศหลายคนซึ่งตั้งคำถามเกี่ยวกับสาเหตุของการระเบิดของเครื่องบิน กำลังพุ่งความสนใจไปที่การถมคันทางที่ออกแบบมาเพื่อรองรับเสาสัญญาณบอกตำแหน่งแนวกึ่งกลางรันเวย์ที่ใช้นำทางในการลงจอด โดยที่ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นระบุว่า อยู่ใกล้ปลายรันเวย์มากเกินไป . นัจเมดิน เมชเกติ ศาสตราจารย์วิศวกรรมของมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ชี้ว่า โครงสร้างตายตัวของเสาสัญญาณดังกล่าวถูกพิสูจน์แล้วว่ามีอันตราย เมื่อเครื่องบินไถลเข้าชน และเสริมว่า เสาสัญญาณนำทางของสนามบินมูอันมีแนวโน้มว่า ติดตั้งอยู่บนโครงสร้างคอนกรีตแทนที่จะเป็นเสาหรือหอโลหะตามมาตรฐานทั่วไป . ขณะที่รัฐมนตรีช่วยจู บอกว่า กระทรวงคมนาคมกำลังตรวจสอบอุปกรณ์ระบุตำแหน่งแนวกึ่งกลางรันเวย์ในสนามบินทั่วประเทศ . การสอบสวนเหตุโศกนาฏกรรมเที่ยวบินเชจู แอร์ ที่ดำเนินกันอยู่ในขณะนี้ นอกจากทางฝ่ายเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้แล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติของอเมริกา (เอ็นทีเอสบี) สำนักงานการบินกลางของรัฐบาลสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) และตัวแทนจากบริษัทโบอิ้งร่วมตรวจสอบด้วย . นอกจากนั้น เกาหลีใต้ยังประกาศตรวจสอบเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ทุกลำที่ดำเนินการโดยสายการบินของเกาหลีใต้ โดยเน้นที่ชุดฐานล้อที่ดูเหมือนขัดข้องระหว่างเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันอาทิตย์ . ชอย ซังม็อก รักษาการประธานาธิบดี แถลงเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า ต้องเร่งดำเนินการทันที หากการตรวจสอบดังกล่าวพบปัญหาใดๆ นอกจากนั้น กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องตรวจสอบการซ่อมบำรุงอย่างละเอียด รวมทั้งให้ความรู้และการฝึกอบรมอย่างเหมาะสม . ก่อนหน้านี้ มีการเปิดเผยว่าสายการบิน 6 แห่งของเกาหลีใต้ใช้เครื่องโบอิ้ง 737-800 รวมทั้งสิ้น 101 ลำ . ชอยยังขอให้ช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ รวมทั้งขอให้ตำรวจดำเนินการกับผู้ที่โพสต์ข้อความประสงค์ร้ายและข่าวปลอมเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมนี้บนโซเชียลมีเดีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000529 .............. Sondhi X
    Like
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1564 มุมมอง 0 รีวิว
  • การรถไฟฯ พร้อมรองรับผู้โดยสารเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง กำชับเข้มงวดความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน เผยภาพรวมวันที่ 1 ม.ค. ผู้ใช้บริการรถไฟเกือบ 1.1 แสนคน

    นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าของวันนี้ (2 มกราคม 2568) ยังคงมีผู้โดยสารทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก ทั้งในส่วนของขบวนรถทางไกล และขบวนรถชานเมือง ซึ่งการรถไฟฯ ได้เตรียมพร้อมรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชน ตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเคร่งครัด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000000351

    #MGROnline #การรถไฟแห่งประเทศไทย
    การรถไฟฯ พร้อมรองรับผู้โดยสารเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง กำชับเข้มงวดความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน เผยภาพรวมวันที่ 1 ม.ค. ผู้ใช้บริการรถไฟเกือบ 1.1 แสนคน • นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าของวันนี้ (2 มกราคม 2568) ยังคงมีผู้โดยสารทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก ทั้งในส่วนของขบวนรถทางไกล และขบวนรถชานเมือง ซึ่งการรถไฟฯ ได้เตรียมพร้อมรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชน ตามนโยบายของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเคร่งครัด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000000351 • #MGROnline #การรถไฟแห่งประเทศไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่สอบสวนเกาหลีใต้ดึงข้อมูลจากกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินของเที่ยวบินสายการบินเชจู แอร์ ที่ประสบอุบัติเหตุช่วงสิ้นปีสำเร็จแล้ว และคาดว่าจะใช้เวลาราว 2 วันในการแปลงข้อมูลเป็นไฟล์เสียงเพื่อทำการตรวจสอบรายละเอียดต่อไป นอกจากนั้น ยังเตรียมส่งกล่องบันทึกข้อมูลการบินที่ได้รับความเสียหายไปให้คณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติของอเมริกา (เอ็นทีเอสบี) ร่วมวิเคราะห์
    .
    ผู้โดยสารทั้ง 175 คน และลูกเรือจำนวน 4 จาก 6 คนของสายการบินเชจู แอร์ เที่ยวบิน 2216 ที่ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ไปยังเกาหลีใต้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 ธ.ค.) เสียชีวิตทั้งหมด โดยในจำนวนนี้เป็นผู้โดยสารชาวไทย 2 คน หลังจากที่เครื่องลงจอด ณ จุดหมายปลายทาง คือ ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเกาหลีใต้ ในสภาพที่ล้อไม่กาง ทำให้เครื่องไถลไปชนกับแนวกั้นคอนกรีตที่สุดรันเวย์และเกิดการระเบิดไฟลุกไหม้ทั้งลำ
    .
    สำหรับลูกเรือ 2 คนที่รอดชีวิตนั้นถูกช่วยออกมาจากส่วนหางของเครื่องบินลำนี้ ซึ่งเป็นเครื่องโบอิ้ง 737-800
    .
    รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศจนถึงวันที่ 4 ม.ค. และลดระดับงานฉลองปีใหม่
    .
    ในวันพุธ (1 ม.ค.) กระทรวงคมนาคมแถลงว่า จาก “กล่องดำ” ประจำเครื่องบินทั้ง 2 กล่องซึ่งค้นพบแล้วนั้น เจ้าหน้าที่สอบสวนสามารถดึงข้อมูลออกจากกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินแล้วและจะแปลงเป็นไฟล์เสียงซึ่งคาดว่าอาจใช้เวลาราว 2 วัน พร้อมตั้งความหวังว่า ไฟล์เสียงดังกล่าวจะให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับช่วงไม่กี่นาทีสุดท้ายก่อนที่เครื่องจะประสบอุบัติเหตุ
    .
    สำหรับกล่องดำอีกกล่างหนึ่ง คือ กล่องบันทึกข้อมูลการบินนั้น ทีมสอบสวนลงความเห็นว่า มีความเสียหายจนไม่สามารถดึงข้อมูลออกมาได้ และวางแผนส่งกล่องดำนี้ไปยังอเมริกาเพื่อทำการวิเคราะห์ร่วมกับเอ็นทีเอสบี
    .
    จู จองวาน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคมฝ่ายการบินพลเรือน แถลงว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อีก 2 คนเดินทางถึงเกาหลีใต้เมื่อคืนวันอังคาร (31 ธ.ค.) เพื่อทำงานร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนกว่า 20 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่จากเอ็นทีเอสบี สำนักงานการบินของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินของอเมริกา โดยขณะนี้กำลังวางแผนเพื่อเริ่มตรวจสอบซากเครื่องบินด้วยสายตา
    .
    แรกทีเดียวนั้นพวกเจ้าหน้าที่ระบุว่า การบินชนฝูงนกอาจเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แต่ต่อมาได้มีการเผยแพร่ความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า จะจัดการสอบสวนแท่งคอนกรีตที่กั้นที่ปลายรันเวย์ซึ่งเครื่องบินพุ่งชนก่อนระเบิด รวมถึงความล้มเหลวของชุดฐานล้อเครื่องบิน หรือปัญหาจากระบบควบคุมอื่นๆ ตลอดจนจะสอบสวนกรณีที่นักบินเร่งรีบลงจอดทันทีหลังจากส่งสัญญาณเหตุฉุกเฉินไปยังหอบังคับการบิน
    .
    พวกผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศยังตั้งคำถามว่า งานถมคันทางสนามบินที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์นำทางนั้น สร้างใกล้ปลายรันเวย์มากเกินไปหรือไม่
    .
    ขณะเดียวกัน ที่สนามบินมูอัน ผู้คนนับร้อยต่อคิวรอแสดงความเคารพผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินเชจูที่แท่นพิธีที่จัดไว้ให้เมื่อวันพุธ ส่งผลให้เครือข่ายมือถือโอเวอร์โหลด
    .
    เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ประกาศเตือนความปลอดภัย และขอให้ผู้ที่ต้องการไว้อาลัยเดินทางไปยังสถานที่จัดพิธีรำลึกแห่งอื่นๆ ที่จัดเตรียมไว้ทั่วประเทศ
    .
    สำหรับภายในสนามบินที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตไปปักหลักอยู่นับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุนั้น มีการจัดพื้นที่พยาบาลฉุกเฉินเพื่อให้น้ำเกลือ เนื่องจากญาติผู้เสียชีวิตหลายคนเครียดจนรับประทานอาหารไม่ได้
    .
    ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เผยว่า ร่างผู้เสียชีวิตได้รับความเสียหาย ทำให้กระบวนการระบุตัวตนล่าช้าและยากลำบากมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวนยังคงพยายามป้องกันหลักฐานซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ
    .
    อย่างไรก็ตาม ชอย ซังม็อก รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่เข้าทำงานไม่ทันถึงหนึ่งสัปดาห์ ระบุระหว่างการประชุมหน่วยงานภายในเมื่อวันพุธว่า การระบุอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้นแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้ทยอยส่งร่างผู้เสียชีวิตไปให้ครอบครัวจัดพิธีศพ
    .
    นอกจากนั้น ชอยยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สอบสวนสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้อย่างเป็นธรรม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000229
    ..............
    Sondhi X
    เจ้าหน้าที่สอบสวนเกาหลีใต้ดึงข้อมูลจากกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินของเที่ยวบินสายการบินเชจู แอร์ ที่ประสบอุบัติเหตุช่วงสิ้นปีสำเร็จแล้ว และคาดว่าจะใช้เวลาราว 2 วันในการแปลงข้อมูลเป็นไฟล์เสียงเพื่อทำการตรวจสอบรายละเอียดต่อไป นอกจากนั้น ยังเตรียมส่งกล่องบันทึกข้อมูลการบินที่ได้รับความเสียหายไปให้คณะกรรมการความปลอดภัยในการขนส่งแห่งชาติของอเมริกา (เอ็นทีเอสบี) ร่วมวิเคราะห์ . ผู้โดยสารทั้ง 175 คน และลูกเรือจำนวน 4 จาก 6 คนของสายการบินเชจู แอร์ เที่ยวบิน 2216 ที่ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ไปยังเกาหลีใต้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (29 ธ.ค.) เสียชีวิตทั้งหมด โดยในจำนวนนี้เป็นผู้โดยสารชาวไทย 2 คน หลังจากที่เครื่องลงจอด ณ จุดหมายปลายทาง คือ ท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของเกาหลีใต้ ในสภาพที่ล้อไม่กาง ทำให้เครื่องไถลไปชนกับแนวกั้นคอนกรีตที่สุดรันเวย์และเกิดการระเบิดไฟลุกไหม้ทั้งลำ . สำหรับลูกเรือ 2 คนที่รอดชีวิตนั้นถูกช่วยออกมาจากส่วนหางของเครื่องบินลำนี้ ซึ่งเป็นเครื่องโบอิ้ง 737-800 . รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศจนถึงวันที่ 4 ม.ค. และลดระดับงานฉลองปีใหม่ . ในวันพุธ (1 ม.ค.) กระทรวงคมนาคมแถลงว่า จาก “กล่องดำ” ประจำเครื่องบินทั้ง 2 กล่องซึ่งค้นพบแล้วนั้น เจ้าหน้าที่สอบสวนสามารถดึงข้อมูลออกจากกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบินแล้วและจะแปลงเป็นไฟล์เสียงซึ่งคาดว่าอาจใช้เวลาราว 2 วัน พร้อมตั้งความหวังว่า ไฟล์เสียงดังกล่าวจะให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับช่วงไม่กี่นาทีสุดท้ายก่อนที่เครื่องจะประสบอุบัติเหตุ . สำหรับกล่องดำอีกกล่างหนึ่ง คือ กล่องบันทึกข้อมูลการบินนั้น ทีมสอบสวนลงความเห็นว่า มีความเสียหายจนไม่สามารถดึงข้อมูลออกมาได้ และวางแผนส่งกล่องดำนี้ไปยังอเมริกาเพื่อทำการวิเคราะห์ร่วมกับเอ็นทีเอสบี . จู จองวาน รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคมฝ่ายการบินพลเรือน แถลงว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อีก 2 คนเดินทางถึงเกาหลีใต้เมื่อคืนวันอังคาร (31 ธ.ค.) เพื่อทำงานร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนกว่า 20 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่จากเอ็นทีเอสบี สำนักงานการบินของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ และโบอิ้ง ผู้ผลิตเครื่องบินของอเมริกา โดยขณะนี้กำลังวางแผนเพื่อเริ่มตรวจสอบซากเครื่องบินด้วยสายตา . แรกทีเดียวนั้นพวกเจ้าหน้าที่ระบุว่า การบินชนฝูงนกอาจเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แต่ต่อมาได้มีการเผยแพร่ความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า จะจัดการสอบสวนแท่งคอนกรีตที่กั้นที่ปลายรันเวย์ซึ่งเครื่องบินพุ่งชนก่อนระเบิด รวมถึงความล้มเหลวของชุดฐานล้อเครื่องบิน หรือปัญหาจากระบบควบคุมอื่นๆ ตลอดจนจะสอบสวนกรณีที่นักบินเร่งรีบลงจอดทันทีหลังจากส่งสัญญาณเหตุฉุกเฉินไปยังหอบังคับการบิน . พวกผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางอากาศยังตั้งคำถามว่า งานถมคันทางสนามบินที่ออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์นำทางนั้น สร้างใกล้ปลายรันเวย์มากเกินไปหรือไม่ . ขณะเดียวกัน ที่สนามบินมูอัน ผู้คนนับร้อยต่อคิวรอแสดงความเคารพผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินเชจูที่แท่นพิธีที่จัดไว้ให้เมื่อวันพุธ ส่งผลให้เครือข่ายมือถือโอเวอร์โหลด . เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ประกาศเตือนความปลอดภัย และขอให้ผู้ที่ต้องการไว้อาลัยเดินทางไปยังสถานที่จัดพิธีรำลึกแห่งอื่นๆ ที่จัดเตรียมไว้ทั่วประเทศ . สำหรับภายในสนามบินที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตไปปักหลักอยู่นับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุนั้น มีการจัดพื้นที่พยาบาลฉุกเฉินเพื่อให้น้ำเกลือ เนื่องจากญาติผู้เสียชีวิตหลายคนเครียดจนรับประทานอาหารไม่ได้ . ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เผยว่า ร่างผู้เสียชีวิตได้รับความเสียหาย ทำให้กระบวนการระบุตัวตนล่าช้าและยากลำบากมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวนยังคงพยายามป้องกันหลักฐานซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุ . อย่างไรก็ตาม ชอย ซังม็อก รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่เข้าทำงานไม่ทันถึงหนึ่งสัปดาห์ ระบุระหว่างการประชุมหน่วยงานภายในเมื่อวันพุธว่า การระบุอัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการเสร็จสิ้นแล้ว และเจ้าหน้าที่ได้ทยอยส่งร่างผู้เสียชีวิตไปให้ครอบครัวจัดพิธีศพ . นอกจากนั้น ชอยยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สอบสวนสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้อย่างเป็นธรรม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000000229 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1366 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สุริยะ” เปิดโปรเจกต์ลงทุน ”คมนาคม” ทั้งรถไฟ -ทางด่วน-มอเตอร์เวย์ ดันชง ครม.ต้นปี 68 มูลค่ารวม 6 แสนล้านบาท พร้อมสุด "สายสีแดง มธ.รังสิต” ลุ้นสภาพัฒน์ฯ เร่งเคาะ ทางคู่เฟส 2 อีก 6 เส้นทาง และไฮสปีดไทย-จีน ”โคราช-หนองคาย”

    นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในปี 2568 กระทรวงคมนาคม เตรียมพร้อมโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่คาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในช่วงต้นปี ได้แก่ โครงการลงทุนระบบราง โดยที่มีความพร้อมที่สุดคือ โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วง รังสิต - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงินลงทุน 6,473.98 ล้านบาท เสนอครม.เพื่อขอทบทวนมติครม.และปรับกรอบวงเงิน ซึ่งผ่านการพิจารณาความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครบแล้ว และอยู่ระหว่างรอบรรจุวาระการประชุมครม. มาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2567

    การขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีและขออนุมัติรวมโครงการระบบรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) ช่วงตลิ่งชัน -ศาลายา และสถานีเพิ่มเติม 3 สถานี (สถานีสะพานพระราม 6 สถานีบางกรวย -กฟผ. และสถานีบ้านฉิมพลี) และโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน -ศิริราช เข้าด้วยกัน เพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นสัญญาเดียว ระยะทางรวม 20.5 กม. วงเงินโครงการ15,176.21 ล้านบาท

    ขณะนี้ อยู่ระหว่าง การพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ (สศช.)

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/business/detail/9680000000022

    #MGROnline #สุริยะ #คมนาคม #รถไฟ #ทางด่วน #มอเตอร์เวย์
    "สุริยะ” เปิดโปรเจกต์ลงทุน ”คมนาคม” ทั้งรถไฟ -ทางด่วน-มอเตอร์เวย์ ดันชง ครม.ต้นปี 68 มูลค่ารวม 6 แสนล้านบาท พร้อมสุด "สายสีแดง มธ.รังสิต” ลุ้นสภาพัฒน์ฯ เร่งเคาะ ทางคู่เฟส 2 อีก 6 เส้นทาง และไฮสปีดไทย-จีน ”โคราช-หนองคาย” • นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในปี 2568 กระทรวงคมนาคม เตรียมพร้อมโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่คาดว่าจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในช่วงต้นปี ได้แก่ โครงการลงทุนระบบราง โดยที่มีความพร้อมที่สุดคือ โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วง รังสิต - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงินลงทุน 6,473.98 ล้านบาท เสนอครม.เพื่อขอทบทวนมติครม.และปรับกรอบวงเงิน ซึ่งผ่านการพิจารณาความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครบแล้ว และอยู่ระหว่างรอบรรจุวาระการประชุมครม. มาตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2567 • การขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีและขออนุมัติรวมโครงการระบบรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) ช่วงตลิ่งชัน -ศาลายา และสถานีเพิ่มเติม 3 สถานี (สถานีสะพานพระราม 6 สถานีบางกรวย -กฟผ. และสถานีบ้านฉิมพลี) และโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน -ศิริราช เข้าด้วยกัน เพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นสัญญาเดียว ระยะทางรวม 20.5 กม. วงเงินโครงการ15,176.21 ล้านบาท • ขณะนี้ อยู่ระหว่าง การพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ (สศช.) • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000000022 • #MGROnline #สุริยะ #คมนาคม #รถไฟ #ทางด่วน #มอเตอร์เวย์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 627 มุมมอง 0 รีวิว
  • "คมนาคม"รายงานภาพรวมเดินทางปีใหม่ 2568 บนโครงข่ายรวม 2 วัน (27 - 28 ธ.ค.67) อุบัติเหตุสะสม 514 ครั้ง ดับ 77 รายสาเหตุขับรถเร็ว 66.93 %
    ขอความร่วมมือ เคารพกฎหมายจราจร บขส.-รถไฟ-เครื่องบิน เจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกไม่มีตกค้าง

    วันที่ 29 ธ.ค.67 กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภาพรวมการเดินทางในเทศกาลปีใหม่ 2568 เมื่อวันที่ 27 - 28 ธันวาคม 2567 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเทเต็มประสิทธิภาพ ระบบการขนส่งสาธารณะสามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอในทุกโหมดการเดินทาง ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง และ รับ – ส่ง พี่น้องประชาชนทุกคนถึงที่หมายด้วยความสะดวก ปลอดภัย

    ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม (ศปภ.คค.) อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางบนโครงข่ายคมนาคมช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 เพื่อบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 2 มกราคม 2568 โดยประชาชนสามารถติดต่อ สอบถาม แจ้งเหตุ หรือขอความช่วยเหลือได้ทางทางหมายเลข 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/business/detail/9670000124849

    #MGROnline #เดินทางปีใหม่2568
    "คมนาคม"รายงานภาพรวมเดินทางปีใหม่ 2568 บนโครงข่ายรวม 2 วัน (27 - 28 ธ.ค.67) อุบัติเหตุสะสม 514 ครั้ง ดับ 77 รายสาเหตุขับรถเร็ว 66.93 % ขอความร่วมมือ เคารพกฎหมายจราจร บขส.-รถไฟ-เครื่องบิน เจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกไม่มีตกค้าง • วันที่ 29 ธ.ค.67 กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภาพรวมการเดินทางในเทศกาลปีใหม่ 2568 เมื่อวันที่ 27 - 28 ธันวาคม 2567 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเทเต็มประสิทธิภาพ ระบบการขนส่งสาธารณะสามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอในทุกโหมดการเดินทาง ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง และ รับ – ส่ง พี่น้องประชาชนทุกคนถึงที่หมายด้วยความสะดวก ปลอดภัย • ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม (ศปภ.คค.) อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางบนโครงข่ายคมนาคมช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 เพื่อบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 2 มกราคม 2568 โดยประชาชนสามารถติดต่อ สอบถาม แจ้งเหตุ หรือขอความช่วยเหลือได้ทางทางหมายเลข 1356 ตลอด 24 ชั่วโมง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9670000124849 • #MGROnline #เดินทางปีใหม่2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 370 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์และเกิดไฟลุกไหม้ท่วมตัวเครื่องขณะที่มันพุ่งเข้าชนกับกำแพงที่สนามบินนานาชาติมูอัน ในวันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 62 ราย

    อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่เที่ยวบิน 7C2216 ของสายการบิน Jeju Air ซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่อง 175 คน กำลังลงจอดที่สนามบินมูอัน ทางใต้ของเกาหลีใต้ เมื่อเวลา 9.00 น หลังเดินทางออกมาจากกรุงเทพฯ กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ เผย

    สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล เผยมี 2 คนไทยบนเครื่องบินลำดังกล่าว แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมของทั้ง 2 คน

    จนถึงตอนนี้ มีการกู้ร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้แล้ว 58 คน แต่คาดว่าจะยังมีตกค้างเหลืออีกบนเครื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมูอัน พบผู้รอดชีวิต 3 คน

    เจ้าหน้าที่สนามบินบอกกับรอยเตอร์ไม่นานหลังเกิดเหตุว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติการกู้ภัยบริเวณหางเครื่องบินอยู่

    คลิปวิดีโอที่กำลังถูกแชร์ต่อในโซเชียลมีเดียเกาหลีใต้เผยให้เห็นวินาทีขณะเครื่องบินเครื่องยนต์คู่ลำนี้ลงกระแทกพื้นรันเวย์โดยที่ไม่มีล้อลงจอดยื่นออกมา ก่อนที่เครื่องบินจะไถลเข้าไปชนรั้วและเกิดระเบิด

    สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า เจ้าหน้าที่สนามบินกล่าวว่า ระบบช่วยลงจอดน่าจะการขัดข้อง เนื่องจากถูกนกบินชน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/around/detail/9670000124833

    #MGROnline #JejuAir #เครื่องบินตก #SouthKorea
    เกิดเหตุเครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์และเกิดไฟลุกไหม้ท่วมตัวเครื่องขณะที่มันพุ่งเข้าชนกับกำแพงที่สนามบินนานาชาติมูอัน ในวันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 62 ราย • อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่เที่ยวบิน 7C2216 ของสายการบิน Jeju Air ซึ่งมีผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่อง 175 คน กำลังลงจอดที่สนามบินมูอัน ทางใต้ของเกาหลีใต้ เมื่อเวลา 9.00 น หลังเดินทางออกมาจากกรุงเทพฯ กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้ เผย • สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล เผยมี 2 คนไทยบนเครื่องบินลำดังกล่าว แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมของทั้ง 2 คน • จนถึงตอนนี้ มีการกู้ร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้แล้ว 58 คน แต่คาดว่าจะยังมีตกค้างเหลืออีกบนเครื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมูอัน พบผู้รอดชีวิต 3 คน • เจ้าหน้าที่สนามบินบอกกับรอยเตอร์ไม่นานหลังเกิดเหตุว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติการกู้ภัยบริเวณหางเครื่องบินอยู่ • คลิปวิดีโอที่กำลังถูกแชร์ต่อในโซเชียลมีเดียเกาหลีใต้เผยให้เห็นวินาทีขณะเครื่องบินเครื่องยนต์คู่ลำนี้ลงกระแทกพื้นรันเวย์โดยที่ไม่มีล้อลงจอดยื่นออกมา ก่อนที่เครื่องบินจะไถลเข้าไปชนรั้วและเกิดระเบิด • สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า เจ้าหน้าที่สนามบินกล่าวว่า ระบบช่วยลงจอดน่าจะการขัดข้อง เนื่องจากถูกนกบินชน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9670000124833 • #MGROnline #JejuAir #เครื่องบินตก #SouthKorea
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 506 มุมมอง 0 รีวิว
  • “บขส.” เผยปชช.แห่เดินทางปีใหม่ 2568 ศุกร์ ธ.ค. นิวไฮ 1.6 แสนคน สูงกว่าคาดการณ์ไว้ 4 หมื่นคน คาดวันนี้ ยังเดินทางต่อเนื่องแตะ 1.1 แสนคน ด้าน “สุรพงษ์” กำชับ รถโดยสารเข้ารับตรงเวลา - ห้ามขายตั๋วแพง – ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสาร

    นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 23.00 น. เพื่อตรวจการบริหารการจัดรถโดยสารและพนักงาน อำนวยความสะดวกประชาชน ในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ อย่างต่อเนื่อง เป็นวันที่ 3 หลังจากได้ลงพื้นที่แล้วเมื่อวันที่ 25 - 26 ธันวาคม 2567 โดยกำชับ บขส. จัดรถโดยสารรองรับการเดินทางให้เพียงพอ นำรถเข้ารับผู้โดยสารที่ชานชาลาขาออกให้ตรงเวลา เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ป้องกันการรอคอยรถนาน ดูแลราคาค่าโดยสาร ไม่ขายตั๋วโดยสารเกินราคาที่กำหนด ไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสาร ในช่วงเทศกาล เพราะผู้โดยสารไว้วางใจเลือกใช้บริการ ดังนั้นควรจะได้รับบริการที่ดี มีประสิทธิภาพ สะดวก ปลอดภัย และเป็นธรรม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/business/detail/9670000124682

    #MGROnline #สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ #หมอชิต2
    “บขส.” เผยปชช.แห่เดินทางปีใหม่ 2568 ศุกร์ ธ.ค. นิวไฮ 1.6 แสนคน สูงกว่าคาดการณ์ไว้ 4 หมื่นคน คาดวันนี้ ยังเดินทางต่อเนื่องแตะ 1.1 แสนคน ด้าน “สุรพงษ์” กำชับ รถโดยสารเข้ารับตรงเวลา - ห้ามขายตั๋วแพง – ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสาร • นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 23.00 น. เพื่อตรวจการบริหารการจัดรถโดยสารและพนักงาน อำนวยความสะดวกประชาชน ในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ อย่างต่อเนื่อง เป็นวันที่ 3 หลังจากได้ลงพื้นที่แล้วเมื่อวันที่ 25 - 26 ธันวาคม 2567 โดยกำชับ บขส. จัดรถโดยสารรองรับการเดินทางให้เพียงพอ นำรถเข้ารับผู้โดยสารที่ชานชาลาขาออกให้ตรงเวลา เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ป้องกันการรอคอยรถนาน ดูแลราคาค่าโดยสาร ไม่ขายตั๋วโดยสารเกินราคาที่กำหนด ไม่ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสาร ในช่วงเทศกาล เพราะผู้โดยสารไว้วางใจเลือกใช้บริการ ดังนั้นควรจะได้รับบริการที่ดี มีประสิทธิภาพ สะดวก ปลอดภัย และเป็นธรรม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9670000124682 • #MGROnline #สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ #หมอชิต2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบินโดยสารไอพ่นของสายการบินอาเซอร์ไบจานที่มีคนอยู่บนเครื่องรวม 67 คน ตกกระแทกพื้นในวันพุธ (25 ธ.ค.) ในบริเวณภาคตะวันตกของคาซัคสถาน หลังจากบินหันเหออกจากเส้นทางที่กำหนดเอาไว้ ทั้งนี้ตามปากคำของเจ้าหน้าที่หลายราย

    พวกเจ้าหน้าที่อาเซอร์ไบจานระบุว่า มีผู้รอดชีวิตมาได้ 32 คนจากเหตุการณ์โหม่งโลกของเครื่องบินโดยสารแบบ เอมบราเออร์ 190 ลำนี้ ที่บริเวณใกล้ๆ เมืองออคเตา ของคาซัคสถาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของแถบชายฝั่งด้านตะวันออกของทะเลแคสเปียน

    เครื่องบินโดยสารผลิตโดยบริษัทบราซิลลำนี้ กำลังบินจากเมืองหลวงบากู ของอาเซอร์ไบจาน ที่อยู่บนชายฝั่งด้านตะวันตกของแคสเปียน ไปยังเมืองกรอซนี ในแคว้นเชชเนีย ทางตอนใต้ของรัสเซีย

    “เครื่องบินที่กำลังบินบนเส้นทางบากู-กรอซนี ได้ตกโหม่งโลกตรงใกล้เมืองออคเตา โดยเป็นเครื่องของสายการบินอาเซอร์ไบจานแอร์ไลนส์” กระทรวงคมนาคมคาซัคสถาน โพสต์ข้อความนี้บนแพลตฟอร์มเทเลแกรม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/around/detail/9670000123875

    #MGROnline #เครื่องบินโดยสารไอพ่น #สายการบินอาเซอร์ไบจาน
    เครื่องบินโดยสารไอพ่นของสายการบินอาเซอร์ไบจานที่มีคนอยู่บนเครื่องรวม 67 คน ตกกระแทกพื้นในวันพุธ (25 ธ.ค.) ในบริเวณภาคตะวันตกของคาซัคสถาน หลังจากบินหันเหออกจากเส้นทางที่กำหนดเอาไว้ ทั้งนี้ตามปากคำของเจ้าหน้าที่หลายราย • พวกเจ้าหน้าที่อาเซอร์ไบจานระบุว่า มีผู้รอดชีวิตมาได้ 32 คนจากเหตุการณ์โหม่งโลกของเครื่องบินโดยสารแบบ เอมบราเออร์ 190 ลำนี้ ที่บริเวณใกล้ๆ เมืองออคเตา ของคาซัคสถาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของแถบชายฝั่งด้านตะวันออกของทะเลแคสเปียน • เครื่องบินโดยสารผลิตโดยบริษัทบราซิลลำนี้ กำลังบินจากเมืองหลวงบากู ของอาเซอร์ไบจาน ที่อยู่บนชายฝั่งด้านตะวันตกของแคสเปียน ไปยังเมืองกรอซนี ในแคว้นเชชเนีย ทางตอนใต้ของรัสเซีย • “เครื่องบินที่กำลังบินบนเส้นทางบากู-กรอซนี ได้ตกโหม่งโลกตรงใกล้เมืองออคเตา โดยเป็นเครื่องของสายการบินอาเซอร์ไบจานแอร์ไลนส์” กระทรวงคมนาคมคาซัคสถาน โพสต์ข้อความนี้บนแพลตฟอร์มเทเลแกรม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9670000123875 • #MGROnline #เครื่องบินโดยสารไอพ่น #สายการบินอาเซอร์ไบจาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts