• เรื่องเล่าจากข่าว: วิศวกร AI ปฏิเสธเงินพันล้านจาก Meta เพื่อสร้างอนาคตในแบบที่ตัวเองเชื่อ

    Meta พยายามดึงตัวทีมงานจาก Thinking Machines Lab ซึ่งนำโดย Andrew Tulloch และ Mira Murati—สองบุคคลสำคัญที่เคยมีบทบาทใน Meta และ OpenAI โดยเสนอแพ็กเกจค่าตอบแทนที่อาจรวมสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ในระยะหลายปี ขึ้นอยู่กับหุ้นและโบนัส

    แต่ทั้ง Tulloch และ Murati รวมถึงทีมงานของพวกเขา ปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า พวกเขาต้องการสร้างเทคโนโลยีในแบบที่มีจริยธรรม ไม่ถูกครอบงำด้วยเป้าหมายทางโฆษณาหรือผลตอบแทนผู้ถือหุ้น

    เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ในวงการ AI ที่นักพัฒนาเริ่มให้ความสำคัญกับ “เป้าหมายร่วม” และ “ความไว้วางใจในผู้นำ” มากกว่าการไล่ตามเงินก้อนโต ซึ่ง Meta แม้จะมีทรัพยากรมหาศาล ก็ยังไม่สามารถดึงตัวนักวิจัยระดับสูงจากคู่แข่งได้มากนัก

    Meta เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $1.5 พันล้านให้กับ Andrew Tulloch และทีม Thinking Machines
    ขึ้นอยู่กับหุ้นและโบนัสในระยะหลายปี
    เป็นหนึ่งในข้อเสนอที่สูงที่สุดในวงการ AI

    Mira Murati และทีมงานของเธอปฏิเสธข้อเสนอจาก Meta ทั้งหมด
    ไม่เพียงแต่ปฏิเสธการเข้าซื้อกิจการ แต่ยังปฏิเสธข้อเสนอส่วนตัว
    แสดงจุดยืนชัดเจนในการรักษาอุดมการณ์ขององค์กร

    Meta ไม่ปฏิเสธว่ามีความพยายามดึงตัวนักวิจัยจากคู่แข่ง
    แม้จะบอกว่าตัวเลขอาจถูกกล่าวเกินจริง
    แต่ยอมรับว่ามีการทาบทามนักวิจัยระดับสูงจริง

    แนวโน้มใหม่ในวงการ AI คือการเลือก “เป้าหมายร่วม” มากกว่า “ค่าตอบแทนสูงสุด”
    วิศวกรบางคนต้องการสร้างเทคโนโลยีที่มีจริยธรรม
    ไม่ต้องการให้ผลงานถูกใช้เพื่อโฆษณาหรือผลตอบแทนผู้ถือหุ้น

    Meta สามารถดึงตัวนักวิจัยจากคู่แข่งได้เพียงจำนวนน้อย แม้จะมีทรัพยากรมหาศาล
    การแข่งขันด้าน AI ไม่ได้วัดกันแค่เงิน
    ความเชื่อมั่นในผู้นำและเป้าหมายองค์กรกลายเป็นปัจจัยสำคัญ

    https://www.techspot.com/news/108917-ai-engineers-reject-meta-15-billion-offers-stay.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: วิศวกร AI ปฏิเสธเงินพันล้านจาก Meta เพื่อสร้างอนาคตในแบบที่ตัวเองเชื่อ Meta พยายามดึงตัวทีมงานจาก Thinking Machines Lab ซึ่งนำโดย Andrew Tulloch และ Mira Murati—สองบุคคลสำคัญที่เคยมีบทบาทใน Meta และ OpenAI โดยเสนอแพ็กเกจค่าตอบแทนที่อาจรวมสูงถึง 1.5 พันล้านดอลลาร์ในระยะหลายปี ขึ้นอยู่กับหุ้นและโบนัส แต่ทั้ง Tulloch และ Murati รวมถึงทีมงานของพวกเขา ปฏิเสธข้อเสนอทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า พวกเขาต้องการสร้างเทคโนโลยีในแบบที่มีจริยธรรม ไม่ถูกครอบงำด้วยเป้าหมายทางโฆษณาหรือผลตอบแทนผู้ถือหุ้น เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มใหม่ในวงการ AI ที่นักพัฒนาเริ่มให้ความสำคัญกับ “เป้าหมายร่วม” และ “ความไว้วางใจในผู้นำ” มากกว่าการไล่ตามเงินก้อนโต ซึ่ง Meta แม้จะมีทรัพยากรมหาศาล ก็ยังไม่สามารถดึงตัวนักวิจัยระดับสูงจากคู่แข่งได้มากนัก ✅ Meta เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $1.5 พันล้านให้กับ Andrew Tulloch และทีม Thinking Machines ➡️ ขึ้นอยู่กับหุ้นและโบนัสในระยะหลายปี ➡️ เป็นหนึ่งในข้อเสนอที่สูงที่สุดในวงการ AI ✅ Mira Murati และทีมงานของเธอปฏิเสธข้อเสนอจาก Meta ทั้งหมด ➡️ ไม่เพียงแต่ปฏิเสธการเข้าซื้อกิจการ แต่ยังปฏิเสธข้อเสนอส่วนตัว ➡️ แสดงจุดยืนชัดเจนในการรักษาอุดมการณ์ขององค์กร ✅ Meta ไม่ปฏิเสธว่ามีความพยายามดึงตัวนักวิจัยจากคู่แข่ง ➡️ แม้จะบอกว่าตัวเลขอาจถูกกล่าวเกินจริง ➡️ แต่ยอมรับว่ามีการทาบทามนักวิจัยระดับสูงจริง ✅ แนวโน้มใหม่ในวงการ AI คือการเลือก “เป้าหมายร่วม” มากกว่า “ค่าตอบแทนสูงสุด” ➡️ วิศวกรบางคนต้องการสร้างเทคโนโลยีที่มีจริยธรรม ➡️ ไม่ต้องการให้ผลงานถูกใช้เพื่อโฆษณาหรือผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ✅ Meta สามารถดึงตัวนักวิจัยจากคู่แข่งได้เพียงจำนวนน้อย แม้จะมีทรัพยากรมหาศาล ➡️ การแข่งขันด้าน AI ไม่ได้วัดกันแค่เงิน ➡️ ความเชื่อมั่นในผู้นำและเป้าหมายองค์กรกลายเป็นปัจจัยสำคัญ https://www.techspot.com/news/108917-ai-engineers-reject-meta-15-billion-offers-stay.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI engineers reject Meta's $1.5 billion offers to build on their own terms
    While not in the majority, many engineers are choosing to pass up unprecedented offers in favor of staying loyal to their mission, values, and the chance to...
    0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews
  • เหรียญเมตตาธรรม ค้ำจุนโลก อาจารย์ซุ่งเฮง วัดทองย้อย จ.นครนายก
    เหรียญเมตตาธรรม ค้ำจุนโลก (หลังตอกโค็ด) อาจารย์ซุ่งเฮง วัดทองย้อย อำเภอบ้านนา จ.นครนายก //พระปลัดซุ่งเฮง อาจารสมฺปนฺโน เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วยังมีความเชี่ยวชาญ ด้านการสอนธรรมะ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านแคล้วคลาด มหาอุตน์ บันดาลโชคลาภ อุดมโภคทรัพย์ เจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา เสริมโชคเสริมลาภ ช่วยปกป้องคุ้มครอง จากสิ่งชั่วร้าย ภูตผีปีศาจ มนตร์ดําต่างๆ >>

    ** พระปลัดซุ่งเฮง อาจารสมฺปนฺโน นอกจากเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วยังมีความเชี่ยวชาญ ด้านการสอนธรรมะ การเป็นวิทยากรแก่ โรงเรียนต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากเป็นบุคคลสำคัญทางศาสนาแล้ว พระปลัดซุ่งเฮง อาจารสมฺปนฺโน ยังเป็นเครือข่ายทางด้านวัฒนธรรมด้วย >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญเมตตาธรรม ค้ำจุนโลก อาจารย์ซุ่งเฮง วัดทองย้อย จ.นครนายก เหรียญเมตตาธรรม ค้ำจุนโลก (หลังตอกโค็ด) อาจารย์ซุ่งเฮง วัดทองย้อย อำเภอบ้านนา จ.นครนายก //พระปลัดซุ่งเฮง อาจารสมฺปนฺโน เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วยังมีความเชี่ยวชาญ ด้านการสอนธรรมะ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านแคล้วคลาด มหาอุตน์ บันดาลโชคลาภ อุดมโภคทรัพย์ เจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา เสริมโชคเสริมลาภ ช่วยปกป้องคุ้มครอง จากสิ่งชั่วร้าย ภูตผีปีศาจ มนตร์ดําต่างๆ >> ** พระปลัดซุ่งเฮง อาจารสมฺปนฺโน นอกจากเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแล้วยังมีความเชี่ยวชาญ ด้านการสอนธรรมะ การเป็นวิทยากรแก่ โรงเรียนต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากเป็นบุคคลสำคัญทางศาสนาแล้ว พระปลัดซุ่งเฮง อาจารสมฺปนฺโน ยังเป็นเครือข่ายทางด้านวัฒนธรรมด้วย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Silicon Valley: เมื่อ AI ไม่ได้แค่เปลี่ยนเทคโนโลยี แต่เปลี่ยนความสัมพันธ์ของคน

    กรณีที่เด่นที่สุดเกิดกับ Windsurf บริษัทสตาร์ทอัพ AI ที่กำลังจะขายให้ OpenAI ในมูลค่า $3B — แต่ CEO Varun Mohan กลับ ล้มดีล และลาออกไปร่วมทีม Google พร้อมพาทีมงานหลักบางส่วนตามไปด้วย

    ข่าวนี้กระทบแรง เพราะทีมงาน Windsurf ส่วนใหญ่หวังว่าจะได้เงิน payout จากการเข้าซื้อ และบางคนถึงขั้นถ่ายวิดีโอโหมโรงไว้แล้วเพื่อเฉลิมฉลอง — กลับกลายเป็นคลิปบันทึก “การล่มสลาย” ของบริษัท

    แต่ภายในไม่กี่วัน Cognition บริษัท AI ที่เล็กกว่าแต่กำลังโตไวก็เข้ามาซื้อ Windsurf แทน โดย CEO Jeff Wang บอกว่าจะจ่ายเงินให้พนักงานทุกคนไม่ว่าจะอยู่มานานแค่ไหน — สร้างบรรยากาศ “คืนชีวิต” ให้ทีมงานอีกครั้ง

    ด้าน Meta กลายเป็นผู้เล่นที่ดุเดือดที่สุด — Mark Zuckerberg ทุ่มตัวเองลงไปล่าผู้เชี่ยวชาญจาก OpenAI, Google DeepMind, Apple และ Anthropic ด้วยข้อเสนอที่มากกว่า $300 ล้านภายใน 4 ปี (จ่ายปีแรกถึงหนึ่งในสาม)

    แต่แม้จะทุ่มเงินมากขนาดนั้น Meta ก็ยังขาด “หัวหน้าฝ่ายวิจัย” และยังไม่ได้ตัวบุคคลสำคัญที่ต้องการ เช่นในกรณีของ Safe Superintelligence ที่ Daniel Gross ถูก Meta ล่อตัวไป จนทิ้งผู้ร่วมก่อตั้ง Ilya Sutskever ไปอย่างเจ็บปวด

    เทียบอีกเคสคือ Alexandr Wang ผู้ก่อตั้ง Scale AI ที่เคยเป็นดาวรุ่ง — ถูก Meta ดึงตัวไปเปิดแล็บใหม่และลงทุน $14B กับบริษัทของเขา แต่ผลคือ Scale สูญเสียดีลสำคัญกับ OpenAI และ Google พร้อมต้องปลดพนักงาน 14% ในเวลาสั้น ๆ

    เสียงสะท้อนจาก Sam Altman ของ OpenAI บอกว่า “ภูมิใจในความยึดมั่นพันธกิจในวงการนี้” แต่มองเห็น “การล่าโดยพวกจอมทัพ mercenaries” ที่ทำให้วงการเปลี่ยนจากความฝัน มาเป็นเรื่องของเงินและอำนาจ

    Windsurf เคยอยู่ระหว่างดีลขายให้ OpenAI มูลค่า $3B แต่ CEO เลิกดีลกลางทาง
    Varun Mohan ไปเข้าร่วมทีม Google พร้อมพาทีมหลักตามไป

    ภายในไม่กี่วัน Cognition เข้าซื้อ Windsurf และให้พนักงานทุกคนได้ส่วนแบ่ง
    ทำให้กำลังใจกลับมาแม้ดีลแรกถูกล้มกลางทาง

    Meta เสนอค่าตอบแทนมากกว่า $300M ต่อคนในบางกรณีเพื่อดึงนักวิจัย AI
    แบ่งจ่ายปีแรกหนึ่งในสามเป็นการจูงใจ

    Mark Zuckerberg ลงมาล่าผู้เชี่ยวชาญด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่ส่งทีม HR
    มีเป้าหมายสร้างแล็บเพื่อ AI ระดับ “superintelligence”

    Alexandr Wang จาก Scale AI ถูก Meta ดึงตัว — ส่งผลให้ Scale เสียดีลสำคัญ
    บริษัทประกาศปลดพนักงาน 14% หลังจากนั้น

    Daniel Gross จาก Safe Superintelligence ถูกดึงตัว ทำให้ Sutskever ต้องแยกทาง
    กระทบต่อทีมวิจัยที่เคยมีพันธกิจร่วมกัน

    https://www.techspot.com/news/108733-silicon-valley-ai-boom-turns-battle-brains-ndash.html
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Silicon Valley: เมื่อ AI ไม่ได้แค่เปลี่ยนเทคโนโลยี แต่เปลี่ยนความสัมพันธ์ของคน กรณีที่เด่นที่สุดเกิดกับ Windsurf บริษัทสตาร์ทอัพ AI ที่กำลังจะขายให้ OpenAI ในมูลค่า $3B — แต่ CEO Varun Mohan กลับ ล้มดีล และลาออกไปร่วมทีม Google พร้อมพาทีมงานหลักบางส่วนตามไปด้วย ข่าวนี้กระทบแรง เพราะทีมงาน Windsurf ส่วนใหญ่หวังว่าจะได้เงิน payout จากการเข้าซื้อ และบางคนถึงขั้นถ่ายวิดีโอโหมโรงไว้แล้วเพื่อเฉลิมฉลอง — กลับกลายเป็นคลิปบันทึก “การล่มสลาย” ของบริษัท แต่ภายในไม่กี่วัน Cognition บริษัท AI ที่เล็กกว่าแต่กำลังโตไวก็เข้ามาซื้อ Windsurf แทน โดย CEO Jeff Wang บอกว่าจะจ่ายเงินให้พนักงานทุกคนไม่ว่าจะอยู่มานานแค่ไหน — สร้างบรรยากาศ “คืนชีวิต” ให้ทีมงานอีกครั้ง ด้าน Meta กลายเป็นผู้เล่นที่ดุเดือดที่สุด — Mark Zuckerberg ทุ่มตัวเองลงไปล่าผู้เชี่ยวชาญจาก OpenAI, Google DeepMind, Apple และ Anthropic ด้วยข้อเสนอที่มากกว่า $300 ล้านภายใน 4 ปี (จ่ายปีแรกถึงหนึ่งในสาม) แต่แม้จะทุ่มเงินมากขนาดนั้น Meta ก็ยังขาด “หัวหน้าฝ่ายวิจัย” และยังไม่ได้ตัวบุคคลสำคัญที่ต้องการ เช่นในกรณีของ Safe Superintelligence ที่ Daniel Gross ถูก Meta ล่อตัวไป จนทิ้งผู้ร่วมก่อตั้ง Ilya Sutskever ไปอย่างเจ็บปวด เทียบอีกเคสคือ Alexandr Wang ผู้ก่อตั้ง Scale AI ที่เคยเป็นดาวรุ่ง — ถูก Meta ดึงตัวไปเปิดแล็บใหม่และลงทุน $14B กับบริษัทของเขา แต่ผลคือ Scale สูญเสียดีลสำคัญกับ OpenAI และ Google พร้อมต้องปลดพนักงาน 14% ในเวลาสั้น ๆ เสียงสะท้อนจาก Sam Altman ของ OpenAI บอกว่า “ภูมิใจในความยึดมั่นพันธกิจในวงการนี้” แต่มองเห็น “การล่าโดยพวกจอมทัพ mercenaries” ที่ทำให้วงการเปลี่ยนจากความฝัน มาเป็นเรื่องของเงินและอำนาจ ✅ Windsurf เคยอยู่ระหว่างดีลขายให้ OpenAI มูลค่า $3B แต่ CEO เลิกดีลกลางทาง ➡️ Varun Mohan ไปเข้าร่วมทีม Google พร้อมพาทีมหลักตามไป ✅ ภายในไม่กี่วัน Cognition เข้าซื้อ Windsurf และให้พนักงานทุกคนได้ส่วนแบ่ง ➡️ ทำให้กำลังใจกลับมาแม้ดีลแรกถูกล้มกลางทาง ✅ Meta เสนอค่าตอบแทนมากกว่า $300M ต่อคนในบางกรณีเพื่อดึงนักวิจัย AI ➡️ แบ่งจ่ายปีแรกหนึ่งในสามเป็นการจูงใจ ✅ Mark Zuckerberg ลงมาล่าผู้เชี่ยวชาญด้วยตัวเอง ไม่ใช่แค่ส่งทีม HR ➡️ มีเป้าหมายสร้างแล็บเพื่อ AI ระดับ “superintelligence” ✅ Alexandr Wang จาก Scale AI ถูก Meta ดึงตัว — ส่งผลให้ Scale เสียดีลสำคัญ ➡️ บริษัทประกาศปลดพนักงาน 14% หลังจากนั้น ✅ Daniel Gross จาก Safe Superintelligence ถูกดึงตัว ทำให้ Sutskever ต้องแยกทาง ➡️ กระทบต่อทีมวิจัยที่เคยมีพันธกิจร่วมกัน https://www.techspot.com/news/108733-silicon-valley-ai-boom-turns-battle-brains-ndash.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Silicon Valley's AI boom turns into a battle for brains – and billions
    Nowhere has that power struggle played out more dramatically than inside Windsurf, a fast-growing AI company that had, until recently, been seen as a rising star.
    0 Comments 0 Shares 231 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลก Grok: “Baby Grok” มาแล้ว — แชตบอตสำหรับเด็กโดยเฉพาะ?

    Grok โดย xAI เป็นแชตบอตที่มีกระแสแรงทั้งด้านเทคโนโลยีและข้อถกเถียง เช่นการตอบคำถามเชิงเหยียด หรือให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับบุคคลสำคัญ ล่าสุด Elon Musk ได้โพสต์บน X (Twitter เดิม) ว่า:

    “We're going to make Baby Grok @xAI, an app dedicated to kid-friendly content.”

    ถึงยังไม่มีรายละเอียดว่าตัว Baby Grok จะฝึกมาอย่างไร หรือปล่อยเมื่อไร แต่แนวโน้มคือจะลดขนาดจาก Grok รุ่นใหญ่ พร้อมเสริมระบบความปลอดภัยและกรองเนื้อหาที่เหมาะสำหรับเด็ก คล้ายกับแนวทางที่ Google ใช้กับ Gemini เวอร์ชันสำหรับเด็ก ซึ่งมีฟีเจอร์ช่วยทำการบ้าน, เล่านิทาน, และป้องกันการเก็บข้อมูลจากผู้ใช้อายุต่ำกว่า 13 ปี

    ขณะที่ Grok รุ่นหลักยังถูกวิจารณ์ต่อเนื่อง โดยเฉพาะฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ “Companions” หรือ avatar AI เช่นตัวละครชื่อ Ani ที่แม้เปิดโหมดเด็กก็ยังพูดเชิงยั่วยวนและใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมกับผู้เยาว์

    คำถามสำคัญคือ Baby Grok จะสามารถพัฒนาให้ “ปลอดภัยและให้การศึกษาจริง” โดยไม่หลุดจากขอบเขตที่ควรเป็นได้หรือไม่

    Elon Musk ประกาศว่า xAI จะทำ Baby Grok แอปสำหรับเนื้อหาที่เหมาะกับเด็ก
    โพสต์บน X ว่า “We're going to make Baby Grok @xAI, an app dedicated to kid-friendly content”

    ยังไม่มีข้อมูลว่า Baby Grok จะใช้ training แบบไหน หรือเปิดตัวเมื่อไร
    คาดว่าเป็นรุ่นย่อส่วนของ Grok ที่เพิ่มความปลอดภัยด้านเนื้อหา

    Google เคยปล่อย Gemini เวอร์ชันสำหรับเด็กที่ช่วยทำการบ้านและเล่านิทาน
    พร้อมระบบควบคุมผู้ปกครองผ่าน Family Link และไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้ที่เป็นเด็ก

    Baby Grok อาจเดินตามแนวทาง Google เช่นไม่มีโฆษณาและเน้นด้านการศึกษา
    เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้ปกครอง

    https://www.neowin.net/news/elon-musk-says-a-kid-friendly-baby-grok-is-on-the-way/
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลก Grok: “Baby Grok” มาแล้ว — แชตบอตสำหรับเด็กโดยเฉพาะ? Grok โดย xAI เป็นแชตบอตที่มีกระแสแรงทั้งด้านเทคโนโลยีและข้อถกเถียง เช่นการตอบคำถามเชิงเหยียด หรือให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับบุคคลสำคัญ ล่าสุด Elon Musk ได้โพสต์บน X (Twitter เดิม) ว่า: 🔖 “We're going to make Baby Grok @xAI, an app dedicated to kid-friendly content.” ถึงยังไม่มีรายละเอียดว่าตัว Baby Grok จะฝึกมาอย่างไร หรือปล่อยเมื่อไร แต่แนวโน้มคือจะลดขนาดจาก Grok รุ่นใหญ่ พร้อมเสริมระบบความปลอดภัยและกรองเนื้อหาที่เหมาะสำหรับเด็ก คล้ายกับแนวทางที่ Google ใช้กับ Gemini เวอร์ชันสำหรับเด็ก ซึ่งมีฟีเจอร์ช่วยทำการบ้าน, เล่านิทาน, และป้องกันการเก็บข้อมูลจากผู้ใช้อายุต่ำกว่า 13 ปี ขณะที่ Grok รุ่นหลักยังถูกวิจารณ์ต่อเนื่อง โดยเฉพาะฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ “Companions” หรือ avatar AI เช่นตัวละครชื่อ Ani ที่แม้เปิดโหมดเด็กก็ยังพูดเชิงยั่วยวนและใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมกับผู้เยาว์ คำถามสำคัญคือ Baby Grok จะสามารถพัฒนาให้ “ปลอดภัยและให้การศึกษาจริง” โดยไม่หลุดจากขอบเขตที่ควรเป็นได้หรือไม่ ✅ Elon Musk ประกาศว่า xAI จะทำ Baby Grok แอปสำหรับเนื้อหาที่เหมาะกับเด็ก ➡️ โพสต์บน X ว่า “We're going to make Baby Grok @xAI, an app dedicated to kid-friendly content” ✅ ยังไม่มีข้อมูลว่า Baby Grok จะใช้ training แบบไหน หรือเปิดตัวเมื่อไร ➡️ คาดว่าเป็นรุ่นย่อส่วนของ Grok ที่เพิ่มความปลอดภัยด้านเนื้อหา ✅ Google เคยปล่อย Gemini เวอร์ชันสำหรับเด็กที่ช่วยทำการบ้านและเล่านิทาน ➡️ พร้อมระบบควบคุมผู้ปกครองผ่าน Family Link และไม่เก็บข้อมูลผู้ใช้ที่เป็นเด็ก ✅ Baby Grok อาจเดินตามแนวทาง Google เช่นไม่มีโฆษณาและเน้นด้านการศึกษา ➡️ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้ปกครอง https://www.neowin.net/news/elon-musk-says-a-kid-friendly-baby-grok-is-on-the-way/
    WWW.NEOWIN.NET
    Elon Musk says a kid-friendly 'Baby Grok' is on the way
    Elon Musk confirmed a new version of Grok for Children is down the road. It's called "Baby Grok" and dedicated to kid-friendly content.
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • “อุปกิต” มอบพระพุทธรูปโบราณกว่า 300 ปีคืน สปป.ลาว พร้อมรูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัย หนุนโครงการเสนอชื่อบุคคลสำคัญยูเนสโก
    https://www.thai-tai.tv/news/20083/
    .
    #อุปกิตปาจรียางกูร #พระพุทธรูปโบราณ #คืนสมบัติชาติ #สปปลาว #วัดองค์ตื้อมหาวิหาร #ครูบาเจ้าศรีวิชัย #ยูเนสโก #ความสัมพันธ์ไทยลาว #มรดกทางวัฒนธรรม #ศาสนาและวัฒนธรรม
    “อุปกิต” มอบพระพุทธรูปโบราณกว่า 300 ปีคืน สปป.ลาว พร้อมรูปหล่อครูบาเจ้าศรีวิชัย หนุนโครงการเสนอชื่อบุคคลสำคัญยูเนสโก https://www.thai-tai.tv/news/20083/ . #อุปกิตปาจรียางกูร #พระพุทธรูปโบราณ #คืนสมบัติชาติ #สปปลาว #วัดองค์ตื้อมหาวิหาร #ครูบาเจ้าศรีวิชัย #ยูเนสโก #ความสัมพันธ์ไทยลาว #มรดกทางวัฒนธรรม #ศาสนาและวัฒนธรรม
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • อิหร่านกำลังพิจารณาแอปพลิเคชั่น Telegram ถูกยกเลิกในการตรวจสอบข้อมูลในเร็วๆ นี้ แต่ WhatsApp ก็จะถูกตรวจสอบเข้มข้นกว่าเดิม

    ในช่วงสงคราม 12 วัน ที่เพิ่งจบลง Telegram ได้แสดงให้เห็นว่ามีความเป็นกลางและยืนหยัดอยู่ฝ่ายที่ถูกต้อง ดังนั้น ข้อห้ามในตรวจสอบข้อมูลจึงถูกยกเลิก

    อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดของการตรวจสอบข้อมูลจะถูกบังคับใช้กับ WhatsApp เข้มข้นกว่าเดิม เนื่องจากอนุญาตถูกฝ่ายอิสราเอลใช้ในการล้วงข้อมูลข่าวกรอง เพื่อสอดส่องและติดตามบุคคลสำคัญในอิหร่าน
    อิหร่านกำลังพิจารณาแอปพลิเคชั่น Telegram ถูกยกเลิกในการตรวจสอบข้อมูลในเร็วๆ นี้ แต่ WhatsApp ก็จะถูกตรวจสอบเข้มข้นกว่าเดิม ในช่วงสงคราม 12 วัน ที่เพิ่งจบลง Telegram ได้แสดงให้เห็นว่ามีความเป็นกลางและยืนหยัดอยู่ฝ่ายที่ถูกต้อง ดังนั้น ข้อห้ามในตรวจสอบข้อมูลจึงถูกยกเลิก อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดของการตรวจสอบข้อมูลจะถูกบังคับใช้กับ WhatsApp เข้มข้นกว่าเดิม เนื่องจากอนุญาตถูกฝ่ายอิสราเอลใช้ในการล้วงข้อมูลข่าวกรอง เพื่อสอดส่องและติดตามบุคคลสำคัญในอิหร่าน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 318 Views 0 Reviews
  • **ชื่อเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> กับวลีจีนโบราณ**

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเรื่องชื่อนิยายและซีรีส์ <ปรปักษ์จำนน> ที่ Storyฯ รู้สึกว่าชื่อไทยแปลได้อรรถรสของชื่อจีนดีมาก

    ชื่อจีนของเรื่องนี้คือ ‘เจ๋อเยา’ (折腰) แปลตรงตัวว่าหักเอว ซึ่งมาจากการโค้งคำนับต่ำมากเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างยิ่งยวด แต่คำว่า ‘เจ๋อเยา’ ไม่ได้เป็นชื่อเรียกท่าโค้งคำนับ หากแต่มีความหมายว่ายอมจำนนหรือยอมสยบต่ออำนาจหรืออิทธิพลที่เหนือกว่า และมันมีที่มาจากวลีจีนโบราณ ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’

    วลีนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์จิ้น (晋书) ส่วนที่บันทึกเรื่องราวบุคคลสำคัญในบรรพที่ชื่อว่า ‘เถาเฉียนจ้วน’ (陶潜传 / ตำนานเถาเฉียน) และเจ้าของวลีคือเถายวนหมิง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาเฉียน เขาเป็นกวีและนักประพันธ์ชื่อดังในสมัยจิ้นตะวันออก (ค.ศ. 317-420) มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เช่น วรรณกรรมเรื่อง ‘บันทึกดินแดนดอกท้อ’ เกี่ยวกับดินแดนดอกท้ออันเป็นตัวแทนของดินแดนหรือสังคมในอุดมคติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Utopia ที่มนุษย์แสวงหา (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ย้อนอ่านได้ที่ลิ้งค์ใต้บทความ)

    เถายวนหมิงมีพื้นเพมาจากตระกูลขุนนางเก่าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี ปู่ทวดเป็นมหาเสนาบดีกลาโหม ปู่เป็นผู้ว่าราชการมณฑล เขาจึงได้รับการศึกษาอย่างดีมาแต่เด็ก ต่อมาฐานะครอบครัวตกต่ำลงจนถึงขั้นยากจนหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ แต่เขาก็ยังหมั่นเพียรขยันศึกษาจนต่อมาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิเต๋า

    ในช่วงอายุ 29 – 40 ปี เถายวนหมิงเคยเข้ารับราชการเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่ชอบการพินอบพิเทาเจ้านายและไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง แต่แล้วก็เข้ารับราชการใหม่ เป็นเช่นนี้หลายครั้งครา ทั้งนี้เพราะเขามีใจใฝ่ความสงบของธรรมชาติ รักมัธยัสถ์ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ต่อมาจึงตัดสินใจลาออกจากราชการอย่างถาวรและหันไปทำไร่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็สุขใจสามารถร่ำสุราแต่งกลอนตามใจอยากและได้สร้างผลงานวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของเขาล้วนแฝงด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และพลังแห่งชีวิต และต่อมาเถายวนหมิงได้ถูกยกย่องเป็นต้นแบบของการละทิ้งลาภยศชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างสมถะตามหลักปรัชญาแห่งเต๋า

    วลี ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเถายวนหมิงอายุสี่สิบปี เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าการเขตเผิงเจ๋อ (ตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลเจียงซี) อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ตรวจการมาตรวจงาน เสมียนหลวงบอกเขาว่าควรแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างเป็นทางการไปต้อนรับผู้ตรวจการ เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าววลีนี้ออกมา และเมื่อกล่าวเสร็จเขาก็ยื่นใบลาออกหลังจากรับราชการมาได้เพียงแปดสิบเอ็ดวัน และหลังจากนั้นก็ไม่เข้ารับราชการอีกเลย

    แล้วทำไมต้อง ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ ?

    ประเด็นนี้มีการตีความกันหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะตีความว่า ข้าวสารห้าโต่วคือค่าจ้างของขุนนางระดับผู้ว่าการเขตในสมัยนั้น (หนึ่งโต่วในสมัยนั้นคือประมาณเจ็ดลิตร) ซึ่งฟังดูน้อยนิดเมื่อคำนวณเทียบกับบันทึกโบราณว่าด้วยเงินเดือนข้าราชการ บ้างก็ว่าเป็นเงินเดือนแต่ยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่น เช่นผ้าไหม บ้างก็ว่าคิดได้เป็นค่าจ้างรายวันเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นปริมาณข้าวสารที่พอเพียงสำหรับหนึ่งคนในหนึ่งเดือน

    แต่ไม่ว่า ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ จะมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้และกล่าวถึงอย่างยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการละทิ้งยศศักดิ์ และวลีนี้ได้กลายมาเป็นสำนวนจีนที่ถูกใช้ผ่านกาลเวลาหลายยุคสมัยเพื่อแปลว่า ไม่ยอมละทิ้งจิตวิญญาณของตนเพื่อยอมสยบให้กับอำนาจหรืออิทธิพล

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความเก่า:
    ดินแดนดอกท้อ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/525898876205076

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.yangtse.com/news/wy/202506/t20250603_215987.html
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_2197713
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/陶渊明/53944
    https://baike.baidu.com/item/陶潜传/75756
    https://k.sina.cn/article_5044281310_12ca99fde020004fcq.html

    #ปรปักษ์จำนน #เจ๋อเยา #เถาเฉียน #เถายวนหมิง #สาระจีน
    **ชื่อเรื่อง <ปรปักษ์จำนน> กับวลีจีนโบราณ** สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเรื่องชื่อนิยายและซีรีส์ <ปรปักษ์จำนน> ที่ Storyฯ รู้สึกว่าชื่อไทยแปลได้อรรถรสของชื่อจีนดีมาก ชื่อจีนของเรื่องนี้คือ ‘เจ๋อเยา’ (折腰) แปลตรงตัวว่าหักเอว ซึ่งมาจากการโค้งคำนับต่ำมากเพื่อแสดงถึงความเคารพอย่างยิ่งยวด แต่คำว่า ‘เจ๋อเยา’ ไม่ได้เป็นชื่อเรียกท่าโค้งคำนับ หากแต่มีความหมายว่ายอมจำนนหรือยอมสยบต่ออำนาจหรืออิทธิพลที่เหนือกว่า และมันมีที่มาจากวลีจีนโบราณ ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ วลีนี้ปรากฏอยู่ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์จิ้น (晋书) ส่วนที่บันทึกเรื่องราวบุคคลสำคัญในบรรพที่ชื่อว่า ‘เถาเฉียนจ้วน’ (陶潜传 / ตำนานเถาเฉียน) และเจ้าของวลีคือเถายวนหมิง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า เถาเฉียน เขาเป็นกวีและนักประพันธ์ชื่อดังในสมัยจิ้นตะวันออก (ค.ศ. 317-420) มีผลงานเลื่องชื่อมากมาย เช่น วรรณกรรมเรื่อง ‘บันทึกดินแดนดอกท้อ’ เกี่ยวกับดินแดนดอกท้ออันเป็นตัวแทนของดินแดนหรือสังคมในอุดมคติหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Utopia ที่มนุษย์แสวงหา (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงแล้ว ย้อนอ่านได้ที่ลิ้งค์ใต้บทความ) เถายวนหมิงมีพื้นเพมาจากตระกูลขุนนางเก่าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี ปู่ทวดเป็นมหาเสนาบดีกลาโหม ปู่เป็นผู้ว่าราชการมณฑล เขาจึงได้รับการศึกษาอย่างดีมาแต่เด็ก ต่อมาฐานะครอบครัวตกต่ำลงจนถึงขั้นยากจนหลังจากบิดาเสียชีวิตไปเมื่อเขาอายุได้แปดขวบ แต่เขาก็ยังหมั่นเพียรขยันศึกษาจนต่อมาได้รับอิทธิพลทางความคิดจากลัทธิเต๋า ในช่วงอายุ 29 – 40 ปี เถายวนหมิงเคยเข้ารับราชการเพื่อหาเลี้ยงชีพแต่ก็ต้องลาออกเพราะไม่ชอบการพินอบพิเทาเจ้านายและไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีทางการเมือง แต่แล้วก็เข้ารับราชการใหม่ เป็นเช่นนี้หลายครั้งครา ทั้งนี้เพราะเขามีใจใฝ่ความสงบของธรรมชาติ รักมัธยัสถ์ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดี ต่อมาจึงตัดสินใจลาออกจากราชการอย่างถาวรและหันไปทำไร่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็สุขใจสามารถร่ำสุราแต่งกลอนตามใจอยากและได้สร้างผลงานวรรณกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของเขาล้วนแฝงด้วยจิตวิญญาณของธรรมชาติ ความเรียบง่าย และพลังแห่งชีวิต และต่อมาเถายวนหมิงได้ถูกยกย่องเป็นต้นแบบของการละทิ้งลาภยศชื่อเสียงและการใช้ชีวิตอย่างสมถะตามหลักปรัชญาแห่งเต๋า วลี ‘ไม่ยอมสยบ (หักเอว) เพื่อข้าวสารห้าโต่ว’ นี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเถายวนหมิงอายุสี่สิบปี เข้ารับราชการในตำแหน่งผู้ว่าการเขตเผิงเจ๋อ (ตั้งอยู่ทางเหนือของมณฑลเจียงซี) อยู่มาวันหนึ่งมีผู้ตรวจการมาตรวจงาน เสมียนหลวงบอกเขาว่าควรแต่งตัวให้เรียบร้อยอย่างเป็นทางการไปต้อนรับผู้ตรวจการ เขาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายและกล่าววลีนี้ออกมา และเมื่อกล่าวเสร็จเขาก็ยื่นใบลาออกหลังจากรับราชการมาได้เพียงแปดสิบเอ็ดวัน และหลังจากนั้นก็ไม่เข้ารับราชการอีกเลย แล้วทำไมต้อง ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ ? ประเด็นนี้มีการตีความกันหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะตีความว่า ข้าวสารห้าโต่วคือค่าจ้างของขุนนางระดับผู้ว่าการเขตในสมัยนั้น (หนึ่งโต่วในสมัยนั้นคือประมาณเจ็ดลิตร) ซึ่งฟังดูน้อยนิดเมื่อคำนวณเทียบกับบันทึกโบราณว่าด้วยเงินเดือนข้าราชการ บ้างก็ว่าเป็นเงินเดือนแต่ยังไม่รวมค่าตอบแทนอื่น เช่นผ้าไหม บ้างก็ว่าคิดได้เป็นค่าจ้างรายวันเท่านั้น บ้างก็ว่าเป็นปริมาณข้าวสารที่พอเพียงสำหรับหนึ่งคนในหนึ่งเดือน แต่ไม่ว่า ‘ข้าวสารห้าโต่ว’ จะมีความหมายที่แท้จริงอย่างไร เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้และกล่าวถึงอย่างยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการละทิ้งยศศักดิ์ และวลีนี้ได้กลายมาเป็นสำนวนจีนที่ถูกใช้ผ่านกาลเวลาหลายยุคสมัยเพื่อแปลว่า ไม่ยอมละทิ้งจิตวิญญาณของตนเพื่อยอมสยบให้กับอำนาจหรืออิทธิพล (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความเก่า: ดินแดนดอกท้อ https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/525898876205076 Credit รูปภาพจาก: https://www.yangtse.com/news/wy/202506/t20250603_215987.html https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_2197713 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/陶渊明/53944 https://baike.baidu.com/item/陶潜传/75756 https://k.sina.cn/article_5044281310_12ca99fde020004fcq.html #ปรปักษ์จำนน #เจ๋อเยา #เถาเฉียน #เถายวนหมิง #สาระจีน
    1 Comments 0 Shares 513 Views 0 Reviews
  • นี่คือการแปลเอกสารราชการฉบับนี้:**เลขที่ 1303/1419**กระทรวงการต่างประเทศ ขอแสดงความเคารพต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา และมีเกียรติแจ้งดังต่อไปนี้:"รัฐบาลไทยรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่การสนทนาทางโทรศัพท์ส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับบุคคลสำคัญจากกัมพูชาถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ความไว้วางใจและความเคารพระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่ายเป็นรากฐานสำคัญของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและการปฏิบัติต่อกันระหว่างประเทศ การกระทำดังกล่าวขัดต่อแนวปฏิบัติที่ยอมรับกันในระดับสากล และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพยายามที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหาด้วยเจตนาที่ดี"กระทรวงการต่างประเทศใช้โอกาสนี้ยืนยันต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาถึงการให้ความเคารพในระดับสูงสุดกระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพฯ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568เรียน สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา **กรุงเทพฯ**
    นี่คือการแปลเอกสารราชการฉบับนี้:**เลขที่ 1303/1419**กระทรวงการต่างประเทศ ขอแสดงความเคารพต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา และมีเกียรติแจ้งดังต่อไปนี้:"รัฐบาลไทยรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่การสนทนาทางโทรศัพท์ส่วนตัวระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับบุคคลสำคัญจากกัมพูชาถูกเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ความไว้วางใจและความเคารพระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่ายเป็นรากฐานสำคัญของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและการปฏิบัติต่อกันระหว่างประเทศ การกระทำดังกล่าวขัดต่อแนวปฏิบัติที่ยอมรับกันในระดับสากล และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความพยายามที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่ายในการแก้ไขปัญหาด้วยเจตนาที่ดี"กระทรวงการต่างประเทศใช้โอกาสนี้ยืนยันต่อสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชาถึงการให้ความเคารพในระดับสูงสุดกระทรวงการต่างประเทศ กรุงเทพฯ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2568เรียน สถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรกัมพูชา **กรุงเทพฯ**
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews
  • จากกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร และสมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เป็นประเด็นร้อนแรงถึงเนื้อหาและความเหมาะสมนั้น วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการสื่อสารนี้ นั่นคือ "ล่ามปริศนา" ที่ทำหน้าที่แปลภาษาไทย-เขมร และเขมร-ไทย ให้ผู้นำทั้งสองเข้าใจกันได้อย่างลึกซึ้ง“พี่ฮวด” เขาคือใคร?จากการตรวจสอบของ "เนชั่นทีวี" ล่ามผู้นี้คือ นาย เคลียง ฮวด หรือที่คนใกล้ชิดในตระกูลชินวัตรเรียกขานอย่างสนิทสนมว่า "ผอ.ฮวด" หรือ "พี่ฮวด" ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีตำแหน่งปัจจุบันของเขาไม่ใช่ธรรมดา เพราะเป็นถึงนายกเทศมนตรีของเขตจรอย จองวา และรองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ช่วยคนสนิทของสมเด็จ ฮุน เซน ตั้งแต่สมัยที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาแหล่งข่าวจากอดีตคนใกล้ชิดของตระกูลชินวัตรเล่าว่า "พี่ฮวด" ถือเป็นเหมือนเลขาฯ ส่วนตัวและผู้ช่วยใกล้ชิดของสมเด็จ ฮุน เซน มานานแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย เนื่องจากเขาสามารถพูดและฟังภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่วมาก ทำให้เขารับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักระหว่างฮุน เซน และฝ่ายไทยมาโดยตลอด"พี่ฮวด" ไม่เพียงแค่สนิทสนมกับสมเด็จ ฮุน เซน เท่านั้น แต่เขายังรู้จักและสนิทกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างดี เคยให้ความช่วยเหลืออดีตนายกฯ ทักษิณ ในช่วงที่หลบหนีคดีในต่างประเทศ คอยประสานงานต่างๆ ให้อย่างใกล้ชิด และรับบทบาทเป็นล่ามให้ทั้งสองฝ่าย คือทั้งของสมเด็จ ฮุน เซน และของตระกูลชินวัตรแสดงให้เห็นว่า "พี่ฮวด" หรือ "ผอ.ฮวด" เป็นบุคคลที่สมเด็จ ฮุน เซน ไว้วางใจอย่างมาก มักจะปรึกษาหารือและสอบถามในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับประเทศไทย
    จากกรณีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร และสมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่เป็นประเด็นร้อนแรงถึงเนื้อหาและความเหมาะสมนั้น วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับบุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการสื่อสารนี้ นั่นคือ "ล่ามปริศนา" ที่ทำหน้าที่แปลภาษาไทย-เขมร และเขมร-ไทย ให้ผู้นำทั้งสองเข้าใจกันได้อย่างลึกซึ้ง“พี่ฮวด” เขาคือใคร?จากการตรวจสอบของ "เนชั่นทีวี" ล่ามผู้นี้คือ นาย เคลียง ฮวด หรือที่คนใกล้ชิดในตระกูลชินวัตรเรียกขานอย่างสนิทสนมว่า "ผอ.ฮวด" หรือ "พี่ฮวด" ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีตำแหน่งปัจจุบันของเขาไม่ใช่ธรรมดา เพราะเป็นถึงนายกเทศมนตรีของเขตจรอย จองวา และรองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ช่วยคนสนิทของสมเด็จ ฮุน เซน ตั้งแต่สมัยที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาแหล่งข่าวจากอดีตคนใกล้ชิดของตระกูลชินวัตรเล่าว่า "พี่ฮวด" ถือเป็นเหมือนเลขาฯ ส่วนตัวและผู้ช่วยใกล้ชิดของสมเด็จ ฮุน เซน มานานแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย เนื่องจากเขาสามารถพูดและฟังภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่วมาก ทำให้เขารับหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักระหว่างฮุน เซน และฝ่ายไทยมาโดยตลอด"พี่ฮวด" ไม่เพียงแค่สนิทสนมกับสมเด็จ ฮุน เซน เท่านั้น แต่เขายังรู้จักและสนิทกับอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างดี เคยให้ความช่วยเหลืออดีตนายกฯ ทักษิณ ในช่วงที่หลบหนีคดีในต่างประเทศ คอยประสานงานต่างๆ ให้อย่างใกล้ชิด และรับบทบาทเป็นล่ามให้ทั้งสองฝ่าย คือทั้งของสมเด็จ ฮุน เซน และของตระกูลชินวัตรแสดงให้เห็นว่า "พี่ฮวด" หรือ "ผอ.ฮวด" เป็นบุคคลที่สมเด็จ ฮุน เซน ไว้วางใจอย่างมาก มักจะปรึกษาหารือและสอบถามในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับประเทศไทย
    3 Comments 0 Shares 293 Views 0 Reviews
  • มีรายงานเพิ่มเติมจากโทรทัศน์ของรัฐอิหร่านระบุว่า บุคคลสำคัญที่อาจเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลในครั้งนี้นอกเหนือไปจาก โมฮัมหมัด บาเกรี(Mohammad Bagheri) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่าน ประกอบไปด้วย:

    นายพลฮอสเซน ซาลามี (General Hossein Salami) ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC)

    นายพลโกลาม อาลี ราชิด (General Gholam Ali Rashid) ผู้บัญชาการกองบัญชาการคาทาม อัล-อันบียาของ IRGC ( IRGC's Khatam al-Anbiya)

    เฟเรย์ดูน อับบาซี (Fereydoon Abbasi) นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ (นี่เป็นความพยายามลอบสังหารเขาครั้งที่สอง)

    โมฮัมหมัด เมห์ดี เตหะรานชี นักฟิสิกส์และประธานมหาวิทยาลัยอิสลามอาซาด
    มีรายงานเพิ่มเติมจากโทรทัศน์ของรัฐอิหร่านระบุว่า บุคคลสำคัญที่อาจเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลในครั้งนี้นอกเหนือไปจาก โมฮัมหมัด บาเกรี(Mohammad Bagheri) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่าน ประกอบไปด้วย: 👉นายพลฮอสเซน ซาลามี (General Hossein Salami) ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) 👉นายพลโกลาม อาลี ราชิด (General Gholam Ali Rashid) ผู้บัญชาการกองบัญชาการคาทาม อัล-อันบียาของ IRGC ( IRGC's Khatam al-Anbiya) 👉เฟเรย์ดูน อับบาซี (Fereydoon Abbasi) นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ (นี่เป็นความพยายามลอบสังหารเขาครั้งที่สอง) 👉โมฮัมหมัด เมห์ดี เตหะรานชี นักฟิสิกส์และประธานมหาวิทยาลัยอิสลามอาซาด
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • สนธิเล่าเรื่อง 11-6-68
    .
    หลังจากประชุมพร้อมรับประทานอาหารเช้าเป็นข้าวผัดปลาเค็ม กับ แกงจืดมะระยัดไส้หมูสับกับทีมงาน เช้าวันพุธในบรรยากาศครึ้ม ๆ ของกรุงเทพฯ คุณสนธิจะมาเล่าให้ฟังถึงการไปยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีทำหน้าที่ปกป้อง รักษาอธิปไตย และความมั่นคงของชาติในความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อม อ.ปานเทพ และมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ รวมถึงมีประเด็นเพิ่มเติมฝากไปถึงสมเด็จฮุนเซน ผู้นำเขมร
    .
    นอกจากนี้คุณสนธิยังมีเรื่องเล่าที่หลายคนไม่เคยรู้เกี่ยวกับ "บิ๊กสุ" พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญคนหนึ่งในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เมื่อปี 2535 ด้วย
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=qd1fCCluCsY
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #ไทยเขมร #บิ๊กสุ #สุจินดา #พฤษภาทมิฬ
    สนธิเล่าเรื่อง 11-6-68 . หลังจากประชุมพร้อมรับประทานอาหารเช้าเป็นข้าวผัดปลาเค็ม กับ แกงจืดมะระยัดไส้หมูสับกับทีมงาน เช้าวันพุธในบรรยากาศครึ้ม ๆ ของกรุงเทพฯ คุณสนธิจะมาเล่าให้ฟังถึงการไปยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีทำหน้าที่ปกป้อง รักษาอธิปไตย และความมั่นคงของชาติในความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อม อ.ปานเทพ และมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ รวมถึงมีประเด็นเพิ่มเติมฝากไปถึงสมเด็จฮุนเซน ผู้นำเขมร . นอกจากนี้คุณสนธิยังมีเรื่องเล่าที่หลายคนไม่เคยรู้เกี่ยวกับ "บิ๊กสุ" พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญคนหนึ่งในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เมื่อปี 2535 ด้วย . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=qd1fCCluCsY . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #ไทยเขมร #บิ๊กสุ #สุจินดา #พฤษภาทมิฬ
    Like
    Love
    13
    0 Comments 0 Shares 1357 Views 0 Reviews
  • สนธิเล่าเรื่อง 11-6-68
    .
    หลังจากประชุมพร้อมรับประทานอาหารเช้าเป็นข้าวผัดปลาเค็ม กับ แกงจืดมะระยัดไส้หมูสับกับทีมงาน เช้าวันพุธในบรรยากาศครึ้ม ๆ ของกรุงเทพฯ คุณสนธิจะมาเล่าให้ฟังถึงการไปยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีทำหน้าที่ปกป้อง รักษาอธิปไตย และความมั่นคงของชาติในความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อม อ.ปานเทพ และมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ รวมถึงมีประเด็นเพิ่มเติมฝากไปถึงสมเด็จฮุนเซน ผู้นำเขมร
    .
    นอกจากนี้คุณสนธิยังมีเรื่องเล่าที่หลายคนไม่เคยรู้เกี่ยวกับ "บิ๊กสุ" พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญคนหนึ่งในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เมื่อปี 2535 ด้วย
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=qd1fCCluCsY
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #ไทยเขมร #บิ๊กสุ #สุจินดา #พฤษภาทมิฬ
    สนธิเล่าเรื่อง 11-6-68 . หลังจากประชุมพร้อมรับประทานอาหารเช้าเป็นข้าวผัดปลาเค็ม กับ แกงจืดมะระยัดไส้หมูสับกับทีมงาน เช้าวันพุธในบรรยากาศครึ้ม ๆ ของกรุงเทพฯ คุณสนธิจะมาเล่าให้ฟังถึงการไปยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีทำหน้าที่ปกป้อง รักษาอธิปไตย และความมั่นคงของชาติในความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อม อ.ปานเทพ และมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดินที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ รวมถึงมีประเด็นเพิ่มเติมฝากไปถึงสมเด็จฮุนเซน ผู้นำเขมร . นอกจากนี้คุณสนธิยังมีเรื่องเล่าที่หลายคนไม่เคยรู้เกี่ยวกับ "บิ๊กสุ" พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี และบุคคลสำคัญคนหนึ่งในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ เมื่อปี 2535 ด้วย . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=qd1fCCluCsY . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #ไทยเขมร #บิ๊กสุ #สุจินดา #พฤษภาทมิฬ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 478 Views 0 Reviews
  • Dell Technologies World 2025: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกเทคโนโลยี

    งาน Dell Technologies World 2025 ได้เผยโฉมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต โดยเน้นไปที่ AI, Cloud Computing, และโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล พร้อมการอภิปรายจากบุคคลสำคัญในวงการ

    ไฮไลท์สำคัญจากงาน Dell Technologies World 2025
    Dell เปิดตัว AI Factory รุ่นใหม่
    - เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถ นำ AI ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI มากกว่าการลงทุนในโครงการ Apollo ที่ส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์

    Dell ร่วมมือกับ Google นำ Gemini AI มาสู่เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge
    - ลูกค้าของ Dell สามารถใช้โมเดล AI ของ Google ได้โดยตรงบนเซิร์ฟเวอร์ของตน

    เปิดตัว Dell AI Data Platform และ Data Lakehouse
    - ช่วยให้ธุรกิจสามารถ จัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - รองรับการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์

    Dell เปิดตัว AI PC รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
    - มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น และรองรับการประมวลผล AI บนเครื่องโดยตรง

    การอภิปรายเกี่ยวกับ AI ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์
    - Tom Hanks และ Ron Howard พูดถึงผลกระทบของ AI ต่อการสร้างภาพยนตร์
    - มีการถกเถียงเกี่ยวกับ การใช้ Deepfake และ CGI ในอนาคต

    AI อาจเข้ามาแทนที่บางอาชีพในอนาคต
    - ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำให้ธุรกิจปรับตัวและพัฒนาทักษะใหม่ ๆ

    การใช้ AI ในภาพยนตร์อาจต้องการกฎหมายควบคุม
    - Tom Hanks เรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของบุคคลในโลกดิจิทัล

    https://www.techradar.com/pro/live/dell-technologies-world-2025-all-the-latest-news-and-updates-live
    Dell Technologies World 2025: การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกเทคโนโลยี งาน Dell Technologies World 2025 ได้เผยโฉมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต โดยเน้นไปที่ AI, Cloud Computing, และโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล พร้อมการอภิปรายจากบุคคลสำคัญในวงการ 🔍 ไฮไลท์สำคัญจากงาน Dell Technologies World 2025 ✅ Dell เปิดตัว AI Factory รุ่นใหม่ - เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถ นำ AI ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น - มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI มากกว่าการลงทุนในโครงการ Apollo ที่ส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ ✅ Dell ร่วมมือกับ Google นำ Gemini AI มาสู่เซิร์ฟเวอร์ PowerEdge - ลูกค้าของ Dell สามารถใช้โมเดล AI ของ Google ได้โดยตรงบนเซิร์ฟเวอร์ของตน ✅ เปิดตัว Dell AI Data Platform และ Data Lakehouse - ช่วยให้ธุรกิจสามารถ จัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น - รองรับการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ✅ Dell เปิดตัว AI PC รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น - มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้น และรองรับการประมวลผล AI บนเครื่องโดยตรง ✅ การอภิปรายเกี่ยวกับ AI ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ - Tom Hanks และ Ron Howard พูดถึงผลกระทบของ AI ต่อการสร้างภาพยนตร์ - มีการถกเถียงเกี่ยวกับ การใช้ Deepfake และ CGI ในอนาคต ‼️ AI อาจเข้ามาแทนที่บางอาชีพในอนาคต - ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำให้ธุรกิจปรับตัวและพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ‼️ การใช้ AI ในภาพยนตร์อาจต้องการกฎหมายควบคุม - Tom Hanks เรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของบุคคลในโลกดิจิทัล https://www.techradar.com/pro/live/dell-technologies-world-2025-all-the-latest-news-and-updates-live
    0 Comments 0 Shares 407 Views 0 Reviews
  • รายงานสรุปจากงาน Microsoft Build 2025 วันที่ 2

    งาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล มีการประกาศนวัตกรรมสำคัญมากมายในวันที่ 2 (20 พฤษภาคม 2568) โดยเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา ด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดทั้งหมดที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของงานในวันที่ 2:

    การพัฒนา AI และเทคโนโลยี Agentic

    - งานวันที่ 2 เริ่มต้นด้วย keynote สำหรับนักพัฒนา โดยเน้นรายละเอียดทางเทคนิคมากกว่าวันแรกของ Satya Nadella. มีการเปิดตัว Microsoft Discovery ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการวิจัยวิทยาศาสตร์ โดยช่วยในการจำลองสถานการณ์จริง เช่น การพัฒนาโซลูชันระบายความร้อน. John Link ได้สาธิตการใช้งานในงานนี้.

    - NLWeb เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติบนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเปลี่ยนเว็บไซต์ให้เป็นแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent พัฒนาโดย R.V. Guha และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ เช่น O’Reilly Media, Snowflake, Shopify, และ Chicago Public Library. Windows AI Foundry ซึ่งก่อนหน้านี้ชื่อ Windows 11 Copilot Runtime เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA) รองรับการทำงานบน CPU, GPU, และคลาวด์ พร้อมรุ่นสำหรับ Mac ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างฟีเจอร์ AI ได้หลากหลายมากขึ้น.

    - AI Agents ถูกนำมาใช้ในงานต่างๆ เช่น การวางแผนการเดินทาง, ลดการเกิด hallucination, และการดูแลผู้ป่วยมะเร็งโดยการรวมข้อมูลทางการแพทย์และแบ่งปันกับโรงพยาบาลชุมชน. มีการพูดถึง Agentic Web ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent เพื่อความเปิดกว้างและความเร็วในการสร้างเว็บไซต์.

    เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา

    - มีการสาธิต GitHub Copilot ซึ่งได้รับการอัปเกรดให้เป็น "เพื่อนนักพัฒนา" หรือ "Project Padawan" โดยสามารถแก้บั๊ก, พัฒนาฟีเจอร์ใหม่, และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงช่วยจัดการหลายงานพร้อมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา. GitHub Copilot เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับลูกค้า Copilot Enterprise และ Copilot Pro+ เหมาะสำหรับงานที่มีความซับซ้อนต่ำถึงปานกลาง.

    - Copilot Studio ได้รับการอัปเกรดด้วยคุณสมบัติสำหรับนักพัฒนามืออาวุโส รวมถึง M365 Copilot APIs (ในรูปแบบ preview) และ Bring Your Own Models จาก Azure Foundry (ในรูปแบบ preview). SQL Server 2025 เปิดตัวในรูปแบบ public preview พร้อมการรวม AI และความสามารถในการค้นหาเวกเตอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการฐานข้อมูล.

    - Microsoft ประกาศเปิดตัว Windows Subsystem for Linux (WSL) เป็นโอเพ่นซอร์ส รวมถึง "Mariner" Linux และ WSL-g UI layer, และมีแผนจะเปิดตัว GitHub Copilot Chat Extension สำหรับ VSCode เป็นโอเพ่นซอร์สในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า. นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง Model Context Protocol (MCP) ซึ่ง Microsoft เข้าร่วม MCP Steering Committee และรองรับ MCP บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น GitHub, Copilot Studio, Dynamics 365, Azure, Azure AI Foundry, Semantic Kernel, Foundry Agents, และ Windows 11.

    Microsoft 365 และ Copilot
    Microsoft 365 Copilot Wave 2 Spring Release มีการอัปเดตใหม่สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI Agent รวมถึง:

    - แอปที่อัปเดตสำหรับการทำงานร่วมกัน.
    - ประสบการณ์การสร้างด้วย OpenAI GPT-4o สำหรับการสร้างภาพ.
    - Copilot Notebooks เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA).
    - Copilot Search และ Copilot Memory จะเริ่มใช้งานในเดือนมิถุนายน.
    - Researcher และ Analyst agents ผ่านโปรแกรม Frontier จะเริ่มในเดือนนี้.

    Power Apps มีการประกาศคุณสมบัติใหม่ เช่น:
    - Solution Workspace เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 30 พฤษภาคม.
    - Generative pages ด้วย React code (Early Access Program).
    - Agent feed สำหรับแอป (Early Access Program).
    - นำแอปแบบ code-first มายัง Power Platform (Early Access Program).

    ความร่วมมือและนวัตกรรม
    - มีการร่วมมือกับ Nvidia โดย Jensen Huang กล่าวถึงการเร่งการทำงานของ AI และการจัดการงานหนักด้วย CUDA. นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับ xAI โดย Elon Musk ปรากฏตัวผ่านวิดีโอและประกาศว่า Grok 3 และ Grok 3 Mini จะมีบน Azure AI Foundry เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาดของ AI โดยใช้กฎหมายฟิสิกส์.

    - MyEngine AI ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยผู้ที่มีปัญหาการได้ยินเข้าใจสำเนียงท้องถิ่นได้ดีขึ้น. AI ยังถูกนำมาใช้ในด้านที่น่าสนใจ เช่น การพยากรณ์อากาศด้วย supercomputer บนคลาวด์ ซึ่งต้องการพลังการคำนวณสูงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ และ AI สำหรับ NFL Combine ซึ่งมีการสาธิตผ่านวิดีโอ (AI for NFL Combine).

    ความปลอดภัยและการจัดการ
    - Microsoft ขยายการใช้งาน Entra, Defender for Cloud, และ Purview เข้าสู่ Azure AI Foundry และ Copilot Studio เพื่อเพิ่มความปลอดภัย. Entra Agent ID เปิดตัวในรูปแบบ preview เพื่อจัดการ AI Agents ซึ่งช่วยในการควบคุมและปกป้องการทำงานของ AI.

    บุคคลสำคัญและการปรากฏตัว
    - งานวันที่ 2 มีการปรากฏตัวของบุคคลสำคัญผ่านวิดีโอ เช่น Sam Altman (OpenAI) ที่กล่าวถึงการจัดการงาน AI ขนาดใหญ่ และ Elon Musk (xAI) ที่พูดถึงความร่วมมือกับ Microsoft ในการนำ Grok 3 และ Grok 3 Mini มาใช้บน Azure.
    รายงานสรุปจากงาน Microsoft Build 2025 วันที่ 2 งาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล มีการประกาศนวัตกรรมสำคัญมากมายในวันที่ 2 (20 พฤษภาคม 2568) โดยเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา ด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดทั้งหมดที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของงานในวันที่ 2: ℹ️ การพัฒนา AI และเทคโนโลยี Agentic - งานวันที่ 2 เริ่มต้นด้วย keynote สำหรับนักพัฒนา โดยเน้นรายละเอียดทางเทคนิคมากกว่าวันแรกของ Satya Nadella. มีการเปิดตัว Microsoft Discovery ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการวิจัยวิทยาศาสตร์ โดยช่วยในการจำลองสถานการณ์จริง เช่น การพัฒนาโซลูชันระบายความร้อน. John Link ได้สาธิตการใช้งานในงานนี้. - NLWeb เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติบนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเปลี่ยนเว็บไซต์ให้เป็นแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent พัฒนาโดย R.V. Guha และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ เช่น O’Reilly Media, Snowflake, Shopify, และ Chicago Public Library. Windows AI Foundry ซึ่งก่อนหน้านี้ชื่อ Windows 11 Copilot Runtime เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA) รองรับการทำงานบน CPU, GPU, และคลาวด์ พร้อมรุ่นสำหรับ Mac ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างฟีเจอร์ AI ได้หลากหลายมากขึ้น. - AI Agents ถูกนำมาใช้ในงานต่างๆ เช่น การวางแผนการเดินทาง, ลดการเกิด hallucination, และการดูแลผู้ป่วยมะเร็งโดยการรวมข้อมูลทางการแพทย์และแบ่งปันกับโรงพยาบาลชุมชน. มีการพูดถึง Agentic Web ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent เพื่อความเปิดกว้างและความเร็วในการสร้างเว็บไซต์. ℹ️ เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา - มีการสาธิต GitHub Copilot ซึ่งได้รับการอัปเกรดให้เป็น "เพื่อนนักพัฒนา" หรือ "Project Padawan" โดยสามารถแก้บั๊ก, พัฒนาฟีเจอร์ใหม่, และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงช่วยจัดการหลายงานพร้อมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา. GitHub Copilot เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับลูกค้า Copilot Enterprise และ Copilot Pro+ เหมาะสำหรับงานที่มีความซับซ้อนต่ำถึงปานกลาง. - Copilot Studio ได้รับการอัปเกรดด้วยคุณสมบัติสำหรับนักพัฒนามืออาวุโส รวมถึง M365 Copilot APIs (ในรูปแบบ preview) และ Bring Your Own Models จาก Azure Foundry (ในรูปแบบ preview). SQL Server 2025 เปิดตัวในรูปแบบ public preview พร้อมการรวม AI และความสามารถในการค้นหาเวกเตอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการฐานข้อมูล. - Microsoft ประกาศเปิดตัว Windows Subsystem for Linux (WSL) เป็นโอเพ่นซอร์ส รวมถึง "Mariner" Linux และ WSL-g UI layer, และมีแผนจะเปิดตัว GitHub Copilot Chat Extension สำหรับ VSCode เป็นโอเพ่นซอร์สในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า. นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง Model Context Protocol (MCP) ซึ่ง Microsoft เข้าร่วม MCP Steering Committee และรองรับ MCP บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น GitHub, Copilot Studio, Dynamics 365, Azure, Azure AI Foundry, Semantic Kernel, Foundry Agents, และ Windows 11. ℹ️ Microsoft 365 และ Copilot ➡️ Microsoft 365 Copilot Wave 2 Spring Release มีการอัปเดตใหม่สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI Agent รวมถึง: - แอปที่อัปเดตสำหรับการทำงานร่วมกัน. - ประสบการณ์การสร้างด้วย OpenAI GPT-4o สำหรับการสร้างภาพ. - Copilot Notebooks เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA). - Copilot Search และ Copilot Memory จะเริ่มใช้งานในเดือนมิถุนายน. - Researcher และ Analyst agents ผ่านโปรแกรม Frontier จะเริ่มในเดือนนี้. ➡️ Power Apps มีการประกาศคุณสมบัติใหม่ เช่น: - Solution Workspace เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 30 พฤษภาคม. - Generative pages ด้วย React code (Early Access Program). - Agent feed สำหรับแอป (Early Access Program). - นำแอปแบบ code-first มายัง Power Platform (Early Access Program). ℹ️ ความร่วมมือและนวัตกรรม - มีการร่วมมือกับ Nvidia โดย Jensen Huang กล่าวถึงการเร่งการทำงานของ AI และการจัดการงานหนักด้วย CUDA. นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับ xAI โดย Elon Musk ปรากฏตัวผ่านวิดีโอและประกาศว่า Grok 3 และ Grok 3 Mini จะมีบน Azure AI Foundry เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาดของ AI โดยใช้กฎหมายฟิสิกส์. - MyEngine AI ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยผู้ที่มีปัญหาการได้ยินเข้าใจสำเนียงท้องถิ่นได้ดีขึ้น. AI ยังถูกนำมาใช้ในด้านที่น่าสนใจ เช่น การพยากรณ์อากาศด้วย supercomputer บนคลาวด์ ซึ่งต้องการพลังการคำนวณสูงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ และ AI สำหรับ NFL Combine ซึ่งมีการสาธิตผ่านวิดีโอ (AI for NFL Combine). ℹ️ ความปลอดภัยและการจัดการ - Microsoft ขยายการใช้งาน Entra, Defender for Cloud, และ Purview เข้าสู่ Azure AI Foundry และ Copilot Studio เพื่อเพิ่มความปลอดภัย. Entra Agent ID เปิดตัวในรูปแบบ preview เพื่อจัดการ AI Agents ซึ่งช่วยในการควบคุมและปกป้องการทำงานของ AI. ℹ️ บุคคลสำคัญและการปรากฏตัว - งานวันที่ 2 มีการปรากฏตัวของบุคคลสำคัญผ่านวิดีโอ เช่น Sam Altman (OpenAI) ที่กล่าวถึงการจัดการงาน AI ขนาดใหญ่ และ Elon Musk (xAI) ที่พูดถึงความร่วมมือกับ Microsoft ในการนำ Grok 3 และ Grok 3 Mini มาใช้บน Azure.
    0 Comments 0 Shares 627 Views 0 Reviews
  • ภัยคุกคามจาก Deepfake: ความเสี่ยงที่องค์กรต้องรับมืออย่างเร่งด่วน

    Deepfake กำลังกลายเป็น ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในรูปแบบ เสียงและวิดีโอปลอม ที่สามารถหลอกลวงพนักงานให้ทำธุรกรรมทางการเงินโดยไม่ได้ตรวจสอบให้ดี ตัวอย่างเช่น บริษัทค้าปลีกแห่งหนึ่งสูญเสียเงินกว่า $700,000 หลังจากพนักงานได้รับโทรศัพท์จาก CFO ปลอมที่ใช้เทคโนโลยี AI สร้างเสียงเลียนแบบ

    Deepfake สามารถใช้เลียนแบบเสียงและวิดีโอของบุคคลสำคัญในองค์กร
    - เช่น CEO หรือ CFO เพื่อสั่งให้พนักงานทำธุรกรรมทางการเงิน

    องค์กรต้องใช้มาตรการตรวจสอบหลายชั้นเพื่อป้องกันการโจมตี
    - เช่น การยืนยันตัวตนผ่านหมายเลขโทรศัพท์ที่รู้จักกันดี

    การฝึกอบรมพนักงานให้รู้จักสังเกต Deepfake เป็นสิ่งสำคัญ
    - เช่น เสียงที่ดูเร่งรีบผิดปกติ หรือการเคลื่อนไหวของใบหน้าที่ไม่เป็นธรรมชาติ

    Deepfake ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การหลอกลวงทางการเงิน แต่ยังใช้ในการสมัครงานปลอม
    - เช่น กรณีที่บริษัท Exabeam พบผู้สมัครงานที่ใช้วิดีโอ Deepfake ในการสัมภาษณ์

    รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณากฎหมาย No Fakes Act เพื่อควบคุมการใช้ Deepfake
    - กฎหมายนี้จะช่วยให้ บุคคลสามารถควบคุมการใช้เสียงและภาพของตนเองในสื่อดิจิทัล

    https://www.csoonline.com/article/3982379/deepfake-attacks-are-inevitable-cisos-cant-prepare-soon-enough.html
    ภัยคุกคามจาก Deepfake: ความเสี่ยงที่องค์กรต้องรับมืออย่างเร่งด่วน Deepfake กำลังกลายเป็น ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในรูปแบบ เสียงและวิดีโอปลอม ที่สามารถหลอกลวงพนักงานให้ทำธุรกรรมทางการเงินโดยไม่ได้ตรวจสอบให้ดี ตัวอย่างเช่น บริษัทค้าปลีกแห่งหนึ่งสูญเสียเงินกว่า $700,000 หลังจากพนักงานได้รับโทรศัพท์จาก CFO ปลอมที่ใช้เทคโนโลยี AI สร้างเสียงเลียนแบบ ✅ Deepfake สามารถใช้เลียนแบบเสียงและวิดีโอของบุคคลสำคัญในองค์กร - เช่น CEO หรือ CFO เพื่อสั่งให้พนักงานทำธุรกรรมทางการเงิน ✅ องค์กรต้องใช้มาตรการตรวจสอบหลายชั้นเพื่อป้องกันการโจมตี - เช่น การยืนยันตัวตนผ่านหมายเลขโทรศัพท์ที่รู้จักกันดี ✅ การฝึกอบรมพนักงานให้รู้จักสังเกต Deepfake เป็นสิ่งสำคัญ - เช่น เสียงที่ดูเร่งรีบผิดปกติ หรือการเคลื่อนไหวของใบหน้าที่ไม่เป็นธรรมชาติ ✅ Deepfake ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การหลอกลวงทางการเงิน แต่ยังใช้ในการสมัครงานปลอม - เช่น กรณีที่บริษัท Exabeam พบผู้สมัครงานที่ใช้วิดีโอ Deepfake ในการสัมภาษณ์ ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณากฎหมาย No Fakes Act เพื่อควบคุมการใช้ Deepfake - กฎหมายนี้จะช่วยให้ บุคคลสามารถควบคุมการใช้เสียงและภาพของตนเองในสื่อดิจิทัล https://www.csoonline.com/article/3982379/deepfake-attacks-are-inevitable-cisos-cant-prepare-soon-enough.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Deepfake attacks are inevitable. CISOs can’t prepare soon enough.
    Security leaders must develop a multi-layered strategy to defend against deepfake voice and video attacks, which experts expect to increase quickly in volume and effectiveness.
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • ไทยรัฐออนไลน์เปิดสถิติ “ทักษิณ” ขอออกนอกประเทศ31 ก.ค. 67ศาลยกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ “ทักษิณ” เดินทางไปดูไบเพื่อรักษาตัว ชี้มีแพทย์ในประเทศรักษาประจำอยู่แล้ว ส่วนการไปพบบุคคลสำคัญไม่มีเหตุจำเป็น 31 ม.ค. 68 ศาลอนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรในระหว่างวันที่ 2-3 ก.พ.2568 ไปหารือกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย 15 ก.พ. 68ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ “ทักษิณ” ออกนอกประเทศไปประชุมอาเซียน ที่ประเทศบรูไน 18-19 ก.พ. นี้ แต่ไม่อนุญาตให้เดินทางไปเวียดนามและกัมพูชา 6 มี.ค. 68 ศาลไม่อนุญาตให้ทักษิณขอออกนอกประเทศไปประชุมอาเซียน ที่อินโดนีเซีย ชี้ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ8 พ.ค. 68 ศาลไม่อนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปกาตาร์ ชี้ เป็นหมายนัดส่วนตัว ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
    ไทยรัฐออนไลน์เปิดสถิติ “ทักษิณ” ขอออกนอกประเทศ▪️31 ก.ค. 67ศาลยกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ “ทักษิณ” เดินทางไปดูไบเพื่อรักษาตัว ชี้มีแพทย์ในประเทศรักษาประจำอยู่แล้ว ส่วนการไปพบบุคคลสำคัญไม่มีเหตุจำเป็น▪️ 31 ม.ค. 68 ศาลอนุญาตให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรในระหว่างวันที่ 2-3 ก.พ.2568 ไปหารือกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย▪️ 15 ก.พ. 68ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ “ทักษิณ” ออกนอกประเทศไปประชุมอาเซียน ที่ประเทศบรูไน 18-19 ก.พ. นี้ แต่ไม่อนุญาตให้เดินทางไปเวียดนามและกัมพูชา▪️ 6 มี.ค. 68 ศาลไม่อนุญาตให้ทักษิณขอออกนอกประเทศไปประชุมอาเซียน ที่อินโดนีเซีย ชี้ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ▪️8 พ.ค. 68 ศาลไม่อนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปกาตาร์ ชี้ เป็นหมายนัดส่วนตัว ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
    0 Comments 0 Shares 427 Views 0 Reviews
  • 30 เมษายน 2568-รายงานข่าวNBT News ระบุว่าทบ. แจงปมคลิปกลุ่มชายนับสิบแต่งชุดคล้ายสารวัตรทหารในงานอีเวนต์เอกชน ยังไม่ยืนยันเป็นกำลังพล อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่หากพบผิดจริง เตรียมสอบสวนทางวินัย

    กองทัพบก ชี้แจง ตามที่มีการเผยแพร่ภาพกิจกรรมภายในงานแห่งหนึ่งบนสื่อสังคมออนไลน์และปรากฏภาพบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารร่วมปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั้น กองทัพบกได้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นและขอชี้แจงดังนี้ จากผลการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท Quanhou ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

    ในขั้นต้น กองทัพบกได้ประสานกับกองพันทหารสารวัตรที่ 11 (พัน.สห.11) ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพบว่าไม่มีคำสั่งให้กำลังพลของหน่วยเข้าปฏิบัติภารกิจในงานดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลที่แต่งกายในลักษณะคล้ายสารวัตรทหารนั้นเป็นกำลังพลของกองทัพบกหรือไม่ หรือสังกัดหน่วยงานใด ซึ่งขณะนี้กองทัพบกอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียด

    ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่ามีความเกี่ยวข้องหรือเป็นกำลังพลของกองทัพบกจริง จะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนทางวินัยเนื่องจากถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่นอกเหนือคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบวินัยของทางราชการอย่างชัดเจน

    ทั้งนี้ในคลิปแสดงพิธีเปิดงาน https://www.facebook.com/share/v/14bPiUYy6s/?mibextid=wwXIfr
    30 เมษายน 2568-รายงานข่าวNBT News ระบุว่าทบ. แจงปมคลิปกลุ่มชายนับสิบแต่งชุดคล้ายสารวัตรทหารในงานอีเวนต์เอกชน ยังไม่ยืนยันเป็นกำลังพล อยู่ระหว่างตรวจสอบ แต่หากพบผิดจริง เตรียมสอบสวนทางวินัย กองทัพบก ชี้แจง ตามที่มีการเผยแพร่ภาพกิจกรรมภายในงานแห่งหนึ่งบนสื่อสังคมออนไลน์และปรากฏภาพบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารร่วมปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั้น กองทัพบกได้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นและขอชี้แจงดังนี้ จากผลการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของกลุ่มบริษัท Quanhou ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 ณ อาคาร 6 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ในขั้นต้น กองทัพบกได้ประสานกับกองพันทหารสารวัตรที่ 11 (พัน.สห.11) ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพบว่าไม่มีคำสั่งให้กำลังพลของหน่วยเข้าปฏิบัติภารกิจในงานดังกล่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลที่แต่งกายในลักษณะคล้ายสารวัตรทหารนั้นเป็นกำลังพลของกองทัพบกหรือไม่ หรือสังกัดหน่วยงานใด ซึ่งขณะนี้กองทัพบกอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอย่างละเอียด ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่ามีความเกี่ยวข้องหรือเป็นกำลังพลของกองทัพบกจริง จะต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนทางวินัยเนื่องจากถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่นอกเหนือคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบวินัยของทางราชการอย่างชัดเจน ทั้งนี้ในคลิปแสดงพิธีเปิดงาน https://www.facebook.com/share/v/14bPiUYy6s/?mibextid=wwXIfr
    0 Comments 0 Shares 384 Views 0 Reviews
  • 9 ปี สิ้น “บรรหาร ศิลปอาชา” มังกรสุพรรณ นายกฯ ผู้สร้างเมืองด้วยมือปลาไหลใส่สเก็ต รวยอันดับสอง รองจากทักษิณ ชายผู้พลิกเมือง “สุพรรณบุรี” จนกลายเป็น “บรรหารบุรี”

    เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 แวดวงการเมืองไทย ต้องพบกับความสูญเสียครั้งสำคัญ เมื่อ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมด้วยภาวะภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ รวมอายุได้ 83 ปี 247 วัน

    แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปี แต่ชื่อของบรรหารก็ยังคงดังก้อง ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งในฐานะนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล นายกฯ ที่สู้จนได้เป็นผู้นำประเทศ และ “เจ้าพ่อเมืองสุพรรณ” ผู้ปั้นเมืองทั้งเมืองด้วยความตั้งใจ และสายสัมพันธ์ทางการเมืองอันแน่นหนา

    จะพาคุณย้อนรอยชีวิต และผลงานของชายผู้ได้ฉายาว่า “ปลาไหลใส่สเก็ต” อย่างบรรหาร พร้อมเจาะลึกทุกมิติที่ควรรู้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และมรดกที่ทิ้งไว้ให้เมืองสุพรรณบุรี

    ชีวิตวัยเด็กของ "เต็กเซียง แซ่เบ๊" เด็กชายแห่งท่าพี่เลี้ยง บรรหารเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีชื่อเดิมว่า “เต็กเซียง แซ่เบ๊” (馬德祥)

    เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 6 คน ของครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋ว ที่ทำธุรกิจร้านขายสิ่งทอชื่อ “ย่งหยูฮง” พ่อแม่คือ "เซ่งกิม" และ "สายเอ็ง แซ่เบ๊" ซึ่งปลูกฝังความขยันขันแข็ง และแนวคิดแบบพ่อค้า ให้แก่บรรหารตั้งแต่วัยเยาว์

    แม้จะเรียนถึงแค่ระดับมัธยมต้น ที่โรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ต้องหยุดเรียนเพราะสงครามโลก ครั้งที่สอง จึงเลือกเดินทางสายนักธุรกิจ สร้างฐานะด้วยตนเองจากงานรับเหมาก่อสร้าง จนในที่สุดกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ ผู้ก่อตั้งบริษัทมากมาย เช่น

    บริษัทสหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด
    บริษัทบี.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
    บริษัทคอสติกไทย จำกัด จำหน่ายเคมีภัณฑ์

    จากเด็กชายในเมืองเล็ก ๆ สู่เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ และผู้นำประเทศ บรรหารถือเป็นตัวอย่าง ของคนที่สร้างทุกอย่างจากศูนย์

    ก้าวแรกสู่การเมือง จากเทศบาลเมือง สู่สภาผู้แทนราษฎร เส้นทางการเมืองของบรรหาร เริ่มต้นในฐานะ “สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี” จากการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2516 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2518 และลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุพรรณบุรีในปี พ.ศ. 2519 ซึ่งเขาชนะทุกครั้งที่ลงสมัคร รวมทั้งสิ้น 11 สมัย!

    จากพลังแห่งความนิยมในพื้นที่สุพรรณบุรี บรรหารก้าวขึ้นสู่เวทีใหญ่ เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

    บรรหารได้รับสมญานามว่า “มังกรสุพรรณ” ด้วยพลังในการควบคุมพื้นที่อย่างแน่นหนา และ “ปลาไหลใส่สเก็ต” ด้วยสไตล์ทางการเมือง ที่ลื่นไหลยืดหยุ่น

    สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 ปี พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของประเทศไทย พร้อมควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

    ผลงานสำคัญที่เกิดขึ้นในรัฐบาลบรรหาร ได้แก่ ริเริ่มร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540, เป็นเจ้าภาพ ASEM และ ASEAN Summitm การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่เชียงใหม่, การจัดงานเกษตรอุตสาหกรรมโลก WORLDTECH’95 และการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

    แม้การบริหารของบรรหาร ถูกฝ่ายค้านวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องยุบสภาในปี พ.ศ. 2539 แต่ผลงานจำนวนมาก ก็ยังถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบัน

    รวยจริง ไม่ต้องโชว์ บรรหารกับทรัพย์สินมหาศาล จากรายงานของสำนักข่าวอิศรา “บรรหาร” ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “นายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด เป็นอันดับ 2” รองจาก “ทักษิณ ชินวัตร” โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจาก

    ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง

    ธุรกิจเคมีภัณฑ์

    อสังหาริมทรัพย์ทั้งในเมือง และต่างจังหวัด

    ของสะสม เช่น พระเครื่อง นาฬิกาหรู รถยนต์หรู

    แต่สิ่งที่ทำให้บรรหาร ได้รับความเคารพคือ “การใช้เงินเป็น” ไม่ใช่ “โชว์หรู” ใช้ทรัพย์สินเพื่อพัฒนา ไม่ใช่เพื่อสร้างภาพลักษณ์

    มรดกที่ทิ้งไว้ "บรรหารบุรี" เมืองต้นแบบของจังหวัดนิยม เมืองสุพรรณบุรีในวันนี้ กลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบ “จังหวัดนิยม” (Provincial Identity) ซึ่งนักวิชาการญี่ปุ่น "Yoshinori Nishizaki" อธิบายไว้ชัดเจนว่า

    “บรรหารสามารถสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้เมือง ผ่านโครงการต่างๆ ที่จับต้องได้จริง จนกลายเป็นแรงศรัทธาทางการเมือง”

    ตัวอย่างผลงานในสุพรรณบุรี เช่น หอคอยเมืองสุพรรณ, ถนนคุณภาพระดับประเทศ, โรงเรียนบรรหารแจ่มใส, โรงพยาบาล, ศูนย์ราชการรวมศูนย์, พิพิธภัณฑ์, หอเกียรติยศ และศาลหลักเมือง

    สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนมองเห็นว่า “นักการเมืองที่ดี” คือคนที่ “พัฒนาชุมชน” ไม่ใช่แค่พูดสวยหรูบนเวที

    บทเรียนจากชีวิตบรรหาร สัจจะ และกตัญญู หากถามถึงคุณธรรมสำคัญในชีวิตของบรรหาร มีอยู่ 2 คำ ที่บรรหารยึดมั่นเสมอ คือ

    “สัจจะ” คำพูดต้องรักษาให้ได้

    “กตัญญู” ต่อบ้านเกิด และผู้มีพระคุณ

    นี่คือสิ่งที่ทำให้ชื่อของบรรหาร ยังถูกพูดถึงแม้เวลาผ่านไปหลายปี และยังเป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่ ได้ศึกษาเรียนรู้

    มังกรสุพรรณ ผู้ล่องด้วยสัจจะ "บรรหาร ศิลปอาชา" ไม่ใช่แค่ “อดีตนายกรัฐมนตรี” แต่คือชายที่หล่อหลอมเมืองสุพรรณบุรี ให้กลายเป็นพื้นที่พิเศษ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

    จากชายที่เกิดในครอบครัวพ่อค้า สู่ผู้พัฒนาจังหวัดด้วยวิสัยทัศน์

    จากนักธุรกิจที่สร้างตัวเอง สู่ผู้นำที่เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองไทย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231016 เม.ย. 2568

    #บรรหารศิลปอาชา #นายกรัฐมนตรีไทย #มังกรสุพรรณ #บรรหารบุรี #ปลาไหลใส่สเก็ต #สุพรรณบุรี #การเมืองไทย #พัฒนาท้องถิ่น #จังหวัดนิยม #บุคคลสำคัญ
    9 ปี สิ้น “บรรหาร ศิลปอาชา” 🐉 มังกรสุพรรณ นายกฯ ผู้สร้างเมืองด้วยมือปลาไหลใส่สเก็ต รวยอันดับสอง รองจากทักษิณ ชายผู้พลิกเมือง “สุพรรณบุรี” จนกลายเป็น “บรรหารบุรี” 📅 เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 แวดวงการเมืองไทย ต้องพบกับความสูญเสียครั้งสำคัญ เมื่อ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมด้วยภาวะภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ รวมอายุได้ 83 ปี 247 วัน แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปี แต่ชื่อของบรรหารก็ยังคงดังก้อง ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งในฐานะนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล นายกฯ ที่สู้จนได้เป็นผู้นำประเทศ และ “เจ้าพ่อเมืองสุพรรณ” ผู้ปั้นเมืองทั้งเมืองด้วยความตั้งใจ และสายสัมพันธ์ทางการเมืองอันแน่นหนา 🧠 จะพาคุณย้อนรอยชีวิต และผลงานของชายผู้ได้ฉายาว่า “ปลาไหลใส่สเก็ต” อย่างบรรหาร พร้อมเจาะลึกทุกมิติที่ควรรู้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และมรดกที่ทิ้งไว้ให้เมืองสุพรรณบุรี 🇹🇭 👦 ชีวิตวัยเด็กของ "เต็กเซียง แซ่เบ๊" เด็กชายแห่งท่าพี่เลี้ยง บรรหารเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีชื่อเดิมว่า “เต็กเซียง แซ่เบ๊” (馬德祥) 👨‍👩‍👧‍👦 เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 6 คน ของครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋ว ที่ทำธุรกิจร้านขายสิ่งทอชื่อ “ย่งหยูฮง” พ่อแม่คือ "เซ่งกิม" และ "สายเอ็ง แซ่เบ๊" ซึ่งปลูกฝังความขยันขันแข็ง และแนวคิดแบบพ่อค้า ให้แก่บรรหารตั้งแต่วัยเยาว์ แม้จะเรียนถึงแค่ระดับมัธยมต้น ที่โรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ต้องหยุดเรียนเพราะสงครามโลก ครั้งที่สอง จึงเลือกเดินทางสายนักธุรกิจ สร้างฐานะด้วยตนเองจากงานรับเหมาก่อสร้าง จนในที่สุดกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ ผู้ก่อตั้งบริษัทมากมาย เช่น 🏗️ บริษัทสหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด ⚗️ บริษัทบี.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 🧪 บริษัทคอสติกไทย จำกัด จำหน่ายเคมีภัณฑ์ จากเด็กชายในเมืองเล็ก ๆ สู่เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ และผู้นำประเทศ บรรหารถือเป็นตัวอย่าง ของคนที่สร้างทุกอย่างจากศูนย์ 💪 🏛️ ก้าวแรกสู่การเมือง จากเทศบาลเมือง สู่สภาผู้แทนราษฎร เส้นทางการเมืองของบรรหาร เริ่มต้นในฐานะ “สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี” จากการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2516 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2518 และลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุพรรณบุรีในปี พ.ศ. 2519 ซึ่งเขาชนะทุกครั้งที่ลงสมัคร รวมทั้งสิ้น 11 สมัย! 🗳️ 🏆 จากพลังแห่งความนิยมในพื้นที่สุพรรณบุรี บรรหารก้าวขึ้นสู่เวทีใหญ่ เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 🚆 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🏢 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 🌾 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 💰 บรรหารได้รับสมญานามว่า “มังกรสุพรรณ” ด้วยพลังในการควบคุมพื้นที่อย่างแน่นหนา และ “ปลาไหลใส่สเก็ต” ด้วยสไตล์ทางการเมือง ที่ลื่นไหลยืดหยุ่น 👑 สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 📌 ปี พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของประเทศไทย พร้อมควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🎯 ผลงานสำคัญที่เกิดขึ้นในรัฐบาลบรรหาร ได้แก่ ริเริ่มร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540, เป็นเจ้าภาพ ASEM และ ASEAN Summitm การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่เชียงใหม่, การจัดงานเกษตรอุตสาหกรรมโลก WORLDTECH’95 และการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ แม้การบริหารของบรรหาร ถูกฝ่ายค้านวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องยุบสภาในปี พ.ศ. 2539 แต่ผลงานจำนวนมาก ก็ยังถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบัน 💸 รวยจริง ไม่ต้องโชว์ บรรหารกับทรัพย์สินมหาศาล 📈 จากรายงานของสำนักข่าวอิศรา “บรรหาร” ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “นายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด เป็นอันดับ 2” รองจาก “ทักษิณ ชินวัตร” โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจาก ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 🏗️ ธุรกิจเคมีภัณฑ์ 📦 อสังหาริมทรัพย์ทั้งในเมือง และต่างจังหวัด 🏢 ของสะสม เช่น พระเครื่อง นาฬิกาหรู รถยนต์หรู ⌚🚗 แต่สิ่งที่ทำให้บรรหาร ได้รับความเคารพคือ “การใช้เงินเป็น” ไม่ใช่ “โชว์หรู” ใช้ทรัพย์สินเพื่อพัฒนา ไม่ใช่เพื่อสร้างภาพลักษณ์ 🌸 มรดกที่ทิ้งไว้ "บรรหารบุรี" เมืองต้นแบบของจังหวัดนิยม เมืองสุพรรณบุรีในวันนี้ กลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบ “จังหวัดนิยม” (Provincial Identity) ซึ่งนักวิชาการญี่ปุ่น "Yoshinori Nishizaki" อธิบายไว้ชัดเจนว่า “บรรหารสามารถสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้เมือง ผ่านโครงการต่างๆ ที่จับต้องได้จริง จนกลายเป็นแรงศรัทธาทางการเมือง” 🧱 ตัวอย่างผลงานในสุพรรณบุรี เช่น หอคอยเมืองสุพรรณ, ถนนคุณภาพระดับประเทศ, โรงเรียนบรรหารแจ่มใส, โรงพยาบาล, ศูนย์ราชการรวมศูนย์, พิพิธภัณฑ์, หอเกียรติยศ และศาลหลักเมือง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนมองเห็นว่า “นักการเมืองที่ดี” คือคนที่ “พัฒนาชุมชน” ไม่ใช่แค่พูดสวยหรูบนเวที 📌 บทเรียนจากชีวิตบรรหาร สัจจะ และกตัญญู หากถามถึงคุณธรรมสำคัญในชีวิตของบรรหาร มีอยู่ 2 คำ ที่บรรหารยึดมั่นเสมอ คือ “สัจจะ” คำพูดต้องรักษาให้ได้ “กตัญญู” ต่อบ้านเกิด และผู้มีพระคุณ นี่คือสิ่งที่ทำให้ชื่อของบรรหาร ยังถูกพูดถึงแม้เวลาผ่านไปหลายปี และยังเป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่ ได้ศึกษาเรียนรู้ 📜 มังกรสุพรรณ ผู้ล่องด้วยสัจจะ "บรรหาร ศิลปอาชา" ไม่ใช่แค่ “อดีตนายกรัฐมนตรี” แต่คือชายที่หล่อหลอมเมืองสุพรรณบุรี ให้กลายเป็นพื้นที่พิเศษ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 🐉 จากชายที่เกิดในครอบครัวพ่อค้า สู่ผู้พัฒนาจังหวัดด้วยวิสัยทัศน์ จากนักธุรกิจที่สร้างตัวเอง สู่ผู้นำที่เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองไทย 🇹🇭 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231016 เม.ย. 2568 🔖 #บรรหารศิลปอาชา #นายกรัฐมนตรีไทย #มังกรสุพรรณ #บรรหารบุรี #ปลาไหลใส่สเก็ต #สุพรรณบุรี #การเมืองไทย #พัฒนาท้องถิ่น #จังหวัดนิยม #บุคคลสำคัญ
    0 Comments 0 Shares 1181 Views 0 Reviews
  • Cantor Fitzgerald กำลังร่วมมือกับ SoftBank, Tether และ Bitfinex เพื่อสร้าง Cantor Equity Partners ซึ่งเป็นโครงการลงทุนใน Bitcoin มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างบริษัทใหม่ชื่อ 21 Capital โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญในวงการ เช่น Brandon Lutnick ซึ่งเป็นบุตรชายของ Howard Lutnick อดีตซีอีโอของ Cantor และปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ

    โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก SoftBank, Tether และ Bitfinex
    - Tether สนับสนุนด้วย Bitcoin มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
    - SoftBank และ Bitfinex สนับสนุนด้วย Bitcoin มูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ และ 600 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ

    โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างบริษัทใหม่ชื่อ 21 Capital
    - บริษัทนี้จะเป็นศูนย์กลางการลงทุนใน Bitcoin และการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง

    Howard Lutnick สนับสนุนโครงการในฐานะรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ
    - เขาเชื่อว่า Crypto สามารถช่วยปรับปรุงระบบธนาคารและเพิ่มความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

    โครงการนี้อาจมีการประกาศอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
    - อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ที่ข้อตกลงอาจล้มเหลวหรือมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลข

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/23/cantor-nears-3-billion-crypto-venture-with-softbank-and-tether-ft-reports
    Cantor Fitzgerald กำลังร่วมมือกับ SoftBank, Tether และ Bitfinex เพื่อสร้าง Cantor Equity Partners ซึ่งเป็นโครงการลงทุนใน Bitcoin มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างบริษัทใหม่ชื่อ 21 Capital โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญในวงการ เช่น Brandon Lutnick ซึ่งเป็นบุตรชายของ Howard Lutnick อดีตซีอีโอของ Cantor และปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ ✅ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก SoftBank, Tether และ Bitfinex - Tether สนับสนุนด้วย Bitcoin มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ - SoftBank และ Bitfinex สนับสนุนด้วย Bitcoin มูลค่า 900 ล้านดอลลาร์ และ 600 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ✅ โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างบริษัทใหม่ชื่อ 21 Capital - บริษัทนี้จะเป็นศูนย์กลางการลงทุนใน Bitcoin และการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ✅ Howard Lutnick สนับสนุนโครงการในฐานะรัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ - เขาเชื่อว่า Crypto สามารถช่วยปรับปรุงระบบธนาคารและเพิ่มความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ✅ โครงการนี้อาจมีการประกาศอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า - อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้ที่ข้อตกลงอาจล้มเหลวหรือมีการเปลี่ยนแปลงตัวเลข https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/23/cantor-nears-3-billion-crypto-venture-with-softbank-and-tether-ft-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Cantor nears $3 billion crypto venture with SoftBank and Tether, FT reports
    (Reuters) -Brandon Lutnick, son of U.S. Commerce Secretary Howard Lutnick and chair of brokerage Cantor Fitzgerald, is partnering with SoftBank, Tether and Bitfinex to create a multibillion-dollar bitcoin acquisition vehicle, the Financial Times reported on Tuesday.
    0 Comments 0 Shares 258 Views 0 Reviews
  • "จีนส่งสัญญาณเปิดกว้างต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ"

    และทันทีที่มีข่าวนี้ออกมาเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หุ้นดีดตัวสูงขึ้นทันที
    ดูเหมือนว่าแหล่งข่าวเดียวที่นำเสนอรายงานนี้มาจากสำนักข่าว Bloomberg

    Bloomberg ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าจีนจะแสดงความพร้อมเข้าสู่การเจรจากับสหรัฐแต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขบางประการ:

    ประการที่แรก ปักกิ่งต้องการให้สหรัฐแต่งตั้งบุคคลสำคัญในการเจรจาที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีและสามารถช่วยเตรียมข้อตกลงที่ทรัมป์และสีจิ้นผิง ผู้นำจีนสามารถลงนามได้เมื่อพวกเขาพบกัน

    ประการที่สอง จีนต้องการให้สหรัฐแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและดำเนินการที่สอดคล้องกันให้มากขึ้นในการตอบสนองต่อประเด็นความกังวลของปักกิ่งเกี่ยวกับไต้หวัน

    ประการที่สาม ปักกิ่งต้องการให้รัฐบาลของทรัมป์แสดง "ความเคารพ" ต่อจีนให้มากขึ้น ด้วยการควบคุมคำพูดดูหมิ่นของสมาชิกคณะรัฐมนตรีบางคน

    สำหรับประเด็นที่สาม แม้ว่าจีนไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าคือ รองประธานาธิบดีสหรัฐ "เจดี แวนซ์" เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แวนซ์ เรียกชาวจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกว่าเป็นเพียง "ชาวนาจีน" (“Chinese peasants) ที่ทำหน้าที่ผลิตสิ่งของป้อนให้สหรัฐ “เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย เราขอยืมเงินจากชาวนาจีนเพื่อซื้อสิ่งของที่ชาวนาจีนผลิตขึ้น นั่นไม่ใช่สูตรสำหรับความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ” ( "To make it a little more crystal clear, we borrow money from Chinese peasants to buy the things those Chinese peasants manufacture. That is not a recipe for economic prosperity.")

    คำพูดของแวนซ์ ที่เรียกชาวจีนว่า "ชาวนา" ถือเป็นคำดูหมื่นชาวจีนอย่างมาก เนื่องจากถูกมองว่าเป็นประเทศที่ล้าหลัง ด้อยพัฒนา ทำให้เกิดการต่อต้านจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก และมีการโต้กลับคำพูดดูหมิ่นนี้จากชาวเน็ตจีน โดยชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ประเทศของพวกเขาได้พัฒนาในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เช่น การสื่อสาร 5G และรถไฟความเร็วสูง

    นอกจากนี้รัฐบาลจีน โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน "หลิน เจี้ยน" เรียกคำพูดดังกล่าวของแวนซ์ว่า “ไร้ความรู้และไม่ให้เกียรติ” ซึ่งถือเป็นการตำหนิผู้นำระดับสูงของสหรัฐโดยตรง ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยเท่าไหร่นัก


    เจ้าหน้าที่ปักกิ่งเชื่อว่า ไม่ว่าใครในคณะทำงานของทรัมป์ออกมากล่าวบางอย่างเกี่ยวกับจีน และหากทรัมป์ไม่ปฏิเสธความเห็นเหล่านั้น เจ้าหน้าที่จีนก็ถือว่าทรัมป์เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่เหล่านั้นเช่นกัน
    "จีนส่งสัญญาณเปิดกว้างต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ" และทันทีที่มีข่าวนี้ออกมาเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หุ้นดีดตัวสูงขึ้นทันที ดูเหมือนว่าแหล่งข่าวเดียวที่นำเสนอรายงานนี้มาจากสำนักข่าว Bloomberg Bloomberg ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าจีนจะแสดงความพร้อมเข้าสู่การเจรจากับสหรัฐแต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขบางประการ: 👉ประการที่แรก ปักกิ่งต้องการให้สหรัฐแต่งตั้งบุคคลสำคัญในการเจรจาที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีและสามารถช่วยเตรียมข้อตกลงที่ทรัมป์และสีจิ้นผิง ผู้นำจีนสามารถลงนามได้เมื่อพวกเขาพบกัน 👉ประการที่สอง จีนต้องการให้สหรัฐแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและดำเนินการที่สอดคล้องกันให้มากขึ้นในการตอบสนองต่อประเด็นความกังวลของปักกิ่งเกี่ยวกับไต้หวัน 👉ประการที่สาม ปักกิ่งต้องการให้รัฐบาลของทรัมป์แสดง "ความเคารพ" ต่อจีนให้มากขึ้น ด้วยการควบคุมคำพูดดูหมิ่นของสมาชิกคณะรัฐมนตรีบางคน สำหรับประเด็นที่สาม แม้ว่าจีนไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าคือ รองประธานาธิบดีสหรัฐ "เจดี แวนซ์" เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แวนซ์ เรียกชาวจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกว่าเป็นเพียง "ชาวนาจีน" (“Chinese peasants) ที่ทำหน้าที่ผลิตสิ่งของป้อนให้สหรัฐ “เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย เราขอยืมเงินจากชาวนาจีนเพื่อซื้อสิ่งของที่ชาวนาจีนผลิตขึ้น นั่นไม่ใช่สูตรสำหรับความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ” ( "To make it a little more crystal clear, we borrow money from Chinese peasants to buy the things those Chinese peasants manufacture. That is not a recipe for economic prosperity.") คำพูดของแวนซ์ ที่เรียกชาวจีนว่า "ชาวนา" ถือเป็นคำดูหมื่นชาวจีนอย่างมาก เนื่องจากถูกมองว่าเป็นประเทศที่ล้าหลัง ด้อยพัฒนา ทำให้เกิดการต่อต้านจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก และมีการโต้กลับคำพูดดูหมิ่นนี้จากชาวเน็ตจีน โดยชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ประเทศของพวกเขาได้พัฒนาในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เช่น การสื่อสาร 5G และรถไฟความเร็วสูง นอกจากนี้รัฐบาลจีน โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน "หลิน เจี้ยน" เรียกคำพูดดังกล่าวของแวนซ์ว่า “ไร้ความรู้และไม่ให้เกียรติ” ซึ่งถือเป็นการตำหนิผู้นำระดับสูงของสหรัฐโดยตรง ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยเท่าไหร่นัก เจ้าหน้าที่ปักกิ่งเชื่อว่า ไม่ว่าใครในคณะทำงานของทรัมป์ออกมากล่าวบางอย่างเกี่ยวกับจีน และหากทรัมป์ไม่ปฏิเสธความเห็นเหล่านั้น เจ้าหน้าที่จีนก็ถือว่าทรัมป์เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่เหล่านั้นเช่นกัน
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 647 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้กล่าวถึงการสอบสวนของ Irish Data Protection Commission (DPC) เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานในสหภาพยุโรป (EU) โดยแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อ Twitter) เพื่อฝึกอบรมระบบ AI Grok

    การสอบสวนของ DPC:
    - DPC ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลใน EU ได้เริ่มการสอบสวนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลจากโพสต์ที่เข้าถึงได้สาธารณะบนแพลตฟอร์ม X เพื่อฝึกอบรมโมเดล AI.
    - การสอบสวนนี้มีอำนาจในการกำหนดค่าปรับสูงสุดถึง 4% ของรายได้ทั่วโลกของบริษัทภายใต้กฎ GDPR.

    การตอบสนองของ X:
    - X ได้ตกลงที่จะหยุดการฝึกอบรมระบบ AI โดยใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานใน EU ก่อนที่ผู้ใช้งานจะมีตัวเลือกในการถอนความยินยอม.
    - การตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการดำเนินคดีในศาลที่ DPC เรียกร้องให้ X หยุดการประมวลผลข้อมูลดังกล่าว.

    ความสำคัญของ GDPR:
    - GDPR เป็นกฎหมายที่เข้มงวดใน EU ซึ่งกำหนดให้บริษัทต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวและการปกป้องข้อมูล.
    - DPC เคยกำหนดค่าปรับให้กับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Meta และ TikTok รวมถึง X ในปี 2020.

    ความคิดเห็นจากบุคคลสำคัญ:
    - Elon Musk เจ้าของ X และที่ปรึกษาของ Donald Trump ได้วิพากษ์วิจารณ์กฎระเบียบของ EU โดยเฉพาะกฎที่กำหนดโดย Brussels

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/irish-regulator-investigates-x-over-use-of-eu-personal-data-to-train-grok-ai
    ข่าวนี้กล่าวถึงการสอบสวนของ Irish Data Protection Commission (DPC) เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานในสหภาพยุโรป (EU) โดยแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อ Twitter) เพื่อฝึกอบรมระบบ AI Grok ✅ การสอบสวนของ DPC: - DPC ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลใน EU ได้เริ่มการสอบสวนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลจากโพสต์ที่เข้าถึงได้สาธารณะบนแพลตฟอร์ม X เพื่อฝึกอบรมโมเดล AI. - การสอบสวนนี้มีอำนาจในการกำหนดค่าปรับสูงสุดถึง 4% ของรายได้ทั่วโลกของบริษัทภายใต้กฎ GDPR. ✅ การตอบสนองของ X: - X ได้ตกลงที่จะหยุดการฝึกอบรมระบบ AI โดยใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานใน EU ก่อนที่ผู้ใช้งานจะมีตัวเลือกในการถอนความยินยอม. - การตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการดำเนินคดีในศาลที่ DPC เรียกร้องให้ X หยุดการประมวลผลข้อมูลดังกล่าว. ✅ ความสำคัญของ GDPR: - GDPR เป็นกฎหมายที่เข้มงวดใน EU ซึ่งกำหนดให้บริษัทต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวและการปกป้องข้อมูล. - DPC เคยกำหนดค่าปรับให้กับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Meta และ TikTok รวมถึง X ในปี 2020. ✅ ความคิดเห็นจากบุคคลสำคัญ: - Elon Musk เจ้าของ X และที่ปรึกษาของ Donald Trump ได้วิพากษ์วิจารณ์กฎระเบียบของ EU โดยเฉพาะกฎที่กำหนดโดย Brussels https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/irish-regulator-investigates-x-over-use-of-eu-personal-data-to-train-grok-ai
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Irish regulator investigates X over use of EU personal data to train Grok AI
    DUBLIN (Reuters) - Ireland's data regulator on Friday said it had opened an investigation into social media platform X over the use of personal data collected from European Union users to train its AI system Grok.
    0 Comments 0 Shares 304 Views 0 Reviews
  • ตร.ไซเบอร์จ่อเรียกไฮโซเก๊ สอบปมปลอมแชตไลน์ นำผู้อื่นแอบอ้าง พบปลอมชื่อบุคคลสำคัญเพียบ รวมถึงนายกฯ เตรียมออกหมายเรียก หากไม่มาพบเจอหมายจับแน่!

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033581
    ตร.ไซเบอร์จ่อเรียกไฮโซเก๊ สอบปมปลอมแชตไลน์ นำผู้อื่นแอบอ้าง พบปลอมชื่อบุคคลสำคัญเพียบ รวมถึงนายกฯ เตรียมออกหมายเรียก หากไม่มาพบเจอหมายจับแน่! อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033581
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 689 Views 0 Reviews
  • ข้อผิดพลาดใน Google Assistant ทำให้โหมด Do Not Disturb ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ ส่งผลให้พลาดสายสำคัญและการปลุก ผู้ใช้ควรตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android เพื่อความมั่นใจว่าการแจ้งเตือนสำคัญจะไม่ถูกปิดเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ ในขณะที่ Google ยังไม่ได้ออกมาแก้ไขปัญหา ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ Assistant กับ Gemini อาจเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไป

    DND ผ่าน Google Assistant ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้
    - การสั่งเปิดโหมด Do Not Disturb ผ่านคำสั่งเสียงของ Google Assistant อาจ ปิดเสียงทุกการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าทั้งหมด
    - การตั้งค่าส่วนบุคคล เช่น การอนุญาตให้สายเรียกเข้าจากบุคคลสำคัญยังคงดัง จะถูกละเลย

    ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง
    - ผู้ใช้งานบางรายพบว่า พลาดสายเรียกเข้าที่สำคัญ เช่น สายจากญาติผู้ใหญ่ หรือ การปลุกตอนเช้า
    - ปัญหานี้ได้รับการพูดถึงในชุมชน Reddit และได้รับการยืนยันโดย Android Authority

    วิธีแก้ไขชั่วคราว
    - ผู้ใช้ควร ตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android แทนการใช้คำสั่งเสียง Google Assistant
    - การเข้าถึง DND สามารถทำได้ผ่าน Settings > Modes > Do Not Disturb เพื่อกำหนดรูปแบบการแจ้งเตือนที่ต้องการ

    ความเงียบจาก Google
    - จนถึงขณะนี้ Google ยังไม่มีคำชี้แจงหรือการแก้ไขปัญหา อย่างเป็นทางการ

    ความเชื่อมโยงกับ Gemini
    - Google Assistant อาจถูกแทนที่ด้วยระบบ Gemini AI ในอนาคต ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการละเลยในเรื่องนี้

    https://www.techradar.com/phones/android/a-google-assistant-bug-seems-to-be-causing-some-users-to-miss-alarms-and-calls-on-android
    ข้อผิดพลาดใน Google Assistant ทำให้โหมด Do Not Disturb ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ ส่งผลให้พลาดสายสำคัญและการปลุก ผู้ใช้ควรตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android เพื่อความมั่นใจว่าการแจ้งเตือนสำคัญจะไม่ถูกปิดเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ ในขณะที่ Google ยังไม่ได้ออกมาแก้ไขปัญหา ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ Assistant กับ Gemini อาจเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไป ✅ DND ผ่าน Google Assistant ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ - การสั่งเปิดโหมด Do Not Disturb ผ่านคำสั่งเสียงของ Google Assistant อาจ ปิดเสียงทุกการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าทั้งหมด - การตั้งค่าส่วนบุคคล เช่น การอนุญาตให้สายเรียกเข้าจากบุคคลสำคัญยังคงดัง จะถูกละเลย ✅ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง - ผู้ใช้งานบางรายพบว่า พลาดสายเรียกเข้าที่สำคัญ เช่น สายจากญาติผู้ใหญ่ หรือ การปลุกตอนเช้า - ปัญหานี้ได้รับการพูดถึงในชุมชน Reddit และได้รับการยืนยันโดย Android Authority ✅ วิธีแก้ไขชั่วคราว - ผู้ใช้ควร ตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android แทนการใช้คำสั่งเสียง Google Assistant - การเข้าถึง DND สามารถทำได้ผ่าน Settings > Modes > Do Not Disturb เพื่อกำหนดรูปแบบการแจ้งเตือนที่ต้องการ ✅ ความเงียบจาก Google - จนถึงขณะนี้ Google ยังไม่มีคำชี้แจงหรือการแก้ไขปัญหา อย่างเป็นทางการ ✅ ความเชื่อมโยงกับ Gemini - Google Assistant อาจถูกแทนที่ด้วยระบบ Gemini AI ในอนาคต ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการละเลยในเรื่องนี้ https://www.techradar.com/phones/android/a-google-assistant-bug-seems-to-be-causing-some-users-to-miss-alarms-and-calls-on-android
    0 Comments 0 Shares 373 Views 0 Reviews
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออก

    เดือนนี้ เป็นเพราะความไม่ละเอียดรอบคอบส่งผลกระทบให้อุปสรรคปัญหาที่เป็นเรื่องราวเก่าเก็บในอดีตจึงเกิดการพลิกผันย้อนกลับ หรือเป็นเพราะความอดทนอยู่ในวงจำกัดความเครียดจึงบันดาลเป็นโทสะระเบิดเป็นความโกรธออกมา ดังนั้นจะกระทำการสิ่งใดจงอย่านำอารมณ์มาอยู่เหนือเหตุและผลใช้สติยั้งคิดก่อนการย้ำทำจึงจะลุล่วงอุปสรรคได้ อาชีพนักการเมือง ข้าราชการจะสูญเสียบุคคลสำคัญ และคุณแม่บ้านที่โหมงานหนักจักต้องเหน็ดเหนื่อยจนพาลให้เจ็บป่วยเป็นโรคหัวใจเฉียบพลัน อีกทั้งควรระมัดระวังฟืนๆไฟๆหมั่นตรวจตราเครื่องใช้ไฟฟ้าเพราะมีโอกาสจะเกิดไฟฟ้ารัดวงจร อันเป็นต้นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ทำให้เสียหายวอดวายเดือดร้อนได้

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออก เดือนนี้ เป็นเพราะความไม่ละเอียดรอบคอบส่งผลกระทบให้อุปสรรคปัญหาที่เป็นเรื่องราวเก่าเก็บในอดีตจึงเกิดการพลิกผันย้อนกลับ หรือเป็นเพราะความอดทนอยู่ในวงจำกัดความเครียดจึงบันดาลเป็นโทสะระเบิดเป็นความโกรธออกมา ดังนั้นจะกระทำการสิ่งใดจงอย่านำอารมณ์มาอยู่เหนือเหตุและผลใช้สติยั้งคิดก่อนการย้ำทำจึงจะลุล่วงอุปสรรคได้ อาชีพนักการเมือง ข้าราชการจะสูญเสียบุคคลสำคัญ และคุณแม่บ้านที่โหมงานหนักจักต้องเหน็ดเหนื่อยจนพาลให้เจ็บป่วยเป็นโรคหัวใจเฉียบพลัน อีกทั้งควรระมัดระวังฟืนๆไฟๆหมั่นตรวจตราเครื่องใช้ไฟฟ้าเพราะมีโอกาสจะเกิดไฟฟ้ารัดวงจร อันเป็นต้นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ทำให้เสียหายวอดวายเดือดร้อนได้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 Comments 0 Shares 383 Views 0 Reviews
  • ช่องโหว่ใน API ของแอป Call Filter ของ Verizon ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงประวัติการโทรของหมายเลขอื่นได้ แม้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงบัญชี ช่องโหว่นี้พบในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และถูกแก้ไขในเดือนมีนาคม แต่ ผู้ใช้ยังคงต้องระวังความเสี่ยง นักวิจัยเตือนว่า ข้อมูลโทรเข้าอาจถูกใช้ติดตามเป้าหมาย เช่น นักข่าว หรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดย Verizon ไม่เปิดเผยว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้ในการโจมตีมาก่อนหรือไม่

    ช่องโหว่นี้เกิดจากการตั้งค่า API ที่ไม่ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์
    - นักวิจัย Evan Connelly พบว่า API ของแอป Call Filter อนุญาตให้ผู้ใช้ดึงข้อมูลประวัติการโทรได้โดยไม่ต้องตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของบัญชี
    - หมายความว่า ผู้โจมตีสามารถร้องขอข้อมูลของหมายเลขอื่นและดูรายการสายเรียกเข้าของเป้าหมายได้

    Call Filter เป็นแอปที่มีผู้ใช้หลายล้านคน เนื่องจากติดตั้งมากับอุปกรณ์ Verizon
    - แอปนี้ช่วยให้ผู้ใช้ บล็อกสายสแปม, ดูข้อมูลผู้โทร และกรองสายที่มีความเสี่ยงสูง
    - ยังมี เวอร์ชันพรีเมียมที่เพิ่มฟีเจอร์ เช่น การค้นหาสแปมและควบคุมสายโทรเข้าแบบละเอียด

    ช่องโหว่สามารถใช้เป็นเครื่องมือสอดแนมบุคคลสำคัญ
    - แม้การดูประวัติการโทรอาจไม่ดูอันตรายในตอนแรก แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ข้อมูลนี้สามารถถูกใช้สร้างโปรไฟล์ผู้ใช้งานได้
    - แฮกเกอร์สามารถ ติดตามกิจกรรมประจำวัน, วิเคราะห์ความสัมพันธ์ และเฝ้าระวังบุคคลเป้าหมาย เช่น นักข่าว, ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง

    Verizon ได้แก้ไขช่องโหว่แล้ว แต่ไม่เปิดเผยว่าถูกใช้โจมตีไปแล้วหรือไม่
    - ช่องโหว่ถูกแก้ไขในเดือนมีนาคม 2025 แต่ ยังไม่มีข้อมูลว่าเคยถูกใช้โจมตีจริงมาก่อนหรือไม่
    - ผู้ใช้ควร ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของตนและเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอ

    https://www.techradar.com/pro/security/verizon-security-flaw-could-allow-hackers-to-view-entire-call-history
    ช่องโหว่ใน API ของแอป Call Filter ของ Verizon ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงประวัติการโทรของหมายเลขอื่นได้ แม้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงบัญชี ช่องโหว่นี้พบในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และถูกแก้ไขในเดือนมีนาคม แต่ ผู้ใช้ยังคงต้องระวังความเสี่ยง นักวิจัยเตือนว่า ข้อมูลโทรเข้าอาจถูกใช้ติดตามเป้าหมาย เช่น นักข่าว หรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดย Verizon ไม่เปิดเผยว่าช่องโหว่นี้ถูกใช้ในการโจมตีมาก่อนหรือไม่ ✅ ช่องโหว่นี้เกิดจากการตั้งค่า API ที่ไม่ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ - นักวิจัย Evan Connelly พบว่า API ของแอป Call Filter อนุญาตให้ผู้ใช้ดึงข้อมูลประวัติการโทรได้โดยไม่ต้องตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ของเจ้าของบัญชี - หมายความว่า ผู้โจมตีสามารถร้องขอข้อมูลของหมายเลขอื่นและดูรายการสายเรียกเข้าของเป้าหมายได้ ✅ Call Filter เป็นแอปที่มีผู้ใช้หลายล้านคน เนื่องจากติดตั้งมากับอุปกรณ์ Verizon - แอปนี้ช่วยให้ผู้ใช้ บล็อกสายสแปม, ดูข้อมูลผู้โทร และกรองสายที่มีความเสี่ยงสูง - ยังมี เวอร์ชันพรีเมียมที่เพิ่มฟีเจอร์ เช่น การค้นหาสแปมและควบคุมสายโทรเข้าแบบละเอียด ✅ ช่องโหว่สามารถใช้เป็นเครื่องมือสอดแนมบุคคลสำคัญ - แม้การดูประวัติการโทรอาจไม่ดูอันตรายในตอนแรก แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ข้อมูลนี้สามารถถูกใช้สร้างโปรไฟล์ผู้ใช้งานได้ - แฮกเกอร์สามารถ ติดตามกิจกรรมประจำวัน, วิเคราะห์ความสัมพันธ์ และเฝ้าระวังบุคคลเป้าหมาย เช่น นักข่าว, ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล และผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ✅ Verizon ได้แก้ไขช่องโหว่แล้ว แต่ไม่เปิดเผยว่าถูกใช้โจมตีไปแล้วหรือไม่ - ช่องโหว่ถูกแก้ไขในเดือนมีนาคม 2025 แต่ ยังไม่มีข้อมูลว่าเคยถูกใช้โจมตีจริงมาก่อนหรือไม่ - ผู้ใช้ควร ตรวจสอบการตั้งค่าความปลอดภัยของตนและเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอ https://www.techradar.com/pro/security/verizon-security-flaw-could-allow-hackers-to-view-entire-call-history
    0 Comments 0 Shares 328 Views 0 Reviews
More Results