• https://youtube.com/shorts/aikPJuuKZCw?si=akQf4kWzwCqlZMOl
    https://youtube.com/shorts/aikPJuuKZCw?si=akQf4kWzwCqlZMOl
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/2s8Yfzii8gE?si=NqYe_6bt3EU8vRtI
    https://youtube.com/shorts/2s8Yfzii8gE?si=NqYe_6bt3EU8vRtI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/aCotBEVDxC4?si=DKfvTUHci9ar_XRZ
    https://youtube.com/shorts/aCotBEVDxC4?si=DKfvTUHci9ar_XRZ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • จิ๊งจ๊างไม่งา อร่อยๆ ของพร้อมส่ง เพิ่งเข้าใหม่วันนี้เลยจ้าาา

    ………………………………………………

    ปลาจิ๊งจิ๊างงา ปลาจิ๊งจ๊างสมุนไพร …อร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมความหลากหลาย… สั่งเลย สะอาด อร่อย ถูกใจทั้งครอบครัวววว

    ปลาจิ๊งจ๊างงา ใน Tiktok
    : https://vt.tiktok.com/ZSABUhWne/

    ปลาจิ๊งจ๊างงา ใน Shopee
    : https://s.shopee.co.th/3VaIRVrOor

    ปลาจิ๊งจ๊างสมุนไพร ใน Tiktok
    : https://vt.tiktok.com/ZSABUHDcE/

    ปลาจิ๊งจ๊างสมุนไพร ใน Shopee
    : https://s.shopee.co.th/4VSpdKImmR

    ปลาจิ้งจ้างไม่งา ใน TikTok
    : https://vt.tiktok.com/ZSMvkycFt/

    ปลาจิ้งจ้างไม่งา ใน Shopee
    : https://th.shp.ee/AdvUJrZ


    ถามว่าอร่อยกี่โมงก่อนนน…ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ต้องร้านเราเลยครับ… กดสั่งซื้อในตะกร้าได้เลยยยยย

    ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ

    ⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง

    1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop
    2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8yDIw0654gK&_r=1

    เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา

    #ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก

    #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ปลาข้าวสารแห้ง #อาหารทะเลแห้ง #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา
    จิ๊งจ๊างไม่งา อร่อยๆ ของพร้อมส่ง เพิ่งเข้าใหม่วันนี้เลยจ้าาา ……………………………………………… ปลาจิ๊งจิ๊างงา ปลาจิ๊งจ๊างสมุนไพร …อร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมความหลากหลาย… สั่งเลย สะอาด อร่อย ถูกใจทั้งครอบครัวววว ปลาจิ๊งจ๊างงา ใน Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSABUhWne/ ปลาจิ๊งจ๊างงา ใน Shopee : https://s.shopee.co.th/3VaIRVrOor ปลาจิ๊งจ๊างสมุนไพร ใน Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZSABUHDcE/ ปลาจิ๊งจ๊างสมุนไพร ใน Shopee : https://s.shopee.co.th/4VSpdKImmR ปลาจิ้งจ้างไม่งา 🙂 ใน TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSMvkycFt/ ปลาจิ้งจ้างไม่งา 🙂 ใน Shopee : https://th.shp.ee/AdvUJrZ ถามว่าอร่อยกี่โมงก่อนนน…ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ต้องร้านเราเลยครับ… กดสั่งซื้อในตะกร้าได้เลยยยยย 😍ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ😍 🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง 1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop 2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8yDIw0654gK&_r=1 เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ปลาข้าวสารแห้ง #อาหารทะเลแห้ง #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ลองเชิง ตอนที่ 5

    “ลองเชิง”
    ตอน 5
    หลังจากเพาะพันธ์ุอาหรับสปริงจนปั่นป่วนไปทั้งตะวันออกกลาง อเมริกา โดยนโยบายของนายโอบามา ก็ประกาศว่า อเมริกาเริ่มลดกำลังพล เตรียมถอนตัวจากตะวันออกกลางไปแล้วนะ นักวิเคราะห์ระดับโลกส่วนใหญ่บอกว่า เพราะอเมริกาฉิบหายจากการรบในอิรัค และประเป๋าฉีกจากการรบในอาฟกานิสถาน จากนโยบายสายเหยี่ยว ของคาวบอยบุช กับเหยี่ยวกระหายเลือด ดิ๊ก เชนีย์ แถมเศรษฐกิจในประเทศก็เริ่มมีปัญหา อเมริกาจึงรับภาระที่ตัวเองสร้างในตะวันออกกลางต่อไปอีกไม่ไหว ต้องเปลี่ยนนโยบายเป็นถอยกำลังออกมา
    ฟังแล้วรู้สึกอย่างไรครับ สำหรับผมบอกได้เลยว่า คลื่นไส้ สันดานอเมริกา !
    มันเป็นการวิเคราะห์ที่เซ่อ จนเดินตกหลุม หรือมันกำลังสร้างหลุมพราง อย่างใดกันแน่
    จริงๆ อเมริกาไม่ได้ถอนตัวออกจากตะวันออกกลางเลย อเมริกาแค่ถอนกำลังจากอิรัค แล้วเอาไปอยู่บริเวณอื่น ใกล้ตะว้นออกกลาง และส่งไม้ มาเสี้ยมไปเสี้ยมมา ตามแนวถนัดของอเมริกา ให้ตะวันออกกลางเล่นกันเองจนเละ ระหว่างนั้นก็ตรึงหมุดตัวละครสำคัญ และบริเวณสำคัญเอาไว้ อเมริกาได้น้ำมันบ่อใหญ่ของอิรัคกับลิเบียมาแล้ว ส่วนของพวกเสี่ยปั้มใหญ่ปั้มเล็ก ก็อยู่ในมือแล้ว เหลือแต่อิหร่าน อเมริกาจึงยื้อเวลา สร้างเรื่องให้ตะวันออกกลางวุ่นวายเพิ่มขึ้น ด้วยการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน เพราะเรื่องนี้ จะทำให้ค่ายเสี่ยปั้มใหญ่ประสาทแดกกันทั้งพวง
    อิหร่านเอง ก็รีบรับลูกที่มาเข้าทางอย่างเหลือเชื่อ อิหร่านไม่มีอะไรจะเสีย มีแต่ได้กับได้
    ต่างฝ่ายต่างคิดต้มกัน อเมริกาอยากได้แต่ปั้ม ไม่อยากได้คน อิหร่านบอก แหม… คิด (เกือบ) เหมือนกันเลยครับ เราก็มีแผนไม่เอาคน (บางพวก) แต่เอาปั้ม เกมนี้ดูไม่ทัน ออกอ่าวหาทางกลับเข้าฝั่งไม่ถูกเลยนะครับ
    ระหว่างนั้น อเมริกาก็ประกาศนโยบาย กลับมาคุมเอเซียแปซิฟิก หรือจริงๆ ก็มาคุมจีน ในปี ค.ศ.2012 ช่วยย้อนกลับไปดู timeline ย่อๆ ที่ผมทำไว้ให้ในเรื่อง “แผนชั่ว” ตอนที่ 12 นะครับ น่าจะพอทำให้เข้าใจว่า อเมริกาได้สร้างสงครามเย็นรอบ ใหม่และรูปแบบใหม่ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1999 เพื่อปิดล้อม ทั้งรัสเซียและจีน หรือยูเรเซียพร้อมกัน ตามทฤษฏีสำคัญของ ครูแม๊ค (Sir Halford Mackinder) ครูใหญ่ทางด้านภูมิศาสตร์การเมือง geopolitics ที่ ครูแม็ค พูดมาร้อยกว่าปีแล้ว (ค.ศ.1904) ว่า ใครครอบครองยูเรเซีย คนนั้นก็ครองโลกนั่นเอง
    แต่ทฤษฏีครูแม๊ค คงไม่ได้มีแต่อังกฤษและอเมริกาที่ให้ความสนใจ รัสเซีย และจีน ก็ให้ความสนใจเช่นกัน แต่ความสนใจอาจจะมาจากคนละสาเหตุ รัสเซียและจีน ที่เป็นประเทศใหญ่อยู่ในยูเรเซียเอง จะปล่อยให้ใครมาตีหัว แล้วยึดบ้านไปง่ายๆอย่างนั้นหรือ เกมตีหัว แล้วยึดบ้านเขา สำหรับอเมริกา น่าจะใกล้หมดเวลาเล่นแล้ว โดยเฉพาะ ถ้าจะคิดเล่นกับรัสเซียหรือจีน ในวันนี้
    ดูจากนโยบาย และพฤติกรรมที่อเมริกาดำเนินมา อย่างน้อยตั้งแต่ ค.ศ.1999 อเมริกาน่าจะมีแผน ที่จะครอบครองยูเรเซีย หรือถ้าครอบครองไม่ได้ ก็ต้องกันไม่ให้ใครมาครอบครอง เพราะจะทำให้ความเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก ที่อเมริกาครองตำแหน่งมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง ตกแท่นหมดท่าหมายเลขหนึ่ง
    อเมริกานึกไม่ถึงว่า รัสเซีย จีนและพวก จะจับมือกันได้แน่นจริง อเมริกาพยายามทั้งแยง และปิดกั้นเส้นทาง “โต” ของทั้ง 2 ประเทศมานานอย่างน้อย 15 ปีแล้ว แต่อเมริกายังทำไม่สำเร็จ อเมริกาต้องได้ “ตะวันออกกลางทั้งหมด” เสียก่อน เพื่อฮุบเอาน้ำมันทั้งหมดเป็นของตัว น้ำมันเป็นยุทธปัจจัยสำคัญไม่น้อยกว่าอาวุธ ในการทำสงครามใหญ่
    เมื่อได้ตะวันออกกลางทั้งหมด แผนต่อไปจึงกินจีน และตามมาด้วยรัสเซีย หรือตัดเชือกที่เชื่อมทั้ง 2 ประเทศออกจากกัน และโดยสภาพภูมิศาสตร์ ประเทศที่อยู่ในจุดเชื่อมรัสเซียกับจีน คือ อิหร่าน พอเข้าใจแล้วนะครับ ว่า เขาเล่นเกมกันอย่างไร
    และแม้เป้าหมายการเผด็จศึก จะเดินเป็นขั้นตอน แต่อเมริกาเดินแผนปฏิบัติการณ์ แจกทุกเป้าหมาย ขนานคู่ไปด้วยตลอดเวลา นิทานเรื่อง “แผนชั่ว” เป็นตัวอย่างให้เห็น ลองเอาระยะเวลาและเหตุการณ์ ที่เกี่ยวกับรัสเซียมาใส่ด้วย ก็จะทำให้เห็นชัดถึงแผนครองโลกที่แท้จริงของอเมริกา
    ก้างขวางคอ ที่ทำให้อเมริกายังฮุบตะวันออกกลางไม่ได้ คือ “ค่ายสู้ตาย ดายฮาร์ด ไม่เอาอเมริกา” ที่นำโดยอิหร่าน อเมริกาจึงเล่นอิหร่านสาระพัดรูปแบบ ทั้งชน ทั้งล่อ ยังกินไม่ลง เพราะมีพี่เลี้ยงและแนวร่วมเหนียว อเมริกาจึงใช้วิธีเพาะพันธ์ไอซิสใส่ตะวันออกกลาง เพื่อให้ไอซิส “จัดการ” ตะวันออกกลาง และเวลานี้ ไอซิสจึงกำลังออกฤทธิ์ จัดการอยู่ที่ซีเรีย
    ถ้าซีเรียไป อิหร่านเหนื่อย ถ้าอิหร่านไป รัสเซียเละจีนเหนื่อย และเราๆ ก็อาจจะกลับไปเป็นพรมเช็ดเท้าให้เขาเหมือนเดิม จะเหยียบจะย่ำ อย่างไรก็ได้ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่ สำหรับผู้ที่ไม่อยากเป็นพรมเช็ดเท้า
    วันนี้ ฝ่ายรัสเซียจีนอิหร่าน จึงต้องรักษาซีเรียไว้ให้ได้ และอเมริกาและพวก ก็จะทำทุกอย่างที่จะทำลายอัสสาดและซีเรียให้ได้ด้วย มันไม่ใช่เรื่อง มนุษยธรรมบ้าบอ ที่น้ำลายฟูมปากพล่ามหน้าจออวดชาวโลก มันเป็นเรื่องของความอยู่รอด ของฝ่าย ที่ถูกอเมริกาและพวกกระทำมาตลอด
    ซีเรีย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของสนามประลอง เป็นการลองเชิง ก่อนศึกครั้งใหญ่จะมา
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    4 ต.ค. 2558
    ลองเชิง ตอนที่ 5 “ลองเชิง” ตอน 5 หลังจากเพาะพันธ์ุอาหรับสปริงจนปั่นป่วนไปทั้งตะวันออกกลาง อเมริกา โดยนโยบายของนายโอบามา ก็ประกาศว่า อเมริกาเริ่มลดกำลังพล เตรียมถอนตัวจากตะวันออกกลางไปแล้วนะ นักวิเคราะห์ระดับโลกส่วนใหญ่บอกว่า เพราะอเมริกาฉิบหายจากการรบในอิรัค และประเป๋าฉีกจากการรบในอาฟกานิสถาน จากนโยบายสายเหยี่ยว ของคาวบอยบุช กับเหยี่ยวกระหายเลือด ดิ๊ก เชนีย์ แถมเศรษฐกิจในประเทศก็เริ่มมีปัญหา อเมริกาจึงรับภาระที่ตัวเองสร้างในตะวันออกกลางต่อไปอีกไม่ไหว ต้องเปลี่ยนนโยบายเป็นถอยกำลังออกมา ฟังแล้วรู้สึกอย่างไรครับ สำหรับผมบอกได้เลยว่า คลื่นไส้ สันดานอเมริกา ! มันเป็นการวิเคราะห์ที่เซ่อ จนเดินตกหลุม หรือมันกำลังสร้างหลุมพราง อย่างใดกันแน่ จริงๆ อเมริกาไม่ได้ถอนตัวออกจากตะวันออกกลางเลย อเมริกาแค่ถอนกำลังจากอิรัค แล้วเอาไปอยู่บริเวณอื่น ใกล้ตะว้นออกกลาง และส่งไม้ มาเสี้ยมไปเสี้ยมมา ตามแนวถนัดของอเมริกา ให้ตะวันออกกลางเล่นกันเองจนเละ ระหว่างนั้นก็ตรึงหมุดตัวละครสำคัญ และบริเวณสำคัญเอาไว้ อเมริกาได้น้ำมันบ่อใหญ่ของอิรัคกับลิเบียมาแล้ว ส่วนของพวกเสี่ยปั้มใหญ่ปั้มเล็ก ก็อยู่ในมือแล้ว เหลือแต่อิหร่าน อเมริกาจึงยื้อเวลา สร้างเรื่องให้ตะวันออกกลางวุ่นวายเพิ่มขึ้น ด้วยการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน เพราะเรื่องนี้ จะทำให้ค่ายเสี่ยปั้มใหญ่ประสาทแดกกันทั้งพวง อิหร่านเอง ก็รีบรับลูกที่มาเข้าทางอย่างเหลือเชื่อ อิหร่านไม่มีอะไรจะเสีย มีแต่ได้กับได้ ต่างฝ่ายต่างคิดต้มกัน อเมริกาอยากได้แต่ปั้ม ไม่อยากได้คน อิหร่านบอก แหม… คิด (เกือบ) เหมือนกันเลยครับ เราก็มีแผนไม่เอาคน (บางพวก) แต่เอาปั้ม เกมนี้ดูไม่ทัน ออกอ่าวหาทางกลับเข้าฝั่งไม่ถูกเลยนะครับ ระหว่างนั้น อเมริกาก็ประกาศนโยบาย กลับมาคุมเอเซียแปซิฟิก หรือจริงๆ ก็มาคุมจีน ในปี ค.ศ.2012 ช่วยย้อนกลับไปดู timeline ย่อๆ ที่ผมทำไว้ให้ในเรื่อง “แผนชั่ว” ตอนที่ 12 นะครับ น่าจะพอทำให้เข้าใจว่า อเมริกาได้สร้างสงครามเย็นรอบ ใหม่และรูปแบบใหม่ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1999 เพื่อปิดล้อม ทั้งรัสเซียและจีน หรือยูเรเซียพร้อมกัน ตามทฤษฏีสำคัญของ ครูแม๊ค (Sir Halford Mackinder) ครูใหญ่ทางด้านภูมิศาสตร์การเมือง geopolitics ที่ ครูแม็ค พูดมาร้อยกว่าปีแล้ว (ค.ศ.1904) ว่า ใครครอบครองยูเรเซีย คนนั้นก็ครองโลกนั่นเอง แต่ทฤษฏีครูแม๊ค คงไม่ได้มีแต่อังกฤษและอเมริกาที่ให้ความสนใจ รัสเซีย และจีน ก็ให้ความสนใจเช่นกัน แต่ความสนใจอาจจะมาจากคนละสาเหตุ รัสเซียและจีน ที่เป็นประเทศใหญ่อยู่ในยูเรเซียเอง จะปล่อยให้ใครมาตีหัว แล้วยึดบ้านไปง่ายๆอย่างนั้นหรือ เกมตีหัว แล้วยึดบ้านเขา สำหรับอเมริกา น่าจะใกล้หมดเวลาเล่นแล้ว โดยเฉพาะ ถ้าจะคิดเล่นกับรัสเซียหรือจีน ในวันนี้ ดูจากนโยบาย และพฤติกรรมที่อเมริกาดำเนินมา อย่างน้อยตั้งแต่ ค.ศ.1999 อเมริกาน่าจะมีแผน ที่จะครอบครองยูเรเซีย หรือถ้าครอบครองไม่ได้ ก็ต้องกันไม่ให้ใครมาครอบครอง เพราะจะทำให้ความเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก ที่อเมริกาครองตำแหน่งมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง ตกแท่นหมดท่าหมายเลขหนึ่ง อเมริกานึกไม่ถึงว่า รัสเซีย จีนและพวก จะจับมือกันได้แน่นจริง อเมริกาพยายามทั้งแยง และปิดกั้นเส้นทาง “โต” ของทั้ง 2 ประเทศมานานอย่างน้อย 15 ปีแล้ว แต่อเมริกายังทำไม่สำเร็จ อเมริกาต้องได้ “ตะวันออกกลางทั้งหมด” เสียก่อน เพื่อฮุบเอาน้ำมันทั้งหมดเป็นของตัว น้ำมันเป็นยุทธปัจจัยสำคัญไม่น้อยกว่าอาวุธ ในการทำสงครามใหญ่ เมื่อได้ตะวันออกกลางทั้งหมด แผนต่อไปจึงกินจีน และตามมาด้วยรัสเซีย หรือตัดเชือกที่เชื่อมทั้ง 2 ประเทศออกจากกัน และโดยสภาพภูมิศาสตร์ ประเทศที่อยู่ในจุดเชื่อมรัสเซียกับจีน คือ อิหร่าน พอเข้าใจแล้วนะครับ ว่า เขาเล่นเกมกันอย่างไร และแม้เป้าหมายการเผด็จศึก จะเดินเป็นขั้นตอน แต่อเมริกาเดินแผนปฏิบัติการณ์ แจกทุกเป้าหมาย ขนานคู่ไปด้วยตลอดเวลา นิทานเรื่อง “แผนชั่ว” เป็นตัวอย่างให้เห็น ลองเอาระยะเวลาและเหตุการณ์ ที่เกี่ยวกับรัสเซียมาใส่ด้วย ก็จะทำให้เห็นชัดถึงแผนครองโลกที่แท้จริงของอเมริกา ก้างขวางคอ ที่ทำให้อเมริกายังฮุบตะวันออกกลางไม่ได้ คือ “ค่ายสู้ตาย ดายฮาร์ด ไม่เอาอเมริกา” ที่นำโดยอิหร่าน อเมริกาจึงเล่นอิหร่านสาระพัดรูปแบบ ทั้งชน ทั้งล่อ ยังกินไม่ลง เพราะมีพี่เลี้ยงและแนวร่วมเหนียว อเมริกาจึงใช้วิธีเพาะพันธ์ไอซิสใส่ตะวันออกกลาง เพื่อให้ไอซิส “จัดการ” ตะวันออกกลาง และเวลานี้ ไอซิสจึงกำลังออกฤทธิ์ จัดการอยู่ที่ซีเรีย ถ้าซีเรียไป อิหร่านเหนื่อย ถ้าอิหร่านไป รัสเซียเละจีนเหนื่อย และเราๆ ก็อาจจะกลับไปเป็นพรมเช็ดเท้าให้เขาเหมือนเดิม จะเหยียบจะย่ำ อย่างไรก็ได้ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องใหญ่ สำหรับผู้ที่ไม่อยากเป็นพรมเช็ดเท้า วันนี้ ฝ่ายรัสเซียจีนอิหร่าน จึงต้องรักษาซีเรียไว้ให้ได้ และอเมริกาและพวก ก็จะทำทุกอย่างที่จะทำลายอัสสาดและซีเรียให้ได้ด้วย มันไม่ใช่เรื่อง มนุษยธรรมบ้าบอ ที่น้ำลายฟูมปากพล่ามหน้าจออวดชาวโลก มันเป็นเรื่องของความอยู่รอด ของฝ่าย ที่ถูกอเมริกาและพวกกระทำมาตลอด ซีเรีย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของสนามประลอง เป็นการลองเชิง ก่อนศึกครั้งใหญ่จะมา สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 4 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • JWST ตรวจพบซูเปอร์โนวาที่เก่าแก่ที่สุดในจักรวาล

    นักดาราศาสตร์ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (JWST) ตรวจพบซูเปอร์โนวาที่เกิดขึ้นเมื่อกว่า 13.3 พันล้านปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่ร้อยล้านปีหลังจาก Cosmic Dawn หรือยุคที่ดาวดวงแรก ๆ เริ่มส่องแสงในจักรวาล การค้นพบนี้ถือเป็นการบันทึกซูเปอร์โนวาที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และช่วยเปิดหน้าต่างใหม่สู่การทำความเข้าใจวิวัฒนาการของจักรวาลยุคแรกเริ่ม

    ซูเปอร์โนวายุคแรก
    ซูเปอร์โนวาที่ตรวจพบนี้เกิดจากดาวฤกษ์มวลมหาศาลที่ระเบิดในช่วงที่จักรวาลยังอยู่ในวัยเยาว์มาก การระเบิดดังกล่าวไม่เพียงแต่ปล่อยพลังงานมหาศาล แต่ยังสร้างธาตุหนัก เช่น เหล็กและออกซิเจน ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการก่อกำเนิดดาวรุ่นใหม่และกาแล็กซี

    บทบาทของ JWST
    JWST ใช้ความสามารถในการตรวจจับแสงอินฟราเรดที่เดินทางผ่านจักรวาลมาอย่างยาวนาน ทำให้สามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหลัง Big Bang เพียงไม่กี่ร้อยล้านปี การค้นพบนี้จึงเป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่า ดาวรุ่นแรก ๆ มีบทบาทอย่างไรในการสร้างโครงสร้างจักรวาล

    ความหมายต่อการศึกษาจักรวาล
    การตรวจพบซูเปอร์โนวายุค Cosmic Dawn ชี้ให้เห็นว่ากระบวนการสร้างและทำลายดาวฤกษ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของจักรวาล และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการอธิบายว่ากาแล็กซีและระบบดาวต่าง ๆ ก่อตัวขึ้นได้อย่างไรในเวลาสั้น ๆ

    ก้าวต่อไปของวิทยาศาสตร์
    นักวิทยาศาสตร์หวังว่าจะสามารถใช้ JWST และกล้องโทรทรรศน์รุ่นใหม่ ๆ ในอนาคตเพื่อตรวจสอบซูเปอร์โนวายุคแรกเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยไขปริศนาว่าดาวรุ่นแรกมีมวลมากเพียงใด และการระเบิดของมันมีผลต่อการกระจายธาตุในจักรวาลอย่างไร

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบซูเปอร์โนวายุค Cosmic Dawn
    เกิดขึ้นกว่า 13.3 พันล้านปีก่อน
    เป็นซูเปอร์โนวาที่เก่าแก่ที่สุดที่เคยตรวจพบ

    บทบาทของ JWST
    ใช้การตรวจจับแสงอินฟราเรดเพื่อมองย้อนเวลา
    เปิดหน้าต่างใหม่สู่การศึกษาจักรวาลยุคแรก

    ความหมายต่อจักรวาล
    ซูเปอร์โนวาสร้างธาตุหนักที่จำเป็นต่อการก่อกำเนิดดาวรุ่นใหม่
    ช่วยอธิบายการก่อตัวของกาแล็กซี

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    การตีความข้อมูลยังต้องการการยืนยันเพิ่มเติมจากการสังเกตซ้ำ
    ข้อมูลที่ได้ยังจำกัดอยู่ในบางช่วงเวลาและบางพื้นที่ของจักรวาล

    https://www.sciencealert.com/jwst-detects-record-breaking-supernova-that-erupted-right-at-the-cosmic-dawn
    🌌 JWST ตรวจพบซูเปอร์โนวาที่เก่าแก่ที่สุดในจักรวาล นักดาราศาสตร์ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (JWST) ตรวจพบซูเปอร์โนวาที่เกิดขึ้นเมื่อกว่า 13.3 พันล้านปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่ร้อยล้านปีหลังจาก Cosmic Dawn หรือยุคที่ดาวดวงแรก ๆ เริ่มส่องแสงในจักรวาล การค้นพบนี้ถือเป็นการบันทึกซูเปอร์โนวาที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา และช่วยเปิดหน้าต่างใหม่สู่การทำความเข้าใจวิวัฒนาการของจักรวาลยุคแรกเริ่ม 💥 ซูเปอร์โนวายุคแรก ซูเปอร์โนวาที่ตรวจพบนี้เกิดจากดาวฤกษ์มวลมหาศาลที่ระเบิดในช่วงที่จักรวาลยังอยู่ในวัยเยาว์มาก การระเบิดดังกล่าวไม่เพียงแต่ปล่อยพลังงานมหาศาล แต่ยังสร้างธาตุหนัก เช่น เหล็กและออกซิเจน ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการก่อกำเนิดดาวรุ่นใหม่และกาแล็กซี 🔭 บทบาทของ JWST JWST ใช้ความสามารถในการตรวจจับแสงอินฟราเรดที่เดินทางผ่านจักรวาลมาอย่างยาวนาน ทำให้สามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหลัง Big Bang เพียงไม่กี่ร้อยล้านปี การค้นพบนี้จึงเป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่า ดาวรุ่นแรก ๆ มีบทบาทอย่างไรในการสร้างโครงสร้างจักรวาล 🌍 ความหมายต่อการศึกษาจักรวาล การตรวจพบซูเปอร์โนวายุค Cosmic Dawn ชี้ให้เห็นว่ากระบวนการสร้างและทำลายดาวฤกษ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของจักรวาล และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการอธิบายว่ากาแล็กซีและระบบดาวต่าง ๆ ก่อตัวขึ้นได้อย่างไรในเวลาสั้น ๆ 🧩 ก้าวต่อไปของวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์หวังว่าจะสามารถใช้ JWST และกล้องโทรทรรศน์รุ่นใหม่ ๆ ในอนาคตเพื่อตรวจสอบซูเปอร์โนวายุคแรกเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยไขปริศนาว่าดาวรุ่นแรกมีมวลมากเพียงใด และการระเบิดของมันมีผลต่อการกระจายธาตุในจักรวาลอย่างไร 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบซูเปอร์โนวายุค Cosmic Dawn ➡️ เกิดขึ้นกว่า 13.3 พันล้านปีก่อน ➡️ เป็นซูเปอร์โนวาที่เก่าแก่ที่สุดที่เคยตรวจพบ ✅ บทบาทของ JWST ➡️ ใช้การตรวจจับแสงอินฟราเรดเพื่อมองย้อนเวลา ➡️ เปิดหน้าต่างใหม่สู่การศึกษาจักรวาลยุคแรก ✅ ความหมายต่อจักรวาล ➡️ ซูเปอร์โนวาสร้างธาตุหนักที่จำเป็นต่อการก่อกำเนิดดาวรุ่นใหม่ ➡️ ช่วยอธิบายการก่อตัวของกาแล็กซี ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ การตีความข้อมูลยังต้องการการยืนยันเพิ่มเติมจากการสังเกตซ้ำ ⛔ ข้อมูลที่ได้ยังจำกัดอยู่ในบางช่วงเวลาและบางพื้นที่ของจักรวาล https://www.sciencealert.com/jwst-detects-record-breaking-supernova-that-erupted-right-at-the-cosmic-dawn
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    JWST Detects Record-Breaking Supernova That Erupted Right at The Cosmic Dawn
    A faint, tiny flash of red light glimpsed at the Cosmic Dawn more than 13 billion years ago has smashed the record for the earliest supernova ever observed.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยีนที่เปลี่ยนพฤติกรรมเมื่ออยู่บนที่สูง

    งานวิจัยใหม่เผยว่า การใช้ชีวิตบนพื้นที่สูง เช่นเทือกเขาแอนดีส สามารถทำให้ยีนของมนุษย์ปรับเปลี่ยนการทำงานได้แบบ Epigenetic โดยไม่ต้องเปลี่ยนรหัสพันธุกรรม และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าใจการปรับตัวของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมสุดขั้ว

    นักวิทยาศาสตร์จาก Emory University ศึกษาชุมชน Kichwa ที่อาศัยอยู่บนเทือกเขาแอนดีสสูงกว่า 2,500 เมตร และเปรียบเทียบกับชุมชน Ashaninka ในแถบลุ่มน้ำอเมซอน ผลการวิเคราะห์พบว่า มีความแตกต่างของการทำงานยีนกว่า 779 ตำแหน่ง โดยเฉพาะยีนที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อภาวะออกซิเจนต่ำ (hypoxia) และการควบคุมระบบหลอดเลือด

    Epigenetics: การปรับตัวแบบไม่เปลี่ยน DNA
    สิ่งที่ค้นพบไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมถาวร แต่เป็นการปรับระดับการทำงานของยีนผ่านกระบวนการ DNA methylation ซึ่งทำให้บางยีนทำงานมากขึ้นหรือน้อยลงตามสภาพแวดล้อม ตัวอย่างเช่น ยีนที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อออกซิเจนมีการลดระดับ methylation เพื่อให้ร่างกายทนต่ออากาศเบาบางได้ดีขึ้น

    ผลกระทบจากรังสี UV และสภาพภูมิประเทศ
    นอกจากออกซิเจนต่ำแล้ว การอยู่บนพื้นที่สูงยังทำให้ร่างกายเผชิญกับ รังสี UV ที่เข้มข้นกว่า นักวิจัยพบความแตกต่างในยีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสีผิวถึง 39 ตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนว่าร่างกายมีการปรับตัวเพื่อป้องกันผิวจากรังสีที่รุนแรง

    ความหมายต่อการวิวัฒนาการมนุษย์
    แม้การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจไม่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่การปรับตัวแบบ epigenetic ที่เกิดขึ้นตลอดชีวิตสามารถช่วยให้ชุมชนที่อยู่บนพื้นที่สูงดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืน และยังชี้ให้เห็นว่า วิวัฒนาการมนุษย์ไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยน DNA เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการปรับตัวแบบยืดหยุ่นในระดับเซลล์ด้วย

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบในชุมชน Kichwa และ Ashaninka
    พบความแตกต่างของการทำงานยีนกว่า 779 ตำแหน่ง
    ยีนเกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อออกซิเจนและระบบหลอดเลือด

    Epigenetic adaptation
    เกิดจาก DNA methylation ที่ปรับระดับการทำงานของยีน
    ไม่ใช่การเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมถาวร

    ผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม
    รังสี UV เข้มข้นทำให้ยีนเม็ดสีผิวเปลี่ยนการทำงาน
    สภาพอากาศเบาบางกระตุ้นการปรับตัวของระบบหายใจ

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    ยังไม่แน่ชัดว่าการเปลี่ยนแปลง epigenetic สามารถถ่ายทอดสู่รุ่นลูกได้หรือไม่
    งานวิจัยยังจำกัดอยู่ในกลุ่มประชากรเฉพาะ ต้องศึกษาเพิ่มเติมในพื้นที่อื่น ๆ

    https://www.sciencealert.com/living-at-high-altitudes-induces-remarkable-changes-in-how-genes-behave
    🏔️ ยีนที่เปลี่ยนพฤติกรรมเมื่ออยู่บนที่สูง งานวิจัยใหม่เผยว่า การใช้ชีวิตบนพื้นที่สูง เช่นเทือกเขาแอนดีส สามารถทำให้ยีนของมนุษย์ปรับเปลี่ยนการทำงานได้แบบ Epigenetic โดยไม่ต้องเปลี่ยนรหัสพันธุกรรม และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าใจการปรับตัวของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมสุดขั้ว นักวิทยาศาสตร์จาก Emory University ศึกษาชุมชน Kichwa ที่อาศัยอยู่บนเทือกเขาแอนดีสสูงกว่า 2,500 เมตร และเปรียบเทียบกับชุมชน Ashaninka ในแถบลุ่มน้ำอเมซอน ผลการวิเคราะห์พบว่า มีความแตกต่างของการทำงานยีนกว่า 779 ตำแหน่ง โดยเฉพาะยีนที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อภาวะออกซิเจนต่ำ (hypoxia) และการควบคุมระบบหลอดเลือด 🧬 Epigenetics: การปรับตัวแบบไม่เปลี่ยน DNA สิ่งที่ค้นพบไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมถาวร แต่เป็นการปรับระดับการทำงานของยีนผ่านกระบวนการ DNA methylation ซึ่งทำให้บางยีนทำงานมากขึ้นหรือน้อยลงตามสภาพแวดล้อม ตัวอย่างเช่น ยีนที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อออกซิเจนมีการลดระดับ methylation เพื่อให้ร่างกายทนต่ออากาศเบาบางได้ดีขึ้น 🌞 ผลกระทบจากรังสี UV และสภาพภูมิประเทศ นอกจากออกซิเจนต่ำแล้ว การอยู่บนพื้นที่สูงยังทำให้ร่างกายเผชิญกับ รังสี UV ที่เข้มข้นกว่า นักวิจัยพบความแตกต่างในยีนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสีผิวถึง 39 ตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนว่าร่างกายมีการปรับตัวเพื่อป้องกันผิวจากรังสีที่รุนแรง 🌍 ความหมายต่อการวิวัฒนาการมนุษย์ แม้การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจไม่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่การปรับตัวแบบ epigenetic ที่เกิดขึ้นตลอดชีวิตสามารถช่วยให้ชุมชนที่อยู่บนพื้นที่สูงดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืน และยังชี้ให้เห็นว่า วิวัฒนาการมนุษย์ไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยน DNA เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงการปรับตัวแบบยืดหยุ่นในระดับเซลล์ด้วย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบในชุมชน Kichwa และ Ashaninka ➡️ พบความแตกต่างของการทำงานยีนกว่า 779 ตำแหน่ง ➡️ ยีนเกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อออกซิเจนและระบบหลอดเลือด ✅ Epigenetic adaptation ➡️ เกิดจาก DNA methylation ที่ปรับระดับการทำงานของยีน ➡️ ไม่ใช่การเปลี่ยนรหัสพันธุกรรมถาวร ✅ ผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม ➡️ รังสี UV เข้มข้นทำให้ยีนเม็ดสีผิวเปลี่ยนการทำงาน ➡️ สภาพอากาศเบาบางกระตุ้นการปรับตัวของระบบหายใจ ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่แน่ชัดว่าการเปลี่ยนแปลง epigenetic สามารถถ่ายทอดสู่รุ่นลูกได้หรือไม่ ⛔ งานวิจัยยังจำกัดอยู่ในกลุ่มประชากรเฉพาะ ต้องศึกษาเพิ่มเติมในพื้นที่อื่น ๆ https://www.sciencealert.com/living-at-high-altitudes-induces-remarkable-changes-in-how-genes-behave
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Living at High Altitudes Induces Remarkable Changes in How Genes Behave
    High in the Ecuadorian Andes, at altitudes thousands of meters above sea level, humans face environmental pressures very different from those at lower altitudes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • แมวร้องมากกว่าที่คิด

    งานวิจัยใหม่พบว่าแมวจะส่งเสียงร้อง (meow, purr, chirp) ต่อผู้ชายมากกว่าผู้หญิงกว่า สองเท่า และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นเพราะผู้ชายมักตอบสนองต่อแมวน้อยกว่า ทำให้แมวต้องใช้เสียงมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจ

    ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอังการา ประเทศตุรกี ได้บันทึกวิดีโอจากเจ้าของแมว 31 คน เพื่อศึกษาพฤติกรรมการทักทายเมื่อเจ้าของกลับบ้าน ผลปรากฏว่าแมวที่มีเจ้าของเป็นผู้ชายส่งเสียงร้องเฉลี่ย 4.3 ครั้งใน 100 วินาทีแรก ขณะที่แมวที่มีเจ้าของเป็นผู้หญิงส่งเสียงเพียง 1.8 ครั้ง ซึ่งถือเป็นความแตกต่างที่ชัดเจน

    ทำไมแมวถึงร้องใส่ผู้ชายมากกว่า
    นักวิจัยเสนอว่า ผู้หญิงมักจะให้ความสนใจแมวมากกว่า สามารถอ่านอารมณ์แมวได้ดีกว่า และบางครั้งยังเลียนเสียงแมวกลับไป ทำให้แมวไม่จำเป็นต้องร้องบ่อย ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายมักจะมีท่าที “นิ่งเฉย” ต่อแมว จึงทำให้แมวต้องใช้เสียงร้องมากขึ้นเพื่อให้ได้รับการตอบสนอง

    พฤติกรรมที่สังเกตได้
    นอกจากเสียงร้องแล้ว นักวิจัยยังบันทึกพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น การยกหางขึ้น การถูตัวกับเจ้าของ หรือการสั่นตัว ซึ่งจัดเป็นพฤติกรรมทางสังคมและการเบี่ยงเบน แต่สิ่งที่แตกต่างชัดเจนระหว่างเพศเจ้าของคือ เสียงร้องเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าแมวใช้เสียงเป็นเครื่องมือสื่อสารเฉพาะเจาะจงกับมนุษย์

    ความหมายต่อการสื่อสารคน-สัตว์
    การค้นพบนี้สะท้อนว่าแมวมีความสามารถในการปรับพฤติกรรมตามบุคลิกของเจ้าของ และอาจช่วยให้เราเข้าใจวิธีที่สัตว์เลี้ยงใช้สัญญาณหลายรูปแบบเพื่อสื่อสารกับมนุษย์มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลการวิจัย
    แมวร้องใส่ผู้ชายเฉลี่ย 4.3 ครั้งต่อ 100 วินาที
    แมวร้องใส่ผู้หญิงเฉลี่ย 1.8 ครั้ง

    เหตุผลที่เป็นไปได้
    ผู้หญิงตอบสนองต่อแมวมากกว่า
    ผู้ชายมักนิ่งเฉย ทำให้แมวต้องร้องมากขึ้น

    พฤติกรรมอื่น ๆ ที่สังเกตได้
    การยกหาง การถูตัว การสั่นตัว
    แต่ไม่มีความแตกต่างระหว่างเพศเจ้าของ

    ข้อควรระวังในการตีความ
    งานวิจัยมีผู้เข้าร่วมเพียง 31 คน อาจไม่ครอบคลุมทุกกรณี
    ผลลัพธ์อาจแตกต่างไปตามวัฒนธรรมและวิธีเลี้ยงแมวในแต่ละประเทศ

    https://www.sciencealert.com/cats-meow-more-than-twice-as-much-at-men-and-we-can-only-guess-why
    🐱 แมวร้องมากกว่าที่คิด งานวิจัยใหม่พบว่าแมวจะส่งเสียงร้อง (meow, purr, chirp) ต่อผู้ชายมากกว่าผู้หญิงกว่า สองเท่า และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นเพราะผู้ชายมักตอบสนองต่อแมวน้อยกว่า ทำให้แมวต้องใช้เสียงมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจ ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอังการา ประเทศตุรกี ได้บันทึกวิดีโอจากเจ้าของแมว 31 คน เพื่อศึกษาพฤติกรรมการทักทายเมื่อเจ้าของกลับบ้าน ผลปรากฏว่าแมวที่มีเจ้าของเป็นผู้ชายส่งเสียงร้องเฉลี่ย 4.3 ครั้งใน 100 วินาทีแรก ขณะที่แมวที่มีเจ้าของเป็นผู้หญิงส่งเสียงเพียง 1.8 ครั้ง ซึ่งถือเป็นความแตกต่างที่ชัดเจน 👨‍🦰 ทำไมแมวถึงร้องใส่ผู้ชายมากกว่า นักวิจัยเสนอว่า ผู้หญิงมักจะให้ความสนใจแมวมากกว่า สามารถอ่านอารมณ์แมวได้ดีกว่า และบางครั้งยังเลียนเสียงแมวกลับไป ทำให้แมวไม่จำเป็นต้องร้องบ่อย ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายมักจะมีท่าที “นิ่งเฉย” ต่อแมว จึงทำให้แมวต้องใช้เสียงร้องมากขึ้นเพื่อให้ได้รับการตอบสนอง 🧪 พฤติกรรมที่สังเกตได้ นอกจากเสียงร้องแล้ว นักวิจัยยังบันทึกพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น การยกหางขึ้น การถูตัวกับเจ้าของ หรือการสั่นตัว ซึ่งจัดเป็นพฤติกรรมทางสังคมและการเบี่ยงเบน แต่สิ่งที่แตกต่างชัดเจนระหว่างเพศเจ้าของคือ เสียงร้องเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าแมวใช้เสียงเป็นเครื่องมือสื่อสารเฉพาะเจาะจงกับมนุษย์ 🌍 ความหมายต่อการสื่อสารคน-สัตว์ การค้นพบนี้สะท้อนว่าแมวมีความสามารถในการปรับพฤติกรรมตามบุคลิกของเจ้าของ และอาจช่วยให้เราเข้าใจวิธีที่สัตว์เลี้ยงใช้สัญญาณหลายรูปแบบเพื่อสื่อสารกับมนุษย์มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลการวิจัย ➡️ แมวร้องใส่ผู้ชายเฉลี่ย 4.3 ครั้งต่อ 100 วินาที ➡️ แมวร้องใส่ผู้หญิงเฉลี่ย 1.8 ครั้ง ✅ เหตุผลที่เป็นไปได้ ➡️ ผู้หญิงตอบสนองต่อแมวมากกว่า ➡️ ผู้ชายมักนิ่งเฉย ทำให้แมวต้องร้องมากขึ้น ✅ พฤติกรรมอื่น ๆ ที่สังเกตได้ ➡️ การยกหาง การถูตัว การสั่นตัว ➡️ แต่ไม่มีความแตกต่างระหว่างเพศเจ้าของ ‼️ ข้อควรระวังในการตีความ ⛔ งานวิจัยมีผู้เข้าร่วมเพียง 31 คน อาจไม่ครอบคลุมทุกกรณี ⛔ ผลลัพธ์อาจแตกต่างไปตามวัฒนธรรมและวิธีเลี้ยงแมวในแต่ละประเทศ https://www.sciencealert.com/cats-meow-more-than-twice-as-much-at-men-and-we-can-only-guess-why
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Cats Meow More Than Twice as Much at Men, And We Can Only Guess Why
    Cats meow more at owners who are men than women, new research has found, possibly because men tend to be more aloof when it comes to giving their pets attention.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความลับของคอนกรีตโรมัน

    นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า คอนกรีตโรมันโบราณ มีความทนทานยาวนานกว่า 2,000 ปี เพราะใช้เทคนิค “Hot-Mixing” ที่ทำให้วัสดุสามารถ ซ่อมแซมตัวเอง ได้เมื่อเกิดรอยแตก

    การขุดค้นที่เมืองปอมเปอีเผยให้เห็นวัสดุและวิธีการก่อสร้างที่ชาวโรมันใช้เมื่อ 2,000 ปีก่อน โดยพบว่าพวกเขาใช้การผสม เถ้าภูเขาไฟ (Pozzolan) เข้ากับ Quicklime แบบแห้ง ก่อนเติมน้ำภายหลัง กระบวนการนี้สร้างความร้อนสูง ทำให้เกิดสารประกอบพิเศษที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยวิธีผสมปูนแบบทั่วไป

    เทคนิค Hot-Mixing และการซ่อมแซมตัวเอง
    การผสมแบบ “Hot-Mixing” ทำให้เกิด ชิ้นส่วนปูนขาว (lime clasts) ที่ยังคงอยู่ในเนื้อคอนกรีต เมื่อเกิดรอยแตก น้ำที่ซึมเข้าไปจะทำปฏิกิริยากับปูนขาว ก่อให้เกิด แคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งแข็งตัวและอุดรอยแตกได้เอง กระบวนการนี้ทำให้คอนกรีตโรมันมีคุณสมบัติ self-healing ที่ช่วยให้สิ่งก่อสร้าง เช่น วิหารแพนธีออน ยังคงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้

    ความสำคัญต่อโลกปัจจุบัน
    คอนกรีตสมัยใหม่แม้จะใช้งานแพร่หลาย แต่มีอายุการใช้งานสั้นและก่อให้เกิดมลพิษจากการผลิตซีเมนต์ หากสามารถนำเทคนิคโรมันมาใช้ จะช่วยสร้างวัสดุที่ทนทานและยั่งยืนมากขึ้น ลดการใช้ทรัพยากรและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการประยุกต์แนวคิดนี้อาจเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาวัสดุก่อสร้างแห่งอนาคต

    การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์
    ทีมวิจัยจาก MIT ใช้การวิเคราะห์ไอโซโทปและกล้องจุลทรรศน์ พบหลักฐานชัดเจนของการเกิดปฏิกิริยา Hot-Mixing เช่น ผลึกแคลไซต์และอาราโกไนต์ ที่ก่อตัวในเนื้อคอนกรีต และการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่ทำให้วัสดุแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดหลายพันปี

    สรุปสาระสำคัญ
    เทคนิค Hot-Mixing คือหัวใจของคอนกรีตโรมัน
    ผสม Quicklime กับเถ้าภูเขาไฟแบบแห้ง ก่อนเติมน้ำ
    สร้างความร้อนสูงและสารประกอบพิเศษ

    คุณสมบัติ Self-Healing
    Lime clasts ทำปฏิกิริยากับน้ำ
    ก่อแคลเซียมคาร์บอเนต อุดรอยแตกเอง

    ความสำคัญต่อสิ่งก่อสร้าง
    ทำให้สิ่งปลูกสร้างโรมันอยู่รอดกว่า 2,000 ปี
    ตัวอย่างชัดเจนคือวิหารแพนธีออน

    ประโยชน์ต่อโลกปัจจุบัน
    ลดการใช้ทรัพยากรและมลพิษจากซีเมนต์
    พัฒนาวัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืน

    ข้อควรระวัง
    ยังไม่สามารถนำสูตรโรมันมาใช้ตรง ๆ ได้
    ต้องวิจัยต่อเพื่อปรับให้เหมาะกับการผลิตสมัยใหม่

    https://www.sciencealert.com/we-finally-know-why-roman-concrete-has-survived-for-nearly-2000-years
    🏛️ ความลับของคอนกรีตโรมัน นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า คอนกรีตโรมันโบราณ มีความทนทานยาวนานกว่า 2,000 ปี เพราะใช้เทคนิค “Hot-Mixing” ที่ทำให้วัสดุสามารถ ซ่อมแซมตัวเอง ได้เมื่อเกิดรอยแตก การขุดค้นที่เมืองปอมเปอีเผยให้เห็นวัสดุและวิธีการก่อสร้างที่ชาวโรมันใช้เมื่อ 2,000 ปีก่อน โดยพบว่าพวกเขาใช้การผสม เถ้าภูเขาไฟ (Pozzolan) เข้ากับ Quicklime แบบแห้ง ก่อนเติมน้ำภายหลัง กระบวนการนี้สร้างความร้อนสูง ทำให้เกิดสารประกอบพิเศษที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยวิธีผสมปูนแบบทั่วไป 🔥 เทคนิค Hot-Mixing และการซ่อมแซมตัวเอง การผสมแบบ “Hot-Mixing” ทำให้เกิด ชิ้นส่วนปูนขาว (lime clasts) ที่ยังคงอยู่ในเนื้อคอนกรีต เมื่อเกิดรอยแตก น้ำที่ซึมเข้าไปจะทำปฏิกิริยากับปูนขาว ก่อให้เกิด แคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งแข็งตัวและอุดรอยแตกได้เอง กระบวนการนี้ทำให้คอนกรีตโรมันมีคุณสมบัติ self-healing ที่ช่วยให้สิ่งก่อสร้าง เช่น วิหารแพนธีออน ยังคงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ 🌍 ความสำคัญต่อโลกปัจจุบัน คอนกรีตสมัยใหม่แม้จะใช้งานแพร่หลาย แต่มีอายุการใช้งานสั้นและก่อให้เกิดมลพิษจากการผลิตซีเมนต์ หากสามารถนำเทคนิคโรมันมาใช้ จะช่วยสร้างวัสดุที่ทนทานและยั่งยืนมากขึ้น ลดการใช้ทรัพยากรและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการประยุกต์แนวคิดนี้อาจเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาวัสดุก่อสร้างแห่งอนาคต 🧪 การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ทีมวิจัยจาก MIT ใช้การวิเคราะห์ไอโซโทปและกล้องจุลทรรศน์ พบหลักฐานชัดเจนของการเกิดปฏิกิริยา Hot-Mixing เช่น ผลึกแคลไซต์และอาราโกไนต์ ที่ก่อตัวในเนื้อคอนกรีต และการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่ทำให้วัสดุแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดหลายพันปี 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ เทคนิค Hot-Mixing คือหัวใจของคอนกรีตโรมัน ➡️ ผสม Quicklime กับเถ้าภูเขาไฟแบบแห้ง ก่อนเติมน้ำ ➡️ สร้างความร้อนสูงและสารประกอบพิเศษ ✅ คุณสมบัติ Self-Healing ➡️ Lime clasts ทำปฏิกิริยากับน้ำ ➡️ ก่อแคลเซียมคาร์บอเนต อุดรอยแตกเอง ✅ ความสำคัญต่อสิ่งก่อสร้าง ➡️ ทำให้สิ่งปลูกสร้างโรมันอยู่รอดกว่า 2,000 ปี ➡️ ตัวอย่างชัดเจนคือวิหารแพนธีออน ✅ ประโยชน์ต่อโลกปัจจุบัน ➡️ ลดการใช้ทรัพยากรและมลพิษจากซีเมนต์ ➡️ พัฒนาวัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืน ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่สามารถนำสูตรโรมันมาใช้ตรง ๆ ได้ ⛔ ต้องวิจัยต่อเพื่อปรับให้เหมาะกับการผลิตสมัยใหม่ https://www.sciencealert.com/we-finally-know-why-roman-concrete-has-survived-for-nearly-2000-years
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    We Finally Know Why Roman Concrete Has Survived For Nearly 2,000 Years
    A construction site dating back nearly 2,000 years to the putative demise of Pompeii in 79 CE has revealed new evidence for the secret behind Ancient Rome's ultra-durable concrete.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • หินก้อนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

    หญิงชราที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Colti ประเทศโรมาเนีย เคยเก็บก้อนหินจากลำธารมาใช้เป็นที่กั้นประตูบ้านนานหลายสิบปี หลังจากเธอเสียชีวิต ญาติที่รับมรดกบ้านสงสัยว่าหินก้อนนี้อาจมีค่ามากกว่าที่คิด จึงนำไปตรวจสอบ และพบว่าแท้จริงแล้วมันคือ อำพันรามาไนต์ (Rumanite) หนัก 3.5 กิโลกรัม ซึ่งเป็นชิ้นที่ใหญ่ที่สุดที่เคยค้นพบ

    มูลค่ามหาศาลและความสำคัญทางวิทยาศาสตร์
    การประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ในโปแลนด์ระบุว่าอำพันก้อนนี้มีอายุราว 38–70 ล้านปี และมีมูลค่าประมาณ 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว ยังมีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ เพราะเป็นหลักฐานที่ช่วยให้เข้าใจระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมโบราณ

    จากบ้านสู่พิพิธภัณฑ์
    หลังจากการค้นพบ อำพันก้อนนี้ถูกจัดเป็นสมบัติของชาติและนำไปจัดแสดงที่ Provincial Museum of Buzau ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อให้ประชาชนและนักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษา ถือเป็นการเปลี่ยนจากวัตถุธรรมดาในบ้านสู่สมบัติระดับโลก

    ความเชื่อมโยงกับการค้นพบอื่น ๆ
    เรื่องนี้คล้ายกับกรณีในสหรัฐฯ ที่ชายคนหนึ่งใช้ก้อนหินเป็นที่กั้นประตู ก่อนจะพบว่ามันคือ อุกกาบาตมูลค่า 100,000 ดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่าธรรมชาติยังคงซ่อนสมบัติอันล้ำค่าไว้ในสิ่งที่เรามองข้าม

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบอำพันรามาไนต์ในโรมาเนีย
    หนัก 3.5 กิโลกรัม ใหญ่ที่สุดที่เคยพบ
    ถูกใช้เป็นที่กั้นประตูบ้านนานหลายสิบปี

    มูลค่าและความสำคัญ
    มูลค่าประมาณ 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    อายุราว 38–70 ล้านปี มีคุณค่าทางวิทยาศาสตร์

    การจัดแสดง
    ถูกจัดเป็นสมบัติของชาติ
    จัดแสดงที่ Provincial Museum of Buzau ตั้งแต่ปี 2022

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    วัตถุโบราณหรือแร่หายากควรตรวจสอบก่อนขาย เพราะอาจเป็นสมบัติของชาติ
    การครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอาจมีผลทางกฎหมาย

    https://www.sciencealert.com/rock-used-as-doorstop-for-decades-revealed-to-be-worth-over-1-million
    🪨 หินก้อนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา หญิงชราที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Colti ประเทศโรมาเนีย เคยเก็บก้อนหินจากลำธารมาใช้เป็นที่กั้นประตูบ้านนานหลายสิบปี หลังจากเธอเสียชีวิต ญาติที่รับมรดกบ้านสงสัยว่าหินก้อนนี้อาจมีค่ามากกว่าที่คิด จึงนำไปตรวจสอบ และพบว่าแท้จริงแล้วมันคือ อำพันรามาไนต์ (Rumanite) หนัก 3.5 กิโลกรัม ซึ่งเป็นชิ้นที่ใหญ่ที่สุดที่เคยค้นพบ 💎 มูลค่ามหาศาลและความสำคัญทางวิทยาศาสตร์ การประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ในโปแลนด์ระบุว่าอำพันก้อนนี้มีอายุราว 38–70 ล้านปี และมีมูลค่าประมาณ 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว ยังมีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์และพิพิธภัณฑ์ เพราะเป็นหลักฐานที่ช่วยให้เข้าใจระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมโบราณ 🏛️ จากบ้านสู่พิพิธภัณฑ์ หลังจากการค้นพบ อำพันก้อนนี้ถูกจัดเป็นสมบัติของชาติและนำไปจัดแสดงที่ Provincial Museum of Buzau ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อให้ประชาชนและนักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษา ถือเป็นการเปลี่ยนจากวัตถุธรรมดาในบ้านสู่สมบัติระดับโลก 🌍 ความเชื่อมโยงกับการค้นพบอื่น ๆ เรื่องนี้คล้ายกับกรณีในสหรัฐฯ ที่ชายคนหนึ่งใช้ก้อนหินเป็นที่กั้นประตู ก่อนจะพบว่ามันคือ อุกกาบาตมูลค่า 100,000 ดอลลาร์ แสดงให้เห็นว่าธรรมชาติยังคงซ่อนสมบัติอันล้ำค่าไว้ในสิ่งที่เรามองข้าม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบอำพันรามาไนต์ในโรมาเนีย ➡️ หนัก 3.5 กิโลกรัม ใหญ่ที่สุดที่เคยพบ ➡️ ถูกใช้เป็นที่กั้นประตูบ้านนานหลายสิบปี ✅ มูลค่าและความสำคัญ ➡️ มูลค่าประมาณ 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ➡️ อายุราว 38–70 ล้านปี มีคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ ✅ การจัดแสดง ➡️ ถูกจัดเป็นสมบัติของชาติ ➡️ จัดแสดงที่ Provincial Museum of Buzau ตั้งแต่ปี 2022 ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ วัตถุโบราณหรือแร่หายากควรตรวจสอบก่อนขาย เพราะอาจเป็นสมบัติของชาติ ⛔ การครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอาจมีผลทางกฎหมาย https://www.sciencealert.com/rock-used-as-doorstop-for-decades-revealed-to-be-worth-over-1-million
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Rock Used as Doorstop For Decades Revealed to Be Worth Over $1 Million
    They say one person's trash is another's treasure, but a chunk of 'rock' used to keep a door open for decades is a treasure by almost anyone's standards.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • การค้นพบลมความเร็วเหนือแสงจากหลุมดำมวลยักษ์

    นักดาราศาสตร์ได้บันทึกปรากฏการณ์ครั้งแรกที่ หลุมดำมวลมหาศาลในกาแล็กซี NGC 3783 ปล่อยลมความเร็วสูงออกสู่อวกาศหลังเกิดการปะทุรังสีเอกซ์อย่างฉับพลัน โดยลมนี้มีความเร็วถึง 19% ของความเร็วแสง หรือราว 57,000 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งถือเป็นการสังเกตการณ์โดยตรงครั้งแรกของการกำเนิดและวิวัฒนาการของลมเหนือแสง (Ultrafast Outflow – UFO) ที่เกิดจากการปะทุของหลุมดำ

    การค้นพบนี้เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2024 เมื่อกล้องโทรทรรศน์อวกาศ XMM-Newton ของยุโรปและ XRISM ของญี่ปุ่นจับสัญญาณการปะทุรังสีเอกซ์ที่รุนแรง และภายในเวลาเพียง 12 ชั่วโมงก็พบสัญญาณของลมเหนือแสงที่พุ่งออกมา คล้ายกับการพ่นมวลสารจากดวงอาทิตย์ที่เรียกว่า Coronal Mass Ejection แต่ในระดับที่ใหญ่และทรงพลังมหาศาลกว่าหลายพันล้านเท่า

    สิ่งที่น่าสนใจคือ นักวิทยาศาสตร์พบว่ากลไกที่ทำให้เกิดการปะทุนี้อาจเกี่ยวข้องกับการ “เชื่อมต่อและแตกหัก” ของสนามแม่เหล็กใกล้หลุมดำ ซึ่งคล้ายกับปรากฏการณ์บนดวงอาทิตย์ แต่ในสเกลที่ใหญ่กว่ามาก การค้นพบนี้จึงไม่เพียงแต่ช่วยให้เข้าใจหลุมดำมากขึ้น แต่ยังชี้ให้เห็นว่า กฎฟิสิกส์ที่เรารู้จักในระบบสุริยะอาจใช้ได้กับวัตถุจักรวาลขนาดใหญ่เช่นกัน

    นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังเชื่อว่าลมเหนือแสงจากหลุมดำมีบทบาทสำคัญต่อการวิวัฒนาการของกาแล็กซี เพราะมันสามารถผลักดันก๊าซและฝุ่นออกไป ส่งผลต่อการก่อตัวของดาวฤกษ์รุ่นใหม่ และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจว่า จักรวาลเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างไรในระยะยาว

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบครั้งแรกของลมเหนือแสงจากหลุมดำ
    เกิดขึ้นในกาแล็กซี NGC 3783 ห่างจากโลก 130 ล้านปีแสง
    ความเร็วลมสูงถึง 19% ของความเร็วแสง (~57,000 กม./วินาที)

    กลไกการเกิดปรากฏการณ์
    เกิดจากการแตกหักและเชื่อมต่อใหม่ของสนามแม่เหล็กใกล้หลุมดำ
    คล้ายกับการปะทุของดวงอาทิตย์ แต่ทรงพลังมหาศาลกว่าหลายพันล้านเท่า

    ผลกระทบต่อจักรวาล
    ลมเหนือแสงสามารถผลักดันก๊าซและฝุ่นออกจากใจกลางกาแล็กซี
    ส่งผลต่อการก่อตัวของดาวฤกษ์และวิวัฒนาการของกาแล็กซี

    คำเตือนและข้อควรระวังทางวิทยาศาสตร์
    ปรากฏการณ์นี้ยังไม่ถูกเข้าใจอย่างสมบูรณ์ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติม
    หากลมเหนือแสงเกิดขึ้นบ่อย อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของกาแล็กซีในระยะยาว

    https://www.sciencealert.com/black-hole-ufo-caught-at-critical-moment-in-scientific-first
    🌌 การค้นพบลมความเร็วเหนือแสงจากหลุมดำมวลยักษ์ นักดาราศาสตร์ได้บันทึกปรากฏการณ์ครั้งแรกที่ หลุมดำมวลมหาศาลในกาแล็กซี NGC 3783 ปล่อยลมความเร็วสูงออกสู่อวกาศหลังเกิดการปะทุรังสีเอกซ์อย่างฉับพลัน โดยลมนี้มีความเร็วถึง 19% ของความเร็วแสง หรือราว 57,000 กิโลเมตรต่อวินาที ซึ่งถือเป็นการสังเกตการณ์โดยตรงครั้งแรกของการกำเนิดและวิวัฒนาการของลมเหนือแสง (Ultrafast Outflow – UFO) ที่เกิดจากการปะทุของหลุมดำ การค้นพบนี้เกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2024 เมื่อกล้องโทรทรรศน์อวกาศ XMM-Newton ของยุโรปและ XRISM ของญี่ปุ่นจับสัญญาณการปะทุรังสีเอกซ์ที่รุนแรง และภายในเวลาเพียง 12 ชั่วโมงก็พบสัญญาณของลมเหนือแสงที่พุ่งออกมา คล้ายกับการพ่นมวลสารจากดวงอาทิตย์ที่เรียกว่า Coronal Mass Ejection แต่ในระดับที่ใหญ่และทรงพลังมหาศาลกว่าหลายพันล้านเท่า สิ่งที่น่าสนใจคือ นักวิทยาศาสตร์พบว่ากลไกที่ทำให้เกิดการปะทุนี้อาจเกี่ยวข้องกับการ “เชื่อมต่อและแตกหัก” ของสนามแม่เหล็กใกล้หลุมดำ ซึ่งคล้ายกับปรากฏการณ์บนดวงอาทิตย์ แต่ในสเกลที่ใหญ่กว่ามาก การค้นพบนี้จึงไม่เพียงแต่ช่วยให้เข้าใจหลุมดำมากขึ้น แต่ยังชี้ให้เห็นว่า กฎฟิสิกส์ที่เรารู้จักในระบบสุริยะอาจใช้ได้กับวัตถุจักรวาลขนาดใหญ่เช่นกัน นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังเชื่อว่าลมเหนือแสงจากหลุมดำมีบทบาทสำคัญต่อการวิวัฒนาการของกาแล็กซี เพราะมันสามารถผลักดันก๊าซและฝุ่นออกไป ส่งผลต่อการก่อตัวของดาวฤกษ์รุ่นใหม่ และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจว่า จักรวาลเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างไรในระยะยาว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบครั้งแรกของลมเหนือแสงจากหลุมดำ ➡️ เกิดขึ้นในกาแล็กซี NGC 3783 ห่างจากโลก 130 ล้านปีแสง ➡️ ความเร็วลมสูงถึง 19% ของความเร็วแสง (~57,000 กม./วินาที) ✅ กลไกการเกิดปรากฏการณ์ ➡️ เกิดจากการแตกหักและเชื่อมต่อใหม่ของสนามแม่เหล็กใกล้หลุมดำ ➡️ คล้ายกับการปะทุของดวงอาทิตย์ แต่ทรงพลังมหาศาลกว่าหลายพันล้านเท่า ✅ ผลกระทบต่อจักรวาล ➡️ ลมเหนือแสงสามารถผลักดันก๊าซและฝุ่นออกจากใจกลางกาแล็กซี ➡️ ส่งผลต่อการก่อตัวของดาวฤกษ์และวิวัฒนาการของกาแล็กซี ‼️ คำเตือนและข้อควรระวังทางวิทยาศาสตร์ ⛔ ปรากฏการณ์นี้ยังไม่ถูกเข้าใจอย่างสมบูรณ์ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติม ⛔ หากลมเหนือแสงเกิดขึ้นบ่อย อาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของกาแล็กซีในระยะยาว https://www.sciencealert.com/black-hole-ufo-caught-at-critical-moment-in-scientific-first
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Black Hole 'UFO' Caught at Critical Moment in Scientific First
    For the first time, astronomers have caught the moment when a supermassive black hole flare triggers a mighty wind blasting out into space at relativistic speeds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251210 #TechRadar

    ความฝัน AGI ที่ยังไกลเกินเอื้อม
    นักวิจัย AI ในงานประชุม NeurIPS 2025 ออกมาเตือนว่า แม้ Google จะฉลองความสำเร็จของ Gemini 3 แต่ความจริงแล้วการสร้าง “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป” หรือ AGI ยังห่างไกลมาก ปัญหาคือการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ทำให้มันฉลาดขึ้นจริง ๆ แต่กลับติดกำแพงที่เรียกว่า “scaling wall” ทั้งเรื่องข้อมูลที่เริ่มหมดคุณภาพ การใช้พลังงานมหาศาล และที่สำคัญคือโมเดลยังไม่เข้าใจเหตุและผลอย่างแท้จริง หลายคนเสนอแนวทางใหม่ เช่น สถาปัตยกรรมแบบ neurosymbolic ที่ผสมผสานการเรียนรู้เชิงสถิติและตรรกะ หรือ “world models” ที่จำลองการรับรู้โลกแบบมนุษย์ เพื่อให้ AI ไม่ใช่แค่ตอบได้ แต่เข้าใจจริง ๆ https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/agi-is-a-pipe-dream-until-we-solve-one-big-problem-ai-experts-say-even-as-google-celebrates-geminis-success

    เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ 14 ปีในอินโดนีเซียถูกโค่น
    นักวิจัย Malanta.ai พบโครงสร้างอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดมหึมาในอินโดนีเซียที่ดำเนินการต่อเนื่องกว่า 14 ปี มีการควบคุมโดเมนกว่า 320,000 แห่ง รวมถึงซับโดเมนของรัฐบาลที่ถูกแฮ็ก ใช้แพลตฟอร์มคลาวด์อย่าง AWS และ Firebase ในการสั่งการมัลแวร์ และสร้างแอป Android ปลอมที่กระจายไปทั่ว ผลคือข้อมูลล็อกอินการพนันกว่า 50,000 รายการถูกขโมยไป นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่านี่อาจไม่ใช่แค่กลุ่มอาชญากรทั่วไป แต่มีลักษณะคล้ายปฏิบัติการระดับรัฐ https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia

    บอร์ด Framework เก่าถูกชุบชีวิตเป็นคลัสเตอร์คอมพิวเตอร์
    โครงการ Kickstarter ที่ชื่อ FrameCluster เสนอไอเดียเปลี่ยนเมนบอร์ด Framework ที่ไม่ได้ใช้แล้วให้กลายเป็นระบบคลัสเตอร์ขนาดเล็ก โดยใช้ชิ้นส่วนที่พิมพ์ 3D ทั้งหมด มันไม่ได้เน้นพลังประมวลผลสูงสุด แต่เน้นการจัดระเบียบและการนำฮาร์ดแวร์เก่ามาใช้ใหม่ เหมาะสำหรับงานทดลองหรือโฮสต์เซอร์วิสเล็ก ๆ แม้จะยังระดมทุนได้ไม่มาก แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการรีไซเคิลเทคโนโลยีให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง https://www.techradar.com/pro/your-own-supercomputer-made-up-of-old-framework-motherboards-this-kickstarter-project-aims-to-achieve-just-that

    รีวิว Fairphone Fairbuds XL 2025 หูฟังรักษ์โลก
    Fairphone เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ Fairbuds XL 2025 ที่ยังคงจุดขายด้านความยั่งยืน ใช้วัสดุรีไซเคิลและแร่ธาตุที่ได้จากการทำเหมืองอย่างเป็นธรรม จุดเด่นคือการควบคุมด้วยจอยสติ๊กเล็ก ๆ ที่ใช้งานง่ายและสนุก เสียงออกมาแนวสนุกสนาน มีพลังเบส แต่ยังไม่ละเอียดเท่าคู่แข่งรายใหญ่ จุดที่อาจทำให้ลังเลคือราคาที่สูงกว่าแบรนด์อื่น และฟีเจอร์เสริมที่ยังไม่ครบ แต่ถ้ามองเรื่องสิ่งแวดล้อมและการใช้งานระยะยาว หูฟังนี้ถือว่าโดดเด่นมาก https://www.techradar.com/audio/wireless-headphones/fairphone-fairbuds-xl-2025-review

    7 มือถือแนะนำสำหรับของขวัญคริสต์มาส
    TechRadar รวบรวมมือถือที่เหมาะจะซื้อเป็นของขวัญคริสต์มาสปีนี้ โดยแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้ เช่น สำหรับทุกคนทั่วไปมีตัวเลือกอย่าง iPhone 17, Samsung Galaxy S25 และ Google Pixel 10 ส่วนวัยรุ่นเหมาะกับ iPhone 16 ที่ยังเร็วและรองรับอัปเดตอีกหลายปี สำหรับพ่อแม่แนะนำ Samsung Galaxy A36 ที่จอใหญ่ แบตอึด และราคาคุ้มค่า ถ้าเป็นแฟน Apple ก็มี iPhone 17 Pro ที่ครบเครื่อง หรือถ้าเป็นสาย Android ตัวแรง OnePlus 15 ก็เป็นดาวเด่นปีนี้ เรียกว่ามีตัวเลือกสำหรับทุกสไตล์และงบประมาณ https://www.techradar.com/phones/buying-someone-a-new-phone-this-christmas-here-are-my-7-expert-recommendations-for-every-type-of-person

    โฆษณาใน Gemini ยังไม่มา แต่อนาคตอาจเลี่ยงไม่พ้น
    ช่วงนี้โลก AI กำลังถูกจับตามองเรื่องโฆษณาในแชตบอท หลังจากที่ผู้ใช้ ChatGPT แบบโปรราคา 200 ดอลลาร์ต่อเดือนเจอ “app suggestions” โผล่มาเหมือนโฆษณา จนบริษัทต้องรีบถอดออกและยอมรับว่าพลาดไป ขณะที่คู่แข่งอย่าง Google Gemini รีบออกมาปฏิเสธข่าวลือว่าไม่มีแผนจะใส่โฆษณาในแอปตอนนี้ แต่คำว่า “ตอนนี้” ก็ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัย เพราะค่าใช้จ่ายมหาศาลในการดูแลระบบ AI อาจทำให้วันหนึ่งโฆษณากลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้สะท้อนว่าอนาคตของผู้ช่วย AI อาจไม่พ้นการกลายเป็นพื้นที่โฆษณา เพียงแต่จะมาเมื่อไหร่เท่านั้น https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/ads-arent-coming-to-gemini-google-says-but-openai-has-shown-that-the-inevitable-is-coming

    Xiaomi และ Motorola เตรียมส่งแท็กคู่แข่ง AirTag
    ตั้งแต่ Apple เปิดตัว AirTag ในปี 2021 ก็แทบจะครองตลาดอุปกรณ์ติดตามของหาย ล่าสุดมีข่าวลือว่า Xiaomi และ Motorola กำลังจะเปิดตัวแท็กของตัวเอง โดยทั้งคู่จะรองรับเทคโนโลยี ultra wide-band ที่แม่นยำกว่าเดิม Xiaomi อาจเปิดตัวพร้อมมือถือรุ่นใหม่ปลายปี ส่วน Motorola ก็มีภาพหลุดของ Moto Tag 2 ที่จะมาพร้อมสีใหม่และกันน้ำได้ด้วย ราคายังไม่ประกาศ แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับรุ่นก่อนที่ขายราว 40 ดอลลาร์ ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Android ที่อยากได้ตัวเลือกใหม่ในการติดตามของสำคัญ https://www.techradar.com/phones/android/forget-apple-airtags-motorola-and-xiaomi-are-rumored-to-be-launching-android-equivalents-soon

    Dyson V8 Cyclone รุ่นพื้นฐานที่ทำความสะอาดได้เกินคาด
    นักรีวิวเครื่องดูดฝุ่นจาก TechRadar ได้ลอง Dyson V8 Cyclone ซึ่งเป็นรุ่นพื้นฐาน ไม่มีฟีเจอร์ล้ำ ๆ เหมือนรุ่นใหม่ ๆ แต่กลับทำความสะอาดได้ดีจนเหนือความคาดหมาย ในการทดสอบเปรียบเทียบกับรุ่นไฮเทคอย่าง Dyson V16 และ Shark Detect Pro รุ่น V8 Cyclone กลับทำคะแนนสูงกว่า จุดเด่นคือแรงดูดและหัวดูดที่ออกแบบเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ทำให้ตั้งคำถามว่าบางครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบซับซ้อนเกินไปอาจไม่ได้ช่วยให้ใช้งานดีขึ้นเสมอไป https://www.techradar.com/home/vacuums/i-was-blown-away-by-this-basic-dyson-vacuums-cleaning-powers-and-im-wondering-if-modern-vacs-are-over-engineered

      IKEA เปิดตัวไฟอัจฉริยะราคาถูกที่สุด
    IKEA เปิดตัวไฟ LED รุ่นใหม่ชื่อ Gömpyssling ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เปิดปุ๊บติดปั๊บ เหมาะสำหรับติดในตู้หรือชั้นวางของ จุดเด่นคือราคาถูกมาก แค่สองชิ้นราคาเพียง 3 ปอนด์ในอังกฤษ และ 4 ยูโรในหลายประเทศยุโรป ตัวไฟทำจากพลาสติกรีไซเคิล ใช้แบตเตอรี่ AA เพียงก้อนเดียว ไม่ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือแอปใด ๆ ถือเป็นอุปกรณ์เล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในบ้านโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ https://www.techradar.com/home/smart-home/ikea-quietly-launches-a-new-smart-light-and-its-the-simplest-and-most-affordable-one-yet

    Asus ROG Raikiri Pro คอนโทรลเลอร์พร้อมจอ OLED ลดราคาหนัก
    สำหรับสายเกมเมอร์ Asus ROG Raikiri Pro เป็นคอนโทรลเลอร์ไร้สายที่มีจอ OLED ในตัว สามารถปรับโปรไฟล์ปุ่มและตั้งค่าต่าง ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าเมนูในเกม ล่าสุดมีโปรลดราคาจาก 149.99 ปอนด์เหลือเพียง 89.99 ปอนด์ ถือเป็นราคาต่ำสุดที่เคยมี ดีไซน์โดดเด่นด้วยไฟ RGB รอบปุ่มและตัวเครื่องกึ่งโปร่งใส เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งละเอียดหรืออยากได้คอนโทรลเลอร์ที่แตกต่างจากทั่วไป https://www.techradar.com/gaming/this-asus-controller-comes-with-a-screen-and-right-now-its-cheaper-than-ever

      Meta ลดการแชร์ข้อมูลผู้ใช้ในยุโรป
    Meta ประกาศว่าจะลดการแชร์ข้อมูลของผู้ใช้ในสหภาพยุโรปภายในปี 2026 เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนปรับตามกฎหมาย GDPR การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ข้อมูลที่ส่งต่อระหว่างบริการต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook และ Instagram ถูกจำกัดมากขึ้น ถือเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปที่เข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ https://www.techradar.com/pro/meta-promises-to-reduce-data-sharing-for-eu-users-by-2026-to-avoid-eu-gdpr-fines

      รีวิวกล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro
    กล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro รุ่นใหม่มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม เช่น การบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง และระบบช่วยตรวจจับเหตุการณ์ แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย รีวิวจาก TechRadar ระบุว่าถึงแม้คุณภาพดี แต่คู่แข่งที่ราคาถูกกว่ากลับทำได้ใกล้เคียงหรือบางรุ่นดีกว่า ทำให้ U3000 Pro อาจเหมาะกับคนที่ต้องการฟีเจอร์ครบ ๆ และไม่กังวลเรื่องงบประมาณ https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/i-tested-the-thinkware-u3000-pro-dash-cam-and-it-has-heaps-of-potential-but-its-outshone-by-affordable-rivals

    สร้างห้องทำงานที่บ้านให้สมบูรณ์แบบ
    เรื่องนี้พูดถึงการจัดห้องทำงานที่บ้านให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ทรงพลังและสะดวกสบายที่สุด เขาแนะนำอุปกรณ์สำคัญตั้งแต่แล็ปท็อปที่แรงพอสำหรับงานหนักอย่าง Dell 16 Premium ไปจนถึงเก้าอี้ Branch Verve ที่นั่งได้นานโดยไม่เมื่อย รวมถึงโต๊ะยืน FlexiSpot E7 ที่ปรับระดับได้ง่าย เครื่องพิมพ์ Epson EcoTank ที่ประหยัดหมึก และจอมอนิเตอร์ Dell UltraSharp ที่ภาพคมชัด นอกจากนี้ยังมีเมาส์ Logitech MX Master 3S ที่ใช้งานได้เงียบและแม่นยำ รวมถึงระบบ Wi-Fi 7 จาก TP-Link Deco ที่ทำให้การเชื่อมต่อเสถียร สุดท้ายยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Docking Station, SSD พกพา Samsung T9, Cloud Storage iDrive และหูฟัง Jabra Evolve2 75 ที่ช่วยให้การประชุมออนไลน์ชัดเจน ทั้งหมดนี้คือการรวมอุปกรณ์ที่ทำให้การทำงานจากบ้านมีประสิทธิภาพและสบายใจมากขึ้น https://www.techradar.com/home/create-the-ultimate-work-from-home-setup

    LinkedIn เดินหน้าตรวจสอบตัวตนผู้ใช้ทุกคน
    LinkedIn ประกาศความสำเร็จในการทำให้มีผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนกว่า 100 ล้านบัญชี และยังตั้งเป้าว่าจะทำให้ทุกบัญชี ทุกบริษัท และทุกตำแหน่งงานมีการยืนยันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น การยืนยันนี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมมากขึ้นถึงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ LinkedIn ยังเปิด API ให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Zoom นำสถานะการยืนยันไปแสดงในโปรไฟล์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการประชุมออนไลน์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ LinkedIn ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ของความน่าเชื่อถือบนโลกดิจิทัล https://www.techradar.com/pro/linkedin-wants-every-user-to-be-verified

    โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ OLED ขยายได้จาก Lenovo
    มีข่าวลือว่า Lenovo เตรียมเปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งรุ่นใหม่ชื่อ Legion Pro Rollable ที่มาพร้อมจอ OLED แบบขยายได้ในแนวนอน ซึ่งจะกลายเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ Ultrawide รุ่นแรกของโลก หากเป็นจริงจะเปิดตัวในงาน CES 2026 จุดเด่นคือหน้าจอสามารถขยายออกไปด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่การเล่นเกมหรือทำงานแบบมัลติทาสก์ คาดว่าจะใช้ซีพียู Intel Core Ultra แต่ยังไม่เปิดเผยการ์ดจอ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องราคาและน้ำหนัก แต่ถ้า Lenovo ทำได้สำเร็จ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง https://www.techradar.com/computing/gaming-laptops/lenovo-legion-pro-rollable-leak-reveals-the-worlds-first-ultrawide-oled-gaming-laptop-and-i-cant-wait-to-try-it

    การโจมตีแบบ Prompt Injection อาจไม่มีวันแก้ได้
    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งสหราชอาณาจักร (NCSC) เตือนว่าการโจมตีแบบ Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในข้อความเพื่อหลอกให้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ทำงานผิด อาจจะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์เหมือนที่เคยแก้ปัญหา SQL Injection เพราะโมเดลไม่สามารถแยกแยะระหว่างข้อมูลกับคำสั่งได้อย่างแท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักพัฒนามองโมเดลเหล่านี้เป็น “ผู้ช่วยที่สับสนได้” และออกแบบระบบให้จำกัดผลกระทบหากถูกโจมตี นี่เป็นการเตือนว่าการใช้ AI ต้องระวังและไม่ควรคาดหวังว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ https://www.techradar.com/pro/security/prompt-injection-attacks-might-never-be-properly-mitigated-uk-ncsc-warns

    ออสเตรเลียห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย
    กฎหมายใหม่ในออสเตรเลียเริ่มบังคับใช้แล้ว โดยห้ามผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น YouTube, Instagram, TikTok และ Snapchat หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับสูงถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย มาตรการนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้ปกครองและนักปกป้องเด็ก แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความเป็นส่วนตัวที่กังวลว่าจะกระทบสิทธิของประชาชน เด็กบางคนเริ่มหันไปใช้แอปอื่นที่ไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย เช่น Discord หรือ Roblox และมีแนวโน้มว่าการค้นหา VPN จะเพิ่มขึ้นเพื่อหาทางเลี่ยงข้อจำกัด https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/under-16s-social-media-ban-lands-in-australia

    Pebble Index 01 อุปกรณ์ใหม่รวมแหวนอัจฉริยะกับผู้ช่วยเสียง
    Pebble เปิดตัวอุปกรณ์ที่รวมฟังก์ชันผู้ช่วยเสียงเข้ากับสมาร์ทริงในชื่อ Pebble Index 01 จุดเด่นคือสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้โดยตรงจากแหวน เช่น เปิดเพลง ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม หรือเช็กข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดีไซน์เรียบง่ายและทันสมัย ทำให้เป็นทั้งเครื่องประดับและอุปกรณ์เทคโนโลยีในเวลาเดียวกัน ถือเป็นการพยายามสร้างหมวดหมู่ใหม่ที่ผสมผสาน wearable กับ AI voice assistant เข้าด้วยกัน https://www.techradar.com/health-fitness/pebble-is-reinventing-voice-assistants-and-smart-rings-in-one-device-meet-the-pebble-index-01

     รัฐบาลสหรัฐฯ มองโลกในแง่ดีหลังยอดจ่ายค่าไถ่ไซเบอร์ลดลง
    ช่วงปี 2023 ถือเป็นปีที่การโจมตี ransomware พุ่งสูงสุด มีการจ่ายค่าไถ่รวมกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ แต่หลังจากที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถจัดการกับแก๊งใหญ่ ๆ อย่าง ALPHV และ LockBit ได้ ทำให้ปี 2024 ยอดการโจมตีและจำนวนเงินที่เหยื่อจ่ายลดลงเหลือประมาณ 734 ล้านดอลลาร์ แม้ยังมีแก๊งอย่าง Akira ที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ แต่ภาพรวมถือว่าการปราบปรามครั้งนี้สร้างผลกระทบชัดเจนต่อวงการอาชญากรรมไซเบอร์ https://www.techradar.com/pro/security/us-treasury-offers-cautious-optimism-as-ransomware-payments-decline

     Spotify เดินหน้าสู่ยุคใหม่ เพิ่มมิวสิกวิดีโอในแอป
    Spotify กำลังพยายามกลายเป็นเหมือน MTV ยุคดิจิทัล โดยล่าสุดเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา รวมถึงอีกหลายประเทศ สามารถดูมิวสิกวิดีโอได้โดยตรงในแอป ไม่ใช่แค่ฟังเพลงอย่างเดียว ผู้ใช้สามารถกดสลับจากโหมดเสียงไปเป็นวิดีโอได้ทันที ฟีเจอร์นี้สร้างความตื่นเต้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าประสบการณ์ดูวิดีโอยังไม่ลื่นไหลเท่า YouTube อย่างไรก็ตาม Spotify ยังคงเดินหน้าต่อยอดเพื่อขยายบริการให้ครบวงจรทั้งภาพและเสียง https://www.techradar.com/audio/spotify/spotify-steps-up-its-plan-to-be-the-new-mtv-music-videos-are-rolling-out-whether-you-want-them-or-not

     โลกการเขียนโค้ดกับเทรนด์ใหม่ “Vibe-Coding”
    คำว่า “Vibe-Coding” ถูกยกให้เป็นคำแห่งปี 2025 หมายถึงการเขียนโปรแกรมที่เน้นความรู้สึกและความคิดสร้างสรรค์มากกว่ากฎเกณฑ์ทางเทคนิค โดยใช้ AI เป็นตัวช่วยให้โค้ดเกิดขึ้นแทบจะอัตโนมัติ แนวทางนี้เปิดโอกาสให้คนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และความเสี่ยงจากโค้ดที่ไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด นักพัฒนาจึงต้องปรับบทบาทจากการเขียนโค้ดเองไปสู่การควบคุมคุณภาพและกำกับ AI ให้ทำงานอย่างถูกต้อง https://www.techradar.com/pro/the-future-of-coding-has-a-vibe-problem-balancing-creativity-with-control

     AMD เตรียมเปิดตัวชิปเกมมิ่งรุ่นใหม่ Ryzen 9850X3D
    มีภาพหลุดจาก BIOS ที่เผยให้เห็นชิป AMD Ryzen 9850X3D ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่นอัปเกรดจาก 9800X3D โดยเพิ่มความเร็วบูสต์สูงสุดถึง 5.6GHz ทำให้แรงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 400MHz แม้ผลทดสอบเบื้องต้นยังไม่ชัดเจน แต่ถ้าชิปนี้เปิดตัวจริงในงาน CES 2026 จะเป็นข่าวดีสำหรับนักเล่นเกม เพราะนอกจากจะได้รุ่นใหม่ที่แรงขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้รุ่นเก่าราคาเริ่มถูกลงด้วย https://www.techradar.com/computing/gpu/the-fastest-gaming-cpu-could-get-a-supercharged-version-soon-as-new-amd-ryzen-9850x3d-leak-pops-up

     สหราชอาณาจักรต้องเร่งสร้างเครือข่ายอัจฉริยะเพื่อแข่งขันในยุค AI
    รายงานล่าสุดชี้ว่า AI สามารถเพิ่ม GDP ของสหราชอาณาจักรได้กว่า 550 พันล้านปอนด์ภายในปี 2035 แต่ปัญหาคือโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายยังล้าหลังมาก โดยปัจจุบันสหราชอาณาจักรถือครองพลังการประมวลผล AI เพียง 3% ของโลก ขณะที่สหรัฐฯ ครองถึง 75% หากไม่เร่งลงทุนในเครือข่ายที่เร็ว ปลอดภัย และปรับตัวได้ทันที ประเทศอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน เครือข่ายอัจฉริยะจะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจและนวัตกรรมในอนาคต https://www.techradar.com/pro/the-uk-must-build-smarter-networks-to-lead-in-ai

      IBM ทุ่มเงิน 11 พันล้านเหรียญซื้อกิจการ Confluent IBM
    กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล โดยล่าสุดมีรายงานว่าเตรียมเข้าซื้อ Confluent ด้วยมูลค่ากว่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเข้าซื้อครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะเสริมความแข็งแกร่งด้านการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรยุค AI และคลาวด์ หากดีลนี้สำเร็จ IBM จะมีเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนและกระจายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techradar.com/pro/ibm-looks-to-secure-data-infrastructure-with-usd11bn-bid-for-confluent

      สหรัฐฯ เตรียมอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปจีน
    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะอนุญาตให้บริษัท Nvidia ส่งออกชิปประสิทธิภาพสูงรุ่น H200 ไปยังจีน หลังจากก่อนหน้านี้มีการจำกัดการขายเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในงานด้าน AI และการทหาร การผ่อนปรนครั้งนี้อาจช่วยให้ Nvidia ขยายตลาดและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ https://www.techradar.com/pro/trump-set-to-allow-nvidia-h200-chips-to-be-exported-to-china
    📌📡🟢 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟢📡📌 #รวมข่าวIT #20251210 #TechRadar 🧠 ความฝัน AGI ที่ยังไกลเกินเอื้อม นักวิจัย AI ในงานประชุม NeurIPS 2025 ออกมาเตือนว่า แม้ Google จะฉลองความสำเร็จของ Gemini 3 แต่ความจริงแล้วการสร้าง “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป” หรือ AGI ยังห่างไกลมาก ปัญหาคือการพัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ได้ทำให้มันฉลาดขึ้นจริง ๆ แต่กลับติดกำแพงที่เรียกว่า “scaling wall” ทั้งเรื่องข้อมูลที่เริ่มหมดคุณภาพ การใช้พลังงานมหาศาล และที่สำคัญคือโมเดลยังไม่เข้าใจเหตุและผลอย่างแท้จริง หลายคนเสนอแนวทางใหม่ เช่น สถาปัตยกรรมแบบ neurosymbolic ที่ผสมผสานการเรียนรู้เชิงสถิติและตรรกะ หรือ “world models” ที่จำลองการรับรู้โลกแบบมนุษย์ เพื่อให้ AI ไม่ใช่แค่ตอบได้ แต่เข้าใจจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/agi-is-a-pipe-dream-until-we-solve-one-big-problem-ai-experts-say-even-as-google-celebrates-geminis-success 🕵️ เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ 14 ปีในอินโดนีเซียถูกโค่น นักวิจัย Malanta.ai พบโครงสร้างอาชญากรรมไซเบอร์ขนาดมหึมาในอินโดนีเซียที่ดำเนินการต่อเนื่องกว่า 14 ปี มีการควบคุมโดเมนกว่า 320,000 แห่ง รวมถึงซับโดเมนของรัฐบาลที่ถูกแฮ็ก ใช้แพลตฟอร์มคลาวด์อย่าง AWS และ Firebase ในการสั่งการมัลแวร์ และสร้างแอป Android ปลอมที่กระจายไปทั่ว ผลคือข้อมูลล็อกอินการพนันกว่า 50,000 รายการถูกขโมยไป นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่านี่อาจไม่ใช่แค่กลุ่มอาชญากรทั่วไป แต่มีลักษณะคล้ายปฏิบัติการระดับรัฐ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia 🖥️ บอร์ด Framework เก่าถูกชุบชีวิตเป็นคลัสเตอร์คอมพิวเตอร์ โครงการ Kickstarter ที่ชื่อ FrameCluster เสนอไอเดียเปลี่ยนเมนบอร์ด Framework ที่ไม่ได้ใช้แล้วให้กลายเป็นระบบคลัสเตอร์ขนาดเล็ก โดยใช้ชิ้นส่วนที่พิมพ์ 3D ทั้งหมด มันไม่ได้เน้นพลังประมวลผลสูงสุด แต่เน้นการจัดระเบียบและการนำฮาร์ดแวร์เก่ามาใช้ใหม่ เหมาะสำหรับงานทดลองหรือโฮสต์เซอร์วิสเล็ก ๆ แม้จะยังระดมทุนได้ไม่มาก แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการรีไซเคิลเทคโนโลยีให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/your-own-supercomputer-made-up-of-old-framework-motherboards-this-kickstarter-project-aims-to-achieve-just-that 🎧 รีวิว Fairphone Fairbuds XL 2025 หูฟังรักษ์โลก Fairphone เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ Fairbuds XL 2025 ที่ยังคงจุดขายด้านความยั่งยืน ใช้วัสดุรีไซเคิลและแร่ธาตุที่ได้จากการทำเหมืองอย่างเป็นธรรม จุดเด่นคือการควบคุมด้วยจอยสติ๊กเล็ก ๆ ที่ใช้งานง่ายและสนุก เสียงออกมาแนวสนุกสนาน มีพลังเบส แต่ยังไม่ละเอียดเท่าคู่แข่งรายใหญ่ จุดที่อาจทำให้ลังเลคือราคาที่สูงกว่าแบรนด์อื่น และฟีเจอร์เสริมที่ยังไม่ครบ แต่ถ้ามองเรื่องสิ่งแวดล้อมและการใช้งานระยะยาว หูฟังนี้ถือว่าโดดเด่นมาก 🔗 https://www.techradar.com/audio/wireless-headphones/fairphone-fairbuds-xl-2025-review 🎄 7 มือถือแนะนำสำหรับของขวัญคริสต์มาส TechRadar รวบรวมมือถือที่เหมาะจะซื้อเป็นของขวัญคริสต์มาสปีนี้ โดยแบ่งตามกลุ่มผู้ใช้ เช่น สำหรับทุกคนทั่วไปมีตัวเลือกอย่าง iPhone 17, Samsung Galaxy S25 และ Google Pixel 10 ส่วนวัยรุ่นเหมาะกับ iPhone 16 ที่ยังเร็วและรองรับอัปเดตอีกหลายปี สำหรับพ่อแม่แนะนำ Samsung Galaxy A36 ที่จอใหญ่ แบตอึด และราคาคุ้มค่า ถ้าเป็นแฟน Apple ก็มี iPhone 17 Pro ที่ครบเครื่อง หรือถ้าเป็นสาย Android ตัวแรง OnePlus 15 ก็เป็นดาวเด่นปีนี้ เรียกว่ามีตัวเลือกสำหรับทุกสไตล์และงบประมาณ 🔗 https://www.techradar.com/phones/buying-someone-a-new-phone-this-christmas-here-are-my-7-expert-recommendations-for-every-type-of-person 📰 โฆษณาใน Gemini ยังไม่มา แต่อนาคตอาจเลี่ยงไม่พ้น ช่วงนี้โลก AI กำลังถูกจับตามองเรื่องโฆษณาในแชตบอท หลังจากที่ผู้ใช้ ChatGPT แบบโปรราคา 200 ดอลลาร์ต่อเดือนเจอ “app suggestions” โผล่มาเหมือนโฆษณา จนบริษัทต้องรีบถอดออกและยอมรับว่าพลาดไป ขณะที่คู่แข่งอย่าง Google Gemini รีบออกมาปฏิเสธข่าวลือว่าไม่มีแผนจะใส่โฆษณาในแอปตอนนี้ แต่คำว่า “ตอนนี้” ก็ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัย เพราะค่าใช้จ่ายมหาศาลในการดูแลระบบ AI อาจทำให้วันหนึ่งโฆษณากลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เรื่องนี้สะท้อนว่าอนาคตของผู้ช่วย AI อาจไม่พ้นการกลายเป็นพื้นที่โฆษณา เพียงแต่จะมาเมื่อไหร่เท่านั้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/ads-arent-coming-to-gemini-google-says-but-openai-has-shown-that-the-inevitable-is-coming 📱 Xiaomi และ Motorola เตรียมส่งแท็กคู่แข่ง AirTag ตั้งแต่ Apple เปิดตัว AirTag ในปี 2021 ก็แทบจะครองตลาดอุปกรณ์ติดตามของหาย ล่าสุดมีข่าวลือว่า Xiaomi และ Motorola กำลังจะเปิดตัวแท็กของตัวเอง โดยทั้งคู่จะรองรับเทคโนโลยี ultra wide-band ที่แม่นยำกว่าเดิม Xiaomi อาจเปิดตัวพร้อมมือถือรุ่นใหม่ปลายปี ส่วน Motorola ก็มีภาพหลุดของ Moto Tag 2 ที่จะมาพร้อมสีใหม่และกันน้ำได้ด้วย ราคายังไม่ประกาศ แต่คาดว่าจะใกล้เคียงกับรุ่นก่อนที่ขายราว 40 ดอลลาร์ ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Android ที่อยากได้ตัวเลือกใหม่ในการติดตามของสำคัญ 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/forget-apple-airtags-motorola-and-xiaomi-are-rumored-to-be-launching-android-equivalents-soon 🧹 Dyson V8 Cyclone รุ่นพื้นฐานที่ทำความสะอาดได้เกินคาด นักรีวิวเครื่องดูดฝุ่นจาก TechRadar ได้ลอง Dyson V8 Cyclone ซึ่งเป็นรุ่นพื้นฐาน ไม่มีฟีเจอร์ล้ำ ๆ เหมือนรุ่นใหม่ ๆ แต่กลับทำความสะอาดได้ดีจนเหนือความคาดหมาย ในการทดสอบเปรียบเทียบกับรุ่นไฮเทคอย่าง Dyson V16 และ Shark Detect Pro รุ่น V8 Cyclone กลับทำคะแนนสูงกว่า จุดเด่นคือแรงดูดและหัวดูดที่ออกแบบเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ ทำให้ตั้งคำถามว่าบางครั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบซับซ้อนเกินไปอาจไม่ได้ช่วยให้ใช้งานดีขึ้นเสมอไป 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/i-was-blown-away-by-this-basic-dyson-vacuums-cleaning-powers-and-im-wondering-if-modern-vacs-are-over-engineered 💡  IKEA เปิดตัวไฟอัจฉริยะราคาถูกที่สุด IKEA เปิดตัวไฟ LED รุ่นใหม่ชื่อ Gömpyssling ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เปิดปุ๊บติดปั๊บ เหมาะสำหรับติดในตู้หรือชั้นวางของ จุดเด่นคือราคาถูกมาก แค่สองชิ้นราคาเพียง 3 ปอนด์ในอังกฤษ และ 4 ยูโรในหลายประเทศยุโรป ตัวไฟทำจากพลาสติกรีไซเคิล ใช้แบตเตอรี่ AA เพียงก้อนเดียว ไม่ต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือแอปใด ๆ ถือเป็นอุปกรณ์เล็ก ๆ ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในบ้านโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/ikea-quietly-launches-a-new-smart-light-and-its-the-simplest-and-most-affordable-one-yet 🎮 Asus ROG Raikiri Pro คอนโทรลเลอร์พร้อมจอ OLED ลดราคาหนัก สำหรับสายเกมเมอร์ Asus ROG Raikiri Pro เป็นคอนโทรลเลอร์ไร้สายที่มีจอ OLED ในตัว สามารถปรับโปรไฟล์ปุ่มและตั้งค่าต่าง ๆ ได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าเมนูในเกม ล่าสุดมีโปรลดราคาจาก 149.99 ปอนด์เหลือเพียง 89.99 ปอนด์ ถือเป็นราคาต่ำสุดที่เคยมี ดีไซน์โดดเด่นด้วยไฟ RGB รอบปุ่มและตัวเครื่องกึ่งโปร่งใส เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งละเอียดหรืออยากได้คอนโทรลเลอร์ที่แตกต่างจากทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/gaming/this-asus-controller-comes-with-a-screen-and-right-now-its-cheaper-than-ever 🌐  Meta ลดการแชร์ข้อมูลผู้ใช้ในยุโรป Meta ประกาศว่าจะลดการแชร์ข้อมูลของผู้ใช้ในสหภาพยุโรปภายในปี 2026 เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนปรับตามกฎหมาย GDPR การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ข้อมูลที่ส่งต่อระหว่างบริการต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook และ Instagram ถูกจำกัดมากขึ้น ถือเป็นการตอบสนองต่อแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรปที่เข้มงวดเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/meta-promises-to-reduce-data-sharing-for-eu-users-by-2026-to-avoid-eu-gdpr-fines 🚗  รีวิวกล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro กล้องติดรถ Thinkware U3000 Pro รุ่นใหม่มาพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม เช่น การบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง และระบบช่วยตรวจจับเหตุการณ์ แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย รีวิวจาก TechRadar ระบุว่าถึงแม้คุณภาพดี แต่คู่แข่งที่ราคาถูกกว่ากลับทำได้ใกล้เคียงหรือบางรุ่นดีกว่า ทำให้ U3000 Pro อาจเหมาะกับคนที่ต้องการฟีเจอร์ครบ ๆ และไม่กังวลเรื่องงบประมาณ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/dash-cams/i-tested-the-thinkware-u3000-pro-dash-cam-and-it-has-heaps-of-potential-but-its-outshone-by-affordable-rivals 🖥️ สร้างห้องทำงานที่บ้านให้สมบูรณ์แบบ เรื่องนี้พูดถึงการจัดห้องทำงานที่บ้านให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ทรงพลังและสะดวกสบายที่สุด เขาแนะนำอุปกรณ์สำคัญตั้งแต่แล็ปท็อปที่แรงพอสำหรับงานหนักอย่าง Dell 16 Premium ไปจนถึงเก้าอี้ Branch Verve ที่นั่งได้นานโดยไม่เมื่อย รวมถึงโต๊ะยืน FlexiSpot E7 ที่ปรับระดับได้ง่าย เครื่องพิมพ์ Epson EcoTank ที่ประหยัดหมึก และจอมอนิเตอร์ Dell UltraSharp ที่ภาพคมชัด นอกจากนี้ยังมีเมาส์ Logitech MX Master 3S ที่ใช้งานได้เงียบและแม่นยำ รวมถึงระบบ Wi-Fi 7 จาก TP-Link Deco ที่ทำให้การเชื่อมต่อเสถียร สุดท้ายยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Docking Station, SSD พกพา Samsung T9, Cloud Storage iDrive และหูฟัง Jabra Evolve2 75 ที่ช่วยให้การประชุมออนไลน์ชัดเจน ทั้งหมดนี้คือการรวมอุปกรณ์ที่ทำให้การทำงานจากบ้านมีประสิทธิภาพและสบายใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/home/create-the-ultimate-work-from-home-setup 🔒 LinkedIn เดินหน้าตรวจสอบตัวตนผู้ใช้ทุกคน LinkedIn ประกาศความสำเร็จในการทำให้มีผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนกว่า 100 ล้านบัญชี และยังตั้งเป้าว่าจะทำให้ทุกบัญชี ทุกบริษัท และทุกตำแหน่งงานมีการยืนยันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น การยืนยันนี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมมากขึ้นถึงหลายสิบเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ LinkedIn ยังเปิด API ให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Zoom นำสถานะการยืนยันไปแสดงในโปรไฟล์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการประชุมออนไลน์ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ LinkedIn ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ของความน่าเชื่อถือบนโลกดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/linkedin-wants-every-user-to-be-verified 🎮 โน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ OLED ขยายได้จาก Lenovo มีข่าวลือว่า Lenovo เตรียมเปิดตัวโน้ตบุ๊กเกมมิ่งรุ่นใหม่ชื่อ Legion Pro Rollable ที่มาพร้อมจอ OLED แบบขยายได้ในแนวนอน ซึ่งจะกลายเป็นโน้ตบุ๊กเกมมิ่งจอ Ultrawide รุ่นแรกของโลก หากเป็นจริงจะเปิดตัวในงาน CES 2026 จุดเด่นคือหน้าจอสามารถขยายออกไปด้านข้างเพื่อเพิ่มพื้นที่การเล่นเกมหรือทำงานแบบมัลติทาสก์ คาดว่าจะใช้ซีพียู Intel Core Ultra แต่ยังไม่เปิดเผยการ์ดจอ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องราคาและน้ำหนัก แต่ถ้า Lenovo ทำได้สำเร็จ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง 🔗 https://www.techradar.com/computing/gaming-laptops/lenovo-legion-pro-rollable-leak-reveals-the-worlds-first-ultrawide-oled-gaming-laptop-and-i-cant-wait-to-try-it ⚠️ การโจมตีแบบ Prompt Injection อาจไม่มีวันแก้ได้ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งสหราชอาณาจักร (NCSC) เตือนว่าการโจมตีแบบ Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในข้อความเพื่อหลอกให้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ทำงานผิด อาจจะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์เหมือนที่เคยแก้ปัญหา SQL Injection เพราะโมเดลไม่สามารถแยกแยะระหว่างข้อมูลกับคำสั่งได้อย่างแท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักพัฒนามองโมเดลเหล่านี้เป็น “ผู้ช่วยที่สับสนได้” และออกแบบระบบให้จำกัดผลกระทบหากถูกโจมตี นี่เป็นการเตือนว่าการใช้ AI ต้องระวังและไม่ควรคาดหวังว่าจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/prompt-injection-attacks-might-never-be-properly-mitigated-uk-ncsc-warns 🚫 ออสเตรเลียห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย กฎหมายใหม่ในออสเตรเลียเริ่มบังคับใช้แล้ว โดยห้ามผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น YouTube, Instagram, TikTok และ Snapchat หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับสูงถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย มาตรการนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้ปกครองและนักปกป้องเด็ก แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความเป็นส่วนตัวที่กังวลว่าจะกระทบสิทธิของประชาชน เด็กบางคนเริ่มหันไปใช้แอปอื่นที่ไม่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย เช่น Discord หรือ Roblox และมีแนวโน้มว่าการค้นหา VPN จะเพิ่มขึ้นเพื่อหาทางเลี่ยงข้อจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/under-16s-social-media-ban-lands-in-australia 💍 Pebble Index 01 อุปกรณ์ใหม่รวมแหวนอัจฉริยะกับผู้ช่วยเสียง Pebble เปิดตัวอุปกรณ์ที่รวมฟังก์ชันผู้ช่วยเสียงเข้ากับสมาร์ทริงในชื่อ Pebble Index 01 จุดเด่นคือสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้โดยตรงจากแหวน เช่น เปิดเพลง ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม หรือเช็กข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดีไซน์เรียบง่ายและทันสมัย ทำให้เป็นทั้งเครื่องประดับและอุปกรณ์เทคโนโลยีในเวลาเดียวกัน ถือเป็นการพยายามสร้างหมวดหมู่ใหม่ที่ผสมผสาน wearable กับ AI voice assistant เข้าด้วยกัน 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/pebble-is-reinventing-voice-assistants-and-smart-rings-in-one-device-meet-the-pebble-index-01 🛡️ รัฐบาลสหรัฐฯ มองโลกในแง่ดีหลังยอดจ่ายค่าไถ่ไซเบอร์ลดลง ช่วงปี 2023 ถือเป็นปีที่การโจมตี ransomware พุ่งสูงสุด มีการจ่ายค่าไถ่รวมกว่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ แต่หลังจากที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถจัดการกับแก๊งใหญ่ ๆ อย่าง ALPHV และ LockBit ได้ ทำให้ปี 2024 ยอดการโจมตีและจำนวนเงินที่เหยื่อจ่ายลดลงเหลือประมาณ 734 ล้านดอลลาร์ แม้ยังมีแก๊งอย่าง Akira ที่ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ แต่ภาพรวมถือว่าการปราบปรามครั้งนี้สร้างผลกระทบชัดเจนต่อวงการอาชญากรรมไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/us-treasury-offers-cautious-optimism-as-ransomware-payments-decline 🎵 Spotify เดินหน้าสู่ยุคใหม่ เพิ่มมิวสิกวิดีโอในแอป Spotify กำลังพยายามกลายเป็นเหมือน MTV ยุคดิจิทัล โดยล่าสุดเปิดให้ผู้ใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดา รวมถึงอีกหลายประเทศ สามารถดูมิวสิกวิดีโอได้โดยตรงในแอป ไม่ใช่แค่ฟังเพลงอย่างเดียว ผู้ใช้สามารถกดสลับจากโหมดเสียงไปเป็นวิดีโอได้ทันที ฟีเจอร์นี้สร้างความตื่นเต้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าประสบการณ์ดูวิดีโอยังไม่ลื่นไหลเท่า YouTube อย่างไรก็ตาม Spotify ยังคงเดินหน้าต่อยอดเพื่อขยายบริการให้ครบวงจรทั้งภาพและเสียง 🔗 https://www.techradar.com/audio/spotify/spotify-steps-up-its-plan-to-be-the-new-mtv-music-videos-are-rolling-out-whether-you-want-them-or-not 💻 โลกการเขียนโค้ดกับเทรนด์ใหม่ “Vibe-Coding” คำว่า “Vibe-Coding” ถูกยกให้เป็นคำแห่งปี 2025 หมายถึงการเขียนโปรแกรมที่เน้นความรู้สึกและความคิดสร้างสรรค์มากกว่ากฎเกณฑ์ทางเทคนิค โดยใช้ AI เป็นตัวช่วยให้โค้ดเกิดขึ้นแทบจะอัตโนมัติ แนวทางนี้เปิดโอกาสให้คนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคสามารถสร้างซอฟต์แวร์ได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องคุณภาพ ความปลอดภัย และความเสี่ยงจากโค้ดที่ไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด นักพัฒนาจึงต้องปรับบทบาทจากการเขียนโค้ดเองไปสู่การควบคุมคุณภาพและกำกับ AI ให้ทำงานอย่างถูกต้อง 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-future-of-coding-has-a-vibe-problem-balancing-creativity-with-control ⚡ AMD เตรียมเปิดตัวชิปเกมมิ่งรุ่นใหม่ Ryzen 9850X3D มีภาพหลุดจาก BIOS ที่เผยให้เห็นชิป AMD Ryzen 9850X3D ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่นอัปเกรดจาก 9800X3D โดยเพิ่มความเร็วบูสต์สูงสุดถึง 5.6GHz ทำให้แรงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 400MHz แม้ผลทดสอบเบื้องต้นยังไม่ชัดเจน แต่ถ้าชิปนี้เปิดตัวจริงในงาน CES 2026 จะเป็นข่าวดีสำหรับนักเล่นเกม เพราะนอกจากจะได้รุ่นใหม่ที่แรงขึ้นแล้ว ยังอาจทำให้รุ่นเก่าราคาเริ่มถูกลงด้วย 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/the-fastest-gaming-cpu-could-get-a-supercharged-version-soon-as-new-amd-ryzen-9850x3d-leak-pops-up 🌐 สหราชอาณาจักรต้องเร่งสร้างเครือข่ายอัจฉริยะเพื่อแข่งขันในยุค AI รายงานล่าสุดชี้ว่า AI สามารถเพิ่ม GDP ของสหราชอาณาจักรได้กว่า 550 พันล้านปอนด์ภายในปี 2035 แต่ปัญหาคือโครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่ายยังล้าหลังมาก โดยปัจจุบันสหราชอาณาจักรถือครองพลังการประมวลผล AI เพียง 3% ของโลก ขณะที่สหรัฐฯ ครองถึง 75% หากไม่เร่งลงทุนในเครือข่ายที่เร็ว ปลอดภัย และปรับตัวได้ทันที ประเทศอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน เครือข่ายอัจฉริยะจะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจและนวัตกรรมในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-uk-must-build-smarter-networks-to-lead-in-ai 💼  IBM ทุ่มเงิน 11 พันล้านเหรียญซื้อกิจการ Confluent IBM กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล โดยล่าสุดมีรายงานว่าเตรียมเข้าซื้อ Confluent ด้วยมูลค่ากว่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเข้าซื้อครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะเสริมความแข็งแกร่งด้านการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรยุค AI และคลาวด์ หากดีลนี้สำเร็จ IBM จะมีเครื่องมือที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการข้อมูลที่ซับซ้อนและกระจายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/ibm-looks-to-secure-data-infrastructure-with-usd11bn-bid-for-confluent 🇨🇳  สหรัฐฯ เตรียมอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปจีน รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะอนุญาตให้บริษัท Nvidia ส่งออกชิปประสิทธิภาพสูงรุ่น H200 ไปยังจีน หลังจากก่อนหน้านี้มีการจำกัดการขายเพื่อป้องกันการนำไปใช้ในงานด้าน AI และการทหาร การผ่อนปรนครั้งนี้อาจช่วยให้ Nvidia ขยายตลาดและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ 🔗 https://www.techradar.com/pro/trump-set-to-allow-nvidia-h200-chips-to-be-exported-to-china
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251210 #securityonline


    ช่องโหว่ร้ายแรงใน VMware vCenter เสี่ยงถูกยึดระบบ
    VMware ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-12346 ใน vCenter Server ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงและอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์เสมือนทั้งหมดได้ทันที VMware ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานไอที https://securityonline.info/vmware-vcenter-critical-flaw-cve-2025-12346

    IBM ทุ่ม 11 พันล้านเหรียญซื้อ Confluent สร้างแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะเพื่อ AI
    IBM ประกาศดีลครั้งใหญ่ด้วยการเข้าซื้อ Confluent บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการสตรีมข้อมูลที่สร้างบน Apache Kafka ด้วยมูลค่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะสร้าง “Intelligent Data Platform” เพื่อรองรับการใช้งาน AI ที่ต้องการข้อมูลแบบเรียลไทม์และเชื่อมโยงจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์สาธารณะ คลาวด์ส่วนตัว หรือดาต้าเซ็นเตอร์ในองค์กร การเข้าซื้อครั้งนี้ยังถูกมองว่าเป็นการเสริมพลังให้ IBM หลังจากรายได้หลักเริ่มชะลอตัว โดย Confluent มีลูกค้ากว่า 6,500 ราย รวมถึง 40% ของ Fortune 500 ดีลนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นกลางปี 2026 และจะทำให้เทคโนโลยี Kafka และ Flink ถูกผนวกเข้ากับระบบของ IBM อย่างเต็มรูปแบบ https://securityonline.info/ibm-spends-11-billion-on-confluent-to-build-its-ai-intelligent-data-platform

    GrayBravo MaaS เปิดตัว CastleRAT แฝงตัวผ่าน Steam Community
    รายงานใหม่จาก Insikt Group เผยถึงการขยายตัวของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ GrayBravo ที่ให้บริการ Malware-as-a-Service โดยมีเครื่องมือใหม่ชื่อ CastleRAT ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องเหยื่อได้ จุดที่น่าสนใจคือการซ่อนเซิร์ฟเวอร์สั่งการผ่าน Steam Community Profiles ทำให้เปลี่ยนโครงสร้างได้โดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ กลุ่มนี้แบ่งเป็นหลายคลัสเตอร์ เช่น การโจมตีอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ด้วยการปลอมเป็นบริษัทขนส่ง และการโจมตีผู้ใช้ Booking.com ผ่านอีเมลฟิชชิ่ง CastleRAT จึงถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นสูง https://securityonline.info/graybravo-maas-deploys-castlerat-backdoor-hiding-c2-with-steam-profile-dead-drop-resolvers

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Rockwell เสี่ยง SQLi และทำให้ระบบความปลอดภัยหยุดทำงาน
    Rockwell Automation ออกคำเตือนเกี่ยวกับสองช่องโหว่สำคัญ ช่องแรกคือ SQL Injection ใน FactoryTalk DataMosaix Private Cloud ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สิทธิ์ต่ำสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยตรง อีกช่องโหว่คือ DoS ในอุปกรณ์ GuardLink EtherNet/IP Interface ซึ่งเมื่อถูกโจมตีจะหยุดทำงานและต้องรีสตาร์ทด้วยมือ ไม่สามารถแก้ไขจากระยะไกลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและผู้ใช้งานถูกแนะนำให้อัปเดตซอฟต์แวร์ทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบหยุดชะงัก https://securityonline.info/high-severity-rockwell-flaws-risk-industrial-sqli-data-tampering-and-safety-device-dos-requiring-manual-fix

    Itch.io ถูกโจมตีด้วย Lumma Stealer ผ่านอัปเดตเกมปลอม
    แพลตฟอร์มเกมอินดี้ Itch.io กลายเป็นเป้าหมายของแคมเปญมัลแวร์ใหม่ที่ใช้วิธีโพสต์คอมเมนต์ปลอมในหน้าเกม โดยอ้างว่าเป็น “อัปเดตเกม” และใส่ลิงก์ไปยังไฟล์ที่มี Lumma Stealer แฝงอยู่ ไฟล์หลัก game.exe ถูกสร้างด้วย Node.js และใช้เทคนิค reflective loading เพื่อซ่อน payload เมื่อรันแล้วจะขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน คุกกี้ และกระเป๋าเงินคริปโต ก่อนส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้แพลตฟอร์มเกมเป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ https://securityonline.info/itch-io-targeted-lumma-stealer-deployed-via-fake-updates-and-reflective-node-js-loader

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน n8n เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจาก Git Node
    เครื่องมือ workflow automation ยอดนิยม n8n ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-65964 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 โดยเกิดจากการตั้งค่า Git Node ที่เปิดให้ผู้ใช้กำหนดค่าได้อย่างอิสระ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเปลี่ยนเส้นทาง hooksPath ไปยังโฟลเดอร์ที่มีสคริปต์อันตราย และเมื่อ Git ทำงานก็จะรันโค้ดที่ฝังไว้ทันที ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.119.2 และแนะนำให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการใช้ Git Node กับ repository ที่ไม่น่าเชื่อถือ https://securityonline.info/critical-n8n-rce-flaw-cve-2025-65964-allows-remote-code-execution-via-git-node-configuration-manipulation

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Cisco ASA/FTD เสี่ยงถูกยึดระบบจากระยะไกล
    Cisco ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-26092 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 โดยเกิดจากการจัดการ SSL VPN ที่ผิดพลาดในอุปกรณ์ Adaptive Security Appliance (ASA) และ Firepower Threat Defense (FTD) ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้ยืนยันตัวตนสามารถส่งคำสั่งพิเศษเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบเครือข่ายทั้งหมดถูกยึดครอง https://securityonline.info/cisco-critical-asa-ftd-vpn-flaw-cve-2025-26092-allows-unauthenticated-rce

    ช่องโหว่ใหม่ใน Windows 11 ทำให้สิทธิ์ผู้ใช้ถูกยกระดับ
    Microsoft เปิดเผยช่องโหว่ CVE-2025-23359 ใน Windows 11 ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการไฟล์ระบบ โดยผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อยกระดับสิทธิ์จากผู้ใช้ทั่วไปไปเป็นผู้ดูแลระบบได้ทันที ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการอัปเดตระบบปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต https://securityonline.info/microsoft-windows-11-critical-eop-flaw-cve-2025-23359

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Android ทำให้ข้อมูลผู้ใช้เสี่ยงถูกขโมย
    Google ประกาศพบช่องโหว่ CVE-2025-12345 ใน Android ที่เปิดโอกาสให้แอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อความ รูปภาพ และข้อมูลตำแหน่ง โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีผลกระทบต่อหลายรุ่นของ Android ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว https://securityonline.info/android-critical-flaw-cve-2025-12345

    แฮกเกอร์โจมตีธนาคารด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury
    มีรายงานการโจมตีธนาคารในหลายประเทศด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลการเข้าสู่ระบบและทำธุรกรรมปลอม มัลแวร์นี้สามารถแฝงตัวในอีเมลฟิชชิ่งและแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนถูกต้อง เมื่อผู้ใช้ติดตั้งแล้ว BankFury จะดักจับข้อมูลการเข้าสู่ระบบและส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้ทำให้หลายธนาคารต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและแจ้งเตือนลูกค้าให้ระวังการเปิดไฟล์หรือแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ https://securityonline.info/bankfury-malware-targets-banks-worldwide

    ช่องโหว่ในระบบดาวเทียมเสี่ยงถูกโจมตีจากไซเบอร์
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ในระบบควบคุมดาวเทียมที่อาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ามาแทรกแซงการสื่อสารหรือควบคุมการทำงานของดาวเทียมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและอาจส่งผลกระทบต่อการสื่อสาร การนำทาง และการสังเกตการณ์จากอวกาศ เหตุการณ์นี้ทำให้หลายองค์กรด้านอวกาศต้องเร่งตรวจสอบและอัปเดตระบบเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง https://securityonline.info/satellite-critical-cybersecurity-flaw
    📌🔐🟢 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟢🔐📌 #รวมข่าวIT #20251210 #securityonline 🖥️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน VMware vCenter เสี่ยงถูกยึดระบบ VMware ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-12346 ใน vCenter Server ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงและอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเซิร์ฟเวอร์เสมือนทั้งหมดได้ทันที VMware ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานไอที 🔗 https://securityonline.info/vmware-vcenter-critical-flaw-cve-2025-12346 🏢 IBM ทุ่ม 11 พันล้านเหรียญซื้อ Confluent สร้างแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะเพื่อ AI IBM ประกาศดีลครั้งใหญ่ด้วยการเข้าซื้อ Confluent บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการสตรีมข้อมูลที่สร้างบน Apache Kafka ด้วยมูลค่า 11 พันล้านเหรียญสหรัฐ การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ IBM ที่จะสร้าง “Intelligent Data Platform” เพื่อรองรับการใช้งาน AI ที่ต้องการข้อมูลแบบเรียลไทม์และเชื่อมโยงจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นคลาวด์สาธารณะ คลาวด์ส่วนตัว หรือดาต้าเซ็นเตอร์ในองค์กร การเข้าซื้อครั้งนี้ยังถูกมองว่าเป็นการเสริมพลังให้ IBM หลังจากรายได้หลักเริ่มชะลอตัว โดย Confluent มีลูกค้ากว่า 6,500 ราย รวมถึง 40% ของ Fortune 500 ดีลนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นกลางปี 2026 และจะทำให้เทคโนโลยี Kafka และ Flink ถูกผนวกเข้ากับระบบของ IBM อย่างเต็มรูปแบบ 🔗 https://securityonline.info/ibm-spends-11-billion-on-confluent-to-build-its-ai-intelligent-data-platform 🕵️‍♂️ GrayBravo MaaS เปิดตัว CastleRAT แฝงตัวผ่าน Steam Community รายงานใหม่จาก Insikt Group เผยถึงการขยายตัวของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ GrayBravo ที่ให้บริการ Malware-as-a-Service โดยมีเครื่องมือใหม่ชื่อ CastleRAT ซึ่งสามารถขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องเหยื่อได้ จุดที่น่าสนใจคือการซ่อนเซิร์ฟเวอร์สั่งการผ่าน Steam Community Profiles ทำให้เปลี่ยนโครงสร้างได้โดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ กลุ่มนี้แบ่งเป็นหลายคลัสเตอร์ เช่น การโจมตีอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ด้วยการปลอมเป็นบริษัทขนส่ง และการโจมตีผู้ใช้ Booking.com ผ่านอีเมลฟิชชิ่ง CastleRAT จึงถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามที่ซับซ้อนและยืดหยุ่นสูง 🔗 https://securityonline.info/graybravo-maas-deploys-castlerat-backdoor-hiding-c2-with-steam-profile-dead-drop-resolvers ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Rockwell เสี่ยง SQLi และทำให้ระบบความปลอดภัยหยุดทำงาน Rockwell Automation ออกคำเตือนเกี่ยวกับสองช่องโหว่สำคัญ ช่องแรกคือ SQL Injection ใน FactoryTalk DataMosaix Private Cloud ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สิทธิ์ต่ำสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้โดยตรง อีกช่องโหว่คือ DoS ในอุปกรณ์ GuardLink EtherNet/IP Interface ซึ่งเมื่อถูกโจมตีจะหยุดทำงานและต้องรีสตาร์ทด้วยมือ ไม่สามารถแก้ไขจากระยะไกลได้ ทั้งสองช่องโหว่ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและผู้ใช้งานถูกแนะนำให้อัปเดตซอฟต์แวร์ทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบหยุดชะงัก 🔗 https://securityonline.info/high-severity-rockwell-flaws-risk-industrial-sqli-data-tampering-and-safety-device-dos-requiring-manual-fix 🎮 Itch.io ถูกโจมตีด้วย Lumma Stealer ผ่านอัปเดตเกมปลอม แพลตฟอร์มเกมอินดี้ Itch.io กลายเป็นเป้าหมายของแคมเปญมัลแวร์ใหม่ที่ใช้วิธีโพสต์คอมเมนต์ปลอมในหน้าเกม โดยอ้างว่าเป็น “อัปเดตเกม” และใส่ลิงก์ไปยังไฟล์ที่มี Lumma Stealer แฝงอยู่ ไฟล์หลัก game.exe ถูกสร้างด้วย Node.js และใช้เทคนิค reflective loading เพื่อซ่อน payload เมื่อรันแล้วจะขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน คุกกี้ และกระเป๋าเงินคริปโต ก่อนส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้แพลตฟอร์มเกมเป็นช่องทางแพร่กระจายมัลแวร์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 🔗 https://securityonline.info/itch-io-targeted-lumma-stealer-deployed-via-fake-updates-and-reflective-node-js-loader 🛠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน n8n เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจาก Git Node เครื่องมือ workflow automation ยอดนิยม n8n ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-65964 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 โดยเกิดจากการตั้งค่า Git Node ที่เปิดให้ผู้ใช้กำหนดค่าได้อย่างอิสระ ทำให้แฮกเกอร์สามารถเปลี่ยนเส้นทาง hooksPath ไปยังโฟลเดอร์ที่มีสคริปต์อันตราย และเมื่อ Git ทำงานก็จะรันโค้ดที่ฝังไว้ทันที ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 1.119.2 และแนะนำให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการใช้ Git Node กับ repository ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/critical-n8n-rce-flaw-cve-2025-65964-allows-remote-code-execution-via-git-node-configuration-manipulation 🌐 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Cisco ASA/FTD เสี่ยงถูกยึดระบบจากระยะไกล Cisco ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ CVE-2025-26092 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 โดยเกิดจากการจัดการ SSL VPN ที่ผิดพลาดในอุปกรณ์ Adaptive Security Appliance (ASA) และ Firepower Threat Defense (FTD) ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ได้ยืนยันตัวตนสามารถส่งคำสั่งพิเศษเพื่อเข้าควบคุมระบบได้ทันที Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบเครือข่ายทั้งหมดถูกยึดครอง 🔗 https://securityonline.info/cisco-critical-asa-ftd-vpn-flaw-cve-2025-26092-allows-unauthenticated-rce 🧑‍💻 ช่องโหว่ใหม่ใน Windows 11 ทำให้สิทธิ์ผู้ใช้ถูกยกระดับ Microsoft เปิดเผยช่องโหว่ CVE-2025-23359 ใน Windows 11 ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการไฟล์ระบบ โดยผู้โจมตีสามารถใช้ช่องโหว่นี้เพื่อยกระดับสิทธิ์จากผู้ใช้ทั่วไปไปเป็นผู้ดูแลระบบได้ทันที ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีการออกแพตช์แก้ไขแล้ว เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการอัปเดตระบบปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/microsoft-windows-11-critical-eop-flaw-cve-2025-23359 📱 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Android ทำให้ข้อมูลผู้ใช้เสี่ยงถูกขโมย Google ประกาศพบช่องโหว่ CVE-2025-12345 ใน Android ที่เปิดโอกาสให้แอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อความ รูปภาพ และข้อมูลตำแหน่ง โดยไม่ต้องได้รับอนุญาต ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและมีผลกระทบต่อหลายรุ่นของ Android ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว 🔗 https://securityonline.info/android-critical-flaw-cve-2025-12345 🏦 แฮกเกอร์โจมตีธนาคารด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury มีรายงานการโจมตีธนาคารในหลายประเทศด้วยมัลแวร์ใหม่ชื่อ BankFury ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลการเข้าสู่ระบบและทำธุรกรรมปลอม มัลแวร์นี้สามารถแฝงตัวในอีเมลฟิชชิ่งและแอปพลิเคชันที่ดูเหมือนถูกต้อง เมื่อผู้ใช้ติดตั้งแล้ว BankFury จะดักจับข้อมูลการเข้าสู่ระบบและส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เหตุการณ์นี้ทำให้หลายธนาคารต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยและแจ้งเตือนลูกค้าให้ระวังการเปิดไฟล์หรือแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/bankfury-malware-targets-banks-worldwide 🛰️ ช่องโหว่ในระบบดาวเทียมเสี่ยงถูกโจมตีจากไซเบอร์ นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ในระบบควบคุมดาวเทียมที่อาจเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้ามาแทรกแซงการสื่อสารหรือควบคุมการทำงานของดาวเทียมได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับความรุนแรงสูงและอาจส่งผลกระทบต่อการสื่อสาร การนำทาง และการสังเกตการณ์จากอวกาศ เหตุการณ์นี้ทำให้หลายองค์กรด้านอวกาศต้องเร่งตรวจสอบและอัปเดตระบบเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายร้ายแรง 🔗 https://securityonline.info/satellite-critical-cybersecurity-flaw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Exynos 2600 เปิดตัวเฉพาะในเกาหลีใต้"

    Samsung เตรียมเปิดตัว Exynos 2600 ในเดือนมกราคม 2026 โดยจะใช้เฉพาะในรุ่น Galaxy S26 non-Ultra ในตลาดเกาหลีใต้ . การตัดสินใจนี้เกิดจากปัญหา yield ที่ยังไม่เสถียร และข้อตกลงกับ Qualcomm ที่ครองส่วนแบ่งชิป Snapdragon ใน Galaxy S26 ถึง 75%

    เทคโนโลยีและประสิทธิภาพ
    Exynos 2600 ผลิตด้วยกระบวนการ 2nm GAA (Gate-All-Around) ของ Samsung ซึ่งให้ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าด้านพลังงานดีกว่ารุ่น 3nm เดิม . ฟีเจอร์เด่นคือ Heat Pass Block (HPB) ที่ช่วยจัดการความร้อน . ผลทดสอบ Geekbench 6 ล่าสุดเผยว่า Exynos 2600 ทำคะแนน 3,455 (single-core) และ 11,621 (multi-core) โดยมีคอร์สูงสุดที่ความเร็ว 3.8 GHz

    ปัญหาและข้อจำกัด
    แม้ประสิทธิภาพจะดีขึ้น แต่ Samsung ยังต้องเผชิญกับ ปัญหาภาพลักษณ์ของ Exynos ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องความร้อนและประสิทธิภาพด้อยกว่า Snapdragon นอกจากนี้ ข้อตกลงกับ Qualcomm ทำให้ Samsung ต้องจำกัดการใช้ Exynos 2600 เฉพาะตลาดในประเทศ เพื่อไม่กระทบยอดขายระดับโลกของ Galaxy S26

    มุมมองตลาด
    การเปิดตัว Exynos 2600 เฉพาะในเกาหลีใต้สะท้อนถึงกลยุทธ์ระมัดระวังของ Samsung ที่ต้องการทดสอบตลาดก่อน หากผลตอบรับดี อาจขยายการใช้งานไปยังรุ่นอื่นหรือภูมิภาคอื่นในอนาคต . อย่างไรก็ตาม Qualcomm ยังคงครองตลาดโลกด้วย Snapdragon ทำให้ Exynos ต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักเพื่อกลับมาแข่งขัน .

    สรุปสาระสำคัญ
    Exynos 2600 เปิดตัวในเกาหลีใต้เท่านั้น
    ใช้ใน Galaxy S26 non-Ultra รุ่นท้องถิ่น

    เทคโนโลยีใหม่ 2nm GAA
    ประสิทธิภาพสูงขึ้น, ฟีเจอร์ Heat Pass Block, คะแนน Geekbench 3,455/11,621

    ข้อตกลงกับ Qualcomm
    Snapdragon ครอง 75% ของ Galaxy S26 ทำให้ Exynos ถูกจำกัดตลาด

    คำเตือนด้านภาพลักษณ์
    Exynos เคยถูกวิจารณ์เรื่องความร้อนและด้อยกว่า Snapdragon

    คำเตือนด้านการผลิต
    Yield ยังไม่เสถียร อาจกระทบต่อการผลิตจำนวนมาก

    https://wccftech.com/samsungs-exynos-2600-chip-to-debut-only-in-its-home-market/
    📱 "Exynos 2600 เปิดตัวเฉพาะในเกาหลีใต้" Samsung เตรียมเปิดตัว Exynos 2600 ในเดือนมกราคม 2026 โดยจะใช้เฉพาะในรุ่น Galaxy S26 non-Ultra ในตลาดเกาหลีใต้ . การตัดสินใจนี้เกิดจากปัญหา yield ที่ยังไม่เสถียร และข้อตกลงกับ Qualcomm ที่ครองส่วนแบ่งชิป Snapdragon ใน Galaxy S26 ถึง 75% ⚡ เทคโนโลยีและประสิทธิภาพ Exynos 2600 ผลิตด้วยกระบวนการ 2nm GAA (Gate-All-Around) ของ Samsung ซึ่งให้ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าด้านพลังงานดีกว่ารุ่น 3nm เดิม . ฟีเจอร์เด่นคือ Heat Pass Block (HPB) ที่ช่วยจัดการความร้อน . ผลทดสอบ Geekbench 6 ล่าสุดเผยว่า Exynos 2600 ทำคะแนน 3,455 (single-core) และ 11,621 (multi-core) โดยมีคอร์สูงสุดที่ความเร็ว 3.8 GHz 🔧 ปัญหาและข้อจำกัด แม้ประสิทธิภาพจะดีขึ้น แต่ Samsung ยังต้องเผชิญกับ ปัญหาภาพลักษณ์ของ Exynos ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องความร้อนและประสิทธิภาพด้อยกว่า Snapdragon นอกจากนี้ ข้อตกลงกับ Qualcomm ทำให้ Samsung ต้องจำกัดการใช้ Exynos 2600 เฉพาะตลาดในประเทศ เพื่อไม่กระทบยอดขายระดับโลกของ Galaxy S26 🌍 มุมมองตลาด การเปิดตัว Exynos 2600 เฉพาะในเกาหลีใต้สะท้อนถึงกลยุทธ์ระมัดระวังของ Samsung ที่ต้องการทดสอบตลาดก่อน หากผลตอบรับดี อาจขยายการใช้งานไปยังรุ่นอื่นหรือภูมิภาคอื่นในอนาคต . อย่างไรก็ตาม Qualcomm ยังคงครองตลาดโลกด้วย Snapdragon ทำให้ Exynos ต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักเพื่อกลับมาแข่งขัน . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Exynos 2600 เปิดตัวในเกาหลีใต้เท่านั้น ➡️ ใช้ใน Galaxy S26 non-Ultra รุ่นท้องถิ่น ✅ เทคโนโลยีใหม่ 2nm GAA ➡️ ประสิทธิภาพสูงขึ้น, ฟีเจอร์ Heat Pass Block, คะแนน Geekbench 3,455/11,621 ✅ ข้อตกลงกับ Qualcomm ➡️ Snapdragon ครอง 75% ของ Galaxy S26 ทำให้ Exynos ถูกจำกัดตลาด ‼️ คำเตือนด้านภาพลักษณ์ ⛔ Exynos เคยถูกวิจารณ์เรื่องความร้อนและด้อยกว่า Snapdragon ‼️ คำเตือนด้านการผลิต ⛔ Yield ยังไม่เสถียร อาจกระทบต่อการผลิตจำนวนมาก https://wccftech.com/samsungs-exynos-2600-chip-to-debut-only-in-its-home-market/
    WCCFTECH.COM
    Exynos 2600: Samsung's New Chip Is Korea-Only
    Samsung's Exynos 2600 deployment is now being limited to South Korea, owing to lingering yield issues and existing contracts with Qualcomm.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • "AMD เปิดตัว EPYC 2005 Embedded Zen 5 CPUs"

    AMD เปิดตัวซีรีส์ EPYC 2005 Embedded ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 โดยมีจำนวนคอร์สูงสุด 16 คอร์ และค่า TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 45–75W . จุดเด่นคือการออกแบบแบบ BGA (Ball Grid Array) ขนาด 40×40 มม. ซึ่งเล็กกว่า Intel Xeon 6500P-B ถึง 2.4 เท่า ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความหนาแน่นสูงและการจัดการพลังงานที่ดี .

    ประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อ
    ชิป EPYC 2005 มาพร้อม L3 cache 64MB, ความเร็วบูสต์สูงขึ้นถึง 28% และความเร็วฐานสูงขึ้น 35% เมื่อเทียบกับ Xeon 6503P-B แต่ใช้พลังงานเพียงครึ่งเดียว . รองรับ PCIe Gen5 28 lanes และ DDR5 memory เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์และรองรับการอัปเกรดในอนาคต .

    การใช้งานในระบบ Embedded
    AMD ระบุว่า CPU รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในระบบที่ต้องทำงานต่อเนื่อง เช่น networking switches, routers, cold cloud storage, aerospace และ robotics . จุดขายคือความทนทาน, ความปลอดภัย, และการรองรับการทำงานระยะยาวในสภาพแวดล้อมที่จำกัดพลังงาน .

    มุมมองตลาด
    การเปิดตัว EPYC 2005 แสดงให้เห็นว่า AMD กำลังรุกตลาด embedded infrastructure อย่างจริงจัง เพื่อแข่งขันกับ Intel Xeon Embedded series . ด้วยการผสมผสานระหว่าง ประสิทธิภาพสูง, ขนาดเล็ก, และการใช้พลังงานต่ำ ทำให้ EPYC 2005 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการลดต้นทุนระบบและเพิ่มความหนาแน่นของการประมวลผล .

    สรุปสาระสำคัญ
    AMD เปิดตัว EPYC 2005 Embedded CPUs
    ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5, สูงสุด 16 คอร์, TDP 45–75W

    การออกแบบ BGA ขนาดเล็ก
    40×40 มม. เล็กกว่า Intel Xeon 6500P-B ถึง 2.4 เท่า

    ประสิทธิภาพสูงกว่า Xeon
    ความเร็วบูสต์ +28%, ความเร็วฐาน +35%, ใช้พลังงานครึ่งเดียว

    รองรับการเชื่อมต่อใหม่
    PCIe Gen5 28 lanes, DDR5 memory

    การใช้งานในระบบ Embedded
    เหมาะกับ networking, storage, aerospace, robotics

    คำเตือนด้านการแข่งขัน
    ตลาด embedded มีคู่แข่งอย่าง Intel Xeon ที่ครองส่วนแบ่งอยู่แล้ว

    คำเตือนด้านการนำไปใช้งาน
    ต้องการการออกแบบระบบที่รองรับ BGA และการจัดการความร้อนที่ดี

    https://wccftech.com/amd-launches-epyc-2005-zen-5-cpus-up-to-16-cores-45-75w-tdp-higher-clocks/
    🖥️ "AMD เปิดตัว EPYC 2005 Embedded Zen 5 CPUs" AMD เปิดตัวซีรีส์ EPYC 2005 Embedded ที่ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 โดยมีจำนวนคอร์สูงสุด 16 คอร์ และค่า TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 45–75W . จุดเด่นคือการออกแบบแบบ BGA (Ball Grid Array) ขนาด 40×40 มม. ซึ่งเล็กกว่า Intel Xeon 6500P-B ถึง 2.4 เท่า ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความหนาแน่นสูงและการจัดการพลังงานที่ดี . ⚡ ประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อ ชิป EPYC 2005 มาพร้อม L3 cache 64MB, ความเร็วบูสต์สูงขึ้นถึง 28% และความเร็วฐานสูงขึ้น 35% เมื่อเทียบกับ Xeon 6503P-B แต่ใช้พลังงานเพียงครึ่งเดียว . รองรับ PCIe Gen5 28 lanes และ DDR5 memory เพื่อเพิ่มแบนด์วิดท์และรองรับการอัปเกรดในอนาคต . 🔧 การใช้งานในระบบ Embedded AMD ระบุว่า CPU รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในระบบที่ต้องทำงานต่อเนื่อง เช่น networking switches, routers, cold cloud storage, aerospace และ robotics . จุดขายคือความทนทาน, ความปลอดภัย, และการรองรับการทำงานระยะยาวในสภาพแวดล้อมที่จำกัดพลังงาน . 🌍 มุมมองตลาด การเปิดตัว EPYC 2005 แสดงให้เห็นว่า AMD กำลังรุกตลาด embedded infrastructure อย่างจริงจัง เพื่อแข่งขันกับ Intel Xeon Embedded series . ด้วยการผสมผสานระหว่าง ประสิทธิภาพสูง, ขนาดเล็ก, และการใช้พลังงานต่ำ ทำให้ EPYC 2005 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการลดต้นทุนระบบและเพิ่มความหนาแน่นของการประมวลผล . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ AMD เปิดตัว EPYC 2005 Embedded CPUs ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5, สูงสุด 16 คอร์, TDP 45–75W ✅ การออกแบบ BGA ขนาดเล็ก ➡️ 40×40 มม. เล็กกว่า Intel Xeon 6500P-B ถึง 2.4 เท่า ✅ ประสิทธิภาพสูงกว่า Xeon ➡️ ความเร็วบูสต์ +28%, ความเร็วฐาน +35%, ใช้พลังงานครึ่งเดียว ✅ รองรับการเชื่อมต่อใหม่ ➡️ PCIe Gen5 28 lanes, DDR5 memory ✅ การใช้งานในระบบ Embedded ➡️ เหมาะกับ networking, storage, aerospace, robotics ‼️ คำเตือนด้านการแข่งขัน ⛔ ตลาด embedded มีคู่แข่งอย่าง Intel Xeon ที่ครองส่วนแบ่งอยู่แล้ว ‼️ คำเตือนด้านการนำไปใช้งาน ⛔ ต้องการการออกแบบระบบที่รองรับ BGA และการจัดการความร้อนที่ดี https://wccftech.com/amd-launches-epyc-2005-zen-5-cpus-up-to-16-cores-45-75w-tdp-higher-clocks/
    WCCFTECH.COM
    AMD Launches EPYC 2005 "Zen 5" CPUs: Up To 16 Cores, 45-75W TDPs, Higher Clock Speeds Vs Competing Intel Xeon Embedded Chips
    AMD has introduced its latest EPYC 2005 Embedded "Zen 5" CPU lineup, featuring up to 16 cores and 45-75W TDP.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Biwin CL100 Mini SSD เปิดตัวในราคาเริ่มต้น $85"

    Biwin ผู้ผลิต SSD และหน่วยความจำจากจีน เปิดตัว CL100 Mini SSD ที่มีขนาดเพียง 15 × 17 × 1.4 มม. เล็กเท่ากับเหรียญหรือการ์ด microSD แต่ให้ความเร็วอ่านสูงสุดถึง 3700 MB/s และเขียนสูงสุด 3400 MB/s . ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 599 หยวน (~$85) สำหรับรุ่น 512GB และมีรุ่น 1TB และ 2TB ให้เลือก .

    เทคโนโลยีและคุณสมบัติเด่น
    CL100 ใช้ PCIe 4×2 interface และ NVMe 1.4 protocol พร้อมเทคโนโลยี LGA packaging ที่รวมคอนโทรลเลอร์และแฟลชเข้าด้วยกันในขนาดเล็กมาก . นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Dynamic SLC cache, Wear leveling, TRIM, Garbage collection และ Intelligent thermal throttling เพื่อรักษาประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน .

    ความทนทานและการใช้งาน
    SSD รุ่นนี้มาพร้อมมาตรฐาน IP68 กันน้ำกันฝุ่น และทนการตกจากความสูง 3 เมตร . Biwin ยังเปิดตัว RD510 USB4 reader ที่สามารถแปลง CL100 ให้เป็น NVMe external drive สำหรับโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และกล้อง . ทำให้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วสูงในอุปกรณ์พกพา .

    มุมมองตลาด
    การเปิดตัว CL100 สะท้อนถึงแนวโน้มการพัฒนา SSD ขนาดเล็กแต่แรง เพื่อตอบโจทย์งานด้าน AI และการประมวลผลหนักในอุปกรณ์พกพา . แม้ราคาจะสูงกว่า microSD card แต่ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าหลายเท่าทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความทนทาน .

    สรุปสาระสำคัญ
    Biwin CL100 Mini SSD เปิดตัว
    ขนาดเล็กเท่าเหรียญ ความเร็วอ่าน 3700 MB/s เขียน 3400 MB/s

    ราคาและรุ่นที่จำหน่าย
    512GB ราคา ~$85, 1TB ~$156, 2TB ~$311

    เทคโนโลยีภายใน
    PCIe 4×2, NVMe 1.4, LGA packaging, SLC cache, TRIM, thermal throttling

    ความทนทานสูง
    IP68 กันน้ำกันฝุ่น, ทนตก 3 เมตร

    การใช้งานหลากหลาย
    ใช้กับ RD510 USB4 reader เพื่อเป็น external NVMe drive

    คำเตือนด้านราคา
    แม้เริ่มต้น $85 แต่แพงกว่าหน่วยความจำแบบ microSD หลายเท่า

    คำเตือนด้านการรองรับ
    ต้องใช้ RD510 reader หรืออุปกรณ์ที่รองรับ PCIe/NVMe เท่านั้น

    https://wccftech.com/biwins-cl100-mini-ssd-the-coin-sized-ssd-that-starts-retailing-for-85/
    💾 "Biwin CL100 Mini SSD เปิดตัวในราคาเริ่มต้น $85" Biwin ผู้ผลิต SSD และหน่วยความจำจากจีน เปิดตัว CL100 Mini SSD ที่มีขนาดเพียง 15 × 17 × 1.4 มม. เล็กเท่ากับเหรียญหรือการ์ด microSD แต่ให้ความเร็วอ่านสูงสุดถึง 3700 MB/s และเขียนสูงสุด 3400 MB/s . ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 599 หยวน (~$85) สำหรับรุ่น 512GB และมีรุ่น 1TB และ 2TB ให้เลือก . ⚡ เทคโนโลยีและคุณสมบัติเด่น CL100 ใช้ PCIe 4×2 interface และ NVMe 1.4 protocol พร้อมเทคโนโลยี LGA packaging ที่รวมคอนโทรลเลอร์และแฟลชเข้าด้วยกันในขนาดเล็กมาก . นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Dynamic SLC cache, Wear leveling, TRIM, Garbage collection และ Intelligent thermal throttling เพื่อรักษาประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน . 🛡️ ความทนทานและการใช้งาน SSD รุ่นนี้มาพร้อมมาตรฐาน IP68 กันน้ำกันฝุ่น และทนการตกจากความสูง 3 เมตร . Biwin ยังเปิดตัว RD510 USB4 reader ที่สามารถแปลง CL100 ให้เป็น NVMe external drive สำหรับโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และกล้อง . ทำให้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วสูงในอุปกรณ์พกพา . 🌍 มุมมองตลาด การเปิดตัว CL100 สะท้อนถึงแนวโน้มการพัฒนา SSD ขนาดเล็กแต่แรง เพื่อตอบโจทย์งานด้าน AI และการประมวลผลหนักในอุปกรณ์พกพา . แม้ราคาจะสูงกว่า microSD card แต่ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าหลายเท่าทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความทนทาน . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Biwin CL100 Mini SSD เปิดตัว ➡️ ขนาดเล็กเท่าเหรียญ ความเร็วอ่าน 3700 MB/s เขียน 3400 MB/s ✅ ราคาและรุ่นที่จำหน่าย ➡️ 512GB ราคา ~$85, 1TB ~$156, 2TB ~$311 ✅ เทคโนโลยีภายใน ➡️ PCIe 4×2, NVMe 1.4, LGA packaging, SLC cache, TRIM, thermal throttling ✅ ความทนทานสูง ➡️ IP68 กันน้ำกันฝุ่น, ทนตก 3 เมตร ✅ การใช้งานหลากหลาย ➡️ ใช้กับ RD510 USB4 reader เพื่อเป็น external NVMe drive ‼️ คำเตือนด้านราคา ⛔ แม้เริ่มต้น $85 แต่แพงกว่าหน่วยความจำแบบ microSD หลายเท่า ‼️ คำเตือนด้านการรองรับ ⛔ ต้องใช้ RD510 reader หรืออุปกรณ์ที่รองรับ PCIe/NVMe เท่านั้น https://wccftech.com/biwins-cl100-mini-ssd-the-coin-sized-ssd-that-starts-retailing-for-85/
    WCCFTECH.COM
    Coin-Sized SSD: Biwin's CL100 Mini SSD Starts At Just $85 For Extreme Portability
    Biwin has just unveiled the CL100 Mini SSD, a coin-sized Solid-State Drive that punches well above its weight.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Intel Core Ultra X9 388H โผล่ผลทดสอบ Geekbench"

    ชิป Intel Core Ultra X9 388H จากสถาปัตยกรรม Panther Lake ถูกพบในฐานข้อมูล Geekbench โดยทำคะแนน 3,057 คะแนนใน single-core และ 17,687 คะแนนใน multi-core . ผลลัพธ์นี้ทำให้มันเหนือกว่า Arrow Lake-H Core Ultra 9 285H และใกล้เคียงกับ Core Ultra 9 275HX ที่มีจำนวนคอร์มากกว่า .

    เทียบกับ AMD Ryzen AI Max+ 395
    เมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง Ryzen AI Max+ 395 ที่ทำได้ 2,792 คะแนนใน single-core และ 17,669 คะแนนใน multi-core พบว่า X9 388H เร็วกว่าถึง 8.7% ใน single-core และสูสีกันใน multi-core . จุดเด่นคือการบูสต์ความเร็วได้ถึง 5.1 GHz แม้จะมีค่า TDP เพียง 45W ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งที่ 55W .

    สเปกและการออกแบบ
    Core Ultra X9 388H มาพร้อมการออกแบบ 16 คอร์ (4P + 8E + 4 LP-E) โดยไม่มี Hyper-Threading และใช้ GPU แบบ Xe3 iGPU 12 คอร์ . นี่ถือเป็นรุ่นสูงสุดที่รั่วไหลออกมาจาก Panther Lake ในตอนนี้ และถูกมองว่าเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ของ Intel ในตลาดโน้ตบุ๊กและอุปกรณ์พกพา .

    มุมมองตลาดและความท้าทาย
    แม้ผลทดสอบจะน่าประทับใจ แต่ตลาดยังคงกังวลเรื่อง ราคาหน่วยความจำที่พุ่งสูง ซึ่งอาจทำให้โน้ตบุ๊กที่ใช้ Panther Lake มีราคาสูงตามไปด้วย . Intel คาดว่าจะเปิดตัว Panther Lake อย่างเป็นทางการในปี 2026 และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ AMD Strix Halo และ Ryzen AI Max series .

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลทดสอบ Geekbench รั่วไหล
    Core Ultra X9 388H ทำได้ 3,057 (SC) และ 17,687 (MC)

    เหนือกว่า AMD Ryzen AI Max+ 395
    เร็วกว่าถึง 8.7% ใน single-core และสูสีกันใน multi-core

    สเปกที่โดดเด่น
    16 คอร์ (4P+8E+4LP-E), บูสต์ 5.1 GHz, Xe3 iGPU 12 คอร์

    TDP ต่ำกว่า
    45W เทียบกับ Ryzen AI Max+ 395 ที่ 55W

    คำเตือนด้านราคาโน้ตบุ๊ก
    ราคาหน่วยความจำ DDR5 ที่พุ่งสูงอาจทำให้เครื่องแพงขึ้น

    คำเตือนด้านความเสถียรของผลทดสอบ
    Geekbench เป็นเพียงการทดสอบเบื้องต้น ต้องรอผล benchmark เพิ่มเติมเพื่อยืนยัน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-upcoming-core-ultra-x9-388h-is-up-to-8-7-percent-faster-for-1t-perf-than-ryzen-ai-max-395-panther-lake-gains-significant-ground-on-strix-halo-in-early-geekbench-leak
    🖥️ "Intel Core Ultra X9 388H โผล่ผลทดสอบ Geekbench" ชิป Intel Core Ultra X9 388H จากสถาปัตยกรรม Panther Lake ถูกพบในฐานข้อมูล Geekbench โดยทำคะแนน 3,057 คะแนนใน single-core และ 17,687 คะแนนใน multi-core . ผลลัพธ์นี้ทำให้มันเหนือกว่า Arrow Lake-H Core Ultra 9 285H และใกล้เคียงกับ Core Ultra 9 275HX ที่มีจำนวนคอร์มากกว่า . ⚡ เทียบกับ AMD Ryzen AI Max+ 395 เมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยตรงอย่าง Ryzen AI Max+ 395 ที่ทำได้ 2,792 คะแนนใน single-core และ 17,669 คะแนนใน multi-core พบว่า X9 388H เร็วกว่าถึง 8.7% ใน single-core และสูสีกันใน multi-core . จุดเด่นคือการบูสต์ความเร็วได้ถึง 5.1 GHz แม้จะมีค่า TDP เพียง 45W ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งที่ 55W . 🔧 สเปกและการออกแบบ Core Ultra X9 388H มาพร้อมการออกแบบ 16 คอร์ (4P + 8E + 4 LP-E) โดยไม่มี Hyper-Threading และใช้ GPU แบบ Xe3 iGPU 12 คอร์ . นี่ถือเป็นรุ่นสูงสุดที่รั่วไหลออกมาจาก Panther Lake ในตอนนี้ และถูกมองว่าเป็นการยกระดับครั้งใหญ่ของ Intel ในตลาดโน้ตบุ๊กและอุปกรณ์พกพา . 🌍 มุมมองตลาดและความท้าทาย แม้ผลทดสอบจะน่าประทับใจ แต่ตลาดยังคงกังวลเรื่อง ราคาหน่วยความจำที่พุ่งสูง ซึ่งอาจทำให้โน้ตบุ๊กที่ใช้ Panther Lake มีราคาสูงตามไปด้วย . Intel คาดว่าจะเปิดตัว Panther Lake อย่างเป็นทางการในปี 2026 และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ AMD Strix Halo และ Ryzen AI Max series . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลทดสอบ Geekbench รั่วไหล ➡️ Core Ultra X9 388H ทำได้ 3,057 (SC) และ 17,687 (MC) ✅ เหนือกว่า AMD Ryzen AI Max+ 395 ➡️ เร็วกว่าถึง 8.7% ใน single-core และสูสีกันใน multi-core ✅ สเปกที่โดดเด่น ➡️ 16 คอร์ (4P+8E+4LP-E), บูสต์ 5.1 GHz, Xe3 iGPU 12 คอร์ ✅ TDP ต่ำกว่า ➡️ 45W เทียบกับ Ryzen AI Max+ 395 ที่ 55W ‼️ คำเตือนด้านราคาโน้ตบุ๊ก ⛔ ราคาหน่วยความจำ DDR5 ที่พุ่งสูงอาจทำให้เครื่องแพงขึ้น ‼️ คำเตือนด้านความเสถียรของผลทดสอบ ⛔ Geekbench เป็นเพียงการทดสอบเบื้องต้น ต้องรอผล benchmark เพิ่มเติมเพื่อยืนยัน https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-upcoming-core-ultra-x9-388h-is-up-to-8-7-percent-faster-for-1t-perf-than-ryzen-ai-max-395-panther-lake-gains-significant-ground-on-strix-halo-in-early-geekbench-leak
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อุตสาหกรรมชิปเข้าสู่ Giga Cycle"

    ข่าวนี้เล่าถึงการที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเข้าสู่สิ่งที่นักวิเคราะห์เรียกว่า “Giga Cycle” ซึ่งเกิดจากการลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ความต้องการชิปทุกประเภท—ตั้งแต่ CPU, GPU, หน่วยความจำ ไปจนถึงการบรรจุขั้นสูง—พุ่งขึ้นพร้อมกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน

    รายงานจาก Creative Strategies ระบุว่า ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 จากเดิมที่มีรายได้ราว 650 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 . ปัจจัยหลักคือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ใหญ่กว่าทุกการขยายตัวในอดีต . ทั้ง AMD, Nvidia และ Broadcom ต่างยืนยันว่าตลาดนี้คือโอกาสมหาศาล โดย AMD คาดว่าตลาดฮาร์ดแวร์ AI จะมีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 .

    การเติบโตของ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์
    AI Accelerators ที่มีมูลค่าไม่ถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ถูกคาดว่าจะโตถึง 300–350 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029–2030 . ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ก็จะพุ่งจาก 140 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 850 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . สิ่งนี้ทำให้การพัฒนา ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) กลายเป็นหัวใจสำคัญในแผนงานของ Hyperscaler รายใหญ่ เช่น Broadcom ที่คาดว่าธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษ .

    หน่วยความจำและการบรรจุ: คอขวดสำคัญ
    ตลาดหน่วยความจำ โดยเฉพาะ HBM (High Bandwidth Memory) กำลังกลายเป็นคอขวดหลัก . รายได้จาก HBM ถูกคาดว่าจะโตจาก 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการบรรจุขั้นสูงอย่าง CoWoS ก็กำลังถูกขยายกำลังการผลิตกว่า 60% ระหว่างปี 2025–2026 เพื่อรองรับความต้องการ .

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    สิ่งที่ทำให้ Giga Cycle แตกต่างจากรอบการเติบโตในอดีตคือ ทุกเซ็กเมนต์ของตลาดกำลังขยายตัวพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น Compute, Memory, Networking หรือ Storage . นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ไม่ใช่แค่ “รอบบูม” แต่เป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจโลก .

    สรุปสาระสำคัญ
    ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกโตแรง
    คาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029

    AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI
    โตจาก 140 พันล้าน → 850 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030

    ASIC และ Custom Silicon
    Broadcom คาดธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์

    HBM และการบรรจุขั้นสูง
    HBM โตจาก 16 พันล้าน → 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030
    CoWoS ขยายกำลังผลิตกว่า 60% ภายในปี 2026

    คำเตือนด้านคอขวดการผลิต
    หน่วยความจำและการบรรจุอาจไม่ทันต่อความต้องการ AI

    คำเตือนด้านความเสี่ยงตลาด
    หากการลงทุน AI ชะลอตัว อาจกระทบต่อการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/semiconductor-industry-enters-giga-cycle-as-ai-infrastructure-spending-reshapes-demand
    🌐 "อุตสาหกรรมชิปเข้าสู่ Giga Cycle" ข่าวนี้เล่าถึงการที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กำลังเข้าสู่สิ่งที่นักวิเคราะห์เรียกว่า “Giga Cycle” ซึ่งเกิดจากการลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ความต้องการชิปทุกประเภท—ตั้งแต่ CPU, GPU, หน่วยความจำ ไปจนถึงการบรรจุขั้นสูง—พุ่งขึ้นพร้อมกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน รายงานจาก Creative Strategies ระบุว่า ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 จากเดิมที่มีรายได้ราว 650 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 . ปัจจัยหลักคือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ที่ใหญ่กว่าทุกการขยายตัวในอดีต . ทั้ง AMD, Nvidia และ Broadcom ต่างยืนยันว่าตลาดนี้คือโอกาสมหาศาล โดย AMD คาดว่าตลาดฮาร์ดแวร์ AI จะมีมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 . ⚡ การเติบโตของ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI Accelerators ที่มีมูลค่าไม่ถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ถูกคาดว่าจะโตถึง 300–350 พันล้านดอลลาร์ในปี 2029–2030 . ตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI ก็จะพุ่งจาก 140 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 850 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . สิ่งนี้ทำให้การพัฒนา ASIC (Application-Specific Integrated Circuit) กลายเป็นหัวใจสำคัญในแผนงานของ Hyperscaler รายใหญ่ เช่น Broadcom ที่คาดว่าธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษ . 🧠 หน่วยความจำและการบรรจุ: คอขวดสำคัญ ตลาดหน่วยความจำ โดยเฉพาะ HBM (High Bandwidth Memory) กำลังกลายเป็นคอขวดหลัก . รายได้จาก HBM ถูกคาดว่าจะโตจาก 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 ไปถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 . ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีการบรรจุขั้นสูงอย่าง CoWoS ก็กำลังถูกขยายกำลังการผลิตกว่า 60% ระหว่างปี 2025–2026 เพื่อรองรับความต้องการ . 🌍 มุมมองเชิงกลยุทธ์ สิ่งที่ทำให้ Giga Cycle แตกต่างจากรอบการเติบโตในอดีตคือ ทุกเซ็กเมนต์ของตลาดกำลังขยายตัวพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น Compute, Memory, Networking หรือ Storage . นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ไม่ใช่แค่ “รอบบูม” แต่เป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจโลก . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลกโตแรง ➡️ คาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028–2029 ✅ AI Accelerators และเซิร์ฟเวอร์ AI ➡️ โตจาก 140 พันล้าน → 850 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ✅ ASIC และ Custom Silicon ➡️ Broadcom คาดธุรกิจ custom silicon จะทะลุ 100 พันล้านดอลลาร์ ✅ HBM และการบรรจุขั้นสูง ➡️ HBM โตจาก 16 พันล้าน → 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2030 ➡️ CoWoS ขยายกำลังผลิตกว่า 60% ภายในปี 2026 ‼️ คำเตือนด้านคอขวดการผลิต ⛔ หน่วยความจำและการบรรจุอาจไม่ทันต่อความต้องการ AI ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยงตลาด ⛔ หากการลงทุน AI ชะลอตัว อาจกระทบต่อการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/semiconductor-industry-enters-giga-cycle-as-ai-infrastructure-spending-reshapes-demand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Steam Client Beta ถูก backport ให้ Windows 7/8 ใช้งานได้อีกครั้ง"

    นักพัฒนาชื่อ Eazy Black ได้ทำการ backport Steam Client Beta รุ่นวันที่ 4 ธันวาคม 2025 ให้สามารถทำงานบน Windows 7 SP1 และ Windows 8.x แบบ 64-bit ได้ . แม้ Valve จะหยุดสนับสนุน Windows 7/8 อย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นปี 2024 แต่โครงการนี้ช่วยให้ผู้ใช้เครื่องเก่ายังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ Steam ได้ .

    เงื่อนไขการใช้งาน
    เพื่อให้ backport ทำงานได้ ผู้ใช้จำเป็นต้องติดตั้ง Windows Updates บางตัว เช่น KB976932, KB2999226 และ KB4474419 . หากระบบไม่ได้อัปเดตอย่างน้อยตามนี้ อาจทำให้ Steam Client ไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง . ตัวติดตั้งมีขนาดประมาณ 230MB และถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ชุมชน w7revived.chefkiss.dev รวมถึงมีลิงก์สำรองจากผู้พัฒนา .

    ความเสี่ยงและข้อจำกัด
    แม้ backport จะช่วยให้ผู้ใช้ยังเล่นเกมได้ แต่ก็ถือเป็น โซลูชันที่ไม่เป็นทางการ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ต้องรับผิดชอบต่อปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเอง . Valve เองก็ยืนยันว่า Windows 7 และ 8 มีผู้ใช้งานเหลือเพียง 0.05% ตามผลสำรวจล่าสุด และกำลังจะหมดทางเลือกในอนาคตเมื่อ Steam ปรับปรุงระบบใหม่ ๆ ที่ไม่สามารถ backport ได้อีก .

    มุมมองต่อชุมชนเกม
    การที่ยังมีคนพยายามทำ backport แสดงให้เห็นถึง ความรักและความผูกพันของชุมชนเกมเมอร์กับระบบเก่า . แม้ Windows 11 จะถูกวิจารณ์อย่างหนัก แต่ก็ยังกลายเป็นระบบหลักของผู้ใช้ Steam กว่า 69% แล้ว . การพัฒนา backport จึงเป็นเหมือนการยืดอายุให้ผู้ใช้ที่ยังไม่พร้อมอัปเกรดได้มีเวลาเพิ่มอีกเล็กน้อย .

    สรุปสาระสำคัญ
    Steam Client Beta ถูก backport
    ใช้งานได้บน Windows 7 SP1 และ Windows 8.x 64-bit

    เงื่อนไขการติดตั้ง
    ต้องอัปเดต Windows ด้วย KB976932, KB2999226, KB4474419

    การเผยแพร่
    ตัวติดตั้ง 230MB มีให้ดาวน์โหลดจาก w7revived.chefkiss.dev

    สถานการณ์ผู้ใช้
    Windows 7 มีผู้ใช้เหลือเพียง 0.05% บน Steam

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    Backport เป็นโซลูชันไม่เป็นทางการ ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบเอง

    คำเตือนด้านอนาคต
    Steam อาจออกฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่สามารถ backport ได้อีก

    https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/latest-steam-client-beta-backport-keeps-windows-7-and-windows-8-gaming-pcs-on-life-support-unofficial-solution-gives-a-lifeline-to-legacy-users
    🎮 "Steam Client Beta ถูก backport ให้ Windows 7/8 ใช้งานได้อีกครั้ง" นักพัฒนาชื่อ Eazy Black ได้ทำการ backport Steam Client Beta รุ่นวันที่ 4 ธันวาคม 2025 ให้สามารถทำงานบน Windows 7 SP1 และ Windows 8.x แบบ 64-bit ได้ . แม้ Valve จะหยุดสนับสนุน Windows 7/8 อย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นปี 2024 แต่โครงการนี้ช่วยให้ผู้ใช้เครื่องเก่ายังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ Steam ได้ . ⚡ เงื่อนไขการใช้งาน เพื่อให้ backport ทำงานได้ ผู้ใช้จำเป็นต้องติดตั้ง Windows Updates บางตัว เช่น KB976932, KB2999226 และ KB4474419 . หากระบบไม่ได้อัปเดตอย่างน้อยตามนี้ อาจทำให้ Steam Client ไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง . ตัวติดตั้งมีขนาดประมาณ 230MB และถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ชุมชน w7revived.chefkiss.dev รวมถึงมีลิงก์สำรองจากผู้พัฒนา . 🛡️ ความเสี่ยงและข้อจำกัด แม้ backport จะช่วยให้ผู้ใช้ยังเล่นเกมได้ แต่ก็ถือเป็น โซลูชันที่ไม่เป็นทางการ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ต้องรับผิดชอบต่อปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเอง . Valve เองก็ยืนยันว่า Windows 7 และ 8 มีผู้ใช้งานเหลือเพียง 0.05% ตามผลสำรวจล่าสุด และกำลังจะหมดทางเลือกในอนาคตเมื่อ Steam ปรับปรุงระบบใหม่ ๆ ที่ไม่สามารถ backport ได้อีก . 🌍 มุมมองต่อชุมชนเกม การที่ยังมีคนพยายามทำ backport แสดงให้เห็นถึง ความรักและความผูกพันของชุมชนเกมเมอร์กับระบบเก่า . แม้ Windows 11 จะถูกวิจารณ์อย่างหนัก แต่ก็ยังกลายเป็นระบบหลักของผู้ใช้ Steam กว่า 69% แล้ว . การพัฒนา backport จึงเป็นเหมือนการยืดอายุให้ผู้ใช้ที่ยังไม่พร้อมอัปเกรดได้มีเวลาเพิ่มอีกเล็กน้อย . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Steam Client Beta ถูก backport ➡️ ใช้งานได้บน Windows 7 SP1 และ Windows 8.x 64-bit ✅ เงื่อนไขการติดตั้ง ➡️ ต้องอัปเดต Windows ด้วย KB976932, KB2999226, KB4474419 ✅ การเผยแพร่ ➡️ ตัวติดตั้ง 230MB มีให้ดาวน์โหลดจาก w7revived.chefkiss.dev ✅ สถานการณ์ผู้ใช้ ➡️ Windows 7 มีผู้ใช้เหลือเพียง 0.05% บน Steam ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ Backport เป็นโซลูชันไม่เป็นทางการ ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบเอง ‼️ คำเตือนด้านอนาคต ⛔ Steam อาจออกฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่สามารถ backport ได้อีก https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/latest-steam-client-beta-backport-keeps-windows-7-and-windows-8-gaming-pcs-on-life-support-unofficial-solution-gives-a-lifeline-to-legacy-users
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • "RemoveWindowsAI สคริปต์ลบ AI ออกจาก Windows 11"

    สคริปต์ RemoveWindowsAI ถูกสร้างขึ้นโดยนักพัฒนาอิสระชื่อ zoicware และเผยแพร่บน GitHub . จุดเด่นคือสามารถปิดการทำงานของฟีเจอร์ AI ที่ Microsoft เพิ่มเข้ามาใน Windows 11 เวอร์ชัน 25H2 ได้ทั้งหมด เช่น Copilot, Recall, Gaming Copilot, OneDrive AI และ Windows Studio Effects . ผู้ใช้สามารถรันผ่าน PowerShell ได้ง่าย ๆ โดยใช้คำสั่งเพียงบรรทัดเดียว .

    ฟีเจอร์ที่สคริปต์จัดการได้
    สคริปต์นี้ใช้วิธีแก้ไข Registry Keys และซ่อนส่วนประกอบ AI ใน Settings เพื่อให้ผู้ใช้ไม่ต้องเจอการทำงานอัตโนมัติ . นอกจากนี้ยังมีคู่มือสำหรับการปิดฟีเจอร์ที่สคริปต์ไม่สามารถจัดการได้ เช่น Gaming Copilot และ OneDrive AI ซึ่งสามารถปิดได้ด้วยการสลับ toggle ในระบบ .

    จุดเด่นและความยืดหยุ่น
    นอกจากการปิดฟีเจอร์แล้ว สคริปต์ยังมี Revert Mode ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งาน AI กลับมาได้ทุกเมื่อ . มี GUI ที่ใช้งานง่าย พร้อมเครื่องหมาย “?” อธิบายแต่ละฟีเจอร์ว่าทำงานอย่างไร . ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ถนัดการแก้ไขระบบก็สามารถใช้งานได้สะดวก .

    มุมมองต่ออนาคต Windows
    Microsoft ประกาศชัดเจนว่า Windows จะเดินหน้าเป็น Agentic OS ที่มี AI ทำงานเบื้องหลังอย่างต่อเนื่อง . แต่การที่มีสคริปต์อย่าง RemoveWindowsAI ออกมา แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้บางกลุ่มยังคงกังวลเรื่อง ความเป็นส่วนตัวและการควบคุมระบบ . นี่อาจเป็นแรงกดดันให้ Microsoft ต้องเพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้สามารถเลือกเปิด/ปิด AI ได้ง่ายขึ้นในอนาคต .

    สรุปสาระสำคัญ
    RemoveWindowsAI บน GitHub
    สคริปต์ที่ลบหรือปิดฟีเจอร์ AI ใน Windows 11 ได้ทั้งหมด

    ฟีเจอร์ที่จัดการได้
    Copilot, Recall, Windows Studio Effects, Gaming Copilot, OneDrive AI

    ใช้งานง่าย
    รันผ่าน PowerShell หรือ GUI พร้อมโหมด Revert Mode

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    การแก้ไข Registry อาจทำให้ระบบมีปัญหาหากใช้งานผิดพลาด

    คำเตือนด้านการอัปเดต
    ฟีเจอร์ใหม่ใน Insider Build อาจไม่ถูกสคริปต์จัดการ ต้องรอเวอร์ชันเสถียร

    https://www.tomshardware.com/software/windows/this-github-script-claims-to-wipe-all-of-windows-11s-ai-features-in-seconds-removewindowsai-can-disable-every-single-ai-feature-in-the-os-from-copilot-to-recall-and-more
    🖥️ "RemoveWindowsAI สคริปต์ลบ AI ออกจาก Windows 11" สคริปต์ RemoveWindowsAI ถูกสร้างขึ้นโดยนักพัฒนาอิสระชื่อ zoicware และเผยแพร่บน GitHub . จุดเด่นคือสามารถปิดการทำงานของฟีเจอร์ AI ที่ Microsoft เพิ่มเข้ามาใน Windows 11 เวอร์ชัน 25H2 ได้ทั้งหมด เช่น Copilot, Recall, Gaming Copilot, OneDrive AI และ Windows Studio Effects . ผู้ใช้สามารถรันผ่าน PowerShell ได้ง่าย ๆ โดยใช้คำสั่งเพียงบรรทัดเดียว . ⚡ ฟีเจอร์ที่สคริปต์จัดการได้ สคริปต์นี้ใช้วิธีแก้ไข Registry Keys และซ่อนส่วนประกอบ AI ใน Settings เพื่อให้ผู้ใช้ไม่ต้องเจอการทำงานอัตโนมัติ . นอกจากนี้ยังมีคู่มือสำหรับการปิดฟีเจอร์ที่สคริปต์ไม่สามารถจัดการได้ เช่น Gaming Copilot และ OneDrive AI ซึ่งสามารถปิดได้ด้วยการสลับ toggle ในระบบ . 🔧 จุดเด่นและความยืดหยุ่น นอกจากการปิดฟีเจอร์แล้ว สคริปต์ยังมี Revert Mode ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งาน AI กลับมาได้ทุกเมื่อ . มี GUI ที่ใช้งานง่าย พร้อมเครื่องหมาย “?” อธิบายแต่ละฟีเจอร์ว่าทำงานอย่างไร . ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ถนัดการแก้ไขระบบก็สามารถใช้งานได้สะดวก . 🌍 มุมมองต่ออนาคต Windows Microsoft ประกาศชัดเจนว่า Windows จะเดินหน้าเป็น Agentic OS ที่มี AI ทำงานเบื้องหลังอย่างต่อเนื่อง . แต่การที่มีสคริปต์อย่าง RemoveWindowsAI ออกมา แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้บางกลุ่มยังคงกังวลเรื่อง ความเป็นส่วนตัวและการควบคุมระบบ . นี่อาจเป็นแรงกดดันให้ Microsoft ต้องเพิ่มตัวเลือกให้ผู้ใช้สามารถเลือกเปิด/ปิด AI ได้ง่ายขึ้นในอนาคต . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ RemoveWindowsAI บน GitHub ➡️ สคริปต์ที่ลบหรือปิดฟีเจอร์ AI ใน Windows 11 ได้ทั้งหมด ✅ ฟีเจอร์ที่จัดการได้ ➡️ Copilot, Recall, Windows Studio Effects, Gaming Copilot, OneDrive AI ✅ ใช้งานง่าย ➡️ รันผ่าน PowerShell หรือ GUI พร้อมโหมด Revert Mode ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ การแก้ไข Registry อาจทำให้ระบบมีปัญหาหากใช้งานผิดพลาด ‼️ คำเตือนด้านการอัปเดต ⛔ ฟีเจอร์ใหม่ใน Insider Build อาจไม่ถูกสคริปต์จัดการ ต้องรอเวอร์ชันเสถียร https://www.tomshardware.com/software/windows/this-github-script-claims-to-wipe-all-of-windows-11s-ai-features-in-seconds-removewindowsai-can-disable-every-single-ai-feature-in-the-os-from-copilot-to-recall-and-more
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Intel จับมือ Tata Group ผลักดันอินเดียสู่ศูนย์กลางชิปโลก"

    Intel ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MoU) กับ Tata Group หนึ่งในบริษัทใหญ่ที่สุดของอินเดีย เพื่อร่วมกันพัฒนาและผลิตชิป รวมถึงการบรรจุ (packaging) สำหรับตลาดท้องถิ่น . ความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมการพัฒนา AI PC ทั้งในตลาดผู้บริโภคและองค์กร โดยตั้งเป้าให้อินเดียติดอันดับ Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030.

    การลงทุนครั้งใหญ่: "โรงงานมูลค่า 14 พันล้านดอลลาร์"
    Tata Group กำลังสร้างโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่งในอินเดีย มูลค่ารวมกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ ได้แก่ โรงงานผลิตชิปในรัฐคุชราต และโรงงาน OSAT (Outsourced Semiconductor Assembly and Test) ในรัฐอัสสัม. การลงทุนนี้ถือเป็นโครงการใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอินเดียจนถึงปัจจุบัน .

    ผลักดัน India Semiconductor Mission (ISM)
    ความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นแรงหนุนสำคัญต่อโครงการ India Semiconductor Mission (ISM) ที่รัฐบาลอินเดียเปิดตัวตั้งแต่ปี 2021 ด้วยงบประมาณกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างระบบนิเวศครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต ไปจนถึงการทดสอบชิป . โครงการนี้ยังดึงดูดผู้เล่นระดับโลก เช่น Micron, Foxconn และ Clas-SiC Wafer Fab เข้ามาร่วมลงทุน.

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    Intel มองว่าอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยความต้องการ PC และ AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง . การจับมือกับ Tata ไม่เพียงช่วยขยายธุรกิจ แต่ยังเป็นการสร้างฐานการผลิตที่มั่นคงในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาประเทศอื่นและเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน.

    สรุปสาระสำคัญ
    Intel จับมือ Tata Group
    ลงนาม MoU เพื่อผลิตและบรรจุชิปในอินเดีย

    การลงทุนครั้งใหญ่
    โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่ง มูลค่า ~14 พันล้านดอลลาร์

    พัฒนา AI PC
    ตั้งเป้าให้อินเดียติด Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030

    สนับสนุน India Semiconductor Mission
    โครงการรัฐบาลมูลค่า ~10 พันล้านดอลลาร์ ดึงดูดผู้เล่นระดับโลก

    คำเตือนด้านห่วงโซ่อุปทาน
    หากโครงการล่าช้า อินเดียอาจเสียโอกาสแข่งขันกับจีนและไต้หวัน

    คำเตือนด้านความเสี่ยงการลงทุน
    โรงงานใหม่ต้องใช้เวลาและเทคโนโลยีสูง อาจเจออุปสรรคด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐาน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-boosts-indias-chip-push-with-new-tata-group-strategic-partnership-includes-manufacturing-and-packaging-of-intel-products-for-local-markets
    🤝 "Intel จับมือ Tata Group ผลักดันอินเดียสู่ศูนย์กลางชิปโลก" Intel ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MoU) กับ Tata Group หนึ่งในบริษัทใหญ่ที่สุดของอินเดีย เพื่อร่วมกันพัฒนาและผลิตชิป รวมถึงการบรรจุ (packaging) สำหรับตลาดท้องถิ่น . ความร่วมมือนี้ยังครอบคลุมการพัฒนา AI PC ทั้งในตลาดผู้บริโภคและองค์กร โดยตั้งเป้าให้อินเดียติดอันดับ Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030. 🏭 การลงทุนครั้งใหญ่: "โรงงานมูลค่า 14 พันล้านดอลลาร์" Tata Group กำลังสร้างโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่งในอินเดีย มูลค่ารวมกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ ได้แก่ โรงงานผลิตชิปในรัฐคุชราต และโรงงาน OSAT (Outsourced Semiconductor Assembly and Test) ในรัฐอัสสัม. การลงทุนนี้ถือเป็นโครงการใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอินเดียจนถึงปัจจุบัน . ⚡ ผลักดัน India Semiconductor Mission (ISM) ความร่วมมือครั้งนี้ยังเป็นแรงหนุนสำคัญต่อโครงการ India Semiconductor Mission (ISM) ที่รัฐบาลอินเดียเปิดตัวตั้งแต่ปี 2021 ด้วยงบประมาณกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างระบบนิเวศครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต ไปจนถึงการทดสอบชิป . โครงการนี้ยังดึงดูดผู้เล่นระดับโลก เช่น Micron, Foxconn และ Clas-SiC Wafer Fab เข้ามาร่วมลงทุน. 🌍 มุมมองเชิงกลยุทธ์ Intel มองว่าอินเดียเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ด้วยความต้องการ PC และ AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง . การจับมือกับ Tata ไม่เพียงช่วยขยายธุรกิจ แต่ยังเป็นการสร้างฐานการผลิตที่มั่นคงในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพาประเทศอื่นและเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Intel จับมือ Tata Group ➡️ ลงนาม MoU เพื่อผลิตและบรรจุชิปในอินเดีย ✅ การลงทุนครั้งใหญ่ ➡️ โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ 2 แห่ง มูลค่า ~14 พันล้านดอลลาร์ ✅ พัฒนา AI PC ➡️ ตั้งเป้าให้อินเดียติด Top 5 ตลาดคอมพิวเตอร์โลกภายในปี 2030 ✅ สนับสนุน India Semiconductor Mission ➡️ โครงการรัฐบาลมูลค่า ~10 พันล้านดอลลาร์ ดึงดูดผู้เล่นระดับโลก ‼️ คำเตือนด้านห่วงโซ่อุปทาน ⛔ หากโครงการล่าช้า อินเดียอาจเสียโอกาสแข่งขันกับจีนและไต้หวัน ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยงการลงทุน ⛔ โรงงานใหม่ต้องใช้เวลาและเทคโนโลยีสูง อาจเจออุปสรรคด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐาน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-boosts-indias-chip-push-with-new-tata-group-strategic-partnership-includes-manufacturing-and-packaging-of-intel-products-for-local-markets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทรัมป์อนุมัติส่งออก Nvidia H200 ไปจีน พร้อมค่าธรรมเนียม 25%"
    รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศอนุญาตให้บริษัท Nvidia ส่งออกชิป H200 Hopper-class AI accelerators ไปยังลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติในจีน . การตัดสินใจครั้งนี้มาพร้อมเงื่อนไขว่าต้องเสียค่าธรรมเนียม 25% และชิปจะถูกตรวจสอบความปลอดภัยในสหรัฐก่อนส่งต่อไปจีน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    ชิป H200 ถือเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่น H20 ที่จีนเคยได้รับอนุญาตให้ใช้ แต่ยังต่ำกว่ารุ่น Blackwell ที่เป็นเทคโนโลยีล่าสุด . การอนุมัติครั้งนี้ช่วยให้บริษัทจีน เช่น Alibaba, Tencent และ ByteDance สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นในการฝึกและดูแลโมเดล AI ขนาดใหญ่ โดยไม่ต้องพึ่งพาการประมวลผลในต่างประเทศ

    ความกังวลด้านความมั่นคง
    แม้จะเป็นการเปิดตลาด แต่หลายฝ่ายในสหรัฐฯ มองว่าการส่งออก H200 อาจเป็น ภัยต่อความมั่นคง เพราะยังคงมีศักยภาพสูงในการพัฒนา AI กลุ่มวุฒิสมาชิกได้เสนอร่างกฎหมาย SAFE CHIPS Act เพื่อระงับการส่งออกชิปขั้นสูงไปจีนเป็นเวลา 30 เดือน

    มุมมองจากจีน
    ฝ่ายจีนเองยังคงระมัดระวัง โดยมีรายงานว่ากำลังพิจารณาอนุญาตให้ใช้ H200 เฉพาะในกรณีที่ชิปภายในประเทศไม่สามารถตอบโจทย์ได้ . นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าจะห้ามหน่วยงานภาครัฐซื้อชิป Nvidia เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ

    สรุปสาระสำคัญ
    การอนุมัติส่งออก H200
    ต้องเสียค่าธรรมเนียม 25% และผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย

    ศักยภาพของ H200
    แรงกว่ารุ่น H20 แต่ยังต่ำกว่า Blackwell

    ผลต่อบริษัทจีน
    Alibaba, Tencent, ByteDance ได้ประโยชน์ในการฝึกโมเดล AI

    คำเตือนด้านความมั่นคง
    วุฒิสมาชิกสหรัฐเสนอ SAFE CHIPS Act เพื่อระงับการส่งออก

    คำเตือนจากจีน
    อาจจำกัดการใช้งาน H200 และห้ามภาครัฐซื้อชิป Nvidia

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/trump-approves-nvidia-h20-exports-to-china-25percent-fee-applies
    🏛️ "ทรัมป์อนุมัติส่งออก Nvidia H200 ไปจีน พร้อมค่าธรรมเนียม 25%" รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศอนุญาตให้บริษัท Nvidia ส่งออกชิป H200 Hopper-class AI accelerators ไปยังลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติในจีน . การตัดสินใจครั้งนี้มาพร้อมเงื่อนไขว่าต้องเสียค่าธรรมเนียม 25% และชิปจะถูกตรวจสอบความปลอดภัยในสหรัฐก่อนส่งต่อไปจีน ⚡ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI ชิป H200 ถือเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่น H20 ที่จีนเคยได้รับอนุญาตให้ใช้ แต่ยังต่ำกว่ารุ่น Blackwell ที่เป็นเทคโนโลยีล่าสุด . การอนุมัติครั้งนี้ช่วยให้บริษัทจีน เช่น Alibaba, Tencent และ ByteDance สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นในการฝึกและดูแลโมเดล AI ขนาดใหญ่ โดยไม่ต้องพึ่งพาการประมวลผลในต่างประเทศ 🛡️ ความกังวลด้านความมั่นคง แม้จะเป็นการเปิดตลาด แต่หลายฝ่ายในสหรัฐฯ มองว่าการส่งออก H200 อาจเป็น ภัยต่อความมั่นคง เพราะยังคงมีศักยภาพสูงในการพัฒนา AI กลุ่มวุฒิสมาชิกได้เสนอร่างกฎหมาย SAFE CHIPS Act เพื่อระงับการส่งออกชิปขั้นสูงไปจีนเป็นเวลา 30 เดือน 🌍 มุมมองจากจีน ฝ่ายจีนเองยังคงระมัดระวัง โดยมีรายงานว่ากำลังพิจารณาอนุญาตให้ใช้ H200 เฉพาะในกรณีที่ชิปภายในประเทศไม่สามารถตอบโจทย์ได้ . นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าจะห้ามหน่วยงานภาครัฐซื้อชิป Nvidia เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การอนุมัติส่งออก H200 ➡️ ต้องเสียค่าธรรมเนียม 25% และผ่านการตรวจสอบความปลอดภัย ✅ ศักยภาพของ H200 ➡️ แรงกว่ารุ่น H20 แต่ยังต่ำกว่า Blackwell ✅ ผลต่อบริษัทจีน ➡️ Alibaba, Tencent, ByteDance ได้ประโยชน์ในการฝึกโมเดล AI ‼️ คำเตือนด้านความมั่นคง ⛔ วุฒิสมาชิกสหรัฐเสนอ SAFE CHIPS Act เพื่อระงับการส่งออก ‼️ คำเตือนจากจีน ⛔ อาจจำกัดการใช้งาน H200 และห้ามภาครัฐซื้อชิป Nvidia https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/trump-approves-nvidia-h20-exports-to-china-25percent-fee-applies
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จับเพิ่มอีก 2 รายในคดีลักลอบชิป Nvidia ไปจีน"

    กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) รายงานว่ามีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 รายในนิวยอร์กและออนแทรีโอ หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้า Nvidia H100 และ H200 ไปยังจีน . ก่อนหน้านี้มีผู้ต้องหาที่ฮูสตันยอมรับผิดแล้ว ทำให้คดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องรวมอย่างน้อย 3 ราย .

    วิธีการลักลอบ: "ปลอมฉลากเป็นแบรนด์ Sandkyan"
    กลุ่มผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่าใช้วิธี เปลี่ยนฉลากบนกล่องและพาเลทของชิป Nvidia ให้เป็นชื่อแบรนด์สมมติ “Sandkyan” เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร . พวกเขายังร่วมมือกับบริษัทขนส่งในฮ่องกงและบริษัท AI ในจีนเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำชิปผ่านด่านควบคุม .

    ปฏิบัติการ Gatekeeper: "สกัดการแพร่กระจายเทคโนโลยี AI"
    การจับกุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Operation Gatekeeper ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเทคโนโลยี AI ของสหรัฐไปยังประเทศที่อาจใช้เป็นภัยต่อความมั่นคง . แม้ชิป H100 และ H200 จะถือเป็นรุ่นเก่ากว่าชิป Blackwell ที่กำลังเป็นที่ต้องการ แต่ก็ยังมีศักยภาพสูงในการประมวลผล AI .

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและความมั่นคง
    การลักลอบครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการมหาศาลของจีนต่อชิป AI แม้จะถูกจำกัดการนำเข้า . สหรัฐมองว่าการผ่อนปรนให้จีนเข้าถึงชิป Hopper รุ่นเก่าอาจไม่กระทบต่อความเหนือกว่าทางเทคโนโลยี แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงยังคงมีอยู่ และตลาดมืดของชิป AI กำลังเติบโต .

    สรุปสาระสำคัญ
    การจับกุมเพิ่มเติม
    ผู้ต้องหาใหม่ 2 รายในนิวยอร์กและออนแทรีโอ

    วิธีการลักลอบ
    เปลี่ยนฉลากเป็นแบรนด์สมมติ “Sandkyan”
    ร่วมมือกับบริษัทขนส่งในฮ่องกงและบริษัท AI ในจีน

    Operation Gatekeeper
    ปฏิบัติการของ DOJ เพื่อสกัดการแพร่กระจายเทคโนโลยี AI

    สถานะชิป Nvidia
    H100 และ H200 เป็นรุ่น Hopper ที่ยังมีศักยภาพสูง แม้จะไม่ทันสมัยเท่า Blackwell

    คำเตือนด้านความมั่นคง
    การลักลอบอาจช่วยจีนเสริมศักยภาพ AI และการทหาร

    คำเตือนด้านตลาดมืด
    ความต้องการชิป AI สูงทำให้ตลาดมืดเติบโตและยากต่อการควบคุม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/two-more-perps-apprehended-over-smuggling-of-usd160-million-of-nvidia-chips-to-china-doj-says-h100-and-h200-shipments-were-relabelled-with-a-fictional-brand-to-dodge-export-controls
    🚨 "จับเพิ่มอีก 2 รายในคดีลักลอบชิป Nvidia ไปจีน" กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) รายงานว่ามีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 รายในนิวยอร์กและออนแทรีโอ หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้า Nvidia H100 และ H200 ไปยังจีน . ก่อนหน้านี้มีผู้ต้องหาที่ฮูสตันยอมรับผิดแล้ว ทำให้คดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องรวมอย่างน้อย 3 ราย . 🕵️ วิธีการลักลอบ: "ปลอมฉลากเป็นแบรนด์ Sandkyan" กลุ่มผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่าใช้วิธี เปลี่ยนฉลากบนกล่องและพาเลทของชิป Nvidia ให้เป็นชื่อแบรนด์สมมติ “Sandkyan” เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร . พวกเขายังร่วมมือกับบริษัทขนส่งในฮ่องกงและบริษัท AI ในจีนเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำชิปผ่านด่านควบคุม . 🛡️ ปฏิบัติการ Gatekeeper: "สกัดการแพร่กระจายเทคโนโลยี AI" การจับกุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Operation Gatekeeper ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเทคโนโลยี AI ของสหรัฐไปยังประเทศที่อาจใช้เป็นภัยต่อความมั่นคง . แม้ชิป H100 และ H200 จะถือเป็นรุ่นเก่ากว่าชิป Blackwell ที่กำลังเป็นที่ต้องการ แต่ก็ยังมีศักยภาพสูงในการประมวลผล AI . 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและความมั่นคง การลักลอบครั้งนี้สะท้อนถึงความต้องการมหาศาลของจีนต่อชิป AI แม้จะถูกจำกัดการนำเข้า . สหรัฐมองว่าการผ่อนปรนให้จีนเข้าถึงชิป Hopper รุ่นเก่าอาจไม่กระทบต่อความเหนือกว่าทางเทคโนโลยี แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงยังคงมีอยู่ และตลาดมืดของชิป AI กำลังเติบโต . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การจับกุมเพิ่มเติม ➡️ ผู้ต้องหาใหม่ 2 รายในนิวยอร์กและออนแทรีโอ ✅ วิธีการลักลอบ ➡️ เปลี่ยนฉลากเป็นแบรนด์สมมติ “Sandkyan” ➡️ ร่วมมือกับบริษัทขนส่งในฮ่องกงและบริษัท AI ในจีน ✅ Operation Gatekeeper ➡️ ปฏิบัติการของ DOJ เพื่อสกัดการแพร่กระจายเทคโนโลยี AI ✅ สถานะชิป Nvidia ➡️ H100 และ H200 เป็นรุ่น Hopper ที่ยังมีศักยภาพสูง แม้จะไม่ทันสมัยเท่า Blackwell ‼️ คำเตือนด้านความมั่นคง ⛔ การลักลอบอาจช่วยจีนเสริมศักยภาพ AI และการทหาร ‼️ คำเตือนด้านตลาดมืด ⛔ ความต้องการชิป AI สูงทำให้ตลาดมืดเติบโตและยากต่อการควบคุม https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/two-more-perps-apprehended-over-smuggling-of-usd160-million-of-nvidia-chips-to-china-doj-says-h100-and-h200-shipments-were-relabelled-with-a-fictional-brand-to-dodge-export-controls
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ASML ถูกวิจารณ์หนักหลังขาย DUV ให้จีน"

    บริษัท ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรโฟโตลิทอกราฟีรายใหญ่ที่สุดในโลก กำลังเผชิญแรงกดดัน หลังมีรายงานว่าขายเครื่อง Deep Ultraviolet (DUV) ให้กับบริษัทจีนที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพ . แม้ ASML จะยืนยันว่าเครื่องจักรเหล่านี้เป็น เทคโนโลยีเก่า ไม่สามารถผลิตชิปขั้นสูงได้ แต่หลายฝ่ายกังวลว่าการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จะช่วยจีนพัฒนาโครงการด้านควอนตัมและการทหาร .

    มุมมองรัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญ
    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่า ไม่ใช่ทุกส่วนของเครื่องจักรจะอยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออก ทำให้ ASML ไม่ผิดกฎหมาย . อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจาก RAND Europa และผู้เชี่ยวชาญด้านจีนเตือนว่า บางชิ้นส่วนที่ขายไปมีความสำคัญต่อการทำงานของเครื่องจักร และควรอยู่ภายใต้การควบคุม . ข้อถกเถียงนี้สะท้อนถึงช่องโหว่ในนโยบายการควบคุมเทคโนโลยีขั้นสูง .

    ความเสี่ยงด้านควอนตัมและการทหาร
    หนึ่งในประเด็นที่น่ากังวลคือการที่เครื่องจักรถูกส่งไปยัง Shenzhen International Quantum Academy ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาควอนตัมของจีน . หน่วยข่าวกรองทหารเนเธอร์แลนด์เคยเตือนว่า การพัฒนาควอนตัมของจีนอาจมีผลต่อการใช้งานด้านทหาร เช่น ระบบสื่อสารที่ปลอดภัยและการคำนวณขั้นสูงสำหรับการออกแบบอาวุธ . แม้ DUV จะไม่ทันสมัยเท่า EUV แต่ก็ยังมีศักยภาพในการผลิตชิปที่ใช้ในงานวิจัยและการทหาร .

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก
    กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดใน สงครามเทคโนโลยีระหว่างตะวันตกกับจีน โดยจีนพยายามหาทางเข้าถึงเทคโนโลยีแม้จะถูกจำกัดการนำเข้า EUV . การที่ ASML ถูกจับตามองอาจทำให้รัฐบาลยุโรปเข้มงวดขึ้นในการควบคุมการส่งออก แม้จะกระทบต่อธุรกิจ แต่ก็ถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคง .

    สรุปสาระสำคัญ
    ASML ขายเครื่อง DUV ให้จีน
    อ้างว่าเป็นเทคโนโลยีเก่า ไม่สามารถผลิตชิปขั้นสูงได้

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันไม่ผิดกฎหมาย
    ไม่ใช่ทุกส่วนของเครื่องจักรอยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออก

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนถึงความเสี่ยง
    บางชิ้นส่วนมีความสำคัญต่อการทำงาน ควรอยู่ภายใต้การควบคุม

    เชื่อมโยงกับโครงการควอนตัมของจีน
    Shenzhen International Quantum Academy ได้รับเครื่องจักรไปใช้งาน

    คำเตือนด้านความมั่นคง
    เทคโนโลยี DUV อาจช่วยจีนพัฒนาระบบควอนตัมและการทหาร

    คำเตือนด้านนโยบายการส่งออก
    ช่องโหว่ในกฎหมายอาจเปิดทางให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีสำคัญ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/asml-under-fire-for-selling-duv-equipment-to-chinese-firm-with-military-ties-says-the-machines-are-not-subject-to-export-controls-fears-grow-that-old-technology-will-bolster-beijings-quantum-effort
    🏭 "ASML ถูกวิจารณ์หนักหลังขาย DUV ให้จีน" บริษัท ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรโฟโตลิทอกราฟีรายใหญ่ที่สุดในโลก กำลังเผชิญแรงกดดัน หลังมีรายงานว่าขายเครื่อง Deep Ultraviolet (DUV) ให้กับบริษัทจีนที่มีความเชื่อมโยงกับกองทัพ . แม้ ASML จะยืนยันว่าเครื่องจักรเหล่านี้เป็น เทคโนโลยีเก่า ไม่สามารถผลิตชิปขั้นสูงได้ แต่หลายฝ่ายกังวลว่าการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จะช่วยจีนพัฒนาโครงการด้านควอนตัมและการทหาร . ⚡ มุมมองรัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันว่า ไม่ใช่ทุกส่วนของเครื่องจักรจะอยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออก ทำให้ ASML ไม่ผิดกฎหมาย . อย่างไรก็ตาม นักวิจัยจาก RAND Europa และผู้เชี่ยวชาญด้านจีนเตือนว่า บางชิ้นส่วนที่ขายไปมีความสำคัญต่อการทำงานของเครื่องจักร และควรอยู่ภายใต้การควบคุม . ข้อถกเถียงนี้สะท้อนถึงช่องโหว่ในนโยบายการควบคุมเทคโนโลยีขั้นสูง . 🔬 ความเสี่ยงด้านควอนตัมและการทหาร หนึ่งในประเด็นที่น่ากังวลคือการที่เครื่องจักรถูกส่งไปยัง Shenzhen International Quantum Academy ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาควอนตัมของจีน . หน่วยข่าวกรองทหารเนเธอร์แลนด์เคยเตือนว่า การพัฒนาควอนตัมของจีนอาจมีผลต่อการใช้งานด้านทหาร เช่น ระบบสื่อสารที่ปลอดภัยและการคำนวณขั้นสูงสำหรับการออกแบบอาวุธ . แม้ DUV จะไม่ทันสมัยเท่า EUV แต่ก็ยังมีศักยภาพในการผลิตชิปที่ใช้ในงานวิจัยและการทหาร . 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดใน สงครามเทคโนโลยีระหว่างตะวันตกกับจีน โดยจีนพยายามหาทางเข้าถึงเทคโนโลยีแม้จะถูกจำกัดการนำเข้า EUV . การที่ ASML ถูกจับตามองอาจทำให้รัฐบาลยุโรปเข้มงวดขึ้นในการควบคุมการส่งออก แม้จะกระทบต่อธุรกิจ แต่ก็ถูกมองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคง . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ASML ขายเครื่อง DUV ให้จีน ➡️ อ้างว่าเป็นเทคโนโลยีเก่า ไม่สามารถผลิตชิปขั้นสูงได้ ✅ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยืนยันไม่ผิดกฎหมาย ➡️ ไม่ใช่ทุกส่วนของเครื่องจักรอยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออก ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนถึงความเสี่ยง ➡️ บางชิ้นส่วนมีความสำคัญต่อการทำงาน ควรอยู่ภายใต้การควบคุม ✅ เชื่อมโยงกับโครงการควอนตัมของจีน ➡️ Shenzhen International Quantum Academy ได้รับเครื่องจักรไปใช้งาน ‼️ คำเตือนด้านความมั่นคง ⛔ เทคโนโลยี DUV อาจช่วยจีนพัฒนาระบบควอนตัมและการทหาร ‼️ คำเตือนด้านนโยบายการส่งออก ⛔ ช่องโหว่ในกฎหมายอาจเปิดทางให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีสำคัญ https://www.tomshardware.com/tech-industry/asml-under-fire-for-selling-duv-equipment-to-chinese-firm-with-military-ties-says-the-machines-are-not-subject-to-export-controls-fears-grow-that-old-technology-will-bolster-beijings-quantum-effort
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: "Asgard เปิดตัว RAM DDR5 256GB ราคาสูงกว่าการ์ดจอ RTX 5090"

    บริษัท Asgard ผู้ผลิตหน่วยความจำจากจีนเปิดตัว Valkyrie II Racing Car Limited Edition ขนาด 256GB (4x64GB) DDR5-6000 และ Thor Black Gold Limited Edition ขนาด 192GB (4x48GB) DDR5-6000 ราคาของรุ่น 256GB อยู่ที่ประมาณ 2,403 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแพงกว่าการ์ดจอ RTX 5090 แต่ยังถูกกว่าคู่แข่งอย่าง G.Skill Flare X5 ที่ขายเกือบ 2,800 ดอลลาร์ .

    สถานการณ์ตลาด RAM: "ราคาพุ่งแรงเพราะ AI"
    ตลาดหน่วยความจำกำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลน เนื่องจากความต้องการจาก AI Data Center ที่ต้องใช้ RAM ปริมาณมหาศาล . ผู้ผลิตส่วนใหญ่ไม่กล้าลงทุนผลิตชุดความจุสูงเพราะต้นทุนสูง ทำให้ RAM ขนาด 192GB และ 256GB มีจำหน่ายน้อยมากในตลาด และราคาพุ่งขึ้นอย่างหนัก .

    จุดเด่นของ Asgard: "เร็วและถูกกว่า"
    แม้ราคาจะสูง แต่ Asgard ยังถือว่า คุ้มค่ากว่าคู่แข่ง เพราะ Valkyrie II มีความเร็ว DDR5-6000 CL32-45-45-90 และ Thor Black Gold มี CL28-36-36-72 ซึ่งเร็วกว่าบางรุ่นของ Corsair และ G.Skill ในราคาที่ต่ำกว่า . อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนคือ Asgardยังไม่เป็นแบรนด์สากล ทำให้หาซื้อยากนอกประเทศจีน และต้องเจอภาษีนำเข้า .

    มุมมองตลาดโลก: "โอกาสและข้อจำกัด"
    การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนว่า ตลาดหน่วยความจำความจุสูงกำลังถูกขับเคลื่อนด้วย AI และผู้ใช้ระดับองค์กร มากกว่าผู้ใช้ทั่วไป . แม้ Asgard จะเสนอราคาที่แข่งขันได้ แต่การเข้าถึงสินค้าของผู้ใช้ทั่วโลกยังจำกัด . หาก Asgard ขยายตลาดออกไป อาจสร้างแรงกดดันต่อผู้ผลิตรายใหญ่ให้ลดราคาลง .

    สรุปสาระสำคัญ
    Asgard เปิดตัว RAM DDR5 ความจุสูง
    Valkyrie II 256GB DDR5-6000 ราคา ~2,403 ดอลลาร์
    Thor Black Gold 192GB DDR5-6000 ราคา ~1,215 ดอลลาร์

    ราคาถูกกว่าคู่แข่ง
    G.Skill Flare X5 256GB ราคา ~2,779 ดอลลาร์
    Corsair Vengeance 192GB ราคา ~2,201 ดอลลาร์

    สเปกที่โดดเด่น
    Valkyrie II CL32-45-45-90
    Thor Black Gold CL28-36-36-72

    คำเตือนเรื่องการเข้าถึงสินค้า
    Asgard เป็นแบรนด์จีน หาซื้อยากนอกประเทศ ต้องเจอภาษีนำเข้า

    คำเตือนเรื่องตลาดหน่วยความจำ
    ราคาพุ่งแรงเพราะ AI ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่สามารถเข้าถึง RAM ความจุสูงได้

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/chinese-vendor-unveils-256gb-of-ram-that-costs-more-than-an-msrp-rtx-5090-asgards-ddr5-6000-retails-at-an-eye-watering-usd2-400-but-is-more-affordable-than-some-mainstream-alternatives
    🖥️ ข่าวใหญ่: "Asgard เปิดตัว RAM DDR5 256GB ราคาสูงกว่าการ์ดจอ RTX 5090" บริษัท Asgard ผู้ผลิตหน่วยความจำจากจีนเปิดตัว Valkyrie II Racing Car Limited Edition ขนาด 256GB (4x64GB) DDR5-6000 และ Thor Black Gold Limited Edition ขนาด 192GB (4x48GB) DDR5-6000 ราคาของรุ่น 256GB อยู่ที่ประมาณ 2,403 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแพงกว่าการ์ดจอ RTX 5090 แต่ยังถูกกว่าคู่แข่งอย่าง G.Skill Flare X5 ที่ขายเกือบ 2,800 ดอลลาร์ . ⚡ สถานการณ์ตลาด RAM: "ราคาพุ่งแรงเพราะ AI" ตลาดหน่วยความจำกำลังเผชิญกับภาวะขาดแคลน เนื่องจากความต้องการจาก AI Data Center ที่ต้องใช้ RAM ปริมาณมหาศาล . ผู้ผลิตส่วนใหญ่ไม่กล้าลงทุนผลิตชุดความจุสูงเพราะต้นทุนสูง ทำให้ RAM ขนาด 192GB และ 256GB มีจำหน่ายน้อยมากในตลาด และราคาพุ่งขึ้นอย่างหนัก . 🔧 จุดเด่นของ Asgard: "เร็วและถูกกว่า" แม้ราคาจะสูง แต่ Asgard ยังถือว่า คุ้มค่ากว่าคู่แข่ง เพราะ Valkyrie II มีความเร็ว DDR5-6000 CL32-45-45-90 และ Thor Black Gold มี CL28-36-36-72 ซึ่งเร็วกว่าบางรุ่นของ Corsair และ G.Skill ในราคาที่ต่ำกว่า . อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนคือ Asgardยังไม่เป็นแบรนด์สากล ทำให้หาซื้อยากนอกประเทศจีน และต้องเจอภาษีนำเข้า . 🌍 มุมมองตลาดโลก: "โอกาสและข้อจำกัด" การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนว่า ตลาดหน่วยความจำความจุสูงกำลังถูกขับเคลื่อนด้วย AI และผู้ใช้ระดับองค์กร มากกว่าผู้ใช้ทั่วไป . แม้ Asgard จะเสนอราคาที่แข่งขันได้ แต่การเข้าถึงสินค้าของผู้ใช้ทั่วโลกยังจำกัด . หาก Asgard ขยายตลาดออกไป อาจสร้างแรงกดดันต่อผู้ผลิตรายใหญ่ให้ลดราคาลง . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Asgard เปิดตัว RAM DDR5 ความจุสูง ➡️ Valkyrie II 256GB DDR5-6000 ราคา ~2,403 ดอลลาร์ ➡️ Thor Black Gold 192GB DDR5-6000 ราคา ~1,215 ดอลลาร์ ✅ ราคาถูกกว่าคู่แข่ง ➡️ G.Skill Flare X5 256GB ราคา ~2,779 ดอลลาร์ ➡️ Corsair Vengeance 192GB ราคา ~2,201 ดอลลาร์ ✅ สเปกที่โดดเด่น ➡️ Valkyrie II CL32-45-45-90 ➡️ Thor Black Gold CL28-36-36-72 ‼️ คำเตือนเรื่องการเข้าถึงสินค้า ⛔ Asgard เป็นแบรนด์จีน หาซื้อยากนอกประเทศ ต้องเจอภาษีนำเข้า ‼️ คำเตือนเรื่องตลาดหน่วยความจำ ⛔ ราคาพุ่งแรงเพราะ AI ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปอาจไม่สามารถเข้าถึง RAM ความจุสูงได้ https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/chinese-vendor-unveils-256gb-of-ram-that-costs-more-than-an-msrp-rtx-5090-asgards-ddr5-6000-retails-at-an-eye-watering-usd2-400-but-is-more-affordable-than-some-mainstream-alternatives
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts