• 📱 เปลี่ยนมือถือเก่าให้กลายเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก
    นักวิจัยจาก University of Tartu ประเทศเอสโตเนีย ได้พัฒนาแนวทางใหม่ในการ นำสมาร์ทโฟนเก่ามาเชื่อมต่อกันเพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก ซึ่งสามารถ ประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ในสถานที่ต่าง ๆ

    ทีมวิจัยได้นำ สมาร์ทโฟนเก่าจำนวน 4 เครื่อง มาถอดแบตเตอรี่ออกเพื่อลดความเสี่ยงของการรั่วไหล จากนั้น ออกแบบตัวครอบ 3D-printed และวงจรควบคุมพลังงาน เพื่อให้สามารถ เปลี่ยนหรือซ่อมแซมอุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - นักวิจัยจาก University of Tartu พัฒนาแนวทางใช้สมาร์ทโฟนเก่าสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก
    - นำสมาร์ทโฟน 4 เครื่องมาถอดแบตเตอรี่และติดตั้งตัวครอบ 3D-printed พร้อมวงจรควบคุมพลังงาน
    - ระบบสามารถประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ในสถานที่ต่าง ๆ
    - การทดลองแรกประสบความสำเร็จในการใช้ระบบนี้เพื่อตรวจสอบชีวิตใต้ทะเลโดยไม่ต้องใช้มนุษย์
    - แนวคิดนี้สามารถนำไปใช้ในสถานที่อื่น เช่น ป้ายรถเมล์ เพื่อนับจำนวนผู้โดยสารแบบเรียลไทม์

    🔥 ผลกระทบต่อการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์
    แนวทางนี้ช่วยให้ สมาร์ทโฟนเก่ามีโอกาสถูกนำกลับมาใช้ใหม่แทนที่จะถูกทิ้งเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจช่วยลด ปริมาณขยะที่เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลหรือถูกทิ้งในหลุมฝังกลบ

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการควบคุมระบบนี้
    - ต้องติดตามว่าการใช้งานจริงจะมีข้อจำกัดด้านพลังงานและความทนทานของอุปกรณ์หรือไม่
    - การนำสมาร์ทโฟนเก่ามาใช้ใหม่อาจต้องมีมาตรการป้องกันข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เดิม
    - ต้องรอดูว่าทีมวิจัยจะสามารถพัฒนาให้ระบบนี้ใช้งานได้ง่ายและมีต้นทุนต่ำหรือไม่

    หากแนวคิดนี้ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม อาจช่วยให้สามารถนำสมาร์ทโฟนเก่าหลายล้านเครื่องกลับมาใช้ใหม่ และ ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลแบบ Edge Computing มีต้นทุนต่ำลง

    https://www.tomshardware.com/desktops/servers/researchers-convert-old-phones-into-tiny-data-centers-deploy-one-underwater-for-marine-monitoring
    📱 เปลี่ยนมือถือเก่าให้กลายเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก นักวิจัยจาก University of Tartu ประเทศเอสโตเนีย ได้พัฒนาแนวทางใหม่ในการ นำสมาร์ทโฟนเก่ามาเชื่อมต่อกันเพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก ซึ่งสามารถ ประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ในสถานที่ต่าง ๆ ทีมวิจัยได้นำ สมาร์ทโฟนเก่าจำนวน 4 เครื่อง มาถอดแบตเตอรี่ออกเพื่อลดความเสี่ยงของการรั่วไหล จากนั้น ออกแบบตัวครอบ 3D-printed และวงจรควบคุมพลังงาน เพื่อให้สามารถ เปลี่ยนหรือซ่อมแซมอุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น ✅ ข้อมูลจากข่าว - นักวิจัยจาก University of Tartu พัฒนาแนวทางใช้สมาร์ทโฟนเก่าสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก - นำสมาร์ทโฟน 4 เครื่องมาถอดแบตเตอรี่และติดตั้งตัวครอบ 3D-printed พร้อมวงจรควบคุมพลังงาน - ระบบสามารถประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ในสถานที่ต่าง ๆ - การทดลองแรกประสบความสำเร็จในการใช้ระบบนี้เพื่อตรวจสอบชีวิตใต้ทะเลโดยไม่ต้องใช้มนุษย์ - แนวคิดนี้สามารถนำไปใช้ในสถานที่อื่น เช่น ป้ายรถเมล์ เพื่อนับจำนวนผู้โดยสารแบบเรียลไทม์ 🔥 ผลกระทบต่อการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แนวทางนี้ช่วยให้ สมาร์ทโฟนเก่ามีโอกาสถูกนำกลับมาใช้ใหม่แทนที่จะถูกทิ้งเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจช่วยลด ปริมาณขยะที่เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลหรือถูกทิ้งในหลุมฝังกลบ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการควบคุมระบบนี้ - ต้องติดตามว่าการใช้งานจริงจะมีข้อจำกัดด้านพลังงานและความทนทานของอุปกรณ์หรือไม่ - การนำสมาร์ทโฟนเก่ามาใช้ใหม่อาจต้องมีมาตรการป้องกันข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เดิม - ต้องรอดูว่าทีมวิจัยจะสามารถพัฒนาให้ระบบนี้ใช้งานได้ง่ายและมีต้นทุนต่ำหรือไม่ หากแนวคิดนี้ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม อาจช่วยให้สามารถนำสมาร์ทโฟนเก่าหลายล้านเครื่องกลับมาใช้ใหม่ และ ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลแบบ Edge Computing มีต้นทุนต่ำลง https://www.tomshardware.com/desktops/servers/researchers-convert-old-phones-into-tiny-data-centers-deploy-one-underwater-for-marine-monitoring
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Researchers convert old phones into 'tiny data centers' — deploy one underwater for marine monitoring
    This will reduce e-waste while making edge devices more accessible and affordable.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาลำดับอันจำกัดแห่งปัจจัยของการละ-กาม-รูป-อรูปราคะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 648
    ชื่อบทธรรม :- ลำดับอันจำกัดแห่งปัจจัยของการละ-กาม-รูป-อรูปราคะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=648
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ขั้นตอนอันจำกัดแห่งปัจจัยของการละ-กาม-รูป-อรูปราคะ
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้นหนอ เป็นผู้มีมิตรชั่ว มีสหายชั่ว มีเพื่อนชั่ว,
    เมื่อ เสพ คบ คลุกคลีอยู่กับพวกชั่ว และ
    ถือเอาทิฏฐานุคติของบุคคลเหล่านั้นอยู่ แล้ว
    จักกระทำอภิสมาจาริกธรรม*--๑ ให้บริบูรณ์ได้ นั้นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/472/?keywords=อภิสมาจาริกํ+ธมฺมํ
    เมื่อไม่กระทำอภิสมาจาริกธรรมให้บริบูรณ์แล้ว จักกระทำเสขธรรม (ธรรมที่ควรศึกษาสูงขึ้นไป)
    ให้บริบูรณ์ได้ นั้นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ;

    เมื่อไม่กระทำเสขธรรมให้บริบูรณ์แล้ว
    จักกระทำศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์ได้
    นั้นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ;
    เมื่อไม่กระทำศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์แล้ว
    จักละกามราคะ หรือรูปราคะ หรืออรูปราคะได้
    นั้นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้.

    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้นหนอ เป็นผู้ มี มิตรดี มี สหายดี มี เพื่อนดี,
    http://etipitaka.com/read/pali/22/472/?keywords=กลฺยาณมิตฺ
    เมื่อ เสพ คบ คลุกคลีอยู่กับพวกมิตรดี และ
    ถือเอาทิฏฐานุคติของบุคคลเหล่านั้นอยู่
    แล้วจักกระทำอภิสมาจาริกธรรมให้บริบูรณ์ได้ นั้นเป็นฐานะที่จะมีได้ ;
    เมื่อกระทำอภิสมาจาริกธรรมให้บริบูรณ์แล้ว
    จักกระทำเสขธรรมให้บริบูรณ์ได้ นั้นเป็นฐานะที่มีได้ ;
    เมื่อกระทำเสขธรรมให้บริบูรณ์แล้ว
    จักกระทำศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์ได้ นั้นเป็นฐานะที่มีได้ ;
    เมื่อกระทำศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์ แล้ว
    จักละกามราคะ หรือรูปราคะ หรืออรูปราคะได้
    นั้นเป็นฐานะที่มีได้ แล.-

    *--๑. ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า อภิสมาจาริกธรรม
    กล่าวคือการปฏิบัติวัตรหรือมรรยาทที่สาธุชนทั่วไป
    จะพึงปฏิบัติในบ้านเรือน เพื่อนพ้อง และสังคมทั่วไป
    นี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยในการปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุธรรมในขั้นสูง ;
    กล่าวสรุปสั้นๆ ก็ว่า ไม่กระทำให้เกิดความเหมาะสมในการที่จะเป็นนักศึกษา.
    ขอให้ทุกคนทำการชำระสะสางอภิสมาจาริกธรรมของตน ๆ
    ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นเรื่องแรกเสียก่อน.

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่#สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/375/338.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/375/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๗๒/๓๓๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/472/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%98
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=648
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=648
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44
    ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาลำดับอันจำกัดแห่งปัจจัยของการละ-กาม-รูป-อรูปราคะ สัทธรรมลำดับที่ : 648 ชื่อบทธรรม :- ลำดับอันจำกัดแห่งปัจจัยของการละ-กาม-รูป-อรูปราคะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=648 เนื้อความทั้งหมด :- --ขั้นตอนอันจำกัดแห่งปัจจัยของการละ-กาม-รูป-อรูปราคะ --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้นหนอ เป็นผู้มีมิตรชั่ว มีสหายชั่ว มีเพื่อนชั่ว, เมื่อ เสพ คบ คลุกคลีอยู่กับพวกชั่ว และ ถือเอาทิฏฐานุคติของบุคคลเหล่านั้นอยู่ แล้ว จักกระทำอภิสมาจาริกธรรม*--๑ ให้บริบูรณ์ได้ นั้นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ; http://etipitaka.com/read/pali/22/472/?keywords=อภิสมาจาริกํ+ธมฺมํ เมื่อไม่กระทำอภิสมาจาริกธรรมให้บริบูรณ์แล้ว จักกระทำเสขธรรม (ธรรมที่ควรศึกษาสูงขึ้นไป) ให้บริบูรณ์ได้ นั้นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ; เมื่อไม่กระทำเสขธรรมให้บริบูรณ์แล้ว จักกระทำศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์ได้ นั้นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ; เมื่อไม่กระทำศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์แล้ว จักละกามราคะ หรือรูปราคะ หรืออรูปราคะได้ นั้นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้นหนอ เป็นผู้ มี มิตรดี มี สหายดี มี เพื่อนดี, http://etipitaka.com/read/pali/22/472/?keywords=กลฺยาณมิตฺ เมื่อ เสพ คบ คลุกคลีอยู่กับพวกมิตรดี และ ถือเอาทิฏฐานุคติของบุคคลเหล่านั้นอยู่ แล้วจักกระทำอภิสมาจาริกธรรมให้บริบูรณ์ได้ นั้นเป็นฐานะที่จะมีได้ ; เมื่อกระทำอภิสมาจาริกธรรมให้บริบูรณ์แล้ว จักกระทำเสขธรรมให้บริบูรณ์ได้ นั้นเป็นฐานะที่มีได้ ; เมื่อกระทำเสขธรรมให้บริบูรณ์แล้ว จักกระทำศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์ได้ นั้นเป็นฐานะที่มีได้ ; เมื่อกระทำศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์ แล้ว จักละกามราคะ หรือรูปราคะ หรืออรูปราคะได้ นั้นเป็นฐานะที่มีได้ แล.- *--๑. ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า อภิสมาจาริกธรรม กล่าวคือการปฏิบัติวัตรหรือมรรยาทที่สาธุชนทั่วไป จะพึงปฏิบัติในบ้านเรือน เพื่อนพ้อง และสังคมทั่วไป นี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยในการปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุธรรมในขั้นสูง ; กล่าวสรุปสั้นๆ ก็ว่า ไม่กระทำให้เกิดความเหมาะสมในการที่จะเป็นนักศึกษา. ขอให้ทุกคนทำการชำระสะสางอภิสมาจาริกธรรมของตน ๆ ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นเรื่องแรกเสียก่อน. #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่​ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/375/338. http://etipitaka.com/read/thai/22/375/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๗๒/๓๓๘. http://etipitaka.com/read/pali/22/472/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=648 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=648 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44 ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ขั้นตอนอันจำกัดแห่งปัจจัยของการละ
    -ขั้นตอนอันจำกัดแห่งปัจจัยของการละ กาม - รูป – อรูปราคะ ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้นหนอ เป็นผู้มีมิตรชั่ว มีสหายชั่ว มีเพื่อนชั่ว, เมื่อ เสพ คบ คลุกคลีอยู่กับพวกชั่ว และถือเอาทิฏฐานุคติของบุคคลเหล่านั้นอยู่ แล้วจักกระทำอภิสมาจาริกธรรมให้บริบูรณ์ได้ นั้นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ;๑ เมื่อไม่กระทำอภิสมาจาริกธรรมให้บริบูรณ์แล้ว จักกระทำเสขธรรม (ธรรมที่ควรศึกษาสูงขึ้นไป) ให้บริบูรณ์ได้ นั้นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ; เมื่อไม่กระทำเสขธรรมให้บริบูรณ์แล้ว จักกระทำศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์ได้ นั้นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ; เมื่อไม่กระทำศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์แล้ว จักละกามราคะ หรือรูปราคะ หรืออรูปราคะได้ นั้นไม่เป็นฐานะที่จะมีได้. ภิกษุ ท. ! ภิกษุนั้นหนอ เป็นผู้ มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี, เมื่อ เสพ คบ คลุกคลีอยู่กับพวกมิตรดี และถือเอาทิฏฐานุคติของบุคคลเหล่านั้นอยู่ แล้วจักกระทำอภิสมาจาริกธรรมให้บริบูรณ์ได้ นั้นเป็นฐานะที่จะมีได้ ; เมื่อกระทำอภิสมาจาริกธรรมให้บริบูรณ์แล้ว จักกระทำเสขธรรมให้บริบูรณ์ได้ นั้นเป็นฐานะที่มีได้ ; เมื่อกระทำเสขธรรมให้บริบูรณ์แล้ว จักกระทำศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์ได้ นั้นเป็นฐานะที่มีได้ ; เมื่อกระทำศีลทั้งหลายให้บริบูรณ์ แล้วจักละกามราคะ หรือรูปราคะ หรืออรูปราคะได้ นั้นเป็นฐานะที่มีได้ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ขัดขวางทุกวิถีทาง เพื่อหยุดทีมนักเคลื่อนไหวที่นำโดย เกรต้า ธันเบิร์ก นักเคลื่อนไหวสาวชาวสวีเดนพาเรือ "แมดลีน" (Madeleine) ที่บรรทุกสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังกาซา ซึ่งถือเป็นการท้าทายอำนาจของกองกำลังอิสราเอลในการปิดล้อมกาซา

    “ผมมีคำสั่งอย่างเด็ดขาดไปยังกองกำลังอิสราเอลให้ดำเนินการทุกอย่าง เพื่อไม่ให้กองเรือ ‘แมดลีน’ เดินทางมาถึงกาซา ผมขอพูดอย่างชัดเจนถึงเกรตาผู้ต่อต้านชาวยิวและเพื่อนๆ ของเธอว่า คุณต้องถอยกลับ เพราะคุณจะไม่มีวันไปถึงกาซาอย่างแน่นอน

    อิสราเอลจะไม่อนุญาตให้ใครก็ตามที่ละเมิดกฎการการปิดล้อมในกาซา ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือฮามาสองค์กรก่อการร้ายที่โหดเหี้ยมที่จับตัวประกันของเรา และก่ออาชญากรรมสงคราม” แคทซ์ กล่าวอย่างไม่อายใคร!
    อิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ขัดขวางทุกวิถีทาง เพื่อหยุดทีมนักเคลื่อนไหวที่นำโดย เกรต้า ธันเบิร์ก นักเคลื่อนไหวสาวชาวสวีเดนพาเรือ "แมดลีน" (Madeleine) ที่บรรทุกสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปยังกาซา ซึ่งถือเป็นการท้าทายอำนาจของกองกำลังอิสราเอลในการปิดล้อมกาซา “ผมมีคำสั่งอย่างเด็ดขาดไปยังกองกำลังอิสราเอลให้ดำเนินการทุกอย่าง เพื่อไม่ให้กองเรือ ‘แมดลีน’ เดินทางมาถึงกาซา ผมขอพูดอย่างชัดเจนถึงเกรตาผู้ต่อต้านชาวยิวและเพื่อนๆ ของเธอว่า คุณต้องถอยกลับ เพราะคุณจะไม่มีวันไปถึงกาซาอย่างแน่นอน อิสราเอลจะไม่อนุญาตให้ใครก็ตามที่ละเมิดกฎการการปิดล้อมในกาซา ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือฮามาสองค์กรก่อการร้ายที่โหดเหี้ยมที่จับตัวประกันของเรา และก่ออาชญากรรมสงคราม” แคทซ์ กล่าวอย่างไม่อายใคร!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลับเถิดปวงประชา ทหารกล้าจะคุ้มภัย
    Mobile phone wallpapers
    ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    หลับเถิดปวงประชา ทหารกล้าจะคุ้มภัย Mobile phone wallpapers ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนอดีตปี 2560 ที่เขมรเคยมีปัญหาชายแดนกับลาว ใช้มุกเดิมให้สื่อโจมตี หาว่าลาวรุกล้ำดินแดนก่อน แต่เจอนายกฯลาวเอาจริง สั่งปิดด่านพร้อมส่งทหารตรึงกำลัง สุดท้าย ฮุนเซ็นต้องบินไปเจรจา จับมือกับทองลุน แถลงข่าวต่อหน้าสื่อ บอกว่า 2 ฝ่าย ตกลงกันได้แล้ว

    ปัญหาชายแดนที่ฝ่ายกัมพูชามักตีขลุมอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนและกล่าวหาประเทศเพื่อนบ้านว่าเป็นฝ่ายรุกล้ำเข้าไปก่อน ไม่ใช่เคยเกิดกับประเทศไทยเป็นครั้งแรก แต่กับ สปป.ลาว เพื่อนร่วมอุดมการณ์ในพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วเช่นกัน ในยุคที่กัมพูชามีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อฮุนเซ็น

    ระหว่างวันที่ 4-6 เมษายน 2560 ได้ความตึงเครียดตามแนวชายแดนลาว-กัมพูชา ถึงขั้นที่ทางการลาวต้องสั่งปิดพรมแดน และกองทัพประชาชนลาวต้องส่งกำลังทหารไปประจำการบริเวณโดยรอบบริเวณที่เกิดข้อพิพาท ซึ่งได้แก่จุดผ่านแดนเวินคาม-โอสวาย ระหว่างแขวงจำปาสักกับจังหวัดสตึงแตรง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000053663

    #MGROnline
    ย้อนอดีตปี 2560 ที่เขมรเคยมีปัญหาชายแดนกับลาว ใช้มุกเดิมให้สื่อโจมตี หาว่าลาวรุกล้ำดินแดนก่อน แต่เจอนายกฯลาวเอาจริง สั่งปิดด่านพร้อมส่งทหารตรึงกำลัง สุดท้าย ฮุนเซ็นต้องบินไปเจรจา จับมือกับทองลุน แถลงข่าวต่อหน้าสื่อ บอกว่า 2 ฝ่าย ตกลงกันได้แล้ว • ปัญหาชายแดนที่ฝ่ายกัมพูชามักตีขลุมอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนและกล่าวหาประเทศเพื่อนบ้านว่าเป็นฝ่ายรุกล้ำเข้าไปก่อน ไม่ใช่เคยเกิดกับประเทศไทยเป็นครั้งแรก แต่กับ สปป.ลาว เพื่อนร่วมอุดมการณ์ในพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วเช่นกัน ในยุคที่กัมพูชามีนายกรัฐมนตรีที่ชื่อฮุนเซ็น • ระหว่างวันที่ 4-6 เมษายน 2560 ได้ความตึงเครียดตามแนวชายแดนลาว-กัมพูชา ถึงขั้นที่ทางการลาวต้องสั่งปิดพรมแดน และกองทัพประชาชนลาวต้องส่งกำลังทหารไปประจำการบริเวณโดยรอบบริเวณที่เกิดข้อพิพาท ซึ่งได้แก่จุดผ่านแดนเวินคาม-โอสวาย ระหว่างแขวงจำปาสักกับจังหวัดสตึงแตรง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000053663 • #MGROnline
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • พูดถึงองครักษ์เสื้อแพรไปมากพอสมควร วันนี้เราเลยมาคุยกันถึงอีกหน่วยงานหนึ่งที่ปรากฎให้เห็นในละครจีนโบราณหลายเรื่อง ซึ่งก็คือ ‘ลิ่วซ่านเหมิน’ (六扇门)

    ความมีอยู่ว่า
    ...จินเซี่ยคอตกหมุนกายกลับมา ชำเลืองมองหยางเฉิงว่าน “หัวหน้า ท่านยอมมันเกินไปแล้ว ท่านว่ามันเป็นคนของใคร? คดีของลิ่วซ่านเหมินไม่เหลียวแล แต่กลับส่งมอบคนออกไป ใครบ้างไม่รู้ว่ามันกำลังพยายามประจบองครักษ์เสื้อแพร?”... “โอรสสวรรค์ปราบปรามลงทัณฑ์คนผิด มีซานฝ่าซึก็เพียงพอแล้ว ยังต้องตั้งองครักษ์เสื้อแพรมาทำให้วุ่นวายเป็นอุปสรรค แล้วยังจะมีซานฝ่าซึไว้ทำอันใด มีเหมือนไม่มี!”
    - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ
    (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    ลิ่วซ่านเหมินฟังดูเป็นหน่วยมือปราบ แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วลิ่วซ่านเหมินไม่ใช่องค์กรใดองค์กรหนึ่ง (!?)

    ชื่อเรียกที่ถูกต้องเป็นทางการของมันคือ ‘ซานฝ่าซึ’ (三法司) ที่เกริ่นถึงในบทความข้างต้น เป็นการเรียกรวมของสามหน่วยงานที่เกี่ยวกับกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย เริ่มปรากฎในสมัยราชวงศ์ฉิน (221-206 ก่อนคริสตกาล) เมื่อจิ๋นซีฮ่องเต้ทรงตั้งตำแหน่งสำคัญมากขึ้นสามตำแหน่งเรียกรวมว่า ‘ซานกง’ หรือสามพระยา คือเฉิงเซี่ยง (อำมาตย์ผู้ช่วย บริหารงานราชการทั่วไป) ไท่เว่ย (มหาเสนาบดี ดูแลฝ่ายทหาร) และอวี้สื่อต้าฟู (ตุลาการสูงสุด เป็นผู้ตรวจสอบ)
    ต่อมาในแต่ละสมัยมีการเปลี่ยนแปลงหน้าที่และชื่อเรียกของหน่วยงานต่างๆ แต่ยังคงหลักการเดิมว่ามีสามหน่วยงานหลักที่ร่วมผดุงกฎหมาย เรียกรวมว่า ‘ซันฝ่าซึ’

    ในสมัยราชวงศ์หมิง สามหน่วยงานนี้คือ สิงปู้ (刑部 รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน) ต้าหลี่ซึ (大理寺 ไว้พิพากษา) ตูฉาย่วน (都察院 ไว้กำกับตรวจสอบ) หากมีคดีใหญ่จะไต่สวนและพิพากษาร่วมกัน

    แล้วทำไมจึงเรียกว่า ลิ่วซ่านเหมิน’?

    แฟนละครจีนโบราณคงคุ้นเคยว่าเวลาเกิดเรื่องอะไร ชาวบ้านจะวิ่งไปฟ้องร้องที่สถานที่หนึ่ง ศาลก็ไม่ใช่ สำนักมือปราบก็ไม่เชิง หน้าตาคล้ายที่ว่าการอำเภอ สถานที่นี้เรียกว่า ‘หยาเหมิน’ (衙门) ไม่แน่ใจว่าในนิยาย/ละครแปลไทยว่าอย่างไร แต่มันก็คือที่ว่าการท้องถิ่น ว่าการโดยข้าราชการสูงสุดผู้ดูแลพื้นที่ ไม่ระบุตายตัวว่าต้องสังกัดหน่วยงานใด

    ‘ลิ่วซ่านเหมิน’ ก็คือชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการของหยาเหมิน แปลชื่อตรงตัวว่า ‘ประตูหกบาน’ ที่มาก็คือว่า ไม่ว่าจะเป็นเมืองเล็กหรือเมืองใหญ่ หยาเหมินจะมีรูปทรงอาคารเดียวกัน คือมีช่องประตูเพียงสามช่อง หันหน้าทิศใต้ ตะวันออกและตะวันตก หนึ่งทิศหนึ่งช่อง ประตูหลักที่ใช้เข้าออกทั่วไปจะหันหน้าทิศใต้ ช่องประตูที่ว่านี้ก่อตั้งขึ้นเป็นอาคารประตูใหญ่มีหลังคา (ดูรูปขวาล่าง) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ชาวบ้านทั่วไปใช้ไม่ได้ ต้องเป็นที่ทำการของหลวงเท่านั้นจึงจะใช้ได้ แต่ละช่องประตูจะมีสองบาน รวมเป็นประตูหกบาน

    ดังนั้น จริงๆ แล้ว คนของลิ่วซ่านเหมินจะหมายรวมถึงทุกคนที่ทำงานในหยาเหมิน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานด้านสอบสวน ดูแลคุก เสมียนกฎหมาย ฯลฯ และมาจากหน่วยงานต่างๆ ที่เรียกรวมว่าซานฝ่าซึนั่นเอง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.twoeggz.com/news/8249892.html
    https://www.wenshigu.com/shbt/lishiju/221015.html
    https://www.52lishi.com/article/40895.html
    https://k.sina.cn/article_1346138855_503c72e700100tjeb.html
    https://m.52lishi.com/article/64869.html

    #จินเซี่ย #ลิ่วซ่านเหมิน #มือปราบจีนโบราณ #ราชวงศ์หมิง #หยาเหมิน #ซันฝ่าซึ #ซานฝ่าซึ
    พูดถึงองครักษ์เสื้อแพรไปมากพอสมควร วันนี้เราเลยมาคุยกันถึงอีกหน่วยงานหนึ่งที่ปรากฎให้เห็นในละครจีนโบราณหลายเรื่อง ซึ่งก็คือ ‘ลิ่วซ่านเหมิน’ (六扇门) ความมีอยู่ว่า ...จินเซี่ยคอตกหมุนกายกลับมา ชำเลืองมองหยางเฉิงว่าน “หัวหน้า ท่านยอมมันเกินไปแล้ว ท่านว่ามันเป็นคนของใคร? คดีของลิ่วซ่านเหมินไม่เหลียวแล แต่กลับส่งมอบคนออกไป ใครบ้างไม่รู้ว่ามันกำลังพยายามประจบองครักษ์เสื้อแพร?”... “โอรสสวรรค์ปราบปรามลงทัณฑ์คนผิด มีซานฝ่าซึก็เพียงพอแล้ว ยังต้องตั้งองครักษ์เสื้อแพรมาทำให้วุ่นวายเป็นอุปสรรค แล้วยังจะมีซานฝ่าซึไว้ทำอันใด มีเหมือนไม่มี!” - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) ลิ่วซ่านเหมินฟังดูเป็นหน่วยมือปราบ แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วลิ่วซ่านเหมินไม่ใช่องค์กรใดองค์กรหนึ่ง (!?) ชื่อเรียกที่ถูกต้องเป็นทางการของมันคือ ‘ซานฝ่าซึ’ (三法司) ที่เกริ่นถึงในบทความข้างต้น เป็นการเรียกรวมของสามหน่วยงานที่เกี่ยวกับกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย เริ่มปรากฎในสมัยราชวงศ์ฉิน (221-206 ก่อนคริสตกาล) เมื่อจิ๋นซีฮ่องเต้ทรงตั้งตำแหน่งสำคัญมากขึ้นสามตำแหน่งเรียกรวมว่า ‘ซานกง’ หรือสามพระยา คือเฉิงเซี่ยง (อำมาตย์ผู้ช่วย บริหารงานราชการทั่วไป) ไท่เว่ย (มหาเสนาบดี ดูแลฝ่ายทหาร) และอวี้สื่อต้าฟู (ตุลาการสูงสุด เป็นผู้ตรวจสอบ) ต่อมาในแต่ละสมัยมีการเปลี่ยนแปลงหน้าที่และชื่อเรียกของหน่วยงานต่างๆ แต่ยังคงหลักการเดิมว่ามีสามหน่วยงานหลักที่ร่วมผดุงกฎหมาย เรียกรวมว่า ‘ซันฝ่าซึ’ ในสมัยราชวงศ์หมิง สามหน่วยงานนี้คือ สิงปู้ (刑部 รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน) ต้าหลี่ซึ (大理寺 ไว้พิพากษา) ตูฉาย่วน (都察院 ไว้กำกับตรวจสอบ) หากมีคดีใหญ่จะไต่สวนและพิพากษาร่วมกัน แล้วทำไมจึงเรียกว่า ลิ่วซ่านเหมิน’? แฟนละครจีนโบราณคงคุ้นเคยว่าเวลาเกิดเรื่องอะไร ชาวบ้านจะวิ่งไปฟ้องร้องที่สถานที่หนึ่ง ศาลก็ไม่ใช่ สำนักมือปราบก็ไม่เชิง หน้าตาคล้ายที่ว่าการอำเภอ สถานที่นี้เรียกว่า ‘หยาเหมิน’ (衙门) ไม่แน่ใจว่าในนิยาย/ละครแปลไทยว่าอย่างไร แต่มันก็คือที่ว่าการท้องถิ่น ว่าการโดยข้าราชการสูงสุดผู้ดูแลพื้นที่ ไม่ระบุตายตัวว่าต้องสังกัดหน่วยงานใด ‘ลิ่วซ่านเหมิน’ ก็คือชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการของหยาเหมิน แปลชื่อตรงตัวว่า ‘ประตูหกบาน’ ที่มาก็คือว่า ไม่ว่าจะเป็นเมืองเล็กหรือเมืองใหญ่ หยาเหมินจะมีรูปทรงอาคารเดียวกัน คือมีช่องประตูเพียงสามช่อง หันหน้าทิศใต้ ตะวันออกและตะวันตก หนึ่งทิศหนึ่งช่อง ประตูหลักที่ใช้เข้าออกทั่วไปจะหันหน้าทิศใต้ ช่องประตูที่ว่านี้ก่อตั้งขึ้นเป็นอาคารประตูใหญ่มีหลังคา (ดูรูปขวาล่าง) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ชาวบ้านทั่วไปใช้ไม่ได้ ต้องเป็นที่ทำการของหลวงเท่านั้นจึงจะใช้ได้ แต่ละช่องประตูจะมีสองบาน รวมเป็นประตูหกบาน ดังนั้น จริงๆ แล้ว คนของลิ่วซ่านเหมินจะหมายรวมถึงทุกคนที่ทำงานในหยาเหมิน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานด้านสอบสวน ดูแลคุก เสมียนกฎหมาย ฯลฯ และมาจากหน่วยงานต่างๆ ที่เรียกรวมว่าซานฝ่าซึนั่นเอง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.twoeggz.com/news/8249892.html https://www.wenshigu.com/shbt/lishiju/221015.html https://www.52lishi.com/article/40895.html https://k.sina.cn/article_1346138855_503c72e700100tjeb.html https://m.52lishi.com/article/64869.html #จินเซี่ย #ลิ่วซ่านเหมิน #มือปราบจีนโบราณ #ราชวงศ์หมิง #หยาเหมิน #ซันฝ่าซึ #ซานฝ่าซึ
    PPnix - Watch TV Shows Online, Watch Movies Online
    Watch PPnix movies & TV shows online or stream right to your smart TV, game console, PC, Mac, mobile, tablet and more.
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • Facebook cover
    ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    Facebook cover ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปลี่ยนเรื่องบ้าง,
    ..กรณีข่าวไม่กี่เดือนมานีั ปัจจุบันไม่รู้ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกขนาดไหน,
    ..สื่อหลักไทยเราบวกทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสุดท้ายก็เลวชั่วปกติ,ไม่ยอมบอกความจริงแก่คนไทยทั้งประเทศ สร้างข่่าวนั้นนี้โน้นบิดเบือนกลบกระแสข่าวลักษณะนี้ไปตลอดหรืออะไรๆที่เป็นโรคเกิดขึ้น มาแปลกๆใหม่ๆวูบๆตาย มะเร็ง เอดส์ และอื่นใด ก็ไม่บอกค่าจริงว่ามาจากวัคซีนยุคโควิดนั้นล่ะที่เริ่มออกฤทธิ์ออกเดชแล้วและจะทวีคูณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแก่คนไทยที่ไปทราบความจริง,ทำการรักษาพิษขับออกไม่ทันเท่าที่จะขับออกหรือทำให้มีสถานะร่างกายใกล้ค่าใกล้เคียงความปกติที่สุด,พื้นๆในวัคซีนmRNAนี้ มีแน่นอนเชื้อมะเร็งเชื้อเอดส์เชื้อหวัดนกกลายพันธุ์ด้วยตนเองตลอดเวลารวมเป็นหนึ่งเดียวภายในเซลล์หลอกโปรตีนหนามนี้,เป็นแตกออกในร่างกายหลังรับวัคซีนไปก็เริ่มทำงานจนออกฤทธิ์เห็นผลในปัจจุบัน ทำลายภูมิคุ้มกันตนเองคนไทยคนนั้นลงเรื่อยๆ ทั้งสามารถแผ่เชื้อเป็นพาหะติดต่อคนปกติได้อีกด้วยใน1,291โรคเอาแต่ใครคนไทยจะเจอแบบไหน รับอะไรเข้าไปในร่างกายจะติดเชื้อนั้นๆง่ายสบาย กำแพงต้านข้าศึกถูกทำลายโรคและเชื้อโรคต่างๆจากภายนอกร่างกายย่อมก่อเกิดสร้างสาระพัดอาการโรคได้ง่ายนั้นเอง ตุยง่ายๆแค่แพ้จากมดกัด ต่อแตนตอดก็มี,พะาเอดส์ที่มีในวัคซีนทุกๆขวดที่ฉีดให้คนไทยไป โดยเฉพาะเด็กๆเยาวชนคนนักเรียนนักศึกษาเราแล้วก็โยนความผิดว่าไม่สวมใส่ถุงยางอนามัยล่ะ,ไม่สืบหาความจริง ทั้งที่กูรูมากมายแบบอาจารย์แพทย์ต่างๆที่ตื่นรู้แล้วได้รวมตัวกันบุกถึงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทางตรงมีเอกสารหลักฐานะยานหรือศาลตัดสินให้เยียวยาแล้วก็มี,กลับยังหลอกลวงคนไทยให้หลงทางสร้างความไม่รู้จริงอยู่ตลอดเวลาจนถึงปัจจุบัน,จึงสมควรเปลี่ยนรัฐบาลจริงๆยึดอำนาจโดยทหารพระราชาเราด้วย,ค่าจริงความจริงมีหนึ่งเดียวจะได้ประกาศบอกคนไทยอย่างเป็นทางการเสียทีแล้วร่วมสามัคคีกันเยียวยารักษาด้วยแพทย์สมุนไพรไทยและคู่ขนานรักษาแพทย์ล้ำยุคสมัยใหม่คลื่นความถี่ดีๆรักษาโรคหรือกึ่งหุ่นยนต์เพื่อรักษาชีวิตก็ว่าไว้,และหากเตียงความถี่รักษามีจริงของต่างดาวเช่นเตียงmedbedก็ว่ารักษาทุกๆโรคแบบสไตล์ล้ำต่างดาวส่วนเสี่ยวหนึ่งก็คงดี,ไม่ถึงขนาดดึงจิตวิญญาณใส่ตัวโคลนใหม่ที่โหลดความทรงจำเดิมของร่างเก่าสู่ร่างใหม่ก็ได้หรือเหลือแค่ชิ้นส่วนdnaคนนั้นแล้วสร้างใหม่งอกใหม่ทั้งตัวแบบไอ้เชลดราก้อนบอลก็ว่า,แต่กูรูหลายท่านเชื่อว่าเตียงmedbedนี้มีจริงโดยต่างดาวใต้โลกกลวงนี้ล่ะสร้างมีของจริงๆก็ว่าและกำลังนำขึ้นมาผิวโลกให้คนยุคสมัยใหม่ที่รอดใช้,รอดจากการคัดคนของพวกมันก็ว่าอีกล่ะ,หรือหลงเหลือจากการเก็บเกี่ยวก็ไม่รู้อีก.สรุปเอดส์มาจากวัคซีนและเริ่มออกฤทธิ์ของจริงให้เห็นแล้ว,เราหลายคนเป็นคนผีบ้าที่ถูกดูถูกสาระพัดในช่วงเวลานั้น,เตือนสาระพัดวิธีด้วยความหวังดีให้มีเพื่อนร่วมโลกร่วมมีอยู่หรือหลงเหลือบ้างบนโลกใบนี้ก็ว่า,มิใช่ข้าคือตำนานก็ว่า,แล้วผลสะท้อนกลับ555ไอ้นี้มันบ้าพะนะ.
    https://youtu.be/GEE3-XzcFEA?si=hISNcXLIb6iNu-oF
    เปลี่ยนเรื่องบ้าง, ..กรณีข่าวไม่กี่เดือนมานีั ปัจจุบันไม่รู้ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกขนาดไหน, ..สื่อหลักไทยเราบวกทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสุดท้ายก็เลวชั่วปกติ,ไม่ยอมบอกความจริงแก่คนไทยทั้งประเทศ สร้างข่่าวนั้นนี้โน้นบิดเบือนกลบกระแสข่าวลักษณะนี้ไปตลอดหรืออะไรๆที่เป็นโรคเกิดขึ้น มาแปลกๆใหม่ๆวูบๆตาย มะเร็ง เอดส์ และอื่นใด ก็ไม่บอกค่าจริงว่ามาจากวัคซีนยุคโควิดนั้นล่ะที่เริ่มออกฤทธิ์ออกเดชแล้วและจะทวีคูณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแก่คนไทยที่ไปทราบความจริง,ทำการรักษาพิษขับออกไม่ทันเท่าที่จะขับออกหรือทำให้มีสถานะร่างกายใกล้ค่าใกล้เคียงความปกติที่สุด,พื้นๆในวัคซีนmRNAนี้ มีแน่นอนเชื้อมะเร็งเชื้อเอดส์เชื้อหวัดนกกลายพันธุ์ด้วยตนเองตลอดเวลารวมเป็นหนึ่งเดียวภายในเซลล์หลอกโปรตีนหนามนี้,เป็นแตกออกในร่างกายหลังรับวัคซีนไปก็เริ่มทำงานจนออกฤทธิ์เห็นผลในปัจจุบัน ทำลายภูมิคุ้มกันตนเองคนไทยคนนั้นลงเรื่อยๆ ทั้งสามารถแผ่เชื้อเป็นพาหะติดต่อคนปกติได้อีกด้วยใน1,291โรคเอาแต่ใครคนไทยจะเจอแบบไหน รับอะไรเข้าไปในร่างกายจะติดเชื้อนั้นๆง่ายสบาย กำแพงต้านข้าศึกถูกทำลายโรคและเชื้อโรคต่างๆจากภายนอกร่างกายย่อมก่อเกิดสร้างสาระพัดอาการโรคได้ง่ายนั้นเอง ตุยง่ายๆแค่แพ้จากมดกัด ต่อแตนตอดก็มี,พะาเอดส์ที่มีในวัคซีนทุกๆขวดที่ฉีดให้คนไทยไป โดยเฉพาะเด็กๆเยาวชนคนนักเรียนนักศึกษาเราแล้วก็โยนความผิดว่าไม่สวมใส่ถุงยางอนามัยล่ะ,ไม่สืบหาความจริง ทั้งที่กูรูมากมายแบบอาจารย์แพทย์ต่างๆที่ตื่นรู้แล้วได้รวมตัวกันบุกถึงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องทางตรงมีเอกสารหลักฐานะยานหรือศาลตัดสินให้เยียวยาแล้วก็มี,กลับยังหลอกลวงคนไทยให้หลงทางสร้างความไม่รู้จริงอยู่ตลอดเวลาจนถึงปัจจุบัน,จึงสมควรเปลี่ยนรัฐบาลจริงๆยึดอำนาจโดยทหารพระราชาเราด้วย,ค่าจริงความจริงมีหนึ่งเดียวจะได้ประกาศบอกคนไทยอย่างเป็นทางการเสียทีแล้วร่วมสามัคคีกันเยียวยารักษาด้วยแพทย์สมุนไพรไทยและคู่ขนานรักษาแพทย์ล้ำยุคสมัยใหม่คลื่นความถี่ดีๆรักษาโรคหรือกึ่งหุ่นยนต์เพื่อรักษาชีวิตก็ว่าไว้,และหากเตียงความถี่รักษามีจริงของต่างดาวเช่นเตียงmedbedก็ว่ารักษาทุกๆโรคแบบสไตล์ล้ำต่างดาวส่วนเสี่ยวหนึ่งก็คงดี,ไม่ถึงขนาดดึงจิตวิญญาณใส่ตัวโคลนใหม่ที่โหลดความทรงจำเดิมของร่างเก่าสู่ร่างใหม่ก็ได้หรือเหลือแค่ชิ้นส่วนdnaคนนั้นแล้วสร้างใหม่งอกใหม่ทั้งตัวแบบไอ้เชลดราก้อนบอลก็ว่า,แต่กูรูหลายท่านเชื่อว่าเตียงmedbedนี้มีจริงโดยต่างดาวใต้โลกกลวงนี้ล่ะสร้างมีของจริงๆก็ว่าและกำลังนำขึ้นมาผิวโลกให้คนยุคสมัยใหม่ที่รอดใช้,รอดจากการคัดคนของพวกมันก็ว่าอีกล่ะ,หรือหลงเหลือจากการเก็บเกี่ยวก็ไม่รู้อีก.สรุปเอดส์มาจากวัคซีนและเริ่มออกฤทธิ์ของจริงให้เห็นแล้ว,เราหลายคนเป็นคนผีบ้าที่ถูกดูถูกสาระพัดในช่วงเวลานั้น,เตือนสาระพัดวิธีด้วยความหวังดีให้มีเพื่อนร่วมโลกร่วมมีอยู่หรือหลงเหลือบ้างบนโลกใบนี้ก็ว่า,มิใช่ข้าคือตำนานก็ว่า,แล้วผลสะท้อนกลับ555ไอ้นี้มันบ้าพะนะ. https://youtu.be/GEE3-XzcFEA?si=hISNcXLIb6iNu-oF
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นี้ล่ะ,อีกส่วนหนึ่ง ว่าทำไม ในยุคสมัยนี้เขมรจึงคือภัยคุกคามอธิปไตยของประเทศไทยและภัยคุกคามการค้ามนุษย์ปล้นชิงคนไทยไปจากแผ่นดินไทยอาจผิดปกติโดยใช้ช่องโว่ของความเมตตากรุณาของสถานะเพื่อนบ้านติดกัน ค้าขายสัมพันธุ์กันอย่างสุจริต,แต่มัน..เขมรกลับไม่ใช่ ใช้เล่ห์กลอุบายมากมายหลอกลวงคนไทยที่บริสุทธิ์ไปกักขังในประเทศเขมรค่าแรงงานคนไทยแบบทารุนผิดมนุษย์ตลอดทำร้ายร่างกายถึงขั้นชีวิตคนไทยกันเลย,
    ..จึงถึงเวลาแบนเขมรแบนคนเขมรแบบทรัมป์ทำกันอย่างจริงจัง,ปิดด่านตลอดพรมแดนจนเขมรจะทำให้เราเชื่อใจได้ว่าเป็นประเทศที่ปลอดภัยจริงเหมือนเพื่อนบ้านคนอื่นๆ.,ตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้า ระเบิดสะพาน ระเบิดถนน ระเบิดทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับเขมร ปิดน่านน้ำพวมแดนทะเลทั้งหมดห้าเขมรเดินเรือผ่าน,ห้ามคนไทยทุกๆคนเดินทางเข้าเขมรทุกๆกรณีไม่มีกำหนด,เขมรหากมาลักพาตัวคนไทยหรือทราบว่าคนไทยถูกเขมรลักพาตัวไป,ระเบิดจะลงสถานที่ราชการเขมรทันทีและต้องส่งตัวคนไทยที่บริสุทธิ์กลับประเทศไทยอย่างมีชีวิตสุขภาพดีแข็งแรง,เช่นนั้นชุมชนคนเขมรจะถูกระเบิดทันที.ด้วยคนเขมรราชการเขมรกระทำผิดต่อคนไทย ลักพาตัวและหลอกลวงหลอกล่อคนไทยที่สุจริตใจไปจากครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาคนไทยเรานั้นๆ.,เขมรกระทำตนไร้มนุษยธรรมก่อนก็ว่า.,ตำรวจสากลหรือทหารสากลโลกสามารถเข้าล้อมทั้งเมืองเพื่อตรวจค้นทุกๆตึกในประเทศเขมรทันที,ตึกใดใครเป็นเจ้าของกระทำสิ่งชั่ว คนๆนั้นจะถูกไล่ล่าระดับสากลโลกจะไม่มีที่ซ่อนในแต่ละประเทศที่มันหลบหนีไปทั้งหมดจะถูกจับกุมทุกๆกรณี.,
    ..โลกเราจะมีประเทศชั่วๆนี้ประจำโลกทำไมและเป็นสถานที่ให้คนชั่วทั่วโลกออกมาสร้างความชั่วอันเลวร้ายบนแผ่นดินประเทศลักษณะนี้ได้อย่างไร,มนุษย์ชาวโลกทุกๆคนมีสถานะเป็นไท อิสระแห่งสัมมาขีวิตตนมิใช่ให้ชาติคนแบบประเทศเขมรคนเขมรหรือคนที่มาใช้ประเทศเขมรมาหลอกลวงคนทั่วโลกล่อลวงมาอยู่ประเทศนั่นๆแบบประเทศเขมรนี้เป็นต้น จะจีนเทาเอง แขกเทาเอง ฝรั่งเทาเอง หรือเถื่อนๆคนเถื่อนๆเลวๆชั่วๆเทาๆใดๆก็ตามมาทำลักษณะนี้ต้องถูกกำจัดทั้งหมด ถูกไล่ล่าจริงเด็ดหัวทั้งหมดมันคือการค้ามนุษย์ระดับโลกเพื่อทำลายความสุขสงบของชาวโลกคนอื่นๆที่ปกติสุขปกติในวิถีชีวิตใครมันเขา,แต่เสือกมีประเทศลักษณะนี้ เป็นฐานใหญ่ เป็นระดับฮับสถานที่อาคารตึกพร้อมกระทำชั่วแบบนี้,ชาตินั้นๆไม่สมควรมีอยู่ประดับโลก,คนประเทศนั้นๆต้องถูกแบน,ผู้นำประเทศนั้นๆต้องถูกลงโทษสากลระดับโลก,ทหารสากลและตำรวจสากลโลกสามารถเข้าจับกุมช่วยมนุษยชาติโลกประเทศต่างๆนั้นๆที่ถูกลักพาตัวเข้ามาหรือล่อลวงล่อหลอกๆลวงเข้ามา สามารถตัดสินความผิดและลงโทษระดับสากลได้ทันที,ยุคเราต้องล้ำสมัยระดับนี้จริงๆ,องค์กรโลกนี้ต้องเป็นกลางจริงๆด้วยมิใช่อีลิทdeep stateก่อตั้งขึ้นหรือฝ่ายมืดซาตานก่อตั้งขึ้นแบบUNแบบWHOหรือแบบWFEและอื่นๆอีกตรึม,จนโลกไร้ซึ่งความยุติธรรมในปัจจุบัน,ศาลโลกเองก็เหี้ยdeep stateควบคุมครอบงำหมด.
    ..ปิดด่านทั้งหมดตลอดแนวพรมแดนเขมร,ตัดน้ำตัดน้ำมันตัดไฟฟ้า ตัดเน็ต แอปในไทยทั้งหมดให้ทหารสั่งปิดบัญชีและUSERที่เป็นคนเขมรทั้งหมด,บัญชีคนเขมรที่มีเงินฝากไว้ในไทยอายัดบัญชีคนเขมรทั้งหมด,แต่เฉพาะคนเขมรในไทยสามารถติดต่อขอเปิดตังได้เฉพาะตัวบุคคลและต้องออกจากประเทศไทยไปทุกๆกรณี,โดยมีเจ้านายคนไทยมาค้ำประกันด้วยว่ามิใช่เงินที่มาจากความผิดปกติหรือผิดกฎหมายหรือภัยด้านความมั่นคงก่ออาชญากรรมในประเทศไทยหรือก่อการร้ายสนับสนุนเงินทุนก่อการร้ายในไทย,จึงอายัดบัญชีการโอนเงินไปเขมรทั้งหมดตลอดเงินที่เขมรโอนเข้ามาไทยด้วย,จะระงับพักบัญชีอายัดไว้ที่แบงค์ชาติทุกๆกรณีจะมาในรูปแบบตังคริปโตฯดิจิดัลด้วยก็ตามหรือทรัพย์สินตีมูลค่าเป็นเงินใดๆก็ตาม,ตลอดตังที่โอนจากประเทศไทยไปประเทศอื่นแต่อ้อมเข้าเขมร ซึ่งสามารถตรวจสอบติดตามเรียลไทม์อ้างอิงได้,แบงค์ชาติสามารถปิดบัญชีนั้นๆได้ทันทีพร้อมอายัดเงินทั้งหมดได้ด้วย.,
    ..ทุกๆธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องกับเขมรจะหยุดนิ่งห้ามเคลื่อนไหวออกจากประเทศไทยทั้งหมด,เข้าก็ไม่ได้ ออกไปเขมรยิ่งไม่ได้,ใครอ้อมไปเขมรจะบัญชีใดๆจะถูกอายัดทุกๆธุรกรรมทั้งหมดทันทีในกฎอัยการศึกทางทหารนี้,เขมรและคนเขมรคือภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศชาติไทยและความปลอดภัยขั้นสูงสุดแก่ประชาชนคนไทยทุกๆคนและทุกๆกรณี.,
    ..เขมรถ้าตามคลิปนี้จากกูรูแฉออกมาก่อนหน้านี้เป็นอันมาก มีมากมายหลากหลายประเทศที่ตกเป็นเหงื่อและทารุณในประเทศเขมรที่ถูกหลอกลวงล่อลวงเข้าไป,ดังนั้นเขมรไม่ใช่แค่ภัยคุกคามประเทศไทยแต่คือภัยคุกคามของคนอาเชียนของคนเอเชียและของคนทั่วโลกเพราะมีมากมายจากคนทั่วโลกที่ถูกหลอกลวงไปประเทศเขมรโดยทั้งคนเขมรเองและคนชั่วเลวที่อาศัยอยู่เขมร,นั้นคือผู้ปกครองเขมรคือภัยคุกคามร้ายแรงของโลก ละเมิดชีวิตมนุษยชาติบนโลก ไม่เร่งรีบกำจัดคนชั่วในประเทศตนเองที่ปกครอง ปล่อยปะละเลยให้เป็นฮับชั่วก่อสาระพัดเดอะแก๊งประจำประเทศเขมรแล้วปั่นป่วนไปทั่วโลก อาทิแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ไม่น้อยหน้าพม่าแต่อย่างใด,เคสเขมรจึงคือจุดเริ่มต้นในการเริ่มกวาดล้างคนระดับผู้นำที่ปกครองประเทศนั้นๆไปทางชั่วเลวมิให้โลกและคนบนโลกสงบสุขร่วมกันหรืออยู่ร่วมกันอย่างสันติสงบสุขนั้นเอง,ตกประเมินต้องคัดออก.

    https://youtu.be/Y1ZmMbCYwpc?si=3eCvJkaa8GVpKPG7
    ..นี้ล่ะ,อีกส่วนหนึ่ง ว่าทำไม ในยุคสมัยนี้เขมรจึงคือภัยคุกคามอธิปไตยของประเทศไทยและภัยคุกคามการค้ามนุษย์ปล้นชิงคนไทยไปจากแผ่นดินไทยอาจผิดปกติโดยใช้ช่องโว่ของความเมตตากรุณาของสถานะเพื่อนบ้านติดกัน ค้าขายสัมพันธุ์กันอย่างสุจริต,แต่มัน..เขมรกลับไม่ใช่ ใช้เล่ห์กลอุบายมากมายหลอกลวงคนไทยที่บริสุทธิ์ไปกักขังในประเทศเขมรค่าแรงงานคนไทยแบบทารุนผิดมนุษย์ตลอดทำร้ายร่างกายถึงขั้นชีวิตคนไทยกันเลย, ..จึงถึงเวลาแบนเขมรแบนคนเขมรแบบทรัมป์ทำกันอย่างจริงจัง,ปิดด่านตลอดพรมแดนจนเขมรจะทำให้เราเชื่อใจได้ว่าเป็นประเทศที่ปลอดภัยจริงเหมือนเพื่อนบ้านคนอื่นๆ.,ตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้า ระเบิดสะพาน ระเบิดถนน ระเบิดทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับเขมร ปิดน่านน้ำพวมแดนทะเลทั้งหมดห้าเขมรเดินเรือผ่าน,ห้ามคนไทยทุกๆคนเดินทางเข้าเขมรทุกๆกรณีไม่มีกำหนด,เขมรหากมาลักพาตัวคนไทยหรือทราบว่าคนไทยถูกเขมรลักพาตัวไป,ระเบิดจะลงสถานที่ราชการเขมรทันทีและต้องส่งตัวคนไทยที่บริสุทธิ์กลับประเทศไทยอย่างมีชีวิตสุขภาพดีแข็งแรง,เช่นนั้นชุมชนคนเขมรจะถูกระเบิดทันที.ด้วยคนเขมรราชการเขมรกระทำผิดต่อคนไทย ลักพาตัวและหลอกลวงหลอกล่อคนไทยที่สุจริตใจไปจากครอบครัวอันเป็นที่รักของเขาคนไทยเรานั้นๆ.,เขมรกระทำตนไร้มนุษยธรรมก่อนก็ว่า.,ตำรวจสากลหรือทหารสากลโลกสามารถเข้าล้อมทั้งเมืองเพื่อตรวจค้นทุกๆตึกในประเทศเขมรทันที,ตึกใดใครเป็นเจ้าของกระทำสิ่งชั่ว คนๆนั้นจะถูกไล่ล่าระดับสากลโลกจะไม่มีที่ซ่อนในแต่ละประเทศที่มันหลบหนีไปทั้งหมดจะถูกจับกุมทุกๆกรณี., ..โลกเราจะมีประเทศชั่วๆนี้ประจำโลกทำไมและเป็นสถานที่ให้คนชั่วทั่วโลกออกมาสร้างความชั่วอันเลวร้ายบนแผ่นดินประเทศลักษณะนี้ได้อย่างไร,มนุษย์ชาวโลกทุกๆคนมีสถานะเป็นไท อิสระแห่งสัมมาขีวิตตนมิใช่ให้ชาติคนแบบประเทศเขมรคนเขมรหรือคนที่มาใช้ประเทศเขมรมาหลอกลวงคนทั่วโลกล่อลวงมาอยู่ประเทศนั่นๆแบบประเทศเขมรนี้เป็นต้น จะจีนเทาเอง แขกเทาเอง ฝรั่งเทาเอง หรือเถื่อนๆคนเถื่อนๆเลวๆชั่วๆเทาๆใดๆก็ตามมาทำลักษณะนี้ต้องถูกกำจัดทั้งหมด ถูกไล่ล่าจริงเด็ดหัวทั้งหมดมันคือการค้ามนุษย์ระดับโลกเพื่อทำลายความสุขสงบของชาวโลกคนอื่นๆที่ปกติสุขปกติในวิถีชีวิตใครมันเขา,แต่เสือกมีประเทศลักษณะนี้ เป็นฐานใหญ่ เป็นระดับฮับสถานที่อาคารตึกพร้อมกระทำชั่วแบบนี้,ชาตินั้นๆไม่สมควรมีอยู่ประดับโลก,คนประเทศนั้นๆต้องถูกแบน,ผู้นำประเทศนั้นๆต้องถูกลงโทษสากลระดับโลก,ทหารสากลและตำรวจสากลโลกสามารถเข้าจับกุมช่วยมนุษยชาติโลกประเทศต่างๆนั้นๆที่ถูกลักพาตัวเข้ามาหรือล่อลวงล่อหลอกๆลวงเข้ามา สามารถตัดสินความผิดและลงโทษระดับสากลได้ทันที,ยุคเราต้องล้ำสมัยระดับนี้จริงๆ,องค์กรโลกนี้ต้องเป็นกลางจริงๆด้วยมิใช่อีลิทdeep stateก่อตั้งขึ้นหรือฝ่ายมืดซาตานก่อตั้งขึ้นแบบUNแบบWHOหรือแบบWFEและอื่นๆอีกตรึม,จนโลกไร้ซึ่งความยุติธรรมในปัจจุบัน,ศาลโลกเองก็เหี้ยdeep stateควบคุมครอบงำหมด. ..ปิดด่านทั้งหมดตลอดแนวพรมแดนเขมร,ตัดน้ำตัดน้ำมันตัดไฟฟ้า ตัดเน็ต แอปในไทยทั้งหมดให้ทหารสั่งปิดบัญชีและUSERที่เป็นคนเขมรทั้งหมด,บัญชีคนเขมรที่มีเงินฝากไว้ในไทยอายัดบัญชีคนเขมรทั้งหมด,แต่เฉพาะคนเขมรในไทยสามารถติดต่อขอเปิดตังได้เฉพาะตัวบุคคลและต้องออกจากประเทศไทยไปทุกๆกรณี,โดยมีเจ้านายคนไทยมาค้ำประกันด้วยว่ามิใช่เงินที่มาจากความผิดปกติหรือผิดกฎหมายหรือภัยด้านความมั่นคงก่ออาชญากรรมในประเทศไทยหรือก่อการร้ายสนับสนุนเงินทุนก่อการร้ายในไทย,จึงอายัดบัญชีการโอนเงินไปเขมรทั้งหมดตลอดเงินที่เขมรโอนเข้ามาไทยด้วย,จะระงับพักบัญชีอายัดไว้ที่แบงค์ชาติทุกๆกรณีจะมาในรูปแบบตังคริปโตฯดิจิดัลด้วยก็ตามหรือทรัพย์สินตีมูลค่าเป็นเงินใดๆก็ตาม,ตลอดตังที่โอนจากประเทศไทยไปประเทศอื่นแต่อ้อมเข้าเขมร ซึ่งสามารถตรวจสอบติดตามเรียลไทม์อ้างอิงได้,แบงค์ชาติสามารถปิดบัญชีนั้นๆได้ทันทีพร้อมอายัดเงินทั้งหมดได้ด้วย., ..ทุกๆธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้องกับเขมรจะหยุดนิ่งห้ามเคลื่อนไหวออกจากประเทศไทยทั้งหมด,เข้าก็ไม่ได้ ออกไปเขมรยิ่งไม่ได้,ใครอ้อมไปเขมรจะบัญชีใดๆจะถูกอายัดทุกๆธุรกรรมทั้งหมดทันทีในกฎอัยการศึกทางทหารนี้,เขมรและคนเขมรคือภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางอธิปไตยของประเทศชาติไทยและความปลอดภัยขั้นสูงสุดแก่ประชาชนคนไทยทุกๆคนและทุกๆกรณี., ..เขมรถ้าตามคลิปนี้จากกูรูแฉออกมาก่อนหน้านี้เป็นอันมาก มีมากมายหลากหลายประเทศที่ตกเป็นเหงื่อและทารุณในประเทศเขมรที่ถูกหลอกลวงล่อลวงเข้าไป,ดังนั้นเขมรไม่ใช่แค่ภัยคุกคามประเทศไทยแต่คือภัยคุกคามของคนอาเชียนของคนเอเชียและของคนทั่วโลกเพราะมีมากมายจากคนทั่วโลกที่ถูกหลอกลวงไปประเทศเขมรโดยทั้งคนเขมรเองและคนชั่วเลวที่อาศัยอยู่เขมร,นั้นคือผู้ปกครองเขมรคือภัยคุกคามร้ายแรงของโลก ละเมิดชีวิตมนุษยชาติบนโลก ไม่เร่งรีบกำจัดคนชั่วในประเทศตนเองที่ปกครอง ปล่อยปะละเลยให้เป็นฮับชั่วก่อสาระพัดเดอะแก๊งประจำประเทศเขมรแล้วปั่นป่วนไปทั่วโลก อาทิแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ไม่น้อยหน้าพม่าแต่อย่างใด,เคสเขมรจึงคือจุดเริ่มต้นในการเริ่มกวาดล้างคนระดับผู้นำที่ปกครองประเทศนั้นๆไปทางชั่วเลวมิให้โลกและคนบนโลกสงบสุขร่วมกันหรืออยู่ร่วมกันอย่างสันติสงบสุขนั้นเอง,ตกประเมินต้องคัดออก. https://youtu.be/Y1ZmMbCYwpc?si=3eCvJkaa8GVpKPG7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • Mobile wallpapers ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    Mobile wallpapers ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌿 เพื่อนแท้ กับ เส้นทางกรรม

    มนุษย์ไม่ได้ต้องการเพื่อนมากมาย
    แค่ “ไม่กี่คน” ที่จริงใจ
    ก็พอให้ใจไม่รู้สึกเคว้งคว้าง
    กลางโลกที่หมุนเร็วและว่างเปล่า

    แต่เพื่อนแท้...
    ไม่ได้มีไว้แค่ปลอบใจ
    หรือให้ยืมไหล่ยามร้องไห้
    เพื่อนแท้... มีผลต่อเส้นทางกรรมของเรา

    เพื่อนบางคน
    คือผู้ ‘หักเห’ ทางชีวิต
    ให้เราหลงผิด ล้มลุก และพลาดพลั้ง
    แต่เพื่อนบางคน
    คือผู้ ‘ส่งเสริม’
    ให้เราเดินบนทางที่ถูกต้อง
    มีศีล มีปัญญา มีเมตตา
    และมีโอกาสได้ดีทั้งทางโลกและทางธรรม

    ---

    👣 จะพิสูจน์เพื่อนแท้...วัดที่อะไร?

    ไม่ใช่วัดว่า “พร้อมตายไปด้วยกันไหม”
    แต่วัดว่า “พร้อมทำบุญไปด้วยกันไหม?”

    เพื่อนแท้ คือคนที่กล้าตักเตือน
    เมื่อเราหลงผิด
    ไม่ปล่อยให้เราลงเหว
    แม้ตัวเองจะเจ็บใจที่ต้องพูดความจริง
    แต่ก็ยังยอมพูด… เพราะรัก

    แม้วันหนึ่งจะผิดใจกัน
    แต่ “บุญร่วมกัน”
    จะกลายเป็นสายใยอ่อนโยน
    ดึงให้กลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง

    ---

    🪷 กัลยาณมิตร...ไม่ใช่สิ่งที่หาเจอ แต่คือสิ่งที่ “สร้างขึ้น”

    เราไม่พบเพื่อนแท้โดยบังเอิญ
    แต่จะ “มีโอกาสพบ” ก็ต่อเมื่อ
    เรา “จริงใจ” กับใคร ๆ มาก่อน

    อย่ารอให้ใครดีต่อคุณ
    ให้คุณเริ่มเป็นฝ่ายดีต่อคนอื่นก่อน
    วันหนึ่ง…
    คุณจะมีใจที่สะอาดของตนเองเป็นเพื่อนแท้
    และในภพต่อไป
    คุณจะไม่ต้องอยู่ในหมู่คนอสัตย์

    ---

    🕯 พระพุทธเจ้าตรัสไว้
    ว่าอรุณรุ่งของชีวิตทางธรรม
    คือการได้พบ “กัลยาณมิตร”

    กัลยาณมิตรทางธรรม
    ชี้ให้เห็นกฎของกรรม
    นำเราออกจากเส้นทางเวียนว่าย

    ส่วนเพื่อนแท้ในตัวเอง
    คือ “สติ”
    ที่เตือนเราทุกขณะให้ไม่หลงไป

    ---

    เพื่อนแท้ที่ดี คือบุญ
    เพื่อนแท้ทางธรรม คือทางพ้นทุกข์
    และเพื่อนแท้ในตัวเอง
    คือแสงสว่างในยามที่ไม่มีใครเข้าใจ

    จงสร้างเพื่อนแท้ขึ้นเอง
    และเป็นเพื่อนแท้ให้ใครบางคน
    ก่อนที่โลกจะทำให้ทุกคนเย็นชาเกินเยียวยา

    #เพื่อนแท้
    #กัลยาณมิตร
    #เส้นทางกรรม
    #ธรรมะเข้าใจชีวิต
    #สติคือเพื่อนแท้ในตัวเอง
    🌿 เพื่อนแท้ กับ เส้นทางกรรม มนุษย์ไม่ได้ต้องการเพื่อนมากมาย แค่ “ไม่กี่คน” ที่จริงใจ ก็พอให้ใจไม่รู้สึกเคว้งคว้าง กลางโลกที่หมุนเร็วและว่างเปล่า แต่เพื่อนแท้... ไม่ได้มีไว้แค่ปลอบใจ หรือให้ยืมไหล่ยามร้องไห้ เพื่อนแท้... มีผลต่อเส้นทางกรรมของเรา เพื่อนบางคน คือผู้ ‘หักเห’ ทางชีวิต ให้เราหลงผิด ล้มลุก และพลาดพลั้ง แต่เพื่อนบางคน คือผู้ ‘ส่งเสริม’ ให้เราเดินบนทางที่ถูกต้อง มีศีล มีปัญญา มีเมตตา และมีโอกาสได้ดีทั้งทางโลกและทางธรรม --- 👣 จะพิสูจน์เพื่อนแท้...วัดที่อะไร? ไม่ใช่วัดว่า “พร้อมตายไปด้วยกันไหม” แต่วัดว่า “พร้อมทำบุญไปด้วยกันไหม?” เพื่อนแท้ คือคนที่กล้าตักเตือน เมื่อเราหลงผิด ไม่ปล่อยให้เราลงเหว แม้ตัวเองจะเจ็บใจที่ต้องพูดความจริง แต่ก็ยังยอมพูด… เพราะรัก แม้วันหนึ่งจะผิดใจกัน แต่ “บุญร่วมกัน” จะกลายเป็นสายใยอ่อนโยน ดึงให้กลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง --- 🪷 กัลยาณมิตร...ไม่ใช่สิ่งที่หาเจอ แต่คือสิ่งที่ “สร้างขึ้น” เราไม่พบเพื่อนแท้โดยบังเอิญ แต่จะ “มีโอกาสพบ” ก็ต่อเมื่อ เรา “จริงใจ” กับใคร ๆ มาก่อน อย่ารอให้ใครดีต่อคุณ ให้คุณเริ่มเป็นฝ่ายดีต่อคนอื่นก่อน วันหนึ่ง… คุณจะมีใจที่สะอาดของตนเองเป็นเพื่อนแท้ และในภพต่อไป คุณจะไม่ต้องอยู่ในหมู่คนอสัตย์ --- 🕯 พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ว่าอรุณรุ่งของชีวิตทางธรรม คือการได้พบ “กัลยาณมิตร” กัลยาณมิตรทางธรรม ชี้ให้เห็นกฎของกรรม นำเราออกจากเส้นทางเวียนว่าย ส่วนเพื่อนแท้ในตัวเอง คือ “สติ” ที่เตือนเราทุกขณะให้ไม่หลงไป --- เพื่อนแท้ที่ดี คือบุญ เพื่อนแท้ทางธรรม คือทางพ้นทุกข์ และเพื่อนแท้ในตัวเอง คือแสงสว่างในยามที่ไม่มีใครเข้าใจ จงสร้างเพื่อนแท้ขึ้นเอง และเป็นเพื่อนแท้ให้ใครบางคน ก่อนที่โลกจะทำให้ทุกคนเย็นชาเกินเยียวยา #เพื่อนแท้ #กัลยาณมิตร #เส้นทางกรรม #ธรรมะเข้าใจชีวิต #สติคือเพื่อนแท้ในตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌿 เพื่อนแท้ กับ เส้นทางกรรม

    มนุษย์ไม่ได้ต้องการเพื่อนมากมาย
    แค่ “ไม่กี่คน” ที่จริงใจ
    ก็พอให้ใจไม่รู้สึกเคว้งคว้าง
    กลางโลกที่หมุนเร็วและว่างเปล่า

    แต่เพื่อนแท้...
    ไม่ได้มีไว้แค่ปลอบใจ
    หรือให้ยืมไหล่ยามร้องไห้
    เพื่อนแท้... มีผลต่อเส้นทางกรรมของเรา

    เพื่อนบางคน
    คือผู้ ‘หักเห’ ทางชีวิต
    ให้เราหลงผิด ล้มลุก และพลาดพลั้ง
    แต่เพื่อนบางคน
    คือผู้ ‘ส่งเสริม’
    ให้เราเดินบนทางที่ถูกต้อง
    มีศีล มีปัญญา มีเมตตา
    และมีโอกาสได้ดีทั้งทางโลกและทางธรรม

    ---

    👣 จะพิสูจน์เพื่อนแท้...วัดที่อะไร?

    ไม่ใช่วัดว่า “พร้อมตายไปด้วยกันไหม”
    แต่วัดว่า “พร้อมทำบุญไปด้วยกันไหม?”

    เพื่อนแท้ คือคนที่กล้าตักเตือน
    เมื่อเราหลงผิด
    ไม่ปล่อยให้เราลงเหว
    แม้ตัวเองจะเจ็บใจที่ต้องพูดความจริง
    แต่ก็ยังยอมพูด… เพราะรัก

    แม้วันหนึ่งจะผิดใจกัน
    แต่ “บุญร่วมกัน”
    จะกลายเป็นสายใยอ่อนโยน
    ดึงให้กลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง

    ---

    🪷 กัลยาณมิตร...ไม่ใช่สิ่งที่หาเจอ แต่คือสิ่งที่ “สร้างขึ้น”

    เราไม่พบเพื่อนแท้โดยบังเอิญ
    แต่จะ “มีโอกาสพบ” ก็ต่อเมื่อ
    เรา “จริงใจ” กับใคร ๆ มาก่อน

    อย่ารอให้ใครดีต่อคุณ
    ให้คุณเริ่มเป็นฝ่ายดีต่อคนอื่นก่อน
    วันหนึ่ง…
    คุณจะมีใจที่สะอาดของตนเองเป็นเพื่อนแท้
    และในภพต่อไป
    คุณจะไม่ต้องอยู่ในหมู่คนอสัตย์

    ---

    🕯 พระพุทธเจ้าตรัสไว้
    ว่าอรุณรุ่งของชีวิตทางธรรม
    คือการได้พบ “กัลยาณมิตร”

    กัลยาณมิตรทางธรรม
    ชี้ให้เห็นกฎของกรรม
    นำเราออกจากเส้นทางเวียนว่าย

    ส่วนเพื่อนแท้ในตัวเอง
    คือ “สติ”
    ที่เตือนเราทุกขณะให้ไม่หลงไป

    ---

    เพื่อนแท้ที่ดี คือบุญ
    เพื่อนแท้ทางธรรม คือทางพ้นทุกข์
    และเพื่อนแท้ในตัวเอง
    คือแสงสว่างในยามที่ไม่มีใครเข้าใจ

    จงสร้างเพื่อนแท้ขึ้นเอง
    และเป็นเพื่อนแท้ให้ใครบางคน
    ก่อนที่โลกจะทำให้ทุกคนเย็นชาเกินเยียวยา

    #เพื่อนแท้
    #กัลยาณมิตร
    #เส้นทางกรรม
    #ธรรมะเข้าใจชีวิต
    #สติคือเพื่อนแท้ในตัวเอง
    🌿 เพื่อนแท้ กับ เส้นทางกรรม มนุษย์ไม่ได้ต้องการเพื่อนมากมาย แค่ “ไม่กี่คน” ที่จริงใจ ก็พอให้ใจไม่รู้สึกเคว้งคว้าง กลางโลกที่หมุนเร็วและว่างเปล่า แต่เพื่อนแท้... ไม่ได้มีไว้แค่ปลอบใจ หรือให้ยืมไหล่ยามร้องไห้ เพื่อนแท้... มีผลต่อเส้นทางกรรมของเรา เพื่อนบางคน คือผู้ ‘หักเห’ ทางชีวิต ให้เราหลงผิด ล้มลุก และพลาดพลั้ง แต่เพื่อนบางคน คือผู้ ‘ส่งเสริม’ ให้เราเดินบนทางที่ถูกต้อง มีศีล มีปัญญา มีเมตตา และมีโอกาสได้ดีทั้งทางโลกและทางธรรม --- 👣 จะพิสูจน์เพื่อนแท้...วัดที่อะไร? ไม่ใช่วัดว่า “พร้อมตายไปด้วยกันไหม” แต่วัดว่า “พร้อมทำบุญไปด้วยกันไหม?” เพื่อนแท้ คือคนที่กล้าตักเตือน เมื่อเราหลงผิด ไม่ปล่อยให้เราลงเหว แม้ตัวเองจะเจ็บใจที่ต้องพูดความจริง แต่ก็ยังยอมพูด… เพราะรัก แม้วันหนึ่งจะผิดใจกัน แต่ “บุญร่วมกัน” จะกลายเป็นสายใยอ่อนโยน ดึงให้กลับมาเข้าใจกันอีกครั้ง --- 🪷 กัลยาณมิตร...ไม่ใช่สิ่งที่หาเจอ แต่คือสิ่งที่ “สร้างขึ้น” เราไม่พบเพื่อนแท้โดยบังเอิญ แต่จะ “มีโอกาสพบ” ก็ต่อเมื่อ เรา “จริงใจ” กับใคร ๆ มาก่อน อย่ารอให้ใครดีต่อคุณ ให้คุณเริ่มเป็นฝ่ายดีต่อคนอื่นก่อน วันหนึ่ง… คุณจะมีใจที่สะอาดของตนเองเป็นเพื่อนแท้ และในภพต่อไป คุณจะไม่ต้องอยู่ในหมู่คนอสัตย์ --- 🕯 พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ว่าอรุณรุ่งของชีวิตทางธรรม คือการได้พบ “กัลยาณมิตร” กัลยาณมิตรทางธรรม ชี้ให้เห็นกฎของกรรม นำเราออกจากเส้นทางเวียนว่าย ส่วนเพื่อนแท้ในตัวเอง คือ “สติ” ที่เตือนเราทุกขณะให้ไม่หลงไป --- เพื่อนแท้ที่ดี คือบุญ เพื่อนแท้ทางธรรม คือทางพ้นทุกข์ และเพื่อนแท้ในตัวเอง คือแสงสว่างในยามที่ไม่มีใครเข้าใจ จงสร้างเพื่อนแท้ขึ้นเอง และเป็นเพื่อนแท้ให้ใครบางคน ก่อนที่โลกจะทำให้ทุกคนเย็นชาเกินเยียวยา #เพื่อนแท้ #กัลยาณมิตร #เส้นทางกรรม #ธรรมะเข้าใจชีวิต #สติคือเพื่อนแท้ในตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • Facebook cover
    ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    Facebook cover ถ้าเพื่อนๆ ชอบก็เอาไปใช้ได้เลยค่ะ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้เรามาคุยกันเกี่ยวกับหนึ่งในสรรพนามเรียกขานฮ่องเต้จีน
    ความมีอยู่ว่า
    ...หวางซู่เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “หม่อมฉันเกรงว่าปี้เซี่ยจะทรงใกล้ชิดกับพวกนาง จึงต้องกราบทูลรายงาน แต่กวนเจียมิทรงตรัสอันใด กลับทรงมีพระบัญชาให้หม่อมฉันนำพระราชดำรัสมาประกาศ ให้พระสนมทั้งสองออกจากวังโดยพลัน พระองค์ตรัสเสร็จพระอัสสุชลก็รินไหล”...
    - จากเรื่อง <จองจำเดียวดายในนคร> ผู้แต่ง หมี่หลานเลดี้ (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า)
    (หมายเหตุ ละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    เพื่อความง่ายในการเข้าใจ Storyฯ ขอไม่เน้นราชาศัพท์ในบทความข้างล่างนะคะ

    เพื่อนเพจที่ดูละครจีนโบราณเสียงภาษาจีนต้องเคยได้ยินสรรพนามเรียกขานฮ่องเต้ที่แตกต่างกันไป เช่น ปี้เซี่ย หวงตี้ จินซ่าง เทียนจื่อ ฯลฯ ซึ่งคำเหล่านี้มักมีความหมายเกี่ยวโยงราชบัลลังก์ ความศักดิ์สิทธิ์ หรือสวรรค์ ที่ฟังดูสูงเกินเอื้อมของปุถุชนคนธรรมดา

    แต่หากใครได้ดูละครเรื่อง <วังเดียวดาย> จะได้ยินการเรียกขานฮ่องเต้ว่า ‘กวนเจีย’ ซึ่งเป็นคำเรียกที่แปลกในความรู้สึกของ Storyฯ เพราะแปลความหมายได้ประมาณว่า ‘สำนักราชการ’ (กวน = ขุนนาง เจีย = บ้านหรือกลุ่มองค์กร) Storyฯ จึงต้องไปหาข้อมูลทำความเข้าใจ

    คำว่า ‘กวนเจีย’ มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (202 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 220) เพียงแต่ในสมัยนั้น ไม่ได้เป็นการเรียกเจ้าผู้ปกครองประเทศ หากแต่เป็นการเรียกรวมหมายถึงเหล่าขุนนางและหน่วยงานข้าราชการ หรือเป็นการเรียกขานผู้ที่เป็นขุนนางอย่างยกย่อง

    ว่ากันว่ามีการใช้สรรพนามนี้ขานเรียกฮ่องเต้ตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์เหนือใต้ (ค.ศ. 420-589) แต่ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากฟังดูไม่สูงศักดิ์และอาจทำให้สับสนเพราะยังหมายถึงเหล่าข้าราชการได้อีกด้วย จวบจนเริ่มยุคสมัยราชวงศ์ซ่งจึงใช้คำว่า ‘กวนเจีย’ เรียกฮ่องเต้อย่างเป็นทางการ

    เพราะอะไร?

    ท่านที่พอจะทราบประวัติศาสตร์จีนจะทราบว่า เมื่อสิ้นสุดราชวงศ์ถังก็เข้าสู่ยุคที่แตกเป็นห้าราชวงศ์สิบแคว้น จากนั้นจึงเกิดเป็นราชวงศ์ซ่ง ซึ่งเหตุการณ์การก่อตั้งราชวงศ์ซ่งเกิดขึ้นในปีค.ศ. 960 เมื่อเจ้าผู้ปกครองราชวงศ์โฮ่วโจว (โจวยุคหลัง หนึ่งในห้าราชวงศ์) สวรรคตลง ทำให้เกิดความระส่ำระสายในสายทหารเพราะผู้สืบทอดราชบัลลังก์เป็นเด็ก อยู่มาวันหนึ่งผู้นำเหล่าทัพทั้งหลายพร้อมใจกันเอาชุดเหลืองลายมังกรแบบเฉพาะของฮ่องเต้มาคลุมกายให้แก่จอมทัพเจ้าควงอิ้น เพื่อขอให้เขาขึ้นเป็นผู้ปกครองอาณาจักรโฮ่วโจวแทน (ดูรูปขวาบนและล่าง และอ่านเรื่องราวเหตุการณ์นี้ได้เพิ่มเติมที่เพจศิลปวัฒนธรรมตามลิ้งค์ข้างล่าง)

    เจ้าควงอิ้นเมื่อขึ้นครองราชย์ก็สถานปนาราชวงศ์ใหม่คือราชวงศ์ซ่ง และตั้งใจคัดเฟ้นสรรพนามเรียกขานตนที่เหมาะสมขึ้นใหม่ เพราะเขาตระหนักว่าตนเองเป็นเชื้อสายตระกูลทหาร ไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์ จึงเกรงว่าหากใช้คำที่เกี่ยวข้องกับการสืบราชสันตติวงศ์ จะทำให้ประชาชนมีความรู้สึกว่าเขาขึ้นครองราชย์อย่างไม่ชอบธรรม

    จึงมาลงเอยที่คำว่า ‘กวนเจีย’ นี้ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากปรัชญาคำสอนการปกครองจากยุคสมัยชุนชิว และถูกยกมาจากวรรคที่ว่า ‘สามราชาดูแลทั่วหล้า ห้าจักรพรรดิมีใต้นภาเป็นครอบครัว’ (ซานหวงกวนเทียเซี่ย อู่ตี้เจียเทียนเซี่ย / 三皇官天下,五帝家天下) ซึ่งเป็นการเท้าความถึง ‘สามราชาห้าจักรพรรดิ’ ในตำนานปรำปราที่ปกครองดูแลประชาชนอย่าง ‘เข้าถึง’ และมีคุณธรรม โดยในบริบทนี้คำว่า ‘กวนเจีย’ ถูกเลือกมาใช้เพื่อให้สะท้อนความนัยว่า เป็นการปกครองโดยคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน ทำโดยหน้าที่ที่รับผิดชอบดูแลและเป็นที่พึ่งให้แก่ประชาชน

    ดังนั้นในสมัยราชวงศ์ซ่ง ประชาชนจะเรียกข้าราชการว่า ‘กวนเจีย’ ไม่ได้อีกต่อไป และมีการกำหนดให้คำนี้มีเพียงความหมายเดียวคือแปลว่าฮ่องเต้ (แต่จะใช้คำอื่นเช่น ปี้เซี่ย เรียกฮ่องเต้ก็ยังได้อยู่) ไม่ได้หมายรวมถึงเหล่าข้าราชการอีกต่อไป

    นอกจากคำที่พูดถึงมาข้างต้นแล้ว เพื่อนเพจยังเคยผ่านหูคำเรียกขานฮ่องเต้ว่าอย่างอื่นอีกไหมคะ? Storyฯ นึกได้อีกหลายคำเลย

    หมายเหตุ 1: ‘สามราชา’ บ้างว่าหมายถึงเทพเจ้าผู้สร้างและดูแลมนุษย์ในตำนานคือฟู่ซี หนี่ว์วา และเหยียนตี้ และบ้างว่าหมายถึงราชาแห่งแผ่นฟ้า ผืนดินและมนุษย์ชาติ ส่วน ‘ห้าจักรพรรดิ’ นั้นหมายถึงองค์หวงตี้ (จักรพรรดิเหลือง) และฮ่องเต้ผู้สืบทอดบัลลังก์ต่อมาอีกสี่พระองค์
    หมายเหตุ 2: ในเรื่อง <วังเดียวดาย> เป็นยุคสมัยของฮ่องเต้เหรินจง เป็นฮ่องเต้องค์ที่สี่แห่งราชวงศ์ซ่ง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://kknews.cc/zh-my/history/2vgm4n9.html
    https://dramakaffe.wordpress.com/2020/05/16/serenade-of-peaceful-joy/
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/133862973
    https://www.thehour.cn/news/363118.html
    https://www.gugong.net/zhongguo/songchao/18033.html
    https://kknews.cc/history/g48mr58.html

    #ราชวงศ์ซ่ง #ฮ่องเต้จีน #เจ้าควงอิ้น #ชิงผิงเยวี่ย #กวนเจีย #ประวัติศาสตร์จีน
    วันนี้เรามาคุยกันเกี่ยวกับหนึ่งในสรรพนามเรียกขานฮ่องเต้จีน ความมีอยู่ว่า ...หวางซู่เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “หม่อมฉันเกรงว่าปี้เซี่ยจะทรงใกล้ชิดกับพวกนาง จึงต้องกราบทูลรายงาน แต่กวนเจียมิทรงตรัสอันใด กลับทรงมีพระบัญชาให้หม่อมฉันนำพระราชดำรัสมาประกาศ ให้พระสนมทั้งสองออกจากวังโดยพลัน พระองค์ตรัสเสร็จพระอัสสุชลก็รินไหล”... - จากเรื่อง <จองจำเดียวดายในนคร> ผู้แต่ง หมี่หลานเลดี้ (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า) (หมายเหตุ ละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) เพื่อความง่ายในการเข้าใจ Storyฯ ขอไม่เน้นราชาศัพท์ในบทความข้างล่างนะคะ เพื่อนเพจที่ดูละครจีนโบราณเสียงภาษาจีนต้องเคยได้ยินสรรพนามเรียกขานฮ่องเต้ที่แตกต่างกันไป เช่น ปี้เซี่ย หวงตี้ จินซ่าง เทียนจื่อ ฯลฯ ซึ่งคำเหล่านี้มักมีความหมายเกี่ยวโยงราชบัลลังก์ ความศักดิ์สิทธิ์ หรือสวรรค์ ที่ฟังดูสูงเกินเอื้อมของปุถุชนคนธรรมดา แต่หากใครได้ดูละครเรื่อง <วังเดียวดาย> จะได้ยินการเรียกขานฮ่องเต้ว่า ‘กวนเจีย’ ซึ่งเป็นคำเรียกที่แปลกในความรู้สึกของ Storyฯ เพราะแปลความหมายได้ประมาณว่า ‘สำนักราชการ’ (กวน = ขุนนาง เจีย = บ้านหรือกลุ่มองค์กร) Storyฯ จึงต้องไปหาข้อมูลทำความเข้าใจ คำว่า ‘กวนเจีย’ มีมาแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (202 ปีก่อนคริสตกาล – ค.ศ. 220) เพียงแต่ในสมัยนั้น ไม่ได้เป็นการเรียกเจ้าผู้ปกครองประเทศ หากแต่เป็นการเรียกรวมหมายถึงเหล่าขุนนางและหน่วยงานข้าราชการ หรือเป็นการเรียกขานผู้ที่เป็นขุนนางอย่างยกย่อง ว่ากันว่ามีการใช้สรรพนามนี้ขานเรียกฮ่องเต้ตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์เหนือใต้ (ค.ศ. 420-589) แต่ไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากฟังดูไม่สูงศักดิ์และอาจทำให้สับสนเพราะยังหมายถึงเหล่าข้าราชการได้อีกด้วย จวบจนเริ่มยุคสมัยราชวงศ์ซ่งจึงใช้คำว่า ‘กวนเจีย’ เรียกฮ่องเต้อย่างเป็นทางการ เพราะอะไร? ท่านที่พอจะทราบประวัติศาสตร์จีนจะทราบว่า เมื่อสิ้นสุดราชวงศ์ถังก็เข้าสู่ยุคที่แตกเป็นห้าราชวงศ์สิบแคว้น จากนั้นจึงเกิดเป็นราชวงศ์ซ่ง ซึ่งเหตุการณ์การก่อตั้งราชวงศ์ซ่งเกิดขึ้นในปีค.ศ. 960 เมื่อเจ้าผู้ปกครองราชวงศ์โฮ่วโจว (โจวยุคหลัง หนึ่งในห้าราชวงศ์) สวรรคตลง ทำให้เกิดความระส่ำระสายในสายทหารเพราะผู้สืบทอดราชบัลลังก์เป็นเด็ก อยู่มาวันหนึ่งผู้นำเหล่าทัพทั้งหลายพร้อมใจกันเอาชุดเหลืองลายมังกรแบบเฉพาะของฮ่องเต้มาคลุมกายให้แก่จอมทัพเจ้าควงอิ้น เพื่อขอให้เขาขึ้นเป็นผู้ปกครองอาณาจักรโฮ่วโจวแทน (ดูรูปขวาบนและล่าง และอ่านเรื่องราวเหตุการณ์นี้ได้เพิ่มเติมที่เพจศิลปวัฒนธรรมตามลิ้งค์ข้างล่าง) เจ้าควงอิ้นเมื่อขึ้นครองราชย์ก็สถานปนาราชวงศ์ใหม่คือราชวงศ์ซ่ง และตั้งใจคัดเฟ้นสรรพนามเรียกขานตนที่เหมาะสมขึ้นใหม่ เพราะเขาตระหนักว่าตนเองเป็นเชื้อสายตระกูลทหาร ไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์ จึงเกรงว่าหากใช้คำที่เกี่ยวข้องกับการสืบราชสันตติวงศ์ จะทำให้ประชาชนมีความรู้สึกว่าเขาขึ้นครองราชย์อย่างไม่ชอบธรรม จึงมาลงเอยที่คำว่า ‘กวนเจีย’ นี้ ซึ่งมีพื้นฐานมาจากปรัชญาคำสอนการปกครองจากยุคสมัยชุนชิว และถูกยกมาจากวรรคที่ว่า ‘สามราชาดูแลทั่วหล้า ห้าจักรพรรดิมีใต้นภาเป็นครอบครัว’ (ซานหวงกวนเทียเซี่ย อู่ตี้เจียเทียนเซี่ย / 三皇官天下,五帝家天下) ซึ่งเป็นการเท้าความถึง ‘สามราชาห้าจักรพรรดิ’ ในตำนานปรำปราที่ปกครองดูแลประชาชนอย่าง ‘เข้าถึง’ และมีคุณธรรม โดยในบริบทนี้คำว่า ‘กวนเจีย’ ถูกเลือกมาใช้เพื่อให้สะท้อนความนัยว่า เป็นการปกครองโดยคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับประชาชน ทำโดยหน้าที่ที่รับผิดชอบดูแลและเป็นที่พึ่งให้แก่ประชาชน ดังนั้นในสมัยราชวงศ์ซ่ง ประชาชนจะเรียกข้าราชการว่า ‘กวนเจีย’ ไม่ได้อีกต่อไป และมีการกำหนดให้คำนี้มีเพียงความหมายเดียวคือแปลว่าฮ่องเต้ (แต่จะใช้คำอื่นเช่น ปี้เซี่ย เรียกฮ่องเต้ก็ยังได้อยู่) ไม่ได้หมายรวมถึงเหล่าข้าราชการอีกต่อไป นอกจากคำที่พูดถึงมาข้างต้นแล้ว เพื่อนเพจยังเคยผ่านหูคำเรียกขานฮ่องเต้ว่าอย่างอื่นอีกไหมคะ? Storyฯ นึกได้อีกหลายคำเลย หมายเหตุ 1: ‘สามราชา’ บ้างว่าหมายถึงเทพเจ้าผู้สร้างและดูแลมนุษย์ในตำนานคือฟู่ซี หนี่ว์วา และเหยียนตี้ และบ้างว่าหมายถึงราชาแห่งแผ่นฟ้า ผืนดินและมนุษย์ชาติ ส่วน ‘ห้าจักรพรรดิ’ นั้นหมายถึงองค์หวงตี้ (จักรพรรดิเหลือง) และฮ่องเต้ผู้สืบทอดบัลลังก์ต่อมาอีกสี่พระองค์ หมายเหตุ 2: ในเรื่อง <วังเดียวดาย> เป็นยุคสมัยของฮ่องเต้เหรินจง เป็นฮ่องเต้องค์ที่สี่แห่งราชวงศ์ซ่ง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://kknews.cc/zh-my/history/2vgm4n9.html https://dramakaffe.wordpress.com/2020/05/16/serenade-of-peaceful-joy/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/133862973 https://www.thehour.cn/news/363118.html https://www.gugong.net/zhongguo/songchao/18033.html https://kknews.cc/history/g48mr58.html #ราชวงศ์ซ่ง #ฮ่องเต้จีน #เจ้าควงอิ้น #ชิงผิงเยวี่ย #กวนเจีย #ประวัติศาสตร์จีน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดินแดนเราแท้ๆ แต่ไอ้ภูมิต่ำปัญญาตม ดันบอกว่าเป็นดินแดนพิพาทซะงั้น รัฐมนตรีกลาโหมที่ไร้สมองกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนแต่ไม่ปกป้องอธิปไตยชาติยังเสือกปกป้องไอ้ค**เซ็งเพื่อนเหม็นของไอ้แม้ว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ภูมิธรรม
    #nobrainman
    #กัมพูชาล้ำ200เมตร
    ดินแดนเราแท้ๆ แต่ไอ้ภูมิต่ำปัญญาตม ดันบอกว่าเป็นดินแดนพิพาทซะงั้น รัฐมนตรีกลาโหมที่ไร้สมองกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนแต่ไม่ปกป้องอธิปไตยชาติยังเสือกปกป้องไอ้ค**เซ็งเพื่อนเหม็นของไอ้แม้ว #คิงส์โพธิ์แดง #ภูมิธรรม #nobrainman #กัมพูชาล้ำ200เมตร
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สนธิ” พร้อม “ปานเทพ” เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล 10 มิ.ย.นี้ เรียกร้องปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติเป็นรูปธรรม กรณีไทย-กัมพูชา ให้เสร็จสิ้นก่อนประชุม JBC ชี้ เป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญต่อชาติ

    วันนี้ (5 มิ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” ว่า “เรียนพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนที่เคารพ

    วันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมกับ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล นักวิชาการและประชาชนผู้รักชาติ จะไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติให้เป็นรูปธรรมกรณีไทย-กัมพูชา ให้เสร็จสิ้นก่อนการประชุม JBC เรื่องดังกล่าวนี้จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญต่อชาติ

    จึงเรียนมาเพื่อนัดหมายพี่น้องประชาชนที่สนใจเข้าร่วมในการลงนามในหนังสือฉบับนี้ โดยพบกันที่โรงอาหาร ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล) ถนนพิษณุโลก ในวันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. และจะยื่นหนังสือในเวลา 10.00 น. จึงขอเรียนเชิญพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวมา ณ โอกาสนี้”

    #MGROnline #Thaitimes #สนธิ #ปานเทพ
    “สนธิ” พร้อม “ปานเทพ” เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล 10 มิ.ย.นี้ เรียกร้องปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติเป็นรูปธรรม กรณีไทย-กัมพูชา ให้เสร็จสิ้นก่อนประชุม JBC ชี้ เป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญต่อชาติ • วันนี้ (5 มิ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” ว่า “เรียนพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนที่เคารพ • วันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมกับ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล นักวิชาการและประชาชนผู้รักชาติ จะไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติให้เป็นรูปธรรมกรณีไทย-กัมพูชา ให้เสร็จสิ้นก่อนการประชุม JBC เรื่องดังกล่าวนี้จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนและสำคัญต่อชาติ • จึงเรียนมาเพื่อนัดหมายพี่น้องประชาชนที่สนใจเข้าร่วมในการลงนามในหนังสือฉบับนี้ โดยพบกันที่โรงอาหาร ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล) ถนนพิษณุโลก ในวันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. และจะยื่นหนังสือในเวลา 10.00 น. จึงขอเรียนเชิญพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวมา ณ โอกาสนี้” • #MGROnline #Thaitimes #สนธิ #ปานเทพ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อนเพจที่ดูละครจีนโบราณต้องเคยเห็นตราอาญาสิทธิ์ของทหารที่เป็นตัวเสือผ่าครึ่ง และดูเหมือนว่าฮ่องเต้จะไม่สามารถควบคุมกองทัพได้เลยถ้าไม่มีมัน มันก็คือ ‘ตราพยัคฆ์’ หรือ ‘หู่ฝู’ นั่นเอง

    ความมีอยู่ว่า
    ...ครานั้นตราอาญาสิทธิ์หู่ฝูสามทัพอยู่ในมือของจอมทัพปัน ต่อมาจอมทัพปันได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ชายแดน เมื่อกลับมาถึงเมืองหลวงก็วางเกราะลง ทำตัวเป็นกั๋วกงอยู่อย่างเรียบง่ายไร้กังวล ต่อมาเมื่อองค์หวินชิ่งขึ้นครองราชย์ ชายแดนสงบไร้ศึก ตราอาญาสิทธิ์หู่ฝูสามทัพก็ไม่เคยปรากฏให้เห็นอีกเลย...
    - จากเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> ผู้แต่ง เยวี่ยเซี่ยเตี๋ยอิ่ง (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า)
    (หมายเหตุ ละครเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    ตราหู่ฝูนี้ฟังดูยิ่งใหญ่ และแฟนละคร/นิยายจีนโบราณต้องเคยผ่านตาเรื่องราวที่ว่าทหารเชื่อฟังหู่ฝูมากกว่าราชโองการจากฮ่องเต้ Storyฯ มีข้อข้องใจเกี่ยวกับหู่ฝูจึงไปทำการบ้านและมาเล่าสู่กันฟังในสามประเด็น: 1) ตราหู่ฝูมีอำนาจเคลื่อนย้ายกองทัพได้ทั้งหมดหรือไม่? 2) ทำไมฮ่องเต้ทำหู่ฝูซีกเดียวขึ้นใหม่ไม่ได้? 3) ตราอาญาสิทธิ์ทางทหารมีหู่ฝูอย่างเดียวหรือ?

    ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจตราหู่ฝู ตราอาญาสิทธิ์ทางการทหารลักษณะนี้ปรากฏครั้งแรกในยุคสมัยชุนชิว (ปี 771-476 ก่อนคริสตกาล) แรกเริ่มทำจากไม้ไผ่ ต่อมาจึงทำจากสำริด ทองคำ และหยก

    หู่ฝูจะแบ่งเป็นสองซีก ซีกขวาเก็บไว้ที่ฮ่องเต้ ซีกซ้ายมอบไว้ให้แม่ทัพใหญ่ผู้กุมกำลังกองทัพ ยามจะออกคำสั่งเคลื่อนพล ฮ่องเต้จะมอบตราอาญาสิทธิ์ส่วนของพระองค์ให้กับผู้แทนพระองค์ที่เดินทางนำคำสั่งไปส่งให้แก่แม่ทัพใหญ่ เมื่อนำทั้งสองซีกมาประกบกันได้ถูกต้องสมบูรณ์จึงจะถือว่าคำสั่งนั้นมีผล ในบางยุคสมัยนอกจากตราอาญาสิทธิ์แล้วยังต้องมีพระราชโองการประกอบด้วยจึงจะถือว่าสมบูรณ์

    ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะในสมัยโบราณการสื่อสารยากลำบาก อีกทั้งไม่มีวิธีพิสูจน์ว่าเอกสารหรือราชโองการนั้นจริงหรือเท็จ ตราอาญาสิทธิ์นี้เป็นหลักฐานสูงสุด จึงเป็นที่มาว่าหากฮ่องเต้ไม่มีตราหู่ฝูก็สั่งเคลื่อนกำลังพลไม่ได้

    ทำไมมันจึงเป็นหลักฐานสูงสุด? ก็เพราะว่ามันปลอมแปลงไม่ได้ (หรือยากมาก) เนื่องจากมันมีรูปร่างและใช้วัสดุที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และตัวหู่ฝูจะมีการสลัก/เขียนรายละเอียดไว้เต็มตัว (ดูภาพประกอบ) อย่างเช่นตราตู้หู่ฝูมีถึง 40 อักษรด้วยกัน มีทั้งกรณีที่ต้องเอาสองซีกมาประกบกันจึงจะอ่านได้ครบ (อย่างเช่นในสมัยราชวงศ์ฮั่น) หรืออีกกรณีคือข้อความสองซีกเหมือนกันแต่ตรงกลางจะมีลายตราที่ถูกผ่าครึ่ง ต้องนำสองซีกมาประกบกันจึงจะเห็นรูปครบ (อย่างเช่นในสมัยฉิน) เพราะฉนั้นผู้ที่มีเพียงซีกเดียวจึงไม่สามารถทำอีกซีกขึ้นใหม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าอีกซีกเขียนหรือวาดอะไรไว้บ้าง (ในบางสมัยแกนในยังมีรูให้ทำเหมือนตัวยื่นเข้าไปประกบด้วย...เพิ่มความยากอีกหนึ่งขั้น) ทั้งนี้ ข้อความที่สมบูรณ์จะระบุขอบเขตอำนาจชัดเจนว่าไว้ใช้สำหรับกองทัพใดและพื้นที่ใด

    ดังนั้น ไขข้อข้องใจไปสองเปลาะว่า ตราอาญาสิทธิ์ทำขึ้นใหม่เองเฉพาะซีกเดียวไม่ได้ และตราแต่ละตัวมีอำนาจควบคุมกองทัพจากพื้นที่เดียวตามที่กำหนดไว้เท่านั้น โยกย้ายกองกำลังอื่นไม่ได้

    ปัจจุบันมีการค้นพบของจริงจากยุคสมัยราชวงศ์ฉินได้ 3 ตัว คือซินกัวหู่ฝู หยางหลิงหู่ฝู และตู้หู่ฝู (รูปประกอบยกมาสองตัว) จะเห็นว่ารูปร่างลวดลายแตกต่างกัน และขนาดของจริงก็แตกต่างกันไปเล็กน้อย จากภาษาที่ใช้ นักโบราณคดีพบว่าทั้งสามตัวนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นพร้อมกันแม้จะมาจากยุคสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้เหมือนกัน

    ตราหู่ฝูคือตราพยัคฆ์ แต่จริงๆ แล้วตราอาญาสิทธิ์ทางทหารเรียกว่า ‘จวินฝู’ และอาจทำเป็นรูปแบบใดก็ได้ ในสมัยราชวงศ์ถัง ตราอาญาสิทธิ์มีทั้งรูปปลา กระต่าย และเต่า และเมื่อถึงยุคสมัยราชวงศ์หยวนก็มีการปรับเปลี่ยนเป็นใช้ป้ายอาญาสิทธิ์แทน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.sohu.com/a/403266963_427962
    https://www.xuehua.us/a/5eb7de1b86ec4d0bd8de2c68
    https://baike.baidu.com/item/%E8%99%8E%E7%AC%A6/5191
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/%E8%99%8E%E7%AC%A6/5191
    https://www.xuehua.us/a/5eb7de1b86ec4d0bd8de2c68
    https://m.52lishi.com/article/45237.html

    #ตราอาญาสิทธิ์ทหาร #หู่ฝู #ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้ #ประวัติศาสตร์จีน #ราชวงศ์ฉิน
    เพื่อนเพจที่ดูละครจีนโบราณต้องเคยเห็นตราอาญาสิทธิ์ของทหารที่เป็นตัวเสือผ่าครึ่ง และดูเหมือนว่าฮ่องเต้จะไม่สามารถควบคุมกองทัพได้เลยถ้าไม่มีมัน มันก็คือ ‘ตราพยัคฆ์’ หรือ ‘หู่ฝู’ นั่นเอง ความมีอยู่ว่า ...ครานั้นตราอาญาสิทธิ์หู่ฝูสามทัพอยู่ในมือของจอมทัพปัน ต่อมาจอมทัพปันได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ชายแดน เมื่อกลับมาถึงเมืองหลวงก็วางเกราะลง ทำตัวเป็นกั๋วกงอยู่อย่างเรียบง่ายไร้กังวล ต่อมาเมื่อองค์หวินชิ่งขึ้นครองราชย์ ชายแดนสงบไร้ศึก ตราอาญาสิทธิ์หู่ฝูสามทัพก็ไม่เคยปรากฏให้เห็นอีกเลย... - จากเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> ผู้แต่ง เยวี่ยเซี่ยเตี๋ยอิ่ง (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า) (หมายเหตุ ละครเรื่อง <ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) ตราหู่ฝูนี้ฟังดูยิ่งใหญ่ และแฟนละคร/นิยายจีนโบราณต้องเคยผ่านตาเรื่องราวที่ว่าทหารเชื่อฟังหู่ฝูมากกว่าราชโองการจากฮ่องเต้ Storyฯ มีข้อข้องใจเกี่ยวกับหู่ฝูจึงไปทำการบ้านและมาเล่าสู่กันฟังในสามประเด็น: 1) ตราหู่ฝูมีอำนาจเคลื่อนย้ายกองทัพได้ทั้งหมดหรือไม่? 2) ทำไมฮ่องเต้ทำหู่ฝูซีกเดียวขึ้นใหม่ไม่ได้? 3) ตราอาญาสิทธิ์ทางทหารมีหู่ฝูอย่างเดียวหรือ? ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจตราหู่ฝู ตราอาญาสิทธิ์ทางการทหารลักษณะนี้ปรากฏครั้งแรกในยุคสมัยชุนชิว (ปี 771-476 ก่อนคริสตกาล) แรกเริ่มทำจากไม้ไผ่ ต่อมาจึงทำจากสำริด ทองคำ และหยก หู่ฝูจะแบ่งเป็นสองซีก ซีกขวาเก็บไว้ที่ฮ่องเต้ ซีกซ้ายมอบไว้ให้แม่ทัพใหญ่ผู้กุมกำลังกองทัพ ยามจะออกคำสั่งเคลื่อนพล ฮ่องเต้จะมอบตราอาญาสิทธิ์ส่วนของพระองค์ให้กับผู้แทนพระองค์ที่เดินทางนำคำสั่งไปส่งให้แก่แม่ทัพใหญ่ เมื่อนำทั้งสองซีกมาประกบกันได้ถูกต้องสมบูรณ์จึงจะถือว่าคำสั่งนั้นมีผล ในบางยุคสมัยนอกจากตราอาญาสิทธิ์แล้วยังต้องมีพระราชโองการประกอบด้วยจึงจะถือว่าสมบูรณ์ ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะในสมัยโบราณการสื่อสารยากลำบาก อีกทั้งไม่มีวิธีพิสูจน์ว่าเอกสารหรือราชโองการนั้นจริงหรือเท็จ ตราอาญาสิทธิ์นี้เป็นหลักฐานสูงสุด จึงเป็นที่มาว่าหากฮ่องเต้ไม่มีตราหู่ฝูก็สั่งเคลื่อนกำลังพลไม่ได้ ทำไมมันจึงเป็นหลักฐานสูงสุด? ก็เพราะว่ามันปลอมแปลงไม่ได้ (หรือยากมาก) เนื่องจากมันมีรูปร่างและใช้วัสดุที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และตัวหู่ฝูจะมีการสลัก/เขียนรายละเอียดไว้เต็มตัว (ดูภาพประกอบ) อย่างเช่นตราตู้หู่ฝูมีถึง 40 อักษรด้วยกัน มีทั้งกรณีที่ต้องเอาสองซีกมาประกบกันจึงจะอ่านได้ครบ (อย่างเช่นในสมัยราชวงศ์ฮั่น) หรืออีกกรณีคือข้อความสองซีกเหมือนกันแต่ตรงกลางจะมีลายตราที่ถูกผ่าครึ่ง ต้องนำสองซีกมาประกบกันจึงจะเห็นรูปครบ (อย่างเช่นในสมัยฉิน) เพราะฉนั้นผู้ที่มีเพียงซีกเดียวจึงไม่สามารถทำอีกซีกขึ้นใหม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าอีกซีกเขียนหรือวาดอะไรไว้บ้าง (ในบางสมัยแกนในยังมีรูให้ทำเหมือนตัวยื่นเข้าไปประกบด้วย...เพิ่มความยากอีกหนึ่งขั้น) ทั้งนี้ ข้อความที่สมบูรณ์จะระบุขอบเขตอำนาจชัดเจนว่าไว้ใช้สำหรับกองทัพใดและพื้นที่ใด ดังนั้น ไขข้อข้องใจไปสองเปลาะว่า ตราอาญาสิทธิ์ทำขึ้นใหม่เองเฉพาะซีกเดียวไม่ได้ และตราแต่ละตัวมีอำนาจควบคุมกองทัพจากพื้นที่เดียวตามที่กำหนดไว้เท่านั้น โยกย้ายกองกำลังอื่นไม่ได้ ปัจจุบันมีการค้นพบของจริงจากยุคสมัยราชวงศ์ฉินได้ 3 ตัว คือซินกัวหู่ฝู หยางหลิงหู่ฝู และตู้หู่ฝู (รูปประกอบยกมาสองตัว) จะเห็นว่ารูปร่างลวดลายแตกต่างกัน และขนาดของจริงก็แตกต่างกันไปเล็กน้อย จากภาษาที่ใช้ นักโบราณคดีพบว่าทั้งสามตัวนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นพร้อมกันแม้จะมาจากยุคสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้เหมือนกัน ตราหู่ฝูคือตราพยัคฆ์ แต่จริงๆ แล้วตราอาญาสิทธิ์ทางทหารเรียกว่า ‘จวินฝู’ และอาจทำเป็นรูปแบบใดก็ได้ ในสมัยราชวงศ์ถัง ตราอาญาสิทธิ์มีทั้งรูปปลา กระต่าย และเต่า และเมื่อถึงยุคสมัยราชวงศ์หยวนก็มีการปรับเปลี่ยนเป็นใช้ป้ายอาญาสิทธิ์แทน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.sohu.com/a/403266963_427962 https://www.xuehua.us/a/5eb7de1b86ec4d0bd8de2c68 https://baike.baidu.com/item/%E8%99%8E%E7%AC%A6/5191 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/%E8%99%8E%E7%AC%A6/5191 https://www.xuehua.us/a/5eb7de1b86ec4d0bd8de2c68 https://m.52lishi.com/article/45237.html #ตราอาญาสิทธิ์ทหาร #หู่ฝู #ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้ #ประวัติศาสตร์จีน #ราชวงศ์ฉิน
    WWW.SOHU.COM
    关晓彤新剧未播先被群嘲,《我就是这般女子》为何“差评预定”?_演技
    《凤囚凰》是其主演的第一部爱情题材偶像剧,但在这部剧中,她在大众的好演技形象直接滑铁卢,后来的《极光之恋》、《甜蜜暴击》更是一步步加深了观众对其演技的负面印象,她所主演的三部言情剧均是嘲讽居多,接二…
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ ยังมีหลายวิธีในการติดต่อสื่อสารที่มนุษย์ใช้กันมาหลายศตวรรษ! มาดูตัวเลือกที่น่าสนใจกัน:

    ### 1. **การสื่อสารแบบเห็นหน้า (Face-to-Face)**
    - **การพูดคุยโดยตรง**: พบปะกันสดๆ ในระยะใกล้
    - **การประชุมกลุ่ม**: จัดวงสนทนาในสถานที่เดียวกัน
    - **ภาษาใบ้และสัญญาณมือ**: ใช้ร่างกายสื่อสาร (เช่น ภาษามือสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน)

    ### 2. **ระบบไปรษณีย์ดั้งเดิม**
    - **จดหมาย**: เขียนสารลงกระดาษ ส่งผ่านตู้ไปรษณีย์
    - **โปสการ์ด**: ส่งข้อความสั้นๆ พร้อมภาพ
    - **บริการขนส่งเอกสาร**: เช่น นกพิราบสื่อสาร (ยังใช้ในบางพื้นที่!) หรือบริการส่งเอกสารเร่งด่วน

    ### 3. **ระบบโทรคมนาคมพื้นฐาน**
    - **โทรศัพท์บ้าน**: ใช้สายทองแดงสื่อสาร
    - **โทรเลข**: ส่งข้อความสั้นด้วยรหัสมอร์ส (ยังใช้ในบางภาคส่วน)
    - **เพจเจอร์ (เครื่องเรียก)**: ส่งเลขโทรกลับหรือข้อความสั้น

    ### 4. **คลื่นวิทยุ**
    - **วิทยุสมัครเล่น (แฮมเรดิโอ)**: สำหรับผู้ได้รับอนุญาต
    - **วิทยุสื่อสาร (Walkie-Talkie)**: ใช้งานในระยะ 3-5 กม.
    - **วิทยุกระจายเสียง**: ส่งข่าวสารสู่มวลชน (FM/AM)
    - **วิทยุเรือ/เครื่องบิน**: สำหรับการเดินทาง

    ### 5. **วิธีการฉุกเฉิน**
    - **สัญญาณควัน/ไฟ**: ใช้ในพื้นที่ห่างไกล
    - **นกหวีดฉุกเฉิน**: ส่งสัญญาณ SOS (· · · — — — · · ·)
    - **กระจกสะท้อนแสง**: ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ

    ### 6. **เครือข่ายชุมชน**
    - **ป้ายประกาศ**: ติดข้อความในสถานที่สาธารณะ
    - **หอกระจายข่าว**: ใช้ในหมู่บ้าน
    - **เครือข่ายมนุษย์**: ให้เพื่อน/เพื่อนบ้านส่งสารต่อๆ กัน

    ### 7. **สื่อบันทึกข้อมูล**
    - **แผ่นดิสก์/USB**: คัดลอกไฟล์ส่งต่อกันทางกายภาพ
    - **หนังสือ/เอกสาร**: ใช้ห้องสมุดหรือส่งต่อตำรา

    ### เทคโนโลยีที่น่าสนใจโดยไม่ใช้อินเทอร์เน็ต
    - **Mesh Network**: เชื่อมต่ออุปกรณ์แบบ peer-to-peer
    - **LoRaWAN**: ส่งข้อมูลระยะไกลด้วยพลังงานต่ำ
    - **บริการส่งข้อความผ่านดาวเทียม** (เช่น ผ่านอุปกรณ์ InReach)

    > **ตัวอย่างในวิกฤต**: หลังพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในฟิลิปปินส์ (2013) เครือข่ายวิทยุสมัครเล่นกลายเป็นระบบสื่อสารหลักที่ช่วยชีวิตผู้คน!

    แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต มนุษย์เรายังคงสร้างช่องทางสื่อสารได้เสมอ โดยเฉพาะการ **ออกแบบระบบสำรอง** เช่น วิทยุฉุกเฉิน หรือการฝึกใช้รหัสมอร์ส ก็เป็นทักษะที่มีค่าควรเรียนรู้ไว้สำหรับสถานการณ์ไม่คาดฝันครับ 🚨
    เมื่อไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ ยังมีหลายวิธีในการติดต่อสื่อสารที่มนุษย์ใช้กันมาหลายศตวรรษ! มาดูตัวเลือกที่น่าสนใจกัน: ### 1. **การสื่อสารแบบเห็นหน้า (Face-to-Face)** - **การพูดคุยโดยตรง**: พบปะกันสดๆ ในระยะใกล้ - **การประชุมกลุ่ม**: จัดวงสนทนาในสถานที่เดียวกัน - **ภาษาใบ้และสัญญาณมือ**: ใช้ร่างกายสื่อสาร (เช่น ภาษามือสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน) ### 2. **ระบบไปรษณีย์ดั้งเดิม** - **จดหมาย**: เขียนสารลงกระดาษ ส่งผ่านตู้ไปรษณีย์ - **โปสการ์ด**: ส่งข้อความสั้นๆ พร้อมภาพ - **บริการขนส่งเอกสาร**: เช่น นกพิราบสื่อสาร (ยังใช้ในบางพื้นที่!) หรือบริการส่งเอกสารเร่งด่วน ### 3. **ระบบโทรคมนาคมพื้นฐาน** - **โทรศัพท์บ้าน**: ใช้สายทองแดงสื่อสาร - **โทรเลข**: ส่งข้อความสั้นด้วยรหัสมอร์ส (ยังใช้ในบางภาคส่วน) - **เพจเจอร์ (เครื่องเรียก)**: ส่งเลขโทรกลับหรือข้อความสั้น ### 4. **คลื่นวิทยุ** - **วิทยุสมัครเล่น (แฮมเรดิโอ)**: สำหรับผู้ได้รับอนุญาต - **วิทยุสื่อสาร (Walkie-Talkie)**: ใช้งานในระยะ 3-5 กม. - **วิทยุกระจายเสียง**: ส่งข่าวสารสู่มวลชน (FM/AM) - **วิทยุเรือ/เครื่องบิน**: สำหรับการเดินทาง ### 5. **วิธีการฉุกเฉิน** - **สัญญาณควัน/ไฟ**: ใช้ในพื้นที่ห่างไกล - **นกหวีดฉุกเฉิน**: ส่งสัญญาณ SOS (· · · — — — · · ·) - **กระจกสะท้อนแสง**: ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ ### 6. **เครือข่ายชุมชน** - **ป้ายประกาศ**: ติดข้อความในสถานที่สาธารณะ - **หอกระจายข่าว**: ใช้ในหมู่บ้าน - **เครือข่ายมนุษย์**: ให้เพื่อน/เพื่อนบ้านส่งสารต่อๆ กัน ### 7. **สื่อบันทึกข้อมูล** - **แผ่นดิสก์/USB**: คัดลอกไฟล์ส่งต่อกันทางกายภาพ - **หนังสือ/เอกสาร**: ใช้ห้องสมุดหรือส่งต่อตำรา ### เทคโนโลยีที่น่าสนใจโดยไม่ใช้อินเทอร์เน็ต - **Mesh Network**: เชื่อมต่ออุปกรณ์แบบ peer-to-peer - **LoRaWAN**: ส่งข้อมูลระยะไกลด้วยพลังงานต่ำ - **บริการส่งข้อความผ่านดาวเทียม** (เช่น ผ่านอุปกรณ์ InReach) > **ตัวอย่างในวิกฤต**: หลังพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนในฟิลิปปินส์ (2013) เครือข่ายวิทยุสมัครเล่นกลายเป็นระบบสื่อสารหลักที่ช่วยชีวิตผู้คน! แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต มนุษย์เรายังคงสร้างช่องทางสื่อสารได้เสมอ โดยเฉพาะการ **ออกแบบระบบสำรอง** เช่น วิทยุฉุกเฉิน หรือการฝึกใช้รหัสมอร์ส ก็เป็นทักษะที่มีค่าควรเรียนรู้ไว้สำหรับสถานการณ์ไม่คาดฝันครับ 🚨
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • นครปฐม – กลืนยาบ้าหวังรอด แต่ไม่รอดชีวิต” หนุ่ม 25 ปิดบังความจริง กลืนยาบ้า 49 เม็ด ก่อนช็อกดับคาห้องขัง ตร.-รพ.แจงชัด ไม่ได้ละเลย ไม่ได้ปิดข้อมูลการรักษา

    วันนี้( 4 มิ.ย. ) จากกรณี นายธีรนัย ชุมปาน อายุ 25 ปี เสียชีวิตหลังถูกควบคุมตัวที่ สภ.เมืองนครปฐม ข้อหาเสพและขับเสพยาบ้า โดยมีข้อมูลภายหลังว่าเจ้าตัวกลืนยาบ้า 49 เม็ดเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม

    ตำรวจแจงต่อผู้บังคับบัญชา ว่าหลังจับกุมเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. ได้ส่งตัวตรวจสารเสพติดที่ รพ.นครปฐม ซึ่งผู้ตายระบุเพียงว่าเสพยาบ้ามา 2 เม็ด แพทย์จึงเฝ้าดูอาการประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนส่งตัวกลับมาควบคุมเพื่อดำเนินคดีตามปกติ

    ต่อมาเวลา 09.15 น. ก่อนนำตัวส่งศาล นายธีรนัยฯ หมดสติ เจ้าหน้าที่จึงรีบแจ้งมูลนิธิฯ และส่งตัวไปรพ.อีกครั้ง และเสียชีวิตในเวลาประมาณ 15.44 น. ซึ่งมีเพื่อนผู้ต้องหายืนยันภายหลังว่า นายธีรนัยฯ กลืนยาบ้าเข้าไป 49 เม็ด

    รพ.นครปฐมชี้แจง โดย นพ.สุรชัย โชคครชิตชัย ผอ.รพ.นครปฐม ระบุว่า หลังจากมีสื่อบางแขนงได้มี นำเสนอข่าวว่าทางทีมแพทย์พยาบาลผู้ทำการรักษาได้มีการปิดบังข้อมูลในการรักษา ซึ่งโดยความเป็นจริงในการนำผู้ต้องหามาทำการตรวจสารเสพติด เจ้าตัวได้แจ้งว่าได้มีการเสพยาเสพติดมา 2เม็ดจึงได้ทำการตรวจสอบหาสารเสพติดตามหลักการ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000052205

    #MGROnline #นครปฐม #กลืนยาบ้า
    นครปฐม – กลืนยาบ้าหวังรอด แต่ไม่รอดชีวิต” หนุ่ม 25 ปิดบังความจริง กลืนยาบ้า 49 เม็ด ก่อนช็อกดับคาห้องขัง ตร.-รพ.แจงชัด ไม่ได้ละเลย ไม่ได้ปิดข้อมูลการรักษา • วันนี้( 4 มิ.ย. ) จากกรณี นายธีรนัย ชุมปาน อายุ 25 ปี เสียชีวิตหลังถูกควบคุมตัวที่ สภ.เมืองนครปฐม ข้อหาเสพและขับเสพยาบ้า โดยมีข้อมูลภายหลังว่าเจ้าตัวกลืนยาบ้า 49 เม็ดเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม • ตำรวจแจงต่อผู้บังคับบัญชา ว่าหลังจับกุมเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. ได้ส่งตัวตรวจสารเสพติดที่ รพ.นครปฐม ซึ่งผู้ตายระบุเพียงว่าเสพยาบ้ามา 2 เม็ด แพทย์จึงเฝ้าดูอาการประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนส่งตัวกลับมาควบคุมเพื่อดำเนินคดีตามปกติ • ต่อมาเวลา 09.15 น. ก่อนนำตัวส่งศาล นายธีรนัยฯ หมดสติ เจ้าหน้าที่จึงรีบแจ้งมูลนิธิฯ และส่งตัวไปรพ.อีกครั้ง และเสียชีวิตในเวลาประมาณ 15.44 น. ซึ่งมีเพื่อนผู้ต้องหายืนยันภายหลังว่า นายธีรนัยฯ กลืนยาบ้าเข้าไป 49 เม็ด • รพ.นครปฐมชี้แจง โดย นพ.สุรชัย โชคครชิตชัย ผอ.รพ.นครปฐม ระบุว่า หลังจากมีสื่อบางแขนงได้มี นำเสนอข่าวว่าทางทีมแพทย์พยาบาลผู้ทำการรักษาได้มีการปิดบังข้อมูลในการรักษา ซึ่งโดยความเป็นจริงในการนำผู้ต้องหามาทำการตรวจสารเสพติด เจ้าตัวได้แจ้งว่าได้มีการเสพยาเสพติดมา 2เม็ดจึงได้ทำการตรวจสอบหาสารเสพติดตามหลักการ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000052205 • #MGROnline #นครปฐม #กลืนยาบ้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ ขออย่าปล่อยเฟกนิวส์ปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา ยันรัฐบาลเดินหน้าเต็มที่ รักษาอธิปไตย ย้ำไม่ใช่ประเด็นการเมืองที่ต้องแบ่งฝ่าย แต่ยืนยันเครื่องมืออุปกรณ์พร้อมหากเกิดเหตุปะทะ ยอมรับตระกูลชินวัตร สนิท "ฮุนเซน" จริง แต่ไม่เสียหาย ถ้าทะเลาะก็ปรับความเข้าใจกันง่าย ยันไม่ยกบ้านให้เพื่อน

    วันนี้ (4 มิ.ย. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยระบุว่า เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจ.อุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เพราะตอนนี้เรามีปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่ประเทศไทย และคนไทยทุกคนต้องรักกัน และสามัคคีกัน ต้องรวมกันให้ได้ ไม่ใช่ประเด็นการเมืองภายในประเทศที่ต้องแบ่งฝ่ายว่ารัฐบาลทำงานดีหรือไม่ ทหารทำงานยังไง แต่เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกัน และทุก ๆ สื่อ ก็ขอความช่วยเหลือ เพราะคนที่มีอิทธิพลทางความคิด ไม่ว่าจะต่อคนหมู่มาก หรือหมู่น้อย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศ คนไทยต้องสามัคคีกันถึงจะมีแรงในการพูดคุยเจรจา ต่อสู้ มันต้องใช้ความเป็นหนึ่ง ต้องใช้ความสามัคคี ต้องใช้ความรักของคนในชาติเพื่อจะสนับสนุนกัน รัฐบาลไม่ได้แปลว่าพรรคการเมืองพรรคการเมืองหนึ่ง รัฐบาล ฝ่ายค้าน ประชาชน ก็คือประเทศไทย ซึ่งเราทุกคนก็ขอให้ความร่วมมือทางด้านนี้ว่าการคอมเม้นต์ หรือปล่อยเฟคนิวส์ เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไร รัฐบาลทำเรื่องนี้เต็มที่ และรักษาอธิปไตยของเราไว้ คือสิ่งที่สำคัญ และจำเป็นที่ต้องทำอย่างแน่นอน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000052238

    #MGROnline #นายกรัฐมนตรี #ไทย #กัมพูชา
    นายกฯ ขออย่าปล่อยเฟกนิวส์ปมขัดแย้งไทย-กัมพูชา ยันรัฐบาลเดินหน้าเต็มที่ รักษาอธิปไตย ย้ำไม่ใช่ประเด็นการเมืองที่ต้องแบ่งฝ่าย แต่ยืนยันเครื่องมืออุปกรณ์พร้อมหากเกิดเหตุปะทะ ยอมรับตระกูลชินวัตร สนิท "ฮุนเซน" จริง แต่ไม่เสียหาย ถ้าทะเลาะก็ปรับความเข้าใจกันง่าย ยันไม่ยกบ้านให้เพื่อน • วันนี้ (4 มิ.ย. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยระบุว่า เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจ.อุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง เพราะตอนนี้เรามีปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่ประเทศไทย และคนไทยทุกคนต้องรักกัน และสามัคคีกัน ต้องรวมกันให้ได้ ไม่ใช่ประเด็นการเมืองภายในประเทศที่ต้องแบ่งฝ่ายว่ารัฐบาลทำงานดีหรือไม่ ทหารทำงานยังไง แต่เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกัน และทุก ๆ สื่อ ก็ขอความช่วยเหลือ เพราะคนที่มีอิทธิพลทางความคิด ไม่ว่าจะต่อคนหมู่มาก หรือหมู่น้อย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศ คนไทยต้องสามัคคีกันถึงจะมีแรงในการพูดคุยเจรจา ต่อสู้ มันต้องใช้ความเป็นหนึ่ง ต้องใช้ความสามัคคี ต้องใช้ความรักของคนในชาติเพื่อจะสนับสนุนกัน รัฐบาลไม่ได้แปลว่าพรรคการเมืองพรรคการเมืองหนึ่ง รัฐบาล ฝ่ายค้าน ประชาชน ก็คือประเทศไทย ซึ่งเราทุกคนก็ขอให้ความร่วมมือทางด้านนี้ว่าการคอมเม้นต์ หรือปล่อยเฟคนิวส์ เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไร รัฐบาลทำเรื่องนี้เต็มที่ และรักษาอธิปไตยของเราไว้ คือสิ่งที่สำคัญ และจำเป็นที่ต้องทำอย่างแน่นอน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000052238 • #MGROnline #นายกรัฐมนตรี #ไทย #กัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • ละครสมัยราชวงศ์ชิงที่ออกฉายในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีหลายเรื่องที่ดูจะมีความเนี้ยบด้านเสื้อผ้าหน้าผม วันนี้เลยเอารูปมาเปรียบเทียบให้ดู เพราะทุกเรื่องมีทั้งส่วนที่สมจริงและที่ไม่สมจริง แต่ความ ‘เอ๊ะ’ ของ Storyฯ ที่จะพูดถึงในวันนี้คือการทาปากของสาวๆ ในละครเหล่านี้ที่ดูจะเข้มข้นแตกต่างกันไป

    เพื่อนเพจหลายท่านอาจทราบอยู่แล้วว่า วัฒนธรรมจีนโบราณมีค่านิยมว่า ปากที่สวยต้องเล็ก ดังบทความข้างล่างว่า
    ...เว่ยอิงหลัวอยู่ในชุดแต่งงานสีแดงสด แป้งผัดเบาบางดุจสายลมมาลูบไล้ด้วยหิมะ แก้มแดงระเรื่อดุจท้องฟ้าถูกเกลี่ยด้วยแสงอัสดง ส่วนริมฝีปากนั้นเล่า แต้มแดงชาดเพียงจุดเดียว โดดเด่นไม่อาจมองข้าม หากบุรุษบ้านใดได้แต่งเจ้าสาวงดงามเยี่ยงนี้ คงดีใจจนบ้าคลั่ง...
    - จากเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ผู้แต่ง เซี่ยวเหลี่ยนเม้า
    (หมายเหตุ ชื่อเรื่องตามชื่อแปลอย่างเป็นทางการโดยช่อง 3 ของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้ แต่บทความ Storyฯ แปลเองจ้า)

    แฟชั่นทาปากแบบไม่เต็มริมฝีปากหรือที่เรียกว่า “เตี่ยนฉุน” (点唇 หรือริมฝีปากแต้มจุดเดียว) นั้น มีมาแต่ยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น (เห็นได้จากภาพที่แปะมาให้ดู) พอถึงยุคสมัยราชวงศ์ถังนิยมวาดเป็นดอกไม้ ถูกเปรียบเปรยในบทกวีในสมัยนั้นด้วยวลีที่ว่า “อิงเถาเสียวโข่ว” (樱桃小口) หรือปากเล็กดุจเชอร์รี่

    มีบันทึกเกร็ดชีวิตประจำวันโบราณสมัยปลายหมิงถึงชิง “เสียนฉิงโอ่วจี้” (闲情偶记) โดยหลี่อวี๋ (ค.ศ. 1611-1680) บรรยายถึงวิธีการทาปากไว้ว่า “การแต้มปากนั้น ใช้เพียงแตะเป็นจุดเดียว คล้ายผลเชอร์รี่ หากยังวาดต่อทำได้อีกเพียงสองสามแต้ม สลับยาวสั้นกว้างแคบ ประกอบเป็นพวงดอกเชอร์รี่ มิใช่เป็นรูปก้อนกลม”

    แต่อย่างที่เห็นจากรูปประกอบ รูปทรงของการทาปากเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ในสมัยราชวงศ์ชิงมีสามแบบหลักด้วยกัน คือ 1) ทาริมฝีปากบน ส่วนริมฝีปากล่างแต้มเพียงเล็กน้อย หรือ 2) วาดเป็นรูปกลีบดอกเชอรี่ (ห้ากลีบ) หรือ 3) เป็นแบบในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> คือทาริมฝีปากล่างแต่ไม่ทาริมฝีปากบน เรียกว่า “เตี่ยนเจี้ยงฉุน” (点绛唇) แบบหลังนี้มีหลักฐานเห็นชัดในรูปภาพวาดต่างๆ เช่นที่นำมาแปะให้ดูคือภาพของซูเฟย หนึ่งในพระชายาของเฉียนหลงฮ่องเต้ (ภาพแรกขวาบน)

    เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนอาจเหมือน Storyฯ ที่เข้าใจตามละครสมัยราชวงศ์ชิงหลายเรื่องว่าสมัยนั้นเน้นการแต่งหน้าเข้มควบคู่ไปกับการแต่งองค์ทรงเครื่องที่หรูหรา โดยเฉพาะสาวในวัง แต่จริงๆ แล้วนิยามความงามสตรีในยุคสมัยนั้นคือ คิ้วโก่งบาง ไม่แต่งหน้าเข้ม และทาปากอ่อนๆ จึงนับว่าละครเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> เป็นเรื่องที่แต่งหน้าได้ค่อนข้างตรงกับประวัติศาสตร์จริงพอสมควร (เฉพาะเรื่องแต่งหน้านะคะ เรื่องอื่นมีคนเคยวิจารณ์เปรียบเทียบว่ามีผิดเพี้ยนบ้างเหมือนกัน)

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.elle.com/tw/entertainment/drama/g35859439/china-drama-the-legend-of-zhenhuan/
    https://www.baobuzz.com/info/621726.html
    https://www.sohu.com/a/253010194_100213042
    https://new.qq.com/omn/20200203/20200203A0MHAR00.html
    https://imod-fms.csu.edu.tw/sysdata/doc/7/716d03a5b1b4e483/pdf.pdf
    https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_9398854
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://new.qq.com/omn/20200203/20200203A0MHAR00.html
    https://kknews.cc/fashion/qy55rgb.html
    http://www.guoxue123.com/biji/qing2/xqoj/014.htm
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/29773775

    #ตำหนักเหยียนสี่ #เว่ยอิงหลัว #หรูอี้ #เจินหวน #ราชวงศ์ชิง #แต่งหน้าจีนโบราณ #วัฒนธรรมจีนโบราณ
    ละครสมัยราชวงศ์ชิงที่ออกฉายในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีหลายเรื่องที่ดูจะมีความเนี้ยบด้านเสื้อผ้าหน้าผม วันนี้เลยเอารูปมาเปรียบเทียบให้ดู เพราะทุกเรื่องมีทั้งส่วนที่สมจริงและที่ไม่สมจริง แต่ความ ‘เอ๊ะ’ ของ Storyฯ ที่จะพูดถึงในวันนี้คือการทาปากของสาวๆ ในละครเหล่านี้ที่ดูจะเข้มข้นแตกต่างกันไป เพื่อนเพจหลายท่านอาจทราบอยู่แล้วว่า วัฒนธรรมจีนโบราณมีค่านิยมว่า ปากที่สวยต้องเล็ก ดังบทความข้างล่างว่า ...เว่ยอิงหลัวอยู่ในชุดแต่งงานสีแดงสด แป้งผัดเบาบางดุจสายลมมาลูบไล้ด้วยหิมะ แก้มแดงระเรื่อดุจท้องฟ้าถูกเกลี่ยด้วยแสงอัสดง ส่วนริมฝีปากนั้นเล่า แต้มแดงชาดเพียงจุดเดียว โดดเด่นไม่อาจมองข้าม หากบุรุษบ้านใดได้แต่งเจ้าสาวงดงามเยี่ยงนี้ คงดีใจจนบ้าคลั่ง... - จากเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ผู้แต่ง เซี่ยวเหลี่ยนเม้า (หมายเหตุ ชื่อเรื่องตามชื่อแปลอย่างเป็นทางการโดยช่อง 3 ของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้ แต่บทความ Storyฯ แปลเองจ้า) แฟชั่นทาปากแบบไม่เต็มริมฝีปากหรือที่เรียกว่า “เตี่ยนฉุน” (点唇 หรือริมฝีปากแต้มจุดเดียว) นั้น มีมาแต่ยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น (เห็นได้จากภาพที่แปะมาให้ดู) พอถึงยุคสมัยราชวงศ์ถังนิยมวาดเป็นดอกไม้ ถูกเปรียบเปรยในบทกวีในสมัยนั้นด้วยวลีที่ว่า “อิงเถาเสียวโข่ว” (樱桃小口) หรือปากเล็กดุจเชอร์รี่ มีบันทึกเกร็ดชีวิตประจำวันโบราณสมัยปลายหมิงถึงชิง “เสียนฉิงโอ่วจี้” (闲情偶记) โดยหลี่อวี๋ (ค.ศ. 1611-1680) บรรยายถึงวิธีการทาปากไว้ว่า “การแต้มปากนั้น ใช้เพียงแตะเป็นจุดเดียว คล้ายผลเชอร์รี่ หากยังวาดต่อทำได้อีกเพียงสองสามแต้ม สลับยาวสั้นกว้างแคบ ประกอบเป็นพวงดอกเชอร์รี่ มิใช่เป็นรูปก้อนกลม” แต่อย่างที่เห็นจากรูปประกอบ รูปทรงของการทาปากเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ในสมัยราชวงศ์ชิงมีสามแบบหลักด้วยกัน คือ 1) ทาริมฝีปากบน ส่วนริมฝีปากล่างแต้มเพียงเล็กน้อย หรือ 2) วาดเป็นรูปกลีบดอกเชอรี่ (ห้ากลีบ) หรือ 3) เป็นแบบในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> คือทาริมฝีปากล่างแต่ไม่ทาริมฝีปากบน เรียกว่า “เตี่ยนเจี้ยงฉุน” (点绛唇) แบบหลังนี้มีหลักฐานเห็นชัดในรูปภาพวาดต่างๆ เช่นที่นำมาแปะให้ดูคือภาพของซูเฟย หนึ่งในพระชายาของเฉียนหลงฮ่องเต้ (ภาพแรกขวาบน) เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนอาจเหมือน Storyฯ ที่เข้าใจตามละครสมัยราชวงศ์ชิงหลายเรื่องว่าสมัยนั้นเน้นการแต่งหน้าเข้มควบคู่ไปกับการแต่งองค์ทรงเครื่องที่หรูหรา โดยเฉพาะสาวในวัง แต่จริงๆ แล้วนิยามความงามสตรีในยุคสมัยนั้นคือ คิ้วโก่งบาง ไม่แต่งหน้าเข้ม และทาปากอ่อนๆ จึงนับว่าละครเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> เป็นเรื่องที่แต่งหน้าได้ค่อนข้างตรงกับประวัติศาสตร์จริงพอสมควร (เฉพาะเรื่องแต่งหน้านะคะ เรื่องอื่นมีคนเคยวิจารณ์เปรียบเทียบว่ามีผิดเพี้ยนบ้างเหมือนกัน) (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.elle.com/tw/entertainment/drama/g35859439/china-drama-the-legend-of-zhenhuan/ https://www.baobuzz.com/info/621726.html https://www.sohu.com/a/253010194_100213042 https://new.qq.com/omn/20200203/20200203A0MHAR00.html https://imod-fms.csu.edu.tw/sysdata/doc/7/716d03a5b1b4e483/pdf.pdf https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_9398854 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://new.qq.com/omn/20200203/20200203A0MHAR00.html https://kknews.cc/fashion/qy55rgb.html http://www.guoxue123.com/biji/qing2/xqoj/014.htm https://zhuanlan.zhihu.com/p/29773775 #ตำหนักเหยียนสี่ #เว่ยอิงหลัว #หรูอี้ #เจินหวน #ราชวงศ์ชิง #แต่งหน้าจีนโบราณ #วัฒนธรรมจีนโบราณ
    WWW.ELLE.COM
    《後宮甄嬛傳》前傳確定開拍!作者親揭《德妃傳》5大看點,比《如懿傳》更值得期待
    繼孫儷《甄嬛傳》、周迅《如懿傳》之後,同系列宮鬥劇又有一部衍生作品啦!
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • โชว์ภาวะผู้นำ!!!! 'นายกฯ' หนีนักข่าว ไม่ตอบปมร้อน 'เพื่อนซี้พ่อ' จะยึดดินแดนไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/19141/
    โชว์ภาวะผู้นำ!!!! 'นายกฯ' หนีนักข่าว ไม่ตอบปมร้อน 'เพื่อนซี้พ่อ' จะยึดดินแดนไทย https://www.thai-tai.tv/news/19141/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • รมต.กต.ถึงกรุงปารีสก่อนร่วมประชุม OECD พรุ่งนี้ เผยติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาใกล้ชิด สั่งปลัด กต รวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะข้อกฎหมาย เตรียมท่าทีสำหรับเจรจาในกรอบ JBC เร็วๆ นี้ ยันผู้นำกัมพูชาขอมติสภาส่งร้องศาลโลก เป็นสิทธิ์ ไม่กระทบคุย JBC เผยประท้วงกลับกัมพูชาแล้ว ย้ำไทยปฏิบัติตามหลักสากล ยึดหลักอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน

    เมื่อเวลา 11:00 น. วันที่ 2 มิ.ย.ตามเวลาประเทศฝรั่งเศส นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรี OECD ในระดับรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ พร้อมเผยถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าตน และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง และได้สั่งการให้ปลัดกต.เรียกประชุมกรมกองที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาท่าทีในเรื่องนี้ โดยมอบนโยบายว่าเราจะต้องใช้ยุทธศาสตร์ที่เรามีทุกอย่าง ไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญที่สุด คืออยากจะเห็นนโยบายที่เราจะต้องเจรจา และหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติ ไม่นำไปสู่การขยายตัวของความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนไม่อยากเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างยาวนาน สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ไม่ใช้กำลัง จึงเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นสิ่งที่นักการทูตจำเป็นจะต้องใช้

    อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ปลัด กต. ไปคุยกับกรมกองที่เกี่ยวข้องเพื่อไปรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกฎหมาย รวมภาพถ่ายทั้งหลายเตรียมท่าทีสำหรับไปเจรจาโดยเร็วในกรอบของ JBC ซึ่งตัวนี้จะมีความสำคัญ เพราะเราสามารถเจรจาหาทางออกได้ ซึ่งจะได้หรือไม่ได้นั้นตนไม่สามารถที่จะการันตีได้ แต่ว่าเป็นกลไกสำคัญที่เรามีอยู่กับกัมพูชา ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ทั้งนี้ประเทศไทยได้ผลักดันกับทางกัมพูชา ที่จะขอให้มีการจัดการประชุม JBC โดยเร็วที่สุด ขณะนี้กัมพูชา จะต้องเป็นเจ้าภาพการประชุม แต่ตนก็ยืนยันไปด้วยว่า ถ้ากัมพูชายังไม่มีความพร้อม ประเทศไทยพร้อมจัด เนื่องจากเราเห็นความสำคัญของกลไกนี้ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาใน 2 ด้าน 1. การลดความตึงเครียด ที่เกิดขึ้น และ 2. การมานั่งพูดคุยว่าเราจะกำหนด หรือหาทางแก้ไขเส้นเขตแดนระหว่างประเทศได้อย่างไร

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051893

    #MGROnline #ไทย #กัมพูชา
    รมต.กต.ถึงกรุงปารีสก่อนร่วมประชุม OECD พรุ่งนี้ เผยติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาใกล้ชิด สั่งปลัด กต รวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะข้อกฎหมาย เตรียมท่าทีสำหรับเจรจาในกรอบ JBC เร็วๆ นี้ ยันผู้นำกัมพูชาขอมติสภาส่งร้องศาลโลก เป็นสิทธิ์ ไม่กระทบคุย JBC เผยประท้วงกลับกัมพูชาแล้ว ย้ำไทยปฏิบัติตามหลักสากล ยึดหลักอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน • เมื่อเวลา 11:00 น. วันที่ 2 มิ.ย.ตามเวลาประเทศฝรั่งเศส นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรี OECD ในระดับรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ พร้อมเผยถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าตน และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง และได้สั่งการให้ปลัดกต.เรียกประชุมกรมกองที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาท่าทีในเรื่องนี้ โดยมอบนโยบายว่าเราจะต้องใช้ยุทธศาสตร์ที่เรามีทุกอย่าง ไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญที่สุด คืออยากจะเห็นนโยบายที่เราจะต้องเจรจา และหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติ ไม่นำไปสู่การขยายตัวของความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนไม่อยากเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างยาวนาน สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ไม่ใช้กำลัง จึงเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นสิ่งที่นักการทูตจำเป็นจะต้องใช้ • อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ปลัด กต. ไปคุยกับกรมกองที่เกี่ยวข้องเพื่อไปรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกฎหมาย รวมภาพถ่ายทั้งหลายเตรียมท่าทีสำหรับไปเจรจาโดยเร็วในกรอบของ JBC ซึ่งตัวนี้จะมีความสำคัญ เพราะเราสามารถเจรจาหาทางออกได้ ซึ่งจะได้หรือไม่ได้นั้นตนไม่สามารถที่จะการันตีได้ แต่ว่าเป็นกลไกสำคัญที่เรามีอยู่กับกัมพูชา ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ทั้งนี้ประเทศไทยได้ผลักดันกับทางกัมพูชา ที่จะขอให้มีการจัดการประชุม JBC โดยเร็วที่สุด ขณะนี้กัมพูชา จะต้องเป็นเจ้าภาพการประชุม แต่ตนก็ยืนยันไปด้วยว่า ถ้ากัมพูชายังไม่มีความพร้อม ประเทศไทยพร้อมจัด เนื่องจากเราเห็นความสำคัญของกลไกนี้ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาใน 2 ด้าน 1. การลดความตึงเครียด ที่เกิดขึ้น และ 2. การมานั่งพูดคุยว่าเราจะกำหนด หรือหาทางแก้ไขเส้นเขตแดนระหว่างประเทศได้อย่างไร • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051893 • #MGROnline #ไทย #กัมพูชา
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ท่านไม่รังเกียจเรา ..บุญกุศลที่เราทำไว้ในแต่ละชาติก็มีบุญเป็นเพื่อน ทุกข์ยากก็นึกถึงบุญ เกิดมาใช้กรรมให้เจ้ากรรมเขา แต่ไม่ละเลิกจะสร้างกรรมดีคือบุญกุศล
    มีพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ท่านไม่รังเกียจเรา ..บุญกุศลที่เราทำไว้ในแต่ละชาติก็มีบุญเป็นเพื่อน ทุกข์ยากก็นึกถึงบุญ เกิดมาใช้กรรมให้เจ้ากรรมเขา แต่ไม่ละเลิกจะสร้างกรรมดีคือบุญกุศล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤖 AI กำลังกลายเป็นอาวุธลับของพนักงาน
    ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตการทำงาน โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กร อย่างไรก็ตาม มีพนักงานจำนวนมากที่เลือกใช้ AI โดยไม่แจ้งให้ผู้บริหารทราบ

    จากการสำรวจของ Ivanti พบว่า หนึ่งในสามของพนักงานใช้ AI โดยไม่แจ้งให้ผู้จัดการทราบ โดยมีเหตุผลหลักสองประการ:

    1) 36% ใช้ AI เพื่อให้ได้เปรียบเหนือเพื่อนร่วมงาน
    2) 30% กังวลว่าการเปิดเผยการใช้ AI อาจทำให้พวกเขาสูญเสียงาน

    นอกจากนี้ 42% ของพนักงานออฟฟิศใช้เครื่องมือ AI เช่น ChatGPT ในการทำงาน ซึ่งเพิ่มขึ้น 16% จากปีที่แล้ว และในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ตัวเลขนี้สูงถึง 74%

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - หนึ่งในสามของพนักงานใช้ AI โดยไม่แจ้งให้ผู้จัดการทราบ
    - 36% ใช้ AI เพื่อให้ได้เปรียบเหนือเพื่อนร่วมงาน
    - 30% กังวลว่าการใช้ AI อาจทำให้พวกเขาสูญเสียงาน
    - 42% ของพนักงานออฟฟิศใช้ AI ในการทำงาน เพิ่มขึ้น 16% จากปีที่แล้ว
    - 74% ของผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ใช้ AI ในการทำงาน เพิ่มขึ้น 8% จากปีที่แล้ว

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้ AI อย่างลับ ๆ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล
    - องค์กรอาจสูญเสียการควบคุมข้อมูลสำคัญ หากพนักงานใช้ AI โดยไม่มีมาตรการป้องกัน
    - 52% ของพนักงานเชื่อว่าการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นหมายถึงการทำงานมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อความสมดุลระหว่างชีวิตและงาน
    - องค์กรต้องพัฒนาแนวทางการใช้ AI ที่ชัดเจนเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและจริยธรรม

    AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กร แต่หากไม่มีการกำกับดูแลที่ดี อาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความไว้วางใจระหว่างพนักงานกับผู้บริหาร องค์กรควร ส่งเสริมการใช้ AI อย่างโปร่งใสและมีมาตรฐาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/03/ai-is-becoming-a-secret-weapon-for-workers
    🤖 AI กำลังกลายเป็นอาวุธลับของพนักงาน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตการทำงาน โดยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กร อย่างไรก็ตาม มีพนักงานจำนวนมากที่เลือกใช้ AI โดยไม่แจ้งให้ผู้บริหารทราบ จากการสำรวจของ Ivanti พบว่า หนึ่งในสามของพนักงานใช้ AI โดยไม่แจ้งให้ผู้จัดการทราบ โดยมีเหตุผลหลักสองประการ: 1) 36% ใช้ AI เพื่อให้ได้เปรียบเหนือเพื่อนร่วมงาน 2) 30% กังวลว่าการเปิดเผยการใช้ AI อาจทำให้พวกเขาสูญเสียงาน นอกจากนี้ 42% ของพนักงานออฟฟิศใช้เครื่องมือ AI เช่น ChatGPT ในการทำงาน ซึ่งเพิ่มขึ้น 16% จากปีที่แล้ว และในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ตัวเลขนี้สูงถึง 74% ✅ ข้อมูลจากข่าว - หนึ่งในสามของพนักงานใช้ AI โดยไม่แจ้งให้ผู้จัดการทราบ - 36% ใช้ AI เพื่อให้ได้เปรียบเหนือเพื่อนร่วมงาน - 30% กังวลว่าการใช้ AI อาจทำให้พวกเขาสูญเสียงาน - 42% ของพนักงานออฟฟิศใช้ AI ในการทำงาน เพิ่มขึ้น 16% จากปีที่แล้ว - 74% ของผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ใช้ AI ในการทำงาน เพิ่มขึ้น 8% จากปีที่แล้ว ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้ AI อย่างลับ ๆ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล - องค์กรอาจสูญเสียการควบคุมข้อมูลสำคัญ หากพนักงานใช้ AI โดยไม่มีมาตรการป้องกัน - 52% ของพนักงานเชื่อว่าการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นหมายถึงการทำงานมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อความสมดุลระหว่างชีวิตและงาน - องค์กรต้องพัฒนาแนวทางการใช้ AI ที่ชัดเจนเพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและจริยธรรม AI กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กร แต่หากไม่มีการกำกับดูแลที่ดี อาจทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความไว้วางใจระหว่างพนักงานกับผู้บริหาร องค์กรควร ส่งเสริมการใช้ AI อย่างโปร่งใสและมีมาตรฐาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/03/ai-is-becoming-a-secret-weapon-for-workers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI is becoming a secret weapon for workers
    Artificial intelligence is gradually becoming part of everyday working life, promising productivity gains and a transformation of working methods. Between enthusiasm and caution, companies are trying to harness this revolutionary technology and integrate it into their processes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts