• การเปิดตัวโมเดลเอไอล่าสุดที่ดีปซีคคุยว่า ดีพอๆ กับ หรือดีกว่าโมเดลที่เป็นผู้นำในวงการอุตสาหกรรมนี้ของอเมริกา แถมใช้ต้นทุนแค่เศษเงินของบิ๊กเทคเหล่านั้นด้วย กำลังทำให้ระเบียบโลกเทคโนโลยีปั่นป่วนหนัก
    .
    สตาร์ทอัปจีนแห่งนี้ดึงดูดความสนใจในแวดวงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ทั่วโลก หลังจากเปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า การเทรน ดีปซีค-วี3 ใช้พลังการคำนวณจากชิปเอช800 ของเอ็นวิเดีย มูลค่าไม่ถึง 6 ล้านดอลลาร์
    .
    ผู้ช่วยเอไอของดีปซีคที่ขับเคลื่อนโดยดีปซีค-วี3 สามารถแซงแชตจีพีทีขึ้นเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกาเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.)
    .
    ข่าวนี้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับเหตุผลที่บริษัทเทคโนโลยีบางแห่งของอเมริกาตัดสินใจทุ่มเงินหลักหมื่นล้านแสนล้านดอลลาร์ไปกับเอไอ และยังทำให้ราคาหุ้นบิ๊กเทคหลายแห่งที่รวมถึงเอ็นวิเดียร่วงหนัก
    .
    ต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทที่กำลังเขย่าวงการเอไอทั่วโลกอยู่ในขณะนี้
    .
    สั่นสะเทือนวงการเอไอ
    .
    ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2022 ที่โอเพ่นเอไอเปิดตัวแชตจีพีที ตอนนั้นบริษัทเทคโนโลยีจีนต่างร้อนรนสร้างแชตบอตที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอออกมาแข่ง แต่การเปิดตัวแชตบอตของยักษ์จีนอย่าง ไป่ตู้ กลับสร้างความผิดหวังอย่างกว้างขวาง เนื่องจากสะท้อนว่าศักยภาพด้านเอไอระหว่างบริษัทอเมริกันกับบริษัทจีน ยังแตกต่างห่างชั้นกันมาก
    .
    อย่างไรก็ตาม เวลานี้คุณภาพและประสิทธิภาพด้านต้นทุนของโมเดลเอไอของดีปซีคทำให้ความรู้สึกพลิกกลับตาลปัตร สตาร์ทอัปเอไอแห่งนี้ของจีนระบุว่า ดีปซีค-วี3 และดีปซีค-อาร์1 ที่ได้รับการยกย่องจากพวกผู้บริหารในซิลลิคอนแวลลีย์ รวมถึงวิศวกรในบริษัทไฮเทคอเมริกานั้น มีประสิทธิภาพเทียบเท่าโมเดลเอไอรุ่นที่ล้ำสมัยที่สุดของโอเพ่นเอไอและเมตา แถมต้นทุนถูกกว่าแบบเทียบกันไม่ได้
    .
    โพสต์ของดีปซีคบนวีแชตระบุว่า ดีปซีค-อาร์1 ที่เปิดตัวสัปดาห์ที่แล้วนั้น ต้นทุนถูกกว่าโอเพ่นเอไอ o1 ถึง 20-50 เท่า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับงาน
    .
    ทว่า ยังมีบางคนแสดงความข้องใจอย่างเปิดเผยต่อเรื่องราวความสำเร็จของดีปซีค ตัวอย่างเช่น อเล็กซานเดอร์ หวัง ซีอีโอสเกล เอไอที่กล่าวโดยไม่ได้โชว์หลักฐานระหว่างให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีเมื่อวันพฤหัสฯ (23) ที่แล้ว ว่า ดีปซีคมีการแอบใช้ชิปเอช100 ของเอ็นวิเดีย 50,000 ชิ้น แต่เปิดเผยไม่ได้เนื่องจากละเมิดมาตรการควบคุมการส่งออกของวอชิงตันที่แบนการขายชิปเอไอขั้นสูงให้บริษัทจีน
    .
    ต่อมาในวันจันทร์ นักวิเคราะห์ของเบิร์นสไตน์ย้ำในบันทึกการวิจัยว่า แม้ต้นทุนการเทรนเอไอวี3 ไม่เป็นที่รับรู้ แต่คิดว่า น่าจะมากกว่า 5.58 ล้านดอลลาร์ตามที่ดีปซีคบอก นอกจากนั้นยังไม่มีการเปิดเผยต้นทุนการเทรนอาร์1 อีกด้วย
    .
    เบื้องหลังดีปซีค
    .
    ดีปซีคเป็นบริษัทสตาร์ทอัปที่ตั้งสำนักงานอยู่ในเมืองหางโจว ทางภาคตะวันออกของจีน ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิควบคุมบริษัทคือ เหลียง เหวินเฟิง ผู้ร่วมก่อตั้งกองทุนบริหารความเสี่ยงเชิงปริมาณ “ไฮ-ฟลายเออร์”
    .
    เดือนมีนาคม 2023 กองทุนของเหลียงประกาศผ่านวีแชตว่า กำลังทุ่มเททรัพยากรในการสร้างกลุ่มการวิจัยอิสระใหม่เพื่อสำรวจองค์ประกอบสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (Artificial General Intelligence) ที่โอเพ่นเอไอระบุว่า หมายถึงระบบอัตโนมัติที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ในงานที่มีมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์เกือบทั้งหมด และปลายปีนั้นดีปซีคก็ถือกำเนิดขึ้น
    .
    ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ไฮ-ฟลายเออร์ลงทุนในดีปซีคเท่าไร แต่ออฟฟิศของกองทุนแห่งนี้อยู่ในตึกเดียวกับดีปซีค และยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์ชิปที่ใช้ในการเทรนโมเดลเอไอ
    .
    ดีปซีคในสายตาปักกิ่ง
    .
    แวดวงนักการเมืองระดับสูงของจีนต่างรับรู้ถึงความสำเร็จของดีปซีค สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วันจันทร์ (20) ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเปิดตัวดีปซีค-อาร์1 เหลียงได้ไปเข้าร่วมการประชุมเชิงสัมมนาแบบปิด ร่วมกับนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่ง โดยมีนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงเป็นเจ้าภาพ
    .
    การที่เหลียงได้รับเชิญในวันนั้นเป็นสัญญาณว่า ความสำเร็จของดีปซีคน่าจะมีความสำคัญต่อเป้าหมายของปักกิ่งในการเอาชนะมาตรการควบคุมการส่งออกของวอชิงตัน และหาทางประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเองในอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์อย่างเอไอ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009081
    ..............
    Sondhi X
    การเปิดตัวโมเดลเอไอล่าสุดที่ดีปซีคคุยว่า ดีพอๆ กับ หรือดีกว่าโมเดลที่เป็นผู้นำในวงการอุตสาหกรรมนี้ของอเมริกา แถมใช้ต้นทุนแค่เศษเงินของบิ๊กเทคเหล่านั้นด้วย กำลังทำให้ระเบียบโลกเทคโนโลยีปั่นป่วนหนัก . สตาร์ทอัปจีนแห่งนี้ดึงดูดความสนใจในแวดวงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ทั่วโลก หลังจากเปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่า การเทรน ดีปซีค-วี3 ใช้พลังการคำนวณจากชิปเอช800 ของเอ็นวิเดีย มูลค่าไม่ถึง 6 ล้านดอลลาร์ . ผู้ช่วยเอไอของดีปซีคที่ขับเคลื่อนโดยดีปซีค-วี3 สามารถแซงแชตจีพีทีขึ้นเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกาเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) . ข่าวนี้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับเหตุผลที่บริษัทเทคโนโลยีบางแห่งของอเมริกาตัดสินใจทุ่มเงินหลักหมื่นล้านแสนล้านดอลลาร์ไปกับเอไอ และยังทำให้ราคาหุ้นบิ๊กเทคหลายแห่งที่รวมถึงเอ็นวิเดียร่วงหนัก . ต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับบริษัทที่กำลังเขย่าวงการเอไอทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ . สั่นสะเทือนวงการเอไอ . ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2022 ที่โอเพ่นเอไอเปิดตัวแชตจีพีที ตอนนั้นบริษัทเทคโนโลยีจีนต่างร้อนรนสร้างแชตบอตที่ขับเคลื่อนด้วยเอไอออกมาแข่ง แต่การเปิดตัวแชตบอตของยักษ์จีนอย่าง ไป่ตู้ กลับสร้างความผิดหวังอย่างกว้างขวาง เนื่องจากสะท้อนว่าศักยภาพด้านเอไอระหว่างบริษัทอเมริกันกับบริษัทจีน ยังแตกต่างห่างชั้นกันมาก . อย่างไรก็ตาม เวลานี้คุณภาพและประสิทธิภาพด้านต้นทุนของโมเดลเอไอของดีปซีคทำให้ความรู้สึกพลิกกลับตาลปัตร สตาร์ทอัปเอไอแห่งนี้ของจีนระบุว่า ดีปซีค-วี3 และดีปซีค-อาร์1 ที่ได้รับการยกย่องจากพวกผู้บริหารในซิลลิคอนแวลลีย์ รวมถึงวิศวกรในบริษัทไฮเทคอเมริกานั้น มีประสิทธิภาพเทียบเท่าโมเดลเอไอรุ่นที่ล้ำสมัยที่สุดของโอเพ่นเอไอและเมตา แถมต้นทุนถูกกว่าแบบเทียบกันไม่ได้ . โพสต์ของดีปซีคบนวีแชตระบุว่า ดีปซีค-อาร์1 ที่เปิดตัวสัปดาห์ที่แล้วนั้น ต้นทุนถูกกว่าโอเพ่นเอไอ o1 ถึง 20-50 เท่า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับงาน . ทว่า ยังมีบางคนแสดงความข้องใจอย่างเปิดเผยต่อเรื่องราวความสำเร็จของดีปซีค ตัวอย่างเช่น อเล็กซานเดอร์ หวัง ซีอีโอสเกล เอไอที่กล่าวโดยไม่ได้โชว์หลักฐานระหว่างให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซีเมื่อวันพฤหัสฯ (23) ที่แล้ว ว่า ดีปซีคมีการแอบใช้ชิปเอช100 ของเอ็นวิเดีย 50,000 ชิ้น แต่เปิดเผยไม่ได้เนื่องจากละเมิดมาตรการควบคุมการส่งออกของวอชิงตันที่แบนการขายชิปเอไอขั้นสูงให้บริษัทจีน . ต่อมาในวันจันทร์ นักวิเคราะห์ของเบิร์นสไตน์ย้ำในบันทึกการวิจัยว่า แม้ต้นทุนการเทรนเอไอวี3 ไม่เป็นที่รับรู้ แต่คิดว่า น่าจะมากกว่า 5.58 ล้านดอลลาร์ตามที่ดีปซีคบอก นอกจากนั้นยังไม่มีการเปิดเผยต้นทุนการเทรนอาร์1 อีกด้วย . เบื้องหลังดีปซีค . ดีปซีคเป็นบริษัทสตาร์ทอัปที่ตั้งสำนักงานอยู่ในเมืองหางโจว ทางภาคตะวันออกของจีน ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิควบคุมบริษัทคือ เหลียง เหวินเฟิง ผู้ร่วมก่อตั้งกองทุนบริหารความเสี่ยงเชิงปริมาณ “ไฮ-ฟลายเออร์” . เดือนมีนาคม 2023 กองทุนของเหลียงประกาศผ่านวีแชตว่า กำลังทุ่มเททรัพยากรในการสร้างกลุ่มการวิจัยอิสระใหม่เพื่อสำรวจองค์ประกอบสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (Artificial General Intelligence) ที่โอเพ่นเอไอระบุว่า หมายถึงระบบอัตโนมัติที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ในงานที่มีมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์เกือบทั้งหมด และปลายปีนั้นดีปซีคก็ถือกำเนิดขึ้น . ไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า ไฮ-ฟลายเออร์ลงทุนในดีปซีคเท่าไร แต่ออฟฟิศของกองทุนแห่งนี้อยู่ในตึกเดียวกับดีปซีค และยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์ชิปที่ใช้ในการเทรนโมเดลเอไอ . ดีปซีคในสายตาปักกิ่ง . แวดวงนักการเมืองระดับสูงของจีนต่างรับรู้ถึงความสำเร็จของดีปซีค สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วันจันทร์ (20) ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเปิดตัวดีปซีค-อาร์1 เหลียงได้ไปเข้าร่วมการประชุมเชิงสัมมนาแบบปิด ร่วมกับนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่ง โดยมีนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงเป็นเจ้าภาพ . การที่เหลียงได้รับเชิญในวันนั้นเป็นสัญญาณว่า ความสำเร็จของดีปซีคน่าจะมีความสำคัญต่อเป้าหมายของปักกิ่งในการเอาชนะมาตรการควบคุมการส่งออกของวอชิงตัน และหาทางประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเองในอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์อย่างเอไอ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009081 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1155 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ชี้ “ดีปซีค” (DeepSeek) แชตบอตเอไอจีน ที่เขย่าหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคของสหรัฐฯ ร่วงหนักเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) ควรเป็น “สัญญาณเตือน” ซิลลิคอนแวลลีย์ให้ยิ่งมุ่งมั่นทุ่มเทความสนใจเพื่อเอาชนะจีน
    .
    ถึงแม้การเปิดตัวโมเดลล่าสุดของดีปซีค บริษัทสตาร์ทอัปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกของจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในช่วงแรกๆ ถูกกลบจนเงียบสนิทจากข่าวพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จัดขึ้นในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แชตบอตของดีปซีค สามารถโค่นยักษ์แชตจีพีทีของค่ายโอเพ่นเอไอ กลายเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกา
    .
    สิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมไฮเทคของสหรัฐฯ และค่ายตะวันตกโดยรวมนั่งไม่ติด คือ การที่ดีปซีคระบุว่า พัฒนาโมเดลล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า อาร์1 นี้ ด้วยต้นทุนแค่เศษเงินของที่บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุนในการพัฒนาเอไอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอิงอยู่กับชิป และซอฟต์แวร์ราคาแพงของเอ็นวิเดีย
    .
    พัฒนาการดังกล่าวมีความสำคัญมากเนื่องจากกระแสเอไอที่จุดชนวนจากการเปิดตัวแชตจีพีทีเมื่อปลายปี 2022 นั้น กลายเป็นกระแสร้อนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นไฮเทคในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และโลกตะวันตกอื่นๆ พุ่งแรงไม่มีตกเรื่อยมา โดยเฉพาะทำให้เอ็นวิเดียกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดในโลกในขณะนี้
    .
    ข่าวความฮิตฮอตของดีปซีค กำลังสั่นสะเทือนทั่ววงการเทคโนโลยีของอเมริกา และปลุกเร้าความกังวลสำคัญที่ว่า บรรดาบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ยังควรยึดโมเดลเดิม ด้วยการลงทุนเป็นแสนๆ ล้านดอลลาร์กับเอไอแบบราคาแพงต่อไปหรือไม่ ในเมื่อบริษัทจีนอย่างดีปซีค สามารถพัฒนาโมเดลเอไอที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมด้วยต้นทุนต่ำกว่ามากมาย
    .
    นอกจากนั้น ความก้าวหน้าอย่างชัดเจนของดีปซีค ยังควรสร้างความขุ่นเคืองและตระหนกให้แก่วอชิงตัน เนื่องจากมันฟ้องว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ยุค โจ ไบเดน พยายามรักษาสถานะผู้นำด้านเทคโนโลยีของอเมริกาเอาไว้ ด้วยการกีดกันแซงก์ชันไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดทางด้านเซมิคอนดักเตอร์ ที่ถูกมองว่าเป็นฮาร์ดแวร์อันจำเป็นสำหรับการพัฒนาเอไอที่ล้ำยุคนั้น กลับไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง
    .
    ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงความเห็นทันควันในวันจันทร์ (27) ว่า การเปิดตัวดีปซีคควรถือเป็นสัญญาณเตือนว่า อุตสาหกรรมไฮเทคของอเมริกาต้องทุ่มเทความสนใจในการเอาชนะจีน
    .
    อย่างไรก็ดี ทรัมป์สำทับว่า นี่อาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับบิ๊กเทคอเมริกา เพราะไม่ต้องลงทุนเป็นหมื่นล้านป็นแสนล้านดอลลาร์ ก็มีโซลูชันแบบเดียวกันได้
    .
    ทางด้าน แซม อัลต์แมน ประธานบริหารโอเพ่นเอไอ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การมีคู่แข่งใหม่ๆ ทำให้ทั้งวงการมีความกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา พร้อมชมดีปซีค อาร์1 เป็นโมเดลที่น่าประทับใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสามารถที่นำเสนอจากต้นทุนระดับนั้น เขายังให้สัญญว่า โอเพ่นเอไอ จะเร่งปล่อยโมเดลใหม่ๆ ออกมา
    .
    ขณะที่ เดวิด แซคส์ ที่ปรึกษาด้านเอไอของทรัมป์และเป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีชื่อดัง ชี้ว่า ความสำเร็จของดีปซีคยืนยันว่า ทำเนียบขาวตัดสินใจถูกต้องแล้วในการยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการพัฒนาเอไอ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อบริษัทเอไอของอเมริกาโดยไม่มีหลักประกันว่า จีนจะไล่ตามไม่ทัน
    .
    สำหรับ มาร์ก แอนเดรสเซน นักลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เป็นพันธมิตรอีกคนหนึ่งของทรัมป์ ระบุว่า ดีปซีค อาร์1 เป็น “สปุตนิก โมเมนต์” ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่สหภาพโซเวียตปล่อยสปุตนิก กลายเป็นดาวเทียมโคจรรอบโลกดวงแรกของโลก เมื่อปี 1957 โดยเวลานั้นสหรัฐฯ ยังทำเช่นนั้นไม่ได้ โลกตะวันตกจึงทั้งทึ่งและตกตะลึงไปตามๆ กัน
    .
    แคธลีน บรูคส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเอ็กซ์ทีบี ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าจีนไล่ตามอเมริกาในการแข่งขันด้านเอไอได้เร็วขนาดนี้ เศรษฐศาสตร์ของเอไอจะต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง
    .
    สัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์ โพสต์ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการในวันจันทร์ว่า เอไอต้นทุนต่ำเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน กระนั้น ในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัมที่ดาวอส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาเตือนว่า ตะวันตกควรจับตาพัฒนาการของจีนอย่างจริงจังมาก
    .
    ไมโครซอฟท์นั้นประกาศเอาไว้ว่า ปีนี้มีแผนลงทุนในเอไอ 80,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนคู่แข่งอย่างเมตา ก็ประกาศลงทุนอย่างน้อย 60,000 ล้านดอลลาร์
    .
    คาดกันไว้ว่าเม็ดเงินเหล่านี้จำนวนมากจะไปตกอยู่กับเอ็นวิเดีย ซึ่งเวลานี้เป็นเจ้าในเรื่องชิปเอไอระดับล้ำยุคที่ใช้กับเอไอ แต่เมื่อมีข่าวดีปชีคออกมา ราคาหุ้นของเอ็นวิเดีย จึงกลับร่วงหนักถึง 17% ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์
    .
    ถือว่าสถานการณ์พิเศษมากที่ดีปซีค ซึ่งก็เช่นเดียวกับพวกบริษัทจีนอื่นๆ ถูกมาตรการจำกัดกีดกันของรัฐบาลสหรัฐฯ จึงไม่สามารถเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ระดับล้ำยุคของเอ็นวิเดียได้ กลับสามารถพัฒนาโมเดลเอไอของตนลลจนทัดเทียมกับพวกยักษ์แนวหน้าระดับโลกได้
    .
    วารสาร เอ็มไอที เทคโนโลยี รีวิว ชี้ว่า มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯนั่นเอง ที่ผลักดันให้สตาร์ทอัปจีนอย่างดีปซีค ต้องค้นหาหนทางที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพของชิปรุ่นเก่ากว่าเท่าที่จะหาได้ ตลอดจนเน้นการรวมเครือข่ายทรัพยากร และการร่วมมือประสานงานกัน
    .
    กระนั้น อีลอน มัสก์ ที่ลงทุนก้อนใหญ่ในชิปเอ็นวิเดียสำหรับบริษัทเอไอของตนเองคือ เอ็กซ์เอไอ รวมทั้งยังเป็นซีอีโอของสเกลเอไอ สตาร์ทอัปชื่อดังแห่งซิลลิคอนแวลลีย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากแอมะซอนและเมตา ออกมาแสดงความสงสัยข้องใจว่า ดีปซีค น่าจะแอบเข้าถึงชิปเอช100 ของเอ็นวิเดียอย่างผิดกฎหมาย
    .
    อย่างไรก็ดี เอ็นวิเดียออกคำแถลงยืนยันว่า เทคโนโลยีของดีปซีคปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อย่างครบถ้วน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009080
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ชี้ “ดีปซีค” (DeepSeek) แชตบอตเอไอจีน ที่เขย่าหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคของสหรัฐฯ ร่วงหนักเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) ควรเป็น “สัญญาณเตือน” ซิลลิคอนแวลลีย์ให้ยิ่งมุ่งมั่นทุ่มเทความสนใจเพื่อเอาชนะจีน . ถึงแม้การเปิดตัวโมเดลล่าสุดของดีปซีค บริษัทสตาร์ทอัปปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งตั้งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ทางภาคตะวันออกของจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในช่วงแรกๆ ถูกกลบจนเงียบสนิทจากข่าวพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จัดขึ้นในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แชตบอตของดีปซีค สามารถโค่นยักษ์แชตจีพีทีของค่ายโอเพ่นเอไอ กลายเป็นแอปฟรีที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดบนแอปสโตร์ของแอปเปิลในอเมริกา . สิ่งที่ทำให้อุตสาหกรรมไฮเทคของสหรัฐฯ และค่ายตะวันตกโดยรวมนั่งไม่ติด คือ การที่ดีปซีคระบุว่า พัฒนาโมเดลล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า อาร์1 นี้ ด้วยต้นทุนแค่เศษเงินของที่บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ลงทุนในการพัฒนาเอไอ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วอิงอยู่กับชิป และซอฟต์แวร์ราคาแพงของเอ็นวิเดีย . พัฒนาการดังกล่าวมีความสำคัญมากเนื่องจากกระแสเอไอที่จุดชนวนจากการเปิดตัวแชตจีพีทีเมื่อปลายปี 2022 นั้น กลายเป็นกระแสร้อนแรงต่อเนื่อง ส่งผลให้หุ้นไฮเทคในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ และโลกตะวันตกอื่นๆ พุ่งแรงไม่มีตกเรื่อยมา โดยเฉพาะทำให้เอ็นวิเดียกลายเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงที่สุดในโลกในขณะนี้ . ข่าวความฮิตฮอตของดีปซีค กำลังสั่นสะเทือนทั่ววงการเทคโนโลยีของอเมริกา และปลุกเร้าความกังวลสำคัญที่ว่า บรรดาบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ยังควรยึดโมเดลเดิม ด้วยการลงทุนเป็นแสนๆ ล้านดอลลาร์กับเอไอแบบราคาแพงต่อไปหรือไม่ ในเมื่อบริษัทจีนอย่างดีปซีค สามารถพัฒนาโมเดลเอไอที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมด้วยต้นทุนต่ำกว่ามากมาย . นอกจากนั้น ความก้าวหน้าอย่างชัดเจนของดีปซีค ยังควรสร้างความขุ่นเคืองและตระหนกให้แก่วอชิงตัน เนื่องจากมันฟ้องว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ยุค โจ ไบเดน พยายามรักษาสถานะผู้นำด้านเทคโนโลยีของอเมริกาเอาไว้ ด้วยการกีดกันแซงก์ชันไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดทางด้านเซมิคอนดักเตอร์ ที่ถูกมองว่าเป็นฮาร์ดแวร์อันจำเป็นสำหรับการพัฒนาเอไอที่ล้ำยุคนั้น กลับไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิง . ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาแสดงความเห็นทันควันในวันจันทร์ (27) ว่า การเปิดตัวดีปซีคควรถือเป็นสัญญาณเตือนว่า อุตสาหกรรมไฮเทคของอเมริกาต้องทุ่มเทความสนใจในการเอาชนะจีน . อย่างไรก็ดี ทรัมป์สำทับว่า นี่อาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับบิ๊กเทคอเมริกา เพราะไม่ต้องลงทุนเป็นหมื่นล้านป็นแสนล้านดอลลาร์ ก็มีโซลูชันแบบเดียวกันได้ . ทางด้าน แซม อัลต์แมน ประธานบริหารโอเพ่นเอไอ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การมีคู่แข่งใหม่ๆ ทำให้ทั้งวงการมีความกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา พร้อมชมดีปซีค อาร์1 เป็นโมเดลที่น่าประทับใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสามารถที่นำเสนอจากต้นทุนระดับนั้น เขายังให้สัญญว่า โอเพ่นเอไอ จะเร่งปล่อยโมเดลใหม่ๆ ออกมา . ขณะที่ เดวิด แซคส์ ที่ปรึกษาด้านเอไอของทรัมป์และเป็นนักลงทุนด้านเทคโนโลยีชื่อดัง ชี้ว่า ความสำเร็จของดีปซีคยืนยันว่า ทำเนียบขาวตัดสินใจถูกต้องแล้วในการยกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการพัฒนาเอไอ เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อบริษัทเอไอของอเมริกาโดยไม่มีหลักประกันว่า จีนจะไล่ตามไม่ทัน . สำหรับ มาร์ก แอนเดรสเซน นักลงทุนด้านเทคโนโลยีที่เป็นพันธมิตรอีกคนหนึ่งของทรัมป์ ระบุว่า ดีปซีค อาร์1 เป็น “สปุตนิก โมเมนต์” ซึ่งหมายถึงเหตุการณ์ที่สหภาพโซเวียตปล่อยสปุตนิก กลายเป็นดาวเทียมโคจรรอบโลกดวงแรกของโลก เมื่อปี 1957 โดยเวลานั้นสหรัฐฯ ยังทำเช่นนั้นไม่ได้ โลกตะวันตกจึงทั้งทึ่งและตกตะลึงไปตามๆ กัน . แคธลีน บรูคส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเอ็กซ์ทีบี ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าจีนไล่ตามอเมริกาในการแข่งขันด้านเอไอได้เร็วขนาดนี้ เศรษฐศาสตร์ของเอไอจะต้องเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง . สัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์ โพสต์ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการในวันจันทร์ว่า เอไอต้นทุนต่ำเป็นสิ่งที่ดีสำหรับทุกคน กระนั้น ในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัมที่ดาวอส เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาเตือนว่า ตะวันตกควรจับตาพัฒนาการของจีนอย่างจริงจังมาก . ไมโครซอฟท์นั้นประกาศเอาไว้ว่า ปีนี้มีแผนลงทุนในเอไอ 80,000 ล้านดอลลาร์ ส่วนคู่แข่งอย่างเมตา ก็ประกาศลงทุนอย่างน้อย 60,000 ล้านดอลลาร์ . คาดกันไว้ว่าเม็ดเงินเหล่านี้จำนวนมากจะไปตกอยู่กับเอ็นวิเดีย ซึ่งเวลานี้เป็นเจ้าในเรื่องชิปเอไอระดับล้ำยุคที่ใช้กับเอไอ แต่เมื่อมีข่าวดีปชีคออกมา ราคาหุ้นของเอ็นวิเดีย จึงกลับร่วงหนักถึง 17% ในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ . ถือว่าสถานการณ์พิเศษมากที่ดีปซีค ซึ่งก็เช่นเดียวกับพวกบริษัทจีนอื่นๆ ถูกมาตรการจำกัดกีดกันของรัฐบาลสหรัฐฯ จึงไม่สามารถเข้าถึงเซมิคอนดักเตอร์ระดับล้ำยุคของเอ็นวิเดียได้ กลับสามารถพัฒนาโมเดลเอไอของตนลลจนทัดเทียมกับพวกยักษ์แนวหน้าระดับโลกได้ . วารสาร เอ็มไอที เทคโนโลยี รีวิว ชี้ว่า มาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯนั่นเอง ที่ผลักดันให้สตาร์ทอัปจีนอย่างดีปซีค ต้องค้นหาหนทางที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาด้านซอฟต์แวร์ มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพของชิปรุ่นเก่ากว่าเท่าที่จะหาได้ ตลอดจนเน้นการรวมเครือข่ายทรัพยากร และการร่วมมือประสานงานกัน . กระนั้น อีลอน มัสก์ ที่ลงทุนก้อนใหญ่ในชิปเอ็นวิเดียสำหรับบริษัทเอไอของตนเองคือ เอ็กซ์เอไอ รวมทั้งยังเป็นซีอีโอของสเกลเอไอ สตาร์ทอัปชื่อดังแห่งซิลลิคอนแวลลีย์ที่ได้รับการสนับสนุนจากแอมะซอนและเมตา ออกมาแสดงความสงสัยข้องใจว่า ดีปซีค น่าจะแอบเข้าถึงชิปเอช100 ของเอ็นวิเดียอย่างผิดกฎหมาย . อย่างไรก็ดี เอ็นวิเดียออกคำแถลงยืนยันว่า เทคโนโลยีของดีปซีคปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ อย่างครบถ้วน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009080 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1131 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## จีน - อเมริกา บนสนามรบด้าน AI ##
    ..
    ..
    แค่ชั่วข้ามคืน ทั่วโลกได้รู้จัก DeepSeek AI จีน กันหมด...!!!
    .
    หลังถล่ม หุ้นเทคโนลียี อเมริกา ยับ ในคืนเดียว...
    .
    (เปิด Gap โดดทิ้งตัวลงมาแท่งแดงยาวเลย...!!!)
    .
    น่าหมั่นไส้ขนาดนี้ ล่าสุด DeepSeek AI จีน ก็เลยตองโดน "โจมตีทางไซเบอร์" ไปตามระเบียบ...
    .
    (ฝีมือใครกันหว่า...??? 🤣🤣🤣🤣)
    .
    ตอนนี้จำกัดการสมัคร เหลือแค่คนในประเทศจีนก่อน...
    .
    จากบริษัทสตาร์ทอัพเล็กๆ ที่มีฐานอยู่ในเมืองหางโจวและก่อตั้งขึ้นในปี 2023
    .
    วันนี้ ก้าวกระโดดมา จนเป็นรายแรกที่ได้รับการยกย่องจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของ อเมริกา...
    .
    ว่ามีประสิทธิภาพ เทียบเท่า หรือ เหนือกว่า "โมเดล" ที่ล้ำสมัยของ อเมริกา ด้วยซ้ำ...!!!
    .
    https://shorturl.asia/dyLo6
    ## จีน - อเมริกา บนสนามรบด้าน AI ## .. .. แค่ชั่วข้ามคืน ทั่วโลกได้รู้จัก DeepSeek AI จีน กันหมด...!!! . หลังถล่ม หุ้นเทคโนลียี อเมริกา ยับ ในคืนเดียว... . (เปิด Gap โดดทิ้งตัวลงมาแท่งแดงยาวเลย...!!!) . น่าหมั่นไส้ขนาดนี้ ล่าสุด DeepSeek AI จีน ก็เลยตองโดน "โจมตีทางไซเบอร์" ไปตามระเบียบ... . (ฝีมือใครกันหว่า...??? 🤣🤣🤣🤣) . ตอนนี้จำกัดการสมัคร เหลือแค่คนในประเทศจีนก่อน... . จากบริษัทสตาร์ทอัพเล็กๆ ที่มีฐานอยู่ในเมืองหางโจวและก่อตั้งขึ้นในปี 2023 . วันนี้ ก้าวกระโดดมา จนเป็นรายแรกที่ได้รับการยกย่องจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของ อเมริกา... . ว่ามีประสิทธิภาพ เทียบเท่า หรือ เหนือกว่า "โมเดล" ที่ล้ำสมัยของ อเมริกา ด้วยซ้ำ...!!! . https://shorturl.asia/dyLo6
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • "DeepSeek สตาร์ทอัพ AI จีนท้าชน OpenAI คว้าอันดับ 1 แอปสหรัฐฯ ด้วยโมเดล R1 โอเพนซอร์ส ต้นทุนพัฒนาเพียง 1 ใน 20 ของคู่แข่ง!"

    ที่มาและความเป็นมาของ DeepSeek

    DeepSeek คือสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ก่อตั้งใน พฤษภาคม 2023 โดย เหลียง เวินเฟิง (Liang Wenfeng) นักลงทุนชื่อดังและผู้เชี่ยวชาญ AI อดีตผู้บริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ทีมวิจัยหลักประกอบด้วยบัณฑิตจบใหม่และนักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน เช่น มหาวิทยาลัยปักกิ่ง และมหาวิทยาลัยชิงหวา

    จุดพลิกเกม
    DeepSeek เปิดตัว โมเดล R1 อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2025 หลังมีข่าวลือตั้งแต่พฤศจิกายน 2024 โดยโมเดลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ OpenAI o1 โดยตรง ด้วยจุดเด่น 3 ด้าน:
    1. ความสามารถเชิงวิเคราะห์: ให้ผลลัพธ์เหนือกว่าในงานคำนวณคณิตศาสตร์-เขียนโปรแกรม และการให้เหตุผลขั้นสูง
    2. ต้นทุนพัฒนาต่ำสุดวงการ: ใช้เงินเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์ เทียบกับคู่แข่งที่ใช้งบหลายร้อยล้าน (ต่ำกว่า 18-20 เท่า)
    3. ระบบโอเพนซอร์สเต็มรูปแบบ: เปิดเผยโค้ดและโครงสร้างโมเดลทั้งหมด ต่างจาก OpenAI ที่ยังปิดบางส่วน

    แม้มีสำนักงานใหญ่ในจีน แต่โมเดล R1 กลับโด่งดังในตลาดสหรัฐฯ ด้วยการขึ้นเป็น แอปฯ อันดับ 1 บน App Store และ Google Play แซงหน้า ChatGPT ภายใน 2 สัปดาห์หลังเปิดตัว

    เบื้องหลังความสำเร็จ
    • เทคโนโลยี MLA + DeepSeekMoESparse: สถาปัตยกรรม AI ที่ลดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ได้ถึง 40%
    • กลยุทธ์ "วิจัยก่อนค้า": เปิด API ฟรีให้ชุมชนนักพัฒนาและวิจัย ทุ่มงบ 80% ของบริษัทเพื่อการวิจัยพื้นฐาน
    • แรงกดดันต่อตลาด: ก่อให้เกิด "สงครามราคา AI" ในจีน บีบให้ Alibaba, Tencent และ Baidu ต้องลดราคาโมเดลตัวเอง 30-50%

    สัญญาณเปลี่ยนสนาม AI โลก
    ความสำเร็จของ DeepSeek ถูกมองว่าเป็นหลักฐานว่า จีนสามารถท้าทายการผูกขาด AI ของสหรัฐฯ ได้ แม้ถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ดังที่ The Wall Street Journal วิเคราะห์ว่า
    "R1 คือตัวอย่างชัดเจนที่แสดงว่า มาตรการควบคุมชิปของสหรัฐฯ อาจส่งผลตรงข้าม – กระตุ้นให้จีนสร้างนวัตกรรมแบบ 'คิดนอกกรอบ'"
    ขณะที่ เหลียง เวินเฟิง ให้สัมภาษณ์ว่า
    "เราเชื่อว่า AGI (ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป) ต้องเกิดจากความร่วมมือของมวลมนุษยชาติ ไม่ใช่แค่บริษัทยักษ์ใหญ่ 2-3 แห่ง"

    อนาคตที่จับตาของ DeepSeek
    บริษัทประกาศแผนระยะยาว 3 ด้าน:
    1. พัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ (Large Language Model) รุ่นถัดไปภายในปี 2026
    2. ขยายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก
    3. ท้าทายเป้าหมายสูงสุด: สร้าง AGI ที่เข้าถึงได้ทุกคน
    ข้อเท็จจริงน่าสนใจ: หลังเปิดตัว R1 มีนักพัฒนาเกือบ 50,000 คน จาก 120 ประเทศ เข้ามาปรับใช้โมเดลนี้ในโครงการของตัวเองภายในเดือนแรก!

    ล่าสุด
    จีน: ประกาศแผนสนับสนุน AI ด้วยเงิน 1 ล้านล้านหยวน (137 พันล้านดอลลาร์)
    เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025 ธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) ประกาศแผน "支持人工智能产业链发展行动方案" (แผนปฏิบัติการสนับสนุนห่วงโซ่อุตสาหกรรม AI) โดยจะจัดสรรเงินทุน 1 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 137 พันล้านดอลลาร์) ในระยะเวลา 5 ปี เพื่อสนับสนุนการพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรม AI ทั้งในด้านการวิจัยพื้นฐาน การประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจ และการสร้างระบบนิเวศ AI ที่แข็งแกร่ง

    ติดตามผู้ก่อตั้งได้ที่
    https://x.com/zizhpan
    https://x.com/deepseek_ai

    ใช้งานฟรีไม่จำกัดได้ที่ (สมัครสมาชิกฟรี):
    https://chat.deepseek.com/

    อ้างอิง: Spring News, Mekha News, https://x.com/kimmonismus
    "DeepSeek สตาร์ทอัพ AI จีนท้าชน OpenAI คว้าอันดับ 1 แอปสหรัฐฯ ด้วยโมเดล R1 โอเพนซอร์ส ต้นทุนพัฒนาเพียง 1 ใน 20 ของคู่แข่ง!" ที่มาและความเป็นมาของ DeepSeek DeepSeek คือสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ก่อตั้งใน พฤษภาคม 2023 โดย เหลียง เวินเฟิง (Liang Wenfeng) นักลงทุนชื่อดังและผู้เชี่ยวชาญ AI อดีตผู้บริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ทีมวิจัยหลักประกอบด้วยบัณฑิตจบใหม่และนักศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน เช่น มหาวิทยาลัยปักกิ่ง และมหาวิทยาลัยชิงหวา จุดพลิกเกม DeepSeek เปิดตัว โมเดล R1 อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2025 หลังมีข่าวลือตั้งแต่พฤศจิกายน 2024 โดยโมเดลนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ OpenAI o1 โดยตรง ด้วยจุดเด่น 3 ด้าน: 1. ความสามารถเชิงวิเคราะห์: ให้ผลลัพธ์เหนือกว่าในงานคำนวณคณิตศาสตร์-เขียนโปรแกรม และการให้เหตุผลขั้นสูง 2. ต้นทุนพัฒนาต่ำสุดวงการ: ใช้เงินเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์ เทียบกับคู่แข่งที่ใช้งบหลายร้อยล้าน (ต่ำกว่า 18-20 เท่า) 3. ระบบโอเพนซอร์สเต็มรูปแบบ: เปิดเผยโค้ดและโครงสร้างโมเดลทั้งหมด ต่างจาก OpenAI ที่ยังปิดบางส่วน แม้มีสำนักงานใหญ่ในจีน แต่โมเดล R1 กลับโด่งดังในตลาดสหรัฐฯ ด้วยการขึ้นเป็น แอปฯ อันดับ 1 บน App Store และ Google Play แซงหน้า ChatGPT ภายใน 2 สัปดาห์หลังเปิดตัว เบื้องหลังความสำเร็จ • เทคโนโลยี MLA + DeepSeekMoESparse: สถาปัตยกรรม AI ที่ลดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ได้ถึง 40% • กลยุทธ์ "วิจัยก่อนค้า": เปิด API ฟรีให้ชุมชนนักพัฒนาและวิจัย ทุ่มงบ 80% ของบริษัทเพื่อการวิจัยพื้นฐาน • แรงกดดันต่อตลาด: ก่อให้เกิด "สงครามราคา AI" ในจีน บีบให้ Alibaba, Tencent และ Baidu ต้องลดราคาโมเดลตัวเอง 30-50% สัญญาณเปลี่ยนสนาม AI โลก ความสำเร็จของ DeepSeek ถูกมองว่าเป็นหลักฐานว่า จีนสามารถท้าทายการผูกขาด AI ของสหรัฐฯ ได้ แม้ถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง ดังที่ The Wall Street Journal วิเคราะห์ว่า "R1 คือตัวอย่างชัดเจนที่แสดงว่า มาตรการควบคุมชิปของสหรัฐฯ อาจส่งผลตรงข้าม – กระตุ้นให้จีนสร้างนวัตกรรมแบบ 'คิดนอกกรอบ'" ขณะที่ เหลียง เวินเฟิง ให้สัมภาษณ์ว่า "เราเชื่อว่า AGI (ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป) ต้องเกิดจากความร่วมมือของมวลมนุษยชาติ ไม่ใช่แค่บริษัทยักษ์ใหญ่ 2-3 แห่ง" อนาคตที่จับตาของ DeepSeek บริษัทประกาศแผนระยะยาว 3 ด้าน: 1. พัฒนาโมเดลขนาดใหญ่ (Large Language Model) รุ่นถัดไปภายในปี 2026 2. ขยายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก 3. ท้าทายเป้าหมายสูงสุด: สร้าง AGI ที่เข้าถึงได้ทุกคน ข้อเท็จจริงน่าสนใจ: หลังเปิดตัว R1 มีนักพัฒนาเกือบ 50,000 คน จาก 120 ประเทศ เข้ามาปรับใช้โมเดลนี้ในโครงการของตัวเองภายในเดือนแรก! ล่าสุด จีน: ประกาศแผนสนับสนุน AI ด้วยเงิน 1 ล้านล้านหยวน (137 พันล้านดอลลาร์) เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2025 ธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) ประกาศแผน "支持人工智能产业链发展行动方案" (แผนปฏิบัติการสนับสนุนห่วงโซ่อุตสาหกรรม AI) โดยจะจัดสรรเงินทุน 1 ล้านล้านหยวน (ประมาณ 137 พันล้านดอลลาร์) ในระยะเวลา 5 ปี เพื่อสนับสนุนการพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรม AI ทั้งในด้านการวิจัยพื้นฐาน การประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจ และการสร้างระบบนิเวศ AI ที่แข็งแกร่ง ติดตามผู้ก่อตั้งได้ที่ https://x.com/zizhpan https://x.com/deepseek_ai ใช้งานฟรีไม่จำกัดได้ที่ (สมัครสมาชิกฟรี): https://chat.deepseek.com/ อ้างอิง: Spring News, Mekha News, https://x.com/kimmonismus
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยว #จีน #หางโจว #อู๋ซี #เซี่ยงไฮ้ #ดิสนีย์แลนด์ 🔥🔥

    🗓 จำนวนวัน 5 วัน 4 คืน
    ✈ SL-ไทยไลอ้อนแอร์
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐
    ❌ ทัวร์ไม่เข้าร้านค้ารัฐบาล

    📍เมืองอู๋ซี
    📍 ดอกซากุระเกาะหัวเต่า
    📍 สะพานชิงหมิงเฉียว
    📍 พระใหญ่หลิงซาน

    📍 มหานครเซี่ยงไฮ้
    📍 สวนนอร์ทบันด์
    📍 หาดไว่ทาน
    📍 ถนนนานกิง
    📍 POP MART Global Flagship Store
    📍 Miniso Land Shanghai
    📍 สวนสนุกเซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์

    📍 เมืองหางโจว
    📍 ทะเลสาบซีหู
    📍 ถนนโบราณเหอฟางเจีย
    📍 City Balcony

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire
    https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์จีน #ทัวร์จีน #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #จีน #หางโจว #อู๋ซี #เซี่ยงไฮ้ #ดิสนีย์แลนด์ 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 5 วัน 4 คืน ✈ SL-ไทยไลอ้อนแอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐ ❌ ทัวร์ไม่เข้าร้านค้ารัฐบาล 📍เมืองอู๋ซี 📍 ดอกซากุระเกาะหัวเต่า 📍 สะพานชิงหมิงเฉียว 📍 พระใหญ่หลิงซาน 📍 มหานครเซี่ยงไฮ้ 📍 สวนนอร์ทบันด์ 📍 หาดไว่ทาน 📍 ถนนนานกิง 📍 POP MART Global Flagship Store 📍 Miniso Land Shanghai 📍 สวนสนุกเซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ 📍 เมืองหางโจว 📍 ทะเลสาบซีหู 📍 ถนนโบราณเหอฟางเจีย 📍 City Balcony รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #ทัวร์จีน #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 884 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • คนเก่งเทคโนโลยีใน ‘จีน’ พุ่งไม่หยุด

    🧑‍💻👩‍💻🧑‍💻

    รายงานฉบับใหม่จาก Maimai ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหางานของจีน ระบุว่าตลาดแรงงานที่มีความสามารถสูงในอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและไฮเทคของจีนยังคงมีการแข่งขันที่สูง โดยอัตราส่วนอุปสงค์ต่ออุปทานแรงงานกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
    .

    แม้ว่าการแข่งขันจะเพิ่มสูงขึ้น แต่เงินเดือนเฉลี่ยในภาคเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งครอบคลุมอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต เกมส์ ฟินเทค อีคอมเมิร์ซ ปัญญาประดิษฐ์ และยานยนต์พลังงานใหม่ กลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยระหว่างเดือนมกราคมถึงตุลาคม 2567 เงินเดือนเฉลี่ยสำหรับตำแหน่งงานใหม่อยู่ที่ 42,874 หยวน เพิ่มขึ้นจาก 42,789 หยวนในปี 2566 และ 41,394 หยวนในปี 2565 ขณะที่อัตราส่วนอุปสงค์ต่ออุปทานของบุคลากรที่มีความสามารถสูงในบรรดาภาคส่วนเหล่านี้ เพิ่มขึ้นจาก 1.29 ในปี 2565 และ 2 ในปี 2566 มาเป็น 2.06 ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 ซึ่งหมายความว่า 1 ตำแหน่งว่าง จะมีผู้สมัครมากกว่า 2 คนแข่งขันกัน
    .

    นายหลิน ฟาน ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Maimai กล่าวว่าบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคหลักยังคงขาดแคลน โดยเฉพาะในสาขาที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งรวมถึงตำแหน่งวิศวกรอัลกอริทึม วิศวกร AI ผู้เชี่ยวชาญด้านการประมวลผลภาษาคอมพิวเตอร์ และนักพัฒนาแบ็กเอนด์โปรแกรม Java, C++ และ Android ที่ต่างเป็นตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดอีกด้วย
    .

    ทั้งนี้ ในแง่ของเงินเดือน ตำแหน่งงานด้านเทคนิคที่ได้รับค่าจ้างสูงที่สุดในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ได้แก่ วิศวกรฟรอนต์เอนด์ดิจิทัล โดยมีเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 67,728 หยวน
    .

    อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่าทั้งกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้กำลังเผชิญกับกระแสแรงงานไหลออก บ่งชี้ว่าบุคลากรที่มีความสามารถจำนวนมากกำลังย้ายออกจากศูนย์กลางเหล่านี้ไปยังภูมิภาคอื่นๆ เพราะในทางกลับกัน เมืองซูโจว เซินเจิ้น และหางโจว พบว่ามีกระแสแรงงานที่มีความสามารถสูงไหลเข้ามากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความน่าดึงดูดใจที่เพิ่มขึ้นในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรมและเทคโนโลยี

    ที่มา : AECConnect
    คนเก่งเทคโนโลยีใน ‘จีน’ พุ่งไม่หยุด 🧑‍💻👩‍💻🧑‍💻 รายงานฉบับใหม่จาก Maimai ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มหางานของจีน ระบุว่าตลาดแรงงานที่มีความสามารถสูงในอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและไฮเทคของจีนยังคงมีการแข่งขันที่สูง โดยอัตราส่วนอุปสงค์ต่ออุปทานแรงงานกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา . แม้ว่าการแข่งขันจะเพิ่มสูงขึ้น แต่เงินเดือนเฉลี่ยในภาคเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งครอบคลุมอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต เกมส์ ฟินเทค อีคอมเมิร์ซ ปัญญาประดิษฐ์ และยานยนต์พลังงานใหม่ กลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยระหว่างเดือนมกราคมถึงตุลาคม 2567 เงินเดือนเฉลี่ยสำหรับตำแหน่งงานใหม่อยู่ที่ 42,874 หยวน เพิ่มขึ้นจาก 42,789 หยวนในปี 2566 และ 41,394 หยวนในปี 2565 ขณะที่อัตราส่วนอุปสงค์ต่ออุปทานของบุคลากรที่มีความสามารถสูงในบรรดาภาคส่วนเหล่านี้ เพิ่มขึ้นจาก 1.29 ในปี 2565 และ 2 ในปี 2566 มาเป็น 2.06 ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2567 ซึ่งหมายความว่า 1 ตำแหน่งว่าง จะมีผู้สมัครมากกว่า 2 คนแข่งขันกัน . นายหลิน ฟาน ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Maimai กล่าวว่าบุคลากรที่เชี่ยวชาญด้านเทคนิคหลักยังคงขาดแคลน โดยเฉพาะในสาขาที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งรวมถึงตำแหน่งวิศวกรอัลกอริทึม วิศวกร AI ผู้เชี่ยวชาญด้านการประมวลผลภาษาคอมพิวเตอร์ และนักพัฒนาแบ็กเอนด์โปรแกรม Java, C++ และ Android ที่ต่างเป็นตำแหน่งงานที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดอีกด้วย . ทั้งนี้ ในแง่ของเงินเดือน ตำแหน่งงานด้านเทคนิคที่ได้รับค่าจ้างสูงที่สุดในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ได้แก่ วิศวกรฟรอนต์เอนด์ดิจิทัล โดยมีเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 67,728 หยวน . อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่าทั้งกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้กำลังเผชิญกับกระแสแรงงานไหลออก บ่งชี้ว่าบุคลากรที่มีความสามารถจำนวนมากกำลังย้ายออกจากศูนย์กลางเหล่านี้ไปยังภูมิภาคอื่นๆ เพราะในทางกลับกัน เมืองซูโจว เซินเจิ้น และหางโจว พบว่ามีกระแสแรงงานที่มีความสามารถสูงไหลเข้ามากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความน่าดึงดูดใจที่เพิ่มขึ้นในฐานะศูนย์กลางนวัตกรรมและเทคโนโลยี ที่มา : AECConnect
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนทดสอบบินโดรนหลายใบพัดพลังไฮโดรเจน ที่มีพิสัยการบินไกลระดับ 100 กิโลเมตร
    .
    วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2567 - มีพิธีทำการบินทดสอบของโดรนหลายใบพัดระยะไกลพลังไฮโดรเจน "เทียนมู่ซาน หมายเลข 1 (天目山一號)" ครั้งแรก โดยจัดขึ้นที่เมือง หางโจว เจ้อเจียง
    .
    สำหรับ "เทียนมู่ซาน หมายเลข 1" คือโดรนหลายใบพัดพลังงานไฮโดรเจนที่มีพิสัยการบินเป็นระยะทาง 100 กิโลเมตรแรกของโลก และเป็นโดรนพลังงานไฮโดรเจนที่ผลิตจำนวนมากรุ่นแรกของโลกที่มีการออกแบบร่มชูชีพในตัว โดยโดรนลำนี้มีน้ำหนักตัว 19 กิโลกรัม และสามารถทำการบินได้นานสูงสุดถึง 4 ชั่วโมง
    .
    ด้วยเหตุนี้ โดรนพลังงานไฮโดรเจนรุ่นนี้มีระยะทำการบินที่ไกลเป็นพิเศษ สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ในอุณหภูมิต่ำเป็นพิเศษ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมคือ มีความเป็นกลางทางคาร์บอนอีกด้วย
    .
    【全球首款百公里級氫動力多旋翼無人機成功首飛】26日,“天目山一號”氫動力長航程多旋翼無人機首飛儀式在浙江杭州舉行。此為全球首款百公里級氫動力多旋翼無人機,也是全球首款集成降落傘設計的量產型氫動力無人機,具有超長續航、超低溫環境適應性和零碳環保特性。其空機重量19公斤,最大續航4小時。
    .
    Cr : FB 人民日報
    จีนทดสอบบินโดรนหลายใบพัดพลังไฮโดรเจน ที่มีพิสัยการบินไกลระดับ 100 กิโลเมตร . วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม 2567 - มีพิธีทำการบินทดสอบของโดรนหลายใบพัดระยะไกลพลังไฮโดรเจน "เทียนมู่ซาน หมายเลข 1 (天目山一號)" ครั้งแรก โดยจัดขึ้นที่เมือง หางโจว เจ้อเจียง . สำหรับ "เทียนมู่ซาน หมายเลข 1" คือโดรนหลายใบพัดพลังงานไฮโดรเจนที่มีพิสัยการบินเป็นระยะทาง 100 กิโลเมตรแรกของโลก และเป็นโดรนพลังงานไฮโดรเจนที่ผลิตจำนวนมากรุ่นแรกของโลกที่มีการออกแบบร่มชูชีพในตัว โดยโดรนลำนี้มีน้ำหนักตัว 19 กิโลกรัม และสามารถทำการบินได้นานสูงสุดถึง 4 ชั่วโมง . ด้วยเหตุนี้ โดรนพลังงานไฮโดรเจนรุ่นนี้มีระยะทำการบินที่ไกลเป็นพิเศษ สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ในอุณหภูมิต่ำเป็นพิเศษ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมคือ มีความเป็นกลางทางคาร์บอนอีกด้วย . 【全球首款百公里級氫動力多旋翼無人機成功首飛】26日,“天目山一號”氫動力長航程多旋翼無人機首飛儀式在浙江杭州舉行。此為全球首款百公里級氫動力多旋翼無人機,也是全球首款集成降落傘設計的量產型氫動力無人機,具有超長續航、超低溫環境適應性和零碳環保特性。其空機重量19公斤,最大續航4小時。 . Cr : FB 人民日報
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 745 มุมมอง 0 รีวิว
  • Colin Huang Zheng เจ้าของแพลตฟอร์ม TEMUวัย44ปีได้รับการจัดอันดับจากBloomberg Billionaires Index เป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 48,600 ล้านเหรียญสหรัฐ เขาแซงหน้าจง ซานซาน ราชาแห่งน้ำดื่มบรรจุขวดของประเทศ ซึ่งครองอันดับหนึ่งมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2021

    Colin Huang Zheng เกิดในปี 1980 ที่เมืองหางโจวซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญของอาลีบาบา Colin Huang Zheng เติบโตมาในยุคที่จีนกำลังเปิดประเทศและปฏิรูปเศรษฐกิจ ด้วยความสามารถทางวิชาการที่โดดเด่น เขาได้รับทุนการศึกษาให้ไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน เคยฝึกงานที่ Microsoft ในปักกิ่งและซีแอตเทิล ก่อนที่จะเริ่มต้นอาชีพการงานที่ Google ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2003

    ในปี 2006 Colin Huang Zheng ตัดสินใจกลับมาจีนเพื่อเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง หลังจากทดลองทำธุรกิจหลายรูปแบบ ตั้งบริษัทเกมออนไลน์ Xinyoudi และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Ouku.com ขึ้นมา โคลิน หวงเคยล้มป่วยในช่วงหนึ่ง ผู้ประกอบการหนุ่มคนนี้อยู่บ้านเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อคิดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป ในที่สุดเขาก็พบโอกาสครั้งสำคัญในปี 2015 ด้วยการก่อตั้ง Pinduoduo แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่นำเสนอแนวคิด "ซื้อร่วมกัน" ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวมกลุ่มกันเพื่อซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลง แนวคิดนี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวจีนที่ชื่นชอบการต่อรองราคา แต่ยังสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สนุกสนานและมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขาสูงถึง 71,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงต้นปี 2021 แต่ก็เจอวิกฤตช่วงโควิด-19ระบาดเศรษฐกิจโลกหยุดชะงัก ทรัพย์สินของเขาพังทลายลงอย่างรวดเร็วพอๆ กับที่สร้างได้ โดยร่วงลง 87 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลาประมาณหนึ่งปี แต่น่าประหลาดใจ PDD Holdings ของ Huang กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง แม้ว่าจะไม่ใหญ่เท่าเมื่อก่อน แต่ก็มั่นคง โดยการขยายกิจการออกนอกประเทศจีนภายใต้ชื่อแบรนด์ Temu ช่วยรับมือกับเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนแออย่างต่อเนื่อง

    ความสำเร็จของ Pinduoduo เป็นไปอย่างรวดเร็วและน่าทึ่ง ภายในเวลาเพียง 3 ปี บริษัทสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการเติบโตที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทอินเตอร์เน็ตจีน ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือการใช้เทคโนโลยี AI และ Big data อย่างชาญฉลาด ทำให้แพลตฟอร์มสามารถนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นที่ตรงใจผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ การเติบโตอย่างโดดเด่นของหวงได้รับแรงหนุนจากพฤติกรรมการจับจ่ายที่เปลี่ยนไปของจีน หลังจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของประเทศกลายเป็นภาวะชะลอตัวที่ยาวนาน นอกจากนี้ เขายังเป็นเจ้าพ่อเทคโนโลยีคนแรกที่ครองอันดับความมั่งคั่งสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี หลังจากที่รัฐบาลกดดันธุรกิจเอกชนจนทำให้คู่แข่งอย่างกลุ่มอาลีบาบาของแจ็ค หม่า ลดอิทธิพลทางเศรษฐกิจการตลาดลง

    #Thaitimes
    Colin Huang Zheng เจ้าของแพลตฟอร์ม TEMUวัย44ปีได้รับการจัดอันดับจากBloomberg Billionaires Index เป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศจีน ด้วยทรัพย์สินมูลค่า 48,600 ล้านเหรียญสหรัฐ เขาแซงหน้าจง ซานซาน ราชาแห่งน้ำดื่มบรรจุขวดของประเทศ ซึ่งครองอันดับหนึ่งมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2021 Colin Huang Zheng เกิดในปี 1980 ที่เมืองหางโจวซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญของอาลีบาบา Colin Huang Zheng เติบโตมาในยุคที่จีนกำลังเปิดประเทศและปฏิรูปเศรษฐกิจ ด้วยความสามารถทางวิชาการที่โดดเด่น เขาได้รับทุนการศึกษาให้ไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา หลังจบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน เคยฝึกงานที่ Microsoft ในปักกิ่งและซีแอตเทิล ก่อนที่จะเริ่มต้นอาชีพการงานที่ Google ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2003 ในปี 2006 Colin Huang Zheng ตัดสินใจกลับมาจีนเพื่อเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง หลังจากทดลองทำธุรกิจหลายรูปแบบ ตั้งบริษัทเกมออนไลน์ Xinyoudi และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Ouku.com ขึ้นมา โคลิน หวงเคยล้มป่วยในช่วงหนึ่ง ผู้ประกอบการหนุ่มคนนี้อยู่บ้านเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อคิดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป ในที่สุดเขาก็พบโอกาสครั้งสำคัญในปี 2015 ด้วยการก่อตั้ง Pinduoduo แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่นำเสนอแนวคิด "ซื้อร่วมกัน" ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวมกลุ่มกันเพื่อซื้อสินค้าในราคาที่ถูกลง แนวคิดนี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวจีนที่ชื่นชอบการต่อรองราคา แต่ยังสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สนุกสนานและมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขาสูงถึง 71,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงต้นปี 2021 แต่ก็เจอวิกฤตช่วงโควิด-19ระบาดเศรษฐกิจโลกหยุดชะงัก ทรัพย์สินของเขาพังทลายลงอย่างรวดเร็วพอๆ กับที่สร้างได้ โดยร่วงลง 87 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลาประมาณหนึ่งปี แต่น่าประหลาดใจ PDD Holdings ของ Huang กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง แม้ว่าจะไม่ใหญ่เท่าเมื่อก่อน แต่ก็มั่นคง โดยการขยายกิจการออกนอกประเทศจีนภายใต้ชื่อแบรนด์ Temu ช่วยรับมือกับเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนแออย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จของ Pinduoduo เป็นไปอย่างรวดเร็วและน่าทึ่ง ภายในเวลาเพียง 3 ปี บริษัทสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการเติบโตที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทอินเตอร์เน็ตจีน ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือการใช้เทคโนโลยี AI และ Big data อย่างชาญฉลาด ทำให้แพลตฟอร์มสามารถนำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นที่ตรงใจผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำ การเติบโตอย่างโดดเด่นของหวงได้รับแรงหนุนจากพฤติกรรมการจับจ่ายที่เปลี่ยนไปของจีน หลังจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของประเทศกลายเป็นภาวะชะลอตัวที่ยาวนาน นอกจากนี้ เขายังเป็นเจ้าพ่อเทคโนโลยีคนแรกที่ครองอันดับความมั่งคั่งสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี หลังจากที่รัฐบาลกดดันธุรกิจเอกชนจนทำให้คู่แข่งอย่างกลุ่มอาลีบาบาของแจ็ค หม่า ลดอิทธิพลทางเศรษฐกิจการตลาดลง #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 683 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนักแน่! จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักชกหญิงทีมชาติไทยเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ อีมาน คาลิฟ นักชกจากแอลจีเรียที่กำลังตกเป็นประเด็นเรื่องฮอร์โมนในร่างกาย ในวันที่ 6 สิงหาคม

    3 สิงหาคม 2567-ศึกการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น โอลิมปิก 2024 รุ่น 66 กิโลกรัมหญิง รอบ 8 คนสุดท้าย จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มือ 8 นักชกทีมชาติไทย ขึ้นชกกับ บูเซนาซ ซือร์เมเลนี แชมป์เก่าโอลิมปิก2020 ที่ผ่านมา

    หลังจบการชกมวย 3 ยก กรรมการได้ให้ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักชกจากไทยชนะคู่แข่งไปแบบไม่เอกฉันท์

    สำหรับรอบรองชนะเลิศ ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ “จันทร์แจ่ม” จะต้องพบกับ อิมาน คาลิฟ(แอลจีเรีย)ที่ชกชนะลูก้า ฮาโมรี (ฮังการี) 5-0

    พันตำรวจโท วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชทีมกำปั้นหญิงไทยยังเผยอีกว่า "อิมาน คาลิฟ นักชกสาวแอลจีเรียที่ไม่ผ่านการตรวจเพศในรายการชิงแชมป์โลก 2023 ที่อินเดีย และขึ้นชกกับ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ในรอบรองชนะเลิศแล้ว โดยชนะคะแนน จากนั้นรุ่งเช้าไอบ้าได้โทร.แจ้งให้จันทร์แจ่มเป็นผู้ชนะแล้วเข้าไปชิงชนะเลิศ สำหรับตนมองว่าในรายของคาลิฟมีความแข็งแกร่งเหมือนผู้ชาย สามารถชกกับ บรรจง สินสิริ ได้สบายๆ และการต่อยกับผู้หญิงในรุ่นเดียวกัน ก็ไม่มีใครที่จะสามารถต่อกรกับเจ้าตัวได้แน่ ประมาณว่าชกด้วยก็เจ็บมือ"

    ขณะที่ จันทร์แจ่มได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ว่า "เขาแข็งแกร่งเหมือนผู้ชายเลย และไม่ยุติธรรมที่จะปล่อยให้ชกโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้"

    ทั้งนี้ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง เคยได้เหรียญเงินในการแข่งขันมวยสากล เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” ที่หางโจว ยิมเนเซียม ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมปีที่แล้ว2023 และการได้มาแข่งโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส ถือเป็นความฝันสูงสุดของเธอ

    #Thaitimes
    หนักแน่! จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักชกหญิงทีมชาติไทยเข้ารอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ อีมาน คาลิฟ นักชกจากแอลจีเรียที่กำลังตกเป็นประเด็นเรื่องฮอร์โมนในร่างกาย ในวันที่ 6 สิงหาคม 3 สิงหาคม 2567-ศึกการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น โอลิมปิก 2024 รุ่น 66 กิโลกรัมหญิง รอบ 8 คนสุดท้าย จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง มือ 8 นักชกทีมชาติไทย ขึ้นชกกับ บูเซนาซ ซือร์เมเลนี แชมป์เก่าโอลิมปิก2020 ที่ผ่านมา หลังจบการชกมวย 3 ยก กรรมการได้ให้ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง นักชกจากไทยชนะคู่แข่งไปแบบไม่เอกฉันท์ สำหรับรอบรองชนะเลิศ ในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ “จันทร์แจ่ม” จะต้องพบกับ อิมาน คาลิฟ(แอลจีเรีย)ที่ชกชนะลูก้า ฮาโมรี (ฮังการี) 5-0 พันตำรวจโท วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชทีมกำปั้นหญิงไทยยังเผยอีกว่า "อิมาน คาลิฟ นักชกสาวแอลจีเรียที่ไม่ผ่านการตรวจเพศในรายการชิงแชมป์โลก 2023 ที่อินเดีย และขึ้นชกกับ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ในรอบรองชนะเลิศแล้ว โดยชนะคะแนน จากนั้นรุ่งเช้าไอบ้าได้โทร.แจ้งให้จันทร์แจ่มเป็นผู้ชนะแล้วเข้าไปชิงชนะเลิศ สำหรับตนมองว่าในรายของคาลิฟมีความแข็งแกร่งเหมือนผู้ชาย สามารถชกกับ บรรจง สินสิริ ได้สบายๆ และการต่อยกับผู้หญิงในรุ่นเดียวกัน ก็ไม่มีใครที่จะสามารถต่อกรกับเจ้าตัวได้แน่ ประมาณว่าชกด้วยก็เจ็บมือ" ขณะที่ จันทร์แจ่มได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ว่า "เขาแข็งแกร่งเหมือนผู้ชายเลย และไม่ยุติธรรมที่จะปล่อยให้ชกโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้" ทั้งนี้ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง เคยได้เหรียญเงินในการแข่งขันมวยสากล เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” ที่หางโจว ยิมเนเซียม ประเทศจีน เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมปีที่แล้ว2023 และการได้มาแข่งโอลิมปิก 2024 ที่ปารีส ถือเป็นความฝันสูงสุดของเธอ #Thaitimes
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 705 มุมมอง 0 รีวิว