• ..แพะและแกะมันมีเยอะจริงๆเพื่อปกป้องคนชนชั้นตนยิ่งโดยเฉพาะในชนชั้นผู้ปกครองประเทศไทยเรา,คนชนชั้นปกครองนี้อยู่เหนือในทุกๆข้อกฎหมายทุกๆฉบับของประเทศไทยจริงๆนะ,ทำสิ่งใดหลุดรอดพ้นผิดหมดจริงๆ
    ..เอาง่ายๆมีการเริ่มจ่ายตังค่าก่อสร้างตอนไหนเบิกตังได้แล้วตอนไหน,โอนตังไปมามันตรวจสอบง่ายมากๆ,ยุคใดสมัยใดเริ่มปฐมบทลงมือในหน้างานอีก,หรือค่าได้งานก็ด้วย,ตังไหลเข้าไหลออกในเรื่องการสร้างตึกสตง.

    งบประมาณสร้างตึกสตง. และสถาบันธรรมาภิบาลแห่งชาติ เกิดในสมัยท่านอดีตนายกอภิสิทธิ์ช่วงปี 2551-2554 โดยในปี2551-52 เป็นงบผูกพันการสร้างสถาบันธรรมาภิบาลฯ และปี 2553-54 งบผูกพันสร้างตึกสตง. ทั้งสองแห่งจะสร้างในพื้นที่สาธารณะประโยชน์ของจังหวัดปทุมธานี แต่ปรากฏว่า ไม่ได้สร้าง เพราะที่ดินที่จะสร้างเป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์เพื่อประชาชนใช้ร่วมกัน และก็ยังไม่ได้มีการออกกฏหมายเพิกถอนแต่ประการใด จึงยังสร้างไม่ได้ แถมEIA ของตึกสูงก็ยังไม่ได้มีการดำเนินการอีก ในช่วงดังกล่าวนี้ กรมบัญชีกลางได้เคยมีหนังสือให้สตง. ทำการตรวจสอบเพราะการนำงบประมาณไปกองไว้แล้วไม่ใช้ อาจเกิดความเสียหายให้กับรัฐได้ แต่จนบัดนี้ผลการตรวจสอบก็ยังไม่เคยออกมา

    ท่านนายกยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลระหว่างปี2554-2557 ไม่ปรากฎว่าเคยทำอะไรเกี่ยวกับโครงการนี้เลย ดังนั้น ที่กล่าวหากันมาตลอดนั้นก็ถือว่า ยกเมฆทั้งสิ้น ผมก็ พลอยลอยตัวไปด้วย

    ท่านนายกประยุทธ์มาเป็นรัฐบาล 2 ครั้งรวม 9 ปี เป็นช่วงแรก สค. 2557-2562 และเป็นช่วงที่สองต่อมายาวถึงปี 2566 ในวันที่ 24 กย. 2563 ครม. ได้อนุมัติให้รวมโครงการสร้างตึกสถาบันธรรมาภิบาลแห่งชาติและตึกสตง. เข้าด้วยกัน และแถมห้องประชุมขนาดใหญ่ให้อีก 1 แห่ง โดยอนุมัติงบประมาณไป 2,660 ล้านบาท และเห็นชอบให้ย้ายโครงการเดิมจากจังหวัดปทุมธานีมาที่สวนจตุจักรของการรถไฟซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ

    https://www.thaipost.net/x-cite-news/774204/
    ..แพะและแกะมันมีเยอะจริงๆเพื่อปกป้องคนชนชั้นตนยิ่งโดยเฉพาะในชนชั้นผู้ปกครองประเทศไทยเรา,คนชนชั้นปกครองนี้อยู่เหนือในทุกๆข้อกฎหมายทุกๆฉบับของประเทศไทยจริงๆนะ,ทำสิ่งใดหลุดรอดพ้นผิดหมดจริงๆ ..เอาง่ายๆมีการเริ่มจ่ายตังค่าก่อสร้างตอนไหนเบิกตังได้แล้วตอนไหน,โอนตังไปมามันตรวจสอบง่ายมากๆ,ยุคใดสมัยใดเริ่มปฐมบทลงมือในหน้างานอีก,หรือค่าได้งานก็ด้วย,ตังไหลเข้าไหลออกในเรื่องการสร้างตึกสตง. งบประมาณสร้างตึกสตง. และสถาบันธรรมาภิบาลแห่งชาติ เกิดในสมัยท่านอดีตนายกอภิสิทธิ์ช่วงปี 2551-2554 โดยในปี2551-52 เป็นงบผูกพันการสร้างสถาบันธรรมาภิบาลฯ และปี 2553-54 งบผูกพันสร้างตึกสตง. ทั้งสองแห่งจะสร้างในพื้นที่สาธารณะประโยชน์ของจังหวัดปทุมธานี แต่ปรากฏว่า ไม่ได้สร้าง เพราะที่ดินที่จะสร้างเป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์เพื่อประชาชนใช้ร่วมกัน และก็ยังไม่ได้มีการออกกฏหมายเพิกถอนแต่ประการใด จึงยังสร้างไม่ได้ แถมEIA ของตึกสูงก็ยังไม่ได้มีการดำเนินการอีก ในช่วงดังกล่าวนี้ กรมบัญชีกลางได้เคยมีหนังสือให้สตง. ทำการตรวจสอบเพราะการนำงบประมาณไปกองไว้แล้วไม่ใช้ อาจเกิดความเสียหายให้กับรัฐได้ แต่จนบัดนี้ผลการตรวจสอบก็ยังไม่เคยออกมา ท่านนายกยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลระหว่างปี2554-2557 ไม่ปรากฎว่าเคยทำอะไรเกี่ยวกับโครงการนี้เลย ดังนั้น ที่กล่าวหากันมาตลอดนั้นก็ถือว่า ยกเมฆทั้งสิ้น ผมก็ พลอยลอยตัวไปด้วย ท่านนายกประยุทธ์มาเป็นรัฐบาล 2 ครั้งรวม 9 ปี เป็นช่วงแรก สค. 2557-2562 และเป็นช่วงที่สองต่อมายาวถึงปี 2566 ในวันที่ 24 กย. 2563 ครม. ได้อนุมัติให้รวมโครงการสร้างตึกสถาบันธรรมาภิบาลแห่งชาติและตึกสตง. เข้าด้วยกัน และแถมห้องประชุมขนาดใหญ่ให้อีก 1 แห่ง โดยอนุมัติงบประมาณไป 2,660 ล้านบาท และเห็นชอบให้ย้ายโครงการเดิมจากจังหวัดปทุมธานีมาที่สวนจตุจักรของการรถไฟซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ https://www.thaipost.net/x-cite-news/774204/
    WWW.THAIPOST.NET
    'ปลอดประสพ' แจง ตึก สตง.ถล่ม เริ่มยุคอภิสิทธิ์ อนุมัติสร้างจริงสมัยบิ๊กตู่
    อดีตรองนายกฯ โต้ข้อกล่าวหา กรณีตึกสตง. ถล่ม ระบุ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” ไม่เคยเกี่ยวข้องกับโครงการ ชี้ต้นเรื่องเกิดในสมัย อภิสิทธิ์ แต่ได้รับการอนุมัติสร้างจริงในยุค ประยุทธ์ พร้อมตั้งข้อสงสัยถึงการอนุมัติปรับแปลน ย้ายโครงสร้างหลักอาคาร อาจเป็นชนวนเหตุสู่โศกนาฏกรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่ FSB ของรัสเซีย เข้าจับกุมตัวสายลับยูเครนในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

    สายลับยูเครนรายนี้กำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานทหารและอุตสาหกรรมในพื้นที่ เพื่อส่งต่อข้อมูลดังกล่าวให้กับ ATESH ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่รับผิดชอบการก่อวินาศกรรมหลายครั้งในรัสเซีย
    เจ้าหน้าที่ FSB ของรัสเซีย เข้าจับกุมตัวสายลับยูเครนในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สายลับยูเครนรายนี้กำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโรงงานทหารและอุตสาหกรรมในพื้นที่ เพื่อส่งต่อข้อมูลดังกล่าวให้กับ ATESH ซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่รับผิดชอบการก่อวินาศกรรมหลายครั้งในรัสเซีย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 32 0 รีวิว
  • เปิดภาพสะเทือนใจ! แนวปะการังหมู่เกาะสุรินทร์พังยับเยินกว่า 150 ตร.ม. หลังเรือสินค้าเมียนมาเกยตื้นมา 4 วัน กรมอุทยานฯ เตรียมเรียกค่าเสียหาย 12 ล้าน

    จากเหตุการณ์ที่เรือขนส่งสินค้าสัญชาติเมียนมา ชื่อ "MV.AYAR LINN" ได้เกยตื้นบนแนวปะการังบริเวณอ่าวจาก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ประเมินความเสียหายและเตรียมเรียกค่าชดเชยสูงถึง 12 ล้านบาท พร้อมเร่งวางแผนปฏิบัติการกู้เรืออย่างเร่งด่วน

    เหตุการณ์เรือเกยตื้นครั้งนี้ ได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศทางทะเลในพื้นที่อนุรักษ์สำคัญ โดยเฉพาะแนวปะการัง โดยจากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า แนวปะการังได้รับความเสียหายเป็นแนวยาวประมาณ 75 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 150 ตารางเมตร ชนิดปะการังที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักคือ "ปะการังสีน้ำเงิน" ซึ่งเป็นปะการังหายากระดับโลกและพบได้น้อยในประเทศไทย โดยปะการังชนิดนี้เสียหายมากถึง 80% ของพื้นที่ที่ถูกเรือชน นอกจากนี้ ปะการังเขากวางและปะการังแผ่นก็นับว่าเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000052299

    #MGROnline #หมู่เกาะสุรินทร์
    เปิดภาพสะเทือนใจ! แนวปะการังหมู่เกาะสุรินทร์พังยับเยินกว่า 150 ตร.ม. หลังเรือสินค้าเมียนมาเกยตื้นมา 4 วัน กรมอุทยานฯ เตรียมเรียกค่าเสียหาย 12 ล้าน • จากเหตุการณ์ที่เรือขนส่งสินค้าสัญชาติเมียนมา ชื่อ "MV.AYAR LINN" ได้เกยตื้นบนแนวปะการังบริเวณอ่าวจาก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ประเมินความเสียหายและเตรียมเรียกค่าชดเชยสูงถึง 12 ล้านบาท พร้อมเร่งวางแผนปฏิบัติการกู้เรืออย่างเร่งด่วน • เหตุการณ์เรือเกยตื้นครั้งนี้ ได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศทางทะเลในพื้นที่อนุรักษ์สำคัญ โดยเฉพาะแนวปะการัง โดยจากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า แนวปะการังได้รับความเสียหายเป็นแนวยาวประมาณ 75 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 150 ตารางเมตร ชนิดปะการังที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักคือ "ปะการังสีน้ำเงิน" ซึ่งเป็นปะการังหายากระดับโลกและพบได้น้อยในประเทศไทย โดยปะการังชนิดนี้เสียหายมากถึง 80% ของพื้นที่ที่ถูกเรือชน นอกจากนี้ ปะการังเขากวางและปะการังแผ่นก็นับว่าเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000052299 • #MGROnline #หมู่เกาะสุรินทร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ลานนา คัมมินส์” อดีตนักร้องดัง เจ้าของเพลงในตำนาน “ไว้ใจ๋ได้กา” ประกาศผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมส่วนตัว ขายกิจการร้านอาหารชื่อดังคู่เมืองเชียงใหม่ “เฮือนสุนทรี” ร้านอาหารของ “คุณแม่สุนทรี เวชานนท์” ศิลปินล้านนาคนสำคัญ โดยตั้งราคาขายพร้อมที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด 55 ล้านบาท

    “ขายกิจการร้านอาหารเฮือนสุนทรี พร้อมที่ดินริมแม่น้ำปิง ใจกลางเชียงใหม่ เนื้อที่ 553 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 1,064 ตร.ม. ราคา 55 ล้านบาท (ค่าโอนคนละครึ่ง) ใครที่กำลังมองหาทำเลริมแม่น้ำปิงในตัวเมืองเชียงใหม่ เงียบสงบ ร่มรื่น เป็นส่วนตัว และมากด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรม

    วันนี้ ‘เฮือนสุนทรี’ ร้านอาหารชื่อดังของเชียงใหม่ เปิดขายพร้อมที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อาคารสไตล์ล้านนาแท้ รองรับลูกค้าได้หลายร้อยคน พร้อมลานจอดรถขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับสานต่อธุรกิจร้านอาหาร หรือรีโนเวทเป็นรีสอร์ท Wellness Space หรือบ้านพักส่วนตัวริมแม่น้ำ มีจุดเด่น ที่ดินหน้ากว้าง ติดแม่น้ำปิง หาทำเลแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ใกล้โรงแรม รีสอร์ตบรรยากาศสงบ ร่มรื่น เป็นธรรมชาติ ทำเลทอง เหมาะแก่การลงทุนระยะยาว”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000052281

    #MGROnline #ลานนาคัมมินส์
    “ลานนา คัมมินส์” อดีตนักร้องดัง เจ้าของเพลงในตำนาน “ไว้ใจ๋ได้กา” ประกาศผ่านเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมส่วนตัว ขายกิจการร้านอาหารชื่อดังคู่เมืองเชียงใหม่ “เฮือนสุนทรี” ร้านอาหารของ “คุณแม่สุนทรี เวชานนท์” ศิลปินล้านนาคนสำคัญ โดยตั้งราคาขายพร้อมที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด 55 ล้านบาท • “ขายกิจการร้านอาหารเฮือนสุนทรี พร้อมที่ดินริมแม่น้ำปิง ใจกลางเชียงใหม่ เนื้อที่ 553 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 1,064 ตร.ม. ราคา 55 ล้านบาท (ค่าโอนคนละครึ่ง) ใครที่กำลังมองหาทำเลริมแม่น้ำปิงในตัวเมืองเชียงใหม่ เงียบสงบ ร่มรื่น เป็นส่วนตัว และมากด้วยคุณค่าทางวัฒนธรรม • วันนี้ ‘เฮือนสุนทรี’ ร้านอาหารชื่อดังของเชียงใหม่ เปิดขายพร้อมที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อาคารสไตล์ล้านนาแท้ รองรับลูกค้าได้หลายร้อยคน พร้อมลานจอดรถขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับสานต่อธุรกิจร้านอาหาร หรือรีโนเวทเป็นรีสอร์ท Wellness Space หรือบ้านพักส่วนตัวริมแม่น้ำ มีจุดเด่น ที่ดินหน้ากว้าง ติดแม่น้ำปิง หาทำเลแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ใกล้โรงแรม รีสอร์ตบรรยากาศสงบ ร่มรื่น เป็นธรรมชาติ ทำเลทอง เหมาะแก่การลงทุนระยะยาว” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000052281 • #MGROnline #ลานนาคัมมินส์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดทีมสาธารณภัย-หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ลุยบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยธรรมชาติภาคเหนือ อีสาน และกลาง แจกจ่ายน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่ากว่า 11 ล้านบาท
    .
    วานนี้ (วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมเจ้าหน้าที่แผนกสาธารณภัย แผนกบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่มอบน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมัน น้ำปลา และปลากระป๋อง บรรจุถุงผ้ามูลนิธิฯ ให้แก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี รวม 600 ชุด พร้อมจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ โดยมี นางสาวชลธิชา วงษ์อุตสาห์ นายอำเภอเลาขวัญ พร้อมด้วยคณะอาสาสมัครเฉพาะกิจมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี และคณะมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ บริเวณวัดศรีพนมเทียน (ห้วยรวก) ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
    .
    โดยระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยประชาชนหลังประเทศเกิดภัยธรรมชาติในหลากหลายพื้นที่ จึงมอบหมายให้ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย คุณศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมเจ้าหน้าที่แผนกสาธารณภัย แผนกบรรเทาสาธารณภัย และแผนกอาสาสมัคร จัดทีมพื้นที่มอบน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติ ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคอีสาน และ ภาคกลาง ประกอบด้วย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ราชบุรี และ กาญจนบุรี รวม 29 จังหวัด 20,200 ชุด รวมมูลค่าทั้งสิ้น 11,110,000 บาท (สิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งสมาคม/มูลนิธิแต่ละจังหวัด เป็นผู้ประสานงานและร่วมให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัคร ออกหน่วยมให้บริการประชาชนฟรีในหลากหลายพื้นที่ ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ โดยมีประชาชนให้ความสนใจและเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาการดำเนินงานอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ต่อไป ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418
    #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดทีมสาธารณภัย-หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ลุยบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยธรรมชาติภาคเหนือ อีสาน และกลาง แจกจ่ายน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่ากว่า 11 ล้านบาท . วานนี้ (วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมเจ้าหน้าที่แผนกสาธารณภัย แผนกบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่มอบน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำมัน น้ำปลา และปลากระป๋อง บรรจุถุงผ้ามูลนิธิฯ ให้แก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี รวม 600 ชุด พร้อมจัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ โดยมี นางสาวชลธิชา วงษ์อุตสาห์ นายอำเภอเลาขวัญ พร้อมด้วยคณะอาสาสมัครเฉพาะกิจมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี และคณะมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ บริเวณวัดศรีพนมเทียน (ห้วยรวก) ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี . โดยระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2568 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยประชาชนหลังประเทศเกิดภัยธรรมชาติในหลากหลายพื้นที่ จึงมอบหมายให้ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำโดย คุณศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมเจ้าหน้าที่แผนกสาธารณภัย แผนกบรรเทาสาธารณภัย และแผนกอาสาสมัคร จัดทีมพื้นที่มอบน้ำดื่มพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติ ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคอีสาน และ ภาคกลาง ประกอบด้วย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ราชบุรี และ กาญจนบุรี รวม 29 จังหวัด 20,200 ชุด รวมมูลค่าทั้งสิ้น 11,110,000 บาท (สิบเอ็ดล้านหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน) โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งสมาคม/มูลนิธิแต่ละจังหวัด เป็นผู้ประสานงานและร่วมให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัคร ออกหน่วยมให้บริการประชาชนฟรีในหลากหลายพื้นที่ ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ โดยมีประชาชนให้ความสนใจและเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาการดำเนินงานอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ต่อไป ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระเบิดร่อน FAB-500 จำนวน 4 ลูก ของรัสเซีย โจมตีทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศของกองพลยานยนต์แยกที่ 117 ของกองทัพยูเครนในพื้นที่นิคม Novoekonomichne ในทิศทาง Pokrovsk - Kostyantynivka 
    ระเบิดร่อน FAB-500 จำนวน 4 ลูก ของรัสเซีย โจมตีทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศของกองพลยานยนต์แยกที่ 117 ของกองทัพยูเครนในพื้นที่นิคม Novoekonomichne ในทิศทาง Pokrovsk - Kostyantynivka 
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • โต้ข่าวเท็จกัมพูชา ไทยไม่ส่งโดรนสอดแนม : [NEWS UPDATE]
    พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีสำนักข่าวกัมพูชา อ้างรายงานจากชายแดนไทย - กัมพูชาว่าทหารกัมพูชาที่ประจำแนวหน้าใน จ.พระวิหาร สกัดโดรนที่บินรุกล้ำน่านฟ้า เพื่อลาดตระเวน และชี้ว่าทหารไทยส่งโดรนสอดแนมการเคลื่อนกำลังพลและอาวุธของกองทัพกัมพูชา ยืนยันว่า เป็นข่าวเท็จ การใช้โดรนทั้งไทยและกัมพูชาก็ใช้ พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน ยังไม่มีการแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน การใช้โดรนจึงไม่สามารถรู้ได้ว่ารุกล้ำเขตแดนใครหรือไม่ โดรนดังกล่าวไม่ใช่ของไทย การเคลื่อนกำลังพลหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ ของกองทัพกัมพูชา มีให้เห็นผ่านโซเชียลมีเดียเต็มไปหมด ไม่จำเป็นต้องใช้โดรน การดูข่าวสารจากฝั่งกัมพูชาช่วงนี้ ขอให้ตรวจสอบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ส่วนใหญ่เป็นข่าวไม่จริง


    ทำหนังสือประท้วงกัมพูชา

    ปลุกใจทหารรักษาอธิปไตย

    น้ำมันปาล์มต่ำ 50 บาทแน่

    สารอันตรายดินแม่น้ำกก
    โต้ข่าวเท็จกัมพูชา ไทยไม่ส่งโดรนสอดแนม : [NEWS UPDATE] พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีสำนักข่าวกัมพูชา อ้างรายงานจากชายแดนไทย - กัมพูชาว่าทหารกัมพูชาที่ประจำแนวหน้าใน จ.พระวิหาร สกัดโดรนที่บินรุกล้ำน่านฟ้า เพื่อลาดตระเวน และชี้ว่าทหารไทยส่งโดรนสอดแนมการเคลื่อนกำลังพลและอาวุธของกองทัพกัมพูชา ยืนยันว่า เป็นข่าวเท็จ การใช้โดรนทั้งไทยและกัมพูชาก็ใช้ พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน ยังไม่มีการแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน การใช้โดรนจึงไม่สามารถรู้ได้ว่ารุกล้ำเขตแดนใครหรือไม่ โดรนดังกล่าวไม่ใช่ของไทย การเคลื่อนกำลังพลหรืออาวุธยุทโธปกรณ์ ของกองทัพกัมพูชา มีให้เห็นผ่านโซเชียลมีเดียเต็มไปหมด ไม่จำเป็นต้องใช้โดรน การดูข่าวสารจากฝั่งกัมพูชาช่วงนี้ ขอให้ตรวจสอบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ส่วนใหญ่เป็นข่าวไม่จริง ทำหนังสือประท้วงกัมพูชา ปลุกใจทหารรักษาอธิปไตย น้ำมันปาล์มต่ำ 50 บาทแน่ สารอันตรายดินแม่น้ำกก
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • ปลุกใจ! มท.ภ.1 ตรวจเยี่ยมกำลังพล สร้างขวัญกำลังใจการปฏิบัติงาน เตรียมตามแผนเผชิญเหตุของ ทบ. พร้อมรบอย่างสง่างาม เพื่อชาติและราชบัลลังก์

    วันนี้ (4 มิ.ย. 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 ตรวจความพร้อมรบ กองพันทหารม้าเฉพาะกิจ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ตามแผนเผชิญเหตุของ ทบ. ณ กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ “Home of tanker” จ.สระบุรี ทั้งนี้ พล.ม.2 รอ. ซึ่งถือเป็นหน่วยรถถังที่สมบูรณ์แบบที่สุดหน่วยหนึ่งของกองทัพบกไทย ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของ ทบ. ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุ เข้าคลี่คลายสถานการณ์ในทุกๆพื้นที่ ที่ ทบ. กำหนด โดยหน่วยทำการตรวจสภาพความพร้อมรบ หน่วยยานเกราะ ของกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ โดยมี แม่ทัพภาค1 เป็นประธาน ทั้งนี้้เหล่า tanker ได้แสดงถึงความ ”พร้อมรบ และ สง่างาม เพื่อชาติและราชบัลลังก์“

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000052138

    #MGROnline #กองทัพบกไทย
    ปลุกใจ! มท.ภ.1 ตรวจเยี่ยมกำลังพล สร้างขวัญกำลังใจการปฏิบัติงาน เตรียมตามแผนเผชิญเหตุของ ทบ. พร้อมรบอย่างสง่างาม เพื่อชาติและราชบัลลังก์ • วันนี้ (4 มิ.ย. 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค1 ตรวจความพร้อมรบ กองพันทหารม้าเฉพาะกิจ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ตามแผนเผชิญเหตุของ ทบ. ณ กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ “Home of tanker” จ.สระบุรี ทั้งนี้ พล.ม.2 รอ. ซึ่งถือเป็นหน่วยรถถังที่สมบูรณ์แบบที่สุดหน่วยหนึ่งของกองทัพบกไทย ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของ ทบ. ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุ เข้าคลี่คลายสถานการณ์ในทุกๆพื้นที่ ที่ ทบ. กำหนด โดยหน่วยทำการตรวจสภาพความพร้อมรบ หน่วยยานเกราะ ของกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ โดยมี แม่ทัพภาค1 เป็นประธาน ทั้งนี้้เหล่า tanker ได้แสดงถึงความ ”พร้อมรบ และ สง่างาม เพื่อชาติและราชบัลลังก์“ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000052138 • #MGROnline #กองทัพบกไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดาวเทียมของนาโต้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับความพยายามก่อวินาศกรรมฐานทัพอากาศ Olenya ของรัสเซียที่ยูเครนก่อเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน นอกเหนือจากการเฝ้าติดตามทั่วไปแล้ว ดาวเทียมเหล่านี้ยังส่งข้อมูลช่วยหน่วยข่าวกรองยูเครน (SBU) ในการโจมตี รวมถึงวางแผนเป้าหมายอีกด้วย

    ดาวเทียมทางทหาร TOPAZ ของอเมริกาจับภาพคาบสมุทรโกลาได้ 102 ภาพ ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นภาพความละเอียดสูงถึงขนาดระบุตำแหน่งของวัตถุได้ในระยะเพียงไม่กี่เมตร

    🔸ภาพ 24 ภาพกำหนดเป้าหมายไปที่คลังอาวุธนิวเคลียร์ที่ไม่ใช่เชิงยุทธศาสตร์ที่ Bolshoye Ramozero

    🔸ภาพ 20 ภาพถูกถ่ายที่ Olenya เอง

    🔸ฐานทัพเรือที่ Nerpichya (17 ภาพ) และ Gadzhiyevo (มี 16 ภาพ) ยังถูกเฝ้าติดตามอย่างเข้มงวดอีกด้วย

    🔸นอกจากนี้ยังมีอีก 11 เที่ยวบินสอดแนมที่มุ่งเป้าไปที่สนามบิน Kilpyavr และอุปกรณ์ใกล้ ภูมิภาค Murmansk

    ✈️ ขณะที่เครื่องบินลาดตระเวนและเครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำของสหรัฐฯ นอร์เวย์ และสวีเดน ได้แก่ เครื่องบิน P-8A และเครื่องบินเจ็ต Gulfstream IV SIGINT ออกบินปฏิบัติภารกิจใกล้พื้นที่ดังกล่าวในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม

    👉แม้ว่าการโจมตีด้วยโดรนของยูเครนเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ไม่ถึงกับล้มเหลว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดไว้ รัสเซียควรใช้บทเรียนที่ได้รับนี้ ซึ่งก็คือการใช้ดาวเทียมและกิจกรรม ISR ที่เพิ่มขึ้นของฝ่ายตะวันตกเป็นสิ่งที่ต้องเตือนตัวเอง และรัสเซียต้องดำเนินการอะไรบางอย่างก่อนที่ภารกิจ "เฝ้าติดตาม" เหล่านี้จะกลายเป็นการโจมตีโดยตรง
    ดาวเทียมของนาโต้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับความพยายามก่อวินาศกรรมฐานทัพอากาศ Olenya ของรัสเซียที่ยูเครนก่อเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน นอกเหนือจากการเฝ้าติดตามทั่วไปแล้ว ดาวเทียมเหล่านี้ยังส่งข้อมูลช่วยหน่วยข่าวกรองยูเครน (SBU) ในการโจมตี รวมถึงวางแผนเป้าหมายอีกด้วย ดาวเทียมทางทหาร TOPAZ ของอเมริกาจับภาพคาบสมุทรโกลาได้ 102 ภาพ ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นภาพความละเอียดสูงถึงขนาดระบุตำแหน่งของวัตถุได้ในระยะเพียงไม่กี่เมตร 🔸ภาพ 24 ภาพกำหนดเป้าหมายไปที่คลังอาวุธนิวเคลียร์ที่ไม่ใช่เชิงยุทธศาสตร์ที่ Bolshoye Ramozero 🔸ภาพ 20 ภาพถูกถ่ายที่ Olenya เอง 🔸ฐานทัพเรือที่ Nerpichya (17 ภาพ) และ Gadzhiyevo (มี 16 ภาพ) ยังถูกเฝ้าติดตามอย่างเข้มงวดอีกด้วย 🔸นอกจากนี้ยังมีอีก 11 เที่ยวบินสอดแนมที่มุ่งเป้าไปที่สนามบิน Kilpyavr และอุปกรณ์ใกล้ ภูมิภาค Murmansk ✈️ ขณะที่เครื่องบินลาดตระเวนและเครื่องบินต่อต้านเรือดำน้ำของสหรัฐฯ นอร์เวย์ และสวีเดน ได้แก่ เครื่องบิน P-8A และเครื่องบินเจ็ต Gulfstream IV SIGINT ออกบินปฏิบัติภารกิจใกล้พื้นที่ดังกล่าวในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 👉แม้ว่าการโจมตีด้วยโดรนของยูเครนเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ไม่ถึงกับล้มเหลว แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จตามที่คาดไว้ รัสเซียควรใช้บทเรียนที่ได้รับนี้ ซึ่งก็คือการใช้ดาวเทียมและกิจกรรม ISR ที่เพิ่มขึ้นของฝ่ายตะวันตกเป็นสิ่งที่ต้องเตือนตัวเอง และรัสเซียต้องดำเนินการอะไรบางอย่างก่อนที่ภารกิจ "เฝ้าติดตาม" เหล่านี้จะกลายเป็นการโจมตีโดยตรง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขมรเล่นแรง!ลอบวางกับระเบิดในพื้นที่ (04/06/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ข้อพิพาท ไทยกัมพูชา #กับระเบิด #สนธิสัญญาออตตาวา
    เขมรเล่นแรง!ลอบวางกับระเบิดในพื้นที่ (04/06/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ข้อพิพาท ไทยกัมพูชา #กับระเบิด #สนธิสัญญาออตตาวา
    Like
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • ซูมีไหวมั้ย!!!
    ส.ส.ยูเครน เรียกร้องประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ซูมี – การป้องกันกำลังพังทลาย รัสเซียเดินหน้าต่อไม่มีท่าทีจะหยุด!

    ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศปลดปล่อยแอนดรีฟกา (Andriivka) ในภูมิภาคซูมี ได้อีกหนึ่งแห่ง

    มาริอานา เบซูห์ลา ส.ส.ยูเครน เรียกร้องให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่แนวหน้าของภูมิภาคซูมีโดยทันที เธอยอมรับว่าภูมิภาคนี้ไม่มีการเตรียมพร้อมและไม่มีการป้องกัน

    นอกจากนี้ ผู้ว่าการภูมิภาคยังล้มเหลวในการบัลคับบัญชา มีการขัดแย้งและต่อสู้ทางการเมืองภายในมากมาย

    ตามที่สส.กล่าว เธอเห็นด้วยที่กองกำลังรัสเซียระบุว่าซูมีคือพื้นที่ที่อ่อนแอที่สุด

    ซูมีไหวมั้ย!!! ส.ส.ยูเครน เรียกร้องประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ซูมี – การป้องกันกำลังพังทลาย รัสเซียเดินหน้าต่อไม่มีท่าทีจะหยุด! ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศปลดปล่อยแอนดรีฟกา (Andriivka) ในภูมิภาคซูมี ได้อีกหนึ่งแห่ง มาริอานา เบซูห์ลา ส.ส.ยูเครน เรียกร้องให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่แนวหน้าของภูมิภาคซูมีโดยทันที เธอยอมรับว่าภูมิภาคนี้ไม่มีการเตรียมพร้อมและไม่มีการป้องกัน นอกจากนี้ ผู้ว่าการภูมิภาคยังล้มเหลวในการบัลคับบัญชา มีการขัดแย้งและต่อสู้ทางการเมืองภายในมากมาย ตามที่สส.กล่าว เธอเห็นด้วยที่กองกำลังรัสเซียระบุว่าซูมีคือพื้นที่ที่อ่อนแอที่สุด
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ภูมิธรรม" ยันไม่ปลดแม่ทัพภาคที่ 2 จวกรูป "ฮุนเซน" ลูบหัว ใช้ AI ปั่นกระแส ติง "เท้ง-กัณวีร์" ยั่วยุเล่นเกมการเมือง ลั่นรัฐบาลยึดมั่นรักษาอธิปไตยเต็มที่ เตรียมลงพื้นที่ ทภ.2 ปลุกขวัญกำลังใจ ได้ฤกษ์ถกเจบีซี 14 มิ.ย.นี้ ที่กรุงพนมเปญ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000052042

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes

    "ภูมิธรรม" ยันไม่ปลดแม่ทัพภาคที่ 2 จวกรูป "ฮุนเซน" ลูบหัว ใช้ AI ปั่นกระแส ติง "เท้ง-กัณวีร์" ยั่วยุเล่นเกมการเมือง ลั่นรัฐบาลยึดมั่นรักษาอธิปไตยเต็มที่ เตรียมลงพื้นที่ ทภ.2 ปลุกขวัญกำลังใจ ได้ฤกษ์ถกเจบีซี 14 มิ.ย.นี้ ที่กรุงพนมเปญ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000052042 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Haha
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวจากคุณ Wassana Nanuam ระบุว่ากองทัพเริ่มแจ้งเตือนว่า #กัมพูชา เริ่มมีการวางกับระเบิดสังหารในพื้นที่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อกำลังพลของฝ่ายไทย

    ทั้งนี้ ในระดับนานาชาตินั้นมีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรือสนธิสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) ซึ่งห้ามการใช้ระเบิดสังหารบุคคลทั่วโลก เพราะผลกระทบของทุ่นระเบิดเหล่านี้ส่งผลต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสร้างความเสียหายให้กับประชาชนจำนวนมาก โดยไทยให้สัตยาบันต่ออนุสัญญานี้เมื่อปี 1998

    สิ่งที่น่าสนใจก็คือ กัมพูชาก็เป็นภาคีของอนุสัญญานี้ และให้สัตยาบันตั้งแต่ปี 1999 เช่นกัน

    ดังนั้นถ้ากัมพูชาใช้กับระเบิด สิ่งที่กองทัพไทยควรทำก็คือเก็บหลักฐานทั้งภาพถ่าย ตำแหน่งที่พบ รวมถึงเก็บกู้กับระเบิดเหล่านั้นและเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการทางการทูตต่อไป เพราะแม้ว่าการละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาจะไม่ต้องขึ้นศาลโลกหรือไม่ถูกบังคับด้วยกฎหมายระหว่างประเทศอื่น ๆ แต่สามารถนำไปใช้เพื่อผลในการกดดันทางการทูตได้ ซึ่งปกติแล้วชาติภาคีของสนธิสัญญาออตตาวาจะมีการจัดประชุมขึ้นทุกปี โดยในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 ที่เจนิวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์

    ซึ่งถ้าไทยสามารถแสดงหลักฐานต่าง ๆ ว่ากัมพูชาละเมิดสนธิสัญญานี้ในการประชุม ก็จะสามารถนำไปดำเนินการทางการทูตตามที่เห็นสมควรต่อได้ อย่างน้อยที่สุดคือการทำให้ที่ประชุมระบุว่ากัมพูชาเป็นประเทศที่ละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาครับ

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1FtsgELhHY/?mibextid=wwXIfr
    ข่าวจากคุณ Wassana Nanuam ระบุว่ากองทัพเริ่มแจ้งเตือนว่า #กัมพูชา เริ่มมีการวางกับระเบิดสังหารในพื้นที่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อกำลังพลของฝ่ายไทย ทั้งนี้ ในระดับนานาชาตินั้นมีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Mine Ban Convention) หรือสนธิสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) ซึ่งห้ามการใช้ระเบิดสังหารบุคคลทั่วโลก เพราะผลกระทบของทุ่นระเบิดเหล่านี้ส่งผลต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสร้างความเสียหายให้กับประชาชนจำนวนมาก โดยไทยให้สัตยาบันต่ออนุสัญญานี้เมื่อปี 1998 สิ่งที่น่าสนใจก็คือ กัมพูชาก็เป็นภาคีของอนุสัญญานี้ และให้สัตยาบันตั้งแต่ปี 1999 เช่นกัน ดังนั้นถ้ากัมพูชาใช้กับระเบิด สิ่งที่กองทัพไทยควรทำก็คือเก็บหลักฐานทั้งภาพถ่าย ตำแหน่งที่พบ รวมถึงเก็บกู้กับระเบิดเหล่านั้นและเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการทางการทูตต่อไป เพราะแม้ว่าการละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาจะไม่ต้องขึ้นศาลโลกหรือไม่ถูกบังคับด้วยกฎหมายระหว่างประเทศอื่น ๆ แต่สามารถนำไปใช้เพื่อผลในการกดดันทางการทูตได้ ซึ่งปกติแล้วชาติภาคีของสนธิสัญญาออตตาวาจะมีการจัดประชุมขึ้นทุกปี โดยในปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 ที่เจนิวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งถ้าไทยสามารถแสดงหลักฐานต่าง ๆ ว่ากัมพูชาละเมิดสนธิสัญญานี้ในการประชุม ก็จะสามารถนำไปดำเนินการทางการทูตตามที่เห็นสมควรต่อได้ อย่างน้อยที่สุดคือการทำให้ที่ประชุมระบุว่ากัมพูชาเป็นประเทศที่ละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาครับ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1FtsgELhHY/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..จริงๆถ้ามองอธิปไตยด้านความมั่นคงดินแดนและภัยคุกคามประเทศไทยตลอดจนเป็นภัยของประชาชนชาวไทย,ตอนนี้ในเวลานี้สามารถใช้กับประเทศเขมรได้เลยในสถานะการณ์ปัจจุบันนี้,และเมื่อมองอย่างสุจริตใจ สามารถมองได้ทันทีว่าในนามฝ่ายค้าน รัฐบาลปัจจุบันไม่ซื่อสัตย์สุจริตใจในความรักชาติรักแผ่นดินไทย เมื่อรวบรวมสถิติสัมพันธุ์การแสดงออกและไปมาหาสู่กันระหว่างบุคคลกับคนไทยที่ไปพบคนเขมรเอง,ทั้งก่อนเป็นรัฐบาลซึ่งแค่คนธรรมดาเท่านั้น,แล้วมาเป็นรัฐบาลอีกประกอบกับบริบทคดีเครือครอบครัวตนเองอีกในการมาเยือนตอนไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้หรือตอนคดีกำลังจะตัดสินในวันที่13มิ.ย.68นี้อีก,มโนได้ว่าอาจทำศึกชิงตัวนักโทษระดับระหว่างประเทศแบบเอาในนามประเทศมายุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวตนเอง,เหมือนอดีตจักรพรรดินั้นนี้กษัตริย์โบราณโรมันอียิปฝรั่งทำศึกกันเพื่อแย่งผัวเมียกัน คนในครอบครัวตนเองกัน เรื่องชูสาว นอกจากผลประโยชน์อย่างอื่นส่วนอื่นๆด้วย,เขมรก็อาจกำลังทำมุกนี้ด้วย,บิดเบือนกระแสโหนกระหน่ำข่าวให้เด่นกว่านักโทษโทนี่จะถูกพิจารณาโทษ,อาจได้บ่อน้ำมันเค็มอ่าวไทยมาด้วยบวกพื้นที่ทับซ้อนและไหล่ทะเลทั้งหมดโน้น,ได้ทั้งเขมร ได้ทั้งเครือข่ายครอบครัวคนทรยศที่หนีรอดแล้วนอนสบายบนกองความสุขบ่อน้ำมันอ่าวไทยลากยึดเกาะกูดไปด้วย,อาจตั้งประเทศใหม่ปกครองตนเองร่วมกับเขมรก็ได้ สิงคโปร์เนื้อที่เล็กๆยังเป็นประเทศได้เลยมันว่า,สาระพัดฝรั่งอีลิทโลกลงมารุมโปรแดกด้วยทั้งอ่าวไทยอีก,สุมหัวสมคบคิดกันหมด,
    ..สรุปยึดอำนาจรัฐประหารเลย,ประเทศนี้ต้องเปลี่ยนแปลงจริงๆและไม่ใช่เอาทหารเดอะแก๊งอีลิททำรัฐประหารนะ,ต้องเป็นทหารพระราชาเรา,พระมหากษัตริย์เราตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันต่างเสียสละรวมน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับประชาชนคนไทยเรื่อยมาจึงก่อเกิดเป็นไทยในปัจจุบันได้,ทหารพระราชาคือหนทางเดียว.
    ..
    ..https://youtu.be/7UqWIYdrYPg?si=NUTfBMxzfSJKA2hd
    ..จริงๆถ้ามองอธิปไตยด้านความมั่นคงดินแดนและภัยคุกคามประเทศไทยตลอดจนเป็นภัยของประชาชนชาวไทย,ตอนนี้ในเวลานี้สามารถใช้กับประเทศเขมรได้เลยในสถานะการณ์ปัจจุบันนี้,และเมื่อมองอย่างสุจริตใจ สามารถมองได้ทันทีว่าในนามฝ่ายค้าน รัฐบาลปัจจุบันไม่ซื่อสัตย์สุจริตใจในความรักชาติรักแผ่นดินไทย เมื่อรวบรวมสถิติสัมพันธุ์การแสดงออกและไปมาหาสู่กันระหว่างบุคคลกับคนไทยที่ไปพบคนเขมรเอง,ทั้งก่อนเป็นรัฐบาลซึ่งแค่คนธรรมดาเท่านั้น,แล้วมาเป็นรัฐบาลอีกประกอบกับบริบทคดีเครือครอบครัวตนเองอีกในการมาเยือนตอนไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้หรือตอนคดีกำลังจะตัดสินในวันที่13มิ.ย.68นี้อีก,มโนได้ว่าอาจทำศึกชิงตัวนักโทษระดับระหว่างประเทศแบบเอาในนามประเทศมายุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวตนเอง,เหมือนอดีตจักรพรรดินั้นนี้กษัตริย์โบราณโรมันอียิปฝรั่งทำศึกกันเพื่อแย่งผัวเมียกัน คนในครอบครัวตนเองกัน เรื่องชูสาว นอกจากผลประโยชน์อย่างอื่นส่วนอื่นๆด้วย,เขมรก็อาจกำลังทำมุกนี้ด้วย,บิดเบือนกระแสโหนกระหน่ำข่าวให้เด่นกว่านักโทษโทนี่จะถูกพิจารณาโทษ,อาจได้บ่อน้ำมันเค็มอ่าวไทยมาด้วยบวกพื้นที่ทับซ้อนและไหล่ทะเลทั้งหมดโน้น,ได้ทั้งเขมร ได้ทั้งเครือข่ายครอบครัวคนทรยศที่หนีรอดแล้วนอนสบายบนกองความสุขบ่อน้ำมันอ่าวไทยลากยึดเกาะกูดไปด้วย,อาจตั้งประเทศใหม่ปกครองตนเองร่วมกับเขมรก็ได้ สิงคโปร์เนื้อที่เล็กๆยังเป็นประเทศได้เลยมันว่า,สาระพัดฝรั่งอีลิทโลกลงมารุมโปรแดกด้วยทั้งอ่าวไทยอีก,สุมหัวสมคบคิดกันหมด, ..สรุปยึดอำนาจรัฐประหารเลย,ประเทศนี้ต้องเปลี่ยนแปลงจริงๆและไม่ใช่เอาทหารเดอะแก๊งอีลิททำรัฐประหารนะ,ต้องเป็นทหารพระราชาเรา,พระมหากษัตริย์เราตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันต่างเสียสละรวมน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับประชาชนคนไทยเรื่อยมาจึงก่อเกิดเป็นไทยในปัจจุบันได้,ทหารพระราชาคือหนทางเดียว. .. ..https://youtu.be/7UqWIYdrYPg?si=NUTfBMxzfSJKA2hd
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • #โฆษกกองทัพบก ยันไม่จำเป็นต้องส่งโดรนหาข่าว เพราะการเคลื่อนกำลัง-อาวุธของกัมพูชา มีให้เห็นเต็มสื่อโซเชียล เผย ตามปกติใช้โดรนทั้งสองฝ่ายบริเวณพื้นที่ทับซ้อน ไม่มีเขตแดนชัดเจน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าล้ำแดน แต่ยืนยันว่าครั้งนี้ไทยไม่ได้ส่งเข้าไป และโดรนลำที่เป็นข่าวไม่ใช่ของไทย

    จากกรณีสื่อมวลชนของกัมพูชา รายงานว่า ช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 2 มิ.ย.ทหารกัมพูชาที่ประจำอยู่แนวหน้าใน จ.พระวิหาร ได้สกัดโดรนที่บินรุกล้ำน่านฟ้าของกัมพูช จากการประเมินเบื้องต้น คาดว่า ทหารไทยได้ส่งโดรนเข้าไปรวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับการเคลื่อนกำลังพลและอาวุธของกองทัพกัมพูชานั้น วันนี้ (3 มิ.ย.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง และการใช้โดรนปัจจุบันถือเป็นเรื่องปกติ การใช้โดรนในพื้นที่ดังกล่าวทั้งไทยและกัมพูชาต่างก็ใช้ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน ยังไม่มีการแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน การใช้โดรนจึงไม่สามารถรู้ได้ว่ารุกล้ำเขตแดนของใครหรือไม่ แต่ยืนยันว่าไทยเราไม่มีการส่งโดรนเข้าไป และโดรนดังกล่าวก็ไม่ใช่ของไทย

    พล.ต.วินธัย กล่าวอีกว่า ในการเคลื่อนกำลังพล หรืออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพกัมพูชา มีให้เห็นผ่านทางโซเชียลมีเดียเต็มว่อนไปหมด จึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้โดรน

    “การดูข่าวสารจากฝั่งกัมพูชาช่วงนี้ ขอให้ตรวจสอบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ส่วนใหญ่เป็นข่าวไม่จริง” พล.ต.วินธัย กล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000052004

    #MGROnline #โดรน #กัมพูชา
    #โฆษกกองทัพบก ยันไม่จำเป็นต้องส่งโดรนหาข่าว เพราะการเคลื่อนกำลัง-อาวุธของกัมพูชา มีให้เห็นเต็มสื่อโซเชียล เผย ตามปกติใช้โดรนทั้งสองฝ่ายบริเวณพื้นที่ทับซ้อน ไม่มีเขตแดนชัดเจน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าล้ำแดน แต่ยืนยันว่าครั้งนี้ไทยไม่ได้ส่งเข้าไป และโดรนลำที่เป็นข่าวไม่ใช่ของไทย • จากกรณีสื่อมวลชนของกัมพูชา รายงานว่า ช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 2 มิ.ย.ทหารกัมพูชาที่ประจำอยู่แนวหน้าใน จ.พระวิหาร ได้สกัดโดรนที่บินรุกล้ำน่านฟ้าของกัมพูช จากการประเมินเบื้องต้น คาดว่า ทหารไทยได้ส่งโดรนเข้าไปรวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับการเคลื่อนกำลังพลและอาวุธของกองทัพกัมพูชานั้น วันนี้ (3 มิ.ย.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง และการใช้โดรนปัจจุบันถือเป็นเรื่องปกติ การใช้โดรนในพื้นที่ดังกล่าวทั้งไทยและกัมพูชาต่างก็ใช้ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน ยังไม่มีการแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน การใช้โดรนจึงไม่สามารถรู้ได้ว่ารุกล้ำเขตแดนของใครหรือไม่ แต่ยืนยันว่าไทยเราไม่มีการส่งโดรนเข้าไป และโดรนดังกล่าวก็ไม่ใช่ของไทย • พล.ต.วินธัย กล่าวอีกว่า ในการเคลื่อนกำลังพล หรืออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพกัมพูชา มีให้เห็นผ่านทางโซเชียลมีเดียเต็มว่อนไปหมด จึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้โดรน • “การดูข่าวสารจากฝั่งกัมพูชาช่วงนี้ ขอให้ตรวจสอบจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ส่วนใหญ่เป็นข่าวไม่จริง” พล.ต.วินธัย กล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000052004 • #MGROnline #โดรน #กัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกกองทัพบก ยันไม่จำเป็นต้องส่งโดรนหาข่าว เพราะการเคลื่อนกำลัง-อาวุธของกัมพูชา มีให้เห็นเต็มสื่อโซเชียล เผย ตามปกติใช้โดรนทั้งสองฝ่ายบริเวณพื้นที่ทับซ้อน ไม่มีเขตแดนชัดเจน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าล้ำแดน แต่ยืนยันว่าครั้งนี้ไทยไม่ได้ส่งเข้าไป และโดรนลำที่เป็นข่าวไม่ใช่ของไทย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000052004

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    โฆษกกองทัพบก ยันไม่จำเป็นต้องส่งโดรนหาข่าว เพราะการเคลื่อนกำลัง-อาวุธของกัมพูชา มีให้เห็นเต็มสื่อโซเชียล เผย ตามปกติใช้โดรนทั้งสองฝ่ายบริเวณพื้นที่ทับซ้อน ไม่มีเขตแดนชัดเจน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าล้ำแดน แต่ยืนยันว่าครั้งนี้ไทยไม่ได้ส่งเข้าไป และโดรนลำที่เป็นข่าวไม่ใช่ของไทย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000052004 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • พร้อมสนับสนุน! ทอ.โชว์ “โดรนติดอาวุธ” ร่วมภารกิจการลาดตระเวนป้องกันฐานบิน กองบิน 3 วัฒนานคร เสริมเขี้ยวเล็บทัพฟ้าไทย

    วันนี้ (3 มิ.ย.) กองทัพอากาศ โดยความร่วมมือของกรมสรรพาวุธทหารอากาศ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในประเทศ ได้ร่วมกันพัฒนาระบบอาวุธขึ้นประกอบปืนเล็กยาวอัตโนมัติแบบ M4 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของโดรน นอกเหนือจากการลาดตระเวนและตรวจจับ และยังได้ดัดแปลงให้โดรนดังกล่าว สามารถติดตั้งอาวุธและวัตถุระเบิดอื่นๆ ได้เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งได้นำไปทดสอบในพื้นที่จริง ซึ่งก็สามารถโชว์ศักยภาพการทำงานของระบบได้อย่างน่าพอใจ

    โดรนติดอาวุธจะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการทหารที่ประกอบขึ้นใช้ภายในประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรบให้หน่วยลาดตระเวน และกำลังภาคพื้น รวมทั้งลดความเสี่ยงในการสูญเสียของทหารกล้าในภารกิจปกป้องอธิปไตยของชาติ และความสงบสุขของพี่น้องประชาชน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051910

    #MGROnline #โดรนติดอาวุธ
    พร้อมสนับสนุน! ทอ.โชว์ “โดรนติดอาวุธ” ร่วมภารกิจการลาดตระเวนป้องกันฐานบิน กองบิน 3 วัฒนานคร เสริมเขี้ยวเล็บทัพฟ้าไทย • วันนี้ (3 มิ.ย.) กองทัพอากาศ โดยความร่วมมือของกรมสรรพาวุธทหารอากาศ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในประเทศ ได้ร่วมกันพัฒนาระบบอาวุธขึ้นประกอบปืนเล็กยาวอัตโนมัติแบบ M4 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของโดรน นอกเหนือจากการลาดตระเวนและตรวจจับ และยังได้ดัดแปลงให้โดรนดังกล่าว สามารถติดตั้งอาวุธและวัตถุระเบิดอื่นๆ ได้เพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งได้นำไปทดสอบในพื้นที่จริง ซึ่งก็สามารถโชว์ศักยภาพการทำงานของระบบได้อย่างน่าพอใจ • โดรนติดอาวุธจะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการทหารที่ประกอบขึ้นใช้ภายในประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรบให้หน่วยลาดตระเวน และกำลังภาคพื้น รวมทั้งลดความเสี่ยงในการสูญเสียของทหารกล้าในภารกิจปกป้องอธิปไตยของชาติ และความสงบสุขของพี่น้องประชาชน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051910 • #MGROnline #โดรนติดอาวุธ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้สื่อข่าวอาวุโสสายทหาร ชี้ทักษิณพูดบาดใจ ทหารไทยรับไม่ได้ เสนอพื้นที่เขมรรุกรานทำเป็น No Man's Land จะได้ไม่เกิดกระทบกระทั่ง อ้างตรงนั้นไม่มีอะไร มีแต่ป่า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000051946

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ผู้สื่อข่าวอาวุโสสายทหาร ชี้ทักษิณพูดบาดใจ ทหารไทยรับไม่ได้ เสนอพื้นที่เขมรรุกรานทำเป็น No Man's Land จะได้ไม่เกิดกระทบกระทั่ง อ้างตรงนั้นไม่มีอะไร มีแต่ป่า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000051946 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Angry
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าโคราช นำประชาชนจิตอาสาพระราชทาน ร่วมกิจกรรม ปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568

    วันนี้ ( 3 มิถุนายน 2568) ที่ป่าชุมชนบ้านทับช้าง ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ร่วมกันปลูกต้นไม้ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และประชาชนจิตอาสาพระราชทานจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกิจกรรม ทั้งนี้การจัดกิจกรรมจิตอาสา เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และเพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกในการดูแล บำรุงรักษาต้นไม้ ฟื้นคืนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ป่าชุมชม ต่อไป
    ผู้ว่าโคราช นำประชาชนจิตอาสาพระราชทาน ร่วมกิจกรรม ปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ ( 3 มิถุนายน 2568) ที่ป่าชุมชนบ้านทับช้าง ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ร่วมกันปลูกต้นไม้ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และประชาชนจิตอาสาพระราชทานจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกิจกรรม ทั้งนี้การจัดกิจกรรมจิตอาสา เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และเพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกในการดูแล บำรุงรักษาต้นไม้ ฟื้นคืนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ป่าชุมชม ต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าโคราช นำประชาชนจิตอาสาพระราชทาน ร่วมกิจกรรม ปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568

    วันนี้ ( 3 มิถุนายน 2568) ที่ป่าชุมชนบ้านทับช้าง ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ร่วมกันปลูกต้นไม้ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และประชาชนจิตอาสาพระราชทานจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกิจกรรม ทั้งนี้การจัดกิจกรรมจิตอาสา เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และเพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกในการดูแล บำรุงรักษาต้นไม้ ฟื้นคืนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ป่าชุมชม ต่อไป
    ผู้ว่าโคราช นำประชาชนจิตอาสาพระราชทาน ร่วมกิจกรรม ปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ ( 3 มิถุนายน 2568) ที่ป่าชุมชนบ้านทับช้าง ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ร่วมกันปลูกต้นไม้ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และประชาชนจิตอาสาพระราชทานจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกิจกรรม ทั้งนี้การจัดกิจกรรมจิตอาสา เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และเพื่อเป็นการสร้างจิตสำนึกในการดูแล บำรุงรักษาต้นไม้ ฟื้นคืนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ป่าชุมชม ต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • อยากให้ดูสัมภาษนี้ แล้วต้องตระหนักรู้ว่า คนอิสราเอลทุกวันนี้ป่วยเพียงใด
    ไอ้ที่เราเห็นข่าวผู้หญิงอิสราเอลมาทำโอหังที่เกาะลันตาเป็นเรื่องเล็กน้อยมากที่แสดงออกมาจากผู้คนที่มีจิตป่วยเช่นนั้น
    .
    ตัวอย่างเช่น ยูทูบเบอร์ผู้นี้ถามเด็กสาวคนหนึ่งที่อายุยังน้อยว่า รู้ไหมว่าทหารอิสราเอลฆ่าเด็กไปเป็นหมื่นคน เด็กสาวตอบว่า "รู้ เธออยู่ใน IDF อาทิตย์ก่อนเธอฆ่าเด็กปาเลสไตน์ไปสองคน" ป่วยจิตจริงๆ
    .
    เมื่อได้เห็นวิดิโอนี้ ขอให้รู้ไว้ว่า กำลังมีคนจากประเทศนี้ย้ายมาอยู่ประเทศไทย และมุ่งหมายจะยึดพื้นที่บางส่วนที่ปาย
    .
    พวกเราจะต้องปกป้องไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้น
    .
    คุณต้องเห็นสิ่งนี้และโปรดกรุณาแชร์ออกไป
    แน่นอนว่าวิดิโอนี้ถูกปิดกั้นและไม่มีใครเห็น
    เว้นแต่ว่ามันถูกแชร์ออกไปมากพอ
    .
    อยากให้ดูสัมภาษนี้ แล้วต้องตระหนักรู้ว่า คนอิสราเอลทุกวันนี้ป่วยเพียงใด ไอ้ที่เราเห็นข่าวผู้หญิงอิสราเอลมาทำโอหังที่เกาะลันตาเป็นเรื่องเล็กน้อยมากที่แสดงออกมาจากผู้คนที่มีจิตป่วยเช่นนั้น . ตัวอย่างเช่น ยูทูบเบอร์ผู้นี้ถามเด็กสาวคนหนึ่งที่อายุยังน้อยว่า รู้ไหมว่าทหารอิสราเอลฆ่าเด็กไปเป็นหมื่นคน เด็กสาวตอบว่า "รู้ เธออยู่ใน IDF อาทิตย์ก่อนเธอฆ่าเด็กปาเลสไตน์ไปสองคน" ป่วยจิตจริงๆ . เมื่อได้เห็นวิดิโอนี้ ขอให้รู้ไว้ว่า กำลังมีคนจากประเทศนี้ย้ายมาอยู่ประเทศไทย และมุ่งหมายจะยึดพื้นที่บางส่วนที่ปาย . พวกเราจะต้องปกป้องไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้น . คุณต้องเห็นสิ่งนี้และโปรดกรุณาแชร์ออกไป แน่นอนว่าวิดิโอนี้ถูกปิดกั้นและไม่มีใครเห็น เว้นแต่ว่ามันถูกแชร์ออกไปมากพอ .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต วิเคราะห์งบประมาณ 2569: เครื่องมือพยุงอำนาจ หรือแผนพัฒนาชาติ?

    ร่างงบประมาณ 3.78 ล้านล้านของรัฐบาลแพทองธาร กำลังถูกตั้งคำถามว่าเพื่อประชาชนหรือเพื่อฐานเสียงทางการเมือง?

    การจัดทำร่าง งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ซึ่งมีวงเงินกว่า 3.78 ล้านล้านบาท กำลังกลายเป็นประเด็นร้อน ไม่ใช่แค่เพราะเม็ดเงินมหาศาล แต่เพราะมันสะท้อนว่า รัฐบาลบริหาร “อำนาจ” และ “ความคาดหวังของประชาชน” อย่างไร

    เมื่อมองผ่านมุม เศรษฐศาสตร์การเมือง—ซึ่งวิเคราะห์การใช้ทรัพยากรภายใต้แรงจูงใจทางอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง—คำถามใหญ่คือ งบนี้ออกแบบเพื่อ “พัฒนาชาติ” หรือแค่ “พยุงอำนาจ”?

    1. จากดิจิทัลวอลเล็ต สู่ท้องถิ่น: กลยุทธ์รักษาฐานเสียง?

    รัฐบาลโยกงบกว่า 157,000 ล้านบาท จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมเปิดให้ยื่นขอใช้งบในเวลาเพียง 3 วัน

    นี่อาจไม่ใช่การกระจายงบอย่างมีแผน แต่คือการ “ป้อนงบ” ให้กับเครือข่ายการเมืองท้องถิ่น ซึ่งสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ฐานเสียงสำคัญ

    2. กู้เงิน 8.6 แสนล้าน: ลงทุนเพื่ออนาคต หรือซื้อเวลา?

    การกู้เงินขาดดุลสูงสุดในรอบ 30 ปี สะท้อนแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความคาดหวังต่อรัฐบาลใหม่ แต่อีกด้านก็มีคำถามว่า เม็ดเงินเหล่านี้จะถูกใช้ “อย่างยั่งยืน” หรือไม่?

    การไม่มีรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับโครงการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนระยะยาว ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า นี่คือการใช้เงินเพื่อ “ผลทางการเมืองในระยะสั้น” มากกว่าการปฏิรูปเศรษฐกิจจริงจัง

    3. รัฐบาลผสม กับการจัดงบแบบแบ่งเค้ก

    การที่รัฐบาลเป็นรัฐบาลผสม ทำให้การจัดสรรงบประมาณกลายเป็นเวทีต่อรองอำนาจ
    การจัดสรรงบจำนวนมากไปยังพื้นที่ฐานเสียง และการบริหารงบกลางแบบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ชี้ว่าการเมืองภายในรัฐบาลส่งผลต่อการใช้งบมากกว่าความจำเป็นของประเทศ

    4. งบปี 2569 ไม่ตอบโจทย์โลกใหม่?

    แม้รัฐบาลจะพูดถึง “Soft Power” และ การผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แต่งบปี 2569 กลับไม่มีทิศทางชัดเจนในเรื่อง การลงทุนด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือการพัฒนาทักษะแรงงาน

    ในโลกที่เปลี่ยนเร็ว ไทยกลับยังเดินตามโมเดล “ทุ่มงบก่อสร้าง” ที่เห็นผลง่าย แต่มักไม่ตอบโจทย์ในระยะยาว โดยเฉพาะการพัฒนาปัญญาและเพิ่มทักษะแก่ประชาชน

    5. เหลื่อมล้ำยังอยู่ งบไม่ถึงชายขอบ

    การจัดงบยังคง “กระจุกตัวในเมืองใหญ่” ขณะที่งบพัฒนาจังหวัดเล็ก ๆ หรือจังหวัดชายแดนถูกลดลง งบด้านความมั่นคงกลับเพิ่มขึ้น

    ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดการบริหารที่เน้นการ “ควบคุม” มากกว่าการ “พัฒนา” ซึ่งอาจยิ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำฝังรากลึกลงไปอีก

    บทสรุป: เมื่อ “งบประมาณ” กลายเป็นสนามอำนาจ

    งบประมาณปี 2569 ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวเลข แต่คือกระจกสะท้อนว่า รัฐบาลกำลังใช้อำนาจเพื่อใคร และอย่างไร การกระจายงบแบบไม่ทั่วถึง การกู้เงินมหาศาลโดยไร้ทิศทางระยะยาว และการเมืองแบบอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึก ล้วนชี้ว่ารัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับ “เสถียรภาพทางการเมือง” มากกว่าการ “พัฒนาที่ยั่งยืน”

    หากอำนาจรัฐยังใช้งบประมาณเป็นเชือกผูกโยงฐานเสียง มากกว่าการเปิดทางให้โอกาสไหลถึงประชาชนทั้งแผ่นดิน

    ความมั่งคั่งก็จะกระจุกอยู่ในหมู่ชนชั้นนำและนักการเมืองเจ้าถิ่น ขณะที่คนส่วนใหญ่จะยังจมปลักอยู่ในทะเลแห่งความเหลื่อมล้ำ—ไร้ฝั่งฝัน ไร้เส้นทางรอด”
    รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต วิเคราะห์งบประมาณ 2569: เครื่องมือพยุงอำนาจ หรือแผนพัฒนาชาติ? ร่างงบประมาณ 3.78 ล้านล้านของรัฐบาลแพทองธาร กำลังถูกตั้งคำถามว่าเพื่อประชาชนหรือเพื่อฐานเสียงทางการเมือง? การจัดทำร่าง งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ซึ่งมีวงเงินกว่า 3.78 ล้านล้านบาท กำลังกลายเป็นประเด็นร้อน ไม่ใช่แค่เพราะเม็ดเงินมหาศาล แต่เพราะมันสะท้อนว่า รัฐบาลบริหาร “อำนาจ” และ “ความคาดหวังของประชาชน” อย่างไร เมื่อมองผ่านมุม เศรษฐศาสตร์การเมือง—ซึ่งวิเคราะห์การใช้ทรัพยากรภายใต้แรงจูงใจทางอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง—คำถามใหญ่คือ งบนี้ออกแบบเพื่อ “พัฒนาชาติ” หรือแค่ “พยุงอำนาจ”? 1. จากดิจิทัลวอลเล็ต สู่ท้องถิ่น: กลยุทธ์รักษาฐานเสียง? รัฐบาลโยกงบกว่า 157,000 ล้านบาท จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมเปิดให้ยื่นขอใช้งบในเวลาเพียง 3 วัน นี่อาจไม่ใช่การกระจายงบอย่างมีแผน แต่คือการ “ป้อนงบ” ให้กับเครือข่ายการเมืองท้องถิ่น ซึ่งสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ฐานเสียงสำคัญ 2. กู้เงิน 8.6 แสนล้าน: ลงทุนเพื่ออนาคต หรือซื้อเวลา? การกู้เงินขาดดุลสูงสุดในรอบ 30 ปี สะท้อนแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความคาดหวังต่อรัฐบาลใหม่ แต่อีกด้านก็มีคำถามว่า เม็ดเงินเหล่านี้จะถูกใช้ “อย่างยั่งยืน” หรือไม่? การไม่มีรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับโครงการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนระยะยาว ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า นี่คือการใช้เงินเพื่อ “ผลทางการเมืองในระยะสั้น” มากกว่าการปฏิรูปเศรษฐกิจจริงจัง 3. รัฐบาลผสม กับการจัดงบแบบแบ่งเค้ก การที่รัฐบาลเป็นรัฐบาลผสม ทำให้การจัดสรรงบประมาณกลายเป็นเวทีต่อรองอำนาจ การจัดสรรงบจำนวนมากไปยังพื้นที่ฐานเสียง และการบริหารงบกลางแบบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ชี้ว่าการเมืองภายในรัฐบาลส่งผลต่อการใช้งบมากกว่าความจำเป็นของประเทศ 4. งบปี 2569 ไม่ตอบโจทย์โลกใหม่? แม้รัฐบาลจะพูดถึง “Soft Power” และ การผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แต่งบปี 2569 กลับไม่มีทิศทางชัดเจนในเรื่อง การลงทุนด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือการพัฒนาทักษะแรงงาน ในโลกที่เปลี่ยนเร็ว ไทยกลับยังเดินตามโมเดล “ทุ่มงบก่อสร้าง” ที่เห็นผลง่าย แต่มักไม่ตอบโจทย์ในระยะยาว โดยเฉพาะการพัฒนาปัญญาและเพิ่มทักษะแก่ประชาชน 5. เหลื่อมล้ำยังอยู่ งบไม่ถึงชายขอบ การจัดงบยังคง “กระจุกตัวในเมืองใหญ่” ขณะที่งบพัฒนาจังหวัดเล็ก ๆ หรือจังหวัดชายแดนถูกลดลง งบด้านความมั่นคงกลับเพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดการบริหารที่เน้นการ “ควบคุม” มากกว่าการ “พัฒนา” ซึ่งอาจยิ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำฝังรากลึกลงไปอีก บทสรุป: เมื่อ “งบประมาณ” กลายเป็นสนามอำนาจ งบประมาณปี 2569 ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวเลข แต่คือกระจกสะท้อนว่า รัฐบาลกำลังใช้อำนาจเพื่อใคร และอย่างไร การกระจายงบแบบไม่ทั่วถึง การกู้เงินมหาศาลโดยไร้ทิศทางระยะยาว และการเมืองแบบอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึก ล้วนชี้ว่ารัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับ “เสถียรภาพทางการเมือง” มากกว่าการ “พัฒนาที่ยั่งยืน” หากอำนาจรัฐยังใช้งบประมาณเป็นเชือกผูกโยงฐานเสียง มากกว่าการเปิดทางให้โอกาสไหลถึงประชาชนทั้งแผ่นดิน ความมั่งคั่งก็จะกระจุกอยู่ในหมู่ชนชั้นนำและนักการเมืองเจ้าถิ่น ขณะที่คนส่วนใหญ่จะยังจมปลักอยู่ในทะเลแห่งความเหลื่อมล้ำ—ไร้ฝั่งฝัน ไร้เส้นทางรอด”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี และกรณีที่ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความเตรียมบรรจุวาระการประชุม JBC นำประเด็นเรื่องปราสาทตาเหมือนธม ปราสาทตาเหมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มุมไบ(สามเหลี่ยมมรกต-บริเวณช่องบก) เข้าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ICJ) ลำดับแรกต้องถอยห่างจากจุดปะทะ ให้ JBC ดูเรื่องปักปันเขตแดนตามกฎหมายและข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง เพราะในการพูดคุยกับกัมพูชาก็เห็นตรงกัน จึงต้องรักษากติกาข้อตกลง ก่อนใช้กลไกอื่น

    -กัมพูชารุกล้ำแดนไทย
    -ต่อสายตรงเบรกปิดด่าน
    -ปลุกใจ"กองอาทมาต"
    -ขู่ไทยต้องไปศาลโลก
    พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี และกรณีที่ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความเตรียมบรรจุวาระการประชุม JBC นำประเด็นเรื่องปราสาทตาเหมือนธม ปราสาทตาเหมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มุมไบ(สามเหลี่ยมมรกต-บริเวณช่องบก) เข้าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ICJ) ลำดับแรกต้องถอยห่างจากจุดปะทะ ให้ JBC ดูเรื่องปักปันเขตแดนตามกฎหมายและข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง เพราะในการพูดคุยกับกัมพูชาก็เห็นตรงกัน จึงต้องรักษากติกาข้อตกลง ก่อนใช้กลไกอื่น -กัมพูชารุกล้ำแดนไทย -ต่อสายตรงเบรกปิดด่าน -ปลุกใจ"กองอาทมาต" -ขู่ไทยต้องไปศาลโลก
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • โฆษก ทบ.ชี้ “ฮุน มาเนต” นำเรื่องขึ้นศาลโลกคนละเรื่องกับปัญหาปัจจุบัน ซึ่งต้องหาทางอยู่ร่วมกันในพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนที่ยังไม่ชัดเจน โดยต้องถอยจากจุดปะทะแล้วให้ JBC มาปักปันเขตแดน ตามเอ็มโอยูที่ต้องไม่ดัดแปลงสภาพพื้นที่ ชี้ ภาพถ่ายฮุนเซนใกล้ศาลาตรีมุข ไม่ใช่จุดปะทะที่เป็นป่า ไม่มีหลักฐานทหารกัมพูชาเคยมาอยู่ และเพิ่งขุดคูเรดขึ้นมาไม่นาน

    วันนี้ (2 มิ.ย.) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ภายหลัง นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศว่า เตรียมให้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee - JBC) ไทย-กัมพูชา ที่จะมีขึ้นกลางเดือน มิ.ย.เสนอนำกรณีสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) และปราสาทอีก 3 แห่งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ว่า ยังเป็นคนละเรื่องกับปัญหาปัจจุบัน ปัจจุบันคือการทำอย่างไรที่จะอยู่ร่วมกันในพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน ที่ยังไม่ชี้ชัดว่าควรเป็นพื้นที่ของใคร

    ในขั้นตอนแรก ทั้ง 2 ฝ่าย จึงถอยห่างจากจุดปะทะ และให้คณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC มาดูในเป็นเรื่องปักปันเขตแดน หรือกฎหมาย ข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะข้อตกลงที่ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ไปพูดคุยกับ ผบ.ทบ.กัมพูชา มีเห็นตรงกัน 3 ประเด็น คือ การถอยกำลังออกจากพื้นที่จุดปะทะ และใช้กลไก JBC มาร่วมแก้ปัญหาเรื่องเขตแดน เรื่องสนธิสัญญา และข้อปฏิบัติตามเอ็มโอยู จะระมัดระวังดูแลกำลังพลพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051619

    #MGROnline #ฮุนมาเนต #ศาลโลก #พื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนที่ยังไม่ชัดเจน #ทหารกัมพูชา
    โฆษก ทบ.ชี้ “ฮุน มาเนต” นำเรื่องขึ้นศาลโลกคนละเรื่องกับปัญหาปัจจุบัน ซึ่งต้องหาทางอยู่ร่วมกันในพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนที่ยังไม่ชัดเจน โดยต้องถอยจากจุดปะทะแล้วให้ JBC มาปักปันเขตแดน ตามเอ็มโอยูที่ต้องไม่ดัดแปลงสภาพพื้นที่ ชี้ ภาพถ่ายฮุนเซนใกล้ศาลาตรีมุข ไม่ใช่จุดปะทะที่เป็นป่า ไม่มีหลักฐานทหารกัมพูชาเคยมาอยู่ และเพิ่งขุดคูเรดขึ้นมาไม่นาน • วันนี้ (2 มิ.ย.) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ภายหลัง นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศว่า เตรียมให้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee - JBC) ไทย-กัมพูชา ที่จะมีขึ้นกลางเดือน มิ.ย.เสนอนำกรณีสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) และปราสาทอีก 3 แห่งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ว่า ยังเป็นคนละเรื่องกับปัญหาปัจจุบัน ปัจจุบันคือการทำอย่างไรที่จะอยู่ร่วมกันในพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน ที่ยังไม่ชี้ชัดว่าควรเป็นพื้นที่ของใคร • ในขั้นตอนแรก ทั้ง 2 ฝ่าย จึงถอยห่างจากจุดปะทะ และให้คณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC มาดูในเป็นเรื่องปักปันเขตแดน หรือกฎหมาย ข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะข้อตกลงที่ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ไปพูดคุยกับ ผบ.ทบ.กัมพูชา มีเห็นตรงกัน 3 ประเด็น คือ การถอยกำลังออกจากพื้นที่จุดปะทะ และใช้กลไก JBC มาร่วมแก้ปัญหาเรื่องเขตแดน เรื่องสนธิสัญญา และข้อปฏิบัติตามเอ็มโอยู จะระมัดระวังดูแลกำลังพลพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051619 • #MGROnline #ฮุนมาเนต #ศาลโลก #พื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนที่ยังไม่ชัดเจน #ทหารกัมพูชา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • "นายกฯ-ภูมิธรรม" เบรกกองทัพปิดด่าน หลังผู้นำกัมพูชาต่อสายร้องขอ อ้างกระทบการค้าชายแดน ซ้ำเติมวิกฤติเศรษฐกิจประเทศ ขณะที่ทหารแจ้งรุกล้ำเข้าพื้นที่ไม่สบายใจ อยากปิดด่านเพื่อกดดันกัมพูชา หากนิ่งเฉยเท่ากับยอมรับ

    วันนี้( 2 มิ.ย.)มีรายงานข่าวว่า รัฐบาลขอให้กองทัพใช้ความอดทนอดกลั้นต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังพบว่ากัมพูชาเพิ่มกำลังทหารและอาวุธหนักเข้าพื้นที่ช่องบก เป็นจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์และล้ำเข้ามาฝ่ายไทยพร้อมหันกระบอกปืนใหญ่เข้าหาฝ่ายไทย

    โดยทางกองทัพ ได้แจ้งไปยังรัฐบาล จุดที่ทหารกัมพูชารุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ฝ่ายไทย ทำให้เกิดความไม่สบาย จึงขอประกาศปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนว เพื่อกดดันและตอบโต้ทางฝ่ายกัมพูชา หากนิ่งเฉย เท่ากับเป็นการยอมรับ แต่ทางรัฐบาลได้ขอให้กองทัพอย่าพึ่งดำเนินการใดๆ กังวลว่าจะกระทบการค้าขายตามแนวชายแดน และซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศไทย อีกทั้งขณะนี้กำลังจะมีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee – JBC)ไทย-กัมพูชา

    ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ก่อนหน้านี้ภายหลังมีกระแสข่าวไทยเตรียมปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกฯและ รมว.กลาโหมกัมพูชา โทรหานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ร้องขออย่าให้ไทยปิดด่าน นอกจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้ให้นายภูมิธรรมมาพูดคุยกับกองทัพด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000051635

    #MGROnline #กองทัพ #ไทย #กัมพูชา #เบรกกองทัพปิดด่าน
    "นายกฯ-ภูมิธรรม" เบรกกองทัพปิดด่าน หลังผู้นำกัมพูชาต่อสายร้องขอ อ้างกระทบการค้าชายแดน ซ้ำเติมวิกฤติเศรษฐกิจประเทศ ขณะที่ทหารแจ้งรุกล้ำเข้าพื้นที่ไม่สบายใจ อยากปิดด่านเพื่อกดดันกัมพูชา หากนิ่งเฉยเท่ากับยอมรับ • วันนี้( 2 มิ.ย.)มีรายงานข่าวว่า รัฐบาลขอให้กองทัพใช้ความอดทนอดกลั้นต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังพบว่ากัมพูชาเพิ่มกำลังทหารและอาวุธหนักเข้าพื้นที่ช่องบก เป็นจำนวนมาก ซึ่งพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์และล้ำเข้ามาฝ่ายไทยพร้อมหันกระบอกปืนใหญ่เข้าหาฝ่ายไทย • โดยทางกองทัพ ได้แจ้งไปยังรัฐบาล จุดที่ทหารกัมพูชารุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ฝ่ายไทย ทำให้เกิดความไม่สบาย จึงขอประกาศปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนว เพื่อกดดันและตอบโต้ทางฝ่ายกัมพูชา หากนิ่งเฉย เท่ากับเป็นการยอมรับ แต่ทางรัฐบาลได้ขอให้กองทัพอย่าพึ่งดำเนินการใดๆ กังวลว่าจะกระทบการค้าขายตามแนวชายแดน และซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศไทย อีกทั้งขณะนี้กำลังจะมีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee – JBC)ไทย-กัมพูชา • ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ก่อนหน้านี้ภายหลังมีกระแสข่าวไทยเตรียมปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกฯและ รมว.กลาโหมกัมพูชา โทรหานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ร้องขออย่าให้ไทยปิดด่าน นอกจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้ให้นายภูมิธรรมมาพูดคุยกับกองทัพด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000051635 • #MGROnline #กองทัพ #ไทย #กัมพูชา #เบรกกองทัพปิดด่าน
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts