• คดีขโมยทรัพย์หักสวาทกับกลิ่นตุๆ 10 ปมพิรุธ ปกปิดทรัพย์สินเมียบิ๊กตำรวจ
    .
    22 ตุลาคมนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ คุณธนัฎฐา ยอดเยี่ยม หรือ หนิง อายุ 50 ปี อาชีพเป็นถึงอาจารย์พิเศษ อยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน นครปฐมไปออกรายการ ถกไม่เถียง มีคุณทิน โชคกมลกิจ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ผู้หญิงคนนี้มาแฉว่าเมียบิ๊กตำรวจมาเล่นชู้กับสามีตัวเองที่เป็นตำรวจเช่นกัน ในคอนโดฯ ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ มิหนำซ้ำยังขโมยทรัพย์สินเป็นทองคำกว่า 120 บาท และเงินสดอีก 6 แสนบาท มูลค่ารวม 5 ล้านกว่าบาท
    .
    ผมอยากให้ท่านผู้ชมเห็นพิรุธของคนทั้งสามคนนี้ คือในเรื่องขโมยทรัพย์หักสวาทเรื่องนี้มันมีกลิ่นตุๆ ซุกซ่อนอยู่ในนี้หลายประเด็น
    .
    หนึ่ง เท่าที่ผมรู้ ดร.ศิรินัดดา ขจัดพาล ให้การกับตำรวจขณะมามอบตัวว่ามีการเช่าคอนโดฯ ห้องที่เกิดเหตุกับพ.ต.อ.ภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามีคุณหนิงตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2567ต้นปี ตกลงเช่ากันไว้ 1 ปี ในราคาเดือนละ 10,000 บาท แต่ได้จ่ายค่าเช่าเป็นเงิน 120,000 บาท แสดงว่าการเช่าสิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า (2568) เพราะฉะนั้นแล้วการเอากระสอบสีรุ้ง 5 ใบ ก็สามารถเก็บไว้ได้ตามอายุสัญญาเช่า ไม่จำเป็นต้องเอาออกไปแต่อย่างใด
    .
    สอง ตามคำให้การของคุณหนิง พบว่าคุณหนิงกับสามี พ.ต.อ.ภีมพจน์ มีการเข้าห้องที่เกิดเหตุตั้งหลายครั้ง ทำไม ดร.ศิรินัดดา ไม่มีการแจ้งความในข้อหาบุกรุกกับสองคนผัวเมีย
    .
    สาม ถ้ามีการเช่า ทำไมไม่เปลี่ยนกุญแจคีย์การ์ดล็อกได้อีกชั้น ถ้าไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวายในห้องนี้
    .
    สี่ ในซอยสุขุมวิท 101 ซอยย่อย 47 ดร.ศิรินัดดา มีคอนโดฯอีก 3 ห้อง ซึ่งใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุอยู่ซอย 21 ทำไมถึงไม่เอาเงินทอง 5 ถุงไปเก็บไว้ที่มีตำรวจตัวเอง
    .
    ห้า ข้อมูลเชิงลึก ดร.ศิรินัดดาหรือมาดามกุ๊กคบหารู้จักสามีคุณหนิงตั้งแต่เป็นสารวัตร รับราชการที่จังหวัดสงขลา จนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง
    .
    หก เรื่องซื้อขายทองตามปรากฏ post-it ในถุงสีรุ้ง ดันไปตรงกับข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ที่ พ.ต.ต.ชานนท์ รายงานการซื้อขายทอง ตรงกับหลักฐานที่ ปปง. มีอยู่ จึงเชื่อได้ว่าทองคำที่คุณหนิงอ้างว่าถูกมาดามกุ๊กขโมยไปนั้น ไม่น่าจะเป็นทองของคุณหนิง แต่เป็นทองของสุรเชชษฐ์ กับมาดามกุ๊กมากกว่า แต่ทำไมคุณหนิงแต่งเรื่องเพื่อแบล็กเมล ใช่หรือเปล่า
    .
    เจ็ด ตัวคุณหนิงเองก็เคยมีประวัติถูกแจ้งความดำเนินคดี ถูกฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับทรัพย์เกือบสิบคดี และเบื้องหลังคุณหนิงกับสามีก็ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จะเอาทองคำ 120 บาท กับเงิน 6 แสนบาท มาจากไหนครับและหลักฐานที่จะแสดงถึงว่าคุณซื้อทองยังไม่มีเลย
    .
    แปด ตรรกะง่ายๆ เมียที่ไหนจับได้ว่าผู้หญิงเอาผัวตัวไปทำชู้พร้อมหลักฐานชัดเจน แต่ไม่อาละวาด เคลียร์กันเงียบๆ แล้วแยกย้ายจากกัน ดูเป็นแม่พระเหลือเกิน ต่างกับตอนมาออกรายการโหนกระแส ธาตุแท้ยิ่งกว่าตลาด บุคลากรแบบนี้หรือที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจนำมาสั่งสอนนักเรียนนายร้อยตำรวจ ดีแล้วที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจไม่ให้คุณทำการสอนต่อ
    .
    เก้า คุณหนิงกับสามีรับลูกกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยในรายการ “โหนกระแส” ทั้งๆ ที่มันเป็นความผิดร้ายแรงของระบบราชการที่มีการคบซ้อนเชิงชู้สาว ร้ายแรงถึงออกจากราชการ แต่ทั้งคู่ไม่ได้แคร์ เหมือนกับรู้ว่าจะได้ลาภก้อนใหญ่จนกระทั่งไม่สนชีวิตราชการ แม้กระทั่งเงินบำเหน็จบำนาญ
    .
    สิบ ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ มันขมวดถึงข้อพิรุธและความน่าสงสัยของการพยายามปกปิดทรัพย์สิน ร่ำรวยเกินกว่าเหตุของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล และ ดร.ศิรินัดดา รวมถึงเส้นทางทางการเงินที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนันทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายมินนี่ หรือ BNK Master เรื่องคดีพวกนี้ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ผมก็ยังงงกับหน่วยงานที่ไปตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. หรือ ปปง. ที่ยังเชื่องช้าเหมือนเด็กหัดเดิน ทำอะไร พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ไม่ได้เต็มข้อเสียที ทั้งๆ ที่ตำรวจขนหลักฐานไปให้ไม่รู้เท่าไร พวกคุณรออะไรกันอยู่ หรือจะรอให้มันโยกเงินโยกทองหนีออกนอกประเทศไปก่อน
    .
    เรื่องคดีอาญาที่ ปปง. ดำเนินการ ไปถึงไหนแล้ว บทเรียนมีไม่ใช่หรือ ว่ามันโยกเงินแม้กระทั่งจากกรมธรรม์ประกันชีวิต มันก็ทำไปแล้ว ไม่เห็นหรือ นี่คือข้อสังเกตของผม ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหมว่าเรื่องนี้มันทะแม่งๆ น่าสนใจมาก
    คดีขโมยทรัพย์หักสวาทกับกลิ่นตุๆ 10 ปมพิรุธ ปกปิดทรัพย์สินเมียบิ๊กตำรวจ . 22 ตุลาคมนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ คุณธนัฎฐา ยอดเยี่ยม หรือ หนิง อายุ 50 ปี อาชีพเป็นถึงอาจารย์พิเศษ อยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน นครปฐมไปออกรายการ ถกไม่เถียง มีคุณทิน โชคกมลกิจ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ ผู้หญิงคนนี้มาแฉว่าเมียบิ๊กตำรวจมาเล่นชู้กับสามีตัวเองที่เป็นตำรวจเช่นกัน ในคอนโดฯ ที่ตัวเองเป็นเจ้าของ มิหนำซ้ำยังขโมยทรัพย์สินเป็นทองคำกว่า 120 บาท และเงินสดอีก 6 แสนบาท มูลค่ารวม 5 ล้านกว่าบาท . ผมอยากให้ท่านผู้ชมเห็นพิรุธของคนทั้งสามคนนี้ คือในเรื่องขโมยทรัพย์หักสวาทเรื่องนี้มันมีกลิ่นตุๆ ซุกซ่อนอยู่ในนี้หลายประเด็น . หนึ่ง เท่าที่ผมรู้ ดร.ศิรินัดดา ขจัดพาล ให้การกับตำรวจขณะมามอบตัวว่ามีการเช่าคอนโดฯ ห้องที่เกิดเหตุกับพ.ต.อ.ภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามีคุณหนิงตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2567ต้นปี ตกลงเช่ากันไว้ 1 ปี ในราคาเดือนละ 10,000 บาท แต่ได้จ่ายค่าเช่าเป็นเงิน 120,000 บาท แสดงว่าการเช่าสิ้นสุดลงในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า (2568) เพราะฉะนั้นแล้วการเอากระสอบสีรุ้ง 5 ใบ ก็สามารถเก็บไว้ได้ตามอายุสัญญาเช่า ไม่จำเป็นต้องเอาออกไปแต่อย่างใด . สอง ตามคำให้การของคุณหนิง พบว่าคุณหนิงกับสามี พ.ต.อ.ภีมพจน์ มีการเข้าห้องที่เกิดเหตุตั้งหลายครั้ง ทำไม ดร.ศิรินัดดา ไม่มีการแจ้งความในข้อหาบุกรุกกับสองคนผัวเมีย . สาม ถ้ามีการเช่า ทำไมไม่เปลี่ยนกุญแจคีย์การ์ดล็อกได้อีกชั้น ถ้าไม่ต้องการให้ใครเข้ามาวุ่นวายในห้องนี้ . สี่ ในซอยสุขุมวิท 101 ซอยย่อย 47 ดร.ศิรินัดดา มีคอนโดฯอีก 3 ห้อง ซึ่งใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุอยู่ซอย 21 ทำไมถึงไม่เอาเงินทอง 5 ถุงไปเก็บไว้ที่มีตำรวจตัวเอง . ห้า ข้อมูลเชิงลึก ดร.ศิรินัดดาหรือมาดามกุ๊กคบหารู้จักสามีคุณหนิงตั้งแต่เป็นสารวัตร รับราชการที่จังหวัดสงขลา จนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง . หก เรื่องซื้อขายทองตามปรากฏ post-it ในถุงสีรุ้ง ดันไปตรงกับข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ของ พ.ต.ท.คริษฐ์ ที่ พ.ต.ต.ชานนท์ รายงานการซื้อขายทอง ตรงกับหลักฐานที่ ปปง. มีอยู่ จึงเชื่อได้ว่าทองคำที่คุณหนิงอ้างว่าถูกมาดามกุ๊กขโมยไปนั้น ไม่น่าจะเป็นทองของคุณหนิง แต่เป็นทองของสุรเชชษฐ์ กับมาดามกุ๊กมากกว่า แต่ทำไมคุณหนิงแต่งเรื่องเพื่อแบล็กเมล ใช่หรือเปล่า . เจ็ด ตัวคุณหนิงเองก็เคยมีประวัติถูกแจ้งความดำเนินคดี ถูกฟ้องร้องคดีเกี่ยวกับทรัพย์เกือบสิบคดี และเบื้องหลังคุณหนิงกับสามีก็ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จะเอาทองคำ 120 บาท กับเงิน 6 แสนบาท มาจากไหนครับและหลักฐานที่จะแสดงถึงว่าคุณซื้อทองยังไม่มีเลย . แปด ตรรกะง่ายๆ เมียที่ไหนจับได้ว่าผู้หญิงเอาผัวตัวไปทำชู้พร้อมหลักฐานชัดเจน แต่ไม่อาละวาด เคลียร์กันเงียบๆ แล้วแยกย้ายจากกัน ดูเป็นแม่พระเหลือเกิน ต่างกับตอนมาออกรายการโหนกระแส ธาตุแท้ยิ่งกว่าตลาด บุคลากรแบบนี้หรือที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจนำมาสั่งสอนนักเรียนนายร้อยตำรวจ ดีแล้วที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจไม่ให้คุณทำการสอนต่อ . เก้า คุณหนิงกับสามีรับลูกกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยในรายการ “โหนกระแส” ทั้งๆ ที่มันเป็นความผิดร้ายแรงของระบบราชการที่มีการคบซ้อนเชิงชู้สาว ร้ายแรงถึงออกจากราชการ แต่ทั้งคู่ไม่ได้แคร์ เหมือนกับรู้ว่าจะได้ลาภก้อนใหญ่จนกระทั่งไม่สนชีวิตราชการ แม้กระทั่งเงินบำเหน็จบำนาญ . สิบ ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ มันขมวดถึงข้อพิรุธและความน่าสงสัยของการพยายามปกปิดทรัพย์สิน ร่ำรวยเกินกว่าเหตุของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล และ ดร.ศิรินัดดา รวมถึงเส้นทางทางการเงินที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนันทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายมินนี่ หรือ BNK Master เรื่องคดีพวกนี้ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ผมก็ยังงงกับหน่วยงานที่ไปตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. หรือ ปปง. ที่ยังเชื่องช้าเหมือนเด็กหัดเดิน ทำอะไร พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ไม่ได้เต็มข้อเสียที ทั้งๆ ที่ตำรวจขนหลักฐานไปให้ไม่รู้เท่าไร พวกคุณรออะไรกันอยู่ หรือจะรอให้มันโยกเงินโยกทองหนีออกนอกประเทศไปก่อน . เรื่องคดีอาญาที่ ปปง. ดำเนินการ ไปถึงไหนแล้ว บทเรียนมีไม่ใช่หรือ ว่ามันโยกเงินแม้กระทั่งจากกรมธรรม์ประกันชีวิต มันก็ทำไปแล้ว ไม่เห็นหรือ นี่คือข้อสังเกตของผม ท่านผู้ชมเห็นด้วยกับผมไหมว่าเรื่องนี้มันทะแม่งๆ น่าสนใจมาก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • จ้างเชอ ธรรมเนียมกีดขวางรถเจ้าสาว

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับเกร็ดเล็กๆ ว่าด้วยการแต่งงานจีนโบราณ

    เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <องค์หญิงใหญ่> คงจำได้ว่าในฉากที่องค์หญิงหลี่หรงแต่งงานนั้น องค์ชายรัชทายาทหลี่ชวนได้นั่งรถม้านำขบวนรถเจ้าสาวพร้อมโปรยเงินให้ชาวบ้านที่มาอออยู่เต็มถนน จริงๆ แล้วพวกชาวบ้านไม่ได้มารอรับขบวนเสด็จขององค์หญิง หากแต่มันเป็นประเพณีการกีดขวางรถเจ้าสาวหรือที่เรียกว่า ‘จ้างเชอ’ (障车 แปลตรงตัวว่า ขวางรถ)

    พวกเราส่วนใหญ่คุ้นเคยกับประเพณีการกั้นประตูตอนเจ้าบ่าวมารับตัวเจ้าสาว ซึ่งเป็นการกั้นก่อนที่เจ้าบ่าวจะเข้าถึงตัวเจ้าสาว แต่การกีดขวางรถเจ้าสาวหรือจ้างเชอนี้เป็นการกีดขวางขบวนรถเจ้าสาวหลังจากที่เจ้าบ่าวรับตัวเจ้าสาวแล้วและกำลังจะพาเจ้าสาวเดินทางกลับบ้านเจ้าบ่าวเพื่อเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน ทั้งนี้ ตามประเพณีดั้งเดิม การกีดขวางรถนี้เป็นการกระทำโดยครอบครัวฝ่ายหญิงเพื่อแสดงออกถึงความอาลัยอาวรณ์ในตัวเจ้าสาว

    แต่เดิมในสมัยโบราณนั้น พิธีการแต่งงานจะเน้นเรียบขรึมสุขุมเพราะมองว่าเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ครึกครื้นเอิกเกริกและไม่มีการกีดขวางขบวนเจ้าสาว ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์เหนือใต้จึงเกิดประเพณีกีดขวางขบวนเจ้าสาวหรือจ้างเชอนี้ขึ้น และเป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยสุยและถัง โดยในสมัยถังนั้น เป็นยุคสมัยที่เน้นความครึกครื้นและนิยมการแต่งกลอน มีการให้เจ้าบ่าวแต่งกลอนเร่งเจ้าสาวหรือ ‘ชุยจวงซือ’ ก่อนจะเข้าถึงตัวเจ้าสาวได้ (Storyฯ เคยเขียนถึงธรรมเนียมคล้ายคลึงกันในสมัยซ่ง https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid05s41d5RQU7QjyxytQ3KKM5YDxA5cE2wNCLQDJZtP6YXRh844ki7rSrhXaGPr3zLil) และเมื่อรับตัวเจ้าสาวแล้วก็จะถูกกั้นขบวนหรือจ้างเชอ และเจ้าบ่าวต้องแต่งกลอนเพื่อขอให้เปิดทาง ต่อมาพัฒนามาเป็นการกีดขวางเพื่อให้ฝ่ายชายต้องจ่ายเงินก่อนจะพาขบวนรถเจ้าสาวออกไปได้และอาจแห่กันมายืนออกันทั้งหมู่บ้าน ไม่ใช่แค่ครอบครัวของเจ้าสาว

    และเมื่อมาถึงบ้านเจ้าบ่าวแล้ว ในสมัยถังจะมีการเดินบนพรมที่มีคนนำมาสลับวางอย่างที่เห็นในเรื่อง <องค์หญิงใหญ่> เรียกว่า ‘จ่วนสี’ (转席) เป็นเคล็ดว่าให้สืบทอดรุ่นต่อรุ่น

    แน่นอนว่าธรรมเนียมปฏิบัติเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและตามพื้นที่ จากเดิมใช้รถม้ารับเจ้าสาวก็เปลี่ยนมาเป็นใช้เกี้ยวในสมัยซ่ง และในบางพื้นที่ก็เปลี่ยนจากการให้บ่าวสาวเดินบนพรมที่สลับวางมาเป็นให้เจ้าสาวก้าวข้ามอานม้า (ซึ่งออกเสียงใกล้กับคำว่า ‘อัน’ ที่แปลว่าปลอดภัยสุขสงบ) หรือก้าวข้ามเตาเป็นเคล็ดว่าให้แคล้วคลาดจากสิ่งอัปมงคลแทน
    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://today.line.me/tw/v2/article/x2wrzLn
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://paper.people.com.cn/rmlt/html/2023-07/01/content_26011443.htm
    https://baike.baidu.com/item/障车/1624835
    https://m.thepaper.cn/baijiahao_15953346#:~:text=新娘上了车,女方,之为“转席”。
    https://zqb.cyol.com/html/2020-11/10/nw.D110000zgqnb_20201110_1-10.htm

    #องค์หญิงใหญ่ #พิธีแต่งงานจีนโบราณ #รับตัวเจ้าสาวจีนโบราณ #สาระจีน

    จ้างเชอ ธรรมเนียมกีดขวางรถเจ้าสาว สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับเกร็ดเล็กๆ ว่าด้วยการแต่งงานจีนโบราณ เพื่อนเพจที่ได้ดูเรื่อง <องค์หญิงใหญ่> คงจำได้ว่าในฉากที่องค์หญิงหลี่หรงแต่งงานนั้น องค์ชายรัชทายาทหลี่ชวนได้นั่งรถม้านำขบวนรถเจ้าสาวพร้อมโปรยเงินให้ชาวบ้านที่มาอออยู่เต็มถนน จริงๆ แล้วพวกชาวบ้านไม่ได้มารอรับขบวนเสด็จขององค์หญิง หากแต่มันเป็นประเพณีการกีดขวางรถเจ้าสาวหรือที่เรียกว่า ‘จ้างเชอ’ (障车 แปลตรงตัวว่า ขวางรถ) พวกเราส่วนใหญ่คุ้นเคยกับประเพณีการกั้นประตูตอนเจ้าบ่าวมารับตัวเจ้าสาว ซึ่งเป็นการกั้นก่อนที่เจ้าบ่าวจะเข้าถึงตัวเจ้าสาว แต่การกีดขวางรถเจ้าสาวหรือจ้างเชอนี้เป็นการกีดขวางขบวนรถเจ้าสาวหลังจากที่เจ้าบ่าวรับตัวเจ้าสาวแล้วและกำลังจะพาเจ้าสาวเดินทางกลับบ้านเจ้าบ่าวเพื่อเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน ทั้งนี้ ตามประเพณีดั้งเดิม การกีดขวางรถนี้เป็นการกระทำโดยครอบครัวฝ่ายหญิงเพื่อแสดงออกถึงความอาลัยอาวรณ์ในตัวเจ้าสาว แต่เดิมในสมัยโบราณนั้น พิธีการแต่งงานจะเน้นเรียบขรึมสุขุมเพราะมองว่าเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ครึกครื้นเอิกเกริกและไม่มีการกีดขวางขบวนเจ้าสาว ต่อมาในยุคสมัยราชวงศ์เหนือใต้จึงเกิดประเพณีกีดขวางขบวนเจ้าสาวหรือจ้างเชอนี้ขึ้น และเป็นที่นิยมอย่างมากในสมัยสุยและถัง โดยในสมัยถังนั้น เป็นยุคสมัยที่เน้นความครึกครื้นและนิยมการแต่งกลอน มีการให้เจ้าบ่าวแต่งกลอนเร่งเจ้าสาวหรือ ‘ชุยจวงซือ’ ก่อนจะเข้าถึงตัวเจ้าสาวได้ (Storyฯ เคยเขียนถึงธรรมเนียมคล้ายคลึงกันในสมัยซ่ง https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid05s41d5RQU7QjyxytQ3KKM5YDxA5cE2wNCLQDJZtP6YXRh844ki7rSrhXaGPr3zLil) และเมื่อรับตัวเจ้าสาวแล้วก็จะถูกกั้นขบวนหรือจ้างเชอ และเจ้าบ่าวต้องแต่งกลอนเพื่อขอให้เปิดทาง ต่อมาพัฒนามาเป็นการกีดขวางเพื่อให้ฝ่ายชายต้องจ่ายเงินก่อนจะพาขบวนรถเจ้าสาวออกไปได้และอาจแห่กันมายืนออกันทั้งหมู่บ้าน ไม่ใช่แค่ครอบครัวของเจ้าสาว และเมื่อมาถึงบ้านเจ้าบ่าวแล้ว ในสมัยถังจะมีการเดินบนพรมที่มีคนนำมาสลับวางอย่างที่เห็นในเรื่อง <องค์หญิงใหญ่> เรียกว่า ‘จ่วนสี’ (转席) เป็นเคล็ดว่าให้สืบทอดรุ่นต่อรุ่น แน่นอนว่าธรรมเนียมปฏิบัติเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยและตามพื้นที่ จากเดิมใช้รถม้ารับเจ้าสาวก็เปลี่ยนมาเป็นใช้เกี้ยวในสมัยซ่ง และในบางพื้นที่ก็เปลี่ยนจากการให้บ่าวสาวเดินบนพรมที่สลับวางมาเป็นให้เจ้าสาวก้าวข้ามอานม้า (ซึ่งออกเสียงใกล้กับคำว่า ‘อัน’ ที่แปลว่าปลอดภัยสุขสงบ) หรือก้าวข้ามเตาเป็นเคล็ดว่าให้แคล้วคลาดจากสิ่งอัปมงคลแทน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://today.line.me/tw/v2/article/x2wrzLn Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://paper.people.com.cn/rmlt/html/2023-07/01/content_26011443.htm https://baike.baidu.com/item/障车/1624835 https://m.thepaper.cn/baijiahao_15953346#:~:text=新娘上了车,女方,之为“转席”。 https://zqb.cyol.com/html/2020-11/10/nw.D110000zgqnb_20201110_1-10.htm #องค์หญิงใหญ่ #พิธีแต่งงานจีนโบราณ #รับตัวเจ้าสาวจีนโบราณ #สาระจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ท่องเที่ยวชุมชนยลวิถี" บ้านฟ้าหยาด ตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชัยชนะ จังหวัดยโสธร
    ประเพณีที่สำคัญ คือ งานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก จัดอย่างยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในโลก
    นับเป็นอีกงานประเพณีประจำปี ที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์ ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม ได้ประกาศขึ้นทะเบียน "ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก ในเทศกาลวันมาฆบูชา จังหวัดยโสธร" สาขาแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี พ.ศ. 2558 ประกาศ ณ วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558 และในปี พ.ศ. 2566 มีการคัดเลือกงานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก “มาฆบูชา อารยธรรมอีสาน” เป็น 1 ใน 16 เทศกาลประเพณีเพื่อยกระดับไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ

    #สุขนิยามสยามโสภา #สยามโสภา #บ้านฟ้าหยาด #จังหวัดยโสธร #อำเภอมหาชัยชนะ #งานประเพณี #มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ #แห่มาลัยข้าวตอก #ท่องเที่ยวชุมชน
    "ท่องเที่ยวชุมชนยลวิถี" บ้านฟ้าหยาด ตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชัยชนะ จังหวัดยโสธร ประเพณีที่สำคัญ คือ งานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก จัดอย่างยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในโลก นับเป็นอีกงานประเพณีประจำปี ที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์ ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม ได้ประกาศขึ้นทะเบียน "ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก ในเทศกาลวันมาฆบูชา จังหวัดยโสธร" สาขาแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี พ.ศ. 2558 ประกาศ ณ วันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558 และในปี พ.ศ. 2566 มีการคัดเลือกงานประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก “มาฆบูชา อารยธรรมอีสาน” เป็น 1 ใน 16 เทศกาลประเพณีเพื่อยกระดับไปสู่ระดับชาติและนานาชาติ #สุขนิยามสยามโสภา #สยามโสภา #บ้านฟ้าหยาด #จังหวัดยโสธร #อำเภอมหาชัยชนะ #งานประเพณี #มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ #แห่มาลัยข้าวตอก #ท่องเที่ยวชุมชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 18 0 รีวิว

  • ..การล่มสลายเริ่มจากสิ่งนี้อย่างเป็นทางการ ยุโรปเริ่มพังทั้งยุโรปอย่างเป็นรูปธรรม&เปิดเผย แล้วกระจายลุกลามถึงเอเชียอาเชียนที่เราเห็นๆในปัจจุบัน.
    ..ฟ้าเรารู้สิ่งนี้ดี จึงปฏิเสธการเข้าร่วมตามที่เป็นข่าว ราชินีกิ่งก่า น่าไปตรงไหน ตัวจริงตายนานแล้วด้วย เขาเก็บนานแล้ว รวมท่านลอร์ดต่างๆด้วย.

    ..จากอดีต คนข่าวเล่าว่า
    Healthความคิด...

    ☠งานศพของราชินีเป็นสัญลักษณ์ของการล่มสลายของคับบาลาห์: ตายแล้วถูกฝัง

    💥จำไว้ว่าก้อนหินแห่งจอร์เจียตกลงมาได้อย่างไร สัญลักษณ์ที่มองเห็นได้ของการทำลายล้างแผนโลกาภิวัตน์ของซาตาน

    👉 มีการแสดงความคิดเห็นด้วยว่าจิตรกรรมฝาผนังซาตานที่สนามบินเดนเวอร์หายไป (หนึ่งในเด็กจากทั่วทุกมุมโลกที่มีธงปากกระบอกปืนของแต่ละประเทศ) (ไม่ยืนยัน)

    ⚡️วันนี้สมาชิกของ Dark Cabal จะมาพบกันที่ลอนดอน บางทีอาจจะพยายามตกลงกันว่าจะรื้อฟื้นโครงการที่ล้มเหลวในการครอบครองโลกและการปราบปรามมนุษยชาติ บางทีอาจจะลองพิธีกรรมอันมืดมน...หรือบางทีอาจจะเห็นด้วยกับการยอมจำนนทั้งหมดของพวกเขา และลองเจรจาเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์สำหรับพวกเขา 🔥

    เราต้องการให้พวกเขาออกไปจากโลกนี้โดยเร็วที่สุด

    ⚡️ไม่ว่าในกรณีใด ราชินีของพวกเขาจะไม่ปรากฏต่อสาธารณะอีกต่อไป แต่หัวของสัตว์ร้ายสองตัวยังคงอยู่ในแกลเลอรี (วาติกันและดีซี)

    😎มาดูกันว่าตั้งแต่วันนี้จะเกิดอะไรขึ้น... ⚡️

    โดยส่วนตัวแล้ว ฉันพนันได้เลยว่าความสมดุลจะเอียงไปทางกิจกรรม GOOD อย่างเห็นได้ชัด 🍿Kat
    ...
    ..การล่มสลายเริ่มจากสิ่งนี้อย่างเป็นทางการ ยุโรปเริ่มพังทั้งยุโรปอย่างเป็นรูปธรรม&เปิดเผย แล้วกระจายลุกลามถึงเอเชียอาเชียนที่เราเห็นๆในปัจจุบัน. ..ฟ้าเรารู้สิ่งนี้ดี จึงปฏิเสธการเข้าร่วมตามที่เป็นข่าว ราชินีกิ่งก่า น่าไปตรงไหน ตัวจริงตายนานแล้วด้วย เขาเก็บนานแล้ว รวมท่านลอร์ดต่างๆด้วย. ..จากอดีต คนข่าวเล่าว่า Healthความคิด... ☠งานศพของราชินีเป็นสัญลักษณ์ของการล่มสลายของคับบาลาห์: ตายแล้วถูกฝัง 💥จำไว้ว่าก้อนหินแห่งจอร์เจียตกลงมาได้อย่างไร สัญลักษณ์ที่มองเห็นได้ของการทำลายล้างแผนโลกาภิวัตน์ของซาตาน 👉 มีการแสดงความคิดเห็นด้วยว่าจิตรกรรมฝาผนังซาตานที่สนามบินเดนเวอร์หายไป (หนึ่งในเด็กจากทั่วทุกมุมโลกที่มีธงปากกระบอกปืนของแต่ละประเทศ) (ไม่ยืนยัน) ⚡️วันนี้สมาชิกของ Dark Cabal จะมาพบกันที่ลอนดอน บางทีอาจจะพยายามตกลงกันว่าจะรื้อฟื้นโครงการที่ล้มเหลวในการครอบครองโลกและการปราบปรามมนุษยชาติ บางทีอาจจะลองพิธีกรรมอันมืดมน...หรือบางทีอาจจะเห็นด้วยกับการยอมจำนนทั้งหมดของพวกเขา และลองเจรจาเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์สำหรับพวกเขา 🔥 เราต้องการให้พวกเขาออกไปจากโลกนี้โดยเร็วที่สุด ⚡️ไม่ว่าในกรณีใด ราชินีของพวกเขาจะไม่ปรากฏต่อสาธารณะอีกต่อไป แต่หัวของสัตว์ร้ายสองตัวยังคงอยู่ในแกลเลอรี (วาติกันและดีซี) 😎มาดูกันว่าตั้งแต่วันนี้จะเกิดอะไรขึ้น... ⚡️ โดยส่วนตัวแล้ว ฉันพนันได้เลยว่าความสมดุลจะเอียงไปทางกิจกรรม GOOD อย่างเห็นได้ชัด 🍿Kat ...
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน: หน่วยงานพิเศษ Adrenochrome ช่วยเหลือเด็กหลายร้อยคนที่ถูกค้ามนุษย์โดย Marina Abramovic

    หน่วยพิเศษของรัสเซียได้ช่วยเหลือเด็กที่ถูกค้ามนุษย์หลายร้อยคนจากโรงงาน adrenochrome ที่ซ่อนอยู่ลึกในเทือกเขาคาร์เพเทียนของยูเครน ซึ่งเป็นการพัฒนาที่น่าตกตะลึง ปฏิบัติการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินเพื่อทำลายอุตสาหกรรม adrenochrome ทั่วโลก ซึ่งส่งคลื่นความตกตะลึงไปทั่วโลก การเปิดเผยที่น่าวิตกกังวลที่สุด? ศิลปินการแสดงชื่อดังอย่าง Marina Abramovic ถูกกล่าวหาว่าเป็นศูนย์กลางของความสยองขวัญนี้ โดยเขาจัดงานปาร์ตี้ adrenochrome ในปารีส โดยมีชนชั้นสูงเข้าร่วม

    เปิดโปงการค้า adrenochrome

    adrenochrome คืออะไร? ไม่ใช่แค่ทฤษฎีที่กระซิบกันในแวดวงทฤษฎีสมคบคิด แต่เป็นความจริง สารประกอบทางเคมีที่เชื่อมโยงกับการต่อต้านวัยและประสบการณ์หลอนประสาท กล่าวกันว่าถูกเก็บเกี่ยวด้วยวิธีที่แปลกประหลาดที่สุดที่จินตนาการได้ นั่นคือจากเลือดของเด็กที่ถูกทรมาน ชนชั้นสูงที่หลงใหลในอำนาจและเยาวชน ได้สร้างการค้าลับๆ ขึ้นโดยอาศัยแนวทางนี้ และตอนนี้ รัสเซียกำลังเป็นผู้นำในการทำลายล้างแนวทางนี้

    ยูเครน: หัวใจมืดของการค้า

    ยูเครนกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์การค้ามนุษย์ โดยมีพรมแดนที่ไร้การควบคุมและภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากสงครามเป็นแหล่งกำบังที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ค้ามนุษย์ เด็กๆ ถูกจับตัวไปจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ค่ายผู้ลี้ภัย และบ้านเรือนของพวกเขา และหายตัวไปในตลาดมืด กองกำลังรัสเซียได้ใช้ข้อมูลข่าวกรองที่รวบรวมได้จากงานของอับราโมวิชที่ปารีส เปิดเผยว่าโรงงานผลิตอะดรีโนโครมกำลังดำเนินการอยู่ในสถานที่ซ่อนเร้นเหล่านี้ โดยแสวงหาผลประโยชน์จากเด็กๆ ในรูปแบบที่เหนือจินตนาการ

    บทบาทอันชั่วร้ายของอับราโมวิช

    มารินา อับราโมวิช ซึ่งเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมลึกลับที่น่ารำคาญภายใต้หน้ากากของ "ศิลปะ" มาเป็นเวลานาน ได้ถูกเชื่อมโยงเข้ากับโลกใต้ดินของอะดรีโนโครม ตามข้อมูลข่าวกรองของรัสเซีย การรวมตัวของชนชั้นสูงของเธอเป็นมากกว่างานสังคม—แต่ยังเป็นการสร้างพื้นที่ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้าอีกด้วย การเปิดเผยนี้เชื่อมโยงเธอโดยตรงกับหนึ่งในแผนการสมคบคิดที่มืดมนที่สุดในยุคของเรา

    ภารกิจของปูติน: สงครามกับอะดรีโนโครม

    ประธานาธิบดีปูตินได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า เขาจะไม่หยุดยั้งที่จะเปิดโปงและทำลายเครือข่ายอะดรีโนโครมทั่วโลก สำหรับปูติน นี่คือสงครามเพื่อจิตวิญญาณของมนุษยชาติ การต่อสู้เพื่อกลุ่มคนชั้นสูงที่ล่าเหยื่อที่เปราะบางที่สุดโดยไม่ต้องรับโทษ ปฏิบัติการกู้ภัยในยูเครนนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เป็นสัญญาณเตือนว่าผู้ค้ามนุษย์และผู้ร่วมมือที่เป็นพวกชั้นสูงไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

    เกมอันตราย

    การเปิดโปงกลุ่มคนชั้นสูงเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย บุคคลที่ทรงอิทธิพลเบื้องหลังการค้าอะดรีโนโครมไม่ได้มีแค่ความร่ำรวยเท่านั้น แต่ยังควบคุมรัฐบาล สื่อ และระบบการเงินทั้งหมดอีกด้วย แต่การเคลื่อนไหวที่กล้าหาญของรัสเซียกำลังแสดงให้โลกเห็นว่าสถานะที่แตะต้องไม่ได้ของกลุ่มคนชั้นสูงกำลังพังทลาย การปราบปรามอุตสาหกรรมของปูตินได้ส่งคลื่นกระแทกไปทั่วทางเดินของอำนาจ และความเงียบของตะวันตกก็ดังจนหูหนวก
    ผลกระทบต่อโลก

    ปฏิบัติการนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ระดับโลก เมื่อเด็กๆ หลายร้อยคนได้รับการปลดปล่อยจากความน่ากลัวที่ไม่อาจจินตนาการได้ อุตสาหกรรมอะดรีโนโครมก็ถูกเปิดโปงว่าเป็นเพียงเศรษฐกิจที่ชั่วร้ายและซ่อนเร้น ประเทศอื่นๆ จะก้าวขึ้นมาหรือจะเพิกเฉย โลกต้องเผชิญหน้ากับความชั่วร้ายนี้ และรัสเซียได้จุดไฟที่ไม่สามารถดับได้ง่ายๆ

    ความจริงกำลังถูกเปิดเผย และผู้มีอำนาจไม่สามารถซ่อนตัวอยู่ในเงามืดได้อีกต่อไป
    ด่วน: หน่วยงานพิเศษ Adrenochrome ช่วยเหลือเด็กหลายร้อยคนที่ถูกค้ามนุษย์โดย Marina Abramovic หน่วยพิเศษของรัสเซียได้ช่วยเหลือเด็กที่ถูกค้ามนุษย์หลายร้อยคนจากโรงงาน adrenochrome ที่ซ่อนอยู่ลึกในเทือกเขาคาร์เพเทียนของยูเครน ซึ่งเป็นการพัฒนาที่น่าตกตะลึง ปฏิบัติการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินเพื่อทำลายอุตสาหกรรม adrenochrome ทั่วโลก ซึ่งส่งคลื่นความตกตะลึงไปทั่วโลก การเปิดเผยที่น่าวิตกกังวลที่สุด? ศิลปินการแสดงชื่อดังอย่าง Marina Abramovic ถูกกล่าวหาว่าเป็นศูนย์กลางของความสยองขวัญนี้ โดยเขาจัดงานปาร์ตี้ adrenochrome ในปารีส โดยมีชนชั้นสูงเข้าร่วม เปิดโปงการค้า adrenochrome adrenochrome คืออะไร? ไม่ใช่แค่ทฤษฎีที่กระซิบกันในแวดวงทฤษฎีสมคบคิด แต่เป็นความจริง สารประกอบทางเคมีที่เชื่อมโยงกับการต่อต้านวัยและประสบการณ์หลอนประสาท กล่าวกันว่าถูกเก็บเกี่ยวด้วยวิธีที่แปลกประหลาดที่สุดที่จินตนาการได้ นั่นคือจากเลือดของเด็กที่ถูกทรมาน ชนชั้นสูงที่หลงใหลในอำนาจและเยาวชน ได้สร้างการค้าลับๆ ขึ้นโดยอาศัยแนวทางนี้ และตอนนี้ รัสเซียกำลังเป็นผู้นำในการทำลายล้างแนวทางนี้ ยูเครน: หัวใจมืดของการค้า ยูเครนกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์การค้ามนุษย์ โดยมีพรมแดนที่ไร้การควบคุมและภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากสงครามเป็นแหล่งกำบังที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้ค้ามนุษย์ เด็กๆ ถูกจับตัวไปจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ค่ายผู้ลี้ภัย และบ้านเรือนของพวกเขา และหายตัวไปในตลาดมืด กองกำลังรัสเซียได้ใช้ข้อมูลข่าวกรองที่รวบรวมได้จากงานของอับราโมวิชที่ปารีส เปิดเผยว่าโรงงานผลิตอะดรีโนโครมกำลังดำเนินการอยู่ในสถานที่ซ่อนเร้นเหล่านี้ โดยแสวงหาผลประโยชน์จากเด็กๆ ในรูปแบบที่เหนือจินตนาการ บทบาทอันชั่วร้ายของอับราโมวิช มารินา อับราโมวิช ซึ่งเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมลึกลับที่น่ารำคาญภายใต้หน้ากากของ "ศิลปะ" มาเป็นเวลานาน ได้ถูกเชื่อมโยงเข้ากับโลกใต้ดินของอะดรีโนโครม ตามข้อมูลข่าวกรองของรัสเซีย การรวมตัวของชนชั้นสูงของเธอเป็นมากกว่างานสังคม—แต่ยังเป็นการสร้างพื้นที่ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้าอีกด้วย การเปิดเผยนี้เชื่อมโยงเธอโดยตรงกับหนึ่งในแผนการสมคบคิดที่มืดมนที่สุดในยุคของเรา ภารกิจของปูติน: สงครามกับอะดรีโนโครม ประธานาธิบดีปูตินได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า เขาจะไม่หยุดยั้งที่จะเปิดโปงและทำลายเครือข่ายอะดรีโนโครมทั่วโลก สำหรับปูติน นี่คือสงครามเพื่อจิตวิญญาณของมนุษยชาติ การต่อสู้เพื่อกลุ่มคนชั้นสูงที่ล่าเหยื่อที่เปราะบางที่สุดโดยไม่ต้องรับโทษ ปฏิบัติการกู้ภัยในยูเครนนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เป็นสัญญาณเตือนว่าผู้ค้ามนุษย์และผู้ร่วมมือที่เป็นพวกชั้นสูงไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เกมอันตราย การเปิดโปงกลุ่มคนชั้นสูงเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย บุคคลที่ทรงอิทธิพลเบื้องหลังการค้าอะดรีโนโครมไม่ได้มีแค่ความร่ำรวยเท่านั้น แต่ยังควบคุมรัฐบาล สื่อ และระบบการเงินทั้งหมดอีกด้วย แต่การเคลื่อนไหวที่กล้าหาญของรัสเซียกำลังแสดงให้โลกเห็นว่าสถานะที่แตะต้องไม่ได้ของกลุ่มคนชั้นสูงกำลังพังทลาย การปราบปรามอุตสาหกรรมของปูตินได้ส่งคลื่นกระแทกไปทั่วทางเดินของอำนาจ และความเงียบของตะวันตกก็ดังจนหูหนวก ผลกระทบต่อโลก ปฏิบัติการนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ระดับโลก เมื่อเด็กๆ หลายร้อยคนได้รับการปลดปล่อยจากความน่ากลัวที่ไม่อาจจินตนาการได้ อุตสาหกรรมอะดรีโนโครมก็ถูกเปิดโปงว่าเป็นเพียงเศรษฐกิจที่ชั่วร้ายและซ่อนเร้น ประเทศอื่นๆ จะก้าวขึ้นมาหรือจะเพิกเฉย โลกต้องเผชิญหน้ากับความชั่วร้ายนี้ และรัสเซียได้จุดไฟที่ไม่สามารถดับได้ง่ายๆ ความจริงกำลังถูกเปิดเผย และผู้มีอำนาจไม่สามารถซ่อนตัวอยู่ในเงามืดได้อีกต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอร่วมไว้อาลัย โสภณ องค์การณ์ 25/10/67 #โสภณ องค์การณ์ #พิธีกร #นักจัดรายการข่าว #สื่อมวลชนอาวุโส #news1
    ขอร่วมไว้อาลัย โสภณ องค์การณ์ 25/10/67 #โสภณ องค์การณ์ #พิธีกร #นักจัดรายการข่าว #สื่อมวลชนอาวุโส #news1
    Sad
    Love
    Like
    Angry
    29
    10 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2461 มุมมอง 509 0 รีวิว
  • 😭🙏🏻กราบลาพี่โสด้วยความเคารพรัก ขอบคุณที่ทำหน้าที่สื่อมวลชนผู้ให้ปัญญามาตลอด ขอให้พี่โสสู่สุคติในสัมปรายภพค่ะ “คิดถึงพี่โสภณ ตั้งใจทำงานมากๆ”

    สำหรับประวัติพี่โสภณ องค์การณ์ เกิด 7 ตุลาคม พ.ศ. 2492 ที่ตำบลแม่ข้าวต้ม อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย จบชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนสามัคคี วิทยาคม รุ่นปี 2508 จากนั้นศึกษาต่อที่โรงเรียนบพิตรพิมุข แผนกภาษาต่างประเทศ จบปีการศึกษา 2511 เริ่มทำงานเป็นล่ามในปี 2512 ให้นักศึกษาชาวอเมริกันทำวิจัยที่จังหวัดลำปางและเชียงรายเป็นเวลา 1 ปี เพื่อทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกที่เอ็มไอที

    ประวัติทำงานสื่อสารมวลชน เป็นอดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น ภาษาอังกฤษและสื่อเครือเนชั่น เป็นเวลากว่า30ปี หลังจากยุคทักษิณปี2548 ที่คุกคามปิดปากสื่อผู้จัดการที่วิพากษ์วิจารณ์และขับไล่รัฐบาลโดยสนธิ ลิ้มทองกุล พี่โสได้เข้ามาร่วมอุดมการณ์ทำหน้าทีสื่อมวลชนที่ให้ปัญญาคนไทยในสื่อเครือผู้จัดการ เอเอสทีวีและNews1 เป็นบรรณาธิการอาวุโสและAnchorที่มีแฟนคลับติดตามจำนวนมาก จากเสน่ห์คมความคิดและฝีปากแหลมคมในรายการวิเคราะห์ข่าวสาระเชิงบันเทิงที่โหด มัน ฮา รายการชวนคิดชวนคุย ,เคาะไข่ใส่ข่าว, NewsHour และNewsHour Weekend ที่สถานีช่อง ASTV หรือช่อง News 1 นอกจากนี้ช่วงเช้าตรู่ ยังจัดรายการวิทยุ "พูดนอกสภา" ที่ FM 90.5 เวลา 6.00-7.00 น. ทุกวัน

    ส่วนผลงานเขียน เคยมีคอลัมน์ประจำในนิตยสารเนชั่น สุดสัปดาห์ ,คมชัดลึก พี่โสภณ องค์การณ์ทำงานกับเครือเนชั่นนานกว่า30ปี โดยเริ่มต้นงานกับ นสพ.เดอะเนชั่น ภาษาอังกฤษในตำแหน่งพนักงานพิสูจน์อักษร proof reader และด้วยความสามารถ ได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นนักข่าว นักเขียน และเป็นบรรณาธิการที่มีศักยภาพและทักษะ ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ต่อมาจึงได้เป็นผู้ดำเนินรายการ Face The Nation เป็นรายการสัมภาษณ์แหล่งข่าวบุคคลสำคัญเป็นภาษาอังกฤษ ออกอากาศทางช่อง 9 และรับผิดชอบเป็นผู้บริหารข่าวแผนกโทรทัศน์ของเครือเนชั่น ก่อนจะได้รับทุน Nieman Fellowship ไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด บอสตัน สหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นจึงลาออกมาทำงานกับสนธิ ลิ้มทองกุล ที่สถานีทีวีช่อง ASTV หรือช่อง News 1 ในปัจจุบัน เป็นผู้ดำเนินรายการวิเคราะห์ข่าวการเมืองและต่างประเทศในรายการสภาท่าพระอาทิตย์ คุยมันส์ทันข่าว ,ชวนคิดชวนคุย, WorldTalk, NewsHourweekend และเป็นตัวหลักในรายการ NewsHour หลังจากสิ้นเติมศักดิ์ จารุปราณ และยังมีบทความวิเคราะห์ที่น่าติดตามในนิตยสารผู้จัดการรายสัปดาห์ ชื่อคอลัมน์ "ป้อมพระอาทิตย์"

    นอกจากนี้เคยเป็นพิธีกรรายการ "คุยข่าวบ่ายสองโมง" ทางช่องไททีวี ทีวีดิจิตอล ช่อง 17 จนกระทั่งปิดสถานี

    พี่โสภณ องค์การณ์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ที่สถาบันประสาทวิทยา หลังจากพี่โสภณ ได้รับการผ่าตัดสมองที่ รพ.วิภารามด้วยอาการเส้นโลหิตในสมองแตก สิริอายุ 75 ปี

    #Thaitimes
    😭🙏🏻กราบลาพี่โสด้วยความเคารพรัก ขอบคุณที่ทำหน้าที่สื่อมวลชนผู้ให้ปัญญามาตลอด ขอให้พี่โสสู่สุคติในสัมปรายภพค่ะ “คิดถึงพี่โสภณ ตั้งใจทำงานมากๆ” สำหรับประวัติพี่โสภณ องค์การณ์ เกิด 7 ตุลาคม พ.ศ. 2492 ที่ตำบลแม่ข้าวต้ม อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย จบชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียนสามัคคี วิทยาคม รุ่นปี 2508 จากนั้นศึกษาต่อที่โรงเรียนบพิตรพิมุข แผนกภาษาต่างประเทศ จบปีการศึกษา 2511 เริ่มทำงานเป็นล่ามในปี 2512 ให้นักศึกษาชาวอเมริกันทำวิจัยที่จังหวัดลำปางและเชียงรายเป็นเวลา 1 ปี เพื่อทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกที่เอ็มไอที ประวัติทำงานสื่อสารมวลชน เป็นอดีตบรรณาธิการข่าวเศรษฐกิจของหนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น ภาษาอังกฤษและสื่อเครือเนชั่น เป็นเวลากว่า30ปี หลังจากยุคทักษิณปี2548 ที่คุกคามปิดปากสื่อผู้จัดการที่วิพากษ์วิจารณ์และขับไล่รัฐบาลโดยสนธิ ลิ้มทองกุล พี่โสได้เข้ามาร่วมอุดมการณ์ทำหน้าทีสื่อมวลชนที่ให้ปัญญาคนไทยในสื่อเครือผู้จัดการ เอเอสทีวีและNews1 เป็นบรรณาธิการอาวุโสและAnchorที่มีแฟนคลับติดตามจำนวนมาก จากเสน่ห์คมความคิดและฝีปากแหลมคมในรายการวิเคราะห์ข่าวสาระเชิงบันเทิงที่โหด มัน ฮา รายการชวนคิดชวนคุย ,เคาะไข่ใส่ข่าว, NewsHour และNewsHour Weekend ที่สถานีช่อง ASTV หรือช่อง News 1 นอกจากนี้ช่วงเช้าตรู่ ยังจัดรายการวิทยุ "พูดนอกสภา" ที่ FM 90.5 เวลา 6.00-7.00 น. ทุกวัน ส่วนผลงานเขียน เคยมีคอลัมน์ประจำในนิตยสารเนชั่น สุดสัปดาห์ ,คมชัดลึก พี่โสภณ องค์การณ์ทำงานกับเครือเนชั่นนานกว่า30ปี โดยเริ่มต้นงานกับ นสพ.เดอะเนชั่น ภาษาอังกฤษในตำแหน่งพนักงานพิสูจน์อักษร proof reader และด้วยความสามารถ ได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นนักข่าว นักเขียน และเป็นบรรณาธิการที่มีศักยภาพและทักษะ ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ต่อมาจึงได้เป็นผู้ดำเนินรายการ Face The Nation เป็นรายการสัมภาษณ์แหล่งข่าวบุคคลสำคัญเป็นภาษาอังกฤษ ออกอากาศทางช่อง 9 และรับผิดชอบเป็นผู้บริหารข่าวแผนกโทรทัศน์ของเครือเนชั่น ก่อนจะได้รับทุน Nieman Fellowship ไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด บอสตัน สหรัฐอเมริกา หลังจากนั้นจึงลาออกมาทำงานกับสนธิ ลิ้มทองกุล ที่สถานีทีวีช่อง ASTV หรือช่อง News 1 ในปัจจุบัน เป็นผู้ดำเนินรายการวิเคราะห์ข่าวการเมืองและต่างประเทศในรายการสภาท่าพระอาทิตย์ คุยมันส์ทันข่าว ,ชวนคิดชวนคุย, WorldTalk, NewsHourweekend และเป็นตัวหลักในรายการ NewsHour หลังจากสิ้นเติมศักดิ์ จารุปราณ และยังมีบทความวิเคราะห์ที่น่าติดตามในนิตยสารผู้จัดการรายสัปดาห์ ชื่อคอลัมน์ "ป้อมพระอาทิตย์" นอกจากนี้เคยเป็นพิธีกรรายการ "คุยข่าวบ่ายสองโมง" ทางช่องไททีวี ทีวีดิจิตอล ช่อง 17 จนกระทั่งปิดสถานี พี่โสภณ องค์การณ์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ที่สถาบันประสาทวิทยา หลังจากพี่โสภณ ได้รับการผ่าตัดสมองที่ รพ.วิภารามด้วยอาการเส้นโลหิตในสมองแตก สิริอายุ 75 ปี #Thaitimes
    Sad
    Love
    17
    7 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1474 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์เพจเฟซบุ๊ก Anit Osathanugrah

    “ ‼️หรือว่าแท้จริงแล้วทุกคนคือเหยื่อของ บอสพอล ตอน2‼️

    วันนี้ ถึงแม้ตัวบอสพอล จะถูกนำไปอยู่ในที่คุมขังแล้ว แต่ผลงานของเขาที่วางทิ้งเอาไว้ ก็เริ่มทยอยออกมาระเบิดใส่ ผู้คนและเทวดาต่างๆไม่หยุดหย่อน หลายคนชอบวิเคราะห์ว่า เกมนี้ไม่มีอะไรหรอก บอสพอลแค่คนโลภ และพอจ่ายใต้โต๊ะใคร ก็แค่อัดเสียงไว้ เผื้อไว้แบลคเมล์ในวันหลัง อันนี้อาจจะเป็นการมองที่ตื้นเขินเกินไป

    จากข้อมูลที่ทยอยออกมาเรื่อยๆรายวัน แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการแฉโชว์ วันละคน ทั้งๆที่ตัวเขา เข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว เขาทำได้อย่างไร ถ้าไม่ตระเตรียมเรื่องราวเหล่านี้มาก่อน วันนี้ทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่า ทุกครั้งที่เขาเจรจากับใคร เขาจะอัดเสียง และเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ ผ่านอุปกรณ์ it ล้ำๆต่างๆ ซุกไว้ในทีืคาดผม กางเกงชั้นใน เผลอๆพวกกล้องกระดุม กล้องรูเข็ม หรืออะไรที่คนธรรมดานึกไม่ถึง รับรองเขามีหมด คนทำธุรกิจปกติ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เหล่านี้หรือ

    วันนี้ ทุกที่ที่เขาจ่ายเงินไป จะมีข่าวเส้นทางการเงินเหล่านี้หลุดออกมา ทำบุญให้พระ แต่ไม่ได้เข้า บัญชีวัด เรื่องนึ้ทาง จนท จะทำอย่างไร คลิปเสียงนักร้อง รีดไถ และให้จ่ายผ่านมูลนิธิ ถ้าเรื่องเป็นตามนั้นจริง DSI ก็ต้องตามไปสอบมูลนิธินัินต่อ และรับประกันว่า ถ้่าเปิดทุกเส้นทางการเงินของมูลนิธินั้น คงไม่ใช่ของ บอสพอล คนเดียว ครั้งเดียวแน่ ที่ใช้มูลนิธิเป็นที่ฟอกเงิน จะเจอ อีกมากมายมหาศาล ทั้งบริษัทหรือนักการเมือง ที่แอบฟอกเงินผ่านการทำบุญ และจะเกิดโดมิโน แอฟเฟค ขึ้นในสังคมให้ตรวจสอบทุกมูลนิธิหรือไม่
    ซึ่งถ้าตรวจกันขึ้นมาจริงๆ คุกไทยอาจไม่พอขังคน
    และนี่คือระเบิดลูกแรกที่เขาวางเอาไว้

    สิ่งที่เราต้องคิดให้แตก อีกเรื่องคือ เขาวางแผนตั้งใจแฉเรื่องนี้ ชำแหละเบื้องหลัง สังคมไทยแบบนี้ หรือแค่บังเอิญแอบอัดไว้ แล้ววันนี้โดนจับ ก็เลย คิดง่ายๆแบบเด็กประถมลอกข้อสอบ แล้วพอครูจับได้ ก็เลยตีโพยตีพาย ฟ้องว่าเพื่อนๆก็ลอกเหมือนกัน บางคนก็บอกว่าไหนๆจะตายแล้ว ก็เลยลากคนมาตายหมู่ด้วยกัน เอาสะใจเฉยๆ
    คุณคิดว่าคนที่หาเงินได้หลายหมื่นล้าน ในเวลาไม่กี่ปี ผ่านผู้คนหลายแสนคน และระบบอันซับซ้อน เขาคิดได้แค่นี้เหรอ
    คนทำผิด ปกติ พอถูกจับ จะพยายามทำให้เรื่องเงียบไวๆที่สุด เพราะรู้ดีว่าสังคมไทยลืมง่าย อย่าง Forex 3 D ถามจริงๆ ว่ามีใครสนใจอีกไหม แค่เห็นดาราติดคุก ก็สะใจและแยกย้ายกันไปหาเรื่องอืืนมาดราม่าต่อแล้ว…ก็คนไืทย

    สิ่งที่บอสพอลควรทำ คือ ไม่พูดอะไร แค่บอกตัวเองบริสุทธ์ขอพิสูจน์ในชัินศาล ทำหน้าเศร้าเดินเข้าซังเตไป ไม่กี่เดือนคนไทยก็ลืมแล้ว และหลังจากนัิน ก็ใช้อำนาจเงินที่มีนับหมื่นล้าน เล็งเทวดา ฤทธ์ ระดับ องค์อินทร์ เจ้าสววรค์สักสององค์ ให้เคลียร์ให้ หัวหมูสักพันล้าน รับรองสำนวนคดีเบาหวิว เป็นปุยนุ่น ไม่นานก็ออกมาเดินเฉิดฉาย แต่นี่เล่นแฉ เล่นเชือดโชว์ทีละคน รายวัน วันนี้และวันหน้า ใครจะกล้ารับหน้าเสื่อเคลียร์ให้เขา โดนกล้องแอบอัดไว้คุกแน่นอน สิ่งที่เขาทำทั้งหมด วันนีิ คือทำให้ตัวเขาเดือดร้อน ซวยหนัก มากขึ้นในวันหน้า
    แต่เขาก็ทำ

    หลายคนบอก ไม่สะใจ เทวดาที่แฉมา ไฉนตัวเล็กราวกับลูกกรอก ยังหรอก นี่แค่น้ำจิ้ม เรียกน้ำย่อย ยังมีอีกมากมายมหาศาล ที่เขาจะทยอยปล่อยออกมา พูดตามตรง สำหรับบอสพอลนัิน ข้าราชการระดับ รองเลขา หรือรอง ผอ นั้น ไม่ได้ถือเป็นเทวดาสำหรับเขาเลย คอนเนคชั่นของคนมีเงินหมื่นล้านอย่างเขา คุยกับ สส หรือรัฐมนตรีเมื่อไหร่ก็ได้ เอาแค่หนึ่งในบอส ของไอคอน เช่นพี่แซม นี่ก็ สส เก่า ระดับที่ปรึกษารัฐมนตรีมหาดไทย ถ้าเขาจะไหว้วานให้ยกหู หาเพื่อนสส หรือ รมต คนไหน พรรคไหน รับรองทำได้ทุกนาที
    แต่เขาเลือกจะเอาเงินไปเคลียร์ เทวดาลูกกรอก และอัดเสียงไว้แทน

    อำนาจเงินขนาดเขา ถ้าเอาไปสนับสนุนพรรคการเมืองระดับกลางๆ สัก 500-1000 ล้าน แทนที่จะไปซื้อรถสปอร์ตหลากสีเหมือนลูกกวาด นาฬิกาบ้าบอหลายร้อยล้าน รับรองป่านนี้มี นอมินี เป็น รมต ไปแล้วไม่รู้กี่คน แต่เขาไม่ทำ เลือกเดินทางอัดเสียง เก็บหลักฐาน เพื่อแฉ ทุกคนแทน ทำไปทำไม

    อีกหนึ่งเรื่อง ที่น่าคิดที่สุด ในการที่จะบอกว่า เขาตั้งใจแฉ เอาคืนสังคมในวันนีิ แทนที่จะหนีไปใช้ชีวิตเสพสุข ทั้งๆที่จะทำก็ทำได้ ก็คือ วันที่เรื่องราวของไอคอน ระเบิดออกมาตามสื่อต่างๆ ผู้เสียหายโผล่มาเป็นดอกเห็ด ทีมทนาย อเวนเจอร์ ยกพล ออกทีวี แผลงฤทธ์ กันวุ่นวาย จนท ตำรวจถึงกับคำรามออกทีวี ว่า หมายจับจะออกภายใน 48 ชม คนทั่วประเทศออกมาโวยวายว่า พูดเหมือนจะส่งสัญญาณ บอกเขาว่าจะหนีให้รีบหนี

    วันนั้น บอสพอล มีทางเลือกสองทาง

    1 ซื้อตั๋วเครื่องบิน เฟิสคลาส ไปประเทศใดก็ได้ และเสพสุขผ่านเงินหลักหมื่นล้าน ที่เก็บไว้ในดิจิตอล วอลเลท ใช้ชีวิตสุขสบายที่ไหนก็ได้ในโลก จนคดีหมดอายุความ และค่อยกลับ ประเทศไทย เหมือนนักการเมือง พ่อมดการเงินทั้งหลาย รุ่นพี่ที่ทำกัน หรือออกช่องทางธรรมชาติใดก็ได้ วันนั้นเขายังไม่มีหมายจับ

    2 ไปรายการโหนกระแส ให้พี่หนุ่มขยี้ิออกทีวี รู้ทั้งรู้ว่า ไม่ได้ช่วยให้คดีอะไรเบาลงได้เลย และก็รอหมายจับออกมาเพื่อจะได้โดนรวบตัวเหมือนวันนี้ เข้าซังเต

    ทุกคนในประวัติศาสตร์ไทย เลือกหนีไปเสพสุข รึไม่จริง
    แต่บอสพอล เลือกทางที่สอง ไปออกรายการร้องห่มร้องไห้ ในโหนกระแส แต่จุดประสงค์จริงๆไม่ใช่ไปฟอกตัว แต่คือไปแฉดึงเทวดาลงนรกแทน และ จุดชนวนเรื่องนี้ขึ้นมา และก็สมใจเขาโดยพลัน

    วันนี้สังคมไทย ถูกเปิดแผลขึ้นมาเละเทะ ทุกวงการ ล่าแม่มดกันอย่างเมามัน จากฝีมือและหลักฐานของเขา ไม่พ้นกระทั่งวงการสงฆ์ รายการทีวี พิธีกรทีวี รุ่นเก๋า และอีกมากมายมหาศาล ที่กำลังรอถูกเปิดแผล ผ่านคลิปเสียงนับร้อยพัน ในมือของเขา ทุกคนที่เคยพูดคุยกับเขา ถึงกับต้องกลับมานั่งตรึกตรองคิด ว่าเคยพูดอะไรผิดไปไหม ถ้ามี น่าจะใกล้ถึงคิวโดนแฉ เป็นรายต่อไปแน่ๆ

    มหากาพย์เรื่องนี้ ยังอีกยาวไกล ถึงตัวบอสพอล จะอยู่ในที่คุมขัง แต่หมากที่เขาวางทิ้งเอาไว้ ผ่านผู้คน ผ่านหนอน ที่มีมากมายของเขา กำลังจะแผลงฤทธ์ ออกมาเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่า เรื่องนี้จะไปสุดที่ใด จะเปลี่ยนสังคมไทย ในระดับโครงสร้างได้เลยรึไม่ โปรดติดตามชม

    บอสพอล เจ้าช่างอำมหิตจริงๆ

    To be continued.”

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/MhAK17zppYH4p8oe/?mibextid=WC7FNe

    #Thaitimes
    รีโพสต์เพจเฟซบุ๊ก Anit Osathanugrah “ ‼️หรือว่าแท้จริงแล้วทุกคนคือเหยื่อของ บอสพอล ตอน2‼️ วันนี้ ถึงแม้ตัวบอสพอล จะถูกนำไปอยู่ในที่คุมขังแล้ว แต่ผลงานของเขาที่วางทิ้งเอาไว้ ก็เริ่มทยอยออกมาระเบิดใส่ ผู้คนและเทวดาต่างๆไม่หยุดหย่อน หลายคนชอบวิเคราะห์ว่า เกมนี้ไม่มีอะไรหรอก บอสพอลแค่คนโลภ และพอจ่ายใต้โต๊ะใคร ก็แค่อัดเสียงไว้ เผื้อไว้แบลคเมล์ในวันหลัง อันนี้อาจจะเป็นการมองที่ตื้นเขินเกินไป จากข้อมูลที่ทยอยออกมาเรื่อยๆรายวัน แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการแฉโชว์ วันละคน ทั้งๆที่ตัวเขา เข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว เขาทำได้อย่างไร ถ้าไม่ตระเตรียมเรื่องราวเหล่านี้มาก่อน วันนี้ทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่า ทุกครั้งที่เขาเจรจากับใคร เขาจะอัดเสียง และเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ ผ่านอุปกรณ์ it ล้ำๆต่างๆ ซุกไว้ในทีืคาดผม กางเกงชั้นใน เผลอๆพวกกล้องกระดุม กล้องรูเข็ม หรืออะไรที่คนธรรมดานึกไม่ถึง รับรองเขามีหมด คนทำธุรกิจปกติ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เหล่านี้หรือ วันนี้ ทุกที่ที่เขาจ่ายเงินไป จะมีข่าวเส้นทางการเงินเหล่านี้หลุดออกมา ทำบุญให้พระ แต่ไม่ได้เข้า บัญชีวัด เรื่องนึ้ทาง จนท จะทำอย่างไร คลิปเสียงนักร้อง รีดไถ และให้จ่ายผ่านมูลนิธิ ถ้าเรื่องเป็นตามนั้นจริง DSI ก็ต้องตามไปสอบมูลนิธินัินต่อ และรับประกันว่า ถ้่าเปิดทุกเส้นทางการเงินของมูลนิธินั้น คงไม่ใช่ของ บอสพอล คนเดียว ครั้งเดียวแน่ ที่ใช้มูลนิธิเป็นที่ฟอกเงิน จะเจอ อีกมากมายมหาศาล ทั้งบริษัทหรือนักการเมือง ที่แอบฟอกเงินผ่านการทำบุญ และจะเกิดโดมิโน แอฟเฟค ขึ้นในสังคมให้ตรวจสอบทุกมูลนิธิหรือไม่ ซึ่งถ้าตรวจกันขึ้นมาจริงๆ คุกไทยอาจไม่พอขังคน และนี่คือระเบิดลูกแรกที่เขาวางเอาไว้ สิ่งที่เราต้องคิดให้แตก อีกเรื่องคือ เขาวางแผนตั้งใจแฉเรื่องนี้ ชำแหละเบื้องหลัง สังคมไทยแบบนี้ หรือแค่บังเอิญแอบอัดไว้ แล้ววันนี้โดนจับ ก็เลย คิดง่ายๆแบบเด็กประถมลอกข้อสอบ แล้วพอครูจับได้ ก็เลยตีโพยตีพาย ฟ้องว่าเพื่อนๆก็ลอกเหมือนกัน บางคนก็บอกว่าไหนๆจะตายแล้ว ก็เลยลากคนมาตายหมู่ด้วยกัน เอาสะใจเฉยๆ คุณคิดว่าคนที่หาเงินได้หลายหมื่นล้าน ในเวลาไม่กี่ปี ผ่านผู้คนหลายแสนคน และระบบอันซับซ้อน เขาคิดได้แค่นี้เหรอ คนทำผิด ปกติ พอถูกจับ จะพยายามทำให้เรื่องเงียบไวๆที่สุด เพราะรู้ดีว่าสังคมไทยลืมง่าย อย่าง Forex 3 D ถามจริงๆ ว่ามีใครสนใจอีกไหม แค่เห็นดาราติดคุก ก็สะใจและแยกย้ายกันไปหาเรื่องอืืนมาดราม่าต่อแล้ว…ก็คนไืทย สิ่งที่บอสพอลควรทำ คือ ไม่พูดอะไร แค่บอกตัวเองบริสุทธ์ขอพิสูจน์ในชัินศาล ทำหน้าเศร้าเดินเข้าซังเตไป ไม่กี่เดือนคนไทยก็ลืมแล้ว และหลังจากนัิน ก็ใช้อำนาจเงินที่มีนับหมื่นล้าน เล็งเทวดา ฤทธ์ ระดับ องค์อินทร์ เจ้าสววรค์สักสององค์ ให้เคลียร์ให้ หัวหมูสักพันล้าน รับรองสำนวนคดีเบาหวิว เป็นปุยนุ่น ไม่นานก็ออกมาเดินเฉิดฉาย แต่นี่เล่นแฉ เล่นเชือดโชว์ทีละคน รายวัน วันนี้และวันหน้า ใครจะกล้ารับหน้าเสื่อเคลียร์ให้เขา โดนกล้องแอบอัดไว้คุกแน่นอน สิ่งที่เขาทำทั้งหมด วันนีิ คือทำให้ตัวเขาเดือดร้อน ซวยหนัก มากขึ้นในวันหน้า แต่เขาก็ทำ หลายคนบอก ไม่สะใจ เทวดาที่แฉมา ไฉนตัวเล็กราวกับลูกกรอก ยังหรอก นี่แค่น้ำจิ้ม เรียกน้ำย่อย ยังมีอีกมากมายมหาศาล ที่เขาจะทยอยปล่อยออกมา พูดตามตรง สำหรับบอสพอลนัิน ข้าราชการระดับ รองเลขา หรือรอง ผอ นั้น ไม่ได้ถือเป็นเทวดาสำหรับเขาเลย คอนเนคชั่นของคนมีเงินหมื่นล้านอย่างเขา คุยกับ สส หรือรัฐมนตรีเมื่อไหร่ก็ได้ เอาแค่หนึ่งในบอส ของไอคอน เช่นพี่แซม นี่ก็ สส เก่า ระดับที่ปรึกษารัฐมนตรีมหาดไทย ถ้าเขาจะไหว้วานให้ยกหู หาเพื่อนสส หรือ รมต คนไหน พรรคไหน รับรองทำได้ทุกนาที แต่เขาเลือกจะเอาเงินไปเคลียร์ เทวดาลูกกรอก และอัดเสียงไว้แทน อำนาจเงินขนาดเขา ถ้าเอาไปสนับสนุนพรรคการเมืองระดับกลางๆ สัก 500-1000 ล้าน แทนที่จะไปซื้อรถสปอร์ตหลากสีเหมือนลูกกวาด นาฬิกาบ้าบอหลายร้อยล้าน รับรองป่านนี้มี นอมินี เป็น รมต ไปแล้วไม่รู้กี่คน แต่เขาไม่ทำ เลือกเดินทางอัดเสียง เก็บหลักฐาน เพื่อแฉ ทุกคนแทน ทำไปทำไม อีกหนึ่งเรื่อง ที่น่าคิดที่สุด ในการที่จะบอกว่า เขาตั้งใจแฉ เอาคืนสังคมในวันนีิ แทนที่จะหนีไปใช้ชีวิตเสพสุข ทั้งๆที่จะทำก็ทำได้ ก็คือ วันที่เรื่องราวของไอคอน ระเบิดออกมาตามสื่อต่างๆ ผู้เสียหายโผล่มาเป็นดอกเห็ด ทีมทนาย อเวนเจอร์ ยกพล ออกทีวี แผลงฤทธ์ กันวุ่นวาย จนท ตำรวจถึงกับคำรามออกทีวี ว่า หมายจับจะออกภายใน 48 ชม คนทั่วประเทศออกมาโวยวายว่า พูดเหมือนจะส่งสัญญาณ บอกเขาว่าจะหนีให้รีบหนี วันนั้น บอสพอล มีทางเลือกสองทาง 1 ซื้อตั๋วเครื่องบิน เฟิสคลาส ไปประเทศใดก็ได้ และเสพสุขผ่านเงินหลักหมื่นล้าน ที่เก็บไว้ในดิจิตอล วอลเลท ใช้ชีวิตสุขสบายที่ไหนก็ได้ในโลก จนคดีหมดอายุความ และค่อยกลับ ประเทศไทย เหมือนนักการเมือง พ่อมดการเงินทั้งหลาย รุ่นพี่ที่ทำกัน หรือออกช่องทางธรรมชาติใดก็ได้ วันนั้นเขายังไม่มีหมายจับ 2 ไปรายการโหนกระแส ให้พี่หนุ่มขยี้ิออกทีวี รู้ทั้งรู้ว่า ไม่ได้ช่วยให้คดีอะไรเบาลงได้เลย และก็รอหมายจับออกมาเพื่อจะได้โดนรวบตัวเหมือนวันนี้ เข้าซังเต ทุกคนในประวัติศาสตร์ไทย เลือกหนีไปเสพสุข รึไม่จริง แต่บอสพอล เลือกทางที่สอง ไปออกรายการร้องห่มร้องไห้ ในโหนกระแส แต่จุดประสงค์จริงๆไม่ใช่ไปฟอกตัว แต่คือไปแฉดึงเทวดาลงนรกแทน และ จุดชนวนเรื่องนี้ขึ้นมา และก็สมใจเขาโดยพลัน วันนี้สังคมไทย ถูกเปิดแผลขึ้นมาเละเทะ ทุกวงการ ล่าแม่มดกันอย่างเมามัน จากฝีมือและหลักฐานของเขา ไม่พ้นกระทั่งวงการสงฆ์ รายการทีวี พิธีกรทีวี รุ่นเก๋า และอีกมากมายมหาศาล ที่กำลังรอถูกเปิดแผล ผ่านคลิปเสียงนับร้อยพัน ในมือของเขา ทุกคนที่เคยพูดคุยกับเขา ถึงกับต้องกลับมานั่งตรึกตรองคิด ว่าเคยพูดอะไรผิดไปไหม ถ้ามี น่าจะใกล้ถึงคิวโดนแฉ เป็นรายต่อไปแน่ๆ มหากาพย์เรื่องนี้ ยังอีกยาวไกล ถึงตัวบอสพอล จะอยู่ในที่คุมขัง แต่หมากที่เขาวางทิ้งเอาไว้ ผ่านผู้คน ผ่านหนอน ที่มีมากมายของเขา กำลังจะแผลงฤทธ์ ออกมาเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่า เรื่องนี้จะไปสุดที่ใด จะเปลี่ยนสังคมไทย ในระดับโครงสร้างได้เลยรึไม่ โปรดติดตามชม บอสพอล เจ้าช่างอำมหิตจริงๆ To be continued.” ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/MhAK17zppYH4p8oe/?mibextid=WC7FNe #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • คล้ายเดือนตุลา พิธีกรรม ล้างไทยให้ใสสะอาด จะเห็นแสงสว่างมั้ย?
    คล้ายเดือนตุลา พิธีกรรม ล้างไทยให้ใสสะอาด จะเห็นแสงสว่างมั้ย?
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระว.วชิรเมธีพลาดหนักรับนิมนต์ดิไอคอน
    ปลายจีวรเฉียดตารางนิดเดียว
    หลังจากที่พระว.ไปเทศน์แล้วปล่อยมุกอวยดิไอคอน แค่อวยเล่นๆ
    ตอนสถานการณ์เดิมมันก็ไม่เป็นประเด็น แต่พอเรื่องแดงออกมาแล้วว่าดิไอคอน
    เป็นองค์กรอาชญากรสูบเลือดคนจนแค่พูดเล่นมันก็เลยเป็นปัญหาขึ้นมา
    ให้คนวิพากษ์วิจารณ์กันหนักมากโดยหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    พระว.โพสต์ด่าหนุ่มกรรชัยแรงเกินเบอร์ถึงขั้นฟาดว่าหนุ่มกรรชัยเดี๋ยวนี้ทําตัวเป็นศาลเตี้ย
    เป็นทั้งฆตกต่อเนื่องในคนคนเดียวโพสต์แบบนี้มีแต่ทําตัวเองพังซ้ำพระว.จึงรีบลบโพสต์แทบไม่ทัน
    แต่นั่นก็ช้าเกินไป
    กลายเป็นเรื่องพระเปิดสงครามน้ําลายกับพิธีกรดัง
    ในสถานการณ์กวาดล้างดิไอคอนการที่สื่อหรือสังคมจะตรวจสอบอย่างเข้มข้นในทุกๆประเด็นถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก
    เพราะว.ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนร่วม
    ที่อาจมีส่วนได้เสียก็ต้องโดนสแกนอย่างไม่มีทางเลี่ยง
    ในเมื่อเคยไปอยู่ตรงนั้นพูดไว้แบบนั้นการโดนทดสอบหนนี้เผยให้เห็นว่าพระว.ยังไม่นิ่งพอ
    เกิดความหวั่นไหวว่าสังคมจะมองท่านเสียเสียหายหาย
    ที่สําคัญมือกฎหมายจะเอิ้อมมาถึงท่านหรือไม่
    พระว.ถือว่าพลาดแล้วพลาดอีกจริงๆ
    เรื่องนี้คนเลวตัวจริงเสียงจริงก็คือthe iconจึงหลอกนิมนต์พระว.เพื่อสร้างภาพลักษณ์
    องค์กรแหกตาเหยื่อล้วงเงินจากกระเป๋าเหยื่อ
    หลังจากสงครามกําลังดุเดือด
    อดีตพระอย่างแพรรี่ ไพรวัลย์ชี้ทางออกเรียบง่ายให้พระว.ยอมรับต่อสาธารณชนไปว่าพลาดแล้ว
    มองคนผิดจนตกเป็นเครื่องมือหลอกลวงของthe iconก็แค่นี้
    จากนี้ไปพระว.ก็ต้องพึ่งธรรมะให้เยอะๆ
    สงบจิตตัวเองให้นิ่งกว่าเดิม
    จะถูกพิธีกร ทนายความอินฟลูหน้าไหนแซะต่อเพื่อความบันเทิงก็ต้องใช้อุเบกขาเพื่อให้ทนได้
    ท่านไม่ได้หลอกลวงใครศาลเตี้ยไหนๆก็ทําอะไรท่านไม่ได้หรอก
    หรือว่าท่านทํา?
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่คิงส์โพธิ์ดํา
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #theicon
    พระว.วชิรเมธีพลาดหนักรับนิมนต์ดิไอคอน ปลายจีวรเฉียดตารางนิดเดียว หลังจากที่พระว.ไปเทศน์แล้วปล่อยมุกอวยดิไอคอน แค่อวยเล่นๆ ตอนสถานการณ์เดิมมันก็ไม่เป็นประเด็น แต่พอเรื่องแดงออกมาแล้วว่าดิไอคอน เป็นองค์กรอาชญากรสูบเลือดคนจนแค่พูดเล่นมันก็เลยเป็นปัญหาขึ้นมา ให้คนวิพากษ์วิจารณ์กันหนักมากโดยหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พระว.โพสต์ด่าหนุ่มกรรชัยแรงเกินเบอร์ถึงขั้นฟาดว่าหนุ่มกรรชัยเดี๋ยวนี้ทําตัวเป็นศาลเตี้ย เป็นทั้งฆตกต่อเนื่องในคนคนเดียวโพสต์แบบนี้มีแต่ทําตัวเองพังซ้ำพระว.จึงรีบลบโพสต์แทบไม่ทัน แต่นั่นก็ช้าเกินไป กลายเป็นเรื่องพระเปิดสงครามน้ําลายกับพิธีกรดัง ในสถานการณ์กวาดล้างดิไอคอนการที่สื่อหรือสังคมจะตรวจสอบอย่างเข้มข้นในทุกๆประเด็นถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะว.ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนร่วม ที่อาจมีส่วนได้เสียก็ต้องโดนสแกนอย่างไม่มีทางเลี่ยง ในเมื่อเคยไปอยู่ตรงนั้นพูดไว้แบบนั้นการโดนทดสอบหนนี้เผยให้เห็นว่าพระว.ยังไม่นิ่งพอ เกิดความหวั่นไหวว่าสังคมจะมองท่านเสียเสียหายหาย ที่สําคัญมือกฎหมายจะเอิ้อมมาถึงท่านหรือไม่ พระว.ถือว่าพลาดแล้วพลาดอีกจริงๆ เรื่องนี้คนเลวตัวจริงเสียงจริงก็คือthe iconจึงหลอกนิมนต์พระว.เพื่อสร้างภาพลักษณ์ องค์กรแหกตาเหยื่อล้วงเงินจากกระเป๋าเหยื่อ หลังจากสงครามกําลังดุเดือด อดีตพระอย่างแพรรี่ ไพรวัลย์ชี้ทางออกเรียบง่ายให้พระว.ยอมรับต่อสาธารณชนไปว่าพลาดแล้ว มองคนผิดจนตกเป็นเครื่องมือหลอกลวงของthe iconก็แค่นี้ จากนี้ไปพระว.ก็ต้องพึ่งธรรมะให้เยอะๆ สงบจิตตัวเองให้นิ่งกว่าเดิม จะถูกพิธีกร ทนายความอินฟลูหน้าไหนแซะต่อเพื่อความบันเทิงก็ต้องใช้อุเบกขาเพื่อให้ทนได้ ท่านไม่ได้หลอกลวงใครศาลเตี้ยไหนๆก็ทําอะไรท่านไม่ได้หรอก หรือว่าท่านทํา? ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่คิงส์โพธิ์ดํา #คิงส์โพธิ์ดำ #theicon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทู้ที่ 1 วันที่ 21 ตุลาคม 2567
    แรม 4 ค่ำ เดือน 11 ปีมะโรง
    เรื่อง ความเป็นมาของ คาถาอาคม ในประเทศไทย
    ในอดีตทียังไม่เป็นประเทศไทยเหมือนในปัจจุบันอิทธิพลศาสนาฮินดูได้มีอิทธิพลต่อผู้นำในอดีต ผู้นำในอดีตได้รับเอาพิธีกรรมทางศาสนาฮินดูมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว วัฒนธรรมฮินดูในประเทศอินเดียมีมาช้านานก่อนศสนาพุทธ จะเห็นได้ในยุคขอมเรืองอำนาจ จะเห็นได้จากปราสาทขอมที่ทิ้งไว้ให้ปรากฎในปัจจุบัน เมื่อพระพุทธศาสนาได้เข้าในยุคที่พระเจ้าอโศกส่งพระธรรมทูตเข้าเผยแพร่ในแผ่นดินที่เรียกว่าประเทศไทยในปัจจุบันผู้ปกครองในยุคต่อมาค่อยเปลี่ยนแปลงและนำเอาพระพุทธศาสนามาผสมประสานเข้ากับศาสนาฮินดู ในศาสนาฮินดูมีพิธีกรรมต่างๆมีบทสวดมากมายเป็นการร้องขอความช่วยเหลือต่างๆกับเทพเจ้าที่เชื่อว่าจะดลบันดาลให้สมความปรารถนา ต่อมาพระสงฆ์ทางพระพุทธศาสนาผู้ทรงภูมปัญญาได้คิดวิธีการโดยอาศัยแบบอย่างของศาสนาฮินดูแต่แตกต่างโดยการแต่งมนต์โดยใช้บทสวดในทางพระพุทธศาสนามาเป็นมนต์คาถา ซึ่งเรียกว่าพระพุทธมนต์ การจะแต่งพระพุทธมนต์นั้นไม่ใช่จับแพะชนแกะ บูรพาจารผู้แต่งต้องแตกฉานในปริยัติ และต้องเข้าถึงการปฏิบัติจนได้ฌาณสมาบัติ ซึ่งเป็นความรู้ขั้นสูงจึงสามารถร้อยเรียงพุทธมนต์ขึ้นมาได้ แม้แต่การลงอักขระเลขยันต์ล้วนแล้วแต่ผ่านการคิดค้นออกมาจากบูรพาจารย์ผู้ทรงฌาณทั้งสิ้น พระพุทธมนต์เลขยันต์ต่างๆที่มีการจดบันทึกมานั้นนับเป็นพันตำหรับ การจะเขียนยันต์ในแต่ละตัวเขามีสูตรการลงไว้ไม่ใช่เขียนส่งเดชแล้วก็ใช้ได้ วันนี้ทดลองเขียนกระทู้ใน thaitimes ครั้งแรก เอาไว้ตอนต่อไปค่อยว่ากันใหม่ สวัสดี
    กระทู้ที่ 1 วันที่ 21 ตุลาคม 2567 แรม 4 ค่ำ เดือน 11 ปีมะโรง เรื่อง ความเป็นมาของ คาถาอาคม ในประเทศไทย ในอดีตทียังไม่เป็นประเทศไทยเหมือนในปัจจุบันอิทธิพลศาสนาฮินดูได้มีอิทธิพลต่อผู้นำในอดีต ผู้นำในอดีตได้รับเอาพิธีกรรมทางศาสนาฮินดูมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว วัฒนธรรมฮินดูในประเทศอินเดียมีมาช้านานก่อนศสนาพุทธ จะเห็นได้ในยุคขอมเรืองอำนาจ จะเห็นได้จากปราสาทขอมที่ทิ้งไว้ให้ปรากฎในปัจจุบัน เมื่อพระพุทธศาสนาได้เข้าในยุคที่พระเจ้าอโศกส่งพระธรรมทูตเข้าเผยแพร่ในแผ่นดินที่เรียกว่าประเทศไทยในปัจจุบันผู้ปกครองในยุคต่อมาค่อยเปลี่ยนแปลงและนำเอาพระพุทธศาสนามาผสมประสานเข้ากับศาสนาฮินดู ในศาสนาฮินดูมีพิธีกรรมต่างๆมีบทสวดมากมายเป็นการร้องขอความช่วยเหลือต่างๆกับเทพเจ้าที่เชื่อว่าจะดลบันดาลให้สมความปรารถนา ต่อมาพระสงฆ์ทางพระพุทธศาสนาผู้ทรงภูมปัญญาได้คิดวิธีการโดยอาศัยแบบอย่างของศาสนาฮินดูแต่แตกต่างโดยการแต่งมนต์โดยใช้บทสวดในทางพระพุทธศาสนามาเป็นมนต์คาถา ซึ่งเรียกว่าพระพุทธมนต์ การจะแต่งพระพุทธมนต์นั้นไม่ใช่จับแพะชนแกะ บูรพาจารผู้แต่งต้องแตกฉานในปริยัติ และต้องเข้าถึงการปฏิบัติจนได้ฌาณสมาบัติ ซึ่งเป็นความรู้ขั้นสูงจึงสามารถร้อยเรียงพุทธมนต์ขึ้นมาได้ แม้แต่การลงอักขระเลขยันต์ล้วนแล้วแต่ผ่านการคิดค้นออกมาจากบูรพาจารย์ผู้ทรงฌาณทั้งสิ้น พระพุทธมนต์เลขยันต์ต่างๆที่มีการจดบันทึกมานั้นนับเป็นพันตำหรับ การจะเขียนยันต์ในแต่ละตัวเขามีสูตรการลงไว้ไม่ใช่เขียนส่งเดชแล้วก็ใช้ได้ วันนี้ทดลองเขียนกระทู้ใน thaitimes ครั้งแรก เอาไว้ตอนต่อไปค่อยว่ากันใหม่ สวัสดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ปู จิตกร บุษบา” พิธีกรและคอลัมนิสต์ชื่อดัง โพสต์วิเคราะห์ทีละข้อเรื่อง “ท่าน ว.วชิรเมธี” ผิดตรงไหน? เผยท่านไปเทศน์ ไปเชียร์ ก็ทำตัวประหนึ่งเหมือนเป็นบอส

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000100973

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ปู จิตกร บุษบา” พิธีกรและคอลัมนิสต์ชื่อดัง โพสต์วิเคราะห์ทีละข้อเรื่อง “ท่าน ว.วชิรเมธี” ผิดตรงไหน? เผยท่านไปเทศน์ ไปเชียร์ ก็ทำตัวประหนึ่งเหมือนเป็นบอส อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000100973 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Wow
    22
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1820 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องของพระดี เปิดสงครามน้ำลายกับพิธีกรดัง

    #SondhiX #sondhi #sondhiapp #sondhitalk #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ท่านววชิรเมธี #หนุ่มกรรชัย #แพรรี่ไพรวัลย์ #โหนกระแส #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheIcon
    เรื่องของพระดี เปิดสงครามน้ำลายกับพิธีกรดัง #SondhiX #sondhi #sondhiapp #sondhitalk #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ท่านววชิรเมธี #หนุ่มกรรชัย #แพรรี่ไพรวัลย์ #โหนกระแส #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheIcon
    Like
    Haha
    Yay
    Sad
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1333 มุมมอง 751 0 รีวิว
  • 18-10-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.42 ชื่อตอนว่า "THE LAND OF NO HIA?" ไอ้สัส! โลกประกาศชัด มีโลก ไม่มีเหี้ย? ดาหน้าตายหมู่ อีมาครงปากดี จะเอาอียิวรอดหรือเผ่าพันธุ์มรึงรอดดีล่ะ? อาณานิคมจบแล้ว ยังจะเหลือเหี้ยอะไรให้แดร๊ก เจ๊งหมดทั้งภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม เบอร์ 1 ยุโรปอย่างอีเบียร์ยังทรุด จมดิ่งเหว งัดข้ออีเนรคุณทันยา ตบหน้าออกสื่อโลก "มรึงได้แผ่นดิน ตั้งรัฐยิว เพราะ UN" แถวบ้านเรียก "ทวงบุญคุณ" ไม่รีรอ อีเนรคุณทันยา ซัดกลับ กูได้เพราะไปไล่ยึดเค้ามา มติห่าอะไรก็ไม่ได้ช่วยให้กูมีแผ่นดิน หากไม่จบที่ปากกระบอกปืน ชัดพอมั้ย? ตรรกะเหี้ยชี้ชัด อยากได้ต้องใช้กำลังเท่านั้น! รัสเซีย จีน นอนกระดิกตรีนดูเหี้ยกัดกัน แม้แต่อีลูกเลิฟ สิงโตง่อย ยังหักหลังนายใหญ่ได้ หมดตูด ไม่เติม ไม่ส่ง กูจะสิ้นชาติอยู่แล้ว ช่วยตัวเองล่ะกัน นายจ๋า? โลกของเหี้ย ยามตกอับ หมาไม่แล ยามครองโลก ชะเลียเช้าเย็น นี่แหละ "โลกของทุนนิยมเหี้ยสามานย์" อย่าหวังความจริงใจในหมู่โจร! อ้าว..ไม่ช่วยอียิว พวกมรึงก็จะตายห่าด้วยน่ะ ใครบอกล่ะ? หลังม่านเหล็ก อีเศษฝรั่ง อีเบียร์ เตรียมย้ายขั้วแล้วจ๊ะ ที่มาว่าเลขา UN เตรียมไปประชุมกับ BRICS ตีโจทย์ให้แตก ใครเอาใครอยู่? สำหรับไอ้พวกเหี้ย ที่ใดคือแหล่งพลังงาน แหล่งทรัพยากร เจ้ามือโลกใหม่มา ใครไม่เกาะก็ไม่ใช่เหี้ย? คิดว่าจีน รัสเซีย จะปล่อยให้มรึงมาง่ายๆ เหรอ? ดอกนี้ มรึงต้องชดใช้กรรม เอาให้หมดสภาพ สั่งสอนที่คิด "วัดรอยตรีน" ประวัติศาสตร์มันฟ้อง รัสเซียถูก อีเบียร์ อีเศษฝรั่ง ลอบกัดมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว งวดนี้ หากกูไม่ขยี้มรึงก่อน "กูไม่ใช่ปูติน" เอาเลือดเหี้ยมาล้างตรีนกู เป็นพิธีกรรม สะกดวิญญานเหี้ยให้อยู่ใต้ตรีนขั้วใหม่ไปตลอดกาล T WHO T IT? ด้านเหี้ยมะกัน คุย แอบย่องส่ง B2 ไปถล่มคลังแสงใต้ดินเยเมน จริงดิ? "มหกรรมตอแหลรายวัน" เรือรบมรึงกลายเป็นปะการังในมหาสมุทรเกลี้ยง จะล่อลูกยาว เอาบินทิ้งระเบิดมา คิดว่าเยเมน เค้าไม่เตรียมการรอเชือดไว้ก่อนเหรอไง? ทางน้ำเข้าไม่ถึง ทางบกไม่มีสิทธิ์ ก็เหลือแค่ทางอากาศ B2 มันรุ่นไหนแล้ว เอารุ่นปู่มาขู่ แล้วระเบิดมรึงเนี่ย คุยซะมากกว่าผลลัพธ์ซะอีก เยเมนซัดกลับ "สะกิดอะไรรึจ๊ะ" ทำได้แค่นี้เองเหยอ? เดี๋ยวตากูล่อกลับ อย่าร้องขอชีวิต เสพสื่อเหี้ย ให้ตีตรงกันข้ามให้หมด แล้วมรึงจะได้ความจริง! เรื่องง่ายๆ ที่ควายคิดไม่ทัน? เยเมน มีของดี ของหนักอยู่ครบ อย่าไปห่วง เลบานอน มีกองหนุนทั้งโลกอาหรับ มุสลิม แห่กันเข้ามาในพื้นที่หมดแล้ว อียิวมีปัญญาเหรอ? ดูโลกความเป็นจริง อย่ามโนกันเยอะ? ข้ามวิกแป๊บ : อีแดง อีส้มเน่า กำลังจะเผาตัวเอง มาตามนัด ดันนิรโทษกรรม มอ 112 สุดซอย เพราะไม่เหลือเหี้ยอะไรอีกแล้ว จะตามมาด้วยคำสั่ง "ยุบพรรค" และตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ชี้ชัดขัดรัฐธรรมนูญโดยตรง! แสดงตัวเป็นปฎิปักษ์ระบบการปกครอง ดอกนี้ ถึงขั้น "ประหารชีวิต" ทำไมเหี้ยมันจะไม่รู้? แต่เพราะพ่อยิวมันกำลังจะตาย ท่อน้ำเลี้ยงตัน เศษกระดาษขายไม่ออก ไม่ยึดไทย ก็คือจบ เข้าทางตรีนวังเต็มเหนี่ยว ได้เวลา "ราชาธิปไตยก้าวหน้า" แล้วสิน่ะ เพราะปชต.ตอแหล กำลังจะตายคาตรีนคนไทย ไทยโมเดลหอมหวล โลกรอดู จะฆ่าปชต.ตายห่ายังไงจ๊ะ? หลายชาติ แม้แต่ในยุโรป ที่เคยมีระบบกษัตริย์ ตอนนี้ แห่กันเรียกร้อง นำระบบราชาธิปไตยกลับมาอย่างถล่มทลาย เพราะรู้เช่นเห็นชาติแล้วว่า "ปชต.ตอแหล" มัน MADE IN JEW ZIONIST นี่หว่า? ควายโลกตื่นกันหมดแล้ว! เชิญแดร๊กปชต.ให้อิ่มท้องน่ะจ๊ะ เพราะพรุ่งนี้ มรึงจะไม่มีอะไรให้แดร๊กอีกต่อไป เหี้ยกับควาย คือของคู่กัน! ข้ามมาดูเกมส์โลก ลีลาปูติน ไม่ธรรมดา "อย่าน่ะ" อย่าเข้าร่วมยูเครนน่ะ NATO จะมาจริงดิ? กูกลัวจุงเบย อย่าน่ะ เดี๋ยวไม่พอตาย เพราะกูเตรียมระเบิดเกินจำนวนเหี้ยอย่างมรึงไว้เยอะเกิน คิดว่าจะมาเยอะ ที่ไหนได้ ตายห่าเกลี้ยงไปซะก่อน ฆ่าเหี้ยมันสบายตรีน กูต้องแสดงท่าทางท่าทีด้วยมุย? "กลัวแล้วจ๊ะ" อย่ามาน่ะ อย่าช้า ไอ้สัส! หลายคนสงสัย เมื่อไหร่จะล่ออีโปล ฟังสิจ๊ะ? เมื่อรัสเซียตั้งรัฐใหม่เรียบร้อย ยึดหัวหาดเบ็ดเสร็จ ครอบครองยุทธศาสตร์หลักหมดเกลี้ยง อีโปลแค่ประตูทางผ่าน เพราะไม่สามารถสกัดเหี้ยอะไรได้อีกแล้ว เป้าหมายคือลอนดอน อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง นั่นคือขนมหวาน ที่ต้องทำก่อนตอนนี้ คือยึดพื้นที่หลักให้เกลี้ยงในยูเครน ทันที ที่กองทัพรัสเซีย เข้าไปตั้งฐานทัพใหม่สวมแทนฐานทัพเก่า นั่นแหละ "ไคร์เมียร์" ถึงจะเป็นรัสเซียโดยสมบูรณ์ เพราะจะไม่มีใครเข้าใกล้ไคร์เมียร์ได้อีกต่อไป เพราะรอบข้างถูกกวาดล้างหมดแล้ว สรุปคือ "สร้างความมั่นคงให้ไคร์เมียร์จบ เดินหน้าต่อด้วยความกระเหี้ยนกระหือรือ" ยังไง พวกมรึงไม่รอดส้นตรีนกูแน่ รอก่อน ไม่นานเกินรอ? อีโปลก็รู้ อีผีดิบยิ่งรู้ อีสมันน้อยยิ่งรู้ดีกว่าใคร มันถึงได้พยายามจะย้ายขั้วทันที ที่สบโอกาส แต่เหี้ยยังไม่เปิดโอกาสในตอนนี้ พูดง่ายๆ ภาคยุโรป "รัสเซียครองยุโรปเบ็ดเสร็จไปแล้วในเชิงพฤตินัย" ด้านตะวันออกกลาง อิหร่านและโลกอาหรับ มุสลิม ล้อมและขยี้เหี้ยยิวอย่างเมามันส์ มรึงทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว นอกจากจะเปิด "สงครามนุ๊ก" ซึ่งเยรูซาเล็ม จะหายไปจากแผนที่โลกทันที ก่อเกิด รัฐปาเลสไตน์ใหม่แทนที่ นี่คือบทสรุป ที่โลกขีดเขียนไว้ล่วงหน้าแล้ว เกจิดัง กุนซือ ระดับหัวกระทิโลก เค้ามองออก มองทะลุ อ่านขาดนานแล้ว ว่าเกมส์นี้ มันจะจบยังไง ข้ามเรื่องแป๊บ : กูเคยบอกแล้วชิมิ? กลียุค อะไรที่มรึงเคยเชื่อ อะไรที่มรึงเคยเห็น เคยเทิดทูล เคยคิดว่าดี เคยคิดว่าใช่ แสงทำงาน คือเปิดเผยความจริงทั้งหมด รู้เช่นเห็นชาติเกลี้ยง พระดี พระชั่ว พระตัณหากลับ พระปลอม โจรในคราบผ้าเหลือง มรึงจะได้เห็นหมดเปลือก "ตัณหา ราคะ กิเลส" ก็ไม่ยกเว้นพระ ไม่สำคัญว่ามรึงถือศีล จะอยู่ในเครื่องแบบไหน ความดี คิดดี มันอยู่ที่จิตใจมรึง เพราะมีสติ เพราะมีปัญญา ถึงได้ยับยั้งชั่งใจได้ หาไม่แล้ว คนก็ไม่ต่างอะไรกับสัดเดรัจฉาน ยิ่งเป็นพระ ยิ่งต้องระวังมากกว่า 100 เท่า สิ่งยั่วยวนมันเยอะ พระตบะแตกมากมาย ก็เพราะสีกาเล่นท่ายาก เสพอะไร ก็ได้อย่างนั้น กูถึงบอกไงล่ะว่า "I LOVE กลียุค" เพราะจะได้เห็นอะไรที่มรึงคาดไม่ถึงอีกเยอะ เหมือนที่ผ่านมา คนมีสติ จะแยกแยะออก เพราะมันเป็นเช่นนี้ นี่เอง? มีปม มีเหตุ จึงมีผลลัพธ์ตามมา เรื่องราวบนโลก แค่ใช้สติ ไม่มีอะไรที่มรึงแก้ไม่ได้ แค่ตรงใจมรึง หรือไม่ เท่านั้นเอง? พระดีดี พระที่มุ่งหาทางสว่าง จะไม่แตะ ไม่ต้อง สิ่งโสมมโดยไม่จำเป็น ที่ใช้คำว่าโดยไม่จำเป็น เพราะในบางสถานการณ์ หลีกเลี่ยงไม่ได้ คิดจะช่วย คิดจะทำทาน คิดจะแผ่บุญกุศล บางครั้งจำเป็นจะต้องผ่านเครื่องมือ อุปกรณ์ ต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงคนหมู่มาก เพื่ออานิสงค์แห่งธรรมไปทั่วถึง ดังนั้น พระจึงต้องมีสติมากกว่าคนทั่วไป 100 เท่า ไม่ถูกดูดเข้าไปในโลกโลกีย์ แต่เท่าที่กูเห็นพระตาม TV บอกตรง "มันใช่กิจของพระเหรอ?" เทศน์ก็เรื่อง ก่อนเทศน์ ทำให้ได้ก่อนน่ะ ศาสนาไม่ได้ผิด ผิดที่ปัจเจกบุคคล องค์คณะ ดีชั่ว ต่างรู้เห็นแจ้งกันเอง ไม่ต้องให้ใครมาบอก?

    ปล.หลายคนไม่เข้าใจ ทำไมช่วงหลัง เพ่หมี ต้องสอดไส้คาราเมล แฝง FACT ธรรม สติ ปัญญา เหมือนจะเทศก์ให้ฟัง หาได้ไม่? กูไม่ใช่พระ และกูก็คือหมีหื่น มีกิเลส ตัณหา เหมือนพวกมรึงหมดทุกคน หากแต่ว่า กูแค่ชี้ให้มรึงเห็นเต็ม 2 ตา ที่มาของทุกข์ ที่มาขอความสุขแท้จริง มันอยู่ที่มรึงเลือกทั้งนั้น ไม่มีใครไปบังคับใจมรึงได้ ใจเป็นของมรึง สติเป็นของมรึง เรื่องราวบนโลก สงคราม การเมือง แผ่นดิน คนดี คนชั่ว ล้วนถูกตัดสินจากการกระทำทั้งสิ้น ดังนั้น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว คือสัจธรรม คือธรรมชาติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ วันนี้ มรึงฆ่าเค้า พรุ่งนี้ เค้าก็ฆ่ามรึง ไม่รู้จบ เมื่อเข้าใจแก่นแท้ของปัญหาทั้งโลก มรึงก็จะเข้าใจชีวิต และตัวมรึงเอง ว่าจะเอายังไงกับชีวิตต่อไป? ข่าวสาร กูซัดไม่เลี้ยงอยู่แล้ว ข้อมูล วิเคราะห์ ไม่มีกั๊ก มี 100 ให้ไป 100 แต่สิ่งที่กูอยากจะให้ไม่แพ้ข้อมูลคือ "สติ" คนตามหมีมา 10 ปีกว่า ย่อมมีสติทุกคน ไม่งั้น มรึงคงได้กลายเป็นคนบ้าไปนานแล้ว เพราะเรื่องที่กูพูดมีหลายเรื่อง และแต่ละเรื่อง "มันยิ่งกว่า THE METRIX" หากไร้สติ มรึงจะไม่ GET ในสิ่งที่กูสื่อ เท่ากับกูได้คัดสรร เลือกผู้ที่คู่ควรจะได้อยู่บนโลกต่อนั่นเอง ส่วนกูจะไปดาวกุ๊กกูร่านสวาท ไปตามหาเพื่อน E.T ยามออกจากร่างเน่าเปื่อยนี้แล้ว ปิดท้ายด้วยเรื่อง "ผู้นำฮามาส" ตายอีกล่ะ กูถามคำเดียว มรึงรู้มั้ยว่า ฮามาส คือใคร? เกิดจากใคร? เป้าหมายเดียวคือ "ยึดแผ่นดินคานาอันคืนจากยิว" และไล่ฆ่าไอ้อียิวทุกตัวที่เข้ามาในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์นี้ ทุกคนคือผู้นำฮามาสได้หมด เพราะสู้กันมานานกว่า 30 ปี ดังนั้น ยามศึก ผู้นำฮามาส คือนักรบนั่นเอง หน้าฉากคือผู้นำ หลังฉากคือผู้เสียสละ เพราะไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงว่าผู้นำฮามาส ที่สั่งการทั้งหมดคือใคร? เข้าใจยัง? ต่อให้ตั้งผู้นำฮามาส 100 คน ตายห่าพร้อมกัน ฮามาสก็ยังดำเนินแผนการรบต่อได้ปกติ เพราะสมองกล ผู้สั่งการทั้งหมด ไม่ได้ออกหน้า ที่พูดเรื่องนี้ ก็เพื่อจะบอกว่า ทั้งอิหร่าน ฮามาส เฮซบอเลาะห์ ฮูตี ใช้สูตรเดียวกันหมด ที่มาว่าทำไม รัสเซีย อเมริกา ถึงได้แพ้สงครามอัฟกานิสถาน เพราะหัวหน้าตัวจริงไม่เคยปรากฎตัวไงล่ะ เข้าใจวิถีนักรบอาหรับ เปอร์เซีย แล้วรึยัง? ไม่งั้น มรึงจะถามกูทุกวัน หัวหน้าฮามาสตาย หัวหน้าเฮซบอเลาะห์ตาย หัวหน้าฮูตีตาย? กูถามกลับคำเดียว "มรึงรู้เหรอ ใครคือหัวหน้าตัวจริง เสียงจริง?" เพราะในโลกลึกลับ ซับซ้อน มันมีอะไรที่มรึงยังไม่รู้อีกเยอะ สื่อรายงาน เพราะมาจากปากคน แล้วใครสามารถยืนยันจากปากใครได้ล่ะ? เค้าถึงเรียกว่า "ปั่น" ไงล่ะ หลอกกันไป หลอกกันมา สุดท้าย "ละครปาหี่ลวงโลกทั้งนั้น" สรุปให้ฟังคือ "โลกเปลี่ยนไปแล้ว จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว" รัสเซีย จีน จะได้นำโลกโดยสมบูรณ์ พันธมิตรขั้วใหม่จะรวยเละเทะ แบบไม่ต้องปรึกษาใคร? BRICS จะนำสันติสุขแท้จริงให้โลก เลิกฆ่าฟัน เลิกคว่ำบาตร แบ่งปัน กระจายสินค้าทั่วโลก ไม่มีกีดกันอีกต่อไป พลังงานเข้าถึงหมดทุกที่บนโลก ส่วน "ปชต.ตอแหล" จะกลายเป็นสิ่งอัปยศแก่คนรุ่นหลัง ยุคกษัตริย์จะเฟื่องฟู อยู่ให้ถึงวันนั้นน่ะ..ตะเอง ไทยคือ TOP10 โลก แม้แต่ยุโรปยังต้องกราบตรีน

    หมี CNN(เอาให้สุด ทะลุตับไตไส้พุง ไม่รู้ ต้องรู้ ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อ สติมา ปัญญาเกิด คิดดีกว่าพูด พูดดีกว่าหลับ ชั่วดี ก็แค่ช่วงเวลา ผ่านมา และก็ผ่านไป อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับความจริง เชื่อมั่นในบรรพบุรุษ เพราะเค้าผ่านอะไรมาเยอะมากกว่าเรา รักษาตนให้ดี ดูแลลูกหลานให้มั่น คือทำหน้าที่)
    18 ตุลาคม 67
    10.43 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172931801766776937
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    18-10-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.42 ชื่อตอนว่า "THE LAND OF NO HIA?" ไอ้สัส! โลกประกาศชัด มีโลก ไม่มีเหี้ย? ดาหน้าตายหมู่ อีมาครงปากดี จะเอาอียิวรอดหรือเผ่าพันธุ์มรึงรอดดีล่ะ? อาณานิคมจบแล้ว ยังจะเหลือเหี้ยอะไรให้แดร๊ก เจ๊งหมดทั้งภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม เบอร์ 1 ยุโรปอย่างอีเบียร์ยังทรุด จมดิ่งเหว งัดข้ออีเนรคุณทันยา ตบหน้าออกสื่อโลก "มรึงได้แผ่นดิน ตั้งรัฐยิว เพราะ UN" แถวบ้านเรียก "ทวงบุญคุณ" ไม่รีรอ อีเนรคุณทันยา ซัดกลับ กูได้เพราะไปไล่ยึดเค้ามา มติห่าอะไรก็ไม่ได้ช่วยให้กูมีแผ่นดิน หากไม่จบที่ปากกระบอกปืน ชัดพอมั้ย? ตรรกะเหี้ยชี้ชัด อยากได้ต้องใช้กำลังเท่านั้น! รัสเซีย จีน นอนกระดิกตรีนดูเหี้ยกัดกัน แม้แต่อีลูกเลิฟ สิงโตง่อย ยังหักหลังนายใหญ่ได้ หมดตูด ไม่เติม ไม่ส่ง กูจะสิ้นชาติอยู่แล้ว ช่วยตัวเองล่ะกัน นายจ๋า? โลกของเหี้ย ยามตกอับ หมาไม่แล ยามครองโลก ชะเลียเช้าเย็น นี่แหละ "โลกของทุนนิยมเหี้ยสามานย์" อย่าหวังความจริงใจในหมู่โจร! อ้าว..ไม่ช่วยอียิว พวกมรึงก็จะตายห่าด้วยน่ะ ใครบอกล่ะ? หลังม่านเหล็ก อีเศษฝรั่ง อีเบียร์ เตรียมย้ายขั้วแล้วจ๊ะ ที่มาว่าเลขา UN เตรียมไปประชุมกับ BRICS ตีโจทย์ให้แตก ใครเอาใครอยู่? สำหรับไอ้พวกเหี้ย ที่ใดคือแหล่งพลังงาน แหล่งทรัพยากร เจ้ามือโลกใหม่มา ใครไม่เกาะก็ไม่ใช่เหี้ย? คิดว่าจีน รัสเซีย จะปล่อยให้มรึงมาง่ายๆ เหรอ? ดอกนี้ มรึงต้องชดใช้กรรม เอาให้หมดสภาพ สั่งสอนที่คิด "วัดรอยตรีน" ประวัติศาสตร์มันฟ้อง รัสเซียถูก อีเบียร์ อีเศษฝรั่ง ลอบกัดมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว งวดนี้ หากกูไม่ขยี้มรึงก่อน "กูไม่ใช่ปูติน" เอาเลือดเหี้ยมาล้างตรีนกู เป็นพิธีกรรม สะกดวิญญานเหี้ยให้อยู่ใต้ตรีนขั้วใหม่ไปตลอดกาล T WHO T IT? ด้านเหี้ยมะกัน คุย แอบย่องส่ง B2 ไปถล่มคลังแสงใต้ดินเยเมน จริงดิ? "มหกรรมตอแหลรายวัน" เรือรบมรึงกลายเป็นปะการังในมหาสมุทรเกลี้ยง จะล่อลูกยาว เอาบินทิ้งระเบิดมา คิดว่าเยเมน เค้าไม่เตรียมการรอเชือดไว้ก่อนเหรอไง? ทางน้ำเข้าไม่ถึง ทางบกไม่มีสิทธิ์ ก็เหลือแค่ทางอากาศ B2 มันรุ่นไหนแล้ว เอารุ่นปู่มาขู่ แล้วระเบิดมรึงเนี่ย คุยซะมากกว่าผลลัพธ์ซะอีก เยเมนซัดกลับ "สะกิดอะไรรึจ๊ะ" ทำได้แค่นี้เองเหยอ? เดี๋ยวตากูล่อกลับ อย่าร้องขอชีวิต เสพสื่อเหี้ย ให้ตีตรงกันข้ามให้หมด แล้วมรึงจะได้ความจริง! เรื่องง่ายๆ ที่ควายคิดไม่ทัน? เยเมน มีของดี ของหนักอยู่ครบ อย่าไปห่วง เลบานอน มีกองหนุนทั้งโลกอาหรับ มุสลิม แห่กันเข้ามาในพื้นที่หมดแล้ว อียิวมีปัญญาเหรอ? ดูโลกความเป็นจริง อย่ามโนกันเยอะ? ข้ามวิกแป๊บ : อีแดง อีส้มเน่า กำลังจะเผาตัวเอง มาตามนัด ดันนิรโทษกรรม มอ 112 สุดซอย เพราะไม่เหลือเหี้ยอะไรอีกแล้ว จะตามมาด้วยคำสั่ง "ยุบพรรค" และตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ชี้ชัดขัดรัฐธรรมนูญโดยตรง! แสดงตัวเป็นปฎิปักษ์ระบบการปกครอง ดอกนี้ ถึงขั้น "ประหารชีวิต" ทำไมเหี้ยมันจะไม่รู้? แต่เพราะพ่อยิวมันกำลังจะตาย ท่อน้ำเลี้ยงตัน เศษกระดาษขายไม่ออก ไม่ยึดไทย ก็คือจบ เข้าทางตรีนวังเต็มเหนี่ยว ได้เวลา "ราชาธิปไตยก้าวหน้า" แล้วสิน่ะ เพราะปชต.ตอแหล กำลังจะตายคาตรีนคนไทย ไทยโมเดลหอมหวล โลกรอดู จะฆ่าปชต.ตายห่ายังไงจ๊ะ? หลายชาติ แม้แต่ในยุโรป ที่เคยมีระบบกษัตริย์ ตอนนี้ แห่กันเรียกร้อง นำระบบราชาธิปไตยกลับมาอย่างถล่มทลาย เพราะรู้เช่นเห็นชาติแล้วว่า "ปชต.ตอแหล" มัน MADE IN JEW ZIONIST นี่หว่า? ควายโลกตื่นกันหมดแล้ว! เชิญแดร๊กปชต.ให้อิ่มท้องน่ะจ๊ะ เพราะพรุ่งนี้ มรึงจะไม่มีอะไรให้แดร๊กอีกต่อไป เหี้ยกับควาย คือของคู่กัน! ข้ามมาดูเกมส์โลก ลีลาปูติน ไม่ธรรมดา "อย่าน่ะ" อย่าเข้าร่วมยูเครนน่ะ NATO จะมาจริงดิ? กูกลัวจุงเบย อย่าน่ะ เดี๋ยวไม่พอตาย เพราะกูเตรียมระเบิดเกินจำนวนเหี้ยอย่างมรึงไว้เยอะเกิน คิดว่าจะมาเยอะ ที่ไหนได้ ตายห่าเกลี้ยงไปซะก่อน ฆ่าเหี้ยมันสบายตรีน กูต้องแสดงท่าทางท่าทีด้วยมุย? "กลัวแล้วจ๊ะ" อย่ามาน่ะ อย่าช้า ไอ้สัส! หลายคนสงสัย เมื่อไหร่จะล่ออีโปล ฟังสิจ๊ะ? เมื่อรัสเซียตั้งรัฐใหม่เรียบร้อย ยึดหัวหาดเบ็ดเสร็จ ครอบครองยุทธศาสตร์หลักหมดเกลี้ยง อีโปลแค่ประตูทางผ่าน เพราะไม่สามารถสกัดเหี้ยอะไรได้อีกแล้ว เป้าหมายคือลอนดอน อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง นั่นคือขนมหวาน ที่ต้องทำก่อนตอนนี้ คือยึดพื้นที่หลักให้เกลี้ยงในยูเครน ทันที ที่กองทัพรัสเซีย เข้าไปตั้งฐานทัพใหม่สวมแทนฐานทัพเก่า นั่นแหละ "ไคร์เมียร์" ถึงจะเป็นรัสเซียโดยสมบูรณ์ เพราะจะไม่มีใครเข้าใกล้ไคร์เมียร์ได้อีกต่อไป เพราะรอบข้างถูกกวาดล้างหมดแล้ว สรุปคือ "สร้างความมั่นคงให้ไคร์เมียร์จบ เดินหน้าต่อด้วยความกระเหี้ยนกระหือรือ" ยังไง พวกมรึงไม่รอดส้นตรีนกูแน่ รอก่อน ไม่นานเกินรอ? อีโปลก็รู้ อีผีดิบยิ่งรู้ อีสมันน้อยยิ่งรู้ดีกว่าใคร มันถึงได้พยายามจะย้ายขั้วทันที ที่สบโอกาส แต่เหี้ยยังไม่เปิดโอกาสในตอนนี้ พูดง่ายๆ ภาคยุโรป "รัสเซียครองยุโรปเบ็ดเสร็จไปแล้วในเชิงพฤตินัย" ด้านตะวันออกกลาง อิหร่านและโลกอาหรับ มุสลิม ล้อมและขยี้เหี้ยยิวอย่างเมามันส์ มรึงทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว นอกจากจะเปิด "สงครามนุ๊ก" ซึ่งเยรูซาเล็ม จะหายไปจากแผนที่โลกทันที ก่อเกิด รัฐปาเลสไตน์ใหม่แทนที่ นี่คือบทสรุป ที่โลกขีดเขียนไว้ล่วงหน้าแล้ว เกจิดัง กุนซือ ระดับหัวกระทิโลก เค้ามองออก มองทะลุ อ่านขาดนานแล้ว ว่าเกมส์นี้ มันจะจบยังไง ข้ามเรื่องแป๊บ : กูเคยบอกแล้วชิมิ? กลียุค อะไรที่มรึงเคยเชื่อ อะไรที่มรึงเคยเห็น เคยเทิดทูล เคยคิดว่าดี เคยคิดว่าใช่ แสงทำงาน คือเปิดเผยความจริงทั้งหมด รู้เช่นเห็นชาติเกลี้ยง พระดี พระชั่ว พระตัณหากลับ พระปลอม โจรในคราบผ้าเหลือง มรึงจะได้เห็นหมดเปลือก "ตัณหา ราคะ กิเลส" ก็ไม่ยกเว้นพระ ไม่สำคัญว่ามรึงถือศีล จะอยู่ในเครื่องแบบไหน ความดี คิดดี มันอยู่ที่จิตใจมรึง เพราะมีสติ เพราะมีปัญญา ถึงได้ยับยั้งชั่งใจได้ หาไม่แล้ว คนก็ไม่ต่างอะไรกับสัดเดรัจฉาน ยิ่งเป็นพระ ยิ่งต้องระวังมากกว่า 100 เท่า สิ่งยั่วยวนมันเยอะ พระตบะแตกมากมาย ก็เพราะสีกาเล่นท่ายาก เสพอะไร ก็ได้อย่างนั้น กูถึงบอกไงล่ะว่า "I LOVE กลียุค" เพราะจะได้เห็นอะไรที่มรึงคาดไม่ถึงอีกเยอะ เหมือนที่ผ่านมา คนมีสติ จะแยกแยะออก เพราะมันเป็นเช่นนี้ นี่เอง? มีปม มีเหตุ จึงมีผลลัพธ์ตามมา เรื่องราวบนโลก แค่ใช้สติ ไม่มีอะไรที่มรึงแก้ไม่ได้ แค่ตรงใจมรึง หรือไม่ เท่านั้นเอง? พระดีดี พระที่มุ่งหาทางสว่าง จะไม่แตะ ไม่ต้อง สิ่งโสมมโดยไม่จำเป็น ที่ใช้คำว่าโดยไม่จำเป็น เพราะในบางสถานการณ์ หลีกเลี่ยงไม่ได้ คิดจะช่วย คิดจะทำทาน คิดจะแผ่บุญกุศล บางครั้งจำเป็นจะต้องผ่านเครื่องมือ อุปกรณ์ ต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงคนหมู่มาก เพื่ออานิสงค์แห่งธรรมไปทั่วถึง ดังนั้น พระจึงต้องมีสติมากกว่าคนทั่วไป 100 เท่า ไม่ถูกดูดเข้าไปในโลกโลกีย์ แต่เท่าที่กูเห็นพระตาม TV บอกตรง "มันใช่กิจของพระเหรอ?" เทศน์ก็เรื่อง ก่อนเทศน์ ทำให้ได้ก่อนน่ะ ศาสนาไม่ได้ผิด ผิดที่ปัจเจกบุคคล องค์คณะ ดีชั่ว ต่างรู้เห็นแจ้งกันเอง ไม่ต้องให้ใครมาบอก? ปล.หลายคนไม่เข้าใจ ทำไมช่วงหลัง เพ่หมี ต้องสอดไส้คาราเมล แฝง FACT ธรรม สติ ปัญญา เหมือนจะเทศก์ให้ฟัง หาได้ไม่? กูไม่ใช่พระ และกูก็คือหมีหื่น มีกิเลส ตัณหา เหมือนพวกมรึงหมดทุกคน หากแต่ว่า กูแค่ชี้ให้มรึงเห็นเต็ม 2 ตา ที่มาของทุกข์ ที่มาขอความสุขแท้จริง มันอยู่ที่มรึงเลือกทั้งนั้น ไม่มีใครไปบังคับใจมรึงได้ ใจเป็นของมรึง สติเป็นของมรึง เรื่องราวบนโลก สงคราม การเมือง แผ่นดิน คนดี คนชั่ว ล้วนถูกตัดสินจากการกระทำทั้งสิ้น ดังนั้น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว คือสัจธรรม คือธรรมชาติ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ วันนี้ มรึงฆ่าเค้า พรุ่งนี้ เค้าก็ฆ่ามรึง ไม่รู้จบ เมื่อเข้าใจแก่นแท้ของปัญหาทั้งโลก มรึงก็จะเข้าใจชีวิต และตัวมรึงเอง ว่าจะเอายังไงกับชีวิตต่อไป? ข่าวสาร กูซัดไม่เลี้ยงอยู่แล้ว ข้อมูล วิเคราะห์ ไม่มีกั๊ก มี 100 ให้ไป 100 แต่สิ่งที่กูอยากจะให้ไม่แพ้ข้อมูลคือ "สติ" คนตามหมีมา 10 ปีกว่า ย่อมมีสติทุกคน ไม่งั้น มรึงคงได้กลายเป็นคนบ้าไปนานแล้ว เพราะเรื่องที่กูพูดมีหลายเรื่อง และแต่ละเรื่อง "มันยิ่งกว่า THE METRIX" หากไร้สติ มรึงจะไม่ GET ในสิ่งที่กูสื่อ เท่ากับกูได้คัดสรร เลือกผู้ที่คู่ควรจะได้อยู่บนโลกต่อนั่นเอง ส่วนกูจะไปดาวกุ๊กกูร่านสวาท ไปตามหาเพื่อน E.T ยามออกจากร่างเน่าเปื่อยนี้แล้ว ปิดท้ายด้วยเรื่อง "ผู้นำฮามาส" ตายอีกล่ะ กูถามคำเดียว มรึงรู้มั้ยว่า ฮามาส คือใคร? เกิดจากใคร? เป้าหมายเดียวคือ "ยึดแผ่นดินคานาอันคืนจากยิว" และไล่ฆ่าไอ้อียิวทุกตัวที่เข้ามาในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์นี้ ทุกคนคือผู้นำฮามาสได้หมด เพราะสู้กันมานานกว่า 30 ปี ดังนั้น ยามศึก ผู้นำฮามาส คือนักรบนั่นเอง หน้าฉากคือผู้นำ หลังฉากคือผู้เสียสละ เพราะไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงว่าผู้นำฮามาส ที่สั่งการทั้งหมดคือใคร? เข้าใจยัง? ต่อให้ตั้งผู้นำฮามาส 100 คน ตายห่าพร้อมกัน ฮามาสก็ยังดำเนินแผนการรบต่อได้ปกติ เพราะสมองกล ผู้สั่งการทั้งหมด ไม่ได้ออกหน้า ที่พูดเรื่องนี้ ก็เพื่อจะบอกว่า ทั้งอิหร่าน ฮามาส เฮซบอเลาะห์ ฮูตี ใช้สูตรเดียวกันหมด ที่มาว่าทำไม รัสเซีย อเมริกา ถึงได้แพ้สงครามอัฟกานิสถาน เพราะหัวหน้าตัวจริงไม่เคยปรากฎตัวไงล่ะ เข้าใจวิถีนักรบอาหรับ เปอร์เซีย แล้วรึยัง? ไม่งั้น มรึงจะถามกูทุกวัน หัวหน้าฮามาสตาย หัวหน้าเฮซบอเลาะห์ตาย หัวหน้าฮูตีตาย? กูถามกลับคำเดียว "มรึงรู้เหรอ ใครคือหัวหน้าตัวจริง เสียงจริง?" เพราะในโลกลึกลับ ซับซ้อน มันมีอะไรที่มรึงยังไม่รู้อีกเยอะ สื่อรายงาน เพราะมาจากปากคน แล้วใครสามารถยืนยันจากปากใครได้ล่ะ? เค้าถึงเรียกว่า "ปั่น" ไงล่ะ หลอกกันไป หลอกกันมา สุดท้าย "ละครปาหี่ลวงโลกทั้งนั้น" สรุปให้ฟังคือ "โลกเปลี่ยนไปแล้ว จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว" รัสเซีย จีน จะได้นำโลกโดยสมบูรณ์ พันธมิตรขั้วใหม่จะรวยเละเทะ แบบไม่ต้องปรึกษาใคร? BRICS จะนำสันติสุขแท้จริงให้โลก เลิกฆ่าฟัน เลิกคว่ำบาตร แบ่งปัน กระจายสินค้าทั่วโลก ไม่มีกีดกันอีกต่อไป พลังงานเข้าถึงหมดทุกที่บนโลก ส่วน "ปชต.ตอแหล" จะกลายเป็นสิ่งอัปยศแก่คนรุ่นหลัง ยุคกษัตริย์จะเฟื่องฟู อยู่ให้ถึงวันนั้นน่ะ..ตะเอง ไทยคือ TOP10 โลก แม้แต่ยุโรปยังต้องกราบตรีน หมี CNN(เอาให้สุด ทะลุตับไตไส้พุง ไม่รู้ ต้องรู้ ไม่เชื่อ ก็ต้องเชื่อ สติมา ปัญญาเกิด คิดดีกว่าพูด พูดดีกว่าหลับ ชั่วดี ก็แค่ช่วงเวลา ผ่านมา และก็ผ่านไป อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับความจริง เชื่อมั่นในบรรพบุรุษ เพราะเค้าผ่านอะไรมาเยอะมากกว่าเรา รักษาตนให้ดี ดูแลลูกหลานให้มั่น คือทำหน้าที่) 18 ตุลาคม 67 10.43 น. https://linevoom.line.me/post/1172931801766776937 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17 ต.ค.2567 - พระเมธีวชิโรดม หรือ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี เผยแพร่เอกสารชี้แจงกรณีดิไอคอนกรุ๊ป มีเนื้อหาดังนี้ "ขอพระอาจารย์พูดบ้างนะ "หนุ่ม กรรชัย" แห่ง "โหนกระแส" ตั้งแต่เกิดกรณีดิไอคอน พระอาจารย์ (พอจ.)ก็เป็นฝ่ายเงียบมาโดยตลอดโดยมีความเชื่อมั่นว่า "ความบริสุทธิ์ใจ-ความจริง" จะปกป้องตัวมันเองเนื่องเพราะ

    ๑.ทางบริษัทดิไอคอน ได้แถลงการณ์ขออภัยต่อ พอจ.แล้ว ว่า พอจ.ไม่มีส่วนใดๆ ในบริษัททั้งสิ้น สาธารณชนอ่านแล้ว ก็เข้าใจ ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนที่จะต้องมานั่งตีความกันอีก

    ๒.พอจ.ก็แถลงการณ์ขออภัยที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดไปแล้ว ซ้ำยังย้ำอีกว่าที่พูดในวันวันนั้น เป็นการพูดเชิงกระแทกแดกดัน หรือ "แชะ" คนในดิไอคอนว่าให้รู้จัก "อดทนให้ได้ ใจเย็นให้พอ และรอให้เป็น" แต่ถ้าไม่ยอมอดทนก็พูดแค่ว่า "ลูกเอ๋ย ถ้างั้นก็ดิไอคอนแล้ว" ส่วนที่เหลือ ก็เป็นการพูดกระเช้าเย้าหยอก ทั้งนั้นอารมณ์ก็ขำๆ ฮาๆ พูดจบแล้ว ก็ให้ศีลให้พร มีแค่นั้น

    ส่วนที่สอนให้เก็บเงิน เก็บทองก็เป็น case study ที่ยกมาจากเรื่องจริง (มีศิษย์มาขอยืมเงิน) ซึ่งเป็นช่วงเวลายุคโควิด ตอนนั้น พอจ.ยังไม่รู้จักดิไอคอน,ที่พูดว่า แต่ก็โฆษณาให้นะ ก็เป็นการพูดเชิงกระเช้าเข้าหยอก ให้คนฟังนับพันเขาชื่นใจเท่านั้น ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแม่ทีมเสียหน่อยมันง่ายๆ แค่นี้ หนุ่ม ดูคลิปแล้ว ทำไมยังไม่เข้าใจ มันเข้าใจยากตรงไหน ใจคอจะเอาพระเข้าคุกให้ได้ว่างั้นเถอะ

    ๓.ส่วนที่สอนให้รู้จักเก็บ รู้จักออม รู้จักทำมาหากิน ก็พูดตามหลักคำสอนในพระไตรปิฎก (ทิฏฐ-ธรรมิกัตประโยชน์) เพียงแต่นำมาเล่าให้มันร่วมสมัยเท่านั้น ไม่ได้ตั้งตาตั้งตาไปทำหน้าที่ Presenter ให้กับดิไอคอน พูดยาว ๑ ชั่วโมง ๑๒ นาที เนื้อหาไม่ได้มีแค่ตัดมาสร้างความเข้าใจผิดเท่านั้น (และถ้าถือว่าพูดอย่างนั้น คือ พอจ.หลอกโยม ควรพูดใหม่ว่า พอจ.ก็อยู่ที่วัดดีๆ นี่แหละ วันดีคืนดี พวกพี่แชม ก็ยกกันไปนิมนต์พอจ.มาเทศน์-พูดกันแฟร์ๆ ไม่ใช่พระหลอกโยม แต่เป็นโยมไปหลอกพระออกมาจากวัด-พระนี่แหละ เป็นเหยื่อดิไอคอน พูดชัดๆ ก็ต้องพูดอย่างนี้)

    ๔.ส่วนการทำบุญที่บริษัท ดิไอคอน ก็ไม่ไม่ได้นิมนต์ พอจ.แค่รูปเดียว เขานิมนต์เป็นร้อยรูปต่อปี ตั้งแต่สมเด็จพระราชาคณะลงมา จนถึงพระเกจิต่างจังหวัด ใช่เจาะจงพอจ.รูปเดียวเสียเมื่อไหร่ (บางคนเอา ไปพูดยังกับมีท่านว.รูปเดียวที่ได้รับนิมนต์ ไปดูรูปไนเพจดิไอคอนว่ามีพระก็รูป เขาไม่ได้ลบทิง หลักฐานยังอยู่ครบ จะได้พูดกันอย่างตรงไปตรงมา เคารพความจริงตามที่มันเป็นจริง)

    ๕.ตาลปัตรที่ พอจ.ใช้ พระทุกรูปที่เคยไปเทศน์ ก็ใช้ให้พรเหมือนกัน (ดรูปประกอบ) และดิไอคอนไม่เคยทำถวาย พอจ.แต่เป็นของที่มีอยู่แล้วในห้องประชุมของบริษัท พระรูปไหนมา ก็ใช้ตาลปัตรของบริษัท อันนั้น อันนี้เป็นเรื่องทั่วไป บริษัทต่างๆ ที่เขาทำบุญเขาก็ทำตาลปัตรในนามบริษัทของตัวเองกันทั้งนั้น ธนาคารทุกแห่งก็ทำ แต่นี่หนุ่มปล่อยให้แขกพูดชื่นำว่าว่าเขาทำเพื่อ พอจ.คนเดียว (ประมาณว่าเพราะเป็น Presenter ไง) แล้วที่หลวงพ่ออลงกตท่านถืออยู่ในมือ ท่านต้องเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยไหม ?

    ๖.บริษัทดิไอคอน เคยถวายทุนการศึกษาให้มูลนิธิไร่เชิญตะวัน ในวันแห่งการให้ประจำปีจริง (๑ ล้านบาท) และถวายเสร็จแล้ว ก็แจกกันวันนั้นเลย มีคนเป็นพยานหลายพันคน ไม่มีคำว่า "เข้าพกเข้าห่อพอจ.แม้แต่บาทเดียว" (หนุ่มอยากตรวจสอบให้ทำได้ทันทีไม่ต้องรอพรุ่งนี้) และในวันเดียวกันนั้นนั้น คุณบ๊วย เชษฐวุฒิ ก็ถวายทุนด้วย ๖๐๐,๐๐๐ บาทมูลนิธิร่วมกตัญญูก็ไปร่วมถวายทุน แจกถุงยังชีพทุกปี ปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า ๑๐ ล้านบาทถ้าทุกคนที่ไปทำบุญคือไปติดสินบนพระ ต่อไปทุกวัด ก็ไม่ต้องรับเงินทำบุญจากบริษัทใดๆ อีกแล้ว รัฐบาลก็ควรเลิกถวายนิตยภัตรพระทั้งประเทศไปเลย

    หนุ่ม ข้อ ๖-๙ มันเลยการวิพากษ์วิจารณ์ไปแล้วนะ แต่มันคือ "การใส่ร้ายป้ายสี"กันชัดๆ ก่อนจะ

    สัมภาษณ์หนุ่มควรจะทำการบ้านให้มากกว่านี้นะ แบบนี้ พอจ.เสียหายมาก ลูกศิษย์ของ พอจ.ที่เขารัก
    ความเป็นธรรม เขาดูแล้ว เขาก็ทนไม่ได้หรอก ที่หนุ่มเอียงกระเท่เร่ได้ขนาดนี้

    หนุ่ม ก็เคยบวชกับ พอจ.นะ สิบกว่าปีที่แล้ว เป็นอย่างไร ทุกวันนี้ พอจ.ก็ยังเป็นอย่างนั้น มีชีวิตในที่
    แจ้งท่ามกลางสาธารณชนตลอด ไม่ใช่เพิ่งโผล่มาเป็นคนดังปีสองปีนี่เมื่อไหร่ พอจ.ทำงานหนักขนาดไหน

    หนุ่มก็น่าจะรู้ดี นี่ปล่อยให้คนมาใส่ร้ายป้ายสี พอจ.กลางรายการโดยไม่ยอมแสวงหาข้อเท็จจริงเอาเสียเลย

    ถ้าหนุ่มรักเมีย รักลูก ก็ให้รู้ไว้ว่าศิษย์ พอจ.เขาก็รัก พอจ.เหมือนกัน เขาเจ็บปวดเหมือนกัน

    หลังๆ หนุ่มใกล้จะทำตัวเป็นศาลเตี้ยเข้าไปทุกวันแล้วนะ โหด เหี้ยม ขาดความเห็นอกเห็นใจแขกและคนที่เขาตกเป็นข่าว หนุ่มยังเป็นพิธีกรอยู่หรือเปล่า หรือว่าตอนนี้กลายเป็น "ฆาตกรฆ่าต่อเนื่องไปแล้ว"

    หลายคนเขาไม่ผิด หนุ่มส่งเขาเข้าคุกไปแล้ว พอเค้าออกจากคุกมาเงียบๆ หนุ่มเคยไปขอโทษเขาไหม?

    อีกอย่าง พอจ.มีวัดที่ พอจ.สร้างเองอยู่ที่ญี่ปุ่นอยู่แล้ว ๒ วัด สร้างมาแล้วเกือบสิบปีและพรรษานี้

    พอจ.ก็มาจำพรรษาที่นี่ ช่วงนี้มาประชุมเชิงวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม เอาเรื่องน้ำท่วมแม่สายมานำเสนอที่
    ม.โยโกฮาม่า กับกองงานในพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า(หลักฐานอยู่ในเพจ พอจ.) ไม่ได้หนีมาแช่ออนเซนแต่อย่างใด นี่ข้อมูลพื้นๆ แบบนี้ หนุ่มก็ไม่รู้ แล้วที่เหลือ หนุ่มจะพลาดอีกขนาดไหน หนุ่มไม่ได้สว่างไสวในทุกเรื่องนะ อย่าคิดว่าตัวเองเสียงดังแล้ว จะสัมภาษณ์เล่นงานใครก็ได้ โดยไม่แสวงข้อเท็จจริง แล้วปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องถูกใสร้ายกลางรายการอย่างนี้หลายครั้งหลายคน

    ขออภัยหนุ่มด้วยที่พูดยาวแต่เป็นการคุยกันฉันครูกะศิษย์ก็แล้วกัน หวังว่าหนุ่มคงไม่โกรธพอจ.นะ

    ว.วชิรเมธี
    (พระพี่เลี้ยงตอนหนุ่มบวชที่เชียงราย)
    ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๗

    #Thaitimes
    17 ต.ค.2567 - พระเมธีวชิโรดม หรือ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี เผยแพร่เอกสารชี้แจงกรณีดิไอคอนกรุ๊ป มีเนื้อหาดังนี้ "ขอพระอาจารย์พูดบ้างนะ "หนุ่ม กรรชัย" แห่ง "โหนกระแส" ตั้งแต่เกิดกรณีดิไอคอน พระอาจารย์ (พอจ.)ก็เป็นฝ่ายเงียบมาโดยตลอดโดยมีความเชื่อมั่นว่า "ความบริสุทธิ์ใจ-ความจริง" จะปกป้องตัวมันเองเนื่องเพราะ ๑.ทางบริษัทดิไอคอน ได้แถลงการณ์ขออภัยต่อ พอจ.แล้ว ว่า พอจ.ไม่มีส่วนใดๆ ในบริษัททั้งสิ้น สาธารณชนอ่านแล้ว ก็เข้าใจ ไม่ใช่เรื่องซับซ้อนที่จะต้องมานั่งตีความกันอีก ๒.พอจ.ก็แถลงการณ์ขออภัยที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดไปแล้ว ซ้ำยังย้ำอีกว่าที่พูดในวันวันนั้น เป็นการพูดเชิงกระแทกแดกดัน หรือ "แชะ" คนในดิไอคอนว่าให้รู้จัก "อดทนให้ได้ ใจเย็นให้พอ และรอให้เป็น" แต่ถ้าไม่ยอมอดทนก็พูดแค่ว่า "ลูกเอ๋ย ถ้างั้นก็ดิไอคอนแล้ว" ส่วนที่เหลือ ก็เป็นการพูดกระเช้าเย้าหยอก ทั้งนั้นอารมณ์ก็ขำๆ ฮาๆ พูดจบแล้ว ก็ให้ศีลให้พร มีแค่นั้น ส่วนที่สอนให้เก็บเงิน เก็บทองก็เป็น case study ที่ยกมาจากเรื่องจริง (มีศิษย์มาขอยืมเงิน) ซึ่งเป็นช่วงเวลายุคโควิด ตอนนั้น พอจ.ยังไม่รู้จักดิไอคอน,ที่พูดว่า แต่ก็โฆษณาให้นะ ก็เป็นการพูดเชิงกระเช้าเข้าหยอก ให้คนฟังนับพันเขาชื่นใจเท่านั้น ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแม่ทีมเสียหน่อยมันง่ายๆ แค่นี้ หนุ่ม ดูคลิปแล้ว ทำไมยังไม่เข้าใจ มันเข้าใจยากตรงไหน ใจคอจะเอาพระเข้าคุกให้ได้ว่างั้นเถอะ ๓.ส่วนที่สอนให้รู้จักเก็บ รู้จักออม รู้จักทำมาหากิน ก็พูดตามหลักคำสอนในพระไตรปิฎก (ทิฏฐ-ธรรมิกัตประโยชน์) เพียงแต่นำมาเล่าให้มันร่วมสมัยเท่านั้น ไม่ได้ตั้งตาตั้งตาไปทำหน้าที่ Presenter ให้กับดิไอคอน พูดยาว ๑ ชั่วโมง ๑๒ นาที เนื้อหาไม่ได้มีแค่ตัดมาสร้างความเข้าใจผิดเท่านั้น (และถ้าถือว่าพูดอย่างนั้น คือ พอจ.หลอกโยม ควรพูดใหม่ว่า พอจ.ก็อยู่ที่วัดดีๆ นี่แหละ วันดีคืนดี พวกพี่แชม ก็ยกกันไปนิมนต์พอจ.มาเทศน์-พูดกันแฟร์ๆ ไม่ใช่พระหลอกโยม แต่เป็นโยมไปหลอกพระออกมาจากวัด-พระนี่แหละ เป็นเหยื่อดิไอคอน พูดชัดๆ ก็ต้องพูดอย่างนี้) ๔.ส่วนการทำบุญที่บริษัท ดิไอคอน ก็ไม่ไม่ได้นิมนต์ พอจ.แค่รูปเดียว เขานิมนต์เป็นร้อยรูปต่อปี ตั้งแต่สมเด็จพระราชาคณะลงมา จนถึงพระเกจิต่างจังหวัด ใช่เจาะจงพอจ.รูปเดียวเสียเมื่อไหร่ (บางคนเอา ไปพูดยังกับมีท่านว.รูปเดียวที่ได้รับนิมนต์ ไปดูรูปไนเพจดิไอคอนว่ามีพระก็รูป เขาไม่ได้ลบทิง หลักฐานยังอยู่ครบ จะได้พูดกันอย่างตรงไปตรงมา เคารพความจริงตามที่มันเป็นจริง) ๕.ตาลปัตรที่ พอจ.ใช้ พระทุกรูปที่เคยไปเทศน์ ก็ใช้ให้พรเหมือนกัน (ดรูปประกอบ) และดิไอคอนไม่เคยทำถวาย พอจ.แต่เป็นของที่มีอยู่แล้วในห้องประชุมของบริษัท พระรูปไหนมา ก็ใช้ตาลปัตรของบริษัท อันนั้น อันนี้เป็นเรื่องทั่วไป บริษัทต่างๆ ที่เขาทำบุญเขาก็ทำตาลปัตรในนามบริษัทของตัวเองกันทั้งนั้น ธนาคารทุกแห่งก็ทำ แต่นี่หนุ่มปล่อยให้แขกพูดชื่นำว่าว่าเขาทำเพื่อ พอจ.คนเดียว (ประมาณว่าเพราะเป็น Presenter ไง) แล้วที่หลวงพ่ออลงกตท่านถืออยู่ในมือ ท่านต้องเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยไหม ? ๖.บริษัทดิไอคอน เคยถวายทุนการศึกษาให้มูลนิธิไร่เชิญตะวัน ในวันแห่งการให้ประจำปีจริง (๑ ล้านบาท) และถวายเสร็จแล้ว ก็แจกกันวันนั้นเลย มีคนเป็นพยานหลายพันคน ไม่มีคำว่า "เข้าพกเข้าห่อพอจ.แม้แต่บาทเดียว" (หนุ่มอยากตรวจสอบให้ทำได้ทันทีไม่ต้องรอพรุ่งนี้) และในวันเดียวกันนั้นนั้น คุณบ๊วย เชษฐวุฒิ ก็ถวายทุนด้วย ๖๐๐,๐๐๐ บาทมูลนิธิร่วมกตัญญูก็ไปร่วมถวายทุน แจกถุงยังชีพทุกปี ปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า ๑๐ ล้านบาทถ้าทุกคนที่ไปทำบุญคือไปติดสินบนพระ ต่อไปทุกวัด ก็ไม่ต้องรับเงินทำบุญจากบริษัทใดๆ อีกแล้ว รัฐบาลก็ควรเลิกถวายนิตยภัตรพระทั้งประเทศไปเลย หนุ่ม ข้อ ๖-๙ มันเลยการวิพากษ์วิจารณ์ไปแล้วนะ แต่มันคือ "การใส่ร้ายป้ายสี"กันชัดๆ ก่อนจะ สัมภาษณ์หนุ่มควรจะทำการบ้านให้มากกว่านี้นะ แบบนี้ พอจ.เสียหายมาก ลูกศิษย์ของ พอจ.ที่เขารัก ความเป็นธรรม เขาดูแล้ว เขาก็ทนไม่ได้หรอก ที่หนุ่มเอียงกระเท่เร่ได้ขนาดนี้ หนุ่ม ก็เคยบวชกับ พอจ.นะ สิบกว่าปีที่แล้ว เป็นอย่างไร ทุกวันนี้ พอจ.ก็ยังเป็นอย่างนั้น มีชีวิตในที่ แจ้งท่ามกลางสาธารณชนตลอด ไม่ใช่เพิ่งโผล่มาเป็นคนดังปีสองปีนี่เมื่อไหร่ พอจ.ทำงานหนักขนาดไหน หนุ่มก็น่าจะรู้ดี นี่ปล่อยให้คนมาใส่ร้ายป้ายสี พอจ.กลางรายการโดยไม่ยอมแสวงหาข้อเท็จจริงเอาเสียเลย ถ้าหนุ่มรักเมีย รักลูก ก็ให้รู้ไว้ว่าศิษย์ พอจ.เขาก็รัก พอจ.เหมือนกัน เขาเจ็บปวดเหมือนกัน หลังๆ หนุ่มใกล้จะทำตัวเป็นศาลเตี้ยเข้าไปทุกวันแล้วนะ โหด เหี้ยม ขาดความเห็นอกเห็นใจแขกและคนที่เขาตกเป็นข่าว หนุ่มยังเป็นพิธีกรอยู่หรือเปล่า หรือว่าตอนนี้กลายเป็น "ฆาตกรฆ่าต่อเนื่องไปแล้ว" หลายคนเขาไม่ผิด หนุ่มส่งเขาเข้าคุกไปแล้ว พอเค้าออกจากคุกมาเงียบๆ หนุ่มเคยไปขอโทษเขาไหม? อีกอย่าง พอจ.มีวัดที่ พอจ.สร้างเองอยู่ที่ญี่ปุ่นอยู่แล้ว ๒ วัด สร้างมาแล้วเกือบสิบปีและพรรษานี้ พอจ.ก็มาจำพรรษาที่นี่ ช่วงนี้มาประชุมเชิงวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม เอาเรื่องน้ำท่วมแม่สายมานำเสนอที่ ม.โยโกฮาม่า กับกองงานในพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า(หลักฐานอยู่ในเพจ พอจ.) ไม่ได้หนีมาแช่ออนเซนแต่อย่างใด นี่ข้อมูลพื้นๆ แบบนี้ หนุ่มก็ไม่รู้ แล้วที่เหลือ หนุ่มจะพลาดอีกขนาดไหน หนุ่มไม่ได้สว่างไสวในทุกเรื่องนะ อย่าคิดว่าตัวเองเสียงดังแล้ว จะสัมภาษณ์เล่นงานใครก็ได้ โดยไม่แสวงข้อเท็จจริง แล้วปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องถูกใสร้ายกลางรายการอย่างนี้หลายครั้งหลายคน ขออภัยหนุ่มด้วยที่พูดยาวแต่เป็นการคุยกันฉันครูกะศิษย์ก็แล้วกัน หวังว่าหนุ่มคงไม่โกรธพอจ.นะ ว.วชิรเมธี (พระพี่เลี้ยงตอนหนุ่มบวชที่เชียงราย) ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๗ #Thaitimes
    Like
    Yay
    7
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 617 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพจ "Workpoint Entertainment" เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ได้ออกแถลงการณ์ “เรื่อง ประกาศยุติสัญญาศิลปินในสังกัด บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด ในฐานะต้นสังกัดของคุณกันต์ กันตถาวร ขอแจ้งยุติสัญญาการเป็นพิธีกรและศิลปินในสังกัดของคุณกันต์ กันตถาวร และจะได้มีการแจ้งเป็นหนังสือยุติสัญญาไปยังศิลปินต่อไป จึงเรียนมาเพื่อทราบ
    #Thaitimes
    เพจ "Workpoint Entertainment" เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ได้ออกแถลงการณ์ “เรื่อง ประกาศยุติสัญญาศิลปินในสังกัด บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด ในฐานะต้นสังกัดของคุณกันต์ กันตถาวร ขอแจ้งยุติสัญญาการเป็นพิธีกรและศิลปินในสังกัดของคุณกันต์ กันตถาวร และจะได้มีการแจ้งเป็นหนังสือยุติสัญญาไปยังศิลปินต่อไป จึงเรียนมาเพื่อทราบ #Thaitimes
    เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ออกแถลงการณ์ ขอแจ้งยุติสัญญาการเป็นพิธีกรและศิลปินในสังกัดของคุณกันต์ กันตถาวร หลังพบพัวพันเกี่ยวข้องกับคดี The Icon Group ธุรกิจขายตรงชื่อดัง และศาลอนุมัติหมายจับคดี "ดิไอคอน"แล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000099925

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 313 มุมมอง 0 รีวิว
  • เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ออกแถลงการณ์ ขอแจ้งยุติสัญญาการเป็นพิธีกรและศิลปินในสังกัดของคุณกันต์ กันตถาวร หลังพบพัวพันเกี่ยวข้องกับคดี The Icon Group ธุรกิจขายตรงชื่อดัง และศาลอนุมัติหมายจับคดี "ดิไอคอน"แล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000099925

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ออกแถลงการณ์ ขอแจ้งยุติสัญญาการเป็นพิธีกรและศิลปินในสังกัดของคุณกันต์ กันตถาวร หลังพบพัวพันเกี่ยวข้องกับคดี The Icon Group ธุรกิจขายตรงชื่อดัง และศาลอนุมัติหมายจับคดี "ดิไอคอน"แล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000099925 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2414 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่ทีมสายดำ..อายุน้อยร้อยล้าน

    เห็นน้องตอ อดีตกระเป๋าเครื่องบินเขามาคอมเมนต์ในเพจเหยื่อว่าเขาเลิกทำนานแล้ว ไม่ใช่พึ่งเลิกทำจ้าาา = เถียง

    พรีสสสส สงสัยมาพิมพ์เถียงโดยไม่ได้ไถหน้าเพจดูสกิลการขุดของเพจนี้เลยล่ะสิ่ท่า.?

    เราน่ะรู้ว่าหนูอ่ะเป็นดาวดังของบริษัทขึ้นเวทีไปเป็นพิธีกรของบริษัทเป็นประจำ และหนูทำจนได้หลัวคนที่ทำ The Icon อีกตางหาก ปั่ดโธ่

    มาเถียงเราคอมเมนต์หนึ่ง เราก็จัดให้อีกโพสต์หนึ่ง แต่ถ้าทำผิดแล้วสงบปากเราจะก้าวข้ามไปเล่นแก๊งอื่นต่อ

    ตามมาดูว่าแม่ทีมสายดำมันทำงานกันอย่างไร

    จุดเริ่มต้น..ทุกคนที่หลงเข้าไปในวงจรนี้ ก็จะเริ่มต้นจากเปิดบิล 2,500 บาท (Distributor)

    และถ้าจะสร้างทีมได้ ก็ต้องเปิด 25,000 บาท (Supervisor)

    เรต 2,500 บาท กับ 25,000 บาท จะต้องจ่ายตรงกับ Dealer เพราะ Dealer ต้องกระจายของตัวเองออก

    และถ้าต้องการเข้าทีมแม่ๆทั้งหลาย ต้องเปิด 250,000 บาท (Dealer)

    ทีนี้ตำแหน่งมันยังมีอีก 10 อันดับข้างบน แล้วทำไมมันถึงมีลำดับขั้นเยอะแยะขนาดนั้น.?

    ตามมา..

    ระบบแผนการจ่ายของ the icon จะมีการจ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นทริปท่องเที่ยว เพื่อเลี่ยงกฎหมาย

    เพราะการจ่ายเงินมันจะผิดกฎหมายเข้าข่ายลูกโซ่ จึงแจกค่าคอมกลับเป็นการทัวร์ทริปเที่ยว ซึ่งระบุเอาไว้ว่า

    ถ้าใครไม่อยากเที่ยว..“ก็ขายทริปคืนเป็นเงินได้” ตรงจุดนี้แหละที่บอสพอลติ่งเอาไว้เลี่ยงกฎหมาย

    เพราะถ้ามีใครขายทริป บริษัทก็จะจ่ายเป็นเงินสดแทนการเที่ยวให้ มันก็จะเท่ากับการชวนคนร่วมลงทุนแล้วได้เงินตอบแทน(โดยอ้อม)เหมือนแชร์ลูกโซ่ยังไงยังงั้นเลย

    the icon เลี่ยงไปใช้คำว่า Re Dealer หรือการเปิดสาขาสอง คือการจ่าย 250,000 บาท อีกรอบ เพื่อขยับตัวเองขึ้นไปเป็น Gold , Platinum และสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

    ตำแหน่งพวกนี้สำคัญแค่ไหน ?

    หลักการจ่ายของ the icon จะจ่ายให้กับ Direct Referral (การชวนตรงผ่านรหัสตัวเอง) 10%

    ดังนั้นหากคุณจ่าย 250,000 บาทไปแล้ว และอยากได้เงินคืน คุณต้องทำ Direct Referral ตามรหัสตัวเองให้ได้ 10 ราย ถึงจะได้เงิน 10% กลับคืน

    ตรงนี้เรียกว่า "Fast start bonus" เป็นศัพท์ของ MLM เขาใช้เรียกกัน โดยปกติ MLM จะมีระบบซับซ้อนในการคำนวณยอดให้

    เช่น Stair Step, Uni-Level , Binary , Trinary ฯลฯ

    แต่ที่ The Icon นั้นไม่ซับซ้อน เป็นแค่ Stair Step หรือขั้นบันไดใช้การจ่ายที่ระดับขั้น แยกออกเป็น "ส่วนลด" เพื่อเอาส่วนลดนั้นไปจ่ายตามระดับ 10 อันดับด้านบนทั้งหมด

    และพอลยังแก้ให้มีระบบ Binary โยน Dealer ซ้าย-ขวา คะแนนข้างอ่อนผันเป็นโบนัส

    ดังนั้นยิ่งใครเปิด "สาขา" เยอะ ก็จะยิ่งได้รับ "ส่วนแบ่งสาขา" เยอะขึ้น ทีนี้หลักการจ่ายมันจะมีหลักง่ายๆคือ..จ่ายจากล่างสุดขึ้นไปบนสุด

    เวลาพี่ๆตำรวจเขา สืบ-สอบ ก็จะเริ่มจากด้านล่างสุดเช่นกัน แต่ด้านล่างสุดในมุมของตำรวจคือคนที่เป็นเหยื่อ ไล่เส้นเงินของเหยื่อ..ว่าวิ่งไปถึงใครบ้าง
    -----------

    สมมติว่าน้องตอ เขาเป็นระดับ Platinum Dealer แต่ลูกทีมของน้องตอดันไปเปิดสาขาเยอะกว่า ก็จะได้เป็น Crown Dealer ลักษณะแบบนี้จะเรียกว่า อันดับสูงกว่าผู้แนะนำ

    เวลาทำจ่าย "ส่วนแบ่งสาขา" มันจะข้ามน้องตอขึ้นไปข้างบนตามตำแหน่ง แม้ว่าคนนั้นจะเป็น Downline ของน้องตอก็ตาม

    และคนที่เปิดสูงกว่าน้องตอก็จะได้รับเงิน "ส่วนแบ่งสาขา" ไปแทน นี่เป็นหลักการที่จูงใจให้คนที่หลงเข้ามาทำธุรกิจนี้แล้วอยาก "ขยายสาขา"

    เพื่อที่ตัวเองจะได้ไประดับบนสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็คือ "BOSS" (ไม่ใช่ Big Boss นะ)

    วิธีของ the icon คือตั้งกลุ่มแม่ทีม และลูกทีมจะต้องมาซื้อข้อมูลผู้สนใจธุรกิจ โดยมีค่าใช้จ่าย 1,000 - 5,000 บาท และถ้าเป็นเบอร์ที่หวังผลได้ชัวร์ ขาย 10,000 บาท

    คำถามคือ..เงินตรงนี้เข้าบริษัทหรือเข้ากระเป๋าแม่ทีม.?

    ถ้าคำนวณจากยอดของน้องตอที่ทำยอด 1,000,000 บาทได้ และได้แหวนเพชรจากบิ๊กบอสเป็นรางวัล

    ก็อนุมานได้ว่าน้องตอต้องได้ค่าคอม 25,000 บาท (จาก 250,000) 1,000,000 / 25,000 = 40 คน จุกๆ

    ระยะเวลาแค่ 6 เดือนน้องตอของเราได้ขึ้นไปรับเงิน 1 ล้านบาท พร้อมสวมแหวนเพชรบนเวที

    แล้วน้องตอก็พูดว่า.."ผู้ชายคนแรกที่สวมแหวนให้หนูคือบอสพอล" งู้ยยยยย ถุย
    -------------

    the icon ได้ทำการแก้ไขระบบตัวแทนจากตลาดตรง มาเพิ่ม "Binary" ทำให้มีการโยน Dealer ไปซ้าย-ขวา

    ทีนี้มันก็เลยต้องแข่งขันกันเพื่อตำแหน่งที่สูงขึ้นเพราะหลักการของระบบ Binary มันเข้าข่าย MLM และหลักการจ่ายค่าโบนัสมันจะจ่ายวิ่งขึ้นบน

    แปลว่าถ้าน้องตอตำแหน่งต่ำกว่า Downline ตัวเอง คะแนน Bonus จะวิ่งไปหาตำแหน่งที่สูงกว่าตัวเองทันที

    ข้อนี้มันคือการหักล้างทุกๆบริษัทที่เคยพูดว่า "Passive Income" มีจริง บอกเลยมันไม่มีอยู่จริงหรอก

    เพราะระบบ MLM มันมีกฎที่สามารถขโมย Bonus ได้ถ้าตำแหน่งสูงกว่า ระบบจะจ่ายโบนัสไปที่ "ตำแหน่งสูงสุด" ที่อยู่ในสายนั้น

    นี่คือสาเหตุให้ตำแหน่ง "BOSS" ด้านบน เปิดสาขาถึงระดับสูงสุด เพื่อรองรับโบนัสการคำนวณ ซ้าย-ขวา

    เพราะถ้าซ้าย-ขวา ไม่ balance ระบบจะคำนวณยอดที่จะได้แค่ส่วนต่างข้างน้อย และส่วนที่เหลือข้างมากจะไหลขึ้นบนตามหลัก MLM

    จุดนี้แหละจึงเป็นความจริงที่ทุกคนพยายาม "ขยายสาขา" เพื่อให้ตัวเองได้รับ "ส่วนแบ่งสาขา" นั่นเอง

    และทุกคนที่เป็นแม่ทีมจะสู้เพื่อสิ่งนี้แหละ คือตำแหน่งสูงสุด เพราะจะได้รับค่าคอมจากด้านล่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

    นั่นคือเหตุผลที่ระดับ "BOSS" ได้รับค่าคอมหลักล้าน แม้จะนอนนิ่งๆไม่ได้ทำอะไรก็ตาม

    แต่คนที่ยังทำงานอยู่ในการ Direct Referral จะได้ 10% เรียกว่าได้เงินเร็ว แล้วก็เอาเงินต่อเงินไปเปิดสาขาเพื่อให้ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นตามนี้

    Boss
    Emperor
    Royal Crown
    Crown Dealer
    Wisdom Dealer
    Presidential Dealer
    Grand Dealer

    7 ตำแหน่งนี้👆ต้องไต่เต้าด้วยการ..ขยายสาขา

    นั่นคือมูลเหตุให้ระบบของบริษัท the icon แผนธุรกิจมุ่งเน้นชวนคนใหม่อย่างเดียว เพราะผลตอบแทน 10% จาก Dealer ได้ตรง และได้โบนัสคำนวณตามตำแหน่ง

    ทีนี้มาดูกลโกงของแม่ทีมสายดำกัน

    มันมีคนเข้ามาเป็น Dealer 367,943 คน และทุกคนเปิดบิล 250,000 บาทเหมือนกันหมด

    แต่ไม่ใช่ว่าคนทั้ง 367,943 คนจะยิงแอดเป็น หรือทำการตลาดเป็น จึงตกเป็นเหยื่อแม่ทีมในกลุ่มของตัวเอง

    โดยทุกคนจะโดนแม่ทีมเรียกรับ "ค่าโฆษณา" คนละ 10,000 / เดือน

    สมมติว่า..กลุ่มน้องตอมี 2,000 คน น้องตอก็จะเรียกเก็บค่าโฆษณาได้ 20,000,000 บาทต่อเดือนทันที

    คำถามคือ..แล้วลูกข่ายทั้งหมดที่มาเปิดบิลผ่านน้องตออ่ะ พวกเขาเหล่านั้นได้ยิงแอดเองไหม.?

    น้องตอ..บอกจะสอนให้เขาขายออนไลน์ได้เอง ก็แปลว่าลูกทีมเขาต้องมีความสามารถ "ตั้งโฆษณาได้เอง" ถูกไหม.?

    แต่น้องตอ กลับบอกให้ทุกคนเข้ากลุ่มแม่ทีมแล้วน้องตอก็เรียกเก็บเงินค่ารายชื่อ หัวละ 1000 - 5000 อันนี้มันยิงแอดตรงไหนอ่ะ.?

    น้องตอมีหลักฐานไหมว่ารายชื่อที่เอามาขายลูกข่ายน่ะมันดึงมาจาก Ads ทุกรายชื่อ.?

    คือ..แม่ทีมมีหน้าที่ไปยิงโฆษณาหาตัวแทนมาโปรยให้ลูกทีมนั่นแปลว่า "แม่ทีมก็ต้องโทรหาลูกค้าก่อนแล้ว"

    ลองคิดถึงหลักความเป็นจริง หากโทรไปแล้วเขาสนใจ พวกคุณคิดว่าแม่ทีมจะใจดีโยนมาให้ลูกทีมไหม.?

    แม่ทีมที่มีลูกทีม 2,000 คน ก็จะเรียกเก็บเงินจากลูกทีมได้ 20 ล้านบาท แล้วมีแม่ทีมคนไหนเอารายงานการยิงแอดมาโชว์ให้ลูกข่ายดูบ้างไหมครับ.?

    ถ้าไม่โชว์หลักฐาน ถ้างั้นก็เอาเงิน 20 ล้านบาทเข้ากระเป๋าตัวเอง แล้วบอกว่ายิงแอดให้แล้ว..ก็ทำได้สิ่.?

    พอมีคนคิดลบ เตะออก พอใครไม่อยากยิงแอด เตะออก ทำแบบนี้นี่น้องตอสอนคนยิงแอดหรือว่าบีบบังคับให้เค้าจ่ายไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดตัว.?

    เกมนี้ที่แม่ทีมอย่างพวกคุณออกแบบมันโหดร้ายมากๆนะ เพราะว่าจะมีแต่แม่ทีมอย่างพวกคุณรวยกันอยู่กระจุกเดียว

    แต่ลูกข่ายนี่เป็นตู้ ATM ให้แม่ทีมกดเงินอย่างเดียว แล้วบิ๊กบอสพอลเขารู้เรื่องไหมว่า มีแม่ทีมสายดำใช้แผนประทุษกรรมเหยื่อแบบนี้.?

    --------

    การทำธุรกิจแบบนี้มันไม่มีหรอก win/win น่ะ

    เงินหมื่นที่จ่ายให้แม่ทีม แม่ทีมหักหัวคิว 80-90% เอาไปลงในโฆษณา "ของตัวแม่ทีมเอง"

    และเหลือ 20-10% มาลงให้กับ "ลูกข่าย" จากนั้นก็ส่งหน้าม้าปลอมเข้าไปปลอบประโลมให้ลูกข่ายเห็นว่าโฆษณาทำงาน

    แต่อย่างที่เขาร้องกันทั้งหมดแหละ "ไม่มีใครขายได้สักคน" ก็เพราะมันเป็น Seeding Comment จากระบบ Auto Comment ไงฮะ

    น้องตอ..หัดยอมรับบ้างเหอะ ว่าเราก็หลอกเขามาเปิดบิล หลอกเอาเงินเขามายิงแอด ไหนหนูถึงทำธุรกิจโดยไม่ใช้เงินตัวเองเลยสักบาท.?

    ขออนุญาตอุทานนะครับ..พวกมึงนี่เควี้ยจริงๆเลย อีฝัด

    รบกวนพี่ตำรวจด้วยนะ เวลาสอบปากคำคนระดับแม่ทีม ช่วยถามหาหลักฐานที่พวกมันเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายต่างๆไปจากลูกข่ายด้วยนะครับ

    ท่านเรียก export excel .csv ของยอดยิงแอดมา compare เลย ว่าตรงกับยอดที่รับมาจาก "เหยื่อ" ที่เป็นลูกทีมหรือเปล่า

    แม่ทีมทุกคนได้ "Direct Referral" 10% ลองคิดดูว่าถ้าวันนึงปิดได้ 10 คน เงิน Fast Start Bonus แม่ทีมได้วันละ 250,000 บาท

    ยังไม่รวมคำนวณโบนัส ส่วนไหนที่ไม่สามารถปิดได้ในการโทรครั้งแรก แม่ทีมก็เอามาขายต่อ 5,000 บาท 2 รายชื่อ 1,000 - 5,000 บาท

    เงินส่วนนี้เข้ากระเป๋าแม่ทีม มันคือวงจรอุบาทว์ที่บอสพอลจะปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ด้วยนะเพราะบอสพอลเป็นคนแก้ระบบให้มีระบบ Binary

    เพิ่มตำแหน่งออกมาถึง 13 ขั้นตรงนี้แหละที่บอสพอลจะผิดเต็มๆ ก็คุณจดทำการตลาดขายตรง แต่คุณกลับทำ MLM โดยไม่มีใบอนุญาตซะงั้น

    เกมนี้..บอสสวย ผู้อยู่เหนือหวงโซ่ของแม่ทีม คนที่เป็นทุกอย่างให้บอสพอล ถ้าตำรวจไม่เฝ้าไว้ อาจจะหลบหนีไป..ตามใบสั่ง

    บทความนี้เขียนขึ้นจากการสอบข้อเท็จจริงจากปากผู้เสียหาย หลายๆคน ข้อมูลไม่นิ่งตัดออก

    แล้วคัดเอาที่หลายคนพูดตรงกันมาวิเคราะห์แล้วหาข้อมูล แล้วเรียบเรียงเขียนเป็นบทความมาเผยแพร่

    ถ้าใครมีข้อมูลที่แท้ แล้วมันไม่ตรงกับบทความนี้ก็คอมเมนต์แจ้งมาได้นะ ถ้ามันเชื่อถือได้ เราจะแก้ไขให้ทันที

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    แม่ทีมสายดำ..อายุน้อยร้อยล้าน เห็นน้องตอ อดีตกระเป๋าเครื่องบินเขามาคอมเมนต์ในเพจเหยื่อว่าเขาเลิกทำนานแล้ว ไม่ใช่พึ่งเลิกทำจ้าาา = เถียง พรีสสสส สงสัยมาพิมพ์เถียงโดยไม่ได้ไถหน้าเพจดูสกิลการขุดของเพจนี้เลยล่ะสิ่ท่า.? เราน่ะรู้ว่าหนูอ่ะเป็นดาวดังของบริษัทขึ้นเวทีไปเป็นพิธีกรของบริษัทเป็นประจำ และหนูทำจนได้หลัวคนที่ทำ The Icon อีกตางหาก ปั่ดโธ่ มาเถียงเราคอมเมนต์หนึ่ง เราก็จัดให้อีกโพสต์หนึ่ง แต่ถ้าทำผิดแล้วสงบปากเราจะก้าวข้ามไปเล่นแก๊งอื่นต่อ ตามมาดูว่าแม่ทีมสายดำมันทำงานกันอย่างไร จุดเริ่มต้น..ทุกคนที่หลงเข้าไปในวงจรนี้ ก็จะเริ่มต้นจากเปิดบิล 2,500 บาท (Distributor) และถ้าจะสร้างทีมได้ ก็ต้องเปิด 25,000 บาท (Supervisor) เรต 2,500 บาท กับ 25,000 บาท จะต้องจ่ายตรงกับ Dealer เพราะ Dealer ต้องกระจายของตัวเองออก และถ้าต้องการเข้าทีมแม่ๆทั้งหลาย ต้องเปิด 250,000 บาท (Dealer) ทีนี้ตำแหน่งมันยังมีอีก 10 อันดับข้างบน แล้วทำไมมันถึงมีลำดับขั้นเยอะแยะขนาดนั้น.? ตามมา.. ระบบแผนการจ่ายของ the icon จะมีการจ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นทริปท่องเที่ยว เพื่อเลี่ยงกฎหมาย เพราะการจ่ายเงินมันจะผิดกฎหมายเข้าข่ายลูกโซ่ จึงแจกค่าคอมกลับเป็นการทัวร์ทริปเที่ยว ซึ่งระบุเอาไว้ว่า ถ้าใครไม่อยากเที่ยว..“ก็ขายทริปคืนเป็นเงินได้” ตรงจุดนี้แหละที่บอสพอลติ่งเอาไว้เลี่ยงกฎหมาย เพราะถ้ามีใครขายทริป บริษัทก็จะจ่ายเป็นเงินสดแทนการเที่ยวให้ มันก็จะเท่ากับการชวนคนร่วมลงทุนแล้วได้เงินตอบแทน(โดยอ้อม)เหมือนแชร์ลูกโซ่ยังไงยังงั้นเลย the icon เลี่ยงไปใช้คำว่า Re Dealer หรือการเปิดสาขาสอง คือการจ่าย 250,000 บาท อีกรอบ เพื่อขยับตัวเองขึ้นไปเป็น Gold , Platinum และสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ตำแหน่งพวกนี้สำคัญแค่ไหน ? หลักการจ่ายของ the icon จะจ่ายให้กับ Direct Referral (การชวนตรงผ่านรหัสตัวเอง) 10% ดังนั้นหากคุณจ่าย 250,000 บาทไปแล้ว และอยากได้เงินคืน คุณต้องทำ Direct Referral ตามรหัสตัวเองให้ได้ 10 ราย ถึงจะได้เงิน 10% กลับคืน ตรงนี้เรียกว่า "Fast start bonus" เป็นศัพท์ของ MLM เขาใช้เรียกกัน โดยปกติ MLM จะมีระบบซับซ้อนในการคำนวณยอดให้ เช่น Stair Step, Uni-Level , Binary , Trinary ฯลฯ แต่ที่ The Icon นั้นไม่ซับซ้อน เป็นแค่ Stair Step หรือขั้นบันไดใช้การจ่ายที่ระดับขั้น แยกออกเป็น "ส่วนลด" เพื่อเอาส่วนลดนั้นไปจ่ายตามระดับ 10 อันดับด้านบนทั้งหมด และพอลยังแก้ให้มีระบบ Binary โยน Dealer ซ้าย-ขวา คะแนนข้างอ่อนผันเป็นโบนัส ดังนั้นยิ่งใครเปิด "สาขา" เยอะ ก็จะยิ่งได้รับ "ส่วนแบ่งสาขา" เยอะขึ้น ทีนี้หลักการจ่ายมันจะมีหลักง่ายๆคือ..จ่ายจากล่างสุดขึ้นไปบนสุด เวลาพี่ๆตำรวจเขา สืบ-สอบ ก็จะเริ่มจากด้านล่างสุดเช่นกัน แต่ด้านล่างสุดในมุมของตำรวจคือคนที่เป็นเหยื่อ ไล่เส้นเงินของเหยื่อ..ว่าวิ่งไปถึงใครบ้าง ----------- สมมติว่าน้องตอ เขาเป็นระดับ Platinum Dealer แต่ลูกทีมของน้องตอดันไปเปิดสาขาเยอะกว่า ก็จะได้เป็น Crown Dealer ลักษณะแบบนี้จะเรียกว่า อันดับสูงกว่าผู้แนะนำ เวลาทำจ่าย "ส่วนแบ่งสาขา" มันจะข้ามน้องตอขึ้นไปข้างบนตามตำแหน่ง แม้ว่าคนนั้นจะเป็น Downline ของน้องตอก็ตาม และคนที่เปิดสูงกว่าน้องตอก็จะได้รับเงิน "ส่วนแบ่งสาขา" ไปแทน นี่เป็นหลักการที่จูงใจให้คนที่หลงเข้ามาทำธุรกิจนี้แล้วอยาก "ขยายสาขา" เพื่อที่ตัวเองจะได้ไประดับบนสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็คือ "BOSS" (ไม่ใช่ Big Boss นะ) วิธีของ the icon คือตั้งกลุ่มแม่ทีม และลูกทีมจะต้องมาซื้อข้อมูลผู้สนใจธุรกิจ โดยมีค่าใช้จ่าย 1,000 - 5,000 บาท และถ้าเป็นเบอร์ที่หวังผลได้ชัวร์ ขาย 10,000 บาท คำถามคือ..เงินตรงนี้เข้าบริษัทหรือเข้ากระเป๋าแม่ทีม.? ถ้าคำนวณจากยอดของน้องตอที่ทำยอด 1,000,000 บาทได้ และได้แหวนเพชรจากบิ๊กบอสเป็นรางวัล ก็อนุมานได้ว่าน้องตอต้องได้ค่าคอม 25,000 บาท (จาก 250,000) 1,000,000 / 25,000 = 40 คน จุกๆ ระยะเวลาแค่ 6 เดือนน้องตอของเราได้ขึ้นไปรับเงิน 1 ล้านบาท พร้อมสวมแหวนเพชรบนเวที แล้วน้องตอก็พูดว่า.."ผู้ชายคนแรกที่สวมแหวนให้หนูคือบอสพอล" งู้ยยยยย ถุย ------------- the icon ได้ทำการแก้ไขระบบตัวแทนจากตลาดตรง มาเพิ่ม "Binary" ทำให้มีการโยน Dealer ไปซ้าย-ขวา ทีนี้มันก็เลยต้องแข่งขันกันเพื่อตำแหน่งที่สูงขึ้นเพราะหลักการของระบบ Binary มันเข้าข่าย MLM และหลักการจ่ายค่าโบนัสมันจะจ่ายวิ่งขึ้นบน แปลว่าถ้าน้องตอตำแหน่งต่ำกว่า Downline ตัวเอง คะแนน Bonus จะวิ่งไปหาตำแหน่งที่สูงกว่าตัวเองทันที ข้อนี้มันคือการหักล้างทุกๆบริษัทที่เคยพูดว่า "Passive Income" มีจริง บอกเลยมันไม่มีอยู่จริงหรอก เพราะระบบ MLM มันมีกฎที่สามารถขโมย Bonus ได้ถ้าตำแหน่งสูงกว่า ระบบจะจ่ายโบนัสไปที่ "ตำแหน่งสูงสุด" ที่อยู่ในสายนั้น นี่คือสาเหตุให้ตำแหน่ง "BOSS" ด้านบน เปิดสาขาถึงระดับสูงสุด เพื่อรองรับโบนัสการคำนวณ ซ้าย-ขวา เพราะถ้าซ้าย-ขวา ไม่ balance ระบบจะคำนวณยอดที่จะได้แค่ส่วนต่างข้างน้อย และส่วนที่เหลือข้างมากจะไหลขึ้นบนตามหลัก MLM จุดนี้แหละจึงเป็นความจริงที่ทุกคนพยายาม "ขยายสาขา" เพื่อให้ตัวเองได้รับ "ส่วนแบ่งสาขา" นั่นเอง และทุกคนที่เป็นแม่ทีมจะสู้เพื่อสิ่งนี้แหละ คือตำแหน่งสูงสุด เพราะจะได้รับค่าคอมจากด้านล่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย นั่นคือเหตุผลที่ระดับ "BOSS" ได้รับค่าคอมหลักล้าน แม้จะนอนนิ่งๆไม่ได้ทำอะไรก็ตาม แต่คนที่ยังทำงานอยู่ในการ Direct Referral จะได้ 10% เรียกว่าได้เงินเร็ว แล้วก็เอาเงินต่อเงินไปเปิดสาขาเพื่อให้ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นตามนี้ Boss Emperor Royal Crown Crown Dealer Wisdom Dealer Presidential Dealer Grand Dealer 7 ตำแหน่งนี้👆ต้องไต่เต้าด้วยการ..ขยายสาขา นั่นคือมูลเหตุให้ระบบของบริษัท the icon แผนธุรกิจมุ่งเน้นชวนคนใหม่อย่างเดียว เพราะผลตอบแทน 10% จาก Dealer ได้ตรง และได้โบนัสคำนวณตามตำแหน่ง ทีนี้มาดูกลโกงของแม่ทีมสายดำกัน มันมีคนเข้ามาเป็น Dealer 367,943 คน และทุกคนเปิดบิล 250,000 บาทเหมือนกันหมด แต่ไม่ใช่ว่าคนทั้ง 367,943 คนจะยิงแอดเป็น หรือทำการตลาดเป็น จึงตกเป็นเหยื่อแม่ทีมในกลุ่มของตัวเอง โดยทุกคนจะโดนแม่ทีมเรียกรับ "ค่าโฆษณา" คนละ 10,000 / เดือน สมมติว่า..กลุ่มน้องตอมี 2,000 คน น้องตอก็จะเรียกเก็บค่าโฆษณาได้ 20,000,000 บาทต่อเดือนทันที คำถามคือ..แล้วลูกข่ายทั้งหมดที่มาเปิดบิลผ่านน้องตออ่ะ พวกเขาเหล่านั้นได้ยิงแอดเองไหม.? น้องตอ..บอกจะสอนให้เขาขายออนไลน์ได้เอง ก็แปลว่าลูกทีมเขาต้องมีความสามารถ "ตั้งโฆษณาได้เอง" ถูกไหม.? แต่น้องตอ กลับบอกให้ทุกคนเข้ากลุ่มแม่ทีมแล้วน้องตอก็เรียกเก็บเงินค่ารายชื่อ หัวละ 1000 - 5000 อันนี้มันยิงแอดตรงไหนอ่ะ.? น้องตอมีหลักฐานไหมว่ารายชื่อที่เอามาขายลูกข่ายน่ะมันดึงมาจาก Ads ทุกรายชื่อ.? คือ..แม่ทีมมีหน้าที่ไปยิงโฆษณาหาตัวแทนมาโปรยให้ลูกทีมนั่นแปลว่า "แม่ทีมก็ต้องโทรหาลูกค้าก่อนแล้ว" ลองคิดถึงหลักความเป็นจริง หากโทรไปแล้วเขาสนใจ พวกคุณคิดว่าแม่ทีมจะใจดีโยนมาให้ลูกทีมไหม.? แม่ทีมที่มีลูกทีม 2,000 คน ก็จะเรียกเก็บเงินจากลูกทีมได้ 20 ล้านบาท แล้วมีแม่ทีมคนไหนเอารายงานการยิงแอดมาโชว์ให้ลูกข่ายดูบ้างไหมครับ.? ถ้าไม่โชว์หลักฐาน ถ้างั้นก็เอาเงิน 20 ล้านบาทเข้ากระเป๋าตัวเอง แล้วบอกว่ายิงแอดให้แล้ว..ก็ทำได้สิ่.? พอมีคนคิดลบ เตะออก พอใครไม่อยากยิงแอด เตะออก ทำแบบนี้นี่น้องตอสอนคนยิงแอดหรือว่าบีบบังคับให้เค้าจ่ายไปเรื่อยๆจนกว่าจะหมดตัว.? เกมนี้ที่แม่ทีมอย่างพวกคุณออกแบบมันโหดร้ายมากๆนะ เพราะว่าจะมีแต่แม่ทีมอย่างพวกคุณรวยกันอยู่กระจุกเดียว แต่ลูกข่ายนี่เป็นตู้ ATM ให้แม่ทีมกดเงินอย่างเดียว แล้วบิ๊กบอสพอลเขารู้เรื่องไหมว่า มีแม่ทีมสายดำใช้แผนประทุษกรรมเหยื่อแบบนี้.? -------- การทำธุรกิจแบบนี้มันไม่มีหรอก win/win น่ะ เงินหมื่นที่จ่ายให้แม่ทีม แม่ทีมหักหัวคิว 80-90% เอาไปลงในโฆษณา "ของตัวแม่ทีมเอง" และเหลือ 20-10% มาลงให้กับ "ลูกข่าย" จากนั้นก็ส่งหน้าม้าปลอมเข้าไปปลอบประโลมให้ลูกข่ายเห็นว่าโฆษณาทำงาน แต่อย่างที่เขาร้องกันทั้งหมดแหละ "ไม่มีใครขายได้สักคน" ก็เพราะมันเป็น Seeding Comment จากระบบ Auto Comment ไงฮะ น้องตอ..หัดยอมรับบ้างเหอะ ว่าเราก็หลอกเขามาเปิดบิล หลอกเอาเงินเขามายิงแอด ไหนหนูถึงทำธุรกิจโดยไม่ใช้เงินตัวเองเลยสักบาท.? ขออนุญาตอุทานนะครับ..พวกมึงนี่เควี้ยจริงๆเลย อีฝัด รบกวนพี่ตำรวจด้วยนะ เวลาสอบปากคำคนระดับแม่ทีม ช่วยถามหาหลักฐานที่พวกมันเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายต่างๆไปจากลูกข่ายด้วยนะครับ ท่านเรียก export excel .csv ของยอดยิงแอดมา compare เลย ว่าตรงกับยอดที่รับมาจาก "เหยื่อ" ที่เป็นลูกทีมหรือเปล่า แม่ทีมทุกคนได้ "Direct Referral" 10% ลองคิดดูว่าถ้าวันนึงปิดได้ 10 คน เงิน Fast Start Bonus แม่ทีมได้วันละ 250,000 บาท ยังไม่รวมคำนวณโบนัส ส่วนไหนที่ไม่สามารถปิดได้ในการโทรครั้งแรก แม่ทีมก็เอามาขายต่อ 5,000 บาท 2 รายชื่อ 1,000 - 5,000 บาท เงินส่วนนี้เข้ากระเป๋าแม่ทีม มันคือวงจรอุบาทว์ที่บอสพอลจะปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ด้วยนะเพราะบอสพอลเป็นคนแก้ระบบให้มีระบบ Binary เพิ่มตำแหน่งออกมาถึง 13 ขั้นตรงนี้แหละที่บอสพอลจะผิดเต็มๆ ก็คุณจดทำการตลาดขายตรง แต่คุณกลับทำ MLM โดยไม่มีใบอนุญาตซะงั้น เกมนี้..บอสสวย ผู้อยู่เหนือหวงโซ่ของแม่ทีม คนที่เป็นทุกอย่างให้บอสพอล ถ้าตำรวจไม่เฝ้าไว้ อาจจะหลบหนีไป..ตามใบสั่ง บทความนี้เขียนขึ้นจากการสอบข้อเท็จจริงจากปากผู้เสียหาย หลายๆคน ข้อมูลไม่นิ่งตัดออก แล้วคัดเอาที่หลายคนพูดตรงกันมาวิเคราะห์แล้วหาข้อมูล แล้วเรียบเรียงเขียนเป็นบทความมาเผยแพร่ ถ้าใครมีข้อมูลที่แท้ แล้วมันไม่ตรงกับบทความนี้ก็คอมเมนต์แจ้งมาได้นะ ถ้ามันเชื่อถือได้ เราจะแก้ไขให้ทันที สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • บอสดารา The Icon ตอกย้ำด้านมืดคนดัง ดิ้นเอาตัวรอด-ไม่รับผิดชอบ
    .
    ปฏิเสธไม่ได้ว่าคดีการตรวจสอบกระบวนการทำธุรกิจของ The Icon กรุ๊ป กลายเป็นคดีระดับประเทศที่คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นคดีที่ท้าทายความสามารถของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่อย่าง 'บิ๊กต่าย' พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ในการกอบกู้ศักดิ์ศรีของตำรวจไทยให้ประชาชนกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง
    .
    นอกจากคดีจะเป็นตัวชี้วัดในการเรียกศรัทธาคืนมาของตำรวจแล้ว อีกด้านคดีนี้เป็นการนำไปสู่การตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบุคคลสาธารณะอย่างดารานักแสดงและพิธีกรด้วย ภายหลังกรณีของ The Icon พบว่ามีเหล่าผู้มีชื่อเสียงเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก
    .
    ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คดีกลายเป็นที่จับจ้องของสังคมนั้น เนื่องจากปรากฎหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเหล่าดาราเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในผู้บริหารบริษัทด้านต่างๆ พร้อมกับมีการประกาศออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน
    .
    แต่ทันทีที่เกิดเรื่องบรรดาผู้มีชื่อเสียงและนามสกุลใหญ่เหล่านั้นกลับเลือกที่เขียนด้วยและลบด้วยเท้าผ่านการอ้างว่าเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น โดยไม่ได้เกี่ยวข้องในแง่การบริหารธุรกิจอย่างใด ซึ่งดันมาบังเอิญเหมาะเจาะกับการที่บริษัทดิ ไอคอน ก็ออกประกาศยืนยันว่าบอสดาราต่างๆไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท
    .
    การที่ยกข้ออ้างเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องบรรดาบอสดาราก็ถือเป็นสิทธิที่จะกระทำได้ ซึ่งก็ต้องไปว่ากันในแง่ของข้อกฎหมายต่อไป โดยเริ่มมีนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญหลายคนเริ่มออกมาให้ความคิดเห็นแล้วว่า
    .
    หากผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนทำธุรกิจเพราะความน่าเชื่อถือของเหล่าดาราที่เรียกตัวเองว่าบอสเหล่านี้ จึงย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้
    .
    ในแง่ของคดีความและข้อกฎหมายก็คงต้องไปว่ากันในชั้นศาล แต่คำถามที่ตามมา ว่าเวลานี้สังคมไทยยังพอจะสามารถเชื่อถือบรรดาแวดวงคนบันเทิงในฐานะที่เป็นผู้ชี้นำและมีอิทธิพลต่อสังคมไทยได้อีกต่อไปหรือไม่
    .
    ทั้งนี้เป็นเพราะกรณีที่เกิดขึ้นจากกลุ่มบริษัท ดิ ไอคอน ไม่ได้เป็นกรณีแรกที่มีดาราเข้ามามีส่วนพัวพัน ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ก็เคยมีดารา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีสถานะพิเศษต้องถูกดำเนินคดีและใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำให้เห็นกันมาแล้วอย่างกรณีคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ซึ่งพบว่ามีดาราอาศัยความมีชื่อเสียงของตัวเองในการชักชวนให้ประชาชนมาลงทุน
    .
    ทั้งนี้ ดังจะเห็นได้จากกรณีของพิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช พร้อมแม่และพี่ชายถูกฟ้องเป็นจำเลย ซึ่งปัจจุบันได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อมาต่อสู้คดี รวมไปถึงนายพัฒนพล มินทะขิน หรือดีเจแมน และ น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย อาร์สยาม โดยกรณีของรายหลังศาลได้มีการยกฟ้องคดีไปบางส่วนแล้ว แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ออกมาให้ข้อมูลว่าคดีที่ยกฟ้องนั้น เป็นคดีที่ประชาชนผู้เสียหายเกี่ยวกับแชร์ Forex-3D ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเองโดยตรงที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ดีเอสไอกำลังดำเนินการตรวจสอบ
    .
    หรือย้อนกลับไปกว่านั้น คือ กรณีของบริษัท เมจิกสกิน จำหน่ายอาหารเสริมที่ไม่มีคุณภาพและไม่ผ่านการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาเนื่องจากมีดาราจำนวนไม่น้อยรับงานรีวิวสินค้า จนถูกหมายเรียกและบางรายต้องต่อสู้คดีในชั้นศาล เช่น น.ส.รัชวิน วงศ์วิริยะ หรือ ก้อย และ นายกนกฉัตร มรรยาทอ่อน หรือ ไต้ฝุ่น หนึ่งในกลุ่มดาราที่รับรีวิวเมจิกสกิน ศาลได้พิพากษาให้ความผิดแต่ให้รอลงอาญา ขณะที่ กลุ่มผู้บริหารผลิตภัณฑ์ของบริษัท เมจิกสกิน ศาลก็ได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุก 20 ปี แต่เนื่องจากจำเลยมีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการพยายามเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ทำให้ศาลรอลงอาญาโทษจำคุก
    .
    อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะนำกรณีของเมจิกสกินกับดิ ไอคอน มาเปรียบเทียบกันเพื่อสรุปว่ากรณีของ The Icon จะมีบทสรุปลงเอยเหมือนกับคดีเมจิกสกิน เนื่องจากเหล่าดาราในกรณีของเมจิกสกินนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเพียงพรีเซนเตอร์เท่านั้น
    .
    ผิดกับกรณี The Icon ที่ได้ประกาศตัวเองว่าเป็น 'บอส' ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการดึงดูดให้ประชาชนมาร่วมลงทุน ดังนั้น การจะมาอ้างว่าการเป็นบอสเป็นอีกร่างอวตารหนึ่งของพรีเซ็นเตอร์นั้นดูจะเป็นการเอาสีข้างเข้าถูกจนเกินไป
    .
    เพราะฉะนั้น จากกรณีของThe Icon ที่เกิดขึ้นมานั้นยิ่งจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งที่ทำให้สถานะของวงการบันเทิงถูกสั่นคลอนในแง่ของความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก หลังจากที่ทุกวันนี้วงการบันเทิงไทยซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง และคนนินทาหมาดูถูก อย่างหนัก
    ..............
    Sondhi X
    บอสดารา The Icon ตอกย้ำด้านมืดคนดัง ดิ้นเอาตัวรอด-ไม่รับผิดชอบ . ปฏิเสธไม่ได้ว่าคดีการตรวจสอบกระบวนการทำธุรกิจของ The Icon กรุ๊ป กลายเป็นคดีระดับประเทศที่คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นคดีที่ท้าทายความสามารถของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่อย่าง 'บิ๊กต่าย' พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ในการกอบกู้ศักดิ์ศรีของตำรวจไทยให้ประชาชนกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง . นอกจากคดีจะเป็นตัวชี้วัดในการเรียกศรัทธาคืนมาของตำรวจแล้ว อีกด้านคดีนี้เป็นการนำไปสู่การตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบุคคลสาธารณะอย่างดารานักแสดงและพิธีกรด้วย ภายหลังกรณีของ The Icon พบว่ามีเหล่าผู้มีชื่อเสียงเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก . ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คดีกลายเป็นที่จับจ้องของสังคมนั้น เนื่องจากปรากฎหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเหล่าดาราเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในผู้บริหารบริษัทด้านต่างๆ พร้อมกับมีการประกาศออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน . แต่ทันทีที่เกิดเรื่องบรรดาผู้มีชื่อเสียงและนามสกุลใหญ่เหล่านั้นกลับเลือกที่เขียนด้วยและลบด้วยเท้าผ่านการอ้างว่าเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น โดยไม่ได้เกี่ยวข้องในแง่การบริหารธุรกิจอย่างใด ซึ่งดันมาบังเอิญเหมาะเจาะกับการที่บริษัทดิ ไอคอน ก็ออกประกาศยืนยันว่าบอสดาราต่างๆไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท . การที่ยกข้ออ้างเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องบรรดาบอสดาราก็ถือเป็นสิทธิที่จะกระทำได้ ซึ่งก็ต้องไปว่ากันในแง่ของข้อกฎหมายต่อไป โดยเริ่มมีนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญหลายคนเริ่มออกมาให้ความคิดเห็นแล้วว่า . หากผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนทำธุรกิจเพราะความน่าเชื่อถือของเหล่าดาราที่เรียกตัวเองว่าบอสเหล่านี้ จึงย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้ . ในแง่ของคดีความและข้อกฎหมายก็คงต้องไปว่ากันในชั้นศาล แต่คำถามที่ตามมา ว่าเวลานี้สังคมไทยยังพอจะสามารถเชื่อถือบรรดาแวดวงคนบันเทิงในฐานะที่เป็นผู้ชี้นำและมีอิทธิพลต่อสังคมไทยได้อีกต่อไปหรือไม่ . ทั้งนี้เป็นเพราะกรณีที่เกิดขึ้นจากกลุ่มบริษัท ดิ ไอคอน ไม่ได้เป็นกรณีแรกที่มีดาราเข้ามามีส่วนพัวพัน ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ก็เคยมีดารา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีสถานะพิเศษต้องถูกดำเนินคดีและใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำให้เห็นกันมาแล้วอย่างกรณีคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ซึ่งพบว่ามีดาราอาศัยความมีชื่อเสียงของตัวเองในการชักชวนให้ประชาชนมาลงทุน . ทั้งนี้ ดังจะเห็นได้จากกรณีของพิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช พร้อมแม่และพี่ชายถูกฟ้องเป็นจำเลย ซึ่งปัจจุบันได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อมาต่อสู้คดี รวมไปถึงนายพัฒนพล มินทะขิน หรือดีเจแมน และ น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย อาร์สยาม โดยกรณีของรายหลังศาลได้มีการยกฟ้องคดีไปบางส่วนแล้ว แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ออกมาให้ข้อมูลว่าคดีที่ยกฟ้องนั้น เป็นคดีที่ประชาชนผู้เสียหายเกี่ยวกับแชร์ Forex-3D ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเองโดยตรงที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ดีเอสไอกำลังดำเนินการตรวจสอบ . หรือย้อนกลับไปกว่านั้น คือ กรณีของบริษัท เมจิกสกิน จำหน่ายอาหารเสริมที่ไม่มีคุณภาพและไม่ผ่านการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาเนื่องจากมีดาราจำนวนไม่น้อยรับงานรีวิวสินค้า จนถูกหมายเรียกและบางรายต้องต่อสู้คดีในชั้นศาล เช่น น.ส.รัชวิน วงศ์วิริยะ หรือ ก้อย และ นายกนกฉัตร มรรยาทอ่อน หรือ ไต้ฝุ่น หนึ่งในกลุ่มดาราที่รับรีวิวเมจิกสกิน ศาลได้พิพากษาให้ความผิดแต่ให้รอลงอาญา ขณะที่ กลุ่มผู้บริหารผลิตภัณฑ์ของบริษัท เมจิกสกิน ศาลก็ได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุก 20 ปี แต่เนื่องจากจำเลยมีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการพยายามเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ทำให้ศาลรอลงอาญาโทษจำคุก . อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะนำกรณีของเมจิกสกินกับดิ ไอคอน มาเปรียบเทียบกันเพื่อสรุปว่ากรณีของ The Icon จะมีบทสรุปลงเอยเหมือนกับคดีเมจิกสกิน เนื่องจากเหล่าดาราในกรณีของเมจิกสกินนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเพียงพรีเซนเตอร์เท่านั้น . ผิดกับกรณี The Icon ที่ได้ประกาศตัวเองว่าเป็น 'บอส' ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการดึงดูดให้ประชาชนมาร่วมลงทุน ดังนั้น การจะมาอ้างว่าการเป็นบอสเป็นอีกร่างอวตารหนึ่งของพรีเซ็นเตอร์นั้นดูจะเป็นการเอาสีข้างเข้าถูกจนเกินไป . เพราะฉะนั้น จากกรณีของThe Icon ที่เกิดขึ้นมานั้นยิ่งจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งที่ทำให้สถานะของวงการบันเทิงถูกสั่นคลอนในแง่ของความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก หลังจากที่ทุกวันนี้วงการบันเทิงไทยซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง และคนนินทาหมาดูถูก อย่างหนัก .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 646 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2024.04.13-15 📸 พิธีกรงานสงกรานต์ขอนแก่น 2024 เวทีแข่งขัน Cover Dance

    ความใฝ่ฝันที่ผมฝันมาตั้งแต่สมัยเรียน มันได้เกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว และนี่คือการเริ่มต้นการทำหน้าที่ในฐานะ "พิธีกร" อย่างเป็นทางการครั้งแรกในชีวิต แถมเป็นงานใหญ่ระดับจังหวัดด้วย เพราะนี่คืองานสงกรานต์ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น ในส่วนของเวทีสภาวัฒนธรรม ซึ่งผมรับผิดชอบในการดำเนินงานแข่งขันเต้น Cover Dance ตลอดทั้ง 3 วัน และแน่นอน ขึ้นชื่อว่าครั้งแรก ความผิดพลาดบนเวทีต้องมีอยู่แล้ว ผมเองก็รู้ตัวดี ทั้งตื่นเต้น พูดผิดไปบ้าง ขึ้นผิดคิวก็เกิดขึ้นแล้ว 555 แต่ผมก็สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ จนสามารถดำเนินงานได้อย่างลื่นไหลและสวยงามทั้ง 3 วัน
    นี่คือประสบการณ์ครั้งใหญ่ที่ผมได้รับ ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการเป็นพิธีกรในครั้งแรกนี้ ผมรู้สึกดีใจและสนุกสนานมาก เห็นทุกคนมีความสุขและสนุกไปกับผม ผมเองก็มีความสุขมากเช่นกันครับ
    และที่ขาดไม่ได้ ต้องขอขอบคุณ "ครูปริม สุจิตรา เขตสมุทร" Infinity dance studio Khonkaen รวมถึง พี่ ๆ น้อง ๆ และทีมงานทุกคน ที่ไว้ใจผมและให้โอกาสผมได้มาลองทำสิ่งใหม่ ๆ บนเวทีแห่งนี้ ผมน้อมรับทุกคำติชมจากทุกคน และจะนำไปปรับใช้ พัฒนาตัวเองให้เก่งยิ่งขึ้นต่อไป และเมื่อโอกาสครั้งต่อไปนั้นได้มาถึง ผมก็พร้อมทำอย่างเต็มที่เช่นกัน
    ขอบคุณคร้าบบบ 🙏😊
    MC.M-KK ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ววว🎉
    2024.04.13-15 📸 พิธีกรงานสงกรานต์ขอนแก่น 2024 เวทีแข่งขัน Cover Dance ความใฝ่ฝันที่ผมฝันมาตั้งแต่สมัยเรียน มันได้เกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว และนี่คือการเริ่มต้นการทำหน้าที่ในฐานะ "พิธีกร" อย่างเป็นทางการครั้งแรกในชีวิต แถมเป็นงานใหญ่ระดับจังหวัดด้วย เพราะนี่คืองานสงกรานต์ถนนข้าวเหนียว จ.ขอนแก่น ในส่วนของเวทีสภาวัฒนธรรม ซึ่งผมรับผิดชอบในการดำเนินงานแข่งขันเต้น Cover Dance ตลอดทั้ง 3 วัน และแน่นอน ขึ้นชื่อว่าครั้งแรก ความผิดพลาดบนเวทีต้องมีอยู่แล้ว ผมเองก็รู้ตัวดี ทั้งตื่นเต้น พูดผิดไปบ้าง ขึ้นผิดคิวก็เกิดขึ้นแล้ว 555 แต่ผมก็สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ จนสามารถดำเนินงานได้อย่างลื่นไหลและสวยงามทั้ง 3 วัน นี่คือประสบการณ์ครั้งใหญ่ที่ผมได้รับ ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจากการเป็นพิธีกรในครั้งแรกนี้ ผมรู้สึกดีใจและสนุกสนานมาก เห็นทุกคนมีความสุขและสนุกไปกับผม ผมเองก็มีความสุขมากเช่นกันครับ และที่ขาดไม่ได้ ต้องขอขอบคุณ "ครูปริม สุจิตรา เขตสมุทร" Infinity dance studio Khonkaen รวมถึง พี่ ๆ น้อง ๆ และทีมงานทุกคน ที่ไว้ใจผมและให้โอกาสผมได้มาลองทำสิ่งใหม่ ๆ บนเวทีแห่งนี้ ผมน้อมรับทุกคำติชมจากทุกคน และจะนำไปปรับใช้ พัฒนาตัวเองให้เก่งยิ่งขึ้นต่อไป และเมื่อโอกาสครั้งต่อไปนั้นได้มาถึง ผมก็พร้อมทำอย่างเต็มที่เช่นกัน ขอบคุณคร้าบบบ 🙏😊 MC.M-KK ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ววว🎉
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฐมบท..บอสพอล The Icon

    พอล..คือชื่อของเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นก็ค้าขายของที่บ้าน จนกระทั่งยุคที่ Facebook Ads เริ่มให้บริการ

    ตอนนั้นคนยังไม่สนใจการยิงแอด ค่าแอดในการทำโฆษณาเรียกว่าเอาคนได้ที่โหล่มาทำแอดก็ยังกำไร เพราะต้นทุนต่อค่าโฆษณาอยู่ที่คลิกละ 5 สตางค์

    หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินให้เกิดการคลิกเข้ามา 20 ครั้ง เสียเงินแค่ 1 บาท

    ดังนั้นถ้าใครอยู่ในยุคตื่นแอดช่วงแรกเรียกว่ากอบโกยชนิดที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน กันได้เลยจริงๆนั่นแหละ

    พ.ศ. 2556 คือยุคเริ่มต้นเมื่อ Facebook ประกาศให้มีการแสดงโฆษณาได้บนประเทศไทย

    พอล..จึงหัดยิงแอดออนไลน์ขายสินค้าของตัวเองจนชำนาญจึงเกิดเป็นพอลผู้ทำการตลาดออนไลน์เก่งมาก (ไม่เก่งได้ไงก็ค่าโฆษณามันยังถูกมาก)

    จะท้าวความให้อ่าน จะได้รู้ว่าทำไมพอลถึงเก่งและหัวใสแยบยลได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆแฟนเพจ นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเรื่องราวของเขากัน..

    ผู้ที่ปั้นพอลให้เก่งอย่างทุกวันนี้ เขามีชื่อว่าคุณ ธเนตรการกล่าวถึงคนนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำผิดบาปอะไรนะ เขาเป็นนักการตลาด MLM ที่เก่งที่สุดในไทยระดับต้นๆ

    คุณ ธเนตร ได้สมัครเข้าไปทำการตลาดกับ Jeunesse Global
    👉 https://www.facebook.com/JeunesseGlobal

    ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงทั่วๆไปเหมือนแอมเวย์ กิฟฟารีนซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่มันมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจ

    ก็คือการตลาดยุคนั้นมีกฎห้ามนำสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการตัดราคาและเลี่ยงการที่สมาชิกไม่ซื้อสินค้าผ่านบริษัทโดยตรง

    เรียกว่าใครโพสต์ขายหรือชวนคนออนไลน์ จะโดนตัดรหัสทิ้งทันทีเพราะเป็นการทำผิดกฏบริษัท

    แต่..มีนักการตลาดชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า Patric Chan
    👉 https://www.facebook.com/patricchanlive/

    ได้ไปดีลกับ Jeunesse ว่า จะขอพัฒนาระบบชวนคนออนไลน์ได้ไหม โดยให้เหตุผลว่า..จะสามารถทำสปอนเซอร์ข้ามประเทศได้ จะทำให้ Jeunesse มีสมาชิกทั่วโลกได้

    เช่น.เราทำอยู่ที่ไทย เราอาจจะมี Down line อยู่ที่เคนย่า ลาว ไต้หวัน ได้หมด นั่นเป็นไอเดียที่ Jeunesse ตอบตกลงให้ Patric Chan ทำได้

    จึงเกิดเป็นระบบชวนคนออนไลน์ ตอนนั้นแค่ชวนสมัครสมาชิกนะ การสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงสั่งผ่านหน้าเวบไซต์ Jeunesse อยู่ดีไม่มีอะไรซับซ้อน

    และคุณ ธเนตร ก็ได้ไปเรียนกับ Patric Chan ตอนที่เขามาเปิดสัมมนาที่ไทยในปี 2558
    👉 https://www.facebook.com/passivewealthTH/

    เมื่อคุณ ธเนตร ได้เรียนรู้ระบบชวนคนออนไลน์แล้วประจวบกับการที่พอลมาสมัครเป็น Downline ของธเนตร ก็เหมือนจับเอาเสือสองตัวมาตีคู่กัน

    เกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล คนหนึ่งเก่งเรื่องสคริปต์ชวนคน คนหนึ่งเก่งเรื่องยิงแอด ทีนี้แหละความรวยจึงบังเกิด

    เกิดเป็นยอดขายพันล้านของ ธเนตร เกิดยอดขายร้อยล้านของพอล จนทั้งสองคนได้ไปออกรายการต่างๆ

    พอลได้ไปออกรายการตีสิบ จนได้นามสกุลมาต่อท้ายชื่อว่า“พอล ตีสิบ” ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้นระหว่างที่เขายังคงทำ Jeunesse

    และตลอดเวลา พอลก็ได้เรียนรู้กลยุทธการทำการตลาดแบบ MLM จากธเนตร จนแตกฉานยิ่งกว่าจบเปรียญธรรม 9 ประโยค

    เมื่อพอลรู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็กางปีกโบยบินแยกตัวออกมาจาก ธเนตร มาตั้งบริษัท และทำแบรนด์ชื่อว่า“ The Icon“

    ---------

    โดยช่วงแรกทำสินค้าพวกกาแฟ และ คอลลาเจน เพราะสองอย่างนี้พอลศึกษาแล้วว่าจะทำการตลาดชวนคนได้ง่าย เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย

    โดยพอลได้วางระบบชวนคนไว้โดยให้ผลตอบแทนเป็นการ "เที่ยวฟรี" และทำโปรโมชั่นเปิดบิลสมัครสมาชิก "เที่ยวฟรี"

    โดยจัดการเที่ยวเน้นไปที่ทะเล พัทยา เพราะดีลค่าโรงแรมได้ถูก พอลฉลาดโดยไม่ได้ดีลโรงแรมห้าดาวอะไร เน้นโรงแรม 3 ดาวก็พอแล้ว โดยมีการจองห้องประชุมไว้ทำสัมมนา

    -----------

    ลูกค้าของพอล..

    ช่วงแรกเขามุ่งเน้นไปที่คนอยากเที่ยวและอยากมีเพื่อนฝูงไปด้วย นั่นก็คือ คนที่เกษียณแล้ว หรือคนแก่นั่นเอง

    เค้ารู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายนี้แหละจะผลักดันให้บริษัทเขาอยู่รอดได้ในช่วงแรก ด้วยการจัดทัวร์เที่ยวกินฟรี (ค่าเดินทางออกเอง)

    โดยการเปิดบิลซื้อสินค้า ช่วงแรกจะมีระดับไม่เยอะ จะมีแบบเปิดคนเดียว เที่ยวคนเดียว และเปิดมากหน่อย ชวนเพื่อนมาเที่ยวได้ฟรี 1 คน 2 คน 3 คน ไล่ไปเรื่อยๆ

    และด้วยหลักการนี้เอง คนแก่จึงตอบรับข้อเสนอของเขาง่าย เพราะนอกจากจะได้สินค้ามากินและใช้แล้วก็ยังได้เที่ยวฟรี

    และคนแก่ส่วนมากมักจะไม่อยากไปเที่ยวคนเดียว จึงเปิดบิลที่ชวนเพื่อนได้ 2 คนขึ้นไป และก็เป็นการชวนเพื่อนมาเที่ยวฟรี

    การเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็คือชวนเพื่อนไปเที่ยวทะเล หลังกินอาหารเช้าแล้ว วันถัดมาก็จะเป็น Event กลางคืน ได้พบกับคนดังที่ออก TV

    นั่นคือบอสพอล ตีสิบ โดยพอลจะมาหลังจากทุกคนถึงแล้ว 1 วันเสมอ เพื่อมาปรากฎตัวบนเวที แล้วก็จะขอบคุณสมาชิกทุกคนที่มาเที่ยว

    รวมไปถึงชักชวนให้คนที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสามารถชวนเพื่อนในทริปหน้ากันได้อีก

    โดยคนชวนก็ไม่ใช่ใคร ก็ใช้เพื่อนชวนเพื่อนมันก็ง่ายสิ่คนแก่ขี้เหงายังไงก็ดีกว่ารอลูกหลานพาเที่ยว ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกกว่า

    ทำให้การเปิดบิลซ้ำ การเปิดบิลใหม่ จึงเกิดขึ้นตามแผนการตลาดอันแยบยลของพอลและด้วยวิธีนี้ทำให้ปีแรก บริษัทของพอลมีกำไรเติบโตทันที

    พอล..เริ่มซื้อรถ Super Car ก่อนเลยเพื่อเริ่มเข้าสู่“โหมดความรวย”เพื่อวางแผนกระเถิ่บไปหาลูกค้าที่มีความฝัน..อยากรวยตามแบบคนอื่น

    พอล..เปลี่ยนการตลาดจากคนแก่ มาเจาะคนที่อยากเกษียณก่อนกำหนด คือ เป้าหมายพวกอายุ 35 ขึ้นไปที่ฝันอยากมีรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม..เหมือนคนอื่น

    คนเรามีความฝันนั้นดี “แต่ต้องไม่ลืมนึกถึงความจริง”ที่ว่า บางครั้งความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นความจริง

    พอล..ใช้คอร์สสอนออนไลน์สอนการทำตลาดขายของซึ่งยุคนั้นค่าโฆษณายังไม่แพง แต่ก็เริ่มขยับจากระดับ 10 สตางค์ มาเป็นคลิกละ 50 สตางค์แล้ว แต่มันก็ยังได้ผลอยู่

    เพราะจ่ายค่าโฆษณาไป 1,000 บาท ก็สามารถชวนคนได้ถึง 2000 คลิก ตีไปว่าสนใจ 1% ก็ยังมีคนทักมา 20 คน คอร์สก็เป็นการเตรียม Material ต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

    แค่ทุกคนแบกโน้ตบุ๊กของตัวเองมาก็สามารถตั้งโฆษณาได้เลย ทุกคนจะตั้งโฆษณาขายสินค้าและชวนคนเข้าทีม ซึ่งตั้งไว้ที่ 89 บาท

    89 บาท นั่นคือค่าเฉลี่ยที่พอลคำนวณแล้วว่าใช้เทคนิค OPM (Other People Money) แบบนี้ตัวเองก็ไม่ต้องยิงแอดเองแล้ว (จากเดิมตอนชวนคนแก่ต้องยิงแอดเอง และสอนทีมงาน)

    มาคราวนี้พอลได้พัฒนา ระบบการสอน เริ่มมีการตั้งแม่ทีมเพื่อศึกษาวิธีการสอนให้เป็นครู โดยทุกคนก็เอา 89 บาทค่าเรียน ใส่เข้าไปในโฆษณานั่นแหละ

    เท่ากับพอลก็จะได้ Facebook Ads Account มหาศาลโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียเวลาสมัครและไม่ต้องกลัวโดนแบนโฆษณาเพราะถึงโดนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องเหนื่อยลงไปควบคุมเองแล้ว

    ด้วยแผนการตลาดแบบใหม่ ทำให้พอลเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายพุ่งไปหลายร้อยล้านทันที เพราะมีการวางเกมเรื่องเปิดบิลไว้แล้ว อย่างที่เห็นในข่าว

    คนมาอย่างน้อยก็ต้องเสียค่าสมัคร member หลัก 2-5 พัน และถ้าแม่ทีมเก่งก็จะต้อนให้ไปเปิดบิลดีลเลอร์ได้เลย 250,000 เพื่อให้เที่ยวฟรีได้เกือบ 10 ครั้ง แถมยังได้โควต้าชวนคนมาเที่ยวด้วย

    เรียกว่าอัดโปรโมชั่นกันแบบจุกๆ เพื่อทำให้คนได้เห็นว่ามาเรียนที่นี่นอกจากจะขายได้แล้ว ยังได้เที่ยวด้วย ทำให้เกิดกระแสบูมไปที่ The Icon

    และด้วยการที่พอลศึกษาข้อกฏหมายกับทนายส่วนตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงได้ความรู้จากอาจารย์ตัวเองมา เขาจึงเลี่ยงวลี..ไม่ได้ทำ MLM

    เพราะรู้ว่าถ้าชวนทำ MLM คนจะไม่มา เขาจึงเรียกระบบของบริษัทตัวเองว่าระบบตัวแทน เพื่อให้คนไม่รู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ

    และพอลได้ขออนุญาตการทำการตลาด ที่เรียกว่าตลาดขายตรง ไว้แล้ว บริษัทจึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่มีความผิด และด้วยเทคนิคนี้ทำให้พอล ก้าวเข้าสู่ยอดขายหลายร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย
    ---------

    ยุคทองของ..บอสพอล The Icon

    เมื่อโควิดหมดไปประเทศเปิด คนก็เริ่มหางานทำ นั่นจึงเกิดเป็นยอดขาย 4,949,496,994 มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาทเศษ ในปี 2564 นั่นเอง

    เพราะคนแห่มาทำออนไลน์กันเนื่องจากยังคงกลัวโควิดอยู่แต่ก็ต้องทำมาหากินแล้ว ทีนี้ก็แบกตัวเองมาเรียนเพราะอยากมีอาชีพมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว

    แต่..พอมาเรียนแล้วได้เจอกับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจอคนขับรถสปอร์ต ใส่แบรนด์เนม ความคิดที่อยากจะมีอาชีพที่มีแค่รายได้มาจุนเจือครอบครัวมันเปลี่ยนไป

    เริ่มมีความฝัน อยากสำเร็จ อยากรวย เพราะเห็นจากภาพความสำเร็จของระบบที่พอลได้ออกแบบเอาไว้

    The Icon บูมสุดๆก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลเข้ามาเรียนมากขึ้น ชวนกันมากขึ้น เปิดบิลกันมากขึ้น เที่ยวกันให้สะใจ ทีมงานบอสพอลโพสต์ภาพการกินเที่ยวเต็มโซเชียล

    ภาพถ่ายเหล่านั้นมันดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนจริงๆ ดึงดูดคนให้เข้าเรียนเพิ่มขึ้น

    แต่พอคนมาเยอะ มันก็ตรงกับหลัก Supply/Demand เมื่อคนขายมากกว่าคนซื้อและทุกคนแห่กันไปโฆษณาบน Facebook ความฉิบหายจึงบังเกิด

    ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูดเพราะทุกคนก็ต้องการ Placement บน Platform ไม่ว่าจะจุดไหนก็จะ Bid ราคากันแบบ Auto

    ทีนี้ AI ของ Facebook ก็ลากราคาต่อคลิกไปสูงถึง 10 บาท ทีนี้เริ่มไม่มีกำไรละ หลายคนเริ่มเจ๊ง หลายคนสต็อกเริ่มล้น..สินค้าติดมือ

    หลายคนเริ่มสู้กับค่าโฆษณาไม่ไหว เพราะยิงแอดไปซ้ำกับคนเดิม ระบบชวนคนทุกบริษัทมันมีข้อเสียตรงนี้แหละคือทำไปสักพักจะมีรหัสซ้ำ

    คำว่ารหัสซ้ำ แปลง่ายๆก็คือทักไปหาคนที่เป็นสมาชิกของ The Icon อยู่แล้ว ดังนั้นการชวนคนจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม

    เริ่มเจอหน้าซ้ำ เริ่มเจอคนระดับรากหญ้า เป็นแม่ค้าผักบ้างล่ะ เป็น รปภ.บ้างล่ะ ทำให้ยอดขายปีถัดมาตกลงเหลือ 3 พันกว่าล้าน

    พอล..ต้องการต่ออายุธุรกิจของตัวเองให้เดินหน้าต่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าจึงเริ่มหา #ลมใต้ปีก มาช่วยพยุงธุรกิจ

    และรู้ๆกันอยู่ว่าลมใต้ปีกชั้นดีก็คือ..ดารา

    และดาราคนแรกๆเลยก็คือ กันต์ ซึ่งแรกๆกันต์ไม่ได้เข้ามาในฐานะพรีเซ็นเตอร์อีกตางหาก ลองไปสืบค้นกันเอาเองว่าตอนแรกเข้ามาในฐานะอะไร

    กันต์ เข้ามาก่อนแต่มายืนถือสินค้าชิ้นแรกหลังพวกดาราคนอื่น เพราะเพื่อส่งเสริมให้บริษัทมันดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น พอลจึงแต่งตั้งกันต์ให้เป็น CMO ซะเลย

    เพราะจะได้การันตีว่าบริษัทฉันน่ะมันสะอาดโปร่งใสนะฉันไม่โกงหรอก เห็นไหมว่า..พิธีกรระดับประเทศยังมาทำงานร่วมกับฉันเลย

    กันต์ และดาราอีกขโยงหนึ่งทำให้ใครๆก็เชื่อมั่นใน The Icon ชวนเปิดบิลหลักแสนก็ใจอ่อนไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมีดาราการันตรี มีดาราพารวย

    แน่นอนว่าช่วงนี้ค่าโฆษณาแพงแล้วนะ แต่มีดารามาการันตี แล้วกำไรมีไหม ก็มีระดับปริ่มๆ แต่บางคนก็เริ่มเจ๊งตั้งแต่เริ่มทำ
    -----------

    ดังที่กล่าวมาข้างบน👆จะเห็นได้ว่าไม่มีเหลี่ยมไหนที่จะตั้งข้อกล่าวหาให้เอาผิดพอลในชั้นศาลในฐานแชร์ลูกโซ่ได้เลย

    จะตั้งข้อกล่าวหาพอลยังยากเพราะไปผิดทางไอ้ที่เย้วๆตั้งธงว่าแชร์ลูกโซ่นี่พอลยิ้มอ่อนเอามือลูบปากคิดในใจ..เสร็จกู

    เพราะเคสแบบนี้มันต้องเริ่มที่ สคบ.ก่อนเลย แต่ด้วยเหตุผลของกฎหมาย สคบ.ก็จะตีความว่า

    การขายสินค้าของพอล..“ไม่ได้ขายต่อไปยังมือผู้บริโภคโดยตรง แต่จำหน่ายไปที่ตัวแทน”และตัวแทนไม่ใช่ผู้บริโภค สคบ.จึงไม่มีอำนาจ“

    หรือเคยมีผู้บริโภคได้รับสินค้าจากมือบอสพอลโดยตรงบ้างไหมล่ะ.? ถ้าไม่มีก็ตรงตามที่ สคบ.ตีความเอาไว้นั่นแหละ

    จึงทำให้ทุกคนที่เคยร้องเรียนไปยัง สคบ.ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันหมดคือ สคบ.ทำอะไรไม่ได้

    เพราะพอลได้ศึกษาข้อกฏหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย

    ยกเว้นการการันตีว่าแอดต้องปัง #และสินค้ามีคุณภาพ ตรงจุดนี้คือกุญแจดอกเดียวที่จะไขเข้าไปถึงตัวพอลได้นั่นคือ..สินค้าไม่ตรงปรก

    พอล..เริ่มปรับแผนการตลาด ตั้งสำนักงานใหม่ที่รามอินทรา มีรถหรูจอดที่ด้านหน้าเพื่อให้คนมาถ่ายกับรถแล้วก็ไปโพสต์และยิงโฆษณาแทนตนเอง

    เริ่มให้คนสร้างภาพว่าทำแล้วรวย แทนที่จะกลายเป็นเที่ยว ไม่เอาแล้วล่ะ กูเน้นทำแล้วรวย แล้วก็คงคอนเซ็ปต์ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยากรวยต้องมาทำกับกูนี่มา ถถถ

    แต่เมื่อคนเริ่มตื่นรู้ ค่าโฆษณาแพง การจะชวนไปต่อในระดับลึกๆทำได้ยาก หลายคนจึงยอมเจ็บแค่นี้แล้วถอยออกมาหาเงินทางอื่นมาใช้หนีั

    ทำให้ปีถัดมา ยอดขายตกเหลือ พันแปดร้อยล้าน หายไปเกือบ 40% ทีนี้บอสพอลก็คงทำได้แค่ยื้อเวลาของธุรกิจตัวเองต่อไป

    โดยการจ้างดารามามากขึ้น ผลิตสินค้าออกมามากขึ้น เพื่อให้การเปิดบิลมัน rotate ไปยังสินค้า SKU ใหม่ๆ

    หลังจากนั้นจึงเป็นความวิบัติที่แท้..

    พอล..ไม่ได้ควบคุมทิศทางบริษัทตัวเองให้ดี รู้ทั้งรู้แต่ยังปล่อยให้ทำ ก็คือแม่ทีม เริ่มกลายร่างสถาปนาตัวเองเป็นโค้ช เก่งระดับประเทศกันทุกคน

    ทุกคนขับรถสปอร์ตกันหมดเลย แล้วรถของใครล่ะ.?

    ก็รถของบอสพอลแทบทุกคันเลยแหละ การตลาดมันจึงกลายเป็นการหลอกลวงผู้คนด้วยโพรไฟล์จอมปลอมทันที

    เพราะรถก็ไม่ใช่ของตัวเอง แต่มาโม้ว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อว่าทำธุรกิจร่วมกับ The Icon แล้วรวย

    บอสพอลก็ทราบดีเลยนะว่าทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง แต่พอลก็รู้ว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดอะไรขึ้นคนที่จะรับกรรมก็แม่ทีมไง ไม่ใช่ตัวเอง

    พอล..ก็หลับตาข้างเดียวปล่อยให้แม่ทีมทำไปตามอำเภอใจ จนมาถึงปัจจุบันที่ทุกคนโหวกเหวกโวยวายนั่นแหละ

    สิ่งที่ควรตระหนักคิด ตื่นให้รู้เอาไว้เลยคือ..

    การยิงแอดขายของออนไลน์มันตายไป 3 ปีแล้วคือหลังปี 2564 ไม่มีใครยิงแอดในระบบตัวแทนไม่ว่าบริษัทใหนแล้วอยู่รอดสักราย นี่คือความจริง

    ไม่ได้พูดถึงแค่ The Icon นะ เราขอพูดถึงทุกๆบริษัท ทุกๆสินค้าเลย เหตุผลก็คือค่าโฆษณามันแพงกว่า Margin ของกำไร

    ดังนั้นคนที่จะอยู่ได้คือ“เจ้าของสินค้าเท่านั้น” ผลิตเอง ยิงเอง โปรโมทเอง ถึงจะอยู่รอด ระบบตัวแทน ระบบออนไลน์มันตายไปตั้งแต่ปี 2564 แล้ว

    คนมันถึงหนีตายไปยิงแอด shopee , lazada กันไงล่ะ เพราะ Facebook มันอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วปีนี้ 2567 shopee , lazada ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว

    หลายคนจึงไปยิง Tiktok แล้วอีกไม่นานพวกคุณก็จะอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละเพราะมันจะลูปเดิม เหมือนกับ Platform อื่นๆ

    เพราะค่าโฆษณาบน Platform เมื่อแพงแล้วมันจะไม่มีวันลดลง นี่คือกฎแห่งการตลาดง่ายๆ คุณลองไปท่อง Supply/Demand ก็จบแล้ว

    แต่บอสพอลมันพยายามยืดชีวิตด้วยการ rotate บอสจำแลงที่จ้างดาราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ FC ทุกระดับทุกวัยยังคงกรี๊ดกับธุรกิจของบอสอยู่

    บอสพอล ถึงไปเลือกพี่โดมยุค 90 มาหาลูกค้าระดับแก่ เลือกมีน มาหาลูกค้าระดับ 30+ ทุกคนก็มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ

    พี่แซมก็เช่นกัน เป็นถึงดารานักการเมืองยังลงมาทำธุรกิจนี้เลย ความน่าเชื่อถือแบบนี้พอลซื้อและยื้อมันไปเรื่อยๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

    บริษัท the icon ใช้วิธีไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน แต่จ่ายเป็นทริปท่องเที่ยวแทน แล้วถ้าใครไม่อยากไปเที่ยว สามารถขายสิทธิ์ไปเที่ยว แลกเป็นเงินกลับไปได้

    จึงเลี่ยงการจ่ายค่าคอมไปได้เยอะ เพราะไปฟันกำไรตอนจัดทริปทัวร์ปุ๊บปั๊บอีก เรียกว่าไปปารีสแต่ได้นั่งรถโฉบหอไอเฟล หรือได้พักตากอากาศที่โรงแรมสามสี่ดาว

    อย่างน้อยก็ได้เที่ยวโว๊ยยยยยยย ส่วนสินค้าขายไม่ออกแกะแดกแม่งให้หมด อส. ถถถ

    สินค้าที่บอกว่าสต็อกไว้ในโกดัง 100% น่ะ เวลาพวกคุณไปเบิกจริงๆ จะเบิกไม่ได้ 100% นะ เพราะมันจะเป็น Dropship

    คือต้องขายได้ บริษัทถึงจะส่งให้ ไม่เน้นให้เบิกกลับไปเก็บที่บ้าน เพราะเปิดบิลดีลเลอร์ต้องรอรอบผลิตของ 2 เดือนเป็นต้นไป

    กว่าจะได้ของครบต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเข้า ธุรกิจนี้ไ่ม่มีใครโง่ผลิตของมากองไว้ให้หมดอายุหรอก ได้ออเดอร์ค่อยสั่งผลิต

    มันเลยมีช่องว่างให้บอสพอลเอาเงินไปหมุนได้ ได้ข่าวแว่วๆว่าบอสพอลเอาเงินไปลงเทรดด้วย กำไรอู้ฟู่ รวยคนเดียวอีกตามเคย
    ----------

    ดังนั้นบทสรุปของธุรกิจ The Icon เราจะขอบอกให้ชื่นใจดังนี้

    1. พอลคนเดียวที่รวยและรอด เพราะว่าพอลส่งภาษีเที่ยงตรง 100% เป็นลูกรักสรรพากรเลยแหละ นั่นเพราะพอลเรียนรู้จากคุณ ธเนตร ว่าเรื่องนี้ห้่ามพลาด สรรพากรไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะพอลนะ

    2. คอร์สขายออนไลน์เรียนราคาถูก ไม่มีอยู่จริง เพราะสุดท้ายพวกคุณจะโดน up sale จะไปเรียนคอร์สระดับ Advance ต้องเป็น Member จะร่ำรวยเงินล้านต้องทุ่ม Dealer

    3. โฆษณาของทุกคนปังหมด เพราะมันมีแม่ทีมที่มี Facebook Account อวตารคอยไปคอมเมนต์สั่งซื้อ แต่มีการซื้อจริงไม่ถีง 20%

    เพราะตอนการันตี การันตีว่าแอดจะปัง แต่คุณปิดการขายไม่ได้เพราะคุณสนทนาขายให้กับแอคผี มันจะไปมียอดซื้อได้ไง พอคุณปิดไม่ได้ทีนี้ความซวยก็เกิดที่ตัวคุณเอง

    พวก Downline ทั้งหลายก็รับกรรมไป หลายคนโดนหลอกว่าจะทำทั้งทีต้องทำแบบ 7-11 เปิดแม่งหลายสาขาเลย ลงเป็นล้านไรงี้

    4. ไม่อยากตุยอย่าเข้าไปทำ หนีได้หนีไป หนีให้สุดชีวิต เพราะมันคือยุคบรรลัยของธุรกิจ The I con ที่ตัวพอลเองเห็นอยู่แท้ๆว่ามันบรรลัย

    ที่ยังหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเป็นดั่งระเบิดเวลาที่มันใกล้จะระเบิดแล้ว ก็เพราะความมั่นใจอย่างเดียวเลยที่พอลคิดในใจก็คือ "กูจะไม่โดนคดีอะไรเลย กูขาวสะอาด"

    ทีนี้พวกคุณเข้าใจหรือยังว่าการจะไปด่าพอลมันก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะมันดูใสสะอาด ขาวจั๊วะเลยแหละยิ่งกว่าบรีส จะเห็นแต่แม่ทีมนั่นแหละที่เป็นคนผิด

    ดังนั้นบทจบของละครเรื่องนี้ก็จะไปลงกับแม่ทีมทั้งหลายที่ออกมาเซฟบอสพอลกันให้ลึ่ม ถ้าเรารู้จักจะถามว่า..มึงเซฟตัวเองก่อนไหม มึงไปเซฟ Downline มึงโน่น🤣 อส.

    น้ำกำลังจะท่วมถีงหลังคาบริษัทแล้ว แม่ทีมกำลังอลหม่าน แต่บอสพอลแม่งนอนดูละครคุณธรรมชิลล์ๆ🤣

    เพราะพอลนั้นได้ต่อเรือโนอาร์เตรียมรับสถานการณ์รอไว้ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้ว ใสสะอาดจนกฏหมายยากที่จะเอื้อมถึง

    สุดท้าย..พอลกับวงศ์วานคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเรือโนอาร์รอดตุยจากการถูกน้ำท่วม รอให้น้ำลดก็กลับมาในฐานะคนที่กฏหมายเอื้อมไม่ถีง

    ว่างๆจะเขียนลงลึกให้อ่านว่าทำไมกฏหมายถีงจะเอื้อมไปไม่ถึงบอสพอล เดี๋ยวคอยดูดาราที่เคยไปร่วมวงต่างก็จะออกมายืนยันว่าบริษัทถูกกฏหมาย 100%

    ซึ่งมันก็เป็นความจริงนะ แต่มันเป็นความจริงตามที่กฏหมายตราเอาไว้ว่าทำแบบพอลนั้นไม่ผิด แต่ทางธรรมพอลจะผิดในผิดซ้อนผิดเจตนาทำผิด..ไม่งงนะ.?

    นี่แค่บริษัทแรกนะ ยังมีต่อคิวอีก 4 บริษัท ที่อ่านเรื่องราวแล้วพวกคุณจะอึ้งและมันส์ยิ่งกว่าซีรีย์ เสียอีก

    #พี่ติ่งกระบือบิน ก็อย่าขึ้นทัวร์มาเซฟบอสพอลที่นี่นะครับนะ ผมนี่เขียนช่วยยืนยันเลยนะว่าบอสพอลจะรอดคุก..โอเค๊

    ep.1
    👉 https://www.facebook.com/share/p/YgaYdxzS5FirmYa2/?mibextid=WC7FNe

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน

    ปฐมบท..บอสพอล The Icon พอล..คือชื่อของเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นก็ค้าขายของที่บ้าน จนกระทั่งยุคที่ Facebook Ads เริ่มให้บริการ ตอนนั้นคนยังไม่สนใจการยิงแอด ค่าแอดในการทำโฆษณาเรียกว่าเอาคนได้ที่โหล่มาทำแอดก็ยังกำไร เพราะต้นทุนต่อค่าโฆษณาอยู่ที่คลิกละ 5 สตางค์ หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินให้เกิดการคลิกเข้ามา 20 ครั้ง เสียเงินแค่ 1 บาท ดังนั้นถ้าใครอยู่ในยุคตื่นแอดช่วงแรกเรียกว่ากอบโกยชนิดที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน กันได้เลยจริงๆนั่นแหละ พ.ศ. 2556 คือยุคเริ่มต้นเมื่อ Facebook ประกาศให้มีการแสดงโฆษณาได้บนประเทศไทย พอล..จึงหัดยิงแอดออนไลน์ขายสินค้าของตัวเองจนชำนาญจึงเกิดเป็นพอลผู้ทำการตลาดออนไลน์เก่งมาก (ไม่เก่งได้ไงก็ค่าโฆษณามันยังถูกมาก) จะท้าวความให้อ่าน จะได้รู้ว่าทำไมพอลถึงเก่งและหัวใสแยบยลได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆแฟนเพจ นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเรื่องราวของเขากัน.. ผู้ที่ปั้นพอลให้เก่งอย่างทุกวันนี้ เขามีชื่อว่าคุณ ธเนตรการกล่าวถึงคนนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำผิดบาปอะไรนะ เขาเป็นนักการตลาด MLM ที่เก่งที่สุดในไทยระดับต้นๆ คุณ ธเนตร ได้สมัครเข้าไปทำการตลาดกับ Jeunesse Global 👉 https://www.facebook.com/JeunesseGlobal ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงทั่วๆไปเหมือนแอมเวย์ กิฟฟารีนซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่มันมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือการตลาดยุคนั้นมีกฎห้ามนำสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการตัดราคาและเลี่ยงการที่สมาชิกไม่ซื้อสินค้าผ่านบริษัทโดยตรง เรียกว่าใครโพสต์ขายหรือชวนคนออนไลน์ จะโดนตัดรหัสทิ้งทันทีเพราะเป็นการทำผิดกฏบริษัท แต่..มีนักการตลาดชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า Patric Chan 👉 https://www.facebook.com/patricchanlive/ ได้ไปดีลกับ Jeunesse ว่า จะขอพัฒนาระบบชวนคนออนไลน์ได้ไหม โดยให้เหตุผลว่า..จะสามารถทำสปอนเซอร์ข้ามประเทศได้ จะทำให้ Jeunesse มีสมาชิกทั่วโลกได้ เช่น.เราทำอยู่ที่ไทย เราอาจจะมี Down line อยู่ที่เคนย่า ลาว ไต้หวัน ได้หมด นั่นเป็นไอเดียที่ Jeunesse ตอบตกลงให้ Patric Chan ทำได้ จึงเกิดเป็นระบบชวนคนออนไลน์ ตอนนั้นแค่ชวนสมัครสมาชิกนะ การสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงสั่งผ่านหน้าเวบไซต์ Jeunesse อยู่ดีไม่มีอะไรซับซ้อน และคุณ ธเนตร ก็ได้ไปเรียนกับ Patric Chan ตอนที่เขามาเปิดสัมมนาที่ไทยในปี 2558 👉 https://www.facebook.com/passivewealthTH/ เมื่อคุณ ธเนตร ได้เรียนรู้ระบบชวนคนออนไลน์แล้วประจวบกับการที่พอลมาสมัครเป็น Downline ของธเนตร ก็เหมือนจับเอาเสือสองตัวมาตีคู่กัน เกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล คนหนึ่งเก่งเรื่องสคริปต์ชวนคน คนหนึ่งเก่งเรื่องยิงแอด ทีนี้แหละความรวยจึงบังเกิด เกิดเป็นยอดขายพันล้านของ ธเนตร เกิดยอดขายร้อยล้านของพอล จนทั้งสองคนได้ไปออกรายการต่างๆ พอลได้ไปออกรายการตีสิบ จนได้นามสกุลมาต่อท้ายชื่อว่า“พอล ตีสิบ” ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้นระหว่างที่เขายังคงทำ Jeunesse และตลอดเวลา พอลก็ได้เรียนรู้กลยุทธการทำการตลาดแบบ MLM จากธเนตร จนแตกฉานยิ่งกว่าจบเปรียญธรรม 9 ประโยค เมื่อพอลรู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็กางปีกโบยบินแยกตัวออกมาจาก ธเนตร มาตั้งบริษัท และทำแบรนด์ชื่อว่า“ The Icon“ --------- โดยช่วงแรกทำสินค้าพวกกาแฟ และ คอลลาเจน เพราะสองอย่างนี้พอลศึกษาแล้วว่าจะทำการตลาดชวนคนได้ง่าย เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย โดยพอลได้วางระบบชวนคนไว้โดยให้ผลตอบแทนเป็นการ "เที่ยวฟรี" และทำโปรโมชั่นเปิดบิลสมัครสมาชิก "เที่ยวฟรี" โดยจัดการเที่ยวเน้นไปที่ทะเล พัทยา เพราะดีลค่าโรงแรมได้ถูก พอลฉลาดโดยไม่ได้ดีลโรงแรมห้าดาวอะไร เน้นโรงแรม 3 ดาวก็พอแล้ว โดยมีการจองห้องประชุมไว้ทำสัมมนา ----------- ลูกค้าของพอล.. ช่วงแรกเขามุ่งเน้นไปที่คนอยากเที่ยวและอยากมีเพื่อนฝูงไปด้วย นั่นก็คือ คนที่เกษียณแล้ว หรือคนแก่นั่นเอง เค้ารู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายนี้แหละจะผลักดันให้บริษัทเขาอยู่รอดได้ในช่วงแรก ด้วยการจัดทัวร์เที่ยวกินฟรี (ค่าเดินทางออกเอง) โดยการเปิดบิลซื้อสินค้า ช่วงแรกจะมีระดับไม่เยอะ จะมีแบบเปิดคนเดียว เที่ยวคนเดียว และเปิดมากหน่อย ชวนเพื่อนมาเที่ยวได้ฟรี 1 คน 2 คน 3 คน ไล่ไปเรื่อยๆ และด้วยหลักการนี้เอง คนแก่จึงตอบรับข้อเสนอของเขาง่าย เพราะนอกจากจะได้สินค้ามากินและใช้แล้วก็ยังได้เที่ยวฟรี และคนแก่ส่วนมากมักจะไม่อยากไปเที่ยวคนเดียว จึงเปิดบิลที่ชวนเพื่อนได้ 2 คนขึ้นไป และก็เป็นการชวนเพื่อนมาเที่ยวฟรี การเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็คือชวนเพื่อนไปเที่ยวทะเล หลังกินอาหารเช้าแล้ว วันถัดมาก็จะเป็น Event กลางคืน ได้พบกับคนดังที่ออก TV นั่นคือบอสพอล ตีสิบ โดยพอลจะมาหลังจากทุกคนถึงแล้ว 1 วันเสมอ เพื่อมาปรากฎตัวบนเวที แล้วก็จะขอบคุณสมาชิกทุกคนที่มาเที่ยว รวมไปถึงชักชวนให้คนที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสามารถชวนเพื่อนในทริปหน้ากันได้อีก โดยคนชวนก็ไม่ใช่ใคร ก็ใช้เพื่อนชวนเพื่อนมันก็ง่ายสิ่คนแก่ขี้เหงายังไงก็ดีกว่ารอลูกหลานพาเที่ยว ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกกว่า ทำให้การเปิดบิลซ้ำ การเปิดบิลใหม่ จึงเกิดขึ้นตามแผนการตลาดอันแยบยลของพอลและด้วยวิธีนี้ทำให้ปีแรก บริษัทของพอลมีกำไรเติบโตทันที พอล..เริ่มซื้อรถ Super Car ก่อนเลยเพื่อเริ่มเข้าสู่“โหมดความรวย”เพื่อวางแผนกระเถิ่บไปหาลูกค้าที่มีความฝัน..อยากรวยตามแบบคนอื่น พอล..เปลี่ยนการตลาดจากคนแก่ มาเจาะคนที่อยากเกษียณก่อนกำหนด คือ เป้าหมายพวกอายุ 35 ขึ้นไปที่ฝันอยากมีรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม..เหมือนคนอื่น คนเรามีความฝันนั้นดี “แต่ต้องไม่ลืมนึกถึงความจริง”ที่ว่า บางครั้งความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นความจริง พอล..ใช้คอร์สสอนออนไลน์สอนการทำตลาดขายของซึ่งยุคนั้นค่าโฆษณายังไม่แพง แต่ก็เริ่มขยับจากระดับ 10 สตางค์ มาเป็นคลิกละ 50 สตางค์แล้ว แต่มันก็ยังได้ผลอยู่ เพราะจ่ายค่าโฆษณาไป 1,000 บาท ก็สามารถชวนคนได้ถึง 2000 คลิก ตีไปว่าสนใจ 1% ก็ยังมีคนทักมา 20 คน คอร์สก็เป็นการเตรียม Material ต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แค่ทุกคนแบกโน้ตบุ๊กของตัวเองมาก็สามารถตั้งโฆษณาได้เลย ทุกคนจะตั้งโฆษณาขายสินค้าและชวนคนเข้าทีม ซึ่งตั้งไว้ที่ 89 บาท 89 บาท นั่นคือค่าเฉลี่ยที่พอลคำนวณแล้วว่าใช้เทคนิค OPM (Other People Money) แบบนี้ตัวเองก็ไม่ต้องยิงแอดเองแล้ว (จากเดิมตอนชวนคนแก่ต้องยิงแอดเอง และสอนทีมงาน) มาคราวนี้พอลได้พัฒนา ระบบการสอน เริ่มมีการตั้งแม่ทีมเพื่อศึกษาวิธีการสอนให้เป็นครู โดยทุกคนก็เอา 89 บาทค่าเรียน ใส่เข้าไปในโฆษณานั่นแหละ เท่ากับพอลก็จะได้ Facebook Ads Account มหาศาลโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียเวลาสมัครและไม่ต้องกลัวโดนแบนโฆษณาเพราะถึงโดนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องเหนื่อยลงไปควบคุมเองแล้ว ด้วยแผนการตลาดแบบใหม่ ทำให้พอลเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายพุ่งไปหลายร้อยล้านทันที เพราะมีการวางเกมเรื่องเปิดบิลไว้แล้ว อย่างที่เห็นในข่าว คนมาอย่างน้อยก็ต้องเสียค่าสมัคร member หลัก 2-5 พัน และถ้าแม่ทีมเก่งก็จะต้อนให้ไปเปิดบิลดีลเลอร์ได้เลย 250,000 เพื่อให้เที่ยวฟรีได้เกือบ 10 ครั้ง แถมยังได้โควต้าชวนคนมาเที่ยวด้วย เรียกว่าอัดโปรโมชั่นกันแบบจุกๆ เพื่อทำให้คนได้เห็นว่ามาเรียนที่นี่นอกจากจะขายได้แล้ว ยังได้เที่ยวด้วย ทำให้เกิดกระแสบูมไปที่ The Icon และด้วยการที่พอลศึกษาข้อกฏหมายกับทนายส่วนตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงได้ความรู้จากอาจารย์ตัวเองมา เขาจึงเลี่ยงวลี..ไม่ได้ทำ MLM เพราะรู้ว่าถ้าชวนทำ MLM คนจะไม่มา เขาจึงเรียกระบบของบริษัทตัวเองว่าระบบตัวแทน เพื่อให้คนไม่รู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ และพอลได้ขออนุญาตการทำการตลาด ที่เรียกว่าตลาดขายตรง ไว้แล้ว บริษัทจึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่มีความผิด และด้วยเทคนิคนี้ทำให้พอล ก้าวเข้าสู่ยอดขายหลายร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย --------- ยุคทองของ..บอสพอล The Icon เมื่อโควิดหมดไปประเทศเปิด คนก็เริ่มหางานทำ นั่นจึงเกิดเป็นยอดขาย 4,949,496,994 มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาทเศษ ในปี 2564 นั่นเอง เพราะคนแห่มาทำออนไลน์กันเนื่องจากยังคงกลัวโควิดอยู่แต่ก็ต้องทำมาหากินแล้ว ทีนี้ก็แบกตัวเองมาเรียนเพราะอยากมีอาชีพมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว แต่..พอมาเรียนแล้วได้เจอกับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจอคนขับรถสปอร์ต ใส่แบรนด์เนม ความคิดที่อยากจะมีอาชีพที่มีแค่รายได้มาจุนเจือครอบครัวมันเปลี่ยนไป เริ่มมีความฝัน อยากสำเร็จ อยากรวย เพราะเห็นจากภาพความสำเร็จของระบบที่พอลได้ออกแบบเอาไว้ The Icon บูมสุดๆก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลเข้ามาเรียนมากขึ้น ชวนกันมากขึ้น เปิดบิลกันมากขึ้น เที่ยวกันให้สะใจ ทีมงานบอสพอลโพสต์ภาพการกินเที่ยวเต็มโซเชียล ภาพถ่ายเหล่านั้นมันดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนจริงๆ ดึงดูดคนให้เข้าเรียนเพิ่มขึ้น แต่พอคนมาเยอะ มันก็ตรงกับหลัก Supply/Demand เมื่อคนขายมากกว่าคนซื้อและทุกคนแห่กันไปโฆษณาบน Facebook ความฉิบหายจึงบังเกิด ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูดเพราะทุกคนก็ต้องการ Placement บน Platform ไม่ว่าจะจุดไหนก็จะ Bid ราคากันแบบ Auto ทีนี้ AI ของ Facebook ก็ลากราคาต่อคลิกไปสูงถึง 10 บาท ทีนี้เริ่มไม่มีกำไรละ หลายคนเริ่มเจ๊ง หลายคนสต็อกเริ่มล้น..สินค้าติดมือ หลายคนเริ่มสู้กับค่าโฆษณาไม่ไหว เพราะยิงแอดไปซ้ำกับคนเดิม ระบบชวนคนทุกบริษัทมันมีข้อเสียตรงนี้แหละคือทำไปสักพักจะมีรหัสซ้ำ คำว่ารหัสซ้ำ แปลง่ายๆก็คือทักไปหาคนที่เป็นสมาชิกของ The Icon อยู่แล้ว ดังนั้นการชวนคนจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม เริ่มเจอหน้าซ้ำ เริ่มเจอคนระดับรากหญ้า เป็นแม่ค้าผักบ้างล่ะ เป็น รปภ.บ้างล่ะ ทำให้ยอดขายปีถัดมาตกลงเหลือ 3 พันกว่าล้าน พอล..ต้องการต่ออายุธุรกิจของตัวเองให้เดินหน้าต่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าจึงเริ่มหา #ลมใต้ปีก มาช่วยพยุงธุรกิจ และรู้ๆกันอยู่ว่าลมใต้ปีกชั้นดีก็คือ..ดารา และดาราคนแรกๆเลยก็คือ กันต์ ซึ่งแรกๆกันต์ไม่ได้เข้ามาในฐานะพรีเซ็นเตอร์อีกตางหาก ลองไปสืบค้นกันเอาเองว่าตอนแรกเข้ามาในฐานะอะไร กันต์ เข้ามาก่อนแต่มายืนถือสินค้าชิ้นแรกหลังพวกดาราคนอื่น เพราะเพื่อส่งเสริมให้บริษัทมันดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น พอลจึงแต่งตั้งกันต์ให้เป็น CMO ซะเลย เพราะจะได้การันตีว่าบริษัทฉันน่ะมันสะอาดโปร่งใสนะฉันไม่โกงหรอก เห็นไหมว่า..พิธีกรระดับประเทศยังมาทำงานร่วมกับฉันเลย กันต์ และดาราอีกขโยงหนึ่งทำให้ใครๆก็เชื่อมั่นใน The Icon ชวนเปิดบิลหลักแสนก็ใจอ่อนไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมีดาราการันตรี มีดาราพารวย แน่นอนว่าช่วงนี้ค่าโฆษณาแพงแล้วนะ แต่มีดารามาการันตี แล้วกำไรมีไหม ก็มีระดับปริ่มๆ แต่บางคนก็เริ่มเจ๊งตั้งแต่เริ่มทำ ----------- ดังที่กล่าวมาข้างบน👆จะเห็นได้ว่าไม่มีเหลี่ยมไหนที่จะตั้งข้อกล่าวหาให้เอาผิดพอลในชั้นศาลในฐานแชร์ลูกโซ่ได้เลย จะตั้งข้อกล่าวหาพอลยังยากเพราะไปผิดทางไอ้ที่เย้วๆตั้งธงว่าแชร์ลูกโซ่นี่พอลยิ้มอ่อนเอามือลูบปากคิดในใจ..เสร็จกู เพราะเคสแบบนี้มันต้องเริ่มที่ สคบ.ก่อนเลย แต่ด้วยเหตุผลของกฎหมาย สคบ.ก็จะตีความว่า การขายสินค้าของพอล..“ไม่ได้ขายต่อไปยังมือผู้บริโภคโดยตรง แต่จำหน่ายไปที่ตัวแทน”และตัวแทนไม่ใช่ผู้บริโภค สคบ.จึงไม่มีอำนาจ“ หรือเคยมีผู้บริโภคได้รับสินค้าจากมือบอสพอลโดยตรงบ้างไหมล่ะ.? ถ้าไม่มีก็ตรงตามที่ สคบ.ตีความเอาไว้นั่นแหละ จึงทำให้ทุกคนที่เคยร้องเรียนไปยัง สคบ.ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันหมดคือ สคบ.ทำอะไรไม่ได้ เพราะพอลได้ศึกษาข้อกฏหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ยกเว้นการการันตีว่าแอดต้องปัง #และสินค้ามีคุณภาพ ตรงจุดนี้คือกุญแจดอกเดียวที่จะไขเข้าไปถึงตัวพอลได้นั่นคือ..สินค้าไม่ตรงปรก พอล..เริ่มปรับแผนการตลาด ตั้งสำนักงานใหม่ที่รามอินทรา มีรถหรูจอดที่ด้านหน้าเพื่อให้คนมาถ่ายกับรถแล้วก็ไปโพสต์และยิงโฆษณาแทนตนเอง เริ่มให้คนสร้างภาพว่าทำแล้วรวย แทนที่จะกลายเป็นเที่ยว ไม่เอาแล้วล่ะ กูเน้นทำแล้วรวย แล้วก็คงคอนเซ็ปต์ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยากรวยต้องมาทำกับกูนี่มา ถถถ แต่เมื่อคนเริ่มตื่นรู้ ค่าโฆษณาแพง การจะชวนไปต่อในระดับลึกๆทำได้ยาก หลายคนจึงยอมเจ็บแค่นี้แล้วถอยออกมาหาเงินทางอื่นมาใช้หนีั ทำให้ปีถัดมา ยอดขายตกเหลือ พันแปดร้อยล้าน หายไปเกือบ 40% ทีนี้บอสพอลก็คงทำได้แค่ยื้อเวลาของธุรกิจตัวเองต่อไป โดยการจ้างดารามามากขึ้น ผลิตสินค้าออกมามากขึ้น เพื่อให้การเปิดบิลมัน rotate ไปยังสินค้า SKU ใหม่ๆ หลังจากนั้นจึงเป็นความวิบัติที่แท้.. พอล..ไม่ได้ควบคุมทิศทางบริษัทตัวเองให้ดี รู้ทั้งรู้แต่ยังปล่อยให้ทำ ก็คือแม่ทีม เริ่มกลายร่างสถาปนาตัวเองเป็นโค้ช เก่งระดับประเทศกันทุกคน ทุกคนขับรถสปอร์ตกันหมดเลย แล้วรถของใครล่ะ.? ก็รถของบอสพอลแทบทุกคันเลยแหละ การตลาดมันจึงกลายเป็นการหลอกลวงผู้คนด้วยโพรไฟล์จอมปลอมทันที เพราะรถก็ไม่ใช่ของตัวเอง แต่มาโม้ว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อว่าทำธุรกิจร่วมกับ The Icon แล้วรวย บอสพอลก็ทราบดีเลยนะว่าทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง แต่พอลก็รู้ว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดอะไรขึ้นคนที่จะรับกรรมก็แม่ทีมไง ไม่ใช่ตัวเอง พอล..ก็หลับตาข้างเดียวปล่อยให้แม่ทีมทำไปตามอำเภอใจ จนมาถึงปัจจุบันที่ทุกคนโหวกเหวกโวยวายนั่นแหละ สิ่งที่ควรตระหนักคิด ตื่นให้รู้เอาไว้เลยคือ.. การยิงแอดขายของออนไลน์มันตายไป 3 ปีแล้วคือหลังปี 2564 ไม่มีใครยิงแอดในระบบตัวแทนไม่ว่าบริษัทใหนแล้วอยู่รอดสักราย นี่คือความจริง ไม่ได้พูดถึงแค่ The Icon นะ เราขอพูดถึงทุกๆบริษัท ทุกๆสินค้าเลย เหตุผลก็คือค่าโฆษณามันแพงกว่า Margin ของกำไร ดังนั้นคนที่จะอยู่ได้คือ“เจ้าของสินค้าเท่านั้น” ผลิตเอง ยิงเอง โปรโมทเอง ถึงจะอยู่รอด ระบบตัวแทน ระบบออนไลน์มันตายไปตั้งแต่ปี 2564 แล้ว คนมันถึงหนีตายไปยิงแอด shopee , lazada กันไงล่ะ เพราะ Facebook มันอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วปีนี้ 2567 shopee , lazada ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว หลายคนจึงไปยิง Tiktok แล้วอีกไม่นานพวกคุณก็จะอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละเพราะมันจะลูปเดิม เหมือนกับ Platform อื่นๆ เพราะค่าโฆษณาบน Platform เมื่อแพงแล้วมันจะไม่มีวันลดลง นี่คือกฎแห่งการตลาดง่ายๆ คุณลองไปท่อง Supply/Demand ก็จบแล้ว แต่บอสพอลมันพยายามยืดชีวิตด้วยการ rotate บอสจำแลงที่จ้างดาราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ FC ทุกระดับทุกวัยยังคงกรี๊ดกับธุรกิจของบอสอยู่ บอสพอล ถึงไปเลือกพี่โดมยุค 90 มาหาลูกค้าระดับแก่ เลือกมีน มาหาลูกค้าระดับ 30+ ทุกคนก็มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ พี่แซมก็เช่นกัน เป็นถึงดารานักการเมืองยังลงมาทำธุรกิจนี้เลย ความน่าเชื่อถือแบบนี้พอลซื้อและยื้อมันไปเรื่อยๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บริษัท the icon ใช้วิธีไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน แต่จ่ายเป็นทริปท่องเที่ยวแทน แล้วถ้าใครไม่อยากไปเที่ยว สามารถขายสิทธิ์ไปเที่ยว แลกเป็นเงินกลับไปได้ จึงเลี่ยงการจ่ายค่าคอมไปได้เยอะ เพราะไปฟันกำไรตอนจัดทริปทัวร์ปุ๊บปั๊บอีก เรียกว่าไปปารีสแต่ได้นั่งรถโฉบหอไอเฟล หรือได้พักตากอากาศที่โรงแรมสามสี่ดาว อย่างน้อยก็ได้เที่ยวโว๊ยยยยยยย ส่วนสินค้าขายไม่ออกแกะแดกแม่งให้หมด อส. ถถถ สินค้าที่บอกว่าสต็อกไว้ในโกดัง 100% น่ะ เวลาพวกคุณไปเบิกจริงๆ จะเบิกไม่ได้ 100% นะ เพราะมันจะเป็น Dropship คือต้องขายได้ บริษัทถึงจะส่งให้ ไม่เน้นให้เบิกกลับไปเก็บที่บ้าน เพราะเปิดบิลดีลเลอร์ต้องรอรอบผลิตของ 2 เดือนเป็นต้นไป กว่าจะได้ของครบต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเข้า ธุรกิจนี้ไ่ม่มีใครโง่ผลิตของมากองไว้ให้หมดอายุหรอก ได้ออเดอร์ค่อยสั่งผลิต มันเลยมีช่องว่างให้บอสพอลเอาเงินไปหมุนได้ ได้ข่าวแว่วๆว่าบอสพอลเอาเงินไปลงเทรดด้วย กำไรอู้ฟู่ รวยคนเดียวอีกตามเคย ---------- ดังนั้นบทสรุปของธุรกิจ The Icon เราจะขอบอกให้ชื่นใจดังนี้ 1. พอลคนเดียวที่รวยและรอด เพราะว่าพอลส่งภาษีเที่ยงตรง 100% เป็นลูกรักสรรพากรเลยแหละ นั่นเพราะพอลเรียนรู้จากคุณ ธเนตร ว่าเรื่องนี้ห้่ามพลาด สรรพากรไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะพอลนะ 2. คอร์สขายออนไลน์เรียนราคาถูก ไม่มีอยู่จริง เพราะสุดท้ายพวกคุณจะโดน up sale จะไปเรียนคอร์สระดับ Advance ต้องเป็น Member จะร่ำรวยเงินล้านต้องทุ่ม Dealer 3. โฆษณาของทุกคนปังหมด เพราะมันมีแม่ทีมที่มี Facebook Account อวตารคอยไปคอมเมนต์สั่งซื้อ แต่มีการซื้อจริงไม่ถีง 20% เพราะตอนการันตี การันตีว่าแอดจะปัง แต่คุณปิดการขายไม่ได้เพราะคุณสนทนาขายให้กับแอคผี มันจะไปมียอดซื้อได้ไง พอคุณปิดไม่ได้ทีนี้ความซวยก็เกิดที่ตัวคุณเอง พวก Downline ทั้งหลายก็รับกรรมไป หลายคนโดนหลอกว่าจะทำทั้งทีต้องทำแบบ 7-11 เปิดแม่งหลายสาขาเลย ลงเป็นล้านไรงี้ 4. ไม่อยากตุยอย่าเข้าไปทำ หนีได้หนีไป หนีให้สุดชีวิต เพราะมันคือยุคบรรลัยของธุรกิจ The I con ที่ตัวพอลเองเห็นอยู่แท้ๆว่ามันบรรลัย ที่ยังหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเป็นดั่งระเบิดเวลาที่มันใกล้จะระเบิดแล้ว ก็เพราะความมั่นใจอย่างเดียวเลยที่พอลคิดในใจก็คือ "กูจะไม่โดนคดีอะไรเลย กูขาวสะอาด" ทีนี้พวกคุณเข้าใจหรือยังว่าการจะไปด่าพอลมันก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะมันดูใสสะอาด ขาวจั๊วะเลยแหละยิ่งกว่าบรีส จะเห็นแต่แม่ทีมนั่นแหละที่เป็นคนผิด ดังนั้นบทจบของละครเรื่องนี้ก็จะไปลงกับแม่ทีมทั้งหลายที่ออกมาเซฟบอสพอลกันให้ลึ่ม ถ้าเรารู้จักจะถามว่า..มึงเซฟตัวเองก่อนไหม มึงไปเซฟ Downline มึงโน่น🤣 อส. น้ำกำลังจะท่วมถีงหลังคาบริษัทแล้ว แม่ทีมกำลังอลหม่าน แต่บอสพอลแม่งนอนดูละครคุณธรรมชิลล์ๆ🤣 เพราะพอลนั้นได้ต่อเรือโนอาร์เตรียมรับสถานการณ์รอไว้ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้ว ใสสะอาดจนกฏหมายยากที่จะเอื้อมถึง สุดท้าย..พอลกับวงศ์วานคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเรือโนอาร์รอดตุยจากการถูกน้ำท่วม รอให้น้ำลดก็กลับมาในฐานะคนที่กฏหมายเอื้อมไม่ถีง ว่างๆจะเขียนลงลึกให้อ่านว่าทำไมกฏหมายถีงจะเอื้อมไปไม่ถึงบอสพอล เดี๋ยวคอยดูดาราที่เคยไปร่วมวงต่างก็จะออกมายืนยันว่าบริษัทถูกกฏหมาย 100% ซึ่งมันก็เป็นความจริงนะ แต่มันเป็นความจริงตามที่กฏหมายตราเอาไว้ว่าทำแบบพอลนั้นไม่ผิด แต่ทางธรรมพอลจะผิดในผิดซ้อนผิดเจตนาทำผิด..ไม่งงนะ.? นี่แค่บริษัทแรกนะ ยังมีต่อคิวอีก 4 บริษัท ที่อ่านเรื่องราวแล้วพวกคุณจะอึ้งและมันส์ยิ่งกว่าซีรีย์ เสียอีก #พี่ติ่งกระบือบิน ก็อย่าขึ้นทัวร์มาเซฟบอสพอลที่นี่นะครับนะ ผมนี่เขียนช่วยยืนยันเลยนะว่าบอสพอลจะรอดคุก..โอเค๊ ep.1 👉 https://www.facebook.com/share/p/YgaYdxzS5FirmYa2/?mibextid=WC7FNe สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11/10/67

    เจ้าสาวของผม“

    เจ้าบ่าวนั้นยืนรออยู่บนเวที แล้วพิธีกรของงานแต่งงานก็ประกาศขึ้น

    “ก่อนจะเปิดตัวเจ้าสาว ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเธอเป็นหนึ่งในลูกสาวแฝดสามของคุณแม่คุณพ่อ แล้วทั้งสามสาวก็มีใบหน้าเหมือนกันเหลือเกิน เจ้าสาวจึงขออนุญาตเล่นเกมสนุก ๆ กับเจ้าบ่าวสักหนึ่งเกม“

    เจ้าบ่าวได้ฟังจึงหันรีหันขวางค่าที่ไม่รู้ว่าจะมีการเล่นเกมอะไรบนเวทีกันด้วย

    “ฝาแฝดสามสาวจะแต่งชุดเจ้าสาวเหมือนกันออกมา“ พิธีกรกล่าวต่อ ”ทีนี้ คุณเจ้าบ่าวต้องเลือกให้ถูกว่าคนไหนคือเจ้าสาวของคุณเจ้าบ่าว“

    เสียงฮือฮาของแขกดังไปทั่วห้องจัดงาน
    “เจ้าสาวฝากมาบอกด้วยว่า ถ้าคุณเจ้าบ่าวรักฉันจริง ต้องเลือกอย่าให้ผิดตัวนะ” พิธีกรพูดเลียนแบบเสียงผู้หญิง แขกหลายคนหัวเราะขัน

    พูดจบ ดนตรีก็ดังขึ้น แล้วหญิงสาวสวยสามคนก็เดินออกมาในชุดเจ้าสาวสีขาวที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว ผู้คนส่งเสียงฮือฮา

    “เป็นผม ผมยอมแพ้ครับ อะไรจะเหมือนกันขนาดนี้“ พิธีกรพูดเย้า

    เจ้าบ่าวหน้านิ่วคิ้วขมวดมองไปที่สาวในชุดเจ้าสาวทั้งสามคน รอยไฝฝ้าที่เป็นจุดสังเกตที่เจ้าบ่าวเคยใช้มองแฝดสามคนนี้ก็ใช้ไม่ได้เสียแล้ว เพราะเธอทั้งสามแต่งหน้าลบจุดสังเกตนั้นไปหมด

    “เอาล่ะสิครับคุณเจ้าบ่าว จะหาเจอไหมครับเจ้าสาวของตัวเอง ถ้าหาไม่เจอก็ยกมือยอมแพ้แล้วก็เพิ่มสินสอดอีกสองเท่า ดีไหมครับ” พิธีกรเย้าต่อ ญาติ ๆ ของฝั่งเจ้าสาวตบมือถูกใจ

    “เพิ่มสินสอด ๆ ๆ ๆ” เสียงเชียร์เริ่มดังขึ้น แขกผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างหน้ายิ้มสนุกกับเกมนี้ไปด้วย หันหน้ามาชี้ทายกันว่าคนไหนคือเจ้าสาวตัวจริง

    ในที่สุดเจ้าบ่าวก็โบกมือให้ทุกคนหยุด เขาขอไมโครโฟนจากพิธีกร
    “ต่อให้แต่งตัวเหมือนกันอย่างไร ผมก็จำเจ้าสาวของผมได้ครับ“

    สาวสวยสามคนในชุดเจ้าสาวยิ้มขึ้นพร้อมกัน

    ”ผมรู้จักเจ้าสาวของผมดี ผมรู้ว่าเธอเป็นคนตื่นเต้นง่าย ยิ่งวันสำคัญที่สุดในชีวิตของเราสองคนวันนี้ ผมรู้ว่าเธอตื่นเต้นมากแค่ไหน“

    คนในห้องจัดงานเงียบฟังเจ้าบ่าว

    “เธอคงตื่นเต้นจนเธอทาลิปสติกมากเกินไป เพราะมันเลยเข้าไปโดนฟันของเธอจนมีสีเหมือนลิปสติกแล้ว“ เจ้าบ่าวยิ้มกว้าง

    จบคำพูด สองสาวในชุดเจ้าสาวก็รีบหันไปมองหน้าสาวอีกคนทันที และเจ้าสาวคนนั้นก็รีบยิงฟันให้อีกสองคนนั้นดู

    ไม่เลยไม่มีสีของลิปสติกเปรอะฟันเธอแต่อย่างใด
    “ผมรู้แล้วครับ ว่าเจ้าสาวของผมคนไหน” เจ้าบ่าวยิ้มกว้างกว่าเดิม

    พิธีกรหัวเราะลั่น แล้วก็ตบมือนำทุกคนชื่นชมความฉลาดเฉลียวของเจ้าบ่าว

    ความสุขอบอวลไปทั่วงาน


    Cr ประภาส ชลศรานนท์


    11/10/67 เจ้าสาวของผม“ เจ้าบ่าวนั้นยืนรออยู่บนเวที แล้วพิธีกรของงานแต่งงานก็ประกาศขึ้น “ก่อนจะเปิดตัวเจ้าสาว ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเธอเป็นหนึ่งในลูกสาวแฝดสามของคุณแม่คุณพ่อ แล้วทั้งสามสาวก็มีใบหน้าเหมือนกันเหลือเกิน เจ้าสาวจึงขออนุญาตเล่นเกมสนุก ๆ กับเจ้าบ่าวสักหนึ่งเกม“ เจ้าบ่าวได้ฟังจึงหันรีหันขวางค่าที่ไม่รู้ว่าจะมีการเล่นเกมอะไรบนเวทีกันด้วย “ฝาแฝดสามสาวจะแต่งชุดเจ้าสาวเหมือนกันออกมา“ พิธีกรกล่าวต่อ ”ทีนี้ คุณเจ้าบ่าวต้องเลือกให้ถูกว่าคนไหนคือเจ้าสาวของคุณเจ้าบ่าว“ เสียงฮือฮาของแขกดังไปทั่วห้องจัดงาน “เจ้าสาวฝากมาบอกด้วยว่า ถ้าคุณเจ้าบ่าวรักฉันจริง ต้องเลือกอย่าให้ผิดตัวนะ” พิธีกรพูดเลียนแบบเสียงผู้หญิง แขกหลายคนหัวเราะขัน พูดจบ ดนตรีก็ดังขึ้น แล้วหญิงสาวสวยสามคนก็เดินออกมาในชุดเจ้าสาวสีขาวที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว ผู้คนส่งเสียงฮือฮา “เป็นผม ผมยอมแพ้ครับ อะไรจะเหมือนกันขนาดนี้“ พิธีกรพูดเย้า เจ้าบ่าวหน้านิ่วคิ้วขมวดมองไปที่สาวในชุดเจ้าสาวทั้งสามคน รอยไฝฝ้าที่เป็นจุดสังเกตที่เจ้าบ่าวเคยใช้มองแฝดสามคนนี้ก็ใช้ไม่ได้เสียแล้ว เพราะเธอทั้งสามแต่งหน้าลบจุดสังเกตนั้นไปหมด “เอาล่ะสิครับคุณเจ้าบ่าว จะหาเจอไหมครับเจ้าสาวของตัวเอง ถ้าหาไม่เจอก็ยกมือยอมแพ้แล้วก็เพิ่มสินสอดอีกสองเท่า ดีไหมครับ” พิธีกรเย้าต่อ ญาติ ๆ ของฝั่งเจ้าสาวตบมือถูกใจ “เพิ่มสินสอด ๆ ๆ ๆ” เสียงเชียร์เริ่มดังขึ้น แขกผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างหน้ายิ้มสนุกกับเกมนี้ไปด้วย หันหน้ามาชี้ทายกันว่าคนไหนคือเจ้าสาวตัวจริง ในที่สุดเจ้าบ่าวก็โบกมือให้ทุกคนหยุด เขาขอไมโครโฟนจากพิธีกร “ต่อให้แต่งตัวเหมือนกันอย่างไร ผมก็จำเจ้าสาวของผมได้ครับ“ สาวสวยสามคนในชุดเจ้าสาวยิ้มขึ้นพร้อมกัน ”ผมรู้จักเจ้าสาวของผมดี ผมรู้ว่าเธอเป็นคนตื่นเต้นง่าย ยิ่งวันสำคัญที่สุดในชีวิตของเราสองคนวันนี้ ผมรู้ว่าเธอตื่นเต้นมากแค่ไหน“ คนในห้องจัดงานเงียบฟังเจ้าบ่าว “เธอคงตื่นเต้นจนเธอทาลิปสติกมากเกินไป เพราะมันเลยเข้าไปโดนฟันของเธอจนมีสีเหมือนลิปสติกแล้ว“ เจ้าบ่าวยิ้มกว้าง จบคำพูด สองสาวในชุดเจ้าสาวก็รีบหันไปมองหน้าสาวอีกคนทันที และเจ้าสาวคนนั้นก็รีบยิงฟันให้อีกสองคนนั้นดู ไม่เลยไม่มีสีของลิปสติกเปรอะฟันเธอแต่อย่างใด “ผมรู้แล้วครับ ว่าเจ้าสาวของผมคนไหน” เจ้าบ่าวยิ้มกว้างกว่าเดิม พิธีกรหัวเราะลั่น แล้วก็ตบมือนำทุกคนชื่นชมความฉลาดเฉลียวของเจ้าบ่าว ความสุขอบอวลไปทั่วงาน … Cr ประภาส ชลศรานนท์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • มรสุมดิไอคอนฯ เอาผิดยากแต่แบรนด์พัง

    การออกมาเปิดประเด็นบริษัทธุรกิจขายตรงของนายกรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง ชัดเจนว่าเป็น บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ซึ่งมีนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทำให้มีผู้เสียหายที่เคยร่วมทำธุรกิจรวมตัวกันไปแจ้งความกับตำรวจอย่างน้อย 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มที่มาจากมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ของนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ 2. กลุ่มที่มาจากทีมงานทนายคลายทุกข์ ของนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และกลุ่มที่มาจากศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่ายออนไลน์ (ศคอ.) และ 3. ศูนย์ข่าวต้านโกง นำโดย น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์

    แม้ว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. แต่งตั้ง พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้ควบคุมดูแลคดี แต่การทำคดีดูเหมือนว่าเป็นไปได้ยาก เพราะผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความจริงมีน้อยเกินไป ทนายเดชา ระบุว่า มีผู้เสียหายแจ้งความกับตำรวจ บก.ปคบ. เพียง 91 ราย ต้องมีผู้เสียหายตั้งแต่ 200 คนขึ้นไปจึงเพียงพอดำเนินคดี ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้จากผู้เสียหายที่สอบไปแล้ว 80 ปาก รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 31 ล้านบาท

    จุดเริ่มต้นของจุดจบ มาจากช่วงสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี 2563 ที่ประชาชนต่างขาดรายได้จากมาตรการล็อกดาวน์ กระทั่งได้พบเห็นโฆษณาคอร์สเรียนออนไลน์ 97, 98, 99 บาท เกี่ยวกับการตลาดบนโซเชียลมีเดีย เมื่อมีคนหลงเชื่อเข้าไปเรียนจะพบว่ามีการขายฝันถึงความร่ำรวย ก่อนโน้มน้าวให้เปิดบิลซื้อสินค้าไปขาย และลงโฆษณาบนโซเชียลฯ ที่เรียกว่ายิงแอด ที่ผ่านมาดิไอคอนกรุ๊ปมีรายได้รวมจากเดิมประมาณ 378 ล้านบาท แต่ปี 2564 ก้าวกระโดดถึง 4,950 ล้านบาท กำไรสุทธิ 813 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นจึงลดลงมา แม้จะใช้งบ 500 ล้านบาทซื้อบิลบอร์ดโฆษณา แต่สินค้าก็ยังไม่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป

    ส่วนลูกข่ายสต็อกสินค้า ทีแรกขายได้ แต่หลังๆ กลับขายไม่ได้ แม้จะยิงแอดไปเท่าไหร่ก็ตาม นอกจากสินค้าไม่เป็นที่รู้จักแล้ว ยังแพงกว่าท้องตลาด ทำให้ลูกข่ายต้องเปลี่ยนมาเป็นตามหาลูกข่ายที่เรียกว่า นักเรียนใหม่ เพื่อให้ได้เงิน กลายเป็นวงจรอุบาทว์ที่นำไปสู่ปรากฎการณ์ฝีแตกในวันนี้ แม้ว่าบอสพอล รวมทั้งดารานักแสดงที่เกี่ยวข้อง ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหา แต่แบรนด์ดิไอคอนในวันนี้ก็ติดลบในสายตาของผู้คนในสังคม เช่นเดียวกับดารานักแสดงที่เกี่ยวข้อง ที่ลูกข่ายหรือแฟนคลับเคยไว้เนื้อเชื่อใจเพราะชื่อเสียง ก็เกิดแผลในใจ ถึงขั้นเลิกติดตามผลงาน

    #Newskit #ดิไอคอนกรุ๊ป #THEiCON
    มรสุมดิไอคอนฯ เอาผิดยากแต่แบรนด์พัง การออกมาเปิดประเด็นบริษัทธุรกิจขายตรงของนายกรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง ชัดเจนว่าเป็น บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ซึ่งมีนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทำให้มีผู้เสียหายที่เคยร่วมทำธุรกิจรวมตัวกันไปแจ้งความกับตำรวจอย่างน้อย 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มที่มาจากมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ของนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ 2. กลุ่มที่มาจากทีมงานทนายคลายทุกข์ ของนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และกลุ่มที่มาจากศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่ายออนไลน์ (ศคอ.) และ 3. ศูนย์ข่าวต้านโกง นำโดย น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ แม้ว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. แต่งตั้ง พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้ควบคุมดูแลคดี แต่การทำคดีดูเหมือนว่าเป็นไปได้ยาก เพราะผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความจริงมีน้อยเกินไป ทนายเดชา ระบุว่า มีผู้เสียหายแจ้งความกับตำรวจ บก.ปคบ. เพียง 91 ราย ต้องมีผู้เสียหายตั้งแต่ 200 คนขึ้นไปจึงเพียงพอดำเนินคดี ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้จากผู้เสียหายที่สอบไปแล้ว 80 ปาก รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 31 ล้านบาท จุดเริ่มต้นของจุดจบ มาจากช่วงสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี 2563 ที่ประชาชนต่างขาดรายได้จากมาตรการล็อกดาวน์ กระทั่งได้พบเห็นโฆษณาคอร์สเรียนออนไลน์ 97, 98, 99 บาท เกี่ยวกับการตลาดบนโซเชียลมีเดีย เมื่อมีคนหลงเชื่อเข้าไปเรียนจะพบว่ามีการขายฝันถึงความร่ำรวย ก่อนโน้มน้าวให้เปิดบิลซื้อสินค้าไปขาย และลงโฆษณาบนโซเชียลฯ ที่เรียกว่ายิงแอด ที่ผ่านมาดิไอคอนกรุ๊ปมีรายได้รวมจากเดิมประมาณ 378 ล้านบาท แต่ปี 2564 ก้าวกระโดดถึง 4,950 ล้านบาท กำไรสุทธิ 813 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นจึงลดลงมา แม้จะใช้งบ 500 ล้านบาทซื้อบิลบอร์ดโฆษณา แต่สินค้าก็ยังไม่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป ส่วนลูกข่ายสต็อกสินค้า ทีแรกขายได้ แต่หลังๆ กลับขายไม่ได้ แม้จะยิงแอดไปเท่าไหร่ก็ตาม นอกจากสินค้าไม่เป็นที่รู้จักแล้ว ยังแพงกว่าท้องตลาด ทำให้ลูกข่ายต้องเปลี่ยนมาเป็นตามหาลูกข่ายที่เรียกว่า นักเรียนใหม่ เพื่อให้ได้เงิน กลายเป็นวงจรอุบาทว์ที่นำไปสู่ปรากฎการณ์ฝีแตกในวันนี้ แม้ว่าบอสพอล รวมทั้งดารานักแสดงที่เกี่ยวข้อง ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหา แต่แบรนด์ดิไอคอนในวันนี้ก็ติดลบในสายตาของผู้คนในสังคม เช่นเดียวกับดารานักแสดงที่เกี่ยวข้อง ที่ลูกข่ายหรือแฟนคลับเคยไว้เนื้อเชื่อใจเพราะชื่อเสียง ก็เกิดแผลในใจ ถึงขั้นเลิกติดตามผลงาน #Newskit #ดิไอคอนกรุ๊ป #THEiCON
    Like
    Angry
    Yay
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 549 มุมมอง 0 รีวิว
  • กันต์ ยุติบทบาทพิธีกร (10/10/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #กันต์ กันตถาวร #ดาราเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ #บอสกันต์
    กันต์ ยุติบทบาทพิธีกร (10/10/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #กันต์ กันตถาวร #ดาราเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ #บอสกันต์
    Like
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1935 มุมมอง 1015 0 รีวิว
  • “กันต์ กันตถาวร” ประกาศลาออก ยุติบทบาทพิธีกรทุกรายการ รับผิดชอบดราม่า “The iCon Group” แสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมให้ข้อมูลทุกหน่วยงาน

    กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ขณะนี้ สำหรับกรณีดราม่า บริษัทขายตรง ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) ที่มีผู้เสียหายจำนวนมากออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ล่าสุด “กันต์ กันตถาวร” พิธีกรชื่อดัง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึง Chief Marketing Officer (CMO) ของบริษัท ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวแล้ว

    “กันต์” ได้โพสต์ข้อความแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่าตนไม่ได้นิ่งนอนใจกับกระแสข่าว และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จึงขอยุติบทบาทการเป็นพิธีกรในทุกรายการ จนกว่าเรื่องราวทั้งหมดจะคลี่คลาย พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

    ทั้งนี้ “กันต์” ยังยืนยันว่าพร้อมให้ข้อมูลกับทุกหน่วยงานเพื่อความถูกต้องในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการประกาศยุติบทบาทพิธีกรในครั้งนี้ นับเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นการปกป้องชื่อเสียงขององค์กรที่ตนเองสังกัดอยู่ด้วย

    #Thaitimes
    “กันต์ กันตถาวร” ประกาศลาออก ยุติบทบาทพิธีกรทุกรายการ รับผิดชอบดราม่า “The iCon Group” แสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมให้ข้อมูลทุกหน่วยงาน กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ขณะนี้ สำหรับกรณีดราม่า บริษัทขายตรง ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) ที่มีผู้เสียหายจำนวนมากออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ล่าสุด “กันต์ กันตถาวร” พิธีกรชื่อดัง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึง Chief Marketing Officer (CMO) ของบริษัท ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวแล้ว “กันต์” ได้โพสต์ข้อความแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่าตนไม่ได้นิ่งนอนใจกับกระแสข่าว และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จึงขอยุติบทบาทการเป็นพิธีกรในทุกรายการ จนกว่าเรื่องราวทั้งหมดจะคลี่คลาย พร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ “กันต์” ยังยืนยันว่าพร้อมให้ข้อมูลกับทุกหน่วยงานเพื่อความถูกต้องในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการประกาศยุติบทบาทพิธีกรในครั้งนี้ นับเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นการปกป้องชื่อเสียงขององค์กรที่ตนเองสังกัดอยู่ด้วย #Thaitimes
    พร้อมให้ข้อมูลทุกหน่วยงาน!! “กันต์ กันตถาวร” ประกาศยุติบทบาทหน้าที่พิธีกรในทุกรายการจนกว่าจะมีความชัดเจนและความกระจ่าง หลังเจอดราม่า “The iCon Group”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097052

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 584 มุมมอง 0 รีวิว
  • พร้อมให้ข้อมูลทุกหน่วยงาน!! “กันต์ กันตถาวร” ประกาศยุติบทบาทหน้าที่พิธีกรในทุกรายการจนกว่าจะมีความชัดเจนและความกระจ่าง หลังเจอดราม่า “The iCon Group”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097052

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    พร้อมให้ข้อมูลทุกหน่วยงาน!! “กันต์ กันตถาวร” ประกาศยุติบทบาทหน้าที่พิธีกรในทุกรายการจนกว่าจะมีความชัดเจนและความกระจ่าง หลังเจอดราม่า “The iCon Group” อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097052 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    15
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2859 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุ๊ย!! ลือ อักษรย่อ ก พิธีกรดัง โดนปลดกระทันหัน เหตุวงลูกโซ่ ดิไอค๊อน
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    อุ๊ย!! ลือ อักษรย่อ ก พิธีกรดัง โดนปลดกระทันหัน เหตุวงลูกโซ่ ดิไอค๊อน #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 698 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮะ อะไรนะ ลือว่า! พิธีกรดังอักษรย่อ ก. โดนปลดฟ้าแลบแปล๊บๆ เหตุวงลูกโซ่ดิไอคลอนแคลน
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ฮะ อะไรนะ ลือว่า! พิธีกรดังอักษรย่อ ก. โดนปลดฟ้าแลบแปล๊บๆ เหตุวงลูกโซ่ดิไอคลอนแคลน #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ดิไอคอน
    กับความลับอันดำมืดที่อยู่กับคนไทยมายาวนาน
    ด้วยพรีเซ็นเตอร์ระดับแนวหน้า นักแสดงดารานักร้องกับทุกวงการ
    การทำงานแบบดาวกระจาย สร้างความหวังให้กับคนที่ไม่มีทางออก
    อยากได้โอกาสใหม่ๆ แต่ก็ไม่พ้นบ่วงแห่งระบบเครือข่าย
    ที่เหมือนขูดโลหิตจากตัวปู ที่ไม่มีที่จะให้
    ด้วยการโปรว่า มีคอซสอนทำตาหลาดออไนลน์
    ทำให้มีคนหลงตามเข้าไป แต่ถูกปิดท้ายด้วยการชวนเข้าเครือข่าย
    พวกนี้ ทำกันเป็นจริงเป็นจังมาก แต่ ของไม่แท้ก็คือของไม่แท้
    งบดุลจากกำไรปีละพันกว่าล้าน จากยอดขายสี่พันกว่าล้าน
    ปัจจุบันเหลือเพียงหลักหน่วยล้านเท่านั้น
    คนที่ไม่มีจะกินอยู่แล้ว ที่หลงเข้าสู่วงการ
    ถูกชวนเข้ามาดูความสำเร็จจัดงานอลังการ แต่ต้องมีตั๋วเข้า
    ใช้เบี้ยงหลักหมื่น เอาง่ายๆ แค่ค่าจัดก็กำำไรแล้ว
    แล้วก็ทำเสมือนลัทติ๊ พูดเหมือนๆกัน เป็นเหมือนการซะกดจิต
    ไม่มีตังค์ลงทุน ก็ต้องไปหยิบยืม หรือต้องไปกู๊หนี้ยืมสินมา
    ด้วยองค์ประกอบแห่งแสงสีเสียง และมีตัวแม่ทีมที่พูดเก่งมาก
    พูดซ้ำๆ เป็นกลุ่มย่อย โดยใช้การประชุมกลุ่ม
    เวลาโปรว่ามีคอสสอนออนไลน์ ก็จะ 99 บ อะไรแบบนี้
    และในกลุ่ม ก็จะมีหน้าม๊าคอยนำทางให้สมาชิกใหม่
    รู้ว่าต้องพูดอะไร ทำอะไร
    เรื่องนี้ แฟนคลับพี่หนุ่ม ได้ส่งกำลังใจ
    พร้อมข้อมูลแบบนัวๆ เพื่อให้เครือข่ายนี้ได้รับการเปิดหน้า
    ซึ่งที่ผ่านมา พิธีกรชื่อดังอีกคน ชื่อย่อ ก. ก็ออกหน้าเต็มตัว
    และเป็นไอค่อนของความสำเร็จ โดยคนที่ไม่สำเร็จ
    ด้วยขาดพื้นฐานด้านคอนเนคชั่น ตามไอค่อน และไอดอล
    ก็เป็นอันเจ็บเนื้อเจ็บตัวไปตามๆกัน ถ้าพี่หนุ่ม เดินเครื่องเรื่องนี้
    ก็ต้องยอมรับว่า มีผลกระทบ กับพิธีกรชื่อ ก. อย่างแน่นอน
    คงต้องตามเรื่องนี้กันอีกยาวๆ ระหว่าง บรรดาแม่ทีม หน้าม๊า
    กับผู้ที่เดือดรอ้น ใครจะมีประมาณและพละกำลังที่มากกว่ากัน
    พี่คิงส์โพธิ์ดำรู้อย่างเดียวว่า เวลานี พิธีกรชื่อดัง ชื่อย่อ ก.
    ก็กำลังหนาวๆร้อนๆเช่นกัน
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #ดิไอคอน กับความลับอันดำมืดที่อยู่กับคนไทยมายาวนาน ด้วยพรีเซ็นเตอร์ระดับแนวหน้า นักแสดงดารานักร้องกับทุกวงการ การทำงานแบบดาวกระจาย สร้างความหวังให้กับคนที่ไม่มีทางออก อยากได้โอกาสใหม่ๆ แต่ก็ไม่พ้นบ่วงแห่งระบบเครือข่าย ที่เหมือนขูดโลหิตจากตัวปู ที่ไม่มีที่จะให้ ด้วยการโปรว่า มีคอซสอนทำตาหลาดออไนลน์ ทำให้มีคนหลงตามเข้าไป แต่ถูกปิดท้ายด้วยการชวนเข้าเครือข่าย พวกนี้ ทำกันเป็นจริงเป็นจังมาก แต่ ของไม่แท้ก็คือของไม่แท้ งบดุลจากกำไรปีละพันกว่าล้าน จากยอดขายสี่พันกว่าล้าน ปัจจุบันเหลือเพียงหลักหน่วยล้านเท่านั้น คนที่ไม่มีจะกินอยู่แล้ว ที่หลงเข้าสู่วงการ ถูกชวนเข้ามาดูความสำเร็จจัดงานอลังการ แต่ต้องมีตั๋วเข้า ใช้เบี้ยงหลักหมื่น เอาง่ายๆ แค่ค่าจัดก็กำำไรแล้ว แล้วก็ทำเสมือนลัทติ๊ พูดเหมือนๆกัน เป็นเหมือนการซะกดจิต ไม่มีตังค์ลงทุน ก็ต้องไปหยิบยืม หรือต้องไปกู๊หนี้ยืมสินมา ด้วยองค์ประกอบแห่งแสงสีเสียง และมีตัวแม่ทีมที่พูดเก่งมาก พูดซ้ำๆ เป็นกลุ่มย่อย โดยใช้การประชุมกลุ่ม เวลาโปรว่ามีคอสสอนออนไลน์ ก็จะ 99 บ อะไรแบบนี้ และในกลุ่ม ก็จะมีหน้าม๊าคอยนำทางให้สมาชิกใหม่ รู้ว่าต้องพูดอะไร ทำอะไร เรื่องนี้ แฟนคลับพี่หนุ่ม ได้ส่งกำลังใจ พร้อมข้อมูลแบบนัวๆ เพื่อให้เครือข่ายนี้ได้รับการเปิดหน้า ซึ่งที่ผ่านมา พิธีกรชื่อดังอีกคน ชื่อย่อ ก. ก็ออกหน้าเต็มตัว และเป็นไอค่อนของความสำเร็จ โดยคนที่ไม่สำเร็จ ด้วยขาดพื้นฐานด้านคอนเนคชั่น ตามไอค่อน และไอดอล ก็เป็นอันเจ็บเนื้อเจ็บตัวไปตามๆกัน ถ้าพี่หนุ่ม เดินเครื่องเรื่องนี้ ก็ต้องยอมรับว่า มีผลกระทบ กับพิธีกรชื่อ ก. อย่างแน่นอน คงต้องตามเรื่องนี้กันอีกยาวๆ ระหว่าง บรรดาแม่ทีม หน้าม๊า กับผู้ที่เดือดรอ้น ใครจะมีประมาณและพละกำลังที่มากกว่ากัน พี่คิงส์โพธิ์ดำรู้อย่างเดียวว่า เวลานี พิธีกรชื่อดัง ชื่อย่อ ก. ก็กำลังหนาวๆร้อนๆเช่นกัน #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • “มูลนิธิรณรงค์- ทนายเดชา" พาเหยื่อแชร์ลูกโซ่ "ไอคอน"แจ้งความดำเนินคดีบอสขายฝัน ยอมลงทุนจนหมดตัว เชื่องานนี้มีดารา-พิธีกรติดคุกแน่!

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000096940

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “มูลนิธิรณรงค์- ทนายเดชา" พาเหยื่อแชร์ลูกโซ่ "ไอคอน"แจ้งความดำเนินคดีบอสขายฝัน ยอมลงทุนจนหมดตัว เชื่องานนี้มีดารา-พิธีกรติดคุกแน่! อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000096940 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2674 มุมมอง 0 รีวิว
  • FB Page เหยื่อ V.2 เขียนดีมาก ครบถ้วน จึงขอยกมานำเสนอแบบเต็มๆ
    ...............
    ปฐมบท..บอสพอล The Icon

    พอล..คือชื่อของเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นก็ค้าขายของที่บ้าน จนกระทั่งยุคที่ Facebook Ads เริ่มให้บริการ

    ตอนนั้นคนยังไม่สนใจการยิงแอด ค่าแอดในการทำโฆษณาเรียกว่าเอาคนได้ที่โหล่มาทำแอดก็ยังกำไร เพราะต้นทุนต่อค่าโฆษณาอยู่ที่คลิกละ 5 สตางค์

    หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินให้เกิดการคลิกเข้ามา 20 ครั้ง เสียเงินแค่ 1 บาท

    ดังนั้นถ้าใครอยู่ในยุคตื่นแอดช่วงแรกเรียกว่ากอบโกยชนิดที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน กันได้เลยจริงๆนั่นแหละ

    พ.ศ. 2556 คือยุคเริ่มต้นเมื่อ Facebook ประกาศให้มีการแสดงโฆษณาได้บนประเทศไทย

    พอล..จึงหัดยิงแอดออนไลน์ขายสินค้าของตัวเองจนชำนาญจึงเกิดเป็นพอลผู้ทำการตลาดออนไลน์เก่งมาก (ไม่เก่งได้ไงก็ค่าโฆษณามันยังถูกมาก)

    จะท้าวความให้อ่าน จะได้รู้ว่าทำไมพอลถึงเก่งและหัวใสแยบยลได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆแฟนเพจ นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเรื่องราวของเขากัน..

    ผู้ที่ปั้นพอลให้เก่งอย่างทุกวันนี้ เขามีชื่อว่าคุณ ธเนตรการกล่าวถึงคนนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำผิดบาปอะไรนะ เขาเป็นนักการตลาด MLM ที่เก่งที่สุดในไทยระดับต้นๆ

    คุณ ธเนตร ได้สมัครเข้าไปทำการตลาดกับ Jeunesse Global
    👉 https://www.facebook.com/JeunesseGlobal

    ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงทั่วๆไปเหมือนแอมเวย์ กิฟฟารีนซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่มันมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจ

    ก็คือการตลาดยุคนั้นมีกฎห้ามนำสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการตัดราคาและเลี่ยงการที่สมาชิกไม่ซื้อสินค้าผ่านบริษัทโดยตรง

    เรียกว่าใครโพสต์ขายหรือชวนคนออนไลน์ จะโดนตัดรหัสทิ้งทันทีเพราะเป็นการทำผิดกฏบริษัท

    แต่..มีนักการตลาดชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า Patric Chan
    👉 https://www.facebook.com/patricchanlive/

    ได้ไปดีลกับ Jeunesse ว่า จะขอพัฒนาระบบชวนคนออนไลน์ได้ไหม โดยให้เหตุผลว่า..จะสามารถทำสปอนเซอร์ข้ามประเทศได้ จะทำให้ Jeunesse มีสมาชิกทั่วโลกได้

    เช่น.เราทำอยู่ที่ไทย เราอาจจะมี Down line อยู่ที่เคนย่า ลาว ไต้หวัน ได้หมด นั่นเป็นไอเดียที่ Jeunesse ตอบตกลงให้ Patric Chan ทำได้

    จึงเกิดเป็นระบบชวนคนออนไลน์ ตอนนั้นแค่ชวนสมัครสมาชิกนะ การสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงสั่งผ่านหน้าเวบไซต์ Jeunesse อยู่ดีไม่มีอะไรซับซ้อน

    และคุณ ธเนตร ก็ได้ไปเรียนกับ Patric Chan ตอนที่เขามาเปิดสัมมนาที่ไทยในปี 2558
    👉 https://www.facebook.com/passivewealthTH/

    เมื่อคุณ ธเนตร ได้เรียนรู้ระบบชวนคนออนไลน์แล้วประจวบกับการที่พอลมาสมัครเป็น Downline ของธเนตร ก็เหมือนจับเอาเสือสองตัวมาตีคู่กัน

    เกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล คนหนึ่งเก่งเรื่องสคริปต์ชวนคน คนหนึ่งเก่งเรื่องยิงแอด ทีนี้แหละความรวยจึงบังเกิด

    เกิดเป็นยอดขายพันล้านของ ธเนตร เกิดยอดขายร้อยล้านของพอล จนทั้งสองคนได้ไปออกรายการต่างๆ

    พอลได้ไปออกรายการตีสิบ จนได้นามสกุลมาต่อท้ายชื่อว่า“พอล ตีสิบ” ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้นระหว่างที่เขายังคงทำ Jeunesse

    และตลอดเวลา พอลก็ได้เรียนรู้กลยุทธการทำการตลาดแบบ MLM จากธเนตร จนแตกฉานยิ่งกว่าจบเปรียญธรรม 9 ประโยค

    เมื่อพอลรู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็กางปีกโบยบินแยกตัวออกมาจาก ธเนตร มาตั้งบริษัท และทำแบรนด์ชื่อว่า“ The Icon“

    ---------

    โดยช่วงแรกทำสินค้าพวกกาแฟ และ คอลลาเจน เพราะสองอย่างนี้พอลศึกษาแล้วว่าจะทำการตลาดชวนคนได้ง่าย เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย

    โดยพอลได้วางระบบชวนคนไว้โดยให้ผลตอบแทนเป็นการ "เที่ยวฟรี" และทำโปรโมชั่นเปิดบิลสมัครสมาชิก "เที่ยวฟรี"

    โดยจัดการเที่ยวเน้นไปที่ทะเล พัทยา เพราะดีลค่าโรงแรมได้ถูก พอลฉลาดโดยไม่ได้ดีลโรงแรมห้าดาวอะไร เน้นโรงแรม 3 ดาวก็พอแล้ว โดยมีการจองห้องประชุมไว้ทำสัมมนา

    -----------

    ลูกค้าของพอล..

    ช่วงแรกเขามุ่งเน้นไปที่คนอยากเที่ยวและอยากมีเพื่อนฝูงไปด้วย นั่นก็คือ คนที่เกษียณแล้ว หรือคนแก่นั่นเอง

    เค้ารู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายนี้แหละจะผลักดันให้บริษัทเขาอยู่รอดได้ในช่วงแรก ด้วยการจัดทัวร์เที่ยวกินฟรี (ค่าเดินทางออกเอง)

    โดยการเปิดบิลซื้อสินค้า ช่วงแรกจะมีระดับไม่เยอะ จะมีแบบเปิดคนเดียว เที่ยวคนเดียว และเปิดมากหน่อย ชวนเพื่อนมาเที่ยวได้ฟรี 1 คน 2 คน 3 คน ไล่ไปเรื่อยๆ

    และด้วยหลักการนี้เอง คนแก่จึงตอบรับข้อเสนอของเขาง่าย เพราะนอกจากจะได้สินค้ามากินและใช้แล้วก็ยังได้เที่ยวฟรี

    และคนแก่ส่วนมากมักจะไม่อยากไปเที่ยวคนเดียว จึงเปิดบิลที่ชวนเพื่อนได้ 2 คนขึ้นไป และก็เป็นการชวนเพื่อนมาเที่ยวฟรี

    การเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็คือชวนเพื่อนไปเที่ยวทะเล หลังกินอาหารเช้าแล้ว วันถัดมาก็จะเป็น Event กลางคืน ได้พบกับคนดังที่ออก TV

    นั่นคือบอสพอล ตีสิบ โดยพอลจะมาหลังจากทุกคนถึงแล้ว 1 วันเสมอ เพื่อมาปรากฎตัวบนเวที แล้วก็จะขอบคุณสมาชิกทุกคนที่มาเที่ยว

    รวมไปถึงชักชวนให้คนที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสามารถชวนเพื่อนในทริปหน้ากันได้อีก

    โดยคนชวนก็ไม่ใช่ใคร ก็ใช้เพื่อนชวนเพื่อนมันก็ง่ายสิ่คนแก่ขี้เหงายังไงก็ดีกว่ารอลูกหลานพาเที่ยว ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกกว่า

    ทำให้การเปิดบิลซ้ำ การเปิดบิลใหม่ จึงเกิดขึ้นตามแผนการตลาดอันแยบยลของพอลและด้วยวิธีนี้ทำให้ปีแรก บริษัทของพอลมีกำไรเติบโตทันที

    พอล..เริ่มซื้อรถ Super Car ก่อนเลยเพื่อเริ่มเข้าสู่“โหมดความรวย”เพื่อวางแผนกระเถิ่บไปหาลูกค้าที่มีความฝัน..อยากรวยตามแบบคนอื่น

    พอล..เปลี่ยนการตลาดจากคนแก่ มาเจาะคนที่อยากเกษียณก่อนกำหนด คือ เป้าหมายพวกอายุ 35 ขึ้นไปที่ฝันอยากมีรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม..เหมือนคนอื่น

    คนเรามีความฝันนั้นดี “แต่ต้องไม่ลืมนึกถึงความจริง”ที่ว่า บางครั้งความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นความจริง

    พอล..ใช้คอร์สสอนออนไลน์สอนการทำตลาดขายของซึ่งยุคนั้นค่าโฆษณายังไม่แพง แต่ก็เริ่มขยับจากระดับ 10 สตางค์ มาเป็นคลิกละ 50 สตางค์แล้ว แต่มันก็ยังได้ผลอยู่

    เพราะจ่ายค่าโฆษณาไป 1,000 บาท ก็สามารถชวนคนได้ถึง 2000 คลิก ตีไปว่าสนใจ 1% ก็ยังมีคนทักมา 20 คน คอร์สก็เป็นการเตรียม Material ต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

    แค่ทุกคนแบกโน้ตบุ๊กของตัวเองมาก็สามารถตั้งโฆษณาได้เลย ทุกคนจะตั้งโฆษณาขายสินค้าและชวนคนเข้าทีม ซึ่งตั้งไว้ที่ 89 บาท

    89 บาท นั่นคือค่าเฉลี่ยที่พอลคำนวณแล้วว่าใช้เทคนิค OPM (Other People Money) แบบนี้ตัวเองก็ไม่ต้องยิงแอดเองแล้ว (จากเดิมตอนชวนคนแก่ต้องยิงแอดเอง และสอนทีมงาน)

    มาคราวนี้พอลได้พัฒนา ระบบการสอน เริ่มมีการตั้งแม่ทีมเพื่อศึกษาวิธีการสอนให้เป็นครู โดยทุกคนก็เอา 89 บาทค่าเรียน ใส่เข้าไปในโฆษณานั่นแหละ

    เท่ากับพอลก็จะได้ Facebook Ads Account มหาศาลโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียเวลาสมัครและไม่ต้องกลัวโดนแบนโฆษณาเพราะถึงโดนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องเหนื่อยลงไปควบคุมเองแล้ว

    ด้วยแผนการตลาดแบบใหม่ ทำให้พอลเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายพุ่งไปหลายร้อยล้านทันที เพราะมีการวางเกมเรื่องเปิดบิลไว้แล้ว อย่างที่เห็นในข่าว

    คนมาอย่างน้อยก็ต้องเสียค่าสมัคร member หลัก 2-5 พัน และถ้าแม่ทีมเก่งก็จะต้อนให้ไปเปิดบิลดีลเลอร์ได้เลย 250,000 เพื่อให้เที่ยวฟรีได้เกือบ 10 ครั้ง แถมยังได้โควต้าชวนคนมาเที่ยวด้วย

    เรียกว่าอัดโปรโมชั่นกันแบบจุกๆ เพื่อทำให้คนได้เห็นว่ามาเรียนที่นี่นอกจากจะขายได้แล้ว ยังได้เที่ยวด้วย ทำให้เกิดกระแสบูมไปที่ The Icon

    และด้วยการที่พอลศึกษาข้อกฏหมายกับทนายส่วนตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงได้ความรู้จากอาจารย์ตัวเองมา เขาจึงเลี่ยงวลี..ไม่ได้ทำ MLM

    เพราะรู้ว่าถ้าชวนทำ MLM คนจะไม่มา เขาจึงเรียกระบบของบริษัทตัวเองว่าระบบตัวแทน เพื่อให้คนไม่รู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ

    และพอลได้ขออนุญาตการทำการตลาด ที่เรียกว่าตลาดขายตรง ไว้แล้ว บริษัทจึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่มีความผิด และด้วยเทคนิคนี้ทำให้พอล ก้าวเข้าสู่ยอดขายหลายร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย
    ---------

    ยุคทองของ..บอสพอล The Icon

    เมื่อโควิดหมดไปประเทศเปิด คนก็เริ่มหางานทำ นั่นจึงเกิดเป็นยอดขาย 4,949,496,994 มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาทเศษ ในปี 2564 นั่นเอง

    เพราะคนแห่มาทำออนไลน์กันเนื่องจากยังคงกลัวโควิดอยู่แต่ก็ต้องทำมาหากินแล้ว ทีนี้ก็แบกตัวเองมาเรียนเพราะอยากมีอาชีพมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว

    แต่..พอมาเรียนแล้วได้เจอกับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจอคนขับรถสปอร์ต ใส่แบรนด์เนม ความคิดที่อยากจะมีอาชีพที่มีแค่รายได้มาจุนเจือครอบครัวมันเปลี่ยนไป

    เริ่มมีความฝัน อยากสำเร็จ อยากรวย เพราะเห็นจากภาพความสำเร็จของระบบที่พอลได้ออกแบบเอาไว้

    The Icon บูมสุดๆก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลเข้ามาเรียนมากขึ้น ชวนกันมากขึ้น เปิดบิลกันมากขึ้น เที่ยวกันให้สะใจ ทีมงานบอสพอลโพสต์ภาพการกินเที่ยวเต็มโซเชียล

    ภาพถ่ายเหล่านั้นมันดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนจริงๆ ดึงดูดคนให้เข้าเรียนเพิ่มขึ้น

    แต่พอคนมาเยอะ มันก็ตรงกับหลัก Supply/Demand เมื่อคนขายมากกว่าคนซื้อและทุกคนแห่กันไปโฆษณาบน Facebook ความฉิบหายจึงบังเกิด

    ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูดเพราะทุกคนก็ต้องการ Placement บน Platform ไม่ว่าจะจุดไหนก็จะ Bid ราคากันแบบ Auto

    ทีนี้ AI ของ Facebook ก็ลากราคาต่อคลิกไปสูงถึง 10 บาท ทีนี้เริ่มไม่มีกำไรละ หลายคนเริ่มเจ๊ง หลายคนสต็อกเริ่มล้น..สินค้าติดมือ

    หลายคนเริ่มสู้กับค่าโฆษณาไม่ไหว เพราะยิงแอดไปซ้ำกับคนเดิม ระบบชวนคนทุกบริษัทมันมีข้อเสียตรงนี้แหละคือทำไปสักพักจะมีรหัสซ้ำ

    คำว่ารหัสซ้ำ แปลง่ายๆก็คือทักไปหาคนที่เป็นสมาชิกของ The Icon อยู่แล้ว ดังนั้นการชวนคนจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม

    เริ่มเจอหน้าซ้ำ เริ่มเจอคนระดับรากหญ้า เป็นแม่ค้าผักบ้างล่ะ เป็น รปภ.บ้างล่ะ ทำให้ยอดขายปีถัดมาตกลงเหลือ 3 พันกว่าล้าน

    พอล..ต้องการต่ออายุธุรกิจของตัวเองให้เดินหน้าต่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าจึงเริ่มหา #ลมใต้ปีก มาช่วยพยุงธุรกิจ

    และรู้ๆกันอยู่ว่าลมใต้ปีกชั้นดีก็คือ..ดารา

    และดาราคนแรกๆเลยก็คือ กันต์ ซึ่งแรกๆกันต์ไม่ได้เข้ามาในฐานะพรีเซ็นเตอร์อีกตางหาก ลองไปสืบค้นกันเอาเองว่าตอนแรกเข้ามาในฐานะอะไร

    กันต์ เข้ามาก่อนแต่มายืนถือสินค้าชิ้นแรกหลังพวกดาราคนอื่น เพราะเพื่อส่งเสริมให้บริษัทมันดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น พอลจึงแต่งตั้งกันต์ให้เป็น CMO ซะเลย

    เพราะจะได้การันตีว่าบริษัทฉันน่ะมันสะอาดโปร่งใสนะฉันไม่โกงหรอก เห็นไหมว่า..พิธีกรระดับประเทศยังมาทำงานร่วมกับฉันเลย

    กันต์ และดาราอีกขโยงหนึ่งทำให้ใครๆก็เชื่อมั่นใน The Icon ชวนเปิดบิลหลักแสนก็ใจอ่อนไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมีดาราการันตรี มีดาราพารวย

    แน่นอนว่าช่วงนี้ค่าโฆษณาแพงแล้วนะ แต่มีดารามาการันตี แล้วกำไรมีไหม ก็มีระดับปริ่มๆ แต่บางคนก็เริ่มเจ๊งตั้งแต่เริ่มทำ
    -----------

    ดังที่กล่าวมาข้างบน👆จะเห็นได้ว่าไม่มีเหลี่ยมไหนที่จะตั้งข้อกล่าวหาให้เอาผิดพอลในชั้นศาลได้เลย

    จะตั้งข้อกล่าวหาพอลยังยาก ไอ้ที่เย้วๆตั้งธงว่าแชร์ลูกโซ่นี่พอลยิ้มอ่อนเอามือลูบปากคิดในใจ..เสร็จกู

    เพราะเคสแบบนีัมันต้องเริ่มที่ สคบ.ก่อนเลย แต่ด้วยเหตุผลของกฎหมาย สคบ.ก็จะตีความว่า การขายสินค้าของพอล..“ไม่ได้ขายต่อไปยังมือผู้บริโภคโดยตรง แต่จำหน่ายไปที่ตัวแทน”

    หรือเคยมีใครได้รับสินค้าจากมือบอสพอลโดยตรงบ้างไหมล่ะ.? ถ้าไม่มีก็ตรงตามที่ สคบ.ตีความเอาไว้นั่นแหละ

    จึงทำให้ทุกคนที่เคยร้องเรียนไปยัง สคบ.ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันหมดคือ สคบ.ทำอะไรไม่ได้

    เพราะพอลได้ศึกษาข้อกฏหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ยกเว้นการการันตีว่าแอดต้องปัง

    พอล..เริ่มปรับแผนการตลาด ตั้งสำนักงานใหม่ที่รามอินทรา มีรถหรูจอดที่ด้านหน้าเพื่อให้คนมาถ่ายกับรถแล้วก็ไปโพสต์และยิงโฆษณาแทนตนเอง

    เริ่มให้คนสร้างภาพว่าทำแล้วรวย แทนที่จะกลายเป็นเที่ยว ไม่เอาแล้วล่ะ กูเน้นทำแล้วรวย แล้วก็คงคอนเซ็ปต์ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยากรวยต้องมาทำกับกูนี่มา ถถถ

    แต่เมื่อคนเริ่มตื่นรู้ ค่าโฆษณาแพง การจะชวนไปต่อในระดับลึกๆทำได้ยาก หลายคนจึงยอมเจ็บแค่นี้แล้วถอยออกมาหาเงินทางอื่นมาใช้หนีั

    ทำให้ปีถัดมา ยอดขายตกเหลือ พันแปดร้อยล้าน หายไปเกือบ 40% ทีนี้บอสพอลก็คงทำได้แค่ยื้อเวลาของธุรกิจตัวเองต่อไป

    โดยการจ้างดารามามากขึ้น ผลิตสินค้าออกมามากขึ้น เพื่อให้การเปิดบิลมัน rotate ไปยังสินค้า SKU ใหม่ๆ

    หลังจากนั้นจึงเป็นความวิบัติที่แท้..

    พอล..ไม่ได้ควบคุมทิศทางบริษัทตัวเองให้ดี รู้ทั้งรู้แต่ยังปล่อยให้ทำ ก็คือแม่ทีม เริ่มกลายร่างสถาปนาตัวเองเป็นโค้ช เก่งระดับประเทศกันทุกคน

    ทุกคนขับรถสปอร์ตกันหมดเลย แล้วรถของใครล่ะ.?

    ก็รถของบอสพอลแทบทุกคันเลยแหละ การตลาดมันจึงกลายเป็นการหลอกลวงผู้คนด้วยโพรไฟล์จอมปลอมทันที

    เพราะรถก็ไม่ใช่ของตัวเอง แต่มาโม้ว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อว่าทำธุรกิจร่วมกับ The Icon แล้วรวย

    บอสพอลก็ทราบดีเลยนะว่าทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง แต่พอลก็รู้ว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดอะไรขึ้นคนที่จะรับกรรมก็แม่ทีมไง ไม่ใช่ตัวเอง

    พอล..ก็หลับตาข้างเดียวปล่อยให้แม่ทีมทำไปตามอำเภอใจ จนมาถึงปัจจุบันที่ทุกคนโหวกเหวกโวยวายนั่นแหละ

    สิ่งที่ควรตระหนักคิด ตื่นให้รู้เอาไว้เลยคือ..

    การยิงแอดขายของออนไลน์มันตายไป 3 ปีแล้วคือหลังปี 2564 ไม่มีใครยิงแอดในระบบตัวแทนไม่ว่าบริษัทใหนแล้วอยู่รอดสักราย นี่คือความจริง

    ไม่ได้พูดถึงแค่ The Icon นะ เราขอพูดถึงทุกๆบริษัท ทุกๆสินค้าเลย เหตุผลก็คือค่าโฆษณามันแพงกว่า Margin ของกำไร

    ดังนั้นคนที่จะอยู่ได้คือ“เจ้าของสินค้าเท่านั้น” ผลิตเอง ยิงเอง โปรโมทเอง ถึงจะอยู่รอด ระบบตัวแทน ระบบออนไลน์มันตายไปตั้งแต่ปี 2564 แล้ว

    คนมันถึงหนีตายไปยิงแอด shopee , lazada กันไงล่ะ เพราะ Facebook มันอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วปีนี้ 2567 shopee , lazada ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว

    หลายคนจึงไปยิง Tiktok แล้วอีกไม่นานพวกคุณก็จะอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละเพราะมันจะลูปเดิม เหมือนกับ Platform อื่นๆ

    เพราะค่าโฆษณาบน Platform เมื่อแพงแล้วมันจะไม่มีวันลดลง นี่คือกฎแห่งการตลาดง่ายๆ คุณลองไปท่อง Supply/Demand ก็จบแล้ว

    แต่บอสพอลมันพยายามยืดชีวิตด้วยการ rotate บอสจำแลงที่จ้างดาราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ FC ทุกระดับทุกวัยยังคงกรี๊ดกับธุรกิจของบอสอยู่

    บอสพอล ถึงไปเลือกพี่โดมยุค 90 มาหาลูกค้าระดับแก่ เลือกมีน มาหาลูกค้าระดับ 30+ ทุกคนก็มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ

    พี่แซมก็เช่นกัน เป็นถึงดารานักการเมืองยังลงมาทำธุรกิจนี้เลย ความน่าเชื่อถือแบบนี้พอลซื้อและยื้อมันไปเรื่อยๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

    บริษัท the icon ใช้วิธีไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน แต่จ่ายเป็นทริปท่องเที่ยวแทน แล้วถ้าใครไม่อยากไปเที่ยว สามารถขายสิทธิ์ไปเที่ยว แลกเป็นเงินกลับไปได้

    จึงเลี่ยงการจ่ายค่าคอมไปได้เยอะ เพราะไปฟันกำไรตอนจัดทริปทัวร์ปุ๊บปั๊บอีก เรียกว่าไปปารีสแต่ได้นั่งรถโฉบหอไอเฟล หรือได้พักตากอากาศที่โรงแรมสามสี่ดาว

    อย่างน้อยก็ได้เที่ยวโว๊ยยยยยยย ส่วนสินค้าขายไม่ออกแกะแดกแม่งให้หมด อส. ถถถ

    สินค้าที่บอกว่าสต็อกไว้ในโกดัง 100% น่ะ เวลาพวกคุณไปเบิกจริงๆ จะเบิกไม่ได้ 100% นะ เพราะมันจะเป็น Dropship

    คือต้องขายได้ บริษัทถึงจะส่งให้ ไม่เน้นให้เบิกกลับไปเก็บที่บ้าน เพราะเปิดบิลดีลเลอร์ต้องรอรอบผลิตของ 2 เดือนเป็นต้นไป

    กว่าจะได้ของครบต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเข้า ธุรกิจนี้ไ่ม่มีใครโง่ผลิตของมากองไว้ให้หมดอายุหรอก ได้ออเดอร์ค่อยสั่งผลิต

    มันเลยมีช่องว่างให้บอสพอลเอาเงินไปหมุนได้ ได้ข่าวแว่วๆว่าบอสพอลเอาเงินไปลงเทรดด้วย กำไรอู้ฟู่ รวยคนเดียวอีกตามเคย
    ----------

    ดังนั้นบทสรุปของธุรกิจ The Icon เราจะขอบอกให้ชื่นใจดังนี้

    1. พอลคนเดียวที่รวยและรอด เพราะว่าพอลส่งภาษีเที่ยงตรง 100% เป็นลูกรักสรรพากรเลยแหละ นั่นเพราะพอลเรียนรู้จากคุณ ธเนตร ว่าเรื่องนี้ห้่ามพลาด สรรพากรไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะพอลนะ

    2. คอร์สขายออนไลน์เรียนราคาถูก ไม่มีอยู่จริง เพราะสุดท้ายพวกคุณจะโดน up sale จะไปเรียนคอร์สระดับ Advance ต้องเป็น Member จะร่ำรวยเงินล้านต้องทุ่ม Dealer

    3. โฆษณาของทุกคนปังหมด เพราะมันมีแม่ทีมที่มี Facebook Account อวตารคอยไปคอมเมนต์สั่งซื้อ แต่มีการซื้อจริงไม่ถีง 20%

    เพราะตอนการันตี การันตีว่าแอดจะปัง แต่คุณปิดการขายไม่ได้เพราะคุณสนทนาขายให้กับแอคผี มันจะไปมียอดซื้อได้ไง พอคุณปิดไม่ได้ทีนี้ความซวยก็เกิดที่ตัวคุณเอง

    พวก Downline ทั้งหลายก็รับกรรมไป หลายคนโดนหลอกว่าจะทำทั้งทีต้องทำแบบ 7-11 เปิดแม่งหลายสาขาเลย ลงเป็นล้านไรงี้

    4. ไม่อยากตุยอย่าเข้าไปทำ หนีได้หนีไป หนีให้สุดชีวิต เพราะมันคือยุคบรรลัยของธุรกิจ The I con ที่ตัวพอลเองเห็นอยู่แท้ๆว่ามันบรรลัย

    ที่ยังหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเป็นดั่งระเบิดเวลาที่มันใกล้จะระเบิดแล้ว ก็เพราะความมั่นใจอย่างเดียวเลยที่พอลคิดในใจก็คือ "กูจะไม่โดนคดีอะไรเลย กูขาวสะอาด"

    ทีนี้พวกคุณเข้าใจหรือยังว่าการจะไปด่าพอลมันก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะมันดูใสสะอาด ขาวจั๊วะเลยแหละยิ่งกว่าบรีส จะเห็นแต่แม่ทีมนั่นแหละที่เป็นคนผิด

    ดังนั้นบทจบของละครเรื่องนี้ก็จะไปลงกับแม่ทีมทั้งหลายที่ออกมาเซฟบอสพอลกันให้ลึ่ม ถ้าเรารู้จักจะถามว่า..มึงเซฟตัวเองก่อนไหม มึงไปเซฟ Downline มึงโน่น🤣 อส.

    น้ำกำลังจะท่วมถีงหลังคาบริษัทแล้ว แม่ทีมกำลังอลหม่าน แต่บอสพอลแม่งนอนดูละครคุณธรรมชิลล์ๆ🤣

    เพราะพอลนั้นได้ต่อเรือโนอาร์เตรียมรับสถานการณ์รอไว้ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้ว ใสสะอาดจนกฏหมายยากที่จะเอื้อมถึง

    สุดท้าย..พอลกับวงศ์วานคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเรือโนอาร์รอดตุยจากการถูกน้ำท่วม รอให้น้ำลดก็กลับมาในฐานะคนที่กฏหมายเอื้อมไม่ถีง

    ว่างๆจะเขียนลงลึกให้อ่านว่าทำไมกฏหมายถีงจะเอื้อมไปไม่ถึงบอสพอล เดี๋ยวคอยดูดาราที่เคยไปร่วมวงต่างก็จะออกมายืนยันว่าบริษัทถูกกฏหมาย 100%

    ซึ่งมันก็เป็นความจริงนะ แต่มันเป็นความจริงตามที่กฏหมายตราเอาไว้ว่าทำแบบพอลนั้นไม่ผิด แต่ทางธรรมพอลจะผิดในผิดซ้อนผิดเจตนาทำผิด..ไม่งงนะ.?

    นี่แค่บริษัทแรกนะ ยังมีต่อคิวอีก 4 บริษัท ที่อ่านเรื่องราวแล้วพวกคุณจะอึ้งและมันส์ยิ่งกว่าซีรีย์ เสียอีก

    #พี่ติ่งกระบือบิน ก็อย่าขึ้นทัวร์มาเซฟบอสพอลที่นี่นะครับนะ ผมนี่เขียนช่วยยืนยันเลยนะว่าบอสพอลจะรอดคุก..โอเค๊

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    .
    Cr : FB เหยื่อ V.2
    FB Page เหยื่อ V.2 เขียนดีมาก ครบถ้วน จึงขอยกมานำเสนอแบบเต็มๆ ............... ปฐมบท..บอสพอล The Icon พอล..คือชื่อของเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นก็ค้าขายของที่บ้าน จนกระทั่งยุคที่ Facebook Ads เริ่มให้บริการ ตอนนั้นคนยังไม่สนใจการยิงแอด ค่าแอดในการทำโฆษณาเรียกว่าเอาคนได้ที่โหล่มาทำแอดก็ยังกำไร เพราะต้นทุนต่อค่าโฆษณาอยู่ที่คลิกละ 5 สตางค์ หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินให้เกิดการคลิกเข้ามา 20 ครั้ง เสียเงินแค่ 1 บาท ดังนั้นถ้าใครอยู่ในยุคตื่นแอดช่วงแรกเรียกว่ากอบโกยชนิดที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน กันได้เลยจริงๆนั่นแหละ พ.ศ. 2556 คือยุคเริ่มต้นเมื่อ Facebook ประกาศให้มีการแสดงโฆษณาได้บนประเทศไทย พอล..จึงหัดยิงแอดออนไลน์ขายสินค้าของตัวเองจนชำนาญจึงเกิดเป็นพอลผู้ทำการตลาดออนไลน์เก่งมาก (ไม่เก่งได้ไงก็ค่าโฆษณามันยังถูกมาก) จะท้าวความให้อ่าน จะได้รู้ว่าทำไมพอลถึงเก่งและหัวใสแยบยลได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆแฟนเพจ นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเรื่องราวของเขากัน.. ผู้ที่ปั้นพอลให้เก่งอย่างทุกวันนี้ เขามีชื่อว่าคุณ ธเนตรการกล่าวถึงคนนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำผิดบาปอะไรนะ เขาเป็นนักการตลาด MLM ที่เก่งที่สุดในไทยระดับต้นๆ คุณ ธเนตร ได้สมัครเข้าไปทำการตลาดกับ Jeunesse Global 👉 https://www.facebook.com/JeunesseGlobal ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงทั่วๆไปเหมือนแอมเวย์ กิฟฟารีนซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่มันมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือการตลาดยุคนั้นมีกฎห้ามนำสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการตัดราคาและเลี่ยงการที่สมาชิกไม่ซื้อสินค้าผ่านบริษัทโดยตรง เรียกว่าใครโพสต์ขายหรือชวนคนออนไลน์ จะโดนตัดรหัสทิ้งทันทีเพราะเป็นการทำผิดกฏบริษัท แต่..มีนักการตลาดชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า Patric Chan 👉 https://www.facebook.com/patricchanlive/ ได้ไปดีลกับ Jeunesse ว่า จะขอพัฒนาระบบชวนคนออนไลน์ได้ไหม โดยให้เหตุผลว่า..จะสามารถทำสปอนเซอร์ข้ามประเทศได้ จะทำให้ Jeunesse มีสมาชิกทั่วโลกได้ เช่น.เราทำอยู่ที่ไทย เราอาจจะมี Down line อยู่ที่เคนย่า ลาว ไต้หวัน ได้หมด นั่นเป็นไอเดียที่ Jeunesse ตอบตกลงให้ Patric Chan ทำได้ จึงเกิดเป็นระบบชวนคนออนไลน์ ตอนนั้นแค่ชวนสมัครสมาชิกนะ การสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงสั่งผ่านหน้าเวบไซต์ Jeunesse อยู่ดีไม่มีอะไรซับซ้อน และคุณ ธเนตร ก็ได้ไปเรียนกับ Patric Chan ตอนที่เขามาเปิดสัมมนาที่ไทยในปี 2558 👉 https://www.facebook.com/passivewealthTH/ เมื่อคุณ ธเนตร ได้เรียนรู้ระบบชวนคนออนไลน์แล้วประจวบกับการที่พอลมาสมัครเป็น Downline ของธเนตร ก็เหมือนจับเอาเสือสองตัวมาตีคู่กัน เกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล คนหนึ่งเก่งเรื่องสคริปต์ชวนคน คนหนึ่งเก่งเรื่องยิงแอด ทีนี้แหละความรวยจึงบังเกิด เกิดเป็นยอดขายพันล้านของ ธเนตร เกิดยอดขายร้อยล้านของพอล จนทั้งสองคนได้ไปออกรายการต่างๆ พอลได้ไปออกรายการตีสิบ จนได้นามสกุลมาต่อท้ายชื่อว่า“พอล ตีสิบ” ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้นระหว่างที่เขายังคงทำ Jeunesse และตลอดเวลา พอลก็ได้เรียนรู้กลยุทธการทำการตลาดแบบ MLM จากธเนตร จนแตกฉานยิ่งกว่าจบเปรียญธรรม 9 ประโยค เมื่อพอลรู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็กางปีกโบยบินแยกตัวออกมาจาก ธเนตร มาตั้งบริษัท และทำแบรนด์ชื่อว่า“ The Icon“ --------- โดยช่วงแรกทำสินค้าพวกกาแฟ และ คอลลาเจน เพราะสองอย่างนี้พอลศึกษาแล้วว่าจะทำการตลาดชวนคนได้ง่าย เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย โดยพอลได้วางระบบชวนคนไว้โดยให้ผลตอบแทนเป็นการ "เที่ยวฟรี" และทำโปรโมชั่นเปิดบิลสมัครสมาชิก "เที่ยวฟรี" โดยจัดการเที่ยวเน้นไปที่ทะเล พัทยา เพราะดีลค่าโรงแรมได้ถูก พอลฉลาดโดยไม่ได้ดีลโรงแรมห้าดาวอะไร เน้นโรงแรม 3 ดาวก็พอแล้ว โดยมีการจองห้องประชุมไว้ทำสัมมนา ----------- ลูกค้าของพอล.. ช่วงแรกเขามุ่งเน้นไปที่คนอยากเที่ยวและอยากมีเพื่อนฝูงไปด้วย นั่นก็คือ คนที่เกษียณแล้ว หรือคนแก่นั่นเอง เค้ารู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายนี้แหละจะผลักดันให้บริษัทเขาอยู่รอดได้ในช่วงแรก ด้วยการจัดทัวร์เที่ยวกินฟรี (ค่าเดินทางออกเอง) โดยการเปิดบิลซื้อสินค้า ช่วงแรกจะมีระดับไม่เยอะ จะมีแบบเปิดคนเดียว เที่ยวคนเดียว และเปิดมากหน่อย ชวนเพื่อนมาเที่ยวได้ฟรี 1 คน 2 คน 3 คน ไล่ไปเรื่อยๆ และด้วยหลักการนี้เอง คนแก่จึงตอบรับข้อเสนอของเขาง่าย เพราะนอกจากจะได้สินค้ามากินและใช้แล้วก็ยังได้เที่ยวฟรี และคนแก่ส่วนมากมักจะไม่อยากไปเที่ยวคนเดียว จึงเปิดบิลที่ชวนเพื่อนได้ 2 คนขึ้นไป และก็เป็นการชวนเพื่อนมาเที่ยวฟรี การเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็คือชวนเพื่อนไปเที่ยวทะเล หลังกินอาหารเช้าแล้ว วันถัดมาก็จะเป็น Event กลางคืน ได้พบกับคนดังที่ออก TV นั่นคือบอสพอล ตีสิบ โดยพอลจะมาหลังจากทุกคนถึงแล้ว 1 วันเสมอ เพื่อมาปรากฎตัวบนเวที แล้วก็จะขอบคุณสมาชิกทุกคนที่มาเที่ยว รวมไปถึงชักชวนให้คนที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสามารถชวนเพื่อนในทริปหน้ากันได้อีก โดยคนชวนก็ไม่ใช่ใคร ก็ใช้เพื่อนชวนเพื่อนมันก็ง่ายสิ่คนแก่ขี้เหงายังไงก็ดีกว่ารอลูกหลานพาเที่ยว ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกกว่า ทำให้การเปิดบิลซ้ำ การเปิดบิลใหม่ จึงเกิดขึ้นตามแผนการตลาดอันแยบยลของพอลและด้วยวิธีนี้ทำให้ปีแรก บริษัทของพอลมีกำไรเติบโตทันที พอล..เริ่มซื้อรถ Super Car ก่อนเลยเพื่อเริ่มเข้าสู่“โหมดความรวย”เพื่อวางแผนกระเถิ่บไปหาลูกค้าที่มีความฝัน..อยากรวยตามแบบคนอื่น พอล..เปลี่ยนการตลาดจากคนแก่ มาเจาะคนที่อยากเกษียณก่อนกำหนด คือ เป้าหมายพวกอายุ 35 ขึ้นไปที่ฝันอยากมีรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม..เหมือนคนอื่น คนเรามีความฝันนั้นดี “แต่ต้องไม่ลืมนึกถึงความจริง”ที่ว่า บางครั้งความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นความจริง พอล..ใช้คอร์สสอนออนไลน์สอนการทำตลาดขายของซึ่งยุคนั้นค่าโฆษณายังไม่แพง แต่ก็เริ่มขยับจากระดับ 10 สตางค์ มาเป็นคลิกละ 50 สตางค์แล้ว แต่มันก็ยังได้ผลอยู่ เพราะจ่ายค่าโฆษณาไป 1,000 บาท ก็สามารถชวนคนได้ถึง 2000 คลิก ตีไปว่าสนใจ 1% ก็ยังมีคนทักมา 20 คน คอร์สก็เป็นการเตรียม Material ต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แค่ทุกคนแบกโน้ตบุ๊กของตัวเองมาก็สามารถตั้งโฆษณาได้เลย ทุกคนจะตั้งโฆษณาขายสินค้าและชวนคนเข้าทีม ซึ่งตั้งไว้ที่ 89 บาท 89 บาท นั่นคือค่าเฉลี่ยที่พอลคำนวณแล้วว่าใช้เทคนิค OPM (Other People Money) แบบนี้ตัวเองก็ไม่ต้องยิงแอดเองแล้ว (จากเดิมตอนชวนคนแก่ต้องยิงแอดเอง และสอนทีมงาน) มาคราวนี้พอลได้พัฒนา ระบบการสอน เริ่มมีการตั้งแม่ทีมเพื่อศึกษาวิธีการสอนให้เป็นครู โดยทุกคนก็เอา 89 บาทค่าเรียน ใส่เข้าไปในโฆษณานั่นแหละ เท่ากับพอลก็จะได้ Facebook Ads Account มหาศาลโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียเวลาสมัครและไม่ต้องกลัวโดนแบนโฆษณาเพราะถึงโดนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องเหนื่อยลงไปควบคุมเองแล้ว ด้วยแผนการตลาดแบบใหม่ ทำให้พอลเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายพุ่งไปหลายร้อยล้านทันที เพราะมีการวางเกมเรื่องเปิดบิลไว้แล้ว อย่างที่เห็นในข่าว คนมาอย่างน้อยก็ต้องเสียค่าสมัคร member หลัก 2-5 พัน และถ้าแม่ทีมเก่งก็จะต้อนให้ไปเปิดบิลดีลเลอร์ได้เลย 250,000 เพื่อให้เที่ยวฟรีได้เกือบ 10 ครั้ง แถมยังได้โควต้าชวนคนมาเที่ยวด้วย เรียกว่าอัดโปรโมชั่นกันแบบจุกๆ เพื่อทำให้คนได้เห็นว่ามาเรียนที่นี่นอกจากจะขายได้แล้ว ยังได้เที่ยวด้วย ทำให้เกิดกระแสบูมไปที่ The Icon และด้วยการที่พอลศึกษาข้อกฏหมายกับทนายส่วนตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงได้ความรู้จากอาจารย์ตัวเองมา เขาจึงเลี่ยงวลี..ไม่ได้ทำ MLM เพราะรู้ว่าถ้าชวนทำ MLM คนจะไม่มา เขาจึงเรียกระบบของบริษัทตัวเองว่าระบบตัวแทน เพื่อให้คนไม่รู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ และพอลได้ขออนุญาตการทำการตลาด ที่เรียกว่าตลาดขายตรง ไว้แล้ว บริษัทจึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่มีความผิด และด้วยเทคนิคนี้ทำให้พอล ก้าวเข้าสู่ยอดขายหลายร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย --------- ยุคทองของ..บอสพอล The Icon เมื่อโควิดหมดไปประเทศเปิด คนก็เริ่มหางานทำ นั่นจึงเกิดเป็นยอดขาย 4,949,496,994 มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาทเศษ ในปี 2564 นั่นเอง เพราะคนแห่มาทำออนไลน์กันเนื่องจากยังคงกลัวโควิดอยู่แต่ก็ต้องทำมาหากินแล้ว ทีนี้ก็แบกตัวเองมาเรียนเพราะอยากมีอาชีพมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว แต่..พอมาเรียนแล้วได้เจอกับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจอคนขับรถสปอร์ต ใส่แบรนด์เนม ความคิดที่อยากจะมีอาชีพที่มีแค่รายได้มาจุนเจือครอบครัวมันเปลี่ยนไป เริ่มมีความฝัน อยากสำเร็จ อยากรวย เพราะเห็นจากภาพความสำเร็จของระบบที่พอลได้ออกแบบเอาไว้ The Icon บูมสุดๆก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลเข้ามาเรียนมากขึ้น ชวนกันมากขึ้น เปิดบิลกันมากขึ้น เที่ยวกันให้สะใจ ทีมงานบอสพอลโพสต์ภาพการกินเที่ยวเต็มโซเชียล ภาพถ่ายเหล่านั้นมันดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนจริงๆ ดึงดูดคนให้เข้าเรียนเพิ่มขึ้น แต่พอคนมาเยอะ มันก็ตรงกับหลัก Supply/Demand เมื่อคนขายมากกว่าคนซื้อและทุกคนแห่กันไปโฆษณาบน Facebook ความฉิบหายจึงบังเกิด ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูดเพราะทุกคนก็ต้องการ Placement บน Platform ไม่ว่าจะจุดไหนก็จะ Bid ราคากันแบบ Auto ทีนี้ AI ของ Facebook ก็ลากราคาต่อคลิกไปสูงถึง 10 บาท ทีนี้เริ่มไม่มีกำไรละ หลายคนเริ่มเจ๊ง หลายคนสต็อกเริ่มล้น..สินค้าติดมือ หลายคนเริ่มสู้กับค่าโฆษณาไม่ไหว เพราะยิงแอดไปซ้ำกับคนเดิม ระบบชวนคนทุกบริษัทมันมีข้อเสียตรงนี้แหละคือทำไปสักพักจะมีรหัสซ้ำ คำว่ารหัสซ้ำ แปลง่ายๆก็คือทักไปหาคนที่เป็นสมาชิกของ The Icon อยู่แล้ว ดังนั้นการชวนคนจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม เริ่มเจอหน้าซ้ำ เริ่มเจอคนระดับรากหญ้า เป็นแม่ค้าผักบ้างล่ะ เป็น รปภ.บ้างล่ะ ทำให้ยอดขายปีถัดมาตกลงเหลือ 3 พันกว่าล้าน พอล..ต้องการต่ออายุธุรกิจของตัวเองให้เดินหน้าต่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าจึงเริ่มหา #ลมใต้ปีก มาช่วยพยุงธุรกิจ และรู้ๆกันอยู่ว่าลมใต้ปีกชั้นดีก็คือ..ดารา และดาราคนแรกๆเลยก็คือ กันต์ ซึ่งแรกๆกันต์ไม่ได้เข้ามาในฐานะพรีเซ็นเตอร์อีกตางหาก ลองไปสืบค้นกันเอาเองว่าตอนแรกเข้ามาในฐานะอะไร กันต์ เข้ามาก่อนแต่มายืนถือสินค้าชิ้นแรกหลังพวกดาราคนอื่น เพราะเพื่อส่งเสริมให้บริษัทมันดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น พอลจึงแต่งตั้งกันต์ให้เป็น CMO ซะเลย เพราะจะได้การันตีว่าบริษัทฉันน่ะมันสะอาดโปร่งใสนะฉันไม่โกงหรอก เห็นไหมว่า..พิธีกรระดับประเทศยังมาทำงานร่วมกับฉันเลย กันต์ และดาราอีกขโยงหนึ่งทำให้ใครๆก็เชื่อมั่นใน The Icon ชวนเปิดบิลหลักแสนก็ใจอ่อนไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมีดาราการันตรี มีดาราพารวย แน่นอนว่าช่วงนี้ค่าโฆษณาแพงแล้วนะ แต่มีดารามาการันตี แล้วกำไรมีไหม ก็มีระดับปริ่มๆ แต่บางคนก็เริ่มเจ๊งตั้งแต่เริ่มทำ ----------- ดังที่กล่าวมาข้างบน👆จะเห็นได้ว่าไม่มีเหลี่ยมไหนที่จะตั้งข้อกล่าวหาให้เอาผิดพอลในชั้นศาลได้เลย จะตั้งข้อกล่าวหาพอลยังยาก ไอ้ที่เย้วๆตั้งธงว่าแชร์ลูกโซ่นี่พอลยิ้มอ่อนเอามือลูบปากคิดในใจ..เสร็จกู เพราะเคสแบบนีัมันต้องเริ่มที่ สคบ.ก่อนเลย แต่ด้วยเหตุผลของกฎหมาย สคบ.ก็จะตีความว่า การขายสินค้าของพอล..“ไม่ได้ขายต่อไปยังมือผู้บริโภคโดยตรง แต่จำหน่ายไปที่ตัวแทน” หรือเคยมีใครได้รับสินค้าจากมือบอสพอลโดยตรงบ้างไหมล่ะ.? ถ้าไม่มีก็ตรงตามที่ สคบ.ตีความเอาไว้นั่นแหละ จึงทำให้ทุกคนที่เคยร้องเรียนไปยัง สคบ.ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันหมดคือ สคบ.ทำอะไรไม่ได้ เพราะพอลได้ศึกษาข้อกฏหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ยกเว้นการการันตีว่าแอดต้องปัง พอล..เริ่มปรับแผนการตลาด ตั้งสำนักงานใหม่ที่รามอินทรา มีรถหรูจอดที่ด้านหน้าเพื่อให้คนมาถ่ายกับรถแล้วก็ไปโพสต์และยิงโฆษณาแทนตนเอง เริ่มให้คนสร้างภาพว่าทำแล้วรวย แทนที่จะกลายเป็นเที่ยว ไม่เอาแล้วล่ะ กูเน้นทำแล้วรวย แล้วก็คงคอนเซ็ปต์ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยากรวยต้องมาทำกับกูนี่มา ถถถ แต่เมื่อคนเริ่มตื่นรู้ ค่าโฆษณาแพง การจะชวนไปต่อในระดับลึกๆทำได้ยาก หลายคนจึงยอมเจ็บแค่นี้แล้วถอยออกมาหาเงินทางอื่นมาใช้หนีั ทำให้ปีถัดมา ยอดขายตกเหลือ พันแปดร้อยล้าน หายไปเกือบ 40% ทีนี้บอสพอลก็คงทำได้แค่ยื้อเวลาของธุรกิจตัวเองต่อไป โดยการจ้างดารามามากขึ้น ผลิตสินค้าออกมามากขึ้น เพื่อให้การเปิดบิลมัน rotate ไปยังสินค้า SKU ใหม่ๆ หลังจากนั้นจึงเป็นความวิบัติที่แท้.. พอล..ไม่ได้ควบคุมทิศทางบริษัทตัวเองให้ดี รู้ทั้งรู้แต่ยังปล่อยให้ทำ ก็คือแม่ทีม เริ่มกลายร่างสถาปนาตัวเองเป็นโค้ช เก่งระดับประเทศกันทุกคน ทุกคนขับรถสปอร์ตกันหมดเลย แล้วรถของใครล่ะ.? ก็รถของบอสพอลแทบทุกคันเลยแหละ การตลาดมันจึงกลายเป็นการหลอกลวงผู้คนด้วยโพรไฟล์จอมปลอมทันที เพราะรถก็ไม่ใช่ของตัวเอง แต่มาโม้ว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อว่าทำธุรกิจร่วมกับ The Icon แล้วรวย บอสพอลก็ทราบดีเลยนะว่าทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง แต่พอลก็รู้ว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดอะไรขึ้นคนที่จะรับกรรมก็แม่ทีมไง ไม่ใช่ตัวเอง พอล..ก็หลับตาข้างเดียวปล่อยให้แม่ทีมทำไปตามอำเภอใจ จนมาถึงปัจจุบันที่ทุกคนโหวกเหวกโวยวายนั่นแหละ สิ่งที่ควรตระหนักคิด ตื่นให้รู้เอาไว้เลยคือ.. การยิงแอดขายของออนไลน์มันตายไป 3 ปีแล้วคือหลังปี 2564 ไม่มีใครยิงแอดในระบบตัวแทนไม่ว่าบริษัทใหนแล้วอยู่รอดสักราย นี่คือความจริง ไม่ได้พูดถึงแค่ The Icon นะ เราขอพูดถึงทุกๆบริษัท ทุกๆสินค้าเลย เหตุผลก็คือค่าโฆษณามันแพงกว่า Margin ของกำไร ดังนั้นคนที่จะอยู่ได้คือ“เจ้าของสินค้าเท่านั้น” ผลิตเอง ยิงเอง โปรโมทเอง ถึงจะอยู่รอด ระบบตัวแทน ระบบออนไลน์มันตายไปตั้งแต่ปี 2564 แล้ว คนมันถึงหนีตายไปยิงแอด shopee , lazada กันไงล่ะ เพราะ Facebook มันอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วปีนี้ 2567 shopee , lazada ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว หลายคนจึงไปยิง Tiktok แล้วอีกไม่นานพวกคุณก็จะอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละเพราะมันจะลูปเดิม เหมือนกับ Platform อื่นๆ เพราะค่าโฆษณาบน Platform เมื่อแพงแล้วมันจะไม่มีวันลดลง นี่คือกฎแห่งการตลาดง่ายๆ คุณลองไปท่อง Supply/Demand ก็จบแล้ว แต่บอสพอลมันพยายามยืดชีวิตด้วยการ rotate บอสจำแลงที่จ้างดาราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ FC ทุกระดับทุกวัยยังคงกรี๊ดกับธุรกิจของบอสอยู่ บอสพอล ถึงไปเลือกพี่โดมยุค 90 มาหาลูกค้าระดับแก่ เลือกมีน มาหาลูกค้าระดับ 30+ ทุกคนก็มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ พี่แซมก็เช่นกัน เป็นถึงดารานักการเมืองยังลงมาทำธุรกิจนี้เลย ความน่าเชื่อถือแบบนี้พอลซื้อและยื้อมันไปเรื่อยๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บริษัท the icon ใช้วิธีไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน แต่จ่ายเป็นทริปท่องเที่ยวแทน แล้วถ้าใครไม่อยากไปเที่ยว สามารถขายสิทธิ์ไปเที่ยว แลกเป็นเงินกลับไปได้ จึงเลี่ยงการจ่ายค่าคอมไปได้เยอะ เพราะไปฟันกำไรตอนจัดทริปทัวร์ปุ๊บปั๊บอีก เรียกว่าไปปารีสแต่ได้นั่งรถโฉบหอไอเฟล หรือได้พักตากอากาศที่โรงแรมสามสี่ดาว อย่างน้อยก็ได้เที่ยวโว๊ยยยยยยย ส่วนสินค้าขายไม่ออกแกะแดกแม่งให้หมด อส. ถถถ สินค้าที่บอกว่าสต็อกไว้ในโกดัง 100% น่ะ เวลาพวกคุณไปเบิกจริงๆ จะเบิกไม่ได้ 100% นะ เพราะมันจะเป็น Dropship คือต้องขายได้ บริษัทถึงจะส่งให้ ไม่เน้นให้เบิกกลับไปเก็บที่บ้าน เพราะเปิดบิลดีลเลอร์ต้องรอรอบผลิตของ 2 เดือนเป็นต้นไป กว่าจะได้ของครบต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเข้า ธุรกิจนี้ไ่ม่มีใครโง่ผลิตของมากองไว้ให้หมดอายุหรอก ได้ออเดอร์ค่อยสั่งผลิต มันเลยมีช่องว่างให้บอสพอลเอาเงินไปหมุนได้ ได้ข่าวแว่วๆว่าบอสพอลเอาเงินไปลงเทรดด้วย กำไรอู้ฟู่ รวยคนเดียวอีกตามเคย ---------- ดังนั้นบทสรุปของธุรกิจ The Icon เราจะขอบอกให้ชื่นใจดังนี้ 1. พอลคนเดียวที่รวยและรอด เพราะว่าพอลส่งภาษีเที่ยงตรง 100% เป็นลูกรักสรรพากรเลยแหละ นั่นเพราะพอลเรียนรู้จากคุณ ธเนตร ว่าเรื่องนี้ห้่ามพลาด สรรพากรไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะพอลนะ 2. คอร์สขายออนไลน์เรียนราคาถูก ไม่มีอยู่จริง เพราะสุดท้ายพวกคุณจะโดน up sale จะไปเรียนคอร์สระดับ Advance ต้องเป็น Member จะร่ำรวยเงินล้านต้องทุ่ม Dealer 3. โฆษณาของทุกคนปังหมด เพราะมันมีแม่ทีมที่มี Facebook Account อวตารคอยไปคอมเมนต์สั่งซื้อ แต่มีการซื้อจริงไม่ถีง 20% เพราะตอนการันตี การันตีว่าแอดจะปัง แต่คุณปิดการขายไม่ได้เพราะคุณสนทนาขายให้กับแอคผี มันจะไปมียอดซื้อได้ไง พอคุณปิดไม่ได้ทีนี้ความซวยก็เกิดที่ตัวคุณเอง พวก Downline ทั้งหลายก็รับกรรมไป หลายคนโดนหลอกว่าจะทำทั้งทีต้องทำแบบ 7-11 เปิดแม่งหลายสาขาเลย ลงเป็นล้านไรงี้ 4. ไม่อยากตุยอย่าเข้าไปทำ หนีได้หนีไป หนีให้สุดชีวิต เพราะมันคือยุคบรรลัยของธุรกิจ The I con ที่ตัวพอลเองเห็นอยู่แท้ๆว่ามันบรรลัย ที่ยังหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเป็นดั่งระเบิดเวลาที่มันใกล้จะระเบิดแล้ว ก็เพราะความมั่นใจอย่างเดียวเลยที่พอลคิดในใจก็คือ "กูจะไม่โดนคดีอะไรเลย กูขาวสะอาด" ทีนี้พวกคุณเข้าใจหรือยังว่าการจะไปด่าพอลมันก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะมันดูใสสะอาด ขาวจั๊วะเลยแหละยิ่งกว่าบรีส จะเห็นแต่แม่ทีมนั่นแหละที่เป็นคนผิด ดังนั้นบทจบของละครเรื่องนี้ก็จะไปลงกับแม่ทีมทั้งหลายที่ออกมาเซฟบอสพอลกันให้ลึ่ม ถ้าเรารู้จักจะถามว่า..มึงเซฟตัวเองก่อนไหม มึงไปเซฟ Downline มึงโน่น🤣 อส. น้ำกำลังจะท่วมถีงหลังคาบริษัทแล้ว แม่ทีมกำลังอลหม่าน แต่บอสพอลแม่งนอนดูละครคุณธรรมชิลล์ๆ🤣 เพราะพอลนั้นได้ต่อเรือโนอาร์เตรียมรับสถานการณ์รอไว้ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้ว ใสสะอาดจนกฏหมายยากที่จะเอื้อมถึง สุดท้าย..พอลกับวงศ์วานคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเรือโนอาร์รอดตุยจากการถูกน้ำท่วม รอให้น้ำลดก็กลับมาในฐานะคนที่กฏหมายเอื้อมไม่ถีง ว่างๆจะเขียนลงลึกให้อ่านว่าทำไมกฏหมายถีงจะเอื้อมไปไม่ถึงบอสพอล เดี๋ยวคอยดูดาราที่เคยไปร่วมวงต่างก็จะออกมายืนยันว่าบริษัทถูกกฏหมาย 100% ซึ่งมันก็เป็นความจริงนะ แต่มันเป็นความจริงตามที่กฏหมายตราเอาไว้ว่าทำแบบพอลนั้นไม่ผิด แต่ทางธรรมพอลจะผิดในผิดซ้อนผิดเจตนาทำผิด..ไม่งงนะ.? นี่แค่บริษัทแรกนะ ยังมีต่อคิวอีก 4 บริษัท ที่อ่านเรื่องราวแล้วพวกคุณจะอึ้งและมันส์ยิ่งกว่าซีรีย์ เสียอีก #พี่ติ่งกระบือบิน ก็อย่าขึ้นทัวร์มาเซฟบอสพอลที่นี่นะครับนะ ผมนี่เขียนช่วยยืนยันเลยนะว่าบอสพอลจะรอดคุก..โอเค๊ สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน . Cr : FB เหยื่อ V.2
    Like
    12
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 622 มุมมอง 1 รีวิว
  • 10 ตุลาคม 2567- รายงานข่าวคมชัดลึกเปิดธุรกิจ กันต์ กันตถาวร
    -บริษัท กันต์พลอยแอนด์เดอะเบบี๋ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2564 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจด้านความบันเทิง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
    -บริษัท ของกันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2565 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจ ให้บริการพิธีกรและงานโชว์ทั่วไป นักร้อง นักแสดง ตลอดจนการแสดงตามที่สาธารณะต่างๆ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
    -บริษัท คนกันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2563 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจให้บริการพิธีกรเเละงานโชว์ทั่วไป นักร้อง นักเเสดง ตลอดจนตการเเสดงตามที่สาธารณะต่างๆ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
    -บริษัท กันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2555 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
    -บริษัท กรีนเอทเกรดเอ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2562 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท

    นอกจากนี้แล้ว กันต์ กันตถาวร เคยมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลเอกชน สถานพยาบาลรับรักษาคนไข้ และผู้ป่วย ภายใต้ชื่อบริษัท สกินบุฟเฟ่ต์ คลินิก จำกัด ซึ่งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2556 ปัจจุบันมีสถานะเป็นเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2559

    #Thaitimes
    10 ตุลาคม 2567- รายงานข่าวคมชัดลึกเปิดธุรกิจ กันต์ กันตถาวร -บริษัท กันต์พลอยแอนด์เดอะเบบี๋ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2564 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจด้านความบันเทิง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท -บริษัท ของกันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2565 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจ ให้บริการพิธีกรและงานโชว์ทั่วไป นักร้อง นักแสดง ตลอดจนการแสดงตามที่สาธารณะต่างๆ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท -บริษัท คนกันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2563 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจให้บริการพิธีกรเเละงานโชว์ทั่วไป นักร้อง นักเเสดง ตลอดจนตการเเสดงตามที่สาธารณะต่างๆ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท -บริษัท กันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2555 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท -บริษัท กรีนเอทเกรดเอ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2562 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท นอกจากนี้แล้ว กันต์ กันตถาวร เคยมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลเอกชน สถานพยาบาลรับรักษาคนไข้ และผู้ป่วย ภายใต้ชื่อบริษัท สกินบุฟเฟ่ต์ คลินิก จำกัด ซึ่งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2556 ปัจจุบันมีสถานะเป็นเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2559 #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 475 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิด 9 อาณาจักร "บอสพอล" หรือ วรัทย์พล วรัตน์วรกุล เจ้าของธุรกิจออนไลน์ The iCon Group 5 ปีรวยหมื่นล้าน

    จากกรณีกลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ต หลังหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ดารานักแสดง ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรชื่อดังออกมาโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก หนุ่ม กรรชัย เพียงสั้นๆ ระบุว่า "เหล่าแม่ข่ายของบริษัทธุรกิจเครือข่ายดังเริ่มมีการข่มขู่ไปทั่ว กลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแท็ก เซฟบอส เซฟบริษัทตัวเอง ไม่เซฟผู้เสียหายบ้างเหรอ?" อันเนื่องมาจากมีคนระดมติดแฮชแท็ก #Saveบอส จนติดเทรนด์

    ต่อมา นายไกรภพ จันทร์ดี หรือ กบ ไมโคร นักร้องร็อกเกอร์รุ่นใหญ่ ออกมาแฉพฤติกรรมธุรกิจเครือข่ายแห่งหนึ่งที่เจ้าตัวร่วมลงทุนเพื่อหารายได้อีกทางแต่สุดท้ายสูญเงินหลายแสนบาท อีกทั้งพบข้อเท็จจริงสุดเศร้า ว่ามีผู้สูงวัยที่หลงเชื่อใช้เงินก้อนสุดท้ายของชีวิตมาลงทุนจนสิ้นเนื้อประดาตัว รวมถึงเจ้าตัวพยายามเรียกร้องกลับพบข้อกฎหมายที่ทางบริษัททำไว้รัดกุมจนคิดว่าเอาผิดเขาไม่ได้


    หลายคนจับจ้องไปที่ "บอสพอล" หรือ วรัทย์พล วรัตน์วรกุล นักธุรกิจขายตรงชื่อดัง ผู้ก่อตั้งและเจ้าของอาณาจักร “ดิไอคอนกรุ๊ป” (The iCon Group)

    วันนี้ (9 ต.ค.) จาการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า นายวรัทย์พล วรัตน์วรกุล เป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นในบริษัทอย่างน้อย 9 แห่ง เลิกกิจการไปแล้ว 1 แห่ง ได้แก่
    1. บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 1 มิ.ย. 2561 ทุนปัจจุบัน 50 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/42-46 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจการขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" เป็นกรรมการรายเดียว

    รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2567 "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" ถือหุ้นใหญ่ 74.9998%, จินดา แซ่ก๊อก ถือหุ้น 21% และ ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 4.0002%

    สำหรับงบการเงิน ปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 2,402,677,947 บาท หนี้สินรวม 1,554,377,393 บาท มีรายได้รวม 1,891,032,251 บาท รายจ่ายรวม 1,862,137,799 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 3,346 บาท เสียภาษีเงินได้ 9,113,250 บาท กำไรสุทธิ 19,777,855 บาท

    หากนับรวมรายได้ ย้อนหลัง 5 ปี (ปีงบ 2562-2566) พบว่ามีรายได้รวมกัน 10,613,171,865 บาท (ราว 1 หมื่นล้านบาท)
    ในปี 2562 มีรายได้รวม 322,679,743 บาท กำไรสุทธิ 5,947,795 บาท

    ปี 2563 รายได้รวม 378,119,566 บาท กำไรสุทธิ 9,044,857 บาท
    ปี 2564 รายได้รวม 4,950,055,693 บาท กำไรสุทธิ 813,444,976 บาท
    ปีงบ 2565 รายได้รวม 3,071,284,612 บาท กำไรสุทธิ 188,084,851 บาท
    ปี 2566 รายได้รวม 1,891,032,251 บาท กำไรสุทธิ 19,777,855 บาท

    2. บริษัท ดิ ไอคอน เวลเนส จำกัด

    จดทะเบียนวันที่ 3 ส.ค. 2565 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/45-46 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจ คลินิกโรคเฉพาะทาง โดย "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" เป็นกรรมการรายเดียว

    โดยรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด เมื่อ 30 เม.ย. 2567 บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 99.98%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือ 0.01% และ จินดา แซ่ก๊อก ถือ 0.01% ซึ่งงบการเงินปี 2565 มีสินทรัพย์รวม 236,339 บาท หนี้สินรวม 13,000 บาท รายได้รวม 339 บาท รายจ่ายรวม 27,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 26,660 บาท

    3. บริษัท ดิไอคอนการบัญชี จำกัด

    จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2565 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/43 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ การทำบัญชี การตรวจสอบบัญชี การให้คำปรึกษาด้านภาษี มี วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร วิสูตร อภิญโญวิเชียร เป็นกรรมการ

    รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2567 บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 50%, วิสูตร อภิญโญวิเชียร ถือหุ้น 49%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 1% โดยงบการเงิน ปี 2565 มีสินทรัพย์รวม 968,097 บาท หนี้สินรวม 631,696 บาท รายได้รวม 617,448 บาท รายจ่ายรวม 1,243,903 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 1,964 บาท ขาดทุนสุทธิ 628,419 บาท

    4. บริษัท นิรมิตร โกลบอล จำกัด

    จดทะเบียนเมื่อ 15 ก.ค. 2563 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/42-44 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ ขายสินค้าหรือบริการทางอินเทอร์เน็ต วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เป็นกรรมการรายเดียว

    รายชื่อผู้ถือหุ้น เมื่อ 30 เม.ย. 2567 "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" ถือหุ้นใหญ่ 94.99%, จินดา แซ่ก๊อก ถือหุ้น 5%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 0.01%

    5. บริษัท เดอะไอคอน แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด

    จดทะเบียนเมื่อ 14 ต.ค. 2554 แจ้งเลิกกิจการ 15 พ.ย. 2564 ตั้งอยู่ที่ 158/23 ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ เป็นนายหน้าตัวแทนจำหน่ายเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เครื่องมือเครื่องใช้เสริมความงาม อาหารเสริม ทุกประเภท "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" เป็นกรรมการ

    6. บริษัท เฟรนด์ชิป ฟูลฟิลเม้นท์ จำกัด

    จดทะเบียนเมื่อ 15 พ.ค. 2562 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/43 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้าทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ โดยมีนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร และ จิระวัฒน์ แสงภักดี เป็นกรรมการ

    รายชื่อผู้ถือหุ้นเมื่อ 30 เม.ย. 2567 บริษัท ดิไอคอนริช จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 34%, บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ถือหุ้น 33%, บริษัท เซิร์ฟริช จำกัด ถือหุ้น 33%

    7. บริษัท ดิไอคอนริช จำกัด

    ทุน 1 ล้านบาท ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร เป็นกรรมการและถือหุ้นใหญ่สุด 99.98% ทำธุรกิจนายหน้าจากการขายสินค้า แจ้งรายได้ปี 66 กว่า 88.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.1 ล้านบาท

    8. บริษัท เซิร์ฟริช จำกัด

    ทุน 1 ล้านบาท จิระวัฒน์ แสงภักดี (ถือหุ้น 45%) วัชรา งามจัตุรัส (ถือหุ้น 45%) พรรทิพา งามจัตุรัส (ถือหุ้น 10%) เป็นกรรมการ ทำธุรกิจออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ ติดตั้งระบบเครือข่าย และให้เช่าพื้นที่เซิร์ฟแวร์

    แจ้งรายได้ปี 66 กว่า 33.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 9.7 ล้านบาท โดยงบการเงินล่าสุดปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 7,976,108 บาท หนี้สินรวม 2,156,548 บาท รายได้รวม 20,073,858 บาท รายจ่ายรวม 15,088,783 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 5,796 บาท เสียภาษีเงินได้ 997,117 บาท กำไรสุทธิ 3,982,160 บาท

    9. บริษัท ไอคอน ซูวีเนียร์ จำกัด

    จดทะเบียนเมื่อ 6 ส.ค. 2567 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/43 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ การขายปลีกสินค้าอื่นๆซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่นบนแผงลอยและตลาด วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เป็นกรรมการรายเดียว

    รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด 29 ก.ค. 2567 วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ถือหุ้นใหญ่ 99%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 1% ยังไม่พบข้อมูลงบการเงิน

    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000096392

    #Thaitimes
    เปิด 9 อาณาจักร "บอสพอล" หรือ วรัทย์พล วรัตน์วรกุล เจ้าของธุรกิจออนไลน์ The iCon Group 5 ปีรวยหมื่นล้าน จากกรณีกลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ต หลังหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ดารานักแสดง ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรชื่อดังออกมาโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก หนุ่ม กรรชัย เพียงสั้นๆ ระบุว่า "เหล่าแม่ข่ายของบริษัทธุรกิจเครือข่ายดังเริ่มมีการข่มขู่ไปทั่ว กลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแท็ก เซฟบอส เซฟบริษัทตัวเอง ไม่เซฟผู้เสียหายบ้างเหรอ?" อันเนื่องมาจากมีคนระดมติดแฮชแท็ก #Saveบอส จนติดเทรนด์ ต่อมา นายไกรภพ จันทร์ดี หรือ กบ ไมโคร นักร้องร็อกเกอร์รุ่นใหญ่ ออกมาแฉพฤติกรรมธุรกิจเครือข่ายแห่งหนึ่งที่เจ้าตัวร่วมลงทุนเพื่อหารายได้อีกทางแต่สุดท้ายสูญเงินหลายแสนบาท อีกทั้งพบข้อเท็จจริงสุดเศร้า ว่ามีผู้สูงวัยที่หลงเชื่อใช้เงินก้อนสุดท้ายของชีวิตมาลงทุนจนสิ้นเนื้อประดาตัว รวมถึงเจ้าตัวพยายามเรียกร้องกลับพบข้อกฎหมายที่ทางบริษัททำไว้รัดกุมจนคิดว่าเอาผิดเขาไม่ได้ หลายคนจับจ้องไปที่ "บอสพอล" หรือ วรัทย์พล วรัตน์วรกุล นักธุรกิจขายตรงชื่อดัง ผู้ก่อตั้งและเจ้าของอาณาจักร “ดิไอคอนกรุ๊ป” (The iCon Group) วันนี้ (9 ต.ค.) จาการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า นายวรัทย์พล วรัตน์วรกุล เป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นในบริษัทอย่างน้อย 9 แห่ง เลิกกิจการไปแล้ว 1 แห่ง ได้แก่ 1. บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 1 มิ.ย. 2561 ทุนปัจจุบัน 50 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/42-46 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจการขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" เป็นกรรมการรายเดียว รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2567 "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" ถือหุ้นใหญ่ 74.9998%, จินดา แซ่ก๊อก ถือหุ้น 21% และ ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 4.0002% สำหรับงบการเงิน ปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 2,402,677,947 บาท หนี้สินรวม 1,554,377,393 บาท มีรายได้รวม 1,891,032,251 บาท รายจ่ายรวม 1,862,137,799 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 3,346 บาท เสียภาษีเงินได้ 9,113,250 บาท กำไรสุทธิ 19,777,855 บาท หากนับรวมรายได้ ย้อนหลัง 5 ปี (ปีงบ 2562-2566) พบว่ามีรายได้รวมกัน 10,613,171,865 บาท (ราว 1 หมื่นล้านบาท) ในปี 2562 มีรายได้รวม 322,679,743 บาท กำไรสุทธิ 5,947,795 บาท ปี 2563 รายได้รวม 378,119,566 บาท กำไรสุทธิ 9,044,857 บาท ปี 2564 รายได้รวม 4,950,055,693 บาท กำไรสุทธิ 813,444,976 บาท ปีงบ 2565 รายได้รวม 3,071,284,612 บาท กำไรสุทธิ 188,084,851 บาท ปี 2566 รายได้รวม 1,891,032,251 บาท กำไรสุทธิ 19,777,855 บาท 2. บริษัท ดิ ไอคอน เวลเนส จำกัด จดทะเบียนวันที่ 3 ส.ค. 2565 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/45-46 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจ คลินิกโรคเฉพาะทาง โดย "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" เป็นกรรมการรายเดียว โดยรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด เมื่อ 30 เม.ย. 2567 บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 99.98%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือ 0.01% และ จินดา แซ่ก๊อก ถือ 0.01% ซึ่งงบการเงินปี 2565 มีสินทรัพย์รวม 236,339 บาท หนี้สินรวม 13,000 บาท รายได้รวม 339 บาท รายจ่ายรวม 27,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 26,660 บาท 3. บริษัท ดิไอคอนการบัญชี จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2565 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/43 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ การทำบัญชี การตรวจสอบบัญชี การให้คำปรึกษาด้านภาษี มี วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร วิสูตร อภิญโญวิเชียร เป็นกรรมการ รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2567 บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 50%, วิสูตร อภิญโญวิเชียร ถือหุ้น 49%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 1% โดยงบการเงิน ปี 2565 มีสินทรัพย์รวม 968,097 บาท หนี้สินรวม 631,696 บาท รายได้รวม 617,448 บาท รายจ่ายรวม 1,243,903 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 1,964 บาท ขาดทุนสุทธิ 628,419 บาท 4. บริษัท นิรมิตร โกลบอล จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 15 ก.ค. 2563 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/42-44 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ ขายสินค้าหรือบริการทางอินเทอร์เน็ต วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เป็นกรรมการรายเดียว รายชื่อผู้ถือหุ้น เมื่อ 30 เม.ย. 2567 "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" ถือหุ้นใหญ่ 94.99%, จินดา แซ่ก๊อก ถือหุ้น 5%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 0.01% 5. บริษัท เดอะไอคอน แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 14 ต.ค. 2554 แจ้งเลิกกิจการ 15 พ.ย. 2564 ตั้งอยู่ที่ 158/23 ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ เป็นนายหน้าตัวแทนจำหน่ายเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เครื่องมือเครื่องใช้เสริมความงาม อาหารเสริม ทุกประเภท "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" เป็นกรรมการ 6. บริษัท เฟรนด์ชิป ฟูลฟิลเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 15 พ.ค. 2562 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/43 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้าทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ โดยมีนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร และ จิระวัฒน์ แสงภักดี เป็นกรรมการ รายชื่อผู้ถือหุ้นเมื่อ 30 เม.ย. 2567 บริษัท ดิไอคอนริช จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 34%, บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ถือหุ้น 33%, บริษัท เซิร์ฟริช จำกัด ถือหุ้น 33% 7. บริษัท ดิไอคอนริช จำกัด ทุน 1 ล้านบาท ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร เป็นกรรมการและถือหุ้นใหญ่สุด 99.98% ทำธุรกิจนายหน้าจากการขายสินค้า แจ้งรายได้ปี 66 กว่า 88.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.1 ล้านบาท 8. บริษัท เซิร์ฟริช จำกัด ทุน 1 ล้านบาท จิระวัฒน์ แสงภักดี (ถือหุ้น 45%) วัชรา งามจัตุรัส (ถือหุ้น 45%) พรรทิพา งามจัตุรัส (ถือหุ้น 10%) เป็นกรรมการ ทำธุรกิจออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ ติดตั้งระบบเครือข่าย และให้เช่าพื้นที่เซิร์ฟแวร์ แจ้งรายได้ปี 66 กว่า 33.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 9.7 ล้านบาท โดยงบการเงินล่าสุดปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 7,976,108 บาท หนี้สินรวม 2,156,548 บาท รายได้รวม 20,073,858 บาท รายจ่ายรวม 15,088,783 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 5,796 บาท เสียภาษีเงินได้ 997,117 บาท กำไรสุทธิ 3,982,160 บาท 9. บริษัท ไอคอน ซูวีเนียร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 6 ส.ค. 2567 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/43 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ การขายปลีกสินค้าอื่นๆซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่นบนแผงลอยและตลาด วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เป็นกรรมการรายเดียว รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด 29 ก.ค. 2567 วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ถือหุ้นใหญ่ 99%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 1% ยังไม่พบข้อมูลงบการเงิน https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000096392 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ส่องอาณาจักร "บอสพอล" เจ้าของธุรกิจออนไลน์ The iCon Group เผย 5 ปีรวยหมื่นล้าน
    เปิด 9 อาณาจักร บอสพอล หรือ วรัทย์พล วรัตน์วรกุล เจ้าของธุรกิจออนไลน์ The iCon Group 5 ปีรวยหมื่นล้าน จากกรณี กลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ต หลังหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ดารานักแสดง ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรชื่อดังออกมาโพสต์ข้อ
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 518 มุมมอง 0 รีวิว
  • คอมเมนต์เดือด! ถล่ม IG พิธีกรดัง (09/10/67) #news1 #พิธีกรดัง #กันต์กันตถาวร #เครือข่ายขายออนไลน์
    คอมเมนต์เดือด! ถล่ม IG พิธีกรดัง (09/10/67) #news1 #พิธีกรดัง #กันต์กันตถาวร #เครือข่ายขายออนไลน์
    Like
    Love
    Haha
    12
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1332 มุมมอง 473 0 รีวิว
  • "วรัทย์พล วรัตน์วรกุล" บอสพอล นักธุรกิจขายตรงชื่อดัง เคลื่อนไหวแล้ว หลังเจอดรามาหนัก ย้ำมั่นใจดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องโปร่งใส มาโดยตลอด วอนขอเวลาตรวจสอบข้อมูล อันไหน เป็นการกลั่นแกล้ง ใส่ความ ปลุกปั่น ยันไม่รู้มีผู้เสียหายเสียชีวิต เผยพร้อมช่วยเหลือ เยียวยา ครอบครัวผู้ที่สูญเสีย และขออย่าด่วนตัดสินกัน

    จากกรณีกลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ต หลังหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ดารานักแสดง ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรชื่อดังออกมาโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก หนุ่ม กรรชัย เพียงสั้นๆ ระบุว่า "เหล่าแม่ข่ายของบริษัทธุรกิจเครือข่ายดังเริ่มมีการข่มขู่ไปทั่ว กลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแท็ก เซฟบอส เซฟบริษัทตัวเอง ไม่เซฟผู้เสียหายบ้างเหรอ?" อันเนื่องมาจากมีคนระดมติดแฮชแท็ก #Saveบอส จนติดเทรนด์ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

    9 ตุลาคม 2567- เฟซบุ๊ก "วรัทย์พล วรัตน์วรกุล" หรือ บอสพอล นักธุรกิจขายตรงชื่อดัง ผู้ก่อตั้งและเจ้าของอาณาจักร “ดิไอคอนกรุ๊ป” (The iCon Group) ได้ออกมาชี้แจงกรณีดรามา โดยระบุข้อความว่า

    “สวัสดีทุกท่านครับ ผมขอเรียนชี้แจง ผ่านทางช่องทางนี้นะครับ ตลอดระยะเวลาที่ผมทำธุรกิจ ขายปลีก-ขายส่ง ผ่านระบบตัวแทน ภายใต้ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ปมาเป็นระยะเวลา 6 ปีกว่าแล้ว ผมเชื่อมั่นว่า ผมดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องโปร่งใส มาโดยตลอด แต่จากเหตุการณ์ ที่เกิดเป็นกระแสสังคมขึ้น ณ ขณะนี้ ผมติดตามข้อมูลต่อเนื่องมา และรู้สึกเสียใจอย่างมาก ที่เกิดเหตุว่ามีผู้เสียหายเกิดขึ้น เนื่องจากการทำธุรกิจกับบริษัทของผม

    ผมได้ให้ทีมงานตรวจสอบข้อมูล ปรากฏมีหลายเคส ตามที่เกิดดราม่า ที่ออกมา ต่อว่า ด่าทอบริษัท กลับไม่ได้เป็น ตัวแทนจำหน่ายของผม แบบที่เค้ากล่าวอ้างเลยและมีอีกหลายเคส ที่ ขายของ กับบริษัทผม แล้วได้เงินกำไรไปจำนวนมาก แต่ก็กลับมาต่อว่า ด่าทอในโลกโซเชียลฯ เช่นเดียวกัน ผมยอมรับตรงๆว่าผม งง และ สับสนมากครับ พยามตั้งสติ พยามติดตาม ดูข้อมูล ว่าอันไหนเป็นข้อมูลจริง อันไหน เป็นการกลั่นแกล้ง ใส่ความ ปลุกปั่นบ้างก็ด่าเอามัน เอาสะใจ

    โดยมีข้อมูลถึงขั้นที่ว่าทำธุรกิจกับบริษัทของผม แล้วฆ่าตัวตาย อันนี้คือประเด็นใหญ่ที่สุด ที่ผมเองไม่เคย ได้รู้มาก่อนเลยครับ และยังคงสงสัยอยู่ว่า ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แล้วทำไม ? ถึงไม่มีใครในองค์กร รู้มาก่อนบ้างเลย อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องจริง ผมคงรู้สึกเสียใจมาก และอยากที่จะ ช่วยเหลือ เยียวยา ครอบครัวผู้ที่สูญเสีย อย่างเต็มที่ครับ ขอเพียง ท่านติดต่อกลับมา ที่บริษัท

    แต่ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่า ผมไม่เคยทราบข้อมูลมาก่อนจริงๆ ส่วนที่ถามว่าทำไม ผมถึงยังไม่ออกมาพูดอะไร ผมขอตอบตรงๆว่า เมื่อไตร่ตรองโดยสติแล้ว ผมคิดว่าไม่ว่าจะตอบ อะไร ออกมา ในช่วงที่กระแสสังคม เปรียบเหมือนน้ำเชี่ยว จากการรับข้อมูล “ทางเดียว” ในตอนนี้ ยิ่งจะเป็นการทำให้สถานการณ์ ที่หนักอยู่แล้ว หนักยิ่งขึ้น ผมจึงใช้เวลาทั้งหมดในการเตรียม ข้อมูล ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง รวมทั้งหลักฐานต่างๆ ที่จะชี้แจงให้ทราบ ผ่านกระบวนการยุติธรรม ทางกฏหมาย

    ผมพร้อมเข้าสู่กระบวนการ เพราะผมเชื่อว่า เราต่างเป็นสุจริตชน ที่อยู่ภายใต้“กฎหมาย” ไม่ใช่การใช้ “กฎหมู่” หรือกระแสสังคม ในการทำลายกัน ผมพร้อมจะเข้าไป แสดงตัว ”มอบตัวกับตำรวจ“ตามที่ตำรวจจะแจ้งให้ทราบทุกเมื่อ ผมรอพิสูจน์ความจริง อยู่ตรงนี้ไม่หนีไปไหน แน่นอนครับ และพร้อม นำข้อเท็จจริงและหลักฐานทั้งหมด เข้าชี้แจงผ่าน “กระบวนการยุติธรรม” ทุกท่านอดใจรอหน่อยนะครับ เดี๋ยวความจริงก็จะเปิดเผยออกมาให้ทุกท่านทราบ

    ถ้าผมทำผิด ตามที่ถูกกล่าวหาผมย่อมจะต้องได้รับโทษทางกฏหมายอย่างถึงที่สุด แน่นอนครับ เมื่อถึงวันนั้นค่อยด่าทอ ประนาม เหยียบย่ำผมได้เลยครับ เชื่อว่าไม่ช้าเกินไป แต่วันนี้ ผมเป็นผู้บริสุทธิ์ ครับและผมเชื่อ ในความบริสุทธิ์ ของผมผมส่องกระจกดูตัวเองแล้วผมยังสามารถ สบตาตัวเองได้“อย่างเต็มตา” ในขณะเดียวกันผมก็สลดใจ ที่ตัวเอง และ องค์กรต้องมาถูกเหยียบย่ำ ทำลาย ต่างๆ นาๆในขณะที่ยังไม่ได้มีการตัดสินจากกระบวนการยุติธรรม ที่พวกเรา เชื่อมั่น เชื่อถือผมอยาก ข้อร้อง วิงวอนให้ทุกท่าน โปรดให้โอกาสผมและองค์กรได้พิสูจน์ตัวเองผ่านกระบวนการยุติธรรมก่อนที่จะด่วนตัดสินกัน นะครับ ขอบคุณครับ”

    อย่างไรก็ตาม ยอดประเมินผู้เสียหายเฉพาะกลุ่มดีเลอร์กลุ่มเดียว30,000 ราย ยอดเสียหาย 7,500 ล้านบาท และในอดีตเมื่อปี2563 ผู้เสียหายส่วนหนึ่งออกมาเป็นเจ้าทุกข์และร้องเรียน สคบ.ตั้งแต่ปี2563แต่ สคบ.แจ้งว่าไม่เข้าเกณฑ์เป็นผู้บริโภค และสคบ.เคยมอบรางวัลให้บริษัทนี้ในปี2565ทั้งๆที่เคยโดนถูกร้องเรียน

    #Thaitimes
    "วรัทย์พล วรัตน์วรกุล" บอสพอล นักธุรกิจขายตรงชื่อดัง เคลื่อนไหวแล้ว หลังเจอดรามาหนัก ย้ำมั่นใจดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องโปร่งใส มาโดยตลอด วอนขอเวลาตรวจสอบข้อมูล อันไหน เป็นการกลั่นแกล้ง ใส่ความ ปลุกปั่น ยันไม่รู้มีผู้เสียหายเสียชีวิต เผยพร้อมช่วยเหลือ เยียวยา ครอบครัวผู้ที่สูญเสีย และขออย่าด่วนตัดสินกัน จากกรณีกลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ต หลังหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ดารานักแสดง ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรชื่อดังออกมาโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก หนุ่ม กรรชัย เพียงสั้นๆ ระบุว่า "เหล่าแม่ข่ายของบริษัทธุรกิจเครือข่ายดังเริ่มมีการข่มขู่ไปทั่ว กลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแท็ก เซฟบอส เซฟบริษัทตัวเอง ไม่เซฟผู้เสียหายบ้างเหรอ?" อันเนื่องมาจากมีคนระดมติดแฮชแท็ก #Saveบอส จนติดเทรนด์ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 9 ตุลาคม 2567- เฟซบุ๊ก "วรัทย์พล วรัตน์วรกุล" หรือ บอสพอล นักธุรกิจขายตรงชื่อดัง ผู้ก่อตั้งและเจ้าของอาณาจักร “ดิไอคอนกรุ๊ป” (The iCon Group) ได้ออกมาชี้แจงกรณีดรามา โดยระบุข้อความว่า “สวัสดีทุกท่านครับ ผมขอเรียนชี้แจง ผ่านทางช่องทางนี้นะครับ ตลอดระยะเวลาที่ผมทำธุรกิจ ขายปลีก-ขายส่ง ผ่านระบบตัวแทน ภายใต้ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ปมาเป็นระยะเวลา 6 ปีกว่าแล้ว ผมเชื่อมั่นว่า ผมดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องโปร่งใส มาโดยตลอด แต่จากเหตุการณ์ ที่เกิดเป็นกระแสสังคมขึ้น ณ ขณะนี้ ผมติดตามข้อมูลต่อเนื่องมา และรู้สึกเสียใจอย่างมาก ที่เกิดเหตุว่ามีผู้เสียหายเกิดขึ้น เนื่องจากการทำธุรกิจกับบริษัทของผม ผมได้ให้ทีมงานตรวจสอบข้อมูล ปรากฏมีหลายเคส ตามที่เกิดดราม่า ที่ออกมา ต่อว่า ด่าทอบริษัท กลับไม่ได้เป็น ตัวแทนจำหน่ายของผม แบบที่เค้ากล่าวอ้างเลยและมีอีกหลายเคส ที่ ขายของ กับบริษัทผม แล้วได้เงินกำไรไปจำนวนมาก แต่ก็กลับมาต่อว่า ด่าทอในโลกโซเชียลฯ เช่นเดียวกัน ผมยอมรับตรงๆว่าผม งง และ สับสนมากครับ พยามตั้งสติ พยามติดตาม ดูข้อมูล ว่าอันไหนเป็นข้อมูลจริง อันไหน เป็นการกลั่นแกล้ง ใส่ความ ปลุกปั่นบ้างก็ด่าเอามัน เอาสะใจ โดยมีข้อมูลถึงขั้นที่ว่าทำธุรกิจกับบริษัทของผม แล้วฆ่าตัวตาย อันนี้คือประเด็นใหญ่ที่สุด ที่ผมเองไม่เคย ได้รู้มาก่อนเลยครับ และยังคงสงสัยอยู่ว่า ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แล้วทำไม ? ถึงไม่มีใครในองค์กร รู้มาก่อนบ้างเลย อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องจริง ผมคงรู้สึกเสียใจมาก และอยากที่จะ ช่วยเหลือ เยียวยา ครอบครัวผู้ที่สูญเสีย อย่างเต็มที่ครับ ขอเพียง ท่านติดต่อกลับมา ที่บริษัท แต่ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่า ผมไม่เคยทราบข้อมูลมาก่อนจริงๆ ส่วนที่ถามว่าทำไม ผมถึงยังไม่ออกมาพูดอะไร ผมขอตอบตรงๆว่า เมื่อไตร่ตรองโดยสติแล้ว ผมคิดว่าไม่ว่าจะตอบ อะไร ออกมา ในช่วงที่กระแสสังคม เปรียบเหมือนน้ำเชี่ยว จากการรับข้อมูล “ทางเดียว” ในตอนนี้ ยิ่งจะเป็นการทำให้สถานการณ์ ที่หนักอยู่แล้ว หนักยิ่งขึ้น ผมจึงใช้เวลาทั้งหมดในการเตรียม ข้อมูล ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง รวมทั้งหลักฐานต่างๆ ที่จะชี้แจงให้ทราบ ผ่านกระบวนการยุติธรรม ทางกฏหมาย ผมพร้อมเข้าสู่กระบวนการ เพราะผมเชื่อว่า เราต่างเป็นสุจริตชน ที่อยู่ภายใต้“กฎหมาย” ไม่ใช่การใช้ “กฎหมู่” หรือกระแสสังคม ในการทำลายกัน ผมพร้อมจะเข้าไป แสดงตัว ”มอบตัวกับตำรวจ“ตามที่ตำรวจจะแจ้งให้ทราบทุกเมื่อ ผมรอพิสูจน์ความจริง อยู่ตรงนี้ไม่หนีไปไหน แน่นอนครับ และพร้อม นำข้อเท็จจริงและหลักฐานทั้งหมด เข้าชี้แจงผ่าน “กระบวนการยุติธรรม” ทุกท่านอดใจรอหน่อยนะครับ เดี๋ยวความจริงก็จะเปิดเผยออกมาให้ทุกท่านทราบ ถ้าผมทำผิด ตามที่ถูกกล่าวหาผมย่อมจะต้องได้รับโทษทางกฏหมายอย่างถึงที่สุด แน่นอนครับ เมื่อถึงวันนั้นค่อยด่าทอ ประนาม เหยียบย่ำผมได้เลยครับ เชื่อว่าไม่ช้าเกินไป แต่วันนี้ ผมเป็นผู้บริสุทธิ์ ครับและผมเชื่อ ในความบริสุทธิ์ ของผมผมส่องกระจกดูตัวเองแล้วผมยังสามารถ สบตาตัวเองได้“อย่างเต็มตา” ในขณะเดียวกันผมก็สลดใจ ที่ตัวเอง และ องค์กรต้องมาถูกเหยียบย่ำ ทำลาย ต่างๆ นาๆในขณะที่ยังไม่ได้มีการตัดสินจากกระบวนการยุติธรรม ที่พวกเรา เชื่อมั่น เชื่อถือผมอยาก ข้อร้อง วิงวอนให้ทุกท่าน โปรดให้โอกาสผมและองค์กรได้พิสูจน์ตัวเองผ่านกระบวนการยุติธรรมก่อนที่จะด่วนตัดสินกัน นะครับ ขอบคุณครับ” อย่างไรก็ตาม ยอดประเมินผู้เสียหายเฉพาะกลุ่มดีเลอร์กลุ่มเดียว30,000 ราย ยอดเสียหาย 7,500 ล้านบาท และในอดีตเมื่อปี2563 ผู้เสียหายส่วนหนึ่งออกมาเป็นเจ้าทุกข์และร้องเรียน สคบ.ตั้งแต่ปี2563แต่ สคบ.แจ้งว่าไม่เข้าเกณฑ์เป็นผู้บริโภค และสคบ.เคยมอบรางวัลให้บริษัทนี้ในปี2565ทั้งๆที่เคยโดนถูกร้องเรียน #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
  • กำลังเป็นที่จับตามองเป็นอย่างมาก สำหรับกรณีที่ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” พิธีกรชื่อดังได้โพสต์ข้อความว่า “เหล่าแม่ข่ายของบริษัทเครือข่ายดัง เริ่มมีการข่มขู่ไปทั่ว กลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแท็กเซฟบอส เซฟบริษัทตัวเอง ไม่เซฟผู้เสียหายบ้างเหรอ?”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000096348

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กำลังเป็นที่จับตามองเป็นอย่างมาก สำหรับกรณีที่ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” พิธีกรชื่อดังได้โพสต์ข้อความว่า “เหล่าแม่ข่ายของบริษัทเครือข่ายดัง เริ่มมีการข่มขู่ไปทั่ว กลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแท็กเซฟบอส เซฟบริษัทตัวเอง ไม่เซฟผู้เสียหายบ้างเหรอ?” อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000096348 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Yay
    15
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2058 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฉีกหน้ากากขายตรง ขายฝันจนตัวตาย

    การออกมาเปิดประเด็นบริษัทธุรกิจขายตรงแห่งหนึ่ง ของนายกรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรรายการโหนกระแส ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อวันที่ 8 ต.ค. กลายเป็นที่วิจารณ์อย่างมากในสังคม เจ้าตัวกล่าวว่า “เหล่าแม่ข่ายของบริษัทธุรกิจเครือข่ายดัง เริ่มมีการข่มขู่ไปทั่วกลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแท็ก เซฟบอส เซฟบริษัทตัวเอง ไม่เซฟผู้เสียบ้างเหรอ?” ซึ่งจากแฮชแท็กที่บรรดาแม่ข่ายใช้แสดงพลัง พบว่าพยายามอธิบายอีกด้านเกี่ยวกับบริษัทดังกล่าว ว่าไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมกับให้กำลังใจประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัทดังกล่าว

    ก่อนหน้านี้ นายกรรชัยกล่าวในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ว่า มีบริษัทดังบางบริษัทที่มีการมาขายตรง ไปให้ทางตัวแทนเปิดบิล โดยการให้มีเหล่านักแสดงทั้งหลายไปเป็นพ่อข่าย แม่ข่าย ตนเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว มีโอกาสคุยกับผู้เสียหายแล้ว มีบางคนถึงขั้นฆ่าตัวตาย เพราะมีการไปซื้อของ จ่ายเงินไปแล้ว บอกว่าขายได้แน่นอน ถึงเวลาขายไม่ได้ ต้องเอาไปเร่ขายเอง กินเอง บางคนได้ยินมาว่าเป็น รปภ. เอาเงินไปซื้อสินค้าเก็บไว้ 200,000 บาท ซื้อเสร็จปรากฎว่า ไปขายก็ไม่ได้ ฆ่าตัวตาย แต่ข่าวเงียบ เร็วๆ นี้ เรื่องราวที่ส่งเข้ามา ตนเห็นตลอด รู้กันว่าที่ไหน ไม่ได้นิ่งนอนใจ เก็บรวบรวมข้อมูลอยู่ มีผู้เสียหายเข้ามาคุยหลายคน แล้วบอกไว้เลยว่าใหญ่

    ด้านเฟซบุ๊ก "มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม - CRSJ Foundation" ที่มีนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดัง เป็นประธาน โพสต์ข้อความระบุว่า "บริษัทธุรกิจขนาดใหญ่ น่าเชื่อถือมาก ชาวบ้าน คนหนุ่มสาว คนสูงอายุ ลงทุนเสียหายกันเพียบ หลักหมื่น แสน ล้าน บางคนร้องไห้ บางคนที่บ้านด่า เร็วๆ นี้แน่นอน" และกล่าวว่า "ใครที่เสียหายจากบริษัทขนาดใหญ่ น่าเชื่อถือนี้ ทักกันมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ มูลนิธิรณรงค์ฯ จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ด่วน! เห็นว่าเสียหายกันทั่วประเทศ เร็วๆ นี้เจอกันแน่นอน" โดยมีผู้เสียหายคอมเมนต์ให้ข้อมูลจำนวนมาก

    รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า บริษัทดังกล่าวก่อตั้งไม่นานนัก แต่ใช้ดารานักแสดงเป็นผู้บริหารและพรีเซ็นเตอร์สินค้า ใช้สื่อโฆษณาบิลบอร์ดทั่วประเทศเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และมีการซื้อเวลารายการโทรทัศน์ ให้แม่ข่ายชักชวนคนเข้ามาสมัครคอร์สเรียนออนไลน์การตลาดบนโซเชียลมีเดีย ในราคาไม่ถึง 100 บาท เมื่อมีผู้หลงเชื่อเข้ามาเรียนก็จะโน้มน้าวให้ลองนำสินค้าไปขาย แต่เนื่องจากมีผู้เสียหายหลายรูปแบบ จึงต้องคอยดูว่าในรายการโหนกระแส นายกรรชัยจะเปิดประเด็นอย่างไร ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น

    #Newskit #ขายตรง
    ฉีกหน้ากากขายตรง ขายฝันจนตัวตาย การออกมาเปิดประเด็นบริษัทธุรกิจขายตรงแห่งหนึ่ง ของนายกรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรรายการโหนกระแส ทางไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อวันที่ 8 ต.ค. กลายเป็นที่วิจารณ์อย่างมากในสังคม เจ้าตัวกล่าวว่า “เหล่าแม่ข่ายของบริษัทธุรกิจเครือข่ายดัง เริ่มมีการข่มขู่ไปทั่วกลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแท็ก เซฟบอส เซฟบริษัทตัวเอง ไม่เซฟผู้เสียบ้างเหรอ?” ซึ่งจากแฮชแท็กที่บรรดาแม่ข่ายใช้แสดงพลัง พบว่าพยายามอธิบายอีกด้านเกี่ยวกับบริษัทดังกล่าว ว่าไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา พร้อมกับให้กำลังใจประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัทดังกล่าว ก่อนหน้านี้ นายกรรชัยกล่าวในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ว่า มีบริษัทดังบางบริษัทที่มีการมาขายตรง ไปให้ทางตัวแทนเปิดบิล โดยการให้มีเหล่านักแสดงทั้งหลายไปเป็นพ่อข่าย แม่ข่าย ตนเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว มีโอกาสคุยกับผู้เสียหายแล้ว มีบางคนถึงขั้นฆ่าตัวตาย เพราะมีการไปซื้อของ จ่ายเงินไปแล้ว บอกว่าขายได้แน่นอน ถึงเวลาขายไม่ได้ ต้องเอาไปเร่ขายเอง กินเอง บางคนได้ยินมาว่าเป็น รปภ. เอาเงินไปซื้อสินค้าเก็บไว้ 200,000 บาท ซื้อเสร็จปรากฎว่า ไปขายก็ไม่ได้ ฆ่าตัวตาย แต่ข่าวเงียบ เร็วๆ นี้ เรื่องราวที่ส่งเข้ามา ตนเห็นตลอด รู้กันว่าที่ไหน ไม่ได้นิ่งนอนใจ เก็บรวบรวมข้อมูลอยู่ มีผู้เสียหายเข้ามาคุยหลายคน แล้วบอกไว้เลยว่าใหญ่ ด้านเฟซบุ๊ก "มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม - CRSJ Foundation" ที่มีนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความชื่อดัง เป็นประธาน โพสต์ข้อความระบุว่า "บริษัทธุรกิจขนาดใหญ่ น่าเชื่อถือมาก ชาวบ้าน คนหนุ่มสาว คนสูงอายุ ลงทุนเสียหายกันเพียบ หลักหมื่น แสน ล้าน บางคนร้องไห้ บางคนที่บ้านด่า เร็วๆ นี้แน่นอน" และกล่าวว่า "ใครที่เสียหายจากบริษัทขนาดใหญ่ น่าเชื่อถือนี้ ทักกันมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ มูลนิธิรณรงค์ฯ จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ด่วน! เห็นว่าเสียหายกันทั่วประเทศ เร็วๆ นี้เจอกันแน่นอน" โดยมีผู้เสียหายคอมเมนต์ให้ข้อมูลจำนวนมาก รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า บริษัทดังกล่าวก่อตั้งไม่นานนัก แต่ใช้ดารานักแสดงเป็นผู้บริหารและพรีเซ็นเตอร์สินค้า ใช้สื่อโฆษณาบิลบอร์ดทั่วประเทศเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และมีการซื้อเวลารายการโทรทัศน์ ให้แม่ข่ายชักชวนคนเข้ามาสมัครคอร์สเรียนออนไลน์การตลาดบนโซเชียลมีเดีย ในราคาไม่ถึง 100 บาท เมื่อมีผู้หลงเชื่อเข้ามาเรียนก็จะโน้มน้าวให้ลองนำสินค้าไปขาย แต่เนื่องจากมีผู้เสียหายหลายรูปแบบ จึงต้องคอยดูว่าในรายการโหนกระแส นายกรรชัยจะเปิดประเด็นอย่างไร ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น #Newskit #ขายตรง
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เมื่อพิธีกรรมโบราณ ผ่านกาลเวลาเกือบห้าศตวรรษ เมื่อศรัทธาถูกท้าทาย การยืนหยัดจึงบังเกิดขึ้น"...

    ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ : พลังศรัทธาที่ถูกท้าทาย... https://youtu.be/cJOvNf7dyXw?si=CiekrXBg1SpDica8
    "เมื่อพิธีกรรมโบราณ ผ่านกาลเวลาเกือบห้าศตวรรษ เมื่อศรัทธาถูกท้าทาย การยืนหยัดจึงบังเกิดขึ้น"... ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ : พลังศรัทธาที่ถูกท้าทาย... https://youtu.be/cJOvNf7dyXw?si=CiekrXBg1SpDica8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 01.🤠

    😎#ออกจากประตูหยก😎

    🥸การเดินทางของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปทางทิศตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะนั้นเป็นการกระทำส่วนตัวโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางการ แต่ด้วยเหตุนี้ มุมมองของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่มีต่อภูมิภาคตะวันตกจึงมีความเป็นพลเรือนมากกว่า เป็นกลางมากกว่า และเป็นจริงมากกว่า🥸

    🥸ต่อไปนี้เชิญท่านมาเผชิญหน้ากับท่ามกลางท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยลมและทราย เดินย่ำเหยียบฝ่าหมอกควันทะเลทราย เริ่มต้นเข้าร่วมกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ในการเดินทางอันน่ามหัศจรรย์ของเขาเพื่อร่างขอบเขตดินแดนของภูมิภาคตะวันตก🥸

    😎ออกจากประตูหยก(玉门)ไปทางทิศตะวันตก 😎

    🥸ในปีคริสตศักราช 629 ภัยพิบัติน้ำแข็งเกิดขึ้นในพื้นที่กวนจง(关中) ราชวงศ์ถัง(唐)ออกคำสั่งให้พระภิกษุและฆราวาสในพื้นที่ คยองกี(Gyeonggi京畿) ย้ายไปยังสถานที่อื่นเพื่อหาอาหารและหลีกเลี่ยงหลบหนีจากความอดอยาก พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ซึ่งแต่เดิมต้องการออกจากด่านทางผ่าน แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากราชสำนักจึงใช้โอกาสนี้ออกจากฉางอาน(长安)🥸 เขาเดินทางผ่านหลานโจว(兰州)และเหลียงโจว(凉州) เขาหลีกเลี่ยงการติดตามจัยกุมของทางการโดยการเดินทางเวลากลางคืนและพักเวลากลางวัน ต่อมา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เสี่ยงภัยเดินทางผ่าน กวัวโจว(瓜州) และ อวี้เหมินกวน(Yumen Pass玉门关) ผ่านหอคอยสัญญาณไฟ 5 แห่งที่มีกองทหารคุ้มกันตามลำดับรายทาง ด้วยความช่วยเหลือจากทหารรักษาชายแดนผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ข้ามทะเลทรายโกบีด้วยพลังแห่งความศรัทธาและความอุตสาหะอย่างแรงกล้าก่อนจะไปถึงอีหวู(伊吾) และเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตก

    🥸สถานีแรกของการเดินทาง อีหวู(伊吾) ได้มีการส่งมอบการมาถึงอย่างกะทันหันของพระภิกษุให้กับเกาชาง(Gaochang高昌) (ปัจจุบันคือเมืองถูหลู่ฟาน(Turfan 吐鲁番) เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์(Xinjiang Uygur Autonomous Region 新疆维吾尔自治区)) เจ้าเหนือหัวองค์น้อยทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตกในขณะนั้น ซึ่งตั้งอยู่ริมแอ่งถูหลู่ฟาน(Turfan Depression吐鲁番盆地)🥸

    🥸หลังจากได้ยินข่าวว่า พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)มาถึงแล้ว กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) เสนาบดี และสาวใช้ออกมาจากพระราชวังในเวลากลางคืน ทรงจุดเทียน และเข้าแถวเพื่อต้อนรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เข้าสู่พระราชวังด้วยความเคารพ🥸 หลังจากเห็น พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) แล้ว ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ดีใจมากและบอกกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ว่า: นับตั้งแต่ฉันรู้ชื่ออาจารย์ ฉันมีความสุขมากจนลืมกินลืมนอน ฉันรู้ว่าพระภิกษุผู้แสวงธรรมจากตะวันออกจะมาคืนนี้ ฉันก็เลยพร้อมกับพระราชินีและเจ้าชายทรงพากันสวดมนต์ตลอดทั้งคืนรอการมาถึงของพระอาจารย์

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ถูกจัดให้อยู่ที่สนามหลวงทางพิธีกรรมของศาสนาถัดจากพระราชวังกษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) และจัดขันทีให้ดูแลอาหารและชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)

    รัฐเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)เป็นนครรัฐที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันตก และถูกปกครองโดยผู้รอดชีวิตจากราชวงศ์ฮั่น(汉)และเว่ย(魏) ซึ่งเป็นโครงสร้างทางการเมืองที่รวมหู(胡)และฮั่น(汉)เข้าด้วยกัน ในบรรดาพลเมืองนั้น ไม่เพียงแต่สืบเชื้อสายมาจากผู้อพยพชาวฮั่น(汉)เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนจากภูมิภาคตะวันตกด้วย เช่น ชาวซ็อกเดียน(Sogdians粟特) ชาวซานซาน(Shanshan鄯善人)และชาวเติร์ก(Turks突厥人) 🥸ก่อนที่ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)จะมาถึง ประเทศนี้ก็ก่อตั้งขึ้นที่นั่นมานานกว่า 100 ปีแล้ว เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พบว่าข้อมูลจำเพาะของเมืองที่นี่มีความคล้ายคลึงกับเมืองฉางอัน(长安)ในราชวงศ์ซุย(隋)และราชวงศ์ถัง(唐)มาก นอกจากนี้ยังมีรูปของ ดยุคไอแห่งหลู่(鲁哀公)สอดถามขงจื๊อ(孔子)เกี่ยวกับปัญหาการเมืองที่แขวนอยู่ในพระราชวังของอาณาจักร เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)🥸

    😎การต้อนรับด้วยมารยาทอันสูงส่ง😎

    🥸ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และบิดาของเขาเดินทางไปยังราชวงศ์สุย(隋)ในยุครุ่งเรืองเพื่อเข้าเฝ้าจักรพรรดิสุยหยางตี้(隋炀帝)🥸 เขาไม่เพียงแต่เดินทางไปยังฉางอาน(长安) ล่อหยาง(洛阳) เฝินหยาง(汾阳) เอี้ยนตี้(燕地) ไต้ตี้(代地) และเมืองสำคัญอื่นๆ และได้เห็นวัฒนธรรมฮั่น(汉)ของที่ราบตอนกลางดั้งเดิม แต่เขายังไปเยี่ยมคารวะพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงและผู้มีคุณธรรมอีกมากมาย และเขาก็ชื่นชมที่ราบภาคกลางที่เป็นบ้านเกิดทางวัฒนธรรมของเขาเป็นอย่างมาก แต่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)รู้สึกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงในอดีตของราชวงศ์ซุย ความฉลาดสามารถของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)นั้นเหนือกว่ามาก

    เมื่อใดก็ตามที่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)บรรยายธรรมแก่ขุนนางของเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ในเต็นท์ใหญ่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ถือกระถางธูปเพื่อเคลียร์นำทางให้พระภิกษุผู้มีชื่อเสียงด้วยตนเอง เมื่อพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปที่แท่นธรรมาสน์เพื่อขึ้นเทศนาธรรม กษัตริย์แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ถึงกับคุกเข่าโน้มตัวลง และทำหน้าที่เป็นบันไดให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ก้าวขึ้นแท่นธรรมาสน์ การปฏิบัตินี้ไม่สอดคล้องกับประเพณีตะวันออก แต่ก็มีบันทึกไว้ในหนังสือดั้งเดิมของอินเดียบางเรื่อง สิ่งนี้พิสูจน์ได้จากสิ่งแวดล้อมข้วงเคียงว่า เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)คือจุดทางสี่แยกของอารยธรรมตะวันออกและตะวันตก นอกจากนี้ยังอธิบายถึงการบูชาสักการะอย่างสูงสุดต่อ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ยังคัดเลือกพระภิกษุในท้องถิ่นหลายแห่งใน เกาชาง(Gaochang高昌)ให้เป็นนักเรียนและคนรับใช้ นิสัยปกิบัติในการรับลูกศิษย์ไปตลอดทางนี้ กลายเป็นต้นแบบทางประวัติศาสตร์สำหรับทีมอาจารย์และลูกศิษย์ของภิกษุราชวงศ์ถัง(唐)ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องใน "บันทึกการเดินทางสู่ตะวันตก(Journey to the West西游记)" แม้ว่ากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)จะชื่นชมพรสวรรค์และการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เขาถึงกับมีความคิดหน่วงรั้งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้ที่เกาชาง(Gaochang高昌)ด้วยซ้ำ และขอให้ประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป แสดงธรรมสั่งสอนให้ความรู้ความกระจ่างแก่คนทั่วไป จนกระทั่งเป็นพระอาจารย์ระดับชาติของ เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เห็นด้วยเพราะมีตวามเห็นว่าเรื่องธรรมะเป็นเรื่องใหญ่กว่า กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)เห็นว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) มีความมุ่งมั่นดังนั้นเขาจึงจำต้องโยนไพ่ตายทางเลือกสุดท้ายของเขาออกไป: 🥸ถ้าพระคุณท่านไม่ปรารถนาอยู่ในเกาชาง(Gaochang高昌) ข้าพระเจ้าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งท่านอาจารย์กลับไปทางทิศตะวันออก🥸

    เมื่อต้องเผชิญกับกลยุทธ์ไม้แข็งและไม้อ่อนร่วมกันของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) กล่าวด้วยท่าทีที่ไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยองว่า: 🥸พระองค์สามารถจะเพียงได้รับกระดูกของอาตมาเอาไว้ได้ แต่พระองค์ไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจของอาตมาที่จะไปทางตะวันตกได้🥸

    😎หนทางเบื้องหน้าอันยาวไกล😎

    🥸ด้วยเหตุนี้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) จึงอดอาหารเป็นเวลาสามวันเพื่อแสดงความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตก🥸 ในฐานะเป็นอาณาจักรในภูมิภาคตะวันตกที่นับถือศาสนาพุทธ หากมีพระภิกษุที่แสวงหาธรรมะมาอดอยากจนตายภายในดินแดนของตน ชื่อเสียงสู่ภายนอกของเกาชาง(Gaochang高昌)ในภูมิภาคตะวันตกจะเสียหายอย่างมาก และเขาจะพลอยได้รับชื่อเสียงเสื่อมเสียงจากการทำร้ายพระภิกษุที่มีชื่อเสียงด้วย ยิ่งไปกว่านั้นความจริงแล้ว การขัดขวางการเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตกของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ด้วยเพื่อความปรารถนาอันเห็นแก่ตัวของเขาเองก็เป็นการขัดแย้งกับความตั้งใจเดิมของเขา

    🥸เมื่อเขาคิดมาถึง ณ จุดนี้ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ก้มหัวให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เพื่อขอโทษ🥸 ความคิดที่เห็นแก่ตัวของเขาที่มีต่อเกาชาง(Gaochang高昌) ก็ถูกขจัดออกไปในที่สุดด้วยความมุ่งมั่นมีเมตตาที่จะช่วยสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ในเวลาเดียวกันกับขณะที่รู้สึกประทับใจกับความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะแสวงหาธรรมะโดยปราศจากสิ่งภายนอกมาบั่นทอนความตั้งใจ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ได้สาบานต่อฟ้าดินสัญญาเป็นพี่น้องกัน ภายใต้การอุปถัมภ์จากแม่ของแผ่นดินเจ้าจอมมารดา จาง(张太妃) เพื่อให้พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เดินทางไปถึงอินเดียได้อย่างราบรื่น กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) ทรงสั่งการให้จัดทีมงานเล็กๆ ประกอบด้วยม้า 30 ตัว พนักงานข้าราชการเกาชาง(Gaochang高昌)1 คน ผู้ติดตามกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ 25 คน และพระภิกษุหนุ่ม 4 รูป เพื่อดูแลเรื่องอาหาร เสื้อผ้า และชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมหน้ากากและหมวกพิเศษสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สำหรับการเดินทางผ่านภูเขาและทะเลทรายที่เต็มไปด้วยหิมะ รวมถึงเสื้อคลุมสำหรับพระสงฆ์ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับเขตภูมิอากาศต่างๆ จัดทหารม้าขนนำทองคำ เงิน และผ้าไหมจำนวนมากไว้สำหรับการครั้งนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เพียงแต่จะไม่ต้องทนทุกข์จากความหิวโหยระหว่างทางไปอินเดียเท่านั้น แต่ยังมีเงินเพียงพอที่จะทำทานอีกด้วย ในสิ่งแต่งเคิมเหล่านี้เป็นรายละเอียดด้านที่อ่อนโยนของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ที่มีต่ออัครสาวก

    🥸นอกจากทรัพย์สินแล้ว เนื่องจากเจ้าผู้ครองแคว้นตะวันตกในขณะนั้น คือ ข่านเตอร์กตะวันตก(西突厥)ได้สมรสกับราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ยังมีจดหมายแสดงความเคารพที่กษัตริย์แห่งเกาชาง(Gaochang高昌)มอบให้กับข่านแห่งเติร์กตะวันตก(西突厥) อธิบายถึงความตั้งใจของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะไปทางดินแดนแคว้นตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะ🥸 ภายใต้การคุ้มครองของเตอร์กข่านตะวันตก (西突厥) ทุกประเทศในภูมิภาคตะวันตกตลอดเส้นทางให้ความเคารพแก่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) และให้การสนับสนุนทางทหารที่เข้มแข็งและมีควาทปลอดภัยที่สุดสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)และคณะเดินทางของเขา และจดหมายแสดงความเคารพของกษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ถึงพระมหากษัตริย์ของยี่สิบสี่ประเทศในภูมิภาคตะวันตกจะช่วยให้การเดินทางของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ง่ายและสะดวกขึ้นอย่างมาก

    🥸ในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของการอำลาอาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌) บรรดาราชวงศ์และชาวเกาชาง(Gaochang高昌)ก็ออกจากเมืองเพื่อส่งอำลา🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สัญญาว่า เมื่อเดินทางผ่านเกาชาง(Gaochang高昌)หลังจากกลับจากการศึกษาในอินเดียจะแสดงเทศนาธรรมอีก จากนั้นเขาก็กล่าวคำอำลากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ด้วยน้ำตา พวกบรรดาราชวงศ์ เกาชาง(Gaochang高昌)เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวพุทธต่างพากันออกจากเมืองส่งเสียงอำลาดังลั่นสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งถิ่น ราวกับว่ามือแห่งโชคชะตาได้ฉีกหัวใจและจิตวิญญาณออกจากร่างกายของชาวเกาชาง(Gaochang高昌) ทำให้พวกเขาสูญเสียสมบัติของชาติไปตลอดกาล

    บรรดาพวกราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ส่งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ออกไปนอกเมืองหลายสิบลี้ แม้ว่าพระภิกษุสมณเพศจะมองเห็นบรรลุแล้วการจากแยกอำลาในทางโลกแล้วก็ตาม แต่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ผู้ที่มีจิตใจละเอียดอ่อนและยังคงเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็ยังมีอารมณ์อ่อนไหวมาก เขาขอบคุณต่ออาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌)อย่างสุดซึ้งอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนอย่างมีน้ำใจ ราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังจับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง ร่ำไห้ราวกับสายฝนกล่าวว่า 🥸ในเมื่อพระคุณท่านถือเป็นพี่น้องกัน สัตว์พาหนะต่าง ๆ ในประเทศก็มีเจ้าของคนเดียวกัน แล้วเหตุใดจึงต้องขอบคุณพวกเขาด้วย?🥸

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ตอบว่า: 🥸ฉันจะไม่มีวันลืมความเมตตาของเสด็จพี่ตลอดชีวิตของอาตมา ในวันที่อาตมากลับจากนำพระคัมภีร์ทางพุทธศาสนากลับมา อาตมาจะอยู่สอนธรรมะในเกาชาง(Gaochang高昌)เป็นเวลาสามปีเป็นการตอบแทน!🥸

    หลายปีต่อมาในฉางอาน(长安) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เล่าถึงเหตุการณ์อันน่าประทับใจนี้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากให้เหล่าสาวกฟัง มิตรภาพฉันท์พี่น้องที่มีต่อราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังคงเกินคำบรรยาย ดูเหมือนราวกับว่าพิธีอำลาที่หรูหราและยิ่งใหญ่นั้นได่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ตอนนั้นเขาไม่รู้ 🥸นี่ยังจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พบกับพี่ชายร่วมสาบานของเขา🥸

    🥳โปรดติดตามบทความ#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 02.
    #อาณาจักรคาราซาห์และคูชาที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🥳

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 01.🤠 😎#ออกจากประตูหยก😎 🥸การเดินทางของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปทางทิศตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะนั้นเป็นการกระทำส่วนตัวโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางการ แต่ด้วยเหตุนี้ มุมมองของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่มีต่อภูมิภาคตะวันตกจึงมีความเป็นพลเรือนมากกว่า เป็นกลางมากกว่า และเป็นจริงมากกว่า🥸 🥸ต่อไปนี้เชิญท่านมาเผชิญหน้ากับท่ามกลางท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยลมและทราย เดินย่ำเหยียบฝ่าหมอกควันทะเลทราย เริ่มต้นเข้าร่วมกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ในการเดินทางอันน่ามหัศจรรย์ของเขาเพื่อร่างขอบเขตดินแดนของภูมิภาคตะวันตก🥸 😎ออกจากประตูหยก(玉门)ไปทางทิศตะวันตก 😎 🥸ในปีคริสตศักราช 629 ภัยพิบัติน้ำแข็งเกิดขึ้นในพื้นที่กวนจง(关中) ราชวงศ์ถัง(唐)ออกคำสั่งให้พระภิกษุและฆราวาสในพื้นที่ คยองกี(Gyeonggi京畿) ย้ายไปยังสถานที่อื่นเพื่อหาอาหารและหลีกเลี่ยงหลบหนีจากความอดอยาก พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ซึ่งแต่เดิมต้องการออกจากด่านทางผ่าน แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากราชสำนักจึงใช้โอกาสนี้ออกจากฉางอาน(长安)🥸 เขาเดินทางผ่านหลานโจว(兰州)และเหลียงโจว(凉州) เขาหลีกเลี่ยงการติดตามจัยกุมของทางการโดยการเดินทางเวลากลางคืนและพักเวลากลางวัน ต่อมา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เสี่ยงภัยเดินทางผ่าน กวัวโจว(瓜州) และ อวี้เหมินกวน(Yumen Pass玉门关) ผ่านหอคอยสัญญาณไฟ 5 แห่งที่มีกองทหารคุ้มกันตามลำดับรายทาง ด้วยความช่วยเหลือจากทหารรักษาชายแดนผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ข้ามทะเลทรายโกบีด้วยพลังแห่งความศรัทธาและความอุตสาหะอย่างแรงกล้าก่อนจะไปถึงอีหวู(伊吾) และเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตก 🥸สถานีแรกของการเดินทาง อีหวู(伊吾) ได้มีการส่งมอบการมาถึงอย่างกะทันหันของพระภิกษุให้กับเกาชาง(Gaochang高昌) (ปัจจุบันคือเมืองถูหลู่ฟาน(Turfan 吐鲁番) เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์(Xinjiang Uygur Autonomous Region 新疆维吾尔自治区)) เจ้าเหนือหัวองค์น้อยทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตกในขณะนั้น ซึ่งตั้งอยู่ริมแอ่งถูหลู่ฟาน(Turfan Depression吐鲁番盆地)🥸 🥸หลังจากได้ยินข่าวว่า พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)มาถึงแล้ว กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) เสนาบดี และสาวใช้ออกมาจากพระราชวังในเวลากลางคืน ทรงจุดเทียน และเข้าแถวเพื่อต้อนรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เข้าสู่พระราชวังด้วยความเคารพ🥸 หลังจากเห็น พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) แล้ว ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ดีใจมากและบอกกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ว่า: นับตั้งแต่ฉันรู้ชื่ออาจารย์ ฉันมีความสุขมากจนลืมกินลืมนอน ฉันรู้ว่าพระภิกษุผู้แสวงธรรมจากตะวันออกจะมาคืนนี้ ฉันก็เลยพร้อมกับพระราชินีและเจ้าชายทรงพากันสวดมนต์ตลอดทั้งคืนรอการมาถึงของพระอาจารย์ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ถูกจัดให้อยู่ที่สนามหลวงทางพิธีกรรมของศาสนาถัดจากพระราชวังกษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) และจัดขันทีให้ดูแลอาหารและชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) รัฐเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)เป็นนครรัฐที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันตก และถูกปกครองโดยผู้รอดชีวิตจากราชวงศ์ฮั่น(汉)และเว่ย(魏) ซึ่งเป็นโครงสร้างทางการเมืองที่รวมหู(胡)และฮั่น(汉)เข้าด้วยกัน ในบรรดาพลเมืองนั้น ไม่เพียงแต่สืบเชื้อสายมาจากผู้อพยพชาวฮั่น(汉)เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนจากภูมิภาคตะวันตกด้วย เช่น ชาวซ็อกเดียน(Sogdians粟特) ชาวซานซาน(Shanshan鄯善人)และชาวเติร์ก(Turks突厥人) 🥸ก่อนที่ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)จะมาถึง ประเทศนี้ก็ก่อตั้งขึ้นที่นั่นมานานกว่า 100 ปีแล้ว เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พบว่าข้อมูลจำเพาะของเมืองที่นี่มีความคล้ายคลึงกับเมืองฉางอัน(长安)ในราชวงศ์ซุย(隋)และราชวงศ์ถัง(唐)มาก นอกจากนี้ยังมีรูปของ ดยุคไอแห่งหลู่(鲁哀公)สอดถามขงจื๊อ(孔子)เกี่ยวกับปัญหาการเมืองที่แขวนอยู่ในพระราชวังของอาณาจักร เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)🥸 😎การต้อนรับด้วยมารยาทอันสูงส่ง😎 🥸ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และบิดาของเขาเดินทางไปยังราชวงศ์สุย(隋)ในยุครุ่งเรืองเพื่อเข้าเฝ้าจักรพรรดิสุยหยางตี้(隋炀帝)🥸 เขาไม่เพียงแต่เดินทางไปยังฉางอาน(长安) ล่อหยาง(洛阳) เฝินหยาง(汾阳) เอี้ยนตี้(燕地) ไต้ตี้(代地) และเมืองสำคัญอื่นๆ และได้เห็นวัฒนธรรมฮั่น(汉)ของที่ราบตอนกลางดั้งเดิม แต่เขายังไปเยี่ยมคารวะพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงและผู้มีคุณธรรมอีกมากมาย และเขาก็ชื่นชมที่ราบภาคกลางที่เป็นบ้านเกิดทางวัฒนธรรมของเขาเป็นอย่างมาก แต่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)รู้สึกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงในอดีตของราชวงศ์ซุย ความฉลาดสามารถของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)นั้นเหนือกว่ามาก เมื่อใดก็ตามที่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)บรรยายธรรมแก่ขุนนางของเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ในเต็นท์ใหญ่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ถือกระถางธูปเพื่อเคลียร์นำทางให้พระภิกษุผู้มีชื่อเสียงด้วยตนเอง เมื่อพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปที่แท่นธรรมาสน์เพื่อขึ้นเทศนาธรรม กษัตริย์แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ถึงกับคุกเข่าโน้มตัวลง และทำหน้าที่เป็นบันไดให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ก้าวขึ้นแท่นธรรมาสน์ การปฏิบัตินี้ไม่สอดคล้องกับประเพณีตะวันออก แต่ก็มีบันทึกไว้ในหนังสือดั้งเดิมของอินเดียบางเรื่อง สิ่งนี้พิสูจน์ได้จากสิ่งแวดล้อมข้วงเคียงว่า เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)คือจุดทางสี่แยกของอารยธรรมตะวันออกและตะวันตก นอกจากนี้ยังอธิบายถึงการบูชาสักการะอย่างสูงสุดต่อ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ยังคัดเลือกพระภิกษุในท้องถิ่นหลายแห่งใน เกาชาง(Gaochang高昌)ให้เป็นนักเรียนและคนรับใช้ นิสัยปกิบัติในการรับลูกศิษย์ไปตลอดทางนี้ กลายเป็นต้นแบบทางประวัติศาสตร์สำหรับทีมอาจารย์และลูกศิษย์ของภิกษุราชวงศ์ถัง(唐)ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องใน "บันทึกการเดินทางสู่ตะวันตก(Journey to the West西游记)" แม้ว่ากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)จะชื่นชมพรสวรรค์และการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เขาถึงกับมีความคิดหน่วงรั้งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้ที่เกาชาง(Gaochang高昌)ด้วยซ้ำ และขอให้ประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป แสดงธรรมสั่งสอนให้ความรู้ความกระจ่างแก่คนทั่วไป จนกระทั่งเป็นพระอาจารย์ระดับชาติของ เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เห็นด้วยเพราะมีตวามเห็นว่าเรื่องธรรมะเป็นเรื่องใหญ่กว่า กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)เห็นว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) มีความมุ่งมั่นดังนั้นเขาจึงจำต้องโยนไพ่ตายทางเลือกสุดท้ายของเขาออกไป: 🥸ถ้าพระคุณท่านไม่ปรารถนาอยู่ในเกาชาง(Gaochang高昌) ข้าพระเจ้าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งท่านอาจารย์กลับไปทางทิศตะวันออก🥸 เมื่อต้องเผชิญกับกลยุทธ์ไม้แข็งและไม้อ่อนร่วมกันของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) กล่าวด้วยท่าทีที่ไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยองว่า: 🥸พระองค์สามารถจะเพียงได้รับกระดูกของอาตมาเอาไว้ได้ แต่พระองค์ไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจของอาตมาที่จะไปทางตะวันตกได้🥸 😎หนทางเบื้องหน้าอันยาวไกล😎 🥸ด้วยเหตุนี้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) จึงอดอาหารเป็นเวลาสามวันเพื่อแสดงความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตก🥸 ในฐานะเป็นอาณาจักรในภูมิภาคตะวันตกที่นับถือศาสนาพุทธ หากมีพระภิกษุที่แสวงหาธรรมะมาอดอยากจนตายภายในดินแดนของตน ชื่อเสียงสู่ภายนอกของเกาชาง(Gaochang高昌)ในภูมิภาคตะวันตกจะเสียหายอย่างมาก และเขาจะพลอยได้รับชื่อเสียงเสื่อมเสียงจากการทำร้ายพระภิกษุที่มีชื่อเสียงด้วย ยิ่งไปกว่านั้นความจริงแล้ว การขัดขวางการเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตกของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ด้วยเพื่อความปรารถนาอันเห็นแก่ตัวของเขาเองก็เป็นการขัดแย้งกับความตั้งใจเดิมของเขา 🥸เมื่อเขาคิดมาถึง ณ จุดนี้ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ก้มหัวให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เพื่อขอโทษ🥸 ความคิดที่เห็นแก่ตัวของเขาที่มีต่อเกาชาง(Gaochang高昌) ก็ถูกขจัดออกไปในที่สุดด้วยความมุ่งมั่นมีเมตตาที่จะช่วยสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ในเวลาเดียวกันกับขณะที่รู้สึกประทับใจกับความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะแสวงหาธรรมะโดยปราศจากสิ่งภายนอกมาบั่นทอนความตั้งใจ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ได้สาบานต่อฟ้าดินสัญญาเป็นพี่น้องกัน ภายใต้การอุปถัมภ์จากแม่ของแผ่นดินเจ้าจอมมารดา จาง(张太妃) เพื่อให้พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เดินทางไปถึงอินเดียได้อย่างราบรื่น กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) ทรงสั่งการให้จัดทีมงานเล็กๆ ประกอบด้วยม้า 30 ตัว พนักงานข้าราชการเกาชาง(Gaochang高昌)1 คน ผู้ติดตามกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ 25 คน และพระภิกษุหนุ่ม 4 รูป เพื่อดูแลเรื่องอาหาร เสื้อผ้า และชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมหน้ากากและหมวกพิเศษสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สำหรับการเดินทางผ่านภูเขาและทะเลทรายที่เต็มไปด้วยหิมะ รวมถึงเสื้อคลุมสำหรับพระสงฆ์ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับเขตภูมิอากาศต่างๆ จัดทหารม้าขนนำทองคำ เงิน และผ้าไหมจำนวนมากไว้สำหรับการครั้งนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เพียงแต่จะไม่ต้องทนทุกข์จากความหิวโหยระหว่างทางไปอินเดียเท่านั้น แต่ยังมีเงินเพียงพอที่จะทำทานอีกด้วย ในสิ่งแต่งเคิมเหล่านี้เป็นรายละเอียดด้านที่อ่อนโยนของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ที่มีต่ออัครสาวก 🥸นอกจากทรัพย์สินแล้ว เนื่องจากเจ้าผู้ครองแคว้นตะวันตกในขณะนั้น คือ ข่านเตอร์กตะวันตก(西突厥)ได้สมรสกับราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ยังมีจดหมายแสดงความเคารพที่กษัตริย์แห่งเกาชาง(Gaochang高昌)มอบให้กับข่านแห่งเติร์กตะวันตก(西突厥) อธิบายถึงความตั้งใจของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะไปทางดินแดนแคว้นตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะ🥸 ภายใต้การคุ้มครองของเตอร์กข่านตะวันตก (西突厥) ทุกประเทศในภูมิภาคตะวันตกตลอดเส้นทางให้ความเคารพแก่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) และให้การสนับสนุนทางทหารที่เข้มแข็งและมีควาทปลอดภัยที่สุดสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)และคณะเดินทางของเขา และจดหมายแสดงความเคารพของกษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ถึงพระมหากษัตริย์ของยี่สิบสี่ประเทศในภูมิภาคตะวันตกจะช่วยให้การเดินทางของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ง่ายและสะดวกขึ้นอย่างมาก 🥸ในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของการอำลาอาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌) บรรดาราชวงศ์และชาวเกาชาง(Gaochang高昌)ก็ออกจากเมืองเพื่อส่งอำลา🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สัญญาว่า เมื่อเดินทางผ่านเกาชาง(Gaochang高昌)หลังจากกลับจากการศึกษาในอินเดียจะแสดงเทศนาธรรมอีก จากนั้นเขาก็กล่าวคำอำลากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ด้วยน้ำตา พวกบรรดาราชวงศ์ เกาชาง(Gaochang高昌)เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวพุทธต่างพากันออกจากเมืองส่งเสียงอำลาดังลั่นสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งถิ่น ราวกับว่ามือแห่งโชคชะตาได้ฉีกหัวใจและจิตวิญญาณออกจากร่างกายของชาวเกาชาง(Gaochang高昌) ทำให้พวกเขาสูญเสียสมบัติของชาติไปตลอดกาล บรรดาพวกราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ส่งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ออกไปนอกเมืองหลายสิบลี้ แม้ว่าพระภิกษุสมณเพศจะมองเห็นบรรลุแล้วการจากแยกอำลาในทางโลกแล้วก็ตาม แต่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ผู้ที่มีจิตใจละเอียดอ่อนและยังคงเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็ยังมีอารมณ์อ่อนไหวมาก เขาขอบคุณต่ออาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌)อย่างสุดซึ้งอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนอย่างมีน้ำใจ ราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังจับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง ร่ำไห้ราวกับสายฝนกล่าวว่า 🥸ในเมื่อพระคุณท่านถือเป็นพี่น้องกัน สัตว์พาหนะต่าง ๆ ในประเทศก็มีเจ้าของคนเดียวกัน แล้วเหตุใดจึงต้องขอบคุณพวกเขาด้วย?🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ตอบว่า: 🥸ฉันจะไม่มีวันลืมความเมตตาของเสด็จพี่ตลอดชีวิตของอาตมา ในวันที่อาตมากลับจากนำพระคัมภีร์ทางพุทธศาสนากลับมา อาตมาจะอยู่สอนธรรมะในเกาชาง(Gaochang高昌)เป็นเวลาสามปีเป็นการตอบแทน!🥸 หลายปีต่อมาในฉางอาน(长安) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เล่าถึงเหตุการณ์อันน่าประทับใจนี้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากให้เหล่าสาวกฟัง มิตรภาพฉันท์พี่น้องที่มีต่อราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังคงเกินคำบรรยาย ดูเหมือนราวกับว่าพิธีอำลาที่หรูหราและยิ่งใหญ่นั้นได่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ตอนนั้นเขาไม่รู้ 🥸นี่ยังจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พบกับพี่ชายร่วมสาบานของเขา🥸 🥳โปรดติดตามบทความ#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 02. #อาณาจักรคาราซาห์และคูชาที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🥳 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📣วันนี้พาไปดูไลฟ์สไตล์ของ “ป๋ากิ๊ก” หรือ คุณเกียรติ กิจเจริญ #watchmaker นักแสดงและพิธีกรรุ่นใหญ่ชื่อดัง บุคคลที่คลั่งไคล้และหลงใหลกับระบบกลไกการทำงานของนาฬิกา ____________________________________ Modify Watch ขอขอบพระคุณ “ป๋ากิ๊ก” ที่ให้เกียรติกลับมาเยี่ยมเยือนที่ Modify Watch Training Center มาโดยตลอด หลังจากที่เรียนจบคอร์สหลักสูตรซ่อมนาฬิกาขั้นพื้นฐาน และคอร์สหลักสูตรการขัดตัวเรือน (Polishing Course) ไปทั้ง 2 คอร์สเรียบร้อยแล้ว🩵⌚️
    CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก
    Overwrist
    📣วันนี้พาไปดูไลฟ์สไตล์ของ “ป๋ากิ๊ก” หรือ คุณเกียรติ กิจเจริญ #watchmaker นักแสดงและพิธีกรรุ่นใหญ่ชื่อดัง บุคคลที่คลั่งไคล้และหลงใหลกับระบบกลไกการทำงานของนาฬิกา ____________________________________ Modify Watch ขอขอบพระคุณ “ป๋ากิ๊ก” ที่ให้เกียรติกลับมาเยี่ยมเยือนที่ Modify Watch Training Center มาโดยตลอด หลังจากที่เรียนจบคอร์สหลักสูตรซ่อมนาฬิกาขั้นพื้นฐาน และคอร์สหลักสูตรการขัดตัวเรือน (Polishing Course) ไปทั้ง 2 คอร์สเรียบร้อยแล้ว🩵⌚️ CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก Overwrist
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 83 0 รีวิว
  • เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋)

    นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving)
    เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน
    ความสูง: 1.57 ม.
    ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME)
    พี่น้อง: อีเลน แทง

    เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง
    ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
    เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008
    หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง
    และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014

    ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว...
    เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey

    ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》
    https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU



    ----------------------------------------------
    รวมเพลงจีน-กวางตุ้ง
    1. เพลงจีนกวางตุ้ง 光辉岁月 อ่านว่า Gwong Fai Seui Yut
    แปลว่า "วันแห่งความรุ่งโรจน์" เป็นเพลงของวง Beyond ในยุค '90
    ที่มีความหมายดีๆ.. นำมาขับร้องใหม่ ไฉไล..,มันส์ มากกว่า-เดิม ค่ะ
    https://www.youtube.com/watch?v=Y98BJoztFwM
    เพลงแนว Canto-Pop 光辉岁月 Gwong Fai Seui Yuet
    ของ วง Beyond ต้นฉบับ(เดิม) พร้อมอักษรจีน-กวางตุ้ง
    ค่อยๆอ่าน+ร้องตาม สักวันหนึ่งที่มี "วันแห่งความรุ่งโรจน์"
    https://www.youtube.com/watch?v=PrGsAMbgUh4
    เพลง Glorious Years (光辉岁月)
    https://www.youtube.com/watch?v=4Sjqt37ipcU

    2. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ ศิลปิน BEYOND
    ขับร้องโดย สุดยอดนักร้องยอดนิยมของฮ่องกง
    ในเพลง 不再猶豫 อ่านว่า Bat joi yau yu แปลว่า ไม่ลังเล
    https://www.youtube.com/watch?v=RvDjCTqoLuw
    3. เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง 一生中最爱 อ่านว่า (Yi Sheng Zhong Zui Ai)
    เปิดตัวครั้งแรกในปี 1991 และใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง
    "A Tale of Two Cities" ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของ
    เพื่อนรักสองคนที่ตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งในเวลาเดียวกัน
    แต่ให้กันและกันด้วยความเป็นพี่น้อง และทั้งสามคนต้องพบกับ
    บททดสอบมิตรภาพและความรัก เพลงนี้เลยดูเหมือนร้อง
    เกี่ยวกับระยะห่างระหว่างเพื่อนกับคนรัก
    https://www.youtube.com/watch?v=KbZLN2X_lFU
    สุดยอด..เพลงจีนกวางตุ้ง(ชาย) ต้องยกให้ ALAN TAM
    ในบทเพลง一生中最愛. Yat Saang Jung Jeui Ngoi
    คือ เพลงที่ดีที่สุด ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ 1991- ปัจจุบัน
    https://www.youtube.com/watch?v=62ejBUq1J5o

    4. เพลงจีนกวางตุ้ง 明日話今天 หมายถึง คุยกันวันนี้..ไม่ต้องรอในวันพรุ่งนี้
    และเพลงที่ 2 奮鬥 หมายความถึง การต่อสู้
    ขับร้องโดย Jenny Tseng และ CoCo Lee จำกันได้ไหม..ล่ะ?
    https://www.youtube.com/watch?v=ZXAguTHqYnc

    5. 7 เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ 容祖兒 - Joey Yung
    นำเสนอในแบบ Medley รวดเดียวในเพลง
    อ่านออกเสียงสำเนียงกวางตุ้ง 粤拼 ➔ jyut6ping3 ได้ว่า.....
    mat6jau5 / syun2jau5 / sam1gam1ming6dai2 / zou2jau5jyu6mau4 / zeoi6fui1 / ze3gwo3 / ngo5jaa5bat1
    密友 / 損友 / 心甘命抵 / 早有預謀 / 罪魁 / 借過 / 我也不想這樣
    https://www.youtube.com/watch?v=NpC07u2NMj0
    6. เพลงรัก..ภาษากวางตุ้ง ทั้ง 20 เพลง
    สรุปเป็นการขับร้องแนวเศร้าๆของหนุ่มมองเครื่องบิน
    ที่ไม่สามารถเด็ดดอกฟ้าลงมาเชยชมได้
    ถ้าได้..จะร้องแนวมันส์ๆ สนุกสนาน กระดี๊ กระด๊า รื่นเริง หลุดโลก..
    ช่าย หมาย..ล่ะ
    https://www.youtube.com/watch?v=x1z6as3uwMY
    7. ชาวกวางตุ้ง..เป็นชาวจีนที่อาศัยอยู่ติดทะเลทางตอนใต้ของจีน
    ตื่นเช้าขึ้นมา..จะพบกับ "ท้องฟ้า และ ทะเล"
    มักจะแหกปากขับร้องเพลง Hoi fut tin hung ของ Beyond
    海闊天空 ให้ดัง..ไกล ถึง ดาวพระอังคาร..ไปเลย
    ช่วยกัน "แหกปาก" ร้องดังๆ..นะ คะ
    https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ
    8. เพลงอมตะ..นิรันดร์กาล และ อยู่ในใจของชาวจีนกวางตุ้ง
    คือ เพลง Naan Dak Yau Ching Yan ( 难得有情人 )
    แปลเป็นภาษาอังกฤษ Happy Are Those in Love
    ขับร้องโดย Shirley Kwan (關淑怡)
    ฉันมีความสุขมากที่ได้ฟัง และร้องคลอเคลียตามไปด้วย
    ชาวกวางตุ้ง..ทุกคนสัมผัสความสุขนี้ได้ นะคะ
    https://www.youtube.com/watch?v=lhB9uMNveXI
    9. หนึ่งใน..เพลงที่ดีที่สุดของ Joey Yung 容祖兒
    มีหลายประเทศนำไปเลียนแบบใส่เนื้อร้องใหม่
    ในเพลง 習慣失戀 แปลไทย ว่า " อกหักจนเคยชิน"
    ไพเราะ..มาก ค่ะ " Always Heartbroken "
    https://www.youtube.com/watch?v=aQmieaqmLmU
    10. เพลง..ล้านคิวเพลง《千千阙歌》ในภาษาจีนกวางตุ้ง
    ที่ทำให้ 陈慧娴 Priscilla Chan ที่กำลังจะเกษียณอำลาวงการ
    กลับทำให้เธอ..ดังระเบิดแรงกว่า..ระเบิดปรมาณู ในปี 1983
    11. 朋友 ผั่งเหย่า..ภาษาจีน(กวางตุ้ง) แปลว่า เพื่อน
    เป็นเพลงที่ใช้ภาษาพูด ฟังได้ใจความอย่างง่ายๆ
    คิดถึงความสุข..สมัยที่ได้เรียนที่นี่ในวัยเด็ก

    12. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋)
    นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving)
    เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน
    ความสูง: 1.57 ม.
    ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME)
    พี่น้อง: อีเลน แทง
    เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง
    ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
    เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008
    หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง
    และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014
    ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว...
    เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey
    ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》
    https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU
    13. สุดยอดมหากาพย์ของเพลงจีนกวางตุ้ง..ต้องเพลงนี้
    《千千阙歌》หรือ แปลว่า "เพลงล้านคิว"
    "Song of a Thousand Thousand Que"
    ต้นฉบับของเพลงนี้คือ "Yuyakiけの歌" แต่งโดย Makaiye Yasuji
    โดยนักร้องชาวญี่ปุ่นMasahiko Kondo ในปี 1988
    หลังจากที่ Priscilla Chan ประกาศว่าจะเกษียณจากวงการเพลง
    PolyGram ได้ผลิตเพลง "อำลา" เพลงนี้แหละที่ประพันธ์เพลง
    ในภาษาจีนกวางตุ้ง โดย Lin Zhenqiang
    กลับทำให้ Priscilla Chan ยิ่งโด่งดังมากยิ่งขึ้น ด้วยฝีมือของ
    Anita Mui, Blue Jeans, Polygram, Huaxing Records,
    CBS/SonyและWingo Creative
    ด้วยเพลงนี้ พริสซิลลา ชาน ได้รับรางวัล
    " My Favorite Song Award in the Music World "
    ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 2,715 เสียง
    ใน พิธีมอบรางวัล Top Music Pop Awards ในปี 1989
    https://www.youtube.com/watch?v=P9kcwRnGk5w

    14. อัลบั๊มรวมเพลงจากสวรรค์ ของ 4 ราชาเพลงดังแห่งฮ่องกง
    ♛ Andy Lau ♛Jacky Cheung ♛Li Mingi ♛Aaron Kwok
    https://www.youtube.com/watch?v=a55w198tsLo

    15. Album รวม-เพลงกวางตุ้งที่ดีที่สุด ของ Alan Tam
    https://www.youtube.com/watch?v=w5QIjqHiSp4

    16. เธอ คือ 伍珂玥 หรือ Karrie Ng เป็นชาวเมืองไท่ซาน มณฑลกวางตุ้ง. เป็นนักร้องเพลงป๊อปชาวจีน
    เป็นนักศึกษาปี 2021 ของ Jinzhong Conservatory of Music of Shenzhen University
    และเป็นแชมป์รวมของ " The Voice of China 2021 "
    เธอ คือ สุดยอด..ความภาคภูมิใจ ของ ชาวกวางตุ้งทั่วโลก
    นี่คือ อัลบั๊ม เพลงอันแสนไพเราะ จากน้ำเสียงระดับโลกของเธอ
    https://www.youtube.com/watch?v=usKqLgvf6pI

    17. เพลงจีนกวางตุ้ง ชื่อเพลง《最爱》แปลว่า.. " รักที่ซู๊ดด ด.. "
    เรียบเรียงจากบทกวี เปรียบ ท้องฟ้า สายลม ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์
    น้ำขึ้น-น้ำลง เงา สายน้ำ จินตนาการกับความรักในฝัน.
    https://www.youtube.com/watch?v=IEwzbPWB3zg

    18. ชื่อภาษาจีน(ต้วย่อ) 刘德华 คนไทย รู้จักในชื่อ “หลิว เต๋อ หัว”
    สาวๆชาวจีนกวางตุ้ง...กรี๊ด สนั่น ในนาม “เหล่า ตั๊ก หวา” (Andy Lau)
    นี่แหละจักรพรรดิแห่ง..ดาราฮ่องกง เจ้าของผลงานภาพยนตร์ฮ่องกงแนวบู๊ ตีรันฟันแทง มากกว่าครึ่ง
    สูง ยาว หล่อ ล่ำ+เสียงดี ร้องเพลงยอดนิยมเพลงเดียว นานถึง 30 ปี คือ เพลง Yat Hei Jau Gwoh Dik Yat Ji
    《一起走过的日子》แปลเป็นอังกฤษ ว่าThe Days We Spent Together
    สาวกวางตุ้ง ต้องแหกปาก ร้องคลอ..ตามไปได้(ทุกคน)
    โดยเฉพาะท่อนแรก (ร้องดังๆ..นะ)
    如何面对 曾一起走过的日子
    jyu4 ho4 min6 deoi3 cang4 jat1 hei2 zau2 gwo3 dik1 jat6 zi2
    现在剩下我独行
    jin6 zoi6 sing6 haa6 ngo5 duk6 hang4
    如何用心声一一讲你知
    jyu4 ho4 jung6 sam1 sing1/seng1 jat1 jat1 gong2 nei5 zi1
    从来没人明白我
    cung4 loi4 mut6 jan4 ming4 baak6 ngo5
    唯一你给我好日子
    wai4 jat1 nei5 kap1 ngo5 hou2 jat6 zi2
    有你有我有情有生有死有义
    jau5 nei5 jau5 ngo5 jau5 cing4 jau5 sang1/saang1 jau5 sei2 jau5 ji6
    https://www.youtube.com/watch?v=VUZ4w2NN5fQ
    19. เพลงจีนกวางตุ้งคลาสสิก ขับร้องโดย : 張學友 / Jacky Cheung
    ชื่อเพลง : 『我留著你在身邊心仍然很遠』
    แปลไทย ได้ว่า "ฉันคอยเธอเคียงข้างใจยังห่างไกล"
    หรือ แปลเป็นอังกฤษ = Let me stay by your side
    https://www.youtube.com/watch?v=WHTfF5kIz80

    20. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) Yue Ban Xiao Ye Qu
    คืนพระจันทร์เสี้ยว《月半小夜曲》
    ฝาหรั่งเรียกว่า "Half Moon Serenade"
    นักร้อง : Li Keqin, Wu Keyue และ He San
    นำมาขับร้อง แบบ Trio ในปลายปี 2021 ได้ไพเราะจับใจ(มาก)
    ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…”
    https://www.youtube.com/watch?v=MfDa59mTHes

    21. เพลงจีนกวางตุ้ง เศร้าๆ.. ขับร้องโดย 容祖兒 - Joey Yung
    ชื่อเพลง : 天窗 แปลว่า แสงจากท้องฟ้า
    ความหมายของเพลง : หญิง-ชาย ดื่มน้ำชา หลังจากอาหารมื่อหนึ่ง
    ซึ่ง ทั้งคู่นัดกันมาพบกันเพื่อบอกเลิกกัน
    ทั้งคู่ไม่ยอมเปิดเผยความจริง
    หรือ ไม่ยอม..เปิดแสงจากฟ้าให้เข้าใจกัน นั่นเอง.
    https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU

    22. เพลงเก่า..ยอดนิยม ประมาณ 30 ปี
    ภาษาจีนกวางตุ้ง ของ Jacky Cheung (張學友 / Cheung Hok-yau)
    ชื่อเพลง : 只想一生跟你走 (Ji seung yat sang gan nie jau)
    แปลว่า : ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ
    ความหมายของเพลง....พระเอกของเราได้พบกับคนที่หลงรัก
    และค้นพบว่าไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเธอคนนั้น
    สองคนนี้เลิกกัน โดยฝ่ายหญิงสะบัดกันหนีไป
    ปล่อยให้พระเอกของเรา นั่งร้องไห้เศร้าเสียใจ
    มโนว่า เธอคนนั้น..ไม่ได้จากไป
    และทุกอย่างเหมือนอยู่ในความฝัน
    (ยังเสือกถามว่า ฝ่ายหญิงทำไมไม่ฝันถึงเค้าบ้าง)
    ร้องไหัและขอให้เธออย่าลืมรักเก่าๆเงียบๆ
    เพียงลำพัง คิดว่าในชีวิตนี้ ไม่สามารถอยู่ได้
    โดยปราศจากเธอ
    ตรงกับชื่อเพลง
    "ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ 只想一生跟你走
    Only Want to Go with You in this Life
    https://www.youtube.com/watch?v=Ou3NHHS6f4c
    23. เพลงแนว Soft-Rock
    อมตะนิรันด์กาล ของ Beyond
    บทเพลงภาษาจีนกวางตุ้ง Hoi Fut Tin Hung - 海闊天空
    https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ
    24. เพลงในแนวศิลปินคู่ Duo ชาย-หญิง
    บนเวที่ Voice of China เพลงในภาษากวางตุ้ง
    ได้รับการยอมรับ จากชาวจีนทั่วทั้งประเทศ
    เพลง : คืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
    Yue Ban Xiao Ye Qu (月半小夜曲)
    ศิลปิน : 李克勤 และ 周深
    ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…”

    25. เพลงเศร้าๆ..ภาษากวางตุ้ง ชื่อเพลง 天窗 แปลว่า แสงปลายอุโมงค์
    เป็นการเล่าเรื่องราวของหนุ่มน้อยอกหัก นั่งในห้องมืดๆเพียงลำพัง
    โดยมีลำแสงเล็กๆลอดช่องหน้าต่างลงมาที่เขานั่ง คิดปลงตัวเอง
    รำพึง รำพัน อย่างน่าฉงฉาน..จุงเบย
    https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU

    26. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋)
    นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving)
    https://www.facebook.com/photo/?fbid=1121627308556329&set=a.108283646557372

    -《暗裡著迷》
    - Cantonese LOVE Song "Yat Saang Jung Jeui Ngoi" 一生中最愛 [Love Of A Lifetime] - Alan Tam 譚詠麟
    - เมโลดี้..หวานๆ ในเพลง 光輝歲月 -Gwong Fai Seui Yuet
    ของวง Beyond แน่นอน
    https://www.youtube.com/watch?v=SVBC35ByZUY
    - เมโลดี้..อันแสนไพเราะ ในเพลงจีนกวางตุ้ง(อมตะ)
    天若有情. tin yeuk yau ching ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ
    - เพลงจีนกวางตุ้งยอดนิยม(ตลอดกาล)ของ Beyond ทั้ง 2 เพลง
    1) "วันแห่งความรุ่งโรจน์" [ Gwong Fai Seui Yuet ] 光輝歲月
    2) "ทะเลและท้องฟ้า" [ Hoi Fut Tin Hung ] 海闊天空
    - เพลงสำหรับเทศกาลปีใหม่ Auld Lang Syne
    ใส่เนื้อร้องเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง
    กลายเป็นเพลง (เหย่ายี่หมานโส๋ย) 友誼萬歲 = มิตรภาพที่ยืนยาว
    ขับร้องโดย "หลีหลี่รุ่ย" 李麗蕊 Sara Lee
    ฟังง่าย -ชัดถ้อย-ชัดคำ(มาก) ค่ะ
    - ศิลป และ เทคนิคในการเขียนอักษรจีน โดยใช้ "แกนร่วม"
    เขียนว่า 身体健康 แปลว่า -ร่างกาย-สุขภาพดี
    ต้องหัดเขียน เพื่อนำไปอวยพรญาติผู้ใหญ่
    (ซึ่ง..เหลือน้อย แล้ว)
    https://www.youtube.com/shorts/th4bgNYZrsI
    - เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง ประมาณว่า อกหัก..รักคุด
    ของ Joey Yuong 容祖兒
    แสนรันทดใจ ฟัง..ไป ร้องไห้..ไป
    สังเกตไหม คะ ว่า..คล้ายกับเพลงในละคอนไทย "สามีตีลังกา"
    ไม่ทราบว่า จีนลอกไทย หรือ ไทยลอกจีน
    - เพลงจีนกวางตุ้ง สำเนียง..ซ๊าม-ยับ-หวา
    แสนไพเราะ..เย็นๆ จาก #ฮัคเคน_ลี (李克勤) Hacken Lee
    เค้า..เป็นนักร้อง พิธีกรรายการโทรทัศน์ และนักแสดงชาวฮ่องกง มีผลงานตั้งแต่ปี 1980 จนถึงปี 2013 เพลง "House of Cards" ของ Lee กวาดหลายรางวัลในงานประกาศรางวัลของฮ่องกง รวมถึง "เพลงที่ดีที่สุดในโลก" และ "Broadcasting Index"
    ใน Metro's Awards ในปี 2013 เขาได้รับรางวัล "Outstanding Pop Singer Award" ในงาน "Top Ten Chinese Gold Songs Awards" ของ RTHK ถึง 14 ครั้ง และสร้างสถานะที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ในอุตสาหกรรมเพลงของฮ่องกงและเอเชีย.
    https://www.youtube.com/watch?v=RMH8Xv2siYM
    - สุดยอด..การประกวด 中国好声音 (Voice of China)
    เพลง(จีนกวางตุ้ง)Manjusaka= 蔓珠莎華 ของ Wu Keyue
    ไม่เพียงรักษาจิตวิญญาณแห่งการครอบงำของ Anita Mui
    แต่...ยังมีเสียงตอนจบที่คล้ายกับ Priscilla Chan มาก
    เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋) นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving) เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน ความสูง: 1.57 ม. ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME) พี่น้อง: อีเลน แทง เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008 หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014 ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว... เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》 https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU ---------------------------------------------- รวมเพลงจีน-กวางตุ้ง 1. เพลงจีนกวางตุ้ง 光辉岁月 อ่านว่า Gwong Fai Seui Yut แปลว่า "วันแห่งความรุ่งโรจน์" เป็นเพลงของวง Beyond ในยุค '90 ที่มีความหมายดีๆ.. นำมาขับร้องใหม่ ไฉไล..,มันส์ มากกว่า-เดิม ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=Y98BJoztFwM เพลงแนว Canto-Pop 光辉岁月 Gwong Fai Seui Yuet ของ วง Beyond ต้นฉบับ(เดิม) พร้อมอักษรจีน-กวางตุ้ง ค่อยๆอ่าน+ร้องตาม สักวันหนึ่งที่มี "วันแห่งความรุ่งโรจน์" https://www.youtube.com/watch?v=PrGsAMbgUh4 เพลง Glorious Years (光辉岁月) https://www.youtube.com/watch?v=4Sjqt37ipcU 2. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ ศิลปิน BEYOND ขับร้องโดย สุดยอดนักร้องยอดนิยมของฮ่องกง ในเพลง 不再猶豫 อ่านว่า Bat joi yau yu แปลว่า ไม่ลังเล https://www.youtube.com/watch?v=RvDjCTqoLuw 3. เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง 一生中最爱 อ่านว่า (Yi Sheng Zhong Zui Ai) เปิดตัวครั้งแรกในปี 1991 และใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง "A Tale of Two Cities" ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของ เพื่อนรักสองคนที่ตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งในเวลาเดียวกัน แต่ให้กันและกันด้วยความเป็นพี่น้อง และทั้งสามคนต้องพบกับ บททดสอบมิตรภาพและความรัก เพลงนี้เลยดูเหมือนร้อง เกี่ยวกับระยะห่างระหว่างเพื่อนกับคนรัก https://www.youtube.com/watch?v=KbZLN2X_lFU สุดยอด..เพลงจีนกวางตุ้ง(ชาย) ต้องยกให้ ALAN TAM ในบทเพลง一生中最愛. Yat Saang Jung Jeui Ngoi คือ เพลงที่ดีที่สุด ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ 1991- ปัจจุบัน https://www.youtube.com/watch?v=62ejBUq1J5o 4. เพลงจีนกวางตุ้ง 明日話今天 หมายถึง คุยกันวันนี้..ไม่ต้องรอในวันพรุ่งนี้ และเพลงที่ 2 奮鬥 หมายความถึง การต่อสู้ ขับร้องโดย Jenny Tseng และ CoCo Lee จำกันได้ไหม..ล่ะ? https://www.youtube.com/watch?v=ZXAguTHqYnc 5. 7 เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ 容祖兒 - Joey Yung นำเสนอในแบบ Medley รวดเดียวในเพลง อ่านออกเสียงสำเนียงกวางตุ้ง 粤拼 ➔ jyut6ping3 ได้ว่า..... mat6jau5 / syun2jau5 / sam1gam1ming6dai2 / zou2jau5jyu6mau4 / zeoi6fui1 / ze3gwo3 / ngo5jaa5bat1 密友 / 損友 / 心甘命抵 / 早有預謀 / 罪魁 / 借過 / 我也不想這樣 https://www.youtube.com/watch?v=NpC07u2NMj0 6. เพลงรัก..ภาษากวางตุ้ง ทั้ง 20 เพลง สรุปเป็นการขับร้องแนวเศร้าๆของหนุ่มมองเครื่องบิน ที่ไม่สามารถเด็ดดอกฟ้าลงมาเชยชมได้ ถ้าได้..จะร้องแนวมันส์ๆ สนุกสนาน กระดี๊ กระด๊า รื่นเริง หลุดโลก.. ช่าย หมาย..ล่ะ https://www.youtube.com/watch?v=x1z6as3uwMY 7. ชาวกวางตุ้ง..เป็นชาวจีนที่อาศัยอยู่ติดทะเลทางตอนใต้ของจีน ตื่นเช้าขึ้นมา..จะพบกับ "ท้องฟ้า และ ทะเล" มักจะแหกปากขับร้องเพลง Hoi fut tin hung ของ Beyond 海闊天空 ให้ดัง..ไกล ถึง ดาวพระอังคาร..ไปเลย ช่วยกัน "แหกปาก" ร้องดังๆ..นะ คะ https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ 8. เพลงอมตะ..นิรันดร์กาล และ อยู่ในใจของชาวจีนกวางตุ้ง คือ เพลง Naan Dak Yau Ching Yan ( 难得有情人 ) แปลเป็นภาษาอังกฤษ Happy Are Those in Love ขับร้องโดย Shirley Kwan (關淑怡) ฉันมีความสุขมากที่ได้ฟัง และร้องคลอเคลียตามไปด้วย ชาวกวางตุ้ง..ทุกคนสัมผัสความสุขนี้ได้ นะคะ https://www.youtube.com/watch?v=lhB9uMNveXI 9. หนึ่งใน..เพลงที่ดีที่สุดของ Joey Yung 容祖兒 มีหลายประเทศนำไปเลียนแบบใส่เนื้อร้องใหม่ ในเพลง 習慣失戀 แปลไทย ว่า " อกหักจนเคยชิน" ไพเราะ..มาก ค่ะ " Always Heartbroken " https://www.youtube.com/watch?v=aQmieaqmLmU 10. เพลง..ล้านคิวเพลง《千千阙歌》ในภาษาจีนกวางตุ้ง ที่ทำให้ 陈慧娴 Priscilla Chan ที่กำลังจะเกษียณอำลาวงการ กลับทำให้เธอ..ดังระเบิดแรงกว่า..ระเบิดปรมาณู ในปี 1983 11. 朋友 ผั่งเหย่า..ภาษาจีน(กวางตุ้ง) แปลว่า เพื่อน เป็นเพลงที่ใช้ภาษาพูด ฟังได้ใจความอย่างง่ายๆ คิดถึงความสุข..สมัยที่ได้เรียนที่นี่ในวัยเด็ก 12. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋) นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving) เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน ความสูง: 1.57 ม. ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME) พี่น้อง: อีเลน แทง เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008 หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014 ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว... เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》 https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU 13. สุดยอดมหากาพย์ของเพลงจีนกวางตุ้ง..ต้องเพลงนี้ 《千千阙歌》หรือ แปลว่า "เพลงล้านคิว" "Song of a Thousand Thousand Que" ต้นฉบับของเพลงนี้คือ "Yuyakiけの歌" แต่งโดย Makaiye Yasuji โดยนักร้องชาวญี่ปุ่นMasahiko Kondo ในปี 1988 หลังจากที่ Priscilla Chan ประกาศว่าจะเกษียณจากวงการเพลง PolyGram ได้ผลิตเพลง "อำลา" เพลงนี้แหละที่ประพันธ์เพลง ในภาษาจีนกวางตุ้ง โดย Lin Zhenqiang กลับทำให้ Priscilla Chan ยิ่งโด่งดังมากยิ่งขึ้น ด้วยฝีมือของ Anita Mui, Blue Jeans, Polygram, Huaxing Records, CBS/SonyและWingo Creative ด้วยเพลงนี้ พริสซิลลา ชาน ได้รับรางวัล " My Favorite Song Award in the Music World " ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 2,715 เสียง ใน พิธีมอบรางวัล Top Music Pop Awards ในปี 1989 https://www.youtube.com/watch?v=P9kcwRnGk5w 14. อัลบั๊มรวมเพลงจากสวรรค์ ของ 4 ราชาเพลงดังแห่งฮ่องกง ♛ Andy Lau ♛Jacky Cheung ♛Li Mingi ♛Aaron Kwok https://www.youtube.com/watch?v=a55w198tsLo 15. Album รวม-เพลงกวางตุ้งที่ดีที่สุด ของ Alan Tam https://www.youtube.com/watch?v=w5QIjqHiSp4 16. เธอ คือ 伍珂玥 หรือ Karrie Ng เป็นชาวเมืองไท่ซาน มณฑลกวางตุ้ง. เป็นนักร้องเพลงป๊อปชาวจีน เป็นนักศึกษาปี 2021 ของ Jinzhong Conservatory of Music of Shenzhen University และเป็นแชมป์รวมของ " The Voice of China 2021 " เธอ คือ สุดยอด..ความภาคภูมิใจ ของ ชาวกวางตุ้งทั่วโลก นี่คือ อัลบั๊ม เพลงอันแสนไพเราะ จากน้ำเสียงระดับโลกของเธอ https://www.youtube.com/watch?v=usKqLgvf6pI 17. เพลงจีนกวางตุ้ง ชื่อเพลง《最爱》แปลว่า.. " รักที่ซู๊ดด ด.. " เรียบเรียงจากบทกวี เปรียบ ท้องฟ้า สายลม ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ น้ำขึ้น-น้ำลง เงา สายน้ำ จินตนาการกับความรักในฝัน. https://www.youtube.com/watch?v=IEwzbPWB3zg 18. ชื่อภาษาจีน(ต้วย่อ) 刘德华 คนไทย รู้จักในชื่อ “หลิว เต๋อ หัว” สาวๆชาวจีนกวางตุ้ง...กรี๊ด สนั่น ในนาม “เหล่า ตั๊ก หวา” (Andy Lau) นี่แหละจักรพรรดิแห่ง..ดาราฮ่องกง เจ้าของผลงานภาพยนตร์ฮ่องกงแนวบู๊ ตีรันฟันแทง มากกว่าครึ่ง สูง ยาว หล่อ ล่ำ+เสียงดี ร้องเพลงยอดนิยมเพลงเดียว นานถึง 30 ปี คือ เพลง Yat Hei Jau Gwoh Dik Yat Ji 《一起走过的日子》แปลเป็นอังกฤษ ว่าThe Days We Spent Together สาวกวางตุ้ง ต้องแหกปาก ร้องคลอ..ตามไปได้(ทุกคน) โดยเฉพาะท่อนแรก (ร้องดังๆ..นะ) 如何面对 曾一起走过的日子 jyu4 ho4 min6 deoi3 cang4 jat1 hei2 zau2 gwo3 dik1 jat6 zi2 现在剩下我独行 jin6 zoi6 sing6 haa6 ngo5 duk6 hang4 如何用心声一一讲你知 jyu4 ho4 jung6 sam1 sing1/seng1 jat1 jat1 gong2 nei5 zi1 从来没人明白我 cung4 loi4 mut6 jan4 ming4 baak6 ngo5 唯一你给我好日子 wai4 jat1 nei5 kap1 ngo5 hou2 jat6 zi2 有你有我有情有生有死有义 jau5 nei5 jau5 ngo5 jau5 cing4 jau5 sang1/saang1 jau5 sei2 jau5 ji6 https://www.youtube.com/watch?v=VUZ4w2NN5fQ 19. เพลงจีนกวางตุ้งคลาสสิก ขับร้องโดย : 張學友 / Jacky Cheung ชื่อเพลง : 『我留著你在身邊心仍然很遠』 แปลไทย ได้ว่า "ฉันคอยเธอเคียงข้างใจยังห่างไกล" หรือ แปลเป็นอังกฤษ = Let me stay by your side https://www.youtube.com/watch?v=WHTfF5kIz80 20. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) Yue Ban Xiao Ye Qu คืนพระจันทร์เสี้ยว《月半小夜曲》 ฝาหรั่งเรียกว่า "Half Moon Serenade" นักร้อง : Li Keqin, Wu Keyue และ He San นำมาขับร้อง แบบ Trio ในปลายปี 2021 ได้ไพเราะจับใจ(มาก) ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…” https://www.youtube.com/watch?v=MfDa59mTHes 21. เพลงจีนกวางตุ้ง เศร้าๆ.. ขับร้องโดย 容祖兒 - Joey Yung ชื่อเพลง : 天窗 แปลว่า แสงจากท้องฟ้า ความหมายของเพลง : หญิง-ชาย ดื่มน้ำชา หลังจากอาหารมื่อหนึ่ง ซึ่ง ทั้งคู่นัดกันมาพบกันเพื่อบอกเลิกกัน ทั้งคู่ไม่ยอมเปิดเผยความจริง หรือ ไม่ยอม..เปิดแสงจากฟ้าให้เข้าใจกัน นั่นเอง. https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU 22. เพลงเก่า..ยอดนิยม ประมาณ 30 ปี ภาษาจีนกวางตุ้ง ของ Jacky Cheung (張學友 / Cheung Hok-yau) ชื่อเพลง : 只想一生跟你走 (Ji seung yat sang gan nie jau) แปลว่า : ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ ความหมายของเพลง....พระเอกของเราได้พบกับคนที่หลงรัก และค้นพบว่าไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเธอคนนั้น สองคนนี้เลิกกัน โดยฝ่ายหญิงสะบัดกันหนีไป ปล่อยให้พระเอกของเรา นั่งร้องไห้เศร้าเสียใจ มโนว่า เธอคนนั้น..ไม่ได้จากไป และทุกอย่างเหมือนอยู่ในความฝัน (ยังเสือกถามว่า ฝ่ายหญิงทำไมไม่ฝันถึงเค้าบ้าง) ร้องไหัและขอให้เธออย่าลืมรักเก่าๆเงียบๆ เพียงลำพัง คิดว่าในชีวิตนี้ ไม่สามารถอยู่ได้ โดยปราศจากเธอ ตรงกับชื่อเพลง "ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ 只想一生跟你走 Only Want to Go with You in this Life https://www.youtube.com/watch?v=Ou3NHHS6f4c 23. เพลงแนว Soft-Rock อมตะนิรันด์กาล ของ Beyond บทเพลงภาษาจีนกวางตุ้ง Hoi Fut Tin Hung - 海闊天空 https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ 24. เพลงในแนวศิลปินคู่ Duo ชาย-หญิง บนเวที่ Voice of China เพลงในภาษากวางตุ้ง ได้รับการยอมรับ จากชาวจีนทั่วทั้งประเทศ เพลง : คืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว Yue Ban Xiao Ye Qu (月半小夜曲) ศิลปิน : 李克勤 และ 周深 ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…” 25. เพลงเศร้าๆ..ภาษากวางตุ้ง ชื่อเพลง 天窗 แปลว่า แสงปลายอุโมงค์ เป็นการเล่าเรื่องราวของหนุ่มน้อยอกหัก นั่งในห้องมืดๆเพียงลำพัง โดยมีลำแสงเล็กๆลอดช่องหน้าต่างลงมาที่เขานั่ง คิดปลงตัวเอง รำพึง รำพัน อย่างน่าฉงฉาน..จุงเบย https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU 26. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋) นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving) https://www.facebook.com/photo/?fbid=1121627308556329&set=a.108283646557372 -《暗裡著迷》 - Cantonese LOVE Song "Yat Saang Jung Jeui Ngoi" 一生中最愛 [Love Of A Lifetime] - Alan Tam 譚詠麟 - เมโลดี้..หวานๆ ในเพลง 光輝歲月 -Gwong Fai Seui Yuet ของวง Beyond แน่นอน https://www.youtube.com/watch?v=SVBC35ByZUY - เมโลดี้..อันแสนไพเราะ ในเพลงจีนกวางตุ้ง(อมตะ) 天若有情. tin yeuk yau ching ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ - เพลงจีนกวางตุ้งยอดนิยม(ตลอดกาล)ของ Beyond ทั้ง 2 เพลง 1) "วันแห่งความรุ่งโรจน์" [ Gwong Fai Seui Yuet ] 光輝歲月 2) "ทะเลและท้องฟ้า" [ Hoi Fut Tin Hung ] 海闊天空 - เพลงสำหรับเทศกาลปีใหม่ Auld Lang Syne ใส่เนื้อร้องเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง กลายเป็นเพลง (เหย่ายี่หมานโส๋ย) 友誼萬歲 = มิตรภาพที่ยืนยาว ขับร้องโดย "หลีหลี่รุ่ย" 李麗蕊 Sara Lee ฟังง่าย -ชัดถ้อย-ชัดคำ(มาก) ค่ะ - ศิลป และ เทคนิคในการเขียนอักษรจีน โดยใช้ "แกนร่วม" เขียนว่า 身体健康 แปลว่า -ร่างกาย-สุขภาพดี ต้องหัดเขียน เพื่อนำไปอวยพรญาติผู้ใหญ่ (ซึ่ง..เหลือน้อย แล้ว) https://www.youtube.com/shorts/th4bgNYZrsI - เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง ประมาณว่า อกหัก..รักคุด ของ Joey Yuong 容祖兒 แสนรันทดใจ ฟัง..ไป ร้องไห้..ไป สังเกตไหม คะ ว่า..คล้ายกับเพลงในละคอนไทย "สามีตีลังกา" ไม่ทราบว่า จีนลอกไทย หรือ ไทยลอกจีน - เพลงจีนกวางตุ้ง สำเนียง..ซ๊าม-ยับ-หวา แสนไพเราะ..เย็นๆ จาก #ฮัคเคน_ลี (李克勤) Hacken Lee เค้า..เป็นนักร้อง พิธีกรรายการโทรทัศน์ และนักแสดงชาวฮ่องกง มีผลงานตั้งแต่ปี 1980 จนถึงปี 2013 เพลง "House of Cards" ของ Lee กวาดหลายรางวัลในงานประกาศรางวัลของฮ่องกง รวมถึง "เพลงที่ดีที่สุดในโลก" และ "Broadcasting Index" ใน Metro's Awards ในปี 2013 เขาได้รับรางวัล "Outstanding Pop Singer Award" ในงาน "Top Ten Chinese Gold Songs Awards" ของ RTHK ถึง 14 ครั้ง และสร้างสถานะที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ในอุตสาหกรรมเพลงของฮ่องกงและเอเชีย. https://www.youtube.com/watch?v=RMH8Xv2siYM - สุดยอด..การประกวด 中国好声音 (Voice of China) เพลง(จีนกวางตุ้ง)Manjusaka= 蔓珠莎華 ของ Wu Keyue ไม่เพียงรักษาจิตวิญญาณแห่งการครอบงำของ Anita Mui แต่...ยังมีเสียงตอนจบที่คล้ายกับ Priscilla Chan มาก
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ละสังโยชน์ ให้หมดไปสู่พิพาน
    สังโยชน์ คือ กิเลสที่ผูกมัดใจสัตว์, ธรรมที่มัดสัตว์ไว้กับทุกข์
    หรือกิเลสเครื่องร้อยรัดจิตใจให้จมในวัฏฏะ มี 10 อย่าง คือ

    สังโยชน์ 10 (แบบย่อ)

    สังโยชน์เบื้องต่ำ
    1. สักกายทิฏฐิ - คิดว่ากายนี้เป็นของเรา
    2. วิจิกิจฉา - สงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    3. สีลัพพตปรามาส - งมงายในคำสอนของลัทธิอื่น
    4. กามราคะ- ติดใจในกามคุณทั้ง5
    5. ปฏิฆะ(พยาบาท) - มีความกระทบทางใจ โกรธ ผูกโกรธ

    สังโยชน์เบื้องสูง
    6. รูปราคะ - ติดในใน รูปฌาน
    7. อรูปราคะ - ติดในใน อรูปฌาน
    8. มานะ - ถือตัว ยึดมั่นในตัวตน
    9. อุทธัจจะ -ฟุ้งซ่าน
    10. อวิชชา - ความไม่รู้จริง

    .............................................................................................................................................
    ก. โอรัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องต่ำ 5 ได้แก่

    1. สักกายทิฏฐิ -มีความเห็นว่าร่างกายนี้เป็นของเรา
    2. วิจิกิจฉา - มีความสงสัยในคุณของพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    3. สีลัพพตปรามาส - ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตามๆ กันไปอย่างงมงาย เห็นว่าจะบริสุทธิ์หลุดพ้นได้ เพียงด้วยศีลละวัตร หรือนำศีลและพรต ไปใช้เพื่อ เหตุผลอื่น ไม่ใช่เพื่อเป็นปัจจัยแก่การสิ้นกิเลส เช่นการถือศีล เพื่อเอาไว้ข่มไว้ด่า คนอื่น การถือศีลเพราะอยากได้ลาภสักการะเป็นต้น ซึ่งรวมถึงความเชื่อถือ ในพิธีกรรม ที่งมงายด้วย
    4. กามราคะ - มีความติดใจในกามคุณทั้ง ๕
    5. ปฏิฆะ (พยาบาท) - จิตพยาบาท อาฆาตแค้น หงุดหงิด โกรธ
    ข. อุทธัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องสูง 5 ได้แก่

    6. รูปราคะ - มีความติดใจในวัตถุ หรือรูปฌาน
    7. อรูปราคะ - มีความติดใจในอรูปฌานหรือความพอใจในนามธรรมทั้งหลาย
    8. มานะ - ถือตัว/ถ่อมตัว ยกตนเหนือกว่า/ด้อยกว่า
    9. อุทธัจจะ - มีความฟุ้งซ่าน
    10. อวิชชา - ปัญญามืดบอด มีความไม่รู้จริง

    พระโสดาบัน ละสังโยชน์ 3 ข้อ

    พระสกทาคามี ละสังโยชน์ 3 ข้อ และ 4-5 บางส่วน (กามราคะ-ปฏิฆะ เบาบาง)

    พระอนาคามี ละสังโยชน์ 5 ข้อแรกได้หมด

    พระอรหันต์ ละสังโยชน์ทั้ง 10 ข้อ
    ละสังโยชน์ ให้หมดไปสู่พิพาน สังโยชน์ คือ กิเลสที่ผูกมัดใจสัตว์, ธรรมที่มัดสัตว์ไว้กับทุกข์ หรือกิเลสเครื่องร้อยรัดจิตใจให้จมในวัฏฏะ มี 10 อย่าง คือ สังโยชน์ 10 (แบบย่อ) สังโยชน์เบื้องต่ำ 1. สักกายทิฏฐิ - คิดว่ากายนี้เป็นของเรา 2. วิจิกิจฉา - สงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 3. สีลัพพตปรามาส - งมงายในคำสอนของลัทธิอื่น 4. กามราคะ- ติดใจในกามคุณทั้ง5 5. ปฏิฆะ(พยาบาท) - มีความกระทบทางใจ โกรธ ผูกโกรธ สังโยชน์เบื้องสูง 6. รูปราคะ - ติดในใน รูปฌาน 7. อรูปราคะ - ติดในใน อรูปฌาน 8. มานะ - ถือตัว ยึดมั่นในตัวตน 9. อุทธัจจะ -ฟุ้งซ่าน 10. อวิชชา - ความไม่รู้จริง ............................................................................................................................................. ก. โอรัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องต่ำ 5 ได้แก่ 1. สักกายทิฏฐิ -มีความเห็นว่าร่างกายนี้เป็นของเรา 2. วิจิกิจฉา - มีความสงสัยในคุณของพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ 3. สีลัพพตปรามาส - ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตามๆ กันไปอย่างงมงาย เห็นว่าจะบริสุทธิ์หลุดพ้นได้ เพียงด้วยศีลละวัตร หรือนำศีลและพรต ไปใช้เพื่อ เหตุผลอื่น ไม่ใช่เพื่อเป็นปัจจัยแก่การสิ้นกิเลส เช่นการถือศีล เพื่อเอาไว้ข่มไว้ด่า คนอื่น การถือศีลเพราะอยากได้ลาภสักการะเป็นต้น ซึ่งรวมถึงความเชื่อถือ ในพิธีกรรม ที่งมงายด้วย 4. กามราคะ - มีความติดใจในกามคุณทั้ง ๕ 5. ปฏิฆะ (พยาบาท) - จิตพยาบาท อาฆาตแค้น หงุดหงิด โกรธ ข. อุทธัมภาคิยสังโยชน์ สังโยชน์เบื้องสูง 5 ได้แก่ 6. รูปราคะ - มีความติดใจในวัตถุ หรือรูปฌาน 7. อรูปราคะ - มีความติดใจในอรูปฌานหรือความพอใจในนามธรรมทั้งหลาย 8. มานะ - ถือตัว/ถ่อมตัว ยกตนเหนือกว่า/ด้อยกว่า 9. อุทธัจจะ - มีความฟุ้งซ่าน 10. อวิชชา - ปัญญามืดบอด มีความไม่รู้จริง พระโสดาบัน ละสังโยชน์ 3 ข้อ พระสกทาคามี ละสังโยชน์ 3 ข้อ และ 4-5 บางส่วน (กามราคะ-ปฏิฆะ เบาบาง) พระอนาคามี ละสังโยชน์ 5 ข้อแรกได้หมด พระอรหันต์ ละสังโยชน์ทั้ง 10 ข้อ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เล่าสู่กันฟัง

    คนที่ติดตามเพจพวกเรามาตั้งแต่ต้นหลายคนจะรู้ดีเลยว่าถ้าพวกเราเล่นใครคือจะไม่เคยเล่นแบบเลื่อนลอย

    นั่นเพราะเราเป็นเงาซึ่งมันไม่น่าเชื่อถือเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเราจึงต้องขุดหาข้อมูลให้ลึกๆเอามาแนบบทความให้เห็นความจริงที่จับต้องได้

    เราเปิดเพจขึ้นมาโดยใช้ภาพของโจวเหวินฟะเป็นภาพโพรไฟล์ ในขณะที่ช่องส่องผีมีตัวตนจริง

    ชสผ.มีคนติดตามร่วม 2 ล้าน แถมรายการ on air อยู่ช่อง 8 ส่วนเราเปิดเพจได้ 3 เดือนมีคนติดตามหลักสิบ..มองไม่เห็นแสงแห่งชัยชนะ แต่สุดท้ายเราชนะขาด

    ในทุกๆวันจะมีพี่ติ่งส่องผีเป็นร้อยๆเลยขับเฟซมาจอดที่เพจเหยื่อโชว์สกิลสมถานะกระบือบินเสร็จแล้วก็งับเบ็ดที่เราวางไว้ติดปากกลับไปทุกราย

    เราเลือกเป้าโจมตีไปที่ เรนนี่ ผู้วิเศษดาวดังตัวชูโรงประจำช่องส่องผี การบ้านที่พวกเราต้องทำคือหาข้อมูลมาหักร้าง ให้โลกเห็นว่าเรนนี่ ของปลอมลวงโลก

    ซึ่งการตามหาประวัติอาชญากรสำหรับพวกเราแล้วมันเป็นงานไม่ยากหรอก คนที่ตามหายากที่สุดคือ..คนดีๆคนที่ไม่เคยทำผิดบาป คนที่ไม่เคยมีคดีติดตัว

    บ๊วย..อาศัยความเป็นคนในวงการบันเทิง จึงรู้ช่องทางการจะปั้นเรนนี่ให้โด่งดัง พาเรนนี่เดินสายออกทีวี

    และจุดสลบของคนลวงโลกคือ..โกหกให้ถูกจับได้

    ทีมงานเราลงพื้นที่ไปย่านบ้านย่านโรงเรียนของเรนนี่ เราค้นหาคลิปทุกนาที ภาพทุกใบที่เรนนี่เคยเผยแพร่เอาไว้บนโลกออนไลน์ทุกช่องทาง

    แล้วเอาคลิปเอาเรื่องเล่าจากคนข้างบ้านเรนนี่ที่มีมากมายมาถอดหาช่องโจมตี แล้วก็เห็นช่องทางโจมตี

    นั่นคือเราต้องโจมตีไปที่สารตั้งต้นที่เรนนี่อ้างว่าได้พลังวิเศษมา ถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าสตอรี่การได้มาซึ่งพลังวิเศษของเรนนี่เป็นเรื่องโกหก..พังทั้งคณะ

    เรนนี่..อ้างว่าตอนเด็กรถคว่ำ คอหักตุย พร้อมคนอื่นอีก 4 ศพ ตัวเองตุยในที่เกิดเหตุ แล้วไปฟื้นในห้องดับจิต

    ออกจากห้องดับจิตมานอนพักฟื้นในโรงพยาบาล 90 วัน ระหว่างที่อยู่ในห้องดับจิตเรนนี่ไปนรก เจอกับท่านยมซึ่งเป็นพ่อของเรนนี่ในอดีตชาติ

    พ่อยมของเรนนี่จึงส่งพ่อปู่ 3 ตามาสอนวิชาทุกค่ำคืน พอฟื้นคืนชีพขึ้นมาเลยมีตาทิพย์ ออกต้มตุ๋นผู้คน

    เรานับ 1 จากการหาประวัติในใบ opd-ipd ว่าตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันเรนนี่เข้าโรงพยาบาลเพราะอุบัติเหตุหนักๆบ้างไหม

    ผลที่ได้คือเรนนี่เข้าโรงพยาบาล 4 ครั้ง เป็นการคลอดลูกผู้หญิง 2 ครั้ง เล่นชู้โดนผัวกระทืบ 1 ครั้ง ป่วย 1 ครั้ง

    เรนนี่..ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเพราะรถคว่ำและไม่เคยนอนโรงพยาบาล 90 วัน ดังนั้นจึงเป็นความบ้งที่ 1 ของเรนนี่

    ถ้าไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเพราะอุบัติเหตุ=โกหกเรื่องการได้มาของพลังวิเศษตาทิพย์..ปลอมในปลอม

    เรนนี่..อ้างว่าเรียนจบนักธรรมเอกจากวัดบวร พวกเราก็สืบค้นไปที่วัดบวรไม่มีชื่อเรนนี่

    พวกเราจึงเช็คไปที่สำนักแม่กองธรรมสนามหลวง จึงพบว่าเรนนี่เรียนจบธรรมศึกษาชั้นโท จากวัดบึงบา เมื่อปี ๒๕๔๘

    จบนักธรรมโท ก็โกหกว่าจบนักธรรมเอก จบวัดบึงบาก็บอกว่าจบจากวัดบวร นั่นคือบ้งที่ 2

    เรนนี่..บอกว่าได้ทุนไปเรียนธรรมที่อินเดียมา 6 เดือน เคยไปเที่ยวยุโรปมา 6 ประเทศ ไปเจอผีที่ญี่ปุ่น ไปเดินเล่นที่เกาหลี

    เราจึงเช็คประวัติการเดินทางของเรนนี่ ผลที่ได้คือเดินทางออกนอกประเทษ 9 ครั้ง พม่า-เขมร 8 ครั้งและไปไต้หวัน 1 ครั้งรวมเป็น 9 ครั้ง นั่นคือบ้งที่ 3

    และถูกพวกเราจับผิดได้อีกนับร้อยบ้ง จากผู้วิเศษตาทิพย์กลายเป็นนักต้มตุ๋นออนไลน์ ได้คดีกันไปทั่วหน้า

    พอถูกดำเนินคดี ความร้าวฉานก็เริ่มก่อตัว สุดท้ายวงแตกแยกทางกันไป จะมาพบเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาก็ต่อเมื่อ..อยู่ในบัลลังก์

    ทุกวันนี้ที่เราไม่ได้ฟาดเพราะปล่อยให้พวกมันก่อคดีเพิ่มไปเรื่อยๆ ถ้าสอบสวนกลางมีความเห็นสั่งฟ้องศาล

    เราจะแจ้งหมายข่าวไปทุกช่อง ส่งข่าวไปหาเพจดาร์กที่เป็นพันธมิตร แล้วคดีฉ้อโกงประชาชนมันจะดังเอามากๆเลย

    เหยื่อ..ที่เคยถูกเรียกเก็บค่าทำพิธีกรรมต่างๆ ก็จะรู้ตัวว่าอ้าวนี่กูให้นักต้มตุ๋นแก้กรรมให้กูเหรอวะเนี่ย ถถถ

    ถ้าเราโชคดี เหยื่อของเรนนี่อาจจะทักมาหาเราก็ได้ 1 คนก็ 1 คดี มาหาเรา 2 คนก็ 2 คดี ถ้ามาหลายคนยิ่งสนุกเลย

    #อย่าให้ได้ขุด
    @King
    #เล่าสู่กันฟัง คนที่ติดตามเพจพวกเรามาตั้งแต่ต้นหลายคนจะรู้ดีเลยว่าถ้าพวกเราเล่นใครคือจะไม่เคยเล่นแบบเลื่อนลอย นั่นเพราะเราเป็นเงาซึ่งมันไม่น่าเชื่อถือเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเราจึงต้องขุดหาข้อมูลให้ลึกๆเอามาแนบบทความให้เห็นความจริงที่จับต้องได้ เราเปิดเพจขึ้นมาโดยใช้ภาพของโจวเหวินฟะเป็นภาพโพรไฟล์ ในขณะที่ช่องส่องผีมีตัวตนจริง ชสผ.มีคนติดตามร่วม 2 ล้าน แถมรายการ on air อยู่ช่อง 8 ส่วนเราเปิดเพจได้ 3 เดือนมีคนติดตามหลักสิบ..มองไม่เห็นแสงแห่งชัยชนะ แต่สุดท้ายเราชนะขาด ในทุกๆวันจะมีพี่ติ่งส่องผีเป็นร้อยๆเลยขับเฟซมาจอดที่เพจเหยื่อโชว์สกิลสมถานะกระบือบินเสร็จแล้วก็งับเบ็ดที่เราวางไว้ติดปากกลับไปทุกราย เราเลือกเป้าโจมตีไปที่ เรนนี่ ผู้วิเศษดาวดังตัวชูโรงประจำช่องส่องผี การบ้านที่พวกเราต้องทำคือหาข้อมูลมาหักร้าง ให้โลกเห็นว่าเรนนี่ ของปลอมลวงโลก ซึ่งการตามหาประวัติอาชญากรสำหรับพวกเราแล้วมันเป็นงานไม่ยากหรอก คนที่ตามหายากที่สุดคือ..คนดีๆคนที่ไม่เคยทำผิดบาป คนที่ไม่เคยมีคดีติดตัว บ๊วย..อาศัยความเป็นคนในวงการบันเทิง จึงรู้ช่องทางการจะปั้นเรนนี่ให้โด่งดัง พาเรนนี่เดินสายออกทีวี และจุดสลบของคนลวงโลกคือ..โกหกให้ถูกจับได้ ทีมงานเราลงพื้นที่ไปย่านบ้านย่านโรงเรียนของเรนนี่ เราค้นหาคลิปทุกนาที ภาพทุกใบที่เรนนี่เคยเผยแพร่เอาไว้บนโลกออนไลน์ทุกช่องทาง แล้วเอาคลิปเอาเรื่องเล่าจากคนข้างบ้านเรนนี่ที่มีมากมายมาถอดหาช่องโจมตี แล้วก็เห็นช่องทางโจมตี นั่นคือเราต้องโจมตีไปที่สารตั้งต้นที่เรนนี่อ้างว่าได้พลังวิเศษมา ถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าสตอรี่การได้มาซึ่งพลังวิเศษของเรนนี่เป็นเรื่องโกหก..พังทั้งคณะ เรนนี่..อ้างว่าตอนเด็กรถคว่ำ คอหักตุย พร้อมคนอื่นอีก 4 ศพ ตัวเองตุยในที่เกิดเหตุ แล้วไปฟื้นในห้องดับจิต ออกจากห้องดับจิตมานอนพักฟื้นในโรงพยาบาล 90 วัน ระหว่างที่อยู่ในห้องดับจิตเรนนี่ไปนรก เจอกับท่านยมซึ่งเป็นพ่อของเรนนี่ในอดีตชาติ พ่อยมของเรนนี่จึงส่งพ่อปู่ 3 ตามาสอนวิชาทุกค่ำคืน พอฟื้นคืนชีพขึ้นมาเลยมีตาทิพย์ ออกต้มตุ๋นผู้คน เรานับ 1 จากการหาประวัติในใบ opd-ipd ว่าตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันเรนนี่เข้าโรงพยาบาลเพราะอุบัติเหตุหนักๆบ้างไหม ผลที่ได้คือเรนนี่เข้าโรงพยาบาล 4 ครั้ง เป็นการคลอดลูกผู้หญิง 2 ครั้ง เล่นชู้โดนผัวกระทืบ 1 ครั้ง ป่วย 1 ครั้ง เรนนี่..ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเพราะรถคว่ำและไม่เคยนอนโรงพยาบาล 90 วัน ดังนั้นจึงเป็นความบ้งที่ 1 ของเรนนี่ ถ้าไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเพราะอุบัติเหตุ=โกหกเรื่องการได้มาของพลังวิเศษตาทิพย์..ปลอมในปลอม เรนนี่..อ้างว่าเรียนจบนักธรรมเอกจากวัดบวร พวกเราก็สืบค้นไปที่วัดบวรไม่มีชื่อเรนนี่ พวกเราจึงเช็คไปที่สำนักแม่กองธรรมสนามหลวง จึงพบว่าเรนนี่เรียนจบธรรมศึกษาชั้นโท จากวัดบึงบา เมื่อปี ๒๕๔๘ จบนักธรรมโท ก็โกหกว่าจบนักธรรมเอก จบวัดบึงบาก็บอกว่าจบจากวัดบวร นั่นคือบ้งที่ 2 เรนนี่..บอกว่าได้ทุนไปเรียนธรรมที่อินเดียมา 6 เดือน เคยไปเที่ยวยุโรปมา 6 ประเทศ ไปเจอผีที่ญี่ปุ่น ไปเดินเล่นที่เกาหลี เราจึงเช็คประวัติการเดินทางของเรนนี่ ผลที่ได้คือเดินทางออกนอกประเทษ 9 ครั้ง พม่า-เขมร 8 ครั้งและไปไต้หวัน 1 ครั้งรวมเป็น 9 ครั้ง นั่นคือบ้งที่ 3 และถูกพวกเราจับผิดได้อีกนับร้อยบ้ง จากผู้วิเศษตาทิพย์กลายเป็นนักต้มตุ๋นออนไลน์ ได้คดีกันไปทั่วหน้า พอถูกดำเนินคดี ความร้าวฉานก็เริ่มก่อตัว สุดท้ายวงแตกแยกทางกันไป จะมาพบเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาก็ต่อเมื่อ..อยู่ในบัลลังก์ ทุกวันนี้ที่เราไม่ได้ฟาดเพราะปล่อยให้พวกมันก่อคดีเพิ่มไปเรื่อยๆ ถ้าสอบสวนกลางมีความเห็นสั่งฟ้องศาล เราจะแจ้งหมายข่าวไปทุกช่อง ส่งข่าวไปหาเพจดาร์กที่เป็นพันธมิตร แล้วคดีฉ้อโกงประชาชนมันจะดังเอามากๆเลย เหยื่อ..ที่เคยถูกเรียกเก็บค่าทำพิธีกรรมต่างๆ ก็จะรู้ตัวว่าอ้าวนี่กูให้นักต้มตุ๋นแก้กรรมให้กูเหรอวะเนี่ย ถถถ ถ้าเราโชคดี เหยื่อของเรนนี่อาจจะทักมาหาเราก็ได้ 1 คนก็ 1 คดี มาหาเรา 2 คนก็ 2 คดี ถ้ามาหลายคนยิ่งสนุกเลย #อย่าให้ได้ขุด @King
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 453 มุมมอง 0 รีวิว
  • งานสืบสานงานศิลป์ถิ่นโนรา
    พิธีกรรมโนราโรงครูท่าแค
    ประจำปี 2566
    จัดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 3-6 พฤษภาคมแต่ละวันจะมีพิธีกรรม และการแสดงโนราทุกวัน

    #โนราโรงครูท่าแค#วัดท่าแค#พัทลุง#มะนาวก้าวเดิน#manowjourney#thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน
    งานสืบสานงานศิลป์ถิ่นโนรา พิธีกรรมโนราโรงครูท่าแค ประจำปี 2566 จัดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 3-6 พฤษภาคมแต่ละวันจะมีพิธีกรรม และการแสดงโนราทุกวัน #โนราโรงครูท่าแค​ #วัดท่าแค​ #พัทลุง​ #มะนาวก้าวเดิน​ #manowjourney​ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน
    Like
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1622 มุมมอง 496 0 รีวิว
  • ล้มหายตายจากกันไป..คนนะต่างจากสัตว์ ตายจากดันต้องมีพิธีกรรมส่งดวงวิญญาณไปโลกหน้า และทำบุญอุทิศหากัน สัตว์ไม่มีอนาถา
    ล้มหายตายจากกันไป..คนนะต่างจากสัตว์ ตายจากดันต้องมีพิธีกรรมส่งดวงวิญญาณไปโลกหน้า และทำบุญอุทิศหากัน สัตว์ไม่มีอนาถา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เด็กมีแวว ที่มากความสามารถ จาก โรงเรียนมูลนิธิสตรีไทยมุสลิม ที่มีโอกาสมาเป็นพิธีกร #อาสาพาสุข ในกิจกรรมของโรงเรียน

    ซึ่งตามสไตล์การทำงานที่ไม่ได้ให้น้องอ่านสคริปต์ แต่บอกหัวข้อให้น้องพูดเองเลย และน้องจะเป็นคนคุยกับครู ที่จะให้ข้อมูล น้องก็จะนำมาสรุปเองอีกรอบ

    ปล.โรงเรียนนี้มีเด็กเก่งหัวไว อีกหลายคน ขอบคุณโรงเรียนที่ฝึกฝนเด็กๆอย่างดี

    #สยามเด็กเล่น #ไม่ได้มาเล่นๆ #มูลนิธิสตรีไทยมุสลิม #ผู้สื่อข่าว #อาสาสมัคร #siamplayground
    #thaitimesเยาวชน
    #เด็กมีแวว ที่มากความสามารถ จาก โรงเรียนมูลนิธิสตรีไทยมุสลิม ที่มีโอกาสมาเป็นพิธีกร #อาสาพาสุข ในกิจกรรมของโรงเรียน ซึ่งตามสไตล์การทำงานที่ไม่ได้ให้น้องอ่านสคริปต์ แต่บอกหัวข้อให้น้องพูดเองเลย และน้องจะเป็นคนคุยกับครู ที่จะให้ข้อมูล น้องก็จะนำมาสรุปเองอีกรอบ ปล.โรงเรียนนี้มีเด็กเก่งหัวไว อีกหลายคน ขอบคุณโรงเรียนที่ฝึกฝนเด็กๆอย่างดี #สยามเด็กเล่น #ไม่ได้มาเล่นๆ #มูลนิธิสตรีไทยมุสลิม #ผู้สื่อข่าว #อาสาสมัคร #siamplayground #thaitimesเยาวชน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 863 มุมมอง 143 0 รีวิว
  • #เด็กมีแวว ที่มากความสามารถ จาก โรงเรียนมูลนิธิสตรีไทยมุสลิม ที่มีโอกาสมาเป็นพิธีกร #อาสาพาสุข ในกิจกรรมของโรงเรียน

    ซึ่งตามสไตล์การทำงานที่ไม่ได้ให้น้องอ่านสคริปต์ แต่บอกหัวข้อให้น้องพูดเองเลย และน้องจะเป็นคนคุยกับครู ที่จะให้ข้อมูล น้องก็จะนำมาสรุปเองอีกรอบ

    ปล.โรงเรียนนี้มีเด็กเก่งหัวไว อีกหลายคน ขอบคุณโรงเรียนที่ฝึกฝนเด็กๆอย่างดี

    #สยามเด็กเล่น #ไม่ได้มาเล่นๆ #มูลนิธิสตรีไทยมุสลิม #ผู้สื่อข่าว #อาสาสมัคร #siamplayground #thaitimes
    #เด็กมีแวว ที่มากความสามารถ จาก โรงเรียนมูลนิธิสตรีไทยมุสลิม ที่มีโอกาสมาเป็นพิธีกร #อาสาพาสุข ในกิจกรรมของโรงเรียน ซึ่งตามสไตล์การทำงานที่ไม่ได้ให้น้องอ่านสคริปต์ แต่บอกหัวข้อให้น้องพูดเองเลย และน้องจะเป็นคนคุยกับครู ที่จะให้ข้อมูล น้องก็จะนำมาสรุปเองอีกรอบ ปล.โรงเรียนนี้มีเด็กเก่งหัวไว อีกหลายคน ขอบคุณโรงเรียนที่ฝึกฝนเด็กๆอย่างดี #สยามเด็กเล่น #ไม่ได้มาเล่นๆ #มูลนิธิสตรีไทยมุสลิม #ผู้สื่อข่าว #อาสาสมัคร #siamplayground #thaitimes
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 699 มุมมอง 112 0 รีวิว
  • #อุต๊ะมีความน่าอัวพี่คิงส์นี่ขนตั้งชัน
    ป้าโจวตกขาว หรือมณฑนี
    ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนเธอเป็นใคร
    พิธีกรตกยุค ที่เคยแสดงออกถึงความรักชาติ
    แต่หลังจากที่นางมีอาการเปื่อยจิต
    ต้องรับการบำ บัด จังหวะ
    แน๊กเริ่มมีความคิดช่วยเหลืออิเหวิงกามิจ
    นางเลยหลุดเข้าสู่มิติแห่งความเพ้อฝัน
    และเป็นแนวร่วมตั้งกลุ่มลั-บ
    โดยเอเจนซี่กับอิเหวิงทำแพลนรอไว้แล้วตั้งแต่แปดเดือนที่แล้ว
    เพื่อให้สาวกเข้าไปสิงสถิตและได้คุยส่วนตัวกับอิเหวิง
    มีทั้งรายเดือน มีทั้งเรียกไปเปย์ติ๊กเกอร์ตอนพีเค
    เรียกว่า ทุยสาวกบางคน หมดกันเป็นล้าน
    ส่วนป้าโจตกขาวก็ได้ส่วนแบ่ง มีหน้าที่
    สร้างอุปทานหมู่ ด้วยความชำนาญในการเป็นนักพูดตกยุค
    เล่นเอาสาวกเคลิ้มล่องลอยเหมือนจักรวาลนี้สร้างมาเพื่ออิเหวิง
    และเมื่อแน๊กเริ่มรับรู้ว่ามีคนที่เปย์จนเดือดร้อนเพราะหลงอิป้าโจกับอิเหวิง
    ก็เลยต้องหาทางสร้างเรื่องไม่จริง ใส่ไคร้ว่าน้องแน๊ก เปื่อยจิต โดยเอาอาการของตัวเอง ไปยัดเยียดให้น้องแน๊ก กระจายกันในกลุ่ม
    (หลักต๋านส่งมาเพียบบบบ)
    ให้อิเหวิงเป็นผู้ถูกกระทำ
    เมื่อแน๊กรู้สึกว่า อิเหวิงไม่จบกับโลภะ รวมถึงคนที่ได้ประโยชน์ร่วมก็เลยเถิด
    ก็ต้องจบความรักเพื่อปกป้องคนไทยด้วยกัน
    จึงเป็นที่มาที่อิป้าโจตกขาว สร้างกลุ่มสุมหัว โดยดึงคนที่เสียประโยชน์จากการที่แน๊กตัดขาดความสัมพันธ์ มารวมกันเพื่อสหบาทาแน๊ก และอวยอิเหวิง
    จุดนี้แหละ ที่พี่คิงส์รับรู้รับทราบ ทั้งๆที่พี่คิงส์เองเอ็นดูแน๊ก แต่ไม่เคยอินหรือติดตามเป็นลูกทัพน้องแน๊กเลย แต่มันคือเรื่องการที่น้องผู้ชายคนหนึ่ง ถูกอธรรมอย่างไม่ยุติธรรม ด้วยกลุ่มก้อนเฮงชวยพวกนี้ รวมถึงคนที่ถูกเชี่ยมจิตในกลุ่มที่ยังคงเปย์ตามการจูงจมูกของอิป้าโจวตกขาว
    ทำให้พี่คิงส์ต้องหันมาเปิดเผยเรื่องนี้อย่างจริงจัง
    ต่อมา สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้สื่อข่าวระดับตำนาน ได้มองเรื่องนี้ว่าเป็นอตร.กับคนไทย จึงนัดหมายว่าจะนำเสนอข้อมูลในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน 67
    อิป้าโจวตกขาว ก็ดิ้น ถึงขนาดข่มด้วยการโพส เบรคสื่อระดับตำนาน สารพัด
    นี่คือที่มา ของการเปิดเผยข้อมูลสำคัญมาตลอดจนถึงตอนนี้
    หลังจากที่ข้อมูลได้เปิดเผยสู่สาธารณะ
    อิป้าโจวตกขาวถึงกับช็อค ไม่กล้าโพสใดๆอีกเลย
    เพราะยิ่งขุด ยิ่งเจอ
    แม้กระทั่ง มีการแอบตั้งโรงเรียนอย่างไม่ถูกต้องตาม-ก-ฏ-ห-ม-าย เพื่อลวงคนในกลุ่มและคนทั่วไปที่เป็นแฟนคลับกามิจ ไปเรียนทำนายทายทัก ฝึกจิตฝึกวิญาณ เอาง่ายๆ หาแดรกกับความเชื่อ คนละเป็นหมื่น ซึ่งไม่นาน กระทรวงคงได้ติดต่อนางไป นี่มันอาชีพต้มคนไทยชัดๆ
    แต่ซักครู่นี้่เอง นางเจอคนเปิดความจริงแบบงานละเอียดยิบอย่างพี่คิงส์ฯ
    กองเชียร์ก็บอกให้มาโต้ แต่จะโต้ได้ไง เพราะมันคือความจริง นางเลยเข้าสายกับช่องสาวกของนาง และพูดเสียงเครือแบบ ขึ้นมาก ทั้งสั่นทั้งกลัว
    "ที่เงียบไป ไม่ได้เงียบไปเฉยๆนะ นี่ก็กำลังไปตร.ไซเบอร์ จะจัดการคนที่มาทำให้นางเสื่อม เพราะที่พูดไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์" ป๊าดดดด
    พี่คิงส์ก็ย้อนกลับไปดู หลักฐานก็มีน้า
    เอางี้ป้า อยากทำอะไรจัดมา
    ส่วนพี่คิงส์ก็รู้สึกกลัวมาก
    จะตอบสนองป้าด้วยการขุดให้ลึกไปอีกแบบรัวๆ
    เอาให้คนไทยทั่วประเทศ สว่างวาบเลย
    ป้าได้ปิดท้ายไว้ว่า
    "เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับป้าโจวตกขาว"
    คือหวังให้เพจคิงส์โพธิ์แดงกลัว ว่างั้น!!
    หึหึ ป้าโจ ไปสืบก่อนก็ดี ว่าคิงส์โพธิ์แดง
    สู้กับใครมาบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    #อุต๊ะมีความน่าอัวพี่คิงส์นี่ขนตั้งชัน ป้าโจวตกขาว หรือมณฑนี ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนเธอเป็นใคร พิธีกรตกยุค ที่เคยแสดงออกถึงความรักชาติ แต่หลังจากที่นางมีอาการเปื่อยจิต ต้องรับการบำ บัด จังหวะ แน๊กเริ่มมีความคิดช่วยเหลืออิเหวิงกามิจ นางเลยหลุดเข้าสู่มิติแห่งความเพ้อฝัน และเป็นแนวร่วมตั้งกลุ่มลั-บ โดยเอเจนซี่กับอิเหวิงทำแพลนรอไว้แล้วตั้งแต่แปดเดือนที่แล้ว เพื่อให้สาวกเข้าไปสิงสถิตและได้คุยส่วนตัวกับอิเหวิง มีทั้งรายเดือน มีทั้งเรียกไปเปย์ติ๊กเกอร์ตอนพีเค เรียกว่า ทุยสาวกบางคน หมดกันเป็นล้าน ส่วนป้าโจตกขาวก็ได้ส่วนแบ่ง มีหน้าที่ สร้างอุปทานหมู่ ด้วยความชำนาญในการเป็นนักพูดตกยุค เล่นเอาสาวกเคลิ้มล่องลอยเหมือนจักรวาลนี้สร้างมาเพื่ออิเหวิง และเมื่อแน๊กเริ่มรับรู้ว่ามีคนที่เปย์จนเดือดร้อนเพราะหลงอิป้าโจกับอิเหวิง ก็เลยต้องหาทางสร้างเรื่องไม่จริง ใส่ไคร้ว่าน้องแน๊ก เปื่อยจิต โดยเอาอาการของตัวเอง ไปยัดเยียดให้น้องแน๊ก กระจายกันในกลุ่ม (หลักต๋านส่งมาเพียบบบบ) ให้อิเหวิงเป็นผู้ถูกกระทำ เมื่อแน๊กรู้สึกว่า อิเหวิงไม่จบกับโลภะ รวมถึงคนที่ได้ประโยชน์ร่วมก็เลยเถิด ก็ต้องจบความรักเพื่อปกป้องคนไทยด้วยกัน จึงเป็นที่มาที่อิป้าโจตกขาว สร้างกลุ่มสุมหัว โดยดึงคนที่เสียประโยชน์จากการที่แน๊กตัดขาดความสัมพันธ์ มารวมกันเพื่อสหบาทาแน๊ก และอวยอิเหวิง จุดนี้แหละ ที่พี่คิงส์รับรู้รับทราบ ทั้งๆที่พี่คิงส์เองเอ็นดูแน๊ก แต่ไม่เคยอินหรือติดตามเป็นลูกทัพน้องแน๊กเลย แต่มันคือเรื่องการที่น้องผู้ชายคนหนึ่ง ถูกอธรรมอย่างไม่ยุติธรรม ด้วยกลุ่มก้อนเฮงชวยพวกนี้ รวมถึงคนที่ถูกเชี่ยมจิตในกลุ่มที่ยังคงเปย์ตามการจูงจมูกของอิป้าโจวตกขาว ทำให้พี่คิงส์ต้องหันมาเปิดเผยเรื่องนี้อย่างจริงจัง ต่อมา สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้สื่อข่าวระดับตำนาน ได้มองเรื่องนี้ว่าเป็นอตร.กับคนไทย จึงนัดหมายว่าจะนำเสนอข้อมูลในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน 67 อิป้าโจวตกขาว ก็ดิ้น ถึงขนาดข่มด้วยการโพส เบรคสื่อระดับตำนาน สารพัด นี่คือที่มา ของการเปิดเผยข้อมูลสำคัญมาตลอดจนถึงตอนนี้ หลังจากที่ข้อมูลได้เปิดเผยสู่สาธารณะ อิป้าโจวตกขาวถึงกับช็อค ไม่กล้าโพสใดๆอีกเลย เพราะยิ่งขุด ยิ่งเจอ แม้กระทั่ง มีการแอบตั้งโรงเรียนอย่างไม่ถูกต้องตาม-ก-ฏ-ห-ม-าย เพื่อลวงคนในกลุ่มและคนทั่วไปที่เป็นแฟนคลับกามิจ ไปเรียนทำนายทายทัก ฝึกจิตฝึกวิญาณ เอาง่ายๆ หาแดรกกับความเชื่อ คนละเป็นหมื่น ซึ่งไม่นาน กระทรวงคงได้ติดต่อนางไป นี่มันอาชีพต้มคนไทยชัดๆ แต่ซักครู่นี้่เอง นางเจอคนเปิดความจริงแบบงานละเอียดยิบอย่างพี่คิงส์ฯ กองเชียร์ก็บอกให้มาโต้ แต่จะโต้ได้ไง เพราะมันคือความจริง นางเลยเข้าสายกับช่องสาวกของนาง และพูดเสียงเครือแบบ ขึ้นมาก ทั้งสั่นทั้งกลัว "ที่เงียบไป ไม่ได้เงียบไปเฉยๆนะ นี่ก็กำลังไปตร.ไซเบอร์ จะจัดการคนที่มาทำให้นางเสื่อม เพราะที่พูดไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์" ป๊าดดดด พี่คิงส์ก็ย้อนกลับไปดู หลักฐานก็มีน้า เอางี้ป้า อยากทำอะไรจัดมา ส่วนพี่คิงส์ก็รู้สึกกลัวมาก จะตอบสนองป้าด้วยการขุดให้ลึกไปอีกแบบรัวๆ เอาให้คนไทยทั่วประเทศ สว่างวาบเลย ป้าได้ปิดท้ายไว้ว่า "เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับป้าโจวตกขาว" คือหวังให้เพจคิงส์โพธิ์แดงกลัว ว่างั้น!! หึหึ ป้าโจ ไปสืบก่อนก็ดี ว่าคิงส์โพธิ์แดง สู้กับใครมาบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2 #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    Like
    Love
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2918 มุมมอง 1 รีวิว
  • #อึ้งโจตกขาวเปิดโรงเรียน เ-ถื่-อ-น
    #มิจชัดๆหากินบนความเชื่อ
    สภาสายมูต้องสะเทือน
    ป้าโจวตกขาว หาแสงจากแน๊กชาลีมานาน
    ได้ดิลกับกิมจิ โปรกามิจไม่ลืมหูลืมตา
    พาคนไทยเข้าไปรุมชาลี ด้วยข้อความเท็จ
    อ้างว่าน้องจิตเปื่อย ไม่จาบาย
    ทั้งๆที่ทั้งหมด นางเป็นเอง
    แล้ววันนี้ นางถึงกับเปิดโรงเรียน
    ขออนุญาตกระทรวงศึกษาธิการหรือยัง e ดอกตกขาว
    ตั้งโรงเรียนเองไม่ได้นะเฟร้ย
    เป็นพิธีกรตกยุคก็เหอะ แต่แค่นี้ไม่รู้แหดรู้ตี๋อะไรเลยเหรอ
    ฝากแฟนเพจคิงส์แคปไว้หน่อย
    ส่งกระทรวงศึกษามีคนแอบ อ้าง เปิด โรงเรียน
    ทำหลักสูตร เ-ถื่-อ-น ต้มคนไทยด้วยกัน
    หาแดรกกับความเชื่อ
    หลายกระธงครับ
    นี่ขนาดขั้นพื้นฐาน ถ้าแอ๊ดวานซ์จะขนาดไหน
    ไม่ต้องมาโปร แค่พวกจิตอ่อนในกลุ่มพิเศษกามิจกาฝาก
    ก็พาลุยมาเป็น นร.ได้หลายตัว ร๊วย
    หากินกับทุย ง่ายจริงๆ
    เอ้าๆ สาวกด้อมกามิจกิมจิ๊ กล่าวพร้อมพี่โจ
    จ๋าาาตุ๊ 99
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    #อึ้งโจตกขาวเปิดโรงเรียน เ-ถื่-อ-น #มิจชัดๆหากินบนความเชื่อ สภาสายมูต้องสะเทือน ป้าโจวตกขาว หาแสงจากแน๊กชาลีมานาน ได้ดิลกับกิมจิ โปรกามิจไม่ลืมหูลืมตา พาคนไทยเข้าไปรุมชาลี ด้วยข้อความเท็จ อ้างว่าน้องจิตเปื่อย ไม่จาบาย ทั้งๆที่ทั้งหมด นางเป็นเอง แล้ววันนี้ นางถึงกับเปิดโรงเรียน ขออนุญาตกระทรวงศึกษาธิการหรือยัง e ดอกตกขาว ตั้งโรงเรียนเองไม่ได้นะเฟร้ย เป็นพิธีกรตกยุคก็เหอะ แต่แค่นี้ไม่รู้แหดรู้ตี๋อะไรเลยเหรอ ฝากแฟนเพจคิงส์แคปไว้หน่อย ส่งกระทรวงศึกษามีคนแอบ อ้าง เปิด โรงเรียน ทำหลักสูตร เ-ถื่-อ-น ต้มคนไทยด้วยกัน หาแดรกกับความเชื่อ หลายกระธงครับ นี่ขนาดขั้นพื้นฐาน ถ้าแอ๊ดวานซ์จะขนาดไหน ไม่ต้องมาโปร แค่พวกจิตอ่อนในกลุ่มพิเศษกามิจกาฝาก ก็พาลุยมาเป็น นร.ได้หลายตัว ร๊วย หากินกับทุย ง่ายจริงๆ เอ้าๆ สาวกด้อมกามิจกิมจิ๊ กล่าวพร้อมพี่โจ จ๋าาาตุ๊ 99 อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง2 #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง3
    Haha
    Like
    Yay
    Wow
    Sad
    Angry
    14
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 566 มุมมอง 0 รีวิว
  • #โจเตรียมไอโอววพร้อมเตรียมโต้คุณสนธิ
    ไม่ธรรมดากับป้าคนนี้ พิธีกรตกยุค
    ที่ยังคงปั่นกระแส ให้ทัวร์ลงน้องแน๊กชาลี
    ไม่เคยเว้นวัน โดยเฉพาะทางตต.
    ให้ข้อมูลอันเ-ป็-น-เ-ท็-จ ว่าน้องไม่จาบาย
    มีปัญหาทางจิ-ต สะกด จิตหมู่ใน กลุ่มลั-บ
    ที่มีเฉพาะสายเปย์ที่เคลิบเคลิ้มกับบทประพันธ์
    ของป้าโจวววว
    รอบนี้ หวังสร้างชื่อ ออกตัวแรง
    ถึงขนาดกระทบไปถึงสื่อตำนาน
    ที่ไม่เคยพูดถ้าไม่มีข้อมูลให้ประชาชนฟัง
    ระดับสุรเชษฐ์ และระดับบิ๊กไม่กล้าสวน
    แต่โจววว หอบความหวังจากบรรดาลิ่วล้อ
    และกอดหม้อข้าวไว้แน่น เพราะเพจคิงส์โพธิ์แดง
    ได้เปิด ข้อมูล ทำเอาอึ้ง ยอดฟอลอิกามิจ อิเหวิงกาฝากลดฮวบ
    ซึ่งข้อมูลก็มาจากปากอิเหวิงซะส่วนใหญ่ แถถถไม่ออก
    ได้บอกพูดลอยๆว่า "มันไม่จริง"
    แต่รอบนี้ สายวงในรายงานชัด
    ว่าป้าโจววว เตรียมระดมทุกทาง
    ไม่เว้นแม้กระทั่งทางลัดแบบไอ โอวว
    เพื่อหวังสร้างกระแสให้เหมือนว่ามีคนอินกับนาง
    แต่พี่คิงส์โพธิแดงอยากจะบอกกับนางว่า
    นางน่ะโดนต้มแล้ว ไอ่ระบบที่เอาแอคไม่จริง
    ไปกดฟอลอะ กาก และล้าสมัย
    เช็คไม่ยากว่ามันคือไอโอ้วววเย้
    แล้วป้าจะเอาเจ้าเดิม กับบริการกากตุ๋ย
    มาปั่นเพื่อโต้กับคุณสนธิเนี่ยนะ
    ป้า ไม่เหลือแน่นวล
    ฟังข้อเสนอจากพี่คิงส์ฯนะ
    ป้าหยุด หาอาชีพอื่น และไปรักษา
    ป้าไม่จาบายใครๆก็รู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง
    ก็มีแต่สมาจิ๊กในกลุ่มพิเศษที่เปย์รายเดือนนั่นแหละป้า
    จากห้าพันเหลืออยู่พันนิดๆอะ ที่เค้าหลงไปกับป้า
    เพราะถ้าป้าไม่เชื่อพี่คิงส์ แล้วป้าจะทำอะไรที่สิ้นคิดอีก
    เจอคุณสนธิ จะหมดแล้วซึ่งที่ยืนในสังคมนะ
    นี่ยังมีคลิป มีข้อมูลอีกเพียบเลยนะป้า
    พี่คิงส์เบื่อทำข่าวป้าแล้ว พัก รักฉาตัว
    หาอาชีพใหม่ทำเหอะ
    เพราะถ้ายังปั่นทำให้น้องแน๊กเสียชื่-อ-เ-สี-ย-ง อีก
    พี่คิงส์ฯฉันยา จะเอาให้ป้าจุกยันตรุยเลยเจงๆ
    อิห่านจิก
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #โจเตรียมไอโอววพร้อมเตรียมโต้คุณสนธิ ไม่ธรรมดากับป้าคนนี้ พิธีกรตกยุค ที่ยังคงปั่นกระแส ให้ทัวร์ลงน้องแน๊กชาลี ไม่เคยเว้นวัน โดยเฉพาะทางตต. ให้ข้อมูลอันเ-ป็-น-เ-ท็-จ ว่าน้องไม่จาบาย มีปัญหาทางจิ-ต สะกด จิตหมู่ใน กลุ่มลั-บ ที่มีเฉพาะสายเปย์ที่เคลิบเคลิ้มกับบทประพันธ์ ของป้าโจวววว รอบนี้ หวังสร้างชื่อ ออกตัวแรง ถึงขนาดกระทบไปถึงสื่อตำนาน ที่ไม่เคยพูดถ้าไม่มีข้อมูลให้ประชาชนฟัง ระดับสุรเชษฐ์ และระดับบิ๊กไม่กล้าสวน แต่โจววว หอบความหวังจากบรรดาลิ่วล้อ และกอดหม้อข้าวไว้แน่น เพราะเพจคิงส์โพธิ์แดง ได้เปิด ข้อมูล ทำเอาอึ้ง ยอดฟอลอิกามิจ อิเหวิงกาฝากลดฮวบ ซึ่งข้อมูลก็มาจากปากอิเหวิงซะส่วนใหญ่ แถถถไม่ออก ได้บอกพูดลอยๆว่า "มันไม่จริง" แต่รอบนี้ สายวงในรายงานชัด ว่าป้าโจววว เตรียมระดมทุกทาง ไม่เว้นแม้กระทั่งทางลัดแบบไอ โอวว เพื่อหวังสร้างกระแสให้เหมือนว่ามีคนอินกับนาง แต่พี่คิงส์โพธิแดงอยากจะบอกกับนางว่า นางน่ะโดนต้มแล้ว ไอ่ระบบที่เอาแอคไม่จริง ไปกดฟอลอะ กาก และล้าสมัย เช็คไม่ยากว่ามันคือไอโอ้วววเย้ แล้วป้าจะเอาเจ้าเดิม กับบริการกากตุ๋ย มาปั่นเพื่อโต้กับคุณสนธิเนี่ยนะ ป้า ไม่เหลือแน่นวล ฟังข้อเสนอจากพี่คิงส์ฯนะ ป้าหยุด หาอาชีพอื่น และไปรักษา ป้าไม่จาบายใครๆก็รู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง ก็มีแต่สมาจิ๊กในกลุ่มพิเศษที่เปย์รายเดือนนั่นแหละป้า จากห้าพันเหลืออยู่พันนิดๆอะ ที่เค้าหลงไปกับป้า เพราะถ้าป้าไม่เชื่อพี่คิงส์ แล้วป้าจะทำอะไรที่สิ้นคิดอีก เจอคุณสนธิ จะหมดแล้วซึ่งที่ยืนในสังคมนะ นี่ยังมีคลิป มีข้อมูลอีกเพียบเลยนะป้า พี่คิงส์เบื่อทำข่าวป้าแล้ว พัก รักฉาตัว หาอาชีพใหม่ทำเหอะ เพราะถ้ายังปั่นทำให้น้องแน๊กเสียชื่-อ-เ-สี-ย-ง อีก พี่คิงส์ฯฉันยา จะเอาให้ป้าจุกยันตรุยเลยเจงๆ อิห่านจิก #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2262 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts