• อุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 21 เตือนภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนักถึงหนักมาก จากหย่อมความกดอากาศต่ำและมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่ยังแรง หลายพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ขณะที่อ่าวไทยมีคลื่นสูง 2–3 เมตร พื้นที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

    ไทยตอนบนอากาศเย็นลง มีลมแรง ภาคเหนือ–อีสานมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง กทม.–ปริมณฑล ภาคตะวันออก และใต้ตอนบน อากาศเย็นในตอนเช้า พร้อมเตือนระวังอัคคีภัยจากลมแรงและอากาศแห้ง

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000112604

    #อุตุนิยมวิทยา #เตือนภัยฝนตกหนัก #คลื่นลมแรง #อากาศเย็น #News1live #News1
    อุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 21 เตือนภาคใต้ตอนล่างฝนตกหนักถึงหนักมาก จากหย่อมความกดอากาศต่ำและมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่ยังแรง หลายพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ขณะที่อ่าวไทยมีคลื่นสูง 2–3 เมตร พื้นที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง • ไทยตอนบนอากาศเย็นลง มีลมแรง ภาคเหนือ–อีสานมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง กทม.–ปริมณฑล ภาคตะวันออก และใต้ตอนบน อากาศเย็นในตอนเช้า พร้อมเตือนระวังอัคคีภัยจากลมแรงและอากาศแห้ง • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000112604 • #อุตุนิยมวิทยา #เตือนภัยฝนตกหนัก #คลื่นลมแรง #อากาศเย็น #News1live #News1
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระทึกกลางทะเลตราด! เรือโดยสาร “เสือดำโก” ใต้ท้องเรือร้าว ทำให้น้ำทะลักเข้าเรือขณะเดินทางจากเกาะกูดกลับแหลมศอก นักท่องเที่ยว 92 คน พร้อมลูกเรือ 10 คน ต้องลอยลำท่ามกลางคลื่นลมแรง ก่อนเรือพันธมิตรและเรือ ต.กองทัพเรือเข้าช่วยทัน

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000111052

    #เกาะกูด #เรือโดยสาร #ตราด #อุบัติเหตุทางทะเล #กองทัพเรือ #News1live #News1
    ระทึกกลางทะเลตราด! เรือโดยสาร “เสือดำโก” ใต้ท้องเรือร้าว ทำให้น้ำทะลักเข้าเรือขณะเดินทางจากเกาะกูดกลับแหลมศอก นักท่องเที่ยว 92 คน พร้อมลูกเรือ 10 คน ต้องลอยลำท่ามกลางคลื่นลมแรง ก่อนเรือพันธมิตรและเรือ ต.กองทัพเรือเข้าช่วยทัน • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000111052 • #เกาะกูด #เรือโดยสาร #ตราด #อุบัติเหตุทางทะเล #กองทัพเรือ #News1live #News1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลมหนาวมาแล้ว! นักท่องเที่ยวไทย–เทศแห่เที่ยวเกาะล้าน แม้คลื่นลมแรง

    ท่าเรือแหลมบาลีฮายคึกคักทั้งวัน นักท่องเที่ยวหลั่งไหลข้ามไปเกาะล้านต่อเนื่อง แม้อากาศเย็นลงและคลื่นลมแรง เจ้าท่า–พัทยาเข้มคุมมาตรการความปลอดภัย สวมเสื้อชูชีพตลอดการเดินทาง

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109279

    #News1live #News1 #เกาะล้าน #พัทยา #ลมหนาว #ท่องเที่ยวไทย #บาลีฮาย #Chonburi #newsupdate
    ลมหนาวมาแล้ว! นักท่องเที่ยวไทย–เทศแห่เที่ยวเกาะล้าน แม้คลื่นลมแรง • ท่าเรือแหลมบาลีฮายคึกคักทั้งวัน นักท่องเที่ยวหลั่งไหลข้ามไปเกาะล้านต่อเนื่อง แม้อากาศเย็นลงและคลื่นลมแรง เจ้าท่า–พัทยาเข้มคุมมาตรการความปลอดภัย สวมเสื้อชูชีพตลอดการเดินทาง • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109279 • #News1live #News1 #เกาะล้าน #พัทยา #ลมหนาว #ท่องเที่ยวไทย #บาลีฮาย #Chonburi #newsupdate
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

    เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง

    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้

    ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง)

    ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน)

    ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู)

    กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด

    ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

    ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์:
    ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์
    วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ
    พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่
    • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก
    • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี
    • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที
    พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่
    • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM)
    • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
    • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT


    ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้ ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง) ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน) ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์: ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM) • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2139 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
    เรื่องอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย
    มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 26-28 มกราคม 2568
    ฉบับที่ 6 (27/2568)

    ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา
    ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 26-28 มกราคม 2568 ฉบับที่ 6 (27/2568) ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • “วีรบุรุษมัฆวาน”

    แสงตะวันบนฟ้า ส่องมาเบื้องบน เงาของคนหนึ่งนั้น ยังยืนหยัดทน "บิ๊กซัน" ผู้กล้า ผู้เป็นตำนาน วีรบุรุษสะพานมัฆวาน ยืนหยัดจนวันลา

    * ลมพัดกี่ครั้ง ยังมีเสียงดังในใจ "อาทิตย์ กำลังเอก" ยืนหยัดสู้ภัย เพื่อบ้าน เพื่อเมือง เพื่อศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ ทุกก้าวที่เดินไป ไม่มีคำว่าสาย

    ** วันเมษาฮาวาย เขายืนแนวหน้า นำทัพสลายกบฏ สู่ศรัทธาประชา ยามคลื่นลมแรง เขายังมั่นคง ปกป้องบ้านเมือง จากภัยในเงามืด

    ซ้ำ *, **

    เขายืนหยัดเพื่องาน เขาอยู่เพื่อปวงชน แม้ลมพายุรุนแรง เขายังมั่นคง เส้นทางที่ทอดไกล สะพานมัฆวาน มีเงาของเขาเป็นตำนาน ตลอดไป

    ลมพัดกี่ครั้ง ยังมีเสียงดังในใจ "อาทิตย์ กำลังเอก" ยืนหยัดสู้ภัย เพื่อบ้าน เพื่อเมือง เพื่อศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ ทุกก้าวที่เดินไป ไม่มีคำว่าสาย

    วันนี้เขาลาจาก แต่ชื่อยังคง "บิ๊กซัน" วีรบุรุษ ที่เราจดจำ สะพานมัฆวาน ยังมีคำร่ำร้อง สดุดีเขา ผู้เป็นดั่งแสงทอง เรืองรองขอบฟ้า

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 190946 ม.ค. 2568
    “วีรบุรุษมัฆวาน” แสงตะวันบนฟ้า ส่องมาเบื้องบน เงาของคนหนึ่งนั้น ยังยืนหยัดทน "บิ๊กซัน" ผู้กล้า ผู้เป็นตำนาน วีรบุรุษสะพานมัฆวาน ยืนหยัดจนวันลา * ลมพัดกี่ครั้ง ยังมีเสียงดังในใจ "อาทิตย์ กำลังเอก" ยืนหยัดสู้ภัย เพื่อบ้าน เพื่อเมือง เพื่อศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ ทุกก้าวที่เดินไป ไม่มีคำว่าสาย ** วันเมษาฮาวาย เขายืนแนวหน้า นำทัพสลายกบฏ สู่ศรัทธาประชา ยามคลื่นลมแรง เขายังมั่นคง ปกป้องบ้านเมือง จากภัยในเงามืด ซ้ำ *, ** เขายืนหยัดเพื่องาน เขาอยู่เพื่อปวงชน แม้ลมพายุรุนแรง เขายังมั่นคง เส้นทางที่ทอดไกล สะพานมัฆวาน มีเงาของเขาเป็นตำนาน ตลอดไป ลมพัดกี่ครั้ง ยังมีเสียงดังในใจ "อาทิตย์ กำลังเอก" ยืนหยัดสู้ภัย เพื่อบ้าน เพื่อเมือง เพื่อศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ ทุกก้าวที่เดินไป ไม่มีคำว่าสาย วันนี้เขาลาจาก แต่ชื่อยังคง "บิ๊กซัน" วีรบุรุษ ที่เราจดจำ สะพานมัฆวาน ยังมีคำร่ำร้อง สดุดีเขา ผู้เป็นดั่งแสงทอง เรืองรองขอบฟ้า ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 190946 ม.ค. 2568
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 563 มุมมอง 32 0 รีวิว
  • สำนวนจีนจาก <หาญท้าฯ 2>สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยเกี่ยวกับความ ‘เอ๊ะ’ ของ Storyฯ เกี่ยวกับสำนวนจีนจากซีรีส์เรื่อง <หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร ภาค 2> เพื่อนเพจที่ได้ดูแล้วอาจจำได้ว่าฮ่องเต้จัดงานชมบุปผาบนเขาและต่อมามีคนลอบปลงพระชนม์จนทำให้ฟ่านเสียนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในช่วงตอนเตรียมงานนั้น แม่ทัพเย่มาขอให้ฟ่านเสียนช่วยสอดส่องดูแลความปลอดภัยของฮ่องเต้ โดยให้เหตุผลว่า ถ้ามีอะไรผิดพลาดเขาจะต้องรับความผิดและลูกน้องจะซวยหนักกว่า ในเวอร์ชั่นซับไทยตอนที่แม่ทัพเย่ให้เหตุผลนี้ เขาอ้ำอึ้งใช้ประโยคว่า “หญ้า... อะไรแหลกๆ… ลมพัดแรงมักพัดถึงพวกตำแหน่งล่าง” ซึ่งฟ่านเสียนเลยต่อให้จบว่า “ช้างสารชนกันหญ้าแพรกก็แหลกลาญ... ประโยคนี้ไม่ได้ใช้อย่างนี้” เพื่อนเพจที่ดูซับหรือพากย์ไทยอาจไม่สะดุดตาสะดุดหู แต่จริงๆ แล้วในเวอร์ชั่นภาษาจีนใช้อีกประโยคหนึ่ง ซึ่งสะดุดหู Storyฯ ไม่น้อยประโยคที่กล่าวถึงนี้ ในภาษาจีนก็คือ ‘เฟิงฉี่ชิงผิงจือม่อ’ (风起青萍之末) Storyฯ ขอแปลว่า ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน’ ซึ่งเป็นสำนวนจีน เป็นวรรคต้นของประโยคที่ว่า ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน สิ้นสุดกลางทุ่งหญ้า’ (风起于青萍之末,止于草莽之间) ฟังดูไพเราะ แต่มันแปลว่าอะไร?ก่อนอื่นขอเกริ่นถึงที่มาว่า สำนวนนี้ดัดแปลงมาจากบทประพันธ์โบราณสมัยจ้านกั๋วชื่อว่า ‘เฟิงฟู่’ (风赋 / บทประพันธ์แห่งสายลม)ของกวีนามว่าซ่งอวี้ (宋玉 ประมาณปี 290 – 222 ก่อนคริสตกาล) จากแคว้นฉู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในแปดบทประพันธ์ชนิด ‘ฟู่’ ของจีนที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด โดย ‘ฟู่’ เป็นวรรณกรรมร้อยแก้วที่มีภาษาสวยงามผสมผสานคำคล้องจองลงไปเป็นช่วงๆเฟิงฟู่ ใช้สายลมเป็นตัวดำเนินเรื่อง กล่าวถึงอ๋องฉู่เซียงไปชมวิวบนหอสูง (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์) รู้สึกชื่นมื่นกับลมเย็นสบายและคิดว่านี่เป็นความเย็นสบายที่ชาวบ้านสามารถร่วมสัมผัสได้เหมือนกัน ไม่แบ่งแยกชนชั้นหรือความร่ำรวยแต่ซ่งอวี้ที่ติดตามไปด้วยกลับบอกว่า ลมที่อ๋องฉู่เซียงสัมผัส ย่อมไม่เหมือนกับลมที่ชาวประชาสัมผัส นั่นเป็นเพราะว่า แม้ลมเป็นอากาศที่ไหลเวียนไปได้หลายพื้นที่ แต่เพราะภูมิประเทศและสิ่งปลูกสร้างที่แตกต่าง แรงลมที่สัมผัสได้ในแต่ละพื้นที่ย่อมแตกต่างกันซ่งอวี้บอกว่า ลมที่อ๋องฉู่เซียงสัมผัส สร้างตัวจากคลื่นอากาศแผ่วเบาเหนือจอกแหน ค่อยๆ ขยายไปยังหุบเขา ก่อเกิดเป็นลมแรงพัดผ่านภูเขา โถมกระหน่ำเข้าใส่หินผาและป่าไม้ จนผ่านพ้นถึงทุ่งหญ้าแล้วจึงสงบลงกลายเป็นสายลมที่สร้างความเย็นใจ และสำนวน ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน สิ้นสุดกลางทุ่งหญ้า’ นี้จึงเป็นการนำข้อความท่อนนี้มากลั่นย่อลงเป็นสำนวนสั้นๆ ซ่งอวี้ยังบอกต่ออีกว่า ลมที่ชาวบ้านทั่วไปสัมผัสนั้นเกิดจากตรอกเล็กซอกซอย เมื่อก่อตัวแรงขึ้นก็พัดพาเอาฝุ่นทรายและของสกปรกคลุ้งกระจายเข้าสู่บ้านเรือน ลมนั้นเมื่อชาวบ้านได้สัมผัสย่อมไม่ทำให้รู้สึกสบายตัวและอาจทำให้ล้มป่วยลงได้บทประพันธ์เฟิงฟู่นี้ไพเราะสวยงามด้วยคำบรรยายถึงลักษณะของสายลมภายใต้สภาวะต่างๆ และแฝงไว้ซึ่งข้อคิดเตือนสติ เฟิงฟู่ใช้สายลมเป็นตัวเปรียบเทียบระหว่างความเกรียงไกรของกษัตริย์และความแร้นแค้นของชาวบ้านธรรมดา สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างทางสังคมและความไม่เท่าเทียมกัน เพื่อเป็นการเตือนใจต่ออ๋องฉู่เซียงว่าอย่าได้นิ่งนอนใจกับความสบายที่ได้รับเพราะในขณะเดียวกันยังมีชาวบ้านที่ลำบากอยู่ต่อมาสำนวน ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน’ ถูกใช้เป็นการอุปมาอุปไมยว่า คลื่นอากาศแผ่วเบาเหนือจอกแหนสามารถก่อตัวขึ้นเป็นคลื่นลมแรงที่กวาดไปทั่วพื้นที่อันกว้างใหญ่ ก่อเกิดผลกระทบได้มากมาย และแน่นอนว่าสำนวนนี้ไม่ได้แปลว่า ถ้าผู้มีอำนาจล้มแล้วคนที่อยู่เบื้องล่างจะซวยได้อย่างที่แม่ทัพเย่ในซีรีส์ต้องการหมายถึง และ Storyฯ คิดว่าความหมายก็เปรียบไม่ได้กับ ‘ช้างสารชนกันหญ้าแพรกก็แหลกลาญ’ เพราะจริงๆ แล้วความหมายของสำนวนนี้พูดสั้นๆ ก็คือ Butterfly Effect --- สิ่งเล็กๆ ที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์หรือการเปลี่ยนแปลงตามมาได้มากมาย(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://m.mp.oeeee.com/a/BAAFRD000020240519954909.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:https://baike.baidu.com/item/风起于青萍之末/5876137 https://www.sohu.com/a/395149302_120482984 https://baike.baidu.com/item/风赋/2482215 https://zhsc.org/work/work-58b83fd9570c350062072623.htm #หาญท้าชะตาฟ้า #บทประพันธ์จีน #ButterflyEffect #เฟิงฟู่
    สำนวนจีนจาก <หาญท้าฯ 2>สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยเกี่ยวกับความ ‘เอ๊ะ’ ของ Storyฯ เกี่ยวกับสำนวนจีนจากซีรีส์เรื่อง <หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร ภาค 2> เพื่อนเพจที่ได้ดูแล้วอาจจำได้ว่าฮ่องเต้จัดงานชมบุปผาบนเขาและต่อมามีคนลอบปลงพระชนม์จนทำให้ฟ่านเสียนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในช่วงตอนเตรียมงานนั้น แม่ทัพเย่มาขอให้ฟ่านเสียนช่วยสอดส่องดูแลความปลอดภัยของฮ่องเต้ โดยให้เหตุผลว่า ถ้ามีอะไรผิดพลาดเขาจะต้องรับความผิดและลูกน้องจะซวยหนักกว่า ในเวอร์ชั่นซับไทยตอนที่แม่ทัพเย่ให้เหตุผลนี้ เขาอ้ำอึ้งใช้ประโยคว่า “หญ้า... อะไรแหลกๆ… ลมพัดแรงมักพัดถึงพวกตำแหน่งล่าง” ซึ่งฟ่านเสียนเลยต่อให้จบว่า “ช้างสารชนกันหญ้าแพรกก็แหลกลาญ... ประโยคนี้ไม่ได้ใช้อย่างนี้” เพื่อนเพจที่ดูซับหรือพากย์ไทยอาจไม่สะดุดตาสะดุดหู แต่จริงๆ แล้วในเวอร์ชั่นภาษาจีนใช้อีกประโยคหนึ่ง ซึ่งสะดุดหู Storyฯ ไม่น้อยประโยคที่กล่าวถึงนี้ ในภาษาจีนก็คือ ‘เฟิงฉี่ชิงผิงจือม่อ’ (风起青萍之末) Storyฯ ขอแปลว่า ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน’ ซึ่งเป็นสำนวนจีน เป็นวรรคต้นของประโยคที่ว่า ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน สิ้นสุดกลางทุ่งหญ้า’ (风起于青萍之末,止于草莽之间) ฟังดูไพเราะ แต่มันแปลว่าอะไร?ก่อนอื่นขอเกริ่นถึงที่มาว่า สำนวนนี้ดัดแปลงมาจากบทประพันธ์โบราณสมัยจ้านกั๋วชื่อว่า ‘เฟิงฟู่’ (风赋 / บทประพันธ์แห่งสายลม)ของกวีนามว่าซ่งอวี้ (宋玉 ประมาณปี 290 – 222 ก่อนคริสตกาล) จากแคว้นฉู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในแปดบทประพันธ์ชนิด ‘ฟู่’ ของจีนที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด โดย ‘ฟู่’ เป็นวรรณกรรมร้อยแก้วที่มีภาษาสวยงามผสมผสานคำคล้องจองลงไปเป็นช่วงๆเฟิงฟู่ ใช้สายลมเป็นตัวดำเนินเรื่อง กล่าวถึงอ๋องฉู่เซียงไปชมวิวบนหอสูง (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์) รู้สึกชื่นมื่นกับลมเย็นสบายและคิดว่านี่เป็นความเย็นสบายที่ชาวบ้านสามารถร่วมสัมผัสได้เหมือนกัน ไม่แบ่งแยกชนชั้นหรือความร่ำรวยแต่ซ่งอวี้ที่ติดตามไปด้วยกลับบอกว่า ลมที่อ๋องฉู่เซียงสัมผัส ย่อมไม่เหมือนกับลมที่ชาวประชาสัมผัส นั่นเป็นเพราะว่า แม้ลมเป็นอากาศที่ไหลเวียนไปได้หลายพื้นที่ แต่เพราะภูมิประเทศและสิ่งปลูกสร้างที่แตกต่าง แรงลมที่สัมผัสได้ในแต่ละพื้นที่ย่อมแตกต่างกันซ่งอวี้บอกว่า ลมที่อ๋องฉู่เซียงสัมผัส สร้างตัวจากคลื่นอากาศแผ่วเบาเหนือจอกแหน ค่อยๆ ขยายไปยังหุบเขา ก่อเกิดเป็นลมแรงพัดผ่านภูเขา โถมกระหน่ำเข้าใส่หินผาและป่าไม้ จนผ่านพ้นถึงทุ่งหญ้าแล้วจึงสงบลงกลายเป็นสายลมที่สร้างความเย็นใจ และสำนวน ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน สิ้นสุดกลางทุ่งหญ้า’ นี้จึงเป็นการนำข้อความท่อนนี้มากลั่นย่อลงเป็นสำนวนสั้นๆ ซ่งอวี้ยังบอกต่ออีกว่า ลมที่ชาวบ้านทั่วไปสัมผัสนั้นเกิดจากตรอกเล็กซอกซอย เมื่อก่อตัวแรงขึ้นก็พัดพาเอาฝุ่นทรายและของสกปรกคลุ้งกระจายเข้าสู่บ้านเรือน ลมนั้นเมื่อชาวบ้านได้สัมผัสย่อมไม่ทำให้รู้สึกสบายตัวและอาจทำให้ล้มป่วยลงได้บทประพันธ์เฟิงฟู่นี้ไพเราะสวยงามด้วยคำบรรยายถึงลักษณะของสายลมภายใต้สภาวะต่างๆ และแฝงไว้ซึ่งข้อคิดเตือนสติ เฟิงฟู่ใช้สายลมเป็นตัวเปรียบเทียบระหว่างความเกรียงไกรของกษัตริย์และความแร้นแค้นของชาวบ้านธรรมดา สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างทางสังคมและความไม่เท่าเทียมกัน เพื่อเป็นการเตือนใจต่ออ๋องฉู่เซียงว่าอย่าได้นิ่งนอนใจกับความสบายที่ได้รับเพราะในขณะเดียวกันยังมีชาวบ้านที่ลำบากอยู่ต่อมาสำนวน ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน’ ถูกใช้เป็นการอุปมาอุปไมยว่า คลื่นอากาศแผ่วเบาเหนือจอกแหนสามารถก่อตัวขึ้นเป็นคลื่นลมแรงที่กวาดไปทั่วพื้นที่อันกว้างใหญ่ ก่อเกิดผลกระทบได้มากมาย และแน่นอนว่าสำนวนนี้ไม่ได้แปลว่า ถ้าผู้มีอำนาจล้มแล้วคนที่อยู่เบื้องล่างจะซวยได้อย่างที่แม่ทัพเย่ในซีรีส์ต้องการหมายถึง และ Storyฯ คิดว่าความหมายก็เปรียบไม่ได้กับ ‘ช้างสารชนกันหญ้าแพรกก็แหลกลาญ’ เพราะจริงๆ แล้วความหมายของสำนวนนี้พูดสั้นๆ ก็คือ Butterfly Effect --- สิ่งเล็กๆ ที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์หรือการเปลี่ยนแปลงตามมาได้มากมาย(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://m.mp.oeeee.com/a/BAAFRD000020240519954909.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:https://baike.baidu.com/item/风起于青萍之末/5876137 https://www.sohu.com/a/395149302_120482984 https://baike.baidu.com/item/风赋/2482215 https://zhsc.org/work/work-58b83fd9570c350062072623.htm #หาญท้าชะตาฟ้า #บทประพันธ์จีน #ButterflyEffect #เฟิงฟู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1134 มุมมอง 0 รีวิว
  • หากเจอคลื่นลมแรงกลางทะเล เรือสำราญจะโคลงเคลงหรือไม่ เมาเรือจะเดินทางได้ไหม! 🏖

    เทคโนโลยีที่ใช้ไจโรสโคป (Gyroscopic Stabilizers) เพื่อช่วยรักษาความเสถียรของเรือ ซึ่งเป็นการใช้ใบพัดที่ติดตั้งอยู่ด้านข้างของเรือเพื่อช่วยลดการแกว่งของเรือ
    ช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายและลดอาการเมาเรือ และยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากการแกว่งของเรือ แถมยังช่วยให้เรือล่องเรือได้เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นอีกด้วย

    สำหรับสายเรือ Royal Caribbean Cruises ทุกลำจะมีระบบ Stabilizer หรือบางลำจะใช้ Fin Stabilizers ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของเรือว่าจะเหมาะสมกับการใช้เทคโนโลยีแบบใดเพื่อช่วยรักษาความเสถียรของเรือ 🛳

    ดูเรือ Royal Caribean ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/648705

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #เรือRoyalCaribean #RoyalCaribbeanCruises #เรือRoyal #อเมริกา #CruiseDomain #ข่าว #ล่องเรือสำราญ #News #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    💥 หากเจอคลื่นลมแรงกลางทะเล เรือสำราญจะโคลงเคลงหรือไม่ เมาเรือจะเดินทางได้ไหม! 🏖 เทคโนโลยีที่ใช้ไจโรสโคป (Gyroscopic Stabilizers) เพื่อช่วยรักษาความเสถียรของเรือ ซึ่งเป็นการใช้ใบพัดที่ติดตั้งอยู่ด้านข้างของเรือเพื่อช่วยลดการแกว่งของเรือ ช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายและลดอาการเมาเรือ และยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากการแกว่งของเรือ แถมยังช่วยให้เรือล่องเรือได้เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นอีกด้วย 📣 ✨ สำหรับสายเรือ Royal Caribbean Cruises ทุกลำจะมีระบบ Stabilizer หรือบางลำจะใช้ Fin Stabilizers ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของเรือว่าจะเหมาะสมกับการใช้เทคโนโลยีแบบใดเพื่อช่วยรักษาความเสถียรของเรือ 🛳 ดูเรือ Royal Caribean ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/648705 ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #เรือRoyalCaribean #RoyalCaribbeanCruises #เรือRoyal #อเมริกา #CruiseDomain #ข่าว #ล่องเรือสำราญ #News #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1333 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา : ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณบางพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ และมีคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน ฉบับที่ 1 (156/2567) (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3-7 กันยายน 2567)

    #Thaitimes
    ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา : ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณบางพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ และมีคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามัน ฉบับที่ 1 (156/2567) (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 3-7 กันยายน 2567) #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 719 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พระราชินี” #ทรงแข่งขันเรือใบ “52 Super Series Sailing Week” #วันที่สอง #ทรงเป็นแรงใจสำคัญทำให้คะแนนสะสมดีขึ้น
    --
    เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 เวลา 11.50 น. ตามเวลาราชอาณาจักรสเปน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าเรือ Puerto Portals เกาะมายอร์กา เพื่อทรงร่วมการแข่งขันเรือใบ รายการ Puerto Portals 52 Super Series Sailing Week TP 52 Super Series 2024 #เพื่อเก็บคะแนน Race ที่ 3 และ 4 เป็นวันที่สอง
    --
    นอกจากจะทรงเข้าร่วมการแข่งขันในฐานะตัวแทนทีมชาติไทยร่วมกับทีมวายุ Vayu หมายเลขเรือ 27 ในตำแหน่ง Strategist เพื่อทรงทำหน้าที่ดูทิศทางลม วางแผนทิศทางการแล่นเรือให้ไปสู่จุดหมายอย่างรวดเร็วและปลอดภัยแล้ว ยังทรงทำทุกหน้าที่บนเรือร่วมกับสมาชิกในทีมทั้ง 15 คน อย่างมิทรงเหน็ดเหนื่อย อาทิ ทรงขึ้นและเก็บใบเรือ ทรงช่วยบังคับเรือให้แล่นไปในทิศทางที่ต้องการ เป็นต้น
    --
    จากนั้นเวลา 14.05 น. ตามเวลาท้องถิ่นราชอาณาจักรสเปน สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เริ่มทรงเรือใบหมายเลข 27 พร้อมกับสมาชิกทีมวายุทั้ง 15 คน ออกจากจุดสตาร์ท พร้อมกับทีมเรือใบทั้ง 13 ทีมจาก 9 ประเทศ เพื่อเริ่มการแข่งขันเก็บคะแนน Race ที่ 3 และ Race ที่ 4 เป็นวันที่สอง
    --
    ทันทีที่ออกจากจุดสตาร์ทเรือแต่ละลำต่างแข่งขันกันอย่างดุเดือดและเข้มข้นเพื่อแย่งชิงความได้เปรียบของทิศทางลม จนถึงเส้นชัย โดยมีทีมกรรมการจัดการแข่งขัน และทีมผู้ตัดสิน (Umpire) ตามดูการแข่งขันอย่างใกล้ชิด เพื่อกำกับการแข่งขันให้เป็นไปตามกฎระเบียบ และไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเรือชนกัน เนื่องจากเรือ TP 52 เป็นเรือแข่งระดับ Grand Prix ที่ทรงสมรรถนะและแล่นใบด้วยความเร็วสูง นักแข่งทุกคนจึงจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงเกี่ยวกับความปลอดภัยตลอดเวลา
    --
    ต่อมาเวลา 14.55 น. เรือใบทีมวายุที่เจอคลื่นลมแรงสภาพอากาศแปรปรวน ลมสองฝั่งซ้ายขวามาประทะกันทำให้เกิดความแปรปรวนในทะเล จึงทำให้ทีมวายุเข้าเส้นชัย Race 3 ในอันดับที่ 11 แต่เมื่อเริ่มสตาร์ท Race ที่ 4 เวลา 15.30 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี #ทรงให้กำลังใจสมาชิกทุกคนในทีมวายุให้มีสมาธิ และค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนสถานการณ์ตามทิศทางลม ดังนั้น วินาทีสุดท้ายทีมวายุจึงขยับแซงเรือลำอื่นมาได้ 2 ลำและขึ้นนำเป็นลำดับที่ 9 ของ Race 4 ส่งผลให้การแข่งขันทั้ง 4 Race ตอนนี้ #ทีมเรือใบวายุอยู่ในอันดับที่9ของตาราง
    --
    สำหรับการแข่งขันเรือใบรายการ “Puerto Portals 52 Super Series Sailing Week” TP 52 Super Series 2024 เริ่มแข่งขันตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม ถึงวันที่ 1 กันยายน ซึ่งจะทำการแข่งขันวันละ 2 Race จนครบ 5 วัน รวม 10 Race แล้วคณะกรรมการจะนำผลการแข่งขันทั้ง 10 Race มารวมกัน เพื่อหาทีมที่ชนะเลิศในสนามที่ 4 ต่อไป สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันอย่างใกล้ชิดของทุกทีมที่แข่งขันกันอย่างเข้มข้นได้ทางช่องยูทูป www. TP 52 Super Series 2024
    =======================
    ที่มา : กองทัพเรือ Royal Thai Navy
    “พระราชินี” #ทรงแข่งขันเรือใบ “52 Super Series Sailing Week” #วันที่สอง #ทรงเป็นแรงใจสำคัญทำให้คะแนนสะสมดีขึ้น -- เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 เวลา 11.50 น. ตามเวลาราชอาณาจักรสเปน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าเรือ Puerto Portals เกาะมายอร์กา เพื่อทรงร่วมการแข่งขันเรือใบ รายการ Puerto Portals 52 Super Series Sailing Week TP 52 Super Series 2024 #เพื่อเก็บคะแนน Race ที่ 3 และ 4 เป็นวันที่สอง -- นอกจากจะทรงเข้าร่วมการแข่งขันในฐานะตัวแทนทีมชาติไทยร่วมกับทีมวายุ Vayu หมายเลขเรือ 27 ในตำแหน่ง Strategist เพื่อทรงทำหน้าที่ดูทิศทางลม วางแผนทิศทางการแล่นเรือให้ไปสู่จุดหมายอย่างรวดเร็วและปลอดภัยแล้ว ยังทรงทำทุกหน้าที่บนเรือร่วมกับสมาชิกในทีมทั้ง 15 คน อย่างมิทรงเหน็ดเหนื่อย อาทิ ทรงขึ้นและเก็บใบเรือ ทรงช่วยบังคับเรือให้แล่นไปในทิศทางที่ต้องการ เป็นต้น -- จากนั้นเวลา 14.05 น. ตามเวลาท้องถิ่นราชอาณาจักรสเปน สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เริ่มทรงเรือใบหมายเลข 27 พร้อมกับสมาชิกทีมวายุทั้ง 15 คน ออกจากจุดสตาร์ท พร้อมกับทีมเรือใบทั้ง 13 ทีมจาก 9 ประเทศ เพื่อเริ่มการแข่งขันเก็บคะแนน Race ที่ 3 และ Race ที่ 4 เป็นวันที่สอง -- ทันทีที่ออกจากจุดสตาร์ทเรือแต่ละลำต่างแข่งขันกันอย่างดุเดือดและเข้มข้นเพื่อแย่งชิงความได้เปรียบของทิศทางลม จนถึงเส้นชัย โดยมีทีมกรรมการจัดการแข่งขัน และทีมผู้ตัดสิน (Umpire) ตามดูการแข่งขันอย่างใกล้ชิด เพื่อกำกับการแข่งขันให้เป็นไปตามกฎระเบียบ และไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเรือชนกัน เนื่องจากเรือ TP 52 เป็นเรือแข่งระดับ Grand Prix ที่ทรงสมรรถนะและแล่นใบด้วยความเร็วสูง นักแข่งทุกคนจึงจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงเกี่ยวกับความปลอดภัยตลอดเวลา -- ต่อมาเวลา 14.55 น. เรือใบทีมวายุที่เจอคลื่นลมแรงสภาพอากาศแปรปรวน ลมสองฝั่งซ้ายขวามาประทะกันทำให้เกิดความแปรปรวนในทะเล จึงทำให้ทีมวายุเข้าเส้นชัย Race 3 ในอันดับที่ 11 แต่เมื่อเริ่มสตาร์ท Race ที่ 4 เวลา 15.30 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี #ทรงให้กำลังใจสมาชิกทุกคนในทีมวายุให้มีสมาธิ และค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนสถานการณ์ตามทิศทางลม ดังนั้น วินาทีสุดท้ายทีมวายุจึงขยับแซงเรือลำอื่นมาได้ 2 ลำและขึ้นนำเป็นลำดับที่ 9 ของ Race 4 ส่งผลให้การแข่งขันทั้ง 4 Race ตอนนี้ #ทีมเรือใบวายุอยู่ในอันดับที่9ของตาราง -- สำหรับการแข่งขันเรือใบรายการ “Puerto Portals 52 Super Series Sailing Week” TP 52 Super Series 2024 เริ่มแข่งขันตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม ถึงวันที่ 1 กันยายน ซึ่งจะทำการแข่งขันวันละ 2 Race จนครบ 5 วัน รวม 10 Race แล้วคณะกรรมการจะนำผลการแข่งขันทั้ง 10 Race มารวมกัน เพื่อหาทีมที่ชนะเลิศในสนามที่ 4 ต่อไป สามารถรับชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันอย่างใกล้ชิดของทุกทีมที่แข่งขันกันอย่างเข้มข้นได้ทางช่องยูทูป www. TP 52 Super Series 2024 ======================= ที่มา : กองทัพเรือ Royal Thai Navy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1432 มุมมอง 0 รีวิว