ความร่ำรวยอย่างพรวดพราด ซึ่งน่าจะได้มาจากการฉ้อโกงเจ็ดสิบเอ็ดล้านส่งผลให้ชาวเน็ตเปลี่ยนชื่อ จากทนายตั้มเป็นทนายต้มกันอย่างครื้นเครง ถือว่าคดีฉ้อโกงเจ็ดสิบเอ็ดล้านเป็นการเปิดแผลแรกของทนายตั้ม ชนิดที่เจ้าตัวไม่เคยมีบาดแผลเหวอะหวะบาดเจ็บหนักเท่านี้มาก่อน
ล่าสุดพี่อ้อยจตุพร อุบลเลิศ เข้าให้การกองปราบปรามยาวนานถึงสิบเอ็ดชั่วโมงพนักงานสอบสวนกองปราบปรามตรวจสอบพฤติกรรมของทนายต้มแล้วพบว่า พี่อ้อยไม่ได้ถูกต้มแค่หลอกลงทุนแพลตฟอร์มหวยเจ็ดสิบเอ็ดล้านคดีเดียว แต่ยังถูกต้มเรื่องเงินคริปโตของเพื่อนอีก 39 ล้าน เรื่องเงินค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้าน ค่าออกแบบบ้านของสามีพี่อ้อย3 ล้านและเงินซื้อรถเบนซ์ 13 ล้าน ซึ่งพี่อ้อยโดนฟันส่วนต่างราคาไปร่วม5 ล้าน การที่เหยื่อคนเดียวถูกฉ้อโกงซ้ําๆ แบบนี้ เป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา3 วงเล็บ 18 แห่ง พ รบการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ ศ2542 เรียกว่าฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ คําว่าปกติธุระหมายความว่ากระทําการซ้ําซ้ํากันมากกว่าหนึ่งครั้งกระทําความผิดเป็นสันดาน มีลักษณะที่จะเป็นการกระทําเช่นนั้นต่อต่อไป เนื่องจากพฤติกรรมของทนายต้ม หลอกเหยื่อคนเดิมหลายครั้งเข้าองค์ประกอบชัดเจนคดีที่พี่อ้อยแจ้งจากทนายตั้มจึงไม่ใช่แค่คดีฉ้อโกง แต่จะกลายเป็นคดีฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทันทีไม่ต้องมีหมายเรียก
ปฏิบัติการนี้จึงเป็นการถอนรากถอนโคนทนายแบรนด์เนมและองค์กรซ่อนเงื่อนของเขาแบบม้วนเดียวจบ จบตํานานทนายความที่ทําตัวเป็นภัยกับลูกความ เอาเข้าจริง ที่มาของความร่ํารวยของทนายต้มน่าจะไม่ใช่แค่การฉ้อโกง
คนที่ปูดเรื่องนี้ออกมาคือจอมแฉผู้รู้ลึกรู้จริงในแวดวงคนสีเทานายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ย้อนไปเมื่อวันที่สองเมษายน2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กว่าข่าวด่วนสัมภเวสีอาละวาดทนายคนดีชอบแถลงข่าวช่วยประชาชน รวยแค่ข้ามคืนจนคนสงสัยไปทั่ว ทําไมรวยเร็วจังที่แท้เบื้องหลังทําพนันออนไลน์หุ้นกับเจ้าหน้าที่ dsi ตัวเตี้ยๆ อายุประมาณ 50 ปีชื่อเว็บเฮงเกมส์มีญาติชื่อแจ๊คดูแลเว็บให้ คนที่รู้ดีคือตํารวจใหญ่ฉายาเทพจอจาน ที่ต้องหลับตาลงข้างเดียวเพราะใช้งานกันอยู่ ก่อนทนายจะดังหากินกับการรับคดียาเพราะได้เงินมากง่ายและเร็วไม่รับทําคดีอื่นให้เสียเวลาอย่างคดีดาราสาวดังลูกครึ่งใช้เอกสารตํารวจปลอม บินปร๋อหนีไปต่างประเทศทันที
สํานักงานทนายกําไรต่อปีเท่ารายได้มนุษย์เงินเดือนแต่ใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่าบ้าแบรนด์เนม บ้านหลังละเกือบร้อยล้าน มีแผนส่งลูกเรียนเมืองนอกด้วย ทุกครั้งไปเที่ยวต่างประเทศต้องมีลูกน้องตํารวจใหญ่เทพจอจาน มารอรับถึงสนามบิน เข็นรถให้ช้อปปิ้งหลักล้านปรนเปอร์เมียภาษีไม่เคยจ่ายเพราะเงินที่ได้แบบเทาๆ เอาไปแอบซุกไว้ในบัญชีพี่เมีย วันใด ปปงเข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินของทนายตั้ม อาจเจาะไปถึงธุรกิจสีเทาที่มีข่าวทนายตั้มพัวพันตามที่ชูวิทย์แฉไว้เป็นปีแล้วแน่นอน ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
#คิงส์โพธิ์ดำ
ล่าสุดพี่อ้อยจตุพร อุบลเลิศ เข้าให้การกองปราบปรามยาวนานถึงสิบเอ็ดชั่วโมงพนักงานสอบสวนกองปราบปรามตรวจสอบพฤติกรรมของทนายต้มแล้วพบว่า พี่อ้อยไม่ได้ถูกต้มแค่หลอกลงทุนแพลตฟอร์มหวยเจ็ดสิบเอ็ดล้านคดีเดียว แต่ยังถูกต้มเรื่องเงินคริปโตของเพื่อนอีก 39 ล้าน เรื่องเงินค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้าน ค่าออกแบบบ้านของสามีพี่อ้อย3 ล้านและเงินซื้อรถเบนซ์ 13 ล้าน ซึ่งพี่อ้อยโดนฟันส่วนต่างราคาไปร่วม5 ล้าน การที่เหยื่อคนเดียวถูกฉ้อโกงซ้ําๆ แบบนี้ เป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา3 วงเล็บ 18 แห่ง พ รบการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ ศ2542 เรียกว่าฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ คําว่าปกติธุระหมายความว่ากระทําการซ้ําซ้ํากันมากกว่าหนึ่งครั้งกระทําความผิดเป็นสันดาน มีลักษณะที่จะเป็นการกระทําเช่นนั้นต่อต่อไป เนื่องจากพฤติกรรมของทนายต้ม หลอกเหยื่อคนเดิมหลายครั้งเข้าองค์ประกอบชัดเจนคดีที่พี่อ้อยแจ้งจากทนายตั้มจึงไม่ใช่แค่คดีฉ้อโกง แต่จะกลายเป็นคดีฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทันทีไม่ต้องมีหมายเรียก
ปฏิบัติการนี้จึงเป็นการถอนรากถอนโคนทนายแบรนด์เนมและองค์กรซ่อนเงื่อนของเขาแบบม้วนเดียวจบ จบตํานานทนายความที่ทําตัวเป็นภัยกับลูกความ เอาเข้าจริง ที่มาของความร่ํารวยของทนายต้มน่าจะไม่ใช่แค่การฉ้อโกง
คนที่ปูดเรื่องนี้ออกมาคือจอมแฉผู้รู้ลึกรู้จริงในแวดวงคนสีเทานายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ย้อนไปเมื่อวันที่สองเมษายน2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กว่าข่าวด่วนสัมภเวสีอาละวาดทนายคนดีชอบแถลงข่าวช่วยประชาชน รวยแค่ข้ามคืนจนคนสงสัยไปทั่ว ทําไมรวยเร็วจังที่แท้เบื้องหลังทําพนันออนไลน์หุ้นกับเจ้าหน้าที่ dsi ตัวเตี้ยๆ อายุประมาณ 50 ปีชื่อเว็บเฮงเกมส์มีญาติชื่อแจ๊คดูแลเว็บให้ คนที่รู้ดีคือตํารวจใหญ่ฉายาเทพจอจาน ที่ต้องหลับตาลงข้างเดียวเพราะใช้งานกันอยู่ ก่อนทนายจะดังหากินกับการรับคดียาเพราะได้เงินมากง่ายและเร็วไม่รับทําคดีอื่นให้เสียเวลาอย่างคดีดาราสาวดังลูกครึ่งใช้เอกสารตํารวจปลอม บินปร๋อหนีไปต่างประเทศทันที
สํานักงานทนายกําไรต่อปีเท่ารายได้มนุษย์เงินเดือนแต่ใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่าบ้าแบรนด์เนม บ้านหลังละเกือบร้อยล้าน มีแผนส่งลูกเรียนเมืองนอกด้วย ทุกครั้งไปเที่ยวต่างประเทศต้องมีลูกน้องตํารวจใหญ่เทพจอจาน มารอรับถึงสนามบิน เข็นรถให้ช้อปปิ้งหลักล้านปรนเปอร์เมียภาษีไม่เคยจ่ายเพราะเงินที่ได้แบบเทาๆ เอาไปแอบซุกไว้ในบัญชีพี่เมีย วันใด ปปงเข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินของทนายตั้ม อาจเจาะไปถึงธุรกิจสีเทาที่มีข่าวทนายตั้มพัวพันตามที่ชูวิทย์แฉไว้เป็นปีแล้วแน่นอน ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
#คิงส์โพธิ์ดำ
ความร่ำรวยอย่างพรวดพราด ซึ่งน่าจะได้มาจากการฉ้อโกงเจ็ดสิบเอ็ดล้านส่งผลให้ชาวเน็ตเปลี่ยนชื่อ จากทนายตั้มเป็นทนายต้มกันอย่างครื้นเครง ถือว่าคดีฉ้อโกงเจ็ดสิบเอ็ดล้านเป็นการเปิดแผลแรกของทนายตั้ม ชนิดที่เจ้าตัวไม่เคยมีบาดแผลเหวอะหวะบาดเจ็บหนักเท่านี้มาก่อน
ล่าสุดพี่อ้อยจตุพร อุบลเลิศ เข้าให้การกองปราบปรามยาวนานถึงสิบเอ็ดชั่วโมงพนักงานสอบสวนกองปราบปรามตรวจสอบพฤติกรรมของทนายต้มแล้วพบว่า พี่อ้อยไม่ได้ถูกต้มแค่หลอกลงทุนแพลตฟอร์มหวยเจ็ดสิบเอ็ดล้านคดีเดียว แต่ยังถูกต้มเรื่องเงินคริปโตของเพื่อนอีก 39 ล้าน เรื่องเงินค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้าน ค่าออกแบบบ้านของสามีพี่อ้อย3 ล้านและเงินซื้อรถเบนซ์ 13 ล้าน ซึ่งพี่อ้อยโดนฟันส่วนต่างราคาไปร่วม5 ล้าน การที่เหยื่อคนเดียวถูกฉ้อโกงซ้ําๆ แบบนี้ เป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา3 วงเล็บ 18 แห่ง พ รบการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ ศ2542 เรียกว่าฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ คําว่าปกติธุระหมายความว่ากระทําการซ้ําซ้ํากันมากกว่าหนึ่งครั้งกระทําความผิดเป็นสันดาน มีลักษณะที่จะเป็นการกระทําเช่นนั้นต่อต่อไป เนื่องจากพฤติกรรมของทนายต้ม หลอกเหยื่อคนเดิมหลายครั้งเข้าองค์ประกอบชัดเจนคดีที่พี่อ้อยแจ้งจากทนายตั้มจึงไม่ใช่แค่คดีฉ้อโกง แต่จะกลายเป็นคดีฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับผู้ต้องหาได้ทันทีไม่ต้องมีหมายเรียก
ปฏิบัติการนี้จึงเป็นการถอนรากถอนโคนทนายแบรนด์เนมและองค์กรซ่อนเงื่อนของเขาแบบม้วนเดียวจบ จบตํานานทนายความที่ทําตัวเป็นภัยกับลูกความ เอาเข้าจริง ที่มาของความร่ํารวยของทนายต้มน่าจะไม่ใช่แค่การฉ้อโกง
คนที่ปูดเรื่องนี้ออกมาคือจอมแฉผู้รู้ลึกรู้จริงในแวดวงคนสีเทานายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ย้อนไปเมื่อวันที่สองเมษายน2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กว่าข่าวด่วนสัมภเวสีอาละวาดทนายคนดีชอบแถลงข่าวช่วยประชาชน รวยแค่ข้ามคืนจนคนสงสัยไปทั่ว ทําไมรวยเร็วจังที่แท้เบื้องหลังทําพนันออนไลน์หุ้นกับเจ้าหน้าที่ dsi ตัวเตี้ยๆ อายุประมาณ 50 ปีชื่อเว็บเฮงเกมส์มีญาติชื่อแจ๊คดูแลเว็บให้ คนที่รู้ดีคือตํารวจใหญ่ฉายาเทพจอจาน ที่ต้องหลับตาลงข้างเดียวเพราะใช้งานกันอยู่ ก่อนทนายจะดังหากินกับการรับคดียาเพราะได้เงินมากง่ายและเร็วไม่รับทําคดีอื่นให้เสียเวลาอย่างคดีดาราสาวดังลูกครึ่งใช้เอกสารตํารวจปลอม บินปร๋อหนีไปต่างประเทศทันที
สํานักงานทนายกําไรต่อปีเท่ารายได้มนุษย์เงินเดือนแต่ใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่าบ้าแบรนด์เนม บ้านหลังละเกือบร้อยล้าน มีแผนส่งลูกเรียนเมืองนอกด้วย ทุกครั้งไปเที่ยวต่างประเทศต้องมีลูกน้องตํารวจใหญ่เทพจอจาน มารอรับถึงสนามบิน เข็นรถให้ช้อปปิ้งหลักล้านปรนเปอร์เมียภาษีไม่เคยจ่ายเพราะเงินที่ได้แบบเทาๆ เอาไปแอบซุกไว้ในบัญชีพี่เมีย วันใด ปปงเข้ามาตรวจสอบเส้นทางการเงินของทนายตั้ม อาจเจาะไปถึงธุรกิจสีเทาที่มีข่าวทนายตั้มพัวพันตามที่ชูวิทย์แฉไว้เป็นปีแล้วแน่นอน ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
#คิงส์โพธิ์ดำ
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
72 มุมมอง
0 รีวิว