• เรื่องน้ำๆ ในความทรงจำ

    เหตุการณ์น้ำท่วมเชียงรายล่าสุดนี้ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา ราวปี 41-42 ซึ่งเป็นช่วงต่อเนื่องของวิกฤติต้มยำกุ้ง การจะมีงานทำเป็นเรื่องแสนสาหัสมาก วันหนึ่ง กรมฯ ที่ทำเกี่ยวกับเรื่องน้ำ เปิดรับสมัครข้าราชการ 3 อัตรา ข้าพเจ้าซึ่งยังไม่ได้ทำงานเป็นชิ้นเป็นอันหลังจบมา ได้ไปสมัครสอบแข่งขันร่วมกับผู้คนหลากหลายพันคน โดยข้อสอบมีทั้งแบบปรนัยและอัตนัย เมื่อประกาศผลสอบ มีผู้ผ่านข้อเขียนเพียง 6 คน แน่นอนข้าพเจ้าเป็นหนึ่งในนั้น ความหวังมาล้นปรี่ แถมแอบฝันเล็กน้อย คือข้าพเจ้าอยากทำงานที่ได้รับใช้ใกล้ชิดในหลวง ร.9 และรู้ว่าในหลวง ร.9 ให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำมาก การได้ทำงานในกรมฯ นี้ จะทำให้ฝันกลางวันของข้าพเจ้า เป็นจริง
    มาถึงตอนนี้ ข้าพเจ้าจำอีก 5 คนที่เหลือไม่ได้แล้ว จำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่ามีผู้หญิงกี่คนผู้ชายกี่คน พวกเราไม่ได้คุยกัน แต่ละคนอยู่ในมุมเงียบของตัวเอง บอกตามตรง ข้าพเจ้าไม่ตื่นเต้นกับการ สัมภาษณ์เลย เพราะก่อนจะมาถึงจุดนี้ ข้าพเจ้าผ่านการสัมภาษณ์มาอย่างโชกโชน อย่าลืมว่ามันเป็นช่วงวิกฤติ งานไม่มี แต่ถ้าส่งจดหมายสมัครงานไปที่ไหน เขาก็เรียกเราไปสัมภาษณ์เสมอ คงจะกลัวเราเหงาและคิดมาก เรื่องการสัมภาษณ์งานในช่วงนั้น สามารถเขียนได้อีกยาว แต่ความรู้สึกของข้าพเจ้าจะเป็นแบบนี้ ไปด้วยความหวัง ออกจากห้องสัมภาษณ์ด้วยความห่อเหี่ยว พ้นประตูบริษัทด้วยใจที่รู้ว่าชีวิตต้องไปต่อ แต่การสัมภาษณ์ที่กรมฯ ในวันนั้น ข้าพเจ้าออกจากห้องสัมภาษณ์ด้วยอาการแบบที่เรียกว่าน้ำท่วมปากระดับน้ำล้นมาถึงจมูกจนสำลักน้ำ
    กรรมการสัมภาษณ์ เป็นสุภาพสตรี 3 ท่าน การสัมภาษณ์เริ่มด้วยบทสนทนาทั่วไป แนะนำตัว การศึกษา ครอบครัว ต่อมาก็เป็นคำตอบในข้อสอบอัตนัย ข้าพเจ้าจำไม่ได้แล้วว่ามีคำถามอะไรบ้าง มีกี่ข้อ แต่จำได้ว่ากรรมการฯ สนใจคำตอบของข้าพเจ้าอยู่สองข้อ ข้อหนึ่งให้อธิบายความสัมพันธ์อะไรสักอย่างของน้ำ ข้าพเจ้าจำไม่ได้แล้ว แต่คำตอบข้อนี้ ในหน้ากระดาษคำตอบว่างๆ ข้าพเจ้าเขียนแค่ สมการคณิตศาสตร์ พร้อมกับคำนิยามตัวแปรแต่ละตัว กรรมการฯ ถามว่า สมการได้มาอย่างไร ข้าพเจ้าอธิบายว่า ข้าพเจ้าสร้างโมเดลคณิตศาสตร์ในกระดาษทด กำหนดตัวแปร สร้างความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ของตัวแปรแต่ละตัว แล้วแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์จนได้ความสัมพันธ์ออกมา กรรมการถามว่า สมการถูกไหม ข้าพเจ้าตอบทันทีว่าไม่แม่นยำ ไม่ใช่เพราะข้าพเจ้าแก้สมการผิด แต่เป็นเพราะมีเวลาจำกัด โมเดลเลยหยาบเกินไป ขาดตัวแปรอีกหลายตัว ถ้ามีเวลามากกว่านี้ ความถูกต้องจะมากขึ้น
    ดูกรรมการจะทึ่ง และทำให้รู้ว่า ข้าพเจ้าเป็นคนเดียวที่ตอบแบบนี้ อันนี้ต้องขอบคุณ นีลส์ โบร์(Niels Bohr) ตอนสอบจบปริญญาเอก โบร์ ส่งกระดาษแผ่นเดียว ที่เขียนสมการคณิตศาสตร์อธิบาย โครงสร้างอะตอม ข้าพเจ้าแค่ยืมวิธีของโบร์มาใช้
    อีกข้อคือทำไมถึงอยากทำงานที่กรมฯ แน่นอนข้าพเจ้าซ่อนความฝันและความจริงไว้ คือ อยากมีงานทำมั่นคง แต่คำตอบของข้าพเจ้ามาจากประสบการณ์ตรง ข้าพเจ้ามักจะไปช่วยเพื่อน ทำนาเกี่ยวข้าวเสมอ ในปีที่น้ำดี ชีวิตมันก็ดีไปด้วย ในทางกลับกัน ถ้าฟ้าฝนไม่ดี เพื่อนของข้าพเจ้า จะขาดโรงเรียน ข้าวยืนต้นตาย เพื่อนต้องไปรับจ้าง บางคนต้องออกจากการศึกษา เพราะต้องติดตามครอบครัวไปขายแรงงานในเมืองใหญ่ น้ำคือชีวิตจริงจริง เมื่อถูกถามว่าทำไมถึงอยากทำงานที่กรมฯ นี้ ข้าพเจ้าสามารถตอบได้ทันทีว่า ต้องการสำรวจแหล่งน้ำ จัดสร้างแหล่งน้ำ วางระบบชลประทาน เพื่อให้พี่น้องคนไทย มีน้ำใช้อย่างทั่วถึง จริงจริงแล้วตอนเจอคำถามครั้งแรก ข้าพเจ้าไม่ได้นึกถึงภาพใหญ่ขนาดนั้น ข้าพเจ้าแค่นึกถึงเพื่อน แค่คิดว่าถ้าเพื่อนมีแหล่งน้ำ เพื่อนก็ไม่ต้องขาดเรียน แล้วก็คิดต่อไปว่า ถ้าหมู่บ้าน ตำบลมีแหล่งน้ำ หลายครอบครัวไม่ต้องอพยพ แล้วมันถึงค่อยเลยเถิดไปถึงการคิดจัดทำแหล่งน้ำและวางระบบเชื่อมโยงระดับประเทศ ซึ่งเป็นคำตอบสุดท้าย ในกระดาษคำตอบ ที่จำได้เพราะ กรรมการฯ บอกว่า งานในตำแหน่งนี้ คือ เจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการวัดคุณภาพน้ำ ไม่เกี่ยวอะไรกับที่ข้าพเจ้าบรรยายเลย (กรรมแท้!) อย่างไรก็ตาม กรรมการแจ้งว่า ข้าพเจ้าได้คะแนนในส่วนอัตนัยดีเยี่ยม
    อะไรๆ มักจะเริ่มแบบนี้เสมอ สงบ สันติ คำชื่นชม สำหรับเด็กหนุ่มอายุ 21-22 มันยิ้มไม่หุบ ความฝันความหวังมันอยู่ตรงหน้า แต่แล้วชีวิตมันก็ฟาดเปรี้ยง ดูเหมือนมันจะเริ่มด้วยประโยคแบบ รู้สึกเสียดายและเสียใจ ที่จะ ต้องแจ้งให้ทราบว่า ทั้งสามตำแหน่งมีคนในอยู่แล้ว ข้าพเจ้าจำได้อีกอย่างว่า แม้แต่กรรมการก็รู้สึกแบบไม่อยากจะพูดเหมือนกัน ในส่วนของข้าพเจ้า ก็แบบที่แจ้งให้ทราบมันอยากจะพูดอะไรแต่พูดไม่ออก รู้สึกในหัวมันแบบ โหวงๆ ข้าพเจ้าจำไม่ได้แล้วว่าจบการสัมภาษณ์กันยังไง แต่ดูเหมือนข้าพเจ้าจะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น แค่เหมือนกับว่า มันรู้อยู่แล้วว่าต้องมีเรื่องแบบนี้ เราโตมาแบบ คนใน เด็กท่าน นายสั่งมา ประมาณนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีกี่คนที่ได้รับการบอกตรงๆ แบบข้าพเจ้า เอาเข้าจริง ข้าพเจ้ากลับรู้สึกว่า ก็ดีเหมือนกัน คือ ไม่มีอะไรติดค้างว่าทำไมข้าพเจ้าถึงไม่ได้ ออกจะรู้สึกขอบคุณที่กรรมการฯ กล้าหาญพอที่จะแจ้งให้ทราบ ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องบอกก็ได้ เหนือสิ่งอื่นใด ข้าพเจ้ากลับมีความมั่นใจมากขึ้น ว่าข้าพเจ้าก็เป็นคนหนึ่งที่มีศักยภาพ เพียงแค่ว่าโอกาสยังมาไม่ถึง อย่างที่บอก ชีวิตในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ไม่มีเวลาให้เราอาลัยอาวรณ์ หรือฟูมฟาย เมื่อเดินออกจากกรมฯ ข้าพเจ้าก็ไม่ได้มีความรู้สึกแบบเสียดายแล้ว แค่กลับที่พัก หาอะไรกิน ตี่นมามีลมหายใจ ก็ออกไปท้าทายวิกฤติต่อ เรื่องก็มีเท่านี้

    เครดิตภาพ: ผู้จัดการออนไลน์
    เรื่องน้ำๆ ในความทรงจำ เหตุการณ์น้ำท่วมเชียงรายล่าสุดนี้ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา ราวปี 41-42 ซึ่งเป็นช่วงต่อเนื่องของวิกฤติต้มยำกุ้ง การจะมีงานทำเป็นเรื่องแสนสาหัสมาก วันหนึ่ง กรมฯ ที่ทำเกี่ยวกับเรื่องน้ำ เปิดรับสมัครข้าราชการ 3 อัตรา ข้าพเจ้าซึ่งยังไม่ได้ทำงานเป็นชิ้นเป็นอันหลังจบมา ได้ไปสมัครสอบแข่งขันร่วมกับผู้คนหลากหลายพันคน โดยข้อสอบมีทั้งแบบปรนัยและอัตนัย เมื่อประกาศผลสอบ มีผู้ผ่านข้อเขียนเพียง 6 คน แน่นอนข้าพเจ้าเป็นหนึ่งในนั้น ความหวังมาล้นปรี่ แถมแอบฝันเล็กน้อย คือข้าพเจ้าอยากทำงานที่ได้รับใช้ใกล้ชิดในหลวง ร.9 และรู้ว่าในหลวง ร.9 ให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำมาก การได้ทำงานในกรมฯ นี้ จะทำให้ฝันกลางวันของข้าพเจ้า เป็นจริง มาถึงตอนนี้ ข้าพเจ้าจำอีก 5 คนที่เหลือไม่ได้แล้ว จำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่ามีผู้หญิงกี่คนผู้ชายกี่คน พวกเราไม่ได้คุยกัน แต่ละคนอยู่ในมุมเงียบของตัวเอง บอกตามตรง ข้าพเจ้าไม่ตื่นเต้นกับการ สัมภาษณ์เลย เพราะก่อนจะมาถึงจุดนี้ ข้าพเจ้าผ่านการสัมภาษณ์มาอย่างโชกโชน อย่าลืมว่ามันเป็นช่วงวิกฤติ งานไม่มี แต่ถ้าส่งจดหมายสมัครงานไปที่ไหน เขาก็เรียกเราไปสัมภาษณ์เสมอ คงจะกลัวเราเหงาและคิดมาก เรื่องการสัมภาษณ์งานในช่วงนั้น สามารถเขียนได้อีกยาว แต่ความรู้สึกของข้าพเจ้าจะเป็นแบบนี้ ไปด้วยความหวัง ออกจากห้องสัมภาษณ์ด้วยความห่อเหี่ยว พ้นประตูบริษัทด้วยใจที่รู้ว่าชีวิตต้องไปต่อ แต่การสัมภาษณ์ที่กรมฯ ในวันนั้น ข้าพเจ้าออกจากห้องสัมภาษณ์ด้วยอาการแบบที่เรียกว่าน้ำท่วมปากระดับน้ำล้นมาถึงจมูกจนสำลักน้ำ กรรมการสัมภาษณ์ เป็นสุภาพสตรี 3 ท่าน การสัมภาษณ์เริ่มด้วยบทสนทนาทั่วไป แนะนำตัว การศึกษา ครอบครัว ต่อมาก็เป็นคำตอบในข้อสอบอัตนัย ข้าพเจ้าจำไม่ได้แล้วว่ามีคำถามอะไรบ้าง มีกี่ข้อ แต่จำได้ว่ากรรมการฯ สนใจคำตอบของข้าพเจ้าอยู่สองข้อ ข้อหนึ่งให้อธิบายความสัมพันธ์อะไรสักอย่างของน้ำ ข้าพเจ้าจำไม่ได้แล้ว แต่คำตอบข้อนี้ ในหน้ากระดาษคำตอบว่างๆ ข้าพเจ้าเขียนแค่ สมการคณิตศาสตร์ พร้อมกับคำนิยามตัวแปรแต่ละตัว กรรมการฯ ถามว่า สมการได้มาอย่างไร ข้าพเจ้าอธิบายว่า ข้าพเจ้าสร้างโมเดลคณิตศาสตร์ในกระดาษทด กำหนดตัวแปร สร้างความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ของตัวแปรแต่ละตัว แล้วแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์จนได้ความสัมพันธ์ออกมา กรรมการถามว่า สมการถูกไหม ข้าพเจ้าตอบทันทีว่าไม่แม่นยำ ไม่ใช่เพราะข้าพเจ้าแก้สมการผิด แต่เป็นเพราะมีเวลาจำกัด โมเดลเลยหยาบเกินไป ขาดตัวแปรอีกหลายตัว ถ้ามีเวลามากกว่านี้ ความถูกต้องจะมากขึ้น ดูกรรมการจะทึ่ง และทำให้รู้ว่า ข้าพเจ้าเป็นคนเดียวที่ตอบแบบนี้ อันนี้ต้องขอบคุณ นีลส์ โบร์(Niels Bohr) ตอนสอบจบปริญญาเอก โบร์ ส่งกระดาษแผ่นเดียว ที่เขียนสมการคณิตศาสตร์อธิบาย โครงสร้างอะตอม ข้าพเจ้าแค่ยืมวิธีของโบร์มาใช้ อีกข้อคือทำไมถึงอยากทำงานที่กรมฯ แน่นอนข้าพเจ้าซ่อนความฝันและความจริงไว้ คือ อยากมีงานทำมั่นคง แต่คำตอบของข้าพเจ้ามาจากประสบการณ์ตรง ข้าพเจ้ามักจะไปช่วยเพื่อน ทำนาเกี่ยวข้าวเสมอ ในปีที่น้ำดี ชีวิตมันก็ดีไปด้วย ในทางกลับกัน ถ้าฟ้าฝนไม่ดี เพื่อนของข้าพเจ้า จะขาดโรงเรียน ข้าวยืนต้นตาย เพื่อนต้องไปรับจ้าง บางคนต้องออกจากการศึกษา เพราะต้องติดตามครอบครัวไปขายแรงงานในเมืองใหญ่ น้ำคือชีวิตจริงจริง เมื่อถูกถามว่าทำไมถึงอยากทำงานที่กรมฯ นี้ ข้าพเจ้าสามารถตอบได้ทันทีว่า ต้องการสำรวจแหล่งน้ำ จัดสร้างแหล่งน้ำ วางระบบชลประทาน เพื่อให้พี่น้องคนไทย มีน้ำใช้อย่างทั่วถึง จริงจริงแล้วตอนเจอคำถามครั้งแรก ข้าพเจ้าไม่ได้นึกถึงภาพใหญ่ขนาดนั้น ข้าพเจ้าแค่นึกถึงเพื่อน แค่คิดว่าถ้าเพื่อนมีแหล่งน้ำ เพื่อนก็ไม่ต้องขาดเรียน แล้วก็คิดต่อไปว่า ถ้าหมู่บ้าน ตำบลมีแหล่งน้ำ หลายครอบครัวไม่ต้องอพยพ แล้วมันถึงค่อยเลยเถิดไปถึงการคิดจัดทำแหล่งน้ำและวางระบบเชื่อมโยงระดับประเทศ ซึ่งเป็นคำตอบสุดท้าย ในกระดาษคำตอบ ที่จำได้เพราะ กรรมการฯ บอกว่า งานในตำแหน่งนี้ คือ เจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการวัดคุณภาพน้ำ ไม่เกี่ยวอะไรกับที่ข้าพเจ้าบรรยายเลย (กรรมแท้!) อย่างไรก็ตาม กรรมการแจ้งว่า ข้าพเจ้าได้คะแนนในส่วนอัตนัยดีเยี่ยม อะไรๆ มักจะเริ่มแบบนี้เสมอ สงบ สันติ คำชื่นชม สำหรับเด็กหนุ่มอายุ 21-22 มันยิ้มไม่หุบ ความฝันความหวังมันอยู่ตรงหน้า แต่แล้วชีวิตมันก็ฟาดเปรี้ยง ดูเหมือนมันจะเริ่มด้วยประโยคแบบ รู้สึกเสียดายและเสียใจ ที่จะ ต้องแจ้งให้ทราบว่า ทั้งสามตำแหน่งมีคนในอยู่แล้ว ข้าพเจ้าจำได้อีกอย่างว่า แม้แต่กรรมการก็รู้สึกแบบไม่อยากจะพูดเหมือนกัน ในส่วนของข้าพเจ้า ก็แบบที่แจ้งให้ทราบมันอยากจะพูดอะไรแต่พูดไม่ออก รู้สึกในหัวมันแบบ โหวงๆ ข้าพเจ้าจำไม่ได้แล้วว่าจบการสัมภาษณ์กันยังไง แต่ดูเหมือนข้าพเจ้าจะยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น แค่เหมือนกับว่า มันรู้อยู่แล้วว่าต้องมีเรื่องแบบนี้ เราโตมาแบบ คนใน เด็กท่าน นายสั่งมา ประมาณนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีกี่คนที่ได้รับการบอกตรงๆ แบบข้าพเจ้า เอาเข้าจริง ข้าพเจ้ากลับรู้สึกว่า ก็ดีเหมือนกัน คือ ไม่มีอะไรติดค้างว่าทำไมข้าพเจ้าถึงไม่ได้ ออกจะรู้สึกขอบคุณที่กรรมการฯ กล้าหาญพอที่จะแจ้งให้ทราบ ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องบอกก็ได้ เหนือสิ่งอื่นใด ข้าพเจ้ากลับมีความมั่นใจมากขึ้น ว่าข้าพเจ้าก็เป็นคนหนึ่งที่มีศักยภาพ เพียงแค่ว่าโอกาสยังมาไม่ถึง อย่างที่บอก ชีวิตในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ไม่มีเวลาให้เราอาลัยอาวรณ์ หรือฟูมฟาย เมื่อเดินออกจากกรมฯ ข้าพเจ้าก็ไม่ได้มีความรู้สึกแบบเสียดายแล้ว แค่กลับที่พัก หาอะไรกิน ตี่นมามีลมหายใจ ก็ออกไปท้าทายวิกฤติต่อ เรื่องก็มีเท่านี้ เครดิตภาพ: ผู้จัดการออนไลน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⭐️การพบกันครั้งแรก คุณหมอ 3 ท่านผู้ตื่นรู้คู่จริยธรรม
    และ 1 นักวิชาการอิสระกับงาน

    🔥ฟังคุณหมอเล่านิทาน (เรื่องที่เล่าบนสื่อทั่วไปไม่ได้) ep1🔥
    วัคซีนทำให้ป่วยเป็นอะไร?
    แก้ไขได้อย่างไร?

    ⭐️พบกันวันที่ 24 พฤศจิกายน โรงแรมใบหยกสกาย ชั้น 17 ห้องเรนโบว์ เวลา 9:00-17:00 (เริ่มลงทะเบียน 8:30)

    ที่นั่งจำกัดเพียง 120 ที่นั่ง
    ราคา 2,222 บาท

    60 ท่านแรกได้ราคาพิเศษเพียง 1,666 บาท

    สนใจซื้อบัตรร่วมงานกดลิ้งค์ 👇
    https://www.thaipithaksith.com/awakening-ep-1

    ดำเนินรายการโดย
    นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    และคุณอดิเทพ จาวลาห์ (ซันนี่) นักวิชาการอิสระ

    https://vt.tiktok.com/ZS2bmsJbR/

    https://vt.tiktok.com/ZS2budhA2/

    รายชื่อ Guest speaker
    ศ.นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์ และสาขาระบบสมอง และระบบภูมิคุ้มกันและติดเชื้อของสมอง
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต

    https://vt.tiktok.com/ZS2budstF/

    ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนัง

    https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851

    ⭐️สถานที่โรงแรมใบหยกสกาย ชั้น 17 ห้องเรนโบว์ เวลา 9:00-17:00 (เริ่มลงทะเบียน 8:30)
    https://maps.app.goo.gl/7SFH7CRL1xkR9XPZ7?g_st=il

    ⭐️เว๊บไซด์ “คนไทยพิทักษ์สิทธิ์”
    www.thaipithaksith.com

    ⭐️กดติดตาม twitter หรือ x ของคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ในช่อง platform นี้ขอสักประมาณ 500 ติดตาม ขอบคุณครับ
    https://x.com/Thaipithaksith?t=Tq54plOEwFL_-4ysGa3kSA&s=09
    ⭐️การพบกันครั้งแรก คุณหมอ 3 ท่านผู้ตื่นรู้คู่จริยธรรม และ 1 นักวิชาการอิสระกับงาน 🔥ฟังคุณหมอเล่านิทาน (เรื่องที่เล่าบนสื่อทั่วไปไม่ได้) ep1🔥 วัคซีนทำให้ป่วยเป็นอะไร? แก้ไขได้อย่างไร? ⭐️พบกันวันที่ 24 พฤศจิกายน โรงแรมใบหยกสกาย ชั้น 17 ห้องเรนโบว์ เวลา 9:00-17:00 (เริ่มลงทะเบียน 8:30) ที่นั่งจำกัดเพียง 120 ที่นั่ง ราคา 2,222 บาท 60 ท่านแรกได้ราคาพิเศษเพียง 1,666 บาท สนใจซื้อบัตรร่วมงานกดลิ้งค์ 👇 https://www.thaipithaksith.com/awakening-ep-1 ดำเนินรายการโดย นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณอดิเทพ จาวลาห์ (ซันนี่) นักวิชาการอิสระ https://vt.tiktok.com/ZS2bmsJbR/ https://vt.tiktok.com/ZS2budhA2/ รายชื่อ Guest speaker ศ.นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์ และสาขาระบบสมอง และระบบภูมิคุ้มกันและติดเชื้อของสมอง ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต https://vt.tiktok.com/ZS2budstF/ ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนัง https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851 ⭐️สถานที่โรงแรมใบหยกสกาย ชั้น 17 ห้องเรนโบว์ เวลา 9:00-17:00 (เริ่มลงทะเบียน 8:30) https://maps.app.goo.gl/7SFH7CRL1xkR9XPZ7?g_st=il ⭐️เว๊บไซด์ “คนไทยพิทักษ์สิทธิ์” www.thaipithaksith.com ⭐️กดติดตาม twitter หรือ x ของคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ในช่อง platform นี้ขอสักประมาณ 500 ติดตาม ขอบคุณครับ https://x.com/Thaipithaksith?t=Tq54plOEwFL_-4ysGa3kSA&s=09
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลโลก
    รับฟ้อง "พญาอินทรีย์" ปล่อยโควิด-19
    ในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย โดย ผู้ตัดต่อพันธุกรรมเชื้อโควิด 19 คือ พญาอินทรีย์เอง...
    **************
    โควิด19 มาจากฝีมือมนุษย์
    มีแหล่งที่มาจากห้องแลป ไวรัส P3 รัฐคาโรไลน่าเหนือของอเมริกา!!!
    นาย Greg Roubini ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองชื่อดังของอเมริกาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทีวีที่ 1 ของอเมริกาได้เป็นผู้เผยความลับนี้
    นาย Greg เผยว่า ไวรัสโควิด19 ได้รับการออกแบบทางพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ

    - มีแหล่งที่มาจากห้องแลป BSL-3 รัฐ คาโรไลน่าเหนือ พัฒนาโดย ศาสตราจารย์ ราล์ฟ บาร์ริก
    - พร้อมกันนั้น เขาระบุว่า ไวรัสถูก “รัฐบาลมืด” จากรัฐคาโรไลน่าเหนือส่งไปแพร่ระบาดในประเทศจีน อิตาลี และอเมริกาทั้งประเทศ
    ##..ก่อนหน้านี้ในวันที่ 15 มีนาคม นายเกรก ก็ได้ทวิตข้อความถามนายทรัมป์ว่า
    - เหตุใดจึงไม่บอกประชาชนอเมริกาว่า ไวรัสผลิตจากอเมริกา? ทำไมไม่อธิบายให้ชัดเจนว่า ตัวไวรัสเองแท้จริงแล้ว คือ อาวุธชีวภาพ?

    **บังเอิญ ศาสตราจารย์ Luc Montanier ผู้ได้รับรางวัลโนเบลเนื่องจากเป็นผู้ค้นพบไวรัสเอชไอวีได้เปิดเผยกับนักข่าวชาวฝรั่งเศสเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า

    - โควิด19 ไม่ใช่มาจากธรรมชาติ หากแต่ได้รับการพัฒนาอย่างประณีตโดยนักวิทยาศาสตร์ชีวโมเลกุล
    ***ศาสตราจารย์ Luc Montanier ยืนยันว่า เป็นเรื่องเด่นชัด ที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้นำเชื้อไวรัสที่มาจาก

    ค้างคาวเข้าไปเพิ่ม

    ความเข้มข้นของเชื้อเอชไอวีเข้าไปด้วย
    - นี่คือ การวางยาพิษที่ชั่วร้ายที่สุด ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก
    ***นั่นคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 สุดโหด ข่าวเกี่ยวกับ “เชื้อโควิด19 เป็นอาวุธชีวภาพ ที่มาจากการตัดต่อพันธุกรรมโดยฝีมือมนุษย์” มีมาโดยตลอด
    ***นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพยายามทำงานหาแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสโดยนักวิทยาศาสตร์อินเดียค้นพบว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่

    มีเชื้อเอชไอวีแทรกอยู่ด้วย นี่แสดงให้เห็นว่า ไวรัสตัวนี้มาจากการตัดต่อทางพันธุกรรม
    ***กลางเดือนมีนาคม นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์พบว่าเชื้อไวรัสโควิด19 จากผู้ป่วยรายหนึ่งในรัฐวอชิงตันพบว่า วัฏจักรวิวัฒนาการของมันมียาวนานกว่าครึ่งปีมาแล้ว พร้อมๆ กับการศึกษาลึกซึ้งลงไปว่า ประเทศต่างๆในโลกไม่น้อยได้เบนสายตาแห่งความสงสัยไปที่อเมริกา ประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่น อิตาลี ออสเตรเลีย ล้วนมีผู้ป่วยทียืนยันว่า มีแหล่งที่มาจากอเมริกาทั้งสิ้น
    *** ในเวลาต่อมา ROBERT REDFIELD ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกายอมรับว่า ผู้ป่วยตายจากไข้หวัดใหญ่ในเดือนกันยายน 2019 มีอยู่ไม่น้อยที่ตายจากเชื้อไวรัสโควิด19 นี้
    - ต่อปัญหานี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน นายจ้าวลี่เจียงได้ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ถามผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ว่า
    ผู้ป่วยรายแรกของอเมริกาเกิดขึ้นตอนไหน? ชื่ออะไร? อยู่โรงพยาบาลอะไร? และเป็นไปได้อย่างมาก ที่ทหารอเมริกานำเชื้อมาแพร่ที่อู่ฮั่น.
    >>>>อเมริกาต้องโปร่งใส ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ให้โลกได้รู้ความจริง
    **ด้วยความพยายามอย่างสุดความสามารถของคณะผู้สื่อข่าวคณะหนึ่งแห่งรัฐเวอร์จิเนีย ในที่สุดก็ได้ตามหาผู้ป่วยรายแรกจนพบ นั่นก็คือ ทหารอเมริกา ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทหารที่อู่ฮั่นของจีนในเดือนตุลาคม 2019 นางมีชื่อว่า "Maatje Benassi"
    >>>นายทหารหญิงของอเมริกาคนนี้ มีภูมิหลังพิเศษตรงที่นางมีความเกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการชีวเคมี P4 ของนาย FORT DETRICK
    *** คนในครอบครัวก็มีหลายคน ที่ยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อในจำนวนนี้ มีอยู่คนหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายแรกในฮอลแลนด์ ก่อนติดเชื้อเขาเคยไปในเขตพื้นที่ลอมบาร์เดียของอิตาลี ทำให้เขตพื้นที่นั้นเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19
    ***มาถึงตรงนี้ หลักฐานเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด19 มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกาอย่างแน่นอน มีห่วงโซ่เชื่อมร้อยอย่างครบถ้วน ทหารพิเศษ 5 คนที่อเมริกาส่งเครื่องบินมารับกลับไปภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสและห้องแลป ที่ถูกปิดตาย ก็สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้แล้ว
    หากว่ากันตามตรรกะของนายทรัมป์ เราก็สามารถเรียกเชื้อโควิด19 เป็น "ไวรัสนอร์ธคาโรไลนา" (Virus North Carolina) หรือ "ไวรัสอเมริกา"
    ***ในขณะที่หลักฐานทั้งหมดต่างชี้ไปที่อเมริกา
    เจ้าหน้าที่ชั้นสูงของอเมริกายอมรับอย่างเปิดเผยว่า เชื้อโควิด19 ไม่จัดอยู่ในชั้นของโรคระบาด แต่จัดอยู่ในชั้นของอาวุธชีวภาพ

    >>># ”ความไร้ยางอายทำให้โลกตะลึงและได้เพิ่มข้อน่าสงสัยว่า อเมริกาเป็นผู้วางยาพิษคนทั้งโลก เพื่อขายวัคซีนป้องกันมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ขาดดุลการค้า”
    >>>เรื่องทั้งหมดได้ปรากฏชัดเจนแล้ว แต่ทว่าทรัมป์ยังพยายามโยนบาปอย่างไม่คิดชีวิตให้จีนรับเคราะห์แทน อย่างน่ารังเกลียดที่สุด
    ***เชื้อโควิด19 ได้ก่อให้เกิดภัยพิบัติและความสูญเสียที่ยากจะประเมินได้ บาปนี้มันใหญ่หลวงเกินกว่าจะโยนออกไปแล้วโทษคนอื่น
    ***ยังมีข้อน่าสงสัย ที่นายเกรกได้ตีแผ่ออกมา นายราล์ฟ บาร์ริค ผู้รับผิดชอบพัฒนาไวรัส รัฐคาโรไลนาเหนือคนนี้เป็นใคร
    *** นาย บาร์ริค มาจากมหาวิทยาลัยคาโรไลนาเหนือ เขาเป็นหัวหน้านักไวรัสวิทยาที่เปลี่ยนโฉมใหม่ของโรคซาร์สโคโรนาไวรัสโดยการตัดต่อยีนในปี 2015
    - และเขายังเป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาไวรัสดังกล่าวอีกด้วย ที่น่าตกใจก็คือ เขาเป็นบุคคลที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาทางคลินิกของยาวิเศษ "RADEXIVIR" เป็นไป
    อย่างที่โบราณว่าไว้ คนที่วางยาพิษก่อนอื่นต้องเตรียม# ยาแก้พิษไว้ก่อนเสมอ!!!
    - ยา RIDESIVIR ภายหลังจากปฏิบัติการทางคลินิกและถูกตั้งข้อสงสัยโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของมันจึงทำให้ตกกระป๋องไปพร้อมๆ กับการแพร่ระบาดที่ลุกลามออกไปทั่วโลก
    ***อเมริกากลายเป็น “ศูนย์กลางการล้างโลก” ไปแล้ว
    - การแพร่ระบาดในช่วงแรกของอเมริกา ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ให้ความสาคัญกับมันเลยโดยมองว่า เป็นไข้หวัดใหญ่ที่หนักกว่าปกติเท่านั้นเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าคนของตนเองผลิตมันขึ้นมาจนกระทั่งเพื่อนรักของเขา คือ "นายสแตนลี่ย์ เชล่า" เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งนิวยอร์กเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด19
    >>>>ถึงเวลานี้จีนได้ฟ้องร้องต่อศาลโลกว่า อเมริกาเป็นต้นเหตุในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างตั้งใจ เพื่อทำลายล้างจีนและ ปชช ทั่วโลก***
    >>>ตอนนี้คงต้องรอดูการสืบสวนของศาลโลกว่า จะตัดสินออกมาเช่นไร? ซึ่งถึง ณ เวลานี้ ทรัมป์เริ่มรู้สึกตัวและให้ความสาคัญในระดับสูง #แต่ว่าสายไปเสียแล้ว!!!

    **Ny Ny*
    ขอบคุณข้อมูลจาก

    นพ.ขวัญชัย เสธนันท์
    ศาลโลก รับฟ้อง "พญาอินทรีย์" ปล่อยโควิด-19 ในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิดเผย โดย ผู้ตัดต่อพันธุกรรมเชื้อโควิด 19 คือ พญาอินทรีย์เอง... ************** โควิด19 มาจากฝีมือมนุษย์ มีแหล่งที่มาจากห้องแลป ไวรัส P3 รัฐคาโรไลน่าเหนือของอเมริกา!!! นาย Greg Roubini ผู้เชี่ยวชาญด้านข่าวกรองชื่อดังของอเมริกาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทีวีที่ 1 ของอเมริกาได้เป็นผู้เผยความลับนี้ นาย Greg เผยว่า ไวรัสโควิด19 ได้รับการออกแบบทางพันธุกรรมเพื่อใช้เป็นอาวุธชีวภาพ - มีแหล่งที่มาจากห้องแลป BSL-3 รัฐ คาโรไลน่าเหนือ พัฒนาโดย ศาสตราจารย์ ราล์ฟ บาร์ริก - พร้อมกันนั้น เขาระบุว่า ไวรัสถูก “รัฐบาลมืด” จากรัฐคาโรไลน่าเหนือส่งไปแพร่ระบาดในประเทศจีน อิตาลี และอเมริกาทั้งประเทศ ##..ก่อนหน้านี้ในวันที่ 15 มีนาคม นายเกรก ก็ได้ทวิตข้อความถามนายทรัมป์ว่า - เหตุใดจึงไม่บอกประชาชนอเมริกาว่า ไวรัสผลิตจากอเมริกา? ทำไมไม่อธิบายให้ชัดเจนว่า ตัวไวรัสเองแท้จริงแล้ว คือ อาวุธชีวภาพ? **บังเอิญ ศาสตราจารย์ Luc Montanier ผู้ได้รับรางวัลโนเบลเนื่องจากเป็นผู้ค้นพบไวรัสเอชไอวีได้เปิดเผยกับนักข่าวชาวฝรั่งเศสเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า - โควิด19 ไม่ใช่มาจากธรรมชาติ หากแต่ได้รับการพัฒนาอย่างประณีตโดยนักวิทยาศาสตร์ชีวโมเลกุล ***ศาสตราจารย์ Luc Montanier ยืนยันว่า เป็นเรื่องเด่นชัด ที่เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้นำเชื้อไวรัสที่มาจาก ค้างคาวเข้าไปเพิ่ม ความเข้มข้นของเชื้อเอชไอวีเข้าไปด้วย - นี่คือ การวางยาพิษที่ชั่วร้ายที่สุด ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก ***นั่นคือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 สุดโหด ข่าวเกี่ยวกับ “เชื้อโควิด19 เป็นอาวุธชีวภาพ ที่มาจากการตัดต่อพันธุกรรมโดยฝีมือมนุษย์” มีมาโดยตลอด ***นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกพยายามทำงานหาแหล่งที่มาของเชื้อไวรัสโดยนักวิทยาศาสตร์อินเดียค้นพบว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ มีเชื้อเอชไอวีแทรกอยู่ด้วย นี่แสดงให้เห็นว่า ไวรัสตัวนี้มาจากการตัดต่อทางพันธุกรรม ***กลางเดือนมีนาคม นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์พบว่าเชื้อไวรัสโควิด19 จากผู้ป่วยรายหนึ่งในรัฐวอชิงตันพบว่า วัฏจักรวิวัฒนาการของมันมียาวนานกว่าครึ่งปีมาแล้ว พร้อมๆ กับการศึกษาลึกซึ้งลงไปว่า ประเทศต่างๆในโลกไม่น้อยได้เบนสายตาแห่งความสงสัยไปที่อเมริกา ประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่น อิตาลี ออสเตรเลีย ล้วนมีผู้ป่วยทียืนยันว่า มีแหล่งที่มาจากอเมริกาทั้งสิ้น *** ในเวลาต่อมา ROBERT REDFIELD ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกายอมรับว่า ผู้ป่วยตายจากไข้หวัดใหญ่ในเดือนกันยายน 2019 มีอยู่ไม่น้อยที่ตายจากเชื้อไวรัสโควิด19 นี้ - ต่อปัญหานี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน นายจ้าวลี่เจียงได้ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ถามผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ว่า ผู้ป่วยรายแรกของอเมริกาเกิดขึ้นตอนไหน? ชื่ออะไร? อยู่โรงพยาบาลอะไร? และเป็นไปได้อย่างมาก ที่ทหารอเมริกานำเชื้อมาแพร่ที่อู่ฮั่น. >>>>อเมริกาต้องโปร่งใส ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ให้โลกได้รู้ความจริง **ด้วยความพยายามอย่างสุดความสามารถของคณะผู้สื่อข่าวคณะหนึ่งแห่งรัฐเวอร์จิเนีย ในที่สุดก็ได้ตามหาผู้ป่วยรายแรกจนพบ นั่นก็คือ ทหารอเมริกา ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาทหารที่อู่ฮั่นของจีนในเดือนตุลาคม 2019 นางมีชื่อว่า "Maatje Benassi" >>>นายทหารหญิงของอเมริกาคนนี้ มีภูมิหลังพิเศษตรงที่นางมีความเกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการชีวเคมี P4 ของนาย FORT DETRICK *** คนในครอบครัวก็มีหลายคน ที่ยืนยันว่า ผู้ติดเชื้อในจำนวนนี้ มีอยู่คนหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อรายแรกในฮอลแลนด์ ก่อนติดเชื้อเขาเคยไปในเขตพื้นที่ลอมบาร์เดียของอิตาลี ทำให้เขตพื้นที่นั้นเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 ***มาถึงตรงนี้ หลักฐานเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด19 มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกาอย่างแน่นอน มีห่วงโซ่เชื่อมร้อยอย่างครบถ้วน ทหารพิเศษ 5 คนที่อเมริกาส่งเครื่องบินมารับกลับไปภายหลังการแพร่ระบาดของไวรัสและห้องแลป ที่ถูกปิดตาย ก็สามารถนำมาปะติดปะต่อกันได้แล้ว หากว่ากันตามตรรกะของนายทรัมป์ เราก็สามารถเรียกเชื้อโควิด19 เป็น "ไวรัสนอร์ธคาโรไลนา" (Virus North Carolina) หรือ "ไวรัสอเมริกา" ***ในขณะที่หลักฐานทั้งหมดต่างชี้ไปที่อเมริกา เจ้าหน้าที่ชั้นสูงของอเมริกายอมรับอย่างเปิดเผยว่า เชื้อโควิด19 ไม่จัดอยู่ในชั้นของโรคระบาด แต่จัดอยู่ในชั้นของอาวุธชีวภาพ >>># ”ความไร้ยางอายทำให้โลกตะลึงและได้เพิ่มข้อน่าสงสัยว่า อเมริกาเป็นผู้วางยาพิษคนทั้งโลก เพื่อขายวัคซีนป้องกันมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ขาดดุลการค้า” >>>เรื่องทั้งหมดได้ปรากฏชัดเจนแล้ว แต่ทว่าทรัมป์ยังพยายามโยนบาปอย่างไม่คิดชีวิตให้จีนรับเคราะห์แทน อย่างน่ารังเกลียดที่สุด ***เชื้อโควิด19 ได้ก่อให้เกิดภัยพิบัติและความสูญเสียที่ยากจะประเมินได้ บาปนี้มันใหญ่หลวงเกินกว่าจะโยนออกไปแล้วโทษคนอื่น ***ยังมีข้อน่าสงสัย ที่นายเกรกได้ตีแผ่ออกมา นายราล์ฟ บาร์ริค ผู้รับผิดชอบพัฒนาไวรัส รัฐคาโรไลนาเหนือคนนี้เป็นใคร *** นาย บาร์ริค มาจากมหาวิทยาลัยคาโรไลนาเหนือ เขาเป็นหัวหน้านักไวรัสวิทยาที่เปลี่ยนโฉมใหม่ของโรคซาร์สโคโรนาไวรัสโดยการตัดต่อยีนในปี 2015 - และเขายังเป็นผู้นำในการวิจัยและพัฒนาไวรัสดังกล่าวอีกด้วย ที่น่าตกใจก็คือ เขาเป็นบุคคลที่รับผิดชอบด้านการพัฒนาทางคลินิกของยาวิเศษ "RADEXIVIR" เป็นไป อย่างที่โบราณว่าไว้ คนที่วางยาพิษก่อนอื่นต้องเตรียม# ยาแก้พิษไว้ก่อนเสมอ!!! - ยา RIDESIVIR ภายหลังจากปฏิบัติการทางคลินิกและถูกตั้งข้อสงสัยโดยผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของมันจึงทำให้ตกกระป๋องไปพร้อมๆ กับการแพร่ระบาดที่ลุกลามออกไปทั่วโลก ***อเมริกากลายเป็น “ศูนย์กลางการล้างโลก” ไปแล้ว - การแพร่ระบาดในช่วงแรกของอเมริกา ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้ให้ความสาคัญกับมันเลยโดยมองว่า เป็นไข้หวัดใหญ่ที่หนักกว่าปกติเท่านั้นเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าคนของตนเองผลิตมันขึ้นมาจนกระทั่งเพื่อนรักของเขา คือ "นายสแตนลี่ย์ เชล่า" เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งนิวยอร์กเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด19 >>>>ถึงเวลานี้จีนได้ฟ้องร้องต่อศาลโลกว่า อเมริกาเป็นต้นเหตุในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างตั้งใจ เพื่อทำลายล้างจีนและ ปชช ทั่วโลก*** >>>ตอนนี้คงต้องรอดูการสืบสวนของศาลโลกว่า จะตัดสินออกมาเช่นไร? ซึ่งถึง ณ เวลานี้ ทรัมป์เริ่มรู้สึกตัวและให้ความสาคัญในระดับสูง #แต่ว่าสายไปเสียแล้ว!!! **Ny Ny* ขอบคุณข้อมูลจาก นพ.ขวัญชัย เสธนันท์
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • บันทึกเตือนความจำ
    ภัยธรรมชาติที่เกิดจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงสุดขั้วนำมาซึ่งปริมาณน้ำฝนที่ไหลหลั่งลงสู่แหล่งน้ำ จำนวนมหาศาล ไหลบ่าจากป่าสู่เมืองในที่ลุ่มต่ำ ในทางกลับกันเชื่อแน่ว่าไม่ช้าก็เร็วเราน่าจะเจอกับเหตุการณ์ในขั้วตรงกันข้ามคือแล้ง ร้อนสุดโต่งแน่

    กันยายนต่อเนื่องถึงตุลาคม ฝนตกต่อเนื่องจนเกิดมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากต้นน้ำแม่แตง ไหลเข้าสู่ลำน้ำแม่แตง สายน้ำแห่งการท่องเที่ยวธรรมชาติของเชียงใหม่ ที่ตลอดสองข้างลำน้ำมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งปางช้างต่างๆเรียงรายตลอดลำน้ำแม่แตง ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจากรายงานของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (๒๕๕๘-๒๕๖๗) พบว่ามีปางช้างถึง ๔๙ ปาง (ช้างจำนวน ๕๔๖ เชือก)

    เหตุระทึกเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บ่ายวันพฤหัสที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งของลำน้ำแม่แตงอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันศุกร์ น้ำเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว ช้างส่วนใหญ่ถูกอพยพนำขึ้นไปผูกล่ามไว้ในที่สูง ในขณะที่ปางช้างขนาดใหญ่ (มีช้างมากกว่าหนึ่งร้อยเชือก) ของมูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อม ยังคงสาละวนและพยายามขนย้ายช้างและสัตว์อื่นๆอีกนับพันอาทิ สุนัข แมว แพะ โค กระบือ และสุกร ซึ่งยังคงไม่ทันการณ์ เป็นผลให้มวลน้ำจำนวนมหึมาไหลเข้าสู่ปางช้าง (ระดับน้ำสูงมากกว่า ๑.๕-๒.๐ เมตร เมื่อประเมินด้วยสายตา) การขนย้ายช้างนับร้อย เป็นเรื่องที่ยากและสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียมากทั้งชีวิตคนและช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช้างเหล่านี้มิได้ถูกฝึกหรือสื่อสารกับคนเลี้ยงอย่างใกล้ชิดมาก่อน เราเริ่มจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะพอช่วยเหลือสนับสนุนอะไรได้บ้าง

    คณะของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ จากการร้องขอของเจ้าหน้าที่มูลนิธิทางโทรศัพท์ โดยเบื้องต้นรับทราบมาว่าให้ช่วยเคลื่อนย้ายและดูแลช้างเพศผู้ที่ยังอยู่ในคอกแต่ไม่สามารถออกมาได้ ในขณะที่ระดับน้ำกำลงัเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คณะทำงานถูกตามตัว รวมทีมและประชุมอย่างเร่งด่วน และออกเดินทางในช่วงสายของวันนั้น
    เมื่อแรกไปถึงพบว่าเส้นทางเข้าถึงปางช้างถูกตัดขาด ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก การติดต่อด้วยโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ ต้องสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารคลื่นสั้นเท่านั้น คณะจึงต้องรอจนถึงบ่ายแก่ๆจึงได้เรือจากหน่วยกู้ภัย จ.กาฬสินธิ์ ข้ามน้ำเพื่อไปดูช้างตัวผู้ในคอกต่างๆเพื่อประเมินสถานการณ์ เราพบว่าช้างตัวผู้ยังอยู่ครบทั้งสิบเชือก ในสภาพที่ช้างลอยคออยู่ภายในคอก แต่ที่แปลกใจคือยังมีช้างตัวเมียอีกหลายสิบเชือกติดค้างอยู่ในคอกด้วย บ้างก็พิการขาเป๋ ตาบอด และยังทราบอีกว่าช้างอีกหลายเชือกได้สูญหายลอยไปกับน้ำด้วย เมื่อช่วงก่อนหน้า ซึ่งต่อมาพบ
    ซากของช้างฟ้าใส(วันเฉลิม)และพลอยทอง เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสีย
    คณะจึงตัดสินใจแบ่งทีมงานออกเป็น ๒ ทีมเพื่อช่วยเหลือช้างให้ครอบคลุมทั้งสองกลุ่ม

    การดำเนินการในภาวะวิกฤติและเร่งด่วนเช่นนี้
    โดยหลักการแล้ว หากพบว่าช้างกับควาญสามารถสื่อสารกันได้ก็จะให้ควาญช้างเป็นผู้นำและกำหนดทิศทางการเดินของช้างเพื่อความปลอดภัย เพราะช้างเองมักเดินเฉพาะเส้นทางที่เคยชิน ซึ่งในกรณีนี้ช้างมักคุ้นชินกับการเดินแบบอิสระในทุ่งกว้างที่อยู่ติดกับน้ำแม่แตง ที่กำลังไหลเชี่ยว นับว่าอันตรายอย่างยิ่ง ฉะนั้นจึงจำเป็นที่ช้างเหล่านี้จะต้องมีควาญเป็นผู้ควบคุมทิศทาง

    ในกรณีช้างเพศเมียหรือช้างที่ไม่ดุร้าย
    หากช้างกับควาญมิได้มีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน หรือมีแต่เพียงเล็กน้อย ในทางทฤษฎีที่มีการเคลื่อนย้ายช้างป่ามักวางยาซึมและนำทางด้วยผ้าพรางแสงตลอดทางเดินเพื่อนำช้างไปยังจุดที่ต้องการ แต่ในกรณีนี้มีน้ำท่วมสูงจึงค่อนข้างเสี่ยงที่จะวางยาซึม (ยาซึมช้างมีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทำให้งวงตกลงสู่พื้น) โดยในวันนั้นคณะทำงานที่ประกอบด้วยสัตวแพทย์ ควาญช้างจากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ควาญพี่เบิ้ม(ปางที่อยู่ติดกัน) และภัทรฟาร์ม ซึ่งมีความชำนาญ ร่วมกับควาญช้างของมูลนิธิช่วยกันควบคุมและกำหนดเส้นทางด้วยเชือกให้ช้างเดินไปยังจุดที่ปลอดภัย แต่ก็ทุลักทุเลพอควรด้วยเพราะควาญกับช้างสื่อสารกันแทบไม่รู้เรื่อง วันนั้นทีมเราช่วยเหลือช้างตัวเมียได้บางส่วนจนกระทั่งมืดค่ำจึงยุติภารกิจในเวลา ๑๙.๓๐ น.

    ในกรณีช้างเพศผู้ เราไม่สามารถวางยาซึมช้างในขณะที่ยังอยู่ในน้ำได้ ซึ่งจากข้อมูลที่ทีมงานได้รับพบว่าช้างทุกเชือกไม่เคยผ่านการฝึกและบางเชือกมีประวัติทำร้ายคนมาก่อน จึงเกิดคำถามว่าหากเคลื่อนย้ายออกมาได้แล้วจะนำช้างไปผูกล่ามอย่างไร ที่ไหน ทั้งในภาวะซึมหรือปกติ ด้วยเพราะช้างไม่คุ้นเคยกับคนหรือช้างใดๆ ช้างแต่ละเชือกอยุ่ตัวเดียวในคอกมานาน ซึ่งจากการประเมินพบว่าช้างทุกเชือกยังมีสภาพร่างกายปกติ (ยกเว้นพลายขุนเดชที่บาดเจ็บที่ขาหน้า) ดังนั้นจึงใช้วิธีวางแท่นพยุงให้ช้างสามารถใช้งวงยึดพยุงมิให้จมน้ำ หากพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะจากประสบการณ์ตรงของคณะทำงานพบว่าช้างมักลอยน้ำและอยู่ในน้ำได้นานถึง ๒ วัน ๑ คืนในสภาพน้ำนิ่ง โดยไม่เกิดอันตราย ซึ่งจากสภาพช้างภายในคอกพบว่ากระแสน้ำยังคงไหลแต่ไม่เชี่ยวมากนักเมื่อเทียบกับในลำน้ำ ช้างน่าจะยังพอพยุงตัวเองไว้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง ด้วยเพราะธรรมชาติของน้ำทางภาคเหนือมักมาเร็วไปเร็ว ไม่น่าจะท่วมนาน เราจึงกำหนดให้ทำแพต้นกล้วยไว้ให้ช้างเพื่อช่วยพยุง ต้นกล้วยยังเป็นอาหารและมีน้ำช่วยประทังชีวิตให้ช้างได้อีกด้วย ทั้งนี้ให้เฝ้าระวังพลายขุนเดชเป็นพิเศษ
    โชคดีในช่วงเย็นของวันเดียวกันระดับน้ำเริ่มลดระดับลง เป็นสัญญาณว่าน้ำน่าจะลดลงเป็นปกติในไม่ช้า

    วันรุ่งขึ้นระดับน้ำลดลง เหลือเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ช้างเพศเมียถูกเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูง ช้างตัวผู้ยังอยู่ในคอกของตัวเอง แต่ทุกตัวยังมีชีวิตอยู่แม้บางเชือกอาจแสดงอาการอ่อนเพลียบ้าง ดังนั้นการฟื้นฟูสุขภาพกาย และสภาวะจิตใจของช้างและควาญจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโรคต่างๆที่มาหลังน้ำท่วม ก็ดี น้ำป่าที่อาจเข้าสู่ร่างกายช้างในช่วงก่อนหน้าทั้งทางเดินหายใจ ทางเดินอาหารก็ดี ดินโคลนที่มีรสชาดเย้ายวนต่อการลิ้มลองของช้างก็ดี หรือแม้กระทั่งอาหารที่อาจปนเปื้อน ที่ล้วนนำมาซึ่งความเจ็บป่วยของช้างเหล่านี้ได้ และสภาพจิตใจของช้างที่อาจตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การไม่คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เหล่านี้จำเป็นต้องฟื้นฟูและเฝ้าระวังกันต่อไป

    สรุปยอดรวมช้างในปางก่อนเกิดเหตุ จำนวน ๑๑๘ เชือก ภายหลังน้ำลด พบช้างเพศเมีย ๑๐๖ เชือก เป็นช้างเพศผู้ ๑๐ เชือก สูญหายและเสียชีวิต ๒ เชือก

    วันนี้ฝนตกเบาบางลงแล้ว แต่หากเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก การเรียนรู้บทเรียนและเตรียมแผนเผชิญเหตุทั้งของปางและผู้เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ต้องจัดทำ
    แม้ในวันนี้ช้างบ้านของไทยจะมีสถานะเป็นทรัพย์สินของผู้ถือครองตามกฎหมาย (พรบ.สัตว์พาหนะ ) แต่จากเหตุการณ์หลายๆครั้งที่ผ่านมา ล้วนกระทบจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ หลายส่วนยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองติดตามอย่างใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งที่ทุกท่านพึงตระหนักให้ดีว่า "ช้าง" มีสถานะยิ่งกว่าทรัพย์สิน แต่เขาคือสิ่งที่มีคุณค่า ที่สูงค่าอันประเมินมูลค่ามิได้ ซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยเราทุกคน

    ปล. ขอบคุณภาพมุมสูงจากคุณน้ำหนึ่ง

    https://www.facebook.com/share/p/zPKFtdBiFkUnLwdL/
    บันทึกเตือนความจำ ภัยธรรมชาติที่เกิดจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงสุดขั้วนำมาซึ่งปริมาณน้ำฝนที่ไหลหลั่งลงสู่แหล่งน้ำ จำนวนมหาศาล ไหลบ่าจากป่าสู่เมืองในที่ลุ่มต่ำ ในทางกลับกันเชื่อแน่ว่าไม่ช้าก็เร็วเราน่าจะเจอกับเหตุการณ์ในขั้วตรงกันข้ามคือแล้ง ร้อนสุดโต่งแน่ กันยายนต่อเนื่องถึงตุลาคม ฝนตกต่อเนื่องจนเกิดมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากต้นน้ำแม่แตง ไหลเข้าสู่ลำน้ำแม่แตง สายน้ำแห่งการท่องเที่ยวธรรมชาติของเชียงใหม่ ที่ตลอดสองข้างลำน้ำมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งปางช้างต่างๆเรียงรายตลอดลำน้ำแม่แตง ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจากรายงานของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (๒๕๕๘-๒๕๖๗) พบว่ามีปางช้างถึง ๔๙ ปาง (ช้างจำนวน ๕๔๖ เชือก) เหตุระทึกเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บ่ายวันพฤหัสที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งของลำน้ำแม่แตงอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันศุกร์ น้ำเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว ช้างส่วนใหญ่ถูกอพยพนำขึ้นไปผูกล่ามไว้ในที่สูง ในขณะที่ปางช้างขนาดใหญ่ (มีช้างมากกว่าหนึ่งร้อยเชือก) ของมูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อม ยังคงสาละวนและพยายามขนย้ายช้างและสัตว์อื่นๆอีกนับพันอาทิ สุนัข แมว แพะ โค กระบือ และสุกร ซึ่งยังคงไม่ทันการณ์ เป็นผลให้มวลน้ำจำนวนมหึมาไหลเข้าสู่ปางช้าง (ระดับน้ำสูงมากกว่า ๑.๕-๒.๐ เมตร เมื่อประเมินด้วยสายตา) การขนย้ายช้างนับร้อย เป็นเรื่องที่ยากและสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียมากทั้งชีวิตคนและช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช้างเหล่านี้มิได้ถูกฝึกหรือสื่อสารกับคนเลี้ยงอย่างใกล้ชิดมาก่อน เราเริ่มจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะพอช่วยเหลือสนับสนุนอะไรได้บ้าง คณะของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ จากการร้องขอของเจ้าหน้าที่มูลนิธิทางโทรศัพท์ โดยเบื้องต้นรับทราบมาว่าให้ช่วยเคลื่อนย้ายและดูแลช้างเพศผู้ที่ยังอยู่ในคอกแต่ไม่สามารถออกมาได้ ในขณะที่ระดับน้ำกำลงัเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คณะทำงานถูกตามตัว รวมทีมและประชุมอย่างเร่งด่วน และออกเดินทางในช่วงสายของวันนั้น เมื่อแรกไปถึงพบว่าเส้นทางเข้าถึงปางช้างถูกตัดขาด ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก การติดต่อด้วยโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ ต้องสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารคลื่นสั้นเท่านั้น คณะจึงต้องรอจนถึงบ่ายแก่ๆจึงได้เรือจากหน่วยกู้ภัย จ.กาฬสินธิ์ ข้ามน้ำเพื่อไปดูช้างตัวผู้ในคอกต่างๆเพื่อประเมินสถานการณ์ เราพบว่าช้างตัวผู้ยังอยู่ครบทั้งสิบเชือก ในสภาพที่ช้างลอยคออยู่ภายในคอก แต่ที่แปลกใจคือยังมีช้างตัวเมียอีกหลายสิบเชือกติดค้างอยู่ในคอกด้วย บ้างก็พิการขาเป๋ ตาบอด และยังทราบอีกว่าช้างอีกหลายเชือกได้สูญหายลอยไปกับน้ำด้วย เมื่อช่วงก่อนหน้า ซึ่งต่อมาพบ ซากของช้างฟ้าใส(วันเฉลิม)และพลอยทอง เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสีย คณะจึงตัดสินใจแบ่งทีมงานออกเป็น ๒ ทีมเพื่อช่วยเหลือช้างให้ครอบคลุมทั้งสองกลุ่ม การดำเนินการในภาวะวิกฤติและเร่งด่วนเช่นนี้ โดยหลักการแล้ว หากพบว่าช้างกับควาญสามารถสื่อสารกันได้ก็จะให้ควาญช้างเป็นผู้นำและกำหนดทิศทางการเดินของช้างเพื่อความปลอดภัย เพราะช้างเองมักเดินเฉพาะเส้นทางที่เคยชิน ซึ่งในกรณีนี้ช้างมักคุ้นชินกับการเดินแบบอิสระในทุ่งกว้างที่อยู่ติดกับน้ำแม่แตง ที่กำลังไหลเชี่ยว นับว่าอันตรายอย่างยิ่ง ฉะนั้นจึงจำเป็นที่ช้างเหล่านี้จะต้องมีควาญเป็นผู้ควบคุมทิศทาง ในกรณีช้างเพศเมียหรือช้างที่ไม่ดุร้าย หากช้างกับควาญมิได้มีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน หรือมีแต่เพียงเล็กน้อย ในทางทฤษฎีที่มีการเคลื่อนย้ายช้างป่ามักวางยาซึมและนำทางด้วยผ้าพรางแสงตลอดทางเดินเพื่อนำช้างไปยังจุดที่ต้องการ แต่ในกรณีนี้มีน้ำท่วมสูงจึงค่อนข้างเสี่ยงที่จะวางยาซึม (ยาซึมช้างมีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทำให้งวงตกลงสู่พื้น) โดยในวันนั้นคณะทำงานที่ประกอบด้วยสัตวแพทย์ ควาญช้างจากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ควาญพี่เบิ้ม(ปางที่อยู่ติดกัน) และภัทรฟาร์ม ซึ่งมีความชำนาญ ร่วมกับควาญช้างของมูลนิธิช่วยกันควบคุมและกำหนดเส้นทางด้วยเชือกให้ช้างเดินไปยังจุดที่ปลอดภัย แต่ก็ทุลักทุเลพอควรด้วยเพราะควาญกับช้างสื่อสารกันแทบไม่รู้เรื่อง วันนั้นทีมเราช่วยเหลือช้างตัวเมียได้บางส่วนจนกระทั่งมืดค่ำจึงยุติภารกิจในเวลา ๑๙.๓๐ น. ในกรณีช้างเพศผู้ เราไม่สามารถวางยาซึมช้างในขณะที่ยังอยู่ในน้ำได้ ซึ่งจากข้อมูลที่ทีมงานได้รับพบว่าช้างทุกเชือกไม่เคยผ่านการฝึกและบางเชือกมีประวัติทำร้ายคนมาก่อน จึงเกิดคำถามว่าหากเคลื่อนย้ายออกมาได้แล้วจะนำช้างไปผูกล่ามอย่างไร ที่ไหน ทั้งในภาวะซึมหรือปกติ ด้วยเพราะช้างไม่คุ้นเคยกับคนหรือช้างใดๆ ช้างแต่ละเชือกอยุ่ตัวเดียวในคอกมานาน ซึ่งจากการประเมินพบว่าช้างทุกเชือกยังมีสภาพร่างกายปกติ (ยกเว้นพลายขุนเดชที่บาดเจ็บที่ขาหน้า) ดังนั้นจึงใช้วิธีวางแท่นพยุงให้ช้างสามารถใช้งวงยึดพยุงมิให้จมน้ำ หากพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะจากประสบการณ์ตรงของคณะทำงานพบว่าช้างมักลอยน้ำและอยู่ในน้ำได้นานถึง ๒ วัน ๑ คืนในสภาพน้ำนิ่ง โดยไม่เกิดอันตราย ซึ่งจากสภาพช้างภายในคอกพบว่ากระแสน้ำยังคงไหลแต่ไม่เชี่ยวมากนักเมื่อเทียบกับในลำน้ำ ช้างน่าจะยังพอพยุงตัวเองไว้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง ด้วยเพราะธรรมชาติของน้ำทางภาคเหนือมักมาเร็วไปเร็ว ไม่น่าจะท่วมนาน เราจึงกำหนดให้ทำแพต้นกล้วยไว้ให้ช้างเพื่อช่วยพยุง ต้นกล้วยยังเป็นอาหารและมีน้ำช่วยประทังชีวิตให้ช้างได้อีกด้วย ทั้งนี้ให้เฝ้าระวังพลายขุนเดชเป็นพิเศษ โชคดีในช่วงเย็นของวันเดียวกันระดับน้ำเริ่มลดระดับลง เป็นสัญญาณว่าน้ำน่าจะลดลงเป็นปกติในไม่ช้า วันรุ่งขึ้นระดับน้ำลดลง เหลือเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ช้างเพศเมียถูกเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูง ช้างตัวผู้ยังอยู่ในคอกของตัวเอง แต่ทุกตัวยังมีชีวิตอยู่แม้บางเชือกอาจแสดงอาการอ่อนเพลียบ้าง ดังนั้นการฟื้นฟูสุขภาพกาย และสภาวะจิตใจของช้างและควาญจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโรคต่างๆที่มาหลังน้ำท่วม ก็ดี น้ำป่าที่อาจเข้าสู่ร่างกายช้างในช่วงก่อนหน้าทั้งทางเดินหายใจ ทางเดินอาหารก็ดี ดินโคลนที่มีรสชาดเย้ายวนต่อการลิ้มลองของช้างก็ดี หรือแม้กระทั่งอาหารที่อาจปนเปื้อน ที่ล้วนนำมาซึ่งความเจ็บป่วยของช้างเหล่านี้ได้ และสภาพจิตใจของช้างที่อาจตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การไม่คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เหล่านี้จำเป็นต้องฟื้นฟูและเฝ้าระวังกันต่อไป สรุปยอดรวมช้างในปางก่อนเกิดเหตุ จำนวน ๑๑๘ เชือก ภายหลังน้ำลด พบช้างเพศเมีย ๑๐๖ เชือก เป็นช้างเพศผู้ ๑๐ เชือก สูญหายและเสียชีวิต ๒ เชือก วันนี้ฝนตกเบาบางลงแล้ว แต่หากเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก การเรียนรู้บทเรียนและเตรียมแผนเผชิญเหตุทั้งของปางและผู้เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ต้องจัดทำ แม้ในวันนี้ช้างบ้านของไทยจะมีสถานะเป็นทรัพย์สินของผู้ถือครองตามกฎหมาย (พรบ.สัตว์พาหนะ ) แต่จากเหตุการณ์หลายๆครั้งที่ผ่านมา ล้วนกระทบจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ หลายส่วนยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองติดตามอย่างใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งที่ทุกท่านพึงตระหนักให้ดีว่า "ช้าง" มีสถานะยิ่งกว่าทรัพย์สิน แต่เขาคือสิ่งที่มีคุณค่า ที่สูงค่าอันประเมินมูลค่ามิได้ ซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยเราทุกคน ปล. ขอบคุณภาพมุมสูงจากคุณน้ำหนึ่ง https://www.facebook.com/share/p/zPKFtdBiFkUnLwdL/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇹🇭🌐#บริการปลดล็อคมือถือแบบรีโมตออนไลน์ทุกยี่ห้อ เปิด08.00-22.00
    🌐📲ipad gen 7 💯 #ปลดล็อค icloud unlock #💯#ขอบคุณลูกค้าส่งมาปลด #บริการรวดเร็วทันใจ
    ✔🇹🇭 🗝 ปลดล็อคเครื่องรายเดือน ปลดแบบรีโมตออนไลน์🚀
    ✔🇹🇭 🗝 ลืมรหัสหน้าจอ ปลดแบบรีโมตออนไลน์ ทุกรุ่น🚀
    ✔🇹🇭 🗝 ติดล็อค gmail ปลดแบบรีโมตออนไลน์ ทุกรุ่น🚀
    ✔🗝 ติดล็อค เครื่องนอก ปลดแบบออนไลน์ ทุกรุ่น🚀
    ✔🗝 ปลดลืมรหัสหน้าจอiphone iphone ทุกรุ่น
    🇹🇭 ทำไทย เมนูไทย พิมพ์ไทย ทุกรุ่น🚀
    #มีงานทักครับ #ทางร้านตอบเร็ว #สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าที่ใช้บริการครับ
    📲#คอมพร้อม #สายแฟลชพร้อม เน็ตพร้อม จบงานรอบเดียว
    🙏📬#อินบล็อค มาถามได้ครับ มีบริการสำหรับเพื่อนช่าง และ ลูกค้า ยินดีให้บริการครับ ☎☎ #โทรติดต่อ 0891842116🚀
    https://www.facebook.com/sarawut.to
    https://www.facebook.com/john.mobilecom
    https://www.blockdit.com/pages/60ece9244e43d50c9a4d07cb
    https://www.tiktok.com/@johnmobile_com?lang=th-TH
    https://www.youtube.com/channel/UCGSEhkM8T_jHzaJcJifqWFQ
    https://twitter.com/john_041
    https://vk.com/id448181995
    ที่ตั้งร้าน https://bit.ly/37xogWC
    🇹🇭🌐#บริการปลดล็อคมือถือแบบรีโมตออนไลน์ทุกยี่ห้อ เปิด08.00-22.00 🌐📲ipad gen 7 💯 #ปลดล็อค icloud unlock #💯#ขอบคุณลูกค้าส่งมาปลด #บริการรวดเร็วทันใจ ✔🇹🇭 🗝 ปลดล็อคเครื่องรายเดือน ปลดแบบรีโมตออนไลน์🚀 ✔🇹🇭 🗝 ลืมรหัสหน้าจอ ปลดแบบรีโมตออนไลน์ ทุกรุ่น🚀 ✔🇹🇭 🗝 ติดล็อค gmail ปลดแบบรีโมตออนไลน์ ทุกรุ่น🚀 ✔🗝 ติดล็อค เครื่องนอก ปลดแบบออนไลน์ ทุกรุ่น🚀 ✔🗝 ปลดลืมรหัสหน้าจอiphone iphone ทุกรุ่น 🇹🇭 ทำไทย เมนูไทย พิมพ์ไทย ทุกรุ่น🚀 #มีงานทักครับ #ทางร้านตอบเร็ว #สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าที่ใช้บริการครับ 📲#คอมพร้อม #สายแฟลชพร้อม เน็ตพร้อม จบงานรอบเดียว 🙏📬#อินบล็อค มาถามได้ครับ มีบริการสำหรับเพื่อนช่าง และ ลูกค้า ยินดีให้บริการครับ ☎☎ #โทรติดต่อ 0891842116🚀 https://www.facebook.com/sarawut.to https://www.facebook.com/john.mobilecom https://www.blockdit.com/pages/60ece9244e43d50c9a4d07cb https://www.tiktok.com/@johnmobile_com?lang=th-TH https://www.youtube.com/channel/UCGSEhkM8T_jHzaJcJifqWFQ https://twitter.com/john_041 https://vk.com/id448181995 ที่ตั้งร้าน https://bit.ly/37xogWC
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • Smith&Wesson Model 629 .44 Magnum

    โดย. พีระพงษ์ กลั่นกรอง

    เมื่อ คลิ้นท์ อี้สต์วู้ด (Clint Eastwood) ในบทของสารวัตรมือปราบ ฮาร์รี่ คาลาแฮน (Harry Callahan) พูดกับคนร้ายในฉากแรกของภาพยนต์เรื่อง “มือปราบปืนโหด” หรือ Dirty Harry ภาพยนต์ซีรี่ส์บู้แอ๊คชั่นที่ยิงกันสนั่นจอเรื่องที่โด่งดังที่สุดในโลกเมื่อ 40 ปีที่แล้ว

    ด้วยทุนสร้าง 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มือปราบปืนโหด(ภาคแรก-ปีค.ศ.1971)ทำรายได้สูงถึง 35 ล้านเหรียญ, ภาคที่สอง คือ Magnum Force (ปี 1973), ภาคที่สาม-The Enforcer (ปี 1976), ภาคที่สี่-Sudden Impact (ปี 1983), และภาคสุดท้าย คือ The Dead Pool (ปี 1988)

    ไม่ว่าภาพยนต์เรื่องนี้จะออกมากี่ภาคก็ตาม ผลตอบรับ ก็คือ ปลุกกระแสความนิยมปืน “สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 สี่สี่แม็กนั่ม” จนตลาดปืนทั่วโลกยอดขายถล่มทลาย แม้ว่าบริษัทผลิตปืนสมิธฯกำลังจะขุดหลุมฝัง(เลิกผลิต)ปืนสั้นกระสุนโหดรุ่นนี้อยู่ก่อนหน้านั้นก็ตาม
    ................

    อเมริกัน ได้ชื่อว่าเก่งในเรื่องการต่อสู้ด้วยอาวุธปืน เรียนรู้ด้วยประสบการณ์ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน นับแต่ครั้งที่ต่อสู้แย่งผืนดินที่ทำกินกับอินเดียนแดงเผ่าต่างๆ จนกระทั่งถึงสงครามกลางเมือง สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง-สอง และสงครามเวียดนาม

    อานุภาพกระสุนปืน(อำนาจหยุดยั้ง, ประหัตประหาร, และทะลุทะลวง)เป็นข้อสำคัญประการแรกสำหรับงานล่า ป้องกันตัว และจู่โจม ความแม่นยำเป็นอันดับที่สองโดยเฉพาะกรณีที่ระยะยิงตั้งแต่ 75 หลา(หรือ 68.6 เมตร)ขึ้นไป หรือในระยะที่ความหนาของใบศูนย์หน้าใหญ่ทับเป้าหรือตัวคน

    ดังที่ทราบกัน โดยหลักการ การเพิ่มอานุภาพกระสุนปืนมากขึ้นได้ก็ต้องอาศัย หนึ่ง-แรงดันในรังเพลิง(Chamber Pressure) ซึ่งจะให้ประโยชน์โดยปริยายในข้อที่สอง-คือ ความเร็วหัวกระสุน(Velocity), สาม-รูปแบบหัวกระสุน(Bullet type), ส่วนข้อที่สี่ คือ ขนาด-น้ำหนักหัวกระสุน(Bore & Weight) นั้น กลายเป็นเรื่องท้ายสุด หากว่าความเร็วกระสุนเกิน 3,000 ฟุตต่อวินาทีขึ้นไป ก็จะเกิดแรงปะทะคลื่นอากาศหรือ Shock Wave ทำให้บาดแผลแหกฉกรรจ์และกระเด็นล้มคว่ำได้ทันใด

    ยกตัวอย่าง กระสุนเอ็ม 16 หรือกระสุนปืนไรเฟิลล่าสัตว์ขนาด .223 หรือ 5.56x45 ม.ม.นาโต้(NATO) หัวกระสุนเล็กเท่ากับกระสุนลูกกรด คือ .22 นิ้วฟุต น้ำหนักหัวกระสุน 55 เกรนมากกว่ากระสุนลูกกรด(40 เกรน)นิดเดียว ความเร็วต้น 3,250 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,325 ฟุต-ปอนด์ ฯลฯ เป็นต้น

    “สี่สี่แม็กนั่ม” หรือในชื่อเป็นทางการว่า .44 Remington Magnum เมื่อ 40 ปีที่แล้วเป็นกระสุนปืนสั้นที่อานุภาพเอกอุที่สุดในโลก(The Most Powerful Handgun in the World)

    ประดิษฐ์คิดค้นโดย เอลเม่อร์ คีธ (Elmer Keith) นักเขียนเรื่องปืนและนักผจญภัยกลางแจ้ง(Outdoor Adventurer)ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในสหรัฐอเมริกา โดยร่วมกับบริษัทผลิตปืน สมิธแอนด์เวสสัน(Smith&Wesson)และบริษัทปืนและกระสุนยี่ห้อเรมิงตัน(Remington) ผลิตจำหน่ายในปีค.ศ.1955 (ปีพ.ศ.2498) จนปัจจุบัน

    เอลเม่อร์ คีธ นำกระสุนขนาด “สี่สี่-สเปเชี่ยล” หรือ .44 S&W Special (ผลิตในปีค.ศ.1907 แรงดันรังเพลิง 15,500 ปอนด์/ตร.นิ้วฟุต ปลอกกระสุนยาว 1.16 นิ้วฟุต น้ำหนักหัวกระสุน 246 เกรน ความเร็วต้น 755 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 310 ฟุต-ปอนด์) มาทดลองพัฒนาเพิ่มแรงดันในรังเพลิง ซึ่งก็หมายถึงกระสุนความเร็วสูงโดยปริยาย เพื่อให้เป็น “สี่สี่-แม็กนั่ม”

    โดยไม่คิดนำกระสุนหน้าตัดใหญ่ที่โด่งดังในยุคโคบาลตะวันตก(Wild Western) คือ “สี่ห้า-โค้ลท์” หรือ .45 Colt (ผลิตในปีค.ศ.1872 แรงดันรังเพลิง 14,000 ปอนด์/ตร.นิ้วฟุต ปลอกกระสุนยาว 1.285 นิ้วฟุต หัวกระสุนหนัก 250 เกรน ความเร็วต้น 929 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 479 ฟุต-ปอนด์ และแบบ Buffalo Bore หัวกระสุนหนัก 325 เกรน ความเร็วต้น 1,325 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,267 ฟุต-ปอนด์) มาพัฒนา

    หลักการง่ายๆ ก็คือ กระสุนหน้าตัดใหญ่(Big Bore), หัวกระสุนหนักอึ้ง(Heavy Bullet), และ กระสุนความเร็วสูง(Higher Velocity) เปรียบง่ายๆว่า ซุงหนึ่งต้นหนัก 500 กิโลกรัมวางไว้เฉยๆข้างถนน รถยนต์ที่พุ่งชนต้นซุงต้นนี้ย่อมเสียหายน้อยกว่าการที่ถูกต้นซุงพุ่งมาด้วยความเร็ว 60 กม./ชม.ชนเข้ากับรถยนต์ที่จอดอยู่เฉยๆ (อ่านและคิดทบทวนอีกครั้งนะครับ)

    วัตถุประสงค์หลักในการประดิษฐ์คิดค้น ก็เพื่อล่าสัตว์เท้ากีบขนาดเขื่อง เช่น กวางเอ้ลค์(Elk) สูงถึงหัวไหล่ 1.50 เมตร หนักประมาณ 250-450 กิโลกรัม จนกระทั่งถึงควายป่าที่เรียกว่า Cape Buffalo ที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ แต่น้ำหนักไม่มากเท่ากระทิงในบ้านเรา โดยการยิงจากปืนสั้นลูกโม่ลำกล้องยาว 7-8 นิ้วฟุต

    จึงเป็นจุดกำเนิดปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ๊คชั่น Smith&Wesson Model 29
    สมิธแอนด์เวสสัน “สี่สี่-แม็กนั่ม”

    56 ปีมาแล้วที่ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 ปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ็คชั่น(Double-Action Revolver) กระสุนสี่สี่แม็กนั่มผลิตจำหน่าย อันที่จริงก็ด้วยวัตถุประสงค์ของการล่าสัตว์ด้วยปืนสั้น ซึ่งเป็นความคลาสสิคและใช้ศิลปะการล่ามากกว่าปืนยาว ยิ่งปืนสั้นลูกโม่แม้จะลำกล้องยาว 7-8 นิ้วฟุต หากได้ติดศูนย์กล้องเล็งขยาย 4-8 เท่า ก็ยิ่งทวีความยากลำบากในการเล็งยิงมากขึ้น

    แม้ปืนโมเดลนี้(ซึ่งรวมทั้งกระสุนด้วย)จะขายดิบดีในช่วงต้นๆของการเปิดจำหน่ายก็ตาม แต่แล้วยอดขายก็ตกฮวบตามวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เช่นเดียวกับรถ 4x4 Off-Road เพราะมนุษย์หันมาอนุรักษ์สัตว์ป่าและธรรมชาติ ออกกำลังกายในร่มมากกว่ากีฬากลางแจ้งเช่นก่อน

    จนกระทั่ง ในปีค.ศ.1971 ที่ภาพยนต์บู้แอ๊คชั่นเรื่อง “มือปราบปืนโหด” ออกฉาย ทำให้ปืนและกระสุนสี่สี่แม๊กนั่มกลับขายดีถล่มทลาย เพราะผู้ชายส่วนมากอย่างเก่งกล้าหรือมีอาวุธที่อานุภาพเอกอุเหมือนพระเอก คลิ้นท์ อี้สต์วู้ด นั้น จะเป็นกลยุทธ์การตลาดเช่นเดียวกับที่ภาพยนต์เรื่อง เจมส์ บอนด์ ปลุกกระแสความนิยมรถสปอร์ตอังกฤษยี่ห้อ แอสตัน มาร์ติน(Aston Martin) เป็นเหตุผลอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ

    สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29
    -ปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ๊คชั่นบรรจุกระสุน 6 นัด โครงปืนใหญ่(S&W N-Frame)
    -ลูกโม่หมุนทวนเข็มนาฬิกา(Anti-Clockwise)
    -กระสุนปืนสั้นลูกโม่ชนวนกลาง(Revolver/Center-Fire Cartridge)ขนาด .44 Remington Magnum
    -ตัวปืนเสนอตลาดด้วย 7 ขนาดความยาวลำกล้อง ได้แก่ 3, 4, 5, 6, 6 ½ , 8 3/8 และหลังสุด 10 5/8 นิ้วฟุต
    -เฉพาะลำกล้อง 5 นิ้วฟุตเท่านั้นที่ฟักก้านกระทุ้งปลอกกระสุนยาวเต็มความยาวลำกล้องหรือ Full Barrel Length Underlug

    โมเดล 29 เสนออยู่ 2 แบบ ได้แก่ แบบรมดำผิวหนา(Highly Polished Blued Finish) กับแบบนิเกิ้ลโครเมี่ยม(Nickle-Plated Surface)

    ในปีค.ศ.1960 โมเดล 29-1 ผลิตสู่ตลาดภายใต้การปรับปรุงด้านเทคนิคเล็กน้อย อาทิ สกรูยึดก้านกระทุ้งปลอกกระสุน(Ejector Rod Screw) ให้หลังหนึ่งปี โมเดล 29-2 ก็ปรากฏสู่ตลาดโดยเพิ่มสกรูตัวขันยึดความแน่นหนาให้กับสปริงสลักล็อคลูกโม่(Cylinder Stop Spring) ในปีค.ศ. 1979 หั่นลำกล้องจาก 6 ½ เหลือแค่ 6 นิ้วฟุต

    ทั้งโมเดล 29-1 และ 29-2 เพิ่มเทคนิคพิเศษอีกนิดนึง คือ ตัวลำกล้องขันเกลียวยึดแน่นกับโครงปืนพร้อมหมุดตอกย้ำ ส่วนตัวลูกโม่เซาะร่องฝังจานคัดปลอกกระสุนให้เรียบหน้าโม่ เรียกเทคนิคนี้ว่า Pinned & Recessed Model

    ปีค.ศ.1967-1971 บริษัทสนับสนุนทางยุทโธปกรณ์สหรัฐอเมริกา ชื่อ AAI Corporation (Aircraft Armaments, Inc.) สั่งผลิตปืนสมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 จำนวนหนึ่ง

    ลำกล้องสั้นแค่ 1.375 นิ้วฟุต ใช้ยิงกับกระสุน .40 หรือว่า 10 มอมอ และกระสุนลูกซองขนาด .410 เพื่อใช้ในปฏิบัติการพิเศษที่เรียกว่า QAPR (Quiet Special Purpose Revolver) เพื่อให้ทหารอเมริกันบุกเข้าจู่โจมและตรวจค้น “ถ้ำรูหนู” หรือ Tunnel Rats ที่ทหารเวียดนามอาศัยเป็นช่องทางหลบหนีหลบซ่อน

    ในปีค.ศ. 1982 โมเดล 29-3 ยกเลิกเทคนิคพิเศษดังกล่าวเพิ่มลดต้นทุนและระยะเวลาในการผลิต โดยหันมาใช้เทคนิค Crush-Fit Barrel หรือคล้ายๆกับ โคนลำกล้องตีปลอกฟิตแน่นกับโครงปืน ซึ่งได้ผลเท่าเทียมกันแต่ประหยัดต้นทุนและเวลาผลิตมากกว่า

    ในปีค.ศ.1988 (โมเดล 29-4) และปี 1990 (โมเดล 29-5) เสริมแรงให้กับชิ้นส่วนและโครงสร้างตัวปืนเพื่อให้ใช้งานได้อย่างสมบุกสมบันมากขึ้น โดยเฉพาะทนแรงดันรังเพลิงและแรงสะบัดสะท้อนจากกระสุนแรงสูงสมัยใหม่ ปีค.ศ.1994 โมเดล 29-6 ผลิตจำหน่ายพร้อมกับด้ามยาง Monogrip กระชับมือยี่ห้อ ฮ้อว์ก(Hogue) สันบนโครงปืนมีรูไว้สำหรับขันสกรูติดตั้งศูนย์กล้องล่าสัตว์

    ในปีค.ศ.1998 โมเดล 29-7 ออกตลาดภายใต้การปรับปรุงชิ้นส่วนลั่นไก เช่น เข็มแทงชนวน, นกปืน, ไกปืน, ฯลฯ ล้วนผลิตจากกรรมวิธีฉีดโลหะขึ้นรูป(Metal Injection Molding Process) เพื่อป้องกันปัญหาแตกหักขณะใช้งานหนัก

    สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 ถูกยกเลิกการผลิตไปอย่างถาวรในปีค.ศ.1999 ด้วยเหตุผลของอายุสินค้า(Model Life)ในเชิงการตลาด ปัจจุบัน ทั้งตลาดนอกและตลาดไทย นักเล่นปืนต่างมองหาสี่สี่แม็กนั่มรุ่นนี้ไว้สะสม เพราะตัวปืนมีความสวยงามมากกว่าปืนรุ่นใหม่ของสมิธฯ

    โดยเฉพาะ โมเดล 29 ในรุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี (50th Anniversary Model 29) ที่ผลิตขึ้นจำกัดจำนวนเมื่อวันที่ 26 มกราคมปี 2006 ลักษณะพิเศษ ได้แก่ ลูกโม่กลมกลึงไม่มีร่อง(Non-Fluted Cylinder), สลักลายทองด้วยแสงเลเซอร์บนตัวปืน, ระบบสลักนิรภัยภายใน(Interlock Mechanism), ฯลฯ

    วันที่ 1 มกราคมปี 2007 โมเดล 29 คลาสสิคไลน์ รุ่นพิเศษแกะลายสวยหรู(Engraved Model)

    สมิธแอนด์เวสสัน “โมเดล 629”
    ในยุคที่โลหะวิทยาหันมาสนใจเหล็กสแตนเลส(Stainless Steel)กันอย่างบ้าคลั่ง

    ด้วยคุณสมบัติบางประการที่ให้ประโยชน์ใช้งานเหนือกว่าเหล็ก(Steel) เช่น ไม่เป็นสนิมเหล็ก, ทนสภาวะกัดกร่อนได้สูง(Anti-Corrosion), เนื้อโลหะเหนียวแน่น(High-Density)จากการหล่อขึ้นรูปได้มากกว่า, เนื้อผิวสวยงามดูน่าใช้น่าจับต้องมากกว่า, ฯลฯ
    สมิธแอนด์เวสสัน “โมเดล 629” จึงกำเนิดขึ้นมาด้วยเหล็กสแตนเลสแทนโมเดล 29 ที่เป็นเหล็ก ด้วยประการเช่นนี้

    โมเดล 629 สี่สี่แม็กนั่ม เปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ.1978 ในขนาดลำกล้องยาว 6 นิ้วฟุต ส่วนลำกล้อง 4 และ 8 3/8 นิ้วฟุตออกสู่ตลาดในปีค.ศ.1980

    ในปีค.ศ.1982 โมเดล 629-1 ใช้เทคนิคพิเศษ Crush-Fit Barrel ตามอย่างโมเดล 29-3 ในปีค.ศ.1988 โมเดล 629-1 เพิ่มรุ่นพิเศษลำกล้องสั้น 3 นิ้วฟุต ส้นด้ามมน(Round Butt) ชิ้นส่วนกลไกภายในเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับโมเดล 29-4 กรณีที่ตัวปืนปั๊ม 629-2E นั่นหมายถึงว่า บานพับหน้าลูกโม่หรือ Cylinder Crane ปรับให้ผิวเนื้อมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

    ปีค.ศ.1990 โมเดล 629-3 มาในรูปแบบของด้ามยางฮ้อว์ก(Hogue), สันบนโครงปืนมีสกรูพร้อมติดตั้งศูนย์กล้องเล็ง, เปลี่ยนก้านกระทุ้งปลอกกระสุน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโมเดล 629-4 ที่เปิดตัวภายหลังในคุณสมบัติของปืนสั้นแข่งขันยิงเป้ามากขึ้น อาทิ นกปืน-ไกปืนใหญ่แบบปืนสั้นแข่งขันยิงเป้า, ศูนย์หน้ากระโดงปลาแถบแดง(Red Ramp Front Sight), ใบศูนย์หลังเส้นขาว(White Outline Rear Sight), ฯลฯ เป็นต้น

    ในปีเดียวกันนี้(1990) โมเดล 629 คลาสสิค(Classic) เสนอตลาดด้วยรูปแบบของ “ฝักเต็ม” หรือ Full Barrel Underlug หมายถึง มีแท่งตันถ่วงน้ำหนักต่อจากฝักก้านกระทุ้งปลอกกระสุนใต้ลำกล้องยาวจรดปากกระบอกปืน

    ภายใต้รหัส 629-4s ลำกล้องยาว 5, 6 และ 8 3/8 นิ้วฟุต ปีค.ศ.1991 โมเดล 629 คลาสสิค ดีเอ๊กซ์ (629 Classic DX) ออกสู่ตลาดพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษเหนือใคร คือ เปลี่ยนใบศูนย์หน้าได้ 5 แบบ

    ปีค.ศ.1988 โมเดล 629-5 เปลี่ยนนกและไกปืน MIM และใช้เข็มแทงชนวนแบบฝังลอยในโครงปืน แทนเข็มแทงชนวนแบบนกสับเช่นก่อน

    โมเดล 629 คลาสสิค มิได้เป็นแค่สินค้ารุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้มีคุณภาพดีมากกว่าโมเดล 29 และโมเดล 629 เท่านั้น

    ในเชิงการตลาดถือว่าเป็นการ “ยกระดับ” สินค้า(Product Repositioning)ให้สูงขึ้น ซึ่งหมายถึง ราคาแพงขึ้นตามคุณภาพสินค้า ขณะเดียวกัน ก็ยกระดับชื่อยี่ห้อและตัวสินค้าให้สูงขึ้นเพื่อตลาดระดับไฮเอ็น(High-end) คือ เศรษฐีและนักสะสมปืน

    ดังนี้ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 629 คลาสสิค ยุคหลังๆจึงมีสินค้ารุ่นพิเศษสู่ตลาด อาทิ แม๊กน่าคลาสสิค(MagnaClassic), วี-ค้อมพ์(V-Comp), สเต็ลท์ฮันเตอร์(Stealth Hunter), ฯลฯ เป็นต้น รวมทั้งความยาวลำกล้อง 7 ½ นิ้วฟุตที่มาคั่นกลางเป็นทางเลือกใหม่ ระหว่างลำกล้อง 6 และ 8 3/8 นิ้วฟุต อีกด้วย

    บทวิพากย์….
    ในแง่มุมของนักสะสมปืน(Gun Collectors) ยังมีข้อมูลอีกมากมายที่ไม่สามารถลงพิมพ์ในจำนวนหน้ากระดาษจำกัดนี้ได้หมด เช่น รุ่นลำกล้องสั้น 3 นิ้วฟุต, เมาเท่นกันส์(Mountain Gun), และอื่นๆ

    แต่ในมุมของผู้ใช้ปืนทั่วไปก็พอที่จะใช้เนื้อที่หน้ากระดาษที่เหลือนั่งจับเข่าคุยกันได้ดังนี้ครับ

    คำถาม: “ใครบ้างที่ซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่ม? และทำไมต้องเป็นสมิธแอนด์เวสสัน?”

    ตอบ: แม้กระสุนสี่สี่แม็กนั่มจะออกแบบมาแต่อ้อนออกให้ใช้กับปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ็คชั่น เพื่อกีฬาล่าสัตว์และป้องกันตัวจากสัตว์ร้ายในงานสำรวจท่องเที่ยวป่า

    แต่กลุ่มผู้ซื้อปืนสั้นกระสุนดุขนาดนี้ส่วนมากกลับเป็นนักสะสมปืน นักเลงปืน และตำรวจทหารตามชายแดนหรือในท้องที่ทุรกันดาร ทั้งในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเมืองไทย

    ด้วยราคาตัวปืนและกระสุนที่แพงกว่าปืนอื่นในตลาด ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ผู้ที่ซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่ม ก็คือ คนที่มีใจรักปืนสั้นกระสุนดุขนาดนี้จริงๆ

    ขณะที่ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 สี่สี่แม็กนั่ม คลอดสู่ตลาดเมื่อ 56 ปีที่แล้ว ก็มีบริษัทผลิตปืนยี่ห้อ รูเก้อร์ (Ruger) สหรัฐอเมริกา ผลิตปืนสั้นที่ใช้กระสุนขนาดเดียวกันนี้ออกแข่งตลาด แต่เป็นปืนสั้นซิงเกิ้ลแอ๊คชั่น(Single Action Revolver)

    นัยว่า เป็นเพราะพนักงานของบริษัทผลิตกระสุนเรมิงตันนำปลอกกระสุนขนาดใหม่ล่านี้ไปให้รูเก้อร์

    ปัจจุบัน แม้ว่าจะมีปืนสั้นหลายยี่ห้อที่แข่งค้ากับปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มของสมิธฯ เช่น โค้ลท์ อะนาคอนด้า(Colt Anaconda), รูเก้อร์ ซูเปอร์ เรดฮอว์ก(Ruger Super Redhawk)ดับเบิ้ลแอ๊คชั่น, รูเก้อร์ ซูเปอร์ แบล็คฮอว์ก(Ruger Super Blackhawk)ซิงเกิ้ลแอ๊คชั่น, ฯลฯ

    ยังไม่นับปืนพกกึ่งอัตโนมัติ(Semi-Automatic Pistol)ชื่อดังที่ใช้กระสุนสี่สี่แม๊กนั่มของปืนสั้นลูกโม่ เช่น เดสเสิร์ต อีเกิ้ล (IMI Desert Eagle), และอื่นๆ เป็นต้น

    แต่ที่เมืองนอกเมืองไทยพูดกันมากที่สุด ก็คือ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29, 629 และ 629 คลาสสิค ประณีตแม่นยำที่สุดในกระบวนปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มด้วยกัน

    ถาม: “ปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มใช้กระสุนอื่นยิงแทนได้ไหมในเมื่อไม่มีลูกซ้อมยิง?”

    ตอบ: ได้ คือ .44 สเปเชี่ยล(.44 S&W Special) ที่ปลอกหรือนัดกระสุนสั้นกว่าสี่สี่แม็กนั่มนิดเดียว (0.125 นิ้วฟุต)

    ทำนองเดียวกับที่เราใช้กระสุนสามแปดสเปฯ (.38 Special) ยิงซ้อมมือกับปืนสั้นลูกโม่สามห้าเจ็ดแม็กนั่ม(.357 Magnum) เพราะขนาดหน้าตัดหัวกระสุนและความโตของปลอกกระสุนใกล้เคียงกันมาก แต่หลักการนี้ใช้ได้เฉพาะปืนสั้นลูกโม่เท่านั้น ปืนพกกึ่งอัตโนมัติหรือปืนสั้นออโตเมติคจะมีปัญหา

    ถาม: “สมมุติว่าขอใบอนุญาตและซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มมาได้แล้วจะไปยิงซ้อมที่สนามยิงปืนที่ไหน?”

    ตอบ: เดี๋ยวนี้ยากมากครับ สนามยิงปืนของราชการและเอกชนทั่วไปในบ้านเราไม่ค่อยอนุญาตให้ยิงปืนกระสุนสี่สี่แม็กนั่ม ซึ่งรวมทั้งปืนไรเฟิลขนาดต่างๆ ด้วย

    ปืนกระสุนดุที่อนุญาตให้ยิงซ้อมกันในสนาม อย่างมากก็แค่สิบเอ็ดมอมอ(.45 ACP), ลูกซองกระสุนลูกปราย, สามห้าเจ็ดแม็กนั่ม(.357 Magnum)เป็นบางสนาม จริงๆจังๆก็คงเป็นสนามยิงปืนของทหารที่ Backstop (กำแพงหยุดกระสุนหลังเป้า) เตรียมไว้สำหรับเอ็ม 16 ก็พอจะพูดคุยขอกันได้บ้าง

    ถาม: “สี่สี่แม็กนั่มกระสุนนอกราคานัดละเท่าไร? กระสุนไทยมีผลิตไหม?”

    ตอบ: กระสุนสี่สี่แม็กนั่มที่พอจะหาซื้อได้ในตลาดปืนบ้านเรามีค่อนข้างน้อยมาก ถ้ามีก็ตกนัดละเกือบๆร้อยบาทหรือกว่านี้ เท่าที่ทราบ สี่สี่แม็กนั่มไม่มีผลิตขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพราะขาดวัสดุและดินปืนที่ต้องขออนุญาตกลาโหมเพื่อนำเข้า ยอดจำหน่ายมีแค่นิดเดียว จึงไม่คุ้มที่จะผลิตในประเทศไทย

    ถาม: “ที่ว่า ปืนสมิธฯสี่สี่แม็กนั่มแม่นยำกว่าปืนอื่นนั้นเป็นอย่างไร?”

    ตอบ: จากบทความต่างประเทศ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 629 แม็กน่าคลาสสิค ลำกล้องยาว 8 3/8 นิ้วฟุต ยิงด้วยกระสุน Garrett Cartridges หัวกระสุนหนัก 320 เกรน ความเร็วต้น 1,315 ฟุต/วินาที จากระยะยิง 25 หลา(ประมาณ 23 เมตร)จำนวน 6 นัดทำกลุ่มกระสุนได้ 1 นิ้วฟุต

    กระสุน Carbon Hunter หัวกระสุนหนัก 260 เกรน หัวรู(Hollow Point) ความเร็วต้น 1,450 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,214 ฟุต-ปอนด์ ระยะยิง 25 หลา จำนวน 6 นัดทำกลุ่มได้ 1x2 นิ้วฟุต

    ทั้งนี้ยังไม่มีการยิงพิสูจน์ความแม่นยำเทียบระหว่าง Smith&Wesson, Colt Anaconda, Ruger Super Redhawk ทั้งเมืองนอกและในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

    ถาม: “ถ้าจะซื้อปืนสั้นลูกโม่สี่สี่แม็กนั่มสักกระบอกในชีวิตจะเลือกอะไรดี?”

    ตอบ: ถ้าเลือกความประณีตแม่นยำ(Precision/Accuracy)ก็ต้องสมิธแอนด์เวสสัน ถ้าชอบความแข็งแรงบึกบึนทนทาน(Strong, Durability & Reliability)ก็ต้องฟันธงว่ารูเก้อร์ ส่วนอะนาคอนด้า(Anaconda)เป็นอะไรๆ ที่ต้องเป็นยี่ห้อโค้ลท์ไว้ก่อน

    ถาม: “ปืนสั้นลูกโม่เล่นกระสุนสี่สี่แม็กนั่มแบบไหนดี?”

    ตอบ: นักเลงสี่สี่แม็กนั่มตัวจริงจะเล่นกระสุน “หัวตัน-หัวหนัก” ไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็น Jacketed Soft Point, Semi-Wadcutter, Flat/Leaded Nose, รวมทั้งกระสุนพิเศษซาบ้อต(Sabot)

    จากประสบการณ์ส่วนตัว สี่สี่แม็กนั่มหัวรู น้ำหนัก 240 เกรน แม้จะมีความเร็วสูงถึงขั้น 1,400 ฟุต/วินาที จะมีปัญหา “เหินลม” ทำให้วิถีกระสุน(Trajectory)ไม่ราบเรียบไม่แม่นยำเท่าควร

    ขณะที่กระสุนหัวตัน น้ำหนักหัวกระสุนมากๆ (หรือบางทีก็น้ำหนัก 240 เกรนเท่ากัน) แต่ปลอกกระสุนมีเข็มขัดรัดหรือรอยย้ำ 2 แถว แม้ความเร็วน้อยกว่าแต่ให้ความแม่นยำหนักแน่นสูงกว่ามาก เรียกว่าได้ใจทุกนัดไป ข้อเสีย คือ ยิงสะบัดกัดมือมากกว่ากระสุนรุ่นใหม่ๆ ประมาณ +15%-20%

    ถาม: “ปืนสี่สี่แม็กนั่มต้องระวังอะไรบ้าง? ติดศูนย์กล้องดีไหม?”

    ตอบ: ข้อหนึ่ง-ถ้าเป็นเหล็กสแตนเลส เช่น โมเดล 629 และ 629 คลาสสิค ควรใส่กล่องเก็บหรือไม่ก็ตัดซองหนังใส่ปืนเก็บรักษา เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน รอยขนแมว ที่เกิดขึ้นเพราะผิวเหล็กสแตนเลสเนื้ออ่อนกว่าเหล็ก

    ข้อสอง-ไม่ควรใช้ยาขัดโลหะชนิดที่มีสารชะล้าง(Solven)ขัดถูกตัวปืน เพราะจะทำให้ตัวอักษรที่แกะสลักด้วยเลเซอร์เคลือบสีทองไว้ลางเลือนจางหาย

    ข้อสาม-หมั่นตรวจขันหมุดสกรูที่ตัวปืนทั้งก่อนและหลังการยิง เนื่องจากแรงสะบัดสะท้อนรุนแรงทำให้หมุดสกรูคลายตัวและอาจหลุดกระเด็นหาย

    ข้อสี่-ถึงจะหาซื้อกระสุนได้มากก็ไม่ควรยิงเล่นบ่อยๆ เพราะจะทำให้ตัวปืนทรุดโทรมเร็วกว่าที่ควรอย่างน่าเสียดาย

    ข้อห้า-อย่านำมายิงแห้งหรือเหนี่ยวไกเล่น(โดยไม่บรรจุกระสุนในตัวปืน)บ่อยๆ กลไกปืนอาจชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะเข็มแทงชนวนอาจหักโดยไม่รู้ตัว

    ข้อหก-ติดศูนย์กล้องเล็งได้ในกำลังขยายภาพไม่เกิน 4 เท่า สูงกว่านั้นจะเล็งยิงได้ลำบาก มือสั่นสายตาพร่ามัวเพราะไม่กล้าลั่นกระสุน(เพราะภาพมันฟ้องว่าศูนย์ปืนไม่เข้าเป้าเนื่องจากมือผู้ยิงสั่นไปมา) แต่สุดท้ายก็ต้องถอดศูนย์กล้องเล็งออกเพราะรู้สึกเกะกะหนักตัวปืนเปล่าๆ

    สรุปท้ายเรื่อง...

    สมิธแอนด์เวสสัน สี่สี่แม็กนั่ม เป็นทรัพย์สมบัติที่คู่ควรต่อผู้มีบารมีและนักสะสมปืนมากกว่าการมีใช้เพื่อต่อสู้ป้องกันชีวิตทรัพย์สิน ไม่ใช่ปืนสั้นประจำกายอย่างแน่นอน แต่จะเหมาะที่สุดในกรณีท่องไพรสำรวจป่าที่พกไว้ข้างเอวหรือข้างสีข้างลำตัวเพื่อป้องกันสัตว์เขี้ยวยาวดุร้ายต่างๆ

    แม้ปัจจุบัน ตลาดปืนโลกจะมี “ปืนโหดกระสุนดุ” รุ่นใหม่ๆที่มีอานุภาพสูงกว่าสี่สี่แม็กนั่ม ไม่ว่าจะเป็น .454 Casull, .460 S&W Magnum, .500 S&W Magnum, และอื่นๆ แต่

    “สี่สี่แม็กนั่มยังจะเป็นเพื่อนที่ดีของนักเล่นปืนตลอดไป”
    ขอบคุณครับ...

    Smith&Wesson Model 629 .44 Magnum โดย. พีระพงษ์ กลั่นกรอง เมื่อ คลิ้นท์ อี้สต์วู้ด (Clint Eastwood) ในบทของสารวัตรมือปราบ ฮาร์รี่ คาลาแฮน (Harry Callahan) พูดกับคนร้ายในฉากแรกของภาพยนต์เรื่อง “มือปราบปืนโหด” หรือ Dirty Harry ภาพยนต์ซีรี่ส์บู้แอ๊คชั่นที่ยิงกันสนั่นจอเรื่องที่โด่งดังที่สุดในโลกเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ด้วยทุนสร้าง 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มือปราบปืนโหด(ภาคแรก-ปีค.ศ.1971)ทำรายได้สูงถึง 35 ล้านเหรียญ, ภาคที่สอง คือ Magnum Force (ปี 1973), ภาคที่สาม-The Enforcer (ปี 1976), ภาคที่สี่-Sudden Impact (ปี 1983), และภาคสุดท้าย คือ The Dead Pool (ปี 1988) ไม่ว่าภาพยนต์เรื่องนี้จะออกมากี่ภาคก็ตาม ผลตอบรับ ก็คือ ปลุกกระแสความนิยมปืน “สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 สี่สี่แม็กนั่ม” จนตลาดปืนทั่วโลกยอดขายถล่มทลาย แม้ว่าบริษัทผลิตปืนสมิธฯกำลังจะขุดหลุมฝัง(เลิกผลิต)ปืนสั้นกระสุนโหดรุ่นนี้อยู่ก่อนหน้านั้นก็ตาม ................ อเมริกัน ได้ชื่อว่าเก่งในเรื่องการต่อสู้ด้วยอาวุธปืน เรียนรู้ด้วยประสบการณ์ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน นับแต่ครั้งที่ต่อสู้แย่งผืนดินที่ทำกินกับอินเดียนแดงเผ่าต่างๆ จนกระทั่งถึงสงครามกลางเมือง สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง-สอง และสงครามเวียดนาม อานุภาพกระสุนปืน(อำนาจหยุดยั้ง, ประหัตประหาร, และทะลุทะลวง)เป็นข้อสำคัญประการแรกสำหรับงานล่า ป้องกันตัว และจู่โจม ความแม่นยำเป็นอันดับที่สองโดยเฉพาะกรณีที่ระยะยิงตั้งแต่ 75 หลา(หรือ 68.6 เมตร)ขึ้นไป หรือในระยะที่ความหนาของใบศูนย์หน้าใหญ่ทับเป้าหรือตัวคน ดังที่ทราบกัน โดยหลักการ การเพิ่มอานุภาพกระสุนปืนมากขึ้นได้ก็ต้องอาศัย หนึ่ง-แรงดันในรังเพลิง(Chamber Pressure) ซึ่งจะให้ประโยชน์โดยปริยายในข้อที่สอง-คือ ความเร็วหัวกระสุน(Velocity), สาม-รูปแบบหัวกระสุน(Bullet type), ส่วนข้อที่สี่ คือ ขนาด-น้ำหนักหัวกระสุน(Bore & Weight) นั้น กลายเป็นเรื่องท้ายสุด หากว่าความเร็วกระสุนเกิน 3,000 ฟุตต่อวินาทีขึ้นไป ก็จะเกิดแรงปะทะคลื่นอากาศหรือ Shock Wave ทำให้บาดแผลแหกฉกรรจ์และกระเด็นล้มคว่ำได้ทันใด ยกตัวอย่าง กระสุนเอ็ม 16 หรือกระสุนปืนไรเฟิลล่าสัตว์ขนาด .223 หรือ 5.56x45 ม.ม.นาโต้(NATO) หัวกระสุนเล็กเท่ากับกระสุนลูกกรด คือ .22 นิ้วฟุต น้ำหนักหัวกระสุน 55 เกรนมากกว่ากระสุนลูกกรด(40 เกรน)นิดเดียว ความเร็วต้น 3,250 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,325 ฟุต-ปอนด์ ฯลฯ เป็นต้น “สี่สี่แม็กนั่ม” หรือในชื่อเป็นทางการว่า .44 Remington Magnum เมื่อ 40 ปีที่แล้วเป็นกระสุนปืนสั้นที่อานุภาพเอกอุที่สุดในโลก(The Most Powerful Handgun in the World) ประดิษฐ์คิดค้นโดย เอลเม่อร์ คีธ (Elmer Keith) นักเขียนเรื่องปืนและนักผจญภัยกลางแจ้ง(Outdoor Adventurer)ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในสหรัฐอเมริกา โดยร่วมกับบริษัทผลิตปืน สมิธแอนด์เวสสัน(Smith&Wesson)และบริษัทปืนและกระสุนยี่ห้อเรมิงตัน(Remington) ผลิตจำหน่ายในปีค.ศ.1955 (ปีพ.ศ.2498) จนปัจจุบัน เอลเม่อร์ คีธ นำกระสุนขนาด “สี่สี่-สเปเชี่ยล” หรือ .44 S&W Special (ผลิตในปีค.ศ.1907 แรงดันรังเพลิง 15,500 ปอนด์/ตร.นิ้วฟุต ปลอกกระสุนยาว 1.16 นิ้วฟุต น้ำหนักหัวกระสุน 246 เกรน ความเร็วต้น 755 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 310 ฟุต-ปอนด์) มาทดลองพัฒนาเพิ่มแรงดันในรังเพลิง ซึ่งก็หมายถึงกระสุนความเร็วสูงโดยปริยาย เพื่อให้เป็น “สี่สี่-แม็กนั่ม” โดยไม่คิดนำกระสุนหน้าตัดใหญ่ที่โด่งดังในยุคโคบาลตะวันตก(Wild Western) คือ “สี่ห้า-โค้ลท์” หรือ .45 Colt (ผลิตในปีค.ศ.1872 แรงดันรังเพลิง 14,000 ปอนด์/ตร.นิ้วฟุต ปลอกกระสุนยาว 1.285 นิ้วฟุต หัวกระสุนหนัก 250 เกรน ความเร็วต้น 929 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 479 ฟุต-ปอนด์ และแบบ Buffalo Bore หัวกระสุนหนัก 325 เกรน ความเร็วต้น 1,325 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,267 ฟุต-ปอนด์) มาพัฒนา หลักการง่ายๆ ก็คือ กระสุนหน้าตัดใหญ่(Big Bore), หัวกระสุนหนักอึ้ง(Heavy Bullet), และ กระสุนความเร็วสูง(Higher Velocity) เปรียบง่ายๆว่า ซุงหนึ่งต้นหนัก 500 กิโลกรัมวางไว้เฉยๆข้างถนน รถยนต์ที่พุ่งชนต้นซุงต้นนี้ย่อมเสียหายน้อยกว่าการที่ถูกต้นซุงพุ่งมาด้วยความเร็ว 60 กม./ชม.ชนเข้ากับรถยนต์ที่จอดอยู่เฉยๆ (อ่านและคิดทบทวนอีกครั้งนะครับ) วัตถุประสงค์หลักในการประดิษฐ์คิดค้น ก็เพื่อล่าสัตว์เท้ากีบขนาดเขื่อง เช่น กวางเอ้ลค์(Elk) สูงถึงหัวไหล่ 1.50 เมตร หนักประมาณ 250-450 กิโลกรัม จนกระทั่งถึงควายป่าที่เรียกว่า Cape Buffalo ที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ แต่น้ำหนักไม่มากเท่ากระทิงในบ้านเรา โดยการยิงจากปืนสั้นลูกโม่ลำกล้องยาว 7-8 นิ้วฟุต จึงเป็นจุดกำเนิดปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ๊คชั่น Smith&Wesson Model 29 สมิธแอนด์เวสสัน “สี่สี่-แม็กนั่ม” 56 ปีมาแล้วที่ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 ปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ็คชั่น(Double-Action Revolver) กระสุนสี่สี่แม็กนั่มผลิตจำหน่าย อันที่จริงก็ด้วยวัตถุประสงค์ของการล่าสัตว์ด้วยปืนสั้น ซึ่งเป็นความคลาสสิคและใช้ศิลปะการล่ามากกว่าปืนยาว ยิ่งปืนสั้นลูกโม่แม้จะลำกล้องยาว 7-8 นิ้วฟุต หากได้ติดศูนย์กล้องเล็งขยาย 4-8 เท่า ก็ยิ่งทวีความยากลำบากในการเล็งยิงมากขึ้น แม้ปืนโมเดลนี้(ซึ่งรวมทั้งกระสุนด้วย)จะขายดิบดีในช่วงต้นๆของการเปิดจำหน่ายก็ตาม แต่แล้วยอดขายก็ตกฮวบตามวิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เช่นเดียวกับรถ 4x4 Off-Road เพราะมนุษย์หันมาอนุรักษ์สัตว์ป่าและธรรมชาติ ออกกำลังกายในร่มมากกว่ากีฬากลางแจ้งเช่นก่อน จนกระทั่ง ในปีค.ศ.1971 ที่ภาพยนต์บู้แอ๊คชั่นเรื่อง “มือปราบปืนโหด” ออกฉาย ทำให้ปืนและกระสุนสี่สี่แม๊กนั่มกลับขายดีถล่มทลาย เพราะผู้ชายส่วนมากอย่างเก่งกล้าหรือมีอาวุธที่อานุภาพเอกอุเหมือนพระเอก คลิ้นท์ อี้สต์วู้ด นั้น จะเป็นกลยุทธ์การตลาดเช่นเดียวกับที่ภาพยนต์เรื่อง เจมส์ บอนด์ ปลุกกระแสความนิยมรถสปอร์ตอังกฤษยี่ห้อ แอสตัน มาร์ติน(Aston Martin) เป็นเหตุผลอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 -ปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ๊คชั่นบรรจุกระสุน 6 นัด โครงปืนใหญ่(S&W N-Frame) -ลูกโม่หมุนทวนเข็มนาฬิกา(Anti-Clockwise) -กระสุนปืนสั้นลูกโม่ชนวนกลาง(Revolver/Center-Fire Cartridge)ขนาด .44 Remington Magnum -ตัวปืนเสนอตลาดด้วย 7 ขนาดความยาวลำกล้อง ได้แก่ 3, 4, 5, 6, 6 ½ , 8 3/8 และหลังสุด 10 5/8 นิ้วฟุต -เฉพาะลำกล้อง 5 นิ้วฟุตเท่านั้นที่ฟักก้านกระทุ้งปลอกกระสุนยาวเต็มความยาวลำกล้องหรือ Full Barrel Length Underlug โมเดล 29 เสนออยู่ 2 แบบ ได้แก่ แบบรมดำผิวหนา(Highly Polished Blued Finish) กับแบบนิเกิ้ลโครเมี่ยม(Nickle-Plated Surface) ในปีค.ศ.1960 โมเดล 29-1 ผลิตสู่ตลาดภายใต้การปรับปรุงด้านเทคนิคเล็กน้อย อาทิ สกรูยึดก้านกระทุ้งปลอกกระสุน(Ejector Rod Screw) ให้หลังหนึ่งปี โมเดล 29-2 ก็ปรากฏสู่ตลาดโดยเพิ่มสกรูตัวขันยึดความแน่นหนาให้กับสปริงสลักล็อคลูกโม่(Cylinder Stop Spring) ในปีค.ศ. 1979 หั่นลำกล้องจาก 6 ½ เหลือแค่ 6 นิ้วฟุต ทั้งโมเดล 29-1 และ 29-2 เพิ่มเทคนิคพิเศษอีกนิดนึง คือ ตัวลำกล้องขันเกลียวยึดแน่นกับโครงปืนพร้อมหมุดตอกย้ำ ส่วนตัวลูกโม่เซาะร่องฝังจานคัดปลอกกระสุนให้เรียบหน้าโม่ เรียกเทคนิคนี้ว่า Pinned & Recessed Model ปีค.ศ.1967-1971 บริษัทสนับสนุนทางยุทโธปกรณ์สหรัฐอเมริกา ชื่อ AAI Corporation (Aircraft Armaments, Inc.) สั่งผลิตปืนสมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 จำนวนหนึ่ง ลำกล้องสั้นแค่ 1.375 นิ้วฟุต ใช้ยิงกับกระสุน .40 หรือว่า 10 มอมอ และกระสุนลูกซองขนาด .410 เพื่อใช้ในปฏิบัติการพิเศษที่เรียกว่า QAPR (Quiet Special Purpose Revolver) เพื่อให้ทหารอเมริกันบุกเข้าจู่โจมและตรวจค้น “ถ้ำรูหนู” หรือ Tunnel Rats ที่ทหารเวียดนามอาศัยเป็นช่องทางหลบหนีหลบซ่อน ในปีค.ศ. 1982 โมเดล 29-3 ยกเลิกเทคนิคพิเศษดังกล่าวเพิ่มลดต้นทุนและระยะเวลาในการผลิต โดยหันมาใช้เทคนิค Crush-Fit Barrel หรือคล้ายๆกับ โคนลำกล้องตีปลอกฟิตแน่นกับโครงปืน ซึ่งได้ผลเท่าเทียมกันแต่ประหยัดต้นทุนและเวลาผลิตมากกว่า ในปีค.ศ.1988 (โมเดล 29-4) และปี 1990 (โมเดล 29-5) เสริมแรงให้กับชิ้นส่วนและโครงสร้างตัวปืนเพื่อให้ใช้งานได้อย่างสมบุกสมบันมากขึ้น โดยเฉพาะทนแรงดันรังเพลิงและแรงสะบัดสะท้อนจากกระสุนแรงสูงสมัยใหม่ ปีค.ศ.1994 โมเดล 29-6 ผลิตจำหน่ายพร้อมกับด้ามยาง Monogrip กระชับมือยี่ห้อ ฮ้อว์ก(Hogue) สันบนโครงปืนมีรูไว้สำหรับขันสกรูติดตั้งศูนย์กล้องล่าสัตว์ ในปีค.ศ.1998 โมเดล 29-7 ออกตลาดภายใต้การปรับปรุงชิ้นส่วนลั่นไก เช่น เข็มแทงชนวน, นกปืน, ไกปืน, ฯลฯ ล้วนผลิตจากกรรมวิธีฉีดโลหะขึ้นรูป(Metal Injection Molding Process) เพื่อป้องกันปัญหาแตกหักขณะใช้งานหนัก สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 ถูกยกเลิกการผลิตไปอย่างถาวรในปีค.ศ.1999 ด้วยเหตุผลของอายุสินค้า(Model Life)ในเชิงการตลาด ปัจจุบัน ทั้งตลาดนอกและตลาดไทย นักเล่นปืนต่างมองหาสี่สี่แม็กนั่มรุ่นนี้ไว้สะสม เพราะตัวปืนมีความสวยงามมากกว่าปืนรุ่นใหม่ของสมิธฯ โดยเฉพาะ โมเดล 29 ในรุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี (50th Anniversary Model 29) ที่ผลิตขึ้นจำกัดจำนวนเมื่อวันที่ 26 มกราคมปี 2006 ลักษณะพิเศษ ได้แก่ ลูกโม่กลมกลึงไม่มีร่อง(Non-Fluted Cylinder), สลักลายทองด้วยแสงเลเซอร์บนตัวปืน, ระบบสลักนิรภัยภายใน(Interlock Mechanism), ฯลฯ วันที่ 1 มกราคมปี 2007 โมเดล 29 คลาสสิคไลน์ รุ่นพิเศษแกะลายสวยหรู(Engraved Model) สมิธแอนด์เวสสัน “โมเดล 629” ในยุคที่โลหะวิทยาหันมาสนใจเหล็กสแตนเลส(Stainless Steel)กันอย่างบ้าคลั่ง ด้วยคุณสมบัติบางประการที่ให้ประโยชน์ใช้งานเหนือกว่าเหล็ก(Steel) เช่น ไม่เป็นสนิมเหล็ก, ทนสภาวะกัดกร่อนได้สูง(Anti-Corrosion), เนื้อโลหะเหนียวแน่น(High-Density)จากการหล่อขึ้นรูปได้มากกว่า, เนื้อผิวสวยงามดูน่าใช้น่าจับต้องมากกว่า, ฯลฯ สมิธแอนด์เวสสัน “โมเดล 629” จึงกำเนิดขึ้นมาด้วยเหล็กสแตนเลสแทนโมเดล 29 ที่เป็นเหล็ก ด้วยประการเช่นนี้ โมเดล 629 สี่สี่แม็กนั่ม เปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ.1978 ในขนาดลำกล้องยาว 6 นิ้วฟุต ส่วนลำกล้อง 4 และ 8 3/8 นิ้วฟุตออกสู่ตลาดในปีค.ศ.1980 ในปีค.ศ.1982 โมเดล 629-1 ใช้เทคนิคพิเศษ Crush-Fit Barrel ตามอย่างโมเดล 29-3 ในปีค.ศ.1988 โมเดล 629-1 เพิ่มรุ่นพิเศษลำกล้องสั้น 3 นิ้วฟุต ส้นด้ามมน(Round Butt) ชิ้นส่วนกลไกภายในเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกับโมเดล 29-4 กรณีที่ตัวปืนปั๊ม 629-2E นั่นหมายถึงว่า บานพับหน้าลูกโม่หรือ Cylinder Crane ปรับให้ผิวเนื้อมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ปีค.ศ.1990 โมเดล 629-3 มาในรูปแบบของด้ามยางฮ้อว์ก(Hogue), สันบนโครงปืนมีสกรูพร้อมติดตั้งศูนย์กล้องเล็ง, เปลี่ยนก้านกระทุ้งปลอกกระสุน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโมเดล 629-4 ที่เปิดตัวภายหลังในคุณสมบัติของปืนสั้นแข่งขันยิงเป้ามากขึ้น อาทิ นกปืน-ไกปืนใหญ่แบบปืนสั้นแข่งขันยิงเป้า, ศูนย์หน้ากระโดงปลาแถบแดง(Red Ramp Front Sight), ใบศูนย์หลังเส้นขาว(White Outline Rear Sight), ฯลฯ เป็นต้น ในปีเดียวกันนี้(1990) โมเดล 629 คลาสสิค(Classic) เสนอตลาดด้วยรูปแบบของ “ฝักเต็ม” หรือ Full Barrel Underlug หมายถึง มีแท่งตันถ่วงน้ำหนักต่อจากฝักก้านกระทุ้งปลอกกระสุนใต้ลำกล้องยาวจรดปากกระบอกปืน ภายใต้รหัส 629-4s ลำกล้องยาว 5, 6 และ 8 3/8 นิ้วฟุต ปีค.ศ.1991 โมเดล 629 คลาสสิค ดีเอ๊กซ์ (629 Classic DX) ออกสู่ตลาดพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษเหนือใคร คือ เปลี่ยนใบศูนย์หน้าได้ 5 แบบ ปีค.ศ.1988 โมเดล 629-5 เปลี่ยนนกและไกปืน MIM และใช้เข็มแทงชนวนแบบฝังลอยในโครงปืน แทนเข็มแทงชนวนแบบนกสับเช่นก่อน โมเดล 629 คลาสสิค มิได้เป็นแค่สินค้ารุ่นใหม่ที่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้มีคุณภาพดีมากกว่าโมเดล 29 และโมเดล 629 เท่านั้น ในเชิงการตลาดถือว่าเป็นการ “ยกระดับ” สินค้า(Product Repositioning)ให้สูงขึ้น ซึ่งหมายถึง ราคาแพงขึ้นตามคุณภาพสินค้า ขณะเดียวกัน ก็ยกระดับชื่อยี่ห้อและตัวสินค้าให้สูงขึ้นเพื่อตลาดระดับไฮเอ็น(High-end) คือ เศรษฐีและนักสะสมปืน ดังนี้ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 629 คลาสสิค ยุคหลังๆจึงมีสินค้ารุ่นพิเศษสู่ตลาด อาทิ แม๊กน่าคลาสสิค(MagnaClassic), วี-ค้อมพ์(V-Comp), สเต็ลท์ฮันเตอร์(Stealth Hunter), ฯลฯ เป็นต้น รวมทั้งความยาวลำกล้อง 7 ½ นิ้วฟุตที่มาคั่นกลางเป็นทางเลือกใหม่ ระหว่างลำกล้อง 6 และ 8 3/8 นิ้วฟุต อีกด้วย บทวิพากย์…. ในแง่มุมของนักสะสมปืน(Gun Collectors) ยังมีข้อมูลอีกมากมายที่ไม่สามารถลงพิมพ์ในจำนวนหน้ากระดาษจำกัดนี้ได้หมด เช่น รุ่นลำกล้องสั้น 3 นิ้วฟุต, เมาเท่นกันส์(Mountain Gun), และอื่นๆ แต่ในมุมของผู้ใช้ปืนทั่วไปก็พอที่จะใช้เนื้อที่หน้ากระดาษที่เหลือนั่งจับเข่าคุยกันได้ดังนี้ครับ คำถาม: “ใครบ้างที่ซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่ม? และทำไมต้องเป็นสมิธแอนด์เวสสัน?” ตอบ: แม้กระสุนสี่สี่แม็กนั่มจะออกแบบมาแต่อ้อนออกให้ใช้กับปืนสั้นลูกโม่ดับเบิ้ลแอ็คชั่น เพื่อกีฬาล่าสัตว์และป้องกันตัวจากสัตว์ร้ายในงานสำรวจท่องเที่ยวป่า แต่กลุ่มผู้ซื้อปืนสั้นกระสุนดุขนาดนี้ส่วนมากกลับเป็นนักสะสมปืน นักเลงปืน และตำรวจทหารตามชายแดนหรือในท้องที่ทุรกันดาร ทั้งในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และเมืองไทย ด้วยราคาตัวปืนและกระสุนที่แพงกว่าปืนอื่นในตลาด ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ผู้ที่ซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่ม ก็คือ คนที่มีใจรักปืนสั้นกระสุนดุขนาดนี้จริงๆ ขณะที่ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29 สี่สี่แม็กนั่ม คลอดสู่ตลาดเมื่อ 56 ปีที่แล้ว ก็มีบริษัทผลิตปืนยี่ห้อ รูเก้อร์ (Ruger) สหรัฐอเมริกา ผลิตปืนสั้นที่ใช้กระสุนขนาดเดียวกันนี้ออกแข่งตลาด แต่เป็นปืนสั้นซิงเกิ้ลแอ๊คชั่น(Single Action Revolver) นัยว่า เป็นเพราะพนักงานของบริษัทผลิตกระสุนเรมิงตันนำปลอกกระสุนขนาดใหม่ล่านี้ไปให้รูเก้อร์ ปัจจุบัน แม้ว่าจะมีปืนสั้นหลายยี่ห้อที่แข่งค้ากับปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มของสมิธฯ เช่น โค้ลท์ อะนาคอนด้า(Colt Anaconda), รูเก้อร์ ซูเปอร์ เรดฮอว์ก(Ruger Super Redhawk)ดับเบิ้ลแอ๊คชั่น, รูเก้อร์ ซูเปอร์ แบล็คฮอว์ก(Ruger Super Blackhawk)ซิงเกิ้ลแอ๊คชั่น, ฯลฯ ยังไม่นับปืนพกกึ่งอัตโนมัติ(Semi-Automatic Pistol)ชื่อดังที่ใช้กระสุนสี่สี่แม๊กนั่มของปืนสั้นลูกโม่ เช่น เดสเสิร์ต อีเกิ้ล (IMI Desert Eagle), และอื่นๆ เป็นต้น แต่ที่เมืองนอกเมืองไทยพูดกันมากที่สุด ก็คือ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 29, 629 และ 629 คลาสสิค ประณีตแม่นยำที่สุดในกระบวนปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มด้วยกัน ถาม: “ปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มใช้กระสุนอื่นยิงแทนได้ไหมในเมื่อไม่มีลูกซ้อมยิง?” ตอบ: ได้ คือ .44 สเปเชี่ยล(.44 S&W Special) ที่ปลอกหรือนัดกระสุนสั้นกว่าสี่สี่แม็กนั่มนิดเดียว (0.125 นิ้วฟุต) ทำนองเดียวกับที่เราใช้กระสุนสามแปดสเปฯ (.38 Special) ยิงซ้อมมือกับปืนสั้นลูกโม่สามห้าเจ็ดแม็กนั่ม(.357 Magnum) เพราะขนาดหน้าตัดหัวกระสุนและความโตของปลอกกระสุนใกล้เคียงกันมาก แต่หลักการนี้ใช้ได้เฉพาะปืนสั้นลูกโม่เท่านั้น ปืนพกกึ่งอัตโนมัติหรือปืนสั้นออโตเมติคจะมีปัญหา ถาม: “สมมุติว่าขอใบอนุญาตและซื้อปืนสั้นสี่สี่แม็กนั่มมาได้แล้วจะไปยิงซ้อมที่สนามยิงปืนที่ไหน?” ตอบ: เดี๋ยวนี้ยากมากครับ สนามยิงปืนของราชการและเอกชนทั่วไปในบ้านเราไม่ค่อยอนุญาตให้ยิงปืนกระสุนสี่สี่แม็กนั่ม ซึ่งรวมทั้งปืนไรเฟิลขนาดต่างๆ ด้วย ปืนกระสุนดุที่อนุญาตให้ยิงซ้อมกันในสนาม อย่างมากก็แค่สิบเอ็ดมอมอ(.45 ACP), ลูกซองกระสุนลูกปราย, สามห้าเจ็ดแม็กนั่ม(.357 Magnum)เป็นบางสนาม จริงๆจังๆก็คงเป็นสนามยิงปืนของทหารที่ Backstop (กำแพงหยุดกระสุนหลังเป้า) เตรียมไว้สำหรับเอ็ม 16 ก็พอจะพูดคุยขอกันได้บ้าง ถาม: “สี่สี่แม็กนั่มกระสุนนอกราคานัดละเท่าไร? กระสุนไทยมีผลิตไหม?” ตอบ: กระสุนสี่สี่แม็กนั่มที่พอจะหาซื้อได้ในตลาดปืนบ้านเรามีค่อนข้างน้อยมาก ถ้ามีก็ตกนัดละเกือบๆร้อยบาทหรือกว่านี้ เท่าที่ทราบ สี่สี่แม็กนั่มไม่มีผลิตขึ้นในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพราะขาดวัสดุและดินปืนที่ต้องขออนุญาตกลาโหมเพื่อนำเข้า ยอดจำหน่ายมีแค่นิดเดียว จึงไม่คุ้มที่จะผลิตในประเทศไทย ถาม: “ที่ว่า ปืนสมิธฯสี่สี่แม็กนั่มแม่นยำกว่าปืนอื่นนั้นเป็นอย่างไร?” ตอบ: จากบทความต่างประเทศ สมิธแอนด์เวสสัน โมเดล 629 แม็กน่าคลาสสิค ลำกล้องยาว 8 3/8 นิ้วฟุต ยิงด้วยกระสุน Garrett Cartridges หัวกระสุนหนัก 320 เกรน ความเร็วต้น 1,315 ฟุต/วินาที จากระยะยิง 25 หลา(ประมาณ 23 เมตร)จำนวน 6 นัดทำกลุ่มกระสุนได้ 1 นิ้วฟุต กระสุน Carbon Hunter หัวกระสุนหนัก 260 เกรน หัวรู(Hollow Point) ความเร็วต้น 1,450 ฟุต/วินาที แรงปะทะต้น 1,214 ฟุต-ปอนด์ ระยะยิง 25 หลา จำนวน 6 นัดทำกลุ่มได้ 1x2 นิ้วฟุต ทั้งนี้ยังไม่มีการยิงพิสูจน์ความแม่นยำเทียบระหว่าง Smith&Wesson, Colt Anaconda, Ruger Super Redhawk ทั้งเมืองนอกและในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ถาม: “ถ้าจะซื้อปืนสั้นลูกโม่สี่สี่แม็กนั่มสักกระบอกในชีวิตจะเลือกอะไรดี?” ตอบ: ถ้าเลือกความประณีตแม่นยำ(Precision/Accuracy)ก็ต้องสมิธแอนด์เวสสัน ถ้าชอบความแข็งแรงบึกบึนทนทาน(Strong, Durability & Reliability)ก็ต้องฟันธงว่ารูเก้อร์ ส่วนอะนาคอนด้า(Anaconda)เป็นอะไรๆ ที่ต้องเป็นยี่ห้อโค้ลท์ไว้ก่อน ถาม: “ปืนสั้นลูกโม่เล่นกระสุนสี่สี่แม็กนั่มแบบไหนดี?” ตอบ: นักเลงสี่สี่แม็กนั่มตัวจริงจะเล่นกระสุน “หัวตัน-หัวหนัก” ไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็น Jacketed Soft Point, Semi-Wadcutter, Flat/Leaded Nose, รวมทั้งกระสุนพิเศษซาบ้อต(Sabot) จากประสบการณ์ส่วนตัว สี่สี่แม็กนั่มหัวรู น้ำหนัก 240 เกรน แม้จะมีความเร็วสูงถึงขั้น 1,400 ฟุต/วินาที จะมีปัญหา “เหินลม” ทำให้วิถีกระสุน(Trajectory)ไม่ราบเรียบไม่แม่นยำเท่าควร ขณะที่กระสุนหัวตัน น้ำหนักหัวกระสุนมากๆ (หรือบางทีก็น้ำหนัก 240 เกรนเท่ากัน) แต่ปลอกกระสุนมีเข็มขัดรัดหรือรอยย้ำ 2 แถว แม้ความเร็วน้อยกว่าแต่ให้ความแม่นยำหนักแน่นสูงกว่ามาก เรียกว่าได้ใจทุกนัดไป ข้อเสีย คือ ยิงสะบัดกัดมือมากกว่ากระสุนรุ่นใหม่ๆ ประมาณ +15%-20% ถาม: “ปืนสี่สี่แม็กนั่มต้องระวังอะไรบ้าง? ติดศูนย์กล้องดีไหม?” ตอบ: ข้อหนึ่ง-ถ้าเป็นเหล็กสแตนเลส เช่น โมเดล 629 และ 629 คลาสสิค ควรใส่กล่องเก็บหรือไม่ก็ตัดซองหนังใส่ปืนเก็บรักษา เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน รอยขนแมว ที่เกิดขึ้นเพราะผิวเหล็กสแตนเลสเนื้ออ่อนกว่าเหล็ก ข้อสอง-ไม่ควรใช้ยาขัดโลหะชนิดที่มีสารชะล้าง(Solven)ขัดถูกตัวปืน เพราะจะทำให้ตัวอักษรที่แกะสลักด้วยเลเซอร์เคลือบสีทองไว้ลางเลือนจางหาย ข้อสาม-หมั่นตรวจขันหมุดสกรูที่ตัวปืนทั้งก่อนและหลังการยิง เนื่องจากแรงสะบัดสะท้อนรุนแรงทำให้หมุดสกรูคลายตัวและอาจหลุดกระเด็นหาย ข้อสี่-ถึงจะหาซื้อกระสุนได้มากก็ไม่ควรยิงเล่นบ่อยๆ เพราะจะทำให้ตัวปืนทรุดโทรมเร็วกว่าที่ควรอย่างน่าเสียดาย ข้อห้า-อย่านำมายิงแห้งหรือเหนี่ยวไกเล่น(โดยไม่บรรจุกระสุนในตัวปืน)บ่อยๆ กลไกปืนอาจชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะเข็มแทงชนวนอาจหักโดยไม่รู้ตัว ข้อหก-ติดศูนย์กล้องเล็งได้ในกำลังขยายภาพไม่เกิน 4 เท่า สูงกว่านั้นจะเล็งยิงได้ลำบาก มือสั่นสายตาพร่ามัวเพราะไม่กล้าลั่นกระสุน(เพราะภาพมันฟ้องว่าศูนย์ปืนไม่เข้าเป้าเนื่องจากมือผู้ยิงสั่นไปมา) แต่สุดท้ายก็ต้องถอดศูนย์กล้องเล็งออกเพราะรู้สึกเกะกะหนักตัวปืนเปล่าๆ สรุปท้ายเรื่อง... สมิธแอนด์เวสสัน สี่สี่แม็กนั่ม เป็นทรัพย์สมบัติที่คู่ควรต่อผู้มีบารมีและนักสะสมปืนมากกว่าการมีใช้เพื่อต่อสู้ป้องกันชีวิตทรัพย์สิน ไม่ใช่ปืนสั้นประจำกายอย่างแน่นอน แต่จะเหมาะที่สุดในกรณีท่องไพรสำรวจป่าที่พกไว้ข้างเอวหรือข้างสีข้างลำตัวเพื่อป้องกันสัตว์เขี้ยวยาวดุร้ายต่างๆ แม้ปัจจุบัน ตลาดปืนโลกจะมี “ปืนโหดกระสุนดุ” รุ่นใหม่ๆที่มีอานุภาพสูงกว่าสี่สี่แม็กนั่ม ไม่ว่าจะเป็น .454 Casull, .460 S&W Magnum, .500 S&W Magnum, และอื่นๆ แต่ “สี่สี่แม็กนั่มยังจะเป็นเพื่อนที่ดีของนักเล่นปืนตลอดไป” ขอบคุณครับ...
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • จัดทำเอกสารวัดผลออนไลน์ ปพ.6
    ส่งเกรด ส่งคะแนนออนไลน์ นักเรียนดูเกรดออนไลน์
    ขอบคุณคุณครูที่ใช้ความสนใจ และใช้งานโปรแกรม
    อบรม ทบทวนการใช้งาน
    โปรแกรมวัดผลออนไลน์ PMschool.Net
    #โปรแกรมวัดผลออนไลน์ #PMschoolNet
    #บริหารงานวิชาการ #บริหารงานโรงเรียน #ปพ5 #ปพ6 #ปพ7 #ปพ8 #ใบรายชื่อ #โปรแกรมสำหรับครู #งานวัดผล #ประกาศเกรด #โปรแกรมใช้งานง่าย #เพื่อหาวิธีที่ง่ายและถูกต้อง #สำหรับครู #งานทะเบียน #BEMIS #SchoolMIS #สถิตินักเรียน #สถิติ #สถิติรายวัน #ระบบวัดผล #ระบบวัดผลออนไลน์
    จัดทำเอกสารวัดผลออนไลน์ ปพ.6 ส่งเกรด ส่งคะแนนออนไลน์ นักเรียนดูเกรดออนไลน์ ขอบคุณคุณครูที่ใช้ความสนใจ และใช้งานโปรแกรม อบรม ทบทวนการใช้งาน โปรแกรมวัดผลออนไลน์ PMschool.Net #โปรแกรมวัดผลออนไลน์ #PMschoolNet #บริหารงานวิชาการ #บริหารงานโรงเรียน #ปพ5 #ปพ6 #ปพ7 #ปพ8 #ใบรายชื่อ #โปรแกรมสำหรับครู #งานวัดผล #ประกาศเกรด #โปรแกรมใช้งานง่าย #เพื่อหาวิธีที่ง่ายและถูกต้อง #สำหรับครู #งานทะเบียน #BEMIS #SchoolMIS #สถิตินักเรียน #สถิติ #สถิติรายวัน #ระบบวัดผล #ระบบวัดผลออนไลน์
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรงพระเจริญ🙏
    เล่าเรื่อง ขอบคุณTikTok@noonoodle #ถุงพระราชทาน #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    ทรงพระเจริญ🙏 เล่าเรื่อง ขอบคุณTikTok@noonoodle #ถุงพระราชทาน #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Love
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 737 มุมมอง 400 0 รีวิว
  • 🤠#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 01.🤠

    😎#ออกจากประตูหยก😎

    🥸การเดินทางของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปทางทิศตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะนั้นเป็นการกระทำส่วนตัวโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางการ แต่ด้วยเหตุนี้ มุมมองของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่มีต่อภูมิภาคตะวันตกจึงมีความเป็นพลเรือนมากกว่า เป็นกลางมากกว่า และเป็นจริงมากกว่า🥸

    🥸ต่อไปนี้เชิญท่านมาเผชิญหน้ากับท่ามกลางท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยลมและทราย เดินย่ำเหยียบฝ่าหมอกควันทะเลทราย เริ่มต้นเข้าร่วมกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ในการเดินทางอันน่ามหัศจรรย์ของเขาเพื่อร่างขอบเขตดินแดนของภูมิภาคตะวันตก🥸

    😎ออกจากประตูหยก(玉门)ไปทางทิศตะวันตก 😎

    🥸ในปีคริสตศักราช 629 ภัยพิบัติน้ำแข็งเกิดขึ้นในพื้นที่กวนจง(关中) ราชวงศ์ถัง(唐)ออกคำสั่งให้พระภิกษุและฆราวาสในพื้นที่ คยองกี(Gyeonggi京畿) ย้ายไปยังสถานที่อื่นเพื่อหาอาหารและหลีกเลี่ยงหลบหนีจากความอดอยาก พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ซึ่งแต่เดิมต้องการออกจากด่านทางผ่าน แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากราชสำนักจึงใช้โอกาสนี้ออกจากฉางอาน(长安)🥸 เขาเดินทางผ่านหลานโจว(兰州)และเหลียงโจว(凉州) เขาหลีกเลี่ยงการติดตามจัยกุมของทางการโดยการเดินทางเวลากลางคืนและพักเวลากลางวัน ต่อมา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เสี่ยงภัยเดินทางผ่าน กวัวโจว(瓜州) และ อวี้เหมินกวน(Yumen Pass玉门关) ผ่านหอคอยสัญญาณไฟ 5 แห่งที่มีกองทหารคุ้มกันตามลำดับรายทาง ด้วยความช่วยเหลือจากทหารรักษาชายแดนผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ข้ามทะเลทรายโกบีด้วยพลังแห่งความศรัทธาและความอุตสาหะอย่างแรงกล้าก่อนจะไปถึงอีหวู(伊吾) และเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตก

    🥸สถานีแรกของการเดินทาง อีหวู(伊吾) ได้มีการส่งมอบการมาถึงอย่างกะทันหันของพระภิกษุให้กับเกาชาง(Gaochang高昌) (ปัจจุบันคือเมืองถูหลู่ฟาน(Turfan 吐鲁番) เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์(Xinjiang Uygur Autonomous Region 新疆维吾尔自治区)) เจ้าเหนือหัวองค์น้อยทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตกในขณะนั้น ซึ่งตั้งอยู่ริมแอ่งถูหลู่ฟาน(Turfan Depression吐鲁番盆地)🥸

    🥸หลังจากได้ยินข่าวว่า พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)มาถึงแล้ว กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) เสนาบดี และสาวใช้ออกมาจากพระราชวังในเวลากลางคืน ทรงจุดเทียน และเข้าแถวเพื่อต้อนรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เข้าสู่พระราชวังด้วยความเคารพ🥸 หลังจากเห็น พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) แล้ว ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ดีใจมากและบอกกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ว่า: นับตั้งแต่ฉันรู้ชื่ออาจารย์ ฉันมีความสุขมากจนลืมกินลืมนอน ฉันรู้ว่าพระภิกษุผู้แสวงธรรมจากตะวันออกจะมาคืนนี้ ฉันก็เลยพร้อมกับพระราชินีและเจ้าชายทรงพากันสวดมนต์ตลอดทั้งคืนรอการมาถึงของพระอาจารย์

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ถูกจัดให้อยู่ที่สนามหลวงทางพิธีกรรมของศาสนาถัดจากพระราชวังกษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) และจัดขันทีให้ดูแลอาหารและชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)

    รัฐเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)เป็นนครรัฐที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันตก และถูกปกครองโดยผู้รอดชีวิตจากราชวงศ์ฮั่น(汉)และเว่ย(魏) ซึ่งเป็นโครงสร้างทางการเมืองที่รวมหู(胡)และฮั่น(汉)เข้าด้วยกัน ในบรรดาพลเมืองนั้น ไม่เพียงแต่สืบเชื้อสายมาจากผู้อพยพชาวฮั่น(汉)เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนจากภูมิภาคตะวันตกด้วย เช่น ชาวซ็อกเดียน(Sogdians粟特) ชาวซานซาน(Shanshan鄯善人)และชาวเติร์ก(Turks突厥人) 🥸ก่อนที่ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)จะมาถึง ประเทศนี้ก็ก่อตั้งขึ้นที่นั่นมานานกว่า 100 ปีแล้ว เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พบว่าข้อมูลจำเพาะของเมืองที่นี่มีความคล้ายคลึงกับเมืองฉางอัน(长安)ในราชวงศ์ซุย(隋)และราชวงศ์ถัง(唐)มาก นอกจากนี้ยังมีรูปของ ดยุคไอแห่งหลู่(鲁哀公)สอดถามขงจื๊อ(孔子)เกี่ยวกับปัญหาการเมืองที่แขวนอยู่ในพระราชวังของอาณาจักร เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)🥸

    😎การต้อนรับด้วยมารยาทอันสูงส่ง😎

    🥸ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และบิดาของเขาเดินทางไปยังราชวงศ์สุย(隋)ในยุครุ่งเรืองเพื่อเข้าเฝ้าจักรพรรดิสุยหยางตี้(隋炀帝)🥸 เขาไม่เพียงแต่เดินทางไปยังฉางอาน(长安) ล่อหยาง(洛阳) เฝินหยาง(汾阳) เอี้ยนตี้(燕地) ไต้ตี้(代地) และเมืองสำคัญอื่นๆ และได้เห็นวัฒนธรรมฮั่น(汉)ของที่ราบตอนกลางดั้งเดิม แต่เขายังไปเยี่ยมคารวะพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงและผู้มีคุณธรรมอีกมากมาย และเขาก็ชื่นชมที่ราบภาคกลางที่เป็นบ้านเกิดทางวัฒนธรรมของเขาเป็นอย่างมาก แต่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)รู้สึกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงในอดีตของราชวงศ์ซุย ความฉลาดสามารถของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)นั้นเหนือกว่ามาก

    เมื่อใดก็ตามที่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)บรรยายธรรมแก่ขุนนางของเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ในเต็นท์ใหญ่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ถือกระถางธูปเพื่อเคลียร์นำทางให้พระภิกษุผู้มีชื่อเสียงด้วยตนเอง เมื่อพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปที่แท่นธรรมาสน์เพื่อขึ้นเทศนาธรรม กษัตริย์แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ถึงกับคุกเข่าโน้มตัวลง และทำหน้าที่เป็นบันไดให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ก้าวขึ้นแท่นธรรมาสน์ การปฏิบัตินี้ไม่สอดคล้องกับประเพณีตะวันออก แต่ก็มีบันทึกไว้ในหนังสือดั้งเดิมของอินเดียบางเรื่อง สิ่งนี้พิสูจน์ได้จากสิ่งแวดล้อมข้วงเคียงว่า เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)คือจุดทางสี่แยกของอารยธรรมตะวันออกและตะวันตก นอกจากนี้ยังอธิบายถึงการบูชาสักการะอย่างสูงสุดต่อ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ยังคัดเลือกพระภิกษุในท้องถิ่นหลายแห่งใน เกาชาง(Gaochang高昌)ให้เป็นนักเรียนและคนรับใช้ นิสัยปกิบัติในการรับลูกศิษย์ไปตลอดทางนี้ กลายเป็นต้นแบบทางประวัติศาสตร์สำหรับทีมอาจารย์และลูกศิษย์ของภิกษุราชวงศ์ถัง(唐)ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องใน "บันทึกการเดินทางสู่ตะวันตก(Journey to the West西游记)" แม้ว่ากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)จะชื่นชมพรสวรรค์และการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เขาถึงกับมีความคิดหน่วงรั้งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้ที่เกาชาง(Gaochang高昌)ด้วยซ้ำ และขอให้ประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป แสดงธรรมสั่งสอนให้ความรู้ความกระจ่างแก่คนทั่วไป จนกระทั่งเป็นพระอาจารย์ระดับชาติของ เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เห็นด้วยเพราะมีตวามเห็นว่าเรื่องธรรมะเป็นเรื่องใหญ่กว่า กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)เห็นว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) มีความมุ่งมั่นดังนั้นเขาจึงจำต้องโยนไพ่ตายทางเลือกสุดท้ายของเขาออกไป: 🥸ถ้าพระคุณท่านไม่ปรารถนาอยู่ในเกาชาง(Gaochang高昌) ข้าพระเจ้าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งท่านอาจารย์กลับไปทางทิศตะวันออก🥸

    เมื่อต้องเผชิญกับกลยุทธ์ไม้แข็งและไม้อ่อนร่วมกันของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) กล่าวด้วยท่าทีที่ไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยองว่า: 🥸พระองค์สามารถจะเพียงได้รับกระดูกของอาตมาเอาไว้ได้ แต่พระองค์ไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจของอาตมาที่จะไปทางตะวันตกได้🥸

    😎หนทางเบื้องหน้าอันยาวไกล😎

    🥸ด้วยเหตุนี้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) จึงอดอาหารเป็นเวลาสามวันเพื่อแสดงความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตก🥸 ในฐานะเป็นอาณาจักรในภูมิภาคตะวันตกที่นับถือศาสนาพุทธ หากมีพระภิกษุที่แสวงหาธรรมะมาอดอยากจนตายภายในดินแดนของตน ชื่อเสียงสู่ภายนอกของเกาชาง(Gaochang高昌)ในภูมิภาคตะวันตกจะเสียหายอย่างมาก และเขาจะพลอยได้รับชื่อเสียงเสื่อมเสียงจากการทำร้ายพระภิกษุที่มีชื่อเสียงด้วย ยิ่งไปกว่านั้นความจริงแล้ว การขัดขวางการเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตกของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ด้วยเพื่อความปรารถนาอันเห็นแก่ตัวของเขาเองก็เป็นการขัดแย้งกับความตั้งใจเดิมของเขา

    🥸เมื่อเขาคิดมาถึง ณ จุดนี้ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ก้มหัวให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เพื่อขอโทษ🥸 ความคิดที่เห็นแก่ตัวของเขาที่มีต่อเกาชาง(Gaochang高昌) ก็ถูกขจัดออกไปในที่สุดด้วยความมุ่งมั่นมีเมตตาที่จะช่วยสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ในเวลาเดียวกันกับขณะที่รู้สึกประทับใจกับความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะแสวงหาธรรมะโดยปราศจากสิ่งภายนอกมาบั่นทอนความตั้งใจ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ได้สาบานต่อฟ้าดินสัญญาเป็นพี่น้องกัน ภายใต้การอุปถัมภ์จากแม่ของแผ่นดินเจ้าจอมมารดา จาง(张太妃) เพื่อให้พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เดินทางไปถึงอินเดียได้อย่างราบรื่น กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) ทรงสั่งการให้จัดทีมงานเล็กๆ ประกอบด้วยม้า 30 ตัว พนักงานข้าราชการเกาชาง(Gaochang高昌)1 คน ผู้ติดตามกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ 25 คน และพระภิกษุหนุ่ม 4 รูป เพื่อดูแลเรื่องอาหาร เสื้อผ้า และชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมหน้ากากและหมวกพิเศษสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สำหรับการเดินทางผ่านภูเขาและทะเลทรายที่เต็มไปด้วยหิมะ รวมถึงเสื้อคลุมสำหรับพระสงฆ์ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับเขตภูมิอากาศต่างๆ จัดทหารม้าขนนำทองคำ เงิน และผ้าไหมจำนวนมากไว้สำหรับการครั้งนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เพียงแต่จะไม่ต้องทนทุกข์จากความหิวโหยระหว่างทางไปอินเดียเท่านั้น แต่ยังมีเงินเพียงพอที่จะทำทานอีกด้วย ในสิ่งแต่งเคิมเหล่านี้เป็นรายละเอียดด้านที่อ่อนโยนของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ที่มีต่ออัครสาวก

    🥸นอกจากทรัพย์สินแล้ว เนื่องจากเจ้าผู้ครองแคว้นตะวันตกในขณะนั้น คือ ข่านเตอร์กตะวันตก(西突厥)ได้สมรสกับราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ยังมีจดหมายแสดงความเคารพที่กษัตริย์แห่งเกาชาง(Gaochang高昌)มอบให้กับข่านแห่งเติร์กตะวันตก(西突厥) อธิบายถึงความตั้งใจของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะไปทางดินแดนแคว้นตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะ🥸 ภายใต้การคุ้มครองของเตอร์กข่านตะวันตก (西突厥) ทุกประเทศในภูมิภาคตะวันตกตลอดเส้นทางให้ความเคารพแก่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) และให้การสนับสนุนทางทหารที่เข้มแข็งและมีควาทปลอดภัยที่สุดสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)และคณะเดินทางของเขา และจดหมายแสดงความเคารพของกษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ถึงพระมหากษัตริย์ของยี่สิบสี่ประเทศในภูมิภาคตะวันตกจะช่วยให้การเดินทางของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ง่ายและสะดวกขึ้นอย่างมาก

    🥸ในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของการอำลาอาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌) บรรดาราชวงศ์และชาวเกาชาง(Gaochang高昌)ก็ออกจากเมืองเพื่อส่งอำลา🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สัญญาว่า เมื่อเดินทางผ่านเกาชาง(Gaochang高昌)หลังจากกลับจากการศึกษาในอินเดียจะแสดงเทศนาธรรมอีก จากนั้นเขาก็กล่าวคำอำลากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ด้วยน้ำตา พวกบรรดาราชวงศ์ เกาชาง(Gaochang高昌)เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวพุทธต่างพากันออกจากเมืองส่งเสียงอำลาดังลั่นสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งถิ่น ราวกับว่ามือแห่งโชคชะตาได้ฉีกหัวใจและจิตวิญญาณออกจากร่างกายของชาวเกาชาง(Gaochang高昌) ทำให้พวกเขาสูญเสียสมบัติของชาติไปตลอดกาล

    บรรดาพวกราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ส่งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ออกไปนอกเมืองหลายสิบลี้ แม้ว่าพระภิกษุสมณเพศจะมองเห็นบรรลุแล้วการจากแยกอำลาในทางโลกแล้วก็ตาม แต่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ผู้ที่มีจิตใจละเอียดอ่อนและยังคงเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็ยังมีอารมณ์อ่อนไหวมาก เขาขอบคุณต่ออาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌)อย่างสุดซึ้งอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนอย่างมีน้ำใจ ราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังจับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง ร่ำไห้ราวกับสายฝนกล่าวว่า 🥸ในเมื่อพระคุณท่านถือเป็นพี่น้องกัน สัตว์พาหนะต่าง ๆ ในประเทศก็มีเจ้าของคนเดียวกัน แล้วเหตุใดจึงต้องขอบคุณพวกเขาด้วย?🥸

    พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ตอบว่า: 🥸ฉันจะไม่มีวันลืมความเมตตาของเสด็จพี่ตลอดชีวิตของอาตมา ในวันที่อาตมากลับจากนำพระคัมภีร์ทางพุทธศาสนากลับมา อาตมาจะอยู่สอนธรรมะในเกาชาง(Gaochang高昌)เป็นเวลาสามปีเป็นการตอบแทน!🥸

    หลายปีต่อมาในฉางอาน(长安) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เล่าถึงเหตุการณ์อันน่าประทับใจนี้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากให้เหล่าสาวกฟัง มิตรภาพฉันท์พี่น้องที่มีต่อราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังคงเกินคำบรรยาย ดูเหมือนราวกับว่าพิธีอำลาที่หรูหราและยิ่งใหญ่นั้นได่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ตอนนั้นเขาไม่รู้ 🥸นี่ยังจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พบกับพี่ชายร่วมสาบานของเขา🥸

    🥳โปรดติดตามบทความ#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 02.
    #อาณาจักรคาราซาห์และคูชาที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🥳

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 01.🤠 😎#ออกจากประตูหยก😎 🥸การเดินทางของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปทางทิศตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะนั้นเป็นการกระทำส่วนตัวโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางการ แต่ด้วยเหตุนี้ มุมมองของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่มีต่อภูมิภาคตะวันตกจึงมีความเป็นพลเรือนมากกว่า เป็นกลางมากกว่า และเป็นจริงมากกว่า🥸 🥸ต่อไปนี้เชิญท่านมาเผชิญหน้ากับท่ามกลางท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยลมและทราย เดินย่ำเหยียบฝ่าหมอกควันทะเลทราย เริ่มต้นเข้าร่วมกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ในการเดินทางอันน่ามหัศจรรย์ของเขาเพื่อร่างขอบเขตดินแดนของภูมิภาคตะวันตก🥸 😎ออกจากประตูหยก(玉门)ไปทางทิศตะวันตก 😎 🥸ในปีคริสตศักราช 629 ภัยพิบัติน้ำแข็งเกิดขึ้นในพื้นที่กวนจง(关中) ราชวงศ์ถัง(唐)ออกคำสั่งให้พระภิกษุและฆราวาสในพื้นที่ คยองกี(Gyeonggi京畿) ย้ายไปยังสถานที่อื่นเพื่อหาอาหารและหลีกเลี่ยงหลบหนีจากความอดอยาก พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ซึ่งแต่เดิมต้องการออกจากด่านทางผ่าน แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากราชสำนักจึงใช้โอกาสนี้ออกจากฉางอาน(长安)🥸 เขาเดินทางผ่านหลานโจว(兰州)และเหลียงโจว(凉州) เขาหลีกเลี่ยงการติดตามจัยกุมของทางการโดยการเดินทางเวลากลางคืนและพักเวลากลางวัน ต่อมา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เสี่ยงภัยเดินทางผ่าน กวัวโจว(瓜州) และ อวี้เหมินกวน(Yumen Pass玉门关) ผ่านหอคอยสัญญาณไฟ 5 แห่งที่มีกองทหารคุ้มกันตามลำดับรายทาง ด้วยความช่วยเหลือจากทหารรักษาชายแดนผู้ศรัทธาในพระพุทธศาสนา พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ข้ามทะเลทรายโกบีด้วยพลังแห่งความศรัทธาและความอุตสาหะอย่างแรงกล้าก่อนจะไปถึงอีหวู(伊吾) และเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตก 🥸สถานีแรกของการเดินทาง อีหวู(伊吾) ได้มีการส่งมอบการมาถึงอย่างกะทันหันของพระภิกษุให้กับเกาชาง(Gaochang高昌) (ปัจจุบันคือเมืองถูหลู่ฟาน(Turfan 吐鲁番) เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์(Xinjiang Uygur Autonomous Region 新疆维吾尔自治区)) เจ้าเหนือหัวองค์น้อยทางตะวันออกของภูมิภาคตะวันตกในขณะนั้น ซึ่งตั้งอยู่ริมแอ่งถูหลู่ฟาน(Turfan Depression吐鲁番盆地)🥸 🥸หลังจากได้ยินข่าวว่า พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)มาถึงแล้ว กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) เสนาบดี และสาวใช้ออกมาจากพระราชวังในเวลากลางคืน ทรงจุดเทียน และเข้าแถวเพื่อต้อนรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เข้าสู่พระราชวังด้วยความเคารพ🥸 หลังจากเห็น พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) แล้ว ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ดีใจมากและบอกกับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ว่า: นับตั้งแต่ฉันรู้ชื่ออาจารย์ ฉันมีความสุขมากจนลืมกินลืมนอน ฉันรู้ว่าพระภิกษุผู้แสวงธรรมจากตะวันออกจะมาคืนนี้ ฉันก็เลยพร้อมกับพระราชินีและเจ้าชายทรงพากันสวดมนต์ตลอดทั้งคืนรอการมาถึงของพระอาจารย์ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ถูกจัดให้อยู่ที่สนามหลวงทางพิธีกรรมของศาสนาถัดจากพระราชวังกษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) และจัดขันทีให้ดูแลอาหารและชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) รัฐเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)เป็นนครรัฐที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคตะวันตก และถูกปกครองโดยผู้รอดชีวิตจากราชวงศ์ฮั่น(汉)และเว่ย(魏) ซึ่งเป็นโครงสร้างทางการเมืองที่รวมหู(胡)และฮั่น(汉)เข้าด้วยกัน ในบรรดาพลเมืองนั้น ไม่เพียงแต่สืบเชื้อสายมาจากผู้อพยพชาวฮั่น(汉)เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้คนจากภูมิภาคตะวันตกด้วย เช่น ชาวซ็อกเดียน(Sogdians粟特) ชาวซานซาน(Shanshan鄯善人)และชาวเติร์ก(Turks突厥人) 🥸ก่อนที่ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)จะมาถึง ประเทศนี้ก็ก่อตั้งขึ้นที่นั่นมานานกว่า 100 ปีแล้ว เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พบว่าข้อมูลจำเพาะของเมืองที่นี่มีความคล้ายคลึงกับเมืองฉางอัน(长安)ในราชวงศ์ซุย(隋)และราชวงศ์ถัง(唐)มาก นอกจากนี้ยังมีรูปของ ดยุคไอแห่งหลู่(鲁哀公)สอดถามขงจื๊อ(孔子)เกี่ยวกับปัญหาการเมืองที่แขวนอยู่ในพระราชวังของอาณาจักร เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)🥸 😎การต้อนรับด้วยมารยาทอันสูงส่ง😎 🥸ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และบิดาของเขาเดินทางไปยังราชวงศ์สุย(隋)ในยุครุ่งเรืองเพื่อเข้าเฝ้าจักรพรรดิสุยหยางตี้(隋炀帝)🥸 เขาไม่เพียงแต่เดินทางไปยังฉางอาน(长安) ล่อหยาง(洛阳) เฝินหยาง(汾阳) เอี้ยนตี้(燕地) ไต้ตี้(代地) และเมืองสำคัญอื่นๆ และได้เห็นวัฒนธรรมฮั่น(汉)ของที่ราบตอนกลางดั้งเดิม แต่เขายังไปเยี่ยมคารวะพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงและผู้มีคุณธรรมอีกมากมาย และเขาก็ชื่นชมที่ราบภาคกลางที่เป็นบ้านเกิดทางวัฒนธรรมของเขาเป็นอย่างมาก แต่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)รู้สึกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงในอดีตของราชวงศ์ซุย ความฉลาดสามารถของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)นั้นเหนือกว่ามาก เมื่อใดก็ตามที่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)บรรยายธรรมแก่ขุนนางของเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ในเต็นท์ใหญ่ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ถือกระถางธูปเพื่อเคลียร์นำทางให้พระภิกษุผู้มีชื่อเสียงด้วยตนเอง เมื่อพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไปที่แท่นธรรมาสน์เพื่อขึ้นเทศนาธรรม กษัตริย์แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)ถึงกับคุกเข่าโน้มตัวลง และทำหน้าที่เป็นบันไดให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ก้าวขึ้นแท่นธรรมาสน์ การปฏิบัตินี้ไม่สอดคล้องกับประเพณีตะวันออก แต่ก็มีบันทึกไว้ในหนังสือดั้งเดิมของอินเดียบางเรื่อง สิ่งนี้พิสูจน์ได้จากสิ่งแวดล้อมข้วงเคียงว่า เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)คือจุดทางสี่แยกของอารยธรรมตะวันออกและตะวันตก นอกจากนี้ยังอธิบายถึงการบูชาสักการะอย่างสูงสุดต่อ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ยังคัดเลือกพระภิกษุในท้องถิ่นหลายแห่งใน เกาชาง(Gaochang高昌)ให้เป็นนักเรียนและคนรับใช้ นิสัยปกิบัติในการรับลูกศิษย์ไปตลอดทางนี้ กลายเป็นต้นแบบทางประวัติศาสตร์สำหรับทีมอาจารย์และลูกศิษย์ของภิกษุราชวงศ์ถัง(唐)ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องใน "บันทึกการเดินทางสู่ตะวันตก(Journey to the West西游记)" แม้ว่ากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)แห่งเกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国)จะชื่นชมพรสวรรค์และการเรียนรู้อย่างลึกซึ้งของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เขาถึงกับมีความคิดหน่วงรั้งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้ที่เกาชาง(Gaochang高昌)ด้วยซ้ำ และขอให้ประทับอยู่ที่นี่ตลอดไป แสดงธรรมสั่งสอนให้ความรู้ความกระจ่างแก่คนทั่วไป จนกระทั่งเป็นพระอาจารย์ระดับชาติของ เกาชางเกว๋าะ(Gaochang高昌国) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เห็นด้วยเพราะมีตวามเห็นว่าเรื่องธรรมะเป็นเรื่องใหญ่กว่า กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)เห็นว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) มีความมุ่งมั่นดังนั้นเขาจึงจำต้องโยนไพ่ตายทางเลือกสุดท้ายของเขาออกไป: 🥸ถ้าพระคุณท่านไม่ปรารถนาอยู่ในเกาชาง(Gaochang高昌) ข้าพระเจ้าจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากส่งท่านอาจารย์กลับไปทางทิศตะวันออก🥸 เมื่อต้องเผชิญกับกลยุทธ์ไม้แข็งและไม้อ่อนร่วมกันของ ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) กล่าวด้วยท่าทีที่ไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยองว่า: 🥸พระองค์สามารถจะเพียงได้รับกระดูกของอาตมาเอาไว้ได้ แต่พระองค์ไม่สามารถหยุดยั้งความตั้งใจของอาตมาที่จะไปทางตะวันตกได้🥸 😎หนทางเบื้องหน้าอันยาวไกล😎 🥸ด้วยเหตุนี้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) จึงอดอาหารเป็นเวลาสามวันเพื่อแสดงความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตก🥸 ในฐานะเป็นอาณาจักรในภูมิภาคตะวันตกที่นับถือศาสนาพุทธ หากมีพระภิกษุที่แสวงหาธรรมะมาอดอยากจนตายภายในดินแดนของตน ชื่อเสียงสู่ภายนอกของเกาชาง(Gaochang高昌)ในภูมิภาคตะวันตกจะเสียหายอย่างมาก และเขาจะพลอยได้รับชื่อเสียงเสื่อมเสียงจากการทำร้ายพระภิกษุที่มีชื่อเสียงด้วย ยิ่งไปกว่านั้นความจริงแล้ว การขัดขวางการเดินทางไปดินแดนทางทิศตะวันตกของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ด้วยเพื่อความปรารถนาอันเห็นแก่ตัวของเขาเองก็เป็นการขัดแย้งกับความตั้งใจเดิมของเขา 🥸เมื่อเขาคิดมาถึง ณ จุดนี้ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ก็ก้มหัวให้ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) เพื่อขอโทษ🥸 ความคิดที่เห็นแก่ตัวของเขาที่มีต่อเกาชาง(Gaochang高昌) ก็ถูกขจัดออกไปในที่สุดด้วยความมุ่งมั่นมีเมตตาที่จะช่วยสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ในเวลาเดียวกันกับขณะที่รู้สึกประทับใจกับความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะแสวงหาธรรมะโดยปราศจากสิ่งภายนอกมาบั่นทอนความตั้งใจ กษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)และพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ได้สาบานต่อฟ้าดินสัญญาเป็นพี่น้องกัน ภายใต้การอุปถัมภ์จากแม่ของแผ่นดินเจ้าจอมมารดา จาง(张太妃) เพื่อให้พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เดินทางไปถึงอินเดียได้อย่างราบรื่น กษัตริย์เกาชาง(Gaochang高昌) ทรงสั่งการให้จัดทีมงานเล็กๆ ประกอบด้วยม้า 30 ตัว พนักงานข้าราชการเกาชาง(Gaochang高昌)1 คน ผู้ติดตามกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ 25 คน และพระภิกษุหนุ่ม 4 รูป เพื่อดูแลเรื่องอาหาร เสื้อผ้า และชีวิตประจำวันของพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมหน้ากากและหมวกพิเศษสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สำหรับการเดินทางผ่านภูเขาและทะเลทรายที่เต็มไปด้วยหิมะ รวมถึงเสื้อคลุมสำหรับพระสงฆ์ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับเขตภูมิอากาศต่างๆ จัดทหารม้าขนนำทองคำ เงิน และผ้าไหมจำนวนมากไว้สำหรับการครั้งนี้ ทำให้มั่นใจได้ว่าพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไม่เพียงแต่จะไม่ต้องทนทุกข์จากความหิวโหยระหว่างทางไปอินเดียเท่านั้น แต่ยังมีเงินเพียงพอที่จะทำทานอีกด้วย ในสิ่งแต่งเคิมเหล่านี้เป็นรายละเอียดด้านที่อ่อนโยนของประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ที่มีต่ออัครสาวก 🥸นอกจากทรัพย์สินแล้ว เนื่องจากเจ้าผู้ครองแคว้นตะวันตกในขณะนั้น คือ ข่านเตอร์กตะวันตก(西突厥)ได้สมรสกับราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ยังมีจดหมายแสดงความเคารพที่กษัตริย์แห่งเกาชาง(Gaochang高昌)มอบให้กับข่านแห่งเติร์กตะวันตก(西突厥) อธิบายถึงความตั้งใจของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ที่จะไปทางดินแดนแคว้นตะวันตกเพื่อแสวงหาธรรมะ🥸 ภายใต้การคุ้มครองของเตอร์กข่านตะวันตก (西突厥) ทุกประเทศในภูมิภาคตะวันตกตลอดเส้นทางให้ความเคารพแก่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) และให้การสนับสนุนทางทหารที่เข้มแข็งและมีควาทปลอดภัยที่สุดสำหรับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)และคณะเดินทางของเขา และจดหมายแสดงความเคารพของกษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ถึงพระมหากษัตริย์ของยี่สิบสี่ประเทศในภูมิภาคตะวันตกจะช่วยให้การเดินทางของ พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ง่ายและสะดวกขึ้นอย่างมาก 🥸ในช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของการอำลาอาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌) บรรดาราชวงศ์และชาวเกาชาง(Gaochang高昌)ก็ออกจากเมืองเพื่อส่งอำลา🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)สัญญาว่า เมื่อเดินทางผ่านเกาชาง(Gaochang高昌)หลังจากกลับจากการศึกษาในอินเดียจะแสดงเทศนาธรรมอีก จากนั้นเขาก็กล่าวคำอำลากษัตริย์ชวีเหวินไท่(Qu Wentai麹文泰)ด้วยน้ำตา พวกบรรดาราชวงศ์ เกาชาง(Gaochang高昌)เจ้าหน้าที่และประชาชนชาวพุทธต่างพากันออกจากเมืองส่งเสียงอำลาดังลั่นสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งถิ่น ราวกับว่ามือแห่งโชคชะตาได้ฉีกหัวใจและจิตวิญญาณออกจากร่างกายของชาวเกาชาง(Gaochang高昌) ทำให้พวกเขาสูญเสียสมบัติของชาติไปตลอดกาล บรรดาพวกราชวงศ์เกาชาง(Gaochang高昌) ส่งพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ออกไปนอกเมืองหลายสิบลี้ แม้ว่าพระภิกษุสมณเพศจะมองเห็นบรรลุแล้วการจากแยกอำลาในทางโลกแล้วก็ตาม แต่พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ผู้ที่มีจิตใจละเอียดอ่อนและยังคงเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ของมนุษย์ก็ยังมีอารมณ์อ่อนไหวมาก เขาขอบคุณต่ออาณาจักรเกาชาง(Gaochang高昌)อย่างสุดซึ้งอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนอย่างมีน้ำใจ ราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังจับพระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)ไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง ร่ำไห้ราวกับสายฝนกล่าวว่า 🥸ในเมื่อพระคุณท่านถือเป็นพี่น้องกัน สัตว์พาหนะต่าง ๆ ในประเทศก็มีเจ้าของคนเดียวกัน แล้วเหตุใดจึงต้องขอบคุณพวกเขาด้วย?🥸 พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘) ตอบว่า: 🥸ฉันจะไม่มีวันลืมความเมตตาของเสด็จพี่ตลอดชีวิตของอาตมา ในวันที่อาตมากลับจากนำพระคัมภีร์ทางพุทธศาสนากลับมา อาตมาจะอยู่สอนธรรมะในเกาชาง(Gaochang高昌)เป็นเวลาสามปีเป็นการตอบแทน!🥸 หลายปีต่อมาในฉางอาน(长安) พระถังซัมจั๋ง(Xuanzang 玄奘)เล่าถึงเหตุการณ์อันน่าประทับใจนี้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากให้เหล่าสาวกฟัง มิตรภาพฉันท์พี่น้องที่มีต่อราชาแห่งเกาชาง(Gaochang高昌)ยังคงเกินคำบรรยาย ดูเหมือนราวกับว่าพิธีอำลาที่หรูหราและยิ่งใหญ่นั้นได่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง ตอนนั้นเขาไม่รู้ 🥸นี่ยังจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้พบกับพี่ชายร่วมสาบานของเขา🥸 🥳โปรดติดตามบทความ#โลกของภูมิภาคตะวันตกในสายตาของพระภิกษุถังซัมจั๋ง ตอน 02. #อาณาจักรคาราซาห์และคูชาที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🥳 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝันมานานแล้วว่า ไทยควรมีโซเชียลของไทยเอง ขอให้ดูแลด้วยความรักต่อแผ่นดินไทย
    ขอบคุณครับ
    ฝันมานานแล้วว่า ไทยควรมีโซเชียลของไทยเอง ขอให้ดูแลด้วยความรักต่อแผ่นดินไทย ขอบคุณครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • #พวกนี้สร้างบัญชีกรรมให้กับชาติ มาสนับสนุนการมอบหน้าที่ให้คนกลุ่มหนึ่ง มาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ไอ้ที่ไม่ชอบใจ คนอื่นเค้าก็ไม่เอาก็ขึ้นเห็บขึ้นเหา ที่มีจริยธรรมไว้คุ้มครอง double majority มันก็ไม่ออกมาปกป้อง อย่างนี้ แกจะเอาตามใจบิดา นางอุษา หรือ บิดาตี๋ตาลอย หัวหนาม ลูกเจ้าแม่หัวหนามแห่งเกาะแมนฮัสเช้ย

    เวลานี้หลาย ๆ ที่บนโลก กำลังรบกัน แทนที่ จะพึงสังวรภัย และแหล่งอาหารให้กับมวลมนุษยชาติ แต่
    พวกคุณๆ ทั้งหลายรู้อยู่แก่ใจว่ามาทำเพราะอะไร บัญชีกรรม ได้สร้างสำเร็จแล้ว ขออกุศลกรรม ได้มีทางเร่งลัดจัดลำดับความเหมาะสม อย่างที่ใครคิด แก้ไปหาบิดา

    ขอบคุณภาพจาก ilaw ที่มาบอกให้ทราบ ว่ามีการชุมนุมสร้างอกุศลกรรมเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ที่รัฐสภา

    ใครสนใจหาข้อมูลต่อเอง ที่แนวหน้าออนไลน์ เป๊ปซี่ดีไหมล่ะ วันที่ 4 ตุลา 2567
    #พวกนี้สร้างบัญชีกรรมให้กับชาติ มาสนับสนุนการมอบหน้าที่ให้คนกลุ่มหนึ่ง มาเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ไอ้ที่ไม่ชอบใจ คนอื่นเค้าก็ไม่เอาก็ขึ้นเห็บขึ้นเหา ที่มีจริยธรรมไว้คุ้มครอง double majority มันก็ไม่ออกมาปกป้อง อย่างนี้ แกจะเอาตามใจบิดา นางอุษา หรือ บิดาตี๋ตาลอย หัวหนาม ลูกเจ้าแม่หัวหนามแห่งเกาะแมนฮัสเช้ย เวลานี้หลาย ๆ ที่บนโลก กำลังรบกัน แทนที่ จะพึงสังวรภัย และแหล่งอาหารให้กับมวลมนุษยชาติ แต่ พวกคุณๆ ทั้งหลายรู้อยู่แก่ใจว่ามาทำเพราะอะไร บัญชีกรรม ได้สร้างสำเร็จแล้ว ขออกุศลกรรม ได้มีทางเร่งลัดจัดลำดับความเหมาะสม อย่างที่ใครคิด แก้ไปหาบิดา ขอบคุณภาพจาก ilaw ที่มาบอกให้ทราบ ว่ามีการชุมนุมสร้างอกุศลกรรมเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ที่รัฐสภา ใครสนใจหาข้อมูลต่อเอง ที่แนวหน้าออนไลน์ เป๊ปซี่ดีไหมล่ะ วันที่ 4 ตุลา 2567
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ส่งสารจากคิงส์โพธิ์แดง
    #ถึงเอเจนซี่ตตและกลุ่มทุนดาร์ค
    สวัสดี เราไม่เคยได้สื่อสารกัน ตั้งแต่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้เปิดเรื่องราวของพวกท่าน สู่สาธารณะและพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ จนส่งผลให้ท่านต้องหยุดกิจกรรมการฟอก ผ่านบิ๊กแม๊ต และตำแต่งบช และนำออกมาเสียภาษี จนได้เป็นเงินขาวสะอาดไประยะเวลานานพอสมควร
    - จากปฐมบทจริงๆ ที่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้มาขุดเรื่องนี้ คือการเห็นนักแสดงชายคือแน๊กชาลี ที่เราเห็นน้องคนนี้มาตั้งแต่เด็กๆ และคนไทยได้ดูการเติบโตของน้อง ได้เห็นความดีในตัวของน้อง ได้ออกมาพูดคุยด้วยความอัดอั้น จากการถูกรังแก จากใครก็ไม่รู้ ทำให้พี่คิงส์ต้องสืบค้นหาข้อมูลอย่างมโหฬาร จึงรู้ว่า มีนังโจมณฑนี เป็นผู้อยู่เบื้องหลักการให้ร้ายน้อง กับการบรรยายมาราธอน ดุจเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง โรคะจิตตะ นาซิซีส ซึ่งไม่ว่านังคนนี้บรรยายห้องไหนในโซเชียล ในคอมเม้นต่างก็ชี้เป้าไปที่ น้องแน๊กชาลี ถึงนังโจจะไม่เอ่ยชื่อ แต่ใช้คำแทนต่างๆที่ทุกคนในกลุ่มของอินังนี่ พูดใช้ถ้อยคำหยาบกับน้องแน๊กในหลายกรรม หลายวาระ เพียงเป้าหมายจะยกตัวแสดงของคุณ คือ จีกามิน ให้เป็นตัวละครที่น่าสงสาร
    - เพจคิงส์โพธิ์แดง เราไม่ได้เพิ่งจะเริ่มทำเพจ เราทำมานานมาก และเราไปเปิดความจริงกับผู้มีอำนาจที่ปะปนความทุจจริต มีทั้งกลุ่มฟอก ที่เป็น ตร. ทะนาย หรือนกม. และเราไม่เคยแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
    - ลำดับถัดมา ที่เรายิ่งต้องขุดความจริงคือ การโพสท้าทายจากโจมณฑนี ที่ข๋มขุ่เพจคิงส์โพธิ์แดง ว่าถ้าหากเราเปิดเรื่องนี้ อินังนี่จะฟ๊อง ซึ่งเพจเรา ไม่ชอบการถูกข๋มขุ่ มันจึงเป็นพลังในการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ
    - หลังจากการที่เราได้เปิดเผยความจริง ว่าคุณที่เป็นตัวใหญ่ คือกลุ่มทุนดาร์คที่ระเห็ดจาก ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียประเทศอื่นๆ หวังมาใช้ไทยเป็นฐานฟอก จริงๆแล้ว ภาระกิจเรื่องนี้ของเราก็เสร็จสิ้นแล้ว เพราะคุณเองก็น่าจะทราบความเคลื่นอไหวของ สตช.ระดับหนึ่ง ทั้งปปง. สตช. ต่างกำลังสืบเส้นเงินพวกคุณและเครือข่ายอยู่ มันจึงถือว่าจบภาระกิจ
    - แต่ โจมณทนี กลับเปิดหน้า ไปร่วมมือกับเพจที่ชื่อ Diy reviwe v2 ที่เจ้าของเพจ เป็นผู้สูงอายุที่ไร้คุณภาพ เหมือนเพจที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับเป็นที่พ่น บ่น ระบาย ของคนวัยเฒ่า พยายามยั่วยุเพจเรา ให้เดินเรื่องขุดต่อ โดยโจมณฑนี มันคอมเม้นให้กำลังใจ กับเพจนี้เสมอในการยั่วให้เราเปิดความจริงที่ลึกลงไปอีกเรื่องๆ
    - ทั้งๆที่เพจคิงส์โพธิ์แดงเอง ก็เคยโพสแถลงการไปแล้วด้วยซ้ำ ผู้บริหารเอเจนซี่และกลุ่มทุนดาร์ค ทั้งในประเทศ888และข้ามชาติ ไปดูที่ปักหมุดไว้ได้ ว่าเราต้องการนำเสนอข่าวอื่นๆที่เป็นประโยชน์กับคนไทย
    - แต่เราก็หยุดไม่ได้จริงๆ เพราะเมื่อไหร่ที่เราหยุดขุดเรื่องพวกคุณเพิ่ม โจมณฑนีจะใช้ เฒ่าตันหากลับแอดมินเพจกากดังกล่าว มายั่วเราทันที เช่น ไหนจะขุดต่อ หรือ กลัวหรืออย่างไร อะไรประมาณนี้ จนเพจคิงส์ตัดปัญหาเพราะความหยะแหยงในภาษาในการโพสไร้สาระ เช่น จีบวัยรุ่นที่เป็นลูกเพจ เพ้อเพราะลูกเพจสาวทิ้ง และสำนวนภาษาชั้นต๋ำที่ไม่อยากจะเอ่ยถึงให้ไปดูเอาเองก็แล้วกัน
    - จนล่าสุด เมื่อวานนี้ เราตั้งใจจะพักเรื่องนี้เพื่อหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ดาราสาวที่กำลังจะเดินทางผิดไปสู่ก้นเหว ก็อย่างที่บอก ข้อมูลที่สำคัญของพวกคุณ ส่วนสำคัญๆมันเป็นที่ประจักษ์กับคนไทยแล้ว ก็เลยจะดูข้อมูลส่วนอื่น แต่โจมณฑนีอีกแล้ว กลับออกมาท้าทายผ่านคอมเม้นของเพจเฒ่าตันหากลับว่า "เพจคิงคองแดง ไม่ใจ ไม่ใจเลย" ถึงสำนวนสก็อยแต่คิงส์ฯอ่านเข้าใจไม่ยาก ว่านี่คือการท้าทาย เราจึงได้ชัดไปชุดเล็กๆ และก็นังโจมณฑนี่อีกนี่แหละ ที่ไปโพส สม ออย ว่าตัวเองถูกรังงแก เช้ามาท้าทาย บ่ายมาร้องโฮ
    - ดังนัั้น จึงขอแจ้งไปยังกลุ่มทุนดาร์ค และเอเจนซี่ของเครื่อข่ายฟอกว่า ถึงแม้ว่า ข้อมูลสำคัญเราได้เปิดไปหมดแล้ว แต่เราก็ยังหยุดไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะคุณเลือกคนที่มีความเหมาะสมมากที่มาทำงานปกป้องพวกคุณ โดยว่าจ้าง โจมณฑนี อดีตสก็อยใจแตก วุฒิแค่ม.ต้น มาทำงานใหญ่ของพวกคุณ เพราะ โจมณฑนี นี่แหละ ที่จะทำให้พวกคุณพัง ไม่ได้พังน้อยๆ แต่จะพังทั้ง ขบก. เพราะโจมณฑนี จะคัดคนมาเป็นมือซ้ายมือขวา ก็คงไม่สามารถหากุนซือที่มีสติปัญญามาได้ จะหาได้ก็แค่ตามพื้นถนน เช่น ชายวัยสามสิบ ชื่อเป็ด ที่ไม่มีแก่นสาร เป็นคนที่มีความหี่น กัมหนัดท่วมท้น เป็นคนมีประวัติอันเสื่อมเสีย เคยวิ่งงานไรเดอร์ ก็เชิดจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน วันนี้ ก็ได้เศษเงินจากกลุ่มทุนดาร์ค อย่างพวกคุณนี่แหละ มาปั่น มาหยาบ จนคนจำนวนไม่น้อง รู้สึกหยะแหย๋ง จีกามินของคุณ เพราะสะสมแต่คนกักกขละ สถูนแบบนี้
    สรุป เพจคิงส์โพธิ์แดง จะขอบคุณสำหรับการเลือกคนที่ถูกต้องมาทำงานนี้ ทำให้เรา หยุดที่จะขุดความจริงต่อไม่ได้ คุณจงสั่งให้เค้าท้าทายเราต่อไป และให้ข๋มขุ่เราให้มากกว่านี้ เพื่อที่เราจะยังได้ไม่เบนเข็มทิศไปเรื่องอื่น และยังคงต้องอยู่กับเรื่องของพวกคุณไปอีกนานๆ เอาให้ถึงก้นบึ้งของสตอรี่พวกคุณอย่างแท้จริง
    "โจ มณฑนี จะทำให้พังทั้งขบก" เยี่ยมไปเลย คัดคนได้ดี
    แจ้งเพื่อทราบ
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #ส่งสารจากคิงส์โพธิ์แดง #ถึงเอเจนซี่ตตและกลุ่มทุนดาร์ค สวัสดี เราไม่เคยได้สื่อสารกัน ตั้งแต่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้เปิดเรื่องราวของพวกท่าน สู่สาธารณะและพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศ จนส่งผลให้ท่านต้องหยุดกิจกรรมการฟอก ผ่านบิ๊กแม๊ต และตำแต่งบช และนำออกมาเสียภาษี จนได้เป็นเงินขาวสะอาดไประยะเวลานานพอสมควร - จากปฐมบทจริงๆ ที่เพจคิงส์โพธิ์แดง ได้มาขุดเรื่องนี้ คือการเห็นนักแสดงชายคือแน๊กชาลี ที่เราเห็นน้องคนนี้มาตั้งแต่เด็กๆ และคนไทยได้ดูการเติบโตของน้อง ได้เห็นความดีในตัวของน้อง ได้ออกมาพูดคุยด้วยความอัดอั้น จากการถูกรังแก จากใครก็ไม่รู้ ทำให้พี่คิงส์ต้องสืบค้นหาข้อมูลอย่างมโหฬาร จึงรู้ว่า มีนังโจมณฑนี เป็นผู้อยู่เบื้องหลักการให้ร้ายน้อง กับการบรรยายมาราธอน ดุจเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่อง โรคะจิตตะ นาซิซีส ซึ่งไม่ว่านังคนนี้บรรยายห้องไหนในโซเชียล ในคอมเม้นต่างก็ชี้เป้าไปที่ น้องแน๊กชาลี ถึงนังโจจะไม่เอ่ยชื่อ แต่ใช้คำแทนต่างๆที่ทุกคนในกลุ่มของอินังนี่ พูดใช้ถ้อยคำหยาบกับน้องแน๊กในหลายกรรม หลายวาระ เพียงเป้าหมายจะยกตัวแสดงของคุณ คือ จีกามิน ให้เป็นตัวละครที่น่าสงสาร - เพจคิงส์โพธิ์แดง เราไม่ได้เพิ่งจะเริ่มทำเพจ เราทำมานานมาก และเราไปเปิดความจริงกับผู้มีอำนาจที่ปะปนความทุจจริต มีทั้งกลุ่มฟอก ที่เป็น ตร. ทะนาย หรือนกม. และเราไม่เคยแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว - ลำดับถัดมา ที่เรายิ่งต้องขุดความจริงคือ การโพสท้าทายจากโจมณฑนี ที่ข๋มขุ่เพจคิงส์โพธิ์แดง ว่าถ้าหากเราเปิดเรื่องนี้ อินังนี่จะฟ๊อง ซึ่งเพจเรา ไม่ชอบการถูกข๋มขุ่ มันจึงเป็นพลังในการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ - หลังจากการที่เราได้เปิดเผยความจริง ว่าคุณที่เป็นตัวใหญ่ คือกลุ่มทุนดาร์คที่ระเห็ดจาก ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียประเทศอื่นๆ หวังมาใช้ไทยเป็นฐานฟอก จริงๆแล้ว ภาระกิจเรื่องนี้ของเราก็เสร็จสิ้นแล้ว เพราะคุณเองก็น่าจะทราบความเคลื่นอไหวของ สตช.ระดับหนึ่ง ทั้งปปง. สตช. ต่างกำลังสืบเส้นเงินพวกคุณและเครือข่ายอยู่ มันจึงถือว่าจบภาระกิจ - แต่ โจมณทนี กลับเปิดหน้า ไปร่วมมือกับเพจที่ชื่อ Diy reviwe v2 ที่เจ้าของเพจ เป็นผู้สูงอายุที่ไร้คุณภาพ เหมือนเพจที่ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับเป็นที่พ่น บ่น ระบาย ของคนวัยเฒ่า พยายามยั่วยุเพจเรา ให้เดินเรื่องขุดต่อ โดยโจมณฑนี มันคอมเม้นให้กำลังใจ กับเพจนี้เสมอในการยั่วให้เราเปิดความจริงที่ลึกลงไปอีกเรื่องๆ - ทั้งๆที่เพจคิงส์โพธิ์แดงเอง ก็เคยโพสแถลงการไปแล้วด้วยซ้ำ ผู้บริหารเอเจนซี่และกลุ่มทุนดาร์ค ทั้งในประเทศ888และข้ามชาติ ไปดูที่ปักหมุดไว้ได้ ว่าเราต้องการนำเสนอข่าวอื่นๆที่เป็นประโยชน์กับคนไทย - แต่เราก็หยุดไม่ได้จริงๆ เพราะเมื่อไหร่ที่เราหยุดขุดเรื่องพวกคุณเพิ่ม โจมณฑนีจะใช้ เฒ่าตันหากลับแอดมินเพจกากดังกล่าว มายั่วเราทันที เช่น ไหนจะขุดต่อ หรือ กลัวหรืออย่างไร อะไรประมาณนี้ จนเพจคิงส์ตัดปัญหาเพราะความหยะแหยงในภาษาในการโพสไร้สาระ เช่น จีบวัยรุ่นที่เป็นลูกเพจ เพ้อเพราะลูกเพจสาวทิ้ง และสำนวนภาษาชั้นต๋ำที่ไม่อยากจะเอ่ยถึงให้ไปดูเอาเองก็แล้วกัน - จนล่าสุด เมื่อวานนี้ เราตั้งใจจะพักเรื่องนี้เพื่อหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ดาราสาวที่กำลังจะเดินทางผิดไปสู่ก้นเหว ก็อย่างที่บอก ข้อมูลที่สำคัญของพวกคุณ ส่วนสำคัญๆมันเป็นที่ประจักษ์กับคนไทยแล้ว ก็เลยจะดูข้อมูลส่วนอื่น แต่โจมณฑนีอีกแล้ว กลับออกมาท้าทายผ่านคอมเม้นของเพจเฒ่าตันหากลับว่า "เพจคิงคองแดง ไม่ใจ ไม่ใจเลย" ถึงสำนวนสก็อยแต่คิงส์ฯอ่านเข้าใจไม่ยาก ว่านี่คือการท้าทาย เราจึงได้ชัดไปชุดเล็กๆ และก็นังโจมณฑนี่อีกนี่แหละ ที่ไปโพส สม ออย ว่าตัวเองถูกรังงแก เช้ามาท้าทาย บ่ายมาร้องโฮ - ดังนัั้น จึงขอแจ้งไปยังกลุ่มทุนดาร์ค และเอเจนซี่ของเครื่อข่ายฟอกว่า ถึงแม้ว่า ข้อมูลสำคัญเราได้เปิดไปหมดแล้ว แต่เราก็ยังหยุดไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะคุณเลือกคนที่มีความเหมาะสมมากที่มาทำงานปกป้องพวกคุณ โดยว่าจ้าง โจมณฑนี อดีตสก็อยใจแตก วุฒิแค่ม.ต้น มาทำงานใหญ่ของพวกคุณ เพราะ โจมณฑนี นี่แหละ ที่จะทำให้พวกคุณพัง ไม่ได้พังน้อยๆ แต่จะพังทั้ง ขบก. เพราะโจมณฑนี จะคัดคนมาเป็นมือซ้ายมือขวา ก็คงไม่สามารถหากุนซือที่มีสติปัญญามาได้ จะหาได้ก็แค่ตามพื้นถนน เช่น ชายวัยสามสิบ ชื่อเป็ด ที่ไม่มีแก่นสาร เป็นคนที่มีความหี่น กัมหนัดท่วมท้น เป็นคนมีประวัติอันเสื่อมเสีย เคยวิ่งงานไรเดอร์ ก็เชิดจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน วันนี้ ก็ได้เศษเงินจากกลุ่มทุนดาร์ค อย่างพวกคุณนี่แหละ มาปั่น มาหยาบ จนคนจำนวนไม่น้อง รู้สึกหยะแหย๋ง จีกามินของคุณ เพราะสะสมแต่คนกักกขละ สถูนแบบนี้ สรุป เพจคิงส์โพธิ์แดง จะขอบคุณสำหรับการเลือกคนที่ถูกต้องมาทำงานนี้ ทำให้เรา หยุดที่จะขุดความจริงต่อไม่ได้ คุณจงสั่งให้เค้าท้าทายเราต่อไป และให้ข๋มขุ่เราให้มากกว่านี้ เพื่อที่เราจะยังได้ไม่เบนเข็มทิศไปเรื่องอื่น และยังคงต้องอยู่กับเรื่องของพวกคุณไปอีกนานๆ เอาให้ถึงก้นบึ้งของสตอรี่พวกคุณอย่างแท้จริง "โจ มณฑนี จะทำให้พังทั้งขบก" เยี่ยมไปเลย คัดคนได้ดี แจ้งเพื่อทราบ #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 640 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่องราคาตลาด Rolex WARA MBK ชั้น 3

    CR.​ ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก
    Luxury​addictman
    ส่องราคาตลาด Rolex WARA MBK ชั้น 3 CR.​ ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก Luxury​addictman
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 71 0 รีวิว
  • สเป็คคอมพิวเตอร์สุดสัปดาห์นี้ที่แนะนำ รวมจอ รวมคีย์บอร์ดและเมาส์ รวมไลเซนส์วินโดว์แบบถูกลิขสิทธิ์แล้วด้วย ขอขอบคุณข้อมมูลจากร้านแอดไวซ์ #advice #spec #computer
    สเป็คคอมพิวเตอร์สุดสัปดาห์นี้ที่แนะนำ รวมจอ รวมคีย์บอร์ดและเมาส์ รวมไลเซนส์วินโดว์แบบถูกลิขสิทธิ์แล้วด้วย ขอขอบคุณข้อมมูลจากร้านแอดไวซ์ #advice #spec #computer
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📣วันนี้พาไปดูไลฟ์สไตล์ของ “ป๋ากิ๊ก” หรือ คุณเกียรติ กิจเจริญ #watchmaker นักแสดงและพิธีกรรุ่นใหญ่ชื่อดัง บุคคลที่คลั่งไคล้และหลงใหลกับระบบกลไกการทำงานของนาฬิกา ____________________________________ Modify Watch ขอขอบพระคุณ “ป๋ากิ๊ก” ที่ให้เกียรติกลับมาเยี่ยมเยือนที่ Modify Watch Training Center มาโดยตลอด หลังจากที่เรียนจบคอร์สหลักสูตรซ่อมนาฬิกาขั้นพื้นฐาน และคอร์สหลักสูตรการขัดตัวเรือน (Polishing Course) ไปทั้ง 2 คอร์สเรียบร้อยแล้ว🩵⌚️
    CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก
    Overwrist
    📣วันนี้พาไปดูไลฟ์สไตล์ของ “ป๋ากิ๊ก” หรือ คุณเกียรติ กิจเจริญ #watchmaker นักแสดงและพิธีกรรุ่นใหญ่ชื่อดัง บุคคลที่คลั่งไคล้และหลงใหลกับระบบกลไกการทำงานของนาฬิกา ____________________________________ Modify Watch ขอขอบพระคุณ “ป๋ากิ๊ก” ที่ให้เกียรติกลับมาเยี่ยมเยือนที่ Modify Watch Training Center มาโดยตลอด หลังจากที่เรียนจบคอร์สหลักสูตรซ่อมนาฬิกาขั้นพื้นฐาน และคอร์สหลักสูตรการขัดตัวเรือน (Polishing Course) ไปทั้ง 2 คอร์สเรียบร้อยแล้ว🩵⌚️ CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก Overwrist
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 83 0 รีวิว
  • บริการเชอร์วิสนาฬิกาทุกแบรนด์ สำหรับเรือนนี้ที่ลูกค้าส่งมาเป็นนาฬิกา 𝗭𝗘𝗡𝗜𝗧𝗛

    CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก
    Overwrist
    บริการเชอร์วิสนาฬิกาทุกแบรนด์ สำหรับเรือนนี้ที่ลูกค้าส่งมาเป็นนาฬิกา 𝗭𝗘𝗡𝗜𝗧𝗛 CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก Overwrist
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 62 0 รีวิว
  • การพบกันครั้งแรก คุณหมอ 3 ท่านผู้ตื่นรู้คู่จริยธรรม
    และ 1 นักวิชาการอิสระกับงาน

    🔥ฟังคุณหมอเล่านิทาน (เรื่องที่เล่าบนสื่อทั่วไปไม่ได้) ep1🔥
    วัคซีนทำให้ป่วยเป็นอะไร?
    แก้ไขได้อย่างไร?

    ⭐️พบกันวันที่ 24 พฤศจิกายน โรงแรมใบหยกสกาย ชั้น 17 ห้องเรนโบว์ เวลา 9:00-17:00 (เริ่มลงทะเบียน 8:30)

    ที่นั่งจำกัดเพียง 120 ที่นั่ง
    ราคา 2,222 บาท

    60 ท่านแรกได้ราคาพิเศษเพียง 1,666 บาท

    สนใจซื้อบัตรร่วมงานกดลิ้งค์ 👇
    https://www.thaipithaksith.com/awakening-ep-1

    ดำเนินรายการโดย
    นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    และคุณอดิเทพ จาวลาห์ (ซันนี่) นักวิชาการอิสระ

    https://vt.tiktok.com/ZS2bmsJbR/

    https://vt.tiktok.com/ZS2budhA2/

    รายชื่อ Guest speaker
    ศ.นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์ และสาขาระบบสมอง และระบบภูมิคุ้มกันและติดเชื้อของสมอง
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต

    https://vt.tiktok.com/ZS2budstF/

    ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนัง

    https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851

    ⭐️สถานที่โรงแรมใบหยกสกาย ชั้น 17 ห้องเรนโบว์ เวลา 9:00-17:00 (เริ่มลงทะเบียน 8:30)
    https://maps.app.goo.gl/7SFH7CRL1xkR9XPZ7?g_st=il

    ⭐️เว๊บไซด์ “คนไทยพิทักษ์สิทธิ์”
    www.thaipithaksith.com

    ⭐️กดติดตาม twitter หรือ x ของคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ในช่อง platform นี้ขอสักประมาณ 500 ติดตาม ขอบคุณครับ
    https://x.com/Thaipithaksith?t=Tq54plOEwFL_-4ysGa3kSA&s=09
    การพบกันครั้งแรก คุณหมอ 3 ท่านผู้ตื่นรู้คู่จริยธรรม และ 1 นักวิชาการอิสระกับงาน 🔥ฟังคุณหมอเล่านิทาน (เรื่องที่เล่าบนสื่อทั่วไปไม่ได้) ep1🔥 วัคซีนทำให้ป่วยเป็นอะไร? แก้ไขได้อย่างไร? ⭐️พบกันวันที่ 24 พฤศจิกายน โรงแรมใบหยกสกาย ชั้น 17 ห้องเรนโบว์ เวลา 9:00-17:00 (เริ่มลงทะเบียน 8:30) ที่นั่งจำกัดเพียง 120 ที่นั่ง ราคา 2,222 บาท 60 ท่านแรกได้ราคาพิเศษเพียง 1,666 บาท สนใจซื้อบัตรร่วมงานกดลิ้งค์ 👇 https://www.thaipithaksith.com/awakening-ep-1 ดำเนินรายการโดย นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคุณอดิเทพ จาวลาห์ (ซันนี่) นักวิชาการอิสระ https://vt.tiktok.com/ZS2bmsJbR/ https://vt.tiktok.com/ZS2budhA2/ รายชื่อ Guest speaker ศ.นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์ และสาขาระบบสมอง และระบบภูมิคุ้มกันและติดเชื้อของสมอง ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต https://vt.tiktok.com/ZS2budstF/ ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านภูมิคุ้มกันผิวหนัง https://mgronline.com/qol/detail/9670000050851 ⭐️สถานที่โรงแรมใบหยกสกาย ชั้น 17 ห้องเรนโบว์ เวลา 9:00-17:00 (เริ่มลงทะเบียน 8:30) https://maps.app.goo.gl/7SFH7CRL1xkR9XPZ7?g_st=il ⭐️เว๊บไซด์ “คนไทยพิทักษ์สิทธิ์” www.thaipithaksith.com ⭐️กดติดตาม twitter หรือ x ของคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ในช่อง platform นี้ขอสักประมาณ 500 ติดตาม ขอบคุณครับ https://x.com/Thaipithaksith?t=Tq54plOEwFL_-4ysGa3kSA&s=09
    การบาดเจ็บจากวัคซีน
    รายงานการบาดเจ็บจากวัคซีนของคุณที่นี่ และรับความช่วยเหลือจากแพทย์ของเรา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอแจ้งปัญหาการใช้งานระบบนะครับ คุณลุงสนธิ สำหรับการใช้งานผ่านโทรศัพท์ของผม iPhone 7 ครับผม
    1. ดูคลิป VDO ไม่ได้เลยครับ บางครั้งก็ค้าง (แต่ Facebook,Twitter ใช้ได้งานปกติครับ)
    2. แนบรูป หรือ คลิป VDO ไม่ได้ครับ (ขึ้นคำว่า “รหัสลับไม่ถูกต้อง”

    พอจะช่วยแก้ไขได้บ้างหรือไม่ครับ ขอบคุณครับ

    ** สนับสนุนของคนไทย และ ภูมิใจในความเป็นไทยครับ **
    ขอแจ้งปัญหาการใช้งานระบบนะครับ คุณลุงสนธิ สำหรับการใช้งานผ่านโทรศัพท์ของผม iPhone 7 ครับผม 1. ดูคลิป VDO ไม่ได้เลยครับ บางครั้งก็ค้าง (แต่ Facebook,Twitter ใช้ได้งานปกติครับ) 2. แนบรูป หรือ คลิป VDO ไม่ได้ครับ (ขึ้นคำว่า “รหัสลับไม่ถูกต้อง” พอจะช่วยแก้ไขได้บ้างหรือไม่ครับ ขอบคุณครับ ** สนับสนุนของคนไทย และ ภูมิใจในความเป็นไทยครับ **
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่องข้อมือเพื่อน ฟลุ๊ค เกริกพล ส่องข้อมือเพื่อน #rolex #rolexdaytonarainbow

    CR.​ ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก
    Luxury​addictman
    ส่องข้อมือเพื่อน ฟลุ๊ค เกริกพล ส่องข้อมือเพื่อน #rolex #rolexdaytonarainbow CR.​ ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก Luxury​addictman
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 27 0 รีวิว
  • นาฬิกา AP รุ่นหายากหลักล้านมีแค่ไม่กี่เรือนบนโลก แพงขนาดนี้ของจริงคุ้มมั้ย

    CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก
    พี่ผิง
    นาฬิกา AP รุ่นหายากหลักล้านมีแค่ไม่กี่เรือนบนโลก แพงขนาดนี้ของจริงคุ้มมั้ย CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก พี่ผิง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • Vlog ไปรับนาฬิกา Patek Philippe และพาชม AP House

    CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก
    JANGgy
    Vlog ไปรับนาฬิกา Patek Philippe และพาชม AP House CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก JANGgy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • ทำความรู้จัก Micro Rotor สิ่งที่อยู่ในกลไกนาฬิการะดับ Hi End CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก
    lekmano
    ทำความรู้จัก Micro Rotor สิ่งที่อยู่ในกลไกนาฬิการะดับ Hi End CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก lekmano
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 30 0 รีวิว
  • ส่องข้อมือเพื่อน เจ๊ไฝ #ส่องข้อมือเพื่อน

    CR.​ ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก
    Luxury​addictman
    ส่องข้อมือเพื่อน เจ๊ไฝ #ส่องข้อมือเพื่อน CR.​ ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก Luxury​addictman
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 31 0 รีวิว
  • นาฬิกาหมา MB&F เรือนเวลาแห่งอนาคต bulldog

    CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก
    Carzaathailand​
    นาฬิกาหมา MB&F เรือนเวลาแห่งอนาคต bulldog CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก Carzaathailand​
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 27 0 รีวิว
  • ตัวช่วยเสริมความเฮง! King Seiko!

    CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก
    Luxury​addictman
    ตัวช่วยเสริมความเฮง! King Seiko! CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก Luxury​addictman
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • ผลไม้ที่เราได้กินในวันนี้
    ไม่ได้มาจากต้นที่เราปลูกในวันนี้
    ผมเขื่อในเรื่องของการสร้างเหตุ เชื่อว่า โลกนี้ไม่มีความบังเอิญ ทุกสิ่งทุกอย่างทุกเรื่องราว ล้วนมาจากตัวเราเองเป็นผู้สร้างเหตุเอาไว้ทั้งสิ้น
    จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม จะจำได้หรือจำไม่ได้ก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งที่เราทำไว้ด้วยตนเองทั้งหมด
    เพราะฉะนั้น เราจึงสามารถกำหนดขีวิตของเราเองได้100% และยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเราได้ทุกเรื่อง
    ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องดี ก็บอกขอบคุณกับตัวเองที่สร้างเหตุที่ดีไว้และทำเหตุนั่นให้ต่อเนื่องต่อไป
    แต่ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องไม่ดี ก็ต้องโทษตัวเองที่ทำเหตุที่ไม่ดีไว้ และบอกกับตัวเองให้ระวัง อย่าทำเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก
    ผลไม้ที่เราได้กินในวันนี้ ไม่ได้มาจากต้นที่เราปลูกในวันนี้ ผมเขื่อในเรื่องของการสร้างเหตุ เชื่อว่า โลกนี้ไม่มีความบังเอิญ ทุกสิ่งทุกอย่างทุกเรื่องราว ล้วนมาจากตัวเราเองเป็นผู้สร้างเหตุเอาไว้ทั้งสิ้น จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม จะจำได้หรือจำไม่ได้ก็ตาม ล้วนเป็นสิ่งที่เราทำไว้ด้วยตนเองทั้งหมด เพราะฉะนั้น เราจึงสามารถกำหนดขีวิตของเราเองได้100% และยอมรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเราได้ทุกเรื่อง ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องดี ก็บอกขอบคุณกับตัวเองที่สร้างเหตุที่ดีไว้และทำเหตุนั่นให้ต่อเนื่องต่อไป แต่ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องไม่ดี ก็ต้องโทษตัวเองที่ทำเหตุที่ไม่ดีไว้ และบอกกับตัวเองให้ระวัง อย่าทำเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศแต่งตั้ง ทาคายูกิ นิชิกายะ ชาวญี่ปุ่น วัย 51 ปี เข้ามาทำหน้าที่ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี⁣

    3 ตุลาคม 2567- รายงานข่าวระบุว่าทาคายูกิ นิชิกายะ ได้บรรลุการเจรจาเงื่อนไขสัญญากับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เรียบร้อยแล้ว หลังจากเดินทางมาถึงประเทศไทย ในช่วงต้นเดือน กันยายนนี้ ก่อนจะร่วมเดินทางไปกับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่ประเทศเวียดนาม ในโปรแกรมฟีฟ่า เดย์ พร้อมกับ มาซาทาดะ อิชิอิ เพื่อเรียนรู้ และ ทำความรู้จักกับผู้เล่นไทยทันที

    ด้าน ทาคายูกิ นิชิกายะ กุนซือชาวญี่ปุ่น วัย 51 ปี เผยถึงการได้รับตำแหน่งนี้ว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติ และมีความสุขมากที่ได้มาอยู่ที่นี่ ขอบคุณสำหรับโอกาสจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยเฉพาะกับ นายกสมาคมฯ (นวลพรรณ ล่ำซำ)

    ที่ติดต่อผมเข้ามาโดยตรง ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อผม ทั้งหมดนี้จึงเป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก และอย่างที่บอก ผมยินดีอย่างมาก

    ส่วนกับ โค้ชอิชิอิ เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ผมอยากทำงานร่วมกับ โค้ชอิชิอิ เราจะพยายามสนับสนุนซึ่งกันและกัน รวมถึงพัฒนาไปฟุตบอลไทยไปด้วยกัน ทั้งนี้ ฝากแฟนบอลช่วยเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ”

    #Thaitimes
    สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประกาศแต่งตั้ง ทาคายูกิ นิชิกายะ ชาวญี่ปุ่น วัย 51 ปี เข้ามาทำหน้าที่ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี⁣ 3 ตุลาคม 2567- รายงานข่าวระบุว่าทาคายูกิ นิชิกายะ ได้บรรลุการเจรจาเงื่อนไขสัญญากับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เรียบร้อยแล้ว หลังจากเดินทางมาถึงประเทศไทย ในช่วงต้นเดือน กันยายนนี้ ก่อนจะร่วมเดินทางไปกับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่ประเทศเวียดนาม ในโปรแกรมฟีฟ่า เดย์ พร้อมกับ มาซาทาดะ อิชิอิ เพื่อเรียนรู้ และ ทำความรู้จักกับผู้เล่นไทยทันที ด้าน ทาคายูกิ นิชิกายะ กุนซือชาวญี่ปุ่น วัย 51 ปี เผยถึงการได้รับตำแหน่งนี้ว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติ และมีความสุขมากที่ได้มาอยู่ที่นี่ ขอบคุณสำหรับโอกาสจากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ โดยเฉพาะกับ นายกสมาคมฯ (นวลพรรณ ล่ำซำ) ที่ติดต่อผมเข้ามาโดยตรง ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อผม ทั้งหมดนี้จึงเป็นการตัดสินใจที่ง่ายมาก และอย่างที่บอก ผมยินดีอย่างมาก ส่วนกับ โค้ชอิชิอิ เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ผมอยากทำงานร่วมกับ โค้ชอิชิอิ เราจะพยายามสนับสนุนซึ่งกันและกัน รวมถึงพัฒนาไปฟุตบอลไทยไปด้วยกัน ทั้งนี้ ฝากแฟนบอลช่วยเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ” #Thaitimes
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 479 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ชาติตะวันตก ไม่เคยหยุดอยากยึดดินแดนไทย#คนรุ่นเจ็นอะไรๆ ไม่ควรลืมแผนที่นี้

    ขอบคุณภาพจาก "Bangkok I love you" ในเฟส

    สมัยฮวงจุ้ยยุคที่ 3 ตามวิชาดาว 9 ยุค
    คาบเกี่ยวรัชสมัย
    รัชกาลที่​ ๕​ ครองราชย์ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 – 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 (42 ปี 22 วัน)
    ประเทศสยามเวลานั้น คงยิ่งใหญ่ ตามอัตภาพแห่งสมัยและต้นทุนเดิม

    ที่เขียนนี่ผมเขียนประเด็นของแผนที่สยามเวลานั้น
    แล้วมีจัญไรสัญชาติไทย มากมาย ที่ตัวเองย่อมรู้ว่าเหตุของพฤติกรรมแห่งตน นั้นกระทำด้วยความคิดความเชื่อมิจฉาทิฏฐิ หรือรับสินจ้างรางวัล มากน้อยตามระดับการเกี่ยวข้อง ไม่ว่ามันคือกลุ่มไหน "คนเลือกตั้ง ไม่ควรให้โอกาสใดๆ แก่คนไม่ดีแก่ผู้ประพฤติผิดทางจริยธรรม"

    ลิ้งค์จากเฟสเปิดไม่ได้ ขออนุญาตนำภาพแผนที่ ที่ต้องการสื่อมาใช้แทนครับ
    #ชาติตะวันตก ไม่เคยหยุดอยากยึดดินแดนไทย#คนรุ่นเจ็นอะไรๆ ไม่ควรลืมแผนที่นี้ ขอบคุณภาพจาก "Bangkok I love you" ในเฟส สมัยฮวงจุ้ยยุคที่ 3 ตามวิชาดาว 9 ยุค คาบเกี่ยวรัชสมัย รัชกาลที่​ ๕​ ครองราชย์ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 – 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 (42 ปี 22 วัน) ประเทศสยามเวลานั้น คงยิ่งใหญ่ ตามอัตภาพแห่งสมัยและต้นทุนเดิม ที่เขียนนี่ผมเขียนประเด็นของแผนที่สยามเวลานั้น แล้วมีจัญไรสัญชาติไทย มากมาย ที่ตัวเองย่อมรู้ว่าเหตุของพฤติกรรมแห่งตน นั้นกระทำด้วยความคิดความเชื่อมิจฉาทิฏฐิ หรือรับสินจ้างรางวัล มากน้อยตามระดับการเกี่ยวข้อง ไม่ว่ามันคือกลุ่มไหน "คนเลือกตั้ง ไม่ควรให้โอกาสใดๆ แก่คนไม่ดีแก่ผู้ประพฤติผิดทางจริยธรรม" ลิ้งค์จากเฟสเปิดไม่ได้ ขออนุญาตนำภาพแผนที่ ที่ต้องการสื่อมาใช้แทนครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนามบินมิยาซากิในญี่ปุ่น ปิดให้บริการพร้อมยกเลิกเที่ยวบิน 80 เที่ยว หลังเกิดเหตุลูกระเบิดตกค้างของกองทัพสหรัฐอเมริกาสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระเบิดใกล้รันเวย์ ทางการต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บกู้

    2 ตุลาคม 2567-รายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า เกิดเหตุระเบิดใกล้ทางวิ่งของสนามบิน หรือรันเวย์ ที่บริเวณท่าอากาศยานมิยาซากิ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ส่งผลให้ทางท่าอากาศยานต้องปิดให้บริการ พร้อมสั่งยกเลิกเที่ยวบินต่างๆ กว่า80 เที่ยวบิน

    จากการตรวจสอบพบว่า เหตุระเบิดเกิดจากลูกระเบิดตกค้างของกองทัพสหรัฐฯสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ฝังดินในพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เหตุระเบิดครั้งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ

    โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า มีเที่ยวบินมากกว่า 80 เที่ยวบินที่สนามบินถูกยกเลิก โดยคาดว่าสนามบินจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในเช้าวันพฤหัสบดีที่3ตุลาคมนี้

    สนามบินมิยาซากิสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2486 เพื่อเป็นสนามฝึกบินของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น ซึ่งนักบินกามิกาเซ่บางนายใช้เป็นสถานที่ฝึกบินเพื่อปฏิบัติภารกิจโจมตีแบบพลีชีพกามิกาเซ่

    เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมกล่าวว่า ระเบิดที่ไม่ทำงานจำนวนหนึ่งซึ่งกองทัพสหรัฐฯ ทิ้งลงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกขุดพบในพื้นที่ดังกล่าว ภายหลังเกิดเหตุ ทางการญี่ปุ่นได้ส่งเจ้าหน้าที่ของกองกำลังป้องกันตนเอง เข้าไปเก็บกู้ลูกระเบิดที่เหลืออยู่

    ขอบคุณภาพจาก อาซาฮีและเอเอฟพี

    #Thaitimes
    สนามบินมิยาซากิในญี่ปุ่น ปิดให้บริการพร้อมยกเลิกเที่ยวบิน 80 เที่ยว หลังเกิดเหตุลูกระเบิดตกค้างของกองทัพสหรัฐอเมริกาสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ระเบิดใกล้รันเวย์ ทางการต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บกู้ 2 ตุลาคม 2567-รายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า เกิดเหตุระเบิดใกล้ทางวิ่งของสนามบิน หรือรันเวย์ ที่บริเวณท่าอากาศยานมิยาซากิ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ส่งผลให้ทางท่าอากาศยานต้องปิดให้บริการ พร้อมสั่งยกเลิกเที่ยวบินต่างๆ กว่า80 เที่ยวบิน จากการตรวจสอบพบว่า เหตุระเบิดเกิดจากลูกระเบิดตกค้างของกองทัพสหรัฐฯสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ฝังดินในพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เหตุระเบิดครั้งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า มีเที่ยวบินมากกว่า 80 เที่ยวบินที่สนามบินถูกยกเลิก โดยคาดว่าสนามบินจะกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในเช้าวันพฤหัสบดีที่3ตุลาคมนี้ สนามบินมิยาซากิสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2486 เพื่อเป็นสนามฝึกบินของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น ซึ่งนักบินกามิกาเซ่บางนายใช้เป็นสถานที่ฝึกบินเพื่อปฏิบัติภารกิจโจมตีแบบพลีชีพกามิกาเซ่ เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมกล่าวว่า ระเบิดที่ไม่ทำงานจำนวนหนึ่งซึ่งกองทัพสหรัฐฯ ทิ้งลงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกขุดพบในพื้นที่ดังกล่าว ภายหลังเกิดเหตุ ทางการญี่ปุ่นได้ส่งเจ้าหน้าที่ของกองกำลังป้องกันตนเอง เข้าไปเก็บกู้ลูกระเบิดที่เหลืออยู่ ขอบคุณภาพจาก อาซาฮีและเอเอฟพี #Thaitimes
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 503 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่ามองข้ามความเป็นธรรมดาที่เราเจออยู่ทุกวัน

    ขอบคุณและรู้สึกดีกับสิ่งที่เรามี
    ...แค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว


    จากหนังสือ |แค่นี้ก็ดีมากแล้ว

    หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes #ความสุข
    อย่ามองข้ามความเป็นธรรมดาที่เราเจออยู่ทุกวัน ขอบคุณและรู้สึกดีกับสิ่งที่เรามี ...แค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว จากหนังสือ |แค่นี้ก็ดีมากแล้ว หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes #ความสุข
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศิษย์เกษตรเริ่มเข้าสู่การทำธุรกิจอย่างจริงจัง เรากลับมาเริ่มศึกษาการวิเคราะห์แผนธุรกิจอีกครั้ง ขอบคุณตลาดหลักทรัพย์ที่ทำห้องเรียนไว้ให้ศึกษาฟรี หลักสูตรนี้ทำให้เข้าใจง่ายมากครับและก็เห็นภาพด้วย

    https://elearning.set.or.th/SETGroup/courses/527/info
    ศิษย์เกษตรเริ่มเข้าสู่การทำธุรกิจอย่างจริงจัง เรากลับมาเริ่มศึกษาการวิเคราะห์แผนธุรกิจอีกครั้ง ขอบคุณตลาดหลักทรัพย์ที่ทำห้องเรียนไว้ให้ศึกษาฟรี หลักสูตรนี้ทำให้เข้าใจง่ายมากครับและก็เห็นภาพด้วย https://elearning.set.or.th/SETGroup/courses/527/info
    ELEARNING.SET.OR.TH
    Business Model Canvas
    รู้จักกับ BMC เครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสร้างโมเดลธุรกิจ คิดได้รอบด้าน เห็นภาพรวมของธุรกิจและเชื่อมโยงเป็น Business Model ที่ดี ผ่านกรณีศึกษา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • #หมดอายุใบรับรอง??

    @ดาวแปดแฉก

    ผู้ติดตามส่งข้อความเอกสารฉบับนี้ให้แอดมินดู หลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรม รถบัสไฟไหม้ทำให้นักเรียนและครู โรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.อุทัยธานี เสียชีวิต

    เอกสารฉบับนี้มีรายละเอียดของรถบัสคันที่เกิดเหตุเกือบทั้งหมด ทั้งวันที่ตรวจสภาพครั้งแรก 5/8/56 วันที่จดทะเบียน 26/10/2561 วันสิ้นอายุภาษี 30/6/2568 สถานะปกติ แต่ตรงหัวข้อ ประตูฉุกเฉินด้านข้าง/ด้านท้าย ระบุเครื่องหมาย / บาน โดยไม่ได้ระบุตัวเลข ??

    อีกทั้งเอกสาร) ฉบับนี้น่าสนใจและตั้งข้อสังเกตตรงที่ ถังก๊าซ จำนวนก๊าซ 3 ถัง วันหมดอายุใบรับรอง 18/6/2567 ระบุหมายเลขถังก๊าซ ??

    เอกสารฉบับนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ก็สอดคล้องกับภาพที่ตำรวจภูธรภาค 1 ระหว่างตรวจที่เกิดเหตุ พบถังก๊าซติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังที่นั่งผู้ขับขี่ในห้องโดยสาร สอดคล้องกลับภาพจากกล้องวงจรปิดที่รถบัส วิ่งบน ถ.วิภาวดีรังสิต ก่อนเฉี่ยวชนกับรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีดำ และภาพจากกล้องวงจรปิดที่ไฟลุกไหม้ บริเวณด้านหน้ารถบัส คนขับรีบลงจากรถ

    ประเด็นนี้คงต้องให้ตำรวจ , เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และผู้เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ เพื่อให้คลายข้อสงสัยที่ประชาชนตั้งข้อสังเกต เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชน.

    ขอบคุณภาพ :: เจ้าของภาพ #ไฟไหม้รถบัส #โศกนาฏกรรม #รถบัส #ตำรวจคูคต #พิสูจน์หลักฐาน

    https://www.facebook.com/share/4YvusW9D2wHJsQMR/?mibextid=oFDknk
    #หมดอายุใบรับรอง?? @ดาวแปดแฉก ผู้ติดตามส่งข้อความเอกสารฉบับนี้ให้แอดมินดู หลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรม รถบัสไฟไหม้ทำให้นักเรียนและครู โรงเรียนแห่งหนึ่ง จ.อุทัยธานี เสียชีวิต เอกสารฉบับนี้มีรายละเอียดของรถบัสคันที่เกิดเหตุเกือบทั้งหมด ทั้งวันที่ตรวจสภาพครั้งแรก 5/8/56 วันที่จดทะเบียน 26/10/2561 วันสิ้นอายุภาษี 30/6/2568 สถานะปกติ แต่ตรงหัวข้อ ประตูฉุกเฉินด้านข้าง/ด้านท้าย ระบุเครื่องหมาย / บาน โดยไม่ได้ระบุตัวเลข ?? อีกทั้งเอกสาร) ฉบับนี้น่าสนใจและตั้งข้อสังเกตตรงที่ ถังก๊าซ จำนวนก๊าซ 3 ถัง วันหมดอายุใบรับรอง 18/6/2567 ระบุหมายเลขถังก๊าซ ?? เอกสารฉบับนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ก็สอดคล้องกับภาพที่ตำรวจภูธรภาค 1 ระหว่างตรวจที่เกิดเหตุ พบถังก๊าซติดตั้งอยู่บริเวณด้านหลังที่นั่งผู้ขับขี่ในห้องโดยสาร สอดคล้องกลับภาพจากกล้องวงจรปิดที่รถบัส วิ่งบน ถ.วิภาวดีรังสิต ก่อนเฉี่ยวชนกับรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีดำ และภาพจากกล้องวงจรปิดที่ไฟลุกไหม้ บริเวณด้านหน้ารถบัส คนขับรีบลงจากรถ ประเด็นนี้คงต้องให้ตำรวจ , เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และผู้เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ เพื่อให้คลายข้อสงสัยที่ประชาชนตั้งข้อสังเกต เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณชน. ขอบคุณภาพ :: เจ้าของภาพ #ไฟไหม้รถบัส #โศกนาฏกรรม #รถบัส #ตำรวจคูคต #พิสูจน์หลักฐาน https://www.facebook.com/share/4YvusW9D2wHJsQMR/?mibextid=oFDknk
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ตัวอย่างชวนคนเลือกตั้งเขตสาทร เขตสีลม คิด
    เขตนี้มีคนทำงานสำนักงานและสถาบันการเงินอยู่ แล้ว สส. ที่คุณเลือก ไปเสนอเรื่องในสภาฯ เรื่องเกี่ยวกับส่วนต่างดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้สินเชื่อที่อยู่ ที่เหมาะสม, เรื่องตลาดหลักทรัพย์ปิดแล้ว ชีวิตคนทำงานต่อจากตลาดฯ ปิดนั้นดึก และคุณภาพสุขภาพและครอบครัวทำไม่ได้อย่างอเมริกาที่ที่พวกเค้าบูชา, เรื่องน้ำดำคลองสาทร จะเปลี่ยนแปลงได้ไหม, รวมถึงภาพใหญ่ขึ้น จะแก้รัฐธรรมนูญให้เขียนใหม่ มันไม่เกี่ยวกับการทำมาหากินของคนไทย มันหมกมุ่นกับ ม.112 เหมือนกันเป็นพวกอั่งยี่กลับชาติมาเกิด หรือมันเป็นคนไทยที่แยกตัวเป็นใหญ่หลังกรุงฯแตก แล้วพระเจ้ากรุงธนบุรี ท่านรวบรวมก่อนรับศึกประเทศ

    คิดตรึกตรอง ว่า สส. ที่เลือกไป เค้าทำกน้าที่ให้คุณ หรือเพื่อหม่อง อย่างที่คุณสนธิ นำมาบอก

    อย่าตื่นเพียงคนเดียว ต้องช่วยกัน ทำให้คนอื่นตื่นด้วย ขอบคุณยูทูปเบอร์ทุกๆ คน ที่ออกมาต่อสู้ทางปัญญากับด้อมส้ม เถียงข้างๆ สีข้างทะลอก
    #ตัวอย่างชวนคนเลือกตั้งเขตสาทร เขตสีลม คิด เขตนี้มีคนทำงานสำนักงานและสถาบันการเงินอยู่ แล้ว สส. ที่คุณเลือก ไปเสนอเรื่องในสภาฯ เรื่องเกี่ยวกับส่วนต่างดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้สินเชื่อที่อยู่ ที่เหมาะสม, เรื่องตลาดหลักทรัพย์ปิดแล้ว ชีวิตคนทำงานต่อจากตลาดฯ ปิดนั้นดึก และคุณภาพสุขภาพและครอบครัวทำไม่ได้อย่างอเมริกาที่ที่พวกเค้าบูชา, เรื่องน้ำดำคลองสาทร จะเปลี่ยนแปลงได้ไหม, รวมถึงภาพใหญ่ขึ้น จะแก้รัฐธรรมนูญให้เขียนใหม่ มันไม่เกี่ยวกับการทำมาหากินของคนไทย มันหมกมุ่นกับ ม.112 เหมือนกันเป็นพวกอั่งยี่กลับชาติมาเกิด หรือมันเป็นคนไทยที่แยกตัวเป็นใหญ่หลังกรุงฯแตก แล้วพระเจ้ากรุงธนบุรี ท่านรวบรวมก่อนรับศึกประเทศ คิดตรึกตรอง ว่า สส. ที่เลือกไป เค้าทำกน้าที่ให้คุณ หรือเพื่อหม่อง อย่างที่คุณสนธิ นำมาบอก อย่าตื่นเพียงคนเดียว ต้องช่วยกัน ทำให้คนอื่นตื่นด้วย ขอบคุณยูทูปเบอร์ทุกๆ คน ที่ออกมาต่อสู้ทางปัญญากับด้อมส้ม เถียงข้างๆ สีข้างทะลอก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ขอบคุณท่าน สว. ที่ร่วมปกป้องความไม่ถูกต้องแก้ ลดทอนเสียงโหวตแบบสองชั้นจากพวก สส.เห็นแก่ตัว ครับ

    นังแม่มดคางยาว อายุก็สูงวัยแล้ว จะรู้จักคิดวันไหน ทำถูกหรือผิด ยังไม่รู้ตัวอีกหรือ
    #ขอบคุณท่าน สว. ที่ร่วมปกป้องความไม่ถูกต้องแก้ ลดทอนเสียงโหวตแบบสองชั้นจากพวก สส.เห็นแก่ตัว ครับ นังแม่มดคางยาว อายุก็สูงวัยแล้ว จะรู้จักคิดวันไหน ทำถูกหรือผิด ยังไม่รู้ตัวอีกหรือ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก็เมื่อมันคุ้มที่จะสู้
    เพื่อคนไทยทุกคน
    ขอบคุณทุกแรงใจ
    นิทานยังไม่จบ
    วันนี้ปลิว 2 เพจ
    กลับมาได้แล้วเพจนึง
    อีกเพจกลับมาได้พรุ่งนี้
    คิดว่าทำแบบนี้จะเปิดความจริงได้
    แสดงว่า ยังไม่รู้จัก คิงส์โพธิ์แดง
    อีพี4นี่แหละ เรียกว่าเบื้องหลังสำคัญ
    ที่ทำให้น้องแฟนเพจในตต.ช่องปลิว
    อยากรู้มั๊ยคือใคร
    เดี๋ยวจัดเต็ม ยิ่งกด ยิ่งมีพลัง
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ก็เมื่อมันคุ้มที่จะสู้ เพื่อคนไทยทุกคน ขอบคุณทุกแรงใจ นิทานยังไม่จบ วันนี้ปลิว 2 เพจ กลับมาได้แล้วเพจนึง อีกเพจกลับมาได้พรุ่งนี้ คิดว่าทำแบบนี้จะเปิดความจริงได้ แสดงว่า ยังไม่รู้จัก คิงส์โพธิ์แดง อีพี4นี่แหละ เรียกว่าเบื้องหลังสำคัญ ที่ทำให้น้องแฟนเพจในตต.ช่องปลิว อยากรู้มั๊ยคือใคร เดี๋ยวจัดเต็ม ยิ่งกด ยิ่งมีพลัง ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Love
    Haha
    17
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1104 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทริป Peru (Lima, Barranco, นาเกลือ, Ollantaytambo, Machu Picchu, Rainbow mountain) ภาพสวยๆจากคุณหมอสุริยะ ขอบคุณค่ะ #ท่องโลกกว้างตามประสา
    ทริป Peru (Lima, Barranco, นาเกลือ, Ollantaytambo, Machu Picchu, Rainbow mountain) ภาพสวยๆจากคุณหมอสุริยะ ขอบคุณค่ะ #ท่องโลกกว้างตามประสา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอบคุณ🙏ทุกสิ่งอย่างที่มีใน #Thaitimes และเพื่อคนไทยสังคมไทย 👍💛🙏
    ขอบคุณ🙏ทุกสิ่งอย่างที่มีใน #Thaitimes และเพื่อคนไทยสังคมไทย 👍💛🙏
    Like
    7
    4 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1218 มุมมอง 0 รีวิว
  • หกทักษะของสุภาพบุรุษจีนโบราณ ตอน 1 ‘หลี่’

    สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดู <องค์หญิงใหญ่> จะจำได้ว่าองค์หญิงหลี่หรงจัดงานเลี้ยงเพื่อทำความรู้จักกับแคนดิเดทราชบุตรเขย โดยในระหว่างงานเลี้ยงได้กำหนดให้เหล่าคุณชายแสดงความสามารถตาม ‘จวินจื่อลิ่วอี้’ (君子六艺) หรือหกทักษะของสุภาพบุรุษ (หมายเหตุ อี้ แปลได้ว่าทักษะความสามารถ) และหกทักษะนี้ได้รับการกล่าวถึงในหลากหลายละครและนิยายจีนโบราณด้วยเช่นกัน

    หกทักษะนี้คือพื้นฐานความรู้ด้านต่างๆ อันแฝงไว้ซึ่งปรัชญาและคำสอนของขงจื๊อ เชื่อว่าเพื่อนเพจเคยผ่านตาผ่านหูว่า หกทักษะนี้คือ พิธีการ (หลี่/礼) ดนตรี (เยวี่ย/乐) ยิงธนู (เซ่อ/射) ขับขี่ (อวี้/御) อักษรศาสตร์ (ซู/书) และคำนวณ (ซู่/数) แต่เชื่อว่าเพื่อนเพจคงไม่รู้ถึงรายละเอียดของมัน

    หกทักษะปรากฏอยู่ในบันทึกพิธีการโจวหลี่ (เป็นบันทึกที่จัดทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่นเพื่อรวมรวมข้อมูลพิธีการและความรู้ด้านต่างๆ จากสมัยราชวงศ์โจว) ในรายละเอียดประกอบด้วย ห้าพิธีการ หกดนตรี ห้าธนู ห้าขับขี่ หกอักษร และเก้าคำนวณ และมีการอธิบายไว้ชัดเจนว่าองค์ประกอบของมันมีอะไรบ้าง Storyฯ อ่านแล้วก็รู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เหนือความคาดหมาย เลยมาเล่าสู่กันฟัง แต่ขอแบ่งเล่าเป็นหลายตอนเพื่อไม่ให้บทความยาวเกินไป

    ทักษะแรกคือ ‘หลี่’ (礼) ซึ่งแปลได้ว่าพิธีการหรือมารยาท โดยบัณฑิตต้องรู้ถึงรายละเอียดของการเตรียมงาน ขั้นตอนในงาน กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการวางตัว เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ และคำพูดที่ถูกต้องเหมาะสม และห้า ‘หลี่’ ที่บัณฑิตต้องรู้คือ
    (1) จี๋หลี่ (吉礼) หมายถึงพิธีการเสริมดวงเสริมบารมี คืองานเซ่นไหว้สักการะและงานบวงสรวงทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ ตามเทศกาลสำคัญหรือกราบไหว้บรรพบุรุษ
    (2) ซยงหลี่ (凶礼) หมายถึงพิธีการเกี่ยวกับภยันตราย โดยหลักคืองานศพ และหมายรวมถึงพิธีการขับไล่สิ่งอัปมงคลในยามที่เกิดอุทกภัยหรือโรคระบาด หรือพิธีการเซ่นไหว้ไว้อาลัยหลังสงคราม
    (3) จวินหลี่ (军礼) หมายถึงพิธีการด้านการทหาร (การจัดขบวน การเคลื่อนทัพ การบวงสรวงต่างๆ เมื่อองค์กษัตริย์ทรงยาตราทัพเอง การเยี่ยมชมและตรวจการกองทัพ และการต้อนรับกองทัพที่กลับจากสงคราม โดยพิธีการมีจำแนกว่าชนะศึกหรือพ่ายศึกกลับมา ฯลฯ) และยังรวมถึงพิธีการเกี่ยวกับงานล่าสัตว์ประจำฤดูของกษัตริย์ และหมายรวมงานก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องเกณฑ์ชาวบ้านมาร่วมทำเช่นอารามหลวง พระราชวัง ฯลฯ
    (4) ปินหลี่ (宾礼) หมายถึงมารยาทและพิธีการในการต้อนรับแขก โดยจำแนกตามยศศักดิ์ของแขกและผู้ที่ให้การต้อนรับ เช่น กษัตริย์ต้อนรับกษัตริย์แขกเมืองหรือขุนนาง ข้าราชการต้อนรับประชาชนธรรมดา ต้อนรับแขกเมืองระดับต่างๆ ฯลฯ
    (5) เจียหลี่ (嘉礼) หมายถึงพิธีการมงคล ซึ่งจำแนกรายละเอียดตามยศศักดิ์ของเจ้าของงาน เช่นงานราชพิธีต่างๆ (พิธีราชาภิเษก งานแต่งตั้งองค์รัชทายาท งานเลือกชายาและสนม ฯลฯ) งานมงคลสมรส พิธีปักปิ่น พิธีสวมหมวกกวาน พิธีการขอบคุณ พิธีการอำลา งานเลี้ยงสังสรรค์ทั่วไป เป็นต้น

    แน่นอนว่าแต่ละพิธีการเหล่านี้มีรายละเอียดอีกมากมายที่เราไม่ได้ลงรายละเอียดในที่นี้ (หมายเหตุ Storyฯ เคยกล่าวถึงบางพิธีการ เช่นพิธีการปักปิ่น ฯลฯ ลองค้นอ่านบทความเก่าได้จากสารบัญนะคะ) แต่โดยภาพรวมเราจะเห็นได้ว่า ทักษะว่าด้วย ‘หลี่’ นี้ หมายรวมถึงความเข้าใจอย่างละเอียดถึงพิธีการต่างๆ หลักการปฏิบัติและวางตนต่อผู้อื่นและมารยาททางสังคม โดยมาจากแนวคำสอนของขงจื๊อที่ว่า ผู้ที่บกพร่องในทักษะนี้ จะขาดการวางตนที่ดี ไม่รู้ว่าควรปฏิบัติต่อผู้อื่นหรืออยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างไร ทำให้สูญเสียความมั่นใจในตนเอง หรือทำให้เกิดความวุ่นวายสร้างความขุ่นเคืองหรือสับสนต่อผู้อื่นได้ และทำให้สังคมไม่สมานฉันท์

    สัปดาห์หน้าเรามาคุยกันต่อค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.upmedia.mg/news_info.php?Type=196&SerialNo=204949
    https://guoxue.ifeng.com/c/7qhsbaO24FU
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_20109083
    https://baike.baidu.com/item/六艺/238715
    http://www.dfg.cn/gb/ssht/ly/07-junli.htm
    https://baike.baidu.com/item/五礼/491424

    #องค์หญิงใหญ่ #ทักษะสุภาพบุรุษจีน #ศิลปะสุภาพบุรุษจีน #คำสอนขงจื๊อ #จวินจื่อลิ่วอี้ #สาระจีน

    หกทักษะของสุภาพบุรุษจีนโบราณ ตอน 1 ‘หลี่’ สวัสดีค่ะ เพื่อนเพจที่ได้ดู <องค์หญิงใหญ่> จะจำได้ว่าองค์หญิงหลี่หรงจัดงานเลี้ยงเพื่อทำความรู้จักกับแคนดิเดทราชบุตรเขย โดยในระหว่างงานเลี้ยงได้กำหนดให้เหล่าคุณชายแสดงความสามารถตาม ‘จวินจื่อลิ่วอี้’ (君子六艺) หรือหกทักษะของสุภาพบุรุษ (หมายเหตุ อี้ แปลได้ว่าทักษะความสามารถ) และหกทักษะนี้ได้รับการกล่าวถึงในหลากหลายละครและนิยายจีนโบราณด้วยเช่นกัน หกทักษะนี้คือพื้นฐานความรู้ด้านต่างๆ อันแฝงไว้ซึ่งปรัชญาและคำสอนของขงจื๊อ เชื่อว่าเพื่อนเพจเคยผ่านตาผ่านหูว่า หกทักษะนี้คือ พิธีการ (หลี่/礼) ดนตรี (เยวี่ย/乐) ยิงธนู (เซ่อ/射) ขับขี่ (อวี้/御) อักษรศาสตร์ (ซู/书) และคำนวณ (ซู่/数) แต่เชื่อว่าเพื่อนเพจคงไม่รู้ถึงรายละเอียดของมัน หกทักษะปรากฏอยู่ในบันทึกพิธีการโจวหลี่ (เป็นบันทึกที่จัดทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่นเพื่อรวมรวมข้อมูลพิธีการและความรู้ด้านต่างๆ จากสมัยราชวงศ์โจว) ในรายละเอียดประกอบด้วย ห้าพิธีการ หกดนตรี ห้าธนู ห้าขับขี่ หกอักษร และเก้าคำนวณ และมีการอธิบายไว้ชัดเจนว่าองค์ประกอบของมันมีอะไรบ้าง Storyฯ อ่านแล้วก็รู้สึกว่ามีหลายอย่างที่เหนือความคาดหมาย เลยมาเล่าสู่กันฟัง แต่ขอแบ่งเล่าเป็นหลายตอนเพื่อไม่ให้บทความยาวเกินไป ทักษะแรกคือ ‘หลี่’ (礼) ซึ่งแปลได้ว่าพิธีการหรือมารยาท โดยบัณฑิตต้องรู้ถึงรายละเอียดของการเตรียมงาน ขั้นตอนในงาน กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการวางตัว เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ และคำพูดที่ถูกต้องเหมาะสม และห้า ‘หลี่’ ที่บัณฑิตต้องรู้คือ (1) จี๋หลี่ (吉礼) หมายถึงพิธีการเสริมดวงเสริมบารมี คืองานเซ่นไหว้สักการะและงานบวงสรวงทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นการไหว้เทพเจ้าต่างๆ ตามเทศกาลสำคัญหรือกราบไหว้บรรพบุรุษ (2) ซยงหลี่ (凶礼) หมายถึงพิธีการเกี่ยวกับภยันตราย โดยหลักคืองานศพ และหมายรวมถึงพิธีการขับไล่สิ่งอัปมงคลในยามที่เกิดอุทกภัยหรือโรคระบาด หรือพิธีการเซ่นไหว้ไว้อาลัยหลังสงคราม (3) จวินหลี่ (军礼) หมายถึงพิธีการด้านการทหาร (การจัดขบวน การเคลื่อนทัพ การบวงสรวงต่างๆ เมื่อองค์กษัตริย์ทรงยาตราทัพเอง การเยี่ยมชมและตรวจการกองทัพ และการต้อนรับกองทัพที่กลับจากสงคราม โดยพิธีการมีจำแนกว่าชนะศึกหรือพ่ายศึกกลับมา ฯลฯ) และยังรวมถึงพิธีการเกี่ยวกับงานล่าสัตว์ประจำฤดูของกษัตริย์ และหมายรวมงานก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องเกณฑ์ชาวบ้านมาร่วมทำเช่นอารามหลวง พระราชวัง ฯลฯ (4) ปินหลี่ (宾礼) หมายถึงมารยาทและพิธีการในการต้อนรับแขก โดยจำแนกตามยศศักดิ์ของแขกและผู้ที่ให้การต้อนรับ เช่น กษัตริย์ต้อนรับกษัตริย์แขกเมืองหรือขุนนาง ข้าราชการต้อนรับประชาชนธรรมดา ต้อนรับแขกเมืองระดับต่างๆ ฯลฯ (5) เจียหลี่ (嘉礼) หมายถึงพิธีการมงคล ซึ่งจำแนกรายละเอียดตามยศศักดิ์ของเจ้าของงาน เช่นงานราชพิธีต่างๆ (พิธีราชาภิเษก งานแต่งตั้งองค์รัชทายาท งานเลือกชายาและสนม ฯลฯ) งานมงคลสมรส พิธีปักปิ่น พิธีสวมหมวกกวาน พิธีการขอบคุณ พิธีการอำลา งานเลี้ยงสังสรรค์ทั่วไป เป็นต้น แน่นอนว่าแต่ละพิธีการเหล่านี้มีรายละเอียดอีกมากมายที่เราไม่ได้ลงรายละเอียดในที่นี้ (หมายเหตุ Storyฯ เคยกล่าวถึงบางพิธีการ เช่นพิธีการปักปิ่น ฯลฯ ลองค้นอ่านบทความเก่าได้จากสารบัญนะคะ) แต่โดยภาพรวมเราจะเห็นได้ว่า ทักษะว่าด้วย ‘หลี่’ นี้ หมายรวมถึงความเข้าใจอย่างละเอียดถึงพิธีการต่างๆ หลักการปฏิบัติและวางตนต่อผู้อื่นและมารยาททางสังคม โดยมาจากแนวคำสอนของขงจื๊อที่ว่า ผู้ที่บกพร่องในทักษะนี้ จะขาดการวางตนที่ดี ไม่รู้ว่าควรปฏิบัติต่อผู้อื่นหรืออยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างไร ทำให้สูญเสียความมั่นใจในตนเอง หรือทำให้เกิดความวุ่นวายสร้างความขุ่นเคืองหรือสับสนต่อผู้อื่นได้ และทำให้สังคมไม่สมานฉันท์ สัปดาห์หน้าเรามาคุยกันต่อค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.upmedia.mg/news_info.php?Type=196&SerialNo=204949 https://guoxue.ifeng.com/c/7qhsbaO24FU Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_20109083 https://baike.baidu.com/item/六艺/238715 http://www.dfg.cn/gb/ssht/ly/07-junli.htm https://baike.baidu.com/item/五礼/491424 #องค์หญิงใหญ่ #ทักษะสุภาพบุรุษจีน #ศิลปะสุภาพบุรุษจีน #คำสอนขงจื๊อ #จวินจื่อลิ่วอี้ #สาระจีน
    WWW.UPMEDIA.MG
    張凌赫新劇《度華年》對打王星越《墨雨雲間》 他與趙今麥演歡喜冤家3關鍵獲好評--上報
    張凌赫近年事業蒸蒸日上,他2022年擔任王鶴棣、虞書欣的爆款劇《蒼蘭訣》男配嶄露頭角,接著又在2023年與虞......
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีครับ ผมเฮียกิจนะครับ
    ผมขายรถมือสองราคาถูกรถสวย ขายไม่แพงครับ
    รถไม่สวย ผมไม่ขายนะครับ✋️
    ผมรับซื้อรถให้ราคาดีที่สุด
    สามารถโทรปรึกษาได้ก่อนได้ที่เบอร์ ☎️0813253257 ครับ
    หรือสามารถทิ้งเบอร์โทรกลับให้ผมได้ครับ ผมยินดีให้คำปรึกษา
    สบายๆครับ รักพี่สนธิครับ🫰 ขอบคุณมากครับ😄
    สวัสดีครับ ผมเฮียกิจนะครับ ผมขายรถมือสองราคาถูกรถสวย ขายไม่แพงครับ รถไม่สวย ผมไม่ขายนะครับ✋️ ผมรับซื้อรถให้ราคาดีที่สุด สามารถโทรปรึกษาได้ก่อนได้ที่เบอร์ ☎️0813253257 ครับ หรือสามารถทิ้งเบอร์โทรกลับให้ผมได้ครับ ผมยินดีให้คำปรึกษา สบายๆครับ รักพี่สนธิครับ🫰 ขอบคุณมากครับ😄
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 589 มุมมอง 0 รีวิว
  • เค้าก็ไม่เคยบอกใครนะ ว่าพี่ปูเขาเป็นสุภาพบุรุษนักบุญ……
    แต่คนที่จะเอาชนะกับกลุ่มมารที่ทึ้งแทะประเทศ……มันก็มีบทโหด……และ ไม่ใช่โหดเฉยๆ แต่โคตรโหดเลยจ้าาาาา
    นี่เป็นส่วนหนึ่งของน้ำจิ้มนะจ๊ะ…

    ตอนสิบเจ็ด…..…ฆาตกรรมข้ามแดนที่เรียงเป็นซีรี่ย์……เป็นเรื่องตะวันตกเขาว่าเขารับไม่ได้………!!

    ดิฉันเคยเขียนถึงเรื่องของ Aleksandr Litvinenko ที่โดนยาพิษไปแล้ว จะเอามาแปะให้ข้างล่าง แต่……เขายังเป็นอะไรที่มีโอกาสสั่งเสีย และมีเวลาเขียนจดหมายอาฆาตแค้นถึงปูติน
    ก่อนที่จะลาลับไปจากโลกนี้
    แต่ก่อนหน้านั้นหกอาทิตย์ ……คนที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะกระพริบตา คือ Anna Politkovskaya **วัย 48 นักข่าว นักเคลื่อนไหว
    นักเขียน ที่มีสัญชาติอเมริกัน (เชื้อชาติรัสเซีย)
    ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลปูตินมาโดยตลอด เธอถือว่าเธอได้รับการคุ้มครองจากสถานทูตอเมริกัน จึงกล้าเขียนวิจารณ์ทั้งสื่อใน และ นอกประเทศ
    งานหลักของเธอคือ การจิกกัดในเรื่องของสงครามที่เชเชน
    โดยจะทำรายงานสกู๊ปข่าวอย่างละเอียด ว่า ใครได้ถูกเก็บไปบ้าง และติเตียนปูตินที่เอา Ramzan Kadyrov จิ๊กโก๋บ้าดีเดือด มาเป็นผู้ว่าการรัฐ ที่เธอเปรียบเปรย และดูถูก ว่า ไร้การศึกษา ไม่มีมารยาท กระหายเลือด และ โง่.……!!ว
    วันที่ 7 ตุลาคม 2006 ที่เธอกำลังขึ้นลิฟท์ที่พัก……มือปืนได้บุกเข้ายิงเธอสี่นัด และวางปืนไว้ข้างๆร่างของเธอ เป็นสัญญลักษณ์ว่า เป็นการจ้างวาน…

    เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ทั่วโลก เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจกลางกรุงมอสโคว์ เหยื่อเป็นนักข่าว เป็นผู้หญิง และอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล
    แน่นอนว่า…..ทุกคนพุ่งเป้าไปที่ปูตินพียงคนเดียว
    และไม่มีใครออกมาให้ข่าวอะไรเพื่อที่จะเคลียร์ตัวเอง
    จนสามวันถัดไปที่เป็นวันฝังร่างที่มีผู้คนไปร่วมงานนับพัน
    ที่ปูตินเดินทางไปที่ Dresden ในการพบปะกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มาดาม Angela Merkel ที่มาแทน Gerhard Schroeder
    ในการพบกัน แองเจลาได้พยายามที่จะถามคุ้ยถึงเรื่องฆาตกรรม แต่ปูตินพูดเรียบๆว่า
    “มันเป็นอะไรที่เหี้ยมโหดมาก..แต่การที่หล่อนตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับรัสเซีย เขียนข้อความที่ต่อต้านมาโดยตลอด ซึ่งมันไม่ได้เป็นผลอะไรกับรัฐบาลเลย ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปทำการที่ทำให้เกิดผลเสีย……คนที่อยู่เบื้องหลังในการฆาตกรรมนี้ คือกลุ่มที่มีความตั้งใจจะให้เราเป็นแพะ……”
    เขาพูดต่อว่า…
    “เรามีศัตรูที่ฝังตัวอยู่ในและนอกรัสเซียมากมาย ที่พร้อมที่จะสาดโคลนให้เราเสียชื่อเสียงตลอดเวลา”
    นั่นเขาหมายถึง Litvinenko ที่ไปตั้งแก๊งค์รวมกลุ่มกับ Boris Berezovsky ที่ลอนดอน

    ~~สาวให้ลึกเข้าไปอีกนิดนะคะ Litvinenko (จะเรียกว่า Lit) กับ Anna อยู่ในขบวนการเดียวกัน เธอได้บินไปเยี่ยมเขาถึงในลอนดอน เพื่อให้ข้อมูลของสงครามเชเชน……เพราะ Lit ได้เจาะในเรื่องการที่เหล่าผู้นำฝ่ายกบฏถูกตามเก็บไปทีละคนสองคน จนเป็นการจบสิ้นขบวนการขัดแย้ง
    เขาเสียชีวิตในวันที่ 23 พฤศจิกายน หลังจากที่อยู่ในโรงพยาบาลยี่สิบกว่าวัน หลังจากการจากไปของแอนนาเพียงหกอาทิตย์
    ทั้งสองคดีนี้……จับคนร้ายได้ทั้งขบวนการ ติดคุกกันไปคนบะหลายปี แต่จับตัวผู้บงการไม่ได้
    และ ผู้ต้องหาส่วนใหญ่มีพื้นเพเป็นอดีต FSB
    ส่วนจดหมายอาฆาตแค้นที่ Lit เขียนถึงปูติน………
    เขาไม่ได้โต้ตอบอะไร นอกจากแสดงความเสียใจ……เช่นเดียวกับที่เขาได้ทำอย่างเดียวกันกับการฆาตกรรมของแอนนา

    แต่เนื่องจากกระแสข่าวที่ได้ถูกจุดขึ้นมา สื่อตะวันตกจึงได้ใช้กระแสนี้ ขุดเอาการตายอย่างน่าสงสัยของคนหลายๆคนในอดีตขึ้นมาด้วย ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับ FSB เพราะ Boris Berezovsky อดีตเจ้าพ่อสื่อตั้งตัวเป็นศัตรูที่เปิดหน้าชกกับปูติน……แบบข้ามทวีป……ลอนดอน-มอสโคว์

    ปูตินเหลือเวลาที่จะอยู่ในตำแหน่งอีกเพียงปีเศษ เพราะการเลือกตั้งจะมีในปี 2008 เขาจึงหันมาสนใจที่จะเร่งมือทำทุกอย่างให้เสร็จตามแผน ส่วนเรื่องที่จะหาใครมาเป็นแคนดิเดต
    คนต่อไป.…เขายังไม่คิด
    สิ่งที่เขามุ่งมั่นที่จะทำ คือ การที่จะเอารัสเซียไปเป็นเจ้าภาพในกีฬาฤดูหนาวของโอลิมปิก 2014 เพราะตั้งแต่ ปี 1980 ที่โซเวียตได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิก (ฤดูร้อน) ที่มอสโคว์แล้ว
    จากนั้นมา…ไม่มีโอกาสอีกเลย เพราะการแซงชั่น (สงครามอาฟกานิสถาน) และ มาตรฐานไม่ผ่าน
    ปูตินบินไปกัวเตมาลา ในเดือนกรกฎาคม 2007
    สำหรับการประชุมนอกรอบเกี่ยวกับการขอเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาว กับ International Olympic Committee เพราะเขาเห็นว่าถึงเวลาที่รัสเซียจะต้องอวดโฉมให้กับชาวโลกได้เห็นว่า………รัสเซียไม่ใช่ประเทศหลังเขาอย่างแต่ก่อน
    อีกทั้งปูตินเอง เป็นนักกีฬาแทบทุกชนิด เขาจึงมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้รัสเซียได้เป็นเจ้าภาพของโอลิมปิกให้ได้
    เพราะเขารู้จัก Sochi ดี….และเห็นว่ามีภูมิทัศน์และภูมิประเทศที่จะจัดแข่งสกีได้ไม่แพ้ที่ไหนในโลก
    เขาเรียกประชุมเหล่า CEO ทั้งหลาย เพื่อที่จะทุ่มทุนสร้าง Ski Resort แบบมาตรฐานโลก……เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า…!!
    ทุกคนขานรับ….

    การประชุมที่กัวเตมาลาครั้งต่อมา ที่จะมีการพิจารณาถึงความเป็นไปได้
    ข้อเสนอที่ตรงกับความต้องการ และ ต้องได้มาตรฐานสูงสุด
    ที่จะมีการโหวตสองครั้ง ครั้งแรก คือการคัดเลือกเข้ารอบ
    ครั้งที่สอง คือการตัดสิน

    รอบแรกของการคัดเลือก ผ่านเข้ามาสามประเทศ คือ ออสเตรีย, เกาหลีใต้……และรัสเซีย ที่เกาหลีใต้เฉือนรัสเซียสี่คะแนน ส่วนออสเตรียมารั้งท้าย
    ปูตินรู้สึกกดดันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน……

    ในการประชุมตัดสินรอบต่อไป……ที่เหลือระหว่างเกาหลีใต้กับรัสเซีย
    เขาได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน……
    ทุกคนตกตะลึง……ไม่เชื่อหู…คือ เขา present โครงการที่ทันสมัย และความสวยงามของ Sochi เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ ตบท้ายด้วยการสรุปเป็นภาษาฝรั่งเศส
    และทันทีที่กล่าวเสร็จ……เขาไม่อยู่รอฟังการตัดสิน บินกลับมอสโคว์ทันที
    เพราะ ปูตินไม่อยากอยู่สู้หน้าใคร ถ้าหากว่า รัสเซียหลุดไปจากโผ เพราะเขาได้ทุ่มหมดหน้าตักทั้งสมองและจิตใจ…
    และไม่อยากเผชิญกับใบหน้าที่ยิ้มเยาะของพวกตะวันตก……

    เจ้าหน้าที่ที่กัวเตมาลาได้โทรหาเขาในระหว่างที่อยู่บนเครื่องบิน เพื่อแสดงความยินดีที่ Sochi ได้รับเลือกในการที่จะเป็นเจ้าภาพกีฬาฤดูหนาว
    ปูตินดีใจจนเนื้อเต้น เขารีบโทรศัพท์ไปขอบคุณประธานและคณะกรรมการทันที

    ทันทีที่เครื่องบินได้แตะพื้นดินรัสเซีย เขาพบว่าประชาชนทุกคนมีรอยยิ้มอย่างแจ่มใสบนใบหน้า ทุกคนดีใจกับเกียรติภูมิของรัสเซียที่เขาได้นำกลับมาอีกครั้ง
    กระแสความนิยมของปูตินได้พุ่งถึงขีดสุด………

    นั่นเป็นการยืนยันกับประชาชนอย่างหนักแน่นว่า………รัสเซียกำลังจะผงาดขึ้นมาเป็นใหญ่อีกครั้ง………!!!!

    Wiwanda W. Vichit
    เค้าก็ไม่เคยบอกใครนะ ว่าพี่ปูเขาเป็นสุภาพบุรุษนักบุญ…… แต่คนที่จะเอาชนะกับกลุ่มมารที่ทึ้งแทะประเทศ……มันก็มีบทโหด……และ ไม่ใช่โหดเฉยๆ แต่โคตรโหดเลยจ้าาาาา นี่เป็นส่วนหนึ่งของน้ำจิ้มนะจ๊ะ… ตอนสิบเจ็ด…..…ฆาตกรรมข้ามแดนที่เรียงเป็นซีรี่ย์……เป็นเรื่องตะวันตกเขาว่าเขารับไม่ได้………!! ดิฉันเคยเขียนถึงเรื่องของ Aleksandr Litvinenko ที่โดนยาพิษไปแล้ว จะเอามาแปะให้ข้างล่าง แต่……เขายังเป็นอะไรที่มีโอกาสสั่งเสีย และมีเวลาเขียนจดหมายอาฆาตแค้นถึงปูติน ก่อนที่จะลาลับไปจากโลกนี้ แต่ก่อนหน้านั้นหกอาทิตย์ ……คนที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะกระพริบตา คือ Anna Politkovskaya **วัย 48 นักข่าว นักเคลื่อนไหว นักเขียน ที่มีสัญชาติอเมริกัน (เชื้อชาติรัสเซีย) ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลปูตินมาโดยตลอด เธอถือว่าเธอได้รับการคุ้มครองจากสถานทูตอเมริกัน จึงกล้าเขียนวิจารณ์ทั้งสื่อใน และ นอกประเทศ งานหลักของเธอคือ การจิกกัดในเรื่องของสงครามที่เชเชน โดยจะทำรายงานสกู๊ปข่าวอย่างละเอียด ว่า ใครได้ถูกเก็บไปบ้าง และติเตียนปูตินที่เอา Ramzan Kadyrov จิ๊กโก๋บ้าดีเดือด มาเป็นผู้ว่าการรัฐ ที่เธอเปรียบเปรย และดูถูก ว่า ไร้การศึกษา ไม่มีมารยาท กระหายเลือด และ โง่.……!!ว วันที่ 7 ตุลาคม 2006 ที่เธอกำลังขึ้นลิฟท์ที่พัก……มือปืนได้บุกเข้ายิงเธอสี่นัด และวางปืนไว้ข้างๆร่างของเธอ เป็นสัญญลักษณ์ว่า เป็นการจ้างวาน… เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ทั่วโลก เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจกลางกรุงมอสโคว์ เหยื่อเป็นนักข่าว เป็นผู้หญิง และอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล แน่นอนว่า…..ทุกคนพุ่งเป้าไปที่ปูตินพียงคนเดียว และไม่มีใครออกมาให้ข่าวอะไรเพื่อที่จะเคลียร์ตัวเอง จนสามวันถัดไปที่เป็นวันฝังร่างที่มีผู้คนไปร่วมงานนับพัน ที่ปูตินเดินทางไปที่ Dresden ในการพบปะกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มาดาม Angela Merkel ที่มาแทน Gerhard Schroeder ในการพบกัน แองเจลาได้พยายามที่จะถามคุ้ยถึงเรื่องฆาตกรรม แต่ปูตินพูดเรียบๆว่า “มันเป็นอะไรที่เหี้ยมโหดมาก..แต่การที่หล่อนตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับรัสเซีย เขียนข้อความที่ต่อต้านมาโดยตลอด ซึ่งมันไม่ได้เป็นผลอะไรกับรัฐบาลเลย ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปทำการที่ทำให้เกิดผลเสีย……คนที่อยู่เบื้องหลังในการฆาตกรรมนี้ คือกลุ่มที่มีความตั้งใจจะให้เราเป็นแพะ……” เขาพูดต่อว่า… “เรามีศัตรูที่ฝังตัวอยู่ในและนอกรัสเซียมากมาย ที่พร้อมที่จะสาดโคลนให้เราเสียชื่อเสียงตลอดเวลา” นั่นเขาหมายถึง Litvinenko ที่ไปตั้งแก๊งค์รวมกลุ่มกับ Boris Berezovsky ที่ลอนดอน ~~สาวให้ลึกเข้าไปอีกนิดนะคะ Litvinenko (จะเรียกว่า Lit) กับ Anna อยู่ในขบวนการเดียวกัน เธอได้บินไปเยี่ยมเขาถึงในลอนดอน เพื่อให้ข้อมูลของสงครามเชเชน……เพราะ Lit ได้เจาะในเรื่องการที่เหล่าผู้นำฝ่ายกบฏถูกตามเก็บไปทีละคนสองคน จนเป็นการจบสิ้นขบวนการขัดแย้ง เขาเสียชีวิตในวันที่ 23 พฤศจิกายน หลังจากที่อยู่ในโรงพยาบาลยี่สิบกว่าวัน หลังจากการจากไปของแอนนาเพียงหกอาทิตย์ ทั้งสองคดีนี้……จับคนร้ายได้ทั้งขบวนการ ติดคุกกันไปคนบะหลายปี แต่จับตัวผู้บงการไม่ได้ และ ผู้ต้องหาส่วนใหญ่มีพื้นเพเป็นอดีต FSB ส่วนจดหมายอาฆาตแค้นที่ Lit เขียนถึงปูติน……… เขาไม่ได้โต้ตอบอะไร นอกจากแสดงความเสียใจ……เช่นเดียวกับที่เขาได้ทำอย่างเดียวกันกับการฆาตกรรมของแอนนา แต่เนื่องจากกระแสข่าวที่ได้ถูกจุดขึ้นมา สื่อตะวันตกจึงได้ใช้กระแสนี้ ขุดเอาการตายอย่างน่าสงสัยของคนหลายๆคนในอดีตขึ้นมาด้วย ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับ FSB เพราะ Boris Berezovsky อดีตเจ้าพ่อสื่อตั้งตัวเป็นศัตรูที่เปิดหน้าชกกับปูติน……แบบข้ามทวีป……ลอนดอน-มอสโคว์ ปูตินเหลือเวลาที่จะอยู่ในตำแหน่งอีกเพียงปีเศษ เพราะการเลือกตั้งจะมีในปี 2008 เขาจึงหันมาสนใจที่จะเร่งมือทำทุกอย่างให้เสร็จตามแผน ส่วนเรื่องที่จะหาใครมาเป็นแคนดิเดต คนต่อไป.…เขายังไม่คิด สิ่งที่เขามุ่งมั่นที่จะทำ คือ การที่จะเอารัสเซียไปเป็นเจ้าภาพในกีฬาฤดูหนาวของโอลิมปิก 2014 เพราะตั้งแต่ ปี 1980 ที่โซเวียตได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิก (ฤดูร้อน) ที่มอสโคว์แล้ว จากนั้นมา…ไม่มีโอกาสอีกเลย เพราะการแซงชั่น (สงครามอาฟกานิสถาน) และ มาตรฐานไม่ผ่าน ปูตินบินไปกัวเตมาลา ในเดือนกรกฎาคม 2007 สำหรับการประชุมนอกรอบเกี่ยวกับการขอเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกฤดูหนาว กับ International Olympic Committee เพราะเขาเห็นว่าถึงเวลาที่รัสเซียจะต้องอวดโฉมให้กับชาวโลกได้เห็นว่า………รัสเซียไม่ใช่ประเทศหลังเขาอย่างแต่ก่อน อีกทั้งปูตินเอง เป็นนักกีฬาแทบทุกชนิด เขาจึงมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้รัสเซียได้เป็นเจ้าภาพของโอลิมปิกให้ได้ เพราะเขารู้จัก Sochi ดี….และเห็นว่ามีภูมิทัศน์และภูมิประเทศที่จะจัดแข่งสกีได้ไม่แพ้ที่ไหนในโลก เขาเรียกประชุมเหล่า CEO ทั้งหลาย เพื่อที่จะทุ่มทุนสร้าง Ski Resort แบบมาตรฐานโลก……เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า…!! ทุกคนขานรับ…. การประชุมที่กัวเตมาลาครั้งต่อมา ที่จะมีการพิจารณาถึงความเป็นไปได้ ข้อเสนอที่ตรงกับความต้องการ และ ต้องได้มาตรฐานสูงสุด ที่จะมีการโหวตสองครั้ง ครั้งแรก คือการคัดเลือกเข้ารอบ ครั้งที่สอง คือการตัดสิน รอบแรกของการคัดเลือก ผ่านเข้ามาสามประเทศ คือ ออสเตรีย, เกาหลีใต้……และรัสเซีย ที่เกาหลีใต้เฉือนรัสเซียสี่คะแนน ส่วนออสเตรียมารั้งท้าย ปูตินรู้สึกกดดันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน…… ในการประชุมตัดสินรอบต่อไป……ที่เหลือระหว่างเกาหลีใต้กับรัสเซีย เขาได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน…… ทุกคนตกตะลึง……ไม่เชื่อหู…คือ เขา present โครงการที่ทันสมัย และความสวยงามของ Sochi เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ ตบท้ายด้วยการสรุปเป็นภาษาฝรั่งเศส และทันทีที่กล่าวเสร็จ……เขาไม่อยู่รอฟังการตัดสิน บินกลับมอสโคว์ทันที เพราะ ปูตินไม่อยากอยู่สู้หน้าใคร ถ้าหากว่า รัสเซียหลุดไปจากโผ เพราะเขาได้ทุ่มหมดหน้าตักทั้งสมองและจิตใจ… และไม่อยากเผชิญกับใบหน้าที่ยิ้มเยาะของพวกตะวันตก…… เจ้าหน้าที่ที่กัวเตมาลาได้โทรหาเขาในระหว่างที่อยู่บนเครื่องบิน เพื่อแสดงความยินดีที่ Sochi ได้รับเลือกในการที่จะเป็นเจ้าภาพกีฬาฤดูหนาว ปูตินดีใจจนเนื้อเต้น เขารีบโทรศัพท์ไปขอบคุณประธานและคณะกรรมการทันที ทันทีที่เครื่องบินได้แตะพื้นดินรัสเซีย เขาพบว่าประชาชนทุกคนมีรอยยิ้มอย่างแจ่มใสบนใบหน้า ทุกคนดีใจกับเกียรติภูมิของรัสเซียที่เขาได้นำกลับมาอีกครั้ง กระแสความนิยมของปูตินได้พุ่งถึงขีดสุด……… นั่นเป็นการยืนยันกับประชาชนอย่างหนักแน่นว่า………รัสเซียกำลังจะผงาดขึ้นมาเป็นใหญ่อีกครั้ง………!!!! Wiwanda W. Vichit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • 28 กันยายน “วันพระราชทานธงชาติไทย“

    เพลง ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว
    SHAW SHERRY DUCK
    เนื้อร้อง/ทำนอง : ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก
    เรียบเรียง : ยา โซโล่แมน & ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก
    มิกซ์ : ต้องมนต์ & เฮียชอว์

    ขอขอบคุณ
    คลิป เพลงชาติไทย
    คลิป Tiktok : pattyada
    คลิป Tiktok : wansat39
    คลิป Tiktok : thai_merii
    เจ้าของภาพ
    ตัดต่อ โดย รวยจัง ชอว์

    #วันพระราชทานธงชาติไทย
    #ชาติศาน์กษัตริย์
    #ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว #thailand
    #newsingle #shawsherryduck #newsongs
    #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต#Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord
    28 กันยายน “วันพระราชทานธงชาติไทย“ เพลง ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว SHAW SHERRY DUCK เนื้อร้อง/ทำนอง : ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก เรียบเรียง : ยา โซโล่แมน & ชอว์ เชอร์รี่ดั๊ก มิกซ์ : ต้องมนต์ & เฮียชอว์ ขอขอบคุณ คลิป เพลงชาติไทย คลิป Tiktok : pattyada คลิป Tiktok : wansat39 คลิป Tiktok : thai_merii เจ้าของภาพ ตัดต่อ โดย รวยจัง ชอว์ #วันพระราชทานธงชาติไทย #ชาติศาน์กษัตริย์ #ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว #thailand #newsingle #shawsherryduck #newsongs #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ #ชอว์พิชิต​ #Alternative #อัลเทอร์เนทีฟ #ศิลปะดนตรีกวีธรรมชาติ #ดงเพลง #DongplengRecord
    Love
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 641 มุมมอง 180 0 รีวิว
  • สวัสดีค่ะ คุณ สนธิ ขอบคุณมากนะคะ
    สวัสดีค่ะ คุณ สนธิ ขอบคุณมากนะคะ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 550 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชิญร่วมกันอนุโมทนาค่ะ
    ใส่บาตรทุกวันเสาร์ ใครสนใจร่วมใส่บาตร อินบ๊อกมาได้ค่ะ ติดตามได้ทึกวันพุธนะคะ ว่าเสาร์หน้าจะใส่อะไร องค์ละ 300 ค่ะ ขอบคุณนะคะ ฝากกดไลน์ กดแชร์กันด้วยนะคะ 🙏🙏🙏
    เชิญร่วมกันอนุโมทนาค่ะ ใส่บาตรทุกวันเสาร์ ใครสนใจร่วมใส่บาตร อินบ๊อกมาได้ค่ะ ติดตามได้ทึกวันพุธนะคะ ว่าเสาร์หน้าจะใส่อะไร องค์ละ 300 ค่ะ ขอบคุณนะคะ ฝากกดไลน์ กดแชร์กันด้วยนะคะ 🙏🙏🙏
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • #จำหน่ายและรับวาดภาพสีน้ำมันบุคคลสำคัญ สนใจสามารถส่งแบบและขนาดที่ต้องการ
    ได้ทาง inbox.
    Fb Nooneaw Tomee
    #มีสีพอร์ตเทรดวาดภาพเหมือนทุกรูปแบบ
    การันตีคุณภาพ
    (คุณภาพ วินัย สัจจะ ถือเป็นสิ่งสำคัญ)
    🧑‍🏫ขอบคุณผู้สนับสนุนผลงานที่เคารพรักทุกท่าน
    🎯ขอบคุณ Thai Time คะ.
    #จำหน่ายและรับวาดภาพสีน้ำมันบุคคลสำคัญ สนใจสามารถส่งแบบและขนาดที่ต้องการ ได้ทาง inbox. Fb Nooneaw Tomee #มีสีพอร์ตเทรดวาดภาพเหมือนทุกรูปแบบ การันตีคุณภาพ (คุณภาพ วินัย สัจจะ ถือเป็นสิ่งสำคัญ) 🧑‍🏫ขอบคุณผู้สนับสนุนผลงานที่เคารพรักทุกท่าน 🎯ขอบคุณ Thai Time คะ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 46 0 รีวิว
  • แปลกแต่จริง! ปอเต็กตึ้งช่วยอพยพย้ายสิงโตใหญ่2ตัวและหมาพิตบูล 4ตัวหนีน้ำท่วมเชียงใหม่

    28 กันยายน 2567-เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้รับการร้องขอจาก หจก.แห่งหนึ่ง ในต.หนองผึ้ง หมู่ 7 อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ให้ช่วยทำการอพยพเคลื่อนย้ายสิงโตขนาดใหญ่ 2 ตัว และ สุนัขพิตบูล 4 ตัว หนีน้ำท่วม โดยเจ้าของได้ยิงยาสลบก่อนเคลื่อนย้าย

    หลังจากยิงยาสลบสิงโตทั้งสองตัวแล้ว ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง จากนั้นทีมกู้ภัย ปศุสัตว์ รวมถึงเจ้าของสิงโตได้ช่วยกัน นำสิงโตใส่เปลสนาม และเริ่มเคลื่อนย้ายลุยน้ำท่วมออกมา ซึ่งนำมาใส่รถเจ้าของที่จอดอยู่ด้านนอก แล้วนำสิงโตทั้งสองตัวไปฝากไว้ที่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

    ขอบคุณคลิปจากคมชัดลึก
    https://dai.ly/x96cfu2

    #Thaitimes
    แปลกแต่จริง! ปอเต็กตึ้งช่วยอพยพย้ายสิงโตใหญ่2ตัวและหมาพิตบูล 4ตัวหนีน้ำท่วมเชียงใหม่ 28 กันยายน 2567-เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้รับการร้องขอจาก หจก.แห่งหนึ่ง ในต.หนองผึ้ง หมู่ 7 อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ให้ช่วยทำการอพยพเคลื่อนย้ายสิงโตขนาดใหญ่ 2 ตัว และ สุนัขพิตบูล 4 ตัว หนีน้ำท่วม โดยเจ้าของได้ยิงยาสลบก่อนเคลื่อนย้าย หลังจากยิงยาสลบสิงโตทั้งสองตัวแล้ว ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง จากนั้นทีมกู้ภัย ปศุสัตว์ รวมถึงเจ้าของสิงโตได้ช่วยกัน นำสิงโตใส่เปลสนาม และเริ่มเคลื่อนย้ายลุยน้ำท่วมออกมา ซึ่งนำมาใส่รถเจ้าของที่จอดอยู่ด้านนอก แล้วนำสิงโตทั้งสองตัวไปฝากไว้ที่ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ขอบคุณคลิปจากคมชัดลึก https://dai.ly/x96cfu2 #Thaitimes
    Like
    Love
    Yay
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 893 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสนอกฎหมายเพื่อฟ้อง บริษัทยายักษ์ใหญ่

    Gosar สมาชิกสภาคองเกรส สหรัฐ เสนอกฎหมายเพื่อฟ้อง บริษัทยายักษ์ใหญ่ (Big Pharma) สําหรับการบาดเจ็บจากวัคซีน
    วอชิงตัน ดี.ซี. 26 กันยายน 2024

    สมาชิกสภาคองเกรส พอล เอ. โกซาร์, ดี.ดี.เอส. (AZ-09) ออกแถลงการณ์ ต่อไปนี้ หลังจากเสนอ H.R. 9828 พระราชบัญญัติระงับ การปกป้อง ผู้ผลิตวัคซีนจากการที่ไม่ต้องรับผิดชอบ End the Vaccine Carveout Act (https://www.congress.gov/bill/118th-congress/house-bill/9828#:~:text=Summary%20of%20H.R.9828%20-%20118th%20Congress)
    เป็นร่างกฎหมายที่จะถอดผู้ผลิตวัคซีนออกจากโล่ความที่ไม่ต้องรับผิด ส่งผลให้มีกําไรหลายแสนล้านดอลลาร์สำหรับ Big Pharma ในขณะที่ทำให้ผู้คนหลายหมื่นคนไม่สามารถแสวงหาความยุติธรรมทางกฎหมาย และ การชดเชยการบาดเจ็บที่เกิดจากวัคซีน
    และมีการแถลง press release ดังต่อไปนี้

    “แม้ว่าข้าราชการของรัฐบาลกลางและ Big Pharma จะยืนยันว่าวัคซีนนั้นปลอดภัย แต่ก็น่าเสียดายที่ขาดวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีน ตัวอย่างเช่น การทบทวนเอกสารทางวิทยาศาสตร์ 12,000 ฉบับโดยสถาบันการแพทย์ ที่ตีพิมพ์ในปี 2555 พบว่า 98% ของการบาดเจ็บที่ศึกษานั้น เกิดจากหรืออาจเกิดจากวัคซีน การศึกษาของรัฐบาลอีกชิ้นหนึ่ง พบว่า ในขณะที่วัคซีนทำให้เกิดการบาดเจ็บใน 10 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย มีเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ได้รับรายงาน ซึ่งหมายความว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากวัคซีนถูกนับน้อยไปอย่างมาก

    นอกจากนี้ ตามระบบการรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากวัคซีนของศูนย์ควบคุมโรค มีรายงานว่าชาวอเมริกันเกือบ 20,000 คนตายโดยวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเท่ากับ การเสียชีวิต หนึ่งรายต่อทุกๆ 14,000 คน ที่ได้รับวัคซีน ซึ่งสูงกว่าหนึ่งในล้านของการเสียชีวิต ที่ปกติมีการอ้างถึงอันตรายจากวัคซีน

    ข้าราชการและนักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลที่รับผิดชอบในการอนุมัติวัคซีนอยู่บนเตียงกับ Big Pharma ซึ่งมักเป็นเจ้าของหุ้นยา โดยมีหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และรับสัญญาที่ร่ํารวยจากบริษัทยาที่กดดันให้พวกเขาสร้างผลลัพธ์ที่ดีซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลางโดยตรง

    ที่แย่กว่านั้น นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยหลายคนในหน่วยงานของรัฐพัฒนาสิทธิบัตรสําหรับวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่พวกเขาทํางาน สร้างความขัดแย้งทางผลประโยชน์และก่อให้เกิดคําถามร้ายแรงเกี่ยวกับความเป็นธรรมของการตัดสินใจของพวกเขา

    ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ ผู้ผลิตวัคซีนจะต้องรับผิดชอบต่อการบาดเจ็บที่เกิดจากวัคซีน เนื่องจากกฎหมายปี 1986 ที่สร้างภูมิคุ้มกันพิเศษอย่างไม่เป็นธรรมสําหรับ Big Pharma ทําให้เหยื่อที่ได้รับบาดเจ็บจากวัคซีนชนะในศาลได้ยากมาก

    กฎหมายนี้ยกเลิกบทบัญญัติภูมิคุ้มกันในปัจจุบันที่ปกป้อง Big Pharma อย่างไม่เป็นธรรม จากอันตรายที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ของตน และอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากวัคซีนดําเนินคดีทางแพ่งในศาลของรัฐหรือรัฐบาลกลาง Big Pharma ไม่สมควรได้รับบัตรปลอดคุกสําหรับการบาดเจ็บที่เกิดจากวัคซีนที่เป็นอันตราย” สมาชิกสภาคองเกรส Gosar กล่าวสรุป

    โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ผู้ก่อตั้ง Children's Health Defense และประธานคณะกรรมการ Leave กล่าวว่า “ผู้ผลิตวัคซีนชาวอเมริกันทั้งสี่รายเป็นองค์กรอาชญากรรมที่จ่ายค่าปรับทางอาญาหลายหมื่นล้านในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยการปลดปล่อยพวกเขาจากความรับผิดสําหรับความประมาทเลินเล่อ กฎเกณฑ์ปี 1986 ได้ลบสิ่งจูงใจใด ๆ สําหรับบริษัทเหล่านี้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย หากเราต้องการวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เราจําเป็นต้องยุติเกราะป้องกันความรับผิด”

    แมรี่ ฮอลแลนด์ ประธานฝ่ายป้องกันสุขภาพเด็กกล่าวเสริมว่า “ขอบคุณสมาชิกสภาคองเกรสโกซาร์ที่แนะนํากฎหมายประวัติศาสตร์และจําเป็นอย่างเร่งด่วนนี้ เป็นเวลากว่า 35 ปีแล้วที่ผู้ปกครองของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากวัคซีนที่รัฐบาลแนะนําถูกทิ้งไว้โดยไม่มีการเยียวยาที่มีความหมาย -- มีเพียงโครงการชดเชยที่ซับซ้อนและหลอกลวงที่ทําให้ครอบครัวที่เสียใจต่อต้านรัฐบาล ในขณะที่ Big Pharma ไม่มีความรับผิด ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ภาวะสุขภาพเรื้อรังในเด็ก - ออทิสติก สมาธิสั้น โรคภูมิแพ้รุนแรง หอบหืด - ได้พุ่งสูงขึ้น กฎหมายนี้จะช่วยยุติการปกครองของ Big Pharma เหนือรัฐบาล ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่ทุจริตของพระราชบัญญัติการบาดเจ็บจากวัคซีนในวัยเด็กแห่งชาติปี 1986 ได้ปราบปรามวิทยาศาสตร์ ขัดขวางครอบครัว โค่นล้มตลาดการตรวจสอบและถ่วงดุลแบบประชาธิปไตย และลบสิทธิของพลเมืองในการพิจารณาคดีโดยคณะลูกขุน ชาวอเมริกันสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้”

    ความเป็นมา:
    ในปี 1986 สภาคองเกรสได้ผ่านพระราชบัญญัติการบาดเจ็บจากวัคซีนในวัยเด็กแห่งชาติ (NVCIA) ซึ่งปกป้องผู้ผลิตวัคซีนจากอันตรายที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ของตน ทําให้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้บาดเจ็บจากวัคซีนจะชนะในศาล โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าผู้ผลิตวัคซีนจงใจ "[ระงับ] ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพของวัคซีน" มีส่วนร่วมใน "กิจกรรมทางอาญาหรือผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน" หรือ "โดยหลักฐานที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ... ล้มเหลวในการใช้ความระมัดระวังอย่างเหมาะสม"การปฏิบัติตามข้อกําหนดเหล่านี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

    ศูนย์ควบคุมโรค (CDC) และสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) ได้รับมอบหมายให้อนุมัติวัคซีน น่าเศร้าที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างมาก เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ที่ทํางานในหน่วยงานเหล่านี้ออกใบอนุญาตสิทธิบัตรให้กับผู้ผลิตวัคซีน และในการทําเช่นนั้น ได้รับค่าลิขสิทธิ์สูงถึง 150,000 ดอลลาร์นอกจากนี้ สมาชิกที่ลงคะแนนเสียงในคณะกรรมการที่ให้คําแนะนําแก่ CDC และ NIH เป็นเจ้าของหุ้นของผู้ผลิตวัคซีน มีส่วนร่วมในงานสัญญาสําหรับผู้ผลิตวัคซีน และได้รับเงินช่วยเหลือจากผู้ผลิตวัคซีน

    ผู้สนับสนุนร่วมในปัจจุบัน:
    Representatives Andy Biggs, Lauren Boebert, Josh Brecheen, Tim Burchett, Eric Burlison, Mike Collins, Eli Crane, Warren Davidson, Byron Donalds, Matt Gaetz, Bob Good, Marjorie Taylor Greene, Harriet Hageman, Andy Harris, Clay Higgins, Ronny Jackson, Anna Paulina Luna, Nancy Mace, Thomas Massie, Mary E. Miller, Cory Mills, Barry Moore, Troy E. Nehls, Ralph Norman, Andy Ogles, Bill Posey, Chip Roy, Keith Self, Victoria Spartz, and Randy K. Weber Sr.

    ถอดความภาษาไทยโดย

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    เสนอกฎหมายเพื่อฟ้อง บริษัทยายักษ์ใหญ่ Gosar สมาชิกสภาคองเกรส สหรัฐ เสนอกฎหมายเพื่อฟ้อง บริษัทยายักษ์ใหญ่ (Big Pharma) สําหรับการบาดเจ็บจากวัคซีน วอชิงตัน ดี.ซี. 26 กันยายน 2024 สมาชิกสภาคองเกรส พอล เอ. โกซาร์, ดี.ดี.เอส. (AZ-09) ออกแถลงการณ์ ต่อไปนี้ หลังจากเสนอ H.R. 9828 พระราชบัญญัติระงับ การปกป้อง ผู้ผลิตวัคซีนจากการที่ไม่ต้องรับผิดชอบ End the Vaccine Carveout Act (https://www.congress.gov/bill/118th-congress/house-bill/9828#:~:text=Summary%20of%20H.R.9828%20-%20118th%20Congress) เป็นร่างกฎหมายที่จะถอดผู้ผลิตวัคซีนออกจากโล่ความที่ไม่ต้องรับผิด ส่งผลให้มีกําไรหลายแสนล้านดอลลาร์สำหรับ Big Pharma ในขณะที่ทำให้ผู้คนหลายหมื่นคนไม่สามารถแสวงหาความยุติธรรมทางกฎหมาย และ การชดเชยการบาดเจ็บที่เกิดจากวัคซีน และมีการแถลง press release ดังต่อไปนี้ “แม้ว่าข้าราชการของรัฐบาลกลางและ Big Pharma จะยืนยันว่าวัคซีนนั้นปลอดภัย แต่ก็น่าเสียดายที่ขาดวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีน ตัวอย่างเช่น การทบทวนเอกสารทางวิทยาศาสตร์ 12,000 ฉบับโดยสถาบันการแพทย์ ที่ตีพิมพ์ในปี 2555 พบว่า 98% ของการบาดเจ็บที่ศึกษานั้น เกิดจากหรืออาจเกิดจากวัคซีน การศึกษาของรัฐบาลอีกชิ้นหนึ่ง พบว่า ในขณะที่วัคซีนทำให้เกิดการบาดเจ็บใน 10 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วย มีเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ได้รับรายงาน ซึ่งหมายความว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากวัคซีนถูกนับน้อยไปอย่างมาก นอกจากนี้ ตามระบบการรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากวัคซีนของศูนย์ควบคุมโรค มีรายงานว่าชาวอเมริกันเกือบ 20,000 คนตายโดยวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเท่ากับ การเสียชีวิต หนึ่งรายต่อทุกๆ 14,000 คน ที่ได้รับวัคซีน ซึ่งสูงกว่าหนึ่งในล้านของการเสียชีวิต ที่ปกติมีการอ้างถึงอันตรายจากวัคซีน ข้าราชการและนักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลที่รับผิดชอบในการอนุมัติวัคซีนอยู่บนเตียงกับ Big Pharma ซึ่งมักเป็นเจ้าของหุ้นยา โดยมีหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และรับสัญญาที่ร่ํารวยจากบริษัทยาที่กดดันให้พวกเขาสร้างผลลัพธ์ที่ดีซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลางโดยตรง ที่แย่กว่านั้น นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยหลายคนในหน่วยงานของรัฐพัฒนาสิทธิบัตรสําหรับวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่พวกเขาทํางาน สร้างความขัดแย้งทางผลประโยชน์และก่อให้เกิดคําถามร้ายแรงเกี่ยวกับความเป็นธรรมของการตัดสินใจของพวกเขา ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ ผู้ผลิตวัคซีนจะต้องรับผิดชอบต่อการบาดเจ็บที่เกิดจากวัคซีน เนื่องจากกฎหมายปี 1986 ที่สร้างภูมิคุ้มกันพิเศษอย่างไม่เป็นธรรมสําหรับ Big Pharma ทําให้เหยื่อที่ได้รับบาดเจ็บจากวัคซีนชนะในศาลได้ยากมาก กฎหมายนี้ยกเลิกบทบัญญัติภูมิคุ้มกันในปัจจุบันที่ปกป้อง Big Pharma อย่างไม่เป็นธรรม จากอันตรายที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ของตน และอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากวัคซีนดําเนินคดีทางแพ่งในศาลของรัฐหรือรัฐบาลกลาง Big Pharma ไม่สมควรได้รับบัตรปลอดคุกสําหรับการบาดเจ็บที่เกิดจากวัคซีนที่เป็นอันตราย” สมาชิกสภาคองเกรส Gosar กล่าวสรุป โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ผู้ก่อตั้ง Children's Health Defense และประธานคณะกรรมการ Leave กล่าวว่า “ผู้ผลิตวัคซีนชาวอเมริกันทั้งสี่รายเป็นองค์กรอาชญากรรมที่จ่ายค่าปรับทางอาญาหลายหมื่นล้านในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยการปลดปล่อยพวกเขาจากความรับผิดสําหรับความประมาทเลินเล่อ กฎเกณฑ์ปี 1986 ได้ลบสิ่งจูงใจใด ๆ สําหรับบริษัทเหล่านี้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย หากเราต้องการวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เราจําเป็นต้องยุติเกราะป้องกันความรับผิด” แมรี่ ฮอลแลนด์ ประธานฝ่ายป้องกันสุขภาพเด็กกล่าวเสริมว่า “ขอบคุณสมาชิกสภาคองเกรสโกซาร์ที่แนะนํากฎหมายประวัติศาสตร์และจําเป็นอย่างเร่งด่วนนี้ เป็นเวลากว่า 35 ปีแล้วที่ผู้ปกครองของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากวัคซีนที่รัฐบาลแนะนําถูกทิ้งไว้โดยไม่มีการเยียวยาที่มีความหมาย -- มีเพียงโครงการชดเชยที่ซับซ้อนและหลอกลวงที่ทําให้ครอบครัวที่เสียใจต่อต้านรัฐบาล ในขณะที่ Big Pharma ไม่มีความรับผิด ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ภาวะสุขภาพเรื้อรังในเด็ก - ออทิสติก สมาธิสั้น โรคภูมิแพ้รุนแรง หอบหืด - ได้พุ่งสูงขึ้น กฎหมายนี้จะช่วยยุติการปกครองของ Big Pharma เหนือรัฐบาล ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนที่ทุจริตของพระราชบัญญัติการบาดเจ็บจากวัคซีนในวัยเด็กแห่งชาติปี 1986 ได้ปราบปรามวิทยาศาสตร์ ขัดขวางครอบครัว โค่นล้มตลาดการตรวจสอบและถ่วงดุลแบบประชาธิปไตย และลบสิทธิของพลเมืองในการพิจารณาคดีโดยคณะลูกขุน ชาวอเมริกันสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้” ความเป็นมา: ในปี 1986 สภาคองเกรสได้ผ่านพระราชบัญญัติการบาดเจ็บจากวัคซีนในวัยเด็กแห่งชาติ (NVCIA) ซึ่งปกป้องผู้ผลิตวัคซีนจากอันตรายที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ของตน ทําให้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้บาดเจ็บจากวัคซีนจะชนะในศาล โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าผู้ผลิตวัคซีนจงใจ "[ระงับ] ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยหรือประสิทธิภาพของวัคซีน" มีส่วนร่วมใน "กิจกรรมทางอาญาหรือผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน" หรือ "โดยหลักฐานที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ... ล้มเหลวในการใช้ความระมัดระวังอย่างเหมาะสม"การปฏิบัติตามข้อกําหนดเหล่านี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ศูนย์ควบคุมโรค (CDC) และสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) ได้รับมอบหมายให้อนุมัติวัคซีน น่าเศร้าที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างมาก เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์ที่ทํางานในหน่วยงานเหล่านี้ออกใบอนุญาตสิทธิบัตรให้กับผู้ผลิตวัคซีน และในการทําเช่นนั้น ได้รับค่าลิขสิทธิ์สูงถึง 150,000 ดอลลาร์นอกจากนี้ สมาชิกที่ลงคะแนนเสียงในคณะกรรมการที่ให้คําแนะนําแก่ CDC และ NIH เป็นเจ้าของหุ้นของผู้ผลิตวัคซีน มีส่วนร่วมในงานสัญญาสําหรับผู้ผลิตวัคซีน และได้รับเงินช่วยเหลือจากผู้ผลิตวัคซีน ผู้สนับสนุนร่วมในปัจจุบัน: Representatives Andy Biggs, Lauren Boebert, Josh Brecheen, Tim Burchett, Eric Burlison, Mike Collins, Eli Crane, Warren Davidson, Byron Donalds, Matt Gaetz, Bob Good, Marjorie Taylor Greene, Harriet Hageman, Andy Harris, Clay Higgins, Ronny Jackson, Anna Paulina Luna, Nancy Mace, Thomas Massie, Mary E. Miller, Cory Mills, Barry Moore, Troy E. Nehls, Ralph Norman, Andy Ogles, Bill Posey, Chip Roy, Keith Self, Victoria Spartz, and Randy K. Weber Sr. ถอดความภาษาไทยโดย ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้หรือไม่ ? แบรนด์ระดับ Longines มี Boutique กี่สาขา ?

    CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก​Luxuryaddictman
    รู้หรือไม่ ? แบรนด์ระดับ Longines มี Boutique กี่สาขา ? CR.​ขอ​ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​จาก​Luxuryaddictman
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 36 0 รีวิว
  • CZ พ้นคุกแล้ว! Changpeng Zhao อดีตซีอีโอ Binanceวัย47ปีที่ทรงอิทธิพลในโลกคริปโตเคอเรนซี่ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระแล้วจากเรือนจำในสหรัฐอเมริกา ถือเป็นนักโทษเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดที่ถูกจำคุกในสหรัฐฯ

    28 กันยายน 2567-จากรายงานของสำนักงานราชทัณฑ์สหรัฐ (BOP)ได้เปิดเผยว่า นาย Changpeng Zhao หรือเรียกย่อๆว่า CZ ผู้ก่อตั้ง และอดีตซีอีโอบริษัท Binance ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำแล้ว หลังจากในเดือนเมษายน Zhao ถูกตัดสินจำคุกสี่เดือนในข้อหาละเมิดพระราชบัญญัติความลับของธนาคาร (BSA) มีความผิดทำให้เกิดข้อล้มเหลวในการตั้งค่าโปรแกรมรู้จักลูกค้า (KYC)ไม่เพียงพอ ทำให้ Binance ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำผิด ซึ่งซีอีโอ Zhaoรับสารภาพผิด และยังยอมจ่ายค่าปรับส่วนตัว 50 ล้านดอลลาร์และต้องลาออกจากตำแหน่ง CEO ของBinance ขณะที่บริษัทBinance ที่ทำธุรกิจการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ตกลงที่จะจ่ายค่าปรับ 4.3 พันล้านดอลลาร์ให้กับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เพื่อยุติข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้อง

    แม้ว่าการถูกคุมขังเนื่องจากการละเมิดกฏหมาย BSA จะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับอดีตซีอีโอของ BitMEX Arthur Hayes ซึ่งสารภาพผิดในข้อหาที่คล้ายกันในปี 2022 ศาลตัดสินให้รอลงอาญาเท่านั้น ขณะที่การถูกตัดสินจำคุกสี่เดือนของ Zhao ถือว่าผ่อนปรนเมื่อเทียบกับสามปีที่อัยการของรัฐบาลกลางต้องการ เพราะผู้พิพากษา Richard Jones จากศาลแขวงสหรัฐฯ เขตตะวันตกของวอชิงตัน ซึ่งเป็นผู้ดูแลคดีของ Zhao ได้ไต่สวนและได้รับจดหมายสนับสนุน 161 ฉบับจากเพื่อน ครอบครัว และเพื่อนร่วมงานของเขายืนยันความเป็นคนดีของเขา

    การปล่อยตัว Zhao เกิดขึ้นก่อนกำหนดวันปล่อยตัวที่กำหนดไว้ในวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายนนี้ 2 วัน BOP ได้รับอนุญาตตามกฎหมายให้ปล่อยตัวนักโทษก่อนกำหนดหากวันปล่อยตัวของพวกเขาตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์

    ตามดัชนีมหาเศรษฐีของ Bloomberg ระบุว่า CZมีทรัพย์สินสุทธิประมาณ 25,300 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นนักโทษเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดที่ถูกจำคุกในสหรัฐฯ สำหรับหมายเลขนักโทษของZhao คือ 88087-510

    ประวัติจากวิกิพีเดียระบุว่า นายฉางเผิง จ้าว Changpeng Zhao ( 赵长鹏; พินอิน : Zhào Chángpéng ) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อCZเป็นนักธุรกิจชาวแคนาดาที่เกิดในจีน Zhao เป็นผู้ก่อตั้งร่วมและอดีต CEO ของBinanceซึ่งเป็นธุรกิจการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตาม ปริมาณการซื้อขายณ เดือนกรกฎาคม 2024 เขาลาออกจากตำแหน่ง CEO ในเดือนพฤศจิกายน 2023 หลังจากรับสารภาพผิดในข้อหาฟอกเงินในสหรัฐอเมริกาและถูกตัดสินจำคุกสี่เดือนในเดือนเมษายน 2024

    หลังจากZhao พ้นคุกเมื่อ27 กันยายน2567 นอกเหนือจากครอบครัวและงานการกุศลแล้ว เขาอาจหันความสนใจไปที่สิ่งที่สาม นั่นก็คืออุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลที่ทำให้เขาร่ำรวยมหาศาลและครอบงำมาเป็นเวลาเกือบทศวรรษ

    อย่างไรก็ตามภายใต้เงื่อนไขการยุติคดีอาญา เขาต้องลาออกจากตำแหน่ง CEO ของ Binance และต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรม "ประจำวัน" ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ในขณะเดียวกัน ข้อตกลงยังเรียกร้องให้ บริษัท Binance ต้องยอมรับการตรวจสอบภายนอกสองชุดที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนด

    แม้จะมีข้อจำกัดที่ชัดเจนเหล่านี้ แต่ความจริงก็คือบริษัท Binance ไม่ได้ดำเนินการในสหรัฐอเมริกาอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากมุ่งเน้นไปที่เอเชียและตลาดต่างประเทศ และแม้ว่า Zhao จะไม่ได้เป็นซีอีโออีกต่อไปแล้ว เขายังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท ซึ่งน่าจะทำให้เขามีอิทธิพลอย่างมากต่อทิศทางในอนาคตของบริษัท

    สำหรับเรื่องนี้ โฆษกของ Binance เขียนแถลงข้อความว่า: “เรารู้สึกยินดีที่ CZ จะได้อยู่กับครอบครัวที่บ้านของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้บริหารหรือดำเนินการ Binance แต่เราก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ตั้งแต่ปีที่แล้ว Binance ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้การนำของทีมปัจจุบันของเรา โดยมีผู้ใช้มากกว่า 229 ล้านคนทั่วโลก”

    ขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย

    #Thaitimes
    CZ พ้นคุกแล้ว! Changpeng Zhao อดีตซีอีโอ Binanceวัย47ปีที่ทรงอิทธิพลในโลกคริปโตเคอเรนซี่ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระแล้วจากเรือนจำในสหรัฐอเมริกา ถือเป็นนักโทษเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดที่ถูกจำคุกในสหรัฐฯ 28 กันยายน 2567-จากรายงานของสำนักงานราชทัณฑ์สหรัฐ (BOP)ได้เปิดเผยว่า นาย Changpeng Zhao หรือเรียกย่อๆว่า CZ ผู้ก่อตั้ง และอดีตซีอีโอบริษัท Binance ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำแล้ว หลังจากในเดือนเมษายน Zhao ถูกตัดสินจำคุกสี่เดือนในข้อหาละเมิดพระราชบัญญัติความลับของธนาคาร (BSA) มีความผิดทำให้เกิดข้อล้มเหลวในการตั้งค่าโปรแกรมรู้จักลูกค้า (KYC)ไม่เพียงพอ ทำให้ Binance ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำผิด ซึ่งซีอีโอ Zhaoรับสารภาพผิด และยังยอมจ่ายค่าปรับส่วนตัว 50 ล้านดอลลาร์และต้องลาออกจากตำแหน่ง CEO ของBinance ขณะที่บริษัทBinance ที่ทำธุรกิจการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ตกลงที่จะจ่ายค่าปรับ 4.3 พันล้านดอลลาร์ให้กับหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เพื่อยุติข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าการถูกคุมขังเนื่องจากการละเมิดกฏหมาย BSA จะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับอดีตซีอีโอของ BitMEX Arthur Hayes ซึ่งสารภาพผิดในข้อหาที่คล้ายกันในปี 2022 ศาลตัดสินให้รอลงอาญาเท่านั้น ขณะที่การถูกตัดสินจำคุกสี่เดือนของ Zhao ถือว่าผ่อนปรนเมื่อเทียบกับสามปีที่อัยการของรัฐบาลกลางต้องการ เพราะผู้พิพากษา Richard Jones จากศาลแขวงสหรัฐฯ เขตตะวันตกของวอชิงตัน ซึ่งเป็นผู้ดูแลคดีของ Zhao ได้ไต่สวนและได้รับจดหมายสนับสนุน 161 ฉบับจากเพื่อน ครอบครัว และเพื่อนร่วมงานของเขายืนยันความเป็นคนดีของเขา การปล่อยตัว Zhao เกิดขึ้นก่อนกำหนดวันปล่อยตัวที่กำหนดไว้ในวันอาทิตย์ที่ 29 กันยายนนี้ 2 วัน BOP ได้รับอนุญาตตามกฎหมายให้ปล่อยตัวนักโทษก่อนกำหนดหากวันปล่อยตัวของพวกเขาตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตามดัชนีมหาเศรษฐีของ Bloomberg ระบุว่า CZมีทรัพย์สินสุทธิประมาณ 25,300 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นนักโทษเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดที่ถูกจำคุกในสหรัฐฯ สำหรับหมายเลขนักโทษของZhao คือ 88087-510 ประวัติจากวิกิพีเดียระบุว่า นายฉางเผิง จ้าว Changpeng Zhao ( 赵长鹏; พินอิน : Zhào Chángpéng ) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อCZเป็นนักธุรกิจชาวแคนาดาที่เกิดในจีน Zhao เป็นผู้ก่อตั้งร่วมและอดีต CEO ของBinanceซึ่งเป็นธุรกิจการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตาม ปริมาณการซื้อขายณ เดือนกรกฎาคม 2024 เขาลาออกจากตำแหน่ง CEO ในเดือนพฤศจิกายน 2023 หลังจากรับสารภาพผิดในข้อหาฟอกเงินในสหรัฐอเมริกาและถูกตัดสินจำคุกสี่เดือนในเดือนเมษายน 2024 หลังจากZhao พ้นคุกเมื่อ27 กันยายน2567 นอกเหนือจากครอบครัวและงานการกุศลแล้ว เขาอาจหันความสนใจไปที่สิ่งที่สาม นั่นก็คืออุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลที่ทำให้เขาร่ำรวยมหาศาลและครอบงำมาเป็นเวลาเกือบทศวรรษ อย่างไรก็ตามภายใต้เงื่อนไขการยุติคดีอาญา เขาต้องลาออกจากตำแหน่ง CEO ของ Binance และต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรม "ประจำวัน" ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ในขณะเดียวกัน ข้อตกลงยังเรียกร้องให้ บริษัท Binance ต้องยอมรับการตรวจสอบภายนอกสองชุดที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามข้อกำหนด แม้จะมีข้อจำกัดที่ชัดเจนเหล่านี้ แต่ความจริงก็คือบริษัท Binance ไม่ได้ดำเนินการในสหรัฐอเมริกาอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากมุ่งเน้นไปที่เอเชียและตลาดต่างประเทศ และแม้ว่า Zhao จะไม่ได้เป็นซีอีโออีกต่อไปแล้ว เขายังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท ซึ่งน่าจะทำให้เขามีอิทธิพลอย่างมากต่อทิศทางในอนาคตของบริษัท สำหรับเรื่องนี้ โฆษกของ Binance เขียนแถลงข้อความว่า: “เรารู้สึกยินดีที่ CZ จะได้อยู่กับครอบครัวที่บ้านของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้บริหารหรือดำเนินการ Binance แต่เราก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ตั้งแต่ปีที่แล้ว Binance ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องภายใต้การนำของทีมปัจจุบันของเรา โดยมีผู้ใช้มากกว่า 229 ล้านคนทั่วโลก” ขอบคุณภาพจากวิกิพีเดีย #Thaitimes
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 962 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้มีเรื่องราวดีเกี่ยวกับประเทศไทยในสายตาฝรั่งมาให้รับทราบรับชมกันเพื่อความฟูของหัวใจและขอขอบคุณฝรั่งเจ้าของคลิป YouTube นี้ครับ /
    YouTuber ฝรั่งรายนี้มาเที่ยวไทย เหนือจรดใต้ใช้เวลากว่า4เดือน ตัดต่อร้อยเรียงภาพและเรื่องราวความประทับใจในประเทศไทยไว้ได้อย่างน่าสนใจ จุดเด่นคือการถ่ายภาพด้วยโดรน
    มุมภาพแปลกสวยและน่าติดตาม
    การออกแบบเรื่องราว
    ตลอดจนการตัดต่อ
    ทำได้อย่างลงตัวครับ

    https://youtu.be/Upn-O-M5Mic
    วันนี้มีเรื่องราวดีเกี่ยวกับประเทศไทยในสายตาฝรั่งมาให้รับทราบรับชมกันเพื่อความฟูของหัวใจและขอขอบคุณฝรั่งเจ้าของคลิป YouTube นี้ครับ / YouTuber ฝรั่งรายนี้มาเที่ยวไทย เหนือจรดใต้ใช้เวลากว่า4เดือน ตัดต่อร้อยเรียงภาพและเรื่องราวความประทับใจในประเทศไทยไว้ได้อย่างน่าสนใจ จุดเด่นคือการถ่ายภาพด้วยโดรน มุมภาพแปลกสวยและน่าติดตาม การออกแบบเรื่องราว ตลอดจนการตัดต่อ ทำได้อย่างลงตัวครับ https://youtu.be/Upn-O-M5Mic
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมัครแล้ว มีเพจน่าสนใจเยอะมาก ดีดีทั้งนั้นเลยครับ ขอบคุณคุณสนธิและทีมงานทุกท่าน ที่นำสิ่งดีดีมาให้รวมทั้งความจริงที่มีหนึ่งเดียวมามอบให้ และเป็นสื่อเพียงหนึ่งเดียวที่กล้านำเสนอ สุดยอดมากกกกกกกกกกก ขอเป็นกำลังใจสู้ต่อไปครับ
    สมัครแล้ว มีเพจน่าสนใจเยอะมาก ดีดีทั้งนั้นเลยครับ ขอบคุณคุณสนธิและทีมงานทุกท่าน ที่นำสิ่งดีดีมาให้รวมทั้งความจริงที่มีหนึ่งเดียวมามอบให้ และเป็นสื่อเพียงหนึ่งเดียวที่กล้านำเสนอ สุดยอดมากกกกกกกกกกก ขอเป็นกำลังใจสู้ต่อไปครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 684 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts