• ถอดรหัส GBC ภูมิธรรม-บิ๊กเล็ก แผนฟอกขาวให้ฮุนเซนพ้นผิด [09/08/68]
    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #Hunsenfiredfirst
    #CambodiaEncroachingThailand
    #ภูมิธรรม
    #บิ๊กเล็ก
    #ฮุนเซน
    #การเมืองไทย
    #กัมพูชายิงก่อน
    #thaitimes
    #news1
    #shorts
    ถอดรหัส GBC ภูมิธรรม-บิ๊กเล็ก แผนฟอกขาวให้ฮุนเซนพ้นผิด [09/08/68] #TruthFromThailand #scambodia #Hunsenfiredfirst #CambodiaEncroachingThailand #ภูมิธรรม #บิ๊กเล็ก #ฮุนเซน #การเมืองไทย #กัมพูชายิงก่อน #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกโอเพ่นซอร์ส: Ubuntu 24.04.3 LTS มาแล้ว พร้อมรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และอัปเดตความปลอดภัยแบบจัดเต็ม

    วันที่ 8 สิงหาคม 2025 Canonical ได้ปล่อย Ubuntu 24.04.3 LTS ซึ่งเป็น point release ล่าสุดของเวอร์ชัน Noble Numbat โดยมีจุดเด่นคือการ backport Linux kernel 6.14 และ Mesa 25.0 จาก Ubuntu 25.04 เพื่อให้ผู้ใช้ LTS ได้สัมผัสกับการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่โดยไม่ต้องเสียเสถียรภาพระยะยาว

    เวอร์ชันนี้รองรับทั้ง Desktop, Server และ Cloud รวมถึงรสชาติอื่น ๆ ของ Ubuntu เช่น Kubuntu, Ubuntu MATE, Lubuntu, Xubuntu และ Ubuntu Studio โดย Ubuntu Studio มีการเปลี่ยนจาก low-latency kernel มาใช้ generic kernel ที่ปรับแต่งให้บูตเร็วแต่ยังคงความสามารถด้าน real-time สำหรับงานมัลติมีเดีย

    การอัปเดตนี้ยังมาพร้อมกับสื่อการติดตั้งใหม่ที่ลดการดาวน์โหลดหลังติดตั้ง และรวมแพตช์ความปลอดภัยที่สะสมมาตั้งแต่เวอร์ชัน 24.04.1 ทำให้เหมาะกับองค์กรที่ต้องการระบบเสถียรแต่รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่

    Ubuntu 24.04.3 LTS เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 8 สิงหาคม 2025
    เป็น point release ล่าสุดของ Ubuntu 24.04 LTS (Noble Numbat)

    ใช้ Linux kernel 6.14 และ Mesa 25.0 จาก Ubuntu 25.04
    เพิ่มการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และประสิทธิภาพด้านกราฟิก

    รองรับ Desktop, Server, Cloud และ Ubuntu flavours ทั้งหมด
    เช่น Kubuntu, Ubuntu MATE, Lubuntu, Xubuntu, Ubuntu Studio

    Ubuntu Studio เปลี่ยนจาก low-latency kernel มาใช้ generic kernel
    พร้อม boot parameter ที่ยังคงความสามารถด้าน real-time

    สื่อการติดตั้งใหม่ช่วยลดการดาวน์โหลดหลังติดตั้ง
    เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการ deploy ระบบจำนวนมาก

    Ubuntu 24.04.3 LTS จะได้รับการสนับสนุนถึงปี 2029
    เป็น LTS ที่มีระยะเวลาสนับสนุน 5 ปีเต็ม

    Kernel 6.14 รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ เช่น GPU รุ่นล่าสุดและอุปกรณ์ PCIe Gen5
    เหมาะกับผู้ใช้ที่ใช้โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่หรือเซิร์ฟเวอร์ระดับสูง

    Mesa 25.0 ปรับปรุงการรองรับ Vulkan และ OpenGL
    เพิ่มประสิทธิภาพในเกมและแอปพลิเคชันกราฟิก

    Ubuntu LTS เป็นตัวเลือกหลักขององค์กรและสถาบันการศึกษา
    เพราะมีรอบอัปเดตที่คาดการณ์ได้และความเสถียรสูง

    Ubuntu 24.04.4 LTS จะออกในเดือนกุมภาพันธ์ 2026
    คาดว่าจะใช้ kernel และ Mesa จาก Ubuntu 25.10

    https://linuxconfig.org/ubuntu-24-04-3-lts-release-enhanced-hardware-support-and-security-updates
    🐧⚙️ เรื่องเล่าจากโลกโอเพ่นซอร์ส: Ubuntu 24.04.3 LTS มาแล้ว พร้อมรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และอัปเดตความปลอดภัยแบบจัดเต็ม วันที่ 8 สิงหาคม 2025 Canonical ได้ปล่อย Ubuntu 24.04.3 LTS ซึ่งเป็น point release ล่าสุดของเวอร์ชัน Noble Numbat โดยมีจุดเด่นคือการ backport Linux kernel 6.14 และ Mesa 25.0 จาก Ubuntu 25.04 เพื่อให้ผู้ใช้ LTS ได้สัมผัสกับการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่โดยไม่ต้องเสียเสถียรภาพระยะยาว เวอร์ชันนี้รองรับทั้ง Desktop, Server และ Cloud รวมถึงรสชาติอื่น ๆ ของ Ubuntu เช่น Kubuntu, Ubuntu MATE, Lubuntu, Xubuntu และ Ubuntu Studio โดย Ubuntu Studio มีการเปลี่ยนจาก low-latency kernel มาใช้ generic kernel ที่ปรับแต่งให้บูตเร็วแต่ยังคงความสามารถด้าน real-time สำหรับงานมัลติมีเดีย การอัปเดตนี้ยังมาพร้อมกับสื่อการติดตั้งใหม่ที่ลดการดาวน์โหลดหลังติดตั้ง และรวมแพตช์ความปลอดภัยที่สะสมมาตั้งแต่เวอร์ชัน 24.04.1 ทำให้เหมาะกับองค์กรที่ต้องการระบบเสถียรแต่รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ ✅ Ubuntu 24.04.3 LTS เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 8 สิงหาคม 2025 ➡️ เป็น point release ล่าสุดของ Ubuntu 24.04 LTS (Noble Numbat) ✅ ใช้ Linux kernel 6.14 และ Mesa 25.0 จาก Ubuntu 25.04 ➡️ เพิ่มการรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่และประสิทธิภาพด้านกราฟิก ✅ รองรับ Desktop, Server, Cloud และ Ubuntu flavours ทั้งหมด ➡️ เช่น Kubuntu, Ubuntu MATE, Lubuntu, Xubuntu, Ubuntu Studio ✅ Ubuntu Studio เปลี่ยนจาก low-latency kernel มาใช้ generic kernel ➡️ พร้อม boot parameter ที่ยังคงความสามารถด้าน real-time ✅ สื่อการติดตั้งใหม่ช่วยลดการดาวน์โหลดหลังติดตั้ง ➡️ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการ deploy ระบบจำนวนมาก ✅ Ubuntu 24.04.3 LTS จะได้รับการสนับสนุนถึงปี 2029 ➡️ เป็น LTS ที่มีระยะเวลาสนับสนุน 5 ปีเต็ม ✅ Kernel 6.14 รองรับฮาร์ดแวร์ใหม่ เช่น GPU รุ่นล่าสุดและอุปกรณ์ PCIe Gen5 ➡️ เหมาะกับผู้ใช้ที่ใช้โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่หรือเซิร์ฟเวอร์ระดับสูง ✅ Mesa 25.0 ปรับปรุงการรองรับ Vulkan และ OpenGL ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพในเกมและแอปพลิเคชันกราฟิก ✅ Ubuntu LTS เป็นตัวเลือกหลักขององค์กรและสถาบันการศึกษา ➡️ เพราะมีรอบอัปเดตที่คาดการณ์ได้และความเสถียรสูง ✅ Ubuntu 24.04.4 LTS จะออกในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 ➡️ คาดว่าจะใช้ kernel และ Mesa จาก Ubuntu 25.10 https://linuxconfig.org/ubuntu-24-04-3-lts-release-enhanced-hardware-support-and-security-updates
    LINUXCONFIG.ORG
    Ubuntu 24.04.3 LTS Release: Enhanced Hardware Support and Security Updates
    Discover the new features and updates in the Ubuntu 24.04.3 LTS release, including improved hardware support, security updates, and performance optimizations. Ideal for users seeking long-term stability with modern hardware compatibility.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว

  • ตอน 13
    มีคนมากระตุกแขนนิดๆ เอ! แล้ว พี่เบิ้มเขาทำไมเปลี๊ยนไป จากยุ่งกะสมันน้อยถึงขนาดเอาลงเปลเห่กล่อม แล้วช่วงนี้เขาหายไปไหนล่ะลุง ก็บอก แล้วไง พี่เบิ้มเขาเป็นจิ๊กโก๋๋ปากซอย ซอยไทยแลนด์นี้ เขาคุมเบ็ดเสร็จแล้ว วางแผนแล้วว่า ต้องมีวินมอเตอร์ไซด์ ตรงไหน คิวเป็นอย่างไร เขาไม่อยู่ใครดูแลแทน เส้นทางเป็นอย่างไร เก็บเงินอย่างไร ใครมาเบ่ง ตีหัวมันอย่างไร เจอสาวสวยนุ่งกระโปรงสั้นให้นั่งฟรีได้ไหม จัดไว้หมด ว่าแล้วก็ขยายไปดูซอยอื่น
    เวลาพี่เบิ้มเขาไปยุ่งกับภูมิภาคอื่น จะสังเกตง่าย ๆ ไปอยู่ที่ไหน ความ ฉ ห ก็เกิดขึ้นแถวนั้นแหละ เพราะอเมริกาหากินหรืออยู่ได้ด้วย 2 กรรมวิธี
    อย่างแรก ขโมยทรัพยากรชาวบ้าน (จิ๊กโก๋๋ขี้ขโมย)
    อย่างที่สอง สร้างสงครามเพื่อขายอาวุธ (จิ๊กโก๋๋ชวนตี)
    และทั้ง 2 เรื่อง มันก็โยงกัน
    ขบวนการก็ไม่ยาก หาเรื่องไปทะเลาะกับชาวบ้าน หรือหาเรื่องให้คนในบ้านทะเลาะกันเอง มีแค่นี้แหละ ดูไม่ยากหรอกเช่น กรณีสหภาพโซเวียต ก็ใช้วิธีปิดล้อมโซเวียต ยุโรปตะวันออก จนในที่สุดกำแพง เบอร์ลินทะลายในปี ค.ศ.1989
    สหภาพโซเวียตล่ม แตกกระจุย แล้วก็รบกันเอง จากเป็นสหภาพโซเวียต ท้ายสุดแตกเป็นหลายสิบประเทศ จนจำชื่อไม่ไหว เล่นเอาพี่เบิ้มผลิตอาวุธไป หัวร่อไป ขายแทบไม่ทัน
    สำหรับคุณอาแถวทะเลทราย พี่เบิ้มก็ยุแยง ทำให้แตกกัน วุ่นวายกัน ทะเลาะกันเองเพราะ พี่เบิ้มคิดจะขโมยน้ำมันเขา เลยใช้วิธีกล่าวหาว่าบ้านโน้นหักหลังบ้านนี้ บ้านนี้สะสมอาวุธ สารพัดจะโกหก
    แต่มันก็ได้ผลนะ อิหร่านรบกับอิรัก อิรักรบกับคูเวต อียิปต์ทะเลาะกับอิสราเอล อิสราเอลทะเลาะกับเลบานอน ซีเรียทะเลาะกันเอง ปาเลสไตน์ทะเลาะกับอิสราเอล ตุรกีทะเลาะกับอิหร่าน ตอนนี้อียิปต์กลับมาทะเลาะกันเองอีกฯลฯ
    เป็นไงฝีมือพี่เบิ้มไหม เข้าไปที่ไหนฉิบหายที่นั่น
    ยังไม่พอ เสือกต่อไปยุ่งแถวอเมริกาใต้ อาฟริกา วุ่นไปถึงอาฟกานิสถาน อันสุดท้ายนี้น่าสงสารมาก ประชาชนเขาจนจะตายอยู่แล้ว ยังไปทำให้เขาแตกแยก เพื่อฉวยโอกาสยึดทรัพยากรเขาอย่างหน้าด้านๆ ชั่วได้ใจจริงๆ
    ตัวอย่างที่เห็นชัดหมาดๆ คือ อิรัก หาว่าเขามีนิวเคลียร์ พี่เบิ้มยืนเท้ากระเอว ชี้นิ้วสั่งให้ UN ส่งคนไปตรวจไปดูเดี๋ยวนี้นะ CNN ก็ประโคมทำข่าวรายงานการตรวจทุกวัน แต่ผลปรากฏว่าไม่เจออะไรในก่อไผ่
    พี่เบิ้มเสียหน้า แก้เกี้ยว ยกทัพไปจับ ตั๊กกะแตนเองเลย รบไป 8 ปี อิรักฉิบหายทั้งประเทศ มีผู้ลี้ภัยหนีไปนอกประเทศ 4.7 ล้านคน (16% ของประชาชน)
    ประชาชนพลัดถิ่นในประเทศ 2.7 ล้านคน
    เด็ก 5 ล้านคน เป็นกำพร้า (35% ของประชาชน)
    เพียงเพราะจิ๊กโก๋๋อยากได้น้ำมันเขา แล้วไง ตอนยกทัพเข้าไปอ้างว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ ผู้นำแบบซัดดัมข่มเหงประชาชน พอเก็บซัดดัมได้ ยึดเมืองเขาแล้วเจอไหม นิวเคลียร์ที่อ้างน่ะ เจอแต่บ่อน้ำมัน!
    แบบนี้มันน่าส่งพี่ตุ๊ดตู่ กะป้าธิดาไปทวงถามความเป็นธรรมให้ประชาชนอิรักซะให้เข็ด ! แล้วท่านผู้อ่านอย่าลืมไปหาเรื่องสงครามอิรักมาอ่านต่อเป็นอุทาหรณ์นะครับ  เผื่อมันจะมาเกิดแถวนี้จะได้รู้ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง
    แล้วบ้านเราล่ะ พี่เบิ้มเขาใช้วิธีไหน เข้ามาเดินกร่างอยู่ในซอย!
    ขอพูดถึงอาฟกานิสถาน ต่ออีกหน่อย เพราะเป็นเหยื่อพี่เบิ้มที่นาสงสารมาก ถูกเอาประเทศเป็นสนามรบมาเกือบ 20 ปี จนบัดนี้ยังไม่เลิก ประชาชนก็จนลง จนลง อัฟกานิสถานได้ถูกระบุอยู่ในรายงานของเพนตากอน (Pentagon) ว่า เป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรแร่ธาตุสูงสุดที่ยังเหลืออยู่ในโลก (ก็ไอ้ที่มีๆ น่ะ พวกนักล่ามันเอาไปหมดแล้ว เหลือเจ้านี้หลุดตามาได้ ก็เพราะสภาพภูมิศาสตร์ของประเทศ)
    รัสเซียเข้าไปก่อน เพราะอยู่ใกล้กว่าพี่เบิ้มอเมริกา แบบนี้มันหักหน้ากันนี้หว่า จิ๊กโก๋๋จะทนได้ยังไง ว่าแล้วก็โดดเข้าไป ไอจะปกป้องยูเอง จากการคุกคามของรัสเซีย
    บทนี้คุ้นๆ ไหม แหม! คุณโดโนแวน เอ๊ย! จอห์น เวน มาเอง อีกแล้ว
    พี่เบิ้มลงทุนฝึกอาวุธให้ชาวอาฟกัน ต่อสู้กับรัสเซีย แถมส่งมือดีไปช่วย มือดีนั้นใคร ทายถูกไม่มีรางวัล .. มือดีก็คือ พี่บิน ลาเดน ไง เอ๊ะ อย่าทำเป็นงง พี่บินมาได้ไงกัน
    พี่บิน ลาเดน เป็นเศรษฐีอยู่ซาอุ มิตรรักของอเมริกาเขาไง ซี้ย่ำปึก ไอจะไปบุกที่ไหนยูไปด้วยไม๊ ไปไหนไปกัน พี่บินถึงได้รบเก่ง แถมรู้แกวรู้แนวการรบการจิ๊กโก๋๋หมด ก็จิ๊กโก๋๋ฝึกให้เขาเองนี่นะ อาวุธก็ส่งให้จะไปโทษใคร แล้วดันมาแตกคอกันเอง หักหลังกัน ซะหลังหักแต่ไม่รู้ใครหักกว่าใคร
    คงจำกันได้ ตอนพี่เบิ้มสั่งเก็บพี่บิน ภาพพี่บินหลังโดนถล่มยับที่บ้านลับ น่าขำมาก รูปถ่ายตอนตาย วางหน้ารูปถ่ายเหมือนตอนเป็นเปี๊ยบเลย เพียงแต่หน้าเยินกว่าเท่านั้น ไม่รู้มันจะหลอกใครกัน
    เล่าไป เล่ามา เกือบลืมเรื่องสำคัญ แร่ธาตุ ที่อาฟกานิสถานมีมาก คือโปแตส ยูเรเนียม และทองคำ 2 อย่างแรก เหมาะสำหรับทำอะไร เร็ว เข้าไปกดกูเกิลดู ก็รู้
    มันเหมาะสำหรับทำทุกอย่าง เป็นสารนำในการผลิตอุตสาหกรรมและที่สำคัญเหมาะสำหรับทำระเบิดครับผม
    แล้วใครล่ะ ผลิตอาวุธ ผลิตระเบิดขาย จนรวยล้น

    คนเล่านิทาน



    เป็นเอกสาร ต้ังแต่ปี 1951 เป็นรายงานการสนทนา ระหว่าง จอมพล ป สมัยเป็น
    นายกฯ กับ นาย Edwin Stanton ฑูดเอมริกา ประจำไทย ซึ่งฑูด มีไปถึงต้นสังกัด

    ดูจากเอกสาร เหมือนอเมริกามีความเป็นห่วงไทย ว่าจะมีน้ำมันไม่พอใช้
    ดูอีกที มันเป็นการมาล้วงตับเรา เพราะบอกให้ทางไทย แสดงรายละเอียดความต้องการของน้ำมัน ของหน่วยงานของเราแต่ละหน่วย แต่ความจรืงน่าจะเพราะ กลัวน้ำมันไปตกอยู่ในมือคอมมิวนิสต์มากกว่า

    สรุป น้ำมัน เป็นประเด็นใหญ่ของจิ๊กโก๋ ต้ังกะสมัยนั้น ถึงสมัยนี้ !?!
    ๑๓-๑
     ตอน 13 มีคนมากระตุกแขนนิดๆ เอ! แล้ว พี่เบิ้มเขาทำไมเปลี๊ยนไป จากยุ่งกะสมันน้อยถึงขนาดเอาลงเปลเห่กล่อม แล้วช่วงนี้เขาหายไปไหนล่ะลุง ก็บอก แล้วไง พี่เบิ้มเขาเป็นจิ๊กโก๋๋ปากซอย ซอยไทยแลนด์นี้ เขาคุมเบ็ดเสร็จแล้ว วางแผนแล้วว่า ต้องมีวินมอเตอร์ไซด์ ตรงไหน คิวเป็นอย่างไร เขาไม่อยู่ใครดูแลแทน เส้นทางเป็นอย่างไร เก็บเงินอย่างไร ใครมาเบ่ง ตีหัวมันอย่างไร เจอสาวสวยนุ่งกระโปรงสั้นให้นั่งฟรีได้ไหม จัดไว้หมด ว่าแล้วก็ขยายไปดูซอยอื่น เวลาพี่เบิ้มเขาไปยุ่งกับภูมิภาคอื่น จะสังเกตง่าย ๆ ไปอยู่ที่ไหน ความ ฉ ห ก็เกิดขึ้นแถวนั้นแหละ เพราะอเมริกาหากินหรืออยู่ได้ด้วย 2 กรรมวิธี อย่างแรก ขโมยทรัพยากรชาวบ้าน (จิ๊กโก๋๋ขี้ขโมย) อย่างที่สอง สร้างสงครามเพื่อขายอาวุธ (จิ๊กโก๋๋ชวนตี) และทั้ง 2 เรื่อง มันก็โยงกัน ขบวนการก็ไม่ยาก หาเรื่องไปทะเลาะกับชาวบ้าน หรือหาเรื่องให้คนในบ้านทะเลาะกันเอง มีแค่นี้แหละ ดูไม่ยากหรอกเช่น กรณีสหภาพโซเวียต ก็ใช้วิธีปิดล้อมโซเวียต ยุโรปตะวันออก จนในที่สุดกำแพง เบอร์ลินทะลายในปี ค.ศ.1989 สหภาพโซเวียตล่ม แตกกระจุย แล้วก็รบกันเอง จากเป็นสหภาพโซเวียต ท้ายสุดแตกเป็นหลายสิบประเทศ จนจำชื่อไม่ไหว เล่นเอาพี่เบิ้มผลิตอาวุธไป หัวร่อไป ขายแทบไม่ทัน สำหรับคุณอาแถวทะเลทราย พี่เบิ้มก็ยุแยง ทำให้แตกกัน วุ่นวายกัน ทะเลาะกันเองเพราะ พี่เบิ้มคิดจะขโมยน้ำมันเขา เลยใช้วิธีกล่าวหาว่าบ้านโน้นหักหลังบ้านนี้ บ้านนี้สะสมอาวุธ สารพัดจะโกหก แต่มันก็ได้ผลนะ อิหร่านรบกับอิรัก อิรักรบกับคูเวต อียิปต์ทะเลาะกับอิสราเอล อิสราเอลทะเลาะกับเลบานอน ซีเรียทะเลาะกันเอง ปาเลสไตน์ทะเลาะกับอิสราเอล ตุรกีทะเลาะกับอิหร่าน ตอนนี้อียิปต์กลับมาทะเลาะกันเองอีกฯลฯ เป็นไงฝีมือพี่เบิ้มไหม เข้าไปที่ไหนฉิบหายที่นั่น ยังไม่พอ เสือกต่อไปยุ่งแถวอเมริกาใต้ อาฟริกา วุ่นไปถึงอาฟกานิสถาน อันสุดท้ายนี้น่าสงสารมาก ประชาชนเขาจนจะตายอยู่แล้ว ยังไปทำให้เขาแตกแยก เพื่อฉวยโอกาสยึดทรัพยากรเขาอย่างหน้าด้านๆ ชั่วได้ใจจริงๆ ตัวอย่างที่เห็นชัดหมาดๆ คือ อิรัก หาว่าเขามีนิวเคลียร์ พี่เบิ้มยืนเท้ากระเอว ชี้นิ้วสั่งให้ UN ส่งคนไปตรวจไปดูเดี๋ยวนี้นะ CNN ก็ประโคมทำข่าวรายงานการตรวจทุกวัน แต่ผลปรากฏว่าไม่เจออะไรในก่อไผ่ พี่เบิ้มเสียหน้า แก้เกี้ยว ยกทัพไปจับ ตั๊กกะแตนเองเลย รบไป 8 ปี อิรักฉิบหายทั้งประเทศ มีผู้ลี้ภัยหนีไปนอกประเทศ 4.7 ล้านคน (16% ของประชาชน) ประชาชนพลัดถิ่นในประเทศ 2.7 ล้านคน เด็ก 5 ล้านคน เป็นกำพร้า (35% ของประชาชน) เพียงเพราะจิ๊กโก๋๋อยากได้น้ำมันเขา แล้วไง ตอนยกทัพเข้าไปอ้างว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ ผู้นำแบบซัดดัมข่มเหงประชาชน พอเก็บซัดดัมได้ ยึดเมืองเขาแล้วเจอไหม นิวเคลียร์ที่อ้างน่ะ เจอแต่บ่อน้ำมัน! แบบนี้มันน่าส่งพี่ตุ๊ดตู่ กะป้าธิดาไปทวงถามความเป็นธรรมให้ประชาชนอิรักซะให้เข็ด ! แล้วท่านผู้อ่านอย่าลืมไปหาเรื่องสงครามอิรักมาอ่านต่อเป็นอุทาหรณ์นะครับ  เผื่อมันจะมาเกิดแถวนี้จะได้รู้ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง แล้วบ้านเราล่ะ พี่เบิ้มเขาใช้วิธีไหน เข้ามาเดินกร่างอยู่ในซอย! ขอพูดถึงอาฟกานิสถาน ต่ออีกหน่อย เพราะเป็นเหยื่อพี่เบิ้มที่นาสงสารมาก ถูกเอาประเทศเป็นสนามรบมาเกือบ 20 ปี จนบัดนี้ยังไม่เลิก ประชาชนก็จนลง จนลง อัฟกานิสถานได้ถูกระบุอยู่ในรายงานของเพนตากอน (Pentagon) ว่า เป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรแร่ธาตุสูงสุดที่ยังเหลืออยู่ในโลก (ก็ไอ้ที่มีๆ น่ะ พวกนักล่ามันเอาไปหมดแล้ว เหลือเจ้านี้หลุดตามาได้ ก็เพราะสภาพภูมิศาสตร์ของประเทศ) รัสเซียเข้าไปก่อน เพราะอยู่ใกล้กว่าพี่เบิ้มอเมริกา แบบนี้มันหักหน้ากันนี้หว่า จิ๊กโก๋๋จะทนได้ยังไง ว่าแล้วก็โดดเข้าไป ไอจะปกป้องยูเอง จากการคุกคามของรัสเซีย บทนี้คุ้นๆ ไหม แหม! คุณโดโนแวน เอ๊ย! จอห์น เวน มาเอง อีกแล้ว พี่เบิ้มลงทุนฝึกอาวุธให้ชาวอาฟกัน ต่อสู้กับรัสเซีย แถมส่งมือดีไปช่วย มือดีนั้นใคร ทายถูกไม่มีรางวัล .. มือดีก็คือ พี่บิน ลาเดน ไง เอ๊ะ อย่าทำเป็นงง พี่บินมาได้ไงกัน พี่บิน ลาเดน เป็นเศรษฐีอยู่ซาอุ มิตรรักของอเมริกาเขาไง ซี้ย่ำปึก ไอจะไปบุกที่ไหนยูไปด้วยไม๊ ไปไหนไปกัน พี่บินถึงได้รบเก่ง แถมรู้แกวรู้แนวการรบการจิ๊กโก๋๋หมด ก็จิ๊กโก๋๋ฝึกให้เขาเองนี่นะ อาวุธก็ส่งให้จะไปโทษใคร แล้วดันมาแตกคอกันเอง หักหลังกัน ซะหลังหักแต่ไม่รู้ใครหักกว่าใคร คงจำกันได้ ตอนพี่เบิ้มสั่งเก็บพี่บิน ภาพพี่บินหลังโดนถล่มยับที่บ้านลับ น่าขำมาก รูปถ่ายตอนตาย วางหน้ารูปถ่ายเหมือนตอนเป็นเปี๊ยบเลย เพียงแต่หน้าเยินกว่าเท่านั้น ไม่รู้มันจะหลอกใครกัน เล่าไป เล่ามา เกือบลืมเรื่องสำคัญ แร่ธาตุ ที่อาฟกานิสถานมีมาก คือโปแตส ยูเรเนียม และทองคำ 2 อย่างแรก เหมาะสำหรับทำอะไร เร็ว เข้าไปกดกูเกิลดู ก็รู้ มันเหมาะสำหรับทำทุกอย่าง เป็นสารนำในการผลิตอุตสาหกรรมและที่สำคัญเหมาะสำหรับทำระเบิดครับผม แล้วใครล่ะ ผลิตอาวุธ ผลิตระเบิดขาย จนรวยล้น คนเล่านิทาน เป็นเอกสาร ต้ังแต่ปี 1951 เป็นรายงานการสนทนา ระหว่าง จอมพล ป สมัยเป็น นายกฯ กับ นาย Edwin Stanton ฑูดเอมริกา ประจำไทย ซึ่งฑูด มีไปถึงต้นสังกัด ดูจากเอกสาร เหมือนอเมริกามีความเป็นห่วงไทย ว่าจะมีน้ำมันไม่พอใช้ ดูอีกที มันเป็นการมาล้วงตับเรา เพราะบอกให้ทางไทย แสดงรายละเอียดความต้องการของน้ำมัน ของหน่วยงานของเราแต่ละหน่วย แต่ความจรืงน่าจะเพราะ กลัวน้ำมันไปตกอยู่ในมือคอมมิวนิสต์มากกว่า สรุป น้ำมัน เป็นประเด็นใหญ่ของจิ๊กโก๋ ต้ังกะสมัยนั้น ถึงสมัยนี้ !?! ๑๓-๑
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงชอบมากครับเวบนี้

    เรื่องเล่าจากต้นไม้แห่งเทคโนโลยี: ย้อนรอยวิวัฒนาการมนุษย์ผ่าน Historical Tech Tree

    ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเดินอยู่ในสวนขนาดมหึมา ที่แต่ละกิ่งไม้คือเทคโนโลยีหนึ่งชิ้น และทุกใบไม้คือการค้นพบใหม่ที่เชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน นี่คือแนวคิดของ “Historical Tech Tree” — เว็บไซต์อินเทอร์แอคทีฟที่สร้างโดย Étienne Fortier-Dubois เพื่อให้เราเข้าใจวิวัฒนาการของเทคโนโลยีตั้งแต่ 3 ล้านปีก่อนจนถึงปัจจุบัน

    แทนที่จะเป็นแค่ไทม์ไลน์เรียงปี เว็บไซต์นี้ใช้ “ต้นไม้เทคโนโลยี” ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งประดิษฐ์ เช่น การค้นพบไฟนำไปสู่การหลอมโลหะ การหลอมโลหะนำไปสู่การสร้างเครื่องมือ และเครื่องมือเหล่านั้นนำไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม

    แนวคิดนี้ได้แรงบันดาลใจจากเกมวางแผนอย่าง Civilization ที่ใช้ “Tech Tree” เป็นกลไกในการปลดล็อกความสามารถใหม่ แต่ในโลกจริง ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไม่ได้เป็นเส้นตรงหรือมีสูตรตายตัว เว็บไซต์นี้จึงพยายามแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อน ความบังเอิญ และแรงบันดาลใจที่ผลักดันมนุษย์ให้คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ


    https://www.historicaltechtree.com/
    ลุงชอบมากครับเวบนี้ 🧠🌐 เรื่องเล่าจากต้นไม้แห่งเทคโนโลยี: ย้อนรอยวิวัฒนาการมนุษย์ผ่าน Historical Tech Tree ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเดินอยู่ในสวนขนาดมหึมา ที่แต่ละกิ่งไม้คือเทคโนโลยีหนึ่งชิ้น และทุกใบไม้คือการค้นพบใหม่ที่เชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน นี่คือแนวคิดของ “Historical Tech Tree” — เว็บไซต์อินเทอร์แอคทีฟที่สร้างโดย Étienne Fortier-Dubois เพื่อให้เราเข้าใจวิวัฒนาการของเทคโนโลยีตั้งแต่ 3 ล้านปีก่อนจนถึงปัจจุบัน แทนที่จะเป็นแค่ไทม์ไลน์เรียงปี เว็บไซต์นี้ใช้ “ต้นไม้เทคโนโลยี” ที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งประดิษฐ์ เช่น การค้นพบไฟนำไปสู่การหลอมโลหะ การหลอมโลหะนำไปสู่การสร้างเครื่องมือ และเครื่องมือเหล่านั้นนำไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรม แนวคิดนี้ได้แรงบันดาลใจจากเกมวางแผนอย่าง Civilization ที่ใช้ “Tech Tree” เป็นกลไกในการปลดล็อกความสามารถใหม่ แต่ในโลกจริง ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไม่ได้เป็นเส้นตรงหรือมีสูตรตายตัว เว็บไซต์นี้จึงพยายามแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อน ความบังเอิญ และแรงบันดาลใจที่ผลักดันมนุษย์ให้คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ https://www.historicaltechtree.com/
    WWW.HISTORICALTECHTREE.COM
    Historical Tech Tree
    Interactive visualization of technological history
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: GreedyBear กับแผนโจรกรรมคริปโตระดับอุตสาหกรรม

    ในโลกที่คริปโตกลายเป็นสินทรัพย์ยอดนิยม กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ก็ไม่พลาดที่จะตามกระแส ล่าสุดมีการเปิดโปงแคมเปญชื่อว่า “GreedyBear” ซึ่งขโมยเงินคริปโตไปแล้วกว่า 1 ล้านดอลลาร์ โดยใช้วิธีโจมตีแบบสามชั้นที่ซับซ้อนและอันตราย

    กลุ่มนี้เริ่มจากการสร้างส่วนขยายปลอมใน Firefox Marketplace มากกว่า 150 รายการ โดยปลอมเป็นกระเป๋าคริปโตยอดนิยม เช่น MetaMask, TronLink, Exodus และ Rabby Wallet พวกเขาใช้เทคนิค “Extension Hollowing” คืออัปโหลดส่วนขยายที่ดูปลอดภัยก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนชื่อ ไอคอน และฝังโค้ดอันตรายเข้าไปภายหลัง โดยยังคงรีวิวดี ๆ ไว้เหมือนเดิม

    นอกจากนั้น GreedyBear ยังปล่อยมัลแวร์กว่า 500 ตัวผ่านเว็บไซต์แจกโปรแกรมเถื่อน โดยมีทั้ง credential stealers และ ransomware ที่ล็อกไฟล์และเรียกค่าไถ่เป็นคริปโต และสุดท้ายคือการสร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนบริการกระเป๋าคริปโตหรือเครื่องมือซ่อมกระเป๋า เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ

    ทั้งหมดนี้ถูกควบคุมผ่านเซิร์ฟเวอร์เดียว (IP: 185.208.156.66) ซึ่งทำให้การจัดการแคมเปญเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีหลักฐานว่าใช้โค้ดที่สร้างด้วย AI เพื่อเร่งการโจมตีและปรับเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างรวดเร็ว

    GreedyBear เป็นแคมเปญอาชญากรรมไซเบอร์ที่ขโมยคริปโตไปแล้วกว่า $1 ล้าน
    ใช้วิธีโจมตีหลายรูปแบบพร้อมกัน

    มีส่วนขยายปลอมใน Firefox Marketplace มากกว่า 150 รายการ
    ปลอมเป็นกระเป๋าคริปโตยอดนิยม เช่น MetaMask, TronLink, Exodus

    ใช้เทคนิค Extension Hollowing เพื่อหลบการตรวจสอบ
    อัปโหลดส่วนขยายปลอดภัยก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นอันตราย

    ปล่อยมัลแวร์กว่า 500 ตัวผ่านเว็บไซต์แจกโปรแกรมเถื่อน
    มีทั้ง LummaStealer และ Luca Stealer ที่เน้นขโมยข้อมูลคริปโต

    สร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนบริการกระเป๋าคริปโตหรือซ่อมกระเป๋า
    หลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase และ private key

    ทุกการโจมตีเชื่อมโยงกับเซิร์ฟเวอร์เดียว (185.208.156.66)
    ใช้เป็นศูนย์กลางควบคุมและเก็บข้อมูล

    มีการใช้โค้ดที่สร้างด้วย AI เพื่อเร่งการโจมตี
    ทำให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้รวดเร็วและหลบหลีกการป้องกัน

    Extension Hollowing เป็นเทคนิคที่เริ่มใช้ในมัลแวร์ระดับองค์กร
    เคยพบในแคมเปญโจมตีของกลุ่ม APT เช่น Lazarus

    Mozilla มีระบบตรวจสอบส่วนขยาย แต่ยังไม่สามารถกันการเปลี่ยนแปลงภายหลังได้
    ผู้ใช้ต้องตรวจสอบผู้พัฒนาและรีวิวอย่างละเอียด

    การใช้ AI ในการสร้างมัลแวร์เริ่มแพร่หลายมากขึ้น
    ทำให้การตรวจจับด้วย signature-based antivirus ไม่เพียงพอ

    การโจมตีแบบหลายชั้น (multi-vector attack) เป็นแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมไซเบอร์
    เน้นการหลอกลวงจากหลายช่องทางพร้อมกันเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จ

    https://hackread.com/greedybear-fake-crypto-wallet-extensions-firefox-marketplace/
    🕵️‍♂️💰 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: GreedyBear กับแผนโจรกรรมคริปโตระดับอุตสาหกรรม ในโลกที่คริปโตกลายเป็นสินทรัพย์ยอดนิยม กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ก็ไม่พลาดที่จะตามกระแส ล่าสุดมีการเปิดโปงแคมเปญชื่อว่า “GreedyBear” ซึ่งขโมยเงินคริปโตไปแล้วกว่า 1 ล้านดอลลาร์ โดยใช้วิธีโจมตีแบบสามชั้นที่ซับซ้อนและอันตราย กลุ่มนี้เริ่มจากการสร้างส่วนขยายปลอมใน Firefox Marketplace มากกว่า 150 รายการ โดยปลอมเป็นกระเป๋าคริปโตยอดนิยม เช่น MetaMask, TronLink, Exodus และ Rabby Wallet พวกเขาใช้เทคนิค “Extension Hollowing” คืออัปโหลดส่วนขยายที่ดูปลอดภัยก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนชื่อ ไอคอน และฝังโค้ดอันตรายเข้าไปภายหลัง โดยยังคงรีวิวดี ๆ ไว้เหมือนเดิม นอกจากนั้น GreedyBear ยังปล่อยมัลแวร์กว่า 500 ตัวผ่านเว็บไซต์แจกโปรแกรมเถื่อน โดยมีทั้ง credential stealers และ ransomware ที่ล็อกไฟล์และเรียกค่าไถ่เป็นคริปโต และสุดท้ายคือการสร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนบริการกระเป๋าคริปโตหรือเครื่องมือซ่อมกระเป๋า เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ ทั้งหมดนี้ถูกควบคุมผ่านเซิร์ฟเวอร์เดียว (IP: 185.208.156.66) ซึ่งทำให้การจัดการแคมเปญเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีหลักฐานว่าใช้โค้ดที่สร้างด้วย AI เพื่อเร่งการโจมตีและปรับเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างรวดเร็ว ✅ GreedyBear เป็นแคมเปญอาชญากรรมไซเบอร์ที่ขโมยคริปโตไปแล้วกว่า $1 ล้าน ➡️ ใช้วิธีโจมตีหลายรูปแบบพร้อมกัน ✅ มีส่วนขยายปลอมใน Firefox Marketplace มากกว่า 150 รายการ ➡️ ปลอมเป็นกระเป๋าคริปโตยอดนิยม เช่น MetaMask, TronLink, Exodus ✅ ใช้เทคนิค Extension Hollowing เพื่อหลบการตรวจสอบ ➡️ อัปโหลดส่วนขยายปลอดภัยก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นอันตราย ✅ ปล่อยมัลแวร์กว่า 500 ตัวผ่านเว็บไซต์แจกโปรแกรมเถื่อน ➡️ มีทั้ง LummaStealer และ Luca Stealer ที่เน้นขโมยข้อมูลคริปโต ✅ สร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนบริการกระเป๋าคริปโตหรือซ่อมกระเป๋า ➡️ หลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase และ private key ✅ ทุกการโจมตีเชื่อมโยงกับเซิร์ฟเวอร์เดียว (185.208.156.66) ➡️ ใช้เป็นศูนย์กลางควบคุมและเก็บข้อมูล ✅ มีการใช้โค้ดที่สร้างด้วย AI เพื่อเร่งการโจมตี ➡️ ทำให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้รวดเร็วและหลบหลีกการป้องกัน ✅ Extension Hollowing เป็นเทคนิคที่เริ่มใช้ในมัลแวร์ระดับองค์กร ➡️ เคยพบในแคมเปญโจมตีของกลุ่ม APT เช่น Lazarus ✅ Mozilla มีระบบตรวจสอบส่วนขยาย แต่ยังไม่สามารถกันการเปลี่ยนแปลงภายหลังได้ ➡️ ผู้ใช้ต้องตรวจสอบผู้พัฒนาและรีวิวอย่างละเอียด ✅ การใช้ AI ในการสร้างมัลแวร์เริ่มแพร่หลายมากขึ้น ➡️ ทำให้การตรวจจับด้วย signature-based antivirus ไม่เพียงพอ ✅ การโจมตีแบบหลายชั้น (multi-vector attack) เป็นแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมไซเบอร์ ➡️ เน้นการหลอกลวงจากหลายช่องทางพร้อมกันเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จ https://hackread.com/greedybear-fake-crypto-wallet-extensions-firefox-marketplace/
    HACKREAD.COM
    GreedyBear: 40 Fake Crypto Wallet Extensions Found on Firefox Marketplace
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากห้องเซิร์ฟเวอร์: ช่องโหว่ Jenkins ที่อาจเปิดประตูให้แฮกเกอร์เข้ายึดระบบ

    Jenkins เป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สยอดนิยมที่ใช้ในงาน DevOps และการทำ CI/CD ทั่วโลก ล่าสุดมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Git Parameter ซึ่งถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-53652 โดยบริษัท VulnCheck พบว่าแม้ช่องโหว่นี้จะถูกจัดระดับ “กลาง” แต่จริง ๆ แล้วสามารถนำไปสู่การโจมตีแบบ Remote Code Execution (RCE) ได้

    ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่ปลั๊กอิน Git Parameter รับค่าจากผู้ใช้โดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัย แล้วนำไปใช้ในคำสั่ง Git โดยตรง เช่น การเลือก branch ที่จะ checkout หากผู้ใช้กรอกค่าเป็นคำสั่ง shell เช่น master; rm -rf / ระบบจะนำไปใช้ทันทีโดยไม่มีการกรอง ทำให้แฮกเกอร์สามารถรันคำสั่งอันตรายบนเซิร์ฟเวอร์ Jenkins ได้

    ที่น่าตกใจคือ มี Jenkins เซิร์ฟเวอร์กว่า 15,000 เครื่องที่เปิดให้เข้าถึงโดยไม่ต้องล็อกอิน ซึ่งหมายความว่าแฮกเกอร์สามารถโจมตีได้ทันทีหากรู้ URL และโครงสร้างของระบบ Jenkins ที่ใช้ปลั๊กอินนี้

    แม้จะมีแพตช์ออกมาแล้ว แต่ VulnCheck เตือนว่าแพตช์สามารถถูกปิดการทำงานโดยผู้ดูแลระบบได้ ทำให้ระบบยังคงเสี่ยงอยู่ และแนะนำให้ใช้กฎตรวจจับพิเศษเพื่อป้องกันการโจมตี

    ช่องโหว่ CVE-2025-53652 ถูกค้นพบในปลั๊กอิน Git Parameter ของ Jenkins
    เป็นช่องโหว่แบบ command injection ที่นำไปสู่ RCE ได้

    มี Jenkins เซิร์ฟเวอร์กว่า 15,000 เครื่องที่เปิดให้เข้าถึงโดยไม่ต้องล็อกอิน
    ทำให้แฮกเกอร์สามารถโจมตีได้ทันที

    ช่องโหว่เกิดจากการนำค่าที่ผู้ใช้กรอกไปใช้ในคำสั่ง Git โดยไม่กรอง
    เช่น การกรอก branch name ที่มีคำสั่ง shell แฝงอยู่

    VulnCheck ยืนยันว่าใช้ช่องโหว่นี้เพื่อเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์และข้อมูลสำคัญได้
    เช่น master key และ environment variables

    มีแพตช์ออกมาแล้วในเวอร์ชัน Git Parameter Plugin 444
    เพิ่มการตรวจสอบค่าที่ผู้ใช้กรอกให้ตรงกับตัวเลือกที่กำหนดไว้

    VulnCheck สร้างกฎพิเศษเพื่อช่วยตรวจจับการโจมตีจากช่องโหว่นี้
    แม้จะมีแพตช์ แต่การตรวจจับยังจำเป็น

    ช่องโหว่นี้ถูกเปิดเผยพร้อมกับอีก 30 ช่องโหว่ใน Jenkins Plugins เมื่อ 9 ก.ค. 2025
    แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงในระบบ Jenkins ที่ใช้ปลั๊กอินจำนวนมาก

    Git เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้เป็น GTFObin ได้
    หมายถึงสามารถใช้ Git เพื่อรันคำสั่งอันตรายได้ในบางบริบท

    การโจมตีสามารถทำได้ผ่าน HTTP POST โดยใช้ Jenkins-Crumb และ cookie
    ทำให้สามารถส่งคำสั่ง reverse shell ได้จากภายนอก

    การโจมตีนี้ไม่ต้องใช้สิทธิ์ระดับสูง หากระบบเปิดให้เข้าถึงโดยไม่ล็อกอิน
    เพิ่มความเสี่ยงต่อองค์กรที่ตั้งค่า Jenkins ไม่ปลอดภัย

    https://hackread.com/jenkins-servers-risk-rce-vulnerability-cve-2025-53652/
    🧨🛠️ เรื่องเล่าจากห้องเซิร์ฟเวอร์: ช่องโหว่ Jenkins ที่อาจเปิดประตูให้แฮกเกอร์เข้ายึดระบบ Jenkins เป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สยอดนิยมที่ใช้ในงาน DevOps และการทำ CI/CD ทั่วโลก ล่าสุดมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Git Parameter ซึ่งถูกระบุว่าเป็น CVE-2025-53652 โดยบริษัท VulnCheck พบว่าแม้ช่องโหว่นี้จะถูกจัดระดับ “กลาง” แต่จริง ๆ แล้วสามารถนำไปสู่การโจมตีแบบ Remote Code Execution (RCE) ได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่ปลั๊กอิน Git Parameter รับค่าจากผู้ใช้โดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัย แล้วนำไปใช้ในคำสั่ง Git โดยตรง เช่น การเลือก branch ที่จะ checkout หากผู้ใช้กรอกค่าเป็นคำสั่ง shell เช่น master; rm -rf / ระบบจะนำไปใช้ทันทีโดยไม่มีการกรอง ทำให้แฮกเกอร์สามารถรันคำสั่งอันตรายบนเซิร์ฟเวอร์ Jenkins ได้ ที่น่าตกใจคือ มี Jenkins เซิร์ฟเวอร์กว่า 15,000 เครื่องที่เปิดให้เข้าถึงโดยไม่ต้องล็อกอิน ซึ่งหมายความว่าแฮกเกอร์สามารถโจมตีได้ทันทีหากรู้ URL และโครงสร้างของระบบ Jenkins ที่ใช้ปลั๊กอินนี้ แม้จะมีแพตช์ออกมาแล้ว แต่ VulnCheck เตือนว่าแพตช์สามารถถูกปิดการทำงานโดยผู้ดูแลระบบได้ ทำให้ระบบยังคงเสี่ยงอยู่ และแนะนำให้ใช้กฎตรวจจับพิเศษเพื่อป้องกันการโจมตี ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-53652 ถูกค้นพบในปลั๊กอิน Git Parameter ของ Jenkins ➡️ เป็นช่องโหว่แบบ command injection ที่นำไปสู่ RCE ได้ ✅ มี Jenkins เซิร์ฟเวอร์กว่า 15,000 เครื่องที่เปิดให้เข้าถึงโดยไม่ต้องล็อกอิน ➡️ ทำให้แฮกเกอร์สามารถโจมตีได้ทันที ✅ ช่องโหว่เกิดจากการนำค่าที่ผู้ใช้กรอกไปใช้ในคำสั่ง Git โดยไม่กรอง ➡️ เช่น การกรอก branch name ที่มีคำสั่ง shell แฝงอยู่ ✅ VulnCheck ยืนยันว่าใช้ช่องโหว่นี้เพื่อเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์และข้อมูลสำคัญได้ ➡️ เช่น master key และ environment variables ✅ มีแพตช์ออกมาแล้วในเวอร์ชัน Git Parameter Plugin 444 ➡️ เพิ่มการตรวจสอบค่าที่ผู้ใช้กรอกให้ตรงกับตัวเลือกที่กำหนดไว้ ✅ VulnCheck สร้างกฎพิเศษเพื่อช่วยตรวจจับการโจมตีจากช่องโหว่นี้ ➡️ แม้จะมีแพตช์ แต่การตรวจจับยังจำเป็น ✅ ช่องโหว่นี้ถูกเปิดเผยพร้อมกับอีก 30 ช่องโหว่ใน Jenkins Plugins เมื่อ 9 ก.ค. 2025 ➡️ แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงในระบบ Jenkins ที่ใช้ปลั๊กอินจำนวนมาก ✅ Git เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้เป็น GTFObin ได้ ➡️ หมายถึงสามารถใช้ Git เพื่อรันคำสั่งอันตรายได้ในบางบริบท ✅ การโจมตีสามารถทำได้ผ่าน HTTP POST โดยใช้ Jenkins-Crumb และ cookie ➡️ ทำให้สามารถส่งคำสั่ง reverse shell ได้จากภายนอก ✅ การโจมตีนี้ไม่ต้องใช้สิทธิ์ระดับสูง หากระบบเปิดให้เข้าถึงโดยไม่ล็อกอิน ➡️ เพิ่มความเสี่ยงต่อองค์กรที่ตั้งค่า Jenkins ไม่ปลอดภัย https://hackread.com/jenkins-servers-risk-rce-vulnerability-cve-2025-53652/
    HACKREAD.COM
    15,000 Jenkins Servers at Risk from RCE Vulnerability (CVE-2025-53652)
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากห้องประชุม: CISO ผู้นำความมั่นคงไซเบอร์ที่องค์กรยุคใหม่ขาดไม่ได้

    ในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดขององค์กร ตำแหน่ง “CISO” หรือ Chief Information Security Officer จึงกลายเป็นหนึ่งในบทบาทที่สำคัญที่สุดในระดับผู้บริหาร โดยมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของข้อมูลและระบบดิจิทัลทั้งหมดขององค์กร

    แต่รู้ไหมว่า...มีเพียง 45% ของบริษัทในอเมริกาเหนือเท่านั้นที่มี CISO และในบริษัทที่มีรายได้เกินพันล้านดอลลาร์ ตัวเลขนี้ลดลงเหลือเพียง 15%! หลายองค์กรยังมองว่า cybersecurity เป็นแค่ต้นทุนด้าน IT ไม่ใช่ความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ ทำให้ CISO บางคนต้องรายงานต่อ CIO หรือ CSO แทนที่จะได้ที่นั่งในห้องประชุมผู้บริหาร

    CISO ที่มีอำนาจจริงจะต้องรับผิดชอบตั้งแต่การวางนโยบายความปลอดภัย การจัดการความเสี่ยง การตอบสนองเหตุการณ์ ไปจนถึงการสื่อสารกับบอร์ดและผู้ถือหุ้น พวกเขาต้องมีทั้งความรู้ด้านเทคนิค เช่น DNS, VPN, firewall และความเข้าใจในกฎหมายอย่าง GDPR, HIPAA, SOX รวมถึงทักษะการบริหารและการสื่อสารเชิงธุรกิจ

    ในปี 2025 บทบาทของ CISO ขยายไปสู่การกำกับดูแล AI, การควบรวมกิจการ และการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล ทำให้พวกเขากลายเป็น “ผู้ขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร” ไม่ใช่แค่ “ผู้เฝ้าประตูระบบ”

    CISO คือผู้บริหารระดับสูงที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของข้อมูล
    ดูแลทั้งระบบ IT, นโยบาย, การตอบสนองเหตุการณ์ และการบริหารความเสี่ยง

    มีเพียง 45% ของบริษัทในอเมริกาเหนือที่มี CISO
    และเพียง 15% ของบริษัทที่มีรายได้เกิน $1B ที่มี CISO ในระดับ C-suite

    CISO ที่รายงานตรงต่อ CEO หรือบอร์ดจะมีอิทธิพลมากกว่า
    ช่วยให้การตัดสินใจด้านความปลอดภัยมีน้ำหนักในเชิงกลยุทธ์

    หน้าที่หลักของ CISO ได้แก่:
    Security operations, Cyber risk, Data loss prevention, Architecture, IAM, Program management, Forensics, Governance

    คุณสมบัติของ CISO ที่ดีต้องมีทั้งพื้นฐานเทคนิคและทักษะธุรกิจ
    เช่น ความเข้าใจใน DNS, VPN, ethical hacking, compliance และการสื่อสารกับผู้บริหาร

    บทบาทของ CISO ขยายไปสู่การกำกับดูแล AI และการควบรวมกิจการ
    ทำให้กลายเป็นผู้ขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร ไม่ใช่แค่ฝ่ายเทคนิค

    มีการแบ่งประเภท CISO เป็น 3 กลุ่ม: Strategic, Functional, Tactical
    Strategic CISO มีอิทธิพลสูงสุดในองค์กรและได้รับค่าตอบแทนสูง

    ความท้าทายใหม่ของ CISO ได้แก่ภัยคุกคามจาก AI, ransomware และ social engineering
    ต้องใช้แนวทางป้องกันที่ปรับตัวได้และเน้นการฝึกอบรมพนักงาน

    การมี CISO ที่มี visibility ในบอร์ดช่วยเพิ่มความพึงพอใจในงานและโอกาสเติบโต
    เช่น การสร้างความสัมพันธ์กับบอร์ดนอกการประชุม

    https://www.csoonline.com/article/566757/what-is-a-ciso-responsibilities-and-requirements-for-this-vital-leadership-role.html
    🛡️🏢 เรื่องเล่าจากห้องประชุม: CISO ผู้นำความมั่นคงไซเบอร์ที่องค์กรยุคใหม่ขาดไม่ได้ ในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดขององค์กร ตำแหน่ง “CISO” หรือ Chief Information Security Officer จึงกลายเป็นหนึ่งในบทบาทที่สำคัญที่สุดในระดับผู้บริหาร โดยมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของข้อมูลและระบบดิจิทัลทั้งหมดขององค์กร แต่รู้ไหมว่า...มีเพียง 45% ของบริษัทในอเมริกาเหนือเท่านั้นที่มี CISO และในบริษัทที่มีรายได้เกินพันล้านดอลลาร์ ตัวเลขนี้ลดลงเหลือเพียง 15%! หลายองค์กรยังมองว่า cybersecurity เป็นแค่ต้นทุนด้าน IT ไม่ใช่ความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ ทำให้ CISO บางคนต้องรายงานต่อ CIO หรือ CSO แทนที่จะได้ที่นั่งในห้องประชุมผู้บริหาร CISO ที่มีอำนาจจริงจะต้องรับผิดชอบตั้งแต่การวางนโยบายความปลอดภัย การจัดการความเสี่ยง การตอบสนองเหตุการณ์ ไปจนถึงการสื่อสารกับบอร์ดและผู้ถือหุ้น พวกเขาต้องมีทั้งความรู้ด้านเทคนิค เช่น DNS, VPN, firewall และความเข้าใจในกฎหมายอย่าง GDPR, HIPAA, SOX รวมถึงทักษะการบริหารและการสื่อสารเชิงธุรกิจ ในปี 2025 บทบาทของ CISO ขยายไปสู่การกำกับดูแล AI, การควบรวมกิจการ และการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล ทำให้พวกเขากลายเป็น “ผู้ขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร” ไม่ใช่แค่ “ผู้เฝ้าประตูระบบ” ✅ CISO คือผู้บริหารระดับสูงที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของข้อมูล ➡️ ดูแลทั้งระบบ IT, นโยบาย, การตอบสนองเหตุการณ์ และการบริหารความเสี่ยง ✅ มีเพียง 45% ของบริษัทในอเมริกาเหนือที่มี CISO ➡️ และเพียง 15% ของบริษัทที่มีรายได้เกิน $1B ที่มี CISO ในระดับ C-suite ✅ CISO ที่รายงานตรงต่อ CEO หรือบอร์ดจะมีอิทธิพลมากกว่า ➡️ ช่วยให้การตัดสินใจด้านความปลอดภัยมีน้ำหนักในเชิงกลยุทธ์ ✅ หน้าที่หลักของ CISO ได้แก่: ➡️ Security operations, Cyber risk, Data loss prevention, Architecture, IAM, Program management, Forensics, Governance ✅ คุณสมบัติของ CISO ที่ดีต้องมีทั้งพื้นฐานเทคนิคและทักษะธุรกิจ ➡️ เช่น ความเข้าใจใน DNS, VPN, ethical hacking, compliance และการสื่อสารกับผู้บริหาร ✅ บทบาทของ CISO ขยายไปสู่การกำกับดูแล AI และการควบรวมกิจการ ➡️ ทำให้กลายเป็นผู้ขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร ไม่ใช่แค่ฝ่ายเทคนิค ✅ มีการแบ่งประเภท CISO เป็น 3 กลุ่ม: Strategic, Functional, Tactical ➡️ Strategic CISO มีอิทธิพลสูงสุดในองค์กรและได้รับค่าตอบแทนสูง ✅ ความท้าทายใหม่ของ CISO ได้แก่ภัยคุกคามจาก AI, ransomware และ social engineering ➡️ ต้องใช้แนวทางป้องกันที่ปรับตัวได้และเน้นการฝึกอบรมพนักงาน ✅ การมี CISO ที่มี visibility ในบอร์ดช่วยเพิ่มความพึงพอใจในงานและโอกาสเติบโต ➡️ เช่น การสร้างความสัมพันธ์กับบอร์ดนอกการประชุม https://www.csoonline.com/article/566757/what-is-a-ciso-responsibilities-and-requirements-for-this-vital-leadership-role.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    What is a CISO? The top IT security leader role explained
    The chief information security officer (CISO) is the executive responsible for an organization’s information and data security. Here’s what it takes to succeed in this role.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากถังรีไซเคิล: เมือง Tacoma ใช้กล้อง AI ตรวจขยะเพื่อสร้างนิสัยรีไซเคิลที่ถูกต้อง

    ลองจินตนาการว่ารถเก็บขยะที่วิ่งผ่านหน้าบ้านคุณไม่ใช่แค่เก็บของ แต่ยัง “สแกน” ขยะด้วยกล้องอัจฉริยะที่รู้ว่าอะไรรีไซเคิลได้หรือไม่ได้ นี่คือสิ่งที่เมือง Tacoma รัฐวอชิงตันกำลังทดลองในโครงการนำร่องระยะเวลา 2 ปี ด้วยงบประมาณจาก EPA กว่า 1.8 ล้านดอลลาร์

    กล้องที่ติดตั้งบนรถเก็บขยะจะใช้ AI วิเคราะห์สิ่งของในถังรีไซเคิล เช่น ถุงพลาสติกบางชนิดที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ และจะเรียนรู้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อระบุสิ่งปนเปื้อนใหม่ ๆ ได้แม่นยำขึ้น หากพบสิ่งที่ไม่ควรอยู่ในถังรีไซเคิล ระบบจะส่งโปสการ์ดไปยังบ้านนั้น พร้อมภาพประกอบและคำแนะนำ

    เทคโนโลยีนี้มาจาก Prairie Robotics บริษัทจากแคนาดาที่เคยใช้ระบบนี้ในหลายเมืองทั่วอเมริกาเหนือ โดยเน้นการเก็บข้อมูลเฉพาะสิ่งของ ไม่เก็บภาพบุคคลหรือทรัพย์สินส่วนตัว และมีการเบลอใบหน้าและป้ายทะเบียนอัตโนมัติเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว

    เมือง Tacoma ใช้กล้อง AI ตรวจสอบสิ่งปนเปื้อนในถังรีไซเคิล
    เป็นโครงการนำร่องระยะเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2025 ถึงกลางปี 2027

    โครงการได้รับทุนสนับสนุนจาก EPA จำนวน 1.8 ล้านดอลลาร์
    ผ่านโครงการ Recycling Education and Outreach Grant

    กล้องจะวิเคราะห์สิ่งของที่เก็บจากถังรีไซเคิลโดยไม่ถ่ายภาพบุคคล
    มีระบบเบลอใบหน้าและป้ายทะเบียนอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย

    หากพบสิ่งปนเปื้อน จะส่งโปสการ์ดพร้อมภาพและคำแนะนำไปยังบ้านนั้น
    เพื่อให้ประชาชนเรียนรู้สิ่งที่ควรและไม่ควรรีไซเคิล

    เทคโนโลยีมาจาก Prairie Robotics บริษัทจากแคนาดา
    เคยใช้งานในเมือง Greensboro, NC และ East Lansing, MI

    ไม่มีการเก็บค่าปรับหรือบทลงโทษในช่วงทดลอง
    เน้นการให้ความรู้และปรับพฤติกรรมประชาชน

    การปนเปื้อนในถังรีไซเคิลทำให้ต้นทุนการจัดการขยะสูงขึ้น
    เช่น ต้องแยกขยะใหม่หรือส่งไปฝังกลบแทนการรีไซเคิล

    เทคโนโลยี AI ในงานจัดการขยะเริ่มถูกใช้มากขึ้นทั่วโลก
    เช่น การแยกขยะอัตโนมัติในโรงงานรีไซเคิล

    การให้ข้อมูลย้อนกลับแบบเฉพาะเจาะจงช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมได้ดีกว่าการให้คำแนะนำทั่วไป
    เช่น การเห็นภาพสิ่งที่ผิดในถังของตัวเองจะกระตุ้นให้ปรับปรุง

    การใช้กล้อง AI ยังช่วยเก็บข้อมูลเชิงสถิติสำหรับปรับปรุงนโยบาย
    เช่น ระบุพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนสูงเพื่อจัดกิจกรรมให้ความรู้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/09/us-city-officials-to-use-ai-cameras-to-check-recycling-bin-heres-why
    ♻️📸 เรื่องเล่าจากถังรีไซเคิล: เมือง Tacoma ใช้กล้อง AI ตรวจขยะเพื่อสร้างนิสัยรีไซเคิลที่ถูกต้อง ลองจินตนาการว่ารถเก็บขยะที่วิ่งผ่านหน้าบ้านคุณไม่ใช่แค่เก็บของ แต่ยัง “สแกน” ขยะด้วยกล้องอัจฉริยะที่รู้ว่าอะไรรีไซเคิลได้หรือไม่ได้ นี่คือสิ่งที่เมือง Tacoma รัฐวอชิงตันกำลังทดลองในโครงการนำร่องระยะเวลา 2 ปี ด้วยงบประมาณจาก EPA กว่า 1.8 ล้านดอลลาร์ กล้องที่ติดตั้งบนรถเก็บขยะจะใช้ AI วิเคราะห์สิ่งของในถังรีไซเคิล เช่น ถุงพลาสติกบางชนิดที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ และจะเรียนรู้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อระบุสิ่งปนเปื้อนใหม่ ๆ ได้แม่นยำขึ้น หากพบสิ่งที่ไม่ควรอยู่ในถังรีไซเคิล ระบบจะส่งโปสการ์ดไปยังบ้านนั้น พร้อมภาพประกอบและคำแนะนำ เทคโนโลยีนี้มาจาก Prairie Robotics บริษัทจากแคนาดาที่เคยใช้ระบบนี้ในหลายเมืองทั่วอเมริกาเหนือ โดยเน้นการเก็บข้อมูลเฉพาะสิ่งของ ไม่เก็บภาพบุคคลหรือทรัพย์สินส่วนตัว และมีการเบลอใบหน้าและป้ายทะเบียนอัตโนมัติเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว ✅ เมือง Tacoma ใช้กล้อง AI ตรวจสอบสิ่งปนเปื้อนในถังรีไซเคิล ➡️ เป็นโครงการนำร่องระยะเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2025 ถึงกลางปี 2027 ✅ โครงการได้รับทุนสนับสนุนจาก EPA จำนวน 1.8 ล้านดอลลาร์ ➡️ ผ่านโครงการ Recycling Education and Outreach Grant ✅ กล้องจะวิเคราะห์สิ่งของที่เก็บจากถังรีไซเคิลโดยไม่ถ่ายภาพบุคคล ➡️ มีระบบเบลอใบหน้าและป้ายทะเบียนอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย ✅ หากพบสิ่งปนเปื้อน จะส่งโปสการ์ดพร้อมภาพและคำแนะนำไปยังบ้านนั้น ➡️ เพื่อให้ประชาชนเรียนรู้สิ่งที่ควรและไม่ควรรีไซเคิล ✅ เทคโนโลยีมาจาก Prairie Robotics บริษัทจากแคนาดา ➡️ เคยใช้งานในเมือง Greensboro, NC และ East Lansing, MI ✅ ไม่มีการเก็บค่าปรับหรือบทลงโทษในช่วงทดลอง ➡️ เน้นการให้ความรู้และปรับพฤติกรรมประชาชน ✅ การปนเปื้อนในถังรีไซเคิลทำให้ต้นทุนการจัดการขยะสูงขึ้น ➡️ เช่น ต้องแยกขยะใหม่หรือส่งไปฝังกลบแทนการรีไซเคิล ✅ เทคโนโลยี AI ในงานจัดการขยะเริ่มถูกใช้มากขึ้นทั่วโลก ➡️ เช่น การแยกขยะอัตโนมัติในโรงงานรีไซเคิล ✅ การให้ข้อมูลย้อนกลับแบบเฉพาะเจาะจงช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมได้ดีกว่าการให้คำแนะนำทั่วไป ➡️ เช่น การเห็นภาพสิ่งที่ผิดในถังของตัวเองจะกระตุ้นให้ปรับปรุง ✅ การใช้กล้อง AI ยังช่วยเก็บข้อมูลเชิงสถิติสำหรับปรับปรุงนโยบาย ➡️ เช่น ระบุพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนสูงเพื่อจัดกิจกรรมให้ความรู้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/09/us-city-officials-to-use-ai-cameras-to-check-recycling-bin-heres-why
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US city officials to use AI cameras to check recycling bin. Here’s why
    Tacoma officials will use an artificial intelligence-powered camera in a new pilot program that will identify contaminated items in the city's curbside recycling program to educate residents about what can and can't be recycled.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากห้องเรียนอเมริกัน: เมื่อ AI จับผิดนักเรียนจนกลายเป็นผู้ต้องหา

    ในยุคที่โรงเรียนพยายามใช้เทคโนโลยีเพื่อปกป้องนักเรียนจากภัยคุกคาม เช่น การกลั่นแกล้งหรือการทำร้ายตัวเอง หลายโรงเรียนในสหรัฐฯ ได้ติดตั้งระบบเฝ้าระวังด้วย AI เช่น Gaggle และ Lightspeed Alert เพื่อสแกนข้อความที่นักเรียนพิมพ์ในอีเมลหรือแชตที่เชื่อมกับบัญชีโรงเรียน

    แต่สิ่งที่ควรเป็นเครื่องมือช่วยชีวิต กลับกลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้เด็กบางคนถูกจับกุมโดยไม่ตั้งใจ ตัวอย่างเช่น เด็กหญิงวัย 13 ปีในรัฐเทนเนสซีที่พิมพ์ข้อความล้อเล่นว่า “Thursday we kill all the Mexico’s” หลังถูกเพื่อนล้อเรื่องผิว เธอถูกจับกุม ถูกสอบสวน ถูกตรวจร่างกาย และต้องนอนคุกข้ามคืน แม้ข้อความจะเป็นแค่การประชดประชันในกลุ่มเพื่อน

    ระบบ AI เหล่านี้สามารถแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่โรงเรียนและตำรวจทันทีเมื่อพบข้อความต้องสงสัย โดยไม่พิจารณาบริบทหรือเจตนา ทำให้เกิดการแจ้งเตือนผิดพลาดจำนวนมาก เช่น การบ้านที่มีคำว่า “mental health” หรือภาพถ่ายในชั้นเรียนที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นภาพโป๊

    แม้ผู้พัฒนาอย่าง Gaggle จะยืนยันว่าเครื่องมือควรใช้เพื่อ “เตือนล่วงหน้า” ไม่ใช่ “ลงโทษ” แต่ในหลายกรณี โรงเรียนกลับใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีหรือส่งนักเรียนไปโรงเรียนทางเลือก

    โรงเรียนในสหรัฐฯ ใช้ระบบ AI เช่น Gaggle และ Lightspeed Alert เพื่อเฝ้าระวังข้อความของนักเรียน
    ตรวจจับคำที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรง การกลั่นแกล้ง หรือการทำร้ายตัวเอง

    เด็กหญิงวัย 13 ปีถูกจับกุมหลังพิมพ์ข้อความประชดเพื่อนในแชตโรงเรียน
    ถูกสอบสวน ตรวจร่างกาย และนอนคุกข้ามคืน

    ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติสามารถแจ้งตำรวจทันทีโดยไม่พิจารณาบริบท
    นำไปสู่การดำเนินคดีแม้ไม่มีเจตนาร้าย

    กฎหมาย zero-tolerance ในรัฐเทนเนสซีบังคับให้รายงานภัยคุกคามทุกกรณี
    แม้จะเป็นคำพูดเล่นหรือไม่มีมูลเหตุจริง

    นักเรียนหลายคนถูกเรียกพบครูหรือถูกลงโทษจากข้อความที่ไม่เป็นภัยจริง
    เช่น การบ้านที่มีคำว่า “mental health” หรือภาพถ่ายในชั้นเรียน

    ระบบแจ้งเตือนของ Gaggle ในเขต Lawrence แจ้งเตือนกว่า 1,200 ครั้งใน 10 เดือน
    โดยสองในสามเป็น false alarm รวมถึงกว่า 200 กรณีจากการบ้านนักเรียน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/08/students-have-been-called-to-the-office---and-even-arrested---for-ai-surveillance-false-alarms
    🎓🔍 เรื่องเล่าจากห้องเรียนอเมริกัน: เมื่อ AI จับผิดนักเรียนจนกลายเป็นผู้ต้องหา ในยุคที่โรงเรียนพยายามใช้เทคโนโลยีเพื่อปกป้องนักเรียนจากภัยคุกคาม เช่น การกลั่นแกล้งหรือการทำร้ายตัวเอง หลายโรงเรียนในสหรัฐฯ ได้ติดตั้งระบบเฝ้าระวังด้วย AI เช่น Gaggle และ Lightspeed Alert เพื่อสแกนข้อความที่นักเรียนพิมพ์ในอีเมลหรือแชตที่เชื่อมกับบัญชีโรงเรียน แต่สิ่งที่ควรเป็นเครื่องมือช่วยชีวิต กลับกลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้เด็กบางคนถูกจับกุมโดยไม่ตั้งใจ ตัวอย่างเช่น เด็กหญิงวัย 13 ปีในรัฐเทนเนสซีที่พิมพ์ข้อความล้อเล่นว่า “Thursday we kill all the Mexico’s” หลังถูกเพื่อนล้อเรื่องผิว เธอถูกจับกุม ถูกสอบสวน ถูกตรวจร่างกาย และต้องนอนคุกข้ามคืน แม้ข้อความจะเป็นแค่การประชดประชันในกลุ่มเพื่อน ระบบ AI เหล่านี้สามารถแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่โรงเรียนและตำรวจทันทีเมื่อพบข้อความต้องสงสัย โดยไม่พิจารณาบริบทหรือเจตนา ทำให้เกิดการแจ้งเตือนผิดพลาดจำนวนมาก เช่น การบ้านที่มีคำว่า “mental health” หรือภาพถ่ายในชั้นเรียนที่ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นภาพโป๊ แม้ผู้พัฒนาอย่าง Gaggle จะยืนยันว่าเครื่องมือควรใช้เพื่อ “เตือนล่วงหน้า” ไม่ใช่ “ลงโทษ” แต่ในหลายกรณี โรงเรียนกลับใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีหรือส่งนักเรียนไปโรงเรียนทางเลือก ✅ โรงเรียนในสหรัฐฯ ใช้ระบบ AI เช่น Gaggle และ Lightspeed Alert เพื่อเฝ้าระวังข้อความของนักเรียน ➡️ ตรวจจับคำที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรง การกลั่นแกล้ง หรือการทำร้ายตัวเอง ✅ เด็กหญิงวัย 13 ปีถูกจับกุมหลังพิมพ์ข้อความประชดเพื่อนในแชตโรงเรียน ➡️ ถูกสอบสวน ตรวจร่างกาย และนอนคุกข้ามคืน ✅ ระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติสามารถแจ้งตำรวจทันทีโดยไม่พิจารณาบริบท ➡️ นำไปสู่การดำเนินคดีแม้ไม่มีเจตนาร้าย ✅ กฎหมาย zero-tolerance ในรัฐเทนเนสซีบังคับให้รายงานภัยคุกคามทุกกรณี ➡️ แม้จะเป็นคำพูดเล่นหรือไม่มีมูลเหตุจริง ✅ นักเรียนหลายคนถูกเรียกพบครูหรือถูกลงโทษจากข้อความที่ไม่เป็นภัยจริง ➡️ เช่น การบ้านที่มีคำว่า “mental health” หรือภาพถ่ายในชั้นเรียน ✅ ระบบแจ้งเตือนของ Gaggle ในเขต Lawrence แจ้งเตือนกว่า 1,200 ครั้งใน 10 เดือน ➡️ โดยสองในสามเป็น false alarm รวมถึงกว่า 200 กรณีจากการบ้านนักเรียน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/08/students-have-been-called-to-the-office---and-even-arrested---for-ai-surveillance-false-alarms
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Students have been called to the office - and even arrested - for AI surveillance false alarms
    Surveillance systems in American schools increasingly monitor everything students write on school accounts and devices.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากหน้าบ้าน: เมื่อกล่องปริศนาอาจเป็นกับดักไซเบอร์จาก QR Code

    ลองจินตนาการว่าคุณกลับบ้านมาแล้วพบกล่องพัสดุวางอยู่หน้าประตู โดยไม่มีชื่อผู้ส่ง ไม่มีใบเสร็จ และไม่มีใครในบ้านสั่งของนั้น แต่บนกล่องกลับมี QR code ขนาดใหญ่พร้อมข้อความเชิญชวนให้สแกนเพื่อ “ยืนยันการรับสินค้า” หรือ “รับส่วนลดพิเศษ” — นี่คือรูปแบบใหม่ของกลโกงที่ FBI เตือนว่าอันตรายมาก

    กลโกงนี้เป็นวิวัฒนาการจาก “brushing scam” ที่ผู้ขายออนไลน์ส่งสินค้าราคาถูกไปยังที่อยู่สุ่ม แล้วใช้ชื่อผู้รับในการเขียนรีวิวปลอมเพื่อเพิ่มยอดขาย แต่เวอร์ชันใหม่ที่เรียกว่า “quishing” นั้นร้ายแรงกว่า เพราะ QR code บนกล่องสามารถพาคุณไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ขอข้อมูลส่วนตัว หรือแย่กว่านั้น — ติดตั้งมัลแวร์ลงในมือถือของคุณทันทีที่สแกน

    FBI ระบุว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สงสัยอะไรและสแกน QR code ทันที กล่องเหล่านี้มักไม่มีข้อมูลผู้ส่ง เพื่อกระตุ้นความอยากรู้ของผู้รับ และเมื่อเข้าสู่เว็บไซต์ปลอม ผู้ใช้จะถูกหลอกให้กรอกข้อมูลบัตรเครดิต หรืออนุญาตให้เข้าถึงโทรศัพท์โดยไม่รู้ตัว

    FBI เตือนประชาชนเกี่ยวกับกลโกงใหม่ที่ใช้ QR code บนพัสดุที่ไม่ได้สั่ง
    เรียกว่า “quishing” เป็นการหลอกให้สแกน QR เพื่อขโมยข้อมูล

    กลโกงนี้เป็นวิวัฒนาการจาก “brushing scam” ที่ใช้ชื่อผู้รับในการรีวิวปลอม
    แต่เวอร์ชันใหม่มีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวและการเงิน

    เมื่อสแกน QR code อาจถูกพาไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ขอข้อมูลบัตรเครดิต
    หรือดาวน์โหลดมัลแวร์ลงในมือถือทันที

    กล่องมักไม่มีข้อมูลผู้ส่ง เพื่อกระตุ้นให้ผู้รับสแกนด้วยความสงสัย
    เป็นเทคนิคจิตวิทยาเพื่อเพิ่มโอกาสในการหลอกลวง

    FBI แนะนำให้รายงานเหตุการณ์เหล่านี้ผ่านเว็บไซต์ IC3.gov
    พร้อมตรวจสอบบัญชีออนไลน์และขอรายงานเครดิตฟรีจาก Experian, Equifax, TransUnion

    QR code เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันทั่วไปในร้านอาหาร การตลาด และการชำระเงิน
    ทำให้ผู้ใช้คุ้นเคยและไม่ระวังเมื่อเห็น QR code บนกล่องพัสดุ

    การสแกน QR code เปรียบเสมือนการคลิกลิงก์ โดยไม่สามารถเห็น URL ล่วงหน้า
    ต่างจากลิงก์ที่สามารถตรวจสอบปลายทางก่อนคลิก

    โทรศัพท์มือถือมักไม่มีระบบป้องกันมัลแวร์เท่ากับคอมพิวเตอร์
    ทำให้เป็นเป้าหมายหลักของกลโกงแบบ quishing

    66% ของผู้ใช้เคยสแกน QR code เพื่อซื้อสินค้าโดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัย
    เพิ่มความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่อ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/09/fbi-warning-danger-could-be-arriving-at-your-door-in-an-unlikely-package
    📦📲 เรื่องเล่าจากหน้าบ้าน: เมื่อกล่องปริศนาอาจเป็นกับดักไซเบอร์จาก QR Code ลองจินตนาการว่าคุณกลับบ้านมาแล้วพบกล่องพัสดุวางอยู่หน้าประตู โดยไม่มีชื่อผู้ส่ง ไม่มีใบเสร็จ และไม่มีใครในบ้านสั่งของนั้น แต่บนกล่องกลับมี QR code ขนาดใหญ่พร้อมข้อความเชิญชวนให้สแกนเพื่อ “ยืนยันการรับสินค้า” หรือ “รับส่วนลดพิเศษ” — นี่คือรูปแบบใหม่ของกลโกงที่ FBI เตือนว่าอันตรายมาก กลโกงนี้เป็นวิวัฒนาการจาก “brushing scam” ที่ผู้ขายออนไลน์ส่งสินค้าราคาถูกไปยังที่อยู่สุ่ม แล้วใช้ชื่อผู้รับในการเขียนรีวิวปลอมเพื่อเพิ่มยอดขาย แต่เวอร์ชันใหม่ที่เรียกว่า “quishing” นั้นร้ายแรงกว่า เพราะ QR code บนกล่องสามารถพาคุณไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ขอข้อมูลส่วนตัว หรือแย่กว่านั้น — ติดตั้งมัลแวร์ลงในมือถือของคุณทันทีที่สแกน FBI ระบุว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สงสัยอะไรและสแกน QR code ทันที กล่องเหล่านี้มักไม่มีข้อมูลผู้ส่ง เพื่อกระตุ้นความอยากรู้ของผู้รับ และเมื่อเข้าสู่เว็บไซต์ปลอม ผู้ใช้จะถูกหลอกให้กรอกข้อมูลบัตรเครดิต หรืออนุญาตให้เข้าถึงโทรศัพท์โดยไม่รู้ตัว ✅ FBI เตือนประชาชนเกี่ยวกับกลโกงใหม่ที่ใช้ QR code บนพัสดุที่ไม่ได้สั่ง ➡️ เรียกว่า “quishing” เป็นการหลอกให้สแกน QR เพื่อขโมยข้อมูล ✅ กลโกงนี้เป็นวิวัฒนาการจาก “brushing scam” ที่ใช้ชื่อผู้รับในการรีวิวปลอม ➡️ แต่เวอร์ชันใหม่มีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัวและการเงิน ✅ เมื่อสแกน QR code อาจถูกพาไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ขอข้อมูลบัตรเครดิต ➡️ หรือดาวน์โหลดมัลแวร์ลงในมือถือทันที ✅ กล่องมักไม่มีข้อมูลผู้ส่ง เพื่อกระตุ้นให้ผู้รับสแกนด้วยความสงสัย ➡️ เป็นเทคนิคจิตวิทยาเพื่อเพิ่มโอกาสในการหลอกลวง ✅ FBI แนะนำให้รายงานเหตุการณ์เหล่านี้ผ่านเว็บไซต์ IC3.gov ➡️ พร้อมตรวจสอบบัญชีออนไลน์และขอรายงานเครดิตฟรีจาก Experian, Equifax, TransUnion ✅ QR code เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กันทั่วไปในร้านอาหาร การตลาด และการชำระเงิน ➡️ ทำให้ผู้ใช้คุ้นเคยและไม่ระวังเมื่อเห็น QR code บนกล่องพัสดุ ✅ การสแกน QR code เปรียบเสมือนการคลิกลิงก์ โดยไม่สามารถเห็น URL ล่วงหน้า ➡️ ต่างจากลิงก์ที่สามารถตรวจสอบปลายทางก่อนคลิก ✅ โทรศัพท์มือถือมักไม่มีระบบป้องกันมัลแวร์เท่ากับคอมพิวเตอร์ ➡️ ทำให้เป็นเป้าหมายหลักของกลโกงแบบ quishing ✅ 66% ของผู้ใช้เคยสแกน QR code เพื่อซื้อสินค้าโดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัย ➡️ เพิ่มความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่อ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/09/fbi-warning-danger-could-be-arriving-at-your-door-in-an-unlikely-package
    WWW.THESTAR.COM.MY
    FBI warning: Danger could be arriving at your door in an unlikely package
    Scanning a bogus QR code can give scammers access to your contacts or send you to a fake payment portal.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราต้องใช้สิ่งนี้จริงๆ เหรอ ลุงว่าคน 90% ยังไม่จำเป็นจะต้องใช้ SSD PCIe Gen5 เลยด้วยซ้ำ

    เรื่องเล่าจากโลกฮาร์ดแวร์: เมื่อซิงก์ SSD ไม่ใช่แค่ระบายความร้อน แต่โชว์ข้อมูลแบบเรียลไทม์

    ถ้าคุณเป็นสายแต่งคอมที่ชอบให้ทุกชิ้นส่วนมีลูกเล่นล้ำ ๆ Thermalright HR-10 2280 Pro Digital คือซิงก์ระบายความร้อนสำหรับ SSD ที่อาจทำให้คุณต้องหยุดมองมันทุกครั้งที่เปิดเครื่อง เพราะมันมาพร้อมหน้าจอ ARGB ที่แสดงข้อมูลสำคัญของ SSD แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ ความเร็วอ่าน/เขียน หรือระดับการใช้งาน

    ซิงก์รุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับ SSD แบบ M.2 2280 โดยใช้ท่อทองแดง 4 เส้นขนาด 5 มม. เชื่อมกับแผ่นฐานทองแดงขัดเงา และมีพัดลมขนาด 30 มม. หมุนได้ถึง 6,500 RPM เพื่อช่วยระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีแผ่นซิลิโคน Extreme Odyssey II ที่มีค่าการนำความร้อนสูงถึง 14.8 W/mK

    หน้าจอ ARGB ต้องเชื่อมต่อกับพอร์ต USB บนเมนบอร์ด และติดตั้งซอฟต์แวร์ Thermalright Control Center เพื่อควบคุมการแสดงผล โดยตัวซิงก์สูงกว่ารุ่นเดิมประมาณ 16% ดังนั้นควรตรวจสอบพื้นที่ระหว่างการ์ดจอกับซิงก์ CPU ก่อนติดตั้ง

    Thermalright HR-10 2280 Pro Digital เป็นซิงก์ SSD ที่มีหน้าจอ ARGB แสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์
    แสดงอุณหภูมิ ความเร็วอ่าน/เขียน และการใช้งานของ SSD

    ใช้ท่อทองแดง 4 เส้นขนาด 5 มม. และแผ่นฐานทองแดงขัดเงา
    ช่วยถ่ายเทความร้อนไปยังฮีตซิงก์อลูมิเนียม

    มีพัดลมขนาด 30 มม. หมุนได้ระหว่าง 3,500–6,500 RPM
    ใช้หัวต่อแบบ PWM 4-pin บนเมนบอร์ด

    ต้องเชื่อมต่อ USB header และติดตั้งซอฟต์แวร์ TRCC เพื่อใช้งานหน้าจอ
    รองรับการควบคุมและแสดงผลผ่านซอฟต์แวร์

    ขนาดซิงก์คือ 90.3 x 26 x 51 มม. สูงกว่ารุ่นเดิม 16%
    ควรตรวจสอบพื้นที่ติดตั้งระหว่างการ์ดจอกับซิงก์ CPU

    ราคาจำหน่ายในจีนอยู่ที่ $19.36 และยังไม่วางขายใน Amazon
    หากซื้อผ่าน AliExpress จะอยู่ที่ $32.53

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/m-2-ssd-cooler-displays-your-ssds-performance-and-vitals-in-real-time-thermalright-hr-10-2280-pro-digital-features-an-argb-display-for-colorful-readouts
    เราต้องใช้สิ่งนี้จริงๆ เหรอ ลุงว่าคน 90% ยังไม่จำเป็นจะต้องใช้ SSD PCIe Gen5 เลยด้วยซ้ำ 🧊💾 เรื่องเล่าจากโลกฮาร์ดแวร์: เมื่อซิงก์ SSD ไม่ใช่แค่ระบายความร้อน แต่โชว์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ถ้าคุณเป็นสายแต่งคอมที่ชอบให้ทุกชิ้นส่วนมีลูกเล่นล้ำ ๆ Thermalright HR-10 2280 Pro Digital คือซิงก์ระบายความร้อนสำหรับ SSD ที่อาจทำให้คุณต้องหยุดมองมันทุกครั้งที่เปิดเครื่อง เพราะมันมาพร้อมหน้าจอ ARGB ที่แสดงข้อมูลสำคัญของ SSD แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิ ความเร็วอ่าน/เขียน หรือระดับการใช้งาน ซิงก์รุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับ SSD แบบ M.2 2280 โดยใช้ท่อทองแดง 4 เส้นขนาด 5 มม. เชื่อมกับแผ่นฐานทองแดงขัดเงา และมีพัดลมขนาด 30 มม. หมุนได้ถึง 6,500 RPM เพื่อช่วยระบายความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีแผ่นซิลิโคน Extreme Odyssey II ที่มีค่าการนำความร้อนสูงถึง 14.8 W/mK หน้าจอ ARGB ต้องเชื่อมต่อกับพอร์ต USB บนเมนบอร์ด และติดตั้งซอฟต์แวร์ Thermalright Control Center เพื่อควบคุมการแสดงผล โดยตัวซิงก์สูงกว่ารุ่นเดิมประมาณ 16% ดังนั้นควรตรวจสอบพื้นที่ระหว่างการ์ดจอกับซิงก์ CPU ก่อนติดตั้ง ✅ Thermalright HR-10 2280 Pro Digital เป็นซิงก์ SSD ที่มีหน้าจอ ARGB แสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ➡️ แสดงอุณหภูมิ ความเร็วอ่าน/เขียน และการใช้งานของ SSD ✅ ใช้ท่อทองแดง 4 เส้นขนาด 5 มม. และแผ่นฐานทองแดงขัดเงา ➡️ ช่วยถ่ายเทความร้อนไปยังฮีตซิงก์อลูมิเนียม ✅ มีพัดลมขนาด 30 มม. หมุนได้ระหว่าง 3,500–6,500 RPM ➡️ ใช้หัวต่อแบบ PWM 4-pin บนเมนบอร์ด ✅ ต้องเชื่อมต่อ USB header และติดตั้งซอฟต์แวร์ TRCC เพื่อใช้งานหน้าจอ ➡️ รองรับการควบคุมและแสดงผลผ่านซอฟต์แวร์ ✅ ขนาดซิงก์คือ 90.3 x 26 x 51 มม. สูงกว่ารุ่นเดิม 16% ➡️ ควรตรวจสอบพื้นที่ติดตั้งระหว่างการ์ดจอกับซิงก์ CPU ✅ ราคาจำหน่ายในจีนอยู่ที่ $19.36 และยังไม่วางขายใน Amazon ➡️ หากซื้อผ่าน AliExpress จะอยู่ที่ $32.53 https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/m-2-ssd-cooler-displays-your-ssds-performance-and-vitals-in-real-time-thermalright-hr-10-2280-pro-digital-features-an-argb-display-for-colorful-readouts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากห้องวิจัย Tesla: เมื่อ Dojo ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ต้องยุติลง และ Elon หันไปพึ่ง Nvidia กับ AMD

    ย้อนกลับไปในปี 2021 Tesla เปิดตัวโครงการ Dojo ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิปแบบ wafer-scale เพื่อฝึก AI สำหรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (FSD) และหุ่นยนต์ Optimus โดยหวังว่าจะลดการพึ่งพา Nvidia และสร้างฮาร์ดแวร์ของตัวเองเพื่อควบคุมทุกมิติของการประมวลผล AI

    แต่ล่าสุด Elon Musk ตัดสินใจยุติโครงการ Dojo อย่างเป็นทางการ โดยมีการยุบทีมงานและย้ายบุคลากรไปยังแผนกอื่นภายใน Tesla ขณะเดียวกัน Peter Bannon หัวหน้าโครงการ Dojo ก็เตรียมลาออก และมีสมาชิกทีมกว่า 20 คนย้ายไปสร้างสตาร์ทอัพใหม่ชื่อ DensityAI

    Tesla จะหันไปพึ่งพา Nvidia และ AMD มากขึ้น โดย TSMC จะผลิตชิป AI5 สำหรับรถ Tesla รุ่นใหม่ในปี 2025 และ Samsung จะผลิต AI6 รุ่นถัดไปในช่วงปลายทศวรรษ Musk ยังกล่าวว่าเขาอยากให้ชิปที่ใช้ในรถยนต์และเซิร์ฟเวอร์มีสถาปัตยกรรมเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการพัฒนาและใช้งานร่วมกัน

    Tesla ยุติโครงการ Dojo ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิป wafer-scale
    โครงการเริ่มในปี 2021 เพื่อฝึก AI สำหรับ FSD และ Optimus

    Elon Musk สั่งยุบทีม Dojo และย้ายบุคลากรไปยังแผนกอื่น
    Peter Bannon หัวหน้าโครงการเตรียมลาออก

    สมาชิกทีมกว่า 20 คนย้ายไปสร้างสตาร์ทอัพใหม่ชื่อ DensityAI
    เน้นพัฒนา AI สำหรับหุ่นยนต์และยานยนต์

    Tesla จะเพิ่มการพึ่งพา Nvidia และ AMD สำหรับฮาร์ดแวร์ AI
    Nvidia ยังคงเป็นผู้จัดหา GPU ส่วน AMD จะมีบทบาทมากขึ้น

    TSMC จะผลิตชิป AI5 สำหรับ Tesla ในปี 2025
    Samsung จะผลิตชิป AI6 รุ่นถัดไปในช่วงปลายทศวรรษ

    Musk ต้องการให้ชิปในรถและเซิร์ฟเวอร์มีสถาปัตยกรรมเดียวกัน
    เพื่อใช้ร่วมกันได้ทั้งใน Optimus และระบบคลัสเตอร์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/tesla-scraps-custom-dojo-wafer-level-processor-initiative-dismantles-team-musk-to-lean-on-nvidia-and-amd-more
    🚗🧠 เรื่องเล่าจากห้องวิจัย Tesla: เมื่อ Dojo ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ต้องยุติลง และ Elon หันไปพึ่ง Nvidia กับ AMD ย้อนกลับไปในปี 2021 Tesla เปิดตัวโครงการ Dojo ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิปแบบ wafer-scale เพื่อฝึก AI สำหรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (FSD) และหุ่นยนต์ Optimus โดยหวังว่าจะลดการพึ่งพา Nvidia และสร้างฮาร์ดแวร์ของตัวเองเพื่อควบคุมทุกมิติของการประมวลผล AI แต่ล่าสุด Elon Musk ตัดสินใจยุติโครงการ Dojo อย่างเป็นทางการ โดยมีการยุบทีมงานและย้ายบุคลากรไปยังแผนกอื่นภายใน Tesla ขณะเดียวกัน Peter Bannon หัวหน้าโครงการ Dojo ก็เตรียมลาออก และมีสมาชิกทีมกว่า 20 คนย้ายไปสร้างสตาร์ทอัพใหม่ชื่อ DensityAI Tesla จะหันไปพึ่งพา Nvidia และ AMD มากขึ้น โดย TSMC จะผลิตชิป AI5 สำหรับรถ Tesla รุ่นใหม่ในปี 2025 และ Samsung จะผลิต AI6 รุ่นถัดไปในช่วงปลายทศวรรษ Musk ยังกล่าวว่าเขาอยากให้ชิปที่ใช้ในรถยนต์และเซิร์ฟเวอร์มีสถาปัตยกรรมเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการพัฒนาและใช้งานร่วมกัน ✅ Tesla ยุติโครงการ Dojo ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิป wafer-scale ➡️ โครงการเริ่มในปี 2021 เพื่อฝึก AI สำหรับ FSD และ Optimus ✅ Elon Musk สั่งยุบทีม Dojo และย้ายบุคลากรไปยังแผนกอื่น ➡️ Peter Bannon หัวหน้าโครงการเตรียมลาออก ✅ สมาชิกทีมกว่า 20 คนย้ายไปสร้างสตาร์ทอัพใหม่ชื่อ DensityAI ➡️ เน้นพัฒนา AI สำหรับหุ่นยนต์และยานยนต์ ✅ Tesla จะเพิ่มการพึ่งพา Nvidia และ AMD สำหรับฮาร์ดแวร์ AI ➡️ Nvidia ยังคงเป็นผู้จัดหา GPU ส่วน AMD จะมีบทบาทมากขึ้น ✅ TSMC จะผลิตชิป AI5 สำหรับ Tesla ในปี 2025 ➡️ Samsung จะผลิตชิป AI6 รุ่นถัดไปในช่วงปลายทศวรรษ ✅ Musk ต้องการให้ชิปในรถและเซิร์ฟเวอร์มีสถาปัตยกรรมเดียวกัน ➡️ เพื่อใช้ร่วมกันได้ทั้งใน Optimus และระบบคลัสเตอร์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/tesla-scraps-custom-dojo-wafer-level-processor-initiative-dismantles-team-musk-to-lean-on-nvidia-and-amd-more
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากห้องประชุม Intel: เมื่อ CEO ถูกเรียกร้องให้ลาออกจากข้อกล่าวหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกับจีน

    Lip-Bu Tan ซีอีโอของ Intel กำลังเผชิญกับแรงกดดันทางการเมืองอย่างหนัก หลังจากอดีตประธานาธิบดี Donald Trump เรียกร้องให้เขาลาออกโดยอ้างว่า “มีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างรุนแรง” จากการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีจีน ซึ่งบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับกองทัพจีน

    Tan ตอบโต้ด้วยจดหมายถึงพนักงาน Intel โดยยืนยันว่าเขาทำงานด้วย “มาตรฐานทางกฎหมายและจริยธรรมสูงสุด” และกล่าวว่าข้อกล่าวหานั้นเป็น “ข้อมูลผิด” พร้อมระบุว่า Intel กำลังร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง

    เอกสารทางการเงินเผยว่า Tan มีการควบคุมหรือถือหุ้นในบริษัทจีนมากกว่า 600 แห่ง ผ่านบริษัทลงทุนที่เขาก่อตั้ง เช่น Walden International และ Sakarya Limited ซึ่งบางแห่งมีความเกี่ยวข้องกับกองทัพจีนหรือได้รับเงินทุนจากรัฐบาลท้องถิ่นของจีน

    แม้ Intel จะยืนยันว่า Tan และบริษัทมีความสอดคล้องกับผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ และยังคงลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูงในประเทศ เช่น Intel 18A node แต่คำถามเรื่องความปลอดภัยระดับชาติยังคงอยู่ โดยมีวุฒิสมาชิก Tom Cotton ส่งจดหมายเตือนคณะกรรมการ Intel ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

    Donald Trump เรียกร้องให้ Lip-Bu Tan ลาออกจากตำแหน่ง CEO ของ Intel
    อ้างว่า Tan มีผลประโยชน์ทับซ้อนจากการลงทุนในบริษัทจีน

    Tan ตอบโต้ด้วยจดหมายถึงพนักงาน Intel ว่าเขาทำงานด้วยจริยธรรมสูงสุด
    พร้อมระบุว่าข้อกล่าวหาเป็น “ข้อมูลผิด” และกำลังร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ

    Tan มีการถือหุ้นในบริษัทจีนมากกว่า 600 แห่ง มูลค่ารวมกว่า $200 ล้าน
    ผ่านบริษัทลงทุนที่เขาก่อตั้ง เช่น Walden International และ Sakarya Limited

    บางบริษัทที่ Tan ลงทุนมีความเกี่ยวข้องกับกองทัพจีนหรือได้รับเงินทุนจากรัฐ
    ทำให้เกิดข้อกังวลด้านความมั่นคงระดับชาติ

    Intel ยืนยันว่า Tan และบริษัทมีความสอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ
    พร้อมเน้นการลงทุนในโรงงานผลิตชิปในรัฐแอริโซนา

    คณะกรรมการของ Intel แสดงการสนับสนุน Tan อย่างเต็มที่
    ยืนยันว่าเขายังคงเป็นผู้นำที่เหมาะสมในช่วงเวลาสำคัญของบริษัท

    Tan เคยเป็น CEO ของ Cadence Design Systems ซึ่งมีคดีละเมิดกฎหมายส่งออก
    เกี่ยวข้องกับการขายเทคโนโลยีให้มหาวิทยาลัยทหารของจีน

    Intel ได้รับเงินสนับสนุนจำนวนมากจาก CHIPS Act ของรัฐบาลสหรัฐฯ
    ทำให้การมี CEO ที่มีความเกี่ยวข้องกับจีนกลายเป็นประเด็นทางการเมือง

    Tan มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมกว่า 40 ปี และอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ มากกว่า 4 ทศวรรษ
    ได้รับการศึกษาจาก MIT และ University of San Francisco

    Intel เป็นบริษัทเดียวในสหรัฐฯ ที่ยังลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตชิประดับสูง
    เช่น Intel 18A และ 14A ที่แข่งขันกับ TSMC และ Samsung

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ceo-lip-bu-tan-responds-to-trump-allegations-in-letter-i-have-always-operated-within-the-highest-legal-and-ethical-standards
    🏛️💼 เรื่องเล่าจากห้องประชุม Intel: เมื่อ CEO ถูกเรียกร้องให้ลาออกจากข้อกล่าวหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกับจีน Lip-Bu Tan ซีอีโอของ Intel กำลังเผชิญกับแรงกดดันทางการเมืองอย่างหนัก หลังจากอดีตประธานาธิบดี Donald Trump เรียกร้องให้เขาลาออกโดยอ้างว่า “มีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างรุนแรง” จากการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีจีน ซึ่งบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับกองทัพจีน Tan ตอบโต้ด้วยจดหมายถึงพนักงาน Intel โดยยืนยันว่าเขาทำงานด้วย “มาตรฐานทางกฎหมายและจริยธรรมสูงสุด” และกล่าวว่าข้อกล่าวหานั้นเป็น “ข้อมูลผิด” พร้อมระบุว่า Intel กำลังร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง เอกสารทางการเงินเผยว่า Tan มีการควบคุมหรือถือหุ้นในบริษัทจีนมากกว่า 600 แห่ง ผ่านบริษัทลงทุนที่เขาก่อตั้ง เช่น Walden International และ Sakarya Limited ซึ่งบางแห่งมีความเกี่ยวข้องกับกองทัพจีนหรือได้รับเงินทุนจากรัฐบาลท้องถิ่นของจีน แม้ Intel จะยืนยันว่า Tan และบริษัทมีความสอดคล้องกับผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ และยังคงลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูงในประเทศ เช่น Intel 18A node แต่คำถามเรื่องความปลอดภัยระดับชาติยังคงอยู่ โดยมีวุฒิสมาชิก Tom Cotton ส่งจดหมายเตือนคณะกรรมการ Intel ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ✅ Donald Trump เรียกร้องให้ Lip-Bu Tan ลาออกจากตำแหน่ง CEO ของ Intel ➡️ อ้างว่า Tan มีผลประโยชน์ทับซ้อนจากการลงทุนในบริษัทจีน ✅ Tan ตอบโต้ด้วยจดหมายถึงพนักงาน Intel ว่าเขาทำงานด้วยจริยธรรมสูงสุด ➡️ พร้อมระบุว่าข้อกล่าวหาเป็น “ข้อมูลผิด” และกำลังร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ✅ Tan มีการถือหุ้นในบริษัทจีนมากกว่า 600 แห่ง มูลค่ารวมกว่า $200 ล้าน ➡️ ผ่านบริษัทลงทุนที่เขาก่อตั้ง เช่น Walden International และ Sakarya Limited ✅ บางบริษัทที่ Tan ลงทุนมีความเกี่ยวข้องกับกองทัพจีนหรือได้รับเงินทุนจากรัฐ ➡️ ทำให้เกิดข้อกังวลด้านความมั่นคงระดับชาติ ✅ Intel ยืนยันว่า Tan และบริษัทมีความสอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ➡️ พร้อมเน้นการลงทุนในโรงงานผลิตชิปในรัฐแอริโซนา ✅ คณะกรรมการของ Intel แสดงการสนับสนุน Tan อย่างเต็มที่ ➡️ ยืนยันว่าเขายังคงเป็นผู้นำที่เหมาะสมในช่วงเวลาสำคัญของบริษัท ✅ Tan เคยเป็น CEO ของ Cadence Design Systems ซึ่งมีคดีละเมิดกฎหมายส่งออก ➡️ เกี่ยวข้องกับการขายเทคโนโลยีให้มหาวิทยาลัยทหารของจีน ✅ Intel ได้รับเงินสนับสนุนจำนวนมากจาก CHIPS Act ของรัฐบาลสหรัฐฯ ➡️ ทำให้การมี CEO ที่มีความเกี่ยวข้องกับจีนกลายเป็นประเด็นทางการเมือง ✅ Tan มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมกว่า 40 ปี และอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ มากกว่า 4 ทศวรรษ ➡️ ได้รับการศึกษาจาก MIT และ University of San Francisco ✅ Intel เป็นบริษัทเดียวในสหรัฐฯ ที่ยังลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตชิประดับสูง ➡️ เช่น Intel 18A และ 14A ที่แข่งขันกับ TSMC และ Samsung https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ceo-lip-bu-tan-responds-to-trump-allegations-in-letter-i-have-always-operated-within-the-highest-legal-and-ethical-standards
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากห้องเซิร์ฟเวอร์: Samsung ปลุกชีพ Z-NAND เพื่อปฏิวัติศูนย์ข้อมูล AI ด้วยความเร็วเหนือชั้น

    ย้อนกลับไปในช่วงกลางทศวรรษ 2010 Samsung เคยเปิดตัว Z-NAND เพื่อแข่งกับ Intel Optane โดยเน้นลด latency และเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลแบบ SSD ที่ใกล้เคียง DRAM แต่หลังจากเงียบหายไปหลายปี ล่าสุด Samsung กลับมาพร้อม Z-NAND รุ่นใหม่ที่แรงกว่าเดิมถึง 15 เท่า และกินไฟน้อยลงถึง 80% เมื่อเทียบกับ NAND ทั่วไป

    จุดเด่นของ Z-NAND รุ่นใหม่คือการใช้เทคโนโลยี GPU-Initiated Direct Storage Access (GIDS) ที่ให้ GPU เข้าถึงข้อมูลใน Z-NAND โดยตรง โดยไม่ต้องผ่าน CPU หรือ DRAM ซึ่งช่วยลด latency ได้มหาศาล เหมาะกับงาน AI ที่ต้องการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากแบบเรียลไทม์

    Z-NAND รุ่นแรกใช้ V-NAND แบบ SLC ที่ลดขนาด page เหลือเพียง 2–4KB ทำให้สามารถอ่าน/เขียนข้อมูลได้เร็วกว่า SSD ทั่วไปที่ใช้ page ขนาด 8–16KB และในยุคนั้นก็เร็วกว่า SSD ปกติถึง 6–10 เท่า แต่ในรุ่นใหม่ Samsung ตั้งเป้าไว้ที่ 15 เท่า พร้อมรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูล AI โดยเฉพาะ

    Samsung เปิดตัว Z-NAND รุ่นใหม่ที่เร็วกว่า NAND ทั่วไปถึง 15 เท่า
    พร้อมลดการใช้พลังงานลงถึง 80%

    ใช้เทคโนโลยี GPU-Initiated Direct Storage Access (GIDS)
    GPU เข้าถึงข้อมูลใน Z-NAND โดยตรง ไม่ผ่าน CPU หรือ DRAM

    Z-NAND รุ่นใหม่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ AI GPU โดยเฉพาะ
    เน้นลด latency และเพิ่ม throughput สำหรับงาน AI

    Z-NAND รุ่นแรกใช้ V-NAND แบบ SLC และลดขนาด page เหลือ 2–4KB
    ทำให้สามารถอ่าน/เขียนข้อมูลได้เร็วและแม่นยำมากขึ้น

    หากเป้าหมายของ Samsung สำเร็จ Z-NAND จะเร็วกว่า NVMe SSD ปัจจุบันถึง 15 เท่า
    เป็นทางเลือกใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูล AI ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/samsungs-revived-z-nand-targets-15x-performance-increase-over-traditional-nand-once-a-competitor-to-intels-optane-z-nand-makes-a-play-for-ai-datacenters
    ⚡🧠 เรื่องเล่าจากห้องเซิร์ฟเวอร์: Samsung ปลุกชีพ Z-NAND เพื่อปฏิวัติศูนย์ข้อมูล AI ด้วยความเร็วเหนือชั้น ย้อนกลับไปในช่วงกลางทศวรรษ 2010 Samsung เคยเปิดตัว Z-NAND เพื่อแข่งกับ Intel Optane โดยเน้นลด latency และเพิ่มความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลแบบ SSD ที่ใกล้เคียง DRAM แต่หลังจากเงียบหายไปหลายปี ล่าสุด Samsung กลับมาพร้อม Z-NAND รุ่นใหม่ที่แรงกว่าเดิมถึง 15 เท่า และกินไฟน้อยลงถึง 80% เมื่อเทียบกับ NAND ทั่วไป จุดเด่นของ Z-NAND รุ่นใหม่คือการใช้เทคโนโลยี GPU-Initiated Direct Storage Access (GIDS) ที่ให้ GPU เข้าถึงข้อมูลใน Z-NAND โดยตรง โดยไม่ต้องผ่าน CPU หรือ DRAM ซึ่งช่วยลด latency ได้มหาศาล เหมาะกับงาน AI ที่ต้องการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากแบบเรียลไทม์ Z-NAND รุ่นแรกใช้ V-NAND แบบ SLC ที่ลดขนาด page เหลือเพียง 2–4KB ทำให้สามารถอ่าน/เขียนข้อมูลได้เร็วกว่า SSD ทั่วไปที่ใช้ page ขนาด 8–16KB และในยุคนั้นก็เร็วกว่า SSD ปกติถึง 6–10 เท่า แต่ในรุ่นใหม่ Samsung ตั้งเป้าไว้ที่ 15 เท่า พร้อมรองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูล AI โดยเฉพาะ ✅ Samsung เปิดตัว Z-NAND รุ่นใหม่ที่เร็วกว่า NAND ทั่วไปถึง 15 เท่า ➡️ พร้อมลดการใช้พลังงานลงถึง 80% ✅ ใช้เทคโนโลยี GPU-Initiated Direct Storage Access (GIDS) ➡️ GPU เข้าถึงข้อมูลใน Z-NAND โดยตรง ไม่ผ่าน CPU หรือ DRAM ✅ Z-NAND รุ่นใหม่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ AI GPU โดยเฉพาะ ➡️ เน้นลด latency และเพิ่ม throughput สำหรับงาน AI ✅ Z-NAND รุ่นแรกใช้ V-NAND แบบ SLC และลดขนาด page เหลือ 2–4KB ➡️ ทำให้สามารถอ่าน/เขียนข้อมูลได้เร็วและแม่นยำมากขึ้น ✅ หากเป้าหมายของ Samsung สำเร็จ Z-NAND จะเร็วกว่า NVMe SSD ปัจจุบันถึง 15 เท่า ➡️ เป็นทางเลือกใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูล AI ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/samsungs-revived-z-nand-targets-15x-performance-increase-over-traditional-nand-once-a-competitor-to-intels-optane-z-nand-makes-a-play-for-ai-datacenters
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากห้องประชุม Intel: เมื่อประธานบอร์ดพยายามขายโรงงานให้ TSMC แต่ซีอีโอขัดขวางเต็มกำลัง

    ในช่วงต้นปี 2025 เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ภายใน Intel เมื่อ Frank Yeary ประธานบอร์ดของบริษัทพยายามผลักดันแผนการขายหรือแยกกิจการโรงงานผลิตชิป (Intel Foundry) ไปให้ TSMC หรือสร้างบริษัทร่วมทุนกับ Broadcom และ Nvidia โดยให้ TSMC เข้ามาควบคุมการผลิตและ “แก้ไข” เทคโนโลยีของ Intel ที่ล่าช้า

    แต่ Lip-Bu Tan ซีอีโอคนใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งในเดือนมีนาคม กลับมองว่าการผลิตชิปภายในเป็นหัวใจของความสามารถในการแข่งขันของ Intel และเป็นสิ่งสำคัญต่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐฯ เขาจึงคัดค้านแผนนี้อย่างหนัก ทำให้เกิดความขัดแย้งในบอร์ดบริหาร และส่งผลให้แผนกลยุทธ์หลายอย่างของ Tan ถูกชะลอหรือถูกขัดขวาง

    แม้บอร์ดจะยังแสดงการสนับสนุน Tan อย่างเป็นทางการ แต่แรงกดดันภายในและภายนอกก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อ TSMC เองก็ไม่สนใจซื้อโรงงานของ Intel เนื่องจากความแตกต่างด้านเทคโนโลยี เช่น ระบบ EUV ที่ใช้ต่างกัน และความเสี่ยงด้านธุรกิจที่ไม่คุ้มค่าการลงทุน

    Frank Yeary ประธานบอร์ด Intel พยายามขายหรือแยกกิจการโรงงานผลิตชิปให้ TSMC
    เสนอให้ TSMC และบริษัท fabless อย่าง Broadcom/Nvidia ร่วมลงทุน

    Lip-Bu Tan ซีอีโอคนใหม่คัดค้านแผนนี้อย่างหนัก
    เห็นว่าการผลิตภายในเป็นสิ่งสำคัญต่อความสามารถแข่งขันและความมั่นคงของสหรัฐฯ

    ความขัดแย้งในบอร์ดทำให้แผนกลยุทธ์ของ Tan ถูกชะลอหรือถูกขัดขวาง
    รวมถึงแผนระดมทุนและการเข้าซื้อบริษัท AI เพื่อแข่งกับ Nvidia และ AMD

    TSMC ไม่สนใจซื้อโรงงานของ Intel ด้วยเหตุผลทางเทคนิคและธุรกิจ
    เช่น ความแตกต่างด้าน EUV, เครื่องมือ, วัสดุ และความเสี่ยงด้าน yield

    Intel และ TSMC ใช้ระบบการผลิตที่แตกต่างกันแม้จะใช้เครื่องมือจาก ASML เหมือนกัน
    การย้ายเทคโนโลยีข้ามบริษัทอาจทำให้เกิด yield loss และต้นทุนสูง

    TSMC สนใจลงทุนในโรงงานสหรัฐฯ ของตัวเองมากกว่า
    ประกาศลงทุนสูงถึง $165B เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีจากรัฐบาลสหรัฐฯ

    Intel Foundry เป็นความพยายามของ Intel ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดการผลิตชิป
    โดยเน้นเทคโนโลยี Intel 3 และ Intel 18A

    การแยกกิจการโรงงานอาจทำให้ Intel สูญเสียการควบคุมด้านเทคโนโลยี
    และกลายเป็นบริษัท fabless ที่ต้องพึ่งพาผู้ผลิตภายนอก

    การร่วมทุนกับ TSMC อาจทำให้เกิดความขัดแย้งด้านการจัดสรรทรัพยากร
    เช่น การแบ่ง capacity ระหว่างลูกค้า Intel และ TSMC

    การล่าช้าในการเข้าซื้อบริษัท AI ทำให้ Intel เสียโอกาสในการแข่งขัน
    บริษัทเป้าหมายถูกซื้อโดยบริษัทเทคโนโลยีอื่นแทน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intels-chairman-reportedly-tried-to-broker-a-deal-to-sell-fabs-to-tsmc-ceo-lip-bu-tan-opposed
    🏭⚔️ เรื่องเล่าจากห้องประชุม Intel: เมื่อประธานบอร์ดพยายามขายโรงงานให้ TSMC แต่ซีอีโอขัดขวางเต็มกำลัง ในช่วงต้นปี 2025 เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ภายใน Intel เมื่อ Frank Yeary ประธานบอร์ดของบริษัทพยายามผลักดันแผนการขายหรือแยกกิจการโรงงานผลิตชิป (Intel Foundry) ไปให้ TSMC หรือสร้างบริษัทร่วมทุนกับ Broadcom และ Nvidia โดยให้ TSMC เข้ามาควบคุมการผลิตและ “แก้ไข” เทคโนโลยีของ Intel ที่ล่าช้า แต่ Lip-Bu Tan ซีอีโอคนใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งในเดือนมีนาคม กลับมองว่าการผลิตชิปภายในเป็นหัวใจของความสามารถในการแข่งขันของ Intel และเป็นสิ่งสำคัญต่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐฯ เขาจึงคัดค้านแผนนี้อย่างหนัก ทำให้เกิดความขัดแย้งในบอร์ดบริหาร และส่งผลให้แผนกลยุทธ์หลายอย่างของ Tan ถูกชะลอหรือถูกขัดขวาง แม้บอร์ดจะยังแสดงการสนับสนุน Tan อย่างเป็นทางการ แต่แรงกดดันภายในและภายนอกก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อ TSMC เองก็ไม่สนใจซื้อโรงงานของ Intel เนื่องจากความแตกต่างด้านเทคโนโลยี เช่น ระบบ EUV ที่ใช้ต่างกัน และความเสี่ยงด้านธุรกิจที่ไม่คุ้มค่าการลงทุน ✅ Frank Yeary ประธานบอร์ด Intel พยายามขายหรือแยกกิจการโรงงานผลิตชิปให้ TSMC ➡️ เสนอให้ TSMC และบริษัท fabless อย่าง Broadcom/Nvidia ร่วมลงทุน ✅ Lip-Bu Tan ซีอีโอคนใหม่คัดค้านแผนนี้อย่างหนัก ➡️ เห็นว่าการผลิตภายในเป็นสิ่งสำคัญต่อความสามารถแข่งขันและความมั่นคงของสหรัฐฯ ✅ ความขัดแย้งในบอร์ดทำให้แผนกลยุทธ์ของ Tan ถูกชะลอหรือถูกขัดขวาง ➡️ รวมถึงแผนระดมทุนและการเข้าซื้อบริษัท AI เพื่อแข่งกับ Nvidia และ AMD ✅ TSMC ไม่สนใจซื้อโรงงานของ Intel ด้วยเหตุผลทางเทคนิคและธุรกิจ ➡️ เช่น ความแตกต่างด้าน EUV, เครื่องมือ, วัสดุ และความเสี่ยงด้าน yield ✅ Intel และ TSMC ใช้ระบบการผลิตที่แตกต่างกันแม้จะใช้เครื่องมือจาก ASML เหมือนกัน ➡️ การย้ายเทคโนโลยีข้ามบริษัทอาจทำให้เกิด yield loss และต้นทุนสูง ✅ TSMC สนใจลงทุนในโรงงานสหรัฐฯ ของตัวเองมากกว่า ➡️ ประกาศลงทุนสูงถึง $165B เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีจากรัฐบาลสหรัฐฯ ✅ Intel Foundry เป็นความพยายามของ Intel ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดการผลิตชิป ➡️ โดยเน้นเทคโนโลยี Intel 3 และ Intel 18A ✅ การแยกกิจการโรงงานอาจทำให้ Intel สูญเสียการควบคุมด้านเทคโนโลยี ➡️ และกลายเป็นบริษัท fabless ที่ต้องพึ่งพาผู้ผลิตภายนอก ✅ การร่วมทุนกับ TSMC อาจทำให้เกิดความขัดแย้งด้านการจัดสรรทรัพยากร ➡️ เช่น การแบ่ง capacity ระหว่างลูกค้า Intel และ TSMC ✅ การล่าช้าในการเข้าซื้อบริษัท AI ทำให้ Intel เสียโอกาสในการแข่งขัน ➡️ บริษัทเป้าหมายถูกซื้อโดยบริษัทเทคโนโลยีอื่นแทน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intels-chairman-reportedly-tried-to-broker-a-deal-to-sell-fabs-to-tsmc-ceo-lip-bu-tan-opposed
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโต๊ะทดสอบ: der8enchtable โต๊ะทดสอบสุดล้ำที่รวมพลังงาน ความเย็น และการเชื่อมต่อไว้ในแผ่นเดียว

    ถ้าคุณเป็นสายฮาร์ดแวร์ที่ชอบทดสอบอุปกรณ์ เปลี่ยนเมนบอร์ดบ่อย ๆ หรือทำงานรีวิวอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โต๊ะทดสอบแบบเปิด (open bench table) คือเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ และล่าสุด Thermal Grizzly ร่วมกับ Roman “der8auer” Hartung และ Elmor Labs ได้เปิดตัว der8enchtable — โต๊ะทดสอบระดับมืออาชีพที่ไม่ใช่แค่โครงเหล็กวางเมนบอร์ด แต่เป็นแผ่น PCB ที่มีระบบควบคุมพัดลม ปั๊มน้ำ พอร์ตเก็บข้อมูล และไฟ RGB ในตัว

    der8enchtable เปิดตัวครั้งแรกในงาน Computex 2025 และคว้ารางวัลด้านการออกแบบทันที จุดเด่นคือการรวมพอร์ต SATA, USB, microSD, พัดลม และปั๊มน้ำไว้ในแผ่น PCB เดียว ทำให้ผู้ใช้สามารถ hot-swap อุปกรณ์ได้โดยไม่ต้องต่อสายเข้ากับเมนบอร์ดโดยตรง

    โต๊ะนี้มีโซนควบคุมพัดลม 3 โซน (Fan Zones) และโซนปั๊มน้ำ 1 โซน (Pump Zone) โดยแต่ละโซนมีหัวต่อ 4-pin ที่จ่ายไฟได้ถึง 3A พร้อมฟิวส์แยก และสามารถควบคุมความเร็วได้แบบอิสระ หรือส่งต่อให้เมนบอร์ดควบคุมก็ได้

    นอกจากนี้ยังมีพอร์ต USB Type-A และ Type-C, ช่องเสียบ microSD สำหรับโหลด OS หรือ BIOS, จุดติดตั้ง SSD ขนาด 2.5 นิ้ว และไฟ RGB ที่ควบคุมผ่านเมนบอร์ดหรือคอนโทรลเลอร์แยก โต๊ะนี้ยังสามารถปรับขนาดให้รองรับ ATX, mATX และ Mini-ITX ได้ และมีโครงแบบโมดูลาร์ที่ติดตั้ง PSU หรือหม้อน้ำได้ตามต้องการ

    Thermal Grizzly เปิดตัว der8enchtable โต๊ะทดสอบระดับมืออาชีพ
    พัฒนาโดย Roman “der8auer” Hartung และ Elmor Labs

    โต๊ะใช้ PCB เป็นฐานหลักที่รวมพอร์ตและระบบควบคุมไว้ในแผ่นเดียว
    มีพอร์ต SATA, USB, microSD, และไฟ RGB ในตัว

    มีโซนควบคุมพัดลม 3 โซน และโซนปั๊มน้ำ 1 โซน
    แต่ละหัวต่อจ่ายไฟได้ 3A พร้อมฟิวส์แยก และควบคุมความเร็วได้

    รองรับการติดตั้ง SSD 2.5 นิ้ว 2 ลูก และ microSD ได้ 4 ช่อง
    เหมาะสำหรับโหลด OS, BIOS หรือไฟล์ทดสอบ

    มีพอร์ต USB Type-A 4 ช่อง และ Type-C 2 ช่อง
    ใช้พลังงานจาก PCIe 6-pin และเชื่อมต่อเมนบอร์ดผ่าน USB header

    รองรับเมนบอร์ด ATX, mATX, Mini-ITX และติดตั้ง PSU หรือหม้อน้ำได้
    มีสาย Velcro สำหรับจัดการสายไฟ และไฟ RGB ควบคุมผ่าน 3-pin header

    ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $268.98 พร้อมอุปกรณ์ครบชุด
    รวมสาย, ขาตั้ง, อุปกรณ์ติดตั้ง และประแจ Allen

    der8enchtable ได้รับรางวัล Best of Computex 2025 จาก TechPowerUp
    เพราะรวมฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับนักทดสอบไว้ในอุปกรณ์เดียว

    โต๊ะนี้ช่วยลดเวลาการเปลี่ยนเมนบอร์ดและอุปกรณ์ต่าง ๆ
    โดยไม่ต้องถอดสายหรือติดตั้งใหม่ทุกครั้ง

    เหมาะสำหรับนักรีวิว, นักโอเวอร์คล็อก, และผู้พัฒนาไดรเวอร์หรือ BIOS
    เพราะสามารถทดสอบหลายระบบได้อย่างรวดเร็ว

    การใช้ PCB เป็นฐานช่วยให้การจัดการพลังงานและความเย็นมีประสิทธิภาพ
    โดยไม่ต้องพึ่งพาเคสหรือระบบแยก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/thermal-grizzly-and-der8auer-launch-the-der8enchtable-enthusiast-test-bench-boasts-an-open-design-integrated-pcb-for-storage-and-cooling
    🧪🛠️ เรื่องเล่าจากโต๊ะทดสอบ: der8enchtable โต๊ะทดสอบสุดล้ำที่รวมพลังงาน ความเย็น และการเชื่อมต่อไว้ในแผ่นเดียว ถ้าคุณเป็นสายฮาร์ดแวร์ที่ชอบทดสอบอุปกรณ์ เปลี่ยนเมนบอร์ดบ่อย ๆ หรือทำงานรีวิวอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โต๊ะทดสอบแบบเปิด (open bench table) คือเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ และล่าสุด Thermal Grizzly ร่วมกับ Roman “der8auer” Hartung และ Elmor Labs ได้เปิดตัว der8enchtable — โต๊ะทดสอบระดับมืออาชีพที่ไม่ใช่แค่โครงเหล็กวางเมนบอร์ด แต่เป็นแผ่น PCB ที่มีระบบควบคุมพัดลม ปั๊มน้ำ พอร์ตเก็บข้อมูล และไฟ RGB ในตัว der8enchtable เปิดตัวครั้งแรกในงาน Computex 2025 และคว้ารางวัลด้านการออกแบบทันที จุดเด่นคือการรวมพอร์ต SATA, USB, microSD, พัดลม และปั๊มน้ำไว้ในแผ่น PCB เดียว ทำให้ผู้ใช้สามารถ hot-swap อุปกรณ์ได้โดยไม่ต้องต่อสายเข้ากับเมนบอร์ดโดยตรง โต๊ะนี้มีโซนควบคุมพัดลม 3 โซน (Fan Zones) และโซนปั๊มน้ำ 1 โซน (Pump Zone) โดยแต่ละโซนมีหัวต่อ 4-pin ที่จ่ายไฟได้ถึง 3A พร้อมฟิวส์แยก และสามารถควบคุมความเร็วได้แบบอิสระ หรือส่งต่อให้เมนบอร์ดควบคุมก็ได้ นอกจากนี้ยังมีพอร์ต USB Type-A และ Type-C, ช่องเสียบ microSD สำหรับโหลด OS หรือ BIOS, จุดติดตั้ง SSD ขนาด 2.5 นิ้ว และไฟ RGB ที่ควบคุมผ่านเมนบอร์ดหรือคอนโทรลเลอร์แยก โต๊ะนี้ยังสามารถปรับขนาดให้รองรับ ATX, mATX และ Mini-ITX ได้ และมีโครงแบบโมดูลาร์ที่ติดตั้ง PSU หรือหม้อน้ำได้ตามต้องการ ✅ Thermal Grizzly เปิดตัว der8enchtable โต๊ะทดสอบระดับมืออาชีพ ➡️ พัฒนาโดย Roman “der8auer” Hartung และ Elmor Labs ✅ โต๊ะใช้ PCB เป็นฐานหลักที่รวมพอร์ตและระบบควบคุมไว้ในแผ่นเดียว ➡️ มีพอร์ต SATA, USB, microSD, และไฟ RGB ในตัว ✅ มีโซนควบคุมพัดลม 3 โซน และโซนปั๊มน้ำ 1 โซน ➡️ แต่ละหัวต่อจ่ายไฟได้ 3A พร้อมฟิวส์แยก และควบคุมความเร็วได้ ✅ รองรับการติดตั้ง SSD 2.5 นิ้ว 2 ลูก และ microSD ได้ 4 ช่อง ➡️ เหมาะสำหรับโหลด OS, BIOS หรือไฟล์ทดสอบ ✅ มีพอร์ต USB Type-A 4 ช่อง และ Type-C 2 ช่อง ➡️ ใช้พลังงานจาก PCIe 6-pin และเชื่อมต่อเมนบอร์ดผ่าน USB header ✅ รองรับเมนบอร์ด ATX, mATX, Mini-ITX และติดตั้ง PSU หรือหม้อน้ำได้ ➡️ มีสาย Velcro สำหรับจัดการสายไฟ และไฟ RGB ควบคุมผ่าน 3-pin header ✅ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $268.98 พร้อมอุปกรณ์ครบชุด ➡️ รวมสาย, ขาตั้ง, อุปกรณ์ติดตั้ง และประแจ Allen ✅ der8enchtable ได้รับรางวัล Best of Computex 2025 จาก TechPowerUp ➡️ เพราะรวมฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับนักทดสอบไว้ในอุปกรณ์เดียว ✅ โต๊ะนี้ช่วยลดเวลาการเปลี่ยนเมนบอร์ดและอุปกรณ์ต่าง ๆ ➡️ โดยไม่ต้องถอดสายหรือติดตั้งใหม่ทุกครั้ง ✅ เหมาะสำหรับนักรีวิว, นักโอเวอร์คล็อก, และผู้พัฒนาไดรเวอร์หรือ BIOS ➡️ เพราะสามารถทดสอบหลายระบบได้อย่างรวดเร็ว ✅ การใช้ PCB เป็นฐานช่วยให้การจัดการพลังงานและความเย็นมีประสิทธิภาพ ➡️ โดยไม่ต้องพึ่งพาเคสหรือระบบแยก https://www.tomshardware.com/pc-components/thermal-grizzly-and-der8auer-launch-the-der8enchtable-enthusiast-test-bench-boasts-an-open-design-integrated-pcb-for-storage-and-cooling
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากตลาดการ์ดจอ: AMD เปิดตัว Radeon RX 7400 การ์ดจอราคาประหยัดที่ยังรองรับ Ray Tracing

    ในเดือนสิงหาคม 2025 AMD เปิดตัว Radeon RX 7400 แบบเงียบ ๆ โดยไม่ได้จัดงานเปิดตัวใหญ่โต เพราะนี่คือการ์ดจอระดับเริ่มต้นในตระกูล RDNA 3 ที่ใช้ชิป Navi 33 ซึ่งเป็นชิ้นเล็กที่สุดในสายการผลิตนี้ และเคยใช้ในรุ่น RX 7600 มาก่อน

    RX 7400 มาพร้อม 28 Compute Units หรือ 1,792 Stream Processors ซึ่งลดลงจาก RX 7600 ประมาณ 12.5% แต่ยังคงรองรับ Ray Tracing ด้วย 28 Ray Accelerators และมี AI Accelerators 56 ตัว แม้จะเป็นรุ่นเล็กที่สุดในซีรีส์ แต่ก็ยังให้ฟีเจอร์ครบถ้วนสำหรับการเล่นเกมระดับ 1080p

    หน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 8GB ถูกลดความเร็วลงเหลือ 10.8 Gbps ทำให้ bandwidth อยู่ที่ 173 GB/s ซึ่งต่ำกว่า RX 7600 ถึง 40% แต่ข้อดีคือ RX 7400 ใช้พลังงานเพียง 55W และไม่ต้องต่อสายไฟเพิ่ม เหมาะสำหรับเครื่องพีซีขนาดเล็กหรือระบบ OEM ที่ต้องการประหยัดพลังงาน

    AMD เปิดตัว Radeon RX 7400 การ์ดจอ RDNA 3 รุ่นเริ่มต้น
    ใช้ชิป Navi 33 เหมือน RX 7600 แต่ลดจำนวน Compute Units

    RX 7400 มี 28 Compute Units และ 1,792 Stream Processors
    ลดลง 12.5% จาก RX 7600 ที่มี 2,048 SPs

    รองรับ Ray Tracing ด้วย 28 Ray Accelerators และ 56 AI Accelerators
    เป็นรุ่นราคาประหยัดที่ยังมีฟีเจอร์ครบ

    ใช้ GDDR6 ขนาด 8GB ความเร็ว 10.8 Gbps
    Bandwidth อยู่ที่ 173 GB/s ต่ำกว่า RX 7600 ถึง 40%

    ใช้พลังงานเพียง 55W ไม่ต้องต่อสายไฟเพิ่ม
    เหมาะสำหรับเครื่องพีซีขนาดเล็กหรือระบบ OEM

    ขนาดการ์ด 167 มม. แบบ single-slot
    ติดตั้งง่ายในเคสขนาดเล็ก

    RX 7400 เหมาะสำหรับเกม 1080p และงานสตรีมมิ่งพื้นฐาน
    แม้ไม่แรงเท่า RX 7600 แต่ดีกว่า iGPU ในซีพียูทั่วไป

    มีการใช้งานในเครื่องพีซีของ Dell สำหรับตลาดองค์กร
    บ่งชี้ว่าอาจเป็นรุ่น OEM เป็นหลัก

    ยังไม่มีการประกาศราคาขายอย่างเป็นทางการ
    แต่คาดว่าจะต่ำกว่า RX 7600 ที่เปิดตัวที่ $269

    AMD ยังไม่ยืนยันว่าจะมีรุ่น RX 7300 ตามมา
    แม้มีข่าวหลุดว่ามีรุ่น 6GB และ 1,536 SPs อยู่ในแผน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-quietly-launches-radeon-rx-7400-8gb-budget-gaming-gpu-rdna-3-goes-another-rung-lower-on-the-ladder
    🎮💸 เรื่องเล่าจากตลาดการ์ดจอ: AMD เปิดตัว Radeon RX 7400 การ์ดจอราคาประหยัดที่ยังรองรับ Ray Tracing ในเดือนสิงหาคม 2025 AMD เปิดตัว Radeon RX 7400 แบบเงียบ ๆ โดยไม่ได้จัดงานเปิดตัวใหญ่โต เพราะนี่คือการ์ดจอระดับเริ่มต้นในตระกูล RDNA 3 ที่ใช้ชิป Navi 33 ซึ่งเป็นชิ้นเล็กที่สุดในสายการผลิตนี้ และเคยใช้ในรุ่น RX 7600 มาก่อน RX 7400 มาพร้อม 28 Compute Units หรือ 1,792 Stream Processors ซึ่งลดลงจาก RX 7600 ประมาณ 12.5% แต่ยังคงรองรับ Ray Tracing ด้วย 28 Ray Accelerators และมี AI Accelerators 56 ตัว แม้จะเป็นรุ่นเล็กที่สุดในซีรีส์ แต่ก็ยังให้ฟีเจอร์ครบถ้วนสำหรับการเล่นเกมระดับ 1080p หน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 8GB ถูกลดความเร็วลงเหลือ 10.8 Gbps ทำให้ bandwidth อยู่ที่ 173 GB/s ซึ่งต่ำกว่า RX 7600 ถึง 40% แต่ข้อดีคือ RX 7400 ใช้พลังงานเพียง 55W และไม่ต้องต่อสายไฟเพิ่ม เหมาะสำหรับเครื่องพีซีขนาดเล็กหรือระบบ OEM ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ✅ AMD เปิดตัว Radeon RX 7400 การ์ดจอ RDNA 3 รุ่นเริ่มต้น ➡️ ใช้ชิป Navi 33 เหมือน RX 7600 แต่ลดจำนวน Compute Units ✅ RX 7400 มี 28 Compute Units และ 1,792 Stream Processors ➡️ ลดลง 12.5% จาก RX 7600 ที่มี 2,048 SPs ✅ รองรับ Ray Tracing ด้วย 28 Ray Accelerators และ 56 AI Accelerators ➡️ เป็นรุ่นราคาประหยัดที่ยังมีฟีเจอร์ครบ ✅ ใช้ GDDR6 ขนาด 8GB ความเร็ว 10.8 Gbps ➡️ Bandwidth อยู่ที่ 173 GB/s ต่ำกว่า RX 7600 ถึง 40% ✅ ใช้พลังงานเพียง 55W ไม่ต้องต่อสายไฟเพิ่ม ➡️ เหมาะสำหรับเครื่องพีซีขนาดเล็กหรือระบบ OEM ✅ ขนาดการ์ด 167 มม. แบบ single-slot ➡️ ติดตั้งง่ายในเคสขนาดเล็ก ✅ RX 7400 เหมาะสำหรับเกม 1080p และงานสตรีมมิ่งพื้นฐาน ➡️ แม้ไม่แรงเท่า RX 7600 แต่ดีกว่า iGPU ในซีพียูทั่วไป ✅ มีการใช้งานในเครื่องพีซีของ Dell สำหรับตลาดองค์กร ➡️ บ่งชี้ว่าอาจเป็นรุ่น OEM เป็นหลัก ✅ ยังไม่มีการประกาศราคาขายอย่างเป็นทางการ ➡️ แต่คาดว่าจะต่ำกว่า RX 7600 ที่เปิดตัวที่ $269 ✅ AMD ยังไม่ยืนยันว่าจะมีรุ่น RX 7300 ตามมา ➡️ แม้มีข่าวหลุดว่ามีรุ่น 6GB และ 1,536 SPs อยู่ในแผน https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-quietly-launches-radeon-rx-7400-8gb-budget-gaming-gpu-rdna-3-goes-another-rung-lower-on-the-ladder
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่าน รมต.ช่วย กระทรวงกลาโหม ครับ
    ช่วยกรุณาฟังคลิปนี้หน่อย แล้วพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน ว่าแผนที่หยาบๆ แบบนั้น มันอยู่ใน MOU แล้วคนทำคือชาติล่าอาณานิคม ที่วางหมากให้ชาติติดกัน ทะเลาะกันไม่เลิก สันปันน้ำ มันต่างจากสันขวาน ตรงที่ มันเป็นที่ราบสูง สองร้อยเมตร ครับท่าน จะยอมมีชายขอบ ให้กัมพูชามันยืนสบายใจได้อย่างไร ท่านเรียนทหาร ย่อมรู้จัก ที่สูงขบ
    ฝากคำนี้ไว้ หลังท่านดูคลิปนี้จบ "จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตศัตรูเป็นผุยผง"

    https://www.youtube.com/live/xdk8icu_RC0?si=6t9M4eMoaBJQCeYK
    ท่าน รมต.ช่วย กระทรวงกลาโหม ครับ ช่วยกรุณาฟังคลิปนี้หน่อย แล้วพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน ว่าแผนที่หยาบๆ แบบนั้น มันอยู่ใน MOU แล้วคนทำคือชาติล่าอาณานิคม ที่วางหมากให้ชาติติดกัน ทะเลาะกันไม่เลิก สันปันน้ำ มันต่างจากสันขวาน ตรงที่ มันเป็นที่ราบสูง สองร้อยเมตร ครับท่าน จะยอมมีชายขอบ ให้กัมพูชามันยืนสบายใจได้อย่างไร ท่านเรียนทหาร ย่อมรู้จัก ที่สูงขบ ฝากคำนี้ไว้ หลังท่านดูคลิปนี้จบ "จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตศัตรูเป็นผุยผง" https://www.youtube.com/live/xdk8icu_RC0?si=6t9M4eMoaBJQCeYK
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/vpJxFyff0oI?si=mgDMoRN5yqueRtSU
    https://youtu.be/vpJxFyff0oI?si=mgDMoRN5yqueRtSU
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/live/-q5h5KWIORA?si=LmaFkO825-Zjej6B
    https://www.youtube.com/live/-q5h5KWIORA?si=LmaFkO825-Zjej6B
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์" ร่วม "EA" มอบเครื่องผลิตออกซิเจน 30 เครื่อง...ช่วยผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ จ.สุรินทร์
    https://www.thai-tai.tv/news/20852/
    .
    #มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ #EA #สุรินทร์ #เครื่องผลิตออกซิเจน #ช่วยเหลือสังคม #ไทยไท
    "มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์" ร่วม "EA" มอบเครื่องผลิตออกซิเจน 30 เครื่อง...ช่วยผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ จ.สุรินทร์ https://www.thai-tai.tv/news/20852/ . #มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ #EA #สุรินทร์ #เครื่องผลิตออกซิเจน #ช่วยเหลือสังคม #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพบกประณาม! ชี้เหตุระเบิดชายแดน...พิสูจน์แล้วว่า "กัมพูชา" เป็นฝ่ายริเริ่มใช้อาวุธก่อนมาตลอด
    https://www.thai-tai.tv/news/20853/
    .
    #ทหารเหยียบกับระเบิด #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพบก #พลตรีวินธัย #ข่าวทหาร #ไทยไท
    กองทัพบกประณาม! ชี้เหตุระเบิดชายแดน...พิสูจน์แล้วว่า "กัมพูชา" เป็นฝ่ายริเริ่มใช้อาวุธก่อนมาตลอด https://www.thai-tai.tv/news/20853/ . #ทหารเหยียบกับระเบิด #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพบก #พลตรีวินธัย #ข่าวทหาร #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ภูมิธรรม” เสียใจทหารเหยียบกับระเบิด! ย้ำเร่งส่งข้อมูล "กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา" แก่ กต.
    https://www.thai-tai.tv/news/20854/
    .
    #ภูมิธรรมเวชยชัย #ทหารเหยียบกับระเบิด #ชายแดนไทยกัมพูชา #อนุสัญญาออตตาวา #ศรีสะเกษ #ข่าวการเมือง #ไทยไท

    “ภูมิธรรม” เสียใจทหารเหยียบกับระเบิด! ย้ำเร่งส่งข้อมูล "กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา" แก่ กต. https://www.thai-tai.tv/news/20854/ . #ภูมิธรรมเวชยชัย #ทหารเหยียบกับระเบิด #ชายแดนไทยกัมพูชา #อนุสัญญาออตตาวา #ศรีสะเกษ #ข่าวการเมือง #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิถีการปกครองของเราต้องเปลี่ยนแปลงใหม่จริงๆกฎหมายมากมายที่ถูกเขียนอย่างอยุติธรรมกดขี่ประชาชนต้องฉีกทิ้งหมดทันทีแล้วเขียนใหม่ในวิถีปกครองแห่งคนดีมิใช่คนชั่วเขียนแบบนักการเมืองปัจจุบันเขียนนี้ที่สมคบคิดกับต่างชาติเลวชั่วเขียนทำลายทำร้ายประเทศไทยคนไทยเสียมากกว่า เด่นชัดคือกฎหมายปล้นบ่อน้ำมันเรา mou43/44ที่เห็นใจชัดๆที่กอด1:200,000ไว้.
    ..ยุคสมัยใหม่อันตรายมาก aiมาเกี่ยวในทุกๆชีวิตคนไทยแล้ว,นายกฯผู้นำต้องไม่กากขี้ขลาดกระจอกไร้ฝีมือ,มีคุณสมบัติซื่อสัตย์ต่อชาติไทยตนและประชาชนตนเอง,เต็มที่ในการดูแลประชาชนพัฒนาคนไทยรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกและคือประเทศทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งทางดีและทางชั่วเลวแบบอเมริกาที่กระทำคุกคามรุกรานหมายอยากได้พังงาเราแบบนั้น.แล้วไร้ฝีมือตั้งรับและรุก ตลอดสมยอมเขมรสาระพัดด้วย เปิดมุกปูทางเขมรให้โอกาสเขมร จัดให้เขมรตลอดที่อังเคิลต้องการ.
    ..ไทยต้องพัฒนาคนพัฒนาตนสามารถผลิตอาวุธป้องกันตนเองได้แล้ว,ตลอดต้องชัดเจนว่าใครคือมิตรคือศัตรูจริงๆ สามัคคีกันจริงทั้งภายในไทยเราเองมิใช่ให้นักการเมืองสร้างความแตกแยกภายในแบบนี้และอันตรายต่ออธิปไตยตนเองด้วย,ระบบปกครองแบบสส.สว.ศาลตุลาการเราและระบบราชการเรามีปัญหาพร้อมสอบตกจริงๆ,ปัญหาทั้งหมดเกิดจากคนภาคการเมืองและคนภาคราชการไม่ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินไทยตนและประชาชนเราทั้งประเทศ.
    ..ระบบปกครองเราล้มเหลวด้านไม่เด็ดขาดประหารชีวิตนักการเมืองที่เป็นภัยต่อประเทศชาติจริงและคนของราชการด้วยเช่นกันที่ใฝ่ไปทางชั่วเลวร่วมกับนักการเมืองร่วมกับพ่อค้านักลงทุนนักธุรกิจกิจการไม่ซื่อต่างๆด้วย.



    https://youtube.com/watch?v=5ElNQsZt6tk&si=Rvjl3gnzriiTzsAB
    วิถีการปกครองของเราต้องเปลี่ยนแปลงใหม่จริงๆกฎหมายมากมายที่ถูกเขียนอย่างอยุติธรรมกดขี่ประชาชนต้องฉีกทิ้งหมดทันทีแล้วเขียนใหม่ในวิถีปกครองแห่งคนดีมิใช่คนชั่วเขียนแบบนักการเมืองปัจจุบันเขียนนี้ที่สมคบคิดกับต่างชาติเลวชั่วเขียนทำลายทำร้ายประเทศไทยคนไทยเสียมากกว่า เด่นชัดคือกฎหมายปล้นบ่อน้ำมันเรา mou43/44ที่เห็นใจชัดๆที่กอด1:200,000ไว้. ..ยุคสมัยใหม่อันตรายมาก aiมาเกี่ยวในทุกๆชีวิตคนไทยแล้ว,นายกฯผู้นำต้องไม่กากขี้ขลาดกระจอกไร้ฝีมือ,มีคุณสมบัติซื่อสัตย์ต่อชาติไทยตนและประชาชนตนเอง,เต็มที่ในการดูแลประชาชนพัฒนาคนไทยรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกและคือประเทศทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งทางดีและทางชั่วเลวแบบอเมริกาที่กระทำคุกคามรุกรานหมายอยากได้พังงาเราแบบนั้น.แล้วไร้ฝีมือตั้งรับและรุก ตลอดสมยอมเขมรสาระพัดด้วย เปิดมุกปูทางเขมรให้โอกาสเขมร จัดให้เขมรตลอดที่อังเคิลต้องการ. ..ไทยต้องพัฒนาคนพัฒนาตนสามารถผลิตอาวุธป้องกันตนเองได้แล้ว,ตลอดต้องชัดเจนว่าใครคือมิตรคือศัตรูจริงๆ สามัคคีกันจริงทั้งภายในไทยเราเองมิใช่ให้นักการเมืองสร้างความแตกแยกภายในแบบนี้และอันตรายต่ออธิปไตยตนเองด้วย,ระบบปกครองแบบสส.สว.ศาลตุลาการเราและระบบราชการเรามีปัญหาพร้อมสอบตกจริงๆ,ปัญหาทั้งหมดเกิดจากคนภาคการเมืองและคนภาคราชการไม่ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินไทยตนและประชาชนเราทั้งประเทศ. ..ระบบปกครองเราล้มเหลวด้านไม่เด็ดขาดประหารชีวิตนักการเมืองที่เป็นภัยต่อประเทศชาติจริงและคนของราชการด้วยเช่นกันที่ใฝ่ไปทางชั่วเลวร่วมกับนักการเมืองร่วมกับพ่อค้านักลงทุนนักธุรกิจกิจการไม่ซื่อต่างๆด้วย. https://youtube.com/watch?v=5ElNQsZt6tk&si=Rvjl3gnzriiTzsAB
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว