• https://www.youtube.com/watch?v=3JxhVsjcrpg
    บทสนทนาเช็คอินที่โรงแรม
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเช็คอินที่โรงแรม
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ
    มาทดสอบความรู้ของเราและพัฒนาทักษะไปด้วยกันเถอะ! คุณพร้อมไหม? มาเริ่มกันเลย!

    #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #โรงแรม

    The conversations from the clip :

    Anna: Good evening! We have a reservation for tonight.
    Receptionist: Good evening! Welcome. Could I have your names, please?
    Mark: Sure. My name is Mark, and this is Anna.
    Receptionist: Thank you. Let me check... Ah, I see your reservation here for a standard double room for two nights.
    Anna: Yes, that's correct.
    Receptionist: May I see your ID or passport for registration?
    Mark: Of course. Here are both of our passports.
    Receptionist: Thank you very much. How would you like to pay – by credit card or cash?
    Anna: We’ll pay by credit card, please.
    Receptionist: All right. Just one moment... Here’s your keycard for Room 310.
    Mark: Thank you! By the way, is breakfast included?
    Receptionist: Yes, it is. Breakfast is served from 7 AM to 10 AM in the dining area.
    Anna: Wonderful. Does the hotel have Wi-Fi, and is it free?
    Receptionist: Yes, Wi-Fi is complimentary. The network name and password are printed on the keycard holder.
    Mark: Perfect. And does the hotel have a pool?
    Receptionist: Yes, our pool is on the rooftop, and it’s open from 8 AM to 8 PM.
    Mark: Great! One last question: Is there a late check-out option?
    Receptionist: Yes, you can check out as late as 2 PM for an additional fee.
    Anna: Perfect. Thanks for all the help!
    Receptionist: My pleasure! Enjoy your stay.

    นักท่องเที่ยว 1 (แอนนา): สวัสดีค่ะ! เรามีการจองสำหรับคืนนี้ค่ะ
    พนักงานต้อนรับ: สวัสดีครับ! ยินดีต้อนรับครับ ขอทราบชื่อของคุณด้วยครับ
    นักท่องเที่ยว 2 (มาร์ค): ได้เลยครับ ผมชื่อมาร์ค และนี่คือแอนนาครับ
    พนักงานต้อนรับ: ขอบคุณมากครับ ให้ผมตรวจสอบก่อนนะครับ... อ๋อ ผมเจอการจองของคุณแล้วครับ เป็นห้องพักแบบดับเบิลมาตรฐานสำหรับสองคืน
    แอนนา: ใช่ค่ะ ถูกต้องเลย
    พนักงานต้อนรับ: ขอเอกสารบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตสำหรับลงทะเบียนด้วยครับ
    มาร์ค: ได้เลยครับ นี่คือพาสปอร์ตของเราสองคนครับ
    พนักงานต้อนรับ: ขอบคุณมากครับ คุณต้องการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือเงินสดครับ
    แอนนา: เราจะชำระด้วยบัตรเครดิตค่ะ
    พนักงานต้อนรับ: ได้เลยครับ สักครู่นะครับ... นี่ครับ กุญแจห้องของคุณ ห้อง 310
    มาร์ค: ขอบคุณครับ! เอ่อ ขอถามหน่อยครับ อาหารเช้ารวมอยู่ในที่พักไหมครับ
    พนักงานต้อนรับ: รวมครับ อาหารเช้าจะเสิร์ฟตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 10 โมงเช้าที่บริเวณห้องอาหารครับ
    แอนนา: เยี่ยมเลยค่ะ โรงแรมมี Wi-Fi ให้บริการไหมคะ และฟรีหรือเปล่า?
    พนักงานต้อนรับ: มีครับ Wi-Fi ให้บริการฟรี ชื่อเครือข่ายและรหัสผ่านจะพิมพ์อยู่ที่ซองใส่คีย์การ์ดครับ
    มาร์ค: สมบูรณ์แบบเลยครับ แล้วโรงแรมมีสระว่ายน้ำไหมครับ
    พนักงานต้อนรับ: มีครับ สระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้นดาดฟ้า เปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่มครับ
    มาร์ค: เยี่ยมมากครับ! อีกคำถามหนึ่ง มีบริการเช็กเอาต์ล่าช้าไหมครับ?
    พนักงานต้อนรับ: มีครับ คุณสามารถเช็กเอาต์ได้ถึงบ่ายสอง โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
    แอนนา: เยี่ยมไปเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะ
    พนักงานต้อนรับ: ยินดีอย่างยิ่งครับ ขอให้คุณมีความสุขกับการเข้าพักนะครับ

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Reservation (เรซ-เซอร์-เว-ชั่น) n. แปลว่า การจอง
    Receptionist (รี-เซพ-ชั่น-นิสท์) n. แปลว่า พนักงานต้อนรับ
    Standard (สแตน-เดิร์ด) adj. แปลว่า มาตรฐาน
    Double room (ดับ-เบิล รูม) n. แปลว่า ห้องพักสำหรับสองคน
    ID (ไอ-ดี) n. แปลว่า บัตรประจำตัว
    Passport (พาส-พอร์ท) n. แปลว่า หนังสือเดินทาง
    Registration (เรจ-จิส-เทร-ชั่น) n. แปลว่า การลงทะเบียน
    Complimentary (คอม-พลิ-เมน-ทา-รี) adj. แปลว่า ไม่มีค่าใช้จ่าย
    Keycard (คีย์-การ์ด) n. แปลว่า บัตรกุญแจ
    Dining area (ได-นิ่ง แอ-เรีย) n. แปลว่า พื้นที่รับประทานอาหาร
    Rooftop (รูฟ-ท็อป) n. แปลว่า ดาดฟ้า
    Included (อิน-คลูด-เด็ด) adj. แปลว่า รวมอยู่ด้วย
    Fee (ฟี) n. แปลว่า ค่าธรรมเนียม
    Check-out (เช็ค-เอาท์) v. แปลว่า เช็กเอาต์/ออกจากโรงแรม
    Complimentary Wi-Fi (คอม-พลิ-เมน-ทา-รี ไว-ไฟ) n. แปลว่า ไวไฟฟรี
    https://www.youtube.com/watch?v=3JxhVsjcrpg บทสนทนาเช็คอินที่โรงแรม (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเช็คอินที่โรงแรม มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ มาทดสอบความรู้ของเราและพัฒนาทักษะไปด้วยกันเถอะ! คุณพร้อมไหม? มาเริ่มกันเลย! #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #โรงแรม The conversations from the clip : Anna: Good evening! We have a reservation for tonight. Receptionist: Good evening! Welcome. Could I have your names, please? Mark: Sure. My name is Mark, and this is Anna. Receptionist: Thank you. Let me check... Ah, I see your reservation here for a standard double room for two nights. Anna: Yes, that's correct. Receptionist: May I see your ID or passport for registration? Mark: Of course. Here are both of our passports. Receptionist: Thank you very much. How would you like to pay – by credit card or cash? Anna: We’ll pay by credit card, please. Receptionist: All right. Just one moment... Here’s your keycard for Room 310. Mark: Thank you! By the way, is breakfast included? Receptionist: Yes, it is. Breakfast is served from 7 AM to 10 AM in the dining area. Anna: Wonderful. Does the hotel have Wi-Fi, and is it free? Receptionist: Yes, Wi-Fi is complimentary. The network name and password are printed on the keycard holder. Mark: Perfect. And does the hotel have a pool? Receptionist: Yes, our pool is on the rooftop, and it’s open from 8 AM to 8 PM. Mark: Great! One last question: Is there a late check-out option? Receptionist: Yes, you can check out as late as 2 PM for an additional fee. Anna: Perfect. Thanks for all the help! Receptionist: My pleasure! Enjoy your stay. นักท่องเที่ยว 1 (แอนนา): สวัสดีค่ะ! เรามีการจองสำหรับคืนนี้ค่ะ พนักงานต้อนรับ: สวัสดีครับ! ยินดีต้อนรับครับ ขอทราบชื่อของคุณด้วยครับ นักท่องเที่ยว 2 (มาร์ค): ได้เลยครับ ผมชื่อมาร์ค และนี่คือแอนนาครับ พนักงานต้อนรับ: ขอบคุณมากครับ ให้ผมตรวจสอบก่อนนะครับ... อ๋อ ผมเจอการจองของคุณแล้วครับ เป็นห้องพักแบบดับเบิลมาตรฐานสำหรับสองคืน แอนนา: ใช่ค่ะ ถูกต้องเลย พนักงานต้อนรับ: ขอเอกสารบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตสำหรับลงทะเบียนด้วยครับ มาร์ค: ได้เลยครับ นี่คือพาสปอร์ตของเราสองคนครับ พนักงานต้อนรับ: ขอบคุณมากครับ คุณต้องการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือเงินสดครับ แอนนา: เราจะชำระด้วยบัตรเครดิตค่ะ พนักงานต้อนรับ: ได้เลยครับ สักครู่นะครับ... นี่ครับ กุญแจห้องของคุณ ห้อง 310 มาร์ค: ขอบคุณครับ! เอ่อ ขอถามหน่อยครับ อาหารเช้ารวมอยู่ในที่พักไหมครับ พนักงานต้อนรับ: รวมครับ อาหารเช้าจะเสิร์ฟตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 10 โมงเช้าที่บริเวณห้องอาหารครับ แอนนา: เยี่ยมเลยค่ะ โรงแรมมี Wi-Fi ให้บริการไหมคะ และฟรีหรือเปล่า? พนักงานต้อนรับ: มีครับ Wi-Fi ให้บริการฟรี ชื่อเครือข่ายและรหัสผ่านจะพิมพ์อยู่ที่ซองใส่คีย์การ์ดครับ มาร์ค: สมบูรณ์แบบเลยครับ แล้วโรงแรมมีสระว่ายน้ำไหมครับ พนักงานต้อนรับ: มีครับ สระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้นดาดฟ้า เปิดให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่มครับ มาร์ค: เยี่ยมมากครับ! อีกคำถามหนึ่ง มีบริการเช็กเอาต์ล่าช้าไหมครับ? พนักงานต้อนรับ: มีครับ คุณสามารถเช็กเอาต์ได้ถึงบ่ายสอง โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ แอนนา: เยี่ยมไปเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะ พนักงานต้อนรับ: ยินดีอย่างยิ่งครับ ขอให้คุณมีความสุขกับการเข้าพักนะครับ Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Reservation (เรซ-เซอร์-เว-ชั่น) n. แปลว่า การจอง Receptionist (รี-เซพ-ชั่น-นิสท์) n. แปลว่า พนักงานต้อนรับ Standard (สแตน-เดิร์ด) adj. แปลว่า มาตรฐาน Double room (ดับ-เบิล รูม) n. แปลว่า ห้องพักสำหรับสองคน ID (ไอ-ดี) n. แปลว่า บัตรประจำตัว Passport (พาส-พอร์ท) n. แปลว่า หนังสือเดินทาง Registration (เรจ-จิส-เทร-ชั่น) n. แปลว่า การลงทะเบียน Complimentary (คอม-พลิ-เมน-ทา-รี) adj. แปลว่า ไม่มีค่าใช้จ่าย Keycard (คีย์-การ์ด) n. แปลว่า บัตรกุญแจ Dining area (ได-นิ่ง แอ-เรีย) n. แปลว่า พื้นที่รับประทานอาหาร Rooftop (รูฟ-ท็อป) n. แปลว่า ดาดฟ้า Included (อิน-คลูด-เด็ด) adj. แปลว่า รวมอยู่ด้วย Fee (ฟี) n. แปลว่า ค่าธรรมเนียม Check-out (เช็ค-เอาท์) v. แปลว่า เช็กเอาต์/ออกจากโรงแรม Complimentary Wi-Fi (คอม-พลิ-เมน-ทา-รี ไว-ไฟ) n. แปลว่า ไวไฟฟรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 465 มุมมอง 0 รีวิว
  • Blue Suede Shoes
    เพลงนี้ถูกบันทึกไว้ครั้งแรกโดยผู้แต่งที่ไม่เต็มใจนักคือนักร้องคันทรี คาร์ล เพอร์กินส์.
    ..เป็นเพลงแรกด้านหนึ่งของอัลบั้มเปิดตัวชื่อเดียวกันของเอลวิส เพรสลีย์ในปี 1956 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยธรรมชาติแล้ว คนรักดนตรีหลายคนจึงสันนิษฐานว่า“Blue Suede Shoes” เป็นผลงานของเอลวิส แต่เพลงนี้เป็นผลงานของนักบุกเบิกดนตรีร็อกแอนด์โรลที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก และมีต้นกำเนิดที่ซับซ้อนและมีอารมณ์ขันอย่างประหลาด
    “Blue Suede Shoes” ถูกเขียนขึ้นอย่างไม่เต็มใจโดยนักร้องและนักแต่งเพลงชาวเทนเนสซีคาร์ล เพอร์กินส์ เดิมทีเขาเป็นนักร้องแนวคันทรี แต่การผสมผสานระหว่างร็อกแอนด์โรลและดนตรีพื้นบ้านแบบฮิลบิลลี่ของเทือกเขาแอปพาเลเชียนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาทำให้เขาได้รับฉายาว่าราชาแห่งร็อกกาบิลลี่ในไม่ช้า
    เพอร์กินส์เซ็นสัญญากับค่ายเพลงซันเรคคอร์ดในปี 1954 และในปีถัดมา ก็ได้เล่นดนตรีร่วมกับเพรสลีย์และจอห์นนี่ แคชในอาร์คันซอหลายครั้ง ขณะอยู่หลังเวทีการแสดงในเมืองพาร์กินส์ แคชได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลประหลาดที่เขาพบในเยอรมนีระหว่างที่รับราชการทหารให้เพอร์กินส์ฟัง
    แคชเล่าถึงจ่าสิบเอกผิวสีชื่อซีวี ไวท์ ซึ่งอ้างว่าอักษรย่อของเขาหมายถึง “กำมะหยี่แชมเปญ” ในคืนนอกเวลางานในมิวนิก ไวท์มักจะจินตนาการว่ารองเท้าทหารสีดำตามระเบียบของเขาเป็นรองเท้าหนังกลับสีน้ำเงินที่ดูเก๋ไก๋ และเตือนทุกคนที่มาเยี่ยมชมไม่ให้เหยียบรองเท้าเหล่านี้
    “คุณควรเขียนเพลงเกี่ยวกับเรื่องนั้น!” แคชเสนอให้เพอร์กินส์
    “แต่ฉันไม่รู้เรื่องรองเท้าเลย!” เพอร์กินส์ประท้วง
    แคชได้ปลูกเมล็ดพันธุ์ไว้แล้ว ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เพอร์กินส์ได้ยินเสียงดังขึ้นขณะกำลังเต้นรำในวิทยาลัย "เฮ้ อย่าเหยียบรองเท้าหนังกลับของฉัน!" และเห็นนักเรียนคนหนึ่งกำลังตำหนิคู่เดตของเขาที่ทำรองเท้าของเขาถลอก เขาเริ่มเขียน "รองเท้าหนังกลับสีน้ำเงิน" ในคืนนั้น โดยใช้กระสอบใส่มันฝรั่งสีน้ำตาลที่สะดวก
    เพอร์กินส์เริ่มต้นด้วยกลอนเด็กของสหรัฐอเมริกา: “หนึ่งเพื่อเงิน สองเพื่อการแสดง!” ก่อนที่จะแสดงรายการชะตากรรมที่เขาอยากอดทนมากกว่าที่จะให้ใครมาเหยียบรองเท้าของเขา: “คุณสามารถล้มฉันลงได้ เหยียบหน้าฉัน…” ความไม่เหมาะสมที่ตลกขบขันเหล่านี้ยิ่งเลวร้ายลง: “คุณสามารถเผาบ้านของฉัน ขโมยรถของฉัน ดื่มเหล้าของฉันจากโถผลไม้เก่า!”
    “Blue Suede Shoes” เป็นเพลงที่สนุกสนานและได้รับความนิยมอย่างมาก ออกจำหน่ายในวันปีใหม่ปี 1956 ขึ้นชาร์ตทั้งเพลงคันทรีและเพลง แนวริธึมแอนด์บลูส์ และขึ้นอันดับสองในชาร์ตเพลงป๊อปหลักของ Billboard ในเดือนมีนาคมปีนั้น แต่แล้วโศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้นกับ Carl Perkins
    ขณะที่เพอร์กินส์กำลังเดินทางไปแสดงเพลง “Blue Suede Shoes” ในรายการโทรทัศน์ของเพอร์รี โคโม เพอร์กินส์ประสบอุบัติเหตุทางถนนที่ร้ายแรง คนขับรถบรรทุกเสียชีวิต และนักร้องได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่เพอร์กินส์นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากไม่สามารถโปรโมตซิงเกิลของเขาได้ เพลงดังกล่าวก็ถูกแซงหน้าโดยเพลง “Heartbreak Hotel” ซึ่งเป็นเพลงเปิดตัวของเอลวิสในสังกัดค่ายเพลงใหญ่
    เพรสลีย์คัฟเวอร์เพลง "Blue Suede Shoes" ในอัลบั้มของเขาในเดือนเดียวกันนั้น และค่ายเพลงของเขาต้องการที่จะปล่อยเพลงนี้ออกมาเป็นซิงเกิล ในตอนแรกเขาไม่อยากแข่งขันกับเพื่อนเรื่องยอดขาย แต่เขาก็ยอมแพ้เมื่อตระหนักว่าค่าลิขสิทธิ์การแต่งเพลงจะช่วยสนับสนุนเพอร์กินส์ในขณะที่เขากำลังพักฟื้น เวอร์ชันที่คล้ายกันมากของเอลวิสก็ขึ้นอันดับ 20

    ปกอัลบั้มอื่นๆ ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ The Beatles เป็นแฟนตัวยงของ Perkins; Paul McCartney ยืนยันว่า "ถ้าไม่มี Carl Perkins ก็คงไม่มี Beatles" John Lennon เล่นเพลง "Blue Suede Shoes" ในวงสกิฟเฟิลก่อนจะโด่งดังของเขาอย่าง The Quarrymen; และในวง The Beatles; ในฐานะศิลปินเดี่ยว; และกับ Yoko Ono ในวง Plastic Ono เลนนอนยังรับหน้าที่ร้องนำในเวอร์ชันแจมเซสชั่น ของเพลงนี้ในช่วง Let It Be ของ The Beatles ตามที่แสดงในสารคดีของปีเตอร์ แจ็กสันในปี 2021
    The Dave Clark Five เล่นเปียโนได้อย่างสนุกสนาน Uriah Heep ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยดนตรีแนวพร็อก-ร็อกสุดมันส์ Motörhead ร้องได้อย่างเต็มที่ โดยนักร้องนำ Lemmy ดูเหมือนจะกลั้วคอด้วยเสียงเพลงกรวด Black Sabbath เร่งจังหวะจากความมึนงงตามปกติ และกระตุ้นจินตนาการอันน่ายินดีของนักร้องนำ Ozzy Osbourne ที่สวมรองเท้าหนังกลับสีน้ำเงิน
    Ry Cooder เล่นเพลง “Blue Suede Shoes” จนกลายเป็นหนึ่งในผลงานการเล่นกีตาร์สไลด์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ดาราฝรั่งเศสจอห์นนี่ ฮัลลีเดย์ ร้องเพลงกอลและร้องคาราโอเกะของเอลวิสไปทั่ว และในปี 2014 สาวกเอลวิสคนแรกของอังกฤษCliff Richard ร้องเพลงคู่กับ Presley จากเพลงฮิตปี 1956 ของเขาอย่างภาคภูมิใจ
    “Blue Suede Shoes” เป็นเพลงแรกของนักร้องคันทรี่ที่มียอดขายกว่าล้านชุดและได้รับความนิยมในกระแสหลัก แต่เพลงนี้ยังคงเชื่อมโยงกับเอลวิส เพรสลีย์ตลอดไป เพอร์กินส์ยอมรับอย่างภาคภูมิใจว่าเอลวิสมีเสน่ห์ดึงดูดใจและมีคุณสมบัติ "X" ซูเปอร์สตาร์ ซึ่งแม้ว่าเขาจะเป็นแค่คนพื้นเพธรรมดาๆ ก็ตาม
    “เอลวิสมีทุกอย่าง” เขากล่าวในบทสัมภาษณ์ “เขาทั้งหน้าตา ท่าทาง ผู้จัดการ และพรสวรรค์ เอลวิสไว้เคราข้างแก้ม ท่าเต้นที่ฉูดฉาด และไม่มีแหวนบนนิ้วของเขา ฉันมีลูกสามคน!”
    อย่างน้อยเขาก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับรองเท้า.
    Blue Suede Shoes เพลงนี้ถูกบันทึกไว้ครั้งแรกโดยผู้แต่งที่ไม่เต็มใจนักคือนักร้องคันทรี คาร์ล เพอร์กินส์. ..เป็นเพลงแรกด้านหนึ่งของอัลบั้มเปิดตัวชื่อเดียวกันของเอลวิส เพรสลีย์ในปี 1956 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยธรรมชาติแล้ว คนรักดนตรีหลายคนจึงสันนิษฐานว่า“Blue Suede Shoes” เป็นผลงานของเอลวิส แต่เพลงนี้เป็นผลงานของนักบุกเบิกดนตรีร็อกแอนด์โรลที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก และมีต้นกำเนิดที่ซับซ้อนและมีอารมณ์ขันอย่างประหลาด “Blue Suede Shoes” ถูกเขียนขึ้นอย่างไม่เต็มใจโดยนักร้องและนักแต่งเพลงชาวเทนเนสซีคาร์ล เพอร์กินส์ เดิมทีเขาเป็นนักร้องแนวคันทรี แต่การผสมผสานระหว่างร็อกแอนด์โรลและดนตรีพื้นบ้านแบบฮิลบิลลี่ของเทือกเขาแอปพาเลเชียนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาทำให้เขาได้รับฉายาว่าราชาแห่งร็อกกาบิลลี่ในไม่ช้า เพอร์กินส์เซ็นสัญญากับค่ายเพลงซันเรคคอร์ดในปี 1954 และในปีถัดมา ก็ได้เล่นดนตรีร่วมกับเพรสลีย์และจอห์นนี่ แคชในอาร์คันซอหลายครั้ง ขณะอยู่หลังเวทีการแสดงในเมืองพาร์กินส์ แคชได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลประหลาดที่เขาพบในเยอรมนีระหว่างที่รับราชการทหารให้เพอร์กินส์ฟัง แคชเล่าถึงจ่าสิบเอกผิวสีชื่อซีวี ไวท์ ซึ่งอ้างว่าอักษรย่อของเขาหมายถึง “กำมะหยี่แชมเปญ” ในคืนนอกเวลางานในมิวนิก ไวท์มักจะจินตนาการว่ารองเท้าทหารสีดำตามระเบียบของเขาเป็นรองเท้าหนังกลับสีน้ำเงินที่ดูเก๋ไก๋ และเตือนทุกคนที่มาเยี่ยมชมไม่ให้เหยียบรองเท้าเหล่านี้ “คุณควรเขียนเพลงเกี่ยวกับเรื่องนั้น!” แคชเสนอให้เพอร์กินส์ “แต่ฉันไม่รู้เรื่องรองเท้าเลย!” เพอร์กินส์ประท้วง แคชได้ปลูกเมล็ดพันธุ์ไว้แล้ว ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เพอร์กินส์ได้ยินเสียงดังขึ้นขณะกำลังเต้นรำในวิทยาลัย "เฮ้ อย่าเหยียบรองเท้าหนังกลับของฉัน!" และเห็นนักเรียนคนหนึ่งกำลังตำหนิคู่เดตของเขาที่ทำรองเท้าของเขาถลอก เขาเริ่มเขียน "รองเท้าหนังกลับสีน้ำเงิน" ในคืนนั้น โดยใช้กระสอบใส่มันฝรั่งสีน้ำตาลที่สะดวก เพอร์กินส์เริ่มต้นด้วยกลอนเด็กของสหรัฐอเมริกา: “หนึ่งเพื่อเงิน สองเพื่อการแสดง!” ก่อนที่จะแสดงรายการชะตากรรมที่เขาอยากอดทนมากกว่าที่จะให้ใครมาเหยียบรองเท้าของเขา: “คุณสามารถล้มฉันลงได้ เหยียบหน้าฉัน…” ความไม่เหมาะสมที่ตลกขบขันเหล่านี้ยิ่งเลวร้ายลง: “คุณสามารถเผาบ้านของฉัน ขโมยรถของฉัน ดื่มเหล้าของฉันจากโถผลไม้เก่า!” “Blue Suede Shoes” เป็นเพลงที่สนุกสนานและได้รับความนิยมอย่างมาก ออกจำหน่ายในวันปีใหม่ปี 1956 ขึ้นชาร์ตทั้งเพลงคันทรีและเพลง แนวริธึมแอนด์บลูส์ และขึ้นอันดับสองในชาร์ตเพลงป๊อปหลักของ Billboard ในเดือนมีนาคมปีนั้น แต่แล้วโศกนาฏกรรมก็เกิดขึ้นกับ Carl Perkins ขณะที่เพอร์กินส์กำลังเดินทางไปแสดงเพลง “Blue Suede Shoes” ในรายการโทรทัศน์ของเพอร์รี โคโม เพอร์กินส์ประสบอุบัติเหตุทางถนนที่ร้ายแรง คนขับรถบรรทุกเสียชีวิต และนักร้องได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่เพอร์กินส์นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากไม่สามารถโปรโมตซิงเกิลของเขาได้ เพลงดังกล่าวก็ถูกแซงหน้าโดยเพลง “Heartbreak Hotel” ซึ่งเป็นเพลงเปิดตัวของเอลวิสในสังกัดค่ายเพลงใหญ่ เพรสลีย์คัฟเวอร์เพลง "Blue Suede Shoes" ในอัลบั้มของเขาในเดือนเดียวกันนั้น และค่ายเพลงของเขาต้องการที่จะปล่อยเพลงนี้ออกมาเป็นซิงเกิล ในตอนแรกเขาไม่อยากแข่งขันกับเพื่อนเรื่องยอดขาย แต่เขาก็ยอมแพ้เมื่อตระหนักว่าค่าลิขสิทธิ์การแต่งเพลงจะช่วยสนับสนุนเพอร์กินส์ในขณะที่เขากำลังพักฟื้น เวอร์ชันที่คล้ายกันมากของเอลวิสก็ขึ้นอันดับ 20 ปกอัลบั้มอื่นๆ ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ The Beatles เป็นแฟนตัวยงของ Perkins; Paul McCartney ยืนยันว่า "ถ้าไม่มี Carl Perkins ก็คงไม่มี Beatles" John Lennon เล่นเพลง "Blue Suede Shoes" ในวงสกิฟเฟิลก่อนจะโด่งดังของเขาอย่าง The Quarrymen; และในวง The Beatles; ในฐานะศิลปินเดี่ยว; และกับ Yoko Ono ในวง Plastic Ono เลนนอนยังรับหน้าที่ร้องนำในเวอร์ชันแจมเซสชั่น ของเพลงนี้ในช่วง Let It Be ของ The Beatles ตามที่แสดงในสารคดีของปีเตอร์ แจ็กสันในปี 2021 The Dave Clark Five เล่นเปียโนได้อย่างสนุกสนาน Uriah Heep ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยดนตรีแนวพร็อก-ร็อกสุดมันส์ Motörhead ร้องได้อย่างเต็มที่ โดยนักร้องนำ Lemmy ดูเหมือนจะกลั้วคอด้วยเสียงเพลงกรวด Black Sabbath เร่งจังหวะจากความมึนงงตามปกติ และกระตุ้นจินตนาการอันน่ายินดีของนักร้องนำ Ozzy Osbourne ที่สวมรองเท้าหนังกลับสีน้ำเงิน Ry Cooder เล่นเพลง “Blue Suede Shoes” จนกลายเป็นหนึ่งในผลงานการเล่นกีตาร์สไลด์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขา ดาราฝรั่งเศสจอห์นนี่ ฮัลลีเดย์ ร้องเพลงกอลและร้องคาราโอเกะของเอลวิสไปทั่ว และในปี 2014 สาวกเอลวิสคนแรกของอังกฤษCliff Richard ร้องเพลงคู่กับ Presley จากเพลงฮิตปี 1956 ของเขาอย่างภาคภูมิใจ “Blue Suede Shoes” เป็นเพลงแรกของนักร้องคันทรี่ที่มียอดขายกว่าล้านชุดและได้รับความนิยมในกระแสหลัก แต่เพลงนี้ยังคงเชื่อมโยงกับเอลวิส เพรสลีย์ตลอดไป เพอร์กินส์ยอมรับอย่างภาคภูมิใจว่าเอลวิสมีเสน่ห์ดึงดูดใจและมีคุณสมบัติ "X" ซูเปอร์สตาร์ ซึ่งแม้ว่าเขาจะเป็นแค่คนพื้นเพธรรมดาๆ ก็ตาม “เอลวิสมีทุกอย่าง” เขากล่าวในบทสัมภาษณ์ “เขาทั้งหน้าตา ท่าทาง ผู้จัดการ และพรสวรรค์ เอลวิสไว้เคราข้างแก้ม ท่าเต้นที่ฉูดฉาด และไม่มีแหวนบนนิ้วของเขา ฉันมีลูกสามคน!” อย่างน้อยเขาก็ได้เรียนรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับรองเท้า.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 587 มุมมอง 98 0 รีวิว
  • ไทย-มาเลย์เจาะกลุ่ม Self Drive Tourism

    นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 23 ต.ค. 2567 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเยือนกว่า 4 ล้านคน โดยพบว่า 49% เลือกเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านด่านสะเดา จ.สงขลา ทำให้รัฐบาลไทยขยายเวลายกเว้นแบบฟอร์ม ตม.6 ผ่าน 4 ด่านชายแดนทางบกระหว่างไทย-มาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2567 ถึง 30 เม.ย. 2568 แต่สำหรับคนไทยมาเยือนประเทศมาเลเซีย ข้อมูลจากการท่องเที่ยวมาเลเซีย เดือน ส.ค. 2567 อยู่ที่ 1.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

    ทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับการท่องเที่ยวมาเลเซีย ร่วมกันจัดโครงการ Malaysia & Thailand Self Drive Tourism เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบขับรถข้ามชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเปิดตัวคู่มือแผนที่เส้นทางท่องเที่ยว Self-Drive เชื่อมโยงชายแดนไทยและมาเลเซีย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในเส้นทาง

    ททท. คาดว่าในปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมาเยือนไทยไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน ส่วนคนไทยเดินทางไปเยือนมาเลเซียไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน รวมแล้วไม่น้อยกว่า 7 ล้านคน ส่วนการท่องเที่ยวมาเลเซีย ตั้งเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวจากไทยไม่น้อยกว่า 2.3 ล้านคนในปี 2568 และกำลังจะมีแคมเปญ Visit Malaysia 2026 ในปี 2569 โดยมีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก 35.6 ล้านคน

    สำหรับคู่มือ Malaysia & Thailand Self-Drive ของการท่องเที่ยวมาเลเซีย นำเสนอแผนที่เส้นทางท่องเที่ยวใน 4 รัฐของมาเลเซีย ได้แก่ รัฐเปอร์ลิส (Perlis) รัฐเคดะห์ (Kedah) รัฐปีนัง (Penang) และรัฐเปรัก (Perak) ทั้งหมด 28 แห่ง พร้อมกับคิวอาร์โค้ดเพื่อค้นหาโรงแรมที่พักจาก The Malaysia Budget & Business Hotel Association (MyBHA) ข้อมูลจุดพักรถ R&R (Rest & Relaxation) ปั๊มน้ำมันและสถานที่ชาร์จรถยนต์ EV บนทางพิเศษเหนือ-ใต้หมายเลข 1 (E1) และข้อมูลที่จำเป็นอื่นๆ

    นักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ https://www.malaysia.travel/explore/malaysia-thailand-self-drive

    อนึ่ง สำหรับรถยนต์จากไทยไปมาเลเซีย ผู้ใช้รถจะต้องเป็นเจ้าของรถโดยตรง หากเป็นรถติดไฟแนนซ์ส่วนใหญ่มักจะไม่อนุญาต โดยความเข้มของฟิล์มกรองแสงต้องไม่เกิน 40% ที่หน้าด่านสะเดาจะมีเอเจนซี่ ให้บริการรับทำเอกสารและประกันรถยนต์ ซึ่งจะได้แผ่นป้ายวงกลม (ICP) หรือสำเนาใบอนุญาตนำเข้ายานพาหนะของมาเลเซีย ประกันภัยรถยนต์มาเลเซีย และสติกเกอร์ทะเบียนรถยนต์ภาษาอังกฤษ ส่วนใบขับขี่ใช้ของประเทศไทยได้ ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล

    #Newskit #SelfDriveTourism #ThaiMalaysia
    ไทย-มาเลย์เจาะกลุ่ม Self Drive Tourism นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 23 ต.ค. 2567 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเยือนกว่า 4 ล้านคน โดยพบว่า 49% เลือกเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านด่านสะเดา จ.สงขลา ทำให้รัฐบาลไทยขยายเวลายกเว้นแบบฟอร์ม ตม.6 ผ่าน 4 ด่านชายแดนทางบกระหว่างไทย-มาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2567 ถึง 30 เม.ย. 2568 แต่สำหรับคนไทยมาเยือนประเทศมาเลเซีย ข้อมูลจากการท่องเที่ยวมาเลเซีย เดือน ส.ค. 2567 อยู่ที่ 1.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับการท่องเที่ยวมาเลเซีย ร่วมกันจัดโครงการ Malaysia & Thailand Self Drive Tourism เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบขับรถข้ามชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเปิดตัวคู่มือแผนที่เส้นทางท่องเที่ยว Self-Drive เชื่อมโยงชายแดนไทยและมาเลเซีย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในเส้นทาง ททท. คาดว่าในปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมาเยือนไทยไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน ส่วนคนไทยเดินทางไปเยือนมาเลเซียไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน รวมแล้วไม่น้อยกว่า 7 ล้านคน ส่วนการท่องเที่ยวมาเลเซีย ตั้งเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวจากไทยไม่น้อยกว่า 2.3 ล้านคนในปี 2568 และกำลังจะมีแคมเปญ Visit Malaysia 2026 ในปี 2569 โดยมีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก 35.6 ล้านคน สำหรับคู่มือ Malaysia & Thailand Self-Drive ของการท่องเที่ยวมาเลเซีย นำเสนอแผนที่เส้นทางท่องเที่ยวใน 4 รัฐของมาเลเซีย ได้แก่ รัฐเปอร์ลิส (Perlis) รัฐเคดะห์ (Kedah) รัฐปีนัง (Penang) และรัฐเปรัก (Perak) ทั้งหมด 28 แห่ง พร้อมกับคิวอาร์โค้ดเพื่อค้นหาโรงแรมที่พักจาก The Malaysia Budget & Business Hotel Association (MyBHA) ข้อมูลจุดพักรถ R&R (Rest & Relaxation) ปั๊มน้ำมันและสถานที่ชาร์จรถยนต์ EV บนทางพิเศษเหนือ-ใต้หมายเลข 1 (E1) และข้อมูลที่จำเป็นอื่นๆ นักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ https://www.malaysia.travel/explore/malaysia-thailand-self-drive อนึ่ง สำหรับรถยนต์จากไทยไปมาเลเซีย ผู้ใช้รถจะต้องเป็นเจ้าของรถโดยตรง หากเป็นรถติดไฟแนนซ์ส่วนใหญ่มักจะไม่อนุญาต โดยความเข้มของฟิล์มกรองแสงต้องไม่เกิน 40% ที่หน้าด่านสะเดาจะมีเอเจนซี่ ให้บริการรับทำเอกสารและประกันรถยนต์ ซึ่งจะได้แผ่นป้ายวงกลม (ICP) หรือสำเนาใบอนุญาตนำเข้ายานพาหนะของมาเลเซีย ประกันภัยรถยนต์มาเลเซีย และสติกเกอร์ทะเบียนรถยนต์ภาษาอังกฤษ ส่วนใบขับขี่ใช้ของประเทศไทยได้ ไม่ต้องทำใบขับขี่สากล #Newskit #SelfDriveTourism #ThaiMalaysia
    Like
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 527 มุมมอง 0 รีวิว
  • บุฟเฟต์ห้องอาหารจีน The Emperor Montien Riverside Hotel ร้านตกแต่งรอบ ๆ ด้วยกระจก ทำให้รู้สึกปลอดโปร่งและเห็นวิวแม่นํ้าเจ้าพระยาเป็นแนวโค้งได้อย่างสวยงาม บอกเลยว่าเป็นบุฟเฟต์อาหารจีนที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมียม มีเมนูหลากหลายกว่า 50 เมนู อาทิ เป็ดปักกิ่ง ติ่มซำ เป็ดย่าง และอื่น ๆ เรียกได้ว่าถูกใจสายอาหารจีนแบบต้นตำรับแท้ ๆ แน่นอน

    พิกัด : 372 โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ ชั้น 4 ถ.พระราม 3 บางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร 10120
    เวลาเปิด – ปิด : 09:00 – 22:00 น.

    #บุฟเฟ่ต์บรรยากาศดี #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    บุฟเฟต์ห้องอาหารจีน The Emperor Montien Riverside Hotel ร้านตกแต่งรอบ ๆ ด้วยกระจก ทำให้รู้สึกปลอดโปร่งและเห็นวิวแม่นํ้าเจ้าพระยาเป็นแนวโค้งได้อย่างสวยงาม บอกเลยว่าเป็นบุฟเฟต์อาหารจีนที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมียม มีเมนูหลากหลายกว่า 50 เมนู อาทิ เป็ดปักกิ่ง ติ่มซำ เป็ดย่าง และอื่น ๆ เรียกได้ว่าถูกใจสายอาหารจีนแบบต้นตำรับแท้ ๆ แน่นอน พิกัด : 372 โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ ชั้น 4 ถ.พระราม 3 บางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร 10120 เวลาเปิด – ปิด : 09:00 – 22:00 น. #บุฟเฟ่ต์บรรยากาศดี #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2024.06.29 📸 IU HEREH WORLD TOUR IN BANGKOK

    บันทึกไว้ว่า ครั้งหนึ่งผมได้ไปฟังพี่ลี่ (IU) ร้องเพลงสด ๆ ครั้งแรกตลอดการเป็นยูแอนา 5 ปีของผม (นับจากวันที่ฉายละคร Hotel Del Luna โดนนายหญิงจางตกเข้าด้อมยูแอนาก็เรื่องนี้แหละ🥰)
    จากวันที่ผมได้ไปดูคอนเสิร์ต Golden Hour (ในโรงหนังนะ) ทำให้ผมรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากและเกิดความคิดที่ว่า ถ้าวันนึงผมได้ไปลองสัมผัสบรรยากาศคอนเสิร์ตพี่ลี่แบบจริง ๆ จะรู้สึกประทับใจมากแค่ไหน ต้องหาโอกาสไปเจอพี่ลี่ให้ได้ และวันนั้นก็มาถึง...
    ครั้งนี้ผมก็ได้ไปฟังพี่ลี่ร้องเพลงสด ๆ ในฮอลล์แล้ว บอกเลยว่า เป็นคอนเสิร์ตที่โคตรเต็มอิ่ม อิ่มอกอิ่มใจ ประทับใจ อบอุ่นมาก ๆ สนุกทุกช่วงจริง ๆ พี่ลี่ตัวจริงคือสวยมาก น่ารักสุด ๆ ร้องเพลงโคตรเพราะ หูเคลือบทองคำเรียบร้อย แถมพี่ลี่ก็พูดไทยค่อนข้างเยอะเลย เก่งมาก ๆ แต่พูดไทยอย่างเดียวคงไม่พอ พี่ลี่เลยจัดเพลงไทยให้ 1 เพลง คือเพลง "รักแรก" ของ "นนท์ ธนน" ซึ่งเป็นเพลงโปรดที่ผมชอบมาก ๆ ด้วย เซอร์ไพรส์สุด ๆ แต่ก่อนถึงวันคอนเสิร์ต ผมก็ลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าพี่ลี่มีร้องเพลงไทย ก็คงอยากให้ร้องเพลงรักแรกมากที่สุด มันคงจะเป็นอะไรที่เพราะน่าดูเลยแหละ แล้วถึงวันคอนเสิร์ต พี่ลี่ก็ร้องเพลงนี้จริง ๆ สำหรับผมคือเซอร์ไพรส์คูณสองไปเลย💖
    นอกจากพี่ลี่จะสวย น่ารัก ใจดี เฟรนลี่ ร้องเพราะ พี่ลี่ก็ยังคอยส่งพลังบวกให้กับยูแอนาทุกคนรวมถึงผมด้วย แล้วยูแอนาเองก็ส่งพลังบวกกลับไปให้พี่ลี่เช่นกัน
    เรียกว่า คอนเสิร์ตนี้ คุ้มค่า สมการรอคอยจริง ๆ หลังจากที่ต้องรอพี่ลี่กลับมาไทยถึง 5 ปี และครั้งนี้ผมกับพี่ลี่ เราก็ได้เจอกันแล้ว
    ผมก็เป็นยูแอนาคนนึงที่อาจจะเป็นเหมือนหลายคน ไม่ได้ฟังหมดทุกเพลง ไม่ได้ตามดูละครทุกเรื่อง แต่ผมชอบพี่ลี่ในความเป็นพี่ลี่ ทุกครั้งที่ได้ฟังเพลงของพี่ลี่ ก็เหมือนได้ชาร์ตแบตไปในตัวด้วย มีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป😊
    สุดท้ายนี้ ขอบคุณพี่ลี่ที่มาเล่นคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย ถ้ามีโอกาสครั้งหน้า ผมก็พร้อมที่จะกลับไปหาพี่อีก และหลังจากนี้ก็จะติดตามผลงานของพี่ลี่ต่อไปเรื่อย ๆ แน่นอน💝
    ไว้เจอกันใหม่นะครับ🥰

    #HEREH_WORLD_TOUR_IN_BKK
    2024.06.29 📸 IU HEREH WORLD TOUR IN BANGKOK บันทึกไว้ว่า ครั้งหนึ่งผมได้ไปฟังพี่ลี่ (IU) ร้องเพลงสด ๆ ครั้งแรกตลอดการเป็นยูแอนา 5 ปีของผม (นับจากวันที่ฉายละคร Hotel Del Luna โดนนายหญิงจางตกเข้าด้อมยูแอนาก็เรื่องนี้แหละ🥰) จากวันที่ผมได้ไปดูคอนเสิร์ต Golden Hour (ในโรงหนังนะ) ทำให้ผมรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากและเกิดความคิดที่ว่า ถ้าวันนึงผมได้ไปลองสัมผัสบรรยากาศคอนเสิร์ตพี่ลี่แบบจริง ๆ จะรู้สึกประทับใจมากแค่ไหน ต้องหาโอกาสไปเจอพี่ลี่ให้ได้ และวันนั้นก็มาถึง... ครั้งนี้ผมก็ได้ไปฟังพี่ลี่ร้องเพลงสด ๆ ในฮอลล์แล้ว บอกเลยว่า เป็นคอนเสิร์ตที่โคตรเต็มอิ่ม อิ่มอกอิ่มใจ ประทับใจ อบอุ่นมาก ๆ สนุกทุกช่วงจริง ๆ พี่ลี่ตัวจริงคือสวยมาก น่ารักสุด ๆ ร้องเพลงโคตรเพราะ หูเคลือบทองคำเรียบร้อย แถมพี่ลี่ก็พูดไทยค่อนข้างเยอะเลย เก่งมาก ๆ แต่พูดไทยอย่างเดียวคงไม่พอ พี่ลี่เลยจัดเพลงไทยให้ 1 เพลง คือเพลง "รักแรก" ของ "นนท์ ธนน" ซึ่งเป็นเพลงโปรดที่ผมชอบมาก ๆ ด้วย เซอร์ไพรส์สุด ๆ แต่ก่อนถึงวันคอนเสิร์ต ผมก็ลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าพี่ลี่มีร้องเพลงไทย ก็คงอยากให้ร้องเพลงรักแรกมากที่สุด มันคงจะเป็นอะไรที่เพราะน่าดูเลยแหละ แล้วถึงวันคอนเสิร์ต พี่ลี่ก็ร้องเพลงนี้จริง ๆ สำหรับผมคือเซอร์ไพรส์คูณสองไปเลย💖 นอกจากพี่ลี่จะสวย น่ารัก ใจดี เฟรนลี่ ร้องเพราะ พี่ลี่ก็ยังคอยส่งพลังบวกให้กับยูแอนาทุกคนรวมถึงผมด้วย แล้วยูแอนาเองก็ส่งพลังบวกกลับไปให้พี่ลี่เช่นกัน เรียกว่า คอนเสิร์ตนี้ คุ้มค่า สมการรอคอยจริง ๆ หลังจากที่ต้องรอพี่ลี่กลับมาไทยถึง 5 ปี และครั้งนี้ผมกับพี่ลี่ เราก็ได้เจอกันแล้ว ผมก็เป็นยูแอนาคนนึงที่อาจจะเป็นเหมือนหลายคน ไม่ได้ฟังหมดทุกเพลง ไม่ได้ตามดูละครทุกเรื่อง แต่ผมชอบพี่ลี่ในความเป็นพี่ลี่ ทุกครั้งที่ได้ฟังเพลงของพี่ลี่ ก็เหมือนได้ชาร์ตแบตไปในตัวด้วย มีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป😊 สุดท้ายนี้ ขอบคุณพี่ลี่ที่มาเล่นคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย ถ้ามีโอกาสครั้งหน้า ผมก็พร้อมที่จะกลับไปหาพี่อีก และหลังจากนี้ก็จะติดตามผลงานของพี่ลี่ต่อไปเรื่อย ๆ แน่นอน💝 ไว้เจอกันใหม่นะครับ🥰 #HEREH_WORLD_TOUR_IN_BKK
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☆ติดต่อสอบถามข้อมูล
    ☎️ : 0837910222 หรือ 032530487
    🌴 : Facebook - Green Gallery Hotel Hua Hin
    》》
    https://www.facebook.com/share/CENrwtDwUrSMgZtF/?mibextid=qi2Omg
    🌴 : Line ID @greengalleryhuahin
    🌴 : Instagram - greengalleryhotelhuahin
    Green Gallery Hotel Hua Hin
    ■■■■■■■■
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #thaitimesแนะนำที่พัก #thaitimesรีวิวที่พัก #หัวหิน #ที่พักติดชายทะเลหัวหิน #GreenGalleryHotelHuaHin
    ☆ติดต่อสอบถามข้อมูล ☎️ : 0837910222 หรือ 032530487 🌴 : Facebook - Green Gallery Hotel Hua Hin 》》 https://www.facebook.com/share/CENrwtDwUrSMgZtF/?mibextid=qi2Omg 🌴 : Line ID @greengalleryhuahin 🌴 : Instagram - greengalleryhotelhuahin Green Gallery Hotel Hua Hin ■■■■■■■■ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #thaitimesแนะนำที่พัก #thaitimesรีวิวที่พัก #หัวหิน #ที่พักติดชายทะเลหัวหิน #GreenGalleryHotelHuaHin
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 997 มุมมอง 215 0 รีวิว
  • ☆ศรีกรุงดีลักซ์ (Srikrung Deluxe Hotel)
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/6BZSBg1JLYNGzmP1/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ☆เบอร์ติดต่อ 086-324-7707
    ■มะนาวพักห้องดีลักซ์เตียงเดี่ยว 6 ฟุต
    มีตู้เย็น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น ดิจิตอลทีวี
    ฟรีไวไฟ และ มีที่จอดรถ
    ■ราคา 580 บาท

    ☆เดินมาจากสถานีรถไฟอยุธยา 1.5 กม.
    ☆เดินไปเที่ยวตลาดน้ำอโยธยา 850 เมตร
    ☆เดินไปวัดใหญ่ชัยมงคล 1 กม.
    ■■■■■■■■■
    #SrikrungDeluxeHotel #ที่พักหลักร้อยอยุธยา #ศรีกรุงดีลักซ์ #มะนาวก้าวเดิน #อยุธยา
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ☆ศรีกรุงดีลักซ์ (Srikrung Deluxe Hotel) ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/6BZSBg1JLYNGzmP1/?mibextid=qi2Omg 《《 ☆เบอร์ติดต่อ 086-324-7707 ■มะนาวพักห้องดีลักซ์เตียงเดี่ยว 6 ฟุต มีตู้เย็น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น ดิจิตอลทีวี ฟรีไวไฟ และ มีที่จอดรถ ■ราคา 580 บาท ☆เดินมาจากสถานีรถไฟอยุธยา 1.5 กม. ☆เดินไปเที่ยวตลาดน้ำอโยธยา 850 เมตร ☆เดินไปวัดใหญ่ชัยมงคล 1 กม. ■■■■■■■■■ #SrikrungDeluxeHotel #ที่พักหลักร้อยอยุธยา #ศรีกรุงดีลักซ์ #มะนาวก้าวเดิน #อยุธยา #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 685 มุมมอง 288 0 รีวิว
  • ☆รีวิว 42 บาทนั่งรถไฟไปหัวหิน
    อ่านรีวิวการเดินทาง
    》》
    https://manowjourney.wixsite.com/manowjourney/post/untitled-1
    《《
    ♡รีวิวแรก ในรอบ3ปี หลังโควิด19 จำได้ว่า เห็นทะเลใสๆน้ำตาไหลเลย คิดถึงทะเลมาก♡

    ☆รวมค่าใช้จ่าย
    ค่ารถไฟ 42 ×2=84 บาท
    ค่ารถ รับ ส่ง 100×2=200 บาท
    ค่ารถตู้มินิบัสขากลับ 180×2= 360 บาท
    ค่าห้องพัก 2,901 บาท
    ค่าอาหาร เครื่องดื่ม 1,186 บาท
    รวม 4,730 บาท
    หาร 2 = 2,545 บาท
    ■■■■■■■■■
    ☆ Green Gallery Hotel Hua Hin
    ห้อง》𝐁𝐥𝐮𝐞 𝐚𝐧𝐝 𝐰𝐡𝐢𝐭𝐞 beachfront villa
    ☆เพจที่พัก
    》》
    https://www.facebook.com/huahingreengallery?mibextid=ZbWKwL
    ☎️ : 0837910222 หรือ 032530487
    🌴 : Facebook - Green Gallery Hotel Hua Hin
    ■■■■■■■■■■■■
    #มะนาวก้าวเดิน #หัวหิน #GreenGalleryHuaHin #manowjourney #ที่พักติดทะเล #รีวิวการเดินทางด้วยรถสาธารณะ #ชายทะเลหัวหิน #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ☆รีวิว 42 บาทนั่งรถไฟไปหัวหิน อ่านรีวิวการเดินทาง 》》 https://manowjourney.wixsite.com/manowjourney/post/untitled-1 《《 ♡รีวิวแรก ในรอบ3ปี หลังโควิด19 จำได้ว่า เห็นทะเลใสๆน้ำตาไหลเลย คิดถึงทะเลมาก♡ ☆รวมค่าใช้จ่าย ค่ารถไฟ 42 ×2=84 บาท ค่ารถ รับ ส่ง 100×2=200 บาท ค่ารถตู้มินิบัสขากลับ 180×2= 360 บาท ค่าห้องพัก 2,901 บาท ค่าอาหาร เครื่องดื่ม 1,186 บาท รวม 4,730 บาท หาร 2 = 2,545 บาท ■■■■■■■■■ ☆ Green Gallery Hotel Hua Hin ห้อง》𝐁𝐥𝐮𝐞 𝐚𝐧𝐝 𝐰𝐡𝐢𝐭𝐞 beachfront villa ☆เพจที่พัก 》》 https://www.facebook.com/huahingreengallery?mibextid=ZbWKwL ☎️ : 0837910222 หรือ 032530487 🌴 : Facebook - Green Gallery Hotel Hua Hin ■■■■■■■■■■■■ #มะนาวก้าวเดิน #หัวหิน #GreenGalleryHuaHin #manowjourney #ที่พักติดทะเล #รีวิวการเดินทางด้วยรถสาธารณะ #ชายทะเลหัวหิน #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 826 มุมมอง 342 0 รีวิว
  • Atta Lakeside Resort Suite

    #เขาใหญ่ #โรงแรมเขาใหญ่ #ที่พักเขาใหญ่ #KhaoYai

    https://www.booking.com/hotel/th/atta-resrot.th.html?aid=2322769&sid=47e7235b3af38f3b4b1d9ac90b677e21&dest_id=5477&dest_type=region&dist=0&group_adults=2&group_children=0&hapos=3&hpos=3&no_rooms=1&req_adults=2&req_children=0&room1=A%2CA&sb_price_type=total&sr_order=popularity&srepoch=1727448009&srpvid=93d05fd6e828056f&type=total&ucfs=1&activeTab=main
    Atta Lakeside Resort Suite #เขาใหญ่ #โรงแรมเขาใหญ่ #ที่พักเขาใหญ่ #KhaoYai https://www.booking.com/hotel/th/atta-resrot.th.html?aid=2322769&sid=47e7235b3af38f3b4b1d9ac90b677e21&dest_id=5477&dest_type=region&dist=0&group_adults=2&group_children=0&hapos=3&hpos=3&no_rooms=1&req_adults=2&req_children=0&room1=A%2CA&sb_price_type=total&sr_order=popularity&srepoch=1727448009&srpvid=93d05fd6e828056f&type=total&ucfs=1&activeTab=main
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • MUTHI MAYA Forest Pool Villa Resort

    #เขาใหญ่ #โรงแรมเขาใหญ่ #ที่พักเขาใหญ่ #KhaoYai

    https://www.booking.com/hotel/th/muthi-maya.th.html?aid=2322769&sid=47e7235b3af38f3b4b1d9ac90b677e21&dest_id=5477;dest_type=region;dist=0;group_adults=2;group_children=0;hapos=1;hpos=1;no_rooms=1;req_adults=2;req_children=0;room1=A%2CA;sb_price_type=total;sr_order=popularity;srepoch=1727444275;srpvid=93d05fd6e828056f;type=total;ucfs=1&#hotelTmpl



    MUTHI MAYA Forest Pool Villa Resort #เขาใหญ่ #โรงแรมเขาใหญ่ #ที่พักเขาใหญ่ #KhaoYai https://www.booking.com/hotel/th/muthi-maya.th.html?aid=2322769&sid=47e7235b3af38f3b4b1d9ac90b677e21&dest_id=5477;dest_type=region;dist=0;group_adults=2;group_children=0;hapos=1;hpos=1;no_rooms=1;req_adults=2;req_children=0;room1=A%2CA;sb_price_type=total;sr_order=popularity;srepoch=1727444275;srpvid=93d05fd6e828056f;type=total;ucfs=1&#hotelTmpl
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔹️แพ็กคู่ซีรีส์ชุด พิกัดต่อไปใครเป็นศพ❗

    คำเตือน เนื้อหายาวมากถึงมากที่สุด

    1 #พิกัดต่อไปใครเป็นศพ #masqueradehotel

    อ่านจนจบในวันเดียว หนาถึง 547 หน้า ดีที่ขนาดไม่เทอะทะแม้หนาแต่ไม่หนัก ตอนตัดสินใจเลือกยืมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยชมที่สร้างเป็นหนังมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน พออ่านไปได้ไม่กี่หน้าเริ่มรู้สึกฉากช่างคุ้นเคย เนื้อเรื่องเหมือนเคยรู้มาก่อน ทบทวนความทรงจำตนเองจึงค่อยจำได้ว่าคือเรื่องเดียวกับหนังที่ดูจบแล้วชอบมากนั่นเอง แต่ห้วงเวลาที่ชมนั้นไม่เคยทราบว่าสร้างจากนิยายเล่มนี้ ดูเพราะชอบนักแสดงหลักทั้งสองคนเลยคือ ทาคูยะ และมาซามิ และก็ไม่ผิดหวังทั้งคู่แสดงในบทบาทที่ได้รับได้ดีมาก พระนางมีการขัดแย้งในความเห็นอย่างที่เรียกว่าคู่กัด แต่ก็ห่วงใยช่วยเหลือกันมีความน่ารักปนน่าหมั่นไส้ โรงแรมที่ใช้เป็นฉากก็หรูหราโอ่โถงงดงามน่าใช้บริการอย่างมากครับ

    📚วกกลับมาเข้าเรื่องในหนังสือ

    สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 425 บาท
    ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน
    อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล

    เนื้อหาในเล่มกล่าวถึงชีวิตของพนักงานโรงแรมคอร์เทเชียโตเกียวสุดหรูที่มีนามว่า ยามางิชิ นาโอมิ ซึ่งเป็นตัวเอกที่ดำเนินเรื่องหลักของนิยายเล่มนี้ ที่ฉากแรกปรากฏก็เปิดตัวอย่างสง่างามสมกับความเป็นพนักงานต้อนรับมืออาชีพยิ่ง เพราะมีลูกค้าชายประเภทที่จงใจก่อปัญหาเพื่อหวังจะได้เข้าพักในห้องราคาสูงกว่าที่ตนได้เลือกจองไว้ จนพนักงานยกกระเป๋าที่เข็นของไปให้ ต้องโทร.ลงมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งเธอสามารถบริหารจัดการให้ผ่านพ้นสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าลงได้อย่างสวยงาม

    จากนั้นเรื่องจึงนำพาผู้อ่านเข้าสู่ประเด็นของที่มาอันกลายเป็นชื่อเรื่องคือ ทางผู้จัดการใหญ่ที่รับผิดชอบดูแลพนักงานในโรงแรมทั้งหมด ได้รับการติดต่อขอความร่วมมือจากกรมตำรวจนครบาลโตเกียว ในการสืบสวนคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ ที่มีแนวโน้มเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องโดยคนร้ายรายเดียวกัน

    🏨

    รายละเอียดของคดีคือ มีการพบศพผู้ตาย 3 ราย ในระยะเวลาห่างกันประมาณ 6-7 วันนับจากศพแรก ทราบชื่อผู้ตายทั้งสาม เป็นชาย2หญิง1 สาเหตุเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายด้วยการตีจากด้านหลังบ้าง รัดคอบ้าง ทุกรายพบตัวเลขปริศนา2ชุดในจุดเกิดเหตุ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อหรือไม่อย่างไร แต่ตำรวจมั่นใจว่าคนร้ายหมายตาที่จะก่อเหตุในครั้งต่อไป โดยเล็งเป้าหมายคือโรงแรมที่นาโอมิทำงานอยู่ ปัญหาใหญ่คือไม่ทราบว่าใครที่คนร้ายหมายจะฆ่า ทำไมถึงเลือกที่นี่ และคนร้ายคือใคร ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยพวกนี้ ฝ่ายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้คุยตกลงกันกับผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมแล้ว ดังนั้นจึงเรียกตัว หัวหน้าจากหลายฝ่ายให้มาร่วมประชุม ไม่ว่าฝ่ายห้องพัก ฝ่ายเข็นสัมภาระลูกค้าไปส่งห้อง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และในการนี้นาโอมิยังถูกระบุให้เข้าร่วมประชุมแม้จะเป็นแค่เพียง พนักงานระดับปฏิบัติการณ์ฝ่ายต้อนรับเท่านั้น

    🏨

    เหตุผลเพราะหัวหน้างานไว้วางใจ เชื่อมั่นในคุณสมบัติและประสบการณ์ของเธอจะสามารถเป็นพี่เลี้ยงให้กับตำรวจ ที่จะปลอมเข้ามาเป็นพนักงานเพื่อเฝ้าสังเกตบุคคลที่มาใช้บริการโรงแรม ซึ่งแผนกต้อนรับเองนาโอมิถูกเลือกให้จับคู่กับรองสารวัตรนิตตะ ส่วนแผนกอื่นก็มีตำรวจปลอมตัวเข้าไปด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นก็มีตำรวจส่วนหนึ่งที่ถูกสั่งการให้ปะปนเข้ามาเป็นคนใช้บริการหรือจับตาความเคลื่อนไหวบริเวณโถงรับแขก ห้องอาหาร และอื่นๆ

    🏨

    นั่นคือจุดเริ่มแห่งความหรรษา เพราะนิตตะไม่ชอบอะไรที่เป็นพิธีการ แต่จำใจต้องเชื่อฟังนาโอมิที่อายุน้อยกว่า ตั้งแต่เรื่องชุดพนักงาน ท่าทีการพูดจา บุคลิกภายนอกที่ต้องถูกปรับให้กลายจากความเป็นตำรวจมาเป็นพนักงานต้อนรับให้สมจริงมากที่สุด ทั้งคู่จึงมีการกระทบกระทั่งทางความคิดที่ไม่ตรงกัน จนมีการโต้เถียงบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นความบันเทิงประการหนึ่ง ด้วยคู่นี้มีความน่ารัก น่าลุ้น ที่จะกลายมาเป็นคู่ใจในอนาคตได้

    🏨

    ระหว่างนั้น นาโอมิมีข้อสงสัยมากมายหลายประการ เธอมักถามนิตตะที่ทราบรายละเอียดของคดีมากกว่าที่พนักงานโรงแรมทราบ แต่นิตตะไม่บอกเล่าโดยให้เหตุผลว่าเป็นความลับของทางราชการไม่อาจให้คนนอกทราบได้

    งานบริการของนาโอมิยังคงต้องดำเนินต่อไป เกิดปัญหาจากความต้องการของลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาพักเป็นระยะ ซึ่งเธอและนิตตะต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านพ้น ทำให้ทั้งสองเริ่มมีความเข้าใจและยอมรับในตัวตนและงานของอีกฝ่ายได้ดีขึ้นกว่าเมื่อแรกพบหน้า ลูกค้าบางคนดูไม่น่าไว้ใจและมีท่าทางแปลกจนนิตตะจับตามองเป็นพิเศษ ด้วยสัญชาตญาณของนักสืบ

    🏨

    ขณะที่มีตำรวจวัยเลยกลางคนไปแล้ว ซึ่งเป็นตำรวจในท้องที่เกิดเหตุคนหนึ่งที่รู้จักกับนิตตะ และได้รับการมอบหมายให้เป็นคู่หูสืบคดีก่อนที่นิตตะจะต้องปลอมตัวมาเป็นพนักงานต้อนรับนั้น มีน้ำใจที่อยากจะช่วยเหลือ จึงมักอาสาช่วยสืบเรื่องราวต่าง ๆ จากด้านนอก ตามที่นิตตะมีความสงสัยด้วยอีกทางหนึ่ง

    ในที่สุดนิตตะก็ทนรบเร้าจากนาโอมิไม่ไหว อีกทั้งเริ่มมีความไว้ใจเธอมากขึ้น จนยอมเล่าให้ทราบถึงปริศนาของชุดตัวเลขที่ปรากฏทุกครั้งในสถานที่พบศพอันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตำรวจตัดสินใจปะปนเข้ามาในโรงแรม ทำให้เธอเริ่มเกิดความตื่นตัวและทึ่งในความสามารถของเขา รวมถึงมีความกังวลถึงเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้จนส่งผลต่อสุขภาพและงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ

    🏨

    อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตัวคนร้ายคือคนที่คิดไม่ถึง ซึ่งไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าจะวางแผนการณ์ได้อย่างแยบยลขนาดนั้น แต่แรงจูงใจในการก่อคดียังรู้สึกว่ามีน้ำหนักน้อยไปสักหน่อย คงเพราะความที่คนร้ายเป็นคนประเภทมีจิตรุนแรงในพื้นนิสัย ทำให้ต้องลุ้นเอาใจช่วยนิตตะและนาโอมิในตอนที่เนื้อเรื่องเปิดเผยให้คนอ่านทราบแล้วว่าเป็นใคร ทั้งสองจะปลอดภัยหรือไม่ จะจับตัวคนร้ายได้ไหม ใครจะถูกฆ่าเป็นรายถัดไปหรือเปล่า ต้องตามอ่านต่อในพิกัดต่อไปใครเป็นศพครับ

    🖋วิจารณ์หลังจบเรื่อง

    เป็นการเล่าในมุมมองบุคคลที่สามคือมุมมองพระเจ้า ฉากหลักตลอดทั้งเรื่องเกิดขึ้นภายในโรงแรม ตัวละครที่มีการเอ่ยชื่อและมีบทบาทสำคัญไม่เยอะจนเกินไป จึงทำให้คนอ่านจดจำและรู้สึกใกล้ชิดกับตัวเอก ไปจนตัวรองที่ถูกกล่าวถึงบ่อย ๆ ได้ไม่ยาก ความจริงในส่วนของคดีที่เกิดในเล่มนี้นั้น พูดตามจริงแล้วไม่ได้มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไร รูปแบบการฆ่าก็ธรรมดาเกินกว่าจะดูน่ากลัวหรือลึกลับ เพียงแต่มีจุดเด่นตรงชุดตัวเลขปริศนาว่าหมายถึงอะไร และชวนน่าสงสัยเล็กน้อยว่าคนร้ายจะฆ่าคนไปทำไม เพราะดูเหมือนตำรวจมีข้อมูลน้อยมาก จนการสืบสวนแทบไม่เดินหน้าไปไหนเลย

    🏨

    เป็นความตั้งใจของผู้เขียนที่คงจะต้องการให้โทนของเรื่องออกมาในลักษณะนี้ คือไม่เน้นที่การสืบสวนคลี่คลายปมเป็นพิเศษ จึงไม่จำเป็นต้องผูกเรื่องราวของคดีที่เกิดขึ้นให้มีความอลังการ จนดึงดูดความสนใจกระหายใคร่รู้ และกระตุ้มต่อมนักสืบของคนอ่านจนพุ่งสูงด้วยความเข้มข้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ แต่กลับเลือกที่จะให้ดูเป็นคดีทั่วไป ไม่มีความโชกเลือดหรือบ้าคลั่งของฆาตกรเป็นที่ปรากฏออกมาในบรรยากาศ ซึ่งในแง่นี้ถือว่านักอ่านหลายคนอาจถูกภาพปกของหนังสือหลอกเอาได้ เพราะโทนสีดำแดง กับเลือดเปรอะกระจายบนแผนที่ อีกทั้งชื่อเรื่องชวนค้นหาว่าคงจะดำเนินไปในแนวทางน่าตื่นเต้นกับการตามสืบอะไรทำนองนั้น ซึ่งใครที่คาดหวังมากก็อาจผิดหวังเมื่อพบว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ตนคาดว่าจะได้พบเจอ

    🏨

    แต่นี่ไม่มีปัญหากับผม ส่วนตัวชอบมาก แทบไม่ได้สนใจในคดีด้วยซ้ำว่าใครจะเป็นคนร้าย ใครเป็นเป้าหมายที่กำลังจะถูกฆ่า และทำไมต้องฆ่า คืออ่านไปได้เรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน ชอบในความที่เนื้อหาเจาะลึกถึงวงการคนโรงแรม ทำให้เราได้รู้ข้อมูลหลายอย่าง สิ่งที่พนักงานต้องแบกรับและพบเจอที่เป็นเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลัง ซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยได้คำนึงถึงและไม่เคยมองในมุมของคนทำงานเหล่านั้น จึงเป็นความบันเทิงที่สามารถได้รู้เรื่องราวอินไซด์โดยผ่านการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของนาโอมิ กับประเด็นต่าง ๆ ที่เข้ามามากมาย คล้ายกำลังได้ติดตามดูซีรีส์ชีวิตการทำงานในอาชีพด้านการบริหารโรงแรมดี ๆ สักเรื่องหนึ่ง ซึ่งอดีตเมื่อ 30 กว่าปีก่อน เคยได้รับชมมาบ้างทั้งของญี่ปุ่นและเกาหลี

    🏨

    จุดเด่นในการดำเนินเรื่องคือเราจะได้เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นของสองตัวละครหลัก ในระหว่างร่วมกันแก้ไขปัญหา แม้มีความขัดแย้งจากความเห็นมุมมองที่ต่างสถานะบ้างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดีเสียอีกทำให้ต่างฝ่ายได้เรียนรู้เพิ่ม เป็นประสบการณ์ใหม่และเปิดมุมมองอีกด้านที่ตนไม่เคยใส่ใจ จนเกิดเป็นความเห็นอกเห็นใจ และเชื่อใจกันโดยไม่รู้ตัว แม้นภายนอกเหมือนไม่ชอบหน้ากันก็ตาม ที่สำคัญคือแม้เรื่องแนวทางการสืบหาตัวคนร้ายเหมือนไม่คืบหน้าไปไหน แต่เมื่อนาโอมิแก้ปัญหาลูกค้าไปทีละเรื่องต่อเนื่องไป ทำให้นิตตะเองสะดุดคิดได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกี่ยวโยงไปถึงคดีได้อย่างไม่ตั้งใจ บางครั้งคำพูดของนาโอมิเองช่วงสนทนากับนิตตะ ไปจุดประกายให้เขาพลันนึกอะไรได้ขึ้นมาอย่างกะทันหันก็มี รวมถึงคู่หูนายตำรวจท้องที่ผู้มีอายุมากกว่าเขา ก็ยังมีส่วนช่วยอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน ทำให้เห็นถึงพลังของความช่วยเหลือกันและกันของความเป็นเพื่อน แม้เพิ่งทำความรู้จักกันชั่วระยะเวลาไม่นาน นี่จึงไม่ใช่นิยายสืบสวนที่เน้นความเก่งฉกาจของนักสืบที่รับผิดชอบคดีแบบฉายเดี่ยว แต่ต้องอาศัยความเชื่อใจระหว่างกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็นที่มีของตนคนเดียวอาจจะไม่เพียงพอ

    หากพิจารณาให้ดี จะได้เห็นถึงความสำคัญของบุคคลแวดล้อมที่ดูราวกับไม่มีส่วนสำคัญ แต่แท้จริงถ้าไม่ได้ความคิดเห็นหรือความช่วยเหลือของเขา พระเอกของเราก็ยังคงไม่อาจฉุกใจได้คิด จนนำไปสู่การรู้ตัวคนร้ายในช่วงท้ายของเรื่อง

    บทสรุปก่อนจบ มีแนวโน้มให้คนอ่านได้ลุ้นว่านิตตะกับนาโอมิ จะมีความเป็นไปได้ในการเป็นคู่รักหรือไม่ แต่ที่มั่นใจคือน่าจะมีเล่มต่อให้ได้ติดตามกันอย่างแน่นอน.

    .........................................

    2. #พิกัดต่อไปใครเป็นศพตอนลางร้ายใต้หน้ากาก #masqueradeeve

    เล่มที่สองของซีรีส์ ที่ยังคงความสนุกได้ไม่แพ้เล่มแรก แต่ความหนาน้อยลงเหลือ 352 หน้า

    สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 345 บาท
    ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน
    อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล

    เนื้อหาย่อของเล่มนี้

    ถึงจะออกมาเป็นเล่มที่สองของชุด แต่เหตุการณ์เป็นเรื่องก่อนหน้าคดีในเล่มแรก คือย้อนไปเล่าสมัยที่นาโอมิเพิ่งจะเข้าทำงานใน คอร์เทเชียโตเกียวได้แค่สี่ปี และย้ายแผนกมาอยู่ฝ่ายต้อนรับไม่นาน ยังเห็นถึงความผิดพลาดบกพร่องที่ไม่คล่องตัว ยังไม่มีความเชื่อมั่นในประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญดังภาพที่ปรากฏในเล่มก่อนหน้า ทว่าก็ยังคงบุคลิกที่มุ่งมั่นในการให้บริการ และมีหัวใจในการคิดถึงและเอาใจใส่ต่อลูกค้าทุกคนอย่างซื่อสัตย์

    🏨

    เริ่มต้นมา นาโอมิก็ได้แสดงความสามารถที่ทำให้เห็นถึงความมีไหวพริบปฏิภาณ และช่างสังเกต อันเป็นคุณสมบัติที่ควรต้องมีในคนที่ทำอาชีพเช่นเธอ โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งนาโอมิจดจำได้ว่าเป็นอดีตแฟนที่เคยคบหากันชั่วเวลาหนึ่งสมัยที่เธอเรียนมหาวิทยาลัย แต่มีเหตุให้ต้องเลิกราแยกย้ายกันไปคนละเส้นทาง เขามากับชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นนักกีฬาเบสบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงมาก โดยทำหน้าที่เป็นผจก.ส่วนตัวนักกีฬาชาย แล้วได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นในขณะที่ทั้งสองมาพักอยู่ในโรงแรม จนเป็นเหตุให้แฟนเก่าคนนี้โทร.ตามตัวนาโอมิจากหน้าฟรอนต์ให้มาช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งเธอไม่เต็มใจนักแต่ต้องตัดความรู้สึกส่วนตัวออก แล้วสวมหัวใจพนักงานฝ่ายต้อนรับที่ต้องช่วยเหลือบริการแก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด ซึ่งสุดท้ายเธอก็สามารถจัดการกับปัญหาให้จบลงด้วยดี

    🏨

    ทางด้านนิตตะนั้น เพิ่งเริ่มต้นอาชีพด้วยการเข้าเป็นน้องใหม่ในสังกัดกรมตำรวจหลังกลับมาจากต่างประเทศไม่นาน โดยมีรุ่นพี่โมโตมิยะ(ปรากฏตัวในเล่มแรกด้วย โดยเป็นหนึ่งที่ปลอมตัวเข้าไปในโรงแรม) ที่เป็นคู่หูและพี่เลี้ยง ซึ่งคดีแรกที่เขาต้องคลี่คลายคือ คดีฆาตกรรมวันไวต์เดย์ โดยตำรวจได้รับแจ้งจากหญิงสาวคนหนึ่งว่าสามีของตนออกไปวิ่งออกกำลังตอนกลางดึกแต่ยังไม่กลับถึงบ้านตามเวลา สุดท้ายมีการพบว่าสามีของเธอกลายเป็นศพอยู่ในสวน ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกแทงที่ท้องและหลัง มีอะไรหลายอย่างที่พบในที่เกิดเหตุ รวมถึงข้อมูลที่ตำรวจได้สืบทราบมา ที่รบกวนใจของนิตตะ เขาได้แสดงความสามารถออกมาเป็นที่ปรากฏจนรุ่นพี่ออกจะไม่พอใจและหมั่นไส้อยู่บ้าง ด้วยสิ่งที่นิตตะคาดคะเนและวิเคราะห์ทำให้ตำรวจสามารถพบตัวของผู้ก่อเหตุได้ในเวลาไม่นาน แต่คดีนี้มีอะไรที่ซับซ้อนยิ่งกว่าสิ่งที่ตำรวจรู้

    🏨

    ตัดมาที่การปฏิบัติงานของนาโอมิ ในเหตุการณ์ที่มีกลุ่มชายหลายคน มาจองห้องพักและมีพฤติการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าแปลกพิกล ต่อมาทราบว่าที่แท้คนกลุ่มนี้หวังที่จะมาเฝ้ารอเพื่อจะได้พบเจอกับนักเขียนนิยายที่โด่งดังนามว่า ทาจิบานะ ซากุระซึ่งเขียนแนวประโลมโลก และจะเข้ามาพักที่โรงแรมเพื่อเขียนงานใหม่ เนื่องจากเหล่าสาวกที่ชื่นชอบงานเขียนของซากุระ ไปเห็นรูปที่ถูกระบุว่าเป็นนักเขียนหญิงคนดังในโซเชียลมีเดีย พอเห็นว่าเป็นสาวสวยจึงหาวิธีที่จะได้พบเจอตัวจริงให้ได้ จึงเป็นหน้าที่ของนาโอมิ ที่จะต้องรักษาความเป็นส่วนตัวรวมถึงความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ ความยุ่งยากจึงเกิดขึ้น

    🏨

    ตอนสุดท้าย นาโอมิได้รับการขอจากผู้จัดการให้ช่วยไปสอนงานให้กับพนักงานแผนกต้อนรับที่สาขาโอซาก้า ซึ่งเพิ่งเปิดโรงแรมได้ไม่นาน เธอจึงต้องไปทำงานอยู่ที่นั่นชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่เกินครึ่งปี ในขณะที่นิตตะมีคดีใหม่ที่ต้องรับผิดชอบกับรุ่นพี่โมโตมิยะ คือการตายของอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องทางสิทยาศาสตร์ โดยพบศพในห้องทำงาน คดีนี้มีผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นบุคคลคนหนึ่ง แต่ทว่าเขากลับมีหลักฐานยืนยันที่อยู่ชัดเจนในช่วงเวลาที่คาดว่าเหยื่อถูกฆ่าตาย ซึ่งเจ้าตัวเข้าใจว่าตนเองรอดพ้นแน่แต่แท้จริงเบื้องหลังยังมีอะไรที่ไม่เป็นดังที่คิด ที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่า

    ในกรณีทีมสืบสวนเอง ผู้ใหญ่ได้สั่งการลงมาให้นิตตะจับคู่กันกับตำรวจหญิงวัยละอ่อน ที่เป็นตำรวจท้องที่มีนามว่า ริสะ ที่ถูกย้ายมาจากแผนกความปลอดภัยชุมชน ให้มาร่วมในทีมเป็นครั้งแรก นิตตะไม่พอใจนักแต่จำใจต้องทำตาม แม้จะดูเหมือนเป็นตำรวจหญิงที่อ่อนต่อโลก พูดเป็นต่อยหอย และขาดไหวพริบม แต่ริสะก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความกระตือรือร้น มุ่งมั่นใส่ใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่เธอได้รับคำสั่งจากนิตตะให้ไปสืบเช็กข้อมูลจากโรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้า เพื่อยืนยันคำพูดจากปากของชายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ทำให้ริสะได้พบกับนาโอมิ อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมาถึงผลลัพธ์ในภายหลัง

    🖋วิเคราะห์หลังอ่านจบ

    เล่มนี้เล่าเรื่องโดยแยกเนื้อหาระหว่างการแก้ปัญหาในโรงแรมของนาโอมิ กับการไขคดีของนิตตะออกจากกันชัดเจนเป็นตอนที่จบในตัว เริ่มจากตอนของนาโอมิก่อน จากนั้นสลับไปเล่าฝั่งนิตตะ แต่ในตอนสุดท้ายจะผนวกสองฝั่งให้เชื่อมถึงกันในคดีที่มีผู้เกี่ยวข้องได้ไปเข้าพักที่โรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้าซึ่งนาโอมิกำลังอยู่ในช่วงที่สอนงานให้พนักงานที่นั่น

    ทั้งคู่ไม่ได้พบกันเลย เพราะการพบกันครั้งแรกเกิดขึ้นในเล่มแรก แต่ผู้เขียนมีความสามารถในการผูกโยงเรื่องราวให้คนอ่านรู้สึกเหมือนว่าได้เห็นคนทั้งสองอย่างใกล้ชิด และได้เห็นบุคลิกกับอุปนิสัยส่วนตัวของนาโอมิกับนิตตะมากขึ้น

    นิตตะในเล่มนี้ มีโอกาสได้แสดงฝีมือในการคิดวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์กับข้อมูลที่ใช้หาตัวคนร้าย ได้เด่นชัดกว่าเล่มแรก สมกับที่เป็นระดับหัวกะทิที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่เราก็จะได้เห็นถึงข้อเสียใหญ่ของเขาที่ไม่น่ารักเช่นกัน คือเป็นคนมั่นใจในความฉลาดของตนมากจนเหมือนดูถูกคนที่ด้อยกว่า โดยเฉพาะความคิดที่เห็นว่าผู้หญิงเป็นตัวถ่วง สู้ผู้ชายไม่ได้ ดังที่นิตตะแสดงออกทางสีหน้าท่าทางและคำพูดต่อเด็กใหม่อย่างริสะ ที่เหมือนเป็นได้แค่ลูกไล่ไร้ประโยชน์ ซึ่งต่างจากนาโอมิ ที่แม้จะมองออกว่าริสะเป็นตำรวจที่ความสามารถไม่ถึงขั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญ กลับมองเห็นถึงมุมที่เป็นความอดทน ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดของตำรวจหญิงในการพยายามค้นหาความจริงให้ได้ ความมุ่งมั่นของริสะจึงเอาชนะใจของนาโอมิ จนยอมช่วยเหลือด้วยการเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนให้ริสะทราบ

    ในส่วนของการคลี่คลายคดี ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนจนเกินไป แต่เล่มนี้จะเน้นไปที่คดีที่น่าจะเป็นที่มาของชื่อตอน (ลางร้ายใต้หน้ากาก) ถึงสองคดีด้วยกันครับ ถ้าได้อ่านแล้วจะเข้าใจ และน่าจะเห็นตรงกันว่าภายใต้หน้ากากที่ภายนอกดูไม่ได้รู้เลยว่าจะกลายเป็นคนร้ายได้ สุดท้ายก็แอบซ่อนความบิดเบี้ยวของใจที่โดนกิเลสเข้าครอบงำได้อย่างน่ากลัว

    ตัวละครในเรื่อง สำหรับเล่มนี้ รู้สึกว่าริสะที่แม้จะมีบทบาทเพียงแค่ช่วงคดีสุดท้ายนั้น เป็นตัวละครที่เขียนมาได้น่าสนใจมาก โผล่มาทีไรก็ทำให้คนอ่านอย่างผมอดขำไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปต่อในเล่มอื่น ๆ ของชุดนี้หรือไม่ ส่วนนาโอมินั้นยังคงเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์เช่นเดิม เทียบกับนิตตะแล้วส่วนตัวมีความรู้สึกชอบนาโอมิมากกว่า

    นอกจากนี้ยังชอบตอนจบของเรื่อง ที่มีการโยงถึงเหตุการณ์ที่เป็นต้นตอนำไปสู่ความอาฆาตแค้นของฆาตกรในคดีที่เกิดขึ้นในเล่มแรก สรุปว่าอ่านจบเล่มสองแล้วก็จะไปต่อเหตุการณ์ของเล่มแรกพอดี

    ใครเริ่มอ่านจากเล่มนี้ก่อน สามารถอ่านเล่มแรกต่อเนื่องได้เลย

    📌คำเตือน : สำหรับคนที่ชอบการสืบคดีแบบเข้มข้น มีวิธีการฆ่าที่ค่อนข้างแปลกพิสดารหรือโหดสยอง และมีกลวิธีในการอำพรางซ่อนเร้นที่ไม่ธรรมดา ซีรีส์ชุดนี้อาจไม่ตอบโจทย์ แล้วเลยพาลจะไม่ชอบหรือหมดสนุกได้ง่าย แต่ถ้าชอบแนวได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพของตัวเอกควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการไขคดีที่ไม่โลดโผน ชุดนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคุณได้ไม่ยากครับ

    ป.ล. มีปกใหม่ออกมาที่คิดว่าทำได้ดีตรงกับแนวเรื่องและชื่อตอนมากกว่าปกฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกด้วย เพราะปกของเล่มสองนี้ดูเหมือนน่าจะโหดมาก แต่เนื้อในไม่ใช่อย่างที่คิด

    ใครอ่านตั้งแต่ต้นมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ได้ขอได้รับความขอบคุณจากผมด้วยครับ

    #thaitimes
    #หนังสือ
    #หนังสือน่าอ่าน
    #นิยายแปล
    #นิยายญี่ปุ่น
    #นิยายสืบสวน
    #สืบสวน
    #คดีฆาตกรรม
    #งานโรงแรม
    #พนักงานต้อนรับ
    #ตำรวจ
    #นักสืบ
    #ลูกค้า
    #งานบริการ
    #อาชีพ
    #ฮิงาชิโนะเคโงะ
    🔹️แพ็กคู่ซีรีส์ชุด พิกัดต่อไปใครเป็นศพ❗ คำเตือน เนื้อหายาวมากถึงมากที่สุด 1 #พิกัดต่อไปใครเป็นศพ #masqueradehotel อ่านจนจบในวันเดียว หนาถึง 547 หน้า ดีที่ขนาดไม่เทอะทะแม้หนาแต่ไม่หนัก ตอนตัดสินใจเลือกยืมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยชมที่สร้างเป็นหนังมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน พออ่านไปได้ไม่กี่หน้าเริ่มรู้สึกฉากช่างคุ้นเคย เนื้อเรื่องเหมือนเคยรู้มาก่อน ทบทวนความทรงจำตนเองจึงค่อยจำได้ว่าคือเรื่องเดียวกับหนังที่ดูจบแล้วชอบมากนั่นเอง แต่ห้วงเวลาที่ชมนั้นไม่เคยทราบว่าสร้างจากนิยายเล่มนี้ ดูเพราะชอบนักแสดงหลักทั้งสองคนเลยคือ ทาคูยะ และมาซามิ และก็ไม่ผิดหวังทั้งคู่แสดงในบทบาทที่ได้รับได้ดีมาก พระนางมีการขัดแย้งในความเห็นอย่างที่เรียกว่าคู่กัด แต่ก็ห่วงใยช่วยเหลือกันมีความน่ารักปนน่าหมั่นไส้ โรงแรมที่ใช้เป็นฉากก็หรูหราโอ่โถงงดงามน่าใช้บริการอย่างมากครับ 📚วกกลับมาเข้าเรื่องในหนังสือ สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 425 บาท ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล เนื้อหาในเล่มกล่าวถึงชีวิตของพนักงานโรงแรมคอร์เทเชียโตเกียวสุดหรูที่มีนามว่า ยามางิชิ นาโอมิ ซึ่งเป็นตัวเอกที่ดำเนินเรื่องหลักของนิยายเล่มนี้ ที่ฉากแรกปรากฏก็เปิดตัวอย่างสง่างามสมกับความเป็นพนักงานต้อนรับมืออาชีพยิ่ง เพราะมีลูกค้าชายประเภทที่จงใจก่อปัญหาเพื่อหวังจะได้เข้าพักในห้องราคาสูงกว่าที่ตนได้เลือกจองไว้ จนพนักงานยกกระเป๋าที่เข็นของไปให้ ต้องโทร.ลงมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งเธอสามารถบริหารจัดการให้ผ่านพ้นสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าลงได้อย่างสวยงาม จากนั้นเรื่องจึงนำพาผู้อ่านเข้าสู่ประเด็นของที่มาอันกลายเป็นชื่อเรื่องคือ ทางผู้จัดการใหญ่ที่รับผิดชอบดูแลพนักงานในโรงแรมทั้งหมด ได้รับการติดต่อขอความร่วมมือจากกรมตำรวจนครบาลโตเกียว ในการสืบสวนคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ ที่มีแนวโน้มเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องโดยคนร้ายรายเดียวกัน 🏨 รายละเอียดของคดีคือ มีการพบศพผู้ตาย 3 ราย ในระยะเวลาห่างกันประมาณ 6-7 วันนับจากศพแรก ทราบชื่อผู้ตายทั้งสาม เป็นชาย2หญิง1 สาเหตุเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายด้วยการตีจากด้านหลังบ้าง รัดคอบ้าง ทุกรายพบตัวเลขปริศนา2ชุดในจุดเกิดเหตุ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อหรือไม่อย่างไร แต่ตำรวจมั่นใจว่าคนร้ายหมายตาที่จะก่อเหตุในครั้งต่อไป โดยเล็งเป้าหมายคือโรงแรมที่นาโอมิทำงานอยู่ ปัญหาใหญ่คือไม่ทราบว่าใครที่คนร้ายหมายจะฆ่า ทำไมถึงเลือกที่นี่ และคนร้ายคือใคร ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยพวกนี้ ฝ่ายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้คุยตกลงกันกับผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมแล้ว ดังนั้นจึงเรียกตัว หัวหน้าจากหลายฝ่ายให้มาร่วมประชุม ไม่ว่าฝ่ายห้องพัก ฝ่ายเข็นสัมภาระลูกค้าไปส่งห้อง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และในการนี้นาโอมิยังถูกระบุให้เข้าร่วมประชุมแม้จะเป็นแค่เพียง พนักงานระดับปฏิบัติการณ์ฝ่ายต้อนรับเท่านั้น 🏨 เหตุผลเพราะหัวหน้างานไว้วางใจ เชื่อมั่นในคุณสมบัติและประสบการณ์ของเธอจะสามารถเป็นพี่เลี้ยงให้กับตำรวจ ที่จะปลอมเข้ามาเป็นพนักงานเพื่อเฝ้าสังเกตบุคคลที่มาใช้บริการโรงแรม ซึ่งแผนกต้อนรับเองนาโอมิถูกเลือกให้จับคู่กับรองสารวัตรนิตตะ ส่วนแผนกอื่นก็มีตำรวจปลอมตัวเข้าไปด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นก็มีตำรวจส่วนหนึ่งที่ถูกสั่งการให้ปะปนเข้ามาเป็นคนใช้บริการหรือจับตาความเคลื่อนไหวบริเวณโถงรับแขก ห้องอาหาร และอื่นๆ 🏨 นั่นคือจุดเริ่มแห่งความหรรษา เพราะนิตตะไม่ชอบอะไรที่เป็นพิธีการ แต่จำใจต้องเชื่อฟังนาโอมิที่อายุน้อยกว่า ตั้งแต่เรื่องชุดพนักงาน ท่าทีการพูดจา บุคลิกภายนอกที่ต้องถูกปรับให้กลายจากความเป็นตำรวจมาเป็นพนักงานต้อนรับให้สมจริงมากที่สุด ทั้งคู่จึงมีการกระทบกระทั่งทางความคิดที่ไม่ตรงกัน จนมีการโต้เถียงบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นความบันเทิงประการหนึ่ง ด้วยคู่นี้มีความน่ารัก น่าลุ้น ที่จะกลายมาเป็นคู่ใจในอนาคตได้ 🏨 ระหว่างนั้น นาโอมิมีข้อสงสัยมากมายหลายประการ เธอมักถามนิตตะที่ทราบรายละเอียดของคดีมากกว่าที่พนักงานโรงแรมทราบ แต่นิตตะไม่บอกเล่าโดยให้เหตุผลว่าเป็นความลับของทางราชการไม่อาจให้คนนอกทราบได้ งานบริการของนาโอมิยังคงต้องดำเนินต่อไป เกิดปัญหาจากความต้องการของลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาพักเป็นระยะ ซึ่งเธอและนิตตะต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านพ้น ทำให้ทั้งสองเริ่มมีความเข้าใจและยอมรับในตัวตนและงานของอีกฝ่ายได้ดีขึ้นกว่าเมื่อแรกพบหน้า ลูกค้าบางคนดูไม่น่าไว้ใจและมีท่าทางแปลกจนนิตตะจับตามองเป็นพิเศษ ด้วยสัญชาตญาณของนักสืบ 🏨 ขณะที่มีตำรวจวัยเลยกลางคนไปแล้ว ซึ่งเป็นตำรวจในท้องที่เกิดเหตุคนหนึ่งที่รู้จักกับนิตตะ และได้รับการมอบหมายให้เป็นคู่หูสืบคดีก่อนที่นิตตะจะต้องปลอมตัวมาเป็นพนักงานต้อนรับนั้น มีน้ำใจที่อยากจะช่วยเหลือ จึงมักอาสาช่วยสืบเรื่องราวต่าง ๆ จากด้านนอก ตามที่นิตตะมีความสงสัยด้วยอีกทางหนึ่ง ในที่สุดนิตตะก็ทนรบเร้าจากนาโอมิไม่ไหว อีกทั้งเริ่มมีความไว้ใจเธอมากขึ้น จนยอมเล่าให้ทราบถึงปริศนาของชุดตัวเลขที่ปรากฏทุกครั้งในสถานที่พบศพอันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตำรวจตัดสินใจปะปนเข้ามาในโรงแรม ทำให้เธอเริ่มเกิดความตื่นตัวและทึ่งในความสามารถของเขา รวมถึงมีความกังวลถึงเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้จนส่งผลต่อสุขภาพและงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ 🏨 อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตัวคนร้ายคือคนที่คิดไม่ถึง ซึ่งไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าจะวางแผนการณ์ได้อย่างแยบยลขนาดนั้น แต่แรงจูงใจในการก่อคดียังรู้สึกว่ามีน้ำหนักน้อยไปสักหน่อย คงเพราะความที่คนร้ายเป็นคนประเภทมีจิตรุนแรงในพื้นนิสัย ทำให้ต้องลุ้นเอาใจช่วยนิตตะและนาโอมิในตอนที่เนื้อเรื่องเปิดเผยให้คนอ่านทราบแล้วว่าเป็นใคร ทั้งสองจะปลอดภัยหรือไม่ จะจับตัวคนร้ายได้ไหม ใครจะถูกฆ่าเป็นรายถัดไปหรือเปล่า ต้องตามอ่านต่อในพิกัดต่อไปใครเป็นศพครับ 🖋วิจารณ์หลังจบเรื่อง เป็นการเล่าในมุมมองบุคคลที่สามคือมุมมองพระเจ้า ฉากหลักตลอดทั้งเรื่องเกิดขึ้นภายในโรงแรม ตัวละครที่มีการเอ่ยชื่อและมีบทบาทสำคัญไม่เยอะจนเกินไป จึงทำให้คนอ่านจดจำและรู้สึกใกล้ชิดกับตัวเอก ไปจนตัวรองที่ถูกกล่าวถึงบ่อย ๆ ได้ไม่ยาก ความจริงในส่วนของคดีที่เกิดในเล่มนี้นั้น พูดตามจริงแล้วไม่ได้มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไร รูปแบบการฆ่าก็ธรรมดาเกินกว่าจะดูน่ากลัวหรือลึกลับ เพียงแต่มีจุดเด่นตรงชุดตัวเลขปริศนาว่าหมายถึงอะไร และชวนน่าสงสัยเล็กน้อยว่าคนร้ายจะฆ่าคนไปทำไม เพราะดูเหมือนตำรวจมีข้อมูลน้อยมาก จนการสืบสวนแทบไม่เดินหน้าไปไหนเลย 🏨 เป็นความตั้งใจของผู้เขียนที่คงจะต้องการให้โทนของเรื่องออกมาในลักษณะนี้ คือไม่เน้นที่การสืบสวนคลี่คลายปมเป็นพิเศษ จึงไม่จำเป็นต้องผูกเรื่องราวของคดีที่เกิดขึ้นให้มีความอลังการ จนดึงดูดความสนใจกระหายใคร่รู้ และกระตุ้มต่อมนักสืบของคนอ่านจนพุ่งสูงด้วยความเข้มข้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ แต่กลับเลือกที่จะให้ดูเป็นคดีทั่วไป ไม่มีความโชกเลือดหรือบ้าคลั่งของฆาตกรเป็นที่ปรากฏออกมาในบรรยากาศ ซึ่งในแง่นี้ถือว่านักอ่านหลายคนอาจถูกภาพปกของหนังสือหลอกเอาได้ เพราะโทนสีดำแดง กับเลือดเปรอะกระจายบนแผนที่ อีกทั้งชื่อเรื่องชวนค้นหาว่าคงจะดำเนินไปในแนวทางน่าตื่นเต้นกับการตามสืบอะไรทำนองนั้น ซึ่งใครที่คาดหวังมากก็อาจผิดหวังเมื่อพบว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ตนคาดว่าจะได้พบเจอ 🏨 แต่นี่ไม่มีปัญหากับผม ส่วนตัวชอบมาก แทบไม่ได้สนใจในคดีด้วยซ้ำว่าใครจะเป็นคนร้าย ใครเป็นเป้าหมายที่กำลังจะถูกฆ่า และทำไมต้องฆ่า คืออ่านไปได้เรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน ชอบในความที่เนื้อหาเจาะลึกถึงวงการคนโรงแรม ทำให้เราได้รู้ข้อมูลหลายอย่าง สิ่งที่พนักงานต้องแบกรับและพบเจอที่เป็นเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลัง ซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยได้คำนึงถึงและไม่เคยมองในมุมของคนทำงานเหล่านั้น จึงเป็นความบันเทิงที่สามารถได้รู้เรื่องราวอินไซด์โดยผ่านการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของนาโอมิ กับประเด็นต่าง ๆ ที่เข้ามามากมาย คล้ายกำลังได้ติดตามดูซีรีส์ชีวิตการทำงานในอาชีพด้านการบริหารโรงแรมดี ๆ สักเรื่องหนึ่ง ซึ่งอดีตเมื่อ 30 กว่าปีก่อน เคยได้รับชมมาบ้างทั้งของญี่ปุ่นและเกาหลี 🏨 จุดเด่นในการดำเนินเรื่องคือเราจะได้เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นของสองตัวละครหลัก ในระหว่างร่วมกันแก้ไขปัญหา แม้มีความขัดแย้งจากความเห็นมุมมองที่ต่างสถานะบ้างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดีเสียอีกทำให้ต่างฝ่ายได้เรียนรู้เพิ่ม เป็นประสบการณ์ใหม่และเปิดมุมมองอีกด้านที่ตนไม่เคยใส่ใจ จนเกิดเป็นความเห็นอกเห็นใจ และเชื่อใจกันโดยไม่รู้ตัว แม้นภายนอกเหมือนไม่ชอบหน้ากันก็ตาม ที่สำคัญคือแม้เรื่องแนวทางการสืบหาตัวคนร้ายเหมือนไม่คืบหน้าไปไหน แต่เมื่อนาโอมิแก้ปัญหาลูกค้าไปทีละเรื่องต่อเนื่องไป ทำให้นิตตะเองสะดุดคิดได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกี่ยวโยงไปถึงคดีได้อย่างไม่ตั้งใจ บางครั้งคำพูดของนาโอมิเองช่วงสนทนากับนิตตะ ไปจุดประกายให้เขาพลันนึกอะไรได้ขึ้นมาอย่างกะทันหันก็มี รวมถึงคู่หูนายตำรวจท้องที่ผู้มีอายุมากกว่าเขา ก็ยังมีส่วนช่วยอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน ทำให้เห็นถึงพลังของความช่วยเหลือกันและกันของความเป็นเพื่อน แม้เพิ่งทำความรู้จักกันชั่วระยะเวลาไม่นาน นี่จึงไม่ใช่นิยายสืบสวนที่เน้นความเก่งฉกาจของนักสืบที่รับผิดชอบคดีแบบฉายเดี่ยว แต่ต้องอาศัยความเชื่อใจระหว่างกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็นที่มีของตนคนเดียวอาจจะไม่เพียงพอ หากพิจารณาให้ดี จะได้เห็นถึงความสำคัญของบุคคลแวดล้อมที่ดูราวกับไม่มีส่วนสำคัญ แต่แท้จริงถ้าไม่ได้ความคิดเห็นหรือความช่วยเหลือของเขา พระเอกของเราก็ยังคงไม่อาจฉุกใจได้คิด จนนำไปสู่การรู้ตัวคนร้ายในช่วงท้ายของเรื่อง บทสรุปก่อนจบ มีแนวโน้มให้คนอ่านได้ลุ้นว่านิตตะกับนาโอมิ จะมีความเป็นไปได้ในการเป็นคู่รักหรือไม่ แต่ที่มั่นใจคือน่าจะมีเล่มต่อให้ได้ติดตามกันอย่างแน่นอน. ......................................... 2. #พิกัดต่อไปใครเป็นศพตอนลางร้ายใต้หน้ากาก #masqueradeeve เล่มที่สองของซีรีส์ ที่ยังคงความสนุกได้ไม่แพ้เล่มแรก แต่ความหนาน้อยลงเหลือ 352 หน้า สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 345 บาท ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล เนื้อหาย่อของเล่มนี้ ถึงจะออกมาเป็นเล่มที่สองของชุด แต่เหตุการณ์เป็นเรื่องก่อนหน้าคดีในเล่มแรก คือย้อนไปเล่าสมัยที่นาโอมิเพิ่งจะเข้าทำงานใน คอร์เทเชียโตเกียวได้แค่สี่ปี และย้ายแผนกมาอยู่ฝ่ายต้อนรับไม่นาน ยังเห็นถึงความผิดพลาดบกพร่องที่ไม่คล่องตัว ยังไม่มีความเชื่อมั่นในประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญดังภาพที่ปรากฏในเล่มก่อนหน้า ทว่าก็ยังคงบุคลิกที่มุ่งมั่นในการให้บริการ และมีหัวใจในการคิดถึงและเอาใจใส่ต่อลูกค้าทุกคนอย่างซื่อสัตย์ 🏨 เริ่มต้นมา นาโอมิก็ได้แสดงความสามารถที่ทำให้เห็นถึงความมีไหวพริบปฏิภาณ และช่างสังเกต อันเป็นคุณสมบัติที่ควรต้องมีในคนที่ทำอาชีพเช่นเธอ โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งนาโอมิจดจำได้ว่าเป็นอดีตแฟนที่เคยคบหากันชั่วเวลาหนึ่งสมัยที่เธอเรียนมหาวิทยาลัย แต่มีเหตุให้ต้องเลิกราแยกย้ายกันไปคนละเส้นทาง เขามากับชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นนักกีฬาเบสบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงมาก โดยทำหน้าที่เป็นผจก.ส่วนตัวนักกีฬาชาย แล้วได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นในขณะที่ทั้งสองมาพักอยู่ในโรงแรม จนเป็นเหตุให้แฟนเก่าคนนี้โทร.ตามตัวนาโอมิจากหน้าฟรอนต์ให้มาช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งเธอไม่เต็มใจนักแต่ต้องตัดความรู้สึกส่วนตัวออก แล้วสวมหัวใจพนักงานฝ่ายต้อนรับที่ต้องช่วยเหลือบริการแก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด ซึ่งสุดท้ายเธอก็สามารถจัดการกับปัญหาให้จบลงด้วยดี 🏨 ทางด้านนิตตะนั้น เพิ่งเริ่มต้นอาชีพด้วยการเข้าเป็นน้องใหม่ในสังกัดกรมตำรวจหลังกลับมาจากต่างประเทศไม่นาน โดยมีรุ่นพี่โมโตมิยะ(ปรากฏตัวในเล่มแรกด้วย โดยเป็นหนึ่งที่ปลอมตัวเข้าไปในโรงแรม) ที่เป็นคู่หูและพี่เลี้ยง ซึ่งคดีแรกที่เขาต้องคลี่คลายคือ คดีฆาตกรรมวันไวต์เดย์ โดยตำรวจได้รับแจ้งจากหญิงสาวคนหนึ่งว่าสามีของตนออกไปวิ่งออกกำลังตอนกลางดึกแต่ยังไม่กลับถึงบ้านตามเวลา สุดท้ายมีการพบว่าสามีของเธอกลายเป็นศพอยู่ในสวน ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกแทงที่ท้องและหลัง มีอะไรหลายอย่างที่พบในที่เกิดเหตุ รวมถึงข้อมูลที่ตำรวจได้สืบทราบมา ที่รบกวนใจของนิตตะ เขาได้แสดงความสามารถออกมาเป็นที่ปรากฏจนรุ่นพี่ออกจะไม่พอใจและหมั่นไส้อยู่บ้าง ด้วยสิ่งที่นิตตะคาดคะเนและวิเคราะห์ทำให้ตำรวจสามารถพบตัวของผู้ก่อเหตุได้ในเวลาไม่นาน แต่คดีนี้มีอะไรที่ซับซ้อนยิ่งกว่าสิ่งที่ตำรวจรู้ 🏨 ตัดมาที่การปฏิบัติงานของนาโอมิ ในเหตุการณ์ที่มีกลุ่มชายหลายคน มาจองห้องพักและมีพฤติการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าแปลกพิกล ต่อมาทราบว่าที่แท้คนกลุ่มนี้หวังที่จะมาเฝ้ารอเพื่อจะได้พบเจอกับนักเขียนนิยายที่โด่งดังนามว่า ทาจิบานะ ซากุระซึ่งเขียนแนวประโลมโลก และจะเข้ามาพักที่โรงแรมเพื่อเขียนงานใหม่ เนื่องจากเหล่าสาวกที่ชื่นชอบงานเขียนของซากุระ ไปเห็นรูปที่ถูกระบุว่าเป็นนักเขียนหญิงคนดังในโซเชียลมีเดีย พอเห็นว่าเป็นสาวสวยจึงหาวิธีที่จะได้พบเจอตัวจริงให้ได้ จึงเป็นหน้าที่ของนาโอมิ ที่จะต้องรักษาความเป็นส่วนตัวรวมถึงความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ ความยุ่งยากจึงเกิดขึ้น 🏨 ตอนสุดท้าย นาโอมิได้รับการขอจากผู้จัดการให้ช่วยไปสอนงานให้กับพนักงานแผนกต้อนรับที่สาขาโอซาก้า ซึ่งเพิ่งเปิดโรงแรมได้ไม่นาน เธอจึงต้องไปทำงานอยู่ที่นั่นชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่เกินครึ่งปี ในขณะที่นิตตะมีคดีใหม่ที่ต้องรับผิดชอบกับรุ่นพี่โมโตมิยะ คือการตายของอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องทางสิทยาศาสตร์ โดยพบศพในห้องทำงาน คดีนี้มีผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นบุคคลคนหนึ่ง แต่ทว่าเขากลับมีหลักฐานยืนยันที่อยู่ชัดเจนในช่วงเวลาที่คาดว่าเหยื่อถูกฆ่าตาย ซึ่งเจ้าตัวเข้าใจว่าตนเองรอดพ้นแน่แต่แท้จริงเบื้องหลังยังมีอะไรที่ไม่เป็นดังที่คิด ที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่า ในกรณีทีมสืบสวนเอง ผู้ใหญ่ได้สั่งการลงมาให้นิตตะจับคู่กันกับตำรวจหญิงวัยละอ่อน ที่เป็นตำรวจท้องที่มีนามว่า ริสะ ที่ถูกย้ายมาจากแผนกความปลอดภัยชุมชน ให้มาร่วมในทีมเป็นครั้งแรก นิตตะไม่พอใจนักแต่จำใจต้องทำตาม แม้จะดูเหมือนเป็นตำรวจหญิงที่อ่อนต่อโลก พูดเป็นต่อยหอย และขาดไหวพริบม แต่ริสะก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความกระตือรือร้น มุ่งมั่นใส่ใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่เธอได้รับคำสั่งจากนิตตะให้ไปสืบเช็กข้อมูลจากโรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้า เพื่อยืนยันคำพูดจากปากของชายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ทำให้ริสะได้พบกับนาโอมิ อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมาถึงผลลัพธ์ในภายหลัง 🖋วิเคราะห์หลังอ่านจบ เล่มนี้เล่าเรื่องโดยแยกเนื้อหาระหว่างการแก้ปัญหาในโรงแรมของนาโอมิ กับการไขคดีของนิตตะออกจากกันชัดเจนเป็นตอนที่จบในตัว เริ่มจากตอนของนาโอมิก่อน จากนั้นสลับไปเล่าฝั่งนิตตะ แต่ในตอนสุดท้ายจะผนวกสองฝั่งให้เชื่อมถึงกันในคดีที่มีผู้เกี่ยวข้องได้ไปเข้าพักที่โรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้าซึ่งนาโอมิกำลังอยู่ในช่วงที่สอนงานให้พนักงานที่นั่น ทั้งคู่ไม่ได้พบกันเลย เพราะการพบกันครั้งแรกเกิดขึ้นในเล่มแรก แต่ผู้เขียนมีความสามารถในการผูกโยงเรื่องราวให้คนอ่านรู้สึกเหมือนว่าได้เห็นคนทั้งสองอย่างใกล้ชิด และได้เห็นบุคลิกกับอุปนิสัยส่วนตัวของนาโอมิกับนิตตะมากขึ้น นิตตะในเล่มนี้ มีโอกาสได้แสดงฝีมือในการคิดวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์กับข้อมูลที่ใช้หาตัวคนร้าย ได้เด่นชัดกว่าเล่มแรก สมกับที่เป็นระดับหัวกะทิที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่เราก็จะได้เห็นถึงข้อเสียใหญ่ของเขาที่ไม่น่ารักเช่นกัน คือเป็นคนมั่นใจในความฉลาดของตนมากจนเหมือนดูถูกคนที่ด้อยกว่า โดยเฉพาะความคิดที่เห็นว่าผู้หญิงเป็นตัวถ่วง สู้ผู้ชายไม่ได้ ดังที่นิตตะแสดงออกทางสีหน้าท่าทางและคำพูดต่อเด็กใหม่อย่างริสะ ที่เหมือนเป็นได้แค่ลูกไล่ไร้ประโยชน์ ซึ่งต่างจากนาโอมิ ที่แม้จะมองออกว่าริสะเป็นตำรวจที่ความสามารถไม่ถึงขั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญ กลับมองเห็นถึงมุมที่เป็นความอดทน ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดของตำรวจหญิงในการพยายามค้นหาความจริงให้ได้ ความมุ่งมั่นของริสะจึงเอาชนะใจของนาโอมิ จนยอมช่วยเหลือด้วยการเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนให้ริสะทราบ ในส่วนของการคลี่คลายคดี ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนจนเกินไป แต่เล่มนี้จะเน้นไปที่คดีที่น่าจะเป็นที่มาของชื่อตอน (ลางร้ายใต้หน้ากาก) ถึงสองคดีด้วยกันครับ ถ้าได้อ่านแล้วจะเข้าใจ และน่าจะเห็นตรงกันว่าภายใต้หน้ากากที่ภายนอกดูไม่ได้รู้เลยว่าจะกลายเป็นคนร้ายได้ สุดท้ายก็แอบซ่อนความบิดเบี้ยวของใจที่โดนกิเลสเข้าครอบงำได้อย่างน่ากลัว ตัวละครในเรื่อง สำหรับเล่มนี้ รู้สึกว่าริสะที่แม้จะมีบทบาทเพียงแค่ช่วงคดีสุดท้ายนั้น เป็นตัวละครที่เขียนมาได้น่าสนใจมาก โผล่มาทีไรก็ทำให้คนอ่านอย่างผมอดขำไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปต่อในเล่มอื่น ๆ ของชุดนี้หรือไม่ ส่วนนาโอมินั้นยังคงเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์เช่นเดิม เทียบกับนิตตะแล้วส่วนตัวมีความรู้สึกชอบนาโอมิมากกว่า นอกจากนี้ยังชอบตอนจบของเรื่อง ที่มีการโยงถึงเหตุการณ์ที่เป็นต้นตอนำไปสู่ความอาฆาตแค้นของฆาตกรในคดีที่เกิดขึ้นในเล่มแรก สรุปว่าอ่านจบเล่มสองแล้วก็จะไปต่อเหตุการณ์ของเล่มแรกพอดี ใครเริ่มอ่านจากเล่มนี้ก่อน สามารถอ่านเล่มแรกต่อเนื่องได้เลย 📌คำเตือน : สำหรับคนที่ชอบการสืบคดีแบบเข้มข้น มีวิธีการฆ่าที่ค่อนข้างแปลกพิสดารหรือโหดสยอง และมีกลวิธีในการอำพรางซ่อนเร้นที่ไม่ธรรมดา ซีรีส์ชุดนี้อาจไม่ตอบโจทย์ แล้วเลยพาลจะไม่ชอบหรือหมดสนุกได้ง่าย แต่ถ้าชอบแนวได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพของตัวเอกควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการไขคดีที่ไม่โลดโผน ชุดนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคุณได้ไม่ยากครับ ป.ล. มีปกใหม่ออกมาที่คิดว่าทำได้ดีตรงกับแนวเรื่องและชื่อตอนมากกว่าปกฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกด้วย เพราะปกของเล่มสองนี้ดูเหมือนน่าจะโหดมาก แต่เนื้อในไม่ใช่อย่างที่คิด ใครอ่านตั้งแต่ต้นมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ได้ขอได้รับความขอบคุณจากผมด้วยครับ #thaitimes #หนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #นิยายแปล #นิยายญี่ปุ่น #นิยายสืบสวน #สืบสวน #คดีฆาตกรรม #งานโรงแรม #พนักงานต้อนรับ #ตำรวจ #นักสืบ #ลูกค้า #งานบริการ #อาชีพ #ฮิงาชิโนะเคโงะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1321 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาพักร้อน ฟีลอบอุ่นๆ กับ 𝙎𝙖𝙣𝙖𝙚’ 𝙊𝙡𝙙𝙩𝙤𝙬𝙣 𝙃𝙤𝙩𝙚𝙡
    ต้องไม่พลาดห้องดีๆ สวย สะอาด ราคาสบายกระเป๋า
    ให้คุณสนุกได้แบบสบายๆ พร้อมบาร์ snack แบบไม่อั้น
    สายคาเฟ่ ถ่ายรูป ช็อปปิ้งก็เดินทางได้สะดวก
    ห้องพักตรงปก ในราคาเบาๆ
    🌟Standard Room (King bed / Twin beds)
    โปรโมชั่นคืนละ 1,400฿ (ปกติ 2,210฿)
    แพ็คเกจห้องพัก 3 คืน ราคา 3,60𝟬฿ (ตกคืนละ 1,200฿)
    🌟Superior Room (Moat View) (King bed / Twin beds)​
    โปรโมชั่นคืนละ 𝟭,7𝟬𝟬฿ (ปกติ 2,600฿)
    แพ็คเกจห้องพัก 3 คืน ราคา 4,5𝟬𝟬฿ (ตกคืนละ 1,500฿)
    🌟Deluxe Room (Moat View) (King bed)
    โปรโมชั่นคืนละ 2,1𝟬𝟬฿ (ปกติ 3,200฿)
    แพ็คเกจห้องพัก 3 คืน ราคา 5,4𝟬𝟬฿ (ตกคืนละ 1,800฿)
    **สำหรับการเข้าพักวันนี้ - 31 ตุลาคม 2567**
    ***ยกเว้นช่วงวันหยุดยาวและเทศกาล
    **พิเศษ สำหรับลูกค้าของโรงแรมทุกท่าน สามารถรับบริการอาหารว่างและเครื่องดื่มสุดพรีเมี่ยมที่ส่วนคาเฟ่ฟรีตลอดการเข้าพัก**
    ------------------------------
    สำหรับใครที่กำลังหาที่พักที่เชียงใหม่
    เที่ยว กิน ช้อปสุดชิลล์ได้ที่ 𝙎𝙖𝙣𝙖𝙚’ 𝙊𝙡𝙙𝙩𝙤𝙬𝙣 𝙃𝙤𝙩𝙚𝙡
    โรงแรม ที่พัก ย่านเมืองเก่า ใจกลางเมืองเชียงใหม่
    สำรองห้องพัก​ / Booking NOW
    ☎️ Call: 053-222-234​
    📲 LINE : sanaeoldtown​
    🌐 Website : www.sanaeoldtownhotel.com
    ------------------------------
    #SanaeOldtown #สะเหน่โอลด์ทาวน์ #โรงแรมเชียงใหม่
    #พักผ่อนเชียงใหม่ #ที่พักเชียงใหม่ #วันหยุด
    มาพักร้อน ฟีลอบอุ่นๆ กับ 𝙎𝙖𝙣𝙖𝙚’ 𝙊𝙡𝙙𝙩𝙤𝙬𝙣 𝙃𝙤𝙩𝙚𝙡 ต้องไม่พลาดห้องดีๆ สวย สะอาด ราคาสบายกระเป๋า ให้คุณสนุกได้แบบสบายๆ พร้อมบาร์ snack แบบไม่อั้น สายคาเฟ่ ถ่ายรูป ช็อปปิ้งก็เดินทางได้สะดวก ห้องพักตรงปก ในราคาเบาๆ 🌟Standard Room (King bed / Twin beds) โปรโมชั่นคืนละ 1,400฿ (ปกติ 2,210฿) แพ็คเกจห้องพัก 3 คืน ราคา 3,60𝟬฿ (ตกคืนละ 1,200฿) 🌟Superior Room (Moat View) (King bed / Twin beds)​ โปรโมชั่นคืนละ 𝟭,7𝟬𝟬฿ (ปกติ 2,600฿) แพ็คเกจห้องพัก 3 คืน ราคา 4,5𝟬𝟬฿ (ตกคืนละ 1,500฿) 🌟Deluxe Room (Moat View) (King bed) โปรโมชั่นคืนละ 2,1𝟬𝟬฿ (ปกติ 3,200฿) แพ็คเกจห้องพัก 3 คืน ราคา 5,4𝟬𝟬฿ (ตกคืนละ 1,800฿) **สำหรับการเข้าพักวันนี้ - 31 ตุลาคม 2567** ***ยกเว้นช่วงวันหยุดยาวและเทศกาล **พิเศษ สำหรับลูกค้าของโรงแรมทุกท่าน สามารถรับบริการอาหารว่างและเครื่องดื่มสุดพรีเมี่ยมที่ส่วนคาเฟ่ฟรีตลอดการเข้าพัก** ------------------------------ สำหรับใครที่กำลังหาที่พักที่เชียงใหม่ เที่ยว กิน ช้อปสุดชิลล์ได้ที่ 𝙎𝙖𝙣𝙖𝙚’ 𝙊𝙡𝙙𝙩𝙤𝙬𝙣 𝙃𝙤𝙩𝙚𝙡 โรงแรม ที่พัก ย่านเมืองเก่า ใจกลางเมืองเชียงใหม่ สำรองห้องพัก​ / Booking NOW ☎️ Call: 053-222-234​ 📲 LINE : sanaeoldtown​ 🌐 Website : www.sanaeoldtownhotel.com ------------------------------ #SanaeOldtown #สะเหน่โอลด์ทาวน์ #โรงแรมเชียงใหม่ #พักผ่อนเชียงใหม่ #ที่พักเชียงใหม่ #วันหยุด
    Sanae' Old Town Hotel Chiang Mai
    Sanae’ Old Town, is a boutique hotel located in the heart of the old town. It is in a perfect location to explore and a great place for you to unwind. You can easily design and arrange an exhilarating
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 450 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรงแรมสะเหน่ นิมมาน
    ราคาโปรโมชั่นสำหรับการเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - ตุลาคม 2567 (ยกเว้นช่วงวันหยุดยาวและเทศกาล)
    ⭐ ห้อง Suite room King bed & Twin beds
    โปรโมชั่นคืนละ 2,700 บาท
    แพ็คเกจ 3 คืน 6,999 บาท (คืนละ 2,333 บาท)
    ⭐ ห้อง Executive Suite room King bed
    โปรโมชั่นคืนละ 3,900 บาท
    แพ็คเกจ 3 คืน 9,999 บาท (คืนละ 3,333 บาท)
    ⭐ ห้อง Sanae' Signature Suite King bed
    โปรโมชั่นคืนละ 5,100 บาท
    แพ็คเกจ 3 คืนละ 13,350 บาท (คืนละ 4,450 บาท)
    ⭐ ห้อง Ground floor Suite room King bed & Twin beds
    โปรโมชั่นคืนละ 2,400 บาท
    แพ็คเกจ 3 คืน 6,000 บาท (คืนละ 2,000 บาท)
    ⭐ ห้อง Townhouse
    **หมายเหตุ : ห้องพักประเภทนี้จะอยู่แยกจากอาคารหลักของโรงแรม แต่อยู่ในบริเวณเดียวกัน**
    โปรโมชั่นคืนละ 2,200 บาท
    แพ็คเกจ 3 คืน 5,550 บาท (คืนละ 1,850 บาท)
    #พิเศษทุกการจองแถมเซ็ทอาหารเช้าหลากหลายเมนู
    💛💛โรงแรมสะเหน่ ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย SHA💛💛
    👉 สิ่งอำนวยความสะดวก
    ✅ฟรี Internet Wifi
    ✅เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง ✅ทีวี 2 เครื่องขนาด 40-50 นิ้ว
    ✅ตู้เย็น ✅น้ำดื่ม 4 ขวดในห้องพัก
    ✅ตู้เซฟ ✅ไดร์เป่าผม
    ✅สระว่ายน้ำส่วนกลาง ✅ที่จอดรถใต้อาคาร
    ☎️สอบถามข้อมูลห้องพัก : 053-222-299
    🌍 Line : sanaehotel
    🏡 Website : www.sanaehotel.com❤❤
    #สะเหน่เชียงใหม่ #hotel #โรงเเรมสะเหน่ #ที่พักในเชียงใหม่ #โรงแรมเชียงใหม่ #โรงแรมดังเชียงใหม่ #โปรโมชั่นโรงแรม #ที่พักนิมมาน #นักธุรกิจ #ท่องเที่ยว #คู่รัก #ครอบครัว #โปรโมชั่นห้องพัก #รีวิวเชียงใหม่ #reviewchiangmai #sanaehotel #sanae #nimman #tripchiangmai #เที่ยวเชียงใหม่ #สะเหน่โฮเท็ล #ฤดูหนาว #เดินทางท่องเที่ยว
    Sanae' Hotel Nimman
    โรงแรมสะเหน่ นิมมาน ราคาโปรโมชั่นสำหรับการเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - ตุลาคม 2567 (ยกเว้นช่วงวันหยุดยาวและเทศกาล) ⭐ ห้อง Suite room King bed & Twin beds โปรโมชั่นคืนละ 2,700 บาท แพ็คเกจ 3 คืน 6,999 บาท (คืนละ 2,333 บาท) ⭐ ห้อง Executive Suite room King bed โปรโมชั่นคืนละ 3,900 บาท แพ็คเกจ 3 คืน 9,999 บาท (คืนละ 3,333 บาท) ⭐ ห้อง Sanae' Signature Suite King bed โปรโมชั่นคืนละ 5,100 บาท แพ็คเกจ 3 คืนละ 13,350 บาท (คืนละ 4,450 บาท) ⭐ ห้อง Ground floor Suite room King bed & Twin beds โปรโมชั่นคืนละ 2,400 บาท แพ็คเกจ 3 คืน 6,000 บาท (คืนละ 2,000 บาท) ⭐ ห้อง Townhouse **หมายเหตุ : ห้องพักประเภทนี้จะอยู่แยกจากอาคารหลักของโรงแรม แต่อยู่ในบริเวณเดียวกัน** โปรโมชั่นคืนละ 2,200 บาท แพ็คเกจ 3 คืน 5,550 บาท (คืนละ 1,850 บาท) #พิเศษทุกการจองแถมเซ็ทอาหารเช้าหลากหลายเมนู 💛💛โรงแรมสะเหน่ ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย SHA💛💛 👉 สิ่งอำนวยความสะดวก ✅ฟรี Internet Wifi ✅เครื่องปรับอากาศ 2 เครื่อง ✅ทีวี 2 เครื่องขนาด 40-50 นิ้ว ✅ตู้เย็น ✅น้ำดื่ม 4 ขวดในห้องพัก ✅ตู้เซฟ ✅ไดร์เป่าผม ✅สระว่ายน้ำส่วนกลาง ✅ที่จอดรถใต้อาคาร ☎️สอบถามข้อมูลห้องพัก : 053-222-299 🌍 Line : sanaehotel 🏡 Website : www.sanaehotel.com❤❤ #สะเหน่เชียงใหม่ #hotel #โรงเเรมสะเหน่ #ที่พักในเชียงใหม่ #โรงแรมเชียงใหม่ #โรงแรมดังเชียงใหม่ #โปรโมชั่นโรงแรม #ที่พักนิมมาน #นักธุรกิจ #ท่องเที่ยว #คู่รัก #ครอบครัว #โปรโมชั่นห้องพัก #รีวิวเชียงใหม่ #reviewchiangmai #sanaehotel #sanae #nimman #tripchiangmai #เที่ยวเชียงใหม่ #สะเหน่โฮเท็ล #ฤดูหนาว #เดินทางท่องเที่ยว Sanae' Hotel Nimman
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 870 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่อง “Château Christophe”
    ตอนที่ 4
    ปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ.2011 Feltman ซึ่งเป็นทั้งนายและเพื่อน Stevens เดินทางมา Benghazi เพื่อมาฟังความคืบหน้า ในการนัดพบครั้งหลังสุดในวันที่ 20 สิงหาคม กับแกนนำระดับสูงของฝ่ายกบฎ ซึ่งเป็นระดับรัฐมนตรี ฝ่ายอเมริกันอยากรู้ให้แน่ใจว่าฝ่ายกบฏจะบุก Tripoli เมื่อไหร่
    เมื่อทั้ง 2 คนเดินเข้าไปที่โรงแรม El Fadeel Hotel ซึ่งรัฐมนตรีนั่งคอยอยู่ในห้องประชุม Stevens กระซิบบอก Feltman ว่า เรายังมีเวลา เราไปนั่งสังเกตการณ์สักพักกันดีกว่า Stevens ชอบไปซุ่มสังเกตการณ์ตามร้านกาแฟ หรือตลาด ในสำนักงานหรือห้องรับแขก เขาต้องการได้ข้อมูล บางที่เป็นข้อมูลทั่วไป บางที่เป็นข้อมูลเฉพาะ เขาบอกว่าเราจะไม่ได้ข้อมูลนั้นจากการถามตรงๆหรอก เราจะได้จากการฟังมากกว่าการถาม แล้วเขาจะใช้วิธีหยุดฟังเวลาคุย หยุดเพื่อสร้างโอกาส ให้อีกฝ่ายพูดเติม
    รัฐมนตรีที่พวกอเมริกันจะไปคุยด้วยนี้ เป็นรัฐมนตรีที่ Qaddafi ตัดสินประหารชีวิตหลังจาก ที่เจ้าตัวหนีมาแล้ว รัฐมนตรีทักทายกับอเมริกันอย่างเป็นมิตร ชาถูกนำมาเสริฟ การสนทนาเริ่มขึ้น รัฐมนตรีเล่าถึงการที่เตรียมบุก Tripoli ซึ่งขณะนั้นการรบกำลังรุกไปที่ Soug-al-Jumaa เมืองที่อยู่ติด ๆ กับ Barghazi ส่วนเมืองอื่นๆจะลุกฮือพร้อมนำอาวุธที่ลอบนำเข้าไปไว้ในเมืองแล้ว และถึงตอนนั้นชาวเมือง Tripoli ก็จะประกาศว่าพวกเขาได้ทำการปฏิวัติแล้ว และกองกำลังคณะปฏิวัติก็จะรุกคืบไปทางตะวันออกต่อไป
    รัฐมนตรีอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติการอย่างชัดเจน แต่ Felthman ยังสงสัยว่า ไอ้ทีพูดมาทั้งหมดจะเชื่อถือได้ขนาดไหน
    “แล้วทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่” Stevens ถาม
    “จวนแล้วละ” รัฐมนตรีตอบ
    Stevens จิบชา แล้วถามต่อว่า เออ ! จวนแล้วของคุณนี่หมายความว่าอย่างไรนะ
    “ในไม่ช้านี้ละ”
    “เราได้ยินมาแยะแล้ว” Stevens พูดนุ่มๆ และเงียบ มันไม่ใช่ความเงียบแบบที่ทำให้อึดอัด แต่ดูเป็นการพักคิดมากกว่า Stevens เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการทำให้ความเงียบกลายเป็นการเชื้อเชิญ
    รัฐมนตรีพูดต่อว่า “มันจะเริ่มคืนนี้แล้วละ”
    นี่เป็นข้อมูลที่น่าตื่นเต้น สมมุติว่าเป็นเรื่องจริง จังหวะเวลา การออกแบบ การจับอาวุธลุกขึ้นมาต่อสู้ในเมืองหลวงของประเทศที่ปกครองโดยเผด็จการมากว่า 40 ปี ! ทั้ง Stevens และ Felthman ต่างรีบส่งรหัสลับรายงานไปทางวอซิงตัน แต่มันก็ต้องระมัดระวังอย่างมาก ใครจะรู้ว่าจะเชื่อใครได้ขนาดไหนในระหว่างการทำสงคราม ?
    ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดินหลังกำแพง Château Christophe ความมืดค่อยๆเข้ามาครอบคลุมเถาองุ่นต้นฝรั่งและเรือนรับรอง หลังจากมืดสนิท Felthman ได้ยินเสียงของปืนไรเฟิลดังก้อง เสียงปืนดังอย่างต่อเนื่องเหมือนการเฉลิมฉลอง
    การต่อสู้ที่ Tripoli ได้เริ่มขึ้นแล้วพร้อมกับเสียงสวดที่กำลังเริ่มเช่นกัน และเมืองที่ตื่นขึ้นมาเมืองแรกคือ Souq al-Jamaa
    คนเล่านิทาน
    7 มิย. 57
    นิทานเรื่อง “Château Christophe” ตอนที่ 4 ปลายเดือนสิงหาคม ค.ศ.2011 Feltman ซึ่งเป็นทั้งนายและเพื่อน Stevens เดินทางมา Benghazi เพื่อมาฟังความคืบหน้า ในการนัดพบครั้งหลังสุดในวันที่ 20 สิงหาคม กับแกนนำระดับสูงของฝ่ายกบฎ ซึ่งเป็นระดับรัฐมนตรี ฝ่ายอเมริกันอยากรู้ให้แน่ใจว่าฝ่ายกบฏจะบุก Tripoli เมื่อไหร่ เมื่อทั้ง 2 คนเดินเข้าไปที่โรงแรม El Fadeel Hotel ซึ่งรัฐมนตรีนั่งคอยอยู่ในห้องประชุม Stevens กระซิบบอก Feltman ว่า เรายังมีเวลา เราไปนั่งสังเกตการณ์สักพักกันดีกว่า Stevens ชอบไปซุ่มสังเกตการณ์ตามร้านกาแฟ หรือตลาด ในสำนักงานหรือห้องรับแขก เขาต้องการได้ข้อมูล บางที่เป็นข้อมูลทั่วไป บางที่เป็นข้อมูลเฉพาะ เขาบอกว่าเราจะไม่ได้ข้อมูลนั้นจากการถามตรงๆหรอก เราจะได้จากการฟังมากกว่าการถาม แล้วเขาจะใช้วิธีหยุดฟังเวลาคุย หยุดเพื่อสร้างโอกาส ให้อีกฝ่ายพูดเติม รัฐมนตรีที่พวกอเมริกันจะไปคุยด้วยนี้ เป็นรัฐมนตรีที่ Qaddafi ตัดสินประหารชีวิตหลังจาก ที่เจ้าตัวหนีมาแล้ว รัฐมนตรีทักทายกับอเมริกันอย่างเป็นมิตร ชาถูกนำมาเสริฟ การสนทนาเริ่มขึ้น รัฐมนตรีเล่าถึงการที่เตรียมบุก Tripoli ซึ่งขณะนั้นการรบกำลังรุกไปที่ Soug-al-Jumaa เมืองที่อยู่ติด ๆ กับ Barghazi ส่วนเมืองอื่นๆจะลุกฮือพร้อมนำอาวุธที่ลอบนำเข้าไปไว้ในเมืองแล้ว และถึงตอนนั้นชาวเมือง Tripoli ก็จะประกาศว่าพวกเขาได้ทำการปฏิวัติแล้ว และกองกำลังคณะปฏิวัติก็จะรุกคืบไปทางตะวันออกต่อไป รัฐมนตรีอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติการอย่างชัดเจน แต่ Felthman ยังสงสัยว่า ไอ้ทีพูดมาทั้งหมดจะเชื่อถือได้ขนาดไหน “แล้วทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่” Stevens ถาม “จวนแล้วละ” รัฐมนตรีตอบ Stevens จิบชา แล้วถามต่อว่า เออ ! จวนแล้วของคุณนี่หมายความว่าอย่างไรนะ “ในไม่ช้านี้ละ” “เราได้ยินมาแยะแล้ว” Stevens พูดนุ่มๆ และเงียบ มันไม่ใช่ความเงียบแบบที่ทำให้อึดอัด แต่ดูเป็นการพักคิดมากกว่า Stevens เป็นคนที่มีพรสวรรค์ในการทำให้ความเงียบกลายเป็นการเชื้อเชิญ รัฐมนตรีพูดต่อว่า “มันจะเริ่มคืนนี้แล้วละ” นี่เป็นข้อมูลที่น่าตื่นเต้น สมมุติว่าเป็นเรื่องจริง จังหวะเวลา การออกแบบ การจับอาวุธลุกขึ้นมาต่อสู้ในเมืองหลวงของประเทศที่ปกครองโดยเผด็จการมากว่า 40 ปี ! ทั้ง Stevens และ Felthman ต่างรีบส่งรหัสลับรายงานไปทางวอซิงตัน แต่มันก็ต้องระมัดระวังอย่างมาก ใครจะรู้ว่าจะเชื่อใครได้ขนาดไหนในระหว่างการทำสงคราม ? ดวงอาทิตย์กำลังจะตกดินหลังกำแพง Château Christophe ความมืดค่อยๆเข้ามาครอบคลุมเถาองุ่นต้นฝรั่งและเรือนรับรอง หลังจากมืดสนิท Felthman ได้ยินเสียงของปืนไรเฟิลดังก้อง เสียงปืนดังอย่างต่อเนื่องเหมือนการเฉลิมฉลอง การต่อสู้ที่ Tripoli ได้เริ่มขึ้นแล้วพร้อมกับเสียงสวดที่กำลังเริ่มเช่นกัน และเมืองที่ตื่นขึ้นมาเมืองแรกคือ Souq al-Jamaa คนเล่านิทาน 7 มิย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 517 มุมมอง 0 รีวิว
  • โกลเด้นซี หัวหิน

    #HuaHin #หัวหิน #โรงแรมหัวหิน #ที่พักหัวหิน

    https://www.agoda.com/th-th/golden-sea-pool-villa-hua-hin/hotel/hua-hin-cha-am-th.html?finalPriceView=1&isShowMobileAppPrice=false&cid=1913812&numberOfBedrooms=&familyMode=false&adults=2&children=0&rooms=1&maxRooms=0&checkIn=2024-09-6&isCalendarCallout=false&childAges=&numberOfGuest=0&missingChildAges=false&travellerType=1&showReviewSubmissionEntry=false&currencyCode=THB&isFreeOccSearch=false&tspTypes=9&los=1&searchrequestid=aebffe76-5b2b-449c-9510-a17cb7239328&ds=mB%2F5sdLBT%2FInDR7U



    โกลเด้นซี หัวหิน #HuaHin #หัวหิน #โรงแรมหัวหิน #ที่พักหัวหิน https://www.agoda.com/th-th/golden-sea-pool-villa-hua-hin/hotel/hua-hin-cha-am-th.html?finalPriceView=1&isShowMobileAppPrice=false&cid=1913812&numberOfBedrooms=&familyMode=false&adults=2&children=0&rooms=1&maxRooms=0&checkIn=2024-09-6&isCalendarCallout=false&childAges=&numberOfGuest=0&missingChildAges=false&travellerType=1&showReviewSubmissionEntry=false&currencyCode=THB&isFreeOccSearch=false&tspTypes=9&los=1&searchrequestid=aebffe76-5b2b-449c-9510-a17cb7239328&ds=mB%2F5sdLBT%2FInDR7U
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31

    ในที่สุด อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อายุ 38 ปี กำลังจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 หลังจากกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย มีมติให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่บรรดา สส.พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ นับเป็นคนที่ 4 ในตระกูลชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 และเป็นนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์

    เดิมจากการตกลงระหว่างนายทักษิณ กับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล จะเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ หนึ่งในบัญชีแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฎว่านายชัยเกษมมีแผลขึ้นมา ทั้งกรณีถูกวิจารณ์ว่าสมัยเป็นอัยการสูงสุด เป็นยุคที่เคยสั่งไม่ฟ้องนายพิชิต ชื่นบาน ในคดีถุงขนม 2 ล้าน อีกทั้งยังเคยมีกรณีที่นายชัยเกษมเคยเสนอแก้ไขมาตรา 112 ที่พรรคร่วมไม่เห็นด้วย

    ขณะที่ สส.พรรคเพื่อไทย สนับสนุนอุ๊งอิ๊งเต็มที่ เพราะที่ผ่านมาอุ๊งอิ๊งลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งเป็นส่วนใหญ่ และผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทยหาเสียงเอาไว้ว่า จะให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกรัฐมนตรี แม้ภายหลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะกลายเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ตาม อีกทั้งสังคมเห็นภาพเด่นชัดว่าอุ๊งอิ๊งเป็นตัวแทนของนายทักษิณ คนที่เลือกอุ๊งอิ๊งก็เท่ากับเลือกทักษิณ

    หากได้เป็นนายกรัฐมนตรีเต็มตัว อุ๊งอิ๊งและนายทักษิณมีอำนาจเต็มในการบริหารจัดการ ไม่เกิดแรงกระเพื่อมในพรรค

    นอกจากนี้ ด้วยวัยเพียงแค่ 37 ปี อุ๊งอิ๊งเป็นคนหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ มีพละกำลังเหลือเฟือ คิดอ่านบริหารเหลือเฟือ อยู่ในวัยที่กำลังเหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนนายชัยเกษม สส.ส่วนหนึ่งเห็นว่ายังมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และในอดีตนายชัยเกษมเคยพูดถึงเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 เกรงว่าจะทำให้เป็นปัญหาตามมาได้

    น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สำหรับการสนับสนุนนี้ ตนจะทำทุกอย่างให้เต็มความสามารถ ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเราทุกคนชื่นชมการทำงานของนายเศรษฐา เสียดายที่จะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อย่างที่เราไม่ได้คาดฝันไว้ แต่ประเทศต้องไปต่อ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล วันนี้เรามีความพร้อมที่จะผลักดันประเทศต่อ ตนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย มั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ที่จะช่วยกันนำพาประเทศของเราให้หลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ

    สำหรับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เกิดเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2529 เป็นบุตรสาวคนสุดท้องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มีพี่น้องร่วมกัน คือ นายพานทองแท้ ชินวัตร และนางพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ จบการศึกษาปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท Msc International Hotel Management ที่มหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ สหราชอาณาจักร

    ประสบการณ์ทำงาน เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจโรงแรมและสนามกอล์ฟ บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ อาทิ โรงแรม เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่, สนามกอล์ฟอัลไพน์, โรงแรมเอสซี ปาร์ค ส่วนในทางการเมือง เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมของพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

    #Newskit #แพทองธาร #นายกรัฐมนตรี
    อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ในที่สุด อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อายุ 38 ปี กำลังจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 หลังจากกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย มีมติให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่บรรดา สส.พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ นับเป็นคนที่ 4 ในตระกูลชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 และเป็นนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ เดิมจากการตกลงระหว่างนายทักษิณ กับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล จะเสนอนายชัยเกษม นิติสิริ หนึ่งในบัญชีแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ปรากฎว่านายชัยเกษมมีแผลขึ้นมา ทั้งกรณีถูกวิจารณ์ว่าสมัยเป็นอัยการสูงสุด เป็นยุคที่เคยสั่งไม่ฟ้องนายพิชิต ชื่นบาน ในคดีถุงขนม 2 ล้าน อีกทั้งยังเคยมีกรณีที่นายชัยเกษมเคยเสนอแก้ไขมาตรา 112 ที่พรรคร่วมไม่เห็นด้วย ขณะที่ สส.พรรคเพื่อไทย สนับสนุนอุ๊งอิ๊งเต็มที่ เพราะที่ผ่านมาอุ๊งอิ๊งลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งเป็นส่วนใหญ่ และผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทยหาเสียงเอาไว้ว่า จะให้อุ๊งอิ๊งเป็นนายกรัฐมนตรี แม้ภายหลังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะกลายเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ตาม อีกทั้งสังคมเห็นภาพเด่นชัดว่าอุ๊งอิ๊งเป็นตัวแทนของนายทักษิณ คนที่เลือกอุ๊งอิ๊งก็เท่ากับเลือกทักษิณ หากได้เป็นนายกรัฐมนตรีเต็มตัว อุ๊งอิ๊งและนายทักษิณมีอำนาจเต็มในการบริหารจัดการ ไม่เกิดแรงกระเพื่อมในพรรค นอกจากนี้ ด้วยวัยเพียงแค่ 37 ปี อุ๊งอิ๊งเป็นคนหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ มีพละกำลังเหลือเฟือ คิดอ่านบริหารเหลือเฟือ อยู่ในวัยที่กำลังเหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนนายชัยเกษม สส.ส่วนหนึ่งเห็นว่ายังมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และในอดีตนายชัยเกษมเคยพูดถึงเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 เกรงว่าจะทำให้เป็นปัญหาตามมาได้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สำหรับการสนับสนุนนี้ ตนจะทำทุกอย่างให้เต็มความสามารถ ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเราทุกคนชื่นชมการทำงานของนายเศรษฐา เสียดายที่จะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อย่างที่เราไม่ได้คาดฝันไว้ แต่ประเทศต้องไปต่อ พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล วันนี้เรามีความพร้อมที่จะผลักดันประเทศต่อ ตนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย มั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ที่จะช่วยกันนำพาประเทศของเราให้หลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ สำหรับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เกิดเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2529 เป็นบุตรสาวคนสุดท้องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มีพี่น้องร่วมกัน คือ นายพานทองแท้ ชินวัตร และนางพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ จบการศึกษาปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท Msc International Hotel Management ที่มหาวิทยาลัยเซอร์เรย์ สหราชอาณาจักร ประสบการณ์ทำงาน เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจโรงแรมและสนามกอล์ฟ บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ อาทิ โรงแรม เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่, สนามกอล์ฟอัลไพน์, โรงแรมเอสซี ปาร์ค ส่วนในทางการเมือง เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมของพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย #Newskit #แพทองธาร #นายกรัฐมนตรี
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1060 มุมมอง 0 รีวิว