• ไทยไม่เสียเปรียบเขมร ยั่วยุ-รุกราน จัดเต็มแน่ : [NEWS UPDATE]
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ยืนยัน เรื่องภัยกัมพูชาเราไม่เสียเปรียบแน่ ทุกวันนี้ไม่มีการยิง ไม่มีการรุกราน ไม่มีการยั่วยุตามชายแดน เพราะข้อความไปถึงเขาว่าถ้ามาก็จัดเต็ม เขาคิดแล้วว่าอย่ามาดีกว่า แต่จะเอาสิ่งที่แพลนอยู่บอกให้เขาเตรียมตัว ไม่เคยมีในสมองของนายกฯ คนนี้ ไปเจอคนที่อยู่แนวชายแดน ถามว่าให้เปิดด่าน 100% ไหม เขาบอกว่ายอมเดือดร้อน เราฟังเขา ไม่มีเรื่องการเปิดด่าน จนกว่าความเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศไทยจะหมดไป ถ้าอยู่ในเขตเรา เราไล่อยู่แล้ว แต่ถ้าอยู่ในเขตที่สงสัยต้องใช้วิธีสากล สถานการณ์โควิดปลูกฝังความอดทนว่าช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม แต่อย่าช้าเกินไป เดี๋ยวจะถูกกระทืบ รอบคอบแล้วค่อยตัดสินใจ รับรองไม่ให้เสื่อมเสียเกียรติยศอธิปไตยตรงนี้เท่าไหร่ก็ต้องแลก


    โต้เฟกนิวส์ 9 ข้อกัมพูชา

    ปั่นข่าวเข้าข้างตัวเอง

    เศรษฐกิจไทย"รถติดหล่ม"

    ทางช้างเผือกกลางแสงเขียว
    ไทยไม่เสียเปรียบเขมร ยั่วยุ-รุกราน จัดเต็มแน่ : [NEWS UPDATE] นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ยืนยัน เรื่องภัยกัมพูชาเราไม่เสียเปรียบแน่ ทุกวันนี้ไม่มีการยิง ไม่มีการรุกราน ไม่มีการยั่วยุตามชายแดน เพราะข้อความไปถึงเขาว่าถ้ามาก็จัดเต็ม เขาคิดแล้วว่าอย่ามาดีกว่า แต่จะเอาสิ่งที่แพลนอยู่บอกให้เขาเตรียมตัว ไม่เคยมีในสมองของนายกฯ คนนี้ ไปเจอคนที่อยู่แนวชายแดน ถามว่าให้เปิดด่าน 100% ไหม เขาบอกว่ายอมเดือดร้อน เราฟังเขา ไม่มีเรื่องการเปิดด่าน จนกว่าความเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศไทยจะหมดไป ถ้าอยู่ในเขตเรา เราไล่อยู่แล้ว แต่ถ้าอยู่ในเขตที่สงสัยต้องใช้วิธีสากล สถานการณ์โควิดปลูกฝังความอดทนว่าช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม แต่อย่าช้าเกินไป เดี๋ยวจะถูกกระทืบ รอบคอบแล้วค่อยตัดสินใจ รับรองไม่ให้เสื่อมเสียเกียรติยศอธิปไตยตรงนี้เท่าไหร่ก็ต้องแลก โต้เฟกนิวส์ 9 ข้อกัมพูชา ปั่นข่าวเข้าข้างตัวเอง เศรษฐกิจไทย"รถติดหล่ม" ทางช้างเผือกกลางแสงเขียว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 332 Views 0 0 Reviews
  • ดิ้นพล่าน ตอนที่ 3

    “ดิ้นพล่าน”
    ตอนที่3 (ตอนจบ)
    The Interview หนังล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือ สร้างโดยโซนี่ถูกมือดีล้วงเอาไปดูก่อน แรกๆเป็นข่าวระดับธรรมดา เน้นไปทางหาต้นตอมือล้วง ที่ขอเอาหนังไปดูก่อนออกฉายในโรง นี่มันขนาดต้องให้ประธานาธิบดีทำประชาสัมพันธ์ให้เลยนะ นายโอบามาบอก โซนี่ตัดสินใจผิดที่ไม่เอาหนังออกฉาย เพราะมันทำให้โลกรู้ว่าโซนี่ปอดเกาหลีเหนือ แล้วแบบนี้ หน้าลูกพี่จะไปเหลืออะไร

    FBI บอกว่าเป็นฝีมือนักล้วงเกาหลีเหนือ ให้ข่าวแบบนี้ผมให้สอบตก แทนที่เกาหลีเหนือจะเสียคะแนนแล้วถูกชาวบ้านด่า ปรากฏว่าชาวบ้าน (อย่างผม เป็นต้น) กลับตบมือบอก เอ็งแน่มาก แล้วล้วงเขามาได้เท่านี้ละเหรอ พรรคพวกบอก อ๋อ เรื่องขอดูหนังก่อนนี่ มันเรื่องเล็กนะลุง นั่นมันข่าวแบบกระติกน้ำร้อนหกใส่ ของจริงแสบหลังกว่านี่ มิน่า ประธานาธิบดีของประเทศ ที่อ้างว่าเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก เลยต้องออกมาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ้หนังแทน (ฮามาก !) หนุนให้เอาหนังออกฉายเลย หวังจะให้เกาหลีเหนือ หรือลูกพี่เกาหลีเหนือออกมาแสดงอาการ
    เปล่าหรอก ไม่มีใครแสดงอะไร เพราะที่เขาอยากเห็นกันคือ แค่น้ำร้อนหกใส่หลัง นักล่าจะออกอาการอย่างไร ก็ได้เห็นกันแล้วทั่วโลก ดิ้นกันพล่านไปเลย ดูสนุกไม่แพ้หนังของโซนี่ละมั้ง ฮาจัง
    แล้วถ้ามันแรงกว่าน้ำร้อนนี่ นักล่าจะออกอาการยังไงนะ
    มันทำให้เห็นนิสัย หรือนโยบายของนักล่าชัดว่า นักล่าต้องได้เปรียบเสมอ หรืออย่างน้อยต้องไม่เสียเปรียบ ถูกลูบคมเมื่อไหร่ น้ำร้อนหกใส่หลังเมื่อไหร่ เป็นดิ้นพล่าน มีรายการเอาคืน ไม่ให้หลุดสักเม็ด ก็คอยสังเกตวิธีเอาคืนของไอ้นักล่าไว้แล้วกัน จะได้ไม่ไปทำอะไรเข้าทางมัน แต่ระยะหลังนี่รายการเอาคืน โล่งโจ้งไปหน่อยนะ
    หลังจากนี้ น้ำร้อนจะไปหกใส่หลังนักล่าที่ไหนอีก น่าสนใจติดตาม เพราะมันคงจะไม่มีเท่านี้หรอก ยิ่งใกล้เวลา เรื่องยิ่งร้อนขึ้น ตัวละครยิ่งมากขึ้น หลังปีใหม่ คงต้องตามดูเยอรมันว่า เจ๊แกยังชอบเล่นเป็นหุ่นให้อเมริกาชักเหมือนเดิมไหม อิหร่านล่ะ ยังยืดเจรจานิวเคลียร์ไปพัฒนา ไปเหมือนเดิมหรือเปล่า สวีเดนจะจบกันแค่นี้หรือ บินเฉี่ยว ดำน้ำโผล่ขึ้นมาจ้ะเอ๋ คงมีอีกแน่ แต่ที่แน่ๆยูเครน จะเป็นหัวไม้ขีดจุดไฟสงครามหรือไม่ ยังมีอีกครับแล้วจะกลับมารายงานต่อ
    ถ้าปีนี้ รายงานตัวไม่ทัน ก็พบกันปีหน้า ขอให้คนอ่านนิทานทุกท่าน มีแต่ความสุขกายสบายใจ บุญรักษา เทวดาคุ้มครองนะครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    26 ธค. 2557
    ดิ้นพล่าน ตอนที่ 3 “ดิ้นพล่าน” ตอนที่3 (ตอนจบ) The Interview หนังล้อเลียนผู้นำเกาหลีเหนือ สร้างโดยโซนี่ถูกมือดีล้วงเอาไปดูก่อน แรกๆเป็นข่าวระดับธรรมดา เน้นไปทางหาต้นตอมือล้วง ที่ขอเอาหนังไปดูก่อนออกฉายในโรง นี่มันขนาดต้องให้ประธานาธิบดีทำประชาสัมพันธ์ให้เลยนะ นายโอบามาบอก โซนี่ตัดสินใจผิดที่ไม่เอาหนังออกฉาย เพราะมันทำให้โลกรู้ว่าโซนี่ปอดเกาหลีเหนือ แล้วแบบนี้ หน้าลูกพี่จะไปเหลืออะไร FBI บอกว่าเป็นฝีมือนักล้วงเกาหลีเหนือ ให้ข่าวแบบนี้ผมให้สอบตก แทนที่เกาหลีเหนือจะเสียคะแนนแล้วถูกชาวบ้านด่า ปรากฏว่าชาวบ้าน (อย่างผม เป็นต้น) กลับตบมือบอก เอ็งแน่มาก แล้วล้วงเขามาได้เท่านี้ละเหรอ พรรคพวกบอก อ๋อ เรื่องขอดูหนังก่อนนี่ มันเรื่องเล็กนะลุง นั่นมันข่าวแบบกระติกน้ำร้อนหกใส่ ของจริงแสบหลังกว่านี่ มิน่า ประธานาธิบดีของประเทศ ที่อ้างว่าเป็นหมายเลขหนึ่งของโลก เลยต้องออกมาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ้หนังแทน (ฮามาก !) หนุนให้เอาหนังออกฉายเลย หวังจะให้เกาหลีเหนือ หรือลูกพี่เกาหลีเหนือออกมาแสดงอาการ เปล่าหรอก ไม่มีใครแสดงอะไร เพราะที่เขาอยากเห็นกันคือ แค่น้ำร้อนหกใส่หลัง นักล่าจะออกอาการอย่างไร ก็ได้เห็นกันแล้วทั่วโลก ดิ้นกันพล่านไปเลย ดูสนุกไม่แพ้หนังของโซนี่ละมั้ง ฮาจัง แล้วถ้ามันแรงกว่าน้ำร้อนนี่ นักล่าจะออกอาการยังไงนะ มันทำให้เห็นนิสัย หรือนโยบายของนักล่าชัดว่า นักล่าต้องได้เปรียบเสมอ หรืออย่างน้อยต้องไม่เสียเปรียบ ถูกลูบคมเมื่อไหร่ น้ำร้อนหกใส่หลังเมื่อไหร่ เป็นดิ้นพล่าน มีรายการเอาคืน ไม่ให้หลุดสักเม็ด ก็คอยสังเกตวิธีเอาคืนของไอ้นักล่าไว้แล้วกัน จะได้ไม่ไปทำอะไรเข้าทางมัน แต่ระยะหลังนี่รายการเอาคืน โล่งโจ้งไปหน่อยนะ หลังจากนี้ น้ำร้อนจะไปหกใส่หลังนักล่าที่ไหนอีก น่าสนใจติดตาม เพราะมันคงจะไม่มีเท่านี้หรอก ยิ่งใกล้เวลา เรื่องยิ่งร้อนขึ้น ตัวละครยิ่งมากขึ้น หลังปีใหม่ คงต้องตามดูเยอรมันว่า เจ๊แกยังชอบเล่นเป็นหุ่นให้อเมริกาชักเหมือนเดิมไหม อิหร่านล่ะ ยังยืดเจรจานิวเคลียร์ไปพัฒนา ไปเหมือนเดิมหรือเปล่า สวีเดนจะจบกันแค่นี้หรือ บินเฉี่ยว ดำน้ำโผล่ขึ้นมาจ้ะเอ๋ คงมีอีกแน่ แต่ที่แน่ๆยูเครน จะเป็นหัวไม้ขีดจุดไฟสงครามหรือไม่ ยังมีอีกครับแล้วจะกลับมารายงานต่อ ถ้าปีนี้ รายงานตัวไม่ทัน ก็พบกันปีหน้า ขอให้คนอ่านนิทานทุกท่าน มีแต่ความสุขกายสบายใจ บุญรักษา เทวดาคุ้มครองนะครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 26 ธค. 2557
    0 Comments 0 Shares 302 Views 0 Reviews
  • ”อนุทิน“ ไม่ขอตอบรายละเอียดหารือ “บิ๊กเล็ก-สีหศักดิ์” บอกเป็นเรื่องมั่นคง โวเวที UNGA รมว.กต.ทำหน้าที่ปกป้องศักดิ์ศรีไทย ขอปชช.วางใจไม่เสียเปรียบแน่ ! บอกกัมพูชาเว้นสัมพันธ์พี่น้อง คุยทางการเท่านั้น จ่อประชุม สมช. 2 ต.ค.

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000093179

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ”อนุทิน“ ไม่ขอตอบรายละเอียดหารือ “บิ๊กเล็ก-สีหศักดิ์” บอกเป็นเรื่องมั่นคง โวเวที UNGA รมว.กต.ทำหน้าที่ปกป้องศักดิ์ศรีไทย ขอปชช.วางใจไม่เสียเปรียบแน่ ! บอกกัมพูชาเว้นสัมพันธ์พี่น้อง คุยทางการเท่านั้น จ่อประชุม สมช. 2 ต.ค. อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000093179 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 367 Views 0 Reviews
  • วิโรจน์ ชี้หากยกเลิก MOU 43 , 44 แล้วร่างใหม่ ต้องทำให้รัดกุม สร้างความมั่นใจ ปชช.ไม่เสียเปรียบ (5/8/68)
    #mou43mou44
    #mouไทยกัมพูชา
    #เทรนวันนี้
    #ข่าว
    #ข่าววันนี้
    #ข่าวnews1
    #newsupdate
    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #Hunsenfiredfirst
    #กัมพูชายิงก่อน
    #ไทยรบเพื่อปกป้องแผ่นดิน
    #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    #news1
    #thaitimes
    วิโรจน์ ชี้หากยกเลิก MOU 43 , 44 แล้วร่างใหม่ ต้องทำให้รัดกุม สร้างความมั่นใจ ปชช.ไม่เสียเปรียบ (5/8/68) #mou43mou44 #mouไทยกัมพูชา #เทรนวันนี้ #ข่าว #ข่าววันนี้ #ข่าวnews1 #newsupdate #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst #กัมพูชายิงก่อน #ไทยรบเพื่อปกป้องแผ่นดิน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #news1 #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 409 Views 0 0 Reviews
  • "ไทย" พร้อม 8 ข้อ! "พล.อ.ณัฐพล" เผย GBC คืบหน้า...แต่แปลกใจ "กัมพูชา" ไม่เสนอเรื่อง...ลั่น "ไทยไม่เสียเปรียบแน่นอน"!
    https://www.thai-tai.tv/news/20755/
    .
    #GBC #พลเอกณัฐพล #ชายแดนไทยกัมพูชา #การเจรจา #ความมั่นคง #กระทรวงกลาโหม #ไทยไท
    "ไทย" พร้อม 8 ข้อ! "พล.อ.ณัฐพล" เผย GBC คืบหน้า...แต่แปลกใจ "กัมพูชา" ไม่เสนอเรื่อง...ลั่น "ไทยไม่เสียเปรียบแน่นอน"! https://www.thai-tai.tv/news/20755/ . #GBC #พลเอกณัฐพล #ชายแดนไทยกัมพูชา #การเจรจา #ความมั่นคง #กระทรวงกลาโหม #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 278 Views 0 Reviews
  • "อย่าให้ผลประโยชน์ส่วนตัวบังตา!" "เทพไท" ย้ำ ไทยถือไพ่เหนือกัมพูชา เจรจาต้องไม่เสียเปรียบ ไม่ใช่ยอมเจ๊า!
    https://www.thai-tai.tv/news/20586/
    .
    #เทพไทเสนพงศ์ #ภูมิธรรมเวชชยชัย #ฮุนมาเนต #เจรจาสันติภาพ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ผลประโยชน์ชาติ #ไม่เสียเปรียบ #ฮุนเซน #ไทยไท
    "อย่าให้ผลประโยชน์ส่วนตัวบังตา!" "เทพไท" ย้ำ ไทยถือไพ่เหนือกัมพูชา เจรจาต้องไม่เสียเปรียบ ไม่ใช่ยอมเจ๊า! https://www.thai-tai.tv/news/20586/ . #เทพไทเสนพงศ์ #ภูมิธรรมเวชชยชัย #ฮุนมาเนต #เจรจาสันติภาพ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ผลประโยชน์ชาติ #ไม่เสียเปรียบ #ฮุนเซน #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 380 Views 0 Reviews
  • "พิชัย" เผย "ทักษิณ" ร่วมประชุมทีมไทยแลนด์ เตรียมรับมือภาษีสหรัฐฯ ยันเร่งเจรจาก่อน 1 ส.ค. ตั้งเป้าไม่เสียเปรียบคู่แข่ง!
    https://www.thai-tai.tv/news/20227/
    .
    #ทักษิณชินวัตร #พิชัยชุณหวชิร #ภาษีนำเข้า #โดนัลด์ทรัมป์ #ทีมไทยแลนด์ #บ้านพิษณุโลก #เศรษฐกิจไทย #การค้าระหว่างประเทศ #รัฐบาลไทย #ประเด็นร้อน
    "พิชัย" เผย "ทักษิณ" ร่วมประชุมทีมไทยแลนด์ เตรียมรับมือภาษีสหรัฐฯ ยันเร่งเจรจาก่อน 1 ส.ค. ตั้งเป้าไม่เสียเปรียบคู่แข่ง! https://www.thai-tai.tv/news/20227/ . #ทักษิณชินวัตร #พิชัยชุณหวชิร #ภาษีนำเข้า #โดนัลด์ทรัมป์ #ทีมไทยแลนด์ #บ้านพิษณุโลก #เศรษฐกิจไทย #การค้าระหว่างประเทศ #รัฐบาลไทย #ประเด็นร้อน
    0 Comments 0 Shares 469 Views 0 Reviews
  • "ทักษิณ" รู้ดีภาษีสหรัฐ หวังไทยได้เปรียบคู่แข่ง : [THE MESSAGE]

    นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมทีมไทยแลนด์ พร้อมทั้งทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อรับมือมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งไทยถูกเก็บ 36% โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุม ย้ำ สหรัฐเผยแพร่จดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% เป็นการเลื่อนเวลา ยังไม่ได้เจรจาถึงที่สุด มีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. นี้ เพื่อให้ได้ข้อยุติ หวังเราจะได้ในส่วนที่ไม่เสียเปรียบ สหรัฐแบ่งสินค้าเป็นสองสามประเภทใหญ่ๆ สินค้าทั่วไปเริ่ม 10% และสินค้าที่นำเข้ามาประกอบแล้วส่งออก ไทยเข้มงวดกวดขันส่วนนี้ ส่วนหากเป็นตัวเลข 25% แล้วเสียเปรียบก็ไม่วางเป้าที่ตัวเลขนี้ ส่วนที่นายทักษิณมาร่วมประชุมด้วย เพราะรู้เรื่องเหล่านี้ดีน่าจะให้ข้อคิดได้
    "ทักษิณ" รู้ดีภาษีสหรัฐ หวังไทยได้เปรียบคู่แข่ง : [THE MESSAGE] นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมทีมไทยแลนด์ พร้อมทั้งทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อรับมือมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งไทยถูกเก็บ 36% โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุม ย้ำ สหรัฐเผยแพร่จดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% เป็นการเลื่อนเวลา ยังไม่ได้เจรจาถึงที่สุด มีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. นี้ เพื่อให้ได้ข้อยุติ หวังเราจะได้ในส่วนที่ไม่เสียเปรียบ สหรัฐแบ่งสินค้าเป็นสองสามประเภทใหญ่ๆ สินค้าทั่วไปเริ่ม 10% และสินค้าที่นำเข้ามาประกอบแล้วส่งออก ไทยเข้มงวดกวดขันส่วนนี้ ส่วนหากเป็นตัวเลข 25% แล้วเสียเปรียบก็ไม่วางเป้าที่ตัวเลขนี้ ส่วนที่นายทักษิณมาร่วมประชุมด้วย เพราะรู้เรื่องเหล่านี้ดีน่าจะให้ข้อคิดได้
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 1043 Views 0 0 Reviews
  • บอร์ด รฟท.เคาะแก้สัญญารถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ซี.พี.วางแบงก์การันตีเพิ่ม 1.52 แสนล้านบาท รัฐควักจ่ายเร็วสร้าง 5 ปีเสร็จ ไม่เสียเปรียบแถมประหยัดดอกเบี้ย 2.4 หมื่นล้าน และโอนทรัพย์สินเป็นของรัฐทันที ไม่ซ้ำรอยโฮปเวลล์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029288
    บอร์ด รฟท.เคาะแก้สัญญารถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ซี.พี.วางแบงก์การันตีเพิ่ม 1.52 แสนล้านบาท รัฐควักจ่ายเร็วสร้าง 5 ปีเสร็จ ไม่เสียเปรียบแถมประหยัดดอกเบี้ย 2.4 หมื่นล้าน และโอนทรัพย์สินเป็นของรัฐทันที ไม่ซ้ำรอยโฮปเวลล์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029288
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1014 Views 0 Reviews
  • เรื่องเกาะกูด: ต้องเจรจาให้เขมรขีดเส้นทางทะเลตามหลักสากล มิใช่ทำตามใจชอบ

    ยกเลิกสัมปทานขุดเจาะพลังงานในอ่าวไทย เพื่อทำตามกฎกติกาใหม่ ที่ไทยไม่เสียเปรียบ

    มิใช่ขุดมาแบ่งกับเขมร ตามที่เมกาวางแผนเอาเรือรบมาปิดอ่าวไทย เพื่อรักษาบ่อสัมปทานของเชฟรอน...
    เรื่องเกาะกูด: ต้องเจรจาให้เขมรขีดเส้นทางทะเลตามหลักสากล มิใช่ทำตามใจชอบ ยกเลิกสัมปทานขุดเจาะพลังงานในอ่าวไทย เพื่อทำตามกฎกติกาใหม่ ที่ไทยไม่เสียเปรียบ มิใช่ขุดมาแบ่งกับเขมร ตามที่เมกาวางแผนเอาเรือรบมาปิดอ่าวไทย เพื่อรักษาบ่อสัมปทานของเชฟรอน...
    0 Comments 1 Shares 400 Views 0 Reviews
  • งานประธานาธิบดีพี่เค้าก็ทำมาแล้ว……แต่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่พี่ปูเขาทำ………หนักกว่าเป็นสองเท่าค่าาาา ติ่งขาาาาา…!!!!

    ตอนสิบเก้า………เส้นทางที่หวาดเสียวกับการล่มจม……ผ่านมาได้อย่างสวยงามเพราะยึดหลักว่า……ต้องพึ่งตัวเอง………!!!

    หลังจากที่ทุกคนเป็นปลื้มกับความอู้ฟู่อยู่ได้ไม่นาน
    วันที่ 5 กันยายน 2008 เป็นวันที่บริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่สหรัฐอเมริกา Lehman Brothers ล้มละลายพังครืนลงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ที่ดึงเศรษฐกิจโลกอ่อนยวบไปด้วย
    แม้แต่รัสเซียก็ไม่พ้น น้ำมันราคาตกต่ำกว่า $100 หุ้นร่วงลงติดพื้น
    ภายในสองเดือนของวิกฤติ เงินได้ไหลออกจากประเทศเป็นแสนล้าน เหล่ามหาเศรษฐีชิงกันขายรถหรู ขายเรือสำราญ
    เครื่องบินส่วนตัว
    รัฐบาลถอนเงินจากกองทุนต่างๆมาอุด แต่แทบไม่ได้ช่วยอะไร
    โรงงานปิดรายวัน คนงานไม่ได้รับเงินเดือน
    บารมีของปูตินที่เพิ่งใสสว่างราวดวงตะวัน……หม่นแสงลงอย่างดึงไว้ไม่อยู่
    แปดปี……ที่เขาเป็นประธานาธิบดี เวลามีเหตุร้ายเกิดขึ้น……
    คนที่รับหน้าในชั้นแรกคือ นายกรัฐมนตรี
    ซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่เขาดำรงอยู่ในยามนี้ หมายถึงว่า เขาต้องแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเองทั้งหมด

    เดือนตุลาคม……เขาเรียกประชุมสภา พร้อมเผชิญหน้ากับฝ่ายค้าน (ฝ่ายซ้าย) ที่หัวหน้าคือ Gennady Zyuganov ที่รอโอกาสที่จะเชือดเขาให้เป็นชิ้นๆได้ทุกเมื่อ หรือ รอโอกาสที่จะขอข้อแลกเปลี่ยนที่เป็นผลบวกกับพรรคของตัวเอง
    แต่ครั้งนี้ Gennady กลับมาแปลก……เขาวางข้อขัดแย้งไว้
    และให้ข้อคิดว่า……
    “เมื่อครั้งที่เกิดเศรษฐกิจล่มสลายในปี 1929 (ตลาดหุ้นอเมริกาพังพินาศ หรือ the Great Depression ล่มต่อเนื่องไปหลายปี
    จนต่อมาประธานาธิบดี Franklin Delano Roosevelt ได้ส่งทีมกู้เศรษฐกิจมารัสเซีย เพื่อดูลาดเลา และ มาดูความเป็นไปของเรา เพราะทางรัสเซียไม่มีผลกระทบอะไร……”
    ปูตินจึงได้สติ……เขาตอบว่า
    “จริงซิ……เพราะเราไม่เอาเงินของเราไปผูกกับตลาดหุ้นบ้าๆนั่น
    และ เราไม่ได้ใช้เงิน หรือ ลงทุนตามเขา……”

    ปูตินและทีมเศรษฐกิจจึงรีบหารือกันในการอุดรอยรั่วเป็นอันดับแรก
    นั่นคือ การที่เงินไหลออกเพราะเหล่าพ่อค้ามหาเศรษฐีทั้งหลายที่เอาเงินไปไว้ตามเกาะต่างๆ และ ธนาคารต่างประเทศ
    และมาฉวยโอกาสโมเมทำเป็นจนตามน้ำในตอนขาลงของสภาพคล่องของประเทศ
    เพราะโรงงานต่างๆกันปิดตัวระนาว…ในช่วงต้นปี 2009

    โดยเฉพาะในเดือนกรกฏาคม ที่เมืองอุตสาหกรรม Pikalevo ที่เป็นโรงงานอะลูมิเนียมส่วนใหญ่ที่มีแรงงานหลายหมื่นคน ที่ไม่ได้จ่ายเงินเดือนพนักงาน ที่กำลังจะเกิดการจลาจลอยู่รอมร่อ
    ปูตินและคณะบุกไปถึงที่……เขาเรียกเหล่าเจ้าของทั้งหมดมาประชุม และเตรียมสัญญามาให้ลงชื่อ……ว่า
    จะต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานทุกคนภายใน 24 ชั่วโมง
    ที่เหลือ…ถ้ายังอยากอยู่ในธุรกิจ ต้องเข้ามารับนโยบายจากรัฐถ้าไม่เปิดโรงงาน………รัฐบาลจะเข้ามาบริหารเอง
    หนึ่งในกลุ่มเจ้าของโรงงานนั้น คือ Oleg Deripaska ที่เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทของปูตินมาแต่ไหนแต่ไร ที่ปูตินก็ไม่ไว้หน้า
    จิกตัวมาให้เซ็นชื่อ….และทวงปากกาคืนจาก Oleg!!!

    ~~มีวีดีโอบันทึกภาพจากเหตุการณ์จริง แต่ในความเห็นส่วนตัว ดิฉันคิดว่าเป็นการทำโปรประกันดาของปูติน เพื่อลดกระแสกดดันจากภาคประชาชนชาวแรงงานที่ชุมนุมรออยู่
    ข้างนอก ลุ้นว่าจะได้รับเงินเดือนหรือเปล่า…ปูตินคงคุยนอกรอบกับพวกเจ้าของนี้แล้ว เมื่อตกลงกันได้ เลยต้องออกข่าวเรียกคืนเครดิตให้รัฐบาล

    ปูตินที่เหมือนกับทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี และ ประธานาธิบดีในเงา…ใช้เวลาทำงานทั้งหมดเกี่ยวกับสางกิจการเหล่าโรงงานอันเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในรัสเซีย อย่างแร่ Nepheline
    ที่เป็นวัตถุดิบที่สำคัญ ที่โรงงานจะต้องใช้เกิดขาดแคลน
    เขาสั่งขบวนเที่ยวรถไฟด่วน ลำเลียงมาจาก Kola Peninsular
    อัดฉีดเงินช่วยเหลือประชาชน
    และแทนที่เขาจะทำการเปิดตลาดเพื่อที่จะจะดูดเงินจากการค้า
    หรือทำสัญญาซื้อขายแบบยอมเสียเปรียบเพื่อที่จะได้เงินเข้าประเทศกับกลุ่มยุโรปหรืออเมริกา………
    เขาไม่ทำ…………!!!
    ใครต่อใครต่างพากันประหลาดใจ……เพราะถ้าไม่ทำก็มองไม่เห็นทางรอด พวกเขาไม่เข้าใจว่าปูตินจะพาชาติพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างไร??

    แต่ปูตินเขาเห็นว่า….ที่ประเทศได้รับผลกระทบอย่างแรงเช่นนี้
    เพราะอเมริกาได้เดินหมากผิด (หรืออาจตั้งใจ) ทำให้ใครต่อเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จนแทบจะสิ้นชาติ
    ฉะนั้น…เขาเลือกที่จะปิดตลาดการค้าทางฝั่งตะวันตก ค้าขายแต่กับกลุ่มเบลารุส และกลุ่มคาซัคสถาน แบบพอให้การเคลื่อนไหวของกระแสเงินไปในทิศทางที่ปลอดภัย และไม่เสียเปรียบ

    กลางปี 2009 ราคาน้ำมันดีดกลับขึ้นมา หุ้นก็ขึ้นตาม
    ทุกอย่างกลับขึ้นมาเป็นเกือบปรกติ
    เมื่อมาถึง 2010 อะไรที่เคยหาย เคยพร่องไป กลับหลั่งไหลเข้ามาเต็มคลังอีกครั้ง ดีเกินหน้ายุโรปและอเมริกาด้วยซ้ำ
    ประสบการณ์ที่เกิดขึ้น……ได้บอกกับปูตินว่า ……
    ถ้ามาถึงเรื่องเงิน…ต้องไม่ฝากอนาคตไว้กับใครเลย ต้องถือเอง
    บริการเอง เอาประโยชน์ของชาติและคนในชาติเป็นหลัก

    จากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของรัสเซียนี้ เมื่อการประชุม WTO (World Trade Organization) จึงได้เชิญรัสเซียเข้าร่วมประชุมด้วย ปูตินตอบรับโดยมีข้อแม้ว่า เขาจะไปเป็นคณะ ไม่ใช่ไปคนเดียว คณะที่ว่านั้น คือ ตัวแทนจากเบลารุส และ คาซัคสถาน
    กรรมาธิการหลายคนไม่เข้าใจ…ว่า ทำไม…?
    ในเมื่อรัสเซียจะต้องทำการซื้อขายกับทางตะวันตกมากกว่า…
    แต่ปูตินยืนยันว่า….จะต้องไปเป็นกลุ่มเท่านั้น…!!
    (เพราะเมื่อตกอับก็ยังอยู่เคียงข้างกัน พอได้โอกาสค้าขาย ก็ต้องไปด้วยกัน…)

    จากนั้น ปูตินจึงหันมาทำงานในเรื่องการก่อสร้างที่ Sochi อย่างเต็มตัว เพราะเขาทุ่มเงินกว่าสามพันล้านหรียญ ที่จะสร้างให้ออกมาสวยงามสมใจ
    นอกจากพื้นที่แข่งสกีแล้ว เขาได้สร้างอีกหลายอาคารสำหรับเป็นที่แข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัย และหมู่บ้านนักกีฬาที่ทันสมัย
    รวมทั้งพัฒนาปรับปรุงเส้นทางรถไฟ Baikal-Amur Mainline ที่พาดยาว จาก Moscow ถึง ฝั่งตะวันออก Vladivostok ให้ทันสมัยและเป็นสายท่องเที่ยวที่จะดึงดูดความสนใจ
    เขาทุ่มเทกับเรื่องโอลิมปิกนี้มาก เพราะการก่อสร้างได้ชะงักงันไปในช่วงฝืดเคือง พอกลับมาจับทำต่อ……ก็ต้องงบประมาณการก่อสร้างบานปลาย……
    ที่ปูตินเรียกทุกฝ่ายมารายงานการใช้เงินกันอย่างละเอียด
    และทุกฝ่ายที่ว่ามานั้น……ล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนรักคนสนิทแทบทั้งสิ้น
    ในช่วงนี้คือช่วงที่มีการแฉโพยในเรื่องการคอรัปชั่นของรัฐบาลอย่างหนาหูจากฝ่ายตรงข้าม
    เพราะเป็นการสร้างเมกะโปรเจ็คหลายๆงานพร้อมกัน……
    แต่ปูติน…ยังคงทำเฉยกับข่าวเหล่านี้…
    เพราะในช่วงฤดูร้อนของปี 2010 ที่เกิดไฟป่าขึ้นที่ชายขอบมอสโคว์ ที่เริ่มรุนแรงขึ้น ประชาชนเดือดร้อนจนถึงขนาดตำหนิรัฐบาลออกสื่ออย่างไม่เกรงใจ ในเรื่องการล่าช้าของการดำเนินการดับไฟ และ เรื่องคอรัปชั่นที่กำลังเป็นข่าว เนื่องจากรัฐบาลเมดเวเดฟ กำลังสร้างศูนย์เทคโนโลยี Skolkovo ที่ทันสมัยใหญ่อลังการ ……
    แต่ประชาชนถามถึง……รถดับเพลิง ที่ควรจะมีมากกว่าศูนย์บ้าบออะไรนั่น…
    ปธน. เมดเวเดฟ ยังอยู่ในช่วงพักร้อนที่ทะเลดำ……
    ปูตินเป็นพระเอกอีกแล้ว เขาเตรียมตัวพร้อม ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปกับนักบินที่บินออกไปเป็นฝูงตั๊กแตน บัญชาการดับไฟ โปรยน้ำและสารเคมีติดต่อกันสองวัน……คุมไฟป่าได้อย่างหมดจด………
    คราวนี้……เสียงคะแนนนิยมจากหมู่สาวๆมาแบบถล่มทะลาย
    (เพราะอินเตอร์เน็ต) ทุกคนมองเห็นปูตินวัย 58 เป็นไอดอลที่สุดเซ็กซี่……กลายเป็นชายในฝัน (ซะงั้น)

    ชายในฝันที่ว่านี้…ก็ไม่ใช่เบา……!!!
    วันหนึ่งในการประชุมที่ กรุงเคียฟ เกี่ยวกับเรื่องการรวมทุนของสายการบินยูเครนเข้ากับ United Aviation Co. ของรัสเซีย
    ทุกคนสังเกตเห็นว่า ใบหน้าของปูตินที่ออกในทีวี แน่นไปด้วยเมคอัพ แต่น่าจะเป็นการให้แสง……เลยดูเปลี่ยนไป
    จนนักข่าวแอบมาเม้าท์กันว่า มีรอยช้ำที่ขอบตา……ผมหนาขึ้น…ตีนกาหายไป……หน้าผากตึงขึ้น……หางตาไม่ตก……
    ว้าววววว………นี่ไปศัลย์มาชัดๆ……
    แต่ทุกคนก็ยังชื่นชม เพราะ เขาบอกว่า
    “ใครๆก็อยากได้ผู้นำที่ดูดีด้วยกันทั้งนั้นแหละ……”

    ส่วนประธานาธิบดี เมดเวเดฟ……ที่มีนโยบาย Forward Russia…!! นั้น ก็ทำงานส่วนใหญ่กับการประสานกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา เพราะค่อนข้างจะคุยกันรู้เรื่องในเรื่องของนิวเคลียร์เพื่อสันติ…รวมทั้งโปรเจ็คในการค้าขายที่ไม่ค่อยเป็นข่าว นอกจากอ่านแถลงการณ์โน่นนี่

    แต่การเล่นละครก็”ต้องมี”ให้ชาวโลกเห็นว่า ประธานาธิบดีรัสเซียก็มี”ปาก”เหมือนกัน…คือ ในวันตัดสินคดีของอภิมหาเศรษฐีรูปงาม Mikhail Khodorkovsky (หรือที่เคยเรียกย่อว่า MK) ที่ถูกจำคุกเกือบปี
    ก่อนวันขึ้นศาล ปูตินได้โทรศัพท์ออกทีวี ในวันที่ 16 ธันวาคม
    ให้ความเห็นในเรื่องนี้อย่างดุเดือดว่า ……เป็นโจรก็ต้องติดคุก ยิ่งเป็นมหาโจรที่ปล้นทรัพยากรไปจากแผ่นดิน……มันก็ต้องรับโทษให้สาสม เหมือนอย่างนักลงทุนอเมริกัน Bernard Madoff
    ที่ศาลในอเมริกาได้ตัดสินให้จำคุก 150 ปี……”
    ปูตินกล่าวต่อไปด้วยอารมณ์โกรธที่ระงับไม่อยู่……ว่า
    “ไอ้หมอนี่ เป็นคนสั่งการในการสังหารนายกเทศมนตรีเมือง Nefteyugansk (ที่ควบคุมเขตโรงกลั่นน้ำมันของ Yukos ของ MK) และ ผู้หญิงคนหนึ่งในมอสโคว์ที่ไม่ยอมเซ็นโฉนดที่ดินให้……มันกำจัดคนที่ขวางทางทุกคนด้วยวิธีที่ทารุณสุดโหด……”
    การกร้าวของปูตินในฐานะนายกรัฐมนตรีคราวนี้ มันออกจะ”ล้ำ” ไป เพราะแพร่ออกไปทุกมุมโลก

    ต่อมา…เมดเวเดฟ ต้องรีบแก้สถานะการณ์โดยการแสดงเป็นฝ่ายตรงข้ามกับปูติน……เขาไม่เห็นด้วยกับการที่ “ใครคนหนึ่ง”
    จะเที่ยวไปพิพากษาความผิดของใครได้ นอกเหนือไปจากศาลสถิตยุติธรรม
    สรุปว่า MK ได้ถูกตัดสินจำคุก 13 ปี (แต่ติดจริงๆแค่ไม่กี่ปี เพราะต้องยอมซื้ออิสรภาพเพื่อที่จะได้ออกไปนอกประเทศด้วยทรัพย์สินที่มีแทบทั้งหมดในรัสเซีย…)
    จึงจัดได้ว่า…MK ที่มีที่อยู่ทั่วไปในยุโรปและอเมริกา……

    เขาคือ ศัตรูนอกประเทศที่ชัดเจนของปูตินในทุกวันนี้……!!!


    Wiwanda W. Vichit
    งานประธานาธิบดีพี่เค้าก็ทำมาแล้ว……แต่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่พี่ปูเขาทำ………หนักกว่าเป็นสองเท่าค่าาาา ติ่งขาาาาา…!!!! ตอนสิบเก้า………เส้นทางที่หวาดเสียวกับการล่มจม……ผ่านมาได้อย่างสวยงามเพราะยึดหลักว่า……ต้องพึ่งตัวเอง………!!! หลังจากที่ทุกคนเป็นปลื้มกับความอู้ฟู่อยู่ได้ไม่นาน วันที่ 5 กันยายน 2008 เป็นวันที่บริษัทเงินทุนยักษ์ใหญ่สหรัฐอเมริกา Lehman Brothers ล้มละลายพังครืนลงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ที่ดึงเศรษฐกิจโลกอ่อนยวบไปด้วย แม้แต่รัสเซียก็ไม่พ้น น้ำมันราคาตกต่ำกว่า $100 หุ้นร่วงลงติดพื้น ภายในสองเดือนของวิกฤติ เงินได้ไหลออกจากประเทศเป็นแสนล้าน เหล่ามหาเศรษฐีชิงกันขายรถหรู ขายเรือสำราญ เครื่องบินส่วนตัว รัฐบาลถอนเงินจากกองทุนต่างๆมาอุด แต่แทบไม่ได้ช่วยอะไร โรงงานปิดรายวัน คนงานไม่ได้รับเงินเดือน บารมีของปูตินที่เพิ่งใสสว่างราวดวงตะวัน……หม่นแสงลงอย่างดึงไว้ไม่อยู่ แปดปี……ที่เขาเป็นประธานาธิบดี เวลามีเหตุร้ายเกิดขึ้น…… คนที่รับหน้าในชั้นแรกคือ นายกรัฐมนตรี ซึ่งมันเป็นตำแหน่งที่เขาดำรงอยู่ในยามนี้ หมายถึงว่า เขาต้องแก้ปัญหานี้ด้วยตัวเองทั้งหมด เดือนตุลาคม……เขาเรียกประชุมสภา พร้อมเผชิญหน้ากับฝ่ายค้าน (ฝ่ายซ้าย) ที่หัวหน้าคือ Gennady Zyuganov ที่รอโอกาสที่จะเชือดเขาให้เป็นชิ้นๆได้ทุกเมื่อ หรือ รอโอกาสที่จะขอข้อแลกเปลี่ยนที่เป็นผลบวกกับพรรคของตัวเอง แต่ครั้งนี้ Gennady กลับมาแปลก……เขาวางข้อขัดแย้งไว้ และให้ข้อคิดว่า…… “เมื่อครั้งที่เกิดเศรษฐกิจล่มสลายในปี 1929 (ตลาดหุ้นอเมริกาพังพินาศ หรือ the Great Depression ล่มต่อเนื่องไปหลายปี จนต่อมาประธานาธิบดี Franklin Delano Roosevelt ได้ส่งทีมกู้เศรษฐกิจมารัสเซีย เพื่อดูลาดเลา และ มาดูความเป็นไปของเรา เพราะทางรัสเซียไม่มีผลกระทบอะไร……” ปูตินจึงได้สติ……เขาตอบว่า “จริงซิ……เพราะเราไม่เอาเงินของเราไปผูกกับตลาดหุ้นบ้าๆนั่น และ เราไม่ได้ใช้เงิน หรือ ลงทุนตามเขา……” ปูตินและทีมเศรษฐกิจจึงรีบหารือกันในการอุดรอยรั่วเป็นอันดับแรก นั่นคือ การที่เงินไหลออกเพราะเหล่าพ่อค้ามหาเศรษฐีทั้งหลายที่เอาเงินไปไว้ตามเกาะต่างๆ และ ธนาคารต่างประเทศ และมาฉวยโอกาสโมเมทำเป็นจนตามน้ำในตอนขาลงของสภาพคล่องของประเทศ เพราะโรงงานต่างๆกันปิดตัวระนาว…ในช่วงต้นปี 2009 โดยเฉพาะในเดือนกรกฏาคม ที่เมืองอุตสาหกรรม Pikalevo ที่เป็นโรงงานอะลูมิเนียมส่วนใหญ่ที่มีแรงงานหลายหมื่นคน ที่ไม่ได้จ่ายเงินเดือนพนักงาน ที่กำลังจะเกิดการจลาจลอยู่รอมร่อ ปูตินและคณะบุกไปถึงที่……เขาเรียกเหล่าเจ้าของทั้งหมดมาประชุม และเตรียมสัญญามาให้ลงชื่อ……ว่า จะต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานทุกคนภายใน 24 ชั่วโมง ที่เหลือ…ถ้ายังอยากอยู่ในธุรกิจ ต้องเข้ามารับนโยบายจากรัฐถ้าไม่เปิดโรงงาน………รัฐบาลจะเข้ามาบริหารเอง หนึ่งในกลุ่มเจ้าของโรงงานนั้น คือ Oleg Deripaska ที่เปรียบเสมือนเพื่อนสนิทของปูตินมาแต่ไหนแต่ไร ที่ปูตินก็ไม่ไว้หน้า จิกตัวมาให้เซ็นชื่อ….และทวงปากกาคืนจาก Oleg!!! ~~มีวีดีโอบันทึกภาพจากเหตุการณ์จริง แต่ในความเห็นส่วนตัว ดิฉันคิดว่าเป็นการทำโปรประกันดาของปูติน เพื่อลดกระแสกดดันจากภาคประชาชนชาวแรงงานที่ชุมนุมรออยู่ ข้างนอก ลุ้นว่าจะได้รับเงินเดือนหรือเปล่า…ปูตินคงคุยนอกรอบกับพวกเจ้าของนี้แล้ว เมื่อตกลงกันได้ เลยต้องออกข่าวเรียกคืนเครดิตให้รัฐบาล ปูตินที่เหมือนกับทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี และ ประธานาธิบดีในเงา…ใช้เวลาทำงานทั้งหมดเกี่ยวกับสางกิจการเหล่าโรงงานอันเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในรัสเซีย อย่างแร่ Nepheline ที่เป็นวัตถุดิบที่สำคัญ ที่โรงงานจะต้องใช้เกิดขาดแคลน เขาสั่งขบวนเที่ยวรถไฟด่วน ลำเลียงมาจาก Kola Peninsular อัดฉีดเงินช่วยเหลือประชาชน และแทนที่เขาจะทำการเปิดตลาดเพื่อที่จะจะดูดเงินจากการค้า หรือทำสัญญาซื้อขายแบบยอมเสียเปรียบเพื่อที่จะได้เงินเข้าประเทศกับกลุ่มยุโรปหรืออเมริกา……… เขาไม่ทำ…………!!! ใครต่อใครต่างพากันประหลาดใจ……เพราะถ้าไม่ทำก็มองไม่เห็นทางรอด พวกเขาไม่เข้าใจว่าปูตินจะพาชาติพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างไร?? แต่ปูตินเขาเห็นว่า….ที่ประเทศได้รับผลกระทบอย่างแรงเช่นนี้ เพราะอเมริกาได้เดินหมากผิด (หรืออาจตั้งใจ) ทำให้ใครต่อเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จนแทบจะสิ้นชาติ ฉะนั้น…เขาเลือกที่จะปิดตลาดการค้าทางฝั่งตะวันตก ค้าขายแต่กับกลุ่มเบลารุส และกลุ่มคาซัคสถาน แบบพอให้การเคลื่อนไหวของกระแสเงินไปในทิศทางที่ปลอดภัย และไม่เสียเปรียบ กลางปี 2009 ราคาน้ำมันดีดกลับขึ้นมา หุ้นก็ขึ้นตาม ทุกอย่างกลับขึ้นมาเป็นเกือบปรกติ เมื่อมาถึง 2010 อะไรที่เคยหาย เคยพร่องไป กลับหลั่งไหลเข้ามาเต็มคลังอีกครั้ง ดีเกินหน้ายุโรปและอเมริกาด้วยซ้ำ ประสบการณ์ที่เกิดขึ้น……ได้บอกกับปูตินว่า …… ถ้ามาถึงเรื่องเงิน…ต้องไม่ฝากอนาคตไว้กับใครเลย ต้องถือเอง บริการเอง เอาประโยชน์ของชาติและคนในชาติเป็นหลัก จากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของรัสเซียนี้ เมื่อการประชุม WTO (World Trade Organization) จึงได้เชิญรัสเซียเข้าร่วมประชุมด้วย ปูตินตอบรับโดยมีข้อแม้ว่า เขาจะไปเป็นคณะ ไม่ใช่ไปคนเดียว คณะที่ว่านั้น คือ ตัวแทนจากเบลารุส และ คาซัคสถาน กรรมาธิการหลายคนไม่เข้าใจ…ว่า ทำไม…? ในเมื่อรัสเซียจะต้องทำการซื้อขายกับทางตะวันตกมากกว่า… แต่ปูตินยืนยันว่า….จะต้องไปเป็นกลุ่มเท่านั้น…!! (เพราะเมื่อตกอับก็ยังอยู่เคียงข้างกัน พอได้โอกาสค้าขาย ก็ต้องไปด้วยกัน…) จากนั้น ปูตินจึงหันมาทำงานในเรื่องการก่อสร้างที่ Sochi อย่างเต็มตัว เพราะเขาทุ่มเงินกว่าสามพันล้านหรียญ ที่จะสร้างให้ออกมาสวยงามสมใจ นอกจากพื้นที่แข่งสกีแล้ว เขาได้สร้างอีกหลายอาคารสำหรับเป็นที่แข่งขันระหว่างมหาวิทยาลัย และหมู่บ้านนักกีฬาที่ทันสมัย รวมทั้งพัฒนาปรับปรุงเส้นทางรถไฟ Baikal-Amur Mainline ที่พาดยาว จาก Moscow ถึง ฝั่งตะวันออก Vladivostok ให้ทันสมัยและเป็นสายท่องเที่ยวที่จะดึงดูดความสนใจ เขาทุ่มเทกับเรื่องโอลิมปิกนี้มาก เพราะการก่อสร้างได้ชะงักงันไปในช่วงฝืดเคือง พอกลับมาจับทำต่อ……ก็ต้องงบประมาณการก่อสร้างบานปลาย…… ที่ปูตินเรียกทุกฝ่ายมารายงานการใช้เงินกันอย่างละเอียด และทุกฝ่ายที่ว่ามานั้น……ล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนรักคนสนิทแทบทั้งสิ้น ในช่วงนี้คือช่วงที่มีการแฉโพยในเรื่องการคอรัปชั่นของรัฐบาลอย่างหนาหูจากฝ่ายตรงข้าม เพราะเป็นการสร้างเมกะโปรเจ็คหลายๆงานพร้อมกัน…… แต่ปูติน…ยังคงทำเฉยกับข่าวเหล่านี้… เพราะในช่วงฤดูร้อนของปี 2010 ที่เกิดไฟป่าขึ้นที่ชายขอบมอสโคว์ ที่เริ่มรุนแรงขึ้น ประชาชนเดือดร้อนจนถึงขนาดตำหนิรัฐบาลออกสื่ออย่างไม่เกรงใจ ในเรื่องการล่าช้าของการดำเนินการดับไฟ และ เรื่องคอรัปชั่นที่กำลังเป็นข่าว เนื่องจากรัฐบาลเมดเวเดฟ กำลังสร้างศูนย์เทคโนโลยี Skolkovo ที่ทันสมัยใหญ่อลังการ …… แต่ประชาชนถามถึง……รถดับเพลิง ที่ควรจะมีมากกว่าศูนย์บ้าบออะไรนั่น… ปธน. เมดเวเดฟ ยังอยู่ในช่วงพักร้อนที่ทะเลดำ…… ปูตินเป็นพระเอกอีกแล้ว เขาเตรียมตัวพร้อม ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปกับนักบินที่บินออกไปเป็นฝูงตั๊กแตน บัญชาการดับไฟ โปรยน้ำและสารเคมีติดต่อกันสองวัน……คุมไฟป่าได้อย่างหมดจด……… คราวนี้……เสียงคะแนนนิยมจากหมู่สาวๆมาแบบถล่มทะลาย (เพราะอินเตอร์เน็ต) ทุกคนมองเห็นปูตินวัย 58 เป็นไอดอลที่สุดเซ็กซี่……กลายเป็นชายในฝัน (ซะงั้น) ชายในฝันที่ว่านี้…ก็ไม่ใช่เบา……!!! วันหนึ่งในการประชุมที่ กรุงเคียฟ เกี่ยวกับเรื่องการรวมทุนของสายการบินยูเครนเข้ากับ United Aviation Co. ของรัสเซีย ทุกคนสังเกตเห็นว่า ใบหน้าของปูตินที่ออกในทีวี แน่นไปด้วยเมคอัพ แต่น่าจะเป็นการให้แสง……เลยดูเปลี่ยนไป จนนักข่าวแอบมาเม้าท์กันว่า มีรอยช้ำที่ขอบตา……ผมหนาขึ้น…ตีนกาหายไป……หน้าผากตึงขึ้น……หางตาไม่ตก…… ว้าววววว………นี่ไปศัลย์มาชัดๆ…… แต่ทุกคนก็ยังชื่นชม เพราะ เขาบอกว่า “ใครๆก็อยากได้ผู้นำที่ดูดีด้วยกันทั้งนั้นแหละ……” ส่วนประธานาธิบดี เมดเวเดฟ……ที่มีนโยบาย Forward Russia…!! นั้น ก็ทำงานส่วนใหญ่กับการประสานกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา เพราะค่อนข้างจะคุยกันรู้เรื่องในเรื่องของนิวเคลียร์เพื่อสันติ…รวมทั้งโปรเจ็คในการค้าขายที่ไม่ค่อยเป็นข่าว นอกจากอ่านแถลงการณ์โน่นนี่ แต่การเล่นละครก็”ต้องมี”ให้ชาวโลกเห็นว่า ประธานาธิบดีรัสเซียก็มี”ปาก”เหมือนกัน…คือ ในวันตัดสินคดีของอภิมหาเศรษฐีรูปงาม Mikhail Khodorkovsky (หรือที่เคยเรียกย่อว่า MK) ที่ถูกจำคุกเกือบปี ก่อนวันขึ้นศาล ปูตินได้โทรศัพท์ออกทีวี ในวันที่ 16 ธันวาคม ให้ความเห็นในเรื่องนี้อย่างดุเดือดว่า ……เป็นโจรก็ต้องติดคุก ยิ่งเป็นมหาโจรที่ปล้นทรัพยากรไปจากแผ่นดิน……มันก็ต้องรับโทษให้สาสม เหมือนอย่างนักลงทุนอเมริกัน Bernard Madoff ที่ศาลในอเมริกาได้ตัดสินให้จำคุก 150 ปี……” ปูตินกล่าวต่อไปด้วยอารมณ์โกรธที่ระงับไม่อยู่……ว่า “ไอ้หมอนี่ เป็นคนสั่งการในการสังหารนายกเทศมนตรีเมือง Nefteyugansk (ที่ควบคุมเขตโรงกลั่นน้ำมันของ Yukos ของ MK) และ ผู้หญิงคนหนึ่งในมอสโคว์ที่ไม่ยอมเซ็นโฉนดที่ดินให้……มันกำจัดคนที่ขวางทางทุกคนด้วยวิธีที่ทารุณสุดโหด……” การกร้าวของปูตินในฐานะนายกรัฐมนตรีคราวนี้ มันออกจะ”ล้ำ” ไป เพราะแพร่ออกไปทุกมุมโลก ต่อมา…เมดเวเดฟ ต้องรีบแก้สถานะการณ์โดยการแสดงเป็นฝ่ายตรงข้ามกับปูติน……เขาไม่เห็นด้วยกับการที่ “ใครคนหนึ่ง” จะเที่ยวไปพิพากษาความผิดของใครได้ นอกเหนือไปจากศาลสถิตยุติธรรม สรุปว่า MK ได้ถูกตัดสินจำคุก 13 ปี (แต่ติดจริงๆแค่ไม่กี่ปี เพราะต้องยอมซื้ออิสรภาพเพื่อที่จะได้ออกไปนอกประเทศด้วยทรัพย์สินที่มีแทบทั้งหมดในรัสเซีย…) จึงจัดได้ว่า…MK ที่มีที่อยู่ทั่วไปในยุโรปและอเมริกา…… เขาคือ ศัตรูนอกประเทศที่ชัดเจนของปูตินในทุกวันนี้……!!! Wiwanda W. Vichit
    0 Comments 0 Shares 1051 Views 0 Reviews