• 🧠 AI ยังไม่สามารถใช้เหตุผลได้อย่างแท้จริง
    แม้ว่าหลายบริษัทจะอ้างว่า AI สามารถใช้เหตุผลได้ แต่ งานวิจัยล่าสุดจาก Apple และ ETH Zürich พบว่า AI ล้มเหลวในการแก้ปัญหาตรรกะที่ซับซ้อน โดยเฉพาะ ปริศนา Tower of Hanoi และโจทย์คณิตศาสตร์ระดับโอลิมปิก

    นักวิจัย ทดสอบ AI หลายรุ่น โดยให้ แก้ปริศนา Tower of Hanoi และอธิบายขั้นตอน พบว่า AI สามารถแก้โจทย์ง่าย ๆ ได้ แต่เมื่อจำนวนดิสก์เพิ่มขึ้น AI กลับทำผิดพลาดและให้คำตอบที่ขัดแย้งกันเอง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Apple และ ETH Zürich ทดสอบ AI กับปริศนา Tower of Hanoi และโจทย์คณิตศาสตร์ระดับโอลิมปิก
    - AI สามารถแก้โจทย์ง่าย ๆ ได้ แต่ล้มเหลวเมื่อความซับซ้อนเพิ่มขึ้น
    - Google Gemini 2.5 Pro ทำคะแนนได้ 24% จากการให้คำตอบบางส่วน แต่ไม่มี AI ตัวใดแก้โจทย์ได้สมบูรณ์
    - OpenAI o3-mini ทำคะแนนได้เพียง 2% และมักข้ามขั้นตอนหรือให้คำตอบที่ขัดแย้งกันเอง
    - นักวิจัยพบว่า AI ไม่ได้ใช้เหตุผลจริง ๆ แต่เพียงจับคู่รูปแบบข้อมูลที่เคยเห็นมาก่อน

    🔥 ผลกระทบต่อการพัฒนา AI
    แม้ว่าบริษัทเทคโนโลยี จะโฆษณาว่า AI สามารถใช้เหตุผลได้ แต่ งานวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่า AI ยังไม่สามารถคิดอย่างเป็นระบบได้จริง

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AI อาจให้คำตอบที่ดูน่าเชื่อถือ แต่ไม่ได้มีตรรกะที่ถูกต้องเสมอไป
    - AI ที่ใช้ในงานที่ต้องการเหตุผล เช่น การแพทย์และกฎหมาย อาจต้องมีระบบตรวจสอบเพิ่มเติม
    - ต้องติดตามว่าบริษัทเทคโนโลยีจะพัฒนา AI ให้มีความสามารถด้านตรรกะที่ดีขึ้นได้หรือไม่
    - นักวิจัยเสนอให้ใช้ AI ร่วมกับระบบตรรกะเชิงสัญลักษณ์เพื่อเพิ่มความแม่นยำ

    🚀 อนาคตของ AI และตรรกะ
    แม้ว่า AI จะยังไม่สามารถใช้เหตุผลได้อย่างแท้จริง แต่ นักวิจัยกำลังพัฒนาแนวทางใหม่ เช่น การรวม AI กับตรรกะเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้ AI สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องมากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/108294-ai-flunks-logic-test-multiple-studies-reveal-illusion.html
    🧠 AI ยังไม่สามารถใช้เหตุผลได้อย่างแท้จริง แม้ว่าหลายบริษัทจะอ้างว่า AI สามารถใช้เหตุผลได้ แต่ งานวิจัยล่าสุดจาก Apple และ ETH Zürich พบว่า AI ล้มเหลวในการแก้ปัญหาตรรกะที่ซับซ้อน โดยเฉพาะ ปริศนา Tower of Hanoi และโจทย์คณิตศาสตร์ระดับโอลิมปิก นักวิจัย ทดสอบ AI หลายรุ่น โดยให้ แก้ปริศนา Tower of Hanoi และอธิบายขั้นตอน พบว่า AI สามารถแก้โจทย์ง่าย ๆ ได้ แต่เมื่อจำนวนดิสก์เพิ่มขึ้น AI กลับทำผิดพลาดและให้คำตอบที่ขัดแย้งกันเอง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Apple และ ETH Zürich ทดสอบ AI กับปริศนา Tower of Hanoi และโจทย์คณิตศาสตร์ระดับโอลิมปิก - AI สามารถแก้โจทย์ง่าย ๆ ได้ แต่ล้มเหลวเมื่อความซับซ้อนเพิ่มขึ้น - Google Gemini 2.5 Pro ทำคะแนนได้ 24% จากการให้คำตอบบางส่วน แต่ไม่มี AI ตัวใดแก้โจทย์ได้สมบูรณ์ - OpenAI o3-mini ทำคะแนนได้เพียง 2% และมักข้ามขั้นตอนหรือให้คำตอบที่ขัดแย้งกันเอง - นักวิจัยพบว่า AI ไม่ได้ใช้เหตุผลจริง ๆ แต่เพียงจับคู่รูปแบบข้อมูลที่เคยเห็นมาก่อน 🔥 ผลกระทบต่อการพัฒนา AI แม้ว่าบริษัทเทคโนโลยี จะโฆษณาว่า AI สามารถใช้เหตุผลได้ แต่ งานวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่า AI ยังไม่สามารถคิดอย่างเป็นระบบได้จริง ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AI อาจให้คำตอบที่ดูน่าเชื่อถือ แต่ไม่ได้มีตรรกะที่ถูกต้องเสมอไป - AI ที่ใช้ในงานที่ต้องการเหตุผล เช่น การแพทย์และกฎหมาย อาจต้องมีระบบตรวจสอบเพิ่มเติม - ต้องติดตามว่าบริษัทเทคโนโลยีจะพัฒนา AI ให้มีความสามารถด้านตรรกะที่ดีขึ้นได้หรือไม่ - นักวิจัยเสนอให้ใช้ AI ร่วมกับระบบตรรกะเชิงสัญลักษณ์เพื่อเพิ่มความแม่นยำ 🚀 อนาคตของ AI และตรรกะ แม้ว่า AI จะยังไม่สามารถใช้เหตุผลได้อย่างแท้จริง แต่ นักวิจัยกำลังพัฒนาแนวทางใหม่ เช่น การรวม AI กับตรรกะเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้ AI สามารถให้คำตอบที่ถูกต้องมากขึ้น https://www.techspot.com/news/108294-ai-flunks-logic-test-multiple-studies-reveal-illusion.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AI flunks logic test: Multiple studies reveal illusion of reasoning
    Apple researchers have uncovered a key weakness in today's most hyped AI systems – they falter at solving puzzles that require step-by-step reasoning. In a new paper,...
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
  • ควันหลงจากงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่ประเทศจีน สืบเนื่องจาก ‘เงื่อนจีน’ หรือที่เรียกว่า ‘จงกั๋วเจี๋ย’ (中国结) ถูกนำมาใช้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของงาน แม้แต่พิธีปิดยังมีให้เห็น เพื่อนเพจหลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างอยู่แล้ว วันนี้เรามาคุยกันเบาๆ เกี่ยวกับเงื่อนจีน

    คำว่าเงื่อนหรือ ‘เจี๋ย’ นั้น ในความหมายจีนแปลได้อีกว่าความผูกพันหรือความเชื่อมโยงหรือความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน จึงเป็นที่มาของการถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของงานโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ภายใต้คำขวัญ “ก้าวสู่อนาคตไปด้วยกัน”

    เงื่อนจีนถูกค้นพบขึ้นเมื่อใดไม่ชัดเจน ทราบแต่ว่ามนุษย์เรารู้จักการผูกเงื่อนมาตั้งแต่สมัยยุคหิน ในสมัยดึกดำบรรพ์ใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องมือล่าสัตว์หรือเครื่องมือช่วยดำรงชีพอื่นๆ และลวดลายและวิธีผูกเงื่อนพัฒนามาเรื่อยๆ หลังจากนั้น ในยุคสมัยชุนชิว เงื่อนจีนถูกนำมาใช้อย่างหลากหลาย เช่นเป็นกระดุม ใช้ผูกพวงเหรียญไว้พกพา และถูกนำมาใช้ในการสื่อสารหรือจดจำเหตุการณ์ ในบันทึกเกี่ยวกับราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) มีการกล่าวถึงหลักการจารึกเหตุการณ์ต่างๆ ไว้ว่า ‘เหตุการณ์ใหญ่ ใช้เงื่อนใหญ่ เรื่องเล็ก ใช้เงื่อนเล็ก’ และมีการใช้ลายเงื่อนที่แตกต่างกันสำหรับหมวดหมู่ที่แตกต่างของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    เงื่อนจีนถูกยกระดับเป็นศิลปะอย่างหนึ่งและแพร่หลายเป็นอย่างมากในยุคสมัยราชวงศ์ถังและซ่ง มีการนำมาใช้เป็นสร้อยหรืออุบะสำหรับเครื่องประดับหลายชนิดเช่นป้ายหยก พัด ขลุ่ย กระบี่ ถุงหอม ฯลฯ และในยุคสมัยราชวงศ์หมิงและชิงก็ยิ่งพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นในเรื่องของความหลากหลายของลวดลายและความวิจิตร มีการตั้งชื่อและคิดค้นลายใหม่ๆ ขึ้นมากมาย รวมถึงการนำมาใช้ประดับบ้านเรือน

    เงื่อนจีนแตกต่างจากเงื่อนในวัฒนธรรมฟากตะวันตกอย่างไร? เอกลักษณ์ของเงื่อนจีนคือผูกขึ้นด้วยเชือกเส้นเดียวเท่านั้น เป็นการผูกสองชั้นดังนั้นลายหน้าหลังจะเหมือนกัน Storyฯ อ่านเจอว่าเงื่อนจีนที่วางขายในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้เชือกยาวมาตรฐานประมาณหนึ่งเมตร

    ลายเงื่อนจีนมีใช้เป็นสัญลักษณ์ในหลายกรณี เช่นเพื่อเป็นของมงคล หรือปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความผูกพัน ชื่อเรียกก็มีหลากหลาย โดยลายที่เราเห็นในงานโอลิมปิกฤดูหนาวปีนี้ (ดูภาพประกอบ) มีชื่อเรียกว่า ‘เงื่อนมงคล’ (จี๋เสียงเจี๋ย/吉祥结) ว่ากันว่าลายพื้นฐานนี้เป็นหนึ่งในลายที่เก่าแก่ที่สุดของเงื่อนจีน พัฒนาขึ้นมาในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุข โชคลาภ รวมถึงช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย

    (หมายเหตุ เพื่อนเพจที่สนใจชนิดของเงื่อนต่างๆ ดูได้ที่นี่ค่ะ https://tcm.dtam.moph.go.th/images/files/kch002.pdf)

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.fudan.edu.cn/en/2022/0208/c1092a130100/page.htm
    https://www.chinadaily.com.cn/a/202202/21/WS62134c14a310cdd39bc87f6d_5.html
    https://kknews.cc/culture/25y4r.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://kknews.cc/culture/yjgakzn.html
    https://baike.baidu.com/item/中国结/187053
    https://www.aizsg.com/post/9365.html

    #สัญลักษณ์โอลิมปิก2022 #เงื่อนจีน #ผูกเชือกจีน #จงกั๋วเจี๋ย #จี๋เสียงเจี๋ยน
    ควันหลงจากงานโอลิมปิกฤดูหนาวที่ประเทศจีน สืบเนื่องจาก ‘เงื่อนจีน’ หรือที่เรียกว่า ‘จงกั๋วเจี๋ย’ (中国结) ถูกนำมาใช้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของงาน แม้แต่พิธีปิดยังมีให้เห็น เพื่อนเพจหลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันบ้างอยู่แล้ว วันนี้เรามาคุยกันเบาๆ เกี่ยวกับเงื่อนจีน คำว่าเงื่อนหรือ ‘เจี๋ย’ นั้น ในความหมายจีนแปลได้อีกว่าความผูกพันหรือความเชื่อมโยงหรือความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน จึงเป็นที่มาของการถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของงานโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ภายใต้คำขวัญ “ก้าวสู่อนาคตไปด้วยกัน” เงื่อนจีนถูกค้นพบขึ้นเมื่อใดไม่ชัดเจน ทราบแต่ว่ามนุษย์เรารู้จักการผูกเงื่อนมาตั้งแต่สมัยยุคหิน ในสมัยดึกดำบรรพ์ใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องมือล่าสัตว์หรือเครื่องมือช่วยดำรงชีพอื่นๆ และลวดลายและวิธีผูกเงื่อนพัฒนามาเรื่อยๆ หลังจากนั้น ในยุคสมัยชุนชิว เงื่อนจีนถูกนำมาใช้อย่างหลากหลาย เช่นเป็นกระดุม ใช้ผูกพวงเหรียญไว้พกพา และถูกนำมาใช้ในการสื่อสารหรือจดจำเหตุการณ์ ในบันทึกเกี่ยวกับราชวงศ์ฮั่น (ปี 202 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) มีการกล่าวถึงหลักการจารึกเหตุการณ์ต่างๆ ไว้ว่า ‘เหตุการณ์ใหญ่ ใช้เงื่อนใหญ่ เรื่องเล็ก ใช้เงื่อนเล็ก’ และมีการใช้ลายเงื่อนที่แตกต่างกันสำหรับหมวดหมู่ที่แตกต่างของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เงื่อนจีนถูกยกระดับเป็นศิลปะอย่างหนึ่งและแพร่หลายเป็นอย่างมากในยุคสมัยราชวงศ์ถังและซ่ง มีการนำมาใช้เป็นสร้อยหรืออุบะสำหรับเครื่องประดับหลายชนิดเช่นป้ายหยก พัด ขลุ่ย กระบี่ ถุงหอม ฯลฯ และในยุคสมัยราชวงศ์หมิงและชิงก็ยิ่งพัฒนาขึ้นไปอีกขั้นในเรื่องของความหลากหลายของลวดลายและความวิจิตร มีการตั้งชื่อและคิดค้นลายใหม่ๆ ขึ้นมากมาย รวมถึงการนำมาใช้ประดับบ้านเรือน เงื่อนจีนแตกต่างจากเงื่อนในวัฒนธรรมฟากตะวันตกอย่างไร? เอกลักษณ์ของเงื่อนจีนคือผูกขึ้นด้วยเชือกเส้นเดียวเท่านั้น เป็นการผูกสองชั้นดังนั้นลายหน้าหลังจะเหมือนกัน Storyฯ อ่านเจอว่าเงื่อนจีนที่วางขายในปัจจุบันส่วนใหญ่ใช้เชือกยาวมาตรฐานประมาณหนึ่งเมตร ลายเงื่อนจีนมีใช้เป็นสัญลักษณ์ในหลายกรณี เช่นเพื่อเป็นของมงคล หรือปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความผูกพัน ชื่อเรียกก็มีหลากหลาย โดยลายที่เราเห็นในงานโอลิมปิกฤดูหนาวปีนี้ (ดูภาพประกอบ) มีชื่อเรียกว่า ‘เงื่อนมงคล’ (จี๋เสียงเจี๋ย/吉祥结) ว่ากันว่าลายพื้นฐานนี้เป็นหนึ่งในลายที่เก่าแก่ที่สุดของเงื่อนจีน พัฒนาขึ้นมาในสมัยราชวงศ์ถัง เป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุข โชคลาภ รวมถึงช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย (หมายเหตุ เพื่อนเพจที่สนใจชนิดของเงื่อนต่างๆ ดูได้ที่นี่ค่ะ https://tcm.dtam.moph.go.th/images/files/kch002.pdf) (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.fudan.edu.cn/en/2022/0208/c1092a130100/page.htm https://www.chinadaily.com.cn/a/202202/21/WS62134c14a310cdd39bc87f6d_5.html https://kknews.cc/culture/25y4r.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://kknews.cc/culture/yjgakzn.html https://baike.baidu.com/item/中国结/187053 https://www.aizsg.com/post/9365.html #สัญลักษณ์โอลิมปิก2022 #เงื่อนจีน #ผูกเชือกจีน #จงกั๋วเจี๋ย #จี๋เสียงเจี๋ยน
    1 Comments 0 Shares 546 Views 0 Reviews
  • สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึงเงื่อนจีนหรือ ‘จงกั๋วเจี๋ย’ ซึ่งคำว่าเงื่อนหรือ ‘เจี๋ย’ นั้น ในความหมายจีนแปลได้อีกว่าความผูกพันหรือความเชื่อมโยงหรือความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน และถูกนำมาใช้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของงานโอลิมปิกฤดูหนาว 2022

    เพื่อนเพจแฟนละครหรือนิยายจีนต้องเคยได้ยินคำว่า ‘เจี๋ย’ นี้ถูกนำมาใช้สื่อความหมายเกี่ยวกับความรักรวมถึงเงื่อนจีนที่ถูกใช้เป็นตัวแทนแห่งความรัก วันนี้เรามาคุยกันถึงวลีจีนเกี่ยวกับ ‘เจี๋ย’ และความหมายของมัน

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ตราบแต่นี้ไป ข้าก็เป็นภรรยาผูกปมผมของท่านแล้ว สองเราจะไม่ทอดทิ้งกัน ติดตามกันไปตราบจนชีวิตจะหาไม่” เล่อเยียนยิ้มกล่าว...
    - ถอดบทสนทนาจากละคร <สตรีหาญฉางเกอ> (Storyฯ แปลเองจ้า)

    คำแปลข้างบนอาจฟังดูงง คำว่า ‘ผูกปมผม’ (เจี๋ยฟ่า / 结发) หมายถึงอะไร? ในเรื่อง <สตรีหาญฉางเกอ> มีฉากที่ฮ่าวตู (เจ้าบ่าว) คลายเชือกหลากสีที่มัดอยู่ที่มวยผมของเล่อเยียน (เจ้าสาว) แล้วต่างคนต่างตัดปอยผมมารวมกันเอาเชือกนั้นผูกไว้ (ดูภาพประกอบที่ดึงมาจากในละคร) นี่คือการ ‘ผูกปมผม’ ซึ่งเป็นหนึ่งในพิธีการเข้าหอของคู่บ่าวสาวหลังจากเกี่ยวก้อยกันดื่มสุรามงคลแล้ว

    เริ่มกันที่การปลดเชือก เชือกหลากสีที่เห็นนี้ มีชื่อเรียกว่า ‘อิง’ สตรีที่ได้รับการหมั้นหมายแล้วจะต้องผูกเชือกนี้ไว้ที่มวยผม ตราบจนวันแต่งงานเข้าหอแล้วมีเพียงเจ้าบ่าวที่สามารถปลดเชือกนี้ได้ การทำอย่างนี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์โจวตะวันตก (1047 – 772 ปีก่อนคริสตกาล) ปรากฏในบันทึกพิธีการการแต่งงาน (仪礼·土昏礼 ซึ่งเป็นบันทึกเดียวกับที่กล่าวถึง ‘หกพิธีการ’/六礼 ของงานแต่งงานที่เพื่อนเพจอาจเคยผ่านหู) บันทึกนี้เป็นหนึ่งในสามบันทึกที่เก่าแก่ที่สุดของจีนเกี่ยวกับเรื่องประเพณีและพิธีการ แต่... บันทึกนี้ไม่ได้กล่าวถึงการผูกปมผม

    พิธีการผูกปมผมเริ่มแต่เมื่อใดไม่ปรากฏบันทึกที่ชัดเจน แต่บทกวีในสมัยราชวงศ์ฮั่นที่ประพันธ์โดยซูอู่ (140 - 60 ปีก่อนคริสตกาล) มีวรรคนี้ปรากฏ “ผูกปมผมเป็นสามีภรรยา รักกันไม่เคลือบแคลงใจ” (结发为夫妻,恩爱两不疑) ดังนั้นการเอาปอยผมมามัดเข้ากันนี้มีแล้วในสมัยราชวงศ์ฮั่น และวลีนี้เป็นอีกหนึ่งวลีคลาสสิกที่ใช้กล่าวถึงความรักที่มั่นคง

    แต่มันมีความหมายมากกว่านั้นค่ะ

    ในธรรมเนียมจีนโบราณ จะมีเพียงภรรยาเอกคนเดียวที่มีการกราบไหว้ฟ้าดินแล้วส่งตัวเข้าห้องหอ ส่วนอนุทั้งหลายจะเพียงแต่รับตัวเข้ามาเข้าห้องเลย ดังนั้นคำว่า ‘ภรรยาผูกปมผม’ ในบางบริบทไม่ใช่หมายถึงรักเดียว แต่อาจหมายถึงภรรยาที่แต่งเข้ามาเป็นคนแรกก็ได้ค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/366760262
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.epochtimes.com/gb/20/10/19/n12485542.htm
    https://baike.sogou.com/v168462018.htm
    https://www.pinshiwen.com/gsdq/aqsc/20190711144812.html

    #สตรีหาญฉางเกอ #ฮ่าวตูเล่อเยียน #พิธีแต่งงานจีนโบราณ #ผูกปมผม #เจี๋ยฟ่า #เจี๋ยฝ้า
    สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึงเงื่อนจีนหรือ ‘จงกั๋วเจี๋ย’ ซึ่งคำว่าเงื่อนหรือ ‘เจี๋ย’ นั้น ในความหมายจีนแปลได้อีกว่าความผูกพันหรือความเชื่อมโยงหรือความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน และถูกนำมาใช้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของงานโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 เพื่อนเพจแฟนละครหรือนิยายจีนต้องเคยได้ยินคำว่า ‘เจี๋ย’ นี้ถูกนำมาใช้สื่อความหมายเกี่ยวกับความรักรวมถึงเงื่อนจีนที่ถูกใช้เป็นตัวแทนแห่งความรัก วันนี้เรามาคุยกันถึงวลีจีนเกี่ยวกับ ‘เจี๋ย’ และความหมายของมัน ความมีอยู่ว่า ... “ตราบแต่นี้ไป ข้าก็เป็นภรรยาผูกปมผมของท่านแล้ว สองเราจะไม่ทอดทิ้งกัน ติดตามกันไปตราบจนชีวิตจะหาไม่” เล่อเยียนยิ้มกล่าว... - ถอดบทสนทนาจากละคร <สตรีหาญฉางเกอ> (Storyฯ แปลเองจ้า) คำแปลข้างบนอาจฟังดูงง คำว่า ‘ผูกปมผม’ (เจี๋ยฟ่า / 结发) หมายถึงอะไร? ในเรื่อง <สตรีหาญฉางเกอ> มีฉากที่ฮ่าวตู (เจ้าบ่าว) คลายเชือกหลากสีที่มัดอยู่ที่มวยผมของเล่อเยียน (เจ้าสาว) แล้วต่างคนต่างตัดปอยผมมารวมกันเอาเชือกนั้นผูกไว้ (ดูภาพประกอบที่ดึงมาจากในละคร) นี่คือการ ‘ผูกปมผม’ ซึ่งเป็นหนึ่งในพิธีการเข้าหอของคู่บ่าวสาวหลังจากเกี่ยวก้อยกันดื่มสุรามงคลแล้ว เริ่มกันที่การปลดเชือก เชือกหลากสีที่เห็นนี้ มีชื่อเรียกว่า ‘อิง’ สตรีที่ได้รับการหมั้นหมายแล้วจะต้องผูกเชือกนี้ไว้ที่มวยผม ตราบจนวันแต่งงานเข้าหอแล้วมีเพียงเจ้าบ่าวที่สามารถปลดเชือกนี้ได้ การทำอย่างนี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์โจวตะวันตก (1047 – 772 ปีก่อนคริสตกาล) ปรากฏในบันทึกพิธีการการแต่งงาน (仪礼·土昏礼 ซึ่งเป็นบันทึกเดียวกับที่กล่าวถึง ‘หกพิธีการ’/六礼 ของงานแต่งงานที่เพื่อนเพจอาจเคยผ่านหู) บันทึกนี้เป็นหนึ่งในสามบันทึกที่เก่าแก่ที่สุดของจีนเกี่ยวกับเรื่องประเพณีและพิธีการ แต่... บันทึกนี้ไม่ได้กล่าวถึงการผูกปมผม พิธีการผูกปมผมเริ่มแต่เมื่อใดไม่ปรากฏบันทึกที่ชัดเจน แต่บทกวีในสมัยราชวงศ์ฮั่นที่ประพันธ์โดยซูอู่ (140 - 60 ปีก่อนคริสตกาล) มีวรรคนี้ปรากฏ “ผูกปมผมเป็นสามีภรรยา รักกันไม่เคลือบแคลงใจ” (结发为夫妻,恩爱两不疑) ดังนั้นการเอาปอยผมมามัดเข้ากันนี้มีแล้วในสมัยราชวงศ์ฮั่น และวลีนี้เป็นอีกหนึ่งวลีคลาสสิกที่ใช้กล่าวถึงความรักที่มั่นคง แต่มันมีความหมายมากกว่านั้นค่ะ ในธรรมเนียมจีนโบราณ จะมีเพียงภรรยาเอกคนเดียวที่มีการกราบไหว้ฟ้าดินแล้วส่งตัวเข้าห้องหอ ส่วนอนุทั้งหลายจะเพียงแต่รับตัวเข้ามาเข้าห้องเลย ดังนั้นคำว่า ‘ภรรยาผูกปมผม’ ในบางบริบทไม่ใช่หมายถึงรักเดียว แต่อาจหมายถึงภรรยาที่แต่งเข้ามาเป็นคนแรกก็ได้ค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/366760262 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.epochtimes.com/gb/20/10/19/n12485542.htm https://baike.sogou.com/v168462018.htm https://www.pinshiwen.com/gsdq/aqsc/20190711144812.html #สตรีหาญฉางเกอ #ฮ่าวตูเล่อเยียน #พิธีแต่งงานจีนโบราณ #ผูกปมผม #เจี๋ยฟ่า #เจี๋ยฝ้า
    1 Comments 0 Shares 570 Views 0 Reviews
  • นิคูซอร์ ดาน (Nicusor Dan) นายกเทศมนตรีกรุงบูคาเรสต์กำลังร่วมเฉลิมฉลองชัยชนะของเขากับประชาชนที่มาพร้อมกับ "ธงสหภาพยุโรป" ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียซึ่งถือเป็นการเลือกตั้งที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างมาก

    การนับคะแนนผ่านไปแล้วกว่า 99% นิคูซอร์ ดาน ได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 54%

    นิคูซอร์ ดาน อดีตคือผู้ชนะการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกสองครั้ง โดยทั้งสองครั้งได้คะแนนเต็ม ปริญญาเอกสาขาคณิตศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ของฝรั่งเศส

    👉 สมาชิกนาโต้คงพอใจผลการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างมาก เพราะโรมาเนียจะเป็นตัวแทนในการต่อต้านรัสเซียต่อไป
    นิคูซอร์ ดาน (Nicusor Dan) นายกเทศมนตรีกรุงบูคาเรสต์กำลังร่วมเฉลิมฉลองชัยชนะของเขากับประชาชนที่มาพร้อมกับ "ธงสหภาพยุโรป" ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีโรมาเนียซึ่งถือเป็นการเลือกตั้งที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างมาก การนับคะแนนผ่านไปแล้วกว่า 99% นิคูซอร์ ดาน ได้รับคะแนนเสียงมากกว่า 54% นิคูซอร์ ดาน อดีตคือผู้ชนะการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกสองครั้ง โดยทั้งสองครั้งได้คะแนนเต็ม ปริญญาเอกสาขาคณิตศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ของฝรั่งเศส 👉 สมาชิกนาโต้คงพอใจผลการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างมาก เพราะโรมาเนียจะเป็นตัวแทนในการต่อต้านรัสเซียต่อไป
    0 Comments 0 Shares 298 Views 0 Reviews
  • 27 เม.ย.2568-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน   เป็นวันที่ 3 

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง  จากโรงแรมที่ประทับเพมาโกะ  ทิมพู    ไปยังพระราชวังลิงคานา (Lingkana Palace Ground)  เพื่อทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภูฏาน  ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน และสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน  จัดถวาย  ได้แก่ การแสดงศิลปะการยิงธนู กีฬาพื้นบ้าน   ในการนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ทรงแนะนำวิธีการยิงธนูของภูฏานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมยิงธนูอันเป็นกีฬาประจำชาติของชาวภูฏาน สำหรับกีฬายิงธนูเป็นกีฬาประจำชาติอัตลักษณ์ของภูฏาน นิยมเล่นตลอดทั้งปี เป็นวิถีชีวิตและวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สร้างความรักสามัคคีของชุมชน มักเป็นส่วนหนึ่งการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลสำคัญของประเทศ ชาวภูฏานเชื่อว่า กีฬานี้ช่วยสร้างสมาธิและการควบคุมอารมณ์ สะท้อนถึงปรัชญาในการใช้ชีวิตอย่างสมดุลและสุขุม ตลอดจนเป็นกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่สนใจ คันธนูและลูกธนูของภูฏานแตกต่างจากกีฬายิงธนูในการแข่งขันโอลิมปิก ภูฏานใช้ธนูทำจากไม้ไผ่ หรือในบางครั้งอาจใช้เส้นใยไฟเบอร์กลาส ส่วนลูกธนูทำจากต้นฮีมา (Hema) ซึ่งเป็นพืชที่พบในเชิงเขาของภูฏาน

    จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรงานหัตถกรรมผ้าและสิ่งทอของราชอาณาจักรภูฏาน  ต่อมาเสด็จพระราชดำเนินไปยังตลาดกลางประจำกรุงทิมพู  (Kaja Throm)  ทรงรับฟังการบรรยายสรุปและทอดพระเนตรนิทรรศการของโครงการอาสาสมัครเดซุง  และร้านค้าจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร  

    ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน และจะเสด็จพระราชดำเนินกลับในวันที่ 28 เมษายน 2568
    27 เม.ย.2568-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน   เป็นวันที่ 3  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง  จากโรงแรมที่ประทับเพมาโกะ  ทิมพู    ไปยังพระราชวังลิงคานา (Lingkana Palace Ground)  เพื่อทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภูฏาน  ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน และสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน  จัดถวาย  ได้แก่ การแสดงศิลปะการยิงธนู กีฬาพื้นบ้าน   ในการนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ทรงแนะนำวิธีการยิงธนูของภูฏานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมยิงธนูอันเป็นกีฬาประจำชาติของชาวภูฏาน สำหรับกีฬายิงธนูเป็นกีฬาประจำชาติอัตลักษณ์ของภูฏาน นิยมเล่นตลอดทั้งปี เป็นวิถีชีวิตและวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สร้างความรักสามัคคีของชุมชน มักเป็นส่วนหนึ่งการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลสำคัญของประเทศ ชาวภูฏานเชื่อว่า กีฬานี้ช่วยสร้างสมาธิและการควบคุมอารมณ์ สะท้อนถึงปรัชญาในการใช้ชีวิตอย่างสมดุลและสุขุม ตลอดจนเป็นกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่สนใจ คันธนูและลูกธนูของภูฏานแตกต่างจากกีฬายิงธนูในการแข่งขันโอลิมปิก ภูฏานใช้ธนูทำจากไม้ไผ่ หรือในบางครั้งอาจใช้เส้นใยไฟเบอร์กลาส ส่วนลูกธนูทำจากต้นฮีมา (Hema) ซึ่งเป็นพืชที่พบในเชิงเขาของภูฏาน จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรงานหัตถกรรมผ้าและสิ่งทอของราชอาณาจักรภูฏาน  ต่อมาเสด็จพระราชดำเนินไปยังตลาดกลางประจำกรุงทิมพู  (Kaja Throm)  ทรงรับฟังการบรรยายสรุปและทอดพระเนตรนิทรรศการของโครงการอาสาสมัครเดซุง  และร้านค้าจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร   ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน และจะเสด็จพระราชดำเนินกลับในวันที่ 28 เมษายน 2568
    0 Comments 0 Shares 487 Views 0 Reviews
  • กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันความหวังของไทย เอาชนะ หลู กวาง ซู เจ้าถิ่น แบบไม่จบแมตช์ คว้าแชมป์ทวีปเอเชีย ที่เมืองหนิงโบ ประเทศจีน

    ศึกแบดมินตันชิงแชมป์ทวีปเอเชีย 2024 ณ สนามหนิงโป โอลิมปิก สปอร์ตส เซ็นเตอร์ ยิมเนเซียม ชิงเงินรางวัลรวม 500,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 16.7 ล้านบาท) วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ พบ หลู กวาง ซู่ โดยสถิติเฮด-ทู-เฮดเหนือกว่า ชนะ 4 แพ้ 1

    กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 3 รายการ ยืนรับสบายๆ แทบไม่เจอแรงกดดันจากเกมบุกคู่ต่อสู้ จึงปิดเกมแรกง่ายดาย 21-12 เข้าสู่เกม 2 หลู กวาง ซู่ มือ 20 ของโลก เกิดอาการตึงบริเวณหลัง ขณะตามหลัง 2-3 ขอผู้ตัดสินพ่นสเปรย์ แต่ไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากตามกฎ ผู้เล่นจะขอพ่นสเปรย์ได้ เมื่อถึงช่วงพักครึ่งเกม (ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ 11 แต้ม) ต้องฝืนเล่นต่อ

    อย่างไรก็ตาม หลู กว่าง ซู่ ขอยอมแพ้ขณะตามหลัง 6-11 ส่งผลให้ กุลวุฒิ วัย 23 ปี สร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์เอเชียคนแรกของไทย เฉพาะประเภทชายเดี่ยว และลำดับที่ 4 ต่อจาก ณรงค์ พรฉิม / ชวเลิศ ชุ่มคำ (ชายคู่/1965), สุดเขต ประภากมล / สราลีย์ ทุ่งทองคำ (คู่ผสม/2005) และ รัชนก อินทนนท์ (หญิงเดี่ยว/2015)

    #MGROnline #ศึกแบดมินตันชิงแชมป์ทวีปเอเชีย2024 #กุลวุฒิวิทิตศานต์ #นักแบดมินตัน
    กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันความหวังของไทย เอาชนะ หลู กวาง ซู เจ้าถิ่น แบบไม่จบแมตช์ คว้าแชมป์ทวีปเอเชีย ที่เมืองหนิงโบ ประเทศจีน • ศึกแบดมินตันชิงแชมป์ทวีปเอเชีย 2024 ณ สนามหนิงโป โอลิมปิก สปอร์ตส เซ็นเตอร์ ยิมเนเซียม ชิงเงินรางวัลรวม 500,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 16.7 ล้านบาท) วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ พบ หลู กวาง ซู่ โดยสถิติเฮด-ทู-เฮดเหนือกว่า ชนะ 4 แพ้ 1 • กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 3 รายการ ยืนรับสบายๆ แทบไม่เจอแรงกดดันจากเกมบุกคู่ต่อสู้ จึงปิดเกมแรกง่ายดาย 21-12 เข้าสู่เกม 2 หลู กวาง ซู่ มือ 20 ของโลก เกิดอาการตึงบริเวณหลัง ขณะตามหลัง 2-3 ขอผู้ตัดสินพ่นสเปรย์ แต่ไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากตามกฎ ผู้เล่นจะขอพ่นสเปรย์ได้ เมื่อถึงช่วงพักครึ่งเกม (ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ 11 แต้ม) ต้องฝืนเล่นต่อ • อย่างไรก็ตาม หลู กว่าง ซู่ ขอยอมแพ้ขณะตามหลัง 6-11 ส่งผลให้ กุลวุฒิ วัย 23 ปี สร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์เอเชียคนแรกของไทย เฉพาะประเภทชายเดี่ยว และลำดับที่ 4 ต่อจาก ณรงค์ พรฉิม / ชวเลิศ ชุ่มคำ (ชายคู่/1965), สุดเขต ประภากมล / สราลีย์ ทุ่งทองคำ (คู่ผสม/2005) และ รัชนก อินทนนท์ (หญิงเดี่ยว/2015) • #MGROnline #ศึกแบดมินตันชิงแชมป์ทวีปเอเชีย2024 #กุลวุฒิวิทิตศานต์ #นักแบดมินตัน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 422 Views 0 Reviews
  • ♣ คลังหวังเสริมแกร่งสถานะการคลังด้วยการถลุงงบกว่า 10 ล้าน ให้ข้าราชการแข็งแรง สงสัยจะส่งคนไปแข่งโอลิมปิก ซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า 24 ตัว ตัวละ 2.3 แสนบาท หน่วยงานราชการที่ใช้เงินหลวงเหมือนเงินตัวเอง ค่าไฟฟ้าห้องฟิตเนสก็ใช้ภาษีประชาชนจ่าย
    #7ดอกจิก
    ♣ คลังหวังเสริมแกร่งสถานะการคลังด้วยการถลุงงบกว่า 10 ล้าน ให้ข้าราชการแข็งแรง สงสัยจะส่งคนไปแข่งโอลิมปิก ซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า 24 ตัว ตัวละ 2.3 แสนบาท หน่วยงานราชการที่ใช้เงินหลวงเหมือนเงินตัวเอง ค่าไฟฟ้าห้องฟิตเนสก็ใช้ภาษีประชาชนจ่าย #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 369 Views 0 Reviews
  • เบื้องหลัง Walk Out เลือกตั้ง ปธ.โอลิมปิกไทย(26/03/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง # เลือกตั้ง ปธ.โอลิมปิกไทย
    เบื้องหลัง Walk Out เลือกตั้ง ปธ.โอลิมปิกไทย(26/03/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง # เลือกตั้ง ปธ.โอลิมปิกไทย
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 928 Views 36 0 Reviews
  • ประธานโอลิมปิกไทยคนใหม่ (26/03/68) #news1 #ข่าวกีฬา #ประธานโอลิมปิกไทยคนใหม่
    ประธานโอลิมปิกไทยคนใหม่ (26/03/68) #news1 #ข่าวกีฬา #ประธานโอลิมปิกไทยคนใหม่
    Like
    7
    0 Comments 0 Shares 931 Views 35 0 Reviews
  • เทียบฟอร์มว่าที่ประธานโอลิมปิกไทย (23/03/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง#ว่าที่ประธานโอลิมปิกไทย #วงการกีฬาไทย #พิมล ศรีวิกรม์
    เทียบฟอร์มว่าที่ประธานโอลิมปิกไทย (23/03/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง#ว่าที่ประธานโอลิมปิกไทย #วงการกีฬาไทย #พิมล ศรีวิกรม์
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 1024 Views 19 0 Reviews
  • วิธีการเลือกประธานโอลิมปิกไทย (23/03/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ประธานโอลิมปิกไทย #วงการกีฬาไทย
    วิธีการเลือกประธานโอลิมปิกไทย (23/03/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ประธานโอลิมปิกไทย #วงการกีฬาไทย
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 977 Views 18 0 Reviews
  • คุณหญิงปัทมา จะไม่ลงรับตำแหน่ง ประธานโอลิมปิกไทย 22/03/68 #คุณหญิงปัทมา #ประธานโอลิมปิกไทย #วงการกีฬา #ไอโอซีเมมเบอร์
    คุณหญิงปัทมา จะไม่ลงรับตำแหน่ง ประธานโอลิมปิกไทย 22/03/68 #คุณหญิงปัทมา #ประธานโอลิมปิกไทย #วงการกีฬา #ไอโอซีเมมเบอร์
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 951 Views 23 0 Reviews
  • ประธาน IOC คนใหม่ เป็นสุภาพสตรี (21/03/68) #news1 #ข่าวกีฬา #ประธานIOC #ประธานโอลิมปิกสากลหญิงคนเเรก
    ประธาน IOC คนใหม่ เป็นสุภาพสตรี (21/03/68) #news1 #ข่าวกีฬา #ประธานIOC #ประธานโอลิมปิกสากลหญิงคนเเรก
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 1100 Views 31 0 Reviews
  • ในยุคที่องค์กรต่างๆ กำลังหันมาปรับตัวจากการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล (Digital Transformation) ไปสู่การนำ AI มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจฟังดูท้าทาย แต่หากมีการวางแผนและบริหารจัดการอย่างถูกวิธี ก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจได้

    1. สร้างความร่วมมือกับผู้บริหารระดับสูง: Gabriela Vogel จาก Gartner ชี้ให้เห็นว่า ความสำเร็จของ AI ขึ้นอยู่กับการที่ผู้นำด้านดิจิทัลหรือ CIO เข้าใจถึงมูลค่าของเทคโนโลยีนี้ และจับมือร่วมกับ CFO ในการสร้างผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม เช่น การใช้ AI เพิ่มรายได้หรือปรับปรุงประสิทธิภาพภายในองค์กร

    2. ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ: James Fleming จาก Francis Crick Institute เสนอให้ตั้งกลุ่มทำงานที่รวมบุคลากรจากหลายแผนก เช่น ฝ่ายกฎหมาย, ทรัพยากรบุคคล และฝ่ายวิทยาศาสตร์ เพื่อร่วมกันประเมินการใช้ AI ในองค์กรและพิจารณากรณีลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ

    3. การบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด: Bruno Marie-Rose จาก Paris 2024 Organising Committee เปิดเผยว่า AI สามารถช่วยวางแผนการใช้ทรัพยากรในการจัดโอลิมปิกให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การจัดสรรพื้นที่ Media Center ตามความต้องการที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา

    4. ลดความกังวลของพนักงาน: Ollie Wildeman จาก Big Bus Tours อธิบายว่าการนำ AI เข้ามาใช้งานต้องเริ่มจากการสื่อสารเพื่อให้พนักงานเข้าใจถึงประโยชน์ เช่น การช่วยลดงานซ้ำซ้อน ทำให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีมูลค่ามากขึ้น เช่น การขายหรือการตอบคำถามลูกค้าอย่างเฉพาะเจาะจง

    5. การจัดการข้อมูลอย่างรอบคอบ: Jon Grainger จาก DWF เน้นย้ำว่า การดูแลคุณภาพของข้อมูลให้ถูกต้องและพร้อมใช้งานเป็นรากฐานสำคัญในการทำงานกับ AI ข้อมูลที่มีคุณภาพและถูกจัดการอย่างดี จะช่วยให้องค์กรได้รับผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือและมีความแม่นยำ

    https://www.zdnet.com/article/your-ai-transformation-depends-on-these-5-business-tactics/
    ในยุคที่องค์กรต่างๆ กำลังหันมาปรับตัวจากการเปลี่ยนแปลงดิจิทัล (Digital Transformation) ไปสู่การนำ AI มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจฟังดูท้าทาย แต่หากมีการวางแผนและบริหารจัดการอย่างถูกวิธี ก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจได้ 1. สร้างความร่วมมือกับผู้บริหารระดับสูง: Gabriela Vogel จาก Gartner ชี้ให้เห็นว่า ความสำเร็จของ AI ขึ้นอยู่กับการที่ผู้นำด้านดิจิทัลหรือ CIO เข้าใจถึงมูลค่าของเทคโนโลยีนี้ และจับมือร่วมกับ CFO ในการสร้างผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม เช่น การใช้ AI เพิ่มรายได้หรือปรับปรุงประสิทธิภาพภายในองค์กร 2. ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ: James Fleming จาก Francis Crick Institute เสนอให้ตั้งกลุ่มทำงานที่รวมบุคลากรจากหลายแผนก เช่น ฝ่ายกฎหมาย, ทรัพยากรบุคคล และฝ่ายวิทยาศาสตร์ เพื่อร่วมกันประเมินการใช้ AI ในองค์กรและพิจารณากรณีลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ 3. การบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด: Bruno Marie-Rose จาก Paris 2024 Organising Committee เปิดเผยว่า AI สามารถช่วยวางแผนการใช้ทรัพยากรในการจัดโอลิมปิกให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การจัดสรรพื้นที่ Media Center ตามความต้องการที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา 4. ลดความกังวลของพนักงาน: Ollie Wildeman จาก Big Bus Tours อธิบายว่าการนำ AI เข้ามาใช้งานต้องเริ่มจากการสื่อสารเพื่อให้พนักงานเข้าใจถึงประโยชน์ เช่น การช่วยลดงานซ้ำซ้อน ทำให้พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่งานที่มีมูลค่ามากขึ้น เช่น การขายหรือการตอบคำถามลูกค้าอย่างเฉพาะเจาะจง 5. การจัดการข้อมูลอย่างรอบคอบ: Jon Grainger จาก DWF เน้นย้ำว่า การดูแลคุณภาพของข้อมูลให้ถูกต้องและพร้อมใช้งานเป็นรากฐานสำคัญในการทำงานกับ AI ข้อมูลที่มีคุณภาพและถูกจัดการอย่างดี จะช่วยให้องค์กรได้รับผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือและมีความแม่นยำ https://www.zdnet.com/article/your-ai-transformation-depends-on-these-5-business-tactics/
    WWW.ZDNET.COM
    Your AI transformation depends on these 5 business tactics
    Five business leaders explain their best-practice tactics for managing artificial intelligence projects effectively.
    0 Comments 0 Shares 341 Views 0 Reviews
  • นโยบายพรรคการเมือง: การปฏิรูปการศึกษาเพื่ออนาคต ด้วยเทคโนโลยีและ STEM

    วิสัยทัศน์

    สร้างระบบการศึกษาที่ทันสมัย เปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนเข้าถึงองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม พัฒนาเยาวชนให้เป็นนักคิด นักแก้ปัญหา และนักนวัตกรรมที่พร้อมแข่งขันในเวทีโลก


    ---

    1. การพัฒนา STEM Education ให้เป็นรากฐานของระบบการศึกษา

    ✅ ปรับหลักสูตรการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับแนวทาง STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา
    ✅ ส่งเสริมโครงการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (Project-Based Learning) ให้นักเรียนได้ทดลอง คิดวิเคราะห์ และพัฒนาทักษะผ่านโครงงานจริง
    ✅ เพิ่มวิชาหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเขียนโค้ด (Coding) เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรมาตรฐาน
    ✅ สนับสนุนการแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น โอลิมปิกวิชาการ การแข่งขันหุ่นยนต์ และแฮ็กกาธอน


    ---

    2. การนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงการเรียนการสอน

    ✅ จัดหาอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้โรงเรียนทั่วประเทศ เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียน
    ✅ พัฒนาระบบการเรียนการสอนออนไลน์ (E-Learning & Hybrid Learning) เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
    ✅ ใช้ AI และ Big Data วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้ เพื่อออกแบบการสอนที่เหมาะกับนักเรียนแต่ละคน
    ✅ พัฒนาคลังสื่อดิจิทัล (Open Educational Resources - OER) รวมถึงแพลตฟอร์มบทเรียนออนไลน์ฟรีสำหรับทุกคน


    ---

    3. การพัฒนาครูให้พร้อมสำหรับยุคดิจิทัล

    ✅ อบรมและพัฒนาครูด้านเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้และพัฒนาทักษะของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    ✅ สร้างเครือข่ายครูและนักวิชาการด้านเทคโนโลยี เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนาแนวทางการสอนที่ทันสมัย
    ✅ เพิ่มแรงจูงใจให้ครูพัฒนาทักษะดิจิทัล เช่น การให้ทุนอบรมหรือการเลื่อนขั้นสำหรับครูที่ผ่านการรับรองทักษะเทคโนโลยี


    ---

    4. สร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนและอุตสาหกรรม

    ✅ เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้การเรียนการสอนสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน
    ✅ ส่งเสริมการฝึกงานและโครงการนักศึกษาฝึกงานในสายงานเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์จริงก่อนจบการศึกษา
    ✅ จัดตั้งกองทุนส่งเสริมนวัตกรรมทางการศึกษา สนับสนุนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech)


    ---

    5. ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

    ✅ ให้ทุนการศึกษาและอุปกรณ์เรียนฟรีสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและห่างไกล
    ✅ สร้างโรงเรียนต้นแบบด้านเทคโนโลยีในทุกภูมิภาค เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ STEM ในแต่ละพื้นที่
    ✅ พัฒนาระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมและอินเทอร์เน็ต เพื่อให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการศึกษาเท่าเทียมกับเมืองใหญ่


    ---

    ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

    ✅ นักเรียนไทยมีทักษะด้านเทคโนโลยีและ STEM ที่แข็งแกร่ง พร้อมแข่งขันในระดับนานาชาติ
    ✅ ครูมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
    ✅ ระบบการศึกษาของไทยสามารถตอบโจทย์ตลาดแรงงานและเศรษฐกิจดิจิทัล
    ✅ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้โอกาสเด็กทุกคนเข้าถึงการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ


    ---

    "การศึกษาไทยก้าวไกล เทคโนโลยีล้ำหน้า STEM นำอนาคต"
    #พรรคเพื่อการศึกษายุคใหม่

    นโยบายพรรคการเมือง: การปฏิรูปการศึกษาเพื่ออนาคต ด้วยเทคโนโลยีและ STEM วิสัยทัศน์ สร้างระบบการศึกษาที่ทันสมัย เปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนเข้าถึงองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม พัฒนาเยาวชนให้เป็นนักคิด นักแก้ปัญหา และนักนวัตกรรมที่พร้อมแข่งขันในเวทีโลก --- 1. การพัฒนา STEM Education ให้เป็นรากฐานของระบบการศึกษา ✅ ปรับหลักสูตรการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับแนวทาง STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา ✅ ส่งเสริมโครงการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (Project-Based Learning) ให้นักเรียนได้ทดลอง คิดวิเคราะห์ และพัฒนาทักษะผ่านโครงงานจริง ✅ เพิ่มวิชาหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเขียนโค้ด (Coding) เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรมาตรฐาน ✅ สนับสนุนการแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น โอลิมปิกวิชาการ การแข่งขันหุ่นยนต์ และแฮ็กกาธอน --- 2. การนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงการเรียนการสอน ✅ จัดหาอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้โรงเรียนทั่วประเทศ เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียน ✅ พัฒนาระบบการเรียนการสอนออนไลน์ (E-Learning & Hybrid Learning) เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ✅ ใช้ AI และ Big Data วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้ เพื่อออกแบบการสอนที่เหมาะกับนักเรียนแต่ละคน ✅ พัฒนาคลังสื่อดิจิทัล (Open Educational Resources - OER) รวมถึงแพลตฟอร์มบทเรียนออนไลน์ฟรีสำหรับทุกคน --- 3. การพัฒนาครูให้พร้อมสำหรับยุคดิจิทัล ✅ อบรมและพัฒนาครูด้านเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้และพัฒนาทักษะของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ สร้างเครือข่ายครูและนักวิชาการด้านเทคโนโลยี เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนาแนวทางการสอนที่ทันสมัย ✅ เพิ่มแรงจูงใจให้ครูพัฒนาทักษะดิจิทัล เช่น การให้ทุนอบรมหรือการเลื่อนขั้นสำหรับครูที่ผ่านการรับรองทักษะเทคโนโลยี --- 4. สร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนและอุตสาหกรรม ✅ เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้การเรียนการสอนสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ✅ ส่งเสริมการฝึกงานและโครงการนักศึกษาฝึกงานในสายงานเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์จริงก่อนจบการศึกษา ✅ จัดตั้งกองทุนส่งเสริมนวัตกรรมทางการศึกษา สนับสนุนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech) --- 5. ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ✅ ให้ทุนการศึกษาและอุปกรณ์เรียนฟรีสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและห่างไกล ✅ สร้างโรงเรียนต้นแบบด้านเทคโนโลยีในทุกภูมิภาค เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ STEM ในแต่ละพื้นที่ ✅ พัฒนาระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมและอินเทอร์เน็ต เพื่อให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการศึกษาเท่าเทียมกับเมืองใหญ่ --- ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ✅ นักเรียนไทยมีทักษะด้านเทคโนโลยีและ STEM ที่แข็งแกร่ง พร้อมแข่งขันในระดับนานาชาติ ✅ ครูมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ✅ ระบบการศึกษาของไทยสามารถตอบโจทย์ตลาดแรงงานและเศรษฐกิจดิจิทัล ✅ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้โอกาสเด็กทุกคนเข้าถึงการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ --- "การศึกษาไทยก้าวไกล เทคโนโลยีล้ำหน้า STEM นำอนาคต" #พรรคเพื่อการศึกษายุคใหม่
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 1296 Views 0 Reviews
  • นโยบายพรรคการเมือง: การปฏิรูปการศึกษาเพื่ออนาคต ด้วยเทคโนโลยีและ STEM

    วิสัยทัศน์

    สร้างระบบการศึกษาที่ทันสมัย เปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนเข้าถึงองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม พัฒนาเยาวชนให้เป็นนักคิด นักแก้ปัญหา และนักนวัตกรรมที่พร้อมแข่งขันในเวทีโลก


    ---

    1. การพัฒนา STEM Education ให้เป็นรากฐานของระบบการศึกษา

    ✅ ปรับหลักสูตรการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับแนวทาง STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา
    ✅ ส่งเสริมโครงการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (Project-Based Learning) ให้นักเรียนได้ทดลอง คิดวิเคราะห์ และพัฒนาทักษะผ่านโครงงานจริง
    ✅ เพิ่มวิชาหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเขียนโค้ด (Coding) เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรมาตรฐาน
    ✅ สนับสนุนการแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น โอลิมปิกวิชาการ การแข่งขันหุ่นยนต์ และแฮ็กกาธอน


    ---

    2. การนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงการเรียนการสอน

    ✅ จัดหาอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้โรงเรียนทั่วประเทศ เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียน
    ✅ พัฒนาระบบการเรียนการสอนออนไลน์ (E-Learning & Hybrid Learning) เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
    ✅ ใช้ AI และ Big Data วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้ เพื่อออกแบบการสอนที่เหมาะกับนักเรียนแต่ละคน
    ✅ พัฒนาคลังสื่อดิจิทัล (Open Educational Resources - OER) รวมถึงแพลตฟอร์มบทเรียนออนไลน์ฟรีสำหรับทุกคน


    ---

    3. การพัฒนาครูให้พร้อมสำหรับยุคดิจิทัล

    ✅ อบรมและพัฒนาครูด้านเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้และพัฒนาทักษะของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    ✅ สร้างเครือข่ายครูและนักวิชาการด้านเทคโนโลยี เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนาแนวทางการสอนที่ทันสมัย
    ✅ เพิ่มแรงจูงใจให้ครูพัฒนาทักษะดิจิทัล เช่น การให้ทุนอบรมหรือการเลื่อนขั้นสำหรับครูที่ผ่านการรับรองทักษะเทคโนโลยี


    ---

    4. สร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนและอุตสาหกรรม

    ✅ เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้การเรียนการสอนสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน
    ✅ ส่งเสริมการฝึกงานและโครงการนักศึกษาฝึกงานในสายงานเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์จริงก่อนจบการศึกษา
    ✅ จัดตั้งกองทุนส่งเสริมนวัตกรรมทางการศึกษา สนับสนุนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech)


    ---

    5. ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา

    ✅ ให้ทุนการศึกษาและอุปกรณ์เรียนฟรีสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและห่างไกล
    ✅ สร้างโรงเรียนต้นแบบด้านเทคโนโลยีในทุกภูมิภาค เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ STEM ในแต่ละพื้นที่
    ✅ พัฒนาระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมและอินเทอร์เน็ต เพื่อให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการศึกษาเท่าเทียมกับเมืองใหญ่


    ---

    ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

    ✅ นักเรียนไทยมีทักษะด้านเทคโนโลยีและ STEM ที่แข็งแกร่ง พร้อมแข่งขันในระดับนานาชาติ
    ✅ ครูมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน
    ✅ ระบบการศึกษาของไทยสามารถตอบโจทย์ตลาดแรงงานและเศรษฐกิจดิจิทัล
    ✅ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้โอกาสเด็กทุกคนเข้าถึงการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ


    ---

    "การศึกษาไทยก้าวไกล เทคโนโลยีล้ำหน้า STEM นำอนาคต"
    #พรรคเพื่อการศึกษายุคใหม่

    นโยบายพรรคการเมือง: การปฏิรูปการศึกษาเพื่ออนาคต ด้วยเทคโนโลยีและ STEM วิสัยทัศน์ สร้างระบบการศึกษาที่ทันสมัย เปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนเข้าถึงองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม พัฒนาเยาวชนให้เป็นนักคิด นักแก้ปัญหา และนักนวัตกรรมที่พร้อมแข่งขันในเวทีโลก --- 1. การพัฒนา STEM Education ให้เป็นรากฐานของระบบการศึกษา ✅ ปรับหลักสูตรการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับแนวทาง STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา ✅ ส่งเสริมโครงการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ (Project-Based Learning) ให้นักเรียนได้ทดลอง คิดวิเคราะห์ และพัฒนาทักษะผ่านโครงงานจริง ✅ เพิ่มวิชาหุ่นยนต์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเขียนโค้ด (Coding) เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรมาตรฐาน ✅ สนับสนุนการแข่งขันด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น โอลิมปิกวิชาการ การแข่งขันหุ่นยนต์ และแฮ็กกาธอน --- 2. การนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงการเรียนการสอน ✅ จัดหาอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้โรงเรียนทั่วประเทศ เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียน ✅ พัฒนาระบบการเรียนการสอนออนไลน์ (E-Learning & Hybrid Learning) เพื่อให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ✅ ใช้ AI และ Big Data วิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนรู้ เพื่อออกแบบการสอนที่เหมาะกับนักเรียนแต่ละคน ✅ พัฒนาคลังสื่อดิจิทัล (Open Educational Resources - OER) รวมถึงแพลตฟอร์มบทเรียนออนไลน์ฟรีสำหรับทุกคน --- 3. การพัฒนาครูให้พร้อมสำหรับยุคดิจิทัล ✅ อบรมและพัฒนาครูด้านเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้สามารถถ่ายทอดความรู้และพัฒนาทักษะของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ สร้างเครือข่ายครูและนักวิชาการด้านเทคโนโลยี เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนาแนวทางการสอนที่ทันสมัย ✅ เพิ่มแรงจูงใจให้ครูพัฒนาทักษะดิจิทัล เช่น การให้ทุนอบรมหรือการเลื่อนขั้นสำหรับครูที่ผ่านการรับรองทักษะเทคโนโลยี --- 4. สร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนและอุตสาหกรรม ✅ เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้การเรียนการสอนสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ✅ ส่งเสริมการฝึกงานและโครงการนักศึกษาฝึกงานในสายงานเทคโนโลยีและ STEM เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการณ์จริงก่อนจบการศึกษา ✅ จัดตั้งกองทุนส่งเสริมนวัตกรรมทางการศึกษา สนับสนุนสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีการศึกษา (EdTech) --- 5. ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ✅ ให้ทุนการศึกษาและอุปกรณ์เรียนฟรีสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทและห่างไกล ✅ สร้างโรงเรียนต้นแบบด้านเทคโนโลยีในทุกภูมิภาค เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ STEM ในแต่ละพื้นที่ ✅ พัฒนาระบบการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมและอินเทอร์เน็ต เพื่อให้นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงการศึกษาเท่าเทียมกับเมืองใหญ่ --- ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ✅ นักเรียนไทยมีทักษะด้านเทคโนโลยีและ STEM ที่แข็งแกร่ง พร้อมแข่งขันในระดับนานาชาติ ✅ ครูมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน ✅ ระบบการศึกษาของไทยสามารถตอบโจทย์ตลาดแรงงานและเศรษฐกิจดิจิทัล ✅ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้โอกาสเด็กทุกคนเข้าถึงการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ --- "การศึกษาไทยก้าวไกล เทคโนโลยีล้ำหน้า STEM นำอนาคต" #พรรคเพื่อการศึกษายุคใหม่
    0 Comments 0 Shares 1293 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งบริหารฉบับหนึ่ง หาทางห้ามนักกีฬาคนข้ามเพศจากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาประเภทหญิง ในความเคลื่อนไหวล่าสุดของเขาในการเล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนข้ามเพศ นับตั้งแต่กลับเข้าสู่เก้าอี้ทำเนียบขาว
    .
    "ภายใต้คำสั่งบริหารนี้ สงครามในด้านกีฬาของผู้หญิงสิ้นสุดลงแล้ว" ทรัมป์ กล่าวก่อนหน้าลงนามคำสั่งที่ทำเนียบขาว ล้อมรอบด้วยนักกีฬาเด็กและนักกีฬาหญิงหลายสิบคน ในขณะที่บรรดาสมาชิกระดับสูงของรีพับลิกันหลายคน ในนั้นรวมถึง ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ และส.ส.มาร์โจรี กรีน เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมชมพิธีลงนามครั้งนี้ด้วย
    .
    "เราจะปกป้องความภาคภูมิใจของนักกีฬาหญิงดั้งเดิม และเราจะไม่ปล่อยให้ผู้ชายทำร้าย ก่ออาการบาดเจ็บ โกงคุณผู้หญิงและเด็กผู้หญิงของเรา นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กีฬาประเภทหญิงจะมีไว้เฉพาะกับผู้หญิง" ทรัมป์ กล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือ
    .
    คำสั่งนี้ให้อำนาจหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล ปฏิเสธจัดสรรเงินทุนต่างๆของรัฐบาลกลาง มอบแก่โรงเรียนทั้งหลายที่อนุญาตให้พวกกลุ่มคนข้ามเพศเข้าแข่งขันกับนักกีฬาหญิง "มันคือนโยบายของสหรัฐอเมริกา ที่จะยกเลิกเงินทุนทั้งหมดจากโปรแกรมด้านการศึกษาต่างๆนานา ที่กีดกันโอกาสแข่งขันกีฬาอย่างยุติธรรมของพวกผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ซึ่งผลลัพธ์คือก่ออันตราย เป็นการลบหลู่และปิดปากผู้หญิงและเด็ก รวมถึงลิดรอนสิทธิความเป็นส่วนตัวของพวกเขา"
    .
    นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังเผยด้วยว่าเขากำลังกดดันให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับนักกีฬาคนข้ามเพศ ก่อนที่กีฬาโอลิมปิกเกมส์ จะหวนคืนสู่แผ่นดินสหรัฐฯ ในลอสแองเจลิส ปี 2028
    .
    ทรัมป์ เผยว่าเขาได้ออกคำสั่งถึง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ว่า "เราต้องการให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงทุกๆอย่างที่ต้องทำเกี่ยวกับโอลิมปิก และดำเนินการกับประเด็นอันไร้สาระนี้"
    .
    ยิ่งไปกว่านั้น ทรัมป์ ระบุเพิ่มเติมว่าเขาสั่งการให้ . คริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ปฏิเสธวีซ่า "พวกผู้ชายที่พยายามหาทางตลบตะแลงเข้าสู่สหรัฐฯ ด้วยการแอบอ้างตัวเป็นนักกีฬาหญิง เดินทางมาเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์"
    .
    ทรัมป์ จากรีพับลิกัน เล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนที่แสดงออก ทางเพศไม่ตรงตามบรรทัดฐานของสังคมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในการออกคำสั่งแบบสายฟ้าแลบผลักดันวาระนโยบายขวาจัดสุดขั้วของเขา นับตั้งแต่เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งสมัย 2 เมื่อวันที่ 20 มกราคม
    .
    ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ได้ลงนามกำจัดสิ่งที่เขาเรียกว่า "อุดมการณ์คนข้ามเพศ" ออกจากกองทัพ ผลก็คือการแบนกำลังพลคนข้ามเพศ นอกจากนี้แล้วเขายังได้ออกคำสั่งห้ามผ่าตัดแปลงเพศสำหรับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 19 ปี
    .
    ความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้มีขึ้นแม้ในข้อเท็จจริงที่ว่ากลุ่มคนข้ามเพศ ถือเป็นสัดส่วนเล็กน้อยมากๆในประชากรสหรัฐฯ
    .
    คำสั่้งบริหารของทรัมป์ในวันพุธ(5ก.พ.) มีขึ้นหลังจากสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯที่นำโดยรีพับลิกัน เมื่อเดือนมกราคม ลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ที่จำกัดอย่างรุนแรงขวางนักกีฬาข้ามเพศจากการแข่งขันกีฬากับเด็กผู้หญิงและผู้หญิง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011934
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งบริหารฉบับหนึ่ง หาทางห้ามนักกีฬาคนข้ามเพศจากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาประเภทหญิง ในความเคลื่อนไหวล่าสุดของเขาในการเล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนข้ามเพศ นับตั้งแต่กลับเข้าสู่เก้าอี้ทำเนียบขาว . "ภายใต้คำสั่งบริหารนี้ สงครามในด้านกีฬาของผู้หญิงสิ้นสุดลงแล้ว" ทรัมป์ กล่าวก่อนหน้าลงนามคำสั่งที่ทำเนียบขาว ล้อมรอบด้วยนักกีฬาเด็กและนักกีฬาหญิงหลายสิบคน ในขณะที่บรรดาสมาชิกระดับสูงของรีพับลิกันหลายคน ในนั้นรวมถึง ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ และส.ส.มาร์โจรี กรีน เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมชมพิธีลงนามครั้งนี้ด้วย . "เราจะปกป้องความภาคภูมิใจของนักกีฬาหญิงดั้งเดิม และเราจะไม่ปล่อยให้ผู้ชายทำร้าย ก่ออาการบาดเจ็บ โกงคุณผู้หญิงและเด็กผู้หญิงของเรา นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กีฬาประเภทหญิงจะมีไว้เฉพาะกับผู้หญิง" ทรัมป์ กล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือ . คำสั่งนี้ให้อำนาจหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล ปฏิเสธจัดสรรเงินทุนต่างๆของรัฐบาลกลาง มอบแก่โรงเรียนทั้งหลายที่อนุญาตให้พวกกลุ่มคนข้ามเพศเข้าแข่งขันกับนักกีฬาหญิง "มันคือนโยบายของสหรัฐอเมริกา ที่จะยกเลิกเงินทุนทั้งหมดจากโปรแกรมด้านการศึกษาต่างๆนานา ที่กีดกันโอกาสแข่งขันกีฬาอย่างยุติธรรมของพวกผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ซึ่งผลลัพธ์คือก่ออันตราย เป็นการลบหลู่และปิดปากผู้หญิงและเด็ก รวมถึงลิดรอนสิทธิความเป็นส่วนตัวของพวกเขา" . นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังเผยด้วยว่าเขากำลังกดดันให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับนักกีฬาคนข้ามเพศ ก่อนที่กีฬาโอลิมปิกเกมส์ จะหวนคืนสู่แผ่นดินสหรัฐฯ ในลอสแองเจลิส ปี 2028 . ทรัมป์ เผยว่าเขาได้ออกคำสั่งถึง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ว่า "เราต้องการให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงทุกๆอย่างที่ต้องทำเกี่ยวกับโอลิมปิก และดำเนินการกับประเด็นอันไร้สาระนี้" . ยิ่งไปกว่านั้น ทรัมป์ ระบุเพิ่มเติมว่าเขาสั่งการให้ . คริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ปฏิเสธวีซ่า "พวกผู้ชายที่พยายามหาทางตลบตะแลงเข้าสู่สหรัฐฯ ด้วยการแอบอ้างตัวเป็นนักกีฬาหญิง เดินทางมาเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์" . ทรัมป์ จากรีพับลิกัน เล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนที่แสดงออก ทางเพศไม่ตรงตามบรรทัดฐานของสังคมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในการออกคำสั่งแบบสายฟ้าแลบผลักดันวาระนโยบายขวาจัดสุดขั้วของเขา นับตั้งแต่เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งสมัย 2 เมื่อวันที่ 20 มกราคม . ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ได้ลงนามกำจัดสิ่งที่เขาเรียกว่า "อุดมการณ์คนข้ามเพศ" ออกจากกองทัพ ผลก็คือการแบนกำลังพลคนข้ามเพศ นอกจากนี้แล้วเขายังได้ออกคำสั่งห้ามผ่าตัดแปลงเพศสำหรับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 19 ปี . ความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้มีขึ้นแม้ในข้อเท็จจริงที่ว่ากลุ่มคนข้ามเพศ ถือเป็นสัดส่วนเล็กน้อยมากๆในประชากรสหรัฐฯ . คำสั่้งบริหารของทรัมป์ในวันพุธ(5ก.พ.) มีขึ้นหลังจากสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯที่นำโดยรีพับลิกัน เมื่อเดือนมกราคม ลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ที่จำกัดอย่างรุนแรงขวางนักกีฬาข้ามเพศจากการแข่งขันกีฬากับเด็กผู้หญิงและผู้หญิง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011934 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    Haha
    23
    0 Comments 0 Shares 2377 Views 0 Reviews
  • เสื่อมและเสียชื่อฝรั่งเศส เจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก

    ฝ่ายจัดแข่งขันการันตีว่าจะมีการเปลี่ยนเหรียญรางวัลใหม่ให้กับนักกีฬาและได้ยกเลิกสัญญากับบริษัทที่จัดทำเหรียญรางวัลไปแล้ว โดยหนังสือพิมพ์ La Lettre ในประเทศฝรั่งเศส รายงานว่า สาเหตุของปัญญาดังกล่าวเป็นเพราะขาดเวลาในการทดสอบเหรียญ และวัสดุบางอย่างที่ใช้ในการผลิต ไม่ตรงไปตามที่ต้องการ
    เสื่อมและเสียชื่อฝรั่งเศส เจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ฝ่ายจัดแข่งขันการันตีว่าจะมีการเปลี่ยนเหรียญรางวัลใหม่ให้กับนักกีฬาและได้ยกเลิกสัญญากับบริษัทที่จัดทำเหรียญรางวัลไปแล้ว โดยหนังสือพิมพ์ La Lettre ในประเทศฝรั่งเศส รายงานว่า สาเหตุของปัญญาดังกล่าวเป็นเพราะขาดเวลาในการทดสอบเหรียญ และวัสดุบางอย่างที่ใช้ในการผลิต ไม่ตรงไปตามที่ต้องการ
    0 Comments 0 Shares 224 Views 0 Reviews
  • เปิดคำพิพากษา ศาลจังหวัดขอนแก่นสั่งจำคุก"สมรักษ์" ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน ฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร-พยายามข่มขืนโดยใช้กำลัง นักเรียนสาววัย 17 ปี พร้อมให้จ่ายค่าเสียหายรวม 170,000 บาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000007233

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เปิดคำพิพากษา ศาลจังหวัดขอนแก่นสั่งจำคุก"สมรักษ์" ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน ฐานพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร-พยายามข่มขืนโดยใช้กำลัง นักเรียนสาววัย 17 ปี พร้อมให้จ่ายค่าเสียหายรวม 170,000 บาท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000007233 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    11
    0 Comments 0 Shares 1268 Views 0 Reviews
  • คุกสมรักษ์ 2 ปี 13 เดือน อนาจารสาว 17 ศาลชี้มีรอยแผลไม่ใช่สมยอม

    ศาลจังหวัดขอนแก่นพิพากษาจำคุก "สมรักษ์ คำสิงห์" อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก 4 ปี 8 เดือน อนาจารสาววัย 17 ปี หลังเที่ยวผับเมื่อปี 66 แต่ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 13 เดือน ชดใช้สินไหมรวม 1.7 แสนบาท ชี้ผลชันสูตรพบร่องรอยความรุนแรง

    วันนี้ (23 ม.ค.) ศาลจังหวัดขอนแก่นพิพากษาจำคุกนายสมรักษ์ คำสิงห์ อายุ 52 ปี อดีตนักกีฬามวยสากลสมัครเล่น รางวัลเหรียญทองโอลิมปิก จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 4 ปี 8 เดือน แต่ได้รับการลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน และชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท ส่วนนายพิเชษฐ์ ชิเนหันทา หรือเป๊กโก้ อายุ 49 ปี เพื่อนนายสมรักษ์ จำเลยที่ 2 พิพากษายกฟ้อง ในคดีพนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย, ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยการใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ กรณีที่หญิงวัย 17 ปี เข้าแจ้งความดำเนินคดีว่านายสมรักษ์กระทำอนาจาร หลังไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2566

    โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ มีน้ำหนักรับฟังได้ว่า ผู้เสียหายเบิกความตามข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะเบิกความเชื่อมโยงกัน หากไม่ประสบเหตุจริง ที่เป็นเรื่องน่าอับอาย เชื่อว่า ไม่มีจริตเสแสร้ง เอาความเท็จมาแจ้ง ซึ่งอาจถูกดำเนินการเอาผิดในภายหลัง สอดคล้องผลการชันสูตรบาดแผล ร่องรอยความรุนแรงที่พบบริเวณเต้านม จากการใช้แรงกดทับ ไม่ใช่การจับธรรมดา รวมทั้งมุมปากช่องคลอดด้านล่าง ที่ผู้เสียหายให้การว่า จำเลยที่ 1 พยายามข่มขืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย แต่ไม่บรรลุผล เพราะดิ้นขัดขืน ประกอบกับอวัยวะเพศจำเลยที่ 1 ไม่แข็งตัว จึงพยายามถูไถด้านนอก

    ข้อต่อสู้จำเลยว่าผู้เสียหายยินยอม ขัดกับคำเบิกความ พยานแวดล้อม รวมทั้งบาดแผลย่อมไม่เกิดขึ้น หากผู้เสียหายยินยอม การที่ผู้เสียหายเดินตามไป ไม่ได้หมายความว่าจะยินยอมมีเพศสัมพันธ์ และไม่ได้มีการพูดถึงการค้าประเวณี อย่างไรก็ตาม การนำสืบยังไม่พบว่า มีการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด จึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง และหักล้างพยานโจทก์ได้ จึงพิพากษาจำคุกรวม 4 ปี 8 เดือน แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ญาติ 50,000 บาท และผู้เสียหาย 120,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ตั้งแต่กระทำละเมิด ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000007109
    .........
    Sondhi X
    คุกสมรักษ์ 2 ปี 13 เดือน อนาจารสาว 17 ศาลชี้มีรอยแผลไม่ใช่สมยอม ศาลจังหวัดขอนแก่นพิพากษาจำคุก "สมรักษ์ คำสิงห์" อดีตนักมวยเหรียญทองโอลิมปิก 4 ปี 8 เดือน อนาจารสาววัย 17 ปี หลังเที่ยวผับเมื่อปี 66 แต่ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 13 เดือน ชดใช้สินไหมรวม 1.7 แสนบาท ชี้ผลชันสูตรพบร่องรอยความรุนแรง วันนี้ (23 ม.ค.) ศาลจังหวัดขอนแก่นพิพากษาจำคุกนายสมรักษ์ คำสิงห์ อายุ 52 ปี อดีตนักกีฬามวยสากลสมัครเล่น รางวัลเหรียญทองโอลิมปิก จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 4 ปี 8 เดือน แต่ได้รับการลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน และชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท ส่วนนายพิเชษฐ์ ชิเนหันทา หรือเป๊กโก้ อายุ 49 ปี เพื่อนนายสมรักษ์ จำเลยที่ 2 พิพากษายกฟ้อง ในคดีพนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย, ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยการใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ กรณีที่หญิงวัย 17 ปี เข้าแจ้งความดำเนินคดีว่านายสมรักษ์กระทำอนาจาร หลังไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2566 โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ มีน้ำหนักรับฟังได้ว่า ผู้เสียหายเบิกความตามข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะเบิกความเชื่อมโยงกัน หากไม่ประสบเหตุจริง ที่เป็นเรื่องน่าอับอาย เชื่อว่า ไม่มีจริตเสแสร้ง เอาความเท็จมาแจ้ง ซึ่งอาจถูกดำเนินการเอาผิดในภายหลัง สอดคล้องผลการชันสูตรบาดแผล ร่องรอยความรุนแรงที่พบบริเวณเต้านม จากการใช้แรงกดทับ ไม่ใช่การจับธรรมดา รวมทั้งมุมปากช่องคลอดด้านล่าง ที่ผู้เสียหายให้การว่า จำเลยที่ 1 พยายามข่มขืนโดยใช้กำลังประทุษร้าย แต่ไม่บรรลุผล เพราะดิ้นขัดขืน ประกอบกับอวัยวะเพศจำเลยที่ 1 ไม่แข็งตัว จึงพยายามถูไถด้านนอก ข้อต่อสู้จำเลยว่าผู้เสียหายยินยอม ขัดกับคำเบิกความ พยานแวดล้อม รวมทั้งบาดแผลย่อมไม่เกิดขึ้น หากผู้เสียหายยินยอม การที่ผู้เสียหายเดินตามไป ไม่ได้หมายความว่าจะยินยอมมีเพศสัมพันธ์ และไม่ได้มีการพูดถึงการค้าประเวณี อย่างไรก็ตาม การนำสืบยังไม่พบว่า มีการเรียกรับผลประโยชน์แต่อย่างใด จึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง และหักล้างพยานโจทก์ได้ จึงพิพากษาจำคุกรวม 4 ปี 8 เดือน แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ญาติ 50,000 บาท และผู้เสียหาย 120,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ตั้งแต่กระทำละเมิด ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000007109 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    10
    0 Comments 0 Shares 2229 Views 0 Reviews
  • 17/1/68

    ความบังเอิญไม่มีอยู่จริง
    ไฟไหม้ยังไม่ยุติและมีเรื่องบังเอิญงอกแปลกขึ้นเรื่อยๆคือ

    1.บังเอิญผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียรายนี้กำลังแข่งขันเพื่อเป็นผู้นำพรรคเดโมแครตชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐวาระถัดไปในปี 2570 ก่อนเพลิงไหม้ไม่กี่วันเขาตัดงบประมาณสำหรับการดับไฟป่ามากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ ไม่ต่อสัญญาการป้องกันอัคคีภัยกับบริษัทการบินดับไฟป่าแล้วโยกเงิน 3,000 ล้านดอลลาร์ไปทำบริการดูแลสุขภาพฟรีสำหรับผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายที่จะได้รับการแปลงสัญชาติเป็นชาวอเมริกันและมีสิทธิ์เลือกตั้ง ส่วนชาวอเมริกันจริงๆต้องจ่ายเงินซื้อประกันสุขภาพเอาเอง

    2.บังเอิญนายกเทศมนตรีลอสแองเจลิสจากพรรคเดโมแครตตัดงบประมาณราว 17.6 ล้านดอลลาร์ของหน่วยดับเพลิงก่อนเกิดไฟไหม้พอดี พนักงานที่เคยมี 3,500 คนจึงถูกเลิกจ้างแทบทั้งหมด

    3.บังเอิญว่าอุปกรณ์ดับเพลิง ส่วนใหญ่ของเมืองถูกขนส่งไปให้ยูเครนตามนโยบายของรัฐบาลไบเดน ในวันเริ่มเพลิงไหม้ จึงเหลือคนงานดับเพลิงใหม่ที่ขาดประสบการณ์เพียง 109 คน รถดับเพลิง 65 คัน เฮลิคอปเตอร์ 7 ลำ และอุปกรณ์อีกเล็กน้อย หน่วยดับเพลิง 29 แห่งของนครลอสแองเจลิส จึงร้องขอนักดับเพลิงจากเทศบาลอื่นมาช่วยเหลือและกรมราชทัณฑ์รัฐแคลิฟอร์เนียส่งนักโทษที่ถูกคุมขัง 395 คนมาช่วยดับไฟ กลุ่มคนหนุ่มสาวใช้รถมอเตอร์ไซค์พยายามช่วยเหลือเพื่อนบ้านแต่พวกเขาหาน้ำดับไฟไม่ได้เพราะอ่างเก็บน้ำชำรุด จ้างซ่อม ปล่อย
    น้ำจนเกลี้ยงไม่มีเหลือแม้แต่หยดเดียวก่อนเกิดเพลิงไหม้พอดี

    4.บังเอิญในวันเริ่มไฟไหม้ เป็นวันที่มีแรงลมเร็วถึง 160 กมต่อชั่วโมง ประธานาธิบดีโจ ไบเดนผู้นำสหรัฐอยู่ที่นั่น มีกำหนดเปิดอนุสรณ์สถานแห่งชาติ 2 แห่ง แต่งานถูกยกเลิกเพราะต้นไม้ล้มเขาระบุว่าภัยคุกคามจากลมแรงที่ทำให้ไฟไหม้ อ้างว่าที่การดับเพลิงทำได้ล่าช้าเนื่องจากต้องตัดกระแสไฟเครื่องปั้มน้ำดับเพลิง จึงใช้งานไม่ได้ทั้งที่ปกติแล้วปั้มน้ำดับเพลิงติดตั้งรถส่วนใหญ่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง

    5.บังเอิญคฤหาสน์หรูคนดังเช่น ฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายผู้นำสหรัฐชื่อกระฉ่อนถูกไฟไหม้เหลือแต่ตอ ไฟลุกลามไปที่เมืองที่ตั้งบ้านของกมลา แฮริส รองประธานาธิบดี อาโนลด์ ชวาเซเนกเกอร์ ดารารุ่นเดอะ และคนดังอีกมากมาย แต่คฤหาสน์ของทอม แฮงค์ ดาราคนดังรอดมาได้อย่างเหลือเชื่อทั้งที่บ้านเกือบทุกหลังที่อยู่ติดกันถูกไฟไหม้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังเกาหัว บ้านคนดังเหล่านั้นสะสมของมีค่าเช่นเครื่องประดับสินค้าสารพัดแบรนด์เนม limited ภาพวาดศิลปะ ประมูลภาพถ่ายต้นฉบับส่วนตัว และของที่สะสมมาทั้งชีวิตประเมินมูลค่าไม่ได้

    6.บังเอิญเมล กิ๊บสัน ดาราคนดังที่ไฟไหม้คฤหาสน์หรูวอดวายเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์การจัดการไฟป่าของรัฐแคลิฟอร์เนียอย่างเผ็ดร้อนมาหลายปี เรียกร้องให้ผู้นำรัฐออกมาชี้แจงว่านโยบายต่างๆที่ไม่สามารถปกป้องประชาชนจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะจากสถิติย้อนหลังแต่ละปีเกิดเหตุเพลิงไหม้ในรัฐนี้เฉลี่ยกว่า 8,000 ครั้ง หัวจะปวด

    7.บังเอิญว่าก่อนเพลิงไหม้ บริษัทประกันภัยต่างต่างพากันแจ้งยกเลิกกรมธรรม์ของเจ้าของคฤหาสน์หรูหลายพันหลังในพื้นที่เพลิงไหม้พอดี ทำให้ไม่ได้รับเงินชดเชยค่าสินใหมในการสร้างใหม่ คงต้องขายหรือให้เช่าที่ดินในราคาถูก

    8.บังเอิญในปี 2571 นคร ลอสแองเจลิสจะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก มีนักลงทุนหัวใสทำโครงการชื่อสมารท์ LA 2028 มีเป้าหมายเปลี่ยนภูมิทัศน์ให้เป็นมหานครอัจฉริยะและยั่งยืน จะมีทีมนักกีฬาและผู้คนทั่วโลกมาเยือนจับจ่ายใช้สอย มีการระดมเงินทุนเครือข่ายผลประโยชน์จำนวนมากไปยังโครงการนี้ จัดการแบ่งเขตและแบ่งเค็ก การพัฒนาเมือง แม้แต่บริษัทประกันภัยต่างๆก็เอาด้วย

    9.บังเอิญกองทุน BlackRock ยักษ์ใหญ่ด้านการจัดการสินทรัพย์มูลค่า 11.5 ล้านล้านดอลลาร์หรือกว่า 391 ล้านล้านบาท ประกาศยกเลิกโครงการจัดการสินทรัพย์เท Zero ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์เช่นการปลูกป่า การฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่ง การวัดปล่อยก๊าซคาร์บอนประเมินว่านักธุรกิจเงินหนา หันมาให้ความสำคัญกับผลกำไรตอบแทนจับต้องได้จากการลงทุนมากกว่า

    นามอธรรมสมมุติในจินตนาการไฟบรรลัยกันนี้คงไม่ใช่แค่ภัยธรรมชาติอย่างเดียว แต่ยังถูกกำหนดขึ้นอย่างมีกลยุทธ์เพื่อปูทางไปสู่สภาพแวดล้อมใหม่ที่พวกเขาควบคุมได้ซึ่งตรงกับช่วงไฮไลท์กีฬาโอลิมปิกจากทั่วโลกพอดีนั่นเอง

    โปรดกดไลค์กดแชร์พร้อมกดปุ่มติดตามไว้แจ้งเตือนตอนต่อไป

    World Update - ซุปเปอร์ไฟบรรลัยกัลป์ วายร้ายหักเหลี่ยมโหด
    https://youtu.be/XgX-zhUajsk?si=ZJFUMzWvCh7AmKxT

    Cr.fb.นบพ์ รตต์ฉัตร


    17/1/68 ความบังเอิญไม่มีอยู่จริง ไฟไหม้ยังไม่ยุติและมีเรื่องบังเอิญงอกแปลกขึ้นเรื่อยๆคือ 1.บังเอิญผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียรายนี้กำลังแข่งขันเพื่อเป็นผู้นำพรรคเดโมแครตชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐวาระถัดไปในปี 2570 ก่อนเพลิงไหม้ไม่กี่วันเขาตัดงบประมาณสำหรับการดับไฟป่ามากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ ไม่ต่อสัญญาการป้องกันอัคคีภัยกับบริษัทการบินดับไฟป่าแล้วโยกเงิน 3,000 ล้านดอลลาร์ไปทำบริการดูแลสุขภาพฟรีสำหรับผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายที่จะได้รับการแปลงสัญชาติเป็นชาวอเมริกันและมีสิทธิ์เลือกตั้ง ส่วนชาวอเมริกันจริงๆต้องจ่ายเงินซื้อประกันสุขภาพเอาเอง 2.บังเอิญนายกเทศมนตรีลอสแองเจลิสจากพรรคเดโมแครตตัดงบประมาณราว 17.6 ล้านดอลลาร์ของหน่วยดับเพลิงก่อนเกิดไฟไหม้พอดี พนักงานที่เคยมี 3,500 คนจึงถูกเลิกจ้างแทบทั้งหมด 3.บังเอิญว่าอุปกรณ์ดับเพลิง ส่วนใหญ่ของเมืองถูกขนส่งไปให้ยูเครนตามนโยบายของรัฐบาลไบเดน ในวันเริ่มเพลิงไหม้ จึงเหลือคนงานดับเพลิงใหม่ที่ขาดประสบการณ์เพียง 109 คน รถดับเพลิง 65 คัน เฮลิคอปเตอร์ 7 ลำ และอุปกรณ์อีกเล็กน้อย หน่วยดับเพลิง 29 แห่งของนครลอสแองเจลิส จึงร้องขอนักดับเพลิงจากเทศบาลอื่นมาช่วยเหลือและกรมราชทัณฑ์รัฐแคลิฟอร์เนียส่งนักโทษที่ถูกคุมขัง 395 คนมาช่วยดับไฟ กลุ่มคนหนุ่มสาวใช้รถมอเตอร์ไซค์พยายามช่วยเหลือเพื่อนบ้านแต่พวกเขาหาน้ำดับไฟไม่ได้เพราะอ่างเก็บน้ำชำรุด จ้างซ่อม ปล่อย น้ำจนเกลี้ยงไม่มีเหลือแม้แต่หยดเดียวก่อนเกิดเพลิงไหม้พอดี 4.บังเอิญในวันเริ่มไฟไหม้ เป็นวันที่มีแรงลมเร็วถึง 160 กมต่อชั่วโมง ประธานาธิบดีโจ ไบเดนผู้นำสหรัฐอยู่ที่นั่น มีกำหนดเปิดอนุสรณ์สถานแห่งชาติ 2 แห่ง แต่งานถูกยกเลิกเพราะต้นไม้ล้มเขาระบุว่าภัยคุกคามจากลมแรงที่ทำให้ไฟไหม้ อ้างว่าที่การดับเพลิงทำได้ล่าช้าเนื่องจากต้องตัดกระแสไฟเครื่องปั้มน้ำดับเพลิง จึงใช้งานไม่ได้ทั้งที่ปกติแล้วปั้มน้ำดับเพลิงติดตั้งรถส่วนใหญ่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 5.บังเอิญคฤหาสน์หรูคนดังเช่น ฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายผู้นำสหรัฐชื่อกระฉ่อนถูกไฟไหม้เหลือแต่ตอ ไฟลุกลามไปที่เมืองที่ตั้งบ้านของกมลา แฮริส รองประธานาธิบดี อาโนลด์ ชวาเซเนกเกอร์ ดารารุ่นเดอะ และคนดังอีกมากมาย แต่คฤหาสน์ของทอม แฮงค์ ดาราคนดังรอดมาได้อย่างเหลือเชื่อทั้งที่บ้านเกือบทุกหลังที่อยู่ติดกันถูกไฟไหม้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังเกาหัว บ้านคนดังเหล่านั้นสะสมของมีค่าเช่นเครื่องประดับสินค้าสารพัดแบรนด์เนม limited ภาพวาดศิลปะ ประมูลภาพถ่ายต้นฉบับส่วนตัว และของที่สะสมมาทั้งชีวิตประเมินมูลค่าไม่ได้ 6.บังเอิญเมล กิ๊บสัน ดาราคนดังที่ไฟไหม้คฤหาสน์หรูวอดวายเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์การจัดการไฟป่าของรัฐแคลิฟอร์เนียอย่างเผ็ดร้อนมาหลายปี เรียกร้องให้ผู้นำรัฐออกมาชี้แจงว่านโยบายต่างๆที่ไม่สามารถปกป้องประชาชนจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะจากสถิติย้อนหลังแต่ละปีเกิดเหตุเพลิงไหม้ในรัฐนี้เฉลี่ยกว่า 8,000 ครั้ง หัวจะปวด 7.บังเอิญว่าก่อนเพลิงไหม้ บริษัทประกันภัยต่างต่างพากันแจ้งยกเลิกกรมธรรม์ของเจ้าของคฤหาสน์หรูหลายพันหลังในพื้นที่เพลิงไหม้พอดี ทำให้ไม่ได้รับเงินชดเชยค่าสินใหมในการสร้างใหม่ คงต้องขายหรือให้เช่าที่ดินในราคาถูก 8.บังเอิญในปี 2571 นคร ลอสแองเจลิสจะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก มีนักลงทุนหัวใสทำโครงการชื่อสมารท์ LA 2028 มีเป้าหมายเปลี่ยนภูมิทัศน์ให้เป็นมหานครอัจฉริยะและยั่งยืน จะมีทีมนักกีฬาและผู้คนทั่วโลกมาเยือนจับจ่ายใช้สอย มีการระดมเงินทุนเครือข่ายผลประโยชน์จำนวนมากไปยังโครงการนี้ จัดการแบ่งเขตและแบ่งเค็ก การพัฒนาเมือง แม้แต่บริษัทประกันภัยต่างๆก็เอาด้วย 9.บังเอิญกองทุน BlackRock ยักษ์ใหญ่ด้านการจัดการสินทรัพย์มูลค่า 11.5 ล้านล้านดอลลาร์หรือกว่า 391 ล้านล้านบาท ประกาศยกเลิกโครงการจัดการสินทรัพย์เท Zero ที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์เช่นการปลูกป่า การฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่ง การวัดปล่อยก๊าซคาร์บอนประเมินว่านักธุรกิจเงินหนา หันมาให้ความสำคัญกับผลกำไรตอบแทนจับต้องได้จากการลงทุนมากกว่า นามอธรรมสมมุติในจินตนาการไฟบรรลัยกันนี้คงไม่ใช่แค่ภัยธรรมชาติอย่างเดียว แต่ยังถูกกำหนดขึ้นอย่างมีกลยุทธ์เพื่อปูทางไปสู่สภาพแวดล้อมใหม่ที่พวกเขาควบคุมได้ซึ่งตรงกับช่วงไฮไลท์กีฬาโอลิมปิกจากทั่วโลกพอดีนั่นเอง โปรดกดไลค์กดแชร์พร้อมกดปุ่มติดตามไว้แจ้งเตือนตอนต่อไป World Update - ซุปเปอร์ไฟบรรลัยกัลป์ วายร้ายหักเหลี่ยมโหด https://youtu.be/XgX-zhUajsk?si=ZJFUMzWvCh7AmKxT Cr.fb.นบพ์ รตต์ฉัตร
    0 Comments 0 Shares 1436 Views 0 Reviews
  • งามหน้าฝรั่งเศส ..นักกีฬาที่ได้รับรางวัลเหรียญกีฬาโอลิมปิก 2024 ไม่พอใจแห่คืนกว่า100เหรียญรางวัลที่เสื่อมสภาพชำรุดไวทั้งหลุดร่อนแตก เพราะโรงกษาปณ์แห่งชาติฝรั่งเศสผลิตด้วยคุณภาพต่ำและงานหยาบ

    ประเด็นเหรียญโอลิมปิก2024เสื่อมสภาพ คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่เมืองปารีส กำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Monnaie de Paris (โรงกษาปณ์แห่งฝรั่งเศส) ซึ่งเป็นสถาบันที่รับผิดชอบในการผลิตและควบคุมคุณภาพของเหรียญรางวัล เพื่อประเมินข้อร้องเรียนใดๆ ที่เกี่ยวกับเหรียญรางวัล รวมถึงเพื่อทำความเข้าใจถึงสถานการณ์และสาเหตุของความเสียหาย” IOC กล่าว

    “เหรียญที่ชำรุดจะถูกแทนที่โดย Monnaie de Paris อย่างเป็นระบบและแกะสลักให้เหมือนกันทุกประการ

    “กระบวนการทดแทนควรจะเริ่มต้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้”

    เมื่อได้รับการติดต่อจาก AFP โฆษกของ Monnaie de Paris ได้ออกมาปฏิเสธคำว่า "มีข้อบกพร่อง" และกล่าวว่าเหรียญรางวัลที่นักกีฬาระบุว่า "ได้รับความเสียหาย" มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมนั้นก็ได้รับการทดแทนไปแล้ว

    “เราได้เปลี่ยนเหรียญที่เสียหายทั้งหมดไปแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม และเราจะยังคงดำเนินการต่อไปในลักษณะมืออาชีพเช่นเดิม” โฆษกกล่าว พร้อมเสริมว่าขณะนี้กำลังดำเนินการเปลี่ยนเหรียญใหม่ “ตามคำร้องขอที่เข้ามา”

    ตามรายงานของสื่อออนไลน์ของฝรั่งเศส La Lettre ระบุว่า "นักกีฬาที่ไม่พอใจได้ส่งคืนเหรียญรางวัลที่ชำรุดมากกว่า 100 เหรียญ" และพบว่ารางวัลที่ได้รับนั้นเสื่อมลง

    นักกีฬาโอลิมปิกบางคนจากการแข่งขันที่ปารีสได้ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแบ่งปันภาพเหรียญรางวัลของตน

    นักกีฬาคนหนึ่งคือ Nyjah Huston นักสเก็ตบอร์ดชาวอเมริกัน ซึ่งคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันสเก็ตบอร์ดแนวสตรีทเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม

    สิบวันต่อมา เขาได้โพสต์รูปเหรียญรางวัลของเขา พร้อมบ่นถึงคุณภาพของมัน

    “เหรียญรางวัลโอลิมปิกเหล่านี้ดูดีเยี่ยมเมื่อยังใหม่ แต่หลังจากที่ปล่อยให้มันเกาะบนผิวหนังพร้อมกับเหงื่ออยู่สักพักแล้วให้เพื่อนๆ สวมใส่ในช่วงสุดสัปดาห์ ดูเหมือนว่าเหรียญรางวัลเหล่านั้นจะไม่มีคุณภาพสูงเท่าที่คิด” เขากล่าว

    “มันดูหยาบมาก แม้แต่ด้านหน้าก็เริ่มแตกออกเล็กน้อยแล้ว”

    ตามที่ La Lettre กล่าวไว้ เหรียญรางวัล "จะต้องรับภาระหนักจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่นำมาใช้" เนื่องจากกฎระเบียบใหม่ห้ามใช้ส่วนประกอบของวานิชที่เคยใช้มาก่อนและ "ต้องเปลี่ยนใหม่ในระยะเวลาอันสั้น"

    เหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงจำนวน 5,084 เหรียญสำหรับการแข่งขันปารีส 2024 ได้รับการออกแบบโดยบริษัทเครื่องประดับและนาฬิกาสุดหรู Chaumet (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ กลุ่ม บริษัท LVMH ) และผลิตโดย Monnaie de Paris

    แต่ละเหรียญจะมีชิ้นส่วนเล็กๆ ของหอไอเฟลซึ่งนำมาจากหุ้นของบริษัทดำเนินงานอนุสาวรีย์แห่งปารีส
    งามหน้าฝรั่งเศส ..นักกีฬาที่ได้รับรางวัลเหรียญกีฬาโอลิมปิก 2024 ไม่พอใจแห่คืนกว่า100เหรียญรางวัลที่เสื่อมสภาพชำรุดไวทั้งหลุดร่อนแตก เพราะโรงกษาปณ์แห่งชาติฝรั่งเศสผลิตด้วยคุณภาพต่ำและงานหยาบ ประเด็นเหรียญโอลิมปิก2024เสื่อมสภาพ คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่เมืองปารีส กำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Monnaie de Paris (โรงกษาปณ์แห่งฝรั่งเศส) ซึ่งเป็นสถาบันที่รับผิดชอบในการผลิตและควบคุมคุณภาพของเหรียญรางวัล เพื่อประเมินข้อร้องเรียนใดๆ ที่เกี่ยวกับเหรียญรางวัล รวมถึงเพื่อทำความเข้าใจถึงสถานการณ์และสาเหตุของความเสียหาย” IOC กล่าว “เหรียญที่ชำรุดจะถูกแทนที่โดย Monnaie de Paris อย่างเป็นระบบและแกะสลักให้เหมือนกันทุกประการ “กระบวนการทดแทนควรจะเริ่มต้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้” เมื่อได้รับการติดต่อจาก AFP โฆษกของ Monnaie de Paris ได้ออกมาปฏิเสธคำว่า "มีข้อบกพร่อง" และกล่าวว่าเหรียญรางวัลที่นักกีฬาระบุว่า "ได้รับความเสียหาย" มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมนั้นก็ได้รับการทดแทนไปแล้ว “เราได้เปลี่ยนเหรียญที่เสียหายทั้งหมดไปแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม และเราจะยังคงดำเนินการต่อไปในลักษณะมืออาชีพเช่นเดิม” โฆษกกล่าว พร้อมเสริมว่าขณะนี้กำลังดำเนินการเปลี่ยนเหรียญใหม่ “ตามคำร้องขอที่เข้ามา” ตามรายงานของสื่อออนไลน์ของฝรั่งเศส La Lettre ระบุว่า "นักกีฬาที่ไม่พอใจได้ส่งคืนเหรียญรางวัลที่ชำรุดมากกว่า 100 เหรียญ" และพบว่ารางวัลที่ได้รับนั้นเสื่อมลง นักกีฬาโอลิมปิกบางคนจากการแข่งขันที่ปารีสได้ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแบ่งปันภาพเหรียญรางวัลของตน นักกีฬาคนหนึ่งคือ Nyjah Huston นักสเก็ตบอร์ดชาวอเมริกัน ซึ่งคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันสเก็ตบอร์ดแนวสตรีทเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม สิบวันต่อมา เขาได้โพสต์รูปเหรียญรางวัลของเขา พร้อมบ่นถึงคุณภาพของมัน “เหรียญรางวัลโอลิมปิกเหล่านี้ดูดีเยี่ยมเมื่อยังใหม่ แต่หลังจากที่ปล่อยให้มันเกาะบนผิวหนังพร้อมกับเหงื่ออยู่สักพักแล้วให้เพื่อนๆ สวมใส่ในช่วงสุดสัปดาห์ ดูเหมือนว่าเหรียญรางวัลเหล่านั้นจะไม่มีคุณภาพสูงเท่าที่คิด” เขากล่าว “มันดูหยาบมาก แม้แต่ด้านหน้าก็เริ่มแตกออกเล็กน้อยแล้ว” ตามที่ La Lettre กล่าวไว้ เหรียญรางวัล "จะต้องรับภาระหนักจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่นำมาใช้" เนื่องจากกฎระเบียบใหม่ห้ามใช้ส่วนประกอบของวานิชที่เคยใช้มาก่อนและ "ต้องเปลี่ยนใหม่ในระยะเวลาอันสั้น" เหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดงจำนวน 5,084 เหรียญสำหรับการแข่งขันปารีส 2024 ได้รับการออกแบบโดยบริษัทเครื่องประดับและนาฬิกาสุดหรู Chaumet (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ กลุ่ม บริษัท LVMH ) และผลิตโดย Monnaie de Paris แต่ละเหรียญจะมีชิ้นส่วนเล็กๆ ของหอไอเฟลซึ่งนำมาจากหุ้นของบริษัทดำเนินงานอนุสาวรีย์แห่งปารีส
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 701 Views 0 Reviews
  • เหรียญรางวัลโอลิมปิกที่ปารีส 2024 ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของฝรั่งเศส เสียหายลงอย่างรวดเร็ว!

    มีนักกีฬามากกว่า 100 คนส่งคืนเหรียญรางวัลเนื่องจากได้รับความเสียหายอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเหรียญทองแดง

    นักว่ายน้ำชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งบรรยายว่าเหรียญรางวัลของตนดูเหมือนกับว่า "ผ่านสงครามมา" นี่คือสิ่งที่เป็นงานฝีมือ "ระดับโลก" จริงๆหรือไม่!
    เหรียญรางวัลโอลิมปิกที่ปารีส 2024 ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของฝรั่งเศส เสียหายลงอย่างรวดเร็ว! มีนักกีฬามากกว่า 100 คนส่งคืนเหรียญรางวัลเนื่องจากได้รับความเสียหายอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเหรียญทองแดง นักว่ายน้ำชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งบรรยายว่าเหรียญรางวัลของตนดูเหมือนกับว่า "ผ่านสงครามมา" นี่คือสิ่งที่เป็นงานฝีมือ "ระดับโลก" จริงๆหรือไม่!
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 411 Views 0 Reviews
  • วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานพรปีใหม่ แก่ปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ความว่า...

    "ในโอกาสที่จะเริ่มต้นปีพุทธศักราช 2568 ข้าพเจ้าขออำนวยพรปีใหม่แก่ท่านทั้งหลาย โดยทั่วกัน ข้าพเจ้ารู้สึกประทับใจที่ท่านทั้งหลายมีน้ำใจไมตรีร่วมกันจัดกิจกรรมและงานฉลองวันเกิดครบ 6 รอบให้ข้าพเจ้าอย่างงดงามในปีพุทธศักราช 2567 ที่ผ่านมา งานที่จัดให้นั้่นมีมากมายหลายสิ่งหลายส่วน ซึ่งแต่ละคนแต่ละฝ่ายต่างดำเนินการในส่วนของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ จึงขอขอบใจทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

    ในปีที่แล้วมีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้นหลายอย่าง เริ่มที่ควรแก่การชื่นชมเป็นพิเศษคือความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกอันเป็นกีฬานัดสำคัญที่สุดของโลก แต่ก็มีเรื่องที่น่าเป็นห่วงเกิดขึ้น เช่น อุทกภัยซึ่งทำให้ประชาชนหลายจังหวัดต้องประสบกับความเดือดร้อน

    ข้อนี้น่าจะเป็นเครื่องเตือนใจอย่างสำคัญว่า วิถีชีวิตของคนเรานั้นย่อมมีทั้งความสุขและความทุกข์ผ่านเข้ามาเสมอ แต่ถ้าเราทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันตั้งใจปฏิบัติภาระหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุดเท่าที่แต่ละคนจะสามารถกระทำได้แล้ว ก็จะช่วยให้ผ่านพ้นอุปสรรคปัญหาต่างๆ และดำเนินชีวิตได้ด้วยความผาสุกสวัสดี

    ในปีใหม่นี้จึงขอให้ประชาชนชาวไทยตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง โดยมีสติรู้ตัวและปัญญารู้คิดอยู่ตลอดเวลา ผู้ใดมีหน้าที่อย่างใดในบ้านเมืองก็พึงกระทำให้สำเร็จผล เพื่อความเจริญมั่นคงและความสุขร่มเย็นของประชาชนและประเทศชาติ กอรปด้วยศรัทธาในความดี เชื่อมั่นในสิ่งที่ดีที่ถูกต้อง ย่อมจะก่อให้เกิดความสุขความเจริญที่แท้จริง และยั่งยืน

    ขออานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ คุ้มครองรักษาทุกท่านให้มีความสุขกายสุขใจปราศจากทุกข์โศก โรคภัย และประสบแต่สิ่งที่ดีงาม ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน"

    #ในหลวงรัชกาลที่10 #ปีใหม่2568
    วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานพรปีใหม่ แก่ปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ความว่า... "ในโอกาสที่จะเริ่มต้นปีพุทธศักราช 2568 ข้าพเจ้าขออำนวยพรปีใหม่แก่ท่านทั้งหลาย โดยทั่วกัน ข้าพเจ้ารู้สึกประทับใจที่ท่านทั้งหลายมีน้ำใจไมตรีร่วมกันจัดกิจกรรมและงานฉลองวันเกิดครบ 6 รอบให้ข้าพเจ้าอย่างงดงามในปีพุทธศักราช 2567 ที่ผ่านมา งานที่จัดให้นั้่นมีมากมายหลายสิ่งหลายส่วน ซึ่งแต่ละคนแต่ละฝ่ายต่างดำเนินการในส่วนของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ จึงขอขอบใจทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ ในปีที่แล้วมีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้นหลายอย่าง เริ่มที่ควรแก่การชื่นชมเป็นพิเศษคือความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกอันเป็นกีฬานัดสำคัญที่สุดของโลก แต่ก็มีเรื่องที่น่าเป็นห่วงเกิดขึ้น เช่น อุทกภัยซึ่งทำให้ประชาชนหลายจังหวัดต้องประสบกับความเดือดร้อน ข้อนี้น่าจะเป็นเครื่องเตือนใจอย่างสำคัญว่า วิถีชีวิตของคนเรานั้นย่อมมีทั้งความสุขและความทุกข์ผ่านเข้ามาเสมอ แต่ถ้าเราทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันตั้งใจปฏิบัติภาระหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุดเท่าที่แต่ละคนจะสามารถกระทำได้แล้ว ก็จะช่วยให้ผ่านพ้นอุปสรรคปัญหาต่างๆ และดำเนินชีวิตได้ด้วยความผาสุกสวัสดี ในปีใหม่นี้จึงขอให้ประชาชนชาวไทยตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง โดยมีสติรู้ตัวและปัญญารู้คิดอยู่ตลอดเวลา ผู้ใดมีหน้าที่อย่างใดในบ้านเมืองก็พึงกระทำให้สำเร็จผล เพื่อความเจริญมั่นคงและความสุขร่มเย็นของประชาชนและประเทศชาติ กอรปด้วยศรัทธาในความดี เชื่อมั่นในสิ่งที่ดีที่ถูกต้อง ย่อมจะก่อให้เกิดความสุขความเจริญที่แท้จริง และยั่งยืน ขออานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ คุ้มครองรักษาทุกท่านให้มีความสุขกายสุขใจปราศจากทุกข์โศก โรคภัย และประสบแต่สิ่งที่ดีงาม ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน" #ในหลวงรัชกาลที่10 #ปีใหม่2568
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 1110 Views 0 Reviews
  • วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานพรปีใหม่ แก่ปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ความว่า...

    "ในโอกาสที่จะเริ่มต้นปีพุทธศักราช 2568 ข้าพเจ้าขออำนวยพรปีใหม่แก่ท่านทั้งหลาย โดยทั่วกัน ข้าพเจ้ารู้สึกประทับใจที่ท่านทั้งหลายมีน้ำใจไมตรีร่วมกันจัดกิจกรรมและงานฉลองวันเกิดครบ 6 รอบให้ข้าพเจ้าอย่างงดงามในปีพุทธศักราช 2567 ที่ผ่านมา งานที่จัดให้นั้่นมีมากมายหลายสิ่งหลายส่วน ซึ่งแต่ละคนแต่ละฝ่ายต่างดำเนินการในส่วนของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ จึงขอขอบใจทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

    ในปีที่แล้วมีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้นหลายอย่าง เริ่มที่ควรแก่การชื่นชมเป็นพิเศษคือความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกอันเป็นกีฬานัดสำคัญที่สุดของโลก แต่ก็มีเรื่องที่น่าเป็นห่วงเกิดขึ้น เช่น อุทกภัยซึ่งทำให้ประชาชนหลายจังหวัดต้องประสบกับความเดือดร้อน

    ข้อนี้น่าจะเป็นเครื่องเตือนใจอย่างสำคัญว่า วิถีชีวิตของคนเรานั้นย่อมมีทั้งความสุขและความทุกข์ผ่านเข้ามาเสมอ แต่ถ้าเราทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันตั้งใจปฏิบัติภาระหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุดเท่าที่แต่ละคนจะสามารถกระทำได้แล้ว ก็จะช่วยให้ผ่านพ้นอุปสรรคปัญหาต่างๆ และดำเนินชีวิตได้ด้วยความผาสุกสวัสดี

    ในปีใหม่นี้จึงขอให้ประชาชนชาวไทยตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง โดยมีสติรู้ตัวและปัญญารู้คิดอยู่ตลอดเวลา ผู้ใดมีหน้าที่อย่างใดในบ้านเมืองก็พึงกระทำให้สำเร็จผล เพื่อความเจริญมั่นคงและความสุขร่มเย็นของประชาชนและประเทศชาติ กอรปด้วยศรัทธาในความดี เชื่อมั่นในสิ่งที่ดีที่ถูกต้อง ย่อมจะก่อให้เกิดความสุขความเจริญที่แท้จริง และยั่งยืน

    ขออานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ คุ้มครองรักษาทุกท่านให้มีความสุขกายสุขใจปราศจากทุกข์โศก โรคภัย และประสบแต่สิ่งที่ดีงาม ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน"

    #ในหลวงรัชกาลที่10 #ปีใหม่2568
    วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานพรปีใหม่ แก่ปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ความว่า... "ในโอกาสที่จะเริ่มต้นปีพุทธศักราช 2568 ข้าพเจ้าขออำนวยพรปีใหม่แก่ท่านทั้งหลาย โดยทั่วกัน ข้าพเจ้ารู้สึกประทับใจที่ท่านทั้งหลายมีน้ำใจไมตรีร่วมกันจัดกิจกรรมและงานฉลองวันเกิดครบ 6 รอบให้ข้าพเจ้าอย่างงดงามในปีพุทธศักราช 2567 ที่ผ่านมา งานที่จัดให้นั้่นมีมากมายหลายสิ่งหลายส่วน ซึ่งแต่ละคนแต่ละฝ่ายต่างดำเนินการในส่วนของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ จึงขอขอบใจทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ ในปีที่แล้วมีเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้นหลายอย่าง เริ่มที่ควรแก่การชื่นชมเป็นพิเศษคือความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกอันเป็นกีฬานัดสำคัญที่สุดของโลก แต่ก็มีเรื่องที่น่าเป็นห่วงเกิดขึ้น เช่น อุทกภัยซึ่งทำให้ประชาชนหลายจังหวัดต้องประสบกับความเดือดร้อน ข้อนี้น่าจะเป็นเครื่องเตือนใจอย่างสำคัญว่า วิถีชีวิตของคนเรานั้นย่อมมีทั้งความสุขและความทุกข์ผ่านเข้ามาเสมอ แต่ถ้าเราทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันตั้งใจปฏิบัติภาระหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุดเท่าที่แต่ละคนจะสามารถกระทำได้แล้ว ก็จะช่วยให้ผ่านพ้นอุปสรรคปัญหาต่างๆ และดำเนินชีวิตได้ด้วยความผาสุกสวัสดี ในปีใหม่นี้จึงขอให้ประชาชนชาวไทยตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง โดยมีสติรู้ตัวและปัญญารู้คิดอยู่ตลอดเวลา ผู้ใดมีหน้าที่อย่างใดในบ้านเมืองก็พึงกระทำให้สำเร็จผล เพื่อความเจริญมั่นคงและความสุขร่มเย็นของประชาชนและประเทศชาติ กอรปด้วยศรัทธาในความดี เชื่อมั่นในสิ่งที่ดีที่ถูกต้อง ย่อมจะก่อให้เกิดความสุขความเจริญที่แท้จริง และยั่งยืน ขออานุภาพแห่งคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ คุ้มครองรักษาทุกท่านให้มีความสุขกายสุขใจปราศจากทุกข์โศก โรคภัย และประสบแต่สิ่งที่ดีงาม ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน" #ในหลวงรัชกาลที่10 #ปีใหม่2568
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 1145 Views 0 Reviews
More Results