27 เม.ย.2568-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน   เป็นวันที่ 3 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง  จากโรงแรมที่ประทับเพมาโกะ  ทิมพู    ไปยังพระราชวังลิงคานา (Lingkana Palace Ground)  เพื่อทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภูฏาน  ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน และสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน  จัดถวาย  ได้แก่ การแสดงศิลปะการยิงธนู กีฬาพื้นบ้าน   ในการนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ทรงแนะนำวิธีการยิงธนูของภูฏานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมยิงธนูอันเป็นกีฬาประจำชาติของชาวภูฏาน สำหรับกีฬายิงธนูเป็นกีฬาประจำชาติอัตลักษณ์ของภูฏาน นิยมเล่นตลอดทั้งปี เป็นวิถีชีวิตและวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สร้างความรักสามัคคีของชุมชน มักเป็นส่วนหนึ่งการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลสำคัญของประเทศ ชาวภูฏานเชื่อว่า กีฬานี้ช่วยสร้างสมาธิและการควบคุมอารมณ์ สะท้อนถึงปรัชญาในการใช้ชีวิตอย่างสมดุลและสุขุม ตลอดจนเป็นกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่สนใจ คันธนูและลูกธนูของภูฏานแตกต่างจากกีฬายิงธนูในการแข่งขันโอลิมปิก ภูฏานใช้ธนูทำจากไม้ไผ่ หรือในบางครั้งอาจใช้เส้นใยไฟเบอร์กลาส ส่วนลูกธนูทำจากต้นฮีมา (Hema) ซึ่งเป็นพืชที่พบในเชิงเขาของภูฏาน

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรงานหัตถกรรมผ้าและสิ่งทอของราชอาณาจักรภูฏาน  ต่อมาเสด็จพระราชดำเนินไปยังตลาดกลางประจำกรุงทิมพู  (Kaja Throm)  ทรงรับฟังการบรรยายสรุปและทอดพระเนตรนิทรรศการของโครงการอาสาสมัครเดซุง  และร้านค้าจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร  

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน และจะเสด็จพระราชดำเนินกลับในวันที่ 28 เมษายน 2568
27 เม.ย.2568-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน   เป็นวันที่ 3  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง  จากโรงแรมที่ประทับเพมาโกะ  ทิมพู    ไปยังพระราชวังลิงคานา (Lingkana Palace Ground)  เพื่อทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภูฏาน  ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน และสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน  จัดถวาย  ได้แก่ การแสดงศิลปะการยิงธนู กีฬาพื้นบ้าน   ในการนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ทรงแนะนำวิธีการยิงธนูของภูฏานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมยิงธนูอันเป็นกีฬาประจำชาติของชาวภูฏาน สำหรับกีฬายิงธนูเป็นกีฬาประจำชาติอัตลักษณ์ของภูฏาน นิยมเล่นตลอดทั้งปี เป็นวิถีชีวิตและวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สร้างความรักสามัคคีของชุมชน มักเป็นส่วนหนึ่งการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลสำคัญของประเทศ ชาวภูฏานเชื่อว่า กีฬานี้ช่วยสร้างสมาธิและการควบคุมอารมณ์ สะท้อนถึงปรัชญาในการใช้ชีวิตอย่างสมดุลและสุขุม ตลอดจนเป็นกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่สนใจ คันธนูและลูกธนูของภูฏานแตกต่างจากกีฬายิงธนูในการแข่งขันโอลิมปิก ภูฏานใช้ธนูทำจากไม้ไผ่ หรือในบางครั้งอาจใช้เส้นใยไฟเบอร์กลาส ส่วนลูกธนูทำจากต้นฮีมา (Hema) ซึ่งเป็นพืชที่พบในเชิงเขาของภูฏาน จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรงานหัตถกรรมผ้าและสิ่งทอของราชอาณาจักรภูฏาน  ต่อมาเสด็จพระราชดำเนินไปยังตลาดกลางประจำกรุงทิมพู  (Kaja Throm)  ทรงรับฟังการบรรยายสรุปและทอดพระเนตรนิทรรศการของโครงการอาสาสมัครเดซุง  และร้านค้าจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร   ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน และจะเสด็จพระราชดำเนินกลับในวันที่ 28 เมษายน 2568
0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews