• กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันความหวังของไทย เอาชนะ หลู กวาง ซู เจ้าถิ่น แบบไม่จบแมตช์ คว้าแชมป์ทวีปเอเชีย ที่เมืองหนิงโบ ประเทศจีน

    ศึกแบดมินตันชิงแชมป์ทวีปเอเชีย 2024 ณ สนามหนิงโป โอลิมปิก สปอร์ตส เซ็นเตอร์ ยิมเนเซียม ชิงเงินรางวัลรวม 500,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 16.7 ล้านบาท) วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ พบ หลู กวาง ซู่ โดยสถิติเฮด-ทู-เฮดเหนือกว่า ชนะ 4 แพ้ 1

    กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 3 รายการ ยืนรับสบายๆ แทบไม่เจอแรงกดดันจากเกมบุกคู่ต่อสู้ จึงปิดเกมแรกง่ายดาย 21-12 เข้าสู่เกม 2 หลู กวาง ซู่ มือ 20 ของโลก เกิดอาการตึงบริเวณหลัง ขณะตามหลัง 2-3 ขอผู้ตัดสินพ่นสเปรย์ แต่ไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากตามกฎ ผู้เล่นจะขอพ่นสเปรย์ได้ เมื่อถึงช่วงพักครึ่งเกม (ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ 11 แต้ม) ต้องฝืนเล่นต่อ

    อย่างไรก็ตาม หลู กว่าง ซู่ ขอยอมแพ้ขณะตามหลัง 6-11 ส่งผลให้ กุลวุฒิ วัย 23 ปี สร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์เอเชียคนแรกของไทย เฉพาะประเภทชายเดี่ยว และลำดับที่ 4 ต่อจาก ณรงค์ พรฉิม / ชวเลิศ ชุ่มคำ (ชายคู่/1965), สุดเขต ประภากมล / สราลีย์ ทุ่งทองคำ (คู่ผสม/2005) และ รัชนก อินทนนท์ (หญิงเดี่ยว/2015)

    #MGROnline #ศึกแบดมินตันชิงแชมป์ทวีปเอเชีย2024 #กุลวุฒิวิทิตศานต์ #นักแบดมินตัน
    กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันความหวังของไทย เอาชนะ หลู กวาง ซู เจ้าถิ่น แบบไม่จบแมตช์ คว้าแชมป์ทวีปเอเชีย ที่เมืองหนิงโบ ประเทศจีน • ศึกแบดมินตันชิงแชมป์ทวีปเอเชีย 2024 ณ สนามหนิงโป โอลิมปิก สปอร์ตส เซ็นเตอร์ ยิมเนเซียม ชิงเงินรางวัลรวม 500,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 16.7 ล้านบาท) วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ พบ หลู กวาง ซู่ โดยสถิติเฮด-ทู-เฮดเหนือกว่า ชนะ 4 แพ้ 1 • กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 3 รายการ ยืนรับสบายๆ แทบไม่เจอแรงกดดันจากเกมบุกคู่ต่อสู้ จึงปิดเกมแรกง่ายดาย 21-12 เข้าสู่เกม 2 หลู กวาง ซู่ มือ 20 ของโลก เกิดอาการตึงบริเวณหลัง ขณะตามหลัง 2-3 ขอผู้ตัดสินพ่นสเปรย์ แต่ไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากตามกฎ ผู้เล่นจะขอพ่นสเปรย์ได้ เมื่อถึงช่วงพักครึ่งเกม (ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ 11 แต้ม) ต้องฝืนเล่นต่อ • อย่างไรก็ตาม หลู กว่าง ซู่ ขอยอมแพ้ขณะตามหลัง 6-11 ส่งผลให้ กุลวุฒิ วัย 23 ปี สร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์เอเชียคนแรกของไทย เฉพาะประเภทชายเดี่ยว และลำดับที่ 4 ต่อจาก ณรงค์ พรฉิม / ชวเลิศ ชุ่มคำ (ชายคู่/1965), สุดเขต ประภากมล / สราลีย์ ทุ่งทองคำ (คู่ผสม/2005) และ รัชนก อินทนนท์ (หญิงเดี่ยว/2015) • #MGROnline #ศึกแบดมินตันชิงแชมป์ทวีปเอเชีย2024 #กุลวุฒิวิทิตศานต์ #นักแบดมินตัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • ญี่ปุ่น 6 : โชเฮ โอทานิ (Shohei Ohtani)

    วันนี้วันดีปีใหม่ ผมอยากเล่าถึง “โชเฮ โอทานิ” นักเบสบอลมหัศจรรย์ของชาวญี่ปุ่น เอาไว้ให้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จครับ

    โชเฮ โอทานิ หรือชื่อเล่นที่เรียกว่า “โชไทม์ (Sho-time)” นี้เป็นเด็กหนุ่มอายุ 30 ปีที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะนักเบสบอลอาชีพ ที่ตอนนี้ไปเล่นให้กับทีมแอลเอ ดอดเจอร์ในสหรัฐฯและพาทีมคว้าแชมป์ 2024 ไปเรียบร้อย

    ความมหัศจรรย์ของโอทานิก็คือ เขาเป็นนักเบสบอลที่เล่นเป็นมือขว้าง (พิทเชอร์) หรือมือตี (พัทเตอร์) ก็ได้ เรียกว่าเป็น Two-way player

    โอทานินั้นไม่ใช่แค่ว่า ”ขว้างลูกได้“ ครับแต่เป็นพิทเชอร์ที่ขว้างลูกได้ดีเลิศ คือ ขว้างได้สปีดถึง 160 กม./ชม. ลูกโค้งซ้าย-ขวา-บน-ล่าง นั้นทำได้หมด

    และในฐานะพัทเตอร์นั้น เขาตีลูกได้แรงและแม่นยำ ตีโฮมรันเป็นว่าเล่น พละกำลังมหาศาลด้วยร่างกายที่สูงใหญ่ถึง 195 ซม.

    โอทานินั้นถนัดทั้งมือซ้ายและขวา กล่าวคือ ขว้างด้วยมือขวา ตีด้วยมือซ้าย

    เมื่อเขามาเล่นเบสบอลในเมเจอร์ลีกที่อเมริกา ในปี 2021 เขาได้รับรางวัลนักกีฬาทรงคุณค่าสูงสุด (MVP) 2 รางวัล คือ ตำแหน่งพิทเชอร์กับตำแหน่งพัทเตอร์ในซีซั่นเดียว

    นักเบสบอลแบบนี้ 100 ปีจะมีสักหนึ่งคน

    สื่ออเมริกันถึงกับบอกว่า โอทานินั้นเหนือกว่าเบ๊บ รูท (Babe Ruth) นักเบสบอลอเมริกันในตำนานที่เป็น Two-way player เช่นกันเสียอีก

    นอกจากความเป็นยอดนักกีฬาแล้วคุณสมบัติที่ทำให้โอทานิโด่งดังในวงการนั้นมี 3 ประการครับ คือ

    หนึ่ง…..ความถ่อมตน (Humility)
    สอง…..ความขยันหมั่นเพียร
    สาม…..ความมุ่งมั่น
    .
    .
    .
    โอทานินั้นเป็นเด็กหนุ่มที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”ยาคิว โชเนน - yakyu shonen“ แปลว่า ”เด็กที่หายใจเข้าออกเป็นเบสบอลทุกวินาที“ ครับ

    ความลุ่มหลงในเบสบอลของโอทานินั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เป็นเด็กชายตัวเปี๊ยกเดียวครับ เพราะพ่อของโอทานิเป็นนักเบสบอลกึ่งอาชีพ ส่วนแม่นั้นเป็นนักแบดมินตันระดับมัธยม

    พ่อของโอทานินั้นสอนเทคนิคการขว้างลูกโดยใช้แรงจากสะโพกและการบิดตัว ทำให้โอทานิน้อยวัย 10 ขวบสามารถขว้างลูกได้เร็วเป็น 100 กม./ชม.เลยเชียว

    เมื่อโอทานิโตขึ้นมาถึงระดับมัธยม เขาก็เข้าไปเล่นเบสบอลในทีมโรงเรียนซึ่งมีโค้ชชื่อ “ซาซากิ”

    โค้ชซาซากินี้เองที่เป็นผู้บ่มเพาะนิสัยความถ่อมตนให้กับโอทานิ

    เมื่อโค้ชซาซากิเห็นฝีมือของโอทานิปร๊าดเดียว เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กหนุ่มคนนี้คือดาวรุ่งคนใหม่ของวงการ

    ดังนั้นหน้าที่ที่โค้ชซาซากิมอบหมายให้เด็กใหม่ที่ชื่อโอทานิทำก็คือ “ล้างห้องน้ำ” ครับ

    เหตุผลของโค้ชก็คือ “ตำแหน่งยืนของ
    พิทเชอร์คือจุดที่สูงสุดในสนามเบสบอล เปรียบได้กับเวที เมื่อคุณไปยืนอยู่บนเวที คุณจะได้รับความสนใจ มีนักข่าวมาสัมภาษณ์และเขียนเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณมากที่สุด“

    “The mound is the most elevated place on the field, It’s a stage. If you’re on that stage, you receive the most attention. You get interviewed and written about the most.”

    นี่คือวิธีการสอนความถ่อมตนในสไตล์ของโค้ชซาซากิครับ

    โค้ชยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า

    ”ความสะอาดของห้องน้ำนั้นบอกอะไรเราได้เยอะนะคุณ เวลาคุณไปเดินห้างสรรพสินค้าหรือไปสถานที่ต่างๆแล้วคุณไปเจอห้องน้ำที่สะอาดเอี่ยมน่ะ มันบอกอะไรบางอย่างกับคุณใช่ไหมว่า คนที่ทำงานที่นี่น่ะเป็นคนอย่างไร เขาให้ความสำคัญกับรายละเอียดเพียงใด“
    .
    .
    .
    การฝึกซ้อมของทีมเบสบอลโรงเรียนนี้หนักหนาสาหัสมาก นักเบสบอลวัยรุ่นเหล่านี้จะต้องกินนอนอยู่กับทีมตลอดปี ได้กลับบ้านแค่ปีละ 6 วันเท่านั้น

    ซึ่งนั่นก็ดูเหมือนจะถูกจริตของโอทานิซึ่งมีความสุขกับการซ้อม การแข่ง การล้างห้องน้ำและ ”การกิน“

    โค้ชซาซากิเล่าว่าโอทานิในเวลานั้นตัวเล็กมาก โค้ชจึงให้โอทานิกินอาหารให้เยอะที่สุด เพื่อนร่วมทีมคนไหนกินอาหารเหลือก็ส่งมาให้โอทานิกินต่อ

    กินจนกินไม่ไหวถึงจะเลิกกิน

    กินเสร็จก็ไปออกกำลังกาย ยกเวท จนโอทานิสูงใหญ่เป็นยักษ์ปักหลั่น ร่างกายสมบูรณ์เป็นนักกีฬาระดับโลก
    .
    .
    .
    จนเมื่อโอทานิแข่งเบสบอลในระดับมัธยมปลายทั่วประเทศ หรือ “โคชิเอ็น”

    โอทานิก็มุ่งมั่นชัดเจนว่าอยากจะเล่นเบสบอลอาชีพซี่งเขาก็เริ่มจากลีกญี่ปุ่น จนไปสู่เมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกา

    กวาดรางวัลและทำลายสถิติมาทุกแห่ง

    แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนในตัวโอทานิเลยก็คือ ความสงบเสงี่ยม พูดน้อยและถ่อมตน

    ไปสัมภาษณ์ที่ไหนก็พูดนิดเดียว บางทีเมื่อไม่มีอะไรจะพูด โอทานิก็พูดสั้นๆเบาๆแค่ว่า ”ขอโทษนะครับ“

    ตอนที่โอทานิเริ่มได้เงินเดือนจากการแข่งอาชีพจากทีมไฟท์เตอร์ในลีกญี่ปุ่น 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น โอทานิให้แม่เป็นคนจัดการเรื่องเงินทองทั้งหมด

    และบอกแม่ว่าให้โอนเงินใส่บัญชีให้เขาใช้เดือนละ 1,000 ดอลล่าร์ หรือ 34,000 บาทก็พอ ซึ่งเอาจริงๆเขาก็ไม่ค่อยจะได้แตะเงินเท่าไร เพราะเขาใช้ชีวิตอยู่กับการซ้อม การแข่งเบสบอล

    สื่อมวลชนกีฬาของญี่ปุ่นซึ่งชอบขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของนักกีฬามาแฉนั้น ก็ไม่รู้จะทำอะไรกับโอทานิ เพราะไม่มีอะไรจะให้แฉเลยสักนิด

    เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว โอทานิไม่ชอบเปิดเผยเรื่องส่วนตัวกับใคร

    วันๆเอาแต่ออกกำลังกายกับเล่นเบสบอล
    .
    .
    .
    ล่าสุดโอทานิก็สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งเมื่อเซ็นสัญญา 10 ปีด้วยค่าตัว 700 ล้านดอลล่าร์กับทีมแอลเอ ดอดเจอร์

    เป็นสัญญาที่แพงที่สุดประวัติศาสตร์วงการกีฬาโลก

    ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมโอทานิถึงได้กลายเป็นไอดอลของคนญี่ปุ่น

    ….พูดน้อย ถ่อมตน ซ้อมหนัก ผลงานเป็นเลิศ….

    คุณสมบัติที่หาได้ยากยิ่งในยุคที่คนส่วนใหญ่พูดเยอะแต่ไร้ผลงาน


    นัทแนะ
    ญี่ปุ่น 6 : โชเฮ โอทานิ (Shohei Ohtani) วันนี้วันดีปีใหม่ ผมอยากเล่าถึง “โชเฮ โอทานิ” นักเบสบอลมหัศจรรย์ของชาวญี่ปุ่น เอาไว้ให้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จครับ โชเฮ โอทานิ หรือชื่อเล่นที่เรียกว่า “โชไทม์ (Sho-time)” นี้เป็นเด็กหนุ่มอายุ 30 ปีที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะนักเบสบอลอาชีพ ที่ตอนนี้ไปเล่นให้กับทีมแอลเอ ดอดเจอร์ในสหรัฐฯและพาทีมคว้าแชมป์ 2024 ไปเรียบร้อย ความมหัศจรรย์ของโอทานิก็คือ เขาเป็นนักเบสบอลที่เล่นเป็นมือขว้าง (พิทเชอร์) หรือมือตี (พัทเตอร์) ก็ได้ เรียกว่าเป็น Two-way player โอทานินั้นไม่ใช่แค่ว่า ”ขว้างลูกได้“ ครับแต่เป็นพิทเชอร์ที่ขว้างลูกได้ดีเลิศ คือ ขว้างได้สปีดถึง 160 กม./ชม. ลูกโค้งซ้าย-ขวา-บน-ล่าง นั้นทำได้หมด และในฐานะพัทเตอร์นั้น เขาตีลูกได้แรงและแม่นยำ ตีโฮมรันเป็นว่าเล่น พละกำลังมหาศาลด้วยร่างกายที่สูงใหญ่ถึง 195 ซม. โอทานินั้นถนัดทั้งมือซ้ายและขวา กล่าวคือ ขว้างด้วยมือขวา ตีด้วยมือซ้าย เมื่อเขามาเล่นเบสบอลในเมเจอร์ลีกที่อเมริกา ในปี 2021 เขาได้รับรางวัลนักกีฬาทรงคุณค่าสูงสุด (MVP) 2 รางวัล คือ ตำแหน่งพิทเชอร์กับตำแหน่งพัทเตอร์ในซีซั่นเดียว นักเบสบอลแบบนี้ 100 ปีจะมีสักหนึ่งคน สื่ออเมริกันถึงกับบอกว่า โอทานินั้นเหนือกว่าเบ๊บ รูท (Babe Ruth) นักเบสบอลอเมริกันในตำนานที่เป็น Two-way player เช่นกันเสียอีก นอกจากความเป็นยอดนักกีฬาแล้วคุณสมบัติที่ทำให้โอทานิโด่งดังในวงการนั้นมี 3 ประการครับ คือ หนึ่ง…..ความถ่อมตน (Humility) สอง…..ความขยันหมั่นเพียร สาม…..ความมุ่งมั่น . . . โอทานินั้นเป็นเด็กหนุ่มที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า ”ยาคิว โชเนน - yakyu shonen“ แปลว่า ”เด็กที่หายใจเข้าออกเป็นเบสบอลทุกวินาที“ ครับ ความลุ่มหลงในเบสบอลของโอทานินั้น เกิดขึ้นตั้งแต่เป็นเด็กชายตัวเปี๊ยกเดียวครับ เพราะพ่อของโอทานิเป็นนักเบสบอลกึ่งอาชีพ ส่วนแม่นั้นเป็นนักแบดมินตันระดับมัธยม พ่อของโอทานินั้นสอนเทคนิคการขว้างลูกโดยใช้แรงจากสะโพกและการบิดตัว ทำให้โอทานิน้อยวัย 10 ขวบสามารถขว้างลูกได้เร็วเป็น 100 กม./ชม.เลยเชียว เมื่อโอทานิโตขึ้นมาถึงระดับมัธยม เขาก็เข้าไปเล่นเบสบอลในทีมโรงเรียนซึ่งมีโค้ชชื่อ “ซาซากิ” โค้ชซาซากินี้เองที่เป็นผู้บ่มเพาะนิสัยความถ่อมตนให้กับโอทานิ เมื่อโค้ชซาซากิเห็นฝีมือของโอทานิปร๊าดเดียว เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเด็กหนุ่มคนนี้คือดาวรุ่งคนใหม่ของวงการ ดังนั้นหน้าที่ที่โค้ชซาซากิมอบหมายให้เด็กใหม่ที่ชื่อโอทานิทำก็คือ “ล้างห้องน้ำ” ครับ เหตุผลของโค้ชก็คือ “ตำแหน่งยืนของ พิทเชอร์คือจุดที่สูงสุดในสนามเบสบอล เปรียบได้กับเวที เมื่อคุณไปยืนอยู่บนเวที คุณจะได้รับความสนใจ มีนักข่าวมาสัมภาษณ์และเขียนเรื่องเกี่ยวกับตัวคุณมากที่สุด“ “The mound is the most elevated place on the field, It’s a stage. If you’re on that stage, you receive the most attention. You get interviewed and written about the most.” นี่คือวิธีการสอนความถ่อมตนในสไตล์ของโค้ชซาซากิครับ โค้ชยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า ”ความสะอาดของห้องน้ำนั้นบอกอะไรเราได้เยอะนะคุณ เวลาคุณไปเดินห้างสรรพสินค้าหรือไปสถานที่ต่างๆแล้วคุณไปเจอห้องน้ำที่สะอาดเอี่ยมน่ะ มันบอกอะไรบางอย่างกับคุณใช่ไหมว่า คนที่ทำงานที่นี่น่ะเป็นคนอย่างไร เขาให้ความสำคัญกับรายละเอียดเพียงใด“ . . . การฝึกซ้อมของทีมเบสบอลโรงเรียนนี้หนักหนาสาหัสมาก นักเบสบอลวัยรุ่นเหล่านี้จะต้องกินนอนอยู่กับทีมตลอดปี ได้กลับบ้านแค่ปีละ 6 วันเท่านั้น ซึ่งนั่นก็ดูเหมือนจะถูกจริตของโอทานิซึ่งมีความสุขกับการซ้อม การแข่ง การล้างห้องน้ำและ ”การกิน“ โค้ชซาซากิเล่าว่าโอทานิในเวลานั้นตัวเล็กมาก โค้ชจึงให้โอทานิกินอาหารให้เยอะที่สุด เพื่อนร่วมทีมคนไหนกินอาหารเหลือก็ส่งมาให้โอทานิกินต่อ กินจนกินไม่ไหวถึงจะเลิกกิน กินเสร็จก็ไปออกกำลังกาย ยกเวท จนโอทานิสูงใหญ่เป็นยักษ์ปักหลั่น ร่างกายสมบูรณ์เป็นนักกีฬาระดับโลก . . . จนเมื่อโอทานิแข่งเบสบอลในระดับมัธยมปลายทั่วประเทศ หรือ “โคชิเอ็น” โอทานิก็มุ่งมั่นชัดเจนว่าอยากจะเล่นเบสบอลอาชีพซี่งเขาก็เริ่มจากลีกญี่ปุ่น จนไปสู่เมเจอร์ลีกในสหรัฐอเมริกา กวาดรางวัลและทำลายสถิติมาทุกแห่ง แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนในตัวโอทานิเลยก็คือ ความสงบเสงี่ยม พูดน้อยและถ่อมตน ไปสัมภาษณ์ที่ไหนก็พูดนิดเดียว บางทีเมื่อไม่มีอะไรจะพูด โอทานิก็พูดสั้นๆเบาๆแค่ว่า ”ขอโทษนะครับ“ ตอนที่โอทานิเริ่มได้เงินเดือนจากการแข่งอาชีพจากทีมไฟท์เตอร์ในลีกญี่ปุ่น 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น โอทานิให้แม่เป็นคนจัดการเรื่องเงินทองทั้งหมด และบอกแม่ว่าให้โอนเงินใส่บัญชีให้เขาใช้เดือนละ 1,000 ดอลล่าร์ หรือ 34,000 บาทก็พอ ซึ่งเอาจริงๆเขาก็ไม่ค่อยจะได้แตะเงินเท่าไร เพราะเขาใช้ชีวิตอยู่กับการซ้อม การแข่งเบสบอล สื่อมวลชนกีฬาของญี่ปุ่นซึ่งชอบขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของนักกีฬามาแฉนั้น ก็ไม่รู้จะทำอะไรกับโอทานิ เพราะไม่มีอะไรจะให้แฉเลยสักนิด เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว โอทานิไม่ชอบเปิดเผยเรื่องส่วนตัวกับใคร วันๆเอาแต่ออกกำลังกายกับเล่นเบสบอล . . . ล่าสุดโอทานิก็สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งเมื่อเซ็นสัญญา 10 ปีด้วยค่าตัว 700 ล้านดอลล่าร์กับทีมแอลเอ ดอดเจอร์ เป็นสัญญาที่แพงที่สุดประวัติศาสตร์วงการกีฬาโลก ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมโอทานิถึงได้กลายเป็นไอดอลของคนญี่ปุ่น ….พูดน้อย ถ่อมตน ซ้อมหนัก ผลงานเป็นเลิศ…. คุณสมบัติที่หาได้ยากยิ่งในยุคที่คนส่วนใหญ่พูดเยอะแต่ไร้ผลงาน นัทแนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 765 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วยกันเชียร์นักแบดมินตันไทยด้วยครับ (06/12/67) #news1 #ข่าวกีฬา #แบดมินตันไทย
    ช่วยกันเชียร์นักแบดมินตันไทยด้วยครับ (06/12/67) #news1 #ข่าวกีฬา #แบดมินตันไทย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1209 มุมมอง 38 0 รีวิว
  • กุลวุฒิ วิทิตศานต์ “วิว”มือวางอันดับ 1 ของรายการKorean Master 2024และ มืออันดับ 5 ของโลก ครองชัยชนะเหนือ หวัง เจิ้งซิง มืออันดับ 55 ของโลกจากจีน2เซ็ต ด้วยคะแนนเกม 21-18 และ 21-18 เป็นแชมป์แรกในปีนี้ในการแข่งแบดมินตันโคเรีย มาสเตอร์ส 2024 เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ได้สำเร็จ และ เป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในรายการนี้ด้วย พร้อมรับเงินรางวัล 15,700 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 533,800 บาท

    https://youtu.be/8gAg6FeN604?si=IzrwD51PwfHq-NqO

    #Thaitimes
    กุลวุฒิ วิทิตศานต์ “วิว”มือวางอันดับ 1 ของรายการKorean Master 2024และ มืออันดับ 5 ของโลก ครองชัยชนะเหนือ หวัง เจิ้งซิง มืออันดับ 55 ของโลกจากจีน2เซ็ต ด้วยคะแนนเกม 21-18 และ 21-18 เป็นแชมป์แรกในปีนี้ในการแข่งแบดมินตันโคเรีย มาสเตอร์ส 2024 เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ได้สำเร็จ และ เป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในรายการนี้ด้วย พร้อมรับเงินรางวัล 15,700 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 533,800 บาท https://youtu.be/8gAg6FeN604?si=IzrwD51PwfHq-NqO #Thaitimes
    Love
    2
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 633 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 พฤศจิกายน 2567-ชายเดี่ยว วิว กุลวุฒิ ชนะ Lee Cheuk Yiu จากฮ่องกง 3-0 เก็บแต้ม Blitzers นำ 4-2 , ตัดสินคู่สุดท้าย แบด3คน ที่มีสามแต้มเป็นเดิมพันชนะ Blitzers เฉือนแต้ม Sudden Death คว้าแชมป์​ลีคอินโด BDMNTN-XL รับทรัพย์คนละ 2 ล้านบาท

    ทั้งนี้การแข่งขันแบดมินตันรายการพิเศษในรายการ "บีเอ็กซ์แอล แบดมินตัน" ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. - 3 พ.ย.67 ที่อิสโตร่า เสนายัน ในกรุงจาร์การ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

    โดยจะมี 3 นักแบดมินตันไทยลงแข่งขัน อาทิ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ชายเดี่ยว ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2024 , "เมย์" รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยว เจ้าของแชมป์โลก ปี 2013 และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ โดยจะลงเล่นแทน โนโซมิ โอกูฮาระ จากญี่ปุ่น โดยรูปแบบการแข่งขันจะเป็นในรูปแบบ แบ่งเป็น 4 ทีม แต่ละทีมส่งตัวแทนลงแข่ง 5 แมตช์ ได้แก่ ชายเดี่ยว หญิงเดี่ยว ชายคู่ หญิงคู่ และแบด 3 คน ทีมไหนถึง 5 ก่อน จะเป็นฝ่ายชนะ ไม่มีคะแนนต่ำสุดหรือสูงสุดสำหรับแต่ละเซ็ต - ผู้เล่น/คู่/ทีมที่มีคะแนนมากที่สุดหลังจากแต่ละ 10 นาทีจะชนะ 1 เซ็ต

    สำหรับ "เมย์" รัชนก อินทนนท์ จะอยู่ในกลุ่ม Lighting ร่วมกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น (เดนมาร์ก) , อัชวานี่ พอนนัพพา (อินเดีย) , เกรเซี่ย โพลี่ (อินโดนเซีย) , ยูตะ วาตานาเบ้ (ญี่ปุ่น) , ตัง ชุนมาน (ฮ่องกง) และ โซว วุยอิค (มาเลเซีย)

    ส่วน "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ จะอยู่ในกลุ่ม Bltizers ร่วมกับ อเล็กซานดร้า โบเจ้ จากเดนมาร์ก , ออง ยิวซิน กับ เตียว อี้เว่ย จากมาเลเซีย , ซาบาร์ คาร์ยามาน กุตมา จากอินโดนีเซีย ,

    https://youtu.be/WeuDCPVG1Yc?si=048h60IuBSTlXRzR

    #Thaitimes
    3 พฤศจิกายน 2567-ชายเดี่ยว วิว กุลวุฒิ ชนะ Lee Cheuk Yiu จากฮ่องกง 3-0 เก็บแต้ม Blitzers นำ 4-2 , ตัดสินคู่สุดท้าย แบด3คน ที่มีสามแต้มเป็นเดิมพันชนะ Blitzers เฉือนแต้ม Sudden Death คว้าแชมป์​ลีคอินโด BDMNTN-XL รับทรัพย์คนละ 2 ล้านบาท ทั้งนี้การแข่งขันแบดมินตันรายการพิเศษในรายการ "บีเอ็กซ์แอล แบดมินตัน" ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. - 3 พ.ย.67 ที่อิสโตร่า เสนายัน ในกรุงจาร์การ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยจะมี 3 นักแบดมินตันไทยลงแข่งขัน อาทิ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ชายเดี่ยว ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2024 , "เมย์" รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยว เจ้าของแชมป์โลก ปี 2013 และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ โดยจะลงเล่นแทน โนโซมิ โอกูฮาระ จากญี่ปุ่น โดยรูปแบบการแข่งขันจะเป็นในรูปแบบ แบ่งเป็น 4 ทีม แต่ละทีมส่งตัวแทนลงแข่ง 5 แมตช์ ได้แก่ ชายเดี่ยว หญิงเดี่ยว ชายคู่ หญิงคู่ และแบด 3 คน ทีมไหนถึง 5 ก่อน จะเป็นฝ่ายชนะ ไม่มีคะแนนต่ำสุดหรือสูงสุดสำหรับแต่ละเซ็ต - ผู้เล่น/คู่/ทีมที่มีคะแนนมากที่สุดหลังจากแต่ละ 10 นาทีจะชนะ 1 เซ็ต สำหรับ "เมย์" รัชนก อินทนนท์ จะอยู่ในกลุ่ม Lighting ร่วมกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น (เดนมาร์ก) , อัชวานี่ พอนนัพพา (อินเดีย) , เกรเซี่ย โพลี่ (อินโดนเซีย) , ยูตะ วาตานาเบ้ (ญี่ปุ่น) , ตัง ชุนมาน (ฮ่องกง) และ โซว วุยอิค (มาเลเซีย) ส่วน "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ จะอยู่ในกลุ่ม Bltizers ร่วมกับ อเล็กซานดร้า โบเจ้ จากเดนมาร์ก , ออง ยิวซิน กับ เตียว อี้เว่ย จากมาเลเซีย , ซาบาร์ คาร์ยามาน กุตมา จากอินโดนีเซีย , https://youtu.be/WeuDCPVG1Yc?si=048h60IuBSTlXRzR #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 875 มุมมอง 0 รีวิว
  • จะเลือกชาตินิยมหรือน้ำใจนักกีฬา?

    กรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬามาเลเซีย ฮันนาห์ โหยว (Hannah Yeoh) โพสต์ภาพคู่กับ วิว กุลวุฒิ วิทิตสาร นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก ปารีส 2024 ประเทศฝรั่งเศส ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว @hannahyeoh กำลังเป็นที่วิจารณ์อย่างดุเดือดของชาวเน็ตมาเลเซีย

    เพราะจากอินสตาแกรมของเธอ ไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับ วิว กุลวุฒิ อย่างเดียว แต่โพสต์ก่อนหน้านี้ก็ถ่ายรูปคู่กับนักแบดมินตันชาติของตนที่ได้เหรียญทองแดง อย่าง อารอน เจี่ย (Aaron Chia) กับ โซห์ วุย ยิค (Soh Wooi Yik) ประเภทชายคู่ และ หลี่ จื่อเจีย (Lee Zii Jia) ประเภทชายเดี่ยว ที่แพ้ให้กับ วิว กุลวุฒิ รอบรองชนะเลิศ พร้อมข้อความให้กำลังใจ

    แต่ที่เป็นประเด็น คือประโยคห้อยท้ายที่กล่าวถึงวิว กุลวุฒิ ว่า "He has a new fan in me!" หรือ "ฉันเป็นแฟนคลับคนใหม่ของเขาไปแล้ว" คนไทยอาจชื่นใจ แต่ชาวมาเลย์ไซร้เป็นได้เดือดดาล ทัวร์ลงไม่แพ้ชาติใดในโลก โพสต์ข้อความโจมตี อาทิ

    "น้ำใจนักกีฬาและความรักชาติควรเริ่มต้นจากผู้นำ เวลานี้ทำไม่ถูก รูปนี้ควรเอาออกไป หรือคุณควรเก็บไว้ดูเอง ในความรู้สึกเห็นว่าไม่ถูกต้อง"

    "ถ้าอยากเป็นแฟนคลับอย่าใช้ตำแหน่งรัฐมนตรี ควรสวมเสื้อผ้าของตัวเอง ซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยเงินตัวเอง ชำระค่าโรงแรมและอาหารด้วยเงินตัวเอง"

    "คุณอยู่ในฐานะรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนของมาเลเซีย ไม่ใช่ในฐานะผู้ชมทั่วไป แม้ว่าจะมีสิทธิ์ถ่ายรูปกับนักกีฬาคนใดก็ได้ แม้ไม่ใช่ชาวมาเลเซียก็ตาม แต่วิธีที่ดีที่สุดคือเก็บภาพนี้ไว้เป็นส่วนตัว แทนที่จะเปิดเผยต่อสาธารณะ สิ่งที่คุณทำเป็นเรื่องน่าสะอิดสะเอียน ทำลายชื่อเสียงของคุณอย่างราบคาบ ส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของรัฐบาลและพรรค DAP อย่าลืมว่ายังมีคนจำนวนมากกำลังจับผิดพรรค DAP และตอนนี้คุณได้ให้กระสุนแก่พวกเขาแบบฟรีๆ แล้ว อย่างไรก็ตาม ฉันยังคงเป็นแฟนคลับของคุณ แต่หวังว่าจะไม่ทำผิดแบบนี้ซ้ำในครั้งต่อไป เราเพียงต้องการแนะนำแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับคุณ"

    ด้านเว็บไซต์ข่าว Malaysia Now ได้ตีพิมพ์บทความของ "ลี บุน เชียน" (Lee Boon Shian) ประธานกลุ่มเยาวชนเกอรากัน วิจารณ์ว่า ฮันนาห์ทำให้ชาวมาเลเซียผิดหวัง เพราะการเป็นรัฐมนตรีด้านกีฬาต้องรู้จักกาละเทศะ รัฐมนตรีที่เข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกโดยใช้ภาษีประชาชน ควรจะเป็นตัวแทนรักษาผลประโยชน์ของมาเลเซีย และสนับสนุนส่งเสริมนักกีฬาของชาติ

    "รัฐมนตรีของเรา (ฮันนาห์) ตั้งใจทำให้ประชาชนผิดหวังอีกครั้ง เธอได้เบี่ยงเบนความรับผิดชอบหลัก และกระทำการในฐานะส่วนตัวหลงใหลนักกีฬาต่างชาติคนหนึ่ง ที่เพิ่งเอาชนะนักกีฬาของเราไปได้ การมีความชอบส่วนตัวไม่ใช่เรื่องผิด แต่ควรเข้าใจแนวคิดง่ายๆ อย่างการมีกาละเทศะ ก่อนแสดงพฤติกรรมที่น่าหดหู่ใจ ซึ่งอาจสูญเสียขวัญและกำลังใจแก่นักกีฬาและกองเชียร์"

    "ประชาชนจ่ายเงินให้คุณเพื่อให้ไปปฎิบัติหน้าที่ในโอลิมปิกปารีส แต่กลับไปถ่ายรูปกับนักกีฬาต่างชาติ ผลประโยชน์ส่วนตนควรถูกเก็บเป็นความลับเสมอเมื่อปฎิบัติหน้าที่ทางราชการ ควรเป็นแรงบันดาลใจทางศีลธรรมให้กับนักกีฬาและกองเชียร์ และทำงานอย่างใกล้ชิดกับนักกีฬา เพื่อหาทางที่จะให้กระทรวงได้สนับสนุนวงการกีฬาที่ดีขึ้นในอนาคต"

    "จะให้ดีกว่านี้ ให้วางกลยุทธ์ว่าจะทำให้แน่ใจได้อย่างไรว่าโค้ชของเราจะไปร่วมกับนักกีฬาของเราในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในอนาคต แทนที่จะสงวนไว้สำหรับแขกวีไอพี" ลี บุน เชียน ระบุ

    อย่างไรก็ตาม​ มีชาวเน็ตที่มีน้ำใจนักกีฬา​หลายคน​ ต่างกล่าวว่า กรณีแบบนี้ไม่ควรแห่ทัวร์​ลง​ หรือคิดเล็กคิดน้อย และการแสดงความยินดีกับหนึ่งในประเทศอาเซียน ที่คว้าเหรียญโอลิมปิกมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย

    ด้าน​ ฮันนาห์ โหย่ว ได้โพสต์สตอรี่ในอินสตาแกรม ชี้แจงถึงค่านิยมของกีฬาโอลิมปิก 3 ประการ นั่นคือความเป็นเลิศ ความเป็นมิตร และความเคารพ พร้อมตอบคำถามชาวเน็ตฯ​ ชัดเจนว่า​ "เธอไปในฐานะรัฐมนตรีเยาวชนและการกีฬาของมาเลเซีย เป็นตัวแทนของมาเลเซีย และร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนบ้านอาเซียน อย่างประเทศไทย​"

    สำหรับฮันนาห์ โหยว ปัจจุบันอายุ 45 ปี ชาวสุบังจายา รัฐสลังงอร์ เป็นนักการเมืองสังกัดพรรค DAP ซึ่งอยู่ในกลุ่มปากาตันฮาราปัน (Pakatan Harapan) เคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐสลังงอร์ ปี 2551-2561 ประธานสภานิติบัญญัติแห่งรัฐสลังงอร์ ปี 2556-2561 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสตรี ครอบครัวและการพัฒนาชุมชนมาเลเซีย ปี 2561-2563

    สมรสกับ รามจันทรัน มูเนียนดี (Ramachandran Muniandy) ผู้ก่อตั้งบริษัท เอเชีย โมบิลิตี้ (Asia Mobility) ที่ผ่านมาเธอถูกโจมตีกรณีที่รัฐบาลกลาง และรัฐบาลรัฐสลังงอร์อนุมัติโครงการขนส่งสาธารณะเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทาง (Demand Responsive Transit หรือ DRT) รัฐสลังงอร์ ให้กับเอเชีย โมบิลิตี้ ของสามี โดยไม่ผ่านการประกวดราคา

    กระทั่งมาเจอ "ตำบลกระสุนตก" จากกรณีถ่ายภาพคู่กับชาติคู่แข่งอย่าง "วิว กุลวุฒิ" ที่เอาชนะนักกีฬาชาติตนเอง

    สมมติว่าหากวันหนึ่งเรื่องลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นกับรัฐมนตรีของไทย โดยที่ยังไม่รู้ว่าเกิดขึ้นกับใคร พรรคอะไร สีเสื้อไหน ลองถามใจคุณผู้อ่านระหว่าง "ชาตินิยม" หรือ "น้ำใจนักกีฬา"?

    #Newskit #hannahyeoh #ViewKunlavut
    จะเลือกชาตินิยมหรือน้ำใจนักกีฬา? กรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬามาเลเซีย ฮันนาห์ โหยว (Hannah Yeoh) โพสต์ภาพคู่กับ วิว กุลวุฒิ วิทิตสาร นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก ปารีส 2024 ประเทศฝรั่งเศส ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว @hannahyeoh กำลังเป็นที่วิจารณ์อย่างดุเดือดของชาวเน็ตมาเลเซีย เพราะจากอินสตาแกรมของเธอ ไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับ วิว กุลวุฒิ อย่างเดียว แต่โพสต์ก่อนหน้านี้ก็ถ่ายรูปคู่กับนักแบดมินตันชาติของตนที่ได้เหรียญทองแดง อย่าง อารอน เจี่ย (Aaron Chia) กับ โซห์ วุย ยิค (Soh Wooi Yik) ประเภทชายคู่ และ หลี่ จื่อเจีย (Lee Zii Jia) ประเภทชายเดี่ยว ที่แพ้ให้กับ วิว กุลวุฒิ รอบรองชนะเลิศ พร้อมข้อความให้กำลังใจ แต่ที่เป็นประเด็น คือประโยคห้อยท้ายที่กล่าวถึงวิว กุลวุฒิ ว่า "He has a new fan in me!" หรือ "ฉันเป็นแฟนคลับคนใหม่ของเขาไปแล้ว" คนไทยอาจชื่นใจ แต่ชาวมาเลย์ไซร้เป็นได้เดือดดาล ทัวร์ลงไม่แพ้ชาติใดในโลก โพสต์ข้อความโจมตี อาทิ "น้ำใจนักกีฬาและความรักชาติควรเริ่มต้นจากผู้นำ เวลานี้ทำไม่ถูก รูปนี้ควรเอาออกไป หรือคุณควรเก็บไว้ดูเอง ในความรู้สึกเห็นว่าไม่ถูกต้อง" "ถ้าอยากเป็นแฟนคลับอย่าใช้ตำแหน่งรัฐมนตรี ควรสวมเสื้อผ้าของตัวเอง ซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยเงินตัวเอง ชำระค่าโรงแรมและอาหารด้วยเงินตัวเอง" "คุณอยู่ในฐานะรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนของมาเลเซีย ไม่ใช่ในฐานะผู้ชมทั่วไป แม้ว่าจะมีสิทธิ์ถ่ายรูปกับนักกีฬาคนใดก็ได้ แม้ไม่ใช่ชาวมาเลเซียก็ตาม แต่วิธีที่ดีที่สุดคือเก็บภาพนี้ไว้เป็นส่วนตัว แทนที่จะเปิดเผยต่อสาธารณะ สิ่งที่คุณทำเป็นเรื่องน่าสะอิดสะเอียน ทำลายชื่อเสียงของคุณอย่างราบคาบ ส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของรัฐบาลและพรรค DAP อย่าลืมว่ายังมีคนจำนวนมากกำลังจับผิดพรรค DAP และตอนนี้คุณได้ให้กระสุนแก่พวกเขาแบบฟรีๆ แล้ว อย่างไรก็ตาม ฉันยังคงเป็นแฟนคลับของคุณ แต่หวังว่าจะไม่ทำผิดแบบนี้ซ้ำในครั้งต่อไป เราเพียงต้องการแนะนำแนวทางที่ดีที่สุดสำหรับคุณ" ด้านเว็บไซต์ข่าว Malaysia Now ได้ตีพิมพ์บทความของ "ลี บุน เชียน" (Lee Boon Shian) ประธานกลุ่มเยาวชนเกอรากัน วิจารณ์ว่า ฮันนาห์ทำให้ชาวมาเลเซียผิดหวัง เพราะการเป็นรัฐมนตรีด้านกีฬาต้องรู้จักกาละเทศะ รัฐมนตรีที่เข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกโดยใช้ภาษีประชาชน ควรจะเป็นตัวแทนรักษาผลประโยชน์ของมาเลเซีย และสนับสนุนส่งเสริมนักกีฬาของชาติ "รัฐมนตรีของเรา (ฮันนาห์) ตั้งใจทำให้ประชาชนผิดหวังอีกครั้ง เธอได้เบี่ยงเบนความรับผิดชอบหลัก และกระทำการในฐานะส่วนตัวหลงใหลนักกีฬาต่างชาติคนหนึ่ง ที่เพิ่งเอาชนะนักกีฬาของเราไปได้ การมีความชอบส่วนตัวไม่ใช่เรื่องผิด แต่ควรเข้าใจแนวคิดง่ายๆ อย่างการมีกาละเทศะ ก่อนแสดงพฤติกรรมที่น่าหดหู่ใจ ซึ่งอาจสูญเสียขวัญและกำลังใจแก่นักกีฬาและกองเชียร์" "ประชาชนจ่ายเงินให้คุณเพื่อให้ไปปฎิบัติหน้าที่ในโอลิมปิกปารีส แต่กลับไปถ่ายรูปกับนักกีฬาต่างชาติ ผลประโยชน์ส่วนตนควรถูกเก็บเป็นความลับเสมอเมื่อปฎิบัติหน้าที่ทางราชการ ควรเป็นแรงบันดาลใจทางศีลธรรมให้กับนักกีฬาและกองเชียร์ และทำงานอย่างใกล้ชิดกับนักกีฬา เพื่อหาทางที่จะให้กระทรวงได้สนับสนุนวงการกีฬาที่ดีขึ้นในอนาคต" "จะให้ดีกว่านี้ ให้วางกลยุทธ์ว่าจะทำให้แน่ใจได้อย่างไรว่าโค้ชของเราจะไปร่วมกับนักกีฬาของเราในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในอนาคต แทนที่จะสงวนไว้สำหรับแขกวีไอพี" ลี บุน เชียน ระบุ อย่างไรก็ตาม​ มีชาวเน็ตที่มีน้ำใจนักกีฬา​หลายคน​ ต่างกล่าวว่า กรณีแบบนี้ไม่ควรแห่ทัวร์​ลง​ หรือคิดเล็กคิดน้อย และการแสดงความยินดีกับหนึ่งในประเทศอาเซียน ที่คว้าเหรียญโอลิมปิกมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ด้าน​ ฮันนาห์ โหย่ว ได้โพสต์สตอรี่ในอินสตาแกรม ชี้แจงถึงค่านิยมของกีฬาโอลิมปิก 3 ประการ นั่นคือความเป็นเลิศ ความเป็นมิตร และความเคารพ พร้อมตอบคำถามชาวเน็ตฯ​ ชัดเจนว่า​ "เธอไปในฐานะรัฐมนตรีเยาวชนและการกีฬาของมาเลเซีย เป็นตัวแทนของมาเลเซีย และร่วมแสดงความยินดีกับเพื่อนบ้านอาเซียน อย่างประเทศไทย​" สำหรับฮันนาห์ โหยว ปัจจุบันอายุ 45 ปี ชาวสุบังจายา รัฐสลังงอร์ เป็นนักการเมืองสังกัดพรรค DAP ซึ่งอยู่ในกลุ่มปากาตันฮาราปัน (Pakatan Harapan) เคยเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐสลังงอร์ ปี 2551-2561 ประธานสภานิติบัญญัติแห่งรัฐสลังงอร์ ปี 2556-2561 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสตรี ครอบครัวและการพัฒนาชุมชนมาเลเซีย ปี 2561-2563 สมรสกับ รามจันทรัน มูเนียนดี (Ramachandran Muniandy) ผู้ก่อตั้งบริษัท เอเชีย โมบิลิตี้ (Asia Mobility) ที่ผ่านมาเธอถูกโจมตีกรณีที่รัฐบาลกลาง และรัฐบาลรัฐสลังงอร์อนุมัติโครงการขนส่งสาธารณะเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทาง (Demand Responsive Transit หรือ DRT) รัฐสลังงอร์ ให้กับเอเชีย โมบิลิตี้ ของสามี โดยไม่ผ่านการประกวดราคา กระทั่งมาเจอ "ตำบลกระสุนตก" จากกรณีถ่ายภาพคู่กับชาติคู่แข่งอย่าง "วิว กุลวุฒิ" ที่เอาชนะนักกีฬาชาติตนเอง สมมติว่าหากวันหนึ่งเรื่องลักษณะแบบนี้เกิดขึ้นกับรัฐมนตรีของไทย โดยที่ยังไม่รู้ว่าเกิดขึ้นกับใคร พรรคอะไร สีเสื้อไหน ลองถามใจคุณผู้อ่านระหว่าง "ชาตินิยม" หรือ "น้ำใจนักกีฬา"? #Newskit #hannahyeoh #ViewKunlavut
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1477 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาม่าชามโตที่ “มาเลเซีย” กรณี น้องวิว กุลวุฒิ
    .
    ทัวร์​มาเลย์​ลง​รัฐมนตรี​ ฮันนาห์ โหย่ว โพสต์ท่าคู่​ วิว​ กุลวุฒิ นักแบดฯไทย​ ที่หวดมาเลเซีย​ตกรอบรองฯ
    .
    ผู้ใช้โซเชียลมีเดียมาเลเซีย​วิพากษ์วิจารณ์รัฐมนตรีกระทรวงเยาวชนและกีฬา ฮันนาห์ โหยว ที่ยกย่องนักแบดมินตันไทย กุลวุฒิ วิทิตสาร ผู้คว่ำนักกีฬาทีมชาติ ของตน​ ลี ซี เจีย ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปารีส
    .
    โหย่ว ซึ่งติดตามสนับสนุนนักกีฬามาเลเซียในปารีส อัพโหลดรูปถ่ายของตัวเองและกุลวุฒิ​ วิทิตศานต์บนอินสตาแกรม ซึ่งทำให้เกิดความคิดเห็นในหมู่ชาวเน็ตเสือเหลืองมากมายที่ถามว่า​"เธอมาทำอะไรของเธอที่โอลิมปิกเนี่ย!"
    .
    ทั้งนี้​ กุลวุฒิ​ วิทิตศานต์​ เอาชนะ ลีซีเจีย ในรอบรองชนะเลิศประเภทชายเดี่ยว ก่อนเข้าไปชิงเหรียญทอง​ โดยพ่ายแพ้ให้กับ วิเตอร์ แอกเซลสัน
    .
    ฮันนาห์ โหย่ว​ โพสต์​รูปถ่ายคู่กับวิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก ขวัญใจชาวไทย พร้อมข้อความว่า
    .
    "ขอแสดงความยินดีกับ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ผู้คว้าเหรียญเงินในปารีส 2024 ฉันชอบสไตล์การเล่นแบดมินตันเขามาก นิ่งและใจเย็นมาก ฉันเป็นแฟนคลับคนใหม่ของเขาแล้วล่ะ!"
    .
    อย่างไรก็ตาม​ มีชาวเน็ตน้ำใจนักกีฬา​หลายคน​ บอกว่ากรณีแบบนี้ไม่ควรแห่ทัวร์​ลง​ หรือคิดเล็กคิดน้อย และการแสดงความยินดีกับหนึ่งในประเทศอาเซียนของเรา ที่คว้าเหรียญโอลิมปิกมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายเลย
    .
    ด้าน​ ฮันนาห์ โหย่ว ได้โพสต์สตอรี่ในอินสตาแกรม ชี้แจงถึงค่านิยมของกีฬาโอลิมปิก 3 ประการ นั่นคือความเป็นเลิศ ความเป็นมิตร และความเคารพ พร้อมตอบคำถามชาวเน็ตฯ​ ชัดเจนว่า​ "เธอไปในฐานะรัฐมนตรีเยาวชนและการกีฬาของมาเลเซีย เป็นตัวแทนของมาเลเซีย และร่วมแสดงความยินดีอีกครั้งกับเพื่อนบ้านอาเซียน อย่างประเทศไทย​"
    —————
    (ภาพจากอินสตาแกรม)​ ฮันนาห์ โหย่ว รัฐมนตรีกระทรวงเยาวชนและกีฬา โพสต์ท่าร่วมกับกุลวุฒิ วิทิตศานต์​ นักแบดมินตันทีมชาติไทยที่เอาชนะลี ซี เจีย (ขวา)​ ขณะให้สัมภาษณ์อย่างสะเทือนอารมณ์หลังพ่ายแพ้ต่อ​ กุลวุฒิ​ วิทิตศานต์

    **หมายเหตุ​ (ณ​ วันที่​ 8​ ส.ค.​ มี​ 2​ ชาติในอาเซียน​ ที่ได้เหรียญทอง​โอลิมปิก​ แล้ว​ คือ​ ฟิลิปปินส์​ 2​ เหรียญทอง​ อยู่อันดับ​ 24​ และ​ ไทย​ 1​ เหรียญทอง​ อยู่อันดับ​ 31​ บนตารางโอลิมปิก)

    Cr : บูรพาไม่แพ้
    มาม่าชามโตที่ “มาเลเซีย” กรณี น้องวิว กุลวุฒิ . ทัวร์​มาเลย์​ลง​รัฐมนตรี​ ฮันนาห์ โหย่ว โพสต์ท่าคู่​ วิว​ กุลวุฒิ นักแบดฯไทย​ ที่หวดมาเลเซีย​ตกรอบรองฯ . ผู้ใช้โซเชียลมีเดียมาเลเซีย​วิพากษ์วิจารณ์รัฐมนตรีกระทรวงเยาวชนและกีฬา ฮันนาห์ โหยว ที่ยกย่องนักแบดมินตันไทย กุลวุฒิ วิทิตสาร ผู้คว่ำนักกีฬาทีมชาติ ของตน​ ลี ซี เจีย ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปารีส . โหย่ว ซึ่งติดตามสนับสนุนนักกีฬามาเลเซียในปารีส อัพโหลดรูปถ่ายของตัวเองและกุลวุฒิ​ วิทิตศานต์บนอินสตาแกรม ซึ่งทำให้เกิดความคิดเห็นในหมู่ชาวเน็ตเสือเหลืองมากมายที่ถามว่า​"เธอมาทำอะไรของเธอที่โอลิมปิกเนี่ย!" . ทั้งนี้​ กุลวุฒิ​ วิทิตศานต์​ เอาชนะ ลีซีเจีย ในรอบรองชนะเลิศประเภทชายเดี่ยว ก่อนเข้าไปชิงเหรียญทอง​ โดยพ่ายแพ้ให้กับ วิเตอร์ แอกเซลสัน . ฮันนาห์ โหย่ว​ โพสต์​รูปถ่ายคู่กับวิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันเจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก ขวัญใจชาวไทย พร้อมข้อความว่า . "ขอแสดงความยินดีกับ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ผู้คว้าเหรียญเงินในปารีส 2024 ฉันชอบสไตล์การเล่นแบดมินตันเขามาก นิ่งและใจเย็นมาก ฉันเป็นแฟนคลับคนใหม่ของเขาแล้วล่ะ!" . อย่างไรก็ตาม​ มีชาวเน็ตน้ำใจนักกีฬา​หลายคน​ บอกว่ากรณีแบบนี้ไม่ควรแห่ทัวร์​ลง​ หรือคิดเล็กคิดน้อย และการแสดงความยินดีกับหนึ่งในประเทศอาเซียนของเรา ที่คว้าเหรียญโอลิมปิกมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายเลย . ด้าน​ ฮันนาห์ โหย่ว ได้โพสต์สตอรี่ในอินสตาแกรม ชี้แจงถึงค่านิยมของกีฬาโอลิมปิก 3 ประการ นั่นคือความเป็นเลิศ ความเป็นมิตร และความเคารพ พร้อมตอบคำถามชาวเน็ตฯ​ ชัดเจนว่า​ "เธอไปในฐานะรัฐมนตรีเยาวชนและการกีฬาของมาเลเซีย เป็นตัวแทนของมาเลเซีย และร่วมแสดงความยินดีอีกครั้งกับเพื่อนบ้านอาเซียน อย่างประเทศไทย​" ————— (ภาพจากอินสตาแกรม)​ ฮันนาห์ โหย่ว รัฐมนตรีกระทรวงเยาวชนและกีฬา โพสต์ท่าร่วมกับกุลวุฒิ วิทิตศานต์​ นักแบดมินตันทีมชาติไทยที่เอาชนะลี ซี เจีย (ขวา)​ ขณะให้สัมภาษณ์อย่างสะเทือนอารมณ์หลังพ่ายแพ้ต่อ​ กุลวุฒิ​ วิทิตศานต์ **หมายเหตุ​ (ณ​ วันที่​ 8​ ส.ค.​ มี​ 2​ ชาติในอาเซียน​ ที่ได้เหรียญทอง​โอลิมปิก​ แล้ว​ คือ​ ฟิลิปปินส์​ 2​ เหรียญทอง​ อยู่อันดับ​ 24​ และ​ ไทย​ 1​ เหรียญทอง​ อยู่อันดับ​ 31​ บนตารางโอลิมปิก) Cr : บูรพาไม่แพ้
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 876 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดราม่าคนมาเลเซียบางส่วนไม่พอใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬามาเลเซีย ฮันนาห์ โหยว (Hannah Yeoh) ที่แสดงความชื่นชม นาย กุลวุฒิ วิทิตศานต์ หรือวิว นักแบดมินตันชาวไทย เหรียญเงินในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ประเภทแบดมินตันชายเดี่ยว และโพสต์รูปภาพคู่ทางอินสตาแกรมส่วนตัว และข้อความว่า“"ขอแสดงความยินดีกับกุลวุฒิ @kunlavut.v สำหรับชัยชนะเหรียญเงินในปารีส 2024 ฉันชอบสไตล์การเล่นแบดมินตันของเขามาก เขานิ่งและใจเย็นมาก ฉันกลายเป็นแฟนคลับคนใหม่ของเขาแล้ว"

    ปรากฏเป็นไวรัลชาวเน็ตในประเทศมาเลเซียนำไปแชร์ต่อ พร้อมกับแสดงความคิดเห็นไม่พอใจและตำหนิว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากเธอมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬาของประเทศ การที่เธอแสดงออกถึงความชอบแบบส่วนตัวเช่นนี้ ดูเป็นการไม่ให้เกียรตินักกีฬาชาติตัวเอง แม้ว่าในโพสต์ก่อนหน้าเธอจะลงรูปภาพคู่กับลี ซี เจีย หลี่ ซี เจีย (Lee Zii Jia )นักแบตฯมาเลเซียและแสดงความดีใจกับรางวัลเหรียญทองแดงของเขาไปแล้วก็ตาม

    ขณะที่บัญชีทวิตเตอร์ (X) @Solisidtor ผู้ใช้โซเชียลในมาเลเซีย ได้กล่าวแสดงความไม่พอใจ ระบุว่า "ผู้ชายคนนั้น (วิว กุลวุฒิ) เอาชนะนักกีฬาของเราอย่างขาดลอย แต่คุณกลับไปถ่ายรูปกับเขาได้อย่างมีความสุข และบอกคนทั้งโลกว่าคุณเป็นแฟนคนหนึ่งของเขา เกิดอะไรขึ้นกับคุณ ? และคุณเป็นรัฐมนตรี ! คุณแยกแยะไม่ได้เหรอ ?" และกล่าวว่าเธอเป็น "รัฐมนตรีที่โง่เขลา"

    อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนที่พยายามจะอธิบายว่า รัฐมนตรีรายนี้ก็แค่โพสต์แสดงความยินดีและชื่นชมนักกีฬาของไทยที่มีความสามารถ การแข่งขันกีฬาย่อมมีแพ้มีชนะ การแสดงความยินดีกับผู้ชนะก็เป็นเรื่องของน้ำใจนักกีฬา เธอไม่ได้ทำผิดอะไร และก่อนหน้านั้นเธอก็โพสต์แสดงความยินดีกับนักกีฬาของมาเลเซียแล้ว ที่ได้ชัยชนะในรอบชิงที่ 3 และสามารถคว้าเรียญทองแดงมาได้สำเร็จ

    #Thaitimes
    ดราม่าคนมาเลเซียบางส่วนไม่พอใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬามาเลเซีย ฮันนาห์ โหยว (Hannah Yeoh) ที่แสดงความชื่นชม นาย กุลวุฒิ วิทิตศานต์ หรือวิว นักแบดมินตันชาวไทย เหรียญเงินในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ประเภทแบดมินตันชายเดี่ยว และโพสต์รูปภาพคู่ทางอินสตาแกรมส่วนตัว และข้อความว่า“"ขอแสดงความยินดีกับกุลวุฒิ @kunlavut.v สำหรับชัยชนะเหรียญเงินในปารีส 2024 ฉันชอบสไตล์การเล่นแบดมินตันของเขามาก เขานิ่งและใจเย็นมาก ฉันกลายเป็นแฟนคลับคนใหม่ของเขาแล้ว" ปรากฏเป็นไวรัลชาวเน็ตในประเทศมาเลเซียนำไปแชร์ต่อ พร้อมกับแสดงความคิดเห็นไม่พอใจและตำหนิว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากเธอมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬาของประเทศ การที่เธอแสดงออกถึงความชอบแบบส่วนตัวเช่นนี้ ดูเป็นการไม่ให้เกียรตินักกีฬาชาติตัวเอง แม้ว่าในโพสต์ก่อนหน้าเธอจะลงรูปภาพคู่กับลี ซี เจีย หลี่ ซี เจีย (Lee Zii Jia )นักแบตฯมาเลเซียและแสดงความดีใจกับรางวัลเหรียญทองแดงของเขาไปแล้วก็ตาม ขณะที่บัญชีทวิตเตอร์ (X) @Solisidtor ผู้ใช้โซเชียลในมาเลเซีย ได้กล่าวแสดงความไม่พอใจ ระบุว่า "ผู้ชายคนนั้น (วิว กุลวุฒิ) เอาชนะนักกีฬาของเราอย่างขาดลอย แต่คุณกลับไปถ่ายรูปกับเขาได้อย่างมีความสุข และบอกคนทั้งโลกว่าคุณเป็นแฟนคนหนึ่งของเขา เกิดอะไรขึ้นกับคุณ ? และคุณเป็นรัฐมนตรี ! คุณแยกแยะไม่ได้เหรอ ?" และกล่าวว่าเธอเป็น "รัฐมนตรีที่โง่เขลา" อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนที่พยายามจะอธิบายว่า รัฐมนตรีรายนี้ก็แค่โพสต์แสดงความยินดีและชื่นชมนักกีฬาของไทยที่มีความสามารถ การแข่งขันกีฬาย่อมมีแพ้มีชนะ การแสดงความยินดีกับผู้ชนะก็เป็นเรื่องของน้ำใจนักกีฬา เธอไม่ได้ทำผิดอะไร และก่อนหน้านั้นเธอก็โพสต์แสดงความยินดีกับนักกีฬาของมาเลเซียแล้ว ที่ได้ชัยชนะในรอบชิงที่ 3 และสามารถคว้าเรียญทองแดงมาได้สำเร็จ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 641 มุมมอง 0 รีวิว
  • Viktor Axelsen ยอดยุทธ์ลูกขนไก่จาก "มณฑลตานไม่" ?
    [丹麦 คือเสียงภาษาจีนของชื่อ "ประเทศเดนมาร์ก"] 😆
    .
    เมื่อได้ฟังอัน ไซ่หลง (安賽龍) หรือ วิกเตอร์ อเซลเซน (Viktor Axelsen) แชมป์แบดมินตันชายเดี่ยวเหรียญทองโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส พูดภาษาจีนกลางแบบลื่นปรื๊ด ๆ >> https://www.facebook.com/watch/?v=498307282745228
    .
    หลายคนคงสงสัยว่าเขาไปเรียนภาษาจีนมาจากไหน?
    .
    อัน ไซ่หลง ผู้พกความสูงถึง 194 เซนติเมตร นอกจากจะพูดภาษาเดนมาร์กได้แล้ว ยังสามารถพูดภาษาอังกฤษ และจีนได้อย่างคล่องแคล่วด้วย โดยสาเหตุที่ยอดฝีมือลูกขนไก่จากมณฑลตานไม่หันมาเรียนภาษาจีนนั้นเริ่มมาจากเมื่อ 10 ปีก่อน ในปี 2557 (ค.ศ.2014) เจ้าตัวเชื่อว่าการเรียนภาษาจีนจะช่วยเอื้อให้ตัวเขาเป็นนักแบดมินตันที่เก่งขึ้น ทำให้เขาเริ่มเรียนภาษาจีนอย่างจริงจัง
    .
    "ผมไม่รู้หรอกว่าการพูดภาษาจีนกลางจะช่วยพัฒนาผลงานของผมในสนามแบดได้ไหม แต่ผลได้ที่มากที่สุดก็คือ ผมสามารถสื่อสารกับนักแบดได้หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะกับนักแบดชาวจีน เพื่อที่จะได้เรียนรู้ว่าพวกเขาฝึกซ้อมกันอย่างไร ... นั่นจะทำให้คุณเรียนรู้ว่าสิ่งที่คุณทำอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่ คือการเรียนรู้จากนักแบดมินตันชาวจีน"
    .
    วิกเตอร์ทุ่มเทให้กับการเรียนภาษาจีนอย่างมาก โดยมักจะใช้เวลาว่างในการฝึกฝนการพูดภาษาอังกฤษ โดยทุกสัปดาห์เขาจะนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ และฝึกพูดประโยคภาษาจีนยาก ๆ (ชมคลิปในคอมเมนต์)
    .
    ทั้งนี้นอกจากจะได้ภาษา ได้เรียนรู้เคล็ดลับจากยอดฝีมือลูกขนไก่ชาวจีนแล้ว "วิกเตอร์" นักแบดจากมณฑลตานไม่ยังมีโอกาสเปิดรับสปอนเซอร์จากแผ่นดินใหญ่ได้อีกด้วย เพราะนับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมาหลังจากโอลิมปิกที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ที่เขาคว้าเหรียญทองแดงมาได้ และให้สัมภาษณ์กับช่อง CCTV ของจีนเป็นภาษาจีน เขาก็กลายเป็นขวัญใจของแฟนแบดชาวจีนไปโดยปริยาย
    .
    Cr:บูรพาไม่แพ้
    Viktor Axelsen ยอดยุทธ์ลูกขนไก่จาก "มณฑลตานไม่" ? [丹麦 คือเสียงภาษาจีนของชื่อ "ประเทศเดนมาร์ก"] 😆 . เมื่อได้ฟังอัน ไซ่หลง (安賽龍) หรือ วิกเตอร์ อเซลเซน (Viktor Axelsen) แชมป์แบดมินตันชายเดี่ยวเหรียญทองโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส พูดภาษาจีนกลางแบบลื่นปรื๊ด ๆ >> https://www.facebook.com/watch/?v=498307282745228 . หลายคนคงสงสัยว่าเขาไปเรียนภาษาจีนมาจากไหน? . อัน ไซ่หลง ผู้พกความสูงถึง 194 เซนติเมตร นอกจากจะพูดภาษาเดนมาร์กได้แล้ว ยังสามารถพูดภาษาอังกฤษ และจีนได้อย่างคล่องแคล่วด้วย โดยสาเหตุที่ยอดฝีมือลูกขนไก่จากมณฑลตานไม่หันมาเรียนภาษาจีนนั้นเริ่มมาจากเมื่อ 10 ปีก่อน ในปี 2557 (ค.ศ.2014) เจ้าตัวเชื่อว่าการเรียนภาษาจีนจะช่วยเอื้อให้ตัวเขาเป็นนักแบดมินตันที่เก่งขึ้น ทำให้เขาเริ่มเรียนภาษาจีนอย่างจริงจัง . "ผมไม่รู้หรอกว่าการพูดภาษาจีนกลางจะช่วยพัฒนาผลงานของผมในสนามแบดได้ไหม แต่ผลได้ที่มากที่สุดก็คือ ผมสามารถสื่อสารกับนักแบดได้หลากหลายขึ้น โดยเฉพาะกับนักแบดชาวจีน เพื่อที่จะได้เรียนรู้ว่าพวกเขาฝึกซ้อมกันอย่างไร ... นั่นจะทำให้คุณเรียนรู้ว่าสิ่งที่คุณทำอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่ คือการเรียนรู้จากนักแบดมินตันชาวจีน" . วิกเตอร์ทุ่มเทให้กับการเรียนภาษาจีนอย่างมาก โดยมักจะใช้เวลาว่างในการฝึกฝนการพูดภาษาอังกฤษ โดยทุกสัปดาห์เขาจะนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ และฝึกพูดประโยคภาษาจีนยาก ๆ (ชมคลิปในคอมเมนต์) . ทั้งนี้นอกจากจะได้ภาษา ได้เรียนรู้เคล็ดลับจากยอดฝีมือลูกขนไก่ชาวจีนแล้ว "วิกเตอร์" นักแบดจากมณฑลตานไม่ยังมีโอกาสเปิดรับสปอนเซอร์จากแผ่นดินใหญ่ได้อีกด้วย เพราะนับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมาหลังจากโอลิมปิกที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร ที่เขาคว้าเหรียญทองแดงมาได้ และให้สัมภาษณ์กับช่อง CCTV ของจีนเป็นภาษาจีน เขาก็กลายเป็นขวัญใจของแฟนแบดชาวจีนไปโดยปริยาย . Cr:บูรพาไม่แพ้
    Like
    6
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 665 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิวพลาดเหรียญทอง แต่ชนะใจคนไทย

    การแข่งขันแบดมินตัน ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 8 ของโลก พบกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น มืออันดับ 2 ของโลก จากเดนมาร์ก แม้จะไม่สามารถเอาชนะความแข็งแกร่งของหนุ่มโคนมวัย 30 ปี จบการแข่งขันทำได้แค่เหรียญเงิน ตามที่หลายฝ่ายวิเคราะห์ออกมาเมื่อดูจากสถิติการแข่งขันที่ผ่านมา

    แต่สำหรับนักแบดมินตันหนุ่มวัยเพียง 23 ปี มาไกลขนาดนี้ ถือว่าชนะใจคนไทยทั้งประเทศ

    ช่วงค่ำวันที่ 5 ส.ค. ตามเวลาในไทย คนไทยทั้งประเทศต่างส่งแรงใจเชียร์ วิว กุลวุฒิ ทั่วทุกมุมเมือง แม้จะไม่ถึงขั้นถนนในกรุงเทพฯ โล่ง ตามคำบอกเล่าของคนรุ่นก่อนที่เคยดู เขาทราย แกแล็คซี่ ขึ้นชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกในปี 2534 บนหน้าจอโทรทัศน์ ในยุคที่ความบันเทิงที่เข้าถึงทุกครัวเรือนมีเพียงวิทยุ และโทรทัศน์แอนะล็อกที่มีเพียงไม่กี่ช่องเท่านั้น

    วันที่วิว กุลวุฒิ ชิงเหรียญทอง ศูนย์การค้าหลายแห่ง ต่างถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอโฆษณา ราวกับทีวีจอยักษ์ ให้คนไทยได้ร่วมลุ้นไปพร้อมกัน ขณะที่แพลตฟอร์ม OTT ก็มีผู้คนเข้าถึงจำนวนมาก ทำเอาแอปพลิเคชันชมการถ่ายทอดสดอย่าง AIS Play ล่มอีกครั้งในช่วงเวลาสำคัญ จากที่เคยล่มเมื่อคราวถ่ายทอดสด THE MATCH Bangkok Century Cup 2022 เมื่อปี 2565

    แต่ที่คนไทยยิ้มได้ก็คือ แม้ วิว กุลวุฒิ จะไม่ได้เหรียญทองกลับมา แต่ทุกคนมีความสุขมากกว่าเสียดาย เพราะสิ่งที่วิว กุลวุฒิ ได้แข่งขันนั้นมาไกลเกินกว่าที่คาดหวัง แม้จะอยู่ในยุคที่การบริโภคสื่อมีหลากหลาย ไม่ได้ใจจดใจจ่ออยู่ที่หน้าปัดวิทยุหรือจอตู้เหมือนแต่ก่อน แต่เมื่อถึงคราวชิงเหรียญทองโอลิมปิก เดิมพันศักดิ์ศรีของประเทศ กลายเป็นที่สนใจของคนไทยทั้งประเทศทันที

    วิว กุลวุฒิ ยอมรับว่าทั้งรูปแบบเกม สมาธิ และชั้นเชิงต่างๆ เป็นรองทุกอย่าง ยอมรับว่า วิคเตอร์ ยังคงเป็นสุดยอดนักแบดมินตันอยู่ดี ตนรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าปกติ และวิคเตอร์วางรูปแบบเกมได้อย่างดี อีกทั้งตนมีจังหวะที่เร่งตัวเอง ทำให้ผิดพลาดมากขึ้น และทำให้แต้มไหล แต่โดยรวมสำหรับโอลิมปิกครั้งแรกค่อนข้างโอเค

    "แต่ถ้าเป็นไปได้ อีก 4 ปีข้างหน้าก็อยากจะคว้าเหรียญทอง" วิว กุลวุฒิ กล่าว

    วิว กุลวุฒิ กล่าวว่า มารอบนี้ จริงๆ ก็ไม่ได้หวังเหรียญอยู่แล้ว เพราะถ้าดูจากการแบ่งสาย หลายคนมองว่าจะแพ้ตั้งแต่เจอ ฉี ยู่ฉี นักแบดมินตันทีมชาติจีน มืออันดับ 1 ของโลก ในรอบ 8 คนสุดท้าย เพราะอีกฝ่ายแข็งแกร่งและเป็นมือหนึ่งของโลก พอตนสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศก็มีความสุขมาก ถึงไม่ได้เหรียญทอง แต่ก็รู้สึกมีความสุข"

    "ขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่ส่งกำลังใจเชียร์ผม รวมถึงทัพนักกีฬาไทยแบดมินตัน วันนี้ผมก็ทำดีที่สุดแล้ว ถ้าเป็นไปได้ อีก 4 ข้างหน้าเราเจอกัน"

    นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกระแสการเล่นแบดมินตัน หวังว่าจะมีมากขึ้น แบดมินตันก็มีเยาวชนเริ่มเล่นเยอะขึ้น หลังจากนี้ถ้ามีเพิ่มขึ้นอีกก็เป็นเรื่องที่ดี เพื่อให้วงการแบดมินตันมีช้างเผือกขึ้นมาใหม่ คอยต่อยอดจากรุ่นพี่ที่อายุมากขึ้น พร้อมฝากว่าอยากให้มีเป้าหมาย วางเป้าหมายของตัวเองก่อนว่าอยากไปจุดไหน ต้องเหนื่อย ต้องอดทน มุ่งมั่นตั้งใจ ถ้าทำได้ก็จะประสบความสำเร็จ

    วิว กุลวุฒิ คว้าเหรียญโอลิมปิกเหรียญแรก ของกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย เป็นสมาคมกีฬาที่ 4 ต่อจากมวยสากลสมัครเล่น ยกน้ำหนัก และเทควันโด นับตั้งแต่ทีมชาติไทยส่งนักกีฬาแบดมินตัน ไปแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ตั้งแต่ปี 2535 หรือเมื่อ 32 ปีก่อน โดยมีนักกีฬารับใช้ชาติไปแล้ว 35 คน แม้จะไม่สามารถคว้าเหรียญมาได้ แต่ความหวังก็ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

    เหนือสิ่งอื่นใด วิว กุลวุฒิ ก็ได้สร้างความสุขให้กับคนไทย และแฟนกีฬาแบดมินตัน รวมทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ตั้งแต่โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ที่มีแม่ปุก กมลา ทองกร ผู้ก่อตั้งและประธานโรงเรียน เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง รวมทั้งโค้ชเป้ ภัทพล เงินศรีสุข และนักแบดมินตันรุ่นพี่อย่าง เมย์ รัชนก อินทนนท์ ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้วิวมีวันนี้

    ขณะที่เฟซบุ๊ก "Kunlavut Vitidsarn - กุลวุฒิ วิทิตศานต์" แอดมินยังคงกล่าววรรคทองเรียกเสียงเชียร์จากคอกีฬาชาวไทย ว่า "คนตีไม่เคยท้อ คนเชียร์อย่าเพิ่งทิ้ง ประวัติศาสตร์เพิ่งเริ่มเขียนครับ"

    #Newskit #ViewKunlavut #Olympic2024
    วิวพลาดเหรียญทอง แต่ชนะใจคนไทย การแข่งขันแบดมินตัน ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 8 ของโลก พบกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น มืออันดับ 2 ของโลก จากเดนมาร์ก แม้จะไม่สามารถเอาชนะความแข็งแกร่งของหนุ่มโคนมวัย 30 ปี จบการแข่งขันทำได้แค่เหรียญเงิน ตามที่หลายฝ่ายวิเคราะห์ออกมาเมื่อดูจากสถิติการแข่งขันที่ผ่านมา แต่สำหรับนักแบดมินตันหนุ่มวัยเพียง 23 ปี มาไกลขนาดนี้ ถือว่าชนะใจคนไทยทั้งประเทศ ช่วงค่ำวันที่ 5 ส.ค. ตามเวลาในไทย คนไทยทั้งประเทศต่างส่งแรงใจเชียร์ วิว กุลวุฒิ ทั่วทุกมุมเมือง แม้จะไม่ถึงขั้นถนนในกรุงเทพฯ โล่ง ตามคำบอกเล่าของคนรุ่นก่อนที่เคยดู เขาทราย แกแล็คซี่ ขึ้นชกป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกในปี 2534 บนหน้าจอโทรทัศน์ ในยุคที่ความบันเทิงที่เข้าถึงทุกครัวเรือนมีเพียงวิทยุ และโทรทัศน์แอนะล็อกที่มีเพียงไม่กี่ช่องเท่านั้น วันที่วิว กุลวุฒิ ชิงเหรียญทอง ศูนย์การค้าหลายแห่ง ต่างถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอโฆษณา ราวกับทีวีจอยักษ์ ให้คนไทยได้ร่วมลุ้นไปพร้อมกัน ขณะที่แพลตฟอร์ม OTT ก็มีผู้คนเข้าถึงจำนวนมาก ทำเอาแอปพลิเคชันชมการถ่ายทอดสดอย่าง AIS Play ล่มอีกครั้งในช่วงเวลาสำคัญ จากที่เคยล่มเมื่อคราวถ่ายทอดสด THE MATCH Bangkok Century Cup 2022 เมื่อปี 2565 แต่ที่คนไทยยิ้มได้ก็คือ แม้ วิว กุลวุฒิ จะไม่ได้เหรียญทองกลับมา แต่ทุกคนมีความสุขมากกว่าเสียดาย เพราะสิ่งที่วิว กุลวุฒิ ได้แข่งขันนั้นมาไกลเกินกว่าที่คาดหวัง แม้จะอยู่ในยุคที่การบริโภคสื่อมีหลากหลาย ไม่ได้ใจจดใจจ่ออยู่ที่หน้าปัดวิทยุหรือจอตู้เหมือนแต่ก่อน แต่เมื่อถึงคราวชิงเหรียญทองโอลิมปิก เดิมพันศักดิ์ศรีของประเทศ กลายเป็นที่สนใจของคนไทยทั้งประเทศทันที วิว กุลวุฒิ ยอมรับว่าทั้งรูปแบบเกม สมาธิ และชั้นเชิงต่างๆ เป็นรองทุกอย่าง ยอมรับว่า วิคเตอร์ ยังคงเป็นสุดยอดนักแบดมินตันอยู่ดี ตนรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าปกติ และวิคเตอร์วางรูปแบบเกมได้อย่างดี อีกทั้งตนมีจังหวะที่เร่งตัวเอง ทำให้ผิดพลาดมากขึ้น และทำให้แต้มไหล แต่โดยรวมสำหรับโอลิมปิกครั้งแรกค่อนข้างโอเค "แต่ถ้าเป็นไปได้ อีก 4 ปีข้างหน้าก็อยากจะคว้าเหรียญทอง" วิว กุลวุฒิ กล่าว วิว กุลวุฒิ กล่าวว่า มารอบนี้ จริงๆ ก็ไม่ได้หวังเหรียญอยู่แล้ว เพราะถ้าดูจากการแบ่งสาย หลายคนมองว่าจะแพ้ตั้งแต่เจอ ฉี ยู่ฉี นักแบดมินตันทีมชาติจีน มืออันดับ 1 ของโลก ในรอบ 8 คนสุดท้าย เพราะอีกฝ่ายแข็งแกร่งและเป็นมือหนึ่งของโลก พอตนสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศก็มีความสุขมาก ถึงไม่ได้เหรียญทอง แต่ก็รู้สึกมีความสุข" "ขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่ส่งกำลังใจเชียร์ผม รวมถึงทัพนักกีฬาไทยแบดมินตัน วันนี้ผมก็ทำดีที่สุดแล้ว ถ้าเป็นไปได้ อีก 4 ข้างหน้าเราเจอกัน" นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงกระแสการเล่นแบดมินตัน หวังว่าจะมีมากขึ้น แบดมินตันก็มีเยาวชนเริ่มเล่นเยอะขึ้น หลังจากนี้ถ้ามีเพิ่มขึ้นอีกก็เป็นเรื่องที่ดี เพื่อให้วงการแบดมินตันมีช้างเผือกขึ้นมาใหม่ คอยต่อยอดจากรุ่นพี่ที่อายุมากขึ้น พร้อมฝากว่าอยากให้มีเป้าหมาย วางเป้าหมายของตัวเองก่อนว่าอยากไปจุดไหน ต้องเหนื่อย ต้องอดทน มุ่งมั่นตั้งใจ ถ้าทำได้ก็จะประสบความสำเร็จ วิว กุลวุฒิ คว้าเหรียญโอลิมปิกเหรียญแรก ของกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย เป็นสมาคมกีฬาที่ 4 ต่อจากมวยสากลสมัครเล่น ยกน้ำหนัก และเทควันโด นับตั้งแต่ทีมชาติไทยส่งนักกีฬาแบดมินตัน ไปแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ตั้งแต่ปี 2535 หรือเมื่อ 32 ปีก่อน โดยมีนักกีฬารับใช้ชาติไปแล้ว 35 คน แม้จะไม่สามารถคว้าเหรียญมาได้ แต่ความหวังก็ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น เหนือสิ่งอื่นใด วิว กุลวุฒิ ก็ได้สร้างความสุขให้กับคนไทย และแฟนกีฬาแบดมินตัน รวมทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ตั้งแต่โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ที่มีแม่ปุก กมลา ทองกร ผู้ก่อตั้งและประธานโรงเรียน เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง รวมทั้งโค้ชเป้ ภัทพล เงินศรีสุข และนักแบดมินตันรุ่นพี่อย่าง เมย์ รัชนก อินทนนท์ ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้วิวมีวันนี้ ขณะที่เฟซบุ๊ก "Kunlavut Vitidsarn - กุลวุฒิ วิทิตศานต์" แอดมินยังคงกล่าววรรคทองเรียกเสียงเชียร์จากคอกีฬาชาวไทย ว่า "คนตีไม่เคยท้อ คนเชียร์อย่าเพิ่งทิ้ง ประวัติศาสตร์เพิ่งเริ่มเขียนครับ" #Newskit #ViewKunlavut #Olympic2024
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1593 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘Never Stop Believin'
    I'll come back stronger
    💪😀✨🇹🇭 🥈
    คนตีไม่เคยท้อ
    คนเชียร์อย่าพึ่งทิ้ง
    ประวัติศาสตร์พึ่งเริ่มเขียนครับ”
    💪😀✨🇹🇭 🥈’
    กุลวุฒิ วิทิตศานต์ “วิว” กุลวุฒิ โพสต์หลังจากสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกที่คว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ PARIS2024 กับวิคเตอร์ อักเซลเซ่น มือวางอันดับ 2 ของโลกจากเดนมาร์ก 0-2 เกม ด้วยคะแนน เกมแรก 11-21, เกมที่สอง 11-21 ในรอบชิงชนะเลิศ แบดมินตัน ชายเดี่ยว กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปอร์ เดอ ลา ชาแปลล์ อารีนา กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 หลังจากก่อนหน้านี้ทัพแบดมินตันไทยยังไม่เคยคว้าเหรียญรางวัลมาได้เลยในช่วงเวลา 32 ปี

    ในส่วนของเงินรางวัลอัดฉีดที่ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ จะได้รับจากการคว้าเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2024 ครั้งนี้ ในเบื้องต้นจะได้รับเงินรางวัลหลักเกณฑ์กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จำนวนเงิน 7.2 ล้านบาท โดยได้รับ 50 เปอร์เซ็นต์ก่อน ส่วนที่เหลือแบ่งจ่ายรายเดือนเป็นเวลา 4 ปี หรือจะเลือกรับจ่ายครั้งเดียวเป็นจำนวนเงิน 6 ล้านบาท

    #Thaitimes
    ‘Never Stop Believin' I'll come back stronger 💪😀✨🇹🇭 🥈 คนตีไม่เคยท้อ คนเชียร์อย่าพึ่งทิ้ง ประวัติศาสตร์พึ่งเริ่มเขียนครับ” 💪😀✨🇹🇭 🥈’ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ “วิว” กุลวุฒิ โพสต์หลังจากสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกที่คว้าเหรียญเงินจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ PARIS2024 กับวิคเตอร์ อักเซลเซ่น มือวางอันดับ 2 ของโลกจากเดนมาร์ก 0-2 เกม ด้วยคะแนน เกมแรก 11-21, เกมที่สอง 11-21 ในรอบชิงชนะเลิศ แบดมินตัน ชายเดี่ยว กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ปอร์ เดอ ลา ชาแปลล์ อารีนา กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 หลังจากก่อนหน้านี้ทัพแบดมินตันไทยยังไม่เคยคว้าเหรียญรางวัลมาได้เลยในช่วงเวลา 32 ปี ในส่วนของเงินรางวัลอัดฉีดที่ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ จะได้รับจากการคว้าเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2024 ครั้งนี้ ในเบื้องต้นจะได้รับเงินรางวัลหลักเกณฑ์กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จำนวนเงิน 7.2 ล้านบาท โดยได้รับ 50 เปอร์เซ็นต์ก่อน ส่วนที่เหลือแบ่งจ่ายรายเดือนเป็นเวลา 4 ปี หรือจะเลือกรับจ่ายครั้งเดียวเป็นจำนวนเงิน 6 ล้านบาท #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 784 มุมมอง 0 รีวิว
  • แมตซ์หยุดโลก กุลวุฒิชิงเหรียญทอง

    ใครจะเชื่อว่าโอลิมปิก ปารีส 2024 ครั้งนี้ คนไทยจะได้มีโอกาสลุ้นเหรียญทองจากทัพนักกีฬาไทย เมื่อ วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันทีมชาติไทย มืออันดับ 8 ของโลก วัยเพียง 23 ปี สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับ วิคเตอร์ แอ็กเซลเซ่น จากเดนมาร์ก หลังเอาชนะ ลี ซี เจีย จากมาเลเซียไปได้ 2-0 เซต (21-14 และ 21-15)

    วิว กุลวุฒิ เปิดเผยหลังจบการแข่งขัน ว่า เล่นไปทีละลูก ทีละแต้ม ไม่ได้คิดถึงอนาคตมาก และไม่พยายามนึกถึงผลมากเกินไป ทำให้ขาดสติ โดยรวมทำได้ค่อนข้างโอเค แต่ก็มีบางช่วงที่นึกถึงผลลัพธ์มากเกินไป ทำให้แต้มหลุด การที่นึกถึงอนาคตมากทำให้มีความกดดันและความหวังมาก บางทีช็อตเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจมีผิดพลาดเล็กน้อย

    "มาโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรก การคว้าเหรียญเป็นเรื่องยาก แต่มาถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะคว้าเหรียญทองให้กับประเทศ ยอมรับว่าคู่แข่งมากฝีมือ แต่ก็ทำให้ดีที่สุด"

    สำหรับ วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2544 เริ่มเล่นแบดมินตันเมื่ออายุ 7 ขวบ โดยมีบิดาคือ ณัฐวัชร วิทิตศานต์ เป็นโค้ชสอนแบดมินตัน มีน้องสาว 1 คน คือ ส้ม สรัลรักษ์ วิทิตศานต์ ปัจจุบันเป็นนักกีฬาแบดมินตันเช่นกัน ส่วนมารดา นัฏกนก วิทิตศานต์ ทำงานเป็นพนักงานบริษัท

    ครั้งหนึ่ง วิว กุลวุฒิ ไปดูคุณพ่อสอนแบดมินตัน คุณพ่อเลยลองโยนลูกแบดให้ตี แล้วน้องวิวชอบ ทั้งคุณพ่อและคุณแม่เลยให้มาเรียนแบดมินตันอย่างจริงจัง ที่ชมรมแบดมินตันเสนานิคม และต่อมาย้ายตามโค้ชมาอยู่ชมรมแบดมินตันอมาตยกุล ลงแข่งขันยุวชนและเยาวชนในประเทศ เช่นเดียวกับน้องสาว ส้ม สรัลรักษ์ ตัดสินใจเรียนแบดมินตันครั้งแรกตอน 5 ขวบ ตามรอยพี่ชาย

    เมื่ออายุ 13 ปี วิว กุลวุฒิ ย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ในปี 2557 ที่เดียวกับ เมย์ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงทีมชาติไทย มืออันดับ 21 ของโลก เคยชนะเลิศแข่งขันแบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี และเคยทำลายสถิติของนักแบดมินตันระดับตำนานของจีน “เฉิน จิ้น” คว้าแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน ในปี 2560-2562

    ก้าวเข้าสู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในปี 2564 คว้ารางวัลรองชนะเลิศในการแข่งขันแบดมินตัน รายการโยเน็กซ์ สวิส โอเพ่น 2021 รายการเอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ 2021 รายการโททาล บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2022

    ก่อนที่จะชนะ โคได นาราโอกะ จากญี่ปุ่น มืออันดับ 4 ของโลก ในรายการโททาล บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 ที่ประเทศเดนมาร์ก เมื่อปี 2566 เป็นสมัยแรก เป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวคนแรกของไทย และคนที่ 4 ต่อจาก เมย์ รัชนก อินทนนท์ ในปี 2556 บาส เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และปอป้อ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ในปี 2564 ที่คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ

    ความนิยมทั้งเมย์ รัชนก บาส-ปอป้อ และ วิว กุลวุฒิ กลายเป็นไอดอลให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ หันมาสนใจกีฬาแบดมินตันมากขึ้น โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด เวลานี้กลายเป็นโรงเรียนสร้างนักแบดมินตันไทยสู่เวทีโลก และเมื่อวิว กุลวุฒิ ก้าวเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ย่อมอยู่ในสายตาของคนไทยทั้งประเทศ

    สำหรับวิว กุลวุฒิ จะแข่งรอบชิงชนะเลิศ พบกับ วิคเตอร์ แอ็กเซลเซ่น จากเดนมาร์ก ช่วงค่ำวันจันทร์ที่ 5 ส.ค. 2567 ตามเวลาในประเทศไทย หากคว้าเหรียญทองมาได้ ถึงเวลาที่คนไทยทั้งประเทศจะได้ยินเสียงเพลงชาติไทย ดังกระหึ่มในกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ครั้งนี้

    #Newskit #ViewKunlavut #Olympic2024
    แมตซ์หยุดโลก กุลวุฒิชิงเหรียญทอง ใครจะเชื่อว่าโอลิมปิก ปารีส 2024 ครั้งนี้ คนไทยจะได้มีโอกาสลุ้นเหรียญทองจากทัพนักกีฬาไทย เมื่อ วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันทีมชาติไทย มืออันดับ 8 ของโลก วัยเพียง 23 ปี สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับ วิคเตอร์ แอ็กเซลเซ่น จากเดนมาร์ก หลังเอาชนะ ลี ซี เจีย จากมาเลเซียไปได้ 2-0 เซต (21-14 และ 21-15) วิว กุลวุฒิ เปิดเผยหลังจบการแข่งขัน ว่า เล่นไปทีละลูก ทีละแต้ม ไม่ได้คิดถึงอนาคตมาก และไม่พยายามนึกถึงผลมากเกินไป ทำให้ขาดสติ โดยรวมทำได้ค่อนข้างโอเค แต่ก็มีบางช่วงที่นึกถึงผลลัพธ์มากเกินไป ทำให้แต้มหลุด การที่นึกถึงอนาคตมากทำให้มีความกดดันและความหวังมาก บางทีช็อตเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจมีผิดพลาดเล็กน้อย "มาโอลิมปิกเกมส์ครั้งแรก การคว้าเหรียญเป็นเรื่องยาก แต่มาถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะคว้าเหรียญทองให้กับประเทศ ยอมรับว่าคู่แข่งมากฝีมือ แต่ก็ทำให้ดีที่สุด" สำหรับ วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ เกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2544 เริ่มเล่นแบดมินตันเมื่ออายุ 7 ขวบ โดยมีบิดาคือ ณัฐวัชร วิทิตศานต์ เป็นโค้ชสอนแบดมินตัน มีน้องสาว 1 คน คือ ส้ม สรัลรักษ์ วิทิตศานต์ ปัจจุบันเป็นนักกีฬาแบดมินตันเช่นกัน ส่วนมารดา นัฏกนก วิทิตศานต์ ทำงานเป็นพนักงานบริษัท ครั้งหนึ่ง วิว กุลวุฒิ ไปดูคุณพ่อสอนแบดมินตัน คุณพ่อเลยลองโยนลูกแบดให้ตี แล้วน้องวิวชอบ ทั้งคุณพ่อและคุณแม่เลยให้มาเรียนแบดมินตันอย่างจริงจัง ที่ชมรมแบดมินตันเสนานิคม และต่อมาย้ายตามโค้ชมาอยู่ชมรมแบดมินตันอมาตยกุล ลงแข่งขันยุวชนและเยาวชนในประเทศ เช่นเดียวกับน้องสาว ส้ม สรัลรักษ์ ตัดสินใจเรียนแบดมินตันครั้งแรกตอน 5 ขวบ ตามรอยพี่ชาย เมื่ออายุ 13 ปี วิว กุลวุฒิ ย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด ในปี 2557 ที่เดียวกับ เมย์ รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงทีมชาติไทย มืออันดับ 21 ของโลก เคยชนะเลิศแข่งขันแบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย รุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี และเคยทำลายสถิติของนักแบดมินตันระดับตำนานของจีน “เฉิน จิ้น” คว้าแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน ในปี 2560-2562 ก้าวเข้าสู่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในปี 2564 คว้ารางวัลรองชนะเลิศในการแข่งขันแบดมินตัน รายการโยเน็กซ์ สวิส โอเพ่น 2021 รายการเอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์ 2021 รายการโททาล บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2022 ก่อนที่จะชนะ โคได นาราโอกะ จากญี่ปุ่น มืออันดับ 4 ของโลก ในรายการโททาล บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2023 ที่ประเทศเดนมาร์ก เมื่อปี 2566 เป็นสมัยแรก เป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวคนแรกของไทย และคนที่ 4 ต่อจาก เมย์ รัชนก อินทนนท์ ในปี 2556 บาส เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และปอป้อ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ในปี 2564 ที่คว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ ความนิยมทั้งเมย์ รัชนก บาส-ปอป้อ และ วิว กุลวุฒิ กลายเป็นไอดอลให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ หันมาสนใจกีฬาแบดมินตันมากขึ้น โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด เวลานี้กลายเป็นโรงเรียนสร้างนักแบดมินตันไทยสู่เวทีโลก และเมื่อวิว กุลวุฒิ ก้าวเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ย่อมอยู่ในสายตาของคนไทยทั้งประเทศ สำหรับวิว กุลวุฒิ จะแข่งรอบชิงชนะเลิศ พบกับ วิคเตอร์ แอ็กเซลเซ่น จากเดนมาร์ก ช่วงค่ำวันจันทร์ที่ 5 ส.ค. 2567 ตามเวลาในประเทศไทย หากคว้าเหรียญทองมาได้ ถึงเวลาที่คนไทยทั้งประเทศจะได้ยินเสียงเพลงชาติไทย ดังกระหึ่มในกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ครั้งนี้ #Newskit #ViewKunlavut #Olympic2024
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1508 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลูกชายแห่งชาติ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือวางอันดับ 8 ชนะ ฉี ยู่ฉี มืออันดับ 1 ของโลกจากจีน ในศึกแบตมินตันประเภทชายเดี่ยว รอบ 8 คนสุดท้าย มหกรรมโอลิมปิก ปารีส 2024

    3 สิงหาคม 2567-เกมแรก วิว กุลวุฒิ พยายามเล่นเกมรับอย่างเหนียวแน่นและหาจังหวะเข้าทำอย่างเด็ดขาดนำก่อน 8-6 แล้วเกมนั้นเป็นของ วิว กุลวุฒิที่ เน้นแจกลูกอย่างต่อเนื่องออกนำ 16-10 แล้ววิว กุลวุฒิ เล่นเกมรุกได้อย่างยอดเยี่ยมมาปิดเกมแรกไปได้ที่ 21-12

    เกมสอง วิว กุลวุฒิ ก็ยังลงมาเล่นได้อย่างดีเช่นเคยเน้นจู่โจมหน้าเน็ตนำห่าง 7-1 แล้ววิว กุลวุฒิ กดดันใส่ฉี ยู่ฉี ต่อเนื่องจนเปิดเสิร์ฟไม่ได้นำห่างถึง 11-1 จากนั้น วิว กุลวุฒิ มารัวเกมบุกใส่เป็นชุดใหญ่ๆ แล้วมาปิดแมตช์ไปได้สำเร็จที่สกอร์ 21-10 ทำให้เอาชนะไปได้ 2 เกมรวด เข้ารอบ 4 คนสุดท้ายได้ในที่สุด

    ในวันอาทิตย์ที่ 4 ส.ค.67 กุลวุฒิซึ่งผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ จะต้องพบกับ ลี ซีเจี๋ย มืออันดับ 7 ของโลกจากมาเลเซีย ที่เอาชนะ อันเดอร์ส แอนทอนเซ่น มืออันดับ 3 ของโลกจากเดนมาร์กมาได้ 2-0 เกม 21-17,21-15

    โดยกุลวุฒิเป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวในรอบ 20 ปี รอบรองชนะเลิศ หลังจากที่ "ซูเปอร์แมน" บุญศักดิ์ พลสนะ อดีตชายเดี่ยวไทย เคยทำไว้ในโอลิมปิกเกมส์ปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์

    https://www.youtube.com/watch?v=f7z7taforOM

    #Thaitimes
    ลูกชายแห่งชาติ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือวางอันดับ 8 ชนะ ฉี ยู่ฉี มืออันดับ 1 ของโลกจากจีน ในศึกแบตมินตันประเภทชายเดี่ยว รอบ 8 คนสุดท้าย มหกรรมโอลิมปิก ปารีส 2024 3 สิงหาคม 2567-เกมแรก วิว กุลวุฒิ พยายามเล่นเกมรับอย่างเหนียวแน่นและหาจังหวะเข้าทำอย่างเด็ดขาดนำก่อน 8-6 แล้วเกมนั้นเป็นของ วิว กุลวุฒิที่ เน้นแจกลูกอย่างต่อเนื่องออกนำ 16-10 แล้ววิว กุลวุฒิ เล่นเกมรุกได้อย่างยอดเยี่ยมมาปิดเกมแรกไปได้ที่ 21-12 เกมสอง วิว กุลวุฒิ ก็ยังลงมาเล่นได้อย่างดีเช่นเคยเน้นจู่โจมหน้าเน็ตนำห่าง 7-1 แล้ววิว กุลวุฒิ กดดันใส่ฉี ยู่ฉี ต่อเนื่องจนเปิดเสิร์ฟไม่ได้นำห่างถึง 11-1 จากนั้น วิว กุลวุฒิ มารัวเกมบุกใส่เป็นชุดใหญ่ๆ แล้วมาปิดแมตช์ไปได้สำเร็จที่สกอร์ 21-10 ทำให้เอาชนะไปได้ 2 เกมรวด เข้ารอบ 4 คนสุดท้ายได้ในที่สุด ในวันอาทิตย์ที่ 4 ส.ค.67 กุลวุฒิซึ่งผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ จะต้องพบกับ ลี ซีเจี๋ย มืออันดับ 7 ของโลกจากมาเลเซีย ที่เอาชนะ อันเดอร์ส แอนทอนเซ่น มืออันดับ 3 ของโลกจากเดนมาร์กมาได้ 2-0 เกม 21-17,21-15 โดยกุลวุฒิเป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวในรอบ 20 ปี รอบรองชนะเลิศ หลังจากที่ "ซูเปอร์แมน" บุญศักดิ์ พลสนะ อดีตชายเดี่ยวไทย เคยทำไว้ในโอลิมปิกเกมส์ปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ https://www.youtube.com/watch?v=f7z7taforOM #Thaitimes
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 631 มุมมอง 0 รีวิว