• ส่งสุขเทศกาลสงกรานต์​ ปีใหม่ไทย
    SHAW SHERRY DUCK
    #songkran2025 #สุขสันต์วันสงกรานต์#สงกรานต์ไปไหน #สวัสดีปีใหม่ไทย #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #shawsherryduck #sherryduck #เชอร์รี่ดั๊ก #ชอว์พิชิต #เฮียชอว์ #เทรนด์วันนี้ #อวยพร
    ส่งสุขเทศกาลสงกรานต์​ ปีใหม่ไทย SHAW SHERRY DUCK #songkran2025 #สุขสันต์วันสงกรานต์ ​ #สงกรานต์ไปไหน #สวัสดีปีใหม่ไทย #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #shawsherryduck #sherryduck #เชอร์รี่ดั๊ก #ชอว์พิชิต #เฮียชอว์ #เทรนด์วันนี้ #อวยพร
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 127 Views 0 0 Reviews
  • สวัสดีวันสงกรานต์ไทยครับ ขอให้มีความสุข ความเจริญ ความร่มเย็น มั่งคั่งร่ำรวย เงินทองไหลมาเทมา และก้าวหน้าในหน้าที่ การงาน ธุรกิจ ให้เติบโตไปข้างหน้า เฮง เฮง เฮง ปัง ปัง ปัง ส่งท้ายปีเก่าไทย ต้อนรับปีใหม่ไทย ขอให้มวลมิตรร่วมโลกมีความสุข ความสำราญสมบูรณ์พูนสุข ความเจริญก้าวหน้า รุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลในยุคโลกาภิวัฒน์ซึ่งผมควรจะเดินตามรอย ไม่ใช่เดินสวนทางโลกาภิวัฒน์ และขอให้มวลมิตรร่วมโลกใน VK และ Thaitimes มีสุขภาพแข็งแรงและเป็นกำลังสำคัญในการทำสงครามสารสนเทศและสงคราวข่าวกรอง ข้อมูล ข่าวสาร ต่อผู้รับใช้ปีศาจเฉกเช่นยิวไซออนิสต์และนีโอนาซีอาซอฟด้วยเทอญ
    ขออวยพรให้ คปท. ศปปส. กองทัพธรรม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นักรบศรีวิชัย51 พรรคไทยภักดี อาชีวะพ่อกูวิษณุกรรม อาชีวะราชภักดิ์ พรรคไทยไม่ทน ทำการสิ่งใดที่เป็นคุณต่อประเทศชาติและประชาชนขอให้สำเร็จเพื่ออนาคตข้างหน้าของลูกหลานด้วยเทอญ เพราะภารกิจหลักๆคือหยุดยั้งหายนะจากนโยบายอบายมุขเสรี สถานอโคจรบันเทิงปลอมแต่บรรลัยของจริงครบวงจร นโยบายขายชาติและขบวนการต่างด้าวนอกกฎหมายแย่งอาชีพคนไทย คนไทยถึงไม่ทน ต้องลุกขึ้นสู้ คณะหลอมรวมฯก็ออกมากันแล้วครับ และผมอวยพรให้ประสบชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของประชาชนผู้เป็นวิญญูชนทั้งปวงเทอญ
    และขออวยพรให้ปูติน ลูคาเชนโก้ สีจิ้นผิงและโดนัลด์ ทรัมป์ประสบชัยชนะไม่มีวันสยบยอมต่อพวกมารผจญอย่างยิวไซออนิสต์ด้วยเทอญ
    สวัสดีวันสงกรานต์ไทยครับ ขอให้มีความสุข ความเจริญ ความร่มเย็น มั่งคั่งร่ำรวย เงินทองไหลมาเทมา และก้าวหน้าในหน้าที่ การงาน ธุรกิจ ให้เติบโตไปข้างหน้า เฮง เฮง เฮง ปัง ปัง ปัง ส่งท้ายปีเก่าไทย ต้อนรับปีใหม่ไทย ขอให้มวลมิตรร่วมโลกมีความสุข ความสำราญสมบูรณ์พูนสุข ความเจริญก้าวหน้า รุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลในยุคโลกาภิวัฒน์ซึ่งผมควรจะเดินตามรอย ไม่ใช่เดินสวนทางโลกาภิวัฒน์ และขอให้มวลมิตรร่วมโลกใน VK และ Thaitimes มีสุขภาพแข็งแรงและเป็นกำลังสำคัญในการทำสงครามสารสนเทศและสงคราวข่าวกรอง ข้อมูล ข่าวสาร ต่อผู้รับใช้ปีศาจเฉกเช่นยิวไซออนิสต์และนีโอนาซีอาซอฟด้วยเทอญ ขออวยพรให้ คปท. ศปปส. กองทัพธรรม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นักรบศรีวิชัย51 พรรคไทยภักดี อาชีวะพ่อกูวิษณุกรรม อาชีวะราชภักดิ์ พรรคไทยไม่ทน ทำการสิ่งใดที่เป็นคุณต่อประเทศชาติและประชาชนขอให้สำเร็จเพื่ออนาคตข้างหน้าของลูกหลานด้วยเทอญ เพราะภารกิจหลักๆคือหยุดยั้งหายนะจากนโยบายอบายมุขเสรี สถานอโคจรบันเทิงปลอมแต่บรรลัยของจริงครบวงจร นโยบายขายชาติและขบวนการต่างด้าวนอกกฎหมายแย่งอาชีพคนไทย คนไทยถึงไม่ทน ต้องลุกขึ้นสู้ คณะหลอมรวมฯก็ออกมากันแล้วครับ และผมอวยพรให้ประสบชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของประชาชนผู้เป็นวิญญูชนทั้งปวงเทอญ และขออวยพรให้ปูติน ลูคาเชนโก้ สีจิ้นผิงและโดนัลด์ ทรัมป์ประสบชัยชนะไม่มีวันสยบยอมต่อพวกมารผจญอย่างยิวไซออนิสต์ด้วยเทอญ
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • สถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย ส่งคลิปอวยพรปีใหม่ไทย พร้อมเชิญนักศึกษาจากซินเจียงและกว่างซีร่วมกิจกรรมสงกรานต์ สะท้อนมิตรภาพและวัฒนธรรมอันอบอุ่นระหว่างสองประเทศ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035079

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย ส่งคลิปอวยพรปีใหม่ไทย พร้อมเชิญนักศึกษาจากซินเจียงและกว่างซีร่วมกิจกรรมสงกรานต์ สะท้อนมิตรภาพและวัฒนธรรมอันอบอุ่นระหว่างสองประเทศ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035079 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    5
    0 Comments 0 Shares 526 Views 0 Reviews
  • “มาร์โค รูบิโอ” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ส่งสารอวยพรคนไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ ขอให้เป็นปีแห่งโชคชัยและการเริ่มต้นใหม่ ในฐานะเพื่อนและพันธมิตรตั้งตารอจะได้บุกเบิกวิธีใหม่ ๆ ในการร่วมมือกันยกระดับชีวิตและอนาคตของประชาชนทั้งสองประเทศ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035081

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “มาร์โค รูบิโอ” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ส่งสารอวยพรคนไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ ขอให้เป็นปีแห่งโชคชัยและการเริ่มต้นใหม่ ในฐานะเพื่อนและพันธมิตรตั้งตารอจะได้บุกเบิกวิธีใหม่ ๆ ในการร่วมมือกันยกระดับชีวิตและอนาคตของประชาชนทั้งสองประเทศ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035081 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    Haha
    5
    1 Comments 0 Shares 526 Views 0 Reviews
  • วันเกิดปีนี้ เชื่อว่าเกินครึ่งชีวิตแล้ว เห็นคำอวยพรมากมายจาก social net work ซึ่งก็ทำให้ประทับเสมอ ขอให้ทุกคนที่อวยพรก็ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงยิ่ง ๆ ขึ้นไปเช่นกัน แค่ส่งข้อความหากันเล็กน้อย ก็ทำให้รู้ว่ายังจำกันได้ เมื่อถึงจุดหนึ่งการที่อยู่ในความทรงจำของใครสักคน มันก็เพียงพอแล้ว

    ปล.ขอโทษ ที่รีช้า เมื่อคืนไฟดับทั้งคืน แบตหมดเลย 555

    ขอบคุณภาพจาก coco

    This birthday aniversary. I believe it passed half of my life already. I saw many people give me blessing in many platform of social network, it's always make me touch. Thank you for you all blessing, I wish all you guy more and more happy and healthy. This short massage revealed that we still remember each orther. At one point to realized that someone remember you is enough.

    PS1. Sorry for delayed response last night power down. I cannot even charge my phone. HA HA HA.
    PS2 . Sorry about wrong grammar. I will not check with AI. Because I would like you guy remember the way I speak wrong english. HA HA HA

    Thank you picture of mama Coco
    วันเกิดปีนี้ เชื่อว่าเกินครึ่งชีวิตแล้ว เห็นคำอวยพรมากมายจาก social net work ซึ่งก็ทำให้ประทับเสมอ ขอให้ทุกคนที่อวยพรก็ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงยิ่ง ๆ ขึ้นไปเช่นกัน แค่ส่งข้อความหากันเล็กน้อย ก็ทำให้รู้ว่ายังจำกันได้ เมื่อถึงจุดหนึ่งการที่อยู่ในความทรงจำของใครสักคน มันก็เพียงพอแล้ว ปล.ขอโทษ ที่รีช้า เมื่อคืนไฟดับทั้งคืน แบตหมดเลย 555 ขอบคุณภาพจาก coco This birthday aniversary. I believe it passed half of my life already. I saw many people give me blessing in many platform of social network, it's always make me touch. Thank you for you all blessing, I wish all you guy more and more happy and healthy. This short massage revealed that we still remember each orther. At one point to realized that someone remember you is enough. PS1. Sorry for delayed response last night power down. I cannot even charge my phone. HA HA HA. PS2 . Sorry about wrong grammar. I will not check with AI. Because I would like you guy remember the way I speak wrong english. HA HA HA Thank you picture of mama Coco
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • "บิ๊กป้อม" เปิดบ้านป่าฯ ทำบุญสงกรานต์ปีใหม่ไทย บุคคลหลายวงการเข้ารดน้ำอวยพร
    https://www.thai-tai.tv/news/18126/
    "บิ๊กป้อม" เปิดบ้านป่าฯ ทำบุญสงกรานต์ปีใหม่ไทย บุคคลหลายวงการเข้ารดน้ำอวยพร https://www.thai-tai.tv/news/18126/
    0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • เคยบอกจะรักชั่วนิรันด์กาล
    เคยร่วมสาบานว่าจะมีเพียงเรา
    แต่แล้วสุดท้ายเธอก็เลือกเขา
    ทิ้งให้ฉันเศร้าอยู่ในความจริง
    เคยจับมือกันแน่นสักแค่ไหน
    แต่วันนี้ไยเธอลืมทุกสิ่ง
    อกของฉันนี้ที่เคยแอบอิง
    มันไม่อุ่นจริงเท่าคนใหม่เธอ
    เมื่อเธอเลือกเขาฉันก็เข้าใจ
    ไม่มีอะไรที่ฉันจะเสนอ
    คงได้เพียงแต่อวยพรให้เธอ
    ได้พบได้เจอกับรักนิรันด์
    ไม่โทษเธอหรอกที่เธอเปลี่ยนไป
    แค่เพียงเสียดายเวลาเท่านั้น
    ทุกอย่างที่เคยร่วมสร้างร่วมฝัน
    มาจบสิ้นกันเร็วจนเกินไป
    ก็เพียงแค่คนที่เธอเคยรัก
    แม้จะเจ็บหนักก็ต้องรับไว้
    ก็เพียงแค่คนที่เธอทิ้งไป
    จำต้องข่มใจกลืนกินน้ำตา
    เคยบอกจะรักชั่วนิรันด์กาล เคยร่วมสาบานว่าจะมีเพียงเรา แต่แล้วสุดท้ายเธอก็เลือกเขา ทิ้งให้ฉันเศร้าอยู่ในความจริง เคยจับมือกันแน่นสักแค่ไหน แต่วันนี้ไยเธอลืมทุกสิ่ง อกของฉันนี้ที่เคยแอบอิง มันไม่อุ่นจริงเท่าคนใหม่เธอ เมื่อเธอเลือกเขาฉันก็เข้าใจ ไม่มีอะไรที่ฉันจะเสนอ คงได้เพียงแต่อวยพรให้เธอ ได้พบได้เจอกับรักนิรันด์ ไม่โทษเธอหรอกที่เธอเปลี่ยนไป แค่เพียงเสียดายเวลาเท่านั้น ทุกอย่างที่เคยร่วมสร้างร่วมฝัน มาจบสิ้นกันเร็วจนเกินไป ก็เพียงแค่คนที่เธอเคยรัก แม้จะเจ็บหนักก็ต้องรับไว้ ก็เพียงแค่คนที่เธอทิ้งไป จำต้องข่มใจกลืนกินน้ำตา
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • "ทักษิณ" รุดอวยพร "ป๋าเหนาะ" ครบรอบวันเกิด 92ปี สุดชื่นมื่น
    https://www.thai-tai.tv/news/17966/
    "ทักษิณ" รุดอวยพร "ป๋าเหนาะ" ครบรอบวันเกิด 92ปี สุดชื่นมื่น https://www.thai-tai.tv/news/17966/
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • เพิ่งผ่านวันเกิดของแฟนสาว “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” ไปเมื่อวันก่อน ล่าสุดฝั่งพระเอกหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ”ก็เผยถึงโมเมนต์นี้ในงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คอนโดฯ ออริจิ้น–บ้านบริทาเนีย ณ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เจ้าตัวเผยว่าปีนี้เรียบง่ายมากๆ ตอนเช้าไปทำบุญ และตอนเย็นก็ไปทานข้าวต้มกับเพื่อนๆ เท่านั้น

    “วันเกิดน้องตอนเช้าก็ไปทำบุญครับ ตกเย็นก็นัดเพื่อนๆ ไปกินข้าวกัน น้องก็ 32 แล้ว แป๊บเดียวเอง ความพิเศษผมว่าทุกปีก็พิเศษเหมือนกันนะครับ แต่ละปีอาจจะพิเศษกันคนละแบบ เพราะว่าทำงานกัน แล้วก็คงจะเหนื่อยๆ กันด้วย ก็ทำอะไรกันง่ายๆ ตอนเช้าน้องก็อยากไปทำบุญ ถวายสังฆทาน ตกเย็นมาก็ชวนเพื่อนๆ ไปกินร้านข้าวต้ม ก็สนุกดี ชิลๆ มีความสุขกันดี ก็มีแฮปปี้เบิร์ธเดย์ แล้วก็อวยพรเขา ภาพก็มีถ่ายไว้ ก็เอาเก็บไว้ดูเล่น แต่พักหลังๆ มาเราก็ไม่ค่อยได้ไปถ่ายรูปที่ไหนกันหรือว่ามีงานที่เป็นคู่ ก็เลยเอาโมเมนต์ที่เราแอบถ่ายเขาบ้าง เก็บไว้บ้างมาลง เป็นอีกหนึ่งการบอกความรู้สึกในใจว่าเรามีความสุขที่ได้อยู่กับเขา มีความสุขมากๆ เป็นผู้หญิงที่ทำให้เรามีเสียงหัวเราะได้แต่ตอนลงก็ไม่ได้ขอหรอกครับ ลงเลย (หัวเราะ) แต่เราก็ดูแหละว่าอันไหนเหมาะสม ไม่เหมาะสม”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000026455

    #MGROnline #เญาญ่าอุรัสยา #ณเดชน์คูกิมิยะ
    เพิ่งผ่านวันเกิดของแฟนสาว “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” ไปเมื่อวันก่อน ล่าสุดฝั่งพระเอกหนุ่ม “ณเดชน์ คูกิมิยะ”ก็เผยถึงโมเมนต์นี้ในงานแถลงข่าวเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คอนโดฯ ออริจิ้น–บ้านบริทาเนีย ณ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ เจ้าตัวเผยว่าปีนี้เรียบง่ายมากๆ ตอนเช้าไปทำบุญ และตอนเย็นก็ไปทานข้าวต้มกับเพื่อนๆ เท่านั้น • “วันเกิดน้องตอนเช้าก็ไปทำบุญครับ ตกเย็นก็นัดเพื่อนๆ ไปกินข้าวกัน น้องก็ 32 แล้ว แป๊บเดียวเอง ความพิเศษผมว่าทุกปีก็พิเศษเหมือนกันนะครับ แต่ละปีอาจจะพิเศษกันคนละแบบ เพราะว่าทำงานกัน แล้วก็คงจะเหนื่อยๆ กันด้วย ก็ทำอะไรกันง่ายๆ ตอนเช้าน้องก็อยากไปทำบุญ ถวายสังฆทาน ตกเย็นมาก็ชวนเพื่อนๆ ไปกินร้านข้าวต้ม ก็สนุกดี ชิลๆ มีความสุขกันดี ก็มีแฮปปี้เบิร์ธเดย์ แล้วก็อวยพรเขา ภาพก็มีถ่ายไว้ ก็เอาเก็บไว้ดูเล่น แต่พักหลังๆ มาเราก็ไม่ค่อยได้ไปถ่ายรูปที่ไหนกันหรือว่ามีงานที่เป็นคู่ ก็เลยเอาโมเมนต์ที่เราแอบถ่ายเขาบ้าง เก็บไว้บ้างมาลง เป็นอีกหนึ่งการบอกความรู้สึกในใจว่าเรามีความสุขที่ได้อยู่กับเขา มีความสุขมากๆ เป็นผู้หญิงที่ทำให้เรามีเสียงหัวเราะได้แต่ตอนลงก็ไม่ได้ขอหรอกครับ ลงเลย (หัวเราะ) แต่เราก็ดูแหละว่าอันไหนเหมาะสม ไม่เหมาะสม” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000026455 • #MGROnline #เญาญ่าอุรัสยา #ณเดชน์คูกิมิยะ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 329 Views 0 Reviews
  • ไปเป็นสาวกทม. อีกแล้วหนึ่งค่ะ อวยพรให้ลูกสาวของแม่เดินทางปลอดภัย ไปอยู่กับคุณพ่อคุณแม่คนใหม่ที่รักหนูและเอ็นดูหนูนะ ขอให้หนูสุขภาพร่างกายแข็งแรงๆน๊าาา
    #คิดถึงนะคะสุดสวย
    #ขอบคุณลูกค้าทางกรุงเทพนะคะ🙏🏻❤️
    ไปเป็นสาวกทม. อีกแล้วหนึ่งค่ะ อวยพรให้ลูกสาวของแม่เดินทางปลอดภัย ไปอยู่กับคุณพ่อคุณแม่คนใหม่ที่รักหนูและเอ็นดูหนูนะ ขอให้หนูสุขภาพร่างกายแข็งแรงๆน๊าาา #คิดถึงนะคะสุดสวย #ขอบคุณลูกค้าทางกรุงเทพนะคะ🙏🏻❤️
    0 Comments 0 Shares 314 Views 0 Reviews
  • ยูเครนชนะกี่โมง? ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์"
    ฟันธงรัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ
    .
    ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ยอดนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศสายส้ม วิเคราะห์สงครามยูเครนแบบมั่นหน้า ด้วยการฟันธงว่า รัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ ปูตินจะถูกรัฐประหารเงียบ จนชาวเน็ตผู้มาจากอนาคตเข้าไปรุมคอมเมนต์เดือด เตือนความทรงจำ ถามเมื่อไหร่รัสเซียจะแพ้-ยูเครนจะชนะ?
    .
    ในสถานการณ์ทางการเมืองโลกที่ผันผวนภายหลังการยกหูโทรศัพท์พูดคุยกันนานกว่า 90 นาทีระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เมื่อวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 โดยในประเด็นสงครามยูเครนนั้น นายทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะยุติสงครามไร้สาระนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยการสังหารและการทำลายล้างที่ไม่จำเป็นเลย ขอพระเจ้าอวยพรประชาชนชาวรัสเซียและยูเครน!”
    .
    การเริ่มต้นพูดคุยระหว่าง ทรัมป์และปูติน อันนำมาสู่เหตุการณ์เมื่อ วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 สหรัฐฯ และรัสเซียนำโดย นายมาร์ค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งดำเนินการเปิดโต๊ะการเจรจาเกี่ยวกับยูเครนกันเพียง 2 ฝ่าย อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยปราศจากตัวแทนของยูเครน และชาติต่าง ๆ ในยุโรปร่วมโต๊ะเลย แม้แต่คนเดียว
    .
    สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความเดือดดาลให้กับนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนและผู้นำชาติต่างๆ ในยุโรปอย่างมาก เพราะการเปิดโต๊ะเจรจาดังกล่าวเป็นสัญญาณว่า ยูเครนและยุโรปน่าจะต้องตกเป็นเบี้ยล่าง และพ่ายแพ้ถูกทิ้งไว้ท่ามกลางซากปรักหักพัง รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เข้ารุมเร้าทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ การแย่งชิงบีบบังคับเอาทรัพยากรเพื่อชดใช้เงินช่วยเหลือในสงคราม ความวุ่นวายทางการเมืองภายใน รวมไปถึงปัญหาสังคมและผู้อพยพ ฯลฯ
    .
    ในส่วนของผู้ที่ติดตามข่าวสารเรื่องสงครามยูเครนในประเทศไทยส่วนหนึ่ง ได้มีผู้ย้อนไปหยิบยกการวิเคราะห์สถานการณ์สงครามยูเครนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ และอดีตเป็นพิธีกรรายการข่าวทางช่องวอยซ์ทีวี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งโฆษกคณะก้าวหน้า ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 หรือเกือบ 3 ปีที่แล้ว ได้วิเคราะห์เรื่องนี้เอาไว้ในยูทูปช่อง คณะก้าวหน้า - Progressive Movement ความยาวกว่า 25 นาที ในหัวเรื่องว่า "ช่อฟันธง! รัสเซียแพ้ย่อยยับ ปูตินชักศึกเข้าบ้าน!" (ลิงก์ >> https://www.youtube.com/watch?v=ytfIw1BHnEM)
    .
    ทั้งนี้ในรายการดังกล่าว "ช่อ พรรณิการ์" แห่งคณะก้าวหน้าได้กล่าวในตอนต้นว่า "ดิฉันขอฟันธง รัสเซียเธอแพ้แน่นอน นับวันแพ้ ทำไมถึงจะแพ้ เป็นเพราะอะไรเกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะอะไร?"
    .
    จากนั้น อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ได้กล่าววิเคราะห์ต่อว่า สาเหตุที่รัสเซียจะพ่ายแพ้ต่อยูเครนและชาติพันธมิตรยุโรปนั้นมาจาก การบีบบังคับด้วยการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ-การเงินต่อยุโรป
    "มาตรการหลัก ๆ ที่ตอนนี้นำโดยสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ใช้อยู่จริง ๆ คือ มาตรการการเงิน ซึ่งมากไปกว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจการค้านะ แต่เรียกว่าเป็นการทุบค่าเงินและตัดตอนทางการเงินแบบขนานใหญ่ อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา นานาประเทศตัดรัสเซียออกจากระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ S.W.I.F.T., ระบบการเงินของธนาคารต่าง ๆ, มีการฟรีซแอสเสท หรือสินทรัพย์ของรัสเซียที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงประกาศไม่ให้มีการค้าขายกับรัสเซีย ..." น.ส.พรรณิการ์กล่าว และวิเคราะห์ต่อว่า นี่เองเป็นสาเหตุที่ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียตกต่ำลงอย่างมาก จนแทบจะไม่มีค่า แทบจะกลายเป็นเศษกระดาษ
    .
    นอกจากนี้ ช่อ พรรณิการ์ ยังวิเคราะห์ต่ออย่างออกรสด้วยว่า ความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดคือ ท่าทีของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เลือกจะทำตามมาตรการคว่ำบาตรของอียู คือ การอายัดทรัพย์สินของรัสเซียที่อยู่ในแบงก์สวิตเซอร์แลนด์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่ใช่แค่การอายัดเฉพาะทรัพย์สินของรัฐ แต่เป็นทรัพย์สินของเอกชน และมหาเศรษฐีต่าง ๆ ของรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับนายปูตินด้วยจะเป็นปัจจัยชี้ขายให้รัสเซียและนายปูตินพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
    .
    "ดิฉันคิดว่า เมื่อสวิตเซอร์แลนด์ทำขนาดนี้แล้ว ปูตินนับวันแพ้ได้เลยนะคะ" โฆษกคณะก้าวหน้าฟันธง
    .
    ล่วงเลยมาถึงวันนี้ เมื่อทีมงาน Sondhi X กลับไปสำรวจความเห็นของผู้ที่เข้ามาชมคลิปการวิเคราะห์สถานการณ์โลกดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ ทางยูทูปของคณะก้าวหน้าแล้วก็พบว่า มีผู้เข้าไปย้อนดูคลิปดังกล่าวและแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น
    • สวัสดีเรามาจากอนาคต 2025 ตอนนี้ทรัมป์กับปูตินเจรจากันแล้วนะเรื่องยูเครนโดยไม่มีไอ้กี้ หรือใช้คำว่าไม่เห็นหัวไอ้กี้ ก็คงไม่ผิดนัก ส่วนไอ้กี้ก็หัวซุกหัวซุนเกาะยุโรปที่เหลืออย่างแนบแน่น จริงแล้วตอนนี้ ยูเครนต้องเลือกปธน.ใหม่แล้วนะ แต่ไอ้กี้ไม่ยอม และไม่ฟังเสียงปชช.เลย โคจรหวงอำนาจเลย ยังไงรบกวนคุณช่อประท้วงแทนปชช.ชาวยูเครนด้วยนะ หรือส่งให้ว่าที่ เลขา UN ด้วยนะครับ
    • เมื่อไรจะแพ้ รออยู่นะคับ
    • ทายแค่ ซ้ายขวายังผิดยังคิดจะมาบริหารประเทศ อายมั้ยส้ม
    • 20-2-2025 ทายผิดจนขนลุก ยูเครนเละโดนรุมทึ้งแบ่งเค้กผลประโยชน์ของชาติ แถมไม่มีสิทธิแม้แต่เข้าร่วมเจรจาสันติภาพเลือกชะตากรรมของชาติตัวเอง 😂
    • ยูเครนชนะยังครับ รอจนเมื่อยแล้ว
    • สรุปทำไมวิเคราะห์ผิดหมดเลย ไม่มีข้อมูลเพียงพอรอบด้าน หรือไม่มีศักยภาพในการวิเคราะห์ ถ้าได้บริหารประเทศวิเคราะห์ผิดแบบนี้แย่แน่นอน
    • สวัสดีเรามาจากอนาคต สภาพ ผิดทุกเรื่องตรงข้ามทุกอย่าง 5555
    • วิเคราะห์มาถึงขนาดนี้ ปัจจุบันคุณเห็นหรือยังใครเป็นคนทำสงคราม นาโต้ทำสงครามกับรัสเซีย ยูเครนเป็นสนามรบ ผู้สนับสนุนหลักคืออเมริกา
    รัสเซียบุกยูเครน ก็เพราะนาโต้ขยายอาณาเขตเข้ามาในยูเครน รัสเซียแค่ป้องกันตนเองจากกลุ่มนาโต้ มีหัวเรือเป็นสหรัฐอเมริกา ตัวตลกยูเครนคือหุ่นเชิด
    • ธงหักหมดแล้ว จากคนเคยเลือกและลาขาด
    .
    สำหรับคลิปการวิเคราะห์ดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ เรื่องสงครามยูเครน นับถึงเวลา 20.00น. ที่ผ่านมาของวันที่ 20 ก.พ. 68 มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 1.49 ล้านครั้ง
    ยูเครนชนะกี่โมง? ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ฟันธงรัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ . ย้อนฟัง "ช่อ พรรณิการ์" ยอดนักวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศสายส้ม วิเคราะห์สงครามยูเครนแบบมั่นหน้า ด้วยการฟันธงว่า รัสเซียแพ้แน่นอน แพ้ย่อยยับ ปูตินจะถูกรัฐประหารเงียบ จนชาวเน็ตผู้มาจากอนาคตเข้าไปรุมคอมเมนต์เดือด เตือนความทรงจำ ถามเมื่อไหร่รัสเซียจะแพ้-ยูเครนจะชนะ? . ในสถานการณ์ทางการเมืองโลกที่ผันผวนภายหลังการยกหูโทรศัพท์พูดคุยกันนานกว่า 90 นาทีระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เมื่อวันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 โดยในประเด็นสงครามยูเครนนั้น นายทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะยุติสงครามไร้สาระนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยการสังหารและการทำลายล้างที่ไม่จำเป็นเลย ขอพระเจ้าอวยพรประชาชนชาวรัสเซียและยูเครน!” . การเริ่มต้นพูดคุยระหว่าง ทรัมป์และปูติน อันนำมาสู่เหตุการณ์เมื่อ วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 สหรัฐฯ และรัสเซียนำโดย นายมาร์ค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และ นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ซึ่งดำเนินการเปิดโต๊ะการเจรจาเกี่ยวกับยูเครนกันเพียง 2 ฝ่าย อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยปราศจากตัวแทนของยูเครน และชาติต่าง ๆ ในยุโรปร่วมโต๊ะเลย แม้แต่คนเดียว . สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความเดือดดาลให้กับนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนและผู้นำชาติต่างๆ ในยุโรปอย่างมาก เพราะการเปิดโต๊ะเจรจาดังกล่าวเป็นสัญญาณว่า ยูเครนและยุโรปน่าจะต้องตกเป็นเบี้ยล่าง และพ่ายแพ้ถูกทิ้งไว้ท่ามกลางซากปรักหักพัง รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่เข้ารุมเร้าทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ การแย่งชิงบีบบังคับเอาทรัพยากรเพื่อชดใช้เงินช่วยเหลือในสงคราม ความวุ่นวายทางการเมืองภายใน รวมไปถึงปัญหาสังคมและผู้อพยพ ฯลฯ . ในส่วนของผู้ที่ติดตามข่าวสารเรื่องสงครามยูเครนในประเทศไทยส่วนหนึ่ง ได้มีผู้ย้อนไปหยิบยกการวิเคราะห์สถานการณ์สงครามยูเครนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ และอดีตเป็นพิธีกรรายการข่าวทางช่องวอยซ์ทีวี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งโฆษกคณะก้าวหน้า ซึ่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 หรือเกือบ 3 ปีที่แล้ว ได้วิเคราะห์เรื่องนี้เอาไว้ในยูทูปช่อง คณะก้าวหน้า - Progressive Movement ความยาวกว่า 25 นาที ในหัวเรื่องว่า "ช่อฟันธง! รัสเซียแพ้ย่อยยับ ปูตินชักศึกเข้าบ้าน!" (ลิงก์ >> https://www.youtube.com/watch?v=ytfIw1BHnEM) . ทั้งนี้ในรายการดังกล่าว "ช่อ พรรณิการ์" แห่งคณะก้าวหน้าได้กล่าวในตอนต้นว่า "ดิฉันขอฟันธง รัสเซียเธอแพ้แน่นอน นับวันแพ้ ทำไมถึงจะแพ้ เป็นเพราะอะไรเกิดอะไรขึ้น เป็นเพราะอะไร?" . จากนั้น อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ได้กล่าววิเคราะห์ต่อว่า สาเหตุที่รัสเซียจะพ่ายแพ้ต่อยูเครนและชาติพันธมิตรยุโรปนั้นมาจาก การบีบบังคับด้วยการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ-การเงินต่อยุโรป "มาตรการหลัก ๆ ที่ตอนนี้นำโดยสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ใช้อยู่จริง ๆ คือ มาตรการการเงิน ซึ่งมากไปกว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจการค้านะ แต่เรียกว่าเป็นการทุบค่าเงินและตัดตอนทางการเงินแบบขนานใหญ่ อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา นานาประเทศตัดรัสเซียออกจากระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ S.W.I.F.T., ระบบการเงินของธนาคารต่าง ๆ, มีการฟรีซแอสเสท หรือสินทรัพย์ของรัสเซียที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงประกาศไม่ให้มีการค้าขายกับรัสเซีย ..." น.ส.พรรณิการ์กล่าว และวิเคราะห์ต่อว่า นี่เองเป็นสาเหตุที่ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียตกต่ำลงอย่างมาก จนแทบจะไม่มีค่า แทบจะกลายเป็นเศษกระดาษ . นอกจากนี้ ช่อ พรรณิการ์ ยังวิเคราะห์ต่ออย่างออกรสด้วยว่า ความเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดคือ ท่าทีของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เลือกจะทำตามมาตรการคว่ำบาตรของอียู คือ การอายัดทรัพย์สินของรัสเซียที่อยู่ในแบงก์สวิตเซอร์แลนด์ คิดเป็นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่ใช่แค่การอายัดเฉพาะทรัพย์สินของรัฐ แต่เป็นทรัพย์สินของเอกชน และมหาเศรษฐีต่าง ๆ ของรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับนายปูตินด้วยจะเป็นปัจจัยชี้ขายให้รัสเซียและนายปูตินพ่ายแพ้อย่างแน่นอน . "ดิฉันคิดว่า เมื่อสวิตเซอร์แลนด์ทำขนาดนี้แล้ว ปูตินนับวันแพ้ได้เลยนะคะ" โฆษกคณะก้าวหน้าฟันธง . ล่วงเลยมาถึงวันนี้ เมื่อทีมงาน Sondhi X กลับไปสำรวจความเห็นของผู้ที่เข้ามาชมคลิปการวิเคราะห์สถานการณ์โลกดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ ทางยูทูปของคณะก้าวหน้าแล้วก็พบว่า มีผู้เข้าไปย้อนดูคลิปดังกล่าวและแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น • สวัสดีเรามาจากอนาคต 2025 ตอนนี้ทรัมป์กับปูตินเจรจากันแล้วนะเรื่องยูเครนโดยไม่มีไอ้กี้ หรือใช้คำว่าไม่เห็นหัวไอ้กี้ ก็คงไม่ผิดนัก ส่วนไอ้กี้ก็หัวซุกหัวซุนเกาะยุโรปที่เหลืออย่างแนบแน่น จริงแล้วตอนนี้ ยูเครนต้องเลือกปธน.ใหม่แล้วนะ แต่ไอ้กี้ไม่ยอม และไม่ฟังเสียงปชช.เลย โคจรหวงอำนาจเลย ยังไงรบกวนคุณช่อประท้วงแทนปชช.ชาวยูเครนด้วยนะ หรือส่งให้ว่าที่ เลขา UN ด้วยนะครับ • เมื่อไรจะแพ้ รออยู่นะคับ • ทายแค่ ซ้ายขวายังผิดยังคิดจะมาบริหารประเทศ อายมั้ยส้ม • 20-2-2025 ทายผิดจนขนลุก ยูเครนเละโดนรุมทึ้งแบ่งเค้กผลประโยชน์ของชาติ แถมไม่มีสิทธิแม้แต่เข้าร่วมเจรจาสันติภาพเลือกชะตากรรมของชาติตัวเอง 😂 • ยูเครนชนะยังครับ รอจนเมื่อยแล้ว • สรุปทำไมวิเคราะห์ผิดหมดเลย ไม่มีข้อมูลเพียงพอรอบด้าน หรือไม่มีศักยภาพในการวิเคราะห์ ถ้าได้บริหารประเทศวิเคราะห์ผิดแบบนี้แย่แน่นอน • สวัสดีเรามาจากอนาคต สภาพ ผิดทุกเรื่องตรงข้ามทุกอย่าง 5555 • วิเคราะห์มาถึงขนาดนี้ ปัจจุบันคุณเห็นหรือยังใครเป็นคนทำสงคราม นาโต้ทำสงครามกับรัสเซีย ยูเครนเป็นสนามรบ ผู้สนับสนุนหลักคืออเมริกา รัสเซียบุกยูเครน ก็เพราะนาโต้ขยายอาณาเขตเข้ามาในยูเครน รัสเซียแค่ป้องกันตนเองจากกลุ่มนาโต้ มีหัวเรือเป็นสหรัฐอเมริกา ตัวตลกยูเครนคือหุ่นเชิด • ธงหักหมดแล้ว จากคนเคยเลือกและลาขาด . สำหรับคลิปการวิเคราะห์ดังกล่าวของช่อ พรรณิการ์ เรื่องสงครามยูเครน นับถึงเวลา 20.00น. ที่ผ่านมาของวันที่ 20 ก.พ. 68 มีผู้เข้าชมแล้วกว่า 1.49 ล้านครั้ง
    Haha
    Like
    7
    1 Comments 0 Shares 1060 Views 0 Reviews
  • จากการตรวจสอบของ The Better ทราบว่า บุคคลที่เป็นผู้นำแม่บ้านชาวกัมพูชาไปร้องเพลงชาติบนปราสาทตาเมือนธมของประเทศไทย คือ 'อุตตมะเสนีย์ตรี (พลจัตวา) นัก วงส์' (ឧត្តមសេនីយ៍ត្រី នាក់ វង្ស) นายทหารของกัมพูชา วึ่งนอกจากจะพาคนเขมรกัมพูชาไปกระทำการล่วงละเมิดอธิปไตยของไทยในดินแดนของไทยแล้ว ยังท้าทายเจ้าหน้าที่ไทยอย่างร้ายแรงด้วย พลจัตตวา นัก วงษ์ มีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 ภาคทหาร 4 ซึ่งภาคทหารที่ 4 หรือ โยธภูมิภาค 4 (យោធភូមិភាគទី៤) กินพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดพระวิหาร จังหวัดเสียมราฐ และจังหวัดกำปงธม ทางตอนเหนือละกลางส่วนเหนือของกัมพูชา โดยเฉพาะจังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดพระวิหาร เป็นพื้นที่ที่ความขัดแย้งด้านพรมแดนกับไทยจำนวนหนึ่ง รวมถึงบริเวณปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ และปราสาทเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 พลจัตวา นัก วงส์ เพิ่งจะได้นำข้าราชการกองพลเยี่ยมเยียนกองกำลังที่ประจำการในพื้นที่ประจำการของทหารกัมพูชาที่ประจันหน้ากับปราสาทตาเมือนธมของไทย และมอบสารอวยพรจาก ฮุน เซน และนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต แก่ประชาชนเนื่องในโอกาสเทศกาลฉลองเทศกาลเทศกาลผชุมบิณฑ์ หรือเทศกาลเซ่นไหว้ลรรพบุรุษของชาวเขมรการกระทำของพลจัตวา นัก วงส์ที่ลุกล้ำอธิปไตยของไทยได้รับการชื่นชมจากชาวกัมพูชาในโซเชียลมีเดีย เช่น Sambath Khat กล่าวว่า "ในฐานะประชาชนชาวกัมพูชา ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการตัดสินใจสั่งการให้กองทัพรักชาติเข้มแข็งและมุ่งมั่นในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนสุวรรณภูมิเขมร โดยได้รับคำสั่งโดยตรงจากอุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 ภาคทหารที่ 4"ส่วนคนเขมรกัมพูชาที่ใช้ชื่อว่า Phan Nith กล่าวอ้างคำพูดของ พลจัตวา นัก วงส์ที่ว่า "ถ้าจะยิงก็ยิงเลย อย่ากลัว!" และบอกต่อไปว่า อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ได้สั่งห้ามคนไทยยืนต่อแถวร้องเพลงบริเวณปราสาทตาเมือนธม เช่นเดียวกับทหารสยามที่สั่งห้ามพลเมืองเขมรยืนร้องเพลงชาติบริเวณปราสาทตาเมือนธม นี่คือคำพูดของอุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ที่กล่าวและชี้ไปที่ใบหน้าของพวกอันธพาลสยามเหล่านั้น เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ฉันมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทหารเขมรของเราอย่างอุตมะเสนีย์ตรี (นัก วงส์)ผู้บัญชาเขมรแห้งการกองพลทหารราบที่ 42 เป็นผู้กล้าหาญและกล้าหาญในการปกป้องดินแดนกัมพูชาบริเวณปราสาทตาเมือนธม เขาไม่ยอมให้กับพวกอันธพาลสยามที่กำลังโจมตีคนเขมรเรา"ขณะที่บล็อเกอร์ชาวกัมพูชสอีกรายกล่าวยกย่องว่า "อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ เป็นคนรักชาติจริงๆ พวกเขาขวางเรา เราก็ขวางพวกเขา อย่าไปกลัว" แม้แต่สื่อกัมพูชาก็ยกย่องการกระทำของบุคคลนี้ โดย Beemax TV กล่าวว่า "คำพูดของ อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาชายแดน ทำให้ชาวกัมพูชาดีใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขากล้าพูดประโยคนี้กับกองทัพไทย โดยห้ามชาวกัมพูชาร้องเพลงชาติที่ปราสาทตาเมือนธม" โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
    จากการตรวจสอบของ The Better ทราบว่า บุคคลที่เป็นผู้นำแม่บ้านชาวกัมพูชาไปร้องเพลงชาติบนปราสาทตาเมือนธมของประเทศไทย คือ 'อุตตมะเสนีย์ตรี (พลจัตวา) นัก วงส์' (ឧត្តមសេនីយ៍ត្រី នាក់ វង្ស) นายทหารของกัมพูชา วึ่งนอกจากจะพาคนเขมรกัมพูชาไปกระทำการล่วงละเมิดอธิปไตยของไทยในดินแดนของไทยแล้ว ยังท้าทายเจ้าหน้าที่ไทยอย่างร้ายแรงด้วย พลจัตตวา นัก วงษ์ มีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 ภาคทหาร 4 ซึ่งภาคทหารที่ 4 หรือ โยธภูมิภาค 4 (យោធភូមិភាគទី៤) กินพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดพระวิหาร จังหวัดเสียมราฐ และจังหวัดกำปงธม ทางตอนเหนือละกลางส่วนเหนือของกัมพูชา โดยเฉพาะจังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดพระวิหาร เป็นพื้นที่ที่ความขัดแย้งด้านพรมแดนกับไทยจำนวนหนึ่ง รวมถึงบริเวณปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ และปราสาทเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 พลจัตวา นัก วงส์ เพิ่งจะได้นำข้าราชการกองพลเยี่ยมเยียนกองกำลังที่ประจำการในพื้นที่ประจำการของทหารกัมพูชาที่ประจันหน้ากับปราสาทตาเมือนธมของไทย และมอบสารอวยพรจาก ฮุน เซน และนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต แก่ประชาชนเนื่องในโอกาสเทศกาลฉลองเทศกาลเทศกาลผชุมบิณฑ์ หรือเทศกาลเซ่นไหว้ลรรพบุรุษของชาวเขมรการกระทำของพลจัตวา นัก วงส์ที่ลุกล้ำอธิปไตยของไทยได้รับการชื่นชมจากชาวกัมพูชาในโซเชียลมีเดีย เช่น Sambath Khat กล่าวว่า "ในฐานะประชาชนชาวกัมพูชา ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการตัดสินใจสั่งการให้กองทัพรักชาติเข้มแข็งและมุ่งมั่นในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนสุวรรณภูมิเขมร โดยได้รับคำสั่งโดยตรงจากอุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 ภาคทหารที่ 4"ส่วนคนเขมรกัมพูชาที่ใช้ชื่อว่า Phan Nith กล่าวอ้างคำพูดของ พลจัตวา นัก วงส์ที่ว่า "ถ้าจะยิงก็ยิงเลย อย่ากลัว!" และบอกต่อไปว่า อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ได้สั่งห้ามคนไทยยืนต่อแถวร้องเพลงบริเวณปราสาทตาเมือนธม เช่นเดียวกับทหารสยามที่สั่งห้ามพลเมืองเขมรยืนร้องเพลงชาติบริเวณปราสาทตาเมือนธม นี่คือคำพูดของอุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ที่กล่าวและชี้ไปที่ใบหน้าของพวกอันธพาลสยามเหล่านั้น เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ฉันมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทหารเขมรของเราอย่างอุตมะเสนีย์ตรี (นัก วงส์)ผู้บัญชาเขมรแห้งการกองพลทหารราบที่ 42 เป็นผู้กล้าหาญและกล้าหาญในการปกป้องดินแดนกัมพูชาบริเวณปราสาทตาเมือนธม เขาไม่ยอมให้กับพวกอันธพาลสยามที่กำลังโจมตีคนเขมรเรา"ขณะที่บล็อเกอร์ชาวกัมพูชสอีกรายกล่าวยกย่องว่า "อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ เป็นคนรักชาติจริงๆ พวกเขาขวางเรา เราก็ขวางพวกเขา อย่าไปกลัว" แม้แต่สื่อกัมพูชาก็ยกย่องการกระทำของบุคคลนี้ โดย Beemax TV กล่าวว่า "คำพูดของ อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาชายแดน ทำให้ชาวกัมพูชาดีใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขากล้าพูดประโยคนี้กับกองทัพไทย โดยห้ามชาวกัมพูชาร้องเพลงชาติที่ปราสาทตาเมือนธม" โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
    0 Comments 0 Shares 604 Views 0 Reviews
  • รัฐบาล Donald Trump ได้ตั้ง Elon Musk เป็นหัวหน้าหน่วยงานพิเศษ DOGE (Department of Government Efficiency) มีหน้าที่ตรวจสอบการใช้เงินไปกับนโยบายที่ไร้สาระของรัฐบาลที่แล้ว และก็มีการตัดงบพร้อมปลดพนักงานไปหลายหน่วยงานแล้ว แต่ที่เป็นประเด็นล่าสุดคือ USAID ที่นำเอาเงินภาษีคนอเมริกันไปช่วยเหลือประเทศอื่นในโลกโดยที่อเมริกาแทบจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ซึ่งหนึ่งในหลาย ๆ โครงการก็มีการนำเงินงบประมาณไปจ่ายให้กับสื่อมวลชนหลายสำนักเพื่อให้นำเสนอข่าวอวยพรรค Democrats, อวยกระแส woke, และโจมตีฝั่งตรงข้ามอย่างเช่นกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการเมืองแบบก้าวหน้าด้วย

    https://thatparkplace.com/politico-usaid-gamergate/?fbclid=IwY2xjawITqeRleHRuA2FlbQIxMAABHT6jiyqv2G-lZIHRFnrm1M27VJ1lnt_eQ7Q1P9oZDG1svpGSwmQxrthBSw_aem_ZKVszgcHg-Dg5wGSocnTqQ
    รัฐบาล Donald Trump ได้ตั้ง Elon Musk เป็นหัวหน้าหน่วยงานพิเศษ DOGE (Department of Government Efficiency) มีหน้าที่ตรวจสอบการใช้เงินไปกับนโยบายที่ไร้สาระของรัฐบาลที่แล้ว และก็มีการตัดงบพร้อมปลดพนักงานไปหลายหน่วยงานแล้ว แต่ที่เป็นประเด็นล่าสุดคือ USAID ที่นำเอาเงินภาษีคนอเมริกันไปช่วยเหลือประเทศอื่นในโลกโดยที่อเมริกาแทบจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ซึ่งหนึ่งในหลาย ๆ โครงการก็มีการนำเงินงบประมาณไปจ่ายให้กับสื่อมวลชนหลายสำนักเพื่อให้นำเสนอข่าวอวยพรรค Democrats, อวยกระแส woke, และโจมตีฝั่งตรงข้ามอย่างเช่นกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการเมืองแบบก้าวหน้าด้วย https://thatparkplace.com/politico-usaid-gamergate/?fbclid=IwY2xjawITqeRleHRuA2FlbQIxMAABHT6jiyqv2G-lZIHRFnrm1M27VJ1lnt_eQ7Q1P9oZDG1svpGSwmQxrthBSw_aem_ZKVszgcHg-Dg5wGSocnTqQ
    0 Comments 0 Shares 451 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์โพสต์ข้อความโจมตี USAID ที่ให้เงินสนับสนุนสื่ออย่าง Politico มากถึง 8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 270 ล้านบาท) เพื่ออวยพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นพรรคการเมืองคู่แข่ง

    ในไทยล่ะ มีมั้ยที่มีการให้เงิน "สื่อ" เพื่ออวยพรรคการเมือง 😂😂
    ทรัมป์โพสต์ข้อความโจมตี USAID ที่ให้เงินสนับสนุนสื่ออย่าง Politico มากถึง 8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 270 ล้านบาท) เพื่ออวยพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นพรรคการเมืองคู่แข่ง ในไทยล่ะ มีมั้ยที่มีการให้เงิน "สื่อ" เพื่ออวยพรรคการเมือง 😂😂
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • [Exclusive on Sondhi Talk]
    "บังแจ็ค" ไว้ใจ DSI ไขคดี
    แย้มมือถือแตงโมมี 4 หมื่นภาพ
    แถมข้อมูลนักการเมือง-นักธุรกิจดัง
    .
    บังแจ็คเปิดใจส่งมอบมือถือแตงโม นิดา ให้หมอธวัชชัยนำมาให้ดีเอสไอคลี่คลายคดี ระบุกู้ข้อมูลมีภาพกว่า 4 หมื่นภาพ แชตบางส่วนคุยกับนักการเมืองดัง และมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่มีอิทธิพลสูง นักธุรกิจระดับประเทศเกี่ยวข้องด้วย เผยมีคนขอซื้อมือถือจริงแต่ไม่ถึง 15 ล้าน ลั่นยังไงก็ไม่ขาย
    .
    วันนี้ (6 ก.พ.) นายซาคาเนียน ราชา ไฮเดอร์ หรือบังแจ็ค ให้สัมภาษณ์ทางเฟซบุ๊ก และยูทูป "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" (คลิกชมย้อนหลัง >> https://www.youtube.com/watch?v=58nPhAE2uZo) ถึงโทรศัพท์มือถือของ แตงโม นิดา หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวที่เสียชีวิตจากเรือสปีดโบ้ท เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ซึ่งได้ส่งมอบให้ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และเตรียมนำมาส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำมาใช้เพื่อคลี่คลายการเสียชีวิตของแตงโม ระบุว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนที่รู้จักกับนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของแตงโม นางพนิดาได้รับโทรศัพท์มือถือของแตงโมจากตำรวจ แต่ไม่พบข้อมูลใดๆ ในเครื่อง ตนจึงแนะนำให้นำไปที่ศูนย์บริการของแอปเปิลช่วยดูว่ายังมีข้อมูลในเครื่องหรือไม่ นางพนิดาไปที่ศูนย์แอปเปิลฯ แต่ไม่ไว้ใจ จึงให้โทรศัพท์มือถือแก่ตน ซึ่งเป็นความครอบครองโดยถูกต้อง
    .
    การตัดสินใจส่งมอบโทรศัพท์มือถือเป็นไปตามที่ตนได้ประกาศไว้ว่าจะมอบให้เฉพาะบุคคล 3 ราย ได้แก่ นพ.ธวัชชัย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เพราะทั้งสามคนไว้วางใจที่สุดแล้ว เพราะมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่อยากให้ผู้ที่กระทำความผิด หรือคนที่จะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี โดยข้อมูลในโทรศัพท์มือถือบางอย่างเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว เช่น มีคนดังโทร.เข้ามาในเวลาผิดปกติ ซึ่งนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ เปิดเผยว่าได้โทร.หาจริง ยังเหลืออีก 2-3 คนที่ยังไม่ได้ออกมาพูด รวมทั้ง น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม โทร.มาหาเมื่อเวลา 20.40 น. ของวันเกิดเหตุ ทั้งๆ ที่อยู่บนเรือลำเดียวกัน และอีกหลายข้อมูลทั้งคลิป รูปภาพ การลบข้อความ และการลบบัญชีทั้งบัญชี
    .
    ตนจำได้ว่ามดดำได้โทร.หาแตงโม แต่ได้รับข่าวจากแอนนา วรินทร วัตรสังข์ เพื่อนของแตงโมว่า แตงโมตกน้ำ แอนนาพยายามทักไลน์ โทร.ทั้งไลน์และมือถือแต่ไม่ติด เมื่อ 3 ปีที่แล้วพอเข้าไปดูบัญชีแอนนาไม่มีเลย ลบทิ้ง บัญชีฮิปโป (ผู้จัดการส่วนตัวให้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนที่แตงโมเสียชีวิต) ก็ลบทิ้ง บัญชีโม อมีนา พินิจ ก็ลบทิ้ง บัญชีพุดเดิล ยุพดี ก็ลบทิ้ง และอีกหลายคน ส่วนข้อความที่กระติกนำมาเปิดเผยในรายการโหนกระแสว่าได้คุยกับแตงโม ตนก็เข้าไปดู ไม่พบข้อความที่กระติกนำมาแสดง มีถึงแค่วันที่ 17-18 ก.พ. 2565 เท่านั้น แสดงว่ามีข้อมูลที่ถูกลบและข้อมูลที่แต่งขึ้นมา
    .
    บังแจ็ค กล่าวว่า ตนกู้ข้อมูลเฉพาะรูปภาพกว่า 40,000 ภาพ ยังดูไม่หมด ดูเฉพาะเกี่ยวข้องกับคดี เช่น บัญชีธนาคารไม่มีเงินสักบาทในบัญชี ทั้งที่อย่างน้อยเป็นดาราต้องมีเงินติดบัญชีสัก 4-5 พันบาท แต่ยอดเงินกลับเป็น 0 บาท บันทึกบางส่วนถูกลบออกไป แชตบางส่วนที่คุยกับนักการเมืองดัง ที่ขู่จะให้ส่งภาพลับที่ไม่เหมาะสมและเรียกให้มาหาก็มี ตนสงสารที่แตงโมต้องเจออะไรแบบนั้น ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยคลี่คลายคดีเมื่ออยู่ในมือของดีเอสไอ
    .
    ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของตนที่ทำให้พยานหลักฐานถูกด้อยค่านั้น ถามว่าใครทำร้ายเครดิตตน คนที่เสียประโยชน์ก็พยายามใช้สื่อที่เข้าข้างมาดิสเครดิตตน หนึ่งในนั้นคือทนายความที่ท้าให้ดื่มปัสสาวะ 70 แก้ว พาทั้งพิธีกรชื่อดังไปแจ้งความว่าตนขู่ฆ่าและใช้สื่อโจมตี ทั้งๆ ที่พิธีกรชื่อดังเข้าใจกันแล้ว และจะร่วมมือจำหน่ายสินค้าที่ต่างประเทศ ส่วนเรื่องที่โพสต์ภาพปืนเป็นเรื่องนานมาแล้ว ไม่เกี่ยวกับคดีแตงโม และได้เคลียร์จบแล้ว ตนมีหลักฐานทั้งหมดส่งให้ นพ.ธวัชชัย เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าได้คุยกัน จับมือขออภัยกันจริง
    .
    ส่วนคดีเบนซ์ เรซซิ่ง หรือนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช ส่วนตัวมาเมืองไทยถูกต้อง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ซื้อรถจักรยานยนต์จากเบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี เวลานั้นตนอยู่โคราช ตนถูกหลอกเพราะไม่มีเอกสารและทะเบียน ตนเป็นชาวต่างชาติไม่รู้กฎหมาย เจอด่านก็โดนยึด พอกลับไปหาเจ้าตัวก็ไม่รับผิดชอบเพราะไม่มีหลักฐาน พอเกิดคดีนายไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อยาเสพติด ตนออกมาวิจารณ์เบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เข้าข้างและไม่ได้เป็นหนึ่งในทีมของเขา ตนซื้อรถด้วยน้ำพักน้ำแรงแล้วทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แต่ด้วยความที่ตนใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง เวลานั้นไม่รู้จะอธิบายให้ใครฟังเพราะโดนโจมตี น้ำหนักน้อยลง พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อเพราะเป็นคนต่างชาติ ถูกด้อยค่าตลอดเวลา จึงเลือกที่จะไม่ตอบโต้
    .
    ส่วนที่ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ถึงปี 2569 เพราะเป็นบุคคลที่เชื่อได้ว่าเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยนั้น บังแจ็ค กล่าวว่า สมมติเป็นบุคคลอันตรายจริงก็ไม่น่าจะมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้ 6-7 ปี ไม่ใช่โรงเรียนเอกชน แต่เป็นโรงเรียนรัฐบาล และออกเอกสารถูกต้อง มีใบอนุญาตทำงาน เมื่อ 2 ปีก่อนมีรายการโทรทัศน์ไปตรวจสอบแล้วไม่พบบัญชีดำในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตอนนี้สามารถเข้าประเทศไทยได้ ส่วนคดีที่เจอระยะหลังๆ คือคดีแตงโม ถูกใส่ไข่เยอะเพราะอีกฝ่ายหรืออีกสื่อหนึ่งมีเอฟซี มีอิทธิพลเยอะ แถมเมื่อตนไปสัมภาษณ์รายการหนึ่ง 5 ครั้ง ภายหลังไลฟ์รายการลบทิ้ง หมายความว่าอย่างไร ตนถามตรงๆ ไปว่าลบทิ้งทำไม เขาไม่มีคำตอบ เปลี่ยนประเด็น
    .
    ตนมองว่าต้องมีคนสั่งให้ลบ เพราะมือถืออยู่ในมือตนเอง จึงต้องดิสเครดิตให้ไม่มีความน่าเชื่อถือ พยายามด้อยค่าหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือที่ปล่อยออกมา 1-2 คลิปที่ อ.ปานเทพเปิดเผย ตนเคยลงในเพจมานานมากแล้ว แต่มีคนทักมาถามว่าสถานที่ตรงนี้ตรงนั้นหรือเปล่า ซึ่งตนไม่รู้เพราะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว พอไปดูก็มีการแต่งเพิ่มมา อ.ปานเทพถามตนว่าคลิปนี้ได้มาจากตนหรือเปล่า ตนตอบว่าไม่ใช่ คลิปที่ได้จากตนมีแค่นี้ เขาใช้วิธีเหมือนเมื่อ 3 ปีก่อน คือ เอามาแต่งเติม เอามาตัด และโจมตีว่าไม่ใช่ข้อมูลจริง หิวแสง ตนเพิ่งรู้จัก อ.ปานเทพ และ นพ.ธวัชชัยไม่ถึง 2 เดือน ข้อมูล GPS ที่เคยส่งให้ทีวีช่องหนึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนก็ถูกด้อยค่าว่าไปตรวจมาแล้วไม่มีอะไรเลย ด้อยค่าแล้วก็ลบตัดทิ้งเลย
    .
    พอรับฟีดแบ็คกลับมาตนก็มีความรู้สึก แฟนของตนก็ไม่สบายใจ ให้หยุดไม่ต้องทำเพราะไม่มีใครเชื่อ แต่ตนเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง คดีนี้ต้องกลับมาแน่ เพราะข้อพิรุธหลายอย่าง ตนเก็บข้อมูลไว้ เบอร์แต่ละคนหาไม่ยาก อยู่บนเรือด้วยกันโทร.หากันทำไม แล้วบรรดาคนดังโทร.หาแตงโมเวลา 21.58 น. 22.04 น. หรือ 22.07 น.ของวันเกิดเหตุ ไม่ใช่แค่คืนนั้นคืนเดียว โทร.มาตอนเช้าด้วย โทร.ในระหว่างนั้นด้วย ทั้งๆ ที่ตำรวจแถลงข่าวแตงโมตกน้ำ 22.37-22.38 น. แสดงว่าคนรู้แล้วว่าแตงโมตกน้ำ แต่ไม่มีการกดรับสายเพราะปิดเครื่อง แต่มีระบบรับฝากข้อความและมีข้อความเข้ามา
    .
    เมื่อถามว่า ขบวนการดิสเครดิตบังแจ็คทำไปเพื่ออะไร เกี่ยวกับการเสียชีวิตของแตงโมอย่างไร บังแจ็ค กล่าวว่า มีคนใหญ่อยู่เบื้องหลัง แต่พอคดีแตงโมเปิดขึ้นมาเขาได้รับความเสียหายมาก จึงไม่ยอมให้ทำแบบนี้ ที่ไปคุยที่ปั๊มน้ำมันนั้น ได้ให้ที่ปรึกษากฎหมายของเขาสอนให้พูดแบบนี้ แล้วมีอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แนะนำว่าต้องไปในทิศทางนี้ เท่าที่ตนทราบไม่นานมีโทรทัศน์ 3 ช่อง ช่องแรกไม่ดัง อีก 2 ช่องดัง ใช้ทนายความคนบนเรือคนเดียวกันออกโทรทัศน์ บางสื่อต้องกลัวตำรวจหรือเกรงใจตำรวจเพราะจะไม่มีข่าวเล่น ตนรู้พิรุธมานานแล้วว่าตอนสัมภาษณ์เขาก็ตัดออก อย่างทีวีช่องหนึ่งสัมภาษณ์นานมาก แต่ตัดบางส่วนออก เหลือเฉพาะตอนที่เปิดช่องให้ถูกโจมตี ภายหลังพบว่าใช้ทนายความคนเดียวกันออกทีวี
    .
    เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีคนเสนอเงิน 15 ล้านบาทเพื่อยุติเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ไม่ถึง 15 ล้านบาท แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ นพ.ธวัชชัยจะมารับเครื่อง ก็พยายามที่จะถามว่าจะให้โทรศัพท์มือถือจริงหรือเปล่า แล้วเชื่อหรือเปล่าว่าจะนำมาใช้ในทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าคิดจะขายจะขายในราคาเท่าไหร่ ตนตอบว่าไม่ขาย ถามว่า 2 ล้านบาทขายไหม ตนตอบว่าไม่ขาย ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านบาท เงินที่เสนอมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในเดือนหนึ่งก็หมดแล้ว เพราะตนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา มีบริษัท จ่ายค่ารถ จ่ายค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายต่างๆ หมดแล้ว ตนหาได้เองไม่ต้องเสนอ อีกฝ่ายก็เสนอเป็น 5 ล้านบาท แต่ไม่ต้องให้เครื่องแก่ นพ.ธวัชชัย ตนกล่าวว่าให้เท่าไหร่ก็ไม่ขาย อยากจะยกให้เขา อีกฝ่ายกล่าวว่า ต้องคิดให้ดีๆ ก่อน เพราะ 1 ใน 5 คนบนเรือกล่าวว่า ได้เครื่องนี้ไปก็คือจบเลย เพราะมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลสูง เป็นนักธุรกิจระดับประเทศมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่อยากให้มือถือนี้ไปอยู่ที่เมืองไทย
    .
    เมื่อถามว่า ที่โดนดักตีหัวสงสัยว่าจัดฉากหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ตอนที่โดนตีหัว นพ.ธวัชชัยคุยกับตนอยู่ เวลาโดนตีหัวแฟนถามว่าเรียกรถพยาบาลหรือเปล่า เพราะที่สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่าย 3,500-4,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่พอจับดูเลือดไหล จึงให้ นพ.ธวัชชัยดูแผล ก็แนะนำว่าให้ไปเย็บแผลก่อน แต่เย็บไม่เยอะ 2 เข็ม และให้กลับไปรักษาที่บ้าน ส่วนที่โดนตีหัวคิดว่าวันนั้นเป็นวันหยุดของคนผิวสี ตำรวจไม่ค่อยมี เป็นเหตุบังเอิญที่โจรขโมยของ นพ.ธวัชชัยอยู่ในสาย ก็เลยเป็นห่วงจึงเป็นข่าวขึ้นมา ส่วนขบวนการดิสเครดิตที่เกิดขึ้น นพ.ธวัชชัย อ.ปานเทพ และนายอัจฉริยะต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ บังแจ็ค กล่าวว่า ทั้งสามคนต้องระวังอย่างสูง เพราะเท่าที่เจอข้อมูลในเครื่องมีแต่คนใหญ่คนโต ทั้งนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดัง มีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง จากที่แถลงข่าวยังมีเยอะกว่านี้
    .
    ถามถึงแนวทางคลี่คลายคดีเพื่อคืนความยุติธรรมให้แตงโม บังแจ็คกล่าวว่า ลองไว้ใจทีมดีเอสไอ และดูว่าจะมีคนเข้ามาสกัดหรือข่มขู่หรือเปล่าก็ต้องคอยดู แต่ถ้าทั้งสามคนสบายใจและมั่นใจในทีมนี้ก็ตามนั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือฟิงเกอร์ครอส (ยกนิ้วไขว้เพื่ออวยพรขอให้โชคดี) เมื่อถามว่า ตอนนี้บังแจ็คทำอะไรอยู่ ตนต้องขอบคุณเน็ตไอดอลที่สร้างภาพให้ตนเป็นแบบนั้นว่าเขาทำสำเร็จ ตนมีร้านอาหาร 2 แห่ง มีบริษัทที่มีรถยนต์กันกระสุน 5 คัน รับคุ้มกันดาราระดับโลก นักฟุตบอลชื่อดัง และนักการเมือง ยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์มือถือแตงโมจริง ให้ นพ.ธวัชชัชตรวจอีมี่ (IMEI) และตรวจเครื่องให้เรียบร้อย ถ้าสมมติถ้าตนหิวเงินหรือหิวแสงคงไม่เก็บไว้นานถึง 3 ปี ภาพหรือคลิปที่ตนเจอป่านนี้ได้เงินเป็นร้อยล้านแล้ว ตนนับถือศาสนาอิสลาม เป็นเงินบาป ทำแบบนี้ไม่ได้ เราไม่ไปยุ่งและไม่เปิดเผย ไม่ทำให้แตงโมเสียหายเพราะน่าสงสารที่สุดแล้ว
    .
    คลิกอ่านต้นฉบับ >> https://sondhitalk.com/detail/9680000012224
    ......
    Sondhi X
    [Exclusive on Sondhi Talk] "บังแจ็ค" ไว้ใจ DSI ไขคดี แย้มมือถือแตงโมมี 4 หมื่นภาพ แถมข้อมูลนักการเมือง-นักธุรกิจดัง . บังแจ็คเปิดใจส่งมอบมือถือแตงโม นิดา ให้หมอธวัชชัยนำมาให้ดีเอสไอคลี่คลายคดี ระบุกู้ข้อมูลมีภาพกว่า 4 หมื่นภาพ แชตบางส่วนคุยกับนักการเมืองดัง และมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่มีอิทธิพลสูง นักธุรกิจระดับประเทศเกี่ยวข้องด้วย เผยมีคนขอซื้อมือถือจริงแต่ไม่ถึง 15 ล้าน ลั่นยังไงก็ไม่ขาย . วันนี้ (6 ก.พ.) นายซาคาเนียน ราชา ไฮเดอร์ หรือบังแจ็ค ให้สัมภาษณ์ทางเฟซบุ๊ก และยูทูป "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" (คลิกชมย้อนหลัง >> https://www.youtube.com/watch?v=58nPhAE2uZo) ถึงโทรศัพท์มือถือของ แตงโม นิดา หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวที่เสียชีวิตจากเรือสปีดโบ้ท เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ซึ่งได้ส่งมอบให้ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และเตรียมนำมาส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำมาใช้เพื่อคลี่คลายการเสียชีวิตของแตงโม ระบุว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนที่รู้จักกับนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของแตงโม นางพนิดาได้รับโทรศัพท์มือถือของแตงโมจากตำรวจ แต่ไม่พบข้อมูลใดๆ ในเครื่อง ตนจึงแนะนำให้นำไปที่ศูนย์บริการของแอปเปิลช่วยดูว่ายังมีข้อมูลในเครื่องหรือไม่ นางพนิดาไปที่ศูนย์แอปเปิลฯ แต่ไม่ไว้ใจ จึงให้โทรศัพท์มือถือแก่ตน ซึ่งเป็นความครอบครองโดยถูกต้อง . การตัดสินใจส่งมอบโทรศัพท์มือถือเป็นไปตามที่ตนได้ประกาศไว้ว่าจะมอบให้เฉพาะบุคคล 3 ราย ได้แก่ นพ.ธวัชชัย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เพราะทั้งสามคนไว้วางใจที่สุดแล้ว เพราะมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่อยากให้ผู้ที่กระทำความผิด หรือคนที่จะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี โดยข้อมูลในโทรศัพท์มือถือบางอย่างเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว เช่น มีคนดังโทร.เข้ามาในเวลาผิดปกติ ซึ่งนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ เปิดเผยว่าได้โทร.หาจริง ยังเหลืออีก 2-3 คนที่ยังไม่ได้ออกมาพูด รวมทั้ง น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม โทร.มาหาเมื่อเวลา 20.40 น. ของวันเกิดเหตุ ทั้งๆ ที่อยู่บนเรือลำเดียวกัน และอีกหลายข้อมูลทั้งคลิป รูปภาพ การลบข้อความ และการลบบัญชีทั้งบัญชี . ตนจำได้ว่ามดดำได้โทร.หาแตงโม แต่ได้รับข่าวจากแอนนา วรินทร วัตรสังข์ เพื่อนของแตงโมว่า แตงโมตกน้ำ แอนนาพยายามทักไลน์ โทร.ทั้งไลน์และมือถือแต่ไม่ติด เมื่อ 3 ปีที่แล้วพอเข้าไปดูบัญชีแอนนาไม่มีเลย ลบทิ้ง บัญชีฮิปโป (ผู้จัดการส่วนตัวให้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนที่แตงโมเสียชีวิต) ก็ลบทิ้ง บัญชีโม อมีนา พินิจ ก็ลบทิ้ง บัญชีพุดเดิล ยุพดี ก็ลบทิ้ง และอีกหลายคน ส่วนข้อความที่กระติกนำมาเปิดเผยในรายการโหนกระแสว่าได้คุยกับแตงโม ตนก็เข้าไปดู ไม่พบข้อความที่กระติกนำมาแสดง มีถึงแค่วันที่ 17-18 ก.พ. 2565 เท่านั้น แสดงว่ามีข้อมูลที่ถูกลบและข้อมูลที่แต่งขึ้นมา . บังแจ็ค กล่าวว่า ตนกู้ข้อมูลเฉพาะรูปภาพกว่า 40,000 ภาพ ยังดูไม่หมด ดูเฉพาะเกี่ยวข้องกับคดี เช่น บัญชีธนาคารไม่มีเงินสักบาทในบัญชี ทั้งที่อย่างน้อยเป็นดาราต้องมีเงินติดบัญชีสัก 4-5 พันบาท แต่ยอดเงินกลับเป็น 0 บาท บันทึกบางส่วนถูกลบออกไป แชตบางส่วนที่คุยกับนักการเมืองดัง ที่ขู่จะให้ส่งภาพลับที่ไม่เหมาะสมและเรียกให้มาหาก็มี ตนสงสารที่แตงโมต้องเจออะไรแบบนั้น ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยคลี่คลายคดีเมื่ออยู่ในมือของดีเอสไอ . ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของตนที่ทำให้พยานหลักฐานถูกด้อยค่านั้น ถามว่าใครทำร้ายเครดิตตน คนที่เสียประโยชน์ก็พยายามใช้สื่อที่เข้าข้างมาดิสเครดิตตน หนึ่งในนั้นคือทนายความที่ท้าให้ดื่มปัสสาวะ 70 แก้ว พาทั้งพิธีกรชื่อดังไปแจ้งความว่าตนขู่ฆ่าและใช้สื่อโจมตี ทั้งๆ ที่พิธีกรชื่อดังเข้าใจกันแล้ว และจะร่วมมือจำหน่ายสินค้าที่ต่างประเทศ ส่วนเรื่องที่โพสต์ภาพปืนเป็นเรื่องนานมาแล้ว ไม่เกี่ยวกับคดีแตงโม และได้เคลียร์จบแล้ว ตนมีหลักฐานทั้งหมดส่งให้ นพ.ธวัชชัย เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าได้คุยกัน จับมือขออภัยกันจริง . ส่วนคดีเบนซ์ เรซซิ่ง หรือนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช ส่วนตัวมาเมืองไทยถูกต้อง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ซื้อรถจักรยานยนต์จากเบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี เวลานั้นตนอยู่โคราช ตนถูกหลอกเพราะไม่มีเอกสารและทะเบียน ตนเป็นชาวต่างชาติไม่รู้กฎหมาย เจอด่านก็โดนยึด พอกลับไปหาเจ้าตัวก็ไม่รับผิดชอบเพราะไม่มีหลักฐาน พอเกิดคดีนายไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อยาเสพติด ตนออกมาวิจารณ์เบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เข้าข้างและไม่ได้เป็นหนึ่งในทีมของเขา ตนซื้อรถด้วยน้ำพักน้ำแรงแล้วทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แต่ด้วยความที่ตนใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง เวลานั้นไม่รู้จะอธิบายให้ใครฟังเพราะโดนโจมตี น้ำหนักน้อยลง พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อเพราะเป็นคนต่างชาติ ถูกด้อยค่าตลอดเวลา จึงเลือกที่จะไม่ตอบโต้ . ส่วนที่ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ถึงปี 2569 เพราะเป็นบุคคลที่เชื่อได้ว่าเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยนั้น บังแจ็ค กล่าวว่า สมมติเป็นบุคคลอันตรายจริงก็ไม่น่าจะมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้ 6-7 ปี ไม่ใช่โรงเรียนเอกชน แต่เป็นโรงเรียนรัฐบาล และออกเอกสารถูกต้อง มีใบอนุญาตทำงาน เมื่อ 2 ปีก่อนมีรายการโทรทัศน์ไปตรวจสอบแล้วไม่พบบัญชีดำในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตอนนี้สามารถเข้าประเทศไทยได้ ส่วนคดีที่เจอระยะหลังๆ คือคดีแตงโม ถูกใส่ไข่เยอะเพราะอีกฝ่ายหรืออีกสื่อหนึ่งมีเอฟซี มีอิทธิพลเยอะ แถมเมื่อตนไปสัมภาษณ์รายการหนึ่ง 5 ครั้ง ภายหลังไลฟ์รายการลบทิ้ง หมายความว่าอย่างไร ตนถามตรงๆ ไปว่าลบทิ้งทำไม เขาไม่มีคำตอบ เปลี่ยนประเด็น . ตนมองว่าต้องมีคนสั่งให้ลบ เพราะมือถืออยู่ในมือตนเอง จึงต้องดิสเครดิตให้ไม่มีความน่าเชื่อถือ พยายามด้อยค่าหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือที่ปล่อยออกมา 1-2 คลิปที่ อ.ปานเทพเปิดเผย ตนเคยลงในเพจมานานมากแล้ว แต่มีคนทักมาถามว่าสถานที่ตรงนี้ตรงนั้นหรือเปล่า ซึ่งตนไม่รู้เพราะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว พอไปดูก็มีการแต่งเพิ่มมา อ.ปานเทพถามตนว่าคลิปนี้ได้มาจากตนหรือเปล่า ตนตอบว่าไม่ใช่ คลิปที่ได้จากตนมีแค่นี้ เขาใช้วิธีเหมือนเมื่อ 3 ปีก่อน คือ เอามาแต่งเติม เอามาตัด และโจมตีว่าไม่ใช่ข้อมูลจริง หิวแสง ตนเพิ่งรู้จัก อ.ปานเทพ และ นพ.ธวัชชัยไม่ถึง 2 เดือน ข้อมูล GPS ที่เคยส่งให้ทีวีช่องหนึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนก็ถูกด้อยค่าว่าไปตรวจมาแล้วไม่มีอะไรเลย ด้อยค่าแล้วก็ลบตัดทิ้งเลย . พอรับฟีดแบ็คกลับมาตนก็มีความรู้สึก แฟนของตนก็ไม่สบายใจ ให้หยุดไม่ต้องทำเพราะไม่มีใครเชื่อ แต่ตนเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง คดีนี้ต้องกลับมาแน่ เพราะข้อพิรุธหลายอย่าง ตนเก็บข้อมูลไว้ เบอร์แต่ละคนหาไม่ยาก อยู่บนเรือด้วยกันโทร.หากันทำไม แล้วบรรดาคนดังโทร.หาแตงโมเวลา 21.58 น. 22.04 น. หรือ 22.07 น.ของวันเกิดเหตุ ไม่ใช่แค่คืนนั้นคืนเดียว โทร.มาตอนเช้าด้วย โทร.ในระหว่างนั้นด้วย ทั้งๆ ที่ตำรวจแถลงข่าวแตงโมตกน้ำ 22.37-22.38 น. แสดงว่าคนรู้แล้วว่าแตงโมตกน้ำ แต่ไม่มีการกดรับสายเพราะปิดเครื่อง แต่มีระบบรับฝากข้อความและมีข้อความเข้ามา . เมื่อถามว่า ขบวนการดิสเครดิตบังแจ็คทำไปเพื่ออะไร เกี่ยวกับการเสียชีวิตของแตงโมอย่างไร บังแจ็ค กล่าวว่า มีคนใหญ่อยู่เบื้องหลัง แต่พอคดีแตงโมเปิดขึ้นมาเขาได้รับความเสียหายมาก จึงไม่ยอมให้ทำแบบนี้ ที่ไปคุยที่ปั๊มน้ำมันนั้น ได้ให้ที่ปรึกษากฎหมายของเขาสอนให้พูดแบบนี้ แล้วมีอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แนะนำว่าต้องไปในทิศทางนี้ เท่าที่ตนทราบไม่นานมีโทรทัศน์ 3 ช่อง ช่องแรกไม่ดัง อีก 2 ช่องดัง ใช้ทนายความคนบนเรือคนเดียวกันออกโทรทัศน์ บางสื่อต้องกลัวตำรวจหรือเกรงใจตำรวจเพราะจะไม่มีข่าวเล่น ตนรู้พิรุธมานานแล้วว่าตอนสัมภาษณ์เขาก็ตัดออก อย่างทีวีช่องหนึ่งสัมภาษณ์นานมาก แต่ตัดบางส่วนออก เหลือเฉพาะตอนที่เปิดช่องให้ถูกโจมตี ภายหลังพบว่าใช้ทนายความคนเดียวกันออกทีวี . เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีคนเสนอเงิน 15 ล้านบาทเพื่อยุติเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ไม่ถึง 15 ล้านบาท แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ นพ.ธวัชชัยจะมารับเครื่อง ก็พยายามที่จะถามว่าจะให้โทรศัพท์มือถือจริงหรือเปล่า แล้วเชื่อหรือเปล่าว่าจะนำมาใช้ในทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าคิดจะขายจะขายในราคาเท่าไหร่ ตนตอบว่าไม่ขาย ถามว่า 2 ล้านบาทขายไหม ตนตอบว่าไม่ขาย ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านบาท เงินที่เสนอมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในเดือนหนึ่งก็หมดแล้ว เพราะตนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา มีบริษัท จ่ายค่ารถ จ่ายค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายต่างๆ หมดแล้ว ตนหาได้เองไม่ต้องเสนอ อีกฝ่ายก็เสนอเป็น 5 ล้านบาท แต่ไม่ต้องให้เครื่องแก่ นพ.ธวัชชัย ตนกล่าวว่าให้เท่าไหร่ก็ไม่ขาย อยากจะยกให้เขา อีกฝ่ายกล่าวว่า ต้องคิดให้ดีๆ ก่อน เพราะ 1 ใน 5 คนบนเรือกล่าวว่า ได้เครื่องนี้ไปก็คือจบเลย เพราะมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลสูง เป็นนักธุรกิจระดับประเทศมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่อยากให้มือถือนี้ไปอยู่ที่เมืองไทย . เมื่อถามว่า ที่โดนดักตีหัวสงสัยว่าจัดฉากหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ตอนที่โดนตีหัว นพ.ธวัชชัยคุยกับตนอยู่ เวลาโดนตีหัวแฟนถามว่าเรียกรถพยาบาลหรือเปล่า เพราะที่สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่าย 3,500-4,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่พอจับดูเลือดไหล จึงให้ นพ.ธวัชชัยดูแผล ก็แนะนำว่าให้ไปเย็บแผลก่อน แต่เย็บไม่เยอะ 2 เข็ม และให้กลับไปรักษาที่บ้าน ส่วนที่โดนตีหัวคิดว่าวันนั้นเป็นวันหยุดของคนผิวสี ตำรวจไม่ค่อยมี เป็นเหตุบังเอิญที่โจรขโมยของ นพ.ธวัชชัยอยู่ในสาย ก็เลยเป็นห่วงจึงเป็นข่าวขึ้นมา ส่วนขบวนการดิสเครดิตที่เกิดขึ้น นพ.ธวัชชัย อ.ปานเทพ และนายอัจฉริยะต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ บังแจ็ค กล่าวว่า ทั้งสามคนต้องระวังอย่างสูง เพราะเท่าที่เจอข้อมูลในเครื่องมีแต่คนใหญ่คนโต ทั้งนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดัง มีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง จากที่แถลงข่าวยังมีเยอะกว่านี้ . ถามถึงแนวทางคลี่คลายคดีเพื่อคืนความยุติธรรมให้แตงโม บังแจ็คกล่าวว่า ลองไว้ใจทีมดีเอสไอ และดูว่าจะมีคนเข้ามาสกัดหรือข่มขู่หรือเปล่าก็ต้องคอยดู แต่ถ้าทั้งสามคนสบายใจและมั่นใจในทีมนี้ก็ตามนั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือฟิงเกอร์ครอส (ยกนิ้วไขว้เพื่ออวยพรขอให้โชคดี) เมื่อถามว่า ตอนนี้บังแจ็คทำอะไรอยู่ ตนต้องขอบคุณเน็ตไอดอลที่สร้างภาพให้ตนเป็นแบบนั้นว่าเขาทำสำเร็จ ตนมีร้านอาหาร 2 แห่ง มีบริษัทที่มีรถยนต์กันกระสุน 5 คัน รับคุ้มกันดาราระดับโลก นักฟุตบอลชื่อดัง และนักการเมือง ยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์มือถือแตงโมจริง ให้ นพ.ธวัชชัชตรวจอีมี่ (IMEI) และตรวจเครื่องให้เรียบร้อย ถ้าสมมติถ้าตนหิวเงินหรือหิวแสงคงไม่เก็บไว้นานถึง 3 ปี ภาพหรือคลิปที่ตนเจอป่านนี้ได้เงินเป็นร้อยล้านแล้ว ตนนับถือศาสนาอิสลาม เป็นเงินบาป ทำแบบนี้ไม่ได้ เราไม่ไปยุ่งและไม่เปิดเผย ไม่ทำให้แตงโมเสียหายเพราะน่าสงสารที่สุดแล้ว . คลิกอ่านต้นฉบับ >> https://sondhitalk.com/detail/9680000012224 ...... Sondhi X
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 1244 Views 0 Reviews
  • ถนนจูเชวี่ยแห่งนครฉางอัน

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเร็วหน่อยก่อนจะแยกย้ายกันไปฉลองปีใหม่ พูดถึงเทศกาลคริสมาสและปีใหม่ ก็หนีไม่พ้นเรื่องของการซื้อของให้ของขวัญ ทำให้ Storyฯ นึกถึงถนนสายหนึ่งที่มักถูกกล่าวถึงในละครเรื่อง <ยอดขุนนางหญิงเจ้าเสน่ห์> เวลาที่นางเอกชวนสาวใช้ไปเดินช้อปปิ้ง

    ถนนสายนี้มีชื่อว่า ถนนจูเชวี่ย (朱雀街 / ถนนวิหคชาด) ซึ่งเป็นชื่อที่ปรากฏบ่อยมากในซีรีส์และนิยายจีน เพราะมันเป็นถนนที่โด่งดังมากแห่งนครฉางอัน และปัจจุบันยังคงมีถนนสายนี้อยู่ที่เมืองซีอัน แต่เรียกจริงๆ ว่าถนนใหญ่จูเชวี่ย (朱雀大街 / Zhuque Avenue)

    ถนนจูเชวี่ยที่เราเห็นในละครหลายเรื่องดูจะเป็นถนนเล็ก สองฟากเรียงรายด้วยแผงขายของ แต่จริงๆ แล้ว ถนนจูเชวี่ยเป็นถนนที่ใหญ่มาก เลยต้องเอารูปประกอบมาเสริมจากละครเรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> ซึ่งถูกกล่าวขานยกย่องว่ามีการจำลองผังเมืองนครฉางอันมาอย่างดี

    ‘ฉางอัน’ ชื่อนี้แปลว่าสงบสุขยืนยาว และเมืองฉางอันมีอดีตยาวนานสมชื่อ มันเคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่หลายราชวงศ์ แต่ไม่ได้มีอาณาเขตเท่ากันในทุกยุคสมัย ในสมัยราชวงศ์สุยและถังมีการสร้างพระราชวังขึ้นเพิ่มและขยายอาณาเขตออกไป และในสมัยถังจัดได้ว่าเป็นช่วงที่เรืองรองที่สุดของนครฉางอัน ในช่วงที่เฟื่องฟูที่สุดนั้น นครฉางอันมีประชากรถึง 3 ล้านคน เป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกในสมัยนั้น ใหญ่กว่ากรุงโรมโบราณถึง 7 เท่า เส้นผ่าศูนย์กลางตะวันออก-ตะวันตกของเมืองยาว 9.7 กิโลเมตร เหนือ-ใต้ยาว 8.7 กิโลเมตร

    ต่อมาในสมัยปลายถังมีการหนีข้าศึกย้ายราชธานีไปยังเมืองลั่วหยาง เมืองฉางอันก็ค่อยๆ เสื่อมโทรมลง ในสมัยหมิงมีการบูรณะฉางอันสร้างขึ้นอีกครั้งเป็นเมืองซีอัน แต่ก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่าฉางอันเดิม

    นครฉางอันสมัยถังแบ่งเป็นสองเขตใหญ่ คือฝั่งตะวันออกและตะวันตก มีถนนใหญ่คั่นกลางคือถนนจูเชวี่ย (ดูรูปประกอบ2) พื้นที่ทั้งหมดถูกแบ่งซอยย่อยเป็นเขตเล็กทรงสี่เหลี่ยมเรียกว่า ‘ฟาง’ มีหลายขนาด ยาวประมาณ 500-800 เมตร กว้าง 700-1,000 เมตร แต่ละเขตฟางมีกำแพงและคูระบายน้ำล้อมรอบ และมีประตูเข้าออกของมันเองเพื่อความปลอดภัย โดยประตูจะเปิดในตอนเช้าและปิดในตอนกลางคืน มีทั้งหมดด้วยกัน 108 เขตฟาง (ไม่รวมตลาดอีก 2 ฟาง) จนบางคนเปรียบผังเมืองฉางอันเป็นกระดานหมากล้อม เพื่อนเพจที่ได้ดู <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> น่าจะคุ้นเคยกับภาพของเขตฟางเหล่านี้

    นครฉางอันมีประตูเมือง 12 ประตู (Storyฯ เคยคุยถึงประตูเมืองโบราณแล้วใน https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/581451090649854 ) และประตูเมืองที่สำคัญเพราะเป็นประตูหลักในการเข้าออกเมืองนี้ก็คือประตูทิศใต้ที่มีชื่อว่า ประตูหมิงเต๋อ มันเป็นประตูเมืองประตูเดียวที่มีถึงห้าบาน โดยหนึ่งบานนั้นเป็นประตูที่เปิดใช้เฉพาะยามที่ฮ่องเต้เสด็จเข้าออกเมือง

    ถนนจูเชวี่ยนี้ ทิศใต้จรดประตูเมืองหมิงเต๋อที่กล่าวถึงข้างต้น ส่วนทิศเหนือนั้นจรดประตูเขตพระนครชื่อว่าประตูจูเชวี่ย และเลยผ่านเขตพระนครไปจรดประตูพระราชวังเฉิงเทียน อนึ่ง เขตพระนครหรือหวงเฉิง (皇城 / Royal City) นั้นคือส่วนที่เป็นบริเวณสถานที่ราชการต่างๆ ส่วนเขตพระราชวังหรือกงเฉิง (宫城 / Palace City) นั้นคือเขตที่ประทับของฮ่องเต้และเหล่าเชื้อพระวงศ์ ถนนจูเชวี่ยส่วนที่อยู่ในเขตพระนครนั้นเรียกว่า ถนนเฉิงเทียน ตามชื่อประตู และเป็นที่มาว่าถนนจูเชวี่ยถูกเรียกว่าถนน ‘เทียนเจีย’ (ถนนสวรรค์)

    ถนนจูเชวี่ยแห่งนครฉางอันในสมัยถังนั้น จริงแท้หน้าตาเป็นอย่างไรไม่ปรากฏภาพวาดเปรียบเทียบกับถนนอื่นอย่างชัดเจน แต่มีการขุดพบซากถนนเก่าที่ยืนยันขนาดของมันว่ามีความยาว กว่า 5 กม. ถนนหน้ากว้าง 150 เมตร (รวมคูข้างถนน ถ้าไม่รวมคือประมาณ 129-130 เมตร) และทุกระยะทาง 200 เมตรจะมีการขยายถนนออกไปเล็กน้อย คล้ายเป็นไหล่ทาง มีไว้ให้คนยืนหลบเวลาที่ฮ่องเต้เสด็จผ่าน --- ลองนึกเปรียบเทียบดูว่า ถนนบ้านเราปัจจุบันตามกฎหมายกว้าง 3 เมตร ดังนั้นความกว้างของถนนจูเชวี่ยเทียบเท่าถนนห้าสิบเลนปัจจุบันของเราเลยทีเดียว! ทีนี้เพื่อนเพจคงนึกภาพตามได้ไม่ยากแล้วว่า ในละครที่เราเห็นภาพฮ่องเต้ทรงอวยพรให้แม่ทัพและเหล่ากองกำลังทหารก่อนเดินทัพออกจากพระราชวังนั้น เขามีถนนใหญ่อย่างนี้จริง

    มีคนวิเคราะห์ไว้ว่า ขนาดความกว้างของถนนจูเชวี่ยนี้ เป็นเพราะระยะทางการยิงของธนูธรรมดาในสมัยนั้น ยิงได้ไกลประมาณ 60 เมตร ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของขบวนเสด็จของฮ่องเต้ ถนนจูเชวี่ยจึงต้องมีความกว้างถึง 150 เมตร

    แต่ไม่ใช่ถนนทุกสายที่มีหน้ากว้างขนาดนี้ ถนนสายรองของเมืองมีหน้ากว้างปกติ 40-70 เมตร และถนนเล็กเลียบกำแพงเมืองจะมีหน้ากว้างไม่เกิน 25 เมตร ส่วนถนนระหว่างเขตฟางส่วนใหญ่มีความกว้างเพียงให้รถเกวียนหรือรถม้าสองคันวิ่งสวนกัน

    ถนนจูเชวี่ยใหญ่ขนาดนี้ ใช่ถนนช้อปปิ้งหรือไม่?

    จากบันทึกโบราณ สถานช้อปปิ้งหลักของนครฉางอันคือตลาดตะวันตกและตลาดตะวันออก (ดูรูปผังเมืองที่แปะมา) โดยสินค้าในตลาดตะวันตกส่วนใหญ่เป็นสินค้าพื้นบ้านหรือของนำเข้าจากเมืองอื่นสำหรับชาวบ้านทั่วไป แต่สินค้าในตลาดตะวันออกจากมีราคาสูงขึ้นมาอีก เพราะกลุ่มลูกค้าจะเป็นชนชั้นสูง ส่วนถนนจูเชวี่ยนั้น สองฝั่งฟากส่วนใหญ่เป็นวัดวาอารามและหอชมวิว

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.niusnews.com/=P0123ga33
    https://n.znds.com/article/39071.html
    http://v.xiancity.cn/folder11/folder186/2016-11-25/89648.html
    https://m.planning.org.cn/zx_news/9888.htm
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.planning.org.cn/zx_news/9888.htm
    https://en.unesco.org/silkroad/content/did-you-know-cosmopolitan-city-changan-eastern-end-silk-roads
    https://i.ifeng.com/c/8NbyjwjSa8B
    https://kknews.cc/history/6o6lop.html
    https://kknews.cc/news/e8orjvn.html
    https://www.gugong.net/zhongguo/tangchao/29679.html

    #ยอดขุนนางหญิงเจ้าเสน่ห์ #ฉางอันสิบสองชั่วยาม #ฉางอัน #ถนนจูเชวี่ย #ถนนสวรรค์
    ถนนจูเชวี่ยแห่งนครฉางอัน สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเร็วหน่อยก่อนจะแยกย้ายกันไปฉลองปีใหม่ พูดถึงเทศกาลคริสมาสและปีใหม่ ก็หนีไม่พ้นเรื่องของการซื้อของให้ของขวัญ ทำให้ Storyฯ นึกถึงถนนสายหนึ่งที่มักถูกกล่าวถึงในละครเรื่อง <ยอดขุนนางหญิงเจ้าเสน่ห์> เวลาที่นางเอกชวนสาวใช้ไปเดินช้อปปิ้ง ถนนสายนี้มีชื่อว่า ถนนจูเชวี่ย (朱雀街 / ถนนวิหคชาด) ซึ่งเป็นชื่อที่ปรากฏบ่อยมากในซีรีส์และนิยายจีน เพราะมันเป็นถนนที่โด่งดังมากแห่งนครฉางอัน และปัจจุบันยังคงมีถนนสายนี้อยู่ที่เมืองซีอัน แต่เรียกจริงๆ ว่าถนนใหญ่จูเชวี่ย (朱雀大街 / Zhuque Avenue) ถนนจูเชวี่ยที่เราเห็นในละครหลายเรื่องดูจะเป็นถนนเล็ก สองฟากเรียงรายด้วยแผงขายของ แต่จริงๆ แล้ว ถนนจูเชวี่ยเป็นถนนที่ใหญ่มาก เลยต้องเอารูปประกอบมาเสริมจากละครเรื่อง <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> ซึ่งถูกกล่าวขานยกย่องว่ามีการจำลองผังเมืองนครฉางอันมาอย่างดี ‘ฉางอัน’ ชื่อนี้แปลว่าสงบสุขยืนยาว และเมืองฉางอันมีอดีตยาวนานสมชื่อ มันเคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่หลายราชวงศ์ แต่ไม่ได้มีอาณาเขตเท่ากันในทุกยุคสมัย ในสมัยราชวงศ์สุยและถังมีการสร้างพระราชวังขึ้นเพิ่มและขยายอาณาเขตออกไป และในสมัยถังจัดได้ว่าเป็นช่วงที่เรืองรองที่สุดของนครฉางอัน ในช่วงที่เฟื่องฟูที่สุดนั้น นครฉางอันมีประชากรถึง 3 ล้านคน เป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกในสมัยนั้น ใหญ่กว่ากรุงโรมโบราณถึง 7 เท่า เส้นผ่าศูนย์กลางตะวันออก-ตะวันตกของเมืองยาว 9.7 กิโลเมตร เหนือ-ใต้ยาว 8.7 กิโลเมตร ต่อมาในสมัยปลายถังมีการหนีข้าศึกย้ายราชธานีไปยังเมืองลั่วหยาง เมืองฉางอันก็ค่อยๆ เสื่อมโทรมลง ในสมัยหมิงมีการบูรณะฉางอันสร้างขึ้นอีกครั้งเป็นเมืองซีอัน แต่ก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่าฉางอันเดิม นครฉางอันสมัยถังแบ่งเป็นสองเขตใหญ่ คือฝั่งตะวันออกและตะวันตก มีถนนใหญ่คั่นกลางคือถนนจูเชวี่ย (ดูรูปประกอบ2) พื้นที่ทั้งหมดถูกแบ่งซอยย่อยเป็นเขตเล็กทรงสี่เหลี่ยมเรียกว่า ‘ฟาง’ มีหลายขนาด ยาวประมาณ 500-800 เมตร กว้าง 700-1,000 เมตร แต่ละเขตฟางมีกำแพงและคูระบายน้ำล้อมรอบ และมีประตูเข้าออกของมันเองเพื่อความปลอดภัย โดยประตูจะเปิดในตอนเช้าและปิดในตอนกลางคืน มีทั้งหมดด้วยกัน 108 เขตฟาง (ไม่รวมตลาดอีก 2 ฟาง) จนบางคนเปรียบผังเมืองฉางอันเป็นกระดานหมากล้อม เพื่อนเพจที่ได้ดู <ฉางอันสิบสองชั่วยาม> น่าจะคุ้นเคยกับภาพของเขตฟางเหล่านี้ นครฉางอันมีประตูเมือง 12 ประตู (Storyฯ เคยคุยถึงประตูเมืองโบราณแล้วใน https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/581451090649854 ) และประตูเมืองที่สำคัญเพราะเป็นประตูหลักในการเข้าออกเมืองนี้ก็คือประตูทิศใต้ที่มีชื่อว่า ประตูหมิงเต๋อ มันเป็นประตูเมืองประตูเดียวที่มีถึงห้าบาน โดยหนึ่งบานนั้นเป็นประตูที่เปิดใช้เฉพาะยามที่ฮ่องเต้เสด็จเข้าออกเมือง ถนนจูเชวี่ยนี้ ทิศใต้จรดประตูเมืองหมิงเต๋อที่กล่าวถึงข้างต้น ส่วนทิศเหนือนั้นจรดประตูเขตพระนครชื่อว่าประตูจูเชวี่ย และเลยผ่านเขตพระนครไปจรดประตูพระราชวังเฉิงเทียน อนึ่ง เขตพระนครหรือหวงเฉิง (皇城 / Royal City) นั้นคือส่วนที่เป็นบริเวณสถานที่ราชการต่างๆ ส่วนเขตพระราชวังหรือกงเฉิง (宫城 / Palace City) นั้นคือเขตที่ประทับของฮ่องเต้และเหล่าเชื้อพระวงศ์ ถนนจูเชวี่ยส่วนที่อยู่ในเขตพระนครนั้นเรียกว่า ถนนเฉิงเทียน ตามชื่อประตู และเป็นที่มาว่าถนนจูเชวี่ยถูกเรียกว่าถนน ‘เทียนเจีย’ (ถนนสวรรค์) ถนนจูเชวี่ยแห่งนครฉางอันในสมัยถังนั้น จริงแท้หน้าตาเป็นอย่างไรไม่ปรากฏภาพวาดเปรียบเทียบกับถนนอื่นอย่างชัดเจน แต่มีการขุดพบซากถนนเก่าที่ยืนยันขนาดของมันว่ามีความยาว กว่า 5 กม. ถนนหน้ากว้าง 150 เมตร (รวมคูข้างถนน ถ้าไม่รวมคือประมาณ 129-130 เมตร) และทุกระยะทาง 200 เมตรจะมีการขยายถนนออกไปเล็กน้อย คล้ายเป็นไหล่ทาง มีไว้ให้คนยืนหลบเวลาที่ฮ่องเต้เสด็จผ่าน --- ลองนึกเปรียบเทียบดูว่า ถนนบ้านเราปัจจุบันตามกฎหมายกว้าง 3 เมตร ดังนั้นความกว้างของถนนจูเชวี่ยเทียบเท่าถนนห้าสิบเลนปัจจุบันของเราเลยทีเดียว! ทีนี้เพื่อนเพจคงนึกภาพตามได้ไม่ยากแล้วว่า ในละครที่เราเห็นภาพฮ่องเต้ทรงอวยพรให้แม่ทัพและเหล่ากองกำลังทหารก่อนเดินทัพออกจากพระราชวังนั้น เขามีถนนใหญ่อย่างนี้จริง มีคนวิเคราะห์ไว้ว่า ขนาดความกว้างของถนนจูเชวี่ยนี้ เป็นเพราะระยะทางการยิงของธนูธรรมดาในสมัยนั้น ยิงได้ไกลประมาณ 60 เมตร ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของขบวนเสด็จของฮ่องเต้ ถนนจูเชวี่ยจึงต้องมีความกว้างถึง 150 เมตร แต่ไม่ใช่ถนนทุกสายที่มีหน้ากว้างขนาดนี้ ถนนสายรองของเมืองมีหน้ากว้างปกติ 40-70 เมตร และถนนเล็กเลียบกำแพงเมืองจะมีหน้ากว้างไม่เกิน 25 เมตร ส่วนถนนระหว่างเขตฟางส่วนใหญ่มีความกว้างเพียงให้รถเกวียนหรือรถม้าสองคันวิ่งสวนกัน ถนนจูเชวี่ยใหญ่ขนาดนี้ ใช่ถนนช้อปปิ้งหรือไม่? จากบันทึกโบราณ สถานช้อปปิ้งหลักของนครฉางอันคือตลาดตะวันตกและตลาดตะวันออก (ดูรูปผังเมืองที่แปะมา) โดยสินค้าในตลาดตะวันตกส่วนใหญ่เป็นสินค้าพื้นบ้านหรือของนำเข้าจากเมืองอื่นสำหรับชาวบ้านทั่วไป แต่สินค้าในตลาดตะวันออกจากมีราคาสูงขึ้นมาอีก เพราะกลุ่มลูกค้าจะเป็นชนชั้นสูง ส่วนถนนจูเชวี่ยนั้น สองฝั่งฟากส่วนใหญ่เป็นวัดวาอารามและหอชมวิว (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.niusnews.com/=P0123ga33 https://n.znds.com/article/39071.html http://v.xiancity.cn/folder11/folder186/2016-11-25/89648.html https://m.planning.org.cn/zx_news/9888.htm Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.planning.org.cn/zx_news/9888.htm https://en.unesco.org/silkroad/content/did-you-know-cosmopolitan-city-changan-eastern-end-silk-roads https://i.ifeng.com/c/8NbyjwjSa8B https://kknews.cc/history/6o6lop.html https://kknews.cc/news/e8orjvn.html https://www.gugong.net/zhongguo/tangchao/29679.html #ยอดขุนนางหญิงเจ้าเสน่ห์ #ฉางอันสิบสองชั่วยาม #ฉางอัน #ถนนจูเชวี่ย #ถนนสวรรค์
    0 Comments 0 Shares 949 Views 0 Reviews
  • มูดาวรุ่ง...พยุงดาวร่วง
    สำหรับท่านที่เกิดปีวอก

    เพื่อเป็นการน้อมอัญเชิญพลังดาวเทพมงคล 天德(เทียงเต็ก) ที่โคจรมาได้แผ่พลังบารมีคุ้มครองเสริมส่งได้อย่างเต็มที่ จึงควรไปกราบนมัสการน้อมสักการะบูชาต่อองค์เทพเจ้าที่ “伯公(แป๊ะกง)” หรือ “福德正神 (ฮกเต๊กเจี๊ยซิ้ง) พร้อมแก้ชงต่อองค์ 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ประจำปี 2568 ที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) ณ ทุกศาลศักดิ์สิทธ์ที่มีรูปปั้นเคารพองค์เทพท่านสถิตอยู่หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป เป็นการถวายฝากดวงเพื่อน้อมขอพรบารมีองค์เทพท่านได้เมตตาคุ้มครองปกป้องรักษาและอวยพรให้ลูกหลานได้พบแต่สิ่งที่ดีในการดำเนินชีวิตได้อย่างปกติราบรื่นตลอดไปทั้งปี

    อีกทั้งควรน้อมอัญเชิญองค์เทพเจ้าที่ “伯公(แป๊ะกง)” หรือ “福德正神 (ฮกเต๊กเจี๊ยซิ้ง) และองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ประจำปี 2568 ที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) มาสักการะเทิดทูนบูชาด้วยการพกพาหรือโหลดภาพเก็บไว้หน้าแรกของโทรศัพท์ติดตัวไว้ตลอดเวลา เสมือนเป็นสื่ออธิษฐานให้กระแสบารมีขององค์เทพท่านได้แผ่บารมีคุ้มครองได้อย่างดียิ่งขึ้นในทุกเวลาทุกสถานที่เพื่อให้อุปสรรค์ขวากหนามผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่นตลอดทั้งปี
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    มูดาวรุ่ง...พยุงดาวร่วง สำหรับท่านที่เกิดปีวอก เพื่อเป็นการน้อมอัญเชิญพลังดาวเทพมงคล 天德(เทียงเต็ก) ที่โคจรมาได้แผ่พลังบารมีคุ้มครองเสริมส่งได้อย่างเต็มที่ จึงควรไปกราบนมัสการน้อมสักการะบูชาต่อองค์เทพเจ้าที่ “伯公(แป๊ะกง)” หรือ “福德正神 (ฮกเต๊กเจี๊ยซิ้ง) พร้อมแก้ชงต่อองค์ 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ประจำปี 2568 ที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) ณ ทุกศาลศักดิ์สิทธ์ที่มีรูปปั้นเคารพองค์เทพท่านสถิตอยู่หลังวันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.นี้ เป็นต้นไป เป็นการถวายฝากดวงเพื่อน้อมขอพรบารมีองค์เทพท่านได้เมตตาคุ้มครองปกป้องรักษาและอวยพรให้ลูกหลานได้พบแต่สิ่งที่ดีในการดำเนินชีวิตได้อย่างปกติราบรื่นตลอดไปทั้งปี อีกทั้งควรน้อมอัญเชิญองค์เทพเจ้าที่ “伯公(แป๊ะกง)” หรือ “福德正神 (ฮกเต๊กเจี๊ยซิ้ง) และองค์เทพคุ้มครองดวงชะตา 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ประจำปี 2568 ที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) มาสักการะเทิดทูนบูชาด้วยการพกพาหรือโหลดภาพเก็บไว้หน้าแรกของโทรศัพท์ติดตัวไว้ตลอดเวลา เสมือนเป็นสื่ออธิษฐานให้กระแสบารมีขององค์เทพท่านได้แผ่บารมีคุ้มครองได้อย่างดียิ่งขึ้นในทุกเวลาทุกสถานที่เพื่อให้อุปสรรค์ขวากหนามผ่านพ้นไปได้อย่างราบรื่นตลอดทั้งปี ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 Comments 0 Shares 225 Views 0 Reviews
  • โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคารีวา กล่าวอวยพรวันตรุษจีนเป็นภาษาจีน

    เธอกลายเป็นขวัญใจชาวจีนในอินเทอร์เน็ต ซึ่งรู้จักเธอในชื่อ ซิสเตอร์ซา 扎姐

    เธอยังบอกอีกว่าอาหารจีนที่เธอชอบคือหมูเปรี้ยวหวาน และเธอก็ชอบเกี๊ยวของจีนด้วยเช่นกัน ที่รัสเซียก็มีประเพณีเกี๊ยวในแบบของรัสเซียด้วยเช่นกัน
    โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคารีวา กล่าวอวยพรวันตรุษจีนเป็นภาษาจีน เธอกลายเป็นขวัญใจชาวจีนในอินเทอร์เน็ต ซึ่งรู้จักเธอในชื่อ ซิสเตอร์ซา 扎姐 เธอยังบอกอีกว่าอาหารจีนที่เธอชอบคือหมูเปรี้ยวหวาน และเธอก็ชอบเกี๊ยวของจีนด้วยเช่นกัน ที่รัสเซียก็มีประเพณีเกี๊ยวในแบบของรัสเซียด้วยเช่นกัน
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 408 Views 19 0 Reviews
  • 💐เมื่อเสียงระฆังวันตรุษจีนดังขึ้น เราก็ได้ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและความสุข ในช่วงเวลาพิเศษนี้ ผมอยากส่งคำอวยพรที่จริงใจที่สุดให้กับทุกท่าน ขอให้ทุกท่านสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา และทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดีในปีใหม่นี้!
    .
    วันตรุษจีนเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา เป็นช่วงเวลาแห่งการขอบคุณและอวยพร ขอให้ทุกท่านได้ใช้เวลาอันมีค่ากับครอบครัว อบอวลไปด้วยความอบอุ่นและความสุข ไม่ว่าปีที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร ปีใหม่ก็มักนำมาซึ่งความหวังและโอกาสใหม่ๆ ขอให้ทุกท่านจับโอกาสทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา กล้าที่จะไล่ตามความฝัน และพบกับความสำเร็จและความสุข
    .
    ขอให้สุขภาพของทุกท่านแข็งแรงดั่งต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม หน้าที่การงานราบรื่นดั่งสายลมที่พัดผ่าน ความมั่งคั่งไหลมาเทมาดั่งแม่น้ำที่ไหลไม่หยุด และครอบครัวมีความสุขดั่งสวนดอกไม้ที่เบ่งบาน ขอให้ทุกวันเต็มไปด้วยแสงแดดและเสียงหัวเราะ ทุกช่วงเวลาอบอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่น
    .
    ปีใหม่นี้ ขอให้ทุกท่านมีโชคดี มีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และพบแต่สิ่งดีๆในชีวิต!
    .
    สุขสันต์วันตรุษจีน ขอให้ร่ำรวยเงินทอง!
    希望这些祝福文章能为你们带来新年的喜悦与好运!🎉🎊
    💐เมื่อเสียงระฆังวันตรุษจีนดังขึ้น เราก็ได้ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและความสุข ในช่วงเวลาพิเศษนี้ ผมอยากส่งคำอวยพรที่จริงใจที่สุดให้กับทุกท่าน ขอให้ทุกท่านสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา และทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดีในปีใหม่นี้! . วันตรุษจีนเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา เป็นช่วงเวลาแห่งการขอบคุณและอวยพร ขอให้ทุกท่านได้ใช้เวลาอันมีค่ากับครอบครัว อบอวลไปด้วยความอบอุ่นและความสุข ไม่ว่าปีที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร ปีใหม่ก็มักนำมาซึ่งความหวังและโอกาสใหม่ๆ ขอให้ทุกท่านจับโอกาสทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา กล้าที่จะไล่ตามความฝัน และพบกับความสำเร็จและความสุข . ขอให้สุขภาพของทุกท่านแข็งแรงดั่งต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม หน้าที่การงานราบรื่นดั่งสายลมที่พัดผ่าน ความมั่งคั่งไหลมาเทมาดั่งแม่น้ำที่ไหลไม่หยุด และครอบครัวมีความสุขดั่งสวนดอกไม้ที่เบ่งบาน ขอให้ทุกวันเต็มไปด้วยแสงแดดและเสียงหัวเราะ ทุกช่วงเวลาอบอวลไปด้วยความรักและความอบอุ่น . ปีใหม่นี้ ขอให้ทุกท่านมีโชคดี มีความสุข ความเจริญรุ่งเรือง และพบแต่สิ่งดีๆในชีวิต! . สุขสันต์วันตรุษจีน ขอให้ร่ำรวยเงินทอง! 希望这些祝福文章能为你们带来新年的喜悦与好运!🎉🎊
    0 Comments 0 Shares 479 Views 0 0 Reviews
  • 恭喜发财 新年快乐!
    "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้"

    ขออวยพรให้ปีใหม่นี้ เป็นปีที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ความสมหวัง และความเจริญรุ่งเรือง
    ขอให้สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง โชคลาภไหลมาเทมา
    กิจการรุ่งเรือง ครอบครัวอบอุ่น และสมปรารถนาในทุกสิ่งที่ตั้งใจ

    🎉🐉 ตรุษจีนปีนี้ จงมีแต่ความเฮง เฮง เฮง! 🧧
    恭喜发财 新年快乐! "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้" ขออวยพรให้ปีใหม่นี้ เป็นปีที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ความสมหวัง และความเจริญรุ่งเรือง ขอให้สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง โชคลาภไหลมาเทมา กิจการรุ่งเรือง ครอบครัวอบอุ่น และสมปรารถนาในทุกสิ่งที่ตั้งใจ 🎉🐉 ตรุษจีนปีนี้ จงมีแต่ความเฮง เฮง เฮง! 🧧
    0 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • 新正如意 新年发财 (ปีใหม่สมปรารถนา ร่ำรวยมั่งคั่ง)

    🎶 ปีใหม่เวียนมา เสียงประทัดก้องดัง 🌟 สีแดงสะพรั่ง ทั่วทุกหนทาง ขอพรจันทรา นำพาความสุขมา 新正如意 新年发财

    * 🎵 ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาฉาย ปีใหม่โชคดี ร่ำรวยสมใจ 💰 ครอบครัวพร้อมหน้า หัวใจยิ้มได้ 新正如意 新年发财

    🌙 บ้านสะอาด ปัดเป่าความหมอง จัดดอกไม้แดง ประดับในห้อง ไหว้เทพบรรพชน กินข้าวพร้อมพี่น้อง พร้อมรับปีใหม่ที่สดใสยืนยาว

    🎶 ซองแดงมอบให้ อั่งเปาเต็มมือ คำอวยพรซื่อ ๆ แต่มากความหมาย เด็ก ๆ หัวเราะเสียงก้องใจสบาย ขอให้ปีนี้สมดังใจปรารถนา

    🎵 ซ้ำ * 💰

    🌟 เสียงประทัดดัง ปัดเคราะห์ร้ายไป ความสุขเต็มใจในทุกวันใหม่ ดวงจันทร์กลมโต เปรียบรักที่ยิ่งใหญ่ ความหวังโชติช่วง รุ่งเรืองทั้งปี

    🎶 ส้มสีทองมอบแก่กัน โชคลาภนั้นพรั่งพร้อมทันที แต่งกายสีแดง เพิ่มพลังชีวี ตรุษจีนปีนี้ ขอให้สุขสมใจ

    ✨ โชคดีล้นฟ้า เหมือนปลาในน้ำ ทรัพย์สินหนาแน่น เหมือนภูเขาทองคำ ให้หัวใจเบ่งบาน ด้วยเสียงหัวเราะดัง ปีใหม่นี้เราทุกคนสุขสมหวัง

    🎵 ซ้ำ * 💰

    🎶 ปีใหม่เวียนมา ขอพรจันทรา 新正如意 新年发财 สุขสมปรารถนา ร่ำรวยมั่งคั่ง 🌟

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 281037 ม.ค. 2568

    #新正如意新年发财 #เพลงตรุษจีน #ตรุษจีน2568 #เพลงป๊อปกลิ่นอายจีน #เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ #ChineseNewYearSong #โชคลาภและความมั่งคั่ง #เพลงเฉลิมฉลองตรุษจีน #ตรุษจีนปีนี้ต้องปัง #HappyLunarNewYear 🎋🎶
    新正如意 新年发财 (ปีใหม่สมปรารถนา ร่ำรวยมั่งคั่ง) 🎶 ปีใหม่เวียนมา เสียงประทัดก้องดัง 🌟 สีแดงสะพรั่ง ทั่วทุกหนทาง ขอพรจันทรา นำพาความสุขมา 新正如意 新年发财 * 🎵 ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาฉาย ปีใหม่โชคดี ร่ำรวยสมใจ 💰 ครอบครัวพร้อมหน้า หัวใจยิ้มได้ 新正如意 新年发财 🌙 บ้านสะอาด ปัดเป่าความหมอง จัดดอกไม้แดง ประดับในห้อง ไหว้เทพบรรพชน กินข้าวพร้อมพี่น้อง พร้อมรับปีใหม่ที่สดใสยืนยาว 🎶 ซองแดงมอบให้ อั่งเปาเต็มมือ คำอวยพรซื่อ ๆ แต่มากความหมาย เด็ก ๆ หัวเราะเสียงก้องใจสบาย ขอให้ปีนี้สมดังใจปรารถนา 🎵 ซ้ำ * 💰 🌟 เสียงประทัดดัง ปัดเคราะห์ร้ายไป ความสุขเต็มใจในทุกวันใหม่ ดวงจันทร์กลมโต เปรียบรักที่ยิ่งใหญ่ ความหวังโชติช่วง รุ่งเรืองทั้งปี 🎶 ส้มสีทองมอบแก่กัน โชคลาภนั้นพรั่งพร้อมทันที แต่งกายสีแดง เพิ่มพลังชีวี ตรุษจีนปีนี้ ขอให้สุขสมใจ ✨ โชคดีล้นฟ้า เหมือนปลาในน้ำ ทรัพย์สินหนาแน่น เหมือนภูเขาทองคำ ให้หัวใจเบ่งบาน ด้วยเสียงหัวเราะดัง ปีใหม่นี้เราทุกคนสุขสมหวัง 🎵 ซ้ำ * 💰 🎶 ปีใหม่เวียนมา ขอพรจันทรา 新正如意 新年发财 สุขสมปรารถนา ร่ำรวยมั่งคั่ง 🌟 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 281037 ม.ค. 2568 #新正如意新年发财 #เพลงตรุษจีน #ตรุษจีน2568 #เพลงป๊อปกลิ่นอายจีน #เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ #ChineseNewYearSong #โชคลาภและความมั่งคั่ง #เพลงเฉลิมฉลองตรุษจีน #ตรุษจีนปีนี้ต้องปัง #HappyLunarNewYear 🎋🎶
    0 Comments 0 Shares 956 Views 20 0 Reviews
  • 27-29 มกราคม 2568 เทศกาลตรุษจีน 新正如意 新年發財 新正如意 新年发财

    "ตรุษจีน" หรือ “เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ” เป็นวันสำคัญที่ชาวจีนทั่วโลก ต่างเฝ้ารอด้วยความตื่นเต้น และเปี่ยมไปด้วยความสุข ในปีนี้ ตรุษจีนตรงกับวันที่ 29 มกราคม 2568 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ความเป็นสิริมงคล และการรวมตัวของครอบครัว 🌟

    ตรุษจีน (Chinese New Year) เป็นเทศกาลที่มีความสำคัญที่สุด ในปฏิทินจีน ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ ตามปฏิทินจันทรคติ โดยเริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 และสิ้นสุดในวันที่ 15 ซึ่งเป็นเทศกาลโคมไฟ ทั้งนี้ ตรุษจีนไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง การเปลี่ยนปีใหม่ แต่ยังเป็นโอกาส ในการแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษ การฟื้นฟูความสัมพันธ์ในครอบครัว และการเริ่มต้นสิ่งดี ๆ ในชีวิต

    เทศกาลตรุษจีน มีประวัติยาวนานนับพันปี โดยเริ่มต้นจาก ตำนานสัตว์ร้าย “เหนียน” (年) ที่จะออกมาสร้างความหวาดกลัว ให้กับผู้คนทุกปี ชาวบ้านจึงใช้วิธีจุดประทัด และตกแต่งบ้านด้วยสีแดง เพื่อขับไล่ปีศาจร้าย จนกลายมาเป็นประเพณี ที่นิยมปฏิบัติในปัจจุบัน 🎆

    ตรุษจีนไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลองปีใหม่ แต่ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้ง เช่น
    - การเริ่มต้นใหม่ที่ดี การทำความสะอาดบ้าน และตกแต่งด้วยสีแดง เพื่อขจัดโชคร้าย
    - ความรักและความสัมพันธ์ในครอบครัว การรับประทานอาหารร่วมกัน เป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี
    - ความมั่งคั่งและโชคลาภ ซองอั่งเปาและการไหว้เจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคล

    ประเพณีตรุษจีนในไทย
    วันจ่าย
    28 มกราคม 2568 คือวันก่อนวันตรุษจีน ชาวไทยเชื้อสายจีน จะออกไปซื้อของจำเป็น เช่น เนื้อสัตว์ ผลไม้ ขนมมงคล และเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ เพื่อเตรียมตัวสำหรับวันไหว้

    วันไหว้
    29 มกราคม 2568 เป็นวันสำคัญ ที่มีพิธีไหว้ใน 3 ช่วง ได้แก่
    - ช่วงเช้ามืด ไหว้เทพเจ้า เช่น เทพเจ้าผู้คุ้มครอง
    - ช่วงสาย ไหว้บรรพบุรุษ โดยมีอาหารที่ผู้ล่วงลับเคยชอบ เช่น หมู เป็ด ไก่ และขนมเข่ง
    - ช่วงบ่าย ไหว้ “ฮ่อเฮียตี๋” (วิญญาณพี่น้องที่ล่วงลับ) พร้อมจุดประทัดเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย

    วันเที่ยว
    30 มกราคม 2568 หรือ “วันถือ” เป็นวันที่ชาวจีนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ ออกเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ และมอบส้มสีทอง เป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง 🍊

    คำอวยพรตรุษจีนยอดนิยม
    ในช่วงเทศกาลตรุษจีน การส่งคำอวยพรเป็นสิ่งสำคัญ ที่สื่อถึงความปรารถนาดี ตัวอย่างคำอวยพร ที่ใช้กันบ่อย ได้แก่

    “新正如意 新年發財” (ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาฉาย) ขอให้ปีใหม่สมปรารถนาและร่ำรวยมั่งคั่ง
    “恭喜發財” (กงสี่ฟาไฉ) ขอให้ร่ำรวยเงินทอง
    “萬事如意” (ว่านซื่อหรูอี้) ขอให้สมปรารถนาในทุกสิ่ง

    ✨ การใช้ซองอั่งเปา (ซองสีแดง) เพื่อมอบเงินให้กับเด็ก หรือผู้ที่อายุน้อยกว่า ก็เป็นอีกหนึ่งการแสดงความปรารถนาดี

    อาหารมงคลในวันตรุษจีน
    อาหารถือเป็นส่วนสำคัญของตรุษจีน โดยมีเมนูที่มีความหมายมงคล เช่น
    - ปลา (鱼) ความอุดมสมบูรณ์
    - ขนมเข่งและขนมเทียน ความเจริญรุ่งเรือง
    - เกี๊ยว (饺子) ความมั่งคั่ง
    - เส้นหมี่ (长寿面) อายุยืนยาว

    การเลือกรับประทานอาหารเหล่านี้ ไม่ได้เพียงแค่ตามธรรมเนียม แต่ยังเป็นการเสริมสร้างกำลังใจ ในปีใหม่อีกด้วย

    เคล็ดลับเสริมโชคลาภช่วงตรุษจีน
    - ทำความสะอาดบ้านก่อนตรุษจีน เพื่อขจัดโชคร้าย แต่หลีกเลี่ยงการกวาดบ้าน ในวันปีใหม่
    - สวมใส่เสื้อผ้าสีแดง สีแดงถือเป็นสีแห่งความโชคดี
    - งดการพูดคำไม่ดี เพื่อเริ่มต้นปีใหม่อย่างเป็นมงคล
    - มอบส้มสีทอง เป็นการส่งมอบความมั่งคั่งให้แก่กัน

    ตรุษจีนปี 2568 ไม่ได้เป็นเพียงเทศกาล สำหรับชาวจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ทุกคน สามารถมีส่วนร่วมในประเพณี ที่เต็มไปด้วยสีสัน และความหมายดี ๆ ลองร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ ด้วยการเรียนรู้ และเข้าใจวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ เพื่อเสริมสร้างความสุข และความมั่งคั่งให้กับตนเอง และครอบครัว

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 281035 ม.ค. 2568

    #ตรุษจีน2568 #新正如意新年發財 #ChineseNewYear2025 #เทศกาลตรุษจีน #ประเพณีจีน #ตรุษจีนไทย #คำอวยพรตรุษจีน #อั่งเปา #อาหารมงคลตรุษจีน #โชคลาภตรุษจีน
    27-29 มกราคม 2568 เทศกาลตรุษจีน 新正如意 新年發財 新正如意 新年发财 "ตรุษจีน" หรือ “เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ” เป็นวันสำคัญที่ชาวจีนทั่วโลก ต่างเฝ้ารอด้วยความตื่นเต้น และเปี่ยมไปด้วยความสุข ในปีนี้ ตรุษจีนตรงกับวันที่ 29 มกราคม 2568 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ความเป็นสิริมงคล และการรวมตัวของครอบครัว 🌟 ตรุษจีน (Chinese New Year) เป็นเทศกาลที่มีความสำคัญที่สุด ในปฏิทินจีน ซึ่งตรงกับวันขึ้นปีใหม่ ตามปฏิทินจันทรคติ โดยเริ่มต้นในวันที่ 1 เดือน 1 และสิ้นสุดในวันที่ 15 ซึ่งเป็นเทศกาลโคมไฟ ทั้งนี้ ตรุษจีนไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง การเปลี่ยนปีใหม่ แต่ยังเป็นโอกาส ในการแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษ การฟื้นฟูความสัมพันธ์ในครอบครัว และการเริ่มต้นสิ่งดี ๆ ในชีวิต เทศกาลตรุษจีน มีประวัติยาวนานนับพันปี โดยเริ่มต้นจาก ตำนานสัตว์ร้าย “เหนียน” (年) ที่จะออกมาสร้างความหวาดกลัว ให้กับผู้คนทุกปี ชาวบ้านจึงใช้วิธีจุดประทัด และตกแต่งบ้านด้วยสีแดง เพื่อขับไล่ปีศาจร้าย จนกลายมาเป็นประเพณี ที่นิยมปฏิบัติในปัจจุบัน 🎆 ตรุษจีนไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลองปีใหม่ แต่ยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้ง เช่น - การเริ่มต้นใหม่ที่ดี การทำความสะอาดบ้าน และตกแต่งด้วยสีแดง เพื่อขจัดโชคร้าย - ความรักและความสัมพันธ์ในครอบครัว การรับประทานอาหารร่วมกัน เป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี - ความมั่งคั่งและโชคลาภ ซองอั่งเปาและการไหว้เจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคล ประเพณีตรุษจีนในไทย วันจ่าย 28 มกราคม 2568 คือวันก่อนวันตรุษจีน ชาวไทยเชื้อสายจีน จะออกไปซื้อของจำเป็น เช่น เนื้อสัตว์ ผลไม้ ขนมมงคล และเครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ เพื่อเตรียมตัวสำหรับวันไหว้ วันไหว้ 29 มกราคม 2568 เป็นวันสำคัญ ที่มีพิธีไหว้ใน 3 ช่วง ได้แก่ - ช่วงเช้ามืด ไหว้เทพเจ้า เช่น เทพเจ้าผู้คุ้มครอง - ช่วงสาย ไหว้บรรพบุรุษ โดยมีอาหารที่ผู้ล่วงลับเคยชอบ เช่น หมู เป็ด ไก่ และขนมเข่ง - ช่วงบ่าย ไหว้ “ฮ่อเฮียตี๋” (วิญญาณพี่น้องที่ล่วงลับ) พร้อมจุดประทัดเพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย วันเที่ยว 30 มกราคม 2568 หรือ “วันถือ” เป็นวันที่ชาวจีนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ ออกเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ และมอบส้มสีทอง เป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง 🍊 คำอวยพรตรุษจีนยอดนิยม ในช่วงเทศกาลตรุษจีน การส่งคำอวยพรเป็นสิ่งสำคัญ ที่สื่อถึงความปรารถนาดี ตัวอย่างคำอวยพร ที่ใช้กันบ่อย ได้แก่ “新正如意 新年發財” (ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาฉาย) ขอให้ปีใหม่สมปรารถนาและร่ำรวยมั่งคั่ง “恭喜發財” (กงสี่ฟาไฉ) ขอให้ร่ำรวยเงินทอง “萬事如意” (ว่านซื่อหรูอี้) ขอให้สมปรารถนาในทุกสิ่ง ✨ การใช้ซองอั่งเปา (ซองสีแดง) เพื่อมอบเงินให้กับเด็ก หรือผู้ที่อายุน้อยกว่า ก็เป็นอีกหนึ่งการแสดงความปรารถนาดี อาหารมงคลในวันตรุษจีน อาหารถือเป็นส่วนสำคัญของตรุษจีน โดยมีเมนูที่มีความหมายมงคล เช่น - ปลา (鱼) ความอุดมสมบูรณ์ - ขนมเข่งและขนมเทียน ความเจริญรุ่งเรือง - เกี๊ยว (饺子) ความมั่งคั่ง - เส้นหมี่ (长寿面) อายุยืนยาว การเลือกรับประทานอาหารเหล่านี้ ไม่ได้เพียงแค่ตามธรรมเนียม แต่ยังเป็นการเสริมสร้างกำลังใจ ในปีใหม่อีกด้วย เคล็ดลับเสริมโชคลาภช่วงตรุษจีน - ทำความสะอาดบ้านก่อนตรุษจีน เพื่อขจัดโชคร้าย แต่หลีกเลี่ยงการกวาดบ้าน ในวันปีใหม่ - สวมใส่เสื้อผ้าสีแดง สีแดงถือเป็นสีแห่งความโชคดี - งดการพูดคำไม่ดี เพื่อเริ่มต้นปีใหม่อย่างเป็นมงคล - มอบส้มสีทอง เป็นการส่งมอบความมั่งคั่งให้แก่กัน ตรุษจีนปี 2568 ไม่ได้เป็นเพียงเทศกาล สำหรับชาวจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ทุกคน สามารถมีส่วนร่วมในประเพณี ที่เต็มไปด้วยสีสัน และความหมายดี ๆ ลองร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ ด้วยการเรียนรู้ และเข้าใจวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ เพื่อเสริมสร้างความสุข และความมั่งคั่งให้กับตนเอง และครอบครัว ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 281035 ม.ค. 2568 #ตรุษจีน2568 #新正如意新年發財 #ChineseNewYear2025 #เทศกาลตรุษจีน #ประเพณีจีน #ตรุษจีนไทย #คำอวยพรตรุษจีน #อั่งเปา #อาหารมงคลตรุษจีน #โชคลาภตรุษจีน
    0 Comments 0 Shares 1265 Views 0 Reviews
  • #วันตรุษจีน เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามความเชื่อของชาวจีน เป็นการก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและโชคลาภ ชาวจีนจะทำการไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีและขอพรให้ได้รับความคุ้มครอง เป็นโอกาสดีที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มารวมตัวกัน ฉลองเทศกาล และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี

    Advertisement

    Play Video
    ชาวจีนมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีดังนี้



    สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน 2568
    ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ
    วันที่ชาวจีนต้องไว้เจ้านั้นเราเรียกว่า "วันซาจั๊บ" โดยมักจะทำในช่วงเช้าหลังจากที่ไหว้เจ้าในบ้าน คือ ตีจูเอี๊ยะและไหว้บรรพบุรุษ แล้วในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ โดยของไหว้จะมีทั้งอาหารคาว เช่น เป็ด ไก่ รวมถึงอาหารหวานด้วย จะมากหรือจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ไหว้

    นอกจากนี้ก็ยังต้องมีเครื่องกระป๋อง ข้าวสาร และเกลือ เพื่อให้ผีไม่มีญาติได้นำออกไปและเมื่อไหว้เสร็จก็ต้องจุดประทัด จากนั้นจึงเอาข้าวสารมาผสมกับเกลือแล้วนำมาโปรยเพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป
    รวมญาติกินเกี๊ยว
    สิ่งที่สำคัญมากอีกหนึ่งประการของวันตรุษจีน คือ เป็นวันนัดรวมญาติ เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวด้วยกันในวันซาจั๊บ

    ซึ่งถือเป็นมื้อสุดท้ายก่อนจะถึงวันปีใหม่หรือ "วันชิวอิก" (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน คือ วันชิวอิก) และเหตุที่ต้องเป็น "เกี๊ยว" ก็เพราะรูปร่างของเกี๊ยวมีลักษณะเหมือนกับ "เงิน" ของจีน จึงแฝงความหมายเป็นนัยว่าให้มั่งมีเงินทองนั่นเอง
    กินเจมื้อเช้า คือ มื้อแรกของปี
    ในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน) คนจีนจะกินเจเป็นอาหารมื้อแรก ซึ่งถือว่าเป็นมื้ออาหารแรกของปี โดยมีเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี
    ทำพิธีรับ "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ"
    "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ จึงมักจะมีการทำพิธีรับเทพซึ่งเปรียบได้กับการทำพิธีรับโชคลาภ โดยทั่วไปมักจะทำพิธีในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีหนึ่งของวันซาจั๊บ
    ห้ามกวาดบ้าน
    ในวันขึ้นปีใหม่ของจีนจะไม่มีการกวาดบ้านจนกว่าจะถึง "วันชิวสี่" (วันชิวสี่ คือ วันที่สี่ของเทศกาลตรุษจีน โดยปกติ จะแบ่งเป็น วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และวันชิวสี่) เพราะถ้ากวาดบ้านในวันปีใหม่จะถือว่าเป็นการกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป

    ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดหยากไย่ครั้งใหญ่ก่อนจะเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ เพื่อที่ว่าพอวันปีใหม่มาถึงก็จะงดทำความสะอาดบ้านนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดีหากบ้านใครสกปรกมากจนทนไม่ไหวก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการกวาดจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้านแทนได้
    ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ คำอวยพรปีใหม่
    เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน "ตุ๊ยเลี้ยง" เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ท่านใดไม่มีความรู้ด้านภาษาจีน ก็สามารถไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ได้ โดยแหล่งใหญ่ก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ หรือ เยาวราชนั่นเอง

    ส่วนคำอวยพรที่นิยมเขียน ประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ "ทำมาค้าขึ้น หรือ ให้มั่งมีเงินทอง" จากนั้นจะนำมาติดตามสองข้างประตูบ้าน และต้องมีอีก 1 แผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก

    แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" ซึ่งมีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวจีนยังนิยมติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ซึ่งถือเป็นภาพมงคลของจีนที่มักติดบริเวณประตูหน้าบ้าน
    ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส
    ในวันมงคลเช่นนี้ชาวจีนนิยมใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในปีใหม่นี้ด้วย โดยการเลือกเสื้อสีสดก็เปรียบได้กับความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งสีที่เป็นที่นิยมที่สุด ก็คือ "สีแดง" หมายถึง ความมงคล มั่งคั่ง
    ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่
    ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่จีน) คือ ทุกคนจะต้องนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ โดยผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าบ้านเองก็จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้รวมถึงลูกสมอจีนเอารอรับแขกอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้มาอวยพรพร้อมกับส้ม 4 ผล เจ้าบ้านก็จะรับส้มมา 2 ผล พร้อมกับนำส้มในบ้านตนเองไปวางคืนให้กับแขก 2 ผล
    รับอั่งเปา
    วันตรุษจีนถือเป็นอีกวันสำหรับเด็กๆ ที่ต่างตั้งตารอคอยวันนี้มาตลอด เพราะเป็นวันที่จะได้รับซองแดงใส่เงินขวัญถุง จากผู้ใหญ่เพื่อให้โชคดีตลอดทั้งปี โดยมารยาทก่อนจะรับซองแดงต้องอย่าลืมกล่าวคำว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" เพื่ออวยพรผู้ใหญ่ก่อนเสมอ
    ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต



    นอกจากในวันซาจั๊บแล้ว ในวันชิวอิกนี้ก็ยังต้องมีการไหว้ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย และที่สำคัญก็ยังต้องไหว้เจ้าเพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้ชีวิตของคุณและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญในชีวิต

    เมื่อรู้ถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติกันไปแล้ว มาดูข้อห้าม! ที่ห้ามทำในวันมงคลอย่างวันตรุษจีนกันบ้าง

    สิ่งที่ไม่ควรทําในวันตรุษจีน 2568
    ห้ามสระผมหรือตัดผม
    เนื่องจากคำว่า "ผม" พ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า "มั่งคั่ง" ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน มีความหมายว่า การนำความมั่งคั่งออกไป
    ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะ
    คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมถึงพูดเรื่องความตายหรือผี เพราะเชื่อว่า และจะนำความโชคร้ายมาให้ทั้งปี
    ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์
    ในสมัยก่อนคนจนมักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เหมือนกับการขัดขวางความร่ำรวย ขัดลาภ ขัดโชคจึงไม่ควรกินโจ๊กในเช้าของวันตรุษจีน ตลอดจนรวมถึงไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นจะกินแต่มังสวิรัติ
    ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน
    คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำ เกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน
    ห้ามใส่ชุดขาวดำ
    เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ หมายถึง ลางร้าย โดยคนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง เพราะเชื่อว่า สีแดง คือ สีแห่งความโชคดี
    ห้ามให้ยืมเงิน
    คนจีนเชื่อว่า การยืมเงินในวันนี้ จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด และถ้าใครที่ติดเงินใคร ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่า จะมีหนี้สินตลอดปี
    ห้ามทำของแตก
    เพราะเชื่อว่า เป็นลางร้ายถึงครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น
    ห้ามซื้อรองเท้าใหม่
    คนจีนจะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เพราะคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ จึงเชื่อว่า เป็น "สัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี"
    ห้ามร้องไห้
    คนจีนเชื่อว่า จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจทั้งปี
    ห้ามใช้ของมีคม
    ชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ คือ การตัดโชคดีไปด้วย
    ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น
    คนจีนเชื่อการเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้าย
    อ่านเพิ่มเติม

    วันตรุษจีน ประวัติ และความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน
    คำอวยพรวันตรุษจีน
    ตรุษจีน 2568 วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยว วันที่เท่าไร ห้ามทำอะไรบ้าง?
    #วันตรุษจีน เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามความเชื่อของชาวจีน เป็นการก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและโชคลาภ ชาวจีนจะทำการไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีและขอพรให้ได้รับความคุ้มครอง เป็นโอกาสดีที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มารวมตัวกัน ฉลองเทศกาล และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี Advertisement Play Video ชาวจีนมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีดังนี้ สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน 2568 ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ วันที่ชาวจีนต้องไว้เจ้านั้นเราเรียกว่า "วันซาจั๊บ" โดยมักจะทำในช่วงเช้าหลังจากที่ไหว้เจ้าในบ้าน คือ ตีจูเอี๊ยะและไหว้บรรพบุรุษ แล้วในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ โดยของไหว้จะมีทั้งอาหารคาว เช่น เป็ด ไก่ รวมถึงอาหารหวานด้วย จะมากหรือจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ไหว้ นอกจากนี้ก็ยังต้องมีเครื่องกระป๋อง ข้าวสาร และเกลือ เพื่อให้ผีไม่มีญาติได้นำออกไปและเมื่อไหว้เสร็จก็ต้องจุดประทัด จากนั้นจึงเอาข้าวสารมาผสมกับเกลือแล้วนำมาโปรยเพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป รวมญาติกินเกี๊ยว สิ่งที่สำคัญมากอีกหนึ่งประการของวันตรุษจีน คือ เป็นวันนัดรวมญาติ เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวด้วยกันในวันซาจั๊บ ซึ่งถือเป็นมื้อสุดท้ายก่อนจะถึงวันปีใหม่หรือ "วันชิวอิก" (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน คือ วันชิวอิก) และเหตุที่ต้องเป็น "เกี๊ยว" ก็เพราะรูปร่างของเกี๊ยวมีลักษณะเหมือนกับ "เงิน" ของจีน จึงแฝงความหมายเป็นนัยว่าให้มั่งมีเงินทองนั่นเอง กินเจมื้อเช้า คือ มื้อแรกของปี ในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน) คนจีนจะกินเจเป็นอาหารมื้อแรก ซึ่งถือว่าเป็นมื้ออาหารแรกของปี โดยมีเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี ทำพิธีรับ "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ จึงมักจะมีการทำพิธีรับเทพซึ่งเปรียบได้กับการทำพิธีรับโชคลาภ โดยทั่วไปมักจะทำพิธีในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีหนึ่งของวันซาจั๊บ ห้ามกวาดบ้าน ในวันขึ้นปีใหม่ของจีนจะไม่มีการกวาดบ้านจนกว่าจะถึง "วันชิวสี่" (วันชิวสี่ คือ วันที่สี่ของเทศกาลตรุษจีน โดยปกติ จะแบ่งเป็น วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และวันชิวสี่) เพราะถ้ากวาดบ้านในวันปีใหม่จะถือว่าเป็นการกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดหยากไย่ครั้งใหญ่ก่อนจะเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ เพื่อที่ว่าพอวันปีใหม่มาถึงก็จะงดทำความสะอาดบ้านนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดีหากบ้านใครสกปรกมากจนทนไม่ไหวก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการกวาดจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้านแทนได้ ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ คำอวยพรปีใหม่ เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน "ตุ๊ยเลี้ยง" เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ท่านใดไม่มีความรู้ด้านภาษาจีน ก็สามารถไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ได้ โดยแหล่งใหญ่ก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ หรือ เยาวราชนั่นเอง ส่วนคำอวยพรที่นิยมเขียน ประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ "ทำมาค้าขึ้น หรือ ให้มั่งมีเงินทอง" จากนั้นจะนำมาติดตามสองข้างประตูบ้าน และต้องมีอีก 1 แผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" ซึ่งมีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวจีนยังนิยมติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ซึ่งถือเป็นภาพมงคลของจีนที่มักติดบริเวณประตูหน้าบ้าน ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส ในวันมงคลเช่นนี้ชาวจีนนิยมใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในปีใหม่นี้ด้วย โดยการเลือกเสื้อสีสดก็เปรียบได้กับความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งสีที่เป็นที่นิยมที่สุด ก็คือ "สีแดง" หมายถึง ความมงคล มั่งคั่ง ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่ ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่จีน) คือ ทุกคนจะต้องนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ โดยผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าบ้านเองก็จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้รวมถึงลูกสมอจีนเอารอรับแขกอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้มาอวยพรพร้อมกับส้ม 4 ผล เจ้าบ้านก็จะรับส้มมา 2 ผล พร้อมกับนำส้มในบ้านตนเองไปวางคืนให้กับแขก 2 ผล รับอั่งเปา วันตรุษจีนถือเป็นอีกวันสำหรับเด็กๆ ที่ต่างตั้งตารอคอยวันนี้มาตลอด เพราะเป็นวันที่จะได้รับซองแดงใส่เงินขวัญถุง จากผู้ใหญ่เพื่อให้โชคดีตลอดทั้งปี โดยมารยาทก่อนจะรับซองแดงต้องอย่าลืมกล่าวคำว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" เพื่ออวยพรผู้ใหญ่ก่อนเสมอ ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นอกจากในวันซาจั๊บแล้ว ในวันชิวอิกนี้ก็ยังต้องมีการไหว้ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย และที่สำคัญก็ยังต้องไหว้เจ้าเพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้ชีวิตของคุณและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญในชีวิต เมื่อรู้ถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติกันไปแล้ว มาดูข้อห้าม! ที่ห้ามทำในวันมงคลอย่างวันตรุษจีนกันบ้าง สิ่งที่ไม่ควรทําในวันตรุษจีน 2568 ห้ามสระผมหรือตัดผม เนื่องจากคำว่า "ผม" พ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า "มั่งคั่ง" ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน มีความหมายว่า การนำความมั่งคั่งออกไป ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะ คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมถึงพูดเรื่องความตายหรือผี เพราะเชื่อว่า และจะนำความโชคร้ายมาให้ทั้งปี ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์ ในสมัยก่อนคนจนมักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เหมือนกับการขัดขวางความร่ำรวย ขัดลาภ ขัดโชคจึงไม่ควรกินโจ๊กในเช้าของวันตรุษจีน ตลอดจนรวมถึงไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นจะกินแต่มังสวิรัติ ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำ เกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน ห้ามใส่ชุดขาวดำ เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ หมายถึง ลางร้าย โดยคนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง เพราะเชื่อว่า สีแดง คือ สีแห่งความโชคดี ห้ามให้ยืมเงิน คนจีนเชื่อว่า การยืมเงินในวันนี้ จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด และถ้าใครที่ติดเงินใคร ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่า จะมีหนี้สินตลอดปี ห้ามทำของแตก เพราะเชื่อว่า เป็นลางร้ายถึงครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น ห้ามซื้อรองเท้าใหม่ คนจีนจะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เพราะคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ จึงเชื่อว่า เป็น "สัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี" ห้ามร้องไห้ คนจีนเชื่อว่า จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจทั้งปี ห้ามใช้ของมีคม ชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ คือ การตัดโชคดีไปด้วย ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น คนจีนเชื่อการเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้าย อ่านเพิ่มเติม วันตรุษจีน ประวัติ และความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน คำอวยพรวันตรุษจีน ตรุษจีน 2568 วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยว วันที่เท่าไร ห้ามทำอะไรบ้าง?
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 1078 Views 0 Reviews
  • #วันตรุษจีน เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามความเชื่อของชาวจีน เป็นการก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและโชคลาภ ชาวจีนจะทำการไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีและขอพรให้ได้รับความคุ้มครอง เป็นโอกาสดีที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มารวมตัวกัน ฉลองเทศกาล และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี

    Advertisement

    Play Video
    ชาวจีนมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีดังนี้



    สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน 2568
    ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ
    วันที่ชาวจีนต้องไว้เจ้านั้นเราเรียกว่า "วันซาจั๊บ" โดยมักจะทำในช่วงเช้าหลังจากที่ไหว้เจ้าในบ้าน คือ ตีจูเอี๊ยะและไหว้บรรพบุรุษ แล้วในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ โดยของไหว้จะมีทั้งอาหารคาว เช่น เป็ด ไก่ รวมถึงอาหารหวานด้วย จะมากหรือจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ไหว้

    นอกจากนี้ก็ยังต้องมีเครื่องกระป๋อง ข้าวสาร และเกลือ เพื่อให้ผีไม่มีญาติได้นำออกไปและเมื่อไหว้เสร็จก็ต้องจุดประทัด จากนั้นจึงเอาข้าวสารมาผสมกับเกลือแล้วนำมาโปรยเพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป
    รวมญาติกินเกี๊ยว
    สิ่งที่สำคัญมากอีกหนึ่งประการของวันตรุษจีน คือ เป็นวันนัดรวมญาติ เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวด้วยกันในวันซาจั๊บ

    ซึ่งถือเป็นมื้อสุดท้ายก่อนจะถึงวันปีใหม่หรือ "วันชิวอิก" (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน คือ วันชิวอิก) และเหตุที่ต้องเป็น "เกี๊ยว" ก็เพราะรูปร่างของเกี๊ยวมีลักษณะเหมือนกับ "เงิน" ของจีน จึงแฝงความหมายเป็นนัยว่าให้มั่งมีเงินทองนั่นเอง
    กินเจมื้อเช้า คือ มื้อแรกของปี
    ในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน) คนจีนจะกินเจเป็นอาหารมื้อแรก ซึ่งถือว่าเป็นมื้ออาหารแรกของปี โดยมีเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี
    ทำพิธีรับ "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ"
    "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ จึงมักจะมีการทำพิธีรับเทพซึ่งเปรียบได้กับการทำพิธีรับโชคลาภ โดยทั่วไปมักจะทำพิธีในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีหนึ่งของวันซาจั๊บ
    ห้ามกวาดบ้าน
    ในวันขึ้นปีใหม่ของจีนจะไม่มีการกวาดบ้านจนกว่าจะถึง "วันชิวสี่" (วันชิวสี่ คือ วันที่สี่ของเทศกาลตรุษจีน โดยปกติ จะแบ่งเป็น วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และวันชิวสี่) เพราะถ้ากวาดบ้านในวันปีใหม่จะถือว่าเป็นการกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป

    ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดหยากไย่ครั้งใหญ่ก่อนจะเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ เพื่อที่ว่าพอวันปีใหม่มาถึงก็จะงดทำความสะอาดบ้านนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดีหากบ้านใครสกปรกมากจนทนไม่ไหวก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการกวาดจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้านแทนได้
    ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ คำอวยพรปีใหม่
    เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน "ตุ๊ยเลี้ยง" เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ท่านใดไม่มีความรู้ด้านภาษาจีน ก็สามารถไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ได้ โดยแหล่งใหญ่ก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ หรือ เยาวราชนั่นเอง

    ส่วนคำอวยพรที่นิยมเขียน ประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ "ทำมาค้าขึ้น หรือ ให้มั่งมีเงินทอง" จากนั้นจะนำมาติดตามสองข้างประตูบ้าน และต้องมีอีก 1 แผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก

    แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" ซึ่งมีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวจีนยังนิยมติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ซึ่งถือเป็นภาพมงคลของจีนที่มักติดบริเวณประตูหน้าบ้าน
    ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส
    ในวันมงคลเช่นนี้ชาวจีนนิยมใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในปีใหม่นี้ด้วย โดยการเลือกเสื้อสีสดก็เปรียบได้กับความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งสีที่เป็นที่นิยมที่สุด ก็คือ "สีแดง" หมายถึง ความมงคล มั่งคั่ง
    ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่
    ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่จีน) คือ ทุกคนจะต้องนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ โดยผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าบ้านเองก็จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้รวมถึงลูกสมอจีนเอารอรับแขกอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้มาอวยพรพร้อมกับส้ม 4 ผล เจ้าบ้านก็จะรับส้มมา 2 ผล พร้อมกับนำส้มในบ้านตนเองไปวางคืนให้กับแขก 2 ผล
    รับอั่งเปา
    วันตรุษจีนถือเป็นอีกวันสำหรับเด็กๆ ที่ต่างตั้งตารอคอยวันนี้มาตลอด เพราะเป็นวันที่จะได้รับซองแดงใส่เงินขวัญถุง จากผู้ใหญ่เพื่อให้โชคดีตลอดทั้งปี โดยมารยาทก่อนจะรับซองแดงต้องอย่าลืมกล่าวคำว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" เพื่ออวยพรผู้ใหญ่ก่อนเสมอ
    ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต



    นอกจากในวันซาจั๊บแล้ว ในวันชิวอิกนี้ก็ยังต้องมีการไหว้ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย และที่สำคัญก็ยังต้องไหว้เจ้าเพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้ชีวิตของคุณและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญในชีวิต

    เมื่อรู้ถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติกันไปแล้ว มาดูข้อห้าม! ที่ห้ามทำในวันมงคลอย่างวันตรุษจีนกันบ้าง

    สิ่งที่ไม่ควรทําในวันตรุษจีน 2568
    ห้ามสระผมหรือตัดผม
    เนื่องจากคำว่า "ผม" พ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า "มั่งคั่ง" ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน มีความหมายว่า การนำความมั่งคั่งออกไป
    ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะ
    คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมถึงพูดเรื่องความตายหรือผี เพราะเชื่อว่า และจะนำความโชคร้ายมาให้ทั้งปี
    ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์
    ในสมัยก่อนคนจนมักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เหมือนกับการขัดขวางความร่ำรวย ขัดลาภ ขัดโชคจึงไม่ควรกินโจ๊กในเช้าของวันตรุษจีน ตลอดจนรวมถึงไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นจะกินแต่มังสวิรัติ
    ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน
    คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำ เกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน
    ห้ามใส่ชุดขาวดำ
    เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ หมายถึง ลางร้าย โดยคนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง เพราะเชื่อว่า สีแดง คือ สีแห่งความโชคดี
    ห้ามให้ยืมเงิน
    คนจีนเชื่อว่า การยืมเงินในวันนี้ จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด และถ้าใครที่ติดเงินใคร ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่า จะมีหนี้สินตลอดปี
    ห้ามทำของแตก
    เพราะเชื่อว่า เป็นลางร้ายถึงครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น
    ห้ามซื้อรองเท้าใหม่
    คนจีนจะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เพราะคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ จึงเชื่อว่า เป็น "สัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี"
    ห้ามร้องไห้
    คนจีนเชื่อว่า จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจทั้งปี
    ห้ามใช้ของมีคม
    ชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ คือ การตัดโชคดีไปด้วย
    ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น
    คนจีนเชื่อการเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้าย
    อ่านเพิ่มเติม

    วันตรุษจีน ประวัติ และความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน
    คำอวยพรวันตรุษจีน
    ตรุษจีน 2568 วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยว วันที่เท่าไร ห้ามทำอะไรบ้าง?
    #วันตรุษจีน เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามความเชื่อของชาวจีน เป็นการก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและโชคลาภ ชาวจีนจะทำการไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีและขอพรให้ได้รับความคุ้มครอง เป็นโอกาสดีที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มารวมตัวกัน ฉลองเทศกาล และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี Advertisement Play Video ชาวจีนมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีดังนี้ สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน 2568 ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ วันที่ชาวจีนต้องไว้เจ้านั้นเราเรียกว่า "วันซาจั๊บ" โดยมักจะทำในช่วงเช้าหลังจากที่ไหว้เจ้าในบ้าน คือ ตีจูเอี๊ยะและไหว้บรรพบุรุษ แล้วในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ โดยของไหว้จะมีทั้งอาหารคาว เช่น เป็ด ไก่ รวมถึงอาหารหวานด้วย จะมากหรือจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ไหว้ นอกจากนี้ก็ยังต้องมีเครื่องกระป๋อง ข้าวสาร และเกลือ เพื่อให้ผีไม่มีญาติได้นำออกไปและเมื่อไหว้เสร็จก็ต้องจุดประทัด จากนั้นจึงเอาข้าวสารมาผสมกับเกลือแล้วนำมาโปรยเพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป รวมญาติกินเกี๊ยว สิ่งที่สำคัญมากอีกหนึ่งประการของวันตรุษจีน คือ เป็นวันนัดรวมญาติ เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวด้วยกันในวันซาจั๊บ ซึ่งถือเป็นมื้อสุดท้ายก่อนจะถึงวันปีใหม่หรือ "วันชิวอิก" (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน คือ วันชิวอิก) และเหตุที่ต้องเป็น "เกี๊ยว" ก็เพราะรูปร่างของเกี๊ยวมีลักษณะเหมือนกับ "เงิน" ของจีน จึงแฝงความหมายเป็นนัยว่าให้มั่งมีเงินทองนั่นเอง กินเจมื้อเช้า คือ มื้อแรกของปี ในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน) คนจีนจะกินเจเป็นอาหารมื้อแรก ซึ่งถือว่าเป็นมื้ออาหารแรกของปี โดยมีเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี ทำพิธีรับ "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ จึงมักจะมีการทำพิธีรับเทพซึ่งเปรียบได้กับการทำพิธีรับโชคลาภ โดยทั่วไปมักจะทำพิธีในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีหนึ่งของวันซาจั๊บ ห้ามกวาดบ้าน ในวันขึ้นปีใหม่ของจีนจะไม่มีการกวาดบ้านจนกว่าจะถึง "วันชิวสี่" (วันชิวสี่ คือ วันที่สี่ของเทศกาลตรุษจีน โดยปกติ จะแบ่งเป็น วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และวันชิวสี่) เพราะถ้ากวาดบ้านในวันปีใหม่จะถือว่าเป็นการกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดหยากไย่ครั้งใหญ่ก่อนจะเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ เพื่อที่ว่าพอวันปีใหม่มาถึงก็จะงดทำความสะอาดบ้านนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดีหากบ้านใครสกปรกมากจนทนไม่ไหวก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการกวาดจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้านแทนได้ ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ คำอวยพรปีใหม่ เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน "ตุ๊ยเลี้ยง" เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ท่านใดไม่มีความรู้ด้านภาษาจีน ก็สามารถไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ได้ โดยแหล่งใหญ่ก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ หรือ เยาวราชนั่นเอง ส่วนคำอวยพรที่นิยมเขียน ประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ "ทำมาค้าขึ้น หรือ ให้มั่งมีเงินทอง" จากนั้นจะนำมาติดตามสองข้างประตูบ้าน และต้องมีอีก 1 แผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" ซึ่งมีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวจีนยังนิยมติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ซึ่งถือเป็นภาพมงคลของจีนที่มักติดบริเวณประตูหน้าบ้าน ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส ในวันมงคลเช่นนี้ชาวจีนนิยมใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในปีใหม่นี้ด้วย โดยการเลือกเสื้อสีสดก็เปรียบได้กับความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งสีที่เป็นที่นิยมที่สุด ก็คือ "สีแดง" หมายถึง ความมงคล มั่งคั่ง ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่ ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่จีน) คือ ทุกคนจะต้องนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ โดยผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าบ้านเองก็จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้รวมถึงลูกสมอจีนเอารอรับแขกอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้มาอวยพรพร้อมกับส้ม 4 ผล เจ้าบ้านก็จะรับส้มมา 2 ผล พร้อมกับนำส้มในบ้านตนเองไปวางคืนให้กับแขก 2 ผล รับอั่งเปา วันตรุษจีนถือเป็นอีกวันสำหรับเด็กๆ ที่ต่างตั้งตารอคอยวันนี้มาตลอด เพราะเป็นวันที่จะได้รับซองแดงใส่เงินขวัญถุง จากผู้ใหญ่เพื่อให้โชคดีตลอดทั้งปี โดยมารยาทก่อนจะรับซองแดงต้องอย่าลืมกล่าวคำว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" เพื่ออวยพรผู้ใหญ่ก่อนเสมอ ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นอกจากในวันซาจั๊บแล้ว ในวันชิวอิกนี้ก็ยังต้องมีการไหว้ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย และที่สำคัญก็ยังต้องไหว้เจ้าเพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้ชีวิตของคุณและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญในชีวิต เมื่อรู้ถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติกันไปแล้ว มาดูข้อห้าม! ที่ห้ามทำในวันมงคลอย่างวันตรุษจีนกันบ้าง สิ่งที่ไม่ควรทําในวันตรุษจีน 2568 ห้ามสระผมหรือตัดผม เนื่องจากคำว่า "ผม" พ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า "มั่งคั่ง" ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน มีความหมายว่า การนำความมั่งคั่งออกไป ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะ คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมถึงพูดเรื่องความตายหรือผี เพราะเชื่อว่า และจะนำความโชคร้ายมาให้ทั้งปี ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์ ในสมัยก่อนคนจนมักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เหมือนกับการขัดขวางความร่ำรวย ขัดลาภ ขัดโชคจึงไม่ควรกินโจ๊กในเช้าของวันตรุษจีน ตลอดจนรวมถึงไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นจะกินแต่มังสวิรัติ ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำ เกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน ห้ามใส่ชุดขาวดำ เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ หมายถึง ลางร้าย โดยคนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง เพราะเชื่อว่า สีแดง คือ สีแห่งความโชคดี ห้ามให้ยืมเงิน คนจีนเชื่อว่า การยืมเงินในวันนี้ จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด และถ้าใครที่ติดเงินใคร ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่า จะมีหนี้สินตลอดปี ห้ามทำของแตก เพราะเชื่อว่า เป็นลางร้ายถึงครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น ห้ามซื้อรองเท้าใหม่ คนจีนจะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เพราะคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ จึงเชื่อว่า เป็น "สัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี" ห้ามร้องไห้ คนจีนเชื่อว่า จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจทั้งปี ห้ามใช้ของมีคม ชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ คือ การตัดโชคดีไปด้วย ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น คนจีนเชื่อการเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้าย อ่านเพิ่มเติม วันตรุษจีน ประวัติ และความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน คำอวยพรวันตรุษจีน ตรุษจีน 2568 วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยว วันที่เท่าไร ห้ามทำอะไรบ้าง?
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 1058 Views 0 Reviews
  • #วันตรุษจีน เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามความเชื่อของชาวจีน เป็นการก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและโชคลาภ ชาวจีนจะทำการไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีและขอพรให้ได้รับความคุ้มครอง เป็นโอกาสดีที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มารวมตัวกัน ฉลองเทศกาล และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี

    Advertisement

    Play Video
    ชาวจีนมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีดังนี้



    สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน 2568
    ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ
    วันที่ชาวจีนต้องไว้เจ้านั้นเราเรียกว่า "วันซาจั๊บ" โดยมักจะทำในช่วงเช้าหลังจากที่ไหว้เจ้าในบ้าน คือ ตีจูเอี๊ยะและไหว้บรรพบุรุษ แล้วในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ โดยของไหว้จะมีทั้งอาหารคาว เช่น เป็ด ไก่ รวมถึงอาหารหวานด้วย จะมากหรือจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ไหว้

    นอกจากนี้ก็ยังต้องมีเครื่องกระป๋อง ข้าวสาร และเกลือ เพื่อให้ผีไม่มีญาติได้นำออกไปและเมื่อไหว้เสร็จก็ต้องจุดประทัด จากนั้นจึงเอาข้าวสารมาผสมกับเกลือแล้วนำมาโปรยเพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป
    รวมญาติกินเกี๊ยว
    สิ่งที่สำคัญมากอีกหนึ่งประการของวันตรุษจีน คือ เป็นวันนัดรวมญาติ เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวด้วยกันในวันซาจั๊บ

    ซึ่งถือเป็นมื้อสุดท้ายก่อนจะถึงวันปีใหม่หรือ "วันชิวอิก" (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน คือ วันชิวอิก) และเหตุที่ต้องเป็น "เกี๊ยว" ก็เพราะรูปร่างของเกี๊ยวมีลักษณะเหมือนกับ "เงิน" ของจีน จึงแฝงความหมายเป็นนัยว่าให้มั่งมีเงินทองนั่นเอง
    กินเจมื้อเช้า คือ มื้อแรกของปี
    ในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน) คนจีนจะกินเจเป็นอาหารมื้อแรก ซึ่งถือว่าเป็นมื้ออาหารแรกของปี โดยมีเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี
    ทำพิธีรับ "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ"
    "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ จึงมักจะมีการทำพิธีรับเทพซึ่งเปรียบได้กับการทำพิธีรับโชคลาภ โดยทั่วไปมักจะทำพิธีในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีหนึ่งของวันซาจั๊บ
    ห้ามกวาดบ้าน
    ในวันขึ้นปีใหม่ของจีนจะไม่มีการกวาดบ้านจนกว่าจะถึง "วันชิวสี่" (วันชิวสี่ คือ วันที่สี่ของเทศกาลตรุษจีน โดยปกติ จะแบ่งเป็น วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และวันชิวสี่) เพราะถ้ากวาดบ้านในวันปีใหม่จะถือว่าเป็นการกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป

    ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดหยากไย่ครั้งใหญ่ก่อนจะเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ เพื่อที่ว่าพอวันปีใหม่มาถึงก็จะงดทำความสะอาดบ้านนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดีหากบ้านใครสกปรกมากจนทนไม่ไหวก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการกวาดจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้านแทนได้
    ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ คำอวยพรปีใหม่
    เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน "ตุ๊ยเลี้ยง" เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ท่านใดไม่มีความรู้ด้านภาษาจีน ก็สามารถไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ได้ โดยแหล่งใหญ่ก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ หรือ เยาวราชนั่นเอง

    ส่วนคำอวยพรที่นิยมเขียน ประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ "ทำมาค้าขึ้น หรือ ให้มั่งมีเงินทอง" จากนั้นจะนำมาติดตามสองข้างประตูบ้าน และต้องมีอีก 1 แผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก

    แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" ซึ่งมีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวจีนยังนิยมติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ซึ่งถือเป็นภาพมงคลของจีนที่มักติดบริเวณประตูหน้าบ้าน
    ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส
    ในวันมงคลเช่นนี้ชาวจีนนิยมใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในปีใหม่นี้ด้วย โดยการเลือกเสื้อสีสดก็เปรียบได้กับความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งสีที่เป็นที่นิยมที่สุด ก็คือ "สีแดง" หมายถึง ความมงคล มั่งคั่ง
    ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่
    ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่จีน) คือ ทุกคนจะต้องนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ โดยผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าบ้านเองก็จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้รวมถึงลูกสมอจีนเอารอรับแขกอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้มาอวยพรพร้อมกับส้ม 4 ผล เจ้าบ้านก็จะรับส้มมา 2 ผล พร้อมกับนำส้มในบ้านตนเองไปวางคืนให้กับแขก 2 ผล
    รับอั่งเปา
    วันตรุษจีนถือเป็นอีกวันสำหรับเด็กๆ ที่ต่างตั้งตารอคอยวันนี้มาตลอด เพราะเป็นวันที่จะได้รับซองแดงใส่เงินขวัญถุง จากผู้ใหญ่เพื่อให้โชคดีตลอดทั้งปี โดยมารยาทก่อนจะรับซองแดงต้องอย่าลืมกล่าวคำว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" เพื่ออวยพรผู้ใหญ่ก่อนเสมอ
    ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต



    นอกจากในวันซาจั๊บแล้ว ในวันชิวอิกนี้ก็ยังต้องมีการไหว้ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย และที่สำคัญก็ยังต้องไหว้เจ้าเพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้ชีวิตของคุณและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญในชีวิต

    เมื่อรู้ถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติกันไปแล้ว มาดูข้อห้าม! ที่ห้ามทำในวันมงคลอย่างวันตรุษจีนกันบ้าง

    สิ่งที่ไม่ควรทําในวันตรุษจีน 2568
    ห้ามสระผมหรือตัดผม
    เนื่องจากคำว่า "ผม" พ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า "มั่งคั่ง" ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน มีความหมายว่า การนำความมั่งคั่งออกไป
    ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะ
    คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมถึงพูดเรื่องความตายหรือผี เพราะเชื่อว่า และจะนำความโชคร้ายมาให้ทั้งปี
    ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์
    ในสมัยก่อนคนจนมักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เหมือนกับการขัดขวางความร่ำรวย ขัดลาภ ขัดโชคจึงไม่ควรกินโจ๊กในเช้าของวันตรุษจีน ตลอดจนรวมถึงไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นจะกินแต่มังสวิรัติ
    ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน
    คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำ เกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน
    ห้ามใส่ชุดขาวดำ
    เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ หมายถึง ลางร้าย โดยคนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง เพราะเชื่อว่า สีแดง คือ สีแห่งความโชคดี
    ห้ามให้ยืมเงิน
    คนจีนเชื่อว่า การยืมเงินในวันนี้ จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด และถ้าใครที่ติดเงินใคร ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่า จะมีหนี้สินตลอดปี
    ห้ามทำของแตก
    เพราะเชื่อว่า เป็นลางร้ายถึงครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น
    ห้ามซื้อรองเท้าใหม่
    คนจีนจะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เพราะคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ จึงเชื่อว่า เป็น "สัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี"
    ห้ามร้องไห้
    คนจีนเชื่อว่า จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจทั้งปี
    ห้ามใช้ของมีคม
    ชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ คือ การตัดโชคดีไปด้วย
    ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น
    คนจีนเชื่อการเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้าย
    อ่านเพิ่มเติม

    วันตรุษจีน ประวัติ และความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน
    คำอวยพรวันตรุษจีน
    ตรุษจีน 2568 วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยว วันที่เท่าไร ห้ามทำอะไรบ้าง?
    #วันตรุษจีน เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามความเชื่อของชาวจีน เป็นการก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและโชคลาภ ชาวจีนจะทำการไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีและขอพรให้ได้รับความคุ้มครอง เป็นโอกาสดีที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มารวมตัวกัน ฉลองเทศกาล และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี Advertisement Play Video ชาวจีนมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีดังนี้ สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน 2568 ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ วันที่ชาวจีนต้องไว้เจ้านั้นเราเรียกว่า "วันซาจั๊บ" โดยมักจะทำในช่วงเช้าหลังจากที่ไหว้เจ้าในบ้าน คือ ตีจูเอี๊ยะและไหว้บรรพบุรุษ แล้วในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ โดยของไหว้จะมีทั้งอาหารคาว เช่น เป็ด ไก่ รวมถึงอาหารหวานด้วย จะมากหรือจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ไหว้ นอกจากนี้ก็ยังต้องมีเครื่องกระป๋อง ข้าวสาร และเกลือ เพื่อให้ผีไม่มีญาติได้นำออกไปและเมื่อไหว้เสร็จก็ต้องจุดประทัด จากนั้นจึงเอาข้าวสารมาผสมกับเกลือแล้วนำมาโปรยเพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป รวมญาติกินเกี๊ยว สิ่งที่สำคัญมากอีกหนึ่งประการของวันตรุษจีน คือ เป็นวันนัดรวมญาติ เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวด้วยกันในวันซาจั๊บ ซึ่งถือเป็นมื้อสุดท้ายก่อนจะถึงวันปีใหม่หรือ "วันชิวอิก" (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน คือ วันชิวอิก) และเหตุที่ต้องเป็น "เกี๊ยว" ก็เพราะรูปร่างของเกี๊ยวมีลักษณะเหมือนกับ "เงิน" ของจีน จึงแฝงความหมายเป็นนัยว่าให้มั่งมีเงินทองนั่นเอง กินเจมื้อเช้า คือ มื้อแรกของปี ในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน) คนจีนจะกินเจเป็นอาหารมื้อแรก ซึ่งถือว่าเป็นมื้ออาหารแรกของปี โดยมีเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี ทำพิธีรับ "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ จึงมักจะมีการทำพิธีรับเทพซึ่งเปรียบได้กับการทำพิธีรับโชคลาภ โดยทั่วไปมักจะทำพิธีในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีหนึ่งของวันซาจั๊บ ห้ามกวาดบ้าน ในวันขึ้นปีใหม่ของจีนจะไม่มีการกวาดบ้านจนกว่าจะถึง "วันชิวสี่" (วันชิวสี่ คือ วันที่สี่ของเทศกาลตรุษจีน โดยปกติ จะแบ่งเป็น วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และวันชิวสี่) เพราะถ้ากวาดบ้านในวันปีใหม่จะถือว่าเป็นการกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดหยากไย่ครั้งใหญ่ก่อนจะเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ เพื่อที่ว่าพอวันปีใหม่มาถึงก็จะงดทำความสะอาดบ้านนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดีหากบ้านใครสกปรกมากจนทนไม่ไหวก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการกวาดจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้านแทนได้ ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ คำอวยพรปีใหม่ เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน "ตุ๊ยเลี้ยง" เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ท่านใดไม่มีความรู้ด้านภาษาจีน ก็สามารถไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ได้ โดยแหล่งใหญ่ก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ หรือ เยาวราชนั่นเอง ส่วนคำอวยพรที่นิยมเขียน ประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ "ทำมาค้าขึ้น หรือ ให้มั่งมีเงินทอง" จากนั้นจะนำมาติดตามสองข้างประตูบ้าน และต้องมีอีก 1 แผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" ซึ่งมีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวจีนยังนิยมติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ซึ่งถือเป็นภาพมงคลของจีนที่มักติดบริเวณประตูหน้าบ้าน ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส ในวันมงคลเช่นนี้ชาวจีนนิยมใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในปีใหม่นี้ด้วย โดยการเลือกเสื้อสีสดก็เปรียบได้กับความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งสีที่เป็นที่นิยมที่สุด ก็คือ "สีแดง" หมายถึง ความมงคล มั่งคั่ง ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่ ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่จีน) คือ ทุกคนจะต้องนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ โดยผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าบ้านเองก็จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้รวมถึงลูกสมอจีนเอารอรับแขกอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้มาอวยพรพร้อมกับส้ม 4 ผล เจ้าบ้านก็จะรับส้มมา 2 ผล พร้อมกับนำส้มในบ้านตนเองไปวางคืนให้กับแขก 2 ผล รับอั่งเปา วันตรุษจีนถือเป็นอีกวันสำหรับเด็กๆ ที่ต่างตั้งตารอคอยวันนี้มาตลอด เพราะเป็นวันที่จะได้รับซองแดงใส่เงินขวัญถุง จากผู้ใหญ่เพื่อให้โชคดีตลอดทั้งปี โดยมารยาทก่อนจะรับซองแดงต้องอย่าลืมกล่าวคำว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" เพื่ออวยพรผู้ใหญ่ก่อนเสมอ ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นอกจากในวันซาจั๊บแล้ว ในวันชิวอิกนี้ก็ยังต้องมีการไหว้ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย และที่สำคัญก็ยังต้องไหว้เจ้าเพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้ชีวิตของคุณและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญในชีวิต เมื่อรู้ถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติกันไปแล้ว มาดูข้อห้าม! ที่ห้ามทำในวันมงคลอย่างวันตรุษจีนกันบ้าง สิ่งที่ไม่ควรทําในวันตรุษจีน 2568 ห้ามสระผมหรือตัดผม เนื่องจากคำว่า "ผม" พ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า "มั่งคั่ง" ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน มีความหมายว่า การนำความมั่งคั่งออกไป ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะ คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมถึงพูดเรื่องความตายหรือผี เพราะเชื่อว่า และจะนำความโชคร้ายมาให้ทั้งปี ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์ ในสมัยก่อนคนจนมักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เหมือนกับการขัดขวางความร่ำรวย ขัดลาภ ขัดโชคจึงไม่ควรกินโจ๊กในเช้าของวันตรุษจีน ตลอดจนรวมถึงไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นจะกินแต่มังสวิรัติ ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำ เกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน ห้ามใส่ชุดขาวดำ เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ หมายถึง ลางร้าย โดยคนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง เพราะเชื่อว่า สีแดง คือ สีแห่งความโชคดี ห้ามให้ยืมเงิน คนจีนเชื่อว่า การยืมเงินในวันนี้ จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด และถ้าใครที่ติดเงินใคร ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่า จะมีหนี้สินตลอดปี ห้ามทำของแตก เพราะเชื่อว่า เป็นลางร้ายถึงครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น ห้ามซื้อรองเท้าใหม่ คนจีนจะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เพราะคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ จึงเชื่อว่า เป็น "สัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี" ห้ามร้องไห้ คนจีนเชื่อว่า จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจทั้งปี ห้ามใช้ของมีคม ชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ คือ การตัดโชคดีไปด้วย ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น คนจีนเชื่อการเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้าย อ่านเพิ่มเติม วันตรุษจีน ประวัติ และความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน คำอวยพรวันตรุษจีน ตรุษจีน 2568 วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยว วันที่เท่าไร ห้ามทำอะไรบ้าง?
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 1048 Views 0 Reviews
More Results