• รวมบทเพลงจากละครร้องเทิดพระเกียรติเรื่อง "สายนทีแห่งราชัน"
    แสดงหน้าพระที่นั่งที่ สวนเปรมประชาวนารักษ์
    วันที่ 10 ธันวาคม 2567
    เรื่องและบทโดย ดรีมบอกซ์
    กำกับการแสดงโดย สุวรรณดี จักราวรวุธ
    นำแสดงโดย
    - กิตตินันท์ ชินสำราญ
    - ธีรนัยน์ ณ หนองคาย
    - ไมร่า มณีภัสสร มอลลอย
    ประพันธ์คำร้องและทำนองโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
    เรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา & รัฐกรณ์ โกมล
    ออร์เคสเตรชั่นโดย อภิสิทธิ์ วงศ์โชติ
    บรรเลงโดย รอยัลบางกอกซิมโฟนีออร์เคสตร้า
    อำนวยเพลงโดย วานิช โปตะวนิช
    อำนวยการผลิต โดย ปตท
    ขอขอบคุณ บ.ธีระมิวสิค สนับสนุนเครื่องดนตรีในการทำงาน
    .
    รวมบทเพลงจากละครร้องเทิดพระเกียรติเรื่อง "สายนทีแห่งราชัน" แสดงหน้าพระที่นั่งที่ สวนเปรมประชาวนารักษ์ วันที่ 10 ธันวาคม 2567 เรื่องและบทโดย ดรีมบอกซ์ กำกับการแสดงโดย สุวรรณดี จักราวรวุธ นำแสดงโดย - กิตตินันท์ ชินสำราญ - ธีรนัยน์ ณ หนองคาย - ไมร่า มณีภัสสร มอลลอย ประพันธ์คำร้องและทำนองโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เรียบเรียงดนตรีโดย พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา & รัฐกรณ์ โกมล ออร์เคสเตรชั่นโดย อภิสิทธิ์ วงศ์โชติ บรรเลงโดย รอยัลบางกอกซิมโฟนีออร์เคสตร้า อำนวยเพลงโดย วานิช โปตะวนิช อำนวยการผลิต โดย ปตท ขอขอบคุณ บ.ธีระมิวสิค สนับสนุนเครื่องดนตรีในการทำงาน .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย

    เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง

    ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต

    ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก

    The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต

    1. การวิเคราะห์สถานการณ์
    บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้:

    สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ

    ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม.
    ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล

    ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต.

    อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ

    กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง:

    กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ.

    กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย.

    กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน.

    กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล.

    แนวโน้มในอนาคต:
    การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา.

    ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่.

    ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว.

    ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ.

    ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
    ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว

    รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม

    ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia.

    การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook

    การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง

    แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024.
    ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์

    ท่าทีของไทย
    ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ:

    การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC.

    ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center

    การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction.

    มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News.

    นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น.

    การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera.

    ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network.

    ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure.

    ข้อสรุป
    สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ


    การอ้างอิง:
    Laotian Civil War - Wikipedia
    Insurgency in Laos - Wikipedia
    Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations
    Assessment for Hmong in Laos | Refworld
    Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica
    From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters
    Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR
    Laos country profile - BBC News
    Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations
    Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post
    Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic
    Laos | AP News






    ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต 1. การวิเคราะห์สถานการณ์ บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้: สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม. ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต. อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง: กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ. กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย. กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน. กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล. แนวโน้มในอนาคต: การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา. ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่. ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว. ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia. การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024. ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์ ท่าทีของไทย ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ: การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC. ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction. มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News. นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น. การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network. ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure. ข้อสรุป สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ การอ้างอิง: Laotian Civil War - Wikipedia Insurgency in Laos - Wikipedia Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations Assessment for Hmong in Laos | Refworld Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR Laos country profile - BBC News Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic Laos | AP News
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 537 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงกรานต์ปี 68 ต่างชาติเที่ยวไทยลดลง

    สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เปิดเผยสถิติการเดินทางเข้าออกประเทศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 เทียบกับปี 2567 โดยใช้ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ระหว่างวันที่ 1-20 เม.ย. พบว่าชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยลดลงกว่าปีก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงกว่า 43% อีกด้านหนึ่ง คนไทยเดินทางออกนอกประเทศมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

    โดยชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย มีจำนวนประมาณ 2.1 ล้านคน ลดลง 4.5% จากปี 2567 สัญชาติที่เข้าประเทศไทยมากที่สุด คือ มาเลเซีย ประมาณ 306,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.53% อันดับสอง จีน ประมาณ 225,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 43.06% อันดับสาม ลาว ประมาณ 189,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 7.02% อันดับสี่ อินเดีย ประมาณ 141,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 23.43% และอันดับห้า รัสเซีย ประมาณ 118,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15.43%

    ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากที่สุด อันดับ 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 897,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 3.18% อันดับสอง ท่าอากาศยานภูเก็ต ประมาณ 299,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.73% อันดับสาม ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 224,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 18.63% อันดับสี่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา ประมาณ 122,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.43% และอันดับห้า จุดตรวจสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 จ.หนองคาย ประมาณ 74,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 11.27% ส่วนเที่ยวบินขาเข้าจากต่างประเทศ มีประมาณ 12,000 เที่ยวบิน ลดลงจากปีที่แล้ว 5.24%

    ส่วนคนไทยที่เดินทางออกนอกประเทศ มีประมาณ 702,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.92% โดยพบว่าผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมากที่สุด ประมาณ 196,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 0.67% จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ประมาณ 97,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 20.02% ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 82,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 58.62% ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ประมาณ 57,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 64.15% และ จุดตรวจสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประมาณ 54,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 19.37%

    ก่อนหน้านี้ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 20 เม.ย. 2568 พบว่ามีจำนวน 11,272,379 คน จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 1,524,697 คน มาเลเซีย 1,401,169 คน รัสเซีย 835,385 คน อินเดีย 677,793 คน และเกาหลีใต้ 549,982 คน

    #Newskit
    สงกรานต์ปี 68 ต่างชาติเที่ยวไทยลดลง สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เปิดเผยสถิติการเดินทางเข้าออกประเทศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 เทียบกับปี 2567 โดยใช้ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ระหว่างวันที่ 1-20 เม.ย. พบว่าชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยลดลงกว่าปีก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงกว่า 43% อีกด้านหนึ่ง คนไทยเดินทางออกนอกประเทศมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย มีจำนวนประมาณ 2.1 ล้านคน ลดลง 4.5% จากปี 2567 สัญชาติที่เข้าประเทศไทยมากที่สุด คือ มาเลเซีย ประมาณ 306,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.53% อันดับสอง จีน ประมาณ 225,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 43.06% อันดับสาม ลาว ประมาณ 189,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 7.02% อันดับสี่ อินเดีย ประมาณ 141,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 23.43% และอันดับห้า รัสเซีย ประมาณ 118,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15.43% ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากที่สุด อันดับ 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 897,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 3.18% อันดับสอง ท่าอากาศยานภูเก็ต ประมาณ 299,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.73% อันดับสาม ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 224,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 18.63% อันดับสี่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา ประมาณ 122,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.43% และอันดับห้า จุดตรวจสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 จ.หนองคาย ประมาณ 74,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 11.27% ส่วนเที่ยวบินขาเข้าจากต่างประเทศ มีประมาณ 12,000 เที่ยวบิน ลดลงจากปีที่แล้ว 5.24% ส่วนคนไทยที่เดินทางออกนอกประเทศ มีประมาณ 702,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.92% โดยพบว่าผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมากที่สุด ประมาณ 196,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 0.67% จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ประมาณ 97,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 20.02% ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 82,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 58.62% ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ประมาณ 57,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 64.15% และ จุดตรวจสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประมาณ 54,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 19.37% ก่อนหน้านี้ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 20 เม.ย. 2568 พบว่ามีจำนวน 11,272,379 คน จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 1,524,697 คน มาเลเซีย 1,401,169 คน รัสเซีย 835,385 คน อินเดีย 677,793 คน และเกาหลีใต้ 549,982 คน #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มุ่งสู่จังหวัดที่ 20 ของภาคอีสาน สร้างโอกาส สร้างชีวิต แก่ชาวยโสธร มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี
    .
    วันนี้ (วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ และนางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดยโสธร (จังหวัดที่ 20 ของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน จำนวน 31 ครัวเรือน และมอบรถจักรยานแก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวมจำนวน 20 คัน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวยโสธรในครั้งนี้ทั้งสิ้น 802,240 บาท (แปดแสนสองพันสองร้อยสี่สิบบาทถ้วน) นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นางสาวนิภา ทองก้อน ผู้อำนวยการสำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน ผู้แทนอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อดีตอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานร่วมในพิธี และคณะมูลนิธิรวมสามัคคียโสธร เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี พร้อมด้วย อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายนพดล ทรงแสง (จิ้ม ชวนชื่น) นายสวิช เพชรวิเศษศิริ (บี๋) ร่วมในพิธี และสร้างสีสันภายในงาน โดยมี ประชาชน เยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ หอประชุมจังหวัดยโสธร ศาลากลางจังหวัดยโสธร อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร
    .
    โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้สนับสนุนอุปกรณ์ประกอบอาชีพ ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือแก้ไขปัญหาความยากจน ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชนและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดงบประมาณดำเนินการเพื่อจัดหาวัสดุอุปกรณ์การประกอบอาชีพมอบให้แก่ครัวเรือนยากจน ให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยในกลุ่มเป้าหมายแรกดำเนินการในพื้นที่ภาคกลาง 17 จังหวัด รวม 98 ครัวเรือน ต่อมา ได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ 17 จังหวัด รวม 230 ครัวเรือน ซึ่งได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในขณะได้พิจารณาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา อุดรธานี มุกดาหาร หนองบัวลำภู บึงกาฬ ยโสธร ศรีสะเกษ มหาสารคาม ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ สกลนคร เลย หนองคาย และ นครพนม
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มุ่งสู่จังหวัดที่ 20 ของภาคอีสาน สร้างโอกาส สร้างชีวิต แก่ชาวยโสธร มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี . วันนี้ (วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ และนางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดยโสธร (จังหวัดที่ 20 ของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน จำนวน 31 ครัวเรือน และมอบรถจักรยานแก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวมจำนวน 20 คัน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวยโสธรในครั้งนี้ทั้งสิ้น 802,240 บาท (แปดแสนสองพันสองร้อยสี่สิบบาทถ้วน) นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นางสาวนิภา ทองก้อน ผู้อำนวยการสำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน ผู้แทนอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อดีตอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานร่วมในพิธี และคณะมูลนิธิรวมสามัคคียโสธร เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี พร้อมด้วย อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายนพดล ทรงแสง (จิ้ม ชวนชื่น) นายสวิช เพชรวิเศษศิริ (บี๋) ร่วมในพิธี และสร้างสีสันภายในงาน โดยมี ประชาชน เยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ หอประชุมจังหวัดยโสธร ศาลากลางจังหวัดยโสธร อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร . โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้สนับสนุนอุปกรณ์ประกอบอาชีพ ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือแก้ไขปัญหาความยากจน ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชนและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดงบประมาณดำเนินการเพื่อจัดหาวัสดุอุปกรณ์การประกอบอาชีพมอบให้แก่ครัวเรือนยากจน ให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยในกลุ่มเป้าหมายแรกดำเนินการในพื้นที่ภาคกลาง 17 จังหวัด รวม 98 ครัวเรือน ต่อมา ได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ 17 จังหวัด รวม 230 ครัวเรือน ซึ่งได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในขณะได้พิจารณาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา อุดรธานี มุกดาหาร หนองบัวลำภู บึงกาฬ ยโสธร ศรีสะเกษ มหาสารคาม ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ สกลนคร เลย หนองคาย และ นครพนม . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 490 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ข่าว​ศรี​ราชา​- ฆ่าโหดสาวประเภทสองหมกห้องเช่าในเกสต์เฮ้าส์ ย่านพัทยากลาง จ.ชลบุรี ผู้ก่อเหตุเป็นหนุ่มจีนวัย 41 ปี ลงมือสุดเหี้ยมทั้งกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายจากร่าง หลังก่อเหตุยังพยายามจะเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศแต่ไม่รอดถูกรวบคาสนามบินสุวรรณภูมิ​ เตรียมนำตัวกลับดำเนินคดีที่เมืองพัทยา

    เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ( 26 เม.ย.)​ พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.(สส.) และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี (พฐ.) แพทย์เวรโรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา ได้เข้าตรวจสอบเหตุฆาตกรรมโหดภายในเกสต์เฮาส์​แห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในซอยอรุโณทัย พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

    ที่เกิดเหตุเป็นห้องเลขที่ 201 พบศพสาวประเภทสอง (LGBTQ+) ทราบชื่อคือ นายวรนันท์ อายุ 25 ปี ชาว จ.หนองคาย ที่ได้แปลงเพศแล้ว สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดอยู่ภายในห้องน้ำ และมีบาดแผลถูกของมีคมกรีดตั้งแต่กลางหน้าอกจนถึงอวัยวะเพศ​ที่ได้รับการแปลงแล้ว รอยมีดกรีดลึกจนเห็นอวัยวะภายใน ส่วนหัวใจ ถูกควักออกมาวางอยู่ข้างร่าง และปอดด้านหนึ่งหายไปจากที่เกิดเหตุ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/local/detail/9680000039177

    #MGROnline #ย่านพัทยากลาง #ชลบุรี
    ศูนย์ข่าว​ศรี​ราชา​- ฆ่าโหดสาวประเภทสองหมกห้องเช่าในเกสต์เฮ้าส์ ย่านพัทยากลาง จ.ชลบุรี ผู้ก่อเหตุเป็นหนุ่มจีนวัย 41 ปี ลงมือสุดเหี้ยมทั้งกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายจากร่าง หลังก่อเหตุยังพยายามจะเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศแต่ไม่รอดถูกรวบคาสนามบินสุวรรณภูมิ​ เตรียมนำตัวกลับดำเนินคดีที่เมืองพัทยา • เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ( 26 เม.ย.)​ พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.(สส.) และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี (พฐ.) แพทย์เวรโรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา ได้เข้าตรวจสอบเหตุฆาตกรรมโหดภายในเกสต์เฮาส์​แห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในซอยอรุโณทัย พัทยากลาง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี • ที่เกิดเหตุเป็นห้องเลขที่ 201 พบศพสาวประเภทสอง (LGBTQ+) ทราบชื่อคือ นายวรนันท์ อายุ 25 ปี ชาว จ.หนองคาย ที่ได้แปลงเพศแล้ว สภาพศพนอนหงายจมกองเลือดอยู่ภายในห้องน้ำ และมีบาดแผลถูกของมีคมกรีดตั้งแต่กลางหน้าอกจนถึงอวัยวะเพศ​ที่ได้รับการแปลงแล้ว รอยมีดกรีดลึกจนเห็นอวัยวะภายใน ส่วนหัวใจ ถูกควักออกมาวางอยู่ข้างร่าง และปอดด้านหนึ่งหายไปจากที่เกิดเหตุ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/local/detail/9680000039177 • #MGROnline #ย่านพัทยากลาง #ชลบุรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นึกถึงเสาเข็มเจาะ #เสาเข็มตอก #สปันไมโครไพล์ #เสาเข็มเจาะโคราช #เสาเข็มตอกโคราช #เสาเข็มเจาะภาคอีสาน #เสาเข็มตอกภาคอีสาน เลือก นันทพลเข็มเจาะนะครับ นันทพล รัตนมณี (ตึ๋ง) 086-6481898 และ 081-8790727 Fax 044-352010
    https://youtu.be/a3WObP5Vh84
    .
    คลิปการเจาะเสาเข็มของ หจก.นันทพลวิศวกรรม
    https://youtu.be/a3WObP5Vh84
    .
    คลิปการเจาะเสาเข็มแบบสามขาของ หจก.นันทพลวิศวกรรม
    https://youtu.be/3JmQrQWbIfo?si=IFk8h2akRg8DKlKD
    .
    คลิป SpunMicroPiles
    https://www.youtube.com/watch?v=C-k7cJvOQRw
    .
    ชุดรถสว่านช่างตุ๊ย ทำเสาเข็มเจาะบ้านพักอาศัย คสล. 3 ชั้น บ.สีกายใต้ อ.เมือง จ.หนองคาย ขนาด 0.35 x 7.00 ม. จำนวน 18 ต้น
    #นึกถึงเสาเข็มเจาะ #เสาเข็มตอก #สปันไมโครไพล์ #เสาเข็มเจาะโคราช #เสาเข็มตอกโคราช #เสาเข็มเจาะภาคอีสาน #เสาเข็มตอกภาคอีสาน เลือก นันทพลเข็มเจาะนะครับ นันทพล รัตนมณี (ตึ๋ง) 086-6481898 และ 081-8790727 Fax 044-352010 https://youtu.be/a3WObP5Vh84 . คลิปการเจาะเสาเข็มของ หจก.นันทพลวิศวกรรม https://youtu.be/a3WObP5Vh84 . คลิปการเจาะเสาเข็มแบบสามขาของ หจก.นันทพลวิศวกรรม https://youtu.be/3JmQrQWbIfo?si=IFk8h2akRg8DKlKD . คลิป SpunMicroPiles https://www.youtube.com/watch?v=C-k7cJvOQRw . ชุดรถสว่านช่างตุ๊ย ทำเสาเข็มเจาะบ้านพักอาศัย คสล. 3 ชั้น บ.สีกายใต้ อ.เมือง จ.หนองคาย ขนาด 0.35 x 7.00 ม. จำนวน 18 ต้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ปชน.” แฉโครงการรัฐหลายแห่งให้ "บริษัทจีน" สร้างตึก จี้ "นายกฯ" เร่งตรวจสอบ “รถไฟฟ้าความเร็วสูง” กรุงเทพฯ-หนองคาย
    https://www.thai-tai.tv/news/17993/
    “ปชน.” แฉโครงการรัฐหลายแห่งให้ "บริษัทจีน" สร้างตึก จี้ "นายกฯ" เร่งตรวจสอบ “รถไฟฟ้าความเร็วสูง” กรุงเทพฯ-หนองคาย https://www.thai-tai.tv/news/17993/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • จบงานขนส่ง #ย้ายบ้าน
    📍 หนองคาย - ขอนแก่น 👉สิน บริการขนส่งสินค้า
    👉สินค้าทั่วไป
    👉สินค้าโรงงาน
    👉ย้ายห้อง กทม./ตจว.
    👉🐕🐕 สัตว์เลี้ยง หมา/แมว
    👉มอเตอร์ไซค์🛵🏍️🚲🛴
    👉เครื่องจักรกลการเกษตรขนาดเล็ก
    👉สินค้าออนไลน์
    👍ติดต่อสอบถาม
    👍096-8265445
    👍097-9932155
    👍🆔sin.tsk
    👉สอบถามประเมิณราคาฟรี
    👉มีบริการ รับ-ส่ง ถึงที่แน่นอน
    👉ราคาเหมาคัน(สินค้าถึงวันถัดไป)
    👉ราคาฝาก (สินค้าถึง 2-3 วัน)
    👉บริการเก็บเงินปลายทาง
    #มีรถพร้อมทีมงานบริการในพื้นที่
    #รถรับจ้างใกล้ฉัน
    #ขอบคุณลูกค้าที่ใช้บริการครับ
    #ขอบคุณทีมงานรวมเพื่อนบ่าวภูธร
    #ทีมงานคุณภาพ
    #รถรับจ้างใกล้ฉัน
    จบงานขนส่ง #ย้ายบ้าน 📍 หนองคาย - ขอนแก่น 👉สิน บริการขนส่งสินค้า 👉สินค้าทั่วไป 👉สินค้าโรงงาน 👉ย้ายห้อง กทม./ตจว. 👉🐕🐕 สัตว์เลี้ยง หมา/แมว 👉มอเตอร์ไซค์🛵🏍️🚲🛴 👉เครื่องจักรกลการเกษตรขนาดเล็ก 👉สินค้าออนไลน์ 👍ติดต่อสอบถาม 👍096-8265445 👍097-9932155 👍🆔sin.tsk 👉สอบถามประเมิณราคาฟรี 👉มีบริการ รับ-ส่ง ถึงที่แน่นอน 👉ราคาเหมาคัน(สินค้าถึงวันถัดไป) 👉ราคาฝาก (สินค้าถึง 2-3 วัน) 👉บริการเก็บเงินปลายทาง #มีรถพร้อมทีมงานบริการในพื้นที่ #รถรับจ้างใกล้ฉัน #ขอบคุณลูกค้าที่ใช้บริการครับ #ขอบคุณทีมงานรวมเพื่อนบ่าวภูธร #ทีมงานคุณภาพ #รถรับจ้างใกล้ฉัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 499 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากเชียงใหม่ไปเวียงจันทน์ เส้นทางใหม่ R11 เพียง 11 ชั่วโมง

    เปิดใช้อย่างเป็นทางการ สำหรับทางหลวงแห่งชาติหมายเลข 11 (R11) เชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือของประเทศไทยกับนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา มีพิธีเปิดทางหลวง R11 จากเมืองสังทอง นครหลวงเวียงจันทน์ ถึงบ้านครกข้าวดอ เมืองสานะคาม แขวงเวียงจันทน์ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (NEDA) และกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว

    สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติลาว (Lao National Radio) รายงานว่า ทางหลวง R11 เป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างไทย-ลาว ออกแบบเป็น 2 ช่องจราจร ตามมาตรฐานทางหลวงอาเซียน เริ่มจากจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ก่อนจะเข้าสู่จุดผ่านแดนถาวรภูดู่ เข้าสู่เมืองปากลาย แขวงไซยะบุลี เมืองสังทอง สิ้นสุดที่นครหลวงเวียงจันทน์ รวมระยะทางในประเทศไทย 391 กิโลเมตร และในประเทศลาว 238 กิโลเมตร

    ก่อนหน้านี้การเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ ไปนครหลวงเวียงจันทน์ ต้องออกไปทางด่านพรมแดนหนองคาย ระยะทาง 863 กิโลเมตร ใช้เวลา 14 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้เส้นทางนี้จะมีระยะทาง 629 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 10-11 ชั่วโมงเท่านั้น และเป็นการเดินทางในเส้นทางตรงที่ไม่มีสันภู หรือทางลาดชัน ช่วยให้สัญจรไปมาได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากจะประหยัดเวลาแล้ว ยังมีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาสองประเทศ

    ที่ผ่านมา NEDA ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาว ก่อสร้างและพัฒนาถนน รวม 3 โครงการ ได้แก่

    1. ก่อสร้างถนนจากด่านภูดู่ อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ ถึงเมืองปากลาย แขวงไซยะบุลี ระยะทาง 32 กิโลเมตร วงเงิน 718 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ธ.ค. 2555 แล้วเสร็จเดือน มิ.ย. 2557

    2. พัฒนาถนน R11 ช่วงบ้านตาดทอง-น้ำสัง และเมืองสังทอง ระยะทาง 82 กิโลเมตร วงเงิน 1,392 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน พ.ค. 2554 แล้วเสร็จเดือน ก.ค. 2557

    3. พัฒนาถนน R11 ช่วงครกข้าวดอ-บ้านโนนสะหวัน-สานะคาม-บ้านวัง-บ้านน้ำสัง ระยะทาง 124 กิโลเมตร วงเงิน 1,826.50 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ต.ค. 2562 แล้วเสร็จเตือน ก.ค. 2566

    สำหรับจุดผ่านแดนถาวรภูดู่ ห่างจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ประมาณ 160 กิโลเมตร เปิดตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. การนำรถยนต์เข้าประเทศลาว ต้องมีหนังสืออนุญาตรถระหว่างประเทศ (พาสปอร์ตรถ) ใบรับรองการตรวจสภาพรถ ทะเบียนรถที่แปลเป็นทะเบียนสากลในรูปแบบกระดาษ A4 สติกเกอร์สัญลักษณ์ตัว T และต้องทำประกันภัยรถยนต์บุคคล 3 ของ สปป.ลาวด้วย ซึ่งมีทั้งแบบ 7 วัน 3 เดือน และรายปี

    #Newskit
    จากเชียงใหม่ไปเวียงจันทน์ เส้นทางใหม่ R11 เพียง 11 ชั่วโมง เปิดใช้อย่างเป็นทางการ สำหรับทางหลวงแห่งชาติหมายเลข 11 (R11) เชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือของประเทศไทยกับนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา มีพิธีเปิดทางหลวง R11 จากเมืองสังทอง นครหลวงเวียงจันทน์ ถึงบ้านครกข้าวดอ เมืองสานะคาม แขวงเวียงจันทน์ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (NEDA) และกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติลาว (Lao National Radio) รายงานว่า ทางหลวง R11 เป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างไทย-ลาว ออกแบบเป็น 2 ช่องจราจร ตามมาตรฐานทางหลวงอาเซียน เริ่มจากจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ก่อนจะเข้าสู่จุดผ่านแดนถาวรภูดู่ เข้าสู่เมืองปากลาย แขวงไซยะบุลี เมืองสังทอง สิ้นสุดที่นครหลวงเวียงจันทน์ รวมระยะทางในประเทศไทย 391 กิโลเมตร และในประเทศลาว 238 กิโลเมตร ก่อนหน้านี้การเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ ไปนครหลวงเวียงจันทน์ ต้องออกไปทางด่านพรมแดนหนองคาย ระยะทาง 863 กิโลเมตร ใช้เวลา 14 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้เส้นทางนี้จะมีระยะทาง 629 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 10-11 ชั่วโมงเท่านั้น และเป็นการเดินทางในเส้นทางตรงที่ไม่มีสันภู หรือทางลาดชัน ช่วยให้สัญจรไปมาได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากจะประหยัดเวลาแล้ว ยังมีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาสองประเทศ ที่ผ่านมา NEDA ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาว ก่อสร้างและพัฒนาถนน รวม 3 โครงการ ได้แก่ 1. ก่อสร้างถนนจากด่านภูดู่ อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ ถึงเมืองปากลาย แขวงไซยะบุลี ระยะทาง 32 กิโลเมตร วงเงิน 718 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ธ.ค. 2555 แล้วเสร็จเดือน มิ.ย. 2557 2. พัฒนาถนน R11 ช่วงบ้านตาดทอง-น้ำสัง และเมืองสังทอง ระยะทาง 82 กิโลเมตร วงเงิน 1,392 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน พ.ค. 2554 แล้วเสร็จเดือน ก.ค. 2557 3. พัฒนาถนน R11 ช่วงครกข้าวดอ-บ้านโนนสะหวัน-สานะคาม-บ้านวัง-บ้านน้ำสัง ระยะทาง 124 กิโลเมตร วงเงิน 1,826.50 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ต.ค. 2562 แล้วเสร็จเตือน ก.ค. 2566 สำหรับจุดผ่านแดนถาวรภูดู่ ห่างจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ประมาณ 160 กิโลเมตร เปิดตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. การนำรถยนต์เข้าประเทศลาว ต้องมีหนังสืออนุญาตรถระหว่างประเทศ (พาสปอร์ตรถ) ใบรับรองการตรวจสภาพรถ ทะเบียนรถที่แปลเป็นทะเบียนสากลในรูปแบบกระดาษ A4 สติกเกอร์สัญลักษณ์ตัว T และต้องทำประกันภัยรถยนต์บุคคล 3 ของ สปป.ลาวด้วย ซึ่งมีทั้งแบบ 7 วัน 3 เดือน และรายปี #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 685 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงปู่ทิม รุ่นบรรจุหัวใจ วัดละหารไร่ จ.ระยอง ปี2557
    เหรียญหลวงปู่ทิม อิสริโก รุ่นบรรจุหัวใจหลวงปู่ทิม เนื้อทองฝาบาตร (หมายเลข 1660) วัดละหารไร่ จ.ระยอง ปี2557 // พระดีพิธีใหญ๋ สร้างน้อยมาก จัดสร้างโดย วัดละหารไร่ พระประสบการณ์อีกรุ่น // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณใช้ในทางเสน่ห์ เมตตามหานิยม เสริมโชคลาภ ค้าขายเงินทองไหลมา เทมา แคล้วคลาดปลอดภัยอันตรายทั้งมวล ยิงฟันไม่เข้า ขับไล่ภูตผีปีศาจ>>

    ** พระดีพิธีใหญ๋ จัดสร้างโดย วัดละหารไร่ พระประสบการณ์อีกรุ่น ทำพิธีปลุกเสก 2 วาระ โดยวาระที่ 1 ทำพิธีเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 57
    รายนามพระเกจิที่ร่วมพิธีปลุกเสก
    1.ท่านเจ้าคุณพระมงคลสุธี (หลวงปู่แขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก
    2.พระครูอมรธรรมโมภาส (หลวงปู่ชม) วัดสามัคคี จ.หนองคาย
    3. พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ (หลวงพ่อรวย) วัดตะโก จ.พระนครศรีอยุธยา
    4.พระครูพิพิธธรรมาธร (หลวงพ่อหวั่น) วัดคลองคูณ จ.พิจิตร
    5. พระครูสุภัททาจารคุณ (หลวงพ่อสิน) วัดละหารใหญ่ จ.ระยอง

    วาระที่ 2 เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2557 รายนามพระเกจิที่ร่วมพิธีปลุกเสก
    1. พระครูสุภัททาจารคุณ (หลวงพ่อสิน) วัดละหารใหญ่ จ.ระยอง
    2. พระครูวิจิตรธรรมภิรัต (หลวงพ่อเชย) วัดละหารไร่ จ.ระยอง
    3.พระครูพิพิธธรรมสาร (หลวงพ่อใย) วัดปากป่า จ.ระยอง
    4.พระครูโอภาสบุญวัฒน์ (หลวงพ่อแจ่ม) วัดเขาสำเภาทอง จ.ระยอง
    5. พระครูวรธรรมโกษาภิรักษ์ (หลวงพ่อหนาน) วัดสุวรรณรังสรรค์ จ.ระยอง

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่ทิม รุ่นบรรจุหัวใจ วัดละหารไร่ จ.ระยอง ปี2557 เหรียญหลวงปู่ทิม อิสริโก รุ่นบรรจุหัวใจหลวงปู่ทิม เนื้อทองฝาบาตร (หมายเลข 1660) วัดละหารไร่ จ.ระยอง ปี2557 // พระดีพิธีใหญ๋ สร้างน้อยมาก จัดสร้างโดย วัดละหารไร่ พระประสบการณ์อีกรุ่น // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณใช้ในทางเสน่ห์ เมตตามหานิยม เสริมโชคลาภ ค้าขายเงินทองไหลมา เทมา แคล้วคลาดปลอดภัยอันตรายทั้งมวล ยิงฟันไม่เข้า ขับไล่ภูตผีปีศาจ>> ** พระดีพิธีใหญ๋ จัดสร้างโดย วัดละหารไร่ พระประสบการณ์อีกรุ่น ทำพิธีปลุกเสก 2 วาระ โดยวาระที่ 1 ทำพิธีเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 57 รายนามพระเกจิที่ร่วมพิธีปลุกเสก 1.ท่านเจ้าคุณพระมงคลสุธี (หลวงปู่แขก) วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก 2.พระครูอมรธรรมโมภาส (หลวงปู่ชม) วัดสามัคคี จ.หนองคาย 3. พระครูสุนทรธรรมนิวิฐ (หลวงพ่อรวย) วัดตะโก จ.พระนครศรีอยุธยา 4.พระครูพิพิธธรรมาธร (หลวงพ่อหวั่น) วัดคลองคูณ จ.พิจิตร 5. พระครูสุภัททาจารคุณ (หลวงพ่อสิน) วัดละหารใหญ่ จ.ระยอง วาระที่ 2 เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2557 รายนามพระเกจิที่ร่วมพิธีปลุกเสก 1. พระครูสุภัททาจารคุณ (หลวงพ่อสิน) วัดละหารใหญ่ จ.ระยอง 2. พระครูวิจิตรธรรมภิรัต (หลวงพ่อเชย) วัดละหารไร่ จ.ระยอง 3.พระครูพิพิธธรรมสาร (หลวงพ่อใย) วัดปากป่า จ.ระยอง 4.พระครูโอภาสบุญวัฒน์ (หลวงพ่อแจ่ม) วัดเขาสำเภาทอง จ.ระยอง 5. พระครูวรธรรมโกษาภิรักษ์ (หลวงพ่อหนาน) วัดสุวรรณรังสรรค์ จ.ระยอง ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • เตรียมพยาน 1000 ปาก 'ดีเอสไอ' พร้อมลุยสอบฮั้ว ส.ว. วุฒิสภา เตรียมซักฟอกกลับ
    .
    ความเคลื่อนไหวที่ว่าด้วยการตรวจสอบการเลือกส.ว.นั้น แม้ด้านหนึ่งจะยังต้องรอความชัดเจนจากการพิจารณาของคณะกรรมการคดีพิเศษในวันที่ 6 มี.ค.นี้ก่อน แต่ปรากฎว่าเวลานี้มีการเผยแพร่เอกสารในสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นรายชื่อพยานมากกว่า 100 รายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เตรียมนำมาให้ข้อมูลแล้ว
    .
    ทั้งนี้มีรายงานจากดีเอสไอระบุว่า รายชื่อกว่า 1,200 รายที่ปรากฏในโพยพยานของดีเอสไอ มีทั้งในส่วนของผู้สมัครสมาชิก สว. และผู้ได้รับเลือกเป็น สว. อาทิ พื้นที่ จ.กระบี่ กรุงเทพมหานคร กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยนาทชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครนายก นครพนม นครปฐม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นนทบุรี นราธิวาส น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พัทลุง พิจิตร เพชรบุรี แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ยะลา ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สงขลา สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุบลราชธานี เป็นต้น
    .
    ขณะเดียวกันยังมีรายงานอีกว่า สำหรับรายชื่อกว่า 1,200 ชื่อ ที่ปรากฏชื่อว่าจะเป็นบุคคลที่ดีเอสไอเตรียมเรียกสอบปากคำในฐานะพยานในคดีฮั้ว สว.67 นั้น หากในวันที่ 6 มี.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมหารือครั้งที่ 2 เพื่อเอาคำตอบสุดท้ายของคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.) ในการมีมติในที่ประชุมว่าจะรับหรือไม่รับคดีฮั้ว สว.67 เป็นคดีพิเศษ หากผลมติในที่ประชุมขอให้รับไว้ดำเนินการเป็นคดีพิเศษ ขั้นตอนต่อไปก็จะมีการแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อทำการสอบสวนและขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการในการกระทำความผิด ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าวนั้น ทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้ทยอยออกหมายเรียกพยานกว่า 1,200 ราย เข้าให้ปากคำและสอบสวนดำเนินการต่อเนื่อง
    .
    ขณะที่ ความเคลื่อนของส.ว. ในการประชุมวุฒิสภาวันที่ 4 มี.ค. นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้นัดประชุมวุฒิสภา โดยมีวาระพิจารณาที่น่าสนใจคือ การเสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเสนอโดย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ส.ว.กลุ่มกฎหมาย และคณะ
    .
    สาระของญัตติที่เสนอดังกล่าวมีการอ้างถึงรัฐธรรมนูญ 2560 ที่กำหนดให้รัฐพึงจัดระบบการบริหารงานในกระบวนการยุติธรรมทุกด้านให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และให้รัฐมีมาตรฐานคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐในกระบวนการยุติธรรม ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยเคร่งครัด ปราศจากการแทรกแซงหรือครอบงำ แต่ที่ผ่านมาพบว่ากระบวนการยุติธรรมไทยขาดประสิทธิภาพ และมีการแทรกแซง ครอบงำจากฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะการดำเนินคดีพิเศษของกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งพบว่าที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมขาดประสิทธิภาพ ทำคดีล่าช้า ไม่สามารถทำให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษอย่างแท้จริง รวมถึงไม่สามารถป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดและปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ เช่น การดำเนินคดีกับนายทุนชาวจีนสีเทาในข้อหายาเสพติดฟอกเงิน และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ การดำเนินคดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ที่เป็นปัญหายาวนานและทวีความรุนแรง กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
    .
    นอกจากนี้ ในการดำเนินการกระบวนการยุติธรรมยังเป็นปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ เช่น กรณีการให้สิทธิแก่ผู้ต้องขังที่ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม ที่ผ่านมามีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ไม่โปร่งใส และไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยผู้ต้องขังบางคนได้รับสิทธิในการเข้ารับการรักษาพยาบาลที่พิเศษกว่าผู้ต้องขังคนอื่นๆ จึงสมควรที่วุฒิสภาจะได้อภิปรายระดมความคิดเห็นเพื่อพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย และเสนอไปยังรัฐบาลเพื่อพิจารณาดำเนินการตามข้อบังคับวุฒิสภา ข้อ 35
    ...........
    Sondhi X
    เตรียมพยาน 1000 ปาก 'ดีเอสไอ' พร้อมลุยสอบฮั้ว ส.ว. วุฒิสภา เตรียมซักฟอกกลับ . ความเคลื่อนไหวที่ว่าด้วยการตรวจสอบการเลือกส.ว.นั้น แม้ด้านหนึ่งจะยังต้องรอความชัดเจนจากการพิจารณาของคณะกรรมการคดีพิเศษในวันที่ 6 มี.ค.นี้ก่อน แต่ปรากฎว่าเวลานี้มีการเผยแพร่เอกสารในสื่อสังคมออนไลน์ที่เป็นรายชื่อพยานมากกว่า 100 รายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เตรียมนำมาให้ข้อมูลแล้ว . ทั้งนี้มีรายงานจากดีเอสไอระบุว่า รายชื่อกว่า 1,200 รายที่ปรากฏในโพยพยานของดีเอสไอ มีทั้งในส่วนของผู้สมัครสมาชิก สว. และผู้ได้รับเลือกเป็น สว. อาทิ พื้นที่ จ.กระบี่ กรุงเทพมหานคร กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยนาทชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครนายก นครพนม นครปฐม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นนทบุรี นราธิวาส น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พัทลุง พิจิตร เพชรบุรี แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ยะลา ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สงขลา สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุบลราชธานี เป็นต้น . ขณะเดียวกันยังมีรายงานอีกว่า สำหรับรายชื่อกว่า 1,200 ชื่อ ที่ปรากฏชื่อว่าจะเป็นบุคคลที่ดีเอสไอเตรียมเรียกสอบปากคำในฐานะพยานในคดีฮั้ว สว.67 นั้น หากในวันที่ 6 มี.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมหารือครั้งที่ 2 เพื่อเอาคำตอบสุดท้ายของคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.) ในการมีมติในที่ประชุมว่าจะรับหรือไม่รับคดีฮั้ว สว.67 เป็นคดีพิเศษ หากผลมติในที่ประชุมขอให้รับไว้ดำเนินการเป็นคดีพิเศษ ขั้นตอนต่อไปก็จะมีการแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อทำการสอบสวนและขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการในการกระทำความผิด ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าวนั้น ทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้ทยอยออกหมายเรียกพยานกว่า 1,200 ราย เข้าให้ปากคำและสอบสวนดำเนินการต่อเนื่อง . ขณะที่ ความเคลื่อนของส.ว. ในการประชุมวุฒิสภาวันที่ 4 มี.ค. นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้นัดประชุมวุฒิสภา โดยมีวาระพิจารณาที่น่าสนใจคือ การเสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเสนอโดย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ส.ว.กลุ่มกฎหมาย และคณะ . สาระของญัตติที่เสนอดังกล่าวมีการอ้างถึงรัฐธรรมนูญ 2560 ที่กำหนดให้รัฐพึงจัดระบบการบริหารงานในกระบวนการยุติธรรมทุกด้านให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และให้รัฐมีมาตรฐานคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐในกระบวนการยุติธรรม ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้โดยเคร่งครัด ปราศจากการแทรกแซงหรือครอบงำ แต่ที่ผ่านมาพบว่ากระบวนการยุติธรรมไทยขาดประสิทธิภาพ และมีการแทรกแซง ครอบงำจากฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะการดำเนินคดีพิเศษของกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งพบว่าที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมขาดประสิทธิภาพ ทำคดีล่าช้า ไม่สามารถทำให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษอย่างแท้จริง รวมถึงไม่สามารถป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดและปกป้องผลประโยชน์ของรัฐ เช่น การดำเนินคดีกับนายทุนชาวจีนสีเทาในข้อหายาเสพติดฟอกเงิน และการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ การดำเนินคดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ที่เป็นปัญหายาวนานและทวีความรุนแรง กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ . นอกจากนี้ ในการดำเนินการกระบวนการยุติธรรมยังเป็นปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ เช่น กรณีการให้สิทธิแก่ผู้ต้องขังที่ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม ที่ผ่านมามีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ไม่โปร่งใส และไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยผู้ต้องขังบางคนได้รับสิทธิในการเข้ารับการรักษาพยาบาลที่พิเศษกว่าผู้ต้องขังคนอื่นๆ จึงสมควรที่วุฒิสภาจะได้อภิปรายระดมความคิดเห็นเพื่อพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย และเสนอไปยังรัฐบาลเพื่อพิจารณาดำเนินการตามข้อบังคับวุฒิสภา ข้อ 35 ........... Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3036 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชื่อหลุดว่อนเน็ต! ถูกดีเอสไอเรียกสอบปม “ฮั้วเลือก สว.” เป็นโหวตเตอร์นับพันราย แหล่งข่าวยันตรงเกือบ 100% พร้อมเรียกผู้เกี่ยวข้องรอบนอกด้วย

    วันที่ (2 มี.ค.) ความคืบหน้าคดีสอบฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา ปี 2567 ล่าสุด มีรายงานว่า ในโลกออนไลน์ได้มีการส่งต่อข้อมูลที่อ้างว่าเป็นรายชื่อของผู้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เตรียมเรียกสอบ ซึ่งเป็นเอกสารจำนวนกว่า 5 หน้ากระดาษมากกว่า 1,000 รายชื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สมัคร สว. บรรดาโหวตเตอร์ในจังหวัดต่างๆ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กระบี่ ขอนแก่น จันทบุรี ชัยนาท เชียงราย ตรัง ตราด นครนายก นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ บึงกาฬ บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พังงา พิจิตร เพชรบุรี ภูเก็ต มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ยะลา ระนอง ราชบุรี ลำปาง เลย ศรีสะเกษ สงขลา สตูล สมุทรปราการ สมุทรสาคร สิงห์บุรี สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุทัยธานี และอุบลราชธานี

    แหล่งข่าวจากดีเอสไอ ระบุว่า จากตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้ว พบว่า รายชื่อส่วนใหญ่จากเอกสารที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์นั้น ตรงกับที่พนักงานสอบสวนเตรียมเรียกมาสอบเกือบ 100% แต่ในส่วนของพนักงานสอบสวนเตรียมเรียกผู้เกี่ยวข้องรอบนอกที่ไม่ใช่เฉพาะโหวตเตอร์มาสอบด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000020319

    #MGROnline #ดีเอสไอ
    ชื่อหลุดว่อนเน็ต! ถูกดีเอสไอเรียกสอบปม “ฮั้วเลือก สว.” เป็นโหวตเตอร์นับพันราย แหล่งข่าวยันตรงเกือบ 100% พร้อมเรียกผู้เกี่ยวข้องรอบนอกด้วย • วันที่ (2 มี.ค.) ความคืบหน้าคดีสอบฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา ปี 2567 ล่าสุด มีรายงานว่า ในโลกออนไลน์ได้มีการส่งต่อข้อมูลที่อ้างว่าเป็นรายชื่อของผู้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เตรียมเรียกสอบ ซึ่งเป็นเอกสารจำนวนกว่า 5 หน้ากระดาษมากกว่า 1,000 รายชื่อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สมัคร สว. บรรดาโหวตเตอร์ในจังหวัดต่างๆ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร กระบี่ ขอนแก่น จันทบุรี ชัยนาท เชียงราย ตรัง ตราด นครนายก นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ บึงกาฬ บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พังงา พิจิตร เพชรบุรี ภูเก็ต มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ยะลา ระนอง ราชบุรี ลำปาง เลย ศรีสะเกษ สงขลา สตูล สมุทรปราการ สมุทรสาคร สิงห์บุรี สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุทัยธานี และอุบลราชธานี • แหล่งข่าวจากดีเอสไอ ระบุว่า จากตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้ว พบว่า รายชื่อส่วนใหญ่จากเอกสารที่เผยแพร่ในโลกออนไลน์นั้น ตรงกับที่พนักงานสอบสวนเตรียมเรียกมาสอบเกือบ 100% แต่ในส่วนของพนักงานสอบสวนเตรียมเรียกผู้เกี่ยวข้องรอบนอกที่ไม่ใช่เฉพาะโหวตเตอร์มาสอบด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000020319 • #MGROnline #ดีเอสไอ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1356 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมัครสอบ อปท. 2568 ทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ การสอบแข่งขันเป็นข้าราชการท้องถิ่น

    📢 ข่าวดีสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)! กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) ได้ออกประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ผ่านระบบออนไลน์ 🖥️

    การสอบครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญ สำหรับผู้ที่สนใจทำงาน ในหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดังนั้นผู้สมัคร ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียด ให้ครบถ้วนก่อนทำการสมัคร ✍️

    🔎 คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ อปท. 2568
    การสมัครสอบแข่งขันครั้งนี้ มีกฎเกณฑ์และคุณสมบัติ ที่ต้องพิจารณาอย่างเคร่งครัด มาดูกันว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่

    ✅ คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร
    - มีสัญชาติไทย 🇹🇭
    - อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่สมัครสอบ
    - ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 🏥
    - ไม่เป็นผู้ต้องหาคดีอาญา หรือถูกตัดสิทธิ์สอบราชการมาก่อน
    - ต้องจบการศึกษาภายในวันปิดรับสมัคร 28 มีนาคม 2568 🎓

    🚨 ข้อกำหนดพิเศษ
    - ผู้สมัครจะต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่า 10 ข้อจาก 20 ข้อ ✨
    - บัญชีรายชื่อผู้สอบผ่านมีอายุ 2 ปี และสามารถขยายได้ไม่เกิน 30 วัน

    📌 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร
    การสอบ อปท. 2568 แบ่งออกเป็น 10 กลุ่มภาค/เขต ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละกลุ่มภาค จะมีตำแหน่งที่เปิดรับแตกต่างกันไป

    🔸 กลุ่มภาคที่เปิดรับสมัคร
    ภาคเหนือ เขต 1 เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, และลำพูน
    ภาคเหนือ เขต 2 กำแพงเพชร, ตาก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี
    ภาคกลาง เขต 1 ชัยนาท, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี และอ่างทอง
    ภาคกลาง เขต 2 จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ และสระแก้ว
    ภาคกลาง เขต 3 กาญจนบุรี, นครปฐม, ประจวบคีรีขันธ์ , เพชรบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และมหาสารคาม
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3 นครพนม, บึงกาฬ, เลย, สกลนคร, หนองคาย, หนองบัวลำภู และอุดรธานี
    ภาคใต้ เขต 1 กระบี่, ชุมพร, นครศรีธรรมราช, พังงา , ภูเก็ต, ระนอง และสุราษฎร์ธานี
    ภาคใต้ เขต 2 ตรัง, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, สงขลา และสตูล

    📋 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร
    🔹 ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปริญาญาตรี 4 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 16,560 บาท ปริญญาตรี 5 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 17,380 บาท

    🔹 ประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ปวช. เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 บาท ปวท. เงินเดือนเริ่มต้น 11,960 บาท ปวส. เงินเดือนเริ่มต้น 12,730 บาท เช่น เจ้าพนักงานธุรการ เจ้าพนักงานทะเบียน เจ้าพนักงานการคลัง เจ้าพนักงานพัสดุ เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ เจ้าพนักงานประชาสัมพันธ์ เจ้าพนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เจ้าพนักงานการเกษตร เจ้าพนักงานสวนสาธารณะ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานสุขาภิบาล สัตวแพทย์ เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ นายช่างโยธา นายช่างเขียนแบบ นายช่างสำรวจ นายช่างผังเมือง นายช่างเครื่องกล นายช่างไฟฟ้า เจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน เจ้าพนักงานเทศกิจ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ฯลฯ

    🔹 ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท เช่น นักจัดการงานทั่วไป นักทรัพยากรบุคคล นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักจัดการงานทะเบียนและบัตร นิคิกร นักวิชาการคอมพิวเตอร์ นักวิชาการศึกษา นักวิชาการเงินและบัญชี นักวิชาการคลัง นักวิชาการจัดเก็บรายได้ นักวิชาการพัสดุ นักวิชาการตรวจสอบภายใน นักประชาสัมพันธ์ นักพัฒนาการท่องเที่ยว นักวิชาการเกษตร นักวิชาการสวนสาธารณะ นักวิชาการสาธารณสุข นักวิชาการสิ่งแวดล้อม นายสัตวแพทย์ นักฉุกเฉินการแพทย์ สถาปนิก วิศวกรโยธา วิศวกรเครื่องกล วิศวกรไฟฟ้า วิทศวกรสุขาภิบาล นักจัดการงานช่าง นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการศึกษา นักพัฒนาชุมชน บรรณารักษ์ นักสันทนาการ นักพัฒนาการกีฬา นักจัดการงานเทศกิจ นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ

    📖 รายละเอียดการสอบ อปท. 2568
    การสอบแข่งขัน จะแบ่งออกเป็น 3 ภาคหลัก ได้แก่
    📝 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน
    - ความสามารถด้านการวิเคราะห์ และสรุปเหตุผล 30 คะแนน
    - ความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ และกฎหมายท้องถิ่น 30 คะแนน
    - ความสามารถด้านภาษาไทย 20 คะแนน
    - ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องผ่านอย่างน้อย 10 ข้อจาก 20 ข้อ!

    📚 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน
    -เป็นข้อสอบเกี่ยวกับความรู้ ที่ใช้เฉพาะในตำแหน่งที่สมัคร

    🗣️ ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน
    เป็นการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง เช่น ทัศนคติ บุคลิกภาพ และความสามารถในการสื่อสาร

    📝 วิธีสมัครสอบ อปท. 2568
    🔹 สมัครผ่านทางออนไลน์ 📱 ที่เว็บไซต์:
    ➡️ https://dla-local2568.thaijobjob.com
    📅 เปิดรับสมัครตั้งแต่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ตลอด 24 ชั่วโมง

    🗂️ เอกสารที่ต้องใช้สมัคร
    ✅ รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 นิ้ว 📸
    ✅ สำเนาบัตรประชาชน 🆔
    ✅ สำเนาทะเบียนบ้าน 🏠
    ✅ สำเนาวุฒิการศึกษา Transcript 🎓
    ✅ สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สำหรับบางตำแหน่ง
    ✅ เอกสารทางทหาร สด.8 หรือ สด.9 🪖

    📌 อัปโหลดไฟล์ PDF เท่านั้น! ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 1 MB

    💰 ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ
    - ค่าธรรมเนียมสอบ 400 บาท
    - ค่าธรรมเนียมธนาคาร และค่าบริการ 30 บาท
    📌 รวมทั้งสิ้น 430 บาท ไม่สามารถขอคืนเงินได้

    📍 ช่องทางชำระเงิน:
    - เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย 🏦
    - แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือ เป๋าตัง 📲
    - ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย
    🛑 ชำระเงินภายในวันที่ 7 - 29 มีนาคม 2568 เท่านั้น!

    📢 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ
    📆 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ก และ ข พร้อมวัน-เวลา-สถานที่สอบ ได้ที่
    📌 เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com

    🔑 เคล็ดลับเตรียมสอบ อปท. ให้สอบผ่าน!
    🔥 ศึกษาหลักสูตรการสอบ ให้ครบถ้วน
    📖 อ่านแนวข้อสอบ และทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    🔥 ฝึกทำข้อสอบเก่า
    🔍 ฝึกทำข้อสอบปีที่ผ่านมา เพื่อจับแนวทางที่ออกบ่อย

    🔥 ฝึกภาษาอังกฤษให้คล่อง
    ✅ ท่องศัพท์
    ✅ ฝึกทำข้อสอบแกรมม่า
    ✅ อ่านบทความภาษาอังกฤษ

    🔥 จัดตารางอ่านหนังสือ
    🗓️ แบ่งเวลาอ่านหนังสือทุกวัน วันละ 2-3 ชั่วโมง

    🔥 พักผ่อนให้เพียงพอ
    😴 นอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมงก่อนสอบ

    🔚 📍 การสอบ อปท. 2568 เป็นโอกาสดี สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าพลาด! สมัครสอบได้ระหว่าง 7 - 28 มีนาคม 2568 ทางออนไลน์เท่านั้น 🚀

    📌 ติดตามข่าวสาร และอัปเดตข้อมูลการสอบได้ที่
    🔗 https://dla-local2568.thaijobjob.com

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 202022 ก.พ. 2568

    📢 #สอบอปท2568 #สมัครสอบราชการ #งานราชการ #สอบท้องถิ่น #เตรียมสอบอปท #DLA #สมัครสอบออนไลน์ #งานข้าราชการ #สอบราชการ2025 #สอบภาษาอังกฤษอปท
    สมัครสอบ อปท. 2568 ทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ การสอบแข่งขันเป็นข้าราชการท้องถิ่น 📢 ข่าวดีสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)! กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) ได้ออกประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ผ่านระบบออนไลน์ 🖥️ การสอบครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญ สำหรับผู้ที่สนใจทำงาน ในหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดังนั้นผู้สมัคร ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียด ให้ครบถ้วนก่อนทำการสมัคร ✍️ 🔎 คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ อปท. 2568 การสมัครสอบแข่งขันครั้งนี้ มีกฎเกณฑ์และคุณสมบัติ ที่ต้องพิจารณาอย่างเคร่งครัด มาดูกันว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ ✅ คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร - มีสัญชาติไทย 🇹🇭 - อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่สมัครสอบ - ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 🏥 - ไม่เป็นผู้ต้องหาคดีอาญา หรือถูกตัดสิทธิ์สอบราชการมาก่อน - ต้องจบการศึกษาภายในวันปิดรับสมัคร 28 มีนาคม 2568 🎓 🚨 ข้อกำหนดพิเศษ - ผู้สมัครจะต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่า 10 ข้อจาก 20 ข้อ ✨ - บัญชีรายชื่อผู้สอบผ่านมีอายุ 2 ปี และสามารถขยายได้ไม่เกิน 30 วัน 📌 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร การสอบ อปท. 2568 แบ่งออกเป็น 10 กลุ่มภาค/เขต ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละกลุ่มภาค จะมีตำแหน่งที่เปิดรับแตกต่างกันไป 🔸 กลุ่มภาคที่เปิดรับสมัคร ภาคเหนือ เขต 1 เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, และลำพูน ภาคเหนือ เขต 2 กำแพงเพชร, ตาก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี ภาคกลาง เขต 1 ชัยนาท, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี และอ่างทอง ภาคกลาง เขต 2 จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ และสระแก้ว ภาคกลาง เขต 3 กาญจนบุรี, นครปฐม, ประจวบคีรีขันธ์ , เพชรบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และมหาสารคาม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3 นครพนม, บึงกาฬ, เลย, สกลนคร, หนองคาย, หนองบัวลำภู และอุดรธานี ภาคใต้ เขต 1 กระบี่, ชุมพร, นครศรีธรรมราช, พังงา , ภูเก็ต, ระนอง และสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ เขต 2 ตรัง, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, สงขลา และสตูล 📋 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร 🔹 ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปริญาญาตรี 4 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 16,560 บาท ปริญญาตรี 5 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 17,380 บาท 🔹 ประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ปวช. เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 บาท ปวท. เงินเดือนเริ่มต้น 11,960 บาท ปวส. เงินเดือนเริ่มต้น 12,730 บาท เช่น เจ้าพนักงานธุรการ เจ้าพนักงานทะเบียน เจ้าพนักงานการคลัง เจ้าพนักงานพัสดุ เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ เจ้าพนักงานประชาสัมพันธ์ เจ้าพนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เจ้าพนักงานการเกษตร เจ้าพนักงานสวนสาธารณะ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานสุขาภิบาล สัตวแพทย์ เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ นายช่างโยธา นายช่างเขียนแบบ นายช่างสำรวจ นายช่างผังเมือง นายช่างเครื่องกล นายช่างไฟฟ้า เจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน เจ้าพนักงานเทศกิจ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ฯลฯ 🔹 ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท เช่น นักจัดการงานทั่วไป นักทรัพยากรบุคคล นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักจัดการงานทะเบียนและบัตร นิคิกร นักวิชาการคอมพิวเตอร์ นักวิชาการศึกษา นักวิชาการเงินและบัญชี นักวิชาการคลัง นักวิชาการจัดเก็บรายได้ นักวิชาการพัสดุ นักวิชาการตรวจสอบภายใน นักประชาสัมพันธ์ นักพัฒนาการท่องเที่ยว นักวิชาการเกษตร นักวิชาการสวนสาธารณะ นักวิชาการสาธารณสุข นักวิชาการสิ่งแวดล้อม นายสัตวแพทย์ นักฉุกเฉินการแพทย์ สถาปนิก วิศวกรโยธา วิศวกรเครื่องกล วิศวกรไฟฟ้า วิทศวกรสุขาภิบาล นักจัดการงานช่าง นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการศึกษา นักพัฒนาชุมชน บรรณารักษ์ นักสันทนาการ นักพัฒนาการกีฬา นักจัดการงานเทศกิจ นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ 📖 รายละเอียดการสอบ อปท. 2568 การสอบแข่งขัน จะแบ่งออกเป็น 3 ภาคหลัก ได้แก่ 📝 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน - ความสามารถด้านการวิเคราะห์ และสรุปเหตุผล 30 คะแนน - ความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ และกฎหมายท้องถิ่น 30 คะแนน - ความสามารถด้านภาษาไทย 20 คะแนน - ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องผ่านอย่างน้อย 10 ข้อจาก 20 ข้อ! 📚 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน -เป็นข้อสอบเกี่ยวกับความรู้ ที่ใช้เฉพาะในตำแหน่งที่สมัคร 🗣️ ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน เป็นการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง เช่น ทัศนคติ บุคลิกภาพ และความสามารถในการสื่อสาร 📝 วิธีสมัครสอบ อปท. 2568 🔹 สมัครผ่านทางออนไลน์ 📱 ที่เว็บไซต์: ➡️ https://dla-local2568.thaijobjob.com 📅 เปิดรับสมัครตั้งแต่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ตลอด 24 ชั่วโมง 🗂️ เอกสารที่ต้องใช้สมัคร ✅ รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 นิ้ว 📸 ✅ สำเนาบัตรประชาชน 🆔 ✅ สำเนาทะเบียนบ้าน 🏠 ✅ สำเนาวุฒิการศึกษา Transcript 🎓 ✅ สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สำหรับบางตำแหน่ง ✅ เอกสารทางทหาร สด.8 หรือ สด.9 🪖 📌 อัปโหลดไฟล์ PDF เท่านั้น! ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 1 MB 💰 ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ - ค่าธรรมเนียมสอบ 400 บาท - ค่าธรรมเนียมธนาคาร และค่าบริการ 30 บาท 📌 รวมทั้งสิ้น 430 บาท ไม่สามารถขอคืนเงินได้ 📍 ช่องทางชำระเงิน: - เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย 🏦 - แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือ เป๋าตัง 📲 - ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย 🛑 ชำระเงินภายในวันที่ 7 - 29 มีนาคม 2568 เท่านั้น! 📢 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ 📆 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ก และ ข พร้อมวัน-เวลา-สถานที่สอบ ได้ที่ 📌 เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com 🔑 เคล็ดลับเตรียมสอบ อปท. ให้สอบผ่าน! 🔥 ศึกษาหลักสูตรการสอบ ให้ครบถ้วน 📖 อ่านแนวข้อสอบ และทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 🔥 ฝึกทำข้อสอบเก่า 🔍 ฝึกทำข้อสอบปีที่ผ่านมา เพื่อจับแนวทางที่ออกบ่อย 🔥 ฝึกภาษาอังกฤษให้คล่อง ✅ ท่องศัพท์ ✅ ฝึกทำข้อสอบแกรมม่า ✅ อ่านบทความภาษาอังกฤษ 🔥 จัดตารางอ่านหนังสือ 🗓️ แบ่งเวลาอ่านหนังสือทุกวัน วันละ 2-3 ชั่วโมง 🔥 พักผ่อนให้เพียงพอ 😴 นอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมงก่อนสอบ 🔚 📍 การสอบ อปท. 2568 เป็นโอกาสดี สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าพลาด! สมัครสอบได้ระหว่าง 7 - 28 มีนาคม 2568 ทางออนไลน์เท่านั้น 🚀 📌 ติดตามข่าวสาร และอัปเดตข้อมูลการสอบได้ที่ 🔗 https://dla-local2568.thaijobjob.com ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 202022 ก.พ. 2568 📢 #สอบอปท2568 #สมัครสอบราชการ #งานราชการ #สอบท้องถิ่น #เตรียมสอบอปท #DLA #สมัครสอบออนไลน์ #งานข้าราชการ #สอบราชการ2025 #สอบภาษาอังกฤษอปท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2856 มุมมอง 0 รีวิว
  • รถไฟความเร็วสูงไทย ไปให้สุดถึงหนองคาย

    แม้ว่าโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 251 กิโลเมตร ยังคงไปไม่ถึงไหน เพราะช่วงบางซื่อ-ดอนเมืองยังไม่ก่อสร้าง และช่วงบ้านโพ-พระแก้ว กำลังปรับแบบก่อสร้างสถานีรถไฟอยุธยา ตามคำแนะนำของยูเนสโก แต่ล่าสุดรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อนุมัติโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย หรือโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา–หนองคาย เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา วงเงิน 341,351.42 ล้านบาท

    สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงนครราชสีมา–หนองคาย มีระยะทาง 357.12 กิโลเมตร ประกอบด้วย 5 สถานี ได้แก่ 1. สถานีบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา 2. สถานีบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น 3. สถานีขอนแก่น 4. สถานีอุดรธานี และ 5. สถานีหนองคาย โดยจะเริ่มก่อสร้างในปีงบประมาณ 2578 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2575 พร้อมกันนี้ จะมีก่อสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้านาทา จ.หนองคาย สำหรับเปลี่ยนถ่ายสินค้าทางรถไฟ ระหว่างขนาดทาง 1 เมตร ของรถไฟไทย กับขนาดทางมาตรฐาน 1.45 เมตร ของโครงการรถไฟลาว-จีน ในรูปแบบศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) อีกด้วย

    อีกด้านหนึ่ง ยังมีโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว หนองคาย-เวียงจันทน์ แห่งที่ 2 ห่างจากสะพานมิตรภาพเดิม 30 เมตร โดยจะมีทั้งทางรถไฟขนาด 1 เมตร และ 1.435 เมตร เชื่อมต่อระหว่างสถานีหนองคาย ประเทศไทย กับสถานีเวียงจันทน์ใต้ ของโครงการรถไฟลาว-จีน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.ย.2568 ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบและลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการก่อสร้างสะพานระหว่างไทยและลาว คาดว่าจะก่อสร้างได้ในไตรมาสที่ 3/2569 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 36 เดือน แล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการในปี 2572

    ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย กำลังก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย กับกิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอส ก่อสร้าง (บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนจิเนียริ่ง (1964) จำกัด บริษัท ทิพากร จำกัด และ บริษัท เค เอส ร่วมค้า จำกัด) ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงินสัญญา 28,679 ล้านบาท ประกอบด้วยทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม พร้อมก่อสร้างอาคารสถานี 14 สถานี ที่หยุดรถ 4 แห่ง ลานบรรทุกสินค้า 3 แห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเงินกู้จากกระทรวงการคลังงวดแรกก่อนออกหนังสือแจ้งให้เอกชนเริ่มงาน (NTP) ในเดือน เม.ย.2568 คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี 2571

    #Newskit
    รถไฟความเร็วสูงไทย ไปให้สุดถึงหนองคาย แม้ว่าโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 251 กิโลเมตร ยังคงไปไม่ถึงไหน เพราะช่วงบางซื่อ-ดอนเมืองยังไม่ก่อสร้าง และช่วงบ้านโพ-พระแก้ว กำลังปรับแบบก่อสร้างสถานีรถไฟอยุธยา ตามคำแนะนำของยูเนสโก แต่ล่าสุดรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อนุมัติโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย หรือโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา–หนองคาย เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา วงเงิน 341,351.42 ล้านบาท สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงนครราชสีมา–หนองคาย มีระยะทาง 357.12 กิโลเมตร ประกอบด้วย 5 สถานี ได้แก่ 1. สถานีบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา 2. สถานีบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น 3. สถานีขอนแก่น 4. สถานีอุดรธานี และ 5. สถานีหนองคาย โดยจะเริ่มก่อสร้างในปีงบประมาณ 2578 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2575 พร้อมกันนี้ จะมีก่อสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้านาทา จ.หนองคาย สำหรับเปลี่ยนถ่ายสินค้าทางรถไฟ ระหว่างขนาดทาง 1 เมตร ของรถไฟไทย กับขนาดทางมาตรฐาน 1.45 เมตร ของโครงการรถไฟลาว-จีน ในรูปแบบศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) อีกด้วย อีกด้านหนึ่ง ยังมีโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว หนองคาย-เวียงจันทน์ แห่งที่ 2 ห่างจากสะพานมิตรภาพเดิม 30 เมตร โดยจะมีทั้งทางรถไฟขนาด 1 เมตร และ 1.435 เมตร เชื่อมต่อระหว่างสถานีหนองคาย ประเทศไทย กับสถานีเวียงจันทน์ใต้ ของโครงการรถไฟลาว-จีน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.ย.2568 ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบและลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการก่อสร้างสะพานระหว่างไทยและลาว คาดว่าจะก่อสร้างได้ในไตรมาสที่ 3/2569 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 36 เดือน แล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการในปี 2572 ปัจจุบันการรถไฟแห่งประเทศไทย กำลังก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคาย กับกิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอส ก่อสร้าง (บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนจิเนียริ่ง (1964) จำกัด บริษัท ทิพากร จำกัด และ บริษัท เค เอส ร่วมค้า จำกัด) ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงินสัญญา 28,679 ล้านบาท ประกอบด้วยทางรถไฟใหม่เพิ่ม 1 ทาง ขนานไปกับทางรถไฟเดิม พร้อมก่อสร้างอาคารสถานี 14 สถานี ที่หยุดรถ 4 แห่ง ลานบรรทุกสินค้า 3 แห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเงินกู้จากกระทรวงการคลังงวดแรกก่อนออกหนังสือแจ้งให้เอกชนเริ่มงาน (NTP) ในเดือน เม.ย.2568 คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี 2571 #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 829 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนองคาย-ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย นำหมายค้นตรวจบ้านหลังใหญ่ในตัวเมืองหนองคาย หลังพบเปิดบ้านทำเว็บพนันออนไลน์ ทั้งเว็บไทย และเว็บลาว เงินหมุนเวียนหลายล้านบาท รวบ10 ผู้ต้องหาไทย- ลาว ขณะเจ้านายใหญ่ไหวตัวทันหลบหนี

    วันนี้ (5 ก.พ.68) พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.อก.รร.นรต.รรท.ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน รองผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.หนองคาย, พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันนำหมายค้นตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 73 / 75 / 76 / 77 หมู่ 1 จอมมณี ชอย 4 ต.มีชัย อ.เมืองหนองคาย หลังจากที่ พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.หนองคาย สืบทราบว่าบ้านหลังกล่าวมีการลักลอบกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการพนันออนไลน์

    เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงได้นำหมายค้นแสดงต่อบุคคลที่อยู่ในบ้าน โดยตรวจสอบเอกสารแสดงตัวบุคคล ทราบว่าเป็นคนไทย 4 คน คนลาว 6 คน เจ้าของบ้านไม่อยู่ ภายในบ้านมีโต๊ะคอมพิวเตอร์เปิดเครื่องไว้อยู่ระหว่างการสนทนากับลูกค้า ตรวจพบว่าเป็นเว็บพนันออนไลน์ทุกประเภท พนันกีฬาทุกชนิด โดยเป็นเว็บไทย 2 เว็บ ชื่อ Lion 777 , Bear 798 และเว็บลาว 1 เว็บ ชื่อ Uefa La 88 เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดคอมพิวเตอร์ จอมอนิเตอร์ 7 ตัว ซีพียู 3 เครื่อง คอมพิวเตอร์ออลอินวัน 1 ตัว, โทรศัพท์มือถือ ,สมุดบัญชีธนาคาร มีเงินหมุนเวียน เว็บไทย 2 เว็บ เป็นเงินไทย 2 ล้านบาทต่อเดือน และบัญชีเว็บลาว จะมีเงินหมุนเวียนประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อเดือน

    ก่อนบุกเข้าจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย สืบทราบว่า มีกลุ่มบุคคลคนลาวเข้าออกประเทศผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคายบ่อยครั้ง แต่ไม่มีการแจ้งแหล่งที่พักอาศัยของแรงงานต่างด้าว มีการเข้าออกเป็นรอบ รอบเช้า 07.30- 16.30 น. รอบบ่าย 16.30 – 07.30 น. ทุกวัน สลับกันไป

    บ้านหลังดังกล่าวไม่มีการแจ้งว่ามีการจ้างแรงงานต่างด้าว เจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตจนแน่ใจว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงขอหมายค้นเข้าทำการตรวจสอบในครั้งนี้จนสามารถบุกทลายแหล่งพนันออนไลน์กลางเมืองหนองคายได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000011759

    #MGROnline #หนองคาย #เว็บพนันออนไลน์
    หนองคาย-ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย นำหมายค้นตรวจบ้านหลังใหญ่ในตัวเมืองหนองคาย หลังพบเปิดบ้านทำเว็บพนันออนไลน์ ทั้งเว็บไทย และเว็บลาว เงินหมุนเวียนหลายล้านบาท รวบ10 ผู้ต้องหาไทย- ลาว ขณะเจ้านายใหญ่ไหวตัวทันหลบหนี • วันนี้ (5 ก.พ.68) พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.อก.รร.นรต.รรท.ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน รองผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.หนองคาย, พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันนำหมายค้นตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 73 / 75 / 76 / 77 หมู่ 1 จอมมณี ชอย 4 ต.มีชัย อ.เมืองหนองคาย หลังจากที่ พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.หนองคาย สืบทราบว่าบ้านหลังกล่าวมีการลักลอบกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ • เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงได้นำหมายค้นแสดงต่อบุคคลที่อยู่ในบ้าน โดยตรวจสอบเอกสารแสดงตัวบุคคล ทราบว่าเป็นคนไทย 4 คน คนลาว 6 คน เจ้าของบ้านไม่อยู่ ภายในบ้านมีโต๊ะคอมพิวเตอร์เปิดเครื่องไว้อยู่ระหว่างการสนทนากับลูกค้า ตรวจพบว่าเป็นเว็บพนันออนไลน์ทุกประเภท พนันกีฬาทุกชนิด โดยเป็นเว็บไทย 2 เว็บ ชื่อ Lion 777 , Bear 798 และเว็บลาว 1 เว็บ ชื่อ Uefa La 88 เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดคอมพิวเตอร์ จอมอนิเตอร์ 7 ตัว ซีพียู 3 เครื่อง คอมพิวเตอร์ออลอินวัน 1 ตัว, โทรศัพท์มือถือ ,สมุดบัญชีธนาคาร มีเงินหมุนเวียน เว็บไทย 2 เว็บ เป็นเงินไทย 2 ล้านบาทต่อเดือน และบัญชีเว็บลาว จะมีเงินหมุนเวียนประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อเดือน • ก่อนบุกเข้าจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย สืบทราบว่า มีกลุ่มบุคคลคนลาวเข้าออกประเทศผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคายบ่อยครั้ง แต่ไม่มีการแจ้งแหล่งที่พักอาศัยของแรงงานต่างด้าว มีการเข้าออกเป็นรอบ รอบเช้า 07.30- 16.30 น. รอบบ่าย 16.30 – 07.30 น. ทุกวัน สลับกันไป • บ้านหลังดังกล่าวไม่มีการแจ้งว่ามีการจ้างแรงงานต่างด้าว เจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตจนแน่ใจว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงขอหมายค้นเข้าทำการตรวจสอบในครั้งนี้จนสามารถบุกทลายแหล่งพนันออนไลน์กลางเมืองหนองคายได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000011759 • #MGROnline #หนองคาย #เว็บพนันออนไลน์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 563 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ออกมายินดีหลังปานามาจะไม่ต่ออายุโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของจีนหลังข้อตกลงหมดอายุเพื่อถอยห่างจากปักกิ่ง และยินยอมให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านตลอดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้ ทรัมป์อาจบีบปานามาให้ออกจาก BRI ได้ แต่อาจยังไม่ได้กับชาติในเอเชียที่หวังพึ่งทุนจีนพัฒนาประเทศหลังนายกฯ ไทยเพิ่งแสดงความยินดี ครม.อนุมัติไฮสปีดเทรนโคราช-หนองคาย 357 กม.เชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ คาด เสร็จปี 73 ชี้เร่งเฟส 1 ยังช้ากว่าแผน
    .
    รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (4 ก.พ.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) วานนี้ (3) ได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของผู้นำปานามาที่จะถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน BRI ด้วยการไม่ต่ออายุข้อตกลงหลังหมดอายุ
    .
    รูบิโอกล่าวชื่นชมว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า เป็นความเคลื่อนไหวใดๆของปานามาในการถอยห่างจากโครงการ BRI ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงนั้นเป็นชัยชนะของวอชิงตัน ซึ่งสหรัฐฯ นั้นยืนยันมาโดยตลอดว่า ปักกิ่งใช้ยุทธวิธีกับดักเงินกู้ทางการทูต (debt trap diplomacy) เพื่อสร้างอิทธิพลระดับโลกของตัวเอง
    .
    หลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประธานาธิบดีปานามา โฮเซ ราอูล มูลิโน (Jose Raul Mulino) ออกมาแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ตกลงปานามาในข้อตกลงแบบกว้างที่ปานามาจะไม่ต่อสัญญาข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐานจีน BRI และสามารถยกเลิกได้ก่อนกำหนด
    .
    เขาเปิดเผยว่า ข้อตกลงนั้นมีกำหนดจะสิ้นสุดในอีกราว 2-3 ปีข้างหน้า
    .
    ทั้งนี้ ปานามากลายเป็นชาติแรกในดินแดนละตินอเมริกากระโดดเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเมื่อพฤศจิกายนปี 2017 หรือ 5 เดือนหลังจากตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและเป็นพันธมิตรกับจีนแทน
    .
    เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่ ศาสตราจารย์ เหยียนจง ฮวง (Yanzhong Huang) ผู้เชี่ยวชาญประจำ Council on Foreign Relations สถาบันธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาฟันธงว่า สหรัฐฯ และจีนกำลังเล่นเกมทางการทูตอยู่ และการที่ปานามาประกาศตัวจะถอนตัวจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของประธานาธิบดีสีได้ถือเป็นชัยชนะเริ่มแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ชุดใหม่ในการทูตแบบใครกะพริบตาก่อนแพ้
    .
    “สหรัฐฯ ปัจจุบันดูเหมือนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นไปที่หลังบ้านตัวเองคือละตินอเมริกาซึ่งประเทศเหล่านี้ยังคงต้องพึ่งการสนับสนุนและการค้ากับสหรัฐฯ”
    .
    พร้อมเสริมว่า “แต่ผมไม่มั่นใจว่าอเมริกาจะสามารถใช้อิทธิพลที่คล้ายกันในการบีบประเทศเอเชีย ตัวอย่างเช่น เพื่อให้มีการยอมอ่อนข้อในลักษณะที่คล้ายกัน จากการที่จีนได้กลายเป็นผู้เล่นทรงอิทธิพลในภูมิภาคนั้น”
    .
    ทั้งนี้ ปักกิ่งได้ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์จากโลกตะวันตกเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของจีน โดยชี้ว่ามีมากกว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมที่จะเป็นการกระตุ้นการพัฒนาระดับโลกที่มีทั้งท่าเรือใหม่ สะพาน ทางรถไฟและโปรเจกต์อื่นๆ
    .
    เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันอังคาร (4) ออกมาเปิดเผยคณะรัฐมนตรีไทยได้ไฟเขียวอนุมัติรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. โดย เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเพื่อเชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ ให้สามารถเดินทางเข้าจีน คาดสามารถเสร็จสิ้นลงในปี 2573 MGRออนไลน์รายงาน
    .
    โดยเรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ
    .
    เกิดขึ้นหลังวันที่ 4 กันยายน ปี 2017 ระหว่างการประชุมสุดยอดเซียะเหมิน BRICS ที่มีประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีไทยในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันเป็นสักขีพยาน อดีตกระทรวงการรถไฟจีน ปัจจุบันเป็นในเครือของบริษัท การรถไฟแห่งชาติจีน กรุ๊ป จำกัด (China National Railway Group Limited) และบริษัทในเครือบริษัทในเครือของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรมโยธาระยะแรก (เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) และสัญญาจ้างเป็นที่ปรึกษา อ้างอิงจากเว็บไซต์สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง
    .
    นอกจากนี้ ในชัยชนะพบว่าปานามายอมอนุญาตให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านคลองปานามาโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สื่อด้านขนส่งทางทะเล maritime executive รายงานโดยอ้างอิงจากบลูมเบิร์กที่รายงานเป็นเจ้าแรกในวันอาทิตย์ (2)
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ ได้ไปเยือนคลองปานามาวันอาทิตย์ (2) และสังเกตการปฏิบัติการด่าน Miraflores locks ภายในคลองปานามา
    .
    และหลังการเยือนเจ้าหน้าที่ปานามาได้ออกมายืนยันว่า จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเรือรบสหรัฐฯ ในการล่องผ่านตลอดคลองปานามา
    .
    แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันได้เปิดเผยกับบลูมเบิร์กตามการรายงานของสื่อ TradeWinds วันจันทร์ (3) ว่า ประธานาธิบดีปานามารับปากรูบิโอว่า เรือรบอเมริกันสามารถผ่านคลองปานามาได้โดยเสรีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011539
    ..............
    Sondhi X
    รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ออกมายินดีหลังปานามาจะไม่ต่ออายุโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของจีนหลังข้อตกลงหมดอายุเพื่อถอยห่างจากปักกิ่ง และยินยอมให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านตลอดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้ ทรัมป์อาจบีบปานามาให้ออกจาก BRI ได้ แต่อาจยังไม่ได้กับชาติในเอเชียที่หวังพึ่งทุนจีนพัฒนาประเทศหลังนายกฯ ไทยเพิ่งแสดงความยินดี ครม.อนุมัติไฮสปีดเทรนโคราช-หนองคาย 357 กม.เชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ คาด เสร็จปี 73 ชี้เร่งเฟส 1 ยังช้ากว่าแผน . รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (4 ก.พ.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) วานนี้ (3) ได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของผู้นำปานามาที่จะถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน BRI ด้วยการไม่ต่ออายุข้อตกลงหลังหมดอายุ . รูบิโอกล่าวชื่นชมว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ . รอยเตอร์รายงานว่า เป็นความเคลื่อนไหวใดๆของปานามาในการถอยห่างจากโครงการ BRI ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงนั้นเป็นชัยชนะของวอชิงตัน ซึ่งสหรัฐฯ นั้นยืนยันมาโดยตลอดว่า ปักกิ่งใช้ยุทธวิธีกับดักเงินกู้ทางการทูต (debt trap diplomacy) เพื่อสร้างอิทธิพลระดับโลกของตัวเอง . หลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประธานาธิบดีปานามา โฮเซ ราอูล มูลิโน (Jose Raul Mulino) ออกมาแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ตกลงปานามาในข้อตกลงแบบกว้างที่ปานามาจะไม่ต่อสัญญาข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐานจีน BRI และสามารถยกเลิกได้ก่อนกำหนด . เขาเปิดเผยว่า ข้อตกลงนั้นมีกำหนดจะสิ้นสุดในอีกราว 2-3 ปีข้างหน้า . ทั้งนี้ ปานามากลายเป็นชาติแรกในดินแดนละตินอเมริกากระโดดเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเมื่อพฤศจิกายนปี 2017 หรือ 5 เดือนหลังจากตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและเป็นพันธมิตรกับจีนแทน . เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่ ศาสตราจารย์ เหยียนจง ฮวง (Yanzhong Huang) ผู้เชี่ยวชาญประจำ Council on Foreign Relations สถาบันธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาฟันธงว่า สหรัฐฯ และจีนกำลังเล่นเกมทางการทูตอยู่ และการที่ปานามาประกาศตัวจะถอนตัวจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของประธานาธิบดีสีได้ถือเป็นชัยชนะเริ่มแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ชุดใหม่ในการทูตแบบใครกะพริบตาก่อนแพ้ . “สหรัฐฯ ปัจจุบันดูเหมือนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นไปที่หลังบ้านตัวเองคือละตินอเมริกาซึ่งประเทศเหล่านี้ยังคงต้องพึ่งการสนับสนุนและการค้ากับสหรัฐฯ” . พร้อมเสริมว่า “แต่ผมไม่มั่นใจว่าอเมริกาจะสามารถใช้อิทธิพลที่คล้ายกันในการบีบประเทศเอเชีย ตัวอย่างเช่น เพื่อให้มีการยอมอ่อนข้อในลักษณะที่คล้ายกัน จากการที่จีนได้กลายเป็นผู้เล่นทรงอิทธิพลในภูมิภาคนั้น” . ทั้งนี้ ปักกิ่งได้ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์จากโลกตะวันตกเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของจีน โดยชี้ว่ามีมากกว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมที่จะเป็นการกระตุ้นการพัฒนาระดับโลกที่มีทั้งท่าเรือใหม่ สะพาน ทางรถไฟและโปรเจกต์อื่นๆ . เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันอังคาร (4) ออกมาเปิดเผยคณะรัฐมนตรีไทยได้ไฟเขียวอนุมัติรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. โดย เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเพื่อเชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ ให้สามารถเดินทางเข้าจีน คาดสามารถเสร็จสิ้นลงในปี 2573 MGRออนไลน์รายงาน . โดยเรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ . เกิดขึ้นหลังวันที่ 4 กันยายน ปี 2017 ระหว่างการประชุมสุดยอดเซียะเหมิน BRICS ที่มีประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีไทยในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันเป็นสักขีพยาน อดีตกระทรวงการรถไฟจีน ปัจจุบันเป็นในเครือของบริษัท การรถไฟแห่งชาติจีน กรุ๊ป จำกัด (China National Railway Group Limited) และบริษัทในเครือบริษัทในเครือของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรมโยธาระยะแรก (เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) และสัญญาจ้างเป็นที่ปรึกษา อ้างอิงจากเว็บไซต์สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง . นอกจากนี้ ในชัยชนะพบว่าปานามายอมอนุญาตให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านคลองปานามาโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สื่อด้านขนส่งทางทะเล maritime executive รายงานโดยอ้างอิงจากบลูมเบิร์กที่รายงานเป็นเจ้าแรกในวันอาทิตย์ (2) . รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ ได้ไปเยือนคลองปานามาวันอาทิตย์ (2) และสังเกตการปฏิบัติการด่าน Miraflores locks ภายในคลองปานามา . และหลังการเยือนเจ้าหน้าที่ปานามาได้ออกมายืนยันว่า จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเรือรบสหรัฐฯ ในการล่องผ่านตลอดคลองปานามา . แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันได้เปิดเผยกับบลูมเบิร์กตามการรายงานของสื่อ TradeWinds วันจันทร์ (3) ว่า ประธานาธิบดีปานามารับปากรูบิโอว่า เรือรบอเมริกันสามารถผ่านคลองปานามาได้โดยเสรีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011539 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2791 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดินหน้าสถานีอยุธยา รถไฟความเร็วสูง

    โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ที่หยุดชะงักในบางช่วง โดยเฉพาะสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 13.30 กิโลเมตร ที่ยังก่อสร้างไม่ได้เพราะติดขัดเรื่องโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในที่สุดผู้แทนองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก องค์การยูเนสโก (UNESCO) ที่ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 19-22 ม.ค. มีข้อสรุปให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ปรับลดความสูงของหลังคาสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ไม่ให้โครงสร้างหลังคาซ้อนทับกับสถานีรถไฟอยุธยาเดิม พร้อมทั้งให้อนุรักษ์สถานีรถไฟอยุธยาเดิมไว้

    หลังจากนี้การรถไฟฯ จะรอรายงานจากยูเนสโกภายในเดือน มี.ค. ก่อนนำมาจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก (HIA) แล้วส่งรายงานให้คณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม และคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกทราบ เพื่อนำส่งรายงานให้ศูนย์มรดกโลกต่อไป ก่อนที่จะลงนามสัญญาและก่อสร้าง วงเงินลงทุน 10,325.90 ล้านบาท โดยปรับลดความสูงของสถานีจาก 37.45 เมตร เหลือ 35.45 เมตร และความสูงของสันรางจาก 19 เมตร เหลือ 17 เมตร แต่แนวสถานียังก่อสร้างบนเขตทางรถไฟ ห่างจากพื้นที่มรดกโลก 1.5 กิโลเมตร และมีแม่น้ำป่าสักคั่นอยู่เป็น Bubble Zone

    นอกจากช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ที่ยังก่อสร้างไม่ได้ในขณะนี้ ยังมีสัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กิโลเมตร ที่ใช้โครงสร้างร่วมกับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1-1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร และสัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร ส่วนอีก 10 สัญญากำลังก่อสร้าง โดยคาดว่าในปี 2568 จะแล้วเสร็จเพิ่มอีก 2 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 3-2 งานอุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคอง ระยะทาง 12.23 กิโลเมตร และสัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กิโลเมตร

    สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 251 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2560 วงเงินก่อสร้าง 179,412.21 ล้านบาท มีสถานีให้บริการ 6 สถานี ได้แก่ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สถานีดอนเมือง สถานีอยุธยา สถานีสระบุรี สถานีปากช่อง และสถานีนครราชสีมา ตามแผนล่าสุดกำหนดเปิดให้บริการในปี 2571 ส่วนโครงการช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 357 กิโลเมตร มีสถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย พร้อมสะพานข้ามแม่น้ำโขงใหม่ วงเงินลงทุน 3.4 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    เดินหน้าสถานีอยุธยา รถไฟความเร็วสูง โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ที่หยุดชะงักในบางช่วง โดยเฉพาะสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 13.30 กิโลเมตร ที่ยังก่อสร้างไม่ได้เพราะติดขัดเรื่องโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในที่สุดผู้แทนองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก องค์การยูเนสโก (UNESCO) ที่ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 19-22 ม.ค. มีข้อสรุปให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ปรับลดความสูงของหลังคาสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ไม่ให้โครงสร้างหลังคาซ้อนทับกับสถานีรถไฟอยุธยาเดิม พร้อมทั้งให้อนุรักษ์สถานีรถไฟอยุธยาเดิมไว้ หลังจากนี้การรถไฟฯ จะรอรายงานจากยูเนสโกภายในเดือน มี.ค. ก่อนนำมาจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก (HIA) แล้วส่งรายงานให้คณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม และคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกทราบ เพื่อนำส่งรายงานให้ศูนย์มรดกโลกต่อไป ก่อนที่จะลงนามสัญญาและก่อสร้าง วงเงินลงทุน 10,325.90 ล้านบาท โดยปรับลดความสูงของสถานีจาก 37.45 เมตร เหลือ 35.45 เมตร และความสูงของสันรางจาก 19 เมตร เหลือ 17 เมตร แต่แนวสถานียังก่อสร้างบนเขตทางรถไฟ ห่างจากพื้นที่มรดกโลก 1.5 กิโลเมตร และมีแม่น้ำป่าสักคั่นอยู่เป็น Bubble Zone นอกจากช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ที่ยังก่อสร้างไม่ได้ในขณะนี้ ยังมีสัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กิโลเมตร ที่ใช้โครงสร้างร่วมกับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1-1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร และสัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร ส่วนอีก 10 สัญญากำลังก่อสร้าง โดยคาดว่าในปี 2568 จะแล้วเสร็จเพิ่มอีก 2 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 3-2 งานอุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคอง ระยะทาง 12.23 กิโลเมตร และสัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กิโลเมตร สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 251 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2560 วงเงินก่อสร้าง 179,412.21 ล้านบาท มีสถานีให้บริการ 6 สถานี ได้แก่ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สถานีดอนเมือง สถานีอยุธยา สถานีสระบุรี สถานีปากช่อง และสถานีนครราชสีมา ตามแผนล่าสุดกำหนดเปิดให้บริการในปี 2571 ส่วนโครงการช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 357 กิโลเมตร มีสถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย พร้อมสะพานข้ามแม่น้ำโขงใหม่ วงเงินลงทุน 3.4 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1081 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายจ้างสวนกลับ 'ทักษิณ' ขึ้นค่าแรงใจไม่แคบ แต่ภาครัฐไร้เยียวยา
    .
    การปราศรัยหาเสียงของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะพูดในเรื่องใดก็ล้วนแต่เป็นประเด็นแทบทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่เรื่องประเด็นเศรษฐกิจ โดยก่อนหน้านี้ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นจังหวัดหนองคายได้พูดถึงปัญหาการขึ้นค่าแรงตอนหนึ่งว่า “ค่าแรงขอขึ้นไปแล้ว แต่มีคนขวางอยู่ คนพวกนี้ไม่รู้หัวใจทำด้วยอะไร ชอบจ้างคนค่าแรงถูก นายจ้างเฮงซวย แบบนี้ไม่น่ารัก นายจ้างต้องใจกว้างกับลูกจ้าง ลูกจ้างจะได้ทุ่มเททำงาน” ซึ่งจากประเด็นนี้เองทำให้ฝ่ายเอกชนออกมาตอบโต้ด้วยข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ
    .
    นายอรรถยุทธ ลียะวณิช กรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 (บอร์ดค่าจ้าง) ฝ่ายนายจ้าง อธิบายว่า ฝ่ายนายจ้างไม่ได้ขัดขวางการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำแต่อย่างใด แต่การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศในบางอาชีพหรือบางกิจการนั้น ต้องพิจารณาตามความเหมาะสม และหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
    .
    “ไม่ได้เกี่ยวกับฝ่ายนายจ้างใจกว้าง หรือใจแคบ ถ้าหากพิจารณาขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมาย ตัวเลขอาจจะไม่ถึง 400 บาทอยู่แล้ว แต่เราก็ยังให้มีการปรับขึ้นถึง 400 บาทไปในหลายๆจังหวัด แล้วอย่างนี้จะเรียกว่า ใจแคบอยู่อีกหรือ ทางฝ่ายนายจ้างก็ให้มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำมาโดยตลอดทุกปี ไม่เคยไม่ให้ปรับ แต่ว่าต้องปรับตามเกณฑ์และสูตรที่กฎหมาย คือ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 กำหนดเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการปรับตามอำเภอใจ” นายอรรถยุทธ กล่าว
    .
    นายอรรถยุทธ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของมาตรการที่ช่วยเหลือนายจ้างสถานประกอบการ จะต้องทวงถามไปถึงฝ่ายรัฐบาล แต่เบื้องต้นยังไม่เห็นรายละเอียดมาตรการการช่วยเหลือนายจ้างออกมา โดยนายจ้างที่อยู่ในจังหวัดที่มีกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ใน 4 จังหวัด และ 1 อำเภอ ได้แก่ ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และอ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ก็อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง
    .
    นางสาวศุภานัน ปลอดเหตุ กรรมการค่าจ้าง ฝ่ายนายจ้าง ยืนยันว่า ฝ่ายนายจ้างได้มองถึงภาพรวมภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และความเป็นอยู่ของคนไทย โดยการประชุมพิจารณาการปรับค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละครั้ง มีหน่วยงานหลายส่วนหารือกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนจากกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็เป็นการพิจารณาข้อมูลตัวเลขตามความเหมาะสมและตามกฎหมาย
    .
    “ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริง ณ ขณะนั้น เราทำเพื่อลูกจ้างและประเทศชาติให้อยู่ได้ ไม่ได้ทำเพื่อนายจ้างฝ่ายเดียว ยังยืนยันว่าฝ่ายนายจ้างไม่ได้มีการขัดขวางแต่อย่างใด ทุกคนสนับสนุนให้ปรับตามสภาพเศรษฐกิจที่เป็นจริง ไม่ใช่ปรับค่าจ้างให้ตัวเลขสูง ลูกจ้างอยู่ได้ชั่วคราว นายจ้างอาจจะต้องปรับตัวหาวิธีการจ้างงานแบบใหม่ๆ หรืออาจจะไม่ใช้กำลังคนเป็นแรงงาน แล้วแรงงานจะอยู่อย่างไร” นางสาวศุภานัน กล่าว
    ..............
    Sondhi X
    นายจ้างสวนกลับ 'ทักษิณ' ขึ้นค่าแรงใจไม่แคบ แต่ภาครัฐไร้เยียวยา . การปราศรัยหาเสียงของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะพูดในเรื่องใดก็ล้วนแต่เป็นประเด็นแทบทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่เรื่องประเด็นเศรษฐกิจ โดยก่อนหน้านี้ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นจังหวัดหนองคายได้พูดถึงปัญหาการขึ้นค่าแรงตอนหนึ่งว่า “ค่าแรงขอขึ้นไปแล้ว แต่มีคนขวางอยู่ คนพวกนี้ไม่รู้หัวใจทำด้วยอะไร ชอบจ้างคนค่าแรงถูก นายจ้างเฮงซวย แบบนี้ไม่น่ารัก นายจ้างต้องใจกว้างกับลูกจ้าง ลูกจ้างจะได้ทุ่มเททำงาน” ซึ่งจากประเด็นนี้เองทำให้ฝ่ายเอกชนออกมาตอบโต้ด้วยข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ . นายอรรถยุทธ ลียะวณิช กรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 (บอร์ดค่าจ้าง) ฝ่ายนายจ้าง อธิบายว่า ฝ่ายนายจ้างไม่ได้ขัดขวางการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำแต่อย่างใด แต่การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศในบางอาชีพหรือบางกิจการนั้น ต้องพิจารณาตามความเหมาะสม และหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด . “ไม่ได้เกี่ยวกับฝ่ายนายจ้างใจกว้าง หรือใจแคบ ถ้าหากพิจารณาขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมาย ตัวเลขอาจจะไม่ถึง 400 บาทอยู่แล้ว แต่เราก็ยังให้มีการปรับขึ้นถึง 400 บาทไปในหลายๆจังหวัด แล้วอย่างนี้จะเรียกว่า ใจแคบอยู่อีกหรือ ทางฝ่ายนายจ้างก็ให้มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำมาโดยตลอดทุกปี ไม่เคยไม่ให้ปรับ แต่ว่าต้องปรับตามเกณฑ์และสูตรที่กฎหมาย คือ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 กำหนดเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการปรับตามอำเภอใจ” นายอรรถยุทธ กล่าว . นายอรรถยุทธ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของมาตรการที่ช่วยเหลือนายจ้างสถานประกอบการ จะต้องทวงถามไปถึงฝ่ายรัฐบาล แต่เบื้องต้นยังไม่เห็นรายละเอียดมาตรการการช่วยเหลือนายจ้างออกมา โดยนายจ้างที่อยู่ในจังหวัดที่มีกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ใน 4 จังหวัด และ 1 อำเภอ ได้แก่ ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และอ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ก็อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง . นางสาวศุภานัน ปลอดเหตุ กรรมการค่าจ้าง ฝ่ายนายจ้าง ยืนยันว่า ฝ่ายนายจ้างได้มองถึงภาพรวมภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และความเป็นอยู่ของคนไทย โดยการประชุมพิจารณาการปรับค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละครั้ง มีหน่วยงานหลายส่วนหารือกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนจากกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็เป็นการพิจารณาข้อมูลตัวเลขตามความเหมาะสมและตามกฎหมาย . “ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริง ณ ขณะนั้น เราทำเพื่อลูกจ้างและประเทศชาติให้อยู่ได้ ไม่ได้ทำเพื่อนายจ้างฝ่ายเดียว ยังยืนยันว่าฝ่ายนายจ้างไม่ได้มีการขัดขวางแต่อย่างใด ทุกคนสนับสนุนให้ปรับตามสภาพเศรษฐกิจที่เป็นจริง ไม่ใช่ปรับค่าจ้างให้ตัวเลขสูง ลูกจ้างอยู่ได้ชั่วคราว นายจ้างอาจจะต้องปรับตัวหาวิธีการจ้างงานแบบใหม่ๆ หรืออาจจะไม่ใช้กำลังคนเป็นแรงงาน แล้วแรงงานจะอยู่อย่างไร” นางสาวศุภานัน กล่าว .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1687 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอแสดงความยินดียิ่งกับ ท่านไพฑูรย์ มหาชื่นใจ และคุณนาย เนื่องในโอกาสได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย (ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 70/2568 ลงวันที่ 7 มกราคม 2568)
    13 มกราคม 2568
    ขอแสดงความยินดียิ่งกับ ท่านไพฑูรย์ มหาชื่นใจ และคุณนาย เนื่องในโอกาสได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย (ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ มท 70/2568 ลงวันที่ 7 มกราคม 2568) 13 มกราคม 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • “ทักษิณ” ไปโพนพิสัย ปราศรัยช่วยลูกพรรคหาเสียง อบจ.หนองคาย วอนเลือกให้ถล่มทลาย ถ้าไม่ชนะ มาคราวหน้าต้องเอาปี๊บคลุมหัว โวยังมีแนวคิดดีๆ ให้ “นายกฯ อิ๊งค์” เลือกเอาไปใช้ พล่ามสูตรเดิม เพื่อไทยกลับมาปี 70 คนไทยเงินเต็มกระเป๋า

    วันนี้(19 ม.ค.) ที่พุทธอุทยานนานาชาติ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.หนองคาย ช่วยนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย โดยนายทักษิณ กล่าวตอนหนึ่งถึงการแก้ไขปัญหาคอลเซนเตอร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ประกาศแล้วว่าปีนี้จะจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ภายในสิ้นปีนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดต้องหมดไป เราต้องร่วมมือร่วมใจกันทำให้บ้านเมืองเจริญขึ้น และในปี 70 รัฐบาลเพื่อไทยกลับมาอีกรอบ จะเอามือล้วงกระเป๋าไม่ได้เพราะมีเงินอยู่เต็ม

    นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนไปอยู่เมืองนอก 17 ปี เหงา คิดถึงบ้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไปเยี่ยมทุกเดือน ก็คุยกันแต่เรื่องบ้านเมือง เรื่องครอบครัว

    นายทักษิณอ้างว่าหลังจากถูกปฏิวัติไปก็ได้รับการบริหารประเทศแบบไม่บริหารประเทศ อยู่ไปเรื่อยๆ แบบไม่มีแบบแผน ไม่มีเป้าหมาย ทำให้คนไทยแย่ โอกาสดีๆ ที่ถูกทำลาย วันนี้กลับมาแล้ว หนึ่งทุนหนึ่งอำเภอไปเรียนเมืองนอกกลับมา นายกฯ อิ๊งค์ จะเดินหน้าโครงการซัมเมอร์แคมป์ไปที่ต่างประเทศ จ้างครูจากต่างประเทศมาสอนภาษา มาสอนเรื่อง AI ปีนี้จะเริ่มทำและสร้างโรงเรียนหนึ่งตัวอย่างหนึ่งอำเภอในฝันต่อไป ให้เด็กไทยมีความรู้มากๆ จะได้ฉลาด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000005729

    #MGROnline #ทักษิณชินวัตร
    “ทักษิณ” ไปโพนพิสัย ปราศรัยช่วยลูกพรรคหาเสียง อบจ.หนองคาย วอนเลือกให้ถล่มทลาย ถ้าไม่ชนะ มาคราวหน้าต้องเอาปี๊บคลุมหัว โวยังมีแนวคิดดีๆ ให้ “นายกฯ อิ๊งค์” เลือกเอาไปใช้ พล่ามสูตรเดิม เพื่อไทยกลับมาปี 70 คนไทยเงินเต็มกระเป๋า • วันนี้(19 ม.ค.) ที่พุทธอุทยานนานาชาติ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.หนองคาย ช่วยนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย โดยนายทักษิณ กล่าวตอนหนึ่งถึงการแก้ไขปัญหาคอลเซนเตอร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ประกาศแล้วว่าปีนี้จะจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ภายในสิ้นปีนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดต้องหมดไป เราต้องร่วมมือร่วมใจกันทำให้บ้านเมืองเจริญขึ้น และในปี 70 รัฐบาลเพื่อไทยกลับมาอีกรอบ จะเอามือล้วงกระเป๋าไม่ได้เพราะมีเงินอยู่เต็ม • นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนไปอยู่เมืองนอก 17 ปี เหงา คิดถึงบ้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไปเยี่ยมทุกเดือน ก็คุยกันแต่เรื่องบ้านเมือง เรื่องครอบครัว • นายทักษิณอ้างว่าหลังจากถูกปฏิวัติไปก็ได้รับการบริหารประเทศแบบไม่บริหารประเทศ อยู่ไปเรื่อยๆ แบบไม่มีแบบแผน ไม่มีเป้าหมาย ทำให้คนไทยแย่ โอกาสดีๆ ที่ถูกทำลาย วันนี้กลับมาแล้ว หนึ่งทุนหนึ่งอำเภอไปเรียนเมืองนอกกลับมา นายกฯ อิ๊งค์ จะเดินหน้าโครงการซัมเมอร์แคมป์ไปที่ต่างประเทศ จ้างครูจากต่างประเทศมาสอนภาษา มาสอนเรื่อง AI ปีนี้จะเริ่มทำและสร้างโรงเรียนหนึ่งตัวอย่างหนึ่งอำเภอในฝันต่อไป ให้เด็กไทยมีความรู้มากๆ จะได้ฉลาด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000005729 • #MGROnline #ทักษิณชินวัตร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 747 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายทักษิณ ชินวัตร ตะลอนทัวร์ถึง จ.หนองคาย ช่วยผู้สมัครนายก อบจ. หาเสียง 2 จุดใหญ่ ขอคะแนนชาวหนองคายเลือกคนของพรรคเชื่อมนโยบายรัฐบาลกับท้องถิ่น พล่ามความเดิมปี 70 พรรคเพื่อไทยจะกลับมาอีกรอบ กระเป๋าของประชาชนเต็มไปด้วยเงินในการใช้หนี้ ใช้จับจ่าย ไม่เป็นหนี้สินฯลฯ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005725

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นายทักษิณ ชินวัตร ตะลอนทัวร์ถึง จ.หนองคาย ช่วยผู้สมัครนายก อบจ. หาเสียง 2 จุดใหญ่ ขอคะแนนชาวหนองคายเลือกคนของพรรคเชื่อมนโยบายรัฐบาลกับท้องถิ่น พล่ามความเดิมปี 70 พรรคเพื่อไทยจะกลับมาอีกรอบ กระเป๋าของประชาชนเต็มไปด้วยเงินในการใช้หนี้ ใช้จับจ่าย ไม่เป็นหนี้สินฯลฯ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005725 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    Haha
    Sad
    Like
    Wow
    9
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1088 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนองคาย-นายทักษิณ ชินวัตร ตะลอนทัวร์ถึง จ.หนองคาย ช่วยผู้สมัครนายก อบจ. หาเสียง 2 จุดใหญ่ ขอคะแนนชาวหนองคายเลือกคนของพรรคเชื่อมนโยบายรัฐบาลกับท้องถิ่น พล่ามความเดิมปี 70 พรรคเพื่อไทยจะกลับมาอีกรอบ กระเป๋าของประชาชนเต็มไปด้วยเงินในการใช้หนี้ ใช้จับจ่าย ไม่เป็นหนี้สินฯลฯ

    วันนี้ (19 ม.ค.68) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ชวยหาเสียงผู้สมัคร นายก อบจ.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ นางเยาวภา วงษ์สวัสดิ์, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ , นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ, นายอดิษร เพียงเกษ, ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย ใน 2 จุด จุดแรก ที่พุทธอุทยานนานาชาติ อ.โพนพิสัย และช่วงบ่าย ลงพื้นที่โรงเรียนท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ เพื่อช่วยหาเสียงให้กับนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก ผู้สมัคร นายก.อบจ.หนองคาย เบอร์ 2 และผู้สมัครสมาชิก อบจ.หนองคาย

    ซึ่งในแต่ละจุดมีประชาชนชาวหนองคายให้ความสนใจมาร่วมฟังการปราศรัยหาเสียงเป็นจำนวนมาก มีการชูป้าย โบกไม้โบกมือ ทักทายกันอย่างคึกคัก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000005725

    #MGROnline #หนองคาย #ทักษิณชินวัตร
    หนองคาย-นายทักษิณ ชินวัตร ตะลอนทัวร์ถึง จ.หนองคาย ช่วยผู้สมัครนายก อบจ. หาเสียง 2 จุดใหญ่ ขอคะแนนชาวหนองคายเลือกคนของพรรคเชื่อมนโยบายรัฐบาลกับท้องถิ่น พล่ามความเดิมปี 70 พรรคเพื่อไทยจะกลับมาอีกรอบ กระเป๋าของประชาชนเต็มไปด้วยเงินในการใช้หนี้ ใช้จับจ่าย ไม่เป็นหนี้สินฯลฯ • วันนี้ (19 ม.ค.68) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ชวยหาเสียงผู้สมัคร นายก อบจ.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ นางเยาวภา วงษ์สวัสดิ์, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ , นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ, นายอดิษร เพียงเกษ, ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย ใน 2 จุด จุดแรก ที่พุทธอุทยานนานาชาติ อ.โพนพิสัย และช่วงบ่าย ลงพื้นที่โรงเรียนท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ เพื่อช่วยหาเสียงให้กับนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก ผู้สมัคร นายก.อบจ.หนองคาย เบอร์ 2 และผู้สมัครสมาชิก อบจ.หนองคาย • ซึ่งในแต่ละจุดมีประชาชนชาวหนองคายให้ความสนใจมาร่วมฟังการปราศรัยหาเสียงเป็นจำนวนมาก มีการชูป้าย โบกไม้โบกมือ ทักทายกันอย่างคึกคัก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000005725 • #MGROnline #หนองคาย #ทักษิณชินวัตร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 694 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำสั่งกระทรวงมหาดไทย
    ที่ ๗๐/๒๕๖๘
    เรื่อง โอนข้าราชการพลเรือนสามัญ
    นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ
    ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร
    ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น
    (ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด)
    จังหวัดหนองคาย
    ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๘
    😍😍😍😍😍
    คำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ ๗๐/๒๕๖๘ เรื่อง โอนข้าราชการพลเรือนสามัญ นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร ระดับต้น (ตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด) จังหวัดหนองคาย ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๘ 😍😍😍😍😍
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 614 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • ♣ สภาพคนที่เคยป่วยหนัก หายเป็นปลิดทิ้งที่ได้ปล่อยตัว เตรียมตะลุยหาเสียงทั่วอิสานในเดือนมกราคม ที่นครพนม บึงกาฬ หนองคาย มหาสารคาม และศรีสะเกษ
    #7ดอกจิก
    ♣ สภาพคนที่เคยป่วยหนัก หายเป็นปลิดทิ้งที่ได้ปล่อยตัว เตรียมตะลุยหาเสียงทั่วอิสานในเดือนมกราคม ที่นครพนม บึงกาฬ หนองคาย มหาสารคาม และศรีสะเกษ #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 785 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย สกัดจับหนุ่มจีน วัย 25ปีลักลอบเข้าเมืองข้ามแม่น้ำโขงเข้าหนองคายปลายทางเชียงใหม่ พร้อมจับผู้นำพาเข้าประเทศ หนุ่มจีนอ้างมีคนติดต่อมาทำงานที่เชียงใหม่ มีรายได้ดีถึง 2 ล้านบาทภายใน 7 วัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000000691

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย สกัดจับหนุ่มจีน วัย 25ปีลักลอบเข้าเมืองข้ามแม่น้ำโขงเข้าหนองคายปลายทางเชียงใหม่ พร้อมจับผู้นำพาเข้าประเทศ หนุ่มจีนอ้างมีคนติดต่อมาทำงานที่เชียงใหม่ มีรายได้ดีถึง 2 ล้านบาทภายใน 7 วัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000000691 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1726 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts