• แม้จะไม่มีอะไรติดมือเลย แต่ยังเป็นหนึ่ง ในโลกโซเชียล 14/06/68 #แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด #แมนยู #สโมสรฟุตบอล #โลกโซเชียล
    แม้จะไม่มีอะไรติดมือเลย แต่ยังเป็นหนึ่ง ในโลกโซเชียล 14/06/68 #แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด #แมนยู #สโมสรฟุตบอล #โลกโซเชียล
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 179 Views 25 0 Reviews
  • ยูฟ่า ประกาศ 15 สโมสรยอดเยี่ยมยุโรป 11/06/68 #ยูฟ่า #สโมสรฟุตบอลยุโรป #ศึกฟุตบอลลีก #กีฬาฟุตบอล
    ยูฟ่า ประกาศ 15 สโมสรยอดเยี่ยมยุโรป 11/06/68 #ยูฟ่า #สโมสรฟุตบอลยุโรป #ศึกฟุตบอลลีก #กีฬาฟุตบอล
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 253 Views 18 0 Reviews
  • เซ่นพิษข่าวฉาว? "โตโน่" หลุด ปธ.สโมสร 19/04/68 #โตโน่ #ประธานสโมสรฟุตบอล #มายด์
    เซ่นพิษข่าวฉาว? "โตโน่" หลุด ปธ.สโมสร 19/04/68 #โตโน่ #ประธานสโมสรฟุตบอล #มายด์
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 696 Views 28 0 Reviews
  • “นายกฯ อิ๊งค์“ ยิ้มตอบสื่อ หลังสะพัด "ทักษิณ-เนวิน" จับเข่าคุย ยันไม่ไปค่ะ-พ่อไม่น่าจะไปค่ะ พร้อมพริ้วไม่ได้อ่านข่าวทั้งวัน บอกสื่อ ทีหลังมีข่าวอะไรส่งให้บ้าง

    วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 17.50 น. ที่สถานีโทรทัศน์ NBT น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดี กรณีที่มีกระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ไปหารือปรับความเข้าใจกับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่โรงแรมพูลแมน ซอยรางน้ำ โดยจะเดินทางไปที่โรงแรมพูลแมนด้วยหรือไม่ นายกฯยิ้มหวานพร้อมกล่าวว่า “ไม่ไปค่ะ กลับบ้านค่ะ”

    ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่คุณพ่อไปใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่น่าจะไปนะค่ะ ส่วนตนกลับบ้านค่ะ ไปหาธาษิณ ”

    เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่รู้ข่าวว่าอย่างไร เพราะยังไม่ได้อ่านข่าวเลยวันนี้ ไม่มีเวลาทั้งวัน เลยยังไม่ได้อ่านข่าว ไว้ส่งข่าวมาให้บ้างสิ

    เมื่อถามว่ามีข่าวว่านายทักษิณจะไปคุยกับนายเนวิน นายกฯ ไม่ตอบพร้อมกับขึ้นรถทันที

    #MGROnline #ทักษิณ #เนวิน
    “นายกฯ อิ๊งค์“ ยิ้มตอบสื่อ หลังสะพัด "ทักษิณ-เนวิน" จับเข่าคุย ยันไม่ไปค่ะ-พ่อไม่น่าจะไปค่ะ พร้อมพริ้วไม่ได้อ่านข่าวทั้งวัน บอกสื่อ ทีหลังมีข่าวอะไรส่งให้บ้าง • วันนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 17.50 น. ที่สถานีโทรทัศน์ NBT น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดี กรณีที่มีกระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ไปหารือปรับความเข้าใจกับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่โรงแรมพูลแมน ซอยรางน้ำ โดยจะเดินทางไปที่โรงแรมพูลแมนด้วยหรือไม่ นายกฯยิ้มหวานพร้อมกล่าวว่า “ไม่ไปค่ะ กลับบ้านค่ะ” • ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่คุณพ่อไปใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ไม่น่าจะไปนะค่ะ ส่วนตนกลับบ้านค่ะ ไปหาธาษิณ ” • เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าข่าวที่ออกมาไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่รู้ข่าวว่าอย่างไร เพราะยังไม่ได้อ่านข่าวเลยวันนี้ ไม่มีเวลาทั้งวัน เลยยังไม่ได้อ่านข่าว ไว้ส่งข่าวมาให้บ้างสิ • เมื่อถามว่ามีข่าวว่านายทักษิณจะไปคุยกับนายเนวิน นายกฯ ไม่ตอบพร้อมกับขึ้นรถทันที • #MGROnline #ทักษิณ #เนวิน
    0 Comments 0 Shares 585 Views 0 Reviews
  • จับตา “อนุทิน-เนวิน’ นัด “ทักษิณ-แพทองธาร” เคลียร์ใจ สยบศึกเพื่อไทย-ภูมิใจไทยเย็นนี้ คาด “ต๊อบ อัยยวัฒน์” ร่วมวงถกธุรกิจ “คิงเพาเวอร์“ หลังขาดทุนหนัก
    .
    วันนี้ (24 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงเย็นวันนี้ได้มีการนัดหมายระหว่างนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โดยคาดว่าจะมีการพูดคุยทำความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องการเอาพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
    .
    อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในการพบกันเย็นนี้ จะมีนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เข้าร่วมพูดคุยด้วย โดยเป็นที่น่าจับตามองว่า อาจจะมีการเจรจาด้านธุรกิจของคิงเพาเวอร์ด้วย เนื่องจากรายงานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ระบุว่า คิง เพาเวอร์ ประสบกับปัญหาขาดทุนโดยในปี 2566 ขาดทุนถึงจำนวน 651,512,785 บาท ซึ่งได้พยายามดำเนินการในหลากหลายรูปแบบเพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น แต่นับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2567 จนถึงปัจจุบัน คิง เพาเวอร์ ก็ยังคงประสบภาวะขาดทุนมาโดยตลอด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018123
    .........
    Sondhi X
    จับตา “อนุทิน-เนวิน’ นัด “ทักษิณ-แพทองธาร” เคลียร์ใจ สยบศึกเพื่อไทย-ภูมิใจไทยเย็นนี้ คาด “ต๊อบ อัยยวัฒน์” ร่วมวงถกธุรกิจ “คิงเพาเวอร์“ หลังขาดทุนหนัก . วันนี้ (24 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า ในช่วงเย็นวันนี้ได้มีการนัดหมายระหว่างนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่คิง เพาเวอร์ รางน้ำ โดยคาดว่าจะมีการพูดคุยทำความเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องการเอาพรรคภูมิใจไทยออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล . อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ในการพบกันเย็นนี้ จะมีนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เข้าร่วมพูดคุยด้วย โดยเป็นที่น่าจับตามองว่า อาจจะมีการเจรจาด้านธุรกิจของคิงเพาเวอร์ด้วย เนื่องจากรายงานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ระบุว่า คิง เพาเวอร์ ประสบกับปัญหาขาดทุนโดยในปี 2566 ขาดทุนถึงจำนวน 651,512,785 บาท ซึ่งได้พยายามดำเนินการในหลากหลายรูปแบบเพื่อให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น แต่นับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2567 จนถึงปัจจุบัน คิง เพาเวอร์ ก็ยังคงประสบภาวะขาดทุนมาโดยตลอด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018123 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    Sad
    14
    2 Comments 0 Shares 2722 Views 0 Reviews
  • สลามเมืองไทย EP09 | อศว. ป๋ามัดแอร์ FC เชื่อมกีฬากับศาสนา สานฝันเยาวชน

    ⚽ "สโมสรฟุตบอลที่มากกว่ากีฬา เชื่อมโยงศรัทธา เสริมสร้างเยาวชน"

    อศว. ป๋ามัดแอร์ FC เป็น ศูนย์กลางของโอกาสและการพัฒนาเยาวชน ที่ใช้ฟุตบอลเป็นเครื่องมือในการปลูกฝังวินัย ความอดทน และจิตวิญญาณของการทำงานเป็นทีม ควบคู่ไปกับหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม

    #สลามเมืองไทย #EP09 #อศวป๋ามัดแอร์FC #สโมสรฟุตบอลชุมชน #FootballForFaith #IslamicCommunity #สามัคคีผ่านกีฬา #ฟุตบอลสร้างเยาวชน #MuslimFootball #เยาวชนคืออนาคต #กีฬาสร้างโอกาส #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP09 | อศว. ป๋ามัดแอร์ FC เชื่อมกีฬากับศาสนา สานฝันเยาวชน ⚽ "สโมสรฟุตบอลที่มากกว่ากีฬา เชื่อมโยงศรัทธา เสริมสร้างเยาวชน" อศว. ป๋ามัดแอร์ FC เป็น ศูนย์กลางของโอกาสและการพัฒนาเยาวชน ที่ใช้ฟุตบอลเป็นเครื่องมือในการปลูกฝังวินัย ความอดทน และจิตวิญญาณของการทำงานเป็นทีม ควบคู่ไปกับหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม #สลามเมืองไทย #EP09 #อศวป๋ามัดแอร์FC #สโมสรฟุตบอลชุมชน #FootballForFaith #IslamicCommunity #สามัคคีผ่านกีฬา #ฟุตบอลสร้างเยาวชน #MuslimFootball #เยาวชนคืออนาคต #กีฬาสร้างโอกาส #ThaiTimes
    0 Comments 0 Shares 1024 Views 28 0 Reviews
  • ครอบครัวศรีวัฒนประภา ยื่นฟ้องบริษัทผลิตเฮลิคอปเตอร์ เรียกค่าเสียหายกว่า 9.1 หมื่นล้านบาท ปมเจ้าสัววิชัย ฮ.ตกเสียชีวิต เมื่อปี 2561

    เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ม.ค. 2568 ตามเวลาท้องถิ่นประเทศสหราชอาณาจักร ครอบครัวของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อเดือนตุลาคมปี 2561 ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลอังกฤษ เรียกค่าเสียหายจากการเสียชีวิตของนายวิชัย จาก เลโอนาร์โด เอส.พี.เอ. (Leonardo S.p.A) บริษัทผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2,148 ล้านปอนด์ (ประมาณ 91,402,340,400 บาท)

    ครอบครัวของนายวิชัย อ้างถึงรายงานการสอบสวนของสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศ (Air Accident Investigation Branch-AAIB) ของประเทศอังกฤษ ความยาว 209 หน้า ซึ่งตีพิมพ์เมื่อเดือนกันยายน 2566 ที่ได้แสดงถึงปัญหาของระบบความปลอดภัยของเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวภายหลังการเกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ของนายวิชัย ตกที่บริเวณลานจอดรถสนามฟุตบอลคิง เพาเวอร์ เมืองเลสเตอร์

    รายงานการสอบสวนของ AAIB สรุปสาเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในครั้งนั้นว่า มาจากความล้มเหลวของลูกปืนคู่ และระบบควบคุมใบพัดหาง ซึ่งทำให้เสียการควบคุมและตกลงมาสู่พื้นดินก่อนเกิดไฟลุกไหม้ในที่สุด

    ครอบครัวของนายวิชัย ยังชี้ว่า บริษัทผู้ผลิตมีความบกพร่องในการออกแบบ และละเลยการวางแผนป้องกันความเสียหายจากการสูญเสียการควบคุมเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้

    สำหรับนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ซึ่งเริ่มต้นมาจากกิจการร้านค้าปลอดอากรในเมืองและสนามบิน ก่อนที่จะขยายธุรกิจอื่นๆ มากมายทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ในประเทศอังกฤษ และสโมสรฟุตบอลโอเอช ลูเวิน ในประเทศเบลเยียม

    ด้าน “ต๊อบ” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ลูกชายของนายวิชัย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ให้ความเห็นว่า “ครอบครัวของผมยังรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ความเสียใจของเราต่อการสูญเสียคุณพ่อไม่เคยลดน้อยลงเลย ผมเสียใจมากที่ลูก ๆ ของผมและหลาน ๆ ไม่เคยได้เจอคุณปู่”

    นายอัยยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ตนได้อ่านรายงานของ AAIB หลายรอบ และน่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันคืออุบัติเหตุที่รอเวลาเกิดขึ้นเท่านั้น คุณพ่อซื้อเฮลิคอปเตอร์ลำนี้มาเพราะเชื่อมั่นในเลโอนาร์โด นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สุด พร้อมย้ำว่า “เลโอนาร์โดต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของคุณพ่อ”
    ทั้งนี้ ครอบครัวของนายวิชัย ได้ว่าจ้างสำนักงานกฎหมายชั้นนำ Stewarts และทนายความผู้เชี่ยวชาญ ฟิลิป เชพเพิร์ด และ แฮร์รี่ สเตนเบิร์ก เพื่อฟ้องร้องคดีต่อเลโอนาร์โด

    ด้านปีเตอร์ นีแนน ทนายความแห่งสำนักงานกฎหมาย Stewarts ให้ความเห็นว่า เราอ้างอิงรายงาน AAIB ในการฟ้องเลโอนาร์โด โดยรายงานดังกล่าวมีเนื้อหาเกี่ยวกับความปลอดภัยและไม่ใช่เพื่อการโยนความผิด เนื้อหาที่สะเทือนใจที่สุดเท่าที่ตนเคยอ่านมา คดีนี้ต้องผ่านการวิเคราะห์โดยละเอียดรอบคอบเป็นอย่างมากในการตรวจสอบการละเมิดที่เกิดขึ้นจากความบกพร่องและความประมาททั้งหมดในขั้นตอนการออกแบบ

    “คดีนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่ลูกค้าทุกคนของเลโอนาร์โดรวมถึงกองทัพทหารของประเทศ รถพยาบาล และหน่วยปฏิบัติการเบื้องต้นอื่นๆ ทั่วโลกพึงตระหนักอย่างยิ่ง เพราะลูกค้าหรือเจ้าของเฮลิคอปเตอร์ทุกราย ต่างก็ให้ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นในเฮลิคอปเตอร์แบรนด์นี้ว่าจะมีคุณภาพเพียงพอ” ทนายความ ระบุ

    ที่มา ข่าวสด
    ครอบครัวศรีวัฒนประภา ยื่นฟ้องบริษัทผลิตเฮลิคอปเตอร์ เรียกค่าเสียหายกว่า 9.1 หมื่นล้านบาท ปมเจ้าสัววิชัย ฮ.ตกเสียชีวิต เมื่อปี 2561 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ม.ค. 2568 ตามเวลาท้องถิ่นประเทศสหราชอาณาจักร ครอบครัวของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อเดือนตุลาคมปี 2561 ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลอังกฤษ เรียกค่าเสียหายจากการเสียชีวิตของนายวิชัย จาก เลโอนาร์โด เอส.พี.เอ. (Leonardo S.p.A) บริษัทผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2,148 ล้านปอนด์ (ประมาณ 91,402,340,400 บาท) ครอบครัวของนายวิชัย อ้างถึงรายงานการสอบสวนของสำนักงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศ (Air Accident Investigation Branch-AAIB) ของประเทศอังกฤษ ความยาว 209 หน้า ซึ่งตีพิมพ์เมื่อเดือนกันยายน 2566 ที่ได้แสดงถึงปัญหาของระบบความปลอดภัยของเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวภายหลังการเกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ของนายวิชัย ตกที่บริเวณลานจอดรถสนามฟุตบอลคิง เพาเวอร์ เมืองเลสเตอร์ รายงานการสอบสวนของ AAIB สรุปสาเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในครั้งนั้นว่า มาจากความล้มเหลวของลูกปืนคู่ และระบบควบคุมใบพัดหาง ซึ่งทำให้เสียการควบคุมและตกลงมาสู่พื้นดินก่อนเกิดไฟลุกไหม้ในที่สุด ครอบครัวของนายวิชัย ยังชี้ว่า บริษัทผู้ผลิตมีความบกพร่องในการออกแบบ และละเลยการวางแผนป้องกันความเสียหายจากการสูญเสียการควบคุมเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ สำหรับนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ ซึ่งเริ่มต้นมาจากกิจการร้านค้าปลอดอากรในเมืองและสนามบิน ก่อนที่จะขยายธุรกิจอื่นๆ มากมายทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ในประเทศอังกฤษ และสโมสรฟุตบอลโอเอช ลูเวิน ในประเทศเบลเยียม ด้าน “ต๊อบ” อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ลูกชายของนายวิชัย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ให้ความเห็นว่า “ครอบครัวของผมยังรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ความเสียใจของเราต่อการสูญเสียคุณพ่อไม่เคยลดน้อยลงเลย ผมเสียใจมากที่ลูก ๆ ของผมและหลาน ๆ ไม่เคยได้เจอคุณปู่” นายอัยยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ตนได้อ่านรายงานของ AAIB หลายรอบ และน่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันคืออุบัติเหตุที่รอเวลาเกิดขึ้นเท่านั้น คุณพ่อซื้อเฮลิคอปเตอร์ลำนี้มาเพราะเชื่อมั่นในเลโอนาร์โด นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สุด พร้อมย้ำว่า “เลโอนาร์โดต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของคุณพ่อ” ทั้งนี้ ครอบครัวของนายวิชัย ได้ว่าจ้างสำนักงานกฎหมายชั้นนำ Stewarts และทนายความผู้เชี่ยวชาญ ฟิลิป เชพเพิร์ด และ แฮร์รี่ สเตนเบิร์ก เพื่อฟ้องร้องคดีต่อเลโอนาร์โด ด้านปีเตอร์ นีแนน ทนายความแห่งสำนักงานกฎหมาย Stewarts ให้ความเห็นว่า เราอ้างอิงรายงาน AAIB ในการฟ้องเลโอนาร์โด โดยรายงานดังกล่าวมีเนื้อหาเกี่ยวกับความปลอดภัยและไม่ใช่เพื่อการโยนความผิด เนื้อหาที่สะเทือนใจที่สุดเท่าที่ตนเคยอ่านมา คดีนี้ต้องผ่านการวิเคราะห์โดยละเอียดรอบคอบเป็นอย่างมากในการตรวจสอบการละเมิดที่เกิดขึ้นจากความบกพร่องและความประมาททั้งหมดในขั้นตอนการออกแบบ “คดีนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่ลูกค้าทุกคนของเลโอนาร์โดรวมถึงกองทัพทหารของประเทศ รถพยาบาล และหน่วยปฏิบัติการเบื้องต้นอื่นๆ ทั่วโลกพึงตระหนักอย่างยิ่ง เพราะลูกค้าหรือเจ้าของเฮลิคอปเตอร์ทุกราย ต่างก็ให้ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นในเฮลิคอปเตอร์แบรนด์นี้ว่าจะมีคุณภาพเพียงพอ” ทนายความ ระบุ ที่มา ข่าวสด
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 665 Views 0 Reviews
  • รีโพสต์จากเพจ Main Stand
    เปิดแผนธุรกิจสนามใหม่ของสโมสรฟุตบอลแมนฯยูไนเต็ด กระตุ้นเศรษฐกิจ 7.3 พันล้านปอนด์ต่อปี

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สโมสรฟุตบอลชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ทำการปรับปรุงรังเหย้าของพวกเขาใหม่เพื่อเพิ่มผลตอบแทนและเพิ่มมูลค่าสโมสร

    และตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ มีแผนสร้างสนามใหม่ความจุ 100,000 ที่นั่ง มูลค่า 2 พันล้านปอนด์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2030

    โดยสื่อธุรกิจอย่าง SSBM วิเคราะห์ว่าสนามใหม่ของ "ปีศาจแดง" ยุคที่ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ มาคุมงานบริหารฟุตบอล จะสามารถคืนทุนได้ภายใน 10-15 ปี หรือเร็วกว่านั้น ซึ่งอาศัยรายได้จากวันแข่งขันที่เพิ่มขึ้น กิจกรรมที่ไม่ใช่ฟุตบอล สปอนเซอร์เชิงพาณิชย์ และการเพิ่มการรับรู้แบรนด์ในระดับโลก แถมในระยะยาวสนามกีฬาแห่งใหม่และการพัฒนาโดยรอบคาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ประจำปีของสโมสรได้ 100-150 ล้านปอนด์

    ข้อดีที่เพิ่มขึ้นหากการสร้างสนามใหม่ของ แมนสเตอร์ ยูไนเต็ด เสร็จสิ้นและพร้อมใช้งาน มีดังนี้

    - เพิ่มความจุจาก 74,000 เป็น 100,000 ที่นั่ง
    - เก็บค่าตั๋วเกมในบ้านได้มากขึ้นเป็น 90-130 ล้านปอนด์/ปี (ราคาตั๋วอยู่ที่ราว 50-70 ปอนด์/ใบ)
    - พัฒนาเขตการค้ารอบสนาม
    - มีโรงแรม, อสังหาริมทรัพย์ และระบบขนส่งมวลชน
    - สร้างงานเพิ่มขึ้น 92,000 ตำแหน่ง
    - สร้างบ้านใหม่ 17,000 หลัง
    - ดึงดูดนักท่องเที่ยว 1.8 ล้านคน/ปี

    ทั้งนี้ โครงการสนามกีฬามูลค่า 2,000 ล้านปอนด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้เกี่ยวกับฟุตบอลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างรากฐานทางการเงินที่ยั่งยืนสำหรับสโมสร ขยายการเข้าถึงทั่วโลก และฟื้นฟูเศรษฐกิจในท้องถิ่น โดยการคาดการณ์เบื้องต้นจากสโมสรระบุว่าสนามใหม่แห่งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 7.3 พันล้านปอนด์ต่อปี ในประเทศอังกฤษ”

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/V3z3xY6oeka7uimz/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    รีโพสต์จากเพจ Main Stand เปิดแผนธุรกิจสนามใหม่ของสโมสรฟุตบอลแมนฯยูไนเต็ด กระตุ้นเศรษฐกิจ 7.3 พันล้านปอนด์ต่อปี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สโมสรฟุตบอลชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ได้ทำการปรับปรุงรังเหย้าของพวกเขาใหม่เพื่อเพิ่มผลตอบแทนและเพิ่มมูลค่าสโมสร และตอนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ มีแผนสร้างสนามใหม่ความจุ 100,000 ที่นั่ง มูลค่า 2 พันล้านปอนด์ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2030 โดยสื่อธุรกิจอย่าง SSBM วิเคราะห์ว่าสนามใหม่ของ "ปีศาจแดง" ยุคที่ เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ มาคุมงานบริหารฟุตบอล จะสามารถคืนทุนได้ภายใน 10-15 ปี หรือเร็วกว่านั้น ซึ่งอาศัยรายได้จากวันแข่งขันที่เพิ่มขึ้น กิจกรรมที่ไม่ใช่ฟุตบอล สปอนเซอร์เชิงพาณิชย์ และการเพิ่มการรับรู้แบรนด์ในระดับโลก แถมในระยะยาวสนามกีฬาแห่งใหม่และการพัฒนาโดยรอบคาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ประจำปีของสโมสรได้ 100-150 ล้านปอนด์ ข้อดีที่เพิ่มขึ้นหากการสร้างสนามใหม่ของ แมนสเตอร์ ยูไนเต็ด เสร็จสิ้นและพร้อมใช้งาน มีดังนี้ - เพิ่มความจุจาก 74,000 เป็น 100,000 ที่นั่ง - เก็บค่าตั๋วเกมในบ้านได้มากขึ้นเป็น 90-130 ล้านปอนด์/ปี (ราคาตั๋วอยู่ที่ราว 50-70 ปอนด์/ใบ) - พัฒนาเขตการค้ารอบสนาม - มีโรงแรม, อสังหาริมทรัพย์ และระบบขนส่งมวลชน - สร้างงานเพิ่มขึ้น 92,000 ตำแหน่ง - สร้างบ้านใหม่ 17,000 หลัง - ดึงดูดนักท่องเที่ยว 1.8 ล้านคน/ปี ทั้งนี้ โครงการสนามกีฬามูลค่า 2,000 ล้านปอนด์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้เกี่ยวกับฟุตบอลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างรากฐานทางการเงินที่ยั่งยืนสำหรับสโมสร ขยายการเข้าถึงทั่วโลก และฟื้นฟูเศรษฐกิจในท้องถิ่น โดยการคาดการณ์เบื้องต้นจากสโมสรระบุว่าสนามใหม่แห่งนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ 7.3 พันล้านปอนด์ต่อปี ในประเทศอังกฤษ” ที่มา https://www.facebook.com/share/p/V3z3xY6oeka7uimz/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 758 Views 0 Reviews
  • สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลแต่งตั้ง ‘ซิโก้‘เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นผู้อำนวยการอะคาเดมีสาขาประเทศไทย Academy Director หรือ ผู้อำนวยการอะคาเดมีประจำ Liverpool FC International Academy Thailand จะรับผิดชอบในการร่วมคัดเลือกโค้ชและกำกับดูแลโค้ช ให้การฝึกสอนเป็นไปตามแนวทาง ‘The Liverpool Way’ ซึ่งจะทำงานร่วมกันกับหัวหน้าโค้ชของ Liverpool FC Academy ที่ประจำในประเทศไทย ให้สอดคล้องกับหลักมาตรฐานที่ Liverpool FC International Academy ใช้ทั่วโลก

    ขณะที่ซิโก้ยังย้ำถึงบทบาทใหม่ของเขาที่จะสนับสนุนเยาวชนไทยพัฒนาศักยภาพในทุกด้าน พร้อมเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักเตะในการเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของ ‘The Liverpool Way’ ด้วย
    .
    อ้างอิง:
    https://www.lfcacademyth.com/news-zico-kiatisuk-senamuang/?fbclid=IwY2xjawF-vPZleHRuA2FlbQIxMQABHRMGBHGSJlckW3iO0vJ_LcXJz7KLXyVjAKmH2Vrg2jzOOfJstWC-evNm4Q_aem_qD8PU9nsXoqRpmQd7qfZnA
    .
    #Thaitimes
    สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลแต่งตั้ง ‘ซิโก้‘เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เป็นผู้อำนวยการอะคาเดมีสาขาประเทศไทย Academy Director หรือ ผู้อำนวยการอะคาเดมีประจำ Liverpool FC International Academy Thailand จะรับผิดชอบในการร่วมคัดเลือกโค้ชและกำกับดูแลโค้ช ให้การฝึกสอนเป็นไปตามแนวทาง ‘The Liverpool Way’ ซึ่งจะทำงานร่วมกันกับหัวหน้าโค้ชของ Liverpool FC Academy ที่ประจำในประเทศไทย ให้สอดคล้องกับหลักมาตรฐานที่ Liverpool FC International Academy ใช้ทั่วโลก ขณะที่ซิโก้ยังย้ำถึงบทบาทใหม่ของเขาที่จะสนับสนุนเยาวชนไทยพัฒนาศักยภาพในทุกด้าน พร้อมเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักเตะในการเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของ ‘The Liverpool Way’ ด้วย . อ้างอิง: https://www.lfcacademyth.com/news-zico-kiatisuk-senamuang/?fbclid=IwY2xjawF-vPZleHRuA2FlbQIxMQABHRMGBHGSJlckW3iO0vJ_LcXJz7KLXyVjAKmH2Vrg2jzOOfJstWC-evNm4Q_aem_qD8PU9nsXoqRpmQd7qfZnA . #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 967 Views 0 Reviews
  • อัปเกรดเทศบาลนครบุรีรัมย์ ดึงอาณาจักรปราสาทสายฟ้า

    การประกาศเปลี่ยนแปลงฐานะเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ ของกระทรวงมหาดไทย ที่ลงนามโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ตีพิมพ์ลงในราชกิจจานุเบกษา ฉบับวันที่ 6 ก.ย. 2567 และมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 2567 ถือว่าเป็นไปตามแผนการยกอาณาจักร "ปราสาทสายฟ้า" ในพื้นที่ตำบลอิสาณ ได้แก่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สนามช้างอารีนา โรงแรมบริคบอกซ์โฮเทลบุรีรัมย์ โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และโรงโม่หินศิลาชัย ไปรวมกับตัวเมืองบุรีรัมย์

    เดิมเทศบาลเมืองบุรีรัมย์จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2479 มีพื้นที่เพียง 6 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 2.2 หมื่นคนจาก 18 ชุมชน แต่ได้นำเทศบาลตำบลอิสาณ พื้นที่ 36 ตารางกิโลเมตร ประชากร 2.2 หมื่นคนจาก 18 หมู่บ้าน และอีก 4 หมู่บ้านในตำบลเสม็ด ประชากรราว 5.5 พันคน มารวมกับเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อให้มีประชากรรวมกันเกิน 50,000 คน ตามหลักเกณฑ์พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496

    ตำบลอิสาณ ที่โอบล้อมรอบเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ หรือตำบลในเมือง นอกจากเป็นที่ตั้งของบริษัทในเครือบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดแล้ว ยังมีห้างบิ๊กซี แม็คโคร โฮมโปร และทวีกิจ ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ส่วน 4 หมู่บ้านของตำบลเสม็ด มีวนอุทยานเขากระโดง ศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ สนามกีฬาบุรีรัมย์ซิตี้สเตเดียม โรงเรียนภัทรบพิตร แขวงทางหลวงบุรีรัมย์ มณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ และแคมป์บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขากระโดง

    ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา นายวิกรม สมจิตต์อารี อดีตนายกเทศมนตรีปี 2547-2551 และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้นายเนวินเลิกเล่นการเมืองมาตั้งแต่ปี 2555 หันมาเอาดีกับธุรกิจกีฬา แต่ก็มีบริวารโลดแล่นบนสนามการเมืองในนามพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายอนุทินเป็นหัวหน้าพรรค

    การแถลงนโยบายของนายวิกรม มีทั้งหมด 5 ด้าน ได้แก่ 1. ปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหาร และการบริการประชาชน 2. ปรับปรุงตลาดสด และตลาดไนท์บาซาร์ 3. เพิ่มต้นไม้ และพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง 4. จัดตั้งและพัฒนาเขตเศรษฐกิจในเมือง และ 5. เตรียมพร้อมกับการยกฐานะเป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ นับจากนี้เมืองบุรีรัมย์อาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ในฐานะองค์กรปกครองท้องถิ่นขนาดใหญ่ขึ้น มีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น และได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลเพิ่มขึ้น

    #Newskit #บุรีรัมย์ #เทศบาลนครบุรีรัมย์
    อัปเกรดเทศบาลนครบุรีรัมย์ ดึงอาณาจักรปราสาทสายฟ้า การประกาศเปลี่ยนแปลงฐานะเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ ของกระทรวงมหาดไทย ที่ลงนามโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ตีพิมพ์ลงในราชกิจจานุเบกษา ฉบับวันที่ 6 ก.ย. 2567 และมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 2567 ถือว่าเป็นไปตามแผนการยกอาณาจักร "ปราสาทสายฟ้า" ในพื้นที่ตำบลอิสาณ ได้แก่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สนามช้างอารีนา โรงแรมบริคบอกซ์โฮเทลบุรีรัมย์ โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และโรงโม่หินศิลาชัย ไปรวมกับตัวเมืองบุรีรัมย์ เดิมเทศบาลเมืองบุรีรัมย์จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2479 มีพื้นที่เพียง 6 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 2.2 หมื่นคนจาก 18 ชุมชน แต่ได้นำเทศบาลตำบลอิสาณ พื้นที่ 36 ตารางกิโลเมตร ประชากร 2.2 หมื่นคนจาก 18 หมู่บ้าน และอีก 4 หมู่บ้านในตำบลเสม็ด ประชากรราว 5.5 พันคน มารวมกับเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เพื่อให้มีประชากรรวมกันเกิน 50,000 คน ตามหลักเกณฑ์พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 ตำบลอิสาณ ที่โอบล้อมรอบเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ หรือตำบลในเมือง นอกจากเป็นที่ตั้งของบริษัทในเครือบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดแล้ว ยังมีห้างบิ๊กซี แม็คโคร โฮมโปร และทวีกิจ ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ส่วน 4 หมู่บ้านของตำบลเสม็ด มีวนอุทยานเขากระโดง ศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ สนามกีฬาบุรีรัมย์ซิตี้สเตเดียม โรงเรียนภัทรบพิตร แขวงทางหลวงบุรีรัมย์ มณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ และแคมป์บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เขากระโดง ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา นายวิกรม สมจิตต์อารี อดีตนายกเทศมนตรีปี 2547-2551 และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งมีความใกล้ชิดกับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้นายเนวินเลิกเล่นการเมืองมาตั้งแต่ปี 2555 หันมาเอาดีกับธุรกิจกีฬา แต่ก็มีบริวารโลดแล่นบนสนามการเมืองในนามพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายอนุทินเป็นหัวหน้าพรรค การแถลงนโยบายของนายวิกรม มีทั้งหมด 5 ด้าน ได้แก่ 1. ปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหาร และการบริการประชาชน 2. ปรับปรุงตลาดสด และตลาดไนท์บาซาร์ 3. เพิ่มต้นไม้ และพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง 4. จัดตั้งและพัฒนาเขตเศรษฐกิจในเมือง และ 5. เตรียมพร้อมกับการยกฐานะเป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ นับจากนี้เมืองบุรีรัมย์อาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ในฐานะองค์กรปกครองท้องถิ่นขนาดใหญ่ขึ้น มีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น และได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลเพิ่มขึ้น #Newskit #บุรีรัมย์ #เทศบาลนครบุรีรัมย์
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 1292 Views 0 Reviews
  • ”บอร์กโดซ์ “ของฝรั่งเศสอดีตแชมป์ลีก6สมัย ประกาศยุบสโมสรฟุตบอลแล้ว!!

    26 กรกฎาคม 2567- รายงานข่าวสยามสปอร์ตระบุว่า ชิรงแดงส์ เดอ บอร์กโดซ์ สโมสรชั้นนำของวงการฟุตบอล ฝรั่งเศส ที่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุด 6 สมัย ประกาศยุติสถานะสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่ประสบความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาด้านการเงินของสโมสร

    บอร์กโดซ์ ได้แจ้งยุบสโมสรกับทาง สหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส (แอฟแอฟแอฟ) เรียบร้อย โดยนักเตะทุกคนในทีมจะถูกยกเลิกสัญญา และศูนย์ฝึกซ้อมของสโมสรก็จะถูกปิดตัวลง

    สำหรับฤดูกาล 2023/24 ที่ผ่านมา บอร์กโดซ์ จบอันดับ 12 ในศึก ลีก เดอซ์ (ดิวิชั่น 2) แต่พวกเขาถูกปรับตกชั้นลงสู่ระดับดิวิชั่น 3 เมื่อวันอังคารที่ 23 กรกฎาคม หลังจากที่ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (เอฟเอสจี) ขอถอนตัวจากการเข้าเทคโอเวอร์สโมสร กระทั่งล่าสุด บอร์กโดซ์ ตัดสินใจขอยอมแพ้ในการรักษาสถานะสโมสรฟุตบอลอาชีพในที่สุด
    ทั้งนี้ บอร์กโดซ์ นอกจากเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งของวงการลูกหนังเมืองน้ำหอมแล้ว พวกเขายังเป็นสโมสรที่เคยเป็นต้นสังกัดของตำนานอย่าง ซีเนดีน ซีดาน, บิเซนเต้ ลิซาราซู, อแล็ง ชิแรส, ฌอง ติกาน่า, ซิลแว็ง วิลตอร์ และ เปาเลต้า อีกด้วย

    ที่มา : Siam Sport
    ”บอร์กโดซ์ “ของฝรั่งเศสอดีตแชมป์ลีก6สมัย ประกาศยุบสโมสรฟุตบอลแล้ว!! 26 กรกฎาคม 2567- รายงานข่าวสยามสปอร์ตระบุว่า ชิรงแดงส์ เดอ บอร์กโดซ์ สโมสรชั้นนำของวงการฟุตบอล ฝรั่งเศส ที่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุด 6 สมัย ประกาศยุติสถานะสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่ประสบความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาด้านการเงินของสโมสร บอร์กโดซ์ ได้แจ้งยุบสโมสรกับทาง สหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส (แอฟแอฟแอฟ) เรียบร้อย โดยนักเตะทุกคนในทีมจะถูกยกเลิกสัญญา และศูนย์ฝึกซ้อมของสโมสรก็จะถูกปิดตัวลง สำหรับฤดูกาล 2023/24 ที่ผ่านมา บอร์กโดซ์ จบอันดับ 12 ในศึก ลีก เดอซ์ (ดิวิชั่น 2) แต่พวกเขาถูกปรับตกชั้นลงสู่ระดับดิวิชั่น 3 เมื่อวันอังคารที่ 23 กรกฎาคม หลังจากที่ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป (เอฟเอสจี) ขอถอนตัวจากการเข้าเทคโอเวอร์สโมสร กระทั่งล่าสุด บอร์กโดซ์ ตัดสินใจขอยอมแพ้ในการรักษาสถานะสโมสรฟุตบอลอาชีพในที่สุด ทั้งนี้ บอร์กโดซ์ นอกจากเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งของวงการลูกหนังเมืองน้ำหอมแล้ว พวกเขายังเป็นสโมสรที่เคยเป็นต้นสังกัดของตำนานอย่าง ซีเนดีน ซีดาน, บิเซนเต้ ลิซาราซู, อแล็ง ชิแรส, ฌอง ติกาน่า, ซิลแว็ง วิลตอร์ และ เปาเลต้า อีกด้วย ที่มา : Siam Sport
    0 Comments 0 Shares 450 Views 0 Reviews