• ทูต ทหาร และสื่อต่างประเทศ รับทราบข้อเท็จจริงกรณีสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา
    https://www.thai-tai.tv/news/20705/
    .
    #ไทยไท #ชายแดนไทยกัมพูชา #อุบลราชธานี #ความโปร่งใส #ทูตนานาชาติ #กองทัพไทย #ข่าวปลอม #การป้องกันตนเอง #ความสูญเสีย #อพยพ
    ทูต ทหาร และสื่อต่างประเทศ รับทราบข้อเท็จจริงกรณีสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา https://www.thai-tai.tv/news/20705/ . #ไทยไท #ชายแดนไทยกัมพูชา #อุบลราชธานี #ความโปร่งใส #ทูตนานาชาติ #กองทัพไทย #ข่าวปลอม #การป้องกันตนเอง #ความสูญเสีย #อพยพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพบก นำคณะ เอกอัครราชทูต 11 ชาติ ทูตทหาร 22 ประเทศ - สื่อต่างประเทศ ลงพื้นที่ดูของจริงที่ศรีสะเกษ กัมพูชายิงถล่ม รพ.-โรงเรียน-ปั๊ม
    https://www.thai-tai.tv/news/20680/
    .
    #กองทัพภาคที่2 #กองทัพบก #ยุทธบดินทร์ #CambodiaOpenedFire #CambodiaCeasefireFake #WorldArmedForces #TruthFromThailand
    กองทัพบก นำคณะ เอกอัครราชทูต 11 ชาติ ทูตทหาร 22 ประเทศ - สื่อต่างประเทศ ลงพื้นที่ดูของจริงที่ศรีสะเกษ กัมพูชายิงถล่ม รพ.-โรงเรียน-ปั๊ม https://www.thai-tai.tv/news/20680/ . #กองทัพภาคที่2 #กองทัพบก #ยุทธบดินทร์ #CambodiaOpenedFire #CambodiaCeasefireFake #WorldArmedForces #TruthFromThailand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จักรภพ" ถกสื่อยักษ์ใหญ่ BBC-CNN แฉพฤติกรรมกัมพูชา ยันไทยยึดมั่นหลักการเจรจา
    https://www.thai-tai.tv/news/20672/
    .
    #ไทยไทด้วย #จักรภพเพ็ญแข #กัมพูชา #สื่อต่างประเทศ #เฟกนิวส์ #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #การเมืองไทย #อธิปไตย #ข่าวต่างประเทศ #การเจรจา
    "จักรภพ" ถกสื่อยักษ์ใหญ่ BBC-CNN แฉพฤติกรรมกัมพูชา ยันไทยยึดมั่นหลักการเจรจา https://www.thai-tai.tv/news/20672/ . #ไทยไทด้วย #จักรภพเพ็ญแข #กัมพูชา #สื่อต่างประเทศ #เฟกนิวส์ #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #การเมืองไทย #อธิปไตย #ข่าวต่างประเทศ #การเจรจา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่มีใครอีกแล้วที่จะมารักกัน เท่าคนไทยด้วยกัน

    “คนไทยเราเป็นคนกล้าหาญ เป็นคนอดทนเชื่อว่าไม่แพ้ชาติอื่นแน่ ๆ ที่มาคราวนี้ พี่ก็อยากจะบอกให้ทุกคนทราบว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงฝากมาคิดถึงทุกคนด้วยที่นี้ พี่ก็มีของเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก แล้วก็ถ้ามีอะไรที่เหลือบ่ากว่าแรงก็ให้ท่านผู้ว่าติดต่อมาได้ เพราะว่าพี่ก็ต้องการจะช่วยเหลือประเทศไทย คนไทยด้วยกันขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า คนไทยด้วยกันขอให้รักกัน ไม่มีใครอีกแล้วที่จะมารักกันเท่าคนไทยด้วยกัน พี่ขออวยพรให้ทั้งพี่ ทั้งน้อง ทั้งเด็ก ๆ ณ ที่นี้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง แล้วก็หวังว่าเหตุการณ์ที่ร้าย ๆ จะผ่านไป และพวกเราจะได้อยู่กันอย่างสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง”

    พระดำรัส สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางวัฒน วรขัตติยราชนารี ในโอกาสเสด็จไปทรงเยี่ยมประชาชน และหน่วยแพทย์พระราชทาน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ถือเป็นสิ่งเตือนใจประชาชนคนไทย ผู้รักชาติรักแผ่นดินในยามนี้

    สถานการณ์การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา นำมาซึ่งความสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์ 15 ราย ทหารไทยเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตอีก 15 นาย ความเสียหายทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน บ้านเรือนราษฎรและทรัพย์สินเสียหายอีกจำนวนมาก แม้สงบศึกจากข้อตกลงหยุดยิงนับตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันที่ 29 ก.ค. แต่สิ่งที่คนไทยผู้รักชาติต้องรับมือคือการแทรกแซงจากต่างชาติ

    กัมพูชาเดินเกมเชิงรุกกับต่างชาติ พาทูตทหาร ทูตประเทศต่างๆ และสื่อต่างประเทศลงพื้นที่ชายแดน พยายามใช้ความสงสารในฐานะประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กกว่าไทย ดึงชาติต่างๆ เข้ามาเป็นพวก ขณะที่มาเลเซียที่แสดงบทบาทเป็นคนกลาง ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาสนับสนุน ตั้งเงื่อนไขว่าถ้าไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาภาษี ส่งทูตทหารประจำกัมพูชาและทูตทหารประจำประเทศไทยเป็นผู้สังเกตการณ์จากมาตรการหยุดยิง เท่ากับว่าไทยกำลังถูกจับตามองอย่างโดดเดี่ยว

    ในขณะที่ประเทศไทย ที่แม้สงครามด้วยอาวุธสงบลง ยังต้องเจอปฎิบัติการข้อมูลข่าวสารที่เต็มไปด้วยข่าวปลอม และสงครามไซเบอร์เข้าโจมตี นักการเมืองคือตัวปัญหาของแผ่นดินอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลที่นิ่งเฉยกับสถานการณ์เหมือนรู้เห็นเป็นใจอีกฝ่าย และฝ่ายค้านที่ด่าว่ากองทัพส้นตีน ไม่เหลือใครแล้วแม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้แทนราษฎรให้พึ่งพา กินภาษีประชาชน แต่เลือกเฉพาะประชาชนที่เลือกเขาเขามา คนที่เลือกแบบนี้ ถึงได้ สส.แบบนี้

    ไม่มีใครอีกแล้วที่จะรักกัน เท่ากับคนไทยผู้รักชาติรักแผ่นดินด้วยกัน จนกว่าจะมีความชัดเจนทางการเมืองจากศาลรัฐธรรมนูญ

    #Newskit
    ไม่มีใครอีกแล้วที่จะมารักกัน เท่าคนไทยด้วยกัน “คนไทยเราเป็นคนกล้าหาญ เป็นคนอดทนเชื่อว่าไม่แพ้ชาติอื่นแน่ ๆ ที่มาคราวนี้ พี่ก็อยากจะบอกให้ทุกคนทราบว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงฝากมาคิดถึงทุกคนด้วยที่นี้ พี่ก็มีของเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก แล้วก็ถ้ามีอะไรที่เหลือบ่ากว่าแรงก็ให้ท่านผู้ว่าติดต่อมาได้ เพราะว่าพี่ก็ต้องการจะช่วยเหลือประเทศไทย คนไทยด้วยกันขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า คนไทยด้วยกันขอให้รักกัน ไม่มีใครอีกแล้วที่จะมารักกันเท่าคนไทยด้วยกัน พี่ขออวยพรให้ทั้งพี่ ทั้งน้อง ทั้งเด็ก ๆ ณ ที่นี้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง แล้วก็หวังว่าเหตุการณ์ที่ร้าย ๆ จะผ่านไป และพวกเราจะได้อยู่กันอย่างสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง” พระดำรัส สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางวัฒน วรขัตติยราชนารี ในโอกาสเสด็จไปทรงเยี่ยมประชาชน และหน่วยแพทย์พระราชทาน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ถือเป็นสิ่งเตือนใจประชาชนคนไทย ผู้รักชาติรักแผ่นดินในยามนี้ สถานการณ์การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา นำมาซึ่งความสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์ 15 ราย ทหารไทยเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตอีก 15 นาย ความเสียหายทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน บ้านเรือนราษฎรและทรัพย์สินเสียหายอีกจำนวนมาก แม้สงบศึกจากข้อตกลงหยุดยิงนับตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันที่ 29 ก.ค. แต่สิ่งที่คนไทยผู้รักชาติต้องรับมือคือการแทรกแซงจากต่างชาติ กัมพูชาเดินเกมเชิงรุกกับต่างชาติ พาทูตทหาร ทูตประเทศต่างๆ และสื่อต่างประเทศลงพื้นที่ชายแดน พยายามใช้ความสงสารในฐานะประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กกว่าไทย ดึงชาติต่างๆ เข้ามาเป็นพวก ขณะที่มาเลเซียที่แสดงบทบาทเป็นคนกลาง ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาสนับสนุน ตั้งเงื่อนไขว่าถ้าไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาภาษี ส่งทูตทหารประจำกัมพูชาและทูตทหารประจำประเทศไทยเป็นผู้สังเกตการณ์จากมาตรการหยุดยิง เท่ากับว่าไทยกำลังถูกจับตามองอย่างโดดเดี่ยว ในขณะที่ประเทศไทย ที่แม้สงครามด้วยอาวุธสงบลง ยังต้องเจอปฎิบัติการข้อมูลข่าวสารที่เต็มไปด้วยข่าวปลอม และสงครามไซเบอร์เข้าโจมตี นักการเมืองคือตัวปัญหาของแผ่นดินอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลที่นิ่งเฉยกับสถานการณ์เหมือนรู้เห็นเป็นใจอีกฝ่าย และฝ่ายค้านที่ด่าว่ากองทัพส้นตีน ไม่เหลือใครแล้วแม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้แทนราษฎรให้พึ่งพา กินภาษีประชาชน แต่เลือกเฉพาะประชาชนที่เลือกเขาเขามา คนที่เลือกแบบนี้ ถึงได้ สส.แบบนี้ ไม่มีใครอีกแล้วที่จะรักกัน เท่ากับคนไทยผู้รักชาติรักแผ่นดินด้วยกัน จนกว่าจะมีความชัดเจนทางการเมืองจากศาลรัฐธรรมนูญ #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชาโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า “เนื่องจากรายงานข่าวที่ไม่ชัดเจนในสื่อต่างประเทศหลายสำนักเกี่ยวกับจุดยืนของกัมพูชาต่อการหยุดยิงที่เสนอโดย อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียและประธานอาเซียน ผมจึงจำเป็นต้องชี้แจงดังต่อไปนี้
    .
    เมื่อเย็นวานนี้ วันที่ 24 กรกฎาคม 2025 อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียและประธานอาเซียนได้ขอสนทนาทางโทรศัพท์กับผมเพื่อหารือเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทยตามแนวชายแดน
    .
    ท่านอันวาร์แสดงความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งและความปรารถนาที่จะ ‘หยุดยิงโดยทันที’ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาระหว่างทั้งสองฝ่าย
    .
    ผมได้ชี้แจงให้ท่านอันวาร์ทราบอย่างชัดเจนว่ากัมพูชา ‘เห็นด้วยกับข้อเสนอการหยุดยิง’ ของท่าน เนื่องจากกัมพูชา ‘ไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มการสู้รบนี้’
    .
    หลังจากที่ท่านอันวาร์ได้คุยกับ ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ผมได้รับทราบคำตอบเบื้องต้นว่า ฝ่ายไทยได้ ‘ตกลงตามข้อเสนอการหยุดยิง’ โดยกำหนดเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 ให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบ
    .
    อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเสียใจที่เพียงชั่วโมงกว่าต่อมา ฝ่ายไทยได้แจ้งว่าได้เปลี่ยนจุดยืนจากที่ตกลงหยุดยิงเมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 มาเป็น ‘ไม่ตกลง’ และรอกำหนดวันใหม่
    .
    ดังนั้น กุญแจสำคัญในการแก้ไขความขัดแย้งทางอาวุธระหว่างไทยและกัมพูชาในปัจจุบัน คือ ความเต็มใจอย่างแท้จริงของฝ่ายไทยที่จะยอมรับการหยุดยิง ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการหาทางออกเพิ่มเติมระหว่างสองประเทศ”

    .
    https://www.facebook.com/share/p/19T2QarhAP/
    ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชาโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า “เนื่องจากรายงานข่าวที่ไม่ชัดเจนในสื่อต่างประเทศหลายสำนักเกี่ยวกับจุดยืนของกัมพูชาต่อการหยุดยิงที่เสนอโดย อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียและประธานอาเซียน ผมจึงจำเป็นต้องชี้แจงดังต่อไปนี้ . เมื่อเย็นวานนี้ วันที่ 24 กรกฎาคม 2025 อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซียและประธานอาเซียนได้ขอสนทนาทางโทรศัพท์กับผมเพื่อหารือเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างกองทัพกัมพูชาและไทยตามแนวชายแดน . ท่านอันวาร์แสดงความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งและความปรารถนาที่จะ ‘หยุดยิงโดยทันที’ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาระหว่างทั้งสองฝ่าย . ผมได้ชี้แจงให้ท่านอันวาร์ทราบอย่างชัดเจนว่ากัมพูชา ‘เห็นด้วยกับข้อเสนอการหยุดยิง’ ของท่าน เนื่องจากกัมพูชา ‘ไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มการสู้รบนี้’ . หลังจากที่ท่านอันวาร์ได้คุยกับ ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ผมได้รับทราบคำตอบเบื้องต้นว่า ฝ่ายไทยได้ ‘ตกลงตามข้อเสนอการหยุดยิง’ โดยกำหนดเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 ให้ทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบ . อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเสียใจที่เพียงชั่วโมงกว่าต่อมา ฝ่ายไทยได้แจ้งว่าได้เปลี่ยนจุดยืนจากที่ตกลงหยุดยิงเมื่อเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 มาเป็น ‘ไม่ตกลง’ และรอกำหนดวันใหม่ . ดังนั้น กุญแจสำคัญในการแก้ไขความขัดแย้งทางอาวุธระหว่างไทยและกัมพูชาในปัจจุบัน คือ ความเต็มใจอย่างแท้จริงของฝ่ายไทยที่จะยอมรับการหยุดยิง ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการหาทางออกเพิ่มเติมระหว่างสองประเทศ” . https://www.facebook.com/share/p/19T2QarhAP/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • องค์การอนามัยโลก WHO แถลงล่าสุดว่า กองทัพอิสราเอลทำร้ายเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่และโกดังหลักในเดอีร์ อัล-บาลาห์วันจันทร์(21 ก.ค) กระทบต่อปฎิบัติการในกาซา ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ ร้องเทลอาวีฟเปิดทางให้สื่อต่างประเทศเข้าไปรายงานสถานการณ์ในเขตฉนวนกาซาได้เสรีหลังพบนักข่าวเอเอฟพีหลายคนด้านในกำลังเสี่ยงขาดอาหารถึงขั้นเสียชีวิต ภายใน 24 ช.มล่าสุดมีชาวปาเลสไตน์รวมเด็กและทารกดับจากการขาดอาหารไปแล้ว 15 ราย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000069132

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    องค์การอนามัยโลก WHO แถลงล่าสุดว่า กองทัพอิสราเอลทำร้ายเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่และโกดังหลักในเดอีร์ อัล-บาลาห์วันจันทร์(21 ก.ค) กระทบต่อปฎิบัติการในกาซา ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ ร้องเทลอาวีฟเปิดทางให้สื่อต่างประเทศเข้าไปรายงานสถานการณ์ในเขตฉนวนกาซาได้เสรีหลังพบนักข่าวเอเอฟพีหลายคนด้านในกำลังเสี่ยงขาดอาหารถึงขั้นเสียชีวิต ภายใน 24 ช.มล่าสุดมีชาวปาเลสไตน์รวมเด็กและทารกดับจากการขาดอาหารไปแล้ว 15 ราย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000069132 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 938 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานีมีหอยเกือบตาย เมื่อคิดจะไปมาเลเซีย

    เมื่อวันก่อน สถานีมีหอย ร้านซีฟูดชื่อดังภายใต้การนำของสองหนุ่ม ดี-วีระศักดิ์ มะสะอาว นายแบบ เอ็มซีงานอีเวนต์ และ ว่าว-ศราวุธ ศิริเพชร นักวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยบูรพา นายแบบ ให้บริการวันแรกเมื่อ 2 เม.ย. 2559 ใช้เมนูหอยเป็นจุดขาย และใช้ความถนัดทางด้านสร้างสีสัน สร้างความบันเทิง ทำให้คนมีความสุข โดยมีจุดเด่นตรงที่มีพ่อค้าเซ็กซี่ คอยเอนเตอร์เทนลูกค้าอย่างสนุกสนาน เป็นที่นิยมทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน กำลังจะปิดตำนานที่ตลาดหัวมุม ย่านเกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ เพราะเดือน ก.ค.2568 จะให้บริการเป็นเดือนสุดท้าย และจะปิดตัวลงในเดือน ส.ค.2568 เนื่องจากตลาดหัวมุมสิ้นสุดสัญญาเช่า จึงต้องย้ายสถานที่ใหม่ หลังเปิดให้บริการมานานกว่า 9 ปี 4 เดือน

    แม้ไวรัลดังกล่าวคนไทยจะให้ความสนใจน้อย แต่กลายเป็นที่ฮือฮาของสื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะตระกูล Foodie สื่อด้านอาหารของมาเลเซีย ในฐานะประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไทยเป็นอันดับสองรองจากจีน และชาวมาเลเซียบางคนก็เคยสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่มาแล้วเช่นกัน ที่ตื่นเต้นไปอีกก็คือ สองหนุ่มดีกับว่าว โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "9 ปีในตลาดกลางคืนหัวมุมนั้นเหลือเชื่อมาก ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนทั้งหมดที่ทุกคนมอบให้ เรามีแผนที่ยิ่งใหญ่กว่าในใจ ตอนนี้สถานที่ในกรุงเทพฯ จะถูกเบรกไว้ก่อนจนกว่าจะได้สถานที่ใหม่ นอกจากนี้ ข่าวดีก็คือเราจะมองหาสถานที่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เรากำลังขยายไปยังกัวลาลัมเปอร์สถานที่แรก คุณพร้อมหรือยัง"

    หลังสื่อมาเลเซียเสนอข่าว กลายเป็นที่วิจารณ์ของชาวมาเลเซียทั้งตื่นเต้นและต่อต้าน ในฐานะประเทศที่มีชาวมุสลิมมากถึง 60% ไม่ยอมรับความหลากหลายทางเพศ และมีกฎหมายลงโทษรุนแรงสำหรับคู่รักเพศเดียวกัน

    สุดท้ายดีและว่าวต้องชี้แจงว่า จากที่พิจารณาจะเปิดร้านอาหารในกรุงกัวลาลัมเปอร์ พวกเราชอบมาเลเซียมาก แต่ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปิดร้านอาหารแนวเต้นรำ แนวคิดเต้นรำนำความสุขมาสู่ลูกค้าของเราเมื่อพวกเขามาเยือนกรุงเทพฯ ประเทศไทย แต่รับรองว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นที่มาเลเซีย ในประเทศไทย ร้านสถานีมีหอยจะยังคงดำเนินการต่อไป เมื่อได้สถานที่ที่เหมาะสม และในมาเลเซีย แนวคิดของเราคือการนำอาหารไทยแท้ที่มีชื่อเสียงมาเสิร์ฟในมาเลเซีย เนื่องจากดี (วีระศักดิ์) ชอบทำอาหารมาก จึงมีความฝันที่จะเปิดร้านอาหารในต่างประเทศเพื่อแบ่งปันอาหารไทยไปทั่วโลก และจุดหมายแรกคือกัวลาลัมเปอร์ เราเคารพวัฒนธรรมมาเลเซียในปัจจุบัน และจะรักมาเลเซียตลอดไป ดังนั้นโปรดมั่นใจว่า เราจะไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อเราหรือมาเลเซีย

    #Newskit
    สถานีมีหอยเกือบตาย เมื่อคิดจะไปมาเลเซีย เมื่อวันก่อน สถานีมีหอย ร้านซีฟูดชื่อดังภายใต้การนำของสองหนุ่ม ดี-วีระศักดิ์ มะสะอาว นายแบบ เอ็มซีงานอีเวนต์ และ ว่าว-ศราวุธ ศิริเพชร นักวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยบูรพา นายแบบ ให้บริการวันแรกเมื่อ 2 เม.ย. 2559 ใช้เมนูหอยเป็นจุดขาย และใช้ความถนัดทางด้านสร้างสีสัน สร้างความบันเทิง ทำให้คนมีความสุข โดยมีจุดเด่นตรงที่มีพ่อค้าเซ็กซี่ คอยเอนเตอร์เทนลูกค้าอย่างสนุกสนาน เป็นที่นิยมทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน กำลังจะปิดตำนานที่ตลาดหัวมุม ย่านเกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ เพราะเดือน ก.ค.2568 จะให้บริการเป็นเดือนสุดท้าย และจะปิดตัวลงในเดือน ส.ค.2568 เนื่องจากตลาดหัวมุมสิ้นสุดสัญญาเช่า จึงต้องย้ายสถานที่ใหม่ หลังเปิดให้บริการมานานกว่า 9 ปี 4 เดือน แม้ไวรัลดังกล่าวคนไทยจะให้ความสนใจน้อย แต่กลายเป็นที่ฮือฮาของสื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะตระกูล Foodie สื่อด้านอาหารของมาเลเซีย ในฐานะประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไทยเป็นอันดับสองรองจากจีน และชาวมาเลเซียบางคนก็เคยสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่มาแล้วเช่นกัน ที่ตื่นเต้นไปอีกก็คือ สองหนุ่มดีกับว่าว โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "9 ปีในตลาดกลางคืนหัวมุมนั้นเหลือเชื่อมาก ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนทั้งหมดที่ทุกคนมอบให้ เรามีแผนที่ยิ่งใหญ่กว่าในใจ ตอนนี้สถานที่ในกรุงเทพฯ จะถูกเบรกไว้ก่อนจนกว่าจะได้สถานที่ใหม่ นอกจากนี้ ข่าวดีก็คือเราจะมองหาสถานที่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เรากำลังขยายไปยังกัวลาลัมเปอร์สถานที่แรก คุณพร้อมหรือยัง" หลังสื่อมาเลเซียเสนอข่าว กลายเป็นที่วิจารณ์ของชาวมาเลเซียทั้งตื่นเต้นและต่อต้าน ในฐานะประเทศที่มีชาวมุสลิมมากถึง 60% ไม่ยอมรับความหลากหลายทางเพศ และมีกฎหมายลงโทษรุนแรงสำหรับคู่รักเพศเดียวกัน สุดท้ายดีและว่าวต้องชี้แจงว่า จากที่พิจารณาจะเปิดร้านอาหารในกรุงกัวลาลัมเปอร์ พวกเราชอบมาเลเซียมาก แต่ไม่ได้ตั้งใจที่จะเปิดร้านอาหารแนวเต้นรำ แนวคิดเต้นรำนำความสุขมาสู่ลูกค้าของเราเมื่อพวกเขามาเยือนกรุงเทพฯ ประเทศไทย แต่รับรองว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นที่มาเลเซีย ในประเทศไทย ร้านสถานีมีหอยจะยังคงดำเนินการต่อไป เมื่อได้สถานที่ที่เหมาะสม และในมาเลเซีย แนวคิดของเราคือการนำอาหารไทยแท้ที่มีชื่อเสียงมาเสิร์ฟในมาเลเซีย เนื่องจากดี (วีระศักดิ์) ชอบทำอาหารมาก จึงมีความฝันที่จะเปิดร้านอาหารในต่างประเทศเพื่อแบ่งปันอาหารไทยไปทั่วโลก และจุดหมายแรกคือกัวลาลัมเปอร์ เราเคารพวัฒนธรรมมาเลเซียในปัจจุบัน และจะรักมาเลเซียตลอดไป ดังนั้นโปรดมั่นใจว่า เราจะไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อเราหรือมาเลเซีย #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 449 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐสภาอิสราเอล (Knesset) เพิ่งลงมติกฎหมายใหม่ห้ามถ่ายภาพขีปนาวุธ

    -ห้ามถ่ายภาพการสกัดกั้นและการตก
    -ห้ามอัปโหลดรูปถ่ายและวิดีโอลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก
    -ห้ามสื่อต่างประเทศที่ต่อต้านรัฐบาลถ่ายทำทั่วประเทศในช่วงสงคราม
    -ห้ามถ่ายภาพสถานที่ที่มีความอ่อนไหวและมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ภายในอาณาเขตประเทศ
    -การลงโทษไม่ได้ปรับเป็นเงิน แต่กำหนดโทษจำคุกระหว่าง 20 ถึง 30 เดือน
    รัฐสภาอิสราเอล (Knesset) เพิ่งลงมติกฎหมายใหม่ห้ามถ่ายภาพขีปนาวุธ -ห้ามถ่ายภาพการสกัดกั้นและการตก -ห้ามอัปโหลดรูปถ่ายและวิดีโอลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก -ห้ามสื่อต่างประเทศที่ต่อต้านรัฐบาลถ่ายทำทั่วประเทศในช่วงสงคราม -ห้ามถ่ายภาพสถานที่ที่มีความอ่อนไหวและมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ภายในอาณาเขตประเทศ -การลงโทษไม่ได้ปรับเป็นเงิน แต่กำหนดโทษจำคุกระหว่าง 20 ถึง 30 เดือน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • กาตาร์เตรียมมอบ Boeing 747-8 สุดหรูให้รัฐบาลทรัมป์ ใช้เป็น Air Force One ลำใหม่.สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานตรงกันว่า รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมรับมอบเครื่องบินเจ็ทสุดหรู Boeing 747-8 จากราชวงศ์กาตาร์ เพื่อนำไปดัดแปลงและใช้เป็น "Air Force One" ลำใหม่ โดยการส่งมอบครั้งนี้คาดว่าอยู่ในรูปแบบความร่วมมือระหว่างรัฐบาล ไม่ใช่การให้ของขวัญส่วนบุคคล.แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยกับ ABC News ว่า เครื่องบินลำนี้ได้รับฉายาว่า “พระราชวังลอยฟ้า” ด้วยการตกแต่งภายในที่หรูหราเหนือระดับ โดยทรัมป์เคยขึ้นไปชมเครื่องลำดังกล่าวด้วยตนเองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะจอดอยู่ที่ท่าอากาศยานเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา.เจ้าหน้าที่ของกาตาร์ระบุว่า เครื่องบินลำนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงกลาโหมกาตาร์ และจะมอบให้แก่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพื่อใช้งานทางการทหาร โดยเฉพาะสำหรับภารกิจของประธานาธิบดี.อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากหน่วยซีเคร็ทเซอร์วิสให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า การที่ต่างชาติมอบเครื่องบินให้ใช้งานในระดับผู้นำประเทศอาจเป็น “ฝันร้ายด้านความมั่นคง” เนื่องจากต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถึงระบบภายในทั้งหมด เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถูกฝังอุปกรณ์จารกรรม.ทั้งนี้ กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ลงนามสั่งซื้อ Boeing 747-8I จำนวน 2 ลำ ภายใต้โครงการ VC-25B เพื่อมาแทนที่ฝูงบิน VC-25A เดิมที่ใช้งานมานานกว่า 30 ปี โดยอยู่ภายใต้สัญญามูลค่า 3.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยแสดงความไม่พอใจต่อโบอิ้งจากปัญหาความล่าช้าในการส่งมอบเครื่องบินใหม่.การรับมอบเครื่องบินจากกาตาร์ครั้งนี้อาจกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนทางการเมือง สะท้อนถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องถึงความโปร่งใสและความมั่นคงในระดับสูงสุดที่มา https://www.facebook.com/share/p/15h9it8GVW/?mibextid=wwXIfr
    กาตาร์เตรียมมอบ Boeing 747-8 สุดหรูให้รัฐบาลทรัมป์ ใช้เป็น Air Force One ลำใหม่.สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานตรงกันว่า รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมรับมอบเครื่องบินเจ็ทสุดหรู Boeing 747-8 จากราชวงศ์กาตาร์ เพื่อนำไปดัดแปลงและใช้เป็น "Air Force One" ลำใหม่ โดยการส่งมอบครั้งนี้คาดว่าอยู่ในรูปแบบความร่วมมือระหว่างรัฐบาล ไม่ใช่การให้ของขวัญส่วนบุคคล.แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยกับ ABC News ว่า เครื่องบินลำนี้ได้รับฉายาว่า “พระราชวังลอยฟ้า” ด้วยการตกแต่งภายในที่หรูหราเหนือระดับ โดยทรัมป์เคยขึ้นไปชมเครื่องลำดังกล่าวด้วยตนเองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะจอดอยู่ที่ท่าอากาศยานเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา.เจ้าหน้าที่ของกาตาร์ระบุว่า เครื่องบินลำนี้อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงกลาโหมกาตาร์ และจะมอบให้แก่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพื่อใช้งานทางการทหาร โดยเฉพาะสำหรับภารกิจของประธานาธิบดี.อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากหน่วยซีเคร็ทเซอร์วิสให้สัมภาษณ์กับ CNN ว่า การที่ต่างชาติมอบเครื่องบินให้ใช้งานในระดับผู้นำประเทศอาจเป็น “ฝันร้ายด้านความมั่นคง” เนื่องจากต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถึงระบบภายในทั้งหมด เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถูกฝังอุปกรณ์จารกรรม.ทั้งนี้ กองทัพอากาศสหรัฐฯ ได้ลงนามสั่งซื้อ Boeing 747-8I จำนวน 2 ลำ ภายใต้โครงการ VC-25B เพื่อมาแทนที่ฝูงบิน VC-25A เดิมที่ใช้งานมานานกว่า 30 ปี โดยอยู่ภายใต้สัญญามูลค่า 3.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยแสดงความไม่พอใจต่อโบอิ้งจากปัญหาความล่าช้าในการส่งมอบเครื่องบินใหม่.การรับมอบเครื่องบินจากกาตาร์ครั้งนี้อาจกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนทางการเมือง สะท้อนถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องถึงความโปร่งใสและความมั่นคงในระดับสูงสุดที่มา https://www.facebook.com/share/p/15h9it8GVW/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 389 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อต่างประเทศเผยร้านค้าบางแห่งในจีนมีการขึ้นป้ายเก็บค่าบริการหรือ 'เซอร์วิสชาร์จ' จากลูกค้าชาวอเมริกัน 104% โดยเป็นการแสดงออกเพื่อตอบโต้มาตรการรีดภาษีสินค้าจีนของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000035646

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สื่อต่างประเทศเผยร้านค้าบางแห่งในจีนมีการขึ้นป้ายเก็บค่าบริการหรือ 'เซอร์วิสชาร์จ' จากลูกค้าชาวอเมริกัน 104% โดยเป็นการแสดงออกเพื่อตอบโต้มาตรการรีดภาษีสินค้าจีนของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000035646 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    20
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2018 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อต่างประเทศรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ซึ่งเป็นตึกเพียงแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ที่พังถล่มลงมาตามแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว กำลังโหมกระพือความเดือดดาลบนสื่อสังคมออนไลน์และก่อคำถามในสื่อมวลชนไทย เกี่ยวกับคุณภาพการก่อสร้างและกระบวนการที่ได้มาซึ่งสัญญาว่าจ้างต่างๆจากรัฐบาล อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ บริษัทผู้รับเหมาจีน ยังคงปิดปากเงียบไม่ออกมาชี้แจงใดๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000030838
    สื่อต่างประเทศรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ซึ่งเป็นตึกเพียงแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ที่พังถล่มลงมาตามแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว กำลังโหมกระพือความเดือดดาลบนสื่อสังคมออนไลน์และก่อคำถามในสื่อมวลชนไทย เกี่ยวกับคุณภาพการก่อสร้างและกระบวนการที่ได้มาซึ่งสัญญาว่าจ้างต่างๆจากรัฐบาล อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ บริษัทผู้รับเหมาจีน ยังคงปิดปากเงียบไม่ออกมาชี้แจงใดๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000030838
    Like
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1480 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อต่างประเทศเชื่อว่าไทย ถูกใช้เป็นแบบอย่างไม่ให้ประเทศอื่นๆ ทำตาม หลังจาก มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงคว่ำบาตรพวกเจ้าหน้าที่ไทย พันธมิตรของอเมริกา ต่อบทบาทของประเทศแห่งนี้ที่เนรเทศชาวอุยกูรณ์อย่างน้อย 40 คนไปยังจีน ดินแดนที่วอชิงตันอ้างว่าชนเชื้อสายมุสลิมกลุ่มนี้จะถูกตามประหัตประหาร

    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000025073

    #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สื่อต่างประเทศเชื่อว่าไทย ถูกใช้เป็นแบบอย่างไม่ให้ประเทศอื่นๆ ทำตาม หลังจาก มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงคว่ำบาตรพวกเจ้าหน้าที่ไทย พันธมิตรของอเมริกา ต่อบทบาทของประเทศแห่งนี้ที่เนรเทศชาวอุยกูรณ์อย่างน้อย 40 คนไปยังจีน ดินแดนที่วอชิงตันอ้างว่าชนเชื้อสายมุสลิมกลุ่มนี้จะถูกตามประหัตประหาร อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000025073 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Angry
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2304 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเยือนภูมิภาคเคิร์สก์ของปูตินในชุดลายพรางของกองทัพกำลังถูกพูดถึงในหน้าแรกของสื่อต่างประเทศ
    การเยือนภูมิภาคเคิร์สก์ของปูตินในชุดลายพรางของกองทัพกำลังถูกพูดถึงในหน้าแรกของสื่อต่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • คลิปวิดีโอ F-35 ตกที่สหรัฐ อแลสกา เครื่องบินร่วงลงมาจากอากาศ นักบินดีดตัวทันภาพคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในสื่อต่างประเทศ บันทึกเหตุการณ์เครื่องบินรบ F-35 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ตกที่ Eielson Air Force Base ในอะแลสกา ซึ่งเกิดเหตุขึ้นเมื่อ 12.49 น. ของวันที่ 28 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา(UTC-9) ในคลิปวิดีโอนั้นจะเห็นเครื่องบินร่วงลงมาจากฟ้ากระแทกพื้นและมีเปลวเพลิงลุกไหม้ และยังเห็นการดีดตัวของนักบินออกจากเครื่องบินที่สามารถดีดตัวออกมาได้ทันก่อนเครื่องบินตก โดยมีร่มชูชีพกางลงสู่พื้นอย่างปลอดภัยที่มา https://youtu.be/Cg0BkkDpb6Y?si=F-itO-zZEbbd3H4k
    คลิปวิดีโอ F-35 ตกที่สหรัฐ อแลสกา เครื่องบินร่วงลงมาจากอากาศ นักบินดีดตัวทันภาพคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ในสื่อต่างประเทศ บันทึกเหตุการณ์เครื่องบินรบ F-35 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ตกที่ Eielson Air Force Base ในอะแลสกา ซึ่งเกิดเหตุขึ้นเมื่อ 12.49 น. ของวันที่ 28 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา(UTC-9) ในคลิปวิดีโอนั้นจะเห็นเครื่องบินร่วงลงมาจากฟ้ากระแทกพื้นและมีเปลวเพลิงลุกไหม้ และยังเห็นการดีดตัวของนักบินออกจากเครื่องบินที่สามารถดีดตัวออกมาได้ทันก่อนเครื่องบินตก โดยมีร่มชูชีพกางลงสู่พื้นอย่างปลอดภัยที่มา https://youtu.be/Cg0BkkDpb6Y?si=F-itO-zZEbbd3H4k
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 400 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อต่างประเทศและโลกออนไลน์เผยแพร่คลิปนาทีระทึก เหตุการณ์เครื่องบินโดยสารแบบเอมบราเออร์ 190 โหม่งโลกใกล้กับเมืองออคเตา ของคาซัคสถาน เมื่อวันพุธ(25ธ.ค.) คร่าชีวิต 38 รายและมีผู้รอดตายปาฏิหาริย์ 29 คน ซึ่งเวลานี้เข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาล เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินลำนี้ เบี่ยงเส้นทางมาจากพื้นที่หนึ่งของรัสเซีย ที่เมื่อเร็วๆนี้ มอสโกปฏิบัติการป้องกันตนเองจากการโจมตีด้วยโดรนของยูเครน
    .
    เที่ยวบิน J2-8243 ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส บินออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้จากอาเซอร์ไบจานไปยังรัสเซีย เป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ก่อนเกิดเหตุโหม่งโลกบริเวณชายฝั่งฝั่งตรงข้ามของทะเลแคสเปียน ในสิ่งที่หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการบินของรัสเซีย ระบุว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจมีต้นตอจากการบินชนนก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินรายหนึ่งไม่เชื่อว่ามันจะมีต้นตอมาจากสาเหตุดังกล่าว
    .
    พวกเจ้าหน้าที่ยังไม่ออกมาอธิบายว่าทำไมเครื่องบินลำนี้ถึงบินข้ามทะเลไปคนละฝั่ง แต่เหตุการณ์โหม่งโลกครั้งนี้มีขึ้นหลังจากยูเครนใช้โดรนโจมตีภูมิภาคเชเชน ทางใต้ของรัสเซีย เมื่อช่วงกลางเดือน ขณะที่สนามบินของรัสเซียที่อยู่ใกล้เส้นทางการบินของเครื่องบินมากที่สุด ได้ปิดทำการในตอนเช้าวันพุธ(25ธ.ค.)
    .
    เคียฟไม่ยอมรับว่าพวกเขาโจมตีเมืองกรอซนี เมืองเอกของสาธารณรัฐเชเชน เมื่อช่วงกลางเดือน ดินแดนที่เป็นจุดหมายปลายทางของเที่ยวบินนี้
    .
    ประธานาธิบดีอิลฮัม แอลิเยฟ ของอาเซอร์ไบจาน ระบุว่าจากข้อมูลที่เขาได้รับ เครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางสืบเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย แต่ระบุเพิ่มเติมว่ายังไม่ทราบเกี่ยวกับต้นตอของเหตุเครื่องบินโหม่งโลก และจำเป็นต้องดำเนินการสืบสวนอย่างครบถ้วนเสียก่อน
    .
    วิดีโอที่เผยแพร่อย่างกว้างขวาง เป็นภาพเครื่องบินกำลังดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ก่อนไฟลุกท่วมหลังร่วงกระแทกชายฝั่ง จากนั้นก็มีกลุ่มควันสีดำหนาทึบลอยพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทั้งนี้พบเห็นพวกผู้โดยสารที่เต็มไปด้วยเลือดและแผลถลอกกำลังกะเผลกออกมาจากเศษซากลำตัวเครื่องบิน ที่ยังอยู่ในสภาพไม่บุบสลาย
    .
    มีผู้โดยสาร 62 คนและลูกเรือ 5 คนบนเที่ยวบินลำนี้ ในขณะที่ คานัค โบซุมบาเยฟ รองนายกรัฐมนตรีคาซัคสถาน เป็นผู้เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตข้างต้น ระหว่างพบปะกับตัวแทนของอาเซอร์ไบจาน ในเมืองอัคเตา ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซีย
    .
    กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของคาซัคสถาน ระบุในถ้อยแถลงว่าทีมดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว และพวกผู้รอดชีวิต ในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2 คน กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็อยู่ระหว่างเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต
    .
    สายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส ระบุว่าเครื่องบิน เอมบราเออร์ 190 กำลังบินจากกรุงบากู ไปยังเมืองกรอซนี ทางใต้ของรัสเซีย แต่จำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉินห่างจากเมืองอัคเตาของคาซัคสถาน ราวๆ 3 กิโลเมตร "เบื้องต้น หลังจากชนนก สืบเนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบิน ผู้บังคับการตัดสินใจไปยังสนามบินอื่น และเลือกไปที่อัคเตา" หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการบินของรัสเซียระบุในเทเลแกรม
    .
    อย่างไรก็ตาม ริชาร์ด อาบูลาเฟีย ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษาด้านการบิน AeroDynamic ชี้ว่าปกติแล้วการชนนก มักทำให้เครื่องบินต้องลงจอดในสนามบินที่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะหาได้ "คุณอาจสูญเสียการควบคุมเครื่องบิน แต่ผลลัพธ์ของมัน จะไม่มีทางทำให้คุณบินออกนอกเส้นทาง เตลิดเปิดเปิงขนาดนี้"
    .
    ทิมูร์ สุเลเมนอฟ อัยการด้านการขนส่งหลักของคาซัคสถาน กล่าวระหว่างแแถลงข่าวในเมืองหลวง ว่าเจ้าหน้าที่พบกล่องดำของเครื่องบิน ที่บรรจุข้อมูลการบินที่จะช่วยสรุปถึงต้นตอของเหตุการณ์นี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    เมืองอัคเตา อยู่ฝั่งตรงข้ามทะเลแคสเปียน กับอาเซอร์ไบจานและรัสเซีย ขณะที่เว็บไซต์ติดตามเที่ยวบินต่างๆ พบว่าเครื่องบินลำนี้ บินไปในทางทิศเหนือตามเส้นทางที่กำหนดไว้ตามแนวชายฝั่งทางตะวันตก ก่อนไม่มีการบันทึกเส้นทางการบินหลังจากนั้น แต่ต่อมามันปรากฏตัวอีกรอบบริเวณชายฝั่งตะวันตก บินวนใกล้ๆกับสนามบินอัคเตา ก่อนดิ่งลงชายฝั่ง
    .
    เจ้าหน้าที่ใน 2 สาธารณรัฐของรัสเซีย ได้แก่ อิงกูเซเตียและนอร์ทออสซีเซีย รายงานเกี่ยวกับการถูกโดรนโจมตีในตอนเช้าวันพุธ(25ธ.ค.)
    .
    ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ณ สนามบินมาฮัชกาลา ในรัสเซีย ตามแนวชายฝั่งทางตะวันตกของทะเลแคสเปียน ท่าอากาศยานที่อยู่ใกล้ที่สุดในจุดที่เที่ยวบินสูญหายไปจากการติดตาม บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สนามบินแห่งนี้ปิดการสัญจรขาเข้าเป็นเวลาหลายชั่วโมงในเช้าวันพุธ(25ธ.ค.) ส่วนเจ้าหน้าที่ของสนามบินในเมืองกรอซนีนั้น รอยเตอร์ระบุว่าไม่สามารถติดต่อได้
    .
    พวกเจ้าหน้าที่ในคาซัคสถาน เผยว่ารัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมา เพื่อสืบสวนสิ่งที่เกิดขึ้นและสมาชิกของคณะกรรมการชุดนี้ได้รับคำสั่งให้บินไปยังจุดเกิดเหตุ และไปรับปากกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ว่าพวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็น
    .
    รัฐบาลระบุว่าคาซัคสถานจะร่วมมือกับอาเซอร์ไบจานในการสืบสวน ส่วนสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส จะระงับเที่ยวบินจากบากู ไปยังสาธารณรัฐเชเชนของรัสเซีย จนกว่าการสืบสวนจะเสร็จสมบูรณ์
    .
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน ตัดสินใจล้มแผนเข้าร่วมประชุมซัมมิตหนึ่งในรัสเซียในวันพุธ(25ธ.ค.) เพื่อเดินทางกลับประเทศเป็นการด่วน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123943
    ..............
    Sondhi X
    สื่อต่างประเทศและโลกออนไลน์เผยแพร่คลิปนาทีระทึก เหตุการณ์เครื่องบินโดยสารแบบเอมบราเออร์ 190 โหม่งโลกใกล้กับเมืองออคเตา ของคาซัคสถาน เมื่อวันพุธ(25ธ.ค.) คร่าชีวิต 38 รายและมีผู้รอดตายปาฏิหาริย์ 29 คน ซึ่งเวลานี้เข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาล เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินลำนี้ เบี่ยงเส้นทางมาจากพื้นที่หนึ่งของรัสเซีย ที่เมื่อเร็วๆนี้ มอสโกปฏิบัติการป้องกันตนเองจากการโจมตีด้วยโดรนของยูเครน . เที่ยวบิน J2-8243 ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส บินออกนอกเส้นทางที่กำหนดไว้จากอาเซอร์ไบจานไปยังรัสเซีย เป็นระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร ก่อนเกิดเหตุโหม่งโลกบริเวณชายฝั่งฝั่งตรงข้ามของทะเลแคสเปียน ในสิ่งที่หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการบินของรัสเซีย ระบุว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจมีต้นตอจากการบินชนนก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินรายหนึ่งไม่เชื่อว่ามันจะมีต้นตอมาจากสาเหตุดังกล่าว . พวกเจ้าหน้าที่ยังไม่ออกมาอธิบายว่าทำไมเครื่องบินลำนี้ถึงบินข้ามทะเลไปคนละฝั่ง แต่เหตุการณ์โหม่งโลกครั้งนี้มีขึ้นหลังจากยูเครนใช้โดรนโจมตีภูมิภาคเชเชน ทางใต้ของรัสเซีย เมื่อช่วงกลางเดือน ขณะที่สนามบินของรัสเซียที่อยู่ใกล้เส้นทางการบินของเครื่องบินมากที่สุด ได้ปิดทำการในตอนเช้าวันพุธ(25ธ.ค.) . เคียฟไม่ยอมรับว่าพวกเขาโจมตีเมืองกรอซนี เมืองเอกของสาธารณรัฐเชเชน เมื่อช่วงกลางเดือน ดินแดนที่เป็นจุดหมายปลายทางของเที่ยวบินนี้ . ประธานาธิบดีอิลฮัม แอลิเยฟ ของอาเซอร์ไบจาน ระบุว่าจากข้อมูลที่เขาได้รับ เครื่องบินเปลี่ยนเส้นทางสืบเนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย แต่ระบุเพิ่มเติมว่ายังไม่ทราบเกี่ยวกับต้นตอของเหตุเครื่องบินโหม่งโลก และจำเป็นต้องดำเนินการสืบสวนอย่างครบถ้วนเสียก่อน . วิดีโอที่เผยแพร่อย่างกว้างขวาง เป็นภาพเครื่องบินกำลังดิ่งลงอย่างรวดเร็ว ก่อนไฟลุกท่วมหลังร่วงกระแทกชายฝั่ง จากนั้นก็มีกลุ่มควันสีดำหนาทึบลอยพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ทั้งนี้พบเห็นพวกผู้โดยสารที่เต็มไปด้วยเลือดและแผลถลอกกำลังกะเผลกออกมาจากเศษซากลำตัวเครื่องบิน ที่ยังอยู่ในสภาพไม่บุบสลาย . มีผู้โดยสาร 62 คนและลูกเรือ 5 คนบนเที่ยวบินลำนี้ ในขณะที่ คานัค โบซุมบาเยฟ รองนายกรัฐมนตรีคาซัคสถาน เป็นผู้เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตข้างต้น ระหว่างพบปะกับตัวแทนของอาเซอร์ไบจาน ในเมืองอัคเตา ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ของรัสเซีย . กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของคาซัคสถาน ระบุในถ้อยแถลงว่าทีมดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว และพวกผู้รอดชีวิต ในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 2 คน กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็อยู่ระหว่างเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต . สายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส ระบุว่าเครื่องบิน เอมบราเออร์ 190 กำลังบินจากกรุงบากู ไปยังเมืองกรอซนี ทางใต้ของรัสเซีย แต่จำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉินห่างจากเมืองอัคเตาของคาซัคสถาน ราวๆ 3 กิโลเมตร "เบื้องต้น หลังจากชนนก สืบเนื่องจากสถานการณ์ฉุกเฉินบนเครื่องบิน ผู้บังคับการตัดสินใจไปยังสนามบินอื่น และเลือกไปที่อัคเตา" หน่วยงานเฝ้าระวังด้านการบินของรัสเซียระบุในเทเลแกรม . อย่างไรก็ตาม ริชาร์ด อาบูลาเฟีย ผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์จากบริษัทที่ปรึกษาด้านการบิน AeroDynamic ชี้ว่าปกติแล้วการชนนก มักทำให้เครื่องบินต้องลงจอดในสนามบินที่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะหาได้ "คุณอาจสูญเสียการควบคุมเครื่องบิน แต่ผลลัพธ์ของมัน จะไม่มีทางทำให้คุณบินออกนอกเส้นทาง เตลิดเปิดเปิงขนาดนี้" . ทิมูร์ สุเลเมนอฟ อัยการด้านการขนส่งหลักของคาซัคสถาน กล่าวระหว่างแแถลงข่าวในเมืองหลวง ว่าเจ้าหน้าที่พบกล่องดำของเครื่องบิน ที่บรรจุข้อมูลการบินที่จะช่วยสรุปถึงต้นตอของเหตุการณ์นี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว . เมืองอัคเตา อยู่ฝั่งตรงข้ามทะเลแคสเปียน กับอาเซอร์ไบจานและรัสเซีย ขณะที่เว็บไซต์ติดตามเที่ยวบินต่างๆ พบว่าเครื่องบินลำนี้ บินไปในทางทิศเหนือตามเส้นทางที่กำหนดไว้ตามแนวชายฝั่งทางตะวันตก ก่อนไม่มีการบันทึกเส้นทางการบินหลังจากนั้น แต่ต่อมามันปรากฏตัวอีกรอบบริเวณชายฝั่งตะวันตก บินวนใกล้ๆกับสนามบินอัคเตา ก่อนดิ่งลงชายฝั่ง . เจ้าหน้าที่ใน 2 สาธารณรัฐของรัสเซีย ได้แก่ อิงกูเซเตียและนอร์ทออสซีเซีย รายงานเกี่ยวกับการถูกโดรนโจมตีในตอนเช้าวันพุธ(25ธ.ค.) . ทั้งนี้เจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ณ สนามบินมาฮัชกาลา ในรัสเซีย ตามแนวชายฝั่งทางตะวันตกของทะเลแคสเปียน ท่าอากาศยานที่อยู่ใกล้ที่สุดในจุดที่เที่ยวบินสูญหายไปจากการติดตาม บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สนามบินแห่งนี้ปิดการสัญจรขาเข้าเป็นเวลาหลายชั่วโมงในเช้าวันพุธ(25ธ.ค.) ส่วนเจ้าหน้าที่ของสนามบินในเมืองกรอซนีนั้น รอยเตอร์ระบุว่าไม่สามารถติดต่อได้ . พวกเจ้าหน้าที่ในคาซัคสถาน เผยว่ารัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมา เพื่อสืบสวนสิ่งที่เกิดขึ้นและสมาชิกของคณะกรรมการชุดนี้ได้รับคำสั่งให้บินไปยังจุดเกิดเหตุ และไปรับปากกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ว่าพวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็น . รัฐบาลระบุว่าคาซัคสถานจะร่วมมือกับอาเซอร์ไบจานในการสืบสวน ส่วนสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ส จะระงับเที่ยวบินจากบากู ไปยังสาธารณรัฐเชเชนของรัสเซีย จนกว่าการสืบสวนจะเสร็จสมบูรณ์ . ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน ตัดสินใจล้มแผนเข้าร่วมประชุมซัมมิตหนึ่งในรัสเซียในวันพุธ(25ธ.ค.) เพื่อเดินทางกลับประเทศเป็นการด่วน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123943 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1602 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้เผยได้ร่างโรดแมปเตรียมพร้อมไว้แล้วกรณีที่ทรัมป์ฟื้นการเจรจานิวเคลียร์กับเปียงยาง แต่ยอมรับว่า สถานการณ์วุ่นวายทางการเมืองทำให้การติดต่อประสานงานกับทีมงานของว่าที่ผู้นำใหม่ของสหรัฐฯ สะดุด
    .
    ในวันพุธ (18 ธ.ค.) ที่งานแถลงข่าวร่วมต่อสื่อต่างประเทศซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โช แต-ยุล รัฐมนตรีต่างประเทศ และชอย ซัง-ม็อก รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ พยายามฟื้นความมั่นใจของชาติพันธมิตรและนักลงทุนในตลาด นับจากที่ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล พยายามประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. และดึงประเทศเข้าสู่วิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี
    .
    โชเผยว่า เกาหลีใต้ได้สร้างเครือข่ายและช่องทางสื่อสารกับทีมหาเสียงของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของอเมริกา “ที่แข็งแกร่งกว่าประเทศใดๆ” ทว่า การประกาศกฎอัยการศึกทำให้เครือข่ายและช่องทางเหล่านั้นสะดุดและบ่อนทำลายโมเมนตัมทางการเมืองระหว่างสองฝ่าย
    .
    ทีมงานของโชยังร่างโรดแมปสำหรับความเป็นไปได้ที่วอชิงตันและเปียงยางอาจฟื้นการเจรจานิวเคลียร์ โดยอ้างอิงการที่ทรัมป์เลือกอดีตผู้นำหน่วยข่าวกรองเป็นผู้แทนภารกิจพิเศษที่รวมถึงนโยบายต่อเกาหลีเหนือ
    .
    ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เปียงยางเพิกเฉยต่อการทาบทามเพื่อฟื้นการเจรจาโดยปราศจากเงื่อนไขของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่ทีมงานของทรัมป์พยายามหาทางเจรจาโดยตรงกับคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เพื่อลดความเสี่ยงในการปะทะทางทหาร
    .
    นอกจากนั้นทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า ต้องการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน แต่โชเชื่อว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลาสักพักจนกว่าจะเกิดขึ้นจริง และจำเป็นต้องหาทางตอบโต้กรณีที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปรัสเซียควบคู่กับการเฝ้าติดตามสถานการณ์
    .
    ในส่วนจีนนั้น โชเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ถูกคาดหมายว่า จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ในเกาหลีใต้ปีหน้า ซึ่งจะถือเป็นการเยือนโซลครั้งแรกของประมุขจีนในรอบ 11 ปี
    .
    เขายังกล่าวถึงการที่จีนตัดสินใจขยายมาตรการเดินทางเข้าเกาหลีใต้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าว่า เป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ระดับสูงระหว่างกันและความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ และเสริมว่า โซลกำลังสำรวจความเป็นไปได้สำหรับมาตรการเดียวกัน
    .
    ทั้งนี้ นอกจากต้องพยายามควบคุมผลกระทบจากวิกฤตการเมืองต่อตลาดการเงินและตลาดปริวรรตเงินตราแล้ว เกาหลีใต้ยังต้องเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ไม่แน่นอนกับอเมริกาภายใต้คณะบริหารของทรัมป์
    .
    ภายหลังความพยายามในการประกาศกฎอัยการศึกของยุนที่ถูกสภาลงมติถอดถอนเมื่อวันเสาร์ (14 ธ.ค.) และขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาว่า จะถอดถอนหรือคืนตำแหน่งให้นั้น วอชิงตันได้วิจารณ์สถานการณ์การเมืองของเกาหลีใต้อย่างตรงไปตรงมาผิดปกติ โดยเคิร์ต แคมป์เบลล์ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ ระบุว่า การตัดสินใจของยุน “ผิดพลาดร้ายแรง”
    .
    ทางด้านชอย รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ แถลงว่า รัฐบาลจะใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีเพื่อจัดการเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และรับมือความผันผวนรุนแรงในตลาดปริวรรตเงินตราอย่างเต็มที่
    .
    โชและชอยเป็นส่วนหนึ่งของคณะรัฐมนตรีที่คัดค้านแผนการประกาศกฎอัยการศึกของยุนอย่างเปิดเผยระหว่างการประชุมกลางดึกก่อนที่ยุนจะประกาศคำสั่งนี้ไม่นาน
    .
    ระหว่างให้การต่อรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โชกล่าวว่า ได้เตือนว่า การประกาศกฎอัยการศึกอาจทำลายความสำเร็จที่เกาหลีใต้สร้างสมมาตลอด 70 ปี แต่ยุนไม่สนใจคำขอร้องของตนให้ทบทวนการตัดสินใจ
    .
    โชกล่าวในงานแถลงข่าวว่า ครั้งล่าสุดที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกในเกาหลีใต้คือปี 1979 ซึ่งเขาได้เข้าทำงานในกระทรวงต่างประเทศ และสำทับว่า เขา “อึ้ง” กับการตัดสินใจดังกล่าวและไม่นึกไม่ฝันว่า เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งในอีก 45 ปีต่อมา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121640
    ..............
    Sondhi X
    รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้เผยได้ร่างโรดแมปเตรียมพร้อมไว้แล้วกรณีที่ทรัมป์ฟื้นการเจรจานิวเคลียร์กับเปียงยาง แต่ยอมรับว่า สถานการณ์วุ่นวายทางการเมืองทำให้การติดต่อประสานงานกับทีมงานของว่าที่ผู้นำใหม่ของสหรัฐฯ สะดุด . ในวันพุธ (18 ธ.ค.) ที่งานแถลงข่าวร่วมต่อสื่อต่างประเทศซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก โช แต-ยุล รัฐมนตรีต่างประเทศ และชอย ซัง-ม็อก รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ พยายามฟื้นความมั่นใจของชาติพันธมิตรและนักลงทุนในตลาด นับจากที่ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล พยายามประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. และดึงประเทศเข้าสู่วิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี . โชเผยว่า เกาหลีใต้ได้สร้างเครือข่ายและช่องทางสื่อสารกับทีมหาเสียงของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของอเมริกา “ที่แข็งแกร่งกว่าประเทศใดๆ” ทว่า การประกาศกฎอัยการศึกทำให้เครือข่ายและช่องทางเหล่านั้นสะดุดและบ่อนทำลายโมเมนตัมทางการเมืองระหว่างสองฝ่าย . ทีมงานของโชยังร่างโรดแมปสำหรับความเป็นไปได้ที่วอชิงตันและเปียงยางอาจฟื้นการเจรจานิวเคลียร์ โดยอ้างอิงการที่ทรัมป์เลือกอดีตผู้นำหน่วยข่าวกรองเป็นผู้แทนภารกิจพิเศษที่รวมถึงนโยบายต่อเกาหลีเหนือ . ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เปียงยางเพิกเฉยต่อการทาบทามเพื่อฟื้นการเจรจาโดยปราศจากเงื่อนไขของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่ทีมงานของทรัมป์พยายามหาทางเจรจาโดยตรงกับคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เพื่อลดความเสี่ยงในการปะทะทางทหาร . นอกจากนั้นทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า ต้องการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน แต่โชเชื่อว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลาสักพักจนกว่าจะเกิดขึ้นจริง และจำเป็นต้องหาทางตอบโต้กรณีที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปรัสเซียควบคู่กับการเฝ้าติดตามสถานการณ์ . ในส่วนจีนนั้น โชเผยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ถูกคาดหมายว่า จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ในเกาหลีใต้ปีหน้า ซึ่งจะถือเป็นการเยือนโซลครั้งแรกของประมุขจีนในรอบ 11 ปี . เขายังกล่าวถึงการที่จีนตัดสินใจขยายมาตรการเดินทางเข้าเกาหลีใต้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าว่า เป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์ระดับสูงระหว่างกันและความพยายามในการปรับปรุงความสัมพันธ์ และเสริมว่า โซลกำลังสำรวจความเป็นไปได้สำหรับมาตรการเดียวกัน . ทั้งนี้ นอกจากต้องพยายามควบคุมผลกระทบจากวิกฤตการเมืองต่อตลาดการเงินและตลาดปริวรรตเงินตราแล้ว เกาหลีใต้ยังต้องเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ไม่แน่นอนกับอเมริกาภายใต้คณะบริหารของทรัมป์ . ภายหลังความพยายามในการประกาศกฎอัยการศึกของยุนที่ถูกสภาลงมติถอดถอนเมื่อวันเสาร์ (14 ธ.ค.) และขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาว่า จะถอดถอนหรือคืนตำแหน่งให้นั้น วอชิงตันได้วิจารณ์สถานการณ์การเมืองของเกาหลีใต้อย่างตรงไปตรงมาผิดปกติ โดยเคิร์ต แคมป์เบลล์ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ ระบุว่า การตัดสินใจของยุน “ผิดพลาดร้ายแรง” . ทางด้านชอย รัฐมนตรีคลังเกาหลีใต้ แถลงว่า รัฐบาลจะใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีเพื่อจัดการเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ และรับมือความผันผวนรุนแรงในตลาดปริวรรตเงินตราอย่างเต็มที่ . โชและชอยเป็นส่วนหนึ่งของคณะรัฐมนตรีที่คัดค้านแผนการประกาศกฎอัยการศึกของยุนอย่างเปิดเผยระหว่างการประชุมกลางดึกก่อนที่ยุนจะประกาศคำสั่งนี้ไม่นาน . ระหว่างให้การต่อรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โชกล่าวว่า ได้เตือนว่า การประกาศกฎอัยการศึกอาจทำลายความสำเร็จที่เกาหลีใต้สร้างสมมาตลอด 70 ปี แต่ยุนไม่สนใจคำขอร้องของตนให้ทบทวนการตัดสินใจ . โชกล่าวในงานแถลงข่าวว่า ครั้งล่าสุดที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกในเกาหลีใต้คือปี 1979 ซึ่งเขาได้เข้าทำงานในกระทรวงต่างประเทศ และสำทับว่า เขา “อึ้ง” กับการตัดสินใจดังกล่าวและไม่นึกไม่ฝันว่า เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งในอีก 45 ปีต่อมา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121640 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1251 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11 ธันวาคม 2567-เวลา 10.00 น. สื่อต่างประเทศ รายงานว่า “คิม ยองฮยอน” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของประเทศเกาหลีใต้ พยายามฆ่าตัวตายในห้องคุมขัง แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้คาดว่าเกิดจากความเครียด หลังนายคิมเกี่ยวพันกับการประกาศกฏอัยการศึกของประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล จนถูกจับกุมในเวลาต่อมา มีแหล่งข่าวรายงานว่า นายคิมได้แนะนําให้ประธานาธิบดียุนซอกยอลประกาศกฎอัยการศึกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    11 ธันวาคม 2567-เวลา 10.00 น. สื่อต่างประเทศ รายงานว่า “คิม ยองฮยอน” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของประเทศเกาหลีใต้ พยายามฆ่าตัวตายในห้องคุมขัง แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตไว้ได้คาดว่าเกิดจากความเครียด หลังนายคิมเกี่ยวพันกับการประกาศกฏอัยการศึกของประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล จนถูกจับกุมในเวลาต่อมา มีแหล่งข่าวรายงานว่า นายคิมได้แนะนําให้ประธานาธิบดียุนซอกยอลประกาศกฎอัยการศึกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 531 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยังมีผู้คนอีกมากมายที่เชื่อ "คำโกหก" ของสื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะสื่อของชาวซีเรียเอง ที่พยายามกล่าวหาว่ารัฐบาลของอัสซาดทำร้ายประชาชนของเขาด้วยก๊าซพิษ เพื่อสร้างความเกลียดชัง ต่อต้านรัฐบาล และในท้ายที่สุด ทุกอย่างประผลสำเร็จตามที่สื่อของซีเรียที่รับใช้ตะวันตกต้องการ

    วันนี้สื่อของซีเรียกำลังออกมาฟูมฟาย หลังจากประเทศของพวกเขากำลังแตกเป็นเสี่ยง จากการฉวยโอกาสยึดดินแดนโดยรอบจากกลุ่มอิทธิพลนอกประเทศที่ครั้งหนึ่งสื่อเหล่านี้เคย "อวยยศ" ไว้อย่างยิ่งใหญ่
    ยังมีผู้คนอีกมากมายที่เชื่อ "คำโกหก" ของสื่อต่างประเทศ โดยเฉพาะสื่อของชาวซีเรียเอง ที่พยายามกล่าวหาว่ารัฐบาลของอัสซาดทำร้ายประชาชนของเขาด้วยก๊าซพิษ เพื่อสร้างความเกลียดชัง ต่อต้านรัฐบาล และในท้ายที่สุด ทุกอย่างประผลสำเร็จตามที่สื่อของซีเรียที่รับใช้ตะวันตกต้องการ วันนี้สื่อของซีเรียกำลังออกมาฟูมฟาย หลังจากประเทศของพวกเขากำลังแตกเป็นเสี่ยง จากการฉวยโอกาสยึดดินแดนโดยรอบจากกลุ่มอิทธิพลนอกประเทศที่ครั้งหนึ่งสื่อเหล่านี้เคย "อวยยศ" ไว้อย่างยิ่งใหญ่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9/12/67

    ทรงพระเจริญ

    @เรื่องที่น้อยคนอาจไม่ทันสังเกต ความกตัญญูของพระราชินีสุทิดาที่ทรงมีต่อ
    พ่อหลวง “รัชกาลที่ 9” สู่สายตาชาวโลก
    .
    ถ้าหลายท่านสังเกตเมื่อครั้งที่วันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีสุทิดาทรงร่วมกิจกรรมวิ่ง "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2024"

    โดยทรงเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งกับคิปโชเก "นักวิ่งมาราธอนโอลิมปิก ผู้เป็นตำนานระดับโลก" ในการวิ่งรอบพระนคร ตามสถานที่สำคัญต่างๆอันสวยงามมากมายตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวได้จัดงานขึ้น

    ซึ่งถ้าเป็นเราๆ ก็คงวิ่งไปตามทางเพื่อให้เข้าเส้นชัยเพื่อให้จบๆไป เพื่อเป็นการออกกำลังกายวิ่งมาราธอนตามแบบทั่วๆไป

    แต่ด้วยเดชะบุญที่ประเทศไทยเรามี พระราชินีสุทิดาที่ทรงมีพระปฎิภาณไหวพริบ ระหว่างทางที่วิ่งพระราชินีท่านได้ทรงคิดนอกกรอบ ด้วยการแทนที่จะวิ่งไปเรื่อยๆเพื่อพาคุณคิปเชโก เข้าเส้นชัยตามที่รัฐบาลได้จัดทางไว้ให้ แต่พระราชินีท่านทรงได้แนะนำสถานที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ รัชกาลที่ 9 แห่งนี้ให้นักกีฬาระดับโลกได้รู้จักกับสถานที่แห่งนี้ที่จะเป็นแลนมาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ ในอนาคตให้คุณคิปเชโกและสื่อต่างประเทศที่ติดตามคุณคิปเชโกมาให้รู้จักพร้อมทั้งได้วิ่งนำเพื่อพาเข้าไปชมในสถานที่แห่งนี้

    (ปล. ตอนแรกก็ดูสิ้นหวังมากตรงที่พอจะเข้าไปปุ้ป ประตูสวนอุทยานแห่งนี้ล็อค เข้าไม่ได้สะงั้น มีคลิปย้อนหลังตามเน็ตเยอะเลยไปตามดูกันได้ตอนที่พระองค์ท่านเข้าไม่ได้
    ซึ่งอุทยานก็กว้างเอามากๆ แต่สุดท้ายด้วยความโชคดีที่มีเจ้าหน้าที่สวนอุทยานเดินผ่านมาพอดี จึงได้เปิดประตูและได้เปิดให้เข้าไปชมสวนอุทยานแห่งนี้)

    พระราชินีสุทิดาท่านได้เดินนำพาเข้าไปและได้เล่าเรื่องราวของอุทยาน ร.9 ให้กับคุณคิปเชโกและสื่อต่างประเทศที่ติดตามคุณคิปเชโกมาให้ฟัง พร้อมทั้งได้ทรงถ่ายรูปร่วมกันกับคุณคิปเชโก ซึ่งภายหลังเวลาต่อมาภาพนี้ก็กระจายไปกันไกลมากๆในต่างประเทศ ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จัก “อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9” อันเป็นแลนมาร์คสวนสาธรณะที่เป็นปอดแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ

    ซึ่งสิ่งนี้เป็นการลบล้างข่าว Fake News เรื่องที่พระองค์จะเอาสนามม้านางเลิ้งไปทำเป็นวังคอมเพล็กซ์ตามที่มีกลุ่มคนได้โจมตีใส่ร้ายและทำให้มีความเข้าใจผิดแบบแย่ๆ จากคนไทยและคนต่างประเทศต่อในหลวง ร.9 และในหลวง ร.10 ไปโดยปริยาย ว่าไม่ได้เลิกสนามม้า เพื่อเพราะไปทำวังแต่ความจริง คือเอาไปทำสวนสาธารณะให้ประชาชน ซึ่งเป็นการทำให้คนได้รู้จักภาพจำใหม่ที่เป็น สวนสาธารณะแห่งใหม่อันสวยงามใจกลางกรุงเทพที่น่าดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวและพักผ่อนออกกำลังกายกัน

    ...ซึ่งสิ่งที่พระราชินีท่านได้ทรงทำ หากเรามองให้ลึกๆลงไปแล้ว

    เราจะเห็นได้ถึงความกตัญญูกตเวทีและความภักดีของสมเด็จพระราชินีสุทิดา ที่ทรงมีต่อในหลวงท่านได้เป็นอย่างดี ที่ทรงตั้งใจให้คนทั่วโลกได้รู้จักกับ Unseen แลนมาร์คใจกลางกรุงเทพแห่งใหม่แห่งนี้ อันเป็นภาพจำแห่งใหม่ให้ไปสู่สายตาคนทั่วโลก

    #นักเรียนดี
    9/12/67 ทรงพระเจริญ @เรื่องที่น้อยคนอาจไม่ทันสังเกต ความกตัญญูของพระราชินีสุทิดาที่ทรงมีต่อ พ่อหลวง “รัชกาลที่ 9” สู่สายตาชาวโลก 🙏💜 . ถ้าหลายท่านสังเกตเมื่อครั้งที่วันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีสุทิดาทรงร่วมกิจกรรมวิ่ง "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2024" โดยทรงเข้าร่วมกิจกรรมวิ่งกับคิปโชเก "นักวิ่งมาราธอนโอลิมปิก ผู้เป็นตำนานระดับโลก" ในการวิ่งรอบพระนคร ตามสถานที่สำคัญต่างๆอันสวยงามมากมายตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวได้จัดงานขึ้น ซึ่งถ้าเป็นเราๆ ก็คงวิ่งไปตามทางเพื่อให้เข้าเส้นชัยเพื่อให้จบๆไป เพื่อเป็นการออกกำลังกายวิ่งมาราธอนตามแบบทั่วๆไป แต่ด้วยเดชะบุญที่ประเทศไทยเรามี พระราชินีสุทิดาที่ทรงมีพระปฎิภาณไหวพริบ ระหว่างทางที่วิ่งพระราชินีท่านได้ทรงคิดนอกกรอบ ด้วยการแทนที่จะวิ่งไปเรื่อยๆเพื่อพาคุณคิปเชโก เข้าเส้นชัยตามที่รัฐบาลได้จัดทางไว้ให้ แต่พระราชินีท่านทรงได้แนะนำสถานที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ รัชกาลที่ 9 แห่งนี้ให้นักกีฬาระดับโลกได้รู้จักกับสถานที่แห่งนี้ที่จะเป็นแลนมาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ ในอนาคตให้คุณคิปเชโกและสื่อต่างประเทศที่ติดตามคุณคิปเชโกมาให้รู้จักพร้อมทั้งได้วิ่งนำเพื่อพาเข้าไปชมในสถานที่แห่งนี้ (ปล. ตอนแรกก็ดูสิ้นหวังมากตรงที่พอจะเข้าไปปุ้ป ประตูสวนอุทยานแห่งนี้ล็อค เข้าไม่ได้สะงั้น มีคลิปย้อนหลังตามเน็ตเยอะเลยไปตามดูกันได้ตอนที่พระองค์ท่านเข้าไม่ได้ 😂 ซึ่งอุทยานก็กว้างเอามากๆ แต่สุดท้ายด้วยความโชคดีที่มีเจ้าหน้าที่สวนอุทยานเดินผ่านมาพอดี จึงได้เปิดประตูและได้เปิดให้เข้าไปชมสวนอุทยานแห่งนี้) พระราชินีสุทิดาท่านได้เดินนำพาเข้าไปและได้เล่าเรื่องราวของอุทยาน ร.9 ให้กับคุณคิปเชโกและสื่อต่างประเทศที่ติดตามคุณคิปเชโกมาให้ฟัง พร้อมทั้งได้ทรงถ่ายรูปร่วมกันกับคุณคิปเชโก ซึ่งภายหลังเวลาต่อมาภาพนี้ก็กระจายไปกันไกลมากๆในต่างประเทศ ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จัก “อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9” อันเป็นแลนมาร์คสวนสาธรณะที่เป็นปอดแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ ซึ่งสิ่งนี้เป็นการลบล้างข่าว Fake News เรื่องที่พระองค์จะเอาสนามม้านางเลิ้งไปทำเป็นวังคอมเพล็กซ์ตามที่มีกลุ่มคนได้โจมตีใส่ร้ายและทำให้มีความเข้าใจผิดแบบแย่ๆ จากคนไทยและคนต่างประเทศต่อในหลวง ร.9 และในหลวง ร.10 ไปโดยปริยาย ว่าไม่ได้เลิกสนามม้า เพื่อเพราะไปทำวังแต่ความจริง คือเอาไปทำสวนสาธารณะให้ประชาชน ซึ่งเป็นการทำให้คนได้รู้จักภาพจำใหม่ที่เป็น สวนสาธารณะแห่งใหม่อันสวยงามใจกลางกรุงเทพที่น่าดึงดูดให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวและพักผ่อนออกกำลังกายกัน 💜 ...ซึ่งสิ่งที่พระราชินีท่านได้ทรงทำ หากเรามองให้ลึกๆลงไปแล้ว เราจะเห็นได้ถึงความกตัญญูกตเวทีและความภักดีของสมเด็จพระราชินีสุทิดา ที่ทรงมีต่อในหลวงท่านได้เป็นอย่างดี ที่ทรงตั้งใจให้คนทั่วโลกได้รู้จักกับ Unseen แลนมาร์คใจกลางกรุงเทพแห่งใหม่แห่งนี้ อันเป็นภาพจำแห่งใหม่ให้ไปสู่สายตาคนทั่วโลก #นักเรียนดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 935 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • นี่คือรูปแบบการประท้วงในจอร์เจียที่มีกลุ่มทุนต่างชาติหนุนหลัง ชาวจอร์เจียรายหนึ่งทำตัวโดดเด่นด้วยการออกมานอกกลุ่มผู้ชุมนุมและอยู่ในรัศมีของทีมกล้องจากสื่อต่างประเทศ เพื่อให้ภาพที่ออกสู่สายตาประชาคมโลกคือเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงในการเข้าขัดขวางผู้ชุมนุม

    ขณะเดียวกันมีการนำภาพเมื่อช่วงต้นปีของคู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงาน และได้เข้าร่วมการชุมนุม เพื่อพยายามนำเสนอให้ดูเหมือนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่พวกเขาไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้รับสิทธิและเสรีภาพ เป็นกลุ่มคนที่ยังมีความรัก มีความสุภาพ และยังต้องการความสุขในชีวิต ไม่ใช่กลุ่มหัวรุนแรงตามที่รัฐบาลนำเสนอ

    แต่ชาวจอร์เจียอาจลืมไปว่า สิ่งที่พวกเขาทำ มันคือวิธีการและรูปแบบเดียวกับที่ยูเครนเคยโดนตะวันตกหลอกใช้มาก่อน
    นี่คือรูปแบบการประท้วงในจอร์เจียที่มีกลุ่มทุนต่างชาติหนุนหลัง ชาวจอร์เจียรายหนึ่งทำตัวโดดเด่นด้วยการออกมานอกกลุ่มผู้ชุมนุมและอยู่ในรัศมีของทีมกล้องจากสื่อต่างประเทศ เพื่อให้ภาพที่ออกสู่สายตาประชาคมโลกคือเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงในการเข้าขัดขวางผู้ชุมนุม ขณะเดียวกันมีการนำภาพเมื่อช่วงต้นปีของคู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงาน และได้เข้าร่วมการชุมนุม เพื่อพยายามนำเสนอให้ดูเหมือนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่พวกเขาไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้รับสิทธิและเสรีภาพ เป็นกลุ่มคนที่ยังมีความรัก มีความสุภาพ และยังต้องการความสุขในชีวิต ไม่ใช่กลุ่มหัวรุนแรงตามที่รัฐบาลนำเสนอ แต่ชาวจอร์เจียอาจลืมไปว่า สิ่งที่พวกเขาทำ มันคือวิธีการและรูปแบบเดียวกับที่ยูเครนเคยโดนตะวันตกหลอกใช้มาก่อน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 502 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อต่างประเทศบางสำนักรายงานในช่วงต้นสัปดาห์ อิสราเอลยกเลิกแผนโจมตีแก้แค้นเตหะราน ท่ามกลางข่าวลือว่าอิหร่านได้ทำการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงสั่นสะเทือนอิหร่านเมื่อวันเสาร์(5ต.ค.) ที่ผ่านมา
    .
    เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม เกิดแผ่นดินไหวระดับ 4.6 สั่นสะเทือนอิหร่าน โดยมีศูนย์กลางอยู่ในเมืองอราดัน จังหวัดเซมนัน ณ ความลึกเพียง 10 กิโลเมตร อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ แรงสั่นสะเทือนสามารถสัมผัสได้ไกลถึงกรุงเตหะราน ที่อยู่ห่างจากศูนย์กลางราวๆ 110 กิโลเมตร
    .
    แผ่นดินไหวดังกล่าว โหมกระพือข่าวลือว่าอิหร่านได้ทำการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ แม้ไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการในประเด็นนี้ ขณะที่พวกผู้เชี่ยวชาญเคยเชื่อว่าอิหร่านเข้าใกล้การมีอาวุธนิวเคลียร์มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และท่ามกลางความตึงเครียดกับอิหร่าน ผู้เชี่ยวชาญคิดว่า ณ เวลานี้ อิหร่าน อาจจำเป็นต้องมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง
    .
    ข่าวลือและประเด็นถกเถียงโหมกระพือขึ้น ภายในไม่กี่นาทีหลังแผ่นดินไหว ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลายคน โดยเฉพาะในอิสราเอล เชื่อมโยงเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาครั้งนี้ในทันทีกับความเป็นไปได้ที่อิหร่านได้ทำการทดสอบนิวเคลียร์แบบลับๆ สืบเนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดในปัจจุบันระหว่าง 2 ชาติ
    .
    ผู้ใช้แพลตฟอร์มเอ็กซ์รายหนึ่งคาดการณ์ว่า "อิหร่านทดสอบนิวเคลียร์ พวกเขาทดสอบระเบิดลึกลงไปใต้พื้นผิว 10 กิโลเมตร ใกล้กับเซมนัน เพื่อรับประกันการปล่อยกัมมันตภาพรังสีน้อยที่สุด และผลก็คือเครื่องวัดแผ่นดินไหวสามารถตรวจจับแผ่นดินไหวระดับ 4.6"
    .
    การคาดเดาในเรื่องนี้ โหมกระพือหนักหน่วงยิ่งขึ้น เนื่องจากจุดที่เกินแผ่นดินไหวนี้อยู่บริเวณใกล้เคียงกับโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ก่อความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการทดสอบนิวเคลียรใต้ดิน ในขณะที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์รายหนึ่งอ้างว่า "แผ่นดินไหวอิหร่านก่อแรงสั่นสะเทือนไปถึงอิสราเอล พวกเขาคงต้องคิดทบทวนอย่างหนักหากคิดโจมตีอิหร่าน มันดูเหมือนว่าความลับคืออิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ ไม่มีประเทศไหนที่อยากไปยุ่งกับพลังทำลายล้างของนิวเคลียร์"
    .
    อย่างไรก็ตามสื่อมวลชนระบุว่าแม้นอิหร่านเข้าใกล้การมีอาวุธนิวเคลียร์เป็นของตนเอง แต่การทดสอบแสนยานุภาพทางนิวเคลียร์ ไม่ได้หมายความว่าประเทศนั้นๆ จะมีอาวุธนิวเคลียร์ที่ใช้งานได้จริงภายในไม่กี่สัปดาห์
    .
    กระนั้นก็ดีหนังสือพิมพ์ฮินดูสถานไทม์ส อ้างรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ระบุมีข่าวว่าอิสราเอลตัดสินใจยกเลิกแผ่นโจมตีแก้แค้นอิหร่าน ท่ามกลางข่าวลือว่าอิหร่านทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
    .
    รายงานของนิวยอร์กไทม์ส ไม่คาดหมายว่าอิสราเอลจะโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน ตอบโต้กรณีที่เตหะรานรัวยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม แต่มีความเป็นไปได้ที่ อิสราเอล จะเล็งเป้าถล่มฐานทัพทหาร เป้าหมายข่าวกรองหรือพวกผู้นำของอิหร่านแทน อย่างไรก็ตามมันยังมีความเป็นไปได้ที่ อิสราเอล จะลงมือเลยเถิดมากกว่านั้น ด้วยการโจมตีโครงการนิวเคลียร์ หากอิหร่านตอบโต้กลับ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000096126
    ..............
    Sondhi X
    สื่อต่างประเทศบางสำนักรายงานในช่วงต้นสัปดาห์ อิสราเอลยกเลิกแผนโจมตีแก้แค้นเตหะราน ท่ามกลางข่าวลือว่าอิหร่านได้ทำการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ จากกรณีเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงสั่นสะเทือนอิหร่านเมื่อวันเสาร์(5ต.ค.) ที่ผ่านมา . เมื่อวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม เกิดแผ่นดินไหวระดับ 4.6 สั่นสะเทือนอิหร่าน โดยมีศูนย์กลางอยู่ในเมืองอราดัน จังหวัดเซมนัน ณ ความลึกเพียง 10 กิโลเมตร อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ แรงสั่นสะเทือนสามารถสัมผัสได้ไกลถึงกรุงเตหะราน ที่อยู่ห่างจากศูนย์กลางราวๆ 110 กิโลเมตร . แผ่นดินไหวดังกล่าว โหมกระพือข่าวลือว่าอิหร่านได้ทำการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ แม้ไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการในประเด็นนี้ ขณะที่พวกผู้เชี่ยวชาญเคยเชื่อว่าอิหร่านเข้าใกล้การมีอาวุธนิวเคลียร์มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และท่ามกลางความตึงเครียดกับอิหร่าน ผู้เชี่ยวชาญคิดว่า ณ เวลานี้ อิหร่าน อาจจำเป็นต้องมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง . ข่าวลือและประเด็นถกเถียงโหมกระพือขึ้น ภายในไม่กี่นาทีหลังแผ่นดินไหว ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลายคน โดยเฉพาะในอิสราเอล เชื่อมโยงเหตุการณ์ทางธรณีวิทยาครั้งนี้ในทันทีกับความเป็นไปได้ที่อิหร่านได้ทำการทดสอบนิวเคลียร์แบบลับๆ สืบเนื่องจากสถานการณ์ความตึงเครียดในปัจจุบันระหว่าง 2 ชาติ . ผู้ใช้แพลตฟอร์มเอ็กซ์รายหนึ่งคาดการณ์ว่า "อิหร่านทดสอบนิวเคลียร์ พวกเขาทดสอบระเบิดลึกลงไปใต้พื้นผิว 10 กิโลเมตร ใกล้กับเซมนัน เพื่อรับประกันการปล่อยกัมมันตภาพรังสีน้อยที่สุด และผลก็คือเครื่องวัดแผ่นดินไหวสามารถตรวจจับแผ่นดินไหวระดับ 4.6" . การคาดเดาในเรื่องนี้ โหมกระพือหนักหน่วงยิ่งขึ้น เนื่องจากจุดที่เกินแผ่นดินไหวนี้อยู่บริเวณใกล้เคียงกับโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน ก่อความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการทดสอบนิวเคลียรใต้ดิน ในขณะที่ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์รายหนึ่งอ้างว่า "แผ่นดินไหวอิหร่านก่อแรงสั่นสะเทือนไปถึงอิสราเอล พวกเขาคงต้องคิดทบทวนอย่างหนักหากคิดโจมตีอิหร่าน มันดูเหมือนว่าความลับคืออิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ ไม่มีประเทศไหนที่อยากไปยุ่งกับพลังทำลายล้างของนิวเคลียร์" . อย่างไรก็ตามสื่อมวลชนระบุว่าแม้นอิหร่านเข้าใกล้การมีอาวุธนิวเคลียร์เป็นของตนเอง แต่การทดสอบแสนยานุภาพทางนิวเคลียร์ ไม่ได้หมายความว่าประเทศนั้นๆ จะมีอาวุธนิวเคลียร์ที่ใช้งานได้จริงภายในไม่กี่สัปดาห์ . กระนั้นก็ดีหนังสือพิมพ์ฮินดูสถานไทม์ส อ้างรายงานของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส ระบุมีข่าวว่าอิสราเอลตัดสินใจยกเลิกแผ่นโจมตีแก้แค้นอิหร่าน ท่ามกลางข่าวลือว่าอิหร่านทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ . รายงานของนิวยอร์กไทม์ส ไม่คาดหมายว่าอิสราเอลจะโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน ตอบโต้กรณีที่เตหะรานรัวยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม แต่มีความเป็นไปได้ที่ อิสราเอล จะเล็งเป้าถล่มฐานทัพทหาร เป้าหมายข่าวกรองหรือพวกผู้นำของอิหร่านแทน อย่างไรก็ตามมันยังมีความเป็นไปได้ที่ อิสราเอล จะลงมือเลยเถิดมากกว่านั้น ด้วยการโจมตีโครงการนิวเคลียร์ หากอิหร่านตอบโต้กลับ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000096126 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 3 การแบ่งปัน 2039 มุมมอง 0 รีวิว
  • สายการบิน Southwest Airline รอดจากหายนะไมโครซอฟท์ล่มเพราะความเชย ใช้วินโดว์รุ่นล้าสมัย ไม่สามารถอัพเดตของ ClowdStrikeได้จึงรอด

    23 กรกฏาคม 2567 - สื่อต่างประเทศ ITC รายงานว่า สายการบิน Southwest Airlines ซึ่งเป็นสายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของสหรัฐอเมริกา แทบไม่ได้รับผลกระทบจากหายนะไมโครซอฟท์ล่มจาก CrowdStrike เนื่องจากสายการบินนี้ยังคงใช้ Windows 3.1รุ่นเก่า ขณะที่ความโกลาหลวุ่นวายและเสียหายเกิดขึ้นเฉพาะกับสายการบินที่ใช้ Windowsรุ่นปัจจุบันเท่านั้น

    Windows 3.1 ซึ่งเปิดตัวในปี 1992 ไม่ได้รับการอัปเดตใดๆ ดังนั้น เมื่อ CrowdStrike ส่งการอัปเดตที่ผิดพลาดให้กับลูกค้าสายการบินทั้งหมด ยกเว้น Southwest ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบ ขณะที่สายการบิน บริษัทอื่นๆ ถูกสถานการณ์บังคับให้ระงับยกเลิกเที่ยวบินและเที่ยวบินดีเลย์ล่าช้าเนื่องจากไม่สามารถออนไลน์ข้อมูลและระบบเช็คอินหลายแห่งใช้งานไม่ได้

    ที่ผ่านมา สายการบิน Southwest มักถูกวิพากษ์วิจารณ์ระบบที่ล้าสมัย แต่จุดนี้ระบบปฏิบัติการเก่าตกรุ่นนี้กลับได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ลูกค้าหลุดพ้นจากความเครียดและความยุ่งยากโกลาหลได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหา CrowdStrike ไม่ได้เกิดผลกระทบเฉพาะผู้โดยสารสายการบิน SouthWest Airlineทั้งหมด100% แต่ผลกระทบยังเกิดกับสนามบินหลายแห่งที่ประสบปัญหาระบบล่มเช่นกัน

    นอกจากใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 3.1 แล้ว สายการบิน Southwest ยังใช้ Windows 95 สำหรับระบบการจัดตารางเวลาทำงานของพนักงานอีกด้วย แม้นจะดูว่าเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ แต่เป็นระบบที่ล้าสมัยเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้พนักงานสายการบินนี้หลายคนร้องเรียนเรื่องนี้

    ที่มา : https://itc.ua/en/news/windows-3-1-saved-an-american-airline-from-crowdstrike/

    #Thaitimes
    สายการบิน Southwest Airline รอดจากหายนะไมโครซอฟท์ล่มเพราะความเชย ใช้วินโดว์รุ่นล้าสมัย ไม่สามารถอัพเดตของ ClowdStrikeได้จึงรอด 23 กรกฏาคม 2567 - สื่อต่างประเทศ ITC รายงานว่า สายการบิน Southwest Airlines ซึ่งเป็นสายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของสหรัฐอเมริกา แทบไม่ได้รับผลกระทบจากหายนะไมโครซอฟท์ล่มจาก CrowdStrike เนื่องจากสายการบินนี้ยังคงใช้ Windows 3.1รุ่นเก่า ขณะที่ความโกลาหลวุ่นวายและเสียหายเกิดขึ้นเฉพาะกับสายการบินที่ใช้ Windowsรุ่นปัจจุบันเท่านั้น Windows 3.1 ซึ่งเปิดตัวในปี 1992 ไม่ได้รับการอัปเดตใดๆ ดังนั้น เมื่อ CrowdStrike ส่งการอัปเดตที่ผิดพลาดให้กับลูกค้าสายการบินทั้งหมด ยกเว้น Southwest ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบ ขณะที่สายการบิน บริษัทอื่นๆ ถูกสถานการณ์บังคับให้ระงับยกเลิกเที่ยวบินและเที่ยวบินดีเลย์ล่าช้าเนื่องจากไม่สามารถออนไลน์ข้อมูลและระบบเช็คอินหลายแห่งใช้งานไม่ได้ ที่ผ่านมา สายการบิน Southwest มักถูกวิพากษ์วิจารณ์ระบบที่ล้าสมัย แต่จุดนี้ระบบปฏิบัติการเก่าตกรุ่นนี้กลับได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ลูกค้าหลุดพ้นจากความเครียดและความยุ่งยากโกลาหลได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหา CrowdStrike ไม่ได้เกิดผลกระทบเฉพาะผู้โดยสารสายการบิน SouthWest Airlineทั้งหมด100% แต่ผลกระทบยังเกิดกับสนามบินหลายแห่งที่ประสบปัญหาระบบล่มเช่นกัน นอกจากใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 3.1 แล้ว สายการบิน Southwest ยังใช้ Windows 95 สำหรับระบบการจัดตารางเวลาทำงานของพนักงานอีกด้วย แม้นจะดูว่าเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ แต่เป็นระบบที่ล้าสมัยเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้พนักงานสายการบินนี้หลายคนร้องเรียนเรื่องนี้ ที่มา : https://itc.ua/en/news/windows-3-1-saved-an-american-airline-from-crowdstrike/ #Thaitimes
    ITC.UA
    Windows 3.1 saved an American airline from CrowdStrike
    Southwest Airlines, the fourth largest airline in the United States, was hardly affected by the CrowdStrike — problem due to the use of Windows 3.1.
    Like
    Love
    Yay
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 841 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ งามไส้ สำรอกข่าว BBC ปากร้องประชาธิปไตย จิตใจฝักใฝ่อำนาจ-เผด็จการ เลยเถิดถึงขั้นแนะสั่งเก็บ โดนัล ทรัมป์ เพราะเป็นภัยความมั่นคง
    #7ดอกจิก
    #มือถือสากปากถือศีล
    #สื่อต่างประเทศ
    ♣ งามไส้ สำรอกข่าว BBC ปากร้องประชาธิปไตย จิตใจฝักใฝ่อำนาจ-เผด็จการ เลยเถิดถึงขั้นแนะสั่งเก็บ โดนัล ทรัมป์ เพราะเป็นภัยความมั่นคง #7ดอกจิก #มือถือสากปากถือศีล #สื่อต่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 723 มุมมอง 0 รีวิว