• ปอกับลุงแซน สร้างทฤษฏีใหม่ที่ผิดหลักฟิสิกซ์กลศาสตร์ซ้ำแล้วซ้ำอีก ปีนี้เมิงเอาโนเบลไปเลย สาขานวรรตกรรมตอแหล๋ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ปอกับลุงแซน สร้างทฤษฏีใหม่ที่ผิดหลักฟิสิกซ์กลศาสตร์ซ้ำแล้วซ้ำอีก ปีนี้เมิงเอาโนเบลไปเลย สาขานวรรตกรรมตอแหล๋ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร่มโพธิ์แห่งป่าพง
    โดย... ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล

    สามสิบสามปีผ่านพ้นไป เสียงธรรมยังใกล้ดังไม่สิ้น หลวงปู่ชาผู้ทรงศีล ศูนย์รวมจิตศรัทธา

    จำได้ไหมวันนั้นเมื่อครั้งก่อน หลวงปู่ท่านละร่างไปอย่างสงบ น้ำตาไหล รดผืนดินไม่จบ ใจยังพบธรรมะที่ท่านให้ไว้

    * โอ้หลวงปู่ชา พระป่าแห่งหนองพง คำสอนยังดำรง ข้ามโลกไม่จางหาย น้ำร้อน น้ำฮ้อน ชี้ถึงความจริงใจ สอนทั้งโลกได้ ด้วยใจอันบริสุทธิ์

    เกิดมาจากดินคืนสู่ดิน แต่ธรรมท่านสิ้น ไม่เคยสูญหาย โยมทุกชาติ ทุกภาษา ไม่ต่างใด เมื่อรู้ใจ จะพบทางเดียวกัน

    ซ้ำ *

    จากบ้านก่อสู่หนองป่าพงใหญ่ สร้างทางธรรมไกลไปทุกแห่งหน สาขาวัด สะพานใจเชื่อมคน ท่านมอบให้พ้นทุกข์ตามคำพุทธองค์

    สามสิบสามปี ลาลับหลวงปู่ชา แต่วัตรยังนำพา ดั่งร่มโพธิ์ป่าใหญ่ คำสอนท่าน คือธงชัยนำใจ ร่มธรรมในใจพุทธศาสนิกชน

    โอ้หลวงปู่ชา ผู้เป็นพระป่าแท้ คำสอนยังแน่วแน่ สืบต่อทุกคืนวัน จากหลวงปู่ชา สู่หัวใจของทุกคน ร่มโพธิ์คงอยู่มั่น ตราบนิรันดร์กาล

    160919 ม.ค. 2568
    ร่มโพธิ์แห่งป่าพง โดย... ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล สามสิบสามปีผ่านพ้นไป เสียงธรรมยังใกล้ดังไม่สิ้น หลวงปู่ชาผู้ทรงศีล ศูนย์รวมจิตศรัทธา จำได้ไหมวันนั้นเมื่อครั้งก่อน หลวงปู่ท่านละร่างไปอย่างสงบ น้ำตาไหล รดผืนดินไม่จบ ใจยังพบธรรมะที่ท่านให้ไว้ * โอ้หลวงปู่ชา พระป่าแห่งหนองพง คำสอนยังดำรง ข้ามโลกไม่จางหาย น้ำร้อน น้ำฮ้อน ชี้ถึงความจริงใจ สอนทั้งโลกได้ ด้วยใจอันบริสุทธิ์ เกิดมาจากดินคืนสู่ดิน แต่ธรรมท่านสิ้น ไม่เคยสูญหาย โยมทุกชาติ ทุกภาษา ไม่ต่างใด เมื่อรู้ใจ จะพบทางเดียวกัน ซ้ำ * จากบ้านก่อสู่หนองป่าพงใหญ่ สร้างทางธรรมไกลไปทุกแห่งหน สาขาวัด สะพานใจเชื่อมคน ท่านมอบให้พ้นทุกข์ตามคำพุทธองค์ สามสิบสามปี ลาลับหลวงปู่ชา แต่วัตรยังนำพา ดั่งร่มโพธิ์ป่าใหญ่ คำสอนท่าน คือธงชัยนำใจ ร่มธรรมในใจพุทธศาสนิกชน โอ้หลวงปู่ชา ผู้เป็นพระป่าแท้ คำสอนยังแน่วแน่ สืบต่อทุกคืนวัน จากหลวงปู่ชา สู่หัวใจของทุกคน ร่มโพธิ์คงอยู่มั่น ตราบนิรันดร์กาล 160919 ม.ค. 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 61 0 รีวิว
  • 33 ปี สิ้น “หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง” พระเถราจารย์แห่งอุบลราชธานี ผู้สร้างวัดสาขาต่างประเทศมากมาย

    ย้อนไปเมื่อ 33 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ และทั่วโลกต้องเศร้าโศก เมื่อหลวงปู่ชา สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พระเถราจารย์ผู้เป็นที่เคารพรัก ทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้ละสังขารอย่างสงบ หลังจากอาพาธ มายาวนาน

    หลวงปู่ชาไม่เพียงเป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณ แต่ยังเป็นบุคคลสำคัญ ที่ช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไปสู่ชาวต่างชาติ ผ่านการปฏิบัติธรรม และการสร้างวัดสาขามากมาย ทั้งในและนอกประเทศไทย แม้ว่าท่านจะพูดได้เพียงภาษาไทย แต่ด้วยคำสอน และวัตรปฏิบัติอันเรียบง่าย กลับสร้างแรงศรัทธา ให้แก่คนทั่วโลก

    วัยเยาว์หลวงปู่
    หลวงปู่ชา สุภัทโท เกิดเมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ตามปฏิทินจันทรคติ ที่บ้านก่อ (เดิมชื่อบ้านก้นถ้วย) อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดามารดาของท่านคือนายมา และนางพิมพ์ ช่วงโชติ หลวงปู่ชาเป็นบุตรคนที่ 5 จากพี่น้องทั้งหมด 10 คน

    เริ่มต้นชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์
    เมื่อหลวงปู่ชามีอายุได้ 13 ปี ท่านได้บรรพชาที่วัดบ้านก่อนอก ร่วมกับเพื่อนๆ หลายคน แต่ไม่นานท่านก็ลาสิกขาออกมา เพื่อช่วยครอบครัว อย่างไรก็ตาม ความเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส ได้ผลักดันให้ท่าน หันกลับมาสู่เส้นทางธรรมอีกครั้ง

    เมื่ออายุครบ 21 ปี หลังทราบว่า ไม่ติดทหารเกณฑ์ หลวงปู่ชาจึงได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 ณ วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ โดยมี พระครูอินทรสารคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้รับฉายาว่า "สุภัทโท" ซึ่งแปลว่า "ผู้เจริญด้วยดี"

    ธุดงค์พบทางธรรม
    หลวงปู่ชาได้ออกเดินธุดงค์ เพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ ผู้มีความรู้ทั้งด้านปริยัติ และปฏิบัติ โดยเดินทางไกล ผ่านหลายจังหวัดของประเทศไทย รวมถึงการไปศึกษาธรรมกับ "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ สายวิปัสสนากรรมฐาน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น

    หลวงปู่ชาเล่าถึงความประทับใจ เมื่อได้พบหลวงปู่มั่นว่า การได้ฟังธรรมะจากท่าน ทำให้จิตใจของหลวงปู่ชา สงบลึกในทันที และทำให้เกิดความมั่นใจ ในแนวทางการปฏิบัติธรรม

    ตั้งวัดหนองป่าพง
    หลังจากธุดงค์ ยาวนานกว่า 8 ปี ในที่สุดหลวงปู่ชา ได้กลับมาที่บ้านเกิด และก่อตั้งวัดหนองป่าพง ขึ้นในปี พ.ศ. 2497 โดยพื้นที่ดั้งเดิมของวัด เป็นป่าอันเงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม หลวงปู่ชาใช้วิถีชีวิตเรียบง่าย และเน้นการปฏิบัติ เพื่อสร้างแบบอย่างให้ศิษย์เห็น

    วัดหนองป่าพง เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่ในหมู่คนไทย แต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาศึกษาธรรม กับหลวงปู่ชา

    เผยแผ่พุทธศาสนาไปต่างประเทศ
    หนึ่งในสิ่งที่น่าทึ่งที่สุด เกี่ยวกับหลวงปู่ชา คือความสามารถ ในการถ่ายทอดธรรมะ ให้แก่ชาวต่างชาติ แม้ว่าท่าน จะไม่ได้พูดภาษาอังกฤษก็ตาม ท่านสอนด้วยการกระทำเป็นหลัก โดยมักกล่าวว่า

    “น้ำร้อนก็มี น้ำฮ้อนก็มี ฮอตวอเตอร์ก็มี มันเป็นแต่ชื่อหรอก ถ้าเอามือจุ่มลงไป ก็ไม่ต้องใช้ภาษาหรอก คนชาติไหนก็รู้ได้เอง”

    วัดหนองป่าพง และวัดสาขาของหลวงปู่ชา กลายเป็นจุดหมายของชาวต่างชาติ ที่สนใจปฏิบัติธรรม ปัจจุบันวัดหนองป่าพง มีวัดสาขาทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศรวมกว่า 141 แห่ง โดยแบ่งเป็น 133 สาขา ในประเทศไทย และ 8 สาขา ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และสวิตเซอร์แลนด์

    คำสอนเรียบง่ายลึกซึ้ง
    คำสอนของหลวงปู่ชา เน้นไปที่การปฏิบัติจริง ในชีวิตประจำวัน ท่านสอนให้ศิษย์รักษาศีล เจริญสมาธิ และใช้ปัญญาแก้ไขปัญหาในชีวิต โดยหลวงปู่ชาเคยกล่าวไว้ว่า

    “พึงทำตน ให้ตั้งอยู่ในคุณธรรม อันสมควรเสียก่อน จึงค่อยสอนผู้อื่นทีหลัง จึงจักไม่เป็นบัณฑิตทราม”

    ท่านยังเน้นย้ำว่า การปฏิบัติธรรมจะสำเร็จได้ ต้องเริ่มจากการรักษาศีล เพราะศีลจะนำไปสู่สมาธิ และสมาธิจะนำไปสู่ปัญญา ซึ่งทั้งสามส่วนนี้ ต้องเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน

    บั้นปลายชีวิต
    ในปี พ.ศ. 2520 หลวงปู่ชาเริ่มอาพาธ และแม้ว่าท่าน จะมีอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ แต่ท่านก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ และเผยแผ่ธรรมะจนถึงที่สุด

    หลวงปู่ชาได้ละสังขารเมื่อ วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เวลา 05.20 น. ณ วัดหนองป่าพง โดยทิ้งมรดกทางธรรม และวัตรปฏิบัติอันเรียบง่าย ให้แก่ศิษยานุศิษย์ทั่วโลก

    33 ปี หลังการละสังขารของหลวงปู่ชา คำสอนและวัตรปฏิบัติของท่าน ยังคงมีชีวิตอยู่ในใจ ของศิษยานุศิษย์ และผู้ปฏิบัติธรรมทั่วโลก วัดหนองป่าพง ยังคงเป็นศูนย์กลาง ของพระพุทธศาสนา และแหล่งเผยแผ่ธรรมะ ที่ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่ขยายไปสู่ชาวต่างชาติ

    หลวงปู่ชาเป็นตัวอย่าง ของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ผู้ใช้ชีวิตเรียบง่าย และยึดมั่นในคำสอน ของพระพุทธเจ้า อย่างแท้จริง

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161017 ม.ค. 2568

    #หลวงปู่ชา #วัดหนองป่าพง #ธรรมะ #พระป่ากรรมฐาน #ปฏิบัติธรรม #ศาสนาพุทธ #คำสอนหลวงปู่ชา #พระพุทธศาสนา #ธรรมะอินเตอร์ #วัดสาขาต่างประเทศ
    33 ปี สิ้น “หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง” พระเถราจารย์แห่งอุบลราชธานี ผู้สร้างวัดสาขาต่างประเทศมากมาย ย้อนไปเมื่อ 33 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ และทั่วโลกต้องเศร้าโศก เมื่อหลวงปู่ชา สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พระเถราจารย์ผู้เป็นที่เคารพรัก ทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้ละสังขารอย่างสงบ หลังจากอาพาธ มายาวนาน หลวงปู่ชาไม่เพียงเป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณ แต่ยังเป็นบุคคลสำคัญ ที่ช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไปสู่ชาวต่างชาติ ผ่านการปฏิบัติธรรม และการสร้างวัดสาขามากมาย ทั้งในและนอกประเทศไทย แม้ว่าท่านจะพูดได้เพียงภาษาไทย แต่ด้วยคำสอน และวัตรปฏิบัติอันเรียบง่าย กลับสร้างแรงศรัทธา ให้แก่คนทั่วโลก วัยเยาว์หลวงปู่ หลวงปู่ชา สุภัทโท เกิดเมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ตามปฏิทินจันทรคติ ที่บ้านก่อ (เดิมชื่อบ้านก้นถ้วย) อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดามารดาของท่านคือนายมา และนางพิมพ์ ช่วงโชติ หลวงปู่ชาเป็นบุตรคนที่ 5 จากพี่น้องทั้งหมด 10 คน เริ่มต้นชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ เมื่อหลวงปู่ชามีอายุได้ 13 ปี ท่านได้บรรพชาที่วัดบ้านก่อนอก ร่วมกับเพื่อนๆ หลายคน แต่ไม่นานท่านก็ลาสิกขาออกมา เพื่อช่วยครอบครัว อย่างไรก็ตาม ความเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส ได้ผลักดันให้ท่าน หันกลับมาสู่เส้นทางธรรมอีกครั้ง เมื่ออายุครบ 21 ปี หลังทราบว่า ไม่ติดทหารเกณฑ์ หลวงปู่ชาจึงได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 ณ วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ โดยมี พระครูอินทรสารคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้รับฉายาว่า "สุภัทโท" ซึ่งแปลว่า "ผู้เจริญด้วยดี" ธุดงค์พบทางธรรม หลวงปู่ชาได้ออกเดินธุดงค์ เพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ ผู้มีความรู้ทั้งด้านปริยัติ และปฏิบัติ โดยเดินทางไกล ผ่านหลายจังหวัดของประเทศไทย รวมถึงการไปศึกษาธรรมกับ "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ สายวิปัสสนากรรมฐาน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น หลวงปู่ชาเล่าถึงความประทับใจ เมื่อได้พบหลวงปู่มั่นว่า การได้ฟังธรรมะจากท่าน ทำให้จิตใจของหลวงปู่ชา สงบลึกในทันที และทำให้เกิดความมั่นใจ ในแนวทางการปฏิบัติธรรม ตั้งวัดหนองป่าพง หลังจากธุดงค์ ยาวนานกว่า 8 ปี ในที่สุดหลวงปู่ชา ได้กลับมาที่บ้านเกิด และก่อตั้งวัดหนองป่าพง ขึ้นในปี พ.ศ. 2497 โดยพื้นที่ดั้งเดิมของวัด เป็นป่าอันเงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม หลวงปู่ชาใช้วิถีชีวิตเรียบง่าย และเน้นการปฏิบัติ เพื่อสร้างแบบอย่างให้ศิษย์เห็น วัดหนองป่าพง เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่ในหมู่คนไทย แต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาศึกษาธรรม กับหลวงปู่ชา เผยแผ่พุทธศาสนาไปต่างประเทศ หนึ่งในสิ่งที่น่าทึ่งที่สุด เกี่ยวกับหลวงปู่ชา คือความสามารถ ในการถ่ายทอดธรรมะ ให้แก่ชาวต่างชาติ แม้ว่าท่าน จะไม่ได้พูดภาษาอังกฤษก็ตาม ท่านสอนด้วยการกระทำเป็นหลัก โดยมักกล่าวว่า “น้ำร้อนก็มี น้ำฮ้อนก็มี ฮอตวอเตอร์ก็มี มันเป็นแต่ชื่อหรอก ถ้าเอามือจุ่มลงไป ก็ไม่ต้องใช้ภาษาหรอก คนชาติไหนก็รู้ได้เอง” วัดหนองป่าพง และวัดสาขาของหลวงปู่ชา กลายเป็นจุดหมายของชาวต่างชาติ ที่สนใจปฏิบัติธรรม ปัจจุบันวัดหนองป่าพง มีวัดสาขาทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศรวมกว่า 141 แห่ง โดยแบ่งเป็น 133 สาขา ในประเทศไทย และ 8 สาขา ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และสวิตเซอร์แลนด์ คำสอนเรียบง่ายลึกซึ้ง คำสอนของหลวงปู่ชา เน้นไปที่การปฏิบัติจริง ในชีวิตประจำวัน ท่านสอนให้ศิษย์รักษาศีล เจริญสมาธิ และใช้ปัญญาแก้ไขปัญหาในชีวิต โดยหลวงปู่ชาเคยกล่าวไว้ว่า “พึงทำตน ให้ตั้งอยู่ในคุณธรรม อันสมควรเสียก่อน จึงค่อยสอนผู้อื่นทีหลัง จึงจักไม่เป็นบัณฑิตทราม” ท่านยังเน้นย้ำว่า การปฏิบัติธรรมจะสำเร็จได้ ต้องเริ่มจากการรักษาศีล เพราะศีลจะนำไปสู่สมาธิ และสมาธิจะนำไปสู่ปัญญา ซึ่งทั้งสามส่วนนี้ ต้องเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน บั้นปลายชีวิต ในปี พ.ศ. 2520 หลวงปู่ชาเริ่มอาพาธ และแม้ว่าท่าน จะมีอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ แต่ท่านก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ และเผยแผ่ธรรมะจนถึงที่สุด หลวงปู่ชาได้ละสังขารเมื่อ วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เวลา 05.20 น. ณ วัดหนองป่าพง โดยทิ้งมรดกทางธรรม และวัตรปฏิบัติอันเรียบง่าย ให้แก่ศิษยานุศิษย์ทั่วโลก 33 ปี หลังการละสังขารของหลวงปู่ชา คำสอนและวัตรปฏิบัติของท่าน ยังคงมีชีวิตอยู่ในใจ ของศิษยานุศิษย์ และผู้ปฏิบัติธรรมทั่วโลก วัดหนองป่าพง ยังคงเป็นศูนย์กลาง ของพระพุทธศาสนา และแหล่งเผยแผ่ธรรมะ ที่ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่ขยายไปสู่ชาวต่างชาติ หลวงปู่ชาเป็นตัวอย่าง ของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ผู้ใช้ชีวิตเรียบง่าย และยึดมั่นในคำสอน ของพระพุทธเจ้า อย่างแท้จริง ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161017 ม.ค. 2568 #หลวงปู่ชา #วัดหนองป่าพง #ธรรมะ #พระป่ากรรมฐาน #ปฏิบัติธรรม #ศาสนาพุทธ #คำสอนหลวงปู่ชา #พระพุทธศาสนา #ธรรมะอินเตอร์ #วัดสาขาต่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว
  • Dice เว็บไซต์หางานที่เน้นไปที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรม เผยว่า ผู้เชี่ยวชาญและผู้จัดการที่ทำงานกับโซลูชันปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก และยังมีความพึงพอใจในงานมากขึ้นด้วย การสำรวจนี้จัดทำขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงปี 2024 โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี 2,835 คนเข้าร่วม

    เนื้อหาหลักจะประกอบด้วย:
    1) การเพิ่มขึ้นของเงินเดือน: ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมีรายได้เฉลี่ย 112,521 ดอลลาร์ต่อปี โดยผู้บริหารและผู้จัดการด้านไอทีมีรายได้สูงสุดเกือบ 170,000 ดอลลาร์ต่อปี ทักษะที่มีการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนมากที่สุดในปีที่ผ่านมา ได้แก่ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และทักษะที่เกี่ยวข้องกับ Amazon และ AWS

    2) เปลี่ยนงานเพื่อเพิ่มเงินเดือน: การเปลี่ยนงานบ่อยเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อศักยภาพในการหารายได้ การเปลี่ยนงานอย่างมีกลยุทธ์อาจเป็นรูปแบบที่ดีที่สุดสำหรับการเติบโตของเงินเดือน

    3) ความพึงพอใจในงาน: ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับโครงการ AI มีความพึงพอใจในงานสูงกว่าคู่แข่ง แม้จะควบคุมระดับเงินเดือนแล้วก็ตาม การมีส่วนร่วมในงาน AI อาจให้ประโยชน์ที่ไม่ใช่แค่เงินเดือน

    4) โอกาสที่เพิ่มขึ้น: ผู้ตอบแบบสอบถามหญิงที่เป็นผู้บุกเบิกในสาขาที่มีผู้ชายเป็นส่วนใหญ่กล่าวว่า โอกาสและวัฒนธรรมในที่ทำงานเปิดกว้างมากขึ้น

    https://www.zdnet.com/home-and-office/work-life/these-tech-skills-drove-the-biggest-salary-increases-over-the-past-year/
    Dice เว็บไซต์หางานที่เน้นไปที่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรม เผยว่า ผู้เชี่ยวชาญและผู้จัดการที่ทำงานกับโซลูชันปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก และยังมีความพึงพอใจในงานมากขึ้นด้วย การสำรวจนี้จัดทำขึ้นในฤดูใบไม้ร่วงปี 2024 โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี 2,835 คนเข้าร่วม เนื้อหาหลักจะประกอบด้วย: 1) การเพิ่มขึ้นของเงินเดือน: ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมีรายได้เฉลี่ย 112,521 ดอลลาร์ต่อปี โดยผู้บริหารและผู้จัดการด้านไอทีมีรายได้สูงสุดเกือบ 170,000 ดอลลาร์ต่อปี ทักษะที่มีการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนมากที่สุดในปีที่ผ่านมา ได้แก่ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และทักษะที่เกี่ยวข้องกับ Amazon และ AWS 2) เปลี่ยนงานเพื่อเพิ่มเงินเดือน: การเปลี่ยนงานบ่อยเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อศักยภาพในการหารายได้ การเปลี่ยนงานอย่างมีกลยุทธ์อาจเป็นรูปแบบที่ดีที่สุดสำหรับการเติบโตของเงินเดือน 3) ความพึงพอใจในงาน: ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับโครงการ AI มีความพึงพอใจในงานสูงกว่าคู่แข่ง แม้จะควบคุมระดับเงินเดือนแล้วก็ตาม การมีส่วนร่วมในงาน AI อาจให้ประโยชน์ที่ไม่ใช่แค่เงินเดือน 4) โอกาสที่เพิ่มขึ้น: ผู้ตอบแบบสอบถามหญิงที่เป็นผู้บุกเบิกในสาขาที่มีผู้ชายเป็นส่วนใหญ่กล่าวว่า โอกาสและวัฒนธรรมในที่ทำงานเปิดกว้างมากขึ้น https://www.zdnet.com/home-and-office/work-life/these-tech-skills-drove-the-biggest-salary-increases-over-the-past-year/
    WWW.ZDNET.COM
    These tech skills drove the biggest salary increases over the past year
    A new tech salaries report suggests that working with AI boosts both pay and satisfaction - but it also cautions that excessive job hopping can work against you.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ตั้งใจเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาคดีอิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์??"

    นาวาฟ ซาลาม ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ได้รับการโหวตให้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลบานอน โดยที่ทำเนียบประธานาธิบดีกล่าวว่า ซาลามจะเดินทางกลับเลบานอนในวันอังคารนี้เลย

    นาวาฟ ซาลาม (Nawaf Salam) ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในกรุงเฮก ซึ่งกำลังพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ในข้อกล่าวหาว่าอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ได้รับคะแนนโหวตในรัฐสภาเลบานอนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ 53 ของเลบานอน

    สมาชิกรัฐสภา 128 คน ลงคะแนนเลือก
    - นาวาฟ ซาลาม 85 เสียง
    - ขณะที่ นาจิบ มิคาติ นายกรัฐมนตรีคนเดิมได้รับความไว้วางใจเพียง 9 เสียง
    - ส่วนที่เหลืออีก 34 เสียง งดออกเสียง

    ซาลาม ว่าที่นายกรัฐมนตรีซึ่งมีสมาชิกครอบครัวในสาย "ซุนนี" สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sciences Po ในฝรั่งเศส ปริญญาเอกสาขาประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sorbonne และปริญญาโทสาขานิติศาสตร์จากโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด

    ซาลามทำงานเป็นทนายความและอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งก่อนที่จะดำรงตำแหน่งผู้แทนถาวรของเลบานอนประจำสหประชาชาติในนิวยอร์กตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2017

    เขาเข้าเป็นสมาชิกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของสหประชาชาติ ในปี 2018 และได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเป็นเวลา 3 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ในขณะที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ซึ่งกล่าวหาว่ากองกำลังอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
    "ตั้งใจเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาคดีอิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์??" นาวาฟ ซาลาม ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ได้รับการโหวตให้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลบานอน โดยที่ทำเนียบประธานาธิบดีกล่าวว่า ซาลามจะเดินทางกลับเลบานอนในวันอังคารนี้เลย นาวาฟ ซาลาม (Nawaf Salam) ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในกรุงเฮก ซึ่งกำลังพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ในข้อกล่าวหาว่าอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ได้รับคะแนนโหวตในรัฐสภาเลบานอนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ 53 ของเลบานอน สมาชิกรัฐสภา 128 คน ลงคะแนนเลือก - นาวาฟ ซาลาม 85 เสียง - ขณะที่ นาจิบ มิคาติ นายกรัฐมนตรีคนเดิมได้รับความไว้วางใจเพียง 9 เสียง - ส่วนที่เหลืออีก 34 เสียง งดออกเสียง ซาลาม ว่าที่นายกรัฐมนตรีซึ่งมีสมาชิกครอบครัวในสาย "ซุนนี" สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sciences Po ในฝรั่งเศส ปริญญาเอกสาขาประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sorbonne และปริญญาโทสาขานิติศาสตร์จากโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด ซาลามทำงานเป็นทนายความและอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งก่อนที่จะดำรงตำแหน่งผู้แทนถาวรของเลบานอนประจำสหประชาชาติในนิวยอร์กตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2017 เขาเข้าเป็นสมาชิกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของสหประชาชาติ ในปี 2018 และได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเป็นเวลา 3 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ในขณะที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ซึ่งกล่าวหาว่ากองกำลังอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10/1/68

    ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

    08มกราคม2568ข่าวประชาสัมพันธ์

    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงได้รับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์

    2025 0108 HG

    การพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์_NN_1
    ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์และอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ นายธาร์มัน ชานมูการัตนัม (ขวา) ทรงพระราชทานปริญญาอักษรศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ซ้าย) แห่งราชอาณาจักรไทย

    วันนี้ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) ทรงพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ สาขาวิชาอักษรศาสตร์ แก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อเป็นการยกย่องคุณูปการอันยอดเยี่ยมของพระองค์ในประเทศไทยและในระดับนานาชาติ ซึ่งส่งผลดีต่อชีวิตของผู้คนจำนวนมากและนำมาซึ่งประโยชน์อย่างสำคัญต่อประเทศไทยและชุมชนโลก

    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังความคิดริเริ่มต่างๆ มากมายในการนำพาประชาชนของสิงคโปร์และประเทศไทย โดยเฉพาะเยาวชนของเราให้มารวมกัน
    ปริญญากิตติมศักดิ์ถือเป็นเกียรติคุณสูงสุดของมหาวิทยาลัยสำหรับบุคคลที่โดดเด่นซึ่งอุทิศตนเพื่อสังคมและสร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก พิธีมอบปริญญากิตติมศักดิ์จัดขึ้นที่ Istana ในช่วงบ่ายของวันนี้ โดยมีนาย Tharman Shanmugaratnam ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์และอธิการบดีมหาวิทยาลัย NUS เป็นประธาน

    08January2025Press Releases

    Princess Maha Chakri Sirindhorn of Thailand awarded NUS Honorary Degree

    2025 0108 HG

    Conferment_NN_1
    President of the Republic of Singapore and NUS Chancellor Mr Tharman Shanmugaratnam (right) conferring the Honorary Doctor of Letters on Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn (left) of the Kingdom of Thailand.

    The National University of Singapore (NUS) today conferred the Honorary Degree of Doctor of Letters on Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn of the Kingdom of Thailand, in recognition of her remarkable contributions within Thailand and internationally, which have positively impacted the lives of many and brought significant benefits to Thailand and the global community.

    Princess Sirindhorn was the driving force behind several initiatives to bring the people of Singapore and Thailand, in particular our youths, together.

    The Honorary Degree is the University’s highest form of recognition for outstanding individuals who have rendered distinguished service and made significant impact, both locally and globally. A conferment ceremony, presided over by Mr Tharman Shanmugaratnam, President of the Republic of Singapore and NUS Chancellor, was held at the Istana this afternoon.
    10/1/68 ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 08มกราคม2568ข่าวประชาสัมพันธ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงได้รับพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ 2025 0108 HG การพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์_NN_1 ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์และอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ นายธาร์มัน ชานมูการัตนัม (ขวา) ทรงพระราชทานปริญญาอักษรศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ซ้าย) แห่งราชอาณาจักรไทย วันนี้ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) ทรงพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ สาขาวิชาอักษรศาสตร์ แก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อเป็นการยกย่องคุณูปการอันยอดเยี่ยมของพระองค์ในประเทศไทยและในระดับนานาชาติ ซึ่งส่งผลดีต่อชีวิตของผู้คนจำนวนมากและนำมาซึ่งประโยชน์อย่างสำคัญต่อประเทศไทยและชุมชนโลก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงเป็นแรงผลักดันเบื้องหลังความคิดริเริ่มต่างๆ มากมายในการนำพาประชาชนของสิงคโปร์และประเทศไทย โดยเฉพาะเยาวชนของเราให้มารวมกัน ปริญญากิตติมศักดิ์ถือเป็นเกียรติคุณสูงสุดของมหาวิทยาลัยสำหรับบุคคลที่โดดเด่นซึ่งอุทิศตนเพื่อสังคมและสร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับโลก พิธีมอบปริญญากิตติมศักดิ์จัดขึ้นที่ Istana ในช่วงบ่ายของวันนี้ โดยมีนาย Tharman Shanmugaratnam ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์และอธิการบดีมหาวิทยาลัย NUS เป็นประธาน 08January2025Press Releases Princess Maha Chakri Sirindhorn of Thailand awarded NUS Honorary Degree 2025 0108 HG Conferment_NN_1 President of the Republic of Singapore and NUS Chancellor Mr Tharman Shanmugaratnam (right) conferring the Honorary Doctor of Letters on Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn (left) of the Kingdom of Thailand. The National University of Singapore (NUS) today conferred the Honorary Degree of Doctor of Letters on Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn of the Kingdom of Thailand, in recognition of her remarkable contributions within Thailand and internationally, which have positively impacted the lives of many and brought significant benefits to Thailand and the global community. Princess Sirindhorn was the driving force behind several initiatives to bring the people of Singapore and Thailand, in particular our youths, together. The Honorary Degree is the University’s highest form of recognition for outstanding individuals who have rendered distinguished service and made significant impact, both locally and globally. A conferment ceremony, presided over by Mr Tharman Shanmugaratnam, President of the Republic of Singapore and NUS Chancellor, was held at the Istana this afternoon.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวยอย่างชินวัตร Episode 3 : ‘รวยจนชาติบ้านเมืองชิบหาย’9 ม.ค.2568 - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความ รวยอย่างชินวัตร Episode 3 : “รวยจนชาติบ้านเมืองชิบหาย” มีรายละเอียดดังนี้“คอรัปชั่น”ใน “ระบอบทักษิณ” ถาม ระบอบทักษิณเกิดและเติบโตได้อย่างไรตอบ ระบอบนี้มีทุนพื้นฐาน ๔ ประการรองรับครบถ้วน ทั้งเงินลงทุน, อำนาจในระบบ, สื่อและปัญญชนชวนเชื่อ และสาวกบริวาร ทุนทั้งสี่จะมีพลวัตสร้างเสริมกันตลอดเวลาใช้เงินสร้างอำนาจ สร้างสื่อ สร้างพวก แล้วเอาอำนาจไปสร้างเงิน สร้างพวก สร้างสื่ออีกที ด้วยพลวัตอย่างนี้นี่เองที่ทำให้ระบอบนี้เติบโตได้ด้วยตนเองไปตลอดถาม ใช้เวลาไม่นานเลยนะครับตอบ คุณเห็นไหมว่าพอเข้าสมัยที่สอง ระบอบทักษิณก็ยึดสภาได้เด็ดขาด คนพลังธรรมและความหวังใหม่สลายตัวมาเข้าด้วยหมด ส่วนบ้านใหญ่ตามต่างจังหวัดก็สยบเข้าร่วมเปิดสาขา รับสินค้าประชานิยมไทยรักไทยมาขายให้ชาวบ้านทุกหัวระแหง ราวกับเปิด 7-11 พรึบทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ถาม ในระบอบอย่างนี้ ไม่มีคอรัปชั่นได้ไหม ?ตอบ ไม่ได้ครับระบอบนี้เกิดและเติบโตจากความเห็นแก่ตัวที่ไม่มีคำว่า“ประโยชน์ส่วนรวม”อยู่เลย สำหรับสาวกที่รอบริโภคนั้น ก็มีสินค้าประชานิยมมาตอบแทนคะแนนเลือกตั้ง ทั้งข้าวทุกเมล็ดเกวียนละสามหมื่น รถคันแรก ค่าจ้างขั้นต่ำ เงินแจกดิจิตอล เงินเดือนปริญญาตรี รักษาฟรีทุกแห่งทุกโรคทุกคนแม้แต่มะเร็ง ทั้งหมดนี้เราจะแจกจนมีเกียรติ -มีศักดิ์ศรี ทุกคนนะคร้าา....ถาม ที่แจกเป็นพื้นที่ เฉพาะพื้นที่ มีไหมครับตอบ มีครับ อย่างหอประชุมนานาชาตินั้น ภูเก็ตไม่เลือกเรา เราก็ไม่ให้ เราไปให้เชียงใหม่ หรือที่เป็นโครงการระดับหมู่บ้านหรือตำบล ก็มีเงินจากกองสลาก ไหลผ่านมือ สส.กับหัวคะแนน ลงไปช่วยเหลืออุ้มชูฐานเสียงไม่มีขาดสาย เงินท่อนี้ถือเป็นPocket money ทางการเมือง ที่ทำให้ระบอบทักษิณเกิดขึ้นมาอย่างทรงพลังมากๆถาม เขาสร้างท่อนี้ขึ้นมาอย่างไรตอบ หวยสามตัวสมัยทักษิณนั้น พอผลสลากใกล้จะออก จะมีการอ้างว่าไม่พอขายแล้วสั่งพิมพ์เพิ่มล้อตใหญ่ทุกครั้งไป ทำทุกงวดนานเป็นปีๆเลยนะครับ สลากมืดถาดนี้ เป็นที่มาของเงินมืดที่ใช้จ่ายกันได้สะดวก โดยไม่ปรากฏในระบบตรวจเงินแผ่นดินเลยถาม แล้วตัว สส.กับหัวคะแนน มีเงินอุดหนุนจากพรรคไหมตอบ มีแน่นอนทุกเดือนครับ ยุคแพทองธาร ๑ นี่ ข่าวยืนยันว่าอัดฉีดรายเดือนกันเป็นล้านแล้ว ส่วนที่หัวหน้าซุ้มต้องหามาให้ลูกซุ้มก็มีอีกส่วนหนึ่ง แต่เงินซุ้มนี้หัวหน้าหามาได้เมื่อไหร่ก็ต้องแบ่งส่งพรรคหลักด้วยเสมอ สำหรับกระทรวงที่ “นาย”สร้างโครงการขึ้นมาชงเองกินเองก็มีเช่นกันถาม สรุปแล้วในระบอบนี้ ทุกชีวิตก็ร่วมกันคอรัปชั่นหมด ทั้งชาวบ้านที่เสพติดประชานิยมสส.กับหัวคะแนน และรัฐมนตรี พวกเขาต่างก็ร่วมทุนกันทำมาหากินจากส่วนรวม ถือสิทธิเลือกตั้งและอำนาจหน้าที่เป็นสินทรัพย์แล้วแปรเป็นทุนด้วยตัวระบอบทั้งสิ้น ตอบ เป็นเช่นนั้น.. ในภาพรวมอย่างนี้ เราจะไปมองว่าทักษิณโกงคนเดียวไม่ได้ พวกเขาวินวิน ร่วมมือกันจนได้กินกันหมดทุกคน เปรียบเหมือนซ่องโสเภณี ที่มีรายได้อ้วนท้วนกันทุกฝ่าย ทั้งเจ้าของซ่อง แมงดาการเมืองที่เกาะกิน และตัวโสเภณีด้วย ”รวยจนสิ้นชาติบ้านเมือง” ถาม ที่ผ่านมามีคอรัปชั่นอะไรไปบ้างแล้วครับตอบ ที่ฉาวโฉ่ อุกอาจ ก็มีหลายโครงการ ชิบหายรวมเป็นแสนล้านเลย คือ- ซื้อรถเรือดับเพลิงใช้การไม่ได้กว่า ๑๐๐ ล้านด้วย จีทูจี จอมปลอม รัฐมนตรีหนีคดี- ซื้อเครื่องบินแพงและไม่จำเป็นจนการบินไทยเสียหายหลายหมื่นล้าน- สร้างระบบสายพานขนสัมภาระในสนามบินแพงเกินจริง ทางการสหรัฐรายงานว่าเลขาพรรครัฐบาลเรียกเงินเป็นพันล้าน- สร้างรถไฟเชื่อมสนามบินด้วยสัญญาเหมาเบ็ดเสร็จ ทั้งออกแบบก่อสร้างและหาแหล่งเงินทุน พบเงินปากถุงกินเปล่าก้อนใหญ่ ไปไหนไม่ทราบ รัฐมนตรีคมนาคมคุมเปิดซองด้วยตนเอง- แจกกล้ายางที่ใช้การไม่ได้ ซื้อมาแล้วขายให้รัฐโดยพอกราคารวยเละ- สร้างและขายบ้านเอื้ออาทร ด้วยสัญญาโควต้าเหมาจ่ายทั้งโครงการราคาตายตัว จ้างให้ทำทั้งหาที่ดิน-หาผู้จองก่อสร้าง แล้วจบลงเป็นบ้านร้างสร้างไม่เสร็จ หรือเป็นบ้านผีสิงไม่มีผู้จองซื้อจริงทั่วไปหมด ครั้นตรวจกระแสเงินขายโควต้า ก็พบเงิน ๑๔๐๐ ล้าน เข้าเสี่ยเปี๋ยงคนที่รับงานเจรจา เป็นลูกน้องเจ๊ใหญ่ ติดคุกด้วย- รับจำนำข้าวเกินราคาตลาด จบเป็นข้าวเน่า ค้างโกดังรัฐเสียหายเป็นแสนล้าน เสี่ยเปี๋ยง ก็โผล่มาจนติดคุกอีก ตัวนายกฯหนีคดีตามเคย- เงินกู้ธนาคารกรุงไทย คดีนี้นายสั่งให้คณะกรรมการให้บริษัทอสังหาฯกู้เงินหลายพันล้าน เอาที่ดินมาพัฒนาเป็นโครงการจอมปลอม ธนาคารเสียหายเป็นพันล้าน ตามรอยเงินพบเข้าลูกและลูกน้องชินวัตร กว่า ๑๐๐ ล้าน งานนี้ติดคุกรวดถาม วันนี้ วันหน้า ถ้า “ระบอบทักษิณ” ฟื้นขึ้นมาอีก ประเทศก็ชิบหายอีกสิครับตอบ เขาฟื้นอยู่แล้ว ขณะนี้กำลังเดินหน้าปราศัยหาเสียงไปทั่วประเทศ ดำริจะออกสลากเพิ่มพร้อมโครงการหนึ่งทุนหนึ่งตำบลอีก งบประมาณปีนี้ทำขาดดุลเพื่อเทงบมาแจกชาวบ้านแล้วก็ยังไม่พอ ต้องแปรญัตติเบี้ยวไม่จ่ายหนี้เงินกู้ให้ธนาคาร แล้วตัดลดเงินต่อหัวในโครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรคลงอีก หน้ามืดจะแจกเงินให้ได้อย่างนี้ อนาคตธนาคารไทยโรงพยาบาลไทยซวยแน่ๆ ถาม ถ้าทรัมป์ลุยจีน ยิวลุยอิหร่าน รัสเซียลุยเคียฟถล่มจรวดลงโปแลนด์ จนเศรษฐกิจโลกยับเยิน ซ้ำเติมสุขภาพเศรษฐกิจไทยที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว จนเงินบาทลดค่า สินค้าส่งไม่ออก เงินคงคลังก็หมด อะไรจะเกิดขึ้นตอบ วิกฤตขนาดต้องดุลย์ข้าราชการหรือลูกจ้างจนตกงานกันทั้งประเทศนี่ ระวังฮุนเซ็นโมเดลไว้ให้ดีก็แล้วกันครับ
    รวยอย่างชินวัตร Episode 3 : ‘รวยจนชาติบ้านเมืองชิบหาย’9 ม.ค.2568 - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความ รวยอย่างชินวัตร Episode 3 : “รวยจนชาติบ้านเมืองชิบหาย” มีรายละเอียดดังนี้“คอรัปชั่น”ใน “ระบอบทักษิณ” ถาม ระบอบทักษิณเกิดและเติบโตได้อย่างไรตอบ ระบอบนี้มีทุนพื้นฐาน ๔ ประการรองรับครบถ้วน ทั้งเงินลงทุน, อำนาจในระบบ, สื่อและปัญญชนชวนเชื่อ และสาวกบริวาร ทุนทั้งสี่จะมีพลวัตสร้างเสริมกันตลอดเวลาใช้เงินสร้างอำนาจ สร้างสื่อ สร้างพวก แล้วเอาอำนาจไปสร้างเงิน สร้างพวก สร้างสื่ออีกที ด้วยพลวัตอย่างนี้นี่เองที่ทำให้ระบอบนี้เติบโตได้ด้วยตนเองไปตลอดถาม ใช้เวลาไม่นานเลยนะครับตอบ คุณเห็นไหมว่าพอเข้าสมัยที่สอง ระบอบทักษิณก็ยึดสภาได้เด็ดขาด คนพลังธรรมและความหวังใหม่สลายตัวมาเข้าด้วยหมด ส่วนบ้านใหญ่ตามต่างจังหวัดก็สยบเข้าร่วมเปิดสาขา รับสินค้าประชานิยมไทยรักไทยมาขายให้ชาวบ้านทุกหัวระแหง ราวกับเปิด 7-11 พรึบทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ถาม ในระบอบอย่างนี้ ไม่มีคอรัปชั่นได้ไหม ?ตอบ ไม่ได้ครับระบอบนี้เกิดและเติบโตจากความเห็นแก่ตัวที่ไม่มีคำว่า“ประโยชน์ส่วนรวม”อยู่เลย สำหรับสาวกที่รอบริโภคนั้น ก็มีสินค้าประชานิยมมาตอบแทนคะแนนเลือกตั้ง ทั้งข้าวทุกเมล็ดเกวียนละสามหมื่น รถคันแรก ค่าจ้างขั้นต่ำ เงินแจกดิจิตอล เงินเดือนปริญญาตรี รักษาฟรีทุกแห่งทุกโรคทุกคนแม้แต่มะเร็ง ทั้งหมดนี้เราจะแจกจนมีเกียรติ -มีศักดิ์ศรี ทุกคนนะคร้าา....ถาม ที่แจกเป็นพื้นที่ เฉพาะพื้นที่ มีไหมครับตอบ มีครับ อย่างหอประชุมนานาชาตินั้น ภูเก็ตไม่เลือกเรา เราก็ไม่ให้ เราไปให้เชียงใหม่ หรือที่เป็นโครงการระดับหมู่บ้านหรือตำบล ก็มีเงินจากกองสลาก ไหลผ่านมือ สส.กับหัวคะแนน ลงไปช่วยเหลืออุ้มชูฐานเสียงไม่มีขาดสาย เงินท่อนี้ถือเป็นPocket money ทางการเมือง ที่ทำให้ระบอบทักษิณเกิดขึ้นมาอย่างทรงพลังมากๆถาม เขาสร้างท่อนี้ขึ้นมาอย่างไรตอบ หวยสามตัวสมัยทักษิณนั้น พอผลสลากใกล้จะออก จะมีการอ้างว่าไม่พอขายแล้วสั่งพิมพ์เพิ่มล้อตใหญ่ทุกครั้งไป ทำทุกงวดนานเป็นปีๆเลยนะครับ สลากมืดถาดนี้ เป็นที่มาของเงินมืดที่ใช้จ่ายกันได้สะดวก โดยไม่ปรากฏในระบบตรวจเงินแผ่นดินเลยถาม แล้วตัว สส.กับหัวคะแนน มีเงินอุดหนุนจากพรรคไหมตอบ มีแน่นอนทุกเดือนครับ ยุคแพทองธาร ๑ นี่ ข่าวยืนยันว่าอัดฉีดรายเดือนกันเป็นล้านแล้ว ส่วนที่หัวหน้าซุ้มต้องหามาให้ลูกซุ้มก็มีอีกส่วนหนึ่ง แต่เงินซุ้มนี้หัวหน้าหามาได้เมื่อไหร่ก็ต้องแบ่งส่งพรรคหลักด้วยเสมอ สำหรับกระทรวงที่ “นาย”สร้างโครงการขึ้นมาชงเองกินเองก็มีเช่นกันถาม สรุปแล้วในระบอบนี้ ทุกชีวิตก็ร่วมกันคอรัปชั่นหมด ทั้งชาวบ้านที่เสพติดประชานิยมสส.กับหัวคะแนน และรัฐมนตรี พวกเขาต่างก็ร่วมทุนกันทำมาหากินจากส่วนรวม ถือสิทธิเลือกตั้งและอำนาจหน้าที่เป็นสินทรัพย์แล้วแปรเป็นทุนด้วยตัวระบอบทั้งสิ้น ตอบ เป็นเช่นนั้น.. ในภาพรวมอย่างนี้ เราจะไปมองว่าทักษิณโกงคนเดียวไม่ได้ พวกเขาวินวิน ร่วมมือกันจนได้กินกันหมดทุกคน เปรียบเหมือนซ่องโสเภณี ที่มีรายได้อ้วนท้วนกันทุกฝ่าย ทั้งเจ้าของซ่อง แมงดาการเมืองที่เกาะกิน และตัวโสเภณีด้วย ”รวยจนสิ้นชาติบ้านเมือง” ถาม ที่ผ่านมามีคอรัปชั่นอะไรไปบ้างแล้วครับตอบ ที่ฉาวโฉ่ อุกอาจ ก็มีหลายโครงการ ชิบหายรวมเป็นแสนล้านเลย คือ- ซื้อรถเรือดับเพลิงใช้การไม่ได้กว่า ๑๐๐ ล้านด้วย จีทูจี จอมปลอม รัฐมนตรีหนีคดี- ซื้อเครื่องบินแพงและไม่จำเป็นจนการบินไทยเสียหายหลายหมื่นล้าน- สร้างระบบสายพานขนสัมภาระในสนามบินแพงเกินจริง ทางการสหรัฐรายงานว่าเลขาพรรครัฐบาลเรียกเงินเป็นพันล้าน- สร้างรถไฟเชื่อมสนามบินด้วยสัญญาเหมาเบ็ดเสร็จ ทั้งออกแบบก่อสร้างและหาแหล่งเงินทุน พบเงินปากถุงกินเปล่าก้อนใหญ่ ไปไหนไม่ทราบ รัฐมนตรีคมนาคมคุมเปิดซองด้วยตนเอง- แจกกล้ายางที่ใช้การไม่ได้ ซื้อมาแล้วขายให้รัฐโดยพอกราคารวยเละ- สร้างและขายบ้านเอื้ออาทร ด้วยสัญญาโควต้าเหมาจ่ายทั้งโครงการราคาตายตัว จ้างให้ทำทั้งหาที่ดิน-หาผู้จองก่อสร้าง แล้วจบลงเป็นบ้านร้างสร้างไม่เสร็จ หรือเป็นบ้านผีสิงไม่มีผู้จองซื้อจริงทั่วไปหมด ครั้นตรวจกระแสเงินขายโควต้า ก็พบเงิน ๑๔๐๐ ล้าน เข้าเสี่ยเปี๋ยงคนที่รับงานเจรจา เป็นลูกน้องเจ๊ใหญ่ ติดคุกด้วย- รับจำนำข้าวเกินราคาตลาด จบเป็นข้าวเน่า ค้างโกดังรัฐเสียหายเป็นแสนล้าน เสี่ยเปี๋ยง ก็โผล่มาจนติดคุกอีก ตัวนายกฯหนีคดีตามเคย- เงินกู้ธนาคารกรุงไทย คดีนี้นายสั่งให้คณะกรรมการให้บริษัทอสังหาฯกู้เงินหลายพันล้าน เอาที่ดินมาพัฒนาเป็นโครงการจอมปลอม ธนาคารเสียหายเป็นพันล้าน ตามรอยเงินพบเข้าลูกและลูกน้องชินวัตร กว่า ๑๐๐ ล้าน งานนี้ติดคุกรวดถาม วันนี้ วันหน้า ถ้า “ระบอบทักษิณ” ฟื้นขึ้นมาอีก ประเทศก็ชิบหายอีกสิครับตอบ เขาฟื้นอยู่แล้ว ขณะนี้กำลังเดินหน้าปราศัยหาเสียงไปทั่วประเทศ ดำริจะออกสลากเพิ่มพร้อมโครงการหนึ่งทุนหนึ่งตำบลอีก งบประมาณปีนี้ทำขาดดุลเพื่อเทงบมาแจกชาวบ้านแล้วก็ยังไม่พอ ต้องแปรญัตติเบี้ยวไม่จ่ายหนี้เงินกู้ให้ธนาคาร แล้วตัดลดเงินต่อหัวในโครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรคลงอีก หน้ามืดจะแจกเงินให้ได้อย่างนี้ อนาคตธนาคารไทยโรงพยาบาลไทยซวยแน่ๆ ถาม ถ้าทรัมป์ลุยจีน ยิวลุยอิหร่าน รัสเซียลุยเคียฟถล่มจรวดลงโปแลนด์ จนเศรษฐกิจโลกยับเยิน ซ้ำเติมสุขภาพเศรษฐกิจไทยที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว จนเงินบาทลดค่า สินค้าส่งไม่ออก เงินคงคลังก็หมด อะไรจะเกิดขึ้นตอบ วิกฤตขนาดต้องดุลย์ข้าราชการหรือลูกจ้างจนตกงานกันทั้งประเทศนี่ ระวังฮุนเซ็นโมเดลไว้ให้ดีก็แล้วกันครับ
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 507 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อยากสัมภาษณ์ความรู้สึก
    คนแรก อยากสัมภาษณ์อิป้า
    1. เมิงรู้สึกยังไงกับความดันทุรังหวังแต่จะเอาชนะ สุดท้ายก็เอามิ๊จฉ๋าชีพให้ไปพันพันธ์กับกามิน ทั้งๆที่ไม่ต้องมีความเกี่ยวข้องด้วย
    2. เมิงรู้สึกยังไงกับความมั่นอกมั่นใจปกป้องมิ๊จฉาชีพอย่าง ออกหน้า ทั้งๆที่เพจกรู ให้ข้อมูลเตือนเมิงมาตลอด
    3. เมิงรู้สึกยังไง กับที่เมิงเคยโพสว่า เมิงเช็คแล้ว อิแฝดไม่มีKADEE เรื่องนี้ สายข่าวเมิงมันกระจอก หรือเมิงมันมโน
    4. การที่เมิงดึงกามิน เข้ามาพัวพันธ์กับมิ๊จฉ๋าชีพที่ออกหม๋ายจับแล้วแบบนี้ สำหรับคนที่อ้างว่า เป็นmvp ของกามิน หรืออาจเรียกได้ว่า เป็นNo.1 ของกามิน เมิงจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร
    คนที่สอง คือด้อมทุยดอกสีทอง
    1. เมิงรู้สึกยังไง ที่ได้แดรกคอลาเจนที่ตรวจแลปที่ไทยแล้วมีแต่น้ำตาลส่วนคอลาเจนจากปลา 1% ตรวจไม่พบ
    2. เมิงรู้สึกอย่างไร ที่เห็นภาพกามินที่พวกเมิงรักและเทิดทูน ไปไลฟ์ขายของให้มิ๊จฉ๋าชีพแบบอร่างฉ่าง ด้วยความพยายามของอิป้าเชื่อมจิต
    3. เมิงรู้สึกอย่างไร กับความไม่รุ้จักแยกแยะ ที่เชียร์ทุกตัวที่ไปแอบอ้างว่ารักกามินของพวกเมิง ทั้งๆที่เพจกรู ก็เปิดตีแผ่เรื่องนี้มาตลอด แต่พวกเมิงไม่ฟัง เมิงฟังอิป้าคนเดียว
    คนสุดท้าย อินิดาคุ๊กกี้
    1. กรูอยากถามว่า ตอนนี้ เมิง ได้ให้ด้อมชาลีสาขาย่อยเชื่อมจิตจากเมิง ไปอุดหนุนมิ๊จฉาชีพในช่องเมิง และออกตัวปกป้อง แถ และยืนยันความบริสุทธิ์ให้กับมิ๊๋จฉ๋าชีพ แล้วป้ายสีกรูต่างๆนานา วันนี้ หม๋ายจับออกแล้ว เมิงจะไปต่อยังไง
    2. หากเมิงอ้างว่าพี่น้องไม่เกี่ยว เดี๋ยวกรูอารมร์ดีๆ จะเปิดKADEE ของอิผึ้งให้เมิงดู ปลายทาง มีออกหม๋ายจับแน่นอน
    3. สัปดาห์หน้า ทั้งพี่ทั้งน้องไผ่ผึ้ง จะมีKADEE เพิ่ม นั่นคือ ฉ้อโGงประชาชน คราวนี้ทุกอย่างเต็มรูปแบบ แล้วเมิงจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เมิงกระทำอย่างไร และที่สำคัญ กรูกับโอม จะหาทางสืบเส้นทางเงินของเมิง อยากจะรู้ว่า นอกจาก 10 % ที่เมิงได้ มันยังมีอีกเท่าไหร่ที่เมิงได้มา ที่ยอมแลกความเป็นคนเพื่อผลประโยชน์ครั้งนี้
    เอาแค่นี้แหละ ที่กรู อยากสัมภาษณ์
    น้ำตกขี้หมูไหล คนเฮี้ยมารวมตัวจริงๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #อยากสัมภาษณ์ความรู้สึก คนแรก อยากสัมภาษณ์อิป้า 1. เมิงรู้สึกยังไงกับความดันทุรังหวังแต่จะเอาชนะ สุดท้ายก็เอามิ๊จฉ๋าชีพให้ไปพันพันธ์กับกามิน ทั้งๆที่ไม่ต้องมีความเกี่ยวข้องด้วย 2. เมิงรู้สึกยังไงกับความมั่นอกมั่นใจปกป้องมิ๊จฉาชีพอย่าง ออกหน้า ทั้งๆที่เพจกรู ให้ข้อมูลเตือนเมิงมาตลอด 3. เมิงรู้สึกยังไง กับที่เมิงเคยโพสว่า เมิงเช็คแล้ว อิแฝดไม่มีKADEE เรื่องนี้ สายข่าวเมิงมันกระจอก หรือเมิงมันมโน 4. การที่เมิงดึงกามิน เข้ามาพัวพันธ์กับมิ๊จฉ๋าชีพที่ออกหม๋ายจับแล้วแบบนี้ สำหรับคนที่อ้างว่า เป็นmvp ของกามิน หรืออาจเรียกได้ว่า เป็นNo.1 ของกามิน เมิงจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร คนที่สอง คือด้อมทุยดอกสีทอง 1. เมิงรู้สึกยังไง ที่ได้แดรกคอลาเจนที่ตรวจแลปที่ไทยแล้วมีแต่น้ำตาลส่วนคอลาเจนจากปลา 1% ตรวจไม่พบ 2. เมิงรู้สึกอย่างไร ที่เห็นภาพกามินที่พวกเมิงรักและเทิดทูน ไปไลฟ์ขายของให้มิ๊จฉ๋าชีพแบบอร่างฉ่าง ด้วยความพยายามของอิป้าเชื่อมจิต 3. เมิงรู้สึกอย่างไร กับความไม่รุ้จักแยกแยะ ที่เชียร์ทุกตัวที่ไปแอบอ้างว่ารักกามินของพวกเมิง ทั้งๆที่เพจกรู ก็เปิดตีแผ่เรื่องนี้มาตลอด แต่พวกเมิงไม่ฟัง เมิงฟังอิป้าคนเดียว คนสุดท้าย อินิดาคุ๊กกี้ 1. กรูอยากถามว่า ตอนนี้ เมิง ได้ให้ด้อมชาลีสาขาย่อยเชื่อมจิตจากเมิง ไปอุดหนุนมิ๊จฉาชีพในช่องเมิง และออกตัวปกป้อง แถ และยืนยันความบริสุทธิ์ให้กับมิ๊๋จฉ๋าชีพ แล้วป้ายสีกรูต่างๆนานา วันนี้ หม๋ายจับออกแล้ว เมิงจะไปต่อยังไง 2. หากเมิงอ้างว่าพี่น้องไม่เกี่ยว เดี๋ยวกรูอารมร์ดีๆ จะเปิดKADEE ของอิผึ้งให้เมิงดู ปลายทาง มีออกหม๋ายจับแน่นอน 3. สัปดาห์หน้า ทั้งพี่ทั้งน้องไผ่ผึ้ง จะมีKADEE เพิ่ม นั่นคือ ฉ้อโGงประชาชน คราวนี้ทุกอย่างเต็มรูปแบบ แล้วเมิงจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เมิงกระทำอย่างไร และที่สำคัญ กรูกับโอม จะหาทางสืบเส้นทางเงินของเมิง อยากจะรู้ว่า นอกจาก 10 % ที่เมิงได้ มันยังมีอีกเท่าไหร่ที่เมิงได้มา ที่ยอมแลกความเป็นคนเพื่อผลประโยชน์ครั้งนี้ เอาแค่นี้แหละ ที่กรู อยากสัมภาษณ์ น้ำตกขี้หมูไหล คนเฮี้ยมารวมตัวจริงๆ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • #รู้สึกดีใจที่มีคนหลุดจากวงจรคณะเชื่อมจิตสาขา2ได้
    ส่วนอิดาจะไปพร่ามอะไร เอาจริงๆนะ ตอนนี้คนนเค้ารู้กันทั่วประเทศแล้ว
    รู้เช่น เห็นชาติ แทบไม่ต้องไปทำอะไร ให้กรรมทำงาน
    ส่วนด้อมดอกเดซี่ ก็ไม่รับมัน
    ด้อมพระเอกที่ตื่นรู้ก็ไม่เอามัน
    จะคงเหลือสาวกเชื่อมจิตอีกไม่กี่ตัว
    ก็ปล่อยให้ตุยตูนีเย่ไปตามธรรมชาติ
    เรื่องสปอนอะไร ก็ถือว่ายิ่งยืนยันความมโน ไม่แปลกใจ
    คนมักจะคิดในสิ่งที่ตัวเองเป็น ป้านิดาทำทุกอย่างเพื่อเงิน
    ก็คิดว่าคนอื่นเค้าคงทำเหมือนตัวเอง
    ก็จริง ใครจะมาสู้เพื่อปกป้องคนถูกรังแกที่ไม่รู้จัก
    แต่ ก็มีกรูนี่แหละคนนึง คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #รู้สึกดีใจที่มีคนหลุดจากวงจรคณะเชื่อมจิตสาขา2ได้ ส่วนอิดาจะไปพร่ามอะไร เอาจริงๆนะ ตอนนี้คนนเค้ารู้กันทั่วประเทศแล้ว รู้เช่น เห็นชาติ แทบไม่ต้องไปทำอะไร ให้กรรมทำงาน ส่วนด้อมดอกเดซี่ ก็ไม่รับมัน ด้อมพระเอกที่ตื่นรู้ก็ไม่เอามัน จะคงเหลือสาวกเชื่อมจิตอีกไม่กี่ตัว ก็ปล่อยให้ตุยตูนีเย่ไปตามธรรมชาติ เรื่องสปอนอะไร ก็ถือว่ายิ่งยืนยันความมโน ไม่แปลกใจ คนมักจะคิดในสิ่งที่ตัวเองเป็น ป้านิดาทำทุกอย่างเพื่อเงิน ก็คิดว่าคนอื่นเค้าคงทำเหมือนตัวเอง ก็จริง ใครจะมาสู้เพื่อปกป้องคนถูกรังแกที่ไม่รู้จัก แต่ ก็มีกรูนี่แหละคนนึง คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 330 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถึงเวลากลบอิทธิพล แอ็ด คาราบาว มิจฉาชีพแห่งชาติ
    แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของบรรดาคู่ค้า “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน” ของ “น้าแอ๊ด คาราบาว”
    เมื่อดีเอสไอ ทำหนังสือถึงผู้เสียหายที่เคยเข้าร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ ระบุว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาแล้ว พฤติการณ์ของบริษัท ทีดี ตะวันแดง อาจเป็นความผิดฐานฉ้อโกง เจอดอกนี้ ร้านถูกดีก็งานเข้าเต็มๆ เท่ากับว่าดีเอสไอพบคดีมีมูล ร้านถูกดีอาจเข้าข่ายฉ้อโกงชาวบ้าน คนละเรื่องเลย กับที่อ้างตัวเป็นผู้เสียหาย ถูกชาวบ้านโกง ยักยอกสินค้า
    คู่ค้าที่รวมตัวกันไปแจ้งความต่อดีเอสไอมีจำนวน 109 คน ถือเป็นส่วนหนึ่งของบรรดาคู่ค้าทั้งหมดที่มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ตอนนี้ยอดผู้เสียหายที่มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิจึงพุ่งไปแตะหลัก 500-600 รายแล้ว
    เพราะเคลิ้มกับคำหวานเชื้อเชิญของ แอ๊ด คาราบาว ที่ทำคลิปโปรโมตซะอย่างหวานเจี๊ยบว่า เราจะรวยไปด้วยกัน อย่างไม่มีความเสี่ยงแต่พอถึงเวลาจริง กลายเป็นว่าสาขาโน้นเจ๊ง สาขานี้เจ๊ง
    พอเจ๊งแล้วขอเลิกสัญญา ต้องโดนยึดเงินมัดจำ 2 แสนบาทไปต่อหน้าต่อตา เท่านั้นยังไม่พอ ยังโดนบริษัทแจ้งจับคดีฉ้อโกง กล่าวหายักยอกสินค้าไปเป็นแสนๆ บาท
    มีคดีตัวอย่างที่น่าสนใจที่ จ.เชียงใหม่ เมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา โดยวินิจฉัยว่า เนื่องจากเจ้าของร้านเป็นฝ่ายขอเลิกสัญญา และขอให้บริษัทยึดเงินประกัน 2 แสนบาทไปเพื่อหักลบกลบหนี้ได้เลย แสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาไม่มีเจตนาทุจริตต่อทางบริษัท บริษัทสามารถหักหนี้จากเงินประกันได้ หากไม่พอ ก็ให้ไปฟ้องศาลแพ่งเรียกร้องเอาเอง
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    ถึงเวลากลบอิทธิพล แอ็ด คาราบาว มิจฉาชีพแห่งชาติ แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของบรรดาคู่ค้า “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน” ของ “น้าแอ๊ด คาราบาว” เมื่อดีเอสไอ ทำหนังสือถึงผู้เสียหายที่เคยเข้าร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ ระบุว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาแล้ว พฤติการณ์ของบริษัท ทีดี ตะวันแดง อาจเป็นความผิดฐานฉ้อโกง เจอดอกนี้ ร้านถูกดีก็งานเข้าเต็มๆ เท่ากับว่าดีเอสไอพบคดีมีมูล ร้านถูกดีอาจเข้าข่ายฉ้อโกงชาวบ้าน คนละเรื่องเลย กับที่อ้างตัวเป็นผู้เสียหาย ถูกชาวบ้านโกง ยักยอกสินค้า คู่ค้าที่รวมตัวกันไปแจ้งความต่อดีเอสไอมีจำนวน 109 คน ถือเป็นส่วนหนึ่งของบรรดาคู่ค้าทั้งหมดที่มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ตอนนี้ยอดผู้เสียหายที่มาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิจึงพุ่งไปแตะหลัก 500-600 รายแล้ว เพราะเคลิ้มกับคำหวานเชื้อเชิญของ แอ๊ด คาราบาว ที่ทำคลิปโปรโมตซะอย่างหวานเจี๊ยบว่า เราจะรวยไปด้วยกัน อย่างไม่มีความเสี่ยงแต่พอถึงเวลาจริง กลายเป็นว่าสาขาโน้นเจ๊ง สาขานี้เจ๊ง พอเจ๊งแล้วขอเลิกสัญญา ต้องโดนยึดเงินมัดจำ 2 แสนบาทไปต่อหน้าต่อตา เท่านั้นยังไม่พอ ยังโดนบริษัทแจ้งจับคดีฉ้อโกง กล่าวหายักยอกสินค้าไปเป็นแสนๆ บาท มีคดีตัวอย่างที่น่าสนใจที่ จ.เชียงใหม่ เมื่ออัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา โดยวินิจฉัยว่า เนื่องจากเจ้าของร้านเป็นฝ่ายขอเลิกสัญญา และขอให้บริษัทยึดเงินประกัน 2 แสนบาทไปเพื่อหักลบกลบหนี้ได้เลย แสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาไม่มีเจตนาทุจริตต่อทางบริษัท บริษัทสามารถหักหนี้จากเงินประกันได้ หากไม่พอ ก็ให้ไปฟ้องศาลแพ่งเรียกร้องเอาเอง ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • จตุจักรโครงการ 15ซ10/3 เลขที่100-ID.Khopjaye Phone 0835484811
    #สาขา จตุจักรเปิดพุธ-อาทิตย์
    10.00น.-18.00น.ค่ะ
    จตุจักรโครงการ 15ซ10/3 เลขที่100-ID.Khopjaye Phone 0835484811 #สาขา จตุจักรเปิดพุธ-อาทิตย์ 10.00น.-18.00น.ค่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้าวต้มแห้งคุณนิด (เปิดใหม่) สาขาเชียงใหม่
    *****อร่อยระดับ 5 ดาว
    ร้านอาหารเช้าย่านช้างม่อย ถนนสิทธิวงศ์
    https://maps.app.goo.gl/un1r5zNm64z5sJJt7
    ทางวันเวย์...ลงจากสะพานแก้วนวรัฐ ตรงเข้าถนนท้ายวัง
    ไปสุดทางเป็นสามแยก เลี้ยวซ้าย ร้านจะอยู่ทางขวามือ.

    ข้าวต้มแห้ง บะหมี่คลุก ทุกเมนูสามารถเลือกเครื่องเองได้ มีให้เลือกทั้ง หมูกรอบ/หมูอบ/กระเพาะ/ตับ/ไส้ สามารถเลือกใส่ได้ทุกอย่าง ถ้าสั่งเมนูแห้งเค้ามีน้ำซุปหอมๆให้ด้วย รสชาติเยี่ยม ปรุงออกมาได้ดี มีพริกไทยเล็กน้อย หอมกลิ่นน้ำซุปและกระเทียมเจียว



    ข้าวต้มแห้งคุณนิด (เปิดใหม่) สาขาเชียงใหม่ *****อร่อยระดับ 5 ดาว ร้านอาหารเช้าย่านช้างม่อย ถนนสิทธิวงศ์ https://maps.app.goo.gl/un1r5zNm64z5sJJt7 ทางวันเวย์...ลงจากสะพานแก้วนวรัฐ ตรงเข้าถนนท้ายวัง ไปสุดทางเป็นสามแยก เลี้ยวซ้าย ร้านจะอยู่ทางขวามือ. ข้าวต้มแห้ง บะหมี่คลุก ทุกเมนูสามารถเลือกเครื่องเองได้ มีให้เลือกทั้ง หมูกรอบ/หมูอบ/กระเพาะ/ตับ/ไส้ สามารถเลือกใส่ได้ทุกอย่าง ถ้าสั่งเมนูแห้งเค้ามีน้ำซุปหอมๆให้ด้วย รสชาติเยี่ยม ปรุงออกมาได้ดี มีพริกไทยเล็กน้อย หอมกลิ่นน้ำซุปและกระเทียมเจียว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกอัยการสูงสุด แถลงสั่งฟ้อง ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก 17 ราย แต่สั่งไม่ฟ้อง แซม ยุรนันท์ - มีน พีชญา ดาราสาว เหตุพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ ส่งอธ.ดีเอสไอเห็นแย้งหรือไม่
    .
    วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 คดีระหว่าง นายณัฏฐ์ ธนาพิพัฒน์ดลภัค กับพวก ผู้กล่าวหาบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์รกุล ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 19 คน ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการใน ลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" เหตุเกิดระหว่างวันที่ 12 สิงหาคม 2563 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ใน ท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรต่อเนื่องกัน คิดเป็นค่าเสียหายรวมประมาณ 649,912,290 บาท นั้น
    .
    เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากและเป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้สำนักงานคดีพิเศษได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวแล้วมีความเห็นและคำสั่ง ดังนี้
    .
    1. สั่งฟ้อง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1,นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ต้องหาที่ 2, นายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือบอสแล็ป ผู้ต้องหาที่ 3,นายกลด เศรษฐนันท์ หรือบอสปีเตอร์ ผู้ต้องหาที่ 4, น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน ผู้ต้องหาที่ 5,นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือบอสหมอเอก ผูตองหาที่ 6, น.สนัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ หรือบอสสวย ผู้ต้องหาที่ 7,น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ หรือบอสโซดา ผู้ตองหาที่ 8, นายนันทธรัฐ เชาวนปรีชา หรือบอสโอม ผู้ต้องหาที่ 9,นายธวิณทรภัส ภูพัฒนรินทร์ หรือบอสวิน ผูตองหาที่ 10, น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ หรือบอสแม่หญิง ผู้ต้องหาที่ 11,น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา หรือบอสอูมมี ผู้ต้องหาที่ 12, นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ หรือบอสทอมมี่ ผู้ต้องหาที่ 13,นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ หรือบอสป๊อบ ผู้ต้องหาที่ 14, นางวิไลลักษณ์ ยาวิชัย หรือบอสจอย ผู้ต้องหาที่ 15,นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ หรือบอสออฟ ผู้ต้องหาที่ 16 และนายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์ ผู้ต้องหาที่ 19ตามข้อกล่าวหา
    .
    ฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็ง โดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบ ธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 19, 20, 38, 46, 47, 54, พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 มาตรา 3, 6, 18, 23 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 341, 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพามเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527มาตรา 3, 4, 5, 9, 11/1, 12, 15 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนพ.ศ. 2534 มาตรา 3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (ฉบับที่ 2)
    พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 4, 5 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของ ผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 8 ตามความเห็นพนักงานสอบสวน
    .
    2. สั่งไม่ฟ้อง นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสแชม ผู้ต้องหาที่ 17 และ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือบอสมีน ผู้ต้องหาที่ 18 ตามข้อกล่าวหา ฐาน "ร่วมกันน้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้า สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยผ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 19, 20, 38, 46, 47, 54,พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 มาตรา 3, 6, 18, 23 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 341, 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4พระราชบัญญัติแก่ไขเพามเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 พระราชกำหนดการกูยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 11/1, 12, 15 พระราชบัญญัติแก่ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2534 มาตรา 3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการ กูยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 4, 5 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติวาด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 8 แย้งความเห็นพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ มีคำสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 17 ต่อศาลอาญาใน วันนี้
    .
    ส่วนผู้ต้องหาที่ 17 และ 18 ซึ่งพนักงานอัยการสำนักคดีพิเศษ มีคำสั่งไม่ฟ้องนั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวผู้ต้องหาต่อศาลอาญาและจะดำเนินการส่งสำนวนพร้อมความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งในคำสั่งไม่ฟ้องหรือไม่ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000002167
    .........
    Sondhi X
    โฆษกอัยการสูงสุด แถลงสั่งฟ้อง ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก 17 ราย แต่สั่งไม่ฟ้อง แซม ยุรนันท์ - มีน พีชญา ดาราสาว เหตุพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ ส่งอธ.ดีเอสไอเห็นแย้งหรือไม่ . วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2567 คดีระหว่าง นายณัฏฐ์ ธนาพิพัฒน์ดลภัค กับพวก ผู้กล่าวหาบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์รกุล ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 19 คน ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการใน ลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" เหตุเกิดระหว่างวันที่ 12 สิงหาคม 2563 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 ใน ท้องที่แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร และหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรต่อเนื่องกัน คิดเป็นค่าเสียหายรวมประมาณ 649,912,290 บาท นั้น . เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมากและเป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจ ถือเป็นคดีสำคัญตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด จึงได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้สำนักงานคดีพิเศษได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวแล้วมีความเห็นและคำสั่ง ดังนี้ . 1. สั่งฟ้อง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด โดยนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1,นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ต้องหาที่ 2, นายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือบอสแล็ป ผู้ต้องหาที่ 3,นายกลด เศรษฐนันท์ หรือบอสปีเตอร์ ผู้ต้องหาที่ 4, น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน ผู้ต้องหาที่ 5,นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือบอสหมอเอก ผูตองหาที่ 6, น.สนัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ หรือบอสสวย ผู้ต้องหาที่ 7,น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ หรือบอสโซดา ผู้ตองหาที่ 8, นายนันทธรัฐ เชาวนปรีชา หรือบอสโอม ผู้ต้องหาที่ 9,นายธวิณทรภัส ภูพัฒนรินทร์ หรือบอสวิน ผูตองหาที่ 10, น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ หรือบอสแม่หญิง ผู้ต้องหาที่ 11,น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา หรือบอสอูมมี ผู้ต้องหาที่ 12, นายเชษฐ์ณภัฏ อภิพัฒนกานต์ หรือบอสทอมมี่ ผู้ต้องหาที่ 13,นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ หรือบอสป๊อบ ผู้ต้องหาที่ 14, นางวิไลลักษณ์ ยาวิชัย หรือบอสจอย ผู้ต้องหาที่ 15,นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ หรือบอสออฟ ผู้ต้องหาที่ 16 และนายกันต์ กันตถาวร หรือบอสกันต์ ผู้ต้องหาที่ 19ตามข้อกล่าวหา . ฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็ง โดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบ ธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 19, 20, 38, 46, 47, 54, พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 มาตรา 3, 6, 18, 23 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 341, 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพามเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527มาตรา 3, 4, 5, 9, 11/1, 12, 15 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนพ.ศ. 2534 มาตรา 3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 4, 5 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของ ผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มาตรา 8 ตามความเห็นพนักงานสอบสวน . 2. สั่งไม่ฟ้อง นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสแชม ผู้ต้องหาที่ 17 และ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือบอสมีน ผู้ต้องหาที่ 18 ตามข้อกล่าวหา ฐาน "ร่วมกันน้อโกงประชาชน, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้า สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจโดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นโดยผ่าฝืนต่อกฎหมาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 19, 20, 38, 46, 47, 54,พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 มาตรา 3, 6, 18, 23 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91, 341, 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4พระราชบัญญัติแก่ไขเพามเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4 พระราชกำหนดการกูยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3, 4, 5, 9, 11/1, 12, 15 พระราชบัญญัติแก่ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2534 มาตรา 3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการ กูยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 3, 4, 5 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวกับความรับผิดในทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล พ.ศ. 2560 พระราชบัญญัติวาด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 8 แย้งความเห็นพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ มีคำสั่งฟ้องตามความเห็นของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 17 ต่อศาลอาญาใน วันนี้ . ส่วนผู้ต้องหาที่ 17 และ 18 ซึ่งพนักงานอัยการสำนักคดีพิเศษ มีคำสั่งไม่ฟ้องนั้น พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะได้ดำเนินการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวผู้ต้องหาต่อศาลอาญาและจะดำเนินการส่งสำนวนพร้อมความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องไปยังอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาว่าจะมีความเห็นแย้งในคำสั่งไม่ฟ้องหรือไม่ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ต่อไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000002167 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1068 มุมมอง 0 รีวิว
  • บิ๊กซี ฟู้ดเพลส เปิดรวดเดียว 4 สาขา เจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียม : Ibusiness review
    บิ๊กซี ฟู้ดเพลส เปิดรวดเดียว 4 สาขา เจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียม : Ibusiness review
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • ละครเพลงสุดเหนือจริง Emilia Perez และดราม่าผู้อพยพสุดยิ่งใหญ่ The Brutalist คว้ารางวัลใหญ่ในงานลูกโลกทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการแบ่งปันรางวัลอย่างกว้างขวางในหมู่ภาพยนตร์นานาชาติ ณ งานประกาศรางวัลใหญ่ครั้งแรกของปี

    Emilia Perez ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในเม็กซิโกโดยผู้กำกับชาวฝรั่งเศส ฌาคส์ โอเดียร์ด กวาดไปถึง 4 รางวัล รวมถึงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทตลกหรือเพลง ส่วน The Brutalist ได้รับรางวัลภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม พร้อมรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบทบาทของ เอเดรียน โบรดี ในบทผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฮังการี

    Emilia Perez ที่เล่าเรื่องราวของเจ้าพ่อค้ายาที่เปลี่ยนชีวิตตัวเองมาเป็นผู้หญิง เข้าชิงรางวัลสูงสุดถึง 10 สาขา และคว้ารางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมและเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดย โซอี้ ซัลดานา คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม เอาชนะ เซเลนา โกเมซ นักแสดงร่วมในเรื่องเดียวกัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000001347

    #MGROnline #EmiliaPérez #TheBrutalist #GoldenGlobes
    ละครเพลงสุดเหนือจริง Emilia Perez และดราม่าผู้อพยพสุดยิ่งใหญ่ The Brutalist คว้ารางวัลใหญ่ในงานลูกโลกทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการแบ่งปันรางวัลอย่างกว้างขวางในหมู่ภาพยนตร์นานาชาติ ณ งานประกาศรางวัลใหญ่ครั้งแรกของปี • Emilia Perez ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในเม็กซิโกโดยผู้กำกับชาวฝรั่งเศส ฌาคส์ โอเดียร์ด กวาดไปถึง 4 รางวัล รวมถึงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทตลกหรือเพลง ส่วน The Brutalist ได้รับรางวัลภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยม พร้อมรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบทบาทของ เอเดรียน โบรดี ในบทผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฮังการี • Emilia Perez ที่เล่าเรื่องราวของเจ้าพ่อค้ายาที่เปลี่ยนชีวิตตัวเองมาเป็นผู้หญิง เข้าชิงรางวัลสูงสุดถึง 10 สาขา และคว้ารางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยมและเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดย โซอี้ ซัลดานา คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม เอาชนะ เซเลนา โกเมซ นักแสดงร่วมในเรื่องเดียวกัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000001347 • #MGROnline #EmiliaPérez #TheBrutalist #GoldenGlobes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 348 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องลับของสายลับ CIA | ตอนที่ 1
    โดย #อัษฎางค์ยมนาค

    การปฏิบัติการของ CIA ในการแทรกซึมเข้าไปในต่างประเทศบางครั้งอาจมีการใช้วิธีการส่งเจ้าหน้าที่ปลอมตัวเข้าไปอยู่ในชุมชนหรือองค์กรต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้อาจแฝงตัวภายใต้บทบาทที่ไม่เป็นที่สงสัย เช่น นักธุรกิจ นักวิชาการ นักข่าว หรือแม้แต่นักการทูต การดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการลับ (Covert Operations) ที่มุ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองและสร้างเครือข่ายในพื้นที่เป้าหมาย

    การแทรกซึมลักษณะนี้มักถูกใช้ในสถานการณ์ที่หน่วยข่าวกรองต้องการรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประเทศหรือกลุ่มเป้าหมาย เช่น ข้อมูลทางการเมือง การทหาร หรือความเคลื่อนไหวต่างๆ โดยการแฝงตัวและการปลอมตัวช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้โดยไม่เป็นที่สงสัยหรือตรวจพบจากหน่วยงานท้องถิ่น

    อย่างไรก็ตาม วิธีการดังกล่าวมักถูกเก็บเป็นความลับและไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงต่อทั้งเจ้าหน้าที่และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

    การที่เจ้าหน้าที่ของ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรต่างๆ โดยที่คนในองค์กรหรือประเทศนั้นๆ ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ CIA นั้น มีสาเหตุจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อน ทั้งการเตรียมการ การปกปิดข้อมูล และการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานหลายฝ่าย:

    1. การปลอมเอกสารและการจัดเตรียมประวัติ (Cover Story)

    • เจ้าหน้าที่ CIA ที่ถูกส่งเข้าไปปฏิบัติการในต่างประเทศมักจะมี cover story ซึ่งเป็นเรื่องราวและเอกสารที่สนับสนุนบทบาทของพวกเขา เช่น ปลอมตัวเป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ หรือนักข่าว โดยประวัติเหล่านี้มักจะถูกจัดทำอย่างละเอียด ทั้งประวัติการทำงาน การศึกษา รวมถึงการปลอมแปลงเอกสารที่แสดงว่าเขามีคุณสมบัติหรือประสบการณ์ที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานนั้นๆ

    • รัฐบาลสหรัฐฯ หรือ CIA เองอาจมีการจัดเตรียมเอกสารที่ดูถูกต้องตามกฎหมายเพื่อสนับสนุนเรื่องราวของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่ยืนยันอาชีพ การศึกษา หรือประสบการณ์ในสาขานั้นๆ ซึ่งทำให้ดูเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือสำหรับองค์กรที่รับสมัครงาน

    2. การฝึกอบรมด้านการปกปิดตัวตน (Tradecraft)

    • เจ้าหน้าที่ CIA ได้รับการฝึกฝนในเรื่องของ tradecraft ซึ่งรวมถึงการปกปิดตัวตน การแทรกซึม และการทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ลับ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ ซึ่งพวกเขาจะเรียนรู้วิธีการสื่อสาร การเข้าถึงข้อมูล และการปฏิบัติภารกิจโดยไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง

    3. ความร่วมมือขององค์กรหรือหน่วยงานภายในประเทศ

    • ในบางกรณี อาจมีหน่วยงานภายในประเทศหรือองค์กรที่ร่วมมือกับ CIA อย่างลับๆ เช่น หน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นหรือนักการเมืองบางกลุ่มที่ต้องการผลประโยชน์ร่วมกัน หรือสนับสนุนการปฏิบัติการของ CIA ภายในประเทศนั้นๆ

    • อย่างไรก็ตาม ในกรณีส่วนใหญ่ องค์กรที่เจ้าหน้าที่ CIA เข้าไปทำงานจะไม่รู้ว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ลับ เพราะ CIA ต้องการให้การปฏิบัติการเป็นความลับที่สุด การที่องค์กรทราบว่าเขาเป็น CIA อาจทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองหรือความเสี่ยงต่อปฏิบัติการลับนั้น

    4. ความลับและการปกปิดข้อมูล

    • การปฏิบัติการลับของ CIA มักมีการรักษาความลับอย่างสูงสุด มีการจำกัดข้อมูลที่สามารถเปิดเผย และเจ้าหน้าที่ในองค์กรที่ CIA เข้าไปฝังตัวจะไม่ได้รับข้อมูลใดๆ ที่บ่งบอกว่าเขาคือเจ้าหน้าที่ CIA ทำให้ไม่มีข้อสงสัยในตัวเขา

    สรุปคือ เจ้าหน้าที่ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรได้โดยไม่ถูกจับได้เนื่องจากการจัดเตรียมเอกสารที่เป็นมืออาชีพ การฝึกฝนในการปกปิดตัวตน และการทำงานอย่างรัดกุมของ CIA ในการทำให้การปฏิบัติการลับเหล่านี้เป็นไปอย่างแนบเนียน

    โปรดติดตามตอนต่อไป
    #TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft

    ตอนที่ 2: https://www.facebook.com/share/p/Uv9bMaUp1RNBH2fj/?mibextid=WC7FNe
    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1DwX5jiJuU/
    #เรื่องลับของสายลับ CIA | ตอนที่ 1 โดย #อัษฎางค์ยมนาค การปฏิบัติการของ CIA ในการแทรกซึมเข้าไปในต่างประเทศบางครั้งอาจมีการใช้วิธีการส่งเจ้าหน้าที่ปลอมตัวเข้าไปอยู่ในชุมชนหรือองค์กรต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้อาจแฝงตัวภายใต้บทบาทที่ไม่เป็นที่สงสัย เช่น นักธุรกิจ นักวิชาการ นักข่าว หรือแม้แต่นักการทูต การดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการลับ (Covert Operations) ที่มุ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองและสร้างเครือข่ายในพื้นที่เป้าหมาย การแทรกซึมลักษณะนี้มักถูกใช้ในสถานการณ์ที่หน่วยข่าวกรองต้องการรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประเทศหรือกลุ่มเป้าหมาย เช่น ข้อมูลทางการเมือง การทหาร หรือความเคลื่อนไหวต่างๆ โดยการแฝงตัวและการปลอมตัวช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้โดยไม่เป็นที่สงสัยหรือตรวจพบจากหน่วยงานท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม วิธีการดังกล่าวมักถูกเก็บเป็นความลับและไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงต่อทั้งเจ้าหน้าที่และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การที่เจ้าหน้าที่ของ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรต่างๆ โดยที่คนในองค์กรหรือประเทศนั้นๆ ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ CIA นั้น มีสาเหตุจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อน ทั้งการเตรียมการ การปกปิดข้อมูล และการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานหลายฝ่าย: 1. การปลอมเอกสารและการจัดเตรียมประวัติ (Cover Story) • เจ้าหน้าที่ CIA ที่ถูกส่งเข้าไปปฏิบัติการในต่างประเทศมักจะมี cover story ซึ่งเป็นเรื่องราวและเอกสารที่สนับสนุนบทบาทของพวกเขา เช่น ปลอมตัวเป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ หรือนักข่าว โดยประวัติเหล่านี้มักจะถูกจัดทำอย่างละเอียด ทั้งประวัติการทำงาน การศึกษา รวมถึงการปลอมแปลงเอกสารที่แสดงว่าเขามีคุณสมบัติหรือประสบการณ์ที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานนั้นๆ • รัฐบาลสหรัฐฯ หรือ CIA เองอาจมีการจัดเตรียมเอกสารที่ดูถูกต้องตามกฎหมายเพื่อสนับสนุนเรื่องราวของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่ยืนยันอาชีพ การศึกษา หรือประสบการณ์ในสาขานั้นๆ ซึ่งทำให้ดูเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือสำหรับองค์กรที่รับสมัครงาน 2. การฝึกอบรมด้านการปกปิดตัวตน (Tradecraft) • เจ้าหน้าที่ CIA ได้รับการฝึกฝนในเรื่องของ tradecraft ซึ่งรวมถึงการปกปิดตัวตน การแทรกซึม และการทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ลับ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ ซึ่งพวกเขาจะเรียนรู้วิธีการสื่อสาร การเข้าถึงข้อมูล และการปฏิบัติภารกิจโดยไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง 3. ความร่วมมือขององค์กรหรือหน่วยงานภายในประเทศ • ในบางกรณี อาจมีหน่วยงานภายในประเทศหรือองค์กรที่ร่วมมือกับ CIA อย่างลับๆ เช่น หน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นหรือนักการเมืองบางกลุ่มที่ต้องการผลประโยชน์ร่วมกัน หรือสนับสนุนการปฏิบัติการของ CIA ภายในประเทศนั้นๆ • อย่างไรก็ตาม ในกรณีส่วนใหญ่ องค์กรที่เจ้าหน้าที่ CIA เข้าไปทำงานจะไม่รู้ว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ลับ เพราะ CIA ต้องการให้การปฏิบัติการเป็นความลับที่สุด การที่องค์กรทราบว่าเขาเป็น CIA อาจทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองหรือความเสี่ยงต่อปฏิบัติการลับนั้น 4. ความลับและการปกปิดข้อมูล • การปฏิบัติการลับของ CIA มักมีการรักษาความลับอย่างสูงสุด มีการจำกัดข้อมูลที่สามารถเปิดเผย และเจ้าหน้าที่ในองค์กรที่ CIA เข้าไปฝังตัวจะไม่ได้รับข้อมูลใดๆ ที่บ่งบอกว่าเขาคือเจ้าหน้าที่ CIA ทำให้ไม่มีข้อสงสัยในตัวเขา สรุปคือ เจ้าหน้าที่ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรได้โดยไม่ถูกจับได้เนื่องจากการจัดเตรียมเอกสารที่เป็นมืออาชีพ การฝึกฝนในการปกปิดตัวตน และการทำงานอย่างรัดกุมของ CIA ในการทำให้การปฏิบัติการลับเหล่านี้เป็นไปอย่างแนบเนียน โปรดติดตามตอนต่อไป #TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft ตอนที่ 2: https://www.facebook.com/share/p/Uv9bMaUp1RNBH2fj/?mibextid=WC7FNe ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1DwX5jiJuU/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อวสาน" รถญี่ปุ่นในไทย
    จากมุมมองของ Nikkei Asia
    .
    ในวาระส่งท้ายปีเก่า 2567 ต้อนรับปีใหม่ 2568 สื่อยักษ์ใหญ่ชื่อดังของญี่ปุ่นคือ นิคเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ได้เผยแพร่สารคดีข่าว NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand (นิคเคอิ ฟิล์ม : เสียงของเครื่องยนต์ที่กำลังหายไปจากประเทศไทย) ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ของบรรดารถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยครอบครองตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมากกว่า 90% แต่ในห้วงระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นกลับถูกรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนรุกไล่ ทำให้ในปี 2567 เหลือส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ในตลาดรถใหม่เพียง 76%
    .
    แม้ว่าในปัจจุบันรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นจะยังคงสามารถครอบครองตลาดรถใหม่ในประเทศไทยได้มากกว่า 3 ใน 4 แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยจากรอบด้านแล้วไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค พลวัตรของเหล่าดีลเลอร์ผู้ขายรถยนต์ทั่วประเทศไทย การทยอยปิดโรงงาน การไหลออกของบุคลากร-พนักงาน-ผู้บริหารจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นไปสู่ค่ายรถจีน รวมไปถึงการคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในอนาคตแล้วรถยนต์ญี่ปุ่นหนีไม่พ้นอาจต้องสูญพันธุ์จากประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ หากไม่เร่งปรับตัวให้เร็วกว่านี้
    .
    "ผมเพิ่งซื้อรถยนต์บีวายดีรุ่นใหม่ล่าสุด แล้วผมก็เปรียบเทียบรถอีวี กับ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบดั้งเดิมเพื่อศึกษาความแตกต่าง ... ฟังก์ชันในรถอีวีของจีนนั้นครบครันมาก อัตราการเร่งก็ฉับไวมาก" คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับนิคเคอิเป็นภาษาญี่ปุ่นอันคล่องแคล่ว และเปรียบเทียบต่อว่า
    .
    "ผมมองญี่ปุ่นจากหลาย ๆ มุม ด้วยความที่สำเร็จมาตั้งแต่ในยุคอะนาล็อก ญี่ปุ่นกลับไม่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วพอในยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล เทียบกับจีนที่ไม่ได้มีความสำเร็จมากนักในยุคของอะนาล็อก แต่พอยุคสมัยของเทคโนโลยีดิจิทัลมาถึง จีนจึงพยายามอย่างมากที่จะดิสรัปอุตสาหกรรมรถยนต์"
    .
    นิคเคอิอธิบายว่า ประเทศไทยซึ่งมีประชากรราว 66 ล้านคน และเป็นระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียน นั้นได้ชื่อเล่นว่าเป็น "ดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia)" ด้วยบรรดาบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศก่อนหน้านี้นานหลายทศวรรษ แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2566 ที่บริษัทรถยนต์จากจีนรุกเข้่ามาทำตลาด และย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยอย่างจริงจัง
    .
    "เกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา รถยนต์ญี่ปุ่นสามารถครอบครองยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยได้มากเกือบ 90% แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ รถอีวีจากจีนบุกตลาดประเทศไทยในปี 2566 ส่งผลให้ยอดขายรถใหม่ในประเทศไทยของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นลดลงต่ำกว่า 80% (เหลือ 77.8% ในปี 2566 และ เหลือ 76.2% ในปี 2567)" นิคเคอิระบุ
    .
    จากนั้นจึงกล่าวกว่า บีวายดี (BYD) คือ หัวหอกของบริษัทรถยนต์จีนที่เข้ามาแย่งชิงตลาดในประเทศไทยจากบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น โดยนิคเคอิได้ดำเนินการสำรวจการขยายตัวของจำนวนดีลเลอร์รถบีวายดีในไทยพบว่า เกือบ 50% ของดีลเลอร์รถบีวายดีนั้นก่อนหน้านั้นเคยเป็นดีลเลอร์ของรถยนต์ค่ายญี่ปุ่น โดยบีวายดีขยายสาขาไปทั่วประเทศ โดยไม่เพียงกวาดดีลเลอร์จากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นให้เข้ามาซุกใต้ปีก แต่รวมถึงค่ายรถยนต์จากตะวันตกด้วยเช่นกัน
    .
    การรุกไล่ของค่ายรถยนต์จากจีนไม่หยุดอยู่แค่ในระดับการส่งรถยนต์จากจีนมาขายยังเมืองไทย แต่ยังมีการขยายโรงงานผลิตมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วย ยกตัวอย่างเช่น บีวายดีที่เพิ่งเริ่มเดินสายพานโรงงานผลิตรถยนต์แบบเต็มระบบแห่งแรกในต่างแดนที่ จ.ระยอง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทำให้บุคลากรในแวดวงรถยนต์คนไทยที่มีความสามารถตั้งแต่ระดับฝ่ายผลิต จนถึงผู้บริหารที่เคยสังกัดอยู่กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ไหลไปอยู่กับบริษัทรถยนต์จีนจำนวนมาก
    .
    ด้วยแรงจูงใจสำคัญเป็นค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิม 30% 50% 80% หรือกระทั่งเพิ่มขึ้นเท่าตัว!
    .
    นายสื่อ ชิงเคอ (史青科) หรือ Parker Shi ประธานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล เจ้าของแบรนด์รถยนต์จีน GWM ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงคู่แข่งค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น และการดึงตัวผู้บริหารระดับสูงจากโตโยต้ามาทำงานกับเกรทวอลล์ฯ โดยระบุว่า
    .
    "ด้วยความสัตย์จริง และความเคารพต่อโตโยต้า และรถแบรนด์จากใจ เพราะพวกเขานั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ (excellent) คุณวุฒิกร (สุริยะฉันทนานนท์) นั้นเคยทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่โตโยต้า และนี่คือเหตุผลที่เขามาอยู่กับเรา" และกล่าวต่อว่า "ถ้าหากคุณไม่มีความกล้าหาญที่จะสู้ ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง คุณก็ตาย ถ้าหากคุณไม่มีอาวุธที่ดีพอ ผลิตภัณฑ์ที่ดี รูปแบบธุรกิจที่ดี กลยุทธ์ที่ดี คุณก็ตาย ถ้าคุณไม่มีทีมเวิร์คที่ดี คุณก็ตาย ... มันไม่มีคนอยู่รอดหรอก เพราะที่กำลังเป็นอยู่นี้คือคือสงคราม ที่เกิดขึ้นในตลาดที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง"
    .
    นิคเคอิ เอเชียยังมีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัทรถยนต์ชาวญี่ปุ่นในไทยที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม โดยผู้บริหารชาวญี่ปุ่นคนนี้ยอมรับว่า บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นละเลยความต้องการของผู้บริโภคไทยไปมาก รวมถึงนำเสนอสินค้าที่เทคโนโลยีล้าหลังไปแล้วให้กับตลาดในประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย ซึ่งแตกต่างจากค่ายรถจากจีน
    .
    "มันเป็นความจริงที่ว่าแบรนด์รถญี่ปุ่นนั้นมัวแต่มุ่งเน้นไปที่ตลาดใหญ่ ๆ อย่างในยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับตลาดนั้น ๆ นอกจากนี้สิ่งที่เราตัดสินใจผิดพลาดมากที่สุดก็คือ ความรวดเร็วของการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า
    .
    "และมันเป็นเรื่องจริงที่ค่ายรถญี่ปุ่นนำเสนอสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีค่อนข้างล้าหลัง ซึ่งวางขายอยู่แล้วในประเทศกำลังพัฒนามาขายให้ (ตลาดไทย) ผมคิดว่า นี่เองเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยไม่พอใจ และความไม่พอใจนั้นยิ่งนานวันก็สะสมเพิ่มขึ้น ๆ" ผู้บริหารค่ายรถญี่ปุ่นในไทยกล่าวเปิดอก
    .
    ทั้งนี้จากข้อมูลการสำรวจของ LiB Consulting ระบุว่า ภายในปี 2578 (ค.ศ.2035) หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ยอดขายรถใหม่ในเมืองไทยจะเปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิง โดยรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะลดปริมาณลงจากปัจจุบันที่ราว 78.5% เหลือเพียง 15% โดยรถอีวี และรถยนต์พลังงานใหม่จะกินส่วนแบ่งการตลาดที่เหลือ จะถูกแบ่งให้รถอีวี (50.7%) และ รถยนต์เทคโนโลยีไฮบริด-อื่นๆ (34.3%)
    .
    ด้วยสถานการณ์และแนวโน้มเช่นนี้ทำให้ ณ ปัจจุบันถือเป็นโอกาสสุดท้ายของค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นในการขยับขับเคลื่อนเพื่อไล่ตามรถอีวีจากจีนให้ทัน และกอบกู้สถานการณ์ด้วยการอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และตัดสินใจให้เร็ว และฉับไวมากขึ้น
    .
    ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องนี้คุณบุณยสิทธิ์ ประธานเครือสหพัฒน์วัย 87 ที่คร่ำหวอดทั้งในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค แวดวงอุตสาหกรรม และมีสายสัมพันธ์อันล้ำลึกกับแวดวงอุตสาหกรรมไทย ญี่ปุ่น และจีน กล่าวทิ้งท้ายสารคดีข่าวชิ้นนี้เป็นคำแนะนำให้กับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่กำลังเพลี่ยงพล้ำในประเทศไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า
    .
    ในมุมของคุณบุญยสิทธิ์ เดิมทีประธานบริษัทญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดนั้นเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท โดยคนเหล่านี้มีจิตวิญญาณของการบุกเบิกและก่อตั้ง แต่เมื่อมาถึงวันนี้ที่ประธานบริษัทกลายเป็นคนรุ่นใหม่ ๆ ที่เติบโตมาภายในกรอบของบริษัท คนเหล่านี้เวลาตัดสินใจอะไรจึงกระทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ซึ่งหากผู้บริหารรุ่นใหม่เล่านี้ไม่ได้ตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยตัวเอง การตัดสินใจก็จะล่าช้า ไม่ทันการณ์
    .
    อย่างไรก็ตาม ประธานเครือสหพัฒน์ยังกล่าวให้ความหวังด้วยว่า ในสายตาของชาวไทยแบรนด์ญี่ปุ่นยังได้รับความน่าเชื่อถืออย่างสูงอยู่ คนไทยยังมีความเชื่อว่ารถญี่ปุ่นนั้นดีกว่ารถจีน รถยนต์จีนนั้นมีดีเฉพาะเรื่องของแบตเตอรี่ และรถอีวี ซึ่งเมื่อไหร่ที่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเปิดตัวรถที่เป็นรถยนต์อีวีบ้าง ตนก็เชื่อว่าคนไทยจะกลับมานิยมรถยนต์ญี่ปุ่นเหมือนเดิม ซึ่งตนก็คาดหวังว่าบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นจะสามารถแข่งขันกับบริษัทรถยนต์จากจีนได้
    .
    สารคดีข่าวชิ้นนี้ของนิคเคอิ สื่อธุรกิจยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ด้วยการรุกคืบอย่างไม่หยุดหย่อนของค่ายรถยนต์จีน เวลาของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นในไทยนั้นคงเหลือน้อยลงทุกที พร้อมกับทิ้งฉากหลังเป็นภาพพระปรางค์วัดอรุณยามดวงอาทิตย์อัสดง
    .
    แล้วท่านผู้อ่านบูรพาไม่แพ้ละครับ มองว่า ค่ายรถญี่ปุ่นใกล้ถึงคราอวสานจากตลาดไทยหรือยัง? หรือ คิดว่าค่ายรถญี่ปุ่นยังมีโอกาสที่จะกู้สถานการณ์ ช่วงชิงตลาดรถยนต์ไทยกลับคืนมาได้ หากมีการปรับเปลี่ยนวิธีคิด และวิธีทำดังที่นิคเคอิ เอเชียรายงานเอาไว้?
    .
    เนื่องวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๘ ทีมงานเพจบูรพาไม่แพ้ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน และครอบครัวมีความสุข สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ สวัสดีปีใหม่ครับ 😄 🙏 🎊 🇹🇭 🇯🇵 🇨🇳
    .
    .
    อ้างอิง :
    NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand
    https://www.youtube.com/watch?v=w7ldtHt6Mn4
    "อวสาน" รถญี่ปุ่นในไทย จากมุมมองของ Nikkei Asia . ในวาระส่งท้ายปีเก่า 2567 ต้อนรับปีใหม่ 2568 สื่อยักษ์ใหญ่ชื่อดังของญี่ปุ่นคือ นิคเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ได้เผยแพร่สารคดีข่าว NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand (นิคเคอิ ฟิล์ม : เสียงของเครื่องยนต์ที่กำลังหายไปจากประเทศไทย) ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ของบรรดารถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยครอบครองตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมากกว่า 90% แต่ในห้วงระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นกลับถูกรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนรุกไล่ ทำให้ในปี 2567 เหลือส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ในตลาดรถใหม่เพียง 76% . แม้ว่าในปัจจุบันรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นจะยังคงสามารถครอบครองตลาดรถใหม่ในประเทศไทยได้มากกว่า 3 ใน 4 แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยจากรอบด้านแล้วไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค พลวัตรของเหล่าดีลเลอร์ผู้ขายรถยนต์ทั่วประเทศไทย การทยอยปิดโรงงาน การไหลออกของบุคลากร-พนักงาน-ผู้บริหารจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นไปสู่ค่ายรถจีน รวมไปถึงการคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในอนาคตแล้วรถยนต์ญี่ปุ่นหนีไม่พ้นอาจต้องสูญพันธุ์จากประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ หากไม่เร่งปรับตัวให้เร็วกว่านี้ . "ผมเพิ่งซื้อรถยนต์บีวายดีรุ่นใหม่ล่าสุด แล้วผมก็เปรียบเทียบรถอีวี กับ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบดั้งเดิมเพื่อศึกษาความแตกต่าง ... ฟังก์ชันในรถอีวีของจีนนั้นครบครันมาก อัตราการเร่งก็ฉับไวมาก" คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับนิคเคอิเป็นภาษาญี่ปุ่นอันคล่องแคล่ว และเปรียบเทียบต่อว่า . "ผมมองญี่ปุ่นจากหลาย ๆ มุม ด้วยความที่สำเร็จมาตั้งแต่ในยุคอะนาล็อก ญี่ปุ่นกลับไม่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วพอในยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล เทียบกับจีนที่ไม่ได้มีความสำเร็จมากนักในยุคของอะนาล็อก แต่พอยุคสมัยของเทคโนโลยีดิจิทัลมาถึง จีนจึงพยายามอย่างมากที่จะดิสรัปอุตสาหกรรมรถยนต์" . นิคเคอิอธิบายว่า ประเทศไทยซึ่งมีประชากรราว 66 ล้านคน และเป็นระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียน นั้นได้ชื่อเล่นว่าเป็น "ดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia)" ด้วยบรรดาบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศก่อนหน้านี้นานหลายทศวรรษ แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2566 ที่บริษัทรถยนต์จากจีนรุกเข้่ามาทำตลาด และย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยอย่างจริงจัง . "เกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา รถยนต์ญี่ปุ่นสามารถครอบครองยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยได้มากเกือบ 90% แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ รถอีวีจากจีนบุกตลาดประเทศไทยในปี 2566 ส่งผลให้ยอดขายรถใหม่ในประเทศไทยของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นลดลงต่ำกว่า 80% (เหลือ 77.8% ในปี 2566 และ เหลือ 76.2% ในปี 2567)" นิคเคอิระบุ . จากนั้นจึงกล่าวกว่า บีวายดี (BYD) คือ หัวหอกของบริษัทรถยนต์จีนที่เข้ามาแย่งชิงตลาดในประเทศไทยจากบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น โดยนิคเคอิได้ดำเนินการสำรวจการขยายตัวของจำนวนดีลเลอร์รถบีวายดีในไทยพบว่า เกือบ 50% ของดีลเลอร์รถบีวายดีนั้นก่อนหน้านั้นเคยเป็นดีลเลอร์ของรถยนต์ค่ายญี่ปุ่น โดยบีวายดีขยายสาขาไปทั่วประเทศ โดยไม่เพียงกวาดดีลเลอร์จากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นให้เข้ามาซุกใต้ปีก แต่รวมถึงค่ายรถยนต์จากตะวันตกด้วยเช่นกัน . การรุกไล่ของค่ายรถยนต์จากจีนไม่หยุดอยู่แค่ในระดับการส่งรถยนต์จากจีนมาขายยังเมืองไทย แต่ยังมีการขยายโรงงานผลิตมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วย ยกตัวอย่างเช่น บีวายดีที่เพิ่งเริ่มเดินสายพานโรงงานผลิตรถยนต์แบบเต็มระบบแห่งแรกในต่างแดนที่ จ.ระยอง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทำให้บุคลากรในแวดวงรถยนต์คนไทยที่มีความสามารถตั้งแต่ระดับฝ่ายผลิต จนถึงผู้บริหารที่เคยสังกัดอยู่กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ไหลไปอยู่กับบริษัทรถยนต์จีนจำนวนมาก . ด้วยแรงจูงใจสำคัญเป็นค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิม 30% 50% 80% หรือกระทั่งเพิ่มขึ้นเท่าตัว! . นายสื่อ ชิงเคอ (史青科) หรือ Parker Shi ประธานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล เจ้าของแบรนด์รถยนต์จีน GWM ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงคู่แข่งค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น และการดึงตัวผู้บริหารระดับสูงจากโตโยต้ามาทำงานกับเกรทวอลล์ฯ โดยระบุว่า . "ด้วยความสัตย์จริง และความเคารพต่อโตโยต้า และรถแบรนด์จากใจ เพราะพวกเขานั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ (excellent) คุณวุฒิกร (สุริยะฉันทนานนท์) นั้นเคยทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่โตโยต้า และนี่คือเหตุผลที่เขามาอยู่กับเรา" และกล่าวต่อว่า "ถ้าหากคุณไม่มีความกล้าหาญที่จะสู้ ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง คุณก็ตาย ถ้าหากคุณไม่มีอาวุธที่ดีพอ ผลิตภัณฑ์ที่ดี รูปแบบธุรกิจที่ดี กลยุทธ์ที่ดี คุณก็ตาย ถ้าคุณไม่มีทีมเวิร์คที่ดี คุณก็ตาย ... มันไม่มีคนอยู่รอดหรอก เพราะที่กำลังเป็นอยู่นี้คือคือสงคราม ที่เกิดขึ้นในตลาดที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง" . นิคเคอิ เอเชียยังมีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัทรถยนต์ชาวญี่ปุ่นในไทยที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม โดยผู้บริหารชาวญี่ปุ่นคนนี้ยอมรับว่า บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นละเลยความต้องการของผู้บริโภคไทยไปมาก รวมถึงนำเสนอสินค้าที่เทคโนโลยีล้าหลังไปแล้วให้กับตลาดในประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย ซึ่งแตกต่างจากค่ายรถจากจีน . "มันเป็นความจริงที่ว่าแบรนด์รถญี่ปุ่นนั้นมัวแต่มุ่งเน้นไปที่ตลาดใหญ่ ๆ อย่างในยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับตลาดนั้น ๆ นอกจากนี้สิ่งที่เราตัดสินใจผิดพลาดมากที่สุดก็คือ ความรวดเร็วของการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า . "และมันเป็นเรื่องจริงที่ค่ายรถญี่ปุ่นนำเสนอสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีค่อนข้างล้าหลัง ซึ่งวางขายอยู่แล้วในประเทศกำลังพัฒนามาขายให้ (ตลาดไทย) ผมคิดว่า นี่เองเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยไม่พอใจ และความไม่พอใจนั้นยิ่งนานวันก็สะสมเพิ่มขึ้น ๆ" ผู้บริหารค่ายรถญี่ปุ่นในไทยกล่าวเปิดอก . ทั้งนี้จากข้อมูลการสำรวจของ LiB Consulting ระบุว่า ภายในปี 2578 (ค.ศ.2035) หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ยอดขายรถใหม่ในเมืองไทยจะเปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิง โดยรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะลดปริมาณลงจากปัจจุบันที่ราว 78.5% เหลือเพียง 15% โดยรถอีวี และรถยนต์พลังงานใหม่จะกินส่วนแบ่งการตลาดที่เหลือ จะถูกแบ่งให้รถอีวี (50.7%) และ รถยนต์เทคโนโลยีไฮบริด-อื่นๆ (34.3%) . ด้วยสถานการณ์และแนวโน้มเช่นนี้ทำให้ ณ ปัจจุบันถือเป็นโอกาสสุดท้ายของค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นในการขยับขับเคลื่อนเพื่อไล่ตามรถอีวีจากจีนให้ทัน และกอบกู้สถานการณ์ด้วยการอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และตัดสินใจให้เร็ว และฉับไวมากขึ้น . ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องนี้คุณบุณยสิทธิ์ ประธานเครือสหพัฒน์วัย 87 ที่คร่ำหวอดทั้งในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค แวดวงอุตสาหกรรม และมีสายสัมพันธ์อันล้ำลึกกับแวดวงอุตสาหกรรมไทย ญี่ปุ่น และจีน กล่าวทิ้งท้ายสารคดีข่าวชิ้นนี้เป็นคำแนะนำให้กับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่กำลังเพลี่ยงพล้ำในประเทศไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า . ในมุมของคุณบุญยสิทธิ์ เดิมทีประธานบริษัทญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดนั้นเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท โดยคนเหล่านี้มีจิตวิญญาณของการบุกเบิกและก่อตั้ง แต่เมื่อมาถึงวันนี้ที่ประธานบริษัทกลายเป็นคนรุ่นใหม่ ๆ ที่เติบโตมาภายในกรอบของบริษัท คนเหล่านี้เวลาตัดสินใจอะไรจึงกระทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ซึ่งหากผู้บริหารรุ่นใหม่เล่านี้ไม่ได้ตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยตัวเอง การตัดสินใจก็จะล่าช้า ไม่ทันการณ์ . อย่างไรก็ตาม ประธานเครือสหพัฒน์ยังกล่าวให้ความหวังด้วยว่า ในสายตาของชาวไทยแบรนด์ญี่ปุ่นยังได้รับความน่าเชื่อถืออย่างสูงอยู่ คนไทยยังมีความเชื่อว่ารถญี่ปุ่นนั้นดีกว่ารถจีน รถยนต์จีนนั้นมีดีเฉพาะเรื่องของแบตเตอรี่ และรถอีวี ซึ่งเมื่อไหร่ที่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเปิดตัวรถที่เป็นรถยนต์อีวีบ้าง ตนก็เชื่อว่าคนไทยจะกลับมานิยมรถยนต์ญี่ปุ่นเหมือนเดิม ซึ่งตนก็คาดหวังว่าบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นจะสามารถแข่งขันกับบริษัทรถยนต์จากจีนได้ . สารคดีข่าวชิ้นนี้ของนิคเคอิ สื่อธุรกิจยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ด้วยการรุกคืบอย่างไม่หยุดหย่อนของค่ายรถยนต์จีน เวลาของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นในไทยนั้นคงเหลือน้อยลงทุกที พร้อมกับทิ้งฉากหลังเป็นภาพพระปรางค์วัดอรุณยามดวงอาทิตย์อัสดง . แล้วท่านผู้อ่านบูรพาไม่แพ้ละครับ มองว่า ค่ายรถญี่ปุ่นใกล้ถึงคราอวสานจากตลาดไทยหรือยัง? หรือ คิดว่าค่ายรถญี่ปุ่นยังมีโอกาสที่จะกู้สถานการณ์ ช่วงชิงตลาดรถยนต์ไทยกลับคืนมาได้ หากมีการปรับเปลี่ยนวิธีคิด และวิธีทำดังที่นิคเคอิ เอเชียรายงานเอาไว้? . เนื่องวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๘ ทีมงานเพจบูรพาไม่แพ้ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน และครอบครัวมีความสุข สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ สวัสดีปีใหม่ครับ 😄 🙏 🎊 🇹🇭 🇯🇵 🇨🇳 . . อ้างอิง : NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand https://www.youtube.com/watch?v=w7ldtHt6Mn4
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 635 มุมมอง 1 รีวิว
  • ฟันธงยุทธศาสตร์ Made in China 2025
    จุดเริ่มต้นทำให้จีนแซงหน้าสหรัฐฯแน่นอน
    .
    20 กว่าปีที่ผ่านมา จีนทุ่มเงินไปหลายล้านล้านหยวน เพื่อสร้างเทคโนโลยีของตัวเอง และลดการพึ่งพาต่างชาติ เพราะจีนชูนโยบาย Made in China 2025 ทำให้จีนไม่ต้องไปหวั่นไหวกับคำขู่ที่จะคว่ำบาตรและขึ้นภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังคงหลงตัวเองว่าประเทศต่างๆ ต้องมาพึ่งตัวเอง
    .
    แต่ความจริงก็คือ ทุกวันนี้สหรัฐฯ พึ่งจีนมากกว่าที่จีนพึ่งสหรัฐฯ นี่คือสัจจะวาจาที่ผมให้ก่อนสิ้นปีนี้ การที่จีนมีระบบเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มของตัวเอง ทำให้การปิดล้อมทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ แทบจะไม่ประสบผลสำเร็จเลย ซ้ำยังเป็นแรงผลักดันให้จีนต้องเร่งสร้างเทคโนโลยี และห่วงโซ่อุปทานของตัวเองให้เร็วยิ่งขึ้น
    .
    ภายใน 14 ปีที่ผ่านมานี้ อุตสาหกรรมที่จีนสร้างผลิตผลทางอุตสาหกรรมกลายเพิ่มขึ้นเป็น 34% ของโลก จาก 19% ของโลก
    เพราะในนโยบาย Made in China จีนได้กำหนด 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งขณะนี้มีความก้าวหน้าไปทุกด้าน คือ
    (1) เทคโนโลยีสารสนเทศ อีกสองปีข้างหน้า จีนจะผลิตเซมิคอนดักเตอร์ได้เองเกือบ 30% ของโลก
    (2) เครื่องจักรชั้นสูงและหุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรม ทุกประเทศรวมกันในโลกสู้จีนไม่ได้เลย
    (3) การบินและอากาศยาน จีนผลิตเครื่องบิน C-919 คู่แข่งโบอิ้ง และแอร์บัส และบริษัท DJI (Dà Jiāng Chuàngxīn)ของจีนผลิตโดรนรายใหญ่ที่สุดของโลกโดย
    (4) วิศวกรรมทางการทะเลและการต่อเรือ ครองสัดส่วนมากกว่า 70% ของตลาดโลก
    (5) การขนส่งทางราง รถไฟความเร็วสูงในจีนใช้เทคโนโลยีและใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศเกือบทั้งหมด และจีนยังได้ส่งออกเทคโนโลยีรถไฟไปยังต่างประเทศอีกด้วย น่าเสียดายรถไฟความเร็วสูงของบ้านเรายังไม่ไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียว
    (6) รถยนต์พลังงานใหม่ BYDเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก และจีนกำลังแซงหน้าสหรัฐฯ เยอรมนี ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ขึ้นเป็นผู้ส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่รายใหญ่ที่สุดของโลก
    (7) อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้า จีนครองตลาดอุปกรณ์โซลาร์เซลล์มากกว่า 80% ของทั่วโลกที่มีมูลค่ามากกว่า 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว
    (8) เครื่องมือเกษตรกรรม แม้จีนยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าอุปกรณ์ล้ำสมัย แต่ได้ผสมผสานเครื่องจักรพลังไฟฟ้าใช้พิกัดดาวเทียมทำการเกษตรแบบอัจฉริยะ
    (9) วัสดุใหม่ จีนได้ดุลการค้าในวัสดุทางเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาร์บอน ไฟเบอร์ ซึ่งเป็นวัสดุที่จะมาแทนโลหะ
    (10) อุปกรณ์การแพทย์และเทคโนโลยีเภสัชกรรม จีนมีความก้าวหน้าในการวิจัยวัคซีน ยารักษาโรค รวมถึงในเทคโนโลยีการผ่าตัดรักษาพยาบาลโดยใช้ระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์) และระบบ 5G เข้ามาช่วยในงานการแพทย์
    .
    หลังจากยุทธศาสตร์ Made in China 2025 แล้ว จีนยังมีเป้าหมายที่จะก้าวไปสู่ Made in China ซึ่งหมายความว่า สินค้าที่ใช้เทคโนโลยีของจีน ออกแบบโดยคนจีน แต่ว่าอาจจะไปผลิตที่ประเทศอื่นที่มีต้นทุนถูกกว่า เหมือนกับสินค้าแบรนด์ตะวันตกที่มาผลิตในประเทศต่างๆ นั่นเอง
    .
    สรุป ถ้านายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 60- 100%จริงๆ ตามที่ขู่ไว้ ต้นทุนการผลิตในสหรัฐฯจะสูงขนาดไหน เพราะว่าวัตถุดิบ อุปกรณ์การผลิตหลายอย่างที่สหรัฐฯต้องใช้นั้น ต้องนำเข้าจากจีนที่นับวันมีแต่มากขึ้นๆ หรือถ้าสหรัฐฯ จะแยกตขั้วตัดขาดกับจีน คำถามมีอยู่ว่าแล้วโรงงานสหรัฐฯ จะเอาวัตถุดิบจากไหนล่ะ ไม่มีให้
    .
    นี่ยังไม่พูดถึงค่าแรงและต้นทุนต่างๆ ในสหรัฐฯ ที่แพงกว่าประเทศจีน ทักษะคนงานในสหรัฐฯบางสาขา เทียบไม่ได้กับความสามารถของคนจีน เช่นนี้แล้ว Made in China 2025 จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ในที่สุดทำให้จีนภายในไม่กี่ปีจากนี้ไป จะต้องแซงหน้าสหรัฐฯอย่างค่อนข้างแน่นอนที่สุด อันนี้ผมฟันธงได้เลย
    ฟันธงยุทธศาสตร์ Made in China 2025 จุดเริ่มต้นทำให้จีนแซงหน้าสหรัฐฯแน่นอน . 20 กว่าปีที่ผ่านมา จีนทุ่มเงินไปหลายล้านล้านหยวน เพื่อสร้างเทคโนโลยีของตัวเอง และลดการพึ่งพาต่างชาติ เพราะจีนชูนโยบาย Made in China 2025 ทำให้จีนไม่ต้องไปหวั่นไหวกับคำขู่ที่จะคว่ำบาตรและขึ้นภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังคงหลงตัวเองว่าประเทศต่างๆ ต้องมาพึ่งตัวเอง . แต่ความจริงก็คือ ทุกวันนี้สหรัฐฯ พึ่งจีนมากกว่าที่จีนพึ่งสหรัฐฯ นี่คือสัจจะวาจาที่ผมให้ก่อนสิ้นปีนี้ การที่จีนมีระบบเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มของตัวเอง ทำให้การปิดล้อมทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ แทบจะไม่ประสบผลสำเร็จเลย ซ้ำยังเป็นแรงผลักดันให้จีนต้องเร่งสร้างเทคโนโลยี และห่วงโซ่อุปทานของตัวเองให้เร็วยิ่งขึ้น . ภายใน 14 ปีที่ผ่านมานี้ อุตสาหกรรมที่จีนสร้างผลิตผลทางอุตสาหกรรมกลายเพิ่มขึ้นเป็น 34% ของโลก จาก 19% ของโลก เพราะในนโยบาย Made in China จีนได้กำหนด 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งขณะนี้มีความก้าวหน้าไปทุกด้าน คือ (1) เทคโนโลยีสารสนเทศ อีกสองปีข้างหน้า จีนจะผลิตเซมิคอนดักเตอร์ได้เองเกือบ 30% ของโลก (2) เครื่องจักรชั้นสูงและหุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรม ทุกประเทศรวมกันในโลกสู้จีนไม่ได้เลย (3) การบินและอากาศยาน จีนผลิตเครื่องบิน C-919 คู่แข่งโบอิ้ง และแอร์บัส และบริษัท DJI (Dà Jiāng Chuàngxīn)ของจีนผลิตโดรนรายใหญ่ที่สุดของโลกโดย (4) วิศวกรรมทางการทะเลและการต่อเรือ ครองสัดส่วนมากกว่า 70% ของตลาดโลก (5) การขนส่งทางราง รถไฟความเร็วสูงในจีนใช้เทคโนโลยีและใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศเกือบทั้งหมด และจีนยังได้ส่งออกเทคโนโลยีรถไฟไปยังต่างประเทศอีกด้วย น่าเสียดายรถไฟความเร็วสูงของบ้านเรายังไม่ไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียว (6) รถยนต์พลังงานใหม่ BYDเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก และจีนกำลังแซงหน้าสหรัฐฯ เยอรมนี ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ขึ้นเป็นผู้ส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่รายใหญ่ที่สุดของโลก (7) อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้า จีนครองตลาดอุปกรณ์โซลาร์เซลล์มากกว่า 80% ของทั่วโลกที่มีมูลค่ามากกว่า 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว (8) เครื่องมือเกษตรกรรม แม้จีนยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าอุปกรณ์ล้ำสมัย แต่ได้ผสมผสานเครื่องจักรพลังไฟฟ้าใช้พิกัดดาวเทียมทำการเกษตรแบบอัจฉริยะ (9) วัสดุใหม่ จีนได้ดุลการค้าในวัสดุทางเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาร์บอน ไฟเบอร์ ซึ่งเป็นวัสดุที่จะมาแทนโลหะ (10) อุปกรณ์การแพทย์และเทคโนโลยีเภสัชกรรม จีนมีความก้าวหน้าในการวิจัยวัคซีน ยารักษาโรค รวมถึงในเทคโนโลยีการผ่าตัดรักษาพยาบาลโดยใช้ระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์) และระบบ 5G เข้ามาช่วยในงานการแพทย์ . หลังจากยุทธศาสตร์ Made in China 2025 แล้ว จีนยังมีเป้าหมายที่จะก้าวไปสู่ Made in China ซึ่งหมายความว่า สินค้าที่ใช้เทคโนโลยีของจีน ออกแบบโดยคนจีน แต่ว่าอาจจะไปผลิตที่ประเทศอื่นที่มีต้นทุนถูกกว่า เหมือนกับสินค้าแบรนด์ตะวันตกที่มาผลิตในประเทศต่างๆ นั่นเอง . สรุป ถ้านายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 60- 100%จริงๆ ตามที่ขู่ไว้ ต้นทุนการผลิตในสหรัฐฯจะสูงขนาดไหน เพราะว่าวัตถุดิบ อุปกรณ์การผลิตหลายอย่างที่สหรัฐฯต้องใช้นั้น ต้องนำเข้าจากจีนที่นับวันมีแต่มากขึ้นๆ หรือถ้าสหรัฐฯ จะแยกตขั้วตัดขาดกับจีน คำถามมีอยู่ว่าแล้วโรงงานสหรัฐฯ จะเอาวัตถุดิบจากไหนล่ะ ไม่มีให้ . นี่ยังไม่พูดถึงค่าแรงและต้นทุนต่างๆ ในสหรัฐฯ ที่แพงกว่าประเทศจีน ทักษะคนงานในสหรัฐฯบางสาขา เทียบไม่ได้กับความสามารถของคนจีน เช่นนี้แล้ว Made in China 2025 จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ในที่สุดทำให้จีนภายในไม่กี่ปีจากนี้ไป จะต้องแซงหน้าสหรัฐฯอย่างค่อนข้างแน่นอนที่สุด อันนี้ผมฟันธงได้เลย
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประโยชน์ของการเรียนสายสังคม

    จนถึงขณะนี้ยูเครนก็ยังไม่สามารถนำทหารเกาหลีเหนือตัวเป็น ๆ มาแสดงกับสื่อได้ แม้จะมีการแชร์ภาพที่อ้างว่าเป็น "เชลย" เกาหลีเหนือ แต่ก็มีแค่ภาพเท่านั้น เพราะเชลยดังกล่าว "เสียชีวิต" หลังจากยูเครนถ่ายภาพได้แปบเดียวเท่านั้นเอง หลักฐานล่าสุดที่ยูเครนใช้อ้างว่ามีทหารเกาหลีเหนือมาช่วยรัสเซียรบ คือเอกสารภาษาเกาหลีที่ยูเครนอ้างว่าทหารเกาหลีเหนือพกติดตัว ซึ่งหลายคนน่าจะเห็นในสื่อบ้างแล้ว

    ทีนี้มีข้อมูลที่น่าสนใจจาก X ตามบัญชีที่ผมลงรูปไว้เลยนะครับ เจ้าของบัญชีเป็นคนที่ศึกษาภาษาเกาหลี เขาตั้งข้อสังเกตว่าข้อความภาษาเกาหลีในเอกสารที่ยูเครนอ้างว่าทหารเกาหลีเหนือพกติดตัวนั้น ไม่ได้ใช้ฟอนต์ตัวอักษร ศัพท์ หรือสำนวนภาษาแบบที่เกาหลีเหนือใช้ แต่เป็นแบบของเกาหลีใต้ ถ้าที่เขาวิเคราะห์ไว้เป็นความจริง ก็เท่ากับว่ายูเครนจัดฉากเอกสารภาษาเกาหลีดังกล่าวขึ้น โดยอาจร่วมมือกับเกาหลีใต้ รายละเอียดเต็ม ๆ อ่านได้ในบัญชี X ที่ผมลงรูปไว้นะครับ ผมขอไม่แคปมาทั้งหมด เพราะมีรูปศพทหารที่ยูเครนอ้างว่าเป็นทหารเกาหลีเหนือด้วย ผมยังยึดถือนโยบายไม่แชร์ภาพศพทหารที่เสียชีวิตทั้งสองฝ่ายนะครับ เพราะดูไปก็ไม่ได้มีอะไรเจริญหูเจริญตาขึ้นมา

    จากเรื่องนี้เห็นอะไรไหมครับ คนที่จะวิเคราะห์เรื่องนี้ออกมาได้ ถูกผิดอย่างไรว่ากันอีกที ต้องศึกษาเรื่องภาษาศาสตร์หรือ linguistics มาลึกซึ้งพอสมควร ซึ่งดูผิวเผิน ภาษาศาสตร์อาจไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องการทหารหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเลย แต่เรื่องนี้กลับใช้ประโยชน์ได้เฉย

    ถ้ามีใครมาถามผมเรื่องแบบนี้ ต่อให้เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษารัสเซีย ผมก็ตอบไม่ได้ครับ เพราะผมไม่ได้เรียนภาษาศาสตร์ ไม่ได้รู้เรื่องฟอนต์ตัวอักษรหรือสำนวนภาษาเฉพาะขนาดนั้น

    แม้แต่ในเรื่องการทหาร ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือประวัติศาสตร์ ผมก็ไม่ใช่อับดุล ที่จะรู้ไปหมดทุกเรื่อง ทุกภูมิภาคทั่วโลก

    การจะวิเคราะห์เบื้องลึกเบื้องหลังเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลก ต้องใช้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ภาษาศาสตร์ ฯลฯ ของทุกภูมิภาค ไทย ยุโรป อาเซียน ฯลฯ มาทำงานร่วมกัน

    ผมเชื่อว่าการเรียนสายสังคมมีประโยชน์ แต่ควรเรียนให้เชี่ยวชาญสาขานั้นจริง ๆ ไม่ใช่มาเรียนแค่เพราะไม่รู้จะเรียนอะไร สอบเข้าคณะอื่นไม่ติด เลยมาเรียนเอาใบปริญญาไปงั้น ๆ และที่สำคัญต้องระวังไม่ให้ระหว่างทางถูก "ล่อลวง" ไปเป็นนักเคลื่อนไหวหรือ activist ไปทำผิดกฎหมาย มีประวัติอาชญากรรม หรือถ้าเลวร้ายมากคือเกิดเหตุการณ์รุนแรงบาดเจ็บล้มตายไป ไม่คุ้มกันเลยครับ

    สวัสดี

    การทูตและการทหาร
    Military and Diplomacy

    29.12.2024
    ประโยชน์ของการเรียนสายสังคม จนถึงขณะนี้ยูเครนก็ยังไม่สามารถนำทหารเกาหลีเหนือตัวเป็น ๆ มาแสดงกับสื่อได้ แม้จะมีการแชร์ภาพที่อ้างว่าเป็น "เชลย" เกาหลีเหนือ แต่ก็มีแค่ภาพเท่านั้น เพราะเชลยดังกล่าว "เสียชีวิต" หลังจากยูเครนถ่ายภาพได้แปบเดียวเท่านั้นเอง หลักฐานล่าสุดที่ยูเครนใช้อ้างว่ามีทหารเกาหลีเหนือมาช่วยรัสเซียรบ คือเอกสารภาษาเกาหลีที่ยูเครนอ้างว่าทหารเกาหลีเหนือพกติดตัว ซึ่งหลายคนน่าจะเห็นในสื่อบ้างแล้ว ทีนี้มีข้อมูลที่น่าสนใจจาก X ตามบัญชีที่ผมลงรูปไว้เลยนะครับ เจ้าของบัญชีเป็นคนที่ศึกษาภาษาเกาหลี เขาตั้งข้อสังเกตว่าข้อความภาษาเกาหลีในเอกสารที่ยูเครนอ้างว่าทหารเกาหลีเหนือพกติดตัวนั้น ไม่ได้ใช้ฟอนต์ตัวอักษร ศัพท์ หรือสำนวนภาษาแบบที่เกาหลีเหนือใช้ แต่เป็นแบบของเกาหลีใต้ ถ้าที่เขาวิเคราะห์ไว้เป็นความจริง ก็เท่ากับว่ายูเครนจัดฉากเอกสารภาษาเกาหลีดังกล่าวขึ้น โดยอาจร่วมมือกับเกาหลีใต้ รายละเอียดเต็ม ๆ อ่านได้ในบัญชี X ที่ผมลงรูปไว้นะครับ ผมขอไม่แคปมาทั้งหมด เพราะมีรูปศพทหารที่ยูเครนอ้างว่าเป็นทหารเกาหลีเหนือด้วย ผมยังยึดถือนโยบายไม่แชร์ภาพศพทหารที่เสียชีวิตทั้งสองฝ่ายนะครับ เพราะดูไปก็ไม่ได้มีอะไรเจริญหูเจริญตาขึ้นมา จากเรื่องนี้เห็นอะไรไหมครับ คนที่จะวิเคราะห์เรื่องนี้ออกมาได้ ถูกผิดอย่างไรว่ากันอีกที ต้องศึกษาเรื่องภาษาศาสตร์หรือ linguistics มาลึกซึ้งพอสมควร ซึ่งดูผิวเผิน ภาษาศาสตร์อาจไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องการทหารหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเลย แต่เรื่องนี้กลับใช้ประโยชน์ได้เฉย ถ้ามีใครมาถามผมเรื่องแบบนี้ ต่อให้เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษารัสเซีย ผมก็ตอบไม่ได้ครับ เพราะผมไม่ได้เรียนภาษาศาสตร์ ไม่ได้รู้เรื่องฟอนต์ตัวอักษรหรือสำนวนภาษาเฉพาะขนาดนั้น แม้แต่ในเรื่องการทหาร ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือประวัติศาสตร์ ผมก็ไม่ใช่อับดุล ที่จะรู้ไปหมดทุกเรื่อง ทุกภูมิภาคทั่วโลก การจะวิเคราะห์เบื้องลึกเบื้องหลังเหตุการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลก ต้องใช้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ภาษาศาสตร์ ฯลฯ ของทุกภูมิภาค ไทย ยุโรป อาเซียน ฯลฯ มาทำงานร่วมกัน ผมเชื่อว่าการเรียนสายสังคมมีประโยชน์ แต่ควรเรียนให้เชี่ยวชาญสาขานั้นจริง ๆ ไม่ใช่มาเรียนแค่เพราะไม่รู้จะเรียนอะไร สอบเข้าคณะอื่นไม่ติด เลยมาเรียนเอาใบปริญญาไปงั้น ๆ และที่สำคัญต้องระวังไม่ให้ระหว่างทางถูก "ล่อลวง" ไปเป็นนักเคลื่อนไหวหรือ activist ไปทำผิดกฎหมาย มีประวัติอาชญากรรม หรือถ้าเลวร้ายมากคือเกิดเหตุการณ์รุนแรงบาดเจ็บล้มตายไป ไม่คุ้มกันเลยครับ สวัสดี การทูตและการทหาร Military and Diplomacy 29.12.2024
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาญบะหมี่ไก่ตุ๋น เชียงใหม่

    เป็นร้านอร่อยเจ้าประจำที่ให้เด็กขี่รถไปหิ้วมากินที่บ้าน เพื่อนๆชอบใจ ยกนิ้วให้มานาน ปัจจุบัน เชียงใหม่ มี 2 แห่ง คือ นันทาราม และ จริงใจมาร์เก็ต และที่กรุงเทพฯ(สาขาที่3)อยู่แถวๆ..บรรทัดทอง

    ชาญ-นันทาราม
    https://maps.app.goo.gl/SDRsK66od9YKUNEu9
    ชาญ-จริงใจมาร์เก็ต
    https://maps.app.goo.gl/hzMj29XdpEgYVMQY7

    ชาญบะหมี่ไก่ตุ๋น เชียงใหม่ เป็นร้านอร่อยเจ้าประจำที่ให้เด็กขี่รถไปหิ้วมากินที่บ้าน เพื่อนๆชอบใจ ยกนิ้วให้มานาน ปัจจุบัน เชียงใหม่ มี 2 แห่ง คือ นันทาราม และ จริงใจมาร์เก็ต และที่กรุงเทพฯ(สาขาที่3)อยู่แถวๆ..บรรทัดทอง ชาญ-นันทาราม https://maps.app.goo.gl/SDRsK66od9YKUNEu9 ชาญ-จริงใจมาร์เก็ต https://maps.app.goo.gl/hzMj29XdpEgYVMQY7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • บิ๊กซี ฟู้ดเพลส เจาะพรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ต

    ปลายปี 2567 บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดสาขาโมเดลบิ๊กซี ฟู้ดเพลส (Big C Foodplace) ซึ่งเป็นพรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ต (Premium Supermarket) อย่างต่อเนื่อง เริ่มจากสาขามหาทุนพลาซ่า ถนนเพลินจิต เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2567 เป็นสาขาลำดับที่ 14 ขนาดพื้นที่ 386 ตารางเมตร เจาะกลุ่มลูกค้าโซนสำนักงาน รวมถึงกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีรายได้ระดับกลาง

    ตามมาด้วยสาขาดิโอลด์สยามพลาซ่า ถนนตรีเพชร เปิดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2567 มาพร้อมกับโซนเดลิก้า (Delica) ที่จำหน่ายอาหารพร้อมทาน และอาหารจานหลักหลากหลายเมนู พร้อมสินค้าอุปโภคบริโภค และของฝากสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ และสาขาล่าสุด เดอะแจ๊ส รามอินทรา เปิดเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2567 มาแทนแม็กซ์แวลู ทำให้ขณะนี้มีสาขาบิ๊กซี ฟู้ดเพลส รวม 16 สาขา

    พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวโมเดลใหม่ บิ๊กซี บางกอก มาร์เช่ (Big C Bangkok Marche) ที่อาคารเดอะฟอรั่ม วันแบงค็อก ถนนพระรามที่ 4 เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2567 มี 3 โซนหลัก ได้แก่ Delica โซนอาหารเช้าและอาหารพร้อมทาน ราคาเริ่มต้นที่ 99 บาท, Grilled Bar จำหน่ายเมนูซีฟู๊ด สเต็กเนื้อออสเตรเลีย และ Wine Cellar จำหน่ายสุราหลากหลายประเทศ พร้อมสินค้าอุปโภคบริโภค

    สำหรับบิ๊กซี ฟู้ดเพลส เป็นพรีเมียม ซูเปอร์มาร์เก็ต ในรูปแบบที่แตกต่างจากบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และบิ๊กซี มาร์เก็ต เน้นจำหน่ายอาหารสด อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารพร้อมรับประทาน และผลิตภัณฑ์นำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมพื้นที่รับประทานอาหาร เปิดสาขาต้นแบบที่ศูนย์การค้าเกตเวย์ แอท บางซื่อ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2561 ก่อนเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2562 ขณะนั้นเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเปิด 24 ชั่วโมง

    หลังจากนั้นจึงได้รีโนเวตห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี มาร์เก็ตบางสาขา ให้กลายเป็นบิ๊กซี ฟู้ดเพลส ช่วงปี 2562-2565 ได้แก่ สาขาสุขาภิบาล 5 สาขาเคหะร่มเกล้า สาขาสวนหลวง สาขาประชาอุทิศ สาขาหทัยราษฏร์ สาขาสายไหม เปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมได้แก่ สาขาท่าอิฐ เปิด 16 ก.ค.2563 สาขาหนามแดง เปิด 26 ส.ค.2563 สาขาสำนักงานใหญ่ บีเจซี 1 เปิด 1 ก.ค.2565 สาขาพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน เปิด 6 ก.ค.2566 และสาขาเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เปิด 16 พ.ย.2566

    นอกจากนี้ ยังมีโมเดลบิ๊กซี เพลส (Big C Place) สาขาลำลูกกา สาขาสระบุรี สาขารัชดาภิเษก สาขาฉะเชิงเทรา 1 (ถนนสิริโสธร) แผนกอาหารสดใช้คำว่า บิ๊กซี ฟู้ดเพลส แต่โปรโมชันสินค้าบางรายการของบิ๊กซี ฟู้ดเพลส จัดรายการเฉพาะสาขาข้างต้น 16 สาขาเท่านั้น

    #Newskit
    บิ๊กซี ฟู้ดเพลส เจาะพรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ต ปลายปี 2567 บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดสาขาโมเดลบิ๊กซี ฟู้ดเพลส (Big C Foodplace) ซึ่งเป็นพรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ต (Premium Supermarket) อย่างต่อเนื่อง เริ่มจากสาขามหาทุนพลาซ่า ถนนเพลินจิต เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2567 เป็นสาขาลำดับที่ 14 ขนาดพื้นที่ 386 ตารางเมตร เจาะกลุ่มลูกค้าโซนสำนักงาน รวมถึงกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีรายได้ระดับกลาง ตามมาด้วยสาขาดิโอลด์สยามพลาซ่า ถนนตรีเพชร เปิดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2567 มาพร้อมกับโซนเดลิก้า (Delica) ที่จำหน่ายอาหารพร้อมทาน และอาหารจานหลักหลากหลายเมนู พร้อมสินค้าอุปโภคบริโภค และของฝากสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ และสาขาล่าสุด เดอะแจ๊ส รามอินทรา เปิดเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2567 มาแทนแม็กซ์แวลู ทำให้ขณะนี้มีสาขาบิ๊กซี ฟู้ดเพลส รวม 16 สาขา พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวโมเดลใหม่ บิ๊กซี บางกอก มาร์เช่ (Big C Bangkok Marche) ที่อาคารเดอะฟอรั่ม วันแบงค็อก ถนนพระรามที่ 4 เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2567 มี 3 โซนหลัก ได้แก่ Delica โซนอาหารเช้าและอาหารพร้อมทาน ราคาเริ่มต้นที่ 99 บาท, Grilled Bar จำหน่ายเมนูซีฟู๊ด สเต็กเนื้อออสเตรเลีย และ Wine Cellar จำหน่ายสุราหลากหลายประเทศ พร้อมสินค้าอุปโภคบริโภค สำหรับบิ๊กซี ฟู้ดเพลส เป็นพรีเมียม ซูเปอร์มาร์เก็ต ในรูปแบบที่แตกต่างจากบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และบิ๊กซี มาร์เก็ต เน้นจำหน่ายอาหารสด อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารพร้อมรับประทาน และผลิตภัณฑ์นำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมพื้นที่รับประทานอาหาร เปิดสาขาต้นแบบที่ศูนย์การค้าเกตเวย์ แอท บางซื่อ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2561 ก่อนเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2562 ขณะนั้นเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเปิด 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงได้รีโนเวตห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี มาร์เก็ตบางสาขา ให้กลายเป็นบิ๊กซี ฟู้ดเพลส ช่วงปี 2562-2565 ได้แก่ สาขาสุขาภิบาล 5 สาขาเคหะร่มเกล้า สาขาสวนหลวง สาขาประชาอุทิศ สาขาหทัยราษฏร์ สาขาสายไหม เปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมได้แก่ สาขาท่าอิฐ เปิด 16 ก.ค.2563 สาขาหนามแดง เปิด 26 ส.ค.2563 สาขาสำนักงานใหญ่ บีเจซี 1 เปิด 1 ก.ค.2565 สาขาพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน เปิด 6 ก.ค.2566 และสาขาเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เปิด 16 พ.ย.2566 นอกจากนี้ ยังมีโมเดลบิ๊กซี เพลส (Big C Place) สาขาลำลูกกา สาขาสระบุรี สาขารัชดาภิเษก สาขาฉะเชิงเทรา 1 (ถนนสิริโสธร) แผนกอาหารสดใช้คำว่า บิ๊กซี ฟู้ดเพลส แต่โปรโมชันสินค้าบางรายการของบิ๊กซี ฟู้ดเพลส จัดรายการเฉพาะสาขาข้างต้น 16 สาขาเท่านั้น #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 499 มุมมอง 0 รีวิว
  • cr. : Drama-addict

    อันนี้เป็นปรากฏการณ์ที่ ไม่เคยเห็นมาสคอทจากไทยตัวไหนทำได้มาก่อน คือหมูเด้งไปโผล่ในโพสของสมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกา (สาขาเพนซิลวาเนีย)

    5 เหตุผลที่หมูเด้งควลเป็นไอด้อลด้านสุขภาพ
    1. หมูเด้งกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เน้นผัก ผลไม้เป็นหลัก ซึ่งดีกับสุขภาพ
    2. หมูเด้งออกกำลังกายเป็นประจำ แม่งเด้งทั้งวัน ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหลอดเลือดและหัวใจ
    3. หมูเด้งไม่เก็บกด เวลานางแฮปปี้ โกรธ หิว ง่วง ก็แสดงออกมาตามตรง ไม่เครียด ดีกับสุขภาพจิต
    4. หมูเด้งรักการนอน การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ ช่วยในการฟื้นฟูสภาพร่างกาย
    5. หมูเด้งช่วยลดความเครียดของพวกเรา ดังนั้นดูวีดีโอหมูเด้งกันต่อไป วู้ฮู้
    cr. : Drama-addict อันนี้เป็นปรากฏการณ์ที่ ไม่เคยเห็นมาสคอทจากไทยตัวไหนทำได้มาก่อน คือหมูเด้งไปโผล่ในโพสของสมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกา (สาขาเพนซิลวาเนีย) 5 เหตุผลที่หมูเด้งควลเป็นไอด้อลด้านสุขภาพ 1. หมูเด้งกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เน้นผัก ผลไม้เป็นหลัก ซึ่งดีกับสุขภาพ 2. หมูเด้งออกกำลังกายเป็นประจำ แม่งเด้งทั้งวัน ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของหลอดเลือดและหัวใจ 3. หมูเด้งไม่เก็บกด เวลานางแฮปปี้ โกรธ หิว ง่วง ก็แสดงออกมาตามตรง ไม่เครียด ดีกับสุขภาพจิต 4. หมูเด้งรักการนอน การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ ช่วยในการฟื้นฟูสภาพร่างกาย 5. หมูเด้งช่วยลดความเครียดของพวกเรา ดังนั้นดูวีดีโอหมูเด้งกันต่อไป วู้ฮู้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • จตุจักรโครงการ 15ซ10/3 เลขที่100-ID.Khopjaye Phone 0835484811
    #สาขา จตุจักรเปิดพุธ-อาทิตย์
    10.00น.-18.00น.ค่ะคุณลูกค้าสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID.Khopjaye Phone 0835484811
    จตุจักรโครงการ 15ซ10/3 เลขที่100-ID.Khopjaye Phone 0835484811 #สาขา จตุจักรเปิดพุธ-อาทิตย์ 10.00น.-18.00น.ค่ะคุณลูกค้าสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID.Khopjaye Phone 0835484811
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • จตุจักรโครงการ 15ซ10/3 เลขที่100-ID.Khopjaye Phone 0835484811
    #สาขา จตุจักรเปิดพุธ-อาทิตย์
    10.00น.-18.00น.ค่ะคุณลูกค้าสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID.Khopjaye Phone 0835484811
    จตุจักรโครงการ 15ซ10/3 เลขที่100-ID.Khopjaye Phone 0835484811 #สาขา จตุจักรเปิดพุธ-อาทิตย์ 10.00น.-18.00น.ค่ะคุณลูกค้าสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE ID.Khopjaye Phone 0835484811
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไมเนอร์ซุ่มปั้นแบรนด์ เดอะสเต็กแอนด์มอร์

    วันคริสต์มาส 25 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต จ.นนทบุรี ต้อนรับร้านอาหารใหม่ที่ชื่อว่า เดอะ สเต็ก แอนด์ มอร์ (The Steak & More) บริเวณชั้น 2 ใกล้ลานน้ำพุ เป็นร้านเมนูสเต็กจานใหญ่ ราคาเริ่มต้นที่ 129 บาท พร้อมเครื่องเคียงให้เลือกมากกว่า 20 เมนู แถมยังมีเมนูพาสต้าและสลัดให้บริการอีกด้วย รูปแบบของร้านตกแต่งด้วยโทนสีส้มและดำ ในคอนเซปต์ Tasty, Variety, Value, Fun

    เมนูสเต็กเลือกซอสได้ 1 อย่าง ประกอบด้วย ซอสพริกไทยดำ ซอสสไปซี่มาโย กระเทียม หรือน้ำจิ้มแจ่ว และเครื่องเคียง 1 อย่าง เช่น ส้มตำ ลาบไก่ ยำวุ้นเส้น ข้าวเหนียว เฟรนซ์ฟรายส์ โปเตโต้ป๊อป มันบด ข้าวผัดเนยกระเทียม ซีซาร์สลัด สลัดญี่ปุ่น สลัดยูสุ โคลส์สลอว์ ชีสโทสต์ หรือจะเพิ่มเครื่องเคียงแบบพรีเมียมได้ในราคา 15 บาท ได้แก่ ขนมปังกระเทียมชีส มันอบชีส มักกะโรนีชีส กุ้งเลมอนครีม คาร์โบนารา ไก่ผัดพริกกระเทียม หมึกดำไข่กุ้ง และสไปซี่เพสโต เป็นต้น

    นอกจากนี้ ยังมีเมนูพาสต้า สลัด และซุปให้เลือกอีกด้วย เมนูแนะนำได้แก่ สลัดเต้าหู้สาหร่ายซิกเนเจอร์ ราคา 169 บาท ด้วยจุดเด่นเต้าหู้ชิ้นใหญ่ สปาเก็ตตี้หมึกดำไข่กุ้ง ราคา 169 บาท ส้มตำ ราคา 79 บาท พอร์คชอปราคา 299 บาท ไก่กรอบไจแอนท์ ราคา 169 บาท สเต็กปลาย่าง ราคา 149 บาท ซุปครีมเห็ด หรือซุปหอยลาย ราคา 69 บาท รวมทั้งมีมุม Drink & Soft Serve ที่มีเครื่องดื่มรีฟิลเติมได้ไม่อั้น โค้กสลัชชี่ และไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟพร้อมท็อปปิ้ง

    จากการค้นหาปรากฎว่าเป็นของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจร้านอาหารและฟาสต์ฟู้ดใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก มีธุรกิจร้านอาหารมากกว่า 30 แบรนด์ ที่มีชื่อเสียงในไทยได้แก่ เดอะพิซซ่าคอมปะนี สเวนเซ่นส์ บอนชอน เบอร์เกอร์คิง ซิซซ์เล่อร์ แดรี่ควีน เดอะคอฟฟี่คลับ คอฟฟี่เจอร์นี่ กาก้า เป็นต้น

    แม้ในไทยจะมีร้านสเต็กทั้งรายใหญ่และรายย่อย แต่ที่กำลังมาแรงคือ อีทแอมอาร์ (Eat Am Are) ของบริษัท อีท แอม อา กรุ๊ป จำกัด ที่ขึ้นชื่อเรื่องปริมาณเยอะ เสิร์ฟพร้อมขนมปังชีสและเครื่องเคียง 1 รายการ ในราคาที่เข้าถึงได้ เพิ่มเครื่องเคียงพิเศษได้ในราคา 15 บาท ได้แก่ สไลซ์โปเตโต้ มันบด มันอบ สปาเก็ตตี้ ส้มตำ จากสาขาแรกปากซอยรางน้ำ ปัจจุบันขยายไปแล้ว 18 สาขา และหากเปิดตัวครั้งใดก็มีคนต่อคิวยาวเหยียด

    อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไมเนอร์ฯ ตัดสินใจปั้นแบรนด์ร้านสเต็กจานใหญ่ นอกเหนือจากซิซซ์เล่อร์ (Sizzler) ร้านอาหารสไตล์อเมริกันที่มาพร้อมกับสลัดบาร์ เปิดสาขาแรกในไทยเมื่อปี 2535 และมีจำนวนสาขา 68 สาขาในปัจจุบัน

    #Newskit
    ไมเนอร์ซุ่มปั้นแบรนด์ เดอะสเต็กแอนด์มอร์ วันคริสต์มาส 25 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวสต์เกต จ.นนทบุรี ต้อนรับร้านอาหารใหม่ที่ชื่อว่า เดอะ สเต็ก แอนด์ มอร์ (The Steak & More) บริเวณชั้น 2 ใกล้ลานน้ำพุ เป็นร้านเมนูสเต็กจานใหญ่ ราคาเริ่มต้นที่ 129 บาท พร้อมเครื่องเคียงให้เลือกมากกว่า 20 เมนู แถมยังมีเมนูพาสต้าและสลัดให้บริการอีกด้วย รูปแบบของร้านตกแต่งด้วยโทนสีส้มและดำ ในคอนเซปต์ Tasty, Variety, Value, Fun เมนูสเต็กเลือกซอสได้ 1 อย่าง ประกอบด้วย ซอสพริกไทยดำ ซอสสไปซี่มาโย กระเทียม หรือน้ำจิ้มแจ่ว และเครื่องเคียง 1 อย่าง เช่น ส้มตำ ลาบไก่ ยำวุ้นเส้น ข้าวเหนียว เฟรนซ์ฟรายส์ โปเตโต้ป๊อป มันบด ข้าวผัดเนยกระเทียม ซีซาร์สลัด สลัดญี่ปุ่น สลัดยูสุ โคลส์สลอว์ ชีสโทสต์ หรือจะเพิ่มเครื่องเคียงแบบพรีเมียมได้ในราคา 15 บาท ได้แก่ ขนมปังกระเทียมชีส มันอบชีส มักกะโรนีชีส กุ้งเลมอนครีม คาร์โบนารา ไก่ผัดพริกกระเทียม หมึกดำไข่กุ้ง และสไปซี่เพสโต เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีเมนูพาสต้า สลัด และซุปให้เลือกอีกด้วย เมนูแนะนำได้แก่ สลัดเต้าหู้สาหร่ายซิกเนเจอร์ ราคา 169 บาท ด้วยจุดเด่นเต้าหู้ชิ้นใหญ่ สปาเก็ตตี้หมึกดำไข่กุ้ง ราคา 169 บาท ส้มตำ ราคา 79 บาท พอร์คชอปราคา 299 บาท ไก่กรอบไจแอนท์ ราคา 169 บาท สเต็กปลาย่าง ราคา 149 บาท ซุปครีมเห็ด หรือซุปหอยลาย ราคา 69 บาท รวมทั้งมีมุม Drink & Soft Serve ที่มีเครื่องดื่มรีฟิลเติมได้ไม่อั้น โค้กสลัชชี่ และไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟพร้อมท็อปปิ้ง จากการค้นหาปรากฎว่าเป็นของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจร้านอาหารและฟาสต์ฟู้ดใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก มีธุรกิจร้านอาหารมากกว่า 30 แบรนด์ ที่มีชื่อเสียงในไทยได้แก่ เดอะพิซซ่าคอมปะนี สเวนเซ่นส์ บอนชอน เบอร์เกอร์คิง ซิซซ์เล่อร์ แดรี่ควีน เดอะคอฟฟี่คลับ คอฟฟี่เจอร์นี่ กาก้า เป็นต้น แม้ในไทยจะมีร้านสเต็กทั้งรายใหญ่และรายย่อย แต่ที่กำลังมาแรงคือ อีทแอมอาร์ (Eat Am Are) ของบริษัท อีท แอม อา กรุ๊ป จำกัด ที่ขึ้นชื่อเรื่องปริมาณเยอะ เสิร์ฟพร้อมขนมปังชีสและเครื่องเคียง 1 รายการ ในราคาที่เข้าถึงได้ เพิ่มเครื่องเคียงพิเศษได้ในราคา 15 บาท ได้แก่ สไลซ์โปเตโต้ มันบด มันอบ สปาเก็ตตี้ ส้มตำ จากสาขาแรกปากซอยรางน้ำ ปัจจุบันขยายไปแล้ว 18 สาขา และหากเปิดตัวครั้งใดก็มีคนต่อคิวยาวเหยียด อาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไมเนอร์ฯ ตัดสินใจปั้นแบรนด์ร้านสเต็กจานใหญ่ นอกเหนือจากซิซซ์เล่อร์ (Sizzler) ร้านอาหารสไตล์อเมริกันที่มาพร้อมกับสลัดบาร์ เปิดสาขาแรกในไทยเมื่อปี 2535 และมีจำนวนสาขา 68 สาขาในปัจจุบัน #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 503 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts