• วันนี้มาคุยกันสั้นๆ กับสิ่งที่สะดุดตา Storyฯ จากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้จะเห็นว่ามีฉากงานเลี้ยงและรับประทานอาหารบ่อยมาก ไม่ทราบว่ามีใครสะดุดตากับวิธีการจัดวางอาหารบนโต๊ะหรือไม่ วันนี้เรามาคุยกันเรื่องนี้ เพราะในละครนี้มีการจัดวางอาหารไว้คล้ายคลึงกับที่ปรากฏไว้ในบันทึกพิธีการราชวงศ์โจวหรือ ‘โจวหลี่’

    ในบันทึกโจวหลี่มีหลักการการจัดโต๊ะไว้ให้สะดวกต่อการรับประทาน (ดูได้ในรูปประกอบขวาล่าง) โดยกำหนดว่า 1. เนื้อที่ติดกระดูกและปลาอยู่ด้านซ้ายของผู้นั่ง ถ้ามีทั้งสองอย่าง เนื้อติดกระดูกอยู่บน ปลาอยู่ล่างและหางปลาต้องหันเข้าหาตัวผู้นั่งเพื่อสะดวกต่อการตักเนื้อปลา 2. ส่วนด้านขวานั้นเป็นเนื้อที่หั่นเป็นชิ้นแล้ว 3. ด้านขวานอกสุดเป็นตำแหน่งของเนื้อย่าง 4. เครื่องขบเคี้ยวหรือแกล้มวางถัดมาด้านในของเนื้อย่าง (ที่นิยมคือต้นหอมนึ่งสุก) 5. เครื่องดื่ม(เช่น น้ำแกง) ไว้ด้านขวาของคนนั่ง สุราก็เช่นกัน 6. น้ำจิ้มต่างๆ อยู่ด้านหน้า 7. ด้านบนเยื้องขวาเป็นเนื้อตากแห้ง/เนื้อหมัก โดยเนื้อตากแห้ง/หมักนี้หากเป็นแบบเส้นตรงไว้ขวา หากแบบไม่ตรงให้ไว้ซ้าย

    จากรูปประกอบล่างขวาจะเห็นว่า พื้นที่ด้านบนตรงกลางและเยื้องไปทางซ้ายของโต๊ะมักจะมีที่ว่าง ตรงนี้ไม่มีกำหนดไว้ว่าต้องวางอะไร จึงถูกใช้เป็นที่วางพวกผลไม้และผักอื่นๆ โดยวางเรียงจากขวามา อย่างเช่นภาพโต๊ะอาหารท่านย่าเฉิงที่ยกมาจากในละครเป็นต้น (รูปประกอบซ้ายล่าง) และแน่นอนว่าพวกเนื้อสัตว์เป็นชิ้นๆ มีราคาแพงจึงไม่ใช่ทุกมื้อที่ ‘จัดเต็ม’ อย่างที่กล่าวถึงในบันทึกพิธีการโจวหลี่ ดังนั้น อาหารชนิดใดที่ตรงตามระบุไว้ ให้วางตามตำแหน่งที่กำหนดไว้ ที่ไม่ใช่ค่อยวางตรงพื้นที่เหลือด้านบน

    ภาพจากละครเอามาลงให้ไม่หมดจริงๆ ใครกำลังดูอยู่หรือกลับไปดูซ้ำ ลองสังเกตดูนะคะว่าเขาจัดวางโต๊ะตามที่กล่าวมาข้างต้นอย่างไร เพราะละครเรื่องนี้ว่าตามยุคสมัยฮั่น ซึ่งหลายๆ อย่างยังยึดธรรมเนียมและพิธีการตามโจวหลี่อยู่

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.sohu.com/a/355808498_528910
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/汉朝饮食/7192206
    https://www.sohu.com/a/580224319_121147311
    https://www.sohu.com/a/355808498_528910
    http://www.ruiwen.com/liyichangshi/2381391.html

    #ดาราจักรรักลำนำใจ #โจวหลี่ #จัดวางอาหารจีนโบราณ
    วันนี้มาคุยกันสั้นๆ กับสิ่งที่สะดุดตา Storyฯ จากละครเรื่อง <ดาราจักรรักลำนำใจ> เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้จะเห็นว่ามีฉากงานเลี้ยงและรับประทานอาหารบ่อยมาก ไม่ทราบว่ามีใครสะดุดตากับวิธีการจัดวางอาหารบนโต๊ะหรือไม่ วันนี้เรามาคุยกันเรื่องนี้ เพราะในละครนี้มีการจัดวางอาหารไว้คล้ายคลึงกับที่ปรากฏไว้ในบันทึกพิธีการราชวงศ์โจวหรือ ‘โจวหลี่’ ในบันทึกโจวหลี่มีหลักการการจัดโต๊ะไว้ให้สะดวกต่อการรับประทาน (ดูได้ในรูปประกอบขวาล่าง) โดยกำหนดว่า 1. เนื้อที่ติดกระดูกและปลาอยู่ด้านซ้ายของผู้นั่ง ถ้ามีทั้งสองอย่าง เนื้อติดกระดูกอยู่บน ปลาอยู่ล่างและหางปลาต้องหันเข้าหาตัวผู้นั่งเพื่อสะดวกต่อการตักเนื้อปลา 2. ส่วนด้านขวานั้นเป็นเนื้อที่หั่นเป็นชิ้นแล้ว 3. ด้านขวานอกสุดเป็นตำแหน่งของเนื้อย่าง 4. เครื่องขบเคี้ยวหรือแกล้มวางถัดมาด้านในของเนื้อย่าง (ที่นิยมคือต้นหอมนึ่งสุก) 5. เครื่องดื่ม(เช่น น้ำแกง) ไว้ด้านขวาของคนนั่ง สุราก็เช่นกัน 6. น้ำจิ้มต่างๆ อยู่ด้านหน้า 7. ด้านบนเยื้องขวาเป็นเนื้อตากแห้ง/เนื้อหมัก โดยเนื้อตากแห้ง/หมักนี้หากเป็นแบบเส้นตรงไว้ขวา หากแบบไม่ตรงให้ไว้ซ้าย จากรูปประกอบล่างขวาจะเห็นว่า พื้นที่ด้านบนตรงกลางและเยื้องไปทางซ้ายของโต๊ะมักจะมีที่ว่าง ตรงนี้ไม่มีกำหนดไว้ว่าต้องวางอะไร จึงถูกใช้เป็นที่วางพวกผลไม้และผักอื่นๆ โดยวางเรียงจากขวามา อย่างเช่นภาพโต๊ะอาหารท่านย่าเฉิงที่ยกมาจากในละครเป็นต้น (รูปประกอบซ้ายล่าง) และแน่นอนว่าพวกเนื้อสัตว์เป็นชิ้นๆ มีราคาแพงจึงไม่ใช่ทุกมื้อที่ ‘จัดเต็ม’ อย่างที่กล่าวถึงในบันทึกพิธีการโจวหลี่ ดังนั้น อาหารชนิดใดที่ตรงตามระบุไว้ ให้วางตามตำแหน่งที่กำหนดไว้ ที่ไม่ใช่ค่อยวางตรงพื้นที่เหลือด้านบน ภาพจากละครเอามาลงให้ไม่หมดจริงๆ ใครกำลังดูอยู่หรือกลับไปดูซ้ำ ลองสังเกตดูนะคะว่าเขาจัดวางโต๊ะตามที่กล่าวมาข้างต้นอย่างไร เพราะละครเรื่องนี้ว่าตามยุคสมัยฮั่น ซึ่งหลายๆ อย่างยังยึดธรรมเนียมและพิธีการตามโจวหลี่อยู่ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.sohu.com/a/355808498_528910 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/汉朝饮食/7192206 https://www.sohu.com/a/580224319_121147311 https://www.sohu.com/a/355808498_528910 http://www.ruiwen.com/liyichangshi/2381391.html #ดาราจักรรักลำนำใจ #โจวหลี่ #จัดวางอาหารจีนโบราณ
    WWW.SOHU.COM
    古人的请客之道,处处有讲究_客人
    除了上菜时需要注意的礼节,菜肴摆放的位置也在《礼记·曲礼》中做了严格的规定:客人面前的桌子上,左边依次为带骨的熟肉、主食(饭),右边依次是大块的熟肉、酒和饮料;在最里边放酱酪调料,外边放烤肉,右边放着蒸…
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังพัฒนา ดีไซน์ใหม่ สำหรับแอป Google Photos โดยเน้น การค้นหารูปภาพให้แม่นยำขึ้น และ ปรับปรุงฟังก์ชัน Memories ให้ใหญ่ขึ้นพร้อมขอบภาพที่โค้งมนมากขึ้น รายงานจาก Android Authority เผยว่า Google ได้ทำ แบบสำรวจดีไซน์ใหม่ กับผู้ใช้ โดยเปรียบเทียบระหว่างเลย์เอาต์ปัจจุบันกับเวอร์ชันใหม่ เพื่อวัดระดับความทันสมัย

    ปรับรูปแบบการค้นหาให้ใช้งานง่ายขึ้น
    - หน้าตาของ Google Photos อาจมีการเปลี่ยนแปลงใน ส่วน Today heading โดยแทนที่เครื่องหมายติ๊กถูกด้วย ไอคอนตัวกรอง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถกรองภาพตามสถานที่หรือบุคคลที่อยู่ในภาพได้ง่ายขึ้น

    ดีไซน์ของแท็บเปลี่ยนไป
    - แท็บ Photos, Collections และ Search อาจถูกแทนที่ด้วย แถบค้นหาลอยตัว และ ไอคอนใหม่ ที่นำไปสู่หน้า Collections

    เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน AI Search
    - Google Photos กำลังพัฒนา AI Search ให้สามารถเข้าใจคำสั่งได้แม่นยำยิ่งขึ้น เช่น ค้นหารูปภาพเฉพาะที่มีสัตว์เลี้ยง หรือภาพจากสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง

    การเปลี่ยนแปลงนี้ยังไม่แน่นอน
    - แม้จะมีการเปิดเผยดีไซน์ใหม่ในแบบสำรวจ แต่ Google อาจไม่ใช้แบบเดียวกันในการเปิดตัวจริง

    https://www.techradar.com/phones/android/google-photos-tipped-to-get-a-major-design-overhaul-and-itll-make-the-app-much-better-for-finding-specific-images
    Google กำลังพัฒนา ดีไซน์ใหม่ สำหรับแอป Google Photos โดยเน้น การค้นหารูปภาพให้แม่นยำขึ้น และ ปรับปรุงฟังก์ชัน Memories ให้ใหญ่ขึ้นพร้อมขอบภาพที่โค้งมนมากขึ้น รายงานจาก Android Authority เผยว่า Google ได้ทำ แบบสำรวจดีไซน์ใหม่ กับผู้ใช้ โดยเปรียบเทียบระหว่างเลย์เอาต์ปัจจุบันกับเวอร์ชันใหม่ เพื่อวัดระดับความทันสมัย ปรับรูปแบบการค้นหาให้ใช้งานง่ายขึ้น - หน้าตาของ Google Photos อาจมีการเปลี่ยนแปลงใน ส่วน Today heading โดยแทนที่เครื่องหมายติ๊กถูกด้วย ไอคอนตัวกรอง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถกรองภาพตามสถานที่หรือบุคคลที่อยู่ในภาพได้ง่ายขึ้น ดีไซน์ของแท็บเปลี่ยนไป - แท็บ Photos, Collections และ Search อาจถูกแทนที่ด้วย แถบค้นหาลอยตัว และ ไอคอนใหม่ ที่นำไปสู่หน้า Collections เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน AI Search - Google Photos กำลังพัฒนา AI Search ให้สามารถเข้าใจคำสั่งได้แม่นยำยิ่งขึ้น เช่น ค้นหารูปภาพเฉพาะที่มีสัตว์เลี้ยง หรือภาพจากสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงนี้ยังไม่แน่นอน - แม้จะมีการเปิดเผยดีไซน์ใหม่ในแบบสำรวจ แต่ Google อาจไม่ใช้แบบเดียวกันในการเปิดตัวจริง https://www.techradar.com/phones/android/google-photos-tipped-to-get-a-major-design-overhaul-and-itll-make-the-app-much-better-for-finding-specific-images
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • #บริการฝากส่งสัตว์เลี้ยง
    #บริการฝากส่งสัตว์เลี้ยง
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • จบงานขนส่ง #ย้ายบ้าน
    📍 หนองคาย - ขอนแก่น 👉สิน บริการขนส่งสินค้า
    👉สินค้าทั่วไป
    👉สินค้าโรงงาน
    👉ย้ายห้อง กทม./ตจว.
    👉🐕🐕 สัตว์เลี้ยง หมา/แมว
    👉มอเตอร์ไซค์🛵🏍️🚲🛴
    👉เครื่องจักรกลการเกษตรขนาดเล็ก
    👉สินค้าออนไลน์
    👍ติดต่อสอบถาม
    👍096-8265445
    👍097-9932155
    👍🆔sin.tsk
    👉สอบถามประเมิณราคาฟรี
    👉มีบริการ รับ-ส่ง ถึงที่แน่นอน
    👉ราคาเหมาคัน(สินค้าถึงวันถัดไป)
    👉ราคาฝาก (สินค้าถึง 2-3 วัน)
    👉บริการเก็บเงินปลายทาง
    #มีรถพร้อมทีมงานบริการในพื้นที่
    #รถรับจ้างใกล้ฉัน
    #ขอบคุณลูกค้าที่ใช้บริการครับ
    #ขอบคุณทีมงานรวมเพื่อนบ่าวภูธร
    #ทีมงานคุณภาพ
    #รถรับจ้างใกล้ฉัน
    จบงานขนส่ง #ย้ายบ้าน 📍 หนองคาย - ขอนแก่น 👉สิน บริการขนส่งสินค้า 👉สินค้าทั่วไป 👉สินค้าโรงงาน 👉ย้ายห้อง กทม./ตจว. 👉🐕🐕 สัตว์เลี้ยง หมา/แมว 👉มอเตอร์ไซค์🛵🏍️🚲🛴 👉เครื่องจักรกลการเกษตรขนาดเล็ก 👉สินค้าออนไลน์ 👍ติดต่อสอบถาม 👍096-8265445 👍097-9932155 👍🆔sin.tsk 👉สอบถามประเมิณราคาฟรี 👉มีบริการ รับ-ส่ง ถึงที่แน่นอน 👉ราคาเหมาคัน(สินค้าถึงวันถัดไป) 👉ราคาฝาก (สินค้าถึง 2-3 วัน) 👉บริการเก็บเงินปลายทาง #มีรถพร้อมทีมงานบริการในพื้นที่ #รถรับจ้างใกล้ฉัน #ขอบคุณลูกค้าที่ใช้บริการครับ #ขอบคุณทีมงานรวมเพื่อนบ่าวภูธร #ทีมงานคุณภาพ #รถรับจ้างใกล้ฉัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพยูเครนส่งผู้หญิงเข้าร่วมการโจมตีด้วยเนื้อสัตว์ใน DPR

    เดนิส พุชิลิน ผู้ว่าการภูมิภาคโดเน็ตสก์ (DPR) รายงานว่า "ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังทำการบันทึกศพทหารหญิงยูเครนในสนามรบทิศทางโดเน็ตสก์ กองทัพยูเครนได้ส่งทหารหญิงเข้าร่วมปฏิบัติการรบอย่างเต็มตัว พวกเขาไม่ได้มีส่วนร่วมแค่ในฐานะเจ้าหน้าที่ควบคุมโดรนที่อยู่แนวหลังอีกต่อไป ตอนนี้ทหารหญิงได้กลายมาเป็นนักรบในแนวหน้าแล้ว"

    พุชิลินกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้พบทหารหญิงยูเครนมากขึ้นในทิศทาง Krasnoarmeysky และ Dzerzhinsky
    กองทัพยูเครนส่งผู้หญิงเข้าร่วมการโจมตีด้วยเนื้อสัตว์ใน DPR เดนิส พุชิลิน ผู้ว่าการภูมิภาคโดเน็ตสก์ (DPR) รายงานว่า "ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังทำการบันทึกศพทหารหญิงยูเครนในสนามรบทิศทางโดเน็ตสก์ กองทัพยูเครนได้ส่งทหารหญิงเข้าร่วมปฏิบัติการรบอย่างเต็มตัว พวกเขาไม่ได้มีส่วนร่วมแค่ในฐานะเจ้าหน้าที่ควบคุมโดรนที่อยู่แนวหลังอีกต่อไป ตอนนี้ทหารหญิงได้กลายมาเป็นนักรบในแนวหน้าแล้ว" พุชิลินกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้พบทหารหญิงยูเครนมากขึ้นในทิศทาง Krasnoarmeysky และ Dzerzhinsky
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัตว์โลกมีกรรม
    นำเกิดเวียนว่าย
    ตามกรรมอาศัย
    ให้รักษาใจ

    คิดพูดทำดี
    มีใจเป็นใหญ่
    ีธรรมจริงอาศัย
    ให้กำลังใจ

    ศรัทธาเพียรกิจ
    สติคุมไว้
    สมาธิได้
    ใช้ปัญญาคุณ

    ดีได้รู้เห็น
    เป็นอยู่ได้บุญ
    ทำเองเป็นทุน
    หนุนให้ร่มเย็น

    มีธรรมเมตตา
    ภาวนาให้เป็น
    ผ่องแผ้วโดดเด่น
    เป็นกำลังใจ

    อิทังเม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย

    ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง
    สัตว์โลกมีกรรม นำเกิดเวียนว่าย ตามกรรมอาศัย ให้รักษาใจ คิดพูดทำดี มีใจเป็นใหญ่ ีธรรมจริงอาศัย ให้กำลังใจ ศรัทธาเพียรกิจ สติคุมไว้ สมาธิได้ ใช้ปัญญาคุณ ดีได้รู้เห็น เป็นอยู่ได้บุญ ทำเองเป็นทุน หนุนให้ร่มเย็น มีธรรมเมตตา ภาวนาให้เป็น ผ่องแผ้วโดดเด่น เป็นกำลังใจ อิทังเม ญาตินัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์จากเพจเฟซบุ๊กของ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ 29 มีนาคม 2568ปลารู้ไหมว่าแผ่นดินไหว ถ้ารู้แล้วทำไง ? เพื่อนธรณ์ไปดำน้ำที่สิมิลันช่วงนั้นพอดี จึงเจอปรากฏการณ์สุดแปลกที่แทบไม่มีรายงานมาก่อนในช่วงแผ่นดินไหว ปลาในแนวปะการังต่างพากันลงไปนอนนิ่งกับพื้น !ลองดูภาพนะครับ ถ้าเป็นปลาตัวเดียวทำอาจไม่แปลกอะไร แต่ที่เจอคือปลาหลายตัวล้วนทำเช่นนั้น ลงไปนอนแนบกับพื้นทันทีที่เห็นชัดคือฝูงปลา ปรกติตอนกลางวันจะว่ายอยู่ในมวลน้ำ จะไม่ลงไปนอนติดพื้นพร้อมกันทั้งฝูง ต่อให้เป็นกลางคืนปลานอน ปลาก็แยกกันนอน ไม่รวมฝูงนอนแบบนี้ปลารู้ว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น เพราะปลารับแรงสั่นสะเทือนใต้น้ำได้ดีมาก จากนั้นคงเป็นสัญชาตญาณ ทำให้ปลาลงไปนอนแนบพื้น เพาาะอาจเกิดกระแสน้ำปั่นป่วนหรือแม้กระทั่งสึนามิตามมาการนอนแนบพื้นของปลาก็เหมือนเวลาเราหลบภัยต้องหมอบราบกับพื้น หากลอยอยู่กลางน้ำมีความเสี่ยงที่จะโดนกระแสน้ำหรือคลื่นพัดพาไปเพื่อนธรณ์ที่เป็นอาสาสมัครบินโดรนเฝ้าพะยูนก็รายงานว่า ช่วงแผ่นดินไหว พะยูนก็ตื่นตกใจเผ่นพรวดหนีไปจากที่ตื้น เพื่อว่ายหนีไปที่ลึกตามหลักการหลบสึนามิพะยูนไวมากครับ ตอนที่เกิดสึนามิ จึงไม่มีข่าวพะยูนโดนคลื่นพัดมาเกยฝั่ง (เท่าที่ทราบ) ทั้งที่บางแห่งเป็นบริเวณที่พะยูนอาศัย เช่น กระบี่ จะมีก็แค่โลมาที่เขาหลัก ลอยตามคลื่นมาติดค้างในอ่างเก็บน้ำแถวนั้น แต่คลื่นที่เขาหลักแรงมาก จนโลมาอาจไม่คาดคิดแม้แผ่นดินไหวเมื่อวานไม่ได้เกิดในทะเล ไม่เกิดสึนามิ แต่แรงสั่นสะเทือนก็เกิดในทะเลเช่นกัน เพราะพื้นท้องทะเลก็ไหวเหมือนแผ่นดินครับปลาหรือพะยูนคงบอกไม่ได้ว่า แผ่นดินไหวในทะเลหรือบนบก เมื่อรับรู้ว่ามีแผ่นดินไหว ปลาหลบไว้ก่อนแล้วปลารู้ล่วงหน้าได้ไหม ? พยากรณ์แผ่นดินไหวได้ไหม ?เมื่อแผ่นดินไหวเกิดขึ้น จะเกิดคลื่นแรงสั่นสะเทือนหลายแบบ บางคลื่นเบาแต่เร็วกว่า ปลาอาจรับรู้คลื่นพวกนี้ขณะที่มนุษย์ไม่รู้สึกจากนั้นคลื่นแรงสั่นสะเทือนแบบแรงๆ จะตามมา คราวนี้เรารู้สึกแล้วครับทว่า ต่อให้รู้คลื่นล่วงหน้า ปลาก็ไม่มีทางบอกก่อนได้เป็นชั่วโมงๆ เพราะปลารู้ก่อนแป๊บเดียวเท่านั้น ที่บอกกันว่าสัตว์เตือนภัยได้ ก็คือสัตว์รู้ก่อนคน แต่ไม่ใช่นานๆขอบคุณเพื่อนธรณ์ที่ส่งภาพมาให้ ถือเป็นหนแรกของไทยที่มีหลักฐานให้ดูกันชัดๆ ว่าปลาทำยังไงเมื่อแผ่นดินไหว อันที่จริง ในต่างประเทศก็แทบไม่มีภาพชัดเจนแบบนี้ครับ🌏🐟อยากรู้เรื่องปลาให้มากกว่านี้ มาเรียนที่ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นะฮะ 😁
    รีโพสต์จากเพจเฟซบุ๊กของ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ 29 มีนาคม 2568ปลารู้ไหมว่าแผ่นดินไหว ถ้ารู้แล้วทำไง ? เพื่อนธรณ์ไปดำน้ำที่สิมิลันช่วงนั้นพอดี จึงเจอปรากฏการณ์สุดแปลกที่แทบไม่มีรายงานมาก่อนในช่วงแผ่นดินไหว ปลาในแนวปะการังต่างพากันลงไปนอนนิ่งกับพื้น !ลองดูภาพนะครับ ถ้าเป็นปลาตัวเดียวทำอาจไม่แปลกอะไร แต่ที่เจอคือปลาหลายตัวล้วนทำเช่นนั้น ลงไปนอนแนบกับพื้นทันทีที่เห็นชัดคือฝูงปลา ปรกติตอนกลางวันจะว่ายอยู่ในมวลน้ำ จะไม่ลงไปนอนติดพื้นพร้อมกันทั้งฝูง ต่อให้เป็นกลางคืนปลานอน ปลาก็แยกกันนอน ไม่รวมฝูงนอนแบบนี้ปลารู้ว่ามีแผ่นดินไหวเกิดขึ้น เพราะปลารับแรงสั่นสะเทือนใต้น้ำได้ดีมาก จากนั้นคงเป็นสัญชาตญาณ ทำให้ปลาลงไปนอนแนบพื้น เพาาะอาจเกิดกระแสน้ำปั่นป่วนหรือแม้กระทั่งสึนามิตามมาการนอนแนบพื้นของปลาก็เหมือนเวลาเราหลบภัยต้องหมอบราบกับพื้น หากลอยอยู่กลางน้ำมีความเสี่ยงที่จะโดนกระแสน้ำหรือคลื่นพัดพาไปเพื่อนธรณ์ที่เป็นอาสาสมัครบินโดรนเฝ้าพะยูนก็รายงานว่า ช่วงแผ่นดินไหว พะยูนก็ตื่นตกใจเผ่นพรวดหนีไปจากที่ตื้น เพื่อว่ายหนีไปที่ลึกตามหลักการหลบสึนามิพะยูนไวมากครับ ตอนที่เกิดสึนามิ จึงไม่มีข่าวพะยูนโดนคลื่นพัดมาเกยฝั่ง (เท่าที่ทราบ) ทั้งที่บางแห่งเป็นบริเวณที่พะยูนอาศัย เช่น กระบี่ จะมีก็แค่โลมาที่เขาหลัก ลอยตามคลื่นมาติดค้างในอ่างเก็บน้ำแถวนั้น แต่คลื่นที่เขาหลักแรงมาก จนโลมาอาจไม่คาดคิดแม้แผ่นดินไหวเมื่อวานไม่ได้เกิดในทะเล ไม่เกิดสึนามิ แต่แรงสั่นสะเทือนก็เกิดในทะเลเช่นกัน เพราะพื้นท้องทะเลก็ไหวเหมือนแผ่นดินครับปลาหรือพะยูนคงบอกไม่ได้ว่า แผ่นดินไหวในทะเลหรือบนบก เมื่อรับรู้ว่ามีแผ่นดินไหว ปลาหลบไว้ก่อนแล้วปลารู้ล่วงหน้าได้ไหม ? พยากรณ์แผ่นดินไหวได้ไหม ?เมื่อแผ่นดินไหวเกิดขึ้น จะเกิดคลื่นแรงสั่นสะเทือนหลายแบบ บางคลื่นเบาแต่เร็วกว่า ปลาอาจรับรู้คลื่นพวกนี้ขณะที่มนุษย์ไม่รู้สึกจากนั้นคลื่นแรงสั่นสะเทือนแบบแรงๆ จะตามมา คราวนี้เรารู้สึกแล้วครับทว่า ต่อให้รู้คลื่นล่วงหน้า ปลาก็ไม่มีทางบอกก่อนได้เป็นชั่วโมงๆ เพราะปลารู้ก่อนแป๊บเดียวเท่านั้น ที่บอกกันว่าสัตว์เตือนภัยได้ ก็คือสัตว์รู้ก่อนคน แต่ไม่ใช่นานๆขอบคุณเพื่อนธรณ์ที่ส่งภาพมาให้ ถือเป็นหนแรกของไทยที่มีหลักฐานให้ดูกันชัดๆ ว่าปลาทำยังไงเมื่อแผ่นดินไหว อันที่จริง ในต่างประเทศก็แทบไม่มีภาพชัดเจนแบบนี้ครับ🌏🐟อยากรู้เรื่องปลาให้มากกว่านี้ มาเรียนที่ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นะฮะ 😁
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​จากรูปฌานไปสู่อาสวักขยญาณโดยตรง
    สัทธรรมลำดับที่ : 944
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=944
    ชื่อบทธรรม :- จากรูปฌานไปสู่อาสวักขยญาณโดยตรง
    เนื้อความทั้งหมด :-

    --จากรูปฌานไปสู่อาสวักขยญาณโดยตรง
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเข้าไปอาศัยหมู่บ้าน หรือนิคมแห่งใดแห่งหนึ่งอยู่,
    เวลาเช้า เธอครองจีวร ถือบาตร เข้าไปสู่หมู่บ้านหรือนิคมนั้นเพื่อบิณฑบาต.
    ด้วยการรักษากาย, รักษาวาจา, รักษาจิต, ตั้งสติไว้มั่น,
    และด้วยการสำรวมอินทรีย์ทั้งหลาย,
    เธอได้เห็นรูปด้วยตาแล้ว
    ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการรวมถือเอาทั้งหมด (รวมเป็นภาพเดียว)
    ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการถือเอาโดยแยกเป็นส่วน ๆ;
    อกุศลธรรมอันลามก คือ อภิชฌาและโทมนัสจะพึงไหลไปตามบุคคล
    ผู้ไม่สำรวมอยู่ซึ่งอินทรีย์อันเป็นต้นเหตุคือตาใด
    เธอย่อมปฏิบัติเพื่อสำรวมซึ่งอินทรีย์นั้น
    ย่อมรักษา อินทรีย์คือตา ย่อมถึงการสำรวมในอินทรีย์คือตา.
    (ในกรณีแห่ง
    อินทรีย์คือหู...
    อินทรีย์คือจมูก...
    อินทรีย์คือลิ้น...
    อินทรีย์คือกาย... และ
    อินทรีย์ คือใจ...
    ก็มีข้อความที่ได้ตรัสไว้ทำนองเดียวกัน).
    --ภิกษุนั้น ภายหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว
    ย่อมเสพเสนาสนะ อันสงัด
    คือป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกห้วย ท้องถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง (อย่างใดอย่างหนึ่ง).
    เธออยู่ป่า หรืออยู่โคนไม้ หรืออยู่เรือนว่าง
    ย่อมนั่งคู้ขาเข้าเป็นบัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า, เธอ
    ละ อภิชฌา ในโลก มีจิตปราศจากอภิชฌา ชำระจิตจากอภิชฌา อยู่;
    ละ พยาบาท อันเป็นเครื่องประทุษร้าย มีจิตปราศจากพยาบาท
    เป็นผู้กรุณาจิตหวังความเกื้อกูลในสัตว์ทั้งปวง
    ชำระจิตจากพยาบาทอันเป็นเครื่องประทุษร้าย อยู่;
    ละ ถีนมิทธะ มุ่งอยู่แต่ความสว่างในใจ มีจิตปราศจากถีนมิทธะ
    มีสติสัมปชัญญะรู้สึกตัว ชำระจิตจากถีนมิทธิ อยู่;
    ละ อุทธัจจกุกกุจจะ ไม่ฟุ้งซ่าน มีจิตสงบอยู่ในภายใน ชำระจิตจากอุทธัจจกุกกุจจุ อยู่;
    ละ วิจิกิจฉา ข้ามล่วงวิจิกิจฉาเสียได้ ไม่ต้องกล่าวว่า “นี่อะไร นี่อย่างไร”
    ในกุศลธรรมทั้งหลาย คอยชำระจิตจากวิจิกิจฉาอยู่.
    --ภิกษุนั้น ครั้นละนิวรณ์ห้าประการ
    อันเป็นเครื่องเศร้าหมองจิต และ
    ทำปัญญาให้ถอยกำลังเหล่านี้ได้แล้ว,
    เพราะสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมเธอเข้าถึง
    ปฐมฌาน อันมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวก แล้วแลอยู่.
    เข้าถึง
    ทุติยฌาน ....
    ตติยฌาน ....
    จตุตถฌาน ....
    แล้วแลอยู่.
    (ดูรายละเอียดเกี่ยวกับรูปฌานทั้งสี่นี้ได้ จากเรื่องที่มี &​รูปฌานทั้งสี่ ).
    --เธอนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
    เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่ได้ ถึงความไม่หวั่นไหว เช่นนี้แล้ว
    ก็น้อมจิตไปเฉพาะต่อ #อาสวักขยญาณ.
    -​http://etipitaka.com/read/pali/22/114/?keywords=อาสวานํ
    เธอ ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า นี้ทุกข์,
    นี้เหตุให้เกิดทุกข์,
    นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์,
    นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์;

    และย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า เหล่านี้อาสวะ,
    นี้เหตุให้เกิดอาสวะ,
    นี้ความดับไม่เหลือแห่งอาสวะ,
    นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไปเหลือแห่งอาสวะ.
    เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    จิตก็หลุดพ้นทั้งจากามาสวะ ภวาสวะ และอวิชชาสวะ;

    ครั้นจิตหลุดพ้นแล้วก็เกิดญาณว่าหลุดพ้นแล้ว.
    เธอ ย่อมรู้ชัดว่า
    “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว
    กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว
    กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มีอีก”
    ดังนี้.-

    #สัมมาสมาธิ
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/86 - 87/76.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/86/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๑๓ - ๑๑๔/๗๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/113/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%96
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=944
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=80&id=944
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=80
    ลำดับสาธยายธรรม : 80 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_80.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​จากรูปฌานไปสู่อาสวักขยญาณโดยตรง สัทธรรมลำดับที่ : 944 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=944 ชื่อบทธรรม :- จากรูปฌานไปสู่อาสวักขยญาณโดยตรง เนื้อความทั้งหมด :- --จากรูปฌานไปสู่อาสวักขยญาณโดยตรง --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเข้าไปอาศัยหมู่บ้าน หรือนิคมแห่งใดแห่งหนึ่งอยู่, เวลาเช้า เธอครองจีวร ถือบาตร เข้าไปสู่หมู่บ้านหรือนิคมนั้นเพื่อบิณฑบาต. ด้วยการรักษากาย, รักษาวาจา, รักษาจิต, ตั้งสติไว้มั่น, และด้วยการสำรวมอินทรีย์ทั้งหลาย, เธอได้เห็นรูปด้วยตาแล้ว ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการรวมถือเอาทั้งหมด (รวมเป็นภาพเดียว) ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการถือเอาโดยแยกเป็นส่วน ๆ; อกุศลธรรมอันลามก คือ อภิชฌาและโทมนัสจะพึงไหลไปตามบุคคล ผู้ไม่สำรวมอยู่ซึ่งอินทรีย์อันเป็นต้นเหตุคือตาใด เธอย่อมปฏิบัติเพื่อสำรวมซึ่งอินทรีย์นั้น ย่อมรักษา อินทรีย์คือตา ย่อมถึงการสำรวมในอินทรีย์คือตา. (ในกรณีแห่ง อินทรีย์คือหู... อินทรีย์คือจมูก... อินทรีย์คือลิ้น... อินทรีย์คือกาย... และ อินทรีย์ คือใจ... ก็มีข้อความที่ได้ตรัสไว้ทำนองเดียวกัน). --ภิกษุนั้น ภายหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว ย่อมเสพเสนาสนะ อันสงัด คือป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกห้วย ท้องถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง (อย่างใดอย่างหนึ่ง). เธออยู่ป่า หรืออยู่โคนไม้ หรืออยู่เรือนว่าง ย่อมนั่งคู้ขาเข้าเป็นบัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า, เธอ ละ อภิชฌา ในโลก มีจิตปราศจากอภิชฌา ชำระจิตจากอภิชฌา อยู่; ละ พยาบาท อันเป็นเครื่องประทุษร้าย มีจิตปราศจากพยาบาท เป็นผู้กรุณาจิตหวังความเกื้อกูลในสัตว์ทั้งปวง ชำระจิตจากพยาบาทอันเป็นเครื่องประทุษร้าย อยู่; ละ ถีนมิทธะ มุ่งอยู่แต่ความสว่างในใจ มีจิตปราศจากถีนมิทธะ มีสติสัมปชัญญะรู้สึกตัว ชำระจิตจากถีนมิทธิ อยู่; ละ อุทธัจจกุกกุจจะ ไม่ฟุ้งซ่าน มีจิตสงบอยู่ในภายใน ชำระจิตจากอุทธัจจกุกกุจจุ อยู่; ละ วิจิกิจฉา ข้ามล่วงวิจิกิจฉาเสียได้ ไม่ต้องกล่าวว่า “นี่อะไร นี่อย่างไร” ในกุศลธรรมทั้งหลาย คอยชำระจิตจากวิจิกิจฉาอยู่. --ภิกษุนั้น ครั้นละนิวรณ์ห้าประการ อันเป็นเครื่องเศร้าหมองจิต และ ทำปัญญาให้ถอยกำลังเหล่านี้ได้แล้ว, เพราะสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมเธอเข้าถึง ปฐมฌาน อันมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวก แล้วแลอยู่. เข้าถึง ทุติยฌาน .... ตติยฌาน .... จตุตถฌาน .... แล้วแลอยู่. (ดูรายละเอียดเกี่ยวกับรูปฌานทั้งสี่นี้ได้ จากเรื่องที่มี &​รูปฌานทั้งสี่ ). --เธอนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่ได้ ถึงความไม่หวั่นไหว เช่นนี้แล้ว ก็น้อมจิตไปเฉพาะต่อ #อาสวักขยญาณ. -​http://etipitaka.com/read/pali/22/114/?keywords=อาสวานํ เธอ ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า นี้ทุกข์, นี้เหตุให้เกิดทุกข์, นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์, นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์; และย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า เหล่านี้อาสวะ, นี้เหตุให้เกิดอาสวะ, นี้ความดับไม่เหลือแห่งอาสวะ, นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไปเหลือแห่งอาสวะ. เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ จิตก็หลุดพ้นทั้งจากามาสวะ ภวาสวะ และอวิชชาสวะ; ครั้นจิตหลุดพ้นแล้วก็เกิดญาณว่าหลุดพ้นแล้ว. เธอ ย่อมรู้ชัดว่า “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มีอีก” ดังนี้.- #สัมมาสมาธิ​ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/86 - 87/76. http://etipitaka.com/read/thai/22/86/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๑๓ - ๑๑๔/๗๖. http://etipitaka.com/read/pali/22/113/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%96 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=944 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=80&id=944 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=80 ลำดับสาธยายธรรม : 80 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_80.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ๑.บาลีว่า “เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ” จากรูปฌานไปสู่อาสวักขยญาณโดยตรง
    -(ข้อความนั้น มีลักษณะแห่ง การเจริญสมาธิที่มีนิพพานเป็นอารมณ์ อาจจะใช้เป็นคำอธิบายแห่งคำว่า “อุปสุมานุสสติ” แห่งอนุสสติสิบ ได้ดี ดีกว่าที่อธิบายกันอยู่อย่างคลุมเครือ. ยิ่งกว่านั้นยังมีความวิเศษตรงที่ว่า ง่ายสำหรับทุกคนที่จะแยกจิตออกมาเสียจากสิ่งทั้งปวง มากำหนดอยู่เฉพาะสิ่งที่เป็นอสังขตะนี้เพียงสิ่งเดียว ทำให้แสวงหาความสุขหรือความเย็นจากพระนิพพานได้ง่ายขึ้น). ๑.บาลีว่า “เอตํ สนฺตํ เอตํ ปณีตํ ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพานํ”. จากรูปฌานไปสู่อาสวักขยญาณโดยตรง ภิกษุ ท. ! ภิกษุเข้าไปอาศัยหมู่บ้าน หรือนิคมแห่งใดแห่งหนึ่งอยู่, เวลาเช้า เธอครองจีวร ถือบาตร เข้าไปสู่หมู่บ้านหรือนิคมนั้นเพื่อบิณฑบาต.ด้วยการรักษากาย, รักษาวาจา, รักษาจิต, ตั้งสติไว้มั่น, และด้วยการสำรวมอินทรีย์ทั้งหลาย, เธอได้เห็นรูปด้วยตาแล้ว ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการรวมถือเอาทั้งหมด (รวมเป็นภาพเดียว) ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการถือเอาโดยแยกเป็นส่วน ๆ; อกุศลธรรมอันลามก คือ อภิชฌาและโทมนัสจะพึงไหลไปตามบุคคลผู้ไม่สำรวมอยู่ซึ่งอินทรีย์อันเป็นต้นเหตุคือตาใด เธอย่อมปฏิบัติเพื่อสำรวมซึ่งอินทรีย์นั้น ย่อมรักษา อินทรีย์คือตา ย่อมถึงการสำรวมในอินทรีย์คือตา. (ในกรณีแห่ง อินทรีย์คือหู อินทรีย์คือจมูก อินทรีย์คือลิ้น อินทรีย์คือกาย และอินทรีย์ คือใจ ก็มีข้อความที่ได้ตรัสไว้ทำนองเดียวกัน). ภิกษุนั้น ภายหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว ย่อมเสพเสนาสนะ อันสงัด คือป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกห้วย ท้องถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง (อย่างใดอย่างหนึ่ง). เธออยู่ป่า หรืออยู่โคนไม้ หรืออยู่เรือนว่าง ย่อมนั่งคู้ขาเข้าเป็นบัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า, เธอละ อภิชฌา ในโลก มีจิตปราศจากอภิชฌา ชำระจิตจากอภิชฌา อยู่; ละ พยาบาท อันเป็นเครื่องประทุษร้าย มีจิตปราศจากพยาบาท เป็นผู้กรุณาจิตหวังความเกื้อกูลในสัตว์ทั้งปวง ชำระจิตจากพยาบาทอันเป็นเครื่องประทุษร้าย อยู่; ละ ถีนมิทธะ มุ่งอยู่แต่ความสว่างในใจ มีจิตปราศจากถีนมิทธะ มีสติสัมปชัญญะรู้สึกตัว ชำระจิตจากถีนมิทธิ อยู่; ละ อุทธัจจกุกกุจจะ ไม่ฟุ้งซ่าน มีจิตสงบอยู่ในภายใน ชำระจิตจากอุทธัจจกุกกุจจุ อยู่; ละ วิจิกิจฉา ข้ามล่วงวิจิกิจฉาเสียได้ ไม่ต้องกล่าวว่า “นี่อะไร นี่อย่างไร” ในกุศลธรรมทั้งหลาย คอยชำระจิตจากวิจิกิจฉาอยู่. ภิกษุนั้น ครั้นละนิวรณ์ห้าประการ อันเป็นเครื่องเศร้าหมองจิต และทำปัญญาให้ถอยกำลังเหล่านี้ได้แล้ว, เพราะสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมเธอเข้าถึง ปฐมฌาน อันมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวก แล้วแลอยู่.เข้าถึง ทุติยฌาน .... ตติยฌาน .... จตุตถฌาน แล้วแลอยู่. (ดูรายละเอียดเกี่ยวกับรูปฌานทั้งสี่นี้ได้ จากเรื่องที่มีรูปฌานทั้งสี่ เช่นที่หน้า ๑๒๗๘ แห่งหนังสือเล่มนี้). เธอนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลสเป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่ได้ ถึงความไม่หวั่นไหว เช่นนี้แล้ว ก็น้อมจิตไปเฉพาะต่อ อาสวักขยญาณ. เธอ ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า นี้ทุกข์, นี้เหตุให้เกิดทุกข์, นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์, นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์; และย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า เหล่านี้อาสวะ, นี้เหตุให้เกิดอาสวะ, นี้ความดับไม่เหลือแห่งอาสวะ, นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับไปเหลือแห่งอาสวะ. เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ จิตก็หลุดพ้นทั้งจากามาสวะ ภวาสวะ และอวิชชาสวะ; ครั้นจิตหลุดพ้นแล้วก็เกิดญาณว่าหลุดพ้นแล้ว. เธอย่อมรู้ชัดว่า “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มีอีก” ดังนี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์จากเพจEnvironman 28 มีนาคม 2568 “ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี แผ่นดินไหว แต่เห็นได้ชัดเลยว่าประเทศไทยและรัฐบาลยังไม่ไหว.เหตุการณ์วันนี้ยิ่งสาดส่องสปอตไลท์ในสิ่งที่ชัดอยู่แล้วให้ชัดยิ่งขึ้นไปอีก ว่าเราไม่มีความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่รู้ว่าจะถอดกันอีกกี่บทเรียน กว่าที่รัฐจะมีมาตรการเตรียมพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้ .ใครมีความคิดเห็น มีอะไรจะเพิ่มก็เต็มที่เลยนะ แต่นี่คือสิ่งที่รับรู้ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้และนี่ไม่ใช่การถอดบทเรียนอะไรทั้งนั้น นี่คือการเล่าระบายล้วน ๆ.⚫️ 1. ประชาชนต้อง Emergency Alert กันเอง.จนถึงตอนนี้ ณ เวลาที่กำลังเขียน (19:52 น.) ข้าพเจ้ายังไม่ได้ SMS จากกระทรวงทบวงกรมใดๆ เลยขอรับ คือเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อย แต่หลังจากท่านนายกออกมาแถลงว่าจะมีการแจ้งเตือนตั้งแต่ช่วงบ่ายสอง ตอนนี้อาฟเตอร์กันไปแล้วไม่รู้กี่ช็อค ก็ยังเงียบกริบ .อีกพาร์ทนึงก็ต้องชมคนไทยที่ใส่ใจโซเชียล ที่ช่วยกันอัพเดท แชร์ข้อมูล คอยรายงานให้ได้ติดตามกัน แต่มันคือช่วงเวลาแบบนี้ไม่ใช่หรอ ที่ประชาชนอย่างเราจะหันไปหวังพึ่งรัฐ ที่ผู้เสียภาษีอย่างเราจะหวังพึ่งคุณภาพชีวิตพื้นฐานที่ควรได้รับ กลายเป็นว่าเราต้องเช็คกันเองว่าเกิดอะไรขึ้น เอาตรงๆ คือผมเป็นคนหนึ่งที่หาแถลงการณ์จากรัฐตอนเกิดเหตุ เพราะบางทีก็กลัวว่าชาวเน็ตบางกลุ่มจะเฟคนิวส์ล่อเอ็นเกจ แต่ก็ต้องผิดหวังต่อไป.⚫️ 2. หน้ามืด นอนน้อยกันทั้งแผ่นดิน.เชื่อแล้วว่าคนไทยทำงานหนักครับ 90% พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘คิดว่าตัวเองไม่สบาย’ ไม่มีใครคิดว่ามันคือแผ่นดินไหวเลย แต่ก็เข้าใจได้ ใครจะไปคิดว่าจะมีแผ่นดินไหวในไทย โดยเฉพาะชาวกทม. คือทุกคนเทไปว่าตัวเองโหมงาน นอนน้อยกันหมด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แอบเศร้าหน่อย ๆ นะ.ส่วนอีกเรื่องคือ 90% ของคนที่อยู่คอนโดอพาร์ตเม้นตท์ มีสัตว์เลี้ยงที่นิติไม่รู้ แต่จะมารู้ก็วันนี้แหละ ถ้าพูดให้ไม่ติดตลก ผมคิดว่าอยากให้สถานที่คำนึงถึงความเป็น Pet-Friendly ให้มากขึ้น ปัจจุบันมีคนมีสัตว์เลี้ยงเยอะมาก จะด้วยเพื่อแก้เหงาหรือเป็นยุคที่ไม่ค่อยอยากมีลูกหรืออะไรก็ว่าไป แต่ผมเห็นว่าพื้นที่ที่สามารถพาสัตว์ไปร่วมกิจกรรมกับเจ้าของนั้นมีน้อยมาก.⚫️ 3. ระบบขนส่งสาธารณะล่มสลาย.สัญชาตญาณแรกของคนหลังเกิดแผ่นดินไหวคือหาที่ปลอดภัย ซึ่งส่วนมากก็น่าจะนึกถึงบ้าน แต่ระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดดูเหมือนจะไม่เพียงพอ ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีโปรโตคอลฉุกเฉิน ไม่มีช่องทางพิเศษ ไม่มีอะไรเลย การจราจรติดแหง็ก ผู้คนติดแหง็ก ไร้ทางออก เกิดอะไรขึ้นก็ไม่บอก จะเดินทางไปไหนก็ไม่ได้ .ญี่ปุ่นเวลาเจอแผ่นดินไหว ประเทศเขาจะสวิตช์เป็นโหมดฉุกเฉินทันที รถไฟฟ้าก็จะมีมาตรการฉุกเฉินในการรับมือ รัฐมีการตกลงกับบริษัทขนส่งเอกชน แท็กซี่ ให้ออกมาช่วยอพยพหรือขนถ่ายคนในช่วงที่รถไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ มีการจัดการควบคุมจราจรอย่างเข้มงวดให้คนไม่ติดแหง็กอยู่อย่างนั้น อีกเรื่องคือญี่ปุ่นมีศูนย์พักพิง คือใครที่ยังกลับบ้านไม่ได้ ก็มาพักรอก่อนได้ เอาจริงศูนย์พักพิงญี่ปุ่นคือมีอาหาร มีน้ำ มีอุปกรณ์พื้นฐานให้พร้อม ไม่ปล่อยให้ใครต้องเร่ร่อนอยู่บนถนน.ผมดักไว้ก่อนเลยว่าจะมีคนอ้างว่า ญี่ปุ่นเจอกับแผ่นดินไหวบ่อยจนชิน ของเรานี่แทบจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของใครหลายคนเลยนะ จะวิจารณ์ขนาดนั้นก็เกินไป แต่ต้องบอกว่าตอนนี้โลกเรารวนไปหมดแล้ว ปีนี้เราเห็นว่าเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงมากมายทั่วโลก อยากลองชวนคนที่แย้งเรื่องทำไมผมถึงเอาเราไปเทียบกับญี่ปุ่น มาแลกเปลี่ยนโต้แย้งเกี่ยวกับการจัดการเหตุฉุกเฉินพื้นฐานของบ้านเรามากกว่า พื้นฐานที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ควรรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดภัยพิบัติอื่นใดก็ตาม เพราะนี่คือโครงสร้างที่เราต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราติดท็อป 10 ของประเทศที่จะได้รับผลกระทบจาก Climate Change ซึ่งจะมาในรูปแบบใดบ้างก็ไม่รู้.⚫️ 4. ระบบสาธารณสุขยังเปราะบาง.อันนี้เรามีบทเรียนจากโควิด-19 มาแล้ว แต่เหมือนจะยังถอดบทเรียนกันไม่เสร็จ การอพยพผู้ป่วยในยามฉุกเฉิน หรือโซนที่ให้โรงพยาบาลยังสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยในช่วงวิกฤต ตามข่าวยังเห็นโรงพยาบาลเอาคนไข้ออกมาผ่าตัดกลางแจ้งเพราะเป็นเคสด่วนอยู่เลย ซึ่งนี่คือคำถาม นี่คือโจทย์ที่เราเอามาคิดตั้งแต่ตอนนี้จนถึงอนาคตว่าเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ เราจะรับมือและจะมีมาตรการอย่างไร .นี่ไม่ใช่การสักแต่ว่าจะด่าก็ด่านะครับ และใครจะหาว่าการเมืองก็เอาเถอะ แต่นี่เห็นได้ชัดเลยว่ารัฐบาลขาดความพร้อมอย่างมากในการรับมือ จริงอยู่ที่เราไม่ได้เจอแผ่นดินไหวเป็นประจำ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้น่ากลัวมาก ผมคิดว่ายิ่งช่วงเวลาแบบนี้ที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี่แหละ ที่จะยิ่งเป็นตัววัดว่าเราโครงสร้างพื้นฐานเราพร้อมแค่ไหน ซึ่งผมคิดว่าไม่มีใครใกล้เคียงกับพร้อมเลย ไม่รู้ทุกคนว่ายังไง.เรื่องความปลอดภัยมันมากับความเชื่อมั่นด้วยนะ วันนี้ในกรุ๊ปแชทก็คือมีเพื่อนๆ พิมพ์มาว่า ‘กูจะมั่นใจโครงสร้างตึกไทยได้มากขนาดไหน’ ซึ่งเป็นตลกร้ายมาก ๆ ที่ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นกับอะไรพวกนี้ต่ำมาก ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นตรงกันข้าม .วันนี้เป็นวันที่ทุกคนควรจะมีคำถาม เราเคยเจอน้ำท่วม เจอพายุ เจอโควิด แต่เราได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง ‘หรือเปล่า’ ? ผมเองมีคำว่าทำไมเยอะมาก ทำไมการแจ้งเตือนล่าช้ามาก ทำไมระบบขนส่งสาธารณะและสาธารณสุขถึงไม่พร้อม ทำไมคุณภาพชีวิตของเรามันเปราะบางขนาดนี้ ขออภัยที่ยาวและวนยืดเยื้อ แต่มันคือความอัดอั้นที่อยากแชร์ออกมา.สุดท้ายนี้ เราขอแสดงความเสียใจให้กับผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วยนะครับและขอให้ทุกชีวิตปลอดภัยครับ
    รีโพสต์จากเพจEnvironman 28 มีนาคม 2568 “ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี แผ่นดินไหว แต่เห็นได้ชัดเลยว่าประเทศไทยและรัฐบาลยังไม่ไหว.เหตุการณ์วันนี้ยิ่งสาดส่องสปอตไลท์ในสิ่งที่ชัดอยู่แล้วให้ชัดยิ่งขึ้นไปอีก ว่าเราไม่มีความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่รู้ว่าจะถอดกันอีกกี่บทเรียน กว่าที่รัฐจะมีมาตรการเตรียมพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้ .ใครมีความคิดเห็น มีอะไรจะเพิ่มก็เต็มที่เลยนะ แต่นี่คือสิ่งที่รับรู้ได้จากเหตุการณ์ครั้งนี้และนี่ไม่ใช่การถอดบทเรียนอะไรทั้งนั้น นี่คือการเล่าระบายล้วน ๆ.⚫️ 1. ประชาชนต้อง Emergency Alert กันเอง.จนถึงตอนนี้ ณ เวลาที่กำลังเขียน (19:52 น.) ข้าพเจ้ายังไม่ได้ SMS จากกระทรวงทบวงกรมใดๆ เลยขอรับ คือเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นบ่อย แต่หลังจากท่านนายกออกมาแถลงว่าจะมีการแจ้งเตือนตั้งแต่ช่วงบ่ายสอง ตอนนี้อาฟเตอร์กันไปแล้วไม่รู้กี่ช็อค ก็ยังเงียบกริบ .อีกพาร์ทนึงก็ต้องชมคนไทยที่ใส่ใจโซเชียล ที่ช่วยกันอัพเดท แชร์ข้อมูล คอยรายงานให้ได้ติดตามกัน แต่มันคือช่วงเวลาแบบนี้ไม่ใช่หรอ ที่ประชาชนอย่างเราจะหันไปหวังพึ่งรัฐ ที่ผู้เสียภาษีอย่างเราจะหวังพึ่งคุณภาพชีวิตพื้นฐานที่ควรได้รับ กลายเป็นว่าเราต้องเช็คกันเองว่าเกิดอะไรขึ้น เอาตรงๆ คือผมเป็นคนหนึ่งที่หาแถลงการณ์จากรัฐตอนเกิดเหตุ เพราะบางทีก็กลัวว่าชาวเน็ตบางกลุ่มจะเฟคนิวส์ล่อเอ็นเกจ แต่ก็ต้องผิดหวังต่อไป.⚫️ 2. หน้ามืด นอนน้อยกันทั้งแผ่นดิน.เชื่อแล้วว่าคนไทยทำงานหนักครับ 90% พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘คิดว่าตัวเองไม่สบาย’ ไม่มีใครคิดว่ามันคือแผ่นดินไหวเลย แต่ก็เข้าใจได้ ใครจะไปคิดว่าจะมีแผ่นดินไหวในไทย โดยเฉพาะชาวกทม. คือทุกคนเทไปว่าตัวเองโหมงาน นอนน้อยกันหมด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แอบเศร้าหน่อย ๆ นะ.ส่วนอีกเรื่องคือ 90% ของคนที่อยู่คอนโดอพาร์ตเม้นตท์ มีสัตว์เลี้ยงที่นิติไม่รู้ แต่จะมารู้ก็วันนี้แหละ ถ้าพูดให้ไม่ติดตลก ผมคิดว่าอยากให้สถานที่คำนึงถึงความเป็น Pet-Friendly ให้มากขึ้น ปัจจุบันมีคนมีสัตว์เลี้ยงเยอะมาก จะด้วยเพื่อแก้เหงาหรือเป็นยุคที่ไม่ค่อยอยากมีลูกหรืออะไรก็ว่าไป แต่ผมเห็นว่าพื้นที่ที่สามารถพาสัตว์ไปร่วมกิจกรรมกับเจ้าของนั้นมีน้อยมาก.⚫️ 3. ระบบขนส่งสาธารณะล่มสลาย.สัญชาตญาณแรกของคนหลังเกิดแผ่นดินไหวคือหาที่ปลอดภัย ซึ่งส่วนมากก็น่าจะนึกถึงบ้าน แต่ระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมดดูเหมือนจะไม่เพียงพอ ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีโปรโตคอลฉุกเฉิน ไม่มีช่องทางพิเศษ ไม่มีอะไรเลย การจราจรติดแหง็ก ผู้คนติดแหง็ก ไร้ทางออก เกิดอะไรขึ้นก็ไม่บอก จะเดินทางไปไหนก็ไม่ได้ .ญี่ปุ่นเวลาเจอแผ่นดินไหว ประเทศเขาจะสวิตช์เป็นโหมดฉุกเฉินทันที รถไฟฟ้าก็จะมีมาตรการฉุกเฉินในการรับมือ รัฐมีการตกลงกับบริษัทขนส่งเอกชน แท็กซี่ ให้ออกมาช่วยอพยพหรือขนถ่ายคนในช่วงที่รถไฟฟ้าไม่สามารถใช้งานได้ มีการจัดการควบคุมจราจรอย่างเข้มงวดให้คนไม่ติดแหง็กอยู่อย่างนั้น อีกเรื่องคือญี่ปุ่นมีศูนย์พักพิง คือใครที่ยังกลับบ้านไม่ได้ ก็มาพักรอก่อนได้ เอาจริงศูนย์พักพิงญี่ปุ่นคือมีอาหาร มีน้ำ มีอุปกรณ์พื้นฐานให้พร้อม ไม่ปล่อยให้ใครต้องเร่ร่อนอยู่บนถนน.ผมดักไว้ก่อนเลยว่าจะมีคนอ้างว่า ญี่ปุ่นเจอกับแผ่นดินไหวบ่อยจนชิน ของเรานี่แทบจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของใครหลายคนเลยนะ จะวิจารณ์ขนาดนั้นก็เกินไป แต่ต้องบอกว่าตอนนี้โลกเรารวนไปหมดแล้ว ปีนี้เราเห็นว่าเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงมากมายทั่วโลก อยากลองชวนคนที่แย้งเรื่องทำไมผมถึงเอาเราไปเทียบกับญี่ปุ่น มาแลกเปลี่ยนโต้แย้งเกี่ยวกับการจัดการเหตุฉุกเฉินพื้นฐานของบ้านเรามากกว่า พื้นฐานที่ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็ควรรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดภัยพิบัติอื่นใดก็ตาม เพราะนี่คือโครงสร้างที่เราต้องมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เราติดท็อป 10 ของประเทศที่จะได้รับผลกระทบจาก Climate Change ซึ่งจะมาในรูปแบบใดบ้างก็ไม่รู้.⚫️ 4. ระบบสาธารณสุขยังเปราะบาง.อันนี้เรามีบทเรียนจากโควิด-19 มาแล้ว แต่เหมือนจะยังถอดบทเรียนกันไม่เสร็จ การอพยพผู้ป่วยในยามฉุกเฉิน หรือโซนที่ให้โรงพยาบาลยังสามารถดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยในช่วงวิกฤต ตามข่าวยังเห็นโรงพยาบาลเอาคนไข้ออกมาผ่าตัดกลางแจ้งเพราะเป็นเคสด่วนอยู่เลย ซึ่งนี่คือคำถาม นี่คือโจทย์ที่เราเอามาคิดตั้งแต่ตอนนี้จนถึงอนาคตว่าเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ เราจะรับมือและจะมีมาตรการอย่างไร .นี่ไม่ใช่การสักแต่ว่าจะด่าก็ด่านะครับ และใครจะหาว่าการเมืองก็เอาเถอะ แต่นี่เห็นได้ชัดเลยว่ารัฐบาลขาดความพร้อมอย่างมากในการรับมือ จริงอยู่ที่เราไม่ได้เจอแผ่นดินไหวเป็นประจำ แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เหตุการณ์ครั้งนี้น่ากลัวมาก ผมคิดว่ายิ่งช่วงเวลาแบบนี้ที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดนี่แหละ ที่จะยิ่งเป็นตัววัดว่าเราโครงสร้างพื้นฐานเราพร้อมแค่ไหน ซึ่งผมคิดว่าไม่มีใครใกล้เคียงกับพร้อมเลย ไม่รู้ทุกคนว่ายังไง.เรื่องความปลอดภัยมันมากับความเชื่อมั่นด้วยนะ วันนี้ในกรุ๊ปแชทก็คือมีเพื่อนๆ พิมพ์มาว่า ‘กูจะมั่นใจโครงสร้างตึกไทยได้มากขนาดไหน’ ซึ่งเป็นตลกร้ายมาก ๆ ที่ตอนนี้เรามีความเชื่อมั่นกับอะไรพวกนี้ต่ำมาก ทั้ง ๆ ที่ควรจะเป็นตรงกันข้าม .วันนี้เป็นวันที่ทุกคนควรจะมีคำถาม เราเคยเจอน้ำท่วม เจอพายุ เจอโควิด แต่เราได้เรียนรู้อะไรจากมันบ้าง ‘หรือเปล่า’ ? ผมเองมีคำว่าทำไมเยอะมาก ทำไมการแจ้งเตือนล่าช้ามาก ทำไมระบบขนส่งสาธารณะและสาธารณสุขถึงไม่พร้อม ทำไมคุณภาพชีวิตของเรามันเปราะบางขนาดนี้ ขออภัยที่ยาวและวนยืดเยื้อ แต่มันคือความอัดอั้นที่อยากแชร์ออกมา.สุดท้ายนี้ เราขอแสดงความเสียใจให้กับผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วยนะครับและขอให้ทุกชีวิตปลอดภัยครับ
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องลอกหนัง รุ่น 500 สแตนเลส #ทดลองลอกหนังปลาจาระเม็ด
    เครื่องลอกหนัง เหมาะสำหรับการลอกหนังสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ หรือหนังปลา เป็นต้น และใช้กันอย่างแพร่หลายในบริษัทแปรรูปอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงแรมสามารถปรับความหนาของหนังได้ตั้งแต่ หนา 0.5-6 มม. ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบนั้นๆ
    ชุดใบมีด ใบมีดนำเข้าจากเยอรมัน ใช้งานง่าย

    รายละเอียด
    📌 Capacity 300kg/hour
    📌 Voltage 220 V/50 HZ
    📌 Peeling thickness 0.6-6 MM
    📌 Blade length 500mm
    📌 Material sus 304
    📌 Weight 130kg
    📌 Dimension 750*710*880 mm

    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน

    สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ
    เวลาเปิดทำการ :
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00
    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼

    m.me/yonghahheng 👈🏻แชทเลย
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/HV4lSKp
    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #กระทะสับ #ลอกมันหนังไก่ #เครื่องลอกมัน #เครื่องลอกหนัง #หนังไก่ทอด #ลอกหนังไก่ทอด #ปอกกระเทียม #เครื่องปอกเปลือก #เครื่องบด #บดหมู #ลอกหนังปลา #เครื่องบดอาหาร #เครื่องบดโครงไก่ #เครื่องหั่นหมู #เครื่องหั่นพริกแห้ง #เครื่องหั่นพริก #หั่นพริกทอดกรอบ #แหนมหมู #หั่นปลาหมึกกรอบ #หั่นพริกทอดกรอบ #หั่นปลาดุก #สับผัก #หั่นใบไม้ #เครื่องลอกมันหมู #ลอกหนังหมู
    เครื่องลอกหนัง รุ่น 500 สแตนเลส #ทดลองลอกหนังปลาจาระเม็ด เครื่องลอกหนัง เหมาะสำหรับการลอกหนังสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ หรือหนังปลา เป็นต้น และใช้กันอย่างแพร่หลายในบริษัทแปรรูปอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงแรมสามารถปรับความหนาของหนังได้ตั้งแต่ หนา 0.5-6 มม. ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบนั้นๆ ชุดใบมีด ใบมีดนำเข้าจากเยอรมัน ใช้งานง่าย รายละเอียด 📌 Capacity 300kg/hour 📌 Voltage 220 V/50 HZ 📌 Peeling thickness 0.6-6 MM 📌 Blade length 500mm 📌 Material sus 304 📌 Weight 130kg 📌 Dimension 750*710*880 mm ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน สนใจสินค้าเครื่องไหน สามารถเข้ามาดูที่ร้านได้เลยนะคะ เวลาเปิดทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ‼‼ m.me/yonghahheng 👈🏻แชทเลย LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/HV4lSKp 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #กระทะสับ #ลอกมันหนังไก่ #เครื่องลอกมัน #เครื่องลอกหนัง #หนังไก่ทอด #ลอกหนังไก่ทอด #ปอกกระเทียม #เครื่องปอกเปลือก #เครื่องบด #บดหมู #ลอกหนังปลา #เครื่องบดอาหาร #เครื่องบดโครงไก่ #เครื่องหั่นหมู #เครื่องหั่นพริกแห้ง #เครื่องหั่นพริก #หั่นพริกทอดกรอบ #แหนมหมู #หั่นปลาหมึกกรอบ #หั่นพริกทอดกรอบ #หั่นปลาดุก #สับผัก #หั่นใบไม้ #เครื่องลอกมันหมู #ลอกหนังหมู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 0 รีวิว
  • สืบเนื่องจากมีเพื่อนเพจเคยขอให้เขียนเกี่ยวกับวลีจีนที่มาจากเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ วันนี้ Storyฯ จะมาคุยเกี่ยวกับคำพังเพยที่หลายท่านต้องร้อง “อ๋อ!” ซึ่งก็คือ ‘แมวป่าสับเปลี่ยนองค์ชายรัชทายาท’ (หลีเม้าฮ่วนไท่จื่อ / 狸猫换太子) หรือที่แฟนคลับเปาบุ้นจิ้นต้องเคยได้ยินชื่อตอน ‘คดีสับเปลี่ยนพระโอรส’

    เป็นคำพังเพยที่ไม่ได้มาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ แต่เป็นการอ้างอิงเรื่องเล่าที่มีตัวละครจากประวัติศาสตร์ แรกเริ่มเป็นละครงิ้วในสมัยราชวงศ์หยวน ต่อมากลายเป็นส่วนหนึ่งของนวนิยาย <สามผู้กล้าห้าผู้ทรงธรรม> (ซ้านเสียอู่อี้ / 三俠五義) ที่ประพันธ์ขึ้นโดยสืออวี้คุ้น ในสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนอิงประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์ซ่งเดินเรื่องโดยเปาบุ้นจิ้น และต่อมาถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์หลายครั้ง

    ในเนื้อความเดิมจาก <สามผู้กล้าห้าผู้ทรงธรรม> นั้น กล่าวถึงพระนางหลิวเอ๋อ ซึ่งก็คือพระอัครมเหสีในองค์ซ่งเจินจง และต่อมาเป็นไทเฮาและผู้สำเร็จราชการแทนองค์ซ่งเหรินจงเป็นเวลาเก้าปี (ค.ศ. 1022–1031) โดยเล่าว่าพระนางหลิวเอ๋อริษยาพระชายาหลี่เฉินที่ได้ความรักจากองค์ซ่งเจินจง และต้องการรักษาราชอำนาจแต่แท้งลูก จึงเอาศพแมวป่าถลกหนังออกสลับไปเป็นลูกของพระชายาหลี่ที่เพิ่งคลอดออกมา แล้วสลับเอาลูกของพระชายาหลี่มาเป็นลูกของตนเพื่อว่าเด็กจะได้เป็นองค์ชายรัชทายาทและขึ้นครองราชย์ต่อไป ส่วนพระชายาหลี่เฉินนั้นก็ถูกจองจำในตำหนักเย็นเพราะคลอดลูกออกมาเป็นสัตว์ประหลาด ต่อมาเปาบุ้นจิ้นสืบสวนจนปรากฏข้อเท็จจริง (ขออภัยที่ไม่ใช้ราชาศัพท์)

    แต่ในละครเรื่อง <จอมนางแห่งวังหลัง> ได้มีการนำเสนออีกในแง่มุม ว่าเรื่องราวการสลับองค์ชายเป็นแผนขององค์ฮ่องเต้ซ่งเจินจงเพื่อไม่ให้ราชอำนาจในราชสำนักสั่นคลอน เรียกได้ว่าลบภาพลักษณ์ตัวร้ายของพระนางหลิวเอ๋อออกไปได้ รายละเอียดความเป็นมาเป็นอย่างไร ติดตามดูกันได้ในละครเรื่องนี้

    มีคนเคยวิเคราะห์แล้วว่า ‘แมวป่าสับเปลี่ยนองค์ชายรัชทายาท’ เป็นเรื่องที่มีความขัดแย้งกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์หลายประเด็น เช่นว่า
    – ตอนที่องค์ซ่งเหรินจงสืบหาความจริงเกี่ยวกับแม่แท้ๆ นั้น เปาบุ้นจิ้นยังไม่เข้ารับราชการ
    – พระนางหลิวเอ๋อไม่จำเป็นต้องสลับลูกเพราะนางเองในตอนนั้นมีฐานอำนาจที่มั่นคงมากแล้ว อีกทั้งนางพบรักกับองค์ซ่งเจินจงมานานก่อนหน้านั้น และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าฮ่องเต้ทรงโปรดปรานพระชายาหลี่เฉินมากกว่า
    – พระนางหลิวเอ๋อจัดงานศพพระชายาหลี่เฉินให้ตามพิธีการของอัครมเหสี ไม่ใช่ชายาทั่วไป

    เรื่องราวที่แท้จริงตามประวัติศาสตร์เป็นอย่างไรไม่ทราบได้ แต่ประวัติศาสตร์จารึกไว้ว่าพระนางหลิวเอ๋อใช้พระราชอำนาจในการบริหารบ้านเมืองได้ดี เป็นอีกหนึ่งสตรีเหล็กแห่งประวัติศาสตร์จีน และเรื่องสับเปลี่ยนพระโอรสนี้กลายเป็นนิทานปรำปราและเป็นที่มาของคำพังเพยที่ว่า ‘แมวป่าสับเปลี่ยนองค์ชายรัชทายาท’ หรือ ‘หลีเม้าฮ่วนไท่จื่อ’

    ในวลี ‘หลีเม้าฮ่วนไท่จื่อ’ นี้ Storyฯ แปลคำว่า ‘หลีเม้า’ เป็นแมวป่า แต่จริงๆ แล้วมันหน้าตาเป็นอย่างไร Storyฯ ก็ไม่แน่ใจ เพราะบ้างบรรยายว่ามันเป็นแมวลายดาว (Leopard Cat) และบ้างว่ามันเป็นแมวชะมด (Civet Cat) หน้าตาต่างกันค่อนข้างมาก เลยแปะรูปมาให้ดูเป็นการเปรียบเทียบ

    เล่ามาเสียยืดยาว สรุป ‘หลีเม้าฮ่วนไท่จื่อ’ หมายถึงอะไร? เป็นคำพังเพยที่หมายความว่า เอาของปลอมมาสลับเปลี่ยนแทนของจริง หรือที่บ้านเราอาจเรียกว่า ‘ย้อมแมวขาย’ นั่นเอง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=efb5598dede9bd9a810a7272
    https://www.163.com/dy/article/G72T9QTQ05179OJ2.html
    http://www.china.org.cn/english/scitech/67652.htm
    https://felids.wordpress.com/2011/12/14/cats-in-china-leopard-cat/
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.baike.com/wikiid/8060072274706103379?from=wiki_content&prd=innerlink&view_id=4mgrmib6ruo000
    http://k.sina.com.cn/article_5863047530_15d77016a00100jl1w.html?from=history#/
    https://new.qq.com/rain/a/20211209A08QHG00

    #จอมนางแห่งวังหลัง #หลิวเอ๋อ #สับเปลี่ยนพระโอรส #เปาบุ้นจิ้น #หลีเม้า #แมวป่าจีน #หลีเม้าฮ่วนไท่จื่อ
    สืบเนื่องจากมีเพื่อนเพจเคยขอให้เขียนเกี่ยวกับวลีจีนที่มาจากเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ วันนี้ Storyฯ จะมาคุยเกี่ยวกับคำพังเพยที่หลายท่านต้องร้อง “อ๋อ!” ซึ่งก็คือ ‘แมวป่าสับเปลี่ยนองค์ชายรัชทายาท’ (หลีเม้าฮ่วนไท่จื่อ / 狸猫换太子) หรือที่แฟนคลับเปาบุ้นจิ้นต้องเคยได้ยินชื่อตอน ‘คดีสับเปลี่ยนพระโอรส’ เป็นคำพังเพยที่ไม่ได้มาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ แต่เป็นการอ้างอิงเรื่องเล่าที่มีตัวละครจากประวัติศาสตร์ แรกเริ่มเป็นละครงิ้วในสมัยราชวงศ์หยวน ต่อมากลายเป็นส่วนหนึ่งของนวนิยาย <สามผู้กล้าห้าผู้ทรงธรรม> (ซ้านเสียอู่อี้ / 三俠五義) ที่ประพันธ์ขึ้นโดยสืออวี้คุ้น ในสมัยราชวงศ์ชิง ซึ่งเป็นนวนิยายแนวสืบสวนสอบสวนอิงประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์ซ่งเดินเรื่องโดยเปาบุ้นจิ้น และต่อมาถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์หลายครั้ง ในเนื้อความเดิมจาก <สามผู้กล้าห้าผู้ทรงธรรม> นั้น กล่าวถึงพระนางหลิวเอ๋อ ซึ่งก็คือพระอัครมเหสีในองค์ซ่งเจินจง และต่อมาเป็นไทเฮาและผู้สำเร็จราชการแทนองค์ซ่งเหรินจงเป็นเวลาเก้าปี (ค.ศ. 1022–1031) โดยเล่าว่าพระนางหลิวเอ๋อริษยาพระชายาหลี่เฉินที่ได้ความรักจากองค์ซ่งเจินจง และต้องการรักษาราชอำนาจแต่แท้งลูก จึงเอาศพแมวป่าถลกหนังออกสลับไปเป็นลูกของพระชายาหลี่ที่เพิ่งคลอดออกมา แล้วสลับเอาลูกของพระชายาหลี่มาเป็นลูกของตนเพื่อว่าเด็กจะได้เป็นองค์ชายรัชทายาทและขึ้นครองราชย์ต่อไป ส่วนพระชายาหลี่เฉินนั้นก็ถูกจองจำในตำหนักเย็นเพราะคลอดลูกออกมาเป็นสัตว์ประหลาด ต่อมาเปาบุ้นจิ้นสืบสวนจนปรากฏข้อเท็จจริง (ขออภัยที่ไม่ใช้ราชาศัพท์) แต่ในละครเรื่อง <จอมนางแห่งวังหลัง> ได้มีการนำเสนออีกในแง่มุม ว่าเรื่องราวการสลับองค์ชายเป็นแผนขององค์ฮ่องเต้ซ่งเจินจงเพื่อไม่ให้ราชอำนาจในราชสำนักสั่นคลอน เรียกได้ว่าลบภาพลักษณ์ตัวร้ายของพระนางหลิวเอ๋อออกไปได้ รายละเอียดความเป็นมาเป็นอย่างไร ติดตามดูกันได้ในละครเรื่องนี้ มีคนเคยวิเคราะห์แล้วว่า ‘แมวป่าสับเปลี่ยนองค์ชายรัชทายาท’ เป็นเรื่องที่มีความขัดแย้งกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์หลายประเด็น เช่นว่า – ตอนที่องค์ซ่งเหรินจงสืบหาความจริงเกี่ยวกับแม่แท้ๆ นั้น เปาบุ้นจิ้นยังไม่เข้ารับราชการ – พระนางหลิวเอ๋อไม่จำเป็นต้องสลับลูกเพราะนางเองในตอนนั้นมีฐานอำนาจที่มั่นคงมากแล้ว อีกทั้งนางพบรักกับองค์ซ่งเจินจงมานานก่อนหน้านั้น และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าฮ่องเต้ทรงโปรดปรานพระชายาหลี่เฉินมากกว่า – พระนางหลิวเอ๋อจัดงานศพพระชายาหลี่เฉินให้ตามพิธีการของอัครมเหสี ไม่ใช่ชายาทั่วไป เรื่องราวที่แท้จริงตามประวัติศาสตร์เป็นอย่างไรไม่ทราบได้ แต่ประวัติศาสตร์จารึกไว้ว่าพระนางหลิวเอ๋อใช้พระราชอำนาจในการบริหารบ้านเมืองได้ดี เป็นอีกหนึ่งสตรีเหล็กแห่งประวัติศาสตร์จีน และเรื่องสับเปลี่ยนพระโอรสนี้กลายเป็นนิทานปรำปราและเป็นที่มาของคำพังเพยที่ว่า ‘แมวป่าสับเปลี่ยนองค์ชายรัชทายาท’ หรือ ‘หลีเม้าฮ่วนไท่จื่อ’ ในวลี ‘หลีเม้าฮ่วนไท่จื่อ’ นี้ Storyฯ แปลคำว่า ‘หลีเม้า’ เป็นแมวป่า แต่จริงๆ แล้วมันหน้าตาเป็นอย่างไร Storyฯ ก็ไม่แน่ใจ เพราะบ้างบรรยายว่ามันเป็นแมวลายดาว (Leopard Cat) และบ้างว่ามันเป็นแมวชะมด (Civet Cat) หน้าตาต่างกันค่อนข้างมาก เลยแปะรูปมาให้ดูเป็นการเปรียบเทียบ เล่ามาเสียยืดยาว สรุป ‘หลีเม้าฮ่วนไท่จื่อ’ หมายถึงอะไร? เป็นคำพังเพยที่หมายความว่า เอาของปลอมมาสลับเปลี่ยนแทนของจริง หรือที่บ้านเราอาจเรียกว่า ‘ย้อมแมวขาย’ นั่นเอง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=efb5598dede9bd9a810a7272 https://www.163.com/dy/article/G72T9QTQ05179OJ2.html http://www.china.org.cn/english/scitech/67652.htm https://felids.wordpress.com/2011/12/14/cats-in-china-leopard-cat/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.baike.com/wikiid/8060072274706103379?from=wiki_content&prd=innerlink&view_id=4mgrmib6ruo000 http://k.sina.com.cn/article_5863047530_15d77016a00100jl1w.html?from=history#/ https://new.qq.com/rain/a/20211209A08QHG00 #จอมนางแห่งวังหลัง #หลิวเอ๋อ #สับเปลี่ยนพระโอรส #เปาบุ้นจิ้น #หลีเม้า #แมวป่าจีน #หลีเม้าฮ่วนไท่จื่อ
    《大宋宫词》评分下滑惨烈,古装剧只有唯美画风是不够的_百科TA说
    百度百科是一部内容开放、自由的网络百科全书,旨在创造一个涵盖所有领域知识,服务所有互联网用户的中文知识性百科全书。在这里你可以参与词条编辑,分享贡献你的知识。
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้มีคำสั่งย้ายว่าที่ร้อยเอก ฤทธิกรณ์ นุ่นลอย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา ออกจากพื้นที่ในระหว่างตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการที่วานนี้นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง ในฐานะชุดตรวจสอบมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติ นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบการจำหน่ายบัตรค่าบริการผ่านเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า โดยเข้าตรวจสอบที่เกาะสี่และเกาะแปดพร้อมกันจากการตรวจสอบของสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง พบว่า มีการจองตั๋วคนไทยในระบบจำหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) ไม่เกิน 10 คน โดยจำหน่ายในราคาคนไทย ผู้ใหญ่คนละ 100 บาท เด็กคนละ 50 บาท แต่เมื่อตรวจนับจำนวนนักท่องเที่ยวหน้าหาด พบว่าไม่มีคนไทย แต่กลับพบมีต่างชาติ 50 คน ซึ่งปกติแล้วราคาคนต่างชาติ ผู้ใหญ่คนละ 500 บาท เด็กคนละ 250 บาท และพบเรืออีก 10 ลำ ป.ป.ช.เห็นว่าอาจเข้าข่ายขบวนการฉีกตั๋วผี ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด
    นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้มีคำสั่งย้ายว่าที่ร้อยเอก ฤทธิกรณ์ นุ่นลอย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา ออกจากพื้นที่ในระหว่างตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการที่วานนี้นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง ในฐานะชุดตรวจสอบมาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติ นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบการจำหน่ายบัตรค่าบริการผ่านเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า โดยเข้าตรวจสอบที่เกาะสี่และเกาะแปดพร้อมกันจากการตรวจสอบของสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง พบว่า มีการจองตั๋วคนไทยในระบบจำหน่ายบัตรค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) ไม่เกิน 10 คน โดยจำหน่ายในราคาคนไทย ผู้ใหญ่คนละ 100 บาท เด็กคนละ 50 บาท แต่เมื่อตรวจนับจำนวนนักท่องเที่ยวหน้าหาด พบว่าไม่มีคนไทย แต่กลับพบมีต่างชาติ 50 คน ซึ่งปกติแล้วราคาคนต่างชาติ ผู้ใหญ่คนละ 500 บาท เด็กคนละ 250 บาท และพบเรืออีก 10 ลำ ป.ป.ช.เห็นว่าอาจเข้าข่ายขบวนการฉีกตั๋วผี ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพชรบุรี - ตื่นเต้น!! นักท่องเที่ยวพบ ‘พยัคฆ์สีนิล ขณะขึ้นเขาพะเนินทุ่ง กม.20 พบเสือดำ เดินอยู่ริมถนนบริเวณชายป่า สร้างความตื่นเต้นให้กับครอบครัวที่ได้ขึ้นมาท่องเที่ยว พบสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก แห่งผืนป่ามรดกโลก

    นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ประจำจุดบ้านกร่าง ว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค.68 ที่ผ่านมา ขณะที่ นายสถาพร ธนากรธำรง นักท่องเที่ยว ได้นั่งรถนำเที่ยวขึ้นไปเที่ยวบนเขาพะเนินทุ่ง เมื่อผ่านมาที่ กม.20 ได้พบกับเสือดำ เดินอยู่ริมถนนบริเวณชายป่า สร้างความตื่นเต้นให้กับครอบครัวที่ได้ขึ้นมาท่องเที่ยว และได้พบสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก แห่งผืนป่ามรดกโลกแห่งนี้

    สำหรับการพบเจอเสือดำครั้งนี้ พบว่าเสือดำเดินข้ามถนนก่อนจะหายเข้าไปในป่า การพบเสือดำล่าสุดนี้เป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นว่าสัตว์ป่ายังคงใช้พื้นที่อย่างปกติ แม้ก่อนหน้านี้จะมีเหตุการณ์ไกด์และนักท่องเที่ยวตามถ่ายภาพเสือดำจนสร้างความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อพฤติกรรมของสัตว์ป่า โดยจากที่ได้รับรายงานล่าสุด พบว่า รถนำเที่ยวที่พบเสือดำ ได้ค่อยๆเคลื่อนรถช้าๆ จนเสือดำเดินเข้าป่าไปอย่างปลอดภัย และไม่ไปรบกวนพฤติกรรมสัตว์ป่าแต่อย่างใด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000028617

    #MGROnline #เพชรบุรี #เสือดำ #พยัคฆ์สีนิล #เขาพะเนินทุ่ง
    เพชรบุรี - ตื่นเต้น!! นักท่องเที่ยวพบ ‘พยัคฆ์สีนิล ขณะขึ้นเขาพะเนินทุ่ง กม.20 พบเสือดำ เดินอยู่ริมถนนบริเวณชายป่า สร้างความตื่นเต้นให้กับครอบครัวที่ได้ขึ้นมาท่องเที่ยว พบสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก แห่งผืนป่ามรดกโลก • นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ประจำจุดบ้านกร่าง ว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค.68 ที่ผ่านมา ขณะที่ นายสถาพร ธนากรธำรง นักท่องเที่ยว ได้นั่งรถนำเที่ยวขึ้นไปเที่ยวบนเขาพะเนินทุ่ง เมื่อผ่านมาที่ กม.20 ได้พบกับเสือดำ เดินอยู่ริมถนนบริเวณชายป่า สร้างความตื่นเต้นให้กับครอบครัวที่ได้ขึ้นมาท่องเที่ยว และได้พบสัตว์ป่าคุ้มครองหายาก แห่งผืนป่ามรดกโลกแห่งนี้ • สำหรับการพบเจอเสือดำครั้งนี้ พบว่าเสือดำเดินข้ามถนนก่อนจะหายเข้าไปในป่า การพบเสือดำล่าสุดนี้เป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นว่าสัตว์ป่ายังคงใช้พื้นที่อย่างปกติ แม้ก่อนหน้านี้จะมีเหตุการณ์ไกด์และนักท่องเที่ยวตามถ่ายภาพเสือดำจนสร้างความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อพฤติกรรมของสัตว์ป่า โดยจากที่ได้รับรายงานล่าสุด พบว่า รถนำเที่ยวที่พบเสือดำ ได้ค่อยๆเคลื่อนรถช้าๆ จนเสือดำเดินเข้าป่าไปอย่างปลอดภัย และไม่ไปรบกวนพฤติกรรมสัตว์ป่าแต่อย่างใด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000028617 • #MGROnline #เพชรบุรี #เสือดำ #พยัคฆ์สีนิล #เขาพะเนินทุ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • แจ่วครก เป็นน้ำพริกของชาติพันธุ์กะเหรี่ยง โดยนำพริกสดหรือพริกแห้ง (พริกกะเหรี่ยง พริกพื้นบ้านเผ็ดหอมจัดจ้านเม็ดเล็กๆ) และหอมแดงคั่วในกระทะให้หอม ต้มปลาร้าให้สุก (ปลาร้ากะเหรี่ยงไม่ได้ทำจากปลา แต่ทำจากเนื้อสัตว์อื่นๆที่หาได้จากป่า ปัจจุบันมักทำจากเนื้อหมูหรือไก่) แล้วนำใส่ครกตำรวมกัน เติมด้วยมะเขือส้ม (มะเขือพื้นบ้าน) ให้ได้รสเปรี้ยวเล็กน้อยและความกลมกล่อม กินกับผักต้มตามฤดูกาล เช่นต้างหลวง (มะเขือพวงป่า), อีซึก, พญาห้าเมีย, พลูคาว, หน่อข่าอ่อนฯ จากกิจกรรมเวิร์คช็อป กินผักหน้าแล้ง ครัวกะเหรี่ยง เมื่อ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๘ ที่ตลาดซาวไฮ่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ภาพถ่าย : ดิว นันท์ณภัส
    แจ่วครก เป็นน้ำพริกของชาติพันธุ์กะเหรี่ยง โดยนำพริกสดหรือพริกแห้ง (พริกกะเหรี่ยง พริกพื้นบ้านเผ็ดหอมจัดจ้านเม็ดเล็กๆ) และหอมแดงคั่วในกระทะให้หอม ต้มปลาร้าให้สุก (ปลาร้ากะเหรี่ยงไม่ได้ทำจากปลา แต่ทำจากเนื้อสัตว์อื่นๆที่หาได้จากป่า ปัจจุบันมักทำจากเนื้อหมูหรือไก่) แล้วนำใส่ครกตำรวมกัน เติมด้วยมะเขือส้ม (มะเขือพื้นบ้าน) ให้ได้รสเปรี้ยวเล็กน้อยและความกลมกล่อม กินกับผักต้มตามฤดูกาล เช่นต้างหลวง (มะเขือพวงป่า), อีซึก, พญาห้าเมีย, พลูคาว, หน่อข่าอ่อนฯ จากกิจกรรมเวิร์คช็อป กินผักหน้าแล้ง ครัวกะเหรี่ยง เมื่อ ๒๒ มีนาคม ๒๕๖๘ ที่ตลาดซาวไฮ่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ภาพถ่าย : ดิว นันท์ณภัส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาผู้มีจิตอันหาขอบเขตมิได้
    สัทธรรมลำดับที่ : 568
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=568
    ชื่อบทธรรม : -ผู้มีจิตอันหาขอบเขตมิได้
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ผู้มีจิตอันหาขอบเขตมิได้
    --ภิกษุ ท. ! ตลอดกาลเพียงใด ที่สัตว์ทั้งหลาย
    ยังไม่ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริง ซึ่งรสอร่อย
    ของอุปาทานขันธ์ห้าเหล่านี้ โดยความเป็นรสอร่อย.
    ยังไม่ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริง ซึ่ง โทษ
    ของอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นโทษ,
    ยังไม่ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริง ซึ่ง อุบายออกพ้นไปได้
    จากอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นอุบายให้ออกพ้นไป ;
    --ภิกษุ ท. ! ตลอดกาลเพียงนั้น สัตว์ทั้งหลาย
    ก็ยังไม่ชื่อว่าเป็นผู้ได้แล่นหลุดออกไป.
    ยังไม่ชื่อว่าเป็นผู้ปราศจากเครื่องเกี่ยวเกาะหลุดพ้นแล้ว,
    ยังเป็นผู้มีใจอันอยู่ในขอบเขตโลกนี้ ขอบเขตเทวโลก มารโลก พรหมโลก,
    ยังอยู่ในขอบเขตของหมู่สัตว์ หมู่สมณะ หมู่พราหมณ์
    และในขอบเขตของเหล่าเทวดาและมนุษย์ อยู่นั่นเอง.
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อใดแล สัตว์ทั้งหลาย
    มารู้ยิ่งตามเป็นจริงแล้ว &​ซึ่งรสอร่อย ของอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นรสอร่อย,
    ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริงซึ่ง &​โทษ ของอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นโทษ,
    ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริงซึ่ง &​อุบายออกพ้นไปได้ จากอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นอุบายให้ออกพ้นไป ;
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อนั้นแหละ สัตว์เหล่านั้น
    ชื่อว่าเป็นผู้ ได้แล่นหลุดออกไป เป็นผู้ปราศจากเครื่องเกี่ยวเกาะ หลุดพ้นแล้ว
    #เป็นผู้มีจิตอันหาขอบเขตมิได้
    http://etipitaka.com/read/pali/17/38/?keywords=เจตสา+วิหรนฺตีติ
    เป็นอยู่ในโลกนี้ ในเทวโลก มารโลก พรหมโลก,
    เป็นอยู่ในหมู่สัตว์ หมู่สมณะ หมู่พราหมณ์ ในเหล่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ดังนี้.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/29/63.
    http://etipitaka.com/read/thai/17/29/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๓๘/๖๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/17/38/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=568
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=37&id=568
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=37
    ลำดับสาธยายธรรม : 37 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_37.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาผู้มีจิตอันหาขอบเขตมิได้ สัทธรรมลำดับที่ : 568 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=568 ชื่อบทธรรม : -ผู้มีจิตอันหาขอบเขตมิได้ เนื้อความทั้งหมด :- --ผู้มีจิตอันหาขอบเขตมิได้ --ภิกษุ ท. ! ตลอดกาลเพียงใด ที่สัตว์ทั้งหลาย ยังไม่ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริง ซึ่งรสอร่อย ของอุปาทานขันธ์ห้าเหล่านี้ โดยความเป็นรสอร่อย. ยังไม่ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริง ซึ่ง โทษ ของอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นโทษ, ยังไม่ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริง ซึ่ง อุบายออกพ้นไปได้ จากอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นอุบายให้ออกพ้นไป ; --ภิกษุ ท. ! ตลอดกาลเพียงนั้น สัตว์ทั้งหลาย ก็ยังไม่ชื่อว่าเป็นผู้ได้แล่นหลุดออกไป. ยังไม่ชื่อว่าเป็นผู้ปราศจากเครื่องเกี่ยวเกาะหลุดพ้นแล้ว, ยังเป็นผู้มีใจอันอยู่ในขอบเขตโลกนี้ ขอบเขตเทวโลก มารโลก พรหมโลก, ยังอยู่ในขอบเขตของหมู่สัตว์ หมู่สมณะ หมู่พราหมณ์ และในขอบเขตของเหล่าเทวดาและมนุษย์ อยู่นั่นเอง. --ภิกษุ ท. ! เมื่อใดแล สัตว์ทั้งหลาย มารู้ยิ่งตามเป็นจริงแล้ว &​ซึ่งรสอร่อย ของอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นรสอร่อย, ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริงซึ่ง &​โทษ ของอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นโทษ, ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริงซึ่ง &​อุบายออกพ้นไปได้ จากอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นอุบายให้ออกพ้นไป ; --ภิกษุ ท. ! เมื่อนั้นแหละ สัตว์เหล่านั้น ชื่อว่าเป็นผู้ ได้แล่นหลุดออกไป เป็นผู้ปราศจากเครื่องเกี่ยวเกาะ หลุดพ้นแล้ว #เป็นผู้มีจิตอันหาขอบเขตมิได้ http://etipitaka.com/read/pali/17/38/?keywords=เจตสา+วิหรนฺตีติ เป็นอยู่ในโลกนี้ ในเทวโลก มารโลก พรหมโลก, เป็นอยู่ในหมู่สัตว์ หมู่สมณะ หมู่พราหมณ์ ในเหล่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ดังนี้.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/29/63. http://etipitaka.com/read/thai/17/29/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๓๘/๖๓. http://etipitaka.com/read/pali/17/38/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=568 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=37&id=568 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=37 ลำดับสาธยายธรรม : 37 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_37.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ผู้มีจิตอันหาขอบเขตมิได้
    -ผู้มีจิตอันหาขอบเขตมิได้ ภิกษุ ท. ! ตลอดกาลเพียงใด ที่สัตว์ทั้งหลาย ยังไม่ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริง ซึ่งรสอร่อย ของอุปาทานขันธ์ห้าเหล่านี้ โดยความเป็นรสอร่อย. ยังไม่ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริง ซึ่ง โทษ ของอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นโทษ, ยังไม่ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริง ซึ่ง อุบายออกพ้นไปได้ จากอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นอุบายให้ออกพ้นไป ; ภิกษุ ท. ! ตลอดกาลเพียงนั้น สัตว์ทั้งหลาย ก็ ยังไม่ชื่อว่าเป็นผู้ได้แล่นหลุดออกไป. ยังไม่ชื่อว่าเป็นผู้ปราศจากเครื่องเกี่ยวเกาะหลุดพ้นแล้ว, ยังเป็นผู้มีใจอันอยู่ในขอบเขตโลกนี้ ขอบเขตเทวโลก มารโลก พรหมโลก, ยังอยู่ในขอบเขตของหมู่สัตว์ หมู่สมณะ หมู่พราหมณ์ และในขอบเขตของเหล่าเทวดาและมนุษย์ อยู่นั่นเอง. ภิกษุ ท. ! เมื่อใดแล สัตว์ทั้งหลาย มารู้ยิ่งตามเป็นจริงแล้ว ซึ่งรสอร่อย ของอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นรสอร่อย, ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริงซึ่ง โทษ ของอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นโทษ, ได้รู้ยิ่งตามเป็นจริงซึ่ง อุบายออกพ้นไปได้ จากอุปาทานขันธ์ห้า โดยความเป็นอุบายให้ออกพ้นไป ; ภิกษุ ท. ! เมื่อนั้นแหละ สัตว์เหล่านั้น ชื่อว่าเป็นผู้ ได้แล่นหลุดออกไป เป็นผู้ปราศจากเครื่องเกี่ยวเกาะ หลุดพ้นแล้ว เป็นผู้มีใจอันหาขอบเขตมิได้ เป็นอยู่ในโลกนี้ ในเทวโลก มารโลก พรหมโลก, เป็นอยู่ในหมู่สัตว์ หมู่สมณะ หมู่พราหมณ์ ในเหล่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ดังนี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้ Storyฯ ย้อนไปดูซีรีส์เก่า มีฉากหนึ่งในเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> ที่เตะตา เพื่อนเพจที่เคยดูคงจำได้ว่าพระนางของเรื่องต้องผ่านด่านกลหมากปริวรรตเพื่อช่วงชิงสุดยอดวิชาหลันอิงปี้เยวี่ย ซึ่งเป็นการต่อสู้กับจิตใจของตนเอง โดยในด่านสุดท้ายนั้นพระเอกต้องตัดสายใยที่อยู่ในใจทั้งหมดทิ้ง แต่พระเอกเลือกที่จะเหลือสายใยไว้หนึ่งเส้นซึ่งก็คือสายใยที่มีต่อนางเอก พร้อมกับวลีที่ว่า “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม สายใยความวุ่นวายแห่งทางโลกสามพันเส้น ข้าเหลือไว้เส้นหนึ่งจะเป็นไรไป?” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า>

    วันนี้มาคุยกันสั้นๆ เรื่องวลี “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม” (รั่วสุ่ยซันเชียน จื๋อฉวี่อี้เผียว / 弱水三千只取一瓢) (หมายเหตุ ซันเชียน แปลว่า สามพัน เป็นที่เข้าใจว่าหมายถึงสามพันลี้)

    วลีนี้เคยถูกแปลไว้ว่า “แม่น้ำรั่วสามพันลี้ หนึ่งจอกดับกระหาย” เพื่อนเพจบางท่านอาจงงว่ามันต่างกันหรือไม่อย่างไร ขออธิบายก่อนว่า คำว่า ‘รั่วสุ่ย’ ในโบราณใช้หมายถึงลำธารที่อันตราบไม่สามารถใช้สัญจรได้ และ ‘รั่วสุ่ย’ ยังเป็นชื่อแม่น้ำสายหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ซานไห่จิงหรือ <คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล> ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) ที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ และแม่น้ำสายนี้ได้ถูกแปลมาเป็นภาษาไทยและอังกฤษว่า ‘แม่น้ำรั่ว’ นั่นเอง

    วลีนี้มีที่มาจากคำสอนทางศาสนาพุทธ เป็นนิทานว่าชายผู้ที่กำลังจะขาดน้ำตายเมื่อได้เห็นน้ำในลำธารก็โอดครวญอย่างเสียดายว่าน้ำทั้งลำธารจะดื่มอย่างไรหมด พระพุทธเจ้าจึงสอนว่าในชีวิตเรานั้นอาจพานพบหลากหลายสรรพสิ่งที่ดีงาม แต่เราไม่จำเป็นต้องครอบครองได้ทั้งหมด เพียงมีสิ่งเล็กๆ ที่สำคัญก็เพียงพอแล้ว ดังวลีนี้ที่เปรียบเปรยว่า น้ำในสายธารที่ทอดยาว ไม่จำเป็นต้องเอาน้ำมาดื่มใช้ให้หมด ขอเพียงหนึ่งชามก็พอยังชีพแล้ว

    แม้ว่าคำว่า ‘รั่วสุ่ย’ จะมีมาแต่โบราณ แต่วรรคที่ว่า ‘รั่วสุ่ยซันเชียน’ หรือ ‘ธารน้ำสามพัน(ลี้)’ ในรูปประโยคอย่างนี้ แรกปรากฏให้เห็นในอมตะวรรณกรรมเรื่อง <ความฝันในหอแดง> โดยเป็นตอนที่พระเอกเจี๋ยเป่าอวี้ใช้วลีเต็ม “แม้ธารน้ำยาวสามพันลี้ ข้าก็จะขอตักเพียงหนึ่งชาม” เพื่อบอกต่อนางเอกหลินไต้อวี้ว่า แม้จะมีสตรีอื่นรายล้อมเพียงใด เขาขอเพียงนางคนเดียวมาเป็นคู่ครองก็พอใจแล้ว และต่อมาวลีนี้จึงกลายเป็นวลีอมตะที่บ่งบอกถึงรักอันมั่นคง รักเดียวใจเดียว

    และด้วยคำว่า ‘รั่วสุ่ย’ ในโบราณแปลว่าสายธารที่อันตราย จึงมีการตีความวลี “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม” นี้เพิ่มเติมด้วยว่า กว่าจะตักน้ำนั้นมาได้หนึ่งชามก็ยากแสนยาก พึงเห็นคุณค่าของมันให้จงดี

    ดังนั้น จริงๆ แล้ววลีนี้ใช้ในบริบทอื่นก็ได้ เพื่อสื่อความหมายว่า ในบรรดาสรรพสิ่งมากมาย ขอเพียงได้ในสิ่งเดียวที่ตั้งใจที่มีคุณค่ามากมายต่อจิตใจเรา ก็เพียงพอแล้ว

    Storyฯ ถือโอกาสนี้แปะรูปมาให้แฟนคลับของหยางหยางดูว่า เขาไม่เพียงกล่าววลีนี้มาแล้วในละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> แต่เมื่อปี 2010 ยังเคยแสดงเป็นเจี๋ยเป่าอวี้ ในเรื่อง <ความฝันในหอแดง> ซึ่งเป็นต้นฉบับของวลีอมตะนี้ด้วย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://imgur.com/20Mx6mv
    http://yule.sohu.com/20160617/n454973158.shtml
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/弱水三千只取一瓢/96378
    https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=242a130850f0cbde411c456e&lemmaId=96378&fromLemmaModule=pcBottom&lemmaTitle=%E5%BC%B1%E6%B0%B4%E4%B8%89%E5%8D%83%E5%8F%AA%E5%8F%96%E4%B8%80%E7%93%A2&fromModule=lemma_bottom-tashuo-article
    https://www.sohu.com/a/325578545_594411

    #เทียบท้าปฐพี #แม่น้ำรั่ว #สายธารสามพันลี้
    ช่วงนี้ Storyฯ ย้อนไปดูซีรีส์เก่า มีฉากหนึ่งในเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> ที่เตะตา เพื่อนเพจที่เคยดูคงจำได้ว่าพระนางของเรื่องต้องผ่านด่านกลหมากปริวรรตเพื่อช่วงชิงสุดยอดวิชาหลันอิงปี้เยวี่ย ซึ่งเป็นการต่อสู้กับจิตใจของตนเอง โดยในด่านสุดท้ายนั้นพระเอกต้องตัดสายใยที่อยู่ในใจทั้งหมดทิ้ง แต่พระเอกเลือกที่จะเหลือสายใยไว้หนึ่งเส้นซึ่งก็คือสายใยที่มีต่อนางเอก พร้อมกับวลีที่ว่า “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม สายใยความวุ่นวายแห่งทางโลกสามพันเส้น ข้าเหลือไว้เส้นหนึ่งจะเป็นไรไป?” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า> วันนี้มาคุยกันสั้นๆ เรื่องวลี “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม” (รั่วสุ่ยซันเชียน จื๋อฉวี่อี้เผียว / 弱水三千只取一瓢) (หมายเหตุ ซันเชียน แปลว่า สามพัน เป็นที่เข้าใจว่าหมายถึงสามพันลี้) วลีนี้เคยถูกแปลไว้ว่า “แม่น้ำรั่วสามพันลี้ หนึ่งจอกดับกระหาย” เพื่อนเพจบางท่านอาจงงว่ามันต่างกันหรือไม่อย่างไร ขออธิบายก่อนว่า คำว่า ‘รั่วสุ่ย’ ในโบราณใช้หมายถึงลำธารที่อันตราบไม่สามารถใช้สัญจรได้ และ ‘รั่วสุ่ย’ ยังเป็นชื่อแม่น้ำสายหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ซานไห่จิงหรือ <คัมภีร์ขุนเขาและท้องทะเล> ซึ่งเป็นหนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) ที่บันทึกเรื่องราวของเทพนิยาย ปีศาจ สัตว์ประหลาด นิทานปรัมปรา และวัฒนธรรม ฯลฯ และแม่น้ำสายนี้ได้ถูกแปลมาเป็นภาษาไทยและอังกฤษว่า ‘แม่น้ำรั่ว’ นั่นเอง วลีนี้มีที่มาจากคำสอนทางศาสนาพุทธ เป็นนิทานว่าชายผู้ที่กำลังจะขาดน้ำตายเมื่อได้เห็นน้ำในลำธารก็โอดครวญอย่างเสียดายว่าน้ำทั้งลำธารจะดื่มอย่างไรหมด พระพุทธเจ้าจึงสอนว่าในชีวิตเรานั้นอาจพานพบหลากหลายสรรพสิ่งที่ดีงาม แต่เราไม่จำเป็นต้องครอบครองได้ทั้งหมด เพียงมีสิ่งเล็กๆ ที่สำคัญก็เพียงพอแล้ว ดังวลีนี้ที่เปรียบเปรยว่า น้ำในสายธารที่ทอดยาว ไม่จำเป็นต้องเอาน้ำมาดื่มใช้ให้หมด ขอเพียงหนึ่งชามก็พอยังชีพแล้ว แม้ว่าคำว่า ‘รั่วสุ่ย’ จะมีมาแต่โบราณ แต่วรรคที่ว่า ‘รั่วสุ่ยซันเชียน’ หรือ ‘ธารน้ำสามพัน(ลี้)’ ในรูปประโยคอย่างนี้ แรกปรากฏให้เห็นในอมตะวรรณกรรมเรื่อง <ความฝันในหอแดง> โดยเป็นตอนที่พระเอกเจี๋ยเป่าอวี้ใช้วลีเต็ม “แม้ธารน้ำยาวสามพันลี้ ข้าก็จะขอตักเพียงหนึ่งชาม” เพื่อบอกต่อนางเอกหลินไต้อวี้ว่า แม้จะมีสตรีอื่นรายล้อมเพียงใด เขาขอเพียงนางคนเดียวมาเป็นคู่ครองก็พอใจแล้ว และต่อมาวลีนี้จึงกลายเป็นวลีอมตะที่บ่งบอกถึงรักอันมั่นคง รักเดียวใจเดียว และด้วยคำว่า ‘รั่วสุ่ย’ ในโบราณแปลว่าสายธารที่อันตราย จึงมีการตีความวลี “ธารน้ำสามพัน(ลี้) ขอตักเพียงหนึ่งชาม” นี้เพิ่มเติมด้วยว่า กว่าจะตักน้ำนั้นมาได้หนึ่งชามก็ยากแสนยาก พึงเห็นคุณค่าของมันให้จงดี ดังนั้น จริงๆ แล้ววลีนี้ใช้ในบริบทอื่นก็ได้ เพื่อสื่อความหมายว่า ในบรรดาสรรพสิ่งมากมาย ขอเพียงได้ในสิ่งเดียวที่ตั้งใจที่มีคุณค่ามากมายต่อจิตใจเรา ก็เพียงพอแล้ว Storyฯ ถือโอกาสนี้แปะรูปมาให้แฟนคลับของหยางหยางดูว่า เขาไม่เพียงกล่าววลีนี้มาแล้วในละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> แต่เมื่อปี 2010 ยังเคยแสดงเป็นเจี๋ยเป่าอวี้ ในเรื่อง <ความฝันในหอแดง> ซึ่งเป็นต้นฉบับของวลีอมตะนี้ด้วย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://imgur.com/20Mx6mv http://yule.sohu.com/20160617/n454973158.shtml Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/弱水三千只取一瓢/96378 https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=242a130850f0cbde411c456e&lemmaId=96378&fromLemmaModule=pcBottom&lemmaTitle=%E5%BC%B1%E6%B0%B4%E4%B8%89%E5%8D%83%E5%8F%AA%E5%8F%96%E4%B8%80%E7%93%A2&fromModule=lemma_bottom-tashuo-article https://www.sohu.com/a/325578545_594411 #เทียบท้าปฐพี #แม่น้ำรั่ว #สายธารสามพันลี้
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=2hFuWCKt_Bs
    เกมทายชือสัตว์สำหรับเด็ก | Guess the Animal for Kids
    #เกมภาษาอังกฤษ #ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก #เกมทายชื่อสัตว์
    https://www.youtube.com/watch?v=2hFuWCKt_Bs เกมทายชือสัตว์สำหรับเด็ก | Guess the Animal for Kids #เกมภาษาอังกฤษ #ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก #เกมทายชื่อสัตว์
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​อนุสติภาวนา เป็นสิ่งที่เจริญได้ในทุกอิริยาบถ
    สัทธรรมลำดับที่ : 938
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=938
    ชื่อบทธรรม :- อนุสติภาวนา เป็นสิ่งที่เจริญได้ในทุกอิริยาบถ
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อนุสติภาวนา เป็นสิ่งที่เจริญได้ในทุกอิริยาบถ
    --มหานาม ! เธอ
    พึงตามระลึกถึงตถาคต(๑.พุทธานุสสติ)​ ว่า
    “แม้เพราะเหตุอย่างนี้ๆ
    พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส
    เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ
    เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง
    เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า
    เป็นครูผู้สอน ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
    เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม เป็นผู้มีความจำเริญ
    จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์”
    ดังนี้.
    --มหานาม ! สมัยใด #อริยสาวกตามระลึกถึงตถาคตอยู่;
    สมัยนั้นจิตของอริยสาวกนั้น ไม่มีราคะกลุ้มรุม ไม่มีโทสะกลุ้มรุม ไม่มีโมหะกลุ้มรุม,
    สมัยนั้นจิตของเธอนั้น เป็นจิตดำเนินไปตรงทีเดียว.
    --มหานาม ! อริยสาวกผู้มีจิต
    ดำเนินไปตรงเพราะปรารภตถาคต
    ย่อมได้ความรู้สึกต่ออรรถ (อตฺถเวท)
    ย่อมได้ความรู้สึกต่อธรรม (ธมฺมเวท)
    ย่อมได้ปราโมทย์อันประกอบด้วยธรรม.
    เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด;
    เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ;
    ผู้มีกายรำงับ ย่อมเสวยสุข;
    เมื่อมีสุข จิตย่อมเป็นสมาธิ.
    --มหานาม ! เธอ
    พึงเจริญ #พุทธานุสสติ นี้
    http://etipitaka.com/read/pali/24/361/?keywords=พุทฺธานุสฺสตึ
    แม้ เมื่อเดินอยู่ พึงเจริญ
    แม้ เมื่อยืนอยู่ พึงเจริญ
    แม้ เมื่อนั่งอยู่ พึงเจริญ
    แม้ เมื่อนอนอยู่ พึงเจริญ
    แม้ เมื่อกำลังทำงานอยู่ พึงเจริญ
    แม้ เมื่อนอนเบียดบุตรอยู่บนที่นอน.-

    (ในกรณีแห่งการเจริญ
    ๒.ธัมมานุสสติ...
    ๓.สังฆานุสสติ...
    ๔.สีลานุสสติ...
    ๕.จาคานุสสติ...
    ๖.เทวนุสสติ...
    ก็มีข้อความที่ตรัสไว้อย่างเดียวกัน ผู้ปรารถนาโดยรายละเอียด
    พึงดูจากที่มาแห่งกรณีนั้นๆ.
    สิ่งซึ่งอาจจะเป็นที่ประหลาดใจแก่พวกเรา ในที่นี้ ก็คือข้อที่ว่า
    อนุสสติภาวนานั้นเป็นสิ่งที่อาจเจริญได้ในทุกอิริยาบถ
    แม้ในขณะที่ผู้ที่เป็นพ่อแม่นอนกกลูกอยู่) .

    #สัมมาสมาธิ
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - เอกาทสก. อํ. 24/308/219.
    http://etipitaka.com/read/thai/24/308/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - เอกาทสก. อํ. ๒๔/๓๖๑/๒๑๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/361/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91%E0%B9%99
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=938
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=79&id=938
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=79
    ลำดับสาธยายธรรม : 79 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_79.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​อนุสติภาวนา เป็นสิ่งที่เจริญได้ในทุกอิริยาบถ สัทธรรมลำดับที่ : 938 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=938 ชื่อบทธรรม :- อนุสติภาวนา เป็นสิ่งที่เจริญได้ในทุกอิริยาบถ เนื้อความทั้งหมด :- --อนุสติภาวนา เป็นสิ่งที่เจริญได้ในทุกอิริยาบถ --มหานาม ! เธอ พึงตามระลึกถึงตถาคต(๑.พุทธานุสสติ)​ ว่า “แม้เพราะเหตุอย่างนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า เป็นครูผู้สอน ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม เป็นผู้มีความจำเริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์” ดังนี้. --มหานาม ! สมัยใด #อริยสาวกตามระลึกถึงตถาคตอยู่; สมัยนั้นจิตของอริยสาวกนั้น ไม่มีราคะกลุ้มรุม ไม่มีโทสะกลุ้มรุม ไม่มีโมหะกลุ้มรุม, สมัยนั้นจิตของเธอนั้น เป็นจิตดำเนินไปตรงทีเดียว. --มหานาม ! อริยสาวกผู้มีจิต ดำเนินไปตรงเพราะปรารภตถาคต ย่อมได้ความรู้สึกต่ออรรถ (อตฺถเวท) ย่อมได้ความรู้สึกต่อธรรม (ธมฺมเวท) ย่อมได้ปราโมทย์อันประกอบด้วยธรรม. เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ; ผู้มีกายรำงับ ย่อมเสวยสุข; เมื่อมีสุข จิตย่อมเป็นสมาธิ. --มหานาม ! เธอ พึงเจริญ #พุทธานุสสติ นี้ http://etipitaka.com/read/pali/24/361/?keywords=พุทฺธานุสฺสตึ แม้ เมื่อเดินอยู่ พึงเจริญ แม้ เมื่อยืนอยู่ พึงเจริญ แม้ เมื่อนั่งอยู่ พึงเจริญ แม้ เมื่อนอนอยู่ พึงเจริญ แม้ เมื่อกำลังทำงานอยู่ พึงเจริญ แม้ เมื่อนอนเบียดบุตรอยู่บนที่นอน.- (ในกรณีแห่งการเจริญ ๒.ธัมมานุสสติ... ๓.สังฆานุสสติ... ๔.สีลานุสสติ... ๕.จาคานุสสติ... ๖.เทวนุสสติ... ก็มีข้อความที่ตรัสไว้อย่างเดียวกัน ผู้ปรารถนาโดยรายละเอียด พึงดูจากที่มาแห่งกรณีนั้นๆ. สิ่งซึ่งอาจจะเป็นที่ประหลาดใจแก่พวกเรา ในที่นี้ ก็คือข้อที่ว่า อนุสสติภาวนานั้นเป็นสิ่งที่อาจเจริญได้ในทุกอิริยาบถ แม้ในขณะที่ผู้ที่เป็นพ่อแม่นอนกกลูกอยู่) . #สัมมาสมาธิ​ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - เอกาทสก. อํ. 24/308/219. http://etipitaka.com/read/thai/24/308/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - เอกาทสก. อํ. ๒๔/๓๖๑/๒๑๙. http://etipitaka.com/read/pali/24/361/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91%E0%B9%99 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=938 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=79&id=938 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=79 ลำดับสาธยายธรรม : 79 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_79.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อนุสติภาวนา เป็นสิ่งที่เจริญได้ในทุกอิริยาบถ
    -อนุสติภาวนา เป็นสิ่งที่เจริญได้ในทุกอิริยาบถ มหานาม ! เธอ พึงตามระลึกถึงตถาคต ว่า “แม้เพราะเหตุอย่างนี้ๆพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นผู้ไกลจากกิเลส เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า เป็นครูผู้สอน ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม เป็นผู้มีความจำเริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์” ดังนี้. มหานาม ! สมัยใด อริยสาวกตามระลึกถึงตถาคตอยู่; สมัยนั้นจิตของอริยสาวกนั้น ไม่มีราคะกลุ้มรุม ไม่มีโทสะกลุ้มรุม ไม่มีโมหะกลุ้มรุม, สมัยนั้นจิตของเธอนั้น เป็นจิตดำเนินไปตรงทีเดียว. มหานาม ! อริยสาวกผู้มีจิต ดำเนินไปตรงเพราะปรารภตถาคต ย่อมได้ความรู้สึกต่ออรรถ (อตฺถ เวท) ย่อมได้ความรู้สึกต่อธรรม (ธมฺมเวท) ย่อมได้ปราโมทย์อันประกอบด้วยธรรม. เมื่อปราโมทย์แล้ว ปีติย่อมเกิด; เมื่อใจมีปีติ กายย่อมรำงับ; ผู้มีกายรำงับ ย่อมเสวยสุข; เมื่อมีสุข จิตย่อมเป็นสมาธิ. มหานาม ! เธอ พึงเจริญพุทธานุสสตินี้ แม้ เมื่อเดินอยู่ พึงเจริญแม้ เมื่อยืนอยู่ พึงเจริญ แม้เมื่อนั่งอยู่ พึงเจริญแม้ เมื่อนอนอยู่ พึงเจริญแม้ เมื่อ กำลังทำงานอยู่ พึงเจริญ แม้เมื่อนอนเบียดบุตรอยู่บนที่นอน.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.113 : ไทย X ญี่ปุ่น อัพเกรด “ปลาไทยสู่ครัวโลก”
    .
    พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ จะเล่าถึงโครงการความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ที่ชื่อว่า Thai Fish Project ซึ่งได้ทำการวิจัย และพัฒนาสัตว์น้ำของไทย 2 ชนิด คือ ปลากะพงขาว และกุ้งแชบ๊วย จนได้มาตรฐานถึงระดับที่ว่า สามารถกิบดิบ ๆ เป็นซาซิมิ และซูชิ ที่ทำจากปลาและกุ้งของไทยได้เลย ...
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=wfAbG20gjJk
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #ThaiFishProject
    บูรพาไม่แพ้ Ep.113 : ไทย X ญี่ปุ่น อัพเกรด “ปลาไทยสู่ครัวโลก” . พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ จะเล่าถึงโครงการความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่น ที่ชื่อว่า Thai Fish Project ซึ่งได้ทำการวิจัย และพัฒนาสัตว์น้ำของไทย 2 ชนิด คือ ปลากะพงขาว และกุ้งแชบ๊วย จนได้มาตรฐานถึงระดับที่ว่า สามารถกิบดิบ ๆ เป็นซาซิมิ และซูชิ ที่ทำจากปลาและกุ้งของไทยได้เลย ... . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=wfAbG20gjJk . #บูรพาไม่แพ้ #ThaiFishProject
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน (ตอนที่ 1)
    .
    การทำงานคือหน้าที่ของทุกคนตามธรรมชาติ การดิ้นรนเก็บของป่า ล่าสัตว์ หาอาหารใส่ปากใส่ท้องเพื่อความอยู่รอดของตนเอง ของครอบครัว และของสังคมมนุษย์แต่ดึกดำบรรพ์ ก็คือการทำงานรูปแบบหนึ่ง ซึ่งโดยแท้จริงแล้วไม่ต่างไปจากการประกอบธุรกิจส่วนตัว หรือการเป็นลูกจ้างของรัฐหรือเอกชนในปัจจุบัน เพื่อหาเงินมาซื้ออาหารยังชีวิต และซื้อหาความสุขสบายต่างๆ
    .
    ถ้าบุคคลหนึ่งไม่ทำหน้าที่นี้ เพื่อเลี้ยงตนเอง บุคคลอื่นในครอบครัวและในสังคมก็ต้องแบกรับภาระแทน ดังนั้น การทำงานจึงเป็นสิ่งที่มีเกียรติเพราะเป็นการดูแลตนเอง และช่วยมิให้คนอื่นต้งเดือดร้อนแบกรับภาระอุ้มชูตนโดยไม่จำเป็น หรือพูดอีกอย่างว่า การทำงานช่วยให้ไม่เบียดเบียนผู้อื่นอีกด้วย
    .
    เมื่อทำงาน ก็มีรายได้มาจับจ่ายใช้สอย สำหรับผู้ที่มีความรู้และพยายามเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีความบากบั่นมานะ ขยันหมั่นเพียร ซื่อสัตย์สุจริต และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ก็จะมีรายได้สูง และมีช่วงเวลาในการทำงานหารายได้ยาวนาน สร้างความสุขกายและใจ และความมั่นคงในชีวิตให้แก่ตนเอง และครอบครัวได้ยาวนานไปด้วย
    .
    อย่างไรก็ดี การทำงานหาเงินแต่ละบาทนั้น มิใช่เรื่องง่าย หากเป็นลูกจ้าง การที่นายจ้างจะจ่ายค่าจ้างให้นั้น ลูกจ้างต้องทำงานให้ได้อย่างคุ้มค่ากับการจ้าง และหากเป็นผู้ประกอบธุรกิจ การมีรายได้จากกำไรก็ต้องมาจากการขายสินค้าหรือบริการที่มีผู้ต้องการซื้อ ยิ่งไปกว่านั้น รายรับจากการขายจะต้องสูงกว่าต้นทุนอีกด้วย
    .
    การทำให้ตนเองสามารถทำงานได้อย่างคุ้มค่า หรือขายสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในราคาอันเป็นที่ยอมรับได้ และมีกำไรอีกด้วยนั้น เป็นเรื่องที่ยากพอควร ดังนั้น การหาเงินจึงมิใช่เรื่องง่ายๆ ที่เกิดขึ้นโดยปราศจากความรู้ ความสามารถ ด้วยเหตุนี้ เราทุกคนจึงจำเป็นต้องไขว่คว้าหาความรู้ และพัฒนาความรู้ความสามารถของตนเอง เพื่อเตรียมพร้อม
    .
    เงินนั้นมิได้ "งอกบนต้นไม้" ทุกคนต้องดิ้นรนต่อสู้หามาด้วยความเหนื่อยยากลำบากกายและใจ การหวังพึ่งความเมตตาของคนอื่นเพื่อให้ได้เงินมานั้น คือการอาศัยจมูกคนอื่นหายใจโดยแท้ เป็นสิ่งที่ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี และอยู่บนความประมาทอย่างยิ่ง เพราะหากผู้ให้เปลี่ยนใจ เงินจะขาดมีอย่างฉับพลัน
    .
    เมื่อเงินหามาได้ยากเย็นและด้วยต้นทุนที่สูงเช่นนี้ เงินจึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่า การใช้จ่ายทุกบาทจึงควรเป็นไปอย่างรอบคอบ และให้ได้รับประโยชน์คุ้มค่ากับแรงงานที่เสียไป
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน (ตอนที่ 1) . การทำงานคือหน้าที่ของทุกคนตามธรรมชาติ การดิ้นรนเก็บของป่า ล่าสัตว์ หาอาหารใส่ปากใส่ท้องเพื่อความอยู่รอดของตนเอง ของครอบครัว และของสังคมมนุษย์แต่ดึกดำบรรพ์ ก็คือการทำงานรูปแบบหนึ่ง ซึ่งโดยแท้จริงแล้วไม่ต่างไปจากการประกอบธุรกิจส่วนตัว หรือการเป็นลูกจ้างของรัฐหรือเอกชนในปัจจุบัน เพื่อหาเงินมาซื้ออาหารยังชีวิต และซื้อหาความสุขสบายต่างๆ . ถ้าบุคคลหนึ่งไม่ทำหน้าที่นี้ เพื่อเลี้ยงตนเอง บุคคลอื่นในครอบครัวและในสังคมก็ต้องแบกรับภาระแทน ดังนั้น การทำงานจึงเป็นสิ่งที่มีเกียรติเพราะเป็นการดูแลตนเอง และช่วยมิให้คนอื่นต้งเดือดร้อนแบกรับภาระอุ้มชูตนโดยไม่จำเป็น หรือพูดอีกอย่างว่า การทำงานช่วยให้ไม่เบียดเบียนผู้อื่นอีกด้วย . เมื่อทำงาน ก็มีรายได้มาจับจ่ายใช้สอย สำหรับผู้ที่มีความรู้และพยายามเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีความบากบั่นมานะ ขยันหมั่นเพียร ซื่อสัตย์สุจริต และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ก็จะมีรายได้สูง และมีช่วงเวลาในการทำงานหารายได้ยาวนาน สร้างความสุขกายและใจ และความมั่นคงในชีวิตให้แก่ตนเอง และครอบครัวได้ยาวนานไปด้วย . อย่างไรก็ดี การทำงานหาเงินแต่ละบาทนั้น มิใช่เรื่องง่าย หากเป็นลูกจ้าง การที่นายจ้างจะจ่ายค่าจ้างให้นั้น ลูกจ้างต้องทำงานให้ได้อย่างคุ้มค่ากับการจ้าง และหากเป็นผู้ประกอบธุรกิจ การมีรายได้จากกำไรก็ต้องมาจากการขายสินค้าหรือบริการที่มีผู้ต้องการซื้อ ยิ่งไปกว่านั้น รายรับจากการขายจะต้องสูงกว่าต้นทุนอีกด้วย . การทำให้ตนเองสามารถทำงานได้อย่างคุ้มค่า หรือขายสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในราคาอันเป็นที่ยอมรับได้ และมีกำไรอีกด้วยนั้น เป็นเรื่องที่ยากพอควร ดังนั้น การหาเงินจึงมิใช่เรื่องง่ายๆ ที่เกิดขึ้นโดยปราศจากความรู้ ความสามารถ ด้วยเหตุนี้ เราทุกคนจึงจำเป็นต้องไขว่คว้าหาความรู้ และพัฒนาความรู้ความสามารถของตนเอง เพื่อเตรียมพร้อม . เงินนั้นมิได้ "งอกบนต้นไม้" ทุกคนต้องดิ้นรนต่อสู้หามาด้วยความเหนื่อยยากลำบากกายและใจ การหวังพึ่งความเมตตาของคนอื่นเพื่อให้ได้เงินมานั้น คือการอาศัยจมูกคนอื่นหายใจโดยแท้ เป็นสิ่งที่ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี และอยู่บนความประมาทอย่างยิ่ง เพราะหากผู้ให้เปลี่ยนใจ เงินจะขาดมีอย่างฉับพลัน . เมื่อเงินหามาได้ยากเย็นและด้วยต้นทุนที่สูงเช่นนี้ เงินจึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่า การใช้จ่ายทุกบาทจึงควรเป็นไปอย่างรอบคอบ และให้ได้รับประโยชน์คุ้มค่ากับแรงงานที่เสียไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ผ้าไหมทอลายสูจิ่น เทคนิคการทออันเป็นมรดกทางภูมิปัญญาวัฒนธรรม**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราตามรอย <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ไปยังแหล่งผลิตของผ้าไหมสูจิ่น (蜀锦) หรือเมืองอี้โจวในเรื่องซึ่งก็คือเมืองเฉิงตูนั่นเอง Storyฯ ได้กล่าวไว้ว่าผ้าไหมสูจิ่นเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผ้าไหมทอลายของจีน และเทคนิคการทอผ้าสูจิ่นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจีนเมื่อปี 2006 วันนี้มาคุยกันต่อค่ะ

    ประวัติการทอผ้าไหมจีนมีมายาวนานหลายพันปี แต่เทคนิคการทอผ้าสูจิ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนี้มีมาอย่างน้อยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 206 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) โดยมีหลักฐานจากการขุดพบเครื่องทอโบราณจากหลุมฝังศพสมัยราชวงศ์ฮั่น และใช้เวลานานมากในการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน เนื่องจากเอกสารข้อมูลที่หลงเหลือเกี่ยวกับมันมีน้อยมากอันสืบเนื่องจากเมืองเฉิงตูและเขตพื้นที่ทอผ้าได้รับความเสียหายจากไฟสงครามเมื่อแมนจูเข้ายึด ปัจจุบันมีการจำลองขึ้นใหม่จนใช้การได้จริง จัดเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู (Chengdu Shu Brocade And Embroidery Museum) (ดูรูปประกอบ 2)

    นอกจากนี้ยังมีการขุดพบผ้าไหมทอลายสูจิ่นในพื้นที่แถบซินเกียงที่สะท้อนถึงความสามารถในการทอผ้าลายซับซ้อนในสมัยฮั่น โดยผลงานที่โด่งดังมากที่สุดคือผ้าหุ้มข้อมือที่มีชื่อเรียกว่า ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่จงกั๋ว’ (五星出东方利中国/ Five Stars Rising in the East) ผ้าผืนนี้มีสีสันสดใสโดยเน้นสีที่เป็นตัวแทนของห้าดาว (ห้าธาตุ) มีลายสัตว์มงคลและตัวอักษร ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่ตงกั๋ว’ และเนื่องด้วยมีการค้นพบเศษผ้าอื่นที่มีลายต่อเนื่องกัน ผู้เชี่ยวชาญจึงวิเคราะห์ไว้ว่าผ้าผืนเต็มประกอบด้วยตัวอักษรยี่สิบอักษร เป็นผ้าทอเนื้อละเอียดมาก ภายในผ้าหนึ่งตารางเซ็นติเมตรมีด้ายยืนทับซ้อนกันทั้งสิ้นกว่า 200 เส้น!

    ต่อมาในสมัยถังและซ่ง เครื่องทอผ้าถูกพัฒนาให้ทอลายที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้นและมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น โดยมีการบรรยายลักษณะไว้ในบันทึก ‘เทียนกงคายอู้’ (天工开物 /The Exploitation of the Works of Nature) ซึ่งเป็นหนังสือสมัยหมิงจัดทำขึ้นโดยซ่งอิงซิงเมื่อปีค.ศ. 1637 เพื่อบันทึกถึงกว่า 300 อาชีพที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและกรรมวิธีการผลิตที่เกี่ยวข้อง (ดูรูปประกอบ 3) ปัจจุบันมีเครื่องโบราณจริงจากสมัยชิงแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู

    เครื่องทอที่ว่านี้ต้องใช้ช่างทอสองคนพร้อมกัน คนหนึ่งนั่งข้างบนบังคับกลุ่มเส้นไหมเพื่อจัดลายทอ อีกคนหนึ่งนั่งข้างล่างทำหน้าที่ทอและดูแลเรื่องเฉดสี รวมแล้วมีเส้นไหมกว่าหมื่นเส้นที่ต้องบังคับ มีขนาดเล็กคือ ‘เสี่ยวฮวาโหลว’ และขนาดใหญ่คือ ‘ต้าฮวาโหลว’ โดยต้าฮวาโหลวมีความสูงถึงห้าเมตร

    แม้แต่อาจารย์ผู้มีประสบการณ์มาหลายสิบปียังสามารถทอได้เพียงไม่เกินสิบเซ็นติเมตรต่อวันด้วยมันต้องใช้แรงและโฟกัสมาก และความยากที่สุดของการทอผ้าไหมสูจิ่นด้วยเครื่องอย่างนี้คือการเอาลายที่ดีไซน์บนภาพวาดแปลงออกมาเป็นการเรียงเส้นไหมนั่งเอง เล่าอย่างนี้อาจนึกภาพไม่ออก เพื่อนเพจลองดูคลิปสั้นนี้ก็จะพอเห็นภาพค่ะ https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M และหากใครพอมีเวลาก็ลองดูสาระคดียาวประมาณ 15 นาทีมีซับภาษาอังกฤษ ก็จะเห็นความซับซ้อนของการทอผ้าสูจิ่นอย่างเต็มรูปแบบ... https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s

    เอกลักษณ์ของผ้าสูจิ่นคือลายทอพื้นเมือง เทคนิคการทอลายทับซ้อนได้หลายชั้นและมีสีสันที่สดใส โดยมีชื่อเรียกจำแนกชนิดย่อยไปได้อีกตามลายทอ อธิบายเช่นนี้ก็คงจะยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่ในรูปประกอบ 1 ก็พอจะเห็นบางส่วนของลายทอต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในซีรีส์ <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://m.bjnews.com.cn/detail/1732938607168793.html
    https://www.facebook.com/permalink.php/?story_fbid=1083381463798209&id=100063790956424
    https://j.021east.com/p/1652758642049238
    https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html
    https://www.ccmapp.cn/news/detail?id=bd8d36d9-2b59-4fa0-b8e9-7d8b65852db3&categoryid=&categoryname=最新资讯
    https://www.chinasilkmuseum.com/cs/info_164.aspx?itemid=26725
    https://www.researchgate.net/figure/Traditional-Chinese-drawbar-silk-loom-Roads-to-Zanadu_fig4_284551990
    https://news.qq.com/rain/a/20241229A059DQ00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s
    https://www.youtube.com/watch?v=1zNDpGNh_Z4&t=1197s
    https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html

    #ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ #ผ้าไหมจีน #ผ้าไหมจิ่น #สูจิ่น #เฉิงตู #สามก๊ก #สี่สุดยอดผ้าไหมจีน #เครื่องทอผ้าจีนโบราณ #สาระจีน
    **ผ้าไหมทอลายสูจิ่น เทคนิคการทออันเป็นมรดกทางภูมิปัญญาวัฒนธรรม** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราตามรอย <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ไปยังแหล่งผลิตของผ้าไหมสูจิ่น (蜀锦) หรือเมืองอี้โจวในเรื่องซึ่งก็คือเมืองเฉิงตูนั่นเอง Storyฯ ได้กล่าวไว้ว่าผ้าไหมสูจิ่นเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผ้าไหมทอลายของจีน และเทคนิคการทอผ้าสูจิ่นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจีนเมื่อปี 2006 วันนี้มาคุยกันต่อค่ะ ประวัติการทอผ้าไหมจีนมีมายาวนานหลายพันปี แต่เทคนิคการทอผ้าสูจิ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนี้มีมาอย่างน้อยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 206 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) โดยมีหลักฐานจากการขุดพบเครื่องทอโบราณจากหลุมฝังศพสมัยราชวงศ์ฮั่น และใช้เวลานานมากในการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน เนื่องจากเอกสารข้อมูลที่หลงเหลือเกี่ยวกับมันมีน้อยมากอันสืบเนื่องจากเมืองเฉิงตูและเขตพื้นที่ทอผ้าได้รับความเสียหายจากไฟสงครามเมื่อแมนจูเข้ายึด ปัจจุบันมีการจำลองขึ้นใหม่จนใช้การได้จริง จัดเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู (Chengdu Shu Brocade And Embroidery Museum) (ดูรูปประกอบ 2) นอกจากนี้ยังมีการขุดพบผ้าไหมทอลายสูจิ่นในพื้นที่แถบซินเกียงที่สะท้อนถึงความสามารถในการทอผ้าลายซับซ้อนในสมัยฮั่น โดยผลงานที่โด่งดังมากที่สุดคือผ้าหุ้มข้อมือที่มีชื่อเรียกว่า ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่จงกั๋ว’ (五星出东方利中国/ Five Stars Rising in the East) ผ้าผืนนี้มีสีสันสดใสโดยเน้นสีที่เป็นตัวแทนของห้าดาว (ห้าธาตุ) มีลายสัตว์มงคลและตัวอักษร ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่ตงกั๋ว’ และเนื่องด้วยมีการค้นพบเศษผ้าอื่นที่มีลายต่อเนื่องกัน ผู้เชี่ยวชาญจึงวิเคราะห์ไว้ว่าผ้าผืนเต็มประกอบด้วยตัวอักษรยี่สิบอักษร เป็นผ้าทอเนื้อละเอียดมาก ภายในผ้าหนึ่งตารางเซ็นติเมตรมีด้ายยืนทับซ้อนกันทั้งสิ้นกว่า 200 เส้น! ต่อมาในสมัยถังและซ่ง เครื่องทอผ้าถูกพัฒนาให้ทอลายที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้นและมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น โดยมีการบรรยายลักษณะไว้ในบันทึก ‘เทียนกงคายอู้’ (天工开物 /The Exploitation of the Works of Nature) ซึ่งเป็นหนังสือสมัยหมิงจัดทำขึ้นโดยซ่งอิงซิงเมื่อปีค.ศ. 1637 เพื่อบันทึกถึงกว่า 300 อาชีพที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและกรรมวิธีการผลิตที่เกี่ยวข้อง (ดูรูปประกอบ 3) ปัจจุบันมีเครื่องโบราณจริงจากสมัยชิงแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู เครื่องทอที่ว่านี้ต้องใช้ช่างทอสองคนพร้อมกัน คนหนึ่งนั่งข้างบนบังคับกลุ่มเส้นไหมเพื่อจัดลายทอ อีกคนหนึ่งนั่งข้างล่างทำหน้าที่ทอและดูแลเรื่องเฉดสี รวมแล้วมีเส้นไหมกว่าหมื่นเส้นที่ต้องบังคับ มีขนาดเล็กคือ ‘เสี่ยวฮวาโหลว’ และขนาดใหญ่คือ ‘ต้าฮวาโหลว’ โดยต้าฮวาโหลวมีความสูงถึงห้าเมตร แม้แต่อาจารย์ผู้มีประสบการณ์มาหลายสิบปียังสามารถทอได้เพียงไม่เกินสิบเซ็นติเมตรต่อวันด้วยมันต้องใช้แรงและโฟกัสมาก และความยากที่สุดของการทอผ้าไหมสูจิ่นด้วยเครื่องอย่างนี้คือการเอาลายที่ดีไซน์บนภาพวาดแปลงออกมาเป็นการเรียงเส้นไหมนั่งเอง เล่าอย่างนี้อาจนึกภาพไม่ออก เพื่อนเพจลองดูคลิปสั้นนี้ก็จะพอเห็นภาพค่ะ https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M และหากใครพอมีเวลาก็ลองดูสาระคดียาวประมาณ 15 นาทีมีซับภาษาอังกฤษ ก็จะเห็นความซับซ้อนของการทอผ้าสูจิ่นอย่างเต็มรูปแบบ... https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s เอกลักษณ์ของผ้าสูจิ่นคือลายทอพื้นเมือง เทคนิคการทอลายทับซ้อนได้หลายชั้นและมีสีสันที่สดใส โดยมีชื่อเรียกจำแนกชนิดย่อยไปได้อีกตามลายทอ อธิบายเช่นนี้ก็คงจะยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่ในรูปประกอบ 1 ก็พอจะเห็นบางส่วนของลายทอต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในซีรีส์ <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://m.bjnews.com.cn/detail/1732938607168793.html https://www.facebook.com/permalink.php/?story_fbid=1083381463798209&id=100063790956424 https://j.021east.com/p/1652758642049238 https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html https://www.ccmapp.cn/news/detail?id=bd8d36d9-2b59-4fa0-b8e9-7d8b65852db3&categoryid=&categoryname=最新资讯 https://www.chinasilkmuseum.com/cs/info_164.aspx?itemid=26725 https://www.researchgate.net/figure/Traditional-Chinese-drawbar-silk-loom-Roads-to-Zanadu_fig4_284551990 https://news.qq.com/rain/a/20241229A059DQ00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s https://www.youtube.com/watch?v=1zNDpGNh_Z4&t=1197s https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html #ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ #ผ้าไหมจีน #ผ้าไหมจิ่น #สูจิ่น #เฉิงตู #สามก๊ก #สี่สุดยอดผ้าไหมจีน #เครื่องทอผ้าจีนโบราณ #สาระจีน
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 611 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัปดาห์นี้มาโพสต์เร็วกว่าปกติเพราะ Storyฯ จะไปเที่ยววีคเอนด์นี้ เลยรีบมาคุยให้ฟังเกี่ยวกับเกร็ดเล็กๆ จากละครจีนโบราณเรื่อง <ดุจฝันบันดาลใจ> ซึ่งมีเรื่องราวให้พูดคุยเกี่ยวกับวัฒนธรรมไม่น้อย มีตอนหนึ่งที่หนึ่งในตัวละครสมทบคือซูวุ่ยถูกกักบริเวณโดยแม่ของนาง และจะสามารถก้าวเท้าออกจากบ้านได้ก็ต่อเมื่อนางเรียนงานปัก ‘เปี้ยนซิ่ว’ ได้สำเร็จ สร้างความหนักใจให้แก่นางนัก เป็นการบอกเล่าให้พวกเราทราบได้ว่า งานปักชนิดนี้ยากนักหนา

    ‘เปี้ยนซิ่ว’ (汴绣)คืออะไร? มันคือสไตล์การปักที่มีมาแต่สมัยซ่งเหนือ มีชื่อมาจากเมืองหลวงเปี้ยนจิง (หรือที่เราคุ้นหูว่าตงจิง) บ้างเรียกว่า ‘ซ่งซิ่ว’ (宋绣) บ้างจำแนกละเอียดกว่านั้นว่า เปี้ยนซิ่วเป็นงานชาววังในขณะที่ซ่งซิ่วเป็นงานของชาวบ้านทั่วไป

    Storyฯ ลองไปหาข้อมูลดูเลยพบเจอคลิปวีดีโอนี้ https://www.youtube.com/watch?v=y0eKsCI4cVk เลยอยากให้เพื่อนๆ ได้ลองดูกัน อาจจะยาวสักนิด แต่จะเห็นภาพได้ดีถึงขั้นตอนการทำต่างๆ ตั้งแต่เลือกผ้าจนปลดออกจากสะดึง และที่สำคัญมีการซูมให้ดูถึงรายละเอียดของงานปักที่ทำเอา Storyฯ รู้สึกทึ่งไม่น้อย

    งานปักจีนโบราณพัฒนาขึ้นมากในสมัยถังแต่ในสมัยนั้นยังมีเทคนิคการปักไม่กี่แบบ และเมื่อมาถึงสมัยซ่งก็ได้รับการพัฒนายิ่งขึ้นไปอีกเป็นกว่ายี่สิบเทคนิค จากบันทึกโบราณพบว่างานปักเปี้ยนซิ่วโดยหลักเกิดขึ้นจากในวัง เรียกได้ว่าเป็นงานปักชาววัง รับผิดชอบงานฉลองพระองค์และของใช้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในวัง ความนิยมและเทคนิคการปักได้รับความสำคัญจนถึงกับมีการก่อตั้งวิทยาลัยเฉพาะทาง (เหวินซิ่วย่วน / 文绣院) ขึ้นเมื่อปี 1005 มีช่างปักกว่าสามร้อยคน

    เปี้ยนซิ่วถูกหลงลืมไปตามกาลเวลาจนแทบจะสูญหาย มีไม่กี่คนที่ยังสืบทอดมาภายหลังจากสิ้นราชวงศ์ งานเปี้ยนซิ่วรับการฟื้นฟูเมื่อมีผู้ที่สืบทอดเอาผลงานเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองครบสิบปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปีค.ศ. 1959 โดยผลงานที่สร้างชื่อเสียงชิ้นนี้ก็คืองานปัก <ชิงหมิงซ่างเหอถู> เป็นผลงานที่ได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมากจากประธานเหมา และปัจจุบันถูกจัดเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์วังต้องห้าม (ดูได้จากรูป 1 และรูป 2 บน และจากคลิปวีดีโอที่เป็นการสาธิตการปัก) ต่อมาเปี้ยนซิ่วถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในห้าของสไตล์การปักที่โด่งดังที่สุดของจีน จัดเป็นศิลปะแห่งชาติแขนงหนึ่ง มีการสืบทอดอย่างเป็นทางการ

    เอกลักษณ์ของเปี้ยนซิ่วคืออะไร?

    เปี้ยนซิ่วขึ้นชื่อว่าเป็นงานละเอียด ใช้เส้นด้ายเพียงหนึ่งหรือสองเส้นเท่านั้น (หมายเหตุ หากสังเกตดีๆ ไหมปักที่เราใช้ทั่วไปปัจจุบันนี้เป็นเกลียวที่ประกอบขึ้นจากด้ายปักหลายเส้น) นำมาปักจนทึบโดยไม่เห็นรอยช่องไฟใดๆ ริมขอบลายปักเลย และอาศัยเทคนิคการปักต่างๆ ไม่ว่าจะความหนานูน ทิศทางของฝีเข็มที่แตกต่าง หรือการคัดสีไหม เพื่อสร้างมิติให้แก่ภาพปัก เพราะเอกลักษณ์ของเปี้ยนซิ่วนี้คือการนำงานศิลปะภาพวาดพู่กันจีนมาถ่ายทอดลงบนผืนผ้า ไม่ว่าจะเป็นลายภูผาวารี นก ดอกไม้ คนและสัตว์ รวมถึงบทกวีโคลงกลอนด้วย (ดูตัวอย่างได้ในรูป 2) เรียกได้ว่า งานปักสมัยซ่งนี้ ไม่เพียงปักสิ่งของใช้สอย แต่เป็นงานศิลปะที่มีไว้ชมอีกด้วย (เช่นภาพติดผนัง ภาพติดฉากกั้น ฯลฯ) นอกจากนี้ ยังมีการปักแบบสองด้าน ไม่แพ้งานปักสไตล์ชื่อดังอื่นๆ ของจีนที่เราอาจเคยผ่านตากันมา

    Storyฯ รู้สึกว่า เขียนอย่างไรก็บรรยายความงามของเปี้ยนซิ่วออกมาไม่ได้เพียงพอ ยังอยากให้เพื่อนเพจเข้าไปดูคลิปวีดิโอตามคลิปข้างบน ชอบไม่ชอบอะไรมาเม้นท์ให้ฟังกันบ้างนะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://baike.baidu.com/item/雁归西窗月
    https://www.tvzn.com/15774/role/226234.html
    https://www.youtube.com/watch?v=y0eKsCI4cVk
    http://m.news.xixik.com/content/55c6bf156997ce9f/
    http://5b0988e595225.cdn.sohucs.com/images/20190514/7e22d3dd9d0244ddada007df51228ee0.jpeg
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.yxhenan.com/info/kf/scyjl_13025_1289.html
    https://kknews.cc/collect/4xyn5m2.html
    https://baike.baidu.com/item/汴绣/1124193
    #ดุจฝันบันดาลใจ #เปี้ยนซิ่ว #ซ่งซิ่ว #งานปักจีนโบราณ #ชิงหมิงซ่างเหอถู
    สัปดาห์นี้มาโพสต์เร็วกว่าปกติเพราะ Storyฯ จะไปเที่ยววีคเอนด์นี้ เลยรีบมาคุยให้ฟังเกี่ยวกับเกร็ดเล็กๆ จากละครจีนโบราณเรื่อง <ดุจฝันบันดาลใจ> ซึ่งมีเรื่องราวให้พูดคุยเกี่ยวกับวัฒนธรรมไม่น้อย มีตอนหนึ่งที่หนึ่งในตัวละครสมทบคือซูวุ่ยถูกกักบริเวณโดยแม่ของนาง และจะสามารถก้าวเท้าออกจากบ้านได้ก็ต่อเมื่อนางเรียนงานปัก ‘เปี้ยนซิ่ว’ ได้สำเร็จ สร้างความหนักใจให้แก่นางนัก เป็นการบอกเล่าให้พวกเราทราบได้ว่า งานปักชนิดนี้ยากนักหนา ‘เปี้ยนซิ่ว’ (汴绣)คืออะไร? มันคือสไตล์การปักที่มีมาแต่สมัยซ่งเหนือ มีชื่อมาจากเมืองหลวงเปี้ยนจิง (หรือที่เราคุ้นหูว่าตงจิง) บ้างเรียกว่า ‘ซ่งซิ่ว’ (宋绣) บ้างจำแนกละเอียดกว่านั้นว่า เปี้ยนซิ่วเป็นงานชาววังในขณะที่ซ่งซิ่วเป็นงานของชาวบ้านทั่วไป Storyฯ ลองไปหาข้อมูลดูเลยพบเจอคลิปวีดีโอนี้ https://www.youtube.com/watch?v=y0eKsCI4cVk เลยอยากให้เพื่อนๆ ได้ลองดูกัน อาจจะยาวสักนิด แต่จะเห็นภาพได้ดีถึงขั้นตอนการทำต่างๆ ตั้งแต่เลือกผ้าจนปลดออกจากสะดึง และที่สำคัญมีการซูมให้ดูถึงรายละเอียดของงานปักที่ทำเอา Storyฯ รู้สึกทึ่งไม่น้อย งานปักจีนโบราณพัฒนาขึ้นมากในสมัยถังแต่ในสมัยนั้นยังมีเทคนิคการปักไม่กี่แบบ และเมื่อมาถึงสมัยซ่งก็ได้รับการพัฒนายิ่งขึ้นไปอีกเป็นกว่ายี่สิบเทคนิค จากบันทึกโบราณพบว่างานปักเปี้ยนซิ่วโดยหลักเกิดขึ้นจากในวัง เรียกได้ว่าเป็นงานปักชาววัง รับผิดชอบงานฉลองพระองค์และของใช้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในวัง ความนิยมและเทคนิคการปักได้รับความสำคัญจนถึงกับมีการก่อตั้งวิทยาลัยเฉพาะทาง (เหวินซิ่วย่วน / 文绣院) ขึ้นเมื่อปี 1005 มีช่างปักกว่าสามร้อยคน เปี้ยนซิ่วถูกหลงลืมไปตามกาลเวลาจนแทบจะสูญหาย มีไม่กี่คนที่ยังสืบทอดมาภายหลังจากสิ้นราชวงศ์ งานเปี้ยนซิ่วรับการฟื้นฟูเมื่อมีผู้ที่สืบทอดเอาผลงานเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองครบสิบปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปีค.ศ. 1959 โดยผลงานที่สร้างชื่อเสียงชิ้นนี้ก็คืองานปัก <ชิงหมิงซ่างเหอถู> เป็นผลงานที่ได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมากจากประธานเหมา และปัจจุบันถูกจัดเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์วังต้องห้าม (ดูได้จากรูป 1 และรูป 2 บน และจากคลิปวีดีโอที่เป็นการสาธิตการปัก) ต่อมาเปี้ยนซิ่วถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในห้าของสไตล์การปักที่โด่งดังที่สุดของจีน จัดเป็นศิลปะแห่งชาติแขนงหนึ่ง มีการสืบทอดอย่างเป็นทางการ เอกลักษณ์ของเปี้ยนซิ่วคืออะไร? เปี้ยนซิ่วขึ้นชื่อว่าเป็นงานละเอียด ใช้เส้นด้ายเพียงหนึ่งหรือสองเส้นเท่านั้น (หมายเหตุ หากสังเกตดีๆ ไหมปักที่เราใช้ทั่วไปปัจจุบันนี้เป็นเกลียวที่ประกอบขึ้นจากด้ายปักหลายเส้น) นำมาปักจนทึบโดยไม่เห็นรอยช่องไฟใดๆ ริมขอบลายปักเลย และอาศัยเทคนิคการปักต่างๆ ไม่ว่าจะความหนานูน ทิศทางของฝีเข็มที่แตกต่าง หรือการคัดสีไหม เพื่อสร้างมิติให้แก่ภาพปัก เพราะเอกลักษณ์ของเปี้ยนซิ่วนี้คือการนำงานศิลปะภาพวาดพู่กันจีนมาถ่ายทอดลงบนผืนผ้า ไม่ว่าจะเป็นลายภูผาวารี นก ดอกไม้ คนและสัตว์ รวมถึงบทกวีโคลงกลอนด้วย (ดูตัวอย่างได้ในรูป 2) เรียกได้ว่า งานปักสมัยซ่งนี้ ไม่เพียงปักสิ่งของใช้สอย แต่เป็นงานศิลปะที่มีไว้ชมอีกด้วย (เช่นภาพติดผนัง ภาพติดฉากกั้น ฯลฯ) นอกจากนี้ ยังมีการปักแบบสองด้าน ไม่แพ้งานปักสไตล์ชื่อดังอื่นๆ ของจีนที่เราอาจเคยผ่านตากันมา Storyฯ รู้สึกว่า เขียนอย่างไรก็บรรยายความงามของเปี้ยนซิ่วออกมาไม่ได้เพียงพอ ยังอยากให้เพื่อนเพจเข้าไปดูคลิปวีดิโอตามคลิปข้างบน ชอบไม่ชอบอะไรมาเม้นท์ให้ฟังกันบ้างนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://baike.baidu.com/item/雁归西窗月 https://www.tvzn.com/15774/role/226234.html https://www.youtube.com/watch?v=y0eKsCI4cVk http://m.news.xixik.com/content/55c6bf156997ce9f/ http://5b0988e595225.cdn.sohucs.com/images/20190514/7e22d3dd9d0244ddada007df51228ee0.jpeg Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.yxhenan.com/info/kf/scyjl_13025_1289.html https://kknews.cc/collect/4xyn5m2.html https://baike.baidu.com/item/汴绣/1124193 #ดุจฝันบันดาลใจ #เปี้ยนซิ่ว #ซ่งซิ่ว #งานปักจีนโบราณ #ชิงหมิงซ่างเหอถู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 517 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษา-ผู้หลุดพ้นได้เพราะไม่ยึดมั่นถือมั่น
    สัทธรรมลำดับที่ : 564
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=564
    ชื่อบทธรรม :- ผู้หลุดพ้นได้เพราะไม่ยึดมั่นถือมั่น
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ผู้หลุดพ้นได้เพราะไม่ยึดมั่นถือมั่น
    ....
    นรชนเหล่าใดยังเป็นมาณพ อันเทวทูตตักเตือน แล้วประมาทอยู่
    นรชนเหล่านั้นจะเข้าถึงหมู่สัตว์เลว เศร้าโศกสิ้นกาลนาน
    ส่วนนรชนเหล่าใด เป็นสัตว์บุรุษผู้สงบระงับในโลกนี้ อัน
    เทวทูตตักเตือนแล้ว ย่อมไม่ประมาทในธรรมของพระอริยะ
    ....
    --ในกาลไหน ๆ ท่านเหล่าใด
    เห็นภัยในความยึดถืออันเป็นตัวเหตุให้เกิดและให้ตายแล้ว
    &เลิกยึดมั่นถือมั่นหลุดพ้นไปได้
    +--เพราะอาศัยนิพพานอันเป็นธรรมที่สิ้นไปแห่งความเกิดความตาย ;
    เหล่าท่านผู้เช่นนั้น ย่อมประสพความสุข ลุพระนิพพานอันเป็นธรรมเกษม
    เป็นผู้ดับเย็นได้ ในปัจจุบันนี้เอง ล่วงเวรล่วงภัยทุกอย่างเสียได้
    http://etipitaka.com/read/pali/14/346/?keywords=ทิฏฺฐธมฺมาภินิพฺพุตา
    และก้าวล่วงเสียได้ ซึ่งความเป็นทุกข์ทั้งปวง.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/263/525.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/263/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%92%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๓๔๖/๕๒๕.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/346/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%92%E0%B9%95
    ศึกษาเพิ่มเติม....
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=564
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=37&id=564
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=37
    ลำดับสาธยายธรรม : 37 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_37.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษา-ผู้หลุดพ้นได้เพราะไม่ยึดมั่นถือมั่น สัทธรรมลำดับที่ : 564 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=564 ชื่อบทธรรม :- ผู้หลุดพ้นได้เพราะไม่ยึดมั่นถือมั่น เนื้อความทั้งหมด :- --ผู้หลุดพ้นได้เพราะไม่ยึดมั่นถือมั่น .... นรชนเหล่าใดยังเป็นมาณพ อันเทวทูตตักเตือน แล้วประมาทอยู่ นรชนเหล่านั้นจะเข้าถึงหมู่สัตว์เลว เศร้าโศกสิ้นกาลนาน ส่วนนรชนเหล่าใด เป็นสัตว์บุรุษผู้สงบระงับในโลกนี้ อัน เทวทูตตักเตือนแล้ว ย่อมไม่ประมาทในธรรมของพระอริยะ .... --ในกาลไหน ๆ ท่านเหล่าใด เห็นภัยในความยึดถืออันเป็นตัวเหตุให้เกิดและให้ตายแล้ว &เลิกยึดมั่นถือมั่นหลุดพ้นไปได้ +--เพราะอาศัยนิพพานอันเป็นธรรมที่สิ้นไปแห่งความเกิดความตาย ; เหล่าท่านผู้เช่นนั้น ย่อมประสพความสุข ลุพระนิพพานอันเป็นธรรมเกษม เป็นผู้ดับเย็นได้ ในปัจจุบันนี้เอง ล่วงเวรล่วงภัยทุกอย่างเสียได้ http://etipitaka.com/read/pali/14/346/?keywords=ทิฏฺฐธมฺมาภินิพฺพุตา และก้าวล่วงเสียได้ ซึ่งความเป็นทุกข์ทั้งปวง.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/263/525. http://etipitaka.com/read/thai/14/263/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%92%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๓๔๖/๕๒๕. http://etipitaka.com/read/pali/14/346/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%92%E0%B9%95 ศึกษาเพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=564 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=37&id=564 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=37 ลำดับสาธยายธรรม : 37 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_37.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (ภิกษุในกรณีนี้ มีการศึกษาดี ตั้งความปรารถนาดี แต่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับตนเองและธรรมะ ; คือเข้าใจไปว่า ลูกศรคือตัณหาเป็นสิ่งที่ละได้โดยไม่ต้องถอน อวิชชาเป็นสิ่งที่เหวี่ยงทิ้งไปได้โดยไม่ต้องกำจัดตัดราก ; และเข้าใจตัวเองว่า น้อมไปแล้วสู่นิพพานโดยชอบ ดังนี้ แต่แล้วก็มากระทำผิดในสิ่งที่ไม่เป็นสบายแก่การน้อมไปในนิพพานนั้น ทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จนราคะเกิดขึ้นเสียบแทง ถึงแก่ความตายในอริยวินัย, จึงเรียกว่า เขาล้มลงตายตรงหน้าประตูแห่งพระนิพพานนั่นเอง).
    -(ภิกษุในกรณีนี้ มีการศึกษาดี ตั้งความปรารถนาดี แต่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับตนเองและธรรมะ ; คือเข้าใจไปว่า ลูกศรคือตัณหาเป็นสิ่งที่ละได้โดยไม่ต้องถอน อวิชชาเป็นสิ่งที่เหวี่ยงทิ้งไปได้โดยไม่ต้องกำจัดตัดราก ; และเข้าใจตัวเองว่า น้อมไปแล้วสู่นิพพานโดยชอบ ดังนี้ แต่แล้วก็มากระทำผิดในสิ่งที่ไม่เป็นสบายแก่การน้อมไปในนิพพานนั้น ทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จนราคะเกิดขึ้นเสียบแทง ถึงแก่ความตายในอริยวินัย, จึงเรียกว่า เขาล้มลงตายตรงหน้าประตูแห่งพระนิพพานนั่นเอง). ผู้หลุดพ้นได้เพราะไม่ยึดมั่นถือมั่น ในกาลไหน ๆ ท่านเหล่าใด เห็นภัยในความยึดถืออันเป็นตัวเหตุให้เกิดและให้ตายแล้ว เลิกยึดมั่นถือมั่นหลุดพ้นไปได้ เพราะอาศัยนิพพานอันเป็นธรรมที่สิ้นไปแห่งความเกิดความตาย ; เหล่าท่านผู้เช่นนั้น ย่อมประสพความสุข ลุพระนิพพานอันเป็นธรรมเกษม เป็นผู้ดับเย็นได้ ในปัจจุบันนี้เอง ล่วงเวรล่วงภัยทุกอย่างเสียได้ และก้าวล่วงเสียได้ ซึ่งความเป็นทุกข์ทั้งปวง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ร่วมมือกับบริษัท Inait จากสวิตเซอร์แลนด์สร้าง AI ที่ทำงานเหมือนสมองสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยมีเทคโนโลยีเด่นคือ 'ภาษาโปรแกรมสมอง' ที่ช่วยให้ AI เข้าใจเหตุและผล อีกทั้งยังปรับตัวได้เอง เทคโนโลยีนี้เริ่มใช้กับการเงินและหุ่นยนต์ก่อน เช่น ช่วยพัฒนาอัลกอริธึมเทรดและหุ่นยนต์อัจฉริยะที่ใช้งานในโรงงาน จุดที่น่าสนใจคือมันประหยัดพลังงานและเรียนรู้ได้เร็วกว่า AI แบบเดิม

    https://www.techspot.com/news/107209-microsoft-ties-up-swiss-startup-develop-ai-can.html
    Microsoft ร่วมมือกับบริษัท Inait จากสวิตเซอร์แลนด์สร้าง AI ที่ทำงานเหมือนสมองสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยมีเทคโนโลยีเด่นคือ 'ภาษาโปรแกรมสมอง' ที่ช่วยให้ AI เข้าใจเหตุและผล อีกทั้งยังปรับตัวได้เอง เทคโนโลยีนี้เริ่มใช้กับการเงินและหุ่นยนต์ก่อน เช่น ช่วยพัฒนาอัลกอริธึมเทรดและหุ่นยนต์อัจฉริยะที่ใช้งานในโรงงาน จุดที่น่าสนใจคือมันประหยัดพลังงานและเรียนรู้ได้เร็วกว่า AI แบบเดิม https://www.techspot.com/news/107209-microsoft-ties-up-swiss-startup-develop-ai-can.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft ties up with Swiss startup to develop AI that can simulate the human brain
    The AI behind the new platform builds on two decades of neuroscience research and features a "brain programming language" capable of learning from experience and understanding cause...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​หลักการปฏิบัติ ของสัมมาสมาธิ
    สัทธรรมลำดับที่ : 934
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=934
    ชื่อบทธรรม :- หมวด ง. ว่าด้วย หลักการปฏิบัติ ของสัมมาสมาธิ
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --หมวด ง. ว่าด้วย หลักการปฏิบัติ ของสัมมาสมาธิ
    --บุพพภาคแห่งการเจริญสมาธิ ๕ ขั้น
    --มหาราช ! ภิกษุนั้น
    (๑) ประกอบแล้วด้วย &​ศีลขันธ์อันเป็นอริยะ นี้ด้วย
    (๒) ประกอบแล้วด้วย &​อินทรียสังวรอันเป็นอริยะ นี้ด้วย
    (๓) ประกอบด้วย &​สติสัมปชัญญะอันเป็นอริยะ นี้ด้วย
    (๔) ประกอบแล้วด้วย &​สันโดษอันเป็นอริยะ นี้ด้วย
    (๕) &​เสพเสนาสนะอันสงัด คือป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกห้วย ท้องถ้ำ
    ป่าช้า ป่าชัฎ ที่แจ้ง ลอมฟาง.
    เธอนั้น ในเวลาภายหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว
    &​นั่งคู้บัลลังก์ (ขัดสมาธิ) ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า, เธอนั่น
    http://etipitaka.com/read/pali/9/95/?keywords=ปลฺลงฺกํ+อาภุชิตฺวา
    ๑.ละ &​อภิชฌา ในโลก มีจิตปราศจากอภิชฌา คอยชำระจิตจากอภิชฌา อยู่;
    ๒.ละ &​พยาบาทเครื่องประทุษร้าย มีจิตปราศจากพยาบาท
    เป็นผู้กรุณามีจิตหวังความเกื้อกูลในสัตว์ทั้งหลาย
    คอยชำระจิตจากพยาบาทเครื่องประทุษร้าย อยู่;
    ๓.ละ &​ถีนมิทธะ มุ่งอยู่แต่ความสว่างในใจ มีจิตปราศจากถีนมิทธะ
    มีสติมีสัมปชัญญะรู้สึกตัวคอยชำระจิตจากถีนมิทธะ อยู่;
    ๔.ละ &​อุทธัจจกุกกุจจะ ไม่ฟุ้งซ่าน มีจิตสงบอยู่ในภายใน
    คอยชำระจิตจากอุทธัจจกุกกุจจะอยู่;
    ๕.ละ &​วิจิกิจฉา ข้ามล่วงวิจิกิจฉาเสียได้ ไม่ต้องกล่าวว่านี่อะไรนี่อย่างไร
    ในกุศลธรรมทั้งหลาย (เพราะความสงสัย) คอยชำระจิตจากวิจิกิจฉา อยู่.-

    #สัมมาสมาธิ
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สี.ที. 9/68/125.
    http://etipitaka.com/read/thai/9/68/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สี.ที. ๙/๙๕/๑๒๕.
    http://etipitaka.com/read/pali/9/95/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%95
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=934
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=79&id=934
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=79
    ลำดับสาธยายธรรม : 79 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_79.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​หลักการปฏิบัติ ของสัมมาสมาธิ สัทธรรมลำดับที่ : 934 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=934 ชื่อบทธรรม :- หมวด ง. ว่าด้วย หลักการปฏิบัติ ของสัมมาสมาธิ เนื้อความทั้งหมด :- --หมวด ง. ว่าด้วย หลักการปฏิบัติ ของสัมมาสมาธิ --บุพพภาคแห่งการเจริญสมาธิ ๕ ขั้น --มหาราช ! ภิกษุนั้น (๑) ประกอบแล้วด้วย &​ศีลขันธ์อันเป็นอริยะ นี้ด้วย (๒) ประกอบแล้วด้วย &​อินทรียสังวรอันเป็นอริยะ นี้ด้วย (๓) ประกอบด้วย &​สติสัมปชัญญะอันเป็นอริยะ นี้ด้วย (๔) ประกอบแล้วด้วย &​สันโดษอันเป็นอริยะ นี้ด้วย (๕) &​เสพเสนาสนะอันสงัด คือป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกห้วย ท้องถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฎ ที่แจ้ง ลอมฟาง. เธอนั้น ในเวลาภายหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว &​นั่งคู้บัลลังก์ (ขัดสมาธิ) ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า, เธอนั่น http://etipitaka.com/read/pali/9/95/?keywords=ปลฺลงฺกํ+อาภุชิตฺวา ๑.ละ &​อภิชฌา ในโลก มีจิตปราศจากอภิชฌา คอยชำระจิตจากอภิชฌา อยู่; ๒.ละ &​พยาบาทเครื่องประทุษร้าย มีจิตปราศจากพยาบาท เป็นผู้กรุณามีจิตหวังความเกื้อกูลในสัตว์ทั้งหลาย คอยชำระจิตจากพยาบาทเครื่องประทุษร้าย อยู่; ๓.ละ &​ถีนมิทธะ มุ่งอยู่แต่ความสว่างในใจ มีจิตปราศจากถีนมิทธะ มีสติมีสัมปชัญญะรู้สึกตัวคอยชำระจิตจากถีนมิทธะ อยู่; ๔.ละ &​อุทธัจจกุกกุจจะ ไม่ฟุ้งซ่าน มีจิตสงบอยู่ในภายใน คอยชำระจิตจากอุทธัจจกุกกุจจะอยู่; ๕.ละ &​วิจิกิจฉา ข้ามล่วงวิจิกิจฉาเสียได้ ไม่ต้องกล่าวว่านี่อะไรนี่อย่างไร ในกุศลธรรมทั้งหลาย (เพราะความสงสัย) คอยชำระจิตจากวิจิกิจฉา อยู่.- #สัมมาสมาธิ​ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สี.ที. 9/68/125. http://etipitaka.com/read/thai/9/68/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สี.ที. ๙/๙๕/๑๒๕. http://etipitaka.com/read/pali/9/95/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%95 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=934 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=79&id=934 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=79 ลำดับสาธยายธรรม : 79 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_79.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - หมวด ง. ว่าด้วย หลักการปฏิบัติ ของสัมมาสมาธิ
    -หมวด ง. ว่าด้วย หลักการปฏิบัติ ของสัมมาสมาธิ บุพพภาคแห่งการเจริญสมาธิ ๕ ขั้น มหาราช ! ภิกษุนั้น (๑) ประกอบแล้วด้วย ศีลขันธ์อันเป็นอริยะ นี้ด้วย (๒) ประกอบแล้วด้วย อินทรียสังวรอันเป็นอริยะ นี้ด้วย (๓) ประกอบ ด้วยสติสัมปชัญญะอันเป็นอริยะ นี้ด้วย (๔) ประกอบแล้วด้วย สันโดษอันเป็นอริยะ นี้ด้วย (๕) เสพเสนาสนะอันสงัด คือป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกห้วย ท้องถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฎ ที่แจ้ง ลอมฟาง. เธอนั้น ในเวลาภายหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว นั่งคู้บัลลังก์ (ขัดสมาธิ) ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า, เธอละ อภิชฌา ในโลก มีจิตปราศจากอภิชฌา คอยชำระจิตจากอภิชฌา อยู่; ละ พยาบาทเครื่องประทุษร้าย มีจิตปราศจากพยาบาท เป็นผู้กรุณามีจิตหวังความเกื้อกูลในสัตว์ทั้งหลาย คอยชำระจิตจากพยาบาทเครื่องประทุษร้ายอยู่; ละ ถีนมิทธะ มุ่งอยู่แต่ความสว่างในใจ มีจิตปราศจากถีนมิทธะ มีสติมีสัมปชัญญะรู้สึกตัวคอยชำระจิตจากถีนมิทธะ อยู่; ละ อุทธัจจกุกกุจจะ ไม่ฟุ้งซ่าน มีจิตสงบอยู่ในภายใน คอยชำระจิตจากอุทธัจจกุกกุจจะอยู่; ละ วิจิกิจฉา ข้ามล่วงวิจิกิจฉาเสียได้ ไม่ต้องกล่าวว่านี่อะไรนี่อย่างไร ในกุศลธรรมทั้งหลาย (เพราะความสงสัย) คอยชำระจิตจากวิจิกิจฉา อยู่.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts