• แกะโบราณกับร่องรอยโรคระบาด

    นักวิจัยค้นพบ DNA ของเชื้อกาฬโรค (Yersinia pestis) ในซากฟอสซิลแกะโบราณอายุ 4,000 ปี ที่รัสเซีย ซึ่งเป็นหลักฐานแรกว่ามีสัตว์เลี้ยงเป็นพาหะของโรคระบาดยุคสำริด ไม่ใช่เพียงมนุษย์อย่างที่เคยเชื่อ

    ทีมนักโบราณคดีตรวจสอบ DNA จากกระดูกและฟันของสัตว์เลี้ยงยุคสำริด เช่น วัว แพะ และแกะ ที่ถูกขุดพบในพื้นที่อาร์ไคม์ (Arkaim) บริเวณเทือกเขาอูราลตอนใต้ของรัสเซีย ผลการวิเคราะห์พบ DNA ของเชื้อ Yersinia pestis บนฟันแกะที่ถูกเลี้ยงโดยมนุษย์เมื่อราว 4,000 ปีก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่พบหลักฐานโรคระบาดในสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่เฉพาะในมนุษย์

    เชื้อโรคที่ยังไม่วิวัฒน์เต็มรูปแบบ
    เชื้อ Y. pestis ในยุคนั้นยังไม่สามารถใช้หมัดเป็นพาหะเหมือนในยุคกลาง ทำให้เกิดคำถามว่าโรคแพร่กระจายได้อย่างไร หลักฐานใหม่นี้ชี้ว่าแกะอาจเป็นตัวกลางที่ช่วยแพร่เชื้อระหว่างฝูงสัตว์และมนุษย์ หรืออาจได้รับเชื้อจากสัตว์ป่าและส่งต่อไปยังคนเลี้ยง

    ความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมซินทัชตา
    สถานที่พบแกะติดเชื้อคือชุมชนซินทัชตา (Sintashta culture) ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการสร้างอาวุธสำริดและการขี่ม้า การขยายฝูงสัตว์และการเดินทางไกลด้วยม้าอาจเพิ่มโอกาสให้โรคแพร่กระจายไปทั่วทุ่งหญ้าสเตปป์ยูเรเชีย

    ความท้าทายในการศึกษาซากสัตว์
    การตรวจสอบ DNA ของสัตว์โบราณทำได้ยาก เพราะซากสัตว์มักถูกทิ้งเป็นเศษอาหารหรือถูกปรุงสุก ทำให้ DNA เสื่อมสลายเร็ว หลักฐานครั้งนี้จึงถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญในการเข้าใจการแพร่โรคในอดีต

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบหลักฐานใหม่
    พบ DNA ของ Y. pestis ในฟันแกะโบราณที่รัสเซีย

    เชื้อโรคยุคสำริด
    ยังไม่สามารถใช้หมัดเป็นพาหะเหมือนยุคกลาง

    บทบาทของสัตว์เลี้ยง
    แกะอาจเป็นตัวกลางแพร่เชื้อระหว่างสัตว์และมนุษย์

    ความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม
    ซินทัชตาเป็นสังคมที่ขยายฝูงสัตว์และเดินทางไกล

    ความท้าทายทางวิทยาศาสตร์
    ซากสัตว์มักถูกปรุงสุกหรือเสื่อมสลาย ทำให้ DNA ยากต่อการศึกษา

    ความเสี่ยงต่อการตีความผิดพลาด
    หลักฐานจากสัตว์เพียงตัวเดียวอาจไม่สะท้อนภาพรวมทั้งหมดของการแพร่โรค

    https://www.sciencealert.com/dna-study-reveals-carrier-of-worlds-earliest-known-plague
    🐑 แกะโบราณกับร่องรอยโรคระบาด นักวิจัยค้นพบ DNA ของเชื้อกาฬโรค (Yersinia pestis) ในซากฟอสซิลแกะโบราณอายุ 4,000 ปี ที่รัสเซีย ซึ่งเป็นหลักฐานแรกว่ามีสัตว์เลี้ยงเป็นพาหะของโรคระบาดยุคสำริด ไม่ใช่เพียงมนุษย์อย่างที่เคยเชื่อ ทีมนักโบราณคดีตรวจสอบ DNA จากกระดูกและฟันของสัตว์เลี้ยงยุคสำริด เช่น วัว แพะ และแกะ ที่ถูกขุดพบในพื้นที่อาร์ไคม์ (Arkaim) บริเวณเทือกเขาอูราลตอนใต้ของรัสเซีย ผลการวิเคราะห์พบ DNA ของเชื้อ Yersinia pestis บนฟันแกะที่ถูกเลี้ยงโดยมนุษย์เมื่อราว 4,000 ปีก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่พบหลักฐานโรคระบาดในสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่เฉพาะในมนุษย์ 🔬 เชื้อโรคที่ยังไม่วิวัฒน์เต็มรูปแบบ เชื้อ Y. pestis ในยุคนั้นยังไม่สามารถใช้หมัดเป็นพาหะเหมือนในยุคกลาง ทำให้เกิดคำถามว่าโรคแพร่กระจายได้อย่างไร หลักฐานใหม่นี้ชี้ว่าแกะอาจเป็นตัวกลางที่ช่วยแพร่เชื้อระหว่างฝูงสัตว์และมนุษย์ หรืออาจได้รับเชื้อจากสัตว์ป่าและส่งต่อไปยังคนเลี้ยง 🏹 ความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมซินทัชตา สถานที่พบแกะติดเชื้อคือชุมชนซินทัชตา (Sintashta culture) ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการสร้างอาวุธสำริดและการขี่ม้า การขยายฝูงสัตว์และการเดินทางไกลด้วยม้าอาจเพิ่มโอกาสให้โรคแพร่กระจายไปทั่วทุ่งหญ้าสเตปป์ยูเรเชีย ⚠️ ความท้าทายในการศึกษาซากสัตว์ การตรวจสอบ DNA ของสัตว์โบราณทำได้ยาก เพราะซากสัตว์มักถูกทิ้งเป็นเศษอาหารหรือถูกปรุงสุก ทำให้ DNA เสื่อมสลายเร็ว หลักฐานครั้งนี้จึงถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญในการเข้าใจการแพร่โรคในอดีต 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบหลักฐานใหม่ ➡️ พบ DNA ของ Y. pestis ในฟันแกะโบราณที่รัสเซีย ✅ เชื้อโรคยุคสำริด ➡️ ยังไม่สามารถใช้หมัดเป็นพาหะเหมือนยุคกลาง ✅ บทบาทของสัตว์เลี้ยง ➡️ แกะอาจเป็นตัวกลางแพร่เชื้อระหว่างสัตว์และมนุษย์ ✅ ความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม ➡️ ซินทัชตาเป็นสังคมที่ขยายฝูงสัตว์และเดินทางไกล ‼️ ความท้าทายทางวิทยาศาสตร์ ⛔ ซากสัตว์มักถูกปรุงสุกหรือเสื่อมสลาย ทำให้ DNA ยากต่อการศึกษา ‼️ ความเสี่ยงต่อการตีความผิดพลาด ⛔ หลักฐานจากสัตว์เพียงตัวเดียวอาจไม่สะท้อนภาพรวมทั้งหมดของการแพร่โรค https://www.sciencealert.com/dna-study-reveals-carrier-of-worlds-earliest-known-plague
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    DNA Study Reveals Carrier of World's Earliest-Known Plague
    A plague that swept through Eurasia for 2,000 years – millennia before the Black Death of the Middle Ages – has only ever been detected in human remains, until now.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Ozempic สำหรับแมว: ความหวังใหม่ของสัตวแพทย์"

    มากกว่าครึ่งของแมวเลี้ยงทั่วโลกมีน้ำหนักเกิน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคข้อเสื่อม เบาหวาน และโรคหัวใจ ล่าสุด OKAVA Pharmaceuticals ได้ประกาศเริ่มการทดลองทางคลินิกของ OKV-119 ยาแบบฝังใต้ผิวหนังที่ปล่อยสารออกฤทธิ์ต่อเนื่องนานถึง 6 เดือน ยานี้เป็น GLP-1 receptor agonist คล้ายกับ Ozempic และ Wegovy ที่ใช้ในมนุษย์ โดยออกแบบมาเพื่อเลียนแบบผลของการอดอาหาร เช่น เพิ่มความไวต่ออินซูลิน ลดมวลไขมัน และปรับสมดุลพลังงาน

    กลไกและการทดลอง
    OKV-119 จะถูกฝังใต้ผิวหนังและค่อย ๆ ปล่อยยาเข้าสู่ร่างกายแมว ทำให้เจ้าของไม่ต้องยุ่งยากกับการให้ยาทุกวัน การทดลองเบื้องต้นในแมวสุขภาพดีแสดงให้เห็นว่ายามีความปลอดภัย และปัจจุบันกำลังทดสอบในแมวที่มีภาวะอ้วน โดยจะติดตามผลนาน 12 สัปดาห์เพื่อดูว่าสามารถช่วยให้แมวกลับมามีน้ำหนักที่เหมาะสมได้หรือไม่

    ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต
    แมวที่มีน้ำหนักเกินเพียงไม่กี่กิโลกรัมก็อาจมีคุณภาพชีวิตลดลงอย่างมาก การใช้ยาแบบฝังนี้อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังและยืดอายุขัยของสัตว์เลี้ยง ขณะเดียวกันยังช่วยเจ้าของที่มักประสบปัญหาในการควบคุมอาหารแมว โดยเฉพาะพฤติกรรม “free feeding” ที่ปล่อยให้แมวเข้าถึงอาหารได้ตลอดเวลา

    ข้อควรระวังและคำแนะนำ
    แม้การทดลองนี้จะเป็นความหวังใหม่ แต่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นและมีแมวจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับการทดสอบเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญยังคงแนะนำให้เจ้าของ ลดการให้อาหารนอกมื้อและใช้ของเล่นเสริมพฤติกรรมการล่า เพื่อช่วยให้แมวลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ยา OKV-119 ถูกพัฒนาสำหรับแมวอ้วน
    เป็น GLP-1 receptor agonist คล้าย Ozempic

    ระบบฝังใต้ผิวหนังปล่อยยาได้นานถึง 6 เดือน
    ลดภาระการให้ยาทุกวัน

    การทดลองเบื้องต้นแสดงความปลอดภัยในแมวสุขภาพดี
    กำลังทดสอบในแมวอ้วนเป็นเวลา 12 สัปดาห์

    เป้าหมายคือช่วยลดน้ำหนักและปรับสมดุลการเผาผลาญ
    ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานและโรคหัวใจ

    การทดลองยังอยู่ในระยะเริ่มต้น
    มีแมวจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับการทดสอบ

    เจ้าของไม่ควรพึ่งยาเพียงอย่างเดียว
    ควรควบคุมอาหารและใช้กิจกรรมเสริมพฤติกรรมการล่า

    https://www.sciencealert.com/ozempic-for-cats-is-coming-and-vets-are-testing-it-on-overweight-pets
    🐱 "Ozempic สำหรับแมว: ความหวังใหม่ของสัตวแพทย์" มากกว่าครึ่งของแมวเลี้ยงทั่วโลกมีน้ำหนักเกิน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคข้อเสื่อม เบาหวาน และโรคหัวใจ ล่าสุด OKAVA Pharmaceuticals ได้ประกาศเริ่มการทดลองทางคลินิกของ OKV-119 ยาแบบฝังใต้ผิวหนังที่ปล่อยสารออกฤทธิ์ต่อเนื่องนานถึง 6 เดือน ยานี้เป็น GLP-1 receptor agonist คล้ายกับ Ozempic และ Wegovy ที่ใช้ในมนุษย์ โดยออกแบบมาเพื่อเลียนแบบผลของการอดอาหาร เช่น เพิ่มความไวต่ออินซูลิน ลดมวลไขมัน และปรับสมดุลพลังงาน 🧪 กลไกและการทดลอง OKV-119 จะถูกฝังใต้ผิวหนังและค่อย ๆ ปล่อยยาเข้าสู่ร่างกายแมว ทำให้เจ้าของไม่ต้องยุ่งยากกับการให้ยาทุกวัน การทดลองเบื้องต้นในแมวสุขภาพดีแสดงให้เห็นว่ายามีความปลอดภัย และปัจจุบันกำลังทดสอบในแมวที่มีภาวะอ้วน โดยจะติดตามผลนาน 12 สัปดาห์เพื่อดูว่าสามารถช่วยให้แมวกลับมามีน้ำหนักที่เหมาะสมได้หรือไม่ 🌍 ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต แมวที่มีน้ำหนักเกินเพียงไม่กี่กิโลกรัมก็อาจมีคุณภาพชีวิตลดลงอย่างมาก การใช้ยาแบบฝังนี้อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังและยืดอายุขัยของสัตว์เลี้ยง ขณะเดียวกันยังช่วยเจ้าของที่มักประสบปัญหาในการควบคุมอาหารแมว โดยเฉพาะพฤติกรรม “free feeding” ที่ปล่อยให้แมวเข้าถึงอาหารได้ตลอดเวลา ⚠️ ข้อควรระวังและคำแนะนำ แม้การทดลองนี้จะเป็นความหวังใหม่ แต่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นและมีแมวจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับการทดสอบเท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญยังคงแนะนำให้เจ้าของ ลดการให้อาหารนอกมื้อและใช้ของเล่นเสริมพฤติกรรมการล่า เพื่อช่วยให้แมวลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ยา OKV-119 ถูกพัฒนาสำหรับแมวอ้วน ➡️ เป็น GLP-1 receptor agonist คล้าย Ozempic ✅ ระบบฝังใต้ผิวหนังปล่อยยาได้นานถึง 6 เดือน ➡️ ลดภาระการให้ยาทุกวัน ✅ การทดลองเบื้องต้นแสดงความปลอดภัยในแมวสุขภาพดี ➡️ กำลังทดสอบในแมวอ้วนเป็นเวลา 12 สัปดาห์ ✅ เป้าหมายคือช่วยลดน้ำหนักและปรับสมดุลการเผาผลาญ ➡️ ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวานและโรคหัวใจ ‼️ การทดลองยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ⛔ มีแมวจำนวนเล็กน้อยที่ได้รับการทดสอบ ‼️ เจ้าของไม่ควรพึ่งยาเพียงอย่างเดียว ⛔ ควรควบคุมอาหารและใช้กิจกรรมเสริมพฤติกรรมการล่า https://www.sciencealert.com/ozempic-for-cats-is-coming-and-vets-are-testing-it-on-overweight-pets
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    'Ozempic' For Cats Is Coming, And Vets Are Testing It on Overweight Pets
    More than half of the world's pet cats are overweight, experts estimate, and soon, these chubby felines may be treated with a drug similar to Ozempic.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • แมวร้องมากกว่าที่คิด

    งานวิจัยใหม่พบว่าแมวจะส่งเสียงร้อง (meow, purr, chirp) ต่อผู้ชายมากกว่าผู้หญิงกว่า สองเท่า และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นเพราะผู้ชายมักตอบสนองต่อแมวน้อยกว่า ทำให้แมวต้องใช้เสียงมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจ

    ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอังการา ประเทศตุรกี ได้บันทึกวิดีโอจากเจ้าของแมว 31 คน เพื่อศึกษาพฤติกรรมการทักทายเมื่อเจ้าของกลับบ้าน ผลปรากฏว่าแมวที่มีเจ้าของเป็นผู้ชายส่งเสียงร้องเฉลี่ย 4.3 ครั้งใน 100 วินาทีแรก ขณะที่แมวที่มีเจ้าของเป็นผู้หญิงส่งเสียงเพียง 1.8 ครั้ง ซึ่งถือเป็นความแตกต่างที่ชัดเจน

    ทำไมแมวถึงร้องใส่ผู้ชายมากกว่า
    นักวิจัยเสนอว่า ผู้หญิงมักจะให้ความสนใจแมวมากกว่า สามารถอ่านอารมณ์แมวได้ดีกว่า และบางครั้งยังเลียนเสียงแมวกลับไป ทำให้แมวไม่จำเป็นต้องร้องบ่อย ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายมักจะมีท่าที “นิ่งเฉย” ต่อแมว จึงทำให้แมวต้องใช้เสียงร้องมากขึ้นเพื่อให้ได้รับการตอบสนอง

    พฤติกรรมที่สังเกตได้
    นอกจากเสียงร้องแล้ว นักวิจัยยังบันทึกพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น การยกหางขึ้น การถูตัวกับเจ้าของ หรือการสั่นตัว ซึ่งจัดเป็นพฤติกรรมทางสังคมและการเบี่ยงเบน แต่สิ่งที่แตกต่างชัดเจนระหว่างเพศเจ้าของคือ เสียงร้องเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าแมวใช้เสียงเป็นเครื่องมือสื่อสารเฉพาะเจาะจงกับมนุษย์

    ความหมายต่อการสื่อสารคน-สัตว์
    การค้นพบนี้สะท้อนว่าแมวมีความสามารถในการปรับพฤติกรรมตามบุคลิกของเจ้าของ และอาจช่วยให้เราเข้าใจวิธีที่สัตว์เลี้ยงใช้สัญญาณหลายรูปแบบเพื่อสื่อสารกับมนุษย์มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลการวิจัย
    แมวร้องใส่ผู้ชายเฉลี่ย 4.3 ครั้งต่อ 100 วินาที
    แมวร้องใส่ผู้หญิงเฉลี่ย 1.8 ครั้ง

    เหตุผลที่เป็นไปได้
    ผู้หญิงตอบสนองต่อแมวมากกว่า
    ผู้ชายมักนิ่งเฉย ทำให้แมวต้องร้องมากขึ้น

    พฤติกรรมอื่น ๆ ที่สังเกตได้
    การยกหาง การถูตัว การสั่นตัว
    แต่ไม่มีความแตกต่างระหว่างเพศเจ้าของ

    ข้อควรระวังในการตีความ
    งานวิจัยมีผู้เข้าร่วมเพียง 31 คน อาจไม่ครอบคลุมทุกกรณี
    ผลลัพธ์อาจแตกต่างไปตามวัฒนธรรมและวิธีเลี้ยงแมวในแต่ละประเทศ

    https://www.sciencealert.com/cats-meow-more-than-twice-as-much-at-men-and-we-can-only-guess-why
    🐱 แมวร้องมากกว่าที่คิด งานวิจัยใหม่พบว่าแมวจะส่งเสียงร้อง (meow, purr, chirp) ต่อผู้ชายมากกว่าผู้หญิงกว่า สองเท่า และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นเพราะผู้ชายมักตอบสนองต่อแมวน้อยกว่า ทำให้แมวต้องใช้เสียงมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจ ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอังการา ประเทศตุรกี ได้บันทึกวิดีโอจากเจ้าของแมว 31 คน เพื่อศึกษาพฤติกรรมการทักทายเมื่อเจ้าของกลับบ้าน ผลปรากฏว่าแมวที่มีเจ้าของเป็นผู้ชายส่งเสียงร้องเฉลี่ย 4.3 ครั้งใน 100 วินาทีแรก ขณะที่แมวที่มีเจ้าของเป็นผู้หญิงส่งเสียงเพียง 1.8 ครั้ง ซึ่งถือเป็นความแตกต่างที่ชัดเจน 👨‍🦰 ทำไมแมวถึงร้องใส่ผู้ชายมากกว่า นักวิจัยเสนอว่า ผู้หญิงมักจะให้ความสนใจแมวมากกว่า สามารถอ่านอารมณ์แมวได้ดีกว่า และบางครั้งยังเลียนเสียงแมวกลับไป ทำให้แมวไม่จำเป็นต้องร้องบ่อย ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายมักจะมีท่าที “นิ่งเฉย” ต่อแมว จึงทำให้แมวต้องใช้เสียงร้องมากขึ้นเพื่อให้ได้รับการตอบสนอง 🧪 พฤติกรรมที่สังเกตได้ นอกจากเสียงร้องแล้ว นักวิจัยยังบันทึกพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น การยกหางขึ้น การถูตัวกับเจ้าของ หรือการสั่นตัว ซึ่งจัดเป็นพฤติกรรมทางสังคมและการเบี่ยงเบน แต่สิ่งที่แตกต่างชัดเจนระหว่างเพศเจ้าของคือ เสียงร้องเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าแมวใช้เสียงเป็นเครื่องมือสื่อสารเฉพาะเจาะจงกับมนุษย์ 🌍 ความหมายต่อการสื่อสารคน-สัตว์ การค้นพบนี้สะท้อนว่าแมวมีความสามารถในการปรับพฤติกรรมตามบุคลิกของเจ้าของ และอาจช่วยให้เราเข้าใจวิธีที่สัตว์เลี้ยงใช้สัญญาณหลายรูปแบบเพื่อสื่อสารกับมนุษย์มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลการวิจัย ➡️ แมวร้องใส่ผู้ชายเฉลี่ย 4.3 ครั้งต่อ 100 วินาที ➡️ แมวร้องใส่ผู้หญิงเฉลี่ย 1.8 ครั้ง ✅ เหตุผลที่เป็นไปได้ ➡️ ผู้หญิงตอบสนองต่อแมวมากกว่า ➡️ ผู้ชายมักนิ่งเฉย ทำให้แมวต้องร้องมากขึ้น ✅ พฤติกรรมอื่น ๆ ที่สังเกตได้ ➡️ การยกหาง การถูตัว การสั่นตัว ➡️ แต่ไม่มีความแตกต่างระหว่างเพศเจ้าของ ‼️ ข้อควรระวังในการตีความ ⛔ งานวิจัยมีผู้เข้าร่วมเพียง 31 คน อาจไม่ครอบคลุมทุกกรณี ⛔ ผลลัพธ์อาจแตกต่างไปตามวัฒนธรรมและวิธีเลี้ยงแมวในแต่ละประเทศ https://www.sciencealert.com/cats-meow-more-than-twice-as-much-at-men-and-we-can-only-guess-why
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Cats Meow More Than Twice as Much at Men, And We Can Only Guess Why
    Cats meow more at owners who are men than women, new research has found, possibly because men tend to be more aloof when it comes to giving their pets attention.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷

    #รวมข่าวIT #20251209 #TechRadar

    Android XR: จุดเปลี่ยนของสมาร์ทแว่น
    เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์ของ Juston Payne ผู้บริหาร Google ที่ได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR กับลูกชายวัย 10 ขวบในกรุงโรม พอเด็กถามแว่นว่าอยากไปกินเจลาโต้ที่ไหน แว่นก็แสดงแผนที่และนำทางตรงหน้า ทำให้ทั้งครอบครัวเดินตามไปถึงร้านเหมือนเป็นคนท้องถิ่น นี่คือ “aha moment” ที่ทำให้ Payne เชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี wearable แว่นตาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียง gadget แต่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งใหม่ที่ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้ในอนาคต แม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Google และพันธมิตรอย่าง Samsung, Warby Parker กำลังปูทางให้สมาร์ทแว่นกลายเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ทั่วไปในร้านแว่นตา
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/android-xr-head-on-the-ecosystem-we-think-that-this-is-actually-a-very-early-space-and-the-history-is-not-yet-written-for-it

    WordPress RCE Flaw: ช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Sneeit Framework ของ WordPress ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินเองได้ทันที และเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุด 9.8/10 และมีการโจมตีจริงเกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดเผย โดยวันแรกมีการบล็อกกว่า 131,000 ครั้ง วิธีป้องกันคืออัปเดตปลั๊กอินเป็นเวอร์ชัน 8.4 และตรวจสอบว่ามีบัญชีแอดมินแปลกปลอม หรือไฟล์ PHP ที่ไม่รู้จักอยู่ในระบบหรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/sneeit-wordpress-rce-flaw-allows-hackers-to-add-themselves-as-admin-heres-how-to-stay-safe

    กฎหมายห้ามเด็กใช้โซเชียล: ออสเตรเลียจุดประกายทั่วโลก
    ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมบทลงโทษปรับสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายนี้ทำให้หลายประเทศจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรปที่เริ่มพิจารณามาตรการคล้ายกัน แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการตรวจสอบอายุ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่แพร่ไปทั่วโลกในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/were-going-to-be-watching-really-closely-politicians-around-the-world-are-taking-inspiration-from-australias-social-media-ban

    Windows 11 กับปัญหา RAM: Discord ตัวการใหญ่
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนพบว่าแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron framework อย่าง Discord กิน RAM มากผิดปกติ จากเดิมประมาณ 1GB พุ่งขึ้นไปถึง 4GB โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน voice chat หรือสตรีมวิดีโอ ปัญหาคือแม้หยุดใช้งานแล้ว RAM ก็ไม่ลดลง ต้องรีสตาร์ทโปรแกรมใหม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงานอื่น ๆ ยิ่งในช่วงที่ราคาหน่วยความจำพุ่งสูงเพราะกระแส AI ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกเดือดร้อนมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/memory/some-windows-11-apps-have-a-massive-ram-problem-and-this-app-is-the-worst-offender

    NordVPN: ป้องกันฟิชชิ่งถึงกล่องอีเมล
    NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Threat Protection Pro ที่สามารถสแกนลิงก์ในอีเมลแบบเรียลไทม์ หากพบว่าเป็นลิงก์อันตราย เช่น ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์ จะมีสัญลักษณ์เตือนและแบนเนอร์แจ้งทันที จุดเด่นคือทำงานโดยไม่ต้องเข้าถึงเนื้อหาอีเมลทั้งหมด จึงยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการคลิกลิงก์โดยไม่ตั้งใจ และเป็นอีกชั้นการป้องกันที่สำคัญในยุคที่อีเมลฟิชชิ่งถูกส่งออกมาหลายพันล้านฉบับต่อวัน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-extends-phishing-and-malware-protection-to-your-inbox

    GPT‑5.2: การแข่งเดือดระหว่าง OpenAI และ Gemini
    OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 เพื่อเร่งแข่งกับ Gemini 3 ของ Google จุดเด่นคือความเร็วและความสามารถ reasoning ที่ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม การอัปเดตนี้สะท้อนว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรง และแต่ละค่ายพยายามผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-races-gemini-3-to-the-top-with-gpt-5-2-drop-this-week

    จีนกับข้อได้เปรียบด้าน AI: คำเตือนจาก CEO Nvidia
    Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เตือนว่าจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาลในด้าน AI ทั้งด้านการก่อสร้างและพลังงาน โดยรายงานล่าสุดเผยว่าจีนมีสัดส่วนการใช้งาน AI ถึง 30% ของโลก ความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น “สร้างโรงพยาบาลในสุดสัปดาห์เดียว” ทำให้จีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลในสนาม AI ระดับโลก
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/they-can-build-a-hospital-in-a-weekend-nvidia-ceo-warns-about-chinas-big-ai-advantages-as-report-reveals-it-now-has-30-percent-of-global-ai-usage

    Subaru กับโฆษณา Pop‑up ในรถ
    Subaru เข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ทดลองใส่โฆษณา pop‑up ในระบบ infotainment ของรถยนต์ ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลายคนกังวลว่าโฆษณาจะรบกวนสมาธิในการขับขี่ และอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ผู้ผลิตจะมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/subaru-joins-controversial-list-of-carmakers-experimenting-with-infotainment-system-pop-up-ads

    Android XR Prototype: สมาร์ทแว่นรุ่นใหม่ที่พร้อมโชว์
    นักข่าวได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR รุ่นต้นแบบ พบว่ามีดีไซน์บางเบาและเลนส์โปร่งใสที่สามารถแสดงข้อมูลตรงหน้าได้ทันที ทั้งการนำทางและการใช้งานร่วมกับ AI Gemini จุดเด่นคือการออกแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ดูแปลกตา และสวมใส่สบาย ทำให้สมาร์ทแว่นรุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ wearable ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/i-tried-the-next-gen-android-xr-prototype-smart-glasses-and-these-frames-are-ready-for-your-close-up

    Samsung Galaxy XR: ยกระดับประสบการณ์ Spatial
    Samsung เปิดตัว Galaxy XR ที่ผสมผสานเทคโนโลยี mixed reality และ AI Gemini เข้าด้วยกัน จุดขายคือคุณภาพการแสดงผลที่คมชัดและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์ XR และสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามให้ทัน
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsung-galaxy-xr-raises-the-bar-while-lowering-the-price-for-premium-spatial-experiences

    รัฐบาลสหรัฐฯ กดดัน Google และ Apple ให้ลบแอปติดตามเจ้าหน้าที่ ICE
    เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรออกแรงกดดันให้ Google และ Apple ลบแอปที่สามารถติดตามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ได้ โดยเฉพาะแอปชื่อ ICEBlock ที่เคยมีผู้ใช้มากกว่าล้านคน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ แต่ยังคงใช้งานได้ในเครื่องที่ติดตั้งไว้แล้ว ปัญหาคือแอปนี้ถูกใช้โดยมือปืนในการก่อเหตุยิงที่ศูนย์ ICE ในเมืองดัลลัส ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กับสิทธิในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน นักพัฒนาแอปเองก็ยืนยันว่า แอปนี้ไม่ต่างจากการแชร์ตำแหน่งด่านตรวจความเร็วในแผนที่ ซึ่งถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ
    https://www.techradar.com/pro/us-gov-wants-google-and-apple-to-take-down-websites-tracking-ice-and-friends

    Pebble โผล่กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทวอชลึกลับ
    Pebble ที่เคยเป็นแบรนด์สมาร์ทวอชสุดฮิตในยุคแรกๆ กำลังสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยทีเซอร์สมาร์ทวอชใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก หลายคนคาดว่ามันอาจจะเป็นการกลับมาของแบรนด์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น หรืออาจจะเป็นการรีแบรนด์เพื่อเจาะตลาดสุขภาพและฟิตเนสที่กำลังมาแรง ความลึกลับนี้ทำให้แฟนๆ ที่เคยรัก Pebble ต่างตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากสมาร์ทวอชในตลาดตอนนี้
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-just-teased-a-mysterious-new-smartwatch-and-were-excited-to-see-what-it-is

    Magnetar เปิดตัวเครื่องเล่น Blu-ray 4K รุ่นใหม่
    สำหรับคนที่ยังรักการดูหนังผ่านแผ่น Blu-ray Magnetar ได้เปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่ถูกยกให้เป็น “เครื่องเล่นแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องมี” เพราะรองรับการเล่นแผ่น 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณภาพเสียงและภาพที่เหนือกว่า เหมาะกับนักสะสมและคนที่จริงจังกับการดูหนังในบ้าน แม้ยุคสตรีมมิ่งจะครองตลาด แต่เครื่องเล่นนี้ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ภาพและเสียงระดับสูงสุด
    https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/magnetars-new-4k-blu-ray-players-are-the-last-disc-spinners-youll-ever-need-and-theyre-now-available-to-buy

    ข้อมูลคนไข้และเจ้าหน้าที่ NHS ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p
    ระบบสุขภาพในอังกฤษเจอปัญหาใหญ่เมื่อ Barts Health NHS Trust ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ทำให้ข้อมูลทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่รั่วไหลออกไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และยังสะท้อนให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยงานด้านสุขภาพต้องลงทุนมากขึ้นในระบบป้องกันภัยไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/patient-and-staff-data-impacted-by-cl0p-ransomware-attack-on-barts-health-nhs

    รีวิว Bissell PowerClean FurFinder เครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคาประหยัด
    ใครที่เลี้ยงสัตว์น่าจะสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เพราะ Bissell PowerClean FurFinder ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการขนสัตว์โดยเฉพาะ แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่รีวิวบอกว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และเหมาะกับการทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี
    https://www.techradar.com/home/vacuums/bissell-powerclean-furfinder-cordless-vacuum-review

    Samsung เปิดตัว One UI 8.5 Beta พร้อม 6 ฟีเจอร์ใหม่
    Samsung ปล่อยเวอร์ชันเบต้าของ One UI 8.5 ให้ผู้ใช้ได้ลองก่อนใคร โดยมีการอัปเกรดถึง 6 จุดสำคัญ เช่น การปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าต่างให้ลื่นไหลขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว, การปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม จุดเด่นคือการทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต
    https://www.techradar.com/phones/samsung-just-launched-the-one-ui-8-5-beta-with-6-big-upgrades-heres-how-to-try-it

    ผู้บริหาร UI ของ Apple ถูก Meta ดึงตัว พร้อมการอพยพครั้งใหญ่ในทีม AI
    Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญในทีม AI และ UI เมื่อผู้บริหารระดับสูงถูก Meta ดึงตัวไป และอีกสามคนลาออกตามมา เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน AI ที่กำลังเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอุปกรณ์และบริการใหม่ๆ การสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในเวลาเดียวกันอาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาของ Apple ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/apples-ui-executive-poached-by-meta-and-three-other-executives-leave-in-apple-ai-exodus

    เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในอินโดนีเซียถูกสลายหลังดำเนินงานมา 14 ปี
    อินโดนีเซียสามารถสลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 14 ปี ซึ่งมีการโจมตีและหลอกลวงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นสัญญาณว่าประเทศกำลังจริงจังกับการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง
    https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia

    รีวิวแผ่น Blu-ray 4K ที่ดีจนถูกนำมาใช้ทดสอบทีวี
    นักรีวิวที่ทำงานกับทีวีมืออาชีพเผยว่าเจอแผ่น Blu-ray 4K ใหม่ 5 เรื่องที่คุณภาพดีมากจนถูกนำมาใช้เป็นสื่อทดสอบทีวีในห้องแล็บ ความละเอียดและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทำให้แผ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของทีวีรุ่นใหม่ๆ สำหรับคนที่รักการดูหนังแบบเต็มประสบการณ์ นี่คือแผ่นที่ควรมีไว้สะสม
    https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/i-review-4k-blu-rays-for-a-living-these-5-new-discs-are-so-good-theyve-entered-my-tv-testing-rotation

    อุปกรณ์ถ่ายทำ TikTok ที่ครบในกระเป๋าใบเล็ก
    นักสร้างคอนเทนต์ TikTok แชร์ว่าเขามีกล้องและอุปกรณ์เสริม 9 ชิ้นที่สามารถใส่รวมกันในกระเป๋าสะพายใบเล็กได้ทั้งหมด ตั้งแต่กล้องคุณภาพสูง ขาตั้ง ไปจนถึงอุปกรณ์เสียง จุดเด่นคือความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์ใหญ่ๆ
    https://www.techradar.com/cameras/i-swear-by-these-9-cameras-and-accessories-for-shooting-tiktok-content-and-they-all-fit-in-one-small-sling-bag

    FBI เตือนภัย Deepfake ใช้หลอกเรียกค่าไถ่
    เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่อาชญากรเริ่มใช้ Generative AI สร้างวิดีโอปลอมเป็น “หลักฐานการมีชีวิต” ของเหยื่อที่ถูกอ้างว่าถูกลักพาตัว พวกเขาจะนำภาพและวิดีโอจากโซเชียลมีเดียไปสร้างเป็นคลิปที่ดูสมจริง แล้วส่งไปหาญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อเรียกค่าไถ่ทันที FBI ออกประกาศเตือนว่าภาพเหล่านี้มักมีจุดผิดพลาด เช่น รอยสักหายไปหรือสัดส่วนร่างกายไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้ายจะใช้วิธีส่งแบบข้อความหมดเวลาเพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบ ทางออกคือควรระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัว ตั้งรหัสลับในครอบครัว และพยายามติดต่อคนที่ถูกอ้างว่าถูกจับก่อนจะโอนเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/fbi-warns-of-kidnapping-scams-as-hackers-turn-to-ai-to-provide-proof-of-life

    Honor Magic 8 Lite: มือถือแบตอึดราคาประหยัด
    รีวิวนี้บอกว่า Honor Magic 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานเกินคาด แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด ดีไซน์ดูทันสมัย หน้าจอใหญ่พอเหมาะ และประสิทธิภาพถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
    https://www.techradar.com/phones/honor-phones/honor-magic-8-lite-review

    FBI มองหาดรอนที่ “กันเจาะสัญญาณ” ได้
    อีกข่าวหนึ่งเล่าถึงความพยายามของ FBI ที่กำลังค้นหาดรอนซึ่งไม่สามารถถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณได้ วิธีที่ใช้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการหันกลับไปใช้เทคนิคแบบเก่าเพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการควบคุมจากระยะไกล จุดประสงค์คือทำให้ดรอนยังคงทำงานได้แม้มีการพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับวิธีดั้งเดิมเพื่อความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/cameras/drones/the-fbi-is-hunting-for-unjammable-drones-and-these-flying-cameras-use-one-very-old-school-trick-to-stop-remote-attacks

    ปี 2026 “Sustainability” กลายเป็น Stack ใหม่
    บทความนี้เล่าว่าในปี 2026 แนวคิดด้านความยั่งยืนจะไม่ใช่แค่เรื่องเสริม แต่จะถูกมองว่าเป็น “stack” ใหม่ของธุรกิจ เทียบได้กับการมีเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น องค์กรต่าง ๆ จะต้องผสมผสานการใช้พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร และการออกแบบระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็นแกนกลางของการดำเนินงาน
    https://www.techradar.com/pro/in-2026-sustainability-is-the-new-stack

    Gartner เตือน “AI Browsers” อาจเป็นภัยต่อธุรกิจ
    รายงานจาก Gartner ชี้ว่าเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลและความปลอดภัยขององค์กร แม้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีหรือทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ Gartner แนะนำให้ธุรกิจระมัดระวังและไม่ควรพึ่งพา AI browsers โดยไม่ตรวจสอบมาตรการป้องกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/gartner-advisory-states-ai-browsers-are-not-your-friend-and-are-putting-your-business-at-risk

    IT ที่ “รักษาตัวเอง” ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป
    บทความนี้เล่าว่าแนวคิด Self-healing IT หรือระบบที่สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นจริงและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ความผิดพลาด คาดการณ์ปัญหา และดำเนินการแก้ไขโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ
    https://www.techradar.com/pro/self-healing-it-is-no-longer-science-fiction-its-driving-businesses-forward

    ChatGPT Wrapped: สรุปปีแห่งการใช้ AI
    ผู้ใช้ ChatGPT กำลังสร้าง “Spotify Wrapped” เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อย้อนดูว่าตลอดปีที่ผ่านมาได้ใช้ AI ทำอะไรบ้าง เช่น คำถามที่ถามบ่อยที่สุด หรือหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน เพียงดึงข้อมูลการใช้งานแล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบที่แชร์ได้บนโซเชียล ถือเป็นการเล่นสนุกที่สะท้อนว่า AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-users-are-making-a-spotify-wrapped-for-their-year-in-ai-heres-how-to-do-it

    ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การสร้างบ้านชะลอตัว
    รายงานนี้ชี้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI กำลังเพิ่มสูงจนโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตามทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านเรือนถูกชะลอ เพราะทรัพยากรด้านพลังงานและพื้นที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลแทน ปัญหานี้สะท้อนว่าการเติบโตของ AI ไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยตรง
    https://www.techradar.com/pro/data-centers-are-throttling-home-building-as-infrastructure-struggles-to-keep-up-with-ai-demands

    OpenAI ถอยแผน “แนะนำแอปคล้ายโฆษณา”
    OpenAI เคยทดลองใส่ฟีเจอร์แนะนำแอปใน ChatGPT ที่ดูเหมือนโฆษณา แต่หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาประกาศว่าจะปรับปรุงและให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น การถอยครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องหาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และการรักษาประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-walks-back-ad-like-app-suggestions-in-chatgpt-saying-it-fell-short-and-will-improve-controls

    React2Shell RCE Flaw ถูกแฮ็กเกอร์จีนโจมตีหลังประกาศไม่กี่ชั่วโมง
    เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการไซเบอร์ เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกตั้งชื่อว่า React2Shell โดยมีรหัส CVE-2025-55182 และถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้ก่อนการยืนยันตัวตน ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเปิดเผย ก็มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเริ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีจริงแล้ว เป้าหมายคือองค์กรในหลายภาคส่วนทั่วโลก ตั้งแต่การเงิน โลจิสติกส์ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยและรัฐบาล จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและสร้างการเข้าถึงถาวร นักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-rce-flaw-exploited-by-chinese-hackers-hours-after-disclosure

    SwitchBot เปิดตัวโคมไฟที่ละลายเทียนได้
    SwitchBot สร้างไอเดียใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมาร์ทโฮมเข้ากับความอบอุ่นแบบ hygge โดยออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งโคมไฟอัจฉริยะและเครื่องละลายเทียนในตัว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศผ่อนคลายและโรแมนติกในบ้าน สามารถควบคุมผ่านแอปได้เหมือนอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ และยังช่วยให้การใช้เทียนปลอดภัยขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ไฟจริง ผลิตภัณฑ์นี้ถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ลงตัวสำหรับสาย gadget ที่ชอบความ cozy
    https://www.techradar.com/home/small-appliances/switchbot-crossed-a-smart-lamp-with-a-candle-melter-and-its-the-ultimate-hygge-gift-for-gadget-fans-who-just-want-to-get-cozy

    Katsuhiro Harada ประกาศลาออกจาก Bandai Namco
    แฟนเกม Tekken ต้องสะเทือนใจเมื่อ Katsuhiro Harada ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของซีรีส์นี้ ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งใน Bandai Namco เขาอธิบายว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากหนึ่งบทของชีวิตการทำงาน หลังจากอยู่กับบริษัทมานานและสร้างชื่อเสียงให้ Tekken กลายเป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก การจากไปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม และแฟน ๆ ต่างจับตามองว่าอนาคตของ Tekken จะเดินไปในทิศทางใด
    https://www.techradar.com/gaming/tekken-lead-katsuhiro-harada-to-leave-bandai-namco-i-felt-this-was-the-most-fitting-moment-to-bring-one-chapter-to-a-close

    X ถูกปรับ 140 ล้านดอลลาร์ในยุโรป
    แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ถูกสหภาพยุโรปปรับเงินมหาศาลถึง 140 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบด้านดิจิทัลและความโปร่งใส ข่าวนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Elon Musk ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก EU ทั้งหมด โดยมองว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นการกีดกันนวัตกรรมและเสรีภาพทางออนไลน์ เรื่องนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/x-fined-usd140-million-for-breaching-eu-rules-elon-calls-for-bloc-abolition

    Windows 11 25H2 เปิดให้ทุกเครื่องอัปเดตแล้ว
    Microsoft ปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 25H2 ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถติดตั้งได้แล้ว การอัปเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ Windows Update เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันที ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร เพราะช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-25h2-update-is-now-available-for-all-pcs-heres-how-to-get-it

    มือถือ Linux เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ยังรันแอป Android ได้
    มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ถูกมองว่าเป็นอีกทางเลือกแทน Android และ iOS จุดเด่นคือแม้จะใช้ Linux แต่ยังสามารถรันแอป Android ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแอปยอดนิยม แนวคิดนี้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายของแอปที่คุ้นเคย
    https://www.techradar.com/phones/forget-android-vs-ios-this-new-privacy-focused-linux-phone-promises-to-be-the-alternative-we-need-but-it-still-runs-android-apps

    AI จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเหนือกว่า ChatGPT
    มีสตาร์ทอัพในสหราชอาณาจักรเปิดตัว AI ใหม่ที่ประกาศว่ามีความสามารถเหนือกว่า ChatGPT ทีมงาน TechRadar ได้ลองใช้งานจริงและพบว่ามีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ความเร็วในการตอบสนองและการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม การแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการมาของผู้เล่นใหม่รายนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-new-uk-ai-says-it-can-beat-chatgpt-we-tried-it-and-heres-what-we-found

    Trump แสดงความกังวลต่อการควบรวม Netflix และ Warner Bros
    Donald Trump แสดงความคิดเห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Netflix และ Warner Bros อาจสร้างปัญหา โดยมองว่าอาจกระทบต่อการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดสตรีมมิ่ง ความเห็นนี้สะท้อนถึงความกังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีอำนาจมากเกินไป และอาจทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลงในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/trump-says-the-big-netflix-warner-bros-merger-could-be-a-problem-heres-why

    แบรนด์คู่แข่ง Anker เรียกคืน Power Bank หลังพบเสี่ยงไฟไหม้
    มีการเรียกคืน Power Bank รุ่นหนึ่งจากแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของ Anker เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อไปแล้วต้องตรวจสอบและหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อเพื่อขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในอุปกรณ์พกพา และเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรอง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/this-popular-anker-rival-has-just-recalled-a-power-bank-due-to-a-fire-hazard-heres-what-to-do
    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251209 #TechRadar 👓 Android XR: จุดเปลี่ยนของสมาร์ทแว่น เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์ของ Juston Payne ผู้บริหาร Google ที่ได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR กับลูกชายวัย 10 ขวบในกรุงโรม พอเด็กถามแว่นว่าอยากไปกินเจลาโต้ที่ไหน แว่นก็แสดงแผนที่และนำทางตรงหน้า ทำให้ทั้งครอบครัวเดินตามไปถึงร้านเหมือนเป็นคนท้องถิ่น นี่คือ “aha moment” ที่ทำให้ Payne เชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี wearable แว่นตาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียง gadget แต่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งใหม่ที่ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้ในอนาคต แม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Google และพันธมิตรอย่าง Samsung, Warby Parker กำลังปูทางให้สมาร์ทแว่นกลายเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ทั่วไปในร้านแว่นตา 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/android-xr-head-on-the-ecosystem-we-think-that-this-is-actually-a-very-early-space-and-the-history-is-not-yet-written-for-it 🛡️ WordPress RCE Flaw: ช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์ มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Sneeit Framework ของ WordPress ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินเองได้ทันที และเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุด 9.8/10 และมีการโจมตีจริงเกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดเผย โดยวันแรกมีการบล็อกกว่า 131,000 ครั้ง วิธีป้องกันคืออัปเดตปลั๊กอินเป็นเวอร์ชัน 8.4 และตรวจสอบว่ามีบัญชีแอดมินแปลกปลอม หรือไฟล์ PHP ที่ไม่รู้จักอยู่ในระบบหรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/sneeit-wordpress-rce-flaw-allows-hackers-to-add-themselves-as-admin-heres-how-to-stay-safe 🌍 กฎหมายห้ามเด็กใช้โซเชียล: ออสเตรเลียจุดประกายทั่วโลก ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมบทลงโทษปรับสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายนี้ทำให้หลายประเทศจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรปที่เริ่มพิจารณามาตรการคล้ายกัน แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการตรวจสอบอายุ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่แพร่ไปทั่วโลกในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/were-going-to-be-watching-really-closely-politicians-around-the-world-are-taking-inspiration-from-australias-social-media-ban 💻 Windows 11 กับปัญหา RAM: Discord ตัวการใหญ่ ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนพบว่าแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron framework อย่าง Discord กิน RAM มากผิดปกติ จากเดิมประมาณ 1GB พุ่งขึ้นไปถึง 4GB โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน voice chat หรือสตรีมวิดีโอ ปัญหาคือแม้หยุดใช้งานแล้ว RAM ก็ไม่ลดลง ต้องรีสตาร์ทโปรแกรมใหม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงานอื่น ๆ ยิ่งในช่วงที่ราคาหน่วยความจำพุ่งสูงเพราะกระแส AI ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกเดือดร้อนมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/some-windows-11-apps-have-a-massive-ram-problem-and-this-app-is-the-worst-offender 📧 NordVPN: ป้องกันฟิชชิ่งถึงกล่องอีเมล NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Threat Protection Pro ที่สามารถสแกนลิงก์ในอีเมลแบบเรียลไทม์ หากพบว่าเป็นลิงก์อันตราย เช่น ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์ จะมีสัญลักษณ์เตือนและแบนเนอร์แจ้งทันที จุดเด่นคือทำงานโดยไม่ต้องเข้าถึงเนื้อหาอีเมลทั้งหมด จึงยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการคลิกลิงก์โดยไม่ตั้งใจ และเป็นอีกชั้นการป้องกันที่สำคัญในยุคที่อีเมลฟิชชิ่งถูกส่งออกมาหลายพันล้านฉบับต่อวัน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-extends-phishing-and-malware-protection-to-your-inbox 🤓 GPT‑5.2: การแข่งเดือดระหว่าง OpenAI และ Gemini OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 เพื่อเร่งแข่งกับ Gemini 3 ของ Google จุดเด่นคือความเร็วและความสามารถ reasoning ที่ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม การอัปเดตนี้สะท้อนว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรง และแต่ละค่ายพยายามผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-races-gemini-3-to-the-top-with-gpt-5-2-drop-this-week ⚡ จีนกับข้อได้เปรียบด้าน AI: คำเตือนจาก CEO Nvidia Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เตือนว่าจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาลในด้าน AI ทั้งด้านการก่อสร้างและพลังงาน โดยรายงานล่าสุดเผยว่าจีนมีสัดส่วนการใช้งาน AI ถึง 30% ของโลก ความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น “สร้างโรงพยาบาลในสุดสัปดาห์เดียว” ทำให้จีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลในสนาม AI ระดับโลก 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/they-can-build-a-hospital-in-a-weekend-nvidia-ceo-warns-about-chinas-big-ai-advantages-as-report-reveals-it-now-has-30-percent-of-global-ai-usage 🚗 Subaru กับโฆษณา Pop‑up ในรถ Subaru เข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ทดลองใส่โฆษณา pop‑up ในระบบ infotainment ของรถยนต์ ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลายคนกังวลว่าโฆษณาจะรบกวนสมาธิในการขับขี่ และอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ผู้ผลิตจะมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/subaru-joins-controversial-list-of-carmakers-experimenting-with-infotainment-system-pop-up-ads 👓 Android XR Prototype: สมาร์ทแว่นรุ่นใหม่ที่พร้อมโชว์ นักข่าวได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR รุ่นต้นแบบ พบว่ามีดีไซน์บางเบาและเลนส์โปร่งใสที่สามารถแสดงข้อมูลตรงหน้าได้ทันที ทั้งการนำทางและการใช้งานร่วมกับ AI Gemini จุดเด่นคือการออกแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ดูแปลกตา และสวมใส่สบาย ทำให้สมาร์ทแว่นรุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ wearable ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/i-tried-the-next-gen-android-xr-prototype-smart-glasses-and-these-frames-are-ready-for-your-close-up 🕶️ Samsung Galaxy XR: ยกระดับประสบการณ์ Spatial Samsung เปิดตัว Galaxy XR ที่ผสมผสานเทคโนโลยี mixed reality และ AI Gemini เข้าด้วยกัน จุดขายคือคุณภาพการแสดงผลที่คมชัดและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์ XR และสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามให้ทัน 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsung-galaxy-xr-raises-the-bar-while-lowering-the-price-for-premium-spatial-experiences 🛡️ รัฐบาลสหรัฐฯ กดดัน Google และ Apple ให้ลบแอปติดตามเจ้าหน้าที่ ICE เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรออกแรงกดดันให้ Google และ Apple ลบแอปที่สามารถติดตามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ได้ โดยเฉพาะแอปชื่อ ICEBlock ที่เคยมีผู้ใช้มากกว่าล้านคน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ แต่ยังคงใช้งานได้ในเครื่องที่ติดตั้งไว้แล้ว ปัญหาคือแอปนี้ถูกใช้โดยมือปืนในการก่อเหตุยิงที่ศูนย์ ICE ในเมืองดัลลัส ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กับสิทธิในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน นักพัฒนาแอปเองก็ยืนยันว่า แอปนี้ไม่ต่างจากการแชร์ตำแหน่งด่านตรวจความเร็วในแผนที่ ซึ่งถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ 🔗 https://www.techradar.com/pro/us-gov-wants-google-and-apple-to-take-down-websites-tracking-ice-and-friends ⌚ Pebble โผล่กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทวอชลึกลับ Pebble ที่เคยเป็นแบรนด์สมาร์ทวอชสุดฮิตในยุคแรกๆ กำลังสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยทีเซอร์สมาร์ทวอชใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก หลายคนคาดว่ามันอาจจะเป็นการกลับมาของแบรนด์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น หรืออาจจะเป็นการรีแบรนด์เพื่อเจาะตลาดสุขภาพและฟิตเนสที่กำลังมาแรง ความลึกลับนี้ทำให้แฟนๆ ที่เคยรัก Pebble ต่างตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากสมาร์ทวอชในตลาดตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-just-teased-a-mysterious-new-smartwatch-and-were-excited-to-see-what-it-is 💿 Magnetar เปิดตัวเครื่องเล่น Blu-ray 4K รุ่นใหม่ สำหรับคนที่ยังรักการดูหนังผ่านแผ่น Blu-ray Magnetar ได้เปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่ถูกยกให้เป็น “เครื่องเล่นแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องมี” เพราะรองรับการเล่นแผ่น 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณภาพเสียงและภาพที่เหนือกว่า เหมาะกับนักสะสมและคนที่จริงจังกับการดูหนังในบ้าน แม้ยุคสตรีมมิ่งจะครองตลาด แต่เครื่องเล่นนี้ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ภาพและเสียงระดับสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/magnetars-new-4k-blu-ray-players-are-the-last-disc-spinners-youll-ever-need-and-theyre-now-available-to-buy 🏥 ข้อมูลคนไข้และเจ้าหน้าที่ NHS ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ระบบสุขภาพในอังกฤษเจอปัญหาใหญ่เมื่อ Barts Health NHS Trust ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ทำให้ข้อมูลทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่รั่วไหลออกไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และยังสะท้อนให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยงานด้านสุขภาพต้องลงทุนมากขึ้นในระบบป้องกันภัยไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/patient-and-staff-data-impacted-by-cl0p-ransomware-attack-on-barts-health-nhs 🧹 รีวิว Bissell PowerClean FurFinder เครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคาประหยัด ใครที่เลี้ยงสัตว์น่าจะสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เพราะ Bissell PowerClean FurFinder ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการขนสัตว์โดยเฉพาะ แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่รีวิวบอกว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และเหมาะกับการทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/bissell-powerclean-furfinder-cordless-vacuum-review 📱 Samsung เปิดตัว One UI 8.5 Beta พร้อม 6 ฟีเจอร์ใหม่ Samsung ปล่อยเวอร์ชันเบต้าของ One UI 8.5 ให้ผู้ใช้ได้ลองก่อนใคร โดยมีการอัปเกรดถึง 6 จุดสำคัญ เช่น การปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าต่างให้ลื่นไหลขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว, การปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม จุดเด่นคือการทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-just-launched-the-one-ui-8-5-beta-with-6-big-upgrades-heres-how-to-try-it 🧑‍💻 ผู้บริหาร UI ของ Apple ถูก Meta ดึงตัว พร้อมการอพยพครั้งใหญ่ในทีม AI Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญในทีม AI และ UI เมื่อผู้บริหารระดับสูงถูก Meta ดึงตัวไป และอีกสามคนลาออกตามมา เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน AI ที่กำลังเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอุปกรณ์และบริการใหม่ๆ การสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในเวลาเดียวกันอาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาของ Apple ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/apples-ui-executive-poached-by-meta-and-three-other-executives-leave-in-apple-ai-exodus 🌐 เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในอินโดนีเซียถูกสลายหลังดำเนินงานมา 14 ปี อินโดนีเซียสามารถสลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 14 ปี ซึ่งมีการโจมตีและหลอกลวงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นสัญญาณว่าประเทศกำลังจริงจังกับการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia 🎬 รีวิวแผ่น Blu-ray 4K ที่ดีจนถูกนำมาใช้ทดสอบทีวี นักรีวิวที่ทำงานกับทีวีมืออาชีพเผยว่าเจอแผ่น Blu-ray 4K ใหม่ 5 เรื่องที่คุณภาพดีมากจนถูกนำมาใช้เป็นสื่อทดสอบทีวีในห้องแล็บ ความละเอียดและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทำให้แผ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของทีวีรุ่นใหม่ๆ สำหรับคนที่รักการดูหนังแบบเต็มประสบการณ์ นี่คือแผ่นที่ควรมีไว้สะสม 🔗 https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/i-review-4k-blu-rays-for-a-living-these-5-new-discs-are-so-good-theyve-entered-my-tv-testing-rotation 🎥 อุปกรณ์ถ่ายทำ TikTok ที่ครบในกระเป๋าใบเล็ก นักสร้างคอนเทนต์ TikTok แชร์ว่าเขามีกล้องและอุปกรณ์เสริม 9 ชิ้นที่สามารถใส่รวมกันในกระเป๋าสะพายใบเล็กได้ทั้งหมด ตั้งแต่กล้องคุณภาพสูง ขาตั้ง ไปจนถึงอุปกรณ์เสียง จุดเด่นคือความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์ใหญ่ๆ 🔗 https://www.techradar.com/cameras/i-swear-by-these-9-cameras-and-accessories-for-shooting-tiktok-content-and-they-all-fit-in-one-small-sling-bag 🛡️ FBI เตือนภัย Deepfake ใช้หลอกเรียกค่าไถ่ เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่อาชญากรเริ่มใช้ Generative AI สร้างวิดีโอปลอมเป็น “หลักฐานการมีชีวิต” ของเหยื่อที่ถูกอ้างว่าถูกลักพาตัว พวกเขาจะนำภาพและวิดีโอจากโซเชียลมีเดียไปสร้างเป็นคลิปที่ดูสมจริง แล้วส่งไปหาญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อเรียกค่าไถ่ทันที FBI ออกประกาศเตือนว่าภาพเหล่านี้มักมีจุดผิดพลาด เช่น รอยสักหายไปหรือสัดส่วนร่างกายไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้ายจะใช้วิธีส่งแบบข้อความหมดเวลาเพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบ ทางออกคือควรระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัว ตั้งรหัสลับในครอบครัว และพยายามติดต่อคนที่ถูกอ้างว่าถูกจับก่อนจะโอนเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/fbi-warns-of-kidnapping-scams-as-hackers-turn-to-ai-to-provide-proof-of-life 🔋 Honor Magic 8 Lite: มือถือแบตอึดราคาประหยัด รีวิวนี้บอกว่า Honor Magic 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานเกินคาด แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด ดีไซน์ดูทันสมัย หน้าจอใหญ่พอเหมาะ และประสิทธิภาพถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/honor-phones/honor-magic-8-lite-review 🚁 FBI มองหาดรอนที่ “กันเจาะสัญญาณ” ได้ อีกข่าวหนึ่งเล่าถึงความพยายามของ FBI ที่กำลังค้นหาดรอนซึ่งไม่สามารถถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณได้ วิธีที่ใช้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการหันกลับไปใช้เทคนิคแบบเก่าเพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการควบคุมจากระยะไกล จุดประสงค์คือทำให้ดรอนยังคงทำงานได้แม้มีการพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับวิธีดั้งเดิมเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/the-fbi-is-hunting-for-unjammable-drones-and-these-flying-cameras-use-one-very-old-school-trick-to-stop-remote-attacks 🌱 ปี 2026 “Sustainability” กลายเป็น Stack ใหม่ บทความนี้เล่าว่าในปี 2026 แนวคิดด้านความยั่งยืนจะไม่ใช่แค่เรื่องเสริม แต่จะถูกมองว่าเป็น “stack” ใหม่ของธุรกิจ เทียบได้กับการมีเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น องค์กรต่าง ๆ จะต้องผสมผสานการใช้พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร และการออกแบบระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็นแกนกลางของการดำเนินงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/in-2026-sustainability-is-the-new-stack ⚠️ Gartner เตือน “AI Browsers” อาจเป็นภัยต่อธุรกิจ รายงานจาก Gartner ชี้ว่าเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลและความปลอดภัยขององค์กร แม้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีหรือทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ Gartner แนะนำให้ธุรกิจระมัดระวังและไม่ควรพึ่งพา AI browsers โดยไม่ตรวจสอบมาตรการป้องกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/gartner-advisory-states-ai-browsers-are-not-your-friend-and-are-putting-your-business-at-risk 🤖 IT ที่ “รักษาตัวเอง” ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป บทความนี้เล่าว่าแนวคิด Self-healing IT หรือระบบที่สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นจริงและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ความผิดพลาด คาดการณ์ปัญหา และดำเนินการแก้ไขโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/self-healing-it-is-no-longer-science-fiction-its-driving-businesses-forward 🎧 ChatGPT Wrapped: สรุปปีแห่งการใช้ AI ผู้ใช้ ChatGPT กำลังสร้าง “Spotify Wrapped” เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อย้อนดูว่าตลอดปีที่ผ่านมาได้ใช้ AI ทำอะไรบ้าง เช่น คำถามที่ถามบ่อยที่สุด หรือหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน เพียงดึงข้อมูลการใช้งานแล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบที่แชร์ได้บนโซเชียล ถือเป็นการเล่นสนุกที่สะท้อนว่า AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-users-are-making-a-spotify-wrapped-for-their-year-in-ai-heres-how-to-do-it 🏗️ ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การสร้างบ้านชะลอตัว รายงานนี้ชี้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI กำลังเพิ่มสูงจนโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตามทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านเรือนถูกชะลอ เพราะทรัพยากรด้านพลังงานและพื้นที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลแทน ปัญหานี้สะท้อนว่าการเติบโตของ AI ไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/pro/data-centers-are-throttling-home-building-as-infrastructure-struggles-to-keep-up-with-ai-demands 📱 OpenAI ถอยแผน “แนะนำแอปคล้ายโฆษณา” OpenAI เคยทดลองใส่ฟีเจอร์แนะนำแอปใน ChatGPT ที่ดูเหมือนโฆษณา แต่หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาประกาศว่าจะปรับปรุงและให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น การถอยครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องหาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และการรักษาประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-walks-back-ad-like-app-suggestions-in-chatgpt-saying-it-fell-short-and-will-improve-controls 🛡️ React2Shell RCE Flaw ถูกแฮ็กเกอร์จีนโจมตีหลังประกาศไม่กี่ชั่วโมง เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการไซเบอร์ เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกตั้งชื่อว่า React2Shell โดยมีรหัส CVE-2025-55182 และถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้ก่อนการยืนยันตัวตน ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเปิดเผย ก็มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเริ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีจริงแล้ว เป้าหมายคือองค์กรในหลายภาคส่วนทั่วโลก ตั้งแต่การเงิน โลจิสติกส์ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยและรัฐบาล จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและสร้างการเข้าถึงถาวร นักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-rce-flaw-exploited-by-chinese-hackers-hours-after-disclosure 🕯️ SwitchBot เปิดตัวโคมไฟที่ละลายเทียนได้ SwitchBot สร้างไอเดียใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมาร์ทโฮมเข้ากับความอบอุ่นแบบ hygge โดยออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งโคมไฟอัจฉริยะและเครื่องละลายเทียนในตัว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศผ่อนคลายและโรแมนติกในบ้าน สามารถควบคุมผ่านแอปได้เหมือนอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ และยังช่วยให้การใช้เทียนปลอดภัยขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ไฟจริง ผลิตภัณฑ์นี้ถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ลงตัวสำหรับสาย gadget ที่ชอบความ cozy 🔗 https://www.techradar.com/home/small-appliances/switchbot-crossed-a-smart-lamp-with-a-candle-melter-and-its-the-ultimate-hygge-gift-for-gadget-fans-who-just-want-to-get-cozy 🎮 Katsuhiro Harada ประกาศลาออกจาก Bandai Namco แฟนเกม Tekken ต้องสะเทือนใจเมื่อ Katsuhiro Harada ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของซีรีส์นี้ ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งใน Bandai Namco เขาอธิบายว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากหนึ่งบทของชีวิตการทำงาน หลังจากอยู่กับบริษัทมานานและสร้างชื่อเสียงให้ Tekken กลายเป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก การจากไปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม และแฟน ๆ ต่างจับตามองว่าอนาคตของ Tekken จะเดินไปในทิศทางใด 🔗 https://www.techradar.com/gaming/tekken-lead-katsuhiro-harada-to-leave-bandai-namco-i-felt-this-was-the-most-fitting-moment-to-bring-one-chapter-to-a-close 💸 X ถูกปรับ 140 ล้านดอลลาร์ในยุโรป แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ถูกสหภาพยุโรปปรับเงินมหาศาลถึง 140 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบด้านดิจิทัลและความโปร่งใส ข่าวนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Elon Musk ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก EU ทั้งหมด โดยมองว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นการกีดกันนวัตกรรมและเสรีภาพทางออนไลน์ เรื่องนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/x-fined-usd140-million-for-breaching-eu-rules-elon-calls-for-bloc-abolition 💻 Windows 11 25H2 เปิดให้ทุกเครื่องอัปเดตแล้ว Microsoft ปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 25H2 ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถติดตั้งได้แล้ว การอัปเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ Windows Update เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันที ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร เพราะช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-25h2-update-is-now-available-for-all-pcs-heres-how-to-get-it 📱 มือถือ Linux เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ยังรันแอป Android ได้ มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ถูกมองว่าเป็นอีกทางเลือกแทน Android และ iOS จุดเด่นคือแม้จะใช้ Linux แต่ยังสามารถรันแอป Android ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแอปยอดนิยม แนวคิดนี้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายของแอปที่คุ้นเคย 🔗 https://www.techradar.com/phones/forget-android-vs-ios-this-new-privacy-focused-linux-phone-promises-to-be-the-alternative-we-need-but-it-still-runs-android-apps 🤖 AI จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเหนือกว่า ChatGPT มีสตาร์ทอัพในสหราชอาณาจักรเปิดตัว AI ใหม่ที่ประกาศว่ามีความสามารถเหนือกว่า ChatGPT ทีมงาน TechRadar ได้ลองใช้งานจริงและพบว่ามีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ความเร็วในการตอบสนองและการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม การแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการมาของผู้เล่นใหม่รายนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-new-uk-ai-says-it-can-beat-chatgpt-we-tried-it-and-heres-what-we-found 📺 Trump แสดงความกังวลต่อการควบรวม Netflix และ Warner Bros Donald Trump แสดงความคิดเห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Netflix และ Warner Bros อาจสร้างปัญหา โดยมองว่าอาจกระทบต่อการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดสตรีมมิ่ง ความเห็นนี้สะท้อนถึงความกังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีอำนาจมากเกินไป และอาจทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/trump-says-the-big-netflix-warner-bros-merger-could-be-a-problem-heres-why 🔋 แบรนด์คู่แข่ง Anker เรียกคืน Power Bank หลังพบเสี่ยงไฟไหม้ มีการเรียกคืน Power Bank รุ่นหนึ่งจากแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของ Anker เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อไปแล้วต้องตรวจสอบและหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อเพื่อขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในอุปกรณ์พกพา และเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรอง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/this-popular-anker-rival-has-just-recalled-a-power-bank-due-to-a-fire-hazard-heres-what-to-do
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1276 มุมมอง 0 รีวิว
  • การทดลองครั้งใหญ่: กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดียในออสเตรเลีย

    รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มต้นการทดลองทางสังคมครั้งใหญ่ ด้วยการออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตและการเสพติดออนไลน์ อย่างไรก็ตาม เด็กวัยรุ่นจำนวนมากกลับแสดงความสงสัยและไม่มั่นใจว่ากฎหมายนี้จะช่วยได้จริง

    วัยรุ่นบางคน เช่น Darcey Pritchard วัย 15 ปี เลือกที่จะลบ Snapchat ออกจากโทรศัพท์เพราะรู้สึกว่าถูก “ดูดเข้าไป” โดยอัลกอริทึม ขณะที่เพื่อนของเธอ Luca Hagop ใช้เวลาไปกว่า 34 ชั่วโมงบน Instagram ในหนึ่งสัปดาห์ โดยแชร์คลิปสัตว์เลี้ยงและวิดีโอที่ “ตลกเพราะมันไม่ตลก” สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างความตั้งใจของรัฐกับพฤติกรรมจริงของวัยรุ่น

    นักวิจารณ์บางรายมองว่ากฎหมายนี้อาจเป็นการควบคุมที่เกินไป และตั้งคำถามว่าจะสามารถบังคับใช้ได้จริงหรือไม่ เนื่องจากวัยรุ่นสามารถหาทางเลี่ยงข้อจำกัดได้ง่าย เช่น การใช้ VPN หรือบัญชีผู้ใหญ่ปลอม ขณะเดียวกัน ผู้สนับสนุนกฎหมายเชื่อว่ามันจะช่วยลดการเสพติดโซเชียลและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับเด็ก

    การทดลองนี้จึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ พิจารณาแนวทางคล้ายกัน หากผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่ามีผลเชิงบวกต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเยาวชนในระยะยาว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย
    ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram
    มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและลดการเสพติดออนไลน์

    ปฏิกิริยาของวัยรุ่น
    บางคนลบแอปเองเพราะรู้สึกถูกครอบงำโดยอัลกอริทึม
    หลายคนยังใช้โซเชียลอย่างหนัก เช่น ใช้ Instagram กว่า 34 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

    มุมมองจากสังคม
    ผู้สนับสนุนเชื่อว่าจะช่วยลดการเสพติดและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
    นักวิจารณ์ตั้งคำถามเรื่องการบังคับใช้และการเลี่ยงข้อจำกัด

    คำเตือนและความเสี่ยง
    วัยรุ่นอาจหาทางเลี่ยงกฎหมาย เช่น ใช้ VPN หรือบัญชีปลอม
    หากบังคับใช้ไม่จริงจัง กฎหมายอาจกลายเป็นเพียง “สัญลักษณ์” โดยไม่เกิดผลลัพธ์จริง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/a-grand-social-media-experiment-begins-in-australia
    🇦🇺 การทดลองครั้งใหญ่: กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดียในออสเตรเลีย รัฐบาลออสเตรเลียเริ่มต้นการทดลองทางสังคมครั้งใหญ่ ด้วยการออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบด้านสุขภาพจิตและการเสพติดออนไลน์ อย่างไรก็ตาม เด็กวัยรุ่นจำนวนมากกลับแสดงความสงสัยและไม่มั่นใจว่ากฎหมายนี้จะช่วยได้จริง วัยรุ่นบางคน เช่น Darcey Pritchard วัย 15 ปี เลือกที่จะลบ Snapchat ออกจากโทรศัพท์เพราะรู้สึกว่าถูก “ดูดเข้าไป” โดยอัลกอริทึม ขณะที่เพื่อนของเธอ Luca Hagop ใช้เวลาไปกว่า 34 ชั่วโมงบน Instagram ในหนึ่งสัปดาห์ โดยแชร์คลิปสัตว์เลี้ยงและวิดีโอที่ “ตลกเพราะมันไม่ตลก” สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างความตั้งใจของรัฐกับพฤติกรรมจริงของวัยรุ่น นักวิจารณ์บางรายมองว่ากฎหมายนี้อาจเป็นการควบคุมที่เกินไป และตั้งคำถามว่าจะสามารถบังคับใช้ได้จริงหรือไม่ เนื่องจากวัยรุ่นสามารถหาทางเลี่ยงข้อจำกัดได้ง่าย เช่น การใช้ VPN หรือบัญชีผู้ใหญ่ปลอม ขณะเดียวกัน ผู้สนับสนุนกฎหมายเชื่อว่ามันจะช่วยลดการเสพติดโซเชียลและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยขึ้นสำหรับเด็ก การทดลองนี้จึงถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะอาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ พิจารณาแนวทางคล้ายกัน หากผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่ามีผลเชิงบวกต่อสุขภาพจิตและพฤติกรรมของเยาวชนในระยะยาว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กฎหมายใหม่ในออสเตรเลีย ➡️ ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ TikTok, Snapchat, YouTube และ Instagram ➡️ มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและลดการเสพติดออนไลน์ ✅ ปฏิกิริยาของวัยรุ่น ➡️ บางคนลบแอปเองเพราะรู้สึกถูกครอบงำโดยอัลกอริทึม ➡️ หลายคนยังใช้โซเชียลอย่างหนัก เช่น ใช้ Instagram กว่า 34 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ✅ มุมมองจากสังคม ➡️ ผู้สนับสนุนเชื่อว่าจะช่วยลดการเสพติดและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ➡️ นักวิจารณ์ตั้งคำถามเรื่องการบังคับใช้และการเลี่ยงข้อจำกัด ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ วัยรุ่นอาจหาทางเลี่ยงกฎหมาย เช่น ใช้ VPN หรือบัญชีปลอม ⛔ หากบังคับใช้ไม่จริงจัง กฎหมายอาจกลายเป็นเพียง “สัญลักษณ์” โดยไม่เกิดผลลัพธ์จริง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/a-grand-social-media-experiment-begins-in-australia
    WWW.THESTAR.COM.MY
    A grand social media experiment begins in Australia
    The country is trying to wean children under 16 off the likes of TikTok, Snapchat, YouTube and Instagram with a new law. The teenagers are skeptical.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุคใหม่ของโครโมโซม Y : ความอยู่รอดหรือการสิ้นสุด?

    นักวิทยาศาสตร์กำลังถกเถียงกันอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับอนาคตของโครโมโซม Y ซึ่งเป็นตัวกำหนดเพศชายในมนุษย์ บางฝ่ายเชื่อว่ามันกำลังเสื่อมสลายและอาจหายไปในอีกไม่กี่ล้านปีข้างหน้า ขณะที่อีกฝ่ายมองว่ามันมีความเสถียรและจะอยู่รอดต่อไปได้อย่างมั่นคง การถกเถียงนี้สะท้อนให้เห็นถึงสองมุมมองทางวิวัฒนาการที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

    Jenny Graves นักชีววิทยาวิวัฒนาการเคยคำนวณว่าโครโมโซม Y สูญเสียยีนไปแล้วกว่า 97% ในช่วง 300 ล้านปีที่ผ่านมา หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป มันอาจหายไปในอนาคต แต่เธอย้ำว่านี่เป็นเพียงการคำนวณเชิงทฤษฎี ไม่ใช่คำทำนายว่ามนุษย์เพศชายจะสูญพันธุ์ทันที หลายชนิดสัตว์ เช่น หนูพุก และหนูหนาม ได้สูญเสียโครโมโซม Y ไปแล้ว แต่ยังคงมีระบบกำหนดเพศใหม่ที่ทำงานแทนได้

    ในอีกด้านหนึ่ง Jennifer Hughes จาก MIT ชี้ว่าโครโมโซม Y ของมนุษย์มีความเสถียรในระยะยาว หลักฐานจากการเปรียบเทียบยีนในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดบ่งชี้ว่าการสูญเสียยีนหยุดลงแล้ว และยีนที่เหลือมีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกายจนไม่สามารถหายไปได้ง่ายๆ สิ่งนี้ทำให้บางนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าโครโมโซม Y จะยังคงอยู่ต่อไป

    นอกเหนือจากการถกเถียงเชิงวิชาการแล้ว ประเด็นนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของวิวัฒนาการ มนุษย์และสัตว์อาจปรับตัวได้หากโครโมโซม Y หายไป โดยการสร้างระบบกำหนดเพศใหม่ขึ้นมาแทน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าธรรมชาติมีวิธีการรักษาสมดุลของชีวิต แม้ในสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ก็ตาม

    สรุปสาระสำคัญ
    โครโมโซม Y สูญเสียยีนไปแล้วกว่า 97%
    การคำนวณของ Jenny Graves ชี้ว่าอาจหายไปในอีกไม่กี่ล้านปี

    หลายชนิดสัตว์สูญเสียโครโมโซม Y แต่ยังคงมีระบบกำหนดเพศใหม่
    เช่น หนูพุก และหนูหนาม ที่พัฒนากลไกแทน

    นักวิทยาศาสตร์บางฝ่ายเชื่อว่าโครโมโซม Y มีความเสถียร
    Jennifer Hughes ชี้ว่าการสูญเสียยีนหยุดลงแล้ว และยีนที่เหลือมีความสำคัญต่อร่างกาย

    การถกเถียงสะท้อนสองมุมมองทางวิวัฒนาการ
    ฝ่ายหนึ่งมองว่า Y กำลังเสื่อมสลาย อีกฝ่ายมองว่ามันมั่นคง

    ความเข้าใจผิดจากสื่ออาจทำให้คนเชื่อว่ามนุษย์เพศชายจะสูญพันธุ์
    Jenny Graves ย้ำว่านี่เป็นเพียงการคำนวณเชิงทฤษฎี ไม่ใช่คำทำนายจริง

    การเสื่อมสลายของโครโมโซม Y ไม่ได้หมายถึงการสิ้นสุดของมนุษย์
    วิวัฒนาการสามารถสร้างระบบใหม่เพื่อรักษาสมดุลของชีวิตได้

    https://www.sciencealert.com/is-the-y-chromosome-vanishing-a-new-sex-gene-may-be-the-future-of-men
    🧬 ยุคใหม่ของโครโมโซม Y : ความอยู่รอดหรือการสิ้นสุด? นักวิทยาศาสตร์กำลังถกเถียงกันอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับอนาคตของโครโมโซม Y ซึ่งเป็นตัวกำหนดเพศชายในมนุษย์ บางฝ่ายเชื่อว่ามันกำลังเสื่อมสลายและอาจหายไปในอีกไม่กี่ล้านปีข้างหน้า ขณะที่อีกฝ่ายมองว่ามันมีความเสถียรและจะอยู่รอดต่อไปได้อย่างมั่นคง การถกเถียงนี้สะท้อนให้เห็นถึงสองมุมมองทางวิวัฒนาการที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง Jenny Graves นักชีววิทยาวิวัฒนาการเคยคำนวณว่าโครโมโซม Y สูญเสียยีนไปแล้วกว่า 97% ในช่วง 300 ล้านปีที่ผ่านมา หากแนวโน้มนี้ดำเนินต่อไป มันอาจหายไปในอนาคต แต่เธอย้ำว่านี่เป็นเพียงการคำนวณเชิงทฤษฎี ไม่ใช่คำทำนายว่ามนุษย์เพศชายจะสูญพันธุ์ทันที หลายชนิดสัตว์ เช่น หนูพุก และหนูหนาม ได้สูญเสียโครโมโซม Y ไปแล้ว แต่ยังคงมีระบบกำหนดเพศใหม่ที่ทำงานแทนได้ ในอีกด้านหนึ่ง Jennifer Hughes จาก MIT ชี้ว่าโครโมโซม Y ของมนุษย์มีความเสถียรในระยะยาว หลักฐานจากการเปรียบเทียบยีนในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดบ่งชี้ว่าการสูญเสียยีนหยุดลงแล้ว และยีนที่เหลือมีความสำคัญต่อการทำงานของร่างกายจนไม่สามารถหายไปได้ง่ายๆ สิ่งนี้ทำให้บางนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าโครโมโซม Y จะยังคงอยู่ต่อไป นอกเหนือจากการถกเถียงเชิงวิชาการแล้ว ประเด็นนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของวิวัฒนาการ มนุษย์และสัตว์อาจปรับตัวได้หากโครโมโซม Y หายไป โดยการสร้างระบบกำหนดเพศใหม่ขึ้นมาแทน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าธรรมชาติมีวิธีการรักษาสมดุลของชีวิต แม้ในสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ก็ตาม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ โครโมโซม Y สูญเสียยีนไปแล้วกว่า 97% ➡️ การคำนวณของ Jenny Graves ชี้ว่าอาจหายไปในอีกไม่กี่ล้านปี ✅ หลายชนิดสัตว์สูญเสียโครโมโซม Y แต่ยังคงมีระบบกำหนดเพศใหม่ ➡️ เช่น หนูพุก และหนูหนาม ที่พัฒนากลไกแทน ✅ นักวิทยาศาสตร์บางฝ่ายเชื่อว่าโครโมโซม Y มีความเสถียร ➡️ Jennifer Hughes ชี้ว่าการสูญเสียยีนหยุดลงแล้ว และยีนที่เหลือมีความสำคัญต่อร่างกาย ✅ การถกเถียงสะท้อนสองมุมมองทางวิวัฒนาการ ➡️ ฝ่ายหนึ่งมองว่า Y กำลังเสื่อมสลาย อีกฝ่ายมองว่ามันมั่นคง ‼️ ความเข้าใจผิดจากสื่ออาจทำให้คนเชื่อว่ามนุษย์เพศชายจะสูญพันธุ์ ⛔ Jenny Graves ย้ำว่านี่เป็นเพียงการคำนวณเชิงทฤษฎี ไม่ใช่คำทำนายจริง ‼️ การเสื่อมสลายของโครโมโซม Y ไม่ได้หมายถึงการสิ้นสุดของมนุษย์ ⛔ วิวัฒนาการสามารถสร้างระบบใหม่เพื่อรักษาสมดุลของชีวิตได้ https://www.sciencealert.com/is-the-y-chromosome-vanishing-a-new-sex-gene-may-be-the-future-of-men
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Is The Y Chromosome Vanishing? A New Sex Gene May Be The Future of Men
    In 2002, evolutionary biologist Jenny Graves shared a controversial calculation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรคใหม่จากเห็บในสุนัข อาจเสี่ยงต่อมนุษย์

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัฐนอร์ทแคโรไลนาได้ค้นพบเชื้อแบคทีเรียสายพันธุ์ใหม่ชื่อ Rickettsia finnyi ซึ่งถูกตรวจพบในสุนัขที่ป่วยคล้ายโรค Rocky Mountain Spotted Fever (RMSF) ที่เคยเป็นภัยร้ายแรงในสหรัฐฯ การค้นพบนี้สร้างความกังวลว่าเชื้ออาจข้ามสายพันธุ์มาสู่มนุษย์ได้ เนื่องจากเชื้อในกลุ่มเดียวกันมีประวัติทำให้เกิดโรคในคนมาแล้วหลายชนิด

    การติดเชื้อในสุนัขที่พบมีอาการตั้งแต่ไข้สูง อ่อนเพลีย ไปจนถึงภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งบางรายถึงขั้นเสียชีวิต แม้ส่วนใหญ่จะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้ผล แต่ก็มีกรณีที่กลับมาเป็นซ้ำและเสียชีวิตภายหลัง นักวิจัยย้ำว่าการเฝ้าระวังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเชื้อในกลุ่ม Rickettsia มักซ่อนตัวอยู่ในเซลล์ ทำให้การตรวจวินิจฉัยยากและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโดยไม่รู้ตัว

    สิ่งที่น่าสนใจคือ เชื้อ Rickettsia finnyi ถูกพบ DNA ในเห็บสายพันธุ์ Lone Star Tick ซึ่งมีถิ่นกระจายอยู่ในพื้นที่ตะวันออกและตอนกลางของสหรัฐฯ เห็บชนิดนี้เป็นพาหะของโรคหลายชนิด เช่น ehrlichiosis, tularemia และแม้กระทั่งภาวะภูมิแพ้เนื้อแดง (alpha-gal syndrome) การที่เชื้อใหม่ถูกเชื่อมโยงกับเห็บชนิดนี้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่สู่มนุษย์

    นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า แม้ยังไม่มีหลักฐานการติดเชื้อในคน แต่ความสามารถของเชื้อในการอยู่รอดในเซลล์สัตว์เลี้ยงเป็นเวลานาน แสดงให้เห็นว่ามันอาจกลายเป็นภัยสาธารณสุขในอนาคต หากไม่เร่งศึกษาวงจรชีวิตและพาหะที่แท้จริง การป้องกันและการเฝ้าระวังจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การค้นพบเชื้อใหม่ Rickettsia finnyi
    พบในสุนัขที่มีอาการคล้ายโรค RMSF และบางรายเสียชีวิต
    ถูกตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่สุนัข “Finny” ที่เป็นต้นเคส

    อาการในสุนัขที่ติดเชื้อ
    ไข้สูง อ่อนเพลีย และภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
    ส่วนใหญ่รักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้ แต่บางรายกลับมาเป็นซ้ำ

    เห็บ Lone Star Tick เป็นพาหะที่น่าสงสัย
    มีถิ่นกระจายกว้างในสหรัฐฯ และเป็นพาหะโรคหลายชนิด
    พบ DNA ของ R. finnyi ในเห็บชนิดนี้

    ความเสี่ยงต่อมนุษย์
    เชื้อในกลุ่ม Rickettsia มีประวัติทำให้เกิดโรคในคน
    หากข้ามสายพันธุ์ได้ อาจกลายเป็นภัยสาธารณสุขใหม่

    ความยากในการตรวจวินิจฉัย
    เชื้อเติบโตภายในเซลล์ ทำให้การตรวจหายาก
    เสี่ยงต่อการแพร่กระจายโดยไม่ถูกค้นพบทันเวลา

    https://www.sciencealert.com/new-tick-borne-disease-discovered-in-dogs-may-pose-a-risk-to-humans
    🦠 โรคใหม่จากเห็บในสุนัข อาจเสี่ยงต่อมนุษย์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัฐนอร์ทแคโรไลนาได้ค้นพบเชื้อแบคทีเรียสายพันธุ์ใหม่ชื่อ Rickettsia finnyi ซึ่งถูกตรวจพบในสุนัขที่ป่วยคล้ายโรค Rocky Mountain Spotted Fever (RMSF) ที่เคยเป็นภัยร้ายแรงในสหรัฐฯ การค้นพบนี้สร้างความกังวลว่าเชื้ออาจข้ามสายพันธุ์มาสู่มนุษย์ได้ เนื่องจากเชื้อในกลุ่มเดียวกันมีประวัติทำให้เกิดโรคในคนมาแล้วหลายชนิด การติดเชื้อในสุนัขที่พบมีอาการตั้งแต่ไข้สูง อ่อนเพลีย ไปจนถึงภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ซึ่งบางรายถึงขั้นเสียชีวิต แม้ส่วนใหญ่จะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้ผล แต่ก็มีกรณีที่กลับมาเป็นซ้ำและเสียชีวิตภายหลัง นักวิจัยย้ำว่าการเฝ้าระวังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเชื้อในกลุ่ม Rickettsia มักซ่อนตัวอยู่ในเซลล์ ทำให้การตรวจวินิจฉัยยากและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายโดยไม่รู้ตัว สิ่งที่น่าสนใจคือ เชื้อ Rickettsia finnyi ถูกพบ DNA ในเห็บสายพันธุ์ Lone Star Tick ซึ่งมีถิ่นกระจายอยู่ในพื้นที่ตะวันออกและตอนกลางของสหรัฐฯ เห็บชนิดนี้เป็นพาหะของโรคหลายชนิด เช่น ehrlichiosis, tularemia และแม้กระทั่งภาวะภูมิแพ้เนื้อแดง (alpha-gal syndrome) การที่เชื้อใหม่ถูกเชื่อมโยงกับเห็บชนิดนี้ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่สู่มนุษย์ นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า แม้ยังไม่มีหลักฐานการติดเชื้อในคน แต่ความสามารถของเชื้อในการอยู่รอดในเซลล์สัตว์เลี้ยงเป็นเวลานาน แสดงให้เห็นว่ามันอาจกลายเป็นภัยสาธารณสุขในอนาคต หากไม่เร่งศึกษาวงจรชีวิตและพาหะที่แท้จริง การป้องกันและการเฝ้าระวังจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การค้นพบเชื้อใหม่ Rickettsia finnyi ➡️ พบในสุนัขที่มีอาการคล้ายโรค RMSF และบางรายเสียชีวิต ➡️ ถูกตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่สุนัข “Finny” ที่เป็นต้นเคส ✅ อาการในสุนัขที่ติดเชื้อ ➡️ ไข้สูง อ่อนเพลีย และภาวะเกล็ดเลือดต่ำ ➡️ ส่วนใหญ่รักษาด้วยยาปฏิชีวนะได้ แต่บางรายกลับมาเป็นซ้ำ ✅ เห็บ Lone Star Tick เป็นพาหะที่น่าสงสัย ➡️ มีถิ่นกระจายกว้างในสหรัฐฯ และเป็นพาหะโรคหลายชนิด ➡️ พบ DNA ของ R. finnyi ในเห็บชนิดนี้ ‼️ ความเสี่ยงต่อมนุษย์ ⛔ เชื้อในกลุ่ม Rickettsia มีประวัติทำให้เกิดโรคในคน ⛔ หากข้ามสายพันธุ์ได้ อาจกลายเป็นภัยสาธารณสุขใหม่ ‼️ ความยากในการตรวจวินิจฉัย ⛔ เชื้อเติบโตภายในเซลล์ ทำให้การตรวจหายาก ⛔ เสี่ยงต่อการแพร่กระจายโดยไม่ถูกค้นพบทันเวลา https://www.sciencealert.com/new-tick-borne-disease-discovered-in-dogs-may-pose-a-risk-to-humans
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    New Tick-Borne Disease Discovered in Dogs May Pose a Risk to Humans
    Several dogs in the US have died following infections by a newly discovered tick-borne disease from the same genus responsible for 'spotted fever'.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครม.อนุมัติแมวไทย” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์เลี้ยง เพื่ออนุรักษ์รักษาสิทธิ์เพิ่มมูลค่าศก. , ครม.เห็นชอบตามมติ กอช. ให้แมวไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ หลังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และพันธุกรรมชี้ถึงความโดดเด่นของสายพันธุ์

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110190

    #แมวไทย #เอกลักษณ์ประจำชาติ #กระทรวงวัฒนธรรม #นโยบายรัฐบาล #เศรษฐกิจสร้างสรรค์ #News1live #News1
    ครม.อนุมัติแมวไทย” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์เลี้ยง เพื่ออนุรักษ์รักษาสิทธิ์เพิ่มมูลค่าศก. , ครม.เห็นชอบตามมติ กอช. ให้แมวไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ หลังมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์และพันธุกรรมชี้ถึงความโดดเด่นของสายพันธุ์ • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000110190 • #แมวไทย #เอกลักษณ์ประจำชาติ #กระทรวงวัฒนธรรม #นโยบายรัฐบาล #เศรษฐกิจสร้างสรรค์ #News1live #News1
    Like
    Haha
    Yay
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • “บ้านอัจฉริยะเริ่มต้นที่เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ – เทคโนโลยีเล็กๆ ที่เปลี่ยนชีวิต”

    คุณอาจคิดว่าบ้านอัจฉริยะต้องมีอุปกรณ์ล้ำยุคเต็มบ้าน แต่จริงๆ แล้วจุดเริ่มต้นอาจเป็นแค่ “เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ” ตัวเล็กๆ ที่เปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตของคุณได้อย่างน่าทึ่ง

    ลองนึกภาพว่าแสงแดดส่องเข้าหน้าต่างตอนบ่าย เซนเซอร์ตรวจจับความร้อนแล้วสั่งให้ม่านปิดอัตโนมัติ หรือเมื่ออุณหภูมิในห้องสูงเกินไป พัดลมก็เปิดเองโดยไม่ต้องแตะสวิตช์

    ไม่ใช่แค่เรื่องความสะดวก แต่ยังช่วยประหยัดพลังงาน ป้องกันอันตราย และดูแลคนในบ้านได้อย่างชาญฉลาด เช่น แจ้งเตือนเมื่ออุณหภูมิลดต่ำจนเสี่ยงท่อน้ำแข็งแตก หรือเมื่ออากาศในบ้านร้อนเกินไปสำหรับสัตว์เลี้ยง

    เทคโนโลยีนี้ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แค่เซนเซอร์ที่เชื่อมกับแอปมือถือก็สามารถแจ้งเตือนให้คุณเปิดหน้าต่าง ปรับเครื่องปรับอากาศ หรือแม้แต่เตรียมก่อไฟในเตาผิงได้ทันเวลา

    ใช้เซนเซอร์ควบคุมม่านอัตโนมัติ
    ปรับม่านตามอุณหภูมิภายนอกเพื่อควบคุมความร้อนในบ้าน
    ลดการใช้เครื่องปรับอากาศและประหยัดพลังงาน
    ใช้ร่วมกับระบบ SwitchBot หรือแพลตฟอร์มอื่นได้

    เปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ
    เซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิในแต่ละห้อง
    สั่งงานผ่านสมาร์ทปลั๊กหรือระบบบ้านอัจฉริยะ
    เหมาะสำหรับบ้านที่ไม่มีระบบ HVAC รวมศูนย์

    รับการแจ้งเตือนผ่านมือถือ
    แจ้งเมื่ออุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินค่าที่ตั้งไว้
    ช่วยดูแลสัตว์เลี้ยง พืช และสมาชิกในบ้าน
    วิเคราะห์ประวัติอุณหภูมิเพื่อวางแผนการใช้พลังงาน

    เปิดหรือปิดหน้าต่างตามสภาพอากาศ
    เปรียบเทียบอุณหภูมิภายนอกกับภายใน
    แจ้งเตือนให้เปิดหน้าต่างเมื่ออากาศเย็นกว่า
    สามารถตั้งระบบเปิดหน้าต่างอัตโนมัติได้ (ต้องมีอุปกรณ์เสริม)

    ป้องกันท่อน้ำแข็งแตกในฤดูหนาว
    ติดตั้งเซนเซอร์ในพื้นที่เสี่ยง เช่น ใต้ถุนหรือห้องใต้ดิน
    แจ้งเตือนเมื่ออุณหภูมิต่ำเกินไป
    บางรุ่นมีฟังก์ชันวัดความชื้นเพื่อเตือนภัยน้ำรั่ว

    การติดตั้งในพื้นที่ที่มีสัญญาณไม่เสถียร
    เซนเซอร์บางรุ่นอาจไม่ทำงานหาก Wi-Fi หรือ Bluetooth ขาดช่วง
    ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีระบบแจ้งเตือนเมื่อขาดการเชื่อมต่อ

    ความแม่นยำของเซนเซอร์ราคาถูก
    เซนเซอร์บางรุ่นอาจมีค่าคลาดเคลื่อนสูง
    ควรตรวจสอบรีวิวและเลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้

    https://www.slashgear.com/2017704/temperature-sensor-home-uses/
    🌡️ “บ้านอัจฉริยะเริ่มต้นที่เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ – เทคโนโลยีเล็กๆ ที่เปลี่ยนชีวิต” คุณอาจคิดว่าบ้านอัจฉริยะต้องมีอุปกรณ์ล้ำยุคเต็มบ้าน แต่จริงๆ แล้วจุดเริ่มต้นอาจเป็นแค่ “เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ” ตัวเล็กๆ ที่เปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตของคุณได้อย่างน่าทึ่ง ลองนึกภาพว่าแสงแดดส่องเข้าหน้าต่างตอนบ่าย เซนเซอร์ตรวจจับความร้อนแล้วสั่งให้ม่านปิดอัตโนมัติ หรือเมื่ออุณหภูมิในห้องสูงเกินไป พัดลมก็เปิดเองโดยไม่ต้องแตะสวิตช์ ไม่ใช่แค่เรื่องความสะดวก แต่ยังช่วยประหยัดพลังงาน ป้องกันอันตราย และดูแลคนในบ้านได้อย่างชาญฉลาด เช่น แจ้งเตือนเมื่ออุณหภูมิลดต่ำจนเสี่ยงท่อน้ำแข็งแตก หรือเมื่ออากาศในบ้านร้อนเกินไปสำหรับสัตว์เลี้ยง เทคโนโลยีนี้ไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แค่เซนเซอร์ที่เชื่อมกับแอปมือถือก็สามารถแจ้งเตือนให้คุณเปิดหน้าต่าง ปรับเครื่องปรับอากาศ หรือแม้แต่เตรียมก่อไฟในเตาผิงได้ทันเวลา ✅ ใช้เซนเซอร์ควบคุมม่านอัตโนมัติ ➡️ ปรับม่านตามอุณหภูมิภายนอกเพื่อควบคุมความร้อนในบ้าน ➡️ ลดการใช้เครื่องปรับอากาศและประหยัดพลังงาน ➡️ ใช้ร่วมกับระบบ SwitchBot หรือแพลตฟอร์มอื่นได้ ✅ เปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ ➡️ เซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิในแต่ละห้อง ➡️ สั่งงานผ่านสมาร์ทปลั๊กหรือระบบบ้านอัจฉริยะ ➡️ เหมาะสำหรับบ้านที่ไม่มีระบบ HVAC รวมศูนย์ ✅ รับการแจ้งเตือนผ่านมือถือ ➡️ แจ้งเมื่ออุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินค่าที่ตั้งไว้ ➡️ ช่วยดูแลสัตว์เลี้ยง พืช และสมาชิกในบ้าน ➡️ วิเคราะห์ประวัติอุณหภูมิเพื่อวางแผนการใช้พลังงาน ✅ เปิดหรือปิดหน้าต่างตามสภาพอากาศ ➡️ เปรียบเทียบอุณหภูมิภายนอกกับภายใน ➡️ แจ้งเตือนให้เปิดหน้าต่างเมื่ออากาศเย็นกว่า ➡️ สามารถตั้งระบบเปิดหน้าต่างอัตโนมัติได้ (ต้องมีอุปกรณ์เสริม) ✅ ป้องกันท่อน้ำแข็งแตกในฤดูหนาว ➡️ ติดตั้งเซนเซอร์ในพื้นที่เสี่ยง เช่น ใต้ถุนหรือห้องใต้ดิน ➡️ แจ้งเตือนเมื่ออุณหภูมิต่ำเกินไป ➡️ บางรุ่นมีฟังก์ชันวัดความชื้นเพื่อเตือนภัยน้ำรั่ว ‼️ การติดตั้งในพื้นที่ที่มีสัญญาณไม่เสถียร ⛔ เซนเซอร์บางรุ่นอาจไม่ทำงานหาก Wi-Fi หรือ Bluetooth ขาดช่วง ⛔ ควรเลือกอุปกรณ์ที่มีระบบแจ้งเตือนเมื่อขาดการเชื่อมต่อ ‼️ ความแม่นยำของเซนเซอร์ราคาถูก ⛔ เซนเซอร์บางรุ่นอาจมีค่าคลาดเคลื่อนสูง ⛔ ควรตรวจสอบรีวิวและเลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้ https://www.slashgear.com/2017704/temperature-sensor-home-uses/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Handy Ways To Use Temperature Sensors In Your Home - SlashGear
    If you think smart home, you might not imagine a temperature sensor, but there's a lot you can achieve with one of those and some imagination.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 340 มุมมอง 0 รีวิว
  • “KitKat” แมวผู้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความโกรธต่อเทคโนโลยีในซานฟรานซิสโก

    แมวตัวหนึ่งชื่อ “KitKat” ไม่เพียงแต่เป็นขวัญใจชาวย่าน Mission District ในซานฟรานซิสโก แต่ยังกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวต่อต้านรถยนต์ไร้คนขับ หลังจากเขาถูก Waymo ชนเสียชีวิต เหตุการณ์นี้จุดประกายความโกรธของชุมชนต่อเทคโนโลยีที่พวกเขาไม่ได้ร้องขอ

    KitKat เป็นแมวอายุ 9 ปีที่อาศัยอยู่หน้าร้าน Randa’s Market ใกล้โรงภาพยนตร์ Roxie Theater เขาเป็นที่รักของชาวบ้านจนได้รับฉายาว่า “นายกเทศมนตรีแห่งถนน 16” แต่เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม เขาถูกรถ Waymo ชนเสียชีวิตขณะวิ่งออกจากหน้าร้าน

    เหตุการณ์นี้นำไปสู่การจัดชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรมให้ KitKat โดยกลุ่ม Small Business Forward และสมาชิกสภา Jackie Fielder ซึ่งเสนอร่างมติให้ประชาชนมีสิทธิ์แบนรถยนต์ไร้คนขับในเขตของตนเอง

    ผู้ประท้วงวิจารณ์ว่า Waymo เป็น “องค์กรไร้หน้า” ที่บ่อนทำลายความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของชุมชน โดยติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์ไว้ทั่วรถยนต์ ขณะที่คนขับรถแท็กซี่และผู้ใช้ขนส่งสาธารณะก็ร่วมแสดงความไม่พอใจ เพราะมองว่ารถไร้คนขับกำลังแย่งงานและสร้างความแออัดบนท้องถนน

    แม้จะมีเสียงโต้แย้งจากผู้สนับสนุนเทคโนโลยีที่มองว่ารถไร้คนขับปลอดภัยกว่าคนขับ แต่การเสียชีวิตของ KitKat กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนทางอารมณ์ที่ทำให้ชุมชนลุกขึ้นต่อต้านอย่างจริงจัง

    เหตุการณ์การเสียชีวิตของ KitKat
    ถูก Waymo ชนเสียชีวิตหน้าร้าน Randa’s Market
    เป็นแมวขวัญใจชุมชน มีฉายาว่า “นายกเทศมนตรีแห่งถนน 16”
    จุดกระแสความโกรธต่อเทคโนโลยีที่ไม่ได้รับการยอมรับจากชุมชน

    การเคลื่อนไหวของชุมชน
    จัดชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรมให้ KitKat
    เสนอร่างมติให้ประชาชนมีสิทธิ์แบนรถไร้คนขับในพื้นที่
    คนขับรถแท็กซี่และผู้ใช้ขนส่งสาธารณะร่วมประท้วง
    ชี้ว่ารถไร้คนขับสร้างความแออัดและแย่งงานมนุษย์

    ปฏิกิริยาจาก Waymo
    แสดงความเสียใจและบริจาคเงินให้ศูนย์พักพิงสัตว์
    ยืนยันความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยและความไว้วางใจ

    คำเตือนเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยี
    รถไร้คนขับอาจสร้างความไม่ปลอดภัยในพื้นที่ชุมชน
    การติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์ทั่วรถอาจละเมิดความเป็นส่วนตัว
    การพัฒนาเทคโนโลยีโดยไม่ฟังเสียงชุมชนอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง
    การไม่ควบคุมการใช้งาน AV อาจส่งผลต่อระบบขนส่งสาธารณะและแรงงานมนุษย์

    เรื่องของ KitKat ไม่ใช่แค่การสูญเสียสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง แต่เป็นสัญลักษณ์ของการตั้งคำถามต่อเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขา.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/08/how-a-cat-named-kitkat-became-san-francisco039s-latest-symbol-of-anti-tech-rage
    🐾 “KitKat” แมวผู้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความโกรธต่อเทคโนโลยีในซานฟรานซิสโก แมวตัวหนึ่งชื่อ “KitKat” ไม่เพียงแต่เป็นขวัญใจชาวย่าน Mission District ในซานฟรานซิสโก แต่ยังกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวต่อต้านรถยนต์ไร้คนขับ หลังจากเขาถูก Waymo ชนเสียชีวิต เหตุการณ์นี้จุดประกายความโกรธของชุมชนต่อเทคโนโลยีที่พวกเขาไม่ได้ร้องขอ KitKat เป็นแมวอายุ 9 ปีที่อาศัยอยู่หน้าร้าน Randa’s Market ใกล้โรงภาพยนตร์ Roxie Theater เขาเป็นที่รักของชาวบ้านจนได้รับฉายาว่า “นายกเทศมนตรีแห่งถนน 16” แต่เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม เขาถูกรถ Waymo ชนเสียชีวิตขณะวิ่งออกจากหน้าร้าน เหตุการณ์นี้นำไปสู่การจัดชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรมให้ KitKat โดยกลุ่ม Small Business Forward และสมาชิกสภา Jackie Fielder ซึ่งเสนอร่างมติให้ประชาชนมีสิทธิ์แบนรถยนต์ไร้คนขับในเขตของตนเอง ผู้ประท้วงวิจารณ์ว่า Waymo เป็น “องค์กรไร้หน้า” ที่บ่อนทำลายความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของชุมชน โดยติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์ไว้ทั่วรถยนต์ ขณะที่คนขับรถแท็กซี่และผู้ใช้ขนส่งสาธารณะก็ร่วมแสดงความไม่พอใจ เพราะมองว่ารถไร้คนขับกำลังแย่งงานและสร้างความแออัดบนท้องถนน แม้จะมีเสียงโต้แย้งจากผู้สนับสนุนเทคโนโลยีที่มองว่ารถไร้คนขับปลอดภัยกว่าคนขับ แต่การเสียชีวิตของ KitKat กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนทางอารมณ์ที่ทำให้ชุมชนลุกขึ้นต่อต้านอย่างจริงจัง ✅ เหตุการณ์การเสียชีวิตของ KitKat ➡️ ถูก Waymo ชนเสียชีวิตหน้าร้าน Randa’s Market ➡️ เป็นแมวขวัญใจชุมชน มีฉายาว่า “นายกเทศมนตรีแห่งถนน 16” ➡️ จุดกระแสความโกรธต่อเทคโนโลยีที่ไม่ได้รับการยอมรับจากชุมชน ✅ การเคลื่อนไหวของชุมชน ➡️ จัดชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรมให้ KitKat ➡️ เสนอร่างมติให้ประชาชนมีสิทธิ์แบนรถไร้คนขับในพื้นที่ ➡️ คนขับรถแท็กซี่และผู้ใช้ขนส่งสาธารณะร่วมประท้วง ➡️ ชี้ว่ารถไร้คนขับสร้างความแออัดและแย่งงานมนุษย์ ✅ ปฏิกิริยาจาก Waymo ➡️ แสดงความเสียใจและบริจาคเงินให้ศูนย์พักพิงสัตว์ ➡️ ยืนยันความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยและความไว้วางใจ ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยี ⛔ รถไร้คนขับอาจสร้างความไม่ปลอดภัยในพื้นที่ชุมชน ⛔ การติดตั้งกล้องและเซ็นเซอร์ทั่วรถอาจละเมิดความเป็นส่วนตัว ⛔ การพัฒนาเทคโนโลยีโดยไม่ฟังเสียงชุมชนอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง ⛔ การไม่ควบคุมการใช้งาน AV อาจส่งผลต่อระบบขนส่งสาธารณะและแรงงานมนุษย์ เรื่องของ KitKat ไม่ใช่แค่การสูญเสียสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง แต่เป็นสัญลักษณ์ของการตั้งคำถามต่อเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนโดยไม่ได้รับความยินยอมจากพวกเขา. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/08/how-a-cat-named-kitkat-became-san-francisco039s-latest-symbol-of-anti-tech-rage
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 513 มุมมอง 0 รีวิว
  • Chewy ครองแชมป์ร้านค้าออนไลน์ที่ลูกค้าพึงพอใจที่สุดในสหรัฐฯ ปี 2025 แซงหน้า Amazon และ eBay

    จากการจัดอันดับของ American Customer Satisfaction Index (ACSI) ประจำปี 2025 Chewy ได้รับคะแนนสูงสุดด้านความพึงพอใจของลูกค้าในหมวดร้านค้าออนไลน์ ด้วยคะแนน 85 แซงหน้า Amazon (83) และ eBay (81) อย่างน่าประทับใจ

    แม้ Amazon จะครองส่วนแบ่งตลาดอีคอมเมิร์ซในแง่ยอดขาย แต่เมื่อพูดถึง “ความพึงพอใจของลูกค้า” กลับเป็น Chewy ที่คว้าอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่สาม

    ACSI ซึ่งเป็นองค์กรวัดความพึงพอใจระดับประเทศในสหรัฐฯ ใช้แบบสอบถามวิเคราะห์ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่:
    คุณภาพและความน่าเชื่อถือของแอปหรือเว็บไซต์
    ความง่ายในการใช้งานและขั้นตอนชำระเงิน
    ความพร้อมของสินค้าและตัวเลือกการจัดส่ง

    Chewy ได้คะแนนสูงสุดในทุกหมวด โดยเฉพาะด้าน “ประสบการณ์ลูกค้า” เช่น การส่งอีการ์ดวันเกิดให้สัตว์เลี้ยงของลูกค้า หรือการให้บริการแชทสดที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว

    ผู้เชี่ยวชาญมองว่า “ความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ” คือสิ่งที่ทำให้ Chewy แตกต่างจากคู่แข่ง แม้จะไม่มีร้านค้าจริง แต่ก็สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าได้

    ผลการจัดอันดับ ACSI ปี 2025
    Chewy ได้คะแนน 85 (เพิ่มขึ้นจาก 84 ในปี 2024)
    Amazon ได้ 83
    eBay ได้ 81

    ปัจจัยที่ทำให้ Chewy ได้คะแนนสูง
    แอปและเว็บไซต์ใช้งานง่าย
    การจัดส่งรวดเร็วและแม่นยำ
    การบริการลูกค้าแบบ “มีหัวใจ” เช่น ส่งอีการ์ดวันเกิดให้สัตว์เลี้ยง
    คำอธิบายสินค้าและภาพประกอบชัดเจน

    บริบทของตลาดอีคอมเมิร์ซ
    ปี 2024 ยอดขายกว่า 81% ยังมาจากร้านค้าจริง แต่ลดลงจาก 92% เมื่อ 10 ปีก่อน
    คาดว่าอีคอมเมิร์ซจะครอง 27% ของยอดขายค้าปลีกทั้งหมดภายในปี 2027
    ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความสะดวก ความหลากหลาย และราคาที่คุ้มค่า

    https://www.slashgear.com/2008353/best-online-retailer-why-chewy-ranked-number-one/
    🏆🐾 Chewy ครองแชมป์ร้านค้าออนไลน์ที่ลูกค้าพึงพอใจที่สุดในสหรัฐฯ ปี 2025 แซงหน้า Amazon และ eBay จากการจัดอันดับของ American Customer Satisfaction Index (ACSI) ประจำปี 2025 Chewy ได้รับคะแนนสูงสุดด้านความพึงพอใจของลูกค้าในหมวดร้านค้าออนไลน์ ด้วยคะแนน 85 แซงหน้า Amazon (83) และ eBay (81) อย่างน่าประทับใจ แม้ Amazon จะครองส่วนแบ่งตลาดอีคอมเมิร์ซในแง่ยอดขาย แต่เมื่อพูดถึง “ความพึงพอใจของลูกค้า” กลับเป็น Chewy ที่คว้าอันดับหนึ่งติดต่อกันเป็นปีที่สาม ACSI ซึ่งเป็นองค์กรวัดความพึงพอใจระดับประเทศในสหรัฐฯ ใช้แบบสอบถามวิเคราะห์ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่: 🎗️ คุณภาพและความน่าเชื่อถือของแอปหรือเว็บไซต์ 🎗️ ความง่ายในการใช้งานและขั้นตอนชำระเงิน 🎗️ ความพร้อมของสินค้าและตัวเลือกการจัดส่ง Chewy ได้คะแนนสูงสุดในทุกหมวด โดยเฉพาะด้าน “ประสบการณ์ลูกค้า” เช่น การส่งอีการ์ดวันเกิดให้สัตว์เลี้ยงของลูกค้า หรือการให้บริการแชทสดที่ตอบสนองอย่างรวดเร็ว ผู้เชี่ยวชาญมองว่า “ความใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ” คือสิ่งที่ทำให้ Chewy แตกต่างจากคู่แข่ง แม้จะไม่มีร้านค้าจริง แต่ก็สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้าได้ ✅ ผลการจัดอันดับ ACSI ปี 2025 ➡️ Chewy ได้คะแนน 85 (เพิ่มขึ้นจาก 84 ในปี 2024) ➡️ Amazon ได้ 83 ➡️ eBay ได้ 81 ✅ ปัจจัยที่ทำให้ Chewy ได้คะแนนสูง ➡️ แอปและเว็บไซต์ใช้งานง่าย ➡️ การจัดส่งรวดเร็วและแม่นยำ ➡️ การบริการลูกค้าแบบ “มีหัวใจ” เช่น ส่งอีการ์ดวันเกิดให้สัตว์เลี้ยง ➡️ คำอธิบายสินค้าและภาพประกอบชัดเจน ✅ บริบทของตลาดอีคอมเมิร์ซ ➡️ ปี 2024 ยอดขายกว่า 81% ยังมาจากร้านค้าจริง แต่ลดลงจาก 92% เมื่อ 10 ปีก่อน ➡️ คาดว่าอีคอมเมิร์ซจะครอง 27% ของยอดขายค้าปลีกทั้งหมดภายในปี 2027 ➡️ ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความสะดวก ความหลากหลาย และราคาที่คุ้มค่า https://www.slashgear.com/2008353/best-online-retailer-why-chewy-ranked-number-one/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Is Considered The Best Online Retailer In Terms Of Customer Satisfaction - SlashGear
    Chewy takes the crown as the most satisfying online retailer, scoring higher than Amazon and eBay in the latest American Customer Satisfaction Index.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปล่อยให้ธรรมชาติฟื้นตัวเอง – กลยุทธ์เรียบง่ายจากดาวเทียมเพื่อสู้โลกร้อน

    ลองจินตนาการว่าพื้นที่ป่าที่เคยถูกตัดไม้ทำลายไป กลับกลายเป็นความหวังใหม่ในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน ไม่ใช่ด้วยการปลูกต้นไม้ใหม่ แต่ด้วยการ “ปล่อยให้ธรรมชาติทำงานของมันเอง”

    นักวิจัยจากวารสาร Nature ใช้ข้อมูลจากดาวเทียมระหว่างปี 2000–2016 เพื่อศึกษาการฟื้นตัวของป่าฝนเขตร้อน พบว่ามีพื้นที่จำนวนมหาศาลทั่วโลกที่สามารถกลับมาเป็นป่าได้โดยใช้การจัดการเพียงเล็กน้อย เช่น ป้องกันไฟป่า กำจัดพืชรุกราน และห้ามสัตว์เลี้ยงเข้าไปในพื้นที่

    ข้อมูลจากดาวเทียมละเอียดถึงระดับ 30 ตารางเมตรต่อจุด ทำให้สามารถสร้างแผนที่แสดงพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการฟื้นฟูได้อย่างแม่นยำ โดยกว่า 50% ของพื้นที่ที่มีศักยภาพอยู่ใน 5 ประเทศ ได้แก่ บราซิล จีน โคลอมเบีย อินโดนีเซีย และเม็กซิโก

    การปล่อยให้ป่าฟื้นตัวเองมีข้อดีคือใช้งบประมาณน้อยกว่าการปลูกใหม่ และยังส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพมากกว่า เพราะไม่ต้องเลือกปลูกเฉพาะพันธุ์ไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ

    แม้จะดูเรียบง่าย แต่กลยุทธ์นี้อาจเป็นกุญแจสำคัญในการลดคาร์บอนในบรรยากาศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในประเทศที่มีงบประมาณด้านสิ่งแวดล้อมจำกัด

    การฟื้นตัวของป่าฝนเขตร้อน
    ใช้ข้อมูลดาวเทียมระหว่างปี 2000–2016
    พบว่าป่าฟื้นตัวเองได้ดีหากมีการจัดการเล็กน้อย
    เช่น ป้องกันไฟป่า กำจัดพืชรุกราน และห้ามสัตว์เลี้ยงเข้าไป

    พื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในการฟื้นฟู
    กว่า 50% อยู่ใน 5 ประเทศ: บราซิล จีน โคลอมเบีย อินโดนีเซีย เม็กซิโก
    ข้อมูลจากดาวเทียมละเอียดถึง 30 ตารางเมตรต่อจุด
    ช่วยสร้างแผนที่ฟื้นฟูที่แม่นยำกว่าการศึกษาก่อนหน้า

    ข้อดีของการปล่อยให้ธรรมชาติฟื้นตัวเอง
    ใช้งบประมาณน้อยกว่าการปลูกใหม่
    ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ
    ลดโอกาสที่ป่าจะถูกตัดอีกในอนาคต

    ความท้าทายในการฟื้นฟูธรรมชาติ
    ต้องมีการจัดการเบื้องต้นเพื่อให้ป่าฟื้นตัวได้เต็มที่
    เช่น การควบคุมไฟป่าและสัตว์เลี้ยง
    หากไม่มีการสนับสนุนจากรัฐหรือองค์กร อาจไม่เกิดผลในระยะยาว

    https://www.slashgear.com/2003428/satellite-imaging-forest-regrowth-global-warming/
    🌳 ปล่อยให้ธรรมชาติฟื้นตัวเอง – กลยุทธ์เรียบง่ายจากดาวเทียมเพื่อสู้โลกร้อน ลองจินตนาการว่าพื้นที่ป่าที่เคยถูกตัดไม้ทำลายไป กลับกลายเป็นความหวังใหม่ในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน ไม่ใช่ด้วยการปลูกต้นไม้ใหม่ แต่ด้วยการ “ปล่อยให้ธรรมชาติทำงานของมันเอง” นักวิจัยจากวารสาร Nature ใช้ข้อมูลจากดาวเทียมระหว่างปี 2000–2016 เพื่อศึกษาการฟื้นตัวของป่าฝนเขตร้อน พบว่ามีพื้นที่จำนวนมหาศาลทั่วโลกที่สามารถกลับมาเป็นป่าได้โดยใช้การจัดการเพียงเล็กน้อย เช่น ป้องกันไฟป่า กำจัดพืชรุกราน และห้ามสัตว์เลี้ยงเข้าไปในพื้นที่ ข้อมูลจากดาวเทียมละเอียดถึงระดับ 30 ตารางเมตรต่อจุด ทำให้สามารถสร้างแผนที่แสดงพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการฟื้นฟูได้อย่างแม่นยำ โดยกว่า 50% ของพื้นที่ที่มีศักยภาพอยู่ใน 5 ประเทศ ได้แก่ บราซิล จีน โคลอมเบีย อินโดนีเซีย และเม็กซิโก การปล่อยให้ป่าฟื้นตัวเองมีข้อดีคือใช้งบประมาณน้อยกว่าการปลูกใหม่ และยังส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพมากกว่า เพราะไม่ต้องเลือกปลูกเฉพาะพันธุ์ไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ แม้จะดูเรียบง่าย แต่กลยุทธ์นี้อาจเป็นกุญแจสำคัญในการลดคาร์บอนในบรรยากาศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในประเทศที่มีงบประมาณด้านสิ่งแวดล้อมจำกัด ✅ การฟื้นตัวของป่าฝนเขตร้อน ➡️ ใช้ข้อมูลดาวเทียมระหว่างปี 2000–2016 ➡️ พบว่าป่าฟื้นตัวเองได้ดีหากมีการจัดการเล็กน้อย ➡️ เช่น ป้องกันไฟป่า กำจัดพืชรุกราน และห้ามสัตว์เลี้ยงเข้าไป ✅ พื้นที่ที่มีศักยภาพสูงในการฟื้นฟู ➡️ กว่า 50% อยู่ใน 5 ประเทศ: บราซิล จีน โคลอมเบีย อินโดนีเซีย เม็กซิโก ➡️ ข้อมูลจากดาวเทียมละเอียดถึง 30 ตารางเมตรต่อจุด ➡️ ช่วยสร้างแผนที่ฟื้นฟูที่แม่นยำกว่าการศึกษาก่อนหน้า ✅ ข้อดีของการปล่อยให้ธรรมชาติฟื้นตัวเอง ➡️ ใช้งบประมาณน้อยกว่าการปลูกใหม่ ➡️ ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ ➡️ ลดโอกาสที่ป่าจะถูกตัดอีกในอนาคต ‼️ ความท้าทายในการฟื้นฟูธรรมชาติ ⛔ ต้องมีการจัดการเบื้องต้นเพื่อให้ป่าฟื้นตัวได้เต็มที่ ⛔ เช่น การควบคุมไฟป่าและสัตว์เลี้ยง ⛔ หากไม่มีการสนับสนุนจากรัฐหรือองค์กร อาจไม่เกิดผลในระยะยาว https://www.slashgear.com/2003428/satellite-imaging-forest-regrowth-global-warming/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Satellites Discovered A Surprisingly Simple Strategy To Combat Climate Change - SlashGear
    By tracking forest regrowth from space, scientists found that letting nature reforest itself could capture carbon cheaply and effectively across the tropics.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • TerraMaster เปิดตัว NAS รุ่นใหม่ F2-425 Plus และ F4-425 Plus: แรง เร็ว พร้อม AI ในบ้านคุณ

    TerraMaster ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเครือข่าย (NAS) ได้เปิดตัวสองรุ่นใหม่ล่าสุดคือ F2-425 Plus และ F4-425 Plus ที่มาพร้อมกับขุมพลัง Intel N150 และดีไซน์ hybrid storage ที่ผสาน SSD M.2 กับ HDD ในเครื่องเดียว เหมาะสำหรับทั้งผู้ใช้ตามบ้านและธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการระบบสำรองข้อมูลระดับองค์กรและการสตรีมมีเดียที่ลื่นไหล

    ทั้งสองรุ่นใช้โปรเซสเซอร์ Intel N150 แบบ quad-core ความเร็วสูงสุด 3.6 GHz พร้อมพอร์ต 5GbE สองช่องที่ให้ความเร็วในการส่งข้อมูลสูงถึง 1010 MB/s และมีสล็อต M.2 ถึง 3 ช่อง รองรับ SSD ขนาดสูงสุด 8 TB ต่อช่อง

    F2-425 Plus มาพร้อมดีไซน์ 3+2 bay (3 M.2 + 2 HDD) และ RAM DDR5 ขนาด 8 GB รองรับพื้นที่จัดเก็บสูงสุด 84 TB เหมาะสำหรับผู้ใช้ตามบ้านหรือออฟฟิศขนาดเล็ก ส่วน F4-425 Plus ขยายขีดความสามารถด้วยดีไซน์ 3+4 bay, RAM 16 GB และรองรับพื้นที่จัดเก็บสูงสุดถึง 144 TB เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับ power user และครีเอเตอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    ทั้งสองรุ่นใช้ระบบปฏิบัติการ TOS 6 พร้อมฟีเจอร์ AI photo management ที่สามารถจดจำใบหน้า สัตว์เลี้ยง และฉากต่างๆ ได้ รวมถึงระบบสำรองข้อมูล BBS ที่ให้ความปลอดภัยระดับองค์กร

    สเปกหลักของ F2-425 Plus และ F4-425 Plus
    ใช้ Intel N150 quad-core (สูงสุด 3.6 GHz)
    มีพอร์ต 5GbE สองช่อง ความเร็วสูงสุด 1010 MB/s
    มีสล็อต M.2 จำนวน 3 ช่อง รองรับ SSD สูงสุด 8 TB ต่อช่อง

    ความแตกต่างระหว่างสองรุ่น
    F2-425 Plus: 3+2 bay, RAM 8 GB, รองรับพื้นที่จัดเก็บสูงสุด 84 TB
    F4-425 Plus: 3+4 bay, RAM 16 GB, รองรับพื้นที่จัดเก็บสูงสุด 144 TB

    ฟีเจอร์เด่น
    ใช้ระบบปฏิบัติการ TOS 6
    มีระบบ AI photo management สำหรับจดจำใบหน้าและสัตว์เลี้ยง
    ระบบสำรองข้อมูล BBS ระดับองค์กร
    รองรับการถอดเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์แบบ hot-swap
    รองรับการถอดรหัสวิดีโอ 4K และ 8K

    การเชื่อมต่อและพอร์ต
    USB 3.2 Gen 2 จำนวน 2 ช่อง (10 Gbps)
    HDMI 2.0 รองรับ 4K @ 60 Hz
    น้ำหนัก: F2-425 Plus – 2.2 กก. | F4-425 Plus – 2.9 กก.

    โปรโมชั่นเปิดตัว
    ลดราคา 15% ถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2025
    รับประกันทั่วโลก 2 ปี พร้อมบริการซัพพอร์ตตลอดชีพ
    วางจำหน่ายผ่านร้านค้า TerraMaster, Amazon และ AliExpress

    https://news.itsfoss.com/terramaster-f4-425-plus-launch/
    🗄️ TerraMaster เปิดตัว NAS รุ่นใหม่ F2-425 Plus และ F4-425 Plus: แรง เร็ว พร้อม AI ในบ้านคุณ TerraMaster ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเครือข่าย (NAS) ได้เปิดตัวสองรุ่นใหม่ล่าสุดคือ F2-425 Plus และ F4-425 Plus ที่มาพร้อมกับขุมพลัง Intel N150 และดีไซน์ hybrid storage ที่ผสาน SSD M.2 กับ HDD ในเครื่องเดียว เหมาะสำหรับทั้งผู้ใช้ตามบ้านและธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการระบบสำรองข้อมูลระดับองค์กรและการสตรีมมีเดียที่ลื่นไหล ทั้งสองรุ่นใช้โปรเซสเซอร์ Intel N150 แบบ quad-core ความเร็วสูงสุด 3.6 GHz พร้อมพอร์ต 5GbE สองช่องที่ให้ความเร็วในการส่งข้อมูลสูงถึง 1010 MB/s และมีสล็อต M.2 ถึง 3 ช่อง รองรับ SSD ขนาดสูงสุด 8 TB ต่อช่อง F2-425 Plus มาพร้อมดีไซน์ 3+2 bay (3 M.2 + 2 HDD) และ RAM DDR5 ขนาด 8 GB รองรับพื้นที่จัดเก็บสูงสุด 84 TB เหมาะสำหรับผู้ใช้ตามบ้านหรือออฟฟิศขนาดเล็ก ส่วน F4-425 Plus ขยายขีดความสามารถด้วยดีไซน์ 3+4 bay, RAM 16 GB และรองรับพื้นที่จัดเก็บสูงสุดถึง 144 TB เหมาะสำหรับผู้ใช้ระดับ power user และครีเอเตอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ทั้งสองรุ่นใช้ระบบปฏิบัติการ TOS 6 พร้อมฟีเจอร์ AI photo management ที่สามารถจดจำใบหน้า สัตว์เลี้ยง และฉากต่างๆ ได้ รวมถึงระบบสำรองข้อมูล BBS ที่ให้ความปลอดภัยระดับองค์กร ✅ สเปกหลักของ F2-425 Plus และ F4-425 Plus ➡️ ใช้ Intel N150 quad-core (สูงสุด 3.6 GHz) ➡️ มีพอร์ต 5GbE สองช่อง ความเร็วสูงสุด 1010 MB/s ➡️ มีสล็อต M.2 จำนวน 3 ช่อง รองรับ SSD สูงสุด 8 TB ต่อช่อง ✅ ความแตกต่างระหว่างสองรุ่น ➡️ F2-425 Plus: 3+2 bay, RAM 8 GB, รองรับพื้นที่จัดเก็บสูงสุด 84 TB ➡️ F4-425 Plus: 3+4 bay, RAM 16 GB, รองรับพื้นที่จัดเก็บสูงสุด 144 TB ✅ ฟีเจอร์เด่น ➡️ ใช้ระบบปฏิบัติการ TOS 6 ➡️ มีระบบ AI photo management สำหรับจดจำใบหน้าและสัตว์เลี้ยง ➡️ ระบบสำรองข้อมูล BBS ระดับองค์กร ➡️ รองรับการถอดเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์แบบ hot-swap ➡️ รองรับการถอดรหัสวิดีโอ 4K และ 8K ✅ การเชื่อมต่อและพอร์ต ➡️ USB 3.2 Gen 2 จำนวน 2 ช่อง (10 Gbps) ➡️ HDMI 2.0 รองรับ 4K @ 60 Hz ➡️ น้ำหนัก: F2-425 Plus – 2.2 กก. | F4-425 Plus – 2.9 กก. ✅ โปรโมชั่นเปิดตัว ➡️ ลดราคา 15% ถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2025 ➡️ รับประกันทั่วโลก 2 ปี พร้อมบริการซัพพอร์ตตลอดชีพ ➡️ วางจำหน่ายผ่านร้านค้า TerraMaster, Amazon และ AliExpress https://news.itsfoss.com/terramaster-f4-425-plus-launch/
    NEWS.ITSFOSS.COM
    TerraMaster Launches F2-425 Plus and F4-425 Plus NAS with Intel N150 and Triple M.2 Slots
    New hybrid NAS series brings enterprise-grade backup and media streaming to home users and small businesses.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • “XTU J9 Plus กล้องกริ่งไร้สายสุดคุ้ม — ปลอดค่ารายเดือน พร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม”

    XTU เปิดตัวกล้องกริ่งไร้สายรุ่น J9 Plus พร้อมระบบ Chime ที่มาพร้อมสโลแกน “Smarter Security, Zero Fees” โดยเน้นจุดขายคือการใช้งานแบบไม่มีค่าบริการรายเดือน ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์ใหญ่ที่มักล็อกฟีเจอร์สำคัญไว้หลัง paywall

    กล้องรุ่นนี้รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ local storage สูงสุด 128GB และมี cloud storage แบบจำกัด 6 วินาที โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกใด ๆ ทั้งสิ้น

    ด้านฟีเจอร์ กล้องมาพร้อม:

    มุมมองกว้าง 180 องศาแบบ head-to-toe
    ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบตั้งค่าโซนได้ ลด false alert จากสัตว์เลี้ยง
    วิดีโอความละเอียด 2K พร้อม night vision
    ระบบเสียงสองทางและ quick response ด้วยข้อความ preset
    กันน้ำระดับ IP66 ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย
    ใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จได้ ไม่ต้องเดินสายไฟ
    รองรับ Google Assistant และ Alexa

    XTU J9 Plus วางจำหน่ายผ่าน Amazon ในราคาพิเศษ $49.99 (ลดจาก $69.99) ตั้งแต่วันที่ 16–29 ตุลาคม 2025 พร้อมจัดส่งฟรี

    XTU J9 Plus เป็นกล้องกริ่งไร้สายพร้อมระบบ Chime
    ใช้งานได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าบริการรายเดือน

    รองรับ local storage สูงสุด 128GB และ cloud storage 6 วินาที
    ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

    มุมมองกว้าง 180 องศาแบบเต็มตัว
    เห็นทั้งคนและพัสดุที่วางหน้าประตู

    ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบตั้งค่าโซน
    ลดการแจ้งเตือนผิดพลาดจากสัตว์หรือสิ่งรบกวน

    วิดีโอความละเอียด 2K พร้อม night vision
    มองเห็นชัดแม้ในเวลากลางคืน

    ระบบเสียงสองทางและ quick response
    สื่อสารกับผู้มาเยือนได้ทันที

    กันน้ำระดับ IP66 และใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จได้
    ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินสายไฟ

    รองรับ Google Assistant และ Alexa
    เชื่อมต่อกับระบบบ้านอัจฉริยะได้ทันที

    วางจำหน่ายในราคา $49.99 บน Amazon
    โปรโมชั่นถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2025

    Cloud storage มีความจุจำกัดเพียง 6 วินาที
    อาจไม่เพียงพอสำหรับการเก็บหลักฐานในเหตุการณ์สำคัญ

    ต้องใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จใหม่
    หากลืมชาร์จอาจทำให้กล้องหยุดทำงานชั่วคราว

    การตั้งค่าโซนตรวจจับต้องปรับให้เหมาะกับบ้านแต่ละหลัง
    หากตั้งไม่ดีอาจยังมี false alert อยู่

    ไม่รองรับการบันทึกต่อเนื่องแบบ cloud เหมือนบางแบรนด์
    ผู้ใช้ที่ต้องการระบบ cloud เต็มรูปแบบอาจไม่เหมาะ

    https://www.slashgear.com/sponsored/1999695/xtu-doorbell-camera-zero-fees-smarter-security/
    🔔 “XTU J9 Plus กล้องกริ่งไร้สายสุดคุ้ม — ปลอดค่ารายเดือน พร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม” XTU เปิดตัวกล้องกริ่งไร้สายรุ่น J9 Plus พร้อมระบบ Chime ที่มาพร้อมสโลแกน “Smarter Security, Zero Fees” โดยเน้นจุดขายคือการใช้งานแบบไม่มีค่าบริการรายเดือน ซึ่งแตกต่างจากแบรนด์ใหญ่ที่มักล็อกฟีเจอร์สำคัญไว้หลัง paywall กล้องรุ่นนี้รองรับการบันทึกวิดีโอแบบ local storage สูงสุด 128GB และมี cloud storage แบบจำกัด 6 วินาที โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกใด ๆ ทั้งสิ้น ด้านฟีเจอร์ กล้องมาพร้อม: 🔔 มุมมองกว้าง 180 องศาแบบ head-to-toe 🔔 ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบตั้งค่าโซนได้ ลด false alert จากสัตว์เลี้ยง 🔔 วิดีโอความละเอียด 2K พร้อม night vision 🔔 ระบบเสียงสองทางและ quick response ด้วยข้อความ preset 🔔 กันน้ำระดับ IP66 ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย 🔔 ใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จได้ ไม่ต้องเดินสายไฟ 🔔 รองรับ Google Assistant และ Alexa XTU J9 Plus วางจำหน่ายผ่าน Amazon ในราคาพิเศษ $49.99 (ลดจาก $69.99) ตั้งแต่วันที่ 16–29 ตุลาคม 2025 พร้อมจัดส่งฟรี ✅ XTU J9 Plus เป็นกล้องกริ่งไร้สายพร้อมระบบ Chime ➡️ ใช้งานได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าบริการรายเดือน ✅ รองรับ local storage สูงสุด 128GB และ cloud storage 6 วินาที ➡️ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ✅ มุมมองกว้าง 180 องศาแบบเต็มตัว ➡️ เห็นทั้งคนและพัสดุที่วางหน้าประตู ✅ ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบตั้งค่าโซน ➡️ ลดการแจ้งเตือนผิดพลาดจากสัตว์หรือสิ่งรบกวน ✅ วิดีโอความละเอียด 2K พร้อม night vision ➡️ มองเห็นชัดแม้ในเวลากลางคืน ✅ ระบบเสียงสองทางและ quick response ➡️ สื่อสารกับผู้มาเยือนได้ทันที ✅ กันน้ำระดับ IP66 และใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จได้ ➡️ ติดตั้งง่าย ไม่ต้องเดินสายไฟ ✅ รองรับ Google Assistant และ Alexa ➡️ เชื่อมต่อกับระบบบ้านอัจฉริยะได้ทันที ✅ วางจำหน่ายในราคา $49.99 บน Amazon ➡️ โปรโมชั่นถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2025 ‼️ Cloud storage มีความจุจำกัดเพียง 6 วินาที ⛔ อาจไม่เพียงพอสำหรับการเก็บหลักฐานในเหตุการณ์สำคัญ ‼️ ต้องใช้แบตเตอรี่แบบชาร์จใหม่ ⛔ หากลืมชาร์จอาจทำให้กล้องหยุดทำงานชั่วคราว ‼️ การตั้งค่าโซนตรวจจับต้องปรับให้เหมาะกับบ้านแต่ละหลัง ⛔ หากตั้งไม่ดีอาจยังมี false alert อยู่ ‼️ ไม่รองรับการบันทึกต่อเนื่องแบบ cloud เหมือนบางแบรนด์ ⛔ ผู้ใช้ที่ต้องการระบบ cloud เต็มรูปแบบอาจไม่เหมาะ https://www.slashgear.com/sponsored/1999695/xtu-doorbell-camera-zero-fees-smarter-security/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Discover Smarter Security And Zero Fees With This Video Doorbell Camera - SlashGear
    If you've been shopping around for a wireless video doorbell with no strings or fees attached, look no further than the XTU J9 Plus with a full view and chime.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ความเหงาไม่ใช่แค่ความรู้สึก — แต่มันคือโรคเรื้อรังที่เปลี่ยนยีน ทำลายภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความเสี่ยงตายเทียบเท่าการสูบบุหรี่”

    ในบทความล่าสุดโดย Faruk Alpay นักวิจัยด้านข้อมูลและสุขภาพ ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ “โรคระบาดแห่งความเหงา” ที่กำลังคุกคามสุขภาพมนุษย์ทั่วโลก โดยมีหลักฐานทางชีววิทยาชัดเจนว่า ความเหงาเรื้อรังเพิ่มความเสี่ยงการเสียชีวิตถึง 32% และเพิ่มโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมถึง 31% ผ่านกลไกทางร่างกายที่คล้ายกับโรคเรื้อรัง เช่น การอักเสบเรื้อรัง, ความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน, และการเปลี่ยนแปลงระดับยีน (epigenetic)

    การศึกษากว่า 90 งานวิจัยที่ครอบคลุมประชากรกว่า 2.2 ล้านคน พบว่าความเหงาทำให้ร่างกายผลิตโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคทางระบบประสาท โดยเฉพาะ GDF15 และ PCSK9 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับความโดดเดี่ยวทางสังคมอย่างมีนัยสำคัญ

    นอกจากนี้ ความเหงายังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ โดยร่างกายจะผลิตฮอร์โมนความเครียดแบบไม่สมดุล เกิดภาวะดื้อคอร์ติซอล และกระตุ้นยีนที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ขณะเดียวกันก็ลดการตอบสนองต่อไวรัส ทำให้ผู้ที่เหงาเรื้อรังมีโอกาสติดเชื้อและเจ็บป่วยมากขึ้น

    แต่ข่าวดีคือ เรารู้วิธีรักษาแล้ว — โปรแกรมฝึกสติแบบ 8 สัปดาห์สามารถลดความเหงาได้ถึง 22%, โปรแกรมชุมชนในบาร์เซโลนาใช้กิจกรรมกลุ่มและโยคะลดความเหงาได้เกือบครึ่งใน 6 เดือน และการใช้สัตว์เลี้ยง (จริงหรือหุ่นยนต์) กับผู้สูงอายุให้ผลลัพธ์ดีถึง 100% ในการลดความรู้สึกโดดเดี่ยว

    แม้ความเหงาจะเป็นภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่การยอมรับมันอย่างไม่ตัดสิน และการสร้างความเชื่อมโยงใหม่ ๆ ผ่านกิจกรรมง่าย ๆ เช่น การทักทายเพื่อนบ้าน หรือการเข้าร่วมกลุ่มอาสา ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสุขภาพกายและใจได้อย่างแท้จริง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ความเหงาเรื้อรังเพิ่มความเสี่ยงการเสียชีวิต 32% และโรคสมองเสื่อม 31%
    มีการเปลี่ยนแปลงระดับโปรตีนในร่างกาย เช่น GDF15 และ PCSK9 ที่เชื่อมโยงกับโรคเรื้อรัง
    ความเหงาทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและภูมิคุ้มกันผิดปกติ
    ระบบฮอร์โมนเครียด (HPA axis) ทำงานผิดปกติ เกิดภาวะดื้อคอร์ติซอล
    ความเหงาเร่งอายุชีวภาพผ่านการเปลี่ยนแปลง epigenetic เช่น DNA methylation
    โปรแกรมฝึกสติ 14 วันลดความเหงาได้ 22% และเพิ่มการเข้าสังคมเฉลี่ย 2 ครั้งต่อวัน
    โปรแกรมชุมชนในบาร์เซโลนา ลดความเหงาได้ 48.3% ภายใน 18 สัปดาห์
    การใช้สัตว์เลี้ยงหรือหุ่นยนต์ช่วยลดความเหงาในผู้สูงอายุได้ 100%
    การยอมรับความเหงาโดยไม่ตัดสิน (Monitor + Accept) มีผลดีกว่าการพยายาม “ต่อสู้” กับมัน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    WHO ระบุว่าความเหงาเป็นภัยต่อสุขภาพเทียบเท่าการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน
    ความเหงาทำให้เกิดโรคหัวใจ, เบาหวาน, ซึมเศร้า และลดอายุขัยอย่างมีนัยสำคัญ
    การเชื่อมโยงทางสังคมช่วยลดการอักเสบและเพิ่มภูมิคุ้มกันในระยะยาว
    โปรแกรม “social prescribing” ในอังกฤษช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้ถึง £3.42 ต่อ £1 ที่ลงทุน
    ความเหงาส่งผลต่อเศรษฐกิจ เช่น ลดประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ

    https://lightcapai.medium.com/the-loneliness-epidemic-threatens-physical-health-like-smoking-e063220dde8b
    🧬 “ความเหงาไม่ใช่แค่ความรู้สึก — แต่มันคือโรคเรื้อรังที่เปลี่ยนยีน ทำลายภูมิคุ้มกัน และเพิ่มความเสี่ยงตายเทียบเท่าการสูบบุหรี่” ในบทความล่าสุดโดย Faruk Alpay นักวิจัยด้านข้อมูลและสุขภาพ ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ “โรคระบาดแห่งความเหงา” ที่กำลังคุกคามสุขภาพมนุษย์ทั่วโลก โดยมีหลักฐานทางชีววิทยาชัดเจนว่า ความเหงาเรื้อรังเพิ่มความเสี่ยงการเสียชีวิตถึง 32% และเพิ่มโอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมถึง 31% ผ่านกลไกทางร่างกายที่คล้ายกับโรคเรื้อรัง เช่น การอักเสบเรื้อรัง, ความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน, และการเปลี่ยนแปลงระดับยีน (epigenetic) การศึกษากว่า 90 งานวิจัยที่ครอบคลุมประชากรกว่า 2.2 ล้านคน พบว่าความเหงาทำให้ร่างกายผลิตโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ เบาหวาน และโรคทางระบบประสาท โดยเฉพาะ GDF15 และ PCSK9 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับความโดดเดี่ยวทางสังคมอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ความเหงายังทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ โดยร่างกายจะผลิตฮอร์โมนความเครียดแบบไม่สมดุล เกิดภาวะดื้อคอร์ติซอล และกระตุ้นยีนที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ขณะเดียวกันก็ลดการตอบสนองต่อไวรัส ทำให้ผู้ที่เหงาเรื้อรังมีโอกาสติดเชื้อและเจ็บป่วยมากขึ้น แต่ข่าวดีคือ เรารู้วิธีรักษาแล้ว — โปรแกรมฝึกสติแบบ 8 สัปดาห์สามารถลดความเหงาได้ถึง 22%, โปรแกรมชุมชนในบาร์เซโลนาใช้กิจกรรมกลุ่มและโยคะลดความเหงาได้เกือบครึ่งใน 6 เดือน และการใช้สัตว์เลี้ยง (จริงหรือหุ่นยนต์) กับผู้สูงอายุให้ผลลัพธ์ดีถึง 100% ในการลดความรู้สึกโดดเดี่ยว แม้ความเหงาจะเป็นภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่การยอมรับมันอย่างไม่ตัดสิน และการสร้างความเชื่อมโยงใหม่ ๆ ผ่านกิจกรรมง่าย ๆ เช่น การทักทายเพื่อนบ้าน หรือการเข้าร่วมกลุ่มอาสา ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสุขภาพกายและใจได้อย่างแท้จริง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ความเหงาเรื้อรังเพิ่มความเสี่ยงการเสียชีวิต 32% และโรคสมองเสื่อม 31% ➡️ มีการเปลี่ยนแปลงระดับโปรตีนในร่างกาย เช่น GDF15 และ PCSK9 ที่เชื่อมโยงกับโรคเรื้อรัง ➡️ ความเหงาทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและภูมิคุ้มกันผิดปกติ ➡️ ระบบฮอร์โมนเครียด (HPA axis) ทำงานผิดปกติ เกิดภาวะดื้อคอร์ติซอล ➡️ ความเหงาเร่งอายุชีวภาพผ่านการเปลี่ยนแปลง epigenetic เช่น DNA methylation ➡️ โปรแกรมฝึกสติ 14 วันลดความเหงาได้ 22% และเพิ่มการเข้าสังคมเฉลี่ย 2 ครั้งต่อวัน ➡️ โปรแกรมชุมชนในบาร์เซโลนา ลดความเหงาได้ 48.3% ภายใน 18 สัปดาห์ ➡️ การใช้สัตว์เลี้ยงหรือหุ่นยนต์ช่วยลดความเหงาในผู้สูงอายุได้ 100% ➡️ การยอมรับความเหงาโดยไม่ตัดสิน (Monitor + Accept) มีผลดีกว่าการพยายาม “ต่อสู้” กับมัน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ WHO ระบุว่าความเหงาเป็นภัยต่อสุขภาพเทียบเท่าการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน ➡️ ความเหงาทำให้เกิดโรคหัวใจ, เบาหวาน, ซึมเศร้า และลดอายุขัยอย่างมีนัยสำคัญ ➡️ การเชื่อมโยงทางสังคมช่วยลดการอักเสบและเพิ่มภูมิคุ้มกันในระยะยาว ➡️ โปรแกรม “social prescribing” ในอังกฤษช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้ถึง £3.42 ต่อ £1 ที่ลงทุน ➡️ ความเหงาส่งผลต่อเศรษฐกิจ เช่น ลดประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ https://lightcapai.medium.com/the-loneliness-epidemic-threatens-physical-health-like-smoking-e063220dde8b
    LIGHTCAPAI.MEDIUM.COM
    The loneliness epidemic threatens physical health like smoking
    Loneliness increases death risk by 32% but we know how to fix it. Real solutions that cut loneliness in half, from mindfulness to community…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 629 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทดลองบดโครงไก่ รู 8 มม. บดได้ทั้งโครง!
    เร็ว แรง ใช้งานง่าย — เครื่องบดอาหาร #32 แบบตั้งพื้น

    ตัวเครื่องสแตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน
    ใช้ได้หลากหลาย: บดหมู บดเนื้อ บดพริก บดกระเทียม บดโครงไก่ บดพริกแกง ฯลฯ
    เปลี่ยนหน้าแว่น/รังผึ้ง ปรับระดับความละเอียดได้ตามต้องการ
    ปลอดภัย ได้มาตรฐาน พร้อม รับประกัน 1 ปีเต็ม

    สเปกสินค้า
    มอเตอร์ 3 แรงม้า
    กำลังไฟฟ้า 220 โวลต์
    ผลิตได้ 200–300 กก./ชม.
    ระบบเดินหน้า–ถอยหลัง

    แวะชมสินค้าที่ร้าน ย่งฮะเฮง ได้เลย
    จ.–ศ. 8.00–17.00 น. | ส. 8.00–16.00 น.
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    ☎ สอบถาม / สั่งซื้อ
    m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng

    02-215-3515-9 | 081-318-9098
    www.yoryonghahheng.com

    sales@yoryonghahheng.com
    | yonghahheng@gmail.com

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY
    เครื่องบด–ย่อย–หั่น–สับ–สไลซ์–คั้น–อัด–เลื่อย สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร

    #เครื่องบดโครงไก่ #เครื่องบดอาหารสัตว์ #เครื่องบดโรงงาน #เครื่องบดฟาร์ม #เครื่องบดโครงไก่ฟาร์มไก่ #บดอาหารสัตว์ #บดวัตถุดิบอาหารสัตว์ #บดโครงไก่ทำอาหารสัตว์ #เครื่องบดโครงกระดูก #เครื่องบดกระดูกสัตว์ #เครื่องจักรฟาร์ม #เครื่องจักรอาหารสัตว์ #เครื่องบดกำลังการผลิตสูง #เครื่องบดอุตสาหกรรมอาหาร #โรงงานผลิตอาหารสัตว์ #โรงงานแปรรูปอาหาร #ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ #เครื่องจักรฟาร์มไก่ #เครื่องบดเนื้อไก่ #บดอาหารโรงงาน #บดอาหารฟาร์ม #เครื่องบดทนทาน #เครื่องบดโครงใหญ่ #เครื่องบดกระดูกใหญ่ #บดไก่ทั้งโครง #บดอาหารสัตว์เลี้ยง #บดอาหารปลา #บดอาหารหมาแมว
    🔥 ทดลองบดโครงไก่ รู 8 มม. บดได้ทั้งโครง! เร็ว แรง ใช้งานง่าย — เครื่องบดอาหาร #32 แบบตั้งพื้น ✨ ตัวเครื่องสแตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน ✨ ใช้ได้หลากหลาย: บดหมู บดเนื้อ บดพริก บดกระเทียม บดโครงไก่ บดพริกแกง ฯลฯ ✨ เปลี่ยนหน้าแว่น/รังผึ้ง ปรับระดับความละเอียดได้ตามต้องการ ✨ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน พร้อม รับประกัน 1 ปีเต็ม 📌 สเปกสินค้า มอเตอร์ 3 แรงม้า กำลังไฟฟ้า 220 โวลต์ ผลิตได้ 200–300 กก./ชม. ระบบเดินหน้า–ถอยหลัง 📍 แวะชมสินค้าที่ร้าน ย่งฮะเฮง ได้เลย 🕗 จ.–ศ. 8.00–17.00 น. | ส. 8.00–16.00 น. 📍 แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 ☎ สอบถาม / สั่งซื้อ 👉 m.me/yonghahheng 👉 LINE: @yonghahheng 📞 02-215-3515-9 | 081-318-9098 🌐 www.yoryonghahheng.com 📧 sales@yoryonghahheng.com | yonghahheng@gmail.com ✅ #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ✅ เครื่องบด–ย่อย–หั่น–สับ–สไลซ์–คั้น–อัด–เลื่อย สำหรับอุตสาหกรรมอาหาร #เครื่องบดโครงไก่ #เครื่องบดอาหารสัตว์ #เครื่องบดโรงงาน #เครื่องบดฟาร์ม #เครื่องบดโครงไก่ฟาร์มไก่ #บดอาหารสัตว์ #บดวัตถุดิบอาหารสัตว์ #บดโครงไก่ทำอาหารสัตว์ #เครื่องบดโครงกระดูก #เครื่องบดกระดูกสัตว์ #เครื่องจักรฟาร์ม #เครื่องจักรอาหารสัตว์ #เครื่องบดกำลังการผลิตสูง #เครื่องบดอุตสาหกรรมอาหาร #โรงงานผลิตอาหารสัตว์ #โรงงานแปรรูปอาหาร #ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ #เครื่องจักรฟาร์มไก่ #เครื่องบดเนื้อไก่ #บดอาหารโรงงาน #บดอาหารฟาร์ม #เครื่องบดทนทาน #เครื่องบดโครงใหญ่ #เครื่องบดกระดูกใหญ่ #บดไก่ทั้งโครง #บดอาหารสัตว์เลี้ยง #บดอาหารปลา #บดอาหารหมาแมว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1597 มุมมอง 0 รีวิว
  • CERN เปิดศูนย์พักพิง “เมาส์คอมพิวเตอร์” — แคมเปญสุดขำเพื่อเตือนภัยไซเบอร์ที่จริงจังกว่าที่คิด

    ในโลกที่ภัยไซเบอร์สามารถเกิดขึ้นได้จาก “คลิกเดียว” CERN ได้สร้างแคมเปญสุดแหวกแนวที่ชื่อว่า “CERN Animal Shelter for Computer Mice” หรือ “ศูนย์พักพิงสัตว์สำหรับเมาส์คอมพิวเตอร์” ซึ่งตั้งอยู่จริงบนสนามหญ้าหน้าศูนย์คอมพิวเตอร์ของ CERN โดยมีกรงฟาง อาหาร น้ำ และเมาส์คอมพิวเตอร์หลากรุ่นวางเรียงกันราวกับเป็นสัตว์เลี้ยง

    แนวคิดนี้เริ่มต้นจากการเล่นคำระหว่าง “mouse” ที่หมายถึงทั้งสัตว์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเตือนผู้ใช้งานว่า “การคลิก” โดยไม่คิดให้ดีอาจนำไปสู่การติดมัลแวร์ การถูกขโมยบัญชี หรือแม้แต่การทำให้ระบบขององค์กรล่มได้ในพริบตา

    CERN จึงรณรงค์ให้ผู้ใช้ “หยุด — คิด — คลิก” และเสนอให้ “นำเมาส์ออกจากเครื่อง” แล้วนำไปพักพิงที่ศูนย์แห่งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการคลิกโดยไม่ตั้งใจ แม้จะเป็นมุก April Fool แต่ก็สะท้อนความจริงที่ว่า การคลิกลิงก์สุ่มหรือไฟล์แนบที่ไม่รู้ที่มา คือช่องโหว่ที่อันตรายที่สุดในโลกไซเบอร์

    นอกจากนี้ยังมีการแยกแยะว่า “trackpad” ไม่ใช่สัตว์ แต่เป็น “พืช” เพราะไม่เคลื่อนไหว จึงไม่อยู่ในขอบเขตของศูนย์พักพิงนี้ — เป็นการเล่นมุกที่ผสมความรู้ด้านชีววิทยาเข้ากับความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างมีชั้นเชิง

    https://computer-animal-shelter.web.cern.ch/index.shtml
    📰 CERN เปิดศูนย์พักพิง “เมาส์คอมพิวเตอร์” — แคมเปญสุดขำเพื่อเตือนภัยไซเบอร์ที่จริงจังกว่าที่คิด ในโลกที่ภัยไซเบอร์สามารถเกิดขึ้นได้จาก “คลิกเดียว” CERN ได้สร้างแคมเปญสุดแหวกแนวที่ชื่อว่า “CERN Animal Shelter for Computer Mice” หรือ “ศูนย์พักพิงสัตว์สำหรับเมาส์คอมพิวเตอร์” ซึ่งตั้งอยู่จริงบนสนามหญ้าหน้าศูนย์คอมพิวเตอร์ของ CERN โดยมีกรงฟาง อาหาร น้ำ และเมาส์คอมพิวเตอร์หลากรุ่นวางเรียงกันราวกับเป็นสัตว์เลี้ยง แนวคิดนี้เริ่มต้นจากการเล่นคำระหว่าง “mouse” ที่หมายถึงทั้งสัตว์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเตือนผู้ใช้งานว่า “การคลิก” โดยไม่คิดให้ดีอาจนำไปสู่การติดมัลแวร์ การถูกขโมยบัญชี หรือแม้แต่การทำให้ระบบขององค์กรล่มได้ในพริบตา CERN จึงรณรงค์ให้ผู้ใช้ “หยุด — คิด — คลิก” และเสนอให้ “นำเมาส์ออกจากเครื่อง” แล้วนำไปพักพิงที่ศูนย์แห่งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการคลิกโดยไม่ตั้งใจ แม้จะเป็นมุก April Fool แต่ก็สะท้อนความจริงที่ว่า การคลิกลิงก์สุ่มหรือไฟล์แนบที่ไม่รู้ที่มา คือช่องโหว่ที่อันตรายที่สุดในโลกไซเบอร์ นอกจากนี้ยังมีการแยกแยะว่า “trackpad” ไม่ใช่สัตว์ แต่เป็น “พืช” เพราะไม่เคลื่อนไหว จึงไม่อยู่ในขอบเขตของศูนย์พักพิงนี้ — เป็นการเล่นมุกที่ผสมความรู้ด้านชีววิทยาเข้ากับความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างมีชั้นเชิง https://computer-animal-shelter.web.cern.ch/index.shtml
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากปลอกเท้าเด็กถึงหม้ออบอัจฉริยะ: เมื่อแกดเจ็ตเล็ก ๆ กลายเป็นฮีโร่ของชีวิตประจำวัน

    ในยุคที่เทคโนโลยีถูกพูดถึงแต่เรื่อง AI, สมาร์ตโฟนเรือธง หรือหุ่นยนต์สุดล้ำ มีอุปกรณ์อีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ขึ้นพาดหัวข่าว แต่กลับได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ใช้จริงอย่างต่อเนื่อง เพราะมันช่วยแก้ปัญหาเล็ก ๆ ที่เราพบทุกวัน

    อุปกรณ์อัจฉริยะที่ถูกมองข้ามแต่มีประโยชน์จริง
    Rabbit Air A3: ฟอกอากาศพร้อมรายงานคุณภาพแบบเรียลไทม์
    Petcube GPS Tracker: ติดตามสัตว์เลี้ยงแบบเรียลไทม์ พร้อมโหมด Lost Dog
    KeySmart SmartCard: ขนาดเท่าบัตรเครดิต ใช้ Find My และชาร์จไร้สาย
    Tovala Smart Oven: สแกน QR code ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ
    Petkit Eversweet: น้ำพุสัตว์เลี้ยงพร้อม motion sensor และแจ้งเตือน
    Yoto Player: เครื่องเล่นหนังสือเสียงสำหรับเด็ก ไม่มีหน้าจอ
    Skylight Frame: กรอบรูปดิจิทัลที่รับภาพจากแอป
    Owlet Dream Sock: วัดชีพจรและออกซิเจนของทารก
    Oral B iO: แปรงสีฟันอัจฉริยะพร้อมเซนเซอร์แรงกด
    Smart Nora: อุปกรณ์ลดการกรนแบบไม่รบกวนการนอน
    X-Sense Smoke Detector: แจ้งเตือนผ่านมือถือ แยกแยะควันจากอาหาร
    Dyson Co-anda2x: เครื่องจัดแต่งผมอัจฉริยะพร้อม RFID และโปรไฟล์ผู้ใช้
    Itigoitie Smart Pot: กระถางต้นไม้ที่แจ้งเตือนความต้องการของพืช

    https://www.slashgear.com/1959415/overlooked-smart-gadgets-users-say-worth-trying/
    🎙️ เรื่องเล่าจากปลอกเท้าเด็กถึงหม้ออบอัจฉริยะ: เมื่อแกดเจ็ตเล็ก ๆ กลายเป็นฮีโร่ของชีวิตประจำวัน ในยุคที่เทคโนโลยีถูกพูดถึงแต่เรื่อง AI, สมาร์ตโฟนเรือธง หรือหุ่นยนต์สุดล้ำ มีอุปกรณ์อีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ขึ้นพาดหัวข่าว แต่กลับได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ใช้จริงอย่างต่อเนื่อง เพราะมันช่วยแก้ปัญหาเล็ก ๆ ที่เราพบทุกวัน ✅ อุปกรณ์อัจฉริยะที่ถูกมองข้ามแต่มีประโยชน์จริง ➡️ Rabbit Air A3: ฟอกอากาศพร้อมรายงานคุณภาพแบบเรียลไทม์ ➡️ Petcube GPS Tracker: ติดตามสัตว์เลี้ยงแบบเรียลไทม์ พร้อมโหมด Lost Dog ➡️ KeySmart SmartCard: ขนาดเท่าบัตรเครดิต ใช้ Find My และชาร์จไร้สาย ➡️ Tovala Smart Oven: สแกน QR code ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ ➡️ Petkit Eversweet: น้ำพุสัตว์เลี้ยงพร้อม motion sensor และแจ้งเตือน ➡️ Yoto Player: เครื่องเล่นหนังสือเสียงสำหรับเด็ก ไม่มีหน้าจอ ➡️ Skylight Frame: กรอบรูปดิจิทัลที่รับภาพจากแอป ➡️ Owlet Dream Sock: วัดชีพจรและออกซิเจนของทารก ➡️ Oral B iO: แปรงสีฟันอัจฉริยะพร้อมเซนเซอร์แรงกด ➡️ Smart Nora: อุปกรณ์ลดการกรนแบบไม่รบกวนการนอน ➡️ X-Sense Smoke Detector: แจ้งเตือนผ่านมือถือ แยกแยะควันจากอาหาร ➡️ Dyson Co-anda2x: เครื่องจัดแต่งผมอัจฉริยะพร้อม RFID และโปรไฟล์ผู้ใช้ ➡️ Itigoitie Smart Pot: กระถางต้นไม้ที่แจ้งเตือนความต้องการของพืช https://www.slashgear.com/1959415/overlooked-smart-gadgets-users-say-worth-trying/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    13 Overlooked Smart Gadgets Users Say Are Worth Trying For Yourself - SlashGear
    These underrated smart gadgets may seem quirky, but users say they quietly solve daily hassles and prove more useful than their flashy tech counterparts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 486 มุมมอง 0 รีวิว
  • “LUBA Mini AWD LiDAR: หุ่นยนต์ตัดหญ้าอัจฉริยะที่ไม่หลงทางอีกต่อไป — เมื่อ LiDAR, RTK และกล้อง 3D รวมพลังในระบบ Tri-Fusion”

    หุ่นยนต์ตัดหญ้าเคยเป็นของเล่นสำหรับคนรักเทคโนโลยี แต่วันนี้มันกลายเป็นเครื่องมือจริงจังสำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องการความแม่นยำและความสะดวกสบาย ล่าสุด Mammotion เปิดตัว LUBA Mini AWD LiDAR หุ่นยนต์ตัดหญ้ารุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบนำทาง Tri-Fusion ซึ่งรวมเทคโนโลยีสามอย่างไว้ในเครื่องเดียว: RTK, กล้อง 3D และ LiDAR แบบ solid-state

    แต่ละเทคโนโลยีมีจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง — RTK เหมาะกับพื้นที่โล่งแต่สัญญาณดาวเทียมอาจถูกบังด้วยต้นไม้, LiDAR แม่นยำในพื้นที่มีสิ่งกีดขวางแต่ไม่ดีในพื้นที่โล่ง, ส่วนกล้อง 3D ช่วยหลบหลีกวัตถุแต่ต้องการแสงเพื่อทำงานได้ดี. LUBA Mini AWD LiDAR จึงใช้ระบบ Tri-Fusion เพื่อสลับการทำงานระหว่างสามเทคโนโลยีตามสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ได้ความแม่นยำระดับ ±1 ซม. ไม่ว่าจะเป็นสนามหญ้าที่มีร่มเงา, ทางลาด, หรือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวาง

    ตัวเครื่องยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ที่สามารถไต่ทางลาดได้ถึง 80% และตัดหญ้าได้แม้ในพื้นที่ขรุขระหรือริมแม่น้ำ โดยไม่ต้องใช้สายล้อมเขตหรือสถานีฐานภายนอก ทำให้การติดตั้งง่ายขึ้นมาก

    เทคโนโลยี Tri-Fusion ใน LUBA Mini AWD LiDAR
    รวม RTK, LiDAR และกล้อง 3D เพื่อความแม่นยำระดับ ±1 ซม.
    สลับการทำงานระหว่างเทคโนโลยีตามสภาพแวดล้อมแบบอัตโนมัติ
    RTK ใช้ในพื้นที่โล่ง, LiDAR ใช้ในพื้นที่มีสิ่งกีดขวาง, กล้องใช้หลบหลีกวัตถุ
    ไม่ต้องใช้สายล้อมเขตหรือสถานีฐาน — ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว

    ความสามารถของตัวเครื่อง
    ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ไต่ทางลาดได้ถึง 80%
    ตัดหญ้าได้ในพื้นที่ขนาด 1,500 ตร.ม. ด้วยความแม่นยำสูง
    ใช้ LiDAR แบบ 144-beam สร้างแผนที่ 3D ด้วย 200,000 จุดต่อวินาที
    ตรวจจับวัตถุที่สะท้อนแสงต่ำ เช่น สัตว์เลี้ยงหรือของเล่นสีดำ

    การใช้งานจริงและความสะดวก
    ทำงานเงียบ (ต่ำกว่า 60 dB) เหมาะกับพื้นที่อยู่อาศัย
    รองรับการทำงานหลายโซนในสนามเดียวกัน
    ไม่ต้องตั้งค่าซับซ้อน — ระบบประเมินสภาพแวดล้อมอัตโนมัติ
    เหมาะกับสนามหญ้าที่มีต้นไม้, เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง, หรือสิ่งกีดขวางอื่น ๆ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เทคโนโลยี LiDAR เคยใช้ในหุ่นยนต์ดูดฝุ่น แต่เพิ่งถูกนำมาใช้ในหุ่นยนต์ตัดหญ้า
    RTK คือเทคโนโลยีดาวเทียมที่ใช้ในงานเกษตรแม่นยำและโดรน
    กล้อง 3D ช่วยให้หุ่นยนต์หลบหลีกวัตถุได้แม่นยำขึ้น แต่ต้องการแสง
    Mammotion เคยใช้ระบบ dual-sensor ในรุ่นก่อนหน้า ก่อนพัฒนาเป็น Tri-Fusion

    https://www.techradar.com/home/smart-home/this-new-robot-mower-switches-between-lidar-rtk-and-cameras-to-make-sure-it-never-gets-lost
    🌿 “LUBA Mini AWD LiDAR: หุ่นยนต์ตัดหญ้าอัจฉริยะที่ไม่หลงทางอีกต่อไป — เมื่อ LiDAR, RTK และกล้อง 3D รวมพลังในระบบ Tri-Fusion” หุ่นยนต์ตัดหญ้าเคยเป็นของเล่นสำหรับคนรักเทคโนโลยี แต่วันนี้มันกลายเป็นเครื่องมือจริงจังสำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องการความแม่นยำและความสะดวกสบาย ล่าสุด Mammotion เปิดตัว LUBA Mini AWD LiDAR หุ่นยนต์ตัดหญ้ารุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบนำทาง Tri-Fusion ซึ่งรวมเทคโนโลยีสามอย่างไว้ในเครื่องเดียว: RTK, กล้อง 3D และ LiDAR แบบ solid-state แต่ละเทคโนโลยีมีจุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง — RTK เหมาะกับพื้นที่โล่งแต่สัญญาณดาวเทียมอาจถูกบังด้วยต้นไม้, LiDAR แม่นยำในพื้นที่มีสิ่งกีดขวางแต่ไม่ดีในพื้นที่โล่ง, ส่วนกล้อง 3D ช่วยหลบหลีกวัตถุแต่ต้องการแสงเพื่อทำงานได้ดี. LUBA Mini AWD LiDAR จึงใช้ระบบ Tri-Fusion เพื่อสลับการทำงานระหว่างสามเทคโนโลยีตามสภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ได้ความแม่นยำระดับ ±1 ซม. ไม่ว่าจะเป็นสนามหญ้าที่มีร่มเงา, ทางลาด, หรือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวาง ตัวเครื่องยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ที่สามารถไต่ทางลาดได้ถึง 80% และตัดหญ้าได้แม้ในพื้นที่ขรุขระหรือริมแม่น้ำ โดยไม่ต้องใช้สายล้อมเขตหรือสถานีฐานภายนอก ทำให้การติดตั้งง่ายขึ้นมาก ✅ เทคโนโลยี Tri-Fusion ใน LUBA Mini AWD LiDAR ➡️ รวม RTK, LiDAR และกล้อง 3D เพื่อความแม่นยำระดับ ±1 ซม. ➡️ สลับการทำงานระหว่างเทคโนโลยีตามสภาพแวดล้อมแบบอัตโนมัติ ➡️ RTK ใช้ในพื้นที่โล่ง, LiDAR ใช้ในพื้นที่มีสิ่งกีดขวาง, กล้องใช้หลบหลีกวัตถุ ➡️ ไม่ต้องใช้สายล้อมเขตหรือสถานีฐาน — ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว ✅ ความสามารถของตัวเครื่อง ➡️ ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ไต่ทางลาดได้ถึง 80% ➡️ ตัดหญ้าได้ในพื้นที่ขนาด 1,500 ตร.ม. ด้วยความแม่นยำสูง ➡️ ใช้ LiDAR แบบ 144-beam สร้างแผนที่ 3D ด้วย 200,000 จุดต่อวินาที ➡️ ตรวจจับวัตถุที่สะท้อนแสงต่ำ เช่น สัตว์เลี้ยงหรือของเล่นสีดำ ✅ การใช้งานจริงและความสะดวก ➡️ ทำงานเงียบ (ต่ำกว่า 60 dB) เหมาะกับพื้นที่อยู่อาศัย ➡️ รองรับการทำงานหลายโซนในสนามเดียวกัน ➡️ ไม่ต้องตั้งค่าซับซ้อน — ระบบประเมินสภาพแวดล้อมอัตโนมัติ ➡️ เหมาะกับสนามหญ้าที่มีต้นไม้, เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง, หรือสิ่งกีดขวางอื่น ๆ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เทคโนโลยี LiDAR เคยใช้ในหุ่นยนต์ดูดฝุ่น แต่เพิ่งถูกนำมาใช้ในหุ่นยนต์ตัดหญ้า ➡️ RTK คือเทคโนโลยีดาวเทียมที่ใช้ในงานเกษตรแม่นยำและโดรน ➡️ กล้อง 3D ช่วยให้หุ่นยนต์หลบหลีกวัตถุได้แม่นยำขึ้น แต่ต้องการแสง ➡️ Mammotion เคยใช้ระบบ dual-sensor ในรุ่นก่อนหน้า ก่อนพัฒนาเป็น Tri-Fusion https://www.techradar.com/home/smart-home/this-new-robot-mower-switches-between-lidar-rtk-and-cameras-to-make-sure-it-never-gets-lost
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 427 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AirTag ติดตามกระเป๋าได้ แต่ปลอดภัยพอสำหรับขึ้นเครื่องหรือไม่? — TSA ยืนยันใช้ได้ แต่ต้องเข้าใจข้อจำกัดของแบตเตอรี่ลิเธียม”

    ตั้งแต่ Apple เปิดตัว AirTag ในปี 2021 อุปกรณ์ติดตามขนาดเท่าเหรียญนี้ก็กลายเป็นของคู่ใจของนักเดินทางทั่วโลก เพราะสามารถติดตามกระเป๋าเดินทาง เด็ก สัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่รถยนต์ได้ผ่านเครือข่าย Find My ที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์ Apple กว่าร้อยล้านเครื่องทั่วโลก

    แต่เมื่อพูดถึงการนำขึ้นเครื่องบิน หลายคนอาจสงสัยว่า AirTag ซึ่งใช้แบตเตอรี่ลิเธียมแบบ CR2032 จะถูกห้ามหรือไม่ เพราะ TSA และ FAA มีข้อกำหนดเข้มงวดเกี่ยวกับแบตเตอรี่ โดยเฉพาะในยุคที่มีเหตุการณ์ไฟไหม้จากแบตเตอรี่บนเครื่องบินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ข่าวดีคือ AirTag ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ทั้งในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องและกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง เนื่องจากแบตเตอรี่ CR2032 มีลิเธียมเพียง 0.109 กรัม ซึ่งต่ำกว่าขีดจำกัด 2 กรัมที่ TSA กำหนดไว้สำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมแบบไม่สามารถชาร์จได้

    อย่างไรก็ตาม กฎนี้ใช้เฉพาะกับแบตเตอรี่ที่ “ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์” เท่านั้น หากเป็นแบตเตอรี่สำรองหรือแบตเปล่า จะต้องใส่ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องเท่านั้น และต้องบรรจุอย่างปลอดภัยเพื่อป้องกันการลัดวงจร

    FAA รายงานว่า ตั้งแต่ปี 2006 ถึงปี 2025 มีเหตุการณ์เกี่ยวกับแบตเตอรี่ลิเธียมบนเครื่องบินถึง 534 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการลัดวงจรหรือความร้อนสะสมจนเกิด “thermal runaway” — การระเบิดของพลังงานที่สะสมไว้ในแบตเตอรี่แบบไม่คาดคิด

    ดังนั้น แม้ AirTag จะปลอดภัยและได้รับอนุญาต แต่ผู้โดยสารควรเข้าใจข้อจำกัดและปฏิบัติตามแนวทางการบรรจุอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างเคร่งครัด

    https://www.slashgear.com/1962927/are-airtags-allowed-in-carry-on-luggage-tsa-rules-guide/
    🧳 “AirTag ติดตามกระเป๋าได้ แต่ปลอดภัยพอสำหรับขึ้นเครื่องหรือไม่? — TSA ยืนยันใช้ได้ แต่ต้องเข้าใจข้อจำกัดของแบตเตอรี่ลิเธียม” ตั้งแต่ Apple เปิดตัว AirTag ในปี 2021 อุปกรณ์ติดตามขนาดเท่าเหรียญนี้ก็กลายเป็นของคู่ใจของนักเดินทางทั่วโลก เพราะสามารถติดตามกระเป๋าเดินทาง เด็ก สัตว์เลี้ยง หรือแม้แต่รถยนต์ได้ผ่านเครือข่าย Find My ที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์ Apple กว่าร้อยล้านเครื่องทั่วโลก แต่เมื่อพูดถึงการนำขึ้นเครื่องบิน หลายคนอาจสงสัยว่า AirTag ซึ่งใช้แบตเตอรี่ลิเธียมแบบ CR2032 จะถูกห้ามหรือไม่ เพราะ TSA และ FAA มีข้อกำหนดเข้มงวดเกี่ยวกับแบตเตอรี่ โดยเฉพาะในยุคที่มีเหตุการณ์ไฟไหม้จากแบตเตอรี่บนเครื่องบินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข่าวดีคือ AirTag ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ทั้งในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องและกระเป๋าโหลดใต้เครื่อง เนื่องจากแบตเตอรี่ CR2032 มีลิเธียมเพียง 0.109 กรัม ซึ่งต่ำกว่าขีดจำกัด 2 กรัมที่ TSA กำหนดไว้สำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมแบบไม่สามารถชาร์จได้ อย่างไรก็ตาม กฎนี้ใช้เฉพาะกับแบตเตอรี่ที่ “ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์” เท่านั้น หากเป็นแบตเตอรี่สำรองหรือแบตเปล่า จะต้องใส่ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องเท่านั้น และต้องบรรจุอย่างปลอดภัยเพื่อป้องกันการลัดวงจร FAA รายงานว่า ตั้งแต่ปี 2006 ถึงปี 2025 มีเหตุการณ์เกี่ยวกับแบตเตอรี่ลิเธียมบนเครื่องบินถึง 534 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการลัดวงจรหรือความร้อนสะสมจนเกิด “thermal runaway” — การระเบิดของพลังงานที่สะสมไว้ในแบตเตอรี่แบบไม่คาดคิด ดังนั้น แม้ AirTag จะปลอดภัยและได้รับอนุญาต แต่ผู้โดยสารควรเข้าใจข้อจำกัดและปฏิบัติตามแนวทางการบรรจุอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างเคร่งครัด https://www.slashgear.com/1962927/are-airtags-allowed-in-carry-on-luggage-tsa-rules-guide/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Are You Allowed To Keep AirTags In Carry-On Luggage? TSA's Rules, Explained - SlashGear
    TSA and FAA allow AirTags in both carry-on and checked luggage since their CR2032 battery is well under the 100 Wh/2 g lithium limit.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..จริงๆนายกฯหนู ยกเลิกผ่านมติ ครม.ของตนเองก็จบแล้ว,ทำได้ทันทีด้วย,หรือตัดสินใจด้วยตนเองคนเดียวก็ได้เพราะMOUนี้ผิดขั้นตอนไม่ชอบธรรมด้วยกฎหมายประชาธิปไตยไทยแต่ต้นแล้ว ไม่นำเข้าสภาฯใดๆเลยด้วยแต่แรก จึงด้วยสถานะนายกฯอำนาจเต็มสามารถโมฆะMOU43,44นี้ได้อย่างชอบธรรม.
    ..นายกฯไม่จำเป็นต้องนำเข้าคณะครม.ตนก็ได้,คนไทยจะเห็นความเด็ดขาดนายกฯหนูโน้น,เพราะกล้าเหยียบเขมรและฮุนเซนจริงแท้คนไทย,ก่อนมาเป็นนายกฯพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยก็เป็นตัวตั้งตัวตีเสนอยกเลิกMOU43,44นะ,
    ..นายกฯรัฐบาลนี้ทำได้จะรอดพ้น(ประวัติศาสตร์จะมีข้อยกเว้นว่ารัฐบาลยุคนายกฯหนูไม่มีข้อหานี้ด้วย)จากข้อหากบฎ ม.119เจตนาทำให้เสียหาย สูญเสียดินแดนอธิปไตยชาติโดยกอดmou43,44tor46นี้ไว้โทษประหารชีวิตอย่างเดียวและ ม.157 ทันที ,ก้มหน้าไม่อายครอบครัวคนอีสานที่ตายเกือบยกครัว คนไทยชาวบ้านที่บริสุทธิ์มากมายต้องตายไป มันยิงโรงพยาบาลไทย มันระบุพิกัดชัดเจนกะระยะยิงตกชัดมีหลักฐานจากกูรูสายข่าวว่ามันล็อกเป้ายิง7/11ปั้มน้ำมันจริง,และอื่นๆด้วย,เงยหน้าไม่ละอายต่อทหารหาญที่สูญเสียชีวิตทั้งพิการและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก,อย่าทรยศหักหลังประชาชนนะ,
    ..นายกฯหนูและรัฐบาลชุดนี้4เดือนจะแตกต่างทันทีกับจุดยืนสมัยยุคอภิสิทธิ์ยุคลุงตู่ยึดอำนาจแท้ๆแต่ไม่ยอมยกเลิกMOU43,44กอดคาจนหมดอำนาจจากการยึดอำนาจและจนหมดอำนาจจากนั่งตำแหน่งนายกฯสมัยลุง,ละเว้นปฏิบัติหน้าที่จน อ.วีระ จะฟ้องแน่นอนแล้วที่ประกาศออกสื่อชัดเจนบวกหลักฐานบ้านหนองจานที่ยืนบนแผ่นดินไทยชัดเจนนั้นด้วยแต่สุมหัวเจตนาทำให้สูญเสียดินแดนไทยบอกว่าตรงจุด อ.วีระถูกจับเป็นดินแดนแผ่นดินเขมรนะ จนอยู่คุกเขมรสมบูรณ์เป็นความผิดในเจตนา ม.119แล้วด้วย ม.157ก็ด้วย,ไม่รวมตรึมทั้ง11จุดได้คืนจากเขมรด้วยที่บิ๊กกุ้งถีบ้ขมรออกจากพื้นที่ประเทศไทยจริง
    ..อย่าทรยศหักหลังเหมือนพรรคการเมืองในอดีตนะ กัญชาเสรีคือบทเรียน.
    ..ทำกัญชาเสรีจริงๆจะมีประโยชน์มากแต่หักหลังประชาชนปลูกผีบ้าอะไรคนละ6ต้น ต้องปลูกสกัดทำยาส่ง รพ.จริงเสรีด้วย.
    ..คนชาวบ้านไทบ้านจะมีตังใช้จ่ายจริง มุกกีดกันประชาชนตรึม วิจัยเอย โรงเรือนต้องมาตราฐานลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสน แดกค่าใบอนุญาตอีก สาระพัดมุกเหี้ยๆต่อชาวบ้านมิให้มีโอกาสจริง เงื่อนไขกติกามากมายจนเป็นภาระ ต้องสไตล์ปลูกพืชผักสวนครัวโน้น อยากกินอยากปลูกตอนไหนก็ปลูก,ชุมชนควบคุมดูแลรักษาความสงบร่วมกัน บริหารจัดการผลิตผลการตลาดช่วยเหลือคนไทยจริงจังด้วย,มิใช่สร้างต้นทุนแพงๆสูงๆต้นทุนแก่ชาวบ้านคนปลูกจึงสร้างความลำบากและสร้างให้ยากชัดเจนไม่มีเจตนาดีจริงต่อการช่วยสร้างรายรับแก่ประชาชน สร้างฐานต้นทุนยารักษาโรคที่ราคาถูกบนแผ่นดินไทยด้วย,ต่างชาติล็อบบี้โคตรๆเพื่อทำลายนโยบายนี้เพราะกระทบบริษัทยาทั่วโลกจริง,กำจัดแมลงพืชผลทางการเกษตรก็ได้ด้วย ภัยร้ายแรงต่อบริษัทยารักษาคนและบริษัทยาฆ่าแมลงกำจัดแมลงโรคพืชและสัตว์เลี้ยง,หว่านตามป่าตามเขาปลายนาก็เกิดเติบโตใหญ่แล้ว สามารถผสมสินค้าอุปโภคบริโภคได้จริงกว่า50,000รายการสินค้า ใยกัญชากัญชงสร้างชุดเกราะได้ สร้างโครงโครงรถยนต์น้ำหนักเบาประหยัดพลังงานและแข็งแรงได้,พื้นที่ปลูกกัญชาต้องให้คนละ1ถึง2ไร่เลยไม่เกินนั้น,1ไร่กัญชา ,อีก1ไร่กัญชง,เพื่อสกัดยาฯสุขภาพรักษาโรคครอบจักรวาลต้นทุนต่ำได้จริง,ใยกัญชาใยกัญชงก็จะเพียงพอด้วย,ต่างชาติอิจฉาสุดๆในความเสรีเรา,คนไม่ดีโจมตีแค่โทษนิดเดียวก็เป็นธรรมดา,จากผิดพลาดกัญชาเสรี ยุคตนเป็นนายกฯ4เดือนสามารถปัดฝุ่นได้เลย,ตนเป็นนายกฯจริงแล้วด้วย,ทำสิ่งที่ถูกต้องค่าจริงก็จบดีแน่นอน,MOU43,44ตนเป็นนายกฯแล้วถือโอกาสทำคุณไถ่โทษต่อแผ่นดินไทยที่กระทำไปเสียจะคดีฮั่วสว.หรือเขากระโดง ก็ตาม ทำปัจจุบันนี้จริงจังมิใช่ผีบ้าปั่นคนละครึ่งหักเหความสนใจประชาชนไป,ตนต้องยกเลิกMOU43,44ทำจริงทำชัดเจนและรวดเร็วซึ่งสามารถจบเรื่องนี้ได้ไม่เกินวันศุกร์นี้มอบความสุขแก่คนไทยเลยคือยกเลิกMOU43,44พร้อมประกาศโดยเป็นทางการว่ารัฐบาลไทยรับรอง1:50,000เท่านั้นและเสาหมุดเขตแดนสยาม74เสาแค่นั้นที่เกิดก่อนMOUนี้อีกจะดำเนินการสร้างรั้วลวดหนามทันทีด้วยตลอดแนวพรมแดน74เสาเขตแดนแม้พื้นที่สันปันน้ำก็จะสร้างรั้วลวดหนามด้วย,พรรคภูมิใจไทยต้องทำสิ่งนี้ให้ชัดเจนก่อนภายในอาทิตย์คือ9,10,11,และวันศุกร์มอบความสุขแก่คนไทยทั้งประเทศขึ้นแถลงอย่างเป็นทางการทั่วประเทศว่า "ในนานนายฯคนที่32ปัจจุบันของประกาศยกเลิกMOU43และ44อย่างเป็นทางการฝ่ายเดียวที่สามารถกระทำได้ชอบธรรมต่อประเทศเขมรที่รุกรานหมายยึดดินแดนอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา ทั้งยกเลิกข้อตกลงหยุดยิงทั้ง13ข้อโดยทันทีด้วยซึ่งประเทศเขมรละเมิดมาโดยตลอด.,จึงให้เป็นทางการไว้และมีผลทันทีนับจากเวลานี้" นี้ต้องสร้างฟอร์มตนเองแบบนี้ ตนเป็นนายกฯจริงแล้ว แม้มีเวลาไม่กี่เดือนก็สามารถทำเรื่องนี้ทันทีได้,ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ คนไทยเลือกแน่นอน,แต่ถ้าแสวงหาทางชั่ว คนไทยดูออกทันทีนะ,ดับอนาถแน่นอน นายกฯคนที่33รออยู่ ยุบพรรคภูมิใจไทยมาเร็วกว่ากำหนดแน่นอนบวกพลังงานสาปแซงของคนไทยทั่วประเทศร่วมด้วยคนดับอนาถยิ่งกว่าเดิมอีก,ทางมี2ทงให้เลือกจะอยู่อย่างหมาขี้เรื้อนหรือสิงโตราชสีห์.นายกฯคนที่32เลือกได้ ราชัญกัญชาต่อยอดเพื่อปากท้องจริงแก่ประชาชนเลย ลุยเลยมาถูกทางแล้ว เป็นใหญ่แล้ว,บอกค่าจริง ใช้ให้ถูกก็จบ เหมือนรถยนต์ขับตำกำแพงก็สมควรตายนั้นล่ะ,เขาให้ถึงเป้าหมายที่ต้องการไปมันก็เกิดประโยชน์ นี้คือทองคำเขียวชัดเจน กว่าบ่อน้ำมันอีก บีบสกัดทำน้ำมันไบโอดีเซลก็ได้,บริษัทยาบิ๊กฟาร์มม่าอเมริกาฝรั่งต่างชาติหรือโรงงานใยกระดาษกลัวจะตายหรือโรงงานผลิตอะไรๆต่างๆก็ด้วย เพราะมันประยุกต์ใช้ทำโครงสร้างวัสดุใดๆผสมมวลมันใดๆให้โลหะวัสดุนั้นๆแข็งแกร่งขึ้นไปอีกลดวัตถุดิบหลักต้นทุนทำก็ได้ด้วย,แหล่งทำเงินภายใน4เดือนกันเลยต่อเกษตรกรไทย ,ธรรมนัสคุมเกษตรฯเหมาะอีก,ปลูกฝิ่นเสรีด้วยเลย555,สกัดทำยาพาราฯสมุนไพรไทยได้ ยาแก้ปวดอย่างดีควบคุมให้ดีหรือเสรีให้เหมาะสม ลดการนำเข้ายารักษาโรคภายในโรงพยาบาลไทยหลายล้านล้านบาทเลยนะ,ส่งออกประเทศทำสงครามโลกที่3ในอนาคตก็ได้ตลาดเม็ดเงินยาแก้ปวดข้มเข้นอย่างดีมหาศาลเม็ดเงินช่วยเกษตรกรไทยกว่า2-3ล้านล้านบาทหรือกว่า10ล้านล้านบาทสบาย ใช้ในทางที่ถูก ควบคุมให้โปร่งใสมิใช่เหี้ยแบบอดีตไปปลูกข้างๆบ้านเป็นหมื่นเป็นแสนหรือล้านไร่หวังเอาเข้ามาขายแดกในไทยแบบที่แฉๆในสภาก็เหี้ยเกินไป,แมร่งอเมริกายึดบ่อน้ำมันไทยทั่วประเทศก็ทำบ่อเงินบ่อทองนี้ให้เต็มที่แทนก็ได้แต่ต้องโปร่งใสจริงอย่าให้ต่างชาติมาแทรกแซงได้อีก,ฮับโรงพยาบาลโลกด้านสมุนไพรคู่AIการแพทย์ชีวภาพยุคใหม่กึ่งจักรกลก็ได้,ใครพิการจักรกลก็ช่วยได้,หรืออนาคตเทคโนโลยีสร้างมวลเนื้อใหม่ของต่างดาวถ่ายทอดมาคู่สมุนไพรดำเนินชีวิตรักษาสุขภาพก็โอเคได้หมด,บ่อน้ำมันอาจดับอนาคตแล้วเพราะใช้การขับเคลื่อนด้วยพลังงานสนามแม่เหล็กโลกหรือพลังงานฟรีเทสล่ากันแล้ว.

    .."พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยกับการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชา"

    ภูมิใจไทยจี้ สภาถกญัตติยกเลิก MOU 43-44 ตั้ง กมธ. ก่อนเสนอรัฐบาลทำประชามติ
    โดย THE STANDARD TEAM
    05.08.2025

    วันนี้ (5 สิงหาคม) ที่พรรคภูมิใจไทย แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณี สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และคณะ ยื่นญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาดำเนินการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วย และอยากให้สภานำญัตตินี้มาพิจารณา เพื่อให้เห็นถึงข้อดี-ข้อด้อย และข้อที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในเอ็มโอยูดังกล่าว เพื่อที่ขั้นต่อไปเราอยากให้มีการทำประชามติรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ว่าการเซ็นเอ็มโอยูดังกล่าวมีประโยชน์หรือโทษอะไรบ้าง

    “แน่นอนว่าเราเห็นโทษของ MOU ดังกล่าวแน่นอน เพราะตลอด 10 กว่าวันที่ผ่านมา เราเห็นชัดว่าข้อผิดพลาดเป็นอย่างไร ส่งผลกระทบถึงประชาชนแค่ไหน จึงเสนอญัตตินี้เพื่ออยากให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) โดยใช้ระยะเวลาสั้นที่สุด เพื่อที่จะได้นำเสนอต่อรัฐบาลให้ทำประชามติโดยเร็ว” โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว


    https://thestandard.co/thai-cambodia-mou-termination/




    ..จริงๆนายกฯหนู ยกเลิกผ่านมติ ครม.ของตนเองก็จบแล้ว,ทำได้ทันทีด้วย,หรือตัดสินใจด้วยตนเองคนเดียวก็ได้เพราะMOUนี้ผิดขั้นตอนไม่ชอบธรรมด้วยกฎหมายประชาธิปไตยไทยแต่ต้นแล้ว ไม่นำเข้าสภาฯใดๆเลยด้วยแต่แรก จึงด้วยสถานะนายกฯอำนาจเต็มสามารถโมฆะMOU43,44นี้ได้อย่างชอบธรรม. ..นายกฯไม่จำเป็นต้องนำเข้าคณะครม.ตนก็ได้,คนไทยจะเห็นความเด็ดขาดนายกฯหนูโน้น,เพราะกล้าเหยียบเขมรและฮุนเซนจริงแท้คนไทย,ก่อนมาเป็นนายกฯพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยก็เป็นตัวตั้งตัวตีเสนอยกเลิกMOU43,44นะ, ..นายกฯรัฐบาลนี้ทำได้จะรอดพ้น(ประวัติศาสตร์จะมีข้อยกเว้นว่ารัฐบาลยุคนายกฯหนูไม่มีข้อหานี้ด้วย)จากข้อหากบฎ ม.119เจตนาทำให้เสียหาย สูญเสียดินแดนอธิปไตยชาติโดยกอดmou43,44tor46นี้ไว้โทษประหารชีวิตอย่างเดียวและ ม.157 ทันที ,ก้มหน้าไม่อายครอบครัวคนอีสานที่ตายเกือบยกครัว คนไทยชาวบ้านที่บริสุทธิ์มากมายต้องตายไป มันยิงโรงพยาบาลไทย มันระบุพิกัดชัดเจนกะระยะยิงตกชัดมีหลักฐานจากกูรูสายข่าวว่ามันล็อกเป้ายิง7/11ปั้มน้ำมันจริง,และอื่นๆด้วย,เงยหน้าไม่ละอายต่อทหารหาญที่สูญเสียชีวิตทั้งพิการและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก,อย่าทรยศหักหลังประชาชนนะ, ..นายกฯหนูและรัฐบาลชุดนี้4เดือนจะแตกต่างทันทีกับจุดยืนสมัยยุคอภิสิทธิ์ยุคลุงตู่ยึดอำนาจแท้ๆแต่ไม่ยอมยกเลิกMOU43,44กอดคาจนหมดอำนาจจากการยึดอำนาจและจนหมดอำนาจจากนั่งตำแหน่งนายกฯสมัยลุง,ละเว้นปฏิบัติหน้าที่จน อ.วีระ จะฟ้องแน่นอนแล้วที่ประกาศออกสื่อชัดเจนบวกหลักฐานบ้านหนองจานที่ยืนบนแผ่นดินไทยชัดเจนนั้นด้วยแต่สุมหัวเจตนาทำให้สูญเสียดินแดนไทยบอกว่าตรงจุด อ.วีระถูกจับเป็นดินแดนแผ่นดินเขมรนะ จนอยู่คุกเขมรสมบูรณ์เป็นความผิดในเจตนา ม.119แล้วด้วย ม.157ก็ด้วย,ไม่รวมตรึมทั้ง11จุดได้คืนจากเขมรด้วยที่บิ๊กกุ้งถีบ้ขมรออกจากพื้นที่ประเทศไทยจริง ..อย่าทรยศหักหลังเหมือนพรรคการเมืองในอดีตนะ กัญชาเสรีคือบทเรียน. ..ทำกัญชาเสรีจริงๆจะมีประโยชน์มากแต่หักหลังประชาชนปลูกผีบ้าอะไรคนละ6ต้น ต้องปลูกสกัดทำยาส่ง รพ.จริงเสรีด้วย. ..คนชาวบ้านไทบ้านจะมีตังใช้จ่ายจริง มุกกีดกันประชาชนตรึม วิจัยเอย โรงเรือนต้องมาตราฐานลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสน แดกค่าใบอนุญาตอีก สาระพัดมุกเหี้ยๆต่อชาวบ้านมิให้มีโอกาสจริง เงื่อนไขกติกามากมายจนเป็นภาระ ต้องสไตล์ปลูกพืชผักสวนครัวโน้น อยากกินอยากปลูกตอนไหนก็ปลูก,ชุมชนควบคุมดูแลรักษาความสงบร่วมกัน บริหารจัดการผลิตผลการตลาดช่วยเหลือคนไทยจริงจังด้วย,มิใช่สร้างต้นทุนแพงๆสูงๆต้นทุนแก่ชาวบ้านคนปลูกจึงสร้างความลำบากและสร้างให้ยากชัดเจนไม่มีเจตนาดีจริงต่อการช่วยสร้างรายรับแก่ประชาชน สร้างฐานต้นทุนยารักษาโรคที่ราคาถูกบนแผ่นดินไทยด้วย,ต่างชาติล็อบบี้โคตรๆเพื่อทำลายนโยบายนี้เพราะกระทบบริษัทยาทั่วโลกจริง,กำจัดแมลงพืชผลทางการเกษตรก็ได้ด้วย ภัยร้ายแรงต่อบริษัทยารักษาคนและบริษัทยาฆ่าแมลงกำจัดแมลงโรคพืชและสัตว์เลี้ยง,หว่านตามป่าตามเขาปลายนาก็เกิดเติบโตใหญ่แล้ว สามารถผสมสินค้าอุปโภคบริโภคได้จริงกว่า50,000รายการสินค้า ใยกัญชากัญชงสร้างชุดเกราะได้ สร้างโครงโครงรถยนต์น้ำหนักเบาประหยัดพลังงานและแข็งแรงได้,พื้นที่ปลูกกัญชาต้องให้คนละ1ถึง2ไร่เลยไม่เกินนั้น,1ไร่กัญชา ,อีก1ไร่กัญชง,เพื่อสกัดยาฯสุขภาพรักษาโรคครอบจักรวาลต้นทุนต่ำได้จริง,ใยกัญชาใยกัญชงก็จะเพียงพอด้วย,ต่างชาติอิจฉาสุดๆในความเสรีเรา,คนไม่ดีโจมตีแค่โทษนิดเดียวก็เป็นธรรมดา,จากผิดพลาดกัญชาเสรี ยุคตนเป็นนายกฯ4เดือนสามารถปัดฝุ่นได้เลย,ตนเป็นนายกฯจริงแล้วด้วย,ทำสิ่งที่ถูกต้องค่าจริงก็จบดีแน่นอน,MOU43,44ตนเป็นนายกฯแล้วถือโอกาสทำคุณไถ่โทษต่อแผ่นดินไทยที่กระทำไปเสียจะคดีฮั่วสว.หรือเขากระโดง ก็ตาม ทำปัจจุบันนี้จริงจังมิใช่ผีบ้าปั่นคนละครึ่งหักเหความสนใจประชาชนไป,ตนต้องยกเลิกMOU43,44ทำจริงทำชัดเจนและรวดเร็วซึ่งสามารถจบเรื่องนี้ได้ไม่เกินวันศุกร์นี้มอบความสุขแก่คนไทยเลยคือยกเลิกMOU43,44พร้อมประกาศโดยเป็นทางการว่ารัฐบาลไทยรับรอง1:50,000เท่านั้นและเสาหมุดเขตแดนสยาม74เสาแค่นั้นที่เกิดก่อนMOUนี้อีกจะดำเนินการสร้างรั้วลวดหนามทันทีด้วยตลอดแนวพรมแดน74เสาเขตแดนแม้พื้นที่สันปันน้ำก็จะสร้างรั้วลวดหนามด้วย,พรรคภูมิใจไทยต้องทำสิ่งนี้ให้ชัดเจนก่อนภายในอาทิตย์คือ9,10,11,และวันศุกร์มอบความสุขแก่คนไทยทั้งประเทศขึ้นแถลงอย่างเป็นทางการทั่วประเทศว่า "ในนานนายฯคนที่32ปัจจุบันของประกาศยกเลิกMOU43และ44อย่างเป็นทางการฝ่ายเดียวที่สามารถกระทำได้ชอบธรรมต่อประเทศเขมรที่รุกรานหมายยึดดินแดนอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา ทั้งยกเลิกข้อตกลงหยุดยิงทั้ง13ข้อโดยทันทีด้วยซึ่งประเทศเขมรละเมิดมาโดยตลอด.,จึงให้เป็นทางการไว้และมีผลทันทีนับจากเวลานี้" นี้ต้องสร้างฟอร์มตนเองแบบนี้ ตนเป็นนายกฯจริงแล้ว แม้มีเวลาไม่กี่เดือนก็สามารถทำเรื่องนี้ทันทีได้,ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ คนไทยเลือกแน่นอน,แต่ถ้าแสวงหาทางชั่ว คนไทยดูออกทันทีนะ,ดับอนาถแน่นอน นายกฯคนที่33รออยู่ ยุบพรรคภูมิใจไทยมาเร็วกว่ากำหนดแน่นอนบวกพลังงานสาปแซงของคนไทยทั่วประเทศร่วมด้วยคนดับอนาถยิ่งกว่าเดิมอีก,ทางมี2ทงให้เลือกจะอยู่อย่างหมาขี้เรื้อนหรือสิงโตราชสีห์.นายกฯคนที่32เลือกได้ ราชัญกัญชาต่อยอดเพื่อปากท้องจริงแก่ประชาชนเลย ลุยเลยมาถูกทางแล้ว เป็นใหญ่แล้ว,บอกค่าจริง ใช้ให้ถูกก็จบ เหมือนรถยนต์ขับตำกำแพงก็สมควรตายนั้นล่ะ,เขาให้ถึงเป้าหมายที่ต้องการไปมันก็เกิดประโยชน์ นี้คือทองคำเขียวชัดเจน กว่าบ่อน้ำมันอีก บีบสกัดทำน้ำมันไบโอดีเซลก็ได้,บริษัทยาบิ๊กฟาร์มม่าอเมริกาฝรั่งต่างชาติหรือโรงงานใยกระดาษกลัวจะตายหรือโรงงานผลิตอะไรๆต่างๆก็ด้วย เพราะมันประยุกต์ใช้ทำโครงสร้างวัสดุใดๆผสมมวลมันใดๆให้โลหะวัสดุนั้นๆแข็งแกร่งขึ้นไปอีกลดวัตถุดิบหลักต้นทุนทำก็ได้ด้วย,แหล่งทำเงินภายใน4เดือนกันเลยต่อเกษตรกรไทย ,ธรรมนัสคุมเกษตรฯเหมาะอีก,ปลูกฝิ่นเสรีด้วยเลย555,สกัดทำยาพาราฯสมุนไพรไทยได้ ยาแก้ปวดอย่างดีควบคุมให้ดีหรือเสรีให้เหมาะสม ลดการนำเข้ายารักษาโรคภายในโรงพยาบาลไทยหลายล้านล้านบาทเลยนะ,ส่งออกประเทศทำสงครามโลกที่3ในอนาคตก็ได้ตลาดเม็ดเงินยาแก้ปวดข้มเข้นอย่างดีมหาศาลเม็ดเงินช่วยเกษตรกรไทยกว่า2-3ล้านล้านบาทหรือกว่า10ล้านล้านบาทสบาย ใช้ในทางที่ถูก ควบคุมให้โปร่งใสมิใช่เหี้ยแบบอดีตไปปลูกข้างๆบ้านเป็นหมื่นเป็นแสนหรือล้านไร่หวังเอาเข้ามาขายแดกในไทยแบบที่แฉๆในสภาก็เหี้ยเกินไป,แมร่งอเมริกายึดบ่อน้ำมันไทยทั่วประเทศก็ทำบ่อเงินบ่อทองนี้ให้เต็มที่แทนก็ได้แต่ต้องโปร่งใสจริงอย่าให้ต่างชาติมาแทรกแซงได้อีก,ฮับโรงพยาบาลโลกด้านสมุนไพรคู่AIการแพทย์ชีวภาพยุคใหม่กึ่งจักรกลก็ได้,ใครพิการจักรกลก็ช่วยได้,หรืออนาคตเทคโนโลยีสร้างมวลเนื้อใหม่ของต่างดาวถ่ายทอดมาคู่สมุนไพรดำเนินชีวิตรักษาสุขภาพก็โอเคได้หมด,บ่อน้ำมันอาจดับอนาคตแล้วเพราะใช้การขับเคลื่อนด้วยพลังงานสนามแม่เหล็กโลกหรือพลังงานฟรีเทสล่ากันแล้ว. .."พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยกับการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชา" ภูมิใจไทยจี้ สภาถกญัตติยกเลิก MOU 43-44 ตั้ง กมธ. ก่อนเสนอรัฐบาลทำประชามติ โดย THE STANDARD TEAM 05.08.2025 วันนี้ (5 สิงหาคม) ที่พรรคภูมิใจไทย แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณี สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และคณะ ยื่นญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาดำเนินการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2543 และ 2544 ระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วย และอยากให้สภานำญัตตินี้มาพิจารณา เพื่อให้เห็นถึงข้อดี-ข้อด้อย และข้อที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในเอ็มโอยูดังกล่าว เพื่อที่ขั้นต่อไปเราอยากให้มีการทำประชามติรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ว่าการเซ็นเอ็มโอยูดังกล่าวมีประโยชน์หรือโทษอะไรบ้าง “แน่นอนว่าเราเห็นโทษของ MOU ดังกล่าวแน่นอน เพราะตลอด 10 กว่าวันที่ผ่านมา เราเห็นชัดว่าข้อผิดพลาดเป็นอย่างไร ส่งผลกระทบถึงประชาชนแค่ไหน จึงเสนอญัตตินี้เพื่ออยากให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) โดยใช้ระยะเวลาสั้นที่สุด เพื่อที่จะได้นำเสนอต่อรัฐบาลให้ทำประชามติโดยเร็ว” โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว https://thestandard.co/thai-cambodia-mou-termination/
    THESTANDARD.CO
    ภูมิใจไทยจี้ สภาถกญัตติยกเลิก MOU 43-44 ตั้ง กมธ. ก่อนเสนอรัฐบาลทำประชามติ
    ที่ พรรคภูมิใจไทย แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงกรณี สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย และ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1440 มุมมอง 0 รีวิว
  • เผย "ทิดอลงกต" นั่งสมาธิยันเช้า ด้านลูกศิษย์รุดเยี่ยมห่วงคนป่วย เด็ก คนชราสัตว์เลี้ยงที่อดีตหลวงพ่อดูแลอยู่ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะทำอย่างไร

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081689

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เผย "ทิดอลงกต" นั่งสมาธิยันเช้า ด้านลูกศิษย์รุดเยี่ยมห่วงคนป่วย เด็ก คนชราสัตว์เลี้ยงที่อดีตหลวงพ่อดูแลอยู่ ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะทำอย่างไร อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081689 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 508 มุมมอง 0 รีวิว
  • เส้นทางใหม่ในโลกการทำงานยุค AI : คู่มือเชิงกลยุทธ์สำหรับคนไทยวัย 45 ปี

    ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานอย่างรวดเร็ว การถูกให้ออกจากงานหรือถูกบังคับเกษียณก่อนกำหนดในวัย 45 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายคนยังต้องแบกรับภาระครอบครัวและความรับผิดชอบสูงสุดในชีวิต กลายเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและสร้างความช็อกให้กับคนทำงานจำนวนมาก ความรู้สึกสิ้นหวัง การตั้งคำถามกับคุณค่าในตัวเอง และความรู้สึกด้อยค่าที่ว่า "ทำมา 10 ปีแต่ไม่รอด" ล้วนเป็นปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่เข้าใจได้และเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้ไม่ใช่ความล้มเหลวส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในตลาดแรงงานระดับโลก รายงานนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นมากกว่าแค่ข้อมูล แต่เป็นแผนที่ชีวิตที่จะช่วยให้ผู้ที่กำลังเผชิญวิกฤตนี้สามารถตั้งหลักและก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง โดยเปลี่ยนมุมมองจากจุดจบไปสู่จุดเปลี่ยนที่เต็มเปี่ยมด้วยโอกาส

    เมื่อพิจารณาถึงสาเหตุที่ทำให้หลายคนต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงนี้ คำถามที่ว่า "ทำไมต้องเป็นฉัน" มักผุดขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อ AI กลายเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดเกมในตลาดแรงงานไทย ซึ่งกำลังเผชิญกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้มาจาก AI เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ เช่น สังคมสูงวัย ในประเทศรายได้สูงและการเพิ่มขึ้นของแรงงานในประเทศรายได้ต่ำ ตลอดจนความผันผวนทางเศรษฐกิจ ตามรายงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศหรือ ILO คาดการณ์ว่าในอีกสองทศวรรษข้างหน้า ตำแหน่งงานในไทยมากกว่า 44% หรือราว 17 ล้านตำแหน่ง มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นพลังที่กำลังปรับโครงสร้างการจ้างงานอย่างถอนรากถอนโคน โดยเฉพาะงานที่ต้องทำซ้ำๆ และงานประจำ ซึ่งแรงงานวัยกลางคนจำนวนมากรับผิดชอบอยู่ ส่งผลให้เกิดปัญหาความไม่สมดุลของทักษะในตลาดแรงงาน แม้จะมีคนว่างงานมาก แต่พวกเขาก็ขาดทักษะที่จำเป็นสำหรับงานใหม่ที่เทคโนโลยีสร้างขึ้น การทำความเข้าใจปรากฏการณ์นี้อย่างเป็นระบบจะช่วยให้คนทำงานมองเห็นปัญหาในมุมกว้างและวางแผนพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในอนาคต

    เพื่อให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น การจำแนกอาชีพตามระดับความเสี่ยงจาก AI ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ อาชีพที่มีความเสี่ยงสูงมักเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมประจำหรือการจัดการข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งสามารถทำให้เป็นระบบอัตโนมัติได้ง่าย เช่น พนักงานแคชเชียร์หรือพนักงานขายหน้าร้านที่ถูกแทนที่ด้วยระบบ self-checkout และการซื้อขายออนไลน์ เจ้าหน้าที่บริการลูกค้าหรือพนักงานคอลเซ็นเตอร์ที่ chatbot และระบบตอบรับอัตโนมัติสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง พนักงานป้อนและประมวลผลข้อมูลที่ระบบ OCR และ AI สามารถจัดการข้อมูลมหาศาลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พนักงานขนส่งและโลจิสติกส์รวมถึงคนขับรถที่รถยนต์ไร้คนขับ และโดรนส่งของกำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และพนักงานบัญชีที่โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูปและ AI สามารถบันทึกและประมวลผลข้อมูลทางการเงินได้อย่างแม่นยำ ในทางตรงกันข้าม อาชีพที่ทนทานต่อ AI และกำลังเติบโตมักต้องใช้ทักษะเชิงมนุษย์ชั้นสูงที่ซับซ้อนและเลียนแบบได้ยาก เช่น แพทย์ นักจิตวิทยา และพยาบาลที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูง ประสบการณ์ การตัดสินใจที่ซับซ้อน และความเข้าใจมนุษย์ ครู-อาจารย์ที่ต้องใช้ทักษะการสอนที่ละเอียดอ่อน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และการสร้างแรงบันดาลใจ นักกฎหมายที่ต้องคิดเชิงวิเคราะห์ซับซ้อน 🛜 การสื่อสาร และการตัดสินใจในบริบทละเอียดอ่อน นักพัฒนา AI Data Scientist และ AI Ethicist ที่เป็นผู้สร้างและควบคุมเทคโนโลยีเอง โดยต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และทักษะเฉพาะทางระดับสูง และผู้เชี่ยวชาญด้าน soft skills ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การสื่อสาร ภาวะผู้นำ และการจัดการอารมณ์ ข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่แค่รายการอาชีพ แต่เป็นแผนที่กลยุทธ์ที่ชี้ทิศทางของตลาดแรงงาน คุณค่าของมนุษย์ในยุค AI อยู่ที่ทักษะที่ AI ไม่สามารถแทนที่ได้ ซึ่งจะช่วยให้คนทำงานวางแผนอัปสกิลหรือรีสกิลไปสู่อาชีพที่ยั่งยืนกว่า

    เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบาก การตั้งหลักอย่างมีสติและกลยุทธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเริ่มจากจัดการคลื่นอารมณ์ที่ถาโถมเข้ามา การถูกให้ออกจากงานอย่างกะทันหันอาจนำมาซึ่งความสับสน โกรธ สูญเสีย และด้อยค่า ผู้ที่เคยผ่านสถานการณ์นี้แนะนำให้ยอมรับความรู้สึกเหล่านั้นและให้เวลาตัวเองจัดการ โดยวิธีต่างๆ เช่น พูดคุยกับคนรอบข้างเพื่อรับกำลังใจและมุมมองใหม่ เขียนระบายความรู้สึกเพื่อจัดระเบียบความคิดและลดภาระจิตใจ หรือฝึกสมาธิและโยคะเพื่อทำให้จิตใจสงบ ลดความวิตกกังวล และตัดสินใจได้ดีขึ้น การปล่อยวางความคิดที่ว่าต้องชนะทุกเกมหรือชีวิตต้องเป็นไปตามแผนจะช่วยลดความกดดันและเปิดโอกาสให้คิดหาทางออกใหม่ๆ อย่างสร้างสรรค์ การให้กำลังใจตัวเองและไม่ยอมแพ้จะเป็นพลังที่นำไปสู่การเริ่มต้นใหม่ที่ทรงพลังกว่าเดิม

    ต่อจากนั้นคือการจัดการเรื่องสำคัญเร่งด่วนอย่างสิทธิประโยชน์และแผนการเงิน เพื่อให้มีสภาพคล่องในช่วงเปลี่ยนผ่าน การใช้สิทธิจากกองทุนประกันสังคมเป็นขั้นตอนสำคัญ โดยผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน หากจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 เดือนภายใน 15 เดือนก่อนว่างงาน และต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานภายใน 30 วันนับจากวันที่ออกจากงาน มิเช่นนั้นจะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง การขึ้นทะเบียนสามารถทำออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมการจัดหางาน เช่น e-service.doe.go.th หรือ empui.doe.go.th โดยลงทะเบียนผู้ใช้ใหม่ กรอกข้อมูลส่วนตัว วันที่ออกจากงาน สาเหตุ และยืนยันตัวตนด้วยรหัสหลังบัตรประชาชน จากนั้นเลือกเมนูขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงานและกรอกข้อมูลการทำงานล่าสุด หลังจากนั้นยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคม เช่น แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนว่างงาน (สปส. 2-01/7) สำเนาบัตรประชาชน หนังสือรับรองการออกจากงาน (ถ้ามี) และสำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ร่วมรายการ สุดท้ายต้องรายงานตัวทุกเดือนผ่านช่องทางออนไลน์ ข้อควรระวังคือผู้ที่มีอายุเกิน 55 ปีจะไม่ได้รับเงินทดแทนว่างงาน แต่ต้องใช้สิทธิเบี้ยชราภาพแทน

    ถัดมาคือการประเมินตนเองอย่างตรงไปตรงมาเพื่อค้นหาคุณค่าจากประสบการณ์ที่สั่งสม การถูกเลิกจ้างในวัย 45 ปีไม่ได้หมายถึงคุณค่าหมดสิ้น แต่กลับกัน อายุและประสบการณ์คือทุนมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด ปัญหาที่แท้จริงคือทัศนคติที่ต้องปรับเปลี่ยน องค์กรยุคใหม่ให้ความสำคัญกับคนที่เปิดใจเรียนรู้และทำงานร่วมกับคนต่างวัย การเปลี่ยนจากการพูดถึงลักษณะงานไปสู่การบอกเล่าความสำเร็จที่จับต้องได้จะสร้างความน่าเชื่อถือ ทักษะที่นำไปปรับใช้ได้หรือ transferable skills คือขุมทรัพย์ของคนวัยนี้ เช่น ทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนจากประสบการณ์ยาวนานที่ทำให้มองปัญหาได้อย่างเป็นระบบ โดยนำเสนอด้วยตัวอย่างปัญหาที่เคยแก้ไขพร้อมขั้นตอนวิเคราะห์และผลลัพธ์จริง ภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมจากประสบการณ์นำทีมโครงการใหญ่ โดยระบุรายละเอียดเช่นนำทีม 10 คนลดต้นทุนได้ 15% ทักษะการสื่อสารและความฉลาดทางอารมณ์จากการประสานงาน เจรจา และจัดการความขัดแย้ง โดยเล่าเรื่องที่แสดงถึงความเข้าใจผู้อื่น และการสร้างเครือข่ายจากความสัมพันธ์ในอุตสาหกรรม โดยใช้เพื่อขอคำแนะนำหรือหาโอกาสงาน การประยุกต์ทักษะเหล่านี้จะเปลี่ยนจุดอ่อนเรื่องอายุให้เป็นจุดแข็งที่ไม่เหมือนใคร

    ในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การยกระดับทักษะเพื่อการแข่งขันในยุคใหม่จึงจำเป็น โดยการเรียนรู้ตลอดชีวิตคือกุญแจสู่ความอยู่รอด มีแหล่งฝึกอบรมมากมายในไทยทั้งภาครัฐและเอกชน เริ่มจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานหรือ DSD ที่ให้บริการฝึกอบรมหลากหลายทั้งหลักสูตรระยะสั้นสำหรับรีสกิลและอัปสกิล เช่น หลักสูตร AI สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คอมพิวเตอร์อย่าง Excel และ Power BI งานช่างอย่างช่างเดินสายไฟฟ้า และอาชีพอิสระอย่างทำอาหารไทย สามารถตรวจสอบและสมัครผ่านเว็บไซต์ dsd.go.th หรือ onlinetraining.dsd.go.th ต่อมาคือศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภายใต้กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวที่เปิดหลักสูตรฟรีเช่นการดูแลผู้สูงอายุและเสริมสวย และกรมการจัดหางานที่มีกิจกรรมแนะแนวอาชีพสำหรับผู้ว่างงาน สำหรับสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยหลายแห่งอย่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปิดหลักสูตรสะสมหน่วยกิตสำหรับรีสกิลและอัปสกิล ส่วนแพลตฟอร์มเอกชนอย่าง FutureSkill และ SkillLane นำเสนอคอร์สทักษะแห่งอนาคตทั้ง hard skills ด้านเทคโนโลยี ข้อมูล ธุรกิจ และ soft skills สำหรับทำงานร่วมกับ AI

    เมื่อพร้อมทั้งอารมณ์และทักษะ การกำหนดแผนปฏิบัติการ 3 เส้นทางสู่ความสำเร็จจะเป็นขั้นตอนต่อไป

    1️⃣ เส้นทางแรกคือการกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยใช้ประสบการณ์เป็นแต้มต่อ เทคนิคเขียนเรซูเม่สำหรับวัยเก๋าคือหลีกเลี่ยงข้อมูลที่ทำให้ถูกเหมารวมอย่างปีจบการศึกษา ใช้คำสร้างความน่าเชื่อถือเช่นมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี และเน้นความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม การสร้างโปรไฟล์ LinkedIn เพื่อนำเสนอประสบการณ์อย่างมืออาชีพ และใช้เครือข่ายอย่างเพื่อนร่วมงานเก่าหรือ head hunter เพื่อเปิดโอกาสงานที่ไม่ได้ประกาศทั่วไป

    2️⃣ เส้นทางที่สองคือการเป็นผู้เชี่ยวชาญอิสระอย่างฟรีแลนซ์หรือคอนซัลแทนต์ ซึ่งเหมาะกับผู้มีประสบการณ์สูงและต้องการกำหนดเวลาทำงานเอง อาชีพที่น่าสนใจเช่นที่ปรึกษาธุรกิจสำหรับองค์กรขนาดเล็ก นักเขียนหรือนักแปลอิสระที่ยังต้องอาศัยมนุษย์ตรวจสอบเนื้อหาละเอียดอ่อน และนักบัญชีหรือนักการเงินอิสระสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก การเตรียมพร้อมคือสร้างพอร์ตโฟลิโอที่น่าเชื่อถือเพราะผลงานสำคัญกว่าวุฒิการศึกษา

    3️⃣ เส้นทางที่สามคือการเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็กจากงานอดิเรก โดยใช้เทคโนโลยีลดต้นทุน เช่นขายของออนไลน์ผ่าน Facebook หรือ LINE เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ หรือเป็น influencer หรือ YouTuber โดยใช้ประสบการณ์สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า ไอเดียธุรกิจที่ลงทุนน้อยและเหมาะสม เช่นธุรกิจอาหารและบริการอย่างทำอาหารหรือขนมขายจากบ้าน ขายของตลาดนัด หรือบริการดูแลผู้สูงอายุและสัตว์เลี้ยง ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์อย่างขายเสื้อผ้าหรือเป็นตัวแทนขายประกัน ธุรกิจที่ปรึกษาหรือฟรีแลนซ์อย่างที่ปรึกษาองค์กร นักเขียนอิสระ หรือที่ปรึกษาการเงิน และธุรกิจสร้างสรรค์อย่างปลูกผักปลอดสารพิษ งานฝีมือศิลปะ หรือเป็น influencer

    เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ การดูเรื่องราวความสำเร็จจากผู้ที่ก้าวข้ามมาแล้วจะช่วยให้เห็นว่าการเริ่มต้นใหม่ในวัย 45 ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ เช่น Henry Ford ที่ประสบความสำเร็จกับรถยนต์ Model T ในวัย 45 ปี Colonel Sanders ที่เริ่มแฟรนไชส์ KFC ในวัย 62 ปี หรือในไทยอย่างอดีตผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดที่ถูกเลิกจ้างแต่ผันตัวเป็นผู้ค้าอิสระและประสบความสำเร็จ เรื่องราวเหล่านี้แสดงว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข และความมุ่งมั่นคือกุญแจ

    สุดท้าย การเผชิญกับการถูกบังคับเกษียณในวัย 45 ปีไม่ใช่จุดจบแต่เป็นใบเบิกทางสู่บทบาทใหม่ที่ทรงคุณค่า ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติคือตั้งสติจัดการอารมณ์ ใช้สิทธิประโยชน์ให้เต็มที่ ประเมินคุณค่าจากประสบการณ์ ยกระดับทักษะอย่างต่อเนื่อง และสำรวจทางเลือกใหม่ๆ ท้ายที่สุด วัย 45 ปีคือช่วงเวลาที่ทรงพลังที่สุดในการนำประสบการณ์กว่าสองทศวรรษไปสร้างคุณค่าใหม่ให้ชีวิตและสังคมอย่างยั่งยืน

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    เส้นทางใหม่ในโลกการทำงานยุค AI 🤖: 📚 คู่มือเชิงกลยุทธ์สำหรับคนไทยวัย 45 ปี 🙎‍♂️ ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานอย่างรวดเร็ว การถูกให้ออกจากงานหรือถูกบังคับเกษียณก่อนกำหนดในวัย 45 ปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หลายคนยังต้องแบกรับภาระครอบครัวและความรับผิดชอบสูงสุดในชีวิต กลายเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและสร้างความช็อกให้กับคนทำงานจำนวนมาก ความรู้สึกสิ้นหวัง🤞 การตั้งคำถามกับคุณค่าในตัวเอง และความรู้สึกด้อยค่าที่ว่า "ทำมา 10 ปีแต่ไม่รอด" ล้วนเป็นปฏิกิริยาทางอารมณ์ที่เข้าใจได้และเกิดขึ้นบ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้ไม่ใช่ความล้มเหลวส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในตลาดแรงงานระดับโลก🌏 รายงานนี้จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นมากกว่าแค่ข้อมูล แต่เป็นแผนที่ชีวิตที่จะช่วยให้ผู้ที่กำลังเผชิญวิกฤตนี้สามารถตั้งหลักและก้าวเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง โดยเปลี่ยนมุมมองจากจุดจบไปสู่จุดเปลี่ยนที่เต็มเปี่ยมด้วยโอกาส 🌞 เมื่อพิจารณาถึงสาเหตุที่ทำให้หลายคนต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงนี้ คำถามที่ว่า "ทำไมต้องเป็นฉัน" ⁉️ มักผุดขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อ AI กลายเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดเกมในตลาดแรงงานไทย 🙏 ซึ่งกำลังเผชิญกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้มาจาก AI เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์ เช่น สังคมสูงวัย 👴 ในประเทศรายได้สูงและการเพิ่มขึ้นของแรงงานในประเทศรายได้ต่ำ ตลอดจนความผันผวนทางเศรษฐกิจ📉 ตามรายงานขององค์การแรงงานระหว่างประเทศหรือ ILO คาดการณ์ว่าในอีกสองทศวรรษข้างหน้า ตำแหน่งงานในไทยมากกว่า 44% หรือราว 17 ล้านตำแหน่ง มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นพลังที่กำลังปรับโครงสร้างการจ้างงานอย่างถอนรากถอนโคน โดยเฉพาะงานที่ต้องทำซ้ำๆ และงานประจำ ซึ่งแรงงานวัยกลางคนจำนวนมากรับผิดชอบอยู่ ส่งผลให้เกิดปัญหาความไม่สมดุลของทักษะในตลาดแรงงาน แม้จะมีคนว่างงานมาก แต่พวกเขาก็ขาดทักษะที่จำเป็นสำหรับงานใหม่ที่เทคโนโลยีสร้างขึ้น การทำความเข้าใจปรากฏการณ์นี้อย่างเป็นระบบจะช่วยให้คนทำงานมองเห็นปัญหาในมุมกว้างและวางแผนพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในอนาคต 🔮 เพื่อให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น การจำแนกอาชีพตามระดับความเสี่ยงจาก AI ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ อาชีพที่มีความเสี่ยงสูงมักเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมประจำหรือการจัดการข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งสามารถทำให้เป็นระบบอัตโนมัติได้ง่าย เช่น พนักงานแคชเชียร์หรือพนักงานขายหน้าร้านที่ถูกแทนที่ด้วยระบบ self-checkout 🏧 และการซื้อขายออนไลน์ 🌐 เจ้าหน้าที่บริการลูกค้าหรือพนักงานคอลเซ็นเตอร์ที่ chatbot 🤖 และระบบตอบรับอัตโนมัติสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง พนักงานป้อนและประมวลผลข้อมูลที่ระบบ OCR และ AI สามารถจัดการข้อมูลมหาศาลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พนักงานขนส่งและโลจิสติกส์รวมถึงคนขับรถที่รถยนต์ไร้คนขับ 🚗 และโดรนส่งของกำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และพนักงานบัญชีที่โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูปและ AI สามารถบันทึกและประมวลผลข้อมูลทางการเงินได้อย่างแม่นยำ ในทางตรงกันข้าม อาชีพที่ทนทานต่อ AI และกำลังเติบโตมักต้องใช้ทักษะเชิงมนุษย์ชั้นสูงที่ซับซ้อนและเลียนแบบได้ยาก เช่น 🧑‍⚕️ แพทย์ 👩‍🔬นักจิตวิทยา และพยาบาลที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูง ประสบการณ์ การตัดสินใจที่ซับซ้อน และความเข้าใจมนุษย์ 👩‍🏫 ครู-อาจารย์ที่ต้องใช้ทักษะการสอนที่ละเอียดอ่อน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และการสร้างแรงบันดาลใจ นักกฎหมายที่ต้องคิดเชิงวิเคราะห์ซับซ้อน 🛜 การสื่อสาร และการตัดสินใจในบริบทละเอียดอ่อน นักพัฒนา AI Data Scientist และ AI Ethicist ที่เป็นผู้สร้างและควบคุมเทคโนโลยีเอง โดยต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และทักษะเฉพาะทางระดับสูง และผู้เชี่ยวชาญด้าน soft skills ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การสื่อสาร ภาวะผู้นำ และการจัดการอารมณ์ ข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่แค่รายการอาชีพ แต่เป็นแผนที่กลยุทธ์ที่ชี้ทิศทางของตลาดแรงงาน คุณค่าของมนุษย์ในยุค AI อยู่ที่ทักษะที่ AI ไม่สามารถแทนที่ได้ ซึ่งจะช่วยให้คนทำงานวางแผนอัปสกิลหรือรีสกิลไปสู่อาชีพที่ยั่งยืนกว่า เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบาก การตั้งหลักอย่างมีสติและกลยุทธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเริ่มจากจัดการคลื่นอารมณ์ที่ถาโถมเข้ามา 🧘 การถูกให้ออกจากงานอย่างกะทันหันอาจนำมาซึ่งความสับสน โกรธ สูญเสีย และด้อยค่า ผู้ที่เคยผ่านสถานการณ์นี้แนะนำให้ยอมรับความรู้สึกเหล่านั้นและให้เวลาตัวเองจัดการ โดยวิธีต่างๆ เช่น พูดคุยกับคนรอบข้างเพื่อรับกำลังใจและมุมมองใหม่ เขียนระบายความรู้สึกเพื่อจัดระเบียบความคิดและลดภาระจิตใจ หรือฝึกสมาธิและโยคะเพื่อทำให้จิตใจสงบ ลดความวิตกกังวล และตัดสินใจได้ดีขึ้น การปล่อยวางความคิดที่ว่าต้องชนะทุกเกมหรือชีวิตต้องเป็นไปตามแผนจะช่วยลดความกดดันและเปิดโอกาสให้คิดหาทางออกใหม่ๆ อย่างสร้างสรรค์ การให้กำลังใจตัวเองและไม่ยอมแพ้จะเป็นพลังที่นำไปสู่การเริ่มต้นใหม่ที่ทรงพลังกว่าเดิม 💪 ต่อจากนั้นคือการจัดการเรื่องสำคัญเร่งด่วนอย่างสิทธิประโยชน์และแผนการเงิน เพื่อให้มีสภาพคล่องในช่วงเปลี่ยนผ่าน การใช้สิทธิจากกองทุนประกันสังคมเป็นขั้นตอนสำคัญ โดยผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้รับเงินทดแทนกรณีว่างงาน หากจ่ายเงินสมทบไม่น้อยกว่า 6 เดือนภายใน 15 เดือนก่อนว่างงาน และต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานภายใน 30 วันนับจากวันที่ออกจากงาน มิเช่นนั้นจะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง การขึ้นทะเบียนสามารถทำออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมการจัดหางาน เช่น e-service.doe.go.th หรือ empui.doe.go.th โดยลงทะเบียนผู้ใช้ใหม่ กรอกข้อมูลส่วนตัว วันที่ออกจากงาน สาเหตุ และยืนยันตัวตนด้วยรหัสหลังบัตรประชาชน จากนั้นเลือกเมนูขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงานและกรอกข้อมูลการทำงานล่าสุด หลังจากนั้นยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคม เช่น แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนว่างงาน (สปส. 2-01/7) สำเนาบัตรประชาชน หนังสือรับรองการออกจากงาน (ถ้ามี) และสำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ร่วมรายการ สุดท้ายต้องรายงานตัวทุกเดือนผ่านช่องทางออนไลน์ ข้อควรระวังคือผู้ที่มีอายุเกิน 55 ปีจะไม่ได้รับเงินทดแทนว่างงาน แต่ต้องใช้สิทธิเบี้ยชราภาพแทน 💷💶💵 ถัดมาคือการประเมินตนเองอย่างตรงไปตรงมาเพื่อค้นหาคุณค่าจากประสบการณ์ที่สั่งสม การถูกเลิกจ้างในวัย 45 ปีไม่ได้หมายถึงคุณค่าหมดสิ้น แต่กลับกัน อายุและประสบการณ์คือทุนมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด ปัญหาที่แท้จริงคือทัศนคติที่ต้องปรับเปลี่ยน องค์กรยุคใหม่ให้ความสำคัญกับคนที่เปิดใจเรียนรู้และทำงานร่วมกับคนต่างวัย การเปลี่ยนจากการพูดถึงลักษณะงานไปสู่การบอกเล่าความสำเร็จที่จับต้องได้จะสร้างความน่าเชื่อถือ ทักษะที่นำไปปรับใช้ได้หรือ transferable skills คือขุมทรัพย์ของคนวัยนี้ เช่น ทักษะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนจากประสบการณ์ยาวนานที่ทำให้มองปัญหาได้อย่างเป็นระบบ โดยนำเสนอด้วยตัวอย่างปัญหาที่เคยแก้ไขพร้อมขั้นตอนวิเคราะห์และผลลัพธ์จริง 📊 ภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมจากประสบการณ์นำทีมโครงการใหญ่ โดยระบุรายละเอียดเช่นนำทีม 10 คนลดต้นทุนได้ 15% ทักษะการสื่อสารและความฉลาดทางอารมณ์จากการประสานงาน เจรจา และจัดการความขัดแย้ง โดยเล่าเรื่องที่แสดงถึงความเข้าใจผู้อื่น และการสร้างเครือข่ายจากความสัมพันธ์ในอุตสาหกรรม โดยใช้เพื่อขอคำแนะนำหรือหาโอกาสงาน การประยุกต์ทักษะเหล่านี้จะเปลี่ยนจุดอ่อนเรื่องอายุให้เป็นจุดแข็งที่ไม่เหมือนใคร 🧍‍♂️ ในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การยกระดับทักษะเพื่อการแข่งขันในยุคใหม่จึงจำเป็น โดยการเรียนรู้ตลอดชีวิตคือกุญแจสู่ความอยู่รอด 🏫 มีแหล่งฝึกอบรมมากมายในไทยทั้งภาครัฐและเอกชน เริ่มจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานหรือ DSD ที่ให้บริการฝึกอบรมหลากหลายทั้งหลักสูตรระยะสั้นสำหรับรีสกิลและอัปสกิล เช่น หลักสูตร AI สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คอมพิวเตอร์อย่าง Excel และ Power BI งานช่างอย่างช่างเดินสายไฟฟ้า และอาชีพอิสระอย่างทำอาหารไทย สามารถตรวจสอบและสมัครผ่านเว็บไซต์ dsd.go.th หรือ onlinetraining.dsd.go.th 🌐 ต่อมาคือศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภายใต้กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวที่เปิดหลักสูตรฟรีเช่นการดูแลผู้สูงอายุและเสริมสวย และกรมการจัดหางานที่มีกิจกรรมแนะแนวอาชีพสำหรับผู้ว่างงาน สำหรับสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยหลายแห่งอย่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เปิดหลักสูตรสะสมหน่วยกิตสำหรับรีสกิลและอัปสกิล ส่วนแพลตฟอร์มเอกชนอย่าง FutureSkill และ SkillLane 🕸️ นำเสนอคอร์สทักษะแห่งอนาคตทั้ง hard skills ด้านเทคโนโลยี ข้อมูล ธุรกิจ และ soft skills สำหรับทำงานร่วมกับ AI เมื่อพร้อมทั้งอารมณ์และทักษะ การกำหนดแผนปฏิบัติการ 3 เส้นทางสู่ความสำเร็จจะเป็นขั้นตอนต่อไป 1️⃣ เส้นทางแรกคือการกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยใช้ประสบการณ์เป็นแต้มต่อ 👩‍💻 เทคนิคเขียนเรซูเม่สำหรับวัยเก๋าคือหลีกเลี่ยงข้อมูลที่ทำให้ถูกเหมารวมอย่างปีจบการศึกษา ใช้คำสร้างความน่าเชื่อถือเช่นมีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี และเน้นความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม การสร้างโปรไฟล์ LinkedIn เพื่อนำเสนอประสบการณ์อย่างมืออาชีพ และใช้เครือข่ายอย่างเพื่อนร่วมงานเก่าหรือ head hunter เพื่อเปิดโอกาสงานที่ไม่ได้ประกาศทั่วไป 2️⃣ เส้นทางที่สองคือการเป็นผู้เชี่ยวชาญอิสระอย่างฟรีแลนซ์หรือคอนซัลแทนต์ 👨‍🏭 ซึ่งเหมาะกับผู้มีประสบการณ์สูงและต้องการกำหนดเวลาทำงานเอง อาชีพที่น่าสนใจเช่นที่ปรึกษาธุรกิจสำหรับองค์กรขนาดเล็ก นักเขียนหรือนักแปลอิสระที่ยังต้องอาศัยมนุษย์ตรวจสอบเนื้อหาละเอียดอ่อน และนักบัญชีหรือนักการเงินอิสระสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก การเตรียมพร้อมคือสร้างพอร์ตโฟลิโอที่น่าเชื่อถือเพราะผลงานสำคัญกว่าวุฒิการศึกษา 3️⃣ เส้นทางที่สามคือการเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็กจากงานอดิเรก 🏓 โดยใช้เทคโนโลยีลดต้นทุน เช่นขายของออนไลน์ผ่าน Facebook หรือ LINE เพื่อเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ หรือเป็น influencer หรือ YouTuber โดยใช้ประสบการณ์สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า ไอเดียธุรกิจที่ลงทุนน้อยและเหมาะสม เช่นธุรกิจอาหารและบริการอย่างทำอาหารหรือขนมขายจากบ้าน ขายของตลาดนัด หรือบริการดูแลผู้สูงอายุและสัตว์เลี้ยง ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์อย่างขายเสื้อผ้าหรือเป็นตัวแทนขายประกัน ธุรกิจที่ปรึกษาหรือฟรีแลนซ์อย่างที่ปรึกษาองค์กร นักเขียนอิสระ หรือที่ปรึกษาการเงิน และธุรกิจสร้างสรรค์อย่างปลูกผักปลอดสารพิษ งานฝีมือศิลปะ หรือเป็น influencer เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ การดูเรื่องราวความสำเร็จจากผู้ที่ก้าวข้ามมาแล้วจะช่วยให้เห็นว่าการเริ่มต้นใหม่ในวัย 45 ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ เช่น Henry Ford ที่ประสบความสำเร็จกับรถยนต์ Model T ในวัย 45 ปี Colonel Sanders ที่เริ่มแฟรนไชส์ KFC ในวัย 62 ปี หรือในไทยอย่างอดีตผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดที่ถูกเลิกจ้างแต่ผันตัวเป็นผู้ค้าอิสระและประสบความสำเร็จ เรื่องราวเหล่านี้แสดงว่าอายุเป็นเพียงตัวเลข และความมุ่งมั่นคือกุญแจ 🗝️ สุดท้าย การเผชิญกับการถูกบังคับเกษียณในวัย 45 ปีไม่ใช่จุดจบแต่เป็นใบเบิกทางสู่บทบาทใหม่ที่ทรงคุณค่า ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติคือตั้งสติจัดการอารมณ์ ใช้สิทธิประโยชน์ให้เต็มที่ ประเมินคุณค่าจากประสบการณ์ ยกระดับทักษะอย่างต่อเนื่อง และสำรวจทางเลือกใหม่ๆ ท้ายที่สุด วัย 45 ปีคือช่วงเวลาที่ทรงพลังที่สุดในการนำประสบการณ์กว่าสองทศวรรษไปสร้างคุณค่าใหม่ให้ชีวิตและสังคมอย่างยั่งยืน #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1505 มุมมอง 0 รีวิว
  • บรรยากาศวัดพระบาทน้ำพุเงียบเหงา. หลังมีกระแสข่าว หมอบี ยักยอกเงินวัด เจ้าหน้าที่เผยยอดบริจาคลดลงชัดเจน แต่ยืนยันหลวงพ่ออลงกตมีแต่ช่วยเหลือผู้อื่น พร้อมชี้แจงกรณีสิ่งของบริจาคเน่าเสียเป็นเพียงของสดที่นำไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านและสัตว์เลี้ยง ไม่เคยทิ้งขว้าง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075491

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    บรรยากาศวัดพระบาทน้ำพุเงียบเหงา. หลังมีกระแสข่าว หมอบี ยักยอกเงินวัด เจ้าหน้าที่เผยยอดบริจาคลดลงชัดเจน แต่ยืนยันหลวงพ่ออลงกตมีแต่ช่วยเหลือผู้อื่น พร้อมชี้แจงกรณีสิ่งของบริจาคเน่าเสียเป็นเพียงของสดที่นำไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านและสัตว์เลี้ยง ไม่เคยทิ้งขว้าง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075491 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 873 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมดปัญหาน้องหมาน้องแมวกินยาก!
    อยากเพิ่มคุณค่า เพิ่มความอร่อย ให้น้องๆ ได้ทานอาหารเสริมโปรตีนสูงอย่าง #อกไก่ฟรีซดราย ได้ง่ายขึ้นไหมคะ?

    ขอแนะนำ เครื่องบดผง/เครื่องบดแป้ง ย.ยงฮะเฮง รุ่น YHRBM-DF20-SUS-DA ตัวช่วยสุดล้ำสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง หรือธุรกิจอาหารสัตว์!

    ทำไมเครื่องนี้ถึงใช่ สำหรับน้องหมาน้องแมว?
    บดอกไก่ฟรีซดราย หรือ #ขนมสัตว์เลี้ยง อื่นๆ ให้เป็น ผงละเอียดเนียน ได้อย่างง่ายดาย!
    #ผงโรยอาหารสัตว์ ที่ได้ ช่วยให้น้องๆ ทานง่ายขึ้นเยอะ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเคี้ยวอีกต่อไป
    เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้มื้ออาหารโปรดได้ทันที!
    เหมาะทั้งสำหรับใช้เองในบ้าน หรือสำหรับผู้ประกอบการ #ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง

    ประสิทธิภาพเครื่อง (คุณสมบัติที่เราภูมิใจ):

    บดละเอียดสม่ำเสมอ: ด้วยระบบเหวี่ยงผนังฟันปลา 2,840 รอบ/นาที

    ทนทาน ใช้งานง่าย: ออกแบบมาเพื่อการทำงานที่ต่อเนื่อง

    มีอะไหล่รองรับ: มั่นใจเรื่องบริการหลังการขาย

    พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ!

    ลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีของน้องๆ หรือต่อยอดธุรกิจอาหารสัตว์ของคุณ ในราคาที่คุ้มค่ากับการลงทุนหลักสี่หมื่นบาทต้นๆ เท่านั้น!

    สนใจเครื่องบดประสิทธิภาพสูงรุ่นนี้ ทักมาเลยค่ะ!
    อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม หรือขอใบเสนอราคาพิเศษ คลิกเลย!
    LINE Business ID: @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือกดลิงก์ https://lin.ee/HV4lSKp
    โทร: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY #เครื่องบด #เครื่องบดผง #เครื่องบดแป้ง #ย.ยงฮะเฮง #อาหารสัตว์ #ผลิตอาหารสัตว์ #ขนมสัตว์ #ฟรีซดราย #อกไก่ฟรีซดราย #ผงโรยอาหาร #หมา #แมว #สัตว์เลี้ยง #อาหารสุนัข #อาหารแมวพรีเมียม #DIYอาหารสัตว์ #รักสัตว์ #สุขภาพสัตว์เลี้ยง #ย่งฮะเฮง
    🐾 หมดปัญหาน้องหมาน้องแมวกินยาก! 🐾 อยากเพิ่มคุณค่า เพิ่มความอร่อย ให้น้องๆ ได้ทานอาหารเสริมโปรตีนสูงอย่าง #อกไก่ฟรีซดราย ได้ง่ายขึ้นไหมคะ? ขอแนะนำ เครื่องบดผง/เครื่องบดแป้ง ย.ยงฮะเฮง รุ่น YHRBM-DF20-SUS-DA ตัวช่วยสุดล้ำสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง หรือธุรกิจอาหารสัตว์! ✨ ทำไมเครื่องนี้ถึงใช่ สำหรับน้องหมาน้องแมว? ✨ ✅ บดอกไก่ฟรีซดราย หรือ #ขนมสัตว์เลี้ยง อื่นๆ ให้เป็น ผงละเอียดเนียน ได้อย่างง่ายดาย! ✅ #ผงโรยอาหารสัตว์ ที่ได้ ช่วยให้น้องๆ ทานง่ายขึ้นเยอะ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเคี้ยวอีกต่อไป ✅ เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้มื้ออาหารโปรดได้ทันที! ✅ เหมาะทั้งสำหรับใช้เองในบ้าน หรือสำหรับผู้ประกอบการ #ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง ประสิทธิภาพเครื่อง (คุณสมบัติที่เราภูมิใจ): บดละเอียดสม่ำเสมอ: ด้วยระบบเหวี่ยงผนังฟันปลา 2,840 รอบ/นาที ทนทาน ใช้งานง่าย: ออกแบบมาเพื่อการทำงานที่ต่อเนื่อง มีอะไหล่รองรับ: มั่นใจเรื่องบริการหลังการขาย พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ! ลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดีของน้องๆ หรือต่อยอดธุรกิจอาหารสัตว์ของคุณ ในราคาที่คุ้มค่ากับการลงทุนหลักสี่หมื่นบาทต้นๆ เท่านั้น! สนใจเครื่องบดประสิทธิภาพสูงรุ่นนี้ ทักมาเลยค่ะ! อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม หรือขอใบเสนอราคาพิเศษ คลิกเลย! 💚 LINE Business ID: @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือกดลิงก์ https://lin.ee/HV4lSKp 📞 โทร: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY #เครื่องบด #เครื่องบดผง #เครื่องบดแป้ง #ย.ยงฮะเฮง #อาหารสัตว์ #ผลิตอาหารสัตว์ #ขนมสัตว์ #ฟรีซดราย #อกไก่ฟรีซดราย #ผงโรยอาหาร #หมา #แมว #สัตว์เลี้ยง #อาหารสุนัข #อาหารแมวพรีเมียม #DIYอาหารสัตว์ #รักสัตว์ #สุขภาพสัตว์เลี้ยง #ย่งฮะเฮง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1584 มุมมอง 0 0 รีวิว
Pages Boosts