• "จอนนี่ มือปราบ" เผยไม่เสียแรงต่อสู้! อธิบดีกรมพัฒน์ฯ ลงพื้นที่สิรินธร หาทางออกปมที่ดิน 387 ครอบครัว ไม่คิดดำเนินคดีใคร ยกเคสจอนนี่เป็นโมเดลนำร่องช่วยชาวบ้านทั่วประเทศให้มีที่ดินทำกิน ปิดฉากดรามารีสอร์ตรุกที่นิคมฯ ที่อย่างสมศักดิ์ศรี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000065652

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "จอนนี่ มือปราบ" เผยไม่เสียแรงต่อสู้! อธิบดีกรมพัฒน์ฯ ลงพื้นที่สิรินธร หาทางออกปมที่ดิน 387 ครอบครัว ไม่คิดดำเนินคดีใคร ยกเคสจอนนี่เป็นโมเดลนำร่องช่วยชาวบ้านทั่วประเทศให้มีที่ดินทำกิน ปิดฉากดรามารีสอร์ตรุกที่นิคมฯ ที่อย่างสมศักดิ์ศรี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000065652 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    Wow
    10
    0 Comments 0 Shares 571 Views 0 Reviews
  • "จอนนี่ มือปราบ" เผยไม่เสียแรงต่อสู้! อธิบดีกรมพัฒน์ฯ ลงพื้นที่สิรินธร หาทางออกปมที่ดิน 387 ครอบครัว ไม่คิดดำเนินคดีใคร ยกเคสจอนนี่เป็นโมเดลนำร่องช่วยชาวบ้านทั่วประเทศให้มีที่ดินทำกิน ปิดฉากดรามารีสอร์ตรุกที่นิคมฯ ที่อย่างสมศักดิ์ศรี

    วันนี้ (12 ก.ค.) ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ "จอนนี่มือปราบ" อดีตตำรวจชื่อดังและอินฟลูเอนเซอร์คนดัง โพสต์ภาพและข้อความอัพเดตความคืบหน้าคดีสร้างรีสอร์ตรุกที่นิคมสร้างตนเองลําโดมน้อย จ.อุบลราชธานี ว่า ล่าสุดวันนี้ (12 ก.ค.) นายกันตพงษ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่เป็นคู่กรณีฟ้องร้องกับผม ที่เป็นข่าวดัง เรื่องรีสอร์ทของผม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065648

    #Thaitimes #MGROnline #จอนนี่มือปราบ
    "จอนนี่ มือปราบ" เผยไม่เสียแรงต่อสู้! อธิบดีกรมพัฒน์ฯ ลงพื้นที่สิรินธร หาทางออกปมที่ดิน 387 ครอบครัว ไม่คิดดำเนินคดีใคร ยกเคสจอนนี่เป็นโมเดลนำร่องช่วยชาวบ้านทั่วประเทศให้มีที่ดินทำกิน ปิดฉากดรามารีสอร์ตรุกที่นิคมฯ ที่อย่างสมศักดิ์ศรี • วันนี้ (12 ก.ค.) ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ หรือ "จอนนี่มือปราบ" อดีตตำรวจชื่อดังและอินฟลูเอนเซอร์คนดัง โพสต์ภาพและข้อความอัพเดตความคืบหน้าคดีสร้างรีสอร์ตรุกที่นิคมสร้างตนเองลําโดมน้อย จ.อุบลราชธานี ว่า ล่าสุดวันนี้ (12 ก.ค.) นายกันตพงษ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่เป็นคู่กรณีฟ้องร้องกับผม ที่เป็นข่าวดัง เรื่องรีสอร์ทของผม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000065648 • #Thaitimes #MGROnline #จอนนี่มือปราบ
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • #เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?
    #12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง

    สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว

    เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย

    บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย

    จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน

    นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์

    ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”

    การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

    การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย

    ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน

    อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน

    “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ”

    แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

    นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย

    ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ

    ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา

    ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา

    เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย

    แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?

    คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น

    ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม?

    นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป

    โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก

    แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ

    โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้

    ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"

    โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด

    ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

    ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ

    หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก

    แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ

    ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา

    ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง"

    คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า

    หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้

    ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย

    ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ

    การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้

    ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา

    การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น

    ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน

    การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้

    แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด

    จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง

    สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา

    การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน

    นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย

    เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน

    โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า

    กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ
    🤠#เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?🤠 🤠#12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง🤠 สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์ 🥰ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”🥰 การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ” แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย 🥰แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?🥰 คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น 🥰ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม? 🥰 นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้ 🥰ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"🥰 โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง" คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า 🥰หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้🥰 ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้ 🥰ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา🥰 การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้ แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด 🥰จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง🥰 สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน 💓โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า💓 😍กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ😍
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • สลามเมืองไทย EP24 | เมล็ดพันธุ์ของพ่อ วิถีพอเพียง ชุมชนกาแลตาแป จ.นราธิวาส

    ในตอนนี้ อนุชา แฮมเมอร์ จะพาผู้ชมไปร่วมสัมผัสกับเรื่องราวอันแสนอบอุ่นของชุมชนกาแลตาแป จังหวัดนราธิวาส พื้นที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นบ้านกึ่งวิถีมุสลิมแห่งแรก ที่นำแนวคิด “เมล็ดพันธุ์ของพ่อ” และ “เศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นหลักในการสร้างชีวิตใหม่ให้กับผู้คน

    จากอดีตผู้ต้องขัง สู่ผู้มีอาชีพมั่นคง มีคุณค่า และสามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างสงบสุข ที่นี่ไม่ได้เพียงปลูกพืช แต่ยังปลูกคนให้กลับมาเติบโตอย่างมีศักดิ์ศรี

    ชุมชนกาแลตาแปคือตัวอย่างของการให้โอกาสและการฟื้นฟูสังคมด้วยความรัก ความเข้าใจ และหลักคิดที่ยึดโยงกับคำสอนของทั้งศาสนาและในหลวงรัชกาลที่ 9

    ติดตามการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เพื่อเรียนรู้ว่าการให้อภัยและการให้โอกาส สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนและสังคมได้จริง

    #สลามเมืองไทย #EP24 #เมล็ดพันธุ์ของพ่อ #วิถีพอเพียง #ชุมชนกาแลตาแป #นราธิวาส #บ้านกึ่งวิถีมุสลิม #คืนคนดีสู่สังคม #ThaiMuslimCommunity #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP24 | เมล็ดพันธุ์ของพ่อ วิถีพอเพียง ชุมชนกาแลตาแป จ.นราธิวาส ในตอนนี้ อนุชา แฮมเมอร์ จะพาผู้ชมไปร่วมสัมผัสกับเรื่องราวอันแสนอบอุ่นของชุมชนกาแลตาแป จังหวัดนราธิวาส พื้นที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นบ้านกึ่งวิถีมุสลิมแห่งแรก ที่นำแนวคิด “เมล็ดพันธุ์ของพ่อ” และ “เศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นหลักในการสร้างชีวิตใหม่ให้กับผู้คน จากอดีตผู้ต้องขัง สู่ผู้มีอาชีพมั่นคง มีคุณค่า และสามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างสงบสุข ที่นี่ไม่ได้เพียงปลูกพืช แต่ยังปลูกคนให้กลับมาเติบโตอย่างมีศักดิ์ศรี ชุมชนกาแลตาแปคือตัวอย่างของการให้โอกาสและการฟื้นฟูสังคมด้วยความรัก ความเข้าใจ และหลักคิดที่ยึดโยงกับคำสอนของทั้งศาสนาและในหลวงรัชกาลที่ 9 ติดตามการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เพื่อเรียนรู้ว่าการให้อภัยและการให้โอกาส สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนและสังคมได้จริง #สลามเมืองไทย #EP24 #เมล็ดพันธุ์ของพ่อ #วิถีพอเพียง #ชุมชนกาแลตาแป #นราธิวาส #บ้านกึ่งวิถีมุสลิม #คืนคนดีสู่สังคม #ThaiMuslimCommunity #ThaiTimes
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 0 Reviews
  • เคยไหมที่เปิด Windows ใหม่ แล้วต้องมานั่งลบ Xbox, Notepad, Camera, Media Player, Terminal, Sound Recorder ที่ตัวเองไม่ได้ใช้ — แต่บางอันก็กดยกเลิกไม่ได้? → ตอนนี้ Microsoft ใส่ทางลัด “ถอดได้แบบมีศักดิ์ศรี” มาให้แล้วใน Windows 11 เวอร์ชัน 25H2 → โดยเพิ่มนโยบายชื่อว่า Remove Default Microsoft Store Packages ใน Group Policy

    ผู้ใช้ระดับองค์กร (โดยเฉพาะสาย Admin) สามารถเข้าไปที่ Computer Configuration > Administrative Templates > Windows Components > App Package Deployment → แล้วเลือกแอปที่ต้องการลบทิ้ง เช่น Xbox, Notepad, Terminal, Media Player ฯลฯ ได้ทันที

    ก่อนหน้านี้ถ้าจะทำแบบนี้ ต้องพึ่ง PowerShell, script พิเศษ หรือ image modify ซึ่งเสี่ยงผิดพลาดและยุ่งยากมาก → ตอนนี้ใช้ policy ของจริง → เสถียร + ได้ผลจริง + มี GUI

    Windows 11 25H2 เพิ่มฟีเจอร์ “Remove Default Microsoft Store Packages” สำหรับถอนแอป Microsoft ที่ติดมากับระบบ  
    • ใช้งานได้ผ่าน Group Policy  
    • เมนูอยู่ใน: App Package Deployment

    สามารถถอนแอปเหล่านี้ได้:  
    • Xbox App  
    • Windows Media Player  
    • Notepad  
    • Camera  
    • Sound Recorder  
    • Windows Terminal  
    • และอื่น ๆ ที่ติดมากับ Store โดยไม่ใช่แอป third-party

    เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการ UI สะอาด หรือสาย user ที่ไม่อยากเจอแอปซ้ำซ้อน

    เป็น native feature ครั้งแรกที่ไม่ต้องใช้ PowerShell หรือ script ภายนอก

    Microsoft ยืนยันว่าแม้ใน Windows 11 24H2 ก็จะมีฟีเจอร์นี้ด้วย แต่ต้องเปิดใช้งานเอง

    ผู้ใช้งานต้องกำหนดนโยบายก่อนการ login ของ user รายใหม่ → เพื่อให้หน้าจอสะอาดตั้งแต่ต้น

    https://www.techspot.com/news/108600-windows-11-25h2-adds-tool-debloat-os-remove.html
    เคยไหมที่เปิด Windows ใหม่ แล้วต้องมานั่งลบ Xbox, Notepad, Camera, Media Player, Terminal, Sound Recorder ที่ตัวเองไม่ได้ใช้ — แต่บางอันก็กดยกเลิกไม่ได้? → ตอนนี้ Microsoft ใส่ทางลัด “ถอดได้แบบมีศักดิ์ศรี” มาให้แล้วใน Windows 11 เวอร์ชัน 25H2 → โดยเพิ่มนโยบายชื่อว่า Remove Default Microsoft Store Packages ใน Group Policy ผู้ใช้ระดับองค์กร (โดยเฉพาะสาย Admin) สามารถเข้าไปที่ Computer Configuration > Administrative Templates > Windows Components > App Package Deployment → แล้วเลือกแอปที่ต้องการลบทิ้ง เช่น Xbox, Notepad, Terminal, Media Player ฯลฯ ได้ทันที ก่อนหน้านี้ถ้าจะทำแบบนี้ ต้องพึ่ง PowerShell, script พิเศษ หรือ image modify ซึ่งเสี่ยงผิดพลาดและยุ่งยากมาก → ตอนนี้ใช้ policy ของจริง → เสถียร + ได้ผลจริง + มี GUI ✅ Windows 11 25H2 เพิ่มฟีเจอร์ “Remove Default Microsoft Store Packages” สำหรับถอนแอป Microsoft ที่ติดมากับระบบ   • ใช้งานได้ผ่าน Group Policy   • เมนูอยู่ใน: App Package Deployment ✅ สามารถถอนแอปเหล่านี้ได้:   • Xbox App   • Windows Media Player   • Notepad   • Camera   • Sound Recorder   • Windows Terminal   • และอื่น ๆ ที่ติดมากับ Store โดยไม่ใช่แอป third-party ✅ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการ UI สะอาด หรือสาย user ที่ไม่อยากเจอแอปซ้ำซ้อน ✅ เป็น native feature ครั้งแรกที่ไม่ต้องใช้ PowerShell หรือ script ภายนอก ✅ Microsoft ยืนยันว่าแม้ใน Windows 11 24H2 ก็จะมีฟีเจอร์นี้ด้วย แต่ต้องเปิดใช้งานเอง ✅ ผู้ใช้งานต้องกำหนดนโยบายก่อนการ login ของ user รายใหม่ → เพื่อให้หน้าจอสะอาดตั้งแต่ต้น https://www.techspot.com/news/108600-windows-11-25h2-adds-tool-debloat-os-remove.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Windows 11 25H2 adds tool to debloat the OS and remove built-in apps
    Windows Insiders recently discovered a setting in a preview version of Windows 11 version 25H2 that allows users to remove preinstalled apps. This new feature should help...
    0 Comments 0 Shares 123 Views 0 Reviews
  • 'เทพไท' ชี้ 'แพทองธาร' เหมาะเป็นรมว.วัฒนธรรมตั้งแต่ยุคนายกฯเศรษฐา
    https://www.thai-tai.tv/news/20050/
    .
    #แพทองธาร #กระทรวงวัฒนธรรม #นายกฯ #รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง2 #คืนวัตถุโบราณ #ข่าวเท็จ #การเมืองไทย #เทพไทเสนพงศ์ #ศักดิ์ศรีตำแหน่ง #ชัยเกษมนิติสิริ

    'เทพไท' ชี้ 'แพทองธาร' เหมาะเป็นรมว.วัฒนธรรมตั้งแต่ยุคนายกฯเศรษฐา https://www.thai-tai.tv/news/20050/ . #แพทองธาร #กระทรวงวัฒนธรรม #นายกฯ #รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง2 #คืนวัตถุโบราณ #ข่าวเท็จ #การเมืองไทย #เทพไทเสนพงศ์ #ศักดิ์ศรีตำแหน่ง #ชัยเกษมนิติสิริ
    0 Comments 0 Shares 188 Views 0 Reviews
  • นักการเมือง.นักโกงเมือง นักขายชาติ เขาอายไม่เป็นนะ จะด่าว่าจะไล่ กูก็ย้ายจากตำแหน่งหนึ่งไปอีกตำแหน่งหนึ่ง เพื่อเกียรติและศักดิ์ศรีของวงศ์ตระกูล และอำนาจ
    นักการเมือง.นักโกงเมือง นักขายชาติ เขาอายไม่เป็นนะ จะด่าว่าจะไล่ กูก็ย้ายจากตำแหน่งหนึ่งไปอีกตำแหน่งหนึ่ง เพื่อเกียรติและศักดิ์ศรีของวงศ์ตระกูล และอำนาจ
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • “ฮุน มาเนต” ยืนยัน กัมพูชาไม่ได้แทรกแซงการเมืองไทย กัมพูชาอดทนแม้ถูกไทยใส่ร้าย-ดูถูก
    https://www.thai-tai.tv/news/19943/
    .
    #ฮุนมาเนต #กัมพูชา #ไม่แทรกแซง #ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา #อำนาจอธิปไตย #การเมืองไทย #ข่าวต่างประเทศ #ตอบโต้ #ศักดิ์ศรีชาติ

    “ฮุน มาเนต” ยืนยัน กัมพูชาไม่ได้แทรกแซงการเมืองไทย กัมพูชาอดทนแม้ถูกไทยใส่ร้าย-ดูถูก https://www.thai-tai.tv/news/19943/ . #ฮุนมาเนต #กัมพูชา #ไม่แทรกแซง #ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา #อำนาจอธิปไตย #การเมืองไทย #ข่าวต่างประเทศ #ตอบโต้ #ศักดิ์ศรีชาติ
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • ..ความอีกด้านในช่วงเวลาที่ผ่านมา,การต่อสู้กับภาครัฐที่บัดสบมาตลอดตั้งแต่รัฐบาลที่นำเข้าวัคซีนโควิดที่ไร้งานวิจัยรับรองความปลอดภัยใดๆ,คนเหล่านี้กอดกองเงินกองทองกอดตังอย่างมีความสุขนักโดยเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องกับการค้่ยาค้าวัคซีนโควิดหรือตัววัคซีนmRNAทุกๆคนที่นำเข้ามาในไทยตลอดสร้างพวกโรงงานเพื่อผลิตวัคซีนที่เป็นmRNAเหมือนกันมาฉีดคนไทยด้วย,คณะแพทย์หมอที่สมคบคิดไม่สำนึกต่อการกระทำชั่วตั้งแต่ต้นต้องถูกกำจัดทันที,ซึ่งปัจจุบันลอยหน้าลอยตาเชิดหน้ามีเกียรติมีศักดิ์ศรีนัก,ไม่ถูกจัดการลงโทษสั่งสอนห่าเหวใดๆเลย.

    ..หมอจุฬา นำทีมผู้ได้รับผลกระทบ วัคซีนโควิด ร้องสภาฯตั้งคณะสอบ หลังพบผู้ป่วยตายเฉียบพลัน
    วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 - 11:47 น.
    “หมอจุฬา” พร้อมผู้ได้รับผลกระทบวัคซีนโควิด ร้องสภาฯเปิดเวทีสาธารณะ-ตั้งคณะทำงานสอบ หลังพบผู้ป่วยตายเฉียบพลัน โดยไม่รู้สาเหตุ ชี้ จากผลตรวจAnti spike ค่าสูงกว่า25,000 จาก 0.8 ขณะยุโรป-สหรัฐฯ สอบเรื่องนี้แล้ว ขอ “สธ.” เปิดสัญญาซื้อวัคซีน จี้ “สปสช.” ทบทวนขยายเวลาเยียวยา

    เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พร้อมคณะแพทย์และผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด 19  ในนามกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านตัวแทนเพื่อให้เปิดเวทีสาธารณะรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อที่จะได้มีข้อมูลในการดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ และให้ตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวนปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโควิด

    โดย นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี มีผู้ไปฉีดวัคซีนได้รับผลกระทบตามร่างกาย เสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุจำนวนไม่น้อย จึงเป็นโอกาสที่จะสะท้อนความเห็นของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยอยากให้มีการหามาตรการป้องกันผลกระทบจากการฉีดวัคซีน ซึ่งมีการรวมตัวของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลต่างๆ ช่วงแรกหลังฉีดวัคซีน ผลข้างเคียงค่อนข้างน้อยแต่ต่อมามีผลทางวิชาการ ยืนยันว่าวัคซีนโควิดสร้างปัญหาจริง

    ขณะที่ในยุโรปและสหรัฐฯ มีการสอบสวนกันมากขึ้น ส่วนประเทศไทย มีผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากถูกมองข้ามว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน แม้หลายคนพยายามร้องขอความเป็นธรรม แต่ถูกปิดปากซึ่งข่าวนี้เกิดขึ้นจริงทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยมีการยอมรับจากทำเนียบข่าวว่ามีการปิดข่าวเรื่องนี้ ในช่วงประธานาธิบดีโจไบเดน และขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอยู่

    ด้านพ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา แพทย์ชื่อดัง กล่าวว่า มีญาติผู้ป่วย มาขอให้สะกดจิตเนื่องจากภรรยาไม่รู้เป็นอะไรต้องถูกตัดแขนตัดขาทั้งสองข้าง เมื่อดูภาพเห็นเท้าแขนขาดำทั้งสองข้าง แล้ววันนี้ถูกตัดขาด 2 ข้าง ตัดแขน 1 ข้าง และตัดมืออีกข้างหนึ่งออก โดยยังไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไร

    ซึ่งเมื่อตรวจค่าเลือดภูมิต้านทานต่อต้านโควิด สูงถึง 14,500 จึงน่าจะเกี่ยวข้อง และเมื่อมาถามหมอหลายคน ได้ข้อสรุปว่าตัวAnti spike ไปอุดที่ไหนก็จะมีปัญหาที่นั่น ยกตัวอย่างมีหมอรุ่นน้องที่เชียงใหม่ล้มเสียชีวิต รวมถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ของอินโดนีเซีย ที่กำลังยืนปราศรัยก็ล้มตึงจากเวที และรองผู้ว่าฯพังงา ซึ่งมีร่างกายแข็งแรงก็เสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุ

    “เป็นห่วงบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ฉีดวัคซีนถึง 8 เข็มแล้วเป็นสโตรก และยังมีเสียชีวิตเฉียบพลันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีคนที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตจากการฉีดวัคซีนโควิดมาให้หมอรักษา 600 คน ทั้งนี้เห็นว่าน่าจะเกิดจากการฉีดวัคซีน เพราะจากการตรวจคนไข้ที่คลินิก 70 กว่าคน พบค่า Anti spike ระดับกว่า 1,000 สูงสุดถึง 25,000 จากค่าปกติต้อง 0.8 ขณะที่ส่วนตัวเป็นโควิด 2 ครั้ง ไม่เคยฉีดวัคซีน รักษาด้วยสมุนไพร ตรวจพบค่าเพียง 137” พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ กล่าว

    พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยสมุนไพร ถ้าสามารถนำมาใช้รักษาน่าจะช่วยรักษาคนทั้งโลกได้ และจะยังเพิ่มเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยไม่ต้องตั้งเป้าทำวิจัย

    ขณะที่ สามีของผู้ป่วยที่ถูกตัดขาตัดแขน กล่าวว่า ได้ไปขอค่าชดเชย จาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)แต่ไม่ได้รับการชดเชยเพราะเกินเวลา 2 ปีแล้ว

    ด้านแม่ที่ลูกอายุ 23 ปีได้รับผลกระทบ เล่าพร้อมน้ำตาคลอว่า ลูกฉีดวัคซีนโควิด 3 เข็ม จากเคยเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย วันนี้เป็นผู้ป่วยติดเตียงเดินไม่ได้ หมอบอกว่าเป็นลิ่มเลือดอุดตันก้านสมอง ไม่รู้สาเหตุ รักษาตามอาการ ทั้งที่ก่อนหน้า เล่นกีฬาปกติ ขณะนี้ป่วยมา 2 ปีแล้ว จิตใจไม่ปกติ ต้องหาหมอจิตเวชร่วมด้วย เงินที่เก็บไว้ให้เรียนก็หมดไปกับการรักษาตัว จึงอยากฝากภาครัฐช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย

    ขณะที่ผู้ป่วยอีกราย บอกว่ามีอาการปวดแสบปวดร้อนที่หน้าอก และคันในศีรษะ อย่างรุนแรง ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่หาย แค่บรรเทาเวลากินยา คาดว่ามาจากวัคซันโควิด

    ด้านนายแทนคุณ กล่าวเรียกร้องให้ รมว.สาธารณสุข เปิดสัญญาทุกฉบับที่ทำกับเอกชนในการซื้อวัคซีนโควิด และให้ สปสช.ทบทวนการขยายเวลาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีน โควิดได้รับการเยียวยา... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5194414
    ..ความอีกด้านในช่วงเวลาที่ผ่านมา,การต่อสู้กับภาครัฐที่บัดสบมาตลอดตั้งแต่รัฐบาลที่นำเข้าวัคซีนโควิดที่ไร้งานวิจัยรับรองความปลอดภัยใดๆ,คนเหล่านี้กอดกองเงินกองทองกอดตังอย่างมีความสุขนักโดยเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องกับการค้่ยาค้าวัคซีนโควิดหรือตัววัคซีนmRNAทุกๆคนที่นำเข้ามาในไทยตลอดสร้างพวกโรงงานเพื่อผลิตวัคซีนที่เป็นmRNAเหมือนกันมาฉีดคนไทยด้วย,คณะแพทย์หมอที่สมคบคิดไม่สำนึกต่อการกระทำชั่วตั้งแต่ต้นต้องถูกกำจัดทันที,ซึ่งปัจจุบันลอยหน้าลอยตาเชิดหน้ามีเกียรติมีศักดิ์ศรีนัก,ไม่ถูกจัดการลงโทษสั่งสอนห่าเหวใดๆเลย. ..หมอจุฬา นำทีมผู้ได้รับผลกระทบ วัคซีนโควิด ร้องสภาฯตั้งคณะสอบ หลังพบผู้ป่วยตายเฉียบพลัน วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 - 11:47 น. “หมอจุฬา” พร้อมผู้ได้รับผลกระทบวัคซีนโควิด ร้องสภาฯเปิดเวทีสาธารณะ-ตั้งคณะทำงานสอบ หลังพบผู้ป่วยตายเฉียบพลัน โดยไม่รู้สาเหตุ ชี้ จากผลตรวจAnti spike ค่าสูงกว่า25,000 จาก 0.8 ขณะยุโรป-สหรัฐฯ สอบเรื่องนี้แล้ว ขอ “สธ.” เปิดสัญญาซื้อวัคซีน จี้ “สปสช.” ทบทวนขยายเวลาเยียวยา เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พร้อมคณะแพทย์และผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด 19  ในนามกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านตัวแทนเพื่อให้เปิดเวทีสาธารณะรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อที่จะได้มีข้อมูลในการดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ และให้ตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวนปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโควิด โดย นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี มีผู้ไปฉีดวัคซีนได้รับผลกระทบตามร่างกาย เสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุจำนวนไม่น้อย จึงเป็นโอกาสที่จะสะท้อนความเห็นของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยอยากให้มีการหามาตรการป้องกันผลกระทบจากการฉีดวัคซีน ซึ่งมีการรวมตัวของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลต่างๆ ช่วงแรกหลังฉีดวัคซีน ผลข้างเคียงค่อนข้างน้อยแต่ต่อมามีผลทางวิชาการ ยืนยันว่าวัคซีนโควิดสร้างปัญหาจริง ขณะที่ในยุโรปและสหรัฐฯ มีการสอบสวนกันมากขึ้น ส่วนประเทศไทย มีผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากถูกมองข้ามว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน แม้หลายคนพยายามร้องขอความเป็นธรรม แต่ถูกปิดปากซึ่งข่าวนี้เกิดขึ้นจริงทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยมีการยอมรับจากทำเนียบข่าวว่ามีการปิดข่าวเรื่องนี้ ในช่วงประธานาธิบดีโจไบเดน และขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอยู่ ด้านพ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา แพทย์ชื่อดัง กล่าวว่า มีญาติผู้ป่วย มาขอให้สะกดจิตเนื่องจากภรรยาไม่รู้เป็นอะไรต้องถูกตัดแขนตัดขาทั้งสองข้าง เมื่อดูภาพเห็นเท้าแขนขาดำทั้งสองข้าง แล้ววันนี้ถูกตัดขาด 2 ข้าง ตัดแขน 1 ข้าง และตัดมืออีกข้างหนึ่งออก โดยยังไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไร ซึ่งเมื่อตรวจค่าเลือดภูมิต้านทานต่อต้านโควิด สูงถึง 14,500 จึงน่าจะเกี่ยวข้อง และเมื่อมาถามหมอหลายคน ได้ข้อสรุปว่าตัวAnti spike ไปอุดที่ไหนก็จะมีปัญหาที่นั่น ยกตัวอย่างมีหมอรุ่นน้องที่เชียงใหม่ล้มเสียชีวิต รวมถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ของอินโดนีเซีย ที่กำลังยืนปราศรัยก็ล้มตึงจากเวที และรองผู้ว่าฯพังงา ซึ่งมีร่างกายแข็งแรงก็เสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุ “เป็นห่วงบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ฉีดวัคซีนถึง 8 เข็มแล้วเป็นสโตรก และยังมีเสียชีวิตเฉียบพลันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีคนที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตจากการฉีดวัคซีนโควิดมาให้หมอรักษา 600 คน ทั้งนี้เห็นว่าน่าจะเกิดจากการฉีดวัคซีน เพราะจากการตรวจคนไข้ที่คลินิก 70 กว่าคน พบค่า Anti spike ระดับกว่า 1,000 สูงสุดถึง 25,000 จากค่าปกติต้อง 0.8 ขณะที่ส่วนตัวเป็นโควิด 2 ครั้ง ไม่เคยฉีดวัคซีน รักษาด้วยสมุนไพร ตรวจพบค่าเพียง 137” พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ กล่าว พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยสมุนไพร ถ้าสามารถนำมาใช้รักษาน่าจะช่วยรักษาคนทั้งโลกได้ และจะยังเพิ่มเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยไม่ต้องตั้งเป้าทำวิจัย ขณะที่ สามีของผู้ป่วยที่ถูกตัดขาตัดแขน กล่าวว่า ได้ไปขอค่าชดเชย จาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)แต่ไม่ได้รับการชดเชยเพราะเกินเวลา 2 ปีแล้ว ด้านแม่ที่ลูกอายุ 23 ปีได้รับผลกระทบ เล่าพร้อมน้ำตาคลอว่า ลูกฉีดวัคซีนโควิด 3 เข็ม จากเคยเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย วันนี้เป็นผู้ป่วยติดเตียงเดินไม่ได้ หมอบอกว่าเป็นลิ่มเลือดอุดตันก้านสมอง ไม่รู้สาเหตุ รักษาตามอาการ ทั้งที่ก่อนหน้า เล่นกีฬาปกติ ขณะนี้ป่วยมา 2 ปีแล้ว จิตใจไม่ปกติ ต้องหาหมอจิตเวชร่วมด้วย เงินที่เก็บไว้ให้เรียนก็หมดไปกับการรักษาตัว จึงอยากฝากภาครัฐช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย ขณะที่ผู้ป่วยอีกราย บอกว่ามีอาการปวดแสบปวดร้อนที่หน้าอก และคันในศีรษะ อย่างรุนแรง ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่หาย แค่บรรเทาเวลากินยา คาดว่ามาจากวัคซันโควิด ด้านนายแทนคุณ กล่าวเรียกร้องให้ รมว.สาธารณสุข เปิดสัญญาทุกฉบับที่ทำกับเอกชนในการซื้อวัคซีนโควิด และให้ สปสช.ทบทวนการขยายเวลาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีน โควิดได้รับการเยียวยา... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5194414
    0 Comments 0 Shares 319 Views 0 Reviews
  • ผ่าดวง AI อุ๊งอิ๊งค์ไม่น่ารอด?

    1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้รับคำร้องกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา พร้อมกับมีมติ 7 ต่อ 2 ให้หยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ขณะที่เจ้าตัวกล่าวขอโทษคนไทยที่ไม่สบายใจหรือรู้สึกโกรธเคือง ยืนยันตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ

    เมื่อใช้ ChatGPT ทำนายดวงผู้หญิงที่เกิดวันที่ 21 ส.ค. 2529 ที่กรุงเทพมหานคร โดยไม่เจาะจงว่าเป็นใคร ใช้สถานการณ์สมมติว่าถูกฝ่ายตรวจสอบภายในบริษัทสั่งพักงานเพราะทำความผิดร้ายแรง มีคลิปเสียงที่ไปคุยกับบริษัทคู่แข่ง แต่บอกว่ามีเจตนาดี อยากช่วยบริษัท ไม่ได้ตั้งใจเป็นแบบนั้น พบว่าดาวเสาร์จร (Saturn transit) ซึ่งทำมุมตรงข้ามกับดวงอาทิตย์กำเนิดในราศีสิงห์ สะท้อนว่าเป็นช่วงที่ชีวิตโดนสอบสวนและต้องชดใช้ในสิ่งที่อาจทำไปโดยรู้หรือไม่รู้ตัว

    ส่วนคลิปเสียงเกี่ยวข้องกับดาวพุธ (Mercury) ซึ่งมักเกี่ยวกับหลักฐานทางการสื่อสาร หากพุธจรสัมพันธ์กับดาวมฤตยูหรือดาวเสาร์ ก็หมายถึงความลับที่ถูกเปิดเผย หรือคำพูดที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ดาวพลูโตโคจรทำมุมกับดาวอังคารกำเนิดในราศีกันย์ ซึ่งดาวแห่งการกระทำเชิงงานสื่อถึงการถูกจับตา ถูกแฉ ถูกล้วงความลับ ซึ่งเกิดขึ้นกับคนที่มีอีโก้หรือเจตนาดี แต่ระบบไม่มองแบบนั้น ส่วนจะตกงานหรือไม่ มีโอกาสตกงานในตำแหน่งเดิม หรือต้องรีเซตใหม่สูง

    ปี 2568 เป็นปีที่ดาวเสาร์บีบตัวตนแรงที่สุดในรอบ 14 ปี ผู้หญิงรายนี้มีพลังอาทิตย์ในราศีสิงห์ ภาคภูมิใจในตัวเอง แต่ตอนนี้ถูกทำให้หมดศักดิ์ศรีแบบไม่เต็มใจ ซึ่งคลิปเสียงเป็นสิ่งที่ย้อนมาทำร้ายดาวพุธ กับอาทิตย์ หากสามารถพิสูจน์เจตนาดีและมีคนในองค์กรระดับสูงช่วยพูดแทน จะอาจได้โอกาสเปลี่ยนตำแหน่ง ลดบทบาท หรือย้าย มากกว่าถูกให้ออก แต่กลางปี 2569 ดาวพฤหัสเข้าสู่มุมดีกับงาน อาจมีหน่วยงานใหม่ หรือบริษัทใหม่ที่รับผู้หญิงรายนี้ไปด้วยมุมมองต่างจากองค์กรเดิม

    หากยังอยากอยู่ในที่เดิม ต้องยอมรับว่าเจตนาดีไม่เพียงพอในองค์กรระบบใหญ่ ต้องขอโทษแบบไม่มีข้อแม้ เพราะโหงวเฮ้งหรือดาวเสาร์ไม่เปิดรับข้ออ้าง อย่าปะทะกลับหรืออธิบายซ้ำซ้อนมากเกินไป คนไม่ชอบจะใช้เป็นเหตุขุดเพิ่ม และหาพยานบุคคลที่เคยเห็นความตั้งใจดี ขอให้พูดแทนแบบมืออาชีพ แต่หากพร้อมจะไปต่อที่ใหม่ ควรพักใจ รีเซตตัวเอง เลือกงานที่วางโครงสร้างชัดเจน ช่วงปลายปี 2568 ถึงต้นปี 2569 จะมีแสงสว่างจากผู้ใหญ่ใหม่ หรือโปรเจกต์ที่เคยมีบุญคุณไว้ หรือเคยช่วยไว้ในอดีต

    #Newskit
    ผ่าดวง AI อุ๊งอิ๊งค์ไม่น่ารอด? 1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้รับคำร้องกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา พร้อมกับมีมติ 7 ต่อ 2 ให้หยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ขณะที่เจ้าตัวกล่าวขอโทษคนไทยที่ไม่สบายใจหรือรู้สึกโกรธเคือง ยืนยันตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เมื่อใช้ ChatGPT ทำนายดวงผู้หญิงที่เกิดวันที่ 21 ส.ค. 2529 ที่กรุงเทพมหานคร โดยไม่เจาะจงว่าเป็นใคร ใช้สถานการณ์สมมติว่าถูกฝ่ายตรวจสอบภายในบริษัทสั่งพักงานเพราะทำความผิดร้ายแรง มีคลิปเสียงที่ไปคุยกับบริษัทคู่แข่ง แต่บอกว่ามีเจตนาดี อยากช่วยบริษัท ไม่ได้ตั้งใจเป็นแบบนั้น พบว่าดาวเสาร์จร (Saturn transit) ซึ่งทำมุมตรงข้ามกับดวงอาทิตย์กำเนิดในราศีสิงห์ สะท้อนว่าเป็นช่วงที่ชีวิตโดนสอบสวนและต้องชดใช้ในสิ่งที่อาจทำไปโดยรู้หรือไม่รู้ตัว ส่วนคลิปเสียงเกี่ยวข้องกับดาวพุธ (Mercury) ซึ่งมักเกี่ยวกับหลักฐานทางการสื่อสาร หากพุธจรสัมพันธ์กับดาวมฤตยูหรือดาวเสาร์ ก็หมายถึงความลับที่ถูกเปิดเผย หรือคำพูดที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ดาวพลูโตโคจรทำมุมกับดาวอังคารกำเนิดในราศีกันย์ ซึ่งดาวแห่งการกระทำเชิงงานสื่อถึงการถูกจับตา ถูกแฉ ถูกล้วงความลับ ซึ่งเกิดขึ้นกับคนที่มีอีโก้หรือเจตนาดี แต่ระบบไม่มองแบบนั้น ส่วนจะตกงานหรือไม่ มีโอกาสตกงานในตำแหน่งเดิม หรือต้องรีเซตใหม่สูง ปี 2568 เป็นปีที่ดาวเสาร์บีบตัวตนแรงที่สุดในรอบ 14 ปี ผู้หญิงรายนี้มีพลังอาทิตย์ในราศีสิงห์ ภาคภูมิใจในตัวเอง แต่ตอนนี้ถูกทำให้หมดศักดิ์ศรีแบบไม่เต็มใจ ซึ่งคลิปเสียงเป็นสิ่งที่ย้อนมาทำร้ายดาวพุธ กับอาทิตย์ หากสามารถพิสูจน์เจตนาดีและมีคนในองค์กรระดับสูงช่วยพูดแทน จะอาจได้โอกาสเปลี่ยนตำแหน่ง ลดบทบาท หรือย้าย มากกว่าถูกให้ออก แต่กลางปี 2569 ดาวพฤหัสเข้าสู่มุมดีกับงาน อาจมีหน่วยงานใหม่ หรือบริษัทใหม่ที่รับผู้หญิงรายนี้ไปด้วยมุมมองต่างจากองค์กรเดิม หากยังอยากอยู่ในที่เดิม ต้องยอมรับว่าเจตนาดีไม่เพียงพอในองค์กรระบบใหญ่ ต้องขอโทษแบบไม่มีข้อแม้ เพราะโหงวเฮ้งหรือดาวเสาร์ไม่เปิดรับข้ออ้าง อย่าปะทะกลับหรืออธิบายซ้ำซ้อนมากเกินไป คนไม่ชอบจะใช้เป็นเหตุขุดเพิ่ม และหาพยานบุคคลที่เคยเห็นความตั้งใจดี ขอให้พูดแทนแบบมืออาชีพ แต่หากพร้อมจะไปต่อที่ใหม่ ควรพักใจ รีเซตตัวเอง เลือกงานที่วางโครงสร้างชัดเจน ช่วงปลายปี 2568 ถึงต้นปี 2569 จะมีแสงสว่างจากผู้ใหญ่ใหม่ หรือโปรเจกต์ที่เคยมีบุญคุณไว้ หรือเคยช่วยไว้ในอดีต #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 340 Views 0 Reviews
  • ไปทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน
    เกิดมาทั้งที โชคดีได้เป็นไทย
    แผ่นดินนี้ บรรพชนปกป้องไว้
    จะไม่ยอมให้ใครมาย่ำยีศักดิ์ศรีไทย
    ไปทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน เกิดมาทั้งที โชคดีได้เป็นไทย แผ่นดินนี้ บรรพชนปกป้องไว้ จะไม่ยอมให้ใครมาย่ำยีศักดิ์ศรีไทย
    0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews
  • ..อดีตนายกฯทวีเราไม่เกี่ยวหรอกแค่เชื่อมรอยต่อว่า อดีตนายกฯหญิงถูกยึดอำนาจจากใครแล้วก็ลดลงไปเรื่อยๆถึงอดีตนายกฯชวนขึ้นมาถึงโทนี่.,mouจะสี่อะไรจริงๆสามารถยกเลิกได้หมดในสภาหรือการยึดอำนาจสมบูรณ์หากพิจารณาชัดเจนแล้วว่าไม่เป็นคุณเป็นธรรมต่อประเทศไทยเราหรือหยามเกียรติศักดิ์ศรีอธิปไตยชาติไทยเรา,แม้ตอนนี้เวลานี้ก็สามารถยกเลิกได้ทันที,ยิ่งอเมริกาไม่ให้ค่าศาลโลก,รัสเชียจีนยิ่งปฏิเสธอีกก็ว่า,องค์กรโลกผีบ้าหาความยุติธรรมไม่ได้หรอก.
    ..ทหารไทยเราคงพอกับอดีตที่ผิดพลาดของหัวหน้าตนเองได้แล้ว,หัวหน้าอะไรปล่อยเขมรมารุกรานคุกคามอธิปไตยไทยเราอิสระเสรีขนาดนี้,มันกะจะรุกรานคุกคามเวลาไหนก็เอาที่สบายใจมันง่ายๆงั้นเหรอ,อยากได้อะไรเดี๋ยวรัฐบาลจัดให้ใช่มั้ย,คงได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่คุยกันในที่ลับจนเคยชินมาหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่เด็ก,มันคุยกันง่ายๆแบบนี้เองระดับคนมีอำนาจผู้นำผู้ปกครองในบ้านในเมืองนี้,และสามารถแลกอธิปไตยกันง่ายๆกับผลประโยชน์ตนเองด้วยเอาชาติไทยตนเป็นเครื่องสร้างรายได้เนาะ.,เขาพระวิหารมหากาฬนั้นต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังมาแน่นอนเช่นกัน.จนเกิดข้อตกลงผีบ้านั้นขึ้นพร้อมส่งมุกเปิดช่องให้อีกฝ่ายง่ายต่อวลีคำบาลีอ้างให้สามารถชนะความได้เพราะเดอะแก๊งคณะทั้งหมดนี้สมยอมสมรู้ร่วมคิดกับมันตลอดแกล้งโง่ก็ด้วย.วิถีปกครองที่วางแผนล้มล้างแผ่นดินไทยตนเองและทำลายชุมชนสังคมภายในตนเองบนอำนาจมั่งคั่งยั่งยืนสืบไป.,แต่เหี้ยกรรมตามทันแพ้ภัยตนเอง ดับอนาถทุกรายเพราะแผ่นดินไทยเรานี้ศักดิ์สิทธิ์นัก,เขาปล่อยให้สะสมเรเวลกรรมหนักไปเรื่อยๆแค่นั้นล่ะอิสระสะสมกรรมรุ่นxxlvipนรก.ก็ว่า.
    ..อดีตนายกฯทวีเราไม่เกี่ยวหรอกแค่เชื่อมรอยต่อว่า อดีตนายกฯหญิงถูกยึดอำนาจจากใครแล้วก็ลดลงไปเรื่อยๆถึงอดีตนายกฯชวนขึ้นมาถึงโทนี่.,mouจะสี่อะไรจริงๆสามารถยกเลิกได้หมดในสภาหรือการยึดอำนาจสมบูรณ์หากพิจารณาชัดเจนแล้วว่าไม่เป็นคุณเป็นธรรมต่อประเทศไทยเราหรือหยามเกียรติศักดิ์ศรีอธิปไตยชาติไทยเรา,แม้ตอนนี้เวลานี้ก็สามารถยกเลิกได้ทันที,ยิ่งอเมริกาไม่ให้ค่าศาลโลก,รัสเชียจีนยิ่งปฏิเสธอีกก็ว่า,องค์กรโลกผีบ้าหาความยุติธรรมไม่ได้หรอก. ..ทหารไทยเราคงพอกับอดีตที่ผิดพลาดของหัวหน้าตนเองได้แล้ว,หัวหน้าอะไรปล่อยเขมรมารุกรานคุกคามอธิปไตยไทยเราอิสระเสรีขนาดนี้,มันกะจะรุกรานคุกคามเวลาไหนก็เอาที่สบายใจมันง่ายๆงั้นเหรอ,อยากได้อะไรเดี๋ยวรัฐบาลจัดให้ใช่มั้ย,คงได้ยินผู้หลักผู้ใหญ่คุยกันในที่ลับจนเคยชินมาหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่เด็ก,มันคุยกันง่ายๆแบบนี้เองระดับคนมีอำนาจผู้นำผู้ปกครองในบ้านในเมืองนี้,และสามารถแลกอธิปไตยกันง่ายๆกับผลประโยชน์ตนเองด้วยเอาชาติไทยตนเป็นเครื่องสร้างรายได้เนาะ.,เขาพระวิหารมหากาฬนั้นต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังมาแน่นอนเช่นกัน.จนเกิดข้อตกลงผีบ้านั้นขึ้นพร้อมส่งมุกเปิดช่องให้อีกฝ่ายง่ายต่อวลีคำบาลีอ้างให้สามารถชนะความได้เพราะเดอะแก๊งคณะทั้งหมดนี้สมยอมสมรู้ร่วมคิดกับมันตลอดแกล้งโง่ก็ด้วย.วิถีปกครองที่วางแผนล้มล้างแผ่นดินไทยตนเองและทำลายชุมชนสังคมภายในตนเองบนอำนาจมั่งคั่งยั่งยืนสืบไป.,แต่เหี้ยกรรมตามทันแพ้ภัยตนเอง ดับอนาถทุกรายเพราะแผ่นดินไทยเรานี้ศักดิ์สิทธิ์นัก,เขาปล่อยให้สะสมเรเวลกรรมหนักไปเรื่อยๆแค่นั้นล่ะอิสระสะสมกรรมรุ่นxxlvipนรก.ก็ว่า.
    0 Comments 0 Shares 224 Views 0 Reviews
  • 'ดร.สามารถ'หมายถึงพรรคไหน? เมื่อศักดิ์ศรีพรรค ยังไม่กล้าปกป้อง แล้วจะกู่ร้องปกป้องรักษาชาติได้อย่างไร
    https://www.thai-tai.tv/news/19688/
    'ดร.สามารถ'หมายถึงพรรคไหน? เมื่อศักดิ์ศรีพรรค ยังไม่กล้าปกป้อง แล้วจะกู่ร้องปกป้องรักษาชาติได้อย่างไร https://www.thai-tai.tv/news/19688/
    0 Comments 0 Shares 57 Views 0 Reviews
  • หนุนกองทัพทุกรูปแบบ ป้องภัยคุกคามยิ่งใหญ่ : [NEWS UPDATE]
    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขออภัยประชาชนทำให้เกิดความไม่สบายใจ กรณีคลิปเสียงเจรจากับ สมเด็จ ฮุนเซนประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ผิดหวังการกระทำของผู้นำกัมพูชา ไม่มีผู้นำคนใดทั่วโลกทำกัน ไม่เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก ได้คุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ผู้บัญชาการเหล่าทัพ อธิบายเจตนาว่า เป็นเทคนิคการสื่อสารเพื่อแสดงความเข้าใจและต่อรองให้การปะทะยุติลง ทุกภาคส่วนได้ข้อสรุปว่า ต้องร่วมมือปกป้องอธิปไตยของประเทศ ครั้งนี้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ที่รัฐบาลกับกองทัพจะมาสู้กัน รัฐบาลยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ


    สว.ไล่บี้ถอดถอนนายก

    ไม่ปิดด่านตามใจฮุนเซน

    ศูนย์กลางอาชญากรรมโลก

    ปกป้องศักดิ์ศรีทหาร
    หนุนกองทัพทุกรูปแบบ ป้องภัยคุกคามยิ่งใหญ่ : [NEWS UPDATE] น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขออภัยประชาชนทำให้เกิดความไม่สบายใจ กรณีคลิปเสียงเจรจากับ สมเด็จ ฮุนเซนประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ผิดหวังการกระทำของผู้นำกัมพูชา ไม่มีผู้นำคนใดทั่วโลกทำกัน ไม่เป็นที่ยอมรับของทั่วโลก ได้คุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ผู้บัญชาการเหล่าทัพ อธิบายเจตนาว่า เป็นเทคนิคการสื่อสารเพื่อแสดงความเข้าใจและต่อรองให้การปะทะยุติลง ทุกภาคส่วนได้ข้อสรุปว่า ต้องร่วมมือปกป้องอธิปไตยของประเทศ ครั้งนี้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ที่รัฐบาลกับกองทัพจะมาสู้กัน รัฐบาลยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ สว.ไล่บี้ถอดถอนนายก ไม่ปิดด่านตามใจฮุนเซน ศูนย์กลางอาชญากรรมโลก ปกป้องศักดิ์ศรีทหาร
    Like
    Haha
    5
    5 Comments 0 Shares 720 Views 30 0 Reviews
  • “ชัยมงคล” จี้สำนึก “พรรคร่วมรัฐบาล” หากเป็นคนไทยต้องถอนตัวทันที ซัด“แพทองธาร” เข้าข่ายทรราช ขายชาติ ขายศักดิ์ศรี
    https://www.thai-tai.tv/news/19560/
    “ชัยมงคล” จี้สำนึก “พรรคร่วมรัฐบาล” หากเป็นคนไทยต้องถอนตัวทันที ซัด“แพทองธาร” เข้าข่ายทรราช ขายชาติ ขายศักดิ์ศรี https://www.thai-tai.tv/news/19560/
    0 Comments 0 Shares 62 Views 0 Reviews
  • 'อ.วันวิชิต' เตือนสติพรรคร่วมรัฐบาล "เกียรติและศักดิ์ศรีของคนไทยทั้งชาติ" คือสิ่งสำคัญสูงสุด
    https://www.thai-tai.tv/news/19539/
    'อ.วันวิชิต' เตือนสติพรรคร่วมรัฐบาล "เกียรติและศักดิ์ศรีของคนไทยทั้งชาติ" คือสิ่งสำคัญสูงสุด https://www.thai-tai.tv/news/19539/
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • 'ภูมิใจไทย' พ้นรัฐบาล ทิ้งเก้าอี้รมต.-รองปธ.สภาฯ 'ประชาชน' กวักมือรอ
    .
    พรรคภูมิใจไทยประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หลังไม่พอใจกรณีการเจรจาทางโทรศัพท์ระหว่างนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร กับสมเด็จฮุนเซน ชี้กระทบต่ออธิปไตยและศักดิ์ศรีของชาติ รัฐมนตรีจากพรรคยื่นลาออกมีผล 19 มิ.ย. พร้อมเรียกร้องให้นายกฯ แสดงความรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน พรรคประชาชนเตรียมร่วมฝ่ายค้าน ชี้มีอำนาจต่อรองเพิ่ม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000057592

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    'ภูมิใจไทย' พ้นรัฐบาล ทิ้งเก้าอี้รมต.-รองปธ.สภาฯ 'ประชาชน' กวักมือรอ . พรรคภูมิใจไทยประกาศถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หลังไม่พอใจกรณีการเจรจาทางโทรศัพท์ระหว่างนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร กับสมเด็จฮุนเซน ชี้กระทบต่ออธิปไตยและศักดิ์ศรีของชาติ รัฐมนตรีจากพรรคยื่นลาออกมีผล 19 มิ.ย. พร้อมเรียกร้องให้นายกฯ แสดงความรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน พรรคประชาชนเตรียมร่วมฝ่ายค้าน ชี้มีอำนาจต่อรองเพิ่ม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000057592 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    7
    0 Comments 0 Shares 1277 Views 0 Reviews
  • “พรรคพลังประชารัฐ” ออกแถลงการณ์ จี้นายกฯ ลาออก หมิ่นศักดิ์ศรีฝ่ายความมั่นคง ชี้ไม่ใช่เวทีมือสมัครเล่น⁣
    https://www.thai-tai.tv/news/19523/
    “พรรคพลังประชารัฐ” ออกแถลงการณ์ จี้นายกฯ ลาออก หมิ่นศักดิ์ศรีฝ่ายความมั่นคง ชี้ไม่ใช่เวทีมือสมัครเล่น⁣ https://www.thai-tai.tv/news/19523/
    0 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
  • ได้ฟังแล้วครับ คลิปเสียงหลุดที่นายกฯ ยืนยันแล้วว่าเป็นคลิปจริง

    สรุปสาระสำคัญคือ นายกฯ บอกฮุนเซนว่าอย่าไปฟัง "ฝ่ายตรงข้าม" อย่างท่าน "แม่ทัพภาคที่ 2" มาก เพราะเขาอยาก "ดูเท่" และถ้าฮุนเซน "อยากได้อะไร...เดี๋ยวจัดให้" ส่วนฮุนเซนก็ยัง "ไม่เลิกเห่า" ว่าไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

    ครับ... แค่นี้ก็เกินพอ

    ผมให้โอกาสรัฐบาลเพื่อไทยมาเกือบ 2 ปีแล้ว ทว่าท่านกลับให้แต่ "ความ_ัญไ_" แก่ชาติบ้านเมือง แทนที่จะเป็นความ "มีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี" ดังลมปาก

    "ออกไป" ซะเถอะครับ!

    https://www.thaipost.net/hi-light/808958/
    ได้ฟังแล้วครับ คลิปเสียงหลุดที่นายกฯ ยืนยันแล้วว่าเป็นคลิปจริง สรุปสาระสำคัญคือ นายกฯ บอกฮุนเซนว่าอย่าไปฟัง "ฝ่ายตรงข้าม" อย่างท่าน "แม่ทัพภาคที่ 2" มาก เพราะเขาอยาก "ดูเท่" และถ้าฮุนเซน "อยากได้อะไร...เดี๋ยวจัดให้" ส่วนฮุนเซนก็ยัง "ไม่เลิกเห่า" ว่าไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ครับ... แค่นี้ก็เกินพอ ผมให้โอกาสรัฐบาลเพื่อไทยมาเกือบ 2 ปีแล้ว ทว่าท่านกลับให้แต่ "ความ_ัญไ_" แก่ชาติบ้านเมือง แทนที่จะเป็นความ "มีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี" ดังลมปาก "ออกไป" ซะเถอะครับ! https://www.thaipost.net/hi-light/808958/
    WWW.THAIPOST.NET
    ฟังเต็มๆคลิปเสียง 'แพทองธาร' คุย 'ฮุนเซน' พาดพิงแม่ทัพภาค 2
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังโซเชียลมีเดียเผยแพร่คลิปเสียงยาว 9.30 นาที ซึ่งมีเนื้อหาคล้ายบ
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • สัปดาห์ที่แล้วพูดเรื่องยาโรยแผล วันนี้เลยมาคุยเรื่องอาวุธ
    Storyฯ เคยเล่าถึงชุดมัจฉาบินขององครักษ์เสื้อแพรไปแล้ว วันนี้คุยกันเรื่องสัญลักษณ์ประจำตัวอีกอย่างหนึ่งขององครักษ์เสื้อแพรอันเลื่องชื่อแห่งราชวงศ์หมิง ซึ่งก็คือดาบซิ่วชุน (绣春刀) ซึ่งเป็นดาบพระราชทาน

    ความมีอยู่ว่า
    ... ผู้ตรวจราชการเฝิงมิกล่าวกระไร เพียงหยิบดาบที่วางอยู่ข้างหน้าขึ้นมา มันเป็นดาบเรียวยาวปลายโค้งเล็กน้อย เบาแต่แข็งแกร่งคล่องมือ สะดวกต่อการใช้ประมือในระยะใกล้ เขาจ้องมองมันคล้ายกำลังรำลึกถึงความหลัง ดวงตาเริ่มทอประกายความพลุ่งพล่านในใจ เพียงสะกิดตรงคอดาบ เสียงครืดก็ดังขึ้นพร้อมกับใบดาบอันคมกริบโผล่ขึ้นมาครึ่งศอก ผู้ตรวจราชการเฝิงใช้นิ้วไล้ไปบนใบดาบพร้อมกับเอ่ยเบาๆ กับตนเอง “ดาบซิ่วชุน... อา... ดาบซิ่วชุน ต้องรออีกนานเท่าใด ความงดงามอหังการ์ของเจ้าจึงจะได้ปรากฎต่อสายตาผู้คนอีกครา?” ...

    - จากเรื่อง <เสื้อแพรเหินราตรี> ผู้แต่ง เยวี่ยกวน
    (หมายเหตุ ละครเรื่อง Braveness of The Ming ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้ เข้าใจว่ายังไม่เข้าฉาย)

    ว่ากันว่า ดาบซิ่วชุนทำจากเหล็กกล้าและอาจมีส่วนผสมอื่น ผ่านการ ‘ตีพันครั้งเผาร้อยครั้ง’ ขึ้นชื่อเรื่องความคมกริบ สามารถใช้บั่นหัวม้าได้ เหมาะกับการต่อสู้แบบประชิดตัวทั้งมือเดียวและสองมือ และยังสะดวกต่อการสู้รบบนหลังม้า ผู้ที่ตำแหน่งยิ่งสูงเนื้อดาบยิ่งบริสุทธิ์และลวดลายบนดาบยิ่งวิจิตร (เป็นที่มาของคำว่า ‘ซิ่วชุน’ แปลว่า ‘ลายปักวสันต์’) ลักษณะของดาบเป็นไปตามคำบรรยายในนิยายข้างต้น

    เห็นรูปดาบซิ่วชุนบนเน็ตมากมาย แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วไม่เคยมีการค้นพบของจริง เป็นเพียงการจำลองขึ้นตามคำบรรยายที่มีการจารึกไว้ ดังนั้นในความเห็นของ Storyฯ ดาบซิ่วชุนเป็นอาวุธที่ทั้งไม่ลึกลับและลึกลับ ที่ว่าไม่ลึกลับเพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง แต่ที่ว่าลึกลับก็เพราะว่าไม่มีใครเคยเห็นของจริงนั่นเอง

    แล้วใครกันล่ะที่มีสิทธิ์ใช้? บางบันทึกบอกว่า เนื่องจากเป็นดาบพระราชทานจึงต้องเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงในหน่วยองครักษ์เสื้อแพรเท่านั้นจึงจะมีใช้ และบางบันทึกกล่าวว่ากองทหารรักษาพระองค์อวี้หลิน (御林军) ก็มีใช้ดาบซิ่วชุน นอกจากนี้ยังเคยมีบันทึกว่ามีแพทย์หลวงผู้หนึ่งนามว่าอู๋เจี๋ยในรัชสมัยขององค์จูโฮ่วเจ้า (ฮ่องเต้เจิ้งเต๋อแห่งราชวงศ์หมิง ค.ศ. 1491-1521) มีผลงานโดดเด่นจนได้รับพระราชทานชุดลายพยัคฆ์พร้อมดาบซิ่วชุน

    ดาบซิ่วชุนที่แท้จริงหน้าตาเป็นอย่างไร? ใครนอกเหนือจากองครักษ์เสื้อแพรใช้ได้บ้าง? ไม่มีใครรู้แน่ชัด เพียงแต่กล่าวขานกันว่าเป็นดาบที่งามวิจิตรและมีอานุภาพร้ายแรง สมศักดิ์ศรีองครักษ์เสื้อแพรอันน่าเกรงขามแห่งราชวงศ์หมิง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.163.com/dy/article/EIJJNHRH05377G1M.html, https://kknews.cc/zh-my/history/zr5b99p.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://ishare.ifeng.com/c/s/7jdz4ruaDa2
    https://baike.baidu.com/item/%E7%BB%A3%E6%98%A5%E5%88%80/75656
    https://zh.wikipedia.org/wiki/%E7%B9%A1%E6%98%A5%E5%88%80

    #องครักษ์เสื้อแพร #ดาบซิ่วชุน #ราชวงศ์หมิง StoryfromStory
    สัปดาห์ที่แล้วพูดเรื่องยาโรยแผล วันนี้เลยมาคุยเรื่องอาวุธ Storyฯ เคยเล่าถึงชุดมัจฉาบินขององครักษ์เสื้อแพรไปแล้ว วันนี้คุยกันเรื่องสัญลักษณ์ประจำตัวอีกอย่างหนึ่งขององครักษ์เสื้อแพรอันเลื่องชื่อแห่งราชวงศ์หมิง ซึ่งก็คือดาบซิ่วชุน (绣春刀) ซึ่งเป็นดาบพระราชทาน ความมีอยู่ว่า ... ผู้ตรวจราชการเฝิงมิกล่าวกระไร เพียงหยิบดาบที่วางอยู่ข้างหน้าขึ้นมา มันเป็นดาบเรียวยาวปลายโค้งเล็กน้อย เบาแต่แข็งแกร่งคล่องมือ สะดวกต่อการใช้ประมือในระยะใกล้ เขาจ้องมองมันคล้ายกำลังรำลึกถึงความหลัง ดวงตาเริ่มทอประกายความพลุ่งพล่านในใจ เพียงสะกิดตรงคอดาบ เสียงครืดก็ดังขึ้นพร้อมกับใบดาบอันคมกริบโผล่ขึ้นมาครึ่งศอก ผู้ตรวจราชการเฝิงใช้นิ้วไล้ไปบนใบดาบพร้อมกับเอ่ยเบาๆ กับตนเอง “ดาบซิ่วชุน... อา... ดาบซิ่วชุน ต้องรออีกนานเท่าใด ความงดงามอหังการ์ของเจ้าจึงจะได้ปรากฎต่อสายตาผู้คนอีกครา?” ... - จากเรื่อง <เสื้อแพรเหินราตรี> ผู้แต่ง เยวี่ยกวน (หมายเหตุ ละครเรื่อง Braveness of The Ming ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้ เข้าใจว่ายังไม่เข้าฉาย) ว่ากันว่า ดาบซิ่วชุนทำจากเหล็กกล้าและอาจมีส่วนผสมอื่น ผ่านการ ‘ตีพันครั้งเผาร้อยครั้ง’ ขึ้นชื่อเรื่องความคมกริบ สามารถใช้บั่นหัวม้าได้ เหมาะกับการต่อสู้แบบประชิดตัวทั้งมือเดียวและสองมือ และยังสะดวกต่อการสู้รบบนหลังม้า ผู้ที่ตำแหน่งยิ่งสูงเนื้อดาบยิ่งบริสุทธิ์และลวดลายบนดาบยิ่งวิจิตร (เป็นที่มาของคำว่า ‘ซิ่วชุน’ แปลว่า ‘ลายปักวสันต์’) ลักษณะของดาบเป็นไปตามคำบรรยายในนิยายข้างต้น เห็นรูปดาบซิ่วชุนบนเน็ตมากมาย แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วไม่เคยมีการค้นพบของจริง เป็นเพียงการจำลองขึ้นตามคำบรรยายที่มีการจารึกไว้ ดังนั้นในความเห็นของ Storyฯ ดาบซิ่วชุนเป็นอาวุธที่ทั้งไม่ลึกลับและลึกลับ ที่ว่าไม่ลึกลับเพราะเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง แต่ที่ว่าลึกลับก็เพราะว่าไม่มีใครเคยเห็นของจริงนั่นเอง แล้วใครกันล่ะที่มีสิทธิ์ใช้? บางบันทึกบอกว่า เนื่องจากเป็นดาบพระราชทานจึงต้องเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงในหน่วยองครักษ์เสื้อแพรเท่านั้นจึงจะมีใช้ และบางบันทึกกล่าวว่ากองทหารรักษาพระองค์อวี้หลิน (御林军) ก็มีใช้ดาบซิ่วชุน นอกจากนี้ยังเคยมีบันทึกว่ามีแพทย์หลวงผู้หนึ่งนามว่าอู๋เจี๋ยในรัชสมัยขององค์จูโฮ่วเจ้า (ฮ่องเต้เจิ้งเต๋อแห่งราชวงศ์หมิง ค.ศ. 1491-1521) มีผลงานโดดเด่นจนได้รับพระราชทานชุดลายพยัคฆ์พร้อมดาบซิ่วชุน ดาบซิ่วชุนที่แท้จริงหน้าตาเป็นอย่างไร? ใครนอกเหนือจากองครักษ์เสื้อแพรใช้ได้บ้าง? ไม่มีใครรู้แน่ชัด เพียงแต่กล่าวขานกันว่าเป็นดาบที่งามวิจิตรและมีอานุภาพร้ายแรง สมศักดิ์ศรีองครักษ์เสื้อแพรอันน่าเกรงขามแห่งราชวงศ์หมิง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ ติดตามได้ที่ @StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.163.com/dy/article/EIJJNHRH05377G1M.html, https://kknews.cc/zh-my/history/zr5b99p.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://ishare.ifeng.com/c/s/7jdz4ruaDa2 https://baike.baidu.com/item/%E7%BB%A3%E6%98%A5%E5%88%80/75656 https://zh.wikipedia.org/wiki/%E7%B9%A1%E6%98%A5%E5%88%80 #องครักษ์เสื้อแพร #ดาบซิ่วชุน #ราชวงศ์หมิง StoryfromStory
    张翰《锦衣夜行》帅出新高度!徐正溪、魏千翔、吴倩,你最期待谁
    张翰《锦衣夜行》帅出新高度!徐正溪、魏千翔、吴倩,你最期待谁,
    1 Comments 0 Shares 322 Views 0 Reviews
  • 'นายกฯ' ขึงขัง ยันไม่ยอมอำนาจศาลโลก ลั่นไทยแข็งแกร่งมีศักดิ์ศรี ไม่ยอมถูกกลั่นแกล้ง
    https://www.thai-tai.tv/news/19454/
    'นายกฯ' ขึงขัง ยันไม่ยอมอำนาจศาลโลก ลั่นไทยแข็งแกร่งมีศักดิ์ศรี ไม่ยอมถูกกลั่นแกล้ง https://www.thai-tai.tv/news/19454/
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • อยู่ให้มีศักดิ์ศรี
    ดีให้มีคุณค่า
    บ้าให้มีเหตุผล
    ทนให้มีเป้าหมาย
    และตายให้มีคนจำ
    อยู่ให้มีศักดิ์ศรี ดีให้มีคุณค่า บ้าให้มีเหตุผล ทนให้มีเป้าหมาย และตายให้มีคนจำ
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • ..555 ไม่ใช่ขี่แต่เหยียบเลย,เหยียบหน้าทหารไทยเราผ่านไปด้วย,เสมือนจงใจให้เขาลงมือชกก่อนฟันดาบก่อนหรือยิงระเบิดก่อนนั่นล่ะ,สมยอมให้อีกฝ่ายชนะเกมส์วาทะบริบทนี้ไปในตัวด้วย.,ใครเสียหน้าเสียเกียรติ์เสียศักดิ์ศรีก็เราคนไทยเต็มๆนั้นล่ะ,แค่มุกพื้นๆนี้ยังให้เขาเหยียบได้พะสาอธิปไตยดินแดนจึงให้เขาสนุกสนานรุกรานคุกคามตามใจชอบของมันได้แบบที่เราเห็นๆในสื่อนั้นล่ะ,ยึดพื้นที่แบบไม่ถอยด้วย จนทหารเหลืออดหักดิบกับชุดรัฐบาลนี้ดำเนินการเองพร้อมประกาศกฎอัยการศึกด้วย,แต่ยังไล่ตีหมาไม่ทันไม่สะใจที่มาเห่ามาหอนให้รำคาญนักต้องตีหมาตัวนี้จริงจังด้วย,
    ..ปิดด่านคือปิดด่านได้แล้ว,กำหนดแจ้งปิดด่านแบบไม่เปิดด่านอีกต่อไปเลย กำหนดวันเวลาชัดเจนให้คนสองฝั่งเตรียมตัวได้แล้วด้วย เช่นภายใน7วันหลังจากเขมรไม่ทำตัวเข้าสู่สถานะปกติตลอดให้เป็นไปตามพันธมิตรเพื่อประชาชนเสนอด้วยโดยเฉพาะยกเลิกmou43,44นั้นด้วย.,เอาง่ายๆรัฐบาลนี้หมดคุณสมบัติตัดสินใจใดๆในทุกๆเรื่องได้แล้ว,เพราะไม่ซื่อสัตย์ต่ออธิปไตยในภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในขณะนี้อย่างเห็นได้ชัด,ไม่เร่งรีบดำเนินการแก้ไขปัญหา ปล่อยให้เคลื่อนทหารมายึดพื้นที่พิพาทได้หรือที่พื้นที่ของดินแดนอธิปไตยตนอย่างเปิดเผย,ไม่เร่งรีบประกาศชัดเจนว่าพื้นที่บริเวณนั้นคือแดนดินแผ่นดินไทย,ตลอดไม่ทำหนังสือทวงคืนดินแดนที่ฝรั่งเศสแพ้สงครามแล้วต้องคืนให้ไทยดังเดิมตัวนั้นกลับคืนมา,มีในประวัติบันทึกศาสตร์ชัดเจน,แต่รัฐบาลไม่พูดถึงเลยในส่วนของรัฐบาลไทยเราแท้ๆซึ่งเขาทำผิดเงื่อนไขสำนึกปกติก่อนอ้างฝรั่งเศสจนเลอะเทอะที่ฝรั่งเศสเองขีดแบ่งแยกปล้นพื้นที่ไทยไปแท้ๆจากมีปกติอยู่เดิมแล้ว.นี้คือสำนึกการเอาคืนปกติเมื่อชาติเขมรจะมาเสนออยากจะได้เพราะโลภเอง.

    https://youtu.be/yzveIbXId9Y?si=MLE3a__g4dERptay
    ..555 ไม่ใช่ขี่แต่เหยียบเลย,เหยียบหน้าทหารไทยเราผ่านไปด้วย,เสมือนจงใจให้เขาลงมือชกก่อนฟันดาบก่อนหรือยิงระเบิดก่อนนั่นล่ะ,สมยอมให้อีกฝ่ายชนะเกมส์วาทะบริบทนี้ไปในตัวด้วย.,ใครเสียหน้าเสียเกียรติ์เสียศักดิ์ศรีก็เราคนไทยเต็มๆนั้นล่ะ,แค่มุกพื้นๆนี้ยังให้เขาเหยียบได้พะสาอธิปไตยดินแดนจึงให้เขาสนุกสนานรุกรานคุกคามตามใจชอบของมันได้แบบที่เราเห็นๆในสื่อนั้นล่ะ,ยึดพื้นที่แบบไม่ถอยด้วย จนทหารเหลืออดหักดิบกับชุดรัฐบาลนี้ดำเนินการเองพร้อมประกาศกฎอัยการศึกด้วย,แต่ยังไล่ตีหมาไม่ทันไม่สะใจที่มาเห่ามาหอนให้รำคาญนักต้องตีหมาตัวนี้จริงจังด้วย, ..ปิดด่านคือปิดด่านได้แล้ว,กำหนดแจ้งปิดด่านแบบไม่เปิดด่านอีกต่อไปเลย กำหนดวันเวลาชัดเจนให้คนสองฝั่งเตรียมตัวได้แล้วด้วย เช่นภายใน7วันหลังจากเขมรไม่ทำตัวเข้าสู่สถานะปกติตลอดให้เป็นไปตามพันธมิตรเพื่อประชาชนเสนอด้วยโดยเฉพาะยกเลิกmou43,44นั้นด้วย.,เอาง่ายๆรัฐบาลนี้หมดคุณสมบัติตัดสินใจใดๆในทุกๆเรื่องได้แล้ว,เพราะไม่ซื่อสัตย์ต่ออธิปไตยในภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในขณะนี้อย่างเห็นได้ชัด,ไม่เร่งรีบดำเนินการแก้ไขปัญหา ปล่อยให้เคลื่อนทหารมายึดพื้นที่พิพาทได้หรือที่พื้นที่ของดินแดนอธิปไตยตนอย่างเปิดเผย,ไม่เร่งรีบประกาศชัดเจนว่าพื้นที่บริเวณนั้นคือแดนดินแผ่นดินไทย,ตลอดไม่ทำหนังสือทวงคืนดินแดนที่ฝรั่งเศสแพ้สงครามแล้วต้องคืนให้ไทยดังเดิมตัวนั้นกลับคืนมา,มีในประวัติบันทึกศาสตร์ชัดเจน,แต่รัฐบาลไม่พูดถึงเลยในส่วนของรัฐบาลไทยเราแท้ๆซึ่งเขาทำผิดเงื่อนไขสำนึกปกติก่อนอ้างฝรั่งเศสจนเลอะเทอะที่ฝรั่งเศสเองขีดแบ่งแยกปล้นพื้นที่ไทยไปแท้ๆจากมีปกติอยู่เดิมแล้ว.นี้คือสำนึกการเอาคืนปกติเมื่อชาติเขมรจะมาเสนออยากจะได้เพราะโลภเอง. https://youtu.be/yzveIbXId9Y?si=MLE3a__g4dERptay
    0 Comments 0 Shares 197 Views 0 Reviews
  • 555,น่าเบื่อหน่ายรัฐบาลชุดนี้จริง,เต่า กาก กระจอกในการตัดสินใจ เสมือนสมยอมชัดเจน มีมุกมากมายสาระพัดจัดการเขมร,แต่ไม่เร่งรีบทำ นี้ล่ะเป็นดองกัน แต่งงานกันในเครือญาติตนกับเครือฮุนเซน,หมดความชอบธรรมชัดเจน ทหารพระราชาเราตัดสินใจเด็ดขาดเถอะ,อธิปไตยชาติไทยทั้งประเทศและศักดิ์ศรีอธิปไตยไทยด้วย หนองจานยังยึดกลับมาไม่ได้ ,มันเกินจะพูด ระบบนักการเมืองปกครองและไม่ใช่ทหารพระราชายึดอำนาจเพื่อประเทศไทยจริงในอดีตจึงตัดตอนแก้ไขปัญหาไม่สะเด็ดน้ำสุดซอยอะไรเลย,ปกครองกากๆเป็นภัยความมั่นคงต่ออธิปไตยไทยตนเองชัดเจน,ยุคเราต้องจบวงจรอุบาทก์อุบาทว์นี้จริงๆ.
    ..

    https://youtu.be/cGGnMMzYlpM?si=uqblPcVYE_s3NpJ-
    555,น่าเบื่อหน่ายรัฐบาลชุดนี้จริง,เต่า กาก กระจอกในการตัดสินใจ เสมือนสมยอมชัดเจน มีมุกมากมายสาระพัดจัดการเขมร,แต่ไม่เร่งรีบทำ นี้ล่ะเป็นดองกัน แต่งงานกันในเครือญาติตนกับเครือฮุนเซน,หมดความชอบธรรมชัดเจน ทหารพระราชาเราตัดสินใจเด็ดขาดเถอะ,อธิปไตยชาติไทยทั้งประเทศและศักดิ์ศรีอธิปไตยไทยด้วย หนองจานยังยึดกลับมาไม่ได้ ,มันเกินจะพูด ระบบนักการเมืองปกครองและไม่ใช่ทหารพระราชายึดอำนาจเพื่อประเทศไทยจริงในอดีตจึงตัดตอนแก้ไขปัญหาไม่สะเด็ดน้ำสุดซอยอะไรเลย,ปกครองกากๆเป็นภัยความมั่นคงต่ออธิปไตยไทยตนเองชัดเจน,ยุคเราต้องจบวงจรอุบาทก์อุบาทว์นี้จริงๆ. .. https://youtu.be/cGGnMMzYlpM?si=uqblPcVYE_s3NpJ-
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • EP.6 ถอดรหัสไทยเสียดินแดนครั้งที่ 16 ปราสาทเขาพระวิหาร

    ค่ำวันที่ 4 กรกฎาคม 2505 หลังจากศาลโลกตัดสินให้ปราสาทพระวิหาร ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชา ได้ประมาณ 20 วัน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีของไทย ในขณะนั้น ได้กล่าวปราศรัยผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย แสดงความรู้สึกต่อการสูญเสียปราสาทพระวิหาร และยืนยันสิทธิ์ที่จะทวงคืนปราสาทพระวิหารในอนาคต ดังนี้

    พี่น้องร่วมชาติ และมิตรร่วมชีวิตที่รักของข้าพเจ้าทั้งหลาย ตามที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกว่า ศาลโลก ได้วินิจฉัยชี้ขาดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2505 ให้ปราสาทเขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา และทางรัฐบาลได้ออกแถลงให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบเป็นลำดับนั้น

    รัฐบาลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะตัวของข้าพเจ้า ถือว่าเรื่องนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลได้ผลเสียของชาติ อันเป็นเรื่องของแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นมรดกที่บรรพบุรุษของเราสู้มา อุตส่าห์ฝ่าคมอาวุธรักษาไว้ และตกทอดมาถึงรุ่นเรา

    เนื่องจากในคำปราศรัยนี้เป็นเรื่องที่สะเทือนใจพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าทราบดีว่า ในส่วนลึกและหัวใจแล้ว คนไทยผู้รักชาติทุกคน มีความเศร้าสลดและมีความข่มขืนใจเพียงใด แสดงออกถึงของประชาชนในการเดินขบวนทั่วประเทศ เพื่อคัดค้านคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นสิ่งที่เห็นกันอยู่อย่างชัดเจนแล้ว

    ทั้งนี้ มิใช่ว่าพวกเราจะนั่งนิ่งเฉยหรือท้อแท้ใจ ชาติไทยยอมท้อแท้ทอดอาลัยไม่ได้ เราเคยสูญเสียดินแดนแก่ประเทศมหาอำนาจที่ล่าอาณานิคมมาแล้วหลายครั้ง หากบรรพบุรุษของเรายอมท้อแท้ เราจะเอาแผ่นดินที่ไหนมาอยู่กันได้จนถึงทุกวันนี้ เราจะต้องหาวิธีการสู้ต่อไป

    สำหรับกรณีเขาพระวิหาร ซึ่งศาลโลกได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้วนั้น ข้าพเจ้าขอทบทวนเข้าใจกับเพื่อนร่วมชาติทั้งหลาย ว่า รัฐบาลและประชาชนชาวไทย ไม่ได้เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลโลก ทั้งในข้อเท็จจริงกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักความยุติธรรม

    เมื่อเป็นดังนี้ แม้นรัฐบาลและปวงชนชาวไทย จะได้มีความรู้สึกสลดใจและขมขื่นเพียงใด ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็ต้องปฏิบัติตามพันธกรณีในกฎบัตรสหประชาชาติ กล่าวคือ ต้องยอมให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือเขาพระวิหาร ตามพันธกรณีแห่งกฎบัตรสหประชาชาติ แต่รัฐบาลขอตั้งประท้วงและขอสงวนสิทธิ์อันชอบธรรมของประเทศไทยในเรื่องนี้ไว้ เพื่อสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินทางกฎหมายที่จำเป็น ซึ่งอาจจะมีขึ้นในภายภาคหน้า ให้กรรมสิทธิ์นี้กลับคืนมาในโอกาสอันสมควร

    พี่น้องทั้งหลายคงทราบดีว่า ชาติของเราต้องเสียศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิไป เนื่องจากเขาพระวิหาร อีกสิบปีอีกกี่ร้อยปี เราก็สามารถสร้างเกียรติภูมิคราวนี้กลับคืนมาได้ ข้าพเจ้าทราบว่า การสูญเสียปราสาทเขาพระวิหารครั้งนี้ เป็นการสูญเสียที่สะเทือนใจของคนไทยทั้งชาติ

    ฉะนั้น แม้นว่า กัมพูชาจะได้ปราสาทเขาพระวิหารนี้ไป ก็คงไปได้แค่ซากปรักหักพัง และแผ่นดินเฉพาะรองรับเขาพระวิหารเท่านั้น วิญญาณของปราสาทเขาพระวิหารยังคงอยู่กับคนไทยตลอดไป ประชาชนชาวไทยจะระลึกอยู่เสมอว่า ปราสาทเขาพระวิหารของไทยถูกปล้นเอาไป ด้วยอุปเล่ห์เพทุบาย คนที่ไม่มีเกียรติและไม่รับผิดชอบ ไม่รักความเป็นธรรม เมื่อประเทศไทยเราประพฤติปฏิบัติดีในสังคมโลก อันเป็นที่มีศีลธรรม มีสัตย์ ในวันหนึ่งข้างหน้าไม่ช้าก็เร็ว ปราสาทเขาพระวิหารจะต้องกลับมาสู่ดินแดนไทยอีกครั้งหนึ่ง

    เหตุการณ์เกี่ยวกับเขาพระวิหารครั้งนี้ สลักแน่นอยู่ในความทรงจำของคนไทยสืบไปชั่วลูกชั่วหลาน และเป็นรอยจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของชาติไปตลอด เสมือนแผลที่อยู่ในใจของคนไทยทั้งชาติ แต่ข้าพเจ้าหวังอยู่เสมอว่า ในที่สุด ธรรมะย่อมชนะอธรรม การหัวเราะที่หลังย่อมดังกว่า และนานกว่า

    พี่น้องร่วมชาติทุกท่าน ได้โปรดวางใจรัฐบาลซึ่งข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นี้ จะสามารถนำชาติและพี่น้องชาวไทยที่รักก้าวสู่อนาคตอันสุกใสให้ได้ และข้าพเจ้ารับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า เมื่อถึงคราวที่ชาติคับขันแล้ว ข้าพเจ้าจะกอดคอร่วมเป็นร่วมตายกับพี่น้องประชาชนชาวไทย เอาเลือดทาแผ่นดิน ไม่เสียดายชีวิตแม้แต่นิดเดียว แต่เราจะทำอย่างไรได้ ข้าพเจ้าเองมีความเจ็บช้ำน้ำใจไม่น้อยไปกว่าเพื่อร่วมชาติทั้งหลาย

    การที่ข้าพเจ้าต้องมากล่าวถึงเรื่องนี้ ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวว่า การมาพูดกับท่านด้วยน้ำตา น้ำตาของข้าพเจ้า เป็นน้ำตาของลูกผู้ชาย ของเลือด ของความคับแค้น และการผูกใจเจ็บชั่วชีวิตชาตินี้และชาติหน้า ต่อดวงวิญญาณของบรรพบุรุษผู้กล้าหาญของชาวไทย

    ข้าพเจ้าขอกล่าวคำปฏิญาณด้วยสัตย์วาจาดังนี้ พี่น้องที่รักชาติทั้งหลาย น้ำตาไม่อาจทำให้เราฉลาดขึ้น แต่เราจะต้องได้อะไรคืนมา ในขั้นสุดท้ายชาติไทยจะต้องประสบกับชัยชนะเสมอ เราต้องกล้าสู้ เราต้องกล้ายิ้มรับภัยที่มาถึงตัวเรา ชาติไทยเป็นชาติที่เชื่อมั่นในบริวารพุทธศาสนา ตั้งตนอยู่ในความเป็นธรรมตลอดมา

    ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเสมอว่า ชาติของเราจะไม่อับจนเป็นอันขาด เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องหนึ่งในบรรดาเรื่องใหญ่ทั้งหลาย มีความสำคัญมากกว่านี้ ชาติที่รักของเรากำลังพัฒนาไปในสู่วิถีทางที่ดีขึ้น เหตุนี้ไม่ใช่เหตุผลความอับจนของเรา จงหวังและทำในเรื่องชาติที่สำคัญกว่านี้ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเหลือเกินว่า ชาติไทยของเรามีอนาคตแจ่มใสและรุ่งโรจน์อย่างแน่นอนและมั่นคงในอนาคตอันใกล้ นี้ เราจงมาช่วยกันสร้างชาติที่รักยิ่งของเราต่อไป

    พี่น้องชาวไทยที่รักทั้งหลาย วันนี้เป็นวันหนึ่งและเป็นในวันข้างหน้า เราจะต้องเอาปราสาทเขาพระวิหารกลับคืนมา ให้เป็นของชาติไทยให้จงได้ สวัสดี”

    https://youtube.com/shorts/Xdz0paAXVz4?si=k7SNESYjZJlELM04
    EP.6 ถอดรหัสไทยเสียดินแดนครั้งที่ 16 ปราสาทเขาพระวิหาร ค่ำวันที่ 4 กรกฎาคม 2505 หลังจากศาลโลกตัดสินให้ปราสาทพระวิหาร ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชา ได้ประมาณ 20 วัน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีของไทย ในขณะนั้น ได้กล่าวปราศรัยผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย แสดงความรู้สึกต่อการสูญเสียปราสาทพระวิหาร และยืนยันสิทธิ์ที่จะทวงคืนปราสาทพระวิหารในอนาคต ดังนี้ พี่น้องร่วมชาติ และมิตรร่วมชีวิตที่รักของข้าพเจ้าทั้งหลาย ตามที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกว่า ศาลโลก ได้วินิจฉัยชี้ขาดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2505 ให้ปราสาทเขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา และทางรัฐบาลได้ออกแถลงให้พี่น้องทั้งหลายได้ทราบเป็นลำดับนั้น รัฐบาลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะตัวของข้าพเจ้า ถือว่าเรื่องนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลได้ผลเสียของชาติ อันเป็นเรื่องของแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นมรดกที่บรรพบุรุษของเราสู้มา อุตส่าห์ฝ่าคมอาวุธรักษาไว้ และตกทอดมาถึงรุ่นเรา เนื่องจากในคำปราศรัยนี้เป็นเรื่องที่สะเทือนใจพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าทราบดีว่า ในส่วนลึกและหัวใจแล้ว คนไทยผู้รักชาติทุกคน มีความเศร้าสลดและมีความข่มขืนใจเพียงใด แสดงออกถึงของประชาชนในการเดินขบวนทั่วประเทศ เพื่อคัดค้านคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นสิ่งที่เห็นกันอยู่อย่างชัดเจนแล้ว ทั้งนี้ มิใช่ว่าพวกเราจะนั่งนิ่งเฉยหรือท้อแท้ใจ ชาติไทยยอมท้อแท้ทอดอาลัยไม่ได้ เราเคยสูญเสียดินแดนแก่ประเทศมหาอำนาจที่ล่าอาณานิคมมาแล้วหลายครั้ง หากบรรพบุรุษของเรายอมท้อแท้ เราจะเอาแผ่นดินที่ไหนมาอยู่กันได้จนถึงทุกวันนี้ เราจะต้องหาวิธีการสู้ต่อไป สำหรับกรณีเขาพระวิหาร ซึ่งศาลโลกได้วินิจฉัยชี้ขาดไปแล้วนั้น ข้าพเจ้าขอทบทวนเข้าใจกับเพื่อนร่วมชาติทั้งหลาย ว่า รัฐบาลและประชาชนชาวไทย ไม่ได้เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลโลก ทั้งในข้อเท็จจริงกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักความยุติธรรม เมื่อเป็นดังนี้ แม้นรัฐบาลและปวงชนชาวไทย จะได้มีความรู้สึกสลดใจและขมขื่นเพียงใด ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็ต้องปฏิบัติตามพันธกรณีในกฎบัตรสหประชาชาติ กล่าวคือ ต้องยอมให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือเขาพระวิหาร ตามพันธกรณีแห่งกฎบัตรสหประชาชาติ แต่รัฐบาลขอตั้งประท้วงและขอสงวนสิทธิ์อันชอบธรรมของประเทศไทยในเรื่องนี้ไว้ เพื่อสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินทางกฎหมายที่จำเป็น ซึ่งอาจจะมีขึ้นในภายภาคหน้า ให้กรรมสิทธิ์นี้กลับคืนมาในโอกาสอันสมควร พี่น้องทั้งหลายคงทราบดีว่า ชาติของเราต้องเสียศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิไป เนื่องจากเขาพระวิหาร อีกสิบปีอีกกี่ร้อยปี เราก็สามารถสร้างเกียรติภูมิคราวนี้กลับคืนมาได้ ข้าพเจ้าทราบว่า การสูญเสียปราสาทเขาพระวิหารครั้งนี้ เป็นการสูญเสียที่สะเทือนใจของคนไทยทั้งชาติ ฉะนั้น แม้นว่า กัมพูชาจะได้ปราสาทเขาพระวิหารนี้ไป ก็คงไปได้แค่ซากปรักหักพัง และแผ่นดินเฉพาะรองรับเขาพระวิหารเท่านั้น วิญญาณของปราสาทเขาพระวิหารยังคงอยู่กับคนไทยตลอดไป ประชาชนชาวไทยจะระลึกอยู่เสมอว่า ปราสาทเขาพระวิหารของไทยถูกปล้นเอาไป ด้วยอุปเล่ห์เพทุบาย คนที่ไม่มีเกียรติและไม่รับผิดชอบ ไม่รักความเป็นธรรม เมื่อประเทศไทยเราประพฤติปฏิบัติดีในสังคมโลก อันเป็นที่มีศีลธรรม มีสัตย์ ในวันหนึ่งข้างหน้าไม่ช้าก็เร็ว ปราสาทเขาพระวิหารจะต้องกลับมาสู่ดินแดนไทยอีกครั้งหนึ่ง เหตุการณ์เกี่ยวกับเขาพระวิหารครั้งนี้ สลักแน่นอยู่ในความทรงจำของคนไทยสืบไปชั่วลูกชั่วหลาน และเป็นรอยจารึกอยู่ในประวัติศาสตร์ของชาติไปตลอด เสมือนแผลที่อยู่ในใจของคนไทยทั้งชาติ แต่ข้าพเจ้าหวังอยู่เสมอว่า ในที่สุด ธรรมะย่อมชนะอธรรม การหัวเราะที่หลังย่อมดังกว่า และนานกว่า พี่น้องร่วมชาติทุกท่าน ได้โปรดวางใจรัฐบาลซึ่งข้าพเจ้าเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่นี้ จะสามารถนำชาติและพี่น้องชาวไทยที่รักก้าวสู่อนาคตอันสุกใสให้ได้ และข้าพเจ้ารับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า เมื่อถึงคราวที่ชาติคับขันแล้ว ข้าพเจ้าจะกอดคอร่วมเป็นร่วมตายกับพี่น้องประชาชนชาวไทย เอาเลือดทาแผ่นดิน ไม่เสียดายชีวิตแม้แต่นิดเดียว แต่เราจะทำอย่างไรได้ ข้าพเจ้าเองมีความเจ็บช้ำน้ำใจไม่น้อยไปกว่าเพื่อร่วมชาติทั้งหลาย การที่ข้าพเจ้าต้องมากล่าวถึงเรื่องนี้ ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวว่า การมาพูดกับท่านด้วยน้ำตา น้ำตาของข้าพเจ้า เป็นน้ำตาของลูกผู้ชาย ของเลือด ของความคับแค้น และการผูกใจเจ็บชั่วชีวิตชาตินี้และชาติหน้า ต่อดวงวิญญาณของบรรพบุรุษผู้กล้าหาญของชาวไทย ข้าพเจ้าขอกล่าวคำปฏิญาณด้วยสัตย์วาจาดังนี้ พี่น้องที่รักชาติทั้งหลาย น้ำตาไม่อาจทำให้เราฉลาดขึ้น แต่เราจะต้องได้อะไรคืนมา ในขั้นสุดท้ายชาติไทยจะต้องประสบกับชัยชนะเสมอ เราต้องกล้าสู้ เราต้องกล้ายิ้มรับภัยที่มาถึงตัวเรา ชาติไทยเป็นชาติที่เชื่อมั่นในบริวารพุทธศาสนา ตั้งตนอยู่ในความเป็นธรรมตลอดมา ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเสมอว่า ชาติของเราจะไม่อับจนเป็นอันขาด เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องหนึ่งในบรรดาเรื่องใหญ่ทั้งหลาย มีความสำคัญมากกว่านี้ ชาติที่รักของเรากำลังพัฒนาไปในสู่วิถีทางที่ดีขึ้น เหตุนี้ไม่ใช่เหตุผลความอับจนของเรา จงหวังและทำในเรื่องชาติที่สำคัญกว่านี้ ข้าพเจ้าเชื่อมั่นเหลือเกินว่า ชาติไทยของเรามีอนาคตแจ่มใสและรุ่งโรจน์อย่างแน่นอนและมั่นคงในอนาคตอันใกล้ นี้ เราจงมาช่วยกันสร้างชาติที่รักยิ่งของเราต่อไป พี่น้องชาวไทยที่รักทั้งหลาย วันนี้เป็นวันหนึ่งและเป็นในวันข้างหน้า เราจะต้องเอาปราสาทเขาพระวิหารกลับคืนมา ให้เป็นของชาติไทยให้จงได้ สวัสดี” https://youtube.com/shorts/Xdz0paAXVz4?si=k7SNESYjZJlELM04
    0 Comments 0 Shares 355 Views 0 Reviews
More Results