• จริงๆคนไทยโคตรมีอิสระภาพมากจนชนชั้นอีลิทชาติอื่นอิจฉา ยุแยงยุยงแทรกแซงเรื่อยมาจนปัจจุบันเขียนกฎหมายได้เองแล้วจึงควบคุมผ่านกฎหมายสาระพัดจัดการอิสระภาพคนไทยและมากมายทำลายอธิปไตยความมั่นคงมั่งคั่งการมีอยู่ดีมีสุขของคนไทยเองตลอดปล้นชิงสมบัติวัตถุดิบชาติไทยทรัพยากรมีค่าของชาติไทยมากมายมหาศาลผ่านกลไกกฎหมายของไทยเราเอง,ปล้นอย่างถูกกฎหมายประจำประเทศไทยก็ว่า,อดีตรุกรานทางกองทัพภายนอกแบบฝรั่งเศสยกพลยกกองทัพยกกองเรือหมายโจมตียึดประเทศไทยอย่างเปิดเผยทั้งหมด ปัจจุบันเขือดนิ่มๆคือปล้นชิงแย่งชิงยึดประเทศนั้นๆปกครองประเทศนั้นๆผ่านกฎหมายไทยมันเองที่กูคนปกครองภายนอกจะเขียนปกครองควบคุมมรึงคนไทยแบบเนียนๆไม่ให้เหยื่อศัตรูรู้ตัว,ตายแบบนิ่มๆแดกอร่อยก็ว่า,
    ..อิสระภาพเราสามารถยึดคืนได้จริงๆ.ถีบชุดบริหารชาติปัจจุบันออกก่อนจากนั้นให้ทหารพระราชาเรายึดอำนาจคืนมา,กษัตริย์ไทยเราไม่ใช่เผ่าพันธ์แรปทีเลี่ยนเลวชั่วแบบอังกฤษแดกเลือดเด็กเลือดมนุษย์มิเช่นนั้นต้องล่มสะลายด้วยกรรมวิบากเลวแบบอังกฤษนานแล้ว,ด้วยปกครองโดยธรรมมาตลอดทุกยุคสมัย,ธรรมคือเครื่องคุ้มครองนั้นเอง,การอำนาจการปกครองจริงๆจะเปลี่ยนสถานะลำบากยากจนข้นแค้นแบบหลายๆคนไทยในอดีตเรากลับมาร่ำรวยเงินทองทางวัตถุธาตุและร่ำรวยบุญกุศลศีลธรรมอันดีงามยกจิตยกใจสูงคู่ขนานทางโลกให้สมดุลได้ด้วย.,ไทยเราสุดยอดจริงๆในยุคต่อไปนี้.,เด็ดขาดถีบผู้ปกครองกากๆนี้หนีไป,ร10 11 12 และอีกหลาย ร. มีแต่ความเจริญรุ่งโรจน์ก็ว่า.,ให้มันจบที่รุ่นเรายุคสุดท้ายนี้เถอะความลำบากยากจน,ดูประวัติอาจารย์เลย ยากจนลำบากขนาดไหนกว่าจะมาเป็นท่านถึงปัจจุบันนี้,แล้วมาลาออกเพื่ออิสระภาพตนก็ว่า.

    https://youtube.com/shorts/I6QdlzHHRPU?si=HdRwbx9zGCMeOLWb
    จริงๆคนไทยโคตรมีอิสระภาพมากจนชนชั้นอีลิทชาติอื่นอิจฉา ยุแยงยุยงแทรกแซงเรื่อยมาจนปัจจุบันเขียนกฎหมายได้เองแล้วจึงควบคุมผ่านกฎหมายสาระพัดจัดการอิสระภาพคนไทยและมากมายทำลายอธิปไตยความมั่นคงมั่งคั่งการมีอยู่ดีมีสุขของคนไทยเองตลอดปล้นชิงสมบัติวัตถุดิบชาติไทยทรัพยากรมีค่าของชาติไทยมากมายมหาศาลผ่านกลไกกฎหมายของไทยเราเอง,ปล้นอย่างถูกกฎหมายประจำประเทศไทยก็ว่า,อดีตรุกรานทางกองทัพภายนอกแบบฝรั่งเศสยกพลยกกองทัพยกกองเรือหมายโจมตียึดประเทศไทยอย่างเปิดเผยทั้งหมด ปัจจุบันเขือดนิ่มๆคือปล้นชิงแย่งชิงยึดประเทศนั้นๆปกครองประเทศนั้นๆผ่านกฎหมายไทยมันเองที่กูคนปกครองภายนอกจะเขียนปกครองควบคุมมรึงคนไทยแบบเนียนๆไม่ให้เหยื่อศัตรูรู้ตัว,ตายแบบนิ่มๆแดกอร่อยก็ว่า, ..อิสระภาพเราสามารถยึดคืนได้จริงๆ.ถีบชุดบริหารชาติปัจจุบันออกก่อนจากนั้นให้ทหารพระราชาเรายึดอำนาจคืนมา,กษัตริย์ไทยเราไม่ใช่เผ่าพันธ์แรปทีเลี่ยนเลวชั่วแบบอังกฤษแดกเลือดเด็กเลือดมนุษย์มิเช่นนั้นต้องล่มสะลายด้วยกรรมวิบากเลวแบบอังกฤษนานแล้ว,ด้วยปกครองโดยธรรมมาตลอดทุกยุคสมัย,ธรรมคือเครื่องคุ้มครองนั้นเอง,การอำนาจการปกครองจริงๆจะเปลี่ยนสถานะลำบากยากจนข้นแค้นแบบหลายๆคนไทยในอดีตเรากลับมาร่ำรวยเงินทองทางวัตถุธาตุและร่ำรวยบุญกุศลศีลธรรมอันดีงามยกจิตยกใจสูงคู่ขนานทางโลกให้สมดุลได้ด้วย.,ไทยเราสุดยอดจริงๆในยุคต่อไปนี้.,เด็ดขาดถีบผู้ปกครองกากๆนี้หนีไป,ร10 11 12 และอีกหลาย ร. มีแต่ความเจริญรุ่งโรจน์ก็ว่า.,ให้มันจบที่รุ่นเรายุคสุดท้ายนี้เถอะความลำบากยากจน,ดูประวัติอาจารย์เลย ยากจนลำบากขนาดไหนกว่าจะมาเป็นท่านถึงปัจจุบันนี้,แล้วมาลาออกเพื่ออิสระภาพตนก็ว่า. https://youtube.com/shorts/I6QdlzHHRPU?si=HdRwbx9zGCMeOLWb
    0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • ความหายนะของประเทศได้ย่างกรายเข้ามาแล้ว​เศรษฐกิจโลกจะถดถอยหนัก โดยตอนนี้ได้ก่อให้เกิดอาการช็อคขึ้นมาแล้วว่าเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำเหลือเติบโตได้แค่ 2.5 % ในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้ คือตั้งแต่ปีนี้ไปจนปี 2027 ซึ่งโลกจะเจอกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดใน 65 ปี นับตั้งแต่ทศวรรษ 1960​ที่กล่าวข้างต้นนี้ไม่ใช่เป็นข่าวโซเชียลธรรมดา แต่เป็นรายงานของธนาคารโลกที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2025 นี้ โดยรองประธานอาวุโสและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ (Senior Vice President and Chief Economist) ของธนาคารโลก ชื่อว่า Indermit Gill รายงานฉบับนี้ระบุชัดว่าสาเหตุที่ต้องปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลงสู่ระดับต่ำสุดๆเช่นนี้เป็นผลมาจากสงครามภาษี และความเสี่ยงที่สูงของเศรษฐกิจโลกนั่นเอง​ประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ทางเศรษฐกิจของชาติมหาอำนาจในครั้งนี้ ตามรายงานบอกไว้ชัดว่าประเทศที่ยากจนมากจะได้รับผลกระทบที่เจ็บปวดแน่ แต่ประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลาย (เช่นไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น) จะได้รับผลกระทบที่เลวร้ายสุดๆ​แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ประเทศที่ช่วงเดือนเมษายนนี้ธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้แค่ 1.6 % และปี 2026 จะขยายตัวได้เพียง 1.8 % ประเทศที่ถูกเพื่อนต่างชาติมองว่าเป็นผู้ป่วยหนักสุดในเอเชีย ประเทศที่ทางด้านเศรษฐกิจทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น แถมการเมืองก็สุดจะเลวร้ายซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องต่างก็ทำการเมืองแบบแย่งชิงทั้งอำนาจและเงินตราอย่างถึงพริกถึงขิง ไม่มีสำนึกและยางอายให้ประชาชนเห็น จะดูมิติไหนก็ไม่มีดีสักอย่าง ซ้ำร้ายกว่านั้น ประเทศนี้เป็นประเทศเดียวที่มีนายกรัฐมนตรีกำลังฝึกงานอยู่ ด้วยสถานการณ์ที่เลวร้ายทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง ได้ส่งผลให้ภาวะด้านสังคมที่เละเทะอยู่แล้วในทุกภาคส่วน นับตั้งแต่พฤติกรรมฉ้อโกงของผู้คนทุกประเภท การทุจริตการคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึก การเผยแพร่ที่ไม่หยุดยั้งของยาเสพติด การค้ามนุษย์ การพนันและหวยออนไลน์ที่เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของชนระดับล่างทั้งประเทศ การประกอบธุรกิจสีเทาทั้งคนไทยและต่างชาติ เรื่องเลวร้ายของไทยเหล่านี้ได้ขยายตัวออกไปทั่วประเทศจนยากที่จะแก้ไขให้กลับสู่สังคมที่น่าอยู่ของคนไทยในอดีตได้อีกแล้ว​ภาพที่น่ากลัว น่าเป็นห่วงของการคาดการณ์ของเศรษฐกิจโลกของธนาคารโลกครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการข่มขู่แต่อย่างใด แต่ Chief Economist ของธนาคารโลก ต้องการชี้ให้เห็นว่าสิ่งเลวร้ายด้านเศรษฐกิจที่จะต้องเกิดขึ้นในโลกใบนี้แน่ๆในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้มีอะไรบ้าง และจะกระทบต่อประเทศไหนรุนแรงแค่ไหน​รายงานของธนาคารโลกฉบับนี้ยังได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขไว้ให้ประเทศต่างๆ ถึง 3 ประการ ประการแรก ประเทศที่เกี่ยวข้องจะต้องปรับความสัมพันธ์ทางการค้าเสียใหม่ (rebuild trade relation) โดยให้คำนึงถึงรากฐานทางการค้าที่แท้จริงที่ต้องมีต่อกัน เป็นต้นประการที่สอง ทุกประเทศต้องพยายามรักษาและปรับปรุงกฎเกณฑ์ของการคลังภาครัฐ (reform fiscal order) โดยเฉพาะประเทศที่รายได้ต่ำที่ถูกกดดันบีบคั้น ทั้งจากงบประมาณที่มีน้อยและการช่วยเหลือจากต่างชาติที่ลดลง รวมทั้งการที่ต้องจ่ายเงินไปในเรื่องค่าดอกเบี้ยของหนี้สาธารณะที่สูงจากงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญต่อการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าในเรื่องการลงทุนที่จำเป็น หรือการกระตุ้นการบริโภค ซึ่งรายงานได้แนะนำไว้ชัดว่าประเทศที่กำลังพัฒนาจำเป็นต้องหันมาสนใจเรื่องการขยายฐานภาษีและเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บรายได้จากภาษีอย่างจริงจังให้มากขึ้นประการที่สาม เร่งรัดการมีงานทำ (accelerate job creation) ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลของประเทศที่ยากจนจำต้องทำอย่างจริงจัง รวมถึงการยกระดับความรู้และความสามารถให้ผู้ใช้แรงงาน และการดูแลตลาดแรงงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นผมเห็นว่าสมควรที่คนไทยต้องรับรู้ไว้เพราะเรากำลังประสบกับภาวะวิกฤตหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่รับผิดชอบในการบริหารประเทศ ทั้งที่เป็นนักการเมืองและข้าราชการประจำ ควรพิจารณาตนเองให้หนักและควรพลิกผันความรู้สึกนึกคิดของตนเองให้ทำการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติด้วยใจ เพื่อเชิดชูประเทศชาติ สถาบันของชาติ และพลเมืองของชาติไว้เหนือสิ่งอื่นใดด้วยความจริงใจ ไม่ใช่แค่ด้วยคำพูดที่สวยงามลมๆแล้งๆ อีกต่อไป
    ความหายนะของประเทศได้ย่างกรายเข้ามาแล้ว​เศรษฐกิจโลกจะถดถอยหนัก โดยตอนนี้ได้ก่อให้เกิดอาการช็อคขึ้นมาแล้วว่าเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำเหลือเติบโตได้แค่ 2.5 % ในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้ คือตั้งแต่ปีนี้ไปจนปี 2027 ซึ่งโลกจะเจอกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดใน 65 ปี นับตั้งแต่ทศวรรษ 1960​ที่กล่าวข้างต้นนี้ไม่ใช่เป็นข่าวโซเชียลธรรมดา แต่เป็นรายงานของธนาคารโลกที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2025 นี้ โดยรองประธานอาวุโสและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ (Senior Vice President and Chief Economist) ของธนาคารโลก ชื่อว่า Indermit Gill รายงานฉบับนี้ระบุชัดว่าสาเหตุที่ต้องปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลงสู่ระดับต่ำสุดๆเช่นนี้เป็นผลมาจากสงครามภาษี และความเสี่ยงที่สูงของเศรษฐกิจโลกนั่นเอง​ประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ทางเศรษฐกิจของชาติมหาอำนาจในครั้งนี้ ตามรายงานบอกไว้ชัดว่าประเทศที่ยากจนมากจะได้รับผลกระทบที่เจ็บปวดแน่ แต่ประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลาย (เช่นไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น) จะได้รับผลกระทบที่เลวร้ายสุดๆ​แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ประเทศที่ช่วงเดือนเมษายนนี้ธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้แค่ 1.6 % และปี 2026 จะขยายตัวได้เพียง 1.8 % ประเทศที่ถูกเพื่อนต่างชาติมองว่าเป็นผู้ป่วยหนักสุดในเอเชีย ประเทศที่ทางด้านเศรษฐกิจทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น แถมการเมืองก็สุดจะเลวร้ายซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องต่างก็ทำการเมืองแบบแย่งชิงทั้งอำนาจและเงินตราอย่างถึงพริกถึงขิง ไม่มีสำนึกและยางอายให้ประชาชนเห็น จะดูมิติไหนก็ไม่มีดีสักอย่าง ซ้ำร้ายกว่านั้น ประเทศนี้เป็นประเทศเดียวที่มีนายกรัฐมนตรีกำลังฝึกงานอยู่ ด้วยสถานการณ์ที่เลวร้ายทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง ได้ส่งผลให้ภาวะด้านสังคมที่เละเทะอยู่แล้วในทุกภาคส่วน นับตั้งแต่พฤติกรรมฉ้อโกงของผู้คนทุกประเภท การทุจริตการคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึก การเผยแพร่ที่ไม่หยุดยั้งของยาเสพติด การค้ามนุษย์ การพนันและหวยออนไลน์ที่เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของชนระดับล่างทั้งประเทศ การประกอบธุรกิจสีเทาทั้งคนไทยและต่างชาติ เรื่องเลวร้ายของไทยเหล่านี้ได้ขยายตัวออกไปทั่วประเทศจนยากที่จะแก้ไขให้กลับสู่สังคมที่น่าอยู่ของคนไทยในอดีตได้อีกแล้ว​ภาพที่น่ากลัว น่าเป็นห่วงของการคาดการณ์ของเศรษฐกิจโลกของธนาคารโลกครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการข่มขู่แต่อย่างใด แต่ Chief Economist ของธนาคารโลก ต้องการชี้ให้เห็นว่าสิ่งเลวร้ายด้านเศรษฐกิจที่จะต้องเกิดขึ้นในโลกใบนี้แน่ๆในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้มีอะไรบ้าง และจะกระทบต่อประเทศไหนรุนแรงแค่ไหน​รายงานของธนาคารโลกฉบับนี้ยังได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขไว้ให้ประเทศต่างๆ ถึง 3 ประการ ประการแรก ประเทศที่เกี่ยวข้องจะต้องปรับความสัมพันธ์ทางการค้าเสียใหม่ (rebuild trade relation) โดยให้คำนึงถึงรากฐานทางการค้าที่แท้จริงที่ต้องมีต่อกัน เป็นต้นประการที่สอง ทุกประเทศต้องพยายามรักษาและปรับปรุงกฎเกณฑ์ของการคลังภาครัฐ (reform fiscal order) โดยเฉพาะประเทศที่รายได้ต่ำที่ถูกกดดันบีบคั้น ทั้งจากงบประมาณที่มีน้อยและการช่วยเหลือจากต่างชาติที่ลดลง รวมทั้งการที่ต้องจ่ายเงินไปในเรื่องค่าดอกเบี้ยของหนี้สาธารณะที่สูงจากงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญต่อการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าในเรื่องการลงทุนที่จำเป็น หรือการกระตุ้นการบริโภค ซึ่งรายงานได้แนะนำไว้ชัดว่าประเทศที่กำลังพัฒนาจำเป็นต้องหันมาสนใจเรื่องการขยายฐานภาษีและเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บรายได้จากภาษีอย่างจริงจังให้มากขึ้นประการที่สาม เร่งรัดการมีงานทำ (accelerate job creation) ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลของประเทศที่ยากจนจำต้องทำอย่างจริงจัง รวมถึงการยกระดับความรู้และความสามารถให้ผู้ใช้แรงงาน และการดูแลตลาดแรงงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นผมเห็นว่าสมควรที่คนไทยต้องรับรู้ไว้เพราะเรากำลังประสบกับภาวะวิกฤตหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่รับผิดชอบในการบริหารประเทศ ทั้งที่เป็นนักการเมืองและข้าราชการประจำ ควรพิจารณาตนเองให้หนักและควรพลิกผันความรู้สึกนึกคิดของตนเองให้ทำการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติด้วยใจ เพื่อเชิดชูประเทศชาติ สถาบันของชาติ และพลเมืองของชาติไว้เหนือสิ่งอื่นใดด้วยความจริงใจ ไม่ใช่แค่ด้วยคำพูดที่สวยงามลมๆแล้งๆ อีกต่อไป
    0 Comments 0 Shares 150 Views 0 Reviews
  • ..Thaitime ถึงเวลาคนไทยประชาชนคนไทยแล้วหรือจังหวะประชาชนคนไทยมาถึงแล้วคือยึดอำนาจโดยมวลมหาประชาชนแบบมีทหารพระราชายืนเคียงข้างก็ว่า.

    ....สรุปรัฐบาลในอดีตและปัจจุบันต่างล้มเหลวในด้านอธิปไตยชาติ,เปิดโอกาสต่างชาติต่างด้าวสาระพัดวิธีให้สามารถยึดที่ดินภายในประเทศไทยตนเองชัดเจนผ่านการออกกฎหมายที่ปัญญาอ่อนทรามทรยศอธิปไตยไทยตนทั้งสิ้น,จริงๆต่างชาติทุกๆกรณีห้ามที่ครองที่ดินในประเทศไทยจะผ่านนอมินีก็ตาม,เข้าทำงานคือเข้าทำงาน,มาค้าแรงงานคือมาค้าแรงงาน,มิใช่ทำแบบนี้,ต่างด้าวต่างชาติทำผิดสาระพัดในไทย,โดยการเขียนกฎหมายให้ต่างชาติต่างด้าวทำถูกนั้นเอง,ประมาณว่ารัฐไทยในอดีตอยากช่วยคนอิสราเอลคนอาหรับมุสลิมต่างชาติแบบภาคเหนืออ.ปายอิสราเอลเต็มพื้นที่หรือจีนลาวพม่าเต็มภาคเหนือเลยเขียนกฎหมายช่วยมายุดที่ดินไทยได้จะเช่า99ปีหรือขายให้ต่างชาติไร่ละ40ล้านบาทที่ออกเขียนกฎหมายเปิดช่องให้,นี้คือทรยศทางการปกครองชัดเจน,อดีตทุจริตโกงกินในเชิงนโนบาย,ปัจจุบันไม่ซื่อสัตย์ทุจริตโกงกินคตโกงเชิงรัฐบาลไปแล้วเชิงการปกครองหรือทุจริตเชิงได้อำนาจปกครองประเทศไทยไปแล้วนั้นเอง,บวกคนปกครองเหล่านี้ไม่ถูกลงโทษใดๆด้วย,กฎหมายไทยไม่เคยลงโทษระดับบิ๊กๆใหญ่ๆของบ้านนี้เมืองนี้เลย,มันเหลื่อมล่ำชัดเจนจริงๆ,ทำผิดก็ว่าเคยประกอบความดีความชอบมาก่อนพะนะ,ตอนทำชั่วหลังได้ประกอบความดีความชอบก่อนหน้านั้นตอแหลทำดีเพื่อได้หน้าได้แต้มหมายอนาคตสามารถรอทำชั่วได้ใช่มั้ยจะได้อ้างคุณงามความดีบังหน้ามิต้องรับผิดให้เสียเกียรติว่าตนเคยเป็นผู้นำผู้ปกครองสูงสุดเป็นระดับอธิบดีปกครองกระทรวงทบวงกรมระดับชาติเป็นลูกหลานอำมาตย์ตระกูลเชื้อสายเจ้าพระมีชาติวงศ์ตระกูลมาก่อนสามารถทำชั่วทางลับได้ทำชั่วทางใต้ดินได้จากนั้นทางการหน่วยงานระบบราชการรัฐต้องช่วยคุ้มครองปกป้องดูแลความปลอดภัยให้นะ,จะไม่เสื่อมเสียแก่ชาติวงศ์ตระกูลที่ออกหน้าโชว์สื่ออีกมุมหรู,เหี้ยจริงๆนะและนี้คือความจริงไม่น้อยบนแผ่นดินไทยนี้,สภาพต่างชาติต่างด้าวรุกรานผ่านประตูให้ข้าศึกศัตรูยึดประเทศจึงมาจากเขียนกฎหมายเปิดประตูให้พวกมันชอบธรรมมายึดเมืองไทยนี้ได้เลย,กฎหมายไทยจริงสามารถเขียนอะไรๆได้มากมายเพื่อปกป้องอธิปไตยประเทศไทยและอธิปไตยส่วนบุคคลของคนไทยไว้ในส่วนรวม เช่น บุคคลพ่อคนไทย แม่คนไทยมีสิทธิเต็ม100%ที่บุตรที่ลูกของทั้งสองคนไทยคือพ่อและแม่ ลูกจะสามารถมีสัญชาติไทย100%,พ่อเป็นพม่าแม่เป็นไทย,ให้ลูกเป็นสัญชาติพม่าทันที,แม่เป็นพม่า พ่อเป็นคนไทยให้ลูกที่เกิดมามีสัญชาติพม่าทันทีด้วย,ลูกต่างชาติต่างด้าวใดๆที่เกิดบนแผ่นดินไทยสัญชาติจะเป็นได้แค่สัญชาติพ่อหรือแม่ได้เท่านั้นลูกนั้นสามารถเลือกได้.,สามารถเขียนว่า ที่ดินบนแผ่นดินไทยทั่วประเทศ ต่างชาติต่างด้าวไม่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือเป็นของตนได้ทุกๆกรณีและยิ่งนอมินีคนไทยถือแทนถือว่าคนไทยคนนั้นผิด100%ดำเนินคดีความมั่นคงทางอธิปไตยจับติดคุกทันทีได้,ต่างชาติต่างด้าวไม่สามารถสร้างบ้านอยู่อาศัยบนแผ่นดินเองได้,หากเข้ามาทำงานนายจ้างเป็นเพียงจัดหาสถานที่เหมาะสมพักอาศัยได้เท่านั้น นายจ้างไม่มีสิทธิยกบ้านหรือยกที่ดินให้ต่างชาติต่างด้าวใดๆครอบครองได้,สามีเป็นต่างชาติหรือต่างด้าว ภรรยาเป็นคนไทย สามีเป็นเพียงแต่ผู้อยู่อาศัยเท่านั้นจนวันตาย.,สามีเป็นคนไทย ภรรยาเป็นต่างชาติต่างด้าวก็เช่นกันเป็นแค่ผู้อาศัยเท่านั้น,ต่างชาติต่างด้าวมีประเทศเขาเป็นของตนเองมิสมควรมาเบียดเบียนแย่งชิงอาศัยชาติประเทศอยู่อาศัยหรือทำมาหากิน,ตนสมควรไปเปลี่ยนแปลงการปกครองของตนให้ดีขึ้นแทนหรือรวมตัวเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศตนเสียเพื่อสัมมาชีวิตตนจะดีขึ้นเหมือนสิ่งที่ตนเองต้องการหรือเป็นแบบที่ตนจะต้องการไปอยู่อาศัยถาวรในประเทศชาตินั้นๆ.และสมควรมีสามีภรรยาอย่าข้ามเผ่าพันธุ์ประเทศเพราะไม่ใช่หน้าที่จริงๆต้องปกป้องเผ่าพันธุ์ดูสายพันธุ์อื่นกว่าเผ่าพันธุ์ตน,แล้วมาเรียกร้องให้อยากได้เสมอคนชาติประเทศนั้นๆให้ประเทศนั้นๆลำบากมาแก้ไขแก้กฎหมายให้ตนเองชอบธรรมเป็นถูกต้องแก้ตน,นี้คือภัยคุกคามอธิปไตยของประเทศไทยเราอีกตัวโดยอ้างความเป็นมนุษยบังหน้าเพื่อกลืนกินยึดประเทศนั้นๆหรือแทนคนประเทศนั้นอย่างแนบเนียน,เป็นวลีวาทะกรรมบริบทที่ผิดปกติและบกพร่อง,จริงต้องเช่นนี้เลยว่า แบบพม่ามีสงครามภายในก็คนพม่าในไทยไปพูดคุยกันเองให้ชาติตนเจริญดีงามขึ้น เปลี่ยนแปลงการปกครองและคนก็ต้องเปลี่ยนแปลง,จะพม่าจะลาวจะเขมรก็ตาม คนพม่าในไทยหรือทั่วโลก คนลาวคนเขมรในไทยหรือทั่วโลกก็ต้องรวบรวมประชาชนตนขึ้นสู้เพื่อปลดปล่อยอิสระภาพสู่ความอยู่ดีมีสุขสิ,คนจีนก็ด้วย มิใช่ย้ายมาตัังรกรากในไทย,ประเทศตนอึดอัดลำบากเพราะการปกครอง ตนประชาชนทัังประเทศจีนก็ลุกขึ้นปลดปล่อยตนเองเป็นอิสระแบบไทยสิ,พื้นที่ดินแดนมากกว่าไทยเสือกมารุกรานที่ดินที่อยู่อาศัยที่น้อยนิดของไทยทำไม,ลาวพื้นที่อีกมากมายคนก็น้อยนิดก็ไปเปลี่ยนแปลงการปกครองลาวเป็นแบบไทยสิ,คนประชาชนลาวกากอะไรล่ะ,ปากดีทั้งนั้นจะมาสร้างบ้านอยู่อาศัยทำไมในไทย ประเทศลาวของตนก็มี,เขมรก็เหมือนกันฮุนเซนเหี้ย ประชาชนเขมรเต็มประเทศเสือกไม่ปลดปล่อยคนเขมรให้มีวิถีชีวิตอิสระเสรีแบบไทยล่ะ,พม่ายิ่งชัดเจน,คือประชาชนทั้งหมดที่มาจากประเทศพวกนี้มาอยู่ในไทย,ต้องผลักดันต่างชาติต่างด้าวออกไปทั้งหมดทันที,ไปสร้างการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศตรแย่างจริงจังอย่ามาหลบซ่อนในประเทศไทยทุกๆกรณี,เจ้าหน้าที่ไทยต้องทำหน้าจริงจังทั้งหมดประกาศเป็นกฎอัยการศึกคือเรื่องนี้ไส้ศึกต่างด้าวต่างชาติมีมากเกินไปในไทยนี้คืออธิปไตยของคนไทยชัดเจน ปัจจุบันเลอะเทอะมากเกินไปจริง,ประเทศไทยของคนไทยนะมิใช่ของคนต่างชาติต่างด้าวมาอยู่อาศัยมากมายเกินไปแล้ว,นี้คือรัฐที่ล้มเหลว,นี้คือการปกครองที่ล้มเหลว,นี้คือผู้นำผู้ปกครองที่ไร้ความสามารถกากกระจอกล้มเหลวในภาวะความเป็นผู้นำผู้ปกครองของประชาชนคนไทยให้คนไทยไม่มาถูกเหยียบย่ำ,วิถีปกครองที่เลวและล้มเหลว,เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ทุจริตแดกตังค่าตำแหน่งค่าเข้างานราชหลวงระบบอุปถัมภพเต็มประเทศ โกงกินทุกๆตารางนิ้ว,ประชาชนยากจนหลากหลายมิติ,แค่ชาติไทยก็เหี้ยปกติแล้วจึงไม่จำเป็นต้องแคร์คนต่างด้าวค่างชาติชาติอื่น,ยึดอำนาจแก้ไขเด็ดขาดที่ชาติไทยเราก่อนจะดีมาก.ปัญหาแบบลักษณะคลิปนี้จะจบทันที.,เคสจีนแก้ปัญหาบ้านอาศัยคนต่างชาติต่างด้าวผิดอธิปไตยคุกคามความมั่นคงของประชาชนเขา เขาสร้างกฎใหม่ทำลายต่างชาติได้สบาย.

    https://youtu.be/C2mnNRuNCmg?si=TFfvYXDSbaz8rieV

    ..Thaitime ถึงเวลาคนไทยประชาชนคนไทยแล้วหรือจังหวะประชาชนคนไทยมาถึงแล้วคือยึดอำนาจโดยมวลมหาประชาชนแบบมีทหารพระราชายืนเคียงข้างก็ว่า. ....สรุปรัฐบาลในอดีตและปัจจุบันต่างล้มเหลวในด้านอธิปไตยชาติ,เปิดโอกาสต่างชาติต่างด้าวสาระพัดวิธีให้สามารถยึดที่ดินภายในประเทศไทยตนเองชัดเจนผ่านการออกกฎหมายที่ปัญญาอ่อนทรามทรยศอธิปไตยไทยตนทั้งสิ้น,จริงๆต่างชาติทุกๆกรณีห้ามที่ครองที่ดินในประเทศไทยจะผ่านนอมินีก็ตาม,เข้าทำงานคือเข้าทำงาน,มาค้าแรงงานคือมาค้าแรงงาน,มิใช่ทำแบบนี้,ต่างด้าวต่างชาติทำผิดสาระพัดในไทย,โดยการเขียนกฎหมายให้ต่างชาติต่างด้าวทำถูกนั้นเอง,ประมาณว่ารัฐไทยในอดีตอยากช่วยคนอิสราเอลคนอาหรับมุสลิมต่างชาติแบบภาคเหนืออ.ปายอิสราเอลเต็มพื้นที่หรือจีนลาวพม่าเต็มภาคเหนือเลยเขียนกฎหมายช่วยมายุดที่ดินไทยได้จะเช่า99ปีหรือขายให้ต่างชาติไร่ละ40ล้านบาทที่ออกเขียนกฎหมายเปิดช่องให้,นี้คือทรยศทางการปกครองชัดเจน,อดีตทุจริตโกงกินในเชิงนโนบาย,ปัจจุบันไม่ซื่อสัตย์ทุจริตโกงกินคตโกงเชิงรัฐบาลไปแล้วเชิงการปกครองหรือทุจริตเชิงได้อำนาจปกครองประเทศไทยไปแล้วนั้นเอง,บวกคนปกครองเหล่านี้ไม่ถูกลงโทษใดๆด้วย,กฎหมายไทยไม่เคยลงโทษระดับบิ๊กๆใหญ่ๆของบ้านนี้เมืองนี้เลย,มันเหลื่อมล่ำชัดเจนจริงๆ,ทำผิดก็ว่าเคยประกอบความดีความชอบมาก่อนพะนะ,ตอนทำชั่วหลังได้ประกอบความดีความชอบก่อนหน้านั้นตอแหลทำดีเพื่อได้หน้าได้แต้มหมายอนาคตสามารถรอทำชั่วได้ใช่มั้ยจะได้อ้างคุณงามความดีบังหน้ามิต้องรับผิดให้เสียเกียรติว่าตนเคยเป็นผู้นำผู้ปกครองสูงสุดเป็นระดับอธิบดีปกครองกระทรวงทบวงกรมระดับชาติเป็นลูกหลานอำมาตย์ตระกูลเชื้อสายเจ้าพระมีชาติวงศ์ตระกูลมาก่อนสามารถทำชั่วทางลับได้ทำชั่วทางใต้ดินได้จากนั้นทางการหน่วยงานระบบราชการรัฐต้องช่วยคุ้มครองปกป้องดูแลความปลอดภัยให้นะ,จะไม่เสื่อมเสียแก่ชาติวงศ์ตระกูลที่ออกหน้าโชว์สื่ออีกมุมหรู,เหี้ยจริงๆนะและนี้คือความจริงไม่น้อยบนแผ่นดินไทยนี้,สภาพต่างชาติต่างด้าวรุกรานผ่านประตูให้ข้าศึกศัตรูยึดประเทศจึงมาจากเขียนกฎหมายเปิดประตูให้พวกมันชอบธรรมมายึดเมืองไทยนี้ได้เลย,กฎหมายไทยจริงสามารถเขียนอะไรๆได้มากมายเพื่อปกป้องอธิปไตยประเทศไทยและอธิปไตยส่วนบุคคลของคนไทยไว้ในส่วนรวม เช่น บุคคลพ่อคนไทย แม่คนไทยมีสิทธิเต็ม100%ที่บุตรที่ลูกของทั้งสองคนไทยคือพ่อและแม่ ลูกจะสามารถมีสัญชาติไทย100%,พ่อเป็นพม่าแม่เป็นไทย,ให้ลูกเป็นสัญชาติพม่าทันที,แม่เป็นพม่า พ่อเป็นคนไทยให้ลูกที่เกิดมามีสัญชาติพม่าทันทีด้วย,ลูกต่างชาติต่างด้าวใดๆที่เกิดบนแผ่นดินไทยสัญชาติจะเป็นได้แค่สัญชาติพ่อหรือแม่ได้เท่านั้นลูกนั้นสามารถเลือกได้.,สามารถเขียนว่า ที่ดินบนแผ่นดินไทยทั่วประเทศ ต่างชาติต่างด้าวไม่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือเป็นของตนได้ทุกๆกรณีและยิ่งนอมินีคนไทยถือแทนถือว่าคนไทยคนนั้นผิด100%ดำเนินคดีความมั่นคงทางอธิปไตยจับติดคุกทันทีได้,ต่างชาติต่างด้าวไม่สามารถสร้างบ้านอยู่อาศัยบนแผ่นดินเองได้,หากเข้ามาทำงานนายจ้างเป็นเพียงจัดหาสถานที่เหมาะสมพักอาศัยได้เท่านั้น นายจ้างไม่มีสิทธิยกบ้านหรือยกที่ดินให้ต่างชาติต่างด้าวใดๆครอบครองได้,สามีเป็นต่างชาติหรือต่างด้าว ภรรยาเป็นคนไทย สามีเป็นเพียงแต่ผู้อยู่อาศัยเท่านั้นจนวันตาย.,สามีเป็นคนไทย ภรรยาเป็นต่างชาติต่างด้าวก็เช่นกันเป็นแค่ผู้อาศัยเท่านั้น,ต่างชาติต่างด้าวมีประเทศเขาเป็นของตนเองมิสมควรมาเบียดเบียนแย่งชิงอาศัยชาติประเทศอยู่อาศัยหรือทำมาหากิน,ตนสมควรไปเปลี่ยนแปลงการปกครองของตนให้ดีขึ้นแทนหรือรวมตัวเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศตนเสียเพื่อสัมมาชีวิตตนจะดีขึ้นเหมือนสิ่งที่ตนเองต้องการหรือเป็นแบบที่ตนจะต้องการไปอยู่อาศัยถาวรในประเทศชาตินั้นๆ.และสมควรมีสามีภรรยาอย่าข้ามเผ่าพันธุ์ประเทศเพราะไม่ใช่หน้าที่จริงๆต้องปกป้องเผ่าพันธุ์ดูสายพันธุ์อื่นกว่าเผ่าพันธุ์ตน,แล้วมาเรียกร้องให้อยากได้เสมอคนชาติประเทศนั้นๆให้ประเทศนั้นๆลำบากมาแก้ไขแก้กฎหมายให้ตนเองชอบธรรมเป็นถูกต้องแก้ตน,นี้คือภัยคุกคามอธิปไตยของประเทศไทยเราอีกตัวโดยอ้างความเป็นมนุษยบังหน้าเพื่อกลืนกินยึดประเทศนั้นๆหรือแทนคนประเทศนั้นอย่างแนบเนียน,เป็นวลีวาทะกรรมบริบทที่ผิดปกติและบกพร่อง,จริงต้องเช่นนี้เลยว่า แบบพม่ามีสงครามภายในก็คนพม่าในไทยไปพูดคุยกันเองให้ชาติตนเจริญดีงามขึ้น เปลี่ยนแปลงการปกครองและคนก็ต้องเปลี่ยนแปลง,จะพม่าจะลาวจะเขมรก็ตาม คนพม่าในไทยหรือทั่วโลก คนลาวคนเขมรในไทยหรือทั่วโลกก็ต้องรวบรวมประชาชนตนขึ้นสู้เพื่อปลดปล่อยอิสระภาพสู่ความอยู่ดีมีสุขสิ,คนจีนก็ด้วย มิใช่ย้ายมาตัังรกรากในไทย,ประเทศตนอึดอัดลำบากเพราะการปกครอง ตนประชาชนทัังประเทศจีนก็ลุกขึ้นปลดปล่อยตนเองเป็นอิสระแบบไทยสิ,พื้นที่ดินแดนมากกว่าไทยเสือกมารุกรานที่ดินที่อยู่อาศัยที่น้อยนิดของไทยทำไม,ลาวพื้นที่อีกมากมายคนก็น้อยนิดก็ไปเปลี่ยนแปลงการปกครองลาวเป็นแบบไทยสิ,คนประชาชนลาวกากอะไรล่ะ,ปากดีทั้งนั้นจะมาสร้างบ้านอยู่อาศัยทำไมในไทย ประเทศลาวของตนก็มี,เขมรก็เหมือนกันฮุนเซนเหี้ย ประชาชนเขมรเต็มประเทศเสือกไม่ปลดปล่อยคนเขมรให้มีวิถีชีวิตอิสระเสรีแบบไทยล่ะ,พม่ายิ่งชัดเจน,คือประชาชนทั้งหมดที่มาจากประเทศพวกนี้มาอยู่ในไทย,ต้องผลักดันต่างชาติต่างด้าวออกไปทั้งหมดทันที,ไปสร้างการเปลี่ยนแปลงภายในประเทศตรแย่างจริงจังอย่ามาหลบซ่อนในประเทศไทยทุกๆกรณี,เจ้าหน้าที่ไทยต้องทำหน้าจริงจังทั้งหมดประกาศเป็นกฎอัยการศึกคือเรื่องนี้ไส้ศึกต่างด้าวต่างชาติมีมากเกินไปในไทยนี้คืออธิปไตยของคนไทยชัดเจน ปัจจุบันเลอะเทอะมากเกินไปจริง,ประเทศไทยของคนไทยนะมิใช่ของคนต่างชาติต่างด้าวมาอยู่อาศัยมากมายเกินไปแล้ว,นี้คือรัฐที่ล้มเหลว,นี้คือการปกครองที่ล้มเหลว,นี้คือผู้นำผู้ปกครองที่ไร้ความสามารถกากกระจอกล้มเหลวในภาวะความเป็นผู้นำผู้ปกครองของประชาชนคนไทยให้คนไทยไม่มาถูกเหยียบย่ำ,วิถีปกครองที่เลวและล้มเหลว,เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่ทุจริตแดกตังค่าตำแหน่งค่าเข้างานราชหลวงระบบอุปถัมภพเต็มประเทศ โกงกินทุกๆตารางนิ้ว,ประชาชนยากจนหลากหลายมิติ,แค่ชาติไทยก็เหี้ยปกติแล้วจึงไม่จำเป็นต้องแคร์คนต่างด้าวค่างชาติชาติอื่น,ยึดอำนาจแก้ไขเด็ดขาดที่ชาติไทยเราก่อนจะดีมาก.ปัญหาแบบลักษณะคลิปนี้จะจบทันที.,เคสจีนแก้ปัญหาบ้านอาศัยคนต่างชาติต่างด้าวผิดอธิปไตยคุกคามความมั่นคงของประชาชนเขา เขาสร้างกฎใหม่ทำลายต่างชาติได้สบาย. https://youtu.be/C2mnNRuNCmg?si=TFfvYXDSbaz8rieV
    0 Comments 0 Shares 209 Views 0 Reviews
  • ..เปลี่ยนผู้นำเราเถอะ,ไล่ออกไปเลยก็ได้,ไร้ความสามารถและขาดวุฒิภาวะอย่างสูง จริงๆไม่เหมาะสมตั้งแต่แรกอ่อนประสบการณ์พรรคแพ้การเลือกตั้งด้วย,สมองไม่ถึงจะมานำพาประเทศให้รอดจากสาระพัดปัญหาได้,ตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงอะไร,ยุทธศาสตร์เชิงบุกเชิงรุกในยุคสมัยโลกเปลี่ยนแปลงก็ไม่มีอะไร,ประชาชนยากจนขาดสภาพคล่องตังในการดำรงชีพ คนตกงานเป็นอันมาก,ต่างชาติเต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่แก้ไข,ภัยความมั่นคงสะดวกต่อการปั่นป่วนภายในประเทศได้เสมือนข้าศึกเดินเต็มภายในบ้านตนเองเสือกไม่ทำอะไร,มันแสดงถึงการไม่รักบ้านตนเองรักคนในบ้านตนเองรักประเทศชาติตนเองเลย,รักดินแดนตนเองอาณาเขตและพื้นที่ตนเอง ปล่อยให้ต่างชาติมาอยู่อาศัยแทนคนไทยเต็มบ้านเต็มเมือง ปล่อยให้ครไทยตนยากจนลงเพื่อให้ต่างชาติหอบตังมาเหยียบหยามคนไทยได้,ทรัมป์เอาอเมริกาต้องมาก่อนระดับมหาอำนาจมันยังกล้านำทำเลย,ไทยเราทำตามจะเป็นอะไร,ยิ่งโมเดลนี้ทดลองใช้ในกรณีเขมรปฐมบทเลย,ห้ามคนเขมรเข้าประเทศไทยจนกว่ากรณีพิพาทนี้จะยุติได้,ผลักดันไล่ล่าคนเขมรในไทยจับกุมส่งกลับทั้งหมดหรือส่งไปประเทศโลกที่สามหากไม่ชอบการทารุนกรรมภายในประเทศเขมรเองเพื่อสิทธิมนุษยชาติด้วยคนเขมรไม่ชอบการปกครองของรัฐบาลฮุนเชนนอมินีก็มากในไทยแต่เงื่อนไขห้ามมีที่ยืนคนเขมรในประเทศไทยทั้งหมด,ทรัมป์ยังแบนได้และสถานะการณ์นี้เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามความมั่นคงทางอธิปไตยจริงของประเทศไทยเราด้วย,เพราะมีรัฐบาลกากอดีตก็ส่งนายกฯไม่ซื่อสัตย์นำรัฐบาลผิดพลาดไปแล้ว,ความชอบธรรมจริงๆด้วยจิตสำนึกปกติมันสมควรเลือกตั้งการใหม่ทันทีแล้วเพราะคณะบัดสบการทางปัญญาสมองก็ด้วยไปเขียนกฎหมายการเลือกที่ไม่ให้ประชาชนเลือกนายกฯทางตรงได้,นัยยะแสดง!!อยากสืบทอดอำนาจต่อสมัยรัฐบาลยึดอำนาจจึงเขียนกติกาเลือกตั้งผีบ้าผีบอออกมา,ไม่รวมพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ใส่พานให้เอกชนเหยียบชาวเกษตรไทยทั้งประเทศถูกเอกชนผูกขาดเมล็ดพันธุ์ด้วย จนได้ชื่อว่าพรบ.500 โจร500สมัยคนยึดอำนาจนั้นล่าสุด,หรือต่ออายุสัมปทานบ่อน้ำมันให้ต่างชาติโดยไร้สมองไร้สติปัญญาสมควรทำเองไปเลย,มิหนำซ้ำเสือกแจกสัมปทาน2แปลงขนาดพื้นที่ใหญ่โตบนอ่าวไทยให้ต่างชาติด้วยทำไมไม่เก็บไว้ทำเองขายถูกๆถ่วงดุลราคาน้ำมันไม่แพงช่วยประชาชนคนไทย,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว ผู้ปกครองชั่วเลวนำการปกครองตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมาโดยตลอด,คนไทยจึงยากจนดักดานผ่านวิถีการออกกฎหมายและกฎหมายนั้นมากมานปัญญาอ่อนดูดตังในกระเป๋าชาวบ้านเกือบทุกๆครั้งเมื่อมีช่องจะดูดโดยอ้างความปลอดภัยประชาชนบังหน้า.ประโยชน์ประชาชนพะนะแบบ1มิย.68ไม่สวมหมวกกันน็อคปรับชาวบ้านตาดำ2,000บาทนั้นล่ะ,เสือกไม่เขียนกฎหมายว่าอนาคตบ่อน้ำมันที่หมดอายุสัมปทานรัฐบาลจะผลิตเอว,หรือบ่อน้ำมันที่สัมปทานทั้งหมดถือว่าไม่ชอบธรรมด้วยคือความมั่นคงทางอธิปไตยของชาติไทยแต่ข้าราชการชั่วไม่ซื่อสัตย์ทรยศแผ่นดินไทยจึงไม่เสนอเข้าสภาสส.สว.ถือว่าเป็นการกระทำโดยมิชอบขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญของอธิปไตยชาติอย่างร้ายแรงจึงประกาศโมฆะสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมดทั่วราชอาณาจักรไทยทันที พรบ.กฎหมายปิโตรเลียมทุกๆฉบับเป็นอันตกไป.,นึ้ผู้ปกครองไทยต้องเด็ดขาดจริงแบบนี้,ไม่ใช่กากๆขี้ขลาดและโง่เขลาเหมือนในอดีตที่ผ่านๆมา.
    ..ทรัมป์แบน20ประเทศ,ไทยเริ่มแบนกับชาติที่คุกคามอธิปไตยเราก่อนถือว่าทรัมป์ชี้นำชี้แนะทางอ้อมนะนั้นมวยแก้ก็ว่า,แต่บังเอิญรัฐบาลเราปัจจุบันสนิทสนมเขมรนัก.
    ..
    ..https://youtu.be/iMwLtPwNSmk?si=c5YzT1kqftNLCOys
    ..เปลี่ยนผู้นำเราเถอะ,ไล่ออกไปเลยก็ได้,ไร้ความสามารถและขาดวุฒิภาวะอย่างสูง จริงๆไม่เหมาะสมตั้งแต่แรกอ่อนประสบการณ์พรรคแพ้การเลือกตั้งด้วย,สมองไม่ถึงจะมานำพาประเทศให้รอดจากสาระพัดปัญหาได้,ตามไม่ทันการเปลี่ยนแปลงอะไร,ยุทธศาสตร์เชิงบุกเชิงรุกในยุคสมัยโลกเปลี่ยนแปลงก็ไม่มีอะไร,ประชาชนยากจนขาดสภาพคล่องตังในการดำรงชีพ คนตกงานเป็นอันมาก,ต่างชาติเต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่แก้ไข,ภัยความมั่นคงสะดวกต่อการปั่นป่วนภายในประเทศได้เสมือนข้าศึกเดินเต็มภายในบ้านตนเองเสือกไม่ทำอะไร,มันแสดงถึงการไม่รักบ้านตนเองรักคนในบ้านตนเองรักประเทศชาติตนเองเลย,รักดินแดนตนเองอาณาเขตและพื้นที่ตนเอง ปล่อยให้ต่างชาติมาอยู่อาศัยแทนคนไทยเต็มบ้านเต็มเมือง ปล่อยให้ครไทยตนยากจนลงเพื่อให้ต่างชาติหอบตังมาเหยียบหยามคนไทยได้,ทรัมป์เอาอเมริกาต้องมาก่อนระดับมหาอำนาจมันยังกล้านำทำเลย,ไทยเราทำตามจะเป็นอะไร,ยิ่งโมเดลนี้ทดลองใช้ในกรณีเขมรปฐมบทเลย,ห้ามคนเขมรเข้าประเทศไทยจนกว่ากรณีพิพาทนี้จะยุติได้,ผลักดันไล่ล่าคนเขมรในไทยจับกุมส่งกลับทั้งหมดหรือส่งไปประเทศโลกที่สามหากไม่ชอบการทารุนกรรมภายในประเทศเขมรเองเพื่อสิทธิมนุษยชาติด้วยคนเขมรไม่ชอบการปกครองของรัฐบาลฮุนเชนนอมินีก็มากในไทยแต่เงื่อนไขห้ามมีที่ยืนคนเขมรในประเทศไทยทั้งหมด,ทรัมป์ยังแบนได้และสถานะการณ์นี้เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามความมั่นคงทางอธิปไตยจริงของประเทศไทยเราด้วย,เพราะมีรัฐบาลกากอดีตก็ส่งนายกฯไม่ซื่อสัตย์นำรัฐบาลผิดพลาดไปแล้ว,ความชอบธรรมจริงๆด้วยจิตสำนึกปกติมันสมควรเลือกตั้งการใหม่ทันทีแล้วเพราะคณะบัดสบการทางปัญญาสมองก็ด้วยไปเขียนกฎหมายการเลือกที่ไม่ให้ประชาชนเลือกนายกฯทางตรงได้,นัยยะแสดง!!อยากสืบทอดอำนาจต่อสมัยรัฐบาลยึดอำนาจจึงเขียนกติกาเลือกตั้งผีบ้าผีบอออกมา,ไม่รวมพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ใส่พานให้เอกชนเหยียบชาวเกษตรไทยทั้งประเทศถูกเอกชนผูกขาดเมล็ดพันธุ์ด้วย จนได้ชื่อว่าพรบ.500 โจร500สมัยคนยึดอำนาจนั้นล่าสุด,หรือต่ออายุสัมปทานบ่อน้ำมันให้ต่างชาติโดยไร้สมองไร้สติปัญญาสมควรทำเองไปเลย,มิหนำซ้ำเสือกแจกสัมปทาน2แปลงขนาดพื้นที่ใหญ่โตบนอ่าวไทยให้ต่างชาติด้วยทำไมไม่เก็บไว้ทำเองขายถูกๆถ่วงดุลราคาน้ำมันไม่แพงช่วยประชาชนคนไทย,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว ผู้ปกครองชั่วเลวนำการปกครองตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมาโดยตลอด,คนไทยจึงยากจนดักดานผ่านวิถีการออกกฎหมายและกฎหมายนั้นมากมานปัญญาอ่อนดูดตังในกระเป๋าชาวบ้านเกือบทุกๆครั้งเมื่อมีช่องจะดูดโดยอ้างความปลอดภัยประชาชนบังหน้า.ประโยชน์ประชาชนพะนะแบบ1มิย.68ไม่สวมหมวกกันน็อคปรับชาวบ้านตาดำ2,000บาทนั้นล่ะ,เสือกไม่เขียนกฎหมายว่าอนาคตบ่อน้ำมันที่หมดอายุสัมปทานรัฐบาลจะผลิตเอว,หรือบ่อน้ำมันที่สัมปทานทั้งหมดถือว่าไม่ชอบธรรมด้วยคือความมั่นคงทางอธิปไตยของชาติไทยแต่ข้าราชการชั่วไม่ซื่อสัตย์ทรยศแผ่นดินไทยจึงไม่เสนอเข้าสภาสส.สว.ถือว่าเป็นการกระทำโดยมิชอบขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญของอธิปไตยชาติอย่างร้ายแรงจึงประกาศโมฆะสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมดทั่วราชอาณาจักรไทยทันที พรบ.กฎหมายปิโตรเลียมทุกๆฉบับเป็นอันตกไป.,นึ้ผู้ปกครองไทยต้องเด็ดขาดจริงแบบนี้,ไม่ใช่กากๆขี้ขลาดและโง่เขลาเหมือนในอดีตที่ผ่านๆมา. ..ทรัมป์แบน20ประเทศ,ไทยเริ่มแบนกับชาติที่คุกคามอธิปไตยเราก่อนถือว่าทรัมป์ชี้นำชี้แนะทางอ้อมนะนั้นมวยแก้ก็ว่า,แต่บังเอิญรัฐบาลเราปัจจุบันสนิทสนมเขมรนัก. .. ..https://youtu.be/iMwLtPwNSmk?si=c5YzT1kqftNLCOys
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก,
    ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด.

    https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก, ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด. https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    0 Comments 0 Shares 395 Views 0 Reviews
  • **ภาพวาด 24 กตัญญู**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’

    ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย

    เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง

    24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ):

    1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป

    2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา

    3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป

    4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป

    5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ

    6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก

    7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม

    8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา

    9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง

    10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา

    11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น

    12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป

    13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้

    14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว

    15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป

    16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน

    17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย

    18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย

    19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย

    20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด

    21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่

    22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย

    23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ

    24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน

    อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm
    http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html

    #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    **ภาพวาด 24 กตัญญู** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’ ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง 24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ): 1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป 2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา 3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป 4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป 5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ 6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก 7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม 8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา 9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง 10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา 11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น 12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป 13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้ 14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว 15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป 16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน 17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย 18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย 19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย 20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด 21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่ 22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย 23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ 24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00 http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    NEWS.QQ.COM
    《九重紫》暴露了他好身材,长相人畜无害,却脱衣有肉穿衣显瘦_腾讯新闻
    由孟子义、李昀锐主演的电视剧《九重紫》,自开播以来,热度迅速攀升,播到15集,站内热度破了29000,有望展望30000了。 这个成绩在今年古装剧中是相当牛了,要知道,腾讯今年的古装剧热度....
    3 Comments 0 Shares 481 Views 0 Reviews
  • ..มุกควบคุมทาสนี้มันสามารถมาได้หลากหลายลักษณะยิ่งโดยเฉพาะผ่านข้อกฎหมายให้ชอบธรรมยิ่งดี,จริงๆการใส่หรือไม่ใส่หมวกกันน็อคมันคือสิทธิอธิปไตยบุคคลใครมัน,เขาจะเป็นจะตายก็อธิปไตยเขา สิทธิของเขา,นี้คือสไตล์โยนหินถามทางควบคุมทาส ไม่ต่างจากบังคับการสวมใส่หน้ากากอนามัยสมัยยุคโควิด,แต่นั้นเพียงชั่วคราวไม่สามารถอ้างบังคับให้ต่อเนื่องแบบบังคับต้องใส่ต้องสวมหมวกกันน็อคได้,มีกฎหมายปัญญาอ่อนมากมายออกมาเพื่อควบคุมมนุษย์,ยุคโบราณฝรั่งมักให้ทาสใส่หน้ากากปิดปากปิดหน้าไว้ ให้เป็นสัญลักษณ์เชิงสร้างชนชั้นความหมาย,จริงๆกฎหมายที่น่าออกมาตีตราบังคับใช้คือที่ดินไทยทั้งหมดต่างชาติห้ามถือครองทุกๆกรณีแม้จะถือผ่านนอมินีก็ตาม,ยกเลิกการให้ต่างชาติเช่าที่ดินไทยอสังหาริมทรัพย์ไทยรวม99ปีก็ด้วยหรือกล้าหาญเขียนกฎหมายยกเลิกสัญญาสัมปทานบ่อปิโตรเลียมทั้งหมดที่ไม่ชอบธรรมต่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศและไม่ยุติธรรมต่อคนไทยที่ต้องใช้น้ำมันราคาแพงทั้งกระทบเป็นลูกโซ่ต่อสินค้าค่าครองชีพแพงทั้งระบบทั้งหมดลามไปทั่วประเทศก็ว่า,นี้สมควรเขียนกฎหมายที่มีคุณมีสาระต่อประโยชน์จริงสู่ประเทศและประชาชนมิใช่หมายดูดตังค่าปรับกว่า2,000บาทออกจากกระเป๋าประชาชน,และกฎหมายนี้กระทรวงทบวงกรมที่ตีตราใช้สมควรให้ตกไปโมฆะห้ามมีผลบังคับใช้ทันที,มีมากมายที่กฎหมายเป็นไปเพื่อสร้างความลำบากใจลำบากกายลำบากตังในกระเป๋าของประชาชน เสมือนปล้นชิงทรัพย์จากประชาชนให้ชอบธรรมผ่านทางกฎหมายโดยอ้างเอาบ้านเอาเมืองเป็นตัวชูสร้างเรื่อง,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เบียดเบียนให้ประชาชนยากจนตังทุกข์ร้อนในสัมมาชีวิตในการดำรงชีพ,ทั้งผีบ้าใบอนุญาตมากมายบวกเก็บเรี่ยไรค่าธรรมเนียมตังกับประชาชนอีก.,
    ..วิถีปกครองแบบนี้ในยุคล้ำสมัยหน้าไม่สมควรจะมีจริงๆ.

    https://youtube.com/shorts/MgUf9oXDl30?si=Y6Avj50MQuQ0D1fn
    ..มุกควบคุมทาสนี้มันสามารถมาได้หลากหลายลักษณะยิ่งโดยเฉพาะผ่านข้อกฎหมายให้ชอบธรรมยิ่งดี,จริงๆการใส่หรือไม่ใส่หมวกกันน็อคมันคือสิทธิอธิปไตยบุคคลใครมัน,เขาจะเป็นจะตายก็อธิปไตยเขา สิทธิของเขา,นี้คือสไตล์โยนหินถามทางควบคุมทาส ไม่ต่างจากบังคับการสวมใส่หน้ากากอนามัยสมัยยุคโควิด,แต่นั้นเพียงชั่วคราวไม่สามารถอ้างบังคับให้ต่อเนื่องแบบบังคับต้องใส่ต้องสวมหมวกกันน็อคได้,มีกฎหมายปัญญาอ่อนมากมายออกมาเพื่อควบคุมมนุษย์,ยุคโบราณฝรั่งมักให้ทาสใส่หน้ากากปิดปากปิดหน้าไว้ ให้เป็นสัญลักษณ์เชิงสร้างชนชั้นความหมาย,จริงๆกฎหมายที่น่าออกมาตีตราบังคับใช้คือที่ดินไทยทั้งหมดต่างชาติห้ามถือครองทุกๆกรณีแม้จะถือผ่านนอมินีก็ตาม,ยกเลิกการให้ต่างชาติเช่าที่ดินไทยอสังหาริมทรัพย์ไทยรวม99ปีก็ด้วยหรือกล้าหาญเขียนกฎหมายยกเลิกสัญญาสัมปทานบ่อปิโตรเลียมทั้งหมดที่ไม่ชอบธรรมต่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศและไม่ยุติธรรมต่อคนไทยที่ต้องใช้น้ำมันราคาแพงทั้งกระทบเป็นลูกโซ่ต่อสินค้าค่าครองชีพแพงทั้งระบบทั้งหมดลามไปทั่วประเทศก็ว่า,นี้สมควรเขียนกฎหมายที่มีคุณมีสาระต่อประโยชน์จริงสู่ประเทศและประชาชนมิใช่หมายดูดตังค่าปรับกว่า2,000บาทออกจากกระเป๋าประชาชน,และกฎหมายนี้กระทรวงทบวงกรมที่ตีตราใช้สมควรให้ตกไปโมฆะห้ามมีผลบังคับใช้ทันที,มีมากมายที่กฎหมายเป็นไปเพื่อสร้างความลำบากใจลำบากกายลำบากตังในกระเป๋าของประชาชน เสมือนปล้นชิงทรัพย์จากประชาชนให้ชอบธรรมผ่านทางกฎหมายโดยอ้างเอาบ้านเอาเมืองเป็นตัวชูสร้างเรื่อง,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เบียดเบียนให้ประชาชนยากจนตังทุกข์ร้อนในสัมมาชีวิตในการดำรงชีพ,ทั้งผีบ้าใบอนุญาตมากมายบวกเก็บเรี่ยไรค่าธรรมเนียมตังกับประชาชนอีก., ..วิถีปกครองแบบนี้ในยุคล้ำสมัยหน้าไม่สมควรจะมีจริงๆ. https://youtube.com/shorts/MgUf9oXDl30?si=Y6Avj50MQuQ0D1fn
    0 Comments 0 Shares 256 Views 0 Reviews
  • บทความเก่าขอนำมาโพสอีกครั้ง
    ----------------------------
    สงครามน้ำจะมาถึงในไม่ช้า
    นี่เป็นคำพยากรณ์...
    .
    อันที่จริงผมพูดเรื่องนี้มานานแล้วตั้งแต่ราวปี 2003 ผมเคยพยายามที่จะทำโครงการหนึ่งชื่อ Voices of Asia รวมทั้งเคยหาข้อมูลเพื่อทำสารคดีเรื่องแม่น้ำ.. มันไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำ แต่ยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนหลอกหลอนอยู่ในความคิดผมเสมอมา ความกังวลนี้มาจากการได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติน้ำในเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น
    .
    แม่น้ำไนล์ เป็นที่รู้ดีมานานแล้วว่า คือกระแสโลหิตที่หล่อเลี้ยงแอฟริกาตอนบน และมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลย นับแต่ซาฮาร่าโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคโบราณได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และบรรพบุรุษของโฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มอพยพหนีออกมาจากที่นั่น.. ซาฮาร่าแห้งแล้งลงเรื่อยๆ ผ่านเวลาแสนปีจนถึงปัจจุบัน.. ยิ่งเมื่อภาวะวิกฤติโลกร้อนและอุณหภูมิโลกและอากาศเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ มันก็ยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเดิม และยิ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น..
    .
    ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายนี้อยู่ในเอธิโอเปีย. ประเทศอันแสนยากจน พวกเขาส่วนใหญ่ยากจนแสนเข็ญจริงๆ และแม้ว่าแม่น้ำนี้จะกำเนิดจากดินแดนแห่งนี้ แต่พวกเขาในพื้นที่ห่างไกลกลับยากลำบากและขาดแคลนน้ำที่จะนำมาเป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นคือใช้ในการทำเกษตรกรรม. พวกเขาคงจะมีโอกาสรอดมากขึ้น ถ้าเพียงพวกเขาจะทำเขื่อนเพื่อที่จะกักและชะลอน้ำไว้บ้างสำหรับการเพาะปลูกเท่าที่จำเป็น แต่การทำเช่นนั้น.. สร้างความวิตกว่าน้ำจะยิ่งไม่เพียงพอแก่ประเทศอื่นที่ใช้แม่น้ำนี้ร่วมกัน เช่น อียิปต์ และ ซูดาน.. สองประเทศนี้มีแสนยานุภาพ มีขีปนาวุธ และเครื่องบินรบทันสมัยอย่างเอฟสิบหก ทันทีที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน มันจะถูกยิงถล่มเป็นผุยผง.. ประชาชนเอธิโอเปียไม่อาจทำอย่างไรได้ นอกจากจ้องมองแม่น้ำของพวกเขาด้วยความสิ้นหวังและล้มลงตายกับพื้นดิน.
    .
    เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นที่อื่นอีก อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว
    และมันอาจเกิดขึ้นกับเรา คุณและผม... สักวันหนึ่ง
    .
    คนไทยอย่างเราอาจมองเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องไกลตัว เราใช้น้ำอย่างสบายใจและฟุ่มเฟือย เราเดินเข้าห้าง เข้ามินิมาร์ตที่มีน้ำดื่มบรรจุขวดมากมายเรียงรายเต็มหิ้งให้เลือก จนเราอาจลืมข้อเท็จจริงและเผลอคิดไปได้ว่า น้ำนี้จะไม่มีวันหมด และมันจะรอเราอยู่บนหิ้งนั้นชั่วนิรันดร์.. นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีและไม่เป็นความจริง.
    .
    วันนึง ..จะไม่มีน้ำแม้สักครึ่งขวดเหลืออยู่บนหิ้งพวกนั้น และวันนั้นอาจมาถึงในไม่ช้า
    .
    สมัยเด็ก ผมโตมาบนถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุ บ้านพ่ออยู่ติดแม่น้ำหน้าท่าพระอาทิตย์ ส่วนบ้านแม่อยู่ตรอกวัดสังเวช อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย. ยุคนั้น ที่บ้านแม่ตักน้ำจากแม่น้ำแล้วกวนด้วยสารส้มใช้เป็นประจำ นำมาต้ม แล้วใช้ปรุงอาหารได้.. น้ำดื่มคือน้ำฝนที่รองใส่โอ่ง..
    .
    ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนอาจจะยังคงสะอาดพอควร แต่ตอนกลางนั้นมีการปนเปื้อนอยู่หลายจุดตลอดเส้นทาง.. ไม่ต้องพูดถึงแม่น้ำตอนล่าง ที่ไหลผ่านเมืองใหญ่อย่างอยุธยาและกรุงเทพเลย พวกมันล้วนอุดมด้วยสารพิษอย่างเช่น ปรอท โลหะหนัก และสารเคมีสารพัด เช่น แคดเมี่ยม ฯลฯ พวกมันถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่เรียงรายตามริมแม่น้ำ ผสมโรงด้วยขยะพิษที่ประชาชนปล่อยลงไป ทั้งจากเคมีที่ใช้ประจำวันและยาฆ่าแมลง จากวัตถุมีพิษอื่นๆ เช่น อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ แบตเตอรี่ ฯลฯ
    .
    ขณะที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และไม่สนใจเพิกเฉยปัญหาของมัน หายนะกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ มาสู่เราโดยไม่รู้ตัว.. ในภาวะปกตินี้ บ้านเมืองที่มีระบบรองรับ ก็ขับเคลื่อนหน่วยงานกลไกของมันไปตามสถานะที่ยังคงเลื่อนไหลไปได้ตามสภาพที่มี คนทั่วไปนั้นไม่ได้สนใจจะไปรับรู้ว่า กลไกเหล่านั้นขับเคลื่อนได้ดีแค่ไหน? ปลอดภัยแค่ไหน? ได้มาตรฐานแค่ไหน?.. พวกเขาสนใจแค่เรื่องตัวเองและคงคิดแค่ว่า "มีใครสักคนที่รับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ และไม่ใช่ภาระที่ฉันจะเอามาใส่ใจ.." คงมีใครกำลังดูแลมันอยู่และมันก็คงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร "ตลอดไป"..
    .
    งั้นสินะ? โอ้.. ฉันมีการประปานครหลวง กองบำบัดน้ำเสีย กระทรวงสาธารณะสุข กรมประมง เทศบาลเมือง การท่า.. ฯลฯ พวกเขาคงทำทุกอย่างได้ราบรื่นไม่มีปัญหา คนทั้งหลายไม่สำเหนียกว่า จักรเฟืองพวกนี้มีวันหยุดชะงักได้ และเมื่อวันนึงเกิดหายนะภัยพิบัติสักอย่างขึ้น เช่น สงครามโลก ภัยจากอวกาศภายนอกอย่างอุกกาบาต แผ่นดินไหวรุนแรง ซุปเปอร์อีรัพชั่น สภาพอากาศวิกฤติ ยุคน้ำแข็ง.. ฯ ระบบที่ขับเคลื่อนไปทั้งหมดนี้ อาจล่มสลายได้ในชั่วข้ามคืน และเมื่อมันเกิดขึ้น คำถามง่ายๆ ที่สุดที่ไม่มีใครคิดอย่างเช่น.. จะยังจะมีน้ำบรรจุขวดอยู่บนหิ้งในห้างร้านอยู่ไหม? อาจตามมาด้วยคำตอบที่แย่เกินกว่าจะยอมรับ.
    .
    กรณีนี้ ถ้าเราไม่มีน้ำดื่มให้ซื้อหาอีกต่อไป ถามว่าเราจะทำอย่างไร? จะดื่มน้ำจากแม่น้ำลำคลองอย่างที่คนโบราณเคยทำได้ไหม? ทำไม่ได้แน่นอน ถ้ามันเป็นพิษ.. เว้นแต่คนจะหมดสิ้นหนทางและความตายเป็นการปลดปล่อยจากความทุกข์ยาก.. ยิ่งเมื่อระบบเมืองและรัฐที่ขับเคลื่อนชาติต้องล่มสลายเพราะหายนะที่กล่าวไป จะเอางบประมาณ จะเอาอุปกรณ์ จะเอาวัตถุดิบ จะเอาเทคโนโลยี่ที่ไหนกัน มาเยียวยาแม่น้ำให้กลับมาดีดังเดิมและสามารถใช้กินใช้ดื่มได้อีก? ถ้าเราไม่แก้ไขเสียแต่ตอนนี้ จนกระทั่งเราไปถึงจุดนั้น แม่น้ำก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย.
    .
    ครั้งหนึ่ง แม่น้ำโวลกาในรัสเซียนั้น เคยวิกฤติถึงขั้นอันตรายจนกินใช้ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง ปลาในแม่น้ำเต็มไปด้วยพิษ แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน แม้ใช้เวลานับสิบปีในการพยายามกู้แม่น้ำสายนี้ ในที่สุดแม่น้ำนี้ก็กลับมาดีจนใช้ได้ในที่สุด แม้มันจะไม่ดีพอที่จะดื่มมันได้ก็ตามในตอนนี้..
    .
    แน่นอนว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น และมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่จะฟื้นคืนชีวิตแก่มันอย่างสมบูรณ์ หากเราจะถือว่านี่คือวาระแห่งชาติ และร่วมมือกันฟื้นฟูอย่างจริงจัง
    .
    แม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือสี่แห่ง ซึ่งคือหัวใจที่ให้ชีวิตแก่แควทั้งสี่ คือ ปิง วัง ยม และ น่าน.. นี่นับเป็นความโชคดีของคนไทยเหลือคณานับ ที่ต้นแม่น้ำสายใหญ่นี้อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในประเทศอื่น. นี่เป็นทรัพยากรเลอค่าที่สุด ที่จะพยุงชีวิตให้แก่ชาตินี้ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ควรจะเห็นความสำคัญในจุดนี้ได้. การฟื้นฟูแม่น้ำต้องเริ่มจากป่าต้นน้ำของมัน จะต้องไม่มีการทำลายอีก จะต้องฟื้นฟูป่าเหล่านี้ให้กลับมา จากนั้นฟื้นฟูแม่น้ำแควทั้งสี่ เชื่อมไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน จนจรดเจ้าพระยาตอนล่าง.
    .
    นี่แหละคือชีพจรชีวิตของสยามประเทศ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หากวันนึงหายนะน้ำเกิดขึ้นและนำไปสู่จุดที่กลายเป็นสงครามแย่งชิงน้ำ ดังนั้นฟื้นฟูมันเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป!
    .
    หากคุณติดตามข่าว พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ฯ ท่านทรงไล่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพไล่เรียงไปทีละสาย หลายสายบัดนี้ได้กลับมาสะอาดดังเดิม หากแม่น้ำฟื้นคืนชีวิต คลองทั้งหลายเหล่านี้จะยิ่งหล่อเลี้ยงไปยังแขนงน้อยใหญ่ให้แก่เมือง
    .
    ลองดูภาพแผนที่ เมื่อเราพิจารณาดูแผนที่ที่เห็นอยู่นี้ซึ่งแสดงแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในเอเชีย มันต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้นน้ำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในทิเบต แม่น้ำทั้งหมดนี้คือสายโลหิตที่เลี้ยงเอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ลึกล้ำ มันเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของภูมิภาค.
    .
    นี่คือเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมจีนจึงต้องปกป้องให้ทิเบตสุดชีวิต
    นี่เป็นอาณาเขตที่อ่อนไหวและหวงแหนยิ่งของจีน. เพราะอะไร?
    .
    ดินแดนนี้เป็นดังเขตกันชนที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำครอบงำจากโลกฝั่งตะวันตก ที่อาจแทรกทะลุผ่านเอเชียกลางเข้ามาได้. ดินแดนเปราะบางบางส่วนที่เป็นประตูเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ ถูกแทรกแซงครอบงำจากตะวันตกไปบ้างแล้ว เช่น อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน... มหาอำนาจตะวันตกนั้นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือทิเบตให้ได้ ด้วยกลยุทธมากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งด้วยวิธีการใช้พรอพพาแกนดามากมาย เช่น ฟรีทิเบต เป็นต้น. แม้เราจะเคารพรักองค์ดาไลลามะและเห็นใจพุทธศาสนิกชน ประชากรชาวทิเบตเพียงใด แต่เราก็จำเป็นต้องไตร่ตรองในความเปราะบางของสถานะการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวัง. จีนนั้นมีเหตุผลเช่นไร ในการที่จะปกป้องพื้นที่นี้เอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างสุดกำลังความสามารถ เราสามารถพิจารณาได้จากแผนที่ที่เห็น..
    .
    หากมหาอำนาจตะวันตกใดก็ตามเข้ามายึดครองควบคุมทิเบต ไม่เพียงแค่จีนเท่านั้นที่จะเส่ียงต่อความมั่นคง.. แต่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า และบางส่วนของอินเดีย อาจตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากได้. ใครครอบครองทิเบต ผู้นั้นกุมชะตาเอเชีย เท่าที่ผ่านมานับพันปี แม้มีความไม่น่ายินดีกับการจัดการทรัพยากรต้นน้ำของจีนนัก แต่จีนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ชั่วร้ายที่จะฉกฉวยประโยชน์จากสายเลือดใหญ่เหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเรายังอยู่ร่วมกันมาได้นับพันปี แต่เราไม่อาจคาดการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมหาอำนาจอื่น เข้ามามีอำนาจในการควบคุมแม่น้ำสายใหญ่เหล่านี้.
    .
    แน่นอนว่า เวลาเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน.. ทั้งมนุษย์ ทั้งปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งสถานะการณ์โลกและนอกโลก.. เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่ตัดสินใจจากพื้นฐานที่เป็นประสบการณ์ของเราจากประวัติศาสตร์และบทเรียนที่ผ่านมา
    .
    พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปตามเหตุและปัจจัย
    มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
    จงมีสติปัญญาที่จะพิจารณาวิเคราะห์และแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและพร้อมที่จะตัดสินใจ แก้ไขมันอย่างทันท่วงที โดยเลือกทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด
    .
    ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยทุกท่าน
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา -
    .
    อัพเดทข้อมูลในปี 2566
    --------------------------
    - แม่น้ำโวลก้าในเวลานี้มีสภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โลหะหนักเป็นพิษลดสู่ปริมาณที่ต่ำลงอย่างมีนัยยะ
    - พื้นที่ในเอเชียกลางที่เคยถูกแทรกแซงครอบงำจากอิทธิพลตะวันตก เช่นอัฟกานิสถานและปากีสถาน กำลังเป็นอิสระและฟื้นฟูโดยความช่วยเหลือของจีนและรัสเซีย เส้นทางลำเลียงยาเสพติดของซีไอเอในเอเชียกลางถูกกำจัด และเอเชียกลางทั้งหมดผนึกเป็นส่วนเดียวกับพันธมิตรรัสเซีย-จีน เดินหน้าไปสู่ความเจริญของโครงการ One Belt One Road นั่นหมายความว่าแหล่งน้ำในทิเบตในเวลานี้ ได้รอดพ้นจากความเสี่ยงในการเข้าแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกแล้ว และมันจะกลายเป็นพื้นที่ที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่
    - เอธิโอเปีย เข้าร่วมสมาขิก BRICS นั่นหมายความว่า ในที่สุดชาติที่น่าสงสารนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที และจีนกำลังเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในแอฟริกา หลังจากหลายปีแห่งความทุกข์ทรมานจากการถูกเอาเปรียบขูดรีดทรัพยากรโดยมหาทุนตะวันตก
    --------------------------
    บทความเก่าขอนำมาโพสอีกครั้ง ---------------------------- สงครามน้ำจะมาถึงในไม่ช้า นี่เป็นคำพยากรณ์... . อันที่จริงผมพูดเรื่องนี้มานานแล้วตั้งแต่ราวปี 2003 ผมเคยพยายามที่จะทำโครงการหนึ่งชื่อ Voices of Asia รวมทั้งเคยหาข้อมูลเพื่อทำสารคดีเรื่องแม่น้ำ.. มันไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำ แต่ยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนหลอกหลอนอยู่ในความคิดผมเสมอมา ความกังวลนี้มาจากการได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติน้ำในเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น . แม่น้ำไนล์ เป็นที่รู้ดีมานานแล้วว่า คือกระแสโลหิตที่หล่อเลี้ยงแอฟริกาตอนบน และมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลย นับแต่ซาฮาร่าโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคโบราณได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และบรรพบุรุษของโฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มอพยพหนีออกมาจากที่นั่น.. ซาฮาร่าแห้งแล้งลงเรื่อยๆ ผ่านเวลาแสนปีจนถึงปัจจุบัน.. ยิ่งเมื่อภาวะวิกฤติโลกร้อนและอุณหภูมิโลกและอากาศเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ มันก็ยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเดิม และยิ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น.. . ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายนี้อยู่ในเอธิโอเปีย. ประเทศอันแสนยากจน พวกเขาส่วนใหญ่ยากจนแสนเข็ญจริงๆ และแม้ว่าแม่น้ำนี้จะกำเนิดจากดินแดนแห่งนี้ แต่พวกเขาในพื้นที่ห่างไกลกลับยากลำบากและขาดแคลนน้ำที่จะนำมาเป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นคือใช้ในการทำเกษตรกรรม. พวกเขาคงจะมีโอกาสรอดมากขึ้น ถ้าเพียงพวกเขาจะทำเขื่อนเพื่อที่จะกักและชะลอน้ำไว้บ้างสำหรับการเพาะปลูกเท่าที่จำเป็น แต่การทำเช่นนั้น.. สร้างความวิตกว่าน้ำจะยิ่งไม่เพียงพอแก่ประเทศอื่นที่ใช้แม่น้ำนี้ร่วมกัน เช่น อียิปต์ และ ซูดาน.. สองประเทศนี้มีแสนยานุภาพ มีขีปนาวุธ และเครื่องบินรบทันสมัยอย่างเอฟสิบหก ทันทีที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน มันจะถูกยิงถล่มเป็นผุยผง.. ประชาชนเอธิโอเปียไม่อาจทำอย่างไรได้ นอกจากจ้องมองแม่น้ำของพวกเขาด้วยความสิ้นหวังและล้มลงตายกับพื้นดิน. . เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นที่อื่นอีก อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว และมันอาจเกิดขึ้นกับเรา คุณและผม... สักวันหนึ่ง . คนไทยอย่างเราอาจมองเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องไกลตัว เราใช้น้ำอย่างสบายใจและฟุ่มเฟือย เราเดินเข้าห้าง เข้ามินิมาร์ตที่มีน้ำดื่มบรรจุขวดมากมายเรียงรายเต็มหิ้งให้เลือก จนเราอาจลืมข้อเท็จจริงและเผลอคิดไปได้ว่า น้ำนี้จะไม่มีวันหมด และมันจะรอเราอยู่บนหิ้งนั้นชั่วนิรันดร์.. นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีและไม่เป็นความจริง. . วันนึง ..จะไม่มีน้ำแม้สักครึ่งขวดเหลืออยู่บนหิ้งพวกนั้น และวันนั้นอาจมาถึงในไม่ช้า . สมัยเด็ก ผมโตมาบนถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุ บ้านพ่ออยู่ติดแม่น้ำหน้าท่าพระอาทิตย์ ส่วนบ้านแม่อยู่ตรอกวัดสังเวช อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย. ยุคนั้น ที่บ้านแม่ตักน้ำจากแม่น้ำแล้วกวนด้วยสารส้มใช้เป็นประจำ นำมาต้ม แล้วใช้ปรุงอาหารได้.. น้ำดื่มคือน้ำฝนที่รองใส่โอ่ง.. . ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนอาจจะยังคงสะอาดพอควร แต่ตอนกลางนั้นมีการปนเปื้อนอยู่หลายจุดตลอดเส้นทาง.. ไม่ต้องพูดถึงแม่น้ำตอนล่าง ที่ไหลผ่านเมืองใหญ่อย่างอยุธยาและกรุงเทพเลย พวกมันล้วนอุดมด้วยสารพิษอย่างเช่น ปรอท โลหะหนัก และสารเคมีสารพัด เช่น แคดเมี่ยม ฯลฯ พวกมันถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่เรียงรายตามริมแม่น้ำ ผสมโรงด้วยขยะพิษที่ประชาชนปล่อยลงไป ทั้งจากเคมีที่ใช้ประจำวันและยาฆ่าแมลง จากวัตถุมีพิษอื่นๆ เช่น อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ แบตเตอรี่ ฯลฯ . ขณะที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และไม่สนใจเพิกเฉยปัญหาของมัน หายนะกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ มาสู่เราโดยไม่รู้ตัว.. ในภาวะปกตินี้ บ้านเมืองที่มีระบบรองรับ ก็ขับเคลื่อนหน่วยงานกลไกของมันไปตามสถานะที่ยังคงเลื่อนไหลไปได้ตามสภาพที่มี คนทั่วไปนั้นไม่ได้สนใจจะไปรับรู้ว่า กลไกเหล่านั้นขับเคลื่อนได้ดีแค่ไหน? ปลอดภัยแค่ไหน? ได้มาตรฐานแค่ไหน?.. พวกเขาสนใจแค่เรื่องตัวเองและคงคิดแค่ว่า "มีใครสักคนที่รับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ และไม่ใช่ภาระที่ฉันจะเอามาใส่ใจ.." คงมีใครกำลังดูแลมันอยู่และมันก็คงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร "ตลอดไป".. . งั้นสินะ? โอ้.. ฉันมีการประปานครหลวง กองบำบัดน้ำเสีย กระทรวงสาธารณะสุข กรมประมง เทศบาลเมือง การท่า.. ฯลฯ พวกเขาคงทำทุกอย่างได้ราบรื่นไม่มีปัญหา คนทั้งหลายไม่สำเหนียกว่า จักรเฟืองพวกนี้มีวันหยุดชะงักได้ และเมื่อวันนึงเกิดหายนะภัยพิบัติสักอย่างขึ้น เช่น สงครามโลก ภัยจากอวกาศภายนอกอย่างอุกกาบาต แผ่นดินไหวรุนแรง ซุปเปอร์อีรัพชั่น สภาพอากาศวิกฤติ ยุคน้ำแข็ง.. ฯ ระบบที่ขับเคลื่อนไปทั้งหมดนี้ อาจล่มสลายได้ในชั่วข้ามคืน และเมื่อมันเกิดขึ้น คำถามง่ายๆ ที่สุดที่ไม่มีใครคิดอย่างเช่น.. จะยังจะมีน้ำบรรจุขวดอยู่บนหิ้งในห้างร้านอยู่ไหม? อาจตามมาด้วยคำตอบที่แย่เกินกว่าจะยอมรับ. . กรณีนี้ ถ้าเราไม่มีน้ำดื่มให้ซื้อหาอีกต่อไป ถามว่าเราจะทำอย่างไร? จะดื่มน้ำจากแม่น้ำลำคลองอย่างที่คนโบราณเคยทำได้ไหม? ทำไม่ได้แน่นอน ถ้ามันเป็นพิษ.. เว้นแต่คนจะหมดสิ้นหนทางและความตายเป็นการปลดปล่อยจากความทุกข์ยาก.. ยิ่งเมื่อระบบเมืองและรัฐที่ขับเคลื่อนชาติต้องล่มสลายเพราะหายนะที่กล่าวไป จะเอางบประมาณ จะเอาอุปกรณ์ จะเอาวัตถุดิบ จะเอาเทคโนโลยี่ที่ไหนกัน มาเยียวยาแม่น้ำให้กลับมาดีดังเดิมและสามารถใช้กินใช้ดื่มได้อีก? ถ้าเราไม่แก้ไขเสียแต่ตอนนี้ จนกระทั่งเราไปถึงจุดนั้น แม่น้ำก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย. . ครั้งหนึ่ง แม่น้ำโวลกาในรัสเซียนั้น เคยวิกฤติถึงขั้นอันตรายจนกินใช้ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง ปลาในแม่น้ำเต็มไปด้วยพิษ แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน แม้ใช้เวลานับสิบปีในการพยายามกู้แม่น้ำสายนี้ ในที่สุดแม่น้ำนี้ก็กลับมาดีจนใช้ได้ในที่สุด แม้มันจะไม่ดีพอที่จะดื่มมันได้ก็ตามในตอนนี้.. . แน่นอนว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น และมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่จะฟื้นคืนชีวิตแก่มันอย่างสมบูรณ์ หากเราจะถือว่านี่คือวาระแห่งชาติ และร่วมมือกันฟื้นฟูอย่างจริงจัง . แม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือสี่แห่ง ซึ่งคือหัวใจที่ให้ชีวิตแก่แควทั้งสี่ คือ ปิง วัง ยม และ น่าน.. นี่นับเป็นความโชคดีของคนไทยเหลือคณานับ ที่ต้นแม่น้ำสายใหญ่นี้อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในประเทศอื่น. นี่เป็นทรัพยากรเลอค่าที่สุด ที่จะพยุงชีวิตให้แก่ชาตินี้ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ควรจะเห็นความสำคัญในจุดนี้ได้. การฟื้นฟูแม่น้ำต้องเริ่มจากป่าต้นน้ำของมัน จะต้องไม่มีการทำลายอีก จะต้องฟื้นฟูป่าเหล่านี้ให้กลับมา จากนั้นฟื้นฟูแม่น้ำแควทั้งสี่ เชื่อมไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน จนจรดเจ้าพระยาตอนล่าง. . นี่แหละคือชีพจรชีวิตของสยามประเทศ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หากวันนึงหายนะน้ำเกิดขึ้นและนำไปสู่จุดที่กลายเป็นสงครามแย่งชิงน้ำ ดังนั้นฟื้นฟูมันเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป! . หากคุณติดตามข่าว พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ฯ ท่านทรงไล่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพไล่เรียงไปทีละสาย หลายสายบัดนี้ได้กลับมาสะอาดดังเดิม หากแม่น้ำฟื้นคืนชีวิต คลองทั้งหลายเหล่านี้จะยิ่งหล่อเลี้ยงไปยังแขนงน้อยใหญ่ให้แก่เมือง . ลองดูภาพแผนที่ เมื่อเราพิจารณาดูแผนที่ที่เห็นอยู่นี้ซึ่งแสดงแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในเอเชีย มันต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้นน้ำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในทิเบต แม่น้ำทั้งหมดนี้คือสายโลหิตที่เลี้ยงเอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ลึกล้ำ มันเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของภูมิภาค. . นี่คือเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมจีนจึงต้องปกป้องให้ทิเบตสุดชีวิต นี่เป็นอาณาเขตที่อ่อนไหวและหวงแหนยิ่งของจีน. เพราะอะไร? . ดินแดนนี้เป็นดังเขตกันชนที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำครอบงำจากโลกฝั่งตะวันตก ที่อาจแทรกทะลุผ่านเอเชียกลางเข้ามาได้. ดินแดนเปราะบางบางส่วนที่เป็นประตูเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ ถูกแทรกแซงครอบงำจากตะวันตกไปบ้างแล้ว เช่น อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน... มหาอำนาจตะวันตกนั้นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือทิเบตให้ได้ ด้วยกลยุทธมากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งด้วยวิธีการใช้พรอพพาแกนดามากมาย เช่น ฟรีทิเบต เป็นต้น. แม้เราจะเคารพรักองค์ดาไลลามะและเห็นใจพุทธศาสนิกชน ประชากรชาวทิเบตเพียงใด แต่เราก็จำเป็นต้องไตร่ตรองในความเปราะบางของสถานะการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวัง. จีนนั้นมีเหตุผลเช่นไร ในการที่จะปกป้องพื้นที่นี้เอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างสุดกำลังความสามารถ เราสามารถพิจารณาได้จากแผนที่ที่เห็น.. . หากมหาอำนาจตะวันตกใดก็ตามเข้ามายึดครองควบคุมทิเบต ไม่เพียงแค่จีนเท่านั้นที่จะเส่ียงต่อความมั่นคง.. แต่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า และบางส่วนของอินเดีย อาจตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากได้. ใครครอบครองทิเบต ผู้นั้นกุมชะตาเอเชีย เท่าที่ผ่านมานับพันปี แม้มีความไม่น่ายินดีกับการจัดการทรัพยากรต้นน้ำของจีนนัก แต่จีนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ชั่วร้ายที่จะฉกฉวยประโยชน์จากสายเลือดใหญ่เหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเรายังอยู่ร่วมกันมาได้นับพันปี แต่เราไม่อาจคาดการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมหาอำนาจอื่น เข้ามามีอำนาจในการควบคุมแม่น้ำสายใหญ่เหล่านี้. . แน่นอนว่า เวลาเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน.. ทั้งมนุษย์ ทั้งปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งสถานะการณ์โลกและนอกโลก.. เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่ตัดสินใจจากพื้นฐานที่เป็นประสบการณ์ของเราจากประวัติศาสตร์และบทเรียนที่ผ่านมา . พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปตามเหตุและปัจจัย มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป จงมีสติปัญญาที่จะพิจารณาวิเคราะห์และแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและพร้อมที่จะตัดสินใจ แก้ไขมันอย่างทันท่วงที โดยเลือกทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด . ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยทุกท่าน - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - . อัพเดทข้อมูลในปี 2566 -------------------------- - แม่น้ำโวลก้าในเวลานี้มีสภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โลหะหนักเป็นพิษลดสู่ปริมาณที่ต่ำลงอย่างมีนัยยะ - พื้นที่ในเอเชียกลางที่เคยถูกแทรกแซงครอบงำจากอิทธิพลตะวันตก เช่นอัฟกานิสถานและปากีสถาน กำลังเป็นอิสระและฟื้นฟูโดยความช่วยเหลือของจีนและรัสเซีย เส้นทางลำเลียงยาเสพติดของซีไอเอในเอเชียกลางถูกกำจัด และเอเชียกลางทั้งหมดผนึกเป็นส่วนเดียวกับพันธมิตรรัสเซีย-จีน เดินหน้าไปสู่ความเจริญของโครงการ One Belt One Road นั่นหมายความว่าแหล่งน้ำในทิเบตในเวลานี้ ได้รอดพ้นจากความเสี่ยงในการเข้าแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกแล้ว และมันจะกลายเป็นพื้นที่ที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่ - เอธิโอเปีย เข้าร่วมสมาขิก BRICS นั่นหมายความว่า ในที่สุดชาติที่น่าสงสารนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที และจีนกำลังเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในแอฟริกา หลังจากหลายปีแห่งความทุกข์ทรมานจากการถูกเอาเปรียบขูดรีดทรัพยากรโดยมหาทุนตะวันตก --------------------------
    0 Comments 0 Shares 526 Views 0 Reviews
  • เวลาที่คนเรานั่งมองสิ่งต่างๆ มันมีคำง่ายๆ อยู่คำหนึ่งย่อว่า FOV มาจากคำว่า Field Of View พวกทำงานภาพเข้าใจดีว่าหมายถึงสนามของภาพ หรือขอบเขตการมองเห็น ถ้าเรามองในแง่นี้ก็คือ มองผ่านเลนส์หรือผ่านกล้องของเราออกไป สนามภาพที่เราเห็นจะถูกจำกัดด้วยสมรรถนะของกล้องหรือเลนส์นั้น จะโฟกัสเจาะลึกขยายถึงขุมขนก็ต้องใช้มาโครเลนส์ จะดูไกลก็ต้องใช้ซูมเลนส์ จะเห็นภาพกว้างก็ต้องใช้เลนส์ไวด์แองเกิ้ล
    .
    คล้ายๆ กัน.. เปลี่ยนเป็นการมองดูโลก ถ้าเรานั่งมองจากในบ้านของเรา เราก็จะเห็นได้อย่างจำกัดมาก จะมองเห็นทัศนียภาพภายนอกก็จะเห็นได้แค่ผ่านช่องหน้าต่างผ่านช่องประตูออกไป ที่ติดกำแพงผนังหลังคาขวางกั้นก็มองไม่เห็นแล้ว ก็ต้องก้าวออกไปนอกบ้านจึงจะเห็นมากขึ้น แต่ก็ติดกำแพงรั้วอีก เดินออกนอกกำแพงไปการมองเห็นก็ยังจะถูกจำกัดด้วยไอ้เจ้า FOV ของชั้นระยะถัดไป ระยะทาง ภูเขา แมกไม้ บดบังหลายสิ่งหลายอย่าง จะเห็นสิ่งที่อยู่ถัดไปอีกแค่สักร้อยเมตรก็เป็นไปได้ยากถ้ายังมีสิ่งบดบัง ครั้นจะพึ่งพาเพื่อนบ้านที่ผ่านมาจะถามเขาว่ามีอะไรน่าสนใจไหมที่สองร้อยเมตรข้างหน้า ก็ไม่อาจคาดหวังว่าจะได้คำตอบที่น่าเชื่อถือหรือถูกต้อง เขาอาจบอกระวังงูยักษ์นะเมื่อกี้เพิ่งหนีมา... เขาอาจว่าหมู่บ้านถัดไปสองร้อยเมตรกำลังประกาศว่ามีโรคระบาดมาถึงแล้ว รีบไปจากที่นี่เถอะ...ฯ เราไม่อาจพึ่งพาการเห็นโลกตามจริงด้วยการบอกเล่าจากปากของผู้อื่น จะรู้ข้อเท็จจริงให้ได้ก็ต้องเดินทางออกไปเห็นด้วยตาว่าตรงที่เราอยากรู้นั้นเป็นเช่นไร ซึ่งไม่แน่ว่าบางทีไปถึงที่หมายแล้วก็อาจยังไม่เห็นสิ่งที่ควรเห็นอีก เพราะ FOV ของเราที่หวังผลจากสายตานี้ ไม่ได้กว้างไพศาลและมีศักยภาพในการขยายได้ดั่งใจ อาจต้องมีตัวช่วย เช่น ใช้โดรนขึ้นบินขึ้นไปส่องก็จะเห็นกว้างไกลกว่ายืนมองอยู่บนพื้น แต่กระนั้นก็จะเห็นว่า ใช้โดรนแล้ว ตัวโดรนเองก็มี FOV ที่จำกัดอยู่ดี
    .
    พออธิบายเช่นนี้ คงเข้าใจได้ว่า การที่ปุถุชนจะเห็นสิ่งต่างๆ ได้ครบถ้วนทุกรายละเอียดข้อเท็จจริงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ใครที่ยิ่งต้องการเห็นให้ได้มาก ต้องตะเกียกตะกายพยายามขยายมุมมอง พิกัดที่มอง สมรรถนะที่มอง และวิจารณญาณที่ประกอบการมองให้เปิดกว้างและไม่ยอมหยุดนิ่ง คือต้องไม่หยุดเลยนั่นแหละ ถึงจะลดทอนความไม่รู้ลงไปได้ไม่น้อย แม้ว่าในความเป็นจริงจะยังมีสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่อีกเยอะก็ตาม
    .
    โบราณพูดถึงการมีอยู่ของสิ่งที่เรียกว่าญาณทัศนะ คือมีบางคนที่ได้ทุ่มเทความเพียรในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ มามากมายเนิ่นนานพอจนเกิดปัญญาในการที่จะทำความเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้น และมองเห็นความเชิ่อมโยงของสิ่งต่างๆ ที่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ถึงแม้คนผู้นั้นเองก็ติดขัดที่ข้อจำกัดของมนุษย์เช่นที่กล่าวไปเหมือนเช่นคนอื่นๆ แต่มีความหยั่งรู้พิเศษบางอย่างบ่มเพาะขึ้นมาให้รู้จักใช้ปัญญาในการเรียนรู้พิจารณาเรื่องราวหนึ่ง แล้วขยายมันเพื่อที่จะเข้าใจเรื่องราวอีกพันเรื่องได้ อุปมาดั่งช่างไม้ที่เข้าใจในการใช้สิ่วแกะสลักอย่างลึกซึ้งทะลุปรุโปร่ง อาจใช้ความเข้าใจในทักษะเช่นนี้ ไปในประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น การใช้ดาบต่อสู้ เป็นต้น... ผู้มีญาณทัศนะที่หยั่งได้เช่นนี้ ด้วยการพิเคราะห์สิ่งต่างๆ รอบกาย เขาอาจสามารถมองเห็นความเชื่อมโยงของสิ่งเหล่านั้นได้ในระนาบที่ต่างจากผู้อื่น ฟังดูยากใช่ไหม?
    .
    ผมเคยเขียนบทความเรื่องนี้น่าจะเกือบยี่สิบปีแล้ว ชื่อเรื่อง "ดาบที่ซ่อนเร้น" ไม่รู้ใครเคยอ่านบ้าง?
    .
    แนวคิด "เรียนรู้สิ่งหนึ่งเพื่อเข้าถึงพันสิ่ง" เป็นหนึ่งในคำสอนที่ มิยาโมโต มูซาชิ ซามูไรที่กล่าวกันว่าไม่เคยแพ้ใครเลย สอนแก่ศิษย์ของเขา คำสอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของคำสอนมากมายที่ปรากฏอยู่ในจดหมายถึงศิษย์ในสำนักนิเต็นริวของเขาที่ชื่อเทราโอะ มาโกโนโจ ภายหลังจดหมายนี้กลายเป็นคัมภีร์ที่นักดาบทุกคนต้องทำความเข้าใจ มันมีชื่อเรียกในภายหลังว่า "โกรินโนโช" แปลว่าคัมภีร์ห้าห่วง ชื่อห้าห่วงเพราะมันแบ่งเป็นห้าภาคคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และความว่าง (สุญญตา)
    .
    โกรินโนโช ไม่ได้เป็นเพียงตำราสำหรับนักดาบ แนวคิดลึกซึ้งที่ว่า เรียนรู้สิ่งหนึ่งเพื่อเข้าถึงพันสิ่งนี้ มีคนที่เข้าใจมัน แล้วปรับใช้กับชีวิตหลายแง่มุม ที่กล่าวถึงกันมากคือมีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยการปรับความรู้จากตำรานี้ให้เป็นกลยุทธในการทำธุรกิจ แต่ผมไม่เคยอ่านเรื่องทำนองนี้หรอก ต้องถามเซนเซสุวินัย ภรณวลัย ท่านเชี่ยวชาญเรื่องนี้ ผมสนใจในแง่ของวิชาเคนจัตสุ... กลับไปที่เรื่อง FOV ที่ได้เปิดหัวมา...
    .
    มูซาชิ สอนในภาคน้ำเรื่องการมอง ว่าด้วยคำสี่คำที่ลึกซึ้งคือ ทาเทมาเอะ กับ ฮอนเนะ... และ เค็น กับ คาน
    .
    - ทาเทมาเอะ คือ สิ่งที่เราแสดงให้คนเห็น
    - ฮอนเนะ คือ เจตนาที่แท้จริง
    .
    - เคน คือ สิ่งที่เห็นจากภายนอกด้วยตาเนื้อ
    - คาน คือ สิ่งที่เห็นด้วยใจ ด้วยญาณที่หยั่งลึกกว่า
    .
    อธิบายสักรอบ..
    .
    เมื่อนักดาบสองคนเข้าสัประยุทธกัน นักดาบจะตั้งท่วงท่าสำหรับการโจมตี เช่น เมื่อฝ่ายหนึ่งตั้งท่าโจดัง คือยกดาบอยู่เหนือหัว อีกฝ่ายมองเห็นด้วย เคน ก็อาจคาดเดาว่าศัตรูจะฟันลงมาที่หัว ซึ่งโดยกายภาพแล้วจะเป็นการฟันที่เร็วที่สุดกว่าการเจตนาฟันตรงส่วนอื่นของร่างกาย เช่น ลำตัว หรือแทงคอ ซึ่งจะยิ่งทำให้การโจมตีใช้เวลามากขึ้นหากเริ่มจากท่าโจดัง.. นักดาบอีกฝ่ายก็คงจะคิดเช่นนี้แล้วเตรียมรับการฟันจากข้างบน เพราะถ้าคู่ต่อสู้เปลี่ยนทิศทางมาฟันลำตัว เขาจะมองเห็นทันและปรับท่ารับได้... แต่นี่บางทีเขาอาจคิดผิดไป..
    .
    ฮอนเนะ หรือเจตนาของนักดาบอีกฝ่ายอาจไม่ใด้ต้องการฟันตรงๆ เขาอาจฝึกมาอย่างหนักมากจนบรรลุความเร็วขีดสุดที่ฝ่ายเตรียมตั้งรับไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต เขาอาจฟันลำตัวมาจากท่าโจดังนั่นด้วยความเร็วที่เร็วมากยิ่งกว่าผู้ใด แต่จงใจแสดงให้เห็นทาเทมาเอะว่าจะฟันที่หัว เพื่อให้คู่ต่อสู้เปิดช่องโหว่ที่ลำตัวจากท่าตั้งรับด้านบน ความสำเร็จในที่นี้คือการเอาชนะข้อจำกัดทางกายภาพ... พอเข้าใจไหม? เป็นเรื่องปกติที่คนทั่วไปก็จะยึดถือหลักการและเหตุผลสามัญที่พวกเขาเรียนรู้กันมา แต่บางครั้งข้อจำกัดของหลักการเหล่านั้นก็สามารถขจัดออกไปได้
    .
    ในโลกทุกวันนี้ เต็มไปด้วยทาเทมาเอะล่อลวงและฮอนเนะที่ชั่วร้าย บางสิ่งมากับเรื่องที่คุณคิดไม่ถึงเช่นภาพยนตร์ StarTrek ที่ผมเคยเขียนให้อ่านในบทความเรื่องดาบที่ซ่อนเร้นที่เอ่ยไป.. พรอพพาแกนดามากมายที่เป็นทาเทมาเอะในโลก จงใจให้คุณเห็นและเบี่ยงเบนคุณจากเจตนาร้ายแท้จริงที่ซ่อนไว้ มันเกิดขึ้นตลอดเวลา ไทยเราเองเคยถูกฮอนเนะที่ชั่วร้ายโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า เช่น การโจมตีค่าเงินบาทของโซรอส.. หรือ ทาเทมาเอะในคราบของวัคซีนที่ซ่อนฮอนเนะของ Global Reset ที่เคลาส์ ชวอบบ์ ไฝ่ฝันจะกำจัดประชากรและกระพือพรอพพาแกนดาเพื่อหวังจัดระเบียบโลก ขณะเดียวกันก็ทำลายจีนไปด้วย.. หรือจะถอยไปที่ JFK และ 911 ก็ได้ คุณลองคิดดูซิว่า อะไรคือทาเทมาเอะ อะไรคือฮอนเนะที่คุณเห็น ลองทดสอบตัวเอง
    .
    นึกภาพออกหรือยัง ว่าคุณต้องพยายามมากแค่ไหนในการขยาย FOV ของคุณออกไปด้วย คาน ไม่ใช่ เคน เพียงอย่างเดียว เป้าหมายการฝึกคือ เคนและคานทำงานร่วมกันอย่างสอดคล้อง เมื่อคุณมองข่าวสารที่ป้อนใส่เคนของคุณผ่านหน้าต่างของโซเชียลมีเดีย ไม่ต่างกับคุณนั่งมองจากในบ้านของคุณผ่านหน้าต่างห้องรับแขก.... บางคนอาจเถียงว่า "เฮ้ย นี่มันอินเตอร์เน็ตนะโว้ย"... No.. อย่าได้สำคัญผิดว่าจอมือถือขนาด 8 นิ้ว 10 นิ้วของเธอจะทำให้เธอเห็นทุกสรรพสิ่ง เธอจะเห็นแต่สิ่งที่เธอได้รับอนุญาตให้เห็นหรือถูกเตรียมมาให้เชื่อ และโดยทั่วไป เธอจะถูกปิดกั้นเมื่อเธอพยายามจะเห็นสิ่งที่พวกที่กุมอำนาจอยู่ไม่อนุญาตให้เห็น เธอจะต้องใช้ความพยายามอย่างที่สุดที่จะขยาย FOV ของเธอออกไปจากสิ่งกั้นขวางเหล่านั้น และต้องเริ่มที่จะเรียนรู้ฝึกฝนการมองสิ่งต่างๆ ด้วย คาน ด้วยจิต ด้วยญาณทัศนะที่เติบโตขึ้น
    .
    พิจารณาสิ่งที่อยู่รอบๆตัว บริบทต่างๆ ที่รายล้อม เช่น นักต่อสู้ทางการเมืองสตรีที่ถูกจำขังเป็นเวลานาน ได้ก้าวขึ้นเป็นรัฐบาลด้วยทาเทมาเอะเช่นรางวัลโนเบล ภาพลักษณ์แห่งความอหิงสาสำรวม ปูมหลังที่น่านับถือของบิดา สื่อตะวันตกที่โหมเยินยอ... ฮอนเนะของเธอคืออะไร? จารชนซีไอเอตัวแม่? เบื้องหลังการสังหารหมู่ชาวโรฮิงญาที่ถูกปกปิดไม่ให้โลกรู้? ความเชื่อมโยงน่าขนลุกของเป้าหมายการยึดครองพื้นที่ของยะไข่ จำต้องเก็บกวาดขยะ? ใครต้องการครอบครอง? ผลพลอยได้คือการปลุกความขัดแย้งและโต้เถียงในหมู่ประชาคมอาเซี่ยน? ยะไข่สำคัญอย่างไร?.... ขยาย FOV ของคุณออกไปยังจุดอื่นซิ เช่น อินเดียและปากีสถาน... ว้าแดงและลาว... หรือเขมรตัวแสบ... โจรหน้าตัวเมียทางใต้... ความพยายามที่จะเปิดศึกอิหร่าน... แค่ลำพังทำตัวเป็นโดรนบินขึ้นมาดูมุมสูงขึ้นยังไม่พอ ต้องใช้ คาน มองในทุกจุดแบบเป็นภาพที่ใหญ่ขึ้น ปัญหาที่เห็นในบ้านเราเป็นองค์ประกอบอันน้อยนิดในสงครามที่กำลังดำเนินไปและเกิดขึ้นรอบด้านในขณะนี้
    .
    ผมจะเล่าตัวอย่างของทาเทมาเอะ-ฮอนเนะให้ฟังอีกเรื่อง เกี่ยวกับแหล่งน้ำในโลกที่กำลังลดน้อยลงทุกที ผมเคยเขียนเรื่องนี้มาแล้วในบทความที่พูดถึงเรื่องแม่น้ำไนล์และประเทศเอธิโอเปีย
    .
    ประเทศเอธิโอเปียเป็นประเทศที่ยากจนอย่างยิ่ง แห้งแล้งกันดารลำบากยากเข็ญ แม่น้ำไนล์นั้นมีต้นกำเนิดในประเทศเอธิโอเปีย แต่คนเอธิโอเปียกลับไม่สามารถที่จะสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำไว้สำหรับทำเกษตรเพื่อเลี้ยงชีพประชากรที่อดอยากได้ เพราะว่าถ้าทำเช่นนั้น ประเทศอียิปต์ซึ่งมีพร้อมทั้งจรวดและเครื่องบินรบทันสมัยก็จะมาถล่มเอธิโอเปียทันที เนื่องเพราะแม่น้ำไนล์ในวันนี้ปริมาณน้ำไม่พอใช้อยู่แล้ว ถ้าเอธิโอเปียทำเขื่อน ปริมาณน้ำที่ไหลไปถึงอียิปต์ก็จะน้อยลง ดังนั้นในสภาวะด้อยกว่าเช่นนี้เอธิโอเปียจึงต้องก้มหน้าเผชิญชะตากรรมอันยากเข็ญต่อไป ให้มีอีก 10 ไมเคิลแจ็กสันมาร้องเพลงวีอาร์เดอะเวิลด์อีก 10 รอบ ก็ไม่อาจช่วยเด็กเอธิโอเปียที่ล้มตายลงไปทุกวัน อย่างที่ผมได้พยายามเน้นมาก่อนหน้านี้ วันนึงการขาดแคลนน้ำจะก่อเป็นปัญหาซึ่งจะนำไปสู่สงคราม
    .
    ยังมีอีกจุดหนึ่งที่ทาเทมาเอะกำลังดำเนินไปด้วยการโหมของสื่อ เน้นให้เห็นความน่าเห็นใจของชาวทิเบตและความโหดร้ายของรัฐบาลจีนที่เข้าครอบครองดินแดนแห่งนี้ ยิ่งถ้าได้ดูหนังที่แบรทพิตต์แสดงให้เห็นความสะเทือนใจผ่านความสัมพันธ์ของเขากับดาไลลามะ ก็ยิ่งเห็นใจว่าทิเบตควรได้รับความเป็นเอกราช ผมเองก็เศร้าใจกับชะตากรรมนี้ แต่เมื่อมองจากมุมอื่นโดยเฉพาะเมื่อคิดถึงความมั่งคงของชาติเราเอง ความเป็นจริงบางอย่างก็บีบบังคับเช่นกัน กรณีนี้มันเหมือนกับกันกับทาเทมาเอะของหนังเรื่องชินเลอร์ลิสท์และพรอพพาแกนดาของพวกไซออนนิสท์เลย ที่ความสะเทือนใจนี้อาจจะบรรเทาความขุ่นเคืองจากการสังหารหมู่ในปาเลสไตน์ได้ ซึ่งนี่เป็นฮอนเนะชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่ ทาเทมาเอะในทิเบตหากสำเร็จ อาจจะนำมาซึ่งเหตุผลอันชอบธรรมในการที่ตะวันตกจะแทรกแซงเข้ามาช่วยเหลือและปลดปล่อยทิเบต จากนั้นก็จะวางอิทธิพลครอบงำไว้เช่นเดียวกับที่เกิดในติมอร์ ฮอนเนะที่แท้จริงของพวกมันคือการเข้ากุมอำนาจความได้เปรียบ หากสามารถควบคุมต้นน้ำที่มาจากภูเขาหิมาลัยในทิเบตได้ ก็จะสามารถควบคุมทั้งจีนและเอเชียอาคเนย์ทั้งหมดได้ ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย เพราะแหล่งน้ำสำคัญสำคัญในเอเชียอาคเนย์ส่วนใหญ่มีต้นกำเนิดในทิเบต เช่น แม่น้ำอิระวดี แม่น้ำโขง ส่วนจีนเอง แม่น้ำใหญ่อย่างฮวงโหวและแยงซีเกียงก็มาจากทิเบตเช่นกัน นี่คือเหตุที่ว่าทำไมจีนถึงต้องครอบครองดินแดนทิเบตไว้ให้ถึงที่สุด เพราะถ้าตกไปในอำนาจของฝั่งตะวันตก ทั้งประเทศจีนและหลายประเทศในเอเชียอาคเนย์จะต้องตกเป็นเบี้ยล่างให้ใครก็ตามที่มากุมอำนาจในทิเบตเอาไว้ได้
    .
    ประเทศไทยยังโชคดี หากว่าวันนึงต้องประสบความเดือดร้อนเพราะแม่น้ำโขงถูกควบคุมโดยมหาอำนาจตะวันตก เรายังมีแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีต้นน้ำอยู่ในประเทศไทยเอง ผมเคยเขียนเรื่องนี้มาแล้ว บอกให้รู้ว่าสภาพน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างนั้นเสียทั้งหมด ส่วนตอนกลางยังไม่เลวร้ายเท่าไหร่ ตอนบนยังอยู่ในสภาพที่ดี ผมยังพูดถึงแม่น้ำโวลก้าในรัสเซียที่เคยเสียไปหมดทั้งเส้นด้วยมลพิษ แต่ในที่สุดด้วยความพยายามอย่างหนัก รัสเซียสามารถกู้แม่น้ำโวลก้าขึ้นมาได้ แม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่สามารถใช้บริโภค แต่สัตว์น้ำก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ ดังนั้น แม่น้ำเจ้าพระยาที่เสียไปบางส่วนนั้นยังไม่สายเกินไปที่จะกู้คืนเสียแต่บัดนี้ และยังเน้นย้ำว่าจะต้องเป็นนโยบายรัฐและถือเป็นวาระแห่งชาติที่จะช่วยกันกอบกู้แม่น้ำนี้ขึ้นมาให้ใช้บริโภคได้เหมือนสมัยที่ผมยังเด็กเด็กสมัยที่อยู่บ้านคุณยายริมแม่น้ำเจ้าพระยา เรายังสามารถเอาน้ำขึ้นมาใส่ตุ่มแกว่งสารส้มแล้วนำมาต้มทำอาหารได้ นี่คือหลักประกันที่ว่าถ้าวันหนึ่งโลกได้มาถึงจุดคับขัน เราจะยังมีน้ำกินน้ำใช้ เพราะเราไม่รู้ว่าวันใดน้ำที่ใส่ขวดวางขายอยู่ตามห้างตามร้านของชำจะยังมีให้ซื้อกินอยู่ น้ำจึงเป็นปัจจัยคอขาดบาดตายของทุกคนที่จะต้องปกป้องไว้ให้ถึงที่สุด
    .
    ท่ามกลางการโอบล้อมของภัยจากทุกทิศทาง การโจมตีด้วยเจตนาร้ายเคลือบแฝงหลายรูปแบบที่ประดังเข้ามา มันถึงเวลาที่ทุกคนต้องตื่นขึ้น เพื่อที่เราจะได้นำพาประเทศชาติให้รอดพ้นปลอดภัย เพื่อที่ว่าวันหนึ่งเราจะไปยืนที่กำแพงพระนคร แล้วพูดกับตัวเองว่า "เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร" อย่างที่พี่ฟองสนานกล่าวไว้
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] -
    เวลาที่คนเรานั่งมองสิ่งต่างๆ มันมีคำง่ายๆ อยู่คำหนึ่งย่อว่า FOV มาจากคำว่า Field Of View พวกทำงานภาพเข้าใจดีว่าหมายถึงสนามของภาพ หรือขอบเขตการมองเห็น ถ้าเรามองในแง่นี้ก็คือ มองผ่านเลนส์หรือผ่านกล้องของเราออกไป สนามภาพที่เราเห็นจะถูกจำกัดด้วยสมรรถนะของกล้องหรือเลนส์นั้น จะโฟกัสเจาะลึกขยายถึงขุมขนก็ต้องใช้มาโครเลนส์ จะดูไกลก็ต้องใช้ซูมเลนส์ จะเห็นภาพกว้างก็ต้องใช้เลนส์ไวด์แองเกิ้ล . คล้ายๆ กัน.. เปลี่ยนเป็นการมองดูโลก ถ้าเรานั่งมองจากในบ้านของเรา เราก็จะเห็นได้อย่างจำกัดมาก จะมองเห็นทัศนียภาพภายนอกก็จะเห็นได้แค่ผ่านช่องหน้าต่างผ่านช่องประตูออกไป ที่ติดกำแพงผนังหลังคาขวางกั้นก็มองไม่เห็นแล้ว ก็ต้องก้าวออกไปนอกบ้านจึงจะเห็นมากขึ้น แต่ก็ติดกำแพงรั้วอีก เดินออกนอกกำแพงไปการมองเห็นก็ยังจะถูกจำกัดด้วยไอ้เจ้า FOV ของชั้นระยะถัดไป ระยะทาง ภูเขา แมกไม้ บดบังหลายสิ่งหลายอย่าง จะเห็นสิ่งที่อยู่ถัดไปอีกแค่สักร้อยเมตรก็เป็นไปได้ยากถ้ายังมีสิ่งบดบัง ครั้นจะพึ่งพาเพื่อนบ้านที่ผ่านมาจะถามเขาว่ามีอะไรน่าสนใจไหมที่สองร้อยเมตรข้างหน้า ก็ไม่อาจคาดหวังว่าจะได้คำตอบที่น่าเชื่อถือหรือถูกต้อง เขาอาจบอกระวังงูยักษ์นะเมื่อกี้เพิ่งหนีมา... เขาอาจว่าหมู่บ้านถัดไปสองร้อยเมตรกำลังประกาศว่ามีโรคระบาดมาถึงแล้ว รีบไปจากที่นี่เถอะ...ฯ เราไม่อาจพึ่งพาการเห็นโลกตามจริงด้วยการบอกเล่าจากปากของผู้อื่น จะรู้ข้อเท็จจริงให้ได้ก็ต้องเดินทางออกไปเห็นด้วยตาว่าตรงที่เราอยากรู้นั้นเป็นเช่นไร ซึ่งไม่แน่ว่าบางทีไปถึงที่หมายแล้วก็อาจยังไม่เห็นสิ่งที่ควรเห็นอีก เพราะ FOV ของเราที่หวังผลจากสายตานี้ ไม่ได้กว้างไพศาลและมีศักยภาพในการขยายได้ดั่งใจ อาจต้องมีตัวช่วย เช่น ใช้โดรนขึ้นบินขึ้นไปส่องก็จะเห็นกว้างไกลกว่ายืนมองอยู่บนพื้น แต่กระนั้นก็จะเห็นว่า ใช้โดรนแล้ว ตัวโดรนเองก็มี FOV ที่จำกัดอยู่ดี . พออธิบายเช่นนี้ คงเข้าใจได้ว่า การที่ปุถุชนจะเห็นสิ่งต่างๆ ได้ครบถ้วนทุกรายละเอียดข้อเท็จจริงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ใครที่ยิ่งต้องการเห็นให้ได้มาก ต้องตะเกียกตะกายพยายามขยายมุมมอง พิกัดที่มอง สมรรถนะที่มอง และวิจารณญาณที่ประกอบการมองให้เปิดกว้างและไม่ยอมหยุดนิ่ง คือต้องไม่หยุดเลยนั่นแหละ ถึงจะลดทอนความไม่รู้ลงไปได้ไม่น้อย แม้ว่าในความเป็นจริงจะยังมีสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่อีกเยอะก็ตาม . โบราณพูดถึงการมีอยู่ของสิ่งที่เรียกว่าญาณทัศนะ คือมีบางคนที่ได้ทุ่มเทความเพียรในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ มามากมายเนิ่นนานพอจนเกิดปัญญาในการที่จะทำความเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วขึ้น และมองเห็นความเชิ่อมโยงของสิ่งต่างๆ ที่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน ถึงแม้คนผู้นั้นเองก็ติดขัดที่ข้อจำกัดของมนุษย์เช่นที่กล่าวไปเหมือนเช่นคนอื่นๆ แต่มีความหยั่งรู้พิเศษบางอย่างบ่มเพาะขึ้นมาให้รู้จักใช้ปัญญาในการเรียนรู้พิจารณาเรื่องราวหนึ่ง แล้วขยายมันเพื่อที่จะเข้าใจเรื่องราวอีกพันเรื่องได้ อุปมาดั่งช่างไม้ที่เข้าใจในการใช้สิ่วแกะสลักอย่างลึกซึ้งทะลุปรุโปร่ง อาจใช้ความเข้าใจในทักษะเช่นนี้ ไปในประยุกต์ใช้กับเรื่องอื่นๆ อย่างเช่น การใช้ดาบต่อสู้ เป็นต้น... ผู้มีญาณทัศนะที่หยั่งได้เช่นนี้ ด้วยการพิเคราะห์สิ่งต่างๆ รอบกาย เขาอาจสามารถมองเห็นความเชื่อมโยงของสิ่งเหล่านั้นได้ในระนาบที่ต่างจากผู้อื่น ฟังดูยากใช่ไหม? . ผมเคยเขียนบทความเรื่องนี้น่าจะเกือบยี่สิบปีแล้ว ชื่อเรื่อง "ดาบที่ซ่อนเร้น" ไม่รู้ใครเคยอ่านบ้าง? . แนวคิด "เรียนรู้สิ่งหนึ่งเพื่อเข้าถึงพันสิ่ง" เป็นหนึ่งในคำสอนที่ มิยาโมโต มูซาชิ ซามูไรที่กล่าวกันว่าไม่เคยแพ้ใครเลย สอนแก่ศิษย์ของเขา คำสอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของคำสอนมากมายที่ปรากฏอยู่ในจดหมายถึงศิษย์ในสำนักนิเต็นริวของเขาที่ชื่อเทราโอะ มาโกโนโจ ภายหลังจดหมายนี้กลายเป็นคัมภีร์ที่นักดาบทุกคนต้องทำความเข้าใจ มันมีชื่อเรียกในภายหลังว่า "โกรินโนโช" แปลว่าคัมภีร์ห้าห่วง ชื่อห้าห่วงเพราะมันแบ่งเป็นห้าภาคคือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และความว่าง (สุญญตา) . โกรินโนโช ไม่ได้เป็นเพียงตำราสำหรับนักดาบ แนวคิดลึกซึ้งที่ว่า เรียนรู้สิ่งหนึ่งเพื่อเข้าถึงพันสิ่งนี้ มีคนที่เข้าใจมัน แล้วปรับใช้กับชีวิตหลายแง่มุม ที่กล่าวถึงกันมากคือมีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยการปรับความรู้จากตำรานี้ให้เป็นกลยุทธในการทำธุรกิจ แต่ผมไม่เคยอ่านเรื่องทำนองนี้หรอก ต้องถามเซนเซสุวินัย ภรณวลัย ท่านเชี่ยวชาญเรื่องนี้ ผมสนใจในแง่ของวิชาเคนจัตสุ... กลับไปที่เรื่อง FOV ที่ได้เปิดหัวมา... . มูซาชิ สอนในภาคน้ำเรื่องการมอง ว่าด้วยคำสี่คำที่ลึกซึ้งคือ ทาเทมาเอะ กับ ฮอนเนะ... และ เค็น กับ คาน . - ทาเทมาเอะ คือ สิ่งที่เราแสดงให้คนเห็น - ฮอนเนะ คือ เจตนาที่แท้จริง . - เคน คือ สิ่งที่เห็นจากภายนอกด้วยตาเนื้อ - คาน คือ สิ่งที่เห็นด้วยใจ ด้วยญาณที่หยั่งลึกกว่า . อธิบายสักรอบ.. . เมื่อนักดาบสองคนเข้าสัประยุทธกัน นักดาบจะตั้งท่วงท่าสำหรับการโจมตี เช่น เมื่อฝ่ายหนึ่งตั้งท่าโจดัง คือยกดาบอยู่เหนือหัว อีกฝ่ายมองเห็นด้วย เคน ก็อาจคาดเดาว่าศัตรูจะฟันลงมาที่หัว ซึ่งโดยกายภาพแล้วจะเป็นการฟันที่เร็วที่สุดกว่าการเจตนาฟันตรงส่วนอื่นของร่างกาย เช่น ลำตัว หรือแทงคอ ซึ่งจะยิ่งทำให้การโจมตีใช้เวลามากขึ้นหากเริ่มจากท่าโจดัง.. นักดาบอีกฝ่ายก็คงจะคิดเช่นนี้แล้วเตรียมรับการฟันจากข้างบน เพราะถ้าคู่ต่อสู้เปลี่ยนทิศทางมาฟันลำตัว เขาจะมองเห็นทันและปรับท่ารับได้... แต่นี่บางทีเขาอาจคิดผิดไป.. . ฮอนเนะ หรือเจตนาของนักดาบอีกฝ่ายอาจไม่ใด้ต้องการฟันตรงๆ เขาอาจฝึกมาอย่างหนักมากจนบรรลุความเร็วขีดสุดที่ฝ่ายเตรียมตั้งรับไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต เขาอาจฟันลำตัวมาจากท่าโจดังนั่นด้วยความเร็วที่เร็วมากยิ่งกว่าผู้ใด แต่จงใจแสดงให้เห็นทาเทมาเอะว่าจะฟันที่หัว เพื่อให้คู่ต่อสู้เปิดช่องโหว่ที่ลำตัวจากท่าตั้งรับด้านบน ความสำเร็จในที่นี้คือการเอาชนะข้อจำกัดทางกายภาพ... พอเข้าใจไหม? เป็นเรื่องปกติที่คนทั่วไปก็จะยึดถือหลักการและเหตุผลสามัญที่พวกเขาเรียนรู้กันมา แต่บางครั้งข้อจำกัดของหลักการเหล่านั้นก็สามารถขจัดออกไปได้ . ในโลกทุกวันนี้ เต็มไปด้วยทาเทมาเอะล่อลวงและฮอนเนะที่ชั่วร้าย บางสิ่งมากับเรื่องที่คุณคิดไม่ถึงเช่นภาพยนตร์ StarTrek ที่ผมเคยเขียนให้อ่านในบทความเรื่องดาบที่ซ่อนเร้นที่เอ่ยไป.. พรอพพาแกนดามากมายที่เป็นทาเทมาเอะในโลก จงใจให้คุณเห็นและเบี่ยงเบนคุณจากเจตนาร้ายแท้จริงที่ซ่อนไว้ มันเกิดขึ้นตลอดเวลา ไทยเราเองเคยถูกฮอนเนะที่ชั่วร้ายโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า เช่น การโจมตีค่าเงินบาทของโซรอส.. หรือ ทาเทมาเอะในคราบของวัคซีนที่ซ่อนฮอนเนะของ Global Reset ที่เคลาส์ ชวอบบ์ ไฝ่ฝันจะกำจัดประชากรและกระพือพรอพพาแกนดาเพื่อหวังจัดระเบียบโลก ขณะเดียวกันก็ทำลายจีนไปด้วย.. หรือจะถอยไปที่ JFK และ 911 ก็ได้ คุณลองคิดดูซิว่า อะไรคือทาเทมาเอะ อะไรคือฮอนเนะที่คุณเห็น ลองทดสอบตัวเอง . นึกภาพออกหรือยัง ว่าคุณต้องพยายามมากแค่ไหนในการขยาย FOV ของคุณออกไปด้วย คาน ไม่ใช่ เคน เพียงอย่างเดียว เป้าหมายการฝึกคือ เคนและคานทำงานร่วมกันอย่างสอดคล้อง เมื่อคุณมองข่าวสารที่ป้อนใส่เคนของคุณผ่านหน้าต่างของโซเชียลมีเดีย ไม่ต่างกับคุณนั่งมองจากในบ้านของคุณผ่านหน้าต่างห้องรับแขก.... บางคนอาจเถียงว่า "เฮ้ย นี่มันอินเตอร์เน็ตนะโว้ย"... No.. อย่าได้สำคัญผิดว่าจอมือถือขนาด 8 นิ้ว 10 นิ้วของเธอจะทำให้เธอเห็นทุกสรรพสิ่ง เธอจะเห็นแต่สิ่งที่เธอได้รับอนุญาตให้เห็นหรือถูกเตรียมมาให้เชื่อ และโดยทั่วไป เธอจะถูกปิดกั้นเมื่อเธอพยายามจะเห็นสิ่งที่พวกที่กุมอำนาจอยู่ไม่อนุญาตให้เห็น เธอจะต้องใช้ความพยายามอย่างที่สุดที่จะขยาย FOV ของเธอออกไปจากสิ่งกั้นขวางเหล่านั้น และต้องเริ่มที่จะเรียนรู้ฝึกฝนการมองสิ่งต่างๆ ด้วย คาน ด้วยจิต ด้วยญาณทัศนะที่เติบโตขึ้น . พิจารณาสิ่งที่อยู่รอบๆตัว บริบทต่างๆ ที่รายล้อม เช่น นักต่อสู้ทางการเมืองสตรีที่ถูกจำขังเป็นเวลานาน ได้ก้าวขึ้นเป็นรัฐบาลด้วยทาเทมาเอะเช่นรางวัลโนเบล ภาพลักษณ์แห่งความอหิงสาสำรวม ปูมหลังที่น่านับถือของบิดา สื่อตะวันตกที่โหมเยินยอ... ฮอนเนะของเธอคืออะไร? จารชนซีไอเอตัวแม่? เบื้องหลังการสังหารหมู่ชาวโรฮิงญาที่ถูกปกปิดไม่ให้โลกรู้? ความเชื่อมโยงน่าขนลุกของเป้าหมายการยึดครองพื้นที่ของยะไข่ จำต้องเก็บกวาดขยะ? ใครต้องการครอบครอง? ผลพลอยได้คือการปลุกความขัดแย้งและโต้เถียงในหมู่ประชาคมอาเซี่ยน? ยะไข่สำคัญอย่างไร?.... ขยาย FOV ของคุณออกไปยังจุดอื่นซิ เช่น อินเดียและปากีสถาน... ว้าแดงและลาว... หรือเขมรตัวแสบ... โจรหน้าตัวเมียทางใต้... ความพยายามที่จะเปิดศึกอิหร่าน... แค่ลำพังทำตัวเป็นโดรนบินขึ้นมาดูมุมสูงขึ้นยังไม่พอ ต้องใช้ คาน มองในทุกจุดแบบเป็นภาพที่ใหญ่ขึ้น ปัญหาที่เห็นในบ้านเราเป็นองค์ประกอบอันน้อยนิดในสงครามที่กำลังดำเนินไปและเกิดขึ้นรอบด้านในขณะนี้ . ผมจะเล่าตัวอย่างของทาเทมาเอะ-ฮอนเนะให้ฟังอีกเรื่อง เกี่ยวกับแหล่งน้ำในโลกที่กำลังลดน้อยลงทุกที ผมเคยเขียนเรื่องนี้มาแล้วในบทความที่พูดถึงเรื่องแม่น้ำไนล์และประเทศเอธิโอเปีย . ประเทศเอธิโอเปียเป็นประเทศที่ยากจนอย่างยิ่ง แห้งแล้งกันดารลำบากยากเข็ญ แม่น้ำไนล์นั้นมีต้นกำเนิดในประเทศเอธิโอเปีย แต่คนเอธิโอเปียกลับไม่สามารถที่จะสร้างเขื่อนเก็บกักน้ำไว้สำหรับทำเกษตรเพื่อเลี้ยงชีพประชากรที่อดอยากได้ เพราะว่าถ้าทำเช่นนั้น ประเทศอียิปต์ซึ่งมีพร้อมทั้งจรวดและเครื่องบินรบทันสมัยก็จะมาถล่มเอธิโอเปียทันที เนื่องเพราะแม่น้ำไนล์ในวันนี้ปริมาณน้ำไม่พอใช้อยู่แล้ว ถ้าเอธิโอเปียทำเขื่อน ปริมาณน้ำที่ไหลไปถึงอียิปต์ก็จะน้อยลง ดังนั้นในสภาวะด้อยกว่าเช่นนี้เอธิโอเปียจึงต้องก้มหน้าเผชิญชะตากรรมอันยากเข็ญต่อไป ให้มีอีก 10 ไมเคิลแจ็กสันมาร้องเพลงวีอาร์เดอะเวิลด์อีก 10 รอบ ก็ไม่อาจช่วยเด็กเอธิโอเปียที่ล้มตายลงไปทุกวัน อย่างที่ผมได้พยายามเน้นมาก่อนหน้านี้ วันนึงการขาดแคลนน้ำจะก่อเป็นปัญหาซึ่งจะนำไปสู่สงคราม . ยังมีอีกจุดหนึ่งที่ทาเทมาเอะกำลังดำเนินไปด้วยการโหมของสื่อ เน้นให้เห็นความน่าเห็นใจของชาวทิเบตและความโหดร้ายของรัฐบาลจีนที่เข้าครอบครองดินแดนแห่งนี้ ยิ่งถ้าได้ดูหนังที่แบรทพิตต์แสดงให้เห็นความสะเทือนใจผ่านความสัมพันธ์ของเขากับดาไลลามะ ก็ยิ่งเห็นใจว่าทิเบตควรได้รับความเป็นเอกราช ผมเองก็เศร้าใจกับชะตากรรมนี้ แต่เมื่อมองจากมุมอื่นโดยเฉพาะเมื่อคิดถึงความมั่งคงของชาติเราเอง ความเป็นจริงบางอย่างก็บีบบังคับเช่นกัน กรณีนี้มันเหมือนกับกันกับทาเทมาเอะของหนังเรื่องชินเลอร์ลิสท์และพรอพพาแกนดาของพวกไซออนนิสท์เลย ที่ความสะเทือนใจนี้อาจจะบรรเทาความขุ่นเคืองจากการสังหารหมู่ในปาเลสไตน์ได้ ซึ่งนี่เป็นฮอนเนะชั่วร้ายที่ซ่อนอยู่ ทาเทมาเอะในทิเบตหากสำเร็จ อาจจะนำมาซึ่งเหตุผลอันชอบธรรมในการที่ตะวันตกจะแทรกแซงเข้ามาช่วยเหลือและปลดปล่อยทิเบต จากนั้นก็จะวางอิทธิพลครอบงำไว้เช่นเดียวกับที่เกิดในติมอร์ ฮอนเนะที่แท้จริงของพวกมันคือการเข้ากุมอำนาจความได้เปรียบ หากสามารถควบคุมต้นน้ำที่มาจากภูเขาหิมาลัยในทิเบตได้ ก็จะสามารถควบคุมทั้งจีนและเอเชียอาคเนย์ทั้งหมดได้ ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย เพราะแหล่งน้ำสำคัญสำคัญในเอเชียอาคเนย์ส่วนใหญ่มีต้นกำเนิดในทิเบต เช่น แม่น้ำอิระวดี แม่น้ำโขง ส่วนจีนเอง แม่น้ำใหญ่อย่างฮวงโหวและแยงซีเกียงก็มาจากทิเบตเช่นกัน นี่คือเหตุที่ว่าทำไมจีนถึงต้องครอบครองดินแดนทิเบตไว้ให้ถึงที่สุด เพราะถ้าตกไปในอำนาจของฝั่งตะวันตก ทั้งประเทศจีนและหลายประเทศในเอเชียอาคเนย์จะต้องตกเป็นเบี้ยล่างให้ใครก็ตามที่มากุมอำนาจในทิเบตเอาไว้ได้ . ประเทศไทยยังโชคดี หากว่าวันนึงต้องประสบความเดือดร้อนเพราะแม่น้ำโขงถูกควบคุมโดยมหาอำนาจตะวันตก เรายังมีแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีต้นน้ำอยู่ในประเทศไทยเอง ผมเคยเขียนเรื่องนี้มาแล้ว บอกให้รู้ว่าสภาพน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างนั้นเสียทั้งหมด ส่วนตอนกลางยังไม่เลวร้ายเท่าไหร่ ตอนบนยังอยู่ในสภาพที่ดี ผมยังพูดถึงแม่น้ำโวลก้าในรัสเซียที่เคยเสียไปหมดทั้งเส้นด้วยมลพิษ แต่ในที่สุดด้วยความพยายามอย่างหนัก รัสเซียสามารถกู้แม่น้ำโวลก้าขึ้นมาได้ แม้ว่าในตอนนี้จะยังไม่สามารถใช้บริโภค แต่สัตว์น้ำก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ ดังนั้น แม่น้ำเจ้าพระยาที่เสียไปบางส่วนนั้นยังไม่สายเกินไปที่จะกู้คืนเสียแต่บัดนี้ และยังเน้นย้ำว่าจะต้องเป็นนโยบายรัฐและถือเป็นวาระแห่งชาติที่จะช่วยกันกอบกู้แม่น้ำนี้ขึ้นมาให้ใช้บริโภคได้เหมือนสมัยที่ผมยังเด็กเด็กสมัยที่อยู่บ้านคุณยายริมแม่น้ำเจ้าพระยา เรายังสามารถเอาน้ำขึ้นมาใส่ตุ่มแกว่งสารส้มแล้วนำมาต้มทำอาหารได้ นี่คือหลักประกันที่ว่าถ้าวันหนึ่งโลกได้มาถึงจุดคับขัน เราจะยังมีน้ำกินน้ำใช้ เพราะเราไม่รู้ว่าวันใดน้ำที่ใส่ขวดวางขายอยู่ตามห้างตามร้านของชำจะยังมีให้ซื้อกินอยู่ น้ำจึงเป็นปัจจัยคอขาดบาดตายของทุกคนที่จะต้องปกป้องไว้ให้ถึงที่สุด . ท่ามกลางการโอบล้อมของภัยจากทุกทิศทาง การโจมตีด้วยเจตนาร้ายเคลือบแฝงหลายรูปแบบที่ประดังเข้ามา มันถึงเวลาที่ทุกคนต้องตื่นขึ้น เพื่อที่เราจะได้นำพาประเทศชาติให้รอดพ้นปลอดภัย เพื่อที่ว่าวันหนึ่งเราจะไปยืนที่กำแพงพระนคร แล้วพูดกับตัวเองว่า "เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร" อย่างที่พี่ฟองสนานกล่าวไว้ . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] -
    0 Comments 0 Shares 489 Views 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพมูลค่ากว่า 3 แสนบาท แก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร
    .
    วันนี้ (วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร รวม 2 แห่ง 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 393,570 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) โดยมี นางสาวราภรณ์ พงศ์พนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบครัว (ผู้แทนอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) พร้อมด้วย นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ นางสาวพรมณี พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นางอภิรดี สุสุทธิ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี
    .
    นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ “ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    #ป่อเต็กตึ๊งช่วยชีวิตรักษาชีวิตสร้างชีวิต
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418
    #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สร้างอาชีพ สร้างชีวิต มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพมูลค่ากว่า 3 แสนบาท แก่สตรี แม่เลี้ยงเดี่ยวหรือด้อยโอกาส ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และกรุงเทพมหานคร . วันนี้ (วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ นายชาญกิจ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ นำทีมลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี มอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่สตรีที่มีรายได้น้อยมีภาระหน้าที่ดูแลคนในครอบครัว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือด้อยโอกาสทางสังคม ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี และสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร รวม 2 แห่ง 20 ราย คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 393,570 บาท (สามแสนเก้าหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) โดยมี นางสาวราภรณ์ พงศ์พนิตานนท์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านครอบครัว (ผู้แทนอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว) พร้อมด้วย นางสาวศุภวรรณ ขูดแก้ว ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ นางสาวพรมณี พุ่มอิ่ม ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง นางอภิรดี สุสุทธิ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ กรุงเทพมหานคร ร่วมในพิธี ณ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี . นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ เปิดเผยว่า โครงการ “ส่งเสริมอาชีพเพื่อสตรีและครอบครัว” มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบวัสดุอุปกรณ์ประกอบอาชีพ แก่ สตรี บุรุษ พ่อเลี้ยงเดี่ยว หรือผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีความรู้และความสามารถ ฐานะยากจน ขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ โดยได้รับความร่วมมือจากศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวและสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ จำนวน 12 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ชลบุรี สงขลา สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ ขอนแก่น ลำพูน ลำปาง เชียงราย และพิษณุโลก โดยมูลนิธิฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินการโครงการดังกล่าวนี้ จะมีส่วนสนับสนุน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ เลี้ยงตนเองและครอบครัว ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความสุขสู่ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . #ป่อเต็กตึ๊งช่วยชีวิตรักษาชีวิตสร้างชีวิต #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 Comments 0 Shares 401 Views 0 Reviews
  • ..ความเห็นส่วนตัวครับ,ยามเฝ้าแผ่นดิน(เราคือประชาชน,ทหารภาคประชาชน)วงเล็บแบบนี้ไปด้วย เสมือนใส่จิตวิญญาณในสถานะว่าเราคือคนของแผ่นดินไทยแบบชัดเจนทันทีไปในตัวเลย.
    ..อนาคตสามารถต่อยอดสถานะตัวแทนภาคประชาชนไปได้หลากหลายลักษณะ หรือเสมือนทัพใหญ่มีกองกำลังทางทหารภาคประชาชนที่40-50ล้านคน,จัดเป็นทัพย่อยต่างๆสาระพัดทัพ,อาทิ ทัพตัวแทนภาคการปกครอง,ทำหน้าที่ยึดฐานอำนาจภาคการปกครองของประเทศปกป้องประชาชนคนทั้งประเทศระดับแรกต้นและหลัก,วางรากฐานทัพย่อยๆให้มั่นคง สร้างทหารภาคประชาชนรุ่นใหม่ๆได้ต่อเนื่อง,ใช้สัก20-30ล้านคนกาลงคะแนนเสียงสนับสนุนตัวแทนภาคประชาชนจริงขึ้นไปปกครองประเทศกำหนดทิศทางประเทศในทางที่ดีได้เต็มที่สมบูรณ์สุดซอยชัดเจนด้วย.,ทัพย่อยอื่นๆสร้างสรรค์จัดทัพตามสภาวะการณ์สงครามทั้งระยะสั้น กลาง ยาว อนาคต ก็ว่าไปหรือเร่งด่วนฉุกเฉินก็จัดทัพประสานกำลังคนได้ทันที,
    ..การประท้วงหรือชุมนุม เรามันยุคน้ำหมากแล้วจะไปประท้วงชุมนุมแบบเก่าๆสมัยขับไล่โทนี่คงไม่ไหวแล้วบวกมีมุกพรบ.ชุมนุมในที่สาธารณะมาสร้างกำแพงเบรคปิดกั้นประชาชนอีกของคนไม่ดีคิดหมากมาแก้ห้ามไล่ห้ามขับกูไล่กูออกง่ายๆก็ว่า,เหนื่อยร่วมชุมนุมขับไล่ก็แย่แล้วมาเจอมุกเบรคห้ามไล่กูคนชั่วง่ายๆอีก อ้างว่าเพื่อความสงบเรียบร้อยพะนะ,มุกซาตานมันกลัวถูกคนดีๆมาไล่มันนัันล่ะ,จึงต้องจัดหมากนี้เลย,คือกลุ่มภาคประชาชนจริงๆ.
    ..มีทุนมีตังสนับสนุนหน่อยคงดีมากๆอาทิ มี878อำเภอ มีสำนักงานรอรับประสานงานระดับอำเภอพอสัก878ที่,สมาชิกมีตัวยืนในแต่ละหมู่บ้านสักหมู่บ้านหรือชุมชนนั้นๆ1ถึง2คนก็คงดี สมาชิกในหมู่บ้านและหรือชุมชนนั้นๆอาจกว่า100คนก็ตาม,คนเหล่านี้อาจช่วยเชื่อมประสานงานกับระดับอำเภอแทนสะดวกได้นอกจากทางตรงเรียลไทม์แบบในเน็ต,หรือด้านธุรกรรมเอกสารนั้นเองก็ว่าประสานงานอาจดีกว่า,มี7-8หมื่นหมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศ 100กว่าคนสมาชิกแต่ละหมู่บ้านชุมชนก็พื้นๆคือ7-8ล้านคนสมาชิกกันเลย,มีอะไรๆข่าวสารข้อมูลค่าจริงไหนๆก็แจ้งลงไป ประสานงานทำความเข้าใจประชุมกันระดับหมู่บ้านได้,อาทิ ได้นายกฯจากภาคประชาชนแล้ว,นายกฯประสานสำนักงานประชุมหมู่บ้านทุกๆหมู่บ้านทั่วประเทศพร้อมกัน เรื่องรับเงินสนับสนุนประกอบสัมมาอาชีพยืนด้วยขาตนเอง งบลงไปในทุกๆหมู่บ้านและชุมชนคนละ10ล้านบาทหรือ7-8แสนล้านบาททั่วประเทศ,ประชาชนคนไหนสนใจประกอบสัมมาอาชีพอะไรมายืมตังไม่เสียดอกเบี้ยได้,บริหารจัดการโดยสำนักงานตัวแทนนี้ภาคประชาชน,ช่วยคนหมู่บ้านนั้นๆได้ทันที1,000คนหากยืมคนละ10,000บาท,ช่วยได้100คนหากยืมคนละ100,000บาท,ช่วย200คนหากยืมคนละ50,000บาท,หรือเกือบทั้งหมู่บ้านเลยนะ,ใกล้ชิดปัญหา สามารถบริหารจัดการปัญหาทันทีผ่านสำนักงานนั้นๆ,ประชุมการข่าวอื่นๆใดๆหรือภัยใดๆที่เกี่ยวกับความมั่นคั่งใดๆของชาติจะรวดเร็วทันทีด้วย,เช่นภัยคนต่างด้าวมามากไป สามารถลงมติผลักดันกลับทั้งหมดก่อนได้,เคลียร์คนไทยล้วนๆไว้ก่อน,ปัญหาภัยมั่งคั่งของชาติต่างๆจะคลายแก้ไขทันทีอย่างมากเช่นการรักษาพยายาลคนต่างด้าวต่างชาติที่มาแย่งชิงบุคลากรพยาบาลเราจนไม่พอก็จะหมดไปทันที ยาที่เพียงพอต่อคนไทยตนเองก่อน,และสาระพัดปัญหาโกลาหลใดๆที่เป็นเครื่องมือคนไม่ดีจะหมดไปทันทีด้วยเป็นต้น,นี้ก็ประชุมแจ้งค่าจริงได้หรือประชุมลงมติยึดบ่อน้ำมันคืนทั้งหมดในประเทศก็ได้ แจ้งรายละเอียดความจริงทัังหมดผ่านการประชุมของหมู่บ้านในหัวข้อสำคัญทั้งหมดและเอกสารออนไลน์หรือเอกสารรายละเอียดได้,เมื่อต้นเหตุปัญหาถูกจัดการ ต้นทุนถูกๆจะเกิดขึ้น ค่าน้ำมัน ซื้อในราคาถูกๆลิตรละ1-2บาทในประเทศแบบอิหร่าน,ราคาปุ๋ยเกษตรกรไทยอาจซื้อถูกๆของ21-0-0จากการกลั่นปิโตรเลียมที่กระสอบ30กก.กระสอบละ3-5บาทเป็นต้น เฉพาะคนไทยเราและภายในประเทศเท่านั้น,ค่าไฟฟ้าจะถูกลงทั่วประเทศด้วยทันที ค่าขนส่งต่างๆจะถูงลงทันที การขนส่งสินค้าจะไม่แพง ข้าวของจะราคาถูก คนจะใช้จ่ายไม่แพง ต้นทุนทั้งประเทศถูกหมด ส่งออกจะขายในราคาตลาดโลก สินค้าไทยเราจะแข่งขันได้ในทันที ภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายจะหมดไปถูกลง,กำไรจะเกิดแก่ทุกๆคนไทย,ไม่รวมร้านค้ากองทุนหมู่บ้านอีกที่ตังชาวบ้านคนไทยจะหมุนเวียนจริงภายในชุมชนและภายในประเทศไทย ประชาชนจะมีความรู้จริงถึงตังที่ออกไปนอกประเทศและความเสียหายที่เกิดขึ้น,ตลอดถึงทุกๆคนไทยมีกองทุนหมู่บ้านจริงเป็นของตนเองและรัฐฐะอัดตังสนับสนุนจริงเข้าไปในแต่ละหมู่บ้านชุมชนผ่านกองทุนตน,ตังที่ประชาชนนำฝากเองเข้ากองทุนอีกที่ทำสัมมาอาชีพต่างๆมีรายได้มีกำไรเกิดขึ้นอาจฝากรวมกันทั้งค้าขายออนไลน์ออฟไลน์มีร้านค้ามีตลาดชุมชนตน อาจกว่าคนละ1ล้านบาทต่อปี 40-50ล้านคน อาจสะพัดจริงในรากพื้นฐานหรือพื้นๆคือ40-50ล้านล้านบาทต่อปีของจริงมิใช่เอาพวกกิจการบริษัทต่างๆทั้งมหาชนและไม่ใช่มหาชนมาคิดมาเฉลี่ยคำนวนด้วยเลย,แต่มาจากการสะพัดตังจริงของชาวบ้านประชาชนคนไทยภายในประเทศจริงๆก็ว่า,นี้ไม่รวมรายได้รายรับจากภาครัฐบาลของประชาชนทำรายได้ตังจริงจากทรัพยากรมีค่ามากมายที่ยึดคืนมาทำเองจากเอกชนต่างชาติและเอกชนไทยที่ผูกขาดเหมือนในอดีตอีกนะ,อาจกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีอีกแบบบันทึกบัญชีจริงมิใช่แอบๆหลบๆซ่อนคตโกงทุจริตแบบในอดีตที่ปกครองกากๆที่เคยเป็นมา.
    ..ตอนนี้ประชาชนถูกทำลายให้อ่อนแอจากการปกครองของdeep stateข้ามชาติประจำประเทศไทยจากอดีตคือคณะกบฎ2475ถึงปัจจุบันก็ว่า,ปกครองให้ยากจน ให้โง่ ให้อ่อนแอ ให้เป็นหนี้ท่วมหัวล้นพ้นตัวเช่นหนี้กยศ.อยากเรียนต้องเป็นหนี้,มันมุ่งทำลายไทยตั้งแต่เยาวชนไทยกันเลยก็ว่า,กลุ่มภาคมหาประชาชนจึงต้องถือกำเนิดขึ้น,กบฎคนไทยรุ่นสุดท้ายต้องจบสิ้นในรุ่นเรา.,บ้านเมืองไทยต้องเคลียร์เราเองก่อน,และสิ้นแรกนี้จะเกิดได้ ไม่มีเหี้ยใครมาวุ่นวายในการจัดการคือถีบต่างชาติต่างด้าวทั้งหมดออกจากประเทศไทยไปในทุกๆกรณีนี้ก่อน,เปิดบ้านรับคนอื่นคนนอกมาอยู่ในบ้านตนเองนานพอแล้ว,จากนั้นย่อมสะดวกเคลียร์อะไรทำความสะอาดแบบใดๆย่อมทำง่ายขึ้นทันที.,อย่าเข้าใจผิดว่าปัญหาต่างๆไม่ได้มาจากต่างชาติต่างด้าว นัยยะปัญหามากมายหรือส่วนเกินไม่น้อยมาจากต่างด้าวต่างชาตินีัสะสมมูลเหตุเรื่อยมา,บริษัทกิจการใดๆอยากได้แรงงานถูกต่างด้าวต้องย้ายฐานย้ายโรงงานตามมันไปเลย,ชาติไทยต้องมาก่อน ทรัมป์มันยังเอาอเมริกามันก่อนนะ,เม็กซิโกมันยังสร้างกำแพงปิดพรมแดนเลย,ประเทศไทยเราปกครองเลอะเทอะนานแล้ว ผีบ้าแบบยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาตินั้นล่ะ.
    ..วิถีปกครองที่ล้มเหลว รัฐฐะล้มเหลว ผู้ปกครองผู้มีอำนาจไร้ฝีมือ มือไม่ถึง ขี้ขลาดหวาดกลัว,ประชาชนจึงมั่นคงดักดานในความยากจนไร้ยุติธรรมค้ำชูแผ่นดินตรดำรงไว้ในความยุติธรรมนั้นความดีนั้นๆ,ทหารยึดอำนาจก็เสียของ จนผีบ้าสร้างการเลือกนายกฯเสือกไม่ต้องเลือกตั้งตรงจากประชาชนได้,นายกฯไม่ซื่อสัตย์พรรคนั้นๆเสือกไม่โดยยุบเพราะเลือกนายกฯมาจากพรรคตนๆนั้นล่ะ,เสือกยังได้เสนอนายกฯคนใหม่คนต่อๆไปได้อีกโน้น,ประเทศไทยเราเหี้ยจริงๆนะ,เหีัยไม่เหี้ยดูบ่อน้ำมันไทยตนถ้าทำเองทัังหมดร่ำรวยในคนไทยทุกๆคนนานแล้ว,บ่อทองคำอีก ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไทยตนเองมันมั่นคั่งโคตรๆเลยแล้ว,เรามีผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจที่ทรยศเป็นกบฎต่อประชาชนคนไทยตนเองเสียเองจริงๆนะ.,แม้แต่คนเรียนจบสูงๆที่มีเต็มทั่วทั้งประเทศ ส่วนใหญ่ยิ่งไร้ค่านัก ตำแหน่งมากมายเต็มระบบราชการไทยแต่มิอาจปกป้องอธิปไตยแผ่นดินดินไทยบนตำแหน่งอำนาจหน้าที่ที่ตนเองปฎิบัติทำงานบนแผ่นดินไทยตนเองนีัได้เลย,แดกตังแผ่นดิน,กินเงินหลวงกินเงินเดือนงบประมาณแผ่นดินตนชั่งเสียของนัก.
    ..ความเห็นส่วนตัวครับ,ยามเฝ้าแผ่นดิน(เราคือประชาชน,ทหารภาคประชาชน)วงเล็บแบบนี้ไปด้วย เสมือนใส่จิตวิญญาณในสถานะว่าเราคือคนของแผ่นดินไทยแบบชัดเจนทันทีไปในตัวเลย. ..อนาคตสามารถต่อยอดสถานะตัวแทนภาคประชาชนไปได้หลากหลายลักษณะ หรือเสมือนทัพใหญ่มีกองกำลังทางทหารภาคประชาชนที่40-50ล้านคน,จัดเป็นทัพย่อยต่างๆสาระพัดทัพ,อาทิ ทัพตัวแทนภาคการปกครอง,ทำหน้าที่ยึดฐานอำนาจภาคการปกครองของประเทศปกป้องประชาชนคนทั้งประเทศระดับแรกต้นและหลัก,วางรากฐานทัพย่อยๆให้มั่นคง สร้างทหารภาคประชาชนรุ่นใหม่ๆได้ต่อเนื่อง,ใช้สัก20-30ล้านคนกาลงคะแนนเสียงสนับสนุนตัวแทนภาคประชาชนจริงขึ้นไปปกครองประเทศกำหนดทิศทางประเทศในทางที่ดีได้เต็มที่สมบูรณ์สุดซอยชัดเจนด้วย.,ทัพย่อยอื่นๆสร้างสรรค์จัดทัพตามสภาวะการณ์สงครามทั้งระยะสั้น กลาง ยาว อนาคต ก็ว่าไปหรือเร่งด่วนฉุกเฉินก็จัดทัพประสานกำลังคนได้ทันที, ..การประท้วงหรือชุมนุม เรามันยุคน้ำหมากแล้วจะไปประท้วงชุมนุมแบบเก่าๆสมัยขับไล่โทนี่คงไม่ไหวแล้วบวกมีมุกพรบ.ชุมนุมในที่สาธารณะมาสร้างกำแพงเบรคปิดกั้นประชาชนอีกของคนไม่ดีคิดหมากมาแก้ห้ามไล่ห้ามขับกูไล่กูออกง่ายๆก็ว่า,เหนื่อยร่วมชุมนุมขับไล่ก็แย่แล้วมาเจอมุกเบรคห้ามไล่กูคนชั่วง่ายๆอีก อ้างว่าเพื่อความสงบเรียบร้อยพะนะ,มุกซาตานมันกลัวถูกคนดีๆมาไล่มันนัันล่ะ,จึงต้องจัดหมากนี้เลย,คือกลุ่มภาคประชาชนจริงๆ. ..มีทุนมีตังสนับสนุนหน่อยคงดีมากๆอาทิ มี878อำเภอ มีสำนักงานรอรับประสานงานระดับอำเภอพอสัก878ที่,สมาชิกมีตัวยืนในแต่ละหมู่บ้านสักหมู่บ้านหรือชุมชนนั้นๆ1ถึง2คนก็คงดี สมาชิกในหมู่บ้านและหรือชุมชนนั้นๆอาจกว่า100คนก็ตาม,คนเหล่านี้อาจช่วยเชื่อมประสานงานกับระดับอำเภอแทนสะดวกได้นอกจากทางตรงเรียลไทม์แบบในเน็ต,หรือด้านธุรกรรมเอกสารนั้นเองก็ว่าประสานงานอาจดีกว่า,มี7-8หมื่นหมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศ 100กว่าคนสมาชิกแต่ละหมู่บ้านชุมชนก็พื้นๆคือ7-8ล้านคนสมาชิกกันเลย,มีอะไรๆข่าวสารข้อมูลค่าจริงไหนๆก็แจ้งลงไป ประสานงานทำความเข้าใจประชุมกันระดับหมู่บ้านได้,อาทิ ได้นายกฯจากภาคประชาชนแล้ว,นายกฯประสานสำนักงานประชุมหมู่บ้านทุกๆหมู่บ้านทั่วประเทศพร้อมกัน เรื่องรับเงินสนับสนุนประกอบสัมมาอาชีพยืนด้วยขาตนเอง งบลงไปในทุกๆหมู่บ้านและชุมชนคนละ10ล้านบาทหรือ7-8แสนล้านบาททั่วประเทศ,ประชาชนคนไหนสนใจประกอบสัมมาอาชีพอะไรมายืมตังไม่เสียดอกเบี้ยได้,บริหารจัดการโดยสำนักงานตัวแทนนี้ภาคประชาชน,ช่วยคนหมู่บ้านนั้นๆได้ทันที1,000คนหากยืมคนละ10,000บาท,ช่วยได้100คนหากยืมคนละ100,000บาท,ช่วย200คนหากยืมคนละ50,000บาท,หรือเกือบทั้งหมู่บ้านเลยนะ,ใกล้ชิดปัญหา สามารถบริหารจัดการปัญหาทันทีผ่านสำนักงานนั้นๆ,ประชุมการข่าวอื่นๆใดๆหรือภัยใดๆที่เกี่ยวกับความมั่นคั่งใดๆของชาติจะรวดเร็วทันทีด้วย,เช่นภัยคนต่างด้าวมามากไป สามารถลงมติผลักดันกลับทั้งหมดก่อนได้,เคลียร์คนไทยล้วนๆไว้ก่อน,ปัญหาภัยมั่งคั่งของชาติต่างๆจะคลายแก้ไขทันทีอย่างมากเช่นการรักษาพยายาลคนต่างด้าวต่างชาติที่มาแย่งชิงบุคลากรพยาบาลเราจนไม่พอก็จะหมดไปทันที ยาที่เพียงพอต่อคนไทยตนเองก่อน,และสาระพัดปัญหาโกลาหลใดๆที่เป็นเครื่องมือคนไม่ดีจะหมดไปทันทีด้วยเป็นต้น,นี้ก็ประชุมแจ้งค่าจริงได้หรือประชุมลงมติยึดบ่อน้ำมันคืนทั้งหมดในประเทศก็ได้ แจ้งรายละเอียดความจริงทัังหมดผ่านการประชุมของหมู่บ้านในหัวข้อสำคัญทั้งหมดและเอกสารออนไลน์หรือเอกสารรายละเอียดได้,เมื่อต้นเหตุปัญหาถูกจัดการ ต้นทุนถูกๆจะเกิดขึ้น ค่าน้ำมัน ซื้อในราคาถูกๆลิตรละ1-2บาทในประเทศแบบอิหร่าน,ราคาปุ๋ยเกษตรกรไทยอาจซื้อถูกๆของ21-0-0จากการกลั่นปิโตรเลียมที่กระสอบ30กก.กระสอบละ3-5บาทเป็นต้น เฉพาะคนไทยเราและภายในประเทศเท่านั้น,ค่าไฟฟ้าจะถูกลงทั่วประเทศด้วยทันที ค่าขนส่งต่างๆจะถูงลงทันที การขนส่งสินค้าจะไม่แพง ข้าวของจะราคาถูก คนจะใช้จ่ายไม่แพง ต้นทุนทั้งประเทศถูกหมด ส่งออกจะขายในราคาตลาดโลก สินค้าไทยเราจะแข่งขันได้ในทันที ภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายจะหมดไปถูกลง,กำไรจะเกิดแก่ทุกๆคนไทย,ไม่รวมร้านค้ากองทุนหมู่บ้านอีกที่ตังชาวบ้านคนไทยจะหมุนเวียนจริงภายในชุมชนและภายในประเทศไทย ประชาชนจะมีความรู้จริงถึงตังที่ออกไปนอกประเทศและความเสียหายที่เกิดขึ้น,ตลอดถึงทุกๆคนไทยมีกองทุนหมู่บ้านจริงเป็นของตนเองและรัฐฐะอัดตังสนับสนุนจริงเข้าไปในแต่ละหมู่บ้านชุมชนผ่านกองทุนตน,ตังที่ประชาชนนำฝากเองเข้ากองทุนอีกที่ทำสัมมาอาชีพต่างๆมีรายได้มีกำไรเกิดขึ้นอาจฝากรวมกันทั้งค้าขายออนไลน์ออฟไลน์มีร้านค้ามีตลาดชุมชนตน อาจกว่าคนละ1ล้านบาทต่อปี 40-50ล้านคน อาจสะพัดจริงในรากพื้นฐานหรือพื้นๆคือ40-50ล้านล้านบาทต่อปีของจริงมิใช่เอาพวกกิจการบริษัทต่างๆทั้งมหาชนและไม่ใช่มหาชนมาคิดมาเฉลี่ยคำนวนด้วยเลย,แต่มาจากการสะพัดตังจริงของชาวบ้านประชาชนคนไทยภายในประเทศจริงๆก็ว่า,นี้ไม่รวมรายได้รายรับจากภาครัฐบาลของประชาชนทำรายได้ตังจริงจากทรัพยากรมีค่ามากมายที่ยึดคืนมาทำเองจากเอกชนต่างชาติและเอกชนไทยที่ผูกขาดเหมือนในอดีตอีกนะ,อาจกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีอีกแบบบันทึกบัญชีจริงมิใช่แอบๆหลบๆซ่อนคตโกงทุจริตแบบในอดีตที่ปกครองกากๆที่เคยเป็นมา. ..ตอนนี้ประชาชนถูกทำลายให้อ่อนแอจากการปกครองของdeep stateข้ามชาติประจำประเทศไทยจากอดีตคือคณะกบฎ2475ถึงปัจจุบันก็ว่า,ปกครองให้ยากจน ให้โง่ ให้อ่อนแอ ให้เป็นหนี้ท่วมหัวล้นพ้นตัวเช่นหนี้กยศ.อยากเรียนต้องเป็นหนี้,มันมุ่งทำลายไทยตั้งแต่เยาวชนไทยกันเลยก็ว่า,กลุ่มภาคมหาประชาชนจึงต้องถือกำเนิดขึ้น,กบฎคนไทยรุ่นสุดท้ายต้องจบสิ้นในรุ่นเรา.,บ้านเมืองไทยต้องเคลียร์เราเองก่อน,และสิ้นแรกนี้จะเกิดได้ ไม่มีเหี้ยใครมาวุ่นวายในการจัดการคือถีบต่างชาติต่างด้าวทั้งหมดออกจากประเทศไทยไปในทุกๆกรณีนี้ก่อน,เปิดบ้านรับคนอื่นคนนอกมาอยู่ในบ้านตนเองนานพอแล้ว,จากนั้นย่อมสะดวกเคลียร์อะไรทำความสะอาดแบบใดๆย่อมทำง่ายขึ้นทันที.,อย่าเข้าใจผิดว่าปัญหาต่างๆไม่ได้มาจากต่างชาติต่างด้าว นัยยะปัญหามากมายหรือส่วนเกินไม่น้อยมาจากต่างด้าวต่างชาตินีัสะสมมูลเหตุเรื่อยมา,บริษัทกิจการใดๆอยากได้แรงงานถูกต่างด้าวต้องย้ายฐานย้ายโรงงานตามมันไปเลย,ชาติไทยต้องมาก่อน ทรัมป์มันยังเอาอเมริกามันก่อนนะ,เม็กซิโกมันยังสร้างกำแพงปิดพรมแดนเลย,ประเทศไทยเราปกครองเลอะเทอะนานแล้ว ผีบ้าแบบยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาตินั้นล่ะ. ..วิถีปกครองที่ล้มเหลว รัฐฐะล้มเหลว ผู้ปกครองผู้มีอำนาจไร้ฝีมือ มือไม่ถึง ขี้ขลาดหวาดกลัว,ประชาชนจึงมั่นคงดักดานในความยากจนไร้ยุติธรรมค้ำชูแผ่นดินตรดำรงไว้ในความยุติธรรมนั้นความดีนั้นๆ,ทหารยึดอำนาจก็เสียของ จนผีบ้าสร้างการเลือกนายกฯเสือกไม่ต้องเลือกตั้งตรงจากประชาชนได้,นายกฯไม่ซื่อสัตย์พรรคนั้นๆเสือกไม่โดยยุบเพราะเลือกนายกฯมาจากพรรคตนๆนั้นล่ะ,เสือกยังได้เสนอนายกฯคนใหม่คนต่อๆไปได้อีกโน้น,ประเทศไทยเราเหี้ยจริงๆนะ,เหีัยไม่เหี้ยดูบ่อน้ำมันไทยตนถ้าทำเองทัังหมดร่ำรวยในคนไทยทุกๆคนนานแล้ว,บ่อทองคำอีก ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไทยตนเองมันมั่นคั่งโคตรๆเลยแล้ว,เรามีผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจที่ทรยศเป็นกบฎต่อประชาชนคนไทยตนเองเสียเองจริงๆนะ.,แม้แต่คนเรียนจบสูงๆที่มีเต็มทั่วทั้งประเทศ ส่วนใหญ่ยิ่งไร้ค่านัก ตำแหน่งมากมายเต็มระบบราชการไทยแต่มิอาจปกป้องอธิปไตยแผ่นดินดินไทยบนตำแหน่งอำนาจหน้าที่ที่ตนเองปฎิบัติทำงานบนแผ่นดินไทยตนเองนีัได้เลย,แดกตังแผ่นดิน,กินเงินหลวงกินเงินเดือนงบประมาณแผ่นดินตนชั่งเสียของนัก.
    ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 2/2568
    ประเทศไทยไร้ทางออก คนเลวต้องไม่มีที่ยืนในสังคม...(uncut)
    สนธิ ลิ้มทองกุล

    สมัครสมาชิกยามเฝ้าแผ่นดิน
    "ทวงความถูกต้องให้คนไทย"
    คลิ๊กลิงค์ : https://shorturl.asia/ksaHh
    0 Comments 0 Shares 402 Views 189 0 Reviews

  • อันตรายมากๆ,นี้ถ้าใช้ตังดิจิดัลนะยิ่งโคตรอันตรายมหาศาลความเสี่ยงสูงหลายเท่า,จริงๆรัฐบาลควรลงมาควบคุมและดำเนินการเองทั้งกมด,ยกเลิกใบอนุญาตทุกๆรายที่ปล่อยไป,นี้คือความมั่นคงอีกนัยยะหนึ่งแห่งโลกยุคต่อไป,แต่รัฐบาลเราผีบ้า ไปยกให้เอกชนทำ,ผูกขาดอีกด้วย,เสือกไม่ทำเอง ให้บริการถูกๆแบบสาธารณะเป็นธรรม กระทั้งปล่อยคลื่นเน็ตฟรีๆทั่วไทยก็ได้,จะสิ้นเปลืองงบดูแลรักษาระบบอะไร,ยิ่งดาวเทียมเน็ตยิ่งตรงลงมือถือประชาชนแบบฟรีอีก เหมือนระบบstarlinkแต่ไทยเราไม่เก็บตังอะไรแก่คนไทยสัญชาติไทย,1idบัตร 1ชิมมือถือ เข้าโค้ตยืนยันสถานะคนไทยก็ใช้เน็ตฟรีทั่วไทย อำนวยการแข่งขันทางเศรษฐกิจและการเรียนรู้ประชาชนจริงอีก,กำจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ด้วยเพราะบัตรประชาชนต่อ1ซิมแค่นั้น,โละของเก่าทิ้งทั้งหมด,ติดตามใครที่กระทำผิดสายโชเชียล&ดูดตังประชาชนคนไทยได้สาระพัดอีก.,นี้คือความมั่นคงทางข้อมูลดาต้าของประชาชนจริงๆ,แก้ไขทันทีเมื่อผิดพลาด,อย่าไม่แก้ไขและให้เอกชนร่ำรวยบนความเอารัดเอาเปรียบประชาชนในความยากจนอีกเลย,ทาสคนไทยต้องจ่ายค่าดำรงชีวิตค่าคุ้มครองการสื่อสารทุกๆเดือนหรือรายปีจริงๆ เราจะมีวิถีการปกครองเพื่ออำนวยให้คนไทยประชาชนคนไทยเป็นทาสสไตล์ต่างๆอีกนานมั้ย,แล้วจะเก็บการปกครองที่ปล้นความร่ำรวยมั่งคั่งของประชาชนไว้ทำไม.
    https://www.amarintv.com/spotlight/business-marketing/514934
    อันตรายมากๆ,นี้ถ้าใช้ตังดิจิดัลนะยิ่งโคตรอันตรายมหาศาลความเสี่ยงสูงหลายเท่า,จริงๆรัฐบาลควรลงมาควบคุมและดำเนินการเองทั้งกมด,ยกเลิกใบอนุญาตทุกๆรายที่ปล่อยไป,นี้คือความมั่นคงอีกนัยยะหนึ่งแห่งโลกยุคต่อไป,แต่รัฐบาลเราผีบ้า ไปยกให้เอกชนทำ,ผูกขาดอีกด้วย,เสือกไม่ทำเอง ให้บริการถูกๆแบบสาธารณะเป็นธรรม กระทั้งปล่อยคลื่นเน็ตฟรีๆทั่วไทยก็ได้,จะสิ้นเปลืองงบดูแลรักษาระบบอะไร,ยิ่งดาวเทียมเน็ตยิ่งตรงลงมือถือประชาชนแบบฟรีอีก เหมือนระบบstarlinkแต่ไทยเราไม่เก็บตังอะไรแก่คนไทยสัญชาติไทย,1idบัตร 1ชิมมือถือ เข้าโค้ตยืนยันสถานะคนไทยก็ใช้เน็ตฟรีทั่วไทย อำนวยการแข่งขันทางเศรษฐกิจและการเรียนรู้ประชาชนจริงอีก,กำจัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ด้วยเพราะบัตรประชาชนต่อ1ซิมแค่นั้น,โละของเก่าทิ้งทั้งหมด,ติดตามใครที่กระทำผิดสายโชเชียล&ดูดตังประชาชนคนไทยได้สาระพัดอีก.,นี้คือความมั่นคงทางข้อมูลดาต้าของประชาชนจริงๆ,แก้ไขทันทีเมื่อผิดพลาด,อย่าไม่แก้ไขและให้เอกชนร่ำรวยบนความเอารัดเอาเปรียบประชาชนในความยากจนอีกเลย,ทาสคนไทยต้องจ่ายค่าดำรงชีวิตค่าคุ้มครองการสื่อสารทุกๆเดือนหรือรายปีจริงๆ เราจะมีวิถีการปกครองเพื่ออำนวยให้คนไทยประชาชนคนไทยเป็นทาสสไตล์ต่างๆอีกนานมั้ย,แล้วจะเก็บการปกครองที่ปล้นความร่ำรวยมั่งคั่งของประชาชนไว้ทำไม. https://www.amarintv.com/spotlight/business-marketing/514934
    WWW.AMARINTV.COM
    สรุป #ทรูล่ม เน็ต-มือถือใช้ไม่ได้ ผู้ใช้บ่นระงม งานนี้ใครต้องรับผิดชอบ?
    ทรูล่มทั่วประเทศตั้งแต่เช้า ผู้ใช้งานเดือดร้อนทั้งอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ ขึ้นเทรนด์ #ทรูล่ม อันดับ 1 บนโซเชียล ขณะที่ กสทช. เร่งติดตามและขอคำชี้แจงจากทรู ด้านผู้บริโภคเรียกร้องความรับผิดชอบและการเยียวยา พร้อมตั้งคำถามถึงแผนควบรวมทรู-ดีแทคที่อาจกระทบเสถียรภาพระบบเครือข่ายในอนาคต
    0 Comments 0 Shares 292 Views 0 Reviews
  • อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !!
    .
    อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ
    .
    #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป”
    .
    โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ
    .
    และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา
    .
    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !! . อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ . #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป” . โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ . และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา . #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 Comments 0 Shares 502 Views 1 0 Reviews
  • อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !!
    .
    อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ
    .
    #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป”
    .
    โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ
    .
    และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา
    .
    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !! . อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ . #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป” . โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ . และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา . #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 Comments 0 Shares 439 Views 7 0 Reviews
  • อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !!

    อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ

    #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป”

    โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ

    และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !! อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป” โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 Comments 0 Shares 344 Views 0 Reviews
  • อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !!

    อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ

    #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป”

    โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ

    และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !! อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป” โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 Comments 0 Shares 355 Views 0 Reviews
  • อียูประกาศยกเลิกคว่ำบาตรซีเรีย หลังจากสหรัฐประกาศยกเลิกไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา

    หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป "คาจา คัลลาส" ประกาศเมื่อวันอังคารว่า จะยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจทั้งหมดต่อซีเรีย โดยมุ่งหวังที่จะสนับสนุนประชาชนซีเรียและส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

    ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรีย "อาซาด อัล-ชาอิบานี" เรียกร้องให้ตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่ครอบคลุมด้านการเงินและธนาคาร ซึ่งจะทำให้ธนาคารซีเรียสามารถเข้าสู่ระบบทั่วโลกได้ และต้องการให้ยกเลิกอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางด้วย

    👉 ตลอดเวลาที่ผ่านมาจากการรวมหัวกันใช้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรปอย่างรุนแรง ทำให้ประชากรซีเรียมากกว่า 90% ต้องเผชิญกับความยากจน และ 12 ล้านคนอยู่ในภาวะการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง!!

    นักวิจารณ์เตือนถึง การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรป อย่างรวดเร็วเช่นนี้ อาจทำให้การปกครองแบบกลุ่มก่อการร้าย HTS กลับมาแข้มแข็ง และจะเกิดสงครามกลางเมืองจากชนกลุ่มน้อยภายในซีเรียที่หวั่นเกรงแนวนโยบายบริหารของอดีตผู้ก่อการร้าย

    เช่นเดียวกับมาร์โก รูบิโอ เพิ่งตอบคำถามในรัฐสภาสหรัฐว่า แนวโน้มของซีเรียกำลังย่างก้าวเข้าสู่สงครามกลางเมืองในเร็ววันนี้
    อียูประกาศยกเลิกคว่ำบาตรซีเรีย หลังจากสหรัฐประกาศยกเลิกไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป "คาจา คัลลาส" ประกาศเมื่อวันอังคารว่า จะยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจทั้งหมดต่อซีเรีย โดยมุ่งหวังที่จะสนับสนุนประชาชนซีเรียและส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรีย "อาซาด อัล-ชาอิบานี" เรียกร้องให้ตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่ครอบคลุมด้านการเงินและธนาคาร ซึ่งจะทำให้ธนาคารซีเรียสามารถเข้าสู่ระบบทั่วโลกได้ และต้องการให้ยกเลิกอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางด้วย 👉 ตลอดเวลาที่ผ่านมาจากการรวมหัวกันใช้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรปอย่างรุนแรง ทำให้ประชากรซีเรียมากกว่า 90% ต้องเผชิญกับความยากจน และ 12 ล้านคนอยู่ในภาวะการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง!! นักวิจารณ์เตือนถึง การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรป อย่างรวดเร็วเช่นนี้ อาจทำให้การปกครองแบบกลุ่มก่อการร้าย HTS กลับมาแข้มแข็ง และจะเกิดสงครามกลางเมืองจากชนกลุ่มน้อยภายในซีเรียที่หวั่นเกรงแนวนโยบายบริหารของอดีตผู้ก่อการร้าย เช่นเดียวกับมาร์โก รูบิโอ เพิ่งตอบคำถามในรัฐสภาสหรัฐว่า แนวโน้มของซีเรียกำลังย่างก้าวเข้าสู่สงครามกลางเมืองในเร็ววันนี้
    0 Comments 0 Shares 333 Views 0 Reviews
  • ..ใครเป็นคนกำหนดต้นทุนชีวิตประชาชนคนไทยเรา,ไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบโดยคนปกครองเราหรือให้หน้าม้ามาบิดเบือนว่า ต้นทุนชีวิตคนเราไม่เท่ากัน,เพราะเหี้ยไปควบคุมต้นทุนชีวิตเขาให้เราคนไทยลำบากไง,หรือถูกทำให้ยากจน ให้โง่ อย่าให้เล่าเรียนสูงนัก จะได้มาเป็นขี้ข้ารับใช้สะดวกขึ้นในกิจการมัน,คนไทยทำชีวิตพอดีพอเพียงได้สบาย,แต่ถูกทำให้ด้อยค่าให้ทุกข์ให้ยากจน,ถ้ารัฐกำหนดกฎหมายใหม่ว่า สัมปทานบ่อน้ำมันที่ให้ไปไม่ชอบด้วยความยุติธรรมแล้วโมฆะทั้งหมด,ด้วยคนยุคปัจจุบันใช้น้ำมันใช้แก๊สเป็นวัตถุดิบพื้นฐานของทุกๆต้นทุนชีวิตดำรงชีพ,ค่าใช้จ่ายค่าครองชีพค่าสินค้าค่าขนส่งและใดๆอื่นใดจะลดลงมากมายทันที,ประชาชนจะใช้ชีวิตมิใช่แบบดิ้นรนบ้าคลั่งร่ำรวยหนี้เช่นปัจจุบันแน่นอน.

    https://youtube.com/shorts/WkLIOqEfGZU?si=DU0kms3m51eAixfw
    ..ใครเป็นคนกำหนดต้นทุนชีวิตประชาชนคนไทยเรา,ไม่ใช่ปัดความรับผิดชอบโดยคนปกครองเราหรือให้หน้าม้ามาบิดเบือนว่า ต้นทุนชีวิตคนเราไม่เท่ากัน,เพราะเหี้ยไปควบคุมต้นทุนชีวิตเขาให้เราคนไทยลำบากไง,หรือถูกทำให้ยากจน ให้โง่ อย่าให้เล่าเรียนสูงนัก จะได้มาเป็นขี้ข้ารับใช้สะดวกขึ้นในกิจการมัน,คนไทยทำชีวิตพอดีพอเพียงได้สบาย,แต่ถูกทำให้ด้อยค่าให้ทุกข์ให้ยากจน,ถ้ารัฐกำหนดกฎหมายใหม่ว่า สัมปทานบ่อน้ำมันที่ให้ไปไม่ชอบด้วยความยุติธรรมแล้วโมฆะทั้งหมด,ด้วยคนยุคปัจจุบันใช้น้ำมันใช้แก๊สเป็นวัตถุดิบพื้นฐานของทุกๆต้นทุนชีวิตดำรงชีพ,ค่าใช้จ่ายค่าครองชีพค่าสินค้าค่าขนส่งและใดๆอื่นใดจะลดลงมากมายทันที,ประชาชนจะใช้ชีวิตมิใช่แบบดิ้นรนบ้าคลั่งร่ำรวยหนี้เช่นปัจจุบันแน่นอน. https://youtube.com/shorts/WkLIOqEfGZU?si=DU0kms3m51eAixfw
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • ..การศึกษาไทย ผู้นำทุกๆยุคสมัยล้วนต่างมองข้ามและไม่จริงใจในการส่งเสริมสนับสนุนลูกหลานเยาวชนไทยตนเล่าเรียนดีๆมีคุณภาพและฟรีจริงตลอดการศึกษา,ปัญหานี้ลูกหลานคนต่างด้าวต่างชาติคนเถื่อนเต็มแผ่นดินไทยล้วนคือตัวปัญหาหลักด้วยในการแย่งชิงทรัพยากรของมิติตังสนับสนุนการศึกษาของคนไทยเรา,การผลักดันคนต่างด้าวออกจากประเทศไทยจึงต้องชัดเจนทันทีและเร่งรีบผลักดันไปให้หมด,จะแก้ปมปัญหาภายในสังคมไทยมากมายหลากหลายมิติได้ด้วย มิใช่แค่การศึกษาที่ต่างมาแย่งชิงทรัพยากรเราแบบการรักษาพยาบาลนั้นล่ะ,ตังมากมายต้องสูญเสียไปเพื่อคนต่างชาติต่างประเทศ&ต่างด้าวด้วย,
    ..การศึกษาไทยเราถึงเวลาเรียนฟรีแล้วจริงๆและขยายจริงประกาศชัดเจนอย่างเป็นทางการว่า ตามใจผู้เรียน ช่วงไหนก็ได้เมื่อผ่านภาคบังคับปกติก็ตาม,ภาคบังคับปกตยุคใหม่ในอนาคตคือ อนุบาล ประถม ม.ต้น ม.ปลาย(หรือปวช.ก็ได้),ถึงสายอาชีพใดๆก็ด้วยหรือมหาลัย ป.ตรี ป.โท ป.เอก ก็ตาม เหล่านี้เรียนฟรีหมด,และโรงเรียนรัฐ มหาลัยรัฐทั้งหมดจะถูกดึงกลับมาในระบบที่รัฐควบคุม100%ทั้งหมดมิใช่ออกจากระบบแบบปัจจุบัน,เอกชนทั้งหมดไม่มีตังใดๆที่รัฐสนับสนุนทุกๆกรณี,และต้องเป็นไปในมาตราฐานพื้นฐานแห่งรัฐด้วยในเอกชนที่เปิดสถานศึกษานั้นๆ,ประเมินตามกำหนดนั้นเอง.
    ..เด็กๆเยาวชนเรียนภาคบังคับคืออนุบาลถึงป.ตรี รวมทั้งหมด19ปีซึ่งเรียนฟรีทั้งหมดจริง.,จบมามีตังสนับสนุนฟรีๆสร้างสัมมาอาชีพที่ต้องการเริ่มต้นได้ทันทีคนละ100,000บาท เป็นต้น,นี้วิวัฒนาการระบบการศึกษาไทยเราต้องสร้างคนไทยกันในระดับนี้ได้แล้ว,มีใช่อยากเรียนต้องเป็นหนี้,&กู้กยศ.จนขายที่ดินขายบ้านขายรถสิ้นสัมมาอาชีพติดวงจรอุบาทก์แห่งหนี้ไม่จบไม่สิ้น,ขนาดสว.ในยุคนั้นๆยังขัดขวางไม่ล้างหนี้เยาวชนไทยจริงในช่วงเดียวกันกับอเมริกาล้างหนีันักเรียนนักศึกษาเขาทันทีถึงคนละ350,000บาทถึง700,000บาทต่อคนในเบื้องต้นฟรีๆกันก็ว่า,หรือ10,000-20,000$ต่อคนอเมริกาที่เป็นหนี้กยศ.ในบ้านเขา,ขนาดเขาเองมีหนี้สะสมถึง30ล้านล้านเหรียญนะนั้น ปัจจุบันกว่า36-37ล้านล้านเหรียญแล้วคงไม่เกิน5ปีหนี้อาจถึง100ล้านล้านเหรียญก็ว่า ไบเดลยังล้างหนี้ช่วยบางส่วนเลย,ถ้าคนไทยตัง350,000-700,000฿มันล้างหนี้ทันทีหลายล้านบัญชีกันเลยล่ะ,แต่สว.ไม่อนุมัติ ซึ่งสส.หมายจะล้างหนี้เลย แต่สส.ทรยศ.ไม่สนใจลูกหลานคนไทยก็ดึงงานไว้จนลากให้สว.ดึงไปด้วย,แต่เงื่อนไขผีบ้ามุกไม่ล้างหนี้อะไรจริงใจเลย ให้ชำระหนี้เหมือนเดิมไม่จริงใจอะไรในการปกครองประเทศของผู้นำ,จริงใจแค่ยกบ่อน้ำมันเปิดสัมปทานบ้าบอให้ต่างชาติทำตังจนร่ำรวยมั่งคั่งแทนคนไทย,รายได้กำไรถ้าเปิดกันจริงๆมันกว่าปีละหลายสิบล้านล้านบาทแน่นอน เอามาส่งเสริมสนับสนุนการสร้างคนไทยพัฒนาคุณภาพองค์รอบรู้องค์รู้คนไทยฟรีๆได้มากมายเหลือล้น,เรียนฟรีแทบขนหน้าแข้งตังคลังของแผ่นดินไทยไม่ร่วงอะไร,นี้คือการปกครองที่ผิดพลาดและล้มเหลวด้านการปกครองสิ้นเชิง,ผีบ้าผู้นำผู้ปกครองห่าอะไรไปยกโคตรทำตังโคตรสร้างความร่ำรวยให้คนอื่นไป ตนเองเสือกไม่มีอะไรเลยแม้เนื้อปิโตรเลียมยังไม่มีสิทธิ์ได้บนแผ่นดินไทยตนแท้ๆ,ขายความมั่งคั่งร่ำรวยแก่คนอื่น มันผีบ้าจริงๆนะ.,เสือกมีอำนาจ มีตำแหน่งในการปกครองประเทศ.,เรามียุคการปกครองของคนปกครองที่ไม่รักประชาชนคนไทย รักประเทศไทยตนเอง,ขลาดกลัว เห็นแก่ตัวและเดอะแก๊งมันๆ,ไม่สมควรอนุรักษ์ไว้หรือเก็บรักษาไว้เลยคนพวกนี้ หนักแผ่นดินไทย ถ่วงความพ้นทุกข์พ้นยากจนคนไทยคู่ศีลธรรมอันดีมากมายด้วย,จนเสื่อมไปทุกๆด้านในปัจจุบันเพราะหมายเข้ามาปกครองเพื่อทำลายความดีทุกๆมิตินั้นเองก็ว่าด้วย.
    ..ผู้ปกครองในยุคสมัยปัจจุบันนี้ จริงๆลูกหลานเราสมควรเล่าเรียนฟรีไร้ค่าใช้จ่ายเรี่ยไรใดๆอีกเลยในกระบวนการเล่าเรียนตลอดเทอมการเรียนการสอนและผู้ปกครองก็ไร้ชำระค่าใช้จ่ายใดๆด้วย,เยาวชนไทยเราแค่10ล้านกว่าคนเองแบบคำนวนสูงสุดไว้,คนละ100,000บาทต่อปี แค่1ล้านล้านบาทเองต่อปี,นักการเมืองโกงชาติ ต่างชาติมาปล้มทรัพยากรมีค่ามากมายผ่านสัมปทานหรือการผูกขาดกิจการใดๆในไทย มันเดอะแก๊งมันเหล่านี้ ไทยเราสูญเสียโดยเปล่าประโยชน์แก่พวกมันไปอาจกว่าปีละ10ล้านล้านบาทกันเลยทีเดียว.,เรามีวิถีการปกครองที่เป็นภัยต่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศเสียเอง,เช่นนั้น จะเอาวิธีการสัมปทานส่งเข้าสภาสส.สว.ร่วมแสดงความเห็นตีแผ่ความจริงออกสู่สายตาประชาชนคนไทยทั้งประเทศมิใช่ปกปิดจนถึงปัจจุบันทั้งแสดงเหตุอันเป็นเท็จต่อดาต้าข้อมูลทั้งหมดที่ปกปิดไว้,ตัดสินใจกันเองในผลกระทบที่ทั้งประเทศได้รับผลกระทบตรงจากมันจริงๆ,เช่นข้าวของแพงทั้งแผ่นดิน,ต้นทุนแพงรอบทิศกระทบทุกๆการดำรงชีวิตของคนไทย,เสือกไม่นำเข้าสภาอภิปรายบอกกล่าวเล่าความจริงห่าอะไร,
    ..เรามีวิถีการปกครองที่ล้มเหลวและเป็นความมั่นคงเสียเองต่อคนไทยทุกๆคนจึงไม่ผิดไปจากนี้ใดๆเลย.


    https://youtu.be/aCut0LQPS5s?si=NXRiwMESVBLsjO3z
    ..การศึกษาไทย ผู้นำทุกๆยุคสมัยล้วนต่างมองข้ามและไม่จริงใจในการส่งเสริมสนับสนุนลูกหลานเยาวชนไทยตนเล่าเรียนดีๆมีคุณภาพและฟรีจริงตลอดการศึกษา,ปัญหานี้ลูกหลานคนต่างด้าวต่างชาติคนเถื่อนเต็มแผ่นดินไทยล้วนคือตัวปัญหาหลักด้วยในการแย่งชิงทรัพยากรของมิติตังสนับสนุนการศึกษาของคนไทยเรา,การผลักดันคนต่างด้าวออกจากประเทศไทยจึงต้องชัดเจนทันทีและเร่งรีบผลักดันไปให้หมด,จะแก้ปมปัญหาภายในสังคมไทยมากมายหลากหลายมิติได้ด้วย มิใช่แค่การศึกษาที่ต่างมาแย่งชิงทรัพยากรเราแบบการรักษาพยาบาลนั้นล่ะ,ตังมากมายต้องสูญเสียไปเพื่อคนต่างชาติต่างประเทศ&ต่างด้าวด้วย, ..การศึกษาไทยเราถึงเวลาเรียนฟรีแล้วจริงๆและขยายจริงประกาศชัดเจนอย่างเป็นทางการว่า ตามใจผู้เรียน ช่วงไหนก็ได้เมื่อผ่านภาคบังคับปกติก็ตาม,ภาคบังคับปกตยุคใหม่ในอนาคตคือ อนุบาล ประถม ม.ต้น ม.ปลาย(หรือปวช.ก็ได้),ถึงสายอาชีพใดๆก็ด้วยหรือมหาลัย ป.ตรี ป.โท ป.เอก ก็ตาม เหล่านี้เรียนฟรีหมด,และโรงเรียนรัฐ มหาลัยรัฐทั้งหมดจะถูกดึงกลับมาในระบบที่รัฐควบคุม100%ทั้งหมดมิใช่ออกจากระบบแบบปัจจุบัน,เอกชนทั้งหมดไม่มีตังใดๆที่รัฐสนับสนุนทุกๆกรณี,และต้องเป็นไปในมาตราฐานพื้นฐานแห่งรัฐด้วยในเอกชนที่เปิดสถานศึกษานั้นๆ,ประเมินตามกำหนดนั้นเอง. ..เด็กๆเยาวชนเรียนภาคบังคับคืออนุบาลถึงป.ตรี รวมทั้งหมด19ปีซึ่งเรียนฟรีทั้งหมดจริง.,จบมามีตังสนับสนุนฟรีๆสร้างสัมมาอาชีพที่ต้องการเริ่มต้นได้ทันทีคนละ100,000บาท เป็นต้น,นี้วิวัฒนาการระบบการศึกษาไทยเราต้องสร้างคนไทยกันในระดับนี้ได้แล้ว,มีใช่อยากเรียนต้องเป็นหนี้,&กู้กยศ.จนขายที่ดินขายบ้านขายรถสิ้นสัมมาอาชีพติดวงจรอุบาทก์แห่งหนี้ไม่จบไม่สิ้น,ขนาดสว.ในยุคนั้นๆยังขัดขวางไม่ล้างหนี้เยาวชนไทยจริงในช่วงเดียวกันกับอเมริกาล้างหนีันักเรียนนักศึกษาเขาทันทีถึงคนละ350,000บาทถึง700,000บาทต่อคนในเบื้องต้นฟรีๆกันก็ว่า,หรือ10,000-20,000$ต่อคนอเมริกาที่เป็นหนี้กยศ.ในบ้านเขา,ขนาดเขาเองมีหนี้สะสมถึง30ล้านล้านเหรียญนะนั้น ปัจจุบันกว่า36-37ล้านล้านเหรียญแล้วคงไม่เกิน5ปีหนี้อาจถึง100ล้านล้านเหรียญก็ว่า ไบเดลยังล้างหนี้ช่วยบางส่วนเลย,ถ้าคนไทยตัง350,000-700,000฿มันล้างหนี้ทันทีหลายล้านบัญชีกันเลยล่ะ,แต่สว.ไม่อนุมัติ ซึ่งสส.หมายจะล้างหนี้เลย แต่สส.ทรยศ.ไม่สนใจลูกหลานคนไทยก็ดึงงานไว้จนลากให้สว.ดึงไปด้วย,แต่เงื่อนไขผีบ้ามุกไม่ล้างหนี้อะไรจริงใจเลย ให้ชำระหนี้เหมือนเดิมไม่จริงใจอะไรในการปกครองประเทศของผู้นำ,จริงใจแค่ยกบ่อน้ำมันเปิดสัมปทานบ้าบอให้ต่างชาติทำตังจนร่ำรวยมั่งคั่งแทนคนไทย,รายได้กำไรถ้าเปิดกันจริงๆมันกว่าปีละหลายสิบล้านล้านบาทแน่นอน เอามาส่งเสริมสนับสนุนการสร้างคนไทยพัฒนาคุณภาพองค์รอบรู้องค์รู้คนไทยฟรีๆได้มากมายเหลือล้น,เรียนฟรีแทบขนหน้าแข้งตังคลังของแผ่นดินไทยไม่ร่วงอะไร,นี้คือการปกครองที่ผิดพลาดและล้มเหลวด้านการปกครองสิ้นเชิง,ผีบ้าผู้นำผู้ปกครองห่าอะไรไปยกโคตรทำตังโคตรสร้างความร่ำรวยให้คนอื่นไป ตนเองเสือกไม่มีอะไรเลยแม้เนื้อปิโตรเลียมยังไม่มีสิทธิ์ได้บนแผ่นดินไทยตนแท้ๆ,ขายความมั่งคั่งร่ำรวยแก่คนอื่น มันผีบ้าจริงๆนะ.,เสือกมีอำนาจ มีตำแหน่งในการปกครองประเทศ.,เรามียุคการปกครองของคนปกครองที่ไม่รักประชาชนคนไทย รักประเทศไทยตนเอง,ขลาดกลัว เห็นแก่ตัวและเดอะแก๊งมันๆ,ไม่สมควรอนุรักษ์ไว้หรือเก็บรักษาไว้เลยคนพวกนี้ หนักแผ่นดินไทย ถ่วงความพ้นทุกข์พ้นยากจนคนไทยคู่ศีลธรรมอันดีมากมายด้วย,จนเสื่อมไปทุกๆด้านในปัจจุบันเพราะหมายเข้ามาปกครองเพื่อทำลายความดีทุกๆมิตินั้นเองก็ว่าด้วย. ..ผู้ปกครองในยุคสมัยปัจจุบันนี้ จริงๆลูกหลานเราสมควรเล่าเรียนฟรีไร้ค่าใช้จ่ายเรี่ยไรใดๆอีกเลยในกระบวนการเล่าเรียนตลอดเทอมการเรียนการสอนและผู้ปกครองก็ไร้ชำระค่าใช้จ่ายใดๆด้วย,เยาวชนไทยเราแค่10ล้านกว่าคนเองแบบคำนวนสูงสุดไว้,คนละ100,000บาทต่อปี แค่1ล้านล้านบาทเองต่อปี,นักการเมืองโกงชาติ ต่างชาติมาปล้มทรัพยากรมีค่ามากมายผ่านสัมปทานหรือการผูกขาดกิจการใดๆในไทย มันเดอะแก๊งมันเหล่านี้ ไทยเราสูญเสียโดยเปล่าประโยชน์แก่พวกมันไปอาจกว่าปีละ10ล้านล้านบาทกันเลยทีเดียว.,เรามีวิถีการปกครองที่เป็นภัยต่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศเสียเอง,เช่นนั้น จะเอาวิธีการสัมปทานส่งเข้าสภาสส.สว.ร่วมแสดงความเห็นตีแผ่ความจริงออกสู่สายตาประชาชนคนไทยทั้งประเทศมิใช่ปกปิดจนถึงปัจจุบันทั้งแสดงเหตุอันเป็นเท็จต่อดาต้าข้อมูลทั้งหมดที่ปกปิดไว้,ตัดสินใจกันเองในผลกระทบที่ทั้งประเทศได้รับผลกระทบตรงจากมันจริงๆ,เช่นข้าวของแพงทั้งแผ่นดิน,ต้นทุนแพงรอบทิศกระทบทุกๆการดำรงชีวิตของคนไทย,เสือกไม่นำเข้าสภาอภิปรายบอกกล่าวเล่าความจริงห่าอะไร, ..เรามีวิถีการปกครองที่ล้มเหลวและเป็นความมั่นคงเสียเองต่อคนไทยทุกๆคนจึงไม่ผิดไปจากนี้ใดๆเลย. https://youtu.be/aCut0LQPS5s?si=NXRiwMESVBLsjO3z
    0 Comments 0 Shares 495 Views 0 Reviews
  • ..ราคาทองคำจึงปั่นราคาช่วงท้ายยุคให้เร็วเพราะอนาคต ทองคำจะสังเคราะห์ได้เสมือนของจริง,ในคลิปอาจดูเหมือนต้นทุนสูง แต่จริงๆต้นทุนถูกๆเอง,เขาบิดเบือนค่าจริงๆได้หมด,ตย.win97,แท้จริงในช่วงยุคเดียวกันนั้นเขาผลิตwinX,win10มาใช้ใต้ดินแล้วในองค์กรลับของโลกก็ว่า,
    ..ทองคำปัจจุบันที่ปั่นๆราคาอยู่นี้ที่ทำราคาสูงๆในตอนนี้พวกเดอะแก๊งนี้ก็ผลิตทองคำเองทำเองกับมือในห้องแลบเอาขึ้นมาปะปนบนผิวโลกทำรายได้อย่างบ้าคลั่งแล้วก็ได้,
    ..แมงเม่าคือร้านทองล่ะซวย รับซื้อจนยากจนอาจล้มละลายปิดร้านเลยก็ได้,ผีบ้าอ้างค้ำประกันตังดิจิดัลคือมุกปั่นราคาล่ะ,บ่อทองคำเหมืองทองคำ คิดดูสิใครคือเจ้าของมัน พวกdeep stateตรึมคือเจ้าของบ่อทองคำทั่วโลกที่มันยึดครองไว้,และท้ายสุดมันก็ควบคุมเป็นเจ้าของตังดิจิดัลอีกทีเหมือนเดิม,จะตังหยวนดิจิดัลที่แทนดอลล่าร์ดิจิดัลในอนาคตแบบดอลล่าร์แทนปอนด์ครองโลกก็อันเดียวกัน,ยุคส่งไม้ต่อคือหยวนครองโลกก็หามุกทำลายดอลล่าร์นี้ล่ะ เปลี่ยนตะวันตกครองโลกมาแดนเอเชียครองโลกแทนแต่สุดท้ายdeep stateก็ควบคุมอยู่ดีหรือเหมือนเดิม,แต่ใช้มุกคอมมิวนิสต์เผด็จการควบคุมแนวทางทิศทางของวิถีโลก มิใช่ใช้มุกแหกตาโลกสวยแบบตะวันตกประชาชนมีอิสระเสรีทางเลือกของตนเอง ล้างสมองอ้างมุกประชาธิปไตยนำโลก,ยุคสมัยหน้าคือเผด็จการAIครองโลก&นำโลก,คอมมิวนิสต์สไตล์AIก็ว่า,ตรวจจับเรียลไทม์ใครนอกรีตระบบคัดออกทันที,แบบไอ้สมิทในthe matrixนั้นล่ะ,

    https://youtube.com/shorts/AIEYGRI5Lv4?si=ej46kuKgAT718Qh-
    ..ราคาทองคำจึงปั่นราคาช่วงท้ายยุคให้เร็วเพราะอนาคต ทองคำจะสังเคราะห์ได้เสมือนของจริง,ในคลิปอาจดูเหมือนต้นทุนสูง แต่จริงๆต้นทุนถูกๆเอง,เขาบิดเบือนค่าจริงๆได้หมด,ตย.win97,แท้จริงในช่วงยุคเดียวกันนั้นเขาผลิตwinX,win10มาใช้ใต้ดินแล้วในองค์กรลับของโลกก็ว่า, ..ทองคำปัจจุบันที่ปั่นๆราคาอยู่นี้ที่ทำราคาสูงๆในตอนนี้พวกเดอะแก๊งนี้ก็ผลิตทองคำเองทำเองกับมือในห้องแลบเอาขึ้นมาปะปนบนผิวโลกทำรายได้อย่างบ้าคลั่งแล้วก็ได้, ..แมงเม่าคือร้านทองล่ะซวย รับซื้อจนยากจนอาจล้มละลายปิดร้านเลยก็ได้,ผีบ้าอ้างค้ำประกันตังดิจิดัลคือมุกปั่นราคาล่ะ,บ่อทองคำเหมืองทองคำ คิดดูสิใครคือเจ้าของมัน พวกdeep stateตรึมคือเจ้าของบ่อทองคำทั่วโลกที่มันยึดครองไว้,และท้ายสุดมันก็ควบคุมเป็นเจ้าของตังดิจิดัลอีกทีเหมือนเดิม,จะตังหยวนดิจิดัลที่แทนดอลล่าร์ดิจิดัลในอนาคตแบบดอลล่าร์แทนปอนด์ครองโลกก็อันเดียวกัน,ยุคส่งไม้ต่อคือหยวนครองโลกก็หามุกทำลายดอลล่าร์นี้ล่ะ เปลี่ยนตะวันตกครองโลกมาแดนเอเชียครองโลกแทนแต่สุดท้ายdeep stateก็ควบคุมอยู่ดีหรือเหมือนเดิม,แต่ใช้มุกคอมมิวนิสต์เผด็จการควบคุมแนวทางทิศทางของวิถีโลก มิใช่ใช้มุกแหกตาโลกสวยแบบตะวันตกประชาชนมีอิสระเสรีทางเลือกของตนเอง ล้างสมองอ้างมุกประชาธิปไตยนำโลก,ยุคสมัยหน้าคือเผด็จการAIครองโลก&นำโลก,คอมมิวนิสต์สไตล์AIก็ว่า,ตรวจจับเรียลไทม์ใครนอกรีตระบบคัดออกทันที,แบบไอ้สมิทในthe matrixนั้นล่ะ, https://youtube.com/shorts/AIEYGRI5Lv4?si=ej46kuKgAT718Qh-
    0 Comments 0 Shares 317 Views 0 Reviews
  • เมื่อเดือนที่แล้วผมเขียนเรื่อง "'ฮวงจุ้ย'ไม่ได้ทำให้ตึก สตง. พัง เพราะการมี'คุณธรรม'ต่างหากที่เหนือกว่าพลังใดๆ" แก่นสารของบทความนั้นก็คือ ฮวงจุ้ยไม่ใช่ที่สุดแห่งอำนาจ แต่พลังคุณธรรมต่างหากที่เหนือกว่า ดังคำกล่าวว่า "หนึ่งคือคุณธรรม สองคือชะตา สามคือฮวงจุ้ย" (一德,二命,三风水)" นั่นคือ ถ้าคนมีคุณธรรมก็ไม่ต้องกลัวฟ้ากลัวดิน เพราะคุณธรรมสามารถเปลี่ยน "สถานที่ร้าย" หรือ ชะตาร้าย" ให้กลายเป็น "สิ่งดีในชีวิต" หรือ "ชีวิตที่ดี" ได้

    มีตัวอย่างหนึ่งที่ผมไม่ได้เขียนถึงแต่สะท้อนหลักการนี้ได้ดี คือ ชีวิตของ ฟ่านจ้งเยียน (范仲淹) ขุนนางผู้ลือนามในสมัยราชวงศ์ซ่ง

    ฟ่านจ้งเยียน กำพร้าพ่อแต่เด็ก อยู่อย่างยากจน ต้องอาศัยวัดเป็นที่อ่านหนังสือ ในเวลานั้น เขาไม่มีอะไรกินเลยตอนที่เรียนหนังสือได้แต่ต้มโจ๊กกินทุกวัน แถมยังแบ่งโจ๊กในชามออกเป็น 4 ช่องและกินทีละช่องในแต่ละวัน

    แม้จะยากไร้ขนาดนี้ แต่ก็อดทนฟันฝ่าจนสอบได้เป็นข้าราชการ ได้รับการอบรมสั่งสอนจากมารดาให้คำนึงถึงประชาชนเป็นอันดับแรก และเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ เมื่อได้เป็นอัครมหาเสนาบดีก็ใช้เงินเดือนของตนเลี้ยงดูครอบครัวมากกว่า 300 ครอบครัวตลอดชีวิตของเขา แม้เงินเดือนอัครมหาเสนาบดีจะมากโข แม้นเมื่อนำไปเลี้ยงคนอื่นเป็นร้อยครอบครัว จนตระกูลฟ่านไม่พอกิน แต่คนในครอบครัวก็ยินดีทำตามปณิธานของเขา

    ทั้งหมดนี้เพราะคำสั่งสอนของมารดาฟ่านจ้งเยียน และฟ่านจ้งเยียนสั่งสอนบุตรของตน

    เมื่อแม่ของเขาจากโลกนี้ไป ก็ต้องเลือก "ฮวงจุ้ย" เพื่อทำ "ฮวงซุ้ย" แต่ที่ที่เขามีนั้นไม่ดีเอาเลย อาจารย์ฮวงจุ้ยบอกกับฟ่านจ้งเยียนว่า “ที่ดินนี้หากทำสุสานจะทำให้สิ้นวงศ์ตระกูล หากฝังแม่ของท่านไว้ที่นี่จะส่งผลเสียต่อท่าน ท่านจะไม่มีลูกหลานไว้สืบสกุล จึงควรย้ายไปอยู่ที่อื่นเถอะ”

    ถ้าเป็นคนอื่นคงจะรีบย้ายสุสานแทบไม่ทัน แต่ฟ่านจ้งเยียนกลับยืนยันว่า “เราจะยึดผืนดินนี้ไว้ แล้วฝังแม่ข้าที่นี่เลย เพราะหากเป็นผืนดินที่จะทำให้สูญสิ้นวงศ์สกุล ข้าไม่ควรปล่อยให้คนอื่นต้องประสบกับโชคร้ายเช่นนี้ ข้าอยากแบกรับมันเองมากกว่า ถ้าชะตาของข้าถูกกำหนดไม่ให้มีลูกหลาน การย้ายหลุมศพจะมีประโยชน์อะไร”

    แต่ปรากฎว่าผลของมันตรงกันข้าม

    ฟ่านจ้งเยียนกลับได้ลูกชายถึง 4 คน ทั้งหมดมีปัญญาเฉลียวฉลาดและมีความสามารถมาก สามารถสอบเป็นขุนนาง ไต่เต้าเป็นอัครมหาเสนาบดี มหาเสนาบดี และเสนาบดี เหลนของตระกูลฟ่านล้วนเป็นปราชญ์และขุนนาง

    รวมแล้วตระกูลฟ่านมีลูกหลานสืบสกุลไม่ขาดสายยาวนานถึง 800 ปี ไม่ขาดตอนจนถึงทุกวันนี้ แถมยังมีอนุชนที่เป็นขุนนาง นักปราชญ์ ราชบัณฑิตอีกมากมาย

    นี่เป็นเพราะคุณธรรมของ ฟ่านจิ้งเยียน ที่ทำให้ "เรื่องร้าย" กลายเป็น "เรื่องดีหลายเท่าทวีคูณ"

    ต่อมา ฟ่านจ้งเยียนเป็นเจ้าเมืองซูโจวแล้วได้ที่ดินผืนหนึ่งในหนานหยวน ปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยแนะนำให้เขาสร้างบ้านที่นี่ โดยพยากรณ์ว่าลูกหลานของฟ่านจ้งเยียนจะสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงและเป็นข้าราชการได้หลายชั่วอายุคน

    ฟ่านจ้งเยียนได้ยินเช่นนี้เขาก็รู้สึกยินดี แทนที่จะสั่งให้สร้างบ้านตรงนั้นเขากลับกล่าวว่า "จะให้ครอบครัวของเราเท่านั้นที่จะร่ำรวยและมีเกียรติยศอยู่ครอบครัวเดียวได้อย่างไร ทำไมไม่สร้างโรงเรียนที่นี่และให้เด็กๆ ในบริเวณใกล้เคียงมาเรียนหนังสือ คนอื่นๆ จะได้ร่ำรวยและมีเกียรติกันเยอะๆ ไม่ดีกว่าหรือ?"

    ฟ่านจ้งเยียนจึงสละฮวงจุ้ยอันประเสริฐแล้วสร้างโรงเรียนขึ้นทันที หลังจากนั้นที่นี่ก็กลายเป็นสถานศึกษาชั้นนำของประเทศ ในช่วงเกือบพันปีที่ผ่านมา มีบัณฑิตระดับจิ้นซื่อ (ผู้ผ่านการเข้าสอบในสนามสอบระดับพระนคร) เกือบ 400 คนและจอหงวน (ผู้สอบได้อันดับ 1 ในสนามสอบระดับพระนคร) มากกว่า 80 คน

    เราไม่รู้ว่าเพราะฮวงจุ้ยประเสริฐหรือไม่ โรงเรียนแห่งนี้จึงผลิตยอดคนออกมามากมาย หรือไม่แน่ว่าอาจเป็นเพราะพลังคุณธรรมและความฝันอันยิ่งใหญ่ของฟ่านจ้งเยียนมากกว่า

    เมื่อฟ่านจ้งเยียนเสียชีวิตครอบครัวของเขาไม่มีเงินพอสำหรับค่าใช้จ่ายในงานศพด้วยซ้ำ เนื่องจากฟ่านจ้งเยียนบริจาคเงินทั้งหมดของตนให้กับผู้อื่นไม่หยุดหย่อน

    แต่ปรากฏว่าความยากกลายเป็นสิ่งชั่วคราวหากมีผู้มีคุณธรรมคอยค้ำชูดวงชะตาของตระกูลอยู่ คงเพราะบารมีของฟ่านจ้งเยียนคนในตระกูลฟ่านกลายเป็นขุนนางเรื่อยมา หรือไม่ก็เป็นบัณฑิตผู้มีชื่อเสียง กล่าวกันว่ารับราชการมารุ่นต่อรุ่นจนกระทั่งถึงยุคสาธารณรัฐจีนด้วยซ้ำ

    ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าการที่เขาเลือกฮวงจุ้ยอัปมงคลเพื่อรับผลร้ายแทนประชาชน ไม่เพียงฮวงจุ้ยจะทำอะไรไม่ได้ แต่พลังคุณธรรมของเขายังเปลี่ยนสถานที่อันเลวร้ายกลายเป็นสถานที่เป็นมงคล ทำให้ตระกูลฟ่านรุ่งเรืองไม่ขาดสาย

    ในขณะที่ความใจกว้างของเขาที่อุทิศฮวงจุ้ยอันประเสริฐให้เป็นโรงเรียนสาธารณะ ก็ทำให้ซูโจวผลิตบัณฑิตได้มากมาย แถมโรงเรียนแห่งนั้นก็ยังเจริญรุ่งเรืองไม่ขาดสายด้วย เพราะเปิดดำเนินการสอนลูกหลานชาวซูโจวมาจนถึงทุกวันนี้!

    Kornkit Disthan
    เมื่อเดือนที่แล้วผมเขียนเรื่อง "'ฮวงจุ้ย'ไม่ได้ทำให้ตึก สตง. พัง เพราะการมี'คุณธรรม'ต่างหากที่เหนือกว่าพลังใดๆ" แก่นสารของบทความนั้นก็คือ ฮวงจุ้ยไม่ใช่ที่สุดแห่งอำนาจ แต่พลังคุณธรรมต่างหากที่เหนือกว่า ดังคำกล่าวว่า "หนึ่งคือคุณธรรม สองคือชะตา สามคือฮวงจุ้ย" (一德,二命,三风水)" นั่นคือ ถ้าคนมีคุณธรรมก็ไม่ต้องกลัวฟ้ากลัวดิน เพราะคุณธรรมสามารถเปลี่ยน "สถานที่ร้าย" หรือ ชะตาร้าย" ให้กลายเป็น "สิ่งดีในชีวิต" หรือ "ชีวิตที่ดี" ได้ มีตัวอย่างหนึ่งที่ผมไม่ได้เขียนถึงแต่สะท้อนหลักการนี้ได้ดี คือ ชีวิตของ ฟ่านจ้งเยียน (范仲淹) ขุนนางผู้ลือนามในสมัยราชวงศ์ซ่ง ฟ่านจ้งเยียน กำพร้าพ่อแต่เด็ก อยู่อย่างยากจน ต้องอาศัยวัดเป็นที่อ่านหนังสือ ในเวลานั้น เขาไม่มีอะไรกินเลยตอนที่เรียนหนังสือได้แต่ต้มโจ๊กกินทุกวัน แถมยังแบ่งโจ๊กในชามออกเป็น 4 ช่องและกินทีละช่องในแต่ละวัน แม้จะยากไร้ขนาดนี้ แต่ก็อดทนฟันฝ่าจนสอบได้เป็นข้าราชการ ได้รับการอบรมสั่งสอนจากมารดาให้คำนึงถึงประชาชนเป็นอันดับแรก และเขาก็ทำเช่นนั้นจริงๆ เมื่อได้เป็นอัครมหาเสนาบดีก็ใช้เงินเดือนของตนเลี้ยงดูครอบครัวมากกว่า 300 ครอบครัวตลอดชีวิตของเขา แม้เงินเดือนอัครมหาเสนาบดีจะมากโข แม้นเมื่อนำไปเลี้ยงคนอื่นเป็นร้อยครอบครัว จนตระกูลฟ่านไม่พอกิน แต่คนในครอบครัวก็ยินดีทำตามปณิธานของเขา ทั้งหมดนี้เพราะคำสั่งสอนของมารดาฟ่านจ้งเยียน และฟ่านจ้งเยียนสั่งสอนบุตรของตน เมื่อแม่ของเขาจากโลกนี้ไป ก็ต้องเลือก "ฮวงจุ้ย" เพื่อทำ "ฮวงซุ้ย" แต่ที่ที่เขามีนั้นไม่ดีเอาเลย อาจารย์ฮวงจุ้ยบอกกับฟ่านจ้งเยียนว่า “ที่ดินนี้หากทำสุสานจะทำให้สิ้นวงศ์ตระกูล หากฝังแม่ของท่านไว้ที่นี่จะส่งผลเสียต่อท่าน ท่านจะไม่มีลูกหลานไว้สืบสกุล จึงควรย้ายไปอยู่ที่อื่นเถอะ” ถ้าเป็นคนอื่นคงจะรีบย้ายสุสานแทบไม่ทัน แต่ฟ่านจ้งเยียนกลับยืนยันว่า “เราจะยึดผืนดินนี้ไว้ แล้วฝังแม่ข้าที่นี่เลย เพราะหากเป็นผืนดินที่จะทำให้สูญสิ้นวงศ์สกุล ข้าไม่ควรปล่อยให้คนอื่นต้องประสบกับโชคร้ายเช่นนี้ ข้าอยากแบกรับมันเองมากกว่า ถ้าชะตาของข้าถูกกำหนดไม่ให้มีลูกหลาน การย้ายหลุมศพจะมีประโยชน์อะไร” แต่ปรากฎว่าผลของมันตรงกันข้าม ฟ่านจ้งเยียนกลับได้ลูกชายถึง 4 คน ทั้งหมดมีปัญญาเฉลียวฉลาดและมีความสามารถมาก สามารถสอบเป็นขุนนาง ไต่เต้าเป็นอัครมหาเสนาบดี มหาเสนาบดี และเสนาบดี เหลนของตระกูลฟ่านล้วนเป็นปราชญ์และขุนนาง รวมแล้วตระกูลฟ่านมีลูกหลานสืบสกุลไม่ขาดสายยาวนานถึง 800 ปี ไม่ขาดตอนจนถึงทุกวันนี้ แถมยังมีอนุชนที่เป็นขุนนาง นักปราชญ์ ราชบัณฑิตอีกมากมาย นี่เป็นเพราะคุณธรรมของ ฟ่านจิ้งเยียน ที่ทำให้ "เรื่องร้าย" กลายเป็น "เรื่องดีหลายเท่าทวีคูณ" ต่อมา ฟ่านจ้งเยียนเป็นเจ้าเมืองซูโจวแล้วได้ที่ดินผืนหนึ่งในหนานหยวน ปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้ยแนะนำให้เขาสร้างบ้านที่นี่ โดยพยากรณ์ว่าลูกหลานของฟ่านจ้งเยียนจะสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงและเป็นข้าราชการได้หลายชั่วอายุคน ฟ่านจ้งเยียนได้ยินเช่นนี้เขาก็รู้สึกยินดี แทนที่จะสั่งให้สร้างบ้านตรงนั้นเขากลับกล่าวว่า "จะให้ครอบครัวของเราเท่านั้นที่จะร่ำรวยและมีเกียรติยศอยู่ครอบครัวเดียวได้อย่างไร ทำไมไม่สร้างโรงเรียนที่นี่และให้เด็กๆ ในบริเวณใกล้เคียงมาเรียนหนังสือ คนอื่นๆ จะได้ร่ำรวยและมีเกียรติกันเยอะๆ ไม่ดีกว่าหรือ?" ฟ่านจ้งเยียนจึงสละฮวงจุ้ยอันประเสริฐแล้วสร้างโรงเรียนขึ้นทันที หลังจากนั้นที่นี่ก็กลายเป็นสถานศึกษาชั้นนำของประเทศ ในช่วงเกือบพันปีที่ผ่านมา มีบัณฑิตระดับจิ้นซื่อ (ผู้ผ่านการเข้าสอบในสนามสอบระดับพระนคร) เกือบ 400 คนและจอหงวน (ผู้สอบได้อันดับ 1 ในสนามสอบระดับพระนคร) มากกว่า 80 คน เราไม่รู้ว่าเพราะฮวงจุ้ยประเสริฐหรือไม่ โรงเรียนแห่งนี้จึงผลิตยอดคนออกมามากมาย หรือไม่แน่ว่าอาจเป็นเพราะพลังคุณธรรมและความฝันอันยิ่งใหญ่ของฟ่านจ้งเยียนมากกว่า เมื่อฟ่านจ้งเยียนเสียชีวิตครอบครัวของเขาไม่มีเงินพอสำหรับค่าใช้จ่ายในงานศพด้วยซ้ำ เนื่องจากฟ่านจ้งเยียนบริจาคเงินทั้งหมดของตนให้กับผู้อื่นไม่หยุดหย่อน แต่ปรากฏว่าความยากกลายเป็นสิ่งชั่วคราวหากมีผู้มีคุณธรรมคอยค้ำชูดวงชะตาของตระกูลอยู่ คงเพราะบารมีของฟ่านจ้งเยียนคนในตระกูลฟ่านกลายเป็นขุนนางเรื่อยมา หรือไม่ก็เป็นบัณฑิตผู้มีชื่อเสียง กล่าวกันว่ารับราชการมารุ่นต่อรุ่นจนกระทั่งถึงยุคสาธารณรัฐจีนด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าการที่เขาเลือกฮวงจุ้ยอัปมงคลเพื่อรับผลร้ายแทนประชาชน ไม่เพียงฮวงจุ้ยจะทำอะไรไม่ได้ แต่พลังคุณธรรมของเขายังเปลี่ยนสถานที่อันเลวร้ายกลายเป็นสถานที่เป็นมงคล ทำให้ตระกูลฟ่านรุ่งเรืองไม่ขาดสาย ในขณะที่ความใจกว้างของเขาที่อุทิศฮวงจุ้ยอันประเสริฐให้เป็นโรงเรียนสาธารณะ ก็ทำให้ซูโจวผลิตบัณฑิตได้มากมาย แถมโรงเรียนแห่งนั้นก็ยังเจริญรุ่งเรืองไม่ขาดสายด้วย เพราะเปิดดำเนินการสอนลูกหลานชาวซูโจวมาจนถึงทุกวันนี้! Kornkit Disthan
    0 Comments 0 Shares 281 Views 0 Reviews
  • ..นายกฯพระราชทานทางพิเศษจริงๆจึงพอจะสามารถทันทีลงหน้างานทำงานทำความสะอาดสิ่งไม่ดีต่างๆที่เกิดบน ปะปนคนไทยบนแผ่นดินไทยได้และทำจริงมันง่ายนิดเดียว และสะอาดอย่างรวดเร็วด้วย,ต่างชาติที่เข้ามาอยู่บนแผ่นดินไทยจะจีนเทา แขกเทา ฝรั่งเทา หรือใครๆเทาๆหรือมาจากการเขียนกฎหมายที่ปัญญาอ่อนสอดไส้หมายทำลายความมั่นคงในวิถีชีวิตคนไทย,สัมมาอาชีพทำตังทำรายได้ให้คนไทยยืนด้วยขาตนเองได้ มาแย่งชิงคนไทยบนแผ่นดินไทย มาอาศัยอยู่บนแผ่นดินอพยพสร้างบ้านเมืองกลืนกินประชาชนคนไทย เป็นต้น เหล่านี้สามารถโมฆะเก็บกวาดฉีกทิ้งแล้วทำเพื่อลูกหลานประชาชนคนไทยให้ถูกทางได้อย่างปกติแบะง่ายดายได้ในการบริหารจัดการของนายกฯพระราชทานเราแน่นอน,
    ..อย่าปล่อยให้เนินนานอีกเลย สงครามโลกยุคนี้คือตังหรือวลีคำว่าเศรษฐกิจนั้นล่ะ,ทำเศรษฐีนี้ล่ะใครรวยใครมีตังกว่าก็อยู่ในระบบทาสตังปลอดภัย เศรษฐกิจ&วิถีคนมีตัง สงครามวิถีคนมีตัง สงครามโลกห้ามยากจนก็ว่า ไม่มีตังต่างชาติต่างๆมันยกทัพมาตีเอาที่ดินตีเอาแผ่นดินไทยใช้ตังซื้อทั้งแผ่นดินไทยทางตรงและซื้อทางอ้อมแบบผ่านนอมินีคนทรยศในประเทศไทย ซื้อผ่านตลาดเงินตลาดทุน ซื้อที่ดินผ่านกิจการบริษัทต่างๆเพราะกิจการบริษัทเหล่านี้ล้วนเป็นเจ้าของที่ดินตั้งบนแผ่นดินไทยทุกๆรายแน่นอน,ถีบคนไทยในบริษัทนั่นๆออก นำคนต่างชาติตนมาเป็นนอมินีลับๆไม่เปิดเผยเพื่อครอบงำบริหารจัดการได้หมด,ตลอดซื้อเจ้าหน้าที่ไทยคนข้าราชการไทยที่สามารถทรยศระบบได้ด้วยตังด้วยได้,คนข้าราชการเหล่านีัสามารถไม่กระทำหน้าที่ปกติได้,เมื่อไม่ปกติคือไม่ซื่อสัตย์ทันทีนั้นเองจะซื่อสัตย์ต่อต่างชาติที่ซื่อตัวด้วยตังทันที,นายกฯพระราชทานเห็นชัดแจ้งได้หมดล่ะ กวาดล้างพวกนี้ทั้งวงการก็สะดวกและง่ายแน่นอน จะวงการทหารตำรวจตัวแรกในการจัดการก็ง่ายๆเช่นกัน
    ..นายกฯพระราชทานจึงต้องรีบมาทำงานเพื่อชาติไทยเราทันทีเพราะนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งล้มเหลวแล้วเปรียบคือเป็นภัยต่อบ้านนี้แล้ว ผีบ้าไม่รู้จะจุดเผาบ้านด้วยไฟตอนไหน,ไหม้หมดบ้านนั้นเอง กำลังเริ่มจุดทั่วบ้านแล้วด้วย พาข้างๆบ้านมาร่วมจุดร่วมมาเผาบ้านตนเองด้วยมันผีบ้าขนาดไหนล่ะ.
    ..
    ..https://youtube.com/shorts/GknGVmyPVzY?si=cNQzMSkyvUBXNkxh
    ..นายกฯพระราชทานทางพิเศษจริงๆจึงพอจะสามารถทันทีลงหน้างานทำงานทำความสะอาดสิ่งไม่ดีต่างๆที่เกิดบน ปะปนคนไทยบนแผ่นดินไทยได้และทำจริงมันง่ายนิดเดียว และสะอาดอย่างรวดเร็วด้วย,ต่างชาติที่เข้ามาอยู่บนแผ่นดินไทยจะจีนเทา แขกเทา ฝรั่งเทา หรือใครๆเทาๆหรือมาจากการเขียนกฎหมายที่ปัญญาอ่อนสอดไส้หมายทำลายความมั่นคงในวิถีชีวิตคนไทย,สัมมาอาชีพทำตังทำรายได้ให้คนไทยยืนด้วยขาตนเองได้ มาแย่งชิงคนไทยบนแผ่นดินไทย มาอาศัยอยู่บนแผ่นดินอพยพสร้างบ้านเมืองกลืนกินประชาชนคนไทย เป็นต้น เหล่านี้สามารถโมฆะเก็บกวาดฉีกทิ้งแล้วทำเพื่อลูกหลานประชาชนคนไทยให้ถูกทางได้อย่างปกติแบะง่ายดายได้ในการบริหารจัดการของนายกฯพระราชทานเราแน่นอน, ..อย่าปล่อยให้เนินนานอีกเลย สงครามโลกยุคนี้คือตังหรือวลีคำว่าเศรษฐกิจนั้นล่ะ,ทำเศรษฐีนี้ล่ะใครรวยใครมีตังกว่าก็อยู่ในระบบทาสตังปลอดภัย เศรษฐกิจ&วิถีคนมีตัง สงครามวิถีคนมีตัง สงครามโลกห้ามยากจนก็ว่า ไม่มีตังต่างชาติต่างๆมันยกทัพมาตีเอาที่ดินตีเอาแผ่นดินไทยใช้ตังซื้อทั้งแผ่นดินไทยทางตรงและซื้อทางอ้อมแบบผ่านนอมินีคนทรยศในประเทศไทย ซื้อผ่านตลาดเงินตลาดทุน ซื้อที่ดินผ่านกิจการบริษัทต่างๆเพราะกิจการบริษัทเหล่านี้ล้วนเป็นเจ้าของที่ดินตั้งบนแผ่นดินไทยทุกๆรายแน่นอน,ถีบคนไทยในบริษัทนั่นๆออก นำคนต่างชาติตนมาเป็นนอมินีลับๆไม่เปิดเผยเพื่อครอบงำบริหารจัดการได้หมด,ตลอดซื้อเจ้าหน้าที่ไทยคนข้าราชการไทยที่สามารถทรยศระบบได้ด้วยตังด้วยได้,คนข้าราชการเหล่านีัสามารถไม่กระทำหน้าที่ปกติได้,เมื่อไม่ปกติคือไม่ซื่อสัตย์ทันทีนั้นเองจะซื่อสัตย์ต่อต่างชาติที่ซื่อตัวด้วยตังทันที,นายกฯพระราชทานเห็นชัดแจ้งได้หมดล่ะ กวาดล้างพวกนี้ทั้งวงการก็สะดวกและง่ายแน่นอน จะวงการทหารตำรวจตัวแรกในการจัดการก็ง่ายๆเช่นกัน ..นายกฯพระราชทานจึงต้องรีบมาทำงานเพื่อชาติไทยเราทันทีเพราะนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งล้มเหลวแล้วเปรียบคือเป็นภัยต่อบ้านนี้แล้ว ผีบ้าไม่รู้จะจุดเผาบ้านด้วยไฟตอนไหน,ไหม้หมดบ้านนั้นเอง กำลังเริ่มจุดทั่วบ้านแล้วด้วย พาข้างๆบ้านมาร่วมจุดร่วมมาเผาบ้านตนเองด้วยมันผีบ้าขนาดไหนล่ะ. .. ..https://youtube.com/shorts/GknGVmyPVzY?si=cNQzMSkyvUBXNkxh
    0 Comments 0 Shares 350 Views 0 Reviews
  • ..น่าอนาถผู้นำ&ผู้ปกครอง&ผู้มีอำนาจของประเทศไทยเรามากๆเสียของจริงๆไม่สามารถนำพาประชาชนคนไทยใต้ปกครองตนพ้นยากจนโดยมากได้,ร่ำรวยด้วยหนี้สิน อยากเรียนยังมีหนี้,ค้ารายได้ทำกำไรจากการค้าการเรียนของคนในประเทศไทยชาติตน,ผู้นำ&ผู้ปกครอง&ผู้มีอำนาจสถานะเช่นนีัจะเก็บไว้ทำซากมานำพาทำไมนะ,บ่อน้ำมันก็ยกให้ต่างชาติ,พลังงานไฟฟ้าค่ากำไรก็ยกให้เอกชนผูกขาดทำกำไรค้ากำไรกับประชาชนตน,ทำผิด ออกกฎหมายผิดก็ไม่ฉีกทิ้ง ไม่โมฆะทิ้งที่ทำให้ประชาชนยากจนและเดือดร้อนดำรงรักษากฎหมายกติกานั้นทำเหี้ยอะไรเมื่อก่อทุกข์แก่คนไทยตนทั้งประเทศ,กล้าหาญเก่งกาจสามารถไม่ขี้ขลาดไม่เขลาไม่โง่และฉลาดนักต่อการฉีกกฎหมายแม่บทของประเทศแบบรัฐธรรมนูญ.
    ..น่าอนาถผู้นำ&ผู้ปกครอง&ผู้มีอำนาจของประเทศไทยเรามากๆเสียของจริงๆไม่สามารถนำพาประชาชนคนไทยใต้ปกครองตนพ้นยากจนโดยมากได้,ร่ำรวยด้วยหนี้สิน อยากเรียนยังมีหนี้,ค้ารายได้ทำกำไรจากการค้าการเรียนของคนในประเทศไทยชาติตน,ผู้นำ&ผู้ปกครอง&ผู้มีอำนาจสถานะเช่นนีัจะเก็บไว้ทำซากมานำพาทำไมนะ,บ่อน้ำมันก็ยกให้ต่างชาติ,พลังงานไฟฟ้าค่ากำไรก็ยกให้เอกชนผูกขาดทำกำไรค้ากำไรกับประชาชนตน,ทำผิด ออกกฎหมายผิดก็ไม่ฉีกทิ้ง ไม่โมฆะทิ้งที่ทำให้ประชาชนยากจนและเดือดร้อนดำรงรักษากฎหมายกติกานั้นทำเหี้ยอะไรเมื่อก่อทุกข์แก่คนไทยตนทั้งประเทศ,กล้าหาญเก่งกาจสามารถไม่ขี้ขลาดไม่เขลาไม่โง่และฉลาดนักต่อการฉีกกฎหมายแม่บทของประเทศแบบรัฐธรรมนูญ.
    0 Comments 0 Shares 187 Views 0 Reviews
  • ระบบปกครอง&วิถีปกครองที่ล้มเหลวและผิดพลาดอย่างมากมายที่ไม่สำนึกจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงอดีตที่กระทำผิดพลาดแบบโมฆะบ่อน้ำมันทั้งหมดที่ปล้นชิงคนไทยไปในรูปแบบสัมปทานทาสนั้นและโมฆะบ่อทองคำแก่ต่างชาติทุกๆเหมืองด้วย เป็นต้น แค่2อย่างนี้เบื้องต้นก่อน สมควรแก้ไขการกระทำที่ผิดพลาดหรือปรับปรุงการปกครองที่ล้มเหลวได้ในอดีตทันที ถึงปัจจุบันก็ยังไม่ทำ,ความยากจนเงินทองซึ่งเป็นอาวุธทำลายล้างสังคมไทยได้จริงทุกๆมิติชุมชนคนไทยจริงได้ในยุคสมัยปัจจุบันแต่วิถีการปกครองที่กากๆก็ยังมองไม่เห็นถึงภัยอันตรายมหาศาลที่จะบังเกิดแน่นอนต่อชาติไทยเลย,การปกครองเหี้ยอะไรที่อำนวยเจ้าสัวอำมาตย์ร่ำรวยบ้าคลั่งติดอันดับโลกในไทยขนาดนั้นก็ด้วย.

    https://youtube.com/shorts/f7GUdrQkAMI?si=ap9jUWvUb4yp0AZM
    ระบบปกครอง&วิถีปกครองที่ล้มเหลวและผิดพลาดอย่างมากมายที่ไม่สำนึกจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงอดีตที่กระทำผิดพลาดแบบโมฆะบ่อน้ำมันทั้งหมดที่ปล้นชิงคนไทยไปในรูปแบบสัมปทานทาสนั้นและโมฆะบ่อทองคำแก่ต่างชาติทุกๆเหมืองด้วย เป็นต้น แค่2อย่างนี้เบื้องต้นก่อน สมควรแก้ไขการกระทำที่ผิดพลาดหรือปรับปรุงการปกครองที่ล้มเหลวได้ในอดีตทันที ถึงปัจจุบันก็ยังไม่ทำ,ความยากจนเงินทองซึ่งเป็นอาวุธทำลายล้างสังคมไทยได้จริงทุกๆมิติชุมชนคนไทยจริงได้ในยุคสมัยปัจจุบันแต่วิถีการปกครองที่กากๆก็ยังมองไม่เห็นถึงภัยอันตรายมหาศาลที่จะบังเกิดแน่นอนต่อชาติไทยเลย,การปกครองเหี้ยอะไรที่อำนวยเจ้าสัวอำมาตย์ร่ำรวยบ้าคลั่งติดอันดับโลกในไทยขนาดนั้นก็ด้วย. https://youtube.com/shorts/f7GUdrQkAMI?si=ap9jUWvUb4yp0AZM
    0 Comments 0 Shares 239 Views 0 Reviews
  • ..ยอมรับว่าเบื่อหน่ายทัังระบบข้าราชการพลเรือนและข้าราชการแบบส่วนท้องถิ่นมา อบต.อบท.อบจ.เหี้ยหมด ตลอดผู้ใหญ่บ้านก็ด้วย ซื้อเสียงหมด พรรคการเมืองระดับชาติคุมหมด,กำนันผีบ้าก็ไม่เลือกตั้งตรงอีก,สมบัติชาติ ทรัพยากรระดับท้องถิ่นใครมันสมควรไปสร้างประโยชน์สาธารณะระดับประเทศแบบบ่อน้ำมันในพื้นที่ อบต.อบท.อบจ.อำเภอ จังหวัดนั้นๆอะไรจะไม่เห็นจริงได้ไง,นำพาประชาชนเรียกร้องห้ามเปืดสัมปทานยกให้ต่างชาติสิ,เอาสื่อหลักมาตีแผ่ความจริงก็ไม่ทำ ทั้งผู้ว่า นายอำเภอนั้นๆ ปิดปากเงียบร่วมกับอบต.อบท.อบจ.นัันๆอีก,ไม่รวมบ่อทองคำด้วย,ถ้าค่ายบางระจันมีจริง แต่ละอบต.อบท.อบจ.นายอำเภอผู้ว่านั้นๆต้องเปิดค่ายบางระจันรบเลย เต็มตรึมทั่วบนแผ่นดิน สร้างกองทัพมวลชนปลุกคนไทยพื้นที่อื่นๆมารู้จะมากมายขนาดไหน,นี้คือวิถีปกครองที่ผิดพลาดและล้มเหลว,ชาติไทยดำรงมั่นคงดักดานในความยากจนเกินพอแล้วจริงๆ ร.5เราคือตัวอย่างที่ดีชัดเจน จนต่างชาติหวาดกลัวในภูมิภาคนี้ เกินหน้าชาติใดๆก็ว่า เกาหลีใต้ยังขี้เล็บเราเลยสมัยนั้น.,ฝรั่งมันกลัวเราจึงตัดขาเราทุกๆรูปแบบ.จึงฝรั่งได้มุกสำเร็จในยุคกบฎคณะ2475 ประชุมกองโจรกบฎก็ทำที่ชาติฝรั่งมันอำนวยสถานที่ทัังประสานงานและก่อการอำนวยสร้าง,
    ..แม้ข้ามเดือนนี้ไปก็ไม่ต้องการข้าม ถีบๆลงไปเถอะทั้งหมดพวกหนักแผ่นดินไทย.,ทุบทิ้งกลางเดือนนี้ยิ่งดี.

    https://youtube.com/shorts/NLiCRW-2iG4?si=9YNOkJvL7sfljW3Y
    ..ยอมรับว่าเบื่อหน่ายทัังระบบข้าราชการพลเรือนและข้าราชการแบบส่วนท้องถิ่นมา อบต.อบท.อบจ.เหี้ยหมด ตลอดผู้ใหญ่บ้านก็ด้วย ซื้อเสียงหมด พรรคการเมืองระดับชาติคุมหมด,กำนันผีบ้าก็ไม่เลือกตั้งตรงอีก,สมบัติชาติ ทรัพยากรระดับท้องถิ่นใครมันสมควรไปสร้างประโยชน์สาธารณะระดับประเทศแบบบ่อน้ำมันในพื้นที่ อบต.อบท.อบจ.อำเภอ จังหวัดนั้นๆอะไรจะไม่เห็นจริงได้ไง,นำพาประชาชนเรียกร้องห้ามเปืดสัมปทานยกให้ต่างชาติสิ,เอาสื่อหลักมาตีแผ่ความจริงก็ไม่ทำ ทั้งผู้ว่า นายอำเภอนั้นๆ ปิดปากเงียบร่วมกับอบต.อบท.อบจ.นัันๆอีก,ไม่รวมบ่อทองคำด้วย,ถ้าค่ายบางระจันมีจริง แต่ละอบต.อบท.อบจ.นายอำเภอผู้ว่านั้นๆต้องเปิดค่ายบางระจันรบเลย เต็มตรึมทั่วบนแผ่นดิน สร้างกองทัพมวลชนปลุกคนไทยพื้นที่อื่นๆมารู้จะมากมายขนาดไหน,นี้คือวิถีปกครองที่ผิดพลาดและล้มเหลว,ชาติไทยดำรงมั่นคงดักดานในความยากจนเกินพอแล้วจริงๆ ร.5เราคือตัวอย่างที่ดีชัดเจน จนต่างชาติหวาดกลัวในภูมิภาคนี้ เกินหน้าชาติใดๆก็ว่า เกาหลีใต้ยังขี้เล็บเราเลยสมัยนั้น.,ฝรั่งมันกลัวเราจึงตัดขาเราทุกๆรูปแบบ.จึงฝรั่งได้มุกสำเร็จในยุคกบฎคณะ2475 ประชุมกองโจรกบฎก็ทำที่ชาติฝรั่งมันอำนวยสถานที่ทัังประสานงานและก่อการอำนวยสร้าง, ..แม้ข้ามเดือนนี้ไปก็ไม่ต้องการข้าม ถีบๆลงไปเถอะทั้งหมดพวกหนักแผ่นดินไทย.,ทุบทิ้งกลางเดือนนี้ยิ่งดี. https://youtube.com/shorts/NLiCRW-2iG4?si=9YNOkJvL7sfljW3Y
    0 Comments 0 Shares 318 Views 0 Reviews
More Results