• พิพาทไทย–กัมพูชา ฉุดเชื่อมั่นอุตฯทรุดสุดรอบ3ปี : [Biz Talk]
    สถานการณ์ไทย–กัมพูชา กระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจการค้าชายแดน 1 ในปัจจัยฉุดดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ร่วง สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี จี้รัฐ เร่งเยียวยา ทั้งความเสียหายจากการค้าขายบริเวณชายแดน และจัดทำโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย ที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชา ลดความเสี่ยงต่อการประกอบธุรกิจในระยะยาว
    พิพาทไทย–กัมพูชา ฉุดเชื่อมั่นอุตฯทรุดสุดรอบ3ปี : [Biz Talk] สถานการณ์ไทย–กัมพูชา กระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจการค้าชายแดน 1 ในปัจจัยฉุดดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ร่วง สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี จี้รัฐ เร่งเยียวยา ทั้งความเสียหายจากการค้าขายบริเวณชายแดน และจัดทำโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย ที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชา ลดความเสี่ยงต่อการประกอบธุรกิจในระยะยาว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 362 Views 0 0 Reviews
  • ‘สงครามการค้าโลก’ ปลุกปรับการผลิตครั้งใหญ่! : [Biz Talk]

    ภาษีสหรัฐ 19% เป็น wake-up call ให้ไทย ต้องเร่งสำรวจการใช้ Local Content เพื่อลดความเสี่ยงภาษีสินค้าสวมสิทธิ (transshipment) ที่อาจถูกสหรัฐ เรียกเก็บสูงถึง 40% และใช้โอกาสนี้ ลุยปรับโครงสร้างการผลิต เพิ่มขีดแข่งขันให้ประเทศ ช่วยผู้ประกอบการไทย อยู่รอดได้ภายใต้การค้าโลกรูปแบบใหม่
    ‘สงครามการค้าโลก’ ปลุกปรับการผลิตครั้งใหญ่! : [Biz Talk] ภาษีสหรัฐ 19% เป็น wake-up call ให้ไทย ต้องเร่งสำรวจการใช้ Local Content เพื่อลดความเสี่ยงภาษีสินค้าสวมสิทธิ (transshipment) ที่อาจถูกสหรัฐ เรียกเก็บสูงถึง 40% และใช้โอกาสนี้ ลุยปรับโครงสร้างการผลิต เพิ่มขีดแข่งขันให้ประเทศ ช่วยผู้ประกอบการไทย อยู่รอดได้ภายใต้การค้าโลกรูปแบบใหม่
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 375 Views 0 0 Reviews
  • สินค้ามาเลเซียรอเสียบ บุกตลาดกัมพูชาแทนที่สินค้าไทย

    เหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ความขัดแย้งระหว่างชาวไทยกับชาวเขมร ถึงขั้นบอยคอตสินค้าไทยและธุรกิจไทยในกัมพูชา กลายเป็นโอกาสทองของชาติอื่นเฉกเช่นมาเลเซีย นายริคกี้ ยอว์ ประธานสมาคมธุรกิจมาเลเซีย-กัมพูชา (MCBA) เรียกร้องให้ภาคเอกชนมาเลเซียแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ในกัมพูชา ด้วยการประเมินตลาดกัมพูชาโดยเร็ว และเสนอสินค้าทางเลือกเชิงรุกเพื่อเติมช่องว่างในตลาด หลังสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยหยุดชะงัก เพราะได้รับผลกระทบจากการขนส่ง ทำให้กัมพูชากำลังประสบปัญหาการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์อาหาร และวัตถุดิบอุตสาหกรรมบางประเภท

    ทั้งนี้ มาเลเซียมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนในแง่ของคุณภาพ ราคา และเสถียรภาพในการจัดหาสินค้า ในสถานการณ์เช่นนี้นักลงทุนไทยบางรายอาจเลือกถอนตัวออกจากตลาดกัมพูชา ย่อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมาเลเซียเข้าสู่ตลาด แม้จะมีความขัดแย้งแต่ปัจจัยพื้นฐานตลาดของกัมพูชายังคงแข็งแกร่ง และมีศักยภาพเติบโตแนวโน้มดี ผู้ประกอบการมาเลเซียที่มีห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น ครอบคลุมอุตสาหกรรมที่กว้างขวาง และความสามารถในการตอบสนองที่รวดเร็ว อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะคว้าโอกาสนี้ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดระดับภูมิภาค

    ก่อนหน้านี้ คณะผู้แทนการค้าของมาเลเซียที่นำโดย MCBA และภาคเอกชน เดินทางมาเยือนกัมพูชาเมื่อวันที่ 26-29 มิ.ย. เพื่อส่งเสริมการลงทุนในกัมพูชา อำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจในกัมพูชาได้สำรวจโอกาสการลงทุนในมาเลเซีย และสร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ พร้อมกันนี้กัมพูชายังสนับสนุนให้นักลงทุนมาเลเซียพิจารณาตั้งโรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ของกัมพูชา หรือจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะ

    ในปี 2567 การค้าทวิภาคีกัมพูชา-มาเลเซียมีมูลค่า 3,600 ล้านริงกิต (860 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) น้อยกว่าประเทศไทย ที่มีมูลค่าการค้ารวม 174,530 ล้านบาท (5,396 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยไทยส่งออก 141,846 ล้านบาท นำเข้า 32,684 ล้านบาท และเวียดนามที่มีมูลค่าการค้ารวม 10,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในภูมิภาคอาเซียน และเป็นอันดับสามรองจากจีนและสหรัฐอเมริกา ล่าสุด เวียดนามและกัมพูชาลงนามข้อตกลงใหม่เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้า ให้แรงจูงใจทางภาษีสำหรับสินค้าสำคัญหลายรายการ มากกว่าความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (ATIGA)

    ก่อนหน้านี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ เตรียมหารือทางการลาวเพื่อหาทางลดค่าใช้จ่าย หลังผู้ประกอบการไทยเปลี่ยนเส้นทางขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าทางประเทศลาวก่อนไปยังกัมพูชาหลังด่านไทย-กัมพูชาปิดลง

    #Newskit
    สินค้ามาเลเซียรอเสียบ บุกตลาดกัมพูชาแทนที่สินค้าไทย เหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา ความขัดแย้งระหว่างชาวไทยกับชาวเขมร ถึงขั้นบอยคอตสินค้าไทยและธุรกิจไทยในกัมพูชา กลายเป็นโอกาสทองของชาติอื่นเฉกเช่นมาเลเซีย นายริคกี้ ยอว์ ประธานสมาคมธุรกิจมาเลเซีย-กัมพูชา (MCBA) เรียกร้องให้ภาคเอกชนมาเลเซียแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ในกัมพูชา ด้วยการประเมินตลาดกัมพูชาโดยเร็ว และเสนอสินค้าทางเลือกเชิงรุกเพื่อเติมช่องว่างในตลาด หลังสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยหยุดชะงัก เพราะได้รับผลกระทบจากการขนส่ง ทำให้กัมพูชากำลังประสบปัญหาการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์อาหาร และวัตถุดิบอุตสาหกรรมบางประเภท ทั้งนี้ มาเลเซียมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจนในแง่ของคุณภาพ ราคา และเสถียรภาพในการจัดหาสินค้า ในสถานการณ์เช่นนี้นักลงทุนไทยบางรายอาจเลือกถอนตัวออกจากตลาดกัมพูชา ย่อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการมาเลเซียเข้าสู่ตลาด แม้จะมีความขัดแย้งแต่ปัจจัยพื้นฐานตลาดของกัมพูชายังคงแข็งแกร่ง และมีศักยภาพเติบโตแนวโน้มดี ผู้ประกอบการมาเลเซียที่มีห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น ครอบคลุมอุตสาหกรรมที่กว้างขวาง และความสามารถในการตอบสนองที่รวดเร็ว อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะคว้าโอกาสนี้ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดระดับภูมิภาค ก่อนหน้านี้ คณะผู้แทนการค้าของมาเลเซียที่นำโดย MCBA และภาคเอกชน เดินทางมาเยือนกัมพูชาเมื่อวันที่ 26-29 มิ.ย. เพื่อส่งเสริมการลงทุนในกัมพูชา อำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจในกัมพูชาได้สำรวจโอกาสการลงทุนในมาเลเซีย และสร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ พร้อมกันนี้กัมพูชายังสนับสนุนให้นักลงทุนมาเลเซียพิจารณาตั้งโรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ของกัมพูชา หรือจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะ ในปี 2567 การค้าทวิภาคีกัมพูชา-มาเลเซียมีมูลค่า 3,600 ล้านริงกิต (860 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) น้อยกว่าประเทศไทย ที่มีมูลค่าการค้ารวม 174,530 ล้านบาท (5,396 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยไทยส่งออก 141,846 ล้านบาท นำเข้า 32,684 ล้านบาท และเวียดนามที่มีมูลค่าการค้ารวม 10,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกัมพูชาในภูมิภาคอาเซียน และเป็นอันดับสามรองจากจีนและสหรัฐอเมริกา ล่าสุด เวียดนามและกัมพูชาลงนามข้อตกลงใหม่เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการค้า ให้แรงจูงใจทางภาษีสำหรับสินค้าสำคัญหลายรายการ มากกว่าความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (ATIGA) ก่อนหน้านี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ เตรียมหารือทางการลาวเพื่อหาทางลดค่าใช้จ่าย หลังผู้ประกอบการไทยเปลี่ยนเส้นทางขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าทางประเทศลาวก่อนไปยังกัมพูชาหลังด่านไทย-กัมพูชาปิดลง #Newskit
    0 Comments 1 Shares 372 Views 0 Reviews
  • จีนบุกอินโดฯ-มาเลย์ฯ-ไทย ดันธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น

    เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) และธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ประกาศแต่งตั้งธนาคารตัวแทนในการให้บริการธุรกรรม (Appointed Cross Currency Dealer หรือ ACCD) เพิ่มเติม 18 แห่ง เพื่อดำเนินงานกรอบการทำธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency Transaction Framework หรือ LCTF) ระหว่างสามประเทศ โดยเครือข่าย ACCD ที่ขยายใหญ่ขึ้นจะช่วยเสริมสร้างการเข้าถึงลูกค้า เพิ่มการเข้าถึงตลาดสกุลเงินท้องถิ่น และเพิ่มตัวเลือกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย

    เป็นที่น่าสังเกตว่า ธนาคารที่ได้รับอนุญาตใหม่ในครั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มธนาคารแห่งประเทศจีน (BOC) ได้รับอนุญาต ACCD ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (มาเลเซีย) เบอร์ฮาด, ธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด สาขาจาการ์ตา และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีงานบริการธุรกรรมเงินสกุลหยวนหลากหลายรูปแบบ เท่ากับเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนจีนที่ลงทุนใน 3 ประเทศ สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งข้อดีก็คือ หากผู้นำเข้าสินค้าเลือกชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า แต่หากผู้ส่งออกสินค้าเลือกรับชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะได้รับเงินมากกว่า เมื่อเทียบกับใช้สกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ (USD)

    ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์ของไทยที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินริงกิตและเงินบาท (MYR-THB) ทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ฯ (HSBC) สาขากรุงเทพ ธนาคารยูโอบี และล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) ส่วนธนาคารของมาเลเซียมีทั้งหมด 14 แห่ง ขณะที่ธนาคารของอินโดนีเซียที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินรูเปียห์และเงินบาท (IDR-THB) มีทั้งหมด 14 แห่ง

    ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพ เปิดให้บริการการค้าระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) สำหรับลูกค้านิติบุคคล ร่วมกับบางกอก แบงก์ เบอร์ฮาด (Bangkok Bank Berhad) กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสาขารวม 5 แห่งในมาเลเซีย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีคู่ค้าในมาเลเซีย ประกอบด้วย บริการด้านการค้าสกุลเงินมาเลเซียริงกิต บริการด้านสินเชื่อเพื่อการค้า บริการโอนเงินและรับเงินโอนระหว่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการให้ทำสัญญาซื้อ/ขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และบริการเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินมาเลเซียริงกิต เป็นต้น

    #Newskit
    จีนบุกอินโดฯ-มาเลย์ฯ-ไทย ดันธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) และธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) ประกาศแต่งตั้งธนาคารตัวแทนในการให้บริการธุรกรรม (Appointed Cross Currency Dealer หรือ ACCD) เพิ่มเติม 18 แห่ง เพื่อดำเนินงานกรอบการทำธุรกรรมสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency Transaction Framework หรือ LCTF) ระหว่างสามประเทศ โดยเครือข่าย ACCD ที่ขยายใหญ่ขึ้นจะช่วยเสริมสร้างการเข้าถึงลูกค้า เพิ่มการเข้าถึงตลาดสกุลเงินท้องถิ่น และเพิ่มตัวเลือกในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย เป็นที่น่าสังเกตว่า ธนาคารที่ได้รับอนุญาตใหม่ในครั้งนี้ พบว่ามีกลุ่มธนาคารแห่งประเทศจีน (BOC) ได้รับอนุญาต ACCD ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (มาเลเซีย) เบอร์ฮาด, ธนาคารแห่งประเทศจีน (ฮ่องกง) จำกัด สาขาจาการ์ตา และธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีงานบริการธุรกรรมเงินสกุลหยวนหลากหลายรูปแบบ เท่ากับเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนจีนที่ลงทุนใน 3 ประเทศ สามารถทำธุรกรรมระหว่างกันด้วยสกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งข้อดีก็คือ หากผู้นำเข้าสินค้าเลือกชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะมีต้นทุนที่ถูกกว่า แต่หากผู้ส่งออกสินค้าเลือกรับชำระค่าสินค้าเป็นสกุลเงินท้องถิ่น จะได้รับเงินมากกว่า เมื่อเทียบกับใช้สกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ปัจจุบันมีธนาคารพาณิชย์ของไทยที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินริงกิตและเงินบาท (MYR-THB) ทั้งหมด 10 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไทย ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ฯ (HSBC) สาขากรุงเทพ ธนาคารยูโอบี และล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) ส่วนธนาคารของมาเลเซียมีทั้งหมด 14 แห่ง ขณะที่ธนาคารของอินโดนีเซียที่เข้าร่วม ACCD สกุลเงินรูเปียห์และเงินบาท (IDR-THB) มีทั้งหมด 14 แห่ง ก่อนหน้านี้ ธนาคารกรุงเทพ เปิดให้บริการการค้าระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย (MYR) สำหรับลูกค้านิติบุคคล ร่วมกับบางกอก แบงก์ เบอร์ฮาด (Bangkok Bank Berhad) กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสาขารวม 5 แห่งในมาเลเซีย เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีคู่ค้าในมาเลเซีย ประกอบด้วย บริการด้านการค้าสกุลเงินมาเลเซียริงกิต บริการด้านสินเชื่อเพื่อการค้า บริการโอนเงินและรับเงินโอนระหว่างประเทศ บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการให้ทำสัญญาซื้อ/ขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และบริการเปิดบัญชีเงินฝากสกุลเงินมาเลเซียริงกิต เป็นต้น #Newskit
    0 Comments 0 Shares 388 Views 0 Reviews
  • กัมพูชา-สหรัฐฯ ความท้าทายของไทย : [NEWS UPDATE]
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงวาระสำคัญของรัฐบาล "ก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน" ระบุ ไทยก้าวผ่านสถานการณ์สำคัญ 2 ประการ ที่ท้าทายส่งผลต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ เราเผชิญความรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568 รัฐบาลอดทนต่อการยั่วยุ แต่เมื่อสูญเสียประชาชน ด้วยปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม รัฐบาลต้องตอบโต้ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินเยียวยาให้ครอบครัวทหารและข้าราชการที่เสียชีวิต รายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รายละ 8 ล้านบาท ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ป้องกันข่าวปลอม สถานการณ์สำคัญอีกประการคือ ภาษีการค้าสหรัฐฯ ของไทยอยู่ที่ร้อยละ 19 ทุกประเทศต้องปรับตัว รัฐบาลตั้งงบประมาณสนับสนุนผู้ประกอบการไทย สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร เพื่อให้ทุกคนรับมือการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน


    เดินหน้าหารือหยุดยิง

    ไทม์ไลน์รัฐสภาโต้กัมพูชา

    ไฟเขียวซื้อกริพเพน

    กองทัพต้องอยู่ใต้รัฐพลเรือน
    กัมพูชา-สหรัฐฯ ความท้าทายของไทย : [NEWS UPDATE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงวาระสำคัญของรัฐบาล "ก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน" ระบุ ไทยก้าวผ่านสถานการณ์สำคัญ 2 ประการ ที่ท้าทายส่งผลต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ เราเผชิญความรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568 รัฐบาลอดทนต่อการยั่วยุ แต่เมื่อสูญเสียประชาชน ด้วยปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม รัฐบาลต้องตอบโต้ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินเยียวยาให้ครอบครัวทหารและข้าราชการที่เสียชีวิต รายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รายละ 8 ล้านบาท ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ป้องกันข่าวปลอม สถานการณ์สำคัญอีกประการคือ ภาษีการค้าสหรัฐฯ ของไทยอยู่ที่ร้อยละ 19 ทุกประเทศต้องปรับตัว รัฐบาลตั้งงบประมาณสนับสนุนผู้ประกอบการไทย สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร เพื่อให้ทุกคนรับมือการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน เดินหน้าหารือหยุดยิง ไทม์ไลน์รัฐสภาโต้กัมพูชา ไฟเขียวซื้อกริพเพน กองทัพต้องอยู่ใต้รัฐพลเรือน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 513 Views 0 0 Reviews
  • เยียวยาผู้เสียชีวิต เหตุชายแดน 8-10 ล้าน : [THE MESSAGE]
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงวาระสำคัญของรัฐบาล "ก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน" ระบุ ไทยก้าวผ่านสถานการณ์สำคัญ 2 ประการ ที่ท้าทายส่งผลต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ เราเผชิญความรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568 รัฐบาลอดทนต่อการยั่วยุ แต่เมื่อสูญเสียประชาชน ด้วยปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม รัฐบาลต้องตอบโต้ ขณะนี้การปะทะสิ้นสุด เข้าสู่การเจรจาผ่านการประชุม GBC ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินเยียวยาให้ครอบครัวทหารและข้าราชการที่เสียชีวิต รายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รายละ 8 ล้านบาท ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ วิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายต่อความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชน สถานการณ์สำคัญอีกประการคือ ภาษีการค้าจากสหรัฐฯ ของไทยอยู่ที่ร้อยละ 19 ทุกประเทศต้องปรับตัว รัฐบาลจึงตั้งงบประมาณสนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร เพื่อให้ทุกคนรับมือการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง
    เยียวยาผู้เสียชีวิต เหตุชายแดน 8-10 ล้าน : [THE MESSAGE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงวาระสำคัญของรัฐบาล "ก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน" ระบุ ไทยก้าวผ่านสถานการณ์สำคัญ 2 ประการ ที่ท้าทายส่งผลต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ เราเผชิญความรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568 รัฐบาลอดทนต่อการยั่วยุ แต่เมื่อสูญเสียประชาชน ด้วยปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม รัฐบาลต้องตอบโต้ ขณะนี้การปะทะสิ้นสุด เข้าสู่การเจรจาผ่านการประชุม GBC ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินเยียวยาให้ครอบครัวทหารและข้าราชการที่เสียชีวิต รายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รายละ 8 ล้านบาท ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ วิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายต่อความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชน สถานการณ์สำคัญอีกประการคือ ภาษีการค้าจากสหรัฐฯ ของไทยอยู่ที่ร้อยละ 19 ทุกประเทศต้องปรับตัว รัฐบาลจึงตั้งงบประมาณสนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร เพื่อให้ทุกคนรับมือการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 502 Views 0 0 Reviews
  • "สุชาติ" บุกตลาดโลก! ดันจับคู่ธุรกิจไทย-ต่างประเทศ ดันยอดส่งออก 800 ล้านบาท พร้อมสั่งทูตพาณิชย์ทั่วโลกหนุนผู้ประกอบการไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/20659/
    .
    #ไทยไทด้วย #สุชาติชมกลิ่น #กระทรวงพาณิชย์ #ส่งออกไทย #จับคู่ธุรกิจ #ตลาดใหม่ #ทูตพาณิชย์ #DITP #เศรษฐกิจไทย #การค้าโลก
    "สุชาติ" บุกตลาดโลก! ดันจับคู่ธุรกิจไทย-ต่างประเทศ ดันยอดส่งออก 800 ล้านบาท พร้อมสั่งทูตพาณิชย์ทั่วโลกหนุนผู้ประกอบการไทย https://www.thai-tai.tv/news/20659/ . #ไทยไทด้วย #สุชาติชมกลิ่น #กระทรวงพาณิชย์ #ส่งออกไทย #จับคู่ธุรกิจ #ตลาดใหม่ #ทูตพาณิชย์ #DITP #เศรษฐกิจไทย #การค้าโลก
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • รมช.พาณิชย์ สุชาติ หนุนซอฟต์พาวเวอร์ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ของไทย ร่วมเปิดงาน “SPLASH – Soft Power Forum 2025” พร้อมเดินหน้ายกระดับผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก
    https://www.thai-tai.tv/news/20123/

    #SoftPowerForum2025 #SPLASH #SoftPower #กระทรวงพาณิชย์ #แพทองธาร #สุชาติชมกลิ่น #อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ #เศรษฐกิจไทย #การค้าระหว่างประเทศ #SMEsไทย
    รมช.พาณิชย์ สุชาติ หนุนซอฟต์พาวเวอร์ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ของไทย ร่วมเปิดงาน “SPLASH – Soft Power Forum 2025” พร้อมเดินหน้ายกระดับผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก https://www.thai-tai.tv/news/20123/ #SoftPowerForum2025 #SPLASH #SoftPower #กระทรวงพาณิชย์ #แพทองธาร #สุชาติชมกลิ่น #อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ #เศรษฐกิจไทย #การค้าระหว่างประเทศ #SMEsไทย
    0 Comments 0 Shares 355 Views 0 Reviews
  • 'พิชัย' โวมีแผนรับมือ 'ทรัมป์' เตรียมยื่นข้อเสนอใหม่ เชื่อสหรัฐเปลี่ยนใจ
    https://www.thai-tai.tv/news/20120/
    .
    #ภาษีทรัมป์ #พิชัยชุณหวชิร #สงครามการค้า #เศรษฐกิจไทย #เจรจาการค้า #BRICS #แผนสำรอง #ผู้ประกอบการไทย
    'พิชัย' โวมีแผนรับมือ 'ทรัมป์' เตรียมยื่นข้อเสนอใหม่ เชื่อสหรัฐเปลี่ยนใจ https://www.thai-tai.tv/news/20120/ . #ภาษีทรัมป์ #พิชัยชุณหวชิร #สงครามการค้า #เศรษฐกิจไทย #เจรจาการค้า #BRICS #แผนสำรอง #ผู้ประกอบการไทย
    0 Comments 0 Shares 327 Views 0 Reviews
  • ถึงเวลาปลดล็อก รถทัวร์ไทย-มาเลเซีย

    การเดินทางมาเยือนประเทศไทยของนายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เมื่อวันที่ 2 พ.ค. อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ไทยและมาเลเซียกำลังพิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างเอ็มโอยูว่าด้วยการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย (CBTG) และ ร่างเอ็มโอยูว่าด้วยการขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย (CBTP) เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาการขนส่งสินค้า อำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนทั้งสองประเทศ และเกิดสิทธิในการขนส่งทางถนนที่เท่าเทียมกัน คาดว่าจะได้ข้อยุติและลงนามเอ็มโอยูทั้ง 2 ฉบับภายในเดือน ก.ค.2568

    ที่ผ่านมารถโดยสารจากมาเลเซีย เดินรถเข้ามาในจังหวัดสงขลาได้ เพราะมีประกาศจังหวัดสงขลา ลงวันที่ 25 ส.ค. 2557 อนุญาตนำรถโดยสารที่จดทะเบียนต่างประเทศเข้ามาใน จ.สงขลา สามารถเข้าถึงทุกอำเภอได้ จากเดิมเฉพาะ อ.หาดใหญ่ แต่ถ้าจะไปจังหวัดอื่นต้องขออนุญาตต่อกรมการขนส่งทางบกล่วงหน้า ซึ่งที่ผ่านมามีรถทัวร์ให้บริการจากหาดใหญ่ไปยังประเทศมาเลเซียหลายบริษัท ได้แก่ ปีนัง มีทั้งรถตู้และรถทัวร์ ราคาประมาณ 600-800 บาท กัวลาลัมเปอร์ ราคาประมาณ 500-1,000 บาท และยะโฮร์บาห์รู ราคาประมาณ 1,300-1,500 บาท ซึ่งขัดต่อ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก ปี 2522 มาตรา 26 แต่รถโดยสารของฝ่ายไทยวิ่งเข้าไปในประเทศมาเลเซียไม่ได้ ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบมาเลเซีย ทำลายธุรกิจการขนส่งในประเทศไทย

    การลงนามเอ็มโอยูดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถประกอบธุรกิจเดินรถไปยังประเทศมาเลเซียได้ หนึ่งในนั้นคือ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม ที่มีประสบการณ์เดินรถโดยสารระหว่างประเทศกับลาวและกัมพูชา 12 เส้นทาง รวม 61 เที่ยววิ่งต่อวัน สามารถร่วมกับผู้ประกอบการจากมาเลเซีย ให้บริการเดินรถโดยสารจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปยังจุดหมายปลายทางยอดนิยมในมาเลเซีย เช่น ปีนัง กัวลาลัมเปอร์ หรือยะโฮร์บาห์รู โดยไม่ปล่อยให้ผูกขาดเฉพาะรถโดยสารจากมาเลเซียแต่เพียงฝ่ายเดียว

    นอกจากนี้ ยังส่งผลดีต่อการเดินทางของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเที่ยวหาดใหญ่ หรือคนไทยมาเที่ยวมาเลเซีย นักท่องเที่ยวแบบประหยัด (Budget Travelers) ชาวไทย สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินไปยังหาดใหญ่ แล้วต่อรถโดยสารไปยังประเทศมาเลเซีย เช่นเดียวกับเดินทางด้วยเครื่องบินไปยังอุดรธานี แล้วต่อรถโดยสารไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ช่วยให้ประหยัดค่าเดินทาง จากเดิมต้องจ่ายภาษีสนามบินระหว่างประเทศ 730 บาท เหลือแค่ภาษีสนามบินในประเทศ 130 บาท

    #Newskit
    ถึงเวลาปลดล็อก รถทัวร์ไทย-มาเลเซีย การเดินทางมาเยือนประเทศไทยของนายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย เมื่อวันที่ 2 พ.ค. อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ไทยและมาเลเซียกำลังพิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจ (MOU) 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างเอ็มโอยูว่าด้วยการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย (CBTG) และ ร่างเอ็มโอยูว่าด้วยการขนส่งผู้โดยสารข้ามพรมแดนระหว่างไทยและมาเลเซีย (CBTP) เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาการขนส่งสินค้า อำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนทั้งสองประเทศ และเกิดสิทธิในการขนส่งทางถนนที่เท่าเทียมกัน คาดว่าจะได้ข้อยุติและลงนามเอ็มโอยูทั้ง 2 ฉบับภายในเดือน ก.ค.2568 ที่ผ่านมารถโดยสารจากมาเลเซีย เดินรถเข้ามาในจังหวัดสงขลาได้ เพราะมีประกาศจังหวัดสงขลา ลงวันที่ 25 ส.ค. 2557 อนุญาตนำรถโดยสารที่จดทะเบียนต่างประเทศเข้ามาใน จ.สงขลา สามารถเข้าถึงทุกอำเภอได้ จากเดิมเฉพาะ อ.หาดใหญ่ แต่ถ้าจะไปจังหวัดอื่นต้องขออนุญาตต่อกรมการขนส่งทางบกล่วงหน้า ซึ่งที่ผ่านมามีรถทัวร์ให้บริการจากหาดใหญ่ไปยังประเทศมาเลเซียหลายบริษัท ได้แก่ ปีนัง มีทั้งรถตู้และรถทัวร์ ราคาประมาณ 600-800 บาท กัวลาลัมเปอร์ ราคาประมาณ 500-1,000 บาท และยะโฮร์บาห์รู ราคาประมาณ 1,300-1,500 บาท ซึ่งขัดต่อ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก ปี 2522 มาตรา 26 แต่รถโดยสารของฝ่ายไทยวิ่งเข้าไปในประเทศมาเลเซียไม่ได้ ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบมาเลเซีย ทำลายธุรกิจการขนส่งในประเทศไทย การลงนามเอ็มโอยูดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถประกอบธุรกิจเดินรถไปยังประเทศมาเลเซียได้ หนึ่งในนั้นคือ บริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส. รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม ที่มีประสบการณ์เดินรถโดยสารระหว่างประเทศกับลาวและกัมพูชา 12 เส้นทาง รวม 61 เที่ยววิ่งต่อวัน สามารถร่วมกับผู้ประกอบการจากมาเลเซีย ให้บริการเดินรถโดยสารจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปยังจุดหมายปลายทางยอดนิยมในมาเลเซีย เช่น ปีนัง กัวลาลัมเปอร์ หรือยะโฮร์บาห์รู โดยไม่ปล่อยให้ผูกขาดเฉพาะรถโดยสารจากมาเลเซียแต่เพียงฝ่ายเดียว นอกจากนี้ ยังส่งผลดีต่อการเดินทางของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเที่ยวหาดใหญ่ หรือคนไทยมาเที่ยวมาเลเซีย นักท่องเที่ยวแบบประหยัด (Budget Travelers) ชาวไทย สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินไปยังหาดใหญ่ แล้วต่อรถโดยสารไปยังประเทศมาเลเซีย เช่นเดียวกับเดินทางด้วยเครื่องบินไปยังอุดรธานี แล้วต่อรถโดยสารไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ช่วยให้ประหยัดค่าเดินทาง จากเดิมต้องจ่ายภาษีสนามบินระหว่างประเทศ 730 บาท เหลือแค่ภาษีสนามบินในประเทศ 130 บาท #Newskit
    0 Comments 0 Shares 749 Views 0 Reviews
  • News update : แสงไฟแห่งความหวัง มือยกหินเร่งช่วยชีวิต**ดีเอสไอเก็บซากตรวจเพิ่ม**ถอนสิทธิ SKY ชั่วคราว**ผลงานสภาครบเทอม**หมื่นเหยื่อสงครามรอรักษา

    แสงไฟแห่งความหวัง มือยกหินเร่งช่วยชีวิต
    กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม เผยนาทีเจอแสงไฟ เสียงโทรศัพท์ ใต้ซากตึก สตง. น้องฟี่ได้ยินเสียงที่ จะดังเวลาเปิดโทรศัพท์ จึงชะโงกหน้าดู เห็นแสงไฟสีขาว เมื่อส่องกล้องงูลงไปเห็นแสงไฟสีขาว จึงพูดถ้าเป็นคนอยู่ข้างล่างให้เปิดปิดไฟมือถือ แสงไฟก็ดับๆ ปิดๆ ตามคำสั่ง เมื่อใช้กล้องเรดาร์ส่อง แสดงภาพลักษณะร่างกายมนุษย์ คนแรกห่างจากพื้นดิน 1 เมตร คนที่สองลึกลงไป 3 เมตร เร่งเติมอากาศให้หายใจ หวังมีคนรอดชีวิต

    ดีเอสไอเก็บซากตรวจเพิ่ม
    โฆษกดีเอสไอ เผย เข้าเก็บตัวอย่างคอนกรีตซากตึก สตง. เพิ่ม 48 ชิ้น ในพื้นที่ 4 โซน ทั้งจากพื้นและเสาปูน เตรียมเอาผิดต้นเหตุทำตึกถล่ม คาดใช้เวลาตรวจสอบไม่นาน

    ถอนสิทธิ SKY ชั่วคราว
    เลขาธิการ บีโอไอ เผย บอร์ดบีโอไอ เพิกถอนสิทธิ ซินเคอหยวน ชั่วคราว ระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริง ไม่นิ่งนอนใจ ปีที่ผ่านมา ยกเลิกส่งเสริมกิจการเหล็กหลายประเภท เพื่อปกป้องผู้ประกอบการไทย

    ผลงานสภาครบเทอม
    โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร สรุปผลงานสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง ประชุมสภาฯ 31 ครั้ง ประชุมร่วมรัฐสภา 6 ครั้ง
    พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ
    ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา 9 ฉบับ

    หมื่นเหยื่อสงครามรอรักษา
    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เผย หลังสงครามอิสราเอล-ฮามาสกลับมาปะทุหนัก มีผู้ได้รับบาดเจ็บในฉนวนกาซาเกินกว่า 10,000 คน ต้องเร่งส่งตัวรักษาต่างประเทศ ขณะที่ภารกิจของยูเอ็นถูกปฏิเสธ ทำให้ความช่วยเหลือที่กำหนดไว้อย่างน้อย 75% ล้มเหลว
    News update : แสงไฟแห่งความหวัง มือยกหินเร่งช่วยชีวิต**ดีเอสไอเก็บซากตรวจเพิ่ม**ถอนสิทธิ SKY ชั่วคราว**ผลงานสภาครบเทอม**หมื่นเหยื่อสงครามรอรักษา แสงไฟแห่งความหวัง มือยกหินเร่งช่วยชีวิต กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม เผยนาทีเจอแสงไฟ เสียงโทรศัพท์ ใต้ซากตึก สตง. น้องฟี่ได้ยินเสียงที่ จะดังเวลาเปิดโทรศัพท์ จึงชะโงกหน้าดู เห็นแสงไฟสีขาว เมื่อส่องกล้องงูลงไปเห็นแสงไฟสีขาว จึงพูดถ้าเป็นคนอยู่ข้างล่างให้เปิดปิดไฟมือถือ แสงไฟก็ดับๆ ปิดๆ ตามคำสั่ง เมื่อใช้กล้องเรดาร์ส่อง แสดงภาพลักษณะร่างกายมนุษย์ คนแรกห่างจากพื้นดิน 1 เมตร คนที่สองลึกลงไป 3 เมตร เร่งเติมอากาศให้หายใจ หวังมีคนรอดชีวิต ดีเอสไอเก็บซากตรวจเพิ่ม โฆษกดีเอสไอ เผย เข้าเก็บตัวอย่างคอนกรีตซากตึก สตง. เพิ่ม 48 ชิ้น ในพื้นที่ 4 โซน ทั้งจากพื้นและเสาปูน เตรียมเอาผิดต้นเหตุทำตึกถล่ม คาดใช้เวลาตรวจสอบไม่นาน ถอนสิทธิ SKY ชั่วคราว เลขาธิการ บีโอไอ เผย บอร์ดบีโอไอ เพิกถอนสิทธิ ซินเคอหยวน ชั่วคราว ระหว่างสอบสวนข้อเท็จจริง ไม่นิ่งนอนใจ ปีที่ผ่านมา ยกเลิกส่งเสริมกิจการเหล็กหลายประเภท เพื่อปกป้องผู้ประกอบการไทย ผลงานสภาครบเทอม โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร สรุปผลงานสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง ประชุมสภาฯ 31 ครั้ง ประชุมร่วมรัฐสภา 6 ครั้ง พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา 9 ฉบับ หมื่นเหยื่อสงครามรอรักษา สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เผย หลังสงครามอิสราเอล-ฮามาสกลับมาปะทุหนัก มีผู้ได้รับบาดเจ็บในฉนวนกาซาเกินกว่า 10,000 คน ต้องเร่งส่งตัวรักษาต่างประเทศ ขณะที่ภารกิจของยูเอ็นถูกปฏิเสธ ทำให้ความช่วยเหลือที่กำหนดไว้อย่างน้อย 75% ล้มเหลว
    Like
    Sad
    2
    0 Comments 0 Shares 959 Views 0 Reviews
  • 28/12/67

    2568 สึนามิ ‘สินค้าจีน‘ ถล่มไทยสาหัสกว่าเดิม! | DEEP Talk

    ทรัมป์ 2.0 ถล่มโลก! ’ไทย‘ ไม่รอด รับผลกระทบทางตรง-ทางอ้อม ถูกตั้งกำแพงภาษีหลังเกินดุลการค้าสหรัฐเฉียด 4 หมื่นล้านดอลลาร์

    ขณะเดียวกันเมื่อ ‘จีน’ ส่งสินค้าไปขายสหรัฐไม่ได้ ต้องหาตลาดอื่นทดแทน คาดทำให้สินค้าจีนราคาถูกไหลทะลักเข้าไทยมากขึ้น กระทบผู้ประกอบการไทยตายเรียบ ซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยปี 2568 ทรุดหนัก

    รายการ DEEP TALK ของกรุงเทพธุรกิจ ชวนคุยกับ คุณเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ดำเนินรายการโดย ไอซ์ อาชวินท์ สุกสี

    https://youtu.be/j5bdhntHxcI
    28/12/67 2568 สึนามิ ‘สินค้าจีน‘ ถล่มไทยสาหัสกว่าเดิม! | DEEP Talk ทรัมป์ 2.0 ถล่มโลก! ’ไทย‘ ไม่รอด รับผลกระทบทางตรง-ทางอ้อม ถูกตั้งกำแพงภาษีหลังเกินดุลการค้าสหรัฐเฉียด 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันเมื่อ ‘จีน’ ส่งสินค้าไปขายสหรัฐไม่ได้ ต้องหาตลาดอื่นทดแทน คาดทำให้สินค้าจีนราคาถูกไหลทะลักเข้าไทยมากขึ้น กระทบผู้ประกอบการไทยตายเรียบ ซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยปี 2568 ทรุดหนัก รายการ DEEP TALK ของกรุงเทพธุรกิจ ชวนคุยกับ คุณเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ดำเนินรายการโดย ไอซ์ อาชวินท์ สุกสี https://youtu.be/j5bdhntHxcI
    0 Comments 0 Shares 481 Views 0 Reviews
  • ไทยทะยานสู่อวกาศ! ร่วมลงนาม 'ข้อตกลงอาร์ทิมิส' กับสหรัฐฯ นับเป็นประเทศที่ 51 พร้อมเปิดศักราชใหม่สำรวจดวงจันทร์-อวกาศ เสริมแกร่งพันธมิตร 190 ปี ขยายโอกาสพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงประเทศไทยก้าวสู่การเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจอวกาศระดับโลก หลังร่วมลงนามในข้อตกลงอาร์ทิมิส (Artemis Accords) กับสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นับเป็นประเทศลำดับที่ 51 ที่เข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งเริ่มต้นครั้งแรกในปี 2020 โดยสหรัฐฯ และพันธมิตร 7 ประเทศ มุ่งเน้นการสำรวจและใช้งานอวกาศอย่างสันติ พร้อมร่วมมือกับนาซ่าในการสำรวจดวงจันทร์ สะท้อนความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศที่ยาวนานกว่า 190 ปี ด้าน GISTDA ระบุเป็นก้าวสำคัญของไทยสู่เวทีอวกาศระดับโลก เปิดโอกาสให้นักวิจัย นักศึกษา และผู้ประกอบการไทยได้พัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง #imctnews รายงาน
    ไทยทะยานสู่อวกาศ! ร่วมลงนาม 'ข้อตกลงอาร์ทิมิส' กับสหรัฐฯ นับเป็นประเทศที่ 51 📌พร้อมเปิดศักราชใหม่สำรวจดวงจันทร์-อวกาศ เสริมแกร่งพันธมิตร 190 ปี ขยายโอกาสพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง👉ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจอวกาศระดับโลก หลังร่วมลงนามในข้อตกลงอาร์ทิมิส (Artemis Accords) กับสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นับเป็นประเทศลำดับที่ 51 ที่เข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งเริ่มต้นครั้งแรกในปี 2020 โดยสหรัฐฯ และพันธมิตร 7 ประเทศ มุ่งเน้นการสำรวจและใช้งานอวกาศอย่างสันติ พร้อมร่วมมือกับนาซ่าในการสำรวจดวงจันทร์ สะท้อนความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศที่ยาวนานกว่า 190 ปี ด้าน GISTDA ระบุเป็นก้าวสำคัญของไทยสู่เวทีอวกาศระดับโลก เปิดโอกาสให้นักวิจัย นักศึกษา และผู้ประกอบการไทยได้พัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง #imctnews รายงาน
    0 Comments 0 Shares 419 Views 0 Reviews
  • KKV บุกไทย ไลฟ์สไตล์สโตร์จากจีน

    ในที่สุดไลฟ์สไตล์สโตร์สัญชาติจีนอย่าง เคเควี (KKV) กำลังจะเปิดสาขาแรกในประเทศไทย ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ชั้น 2 โดยอินสตาแกรม kkv.global ระบุว่า ในวันที่ 29 ต.ค. จะมีการจัดปาร์ตี้สำหรับแขกรับเชิญพิเศษก่อนวันเปิดร้านจริง นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดสาขาเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ อีกด้วย

    KK Group Company Holdings Ltd. หรือ KK Group ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองดองกวน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มี 4 แบรนด์หลักในเครือ ได้แก่ KKV ร้านค้าปลีกไลฟ์สไตล์, The Colorist ร้านค้าปลีกเฉพาะด้านความงาม, X11 ร้านค้าปลีกเฉพาะทางแนวป๊อปสมัยใหม่ และ KK Guan ไลฟ์สไตล์มินิมาร์ท ปัจจุบันได้พัฒนาร้านค้ากว่า 700 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตการค้าชั้นนำและห้างสรรพสินค้า 200 เมืองทั่วประเทศจีน และขยายไปยังอินโดนีเซีย

    ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน ระบุว่า ปัจจุบัน จากการแข่งขันของร้านค้าปลีก (Stores Retailing) ที่เพิ่มมากขึ้น หลายธุรกิจจึงต้องเริ่มหารูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่เพิ่มมากขึ้น สร้างความความแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น รูปแบบร้านค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เป็นอีกโมเดลธุรกิจที่น่าจับตามองสำหรับผู้ประกอบการ อย่าง KK Group ที่มีจำหน่ายครอบคลุมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงอาหารเครื่องดื่ม ของกินเล่นและของใช้ อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง เรียกได้ว่า เป็นแหล่ง One Stop Service ของชาว GenZ ถูกจริตพฤติกรรมผู้บริโภคที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย และจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ ยังสามารถส่งเสริมให้สินค้าดูมีระดับมากขึ้น เนื่องจากร้านค้าสามารถสร้างการรับรู้ด้านการคัดสรรสินค้าและบริการที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างพิถีพิถันแก่ผู้บริโภคโดยตรง รูปแบบแบรนด์ร้านค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ จึงเป็นอีกช่องทางการกระจายสินค้าได้อย่างหลากหลายมิติ ที่ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญ การนำแบรนด์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในร้านค้าจะเป็นส่วนช่วยในการกระจายสินค้า เสริมสร้างการรับรู้ด้านภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์สินค้า

    ก่อนหน้านี้ KKV เข้าไปลงทุนในประเทศมาเลเซีย เปิดสาขาแรกที่ย่านบูกิต บินตัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2567 ก่อนจะขยายสาขาไปยังเมืองต่างๆ เช่น ซันเวย์ คาร์นิวัล มอลล์, เฟิร์ส อเวนิว มอลล์, อิออน มอลล์ บูกิตเมอร์ตาจัม รัฐปีนัง, พาราเดียมมอลล์ รัฐยะโฮร์, บันดารา มะละกา รัฐมะละกา และสาขาพาวิลเลียน บูกิต จาลิล กรุงกัวลาลัมเปอร์ รวมกันแล้วมี 7 สาขา ก่อนเข้ามาลงทุนในไทย เป็นประเทศที่ 3 ในภูมิภาคอาเซียน

    #Newskit #KKVThailand
    KKV บุกไทย ไลฟ์สไตล์สโตร์จากจีน ในที่สุดไลฟ์สไตล์สโตร์สัญชาติจีนอย่าง เคเควี (KKV) กำลังจะเปิดสาขาแรกในประเทศไทย ที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ ชั้น 2 โดยอินสตาแกรม kkv.global ระบุว่า ในวันที่ 29 ต.ค. จะมีการจัดปาร์ตี้สำหรับแขกรับเชิญพิเศษก่อนวันเปิดร้านจริง นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดสาขาเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ ท่าพระ อีกด้วย KK Group Company Holdings Ltd. หรือ KK Group ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 มีสำนักงานใหญ่ที่เมืองดองกวน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มี 4 แบรนด์หลักในเครือ ได้แก่ KKV ร้านค้าปลีกไลฟ์สไตล์, The Colorist ร้านค้าปลีกเฉพาะด้านความงาม, X11 ร้านค้าปลีกเฉพาะทางแนวป๊อปสมัยใหม่ และ KK Guan ไลฟ์สไตล์มินิมาร์ท ปัจจุบันได้พัฒนาร้านค้ากว่า 700 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตการค้าชั้นนำและห้างสรรพสินค้า 200 เมืองทั่วประเทศจีน และขยายไปยังอินโดนีเซีย ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน ระบุว่า ปัจจุบัน จากการแข่งขันของร้านค้าปลีก (Stores Retailing) ที่เพิ่มมากขึ้น หลายธุรกิจจึงต้องเริ่มหารูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่เพิ่มมากขึ้น สร้างความความแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น รูปแบบร้านค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ เป็นอีกโมเดลธุรกิจที่น่าจับตามองสำหรับผู้ประกอบการ อย่าง KK Group ที่มีจำหน่ายครอบคลุมสินค้าแฟชั่นไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงอาหารเครื่องดื่ม ของกินเล่นและของใช้ อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง เรียกได้ว่า เป็นแหล่ง One Stop Service ของชาว GenZ ถูกจริตพฤติกรรมผู้บริโภคที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย และจากภาพลักษณ์ของแบรนด์ ยังสามารถส่งเสริมให้สินค้าดูมีระดับมากขึ้น เนื่องจากร้านค้าสามารถสร้างการรับรู้ด้านการคัดสรรสินค้าและบริการที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างพิถีพิถันแก่ผู้บริโภคโดยตรง รูปแบบแบรนด์ร้านค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ จึงเป็นอีกช่องทางการกระจายสินค้าได้อย่างหลากหลายมิติ ที่ผู้ประกอบการไทยควรให้ความสำคัญ การนำแบรนด์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในร้านค้าจะเป็นส่วนช่วยในการกระจายสินค้า เสริมสร้างการรับรู้ด้านภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์สินค้า ก่อนหน้านี้ KKV เข้าไปลงทุนในประเทศมาเลเซีย เปิดสาขาแรกที่ย่านบูกิต บินตัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2567 ก่อนจะขยายสาขาไปยังเมืองต่างๆ เช่น ซันเวย์ คาร์นิวัล มอลล์, เฟิร์ส อเวนิว มอลล์, อิออน มอลล์ บูกิตเมอร์ตาจัม รัฐปีนัง, พาราเดียมมอลล์ รัฐยะโฮร์, บันดารา มะละกา รัฐมะละกา และสาขาพาวิลเลียน บูกิต จาลิล กรุงกัวลาลัมเปอร์ รวมกันแล้วมี 7 สาขา ก่อนเข้ามาลงทุนในไทย เป็นประเทศที่ 3 ในภูมิภาคอาเซียน #Newskit #KKVThailand
    Like
    6
    1 Comments 0 Shares 1173 Views 0 Reviews
  • มาเเล้ว! ทุนจีนบุกโคราช ขึ้นป้ายภาษาจีนเตรียมเปิด "ซูเปอร์มาร์เกตจีน" บนถนนย่านเศรษฐกิจกลางเมืองโคราช นักธุรกิจเตือนผู้ประกอบการไทยเตรียมรับแรงกระแทกได้เลย ชี้จีนต้นทุนต่ำมากและการขนส่งรวดเร็วด้วยรถไฟความเร็วสูง สินค้าจีนราคาถูกทะลัก ผู้ประกอบการไทยสู้ไม่ได้
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000062713

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    มาเเล้ว! ทุนจีนบุกโคราช ขึ้นป้ายภาษาจีนเตรียมเปิด "ซูเปอร์มาร์เกตจีน" บนถนนย่านเศรษฐกิจกลางเมืองโคราช นักธุรกิจเตือนผู้ประกอบการไทยเตรียมรับแรงกระแทกได้เลย ชี้จีนต้นทุนต่ำมากและการขนส่งรวดเร็วด้วยรถไฟความเร็วสูง สินค้าจีนราคาถูกทะลัก ผู้ประกอบการไทยสู้ไม่ได้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000062713 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    Yay
    25
    6 Comments 0 Shares 4625 Views 0 Reviews