• 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷
    #รวมข่าวIT #20251216 #TechRadar

    LG เปิดตัวทีวี Micro RGB evo ที่ CES 2026
    LG กำลังสร้างความฮือฮาในงาน CES 2026 ด้วยการเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Micro RGB evo ซึ่งเปลี่ยนหลอดไฟ LED แบบเดิมไปเป็นหลอดไฟสีแดง เขียว และน้ำเงินขนาดจิ๋ว เพื่อควบคุมแสงและสีได้ละเอียดขึ้น ผลลัพธ์คือภาพที่สว่างสดใสและสีสันจัดเต็มใกล้เคียง OLED แต่ยังคงความสว่างสูงของ LCD จุดเด่นคือการครอบคลุมสีครบทั้ง BT.2020, DCI-P3 และ Adobe RGB พร้อมระบบประมวลผล α11 AI Gen 3 ที่ช่วยอัปสเกลภาพให้คมชัดขึ้น ถือเป็นการพยายามปิดช่องว่างระหว่าง LCD และ OLED ที่น่าสนใจมากสำหรับคนรักภาพคมชัดและสีสดใส
    https://www.techradar.com/televisions/lg-reveals-micro-rgb-evo-tv-with-bold-claims-of-perfect-color

    Netflix เลิกใช้ Google Cast แต่ Apple TV บน Android นำกลับมาอีกครั้ง
    Netflix เคยยกเลิกฟีเจอร์ Google Cast ที่ให้ผู้ใช้ส่งภาพจากมือถือขึ้นจอทีวี แต่ล่าสุด Apple TV บน Android กลับนำฟีเจอร์นี้กลับมา ทำให้ผู้ใช้สามารถสตรีมคอนเทนต์จากมือถือไปยังทีวีได้อีกครั้ง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่งที่ยังคงดุเดือด และการที่ Apple พยายามทำให้บริการของตนเข้าถึงผู้ใช้ Android ได้สะดวกขึ้น
    https://www.techradar.com/streaming/apple-tv-plus/netflix-dropped-google-cast-now-apple-tv-for-android-just-brought-it-back

    NAS พกพาใส่ SSD 4 ตัว พร้อมพลัง Intel N150
    มีการเปิดตัวอุปกรณ์ NAS ขนาดเล็กที่ดูเหมือนวิทยุทรานซิสเตอร์เก่า แต่ภายในบรรจุ SSD ได้ถึง 4 ตัว ใช้พลังจาก Intel N150 และมีพอร์ต LAN 2.5Gb สองช่อง รวมถึง RAM 12GB จุดขายคือความสามารถในการพกพาและเก็บข้อมูลได้มาก แต่ก็มีค่าใช้จ่ายแฝงที่อาจเกินความคาดหมาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลที่คล่องตัวและมีสไตล์ไม่เหมือนใคร
    https://www.techradar.com/pro/is-that-your-grandads-transistor-radio-no-its-a-4-ssd-nas-with-two-2-5gb-lan-ports-12gb-ram-and-a-cracking-name-the-orange-colored-youyeetoo-nestdisk

    นักพัฒนาสร้างกล่องสำรองข้อมูล iPhone แบบออฟไลน์
    นักพัฒนารายหนึ่งได้สร้างอุปกรณ์สำรองข้อมูล iPhone ที่ไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์ แต่ใช้การเชื่อมต่อผ่าน USB และเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเก็บไว้ในเครื่องโดยตรง ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายค่าบริการ iCloud หรือกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ แม้จะยังไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงความต้องการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/want-to-back-up-your-iphone-securely-without-paying-the-apple-tax-theres-a-hack-for-that-but-it-isnt-for-everyone-yet

    วิกฤติ RAM อาจกระทบหนักต่อโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง
    ตลาดโน้ตบุ๊กเกมมิ่งกำลังเผชิญปัญหาวิกฤติ RAM ที่อาจทำให้เครื่องเล่นเกมประสิทธิภาพสูงมีราคาสูงขึ้นและหายากขึ้น เหตุผลมาจากความต้องการหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทั้งจาก AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ส่งผลให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กเกมมิ่งต้องปรับตัวและอาจทำให้ผู้เล่นเกมต้องจ่ายแพงกว่าเดิมเพื่อได้เครื่องที่แรงพอ
    https://www.techradar.com/computing/memory/the-ram-crisis-will-be-a-disaster-for-gaming-laptops-heres-why

    Slop: คำแห่งปีที่สะท้อนอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยขยะดิจิทัล
    ปีนี้ Merriam-Webster เลือกคำว่า “Slop” เป็น Word of the Year 2025 เพื่ออธิบายเนื้อหาดิจิทัลคุณภาพต่ำที่ถูกผลิตขึ้นอย่างมหาศาลด้วย AI ไม่ว่าจะเป็นบทความ ภาพ วิดีโอ หรือพอดแคสต์ หลายอย่างดูเหมือนจะสร้างได้ง่ายแต่กลับทำให้โลกออนไลน์เต็มไปด้วยสิ่งที่คนเรียกว่า “AI slop” จนยากจะแยกออกว่าอะไรคือผลงานมนุษย์จริงๆ และอะไรคือสิ่งที่เครื่องจักรสร้างขึ้นมา เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของเครื่องมือ AI ถูกส่งถึงมือผู้ใช้เร็วเกินไปโดยที่ยังไม่ทันคิดถึงผลกระทบ ทำให้เราต้องเผชิญกับทะเลข้อมูลที่ปะปนทั้งคุณภาพและขยะไปพร้อมกัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/we-filled-the-internet-with-garbage-and-now-slop-is-the-word-of-the-year-nice-going-ai

    Super X: แท็บเล็ตลูกผสมที่แรงระดับเดสก์ท็อป
    OneXPlayer เปิดตัว Super X อุปกรณ์ลูกผสมที่รวมแท็บเล็ตกับพลังการประมวลผลระดับเดสก์ท็อป หน้าจอใหญ่ถึง 14 นิ้ว มาพร้อมซีพียู 16 คอร์ GPU ระดับ 5060-class และ RAM สูงสุด 128GB จุดเด่นคือการออกแบบระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำให้เครื่องเล็กแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง เหมาะกับคนที่อยากได้ความแรงแบบ PC แต่ยังพกพาได้สะดวก แม้ราคาคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 2000 ดอลลาร์ แต่ถือเป็นการยกระดับแท็บเล็ตให้ก้าวไปอีกขั้น
    https://www.techradar.com/pro/a-water-cooled-amd-ai-14-inch-tablet-with-16-cpu-cores-a-5060-class-gpu-and-128gb-ram-is-exactly-what-i-need-for-christmas-i-dont-think-it-will-cost-less-than-usd2000-though

    SSD จิ๋วแต่แรง: Samsung เปิดตัว PCIe Gen5 รุ่นใหม่
    Samsung เผยโฉม SSD รุ่น PM9E1 ที่มาในขนาดเล็กเพียง 22 x 42 มม. แต่รองรับมาตรฐาน PCIe Gen5 ทำให้ได้ความเร็วสูงและความจุที่จริงจัง แม้จะมาแบบเงียบๆ แต่ถือเป็นการขยายตลาดสู่กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดเล็กแต่ไม่ลดทอนประสิทธิภาพ เหมาะกับโน้ตบุ๊กหรืออุปกรณ์พกพาที่ต้องการความเร็วระดับสูงสุดในพื้นที่จำกัด
    https://www.techradar.com/pro/samsungs-surprising-stealth-superfast-ssd-surfaces-silently-pm9e1-turns-out-to-be-a-mini-9100-pro-measuring-just-22-x-42mm-with-pcie-gen5-capabilities

    DoomScroll: เว็บไซต์ใหม่รวมแผนที่ Doom แบบไม่รู้จบ
    แฟนเกม Doom ได้เฮ เมื่อมีเว็บไซต์ใหม่ชื่อ DoomScroll ที่รวบรวมแผนที่เกม Doom ไว้ให้เลือกเล่นได้ไม่รู้จบผ่านเบราว์เซอร์ ผู้เล่นสามารถเข้าไปเลือกแผนที่ที่ชอบแล้วเล่นได้ทันที ถือเป็นการเปิดคลังเกมคลาสสิกให้เข้าถึงง่ายขึ้น และยังทำให้ชุมชนผู้เล่นสามารถแชร์ผลงานกันได้สะดวกขึ้นด้วย
    https://www.techradar.com/gaming/pc-gaming/new-doomscroll-website-is-an-endless-library-of-doom-maps-you-can-pick-from-and-play-in-your-browser

    หน่วยความจำแห่งอนาคต: Kioxia พัฒนา 3D DRAM
    Kioxia ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยี 3D DRAM โดยใช้ stacked oxide-semiconductors ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความหนาแน่นของหน่วยความจำ แม้จะยังไม่พร้อมสู่ตลาดผู้บริโภคในทันที แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมหน่วยความจำในทศวรรษหน้า ทำให้คาดหวังได้ว่าอนาคตเราจะได้เห็น RAM ที่เร็วขึ้นและราคาถูกลง
    https://www.techradar.com/pro/crying-over-expensive-ram-kioxia-may-have-cracked-the-3d-ram-puzzle-paving-the-way-for-cheaper-faster-memory-but-it-probably-wont-reach-the-market-till-the-next-decade

    Apple อุดช่องโหว่ Zero-Day สุดอันตราย
    Apple ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงใน WebKit ที่ถูกใช้โจมตีแบบเจาะจงบุคคลระดับสูง โดยช่องโหว่นี้อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ ทีม Google TAG และ Apple ร่วมกันค้นพบและแก้ไข ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกันที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก การอัปเดตครอบคลุมทั้ง iOS, iPadOS, macOS, watchOS, tvOS, visionOS และ Safari ผู้ใช้ทั่วไปแม้จะไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่ก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตเพื่อความปลอดภัยทันที
    https://www.techradar.com/pro/security/apple-says-it-fixed-zero-day-flaws-used-for-sophisticated-attacks

    CEO Windscribe วิจารณ์การแบน VPN สำหรับเด็ก
    Windscribe ผู้ให้บริการ VPN ออกมาแสดงความเห็นว่าการห้ามเด็กใช้ VPN เป็น “วิธีแก้ที่แย่ที่สุด” เพราะ VPN ไม่ใช่เครื่องมืออันตราย แต่กลับเป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย การแบนอาจทำให้เด็กขาดโอกาสในการเรียนรู้การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และยังไม่แก้ปัญหาที่แท้จริงของการใช้งานออนไลน์
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/banning-vpns-for-kids-is-the-dumbest-possible-fix-windscribe-ceo

    กล้องวงจรปิดแบตเตอรี่ไร้ขีดจำกัด
    มีการเปิดตัวกล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ที่ชูจุดขายเรื่อง “แบตเตอรี่ไม่จำกัด” สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อย ๆ ราคาก็ไม่สูงอย่างที่คิด ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น กล้องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยต่อเนื่องโดยไม่ต้องยุ่งยากกับการบำรุงรักษาแบตเตอรี่
    https://www.techradar.com/home/smart-home/this-home-security-cam-monitors-your-property-24-7-with-unlimited-battery-life-and-it-costs-less-than-you-might-expect

    Garmin เผลอหลุดข้อมูล Vivosmart 6
    Garmin มีข่าวหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทแทร็กเกอร์รุ่นใหม่ Vivosmart 6 ที่คาดว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดสำคัญเหนือรุ่นก่อน แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม แต่คาดว่าจะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการติดตามการออกกำลังกายที่แม่นยำขึ้น การหลุดครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่ติดตามอุปกรณ์สวมใส่ของ Garmin อยู่แล้ว
    https://www.techradar.com/health-fitness/fitness-trackers/garmin-just-leaked-its-vivosmart-6-tracker-and-it-might-come-with-one-major-upgrade-over-its-predecessor

    แอป Freedom Chat ทำข้อมูลผู้ใช้หลุด
    มีรายงานว่าแอปแชทชื่อ Freedom Chat เผยข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งหมายเลขโทรศัพท์และรายละเอียดอื่น ๆ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แอปนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าขาดมาตรการป้องกันที่รัดกุม และอาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือการละเมิดข้อมูล
    https://www.techradar.com/pro/security/messaging-app-freedom-chat-exposes-user-phone-numbers-and-more-heres-what-we-know

    Google เปิดฟีเจอร์แปลสดผ่านหูฟัง
    Google กำลังยกระดับการสื่อสารข้ามภาษาให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ “Live Translation” ที่สามารถใช้งานได้กับหูฟังทุกยี่ห้อ ไม่จำกัดเฉพาะ Pixel Buds อีกต่อไป โดยเริ่มทดสอบในสหรัฐฯ เม็กซิโก และอินเดีย ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแค่แปลคำต่อคำ แต่ยังรักษาน้ำเสียง จังหวะ และอารมณ์ของผู้พูด ทำให้การสนทนาเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ Google ยังปรับปรุงระบบ Gemini ให้เข้าใจสำนวนและภาษาพูด เช่น “stealing my thunder” ที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ พร้อมทั้งเพิ่มเครื่องมือช่วยเรียนภาษา เช่น การให้คำแนะนำด้านการออกเสียง และระบบติดตามความก้าวหน้า ฟีเจอร์นี้รองรับกว่า 70 ภาษา และมีแผนจะขยายไปยัง iOS ในปี 2026
    https://www.techradar.com/computing/software/google-smashes-language-barriers-with-live-translation-for-any-earbuds-on-android-heres-how-it-works

    อีเมลไม่ใช่จุดอ่อน แต่การตั้งค่าคลาวด์ต่างหาก
    หลายครั้งที่เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล อีเมลมักถูกมองว่าเป็นตัวการ แต่จริง ๆ แล้วปัญหามาจากการตั้งค่าคลาวด์ที่ผิดพลาดมากกว่า กว่า 99% ของความล้มเหลวด้านความปลอดภัยเกิดจากผู้ใช้เอง เช่น คลิกลิงก์ฟิชชิ่ง ใช้รหัสผ่านซ้ำ หรือจัดการข้อมูลผิดพลาด การโทษอีเมลจึงเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจไปจากต้นเหตุที่แท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการป้องกันควรเริ่มจากการเข้ารหัสข้อมูล การเสริมความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ และการฝึกอบรมผู้ใช้ให้รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ เมื่อผู้ใช้มีความรู้และระบบถูกเข้ารหัสอย่างดี อีเมลก็จะกลายเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/your-email-app-isnt-the-weak-link-but-your-cloud-configuration-probably-is

    Microsoft ขยายโครงการ Bug Bounty
    Microsoft ประกาศปรับโครงการ Bug Bounty ครั้งใหญ่ เปิดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถส่งรายงานช่องโหว่ได้ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์และบริการ แม้บางโปรแกรมจะไม่มีการตั้งค่ารางวัลอย่างเป็นทางการก็ตาม แนวทางใหม่นี้เรียกว่า “In Scope by Default” ซึ่งหมายความว่าหากช่องโหว่มีผลกระทบต่อบริการออนไลน์ของ Microsoft ก็จะได้รับเงินรางวัลตามระดับความรุนแรง โดยปีที่ผ่านมา Microsoft จ่ายเงินรางวัลไปกว่า 17 ล้านดอลลาร์ มากกว่า Google ที่จ่ายราว 11.8 ล้านดอลลาร์ การขยายนี้ครอบคลุมทั้งโค้ดของ Microsoft โค้ดจากบุคคลที่สาม และโอเพ่นซอร์ส ถือเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบความปลอดภัยในวงกว้างยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-will-expand-bug-bounties-even-on-programs-without-official-payouts

    Oracle ทุ่มมหาศาลกับดีลศูนย์ข้อมูล
    Oracle กำลังเดินเกมครั้งใหญ่ในโลกคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าได้ทำสัญญาเช่าศูนย์ข้อมูลและคลาวด์รวมมูลค่าถึง 248 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทยอยเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2026 ไปจนถึง 2028 และกินเวลายาวนานถึง 15–19 ปี การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าใหญ่ ๆ อย่าง Meta, Nvidia และ OpenAI ที่เพิ่งเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 300 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ Oracle ต้องเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าและลงทุนเพิ่มหนี้อีกหลายหมื่นล้าน แม้จะเป็นภาระ แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทกำลังเดิมพันอนาคตไว้กับการเติบโตของตลาด AI และคลาวด์อย่างเต็มที่
    https://www.techradar.com/pro/oracle-reportedly-signs-major-huge-cloud-data-center-deals-in-the-last-quarter-nearly-usd250-billion-in-new-commitments-revealed

    ChatGPT 5.2 vs Gemini 3
    มีการทดสอบเปรียบเทียบสองแชตบอทที่โด่งดังที่สุดในโลกตอนนี้ คือ ChatGPT 5.2 และ Gemini 3 ผู้เขียนลองใช้งานจริงเพื่อดูว่าใครตอบโจทย์ได้ดีกว่า ผลลัพธ์ออกมาน่าสนใจเพราะแต่ละตัวมีจุดแข็งต่างกัน ChatGPT 5.2 โดดเด่นเรื่องการให้คำตอบที่ละเอียดและมีความคิดเชิงลึก ส่วน Gemini 3 เน้นความเร็วและความกระชับในการสื่อสาร การแข่งขันนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังร้อนแรง และผู้ใช้ก็มีทางเลือกมากขึ้นตามสไตล์ที่ต้องการ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-5-2-vs-gemini-3-i-tried-the-worlds-most-popular-chatbots-to-see-which-is-best-and-the-result-might-surprise-you

    โลกเสมือนที่มีหัวใจมนุษย์
    เรื่องราวของ Victoria Fard ศิลปินที่ใช้พลังของคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon สร้างโลกเสมือนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและความเป็นมนุษย์ เธอไม่ได้มองเทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ แต่ใช้มันเพื่อถ่ายทอดความทรงจำ ความรู้สึก และเรื่องราวที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ผลงานของเธอจึงไม่ใช่แค่ภาพสวย ๆ แต่เป็นการสร้างพื้นที่ที่ผู้คนสามารถสัมผัสความเป็นมนุษย์ผ่านโลกดิจิทัลได้อย่างลึกซึ้ง
    https://www.techradar.com/tech/memories-in-pixel-how-victoria-fard-uses-a-pc-powered-by-snapdragon-to-build-worlds-that-are-deeply-human

    ซีอีโอยังเดินหน้าลงทุน AI แม้ผลลัพธ์ไม่ชัด
    แม้หลายบริษัทจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการลงทุนใน AI แต่ซีอีโอจำนวนมากก็ยังคงเดินหน้าทุ่มงบต่อไป เหตุผลคือพวกเขามองว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่ไม่สามารถมองข้ามได้ และหากหยุดลงทุนอาจเสียโอกาสในอนาคต ถึงแม้จะมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน แต่การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่าการลงทุนใน AI จะเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขันระยะยาว
    https://www.techradar.com/pro/ceos-seem-determined-to-keep-spending-on-ai-despite-mixed-success

    ศาลรัสเซียสั่งอายัดทรัพย์ Google ในฝรั่งเศส
    มีข่าวใหญ่จากยุโรป เมื่อศาลรัสเซียมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของ Google ในฝรั่งเศสมูลค่ากว่า 129 ล้านดอลลาร์ สาเหตุเกี่ยวข้องกับข้อพิพาททางกฎหมายและการดำเนินธุรกิจที่ซับซ้อนในหลายประเทศ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงแรงกดดันที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต้องเผชิญในระดับโลก ทั้งจากกฎระเบียบและความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน
    https://www.techradar.com/pro/security/russian-court-ruling-could-see-usd129-million-freeze-on-some-of-googles-french-assets

    Microsoft เจอศึกใหญ่เรื่อง Cloud Licensing ในสหราชอาณาจักร
    เรื่องนี้เริ่มจากการที่ Microsoft ถูกกล่าวหาว่ากำหนดเงื่อนไขการใช้งาน Windows Server บน Cloud ของคู่แข่งอย่าง AWS และ Google Cloud ให้ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูง จนทำให้หลายองค์กรในสหราชอาณาจักรเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก คดีนี้ถูกยื่นต่อศาล Competition Appeal Tribunal โดยมีองค์กรกว่า 59,000 แห่งเข้าร่วมเป็นกลุ่มฟ้องร้อง หาก Microsoft ถูกตัดสินว่าผิดจริง อาจต้องจ่ายค่าชดเชยสูงถึง 2 พันล้านปอนด์ ขณะที่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นเพียงการกล่าวหาเกินจริงจากกลุ่มทนายและผู้สนับสนุน แต่แรงกดดันก็ยังคงมีต่อเนื่อง เพราะ Google เองก็เคยร้องเรียนเรื่องนี้ต่อ EU มาก่อนแล้ว
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-is-back-in-court-in-the-uk-over-unfair-cloud-licensing-claims

    UGreen เปิดตัว eGPU Dock ท้าชน Razer ในตลาด eGPU ที่กำลังร้อนแรง
    UGreen ได้เปิดตัว Linkstation eGPU Dock ที่มาพร้อมพลังงานในตัวถึง 850W และพอร์ตเชื่อมต่อใหม่อย่าง Oculink และ USB4 จุดเด่นคือราคาประมาณ 325 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับ Razer Core X V2 แต่เหนือกว่าตรงที่มี PSU ในตัวและรองรับการ์ดจอขนาดใหญ่ถึง 370 มม. อย่างไรก็ตาม ดีไซน์ของ UGreen ยังเปิดโล่งมากกว่า Razer ที่มีโครงสร้างปิด ทำให้บางคนกังวลเรื่องความปลอดภัยของการ์ดจอ ถึงอย่างนั้น นี่ก็ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดใหม่ที่น่าจับตามองของ UGreen ที่เดิมทำอุปกรณ์เสริมอย่าง Dock และ Charger
    https://www.techradar.com/computing/gpu/its-a-great-time-to-buy-an-egpu-and-ugreens-new-razer-rival-has-two-major-tricks-up-its-sleeve

    วิกฤติ RAM อาจทำให้สมาร์ทโฟนถอยหลังในปี 2026
    นักวิเคราะห์เตือนว่าความต้องการ RAM ที่สูงขึ้นจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังทำให้ราคาพุ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจต้องลดสเปกลง แทนที่จะเพิ่ม RAM เป็น 16GB ในรุ่นเรือธงใหม่ อาจยังคงอยู่ที่ 12GB หรือบางรุ่นอาจลดลงเหลือ 8GB สำหรับรุ่นกลาง และ 4GB สำหรับรุ่นล่าง ทั้งนี้แม้จะเป็นการคาดการณ์ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะตลาด AI กำลังดูดซับทรัพยากรไปอย่างมหาศาล ซึ่งอาจย้อนแย้งกับการพัฒนา AI บนมือถือที่ต้องใช้ RAM มากเช่นกัน
    https://www.techradar.com/phones/the-ram-crisis-will-see-smartphone-specs-go-backwards-in-2026-experts-warn-heres-why

    Apple ควรทำ Smart Ring เพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากของ Smartwatch
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าแม้ Apple Watch จะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม แต่ก็สร้างความลำบากใจเพราะเขาเป็นคนรักนาฬิกากลไกและไม่อยากละทิ้งการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม จนต้องใส่นาฬิกาสองเรือนบนข้อมือเดียวกัน ซึ่งทั้งไม่สะดวกและน่าขัน เขาจึงเสนอว่า Apple ควรทำ Smart Ring ที่สามารถติดตามสุขภาพได้เหมือน Apple Watch แต่เล็กกะทัดรัดและไม่รบกวนการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม หาก Apple ทำจริงก็อาจกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่พลิกเกมในปี 2026
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/apple-needs-to-make-a-smart-ring-to-save-me-from-this-ridiculous-situation

    รีวิวซอฟต์แวร์ Idea Spectrum Realtime Landscaping Pro 2025
    นี่คือโปรแกรมออกแบบภูมิทัศน์ที่ให้คุณสร้างสวนเสมือนจริงได้จากคอมพิวเตอร์ Windows จุดเด่นคืออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย มีคลังพืชกว่า 6,000 ชนิด และวัตถุสามมิติหลากหลาย ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงรถยนต์ พร้อมระบบแอนิเมชันที่ทำให้งานออกแบบดูมีชีวิตชีวา โปรแกรมยังมี Wizard ที่ช่วยให้การสร้างบ้าน สระน้ำ หรือสวนทำได้รวดเร็ว แม้จะมีข้อจำกัดว่าใช้ได้เฉพาะ Windows และอาจหน่วงเมื่อโปรเจ็กต์ซับซ้อน แต่ก็ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ
    https://www.techradar.com/pro/software-services/idea-spectrum-realtime-landscaping-pro-review

    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251216 #TechRadar 🖥️ LG เปิดตัวทีวี Micro RGB evo ที่ CES 2026 LG กำลังสร้างความฮือฮาในงาน CES 2026 ด้วยการเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี Micro RGB evo ซึ่งเปลี่ยนหลอดไฟ LED แบบเดิมไปเป็นหลอดไฟสีแดง เขียว และน้ำเงินขนาดจิ๋ว เพื่อควบคุมแสงและสีได้ละเอียดขึ้น ผลลัพธ์คือภาพที่สว่างสดใสและสีสันจัดเต็มใกล้เคียง OLED แต่ยังคงความสว่างสูงของ LCD จุดเด่นคือการครอบคลุมสีครบทั้ง BT.2020, DCI-P3 และ Adobe RGB พร้อมระบบประมวลผล α11 AI Gen 3 ที่ช่วยอัปสเกลภาพให้คมชัดขึ้น ถือเป็นการพยายามปิดช่องว่างระหว่าง LCD และ OLED ที่น่าสนใจมากสำหรับคนรักภาพคมชัดและสีสดใส 🔗 https://www.techradar.com/televisions/lg-reveals-micro-rgb-evo-tv-with-bold-claims-of-perfect-color 📺 Netflix เลิกใช้ Google Cast แต่ Apple TV บน Android นำกลับมาอีกครั้ง Netflix เคยยกเลิกฟีเจอร์ Google Cast ที่ให้ผู้ใช้ส่งภาพจากมือถือขึ้นจอทีวี แต่ล่าสุด Apple TV บน Android กลับนำฟีเจอร์นี้กลับมา ทำให้ผู้ใช้สามารถสตรีมคอนเทนต์จากมือถือไปยังทีวีได้อีกครั้ง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่งที่ยังคงดุเดือด และการที่ Apple พยายามทำให้บริการของตนเข้าถึงผู้ใช้ Android ได้สะดวกขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/streaming/apple-tv-plus/netflix-dropped-google-cast-now-apple-tv-for-android-just-brought-it-back 💾 NAS พกพาใส่ SSD 4 ตัว พร้อมพลัง Intel N150 มีการเปิดตัวอุปกรณ์ NAS ขนาดเล็กที่ดูเหมือนวิทยุทรานซิสเตอร์เก่า แต่ภายในบรรจุ SSD ได้ถึง 4 ตัว ใช้พลังจาก Intel N150 และมีพอร์ต LAN 2.5Gb สองช่อง รวมถึง RAM 12GB จุดขายคือความสามารถในการพกพาและเก็บข้อมูลได้มาก แต่ก็มีค่าใช้จ่ายแฝงที่อาจเกินความคาดหมาย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการระบบจัดเก็บข้อมูลที่คล่องตัวและมีสไตล์ไม่เหมือนใคร 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-that-your-grandads-transistor-radio-no-its-a-4-ssd-nas-with-two-2-5gb-lan-ports-12gb-ram-and-a-cracking-name-the-orange-colored-youyeetoo-nestdisk 🔐 นักพัฒนาสร้างกล่องสำรองข้อมูล iPhone แบบออฟไลน์ นักพัฒนารายหนึ่งได้สร้างอุปกรณ์สำรองข้อมูล iPhone ที่ไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์ แต่ใช้การเชื่อมต่อผ่าน USB และเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเก็บไว้ในเครื่องโดยตรง ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายค่าบริการ iCloud หรือกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลบนคลาวด์ แม้จะยังไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป แต่แนวคิดนี้สะท้อนถึงความต้องการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/want-to-back-up-your-iphone-securely-without-paying-the-apple-tax-theres-a-hack-for-that-but-it-isnt-for-everyone-yet 🎮 วิกฤติ RAM อาจกระทบหนักต่อโน้ตบุ๊กเกมมิ่ง ตลาดโน้ตบุ๊กเกมมิ่งกำลังเผชิญปัญหาวิกฤติ RAM ที่อาจทำให้เครื่องเล่นเกมประสิทธิภาพสูงมีราคาสูงขึ้นและหายากขึ้น เหตุผลมาจากความต้องการหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทั้งจาก AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ส่งผลให้ผู้ผลิตโน้ตบุ๊กเกมมิ่งต้องปรับตัวและอาจทำให้ผู้เล่นเกมต้องจ่ายแพงกว่าเดิมเพื่อได้เครื่องที่แรงพอ 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/the-ram-crisis-will-be-a-disaster-for-gaming-laptops-heres-why 🗑️ Slop: คำแห่งปีที่สะท้อนอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยขยะดิจิทัล ปีนี้ Merriam-Webster เลือกคำว่า “Slop” เป็น Word of the Year 2025 เพื่ออธิบายเนื้อหาดิจิทัลคุณภาพต่ำที่ถูกผลิตขึ้นอย่างมหาศาลด้วย AI ไม่ว่าจะเป็นบทความ ภาพ วิดีโอ หรือพอดแคสต์ หลายอย่างดูเหมือนจะสร้างได้ง่ายแต่กลับทำให้โลกออนไลน์เต็มไปด้วยสิ่งที่คนเรียกว่า “AI slop” จนยากจะแยกออกว่าอะไรคือผลงานมนุษย์จริงๆ และอะไรคือสิ่งที่เครื่องจักรสร้างขึ้นมา เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของเครื่องมือ AI ถูกส่งถึงมือผู้ใช้เร็วเกินไปโดยที่ยังไม่ทันคิดถึงผลกระทบ ทำให้เราต้องเผชิญกับทะเลข้อมูลที่ปะปนทั้งคุณภาพและขยะไปพร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/we-filled-the-internet-with-garbage-and-now-slop-is-the-word-of-the-year-nice-going-ai 💻 Super X: แท็บเล็ตลูกผสมที่แรงระดับเดสก์ท็อป OneXPlayer เปิดตัว Super X อุปกรณ์ลูกผสมที่รวมแท็บเล็ตกับพลังการประมวลผลระดับเดสก์ท็อป หน้าจอใหญ่ถึง 14 นิ้ว มาพร้อมซีพียู 16 คอร์ GPU ระดับ 5060-class และ RAM สูงสุด 128GB จุดเด่นคือการออกแบบระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำให้เครื่องเล็กแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง เหมาะกับคนที่อยากได้ความแรงแบบ PC แต่ยังพกพาได้สะดวก แม้ราคาคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 2000 ดอลลาร์ แต่ถือเป็นการยกระดับแท็บเล็ตให้ก้าวไปอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/a-water-cooled-amd-ai-14-inch-tablet-with-16-cpu-cores-a-5060-class-gpu-and-128gb-ram-is-exactly-what-i-need-for-christmas-i-dont-think-it-will-cost-less-than-usd2000-though 💾 SSD จิ๋วแต่แรง: Samsung เปิดตัว PCIe Gen5 รุ่นใหม่ Samsung เผยโฉม SSD รุ่น PM9E1 ที่มาในขนาดเล็กเพียง 22 x 42 มม. แต่รองรับมาตรฐาน PCIe Gen5 ทำให้ได้ความเร็วสูงและความจุที่จริงจัง แม้จะมาแบบเงียบๆ แต่ถือเป็นการขยายตลาดสู่กลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการอุปกรณ์เก็บข้อมูลขนาดเล็กแต่ไม่ลดทอนประสิทธิภาพ เหมาะกับโน้ตบุ๊กหรืออุปกรณ์พกพาที่ต้องการความเร็วระดับสูงสุดในพื้นที่จำกัด 🔗 https://www.techradar.com/pro/samsungs-surprising-stealth-superfast-ssd-surfaces-silently-pm9e1-turns-out-to-be-a-mini-9100-pro-measuring-just-22-x-42mm-with-pcie-gen5-capabilities 🎮 DoomScroll: เว็บไซต์ใหม่รวมแผนที่ Doom แบบไม่รู้จบ แฟนเกม Doom ได้เฮ เมื่อมีเว็บไซต์ใหม่ชื่อ DoomScroll ที่รวบรวมแผนที่เกม Doom ไว้ให้เลือกเล่นได้ไม่รู้จบผ่านเบราว์เซอร์ ผู้เล่นสามารถเข้าไปเลือกแผนที่ที่ชอบแล้วเล่นได้ทันที ถือเป็นการเปิดคลังเกมคลาสสิกให้เข้าถึงง่ายขึ้น และยังทำให้ชุมชนผู้เล่นสามารถแชร์ผลงานกันได้สะดวกขึ้นด้วย 🔗 https://www.techradar.com/gaming/pc-gaming/new-doomscroll-website-is-an-endless-library-of-doom-maps-you-can-pick-from-and-play-in-your-browser 🧠 หน่วยความจำแห่งอนาคต: Kioxia พัฒนา 3D DRAM Kioxia ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยี 3D DRAM โดยใช้ stacked oxide-semiconductors ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความหนาแน่นของหน่วยความจำ แม้จะยังไม่พร้อมสู่ตลาดผู้บริโภคในทันที แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมหน่วยความจำในทศวรรษหน้า ทำให้คาดหวังได้ว่าอนาคตเราจะได้เห็น RAM ที่เร็วขึ้นและราคาถูกลง 🔗 https://www.techradar.com/pro/crying-over-expensive-ram-kioxia-may-have-cracked-the-3d-ram-puzzle-paving-the-way-for-cheaper-faster-memory-but-it-probably-wont-reach-the-market-till-the-next-decade 🛡️ Apple อุดช่องโหว่ Zero-Day สุดอันตราย Apple ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงใน WebKit ที่ถูกใช้โจมตีแบบเจาะจงบุคคลระดับสูง โดยช่องโหว่นี้อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ ทีม Google TAG และ Apple ร่วมกันค้นพบและแก้ไข ซึ่งถือเป็นการทำงานร่วมกันที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก การอัปเดตครอบคลุมทั้ง iOS, iPadOS, macOS, watchOS, tvOS, visionOS และ Safari ผู้ใช้ทั่วไปแม้จะไม่ใช่เป้าหมายหลัก แต่ก็ถูกแนะนำให้รีบอัปเดตเพื่อความปลอดภัยทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/apple-says-it-fixed-zero-day-flaws-used-for-sophisticated-attacks 🌐 CEO Windscribe วิจารณ์การแบน VPN สำหรับเด็ก Windscribe ผู้ให้บริการ VPN ออกมาแสดงความเห็นว่าการห้ามเด็กใช้ VPN เป็น “วิธีแก้ที่แย่ที่สุด” เพราะ VPN ไม่ใช่เครื่องมืออันตราย แต่กลับเป็นสิ่งที่ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย การแบนอาจทำให้เด็กขาดโอกาสในการเรียนรู้การใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และยังไม่แก้ปัญหาที่แท้จริงของการใช้งานออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/banning-vpns-for-kids-is-the-dumbest-possible-fix-windscribe-ceo 📷 กล้องวงจรปิดแบตเตอรี่ไร้ขีดจำกัด มีการเปิดตัวกล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ที่ชูจุดขายเรื่อง “แบตเตอรี่ไม่จำกัด” สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อย ๆ ราคาก็ไม่สูงอย่างที่คิด ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น กล้องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยต่อเนื่องโดยไม่ต้องยุ่งยากกับการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/this-home-security-cam-monitors-your-property-24-7-with-unlimited-battery-life-and-it-costs-less-than-you-might-expect ⌚ Garmin เผลอหลุดข้อมูล Vivosmart 6 Garmin มีข่าวหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทแทร็กเกอร์รุ่นใหม่ Vivosmart 6 ที่คาดว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดสำคัญเหนือรุ่นก่อน แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม แต่คาดว่าจะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการติดตามการออกกำลังกายที่แม่นยำขึ้น การหลุดครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่ติดตามอุปกรณ์สวมใส่ของ Garmin อยู่แล้ว 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/fitness-trackers/garmin-just-leaked-its-vivosmart-6-tracker-and-it-might-come-with-one-major-upgrade-over-its-predecessor 🔒 แอป Freedom Chat ทำข้อมูลผู้ใช้หลุด มีรายงานว่าแอปแชทชื่อ Freedom Chat เผยข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งหมายเลขโทรศัพท์และรายละเอียดอื่น ๆ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แอปนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าขาดมาตรการป้องกันที่รัดกุม และอาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือการละเมิดข้อมูล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/messaging-app-freedom-chat-exposes-user-phone-numbers-and-more-heres-what-we-know 🎧 Google เปิดฟีเจอร์แปลสดผ่านหูฟัง Google กำลังยกระดับการสื่อสารข้ามภาษาให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ “Live Translation” ที่สามารถใช้งานได้กับหูฟังทุกยี่ห้อ ไม่จำกัดเฉพาะ Pixel Buds อีกต่อไป โดยเริ่มทดสอบในสหรัฐฯ เม็กซิโก และอินเดีย ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแค่แปลคำต่อคำ แต่ยังรักษาน้ำเสียง จังหวะ และอารมณ์ของผู้พูด ทำให้การสนทนาเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนี้ Google ยังปรับปรุงระบบ Gemini ให้เข้าใจสำนวนและภาษาพูด เช่น “stealing my thunder” ที่ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ พร้อมทั้งเพิ่มเครื่องมือช่วยเรียนภาษา เช่น การให้คำแนะนำด้านการออกเสียง และระบบติดตามความก้าวหน้า ฟีเจอร์นี้รองรับกว่า 70 ภาษา และมีแผนจะขยายไปยัง iOS ในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/computing/software/google-smashes-language-barriers-with-live-translation-for-any-earbuds-on-android-heres-how-it-works 📧 อีเมลไม่ใช่จุดอ่อน แต่การตั้งค่าคลาวด์ต่างหาก หลายครั้งที่เกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล อีเมลมักถูกมองว่าเป็นตัวการ แต่จริง ๆ แล้วปัญหามาจากการตั้งค่าคลาวด์ที่ผิดพลาดมากกว่า กว่า 99% ของความล้มเหลวด้านความปลอดภัยเกิดจากผู้ใช้เอง เช่น คลิกลิงก์ฟิชชิ่ง ใช้รหัสผ่านซ้ำ หรือจัดการข้อมูลผิดพลาด การโทษอีเมลจึงเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจไปจากต้นเหตุที่แท้จริง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าการป้องกันควรเริ่มจากการเข้ารหัสข้อมูล การเสริมความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ และการฝึกอบรมผู้ใช้ให้รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ เมื่อผู้ใช้มีความรู้และระบบถูกเข้ารหัสอย่างดี อีเมลก็จะกลายเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/your-email-app-isnt-the-weak-link-but-your-cloud-configuration-probably-is 🛡️ Microsoft ขยายโครงการ Bug Bounty Microsoft ประกาศปรับโครงการ Bug Bounty ครั้งใหญ่ เปิดให้ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสามารถส่งรายงานช่องโหว่ได้ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์และบริการ แม้บางโปรแกรมจะไม่มีการตั้งค่ารางวัลอย่างเป็นทางการก็ตาม แนวทางใหม่นี้เรียกว่า “In Scope by Default” ซึ่งหมายความว่าหากช่องโหว่มีผลกระทบต่อบริการออนไลน์ของ Microsoft ก็จะได้รับเงินรางวัลตามระดับความรุนแรง โดยปีที่ผ่านมา Microsoft จ่ายเงินรางวัลไปกว่า 17 ล้านดอลลาร์ มากกว่า Google ที่จ่ายราว 11.8 ล้านดอลลาร์ การขยายนี้ครอบคลุมทั้งโค้ดของ Microsoft โค้ดจากบุคคลที่สาม และโอเพ่นซอร์ส ถือเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบความปลอดภัยในวงกว้างยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-will-expand-bug-bounties-even-on-programs-without-official-payouts 🏢 Oracle ทุ่มมหาศาลกับดีลศูนย์ข้อมูล Oracle กำลังเดินเกมครั้งใหญ่ในโลกคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าได้ทำสัญญาเช่าศูนย์ข้อมูลและคลาวด์รวมมูลค่าถึง 248 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทยอยเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2026 ไปจนถึง 2028 และกินเวลายาวนานถึง 15–19 ปี การขยายตัวนี้เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าใหญ่ ๆ อย่าง Meta, Nvidia และ OpenAI ที่เพิ่งเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 300 พันล้านดอลลาร์ ทำให้ Oracle ต้องเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าและลงทุนเพิ่มหนี้อีกหลายหมื่นล้าน แม้จะเป็นภาระ แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทกำลังเดิมพันอนาคตไว้กับการเติบโตของตลาด AI และคลาวด์อย่างเต็มที่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/oracle-reportedly-signs-major-huge-cloud-data-center-deals-in-the-last-quarter-nearly-usd250-billion-in-new-commitments-revealed 🤖 ChatGPT 5.2 vs Gemini 3 มีการทดสอบเปรียบเทียบสองแชตบอทที่โด่งดังที่สุดในโลกตอนนี้ คือ ChatGPT 5.2 และ Gemini 3 ผู้เขียนลองใช้งานจริงเพื่อดูว่าใครตอบโจทย์ได้ดีกว่า ผลลัพธ์ออกมาน่าสนใจเพราะแต่ละตัวมีจุดแข็งต่างกัน ChatGPT 5.2 โดดเด่นเรื่องการให้คำตอบที่ละเอียดและมีความคิดเชิงลึก ส่วน Gemini 3 เน้นความเร็วและความกระชับในการสื่อสาร การแข่งขันนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังร้อนแรง และผู้ใช้ก็มีทางเลือกมากขึ้นตามสไตล์ที่ต้องการ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-5-2-vs-gemini-3-i-tried-the-worlds-most-popular-chatbots-to-see-which-is-best-and-the-result-might-surprise-you 🎨 โลกเสมือนที่มีหัวใจมนุษย์ เรื่องราวของ Victoria Fard ศิลปินที่ใช้พลังของคอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon สร้างโลกเสมือนที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและความเป็นมนุษย์ เธอไม่ได้มองเทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ แต่ใช้มันเพื่อถ่ายทอดความทรงจำ ความรู้สึก และเรื่องราวที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ผลงานของเธอจึงไม่ใช่แค่ภาพสวย ๆ แต่เป็นการสร้างพื้นที่ที่ผู้คนสามารถสัมผัสความเป็นมนุษย์ผ่านโลกดิจิทัลได้อย่างลึกซึ้ง 🔗 https://www.techradar.com/tech/memories-in-pixel-how-victoria-fard-uses-a-pc-powered-by-snapdragon-to-build-worlds-that-are-deeply-human 💼 ซีอีโอยังเดินหน้าลงทุน AI แม้ผลลัพธ์ไม่ชัด แม้หลายบริษัทจะยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการลงทุนใน AI แต่ซีอีโอจำนวนมากก็ยังคงเดินหน้าทุ่มงบต่อไป เหตุผลคือพวกเขามองว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่ไม่สามารถมองข้ามได้ และหากหยุดลงทุนอาจเสียโอกาสในอนาคต ถึงแม้จะมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน แต่การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นว่าการลงทุนใน AI จะเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขันระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/pro/ceos-seem-determined-to-keep-spending-on-ai-despite-mixed-success ⚖️ ศาลรัสเซียสั่งอายัดทรัพย์ Google ในฝรั่งเศส มีข่าวใหญ่จากยุโรป เมื่อศาลรัสเซียมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของ Google ในฝรั่งเศสมูลค่ากว่า 129 ล้านดอลลาร์ สาเหตุเกี่ยวข้องกับข้อพิพาททางกฎหมายและการดำเนินธุรกิจที่ซับซ้อนในหลายประเทศ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงแรงกดดันที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต้องเผชิญในระดับโลก ทั้งจากกฎระเบียบและความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่งผลต่อการดำเนินงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/russian-court-ruling-could-see-usd129-million-freeze-on-some-of-googles-french-assets 📰 Microsoft เจอศึกใหญ่เรื่อง Cloud Licensing ในสหราชอาณาจักร เรื่องนี้เริ่มจากการที่ Microsoft ถูกกล่าวหาว่ากำหนดเงื่อนไขการใช้งาน Windows Server บน Cloud ของคู่แข่งอย่าง AWS และ Google Cloud ให้ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูง จนทำให้หลายองค์กรในสหราชอาณาจักรเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก คดีนี้ถูกยื่นต่อศาล Competition Appeal Tribunal โดยมีองค์กรกว่า 59,000 แห่งเข้าร่วมเป็นกลุ่มฟ้องร้อง หาก Microsoft ถูกตัดสินว่าผิดจริง อาจต้องจ่ายค่าชดเชยสูงถึง 2 พันล้านปอนด์ ขณะที่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นเพียงการกล่าวหาเกินจริงจากกลุ่มทนายและผู้สนับสนุน แต่แรงกดดันก็ยังคงมีต่อเนื่อง เพราะ Google เองก็เคยร้องเรียนเรื่องนี้ต่อ EU มาก่อนแล้ว 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-is-back-in-court-in-the-uk-over-unfair-cloud-licensing-claims 🎮 UGreen เปิดตัว eGPU Dock ท้าชน Razer ในตลาด eGPU ที่กำลังร้อนแรง UGreen ได้เปิดตัว Linkstation eGPU Dock ที่มาพร้อมพลังงานในตัวถึง 850W และพอร์ตเชื่อมต่อใหม่อย่าง Oculink และ USB4 จุดเด่นคือราคาประมาณ 325 ดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับ Razer Core X V2 แต่เหนือกว่าตรงที่มี PSU ในตัวและรองรับการ์ดจอขนาดใหญ่ถึง 370 มม. อย่างไรก็ตาม ดีไซน์ของ UGreen ยังเปิดโล่งมากกว่า Razer ที่มีโครงสร้างปิด ทำให้บางคนกังวลเรื่องความปลอดภัยของการ์ดจอ ถึงอย่างนั้น นี่ก็ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ตลาดใหม่ที่น่าจับตามองของ UGreen ที่เดิมทำอุปกรณ์เสริมอย่าง Dock และ Charger 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/its-a-great-time-to-buy-an-egpu-and-ugreens-new-razer-rival-has-two-major-tricks-up-its-sleeve 📱 วิกฤติ RAM อาจทำให้สมาร์ทโฟนถอยหลังในปี 2026 นักวิเคราะห์เตือนว่าความต้องการ RAM ที่สูงขึ้นจากศูนย์ข้อมูล AI กำลังทำให้ราคาพุ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจต้องลดสเปกลง แทนที่จะเพิ่ม RAM เป็น 16GB ในรุ่นเรือธงใหม่ อาจยังคงอยู่ที่ 12GB หรือบางรุ่นอาจลดลงเหลือ 8GB สำหรับรุ่นกลาง และ 4GB สำหรับรุ่นล่าง ทั้งนี้แม้จะเป็นการคาดการณ์ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง เพราะตลาด AI กำลังดูดซับทรัพยากรไปอย่างมหาศาล ซึ่งอาจย้อนแย้งกับการพัฒนา AI บนมือถือที่ต้องใช้ RAM มากเช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/phones/the-ram-crisis-will-see-smartphone-specs-go-backwards-in-2026-experts-warn-heres-why 💍 Apple ควรทำ Smart Ring เพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากของ Smartwatch ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าแม้ Apple Watch จะมีฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่ยอดเยี่ยม แต่ก็สร้างความลำบากใจเพราะเขาเป็นคนรักนาฬิกากลไกและไม่อยากละทิ้งการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม จนต้องใส่นาฬิกาสองเรือนบนข้อมือเดียวกัน ซึ่งทั้งไม่สะดวกและน่าขัน เขาจึงเสนอว่า Apple ควรทำ Smart Ring ที่สามารถติดตามสุขภาพได้เหมือน Apple Watch แต่เล็กกะทัดรัดและไม่รบกวนการใส่นาฬิกาแบบดั้งเดิม หาก Apple ทำจริงก็อาจกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่พลิกเกมในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/apple-needs-to-make-a-smart-ring-to-save-me-from-this-ridiculous-situation 🌳 รีวิวซอฟต์แวร์ Idea Spectrum Realtime Landscaping Pro 2025 นี่คือโปรแกรมออกแบบภูมิทัศน์ที่ให้คุณสร้างสวนเสมือนจริงได้จากคอมพิวเตอร์ Windows จุดเด่นคืออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย มีคลังพืชกว่า 6,000 ชนิด และวัตถุสามมิติหลากหลาย ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึงรถยนต์ พร้อมระบบแอนิเมชันที่ทำให้งานออกแบบดูมีชีวิตชีวา โปรแกรมยังมี Wizard ที่ช่วยให้การสร้างบ้าน สระน้ำ หรือสวนทำได้รวดเร็ว แม้จะมีข้อจำกัดว่าใช้ได้เฉพาะ Windows และอาจหน่วงเมื่อโปรเจ็กต์ซับซ้อน แต่ก็ถือเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพ 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/idea-spectrum-realtime-landscaping-pro-review
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 872 มุมมอง 0 รีวิว
  • การลงทุนด้าน Cybersecurity ต้องพูดภาษา “ธุรกิจ”

    ในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารด้านความปลอดภัย (CISO) ไม่สามารถนำเสนอการลงทุนในระบบป้องกันเพียงแค่เชิงเทคนิคอีกต่อไป แต่ต้องเชื่อมโยงกับ เป้าหมายธุรกิจ เช่น การขยายตลาดใหม่ การเพิ่มความยืดหยุ่น และการสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น การอธิบายว่าเทคโนโลยีช่วยลดเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์ หรือช่วยลดต้นทุนได้อย่างไร จะทำให้บอร์ดบริหารเห็นความคุ้มค่าและอนุมัติการลงทุนได้ง่ายขึ้น

    เทรนด์ Cybersecurity ปี 2025 จาก Gartner
    รายงานล่าสุดชี้ว่า Generative AI กำลังเปลี่ยนโฟกัสการป้องกันข้อมูลจากแบบ “Structured Data” ไปสู่ “Unstructured Data” เช่น ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ อีกทั้งการจัดการ Machine Identity กลายเป็นเรื่องสำคัญ เพราะบัญชีเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติเพิ่มจำนวนมหาศาล หากไม่ควบคุมอาจขยายช่องโหว่ให้แฮกเกอร์โจมตีได้ง่ายขึ้น

    Quantum Computing และภัยคุกคามใหม่
    นักวิจัยเตือนว่า Quantum Computing อาจทำให้การเข้ารหัสแบบ RSA หรือ ECC ที่ใช้กันอยู่ทั่วโลกถูกถอดรหัสได้ในอนาคต เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Harvest Now, Decrypt Later” คือการขโมยข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ตอนนี้ แล้วรอให้ Quantum สามารถถอดรหัสได้ในอนาคต หากไม่เตรียมใช้ Post-Quantum Cryptography องค์กรอาจสูญเสียข้อมูลสำคัญมหาศาล

    วัฒนธรรมและพฤติกรรมด้านความปลอดภัย
    องค์กรจำนวนมากเริ่มลงทุนใน Security Behavior & Culture Programs (SBCPs) เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในพนักงาน โดยผสมผสาน AI เข้ามาช่วยตรวจสอบพฤติกรรมและลดเหตุการณ์ที่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ คาดว่าภายในปี 2026 องค์กรที่ใช้แนวทางนี้จะลดเหตุการณ์ที่เกิดจากพนักงานได้ถึง 40%

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การลงทุนด้าน Cybersecurity ต้องเชื่อมโยงกับธุรกิจ
    ลดเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์ เพิ่มความยืดหยุ่น และสร้างรายได้ใหม่

    Generative AI กำลังเปลี่ยนโฟกัสการป้องกันข้อมูล
    จากการป้องกันฐานข้อมูล ไปสู่การป้องกันข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ

    Machine Identity Management เป็นเรื่องเร่งด่วน
    หากไม่ควบคุม บัญชีเครื่องจักรอัตโนมัติจะขยายช่องโหว่

    Quantum Computing กำลังคุกคามการเข้ารหัสปัจจุบัน
    ต้องเตรียมใช้ Post-Quantum Cryptography เพื่อป้องกันข้อมูลระยะยาว

    การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรช่วยลดความเสี่ยง
    AI สามารถช่วยตรวจสอบพฤติกรรมและลดเหตุการณ์ที่เกิดจากมนุษย์

    ความเสี่ยงจาก Quantum Computing
    “Harvest Now, Decrypt Later” อาจทำให้ข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสวันนี้ถูกเปิดเผยในอนาคต

    การใช้ AI โดยไม่ควบคุมอาจสร้างช่องโหว่ใหม่
    AI ที่ไม่ถูกกำกับอาจถูกใช้สร้าง Deepfake หรือโจมตีระบบอัตโนมัติ

    https://www.csoonline.com/article/4104472/how-to-justify-your-security-investments.html
    🛡️ การลงทุนด้าน Cybersecurity ต้องพูดภาษา “ธุรกิจ” ในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารด้านความปลอดภัย (CISO) ไม่สามารถนำเสนอการลงทุนในระบบป้องกันเพียงแค่เชิงเทคนิคอีกต่อไป แต่ต้องเชื่อมโยงกับ เป้าหมายธุรกิจ เช่น การขยายตลาดใหม่ การเพิ่มความยืดหยุ่น และการสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น การอธิบายว่าเทคโนโลยีช่วยลดเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์ หรือช่วยลดต้นทุนได้อย่างไร จะทำให้บอร์ดบริหารเห็นความคุ้มค่าและอนุมัติการลงทุนได้ง่ายขึ้น 🤖 เทรนด์ Cybersecurity ปี 2025 จาก Gartner รายงานล่าสุดชี้ว่า Generative AI กำลังเปลี่ยนโฟกัสการป้องกันข้อมูลจากแบบ “Structured Data” ไปสู่ “Unstructured Data” เช่น ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ อีกทั้งการจัดการ Machine Identity กลายเป็นเรื่องสำคัญ เพราะบัญชีเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติเพิ่มจำนวนมหาศาล หากไม่ควบคุมอาจขยายช่องโหว่ให้แฮกเกอร์โจมตีได้ง่ายขึ้น ⚛️ Quantum Computing และภัยคุกคามใหม่ นักวิจัยเตือนว่า Quantum Computing อาจทำให้การเข้ารหัสแบบ RSA หรือ ECC ที่ใช้กันอยู่ทั่วโลกถูกถอดรหัสได้ในอนาคต เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Harvest Now, Decrypt Later” คือการขโมยข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ตอนนี้ แล้วรอให้ Quantum สามารถถอดรหัสได้ในอนาคต หากไม่เตรียมใช้ Post-Quantum Cryptography องค์กรอาจสูญเสียข้อมูลสำคัญมหาศาล 🌐 วัฒนธรรมและพฤติกรรมด้านความปลอดภัย องค์กรจำนวนมากเริ่มลงทุนใน Security Behavior & Culture Programs (SBCPs) เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในพนักงาน โดยผสมผสาน AI เข้ามาช่วยตรวจสอบพฤติกรรมและลดเหตุการณ์ที่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ คาดว่าภายในปี 2026 องค์กรที่ใช้แนวทางนี้จะลดเหตุการณ์ที่เกิดจากพนักงานได้ถึง 40% 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การลงทุนด้าน Cybersecurity ต้องเชื่อมโยงกับธุรกิจ ➡️ ลดเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์ เพิ่มความยืดหยุ่น และสร้างรายได้ใหม่ ✅ Generative AI กำลังเปลี่ยนโฟกัสการป้องกันข้อมูล ➡️ จากการป้องกันฐานข้อมูล ไปสู่การป้องกันข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ ✅ Machine Identity Management เป็นเรื่องเร่งด่วน ➡️ หากไม่ควบคุม บัญชีเครื่องจักรอัตโนมัติจะขยายช่องโหว่ ✅ Quantum Computing กำลังคุกคามการเข้ารหัสปัจจุบัน ➡️ ต้องเตรียมใช้ Post-Quantum Cryptography เพื่อป้องกันข้อมูลระยะยาว ✅ การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรช่วยลดความเสี่ยง ➡️ AI สามารถช่วยตรวจสอบพฤติกรรมและลดเหตุการณ์ที่เกิดจากมนุษย์ ‼️ ความเสี่ยงจาก Quantum Computing ⛔ “Harvest Now, Decrypt Later” อาจทำให้ข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสวันนี้ถูกเปิดเผยในอนาคต ‼️ การใช้ AI โดยไม่ควบคุมอาจสร้างช่องโหว่ใหม่ ⛔ AI ที่ไม่ถูกกำกับอาจถูกใช้สร้าง Deepfake หรือโจมตีระบบอัตโนมัติ https://www.csoonline.com/article/4104472/how-to-justify-your-security-investments.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How to justify your security investments
    Budget discussions are tiresome because cyber risks and expenses are rising in tandem. CISOs should therefore align their arguments with business objectives.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • Robinhood บุกอินโดนีเซียด้วยการซื้อกิจการโบรกเกอร์และผู้ให้บริการคริปโต

    Robinhood Markets ประกาศเข้าซื้อกิจการ Buana Capital Sekuritas (บริษัทโบรกเกอร์ในอินโดนีเซีย) และ Pedagang Aset Kripto (ผู้ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาต) เพื่อขยายธุรกิจเข้าสู่หนึ่งในตลาดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    อินโดนีเซียถือเป็นประเทศที่มีการยอมรับคริปโตสูงมาก โดยมีนักลงทุนในตลาดทุนกว่า 19 ล้านคน และนักเทรดคริปโตมากกว่า 17 ล้านคน ทำให้ Robinhood มองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในการเติบโตและสอดคล้องกับพันธกิจ “Democratize Finance for All”

    การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ช่วยให้ Robinhood สามารถ ผ่านข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ ได้ง่ายขึ้น และเข้าถึงผลิตภัณฑ์คริปโตได้รวดเร็วขึ้น โดยมี Pieter Tanuri เจ้าของใหญ่ของทั้งสองบริษัทในอินโดนีเซีย เข้ามาร่วมเป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ให้กับ Robinhood หลังดีลเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าจะปิดการซื้อขายในครึ่งแรกของปี 2026

    ดีลนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Robinhood กำลังเติบโตอย่างมาก โดยปี 2025 หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบ 268% และเพิ่งถูกบรรจุเข้าสู่ดัชนี S&P 500 รวมถึงการขยายไปสู่ตลาดใหม่อย่าง prediction markets อีกด้วย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Robinhood เข้าซื้อกิจการในอินโดนีเซีย
    Buana Capital Sekuritas และ Pedagang Aset Kripto

    ศักยภาพตลาดอินโดนีเซีย
    นักลงทุนตลาดทุน 19 ล้านคน และนักเทรดคริปโต 17 ล้านคน

    กลยุทธ์การขยายธุรกิจ
    การซื้อกิจการช่วยให้ผ่านข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและเข้าถึงคริปโตได้เร็วขึ้น

    ที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์
    Pieter Tanuri จะร่วมเป็นที่ปรึกษาให้ Robinhood หลังดีลเสร็จสิ้น

    การเติบโตของ Robinhood
    หุ้นเพิ่มขึ้น 268% ในปี 2025 และเข้าดัชนี S&P 500

    ความเสี่ยงด้านการแข่งขันและกฎระเบียบ
    ตลาดอินโดนีเซียมีผู้เล่นคริปโตจำนวนมาก และกฎระเบียบอาจเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/robinhood-to-enter-indonesia-with-brokerage-crypto-trader-acquisition
    💹 Robinhood บุกอินโดนีเซียด้วยการซื้อกิจการโบรกเกอร์และผู้ให้บริการคริปโต Robinhood Markets ประกาศเข้าซื้อกิจการ Buana Capital Sekuritas (บริษัทโบรกเกอร์ในอินโดนีเซีย) และ Pedagang Aset Kripto (ผู้ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาต) เพื่อขยายธุรกิจเข้าสู่หนึ่งในตลาดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินโดนีเซียถือเป็นประเทศที่มีการยอมรับคริปโตสูงมาก โดยมีนักลงทุนในตลาดทุนกว่า 19 ล้านคน และนักเทรดคริปโตมากกว่า 17 ล้านคน ทำให้ Robinhood มองว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในการเติบโตและสอดคล้องกับพันธกิจ “Democratize Finance for All” การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ช่วยให้ Robinhood สามารถ ผ่านข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ ได้ง่ายขึ้น และเข้าถึงผลิตภัณฑ์คริปโตได้รวดเร็วขึ้น โดยมี Pieter Tanuri เจ้าของใหญ่ของทั้งสองบริษัทในอินโดนีเซีย เข้ามาร่วมเป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ให้กับ Robinhood หลังดีลเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าจะปิดการซื้อขายในครึ่งแรกของปี 2026 ดีลนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Robinhood กำลังเติบโตอย่างมาก โดยปี 2025 หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นเกือบ 268% และเพิ่งถูกบรรจุเข้าสู่ดัชนี S&P 500 รวมถึงการขยายไปสู่ตลาดใหม่อย่าง prediction markets อีกด้วย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Robinhood เข้าซื้อกิจการในอินโดนีเซีย ➡️ Buana Capital Sekuritas และ Pedagang Aset Kripto ✅ ศักยภาพตลาดอินโดนีเซีย ➡️ นักลงทุนตลาดทุน 19 ล้านคน และนักเทรดคริปโต 17 ล้านคน ✅ กลยุทธ์การขยายธุรกิจ ➡️ การซื้อกิจการช่วยให้ผ่านข้อกำหนดด้านกฎระเบียบและเข้าถึงคริปโตได้เร็วขึ้น ✅ ที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ ➡️ Pieter Tanuri จะร่วมเป็นที่ปรึกษาให้ Robinhood หลังดีลเสร็จสิ้น ✅ การเติบโตของ Robinhood ➡️ หุ้นเพิ่มขึ้น 268% ในปี 2025 และเข้าดัชนี S&P 500 ‼️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขันและกฎระเบียบ ⛔ ตลาดอินโดนีเซียมีผู้เล่นคริปโตจำนวนมาก และกฎระเบียบอาจเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/08/robinhood-to-enter-indonesia-with-brokerage-crypto-trader-acquisition
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Robinhood to enter Indonesia with brokerage, crypto trader acquisition
    Dec 7 (Reuters) - Robinhood Markets will acquire Indonesian brokerage firm Buana Capital Sekuritas and licensed digital asset trader Pedagang Aset Kripto, marking the retail trading platform's entry into one of Southeast Asia's major crypto hubs, the company said in a blog post on Sunday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหันกลับมามอง microSD card

    ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนกำลังพิจารณานำ microSD card slot กลับมาอีกครั้ง หลังจากราคาหน่วยความจำ DRAM พุ่งสูงจนทำให้ต้นทุนการผลิตและราคาสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    รายงานล่าสุดเผยว่า หลายบริษัทสมาร์ทโฟนกำลังพิจารณา นำช่องใส่ microSD card กลับมา เพื่อช่วยผู้บริโภคจัดการกับราคาสมาร์ทโฟนที่แพงขึ้น เนื่องจากต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้นทำให้การเพิ่มความจุภายในเครื่องเป็นเรื่องยาก การกลับมาใช้ microSD card จึงถูกมองว่าเป็นทางออกที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถขยายความจุได้เองโดยไม่ต้องซื้อรุ่นที่แพงกว่า

    ราคาหน่วยความจำพุ่งสูง
    ราคาของ DRAM และ NAND flash กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2025 สาเหตุหลักมาจาก ความต้องการชิป AI ที่สูงเกินคาด ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนทั่วโลก ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจึงต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น และอาจส่งผลให้ราคาสมาร์ทโฟนระดับกลางถึงสูงปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก

    กลยุทธ์เพื่อดึงดูดผู้บริโภค
    การนำ microSD card slot กลับมาไม่เพียงช่วยลดแรงกดดันด้านราคา แต่ยังเป็น กลยุทธ์การตลาด ที่ช่วยสร้างความแตกต่างในตลาดที่แข่งขันสูง ผู้ใช้จำนวนมากยังคงชื่นชอบการมีตัวเลือกในการขยายความจุเอง ซึ่งอาจกลายเป็นจุดขายใหม่ของสมาร์ทโฟนรุ่นถัดไป

    ความเสี่ยงและข้อจำกัด
    แม้ microSD card จะช่วยแก้ปัญหาชั่วคราว แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ความเร็วในการอ่านเขียนที่ต่ำกว่า หน่วยความจำภายใน และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ หากราคาหน่วยความจำยังคงสูงต่อเนื่อง อาจทำให้ผู้ผลิตต้องหาทางเลือกอื่น เช่น เทคโนโลยีหน่วยความจำใหม่ หรือการปรับโครงสร้างราคา

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนพิจารณานำ microSD card slot กลับมา
    เพื่อช่วยผู้บริโภคขยายความจุเอง
    ลดแรงกดดันจากราคาสมาร์ทโฟนที่สูงขึ้น

    ราคาหน่วยความจำ DRAM และ NAND flash พุ่งสูง
    สาเหตุจากความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้น
    ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสมาร์ทโฟนสูงขึ้น

    microSD card เป็นกลยุทธ์การตลาดใหม่
    สร้างความแตกต่างในตลาดที่แข่งขันสูง
    ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความยืดหยุ่น

    ข้อจำกัดของ microSD card
    ความเร็วในการอ่านเขียนต่ำกว่าหน่วยความจำภายใน
    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล

    ความเสี่ยงจากราคาหน่วยความจำที่ยังคงสูง
    อาจทำให้ผู้ผลิตต้องหาทางเลือกอื่น
    ผู้บริโภคอาจยังคงเผชิญราคาสมาร์ทโฟนที่แพงขึ้น

    https://wccftech.com/smartphone-manufacturers-rumored-to-bring-back-microsd-card-slot-due-to-surging-dram-prices/
    💾 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหันกลับมามอง microSD card ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนกำลังพิจารณานำ microSD card slot กลับมาอีกครั้ง หลังจากราคาหน่วยความจำ DRAM พุ่งสูงจนทำให้ต้นทุนการผลิตและราคาสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายงานล่าสุดเผยว่า หลายบริษัทสมาร์ทโฟนกำลังพิจารณา นำช่องใส่ microSD card กลับมา เพื่อช่วยผู้บริโภคจัดการกับราคาสมาร์ทโฟนที่แพงขึ้น เนื่องจากต้นทุน DRAM ที่สูงขึ้นทำให้การเพิ่มความจุภายในเครื่องเป็นเรื่องยาก การกลับมาใช้ microSD card จึงถูกมองว่าเป็นทางออกที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถขยายความจุได้เองโดยไม่ต้องซื้อรุ่นที่แพงกว่า 📈 ราคาหน่วยความจำพุ่งสูง ราคาของ DRAM และ NAND flash กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2025 สาเหตุหลักมาจาก ความต้องการชิป AI ที่สูงเกินคาด ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนทั่วโลก ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจึงต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น และอาจส่งผลให้ราคาสมาร์ทโฟนระดับกลางถึงสูงปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 🔄 กลยุทธ์เพื่อดึงดูดผู้บริโภค การนำ microSD card slot กลับมาไม่เพียงช่วยลดแรงกดดันด้านราคา แต่ยังเป็น กลยุทธ์การตลาด ที่ช่วยสร้างความแตกต่างในตลาดที่แข่งขันสูง ผู้ใช้จำนวนมากยังคงชื่นชอบการมีตัวเลือกในการขยายความจุเอง ซึ่งอาจกลายเป็นจุดขายใหม่ของสมาร์ทโฟนรุ่นถัดไป ⚠️ ความเสี่ยงและข้อจำกัด แม้ microSD card จะช่วยแก้ปัญหาชั่วคราว แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ความเร็วในการอ่านเขียนที่ต่ำกว่า หน่วยความจำภายใน และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล นอกจากนี้ หากราคาหน่วยความจำยังคงสูงต่อเนื่อง อาจทำให้ผู้ผลิตต้องหาทางเลือกอื่น เช่น เทคโนโลยีหน่วยความจำใหม่ หรือการปรับโครงสร้างราคา 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนพิจารณานำ microSD card slot กลับมา ➡️ เพื่อช่วยผู้บริโภคขยายความจุเอง ➡️ ลดแรงกดดันจากราคาสมาร์ทโฟนที่สูงขึ้น ✅ ราคาหน่วยความจำ DRAM และ NAND flash พุ่งสูง ➡️ สาเหตุจากความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้น ➡️ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสมาร์ทโฟนสูงขึ้น ✅ microSD card เป็นกลยุทธ์การตลาดใหม่ ➡️ สร้างความแตกต่างในตลาดที่แข่งขันสูง ➡️ ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความยืดหยุ่น ‼️ ข้อจำกัดของ microSD card ⛔ ความเร็วในการอ่านเขียนต่ำกว่าหน่วยความจำภายใน ⛔ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล ‼️ ความเสี่ยงจากราคาหน่วยความจำที่ยังคงสูง ⛔ อาจทำให้ผู้ผลิตต้องหาทางเลือกอื่น ⛔ ผู้บริโภคอาจยังคงเผชิญราคาสมาร์ทโฟนที่แพงขึ้น https://wccftech.com/smartphone-manufacturers-rumored-to-bring-back-microsd-card-slot-due-to-surging-dram-prices/
    WCCFTECH.COM
    Smartphone Manufacturers Are Considering Bringing Back The microSD Card Slot To Help Consumers With Their Purchase Nightmare In Wake Of The Increasing DRAM Prices
    A wild rumor claims that smartphone manufacturers are contemplating on bringing back the microSD card slot to help consumers through the DRAM price surge
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความตึงเครียดระหว่างจีน-ญี่ปุ่น กระทบธุรกิจเกมของญี่ปุ่นอย่างหนัก

    บทวิเคราะห์จาก Niko Partners ชี้ว่า ความตึงเครียดระหว่างจีนและญี่ปุ่นอาจส่งผลกระทบต่อการอนุมัติวิดีโอเกมญี่ปุ่นในตลาดจีน ซึ่งญี่ปุ่นถือเป็นแหล่งนำเข้าเกมรายใหญ่ที่สุด คิดเป็นกว่า 30% ของเกมต่างชาติที่ได้รับอนุญาตในจีน หากถูกระงับจริงจะกระทบต่อผู้พัฒนาและผู้จัดจำหน่ายญี่ปุ่นอย่างหนัก

    ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Sanae Takaichi แสดงท่าทีว่าจะเข้าไปแทรกแซงหากจีนพยายามรวมชาติไต้หวัน จีนตอบโต้ด้วยการเรียกร้องให้ญี่ปุ่นถอนคำพูด พร้อมออกมาตรการ เช่น ระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทะเลจากญี่ปุ่น และ หยุดอนุมัติภาพยนตร์ญี่ปุ่น

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกม
    จีนเป็นตลาดเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และญี่ปุ่นคือผู้ส่งออกเกมรายใหญ่ที่สุดไปยังจีน คิดเป็น 30% ของเกมต่างชาติที่ได้รับอนุญาตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หากจีนเลือกที่จะระงับการอนุมัติเกมญี่ปุ่นเหมือนที่ทำกับภาพยนตร์ จะส่งผลกระทบมหาศาลต่อบริษัทเกมญี่ปุ่นที่พึ่งพาผู้เล่นจีน เช่น Nintendo, Capcom และ Square Enix

    มุมมองนักวิเคราะห์
    แม้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าจีนจะหยุดอนุมัติเกมญี่ปุ่น แต่ Niko Partners เตือนว่าความเสี่ยงนี้มีอยู่จริง และจะเป็น “แรงกระแทกครั้งใหญ่” ต่อผู้พัฒนาเกมญี่ปุ่นที่มีรายได้จำนวนมากจากตลาดจีน โดยเฉพาะในช่วงที่อุตสาหกรรมเกมทั่วโลกกำลังแข่งขันสูงและต้นทุนพัฒนาเกมเพิ่มขึ้น

    แนวโน้มในอนาคต
    หากความสัมพันธ์ยังคงเสื่อมลง การเปิดตัวเกมญี่ปุ่นในจีนอาจล่าช้า หรือถูกปฏิเสธโดยตรง ซึ่งจะทำให้การเปิดตัวคอนโซลใหม่อย่าง Nintendo Switch 2 ในจีนต้องรอไปอีกนาน และอาจเปลี่ยนทิศทางการลงทุนของบริษัทเกมญี่ปุ่นในตลาดเอเชีย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ญี่ปุ่นเป็นผู้ส่งออกเกมรายใหญ่ที่สุดไปจีน
    คิดเป็น 30% ของเกมต่างชาติที่ได้รับอนุญาต

    ความตึงเครียดทางการเมือง
    เกิดจากท่าทีของญี่ปุ่นต่อประเด็นไต้หวัน

    มาตรการตอบโต้ของจีน
    ระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทะเล และหยุดอนุมัติภาพยนตร์ญี่ปุ่น

    ความเสี่ยงต่ออุตสาหกรรมเกม
    อาจกระทบต่อบริษัทญี่ปุ่นที่พึ่งพาผู้เล่นจีน เช่น Nintendo และ Capcom

    ความเสี่ยงหากจีนหยุดอนุมัติเกมญี่ปุ่น
    จะกระทบต่อรายได้มหาศาลและการเปิดตัวคอนโซลใหม่ในจีน

    ความท้าทายต่อผู้พัฒนาเกมญี่ปุ่น
    ต้องหาตลาดใหม่รองรับหากสูญเสียผู้เล่นจีนจำนวนมาก

    https://wccftech.com/china-japan-tensions-could-impact-japanese-game-market-says-analyst/
    ⚔️ ความตึงเครียดระหว่างจีน-ญี่ปุ่น กระทบธุรกิจเกมของญี่ปุ่นอย่างหนัก บทวิเคราะห์จาก Niko Partners ชี้ว่า ความตึงเครียดระหว่างจีนและญี่ปุ่นอาจส่งผลกระทบต่อการอนุมัติวิดีโอเกมญี่ปุ่นในตลาดจีน ซึ่งญี่ปุ่นถือเป็นแหล่งนำเข้าเกมรายใหญ่ที่สุด คิดเป็นกว่า 30% ของเกมต่างชาติที่ได้รับอนุญาตในจีน หากถูกระงับจริงจะกระทบต่อผู้พัฒนาและผู้จัดจำหน่ายญี่ปุ่นอย่างหนัก ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Sanae Takaichi แสดงท่าทีว่าจะเข้าไปแทรกแซงหากจีนพยายามรวมชาติไต้หวัน จีนตอบโต้ด้วยการเรียกร้องให้ญี่ปุ่นถอนคำพูด พร้อมออกมาตรการ เช่น ระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทะเลจากญี่ปุ่น และ หยุดอนุมัติภาพยนตร์ญี่ปุ่น 🎮 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเกม จีนเป็นตลาดเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และญี่ปุ่นคือผู้ส่งออกเกมรายใหญ่ที่สุดไปยังจีน คิดเป็น 30% ของเกมต่างชาติที่ได้รับอนุญาตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หากจีนเลือกที่จะระงับการอนุมัติเกมญี่ปุ่นเหมือนที่ทำกับภาพยนตร์ จะส่งผลกระทบมหาศาลต่อบริษัทเกมญี่ปุ่นที่พึ่งพาผู้เล่นจีน เช่น Nintendo, Capcom และ Square Enix 🌐 มุมมองนักวิเคราะห์ แม้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าจีนจะหยุดอนุมัติเกมญี่ปุ่น แต่ Niko Partners เตือนว่าความเสี่ยงนี้มีอยู่จริง และจะเป็น “แรงกระแทกครั้งใหญ่” ต่อผู้พัฒนาเกมญี่ปุ่นที่มีรายได้จำนวนมากจากตลาดจีน โดยเฉพาะในช่วงที่อุตสาหกรรมเกมทั่วโลกกำลังแข่งขันสูงและต้นทุนพัฒนาเกมเพิ่มขึ้น 🔮 แนวโน้มในอนาคต หากความสัมพันธ์ยังคงเสื่อมลง การเปิดตัวเกมญี่ปุ่นในจีนอาจล่าช้า หรือถูกปฏิเสธโดยตรง ซึ่งจะทำให้การเปิดตัวคอนโซลใหม่อย่าง Nintendo Switch 2 ในจีนต้องรอไปอีกนาน และอาจเปลี่ยนทิศทางการลงทุนของบริษัทเกมญี่ปุ่นในตลาดเอเชีย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ญี่ปุ่นเป็นผู้ส่งออกเกมรายใหญ่ที่สุดไปจีน ➡️ คิดเป็น 30% ของเกมต่างชาติที่ได้รับอนุญาต ✅ ความตึงเครียดทางการเมือง ➡️ เกิดจากท่าทีของญี่ปุ่นต่อประเด็นไต้หวัน ✅ มาตรการตอบโต้ของจีน ➡️ ระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารทะเล และหยุดอนุมัติภาพยนตร์ญี่ปุ่น ✅ ความเสี่ยงต่ออุตสาหกรรมเกม ➡️ อาจกระทบต่อบริษัทญี่ปุ่นที่พึ่งพาผู้เล่นจีน เช่น Nintendo และ Capcom ‼️ ความเสี่ยงหากจีนหยุดอนุมัติเกมญี่ปุ่น ⛔ จะกระทบต่อรายได้มหาศาลและการเปิดตัวคอนโซลใหม่ในจีน ‼️ ความท้าทายต่อผู้พัฒนาเกมญี่ปุ่น ⛔ ต้องหาตลาดใหม่รองรับหากสูญเสียผู้เล่นจีนจำนวนมาก https://wccftech.com/china-japan-tensions-could-impact-japanese-game-market-says-analyst/
    WCCFTECH.COM
    China Could Deal A Huge Blow to Japanese Video Game Market Amidst Rising Tensions Between the Nations
    Rising tensions between Japan and China could end up impacting the Japanese video game market, if China takes retaliatory actions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 413 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าของ Chromebook

    ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนเป็นต้นไป Google และ Nvidia ร่วมมือกันมอบสิทธิ์ GeForce Now Fast Pass ฟรี 1 ปี ให้กับผู้ใช้ Chromebook รุ่นใหม่ โดยสิทธิ์นี้จะให้การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์เกมของ Nvidia แบบ Priority Access และไม่มีโฆษณา ซึ่งถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมบน Chromebook ที่ปกติไม่สามารถเล่นเกม PC ได้โดยตรง

    รายละเอียดของ Fast Pass
    Fast Pass จะมอบเวลาเล่นเกม 10 ชั่วโมงต่อเดือน และสามารถสะสมเพิ่มได้สูงสุดถึง 15 ชั่วโมงหากมีการเหลือเวลาเล่นจากเดือนก่อน ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเกมกว่า 2,000 เกม จากแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Steam, Epic Games Store และ Xbox โดยใช้ Chromebook ที่มีสเปกเบา ๆ แต่เชื่อมต่อกับ GPU เสมือนของ Nvidia ผ่านระบบคลาวด์

    เปรียบเทียบกับแพ็กเกจอื่น
    Fast Pass มีความคล้ายกับแพ็กเกจฟรี แต่เพิ่มสิทธิ์ Priority Access และไม่มีโฆษณา ต่างจากแพ็กเกจ Performance และ Ultimate ที่ให้สิทธิ์เข้าถึงเกมกว่า 4,000 เกม และฟีเจอร์ “Install-to-Play” รวมถึงการเล่นที่ความละเอียดสูงสุดถึง 5K และเฟรมเรตสูงสุด 360 FPS โดยใช้ GPU ระดับ RTX 4080 และ RTX 5080

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ Chromebook
    Chromebook ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานเบา ๆ เช่นงานเอกสารและการเรียน แต่การเพิ่มบริการ Fast Pass ทำให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสประสบการณ์เกม PC ได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์แรง ๆ ถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ให้กับ Chromebook และช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเกมคุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าของ Chromebook
    ได้รับ GeForce Now Fast Pass ฟรี 1 ปี

    รายละเอียดของ Fast Pass
    เล่นเกมได้ 10–15 ชั่วโมงต่อเดือน
    เข้าถึงเกมกว่า 2,000 เกมจาก Steam, Epic, Xbox

    เปรียบเทียบกับแพ็กเกจอื่น
    Performance และ Ultimate มีเกมมากกว่า 4,000 เกม
    Ultimate รองรับ 5K และ 360 FPS ด้วย RTX 5080

    ความสำคัญต่อผู้ใช้ Chromebook
    Chromebook สามารถเล่นเกม PC ผ่านคลาวด์ได้
    เปิดตลาดใหม่ให้กับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ต้องการเครื่องแรง

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    Fast Pass มีข้อจำกัดเวลาเล่นเพียง 10–15 ชั่วโมงต่อเดือน
    ไม่รองรับเกมทั้งหมดเหมือนแพ็กเกจ Performance/Ultimate
    หากอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร อาจกระทบต่อประสบการณ์เล่นเกม

    https://www.tomshardware.com/video-games/cloud-gaming/new-chromebook-owners-are-getting-an-exclusive-free-nvidia-geforce-now-subscription-for-one-year-fast-pass-gives-chromebook-gamers-ad-free-priority-access-to-cloud-servers
    🎁 สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าของ Chromebook ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายนเป็นต้นไป Google และ Nvidia ร่วมมือกันมอบสิทธิ์ GeForce Now Fast Pass ฟรี 1 ปี ให้กับผู้ใช้ Chromebook รุ่นใหม่ โดยสิทธิ์นี้จะให้การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์เกมของ Nvidia แบบ Priority Access และไม่มีโฆษณา ซึ่งถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมบน Chromebook ที่ปกติไม่สามารถเล่นเกม PC ได้โดยตรง 🎮 รายละเอียดของ Fast Pass Fast Pass จะมอบเวลาเล่นเกม 10 ชั่วโมงต่อเดือน และสามารถสะสมเพิ่มได้สูงสุดถึง 15 ชั่วโมงหากมีการเหลือเวลาเล่นจากเดือนก่อน ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเกมกว่า 2,000 เกม จากแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Steam, Epic Games Store และ Xbox โดยใช้ Chromebook ที่มีสเปกเบา ๆ แต่เชื่อมต่อกับ GPU เสมือนของ Nvidia ผ่านระบบคลาวด์ ⚡ เปรียบเทียบกับแพ็กเกจอื่น Fast Pass มีความคล้ายกับแพ็กเกจฟรี แต่เพิ่มสิทธิ์ Priority Access และไม่มีโฆษณา ต่างจากแพ็กเกจ Performance และ Ultimate ที่ให้สิทธิ์เข้าถึงเกมกว่า 4,000 เกม และฟีเจอร์ “Install-to-Play” รวมถึงการเล่นที่ความละเอียดสูงสุดถึง 5K และเฟรมเรตสูงสุด 360 FPS โดยใช้ GPU ระดับ RTX 4080 และ RTX 5080 🌐 ความสำคัญต่อผู้ใช้ Chromebook Chromebook ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานเบา ๆ เช่นงานเอกสารและการเรียน แต่การเพิ่มบริการ Fast Pass ทำให้ผู้ใช้สามารถสัมผัสประสบการณ์เกม PC ได้โดยไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์แรง ๆ ถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ให้กับ Chromebook และช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเกมคุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าของ Chromebook ➡️ ได้รับ GeForce Now Fast Pass ฟรี 1 ปี ✅ รายละเอียดของ Fast Pass ➡️ เล่นเกมได้ 10–15 ชั่วโมงต่อเดือน ➡️ เข้าถึงเกมกว่า 2,000 เกมจาก Steam, Epic, Xbox ✅ เปรียบเทียบกับแพ็กเกจอื่น ➡️ Performance และ Ultimate มีเกมมากกว่า 4,000 เกม ➡️ Ultimate รองรับ 5K และ 360 FPS ด้วย RTX 5080 ✅ ความสำคัญต่อผู้ใช้ Chromebook ➡️ Chromebook สามารถเล่นเกม PC ผ่านคลาวด์ได้ ➡️ เปิดตลาดใหม่ให้กับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ต้องการเครื่องแรง ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ Fast Pass มีข้อจำกัดเวลาเล่นเพียง 10–15 ชั่วโมงต่อเดือน ⛔ ไม่รองรับเกมทั้งหมดเหมือนแพ็กเกจ Performance/Ultimate ⛔ หากอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร อาจกระทบต่อประสบการณ์เล่นเกม https://www.tomshardware.com/video-games/cloud-gaming/new-chromebook-owners-are-getting-an-exclusive-free-nvidia-geforce-now-subscription-for-one-year-fast-pass-gives-chromebook-gamers-ad-free-priority-access-to-cloud-servers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอบพระคุณท่านนายก ที่ให้ความสำคัญกับไม่ยอมเป็นไก่รองบ่อน ขอบพระคุณท่าน รมต.ศุภจี ที่หาตลาดใหม่ ไม่ยอมสหรัฐอเมริกา

    ท่านนายกฯ ครับ แค่นำสามจังหวัดกับหนึ่งเกาะ กลับมาสู่ราชอาณาจักร ไม่ต้องบุกพนมเปญ ให้เสียงบประมาณ ให้เสียศักดิ์ศรี

    https://www.youtube.com/live/0bOqR0aCli4?si=WaBEhszJsgYxncja
    ขอบพระคุณท่านนายก ที่ให้ความสำคัญกับไม่ยอมเป็นไก่รองบ่อน ขอบพระคุณท่าน รมต.ศุภจี ที่หาตลาดใหม่ ไม่ยอมสหรัฐอเมริกา ท่านนายกฯ ครับ แค่นำสามจังหวัดกับหนึ่งเกาะ กลับมาสู่ราชอาณาจักร ไม่ต้องบุกพนมเปญ ให้เสียงบประมาณ ให้เสียศักดิ์ศรี https://www.youtube.com/live/0bOqR0aCli4?si=WaBEhszJsgYxncja
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tesla Megapack – ทางออกสำหรับศูนย์ข้อมูล AI

    Tesla เปิดตัวการตลาดใหม่สำหรับ Megapack แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งมีการใช้พลังงานแบบผันผวนสูง โดยเฉพาะการฝึกโมเดลที่ใช้ GPU นับพันตัวพร้อมกัน ทำให้โหลดไฟฟ้าอาจแกว่งขึ้นลงถึง 90% ภายในเสี้ยววินาที Megapack ถูกออกแบบมาเพื่อดูดซับความผันผวนเหล่านี้และรักษาเสถียรภาพของแรงดันไฟฟ้าและความถี่

    ปัญหาความเสถียรของโครงข่ายไฟฟ้า
    รายงานจาก North American Electric Reliability Corporation (NERC) เตือนว่าศูนย์ข้อมูล AI กำลังสร้างแรงกดดันต่อโครงข่ายไฟฟ้าแบบไม่เคยมีมาก่อน การซิงโครไนซ์ข้อมูลและการ checkpoint ของโมเดลทำให้โหลดไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบไฟฟ้าแบบเดิมไม่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ Tesla จึงนำเสนอ Megapack เป็น “buffer” ที่ตอบสนองทันทีโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเชิงกล

    ความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์
    Tesla อ้างว่า Megapack ให้ “outsized value” โดยสามารถสร้างมูลค่าได้ถึง 50 พันล้านดอลลาร์ต่อกิกะวัตต์ สำหรับระบบที่ทำงาน 2 ชั่วโมงตลอดอายุการใช้งาน 20 ปี จุดเด่นอีกอย่างคือการผลิตและส่งมอบได้รวดเร็ว ซึ่งช่วยตอบโจทย์นักพัฒนา AI ที่กำลังรอคิวเชื่อมต่อไฟฟ้าจำนวนมากในสหรัฐฯ

    คำถามที่ยังค้างคา
    แม้ Megapack จะถูกมองว่าเป็นทางออก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะถูกบูรณาการเข้ากับโครงสร้างไฟฟ้าเดิมในรูปแบบใด เช่น จะใช้เป็น UPS ภายในศูนย์ข้อมูล หรือเป็น front-of-meter grid support รวมถึงประเด็นด้านค่าใช้จ่ายจริงและการคิดค่าบริการไฟฟ้า (demand charges) ที่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Tesla เปิดตัว Megapack สำหรับศูนย์ข้อมูล AI
    ลดความผันผวนของโหลดไฟฟ้าได้ถึง 90%

    ปัญหาความเสถียรของโครงข่ายไฟฟ้า
    AI workloads ทำให้โหลดไฟฟ้าแกว่งขึ้นลงหลายเมกะวัตต์ในเสี้ยววินาที

    ความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์
    มูลค่า 50 พันล้านดอลลาร์ต่อกิกะวัตต์ในระบบ 2 ชั่วโมง อายุใช้งาน 20 ปี

    คำถามเรื่องการบูรณาการระบบ
    ยังไม่ชัดว่าจะใช้เป็น UPS หรือ grid support

    ความไม่โปร่งใสด้านต้นทุนจริง
    ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเรื่อง demand charges และค่าใช้จ่ายรวม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/tesla-targets-ai-data-centers-with-megapack-as-grid-strain-fears-grow
    🔋 Tesla Megapack – ทางออกสำหรับศูนย์ข้อมูล AI Tesla เปิดตัวการตลาดใหม่สำหรับ Megapack แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล AI ซึ่งมีการใช้พลังงานแบบผันผวนสูง โดยเฉพาะการฝึกโมเดลที่ใช้ GPU นับพันตัวพร้อมกัน ทำให้โหลดไฟฟ้าอาจแกว่งขึ้นลงถึง 90% ภายในเสี้ยววินาที Megapack ถูกออกแบบมาเพื่อดูดซับความผันผวนเหล่านี้และรักษาเสถียรภาพของแรงดันไฟฟ้าและความถี่ ⚡ ปัญหาความเสถียรของโครงข่ายไฟฟ้า รายงานจาก North American Electric Reliability Corporation (NERC) เตือนว่าศูนย์ข้อมูล AI กำลังสร้างแรงกดดันต่อโครงข่ายไฟฟ้าแบบไม่เคยมีมาก่อน การซิงโครไนซ์ข้อมูลและการ checkpoint ของโมเดลทำให้โหลดไฟฟ้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบไฟฟ้าแบบเดิมไม่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับ Tesla จึงนำเสนอ Megapack เป็น “buffer” ที่ตอบสนองทันทีโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเชิงกล 💰 ความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์ Tesla อ้างว่า Megapack ให้ “outsized value” โดยสามารถสร้างมูลค่าได้ถึง 50 พันล้านดอลลาร์ต่อกิกะวัตต์ สำหรับระบบที่ทำงาน 2 ชั่วโมงตลอดอายุการใช้งาน 20 ปี จุดเด่นอีกอย่างคือการผลิตและส่งมอบได้รวดเร็ว ซึ่งช่วยตอบโจทย์นักพัฒนา AI ที่กำลังรอคิวเชื่อมต่อไฟฟ้าจำนวนมากในสหรัฐฯ 🏗️ คำถามที่ยังค้างคา แม้ Megapack จะถูกมองว่าเป็นทางออก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะถูกบูรณาการเข้ากับโครงสร้างไฟฟ้าเดิมในรูปแบบใด เช่น จะใช้เป็น UPS ภายในศูนย์ข้อมูล หรือเป็น front-of-meter grid support รวมถึงประเด็นด้านค่าใช้จ่ายจริงและการคิดค่าบริการไฟฟ้า (demand charges) ที่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Tesla เปิดตัว Megapack สำหรับศูนย์ข้อมูล AI ➡️ ลดความผันผวนของโหลดไฟฟ้าได้ถึง 90% ✅ ปัญหาความเสถียรของโครงข่ายไฟฟ้า ➡️ AI workloads ทำให้โหลดไฟฟ้าแกว่งขึ้นลงหลายเมกะวัตต์ในเสี้ยววินาที ✅ ความคุ้มค่าเชิงเศรษฐศาสตร์ ➡️ มูลค่า 50 พันล้านดอลลาร์ต่อกิกะวัตต์ในระบบ 2 ชั่วโมง อายุใช้งาน 20 ปี ‼️ คำถามเรื่องการบูรณาการระบบ ⛔ ยังไม่ชัดว่าจะใช้เป็น UPS หรือ grid support ‼️ความไม่โปร่งใสด้านต้นทุนจริง ⛔ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเรื่อง demand charges และค่าใช้จ่ายรวม https://www.tomshardware.com/tech-industry/tesla-targets-ai-data-centers-with-megapack-as-grid-strain-fears-grow
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: Broadcom + CAMB.AI สร้างชิป AI สำหรับการแปลและดับบเสียงบนอุปกรณ์

    Broadcom จับมือสตาร์ทอัพ CAMB.AI พัฒนาชิป AI รุ่นใหม่ที่สามารถทำงาน แปลภาษา, ดับบเสียง และบรรยายภาพแบบเรียลไทม์บนอุปกรณ์โดยตรง โดยไม่ต้องเชื่อมต่อคลาวด์ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว ลดความหน่วง และรองรับกว่า 150 ภาษาในอนาคต

    Broadcom ประกาศความร่วมมือกับ CAMB.AI เพื่อพัฒนาชิป AI ที่สามารถทำงานด้านเสียงและภาษาได้แบบ on-device จุดเด่นคือ:
    แปลภาษาและดับบเสียงทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ต
    บรรยายภาพ (audio description) เช่น อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอให้ผู้พิการทางสายตาเข้าใจ
    ความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น เพราะข้อมูลไม่ต้องส่งไปยังคลาวด์
    ลดความหน่วง (latency) ทำให้การใช้งานเป็นธรรมชาติและทันที

    ในเดโมที่นำเสนอ มีการใช้คลิปจากภาพยนตร์ Ratatouille ที่ระบบสามารถแปลบทสนทนาและบรรยายภาพ เช่น “หนูกำลังวิ่งในครัว” ได้ทันทีในหลายภาษา

    แม้เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดสอบ แต่ CAMB.AI มีผลงานจริงแล้ว เช่น การนำไปใช้ใน NASCAR, Comcast และ Eurovision Song Contest ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพเชิงพาณิชย์

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก
    แนวโน้ม AI on-device กำลังมาแรง เพราะช่วยลดการพึ่งพาเครือข่ายและเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล
    Apple และ Google ก็พัฒนา AI บนชิปมือถือเพื่อรองรับงานด้านภาษาและภาพเช่นกัน
    หาก Broadcom และ CAMB.AI ทำสำเร็จ อาจเปิดตลาดใหม่สำหรับ ทีวี, สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สื่อสาร ที่สามารถแปลและบรรยายได้ทันที
    เทคโนโลยีนี้ยังมีความสำคัญต่อ การเข้าถึง (Accessibility) โดยเฉพาะผู้พิการทางสายตาและผู้ใช้ที่ต้องการสื่อสารข้ามภาษา

    Broadcom จับมือ CAMB.AI พัฒนาชิป AI ใหม่
    ทำงานด้านแปลภาษา, ดับบเสียง และบรรยายภาพแบบเรียลไทม์บนอุปกรณ์

    เดโมจาก Ratatouille แสดงศักยภาพ
    แปลบทสนทนาและบรรยายภาพทันทีในหลายภาษา

    การใช้งานจริงแล้วในหลายองค์กร
    NASCAR, Comcast และ Eurovision Song Contest

    รองรับกว่า 150 ภาษาในอนาคต
    เพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดความหน่วงเพราะไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์

    คำเตือนและข้อจำกัด
    เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นทดสอบ ประสิทธิภาพจริงอาจไม่ตรงกับเดโม
    หากไม่พัฒนาให้เสถียร อาจกระทบต่อการใช้งานในเชิงพาณิชย์

    https://securityonline.info/broadcom-camb-ai-developing-ai-chip-for-real-time-on-device-dubbing/
    🎙️ ข่าวใหญ่: Broadcom + CAMB.AI สร้างชิป AI สำหรับการแปลและดับบเสียงบนอุปกรณ์ Broadcom จับมือสตาร์ทอัพ CAMB.AI พัฒนาชิป AI รุ่นใหม่ที่สามารถทำงาน แปลภาษา, ดับบเสียง และบรรยายภาพแบบเรียลไทม์บนอุปกรณ์โดยตรง โดยไม่ต้องเชื่อมต่อคลาวด์ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว ลดความหน่วง และรองรับกว่า 150 ภาษาในอนาคต Broadcom ประกาศความร่วมมือกับ CAMB.AI เพื่อพัฒนาชิป AI ที่สามารถทำงานด้านเสียงและภาษาได้แบบ on-device จุดเด่นคือ: 🔰 แปลภาษาและดับบเสียงทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ต 🔰 บรรยายภาพ (audio description) เช่น อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอให้ผู้พิการทางสายตาเข้าใจ 🔰 ความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น เพราะข้อมูลไม่ต้องส่งไปยังคลาวด์ 🔰 ลดความหน่วง (latency) ทำให้การใช้งานเป็นธรรมชาติและทันที ในเดโมที่นำเสนอ มีการใช้คลิปจากภาพยนตร์ Ratatouille ที่ระบบสามารถแปลบทสนทนาและบรรยายภาพ เช่น “หนูกำลังวิ่งในครัว” ได้ทันทีในหลายภาษา แม้เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดสอบ แต่ CAMB.AI มีผลงานจริงแล้ว เช่น การนำไปใช้ใน NASCAR, Comcast และ Eurovision Song Contest ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพเชิงพาณิชย์ 🔍 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก 💠 แนวโน้ม AI on-device กำลังมาแรง เพราะช่วยลดการพึ่งพาเครือข่ายและเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล 💠 Apple และ Google ก็พัฒนา AI บนชิปมือถือเพื่อรองรับงานด้านภาษาและภาพเช่นกัน 💠 หาก Broadcom และ CAMB.AI ทำสำเร็จ อาจเปิดตลาดใหม่สำหรับ ทีวี, สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สื่อสาร ที่สามารถแปลและบรรยายได้ทันที 💠 เทคโนโลยีนี้ยังมีความสำคัญต่อ การเข้าถึง (Accessibility) โดยเฉพาะผู้พิการทางสายตาและผู้ใช้ที่ต้องการสื่อสารข้ามภาษา ✅ Broadcom จับมือ CAMB.AI พัฒนาชิป AI ใหม่ ➡️ ทำงานด้านแปลภาษา, ดับบเสียง และบรรยายภาพแบบเรียลไทม์บนอุปกรณ์ ✅ เดโมจาก Ratatouille แสดงศักยภาพ ➡️ แปลบทสนทนาและบรรยายภาพทันทีในหลายภาษา ✅ การใช้งานจริงแล้วในหลายองค์กร ➡️ NASCAR, Comcast และ Eurovision Song Contest ✅ รองรับกว่า 150 ภาษาในอนาคต ➡️ เพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดความหน่วงเพราะไม่ต้องพึ่งพาคลาวด์ ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ เทคโนโลยียังอยู่ในขั้นทดสอบ ประสิทธิภาพจริงอาจไม่ตรงกับเดโม ⛔ หากไม่พัฒนาให้เสถียร อาจกระทบต่อการใช้งานในเชิงพาณิชย์ https://securityonline.info/broadcom-camb-ai-developing-ai-chip-for-real-time-on-device-dubbing/
    SECURITYONLINE.INFO
    Broadcom & CAMB.AI Developing AI Chip for Real-Time On-Device Dubbing
    Broadcom partnered with CAMB.AI to develop an AI chip for real-time, on-device audio translation and dubbing in 150+ languages, promising ultra-low latency.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA หันหลังให้จีน ส่งชิป AI สู่ UAE — Microsoft ได้ไฟเขียวจากรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมลงทุนกว่า $7.9 พันล้านดอลลาร์

    บทความจาก Wccftech เผยว่า Microsoft ได้รับใบอนุญาตส่งออกชิป AI ของ NVIDIA ไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งถือเป็นการเปิดตลาดใหม่หลังจากความตึงเครียดกับจีน โดย Brad Smith ประธาน Microsoft ระบุว่าการอนุมัตินี้เกิดขึ้นหลังผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจากรัฐบาลสหรัฐฯ.

    หลังจากที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI ไปยังจีนอย่างเข้มงวด NVIDIA จึงมองหาตลาดใหม่ และ UAE กลายเป็นเป้าหมายสำคัญ โดย Microsoft กลายเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกที่ได้รับสิทธิ์ในการส่งออกชิปเหล่านี้ พร้อมแผนลงทุนในภูมิภาคสูงถึง $7.9 พันล้านดอลลาร์ ระหว่างปี 2026–2029

    การเปลี่ยนทิศนี้เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดี Donald Trump เดินทางเยือนกลุ่มประเทศอ่าว และมีการลงนามข้อตกลงระหว่าง NVIDIA กับองค์กรรัฐในภูมิภาค เช่น G42 และ HUMAIN AI ซึ่งสะท้อนว่าอุตสาหกรรม AI กำลังขยายตัวสู่ตะวันออกกลางอย่างจริงจัง

    Microsoft ได้รับใบอนุญาตส่งออกชิป AI ของ NVIDIA ไปยัง UAE
    ผ่านการตรวจสอบด้าน cybersecurity และ physical security จากรัฐบาลสหรัฐฯ

    Microsoft เตรียมลงทุน $7.9 พันล้านดอลลาร์ใน UAE
    ระหว่างปี 2026–2029 เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐาน AI

    NVIDIA เซ็นสัญญากับองค์กรรัฐในอ่าว เช่น G42 และ HUMAIN AI
    หลังการเยือนของประธานาธิบดี Trump

    ตลาดตะวันออกกลางกลายเป็นโอกาสใหม่ของ NVIDIA
    หลังจากเผชิญข้อจำกัดในการส่งออกไปจีน

    UAE อาจกลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของเทคโนโลยี AI
    ด้วยการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก

    ความสัมพันธ์กับจีนยังคงตึงเครียด
    การส่งออกชิป AI ไปจีนยังถูกจำกัดอย่างเข้มงวด

    การลงทุนในภูมิภาคใหม่ต้องเผชิญความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์
    ต้องจับตาความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและนโยบายในตะวันออกกลาง

    https://wccftech.com/forget-china-nvidia-ai-chips-are-now-going-to-the-uae/
    🇦🇪 NVIDIA หันหลังให้จีน ส่งชิป AI สู่ UAE — Microsoft ได้ไฟเขียวจากรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมลงทุนกว่า $7.9 พันล้านดอลลาร์ บทความจาก Wccftech เผยว่า Microsoft ได้รับใบอนุญาตส่งออกชิป AI ของ NVIDIA ไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งถือเป็นการเปิดตลาดใหม่หลังจากความตึงเครียดกับจีน โดย Brad Smith ประธาน Microsoft ระบุว่าการอนุมัตินี้เกิดขึ้นหลังผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจากรัฐบาลสหรัฐฯ. หลังจากที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI ไปยังจีนอย่างเข้มงวด NVIDIA จึงมองหาตลาดใหม่ และ UAE กลายเป็นเป้าหมายสำคัญ โดย Microsoft กลายเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกที่ได้รับสิทธิ์ในการส่งออกชิปเหล่านี้ พร้อมแผนลงทุนในภูมิภาคสูงถึง $7.9 พันล้านดอลลาร์ ระหว่างปี 2026–2029 การเปลี่ยนทิศนี้เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดี Donald Trump เดินทางเยือนกลุ่มประเทศอ่าว และมีการลงนามข้อตกลงระหว่าง NVIDIA กับองค์กรรัฐในภูมิภาค เช่น G42 และ HUMAIN AI ซึ่งสะท้อนว่าอุตสาหกรรม AI กำลังขยายตัวสู่ตะวันออกกลางอย่างจริงจัง ✅ Microsoft ได้รับใบอนุญาตส่งออกชิป AI ของ NVIDIA ไปยัง UAE ➡️ ผ่านการตรวจสอบด้าน cybersecurity และ physical security จากรัฐบาลสหรัฐฯ ✅ Microsoft เตรียมลงทุน $7.9 พันล้านดอลลาร์ใน UAE ➡️ ระหว่างปี 2026–2029 เพื่อขยายโครงสร้างพื้นฐาน AI ✅ NVIDIA เซ็นสัญญากับองค์กรรัฐในอ่าว เช่น G42 และ HUMAIN AI ➡️ หลังการเยือนของประธานาธิบดี Trump ✅ ตลาดตะวันออกกลางกลายเป็นโอกาสใหม่ของ NVIDIA ➡️ หลังจากเผชิญข้อจำกัดในการส่งออกไปจีน ✅ UAE อาจกลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของเทคโนโลยี AI ➡️ ด้วยการสนับสนุนจากบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก ‼️ ความสัมพันธ์กับจีนยังคงตึงเครียด ⛔ การส่งออกชิป AI ไปจีนยังถูกจำกัดอย่างเข้มงวด ‼️ การลงทุนในภูมิภาคใหม่ต้องเผชิญความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ⛔ ต้องจับตาความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและนโยบายในตะวันออกกลาง https://wccftech.com/forget-china-nvidia-ai-chips-are-now-going-to-the-uae/
    WCCFTECH.COM
    Forget China — NVIDIA’s AI Chips Are Now Heading to the UAE as Microsoft Receives ‘Pivotal’ Approval from the Trump Administration
    NVIDIA's AI chips are now heading to the UAE, as, according to a new report, Microsoft has received the required export license.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 416 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – บทไอ้โหดเขียน 1 – 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน”

    ตอน 1

    เล่าเรื่องมาถึงตอนนี้ คงจะพอเห็นกันรางๆแล้วว่า การปฏิวัติรัสเซีย โดยพวก Bolsheviks น่าจะเป็นละครลวงโลก ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษ ที่สามารถต้มคนได้ทั้งโลก เป็นเวลานานร่วมร้อยปีแล้ว โดยแทบจะยังไม่มีใครรู้เรื่อง เอะใจ หรือ สงสัย เพราะเอกสารที่เกี่ยวข้อง ได้ถูกทำลายไปเกือบหมด เกือบหมด แต่ไม่หมด มีนักวิชาการ นักประวัติศาสตร์ ผู้ที่สนใจความจริง และรักความเป็นธรรม และที่สำคัญ ผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อชีวิต และประเทศชาติของเขา เริ่มทะยอยค้นคว้า หาข้อเท็จจริง จากเอกสารที่ถูกกระจายซุกซ่อน บิดเบือน และพรางตัวในรูปแบบต่างๆ

    แต่ความจริงไม่เคยถูกซ่อนได้มิดหมด ไม่เคยถูกเก็บ จนไร้ร่องรอยโดยสิ้นเชิง ความจริง รอให้เราตามรอย ขุดค้นขึ้นมาใหม่

    มันไม่ใช่การปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ อย่างที่เราเข้าใจกันแม้แต่น้อย แต่มันเป็นการสมคบกันของโจร ในเสื้อคลุมต่างๆ ที่จะปล้นรัสเซีย อย่างไม่ให้เหลือซาก อย่างโหดเหี้ยม และเลือดเย็น ทำลายสถาบัน ทำลายประเทศ ผ่านการสร้างฉากปฏิวัติ ซึ่งเป็นรูปแบบการปล้นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และมันได้ถูกนำมาพัฒนา เป็นการปล้นประเทศอื่นๆต่อไปอีกมากมาย

    (และก็น่าคิดว่า การเปลี่ยนแปลงการปกครอง หรือการปฏิวัติของไทยเรา ในปี พ.ศ.2475 (ค.ศ.1932) ที่มีผู้สรรเสริญกันหนักหนา ก็อาจจะเป็นละครลวงโลก โดยการจัดฉากเช่นเดียวกันนี
    ผมมาฉุกใจคิด ตอนกำลังเขียนนิทานเรื่องนี้ เลยแวะไปหาเอกสารเก่าๆอ่าน เจอเรื่อง พระยากัลยาณไมตรี (ฟรานซิส บี แซร์ Francis Bowes Sayre) นักกฏหมายจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ที่เข้ามายังสยามประเทศ เป็นที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศของไทย ในสมัยพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ตั้งแต่ปี พ.ศ.2466 (ค.ศ.1923) ในปี พ.ศ.2468 (ค.ศ.1925) มีตำแหน่งเป็น เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย มาถึงสมัยพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 นาย Sayre ถวายคำปรึกษาด้านสนธิสัญญา และร่วมร่างเค้าโครงรัฐธรรมนูญ ฉบับพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วย ในชื่อ “Outline of Preliminary Draft” และเป็นผู้แทนรัฐบาลไทย ในการเจรจาเรื่องสนธิสัญญาไทย- สหรัฐอเมริกา

    จะรู้สึกสะกิดใจกันไหมครับ ถ้าผมบอกว่า Francis B Sayre เป็นลูกเขยของประธานาธิบดี Woodrow Wilson และช่วงปี ค.ศ.1917 เขาทำงานกับ YMCA จำได้ไหมครับว่า ผมเคยเล่าว่าหน่วยงานนี้ จริงๆ ทำหน้าที่อะไร และ YMCA ไปทำอะไรที่รัสเซีย ในปี 1917 สงสัยผมคงจะต้องไปค้นหาข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่อง คุณลูกเขยนี่เพิ่มเติมสักหน่อย)

    กลับมาที่เรื่องปล้นรัสเซียต่อ ตัวละครสำคัญคือ American International Corperation (AIC) ซึ่งตามบทละครลวงโลกครั้งยิ่งใหญ่นี้ น่าจะถูกตั้งขึ้นมา เพื่อรับบทเป็นผู้นำการปล้น โดยเป็นผู้จัดการระดมทุน ที่ต้องลงทุนค่าใช้จ่ายในการเตรียมการจัดหาพรรคพวก อาวุธยุทธภัณท์ เครื่องไม้เครื่องมือ รวมทั้งการซ้อมปล้นที่อื่นมาหลายแห่ง ตั้งแต่ เม็กซิโก อเมริกาใต้ ยันไปถึงเมืองจีน ก่อนที่จะเป็นการลงมือในฉากใหญ่ ปล้นรัสเซีย จักรวรรดิที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง มีทรัพยากรมากมายซ่อนอยู่

    แต่ก็ยังไม่ชัดเจน ว่าใครกันแน่ ที่เป็นคนสั่งให้มีการ “ปล้น” และใครเป็นคนวางแผนปล้น และทำไมถึงเลือกรัสเซีย มันจะมาจากสาเหตุอะไรก็ตาม มันต้องทำเป็นขบวนการ เตรียมการล่วงหน้าเป็นปีๆ (AIC ตั้งขึ้น ค.ศ.1915 การปฏิวัติรัสเซียทั้ง 2 ครั้ง เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1917)

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน”

    ตอน 2

    หนังสือพิมพ์ New York Times วันที่ 17 มีนาคม 1917 เขียนรายงานถึงนักข่าวชื่อดัง นาย George Kennan ซึ่งได้พูดในวันที่กลุ่มสังคมนิยมชาวอเมริกัน ได้จัดงานชุมนุม เพื่อฉลองการปฏิวัติรัสเซีย ว่า

    “นาย Kennan เล่าให้ฟัง ถึงผลงานของกลุ่ม Friends of Russian Freedom ที่เข้าไปเกี่ยว กับการปฏิวัติรัสเซีย เขาบอกว่า เรื่องมันเริ่มมาตั้งแต่ สงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่นที่รบกันตั้งแต่ ค.ศ. 1904 นู่น เมื่อรบกันไปปีกว่า ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายได้เปรียบ และจับทหารรัสเซียได้ประมาณ 12,000 เอามาขังไว้ที่ญี่ปุ่น ตอนนั้นเขาอยู่ที่โตเกียว และได้รับอนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมนักโทษ ที่เป็นทหารรัสเซีย

    เขาได้รับหน้าที่ ให้เป็นคนหว่านความคิด สร้างความเกลียดชัง และต้องการปฏิวัติไล่ซาร์ของรัสเซีย เอาไว้ในหัวของพวกทหารรัสเซีย ที่ถูกจับนั้น โดยพวกญี่ปุ่นให้ความสนับสนุน เอกสารการโฆษณาชวนเชื่อ และชวนให้ปฏิวัติ ถูกจัดส่งไปที่ญี่ปุ่นจากอเมริกา หลังจากปฏิบัติภาระกิจ หว่านเมล็ดพันธ์ปฏิวัติเสร็จ เขาก็เดินทางกลับอเมริกา

    เขาบอกว่า ขบวนการหว่านความคิดให้ปฏิวัติซาร์ของรัสเซียนี้ นี้ได้รับการอุปถัมภ์ และสนับสนุนด้านเงินทุน จากนักการเงินใหญ่แห่งนิวยอร์ค ที่ทุกคนรู้จักดีและชื่นชม คือนาย Jacob H Schiff นั่นแหละ!

    เมื่อสงครามโลกเกิดขึ้น มีทหารรัสเซีย ถูกควบคุมอยู่ที่ญี่ปุ่น ประมาณ 50,000 คน ทำให้ Friends of Russian Freedom ได้หว่านเมล็ดพันธุ์ปฏิวัติ เพิ่มขึ้นอีกมากมาย
    “…แต่ผมไม่รู้จำนวนที่แน่นอน ของพวกเมล็ดพันธุ์ที่เราหว่านไว้ และได้มาเข้าร่วมการปฏิวัติครั้งนี้… “นาย Kennan บอก

    หลังจากนั้น เขาก็อ่านโทรเลขจากนาย Jacob H Schiff บางส่วน ให้พวกที่มาชุมนุมฟัง

    “ …คุณช่วยบอกพวกเรา ที่มาฉลองกันคืนนี้ว่า ผมเสียใจอย่างยิ่ง ที่ไม่สามารถมาร่วมฉลองการได้รางวัลของ Friends of Russian Freedom ที่เราได้คาดหวัง และพยายามอยู่หลายปี เพื่อจะทำให้มันเกิดผลสำเร็จ..”
    นอกจากนี้ Schiff ยังแสดงความเห็นของเขาต่อการปฏิวัติรัสเซีย อย่างไม่ปิดบัง ผ่านบทความของเขาที่เขียนลงใน นสพ.ต่าง ๆ

    สำหรับ หนังสือพิมพ์ The Evening Post นั้น Schiff เขียนว่า

    “เพื่อตอบคำถามพวกคุณ ถึงความเห็นของผม เกี่ยวกับสถานะการเงินของรัสเซีย ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า ด้วยการพัฒนาทรัพยากรอันมหาศาล ของรัสเซียอย่างถูกต้อง หลังจากกำจัดคนใหญ่คนโตไปแล้วนั้น(หมายถึงซาร์) รัสเซียก็สามารถจะพัฒนาสถานะการเงินของตน ให้ขึ้นมาอยู่ในกลุ่ม ที่จะสร้างประโยชน์แก่ตลาดเงินของโลกได้”

    คำตอบของ Schiff สะท้อนถึงความเห็น ของแวดวงการเงินในลอนดอนและนิวยอร์ค เกี่ยวกับการปฏิวัติรัสเซียได้ดีพอสมควร

    นาย John B. Young แห่งธนาคาร National City Bank ซึ่ง บังเอิญอยู่ที่รัสเซีย ในปี 1916 เพื่อทำหน้าที่จัดการเงินกู้ ของพวกนายทุนอเมริกันให้แก่ซาร์ว่า ได้มีการพูดถึงการปฏิวัติกันทั่วไปหมดในรัสเซียในปีนั้น เขาคิดว่า พวกที่จะทำการปฏิวัติ เป็นพวกที่เอาจริง

    หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงาน ว่า ตลาดแลกเปลี่ยนเงินที่ลอนดอน คึกคักล่วงหน้า 24 ชั่วโมงก่อนการปฏิวัติ เหมือนกับทางลอนดอนรู้ว่า จะมีการปฏิวัติก่อนนิวยอร์ค และนักการเงินรุ่นใหญ่ ทั้งในตลาดเงินลอนดอนและนิวยอร์ค ต่างมีความเห็นไปในทางบวกกับการปฏิวัติของรัสเซีย พวกกลุ่มนักการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรม มองว่าการปฏิวัตินี้ เป็นการกำจัดอิทธิพล ของกลุ่มที่ฝักฝ่ายเยอรมันในรัฐบาลรัสเซียออกไป และจะทำให้การทำสงครามกับเยอรมัน ของรัสเซียเข้มแข็งขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อฝ่ายอังกฤษ

    นาย Jacob H Schiff เป็นใคร และอะไรทำให้เขาลงทุนให้ นาย George Kennan ถือตะกร้า ไปหว่านเมล็ดพันธุ์ปฏิวัติถึงในโตเกียว

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน”

    ตอน 3

    Jacob H Schiff เป็นลูกของนักบวชชาวยิว (Jewish Rabbi) เกิดที่เมือง Frankfurt เยอรมัน เขาถูกส่งให้มาอยู่ที่อเมริกา ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ตามคำสั่งและโดยเงินทุนของตระกูลโคตรรวย เจ้าพ่อ Rothschild

    ภาระกิจของ Schiff คือ เข้าไปคลุกอยู่กับนักการเงินชาวอเมริกัน และรอฟังคำสั่งจากเจ้านายต่อไป

    เมื่ออยู่อเมริกานานพอ จนศึกษาลู่ทางเกี่ยวกับธุรกิจการเงินได้พอสมควร ด้วยทุนของ Rothschild Schiff ก็ซื้อกิจการธนาคารที่อินเดียนนา ชื่อ Kuhn and Loeb ซึ่งเป็นของ Abraham Kuhn และ Solomon Loeb พร้อมกันนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าคุมกิจการได้หมดจด Schiff ก็แต่งงานกับ Therese ลูกสาวของ Solomon หลังจากนั้นก็ซื้อหุ้นส่วนของ Kuhn มาทั้งหมด ทำให้เขาเป็นเจ้าของ Kuhn and Loeb แต่ผู้เดียว และย้ายมาทำธุรกิจที่นิวยอร์ค เป็นสูตรการซื้อกิจการที่น่าสนใจ แต่งงานกับลูกสาว แล้วได้เป็นเจ้าของกิจการของพ่อตา

    เมื่อมาเปิดตัวที่นิวยอร์ค ในช่วงแรกๆ เขาไม่ค่อยได้รับการต้อนรับจากเจ้าถิ่นใหญ่คือ House of Morgan ซึ่งเป็นเจ้าพ่อคุมวอลสตรีทอยู่ แต่ Schiff ในฐานะตัวแทนของเจ้าพ่อ Rothschild ก็คงไม่มีใครกล้ารังเกียจที่จะ คบค้า แล้ว Schiff กับ Morgan ก็จับมือกัน เงินมันกลิ่นเดียวกัน ข่าวบอกว่า Schiff เป็นตัวกลาง เชื่อม Rothschild กับ House of Morgan เข้าด้วยกัน

    นิตยสาร Truth ฉบับวันที่ 16 ธันวาคม 1912 ลงบทความ ที่เขียนโดย George R Conroy ดังนี้:

    ” Schiff นายใหญ่ของธุรกิจการเงิน Kuhn, Loeb & Co ซึ่งเป็นตัวแทนของ Rothschild ทางฝั่งนี้ของแอตแลนติก ได้รับการยกย่องว่า เป็นนักยุทธศาสตร์การเงินตัวฉกาจ เขาเป็นผู้ให้คำแนะนำด้านการเงิน กับกิจการของ Standard Oil ที่ยิ่งใหญ่ เขามีความสนิทสนม และทำงานใกล้ชิดกับพวก Harrimans และ Rockefellers ในธุรกิจเกี่ยวกับกิจการทางรถไฟทั้งหมดของพวกนั้น จนทำให้พวกนั้น มีอำนาจควบคุมธุรกิจเกี่ยวกับทางรถไฟและการเงินของอเมริกา”
    Kuhn, Loeb & Co มีหุ้นส่วนอีกคน คือ น้องเขยของ Schiff ชื่อ Paul Warburg ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการวางแผน และดำเนินการให้กลุ่มวอลสตรีท สร้างระบบธนาคารกลาง
    ( Federal Reserve System ) ที่มีเอกชนเป็นเจ้าของ ในอเมริกาได้สำเร็จ และยังเป็นอยู่จนถึงทุกวันนี้

    นอกจากนี้ Paul มีน้องชาย ชื่อ Max Warburg ซึ่งดูแลกิจการ Kuhn, Loeb & Co อยู่ในเยอรมันและ Max ยังทำงานให้รัฐบาลเยอรมัน โดยเป็นหัวหน้าหน่วยจารกรรม ของรัฐบาลเยอรมันในช่วงสงครามโลกอีกด้วย นอกจากนี้ Paul ยังมีน้องชายอีกหนึ่งคน ชื่อ Felix ที่ทำหน้าที่เป็นผู้แทนการค้าของรัฐบาลเยอรมัน ประจำที่กรุงสตอกโฮม หน้าที่นี้ในยามสงคราม ไม่ต่างอะไรกับหน้าที่สืบราชการลับนั่นเอง

    จึงไม่ใช่เป็นเรื่องแปลก ที่แม้จะอยู่อเมริกา แต่ Schiff ก็รู้ความเป็นไป ของอีกฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นอย่างดี ผ่านเครือข่ายธุรกิจของเขา และของกลุ่ม Rothschild

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน”

    ตอน 4

    Schiff ได้ข่าวว่า ซาร์นิโคลัส ที่ 1 ของรัสเซีย รังเกียจชาวยิวอย่างยิ่ง ทำการบีบคั้นชาวยิวสาระพัด และท้ายสุด เริ่มขบวนการที่จะส่งยิวออกนอกรัสเซีย ชาวยิวชื่อ Schiff จึงหาโอกาสที่จะแก้แค้น แทนพวกพ้องชาวยิวในรัสเซีย

    เมื่อได้ยินข่าวว่า รัสเซียกำลังจะต้องทำสงครามกับญี่ปุ่น และต้องการเงินทุนจำนวนมาก Schiff เรียก ประชุมชาวยิวที่บ้านเขา และกล่อมไม่ให้เศรษฐีเงินกู้ชาวยิว ให้เงินกู้แก่ฝั่งรัสเซีย Schiff อ้างว่ารัสเซียร้ายกาจกับชาวยิวอย่างมาก เป็นการเสี้ยมที่ได้ผล รัสเซียหาเงินกู้ไม่สำเร็จ

    ขณะเดียวกัน Baron Korekiyo Takahashi ตัวแทนของทางการญี่ปุ่น ก็กำลังหน้ามืด ในการหาเงินกู้ในนิวยอร์ค เพื่อจะใช้เป็นทุนในการไปรบกับรัสเซีย เขาไม่ได้รับความสนใจแม้แต่น้อย Takahashi จึงติดต่อไปทาง Rothschild ซึ่งก็ตอบปฎิเสธมา โดยให้เหตุผลว่า ไม่อยากผิดใจกับซาร์เพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่ม Rothschild ไปทำข้อตกลงกับกลุ่ม Rockefeller เกี่ยวกับการขุดหาน้ำมันของรัสเซีย โดยไม่ขออนุญาตซาร์ ทำให้ซาร์ไม่พอใจ Rothschild หาข้ออ้างให้พ้นตัว
    แต่แล้วโอกาสทองของทั้ง 2 ฝ่ายก็มาถึง เมื่อ Takahashi ได้รับเชิญไปงานเลี้ยงรายหนึ่ง ที่ลอนดอน เขาบังเอิญได้นั่งติดกับ Jacob Schiff เขาบอกกับ Schiff ว่าญี่ปุ่นต้องการเงินกู้ 30 ล้านเหรียญ เอามาเป็นทุนสู้กับรัสเซีย Jacob Schiff มองเห็นโอกาสได้รางวัลหลายต่อ ให้เงินกู้กับญี่ปุ่น เป็นการเปิดตลาดใหม่ ให้ญี่ปุ่นไปรบรัสเซีย ได้ล้างแค้นรัสเซียแทนยิว และได้หน้ารับใช้ Rothschild เจ้านาย มันมีแต่ได้กับได้ ใครจะไม่ฉวยโอกาสทองนี้ Schiff จึงตกลงรับคำ จะมาปั่นตลาดเงินในอเมริกา หาเงินทุนให้ญี่ปุ่นไปรบรัสเซีย

    วันที่ 12 พฤษภาคม 1904 พันธบัตรเงินกู้เพื่อญี่ปุ่น ขายคล่องยิ่งกว่าขนมปัง

    New York
    ต้มข้ามศตวรรษ – บทไอ้โหดเขียน 1 – 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน” ตอน 1 เล่าเรื่องมาถึงตอนนี้ คงจะพอเห็นกันรางๆแล้วว่า การปฏิวัติรัสเซีย โดยพวก Bolsheviks น่าจะเป็นละครลวงโลก ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษ ที่สามารถต้มคนได้ทั้งโลก เป็นเวลานานร่วมร้อยปีแล้ว โดยแทบจะยังไม่มีใครรู้เรื่อง เอะใจ หรือ สงสัย เพราะเอกสารที่เกี่ยวข้อง ได้ถูกทำลายไปเกือบหมด เกือบหมด แต่ไม่หมด มีนักวิชาการ นักประวัติศาสตร์ ผู้ที่สนใจความจริง และรักความเป็นธรรม และที่สำคัญ ผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อชีวิต และประเทศชาติของเขา เริ่มทะยอยค้นคว้า หาข้อเท็จจริง จากเอกสารที่ถูกกระจายซุกซ่อน บิดเบือน และพรางตัวในรูปแบบต่างๆ แต่ความจริงไม่เคยถูกซ่อนได้มิดหมด ไม่เคยถูกเก็บ จนไร้ร่องรอยโดยสิ้นเชิง ความจริง รอให้เราตามรอย ขุดค้นขึ้นมาใหม่ มันไม่ใช่การปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ อย่างที่เราเข้าใจกันแม้แต่น้อย แต่มันเป็นการสมคบกันของโจร ในเสื้อคลุมต่างๆ ที่จะปล้นรัสเซีย อย่างไม่ให้เหลือซาก อย่างโหดเหี้ยม และเลือดเย็น ทำลายสถาบัน ทำลายประเทศ ผ่านการสร้างฉากปฏิวัติ ซึ่งเป็นรูปแบบการปล้นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และมันได้ถูกนำมาพัฒนา เป็นการปล้นประเทศอื่นๆต่อไปอีกมากมาย (และก็น่าคิดว่า การเปลี่ยนแปลงการปกครอง หรือการปฏิวัติของไทยเรา ในปี พ.ศ.2475 (ค.ศ.1932) ที่มีผู้สรรเสริญกันหนักหนา ก็อาจจะเป็นละครลวงโลก โดยการจัดฉากเช่นเดียวกันนี ผมมาฉุกใจคิด ตอนกำลังเขียนนิทานเรื่องนี้ เลยแวะไปหาเอกสารเก่าๆอ่าน เจอเรื่อง พระยากัลยาณไมตรี (ฟรานซิส บี แซร์ Francis Bowes Sayre) นักกฏหมายจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ที่เข้ามายังสยามประเทศ เป็นที่ปรึกษาด้านการต่างประเทศของไทย ในสมัยพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ตั้งแต่ปี พ.ศ.2466 (ค.ศ.1923) ในปี พ.ศ.2468 (ค.ศ.1925) มีตำแหน่งเป็น เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย มาถึงสมัยพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 นาย Sayre ถวายคำปรึกษาด้านสนธิสัญญา และร่วมร่างเค้าโครงรัฐธรรมนูญ ฉบับพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวด้วย ในชื่อ “Outline of Preliminary Draft” และเป็นผู้แทนรัฐบาลไทย ในการเจรจาเรื่องสนธิสัญญาไทย- สหรัฐอเมริกา จะรู้สึกสะกิดใจกันไหมครับ ถ้าผมบอกว่า Francis B Sayre เป็นลูกเขยของประธานาธิบดี Woodrow Wilson และช่วงปี ค.ศ.1917 เขาทำงานกับ YMCA จำได้ไหมครับว่า ผมเคยเล่าว่าหน่วยงานนี้ จริงๆ ทำหน้าที่อะไร และ YMCA ไปทำอะไรที่รัสเซีย ในปี 1917 สงสัยผมคงจะต้องไปค้นหาข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่อง คุณลูกเขยนี่เพิ่มเติมสักหน่อย) กลับมาที่เรื่องปล้นรัสเซียต่อ ตัวละครสำคัญคือ American International Corperation (AIC) ซึ่งตามบทละครลวงโลกครั้งยิ่งใหญ่นี้ น่าจะถูกตั้งขึ้นมา เพื่อรับบทเป็นผู้นำการปล้น โดยเป็นผู้จัดการระดมทุน ที่ต้องลงทุนค่าใช้จ่ายในการเตรียมการจัดหาพรรคพวก อาวุธยุทธภัณท์ เครื่องไม้เครื่องมือ รวมทั้งการซ้อมปล้นที่อื่นมาหลายแห่ง ตั้งแต่ เม็กซิโก อเมริกาใต้ ยันไปถึงเมืองจีน ก่อนที่จะเป็นการลงมือในฉากใหญ่ ปล้นรัสเซีย จักรวรรดิที่มีอาณาบริเวณกว้างขวาง มีทรัพยากรมากมายซ่อนอยู่ แต่ก็ยังไม่ชัดเจน ว่าใครกันแน่ ที่เป็นคนสั่งให้มีการ “ปล้น” และใครเป็นคนวางแผนปล้น และทำไมถึงเลือกรัสเซีย มันจะมาจากสาเหตุอะไรก็ตาม มันต้องทำเป็นขบวนการ เตรียมการล่วงหน้าเป็นปีๆ (AIC ตั้งขึ้น ค.ศ.1915 การปฏิวัติรัสเซียทั้ง 2 ครั้ง เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1917) นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน” ตอน 2 หนังสือพิมพ์ New York Times วันที่ 17 มีนาคม 1917 เขียนรายงานถึงนักข่าวชื่อดัง นาย George Kennan ซึ่งได้พูดในวันที่กลุ่มสังคมนิยมชาวอเมริกัน ได้จัดงานชุมนุม เพื่อฉลองการปฏิวัติรัสเซีย ว่า “นาย Kennan เล่าให้ฟัง ถึงผลงานของกลุ่ม Friends of Russian Freedom ที่เข้าไปเกี่ยว กับการปฏิวัติรัสเซีย เขาบอกว่า เรื่องมันเริ่มมาตั้งแต่ สงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่นที่รบกันตั้งแต่ ค.ศ. 1904 นู่น เมื่อรบกันไปปีกว่า ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายได้เปรียบ และจับทหารรัสเซียได้ประมาณ 12,000 เอามาขังไว้ที่ญี่ปุ่น ตอนนั้นเขาอยู่ที่โตเกียว และได้รับอนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมนักโทษ ที่เป็นทหารรัสเซีย เขาได้รับหน้าที่ ให้เป็นคนหว่านความคิด สร้างความเกลียดชัง และต้องการปฏิวัติไล่ซาร์ของรัสเซีย เอาไว้ในหัวของพวกทหารรัสเซีย ที่ถูกจับนั้น โดยพวกญี่ปุ่นให้ความสนับสนุน เอกสารการโฆษณาชวนเชื่อ และชวนให้ปฏิวัติ ถูกจัดส่งไปที่ญี่ปุ่นจากอเมริกา หลังจากปฏิบัติภาระกิจ หว่านเมล็ดพันธ์ปฏิวัติเสร็จ เขาก็เดินทางกลับอเมริกา เขาบอกว่า ขบวนการหว่านความคิดให้ปฏิวัติซาร์ของรัสเซียนี้ นี้ได้รับการอุปถัมภ์ และสนับสนุนด้านเงินทุน จากนักการเงินใหญ่แห่งนิวยอร์ค ที่ทุกคนรู้จักดีและชื่นชม คือนาย Jacob H Schiff นั่นแหละ! เมื่อสงครามโลกเกิดขึ้น มีทหารรัสเซีย ถูกควบคุมอยู่ที่ญี่ปุ่น ประมาณ 50,000 คน ทำให้ Friends of Russian Freedom ได้หว่านเมล็ดพันธุ์ปฏิวัติ เพิ่มขึ้นอีกมากมาย “…แต่ผมไม่รู้จำนวนที่แน่นอน ของพวกเมล็ดพันธุ์ที่เราหว่านไว้ และได้มาเข้าร่วมการปฏิวัติครั้งนี้… “นาย Kennan บอก หลังจากนั้น เขาก็อ่านโทรเลขจากนาย Jacob H Schiff บางส่วน ให้พวกที่มาชุมนุมฟัง “ …คุณช่วยบอกพวกเรา ที่มาฉลองกันคืนนี้ว่า ผมเสียใจอย่างยิ่ง ที่ไม่สามารถมาร่วมฉลองการได้รางวัลของ Friends of Russian Freedom ที่เราได้คาดหวัง และพยายามอยู่หลายปี เพื่อจะทำให้มันเกิดผลสำเร็จ..” นอกจากนี้ Schiff ยังแสดงความเห็นของเขาต่อการปฏิวัติรัสเซีย อย่างไม่ปิดบัง ผ่านบทความของเขาที่เขียนลงใน นสพ.ต่าง ๆ สำหรับ หนังสือพิมพ์ The Evening Post นั้น Schiff เขียนว่า “เพื่อตอบคำถามพวกคุณ ถึงความเห็นของผม เกี่ยวกับสถานะการเงินของรัสเซีย ผมเชื่ออย่างยิ่งว่า ด้วยการพัฒนาทรัพยากรอันมหาศาล ของรัสเซียอย่างถูกต้อง หลังจากกำจัดคนใหญ่คนโตไปแล้วนั้น(หมายถึงซาร์) รัสเซียก็สามารถจะพัฒนาสถานะการเงินของตน ให้ขึ้นมาอยู่ในกลุ่ม ที่จะสร้างประโยชน์แก่ตลาดเงินของโลกได้” คำตอบของ Schiff สะท้อนถึงความเห็น ของแวดวงการเงินในลอนดอนและนิวยอร์ค เกี่ยวกับการปฏิวัติรัสเซียได้ดีพอสมควร นาย John B. Young แห่งธนาคาร National City Bank ซึ่ง บังเอิญอยู่ที่รัสเซีย ในปี 1916 เพื่อทำหน้าที่จัดการเงินกู้ ของพวกนายทุนอเมริกันให้แก่ซาร์ว่า ได้มีการพูดถึงการปฏิวัติกันทั่วไปหมดในรัสเซียในปีนั้น เขาคิดว่า พวกที่จะทำการปฏิวัติ เป็นพวกที่เอาจริง หนังสือพิมพ์ The New York Times รายงาน ว่า ตลาดแลกเปลี่ยนเงินที่ลอนดอน คึกคักล่วงหน้า 24 ชั่วโมงก่อนการปฏิวัติ เหมือนกับทางลอนดอนรู้ว่า จะมีการปฏิวัติก่อนนิวยอร์ค และนักการเงินรุ่นใหญ่ ทั้งในตลาดเงินลอนดอนและนิวยอร์ค ต่างมีความเห็นไปในทางบวกกับการปฏิวัติของรัสเซีย พวกกลุ่มนักการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรม มองว่าการปฏิวัตินี้ เป็นการกำจัดอิทธิพล ของกลุ่มที่ฝักฝ่ายเยอรมันในรัฐบาลรัสเซียออกไป และจะทำให้การทำสงครามกับเยอรมัน ของรัสเซียเข้มแข็งขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อฝ่ายอังกฤษ นาย Jacob H Schiff เป็นใคร และอะไรทำให้เขาลงทุนให้ นาย George Kennan ถือตะกร้า ไปหว่านเมล็ดพันธุ์ปฏิวัติถึงในโตเกียว นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน” ตอน 3 Jacob H Schiff เป็นลูกของนักบวชชาวยิว (Jewish Rabbi) เกิดที่เมือง Frankfurt เยอรมัน เขาถูกส่งให้มาอยู่ที่อเมริกา ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ตามคำสั่งและโดยเงินทุนของตระกูลโคตรรวย เจ้าพ่อ Rothschild ภาระกิจของ Schiff คือ เข้าไปคลุกอยู่กับนักการเงินชาวอเมริกัน และรอฟังคำสั่งจากเจ้านายต่อไป เมื่ออยู่อเมริกานานพอ จนศึกษาลู่ทางเกี่ยวกับธุรกิจการเงินได้พอสมควร ด้วยทุนของ Rothschild Schiff ก็ซื้อกิจการธนาคารที่อินเดียนนา ชื่อ Kuhn and Loeb ซึ่งเป็นของ Abraham Kuhn และ Solomon Loeb พร้อมกันนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าคุมกิจการได้หมดจด Schiff ก็แต่งงานกับ Therese ลูกสาวของ Solomon หลังจากนั้นก็ซื้อหุ้นส่วนของ Kuhn มาทั้งหมด ทำให้เขาเป็นเจ้าของ Kuhn and Loeb แต่ผู้เดียว และย้ายมาทำธุรกิจที่นิวยอร์ค เป็นสูตรการซื้อกิจการที่น่าสนใจ แต่งงานกับลูกสาว แล้วได้เป็นเจ้าของกิจการของพ่อตา เมื่อมาเปิดตัวที่นิวยอร์ค ในช่วงแรกๆ เขาไม่ค่อยได้รับการต้อนรับจากเจ้าถิ่นใหญ่คือ House of Morgan ซึ่งเป็นเจ้าพ่อคุมวอลสตรีทอยู่ แต่ Schiff ในฐานะตัวแทนของเจ้าพ่อ Rothschild ก็คงไม่มีใครกล้ารังเกียจที่จะ คบค้า แล้ว Schiff กับ Morgan ก็จับมือกัน เงินมันกลิ่นเดียวกัน ข่าวบอกว่า Schiff เป็นตัวกลาง เชื่อม Rothschild กับ House of Morgan เข้าด้วยกัน นิตยสาร Truth ฉบับวันที่ 16 ธันวาคม 1912 ลงบทความ ที่เขียนโดย George R Conroy ดังนี้: ” Schiff นายใหญ่ของธุรกิจการเงิน Kuhn, Loeb & Co ซึ่งเป็นตัวแทนของ Rothschild ทางฝั่งนี้ของแอตแลนติก ได้รับการยกย่องว่า เป็นนักยุทธศาสตร์การเงินตัวฉกาจ เขาเป็นผู้ให้คำแนะนำด้านการเงิน กับกิจการของ Standard Oil ที่ยิ่งใหญ่ เขามีความสนิทสนม และทำงานใกล้ชิดกับพวก Harrimans และ Rockefellers ในธุรกิจเกี่ยวกับกิจการทางรถไฟทั้งหมดของพวกนั้น จนทำให้พวกนั้น มีอำนาจควบคุมธุรกิจเกี่ยวกับทางรถไฟและการเงินของอเมริกา” Kuhn, Loeb & Co มีหุ้นส่วนอีกคน คือ น้องเขยของ Schiff ชื่อ Paul Warburg ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการวางแผน และดำเนินการให้กลุ่มวอลสตรีท สร้างระบบธนาคารกลาง ( Federal Reserve System ) ที่มีเอกชนเป็นเจ้าของ ในอเมริกาได้สำเร็จ และยังเป็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ Paul มีน้องชาย ชื่อ Max Warburg ซึ่งดูแลกิจการ Kuhn, Loeb & Co อยู่ในเยอรมันและ Max ยังทำงานให้รัฐบาลเยอรมัน โดยเป็นหัวหน้าหน่วยจารกรรม ของรัฐบาลเยอรมันในช่วงสงครามโลกอีกด้วย นอกจากนี้ Paul ยังมีน้องชายอีกหนึ่งคน ชื่อ Felix ที่ทำหน้าที่เป็นผู้แทนการค้าของรัฐบาลเยอรมัน ประจำที่กรุงสตอกโฮม หน้าที่นี้ในยามสงคราม ไม่ต่างอะไรกับหน้าที่สืบราชการลับนั่นเอง จึงไม่ใช่เป็นเรื่องแปลก ที่แม้จะอยู่อเมริกา แต่ Schiff ก็รู้ความเป็นไป ของอีกฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นอย่างดี ผ่านเครือข่ายธุรกิจของเขา และของกลุ่ม Rothschild นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 7 “บทไอ้โหดเขียน” ตอน 4 Schiff ได้ข่าวว่า ซาร์นิโคลัส ที่ 1 ของรัสเซีย รังเกียจชาวยิวอย่างยิ่ง ทำการบีบคั้นชาวยิวสาระพัด และท้ายสุด เริ่มขบวนการที่จะส่งยิวออกนอกรัสเซีย ชาวยิวชื่อ Schiff จึงหาโอกาสที่จะแก้แค้น แทนพวกพ้องชาวยิวในรัสเซีย เมื่อได้ยินข่าวว่า รัสเซียกำลังจะต้องทำสงครามกับญี่ปุ่น และต้องการเงินทุนจำนวนมาก Schiff เรียก ประชุมชาวยิวที่บ้านเขา และกล่อมไม่ให้เศรษฐีเงินกู้ชาวยิว ให้เงินกู้แก่ฝั่งรัสเซีย Schiff อ้างว่ารัสเซียร้ายกาจกับชาวยิวอย่างมาก เป็นการเสี้ยมที่ได้ผล รัสเซียหาเงินกู้ไม่สำเร็จ ขณะเดียวกัน Baron Korekiyo Takahashi ตัวแทนของทางการญี่ปุ่น ก็กำลังหน้ามืด ในการหาเงินกู้ในนิวยอร์ค เพื่อจะใช้เป็นทุนในการไปรบกับรัสเซีย เขาไม่ได้รับความสนใจแม้แต่น้อย Takahashi จึงติดต่อไปทาง Rothschild ซึ่งก็ตอบปฎิเสธมา โดยให้เหตุผลว่า ไม่อยากผิดใจกับซาร์เพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่ม Rothschild ไปทำข้อตกลงกับกลุ่ม Rockefeller เกี่ยวกับการขุดหาน้ำมันของรัสเซีย โดยไม่ขออนุญาตซาร์ ทำให้ซาร์ไม่พอใจ Rothschild หาข้ออ้างให้พ้นตัว แต่แล้วโอกาสทองของทั้ง 2 ฝ่ายก็มาถึง เมื่อ Takahashi ได้รับเชิญไปงานเลี้ยงรายหนึ่ง ที่ลอนดอน เขาบังเอิญได้นั่งติดกับ Jacob Schiff เขาบอกกับ Schiff ว่าญี่ปุ่นต้องการเงินกู้ 30 ล้านเหรียญ เอามาเป็นทุนสู้กับรัสเซีย Jacob Schiff มองเห็นโอกาสได้รางวัลหลายต่อ ให้เงินกู้กับญี่ปุ่น เป็นการเปิดตลาดใหม่ ให้ญี่ปุ่นไปรบรัสเซีย ได้ล้างแค้นรัสเซียแทนยิว และได้หน้ารับใช้ Rothschild เจ้านาย มันมีแต่ได้กับได้ ใครจะไม่ฉวยโอกาสทองนี้ Schiff จึงตกลงรับคำ จะมาปั่นตลาดเงินในอเมริกา หาเงินทุนให้ญี่ปุ่นไปรบรัสเซีย วันที่ 12 พฤษภาคม 1904 พันธบัตรเงินกู้เพื่อญี่ปุ่น ขายคล่องยิ่งกว่าขนมปัง New York
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1102 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยถึงการกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 26 และการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ประเทศไทยยืนยันให้ความร่วมมือแก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ สแกมเมอร์ โดยไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเพื่อหาพลังของภูมิภาคในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้เป็นรูปธรรมและจริงจัง เป็นการร่วมมือระดับนานาชาติ โดยพูดคุยกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ถึงวิธีการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแล้ว

    -ประชาชนควรได้รู้
    -ยังไม่เปิดจุดผ่านแดน
    -MOU 43 เสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญ
    -ตลาดใหม่หนุนส่งออก
    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยถึงการกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน - สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 26 และการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ประเทศไทยยืนยันให้ความร่วมมือแก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ สแกมเมอร์ โดยไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเพื่อหาพลังของภูมิภาคในการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้เป็นรูปธรรมและจริงจัง เป็นการร่วมมือระดับนานาชาติ โดยพูดคุยกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ถึงวิธีการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมอบหมายกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแล้ว -ประชาชนควรได้รู้ -ยังไม่เปิดจุดผ่านแดน -MOU 43 เสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญ -ตลาดใหม่หนุนส่งออก
    Like
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 579 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “MIPS I8500: โปรเซสเซอร์ยุคใหม่เพื่อขับเคลื่อน Physical AI” — สถาปัตยกรรม RISC-V ที่ออกแบบมาเพื่อการเคลื่อนย้ายข้อมูลแบบอัจฉริยะ

    บริษัท MIPS ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ GlobalFoundries ได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ชื่อว่า MIPS I8500 โดยเน้นการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์สำหรับแพลตฟอร์มที่ต้องการการตอบสนองทันที เช่น ระบบ AI ที่ทำงานนอกศูนย์ข้อมูล (Physical AI), โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร, อุตสาหกรรม, ยานยนต์ และระบบจัดเก็บข้อมูล

    I8500 ถูกออกแบบบนสถาปัตยกรรม RISC-V และมีความสามารถในการประมวลผลแบบ multithread สูงถึง 24 threads ต่อ cluster โดยมี 4 threads ต่อ core และรองรับการทำงานแบบ multi-cluster เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน

    จุดเด่นของ I8500 คือการเคลื่อนย้ายข้อมูลแบบ deterministic (กำหนดได้แน่นอน) และมี latency ต่ำมาก พร้อมระบบความปลอดภัยในตัว เหมาะสำหรับการจัดการ packet flows ระหว่าง accelerator ต่าง ๆ และการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับระบบคอมพิวเตอร์

    โปรเซสเซอร์นี้ยังรองรับระบบปฏิบัติการ Linux และ Real-Time OS พร้อมความสามารถในการทำงานร่วมกับโปรไฟล์ RVA23 ซึ่งช่วยให้พัฒนาแอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้นในระบบนิเวศของ RISC-V

    Steven Dickens จาก HyperFRAME Research กล่าวว่า I8500 เป็นก้าวสำคัญของการประมวลผลแบบ event-driven ที่ตอบโจทย์ตลาดใหม่ เช่น ยานยนต์อัตโนมัติและระบบควบคุมอุตสาหกรรม

    ข้อมูลในข่าว
    MIPS เปิดตัวโปรเซสเซอร์ I8500 สำหรับงาน Physical AI และการเคลื่อนย้ายข้อมูลแบบอัจฉริยะ
    ใช้สถาปัตยกรรม RISC-V พร้อม multithread สูงสุด 24 threads ต่อ cluster
    รองรับ multi-cluster deployments เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน
    มี latency ต่ำและ deterministic data movement พร้อมระบบความปลอดภัยในตัว
    เหมาะสำหรับงานในศูนย์ข้อมูล, ยานยนต์, อุตสาหกรรม และระบบสื่อสาร
    รองรับ Linux และ Real-Time OS พร้อมโปรไฟล์ RVA23
    ช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันในระบบ RISC-V เป็นไปอย่างราบรื่น
    Steven Dickens ระบุว่า I8500 เป็นก้าวสำคัญของการประมวลผลแบบ event-driven
    มี Atlas Explorer Core Model สำหรับการทดสอบร่วมระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
    เตรียมเปิดตัวในงาน RISC-V Summit North America วันที่ 22–23 ตุลาคม

    https://www.techpowerup.com/341911/mips-i8500-processor-orchestrates-data-movement-for-the-ai-era
    ⚙️ “MIPS I8500: โปรเซสเซอร์ยุคใหม่เพื่อขับเคลื่อน Physical AI” — สถาปัตยกรรม RISC-V ที่ออกแบบมาเพื่อการเคลื่อนย้ายข้อมูลแบบอัจฉริยะ บริษัท MIPS ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ GlobalFoundries ได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ชื่อว่า MIPS I8500 โดยเน้นการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์สำหรับแพลตฟอร์มที่ต้องการการตอบสนองทันที เช่น ระบบ AI ที่ทำงานนอกศูนย์ข้อมูล (Physical AI), โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร, อุตสาหกรรม, ยานยนต์ และระบบจัดเก็บข้อมูล I8500 ถูกออกแบบบนสถาปัตยกรรม RISC-V และมีความสามารถในการประมวลผลแบบ multithread สูงถึง 24 threads ต่อ cluster โดยมี 4 threads ต่อ core และรองรับการทำงานแบบ multi-cluster เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน จุดเด่นของ I8500 คือการเคลื่อนย้ายข้อมูลแบบ deterministic (กำหนดได้แน่นอน) และมี latency ต่ำมาก พร้อมระบบความปลอดภัยในตัว เหมาะสำหรับการจัดการ packet flows ระหว่าง accelerator ต่าง ๆ และการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับระบบคอมพิวเตอร์ โปรเซสเซอร์นี้ยังรองรับระบบปฏิบัติการ Linux และ Real-Time OS พร้อมความสามารถในการทำงานร่วมกับโปรไฟล์ RVA23 ซึ่งช่วยให้พัฒนาแอปพลิเคชันได้ง่ายขึ้นในระบบนิเวศของ RISC-V Steven Dickens จาก HyperFRAME Research กล่าวว่า I8500 เป็นก้าวสำคัญของการประมวลผลแบบ event-driven ที่ตอบโจทย์ตลาดใหม่ เช่น ยานยนต์อัตโนมัติและระบบควบคุมอุตสาหกรรม ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ MIPS เปิดตัวโปรเซสเซอร์ I8500 สำหรับงาน Physical AI และการเคลื่อนย้ายข้อมูลแบบอัจฉริยะ ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม RISC-V พร้อม multithread สูงสุด 24 threads ต่อ cluster ➡️ รองรับ multi-cluster deployments เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน ➡️ มี latency ต่ำและ deterministic data movement พร้อมระบบความปลอดภัยในตัว ➡️ เหมาะสำหรับงานในศูนย์ข้อมูล, ยานยนต์, อุตสาหกรรม และระบบสื่อสาร ➡️ รองรับ Linux และ Real-Time OS พร้อมโปรไฟล์ RVA23 ➡️ ช่วยให้การพัฒนาแอปพลิเคชันในระบบ RISC-V เป็นไปอย่างราบรื่น ➡️ Steven Dickens ระบุว่า I8500 เป็นก้าวสำคัญของการประมวลผลแบบ event-driven ➡️ มี Atlas Explorer Core Model สำหรับการทดสอบร่วมระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ➡️ เตรียมเปิดตัวในงาน RISC-V Summit North America วันที่ 22–23 ตุลาคม https://www.techpowerup.com/341911/mips-i8500-processor-orchestrates-data-movement-for-the-ai-era
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    MIPS I8500 Processor Orchestrates Data Movement for the AI Era
    MIPS, a GlobalFoundries company, announced today the MIPS I8500 processor is now sampling to lead customers. Featured at GlobalFoundries' Technology Summit in Munich, Germany today, the I8500 represents a class of intelligent data movement processor IP designed for real-time, event-driven computing ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • “iPhone พับได้อาจถูกกว่าที่คิด — Foxconn ลดต้นทุนบานพับเหลือ $70 พร้อมเปิดทางสู่ยุคใหม่ของ Apple”

    Apple กำลังเตรียมเปิดตัว iPhone พับได้ในปี 2026 โดยมีจุดเด่นสำคัญคือการลดต้นทุนของ “บานพับ” ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนและมีผลต่อราคาของอุปกรณ์อย่างมาก จากรายงานล่าสุดพบว่า Foxconn และ Shin Zu Shing (SZS) ได้ร่วมมือกันพัฒนาและผลิตบานพับสำหรับ iPhone พับได้ โดยสามารถลดราคาต่อหน่วยลงเหลือเพียง $70–$80 จากเดิมที่เคยประเมินไว้ที่ $100–$120

    การลดต้นทุนนี้ไม่ได้เกิดจากการใช้วัสดุราคาถูก แต่เป็นผลจากการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย Foxconn ใช้กำลังการผลิตขนาดใหญ่และเทคนิคการประกอบที่แม่นยำ ทำให้สามารถรักษาคุณภาพและความทนทานของบานพับได้ในขณะที่ลดต้นทุนลง

    Apple ยังวางแผนใช้โครงสร้างตัวเครื่องแบบไฮบริดระหว่างอะลูมิเนียมและไทเทเนียม เพื่อให้มีความแข็งแรงแต่ยังคงน้ำหนักเบา พร้อมหน้าจอภายในขนาด 7.8 นิ้ว และหน้าจอภายนอกขนาด 5.5 นิ้ว โดยมีการออกแบบบานพับให้ลดรอยพับ (crease) ให้เหลือน้อยที่สุด

    นอกจากนี้ Apple ยังควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด โดยให้ Foxconn และ SZS รับผิดชอบการผลิตบานพับกว่า 65% ของทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีก 35% เป็นของ Amphenol และอาจมี Luxshare-ICT เข้ามาเสริมในปี 2027 ซึ่งจะช่วยเพิ่มการแข่งขันและลดราคาลงอีกในอนาคต

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    บานพับของ iPhone พับได้มีราคาลดลงเหลือ $70–$80 ต่อหน่วย
    เดิมเคยประเมินไว้ที่ $100–$120
    Foxconn และ SZS ร่วมกันผลิตบานพับ โดย Foxconn ถือหุ้นมากกว่า
    Apple ควบคุมคุณภาพผ่านการเลือกซัพพลายเออร์หลัก
    Amphenol รับผิดชอบอีก 35% ของคำสั่งผลิตบานพับ
    Luxshare-ICT อาจเข้าร่วมเป็นซัพพลายเออร์ในปี 2027
    iPhone พับได้จะมีหน้าจอ 7.8 นิ้วภายใน และ 5.5 นิ้วภายนอก
    ใช้โครงสร้างอะลูมิเนียม-ไทเทเนียมแบบไฮบริด
    บานพับถูกออกแบบให้ลดรอยพับให้เหลือน้อยที่สุด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    บานพับเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนที่แพงและซับซ้อนที่สุดในอุปกรณ์พับได้
    Foxconn เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    SZS มีความเชี่ยวชาญด้านชิ้นส่วนกลไก แต่อาจมีบทบาทน้อยกว่าหาก Foxconn ควบคุมการผลิต
    การใช้วัสดุไฮบริดช่วยให้ตัวเครื่องแข็งแรงแต่ยังคงน้ำหนักเบา
    การลดต้นทุนโดยไม่ลดคุณภาพเป็นกลยุทธ์สำคัญของ Apple ในการเข้าสู่ตลาดใหม่

    https://wccftech.com/foldable-iphone-hinge-cost-drop-foxconn-supplier-strategy/
    📱 “iPhone พับได้อาจถูกกว่าที่คิด — Foxconn ลดต้นทุนบานพับเหลือ $70 พร้อมเปิดทางสู่ยุคใหม่ของ Apple” Apple กำลังเตรียมเปิดตัว iPhone พับได้ในปี 2026 โดยมีจุดเด่นสำคัญคือการลดต้นทุนของ “บานพับ” ซึ่งเป็นชิ้นส่วนที่มีความซับซ้อนและมีผลต่อราคาของอุปกรณ์อย่างมาก จากรายงานล่าสุดพบว่า Foxconn และ Shin Zu Shing (SZS) ได้ร่วมมือกันพัฒนาและผลิตบานพับสำหรับ iPhone พับได้ โดยสามารถลดราคาต่อหน่วยลงเหลือเพียง $70–$80 จากเดิมที่เคยประเมินไว้ที่ $100–$120 การลดต้นทุนนี้ไม่ได้เกิดจากการใช้วัสดุราคาถูก แต่เป็นผลจากการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย Foxconn ใช้กำลังการผลิตขนาดใหญ่และเทคนิคการประกอบที่แม่นยำ ทำให้สามารถรักษาคุณภาพและความทนทานของบานพับได้ในขณะที่ลดต้นทุนลง Apple ยังวางแผนใช้โครงสร้างตัวเครื่องแบบไฮบริดระหว่างอะลูมิเนียมและไทเทเนียม เพื่อให้มีความแข็งแรงแต่ยังคงน้ำหนักเบา พร้อมหน้าจอภายในขนาด 7.8 นิ้ว และหน้าจอภายนอกขนาด 5.5 นิ้ว โดยมีการออกแบบบานพับให้ลดรอยพับ (crease) ให้เหลือน้อยที่สุด นอกจากนี้ Apple ยังควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด โดยให้ Foxconn และ SZS รับผิดชอบการผลิตบานพับกว่า 65% ของทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีก 35% เป็นของ Amphenol และอาจมี Luxshare-ICT เข้ามาเสริมในปี 2027 ซึ่งจะช่วยเพิ่มการแข่งขันและลดราคาลงอีกในอนาคต ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ บานพับของ iPhone พับได้มีราคาลดลงเหลือ $70–$80 ต่อหน่วย ➡️ เดิมเคยประเมินไว้ที่ $100–$120 ➡️ Foxconn และ SZS ร่วมกันผลิตบานพับ โดย Foxconn ถือหุ้นมากกว่า ➡️ Apple ควบคุมคุณภาพผ่านการเลือกซัพพลายเออร์หลัก ➡️ Amphenol รับผิดชอบอีก 35% ของคำสั่งผลิตบานพับ ➡️ Luxshare-ICT อาจเข้าร่วมเป็นซัพพลายเออร์ในปี 2027 ➡️ iPhone พับได้จะมีหน้าจอ 7.8 นิ้วภายใน และ 5.5 นิ้วภายนอก ➡️ ใช้โครงสร้างอะลูมิเนียม-ไทเทเนียมแบบไฮบริด ➡️ บานพับถูกออกแบบให้ลดรอยพับให้เหลือน้อยที่สุด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ บานพับเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนที่แพงและซับซ้อนที่สุดในอุปกรณ์พับได้ ➡️ Foxconn เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการประกอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ➡️ SZS มีความเชี่ยวชาญด้านชิ้นส่วนกลไก แต่อาจมีบทบาทน้อยกว่าหาก Foxconn ควบคุมการผลิต ➡️ การใช้วัสดุไฮบริดช่วยให้ตัวเครื่องแข็งแรงแต่ยังคงน้ำหนักเบา ➡️ การลดต้นทุนโดยไม่ลดคุณภาพเป็นกลยุทธ์สำคัญของ Apple ในการเข้าสู่ตลาดใหม่ https://wccftech.com/foldable-iphone-hinge-cost-drop-foxconn-supplier-strategy/
    WCCFTECH.COM
    Apple’s Foldable iPhone Gets a Major Cost Advantage With a Cheaper Hinge
    Apple’s foldable iPhone could debut in 2026 with a lower hinge cost, hybrid frame, and improved durability through smarter production.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 4 – อิยิปต์ 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว 4 ”
    อิยิปต์ 2
อังกฤษเมื่อแรกเข้ามาใช้อียิปต์นั้น นอกจากใช้เป็นที่วางไม้ขวางฝรั่งเศส ไม่ให้เดินเลยไปถึงอินเดียแล้ว อังกฤษสนใจ ที่จะใช้อียิปต์เป็นแหล่งผลิตผ้าฝ้าย เดิมอังกฤษอาศัยฝ้ายจากทางใต้ของอเมริกา ซึ่งผลิตฝ้ายดีราคาถูกจากแรงงานทาสผิวดำ แต่เมื่ออเมริกาเกิดสงครามกลางเมือง การผลิตฝ้ายของทางใต้ของอเมริกากันหยุดชะงัก อังกฤษต้องมองหาตลาดใหม่ อียิปต์มีภูมิอากาศเหมาะสำหรับปลูกฝ่ายอย่างยิ่ง
    หลังจาก ค.ศ. 1882 เป็นต้นมา อังกฤษเอาจริงกับการใช้อียิปต์เป็นแหล่งปลูกฝ้าย จะปลูกฝ้ายก็ต้องมีน้ำ โครงการสร้างคลองชลประทาน จึงเกิดขึ้นในอียิปต์ ไม่ใช่เพราะอยากให้ชาวอียิปต์มีน้ำใช้ทั่วถึงหรอกนะ อังกฤษไม่เคยใจดีอย่างนั้น แต่น้ำจากคลองชลประทานก็ยังไม่ พอ เพราะเมื่อปลูกฝ้ายแล้ว อังกฤษก็ตั้งโรงงานทอผ้า ทำเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ อุตสาหกรรมก็ต้องมีพลังงาน น้ำมันยังไม่มีให้ใช้ ดังนั้นต้องใช้พลังน้ำจากเขื่อน เขื่อนอัสวาน (Aswan) จึงจำเป็นต้องสร้างขึ้น
    ช่วงปี ค.ศ. 1890 – 1914 อียิปต์สร้างเขื่อนหลายเขื่อน และระบบชลประทานทั่วประเทศ เขื่อนอัสวาน 1 เสร็จไปแล้ว แต่ยังไม่ได้พลังงานพอใช้ อัสวาน 2 จึงต้องสร้างเพิ่มในปี ค.ศ.1912 เพื่อให้มีน้ำเลี้ยงทั้งปีทุกบริเวณ ตั้งแต่อียิปต์กลางและอียิปต์ใต้ ทำให้อียิปต์เพิ่มเนื้อที่จากการปลูกฝ้าย จาก 4.4 ล้าน เฟดดาน (feddan) ในปี ค.ศ. 1877 เป็น 5.5 ล้าน เฟดดาน ในปี ค.ศ. 1913
    อังกฤษกลายเป็นผู้ผูกขาด การปลูก การผลิต การขาย ฝ้ายในอียิปต์ ระบบชลประทานเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการปลูกฝ้าย อังกฤษส่งคนมาคุมทำการขุด และสร้างระบบ บริษัทอังกฤษเป็นผู้ก่อสร้างระบบชลประทาน ทั่วประเทศอียิปต์ มันไม่ใช่ควบคุมเฉพาะการปลูกเท่านั้น เมื่อต้องขนส่งฝ้ายทางรถไฟ ทางเรือตามแม่น้ำ ลำคลอง เรือกลไฟของอังกฤษก็มาเทียบท่าเมือง Alexandria แม้รถไฟจะเป็นของรัฐ แต่คนอังกฤษเป็นผู้ควบคุม
    การปลูก ผลิต ขาย ฝ้าย อยู่ในมือของคนอังกฤษ รวมทั้งธนาคารของคนอังกฤษ คนอียิปต์มีส่วนเป็นเพียงเจ้าของแผ่นดิน และได้ค่าตอบแทน เป็นแรงงานราคาถูก
    ที่สำคัญ อังกฤษเปลี่ยนเนื้อที่ ที่ชาวอียิปต์เคยปลูกพืชอื่น ในการยังชีพของพวกเขา เช่น ข้าวบาเลย์ แป้งสาลี น้ำตาล ให้ไปปลูกฝ้ายเกือบหมด ในที่สุดพืชเหล่านี้ ก็ถูกกินเนื้อที่ ชาวอียิปต์ นอกจากไม่ได้ร่ำรวยจากการปลูกฝ้ายแล้ว ยังอดอยากอีกด้วย แถมตอนหลังอังกฤษเห็นว่ายาสูบไม่ใชสิ่งจำเป็น อังกฤษออกประกาศให้ยาสูบเป็นพืชต้องห้าม คนอียิปต์ที่ส่วนใหญ่ติดยาดูดเป็นชีวิต ถ้าไม่อยากลงแดง ก็ต้องไปอาศัยดูดยาของตุรกีซึ่งมีราคาแพงแทน
    ข้อมูลภูมิศาสตร์โลกที่ระบุว่า อียิปต์เป็นประเทศที่ปลูกฝ้ายดีที่สุดในโลก เป็นผู้ผลิตฝ้ายเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นดินแดนแห่งฝ้ายดีมีคุณภาพ ฯลฯ สาระพัดจะเขียนกัน แต่อียิปต์ไม่ได้เป็นเจ้าของโรงงานทอผ้าฝ้าย แม้แต่โรงงานเดียว และส่งออกฝ้ายเนื้อดีนี้ทั้งหมดไปที่อังกฤษ
    คนอียิปต์ยังใช้ฝ้ายราคาถูกคุณภาพต่ำเหมือนเดิม อียิปต์ผลิตผ้าฝ้าย 1 ใน 3 ของความต้องการฝ้ายทั้งหมดของอังกฤษ และในปี ค.ศ. 1914 สินค้าออกของอียิปต์เป็นฝ้ายเสีย 85%
    ตั้งแต่อียิปต์สร้างคลองสุเอช อียิปต์เริ่มมีหนี้ติดตัวไปทุกแห่ง แต่หนี้ของอียิปต์งอกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่อังกฤษเข้ามายึด อียิปต์ในปี ค.ศ. 1882 การแปลงอียิปต์เป็นแดนฝ้าย สร้างหนี้ให้อียิปต์อีกมหาศาล จากการสร้างระบบชลประทาน สร้างเขื่อน ทางรถไฟ ระบบขนส่ง ด้วยเงินของรัฐบาลอียิปต์ ที่อังกฤษเป็นดูแล
ในปี ค.ศ. 1898 อังกฤษตั้งธนาคารชาติแห่งอียิปต์ ชื่อเป็นอียิปต์ นอกจากไม่ได้เป็นธนาคารของชาติอียิปต์แล้ว ยังเป็นธนาคารของเอกชนอีกด้วย และเอกชนนั้น ก็ไม่ใช่คนอียิปต์ แต่เป็นคนอังกฤษ แต่ธนาคารชาตินี้มีสิทธิในการพิมพ์ธนบัตรอียิปต์ เหยื่ออย่างสมบูณ์แบบจริงๆ
    เมื่ออียิปต์มีรายได้ ฝรั่งก็ตั้งหน่วยงาน เรียกว่าสำนักบริหารหนี้ของอียิปต์ เพื่อมาจัดเก็บรายได้นำไปชำระหนี้ ที่อียิปต์มีต่อผู้ให้กู้ต่างประเทศก่อน ถ้าออตโมมานเป็นคนป่วยของยุโรป อียิปต์น่าจะเป็นคนใกล้ตาย หรือตายซาก ในภูมิภาคนั้น
    เห็นฝีมือเถือหนังแทะกระดูกเหยื่อต่าง ๆ ของนักล่าชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯแล้ว คงเข้าใจว่าทำไมผมเรียกมันอย่าง รังเกียจ เหยียดหยามเช่นนี้
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 ก.ย. 57
    เหยื่อ – เคี้ยว ตอนที่ 4 – อิยิปต์ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
ตอนที่ 3 : “เคี้ยว 4 ” อิยิปต์ 2
อังกฤษเมื่อแรกเข้ามาใช้อียิปต์นั้น นอกจากใช้เป็นที่วางไม้ขวางฝรั่งเศส ไม่ให้เดินเลยไปถึงอินเดียแล้ว อังกฤษสนใจ ที่จะใช้อียิปต์เป็นแหล่งผลิตผ้าฝ้าย เดิมอังกฤษอาศัยฝ้ายจากทางใต้ของอเมริกา ซึ่งผลิตฝ้ายดีราคาถูกจากแรงงานทาสผิวดำ แต่เมื่ออเมริกาเกิดสงครามกลางเมือง การผลิตฝ้ายของทางใต้ของอเมริกากันหยุดชะงัก อังกฤษต้องมองหาตลาดใหม่ อียิปต์มีภูมิอากาศเหมาะสำหรับปลูกฝ่ายอย่างยิ่ง หลังจาก ค.ศ. 1882 เป็นต้นมา อังกฤษเอาจริงกับการใช้อียิปต์เป็นแหล่งปลูกฝ้าย จะปลูกฝ้ายก็ต้องมีน้ำ โครงการสร้างคลองชลประทาน จึงเกิดขึ้นในอียิปต์ ไม่ใช่เพราะอยากให้ชาวอียิปต์มีน้ำใช้ทั่วถึงหรอกนะ อังกฤษไม่เคยใจดีอย่างนั้น แต่น้ำจากคลองชลประทานก็ยังไม่ พอ เพราะเมื่อปลูกฝ้ายแล้ว อังกฤษก็ตั้งโรงงานทอผ้า ทำเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ อุตสาหกรรมก็ต้องมีพลังงาน น้ำมันยังไม่มีให้ใช้ ดังนั้นต้องใช้พลังน้ำจากเขื่อน เขื่อนอัสวาน (Aswan) จึงจำเป็นต้องสร้างขึ้น ช่วงปี ค.ศ. 1890 – 1914 อียิปต์สร้างเขื่อนหลายเขื่อน และระบบชลประทานทั่วประเทศ เขื่อนอัสวาน 1 เสร็จไปแล้ว แต่ยังไม่ได้พลังงานพอใช้ อัสวาน 2 จึงต้องสร้างเพิ่มในปี ค.ศ.1912 เพื่อให้มีน้ำเลี้ยงทั้งปีทุกบริเวณ ตั้งแต่อียิปต์กลางและอียิปต์ใต้ ทำให้อียิปต์เพิ่มเนื้อที่จากการปลูกฝ้าย จาก 4.4 ล้าน เฟดดาน (feddan) ในปี ค.ศ. 1877 เป็น 5.5 ล้าน เฟดดาน ในปี ค.ศ. 1913 อังกฤษกลายเป็นผู้ผูกขาด การปลูก การผลิต การขาย ฝ้ายในอียิปต์ ระบบชลประทานเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของการปลูกฝ้าย อังกฤษส่งคนมาคุมทำการขุด และสร้างระบบ บริษัทอังกฤษเป็นผู้ก่อสร้างระบบชลประทาน ทั่วประเทศอียิปต์ มันไม่ใช่ควบคุมเฉพาะการปลูกเท่านั้น เมื่อต้องขนส่งฝ้ายทางรถไฟ ทางเรือตามแม่น้ำ ลำคลอง เรือกลไฟของอังกฤษก็มาเทียบท่าเมือง Alexandria แม้รถไฟจะเป็นของรัฐ แต่คนอังกฤษเป็นผู้ควบคุม การปลูก ผลิต ขาย ฝ้าย อยู่ในมือของคนอังกฤษ รวมทั้งธนาคารของคนอังกฤษ คนอียิปต์มีส่วนเป็นเพียงเจ้าของแผ่นดิน และได้ค่าตอบแทน เป็นแรงงานราคาถูก ที่สำคัญ อังกฤษเปลี่ยนเนื้อที่ ที่ชาวอียิปต์เคยปลูกพืชอื่น ในการยังชีพของพวกเขา เช่น ข้าวบาเลย์ แป้งสาลี น้ำตาล ให้ไปปลูกฝ้ายเกือบหมด ในที่สุดพืชเหล่านี้ ก็ถูกกินเนื้อที่ ชาวอียิปต์ นอกจากไม่ได้ร่ำรวยจากการปลูกฝ้ายแล้ว ยังอดอยากอีกด้วย แถมตอนหลังอังกฤษเห็นว่ายาสูบไม่ใชสิ่งจำเป็น อังกฤษออกประกาศให้ยาสูบเป็นพืชต้องห้าม คนอียิปต์ที่ส่วนใหญ่ติดยาดูดเป็นชีวิต ถ้าไม่อยากลงแดง ก็ต้องไปอาศัยดูดยาของตุรกีซึ่งมีราคาแพงแทน ข้อมูลภูมิศาสตร์โลกที่ระบุว่า อียิปต์เป็นประเทศที่ปลูกฝ้ายดีที่สุดในโลก เป็นผู้ผลิตฝ้ายเป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นดินแดนแห่งฝ้ายดีมีคุณภาพ ฯลฯ สาระพัดจะเขียนกัน แต่อียิปต์ไม่ได้เป็นเจ้าของโรงงานทอผ้าฝ้าย แม้แต่โรงงานเดียว และส่งออกฝ้ายเนื้อดีนี้ทั้งหมดไปที่อังกฤษ คนอียิปต์ยังใช้ฝ้ายราคาถูกคุณภาพต่ำเหมือนเดิม อียิปต์ผลิตผ้าฝ้าย 1 ใน 3 ของความต้องการฝ้ายทั้งหมดของอังกฤษ และในปี ค.ศ. 1914 สินค้าออกของอียิปต์เป็นฝ้ายเสีย 85% ตั้งแต่อียิปต์สร้างคลองสุเอช อียิปต์เริ่มมีหนี้ติดตัวไปทุกแห่ง แต่หนี้ของอียิปต์งอกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่อังกฤษเข้ามายึด อียิปต์ในปี ค.ศ. 1882 การแปลงอียิปต์เป็นแดนฝ้าย สร้างหนี้ให้อียิปต์อีกมหาศาล จากการสร้างระบบชลประทาน สร้างเขื่อน ทางรถไฟ ระบบขนส่ง ด้วยเงินของรัฐบาลอียิปต์ ที่อังกฤษเป็นดูแล
ในปี ค.ศ. 1898 อังกฤษตั้งธนาคารชาติแห่งอียิปต์ ชื่อเป็นอียิปต์ นอกจากไม่ได้เป็นธนาคารของชาติอียิปต์แล้ว ยังเป็นธนาคารของเอกชนอีกด้วย และเอกชนนั้น ก็ไม่ใช่คนอียิปต์ แต่เป็นคนอังกฤษ แต่ธนาคารชาตินี้มีสิทธิในการพิมพ์ธนบัตรอียิปต์ เหยื่ออย่างสมบูณ์แบบจริงๆ เมื่ออียิปต์มีรายได้ ฝรั่งก็ตั้งหน่วยงาน เรียกว่าสำนักบริหารหนี้ของอียิปต์ เพื่อมาจัดเก็บรายได้นำไปชำระหนี้ ที่อียิปต์มีต่อผู้ให้กู้ต่างประเทศก่อน ถ้าออตโมมานเป็นคนป่วยของยุโรป อียิปต์น่าจะเป็นคนใกล้ตาย หรือตายซาก ในภูมิภาคนั้น เห็นฝีมือเถือหนังแทะกระดูกเหยื่อต่าง ๆ ของนักล่าชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯแล้ว คงเข้าใจว่าทำไมผมเรียกมันอย่าง รังเกียจ เหยียดหยามเช่นนี้ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 ก.ย. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 566 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ไทยก้าวใหม่" เปิดภาพ 6 ด้านปัญหาชาติ หนี้หนัก-โอกาสหด ชี้คนไทยเผชิญความอยู่รอด
    https://www.thai-tai.tv/news/21710/
    .
    #อนุทินชาญวีรกูล #สหรัฐชัตดาวน์ #เศรษฐกิจโลก #การเมือง #หาตลาดใหม่ #ไม่กระทบไทย #ไทยคู่ฟ้า #ไทยไท

    "ไทยก้าวใหม่" เปิดภาพ 6 ด้านปัญหาชาติ หนี้หนัก-โอกาสหด ชี้คนไทยเผชิญความอยู่รอด https://www.thai-tai.tv/news/21710/ . #อนุทินชาญวีรกูล #สหรัฐชัตดาวน์ #เศรษฐกิจโลก #การเมือง #หาตลาดใหม่ #ไม่กระทบไทย #ไทยคู่ฟ้า #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อพิพาท 2 ปราสาท ไทยยึดประโยชน์ชาติ : [THE MESSAGE]

    นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยกรณีที่กัมพูชายื่นศาลโลกให้พิจารณาปราสาทตาควายและปราสาทตาเมือนธม พื้นที่ข้อพิพาท เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา เรามีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ส่วนโครงการคนละครึ่ง พลัส จะเริ่มภายในเดือน ตุลาคม นี้ โดยกันงบประมาณปี 2569 ไว้ใช้ เพื่อเร่งขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจ เตรียมฟื้นการประชุม ครม. เศรษฐกิจทุกวันจันทร์ เพื่อพิจารณาเรื่องเศรษฐกิจที่สำคัญ ส่วนกรณีวุฒิสภาสหรัฐฯ คว่ำร่างงบประมาณ ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ เดินหน้าสู่การชัตดาวน์ในรอบ 7 ปี เป็นมาตรการของสหรัฐฯ แต่ในส่วนของไทยได้เจรจาเรื่องภาษีลงตัวแล้ว มองเศรษฐกิจผันผวนมาตลอด ต้องหาตลาดใหม่ไม่พึ่งพาแหล่งเดียว
    ข้อพิพาท 2 ปราสาท ไทยยึดประโยชน์ชาติ : [THE MESSAGE] นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เผยกรณีที่กัมพูชายื่นศาลโลกให้พิจารณาปราสาทตาควายและปราสาทตาเมือนธม พื้นที่ข้อพิพาท เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา เรามีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ส่วนโครงการคนละครึ่ง พลัส จะเริ่มภายในเดือน ตุลาคม นี้ โดยกันงบประมาณปี 2569 ไว้ใช้ เพื่อเร่งขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจ เตรียมฟื้นการประชุม ครม. เศรษฐกิจทุกวันจันทร์ เพื่อพิจารณาเรื่องเศรษฐกิจที่สำคัญ ส่วนกรณีวุฒิสภาสหรัฐฯ คว่ำร่างงบประมาณ ส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ เดินหน้าสู่การชัตดาวน์ในรอบ 7 ปี เป็นมาตรการของสหรัฐฯ แต่ในส่วนของไทยได้เจรจาเรื่องภาษีลงตัวแล้ว มองเศรษฐกิจผันผวนมาตลอด ต้องหาตลาดใหม่ไม่พึ่งพาแหล่งเดียว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 635 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “DeepSeek-V3.2-Exp เปิดตัวแล้ว — โมเดล AI จีนที่ท้าชน OpenAI ด้วยประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่ำ”

    DeepSeek บริษัท AI จากเมืองหางโจว ประเทศจีน ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ชื่อว่า DeepSeek-V3.2-Exp ซึ่งถูกระบุว่าเป็น “ขั้นกลาง” ก่อนเข้าสู่สถาปัตยกรรมรุ่นถัดไปที่บริษัทกำลังพัฒนาอยู่ โมเดลนี้ถูกปล่อยผ่านแพลตฟอร์ม Hugging Face และถือเป็นการทดลองเชิงเทคนิคที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกและการประมวลผลข้อความยาว โดยไม่เน้นการไล่คะแนนบน leaderboard แบบเดิม

    จุดเด่นของ V3.2-Exp คือการใช้กลไกใหม่ที่เรียกว่า DeepSeek Sparse Attention (DSA) ซึ่งช่วยลดต้นทุนการคำนวณอย่างมาก และยังคงคุณภาพของผลลัพธ์ไว้ใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง V3.1-Terminus โดยทีมงานได้ตั้งค่าการฝึกให้เหมือนกันทุกประการ เพื่อพิสูจน์ว่า “ความเร็วและประสิทธิภาพ” คือสิ่งที่พัฒนาได้จริง โดยไม่ต้องแลกกับคุณภาพ

    นอกจากนี้ DeepSeek ยังประกาศลดราคาการใช้งาน API ลงกว่า 50% เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งทั้งในประเทศ เช่น Alibaba Qwen และระดับโลกอย่าง OpenAI ซึ่งถือเป็นการเปิดศึกด้านราคาในตลาดโมเดลภาษาอย่างชัดเจน

    แม้โมเดลนี้จะยังไม่ใช่รุ่น “next-gen” ที่หลายคนรอคอย แต่ก็ถือเป็นการกลับมาอย่างมั่นใจของ DeepSeek หลังจากโมเดล R2 ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะการฝึกบนชิป Ascend ของ Huawei ที่ไม่สามารถทำงานได้ตามเป้า ทำให้ต้องกลับมาใช้ Nvidia อีกครั้ง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    DeepSeek เปิดตัวโมเดลใหม่ชื่อ DeepSeek-V3.2-Exp บน Hugging Face
    เป็นการทดลองเพื่อเตรียมเข้าสู่สถาปัตยกรรมรุ่นถัดไปของบริษัท
    ใช้กลไก DeepSeek Sparse Attention (DSA) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลข้อความยาว
    ตั้งค่าการฝึกเหมือนกับ V3.1-Terminus เพื่อพิสูจน์ว่า DSA ให้ผลลัพธ์เทียบเท่าแต่เร็วกว่า
    ลดราคาการใช้งาน API ลงกว่า 50% เพื่อแข่งขันกับ Alibaba และ OpenAI
    ไม่เน้นการไล่คะแนน benchmark แต่เน้นการพิสูจน์ประสิทธิภาพจริง
    โมเดลเปิดให้ใช้งานแบบ open-source ภายใต้ MIT License
    มีการปล่อย kernel สำหรับงานวิจัยและการใช้งานประสิทธิภาพสูง
    เป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากโมเดล R2 ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Sparse Attention เป็นเทคนิคที่ช่วยลดการคำนวณในโมเดล Transformer โดยเลือกเฉพาะข้อมูลสำคัญ
    Hugging Face เป็นแพลตฟอร์มที่นักพัฒนา AI ทั่วโลกใช้ในการเผยแพร่และทดลองโมเดล
    การลดราคาการใช้งาน API เป็นกลยุทธ์ที่ใช้บ่อยในการเปิดตลาดใหม่หรือแย่งส่วนแบ่งจากคู่แข่ง
    DeepSeek เคยสร้างความฮือฮาใน Silicon Valley ด้วยโมเดล V3 และ R1 ที่มีประสิทธิภาพสูง
    ปัญหาการฝึกบนชิป Ascend ของ Huawei สะท้อนความท้าทายของจีนในการพึ่งพาฮาร์ดแวร์ภายในประเทศ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/29/deepseek-releases-model-it-calls-039intermediate-step039-towards-039next-generation-architecture039
    🧠 “DeepSeek-V3.2-Exp เปิดตัวแล้ว — โมเดล AI จีนที่ท้าชน OpenAI ด้วยประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่ำ” DeepSeek บริษัท AI จากเมืองหางโจว ประเทศจีน ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ชื่อว่า DeepSeek-V3.2-Exp ซึ่งถูกระบุว่าเป็น “ขั้นกลาง” ก่อนเข้าสู่สถาปัตยกรรมรุ่นถัดไปที่บริษัทกำลังพัฒนาอยู่ โมเดลนี้ถูกปล่อยผ่านแพลตฟอร์ม Hugging Face และถือเป็นการทดลองเชิงเทคนิคที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกและการประมวลผลข้อความยาว โดยไม่เน้นการไล่คะแนนบน leaderboard แบบเดิม จุดเด่นของ V3.2-Exp คือการใช้กลไกใหม่ที่เรียกว่า DeepSeek Sparse Attention (DSA) ซึ่งช่วยลดต้นทุนการคำนวณอย่างมาก และยังคงคุณภาพของผลลัพธ์ไว้ใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง V3.1-Terminus โดยทีมงานได้ตั้งค่าการฝึกให้เหมือนกันทุกประการ เพื่อพิสูจน์ว่า “ความเร็วและประสิทธิภาพ” คือสิ่งที่พัฒนาได้จริง โดยไม่ต้องแลกกับคุณภาพ นอกจากนี้ DeepSeek ยังประกาศลดราคาการใช้งาน API ลงกว่า 50% เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งทั้งในประเทศ เช่น Alibaba Qwen และระดับโลกอย่าง OpenAI ซึ่งถือเป็นการเปิดศึกด้านราคาในตลาดโมเดลภาษาอย่างชัดเจน แม้โมเดลนี้จะยังไม่ใช่รุ่น “next-gen” ที่หลายคนรอคอย แต่ก็ถือเป็นการกลับมาอย่างมั่นใจของ DeepSeek หลังจากโมเดล R2 ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ โดยเฉพาะการฝึกบนชิป Ascend ของ Huawei ที่ไม่สามารถทำงานได้ตามเป้า ทำให้ต้องกลับมาใช้ Nvidia อีกครั้ง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ DeepSeek เปิดตัวโมเดลใหม่ชื่อ DeepSeek-V3.2-Exp บน Hugging Face ➡️ เป็นการทดลองเพื่อเตรียมเข้าสู่สถาปัตยกรรมรุ่นถัดไปของบริษัท ➡️ ใช้กลไก DeepSeek Sparse Attention (DSA) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลข้อความยาว ➡️ ตั้งค่าการฝึกเหมือนกับ V3.1-Terminus เพื่อพิสูจน์ว่า DSA ให้ผลลัพธ์เทียบเท่าแต่เร็วกว่า ➡️ ลดราคาการใช้งาน API ลงกว่า 50% เพื่อแข่งขันกับ Alibaba และ OpenAI ➡️ ไม่เน้นการไล่คะแนน benchmark แต่เน้นการพิสูจน์ประสิทธิภาพจริง ➡️ โมเดลเปิดให้ใช้งานแบบ open-source ภายใต้ MIT License ➡️ มีการปล่อย kernel สำหรับงานวิจัยและการใช้งานประสิทธิภาพสูง ➡️ เป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากโมเดล R2 ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Sparse Attention เป็นเทคนิคที่ช่วยลดการคำนวณในโมเดล Transformer โดยเลือกเฉพาะข้อมูลสำคัญ ➡️ Hugging Face เป็นแพลตฟอร์มที่นักพัฒนา AI ทั่วโลกใช้ในการเผยแพร่และทดลองโมเดล ➡️ การลดราคาการใช้งาน API เป็นกลยุทธ์ที่ใช้บ่อยในการเปิดตลาดใหม่หรือแย่งส่วนแบ่งจากคู่แข่ง ➡️ DeepSeek เคยสร้างความฮือฮาใน Silicon Valley ด้วยโมเดล V3 และ R1 ที่มีประสิทธิภาพสูง ➡️ ปัญหาการฝึกบนชิป Ascend ของ Huawei สะท้อนความท้าทายของจีนในการพึ่งพาฮาร์ดแวร์ภายในประเทศ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/29/deepseek-releases-model-it-calls-039intermediate-step039-towards-039next-generation-architecture039
    WWW.THESTAR.COM.MY
    DeepSeek releases model it calls 'intermediate step' towards 'next-generation architecture'
    BEIJING (Reuters) -Chinese AI developer DeepSeek has released its latest model which it said was an "experimental release" that was more efficient to train and better at processing long sequences of text than previous iterations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 501 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จตุพร-สุชาติ” ลุยจันทบุรี! ยกให้เป็น “เมืองหลวงอัญมณีโลก” พร้อมอัดนโยบายหนุนผู้ประกอบการ แก้ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบและหาตลาดใหม่
    https://www.thai-tai.tv/news/21091/
    .
    #จตุพรบุรุษพัฒน์ #สุชาติชมกลิ่น #กระทรวงพาณิชย์ #อัญมณีจันทบุรี #ข่าวเศรษฐกิจ #ไทยไท
    “จตุพร-สุชาติ” ลุยจันทบุรี! ยกให้เป็น “เมืองหลวงอัญมณีโลก” พร้อมอัดนโยบายหนุนผู้ประกอบการ แก้ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบและหาตลาดใหม่ https://www.thai-tai.tv/news/21091/ . #จตุพรบุรุษพัฒน์ #สุชาติชมกลิ่น #กระทรวงพาณิชย์ #อัญมณีจันทบุรี #ข่าวเศรษฐกิจ #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 523 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลาก่อนแล็ปท็อป? เมื่อ DaaS กลายเป็นตัวเลือกหลักขององค์กรยุคใหม่

    ลองนึกภาพว่าแทนที่พนักงานจะต้องพกแล็ปท็อปไปทำงาน พวกเขาแค่ล็อกอินผ่านเบราว์เซอร์ แล้วเข้าถึงเดสก์ท็อปเสมือนที่อยู่บนคลาวด์—นี่คือแนวคิดของ Desktop as a Service หรือ DaaS ที่กำลังมาแรง

    จากรายงานของ Gartner พบว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027 เพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี 2019 และการใช้งานจริงก็เพิ่มขึ้นเป็น 20% แล้วในปีนี้ โดยเฉพาะในองค์กรที่มีพนักงานทำงานระยะไกลหรือจ้างงานภายนอก

    Microsoft ถูกจัดอันดับเป็นผู้นำในตลาดนี้ ด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง Azure Virtual Desktop และ Windows 365 ที่ตอบโจทย์องค์กรขนาดกลางถึงใหญ่

    นอกจากความคุ้มค่าแล้ว DaaS ยังช่วยลดภาระการดูแลอุปกรณ์ ลดต้นทุนล่วงหน้า และเพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลทั้งหมดอยู่บนคลาวด์ ไม่ใช่ในเครื่องของพนักงาน

    อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลเรื่อง vendor lock-in และความซับซ้อนของการจัดการลิขสิทธิ์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานต้องเผชิญกับความยุ่งยากในช่วงแรก

    แนวโน้มการใช้งาน DaaS
    Gartner คาดว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027
    การใช้งานจริงเพิ่มขึ้นเป็น 20% จาก 10% ในปี 2019
    องค์กรเริ่มใช้ DaaS เพื่อรองรับงานระยะไกลและงานภายนอก

    ข้อดีของ DaaS
    ลดต้นทุนการดูแลอุปกรณ์และการอัปเดตซอฟต์แวร์
    เพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลอยู่บนคลาวด์
    รองรับการขยายทีมงานแบบยืดหยุ่น เช่น พนักงานชั่วคราวหรือฟรีแลนซ์
    ลดค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ด้วยโมเดลจ่ายตามการใช้งาน

    ผู้เล่นหลักในตลาด
    Microsoft เป็นผู้นำด้วย Azure Virtual Desktop และ Windows 365
    60% ของลูกค้า DaaS ของ Microsoft เป็นองค์กรขนาดกลาง
    Gartner ระบุว่าองค์กรใหม่แทบไม่ใช้ VDI แบบ on-prem อีกแล้ว

    ข้อมูลเสริมจากผู้ให้บริการ
    DaaS ช่วยให้การจัดการซอฟต์แวร์เป็นแบบรวมศูนย์
    ลดความซับซ้อนในการดูแลระบบ IT
    เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและความปลอดภัยสูง

    DaaS ยังเป็นตลาดใหม่ที่มีการกำกับดูแลน้อย
    อาจเกิด vendor lock-in หากเลือกผู้ให้บริการไม่รอบคอบ
    การจัดการลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อาจซับซ้อนในระบบคลาวด์
    ผู้ใช้งานต้องมีอินเทอร์เน็ตที่เสถียรเพื่อเข้าถึงเดสก์ท็อป
    องค์กรที่มีข้อจำกัดด้านข้อมูลอาจไม่สามารถใช้ DaaS ได้เต็มรูปแบบ

    https://www.techradar.com/pro/the-end-of-laptops-at-work-desktop-as-a-service-is-now-cheaper-and-easier-to-run-reports-claim
    🧠 ลาก่อนแล็ปท็อป? เมื่อ DaaS กลายเป็นตัวเลือกหลักขององค์กรยุคใหม่ ลองนึกภาพว่าแทนที่พนักงานจะต้องพกแล็ปท็อปไปทำงาน พวกเขาแค่ล็อกอินผ่านเบราว์เซอร์ แล้วเข้าถึงเดสก์ท็อปเสมือนที่อยู่บนคลาวด์—นี่คือแนวคิดของ Desktop as a Service หรือ DaaS ที่กำลังมาแรง จากรายงานของ Gartner พบว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027 เพิ่มขึ้นจาก 40% ในปี 2019 และการใช้งานจริงก็เพิ่มขึ้นเป็น 20% แล้วในปีนี้ โดยเฉพาะในองค์กรที่มีพนักงานทำงานระยะไกลหรือจ้างงานภายนอก Microsoft ถูกจัดอันดับเป็นผู้นำในตลาดนี้ ด้วยผลิตภัณฑ์อย่าง Azure Virtual Desktop และ Windows 365 ที่ตอบโจทย์องค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ นอกจากความคุ้มค่าแล้ว DaaS ยังช่วยลดภาระการดูแลอุปกรณ์ ลดต้นทุนล่วงหน้า และเพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลทั้งหมดอยู่บนคลาวด์ ไม่ใช่ในเครื่องของพนักงาน อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลเรื่อง vendor lock-in และความซับซ้อนของการจัดการลิขสิทธิ์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้งานต้องเผชิญกับความยุ่งยากในช่วงแรก ✅ แนวโน้มการใช้งาน DaaS ➡️ Gartner คาดว่า DaaS จะคุ้มค่ากับ 95% ของแรงงานภายในปี 2027 ➡️ การใช้งานจริงเพิ่มขึ้นเป็น 20% จาก 10% ในปี 2019 ➡️ องค์กรเริ่มใช้ DaaS เพื่อรองรับงานระยะไกลและงานภายนอก ✅ ข้อดีของ DaaS ➡️ ลดต้นทุนการดูแลอุปกรณ์และการอัปเดตซอฟต์แวร์ ➡️ เพิ่มความปลอดภัย เพราะข้อมูลอยู่บนคลาวด์ ➡️ รองรับการขยายทีมงานแบบยืดหยุ่น เช่น พนักงานชั่วคราวหรือฟรีแลนซ์ ➡️ ลดค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ด้วยโมเดลจ่ายตามการใช้งาน ✅ ผู้เล่นหลักในตลาด ➡️ Microsoft เป็นผู้นำด้วย Azure Virtual Desktop และ Windows 365 ➡️ 60% ของลูกค้า DaaS ของ Microsoft เป็นองค์กรขนาดกลาง ➡️ Gartner ระบุว่าองค์กรใหม่แทบไม่ใช้ VDI แบบ on-prem อีกแล้ว ✅ ข้อมูลเสริมจากผู้ให้บริการ ➡️ DaaS ช่วยให้การจัดการซอฟต์แวร์เป็นแบบรวมศูนย์ ➡️ ลดความซับซ้อนในการดูแลระบบ IT ➡️ เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและความปลอดภัยสูง ⛔ DaaS ยังเป็นตลาดใหม่ที่มีการกำกับดูแลน้อย ⛔ อาจเกิด vendor lock-in หากเลือกผู้ให้บริการไม่รอบคอบ ⛔ การจัดการลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อาจซับซ้อนในระบบคลาวด์ ⛔ ผู้ใช้งานต้องมีอินเทอร์เน็ตที่เสถียรเพื่อเข้าถึงเดสก์ท็อป ⛔ องค์กรที่มีข้อจำกัดด้านข้อมูลอาจไม่สามารถใช้ DaaS ได้เต็มรูปแบบ https://www.techradar.com/pro/the-end-of-laptops-at-work-desktop-as-a-service-is-now-cheaper-and-easier-to-run-reports-claim
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🙏🏿กราบสวัสดีคะ"อ.ปานเทพคะรบกวนช่วยดูเอกสารและข้อความเหล่านี้ให้ลุงตู่หน่อยนะคะเพื่อคืนความเป็นธรรมให้"พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา..หนูไม่ได้บอกว่าลุงตู่ดีไปหมดไม่ใช่แต่ตอนที่ท่านเป็นนายกผลประโยชน์มากมายท่านยังไม่เอาเลยจึงทำให้หนูเองก็ยังศรัธทาในตัวท่านอยู่ดีจึงอยากให้ อ.ปานเทพช่วยดูให้หน่อยว่ากรณีที่มี ม.44 ในมือก็ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกหรือทำอะไรก็ได้มันไม่ใช่"หนูเองไม่มีความรู้ด้านกฎหมายอะไรเลยแต่ก็คิดเองนะคะ"MOU43-44 เกิดขึ้นโดยสุขุมพันธ์&ทักษืณ มันแค่บันทึกความเข้าใจของคนสองคนโดยไม่ได้ผ่านสภาก็ผิดกฎหมายไม่น่ามีผลบังคับใช้ได้ในแง่ของเอกสาร#ใครสักคนจะทำข้อตกลงกันก็แค่นั้นไม่ผ่านมติครม.สภา&ดูอย่างทรัมป์ตอนนี้ซิ"สภาคัดค้านทรัมป์เรื่องภาษีว่าไม่มีสิทธิไปขึ้นอัตราภาษีได้ตามอำเภอใจเพราะยังไม่ผ่านสภาเลยโดนตีตกไป แต่เขาก็ทำได้ผลหลายๆประเทศรีบไปเจรจากันตัวลีบเลย จริงๆแล้วกลัวทำไมๆไม่หาตลาดใหม่ๆมันไม่ซื้อก็ช่างมันๆไม่ผลิตเองจะเอาที่ไหนใช้ดูตอนโควิดซิแย่งทิชชูจนตบตีกันแทบห้างแตก "ผลิตแต่อาวุธกับยาก็ให้มันพากันกินไปเถอะ"จริงๆแล้วโลกสมมุติการแลกเปลี่ยนมันควรเป็นสิ่งมีค่าต่อสิ่งมีค่าด้วยกันไม่ใช่กระดาษ แต่ควรเป็นเงินและทองจริงๆ"ระบบเงินดิจิตอลต่อไปต้องมีทองคำเป็นแบล็คหรือทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นรูปธรรมจริงๆ#ถึงเวลาปฏิรูปนักการเมือง ขัาราชการ ให้รับเงินเป็นดิจิตอลตรวจสอบได้ทั้งหมด ไหลไปไหนเข้าที่ไหนทำธุรกรรมอะไร ทรัพย์สินทางกายภาพที่โอเวอร์ รถ,กระเป๋าแบรนดเนมแพงๆ,นาฬิกาหรูๆ...เงินเดินแค่นี้มีทรัพย์สินเหล่านี้มาได้ยังไง..เอาจริงๆตรวจสอบธุรกรรมการเงินจะรู้หมด...#คนดี100%คงไม่มีถ้ามีคงตายไปแล้วหรือยังไม่ได้มาเกิดที#อยู่แบบเศรษฐ์กิจพอเพียงก็สบายแล้วประเทศไทย มีที่ดินปลูกข้าว,ปลูกผัก,เลี้ยงไก่ใข่(กินแต่ใข่ไก่ไม่กิน),ปลูกผลไม้นานาชนิดอยู่ได้สบาย มีบ่อน้ำไว้ใช้,ไม่มีไฟยังอยู่ได้เลย...#ไม่เหมือนเมืองนอกมีกฎหมายห้ามเอาน้ำไปรดผัก(ยามขาดแคลนน้ำ),ห้ามก่อฟืนเพื่อความอบอุ่น(เหตุฝุ่นPM2.5)คนไร้บ้านจึงเยอะไงคนส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินต้องเช่าห้องพักตกงานต้องไปนอนแบบไร้บ้านไม่มีฮีลเตอร์ ถ้าอยู่ห้องเช่าก็มีค่าห้อง ค่าขยะ ค่าไฟ( ราคาเหมาเฉลี่ยจะใช้น้อยใช้มากก็จ่ายเท่ากันโดยใช่ค่าเฉลี่ยรายปีนั้นเป็นหลักประเมิน)ค่าเช่าโคตรแพง ฝรั่งจนๆเยอะฯลฯ"ถ้าประเทศไทยใช้หลักเกณฑ์แบบเขาประเทศไทยจะรวยมากแต่ใช้ไม่ได้หรอกประชาชนไม่ยอมแน่นอน"อีกอย่างนักการเมืองก็โกงกินเยอะ"จะมาบีบปชช.อย่างเดียวไม่ได้แค่นี้ปชช.ก็ถูกเอาเปรียบอยู่แล้วใช้ไฟฟ้าแพงทั้งที่น้ำมันในประเทศไทยเองไฟฟ้าก็ผลิตเกินปริมาณที่ประชาชนไทยจะใช้คือมันเหลือเกินความต้องการแต่ทำไมมันแพงเพราะอะไร?ถ้าเปรตมันไม่กิน ยุคนี้น่าจะล้างบางแผ่นดินให้สะอาดสักที คนโกงขายชาติไม่ควรมีที่ยืน
    🙏🏿กราบสวัสดีคะ"อ.ปานเทพคะรบกวนช่วยดูเอกสารและข้อความเหล่านี้ให้ลุงตู่หน่อยนะคะเพื่อคืนความเป็นธรรมให้"พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา..หนูไม่ได้บอกว่าลุงตู่ดีไปหมดไม่ใช่แต่ตอนที่ท่านเป็นนายกผลประโยชน์มากมายท่านยังไม่เอาเลยจึงทำให้หนูเองก็ยังศรัธทาในตัวท่านอยู่ดีจึงอยากให้ อ.ปานเทพช่วยดูให้หน่อยว่ากรณีที่มี ม.44 ในมือก็ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกหรือทำอะไรก็ได้มันไม่ใช่"หนูเองไม่มีความรู้ด้านกฎหมายอะไรเลยแต่ก็คิดเองนะคะ"MOU43-44 เกิดขึ้นโดยสุขุมพันธ์&ทักษืณ มันแค่บันทึกความเข้าใจของคนสองคนโดยไม่ได้ผ่านสภาก็ผิดกฎหมายไม่น่ามีผลบังคับใช้ได้ในแง่ของเอกสาร#ใครสักคนจะทำข้อตกลงกันก็แค่นั้นไม่ผ่านมติครม.สภา&ดูอย่างทรัมป์ตอนนี้ซิ"สภาคัดค้านทรัมป์เรื่องภาษีว่าไม่มีสิทธิไปขึ้นอัตราภาษีได้ตามอำเภอใจเพราะยังไม่ผ่านสภาเลยโดนตีตกไป แต่เขาก็ทำได้ผลหลายๆประเทศรีบไปเจรจากันตัวลีบเลย จริงๆแล้วกลัวทำไมๆไม่หาตลาดใหม่ๆมันไม่ซื้อก็ช่างมันๆไม่ผลิตเองจะเอาที่ไหนใช้ดูตอนโควิดซิแย่งทิชชูจนตบตีกันแทบห้างแตก "ผลิตแต่อาวุธกับยาก็ให้มันพากันกินไปเถอะ"จริงๆแล้วโลกสมมุติการแลกเปลี่ยนมันควรเป็นสิ่งมีค่าต่อสิ่งมีค่าด้วยกันไม่ใช่กระดาษ แต่ควรเป็นเงินและทองจริงๆ"ระบบเงินดิจิตอลต่อไปต้องมีทองคำเป็นแบล็คหรือทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นรูปธรรมจริงๆ#ถึงเวลาปฏิรูปนักการเมือง ขัาราชการ ให้รับเงินเป็นดิจิตอลตรวจสอบได้ทั้งหมด ไหลไปไหนเข้าที่ไหนทำธุรกรรมอะไร ทรัพย์สินทางกายภาพที่โอเวอร์ รถ,กระเป๋าแบรนดเนมแพงๆ,นาฬิกาหรูๆ...เงินเดินแค่นี้มีทรัพย์สินเหล่านี้มาได้ยังไง..เอาจริงๆตรวจสอบธุรกรรมการเงินจะรู้หมด...#คนดี100%คงไม่มีถ้ามีคงตายไปแล้วหรือยังไม่ได้มาเกิดที#อยู่แบบเศรษฐ์กิจพอเพียงก็สบายแล้วประเทศไทย มีที่ดินปลูกข้าว,ปลูกผัก,เลี้ยงไก่ใข่(กินแต่ใข่ไก่ไม่กิน),ปลูกผลไม้นานาชนิดอยู่ได้สบาย มีบ่อน้ำไว้ใช้,ไม่มีไฟยังอยู่ได้เลย...#ไม่เหมือนเมืองนอกมีกฎหมายห้ามเอาน้ำไปรดผัก(ยามขาดแคลนน้ำ),ห้ามก่อฟืนเพื่อความอบอุ่น(เหตุฝุ่นPM2.5)คนไร้บ้านจึงเยอะไงคนส่วนใหญ่ไม่มีที่ดินต้องเช่าห้องพักตกงานต้องไปนอนแบบไร้บ้านไม่มีฮีลเตอร์ ถ้าอยู่ห้องเช่าก็มีค่าห้อง ค่าขยะ ค่าไฟ( ราคาเหมาเฉลี่ยจะใช้น้อยใช้มากก็จ่ายเท่ากันโดยใช่ค่าเฉลี่ยรายปีนั้นเป็นหลักประเมิน)ค่าเช่าโคตรแพง ฝรั่งจนๆเยอะฯลฯ"ถ้าประเทศไทยใช้หลักเกณฑ์แบบเขาประเทศไทยจะรวยมากแต่ใช้ไม่ได้หรอกประชาชนไม่ยอมแน่นอน"อีกอย่างนักการเมืองก็โกงกินเยอะ"จะมาบีบปชช.อย่างเดียวไม่ได้แค่นี้ปชช.ก็ถูกเอาเปรียบอยู่แล้วใช้ไฟฟ้าแพงทั้งที่น้ำมันในประเทศไทยเองไฟฟ้าก็ผลิตเกินปริมาณที่ประชาชนไทยจะใช้คือมันเหลือเกินความต้องการแต่ทำไมมันแพงเพราะอะไร?ถ้าเปรตมันไม่กิน ยุคนี้น่าจะล้างบางแผ่นดินให้สะอาดสักที คนโกงขายชาติไม่ควรมีที่ยืน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 753 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สุชาติ" ลุยสวิตเซอร์แลนด์! นำทีมพาณิชย์หาตลาดใหม่...ใช้ประโยชน์ FTA ไทย-EFTA ดันสินค้าไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/20799/
    .
    #สุชาติชมกลิ่น #กระทรวงพาณิชย์ #สวิตเซอร์แลนด์ #FTAไทยEFTA #ThaiSELECT #การค้าระหว่างประเทศ #ไทยไท
    "สุชาติ" ลุยสวิตเซอร์แลนด์! นำทีมพาณิชย์หาตลาดใหม่...ใช้ประโยชน์ FTA ไทย-EFTA ดันสินค้าไทย https://www.thai-tai.tv/news/20799/ . #สุชาติชมกลิ่น #กระทรวงพาณิชย์ #สวิตเซอร์แลนด์ #FTAไทยEFTA #ThaiSELECT #การค้าระหว่างประเทศ #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 365 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: GPU กำลังจะกลายเป็นสินทรัพย์การเงินที่ซื้อขายได้

    Startup ชื่อ OneChronos จับมือกับ Auctionomics บริษัทออกแบบตลาดที่ก่อตั้งโดย Paul Milgrom นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล เพื่อสร้าง “ตลาดซื้อขายล่วงหน้า GPU” แห่งแรกของโลก โดยเป้าหมายคือให้ผู้ใช้งานสามารถ “ล็อกราคา” และ “จัดการความเสี่ยง” ของการเข้าถึง GPU ได้เหมือนกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันหรือไฟฟ้า

    ในยุคที่ AI เติบโตอย่างรวดเร็ว GPU กลายเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด แต่กลับไม่มีเครื่องมือทางการเงินใดที่ช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนหรือป้องกันความเสี่ยงจากราคาที่ผันผวนได้เลย

    ตลาดใหม่นี้จะใช้ระบบ “การประมูลแบบอัจฉริยะ” เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเสนอราคาสำหรับเวลาใช้งาน GPU หรือความจุที่ต้องการ โดย Auctionomics จะช่วยออกแบบกลไกตลาดให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างเหมาะสม

    OneChronos และ Auctionomics ร่วมกันสร้างตลาดซื้อขายล่วงหน้า GPU แห่งแรกของโลก
    ใช้ระบบประมูลอัจฉริยะเพื่อจัดสรรทรัพยากร GPU อย่างมีประสิทธิภาพ
    เปรียบเสมือน “ตลาดซื้อขายน้ำมัน” สำหรับโลก AI

    Paul Milgrom นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล เป็นผู้ออกแบบกลไกตลาด
    เคยออกแบบการประมูลคลื่นความถี่ที่เปลี่ยนโฉมวงการโทรคมนาคม
    ใช้ทฤษฎีเกมและคณิตศาสตร์เพื่อสร้างแรงจูงใจที่เหมาะสม

    GPU ถูกมองว่าเป็น “สินทรัพย์องค์กรที่ยังไม่มีการป้องกันความเสี่ยง” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    ไม่มีเครื่องมือทางการเงินใดที่ช่วยล็อกราคาหรือจัดการความเสี่ยง
    ต่างจากน้ำมันหรือไฟฟ้าที่มีตลาดซื้อขายล่วงหน้า

    ระบบจะเปิดให้ผู้ใช้งานเสนอราคาสำหรับเวลาใช้งาน GPU หรือความจุที่ต้องการ
    ช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนล่วงหน้าและควบคุมต้นทุนได้
    ลดปัญหาการขาดแคลนและราคาผันผวนในช่วงที่มีความต้องการสูง

    ตลาดนี้จะเปิดให้ผู้เข้าร่วมหลากหลาย เช่น ผู้ผลิตชิป, ผู้ให้บริการคลาวด์, นักลงทุนในศูนย์ข้อมูล
    ยิ่งมีผู้เข้าร่วมหลากหลาย ตลาดจะยิ่งมีความโปร่งใสและมีสภาพคล่องสูง
    ช่วยให้เกิดการค้นหาราคาที่แท้จริงของทรัพยากร GPU

    https://www.techspot.com/news/108879-startup-nobel-laureate-collaborate-create-gpu-financial-exchange.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: GPU กำลังจะกลายเป็นสินทรัพย์การเงินที่ซื้อขายได้ Startup ชื่อ OneChronos จับมือกับ Auctionomics บริษัทออกแบบตลาดที่ก่อตั้งโดย Paul Milgrom นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล เพื่อสร้าง “ตลาดซื้อขายล่วงหน้า GPU” แห่งแรกของโลก โดยเป้าหมายคือให้ผู้ใช้งานสามารถ “ล็อกราคา” และ “จัดการความเสี่ยง” ของการเข้าถึง GPU ได้เหมือนกับการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันหรือไฟฟ้า ในยุคที่ AI เติบโตอย่างรวดเร็ว GPU กลายเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด แต่กลับไม่มีเครื่องมือทางการเงินใดที่ช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนหรือป้องกันความเสี่ยงจากราคาที่ผันผวนได้เลย ตลาดใหม่นี้จะใช้ระบบ “การประมูลแบบอัจฉริยะ” เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเสนอราคาสำหรับเวลาใช้งาน GPU หรือความจุที่ต้องการ โดย Auctionomics จะช่วยออกแบบกลไกตลาดให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างเหมาะสม ✅ OneChronos และ Auctionomics ร่วมกันสร้างตลาดซื้อขายล่วงหน้า GPU แห่งแรกของโลก ➡️ ใช้ระบบประมูลอัจฉริยะเพื่อจัดสรรทรัพยากร GPU อย่างมีประสิทธิภาพ ➡️ เปรียบเสมือน “ตลาดซื้อขายน้ำมัน” สำหรับโลก AI ✅ Paul Milgrom นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล เป็นผู้ออกแบบกลไกตลาด ➡️ เคยออกแบบการประมูลคลื่นความถี่ที่เปลี่ยนโฉมวงการโทรคมนาคม ➡️ ใช้ทฤษฎีเกมและคณิตศาสตร์เพื่อสร้างแรงจูงใจที่เหมาะสม ✅ GPU ถูกมองว่าเป็น “สินทรัพย์องค์กรที่ยังไม่มีการป้องกันความเสี่ยง” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ➡️ ไม่มีเครื่องมือทางการเงินใดที่ช่วยล็อกราคาหรือจัดการความเสี่ยง ➡️ ต่างจากน้ำมันหรือไฟฟ้าที่มีตลาดซื้อขายล่วงหน้า ✅ ระบบจะเปิดให้ผู้ใช้งานเสนอราคาสำหรับเวลาใช้งาน GPU หรือความจุที่ต้องการ ➡️ ช่วยให้บริษัทสามารถวางแผนล่วงหน้าและควบคุมต้นทุนได้ ➡️ ลดปัญหาการขาดแคลนและราคาผันผวนในช่วงที่มีความต้องการสูง ✅ ตลาดนี้จะเปิดให้ผู้เข้าร่วมหลากหลาย เช่น ผู้ผลิตชิป, ผู้ให้บริการคลาวด์, นักลงทุนในศูนย์ข้อมูล ➡️ ยิ่งมีผู้เข้าร่วมหลากหลาย ตลาดจะยิ่งมีความโปร่งใสและมีสภาพคล่องสูง ➡️ ช่วยให้เกิดการค้นหาราคาที่แท้จริงของทรัพยากร GPU https://www.techspot.com/news/108879-startup-nobel-laureate-collaborate-create-gpu-financial-exchange.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Startup and Nobel laureate collaborate to create GPU financial exchange
    The world of artificial intelligence is built on computing power, and at the heart of that engine are graphics processing units. These chips are in such high...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 390 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สุชาติ" บุกตลาดโลก! ดันจับคู่ธุรกิจไทย-ต่างประเทศ ดันยอดส่งออก 800 ล้านบาท พร้อมสั่งทูตพาณิชย์ทั่วโลกหนุนผู้ประกอบการไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/20659/
    .
    #ไทยไทด้วย #สุชาติชมกลิ่น #กระทรวงพาณิชย์ #ส่งออกไทย #จับคู่ธุรกิจ #ตลาดใหม่ #ทูตพาณิชย์ #DITP #เศรษฐกิจไทย #การค้าโลก
    "สุชาติ" บุกตลาดโลก! ดันจับคู่ธุรกิจไทย-ต่างประเทศ ดันยอดส่งออก 800 ล้านบาท พร้อมสั่งทูตพาณิชย์ทั่วโลกหนุนผู้ประกอบการไทย https://www.thai-tai.tv/news/20659/ . #ไทยไทด้วย #สุชาติชมกลิ่น #กระทรวงพาณิชย์ #ส่งออกไทย #จับคู่ธุรกิจ #ตลาดใหม่ #ทูตพาณิชย์ #DITP #เศรษฐกิจไทย #การค้าโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 629 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความจริง เรื่องภาษี ไทยไม่จำเป็นต้อง เจรจาแค่กับ อเมริกา
    .
    Local Content ของไทยจริงๆมีไม่มาก ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นของ จีน และ อื่นๆ...
    .
    รัฐบาลไทย ก็ไปคุยกับเขาสิครับ ว่าเนี่ยประเทศไทย โดยภาษี 36% เพราะ สินค้าพวกคุณสวมตอเราเข้าไปขาย อเมริกา เขารู้จึง โยนภาษี 36% ใส่หัวประเทศไทย
    .
    ดังนั้น นอกจากประเทศไทยจะต้องแบกส่วน Local Content ของ ไทยไว้แล้ว คุณก็ต้องช่วย ต้องมีแบก ส่วน ของพวกคุณเองด้วยนะ...
    .
    ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ จีน ช่วยนำเข้าสินค้า Local Content ของไทย เพิ่มขึ้นหน่อยได้หรือไม่...???
    .
    การที่ รัฐ จะสนับสนุน สิ้นค้าส่งออกที่เป็น Local Content ของไทย อย่างเดียว และ จำนวนไม่มาก....
    .
    แล้วที่ไทยจำเป็นต้องทำเลยคือ หาตลาดใหม่ ไปเจารจา ไปพูดคุย เพื่อ เปิดตลาดใหม่เพิ่มขึ้น ทดแทนส่วนที่จะหายไปจาก อเมริกา เลิกพึ่งพา อเมริกา ได้แล้วครับ
    .
    จะคุ้มค่ากว่าการที่ ประเทศไทยจะปล่อยให้ ภาษีนำเข้าจาก อเมริกา เป็น 0 และ ต้องนำเข้าสินค้า การเกษตร จาก อเมริกา เข้ามาเพิ่ม
    .
    เพราะ เกษตรกรไทย จะ วินาศสิ้น วิกฤตซ้อนวิกฤต...!!!
    .
    ไม่พอ ไทยยังต้อง ทยอยลดการขาดดุล ให้ อเมริกา จนกระทั่งเหลือ 0...
    .
    โดยที่ประเทศไทย อาจจะต้อง ซื้อของ จาก อเมริกา เพิ่ม เช่น..
    .
    1.อาวุธสงคราม (ตกรุ่น ราคาแพง)
    2.ฝูงบินโบอิ้ง (ที่มีปัญหาด้านความปลอดภัย)
    3.สินค้าทางการเกษตร (ซึ่งต้นทุนถูกกว่าของประเทศไทย)
    4.เนื้อหมู (ซึ่งสารเร่งเนื้อแดง ที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่กลับไม่ผิดกฎหมายใน อเมริกา)
    5.พันธบัตร อเมริกา (เท่ากับ ประเทศไทย ต้อง ตุน ดอลลาร์ เป็นเจ้าหนี้ให้ อเมริกา กู้เงิน เพิ่ม ดอกต่ำๆ)
    .
    ที่สำคัญเลย ผมเชื่อว่า อเมริกา ต้องขอใช้ พื้นที่ในประเทศไทย เป็นฐานทัพ เช่นเดียวกันกับที่ อเมริกา มีฐานทัพทั่วโลก อยู่กว่า 800 แห่ง และ ที่ไทย มีไว้เพื่อจัดการ จีน
    .
    นี่ล่าสุด RAND Corporation มีรายงานการวิจัยออกมาว่า ไทย เป็น หนึ่งใน พันธมิตร Indo-Pacific ที่ อเมริกา ต้องเขามาหาทาง ติดตั้ง ฐานยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์พิสัยกลาง ซึ่งสามารถยิงไปถึงจีน ให้ได้...!!!
    .
    สิ่งพวกนี้คือ ที่ประเทศไทย ต้องแลกมาเพื่อ ให้ได้ภาษี ต่ำกว่า 36% ย้ำว่า "แค่ต่ำกว่า 36%" ไม่ใช่ 0% ด้วยซ้ำไป...
    .
    มันได้ไม่คุ้ม กับที่เราจะเสีย ครับ ไม่เลย...!!!
    .
    ประเทศไทย ควรหลุดออกจากกรอบที่ว่า ต้องเป็น เด็กว่านอนสอนง่าย ของ อเมริกา ได้แล้ว...
    .
    สิ่งไหนเป็นประโยชน์ของประเทศ ก็ต้องเลือกสิ่งนั้น ตัดสินใจด้วยสมองของตัวเอง ไม่ใช่ยอมให้เขาจูงจมูกอยู่ตลอดเวลา
    ความจริง เรื่องภาษี ไทยไม่จำเป็นต้อง เจรจาแค่กับ อเมริกา . Local Content ของไทยจริงๆมีไม่มาก ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นของ จีน และ อื่นๆ... . รัฐบาลไทย ก็ไปคุยกับเขาสิครับ ว่าเนี่ยประเทศไทย โดยภาษี 36% เพราะ สินค้าพวกคุณสวมตอเราเข้าไปขาย อเมริกา เขารู้จึง โยนภาษี 36% ใส่หัวประเทศไทย . ดังนั้น นอกจากประเทศไทยจะต้องแบกส่วน Local Content ของ ไทยไว้แล้ว คุณก็ต้องช่วย ต้องมีแบก ส่วน ของพวกคุณเองด้วยนะ... . ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ จีน ช่วยนำเข้าสินค้า Local Content ของไทย เพิ่มขึ้นหน่อยได้หรือไม่...??? . การที่ รัฐ จะสนับสนุน สิ้นค้าส่งออกที่เป็น Local Content ของไทย อย่างเดียว และ จำนวนไม่มาก.... . แล้วที่ไทยจำเป็นต้องทำเลยคือ หาตลาดใหม่ ไปเจารจา ไปพูดคุย เพื่อ เปิดตลาดใหม่เพิ่มขึ้น ทดแทนส่วนที่จะหายไปจาก อเมริกา เลิกพึ่งพา อเมริกา ได้แล้วครับ . จะคุ้มค่ากว่าการที่ ประเทศไทยจะปล่อยให้ ภาษีนำเข้าจาก อเมริกา เป็น 0 และ ต้องนำเข้าสินค้า การเกษตร จาก อเมริกา เข้ามาเพิ่ม . เพราะ เกษตรกรไทย จะ วินาศสิ้น วิกฤตซ้อนวิกฤต...!!! . ไม่พอ ไทยยังต้อง ทยอยลดการขาดดุล ให้ อเมริกา จนกระทั่งเหลือ 0... . โดยที่ประเทศไทย อาจจะต้อง ซื้อของ จาก อเมริกา เพิ่ม เช่น.. . 1.อาวุธสงคราม (ตกรุ่น ราคาแพง) 2.ฝูงบินโบอิ้ง (ที่มีปัญหาด้านความปลอดภัย) 3.สินค้าทางการเกษตร (ซึ่งต้นทุนถูกกว่าของประเทศไทย) 4.เนื้อหมู (ซึ่งสารเร่งเนื้อแดง ที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่กลับไม่ผิดกฎหมายใน อเมริกา) 5.พันธบัตร อเมริกา (เท่ากับ ประเทศไทย ต้อง ตุน ดอลลาร์ เป็นเจ้าหนี้ให้ อเมริกา กู้เงิน เพิ่ม ดอกต่ำๆ) . ที่สำคัญเลย ผมเชื่อว่า อเมริกา ต้องขอใช้ พื้นที่ในประเทศไทย เป็นฐานทัพ เช่นเดียวกันกับที่ อเมริกา มีฐานทัพทั่วโลก อยู่กว่า 800 แห่ง และ ที่ไทย มีไว้เพื่อจัดการ จีน . นี่ล่าสุด RAND Corporation มีรายงานการวิจัยออกมาว่า ไทย เป็น หนึ่งใน พันธมิตร Indo-Pacific ที่ อเมริกา ต้องเขามาหาทาง ติดตั้ง ฐานยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์พิสัยกลาง ซึ่งสามารถยิงไปถึงจีน ให้ได้...!!! . สิ่งพวกนี้คือ ที่ประเทศไทย ต้องแลกมาเพื่อ ให้ได้ภาษี ต่ำกว่า 36% ย้ำว่า "แค่ต่ำกว่า 36%" ไม่ใช่ 0% ด้วยซ้ำไป... . มันได้ไม่คุ้ม กับที่เราจะเสีย ครับ ไม่เลย...!!! . ประเทศไทย ควรหลุดออกจากกรอบที่ว่า ต้องเป็น เด็กว่านอนสอนง่าย ของ อเมริกา ได้แล้ว... . สิ่งไหนเป็นประโยชน์ของประเทศ ก็ต้องเลือกสิ่งนั้น ตัดสินใจด้วยสมองของตัวเอง ไม่ใช่ยอมให้เขาจูงจมูกอยู่ตลอดเวลา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 587 มุมมอง 0 0 รีวิว
Pages Boosts