• กองทัพบกต้อนรับผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย เข้าหารือแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 2 รับทราบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา ก่อนส่งทีมสังเกตการณ์ลงพื้นที่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072197

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    กองทัพบกต้อนรับผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย เข้าหารือแม่ทัพภาคที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 2 รับทราบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา ก่อนส่งทีมสังเกตการณ์ลงพื้นที่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072197 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดข้อเท็จจริงศึกชายแดน! กองทัพบกแจง ผบ.ทสส.มาเลเซีย ปมกัมพูชาวางทุ่นระเบิด-ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา
    https://www.thai-tai.tv/news/20650/
    .
    #ไทยไทด้วย #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพบก #ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย #ทีมสังเกตการณ์อาเซียน #สันติภาพ #หยุดยิง #ความขัดแย้งชายแดน #ความร่วมมืออาเซียน #มาเลเซียเป็นคนกลาง
    เปิดข้อเท็จจริงศึกชายแดน! กองทัพบกแจง ผบ.ทสส.มาเลเซีย ปมกัมพูชาวางทุ่นระเบิด-ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา https://www.thai-tai.tv/news/20650/ . #ไทยไทด้วย #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพบก #ผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย #ทีมสังเกตการณ์อาเซียน #สันติภาพ #หยุดยิง #ความขัดแย้งชายแดน #ความร่วมมืออาเซียน #มาเลเซียเป็นคนกลาง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพไทยจ่อยกระดับปฏิบัติการทางทหาร หากยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
    .
    "จากสถานการณ์ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ขยายความรุนแรงมีการเปิดฉากการยิงโดยกำลังทหารฝั่งกัมพูชา มีการใช้อาวุธประจำกาย และอาวุธประจำหน่วยหลายชนิดเข้ามายังฝั่งไทย ในหลายพื้นที่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งทหาร และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ตามที่ปรากฏในภาพข่าว

    โดยการปฏิบัติทางทหาร ตามพระราชบัญญัติ การจัดระเบียบราชการ กระทรวงกลาโหมพุทธศักราช 2551 มาตรา 39 มอบอำนาจให้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็น ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการทางทหาร ได้สั่งการให้ กองทัพบกใช้แผนจักรพงษ์ภูวนารถ ซึ่งเป็นแผนเผชิญเหตุ ตามแผนป้องกันประเทศฝั่งตะวันออก โดยมี ผู้บัญชาการทหารบก เป็น ผู้บัญชาการเหตุการณ์ มีอำนาจในการบัญชาการและการใช้กำลังทางบก และร้องขอการสนับสนุนกำลังทางอากาศ และทางเรือ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกำลังทางบก ตามแผนเผชิญเหตุ

    โดยการปฏิบัติการทางทหาร มี 2 ขั้น คือ ขั้นปกติ ขั้นปฏิบัติการ ปัจจุบันอยู่ในขั้นการปฏิบัติการ โดยใช้อาวุธยิงสนับสนุนของกองทัพภาคที่ 2 และ การยิงสนับสนุนทางอากาศจากกองทัพอากาศ โดยมีเป้าหมายคือ ที่ตั้งกองกำลังทหารฝ่ายกัมพูชา เพื่อระงับเหตุการณ์ โดยไม่มีการใช้อาวุธต่อเป้าหมายฝ่ายพลเรือนกัมพูชาแต่อย่างใด

    ทั้งนี้หากไม่สามารถระงับสถานการณ์ความรุนแรงหรือการใช้กำลังของฝ่ายตรงข้าม กองทัพจะพิจารณายกระดับการใช้กำลัง สู่ขั้นการป้องกันประเทศในระดับต่อไป
    .
    https://web.facebook.com/share/p/1EFfmnyPe2/
    กองทัพไทยจ่อยกระดับปฏิบัติการทางทหาร หากยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ . "จากสถานการณ์ตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ขยายความรุนแรงมีการเปิดฉากการยิงโดยกำลังทหารฝั่งกัมพูชา มีการใช้อาวุธประจำกาย และอาวุธประจำหน่วยหลายชนิดเข้ามายังฝั่งไทย ในหลายพื้นที่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งทหาร และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ตามที่ปรากฏในภาพข่าว โดยการปฏิบัติทางทหาร ตามพระราชบัญญัติ การจัดระเบียบราชการ กระทรวงกลาโหมพุทธศักราช 2551 มาตรา 39 มอบอำนาจให้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็น ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการทางทหาร ได้สั่งการให้ กองทัพบกใช้แผนจักรพงษ์ภูวนารถ ซึ่งเป็นแผนเผชิญเหตุ ตามแผนป้องกันประเทศฝั่งตะวันออก โดยมี ผู้บัญชาการทหารบก เป็น ผู้บัญชาการเหตุการณ์ มีอำนาจในการบัญชาการและการใช้กำลังทางบก และร้องขอการสนับสนุนกำลังทางอากาศ และทางเรือ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกำลังทางบก ตามแผนเผชิญเหตุ โดยการปฏิบัติการทางทหาร มี 2 ขั้น คือ ขั้นปกติ ขั้นปฏิบัติการ ปัจจุบันอยู่ในขั้นการปฏิบัติการ โดยใช้อาวุธยิงสนับสนุนของกองทัพภาคที่ 2 และ การยิงสนับสนุนทางอากาศจากกองทัพอากาศ โดยมีเป้าหมายคือ ที่ตั้งกองกำลังทหารฝ่ายกัมพูชา เพื่อระงับเหตุการณ์ โดยไม่มีการใช้อาวุธต่อเป้าหมายฝ่ายพลเรือนกัมพูชาแต่อย่างใด ทั้งนี้หากไม่สามารถระงับสถานการณ์ความรุนแรงหรือการใช้กำลังของฝ่ายตรงข้าม กองทัพจะพิจารณายกระดับการใช้กำลัง สู่ขั้นการป้องกันประเทศในระดับต่อไป . https://web.facebook.com/share/p/1EFfmnyPe2/
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • "แผนจักรพงษ์ภูวนาถ"

    สำหรับแผนจักรพงษ์ภูวนารถ “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เตรียมทหารรุ่น 21 อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก มีส่วนเขียนแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ในการเปิดศึกเขาพระวิหาร เมื่อปี 2554 ทำให้กองทัพกัมพูชาย่อยยับ ราบเป็นหน้ากลอง เลิกตอแยกับกองทัพไทยมาร่วม 10 ปี

    แผนจักรพงษ์ภูวนาถ ยุทธวิธีทางทหาร งัดไม้แข็งโต้กลับกัมพูชา มีหลักการคร่าวๆ ดังนี้
    การเตรียมความพร้อม
    การสั่งการและเตรียมกำลังพล ผบ.ทบ. สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 1 และ 2เตรียมความพร้อมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีเมื่อมีการสั่งการ

    ประสานงานข่าวกรอง มีการดำเนินการตามการฝึกในแผนป้องกันประเทศ โดยเฉพาะด้านการข่าวกรอง เพื่อรวบรวมข้อมูลสถานการณ์และประเมินภัยคุกคาม

    การเตรียมกลไกตอบโต้ กองทัพบกจะเตรียมพร้อมใช้ทุกกลไกที่มีอยู่เพื่อปกป้องความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชน

    การปฏิบัติการเมื่อเกิดเหตุการณ์
    การประเมินสถานการณ์และลงพื้นที่ ผู้บังคับบัญชาระดับสูง เช่น ผบ.ทบ. อาจจะลงพื้นที่เพื่อบัญชาการและติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและตัดสินใจในการดำเนินการ

    การดำเนินการตามกรอบที่เหมาะสม แผนนี้จะเน้นการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจะดำเนินการตามกรอบที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย และปกป้องผลประโยชน์ของชาติ

    การตอบโต้ หากจำเป็น แม้จะเน้นการแก้ไขปัญหา แต่กองทัพบกก็ยืนยันว่าจะต่อสู้ทุกวิถีทางด้วยกลไกที่มีอยู่ หากมีความจำเป็นในการตอบโต้

    หลักการสำคัญของแผนจักรพงษ์ภูวนาถ
    -ปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ เป็นหลักการสำคัญที่สุดในการดำเนินการใด ๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์และอธิปไตยของประเทศไทย

    -ปกป้องความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชน เน้นการดูแลและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ชายแดน

    -แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เป็นแผนที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนอย่างมีแบบแผนและประสิทธิภาพ

    -ใช้กลไกที่เหมาะสม ดำเนินการตามกรอบและกลไกที่เหมาะสม ไม่ได้มุ่งเน้นการใช้กำลังโดยทันที แต่พร้อมที่จะตอบโต้หากมีความจำเป็น
    "แผนจักรพงษ์ภูวนาถ" สำหรับแผนจักรพงษ์ภูวนารถ “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เตรียมทหารรุ่น 21 อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก มีส่วนเขียนแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ในการเปิดศึกเขาพระวิหาร เมื่อปี 2554 ทำให้กองทัพกัมพูชาย่อยยับ ราบเป็นหน้ากลอง เลิกตอแยกับกองทัพไทยมาร่วม 10 ปี แผนจักรพงษ์ภูวนาถ ยุทธวิธีทางทหาร งัดไม้แข็งโต้กลับกัมพูชา มีหลักการคร่าวๆ ดังนี้ 👉การเตรียมความพร้อม การสั่งการและเตรียมกำลังพล ผบ.ทบ. สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 1 และ 2เตรียมความพร้อมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีเมื่อมีการสั่งการ ประสานงานข่าวกรอง มีการดำเนินการตามการฝึกในแผนป้องกันประเทศ โดยเฉพาะด้านการข่าวกรอง เพื่อรวบรวมข้อมูลสถานการณ์และประเมินภัยคุกคาม การเตรียมกลไกตอบโต้ กองทัพบกจะเตรียมพร้อมใช้ทุกกลไกที่มีอยู่เพื่อปกป้องความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชน 👉การปฏิบัติการเมื่อเกิดเหตุการณ์ การประเมินสถานการณ์และลงพื้นที่ ผู้บังคับบัญชาระดับสูง เช่น ผบ.ทบ. อาจจะลงพื้นที่เพื่อบัญชาการและติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและตัดสินใจในการดำเนินการ การดำเนินการตามกรอบที่เหมาะสม แผนนี้จะเน้นการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจะดำเนินการตามกรอบที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย และปกป้องผลประโยชน์ของชาติ การตอบโต้ หากจำเป็น แม้จะเน้นการแก้ไขปัญหา แต่กองทัพบกก็ยืนยันว่าจะต่อสู้ทุกวิถีทางด้วยกลไกที่มีอยู่ หากมีความจำเป็นในการตอบโต้ 👉หลักการสำคัญของแผนจักรพงษ์ภูวนาถ -ปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ เป็นหลักการสำคัญที่สุดในการดำเนินการใด ๆ เพื่อรักษาผลประโยชน์และอธิปไตยของประเทศไทย -ปกป้องความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชน เน้นการดูแลและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ชายแดน -แก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เป็นแผนที่ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนอย่างมีแบบแผนและประสิทธิภาพ -ใช้กลไกที่เหมาะสม ดำเนินการตามกรอบและกลไกที่เหมาะสม ไม่ได้มุ่งเน้นการใช้กำลังโดยทันที แต่พร้อมที่จะตอบโต้หากมีความจำเป็น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15 กรกฎาคม 2568 -รายงานข่าวระบุว่า ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามประกาศกวาดล้างแก๊งค์คอลเซนเตอร์-เว็บฉ้อโกงการพนันออนไลน์ทุกชนิดทั่วประเทศ! ลบข้อครหาดินแดน SCAMBODIA ฟาด UN หลังแฉเขมรมีแต่แก๊งค์คอลเซนเตอร์-เป็นที่ตั้งเว็บการพนันออนไลน์ข้ามชาติ Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า ฮุนมาเน็ต นายกรัฐมนตรี ได้ออกประกาศว่ารัฐบาลกัมพูชาได้สังเกตเห็นว่าปัจจุบันการหลอกลวงทางออนไลน์ในราชอาณาจักรกัมพูชากำลังก่อให้เกิดภัยคุกคามและความไม่ปลอดภัยทั้งในโลกและภูมิภาค กลุ่มอาชญากรต่างชาติก็ได้แทรกซึมเข้ามาในการหลอกลวงทางออนไลน์เช่นกัน เพื่อป้องกัน ควบคุมและปราบปรามการฉ้อโกงโดยใช้ระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง มุ่งหวังที่จะมีส่วนสนับสนุนในการดูแลรักษาและคุ้มครองความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความปลอดภัยทางสังคม รัฐบาลจึงออกกฎระเบียบดังต่อไปนี้ 1. ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด นายอำเภอเมือง หัวหน้าคณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด และผู้บัญชาการตำรวจจังหวัด มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการปราบปรามการทุจริตทางเทคโนโลยีในทุกพื้นที่ภายในพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตนตามกฎหมาย ระเบียบ และบรรทัดฐานทางกฎหมายที่บังคับใช้2. กระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและกรมตรวจคนเข้าเมือง เป็นหัวหน้าหน่วยงาน มีหน้าที่จัดทำขั้นตอนการขับไล่ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย อาศัยอยู่โดยผิดกฎหมายหรือประกอบกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย3. กรมตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางองค์การบริหารส่วนจังหวัด กองบังคับตำรวจภูมิภาค และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกัน ปิดกั้น และห้ามคนต่างด้าวลักลอบข้ามพรมแดนทางบกภายในพื้นที่และเขตอำนาจของตน4. คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางปกครองส่วนท้องถิ่นตามแนวชายแดนทางทะเล กองบัญชาการทหารเรือ และกรมตำรวจตระเวนชายแดนทางน้ำ มีหน้าที่ป้องกัน ปิดกั้น และห้ามมิให้คนต่างด้าวลักลอบเข้า-ออกชายแดนทางน่านน้ำภายในเขตพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตน5. ให้กระทรวงยุติธรรม สั่งการไปยังศาลและอัยการที่สังกัดศาลทุกระดับ ให้ความสำคัญและรับผิดชอบอย่างยิ่งในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยีให้เป็นไปตามกฎหมายและขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง และให้การสนับสนุนทางกฎหมายแก่สถาบันและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการปฏิบัติงานตามความจำเป็น6. ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพกัมพูชา ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาพระองค์ ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ และผู้บัญชาการกองพลที่ 70 ต้องจัดเตรียมกำลังพล เครื่องมือ และอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการเมื่อได้รับคำสั่ง7. กระทรวงสถาบันวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง และศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ ต้องร่วมมือและมีส่วนร่วมในการปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยี8. คณะกรรมการการพนันเชิงพาณิชย์ของกัมพูชาจะต้องเข้มงวดกับการจัดการและการกำกับดูแลคาสิโนหรือศูนย์การพนันที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด โดยมีข้อห้ามอย่างเคร่งครัดดังต่อไปนี้: • การฉ้อโกงทางเทคโนโลยี• การลักพาตัว การทรมาน และการคุมขังที่ผิดกฎหมาย• การค้ามนุษย์และการแสวงประโยชน์ทางเพศทุกรูปแบบ• การค้าอาวุธ การครอบครอง และการใช้อาวุธที่ผิดกฎหมาย • การสร้างกำลังที่ผิดกฎหมายผ่านบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนและการใช้กองกำลังตำรวจติดอาวุธ • การค้า การใช้ และการจัดเก็บยาเสพติดและสารเสพติดที่ผิดกฎหมาย9. ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเมือง หัวหน้ากองบัญชาการร่วมของสำนักงานบริหารจังหวัดและเมืองหลวง ผู้บัญชาการตำรวจประจำเมืองหลวง ผู้บัญชาการหน่วยงาน กระทรวงและสถาบันที่เกี่ยวข้อง ต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัดและมีความรับผิดชอบ หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้หรือไม่ให้ความร่วมมือใดๆ จะถูกประเมินผลในการแต่งตั้ง โยกย้าย หรือปลดออกจากตำแหน่งโดยทันที กระทรวง สถาบัน คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ กองบัญชาการร่วม ฝ่ายบริหารระดับจังหวัด หน่วยงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้ด้วยความเข้มงวดและมีประสิทธิภาพสูงสุดตั้งแต่วันที่ลงนาม
    15 กรกฎาคม 2568 -รายงานข่าวระบุว่า ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลงนามประกาศกวาดล้างแก๊งค์คอลเซนเตอร์-เว็บฉ้อโกงการพนันออนไลน์ทุกชนิดทั่วประเทศ! ลบข้อครหาดินแดน SCAMBODIA ฟาด UN หลังแฉเขมรมีแต่แก๊งค์คอลเซนเตอร์-เป็นที่ตั้งเว็บการพนันออนไลน์ข้ามชาติ Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า ฮุนมาเน็ต นายกรัฐมนตรี ได้ออกประกาศว่ารัฐบาลกัมพูชาได้สังเกตเห็นว่าปัจจุบันการหลอกลวงทางออนไลน์ในราชอาณาจักรกัมพูชากำลังก่อให้เกิดภัยคุกคามและความไม่ปลอดภัยทั้งในโลกและภูมิภาค กลุ่มอาชญากรต่างชาติก็ได้แทรกซึมเข้ามาในการหลอกลวงทางออนไลน์เช่นกัน เพื่อป้องกัน ควบคุมและปราบปรามการฉ้อโกงโดยใช้ระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง มุ่งหวังที่จะมีส่วนสนับสนุนในการดูแลรักษาและคุ้มครองความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อยของประชาชนและความปลอดภัยทางสังคม รัฐบาลจึงออกกฎระเบียบดังต่อไปนี้ 1. ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด นายอำเภอเมือง หัวหน้าคณะกรรมการบริหารส่วนจังหวัด และผู้บัญชาการตำรวจจังหวัด มีหน้าที่รับผิดชอบในการดำเนินการปราบปรามการทุจริตทางเทคโนโลยีในทุกพื้นที่ภายในพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตนตามกฎหมาย ระเบียบ และบรรทัดฐานทางกฎหมายที่บังคับใช้2. กระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและกรมตรวจคนเข้าเมือง เป็นหัวหน้าหน่วยงาน มีหน้าที่จัดทำขั้นตอนการขับไล่ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับต่างด้าวที่เข้ามาโดยผิดกฎหมาย อาศัยอยู่โดยผิดกฎหมายหรือประกอบกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย3. กรมตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางองค์การบริหารส่วนจังหวัด กองบังคับตำรวจภูมิภาค และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนในจังหวัดที่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน มีหน้าที่รับผิดชอบในการป้องกัน ปิดกั้น และห้ามคนต่างด้าวลักลอบข้ามพรมแดนทางบกภายในพื้นที่และเขตอำนาจของตน4. คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการกลางปกครองส่วนท้องถิ่นตามแนวชายแดนทางทะเล กองบัญชาการทหารเรือ และกรมตำรวจตระเวนชายแดนทางน้ำ มีหน้าที่ป้องกัน ปิดกั้น และห้ามมิให้คนต่างด้าวลักลอบเข้า-ออกชายแดนทางน่านน้ำภายในเขตพื้นที่และเขตอำนาจศาลของตน5. ให้กระทรวงยุติธรรม สั่งการไปยังศาลและอัยการที่สังกัดศาลทุกระดับ ให้ความสำคัญและรับผิดชอบอย่างยิ่งในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยีให้เป็นไปตามกฎหมายและขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง และให้การสนับสนุนทางกฎหมายแก่สถาบันและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการปฏิบัติงานตามความจำเป็น6. ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพกัมพูชา ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาพระองค์ ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ และผู้บัญชาการกองพลที่ 70 ต้องจัดเตรียมกำลังพล เครื่องมือ และอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการเมื่อได้รับคำสั่ง7. กระทรวงสถาบันวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง และศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งชาติ ต้องร่วมมือและมีส่วนร่วมในการปราบปรามการทุจริตผ่านระบบเทคโนโลยี8. คณะกรรมการการพนันเชิงพาณิชย์ของกัมพูชาจะต้องเข้มงวดกับการจัดการและการกำกับดูแลคาสิโนหรือศูนย์การพนันที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด โดยมีข้อห้ามอย่างเคร่งครัดดังต่อไปนี้: • การฉ้อโกงทางเทคโนโลยี• การลักพาตัว การทรมาน และการคุมขังที่ผิดกฎหมาย• การค้ามนุษย์และการแสวงประโยชน์ทางเพศทุกรูปแบบ• การค้าอาวุธ การครอบครอง และการใช้อาวุธที่ผิดกฎหมาย • การสร้างกำลังที่ผิดกฎหมายผ่านบริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนและการใช้กองกำลังตำรวจติดอาวุธ • การค้า การใช้ และการจัดเก็บยาเสพติดและสารเสพติดที่ผิดกฎหมาย9. ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเมือง หัวหน้ากองบัญชาการร่วมของสำนักงานบริหารจังหวัดและเมืองหลวง ผู้บัญชาการตำรวจประจำเมืองหลวง ผู้บัญชาการหน่วยงาน กระทรวงและสถาบันที่เกี่ยวข้อง ต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัดและมีความรับผิดชอบ หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้หรือไม่ให้ความร่วมมือใดๆ จะถูกประเมินผลในการแต่งตั้ง โยกย้าย หรือปลดออกจากตำแหน่งโดยทันที กระทรวง สถาบัน คณะกรรมการความมั่นคงทางทะเลแห่งชาติ สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการปราบปรามการหลอกลวงทางออนไลน์ กองบัญชาการร่วม ฝ่ายบริหารระดับจังหวัด หน่วยงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งนี้ด้วยความเข้มงวดและมีประสิทธิภาพสูงสุดตั้งแต่วันที่ลงนาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?
    #12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง

    สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว

    เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย

    บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย

    จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน

    นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์

    ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”

    การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

    การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย

    ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน

    อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน

    “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ”

    แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

    นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย

    ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ

    ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา

    ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา

    เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย

    แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?

    คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น

    ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม?

    นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป

    โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก

    แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ

    โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้

    ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"

    โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด

    ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

    ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ

    หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก

    แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ

    ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา

    ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง"

    คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า

    หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้

    ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย

    ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ

    การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้

    ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา

    การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น

    ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน

    การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้

    แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด

    จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง

    สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา

    การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน

    นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย

    เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน

    โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า

    กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ
    🤠#เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?🤠 🤠#12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง🤠 สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์ 🥰ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”🥰 การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ” แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย 🥰แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?🥰 คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น 🥰ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม? 🥰 นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้ 🥰ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"🥰 โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง" คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า 🥰หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้🥰 ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้ 🥰ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา🥰 การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้ แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด 🥰จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง🥰 สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน 💓โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า💓 😍กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ😍
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 580 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีประกาศคว่ำบาตรบริษัทจีนหลายแห่ง หลังจากพบว่ามีส่วนจัดหาชิ้นส่วนสำหรับการผลิตอาวุธของรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดรนพลีชีพ "Shahed" (โดรน Geran-2) ซึ่งยูเครนมีหลักฐานชัดเจนในเรื่องนี้

    นอกจากนี้ เซเลนสกียังได้สั่งการให้รัฐมนตรีกลาโหมของยูเครนและผู้บัญชาการทหารสูงสุดติดต่อกับอเมริกา หลังจากทรัมป์เผยว่าจะกลับมาส่งอาวุธ รวมทั้งระบบ Patriot ให้กับยูเครนอีกครั้ง
    เซเลนสกีประกาศคว่ำบาตรบริษัทจีนหลายแห่ง หลังจากพบว่ามีส่วนจัดหาชิ้นส่วนสำหรับการผลิตอาวุธของรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดรนพลีชีพ "Shahed" (โดรน Geran-2) ซึ่งยูเครนมีหลักฐานชัดเจนในเรื่องนี้ นอกจากนี้ เซเลนสกียังได้สั่งการให้รัฐมนตรีกลาโหมของยูเครนและผู้บัญชาการทหารสูงสุดติดต่อกับอเมริกา หลังจากทรัมป์เผยว่าจะกลับมาส่งอาวุธ รวมทั้งระบบ Patriot ให้กับยูเครนอีกครั้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลาโหมไร้หัว แก้ไฟเขมรไร้ทิศทาง

    คำว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษเกิดขึ้นได้ในหลายโอกาส ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาไม่มีทีท่าว่าจบลง ซ้ำด้วยคลิปเสียงระหว่างผู้นำเจนวายกับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เป็นภัยมาถึง แพทองธาร ชินวัตร จะหลุดจากเก้าอี้ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวินิจฉัยด้วยข้อหาไม่ซื่อสัตย์สุจริต ตามที่สังคมด่าว่าคนขายชาติหรือไม่

    แต่สำหรับบิ๊กกุ้ง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นอกจากได้รับน้ำทิพย์ชโลมใจจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระเครื่องบำรุงขวัญ รับสั่งแจกให้ครบทุกนายแทนความห่วงใยแล้ว พล.ท.บุญสินยังคงเป็นขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ พร้อมกับแหล่งท่องเที่ยว 3 ปราสาท ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย ประชาชนมาเที่ยวไม่ขาดสาย

    พิธีบายศรีสู่ขวัญนิสิตใหม่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม บิ๊กกุ้งกลายเป็นที่รักของนิสิตทุกผู้ทุกนาม ถึงขนาดนิสิตชายรายหนึ่งเป็นปลื้ม หอมแก้มหนึ่งฟอดใหญ่ แม่ทัพภาคที่ 2 ตอบคำถามอย่างมั่นใจว่า 3 ปราสาทเป็นของไทย ทหารไทยไม่ยอมแน่ หากยกระดับปะทะจริงก็เตรียมการไว้แล้ว ทางนั้นไม่กล้า หากเกิดอะไรขึ้นทุกอย่างจะจบภายใน 3 วัน

    แต่ด้วยอายุราชการของ พล.ท.บุญสิน นับถอยหลังเหลือเวลาไม่ถึง 3 เดือน จะมีใครสานต่อหรือไม่ และทำให้ประชาชนมั่นใจเหมือนเดิมหรือเปล่า ขณะที่การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ กระทรวงกลาโหมยังไร้หัว จะมีก็แต่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ถูกด่าว่าเป็นนักรบห้องแอร์ พยายามใช้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) และไม่ขยายความขัดแย้งจากระดับผู้นำไปถึงประชาชน

    สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ รายงานตอนหนึ่งว่า ทักษิณ ชินวัตร ได้ทาบทามบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อีกครั้ง แต่เจ้าตัวปฎิเสธ แม้ก่อนหน้านี้เคยเป็นคีย์แมนจัดตั้งรัฐบาลผสมข้ามขั้วระหว่างพรรคเพื่อไทยกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม เพื่อสกัดกั้นพรรคสีส้มและปกป้องสถาบันฯ รวมทั้งเคยมีดีลลับลังกาวี เปิดทางให้ทักษิณกลับบ้าน แต่เมื่อดีลลับถูกเปิดเผย บิ๊กแดงจึงเดินเกมไม่ได้อีกต่อไป แต่ยังคงประคองดีลข้ามขั้วให้เดินต่อ กระทั่งมีชื่อนายทหารให้ทักษิณและแพทองธารเลือก หนึ่งในนั้นคือ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อนรุ่นน้องของบิ๊กแดงที่เคยร่วมคณะดีลลับลังกาวี

    พล.อ.เฉลิมพล ติดล็อกตรงที่รอพ้นเงื่อนไขออกจากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ครบ 2 ปีในอีก 3 เดือนข้างหน้า หากแพทองธารต้องหลุดจากเก้าอี้และทักษิณไม่สามารถรักษาอำนาจไว้ได้ ตัวแปรเก้าอี้ รมว.กลาโหมย่อมเปลี่ยนไป สถานการณ์ไฟเขมรย่อมไม่สิ้นสุด

    #Newskit
    กลาโหมไร้หัว แก้ไฟเขมรไร้ทิศทาง คำว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษเกิดขึ้นได้ในหลายโอกาส ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาไม่มีทีท่าว่าจบลง ซ้ำด้วยคลิปเสียงระหว่างผู้นำเจนวายกับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เป็นภัยมาถึง แพทองธาร ชินวัตร จะหลุดจากเก้าอี้ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวินิจฉัยด้วยข้อหาไม่ซื่อสัตย์สุจริต ตามที่สังคมด่าว่าคนขายชาติหรือไม่ แต่สำหรับบิ๊กกุ้ง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นอกจากได้รับน้ำทิพย์ชโลมใจจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระเครื่องบำรุงขวัญ รับสั่งแจกให้ครบทุกนายแทนความห่วงใยแล้ว พล.ท.บุญสินยังคงเป็นขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ พร้อมกับแหล่งท่องเที่ยว 3 ปราสาท ตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย ประชาชนมาเที่ยวไม่ขาดสาย พิธีบายศรีสู่ขวัญนิสิตใหม่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม บิ๊กกุ้งกลายเป็นที่รักของนิสิตทุกผู้ทุกนาม ถึงขนาดนิสิตชายรายหนึ่งเป็นปลื้ม หอมแก้มหนึ่งฟอดใหญ่ แม่ทัพภาคที่ 2 ตอบคำถามอย่างมั่นใจว่า 3 ปราสาทเป็นของไทย ทหารไทยไม่ยอมแน่ หากยกระดับปะทะจริงก็เตรียมการไว้แล้ว ทางนั้นไม่กล้า หากเกิดอะไรขึ้นทุกอย่างจะจบภายใน 3 วัน แต่ด้วยอายุราชการของ พล.ท.บุญสิน นับถอยหลังเหลือเวลาไม่ถึง 3 เดือน จะมีใครสานต่อหรือไม่ และทำให้ประชาชนมั่นใจเหมือนเดิมหรือเปล่า ขณะที่การแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ กระทรวงกลาโหมยังไร้หัว จะมีก็แต่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ถูกด่าว่าเป็นนักรบห้องแอร์ พยายามใช้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) และไม่ขยายความขัดแย้งจากระดับผู้นำไปถึงประชาชน สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ รายงานตอนหนึ่งว่า ทักษิณ ชินวัตร ได้ทาบทามบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อีกครั้ง แต่เจ้าตัวปฎิเสธ แม้ก่อนหน้านี้เคยเป็นคีย์แมนจัดตั้งรัฐบาลผสมข้ามขั้วระหว่างพรรคเพื่อไทยกับฝ่ายอนุรักษ์นิยม เพื่อสกัดกั้นพรรคสีส้มและปกป้องสถาบันฯ รวมทั้งเคยมีดีลลับลังกาวี เปิดทางให้ทักษิณกลับบ้าน แต่เมื่อดีลลับถูกเปิดเผย บิ๊กแดงจึงเดินเกมไม่ได้อีกต่อไป แต่ยังคงประคองดีลข้ามขั้วให้เดินต่อ กระทั่งมีชื่อนายทหารให้ทักษิณและแพทองธารเลือก หนึ่งในนั้นคือ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพื่อนรุ่นน้องของบิ๊กแดงที่เคยร่วมคณะดีลลับลังกาวี พล.อ.เฉลิมพล ติดล็อกตรงที่รอพ้นเงื่อนไขออกจากสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ครบ 2 ปีในอีก 3 เดือนข้างหน้า หากแพทองธารต้องหลุดจากเก้าอี้และทักษิณไม่สามารถรักษาอำนาจไว้ได้ ตัวแปรเก้าอี้ รมว.กลาโหมย่อมเปลี่ยนไป สถานการณ์ไฟเขมรย่อมไม่สิ้นสุด #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 530 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC) ตกลงที่จะหยุดยิงกับอิสราเอล แต่ก็พร้อมจะตอบโต้กลับอยา่างรุนแรงต่อการรุกรานใดๆที่จะมีขึ้นในอนาคต:

    แถลงการณ์ฉบับเต็มจากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC - Iran’s Supreme National Security Council):

    ถึงชาวอิหร่านที่รักและอดทน

    ภายหลังการรุกรานของพวกไซออนิสต์ที่ขี้ขลาด ความกล้าหาญและการเสียสละของบุตรชายของคุณในกองกำลังติดอาวุธแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ซึ่งอยู่ภายใต้การชี้นำของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้แสดงให้เห็นถึงอำนาจการขู่เข็ญและการตอบโต้ที่เด็ดขาดของประเทศ พวกเขาขยายขอบเขตของการตอบโต้และโจมตีศัตรูด้วยความเจ็บปวด การตอบสนองนี้แสดงให้เห็นว่าฐานทัพของอเมริกาและไซออนิสต์ ตั้งแต่เอเชียตะวันตกไปจนถึงดินแดนที่ถูกยึดครอง ล้วนเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องตามกฎหมาย

    การเฝ้าระวัง การใช้โอกาสอย่างมีกลยุทธ์ การต่อต้านอย่างมั่นคง และความสามัคคีของชาติที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ขัดขวางแผนหลักของศัตรู เปลี่ยนภัยคุกคามให้กลายเป็นโอกาส และปูทางให้กับความอดทนของทหารอิสลาม นอกจากนี้ยังเปิดเผยให้โลกเห็นถึงความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาของนักสู้ที่ทุ่มเท ซึ่งเต็มไปด้วยความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์ ความแข็งแกร่งนี้ปรากฏชัดตลอด 12 วันของการต่อต้านอย่างนองเลือด และเตรียมพร้อมเสมอที่จะตอบโต้การรุกรานใดๆ อย่างเหมาะสมและเข้มแข็ง

    ของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าตลอดเส้นทางนี้ พร้อมกับการประพฤติตนที่สมดุล ความเข้าใจอันลึกซึ้ง กลยุทธ์ที่รอบคอบ และความอดทนของนักรบและครอบครัวของผู้พลีชีพและผู้บาดเจ็บ คือชัยชนะเหนือศัตรู การทำลายภาพลักษณ์ของศัตรู การปฏิเสธการยอมแพ้ และการเปิดเส้นทางไปข้างหน้าที่ไม่สามารถย้อนกลับได้

    ดังนั้น สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านจึงประกาศอย่างมีสติและมั่นใจว่า กองกำลังของเราซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนนั้นเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะตอบโต้การกระทำการรุกรานหรือการคุกคามใดๆ ของศัตรูอย่างเด็ดขาดในทุกเวลาและทุกสถานที่

    “และชัยชนะนั้นมาจากอัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณเท่านั้น”
    สภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC) ตกลงที่จะหยุดยิงกับอิสราเอล แต่ก็พร้อมจะตอบโต้กลับอยา่างรุนแรงต่อการรุกรานใดๆที่จะมีขึ้นในอนาคต: แถลงการณ์ฉบับเต็มจากเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC - Iran’s Supreme National Security Council): ถึงชาวอิหร่านที่รักและอดทน ภายหลังการรุกรานของพวกไซออนิสต์ที่ขี้ขลาด ความกล้าหาญและการเสียสละของบุตรชายของคุณในกองกำลังติดอาวุธแห่งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ซึ่งอยู่ภายใต้การชี้นำของผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้แสดงให้เห็นถึงอำนาจการขู่เข็ญและการตอบโต้ที่เด็ดขาดของประเทศ พวกเขาขยายขอบเขตของการตอบโต้และโจมตีศัตรูด้วยความเจ็บปวด การตอบสนองนี้แสดงให้เห็นว่าฐานทัพของอเมริกาและไซออนิสต์ ตั้งแต่เอเชียตะวันตกไปจนถึงดินแดนที่ถูกยึดครอง ล้วนเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องตามกฎหมาย การเฝ้าระวัง การใช้โอกาสอย่างมีกลยุทธ์ การต่อต้านอย่างมั่นคง และความสามัคคีของชาติที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ขัดขวางแผนหลักของศัตรู เปลี่ยนภัยคุกคามให้กลายเป็นโอกาส และปูทางให้กับความอดทนของทหารอิสลาม นอกจากนี้ยังเปิดเผยให้โลกเห็นถึงความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาของนักสู้ที่ทุ่มเท ซึ่งเต็มไปด้วยความคิดริเริ่มและความคิดสร้างสรรค์ ความแข็งแกร่งนี้ปรากฏชัดตลอด 12 วันของการต่อต้านอย่างนองเลือด และเตรียมพร้อมเสมอที่จะตอบโต้การรุกรานใดๆ อย่างเหมาะสมและเข้มแข็ง ของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าตลอดเส้นทางนี้ พร้อมกับการประพฤติตนที่สมดุล ความเข้าใจอันลึกซึ้ง กลยุทธ์ที่รอบคอบ และความอดทนของนักรบและครอบครัวของผู้พลีชีพและผู้บาดเจ็บ คือชัยชนะเหนือศัตรู การทำลายภาพลักษณ์ของศัตรู การปฏิเสธการยอมแพ้ และการเปิดเส้นทางไปข้างหน้าที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ ดังนั้น สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านจึงประกาศอย่างมีสติและมั่นใจว่า กองกำลังของเราซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประชาชนนั้นเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะตอบโต้การกระทำการรุกรานหรือการคุกคามใดๆ ของศัตรูอย่างเด็ดขาดในทุกเวลาและทุกสถานที่ “และชัยชนะนั้นมาจากอัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณเท่านั้น”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิบราฮิม ตราโอเร วัย 37 ปี ประธานาธิบดีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งบูร์กินาฟาโซ กล่าวว่า "เหตุใดจึงมีคนทิ้งระเบิดใส่ประเทศอื่นและเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการกระทำเพื่อสันติภาพ ในโลกนี้ เราตระหนักดีแล้วว่าจำเป็นต้องมีระเบิดนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง"
    อิบราฮิม ตราโอเร วัย 37 ปี ประธานาธิบดีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งบูร์กินาฟาโซ กล่าวว่า "เหตุใดจึงมีคนทิ้งระเบิดใส่ประเทศอื่นและเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นการกระทำเพื่อสันติภาพ ในโลกนี้ เราตระหนักดีแล้วว่าจำเป็นต้องมีระเบิดนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง"
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ทหารสูงสุด ย้ำ กองทัพ ปฏิบัติหน้าที่ตาม รธน. ปกป้องอธิปไตย-ดูแลประชาชน ปมภัยคุกคามกัมพูชา มองการพูดคุยเหมือนการช่วยกันทำงาน

    เมื่อวันที่ (19 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนผ่านทางโทรศัพท์ เรื่องการเข้าพบนายกรัฐมนตรี ว่า ทางกองทัพยืนยันปฎิบัติหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญ ในการปกป้องอธิปไตย และคุ้มครองพี่น้องประชาชน ตนบอกแล้วว่าทุกเรื่องต่างๆขอให้รัฐบาลเป็นผู้พูด และกองทัพก็ยืนยันทำตามหน้าที่ตรงนั้น ไม่มีอะไรผิดปกติไปจากการที่มาพูดคุยกันในเรื่องภัยคุกคามของกัมพูชา ซึ่งเรื่องต่างๆนั้นก็เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวไปแล้ว เหมือนกับพูดกันในที่ประชุม

    “ผมมองว่าการพูดคุยเป็นเหมือนการช่วยกันทำงานของทุกฝ่าย” พล.อ.ทรงวิทย์ กล่าว

    #MGROnline #ผู้บัญชาการทหารสูงสุด #กองทัพ
    ผบ.ทหารสูงสุด ย้ำ กองทัพ ปฏิบัติหน้าที่ตาม รธน. ปกป้องอธิปไตย-ดูแลประชาชน ปมภัยคุกคามกัมพูชา มองการพูดคุยเหมือนการช่วยกันทำงาน • เมื่อวันที่ (19 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนผ่านทางโทรศัพท์ เรื่องการเข้าพบนายกรัฐมนตรี ว่า ทางกองทัพยืนยันปฎิบัติหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญ ในการปกป้องอธิปไตย และคุ้มครองพี่น้องประชาชน ตนบอกแล้วว่าทุกเรื่องต่างๆขอให้รัฐบาลเป็นผู้พูด และกองทัพก็ยืนยันทำตามหน้าที่ตรงนั้น ไม่มีอะไรผิดปกติไปจากการที่มาพูดคุยกันในเรื่องภัยคุกคามของกัมพูชา ซึ่งเรื่องต่างๆนั้นก็เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวไปแล้ว เหมือนกับพูดกันในที่ประชุม • “ผมมองว่าการพูดคุยเป็นเหมือนการช่วยกันทำงานของทุกฝ่าย” พล.อ.ทรงวิทย์ กล่าว • #MGROnline #ผู้บัญชาการทหารสูงสุด #กองทัพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ยุคนี้คนอเมริกาส่วนใหญ่เขาไม่ต้องการสงครามแล้ว,ผีบ้าอีลิทในอเมริกาเท่านั้นที่อยากให้เป็นดังใจตน,แต่ทรัมป์ไม่ใช่คนของพวกมัน,,แต่สุดท้ายต้องดูว่าทรัมป์จะผีบ้าตามพวกอีลิทนี้ในอเมริกามั้ย.

    ..คุณสามารถแสดงอาการตื่นตระหนกได้หากคุณต้องการ แต่ท่วงท่าและภาษากายของทรัมป์ให้กำลังใจได้มาก

    เขาไม่ได้กังวลเลย

    เขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วเขาถือไพ่เหนือกว่าและเขาควบคุมสถานการณ์ได้

    หากคุณไม่ไว้วางใจเขา ก็ไม่เป็นไร ในอีกสามปีข้างหน้า คุณสามารถลงคะแนนเสียงให้คนอื่นได้ แต่จนกว่าจะถึงเวลานั้น เขาจะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดของคุณ และเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฝ้าดูว่ามันจะดำเนินไปอย่างไร

    เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว ไม่มีใครที่ฉันอยากให้อยู่ในตำแหน่งนี้มากกว่าทรัมป์ และฉันไว้ใจว่าเขาจะทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประชาชนชาวอเมริกัน เขาไม่ต้องการสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้นอีกครั้ง
    ..ยุคนี้คนอเมริกาส่วนใหญ่เขาไม่ต้องการสงครามแล้ว,ผีบ้าอีลิทในอเมริกาเท่านั้นที่อยากให้เป็นดังใจตน,แต่ทรัมป์ไม่ใช่คนของพวกมัน,,แต่สุดท้ายต้องดูว่าทรัมป์จะผีบ้าตามพวกอีลิทนี้ในอเมริกามั้ย. ..คุณสามารถแสดงอาการตื่นตระหนกได้หากคุณต้องการ แต่ท่วงท่าและภาษากายของทรัมป์ให้กำลังใจได้มาก เขาไม่ได้กังวลเลย เขารู้ว่าท้ายที่สุดแล้วเขาถือไพ่เหนือกว่าและเขาควบคุมสถานการณ์ได้ หากคุณไม่ไว้วางใจเขา ก็ไม่เป็นไร ในอีกสามปีข้างหน้า คุณสามารถลงคะแนนเสียงให้คนอื่นได้ แต่จนกว่าจะถึงเวลานั้น เขาจะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดของคุณ และเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฝ้าดูว่ามันจะดำเนินไปอย่างไร เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว ไม่มีใครที่ฉันอยากให้อยู่ในตำแหน่งนี้มากกว่าทรัมป์ และฉันไว้ใจว่าเขาจะทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประชาชนชาวอเมริกัน เขาไม่ต้องการสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้นอีกครั้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "มันเป็นแผนการที่ถูกกำหนดมาตลอดจากความร่วมมือของสหรัฐและอิสราเอล"

    อิสราเอลคือตัวแทนสหรัฐที่มีหน้าที่ทำงาน "สกปรก" ข้ามเส้นแดงด้านมนุษยธรรมให้สหรัฐ ประเทศที่มีหน้าที่แสร้งทำตัวเป็นฝ่ายคนดีมีคุณธรรม สหรัฐจึงมีหน้าที่ต้องปกป้องอิสราเอลมาตลอดหลายสิบปี (ซุ้มมือปืนที่มีนายเป็นนักการเมืองอิทธิพลสูงคอยคุ้มกะลาหัว)

    ย้อนดูคำสัมภาษณ์ของ เวสลีย์ คลาร์ก เมื่อปี 2003:

    "เราวางแผนจะบุกเจ็ดประเทศ"
    จากเหตุการณ์ในอิหร่านขณะนี้ โดยมีตัวเริ่มต้นคือ "อิสราเอล" ที่เป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อน เพียงแค่อ้องว่าอิสราเอล "กำลังจะ" มีนิวเคลียร์และ "อาจจะ" เป็นภัยกับตนเอง

    ย้อนไปฟังคำพูดของ นายพลเวสลีย์ คลาร์ก (Wesley Clark) อดีตผู้บัญชาการกองกำลังพันธมิตรในสงครามโคโซโวระหว่างดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตรยุโรปของนาโต้ระหว่างปี 2540 ถึง 2543

    เขากล่าวว่า หลังเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐมุ่งหมายที่จะ 
    "กำจัด 7 ประเทศภายใน 5 ปี ได้แก่
    -อิรัก
    -ซีเรีย
    -เลบานอน
    -ลิเบีย
    -โซมาเลีย
    -ซูดาน
    -และปิดท้ายด้วยอิหร่าน"

    แม้ว่าระยะเวลาไม่ได้จบลงภายใน 5 ปี ตามกำหนด แต่เส้นทางการทำลายประเทศเหล่านั้นตามรายชื่อที่ระบุ ยังคงดำเนินต่อมา


    .
    https://www.aljazeera.com/news/2003/9/22/us-plans-to-attack-seven-muslim-states

    .

    https://www.chinadaily.com.cn/a/202109/24/WS614d2604a310cdd39bc6b2f4.html


    "มันเป็นแผนการที่ถูกกำหนดมาตลอดจากความร่วมมือของสหรัฐและอิสราเอล" อิสราเอลคือตัวแทนสหรัฐที่มีหน้าที่ทำงาน "สกปรก" ข้ามเส้นแดงด้านมนุษยธรรมให้สหรัฐ ประเทศที่มีหน้าที่แสร้งทำตัวเป็นฝ่ายคนดีมีคุณธรรม สหรัฐจึงมีหน้าที่ต้องปกป้องอิสราเอลมาตลอดหลายสิบปี (ซุ้มมือปืนที่มีนายเป็นนักการเมืองอิทธิพลสูงคอยคุ้มกะลาหัว) ย้อนดูคำสัมภาษณ์ของ เวสลีย์ คลาร์ก เมื่อปี 2003: "เราวางแผนจะบุกเจ็ดประเทศ" จากเหตุการณ์ในอิหร่านขณะนี้ โดยมีตัวเริ่มต้นคือ "อิสราเอล" ที่เป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีก่อน เพียงแค่อ้องว่าอิสราเอล "กำลังจะ" มีนิวเคลียร์และ "อาจจะ" เป็นภัยกับตนเอง 👉ย้อนไปฟังคำพูดของ นายพลเวสลีย์ คลาร์ก (Wesley Clark) อดีตผู้บัญชาการกองกำลังพันธมิตรในสงครามโคโซโวระหว่างดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตรยุโรปของนาโต้ระหว่างปี 2540 ถึง 2543 👉เขากล่าวว่า หลังเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐมุ่งหมายที่จะ  "กำจัด 7 ประเทศภายใน 5 ปี ได้แก่ -อิรัก -ซีเรีย -เลบานอน -ลิเบีย -โซมาเลีย -ซูดาน -และปิดท้ายด้วยอิหร่าน" 👉แม้ว่าระยะเวลาไม่ได้จบลงภายใน 5 ปี ตามกำหนด แต่เส้นทางการทำลายประเทศเหล่านั้นตามรายชื่อที่ระบุ ยังคงดำเนินต่อมา . https://www.aljazeera.com/news/2003/9/22/us-plans-to-attack-seven-muslim-states . https://www.chinadaily.com.cn/a/202109/24/WS614d2604a310cdd39bc6b2f4.html
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • พลเรือเอกฮาบีบอลเลาะห์ ซายยารี (Admiral Habibollah Sayyari) ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพอิหร่าน แทนที่โมฮัมหมัด บาเกรี(Mohammad Bagheri)

    นายพลอาหมัด วาฮิดี (General Ahmad Vahidi) ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) แทนที่ นายพลฮอสเซน ซาลามี (General Hossein Salami)
    👉พลเรือเอกฮาบีบอลเลาะห์ ซายยารี (Admiral Habibollah Sayyari) ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพอิหร่าน แทนที่โมฮัมหมัด บาเกรี(Mohammad Bagheri) 👉นายพลอาหมัด วาฮิดี (General Ahmad Vahidi) ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) แทนที่ นายพลฮอสเซน ซาลามี (General Hossein Salami)
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานเพิ่มเติมจากโทรทัศน์ของรัฐอิหร่านระบุว่า บุคคลสำคัญที่อาจเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลในครั้งนี้นอกเหนือไปจาก โมฮัมหมัด บาเกรี(Mohammad Bagheri) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่าน ประกอบไปด้วย:

    นายพลฮอสเซน ซาลามี (General Hossein Salami) ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC)

    นายพลโกลาม อาลี ราชิด (General Gholam Ali Rashid) ผู้บัญชาการกองบัญชาการคาทาม อัล-อันบียาของ IRGC ( IRGC's Khatam al-Anbiya)

    เฟเรย์ดูน อับบาซี (Fereydoon Abbasi) นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ (นี่เป็นความพยายามลอบสังหารเขาครั้งที่สอง)

    โมฮัมหมัด เมห์ดี เตหะรานชี นักฟิสิกส์และประธานมหาวิทยาลัยอิสลามอาซาด
    มีรายงานเพิ่มเติมจากโทรทัศน์ของรัฐอิหร่านระบุว่า บุคคลสำคัญที่อาจเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลในครั้งนี้นอกเหนือไปจาก โมฮัมหมัด บาเกรี(Mohammad Bagheri) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่าน ประกอบไปด้วย: 👉นายพลฮอสเซน ซาลามี (General Hossein Salami) ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) 👉นายพลโกลาม อาลี ราชิด (General Gholam Ali Rashid) ผู้บัญชาการกองบัญชาการคาทาม อัล-อันบียาของ IRGC ( IRGC's Khatam al-Anbiya) 👉เฟเรย์ดูน อับบาซี (Fereydoon Abbasi) นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ (นี่เป็นความพยายามลอบสังหารเขาครั้งที่สอง) 👉โมฮัมหมัด เมห์ดี เตหะรานชี นักฟิสิกส์และประธานมหาวิทยาลัยอิสลามอาซาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • Fox News รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่อิสราเอล:

    ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่านและนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ระดับสูงอาจเสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้

    เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมอิสราเอลเผยว่า "มีแนวโน้มอย่างมาก" ที่โมฮัมหมัด บาเกรี(Mohammad Bagheri) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่าน รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ระดับสูงหลายคนอาจเสียชีวิตจากการโจมตีตั้งแต่รอบแรกของกองกำลังอิสราเอล

    เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุอีกว่า มีความมั่นใจมากขึ้นในการกำจัดพวกเขาออกไป ขณะที่การตรวจสอบข้อเท็จจริงยังคงดำเนินต่อไป

    ทางด้านวุฒิสมาชิกเท็ด ครูซ ของสหรัฐออกคำเตือนถึงผู้นำอิหร่านว่า

    "หากคุณโจมตีอเมริกา หากคุณโจมตีฐานทัพของเรา หากคุณฆ่าทหารอเมริกันเพียงคนเดียว ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะตอบโต้ด้วยกำลังที่เหนือกว่า"
    Fox News รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่อิสราเอล: ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่านและนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ระดับสูงอาจเสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมอิสราเอลเผยว่า "มีแนวโน้มอย่างมาก" ที่โมฮัมหมัด บาเกรี(Mohammad Bagheri) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่าน รวมทั้งนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ระดับสูงหลายคนอาจเสียชีวิตจากการโจมตีตั้งแต่รอบแรกของกองกำลังอิสราเอล เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุอีกว่า มีความมั่นใจมากขึ้นในการกำจัดพวกเขาออกไป ขณะที่การตรวจสอบข้อเท็จจริงยังคงดำเนินต่อไป ทางด้านวุฒิสมาชิกเท็ด ครูซ ของสหรัฐออกคำเตือนถึงผู้นำอิหร่านว่า "หากคุณโจมตีอเมริกา หากคุณโจมตีฐานทัพของเรา หากคุณฆ่าทหารอเมริกันเพียงคนเดียว ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะตอบโต้ด้วยกำลังที่เหนือกว่า"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กองบัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชาออกแถลงการณ์ ผลการหารือระหว่าง พล.อ.เมา โซะพัน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการกองทัพบกกัมพูชา และ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทเรื่องเขตแดน มีข้อสรุปคือ 1.แก้ไขสถานการณ์ผ่านกลไกที่มี รวมถึงบันทึกความเข้าใจ พ.ศ. 2543 ว่าด้วยการวัดและกำหนดเขตแดนทางบกกัมพูชา-ไทย 2.แก้ปัญหาทั้งหมดผ่านคณะกรรมการเขตแดนร่วม(JBC) 3.ฝ่ายกัมพูชาเรียกร้องให้เคารพในอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดง เพื่อหลีกเลี่ยงการสู้รบ และ 4.ฝ่ายกัมพูชาจะไม่ถอย และยืนหยัดโดยปราศจากอาวุธในจุดที่เกิดความขัดแย้ง เนื่องจากเป็นจุดที่ฝ่ายกัมพูชาได้ยืนหยัดมาตั้งแต่ก่อนลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการวัด และกำหนดเขตแดนทางบก ระหว่างกัมพูชาและไทย เมื่อ พ.ศ. 2543 โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องและยอมรับในทั้ง 4 ข้อข้างต้น

    -ใบเสร็จเป็นหลักฐานไม่ได้
    -งบอัดฉีดสูงเท่า 7 ตึก สตง.
    -ประชุมลับเลือก ป.ป.ช.
    -ออกหมายเรียกฮั๊ว สว. ล๊อต 5
    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กองบัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชาออกแถลงการณ์ ผลการหารือระหว่าง พล.อ.เมา โซะพัน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการกองทัพบกกัมพูชา และ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทเรื่องเขตแดน มีข้อสรุปคือ 1.แก้ไขสถานการณ์ผ่านกลไกที่มี รวมถึงบันทึกความเข้าใจ พ.ศ. 2543 ว่าด้วยการวัดและกำหนดเขตแดนทางบกกัมพูชา-ไทย 2.แก้ปัญหาทั้งหมดผ่านคณะกรรมการเขตแดนร่วม(JBC) 3.ฝ่ายกัมพูชาเรียกร้องให้เคารพในอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดง เพื่อหลีกเลี่ยงการสู้รบ และ 4.ฝ่ายกัมพูชาจะไม่ถอย และยืนหยัดโดยปราศจากอาวุธในจุดที่เกิดความขัดแย้ง เนื่องจากเป็นจุดที่ฝ่ายกัมพูชาได้ยืนหยัดมาตั้งแต่ก่อนลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการวัด และกำหนดเขตแดนทางบก ระหว่างกัมพูชาและไทย เมื่อ พ.ศ. 2543 โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องและยอมรับในทั้ง 4 ข้อข้างต้น -ใบเสร็จเป็นหลักฐานไม่ได้ -งบอัดฉีดสูงเท่า 7 ตึก สตง. -ประชุมลับเลือก ป.ป.ช. -ออกหมายเรียกฮั๊ว สว. ล๊อต 5
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 812 มุมมอง 37 0 รีวิว
  • 9 мая - 9 May - 9 พฤษภาคม
    วันแห่งชัยชนะของประชาชนโซเวียตในมหาสงครามแห่งความรักชาติ

    วันที่ 9 พฤษภาคม เป็นวันแห่งชัยชนะในมหาสงครามแห่งความรักชาติ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2484 (ค.ศ.1941) ถึง พ.ศ.2488 (ค.ศ.1945) รวมระยะเวลา 1,418 วัน

    พิธีการยอมจำนนในเบอร์ลิน:
    วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 ในเขตชานเมืองของกรุงเบอร์ลิน เวลา 22:43 น. ตามเวลายุโรปกลาง (เนื่องจากเป็นเวลา 00:43 น. ตามเวลามอสโก จึงทำให้เป็นวันที่ 9 พฤษภาคม ) มีการลงนามในตราสารการยอมรับความพ่ายแพ้ของกองทัพเยอรมนีอย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งถือเป็นการยุติมหาสงครามแห่งความรักชาติ และ สงครามโลกครั้งที่ 2

    ฝ่ายเยอรมัน เอกสารลงนามโดย: จอมพล Wilhelm Keitel ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพเรือเยอรมัน, พันเอก Hans Stumpf ผู้แทนของ Luftwaffe (กองทัพอากาศ), และ พลเรือเอก Hans von Friedeburg ตัวแทนของ Kriegsmarine (กองทัพเรือ)
    ในส่วนของพันธมิตรนั้น จอมพล Georgy Zhukov (จากโซเวียต) และ จอมพล Arthur Tedder (จากสหราชอาณาจักร) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองกำลังพันธมิตร
    ส่วน นายพล Carl Spaats (สหรัฐอเมริกา) และนายพล Jean de Latre de Tassigny (ฝรั่งเศส) ลงนามในฐานะพยาน

    ก่อนหน้าที่จะมีการลงนามใน "พิธีการยอมจำนน" ที่กรุงเบอร์ลิน มีการลงนามกันในแรมส์ ประเทศฝรั่งเศส ไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเวลา 2.41 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 สถานที่ในการลงนามเป็นกองบัญชาการกำลังรบนอกประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรสูงสุด (SHAEF) และจะมีผลเมื่อเวลา 23.01 น. ตามเวลายุโรปกลาง ของวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1945

    แต่ทางโซเวียตไม่เห็นด้วย เนื่องจากพิธีการลงนามในแรมส์ถูกจัดขึ้นโดยฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตก โดยไม่ได้ตกลงกับทางกองบัญชาการหลักของโซเวียต ไม่นานหลังจากมีการลงนามยอมจำนนแล้ว ฝ่ายโซเวียตได้ประกาศว่าผู้แทนโซเวียตในแรมส์ พลเอกซูสโลปารอฟ ไม่มีอำนาจที่จะลงนามในตราสารนี้

    ยิ่งไปกว่านี้ บางส่วนของกองทัพเยอรมันปฏิเสธที่จะยอมวางอาวุธและยังคงทำการสู้รบต่อไปในเชโกสโลวาเกีย โดยได้มีการประกาศในสถานีวิทยุเยอรมันว่าเยอรมนีตกลงสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตก มิใช่กับฝ่ายโซเวียต

    โซเวียตยืนกรานว่าการลงนามยอมจำนนในแรมส์ ควรเรียกว่าเป็น "พิธีสารชั้นต้นของการยอมจำนน" ดังนั้นฝ่ายสัมพันธมิตรจึงตกลงให้มีพิธีการยอมจำนนอีกครั้งหนึ่งในเบอร์ลิน

    9 мая - 9 May - 9 พฤษภาคม วันแห่งชัยชนะของประชาชนโซเวียตในมหาสงครามแห่งความรักชาติ วันที่ 9 พฤษภาคม เป็นวันแห่งชัยชนะในมหาสงครามแห่งความรักชาติ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2484 (ค.ศ.1941) ถึง พ.ศ.2488 (ค.ศ.1945) รวมระยะเวลา 1,418 วัน 👉พิธีการยอมจำนนในเบอร์ลิน: วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 ในเขตชานเมืองของกรุงเบอร์ลิน เวลา 22:43 น. ตามเวลายุโรปกลาง (เนื่องจากเป็นเวลา 00:43 น. ตามเวลามอสโก จึงทำให้เป็นวันที่ 9 พฤษภาคม ) มีการลงนามในตราสารการยอมรับความพ่ายแพ้ของกองทัพเยอรมนีอย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งถือเป็นการยุติมหาสงครามแห่งความรักชาติ และ สงครามโลกครั้งที่ 2 ฝ่ายเยอรมัน เอกสารลงนามโดย: จอมพล Wilhelm Keitel ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพเรือเยอรมัน, พันเอก Hans Stumpf ผู้แทนของ Luftwaffe (กองทัพอากาศ), และ พลเรือเอก Hans von Friedeburg ตัวแทนของ Kriegsmarine (กองทัพเรือ) ในส่วนของพันธมิตรนั้น จอมพล Georgy Zhukov (จากโซเวียต) และ จอมพล Arthur Tedder (จากสหราชอาณาจักร) รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองกำลังพันธมิตร ส่วน นายพล Carl Spaats (สหรัฐอเมริกา) และนายพล Jean de Latre de Tassigny (ฝรั่งเศส) ลงนามในฐานะพยาน ก่อนหน้าที่จะมีการลงนามใน "พิธีการยอมจำนน" ที่กรุงเบอร์ลิน มีการลงนามกันในแรมส์ ประเทศฝรั่งเศส ไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเวลา 2.41 น. ของวันที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 สถานที่ในการลงนามเป็นกองบัญชาการกำลังรบนอกประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรสูงสุด (SHAEF) และจะมีผลเมื่อเวลา 23.01 น. ตามเวลายุโรปกลาง ของวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 แต่ทางโซเวียตไม่เห็นด้วย เนื่องจากพิธีการลงนามในแรมส์ถูกจัดขึ้นโดยฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตก โดยไม่ได้ตกลงกับทางกองบัญชาการหลักของโซเวียต ไม่นานหลังจากมีการลงนามยอมจำนนแล้ว ฝ่ายโซเวียตได้ประกาศว่าผู้แทนโซเวียตในแรมส์ พลเอกซูสโลปารอฟ ไม่มีอำนาจที่จะลงนามในตราสารนี้ ยิ่งไปกว่านี้ บางส่วนของกองทัพเยอรมันปฏิเสธที่จะยอมวางอาวุธและยังคงทำการสู้รบต่อไปในเชโกสโลวาเกีย โดยได้มีการประกาศในสถานีวิทยุเยอรมันว่าเยอรมนีตกลงสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตก มิใช่กับฝ่ายโซเวียต โซเวียตยืนกรานว่าการลงนามยอมจำนนในแรมส์ ควรเรียกว่าเป็น "พิธีสารชั้นต้นของการยอมจำนน" ดังนั้นฝ่ายสัมพันธมิตรจึงตกลงให้มีพิธีการยอมจำนนอีกครั้งหนึ่งในเบอร์ลิน
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 594 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงพ่อทวดหลังเตารีด เจริญพร59 เลื่อนสมณศักดิ์ วัดทรายขาว จ.ปัตตานี
    หลวงพ่อทวดหลังเตารีด เจริญพร59 เลื่อนสมณศักดิ์ ( ตอกโค็ด หมายเลข ๒๗ ) วัดทรายขาว จ.ปัตตานี // พระดีพิธีใหญ่ จำนวนการสร้าง 2999 องค์ มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังสายหลวงพ่อทวด-สายเขาอ้อ ร่วมกันประกอบพิธี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ "แคล้วคาดปลอดภัย" เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ วาระที่ 1 เมื่อวันศุกร์ที่ 27 พ.ค.2559 ณ สถูปหลวงพ่อทวด ที่วัดช้างให้ ท่ามกลางปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลดตลอดพิธี ตามด้วยพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดทรายขาว เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ก.ย.2559 พ่อท่านเพ็ง เป็นประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ พล.อ.ประสูตร รัศมีแพทย์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานพิธีฝ่ายฆราวาส และประธานอุปถัมภ์

    ** โดยนิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดังและพระเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวดกว่า 39 รูป นั่งปรกอธิษฐานจิต อาทิ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ, พ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ, พ่อท่านจ่าง วัดศรีมหาโพธิ์, พ่อท่านพล วัดนาประดู่, พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม, พระอาจารย์แดง วัดไร่, พ่อท่านบุญให้ วัดท่าม่วง, พระอาจารย์อุทัย วัดวิหารสูง, พ่อท่านผล วัดทุ่งนารี, พ่อท่านผ่อง วัดแจ้ง, พ่อท่านล้าน วัดขนาย, พ่อท่านห้อง วัดเขาอ้อ ฯลฯ ภายหลังเสร็จพิธีมีการทำลายบล็อกแม่พิมพ์ต่อหน้าประชาชน ผู้มาร่วมพิธี หลังจากนั้น มีพิธีปลุกเสกเดี่ยวอีกหลายวาระ >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อทวดหลังเตารีด เจริญพร59 เลื่อนสมณศักดิ์ วัดทรายขาว จ.ปัตตานี หลวงพ่อทวดหลังเตารีด เจริญพร59 เลื่อนสมณศักดิ์ ( ตอกโค็ด หมายเลข ๒๗ ) วัดทรายขาว จ.ปัตตานี // พระดีพิธีใหญ่ จำนวนการสร้าง 2999 องค์ มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังสายหลวงพ่อทวด-สายเขาอ้อ ร่วมกันประกอบพิธี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ "แคล้วคาดปลอดภัย" เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ วาระที่ 1 เมื่อวันศุกร์ที่ 27 พ.ค.2559 ณ สถูปหลวงพ่อทวด ที่วัดช้างให้ ท่ามกลางปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลดตลอดพิธี ตามด้วยพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดทรายขาว เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ก.ย.2559 พ่อท่านเพ็ง เป็นประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ พล.อ.ประสูตร รัศมีแพทย์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานพิธีฝ่ายฆราวาส และประธานอุปถัมภ์ ** โดยนิมนต์พระเกจิอาจารย์ชื่อดังและพระเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวดกว่า 39 รูป นั่งปรกอธิษฐานจิต อาทิ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ, พ่อท่านพรหม วัดพลานุภาพ, พ่อท่านจ่าง วัดศรีมหาโพธิ์, พ่อท่านพล วัดนาประดู่, พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม, พระอาจารย์แดง วัดไร่, พ่อท่านบุญให้ วัดท่าม่วง, พระอาจารย์อุทัย วัดวิหารสูง, พ่อท่านผล วัดทุ่งนารี, พ่อท่านผ่อง วัดแจ้ง, พ่อท่านล้าน วัดขนาย, พ่อท่านห้อง วัดเขาอ้อ ฯลฯ ภายหลังเสร็จพิธีมีการทำลายบล็อกแม่พิมพ์ต่อหน้าประชาชน ผู้มาร่วมพิธี หลังจากนั้น มีพิธีปลุกเสกเดี่ยวอีกหลายวาระ >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูติน ประกาศสงบศึกชั่วคราวช่วงวันอีสเตอร์ แต่เซเลนสกีปฏิเสธข้อตกลงหยุดยิงในช่วงเวลาดังกล่าว

    ปูตินสั่งหยุดปฏิบัติการรบทั้งหมดชั่วคราวตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 19 เมษายน จนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 21 เมษายน

    "ฝ่ายรัสเซียประกาศหยุดยิงในช่วงเทศกาลอีสเตอร์โดยยึดหลักมนุษยธรรม ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันนี้ (19 เมษายน) จนถึงเวลา 00.00 น. ของวันจันทร์นี้ (21 เมษายน) ข้าพเจ้าขอสั่งให้หยุดปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว"

    ปูตินยังต้องการให้ยูเครนปฏิบัติเช่นเดียวกัน แต่ก็พร้อมที่จะให้กองทัพรัสเซียตอบโต้ทันที หากมีการละเมิดการหยุดยิงและการยั่วยุที่อาจเกิดขึ้นจากยูเครน

    "เราหวังว่ายูเครนจะปฏิบัติตามเช่นกัน ในขณะเดียวกัน กองกำลังของเราจะมีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา หากมีการละเมิดการหยุดยิงและการยั่วยุที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการกระทำก้าวร้าวใดๆที่มาจากฝ่ายยูเครน"

    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวระหว่างการประชุมที่เครมลินกับเสนาธิการกองทัพรัสเซีย วาเลรี เกราซิมอฟ

    เซเลนสกีปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของปูตินในวันอีสเตอร์:

    หลังจากผ่านช่วงเวลา 18.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเริ่มต้นหยุดยิงของกองทัพรัสเซีย เซเลนสกีไม่ได้โพสต์ข้อความตอบรับตามข้อเสนอหยุดยิงของปูติน แต่เขาโพสต์ข้อความของผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครนที่ยังปฏิบัติการต่อไปในภูมิภาคเคิร์สก์

    "ผู้บัญชาการทหารสูงสุด โอเล็กซานเดอร์ ซิร์สกี้ เพิ่งรายงาน

    กองกำลังของเรายังคงดำเนินกิจกรรมในภูมิภาคเคิร์สก์ในวันนี้และยังคงรักษาตำแหน่งของตนไว้ ในภูมิภาคเบลโกรอด กองทัพของเราได้เคลื่อนพลและเพิ่มเขตควบคุมของเรา"
    ปูติน ประกาศสงบศึกชั่วคราวช่วงวันอีสเตอร์ แต่เซเลนสกีปฏิเสธข้อตกลงหยุดยิงในช่วงเวลาดังกล่าว ปูตินสั่งหยุดปฏิบัติการรบทั้งหมดชั่วคราวตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 19 เมษายน จนถึงเที่ยงคืนของวันที่ 21 เมษายน "ฝ่ายรัสเซียประกาศหยุดยิงในช่วงเทศกาลอีสเตอร์โดยยึดหลักมนุษยธรรม ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันนี้ (19 เมษายน) จนถึงเวลา 00.00 น. ของวันจันทร์นี้ (21 เมษายน) ข้าพเจ้าขอสั่งให้หยุดปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว" ปูตินยังต้องการให้ยูเครนปฏิบัติเช่นเดียวกัน แต่ก็พร้อมที่จะให้กองทัพรัสเซียตอบโต้ทันที หากมีการละเมิดการหยุดยิงและการยั่วยุที่อาจเกิดขึ้นจากยูเครน "เราหวังว่ายูเครนจะปฏิบัติตามเช่นกัน ในขณะเดียวกัน กองกำลังของเราจะมีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา หากมีการละเมิดการหยุดยิงและการยั่วยุที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการกระทำก้าวร้าวใดๆที่มาจากฝ่ายยูเครน" ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวระหว่างการประชุมที่เครมลินกับเสนาธิการกองทัพรัสเซีย วาเลรี เกราซิมอฟ เซเลนสกีปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของปูตินในวันอีสเตอร์: หลังจากผ่านช่วงเวลา 18.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเริ่มต้นหยุดยิงของกองทัพรัสเซีย เซเลนสกีไม่ได้โพสต์ข้อความตอบรับตามข้อเสนอหยุดยิงของปูติน แต่เขาโพสต์ข้อความของผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครนที่ยังปฏิบัติการต่อไปในภูมิภาคเคิร์สก์ "ผู้บัญชาการทหารสูงสุด โอเล็กซานเดอร์ ซิร์สกี้ เพิ่งรายงาน กองกำลังของเรายังคงดำเนินกิจกรรมในภูมิภาคเคิร์สก์ในวันนี้และยังคงรักษาตำแหน่งของตนไว้ ในภูมิภาคเบลโกรอด กองทัพของเราได้เคลื่อนพลและเพิ่มเขตควบคุมของเรา"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 385 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    มีรายงานขีปนาวุธ Iskander ของรัสเซียโจมตำแหน่งทางทหารในภูมิภาคซูมี (Sumy) ของยูเครน

    การโจมตีเกิดขึ้นช่วงเช้าของวันที่ 13 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย อาร์เทม โคบซาร์ (Artem Kobzar) นายกเทศมนตรีเมืองซูมี รายงาน

    ทางด้าน ส.ส.ยูเครน มาริอานา เบซูกลา ซึ่งเป็นรองประธานสภา Verkhovna Rada (สภาผู้แทนราษฎรยูเครน) กล่าวถึงการโจมตีในเมืองซูมีครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของกำลังทหารที่กำลังจัดพิธีมอบรางวัล และเรียกร้องให้ซีร์สกี (Syrsky) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพยูเครน เลิกซะทีกับการรวมตัวของกำลังทหารในเขตชุมชนที่มีพลเรือนอยู่

    "ขอวิงวอนต่อซีร์สกีผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันประเทศว่า อย่าระดมกำลังทหารเพื่อเข้าร่วมพิธีมอบรางวัล โดยเฉพาะในสถานที่พลเรือน เพราะรัสเซียมีข้อมูลเกี่ยวกับการชุมนุมดังกล่าวทั้งหมดอยู่แล้ว" เบซุกลยา กล่าว


    ภาพความเสียหายในพื้นที่แสดงให้เห็นสัญลักษณ์ของกองกำลังของยูเครนอยู่ในพื้นที่การโจมตีจากรัสเซีย

    พิกัดตำแหน่งการโจมต่ 50.905332960810995, 34.7958318981476
    2/ มีรายงานขีปนาวุธ Iskander ของรัสเซียโจมตำแหน่งทางทหารในภูมิภาคซูมี (Sumy) ของยูเครน การโจมตีเกิดขึ้นช่วงเช้าของวันที่ 13 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย อาร์เทม โคบซาร์ (Artem Kobzar) นายกเทศมนตรีเมืองซูมี รายงาน ทางด้าน ส.ส.ยูเครน มาริอานา เบซูกลา ซึ่งเป็นรองประธานสภา Verkhovna Rada (สภาผู้แทนราษฎรยูเครน) กล่าวถึงการโจมตีในเมืองซูมีครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของกำลังทหารที่กำลังจัดพิธีมอบรางวัล และเรียกร้องให้ซีร์สกี (Syrsky) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพยูเครน เลิกซะทีกับการรวมตัวของกำลังทหารในเขตชุมชนที่มีพลเรือนอยู่ "ขอวิงวอนต่อซีร์สกีผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันประเทศว่า อย่าระดมกำลังทหารเพื่อเข้าร่วมพิธีมอบรางวัล โดยเฉพาะในสถานที่พลเรือน เพราะรัสเซียมีข้อมูลเกี่ยวกับการชุมนุมดังกล่าวทั้งหมดอยู่แล้ว" เบซุกลยา กล่าว ภาพความเสียหายในพื้นที่แสดงให้เห็นสัญลักษณ์ของกองกำลังของยูเครนอยู่ในพื้นที่การโจมตีจากรัสเซีย พิกัดตำแหน่งการโจมต่ 50.905332960810995, 34.7958318981476
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • 1/
    มีรายงานขีปนาวุธ Iskander ของรัสเซียโจมตำแหน่งทางทหารในภูมิภาคซูมี (Sumy) ของยูเครน

    การโจมตีเกิดขึ้นช่วงเช้าของวันที่ 13 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย อาร์เทม โคบซาร์ (Artem Kobzar) นายกเทศมนตรีเมืองซูมี รายงาน

    ทางด้าน ส.ส.ยูเครน มาริอานา เบซูกลา ซึ่งเป็นรองประธานสภา Verkhovna Rada (สภาผู้แทนราษฎรยูเครน) กล่าวถึงการโจมตีในเมืองซูมีครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของกำลังทหารที่กำลังจัดพิธีมอบรางวัล และเรียกร้องให้ซีร์สกี (Syrsky) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพยูเครน เลิกซะทีกับการรวมตัวของกำลังทหารในเขตชุมชนที่มีพลเรือนอยู่

    "ขอวิงวอนต่อซีร์สกีผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันประเทศว่า อย่าระดมกำลังทหารเพื่อเข้าร่วมพิธีมอบรางวัล โดยเฉพาะในสถานที่พลเรือน เพราะรัสเซียมีข้อมูลเกี่ยวกับการชุมนุมดังกล่าวทั้งหมดอยู่แล้ว" เบซุกลยา กล่าว


    ภาพความเสียหายในพื้นที่แสดงให้เห็นสัญลักษณ์ของกองกำลังของยูเครนอยู่ในพื้นที่การโจมตีจากรัสเซีย

    พิกัดตำแหน่งการโจมต่ 50.905332960810995, 34.7958318981476
    1/ มีรายงานขีปนาวุธ Iskander ของรัสเซียโจมตำแหน่งทางทหารในภูมิภาคซูมี (Sumy) ของยูเครน การโจมตีเกิดขึ้นช่วงเช้าของวันที่ 13 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย อาร์เทม โคบซาร์ (Artem Kobzar) นายกเทศมนตรีเมืองซูมี รายงาน ทางด้าน ส.ส.ยูเครน มาริอานา เบซูกลา ซึ่งเป็นรองประธานสภา Verkhovna Rada (สภาผู้แทนราษฎรยูเครน) กล่าวถึงการโจมตีในเมืองซูมีครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของกำลังทหารที่กำลังจัดพิธีมอบรางวัล และเรียกร้องให้ซีร์สกี (Syrsky) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพยูเครน เลิกซะทีกับการรวมตัวของกำลังทหารในเขตชุมชนที่มีพลเรือนอยู่ "ขอวิงวอนต่อซีร์สกีผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันประเทศว่า อย่าระดมกำลังทหารเพื่อเข้าร่วมพิธีมอบรางวัล โดยเฉพาะในสถานที่พลเรือน เพราะรัสเซียมีข้อมูลเกี่ยวกับการชุมนุมดังกล่าวทั้งหมดอยู่แล้ว" เบซุกลยา กล่าว ภาพความเสียหายในพื้นที่แสดงให้เห็นสัญลักษณ์ของกองกำลังของยูเครนอยู่ในพื้นที่การโจมตีจากรัสเซีย พิกัดตำแหน่งการโจมต่ 50.905332960810995, 34.7958318981476
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • การโจมตีของรัสเซียในเขตซูมีและคาร์คิฟได้เริ่มขึ้นอย่างจริงจังแล้ว ซึ่งเซเลนสกีเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้

    - ซิร์สกี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพยูเครน กล่าวในการให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่น
    การโจมตีของรัสเซียในเขตซูมีและคาร์คิฟได้เริ่มขึ้นอย่างจริงจังแล้ว ซึ่งเซเลนสกีเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ - ซิร์สกี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพยูเครน กล่าวในการให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยกคณะลงพื้นที่ชายแดนแม่สอด ส่องปฏิบัติการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-มาตรการตัดเน็ต-ไฟฟ้า-น้ำมัน ก่อนรายงาน สมช.21 มีนาฯ นี้ สั่งย้ำสกัดคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย หลังพบอ้างเป็นนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่เพิ่มผิดปกติ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000024301
    ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยกคณะลงพื้นที่ชายแดนแม่สอด ส่องปฏิบัติการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-มาตรการตัดเน็ต-ไฟฟ้า-น้ำมัน ก่อนรายงาน สมช.21 มีนาฯ นี้ สั่งย้ำสกัดคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย หลังพบอ้างเป็นนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่เพิ่มผิดปกติ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000024301
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1376 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ถอยมั้ย!?!"
    พลเอกอเล็กซานดร์ ซีร์สกี (Oleksandr Syrskii) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพยูเครน ระบุว่าหน่วยต่างๆของยูเครน กำลังดำเนินการเพื่อเคลื่อนพลไปยังแนวป้องกันที่ได้เปรียบ

    สถานการณ์บนชายแดนของภูมิภาคซูมีกับภูมิภาคเคิร์สก์ของสหพันธรัฐรัสเซียยังอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพยูเครน - ซีร์สกี กล่าว
    "ถอยมั้ย!?!" พลเอกอเล็กซานดร์ ซีร์สกี (Oleksandr Syrskii) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพยูเครน ระบุว่าหน่วยต่างๆของยูเครน กำลังดำเนินการเพื่อเคลื่อนพลไปยังแนวป้องกันที่ได้เปรียบ สถานการณ์บนชายแดนของภูมิภาคซูมีกับภูมิภาคเคิร์สก์ของสหพันธรัฐรัสเซียยังอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพยูเครน - ซีร์สกี กล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts