อริยบุคคลพึงศึกษาว่าวิภาค(รายละเอียด)แห่งปฏิจจสมุปบาท
สัทธรรมลำดับที่ : 286
ชื่อบทธรรม :- วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286
เนื้อความทั้งหมด :-
--วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
--ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ;
เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ;
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;--
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ;
เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ;
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์(ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย)ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย
--ภิกษุ ท. ! ชรา มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ชรา คือ ความแก่ ความคร่ำคร่า ความมีฟันหลุด ความมีผมหงอก ความมีหนังเหี่ยว
ความเสื่อมไปแห่งอายุ ความแก่รอบแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ
ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ;
+-นี้เรียกว่า #ชรา.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรา
--ภิกษุ ท. ! มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
มรณะคือ การจุติ ความเคลื่อน การแตกสลาย การหายไป การวายชีพ การตาย
การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ทั้งหลาย การทอดทิ้งร่าง การขาดแห่งอินทรีย์คือชีวิต
จากสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ;
นี้ เรียกว่า #มรณะ ;
ด้วยเหตุนี้แหละ ชราอันนี้ด้วย มรณะอันนี้ด้วย.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชรามรณะ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรามรณ
--ภิกษุ ท. ! ชาติ เป็นอย่างไรเล่า ?
ชาติ คือ การเกิด การกำเนิด การก้าวลง (สู่ครรภ์) การบังเกิด การบังเกิดโดยยิ่ง
ความปรากฏของขันธ์ทั้งหลาย การที่สัตว์ได้ซึ่งอายตนะทั้งหลาย
ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชาติ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชาติ
--ภิกษุ ท. ! ภพ เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! ภพมีสามเหล่านี้ คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ภพ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ภโว
--ภิกษุ ท. ! อุปาทาน เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท. ! อุปาทานมีสี่อย่าง เหล่านี้ คือ กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลัพพตุปาทาน
และอัตตวาทุปาทาน.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อุปาทาน.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=อุปาทา
--ภิกษุ ท. ! ตัณหา เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งตัณหา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือตัณหาในรูป ตัณหาในเสียง ตัณหาในกลิ่น ตัณหาในรส ตัณหาในโผฏฐัพพะ และตัณหาในธรรมารมณ์.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ตัณหา.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ตณฺหา
--ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งเวทนา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย และเวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #เวทนา.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=เวทนา
--ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งผัสสะ มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ สัมผัสทางตา สัมผัสทางหู สัมผัสทางจมูก สัมผัสทางลิ้น สัมผัสทางกาย และสัมผัสทางใจ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ผัสสะ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=ผสฺส
--ภิกษุ ท. ! อายตนะหก เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งอายตนะ มีหกอย่าง เหล่านี้คือ อายตนะคือตา อายตนะคือหู อายตนะคือจมูก อายตนะคือลิ้น อายตนะคือกาย และอายตนะคือใจ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อายตนะหก(สฬายตนํ).
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สฬายตนํ
--ภิกษุ ท. ! นามรูป เป็นอย่างไรเล่า ?
นาม คือ เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ และมนสิการ.
นี้ เรียกว่า #นาม.
รูป คือ มหาภูตทั้งสี่ด้วยและรูปที่อาศัยมหาภูตทั้งสี่ด้วย.
นี้ เรียกว่า #รูป.
ด้วยเหตุนี้แหละ นามอันนี้ด้วย รูปอันนี้ด้วย.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #นามรูป.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=นามรูป
--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งวิญญาณ มีหกอย่างเหล่านี้ คือ
วิญญาณทางตา วิญญาณทางหู วิญญาณทางจมูก วิญญาณทางลิ้น วิญญาณทางกาย
และวิญญาณทางใจ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #วิญญาณ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=วิญฺญาณ
--ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลายเหล่านี้ คือ กายสังขาร วจีสังขาร และจิตตสังขาร.
+-ภิกษุ ท. ! เหล่านี้ เรียกว่า #สังขารทั้งหลาย.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สงฺขาร
--ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็นอย่างไรเล่า ?
+--ภิกษุ ท. ! ความไม่รู้อันใด
เป็นความไม่รู้ในทุกข์,
เป็นความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์,
เป็นความไม่รู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์, และ
เป็นไม่รู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อวิชชา.
http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=อวิชฺชา
--ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ,
เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ;
เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ;
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ;
เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ;
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้
http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย
ด้วยอาการอย่างนี้ แล.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/2-5/5-18.
http://etipitaka.com/read/thai/16/2/?keywords=%E0%B9%95
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒-๕/๕-๑๘.
http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=%E0%B9%95
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=286
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19
ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
สัทธรรมลำดับที่ : 286
ชื่อบทธรรม :- วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286
เนื้อความทั้งหมด :-
--วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
--ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ;
เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ;
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;--
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ;
เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ;
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์(ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย)ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย
--ภิกษุ ท. ! ชรา มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ชรา คือ ความแก่ ความคร่ำคร่า ความมีฟันหลุด ความมีผมหงอก ความมีหนังเหี่ยว
ความเสื่อมไปแห่งอายุ ความแก่รอบแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ
ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ;
+-นี้เรียกว่า #ชรา.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรา
--ภิกษุ ท. ! มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
มรณะคือ การจุติ ความเคลื่อน การแตกสลาย การหายไป การวายชีพ การตาย
การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ทั้งหลาย การทอดทิ้งร่าง การขาดแห่งอินทรีย์คือชีวิต
จากสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ;
นี้ เรียกว่า #มรณะ ;
ด้วยเหตุนี้แหละ ชราอันนี้ด้วย มรณะอันนี้ด้วย.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชรามรณะ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรามรณ
--ภิกษุ ท. ! ชาติ เป็นอย่างไรเล่า ?
ชาติ คือ การเกิด การกำเนิด การก้าวลง (สู่ครรภ์) การบังเกิด การบังเกิดโดยยิ่ง
ความปรากฏของขันธ์ทั้งหลาย การที่สัตว์ได้ซึ่งอายตนะทั้งหลาย
ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชาติ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชาติ
--ภิกษุ ท. ! ภพ เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! ภพมีสามเหล่านี้ คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ภพ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ภโว
--ภิกษุ ท. ! อุปาทาน เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท. ! อุปาทานมีสี่อย่าง เหล่านี้ คือ กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลัพพตุปาทาน
และอัตตวาทุปาทาน.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อุปาทาน.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=อุปาทา
--ภิกษุ ท. ! ตัณหา เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งตัณหา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือตัณหาในรูป ตัณหาในเสียง ตัณหาในกลิ่น ตัณหาในรส ตัณหาในโผฏฐัพพะ และตัณหาในธรรมารมณ์.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ตัณหา.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ตณฺหา
--ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งเวทนา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย และเวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #เวทนา.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=เวทนา
--ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งผัสสะ มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ สัมผัสทางตา สัมผัสทางหู สัมผัสทางจมูก สัมผัสทางลิ้น สัมผัสทางกาย และสัมผัสทางใจ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ผัสสะ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=ผสฺส
--ภิกษุ ท. ! อายตนะหก เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งอายตนะ มีหกอย่าง เหล่านี้คือ อายตนะคือตา อายตนะคือหู อายตนะคือจมูก อายตนะคือลิ้น อายตนะคือกาย และอายตนะคือใจ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อายตนะหก(สฬายตนํ).
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สฬายตนํ
--ภิกษุ ท. ! นามรูป เป็นอย่างไรเล่า ?
นาม คือ เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ และมนสิการ.
นี้ เรียกว่า #นาม.
รูป คือ มหาภูตทั้งสี่ด้วยและรูปที่อาศัยมหาภูตทั้งสี่ด้วย.
นี้ เรียกว่า #รูป.
ด้วยเหตุนี้แหละ นามอันนี้ด้วย รูปอันนี้ด้วย.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #นามรูป.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=นามรูป
--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งวิญญาณ มีหกอย่างเหล่านี้ คือ
วิญญาณทางตา วิญญาณทางหู วิญญาณทางจมูก วิญญาณทางลิ้น วิญญาณทางกาย
และวิญญาณทางใจ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #วิญญาณ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=วิญฺญาณ
--ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลายเหล่านี้ คือ กายสังขาร วจีสังขาร และจิตตสังขาร.
+-ภิกษุ ท. ! เหล่านี้ เรียกว่า #สังขารทั้งหลาย.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สงฺขาร
--ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็นอย่างไรเล่า ?
+--ภิกษุ ท. ! ความไม่รู้อันใด
เป็นความไม่รู้ในทุกข์,
เป็นความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์,
เป็นความไม่รู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์, และ
เป็นไม่รู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อวิชชา.
http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=อวิชฺชา
--ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ,
เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ;
เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ;
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ;
เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ;
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้
http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย
ด้วยอาการอย่างนี้ แล.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/2-5/5-18.
http://etipitaka.com/read/thai/16/2/?keywords=%E0%B9%95
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒-๕/๕-๑๘.
http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=%E0%B9%95
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=286
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19
ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
อริยบุคคลพึงศึกษาว่าวิภาค(รายละเอียด)แห่งปฏิจจสมุปบาท
สัทธรรมลำดับที่ : 286
ชื่อบทธรรม :- วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286
เนื้อความทั้งหมด :-
--วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
--ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ;
เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ;
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;--
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ;
เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ;
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์(ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย)ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย
--ภิกษุ ท. ! ชรา มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
ชรา คือ ความแก่ ความคร่ำคร่า ความมีฟันหลุด ความมีผมหงอก ความมีหนังเหี่ยว
ความเสื่อมไปแห่งอายุ ความแก่รอบแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ
ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ;
+-นี้เรียกว่า #ชรา.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรา
--ภิกษุ ท. ! มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
มรณะคือ การจุติ ความเคลื่อน การแตกสลาย การหายไป การวายชีพ การตาย
การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ทั้งหลาย การทอดทิ้งร่าง การขาดแห่งอินทรีย์คือชีวิต
จากสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ;
นี้ เรียกว่า #มรณะ ;
ด้วยเหตุนี้แหละ ชราอันนี้ด้วย มรณะอันนี้ด้วย.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชรามรณะ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรามรณ
--ภิกษุ ท. ! ชาติ เป็นอย่างไรเล่า ?
ชาติ คือ การเกิด การกำเนิด การก้าวลง (สู่ครรภ์) การบังเกิด การบังเกิดโดยยิ่ง
ความปรากฏของขันธ์ทั้งหลาย การที่สัตว์ได้ซึ่งอายตนะทั้งหลาย
ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชาติ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชาติ
--ภิกษุ ท. ! ภพ เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! ภพมีสามเหล่านี้ คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ภพ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ภโว
--ภิกษุ ท. ! อุปาทาน เป็นอย่างไรเล่า ?
ภิกษุ ท. ! อุปาทานมีสี่อย่าง เหล่านี้ คือ กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลัพพตุปาทาน
และอัตตวาทุปาทาน.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อุปาทาน.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=อุปาทา
--ภิกษุ ท. ! ตัณหา เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งตัณหา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือตัณหาในรูป ตัณหาในเสียง ตัณหาในกลิ่น ตัณหาในรส ตัณหาในโผฏฐัพพะ และตัณหาในธรรมารมณ์.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ตัณหา.
http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ตณฺหา
--ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งเวทนา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย และเวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #เวทนา.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=เวทนา
--ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งผัสสะ มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ สัมผัสทางตา สัมผัสทางหู สัมผัสทางจมูก สัมผัสทางลิ้น สัมผัสทางกาย และสัมผัสทางใจ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ผัสสะ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=ผสฺส
--ภิกษุ ท. ! อายตนะหก เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งอายตนะ มีหกอย่าง เหล่านี้คือ อายตนะคือตา อายตนะคือหู อายตนะคือจมูก อายตนะคือลิ้น อายตนะคือกาย และอายตนะคือใจ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อายตนะหก(สฬายตนํ).
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สฬายตนํ
--ภิกษุ ท. ! นามรูป เป็นอย่างไรเล่า ?
นาม คือ เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ และมนสิการ.
นี้ เรียกว่า #นาม.
รูป คือ มหาภูตทั้งสี่ด้วยและรูปที่อาศัยมหาภูตทั้งสี่ด้วย.
นี้ เรียกว่า #รูป.
ด้วยเหตุนี้แหละ นามอันนี้ด้วย รูปอันนี้ด้วย.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #นามรูป.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=นามรูป
--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งวิญญาณ มีหกอย่างเหล่านี้ คือ
วิญญาณทางตา วิญญาณทางหู วิญญาณทางจมูก วิญญาณทางลิ้น วิญญาณทางกาย
และวิญญาณทางใจ.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #วิญญาณ.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=วิญฺญาณ
--ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลายเหล่านี้ คือ กายสังขาร วจีสังขาร และจิตตสังขาร.
+-ภิกษุ ท. ! เหล่านี้ เรียกว่า #สังขารทั้งหลาย.
http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สงฺขาร
--ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็นอย่างไรเล่า ?
+--ภิกษุ ท. ! ความไม่รู้อันใด
เป็นความไม่รู้ในทุกข์,
เป็นความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์,
เป็นความไม่รู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์, และ
เป็นไม่รู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์.
+-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อวิชชา.
http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=อวิชฺชา
--ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ,
เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ;
เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ;
เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;
เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ;
เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ;
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้
http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย
ด้วยอาการอย่างนี้ แล.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/2-5/5-18.
http://etipitaka.com/read/thai/16/2/?keywords=%E0%B9%95
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒-๕/๕-๑๘.
http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=%E0%B9%95
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=286
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19
ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
3 มุมมอง
0 รีวิว