• อริยบุคคลพึงศึกษาว่าวิภาค(รายละเอียด)​แห่งปฏิจจสมุปบาท
    สัทธรรมลำดับที่ : 286
    ชื่อบทธรรม :- วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
    --ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ;
    เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ;
    เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;--
    เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ;
    เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ;
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์(ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย)​ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย
    --ภิกษุ ท. ! ชรา มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    ชรา คือ ความแก่ ความคร่ำคร่า ความมีฟันหลุด ความมีผมหงอก ความมีหนังเหี่ยว
    ความเสื่อมไปแห่งอายุ ความแก่รอบแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ
    ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ;
    +-นี้เรียกว่า #ชรา.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรา
    --ภิกษุ ท. ! มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    มรณะคือ การจุติ ความเคลื่อน การแตกสลาย การหายไป การวายชีพ การตาย
    การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ทั้งหลาย การทอดทิ้งร่าง การขาดแห่งอินทรีย์คือชีวิต
    จากสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ;
    นี้ เรียกว่า #มรณะ ;
    ด้วยเหตุนี้แหละ ชราอันนี้ด้วย มรณะอันนี้ด้วย.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชรามรณะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรามรณ
    --ภิกษุ ท. ! ชาติ เป็นอย่างไรเล่า ?
    ชาติ คือ การเกิด การกำเนิด การก้าวลง (สู่ครรภ์) การบังเกิด การบังเกิดโดยยิ่ง
    ความปรากฏของขันธ์ทั้งหลาย การที่สัตว์ได้ซึ่งอายตนะทั้งหลาย
    ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชาติ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชาติ
    --ภิกษุ ท. ! ภพ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภพมีสามเหล่านี้ คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ภพ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ภโว
    --ภิกษุ ท. ! อุปาทาน เป็นอย่างไรเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! อุปาทานมีสี่อย่าง เหล่านี้ คือ กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลัพพตุปาทาน
    และอัตตวาทุปาทาน.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อุปาทาน.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=อุปาทา
    --ภิกษุ ท. ! ตัณหา เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งตัณหา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือตัณหาในรูป ตัณหาในเสียง ตัณหาในกลิ่น ตัณหาในรส ตัณหาในโผฏฐัพพะ และตัณหาในธรรมารมณ์.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ตัณหา.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ตณฺหา
    --ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งเวทนา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย และเวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #เวทนา.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=เวทนา
    --ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งผัสสะ มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ สัมผัสทางตา สัมผัสทางหู สัมผัสทางจมูก สัมผัสทางลิ้น สัมผัสทางกาย และสัมผัสทางใจ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ผัสสะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=ผสฺส
    --ภิกษุ ท. ! อายตนะหก เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งอายตนะ มีหกอย่าง เหล่านี้คือ อายตนะคือตา อายตนะคือหู อายตนะคือจมูก อายตนะคือลิ้น อายตนะคือกาย และอายตนะคือใจ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อายตนะหก(สฬายตนํ)​.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สฬายตนํ
    --ภิกษุ ท. ! นามรูป เป็นอย่างไรเล่า ?
    นาม คือ เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ และมนสิการ.
    นี้ เรียกว่า #นาม.
    รูป คือ มหาภูตทั้งสี่ด้วยและรูปที่อาศัยมหาภูตทั้งสี่ด้วย.
    นี้ เรียกว่า #รูป.
    ด้วยเหตุนี้แหละ นามอันนี้ด้วย รูปอันนี้ด้วย.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #นามรูป.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=นามรูป
    --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งวิญญาณ มีหกอย่างเหล่านี้ คือ
    วิญญาณทางตา วิญญาณทางหู วิญญาณทางจมูก วิญญาณทางลิ้น วิญญาณทางกาย
    และวิญญาณทางใจ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #วิญญาณ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=วิญฺญาณ
    --ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลายเหล่านี้ คือ กายสังขาร วจีสังขาร และจิตตสังขาร.
    +-ภิกษุ ท. ! เหล่านี้ เรียกว่า #สังขารทั้งหลาย.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สงฺขาร
    --ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็นอย่างไรเล่า ?
    +--ภิกษุ ท. ! ความไม่รู้อันใด
    เป็นความไม่รู้ในทุกข์,
    เป็นความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์,
    เป็นความไม่รู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์, และ
    เป็นไม่รู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อวิชชา.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=อวิชฺชา
    --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ,
    เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ;
    เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ;
    เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;
    เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ;
    เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ;
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้
    http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย
    ด้วยอาการอย่างนี้ แล.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/2-5/5-18.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/2/?keywords=%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒-๕/๕-๑๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=%E0%B9%95
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=286
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19
    ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    อริยบุคคลพึงศึกษาว่าวิภาค(รายละเอียด)​แห่งปฏิจจสมุปบาท สัทธรรมลำดับที่ : 286 ชื่อบทธรรม :- วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286 เนื้อความทั้งหมด :- --วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท --ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;-- เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์(ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย)​ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย --ภิกษุ ท. ! ชรา มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ? ชรา คือ ความแก่ ความคร่ำคร่า ความมีฟันหลุด ความมีผมหงอก ความมีหนังเหี่ยว ความเสื่อมไปแห่งอายุ ความแก่รอบแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ; +-นี้เรียกว่า #ชรา. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรา --ภิกษุ ท. ! มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ? มรณะคือ การจุติ ความเคลื่อน การแตกสลาย การหายไป การวายชีพ การตาย การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ทั้งหลาย การทอดทิ้งร่าง การขาดแห่งอินทรีย์คือชีวิต จากสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ; นี้ เรียกว่า #มรณะ ; ด้วยเหตุนี้แหละ ชราอันนี้ด้วย มรณะอันนี้ด้วย. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชรามรณะ. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรามรณ --ภิกษุ ท. ! ชาติ เป็นอย่างไรเล่า ? ชาติ คือ การเกิด การกำเนิด การก้าวลง (สู่ครรภ์) การบังเกิด การบังเกิดโดยยิ่ง ความปรากฏของขันธ์ทั้งหลาย การที่สัตว์ได้ซึ่งอายตนะทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชาติ. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชาติ --ภิกษุ ท. ! ภพ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภพมีสามเหล่านี้ คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ภพ. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ภโว --ภิกษุ ท. ! อุปาทาน เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! อุปาทานมีสี่อย่าง เหล่านี้ คือ กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลัพพตุปาทาน และอัตตวาทุปาทาน. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อุปาทาน. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=อุปาทา --ภิกษุ ท. ! ตัณหา เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งตัณหา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือตัณหาในรูป ตัณหาในเสียง ตัณหาในกลิ่น ตัณหาในรส ตัณหาในโผฏฐัพพะ และตัณหาในธรรมารมณ์. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ตัณหา. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ตณฺหา --ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งเวทนา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย และเวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #เวทนา. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=เวทนา --ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งผัสสะ มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ สัมผัสทางตา สัมผัสทางหู สัมผัสทางจมูก สัมผัสทางลิ้น สัมผัสทางกาย และสัมผัสทางใจ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ผัสสะ. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=ผสฺส --ภิกษุ ท. ! อายตนะหก เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งอายตนะ มีหกอย่าง เหล่านี้คือ อายตนะคือตา อายตนะคือหู อายตนะคือจมูก อายตนะคือลิ้น อายตนะคือกาย และอายตนะคือใจ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อายตนะหก(สฬายตนํ)​. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สฬายตนํ --ภิกษุ ท. ! นามรูป เป็นอย่างไรเล่า ? นาม คือ เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ และมนสิการ. นี้ เรียกว่า #นาม. รูป คือ มหาภูตทั้งสี่ด้วยและรูปที่อาศัยมหาภูตทั้งสี่ด้วย. นี้ เรียกว่า #รูป. ด้วยเหตุนี้แหละ นามอันนี้ด้วย รูปอันนี้ด้วย. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #นามรูป. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=นามรูป --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งวิญญาณ มีหกอย่างเหล่านี้ คือ วิญญาณทางตา วิญญาณทางหู วิญญาณทางจมูก วิญญาณทางลิ้น วิญญาณทางกาย และวิญญาณทางใจ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #วิญญาณ. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=วิญฺญาณ --ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลายเหล่านี้ คือ กายสังขาร วจีสังขาร และจิตตสังขาร. +-ภิกษุ ท. ! เหล่านี้ เรียกว่า #สังขารทั้งหลาย. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สงฺขาร --ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! ความไม่รู้อันใด เป็นความไม่รู้ในทุกข์, เป็นความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์, เป็นความไม่รู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์, และ เป็นไม่รู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อวิชชา. http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=อวิชฺชา --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ, เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ; เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย ด้วยอาการอย่างนี้ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/2-5/5-18. http://etipitaka.com/read/thai/16/2/?keywords=%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒-๕/๕-๑๘. http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=%E0%B9%95 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=286 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19 ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
    -วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ; เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! ชรา มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ? ชรา คือ ความแก่ ความคร่ำคร่า ความมีฟันหลุด ความมีผมหงอก ความมีหนังเหี่ยว ความเสื่อมไปแห่งอายุ ความแก่รอบแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ; นี้เรียกว่า ชรา. ภิกษุ ท. ! มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ? มรณะคือ การจุติ ความเคลื่อน การแตกสลาย การหายไป การวายชีพ การตาย การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ทั้งหลาย การทอดทิ้งร่าง การขาดแห่งอินทรีย์คือชีวิต จากสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ; นี้ เรียกว่า มรณะ ; ด้วยเหตุนี้แหละ ชราอันนี้ด้วย มรณะอันนี้ด้วย. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ชรามรณะ. ภิกษุ ท. ! ชาติ เป็นอย่างไรเล่า ? ชาติ คือ การเกิด การกำเนิด การก้าวลง (สู่ครรภ์) การบังเกิด การบังเกิดโดยยิ่ง ความปรากฏของขันธ์ทั้งหลาย การที่สัตว์ได้ซึ่งอายตนะทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ชาติ. ภิกษุ ท. ! ภพ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภพมีสามเหล่านี้ คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ภพ. ภิกษุ ท. ! อุปาทาน เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! อุปาทานมีสี่อย่าง เหล่านี้ คือ กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลัพพตุปาทาน และอัตตวาทุปาทาน. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า อุปาทาน. ภิกษุ ท. ! ตัณหา เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งตัณหา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือตัณหาในรูป ตัณหาในเสียง ตัณหาในกลิ่น ตัณหาในรส ตัณหาในโผฏฐัพพะ และตัณหาในธรรมารมณ์. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ตัณหา. ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งเวทนา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย และเวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า เวทนา. ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งผัสสะ มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ สัมผัสทางตา สัมผัสทางหู สัมผัสทางจมูก สัมผัสทางลิ้น สัมผัสทางกาย และสัมผัสทางใจ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ผัสสะ. ภิกษุ ท. ! อายตนะหก เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งอายตนะ มีหกอย่าง เหล่านี้คือ อายตนะคือตา อายตนะคือหู อายตนะคือจมูก อายตนะคือลิ้น อายตนะคือกาย และอายตนะคือใจ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่าอายตนะหก. ภิกษุ ท. ! นามรูป เป็นอย่างไรเล่า ? นาม คือ เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ และมนสิการ. นี้ เรียกว่า นาม. รูป คือ มหาภูตทั้งสี่ด้วยและรูปที่อาศัยมหาภูตทั้งสี่ด้วย. นี้ เรียกว่า รูป. ด้วยเหตุนี้แหละ นามอันนี้ด้วย รูปอันนี้ด้วย. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า นามรูป. ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งวิญญาณ มีหกอย่างเหล่านี้ คือ วิญญาณทางตา วิญญาณทางหู วิญญาณทางจมูก วิญญาณทางลิ้น วิญญาณทางกาย และวิญญาณทางใจ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า วิญญาณ. ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลายเหล่านี้ คือ กายสังขาร วจีสังขาร และจิตตสังขาร. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้ เรียกว่า สังขารทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ความไม่รู้อันใด เป็นความไม่รู้ในทุกข์, เป็นความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์, เป็นความไม่รู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์, ละเป็นไม่รู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า อวิชชา. ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ, เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ; เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะ อุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • พร้อมหรือยัง? ที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งปัญญาและความเข้าใจ... ไพ่พรหมญาณไม่ใช่แค่การทำนาย แต่เป็นการเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่ 🔑 เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสิ่งที่กำลังจะมาถึง ทั้งโอกาสและอุปสรรค! 🎁

    ไพ่ตัวแทนทั้ง 12 ตำแหน่ง เล่าถึงเรื่องราวที่อาจจะเกิดขึ้นในดวงชะตาของคุณ! 🔮

    วาสนา: รู้ชะตาชีวิต... เตรียมรับโชคและระวังภัย! 🍀
    o ไพ่วาสนาเผยเส้นทางชีวิตของคุณ! ด้านดี: จะนำทางสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ 🏆 โอกาสที่คุณไม่ควรพลาด! ✨ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงอุปสรรคที่อาจขัดขวาง เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือและแก้ไข! 🚧

    ทรัพย์สิน: ร่ำรวยชาญฉลาด... อย่าประมาทในการลงทุน! 💰
    o เปิดประตูสู่ความมั่งคั่ง! 🗝️ ด้านดี: ชี้ช่องทางสู่โอกาสทางการเงินที่น่าสนใจ การลงทุนที่ชาญฉลาด! 📈 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การตัดสินใจที่ผิดพลาด เพื่อให้คุณรอบคอบในการบริหารจัดการเงินทอง! ⚠️

    บ้านช่อง: สวรรค์ในบ้าน... อย่าปล่อยปละละเลยความสัมพันธ์! 🏡
    o สร้างความสุขในครอบครัว! 🥰 ด้านดี: เสริมสร้างความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่น! ❤️ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น ความห่างเหินที่ต้องแก้ไข เพื่อให้คุณรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้! 🫂

    ญาติมิตร: เพื่อนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง... อย่าไว้ใจคนผิด! 🤝
    o เครือข่ายที่แข็งแกร่ง! 💪 ด้านดี: ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนแท้และพันธมิตร! 🤗 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงคนที่อาจเข้ามาหลอกลวง หรือทำให้คุณเดือดร้อน เพื่อให้คุณเลือกคบคนอย่างระมัดระวัง! 🙅‍♀️

    บุตรบริวาร: บริหารคนอย่างเข้าใจ... อย่าละเลยการดูแล! 👨‍👩‍👧‍👦
    o ทีมงานที่แข็งแกร่ง! 🧑‍🤝‍🧑 ด้านดี: ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากลูกน้อง! 🙌 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น การขาดความสามัคคี เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลและสร้างความเข้าใจในทีม! 🗣️

    ศัตรู: รู้เขารู้เรา... อย่าประมาทคู่แข่ง! 😈
    o เตรียมพร้อมรับมืออุปสรรค! 🛡️ ด้านดี: รู้ทันกลอุบายของศัตรู! 🕵️ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงภัยที่มองไม่เห็น การถูกแทงข้างหลัง เพื่อให้คุณป้องกันตัวเองและหลีกเลี่ยงปัญหา! 🔪

    คู่ครอง: รักแท้ต้องดูแล... อย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์จืดจาง! 💖
    o สร้างรักที่ยั่งยืน! ♾️ ด้านดี: มีความรัก ความเข้าใจ ความผูกพัน! 🥰 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ ความห่างเหิน เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลความสัมพันธ์และเติมความรักให้กันเสมอ! 💔

    โรคภัย: ดูแลสุขภาพ... อย่าละเลยสัญญาณเตือน! 🩺
    o สุขภาพดีคือสิ่งสำคัญ! 💪 ด้านดี: ร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใส! ☀️ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเสี่ยงต่อโรคภัย การเจ็บป่วย เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลสุขภาพและป้องกันไว้ก่อน! 🤕

    ความสุข: เติมเต็มชีวิต... อย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ! 😄
    o ค้นพบความสุขที่แท้จริง! 😇 ด้านดี: มีความสงบ ความพึงพอใจ ความรัก! 💕 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความทุกข์ ความเศร้า ความผิดหวัง เพื่อให้คุณมองโลกในแง่ดีและหาความสุขจากสิ่งรอบตัว! 😔

    การงาน: สร้างความสุขในที่ทำงาน... อย่าปล่อยให้ความเครียดครอบงำ! 🏢
    o รักงานที่ทำ! 🥰 ด้านดี: พบความสำเร็จและความพึงพอใจในอาชีพ! 🏆 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเครียด ความกดดัน ความขัดแย้ง เพื่อให้คุณหาทางผ่อนคลายและรักษาสมดุลในชีวิต! 😩

    ลาภยศ: โอกาสมาแล้ว... อย่าปล่อยให้หลุดมือ! 👑
    o ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน! 🚀 ด้านดี: ได้รับโอกาสในการเติบโต ชื่อเสียง และการยอมรับ! 👍 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความท้าทายที่ต้องเผชิญ การแข่งขันที่สูงขึ้น เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ! 🏋️

    ไพ่สรุป: ภาพรวมชีวิต... ทั้งดีและร้าย! 🖼️
    o ไขรหัสชีวิตของคุณ! 🧩 ไพ่สรุปจะรวบรวมทุกข้อมูล! ด้านดี: ชี้ให้เห็นโอกาสและความสำเร็จที่รออยู่! 🌟 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้คุณวางแผนรับมือได้อย่างเหมาะสม! 💡

    🌟 พร้อมหรือยังที่จะเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้ชีวิต? มาดูดวงกับเรา! 🔮 เราพร้อมให้คำปรึกษาและนำทางคุณไปสู่ความสำเร็จและความสุขในทุกๆ ด้านของชีวิต! ✨ ติดต่อเราเลย! ส่งข้อความมาได้เลย! ✉️
    พร้อมหรือยัง? ที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งปัญญาและความเข้าใจ... ไพ่พรหมญาณไม่ใช่แค่การทำนาย แต่เป็นการเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่ 🔑 เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสิ่งที่กำลังจะมาถึง ทั้งโอกาสและอุปสรรค! 🎁 ไพ่ตัวแทนทั้ง 12 ตำแหน่ง เล่าถึงเรื่องราวที่อาจจะเกิดขึ้นในดวงชะตาของคุณ! 🔮 วาสนา: รู้ชะตาชีวิต... เตรียมรับโชคและระวังภัย! 🍀 o ไพ่วาสนาเผยเส้นทางชีวิตของคุณ! ด้านดี: จะนำทางสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ 🏆 โอกาสที่คุณไม่ควรพลาด! ✨ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงอุปสรรคที่อาจขัดขวาง เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือและแก้ไข! 🚧 ทรัพย์สิน: ร่ำรวยชาญฉลาด... อย่าประมาทในการลงทุน! 💰 o เปิดประตูสู่ความมั่งคั่ง! 🗝️ ด้านดี: ชี้ช่องทางสู่โอกาสทางการเงินที่น่าสนใจ การลงทุนที่ชาญฉลาด! 📈 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การตัดสินใจที่ผิดพลาด เพื่อให้คุณรอบคอบในการบริหารจัดการเงินทอง! ⚠️ บ้านช่อง: สวรรค์ในบ้าน... อย่าปล่อยปละละเลยความสัมพันธ์! 🏡 o สร้างความสุขในครอบครัว! 🥰 ด้านดี: เสริมสร้างความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่น! ❤️ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น ความห่างเหินที่ต้องแก้ไข เพื่อให้คุณรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้! 🫂 ญาติมิตร: เพื่อนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง... อย่าไว้ใจคนผิด! 🤝 o เครือข่ายที่แข็งแกร่ง! 💪 ด้านดี: ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนแท้และพันธมิตร! 🤗 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงคนที่อาจเข้ามาหลอกลวง หรือทำให้คุณเดือดร้อน เพื่อให้คุณเลือกคบคนอย่างระมัดระวัง! 🙅‍♀️ บุตรบริวาร: บริหารคนอย่างเข้าใจ... อย่าละเลยการดูแล! 👨‍👩‍👧‍👦 o ทีมงานที่แข็งแกร่ง! 🧑‍🤝‍🧑 ด้านดี: ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากลูกน้อง! 🙌 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น การขาดความสามัคคี เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลและสร้างความเข้าใจในทีม! 🗣️ ศัตรู: รู้เขารู้เรา... อย่าประมาทคู่แข่ง! 😈 o เตรียมพร้อมรับมืออุปสรรค! 🛡️ ด้านดี: รู้ทันกลอุบายของศัตรู! 🕵️ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงภัยที่มองไม่เห็น การถูกแทงข้างหลัง เพื่อให้คุณป้องกันตัวเองและหลีกเลี่ยงปัญหา! 🔪 คู่ครอง: รักแท้ต้องดูแล... อย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์จืดจาง! 💖 o สร้างรักที่ยั่งยืน! ♾️ ด้านดี: มีความรัก ความเข้าใจ ความผูกพัน! 🥰 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ ความห่างเหิน เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลความสัมพันธ์และเติมความรักให้กันเสมอ! 💔 โรคภัย: ดูแลสุขภาพ... อย่าละเลยสัญญาณเตือน! 🩺 o สุขภาพดีคือสิ่งสำคัญ! 💪 ด้านดี: ร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใส! ☀️ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเสี่ยงต่อโรคภัย การเจ็บป่วย เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลสุขภาพและป้องกันไว้ก่อน! 🤕 ความสุข: เติมเต็มชีวิต... อย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ! 😄 o ค้นพบความสุขที่แท้จริง! 😇 ด้านดี: มีความสงบ ความพึงพอใจ ความรัก! 💕 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความทุกข์ ความเศร้า ความผิดหวัง เพื่อให้คุณมองโลกในแง่ดีและหาความสุขจากสิ่งรอบตัว! 😔 การงาน: สร้างความสุขในที่ทำงาน... อย่าปล่อยให้ความเครียดครอบงำ! 🏢 o รักงานที่ทำ! 🥰 ด้านดี: พบความสำเร็จและความพึงพอใจในอาชีพ! 🏆 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเครียด ความกดดัน ความขัดแย้ง เพื่อให้คุณหาทางผ่อนคลายและรักษาสมดุลในชีวิต! 😩 ลาภยศ: โอกาสมาแล้ว... อย่าปล่อยให้หลุดมือ! 👑 o ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน! 🚀 ด้านดี: ได้รับโอกาสในการเติบโต ชื่อเสียง และการยอมรับ! 👍 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความท้าทายที่ต้องเผชิญ การแข่งขันที่สูงขึ้น เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ! 🏋️ ไพ่สรุป: ภาพรวมชีวิต... ทั้งดีและร้าย! 🖼️ o ไขรหัสชีวิตของคุณ! 🧩 ไพ่สรุปจะรวบรวมทุกข้อมูล! ด้านดี: ชี้ให้เห็นโอกาสและความสำเร็จที่รออยู่! 🌟 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้คุณวางแผนรับมือได้อย่างเหมาะสม! 💡 🌟 พร้อมหรือยังที่จะเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้ชีวิต? มาดูดวงกับเรา! 🔮 เราพร้อมให้คำปรึกษาและนำทางคุณไปสู่ความสำเร็จและความสุขในทุกๆ ด้านของชีวิต! ✨ ติดต่อเราเลย! ส่งข้อความมาได้เลย! ✉️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep297 (live)

    อำนาจนักการเมือง เปลี่ยนถนนหลวงเป็นรันเวย์เครื่องบินส่วนตัว ความโลภบนทุกข์ประชาชน นี้หรือคือนักการเมือง

    คลิกรับชม https://m.youtube.com/watch?v=LR8fgs3BVXU

    #sondhitalk #live #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน #youtube #thaitimes
    SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep297 (live) • อำนาจนักการเมือง เปลี่ยนถนนหลวงเป็นรันเวย์เครื่องบินส่วนตัว ความโลภบนทุกข์ประชาชน นี้หรือคือนักการเมือง • คลิกรับชม https://m.youtube.com/watch?v=LR8fgs3BVXU #sondhitalk #live #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน #youtube #thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Wow
    51
    20 ความคิดเห็น 4 การแบ่งปัน 724 มุมมอง 3 รีวิว
  • ⚫️ 9 บทเรียนจาก “ความตาย” ที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง

    บางคนต้อง “ตายจริง” ถึงจะเข้าใจชีวิต
    แต่บางคนแค่ “กล้าฟัง” ก็เริ่มเปลี่ยนได้แล้ว

    เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
    แต่คือบทเรียนที่อาจเปลี่ยน “วิธีอยู่” ของคุณไปตลอดกาล

    1. ความตายไม่ใช่จุดจบ...แค่เปลี่ยนสถานะ
    เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ใช่การสูญหาย
    ชีวิตหลังตายยังมีอยู่ เพียงแค่ไม่ใช่ในร่างนี้

    2. เราไม่ได้ถูกส่งมา...เราเลือกมาเอง
    ทุกข์ที่เจอ พ่อแม่ที่ได้ บาดแผลที่เคยมี
    ล้วนเป็น “บทเรียนที่วิญญาณเลือก” เพื่อเติบโต
    เพราะ “วิญญาณไม่ได้เกิดมาเพื่อสบาย แต่มาเพื่อเรียนรู้”

    3. โรคบางโรค...มาจากความรู้สึกในอดีต
    บางคนเจ็บป่วยเพราะใจไม่เคยหาย
    แผลที่ไม่เยียวยาในชาติก่อน กลายเป็นความป่วยในชาตินี้
    บางที...สิ่งที่เราต้องรักษา อาจไม่ใช่ร่างกาย แต่คือ “ใจที่ให้อภัยตัวเอง”

    4. คนที่ทำให้เจ็บ...อาจคือคนที่เคยรักที่สุดในอีกภพหนึ่ง
    เขาอาจคือ “คู่สัญญาทางวิญญาณ”
    ที่ตกลงกันไว้ว่า เราจะเจ็บ เพื่อเราจะโต
    ไม่ใช่ทุกความเจ็บที่ไร้ค่า ถ้าเรามองเห็นบทเรียน

    5. ทุกเรื่องในชีวิต...ไม่เคยเกิดแบบสุ่ม
    คนที่มาเจอ เหตุการณ์ที่เจอ ล้วนเป็น “แผนการเรียนรู้”
    แทนที่จะถามว่า “ทำไมต้องเกิดกับฉัน”
    ลองถามว่า “ฉันควรเรียนรู้อะไรจากมัน” แทน

    6. โลกหลังความตาย...ไม่มีอะไรนอกจาก “ความรัก”
    คนที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายบอกตรงกันว่า
    สิ่งที่ชัดที่สุด คือ “ความรักบริสุทธิ์”
    ไม่มีโกรธ ไม่มีเกลียด
    บางทีเราอาจเริ่มใช้ “คุณภาพของโลกหน้า” มาเติมเต็มโลกนี้ได้แล้ว

    7. การให้อภัย...คือการปลดปล่อยจิตตัวเอง
    ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายถูก
    แต่เพราะเราพอแล้วกับการจองจำตัวเองไว้กับอดีต
    ถ้าไม่ให้อภัย เราจะต้องแบก “ปม” ไปข้ามภพข้ามชาติ

    8. คนที่กลัวตาย...มักเป็นคนที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตให้คุ้ม
    ยังไม่ได้รัก
    ยังไม่ได้ขอโทษ
    ยังไม่ได้ให้อภัย
    ยังไม่ได้เป็นตัวเองอย่างแท้จริง
    เมื่อเรา “ใช้ชีวิตจนเต็ม” ความตายจะไม่น่ากลัวอีกต่อไป

    9. เราไม่ได้เกิดมาเพื่อหาเงิน...แต่เพื่อหาความหมาย
    เงินแค่เครื่องมือ
    แต่สิ่งที่วิญญาณตามหา คือ “ความหมาย” ของการมีชีวิต
    ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เราตื่นขึ้นมาทุกวันแล้วรู้ว่า…
    "เราตื่นมาเพื่ออะไร"

    🖤 ถ้าโพสต์นี้ทำให้คุณรู้สึกบางอย่าง
    อย่าเพิ่งเลื่อนผ่านแบบเดิม ๆ
    ลองหยุดเพื่อทบทวน
    และ “เลือกอยู่” อย่างคนที่เข้าใจการจากไป

    #อ่านไปเรื่อยๆสรุปให้
    #ธรรมะเข้าใจง่าย
    #บทเรียนจากความตาย
    #อยู่ให้คุ้มก่อนจาก
    #โพสต์ธรรมะแบบมีชีวิต
    ⚫️ 9 บทเรียนจาก “ความตาย” ที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง บางคนต้อง “ตายจริง” ถึงจะเข้าใจชีวิต แต่บางคนแค่ “กล้าฟัง” ก็เริ่มเปลี่ยนได้แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่คือบทเรียนที่อาจเปลี่ยน “วิธีอยู่” ของคุณไปตลอดกาล 1. ความตายไม่ใช่จุดจบ...แค่เปลี่ยนสถานะ เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ใช่การสูญหาย ชีวิตหลังตายยังมีอยู่ เพียงแค่ไม่ใช่ในร่างนี้ 2. เราไม่ได้ถูกส่งมา...เราเลือกมาเอง ทุกข์ที่เจอ พ่อแม่ที่ได้ บาดแผลที่เคยมี ล้วนเป็น “บทเรียนที่วิญญาณเลือก” เพื่อเติบโต เพราะ “วิญญาณไม่ได้เกิดมาเพื่อสบาย แต่มาเพื่อเรียนรู้” 3. โรคบางโรค...มาจากความรู้สึกในอดีต บางคนเจ็บป่วยเพราะใจไม่เคยหาย แผลที่ไม่เยียวยาในชาติก่อน กลายเป็นความป่วยในชาตินี้ บางที...สิ่งที่เราต้องรักษา อาจไม่ใช่ร่างกาย แต่คือ “ใจที่ให้อภัยตัวเอง” 4. คนที่ทำให้เจ็บ...อาจคือคนที่เคยรักที่สุดในอีกภพหนึ่ง เขาอาจคือ “คู่สัญญาทางวิญญาณ” ที่ตกลงกันไว้ว่า เราจะเจ็บ เพื่อเราจะโต ไม่ใช่ทุกความเจ็บที่ไร้ค่า ถ้าเรามองเห็นบทเรียน 5. ทุกเรื่องในชีวิต...ไม่เคยเกิดแบบสุ่ม คนที่มาเจอ เหตุการณ์ที่เจอ ล้วนเป็น “แผนการเรียนรู้” แทนที่จะถามว่า “ทำไมต้องเกิดกับฉัน” ลองถามว่า “ฉันควรเรียนรู้อะไรจากมัน” แทน 6. โลกหลังความตาย...ไม่มีอะไรนอกจาก “ความรัก” คนที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายบอกตรงกันว่า สิ่งที่ชัดที่สุด คือ “ความรักบริสุทธิ์” ไม่มีโกรธ ไม่มีเกลียด บางทีเราอาจเริ่มใช้ “คุณภาพของโลกหน้า” มาเติมเต็มโลกนี้ได้แล้ว 7. การให้อภัย...คือการปลดปล่อยจิตตัวเอง ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายถูก แต่เพราะเราพอแล้วกับการจองจำตัวเองไว้กับอดีต ถ้าไม่ให้อภัย เราจะต้องแบก “ปม” ไปข้ามภพข้ามชาติ 8. คนที่กลัวตาย...มักเป็นคนที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตให้คุ้ม ยังไม่ได้รัก ยังไม่ได้ขอโทษ ยังไม่ได้ให้อภัย ยังไม่ได้เป็นตัวเองอย่างแท้จริง เมื่อเรา “ใช้ชีวิตจนเต็ม” ความตายจะไม่น่ากลัวอีกต่อไป 9. เราไม่ได้เกิดมาเพื่อหาเงิน...แต่เพื่อหาความหมาย เงินแค่เครื่องมือ แต่สิ่งที่วิญญาณตามหา คือ “ความหมาย” ของการมีชีวิต ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เราตื่นขึ้นมาทุกวันแล้วรู้ว่า… "เราตื่นมาเพื่ออะไร" 🖤 ถ้าโพสต์นี้ทำให้คุณรู้สึกบางอย่าง อย่าเพิ่งเลื่อนผ่านแบบเดิม ๆ ลองหยุดเพื่อทบทวน และ “เลือกอยู่” อย่างคนที่เข้าใจการจากไป #อ่านไปเรื่อยๆสรุปให้ #ธรรมะเข้าใจง่าย #บทเรียนจากความตาย #อยู่ให้คุ้มก่อนจาก #โพสต์ธรรมะแบบมีชีวิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • BIG Story | คนไร้ที่พึ่ง ใครพึ่ง(โกง)ใคร

    เมื่อกลุ่มคนที่เปราะบางที่สุดในสังคมกลับถูกซ้ำเติมจากผู้มีหน้าที่ดูแล ย้อนรอยกลโกงเงินช่วยเหลือ "คนไร้ที่พึ่ง" จากโครงการ พม. ที่ลุกลามทั่วประเทศ มูลค่านับพันล้านบาท เผยช่องโหว่ของระบบราชการ และคำถามถึงจริยธรรมของผู้มีอำนาจ ที่หากินบนความทุกข์ยากของผู้อื่น

    📲 ติดตามสารคดีเชิงข่าว BIG STORY: คนไร้ที่พึ่ง ใครพึ่ง(โกง)ใคร ได้ที่ Thaitimes App

    #BigStory #คนไร้ที่พึ่ง #โกงเงินคนจน #คดีทุจริตพม #ข้าราชการโกง #ช่องโหว่ระบบราชการ #ThaiTimes
    BIG Story | คนไร้ที่พึ่ง ใครพึ่ง(โกง)ใคร เมื่อกลุ่มคนที่เปราะบางที่สุดในสังคมกลับถูกซ้ำเติมจากผู้มีหน้าที่ดูแล ย้อนรอยกลโกงเงินช่วยเหลือ "คนไร้ที่พึ่ง" จากโครงการ พม. ที่ลุกลามทั่วประเทศ มูลค่านับพันล้านบาท เผยช่องโหว่ของระบบราชการ และคำถามถึงจริยธรรมของผู้มีอำนาจ ที่หากินบนความทุกข์ยากของผู้อื่น 📲 ติดตามสารคดีเชิงข่าว BIG STORY: คนไร้ที่พึ่ง ใครพึ่ง(โกง)ใคร ได้ที่ Thaitimes App #BigStory #คนไร้ที่พึ่ง #โกงเงินคนจน #คดีทุจริตพม #ข้าราชการโกง #ช่องโหว่ระบบราชการ #ThaiTimes
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • อริยบุคคลพึงฝึกหัดศึกษาอาการเกิดขึ้นแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์
    สัทธรรมลำดับที่ : 285
    ชื่อบทธรรม :- อาการเกิดขึ้นแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=285
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อาการเกิดขึ้นแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์
    (สายแห่งปฏิจจสมุปบาท)
    --ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท
    http://etipitaka.com/read/pali/16/1/?keywords=ปฏิจฺจสมุปฺปา
    (ธรรมที่อาศัยกันและกันแล้วทยอยกันเกิดขึ้น) เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมี สังขาร ;
    +--เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมี วิญญาณ ;
    +--เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมี นามรูป ;
    +--เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมี อายตนะหก ;
    +--เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมี ผัสสะ ;
    +--เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมี เวทนา ;
    +--เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมี ตัณหา ;
    +--เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมี อุปาทาน ;
    +--เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมี ภพ ;
    +--เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมี ชาติ ;
    +--เพราะชาติเป็นปัจจัย,
    ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    การก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้.
    +--ก็เพราะอวิชชานั่นแหละดับด้วยการสำรอกโดยไม่เหลือ สังขาร จึงดับ ;
    +--เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ ;
    +--เพราะวิญญาณดับ นามรูปจึงดับ ;
    +--เพราะ นามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ ;
    +--เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะจึงดับ ;
    +--เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ ;
    +--เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ ;
    +--เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ ;
    +--เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ ;
    +--เพราะภพดับ ชาติจึงดับ ;
    +--เพราะชาติดับชราและ มรณะโสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาสจึงดับ ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้.
    --ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า #ปฏิจจสมุปบาท
    http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=ปฏิจฺจสมุปฺปา
    (ธรรมที่อาศัยกันและกันแล้วทยอยกันเกิดขึ้น) ดังนี้ แล.-

    #ทุกข์#ทุกขสมุทัย #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/1/2-3.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/1/?keywords=%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๑/๒-๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/1/?keywords=%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=285
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=285
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19
    ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    อริยบุคคลพึงฝึกหัดศึกษาอาการเกิดขึ้นแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์ สัทธรรมลำดับที่ : 285 ชื่อบทธรรม :- อาการเกิดขึ้นแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=285 เนื้อความทั้งหมด :- --อาการเกิดขึ้นแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์ (สายแห่งปฏิจจสมุปบาท) --ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท http://etipitaka.com/read/pali/16/1/?keywords=ปฏิจฺจสมุปฺปา (ธรรมที่อาศัยกันและกันแล้วทยอยกันเกิดขึ้น) เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมี สังขาร ; +--เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมี วิญญาณ ; +--เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมี นามรูป ; +--เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมี อายตนะหก ; +--เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมี ผัสสะ ; +--เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมี เวทนา ; +--เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมี ตัณหา ; +--เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมี อุปาทาน ; +--เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมี ภพ ; +--เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมี ชาติ ; +--เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. การก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้. +--ก็เพราะอวิชชานั่นแหละดับด้วยการสำรอกโดยไม่เหลือ สังขาร จึงดับ ; +--เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ ; +--เพราะวิญญาณดับ นามรูปจึงดับ ; +--เพราะ นามรูปดับ สฬายตนะจึงดับ ; +--เพราะสฬายตนะดับ ผัสสะจึงดับ ; +--เพราะผัสสะดับ เวทนาจึงดับ ; +--เพราะเวทนาดับ ตัณหาจึงดับ ; +--เพราะตัณหาดับ อุปาทานจึงดับ ; +--เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ ; +--เพราะภพดับ ชาติจึงดับ ; +--เพราะชาติดับชราและ มรณะโสกปริเทวทุกขโทมนัสและอุปายาสจึงดับ ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้. --ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า #ปฏิจจสมุปบาท http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=ปฏิจฺจสมุปฺปา (ธรรมที่อาศัยกันและกันแล้วทยอยกันเกิดขึ้น) ดังนี้ แล.- #ทุกข์​ #ทุกขสมุทัย #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/1/2-3. http://etipitaka.com/read/thai/16/1/?keywords=%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๑/๒-๓. http://etipitaka.com/read/pali/16/1/?keywords=%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=285 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=285 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19 ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อาการเกิดขึ้นแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์
    -อาการเกิดขึ้นแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์ (สายแห่งปฏิจจสมุปบาท) ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท (ธรรมที่อาศัยกันและกันแล้วทยอยกันเกิดขึ้น) เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมี สังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมี วิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมี นามรูป ; เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมี อายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมี ผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมี เวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมี ตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมี อุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมี ภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมี ชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. การก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า ปฏิจจสมุปบาท (ธรรมที่อาศัยกันและกันแล้วทยอยกันเกิดขึ้น) ดังนี้ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ต่างชาติเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ,คุณมีความเสี่ยงสูงที่จะหายไปจากผิวโลกและอาจทุกข์ทรมานจากการทารุณกรรมต่างๆและเป็นสวรรค์ของฝ่ายมืดในการลักพาตัวเด็กๆโดยเฉพาะสวนเด็กเล่นสวนสนุกต่างๆแบบดีสนีซ์ในอดีตนั้นล่ะ,แหล่งเด็กหายที่มีสถิติมากที่สุดในโลก,ดีนะว่านี้คือการสมมุติทดสอบผู้ใหญ่และไม่กระตือรือร้นหายเหลืออะไรเลย,อันตรายจริงๆและหากเข้าไปช่วยคนเดียวถ้าไม่แน่จริงอาจหายตัวอีกรายหรือไม่มีชีวิตกลับมาหรือตายขณะเข้าช่วยเหลือ.
    ..ต่างชาติเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ,คุณมีความเสี่ยงสูงที่จะหายไปจากผิวโลกและอาจทุกข์ทรมานจากการทารุณกรรมต่างๆและเป็นสวรรค์ของฝ่ายมืดในการลักพาตัวเด็กๆโดยเฉพาะสวนเด็กเล่นสวนสนุกต่างๆแบบดีสนีซ์ในอดีตนั้นล่ะ,แหล่งเด็กหายที่มีสถิติมากที่สุดในโลก,ดีนะว่านี้คือการสมมุติทดสอบผู้ใหญ่และไม่กระตือรือร้นหายเหลืออะไรเลย,อันตรายจริงๆและหากเข้าไปช่วยคนเดียวถ้าไม่แน่จริงอาจหายตัวอีกรายหรือไม่มีชีวิตกลับมาหรือตายขณะเข้าช่วยเหลือ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • หมอสมศรี จากรัฐมนตรีเรียงหิน สู่รัฐมนตรีสาธารณทุกข์ กินหินดินทรายไม่พอ เกือบได้ลิ้มรสชาดรองเท้า ADDA วันนี้แค่รองเท้า วันหน้าอาจไม่แพคคู่ รองเท้า+ฝ่าตรีน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    หมอสมศรี จากรัฐมนตรีเรียงหิน สู่รัฐมนตรีสาธารณทุกข์ กินหินดินทรายไม่พอ เกือบได้ลิ้มรสชาดรองเท้า ADDA วันนี้แค่รองเท้า วันหน้าอาจไม่แพคคู่ รองเท้า+ฝ่าตรีน #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทาน พค.2568
    รูปมากมายล้วนมีทุกข์มีกรรมตนผูก1000มัดแน่นตามวาระ ด้วยพลาดผิดที่วาจากายใจฝังแค้นต่อกัน

    วันเวลาผ่านไปหนี้นี้สางไม่หมดชดใช้ไม่สิ้นเป็นเวรกรรมต่อกันผ่านภพชาติครั้งแล้วครั้งเล่า เธอทำฉัน ฉันทำเธอ ไร้อภัยด้วยใจตน

    วัน1ด้วยบังเอิญพบผู้ใจดีเมตตา นำน้ำอมฤตจำนวนน้อยนิดเทลงพื้นลงสายน้ำเป็นกระแสนำพบ

    ก่อเหตุการณ์สื่อขอความช่วยเหลือ พลังงานนำพามีนามบอก มีการพบช่วยเหลือเหตุชุนละมุน แสนเหนื่อนัก

    ท้ายสุดแค่หยุดเฉพาะหน้าด้วยกรรมนั้นมีผล ตนเองต้องรับต้องชดใช้ต่อกัน อภัยด้วยใจตนเท่านั้น

    หยาดน้ำบารมีส่งผลเปลี่ยนภพภูมิ แต่ผลแห่งกรรมยังคงมีต้องชดใช้ต่อกัน อภัยต่อกันจนครบ อภัยด้วยใจตน

    ชีวิตนี้ใครกำหนดขีดเขียนบทละคร ใครคือผู้เล่นแสดง

    ไม่มีรูปใดอมตะ ไม่มีรูปใดพ้นผลกรรมที่ตนก่อ รอยทางเกวียนคงเดินหมุนตามผลกรรมเช่นนี้

    รูปมากมายมีทุกข์รับโทษในเขตแดนที่กำหนดจากผลที่ตนก่อ น่าสงสารนัก ร้องไห้น้ำตานองขอแก้ไข ย่อมไม่ได้ ชีวิตหลังความตาย ผลส่ง รับ ชดใช้ตามที่ตนสร้างก่อสิ้น

    ความประมาทหลงเล่นไฟพบทางเกวียนตน
    นิทาน พค.2568 รูปมากมายล้วนมีทุกข์มีกรรมตนผูก1000มัดแน่นตามวาระ ด้วยพลาดผิดที่วาจากายใจฝังแค้นต่อกัน วันเวลาผ่านไปหนี้นี้สางไม่หมดชดใช้ไม่สิ้นเป็นเวรกรรมต่อกันผ่านภพชาติครั้งแล้วครั้งเล่า เธอทำฉัน ฉันทำเธอ ไร้อภัยด้วยใจตน วัน1ด้วยบังเอิญพบผู้ใจดีเมตตา นำน้ำอมฤตจำนวนน้อยนิดเทลงพื้นลงสายน้ำเป็นกระแสนำพบ ก่อเหตุการณ์สื่อขอความช่วยเหลือ พลังงานนำพามีนามบอก มีการพบช่วยเหลือเหตุชุนละมุน แสนเหนื่อนัก ท้ายสุดแค่หยุดเฉพาะหน้าด้วยกรรมนั้นมีผล ตนเองต้องรับต้องชดใช้ต่อกัน อภัยด้วยใจตนเท่านั้น หยาดน้ำบารมีส่งผลเปลี่ยนภพภูมิ แต่ผลแห่งกรรมยังคงมีต้องชดใช้ต่อกัน อภัยต่อกันจนครบ อภัยด้วยใจตน ชีวิตนี้ใครกำหนดขีดเขียนบทละคร ใครคือผู้เล่นแสดง ไม่มีรูปใดอมตะ ไม่มีรูปใดพ้นผลกรรมที่ตนก่อ รอยทางเกวียนคงเดินหมุนตามผลกรรมเช่นนี้ รูปมากมายมีทุกข์รับโทษในเขตแดนที่กำหนดจากผลที่ตนก่อ น่าสงสารนัก ร้องไห้น้ำตานองขอแก้ไข ย่อมไม่ได้ ชีวิตหลังความตาย ผลส่ง รับ ชดใช้ตามที่ตนสร้างก่อสิ้น ความประมาทหลงเล่นไฟพบทางเกวียนตน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • นิทาน พค.2568
    รูปมากมายล้วนมีทุกข์มีกรรมตนผูก1000มัดแน่นตามวาระ ด้วยพลาดผิดที่วาจากายใจฝังแค้นต่อกัน

    วันเวลาผ่านไปหนี้นี้สางไม่หมดชดใช้ไม่สิ้นเป็นเวรกรรมต่อกันผ่านภพชาติครั้งแล้วครั้งเล่า เธอทำฉัน ฉันทำเธอ ไร้อภัยด้วยใจตน

    วัน1ด้วยบังเอิญพบผู้ใจดีเมตตา นำน้ำอมฤตจำนวนน้อยนิดเทลงพื้นลงสายน้ำเป็นกระแสนำพบ

    ก่อเหตุการณ์สื่อขอความช่วยเหลือ พลังงานนำพามีนามบอก มีการพบช่วยเหลือเหตุชุนละมุน แสนเหนื่อนัก

    ท้ายสุดแค่หยุดเฉพาะหน้าด้วยกรรมนั้นมีผล ตนเองต้องรับต้องชดใช้ต่อกัน อภัยด้วยใจตนเท่านั้น

    หยาดน้ำบารมีส่งผลเปลี่ยนภพภูมิ แต่ผลแห่งกรรมยังคงมีต้องชดใช้ต่อกัน อภัยต่อกันจนครบ อภัยด้วยใจตน

    ชีวิตนี้ใครกำหนดขีดเขียนบทละคร ใครคือผู้เล่นแสดง

    ไม่มีรูปใดอมตะ ไม่มีรูปใดพ้นผลกรรมที่ตนก่อ รอยทางเกวียนคงเดินหมุนตามผลกรรมเช่นนี้

    รูปมากมายมีทุกข์รับโทษในเขตแดนที่กำหนดจากผลที่ตนก่อ น่าสงสารนัก ร้องไห้น้ำตานองขอแก้ไข ย่อมไม่ได้ ชีวิตหลังความตาย ผลส่ง รับ ชดใช้ตามที่ตนสร้างก่อสิ้น

    ความประมาทหลงเล่นไฟพบทางเกวียนตน
    นิทาน พค.2568 รูปมากมายล้วนมีทุกข์มีกรรมตนผูก1000มัดแน่นตามวาระ ด้วยพลาดผิดที่วาจากายใจฝังแค้นต่อกัน วันเวลาผ่านไปหนี้นี้สางไม่หมดชดใช้ไม่สิ้นเป็นเวรกรรมต่อกันผ่านภพชาติครั้งแล้วครั้งเล่า เธอทำฉัน ฉันทำเธอ ไร้อภัยด้วยใจตน วัน1ด้วยบังเอิญพบผู้ใจดีเมตตา นำน้ำอมฤตจำนวนน้อยนิดเทลงพื้นลงสายน้ำเป็นกระแสนำพบ ก่อเหตุการณ์สื่อขอความช่วยเหลือ พลังงานนำพามีนามบอก มีการพบช่วยเหลือเหตุชุนละมุน แสนเหนื่อนัก ท้ายสุดแค่หยุดเฉพาะหน้าด้วยกรรมนั้นมีผล ตนเองต้องรับต้องชดใช้ต่อกัน อภัยด้วยใจตนเท่านั้น หยาดน้ำบารมีส่งผลเปลี่ยนภพภูมิ แต่ผลแห่งกรรมยังคงมีต้องชดใช้ต่อกัน อภัยต่อกันจนครบ อภัยด้วยใจตน ชีวิตนี้ใครกำหนดขีดเขียนบทละคร ใครคือผู้เล่นแสดง ไม่มีรูปใดอมตะ ไม่มีรูปใดพ้นผลกรรมที่ตนก่อ รอยทางเกวียนคงเดินหมุนตามผลกรรมเช่นนี้ รูปมากมายมีทุกข์รับโทษในเขตแดนที่กำหนดจากผลที่ตนก่อ น่าสงสารนัก ร้องไห้น้ำตานองขอแก้ไข ย่อมไม่ได้ ชีวิตหลังความตาย ผลส่ง รับ ชดใช้ตามที่ตนสร้างก่อสิ้น ความประมาทหลงเล่นไฟพบทางเกวียนตน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอริยสัจคือความก่อขึ้นแห่งทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 284
    ชื่อบทธรรม :- การเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=284
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --การเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์
    --ภิกษุ ท. ! อริยสัจคือความก่อขึ้นแห่งทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ;
    เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ;
    เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;
    เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ;
    เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ;
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย,
    ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้.
    --ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า #อริยสัจคือความก่อขึ้นแห่งทุกข์ แล.-
    http://etipitaka.com/read/pali/20/227/?keywords=อริยสจฺ+ทุกฺขสมุทโย

    #ทุกขสมุทัย#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. 20/167/501.
    http://etipitaka.com/read/thai/20/167/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. ๒๐/๒๒๗/๕๐๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/227/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=284
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=284
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19
    ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอริยสัจคือความก่อขึ้นแห่งทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 284 ชื่อบทธรรม :- การเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=284 เนื้อความทั้งหมด :- --การเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ --ภิกษุ ท. ! อริยสัจคือความก่อขึ้นแห่งทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ; เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้. --ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า #อริยสัจคือความก่อขึ้นแห่งทุกข์ แล.- http://etipitaka.com/read/pali/20/227/?keywords=อริยสจฺ+ทุกฺขสมุทโย #ทุกขสมุทัย​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. 20/167/501. http://etipitaka.com/read/thai/20/167/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. ๒๐/๒๒๗/๕๐๑. http://etipitaka.com/read/pali/20/227/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=284 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=284 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19 ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - นิทเทศ ๕
    -นิทเทศ ๕ ว่าด้วยที่เกิดและการเกิดแห่งตัณหา จบ นิทเทศ ๖ ว่าด้วยอาการที่ตัณหาทำให้เกิดทุกข์ (มี ๓๑ เรื่อง) การเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ ภิกษุ ท. ! อริยสัจคือความก่อขึ้นแห่งทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ; เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า อริยสัจคือความก่อขึ้นแห่งทุกข์ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌀 ทำไมใจเราฟุ้งซ่านง่ายนัก?
    เพราะ ใจไม่มีหลักเป็นเครื่องอยู่
    เลยหลุดลอยตามกระแสตัณหา
    อยากได้... ไม่อยากเจอ...
    ยิ่งอยากควบคุมโลก
    ก็ยิ่งหงุดหงิดกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้

    ในโลกนี้
    เวลาและอารมณ์ คือสิ่งที่ไม่เคยหยุด
    และคนไม่มี “หลักในใจ”
    ก็ต้องวิ่งตามสิ่งเหล่านี้
    เหมือนเรือลอยในทะเล…ไม่มีสมอ

    ---

    🪷 แต่ถ้าใจได้หลักจริง ๆ
    คุณจะรู้ว่า
    • ทุกข์ไม่ได้เกิดเพราะสิ่งภายนอก
    • ทุกข์เกิดเพราะ “ความอยาก” ภายใน
    อยากให้เขาเป็นอย่างนั้น
    ไม่อยากให้เขาเป็นอย่างนี้
    แล้วเขาไม่เป็นตามใจเรา
    ...จิตก็ร้อน! โลกก็ร้าย!

    ---

    📌 แก่นของคำสอนนี้คือ
    ทุกข์มีเหตุ — ดับเหตุได้ — และรู้ทางดับนั้น
    เมื่อคุณเข้าใจ “อริยสัจ 4”
    คุณจะหยุด “เที่ยวหาครู”
    และเริ่ม “เป็นครูของใจตนเอง”

    ไม่ใช่หยุดนับถือครูบาอาจารย์
    แต่หยุดความลุ่มหลง
    หยุดพึ่งภายนอกอย่างไร้ที่สิ้นสุด
    เพราะคุณพบทางแล้ว
    คุณอยู่กับ “ธรรม” ในใจได้แล้ว

    ---

    🌿 เมื่อใจมีหลัก สติจึงเกิด
    เมื่อสติเกิด
    การปรุงแต่งก็ลด
    ใจไม่เผลอไปวิตก วิจารณ์
    ไม่หลงตามอารมณ์
    ไม่เป็นทาสของอารมณ์ทั้งดีและร้าย

    สัมผัสทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
    จะกลายเป็นเพียงสิ่งที่รู้ แล้วปล่อย
    ใจไม่ถูกรั้ง ไม่ถูกกด ไม่ถูกผลัก
    ใจแค่นิ่งและตื่นอยู่กับ “ปัจจุบันธรรม”

    ---

    🪨 ถ้าคุณมี “หลักในใจ”
    เหมือนมีภูเขาหินอยู่กลางใจ
    ลมพายุอารมณ์จะโหมอย่างไร
    ก็ทำให้จิตไม่ลอยไปตามได้ง่าย ๆ

    และนั่นแหละ…
    คือจุดเริ่มต้นของ “อิสรภาพ” ที่แท้จริง!

    ---

    #ธรรมะในใจจริง
    #อริยสัจ4ไม่ใช่ท่องแต่ต้องรู้
    #จิตที่มีหลักไม่หลงกระแสโลก
    #หยุดทุกข์ได้เมื่อเห็นที่มาของมัน
    #ปัจจุบันขณะคือที่พึ่งของใจ
    🌀 ทำไมใจเราฟุ้งซ่านง่ายนัก? เพราะ ใจไม่มีหลักเป็นเครื่องอยู่ เลยหลุดลอยตามกระแสตัณหา อยากได้... ไม่อยากเจอ... ยิ่งอยากควบคุมโลก ก็ยิ่งหงุดหงิดกับสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ในโลกนี้ เวลาและอารมณ์ คือสิ่งที่ไม่เคยหยุด และคนไม่มี “หลักในใจ” ก็ต้องวิ่งตามสิ่งเหล่านี้ เหมือนเรือลอยในทะเล…ไม่มีสมอ --- 🪷 แต่ถ้าใจได้หลักจริง ๆ คุณจะรู้ว่า • ทุกข์ไม่ได้เกิดเพราะสิ่งภายนอก • ทุกข์เกิดเพราะ “ความอยาก” ภายใน อยากให้เขาเป็นอย่างนั้น ไม่อยากให้เขาเป็นอย่างนี้ แล้วเขาไม่เป็นตามใจเรา ...จิตก็ร้อน! โลกก็ร้าย! --- 📌 แก่นของคำสอนนี้คือ ทุกข์มีเหตุ — ดับเหตุได้ — และรู้ทางดับนั้น เมื่อคุณเข้าใจ “อริยสัจ 4” คุณจะหยุด “เที่ยวหาครู” และเริ่ม “เป็นครูของใจตนเอง” ไม่ใช่หยุดนับถือครูบาอาจารย์ แต่หยุดความลุ่มหลง หยุดพึ่งภายนอกอย่างไร้ที่สิ้นสุด เพราะคุณพบทางแล้ว คุณอยู่กับ “ธรรม” ในใจได้แล้ว --- 🌿 เมื่อใจมีหลัก สติจึงเกิด เมื่อสติเกิด การปรุงแต่งก็ลด ใจไม่เผลอไปวิตก วิจารณ์ ไม่หลงตามอารมณ์ ไม่เป็นทาสของอารมณ์ทั้งดีและร้าย สัมผัสทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จะกลายเป็นเพียงสิ่งที่รู้ แล้วปล่อย ใจไม่ถูกรั้ง ไม่ถูกกด ไม่ถูกผลัก ใจแค่นิ่งและตื่นอยู่กับ “ปัจจุบันธรรม” --- 🪨 ถ้าคุณมี “หลักในใจ” เหมือนมีภูเขาหินอยู่กลางใจ ลมพายุอารมณ์จะโหมอย่างไร ก็ทำให้จิตไม่ลอยไปตามได้ง่าย ๆ และนั่นแหละ… คือจุดเริ่มต้นของ “อิสรภาพ” ที่แท้จริง! --- #ธรรมะในใจจริง #อริยสัจ4ไม่ใช่ท่องแต่ต้องรู้ #จิตที่มีหลักไม่หลงกระแสโลก #หยุดทุกข์ได้เมื่อเห็นที่มาของมัน #ปัจจุบันขณะคือที่พึ่งของใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​การเปรียบเทียบนาบุญหรือนาบาป เนื่องอยู่กับองค์ทุกขมรรค
    สัทธรรมลำดับที่ : 1018
    ชื่อบทธรรม :- นาบุญหรือนาบาป เนื่องอยู่กับองค์แห่งมรรค
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1018
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --นาบุญหรือนาบาป เนื่องอยู่กับองค์แห่งมรรค

    ก. นาบาป
    --ภิกษุ ท. ! พืชที่หว่านลงในนาที่ประกอบด้วยลักษณะ ๘ อย่าง
    http://etipitaka.com/read/pali/23/241/?keywords=เขตฺเต+พีชํ
    ย่อม ไม่ให้ผลมาก ไม่ให้ความพอใจมาก ไม่ให้กำไรมาก.
    ประกอบด้วยลักษณะ ๘ อย่าง อย่างไรเล่า ?
    แปดอย่าง คือ นาในกรณีนี้
    ๑. พื้นที่ลุ่มๆ ดอนๆ
    ๒. เต็มไปด้วยก้อนหินและก้อนกรวด ๓. ดินเค็ม ๔.ไถให้ลึกไม่ได้
    ๕. ไม่มีทางน้ำเข้า ๖. ไม่มีทางน้ำออก ๗.ไม่มีเหมือง
    ๘.ไม่มีหัวคันนา,
    นี้ฉันใด ;
    --ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น เหมือนกัน
    : ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ที่ประกอบด้วยองค์แปดอย่างเหล่านี้
    http://etipitaka.com/read/pali/23/241/?keywords=อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเต
    เป็นทานไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก ไม่มีความรุ่งเรืองมาก ไม่แผ่ไพศาลมาก.
    ที่ว่าประกอบด้วยองค์แปดอย่างนั้น เป็นอย่างไรเล่า ?
    แปดอย่าง คือ สมณพราหมณ์ในกรณีนี้ เป็นผู้
    ๑.มีมิจฉาทิฏฐิ ๒.มีมิจฉาสังกัปปะ
    ๓.มีมิจฉาวาจา ๔.มีมิจฉากัมมันตะ ๕.มีมิจฉาอาชีวะ
    ๖.มีมิจฉาวายามะ ๗.มีมิจฉาสติ ๘.มีมิจฉาสมาธิ.
    --ภิกษุ ท. ! ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ที่ประกอบด้วยองค์แปดอย่างอย่างนี้
    เป็นทาน ไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก ไม่มีความรุ่งเรืองมาก ไม่แผ่ไพศาลมาก.

    ข. นาบุญ
    --ภิกษุ ท. ! พืชที่หว่านลงในนาที่ประกอบด้วยลักษณะ ๘ อย่าง
    http://etipitaka.com/read/pali/23/241/?keywords=เขตฺเต+พีชํ
    ย่อม ให้ผลมาก ให้ความพอใจมาก ให้กำไรมาก.
    ประกอบด้วยลักษณะ ๘ อย่าง อย่างไรเล่า ?
    แปดอย่าง คือ นาในกรณีนี้
    ๑. พื้นที่ลุ่มๆ ดอนๆ
    ๒.ไม่เต็มไปด้วยก้อนหินและก้อนกรวด ๓. ดินไม่เค็ม ๔. ไถให้ลึกได้
    ๕. มีทางน้ำเข้า ๖. มีทางน้ำออก ๗. มีเหมือง
    ๘. มีหัวคันนา,
    นี้ฉันใด ;
    --ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉัน นั้นเหมือนกัน
    : ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ที่ประกอบด้วยองค์แปดอย่างเหล่านี้
    http://etipitaka.com/read/pali/23/242/?keywords=อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเต
    เป็นทานมี ผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก แผ่ไพศาลมาก.
    ที่ว่าประกอบด้วยองค์แปดอย่างนั้น เป็นอย่างไรเล่า ?
    แปดอย่าง คือ สมณพราหมณ์ใน กรณีนี้ เป็นผู้
    ๑.มีสัมมาทิฏฐิ ๒.มีสัมมาสังกัปปะ
    ๓.มีสัมมาวาจา ๔.มีสัมมากัมมันตะ ๕.มีสัมมาอาชีวะ
    ๖.มีสัมมาวายามะ ๗.มีสัมมาสติ ๘.มีสัมมาสมาธิ.
    --ภิกษุ ท. ! ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ที่ประกอบด้วยองค์แปดอย่างอย่างนี้
    เป็นทานมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก แผ่ไพศาลมาก
    แล.-
    -----คาถาอธิบายเพิ่มท้ายสูตร
    พืชอันหว่านลงในนาที่สมบูรณ์
    เมื่อฝนตกต้องตามฤดูกาล
    ธัญชาติย่อมงอกงาม ไม่มีศัตรูพืช
    ย่อมแตกงอกงาม ถึงความไพบูลย์ให้ผลเต็มที่ ฉันใด
    โภชนะที่บุคคลถวายใน
    สมณพราหมณ์ผู้มีศีลสมบูรณ์ ก็ฉันนั้น
    ย่อมนำมาซึ่งกุศลอันสมบูรณ์
    เพราะกรรมที่เขาทำนั้นสมบูรณ์แล้ว
    เพราะฉะนั้นบุคคลในโลกนี้ผู้หวังกุศลสัมปทา
    จงเป็นผู้มีประโยชน์ถึงพร้อม
    พึงคบหาท่านผู้มีปัญญาสมบูรณ์
    ปุญญสัมปทาย่อมสำเร็จได้อย่างนี้
    ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ได้จิตสัมปทาแล้ว
    กระทำกรรมให้บริบูรณ์ ย่อมได้ผลบริบูรณ์
    รู้โลกนี้ตามเป็นจริงแล้ว พึงถึงทิฐิสัมปทา
    อาศัยมรรคสัมปทา มีจิตบริบูรณ์ ย่อมบรรลุอรหัต
    เพราะกำจัดมลทินทั้งปวงได้แล้ว บรรลุนิพพานสัมปทาได้แล้ว
    ย่อมหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง การหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงนั้น
    จัดเป็นสรรพสัมปทา ฯ

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อฏฺฐก. อํ. 23/184/124.
    http://etipitaka.com/read/thai/23/184/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อฏฺฐก. อํ. ๒๓/๒๔๑/๑๒๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/241/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%94
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1018
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1018
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87
    ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​การเปรียบเทียบนาบุญหรือนาบาป เนื่องอยู่กับองค์ทุกขมรรค สัทธรรมลำดับที่ : 1018 ชื่อบทธรรม :- นาบุญหรือนาบาป เนื่องอยู่กับองค์แห่งมรรค https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1018 เนื้อความทั้งหมด :- --นาบุญหรือนาบาป เนื่องอยู่กับองค์แห่งมรรค ก. นาบาป --ภิกษุ ท. ! พืชที่หว่านลงในนาที่ประกอบด้วยลักษณะ ๘ อย่าง http://etipitaka.com/read/pali/23/241/?keywords=เขตฺเต+พีชํ ย่อม ไม่ให้ผลมาก ไม่ให้ความพอใจมาก ไม่ให้กำไรมาก. ประกอบด้วยลักษณะ ๘ อย่าง อย่างไรเล่า ? แปดอย่าง คือ นาในกรณีนี้ ๑. พื้นที่ลุ่มๆ ดอนๆ ๒. เต็มไปด้วยก้อนหินและก้อนกรวด ๓. ดินเค็ม ๔.ไถให้ลึกไม่ได้ ๕. ไม่มีทางน้ำเข้า ๖. ไม่มีทางน้ำออก ๗.ไม่มีเหมือง ๘.ไม่มีหัวคันนา, นี้ฉันใด ; --ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น เหมือนกัน : ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ที่ประกอบด้วยองค์แปดอย่างเหล่านี้ http://etipitaka.com/read/pali/23/241/?keywords=อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเต เป็นทานไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก ไม่มีความรุ่งเรืองมาก ไม่แผ่ไพศาลมาก. ที่ว่าประกอบด้วยองค์แปดอย่างนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? แปดอย่าง คือ สมณพราหมณ์ในกรณีนี้ เป็นผู้ ๑.มีมิจฉาทิฏฐิ ๒.มีมิจฉาสังกัปปะ ๓.มีมิจฉาวาจา ๔.มีมิจฉากัมมันตะ ๕.มีมิจฉาอาชีวะ ๖.มีมิจฉาวายามะ ๗.มีมิจฉาสติ ๘.มีมิจฉาสมาธิ. --ภิกษุ ท. ! ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ที่ประกอบด้วยองค์แปดอย่างอย่างนี้ เป็นทาน ไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก ไม่มีความรุ่งเรืองมาก ไม่แผ่ไพศาลมาก. ข. นาบุญ --ภิกษุ ท. ! พืชที่หว่านลงในนาที่ประกอบด้วยลักษณะ ๘ อย่าง http://etipitaka.com/read/pali/23/241/?keywords=เขตฺเต+พีชํ ย่อม ให้ผลมาก ให้ความพอใจมาก ให้กำไรมาก. ประกอบด้วยลักษณะ ๘ อย่าง อย่างไรเล่า ? แปดอย่าง คือ นาในกรณีนี้ ๑. พื้นที่ลุ่มๆ ดอนๆ ๒.ไม่เต็มไปด้วยก้อนหินและก้อนกรวด ๓. ดินไม่เค็ม ๔. ไถให้ลึกได้ ๕. มีทางน้ำเข้า ๖. มีทางน้ำออก ๗. มีเหมือง ๘. มีหัวคันนา, นี้ฉันใด ; --ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉัน นั้นเหมือนกัน : ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ที่ประกอบด้วยองค์แปดอย่างเหล่านี้ http://etipitaka.com/read/pali/23/242/?keywords=อฏฺฐงฺคสมนฺนาคเต เป็นทานมี ผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก แผ่ไพศาลมาก. ที่ว่าประกอบด้วยองค์แปดอย่างนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? แปดอย่าง คือ สมณพราหมณ์ใน กรณีนี้ เป็นผู้ ๑.มีสัมมาทิฏฐิ ๒.มีสัมมาสังกัปปะ ๓.มีสัมมาวาจา ๔.มีสัมมากัมมันตะ ๕.มีสัมมาอาชีวะ ๖.มีสัมมาวายามะ ๗.มีสัมมาสติ ๘.มีสัมมาสมาธิ. --ภิกษุ ท. ! ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ที่ประกอบด้วยองค์แปดอย่างอย่างนี้ เป็นทานมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก แผ่ไพศาลมาก แล.- -----คาถาอธิบายเพิ่มท้ายสูตร พืชอันหว่านลงในนาที่สมบูรณ์ เมื่อฝนตกต้องตามฤดูกาล ธัญชาติย่อมงอกงาม ไม่มีศัตรูพืช ย่อมแตกงอกงาม ถึงความไพบูลย์ให้ผลเต็มที่ ฉันใด โภชนะที่บุคคลถวายใน สมณพราหมณ์ผู้มีศีลสมบูรณ์ ก็ฉันนั้น ย่อมนำมาซึ่งกุศลอันสมบูรณ์ เพราะกรรมที่เขาทำนั้นสมบูรณ์แล้ว เพราะฉะนั้นบุคคลในโลกนี้ผู้หวังกุศลสัมปทา จงเป็นผู้มีประโยชน์ถึงพร้อม พึงคบหาท่านผู้มีปัญญาสมบูรณ์ ปุญญสัมปทาย่อมสำเร็จได้อย่างนี้ ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ได้จิตสัมปทาแล้ว กระทำกรรมให้บริบูรณ์ ย่อมได้ผลบริบูรณ์ รู้โลกนี้ตามเป็นจริงแล้ว พึงถึงทิฐิสัมปทา อาศัยมรรคสัมปทา มีจิตบริบูรณ์ ย่อมบรรลุอรหัต เพราะกำจัดมลทินทั้งปวงได้แล้ว บรรลุนิพพานสัมปทาได้แล้ว ย่อมหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง การหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงนั้น จัดเป็นสรรพสัมปทา ฯ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อฏฺฐก. อํ. 23/184/124. http://etipitaka.com/read/thai/23/184/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อฏฺฐก. อํ. ๒๓/๒๔๑/๑๒๔. http://etipitaka.com/read/pali/23/241/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%94 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1018 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1018 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87 ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - นาบุญหรือนาบาป เนื่องอยู่กับองค์แห่งมรรค
    -นาบุญหรือนาบาป เนื่องอยู่กับองค์แห่งมรรค ก. นาบาป ภิกษุ ท. ! พืชที่หว่านลงในนาที่ประกอบด้วยลักษณะ ๘ อย่าง ย่อม ไม่ให้ผลมาก ไม่ให้ความพอใจมาก ไม่ให้กำไรมาก. ประกอบด้วยลักษณะ ๘ อย่าง อย่างไรเล่า ? แปดอย่าง คือ นาในกรณีนี้ พื้นที่ลุ่มๆ ดอนๆ เต็มไปด้วยก้อนหินและก้อนกรวด ดินเค็ม ไถให้ลึกไม่ได้ ไม่มีทางน้ำเข้า ไม่มีทางน้ำออก ไม่มีเหมือง ไม่มีหัวคันนา, นี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น เหมือนกัน : ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ที่ประกอบด้วยองค์แปดอย่างเหล่านี้ เป็นทานไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก ไม่มีความรุ่งเรืองมาก ไม่แผ่ไพศาลมาก. ที่ว่าประกอบด้วยองค์แปดอย่างนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? แปดอย่าง คือ สมณพราหมณ์ในกรณีนี้ เป็นผู้มีมิจฉาทิฏฐิ มีมิจฉาสังกัปปะ มีมิจฉาวาจา มีมิจฉา กัมมันตะ มีมิจฉาอาชีวะ มีมิจฉาวายามะ มีมิจฉาสติ มีมิจฉาสมาธิ. ภิกษุ ท. ! ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ที่ประกอบด้วยองค์แปดอย่างอย่างนี้ เป็นทาน ไม่มีผลมาก ไม่มีอานิสงส์มาก ไม่มีความรุ่งเรืองมาก ไม่แผ่ไพศาลมาก. ข. นาบุญ ภิกษุ ท. ! พืชที่หว่านลงในนาที่ประกอบด้วยลักษณะ ๘ อย่าง ย่อม ให้ผลมาก ให้ความพอใจมาก ให้กำไรมาก. ประกอบด้วยลักษณะ ๘ อย่าง อย่างไรเล่า ? แปดอย่าง คือ นาในกรณีนี้ พื้นที่ลุ่มๆ ดอนๆ ไม่เต็มไปด้วยก้อนหินและก้อนกรวด ดินไม่เค็ม ไถให้ลึกได้ มีทางน้ำเข้า มีทางน้ำออก มีเหมือง มีหัวคันนา, นี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉัน นั้นเหมือนกัน : ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ที่ประกอบด้วยองค์แปดอย่างเหล่านี้ เป็นทานมี ผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก แผ่ไพศาลมาก. ที่ว่าประกอบด้วยองค์แปดอย่างนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? แปดอย่าง คือ สมณพราหมณ์ใน กรณีนี้ เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ มีสัมมาสังกัปปะ มีสัมมาวาจา มีสัมมากัมมันตะ มีสัมมาอาชีวะ มีสัมมาวายามะ มีสัมมาสติ มีสัมมาสมาธิ. ภิกษุ ท. ! ทานที่บุคคลให้ในสมณพราหมณ์ที่ประกอบด้วยองค์แปดอย่างอย่างนี้ เป็นทานมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก แผ่ไพศาลมาก แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ามีวิถีภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก
    สัทธรรมลำดับที่ : 650
    ชื่อบทธรรม :- ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=650
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก
    “ข้าแต่พระองค์เจริญ ! ข้าพระองค์เป็นคนชรา
    เป็นคนแก่คนเฒ่ามานาน ผ่านวัยมาตามลำดับ.
    +--ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมโดยย่อ ขอพระสุคตจงทรงแสดงธรรมโดยย่อ
    ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึงรู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า
    +--ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึงเป็นทายาทแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า
    เถิดพระเจ้าข้า !”
    http://etipitaka.com/read/pali/18/90/?keywords=มาลุกฺยปุตฺต
    --มาลุงก๎ยบุตร ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร คือ
    รูปทั้งหลาย อันรู้สึกกันได้ทางตา เป็นรูปที่ท่านไม่ได้เห็น ไม่เคยเห็น
    ที่ท่านกำลังเห็นอยู่ก็ไม่มี ที่ท่านคิดว่าท่านควรจะได้เห็นก็ไม่มี ดังนี้แล้ว
    ความพอใจก็ดี ความกำหนัดก็ดี ความรักก็ดี ในรูปเหล่านั้น ย่อมมีแก่ท่านหรือ ?
    “ข้อนั้นหามิได้ พระเจ้าข้า !”

    (ต่อไปนี้ ได้มีการตรัสถาม และการทูลตอบ
    ในทำนองเดียวกันนี้ทุกตัวอักษรผิดกันแต่ชื่อของสิ่งที่นำมากล่าว คือ
    ในกรณีแห่ง เสียงอันรู้สึกกันได้ทางหู
    ในกรณีแห่ง กลิ่นอันรู้สึกกันได้ทางจมูก
    ในกรณีแห่ง รสอันรู้สึกกันได้ทางลิ้น
    ในกรณีแห่ง โผฏฐัพพะอันรู้สึกกันได้ทางผิวกาย และ
    ในกรณีแห่ง ธรรมารมณ์อันรู้สึกกันได้ทางมโน
    ).
    --มาลุงก๎ยบุตร ! ในบรรดาสิ่งที่ท่าน พึงเห็น พึงฟัง พึงรู้สึก พึงรู้แจ้ง เหล่านั้น :
    +--ใน สิ่งที่ท่านเห็นแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าเห็น ;
    +--ใน สิ่งที่ท่านฟังแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าได้ยิน ;
    +--ใน สิ่งที่ท่านรู้สึกแล้ว (ทางจมูก, ลิ้น, กาย) จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้สึก ;
    +--ใน สิ่งที่ท่านรู้แจ้งแล้ว (ทางวิญญาณ) ก็จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้แจ้ง.
    --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดแล ในบรรดาธรรมเหล่านั้น : เมื่อ
    สิ่งที่เห็นแล้วสักว่าเห็น,
    สิ่งที่ฟังแล้วสักว่าได้ยิน,
    สิ่งที่รู้สึกแล้วสักว่ารู้สึก,
    สิ่งที่รู้แจ้งแล้วสักว่ารู้แจ้ง,
    ดังนี้แล้ว ;
    --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อนั้น ตัวท่านย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น ;
    --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีเพราะเหตุนั้น, เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในที่นั้น ๆ ;
    --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีในที่นั้น ๆ,
    เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกอื่น ไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง
    : นั่นแหละ #คือที่สุดแห่งความทุกข์ ดังนี้.

    +--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิต
    อันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดาร
    ดังต่อไปนี้ :-
    +--เห็นรูปแล้วสติหลงลืม ทำในใจซึ่งรูปนิมิตว่าน่ารัก มีจิตกำหนัดแก่กล้าแล้ว
    เสวยอารมณ์นั้นอยู่ ความสยบมัวเมาย่อมครอบงำบุคคลนั้น.
    เวทนาอันเกิดจากรูป เป็นอเนกประการ ย่อมเจริญแก่เขานั้น.
    อภิชฌาและวิหิงสา ย่อมเข้าไปกลุ้มรุมจิตของเขา.
    เมื่อสะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่ายังไกลจากนิพพาน.
    (ในกรณีแห่ง
    การฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย
    รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ
    ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน
    ).
    +--บุคคลนั้นไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย เห็นรูปแล้ว มีสติเฉพาะ
    มีจิตไม่กำหนัดเสวยอารมณ์อยู่ ความสยบมัวเมาย่อมไม่ครอบงำบุคคลนั้น.
    เมื่อเขาเห็นอยู่ซึ่งรูปตามที่เป็นจริง เสวยเวทนาอยู่ ทุกข์ก็สิ้นไป ๆ ไม่เพิ่มพูนขึ้น
    เขามีสติประพฤติอยู่ด้วยอาการอย่างนี้.
    เมื่อไม่สะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่าอยู่ใกล้ต่อนิพพาน.
    (ในกรณีแห่งการ
    ฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย
    รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ
    ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน
    ).
    +--ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิต
    อันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดารอย่างนี้ พระเจ้าข้า !”

    +--พระผู้มีพระภาค ทรงรับรองความข้อนั้น ว่าเป็นการถูกต้อง.
    ท่านมาลุงก๎ยบุตรหลีกออกสู่ที่สงัดกระทำความเพียร
    ได้เป็นอรหันต์องค์หนึ่งในศาสนานี้.-
    http://etipitaka.com/read/pali/18/95/?keywords=มาลุกฺยปุตฺโต+อรหตํ

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. 18/23-28/132-139.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/23/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. ๑๘/๙๐-๙๕/๑๓๒-๑๓๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/90/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม…
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=650
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=650
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44
    ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ามีวิถีภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก สัทธรรมลำดับที่ : 650 ชื่อบทธรรม :- ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=650 เนื้อความทั้งหมด :- --ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก “ข้าแต่พระองค์เจริญ ! ข้าพระองค์เป็นคนชรา เป็นคนแก่คนเฒ่ามานาน ผ่านวัยมาตามลำดับ. +--ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมโดยย่อ ขอพระสุคตจงทรงแสดงธรรมโดยย่อ ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึงรู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า +--ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึงเป็นทายาทแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า เถิดพระเจ้าข้า !” http://etipitaka.com/read/pali/18/90/?keywords=มาลุกฺยปุตฺต --มาลุงก๎ยบุตร ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร คือ รูปทั้งหลาย อันรู้สึกกันได้ทางตา เป็นรูปที่ท่านไม่ได้เห็น ไม่เคยเห็น ที่ท่านกำลังเห็นอยู่ก็ไม่มี ที่ท่านคิดว่าท่านควรจะได้เห็นก็ไม่มี ดังนี้แล้ว ความพอใจก็ดี ความกำหนัดก็ดี ความรักก็ดี ในรูปเหล่านั้น ย่อมมีแก่ท่านหรือ ? “ข้อนั้นหามิได้ พระเจ้าข้า !” (ต่อไปนี้ ได้มีการตรัสถาม และการทูลตอบ ในทำนองเดียวกันนี้ทุกตัวอักษรผิดกันแต่ชื่อของสิ่งที่นำมากล่าว คือ ในกรณีแห่ง เสียงอันรู้สึกกันได้ทางหู ในกรณีแห่ง กลิ่นอันรู้สึกกันได้ทางจมูก ในกรณีแห่ง รสอันรู้สึกกันได้ทางลิ้น ในกรณีแห่ง โผฏฐัพพะอันรู้สึกกันได้ทางผิวกาย และ ในกรณีแห่ง ธรรมารมณ์อันรู้สึกกันได้ทางมโน ). --มาลุงก๎ยบุตร ! ในบรรดาสิ่งที่ท่าน พึงเห็น พึงฟัง พึงรู้สึก พึงรู้แจ้ง เหล่านั้น : +--ใน สิ่งที่ท่านเห็นแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าเห็น ; +--ใน สิ่งที่ท่านฟังแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าได้ยิน ; +--ใน สิ่งที่ท่านรู้สึกแล้ว (ทางจมูก, ลิ้น, กาย) จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้สึก ; +--ใน สิ่งที่ท่านรู้แจ้งแล้ว (ทางวิญญาณ) ก็จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้แจ้ง. --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดแล ในบรรดาธรรมเหล่านั้น : เมื่อ สิ่งที่เห็นแล้วสักว่าเห็น, สิ่งที่ฟังแล้วสักว่าได้ยิน, สิ่งที่รู้สึกแล้วสักว่ารู้สึก, สิ่งที่รู้แจ้งแล้วสักว่ารู้แจ้ง, ดังนี้แล้ว ; --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อนั้น ตัวท่านย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น ; --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีเพราะเหตุนั้น, เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในที่นั้น ๆ ; --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีในที่นั้น ๆ, เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกอื่น ไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง : นั่นแหละ #คือที่สุดแห่งความทุกข์ ดังนี้. +--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิต อันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดาร ดังต่อไปนี้ :- +--เห็นรูปแล้วสติหลงลืม ทำในใจซึ่งรูปนิมิตว่าน่ารัก มีจิตกำหนัดแก่กล้าแล้ว เสวยอารมณ์นั้นอยู่ ความสยบมัวเมาย่อมครอบงำบุคคลนั้น. เวทนาอันเกิดจากรูป เป็นอเนกประการ ย่อมเจริญแก่เขานั้น. อภิชฌาและวิหิงสา ย่อมเข้าไปกลุ้มรุมจิตของเขา. เมื่อสะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่ายังไกลจากนิพพาน. (ในกรณีแห่ง การฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน ). +--บุคคลนั้นไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย เห็นรูปแล้ว มีสติเฉพาะ มีจิตไม่กำหนัดเสวยอารมณ์อยู่ ความสยบมัวเมาย่อมไม่ครอบงำบุคคลนั้น. เมื่อเขาเห็นอยู่ซึ่งรูปตามที่เป็นจริง เสวยเวทนาอยู่ ทุกข์ก็สิ้นไป ๆ ไม่เพิ่มพูนขึ้น เขามีสติประพฤติอยู่ด้วยอาการอย่างนี้. เมื่อไม่สะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่าอยู่ใกล้ต่อนิพพาน. (ในกรณีแห่งการ ฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน ). +--ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิต อันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดารอย่างนี้ พระเจ้าข้า !” +--พระผู้มีพระภาค ทรงรับรองความข้อนั้น ว่าเป็นการถูกต้อง. ท่านมาลุงก๎ยบุตรหลีกออกสู่ที่สงัดกระทำความเพียร ได้เป็นอรหันต์องค์หนึ่งในศาสนานี้.- http://etipitaka.com/read/pali/18/95/?keywords=มาลุกฺยปุตฺโต+อรหตํ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. 18/23-28/132-139. http://etipitaka.com/read/thai/18/23/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. ๑๘/๙๐-๙๕/๑๓๒-๑๓๙. http://etipitaka.com/read/pali/18/90/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม… https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=650 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=650 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44 ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก
    -ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก “ข้าแต่พระองค์เจริญ ! ข้าพระองค์เป็นคนชรา เป็นคนแก่คนเฒ่ามานาน ผ่านวัยมาตามลำดับ. ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมโดยย่อ ขอพระสุคตจงทรงแสดงธรรมโดยย่อ ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึงรู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึง เป็นทายาทแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า เถิดพระเจ้าข้า !” มาลุงก๎ยบุตร ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร คือ รูปทั้งหลายอันรู้สึกกันได้ทางตา เป็นรูปที่ท่านไม่ได้เห็น ไม่เคยเห็น ที่ท่านกำลังเห็นอยู่ก็ไม่มี ที่ท่านคิดว่าท่านควรจะได้เห็นก็ไม่มี ดังนี้แล้ว ความพอใจก็ดี ความกำหนัดก็ดี ความรักก็ดี ในรูปเหล่านั้น ย่อมมีแก่ท่านหรือ ? “ข้อนั้นหามิได้ พระเจ้าข้า !” (ต่อไปนี้ ได้มีการตรัสถาม และการทูลตอบ ในทำนองเดียวกันนี้ทุกตัวอักษรผิดกันแต่ชื่อของสิ่งที่นำมากล่าว คือในกรณีแห่ง เสียงอันรู้สึกกันได้ทางหู ในกรณีแห่ง กลิ่นอันรู้สึกกันได้ทางจมูก ในกรณีแห่ง รสอันรู้สึกกันได้ทางลิ้น ในกรณีแห่ง โผฏฐัพพะอันรู้สึกกันได้ทางผิวกาย และ ในกรณีแห่ง ธรรมารมณ์อันรู้สึกกันได้ทางมโน). มาลุงก๎ยบุตร ! ในบรรดาสิ่งที่ท่าน พึงเห็น พึงฟัง พึงรู้สึก พึงรู้แจ้ง เหล่านั้น : ใน สิ่งที่ท่านเห็นแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าเห็น ; ใน สิ่งที่ท่านฟังแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าได้ยิน ; ใน สิ่งที่ท่านรู้สึกแล้ว (ทางจมูก, ลิ้น, กาย) จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้สึก ; ใน สิ่งที่ท่านรู้แจ้งแล้ว (ทางวิญญาณ) ก็จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้แจ้ง. มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดแล ในบรรดาธรรมเหล่านั้น : เมื่อ สิ่งที่เห็นแล้วสักว่าเห็น, สิ่งที่ฟังแล้วสักว่าได้ยิน, สิ่งที่รู้สึกแล้วสักว่ารู้สึก, สิ่งที่รู้แจ้งแล้วสักว่ารู้แจ้ง, ดังนี้แล้ว ; มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อนั้น ตัวท่านย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น ; มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีเพราะเหตุนั้น, เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในที่นั้น ๆ ; มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีในที่นั้น ๆ, เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกอื่น ไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง : นั่นแหละ คือที่สุดแห่งความทุกข์ ดังนี้. “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิตอันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดาร ดังต่อไปนี้ : เห็นรูปแล้วสติหลงลืม ทำในใจซึ่งรูปนิมิตว่าน่ารัก มีจิตกำหนัดแก่กล้าแล้ว เสวยอารมณ์นั้นอยู่ ความสยบมัวเมาย่อมครอบงำบุคคลนั้น. เวทนาอันเกิดจากรูปเป็นอเนกประการ ย่อมเจริญแก่เขานั้น. อภิชฌาและวิหิงสา ย่อมเข้าไปกลุ้มรุมจิตของเขา. เมื่อสะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่ายังไกลจากนิพพาน. (ในกรณีแห่งการฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน). บุคคลนั้นไม่กำหนัดในรูป ท. เห็นรูปแล้ว มีสติเฉพาะ มีจิตไม่กำหนัดเสวยอารมณ์อยู่ ความสยบมัวเมาย่อมไม่ครอบงำบุคคลนั้น. เมื่อเขาเห็นอยู่ซึ่งรูปตามที่เป็นจริง เสวยเวทนาอยู่ ทุกข์ก็สิ้นไป ๆ ไม่เพิ่มพูนขึ้น เขามีสติประพฤติอยู่ด้วยอาการอย่างนี้. เมื่อไม่สะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่าอยู่ใกล้ต่อนิพพาน. (ในกรณีแห่งการฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน). ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิตอันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดารอย่างนี้ พระเจ้าข้า !” พระผู้มีพระภาค ทรงรับรองความข้อนั้น ว่าเป็นการถูกต้อง. ท่านมาลุงก๎ยบุตรหลีกออกสู่ที่สงัดกระทำความเพียร ได้เป็นอรหันต์องค์หนึ่งในศาสนานี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ทหารใช้กฎอัยการศึก : [THE MESSAGE]
    มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล และ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมด้วยนักวิชาการและประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน
    ยื่นหนังสือผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ถึง น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเป็นรูปธรรม ถึงเวลาต้องปกป้องอธิปไตยไทย จะลงถนนก็ไม่ขัดข้อง ฝากถึง นายกรัฐมนตรีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายทักษิณ ชินวัตร ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอย ประธาน JBC ซึ่งรัฐบาลแต่งตั้ง เป็นอดีตทูตไทยประจำกัมพูชา แสดงว่าไม่จริงใจเจรจา กัมพูชายังไม่ถอยจริง เรายื่นข้อเสนอว่าถ้ายังแก้ไขไม่ได้จะให้ทหารประกาศกฎอัยการศึกเพื่อจัดการกับกัมพูชา อย่าประมาทประชาชน เราไม่รับอำนาจศาลโลก เราไม่ได้คลั่งชาติจะไปรบกับใคร แต่คนไทยและทหารไทยไม่กลัวทหารกัมพูชา เราร่วมมือกันเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ
    ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ทหารใช้กฎอัยการศึก : [THE MESSAGE] มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล และ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมด้วยนักวิชาการและประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน ยื่นหนังสือผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ถึง น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเป็นรูปธรรม ถึงเวลาต้องปกป้องอธิปไตยไทย จะลงถนนก็ไม่ขัดข้อง ฝากถึง นายกรัฐมนตรีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นายทักษิณ ชินวัตร ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอย ประธาน JBC ซึ่งรัฐบาลแต่งตั้ง เป็นอดีตทูตไทยประจำกัมพูชา แสดงว่าไม่จริงใจเจรจา กัมพูชายังไม่ถอยจริง เรายื่นข้อเสนอว่าถ้ายังแก้ไขไม่ได้จะให้ทหารประกาศกฎอัยการศึกเพื่อจัดการกับกัมพูชา อย่าประมาทประชาชน เราไม่รับอำนาจศาลโลก เราไม่ได้คลั่งชาติจะไปรบกับใคร แต่คนไทยและทหารไทยไม่กลัวทหารกัมพูชา เราร่วมมือกันเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ
    Like
    Love
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 34 0 รีวิว
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​คำตรัสแก่พระสารีบุตร : กัลยาณมิตร
    สัทธรรมลำดับที่ : 1017
    ชื่อบทธรรม :- คำตรัสแก่พระสารีบุตร : กัลยาณมิตร
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1017
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --คำตรัสแก่พระสารีบุตร : กัลยาณมิตร
    --ถูกแล้ว ถูกแล้ว
    --สารีบุตร ! ความเป็นผู้มีมิตรดี ความเป็นผู้มี สหายดี ความเป็นผู้มีพวกพ้องดี
    นี้เป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้น.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/5/?keywords=สารีปุตฺต
    --สารีบุตร ! สำหรับภิกษุผู้มี มิตรดี มี สหายดี มี พวกพ้องดี นั้น
    ข้อนี้เป็นสิ่งที่พึงหวังได้ คือ จักทำ #อริยอัฏฐังคิกมรรคให้เจริญได้
    http://etipitaka.com/read/pali/19/4/?keywords=อริยํ+อฏฺฐงฺคิกํ+มคฺคํ
    จักกระทำอริยอัฏฐังคิกมรรคให้มากได้.

    (ต่อจากนั้นตรัสจำแนกองค์แห่งอริยอัฏฐังคิกมรรค
    ที่อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสลัดลง
    แล้วตรัสความที่สัตว์อาศัยพระองค์เป็น #กัลยาณมิตร แล้ว
    พ้นจากชาติชรามรณะและทุกข์ทั้งปวงได้
    เช่นเดียวกับข้อความที่กล่าวแล้วข้างต้น
    ).-
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/3 - 4/8 - 11.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/3/?keywords=%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๓ - ๔/๘ - ๑๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/3/?keywords=%E0%B9%98
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1017
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1017
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87
    ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​คำตรัสแก่พระสารีบุตร : กัลยาณมิตร สัทธรรมลำดับที่ : 1017 ชื่อบทธรรม :- คำตรัสแก่พระสารีบุตร : กัลยาณมิตร https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1017 เนื้อความทั้งหมด :- --คำตรัสแก่พระสารีบุตร : กัลยาณมิตร --ถูกแล้ว ถูกแล้ว --สารีบุตร ! ความเป็นผู้มีมิตรดี ความเป็นผู้มี สหายดี ความเป็นผู้มีพวกพ้องดี นี้เป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้น. http://etipitaka.com/read/pali/19/5/?keywords=สารีปุตฺต --สารีบุตร ! สำหรับภิกษุผู้มี มิตรดี มี สหายดี มี พวกพ้องดี นั้น ข้อนี้เป็นสิ่งที่พึงหวังได้ คือ จักทำ #อริยอัฏฐังคิกมรรคให้เจริญได้ http://etipitaka.com/read/pali/19/4/?keywords=อริยํ+อฏฺฐงฺคิกํ+มคฺคํ จักกระทำอริยอัฏฐังคิกมรรคให้มากได้. (ต่อจากนั้นตรัสจำแนกองค์แห่งอริยอัฏฐังคิกมรรค ที่อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสลัดลง แล้วตรัสความที่สัตว์อาศัยพระองค์เป็น #กัลยาณมิตร แล้ว พ้นจากชาติชรามรณะและทุกข์ทั้งปวงได้ เช่นเดียวกับข้อความที่กล่าวแล้วข้างต้น ).- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/3 - 4/8 - 11. http://etipitaka.com/read/thai/19/3/?keywords=%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๓ - ๔/๘ - ๑๑. http://etipitaka.com/read/pali/19/3/?keywords=%E0%B9%98 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1017 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1017 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87 ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - คำตรัสแก่พระสารีบุตร :ถูกแล้ว ถูกแล้ว สารีบุตร ! ความเป็นผู้มีมิตรดี ความเป็นผู้มี สหายดี ความเป็นผู้มีพวกพ้องดี นี้เป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้น
    -( คำตรัสแก่พระสารีบุตร :-) ถูกแล้ว ถูกแล้ว สารีบุตร ! ความเป็นผู้มีมิตรดี ความเป็นผู้มี สหายดี ความเป็นผู้มีพวกพ้องดี นี้เป็นพรหมจรรย์ทั้งสิ้น. สารีบุตร ! สำหรับภิกษุผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีพวกพ้องดี นั้น ข้อนี้เป็นสิ่งที่พึงหวังได้ คือ จักทำอริยอัฏฐังคิกมรรคให้เจริญได้ จักกระทำอริยอัฏฐังคิกมรรคให้มากได้. (ต่อจากนั้นตรัสจำแนกองค์แห่งอริยอัฏฐังคิกมรรคที่อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปเพื่อความสลัดลง แล้วตรัสความที่สัตว์อาศัยพระองค์เป็น กัลยาณมิตรแล้ว พ้นจากชาติชรามรณะและทุกข์ทั้งปวงได้ เช่นเดียวกับข้อความที่กล่าวแล้วข้างต้น ).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดว่าละราคะโทสะโมหะได้ เพราะไม่หลงในสัญโญชนิยธรรม
    สัทธรรมลำดับที่ : 649
    ชื่อบทธรรม :- ละราคะโทสะโมหะได้ เพราะไม่หลงในสัญโญชนิยธรรม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=649
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ละราคะโทสะโมหะได้ เพราะไม่หลงในสัญโญชนิยธรรม
    --ภิกษุ ท. ! ธรรมอันเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์(สญฺโญชนิเยสุ)​ สองประการเหล่านี้ มีอยู่.
    สองประการ อย่างไรเล่า ? สองประการ คือ
    ๑. การตามเห็นความเป็นของน่ายินดี ในสัญโญชนิยธรรมทั้งหลาย.
    ๒. การตามเห็นความเป็นของน่าเบื่อหน่าย ในสัญโญชนิยธรรมทั้งหลาย.

    --ภิกษุ ท. ! ผู้ตามเห็นความเป็นของน่ายินดี ในสัญโญชนิยธรรมทั้งหลายอยู่
    ย่อมไม่ละได้ซึ่งราคะ ซึ่งโทสะ ซึ่งโมหะ ;
    เพราะละไม่ได้ซึ่งราคะ ซึ่งโทสะ ซึ่งโมหะ
    จึงไม่หลุดพ้นจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลาย,
    เรากล่าวว่า ย่อมไม่หลุดพ้นจากทุกข์.
    --ภิกษุ ท. ! ผู้ตามเห็นความเป็นของน่าเบื่อหน่าย ในสัญโญชนิยธรรมทั้งหลายอยู่
    ย่อมไม่ละได้ซึ่งราคะ ซึ่งโทสะ ซึ่งโมหะ ;
    เพราะละไม่ได้ซึ่งราคะ ซึ่งโทสะ ซึ่งโมหะ
    จึงไม่หลุดพ้นจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลาย,
    เรากล่าวว่า ย่อมไม่หลุดพ้นจากทุกข์.

    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล #สัญโญชนิยธรรม(สญฺโญชนิเยสุ)สองประการนั้น.-
    http://etipitaka.com/read/pali/20/65/?keywords=สญฺโญชนิเยสุ

    #ทุกขมรรค#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. 20/48/252.
    http://etipitaka.com/read/thai/20/48/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. ๒๐/๖๕/๒๕๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/65/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=649
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=649
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44
    ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดว่าละราคะโทสะโมหะได้ เพราะไม่หลงในสัญโญชนิยธรรม สัทธรรมลำดับที่ : 649 ชื่อบทธรรม :- ละราคะโทสะโมหะได้ เพราะไม่หลงในสัญโญชนิยธรรม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=649 เนื้อความทั้งหมด :- --ละราคะโทสะโมหะได้ เพราะไม่หลงในสัญโญชนิยธรรม --ภิกษุ ท. ! ธรรมอันเป็นปัจจัยแห่งสังโยชน์(สญฺโญชนิเยสุ)​ สองประการเหล่านี้ มีอยู่. สองประการ อย่างไรเล่า ? สองประการ คือ ๑. การตามเห็นความเป็นของน่ายินดี ในสัญโญชนิยธรรมทั้งหลาย. ๒. การตามเห็นความเป็นของน่าเบื่อหน่าย ในสัญโญชนิยธรรมทั้งหลาย. --ภิกษุ ท. ! ผู้ตามเห็นความเป็นของน่ายินดี ในสัญโญชนิยธรรมทั้งหลายอยู่ ย่อมไม่ละได้ซึ่งราคะ ซึ่งโทสะ ซึ่งโมหะ ; เพราะละไม่ได้ซึ่งราคะ ซึ่งโทสะ ซึ่งโมหะ จึงไม่หลุดพ้นจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลาย, เรากล่าวว่า ย่อมไม่หลุดพ้นจากทุกข์. --ภิกษุ ท. ! ผู้ตามเห็นความเป็นของน่าเบื่อหน่าย ในสัญโญชนิยธรรมทั้งหลายอยู่ ย่อมไม่ละได้ซึ่งราคะ ซึ่งโทสะ ซึ่งโมหะ ; เพราะละไม่ได้ซึ่งราคะ ซึ่งโทสะ ซึ่งโมหะ จึงไม่หลุดพ้นจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลาย, เรากล่าวว่า ย่อมไม่หลุดพ้นจากทุกข์. --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล #สัญโญชนิยธรรม(สญฺโญชนิเยสุ)สองประการนั้น.- http://etipitaka.com/read/pali/20/65/?keywords=สญฺโญชนิเยสุ #ทุกขมรรค​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. 20/48/252. http://etipitaka.com/read/thai/20/48/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. ๒๐/๖๕/๒๕๒. http://etipitaka.com/read/pali/20/65/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=649 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=649 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44 ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ๑. ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า อภิสมาจาริกธรรม กล่าวคือการปฏิบัติวัตรหรือมรรยาทที่สาธุชนทั่วไป จะพึงปฏิบัติในบ้านเรือน เพื่อนพ้อง และสังคมทั่วไป นี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยในการปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุธรรมในขั้นสูง ; กล่าวสรุปสั้นๆ ก็ว่า ไม่กระทำให้เกิดความเหมาะสมในการที่จะเป็นนักศึกษา. ขอให้ทุกคนทำการชำระสะสางอภิสมาจาริกธรรมของตน ๆ ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นเรื่องแรกเสียก่อน.
    -๑. ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า อภิสมาจาริกธรรม กล่าวคือการปฏิบัติวัตรหรือมรรยาทที่สาธุชนทั่วไป จะพึงปฏิบัติในบ้านเรือน เพื่อนพ้อง และสังคมทั่วไป นี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยในการปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุธรรมในขั้นสูง ; กล่าวสรุปสั้นๆ ก็ว่า ไม่กระทำให้เกิดความเหมาะสมในการที่จะเป็นนักศึกษา. ขอให้ทุกคนทำการชำระสะสางอภิสมาจาริกธรรมของตน ๆ ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นเรื่องแรกเสียก่อน. ละราคะโทสะโมหะได้ เพราะไม่หลงในสัญโญชนิยธรรม ภิกษุ ท. ! ธรรมสองประการเหล่านี้ มีอยู่. สองประการ อย่างไรเล่า ? สองประการ คือ การตามเห็นความเป็นของน่ายินดี ในสัญโญชนิยธรรมทั้งหลาย และการตามเห็นความเป็นของน่าเบื่อหน่าย ในสัญโญชนิยธรรมทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! ผู้ตามเห็นความเป็นของน่ายินดีในสัญโญชนิยธรรมทั้งหลายอยู่ ย่อมไม่ละได้ซึ่งราคะ ซึ่งโทสะ ซึ่งโมหะ ; เพราะละไม่ได้ซึ่งราคะ ซึ่งโทสะ ซึ่งโมหะ จึงไม่หลุดพ้นจากชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลาย, เรากล่าวว่า ย่อมไม่หลุดพ้นจากทุกข์. ภิกษุ ท. ! ผู้ตามเห็นความเป็นของน่าเบื่อหน่าย ในสัญโญชนิยธรรมทั้งหลายอยู่ ย่อมละได้ซึ่งราคะ ซึ่งโทสะ ซึ่งโมหะ; เพราะละได้ซึ่งราคะ ซึ่งโทสะ ซึ่งโมหะ จึงหลุดพ้นจากชาติ ชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ทั้งหลาย, เรากล่าวว่า ย่อมหลุดพ้นจากทุกข์. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ธรรมสองประการนั้น.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเรียนรู้อริยสัจสี่ ในอาตนะหก เพื่อความสิ้นทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 282
    ชื่อบทธรรม :- สิ่งที่ต้องรู้ ต้องละ เพื่อความสิ้นทุกข์(อีกนัยหนึ่ง)
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=282
    เนื้อความทั้งหมด :-
    -- สิ่งที่ต้องรู้ ต้องละ เพื่อความสิ้นทุกข์(อีกนัยหนึ่ง)
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อไม่รู้ยิ่ง ไม่รู้รอบ ไม่คลายกำหนัด ไม่ละขาด ซึ่งสิ่งทั้งปวง
    ย่อมไม่เป็นผู้สมควรเพื่อความสิ้นไปแห่งทุกข์.
    สิ่งทั้งปวง อะไรกันเล่า ? สิ่งทั้งปวงคือ
    (ต่อไปนี้ทรงแสดง ธรรมที่ควรรู้ควรละ
    เป็นหมวด ๆ ตามหลักแห่งอายตนะหกประการ คือ :- )​
    ---อายตนะภายใน หก ประการ (จักษุ ฯลฯ มโน) ;
    ---อายตนะภายนอก หก ประการ (รูป ฯลฯ ธรรมารมณ์) ;
    ---วิญญาณ หก ประการ (จักขุวิญญาณ ฯลฯ มโนวิญญาณ) ;
    ---วิญญาณวิญญาตัพพธรรม หก ประการ
    ( ธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุวิญญาณ ฯลฯ ธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยมโนวิญญาณ).

    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือสิ่งทั้งปวง ซึ่งเมื่อไม่รู้ยิ่ง ไม่รู้รอบ ไม่คลายกำหนัด
    ไม่ละขาดแล้ว ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อความสิ้นไปแห่งทุกข์.
    --ดูกรภิกษุทั้งหลาย ส่วนบุคคลผู้รู้ยิ่ง กำหนดรู้ คลายกำหนัดได้
    ละได้ซึ่งสิ่งทั้งปวง เป็นผู้ควรเพื่อความสิ้นทุกข์
    --ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งทั้งปวง คืออะไร ที่บุคคลรู้ยิ่ง กำหนดรู้
    คลายกำหนัดได้ ละได้ เป็นผู้ควรเพื่อความสิ้นทุกข์
    สิ่งทั้งปวง อะไรกันเล่า ? สิ่งทั้งปวงคือ
    (ต่อไปนี้ทรงแสดง ธรรมที่ควรรู้ควรละ
    เป็นหมวด ๆ ตามหลักแห่งอายตนะหกประการ คือ :-)​
    ---อายตนะภายใน หก ประการ (จักษุ ฯลฯ มโน) ;
    ---อายตนะภายนอก หก ประการ (รูป ฯลฯ ธรรมารมณ์) ;
    ---วิญญาณ หก ประการ (จักขุวิญญาณ ฯลฯ มโนวิญญาณ) ;
    ---วิญญาณวิญญาตัพพธรรม หก ประการ
    ( ธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุวิญญาณ ฯลฯ ธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยมโนวิญญาณ).

    --ภิกษุ ท !(ทั้งหลาย) บุคคลรู้ยิ่ง กำหนดรู้ คลายกำหนัดได้
    ละได้ซึ่งสิ่งทั้งปวงนี้แล #เป็นผู้ควรเพื่อความสิ้นทุกข์
    http://etipitaka.com/read/pali/18/25/?keywords=จิตฺตานิ+วิมุจฺ

    #ทุกขสมุทัย#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. 18/14-17/29-31.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/14/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. ๑๘/๒๒ -๒๕/๒๙ -๓๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/22/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=282
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=282
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19
    ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเรียนรู้อริยสัจสี่ ในอาตนะหก เพื่อความสิ้นทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 282 ชื่อบทธรรม :- สิ่งที่ต้องรู้ ต้องละ เพื่อความสิ้นทุกข์(อีกนัยหนึ่ง) https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=282 เนื้อความทั้งหมด :- -- สิ่งที่ต้องรู้ ต้องละ เพื่อความสิ้นทุกข์(อีกนัยหนึ่ง) --ภิกษุ ท. ! เมื่อไม่รู้ยิ่ง ไม่รู้รอบ ไม่คลายกำหนัด ไม่ละขาด ซึ่งสิ่งทั้งปวง ย่อมไม่เป็นผู้สมควรเพื่อความสิ้นไปแห่งทุกข์. สิ่งทั้งปวง อะไรกันเล่า ? สิ่งทั้งปวงคือ (ต่อไปนี้ทรงแสดง ธรรมที่ควรรู้ควรละ เป็นหมวด ๆ ตามหลักแห่งอายตนะหกประการ คือ :- )​ ---อายตนะภายใน หก ประการ (จักษุ ฯลฯ มโน) ; ---อายตนะภายนอก หก ประการ (รูป ฯลฯ ธรรมารมณ์) ; ---วิญญาณ หก ประการ (จักขุวิญญาณ ฯลฯ มโนวิญญาณ) ; ---วิญญาณวิญญาตัพพธรรม หก ประการ ( ธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุวิญญาณ ฯลฯ ธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยมโนวิญญาณ). --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือสิ่งทั้งปวง ซึ่งเมื่อไม่รู้ยิ่ง ไม่รู้รอบ ไม่คลายกำหนัด ไม่ละขาดแล้ว ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อความสิ้นไปแห่งทุกข์. --ดูกรภิกษุทั้งหลาย ส่วนบุคคลผู้รู้ยิ่ง กำหนดรู้ คลายกำหนัดได้ ละได้ซึ่งสิ่งทั้งปวง เป็นผู้ควรเพื่อความสิ้นทุกข์ --ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งทั้งปวง คืออะไร ที่บุคคลรู้ยิ่ง กำหนดรู้ คลายกำหนัดได้ ละได้ เป็นผู้ควรเพื่อความสิ้นทุกข์ สิ่งทั้งปวง อะไรกันเล่า ? สิ่งทั้งปวงคือ (ต่อไปนี้ทรงแสดง ธรรมที่ควรรู้ควรละ เป็นหมวด ๆ ตามหลักแห่งอายตนะหกประการ คือ :-)​ ---อายตนะภายใน หก ประการ (จักษุ ฯลฯ มโน) ; ---อายตนะภายนอก หก ประการ (รูป ฯลฯ ธรรมารมณ์) ; ---วิญญาณ หก ประการ (จักขุวิญญาณ ฯลฯ มโนวิญญาณ) ; ---วิญญาณวิญญาตัพพธรรม หก ประการ ( ธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุวิญญาณ ฯลฯ ธรรมที่จะพึงรู้แจ้งด้วยมโนวิญญาณ). --ภิกษุ ท !(ทั้งหลาย) บุคคลรู้ยิ่ง กำหนดรู้ คลายกำหนัดได้ ละได้ซึ่งสิ่งทั้งปวงนี้แล #เป็นผู้ควรเพื่อความสิ้นทุกข์ ฯ http://etipitaka.com/read/pali/18/25/?keywords=จิตฺตานิ+วิมุจฺ #ทุกขสมุทัย​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. 18/14-17/29-31. http://etipitaka.com/read/thai/18/14/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. ๑๘/๒๒ -๒๕/๒๙ -๓๑. http://etipitaka.com/read/pali/18/22/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=282 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=282 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19 ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (อีกนัยหนึ่ง)
    -(อีกนัยหนึ่ง) ภิกษุ ท. ! เมื่อไม่รู้ยิ่ง ไม่รู้รอบ ไม่คลายกำหนัด ไม่ละขาด ซึ่งสิ่งทั้งปวง ย่อมไม่เป็นผู้สมควรเพื่อความสิ้นไปแห่งทุกข์. สิ่งทั้งปวง อะไรกันเล่า ? สิ่งทั้งปวงคือ (ต่อไปนี้ทรงแสดง ธรรมที่ควรรู้ควรละ เป็นหมวด ๆ ตามหลักแห่งอายตนะหกประการ คือ :-) อายตนะภายใน หก ประการ (จักษุ ฯลฯ มโน) ; อายตนะภายนอก หก ประการ (รูป ฯลฯ ธรรมารมณ์) ; วิญญาณ หก ประการ (จักขุวิญญาณ ฯลฯ มโนวิญญาณ) ; วิญญาณวิญญาตัพพธรรม หก ประการ (จักขุวิญญาณวิญญาตัพพธรรม ฯลฯ มโนวิญญาณวิญญาตัพพธรรม). ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือสิ่งทั้งปวง ซึ่งเมื่อไม่รู้ยิ่ง ไม่รู้รอบ ไม่คลายกำหนัด ไม่ละขาดแล้ว ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อความสิ้นไปแห่งทุกข์. (ต่อไปนี้ ทรงแสดงโดย ปฏิปักขนัย ถึงสิ่งทั้งปวงที่เมื่อรู้และละแล้ว เป็นผู้สมควรเพื่อความสิ้นไปแห่งทุกข์ โดยนัยตรงกันข้าม ซึ่งผู้ศึกษาอาจเทียบเคียงได้เอง).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้าง อนาคตเด็กไทย มอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี 2568 แก่เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
    .
    วันนี้ (วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ และคณะกรรมการฯ ร่วมในพิธีมอบเงินสนับสนุนการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี พ.ศ. 2568 ให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 จำนวน 1,500 ทุนๆ ละ 2,000 บาท รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,000,000 บาท (สามล้านบาทถ้วน) เพื่อช่วยเหลือให้เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสเท่าเทียม สามารถศึกษาเล่าเรียนต่อโดยไม่ต้องยุติการศึกษาเพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ และเติบโตสร้างอนาคตตามความมุ่งหวังของตนเองและครอบครัวต่อไป โดยมีเยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
    .
    นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เปิดเผยว่า โครงการ “ป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยการมอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่ได้ช่วยเหลือเสริมสร้างชีวิตให้อนาคตแก่เด็กไทยมากว่า 50 ปี โดยในปีพ.ศ. 2568 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้จัดสรรงบประมาณเพื่อมอบ เงินสนับสนุนการศึกษาและทุนส่งเสริมการศึกษา เป็นจำนวนเงินกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาในระดับต่างๆ ได้แก่ เงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ทุนการศึกษาต่อเนื่องในทุกระดับชั้น ทุนการศึกษาทุกระดับปีสุดท้าย และทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ชนชั้น และศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ภายใต้ปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ** มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต **
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้าง อนาคตเด็กไทย มอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี 2568 แก่เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ . วันนี้ (วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ และคณะกรรมการฯ ร่วมในพิธีมอบเงินสนับสนุนการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี พ.ศ. 2568 ให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 จำนวน 1,500 ทุนๆ ละ 2,000 บาท รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,000,000 บาท (สามล้านบาทถ้วน) เพื่อช่วยเหลือให้เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสเท่าเทียม สามารถศึกษาเล่าเรียนต่อโดยไม่ต้องยุติการศึกษาเพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ และเติบโตสร้างอนาคตตามความมุ่งหวังของตนเองและครอบครัวต่อไป โดยมีเยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ . นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เปิดเผยว่า โครงการ “ป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยการมอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่ได้ช่วยเหลือเสริมสร้างชีวิตให้อนาคตแก่เด็กไทยมากว่า 50 ปี โดยในปีพ.ศ. 2568 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้จัดสรรงบประมาณเพื่อมอบ เงินสนับสนุนการศึกษาและทุนส่งเสริมการศึกษา เป็นจำนวนเงินกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาในระดับต่างๆ ได้แก่ เงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ทุนการศึกษาต่อเนื่องในทุกระดับชั้น ทุนการศึกษาทุกระดับปีสุดท้าย และทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ชนชั้น และศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ภายใต้ปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ** มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต **
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้าง อนาคตเด็กไทย มอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี 2568 แก่เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
    .
    วันนี้ (วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ และคณะกรรมการฯ ร่วมในพิธีมอบเงินสนับสนุนการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี พ.ศ. 2568 ให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 จำนวน 1,500 ทุนๆ ละ 2,000 บาท รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,000,000 บาท (สามล้านบาทถ้วน) เพื่อช่วยเหลือให้เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสเท่าเทียม สามารถศึกษาเล่าเรียนต่อโดยไม่ต้องยุติการศึกษาเพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ และเติบโตสร้างอนาคตตามความมุ่งหวังของตนเองและครอบครัวต่อไป โดยมีเยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
    .
    นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เปิดเผยว่า โครงการ “ป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยการมอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่ได้ช่วยเหลือเสริมสร้างชีวิตให้อนาคตแก่เด็กไทยมากว่า 50 ปี โดยในปีพ.ศ. 2568 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้จัดสรรงบประมาณเพื่อมอบ เงินสนับสนุนการศึกษาและทุนส่งเสริมการศึกษา เป็นจำนวนเงินกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาในระดับต่างๆ ได้แก่ เงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ทุนการศึกษาต่อเนื่องในทุกระดับชั้น ทุนการศึกษาทุกระดับปีสุดท้าย และทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ชนชั้น และศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ภายใต้ปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ** มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต **
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้าง อนาคตเด็กไทย มอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี 2568 แก่เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ . วันนี้ (วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ และคณะกรรมการฯ ร่วมในพิธีมอบเงินสนับสนุนการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี พ.ศ. 2568 ให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 จำนวน 1,500 ทุนๆ ละ 2,000 บาท รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,000,000 บาท (สามล้านบาทถ้วน) เพื่อช่วยเหลือให้เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสเท่าเทียม สามารถศึกษาเล่าเรียนต่อโดยไม่ต้องยุติการศึกษาเพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ และเติบโตสร้างอนาคตตามความมุ่งหวังของตนเองและครอบครัวต่อไป โดยมีเยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ . นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เปิดเผยว่า โครงการ “ป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยการมอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่ได้ช่วยเหลือเสริมสร้างชีวิตให้อนาคตแก่เด็กไทยมากว่า 50 ปี โดยในปีพ.ศ. 2568 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้จัดสรรงบประมาณเพื่อมอบ เงินสนับสนุนการศึกษาและทุนส่งเสริมการศึกษา เป็นจำนวนเงินกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาในระดับต่างๆ ได้แก่ เงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ทุนการศึกษาต่อเนื่องในทุกระดับชั้น ทุนการศึกษาทุกระดับปีสุดท้าย และทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ชนชั้น และศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ภายใต้ปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ** มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต **
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • แสวงหาบุญกุศลต่อไป..เร่งรีบหา วันๆ รอบข้างบ้านเราก็มีคนป่วย ป่วยติดเตียง คนทุกข์(ทุกข์ที่ก่อขึ้นเอง) ทุกข์จากโรค ทุกข์จากไม่มีเงินทอง.ไม่มีบ้านอยู่.. สารพัดทุกข์ที่จะเกิดขึ้น
    แสวงหาบุญกุศลต่อไป..เร่งรีบหา วันๆ รอบข้างบ้านเราก็มีคนป่วย ป่วยติดเตียง คนทุกข์(ทุกข์ที่ก่อขึ้นเอง) ทุกข์จากโรค ทุกข์จากไม่มีเงินทอง.ไม่มีบ้านอยู่.. สารพัดทุกข์ที่จะเกิดขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาริยสาวกพึงศึกษาว่าสิ่งต้องรู้ ต้องละ เพื่อความสิ้นทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 281
    ชื่อบทธรรม :- สิ่งที่ต้องรู้ ต้องละ เพื่อความสิ้นทุกข์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=281
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สิ่งต้องรู้ ต้องละ เพื่อความสิ้นทุกข์
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อไม่รู้ยิ่ง ไม่รู้รอบ ไม่คลายกำหนัด ไม่ละขาด ซึ่งสิ่งทั้งปวง
    ย่อมไม่เป็นผู้สมควรเพื่อความสิ้นไปแห่งทุกข์.
    สิ่งทั้งปวง อะไรกันเล่า ? สิ่งทั้งปวง คือ
    (ต่อไปนี้ทรงแสดง ธรรมที่ควรรู้ควรละ
    เป็นหมวด ๆ ตามหลักแห่งอายตนะหกประการ คือ:-
    )
    +--อายตนะภายใน หก ที่ ประการ (จักษุ ฯลฯ มโน);
    +--อายตนะภายนอก หก ประการ (รูป ฯลฯ ธรรมารมณ์) ;
    +--วิญญาณ หก ประการ (จักขุวิญญาณ ฯลฯ มโนวิญญาณ) ;
    +--สัมผัส หก ประการ (จักขุสัมผัส ฯลฯ มโนสัมผัส) ;
    +--เวทนา หก ประการ (จักขุสัมผัสสชาเวทนา ฯลฯ มโนสัมผัสสชาเวทนา).

    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือสิ่งทั้งปวง
    ซึ่งเมื่อไม่รู้ยิ่ง ไม่รู้รอบ ไม่คลายกำหนัด ไม่ละขาดแล้ว
    #ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อความสิ้นไปแห่งทุกข์.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/21/?keywords=อภพฺโพ+ทุกฺขกฺ

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่#สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/15/27 -28.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/15/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%97
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๒๑/๒๗ -๒๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/21/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%97
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=281
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=281
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19
    ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    อาริยสาวกพึงศึกษาว่าสิ่งต้องรู้ ต้องละ เพื่อความสิ้นทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 281 ชื่อบทธรรม :- สิ่งที่ต้องรู้ ต้องละ เพื่อความสิ้นทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=281 เนื้อความทั้งหมด :- --สิ่งต้องรู้ ต้องละ เพื่อความสิ้นทุกข์ --ภิกษุ ท. ! เมื่อไม่รู้ยิ่ง ไม่รู้รอบ ไม่คลายกำหนัด ไม่ละขาด ซึ่งสิ่งทั้งปวง ย่อมไม่เป็นผู้สมควรเพื่อความสิ้นไปแห่งทุกข์. สิ่งทั้งปวง อะไรกันเล่า ? สิ่งทั้งปวง คือ (ต่อไปนี้ทรงแสดง ธรรมที่ควรรู้ควรละ เป็นหมวด ๆ ตามหลักแห่งอายตนะหกประการ คือ:- ) +--อายตนะภายใน หก ที่ ประการ (จักษุ ฯลฯ มโน); +--อายตนะภายนอก หก ประการ (รูป ฯลฯ ธรรมารมณ์) ; +--วิญญาณ หก ประการ (จักขุวิญญาณ ฯลฯ มโนวิญญาณ) ; +--สัมผัส หก ประการ (จักขุสัมผัส ฯลฯ มโนสัมผัส) ; +--เวทนา หก ประการ (จักขุสัมผัสสชาเวทนา ฯลฯ มโนสัมผัสสชาเวทนา). --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือสิ่งทั้งปวง ซึ่งเมื่อไม่รู้ยิ่ง ไม่รู้รอบ ไม่คลายกำหนัด ไม่ละขาดแล้ว #ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อความสิ้นไปแห่งทุกข์. http://etipitaka.com/read/pali/18/21/?keywords=อภพฺโพ+ทุกฺขกฺ #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่​ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/15/27 -28. http://etipitaka.com/read/thai/18/15/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๒๑/๒๗ -๒๘. http://etipitaka.com/read/pali/18/21/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%97 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=281 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=281 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19 ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สิ่งที่ต้องรู้ ต้องละ เพื่อความสิ้นทุกข์
    -สิ่งที่ต้องรู้ ต้องละ เพื่อความสิ้นทุกข์ ภิกษุ ท. ! เมื่อไม่รู้ยิ่ง ไม่รู้รอบ ไม่คลายกำหนัด ไม่ละขาด ซึ่งสิ่งทั้งปวง ย่อมไม่เป็นผู้สมควรเพื่อความสิ้นไปแห่งทุกข์. สิ่งทั้งปวง อะไรกันเล่า ? สิ่งทั้งปวง คือ (ต่อไปนี้ทรงแสดง ธรรมที่ควรรู้ควรละ เป็นหมวด ๆ ตามหลักแห่งอายตนะหกประการ คือ:-) อายตนะภายใน หก ประการ (จักษุ ฯลฯ มโน) : อายตนะภายนอก หก ประการ (รูป ฯลฯ ธรรมารมณ์) ; วิญญาณ หก ประการ (จักขุวิญญาณ ฯลฯ มโนวิญญาณ) ; สัมผัส หก ประการ (จักขุสัมผัส ฯลฯ มโนสัมผัส) ; เวทนา หก ประการ (จักขุสัมผัสสชาเวทนา ฯลฯ มโนสัมผัสสชาเวทนา). ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือสิ่งทั้งปวง ซึ่งเมื่อไม่รู้ยิ่ง ไม่รู้รอบ ไม่คลายกำหนัด ไม่ละขาดแล้ว ย่อมเป็นผู้ไม่ควรเพื่อความสิ้นไปแห่งทุกข์. (ต่อไปนี้ ทรงแสดงโดยปฏิปักขนัย ถึงสิ่งทั้งปวงที่เมื่อรู้และละแล้ว เป็นผู้สมควรเพื่อความสิ้นไปแห่งทุกข์ โดยนัยตรงกันข้าม ซึ่งผู้ศึกษาอาจเทียบเคียงได้เอง).
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารกัมพูชาถอนกำลังจากจุดปะทะช่องบกแล้ว กลับไปอยู่จุดเดิมเมื่อปี 67 พร้อมกลบคูเรดกลับคืนสภาพเดิม หลังจากนี้จะจัดเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 2 ฝ่าย มาพูดคุยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

    มีรายงานข่าวจากพื้นที่ว่า วันนี้ (8 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่บริเวณชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทหารฝ่ายกัมพูชาได้ติดต่อมายังกองกำลังสุรนารี เพื่อขอเจรจาโดยทางกองกำลังสุรนารีได้รายงานไปยัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้รายงานไปยัง พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหาร (ผบ.ทบ.) เพื่อขออนุมัติในการเข้าไปพูดคุยโดยทาง ผบ.ทบ.ได้อนุมัติให้กองกำลังสุรนารี จัดทหารเข้าไปพูดคุย ต่อมาได้ข้อยุติว่ากองกำลังทหารทั้งสองฝ่ายจะถอยออกจากจุดที่มีการปะทะกันเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2568 กลับไปยังจุดเดิมที่เคยอยู่เมื่อปี 2567

    พร้อมทั้งให้ฝ่ายกัมพูชาปิดกลบคูเรด ปรับสภาพพื้นที่ให้กลับคืนสภาพเดิม ซึ่งขณะนี้ทหารของทั้งสองฝ่ายได้ถอยกลับไปยังจุดเดิมแล้ว

    นอกจากนี้ยังได้ตกลงที่จะจัดเจ้าที่ทหารทั้งสองฝ่ายเข้ามาพูดคุยกันบริเวณจุดดังกล่าวสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

    #MGROnline #ฮุนเซน #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องบก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    ทหารกัมพูชาถอนกำลังจากจุดปะทะช่องบกแล้ว กลับไปอยู่จุดเดิมเมื่อปี 67 พร้อมกลบคูเรดกลับคืนสภาพเดิม หลังจากนี้จะจัดเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 2 ฝ่าย มาพูดคุยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง • มีรายงานข่าวจากพื้นที่ว่า วันนี้ (8 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่บริเวณชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ทหารฝ่ายกัมพูชาได้ติดต่อมายังกองกำลังสุรนารี เพื่อขอเจรจาโดยทางกองกำลังสุรนารีได้รายงานไปยัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้รายงานไปยัง พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหาร (ผบ.ทบ.) เพื่อขออนุมัติในการเข้าไปพูดคุยโดยทาง ผบ.ทบ.ได้อนุมัติให้กองกำลังสุรนารี จัดทหารเข้าไปพูดคุย ต่อมาได้ข้อยุติว่ากองกำลังทหารทั้งสองฝ่ายจะถอยออกจากจุดที่มีการปะทะกันเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2568 กลับไปยังจุดเดิมที่เคยอยู่เมื่อปี 2567 • พร้อมทั้งให้ฝ่ายกัมพูชาปิดกลบคูเรด ปรับสภาพพื้นที่ให้กลับคืนสภาพเดิม ซึ่งขณะนี้ทหารของทั้งสองฝ่ายได้ถอยกลับไปยังจุดเดิมแล้ว • นอกจากนี้ยังได้ตกลงที่จะจัดเจ้าที่ทหารทั้งสองฝ่ายเข้ามาพูดคุยกันบริเวณจุดดังกล่าวสัปดาห์ละ 1 ครั้ง • #MGROnline #ฮุนเซน #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องบก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • รับทำบุญ สวดมนต์ภาวนา อย่าไปรอจนแก่แล้วค่อยทำ หรือรอให้ญาติกาทำให้ ตายไปแล้วผลบุญทุกอย่าจะตามเราไป ตายแล้วผลบุญไม่มีติดตามไปก็ทุกข์ในเมืองผี รอญาติส่งบุญไปให้ก็ถึงบ้างไม่ถึงบ่าง เพราะอำนาจกรรมชั่วที่เคยทำไว้จะบังเอาไว้
    รับทำบุญ สวดมนต์ภาวนา อย่าไปรอจนแก่แล้วค่อยทำ หรือรอให้ญาติกาทำให้ ตายไปแล้วผลบุญทุกอย่าจะตามเราไป ตายแล้วผลบุญไม่มีติดตามไปก็ทุกข์ในเมืองผี รอญาติส่งบุญไปให้ก็ถึงบ้างไม่ถึงบ่าง เพราะอำนาจกรรมชั่วที่เคยทำไว้จะบังเอาไว้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อเสขธรรมสิบ ในฐานะพิธีเครื่องชำระบาป
    สัทธรรมลำดับที่ : 1015
    ชื่อบทธรรม :- อเสขธรรมสิบ ในฐานะพิธีเครื่องชำระบาป
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1015
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อเสขธรรมสิบ ในฐานะพิธีเครื่องชำระบาป
    --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาชนบททางทิศใต้ มีพิธีกรรม ชื่อโธวนะ(พิธีเครื่องชำระบาป)​.
    ในพิธีกรรมนั้น มีข้าว มีน้ำ มีของเคี้ยว ของบริโภค มีของควรลิ้ม ของควรดื่ม
    มีการฟ้อน การขับ และการประโคม.
    --ภิกษุ ท. ! พิธีกรรม ชื่อโธวนะ นั้น มีอยู่ มิใช่เรากล่าวว่าไม่มี
    แต่ว่าพิธีกรรมชื่อโธวนะนั้น เป็นของต่ำ
    เป็นของ ชาวบ้าน ควรแก่บุถุชน
    ไมใช่ของอารยชน ไม่ประกอบด้วยประโยชน์
    ไม่เป็นไปพร้อมเพื่อความหน่ายทุกข์
    เพื่อความคลายกำหนัด ความดับ ความรำงับ ความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม
    และนิพพาน.
    --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดง #โธวนะอันประเสริฐ
    http://etipitaka.com/read/pali/24/232/?keywords=อริยํ+โธวนํ
    ที่เป็นไปพร้อมเพื่อ ความหน่ายทุกข์โดยส่วนเดียว
    เพื่อเป็นความคลายกำหนด ความดับ ความรำงับ ความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม
    และนิพพาน
    เป็นโธวนะที่เมื่อสัตว์
    ผู้มีความเกิดเป็น ธรรมดาได้อาศัยแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากความเกิด,
    ผู้มีความแก่เป็นธรรมดาได้ อาศัยแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากความแก่,
    ผู้มีความตายเป็นธรรมดาได้อาศัยแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากความตาย,
    ผู้มีความโศก ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจได้อาศัยแล้ว
    ย่อมหลุดพ้นจากความโศก ความ ร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจ.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/232/?keywords=อริยํ+โธวนํ
    พวกเธอจงฟังคำนั้น จงทำในใจให้ดี เราจักกล่าว.
    (ต่อจากนั้น ทรงแสดงอเสขธรรม ๑๐ ประการ คือ
    สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ
    สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
    สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ
    สัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติ
    ).-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/185/107
    http://etipitaka.com/read/thai/24/185/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%97
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๒๓๑/๑๐๗
    http://etipitaka.com/read/pali/24/231/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%97
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1015
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87
    ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อเสขธรรมสิบ ในฐานะพิธีเครื่องชำระบาป สัทธรรมลำดับที่ : 1015 ชื่อบทธรรม :- อเสขธรรมสิบ ในฐานะพิธีเครื่องชำระบาป https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1015 เนื้อความทั้งหมด :- --อเสขธรรมสิบ ในฐานะพิธีเครื่องชำระบาป --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาชนบททางทิศใต้ มีพิธีกรรม ชื่อโธวนะ(พิธีเครื่องชำระบาป)​. ในพิธีกรรมนั้น มีข้าว มีน้ำ มีของเคี้ยว ของบริโภค มีของควรลิ้ม ของควรดื่ม มีการฟ้อน การขับ และการประโคม. --ภิกษุ ท. ! พิธีกรรม ชื่อโธวนะ นั้น มีอยู่ มิใช่เรากล่าวว่าไม่มี แต่ว่าพิธีกรรมชื่อโธวนะนั้น เป็นของต่ำ เป็นของ ชาวบ้าน ควรแก่บุถุชน ไมใช่ของอารยชน ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่เป็นไปพร้อมเพื่อความหน่ายทุกข์ เพื่อความคลายกำหนัด ความดับ ความรำงับ ความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม และนิพพาน. --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดง #โธวนะอันประเสริฐ http://etipitaka.com/read/pali/24/232/?keywords=อริยํ+โธวนํ ที่เป็นไปพร้อมเพื่อ ความหน่ายทุกข์โดยส่วนเดียว เพื่อเป็นความคลายกำหนด ความดับ ความรำงับ ความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม และนิพพาน เป็นโธวนะที่เมื่อสัตว์ ผู้มีความเกิดเป็น ธรรมดาได้อาศัยแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากความเกิด, ผู้มีความแก่เป็นธรรมดาได้ อาศัยแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากความแก่, ผู้มีความตายเป็นธรรมดาได้อาศัยแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากความตาย, ผู้มีความโศก ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจได้อาศัยแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากความโศก ความ ร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจ. http://etipitaka.com/read/pali/24/232/?keywords=อริยํ+โธวนํ พวกเธอจงฟังคำนั้น จงทำในใจให้ดี เราจักกล่าว. (ต่อจากนั้น ทรงแสดงอเสขธรรม ๑๐ ประการ คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติ ).- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/185/107 http://etipitaka.com/read/thai/24/185/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๒๓๑/๑๐๗ http://etipitaka.com/read/pali/24/231/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%97 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1015 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87 ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อเสขธรรมสิบ ในฐานะพิธีเครื่องชำระบาป
    -อเสขธรรมสิบ ในฐานะพิธีเครื่องชำระบาป ภิกษุ ท. ! ในบรรดาชนบททางทิศใต้ มีพิธีกรรม ชื่อโธวนะ. ในพิธีกรรมนั้น มีข้าว มีน้ำ มีของเคี้ยว ของบริโภค มีของควรลิ้ม ของควรดื่ม มีการฟ้อน การขับ และการประโคม. ภิกษุ ท. ! พิธีกรรมชื่อโธวนะนั้น มีอยู่ มิใช่เรากล่าวว่าไม่มี แต่ว่าพิธีกรรมชื่อโธวนะนั้น เป็นของต่ำ เป็นของ ชาวบ้าน ควรแก่บุถุชน ไมใช่ของอารยชน ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่เป็น ไปพร้อมเพื่อความหน่ายทุกข์ เพื่อความคลายกำหนัด ความดับ ความรำงับ ความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม และนิพพาน. ภิกษุ ท. ! เราจักแสดง โธวนะอันประเสริฐ ที่เป็นไปพร้อมเพื่อ ความหน่ายทุกข์โดยส่วนเดียว เพื่อเป็นความคลายกำหนด ความดับ ความรำงับ ความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม และนิพพาน เป็นโธวนะที่เมื่อสัตว์ผู้มีความเกิดเป็น ธรรมดาได้อาศัยแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากความเกิด, ผู้มีความแก่เป็นธรรมดาได้ อาศัยแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากความแก่, ผู้มีความตายเป็นธรรมดาได้อาศัยแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากความตาย, ผู้มีความโศก ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจได้อาศัยแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากความโศก ความ ร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจ. พวกเธอจงฟังคำนั้น จงทำในใจให้ดี เราจักกล่าว. (ต่อจากนั้น ทรงแสดงอเสขธรรม ๑๐ ประการ คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติ).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts