• เหรียญหลักเมืองยะลา ที่ระลึกฉลองเมืองยะลา 212ปี
    เหรียญหลักเมืองยะลา ที่ระลึกฉลองเมืองยะลา 212ปี เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ปี2545 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวด และ เกจิสายเขาอ้อหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ** พุทธคุณ ขอได้ - ไหว้รับ บนบานขอพรขอได้ พกพาอาราธนาติดตัวมีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เสริมดวงเสริมบารมี เป็นสิริมงคล เมตตา โชคลาภ ลาภ ผล พลู ทวี แคล้วคลาดกันภัย มหาอุด คงกระพัน เมตตาหานิยม โภคทรัพย์ เปิดโชครับทรัพย์ เงินไหลมา มหาโภคทรัพย์ เรียกทรัพย์และคุ้มครองป้องกันภัย. จะเจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย โชคลาภ **

    ** หลักเมืองเมืองยะลา เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวจังหวัดยะลา และเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2505 ชาวจังหวัดยะลาได้พร้อมใจกันจัดงานสมโภชหลักเมืองยะลาขึ้นเป็นครั้งแรก และได้จัดต่อเนื่องกันมาอย่างทุกปีจนถึงปัจจุบัน เหรียญหลักเมืองยะลา ที่ระลึกฉลองเมืองยะลา 212ปี เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ปี2545 พระดีพิธีใหญ่ มีพระอาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย,พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ และเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวด และ เกจิสายเขาอ้อ ร่วมกับ เกจิสายใต้อีกหลายท่าน ร่วมปลุกเสก **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลักเมืองยะลา ที่ระลึกฉลองเมืองยะลา 212ปี เหรียญหลักเมืองยะลา ที่ระลึกฉลองเมืองยะลา 212ปี เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ปี2545 //พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวด และ เกจิสายเขาอ้อหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ** พุทธคุณ ขอได้ - ไหว้รับ บนบานขอพรขอได้ พกพาอาราธนาติดตัวมีประสบการณ์ด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เสริมดวงเสริมบารมี เป็นสิริมงคล เมตตา โชคลาภ ลาภ ผล พลู ทวี แคล้วคลาดกันภัย มหาอุด คงกระพัน เมตตาหานิยม โภคทรัพย์ เปิดโชครับทรัพย์ เงินไหลมา มหาโภคทรัพย์ เรียกทรัพย์และคุ้มครองป้องกันภัย. จะเจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย โชคลาภ ** ** หลักเมืองเมืองยะลา เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวจังหวัดยะลา และเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2505 ชาวจังหวัดยะลาได้พร้อมใจกันจัดงานสมโภชหลักเมืองยะลาขึ้นเป็นครั้งแรก และได้จัดต่อเนื่องกันมาอย่างทุกปีจนถึงปัจจุบัน เหรียญหลักเมืองยะลา ที่ระลึกฉลองเมืองยะลา 212ปี เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ปี2545 พระดีพิธีใหญ่ มีพระอาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย,พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ และเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวด และ เกจิสายเขาอ้อ ร่วมกับ เกจิสายใต้อีกหลายท่าน ร่วมปลุกเสก ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • มะเร็งหายากในคนหนุ่มสาว: ปริศนาที่นักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบ

    งานวิจัยล่าสุดพบว่า มะเร็งไส้ติ่ง (Appendiceal cancer) ซึ่งเคยพบได้น้อยและมักเกิดในผู้สูงอายุ กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen X และ Millennials ที่มีความเสี่ยงมากกว่ารุ่นก่อนถึง 3–4 เท่า ปัจจุบันผู้ป่วย 1 ใน 3 ถูกวินิจฉัยก่อนอายุ 50 ปี

    หลักฐานจากการศึกษา
    ข้อมูลจากสหรัฐฯ ระบุว่าอัตราการเกิดมะเร็งไส้ติ่งเพิ่มขึ้นกว่า 232% ระหว่างปี 2000–2016 และแนวโน้มยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ นักวิจัยชี้ว่าโรคนี้มักถูกตรวจพบโดยบังเอิญระหว่างการรักษาไส้ติ่งอักเสบ และอาการ เช่น ปวดท้อง ท้องอืด หรือปวดเชิงกราน มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโรคทางเดินอาหารหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่

    ปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้อง
    แม้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่นักวิจัยสงสัยว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น อาหารแปรรูป การนอนหลับไม่เพียงพอ และการออกกำลังกายน้อย รวมถึง สิ่งแวดล้อม เช่น สารเคมีตกค้างในน้ำดื่มและไมโครพลาสติก อาจมีบทบาทในการเพิ่มความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสันนิษฐานถึงพันธุกรรมที่สืบทอดได้

    ความท้าทายในการวินิจฉัยและรักษา
    ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางการตรวจคัดกรองเฉพาะสำหรับมะเร็งไส้ติ่ง และการรักษาก็มีข้อจำกัด เนื่องจากมะเร็งชนิดนี้ตอบสนองต่อเคมีบำบัดแตกต่างจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยบางรายถูกวินิจฉัยล่าช้าและมีโอกาสแพร่กระจายสูง

    สรุปประเด็นสำคัญ

    การเพิ่มขึ้นของมะเร็งไส้ติ่งในคนหนุ่มสาว
    ความเสี่ยงสูงขึ้น 3–4 เท่าใน Gen X และ Millennials
    1 ใน 3 ผู้ป่วยถูกวินิจฉัยก่อนอายุ 50 ปี

    หลักฐานจากการศึกษา
    อัตราเพิ่มขึ้นกว่า 232% ระหว่างปี 2000–2016
    อาการคล้ายโรคทางเดินอาหาร ทำให้ตรวจพบยาก

    ปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้อง
    อาหารแปรรูปและการนอนหลับไม่เพียงพอ
    สารเคมีในน้ำดื่มและไมโครพลาสติก

    ความท้าทายในการวินิจฉัยและรักษา
    ไม่มีแนวทางคัดกรองเฉพาะสำหรับมะเร็งไส้ติ่ง
    การตอบสนองต่อเคมีบำบัดแตกต่างจากมะเร็งลำไส้ใหญ่

    https://www.sciencealert.com/a-rare-cancer-is-surging-in-young-people-and-experts-are-puzzled
    🧩 มะเร็งหายากในคนหนุ่มสาว: ปริศนาที่นักวิทยาศาสตร์ยังหาคำตอบ งานวิจัยล่าสุดพบว่า มะเร็งไส้ติ่ง (Appendiceal cancer) ซึ่งเคยพบได้น้อยและมักเกิดในผู้สูงอายุ กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen X และ Millennials ที่มีความเสี่ยงมากกว่ารุ่นก่อนถึง 3–4 เท่า ปัจจุบันผู้ป่วย 1 ใน 3 ถูกวินิจฉัยก่อนอายุ 50 ปี 🔬 หลักฐานจากการศึกษา ข้อมูลจากสหรัฐฯ ระบุว่าอัตราการเกิดมะเร็งไส้ติ่งเพิ่มขึ้นกว่า 232% ระหว่างปี 2000–2016 และแนวโน้มยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ นักวิจัยชี้ว่าโรคนี้มักถูกตรวจพบโดยบังเอิญระหว่างการรักษาไส้ติ่งอักเสบ และอาการ เช่น ปวดท้อง ท้องอืด หรือปวดเชิงกราน มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโรคทางเดินอาหารหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ 🌱 ปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้อง แม้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่นักวิจัยสงสัยว่า พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น อาหารแปรรูป การนอนหลับไม่เพียงพอ และการออกกำลังกายน้อย รวมถึง สิ่งแวดล้อม เช่น สารเคมีตกค้างในน้ำดื่มและไมโครพลาสติก อาจมีบทบาทในการเพิ่มความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสันนิษฐานถึงพันธุกรรมที่สืบทอดได้ ⚠️ ความท้าทายในการวินิจฉัยและรักษา ปัจจุบันยังไม่มีแนวทางการตรวจคัดกรองเฉพาะสำหรับมะเร็งไส้ติ่ง และการรักษาก็มีข้อจำกัด เนื่องจากมะเร็งชนิดนี้ตอบสนองต่อเคมีบำบัดแตกต่างจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยบางรายถูกวินิจฉัยล่าช้าและมีโอกาสแพร่กระจายสูง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเพิ่มขึ้นของมะเร็งไส้ติ่งในคนหนุ่มสาว ➡️ ความเสี่ยงสูงขึ้น 3–4 เท่าใน Gen X และ Millennials ➡️ 1 ใน 3 ผู้ป่วยถูกวินิจฉัยก่อนอายุ 50 ปี ✅ หลักฐานจากการศึกษา ➡️ อัตราเพิ่มขึ้นกว่า 232% ระหว่างปี 2000–2016 ➡️ อาการคล้ายโรคทางเดินอาหาร ทำให้ตรวจพบยาก ✅ ปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้อง ➡️ อาหารแปรรูปและการนอนหลับไม่เพียงพอ ➡️ สารเคมีในน้ำดื่มและไมโครพลาสติก ‼️ ความท้าทายในการวินิจฉัยและรักษา ⛔ ไม่มีแนวทางคัดกรองเฉพาะสำหรับมะเร็งไส้ติ่ง ⛔ การตอบสนองต่อเคมีบำบัดแตกต่างจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ https://www.sciencealert.com/a-rare-cancer-is-surging-in-young-people-and-experts-are-puzzled
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    A Rare Cancer Is Surging in Young People, And Experts Are Puzzled
    A very rare type of cancer is on a sharp upward trajectory in younger generations, and no one knows why.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline

    เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro
    เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร
    https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review

    การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3
    ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง
    https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus

    เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli
    นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี
    https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it

    Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX
    เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division

    Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง
    บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way

    AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI
    สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space

    หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac
    Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it

    Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt
    เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it

    Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา
    ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you

    Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง
    หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026
    https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why

    การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware
    หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure

    Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026
    หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026

    DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง
    อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player

    Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์
    Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers

    Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI
    ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous

    EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย
    เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring

    ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT
    เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย
    https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors

    แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล
    นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code

    Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง
    Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้
    https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in

    CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม”
    Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem

    ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI
    บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง”
    https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race

    ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt

    ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน
    หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว
    CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร
    หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251206 #securityonline 🪑 เก้าอี้ออฟฟิศที่พับครึ่งได้ – Hinomi H2 Pro เรื่องราวเริ่มจากการรีวิวเก้าอี้ทำงานรุ่นใหม่ Hinomi H2 Pro ที่ถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากเก้าอี้ทั่วไป จุดเด่นคือสามารถพับครึ่งได้ ทำให้จัดเก็บง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีระบบรองรับหลังส่วนล่างที่แข็งแรงและปรับได้หลายระดับ เหมาะกับคนที่ต้องการการนั่งที่ถูกสุขลักษณะ ตัววัสดุทำจากเฟรมอะลูมิเนียมและผ้าตาข่ายที่ระบายอากาศได้ดี ใช้งานต่อเนื่องทั้งวันก็ยังสบาย แม้จะมีข้อสังเกตว่าการรองรับหลังอาจแรงไปสำหรับบางคน แต่โดยรวมถือว่าเป็นเก้าอี้ที่คุ้มค่าและมีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร 🔗 https://www.techradar.com/pro/hinomi-h2-pro-office-chair-review 💿 การกลับมาของเครื่องเล่น SACD – Shanling SCD3.3 ย้อนบรรยากาศยุค 90s กับเครื่องเล่นซีดีรุ่นใหม่ Shanling SCD3.3 ที่มาพร้อมหลอดแอมป์ในตัวและ DAC คุณภาพสูง จุดขายคือการรองรับแผ่น SACD และการออกแบบที่ผสมผสานความคลาสสิกกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตัวเครื่องหนักแน่นด้วยโครงอะลูมิเนียมหนา มีหน้าจอสัมผัสและแอปควบคุมผ่านมือถือได้ เสียงที่ได้ถูกบรรยายว่าอบอุ่นและทรงพลัง เหมาะกับนักฟังเพลงที่ต้องการประสบการณ์เสียงระดับอ้างอิง แม้ราคาจะสูงถึงเกือบ 4,000 ดอลลาร์ แต่ก็เป็นการประกาศว่าแผ่นซีดียังไม่ตาย และยังมีเสน่ห์สำหรับสายเครื่องเสียงจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/audio/sacd-is-back-baby-this-beefy-new-audiophile-cd-player-is-deliciously-90s-and-has-built-in-tube-amplification-as-a-bonus 📱 เครือข่ายมือถือแบบไม่ต้องเปิดเผยตัว – Phreeli นี่คือผู้ให้บริการมือถือรายใหม่ที่ชื่อว่า Phreeli จุดเด่นคือการสมัครใช้งานโดยไม่ต้องใช้ชื่อหรือข้อมูลส่วนตัวใด ๆ นอกจากรหัสไปรษณีย์และวิธีการชำระเงิน ซึ่งสามารถใช้คริปโตได้ ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงเบอร์โทรกับตัวตนจริงได้ ระบบยังมีการป้องกันสแปมและการโทรกวน เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องข้อมูลส่วนตัวจะถูกขายต่อให้บริษัทโฆษณาหรือหน่วยงานรัฐ แม้บางคนอาจสงสัยว่าใครจะใช้บริการแบบนี้ แต่ผู้ก่อตั้งยืนยันว่ามุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่กลุ่มที่มีเจตนาไม่ดี 🔗 https://www.techradar.com/phones/this-new-anonymous-phone-carrier-doesnt-even-need-your-name-here-are-5-things-you-should-know-about-it 💻 Intel เปลี่ยนใจไม่ขายธุรกิจ NEX เดิมที Intel มีแผนจะขายหรือแยกธุรกิจ Networking and Communications (NEX) ออกไป แต่ล่าสุดบริษัทประกาศว่าจะเก็บไว้ในพอร์ตโฟลิโอ เพราะมองว่าเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์ด้าน AI ศูนย์ข้อมูล และ Edge Computing การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานะทางการเงินของ Intel ดีขึ้นจากการลงทุนและการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรอย่าง SoftBank และ Nvidia การเก็บ NEX ไว้ในบริษัทจะช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และระบบทำงานร่วมกันได้แนบแน่นมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-drops-plans-to-sell-networking-and-communication-division 🌐 Windscribe เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้จัดการ IP ได้เอง บริการ VPN อย่าง Windscribe เปิดตัวสองฟีเจอร์ใหม่คือ IP Pinning และ IP Rotation เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุม IP ได้สะดวกขึ้น โดย IP Pinning ช่วยล็อก IP ที่ใช้งานได้ดีเพื่อความเสถียร เช่น ใช้กับแอปธนาคาร ส่วน IP Rotation ช่วยเปลี่ยน IP ได้ทันทีโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อ เหมาะกับการแก้ปัญหา CAPTCHA หรือการบล็อกจากเว็บไซต์ ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยระบบ API แบบ zero-knowledge ทำให้แม้แต่ Windscribe เองก็ไม่สามารถบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/windscribe-rolls-out-new-tools-to-let-you-manage-your-vpn-ip-address-your-way 🚀 AI ถูกส่งขึ้นอวกาศ – Google, Amazon และ xAI สามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีคือ Google, Amazon และ xAI กำลังร่วมมือกันเพื่อผลักดันโครงการนำ AI ขึ้นไปใช้งานในอวกาศ แนวคิดนี้คือการสร้างระบบประมวลผลที่สามารถทำงานได้โดยตรงบนดาวเทียมหรือสถานีอวกาศ เพื่อลดการพึ่งพาการส่งข้อมูลกลับมายังโลก ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารและการวิเคราะห์ข้อมูลจากอวกาศมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น โครงการนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันในตลาด AI ที่ขยายไปไกลเกินกว่าพื้นโลก และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ AI ในการสำรวจจักรวาลอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/google-amazon-and-xai-want-to-launch-ai-into-space 🤖 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นพร้อมระบบถูพื้นขั้นเทพ – Dreame Robovac Dreame เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นใหม่ที่มาพร้อมระบบถูพื้นซับซ้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นคือแท่นเก็บผ้าแบบ jukebox ที่สามารถเปลี่ยนผ้าเช็ดถูได้อัตโนมัติ ทำให้การทำความสะอาดต่อเนื่องโดยไม่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าเอง หุ่นยนต์ยังมีระบบตรวจจับคราบและปรับแรงกดในการถูพื้นให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิว นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปเพื่อควบคุมและตั้งค่าการทำงานได้อย่างละเอียด ถือเป็นการยกระดับหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้านให้ฉลาดและสะดวกสบายยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/dreames-new-robovac-has-the-most-advanced-mop-setup-ive-seen-and-the-jukebox-style-mop-dispenser-is-just-the-start-of-it 🖥️ Windows 11 ปรับโฉม Run Prompt เรื่องที่ดูเหมือนเล็กแต่จริง ๆ แล้วสำคัญมากสำหรับผู้ใช้ Windows 11 กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับโฉมหน้าต่าง Run ที่เราคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ยุค Windows 95 ให้เข้ากับดีไซน์ Fluent ของยุคใหม่ หน้าต่างนี้จะดูทันสมัยขึ้น ใหญ่ขึ้น และยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยแสดงคำสั่งที่เคยใช้ไปแล้ว ทำให้เรียกใช้งานซ้ำได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งแสดงไอคอนของแอปที่เราจะเปิดอีกด้วย แม้ยังไม่เปิดให้ใช้งานจริง แต่ก็มีการค้นพบในเวอร์ชันทดสอบแล้ว หลายคนก็แอบกังวลว่าจะทำให้การเปิด Run ช้าลง แต่โดยรวมถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รอคอยกันมานาน 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11s-run-prompt-is-getting-a-makeover-and-a-handy-extra-power-but-already-there-are-worries-microsoft-will-ruin-it 💼 Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคา ข่าวนี้อาจทำให้หลายองค์กรต้องขยับงบประมาณ เพราะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับขึ้นราคาของแพ็กเกจ Microsoft 365 และ Office 365 สำหรับธุรกิจและหน่วยงานรัฐตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 โดยขึ้นระหว่าง 5% ถึง 33% ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ แต่ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและ AI เข้ามา เช่น Microsoft Defender และ Security Copilot เพื่อช่วยป้องกันภัยไซเบอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แม้ราคาจะสูงขึ้น แต่ Microsoft ยืนยันว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เพิ่มเข้ามา 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-365-is-hiking-prices-for-businesses-heres-how-much-it-will-cost-you 🤖 Samsung Ballie Robot เลื่อนเปิดตัวอีกครั้ง หุ่นยนต์กลมสีเหลืองที่ชื่อ Ballie จาก Samsung ซึ่งเคยโชว์ตัวตั้งแต่ปี 2020 และถูกนำกลับมาเปิดตัวใหม่ใน CES 2025 พร้อมสัญญาว่าจะวางขายในช่วงซัมเมอร์ปีนั้น แต่จนถึงปลายปี 2025 ก็ยังไม่พร้อมวางจำหน่าย Samsung บอกว่ากำลังปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีกว่า Ballie ถูกออกแบบให้เป็นผู้ช่วยในบ้าน สามารถฉายภาพยนตร์หรือข้อมูลบนผนัง และตอบคำถามได้ แต่ยังต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม คาดว่าอาจมีความคืบหน้าที่ CES 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/samsungs-ballie-robot-is-delayed-again-and-now-we-know-why ⚠️ การโจมตีไซเบอร์ด้วย Brickworm Malware หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ และแคนาดาออกมาเตือนว่าแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐจีนใช้มัลแวร์ชื่อ Brickworm เจาะเข้าไปในระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ และองค์กรด้านไอทีทั่วโลก มัลแวร์นี้สามารถฝังตัวในระบบ VMware และ Windows เพื่อเข้าถึงไฟล์ ควบคุม Active Directory และคงการเข้าถึงระยะยาวได้ ทำให้เสี่ยงต่อการสอดแนมและการก่อวินาศกรรมในอนาคต แม้จีนจะปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่รายงานนี้สะท้อนถึงภัยคุกคามที่ร้ายแรงต่อความมั่นคงไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-used-brickworm-malware-to-breach-critical-us-infrastructure 📡 Ofcom เตรียมเข้มงวดการตรวจสอบไฟล์ในปี 2026 หน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) มีแผนจะเพิ่มมาตรการตรวจสอบไฟล์ดิจิทัลในปี 2026 โดยจะขยายการเฝ้าระวังและการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกแชร์ผ่านบริการออนไลน์ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้งานที่ผิดกฎหมาย แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่าการตรวจสอบนี้อาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ Ofcom ยืนยันว่ามีความจำเป็นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิทัลในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-wants-to-double-down-on-file-monitoring-in-2026 🎶 DAC ตัวใหม่เล็กแต่ทรงพลัง อุปกรณ์ DAC ขนาดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก หรือเครื่องเล่นเกม ให้มีคุณภาพเสียงระดับเดียวกับเครื่องเล่นเพลง hi-res ชั้นนำของโลก แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่สามารถมอบประสบการณ์เสียงที่คมชัดและทรงพลัง เหมาะสำหรับคนที่รักการฟังเพลงคุณภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์ราคาแพง 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-tiny-new-dac-gives-your-phone-laptop-or-games-console-the-audio-skills-of-the-worlds-best-hi-res-music-player 📺 Netflix ซื้อกิจการ Warner Bros. Discovery มูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ Netflix ประกาศดีลครั้งใหญ่ในการเข้าซื้อ Warner Bros. Discovery ด้วยมูลค่า 82.7 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกและความคุ้มค่ามากขึ้น ดีลนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการสตรีมมิ่ง เพราะจะรวมคอนเทนต์จาก HBO, Discovery และแบรนด์ดังอื่น ๆ เข้ากับ Netflix ซึ่งอาจทำให้การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Disney+ และ Amazon Prime เข้มข้นยิ่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/its-official-netflix-is-buying-warner-bros-discovery-claiming-the-deal-means-more-choice-and-greater-value-for-consumers 🤔 Logitech CEO วิจารณ์อุปกรณ์ AI ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Logitech ออกมาแสดงความเห็นว่าอุปกรณ์ AI หลายอย่างในตลาดตอนนี้เป็น “การหาทางแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” ซึ่งสะท้อนถึงความสงสัยว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณค่าแท้จริงต่อผู้ใช้หรือไม่ ความเห็นนี้ได้รับการตอบรับจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าอุปกรณ์ AI ยังไม่สามารถพิสูจน์ประโยชน์ที่ชัดเจน แต่ก็มีบางคนมองว่าเป็นการพัฒนาเทคโนโลยีที่ต้องใช้เวลาเพื่อให้เห็นผลจริง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-solution-looking-for-a-problem-that-doesnt-exist-logitech-ceo-blasts-ai-gadgets-and-most-people-think-thats-being-generous 🛡️ EU เดินหน้ากฎหมาย Chat Control แบบเจาะจงเป้าหมาย เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในยุโรปเกี่ยวกับกฎหมาย Child Sexual Abuse Regulation (CSAR) ที่ถูกเรียกติดปากว่า “Chat Control” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าจะกลายเป็นการสอดส่องประชาชนแบบกว้างขวาง แต่ Magnus Brunner กรรมาธิการสหภาพยุโรปด้านกิจการภายในกลับยืนยันว่า เขาเลือกสนับสนุนแนวทางของรัฐสภายุโรปที่เน้นการสแกนแบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าการสแกนแบบครอบคลุมโดยสมัครใจตามที่สภายุโรปเสนอ เขาย้ำว่า “นี่ไม่ใช่เรื่อง Chat Control แต่เป็นการปกป้องเด็ก” อย่างไรก็ตาม หลายประเทศและผู้เชี่ยวชาญยังคงคัดค้านเพราะมองว่าอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว การเจรจารอบสุดท้ายระหว่างสภา คณะกรรมาธิการ และรัฐสภาจะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้ชะตาว่ากฎหมายนี้จะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/chat-control-eu-commissioner-backs-parliament-line-on-targeted-monitoring 📡 ปัญหาการเชื่อมต่อที่ซ่อนอยู่ใน IoT เมื่อพูดถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ถังขยะที่ส่งสัญญาณเมื่อเต็ม หรือเครื่องตรวจหัวใจในบ้านพักคนชรา หลายคนมักคิดว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเรื่องที่ “มีอยู่แล้ว” แต่แท้จริงแล้วการออกแบบระบบเชื่อมต่อคือหัวใจสำคัญ หากการเลือกซิมหรือการจัดการสัญญาณไม่ดี อุปกรณ์อาจเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่ไม่เสถียร ทำให้ข้อมูลสะดุดหรือเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเทคโนโลยีซิมแบบ Dual IMSI ที่มีการจัดการสัญญาณและ IP แบบคงที่ จะช่วยให้ระบบทำงานได้ราบรื่นและปลอดภัยกว่า การออกแบบโครงสร้างการเชื่อมต่อที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ IoT ใช้งานได้จริงในระดับใหญ่ ไม่ใช่แค่การมีอุปกรณ์ที่ฉลาด แต่ต้องมีเครือข่ายที่ฉลาดด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-connectivity-problem-hiding-in-smart-bins-and-heart-monitors 💻 แฮกเกอร์ปลอมแอปธนาคารเพื่อขโมยข้อมูล นักวิจัยจาก Group-IB เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อ GoldFactory กำลังใช้วิธีใหม่ในการโจมตี โดยนำแอปธนาคารจริงมาดัดแปลงใส่โค้ดอันตราย แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ปลอมและการหลอกลวงแบบฟิชชิ่ง แอปที่ถูกปลอมแปลงยังคงทำงานเหมือนจริง ทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกขโมยข้อมูล ขณะเดียวกันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ทั้งดึงข้อมูล ล็อกอิน หรือแม้แต่สั่งการจากระยะไกล ปัจจุบันมีผู้ใช้หลายหมื่นรายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ตกเป็นเหยื่อ และแนวโน้มอาจขยายไปยังประเทศอื่น ๆ นี่ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมากในโลกการเงินดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-observed-injecting-legitimate-banking-apps-with-malicious-code 📱 Verizon แจก iPhone 17 Pro ฟรีแบบไม่ต้องเทรดเครื่อง Verizon สร้างความฮือฮาด้วยโปรโมชันใหม่ที่ให้ iPhone 17 Pro ฟรีถึง 4 เครื่อง โดยไม่ต้องนำเครื่องเก่ามาแลก เพียงสมัครแพ็กเกจ Welcome Unlimited ที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ 4 ไลน์ เท่ากับจ่ายเพียง 25 ดอลลาร์ต่อเครื่องต่อเดือน ซึ่งถ้าคิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว ผู้ใช้สามารถประหยัดได้มากกว่า 4,000 ดอลลาร์ ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับครอบครัวที่ต้องการหลายเครื่อง และแม้แต่ผู้ใช้รายเดียวก็ยังสามารถรับเครื่องฟรีได้เมื่อเปิดไลน์ใหม่ ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดของ Verizon ในปีนี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/verizon-just-surprised-us-with-one-of-its-best-deals-of-the-entire-year-get-four-iphone-17-pro-for-free-without-a-trade-in 🤖 CEO Logitech มองว่าอุปกรณ์ AI เป็น “คำตอบที่ไม่มีคำถาม” Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์ว่า อุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ AI โดยเฉพาะ เช่น Humane AI Pin หรือ Rabbit R1 เป็นเพียง “การแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง” เพราะสิ่งที่ทำได้ก็ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่แล้ว เธอเชื่อว่าทางที่ถูกต้องคือการฝัง AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ เช่น กล้องเว็บแคมที่ปรับภาพอัตโนมัติ หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีปุ่มเรียก Copilot หรือ ChatGPT ได้ทันที แนวคิดนี้ต่างจากบางบริษัทที่พยายามสร้างอุปกรณ์ใหม่ขึ้นมาโดยเฉพาะ เช่น แว่นตาอัจฉริยะของ Ray-Ban หรือเครื่องบันทึกเสียง AI ของ Plaud ซึ่งอนาคตจะพิสูจน์ว่าแนวทางใดจะอยู่รอด แต่สิ่งที่แน่นอนคือ AI จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของทุกอุปกรณ์ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/logitech-ceo-says-ai-devices-are-just-solutions-looking-for-a-problem 🚀 ทำไมซีอีโอที่เข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ถึงนำหน้าในยุค AI บทความนี้เล่าถึงข้อได้เปรียบของซีอีโอที่มีพื้นฐานด้านการเขียนโปรแกรมหรือเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพราะพวกเขาสามารถมองเห็นศักยภาพของ AI ได้ลึกกว่า และรู้ว่าควรนำไปใช้ตรงไหนเพื่อสร้างคุณค่า ไม่ใช่แค่ตามกระแส ตัวอย่างเช่น การเข้าใจโครงสร้างข้อมูลและการทำงานของโมเดล ทำให้สามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำกว่า และยังช่วยให้ทีมงานเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้นำมากขึ้น ในการแข่งขัน AI ที่รุนแรง การมีผู้นำที่เข้าใจเทคโนโลยีจึงเป็นเหมือนการมี “หัวเรือที่รู้เส้นทาง” 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-ceos-who-understand-software-development-have-a-head-start-in-the-ai-race 🎙️ ปัญหาการถอดเสียงแก้ได้ด้วย Gemini แต่ไม่ใช่ ChatGPT ผู้เขียนเล่าประสบการณ์ตรงว่าเจอปัญหาใหญ่ในการถอดเสียงไฟล์เสียงยาว ๆ ที่มีหลายสำเนียงและเสียงรบกวน เมื่อทดลองใช้ ChatGPT ผลลัพธ์ออกมาไม่แม่นยำ แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Gemini กลับได้ผลลัพธ์ที่ตรงและจัดการไฟล์ได้ดีกว่า จุดเด่นคือ Gemini สามารถทำงานกับไฟล์เสียงที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังให้ผลลัพธ์ที่พร้อมใช้งานทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ AI หลายเจ้าแข่งกัน แต่แต่ละระบบก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกันไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/i-had-a-big-audio-transcription-problem-gemini-solved-it-and-chatgpt-didnt 📱 ปี 2025 ไม่ได้เป็นปีที่น่าเบื่อของสมาร์ทโฟน หลายคนอาจบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มหมดความตื่นเต้น แต่จริง ๆ แล้วปีนี้กลับเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ เริ่มจาก Apple ที่กล้าลองสิ่งใหม่ ๆ ทั้ง iPhone 16e ที่มาพร้อมโมเด็ม C1 และ iPhone Air ที่ออกแบบให้บางและทนทานขึ้น แม้ไม่ใช่รุ่นที่ดีที่สุด แต่ก็สะท้อนความกล้าในการทดลอง ส่วน iPhone 17 Pro ก็พลิกโฉมดีไซน์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple พร้อมเพิ่มเลนส์ซูมและหน้าจอ 120Hz ให้ทันสมัยขึ้น ขณะเดียวกัน Qualcomm ก็สร้างความฮือฮาด้วย Snapdragon 8 Elite ที่แรงและประหยัดพลังงานกว่า ทำให้มือถือ Android ใช้งานได้ยาวนานกว่าสองวันเต็ม อีกด้านหนึ่ง OnePlus 15 กลายเป็นมือถือที่ถูกยกให้เป็น “ตัวเลือกของคนวงใน” ด้วยความทนทานและแบตเตอรี่ที่เหลือเชื่อ สุดท้าย Google ก็เพิ่มฟีเจอร์แม่เหล็กใน Pixel 10 Pro ทำให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้นอย่างมาก ทั้งการชาร์จ การติดตั้งอุปกรณ์เสริม และการใช้งานร่วมกับกระเป๋าสตางค์แม่เหล็ก เรื่องทั้งหมดนี้บอกได้เลยว่า โทรศัพท์ปี 2025 ไม่ได้เงียบเหงาเลย 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🛡️ หน่วยงานความมั่นคงสหรัฐเตือน หยุดใช้ VPN ส่วนตัว CISA หรือหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” เพราะแทนที่จะปลอดภัยขึ้น กลับเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าเดิม เหตุผลคือ VPN หลายเจ้า โดยเฉพาะที่ฟรีหรือไม่น่าเชื่อถือ อาจเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาเอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงจากการโจมตีขั้นสูง แม้ VPN จะช่วยซ่อนกิจกรรมจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แต่ก็เหมือนย้ายความเสี่ยงไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ที่อาจไม่น่าไว้ใจ ทางออกคือเลือกผู้ให้บริการที่มีการตรวจสอบนโยบายไม่เก็บข้อมูลจริง มีการเข้ารหัสมาตรฐานสูง และมีฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch หรือ multi-hop เพื่อเพิ่มความปลอดภัย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการหาทางลัดเพื่อความเป็นส่วนตัว อาจกลายเป็นดาบสองคมได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 🤖 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ Cisco เปิดเผยผลสำรวจที่ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างวัย คนอายุต่ำกว่า 35 ปีมีการใช้งาน AI สูงถึงครึ่งหนึ่ง และกว่า 75% มองว่า AI มีประโยชน์ต่อชีวิตและงาน แต่เมื่อมองไปที่คนอายุเกิน 45 ครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าการปฏิเสธโดยตรง นอกจากนี้ยังพบว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด ขณะที่ยุโรปกลับมีความไม่มั่นใจสูงกว่า ผลวิจัยยังชี้ว่าการใช้ AI มากเกินไปอาจสัมพันธ์กับการใช้หน้าจอมากและความพึงพอใจในชีวิตที่ลดลง ทำให้คำแนะนำคือควรสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อให้ “Generation AI” รวมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️ EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI ใน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta หลังจากมีข้อกล่าวหาว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่ง โดย Meta ได้ปรับเงื่อนไข API ของ WhatsApp Business ห้ามไม่ให้แชทบอทจากผู้ให้บริการอื่นที่เน้น AI เป็นหลักถูกเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอนบอทออกไปแล้ว EU กังวลว่า Meta กำลังใช้ความได้เปรียบทางตลาดเพื่อผลักดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบว่ามีความผิด Meta อาจถูกปรับสูงถึง 10% ของรายได้ทั่วโลก หรือประมาณ 16.5 พันล้านดอลลาร์ เรื่องนี้สะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเปิดเสรีการแข่งขันกับการควบคุมอำนาจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️ ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที React ซึ่งเป็นไลบรารี JavaScript ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-55182 ที่ได้คะแนนความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้อยู่ใน React Server Components และกระทบหลายเฟรมเวิร์ก เช่น Next, React Router, Vite ทำให้แม้แต่แฮกเกอร์ที่มีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที เพราะการโจมตีมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% และคาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในเวลาอันใกล้ เนื่องจาก React ถูกใช้ในบริการใหญ่ ๆ อย่าง Facebook, Instagram, Netflix และ Shopify ทำให้พื้นที่เสี่ยงมีขนาดมหาศาล เรื่องนี้จึงเป็นสัญญาณเตือนแรงสำหรับนักพัฒนาและองค์กรที่ใช้ React ว่าต้องไม่ชะล่าใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰 Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินและคริปโตมูลค่า 700 ล้านยูโร หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายยุโรป (Europol) ประกาศความสำเร็จครั้งใหญ่ในการปิดเครือข่ายอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและคริปโต โดยมีมูลค่าการเคลื่อนไหวสูงถึง 700 ล้านยูโร เครือข่ายนี้ใช้วิธีซับซ้อนในการเคลื่อนย้ายเงินผ่านหลายประเทศและใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน การปฏิบัติการครั้งนี้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัยหลายรายและยึดทรัพย์สินจำนวนมาก ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าองค์กรอาชญากรรมที่พยายามใช้คริปโตเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ กำลังถูกจับตามองอย่างเข้มงวด ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ขาดแคลนเวเฟอร์ Lunar Lake และ Arrow Lake

    Intel ยอมรับว่ากำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนแผ่นเวเฟอร์สำหรับซีรีส์ Core Ultra 200 (Arrow Lake และ Lunar Lake) ที่ผลิตโดย TSMC ทำให้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการตลาดได้ แม้ความต้องการพีซี AI จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    John Pitzer รองประธานฝ่ายวางแผนของ Intel กล่าวในงาน UBS Global Technology and AI Conference 2025 ว่า “ถ้าเรามีเวเฟอร์ Lunar Lake มากกว่านี้ เราก็จะขายได้มากกว่านี้” ปัญหานี้เกิดจากการที่ Intelสั่งจองกำลังการผลิตจาก TSMC น้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    สาเหตุและข้อจำกัด
    Logic tiles ของ Arrow Lake และ Lunar Lake ผลิตโดย TSMC บนเทคโนโลยี N3B (3nm-class)
    Intel ทำการ packaging เอง แต่ไม่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ทัน
    ความต้องการหน่วยความจำ LPDDR5X สำหรับ Lunar Lake มีเพียงพอ แต่ปัญหาหลักคือ การเข้าถึงกำลังผลิตเวเฟอร์ขั้นสูงของ TSMC ที่ถูกใช้งานเต็มกำลังจากความต้องการ AI ทั่วโลก

    ผลกระทบต่อธุรกิจและตลาด
    แม้ตลาดพีซีโดยรวมจะไม่เติบโตสูง แต่ความต้องการ AI PC กลับพุ่งขึ้นอย่างมาก ทำให้ Intel ไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา ส่งผลให้คู่แข่งอย่าง AMD และ Qualcomm มีโอกาสแย่งส่วนแบ่งตลาด ขณะเดียวกัน Intel ยังต้องจัดสรรเวเฟอร์สำหรับ Xeon 6 Granite Rapids ที่ใช้ Intel 3 ซึ่งก็มีข้อจำกัดด้านกำลังผลิตเช่นกัน

    ความเสี่ยงและข้อควรระวัง
    หาก Intel ไม่สามารถแก้ปัญหาการจัดหากำลังผลิตจาก TSMC ได้ทันเวลา อาจต้องเผชิญกับการปรับขึ้นราคาชิป และเสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้าองค์กรและผู้บริโภคที่ต้องการพีซี AI รุ่นใหม่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Intel ยอมรับปัญหาขาดแคลนเวเฟอร์ Core Ultra 200
    Lunar Lake และ Arrow Lake ไม่สามารถผลิตได้ตามความต้องการ

    สาเหตุจากการสั่งจองกำลังผลิต TSMC น้อยเกินไป
    ใช้เทคโนโลยี N3B ที่มีความต้องการสูงทั่วโลก

    ผลกระทบต่อธุรกิจและตลาด
    คู่แข่งอย่าง AMD และ Qualcomm มีโอกาสแย่งส่วนแบ่งตลาด AI PC

    คำเตือนต่อ Intel และผู้บริโภค
    อาจต้องปรับขึ้นราคาชิปหากไม่สามารถแก้ปัญหากำลังผลิตได้
    เสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นในตลาด AI PC

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-admits-it-needs-more-core-ultra-200-series-wafers-if-we-had-more-lunar-lake-wafers-we-would-be-selling-more-lunar-lake
    🖥️ Intel ขาดแคลนเวเฟอร์ Lunar Lake และ Arrow Lake Intel ยอมรับว่ากำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนแผ่นเวเฟอร์สำหรับซีรีส์ Core Ultra 200 (Arrow Lake และ Lunar Lake) ที่ผลิตโดย TSMC ทำให้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการตลาดได้ แม้ความต้องการพีซี AI จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง John Pitzer รองประธานฝ่ายวางแผนของ Intel กล่าวในงาน UBS Global Technology and AI Conference 2025 ว่า “ถ้าเรามีเวเฟอร์ Lunar Lake มากกว่านี้ เราก็จะขายได้มากกว่านี้” ปัญหานี้เกิดจากการที่ Intelสั่งจองกำลังการผลิตจาก TSMC น้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว 🔧 สาเหตุและข้อจำกัด 💠 Logic tiles ของ Arrow Lake และ Lunar Lake ผลิตโดย TSMC บนเทคโนโลยี N3B (3nm-class) 💠 Intel ทำการ packaging เอง แต่ไม่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ทัน 💠 ความต้องการหน่วยความจำ LPDDR5X สำหรับ Lunar Lake มีเพียงพอ แต่ปัญหาหลักคือ การเข้าถึงกำลังผลิตเวเฟอร์ขั้นสูงของ TSMC ที่ถูกใช้งานเต็มกำลังจากความต้องการ AI ทั่วโลก 🌍 ผลกระทบต่อธุรกิจและตลาด แม้ตลาดพีซีโดยรวมจะไม่เติบโตสูง แต่ความต้องการ AI PC กลับพุ่งขึ้นอย่างมาก ทำให้ Intel ไม่สามารถตอบสนองได้ทันเวลา ส่งผลให้คู่แข่งอย่าง AMD และ Qualcomm มีโอกาสแย่งส่วนแบ่งตลาด ขณะเดียวกัน Intel ยังต้องจัดสรรเวเฟอร์สำหรับ Xeon 6 Granite Rapids ที่ใช้ Intel 3 ซึ่งก็มีข้อจำกัดด้านกำลังผลิตเช่นกัน ⚠️ ความเสี่ยงและข้อควรระวัง หาก Intel ไม่สามารถแก้ปัญหาการจัดหากำลังผลิตจาก TSMC ได้ทันเวลา อาจต้องเผชิญกับการปรับขึ้นราคาชิป และเสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้าองค์กรและผู้บริโภคที่ต้องการพีซี AI รุ่นใหม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Intel ยอมรับปัญหาขาดแคลนเวเฟอร์ Core Ultra 200 ➡️ Lunar Lake และ Arrow Lake ไม่สามารถผลิตได้ตามความต้องการ ✅ สาเหตุจากการสั่งจองกำลังผลิต TSMC น้อยเกินไป ➡️ ใช้เทคโนโลยี N3B ที่มีความต้องการสูงทั่วโลก ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจและตลาด ➡️ คู่แข่งอย่าง AMD และ Qualcomm มีโอกาสแย่งส่วนแบ่งตลาด AI PC ‼️ คำเตือนต่อ Intel และผู้บริโภค ⛔ อาจต้องปรับขึ้นราคาชิปหากไม่สามารถแก้ปัญหากำลังผลิตได้ ⛔ เสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นในตลาด AI PC https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-admits-it-needs-more-core-ultra-200-series-wafers-if-we-had-more-lunar-lake-wafers-we-would-be-selling-more-lunar-lake
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • Cloudflare ป้องกันบอท AI 416 พันล้านครั้ง
    Matthew Prince ซีอีโอของ Cloudflare ระบุว่า บริษัทได้ทำให้การบล็อกบอท AI เป็นค่าเริ่มต้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2025 ภายใต้โครงการ Content Independence Day โดยเว็บไซต์สามารถเลือกได้ว่าจะอนุญาตให้ AI เข้าถึงข้อมูลหรือไม่ หากไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์ก็จะถูกบล็อกทันที ยกเว้น Google ที่รวมการทำงานของ crawler สำหรับ Search และ AI เข้าด้วยกัน ทำให้ไม่สามารถบล็อก AI โดยไม่กระทบต่อการจัดอันดับใน Search ได้

    ผลกระทบต่อโมเดลธุรกิจอินเทอร์เน็ต
    Prince เตือนว่า โมเดลธุรกิจอินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากเดิมที่เว็บไซต์สร้างรายได้จากการเข้าชมของมนุษย์ผ่านโฆษณาและการสมัครสมาชิก แต่เมื่อ AI เข้ามาเก็บข้อมูลโดยตรงและสร้างสรุปให้ผู้ใช้ การเข้าชมเว็บไซต์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รายได้ของผู้สร้างคอนเทนต์ถูกกระทบหนัก

    ความเสี่ยงและความท้าทาย
    แม้การบล็อกบอท AI จะช่วยปกป้องผู้สร้างคอนเทนต์ แต่ก็ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ เช่น การพึ่งพาบริษัทใหญ่ไม่กี่รายที่ควบคุมโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต (AWS, Azure, Cloudflare, Google) หากระบบเหล่านี้ล่มหรือถูกโจมตี อาจสร้างความเสียหายมหาศาลต่อธุรกิจทั่วโลก

    คำเตือนจาก Cloudflare
    Prince ระบุว่า หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม อนาคตอินเทอร์เน็ตอาจถูกครอบงำโดย AI ที่ใช้ข้อมูลจากมนุษย์โดยไม่จ่ายค่าตอบแทน ซึ่งจะทำให้คอนเทนต์ที่มีคุณภาพลดลง และผู้สร้างอิสระไม่สามารถแข่งขันได้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Cloudflare บล็อกบอท AI กว่า 416 พันล้านครั้งใน 5 เดือน
    เปิดตัวโครงการ Content Independence Day ให้เว็บไซต์เลือกบล็อก AI ได้

    โมเดลธุรกิจอินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลง
    การเข้าชมจากมนุษย์ลดลงเพราะ AI สรุปข้อมูลแทน

    ความเสี่ยงจากการพึ่งพาบริษัทใหญ่ไม่กี่ราย
    หากระบบล่มหรือถูกโจมตี อาจกระทบอินเทอร์เน็ตทั่วโลก

    คำเตือนจาก Cloudflare
    อนาคตอินเทอร์เน็ตอาจถูกครอบงำโดย AI หากไม่จ่ายค่าตอบแทนผู้สร้างคอนเทนต์
    คุณภาพคอนเทนต์อาจลดลง และผู้สร้างอิสระอาจไม่สามารถแข่งขันได้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/cloudflare-says-it-has-fended-off-416-billion-ai-bot-scrape-requests-in-five-months-ceo-warns-of-dramatic-shift-for-internet-business-model
    🌐 Cloudflare ป้องกันบอท AI 416 พันล้านครั้ง Matthew Prince ซีอีโอของ Cloudflare ระบุว่า บริษัทได้ทำให้การบล็อกบอท AI เป็นค่าเริ่มต้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2025 ภายใต้โครงการ Content Independence Day โดยเว็บไซต์สามารถเลือกได้ว่าจะอนุญาตให้ AI เข้าถึงข้อมูลหรือไม่ หากไม่จ่ายค่าลิขสิทธิ์ก็จะถูกบล็อกทันที ยกเว้น Google ที่รวมการทำงานของ crawler สำหรับ Search และ AI เข้าด้วยกัน ทำให้ไม่สามารถบล็อก AI โดยไม่กระทบต่อการจัดอันดับใน Search ได้ 💡 ผลกระทบต่อโมเดลธุรกิจอินเทอร์เน็ต Prince เตือนว่า โมเดลธุรกิจอินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากเดิมที่เว็บไซต์สร้างรายได้จากการเข้าชมของมนุษย์ผ่านโฆษณาและการสมัครสมาชิก แต่เมื่อ AI เข้ามาเก็บข้อมูลโดยตรงและสร้างสรุปให้ผู้ใช้ การเข้าชมเว็บไซต์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้รายได้ของผู้สร้างคอนเทนต์ถูกกระทบหนัก 📊 ความเสี่ยงและความท้าทาย แม้การบล็อกบอท AI จะช่วยปกป้องผู้สร้างคอนเทนต์ แต่ก็ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ เช่น การพึ่งพาบริษัทใหญ่ไม่กี่รายที่ควบคุมโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต (AWS, Azure, Cloudflare, Google) หากระบบเหล่านี้ล่มหรือถูกโจมตี อาจสร้างความเสียหายมหาศาลต่อธุรกิจทั่วโลก ⚠️ คำเตือนจาก Cloudflare Prince ระบุว่า หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม อนาคตอินเทอร์เน็ตอาจถูกครอบงำโดย AI ที่ใช้ข้อมูลจากมนุษย์โดยไม่จ่ายค่าตอบแทน ซึ่งจะทำให้คอนเทนต์ที่มีคุณภาพลดลง และผู้สร้างอิสระไม่สามารถแข่งขันได้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Cloudflare บล็อกบอท AI กว่า 416 พันล้านครั้งใน 5 เดือน ➡️ เปิดตัวโครงการ Content Independence Day ให้เว็บไซต์เลือกบล็อก AI ได้ ✅ โมเดลธุรกิจอินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลง ➡️ การเข้าชมจากมนุษย์ลดลงเพราะ AI สรุปข้อมูลแทน ✅ ความเสี่ยงจากการพึ่งพาบริษัทใหญ่ไม่กี่ราย ➡️ หากระบบล่มหรือถูกโจมตี อาจกระทบอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ‼️ คำเตือนจาก Cloudflare ⛔ อนาคตอินเทอร์เน็ตอาจถูกครอบงำโดย AI หากไม่จ่ายค่าตอบแทนผู้สร้างคอนเทนต์ ⛔ คุณภาพคอนเทนต์อาจลดลง และผู้สร้างอิสระอาจไม่สามารถแข่งขันได้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/cloudflare-says-it-has-fended-off-416-billion-ai-bot-scrape-requests-in-five-months-ceo-warns-of-dramatic-shift-for-internet-business-model
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • Logitech วิจารณ์กระแสอุปกรณ์ AI

    Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg เนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปีการดำรงตำแหน่ง เธอชี้ว่า อุปกรณ์ AI-first ที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา เช่น Humane AI Pin และ Rabbit R1 ไม่สามารถสร้างตลาดที่ชัดเจนได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านความเร็ว ฟีเจอร์ และราคาที่ต้องพึ่งพาการสมัครสมาชิก ทำให้ผู้ใช้ตั้งคำถามว่า “จำเป็นจริงหรือไม่”

    กลยุทธ์ของ Logitech
    แทนที่จะสร้างอุปกรณ์ใหม่รอบ AI Logitech เลือกที่จะ ฝังฟีเจอร์ AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์เดิม เช่น กล้องเว็บแคมที่มีระบบจัดเฟรมอัตโนมัติและกรองเสียงรบกวน หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีช็อตคัตเชื่อมต่อกับ ChatGPT และ Microsoft Copilot กลยุทธ์นี้สะท้อนถึงแนวคิดว่า AI ควรเสริมการทำงานในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่สร้างอุปกรณ์ใหม่ที่ผู้ใช้ยังไม่เห็นคุณค่า

    มุมมองต่ออุตสาหกรรม
    Faber ระบุว่า สมาร์ทโฟนและพีซี กำลังพัฒนาโมเดล AI บนเครื่องที่ทรงพลังขึ้นเรื่อย ๆ และมีการเชื่อมต่อกับผู้ช่วยบนคลาวด์อยู่แล้ว ทำให้การสร้างอุปกรณ์ AI แยกออกมาไม่ใช่สิ่งจำเป็น ขณะเดียวกัน Logitech ยังคงรักษาเสถียรภาพด้านซัพพลายเชน โดยกระจายการผลิตไปกว่า 5 ประเทศ และฟื้นยอดขายกลับสู่ระดับก่อนโควิด-19

    ความท้าทายของตลาด AI-first gadgets
    แม้จะมีการลงทุนจากบริษัทใหญ่ เช่น HP ที่ซื้อกิจการ Humane แต่กระแสตอบรับยังไม่ดีนัก หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ผู้ช่วยอัจฉริยะควรอยู่ในอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่แล้ว มากกว่าการสร้างฮาร์ดแวร์ใหม่ที่มีต้นทุนสูงและเสี่ยงต่อการล้มเหลว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ซีอีโอ Logitech วิจารณ์อุปกรณ์ AI-first
    มองว่าแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง

    กลยุทธ์ Logitech เน้นฝัง AI ในผลิตภัณฑ์เดิม
    เช่น เว็บแคมอัจฉริยะ และเมาส์ MX Master 4

    สมาร์ทโฟนและพีซีมีศักยภาพเพียงพอ
    ไม่จำเป็นต้องสร้างอุปกรณ์ AI แยกออกมา

    คำเตือนต่อผู้ผลิต AI gadgets
    ตลาดยังไม่พิสูจน์ว่ามีความต้องการจริง
    ต้นทุนสูงและเสี่ยงต่อการล้มเหลวทางธุรกิจ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/logitech-ceo-says-ai-gadget-makers-are-chasing-problems-that-dont-exist
    📰 Logitech วิจารณ์กระแสอุปกรณ์ AI Hanneke Faber ซีอีโอของ Logitech ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg เนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปีการดำรงตำแหน่ง เธอชี้ว่า อุปกรณ์ AI-first ที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมา เช่น Humane AI Pin และ Rabbit R1 ไม่สามารถสร้างตลาดที่ชัดเจนได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านความเร็ว ฟีเจอร์ และราคาที่ต้องพึ่งพาการสมัครสมาชิก ทำให้ผู้ใช้ตั้งคำถามว่า “จำเป็นจริงหรือไม่” 🔧 กลยุทธ์ของ Logitech แทนที่จะสร้างอุปกรณ์ใหม่รอบ AI Logitech เลือกที่จะ ฝังฟีเจอร์ AI เข้าไปในผลิตภัณฑ์เดิม เช่น กล้องเว็บแคมที่มีระบบจัดเฟรมอัตโนมัติและกรองเสียงรบกวน หรือเมาส์ MX Master 4 ที่มีช็อตคัตเชื่อมต่อกับ ChatGPT และ Microsoft Copilot กลยุทธ์นี้สะท้อนถึงแนวคิดว่า AI ควรเสริมการทำงานในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่สร้างอุปกรณ์ใหม่ที่ผู้ใช้ยังไม่เห็นคุณค่า 🌍 มุมมองต่ออุตสาหกรรม Faber ระบุว่า สมาร์ทโฟนและพีซี กำลังพัฒนาโมเดล AI บนเครื่องที่ทรงพลังขึ้นเรื่อย ๆ และมีการเชื่อมต่อกับผู้ช่วยบนคลาวด์อยู่แล้ว ทำให้การสร้างอุปกรณ์ AI แยกออกมาไม่ใช่สิ่งจำเป็น ขณะเดียวกัน Logitech ยังคงรักษาเสถียรภาพด้านซัพพลายเชน โดยกระจายการผลิตไปกว่า 5 ประเทศ และฟื้นยอดขายกลับสู่ระดับก่อนโควิด-19 ⚠️ ความท้าทายของตลาด AI-first gadgets แม้จะมีการลงทุนจากบริษัทใหญ่ เช่น HP ที่ซื้อกิจการ Humane แต่กระแสตอบรับยังไม่ดีนัก หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ผู้ช่วยอัจฉริยะควรอยู่ในอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่แล้ว มากกว่าการสร้างฮาร์ดแวร์ใหม่ที่มีต้นทุนสูงและเสี่ยงต่อการล้มเหลว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ซีอีโอ Logitech วิจารณ์อุปกรณ์ AI-first ➡️ มองว่าแก้ปัญหาที่ไม่มีอยู่จริง ✅ กลยุทธ์ Logitech เน้นฝัง AI ในผลิตภัณฑ์เดิม ➡️ เช่น เว็บแคมอัจฉริยะ และเมาส์ MX Master 4 ✅ สมาร์ทโฟนและพีซีมีศักยภาพเพียงพอ ➡️ ไม่จำเป็นต้องสร้างอุปกรณ์ AI แยกออกมา ‼️ คำเตือนต่อผู้ผลิต AI gadgets ⛔ ตลาดยังไม่พิสูจน์ว่ามีความต้องการจริง ⛔ ต้นทุนสูงและเสี่ยงต่อการล้มเหลวทางธุรกิจ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/logitech-ceo-says-ai-gadget-makers-are-chasing-problems-that-dont-exist
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AI gadget makers are chasing problems that don't exist, Logitech CEO says — also details supply chain and pricing strategy
    Hanneke Faber argues that dedicated AI devices have yet to justify themselves as Logitech focuses on practical integrations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple และ Tesla ถูกฟ้องเรื่องสิทธิมนุษยชน

    องค์กร International Rights Advocates ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ยื่นฟ้อง Apple และ Tesla ต่อศาล โดยกล่าวหาว่าทั้งสองบริษัทใช้ การตลาดที่หลอกลวง อ้างว่าสินค้าของตนผลิตอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม แต่ในความจริงกลับพึ่งพาแร่ โคบอลต์และโคลแทน จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งเชื่อมโยงกับการใช้แรงงานเด็ก การข่มขืน การทรมาน และการสังหาร

    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
    รายงานระบุว่าการทำเหมืองในคองโกได้สร้างผลกระทบมหาศาลต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยสารเคมีลงแม่น้ำและทะเลสาบ ทำลายแหล่งน้ำดื่มและเกษตรกรรม รวมถึงทำให้เกิดโรคผิวหนังและความผิดปกติทางสุขภาพในชุมชน ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งเพื่อแย่งชิงทรัพยากรได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996 และยังคงทำให้ผู้คนหลายล้านต้องพลัดถิ่น

    คำตอบจากบริษัท
    Apple ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า 99% ของโคบอลต์ในแบตเตอรี่ที่ออกแบบโดย Apple มาจากการรีไซเคิล และบริษัทได้สั่งให้ซัพพลายเออร์หยุดการจัดหาจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง Tesla ยังไม่ได้ให้คำตอบต่อสื่อ แต่ถูกกล่าวหาว่าใช้ซัพพลายเออร์เดียวกันกับ Apple ซึ่งมีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชน

    ความเสี่ยงและข้อกังวล
    แม้บริษัทจะมีนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม แต่รายงานชี้ว่าการบังคับใช้ยังไม่เพียงพอ และมีความเสี่ยงสูงที่แร่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์จะยังคงเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิและการทำลายสิ่งแวดล้อม หากไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างโปร่งใส

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Apple และ Tesla ถูกฟ้องในสหรัฐฯ
    ข้อกล่าวหาว่าใช้การตลาดหลอกลวงเกี่ยวกับการผลิตที่ยั่งยืน

    การใช้แร่โคบอลต์และโคลแทนจากคองโก
    เชื่อมโยงกับแรงงานเด็ก การทรมาน และการสังหาร

    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน
    สารเคมีทำลายแหล่งน้ำและเกษตรกรรม ก่อโรคและความเสียหายต่อสุขภาพ

    คำเตือนและข้อกังวล
    ความขัดแย้งในคองโกคร่าชีวิตประชาชนกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996
    การตรวจสอบย้อนกลับของซัพพลายเชนยังไม่โปร่งใสและเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/apple-tesla-accused-of-profiting-from-horrific-abuses-environmental-destruction
    ⚖️ Apple และ Tesla ถูกฟ้องเรื่องสิทธิมนุษยชน องค์กร International Rights Advocates ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ยื่นฟ้อง Apple และ Tesla ต่อศาล โดยกล่าวหาว่าทั้งสองบริษัทใช้ การตลาดที่หลอกลวง อ้างว่าสินค้าของตนผลิตอย่างยั่งยืนและมีจริยธรรม แต่ในความจริงกลับพึ่งพาแร่ โคบอลต์และโคลแทน จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งเชื่อมโยงกับการใช้แรงงานเด็ก การข่มขืน การทรมาน และการสังหาร 🌍 ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม รายงานระบุว่าการทำเหมืองในคองโกได้สร้างผลกระทบมหาศาลต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การปล่อยสารเคมีลงแม่น้ำและทะเลสาบ ทำลายแหล่งน้ำดื่มและเกษตรกรรม รวมถึงทำให้เกิดโรคผิวหนังและความผิดปกติทางสุขภาพในชุมชน ขณะเดียวกัน ความขัดแย้งเพื่อแย่งชิงทรัพยากรได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996 และยังคงทำให้ผู้คนหลายล้านต้องพลัดถิ่น 🛑 คำตอบจากบริษัท Apple ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า 99% ของโคบอลต์ในแบตเตอรี่ที่ออกแบบโดย Apple มาจากการรีไซเคิล และบริษัทได้สั่งให้ซัพพลายเออร์หยุดการจัดหาจากพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง Tesla ยังไม่ได้ให้คำตอบต่อสื่อ แต่ถูกกล่าวหาว่าใช้ซัพพลายเออร์เดียวกันกับ Apple ซึ่งมีประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชน ⚠️ ความเสี่ยงและข้อกังวล แม้บริษัทจะมีนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม แต่รายงานชี้ว่าการบังคับใช้ยังไม่เพียงพอ และมีความเสี่ยงสูงที่แร่ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์จะยังคงเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิและการทำลายสิ่งแวดล้อม หากไม่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างโปร่งใส 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Apple และ Tesla ถูกฟ้องในสหรัฐฯ ➡️ ข้อกล่าวหาว่าใช้การตลาดหลอกลวงเกี่ยวกับการผลิตที่ยั่งยืน ✅ การใช้แร่โคบอลต์และโคลแทนจากคองโก ➡️ เชื่อมโยงกับแรงงานเด็ก การทรมาน และการสังหาร ✅ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ➡️ สารเคมีทำลายแหล่งน้ำและเกษตรกรรม ก่อโรคและความเสียหายต่อสุขภาพ ‼️ คำเตือนและข้อกังวล ⛔ ความขัดแย้งในคองโกคร่าชีวิตประชาชนกว่า 6 ล้านคนตั้งแต่ปี 1996 ⛔ การตรวจสอบย้อนกลับของซัพพลายเชนยังไม่โปร่งใสและเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/apple-tesla-accused-of-profiting-from-horrific-abuses-environmental-destruction
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Apple, Tesla accused of profiting from horrific abuses, environmental destruction
    According to the filing, Apple's suppliers engage in forced and child labour, and beatings of workers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta ซื้อกิจการ Limitless

    เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 Meta ประกาศเข้าซื้อกิจการ Limitless (เดิมชื่อ Rewind) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่พัฒนาอุปกรณ์สวมใส่รูปแบบ pendant ที่สามารถบันทึกเสียงการสนทนา ถอดความ และสร้างสรุปที่ค้นหาได้ผ่านแอปพลิเคชันคู่ข้าง อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็น AI assistant ส่วนตัว ที่ช่วยเสริมความจำและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในชีวิตประจำวัน

    กลยุทธ์ของ Meta ในตลาด AI Wearables
    ดีลนี้เกิดขึ้นหลังจาก Meta เพิ่งดึงตัว Alan Dye อดีตผู้บริหารด้านการออกแบบของ Apple เข้ามาเสริมทีม เพื่อเน้นการพัฒนาอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่มีความล้ำสมัยมากขึ้น ปัจจุบัน Meta มีความร่วมมือกับ EssilorLuxottica (เจ้าของแบรนด์ Ray-Ban และ Oakley) ในการผลิต AI-powered smart glasses และการซื้อ Limitless จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางเทคนิคในการสร้างอุปกรณ์สวมใส่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น

    ผลกระทบต่อผู้ใช้งานและตลาด
    แม้ Meta จะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดทางการเงิน แต่ Limitless ยืนยันว่าจะยังคงสนับสนุนผู้ใช้เดิมต่อไป อย่างไรก็ตาม บริษัทจะ หยุดขายอุปกรณ์ใหม่ให้ลูกค้าใหม่ และผู้ใช้ปัจจุบันต้องยอมรับเงื่อนไขความเป็นส่วนตัวใหม่เพื่อใช้งานต่อไป Limitless เคยระดมทุนได้กว่า 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนรายใหญ่ เช่น Sam Altman และ Andreessen Horowitz (A16z) ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจในตลาด AI wearables ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    แม้การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วย Meta เร่งพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่อง ความเป็นส่วนตัว เนื่องจากอุปกรณ์ Limitless สามารถบันทึกการสนทนาในชีวิตจริงได้ตลอดเวลา หากไม่มีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวด อาจนำไปสู่การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลและสร้างความกังวลต่อผู้ใช้และสังคมโดยรวม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Meta เข้าซื้อกิจการ Limitless
    อุปกรณ์ “pendant” บันทึกและถอดความการสนทนา

    เสริมกลยุทธ์ AI-enabled consumer hardware
    ร่วมมือกับ Ray-Ban และ Oakley ในการพัฒนา smart glasses

    ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน
    ผู้ใช้เดิมยังได้รับการสนับสนุน แต่หยุดขายให้ลูกค้าใหม่

    คำเตือนด้านความเป็นส่วนตัว
    อุปกรณ์สามารถบันทึกการสนทนาได้ตลอดเวลา
    ผู้ใช้ต้องยอมรับเงื่อนไขใหม่เพื่อใช้งานต่อไป

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/meta-acquires-ai-wearables-startup-limitless
    📰 Meta ซื้อกิจการ Limitless เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 Meta ประกาศเข้าซื้อกิจการ Limitless (เดิมชื่อ Rewind) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่พัฒนาอุปกรณ์สวมใส่รูปแบบ pendant ที่สามารถบันทึกเสียงการสนทนา ถอดความ และสร้างสรุปที่ค้นหาได้ผ่านแอปพลิเคชันคู่ข้าง อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เป็น AI assistant ส่วนตัว ที่ช่วยเสริมความจำและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในชีวิตประจำวัน 🤝 กลยุทธ์ของ Meta ในตลาด AI Wearables ดีลนี้เกิดขึ้นหลังจาก Meta เพิ่งดึงตัว Alan Dye อดีตผู้บริหารด้านการออกแบบของ Apple เข้ามาเสริมทีม เพื่อเน้นการพัฒนาอุปกรณ์รุ่นใหม่ที่มีความล้ำสมัยมากขึ้น ปัจจุบัน Meta มีความร่วมมือกับ EssilorLuxottica (เจ้าของแบรนด์ Ray-Ban และ Oakley) ในการผลิต AI-powered smart glasses และการซื้อ Limitless จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางเทคนิคในการสร้างอุปกรณ์สวมใส่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น 🌐 ผลกระทบต่อผู้ใช้งานและตลาด แม้ Meta จะยังไม่เปิดเผยรายละเอียดทางการเงิน แต่ Limitless ยืนยันว่าจะยังคงสนับสนุนผู้ใช้เดิมต่อไป อย่างไรก็ตาม บริษัทจะ หยุดขายอุปกรณ์ใหม่ให้ลูกค้าใหม่ และผู้ใช้ปัจจุบันต้องยอมรับเงื่อนไขความเป็นส่วนตัวใหม่เพื่อใช้งานต่อไป Limitless เคยระดมทุนได้กว่า 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนักลงทุนรายใหญ่ เช่น Sam Altman และ Andreessen Horowitz (A16z) ซึ่งสะท้อนถึงความสนใจในตลาด AI wearables ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ⚠️ ความท้าทายและข้อควรระวัง แม้การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วย Meta เร่งพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่อง ความเป็นส่วนตัว เนื่องจากอุปกรณ์ Limitless สามารถบันทึกการสนทนาในชีวิตจริงได้ตลอดเวลา หากไม่มีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวด อาจนำไปสู่การละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลและสร้างความกังวลต่อผู้ใช้และสังคมโดยรวม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Meta เข้าซื้อกิจการ Limitless ➡️ อุปกรณ์ “pendant” บันทึกและถอดความการสนทนา ✅ เสริมกลยุทธ์ AI-enabled consumer hardware ➡️ ร่วมมือกับ Ray-Ban และ Oakley ในการพัฒนา smart glasses ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน ➡️ ผู้ใช้เดิมยังได้รับการสนับสนุน แต่หยุดขายให้ลูกค้าใหม่ ‼️ คำเตือนด้านความเป็นส่วนตัว ⛔ อุปกรณ์สามารถบันทึกการสนทนาได้ตลอดเวลา ⛔ ผู้ใช้ต้องยอมรับเงื่อนไขใหม่เพื่อใช้งานต่อไป https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/06/meta-acquires-ai-wearables-startup-limitless
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta acquires AI-wearables startup Limitless
    Dec 5 (Reuters) - Meta has acquired AI-wearables startup Limitless, maker of a pendant-style device that records and transcribes real-world conversations, as the social media giant doubles down on efforts to build AI-enabled consumer hardware.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • Criminal IP Webinar – Beyond CVEs สู่การจัดการ Attack Surface

    Criminal IP เตรียมจัด Webinar วันที่ 16 ธันวาคม 2025 เวลา 11:00 AM PT โดยเน้นการเปลี่ยนมุมมองจากการพึ่งพา CVEs ไปสู่การจัดการช่องโหว่ที่เกิดจาก exposed digital assets ผ่านแพลตฟอร์ม Attack Surface Management (ASM) ที่ใช้ AI และ Threat Intelligence

    การโจมตีสมัยใหม่จำนวนมากไม่ได้เริ่มจากช่องโหว่ซอฟต์แวร์ที่มี CVE แต่เกิดจาก ทรัพย์สินดิจิทัลที่ถูกเปิดเผยโดยไม่ตั้งใจ เช่น cloud instances ที่ถูกลืม, API ที่เปิดสาธารณะ, storage ที่ตั้งค่าผิด หรือบริการที่เข้าถึงได้โดยไม่ป้องกัน สิ่งเหล่านี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการโจมตีจริงในองค์กร

    Attack Surface Management (ASM) คือคำตอบ
    Criminal IP ASM ใช้ AI และ Threat Intelligence เพื่อช่วยทีมรักษาความปลอดภัย ตรวจจับและมองเห็นความเสี่ยงก่อนที่จะเกิดเหตุ โดยสามารถระบุเส้นทางการโจมตีที่ซ่อนอยู่, ลดการเปิดเผยข้อมูล และทำให้การป้องกันเชิงรุกเป็นไปได้จริง

    เนื้อหาที่จะนำเสนอใน Webinar
    ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้:
    ทำไมการพึ่งพา CVEs เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ
    ตัวอย่างจริงของการเปิดเผย cloud และบริการที่ถูกโจมตี
    วิธีที่ผู้โจมตีประเมินและใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่เปิดเผย
    กรณีศึกษา ASM ที่ช่วยป้องกันเหตุการณ์ร้ายแรง

    ความร่วมมือและการเข้าถึง
    Criminal IP เป็นแพลตฟอร์ม Threat Intelligence ที่ใช้งานในกว่า 150 ประเทศ และมีพันธมิตรกับ Cisco, VirusTotal และ Quad9 รวมถึงให้บริการข้อมูลผ่าน AWS, Microsoft Azure และ Snowflake เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลภัยคุกคามได้ทั่วโลก

    สรุปสาระสำคัญ
    Webinar วันที่ 16 ธันวาคม 2025
    เวลา 11:00 AM PT
    ฟรีสำหรับผู้เข้าร่วม

    ทำไม CVEs ไม่พอ
    การโจมตีเริ่มจากทรัพย์สินดิจิทัลที่ถูกเปิดเผย
    ตัวอย่างเช่น cloud, API, storage misconfig

    ASM ของ Criminal IP
    ใช้ AI และ Threat Intelligence
    ตรวจจับเส้นทางโจมตีและลดการเปิดเผย

    เนื้อหา Webinar
    กรณีศึกษา ASM
    วิธีคิดของผู้โจมตีต่อ exposed assets

    Ecosystem ของ Criminal IP
    ใช้งานในกว่า 150 ประเทศ
    พันธมิตรกับ Cisco, VirusTotal, Quad9

    คำเตือนสำหรับองค์กร
    การพึ่งพา CVEs อย่างเดียวเสี่ยงต่อการโจมตีสมัยใหม่
    หากไม่จัดการทรัพย์สินดิจิทัลที่ถูกเปิดเผย อาจเกิดเหตุร้ายแรงได้

    https://hackread.com/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm/
    📰 Criminal IP Webinar – Beyond CVEs สู่การจัดการ Attack Surface Criminal IP เตรียมจัด Webinar วันที่ 16 ธันวาคม 2025 เวลา 11:00 AM PT โดยเน้นการเปลี่ยนมุมมองจากการพึ่งพา CVEs ไปสู่การจัดการช่องโหว่ที่เกิดจาก exposed digital assets ผ่านแพลตฟอร์ม Attack Surface Management (ASM) ที่ใช้ AI และ Threat Intelligence การโจมตีสมัยใหม่จำนวนมากไม่ได้เริ่มจากช่องโหว่ซอฟต์แวร์ที่มี CVE แต่เกิดจาก ทรัพย์สินดิจิทัลที่ถูกเปิดเผยโดยไม่ตั้งใจ เช่น cloud instances ที่ถูกลืม, API ที่เปิดสาธารณะ, storage ที่ตั้งค่าผิด หรือบริการที่เข้าถึงได้โดยไม่ป้องกัน สิ่งเหล่านี้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการโจมตีจริงในองค์กร 🧠 Attack Surface Management (ASM) คือคำตอบ Criminal IP ASM ใช้ AI และ Threat Intelligence เพื่อช่วยทีมรักษาความปลอดภัย ตรวจจับและมองเห็นความเสี่ยงก่อนที่จะเกิดเหตุ โดยสามารถระบุเส้นทางการโจมตีที่ซ่อนอยู่, ลดการเปิดเผยข้อมูล และทำให้การป้องกันเชิงรุกเป็นไปได้จริง 📚 เนื้อหาที่จะนำเสนอใน Webinar ผู้เข้าร่วมจะได้เรียนรู้: 💠 ทำไมการพึ่งพา CVEs เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ 💠 ตัวอย่างจริงของการเปิดเผย cloud และบริการที่ถูกโจมตี 💠 วิธีที่ผู้โจมตีประเมินและใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่เปิดเผย 💠 กรณีศึกษา ASM ที่ช่วยป้องกันเหตุการณ์ร้ายแรง 🌐 ความร่วมมือและการเข้าถึง Criminal IP เป็นแพลตฟอร์ม Threat Intelligence ที่ใช้งานในกว่า 150 ประเทศ และมีพันธมิตรกับ Cisco, VirusTotal และ Quad9 รวมถึงให้บริการข้อมูลผ่าน AWS, Microsoft Azure และ Snowflake เพื่อให้เข้าถึงข้อมูลภัยคุกคามได้ทั่วโลก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Webinar วันที่ 16 ธันวาคม 2025 ➡️ เวลา 11:00 AM PT ➡️ ฟรีสำหรับผู้เข้าร่วม ✅ ทำไม CVEs ไม่พอ ➡️ การโจมตีเริ่มจากทรัพย์สินดิจิทัลที่ถูกเปิดเผย ➡️ ตัวอย่างเช่น cloud, API, storage misconfig ✅ ASM ของ Criminal IP ➡️ ใช้ AI และ Threat Intelligence ➡️ ตรวจจับเส้นทางโจมตีและลดการเปิดเผย ✅ เนื้อหา Webinar ➡️ กรณีศึกษา ASM ➡️ วิธีคิดของผู้โจมตีต่อ exposed assets ✅ Ecosystem ของ Criminal IP ➡️ ใช้งานในกว่า 150 ประเทศ ➡️ พันธมิตรกับ Cisco, VirusTotal, Quad9 ‼️ คำเตือนสำหรับองค์กร ⛔ การพึ่งพา CVEs อย่างเดียวเสี่ยงต่อการโจมตีสมัยใหม่ ⛔ หากไม่จัดการทรัพย์สินดิจิทัลที่ถูกเปิดเผย อาจเกิดเหตุร้ายแรงได้ https://hackread.com/criminal-ip-to-host-webinar-beyond-cves-from-visibility-to-action-with-asm/
    HACKREAD.COM
    Criminal IP to Host Webinar: Beyond CVEs – From Visibility to Action with ASM
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • หูฟังไร้สาย – เทคโนโลยีเล็ก ๆ ที่ช่วยชีวิตผู้มี Autism

    บทความจาก SlashGear เล่าเรื่องราวของผู้เขียนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น Autism ระดับ 1 ร่วมกับ ADHD และรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบต้องถูกตีความใหม่ แต่สิ่งที่ช่วยให้เขากลับมามีสมดุลในชีวิตคือ หูฟังไร้สาย (True Wireless Earbuds) ที่มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนและการปรับแต่งเสียงเพื่อช่วยให้การสื่อสารและการใช้ชีวิตง่ายขึ้น

    ผู้เขียนเล่าว่าหลังจากผ่านการทดสอบทางจิตวิทยา 6 ชั่วโมง ผลออกมาว่าเป็น Autism ระดับ 1 และ ADHD ทำให้ต้องตีความชีวิตใหม่ทั้งหมด สิ่งที่เคยเป็นปัญหา เช่น ความไวต่อเสียงและการสื่อสารในที่แออัด กลายเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของโรค

    ปัญหาการประมวลผลเสียง
    สมองของคนทั่วไปสามารถกรองเสียงรบกวนออก แต่สมองของผู้มี Autism มักจะให้ความสำคัญกับทุกเสียงเท่า ๆ กัน ทำให้การอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือสถานที่แออัดเหมือนอยู่ในสนามรบ หูฟังที่มี Active Noise Cancelling (ANC) จึงช่วยลดภาวะ “fight or flight” ที่เกิดขึ้นจากเสียงรบกวนได้จริง

    ฟีเจอร์ช่วยเหลือการสื่อสาร
    หูฟังรุ่นใหม่ เช่น Samsung Galaxy Buds3 Pro หรือ AirPods Pro มีฟีเจอร์ “Boost voices in front of you” ที่ช่วยขยายเสียงพูดตรงหน้าและลดเสียงรอบข้าง ทำให้ผู้เขียนสามารถสื่อสารกับเภสัชกรได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องอ่านปาก ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตประจำวัน

    เทคโนโลยีเพื่อการเข้าถึง
    บทความชี้ว่าแม้บริษัทใหญ่เช่น Apple และ Samsung อาจไม่ได้กำไรโดยตรงจากการเพิ่มฟีเจอร์ด้านการเข้าถึง แต่การพัฒนาเหล่านี้กลับช่วยผู้มีความบกพร่องทางการได้ยินและ Autism ได้มาก เป็นตัวอย่างของเทคโนโลยีที่ไม่เพียงตอบโจทย์ตลาดทั่วไป แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้ที่มีความต้องการพิเศษ

    สรุปสาระสำคัญ
    การวินิจฉัย Autism และ ADHD
    ทำให้ผู้เขียนต้องตีความชีวิตใหม่
    ความไวต่อเสียงเป็นปัญหาหลัก

    ปัญหาการประมวลผลเสียง
    สมองไม่กรองเสียงรบกวน
    สถานที่แออัดเหมือนสนามรบ

    ฟีเจอร์หูฟังช่วยชีวิต
    Active Noise Cancelling ลดภาวะ fight or flight
    Boost voices in front of you ช่วยสื่อสารชัดเจน

    เทคโนโลยีเพื่อการเข้าถึง
    Apple และ Samsung เพิ่มฟีเจอร์แม้ไม่มีกำไรสูง
    ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้มีความต้องการพิเศษ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปอาจทำให้ละเลยการพัฒนาทักษะอื่น
    ฟีเจอร์บางอย่างยังไม่รองรับทุกอุปกรณ์และอาจมีข้อจำกัด

    https://www.slashgear.com/2043765/autism-diagnosis-upended-sense-self-this-gadget-help-reclaim-it/
    📰 หูฟังไร้สาย – เทคโนโลยีเล็ก ๆ ที่ช่วยชีวิตผู้มี Autism บทความจาก SlashGear เล่าเรื่องราวของผู้เขียนที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น Autism ระดับ 1 ร่วมกับ ADHD และรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบต้องถูกตีความใหม่ แต่สิ่งที่ช่วยให้เขากลับมามีสมดุลในชีวิตคือ หูฟังไร้สาย (True Wireless Earbuds) ที่มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนและการปรับแต่งเสียงเพื่อช่วยให้การสื่อสารและการใช้ชีวิตง่ายขึ้น ผู้เขียนเล่าว่าหลังจากผ่านการทดสอบทางจิตวิทยา 6 ชั่วโมง ผลออกมาว่าเป็น Autism ระดับ 1 และ ADHD ทำให้ต้องตีความชีวิตใหม่ทั้งหมด สิ่งที่เคยเป็นปัญหา เช่น ความไวต่อเสียงและการสื่อสารในที่แออัด กลายเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของโรค 🔊 ปัญหาการประมวลผลเสียง สมองของคนทั่วไปสามารถกรองเสียงรบกวนออก แต่สมองของผู้มี Autism มักจะให้ความสำคัญกับทุกเสียงเท่า ๆ กัน ทำให้การอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือสถานที่แออัดเหมือนอยู่ในสนามรบ หูฟังที่มี Active Noise Cancelling (ANC) จึงช่วยลดภาวะ “fight or flight” ที่เกิดขึ้นจากเสียงรบกวนได้จริง 🛠️ ฟีเจอร์ช่วยเหลือการสื่อสาร หูฟังรุ่นใหม่ เช่น Samsung Galaxy Buds3 Pro หรือ AirPods Pro มีฟีเจอร์ “Boost voices in front of you” ที่ช่วยขยายเสียงพูดตรงหน้าและลดเสียงรอบข้าง ทำให้ผู้เขียนสามารถสื่อสารกับเภสัชกรได้อย่างชัดเจนโดยไม่ต้องอ่านปาก ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตประจำวัน 🌐 เทคโนโลยีเพื่อการเข้าถึง บทความชี้ว่าแม้บริษัทใหญ่เช่น Apple และ Samsung อาจไม่ได้กำไรโดยตรงจากการเพิ่มฟีเจอร์ด้านการเข้าถึง แต่การพัฒนาเหล่านี้กลับช่วยผู้มีความบกพร่องทางการได้ยินและ Autism ได้มาก เป็นตัวอย่างของเทคโนโลยีที่ไม่เพียงตอบโจทย์ตลาดทั่วไป แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้ที่มีความต้องการพิเศษ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การวินิจฉัย Autism และ ADHD ➡️ ทำให้ผู้เขียนต้องตีความชีวิตใหม่ ➡️ ความไวต่อเสียงเป็นปัญหาหลัก ✅ ปัญหาการประมวลผลเสียง ➡️ สมองไม่กรองเสียงรบกวน ➡️ สถานที่แออัดเหมือนสนามรบ ✅ ฟีเจอร์หูฟังช่วยชีวิต ➡️ Active Noise Cancelling ลดภาวะ fight or flight ➡️ Boost voices in front of you ช่วยสื่อสารชัดเจน ✅ เทคโนโลยีเพื่อการเข้าถึง ➡️ Apple และ Samsung เพิ่มฟีเจอร์แม้ไม่มีกำไรสูง ➡️ ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้มีความต้องการพิเศษ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไปอาจทำให้ละเลยการพัฒนาทักษะอื่น ⛔ ฟีเจอร์บางอย่างยังไม่รองรับทุกอุปกรณ์และอาจมีข้อจำกัด https://www.slashgear.com/2043765/autism-diagnosis-upended-sense-self-this-gadget-help-reclaim-it/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    My Autism Diagnosis Upended My Sense Of Self, But One Gadget Is Helping Me Reclaim It - SlashGear
    True wireless earbuds can be a great help for people with autism, thanks to their active noice cancelling and accessibility features.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • Valve สนับสนุน FEX-Emu เปิดทางใหม่ในการช่วยเหลือโอเพ่นซอร์ส

    การสนับสนุนเบื้องหลัง
    Valve เริ่มสนับสนุนโครงการ FEX-Emu ตั้งแต่ปี 2018 โดยจ้างนักพัฒนาอย่าง Ryan Houdek ให้ทำงานเต็มเวลา จุดมุ่งหมายคือการสร้างตัวจำลอง (emulator) ที่ช่วยให้เกม Windows สามารถทำงานบนอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM ได้ ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจาก Proton ที่ Valve เคยทำให้เกม Windows รันบน Linux ได้มาก่อน

    ลดภาระการพอร์ตเกม
    Pierre-Loup Griffais จาก Valve อธิบายว่า การพอร์ตเกมไปยังสถาปัตยกรรมใหม่เป็น “งานที่สูญเปล่า” เพราะใช้เวลามากแต่ไม่ได้เพิ่มคุณภาพเกม การมี FEX-Emu ทำให้นักพัฒนาไม่ต้องเสียเวลาไปกับการพอร์ต แต่สามารถโฟกัสไปที่การปรับปรุงเกมหรือสร้างเกมใหม่แทน

    อนาคตของอุปกรณ์ ARM
    Valve มองว่าอุปกรณ์ ARM ไม่จำกัดแค่ SteamOS เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโน้ตบุ๊ก, เครื่องพกพา และเดสก์ท็อปที่ใช้ชิป ARM ได้ด้วย แม้ยังไม่มีแผนดึงผู้ผลิตเข้ามา แต่ Valve ตั้งใจจะปล่อยฮาร์ดแวร์ของตัวเองก่อน แล้วดูว่าตลาดตอบสนองอย่างไร

    ผลกระทบต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    แนวทางนี้ถูกมองว่าเป็น “โมเดลที่ดีกว่า” เพราะ Valve ไม่ได้สร้างเครื่องมือปิด แต่เลือกสนับสนุนให้ทีมพัฒนาทำงานแบบเปิด ทำให้ทุกคนสามารถนำไปใช้ต่อยอดได้ หากบริษัทอื่นทำเช่นเดียวกัน นักพัฒนาโอเพ่นซอร์สจะไม่ต้องเผชิญกับปัญหาการถูกใช้งานหนักแต่ไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม

    สรุปสาระสำคัญ
    Valve สนับสนุน FEX-Emu ตั้งแต่ปี 2018
    จ่ายเงินให้นักพัฒนาเต็มเวลา
    โครงการโอเพ่นซอร์ส ใช้ได้กับทุกคน

    ลดภาระการพอร์ตเกม
    นักพัฒนาไม่ต้องเสียเวลาแปลงเกม
    สามารถโฟกัสไปที่การปรับปรุงเกมใหม่

    อนาคตของอุปกรณ์ ARM
    ครอบคลุมโน้ตบุ๊ก, เครื่องพกพา, เดสก์ท็อป
    Valve จะปล่อยฮาร์ดแวร์ก่อน แล้วดูตลาดตอบสนอง

    ผลกระทบต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    โมเดลสนับสนุนที่ยั่งยืน
    ลดปัญหานักพัฒนาโอเพ่นซอร์สถูกใช้งานหนักแต่ไม่ได้ค่าตอบแทน

    คำเตือนในวงการโอเพ่นซอร์ส
    นักพัฒนาหลายคนกำลังเผชิญภาวะหมดแรงและค่าตอบแทนต่ำ
    หากไม่มีการสนับสนุนเพิ่มเติม อาจทำให้โครงการสำคัญหยุดชะงัก

    https://itsfoss.com/news/valve-shows-a-better-way-to-fund-open-source/
    📰 Valve สนับสนุน FEX-Emu เปิดทางใหม่ในการช่วยเหลือโอเพ่นซอร์ส 💻 การสนับสนุนเบื้องหลัง Valve เริ่มสนับสนุนโครงการ FEX-Emu ตั้งแต่ปี 2018 โดยจ้างนักพัฒนาอย่าง Ryan Houdek ให้ทำงานเต็มเวลา จุดมุ่งหมายคือการสร้างตัวจำลอง (emulator) ที่ช่วยให้เกม Windows สามารถทำงานบนอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM ได้ ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจาก Proton ที่ Valve เคยทำให้เกม Windows รันบน Linux ได้มาก่อน 🎮 ลดภาระการพอร์ตเกม Pierre-Loup Griffais จาก Valve อธิบายว่า การพอร์ตเกมไปยังสถาปัตยกรรมใหม่เป็น “งานที่สูญเปล่า” เพราะใช้เวลามากแต่ไม่ได้เพิ่มคุณภาพเกม การมี FEX-Emu ทำให้นักพัฒนาไม่ต้องเสียเวลาไปกับการพอร์ต แต่สามารถโฟกัสไปที่การปรับปรุงเกมหรือสร้างเกมใหม่แทน 🖥️ อนาคตของอุปกรณ์ ARM Valve มองว่าอุปกรณ์ ARM ไม่จำกัดแค่ SteamOS เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโน้ตบุ๊ก, เครื่องพกพา และเดสก์ท็อปที่ใช้ชิป ARM ได้ด้วย แม้ยังไม่มีแผนดึงผู้ผลิตเข้ามา แต่ Valve ตั้งใจจะปล่อยฮาร์ดแวร์ของตัวเองก่อน แล้วดูว่าตลาดตอบสนองอย่างไร 🌐 ผลกระทบต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส แนวทางนี้ถูกมองว่าเป็น “โมเดลที่ดีกว่า” เพราะ Valve ไม่ได้สร้างเครื่องมือปิด แต่เลือกสนับสนุนให้ทีมพัฒนาทำงานแบบเปิด ทำให้ทุกคนสามารถนำไปใช้ต่อยอดได้ หากบริษัทอื่นทำเช่นเดียวกัน นักพัฒนาโอเพ่นซอร์สจะไม่ต้องเผชิญกับปัญหาการถูกใช้งานหนักแต่ไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Valve สนับสนุน FEX-Emu ตั้งแต่ปี 2018 ➡️ จ่ายเงินให้นักพัฒนาเต็มเวลา ➡️ โครงการโอเพ่นซอร์ส ใช้ได้กับทุกคน ✅ ลดภาระการพอร์ตเกม ➡️ นักพัฒนาไม่ต้องเสียเวลาแปลงเกม ➡️ สามารถโฟกัสไปที่การปรับปรุงเกมใหม่ ✅ อนาคตของอุปกรณ์ ARM ➡️ ครอบคลุมโน้ตบุ๊ก, เครื่องพกพา, เดสก์ท็อป ➡️ Valve จะปล่อยฮาร์ดแวร์ก่อน แล้วดูตลาดตอบสนอง ✅ ผลกระทบต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส ➡️ โมเดลสนับสนุนที่ยั่งยืน ➡️ ลดปัญหานักพัฒนาโอเพ่นซอร์สถูกใช้งานหนักแต่ไม่ได้ค่าตอบแทน ‼️ คำเตือนในวงการโอเพ่นซอร์ส ⛔ นักพัฒนาหลายคนกำลังเผชิญภาวะหมดแรงและค่าตอบแทนต่ำ ⛔ หากไม่มีการสนับสนุนเพิ่มเติม อาจทำให้โครงการสำคัญหยุดชะงัก https://itsfoss.com/news/valve-shows-a-better-way-to-fund-open-source/
    ITSFOSS.COM
    Valve's FEX-Emu Support Shows a Better Way to Fund Open Source
    The company has quietly funded FEX-Emu since 2018 as an open source project.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251205 #TechRadar

    บอทเน็ต Aisuru ทำสถิติใหม่โจมตี DDoS 29.7 Tbps
    เรื่องนี้เป็นการกลับมาอีกครั้งของบอทเน็ตชื่อ Aisuru ที่ใช้เครื่อง IoT กว่า 4 ล้านเครื่องในการสร้างการโจมตี DDoS ที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดย Cloudflare รายงานว่าเพียงไตรมาสเดียวก็ต้องรับมือกับการโจมตีมากกว่า 1,300 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งมีความรุนแรงระดับหลาย Tbps เหยื่อที่โดนล่าสุดมีทั้งบริษัทเกม Gcore และ Microsoft ที่เจอการโจมตีบนคลาวด์สูงถึง 15.72 Tbps จุดที่น่ากังวลคือบอทเน็ตนี้ถูกให้บริการเป็น “บริการเช่า” ใครก็สามารถใช้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญได้ง่ายๆ
    https://www.techradar.com/pro/security/this-ddos-group-just-smashed-the-previous-record-with-a-29-7-tbps-attack

    Samsung OLED รุ่นใหม่หลุด พร้อมทีวี “The Frame” ขนาดยักษ์ 98 นิ้ว
    มีข้อมูลหลุดจากฐานข้อมูลอะไหล่ของ Samsung ในยุโรป เผยว่าปี 2026 จะมีทีวี OLED รุ่นใหม่หลายรุ่น รวมถึง S99H ที่คาดว่าจะเหนือกว่ารุ่นเรือธง S95F ที่เพิ่งได้รางวัลทีวีแห่งปี และยังมีการเตรียมเปิดตัว “The Frame” ขนาด 98 นิ้ว ซึ่งใหญ่จนแทบจะเรียกว่า “The Mural” ได้เลย นอกจากนี้ยังมีรุ่น S82H และ S83H ที่ใช้แผง WOLED จาก LG Display เพื่อเจาะตลาดราคาย่อมเยา คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน CES 2026
    https://www.techradar.com/televisions/samsungs-next-gen-oled-tvs-leak-including-a-mysterious-new-elite-model

    Microsoft ปิดช่องโหว่ LNK ที่ถูกใช้โจมตีมานานหลายปี
    Microsoft ได้ออกแพตช์ในเดือนพฤศจิกายนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ในไฟล์ .LNK ที่ถูกใช้โจมตีมาตั้งแต่ปี 2017 ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถซ่อนคำสั่งอันตรายในไฟล์ชอร์ตคัต และเมื่อผู้ใช้เปิดดูไฟล์ก็จะไม่เห็นคำสั่งที่แท้จริง ทำให้เกิดการโจมตีแบบ Remote Code Execution ได้ ช่องโหว่นี้ถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐหลายประเทศ เช่น จีน อิหร่าน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย หลังจากถูกเตือนหลายครั้ง Microsoft จึงตัดสินใจแก้ไขอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-quietly-patches-lnk-vulnerability-thats-been-weaponized-for-years

    เบราว์เซอร์ AI กำลังเปลี่ยนเกม แต่ความปลอดภัยยังตามไม่ทัน
    เบราว์เซอร์ยุคใหม่อย่าง Edge ที่มี Copilot หรือ Chrome ที่ใส่ Gemini กำลังทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมาก ทั้งการสรุปเนื้อหา แปลภาษา หรือค้นหาข้อมูล แต่ความสะดวกนี้ก็แฝงความเสี่ยง เพราะ AI อาจถูกหลอกด้วยข้อความหรือโค้ดที่ซ่อนอยู่ในหน้าเว็บ แล้วทำงานตามคำสั่งที่เป็นอันตราย เช่น ส่งข้อมูลเข้าสู่มือแฮกเกอร์โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว ปัญหาคือการนำ AI มาใช้ในเบราว์เซอร์เกิดขึ้นเร็วมาก จนมาตรการด้านความปลอดภัยยังไม่ทันตาม ทำให้ผู้เชี่ยวชี้เตือนว่าต้องระวังการโจมตีรูปแบบใหม่ที่แทบไม่มีร่องรอยให้ตรวจจับ
    https://www.techradar.com/pro/ai-browsers-are-rewriting-the-rules-is-your-security-keeping-pace

    บทเรียนจากการวิ่งมาราธอนสู่การทำงานด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้
    Stephanie Schneider เล่าประสบการณ์ว่า การวิ่งมาราธอน 26.2 ไมล์สอนให้เธอเข้าใจความอดทนและการจัดการพลังงาน ซึ่งเหมือนกับการทำงานในโลกไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยแรงกดดันและความเหนื่อยล้า เธอเปรียบเทียบว่าเหมือนการเจอ “กำแพง” ตอนวิ่ง ที่ต้องใช้ใจสู้ต่อไป เช่นเดียวกับการทำงานที่ต้องเจอภัยคุกคามใหม่ๆ ทุกวัน การฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง การแบ่งเป้าหมายเป็นขั้นตอนเล็กๆ และการรักษาความสมดุลคือสิ่งที่ทำให้ทั้งนักวิ่งและนักไซเบอร์สามารถไปถึงเส้นชัยได้
    https://www.techradar.com/pro/im-a-marathoner-and-a-cybersecurity-leader-heres-what-26-2-miles-have-taught-me-about-work

    Microsoft ปฏิเสธข่าวลดเป้าหมายยอดขาย AI หลังลูกค้าต้านทาน
    มีรายงานว่าลูกค้าหลายรายลังเลที่จะลงทุนในเครื่องมือ AI ของ Microsoft เพราะราคาสูงและยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่ทาง Microsoft ออกมาปฏิเสธข่าวลือว่ามีการปรับลดเป้าหมายยอดขาย โดยยืนยันว่าความต้องการยังคงแข็งแรง เพียงแต่ลูกค้าบางกลุ่มต้องใช้เวลาในการปรับตัวและวางกลยุทธ์การใช้งานจริง เรื่องนี้สะท้อนว่าการนำ AI เข้ามาในองค์กรไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมและวิธีทำงานด้วย
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-denies-reports-of-lower-ai-sales-targets-as-customers-resist-new-tools

    วิกฤติชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์หนักขึ้น RAM ผู้ผลิตใหญ่เลิกตลาดผู้บริโภค
    ตลาดคอมพิวเตอร์กำลังเจอปัญหาหนัก เมื่อผู้ผลิต RAM รายใหญ่ประกาศเลิกทำตลาดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป หันไปเน้นตลาดองค์กรแทน ทำให้เกิดความกังวลว่าราคาชิ้นส่วนจะพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าราคาซีพียูจะปรับขึ้นอีกด้วย สถานการณ์นี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการอัปเกรดหรือประกอบเครื่องใหม่อาจต้องเจอค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอย่างมาก
    https://www.techradar.com/computing/memory/pc-component-crisis-just-got-worse-as-major-ram-maker-gives-up-on-consumers-and-cpu-price-hikes-are-rumored

    YouTube เตรียมบล็อกผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีในออสเตรเลีย
    ท่ามกลางการถกเถียงเรื่องการแบนโซเชียลมีเดียสำหรับเยาวชนในออสเตรเลีย YouTube ประกาศว่าจะบล็อกการใช้งานสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลกำลังพิจารณากฎหมายใหม่เพื่อจำกัดการเข้าถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ของเด็กและเยาวชน โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและความปลอดภัย แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการบังคับใช้เข้มงวดเกินไปและอาจกระทบต่อเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/youtube-to-lock-out-under-16s-in-australia-as-controversial-social-media-ban-looms

    รีวิวเครื่องสแกนหนังสือ CZUR ET24 Pro
    เครื่องสแกนหนังสือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการแปลงหนังสือเป็นไฟล์ดิจิทัล จุดเด่นคือสามารถสแกนได้เร็วและมีฟีเจอร์แก้ไขภาพอัตโนมัติ เช่น การปรับหน้าหนังสือที่โค้งให้ออกมาเรียบ รวมถึงการตรวจจับหน้าที่พลิกอัตโนมัติ เหมาะสำหรับนักวิจัย นักเรียน หรือผู้ที่ต้องการเก็บเอกสารจำนวนมากในรูปแบบดิจิทัล รีวิวชี้ว่าคุณภาพการสแกนคมชัดและใช้งานง่าย แต่ราคาก็ถือว่าสูงพอสมควร
    https://www.techradar.com/computing/czur-et24-pro-book-scanner-review

    ข้อมูลลูกค้า Freedom Mobile ถูกขโมยจากแพลตฟอร์มจัดการบัญชี
    มีการแฮกแพลตฟอร์มจัดการบัญชีของ Freedom Mobile ทำให้ข้อมูลลูกค้าถูกขโมยไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมาก เพราะข้อมูลที่รั่วไหลอาจรวมถึงรายละเอียดส่วนตัวและข้อมูลการติดต่อ ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องเผชิญ และตอกย้ำว่าการป้องกันข้อมูลลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องลงทุนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/customer-data-stolen-in-freedom-mobile-account-management-platform-hack

    ChatGPT อาจไม่ปลอดภัยเท่าเดิม หลังศาลสั่งให้ OpenAI ส่งมอบข้อมูลการสนทนา
    เรื่องนี้เริ่มจากการฟ้องร้องของ The New York Times ต่อ OpenAI โดยศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้บริษัทต้องส่งมอบบันทึกการสนทนากว่า 20 ล้านรายการ เพื่อใช้ตรวจสอบการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้ศาลยืนยันว่าจะมีการลบข้อมูลระบุตัวตนเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัว แต่ OpenAI กลับมองว่าการกระทำนี้บั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เพราะถึงแม้ชื่อจะถูกลบออก แต่รูปแบบการสนทนาก็ยังสามารถบอกอะไรได้มากมาย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ข้อมูลการแชทถูกบังคับให้เปิดเผย และอาจเป็นสัญญาณของการต่อสู้เรื่องความเป็นส่วนตัวในโลก AI ที่กำลังจะเข้มข้นขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/your-chatgpt-chats-could-be-less-private-than-you-thought-heres-what-a-new-openai-court-ruling-means-for-you

    รัสเซียบล็อก FaceTime และ Roblox เพิ่มเติมในมาตรการควบคุมอินเทอร์เน็ต
    รัฐบาลรัสเซียเดินหน้าจำกัดเสรีภาพดิจิทัลมากขึ้น โดยล่าสุด FaceTime และ Roblox ถูกบล็อกอย่างเป็นทางการ เหตุผลที่อ้างคือการป้องกันการก่อการร้ายและการปกป้องเยาวชน แต่ผู้ใช้จำนวนมากมองว่านี่คือการตัดขาดจากโลกภายนอก เด็กและวัยรุ่นที่เคยใช้ Roblox เพื่อเล่นและสื่อสารได้รับผลกระทบหนัก ขณะเดียวกัน FaceTime ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นช่องทางในการจัดกิจกรรมผิดกฎหมาย ทำให้ผู้คนหันไปใช้แอปที่รัฐสนับสนุนแทน เช่น MAX ซึ่งถูกบังคับติดตั้งในมือถือใหม่ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องการถูกสอดส่องมากขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/roblox-facetime-become-the-last-targets-of-russias-censorship

    Hyundai เปิดตัวหุ่นยนต์อเนกประสงค์ MobED ที่แปลงร่างได้หลากหลาย
    Hyundai กำลังจะวางขายหุ่นยนต์แพลตฟอร์มใหม่ชื่อ MobED ที่สามารถปรับตัวได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง จุดเด่นคือระบบล้อที่หมุนและปรับองศาได้ ทำให้มันเคลื่อนที่บนพื้นขรุขระหรือขึ้นบันไดเล็ก ๆ ได้อย่างมั่นคง ผู้ใช้สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ตามต้องการ เช่น แขนกลสำหรับงานคลังสินค้า รถเข็นกอล์ฟ หรือแม้แต่กล้องถ่ายคอนเทนต์อัตโนมัติ Hyundai ตั้งใจผลิตด้วยมาตรฐานยานยนต์เพื่อให้ใช้งานจริงในโรงงานและชีวิตประจำวัน และยังมีแผนทำเวอร์ชัน Pro ที่ติดเซ็นเซอร์และ Lidar สำหรับการทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/hyundais-charming-autonomous-robot-can-be-everything-from-a-golf-trolley-to-an-e-scooter-and-its-going-on-sale-soon

    ซีอีโอเตือนการลงทุนด้าน AI ต้องมีแผน ไม่ใช่แค่ตามกระแส
    หลายผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีออกมาเตือนว่าการลงทุนใน AI กำลังเสี่ยงจะกลายเป็น “ฟองสบู่” Logitech ชี้ว่าหลายผลิตภัณฑ์ AI เป็นเพียงการสร้างสิ่งที่ไม่ตอบโจทย์จริง Anthropic ก็เตือนว่าการทุ่มเงินมหาศาลโดยไม่คำนวณความเสี่ยงอาจทำให้เกิดผลเสียทางการเงิน ขณะที่ Google และ OpenAI เองก็ยอมรับว่าความตื่นตัวเกินไปอาจทำให้นักลงทุนเจ็บตัวในอนาคต สรุปคือ AI เป็นเครื่องมือทรงพลัง แต่ต้องใช้กลยุทธ์และการวางแผน ไม่ใช่การลงทุนแบบ “YOLO”
    https://www.techradar.com/pro/ceos-are-warning-ai-adoption-and-spending-should-be-more-strategic

    อัปเกรด Raspberry Pi แค่ $10 ได้ทั้ง PCIe และ HDMI คู่
    Waveshare เปิดตัวอะแดปเตอร์ใหม่สำหรับ Raspberry Pi 5 ที่ราคาเพียง $10 แต่เพิ่มความสามารถได้มากมาย ทั้งการเชื่อมต่อ PCIe M.2 สำหรับ SSD และพอร์ต HDMI ขนาดเต็มสองช่อง ทำให้สามารถบูตระบบจาก NVMe SSD ได้โดยตรง และใช้งานเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับนักพัฒนาและผู้ที่อยากขยายความสามารถของบอร์ดเล็ก ๆ ให้ทำงานได้ใกล้เคียงเดสก์ท็อป แม้จะรองรับเฉพาะการ์ด M.2 ขนาดเล็ก แต่ถือเป็นการอัปเกรดที่คุ้มค่าและเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานอย่างมาก
    https://www.techradar.com/pro/looking-to-supercharge-your-raspberry-pi-this-adapter-provides-two-full-sized-hdmi-ports-and-a-pcie-connector-and-it-only-costs-usd10

    ธนาคารสหรัฐกว่า 70 แห่งถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Marquis
    มีรายงานว่าธนาคารและสหภาพเครดิตในสหรัฐฯ กว่า 70 แห่งตกเป็นเหยื่อการโจมตีของกลุ่มแฮกเกอร์ Marquis โดยข้อมูลลูกค้าถูกขโมยและถูกนำไปขายในตลาดมืด การโจมตีครั้งนี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อระบบการเงิน เพราะ Marquis มีประวัติการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่หลายครั้งแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าธนาคารต้องเร่งเสริมระบบป้องกันไซเบอร์ และลูกค้าควรตรวจสอบบัญชีของตนเองอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด
    https://www.techradar.com/pro/security/over-70-us-banks-and-credit-unions-affected-by-marquis-ransomware-breach-heres-what-we-know

    ค้นพบแหล่งดินเหนียวที่มีลิเทียมมหาศาลในสหรัฐฯ
    นักวิจัยพบแหล่งดินเหนียวที่มีลิเทียมจำนวนมหาศาลภายในซูเปอร์ภูเขาไฟในสหรัฐฯ คาดว่ามีมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ และสามารถใช้ผลิตแบตเตอรี่ได้หลายสิบปี การค้นพบนี้อาจช่วยลดความผันผวนของราคาลิเทียมที่พุ่งสูงในตลาดโลก แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองในพื้นที่ที่เปราะบาง การค้นพบนี้จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด
    https://www.techradar.com/pro/newly-discovered-usd1-5-billion-lithium-deposit-could-revolutionize-the-tech-industry-but-bad-news-its-inside-a-supervolcano

    Android vs iPhone: ผลสำรวจเผยผู้ใช้ TechRadar ชอบฝั่งไหนมากกว่า
    ผลสำรวจจากผู้อ่าน TechRadar แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ยังคงแบ่งขั้วระหว่าง Android และ iPhone อย่างชัดเจน โดย Android ได้คะแนนนิยมจากผู้ที่ชอบความยืดหยุ่นและราคาที่หลากหลาย ส่วน iPhone ได้คะแนนจากผู้ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ใช้งานที่เรียบง่ายและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple อื่น ๆ การถกเถียงเรื่อง “ใครดีกว่า” จึงยังคงดำเนินต่อไป และสะท้อนให้เห็นว่าทั้งสองระบบมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน
    https://www.techradar.com/phones/android-vs-iphone-heres-what-techradar-readers-prefer

    Nvidia CEO Jensen Huang ผลักดันรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อต้านข้อจำกัดชิป AI
    Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ออกมาเรียกร้องต่อสภาคองเกรสและรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ทบทวนข้อจำกัดการส่งออกชิป AI และกฎระเบียบระดับรัฐ เขาเตือนว่าการจำกัดมากเกินไปจะทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบในการแข่งขันระดับโลก โดยเฉพาะกับจีนที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำตลาดชิป AI มองว่าการเปิดเสรีมากขึ้นจะช่วยให้สหรัฐฯ รักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/nvidia-boss-jensen-huang-steers-trump-congress-against-ai-chip-limits-and-state-level-ai-rules

    Arm64 แรงแซง x86 ในการทดสอบ AWS Lambda ปี 2025
    ผลการทดสอบล่าสุดของ AWS Lambda เผยว่า Arm64 มีประสิทธิภาพเหนือกว่า x86 อย่างชัดเจน โดยทำงานเร็วขึ้นถึง 4-5 เท่า และลดค่าใช้จ่ายลงกว่า 30% การเปลี่ยนมาใช้สถาปัตยกรรม Arm64 จึงถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบคลาวด์ นักพัฒนาที่ใช้ AWS อาจได้ประโยชน์มหาศาลจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เพราะสามารถรันงานได้เร็วขึ้นและประหยัดมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/arm64-dominates-aws-lambda-in-2025-rust-4-5x-faster-than-x86-costs-30-less-across-all-workloads

    Google เปิดตัวเครื่องมือสร้าง AI Agent แบบไม่ต้องมีประสบการณ์
    Google เปิดตัว Workspace Studio ให้ธุรกิจทุกระดับสามารถสร้าง AI Agent ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ด ใช้เพียงการพิมพ์คำสั่งธรรมชาติ ระบบนี้ขับเคลื่อนด้วย Gemini 3 ที่มีความสามารถด้านการวิเคราะห์และเข้าใจบริบทอย่างลึกซึ้ง จุดเด่นคือสามารถทำงานร่วมกับทั้งแอปใน Google Workspace และแอปภายนอก เช่น Asana, Jira, Salesforce และ Mailchimp ได้อย่างราบรื่น ผู้ใช้สามารถแบ่งปัน Agent ที่สร้างขึ้นกับทีมได้เหมือนแชร์ไฟล์ใน Google Drive และมีบริษัทอย่าง Kärcher ที่ทดลองใช้แล้วสามารถลดเวลาการทำงานจากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจทั่วไปเข้าถึง AI ได้ง่ายขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/google-wants-to-help-businesses-build-ai-agents-with-no-prior-experience

    รีวิว Apple Final Cut Pro 2025
    Final Cut Pro เวอร์ชันใหม่ 11.2 ยังคงรักษาจุดแข็งเรื่องการใช้งานที่ลื่นไหลและแนวคิด “Magnetic Timeline” ที่ช่วยให้การตัดต่อรวดเร็วขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเพราะใช้ได้เฉพาะบน Mac และบางฟีเจอร์รองรับเฉพาะเครื่องที่ใช้ Apple Silicon เท่านั้น จุดเด่นคือมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น “Magnetic Mask” ที่ช่วยเลือกและติดตามวัตถุในวิดีโอได้อัตโนมัติ รวมถึงการทำซับไตเติลอัตโนมัติ แม้จะยังไม่สมบูรณ์สำหรับผู้ใช้ Mac รุ่นเก่า แต่ก็ถือว่า Apple กำลังพยายามไล่ตามคู่แข่งอย่าง Premiere Pro และ Resolve โดยยังคงข้อดีเรื่องการจ่ายครั้งเดียวแล้วได้อัปเดตตลอดชีพ
    https://www.techradar.com/pro/apple-final-cut-pro-review

    รีวิว Antigravity A1 โดรน 360 องศา
    Antigravity A1 เป็นโดรนที่รวมเทคโนโลยีการถ่ายภาพ 360 องศาเข้ากับการบิน ทำให้สามารถเก็บภาพและวิดีโอที่มุมมองรอบทิศได้อย่างสมจริง มาพร้อม FPV Goggles และ Motion Controller ที่ให้ประสบการณ์การบินแบบดื่มด่ำ แต่ก็ทำให้ราคาสูงกว่ากล้องโดรนทั่วไปมาก จุดเด่นคือการถ่ายวิดีโอ 8K และการออกแบบที่ทำให้ตัวโดรน “หายไป” จากภาพด้วยเทคนิคการเย็บภาพ จุดด้อยคือการใช้งานต้องมีผู้ช่วยคอยสังเกตโดรนเพื่อความปลอดภัย และคุณภาพภาพยังไม่เทียบเท่ากล้องโดรนระดับสูงอย่าง DJI Mini 5 Pro แต่ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ยังไม่มีคู่แข่งโดยตรง
    https://www.techradar.com/cameras/drones/antigravity-a1-review

    Apple ประกาศ 17 แอปยอดเยี่ยมแห่งปี 2025
    Apple เผยรายชื่อผู้ชนะรางวัล App Store Awards ปี 2025 รวมทั้งหมด 17 แอปและเกมที่โดดเด่นในด้านการออกแบบและการใช้ AI ตัวอย่างเช่น Tiimo แอปวางแผนงานที่คว้ารางวัล iPhone App of the Year, Detail แอปตัดต่อวิดีโอด้วย AI สำหรับ iPad และ Essayist แอปช่วยทำบรรณานุกรมสำหรับ Mac ส่วนเกมที่โดดเด่นคือ Pokémon TCG Pocket และ Cyberpunk 2077: Ultimate Edition ที่ถูกยกให้เป็น Mac Game of the Year นอกจากนี้ยังมีรางวัลด้าน Cultural Impact เช่น Be My Eyes ที่ใช้ AI ช่วยผู้พิการทางสายตา ถือเป็นการสะท้อนว่า AI กำลังกลายเป็นหัวใจหลักของแอปยุคใหม่
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/apple-reveals-the-17-must-download-apps-of-2025-the-app-store-award-winners-are-here

    กีตาร์ E Ink เปลี่ยนสีได้
    Cream Guitars เปิดตัว “DaVinci” กีตาร์ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยี E Ink Prism 3 ทำให้สามารถเปลี่ยนสีและลวดลายบนตัวกีตาร์ได้ตามใจผ่านแอป Bluetooth มีสีให้เลือกผสมถึง 7 สีและแบ่งเป็น 64 ส่วนเพื่อสร้างดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัย ยังมาพร้อมปิ๊กอัพ Fishman Fluence ที่ปรับเสียงได้ทั้งแบบซิงเกิลคอยล์และฮัมบัคเกอร์ จุดเด่นคือความสามารถในการปรับโฉมกีตาร์ได้ทันที แต่ราคาก็สูงถึง 3,500 ดอลลาร์ และผลิตเพียง 85 ตัวเท่านั้น กำหนดส่งในปี 2026 ถือเป็นกีตาร์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและดนตรีอย่างแท้จริง
    https://www.techradar.com/audio/this-color-changing-e-ink-guitar-absolutely-rocks-and-i-wish-i-could-afford-it

    รีวิว TerraMaster D4-320U NAS
    เรื่องนี้เล่าถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับการจัดเก็บข้อมูล TerraMaster D4-320U ที่ออกแบบมาให้ติดตั้งในตู้แร็ค ใช้งานง่ายเพียงใส่ฮาร์ดดิสก์หรือ SSD แล้วเชื่อมต่อผ่านสาย USB 3.2 ก็สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้ทันที จุดเด่นคือรองรับสูงสุดถึง 120TB แต่ไม่มีระบบ RAID ในตัว ทำให้เหมาะสำหรับการขยายพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่าการใช้งานเป็น NAS หลัก แม้จะมีเสียงพัดลมดังไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและยืดหยุ่นสำหรับธุรกิจหรือผู้ทำงานด้านภาพและวิดีโอที่ต้องการพื้นที่มหาศาล
    https://www.techradar.com/computing/terramaster-d4-320u-nas-review

    เคล็ดลับการใช้ Nano Banana Pro ของ Google
    Google เปิดเผยเทคนิคการเขียน prompt สำหรับเครื่องมือสร้างภาพด้วย AI ที่ชื่อ Nano Banana Pro ซึ่งทำงานบน Gemini 3 โดยมีผู้ใช้แชร์วิธีที่น่าสนใจ 3 แบบ ได้แก่ การเขียน prompt แบบโค้ดกำหนดตัวแปรเพื่อให้ภาพมีความสอดคล้อง การใส่ “ความไม่สมบูรณ์” เช่นแสงรั่วหรือภาพเบลอเล็กน้อยเพื่อให้ดูสมจริง และการเปลี่ยนมุมมองเพื่อให้ภาพมีมิติและเล่าเรื่องได้ลึกขึ้น เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการสร้างภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมจริงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/3-advanced-strategies-for-making-the-most-of-nano-banana-pro

    สกัดการเข้าถึงเว็บอันตรายเกือบพันล้านครั้งในสหราชอาณาจักร
    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหราชอาณาจักร (NCSC) รายงานว่าเครื่องมือใหม่ชื่อ “Share and Defend” สามารถบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์อันตรายได้เกือบพันล้านครั้งภายในเวลาไม่ถึงปี ระบบนี้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันผู้ใช้จากการถูกขโมยข้อมูลหรือเงิน โดยในช่วงเดียวกันยังพบว่าการโจมตี ransomware เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว และการเคลมประกันไซเบอร์พุ่งสูงถึง 230% ทำให้รัฐบาลเตรียมแผนรับมือใหม่เพื่อเสริมความปลอดภัยทางดิจิทัล
    https://www.techradar.com/pro/security/uk-cybercrime-agency-blocks-nearly-1-billion-access-attempts-to-malicious-websites

    งาน PC Gaming Show: Most Wanted
    วันนี้มีการจัดงาน PC Gaming Show: Most Wanted ที่จะนับถอยหลัง 25 เกม PC ที่ถูกคาดหวังมากที่สุดในปี 2026 พร้อมทั้งมีการเปิดตัวตัวอย่างใหม่และเบื้องหลังจากเกมกว่า 50 เรื่อง เช่น Resident Evil Requiem, Lego Batman: Legacy of the Dark Knight และ 007 First Light งานนี้ถ่ายทอดสดผ่านหลายช่องทาง และถือเป็นเวทีใหญ่ที่รวมเกมใหม่ ๆ ที่แฟน ๆ รอคอยไว้มากมาย
    https://www.techradar.com/gaming/gaming-industry/the-pc-gaming-show-most-wanted-airs-today-heres-when-you-can-tune-in-and-what-announcements-you-can-expect

    Ofcom พิจารณามาตรการเพิ่มเติมเกี่ยวกับ VPN หลัง Online Safety Act
    หน่วยงานกำกับดูแลสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) กำลังเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ VPN โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอายุหลังจากกฎหมาย Online Safety Act มีผลบังคับใช้ ขณะนี้ Ofcom ได้ลงทุนกว่า 500,000 ปอนด์ในเครื่องมือเฝ้าระวังอินเทอร์เน็ต และยังตั้งคณะทำงานร่วมกับผู้แทนเด็กเพื่อฟังความคิดเห็นโดยตรง การตัดสินใจว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่คาดว่าจะออกมาในปีหน้า
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-weighs-further-action-on-vpns-following-online-safety-act

    ข่าว Samsung เตรียมแก้ปัญหาโฆษณาในมือถือ
    Samsung กำลังพัฒนา One UI 8.5 ที่จะช่วยลดปัญหาโฆษณาที่รบกวนผู้ใช้ในสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะการแจ้งเตือนที่มักจะปรากฏขึ้นบ่อยครั้ง การอัปเดตใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะทำให้ประสบการณ์ใช้งานราบรื่นขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องเจอกับโฆษณาที่ไม่ต้องการอีกต่อไป ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Galaxy ที่รอคอยการปรับปรุงด้านนี้มานาน
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phones-ad-nightmare-could-soon-be-over-thanks-to-this-one-ui-8-5-upgrade

    อัปเดต Windows 11 ล่าสุดแก้บั๊ก แต่ยังมีปัญหา
    Microsoft ปล่อยอัปเดตใหม่ของ Windows 11 ที่แก้ไขบั๊กหลายอย่าง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผู้ใช้ควรระวัง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้โหมดมืด (Dark Mode) เนื่องจากอัปเดตนี้อาจทำให้ระบบแสดงผลผิดพลาด แม้จะช่วยแก้ปัญหาบางอย่าง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ผู้ใช้จะเจอปัญหาใหม่ จึงควรรอการปรับปรุงเพิ่มเติมก่อนที่จะติดตั้ง
    https://www.techradar.com/computing/windows/latest-windows-11-update-fixes-some-nasty-bugs-but-dont-grab-it-yet-especially-if-you-use-dark-mode

    สหราชอาณาจักรปรับแพลตฟอร์มผู้ใหญ่ 1 ล้านปอนด์
    รัฐบาลอังกฤษออกค่าปรับกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อแพลตฟอร์มผู้ใหญ่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎการตรวจสอบอายุ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเพื่อปกป้องเยาวชนออนไลน์ การบังคับใช้กฎหมายนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของสหราชอาณาจักรในการจัดการกับแพลตฟอร์มที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยทางดิจิทัล
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-issues-gbp1-million-fine-to-adult-platform-for-failing-to-comply-with-age-verification-rules

    iPhone 17 Pro สูญเสียฟีเจอร์กล้องสำคัญ
    Apple ทำให้หลายคนแปลกใจเมื่อ iPhone 17 Pro ถูกตัดฟีเจอร์กล้องที่เคยเป็นจุดขายออกไป โดยบริษัทไม่ได้ให้คำอธิบายชัดเจนว่าทำไมถึงตัดสินใจเช่นนั้น ข่าวนี้สร้างความสงสัยและการถกเถียงในหมู่ผู้ใช้และนักวิเคราะห์ เพราะฟีเจอร์ดังกล่าวเคยเป็นหนึ่งในจุดแข็งของรุ่น Pro
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/the-iphone-17-pro-has-just-lost-a-key-camera-feature-and-apple-wont-explain-why
    📌📡🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📡📌 #รวมข่าวIT #20251205 #TechRadar 🛡️ บอทเน็ต Aisuru ทำสถิติใหม่โจมตี DDoS 29.7 Tbps เรื่องนี้เป็นการกลับมาอีกครั้งของบอทเน็ตชื่อ Aisuru ที่ใช้เครื่อง IoT กว่า 4 ล้านเครื่องในการสร้างการโจมตี DDoS ที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ โดย Cloudflare รายงานว่าเพียงไตรมาสเดียวก็ต้องรับมือกับการโจมตีมากกว่า 1,300 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งมีความรุนแรงระดับหลาย Tbps เหยื่อที่โดนล่าสุดมีทั้งบริษัทเกม Gcore และ Microsoft ที่เจอการโจมตีบนคลาวด์สูงถึง 15.72 Tbps จุดที่น่ากังวลคือบอทเน็ตนี้ถูกให้บริการเป็น “บริการเช่า” ใครก็สามารถใช้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญได้ง่ายๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/this-ddos-group-just-smashed-the-previous-record-with-a-29-7-tbps-attack 📺 Samsung OLED รุ่นใหม่หลุด พร้อมทีวี “The Frame” ขนาดยักษ์ 98 นิ้ว มีข้อมูลหลุดจากฐานข้อมูลอะไหล่ของ Samsung ในยุโรป เผยว่าปี 2026 จะมีทีวี OLED รุ่นใหม่หลายรุ่น รวมถึง S99H ที่คาดว่าจะเหนือกว่ารุ่นเรือธง S95F ที่เพิ่งได้รางวัลทีวีแห่งปี และยังมีการเตรียมเปิดตัว “The Frame” ขนาด 98 นิ้ว ซึ่งใหญ่จนแทบจะเรียกว่า “The Mural” ได้เลย นอกจากนี้ยังมีรุ่น S82H และ S83H ที่ใช้แผง WOLED จาก LG Display เพื่อเจาะตลาดราคาย่อมเยา คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน CES 2026 🔗 https://www.techradar.com/televisions/samsungs-next-gen-oled-tvs-leak-including-a-mysterious-new-elite-model 🔒 Microsoft ปิดช่องโหว่ LNK ที่ถูกใช้โจมตีมานานหลายปี Microsoft ได้ออกแพตช์ในเดือนพฤศจิกายนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ในไฟล์ .LNK ที่ถูกใช้โจมตีมาตั้งแต่ปี 2017 ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถซ่อนคำสั่งอันตรายในไฟล์ชอร์ตคัต และเมื่อผู้ใช้เปิดดูไฟล์ก็จะไม่เห็นคำสั่งที่แท้จริง ทำให้เกิดการโจมตีแบบ Remote Code Execution ได้ ช่องโหว่นี้ถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐหลายประเทศ เช่น จีน อิหร่าน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย หลังจากถูกเตือนหลายครั้ง Microsoft จึงตัดสินใจแก้ไขอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-quietly-patches-lnk-vulnerability-thats-been-weaponized-for-years 🌐 เบราว์เซอร์ AI กำลังเปลี่ยนเกม แต่ความปลอดภัยยังตามไม่ทัน เบราว์เซอร์ยุคใหม่อย่าง Edge ที่มี Copilot หรือ Chrome ที่ใส่ Gemini กำลังทำให้การใช้งานสะดวกขึ้นมาก ทั้งการสรุปเนื้อหา แปลภาษา หรือค้นหาข้อมูล แต่ความสะดวกนี้ก็แฝงความเสี่ยง เพราะ AI อาจถูกหลอกด้วยข้อความหรือโค้ดที่ซ่อนอยู่ในหน้าเว็บ แล้วทำงานตามคำสั่งที่เป็นอันตราย เช่น ส่งข้อมูลเข้าสู่มือแฮกเกอร์โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว ปัญหาคือการนำ AI มาใช้ในเบราว์เซอร์เกิดขึ้นเร็วมาก จนมาตรการด้านความปลอดภัยยังไม่ทันตาม ทำให้ผู้เชี่ยวชี้เตือนว่าต้องระวังการโจมตีรูปแบบใหม่ที่แทบไม่มีร่องรอยให้ตรวจจับ 🔗 https://www.techradar.com/pro/ai-browsers-are-rewriting-the-rules-is-your-security-keeping-pace 🏃 บทเรียนจากการวิ่งมาราธอนสู่การทำงานด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ Stephanie Schneider เล่าประสบการณ์ว่า การวิ่งมาราธอน 26.2 ไมล์สอนให้เธอเข้าใจความอดทนและการจัดการพลังงาน ซึ่งเหมือนกับการทำงานในโลกไซเบอร์ที่เต็มไปด้วยแรงกดดันและความเหนื่อยล้า เธอเปรียบเทียบว่าเหมือนการเจอ “กำแพง” ตอนวิ่ง ที่ต้องใช้ใจสู้ต่อไป เช่นเดียวกับการทำงานที่ต้องเจอภัยคุกคามใหม่ๆ ทุกวัน การฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง การแบ่งเป้าหมายเป็นขั้นตอนเล็กๆ และการรักษาความสมดุลคือสิ่งที่ทำให้ทั้งนักวิ่งและนักไซเบอร์สามารถไปถึงเส้นชัยได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/im-a-marathoner-and-a-cybersecurity-leader-heres-what-26-2-miles-have-taught-me-about-work 💼 Microsoft ปฏิเสธข่าวลดเป้าหมายยอดขาย AI หลังลูกค้าต้านทาน มีรายงานว่าลูกค้าหลายรายลังเลที่จะลงทุนในเครื่องมือ AI ของ Microsoft เพราะราคาสูงและยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่ทาง Microsoft ออกมาปฏิเสธข่าวลือว่ามีการปรับลดเป้าหมายยอดขาย โดยยืนยันว่าความต้องการยังคงแข็งแรง เพียงแต่ลูกค้าบางกลุ่มต้องใช้เวลาในการปรับตัวและวางกลยุทธ์การใช้งานจริง เรื่องนี้สะท้อนว่าการนำ AI เข้ามาในองค์กรไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมและวิธีทำงานด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-denies-reports-of-lower-ai-sales-targets-as-customers-resist-new-tools 🖥️ วิกฤติชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์หนักขึ้น RAM ผู้ผลิตใหญ่เลิกตลาดผู้บริโภค ตลาดคอมพิวเตอร์กำลังเจอปัญหาหนัก เมื่อผู้ผลิต RAM รายใหญ่ประกาศเลิกทำตลาดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป หันไปเน้นตลาดองค์กรแทน ทำให้เกิดความกังวลว่าราคาชิ้นส่วนจะพุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าราคาซีพียูจะปรับขึ้นอีกด้วย สถานการณ์นี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการอัปเกรดหรือประกอบเครื่องใหม่อาจต้องเจอค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอย่างมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/pc-component-crisis-just-got-worse-as-major-ram-maker-gives-up-on-consumers-and-cpu-price-hikes-are-rumored 📵 YouTube เตรียมบล็อกผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีในออสเตรเลีย ท่ามกลางการถกเถียงเรื่องการแบนโซเชียลมีเดียสำหรับเยาวชนในออสเตรเลีย YouTube ประกาศว่าจะบล็อกการใช้งานสำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 16 ปี การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลกำลังพิจารณากฎหมายใหม่เพื่อจำกัดการเข้าถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ของเด็กและเยาวชน โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องสุขภาพจิตและความปลอดภัย แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าการบังคับใช้เข้มงวดเกินไปและอาจกระทบต่อเสรีภาพในการเข้าถึงข้อมูล 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/youtube-to-lock-out-under-16s-in-australia-as-controversial-social-media-ban-looms 📚 รีวิวเครื่องสแกนหนังสือ CZUR ET24 Pro เครื่องสแกนหนังสือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการแปลงหนังสือเป็นไฟล์ดิจิทัล จุดเด่นคือสามารถสแกนได้เร็วและมีฟีเจอร์แก้ไขภาพอัตโนมัติ เช่น การปรับหน้าหนังสือที่โค้งให้ออกมาเรียบ รวมถึงการตรวจจับหน้าที่พลิกอัตโนมัติ เหมาะสำหรับนักวิจัย นักเรียน หรือผู้ที่ต้องการเก็บเอกสารจำนวนมากในรูปแบบดิจิทัล รีวิวชี้ว่าคุณภาพการสแกนคมชัดและใช้งานง่าย แต่ราคาก็ถือว่าสูงพอสมควร 🔗 https://www.techradar.com/computing/czur-et24-pro-book-scanner-review 🔓 ข้อมูลลูกค้า Freedom Mobile ถูกขโมยจากแพลตฟอร์มจัดการบัญชี มีการแฮกแพลตฟอร์มจัดการบัญชีของ Freedom Mobile ทำให้ข้อมูลลูกค้าถูกขโมยไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมาก เพราะข้อมูลที่รั่วไหลอาจรวมถึงรายละเอียดส่วนตัวและข้อมูลการติดต่อ ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องเผชิญ และตอกย้ำว่าการป้องกันข้อมูลลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องลงทุนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/customer-data-stolen-in-freedom-mobile-account-management-platform-hack 🛡️ ChatGPT อาจไม่ปลอดภัยเท่าเดิม หลังศาลสั่งให้ OpenAI ส่งมอบข้อมูลการสนทนา เรื่องนี้เริ่มจากการฟ้องร้องของ The New York Times ต่อ OpenAI โดยศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้บริษัทต้องส่งมอบบันทึกการสนทนากว่า 20 ล้านรายการ เพื่อใช้ตรวจสอบการละเมิดลิขสิทธิ์ แม้ศาลยืนยันว่าจะมีการลบข้อมูลระบุตัวตนเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัว แต่ OpenAI กลับมองว่าการกระทำนี้บั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เพราะถึงแม้ชื่อจะถูกลบออก แต่รูปแบบการสนทนาก็ยังสามารถบอกอะไรได้มากมาย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ข้อมูลการแชทถูกบังคับให้เปิดเผย และอาจเป็นสัญญาณของการต่อสู้เรื่องความเป็นส่วนตัวในโลก AI ที่กำลังจะเข้มข้นขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/your-chatgpt-chats-could-be-less-private-than-you-thought-heres-what-a-new-openai-court-ruling-means-for-you 🚫 รัสเซียบล็อก FaceTime และ Roblox เพิ่มเติมในมาตรการควบคุมอินเทอร์เน็ต รัฐบาลรัสเซียเดินหน้าจำกัดเสรีภาพดิจิทัลมากขึ้น โดยล่าสุด FaceTime และ Roblox ถูกบล็อกอย่างเป็นทางการ เหตุผลที่อ้างคือการป้องกันการก่อการร้ายและการปกป้องเยาวชน แต่ผู้ใช้จำนวนมากมองว่านี่คือการตัดขาดจากโลกภายนอก เด็กและวัยรุ่นที่เคยใช้ Roblox เพื่อเล่นและสื่อสารได้รับผลกระทบหนัก ขณะเดียวกัน FaceTime ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นช่องทางในการจัดกิจกรรมผิดกฎหมาย ทำให้ผู้คนหันไปใช้แอปที่รัฐสนับสนุนแทน เช่น MAX ซึ่งถูกบังคับติดตั้งในมือถือใหม่ แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องการถูกสอดส่องมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/roblox-facetime-become-the-last-targets-of-russias-censorship 🤖 Hyundai เปิดตัวหุ่นยนต์อเนกประสงค์ MobED ที่แปลงร่างได้หลากหลาย Hyundai กำลังจะวางขายหุ่นยนต์แพลตฟอร์มใหม่ชื่อ MobED ที่สามารถปรับตัวได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง จุดเด่นคือระบบล้อที่หมุนและปรับองศาได้ ทำให้มันเคลื่อนที่บนพื้นขรุขระหรือขึ้นบันไดเล็ก ๆ ได้อย่างมั่นคง ผู้ใช้สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้ตามต้องการ เช่น แขนกลสำหรับงานคลังสินค้า รถเข็นกอล์ฟ หรือแม้แต่กล้องถ่ายคอนเทนต์อัตโนมัติ Hyundai ตั้งใจผลิตด้วยมาตรฐานยานยนต์เพื่อให้ใช้งานจริงในโรงงานและชีวิตประจำวัน และยังมีแผนทำเวอร์ชัน Pro ที่ติดเซ็นเซอร์และ Lidar สำหรับการทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/hyundais-charming-autonomous-robot-can-be-everything-from-a-golf-trolley-to-an-e-scooter-and-its-going-on-sale-soon 💼 ซีอีโอเตือนการลงทุนด้าน AI ต้องมีแผน ไม่ใช่แค่ตามกระแส หลายผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีออกมาเตือนว่าการลงทุนใน AI กำลังเสี่ยงจะกลายเป็น “ฟองสบู่” Logitech ชี้ว่าหลายผลิตภัณฑ์ AI เป็นเพียงการสร้างสิ่งที่ไม่ตอบโจทย์จริง Anthropic ก็เตือนว่าการทุ่มเงินมหาศาลโดยไม่คำนวณความเสี่ยงอาจทำให้เกิดผลเสียทางการเงิน ขณะที่ Google และ OpenAI เองก็ยอมรับว่าความตื่นตัวเกินไปอาจทำให้นักลงทุนเจ็บตัวในอนาคต สรุปคือ AI เป็นเครื่องมือทรงพลัง แต่ต้องใช้กลยุทธ์และการวางแผน ไม่ใช่การลงทุนแบบ “YOLO” 🔗 https://www.techradar.com/pro/ceos-are-warning-ai-adoption-and-spending-should-be-more-strategic 💻 อัปเกรด Raspberry Pi แค่ $10 ได้ทั้ง PCIe และ HDMI คู่ Waveshare เปิดตัวอะแดปเตอร์ใหม่สำหรับ Raspberry Pi 5 ที่ราคาเพียง $10 แต่เพิ่มความสามารถได้มากมาย ทั้งการเชื่อมต่อ PCIe M.2 สำหรับ SSD และพอร์ต HDMI ขนาดเต็มสองช่อง ทำให้สามารถบูตระบบจาก NVMe SSD ได้โดยตรง และใช้งานเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เหมาะสำหรับนักพัฒนาและผู้ที่อยากขยายความสามารถของบอร์ดเล็ก ๆ ให้ทำงานได้ใกล้เคียงเดสก์ท็อป แม้จะรองรับเฉพาะการ์ด M.2 ขนาดเล็ก แต่ถือเป็นการอัปเกรดที่คุ้มค่าและเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานอย่างมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/looking-to-supercharge-your-raspberry-pi-this-adapter-provides-two-full-sized-hdmi-ports-and-a-pcie-connector-and-it-only-costs-usd10 🏦 ธนาคารสหรัฐกว่า 70 แห่งถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Marquis มีรายงานว่าธนาคารและสหภาพเครดิตในสหรัฐฯ กว่า 70 แห่งตกเป็นเหยื่อการโจมตีของกลุ่มแฮกเกอร์ Marquis โดยข้อมูลลูกค้าถูกขโมยและถูกนำไปขายในตลาดมืด การโจมตีครั้งนี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อระบบการเงิน เพราะ Marquis มีประวัติการโจมตีองค์กรขนาดใหญ่หลายครั้งแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าธนาคารต้องเร่งเสริมระบบป้องกันไซเบอร์ และลูกค้าควรตรวจสอบบัญชีของตนเองอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/over-70-us-banks-and-credit-unions-affected-by-marquis-ransomware-breach-heres-what-we-know ⚡ ค้นพบแหล่งดินเหนียวที่มีลิเทียมมหาศาลในสหรัฐฯ นักวิจัยพบแหล่งดินเหนียวที่มีลิเทียมจำนวนมหาศาลภายในซูเปอร์ภูเขาไฟในสหรัฐฯ คาดว่ามีมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ และสามารถใช้ผลิตแบตเตอรี่ได้หลายสิบปี การค้นพบนี้อาจช่วยลดความผันผวนของราคาลิเทียมที่พุ่งสูงในตลาดโลก แต่ก็มีข้อกังวลเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองในพื้นที่ที่เปราะบาง การค้นพบนี้จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/newly-discovered-usd1-5-billion-lithium-deposit-could-revolutionize-the-tech-industry-but-bad-news-its-inside-a-supervolcano 📱 Android vs iPhone: ผลสำรวจเผยผู้ใช้ TechRadar ชอบฝั่งไหนมากกว่า ผลสำรวจจากผู้อ่าน TechRadar แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้ยังคงแบ่งขั้วระหว่าง Android และ iPhone อย่างชัดเจน โดย Android ได้คะแนนนิยมจากผู้ที่ชอบความยืดหยุ่นและราคาที่หลากหลาย ส่วน iPhone ได้คะแนนจากผู้ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ใช้งานที่เรียบง่ายและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple อื่น ๆ การถกเถียงเรื่อง “ใครดีกว่า” จึงยังคงดำเนินต่อไป และสะท้อนให้เห็นว่าทั้งสองระบบมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน 🔗 https://www.techradar.com/phones/android-vs-iphone-heres-what-techradar-readers-prefer 💽 Nvidia CEO Jensen Huang ผลักดันรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อต้านข้อจำกัดชิป AI Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ออกมาเรียกร้องต่อสภาคองเกรสและรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ทบทวนข้อจำกัดการส่งออกชิป AI และกฎระเบียบระดับรัฐ เขาเตือนว่าการจำกัดมากเกินไปจะทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบในการแข่งขันระดับโลก โดยเฉพาะกับจีนที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำตลาดชิป AI มองว่าการเปิดเสรีมากขึ้นจะช่วยให้สหรัฐฯ รักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/nvidia-boss-jensen-huang-steers-trump-congress-against-ai-chip-limits-and-state-level-ai-rules 🚀 Arm64 แรงแซง x86 ในการทดสอบ AWS Lambda ปี 2025 ผลการทดสอบล่าสุดของ AWS Lambda เผยว่า Arm64 มีประสิทธิภาพเหนือกว่า x86 อย่างชัดเจน โดยทำงานเร็วขึ้นถึง 4-5 เท่า และลดค่าใช้จ่ายลงกว่า 30% การเปลี่ยนมาใช้สถาปัตยกรรม Arm64 จึงถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบคลาวด์ นักพัฒนาที่ใช้ AWS อาจได้ประโยชน์มหาศาลจากการเปลี่ยนแปลงนี้ เพราะสามารถรันงานได้เร็วขึ้นและประหยัดมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/arm64-dominates-aws-lambda-in-2025-rust-4-5x-faster-than-x86-costs-30-less-across-all-workloads 🧑‍💻 Google เปิดตัวเครื่องมือสร้าง AI Agent แบบไม่ต้องมีประสบการณ์ Google เปิดตัว Workspace Studio ให้ธุรกิจทุกระดับสามารถสร้าง AI Agent ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ด ใช้เพียงการพิมพ์คำสั่งธรรมชาติ ระบบนี้ขับเคลื่อนด้วย Gemini 3 ที่มีความสามารถด้านการวิเคราะห์และเข้าใจบริบทอย่างลึกซึ้ง จุดเด่นคือสามารถทำงานร่วมกับทั้งแอปใน Google Workspace และแอปภายนอก เช่น Asana, Jira, Salesforce และ Mailchimp ได้อย่างราบรื่น ผู้ใช้สามารถแบ่งปัน Agent ที่สร้างขึ้นกับทีมได้เหมือนแชร์ไฟล์ใน Google Drive และมีบริษัทอย่าง Kärcher ที่ทดลองใช้แล้วสามารถลดเวลาการทำงานจากหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจทั่วไปเข้าถึง AI ได้ง่ายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-wants-to-help-businesses-build-ai-agents-with-no-prior-experience 🎬 รีวิว Apple Final Cut Pro 2025 Final Cut Pro เวอร์ชันใหม่ 11.2 ยังคงรักษาจุดแข็งเรื่องการใช้งานที่ลื่นไหลและแนวคิด “Magnetic Timeline” ที่ช่วยให้การตัดต่อรวดเร็วขึ้น แต่ก็ยังมีข้อจำกัดเพราะใช้ได้เฉพาะบน Mac และบางฟีเจอร์รองรับเฉพาะเครื่องที่ใช้ Apple Silicon เท่านั้น จุดเด่นคือมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น “Magnetic Mask” ที่ช่วยเลือกและติดตามวัตถุในวิดีโอได้อัตโนมัติ รวมถึงการทำซับไตเติลอัตโนมัติ แม้จะยังไม่สมบูรณ์สำหรับผู้ใช้ Mac รุ่นเก่า แต่ก็ถือว่า Apple กำลังพยายามไล่ตามคู่แข่งอย่าง Premiere Pro และ Resolve โดยยังคงข้อดีเรื่องการจ่ายครั้งเดียวแล้วได้อัปเดตตลอดชีพ 🔗 https://www.techradar.com/pro/apple-final-cut-pro-review 🚁 รีวิว Antigravity A1 โดรน 360 องศา Antigravity A1 เป็นโดรนที่รวมเทคโนโลยีการถ่ายภาพ 360 องศาเข้ากับการบิน ทำให้สามารถเก็บภาพและวิดีโอที่มุมมองรอบทิศได้อย่างสมจริง มาพร้อม FPV Goggles และ Motion Controller ที่ให้ประสบการณ์การบินแบบดื่มด่ำ แต่ก็ทำให้ราคาสูงกว่ากล้องโดรนทั่วไปมาก จุดเด่นคือการถ่ายวิดีโอ 8K และการออกแบบที่ทำให้ตัวโดรน “หายไป” จากภาพด้วยเทคนิคการเย็บภาพ จุดด้อยคือการใช้งานต้องมีผู้ช่วยคอยสังเกตโดรนเพื่อความปลอดภัย และคุณภาพภาพยังไม่เทียบเท่ากล้องโดรนระดับสูงอย่าง DJI Mini 5 Pro แต่ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ยังไม่มีคู่แข่งโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/antigravity-a1-review 📱 Apple ประกาศ 17 แอปยอดเยี่ยมแห่งปี 2025 Apple เผยรายชื่อผู้ชนะรางวัล App Store Awards ปี 2025 รวมทั้งหมด 17 แอปและเกมที่โดดเด่นในด้านการออกแบบและการใช้ AI ตัวอย่างเช่น Tiimo แอปวางแผนงานที่คว้ารางวัล iPhone App of the Year, Detail แอปตัดต่อวิดีโอด้วย AI สำหรับ iPad และ Essayist แอปช่วยทำบรรณานุกรมสำหรับ Mac ส่วนเกมที่โดดเด่นคือ Pokémon TCG Pocket และ Cyberpunk 2077: Ultimate Edition ที่ถูกยกให้เป็น Mac Game of the Year นอกจากนี้ยังมีรางวัลด้าน Cultural Impact เช่น Be My Eyes ที่ใช้ AI ช่วยผู้พิการทางสายตา ถือเป็นการสะท้อนว่า AI กำลังกลายเป็นหัวใจหลักของแอปยุคใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/apple-reveals-the-17-must-download-apps-of-2025-the-app-store-award-winners-are-here 🎸 กีตาร์ E Ink เปลี่ยนสีได้ Cream Guitars เปิดตัว “DaVinci” กีตาร์ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยี E Ink Prism 3 ทำให้สามารถเปลี่ยนสีและลวดลายบนตัวกีตาร์ได้ตามใจผ่านแอป Bluetooth มีสีให้เลือกผสมถึง 7 สีและแบ่งเป็น 64 ส่วนเพื่อสร้างดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากรูปลักษณ์ที่ล้ำสมัย ยังมาพร้อมปิ๊กอัพ Fishman Fluence ที่ปรับเสียงได้ทั้งแบบซิงเกิลคอยล์และฮัมบัคเกอร์ จุดเด่นคือความสามารถในการปรับโฉมกีตาร์ได้ทันที แต่ราคาก็สูงถึง 3,500 ดอลลาร์ และผลิตเพียง 85 ตัวเท่านั้น กำหนดส่งในปี 2026 ถือเป็นกีตาร์ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและดนตรีอย่างแท้จริง 🔗 https://www.techradar.com/audio/this-color-changing-e-ink-guitar-absolutely-rocks-and-i-wish-i-could-afford-it 🖥️ รีวิว TerraMaster D4-320U NAS เรื่องนี้เล่าถึงอุปกรณ์เสริมสำหรับการจัดเก็บข้อมูล TerraMaster D4-320U ที่ออกแบบมาให้ติดตั้งในตู้แร็ค ใช้งานง่ายเพียงใส่ฮาร์ดดิสก์หรือ SSD แล้วเชื่อมต่อผ่านสาย USB 3.2 ก็สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้ทันที จุดเด่นคือรองรับสูงสุดถึง 120TB แต่ไม่มีระบบ RAID ในตัว ทำให้เหมาะสำหรับการขยายพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่าการใช้งานเป็น NAS หลัก แม้จะมีเสียงพัดลมดังไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและยืดหยุ่นสำหรับธุรกิจหรือผู้ทำงานด้านภาพและวิดีโอที่ต้องการพื้นที่มหาศาล 🔗 https://www.techradar.com/computing/terramaster-d4-320u-nas-review 🤖 เคล็ดลับการใช้ Nano Banana Pro ของ Google Google เปิดเผยเทคนิคการเขียน prompt สำหรับเครื่องมือสร้างภาพด้วย AI ที่ชื่อ Nano Banana Pro ซึ่งทำงานบน Gemini 3 โดยมีผู้ใช้แชร์วิธีที่น่าสนใจ 3 แบบ ได้แก่ การเขียน prompt แบบโค้ดกำหนดตัวแปรเพื่อให้ภาพมีความสอดคล้อง การใส่ “ความไม่สมบูรณ์” เช่นแสงรั่วหรือภาพเบลอเล็กน้อยเพื่อให้ดูสมจริง และการเปลี่ยนมุมมองเพื่อให้ภาพมีมิติและเล่าเรื่องได้ลึกขึ้น เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการสร้างภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและสมจริงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/3-advanced-strategies-for-making-the-most-of-nano-banana-pro 🔒 สกัดการเข้าถึงเว็บอันตรายเกือบพันล้านครั้งในสหราชอาณาจักร หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหราชอาณาจักร (NCSC) รายงานว่าเครื่องมือใหม่ชื่อ “Share and Defend” สามารถบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์อันตรายได้เกือบพันล้านครั้งภายในเวลาไม่ถึงปี ระบบนี้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันผู้ใช้จากการถูกขโมยข้อมูลหรือเงิน โดยในช่วงเดียวกันยังพบว่าการโจมตี ransomware เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว และการเคลมประกันไซเบอร์พุ่งสูงถึง 230% ทำให้รัฐบาลเตรียมแผนรับมือใหม่เพื่อเสริมความปลอดภัยทางดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/uk-cybercrime-agency-blocks-nearly-1-billion-access-attempts-to-malicious-websites 🎮 งาน PC Gaming Show: Most Wanted วันนี้มีการจัดงาน PC Gaming Show: Most Wanted ที่จะนับถอยหลัง 25 เกม PC ที่ถูกคาดหวังมากที่สุดในปี 2026 พร้อมทั้งมีการเปิดตัวตัวอย่างใหม่และเบื้องหลังจากเกมกว่า 50 เรื่อง เช่น Resident Evil Requiem, Lego Batman: Legacy of the Dark Knight และ 007 First Light งานนี้ถ่ายทอดสดผ่านหลายช่องทาง และถือเป็นเวทีใหญ่ที่รวมเกมใหม่ ๆ ที่แฟน ๆ รอคอยไว้มากมาย 🔗 https://www.techradar.com/gaming/gaming-industry/the-pc-gaming-show-most-wanted-airs-today-heres-when-you-can-tune-in-and-what-announcements-you-can-expect 🌐 Ofcom พิจารณามาตรการเพิ่มเติมเกี่ยวกับ VPN หลัง Online Safety Act หน่วยงานกำกับดูแลสื่อสารของสหราชอาณาจักร (Ofcom) กำลังเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ VPN โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบอายุหลังจากกฎหมาย Online Safety Act มีผลบังคับใช้ ขณะนี้ Ofcom ได้ลงทุนกว่า 500,000 ปอนด์ในเครื่องมือเฝ้าระวังอินเทอร์เน็ต และยังตั้งคณะทำงานร่วมกับผู้แทนเด็กเพื่อฟังความคิดเห็นโดยตรง การตัดสินใจว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมหรือไม่คาดว่าจะออกมาในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/ofcom-weighs-further-action-on-vpns-following-online-safety-act 📱 ข่าว Samsung เตรียมแก้ปัญหาโฆษณาในมือถือ Samsung กำลังพัฒนา One UI 8.5 ที่จะช่วยลดปัญหาโฆษณาที่รบกวนผู้ใช้ในสมาร์ทโฟน โดยเฉพาะการแจ้งเตือนที่มักจะปรากฏขึ้นบ่อยครั้ง การอัปเดตใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะทำให้ประสบการณ์ใช้งานราบรื่นขึ้น และช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องเจอกับโฆษณาที่ไม่ต้องการอีกต่อไป ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ Galaxy ที่รอคอยการปรับปรุงด้านนี้มานาน 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phones-ad-nightmare-could-soon-be-over-thanks-to-this-one-ui-8-5-upgrade 💻 อัปเดต Windows 11 ล่าสุดแก้บั๊ก แต่ยังมีปัญหา Microsoft ปล่อยอัปเดตใหม่ของ Windows 11 ที่แก้ไขบั๊กหลายอย่าง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผู้ใช้ควรระวัง โดยเฉพาะผู้ที่ใช้โหมดมืด (Dark Mode) เนื่องจากอัปเดตนี้อาจทำให้ระบบแสดงผลผิดพลาด แม้จะช่วยแก้ปัญหาบางอย่าง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ผู้ใช้จะเจอปัญหาใหม่ จึงควรรอการปรับปรุงเพิ่มเติมก่อนที่จะติดตั้ง 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/latest-windows-11-update-fixes-some-nasty-bugs-but-dont-grab-it-yet-especially-if-you-use-dark-mode ⚖️ สหราชอาณาจักรปรับแพลตฟอร์มผู้ใหญ่ 1 ล้านปอนด์ รัฐบาลอังกฤษออกค่าปรับกว่า 1 ล้านปอนด์ต่อแพลตฟอร์มผู้ใหญ่ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎการตรวจสอบอายุ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการเพื่อปกป้องเยาวชนออนไลน์ การบังคับใช้กฎหมายนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของสหราชอาณาจักรในการจัดการกับแพลตฟอร์มที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยทางดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-issues-gbp1-million-fine-to-adult-platform-for-failing-to-comply-with-age-verification-rules 📷 iPhone 17 Pro สูญเสียฟีเจอร์กล้องสำคัญ Apple ทำให้หลายคนแปลกใจเมื่อ iPhone 17 Pro ถูกตัดฟีเจอร์กล้องที่เคยเป็นจุดขายออกไป โดยบริษัทไม่ได้ให้คำอธิบายชัดเจนว่าทำไมถึงตัดสินใจเช่นนั้น ข่าวนี้สร้างความสงสัยและการถกเถียงในหมู่ผู้ใช้และนักวิเคราะห์ เพราะฟีเจอร์ดังกล่าวเคยเป็นหนึ่งในจุดแข็งของรุ่น Pro ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/the-iphone-17-pro-has-just-lost-a-key-camera-feature-and-apple-wont-explain-why
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251205 #securityonline

    Google ทดลองให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ แต่กลับทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยน
    Google กำลังทดสอบระบบที่ให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ในบริการ Google Discover โดยตั้งใจให้ผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาได้เร็วขึ้นและกดเข้าไปอ่าน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะหลายครั้งหัวข้อที่ AI เขียนขึ้นมาเกิดการบิดเบือนความหมายเดิมจนทำให้เข้าใจผิด ตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับเครื่องเกม Steam Machine ที่ยังไม่เปิดเผยราคา แต่ AI กลับเขียนหัวข้อว่า “Steam Machine price revealed” ซึ่งผิดไปจากข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า หากปล่อยให้ AI เขียนหัวข้อข่าวโดยไม่มีการควบคุม อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดและลดความน่าเชื่อถือของสื่อ รวมถึงกระทบต่อจำนวนคนที่คลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาจริง แม้ Google จะบอกว่าทดลองกับผู้ใช้เพียงส่วนน้อย แต่สำนักข่าวหลายแห่งก็เริ่มเห็นผลกระทบต่อทราฟฟิกของตนแล้ว
    https://securityonline.info/misleading-ai-headlines-google-discover-testing-rewrites-that-distort-news-facts

    AWS ดันชิป Trainium สร้างรายได้หลายพันล้าน ท้าชน NVIDIA
    Amazon ผ่าน AWS กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดชิป AI ที่ NVIDIA ครองอยู่ ด้วยการพัฒนา Trainium ซึ่งตอนนี้ทำรายได้ระดับหลายพันล้านดอลลาร์แล้ว โดยรุ่น Trainium2 ถูกใช้งานมากกว่า 100,000 บริษัท และผลิตไปแล้วกว่า 1 ล้านชิป จุดเด่นคือราคาถูกกว่า GPU ของ NVIDIA แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพสูง ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ โดยเฉพาะ Anthropic ที่ใช้ชิป Trainium2 กว่า 500,000 ตัวในการสร้างโมเดลใหม่ของ Claude ล่าสุด AWS เปิดตัว Trainium3 ที่แรงขึ้น 4 เท่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมแผนพัฒนา Trainium4 ที่สามารถทำงานร่วมกับ GPU ของ NVIDIA ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากการแข่งตรง ๆ ไปสู่การสร้างระบบไฮบริดที่ยืดหยุ่นกว่า
    https://securityonline.info/aws-trainium-chip-business-hits-multi-billion-revenue-challenging-nvidias-pricing

    Meta ดึงตัวดีไซน์เนอร์ระดับตำนานจาก Apple มาสร้างสตูดิโอใหม่
    Mark Zuckerberg ประกาศว่า Meta ได้ดึง Alan Dye อดีตหัวหน้าฝ่าย Human Interface Design ของ Apple มานำทีม Creative Studio ใหม่ใน Reality Labs Alan Dye เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังงานออกแบบสำคัญของ Apple เช่น Apple Watch, iPhone X และ Vision Pro การเข้ามาของเขาถูกมองว่าเป็นการยกระดับงานดีไซน์ของ Meta ให้มีความโดดเด่นและผสมผสานระหว่างแฟชั่น เทคโนโลยี และ AI โดย Dye จะทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ที่มีทั้ง Billy Sorrentino และ Joshua To เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ Meta การดึงตัวบุคลากรจาก Apple ครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ที่กำลังแย่งชิงอนาคตของอุปกรณ์ AI และสมาร์ทแกดเจ็ต
    https://securityonline.info/design-wars-meta-hires-apple-veteran-alan-dye-to-lead-new-reality-labs-creative-studio

    ปฏิบัติการ DUPEHIKE: มัลแวร์เจาะฝ่าย HR ของรัสเซีย
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบเจาะจงที่ถูกตั้งชื่อว่า Operation DUPEHIKE โดยกลุ่มแฮกเกอร์ใช้วิธีส่งอีเมลหลอกล่อพนักงานฝ่ายบุคคลและเงินเดือน ด้วยไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารโบนัสสิ้นปี แต่แท้จริงแล้วเป็นไฟล์ลัด (LNK) ที่เมื่อเปิดขึ้นจะไปดาวน์โหลดมัลแวร์ชื่อ DUPERUNNER ผ่าน PowerShell ทำงานเบื้องหลังอย่างแนบเนียน มัลแวร์นี้สามารถฉีดโค้ดเข้าไปในโปรเซสที่ใช้บ่อย เช่น explorer.exe หรือ notepad.exe เพื่อให้ฝังตัวถาวร และสุดท้ายจะติดตั้ง Adaptix C2 ซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมจากระยะไกล เป้าหมายคือการสอดแนมและควบคุมระบบขององค์กรที่ตกเป็นเหยื่อ
    https://securityonline.info/operation-dupehike-hits-russian-hr-bonus-lure-delivers-duperunner-and-adaptix-c2-via-process-injection

    ช่องโหว่ Splunk บน Windows เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์
    Splunk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลชื่อดัง พบช่องโหว่ร้ายแรงสองรายการ (CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387) ที่ทำให้การติดตั้งบน Windows กำหนดสิทธิ์ไฟล์ผิดพลาด เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมินเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้ หากแฮกเกอร์ได้สิทธิ์ผู้ใช้ระดับต่ำ ก็สามารถแก้ไขไฟล์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรจะถูกป้องกันไว้ได้ทันที ทาง Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว
    https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows

    ช่องโหว่ Cacti เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจากระยะไกล
    Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับทำกราฟเครือข่าย พบช่องโหว่ร้ายแรง (CVE-2025-66399) ที่เกี่ยวกับการจัดการค่า SNMP Community String หากผู้ใช้ใส่ค่าที่มีตัวอักษรพิเศษหรือบรรทัดใหม่ ระบบจะไม่กรองออก ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทรกคำสั่งอันตรายเข้าไปได้ เมื่อระบบนำค่าเหล่านี้ไปใช้กับเครื่องมือ SNMP ภายนอก คำสั่งที่ถูกแทรกก็จะถูกรันทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 1.2.29 และแนะนำให้อัปเดตทันที
    https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection

    กลุ่ม Calisto APT รัสเซียโจมตี NGO ด้วยฟิชชิ่งแบบใหม่
    กลุ่มแฮกเกอร์ Calisto ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย ได้พุ่งเป้าโจมตีองค์กร Reporters Without Borders (RSF) โดยใช้เทคนิคฟิชชิ่งที่ซับซ้อน พวกเขาส่งอีเมลแสร้งเป็นคนรู้จัก พร้อมไฟล์ที่ “หายไป” หรือไฟล์ที่เปิดไม่ได้ เพื่อให้เหยื่อขอไฟล์ใหม่ เมื่อเหยื่อตอบกลับก็จะได้รับลิงก์ไปยังไฟล์ที่แท้จริงซึ่งเป็นมัลแวร์ ฟิชชิ่งนี้ยังใช้เทคนิค AiTM (Adversary-in-the-Middle) เพื่อดักข้อมูลการเข้าสู่ระบบและรหัส 2FA แบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่เจาะจง NGO ที่เกี่ยวข้องกับยูเครนและเสรีภาพสื่อโดยตรง
    https://securityonline.info/russian-calisto-apt-targets-reporters-without-borders-with-custom-aitm-phishing-and-missing-file-lure

    NVIDIA Triton Server พบช่องโหว่ DoS ร้ายแรง
    NVIDIA ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ Triton Inference Server ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการรันโมเดล AI พบช่องโหว่สองรายการ (CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ผิดรูปแบบหรือใหญ่เกินไปจนทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ ผลคือบริการ AI inference จะหยุดทำงานทันที ซึ่งอาจกระทบต่อองค์กรที่พึ่งพา AI ในการประมวลผลขนาดใหญ่ NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน r25.10 เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/nvidia-triton-server-patches-two-high-severity-dos-flaws-risking-critical-ai-inference-disruption

    Patchwork APT ใช้ StreamSpy Trojan ซ่อนคำสั่งใน WebSocket
    กลุ่มแฮกเกอร์ Patchwork APT ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ StreamSpy Trojan ที่มีความสามารถในการซ่อนคำสั่งควบคุม (C2) ภายในทราฟฟิก WebSocket ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนเป็นการใช้งานเว็บตามปกติ เทคนิคนี้ช่วยให้การสอดแนมดำเนินไปโดยไม่ถูกตรวจจับง่าย ๆ และยังสามารถดึงข้อมูลหรือสั่งการเครื่องเหยื่อได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการพัฒนาแนวทางโจมตีที่เน้นความลับและการพรางตัวสูง
    https://securityonline.info/patchwork-apt-deploys-streamspy-trojan-hiding-c2-commands-in-websocket-traffic-for-stealth-espionage

    ความต้องการ AI ลดลง Microsoft ปรับลดโควตายอดขาย
    มีรายงานว่า Microsoft ได้ปรับลดโควตายอดขายของทีม Enterprise AI ลงมากถึง 50% เนื่องจากความต้องการใช้งาน AI ในระดับองค์กรไม่เติบโตตามที่คาดไว้ สาเหตุหลักมาจากลูกค้าหลายรายยังลังเลที่จะลงทุนในโซลูชัน AI ขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและความไม่แน่ใจในผลลัพธ์ที่แท้จริง การปรับลดนี้สะท้อนถึงความท้าทายของตลาด AI ที่แม้จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แต่การนำไปใช้จริงในองค์กรยังต้องใช้เวลาและการพิสูจน์คุณค่า
    https://securityonline.info/ai-demand-struggles-microsoft-slashes-enterprise-ai-sales-quotas-by-up-to-50

    Telegram เตรียมใช้ Passkey แทน SMS สำหรับการล็อกอิน
    Telegram กำลังพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ โดยจะใช้ Passkey Authentication แทนการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการดักข้อความ ระบบ Passkey จะทำงานร่วมกับมาตรฐาน FIDO2 และ WebAuthn ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ด้วยการยืนยันจากอุปกรณ์ที่เชื่อถือ เช่น ลายนิ้วมือหรือ Face ID การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การใช้งาน Telegram ปลอดภัยขึ้นและลดการพึ่งพา SMS ที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login

    SpyCloud เผยผู้ใช้บริษัทเสี่ยงฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ 3 เท่า
    ข้อมูลจาก SpyCloud ระบุว่าผู้ใช้ในองค์กรมีโอกาสถูกโจมตีด้วยฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ถึง 3 เท่า โดยการโจมตีฟิชชิ่งมักใช้วิธีหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ซึ่งง่ายต่อการดำเนินการและได้ผลเร็วกว่า การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานและการใช้ระบบตรวจจับฟิชชิ่งมากขึ้น เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต
    https://securityonline.info/spycloud-data-shows-corporate-users-3x-more-likely-to-be-targeted-by-phishing-than-by-malware

    อินเดียยกเลิกบังคับใช้แอป Sanchar Saathi หลังถูกต่อต้าน
    รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกข้อบังคับที่ให้ประชาชนต้องใช้แอป Sanchar Saathi ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวง หลังจากประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ออกมาคัดค้านอย่างหนัก โดยมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและเสรีภาพดิจิทัล การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากสังคมที่ไม่ยอมรับการควบคุมที่เข้มงวดเกินไป และเป็นการปรับท่าทีของรัฐบาลต่อการใช้งานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/policy-u-turn-india-drops-mandatory-sanchar-saathi-app-after-fierce-opposition
    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251205 #securityonline 📰 Google ทดลองให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ แต่กลับทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยน Google กำลังทดสอบระบบที่ให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ในบริการ Google Discover โดยตั้งใจให้ผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาได้เร็วขึ้นและกดเข้าไปอ่าน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะหลายครั้งหัวข้อที่ AI เขียนขึ้นมาเกิดการบิดเบือนความหมายเดิมจนทำให้เข้าใจผิด ตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับเครื่องเกม Steam Machine ที่ยังไม่เปิดเผยราคา แต่ AI กลับเขียนหัวข้อว่า “Steam Machine price revealed” ซึ่งผิดไปจากข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า หากปล่อยให้ AI เขียนหัวข้อข่าวโดยไม่มีการควบคุม อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดและลดความน่าเชื่อถือของสื่อ รวมถึงกระทบต่อจำนวนคนที่คลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาจริง แม้ Google จะบอกว่าทดลองกับผู้ใช้เพียงส่วนน้อย แต่สำนักข่าวหลายแห่งก็เริ่มเห็นผลกระทบต่อทราฟฟิกของตนแล้ว 🔗 https://securityonline.info/misleading-ai-headlines-google-discover-testing-rewrites-that-distort-news-facts 💻 AWS ดันชิป Trainium สร้างรายได้หลายพันล้าน ท้าชน NVIDIA Amazon ผ่าน AWS กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดชิป AI ที่ NVIDIA ครองอยู่ ด้วยการพัฒนา Trainium ซึ่งตอนนี้ทำรายได้ระดับหลายพันล้านดอลลาร์แล้ว โดยรุ่น Trainium2 ถูกใช้งานมากกว่า 100,000 บริษัท และผลิตไปแล้วกว่า 1 ล้านชิป จุดเด่นคือราคาถูกกว่า GPU ของ NVIDIA แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพสูง ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ โดยเฉพาะ Anthropic ที่ใช้ชิป Trainium2 กว่า 500,000 ตัวในการสร้างโมเดลใหม่ของ Claude ล่าสุด AWS เปิดตัว Trainium3 ที่แรงขึ้น 4 เท่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมแผนพัฒนา Trainium4 ที่สามารถทำงานร่วมกับ GPU ของ NVIDIA ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากการแข่งตรง ๆ ไปสู่การสร้างระบบไฮบริดที่ยืดหยุ่นกว่า 🔗 https://securityonline.info/aws-trainium-chip-business-hits-multi-billion-revenue-challenging-nvidias-pricing 🎨 Meta ดึงตัวดีไซน์เนอร์ระดับตำนานจาก Apple มาสร้างสตูดิโอใหม่ Mark Zuckerberg ประกาศว่า Meta ได้ดึง Alan Dye อดีตหัวหน้าฝ่าย Human Interface Design ของ Apple มานำทีม Creative Studio ใหม่ใน Reality Labs Alan Dye เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังงานออกแบบสำคัญของ Apple เช่น Apple Watch, iPhone X และ Vision Pro การเข้ามาของเขาถูกมองว่าเป็นการยกระดับงานดีไซน์ของ Meta ให้มีความโดดเด่นและผสมผสานระหว่างแฟชั่น เทคโนโลยี และ AI โดย Dye จะทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ที่มีทั้ง Billy Sorrentino และ Joshua To เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ Meta การดึงตัวบุคลากรจาก Apple ครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ที่กำลังแย่งชิงอนาคตของอุปกรณ์ AI และสมาร์ทแกดเจ็ต 🔗 https://securityonline.info/design-wars-meta-hires-apple-veteran-alan-dye-to-lead-new-reality-labs-creative-studio 🕵️‍♂️ ปฏิบัติการ DUPEHIKE: มัลแวร์เจาะฝ่าย HR ของรัสเซีย เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบเจาะจงที่ถูกตั้งชื่อว่า Operation DUPEHIKE โดยกลุ่มแฮกเกอร์ใช้วิธีส่งอีเมลหลอกล่อพนักงานฝ่ายบุคคลและเงินเดือน ด้วยไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารโบนัสสิ้นปี แต่แท้จริงแล้วเป็นไฟล์ลัด (LNK) ที่เมื่อเปิดขึ้นจะไปดาวน์โหลดมัลแวร์ชื่อ DUPERUNNER ผ่าน PowerShell ทำงานเบื้องหลังอย่างแนบเนียน มัลแวร์นี้สามารถฉีดโค้ดเข้าไปในโปรเซสที่ใช้บ่อย เช่น explorer.exe หรือ notepad.exe เพื่อให้ฝังตัวถาวร และสุดท้ายจะติดตั้ง Adaptix C2 ซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมจากระยะไกล เป้าหมายคือการสอดแนมและควบคุมระบบขององค์กรที่ตกเป็นเหยื่อ 🔗 https://securityonline.info/operation-dupehike-hits-russian-hr-bonus-lure-delivers-duperunner-and-adaptix-c2-via-process-injection ⚠️ ช่องโหว่ Splunk บน Windows เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์ Splunk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลชื่อดัง พบช่องโหว่ร้ายแรงสองรายการ (CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387) ที่ทำให้การติดตั้งบน Windows กำหนดสิทธิ์ไฟล์ผิดพลาด เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมินเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้ หากแฮกเกอร์ได้สิทธิ์ผู้ใช้ระดับต่ำ ก็สามารถแก้ไขไฟล์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรจะถูกป้องกันไว้ได้ทันที ทาง Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows 🖥️ ช่องโหว่ Cacti เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจากระยะไกล Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับทำกราฟเครือข่าย พบช่องโหว่ร้ายแรง (CVE-2025-66399) ที่เกี่ยวกับการจัดการค่า SNMP Community String หากผู้ใช้ใส่ค่าที่มีตัวอักษรพิเศษหรือบรรทัดใหม่ ระบบจะไม่กรองออก ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทรกคำสั่งอันตรายเข้าไปได้ เมื่อระบบนำค่าเหล่านี้ไปใช้กับเครื่องมือ SNMP ภายนอก คำสั่งที่ถูกแทรกก็จะถูกรันทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 1.2.29 และแนะนำให้อัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection 🎯 กลุ่ม Calisto APT รัสเซียโจมตี NGO ด้วยฟิชชิ่งแบบใหม่ กลุ่มแฮกเกอร์ Calisto ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย ได้พุ่งเป้าโจมตีองค์กร Reporters Without Borders (RSF) โดยใช้เทคนิคฟิชชิ่งที่ซับซ้อน พวกเขาส่งอีเมลแสร้งเป็นคนรู้จัก พร้อมไฟล์ที่ “หายไป” หรือไฟล์ที่เปิดไม่ได้ เพื่อให้เหยื่อขอไฟล์ใหม่ เมื่อเหยื่อตอบกลับก็จะได้รับลิงก์ไปยังไฟล์ที่แท้จริงซึ่งเป็นมัลแวร์ ฟิชชิ่งนี้ยังใช้เทคนิค AiTM (Adversary-in-the-Middle) เพื่อดักข้อมูลการเข้าสู่ระบบและรหัส 2FA แบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่เจาะจง NGO ที่เกี่ยวข้องกับยูเครนและเสรีภาพสื่อโดยตรง 🔗 https://securityonline.info/russian-calisto-apt-targets-reporters-without-borders-with-custom-aitm-phishing-and-missing-file-lure 🤖 NVIDIA Triton Server พบช่องโหว่ DoS ร้ายแรง NVIDIA ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ Triton Inference Server ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการรันโมเดล AI พบช่องโหว่สองรายการ (CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ผิดรูปแบบหรือใหญ่เกินไปจนทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ ผลคือบริการ AI inference จะหยุดทำงานทันที ซึ่งอาจกระทบต่อองค์กรที่พึ่งพา AI ในการประมวลผลขนาดใหญ่ NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน r25.10 เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/nvidia-triton-server-patches-two-high-severity-dos-flaws-risking-critical-ai-inference-disruption 🕶️ Patchwork APT ใช้ StreamSpy Trojan ซ่อนคำสั่งใน WebSocket กลุ่มแฮกเกอร์ Patchwork APT ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ StreamSpy Trojan ที่มีความสามารถในการซ่อนคำสั่งควบคุม (C2) ภายในทราฟฟิก WebSocket ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนเป็นการใช้งานเว็บตามปกติ เทคนิคนี้ช่วยให้การสอดแนมดำเนินไปโดยไม่ถูกตรวจจับง่าย ๆ และยังสามารถดึงข้อมูลหรือสั่งการเครื่องเหยื่อได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการพัฒนาแนวทางโจมตีที่เน้นความลับและการพรางตัวสูง 🔗 https://securityonline.info/patchwork-apt-deploys-streamspy-trojan-hiding-c2-commands-in-websocket-traffic-for-stealth-espionage 📉 ความต้องการ AI ลดลง Microsoft ปรับลดโควตายอดขาย มีรายงานว่า Microsoft ได้ปรับลดโควตายอดขายของทีม Enterprise AI ลงมากถึง 50% เนื่องจากความต้องการใช้งาน AI ในระดับองค์กรไม่เติบโตตามที่คาดไว้ สาเหตุหลักมาจากลูกค้าหลายรายยังลังเลที่จะลงทุนในโซลูชัน AI ขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและความไม่แน่ใจในผลลัพธ์ที่แท้จริง การปรับลดนี้สะท้อนถึงความท้าทายของตลาด AI ที่แม้จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แต่การนำไปใช้จริงในองค์กรยังต้องใช้เวลาและการพิสูจน์คุณค่า 🔗 https://securityonline.info/ai-demand-struggles-microsoft-slashes-enterprise-ai-sales-quotas-by-up-to-50 🔐 Telegram เตรียมใช้ Passkey แทน SMS สำหรับการล็อกอิน Telegram กำลังพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ โดยจะใช้ Passkey Authentication แทนการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการดักข้อความ ระบบ Passkey จะทำงานร่วมกับมาตรฐาน FIDO2 และ WebAuthn ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ด้วยการยืนยันจากอุปกรณ์ที่เชื่อถือ เช่น ลายนิ้วมือหรือ Face ID การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การใช้งาน Telegram ปลอดภัยขึ้นและลดการพึ่งพา SMS ที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login 🎣 SpyCloud เผยผู้ใช้บริษัทเสี่ยงฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ 3 เท่า ข้อมูลจาก SpyCloud ระบุว่าผู้ใช้ในองค์กรมีโอกาสถูกโจมตีด้วยฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ถึง 3 เท่า โดยการโจมตีฟิชชิ่งมักใช้วิธีหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ซึ่งง่ายต่อการดำเนินการและได้ผลเร็วกว่า การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานและการใช้ระบบตรวจจับฟิชชิ่งมากขึ้น เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/spycloud-data-shows-corporate-users-3x-more-likely-to-be-targeted-by-phishing-than-by-malware 🇮🇳 อินเดียยกเลิกบังคับใช้แอป Sanchar Saathi หลังถูกต่อต้าน รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกข้อบังคับที่ให้ประชาชนต้องใช้แอป Sanchar Saathi ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวง หลังจากประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ออกมาคัดค้านอย่างหนัก โดยมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและเสรีภาพดิจิทัล การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากสังคมที่ไม่ยอมรับการควบคุมที่เข้มงวดเกินไป และเป็นการปรับท่าทีของรัฐบาลต่อการใช้งานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/policy-u-turn-india-drops-mandatory-sanchar-saathi-app-after-fierce-opposition
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Windows 11 Dark Mode กลายเป็น Flashbang – ผู้ใช้สะดุ้งตาแตก"

    Microsoft ปล่อย Windows 11 Preview Build KB5070311 โดยระบุว่าจะทำให้ Dark Mode ใน Explorer มีความสม่ำเสมอมากขึ้น ครอบคลุมทั้งหน้าต่าง copy/move/delete, progress bar, chart view และ dialog ยืนยัน แต่ผู้ใช้กลับพบว่าเมื่อเปิด Explorer หรือสลับไปยัง Home/Gallery หน้าจอกลับ แสดงแสงขาวจ้า ก่อนโหลดเนื้อหาจริง.

    บั๊กนี้สามารถถูกกระตุ้นได้หลายวิธี เช่น การสร้างแท็บใหม่, เปิด/ปิด Details pane, หรือเลือก “More Details” ระหว่างการ copy ไฟล์ ทำให้ผู้ใช้ที่ตั้งค่า Dark Mode ต้องเจอแสงแฟลชทุกครั้ง โดยวิธีแก้ชั่วคราวคือ ปิด Dark Mode ทั้งหมด.

    แม้จะมีบั๊ก แต่ Preview Build ยังมีฟีเจอร์ใหม่ เช่น Full-Screen Experience สำหรับ handheld, ปากกา haptic ที่ตอบสนอง UI, การปรับแต่งคีย์บอร์ด backlit, และการแชร์ไฟล์หลายรายการพร้อมกัน รวมถึงการแก้บั๊กเกมที่เคยขึ้นข้อความ “unsupported graphics card detected”.

    ผู้ใช้บางคนมองว่าเป็นเรื่องตลก เพราะ Microsoft โฆษณาว่าจะทำให้ Dark Mode “consistent” แต่กลับสร้างเอฟเฟกต์ตรงข้าม ขณะที่นักรีวิวเรียกมันว่า “Flashbang bug” ซึ่งกลายเป็นมีมในชุมชน Windows.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Windows 11 Preview Build KB5070311 มีบั๊ก Dark Mode แสดงแสงขาวจ้า
    เกิดขึ้นเมื่อเปิด Explorer, สร้างแท็บใหม่, หรือเปิด Details pane
    วิธีแก้ชั่วคราวคือปิด Dark Mode
    Build ยังเพิ่มฟีเจอร์ Full-Screen Experience, haptic pen, multi-file sharing

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    Dark Mode เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ Windows เรียกร้องมากที่สุดตั้งแต่ปี 2019
    Microsoft มักใช้ Preview Build เพื่อทดสอบก่อนปล่อยจริง แต่บั๊กเช่นนี้เกิดบ่อย
    ชุมชน Windows มีประวัติการสร้างมีมจากบั๊ก UI เช่น “Blue Screen of Death”

    คำเตือนจากข่าว
    บั๊ก Flashbang อาจรบกวนผู้ใช้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมแสงน้อย
    Preview Build มีความเสี่ยง ไม่ควรติดตั้งบนเครื่องหลัก
    Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขอย่างเป็นทางการ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/windows-11-update-designed-to-improve-dark-mode-greets-users-with-a-flashbang-preview-build-stuns-unsuspecting-eyeballs
    💡 "Windows 11 Dark Mode กลายเป็น Flashbang – ผู้ใช้สะดุ้งตาแตก" Microsoft ปล่อย Windows 11 Preview Build KB5070311 โดยระบุว่าจะทำให้ Dark Mode ใน Explorer มีความสม่ำเสมอมากขึ้น ครอบคลุมทั้งหน้าต่าง copy/move/delete, progress bar, chart view และ dialog ยืนยัน แต่ผู้ใช้กลับพบว่าเมื่อเปิด Explorer หรือสลับไปยัง Home/Gallery หน้าจอกลับ แสดงแสงขาวจ้า ก่อนโหลดเนื้อหาจริง. บั๊กนี้สามารถถูกกระตุ้นได้หลายวิธี เช่น การสร้างแท็บใหม่, เปิด/ปิด Details pane, หรือเลือก “More Details” ระหว่างการ copy ไฟล์ ทำให้ผู้ใช้ที่ตั้งค่า Dark Mode ต้องเจอแสงแฟลชทุกครั้ง โดยวิธีแก้ชั่วคราวคือ ปิด Dark Mode ทั้งหมด. แม้จะมีบั๊ก แต่ Preview Build ยังมีฟีเจอร์ใหม่ เช่น Full-Screen Experience สำหรับ handheld, ปากกา haptic ที่ตอบสนอง UI, การปรับแต่งคีย์บอร์ด backlit, และการแชร์ไฟล์หลายรายการพร้อมกัน รวมถึงการแก้บั๊กเกมที่เคยขึ้นข้อความ “unsupported graphics card detected”. ผู้ใช้บางคนมองว่าเป็นเรื่องตลก เพราะ Microsoft โฆษณาว่าจะทำให้ Dark Mode “consistent” แต่กลับสร้างเอฟเฟกต์ตรงข้าม ขณะที่นักรีวิวเรียกมันว่า “Flashbang bug” ซึ่งกลายเป็นมีมในชุมชน Windows. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Windows 11 Preview Build KB5070311 มีบั๊ก Dark Mode แสดงแสงขาวจ้า ➡️ เกิดขึ้นเมื่อเปิด Explorer, สร้างแท็บใหม่, หรือเปิด Details pane ➡️ วิธีแก้ชั่วคราวคือปิด Dark Mode ➡️ Build ยังเพิ่มฟีเจอร์ Full-Screen Experience, haptic pen, multi-file sharing ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ Dark Mode เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้ Windows เรียกร้องมากที่สุดตั้งแต่ปี 2019 ➡️ Microsoft มักใช้ Preview Build เพื่อทดสอบก่อนปล่อยจริง แต่บั๊กเช่นนี้เกิดบ่อย ➡️ ชุมชน Windows มีประวัติการสร้างมีมจากบั๊ก UI เช่น “Blue Screen of Death” ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ บั๊ก Flashbang อาจรบกวนผู้ใช้ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมแสงน้อย ⛔ Preview Build มีความเสี่ยง ไม่ควรติดตั้งบนเครื่องหลัก ⛔ Microsoft ยังไม่มีแพตช์แก้ไขอย่างเป็นทางการ https://www.tomshardware.com/tech-industry/windows-11-update-designed-to-improve-dark-mode-greets-users-with-a-flashbang-preview-build-stuns-unsuspecting-eyeballs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ASRock เปิดตัว H610M Combo – เมนบอร์ดที่รองรับทั้ง DDR4 และ DDR5"

    ASRock เปิดตัวเมนบอร์ด H610M Combo บนแพลตฟอร์ม LGA1700 ที่สามารถใช้งานได้ทั้ง DDR4 และ DDR5 โดยมีสล็อตทั้งหมด 6 ช่อง แบ่งเป็น 2 ช่องสำหรับ DDR4 (สูงสุด 2666 MT/s) และ 4 ช่องสำหรับ DDR5 (สูงสุด 4800 MT/s) แต่ไม่สามารถใช้ทั้งสองรุ่นพร้อมกัน ต้องเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง.

    เมนบอร์ดนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น หากมี DDR4 อยู่แล้วก็สามารถใช้ต่อไปได้ และเมื่อราคาของ DDR5 ลดลงก็สามารถอัปเกรดได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่ ถือเป็นการตอบโจทย์วิกฤตราคาหน่วยความจำที่กำลังพุ่งสูง.

    แม้จะมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ แต่ H610M Combo ยังคงมีข้อจำกัด เช่น ไม่รองรับการโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำ (XMP) และ PCIe จำกัดที่ 4.0 ซึ่งเป็นข้อจำกัดของชิปเซ็ต H610 โดยรวมแล้วเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการระบบพื้นฐานที่ยืดหยุ่นมากกว่าการใช้งานระดับสูง.

    ASRock ยังเสริมด้วยพอร์ต USB-C ที่ด้านหลัง และ VRM ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แม้จะไม่ใช่เมนบอร์ดระดับเรือธง แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและมีทางเลือกในการอัปเกรดในอนาคต.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    ASRock เปิดตัวเมนบอร์ด H610M Combo รองรับทั้ง DDR4 และ DDR5
    มีสล็อตทั้งหมด 6 ช่อง (2 DDR4, 4 DDR5)
    ไม่สามารถใช้ DDR4 และ DDR5 พร้อมกันได้
    ความเร็วสูงสุด DDR4 = 2666 MT/s, DDR5 = 4800 MT/s
    ไม่รองรับ XMP และจำกัด PCIe 4.0

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    DDR5 กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ แต่ราคายังสูงและผันผวน
    เมนบอร์ดแบบ hybrid ช่วยให้ผู้ใช้ค่อย ๆ เปลี่ยนผ่านจาก DDR4 ไป DDR5
    ตลาดเมนบอร์ด hybrid มีผู้เล่นไม่มาก ทำให้ ASRock เป็นหนึ่งในรายแรกที่นำเสนอ

    คำเตือนจากข่าว
    ไม่สามารถใช้ DDR4 และ DDR5 พร้อมกันได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
    ไม่รองรับการโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำ (XMP)
    จำกัด PCIe ที่ 4.0 ไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

    https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/asrock-releases-new-intel-motherboard-with-support-for-both-ddr4-and-ddr5-memory-the-h610-combo-features-both-types-of-dimm-slots-but-you-cant-mix-generations
    🖥️ "ASRock เปิดตัว H610M Combo – เมนบอร์ดที่รองรับทั้ง DDR4 และ DDR5" ASRock เปิดตัวเมนบอร์ด H610M Combo บนแพลตฟอร์ม LGA1700 ที่สามารถใช้งานได้ทั้ง DDR4 และ DDR5 โดยมีสล็อตทั้งหมด 6 ช่อง แบ่งเป็น 2 ช่องสำหรับ DDR4 (สูงสุด 2666 MT/s) และ 4 ช่องสำหรับ DDR5 (สูงสุด 4800 MT/s) แต่ไม่สามารถใช้ทั้งสองรุ่นพร้อมกัน ต้องเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง. เมนบอร์ดนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้ที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น หากมี DDR4 อยู่แล้วก็สามารถใช้ต่อไปได้ และเมื่อราคาของ DDR5 ลดลงก็สามารถอัปเกรดได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดใหม่ ถือเป็นการตอบโจทย์วิกฤตราคาหน่วยความจำที่กำลังพุ่งสูง. แม้จะมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ แต่ H610M Combo ยังคงมีข้อจำกัด เช่น ไม่รองรับการโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำ (XMP) และ PCIe จำกัดที่ 4.0 ซึ่งเป็นข้อจำกัดของชิปเซ็ต H610 โดยรวมแล้วเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการระบบพื้นฐานที่ยืดหยุ่นมากกว่าการใช้งานระดับสูง. ASRock ยังเสริมด้วยพอร์ต USB-C ที่ด้านหลัง และ VRM ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แม้จะไม่ใช่เมนบอร์ดระดับเรือธง แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายและมีทางเลือกในการอัปเกรดในอนาคต. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ ASRock เปิดตัวเมนบอร์ด H610M Combo รองรับทั้ง DDR4 และ DDR5 ➡️ มีสล็อตทั้งหมด 6 ช่อง (2 DDR4, 4 DDR5) ➡️ ไม่สามารถใช้ DDR4 และ DDR5 พร้อมกันได้ ➡️ ความเร็วสูงสุด DDR4 = 2666 MT/s, DDR5 = 4800 MT/s ➡️ ไม่รองรับ XMP และจำกัด PCIe 4.0 ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ DDR5 กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ แต่ราคายังสูงและผันผวน ➡️ เมนบอร์ดแบบ hybrid ช่วยให้ผู้ใช้ค่อย ๆ เปลี่ยนผ่านจาก DDR4 ไป DDR5 ➡️ ตลาดเมนบอร์ด hybrid มีผู้เล่นไม่มาก ทำให้ ASRock เป็นหนึ่งในรายแรกที่นำเสนอ ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ ไม่สามารถใช้ DDR4 และ DDR5 พร้อมกันได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ⛔ ไม่รองรับการโอเวอร์คล็อกหน่วยความจำ (XMP) ⛔ จำกัด PCIe ที่ 4.0 ไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด https://www.tomshardware.com/pc-components/motherboards/asrock-releases-new-intel-motherboard-with-support-for-both-ddr4-and-ddr5-memory-the-h610-combo-features-both-types-of-dimm-slots-but-you-cant-mix-generations
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Nvidia คืนชีพ PhysX 32-bit บน RTX 50 Series"

    Nvidia ประกาศนำฟีเจอร์ GPU-accelerated PhysX แบบ 32-bit กลับมาใช้งานบนการ์ดจอ RTX 50 Series หลังจากเคยยุติการสนับสนุนไปเมื่อต้นปี 2025 โดยการอัปเดต Game Ready Driver ล่าสุดจะทำให้ผู้เล่นสามารถสัมผัสเอฟเฟกต์ฟิสิกส์ที่สมจริง เช่น ragdoll, cloth, particles และ fluid simulation ได้อีกครั้ง.

    รายชื่อเกมที่รองรับทันทีมีทั้งหมด 9 เกมคลาสสิก ได้แก่ Alice: Madness Returns, Assassin’s Creed IV: Black Flag, Batman: Arkham City, Batman: Arkham Origins, Borderlands 2, Mafia II, Metro 2033, Metro: Last Light, และ Mirror’s Edge. ขณะที่ Batman: Arkham Asylum จะได้รับการสนับสนุนในปี 2026.

    PhysX ถือเป็นเทคโนโลยีเก่าที่ Nvidia ซื้อจาก Ageia ในปี 2004 และเคยเป็นจุดขายสำคัญของการ์ดจอ GeForce ในยุค 2000s แต่การใช้งานลดลงในช่วงปลายทศวรรษ 2010 เนื่องจากข้อจำกัดด้าน CUDA และการมาของเอนจินฟิสิกส์ที่ข้ามแพลตฟอร์มได้ดีกว่า.

    การนำ PhysX กลับมาในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการตอบโจทย์แฟนเกมคลาสสิก แต่ยังเป็นการโชว์ศักยภาพของ RTX 50 Series ที่สามารถรันเกมเก่าได้อย่างลื่นไหล พร้อมการปรับปรุงอื่น ๆ เช่น DLSS 4, Multi Frame Generation และ DLSS Super Resolution ที่ช่วยให้เฟรมเรตสูงถึง 460 FPS บนเดสก์ท็อป และ 310 FPS บนโน้ตบุ๊ก 4K Ultra.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Nvidia นำ PhysX 32-bit กลับมาบน RTX 50 Series
    รองรับเกมคลาสสิก 9 เรื่องทันที เช่น Batman Arkham, Metro, Borderlands 2
    Batman: Arkham Asylum จะรองรับในปี 2026
    Driver ใหม่ยังเพิ่ม DLSS 4 และ Multi Frame Generation

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    PhysX เคยเป็นเทคโนโลยีเด่นของ Nvidia ในยุค 2000s
    ปัจจุบันเกมใหม่ ๆ ใช้เอนจินฟิสิกส์ข้ามแพลตฟอร์ม เช่น Havok และ Unreal Engine Physics
    DLSS 4 ช่วยเพิ่มเฟรมเรตได้มากกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับการรันแบบ native

    คำเตือนจากข่าว
    PhysX ยังจำกัดเฉพาะบนการ์ด Nvidia เท่านั้น ไม่รองรับ AMD หรือ Intel GPU
    เกมใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ PhysX แล้ว ทำให้การสนับสนุนจำกัดอยู่กับเกมเก่า
    การเปิดใช้งาน PhysX อาจเพิ่มภาระ GPU และทำให้บางเกมไม่เสถียร

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/nvidia-reinstates-32-bit-physx-support-for-rtx-50-series-as-part-of-its-latest-game-ready-driver-rollout-9-titles-included-in-initial-release
    🎮 "Nvidia คืนชีพ PhysX 32-bit บน RTX 50 Series" Nvidia ประกาศนำฟีเจอร์ GPU-accelerated PhysX แบบ 32-bit กลับมาใช้งานบนการ์ดจอ RTX 50 Series หลังจากเคยยุติการสนับสนุนไปเมื่อต้นปี 2025 โดยการอัปเดต Game Ready Driver ล่าสุดจะทำให้ผู้เล่นสามารถสัมผัสเอฟเฟกต์ฟิสิกส์ที่สมจริง เช่น ragdoll, cloth, particles และ fluid simulation ได้อีกครั้ง. รายชื่อเกมที่รองรับทันทีมีทั้งหมด 9 เกมคลาสสิก ได้แก่ Alice: Madness Returns, Assassin’s Creed IV: Black Flag, Batman: Arkham City, Batman: Arkham Origins, Borderlands 2, Mafia II, Metro 2033, Metro: Last Light, และ Mirror’s Edge. ขณะที่ Batman: Arkham Asylum จะได้รับการสนับสนุนในปี 2026. PhysX ถือเป็นเทคโนโลยีเก่าที่ Nvidia ซื้อจาก Ageia ในปี 2004 และเคยเป็นจุดขายสำคัญของการ์ดจอ GeForce ในยุค 2000s แต่การใช้งานลดลงในช่วงปลายทศวรรษ 2010 เนื่องจากข้อจำกัดด้าน CUDA และการมาของเอนจินฟิสิกส์ที่ข้ามแพลตฟอร์มได้ดีกว่า. การนำ PhysX กลับมาในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการตอบโจทย์แฟนเกมคลาสสิก แต่ยังเป็นการโชว์ศักยภาพของ RTX 50 Series ที่สามารถรันเกมเก่าได้อย่างลื่นไหล พร้อมการปรับปรุงอื่น ๆ เช่น DLSS 4, Multi Frame Generation และ DLSS Super Resolution ที่ช่วยให้เฟรมเรตสูงถึง 460 FPS บนเดสก์ท็อป และ 310 FPS บนโน้ตบุ๊ก 4K Ultra. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Nvidia นำ PhysX 32-bit กลับมาบน RTX 50 Series ➡️ รองรับเกมคลาสสิก 9 เรื่องทันที เช่น Batman Arkham, Metro, Borderlands 2 ➡️ Batman: Arkham Asylum จะรองรับในปี 2026 ➡️ Driver ใหม่ยังเพิ่ม DLSS 4 และ Multi Frame Generation ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ PhysX เคยเป็นเทคโนโลยีเด่นของ Nvidia ในยุค 2000s ➡️ ปัจจุบันเกมใหม่ ๆ ใช้เอนจินฟิสิกส์ข้ามแพลตฟอร์ม เช่น Havok และ Unreal Engine Physics ➡️ DLSS 4 ช่วยเพิ่มเฟรมเรตได้มากกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับการรันแบบ native ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ PhysX ยังจำกัดเฉพาะบนการ์ด Nvidia เท่านั้น ไม่รองรับ AMD หรือ Intel GPU ⛔ เกมใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ PhysX แล้ว ทำให้การสนับสนุนจำกัดอยู่กับเกมเก่า ⛔ การเปิดใช้งาน PhysX อาจเพิ่มภาระ GPU และทำให้บางเกมไม่เสถียร https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/nvidia-reinstates-32-bit-physx-support-for-rtx-50-series-as-part-of-its-latest-game-ready-driver-rollout-9-titles-included-in-initial-release
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Cambricon ตั้งเป้าเพิ่มการผลิตชิป AI 3 เท่า – หวังแทนที่ Nvidia และท้าชน Huawei"

    ข่าวนี้เล่าถึงบริษัท Cambricon Technologies ของจีนที่ตั้งเป้า เพิ่มการผลิตชิป AI เป็น 3 เท่าในปี 2026 เพื่อทดแทนช่องว่างที่ Nvidia ถอนตัวออกจากตลาดจีน และแข่งขันกับ Huawei แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องกำลังการผลิตและคุณภาพการผลิตที่ต่ำ

    Cambricon Technologies มีแผนจะผลิตชิป AI กว่า 500,000 ตัวในปี 2026 รวมถึงรุ่นเรือธง Siyuan 590 และ 690 ซึ่งมากกว่าสามเท่าของจำนวนที่คาดว่าจะผลิตในปี 2025 (ประมาณ 142,000 ตัว). การขยายนี้เกิดขึ้นหลังจาก Nvidia ถูกจำกัดการส่งออกชิปไปยังจีน ทำให้เกิดช่องว่างในตลาดที่บริษัทจีนพยายามเข้ามาเติมเต็ม.

    Cambricon จะพึ่งพากำลังการผลิตจาก Semiconductor Manufacturing International Corp (SMIC) โดยใช้กระบวนการผลิต 7nm N+2 แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องคุณภาพ เนื่องจากชิป Siyuan มีอัตราการผลิตที่ใช้ได้จริงเพียง 20% หรือหนึ่งในห้าของจำนวนที่ผลิตออกมา ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับ TSMC ที่มี yield rate สูงถึง 60%.

    แม้จะมีข้อจำกัดด้านเทคนิค แต่ Cambricon ได้รับแรงหนุนจากรัฐบาลจีนและความต้องการภายในประเทศ โดยมีลูกค้ารายใหญ่เช่น Alibaba และ ByteDance ที่หันมาใช้ชิปจีนตามนโยบายลดการพึ่งพาต่างชาติ รายได้ของบริษัทก็เพิ่มขึ้นกว่า 14 เท่าในไตรมาสล่าสุด สะท้อนความต้องการที่พุ่งสูงในตลาด AI.

    อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงอยู่ที่ การจัดหาวัสดุพื้นฐานและหน่วยความจำ (HBM, LPDDR) ซึ่งขาดแคลนทั่วโลก รวมถึงการแข่งขันกับ Huawei ที่ประกาศว่าจะเพิ่มการผลิตชิปเช่นกัน ทำให้อนาคตของ Cambricon แม้จะสดใส แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงด้านเทคนิคและทรัพยากร.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Cambricon ตั้งเป้าผลิตชิป AI 500,000 ตัวในปี 2026
    ใช้กำลังการผลิตจาก SMIC ที่กระบวนการ 7nm N+2
    Yield rate ของชิป Siyuan อยู่ที่ 20% เทียบกับ TSMC ที่ 60%
    ลูกค้ารายใหญ่: Alibaba และ ByteDance
    รายได้ไตรมาสล่าสุดเพิ่มขึ้น 14 เท่า

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    ตลาดชิป AI คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปีในช่วง 2025–2030
    Huawei กำลังเพิ่มการผลิตชิป AI เพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศ
    การขาดแคลน HBM และ LPDDR เป็นปัญหาสำคัญทั่วโลก

    คำเตือนจากข่าว
    Yield rate ต่ำอาจทำให้ต้นทุนสูงและการผลิตไม่คุ้มค่า
    การขาดแคลนหน่วยความจำอาจทำให้คำสั่งซื้อไม่สามารถส่งมอบได้
    การแข่งขันกับ Huawei อาจทำให้ Cambricon เสียเปรียบในตลาดภายในประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinese-tech-firm-cambricon-looks-to-step-into-nvidia-void-triple-ai-chip-production-next-year-seeks-to-rival-huawei-but-production-remains-a-concern
    ⚙️ "Cambricon ตั้งเป้าเพิ่มการผลิตชิป AI 3 เท่า – หวังแทนที่ Nvidia และท้าชน Huawei" ข่าวนี้เล่าถึงบริษัท Cambricon Technologies ของจีนที่ตั้งเป้า เพิ่มการผลิตชิป AI เป็น 3 เท่าในปี 2026 เพื่อทดแทนช่องว่างที่ Nvidia ถอนตัวออกจากตลาดจีน และแข่งขันกับ Huawei แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องกำลังการผลิตและคุณภาพการผลิตที่ต่ำ Cambricon Technologies มีแผนจะผลิตชิป AI กว่า 500,000 ตัวในปี 2026 รวมถึงรุ่นเรือธง Siyuan 590 และ 690 ซึ่งมากกว่าสามเท่าของจำนวนที่คาดว่าจะผลิตในปี 2025 (ประมาณ 142,000 ตัว). การขยายนี้เกิดขึ้นหลังจาก Nvidia ถูกจำกัดการส่งออกชิปไปยังจีน ทำให้เกิดช่องว่างในตลาดที่บริษัทจีนพยายามเข้ามาเติมเต็ม. Cambricon จะพึ่งพากำลังการผลิตจาก Semiconductor Manufacturing International Corp (SMIC) โดยใช้กระบวนการผลิต 7nm N+2 แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องคุณภาพ เนื่องจากชิป Siyuan มีอัตราการผลิตที่ใช้ได้จริงเพียง 20% หรือหนึ่งในห้าของจำนวนที่ผลิตออกมา ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับ TSMC ที่มี yield rate สูงถึง 60%. แม้จะมีข้อจำกัดด้านเทคนิค แต่ Cambricon ได้รับแรงหนุนจากรัฐบาลจีนและความต้องการภายในประเทศ โดยมีลูกค้ารายใหญ่เช่น Alibaba และ ByteDance ที่หันมาใช้ชิปจีนตามนโยบายลดการพึ่งพาต่างชาติ รายได้ของบริษัทก็เพิ่มขึ้นกว่า 14 เท่าในไตรมาสล่าสุด สะท้อนความต้องการที่พุ่งสูงในตลาด AI. อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงอยู่ที่ การจัดหาวัสดุพื้นฐานและหน่วยความจำ (HBM, LPDDR) ซึ่งขาดแคลนทั่วโลก รวมถึงการแข่งขันกับ Huawei ที่ประกาศว่าจะเพิ่มการผลิตชิปเช่นกัน ทำให้อนาคตของ Cambricon แม้จะสดใส แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงด้านเทคนิคและทรัพยากร. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Cambricon ตั้งเป้าผลิตชิป AI 500,000 ตัวในปี 2026 ➡️ ใช้กำลังการผลิตจาก SMIC ที่กระบวนการ 7nm N+2 ➡️ Yield rate ของชิป Siyuan อยู่ที่ 20% เทียบกับ TSMC ที่ 60% ➡️ ลูกค้ารายใหญ่: Alibaba และ ByteDance ➡️ รายได้ไตรมาสล่าสุดเพิ่มขึ้น 14 เท่า ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ ตลาดชิป AI คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปีในช่วง 2025–2030 ➡️ Huawei กำลังเพิ่มการผลิตชิป AI เพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศ ➡️ การขาดแคลน HBM และ LPDDR เป็นปัญหาสำคัญทั่วโลก ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ Yield rate ต่ำอาจทำให้ต้นทุนสูงและการผลิตไม่คุ้มค่า ⛔ การขาดแคลนหน่วยความจำอาจทำให้คำสั่งซื้อไม่สามารถส่งมอบได้ ⛔ การแข่งขันกับ Huawei อาจทำให้ Cambricon เสียเปรียบในตลาดภายในประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinese-tech-firm-cambricon-looks-to-step-into-nvidia-void-triple-ai-chip-production-next-year-seeks-to-rival-huawei-but-production-remains-a-concern
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • "งานวิจัยเผย AI Chatbots มีอิทธิพลต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง"

    ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งในสหรัฐฯ พบว่า AI Chatbots สามารถเปลี่ยนทัศนคติทางการเมืองของผู้ใช้ได้ โดยเฉพาะเมื่อมีการสนทนาเชิงโต้ตอบที่ต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนกำลังพูดคุยกับบุคคลจริง ๆ มากกว่าการรับข้อมูลจากโฆษณาออนไลน์หรือโพสต์ในโซเชียลมีเดีย.

    นักวิจัยระบุว่า Chatbots มีศักยภาพในการ ปรับแต่งข้อความให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน เช่น การใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียหรือพฤติกรรมออนไลน์ เพื่อสร้างข้อความที่ตรงกับความสนใจและความเชื่อเดิมของผู้ใช้ ซึ่งเพิ่มโอกาสในการโน้มน้าวใจได้มากขึ้น.

    แม้จะมีข้อดีในด้านการสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูล แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การใช้ AI ในการรณรงค์ทางการเมืองอาจสร้างความเสี่ยงต่อความโปร่งใสและความเป็นธรรม เพราะผู้ใช้บางคนอาจไม่รู้ว่ากำลังถูกโน้มน้าวโดยระบบอัตโนมัติ ไม่ใช่บุคคลจริง.

    งานวิจัยนี้จึงจุดประกายการถกเถียงว่า ควรมีการกำกับดูแลการใช้ AI ในการเมือง เพื่อป้องกันการบิดเบือนความคิดเห็นสาธารณะ และรักษาความเชื่อมั่นในกระบวนการประชาธิปไตย โดยหลายฝ่ายเสนอให้มีการออกกฎหมายหรือมาตรฐานใหม่ในการใช้เทคโนโลยีนี้.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    AI Chatbots สามารถเปลี่ยนทัศนคติทางการเมืองของผู้ใช้ได้
    การสนทนาเชิงโต้ตอบมีอิทธิพลมากกว่าการโฆษณาออนไลน์ทั่วไป
    Chatbots สามารถปรับแต่งข้อความให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    หลายประเทศเริ่มถกเถียงเรื่องการกำกับดูแลการใช้ AI ในการเลือกตั้ง
    สหภาพยุโรปมีข้อเสนอให้จำกัดการใช้ AI เพื่อป้องกันการบิดเบือนข้อมูล
    นักวิชาการเตือนว่า AI อาจสร้าง “echo chamber” ที่ทำให้ผู้ใช้เห็นแต่ข้อมูลที่สอดคล้องกับความเชื่อเดิม

    คำเตือนจากข่าว
    ผู้ใช้บางคนอาจไม่รู้ว่ากำลังถูกโน้มน้าวโดยระบบอัตโนมัติ
    การใช้ AI ในการรณรงค์อาจกระทบต่อความโปร่งใสและความเป็นธรรม
    หากไม่มีการกำกับดูแล อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นในประชาธิปไตย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/05/studies-ai-chatbots-can-influence-voters
    🗳️ "งานวิจัยเผย AI Chatbots มีอิทธิพลต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง" ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหลายแห่งในสหรัฐฯ พบว่า AI Chatbots สามารถเปลี่ยนทัศนคติทางการเมืองของผู้ใช้ได้ โดยเฉพาะเมื่อมีการสนทนาเชิงโต้ตอบที่ต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนกำลังพูดคุยกับบุคคลจริง ๆ มากกว่าการรับข้อมูลจากโฆษณาออนไลน์หรือโพสต์ในโซเชียลมีเดีย. นักวิจัยระบุว่า Chatbots มีศักยภาพในการ ปรับแต่งข้อความให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน เช่น การใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียหรือพฤติกรรมออนไลน์ เพื่อสร้างข้อความที่ตรงกับความสนใจและความเชื่อเดิมของผู้ใช้ ซึ่งเพิ่มโอกาสในการโน้มน้าวใจได้มากขึ้น. แม้จะมีข้อดีในด้านการสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูล แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การใช้ AI ในการรณรงค์ทางการเมืองอาจสร้างความเสี่ยงต่อความโปร่งใสและความเป็นธรรม เพราะผู้ใช้บางคนอาจไม่รู้ว่ากำลังถูกโน้มน้าวโดยระบบอัตโนมัติ ไม่ใช่บุคคลจริง. งานวิจัยนี้จึงจุดประกายการถกเถียงว่า ควรมีการกำกับดูแลการใช้ AI ในการเมือง เพื่อป้องกันการบิดเบือนความคิดเห็นสาธารณะ และรักษาความเชื่อมั่นในกระบวนการประชาธิปไตย โดยหลายฝ่ายเสนอให้มีการออกกฎหมายหรือมาตรฐานใหม่ในการใช้เทคโนโลยีนี้. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ AI Chatbots สามารถเปลี่ยนทัศนคติทางการเมืองของผู้ใช้ได้ ➡️ การสนทนาเชิงโต้ตอบมีอิทธิพลมากกว่าการโฆษณาออนไลน์ทั่วไป ➡️ Chatbots สามารถปรับแต่งข้อความให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ หลายประเทศเริ่มถกเถียงเรื่องการกำกับดูแลการใช้ AI ในการเลือกตั้ง ➡️ สหภาพยุโรปมีข้อเสนอให้จำกัดการใช้ AI เพื่อป้องกันการบิดเบือนข้อมูล ➡️ นักวิชาการเตือนว่า AI อาจสร้าง “echo chamber” ที่ทำให้ผู้ใช้เห็นแต่ข้อมูลที่สอดคล้องกับความเชื่อเดิม ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ ผู้ใช้บางคนอาจไม่รู้ว่ากำลังถูกโน้มน้าวโดยระบบอัตโนมัติ ⛔ การใช้ AI ในการรณรงค์อาจกระทบต่อความโปร่งใสและความเป็นธรรม ⛔ หากไม่มีการกำกับดูแล อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นในประชาธิปไตย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/05/studies-ai-chatbots-can-influence-voters
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Studies: AI chatbots can influence voters
    A brief conversation with a partisan AI chatbot can influence voters' political views, studies published Dec 4 found, with evidence-backed arguments – true or not – proving particularly persuasive.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • "UMC จับมือ Polar ขยายการผลิตชิป 8 นิ้วในสหรัฐฯ"

    UMC ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่เป็นอันดับสองของไต้หวัน รองจาก TSMC ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับ Polar Semiconductor เพื่อร่วมกันสำรวจการผลิตเวเฟอร์ 8 นิ้วในสหรัฐฯ โดยจะใช้โรงงานของ Polar ที่เพิ่งขยายในรัฐมินนิโซตาเป็นฐานการผลิต.

    ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อรองรับความต้องการจากหลายอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์, ศูนย์ข้อมูล, อิเล็กทรอนิกส์ผู้บริโภค, และการบิน–กลาโหม ซึ่งต้องการชิป 8 นิ้วที่มีความเสถียรและสามารถจัดหาจากหลายแหล่ง (multi-sourcing strategy).

    UMC จะนำเทคโนโลยีและฐานลูกค้าทั่วโลกมาผสานกับศักยภาพการผลิตในสหรัฐฯ ของ Polar เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในห่วงโซ่อุปทาน และลดการพึ่งพาการผลิตในเอเชียเพียงอย่างเดียว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของสหรัฐฯ ที่ต้องการเพิ่มการผลิตชิปภายในประเทศ.

    ผู้บริหารทั้งสองฝ่ายย้ำว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการ “Made in USA chips” และช่วยเสริมความมั่นคงด้านเทคโนโลยีในยุคที่การแข่งขันด้านเซมิคอนดักเตอร์ทวีความเข้มข้น โดยเฉพาะเมื่อ AI และยานยนต์ไฟฟ้ากำลังผลักดันความต้องการชิปเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    UMC ลงนามบันทึกความเข้าใจกับ Polar Semiconductor
    ใช้โรงงาน Polar ในรัฐมินนิโซตาที่เพิ่งขยายเป็นฐานผลิต
    รองรับอุตสาหกรรมยานยนต์, ศูนย์ข้อมูล, อิเล็กทรอนิกส์ผู้บริโภค, การบิน–กลาโหม
    สอดคล้องกับกลยุทธ์ multi-sourcing และนโยบาย Made in USA

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    ตลาดชิป 8 นิ้วยังคงมีความต้องการสูงในอุตสาหกรรมยานยนต์และ IoT
    สหรัฐฯ ออกกฎหมาย CHIPS Act เพื่อสนับสนุนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ
    Polar Semiconductor เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต

    คำเตือนจากข่าว
    การขยายการผลิตในสหรัฐฯ อาจเจอความท้าทายด้านต้นทุนและแรงงาน
    ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์อาจทำให้ห่วงโซ่อุปทานยังคงเปราะบาง
    การแข่งขันกับผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น TSMC และ Samsung อาจทำให้ตลาดกดดันด้านราคา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/04/taiwan039s-umc-in-pact-with-polar-to-explore-us-production-of-eight-inch-chip
    🔧 "UMC จับมือ Polar ขยายการผลิตชิป 8 นิ้วในสหรัฐฯ" UMC ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่เป็นอันดับสองของไต้หวัน รองจาก TSMC ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับ Polar Semiconductor เพื่อร่วมกันสำรวจการผลิตเวเฟอร์ 8 นิ้วในสหรัฐฯ โดยจะใช้โรงงานของ Polar ที่เพิ่งขยายในรัฐมินนิโซตาเป็นฐานการผลิต. ความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อรองรับความต้องการจากหลายอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์, ศูนย์ข้อมูล, อิเล็กทรอนิกส์ผู้บริโภค, และการบิน–กลาโหม ซึ่งต้องการชิป 8 นิ้วที่มีความเสถียรและสามารถจัดหาจากหลายแหล่ง (multi-sourcing strategy). UMC จะนำเทคโนโลยีและฐานลูกค้าทั่วโลกมาผสานกับศักยภาพการผลิตในสหรัฐฯ ของ Polar เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในห่วงโซ่อุปทาน และลดการพึ่งพาการผลิตในเอเชียเพียงอย่างเดียว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของสหรัฐฯ ที่ต้องการเพิ่มการผลิตชิปภายในประเทศ. ผู้บริหารทั้งสองฝ่ายย้ำว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการ “Made in USA chips” และช่วยเสริมความมั่นคงด้านเทคโนโลยีในยุคที่การแข่งขันด้านเซมิคอนดักเตอร์ทวีความเข้มข้น โดยเฉพาะเมื่อ AI และยานยนต์ไฟฟ้ากำลังผลักดันความต้องการชิปเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ UMC ลงนามบันทึกความเข้าใจกับ Polar Semiconductor ➡️ ใช้โรงงาน Polar ในรัฐมินนิโซตาที่เพิ่งขยายเป็นฐานผลิต ➡️ รองรับอุตสาหกรรมยานยนต์, ศูนย์ข้อมูล, อิเล็กทรอนิกส์ผู้บริโภค, การบิน–กลาโหม ➡️ สอดคล้องกับกลยุทธ์ multi-sourcing และนโยบาย Made in USA ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ ตลาดชิป 8 นิ้วยังคงมีความต้องการสูงในอุตสาหกรรมยานยนต์และ IoT ➡️ สหรัฐฯ ออกกฎหมาย CHIPS Act เพื่อสนับสนุนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ ➡️ Polar Semiconductor เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ การขยายการผลิตในสหรัฐฯ อาจเจอความท้าทายด้านต้นทุนและแรงงาน ⛔ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์อาจทำให้ห่วงโซ่อุปทานยังคงเปราะบาง ⛔ การแข่งขันกับผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น TSMC และ Samsung อาจทำให้ตลาดกดดันด้านราคา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/04/taiwan039s-umc-in-pact-with-polar-to-explore-us-production-of-eight-inch-chip
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Taiwan's UMC in pact with Polar to explore US production of eight-inch chip
    TAIPEI, Dec 4 (Reuters) - Taiwan chip maker United Microelectronics Corp (UMC) said on Thursday it had signed a memorandum of understanding with U.S.-based Polar Semiconductor to explore collaboration on manufacturing of 8-inch wafers in the United States.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Aisuru Botnet สร้างสถิติ DDoS Attack ครั้งใหญ่ที่สุด”

    ในไตรมาส 3 ปี 2025 Cloudflare เปิดเผยว่า Aisuru Botnet ได้ทำการโจมตี DDoS ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 29.7 Tbps และ 14.1 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที ด้วยเทคนิค UDP carpet-bombing ซึ่งไม่เพียงโจมตีเป้าหมายหลัก แต่ยังสร้างผลกระทบต่อ ISP รายใหญ่ในสหรัฐฯ ทำให้ผู้ใช้นับล้านได้รับผลกระทบ แม้จะไม่ได้เป็นเป้าหมายโดยตรง

    “จำนวนการโจมตีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
    ตั้งแต่ต้นปี 2025 Cloudflare ได้หยุดการโจมตีจาก Aisuru ไปแล้วกว่า 2,867 ครั้ง โดยในไตรมาส 3 เพียงไตรมาสเดียวมีการโจมตีแบบ “hyper-volumetric” ถึง 1,304 ครั้ง เพิ่มขึ้น 54% จากไตรมาสก่อนหน้า รวมทั้งหมด Cloudflare ป้องกันการโจมตี DDoS ได้กว่า 8.3 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

    “อุตสาหกรรมและประเทศที่ถูกโจมตีหนักที่สุด”
    อุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีมากที่สุดคือ Information Technology & Services ตามด้วย Telecommunications และ Gambling/Casinos ขณะที่บริษัทด้าน AI พบการโจมตีเพิ่มขึ้นถึง 347% ในเดือนกันยายน 2025 เนื่องจากการถกเถียงเรื่องกฎระเบียบ AI ส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์และเหมืองแร่ก็ถูกโจมตีหนักขึ้นจากความตึงเครียดทางการค้า EU–China ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ จีน, ตุรกี, เยอรมนี, บราซิล และสหรัฐฯ โดยอินโดนีเซียยังคงเป็นแหล่งโจมตีใหญ่ที่สุดต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4

    “การป้องกันต้องพึ่งระบบอัตโนมัติ”
    Cloudflare สรุปว่า การโจมตีสมัยใหม่เร็วเกินกว่าที่มนุษย์จะตอบสนองทัน ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องพึ่งพาระบบอัตโนมัติในการป้องกันมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญจาก ESET เตือนว่า การใช้กฎกรองแบบเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะผู้โจมตีใช้ IP จำนวนมหาศาลและเทคนิคสุ่มที่ซับซ้อนขึ้นทุกปี

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สถิติการโจมตี
    Aisuru Botnet ทำ DDoS สูงสุด 29.7 Tbps
    ใช้เทคนิค UDP carpet-bombing

    จำนวนการโจมตีที่ถูกสกัด
    Cloudflare หยุดการโจมตี 2,867 ครั้งในปี 2025
    รวมทั้งหมด 8.3 ล้านครั้งในไตรมาส 3

    อุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีหนัก
    IT & Services, Telecom, Gambling
    AI Companies เพิ่มขึ้น 347%

    ประเทศที่ได้รับผลกระทบ
    จีน, ตุรกี, เยอรมนี, บราซิล, สหรัฐฯ
    อินโดนีเซียเป็นแหล่งโจมตีใหญ่ที่สุด

    คำเตือนสำหรับองค์กร
    ระบบกรองแบบเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป
    ต้องพึ่งระบบอัตโนมัติในการป้องกัน
    ควรเตรียมโครงสร้างเครือข่ายให้รองรับการโจมตีระดับมหาศาล

    https://hackread.com/cloudflare-aisuru-botnet-ddos-attack/
    🌐 “Aisuru Botnet สร้างสถิติ DDoS Attack ครั้งใหญ่ที่สุด” ในไตรมาส 3 ปี 2025 Cloudflare เปิดเผยว่า Aisuru Botnet ได้ทำการโจมตี DDoS ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 29.7 Tbps และ 14.1 พันล้านแพ็กเก็ตต่อวินาที ด้วยเทคนิค UDP carpet-bombing ซึ่งไม่เพียงโจมตีเป้าหมายหลัก แต่ยังสร้างผลกระทบต่อ ISP รายใหญ่ในสหรัฐฯ ทำให้ผู้ใช้นับล้านได้รับผลกระทบ แม้จะไม่ได้เป็นเป้าหมายโดยตรง 📊 “จำนวนการโจมตีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ตั้งแต่ต้นปี 2025 Cloudflare ได้หยุดการโจมตีจาก Aisuru ไปแล้วกว่า 2,867 ครั้ง โดยในไตรมาส 3 เพียงไตรมาสเดียวมีการโจมตีแบบ “hyper-volumetric” ถึง 1,304 ครั้ง เพิ่มขึ้น 54% จากไตรมาสก่อนหน้า รวมทั้งหมด Cloudflare ป้องกันการโจมตี DDoS ได้กว่า 8.3 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 🏭 “อุตสาหกรรมและประเทศที่ถูกโจมตีหนักที่สุด” อุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีมากที่สุดคือ Information Technology & Services ตามด้วย Telecommunications และ Gambling/Casinos ขณะที่บริษัทด้าน AI พบการโจมตีเพิ่มขึ้นถึง 347% ในเดือนกันยายน 2025 เนื่องจากการถกเถียงเรื่องกฎระเบียบ AI ส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์และเหมืองแร่ก็ถูกโจมตีหนักขึ้นจากความตึงเครียดทางการค้า EU–China ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ จีน, ตุรกี, เยอรมนี, บราซิล และสหรัฐฯ โดยอินโดนีเซียยังคงเป็นแหล่งโจมตีใหญ่ที่สุดต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 🤖 “การป้องกันต้องพึ่งระบบอัตโนมัติ” Cloudflare สรุปว่า การโจมตีสมัยใหม่เร็วเกินกว่าที่มนุษย์จะตอบสนองทัน ทำให้บริษัทต่าง ๆ ต้องพึ่งพาระบบอัตโนมัติในการป้องกันมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญจาก ESET เตือนว่า การใช้กฎกรองแบบเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะผู้โจมตีใช้ IP จำนวนมหาศาลและเทคนิคสุ่มที่ซับซ้อนขึ้นทุกปี 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สถิติการโจมตี ➡️ Aisuru Botnet ทำ DDoS สูงสุด 29.7 Tbps ➡️ ใช้เทคนิค UDP carpet-bombing ✅ จำนวนการโจมตีที่ถูกสกัด ➡️ Cloudflare หยุดการโจมตี 2,867 ครั้งในปี 2025 ➡️ รวมทั้งหมด 8.3 ล้านครั้งในไตรมาส 3 ✅ อุตสาหกรรมที่ถูกโจมตีหนัก ➡️ IT & Services, Telecom, Gambling ➡️ AI Companies เพิ่มขึ้น 347% ✅ ประเทศที่ได้รับผลกระทบ ➡️ จีน, ตุรกี, เยอรมนี, บราซิล, สหรัฐฯ ➡️ อินโดนีเซียเป็นแหล่งโจมตีใหญ่ที่สุด ‼️ คำเตือนสำหรับองค์กร ⛔ ระบบกรองแบบเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป ⛔ ต้องพึ่งระบบอัตโนมัติในการป้องกัน ⛔ ควรเตรียมโครงสร้างเครือข่ายให้รองรับการโจมตีระดับมหาศาล https://hackread.com/cloudflare-aisuru-botnet-ddos-attack/
    HACKREAD.COM
    Cloudflare Blocks Aisuru Botnet Powered Largest Ever 29.7 Tbps DDoS Attack
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • แนะนำ 5 อุปกรณ์สมาร์ทสำหรับความปลอดภัยในบ้าน

    บทความนี้แนะนำ 5 อุปกรณ์สมาร์ทสำหรับความปลอดภัยในบ้าน ที่ Consumer Reports จัดอันดับ ได้แก่ กล้อง TP-Link Tapo สองรุ่น, Logitech Circle View Doorbell, Yale August Smart Lock และ Google Nest Secure Alarm Pack

    “TP-Link Tapo C420S2 – กล้องราคาย่อมเยา แต่ข้อมูลส่วนตัวไม่ปลอดภัย”
    TP-Link Tapo C420S2 ได้รับคะแนนสูงจาก Consumer Reports ในด้านคุณภาพวิดีโอทั้งกลางวันและกลางคืน ความละเอียด 2K และมุมมอง 113 องศา แต่ ข้อเสียใหญ่คือการจัดการข้อมูลส่วนตัวที่ไม่ชัดเจน ทำให้ได้คะแนนต่ำด้าน Privacy แม้ระบบความปลอดภัยดิจิทัลจะดี แต่ผู้ใช้ควรระวังเรื่องการเก็บและแชร์ข้อมูลที่ไม่โปร่งใส

    “TP-Link Tapo C325WB – ราคาถูกกว่า พร้อมลำโพงสองทาง”
    รุ่นนี้มีราคาเพียง 70 ดอลลาร์ และยังคงคุณภาพวิดีโอ 2K พร้อมมุมมองกว้างขึ้นถึง 127 องศา จุดเด่นคือ ระบบแจ้งเตือนรวดเร็วและลำโพงสองทาง ที่ให้ผู้ใช้พูดคุยกับคนหน้าบ้านได้ทันที แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่อง Privacy เช่นเดียวกับรุ่น C420S2 และต้องพึ่งพาการสมัคร Cloud Storage หรือใช้ SD Card

    “Logitech Circle View Doorbell – เหมาะกับผู้ใช้ Apple HomeKit”
    แม้ Logitech จะโด่งดังด้านอุปกรณ์เกม แต่ Circle View Doorbell ก็ได้รับคะแนนดีในด้านคุณภาพภาพและการตอบสนองทันทีเมื่อมีผู้มาเยือน อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดคือรองรับเฉพาะ Apple HomeKit และมีปัญหาด้าน Privacy ที่ Consumer Reports ให้คะแนนต่ำ อีกทั้งราคาสูงกว่าทางเลือกอื่นที่ราว 200 ดอลลาร์

    “Yale August WiFi Smart Lock – ปลอดภัยและใช้ง่าย”
    สมาร์ทล็อคจาก Yale รุ่น August WiFi ได้รับการยกย่องว่ามีระบบเข้ารหัสและการยืนยันตัวตนที่แข็งแกร่ง เช่น AES 128-bit และ TLS encryption อีกทั้งยังสามารถติดตั้งโดยไม่ต้องถอดเดดโบลต์เดิม เหมาะสำหรับผู้เช่าอพาร์ตเมนต์ ราคาประมาณ 210 ดอลลาร์ พร้อมคีย์แพดสำหรับตั้งรหัสเข้าออก

    “Google Nest Secure Alarm Pack – ระบบรักษาความปลอดภัย DIY”
    Google Nest Secure เป็นชุดระบบรักษาความปลอดภัยที่ติดตั้งเองได้ง่าย มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเปิดปิดประตู/หน้าต่างและตรวจจับการเคลื่อนไหวในระยะ 15 ฟุต มีระบบไฟ LED แสดงสถานะ และสามารถเชื่อมต่อกับบริการ Brinks เพื่อเพิ่มการดูแลแบบมืออาชีพ ราคาประมาณ 80 ดอลลาร์ ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า

    https://www.slashgear.com/2041276/best-home-security-smart-gadgets-consumer-reports/
    🏚️ แนะนำ 5 อุปกรณ์สมาร์ทสำหรับความปลอดภัยในบ้าน บทความนี้แนะนำ 5 อุปกรณ์สมาร์ทสำหรับความปลอดภัยในบ้าน ที่ Consumer Reports จัดอันดับ ได้แก่ กล้อง TP-Link Tapo สองรุ่น, Logitech Circle View Doorbell, Yale August Smart Lock และ Google Nest Secure Alarm Pack 📹 “TP-Link Tapo C420S2 – กล้องราคาย่อมเยา แต่ข้อมูลส่วนตัวไม่ปลอดภัย” TP-Link Tapo C420S2 ได้รับคะแนนสูงจาก Consumer Reports ในด้านคุณภาพวิดีโอทั้งกลางวันและกลางคืน ความละเอียด 2K และมุมมอง 113 องศา แต่ ข้อเสียใหญ่คือการจัดการข้อมูลส่วนตัวที่ไม่ชัดเจน ทำให้ได้คะแนนต่ำด้าน Privacy แม้ระบบความปลอดภัยดิจิทัลจะดี แต่ผู้ใช้ควรระวังเรื่องการเก็บและแชร์ข้อมูลที่ไม่โปร่งใส 🎤 “TP-Link Tapo C325WB – ราคาถูกกว่า พร้อมลำโพงสองทาง” รุ่นนี้มีราคาเพียง 70 ดอลลาร์ และยังคงคุณภาพวิดีโอ 2K พร้อมมุมมองกว้างขึ้นถึง 127 องศา จุดเด่นคือ ระบบแจ้งเตือนรวดเร็วและลำโพงสองทาง ที่ให้ผู้ใช้พูดคุยกับคนหน้าบ้านได้ทันที แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่อง Privacy เช่นเดียวกับรุ่น C420S2 และต้องพึ่งพาการสมัคร Cloud Storage หรือใช้ SD Card 🔔 “Logitech Circle View Doorbell – เหมาะกับผู้ใช้ Apple HomeKit” แม้ Logitech จะโด่งดังด้านอุปกรณ์เกม แต่ Circle View Doorbell ก็ได้รับคะแนนดีในด้านคุณภาพภาพและการตอบสนองทันทีเมื่อมีผู้มาเยือน อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดคือรองรับเฉพาะ Apple HomeKit และมีปัญหาด้าน Privacy ที่ Consumer Reports ให้คะแนนต่ำ อีกทั้งราคาสูงกว่าทางเลือกอื่นที่ราว 200 ดอลลาร์ 🔑 “Yale August WiFi Smart Lock – ปลอดภัยและใช้ง่าย” สมาร์ทล็อคจาก Yale รุ่น August WiFi ได้รับการยกย่องว่ามีระบบเข้ารหัสและการยืนยันตัวตนที่แข็งแกร่ง เช่น AES 128-bit และ TLS encryption อีกทั้งยังสามารถติดตั้งโดยไม่ต้องถอดเดดโบลต์เดิม เหมาะสำหรับผู้เช่าอพาร์ตเมนต์ ราคาประมาณ 210 ดอลลาร์ พร้อมคีย์แพดสำหรับตั้งรหัสเข้าออก 🛡️ “Google Nest Secure Alarm Pack – ระบบรักษาความปลอดภัย DIY” Google Nest Secure เป็นชุดระบบรักษาความปลอดภัยที่ติดตั้งเองได้ง่าย มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเปิดปิดประตู/หน้าต่างและตรวจจับการเคลื่อนไหวในระยะ 15 ฟุต มีระบบไฟ LED แสดงสถานะ และสามารถเชื่อมต่อกับบริการ Brinks เพื่อเพิ่มการดูแลแบบมืออาชีพ ราคาประมาณ 80 ดอลลาร์ ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า https://www.slashgear.com/2041276/best-home-security-smart-gadgets-consumer-reports/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    The 5 Best Smart Gadgets For Home Security, According To Consumer Reports - SlashGear
    Home security is vital so you can ensure you and your family are safe. If you are looking for smart gadgets to help, here's what Consumer Reports recommends.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • “3 รุ่น VR Headset ที่มือใหม่ควรเลี่ยง”

    ตลาด VR เติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ไม่ใช่ว่าทุกอุปกรณ์จะเหมาะกับผู้เริ่มต้น บทความต้นทางได้ยกตัวอย่าง HTC Vive XR Elite ที่แม้จะมีโครงสร้างโมดูลาร์และฟีเจอร์หลากหลาย แต่กลับซับซ้อนและราคาแพงเกินไปสำหรับผู้ใช้ใหม่ อีกทั้งยังมีปัญหาด้านความสบายและการใช้งานคอนโทรลเลอร์ที่ไม่สมดุล

    ในอีกด้านหนึ่ง Destek VR Headset แม้จะราคาถูกและใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ แต่กลับมีข้อจำกัด เช่น เลนส์ที่เกิดฝ้าได้ง่าย ความไม่สบายจากวัสดุ และปัญหาการเชื่อมต่อบ่อยครั้ง ทำให้ประสบการณ์ VR ไม่ราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็น

    สุดท้ายคือ Meta Quest 2 ที่แม้เคยเป็นรุ่นยอดนิยม แต่ถูกยุติการผลิตเพื่อเปิดทางให้ Quest 3 ปัญหาที่พบคือวัสดุที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ความร้อนสูง และแบตเตอรี่หมดเร็ว อีกทั้งการหยุดสนับสนุนซอฟต์แวร์ในอนาคตทำให้ไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่ต้องการใช้งานระยะยาว

    “ตลาด VR ปี 2025 โตแรง”
    ข้อมูลล่าสุดเผยว่า ตลาด VR Headset ปี 2025 มีมูลค่า 10.3 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะโตถึง 51.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2034 ด้วยอัตราเติบโตเฉลี่ยเกือบ 20% ต่อปี ปัจจัยสำคัญคือการผสาน AI เข้ากับ VR ทำให้ประสบการณ์เสมือนจริงตอบสนองผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการขยายเครือข่าย 5G ที่ช่วยให้การสตรีมคอนเทนต์ VR มีคุณภาพสูงขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    HTC Vive XR Elite
    โครงสร้างโมดูลาร์ แต่ซับซ้อนและราคาแพง
    คอนโทรลเลอร์ใหญ่เกินไป ใช้งานไม่ถนัด

    Destek VR Headset
    ราคาถูก ใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนได้
    ปัญหาเลนส์ฝ้าและการเชื่อมต่อไม่เสถียร

    Meta Quest 2
    เคยนิยม แต่ถูกยกเลิกการผลิต
    มีปัญหาความร้อนและแบตเตอรี่หมดเร็ว

    ตลาด VR ปี 2025
    มูลค่า 10.3 พันล้านดอลลาร์ และโตต่อเนื่อง
    AI และ 5G เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก

    คำเตือนสำหรับผู้เริ่มต้น
    อย่าซื้อรุ่นที่ถูกยกเลิก เพราะจะหมดการสนับสนุน
    ระวังรุ่นราคาถูกที่คุณภาพต่ำ อาจทำให้ประสบการณ์ VR แย่ลง
    ตรวจสอบความสบายและวัสดุ เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือไม่เหมาะกับการใช้งานนาน ๆ

    https://www.slashgear.com/1716941/worst-vr-headset-beginners/
    🕶️ “3 รุ่น VR Headset ที่มือใหม่ควรเลี่ยง” ตลาด VR เติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ไม่ใช่ว่าทุกอุปกรณ์จะเหมาะกับผู้เริ่มต้น บทความต้นทางได้ยกตัวอย่าง HTC Vive XR Elite ที่แม้จะมีโครงสร้างโมดูลาร์และฟีเจอร์หลากหลาย แต่กลับซับซ้อนและราคาแพงเกินไปสำหรับผู้ใช้ใหม่ อีกทั้งยังมีปัญหาด้านความสบายและการใช้งานคอนโทรลเลอร์ที่ไม่สมดุล ในอีกด้านหนึ่ง Destek VR Headset แม้จะราคาถูกและใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ แต่กลับมีข้อจำกัด เช่น เลนส์ที่เกิดฝ้าได้ง่าย ความไม่สบายจากวัสดุ และปัญหาการเชื่อมต่อบ่อยครั้ง ทำให้ประสบการณ์ VR ไม่ราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็น สุดท้ายคือ Meta Quest 2 ที่แม้เคยเป็นรุ่นยอดนิยม แต่ถูกยุติการผลิตเพื่อเปิดทางให้ Quest 3 ปัญหาที่พบคือวัสดุที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ความร้อนสูง และแบตเตอรี่หมดเร็ว อีกทั้งการหยุดสนับสนุนซอฟต์แวร์ในอนาคตทำให้ไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้นที่ต้องการใช้งานระยะยาว 📈 “ตลาด VR ปี 2025 โตแรง” ข้อมูลล่าสุดเผยว่า ตลาด VR Headset ปี 2025 มีมูลค่า 10.3 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะโตถึง 51.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2034 ด้วยอัตราเติบโตเฉลี่ยเกือบ 20% ต่อปี ปัจจัยสำคัญคือการผสาน AI เข้ากับ VR ทำให้ประสบการณ์เสมือนจริงตอบสนองผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการขยายเครือข่าย 5G ที่ช่วยให้การสตรีมคอนเทนต์ VR มีคุณภาพสูงขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ HTC Vive XR Elite ➡️ โครงสร้างโมดูลาร์ แต่ซับซ้อนและราคาแพง ➡️ คอนโทรลเลอร์ใหญ่เกินไป ใช้งานไม่ถนัด ✅ Destek VR Headset ➡️ ราคาถูก ใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ ➡️ ปัญหาเลนส์ฝ้าและการเชื่อมต่อไม่เสถียร ✅ Meta Quest 2 ➡️ เคยนิยม แต่ถูกยกเลิกการผลิต ➡️ มีปัญหาความร้อนและแบตเตอรี่หมดเร็ว ✅ ตลาด VR ปี 2025 ➡️ มูลค่า 10.3 พันล้านดอลลาร์ และโตต่อเนื่อง ➡️ AI และ 5G เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ‼️ คำเตือนสำหรับผู้เริ่มต้น ⛔ อย่าซื้อรุ่นที่ถูกยกเลิก เพราะจะหมดการสนับสนุน ⛔ ระวังรุ่นราคาถูกที่คุณภาพต่ำ อาจทำให้ประสบการณ์ VR แย่ลง ⛔ ตรวจสอบความสบายและวัสดุ เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือไม่เหมาะกับการใช้งานนาน ๆ https://www.slashgear.com/1716941/worst-vr-headset-beginners/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    3 Of The Worst VR Headsets To Buy For Beginners - SlashGear
    If you're planning to buy a VR headset, it's not just the best options you should know about. It's also helpful to know the worst headsets on the market.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • เส้นทางจากนักข่าวสู่ผู้นำด้าน Privacy

    บทสัมภาษณ์นี้พูดคุยกับ Alexander Linton ประธานมูลนิธิ Session Technology Foundation เกี่ยวกับการสร้างแพลตฟอร์มแชทที่เข้ารหัสแบบกระจายศูนย์ (decentralized encrypted messaging) และความท้าทายด้านความปลอดภัย ความเชื่อมั่น และการกำกับดูแล

    Alexander Linton เริ่มต้นจากการเป็นนักข่าวที่ต้องเผชิญกับปัญหาการสื่อสารที่ไม่ปลอดภัย เขาเห็นช่องว่างสำคัญในเครื่องมือที่ใช้ปกป้องข้อมูลและแหล่งข่าว จึงเข้าร่วมทีมพัฒนา Session เมื่อ 7 ปีก่อน และปัจจุบันก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำมูลนิธิที่ดูแลโครงการนี้ เป้าหมายของเขาคือทำให้การสื่อสารที่ปลอดภัยเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน

    ความท้าทายด้าน Trust & Safety
    Session ใช้โครงสร้างแบบ decentralized node network คล้าย Tor ทำให้ไม่มีเซิร์ฟเวอร์กลางที่สามารถควบคุมหรือสอดส่องได้ ส่งผลให้การทำ content moderation แบบรวมศูนย์แทบเป็นไปไม่ได้ Linton ย้ำว่า “ไม่มีอนาคตของความปลอดภัยออนไลน์หากปราศจาก Privacy และ Security” โดย Session เลือกใช้การควบคุมในระดับชุมชนแทนที่จะเปิดช่องทางให้รัฐบาลหรือองค์กรใด ๆ แทรกแซง

    บทบาทของสวิตเซอร์แลนด์และการกำกับดูแล
    หลังจากย้ายฐานจากออสเตรเลียไปสวิตเซอร์แลนด์ มูลนิธิได้รับสภาพแวดล้อมที่มั่นคงและเป็นมิตรต่อสิทธิด้านดิจิทัล อย่างไรก็ตามยังมีข้อกังวลเรื่องกฎหมายใหม่ที่อาจกระทบต่อการเข้ารหัส (เช่น VÜPF) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการต่อสู้เพื่อ Privacy เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง

    อนาคตของ Session และ Token
    เพื่อสร้างความยั่งยืน Session ได้เปิดตัว Session Token ที่ใช้เป็นแรงจูงใจให้ชุมชนช่วยดูแลโครงสร้างพื้นฐาน โดย Linton ยืนยันว่าไม่ใช่การ “cash grab” แต่เป็นการสร้างโมเดลที่ให้ผู้สนับสนุนเครือข่ายได้รับผลตอบแทนจากการมีส่วนร่วม ซึ่งจะช่วยให้แพลตฟอร์มเติบโตโดยไม่ต้องพึ่งพาบริษัทเอกชน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Alexander Linton จากนักข่าวสู่ประธาน Session Technology Foundation
    Session ใช้โครงสร้าง decentralized node network คล้าย Tor
    Content moderation ทำในระดับชุมชน ไม่ใช่รวมศูนย์
    มูลนิธิย้ายฐานไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อความมั่นคงด้านสิทธิข้อมูล
    เปิดตัว Session Token เพื่อสร้างความยั่งยืนของแพลตฟอร์ม

    คำเตือนจากข่าว
    กฎหมายใหม่ในสวิตเซอร์แลนด์ (VÜPF) อาจกระทบต่อการเข้ารหัส
    การละเลยการปกป้อง Privacy อาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกสอดส่อง
    หากไม่เข้าใจโมเดล Token อาจถูกมองว่าเป็นการแสวงหาผลประโยชน์
    การลดความเข้มแข็งของ Encryption จะทำให้ทุกคนไม่ปลอดภัยมากขึ้น

    https://itsfoss.com/news/alexander-linton-interview/
    📰 เส้นทางจากนักข่าวสู่ผู้นำด้าน Privacy บทสัมภาษณ์นี้พูดคุยกับ Alexander Linton ประธานมูลนิธิ Session Technology Foundation เกี่ยวกับการสร้างแพลตฟอร์มแชทที่เข้ารหัสแบบกระจายศูนย์ (decentralized encrypted messaging) และความท้าทายด้านความปลอดภัย ความเชื่อมั่น และการกำกับดูแล Alexander Linton เริ่มต้นจากการเป็นนักข่าวที่ต้องเผชิญกับปัญหาการสื่อสารที่ไม่ปลอดภัย เขาเห็นช่องว่างสำคัญในเครื่องมือที่ใช้ปกป้องข้อมูลและแหล่งข่าว จึงเข้าร่วมทีมพัฒนา Session เมื่อ 7 ปีก่อน และปัจจุบันก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำมูลนิธิที่ดูแลโครงการนี้ เป้าหมายของเขาคือทำให้การสื่อสารที่ปลอดภัยเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของทุกคน 🔐 ความท้าทายด้าน Trust & Safety Session ใช้โครงสร้างแบบ decentralized node network คล้าย Tor ทำให้ไม่มีเซิร์ฟเวอร์กลางที่สามารถควบคุมหรือสอดส่องได้ ส่งผลให้การทำ content moderation แบบรวมศูนย์แทบเป็นไปไม่ได้ Linton ย้ำว่า “ไม่มีอนาคตของความปลอดภัยออนไลน์หากปราศจาก Privacy และ Security” โดย Session เลือกใช้การควบคุมในระดับชุมชนแทนที่จะเปิดช่องทางให้รัฐบาลหรือองค์กรใด ๆ แทรกแซง 🌍 บทบาทของสวิตเซอร์แลนด์และการกำกับดูแล หลังจากย้ายฐานจากออสเตรเลียไปสวิตเซอร์แลนด์ มูลนิธิได้รับสภาพแวดล้อมที่มั่นคงและเป็นมิตรต่อสิทธิด้านดิจิทัล อย่างไรก็ตามยังมีข้อกังวลเรื่องกฎหมายใหม่ที่อาจกระทบต่อการเข้ารหัส (เช่น VÜPF) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการต่อสู้เพื่อ Privacy เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะประเทศใดประเทศหนึ่ง 💡 อนาคตของ Session และ Token เพื่อสร้างความยั่งยืน Session ได้เปิดตัว Session Token ที่ใช้เป็นแรงจูงใจให้ชุมชนช่วยดูแลโครงสร้างพื้นฐาน โดย Linton ยืนยันว่าไม่ใช่การ “cash grab” แต่เป็นการสร้างโมเดลที่ให้ผู้สนับสนุนเครือข่ายได้รับผลตอบแทนจากการมีส่วนร่วม ซึ่งจะช่วยให้แพลตฟอร์มเติบโตโดยไม่ต้องพึ่งพาบริษัทเอกชน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Alexander Linton จากนักข่าวสู่ประธาน Session Technology Foundation ➡️ Session ใช้โครงสร้าง decentralized node network คล้าย Tor ➡️ Content moderation ทำในระดับชุมชน ไม่ใช่รวมศูนย์ ➡️ มูลนิธิย้ายฐานไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อความมั่นคงด้านสิทธิข้อมูล ➡️ เปิดตัว Session Token เพื่อสร้างความยั่งยืนของแพลตฟอร์ม ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ กฎหมายใหม่ในสวิตเซอร์แลนด์ (VÜPF) อาจกระทบต่อการเข้ารหัส ⛔ การละเลยการปกป้อง Privacy อาจทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกสอดส่อง ⛔ หากไม่เข้าใจโมเดล Token อาจถูกมองว่าเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ ⛔ การลดความเข้มแข็งของ Encryption จะทำให้ทุกคนไม่ปลอดภัยมากขึ้น https://itsfoss.com/news/alexander-linton-interview/
    ITSFOSS.COM
    There is No Future for Online Safety Without Privacy and Security
    Alexander Linton of the Session Technology Foundation on building decentralized messaging and why platform-wide content moderation is impractical on encrypted platforms.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • “การเรืองแสงในสิ่งมีชีวิต (Bioluminescence)” เกิดขึ้นบนโลกตั้งแต่กว่า 500 ล้านปีก่อน

    นักวิทยาศาสตร์จาก Smithsonian Institution และ Nagoya University พบว่า Octocorallia ซึ่งเป็นปะการังโบราณในทะเลลึก มีความสามารถเรืองแสงตั้งแต่ราว 540 ล้านปีก่อน ถือเป็นการยืนยันว่าการเรืองแสงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เคยเชื่อไว้เดิม (267 ล้านปี) เกือบสองเท่า

    วิธีการศึกษา
    ทีมวิจัยใช้ข้อมูลพันธุกรรมจากกว่า 185 สายพันธุ์ของ Octocorallia และวิเคราะห์ด้วยวิธี ancestral state reconstruction เพื่อย้อนหาความน่าจะเป็นของการเรืองแสงในบรรพบุรุษ ผลลัพธ์ชี้ว่า บรรพบุรุษร่วมของ Octocorallia มีโอกาสสูงที่จะเรืองแสงได้ และการค้นพบนี้ยังสอดคล้องกับการมีสัตว์ทะเลที่มีดวงตาในยุคเดียวกัน ซึ่งสามารถตรวจจับแสงได้

    ความหมายต่อระบบนิเวศโบราณ
    การเรืองแสงอาจถูกใช้เพื่อดึงดูดเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่ามากินสัตว์ที่ทำร้ายปะการัง ซึ่งสะท้อนถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในทะเลลึกตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของโลก การศึกษานี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ต่อวิวัฒนาการของการสื่อสารและการเอาตัวรอดในสิ่งมีชีวิตโบราณ

    คำถามที่ยังค้างคา
    แม้บรรพบุรุษของ Octocorallia จะเรืองแสง แต่ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่ยังคงคุณสมบัตินี้อยู่ นักวิทยาศาสตร์จึงตั้งคำถามว่า ทำไมสิ่งมีชีวิตจำนวนมากจึงสูญเสียความสามารถในการเรืองแสงไป และนี่คือเป้าหมายการวิจัยต่อไป

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเรืองแสงเกิดขึ้นกว่า 500 ล้านปีก่อน
    ต้นกำเนิดจากกลุ่มปะการัง Octocorallia ในยุคแคมเบรียน

    การวิเคราะห์พันธุกรรมยืนยันบรรพบุรุษเรืองแสงได้
    ใช้ข้อมูลจาก 185 สายพันธุ์และวิธี ancestral state reconstruction

    การเรืองแสงมีบทบาทต่อระบบนิเวศโบราณ
    อาจใช้ล่อเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่า

    การค้นพบช่วยขยายความเข้าใจวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต
    สะท้อนการสื่อสารและการเอาตัวรอดในทะเลลึกยุคแรก

    ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลายสายพันธุ์สูญเสียการเรืองแสง
    ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาคำตอบ

    https://www.sciencealert.com/bioluminescence-on-earth-evolved-over-500-million-years-ago-study-finds
    💡 “การเรืองแสงในสิ่งมีชีวิต (Bioluminescence)” เกิดขึ้นบนโลกตั้งแต่กว่า 500 ล้านปีก่อน นักวิทยาศาสตร์จาก Smithsonian Institution และ Nagoya University พบว่า Octocorallia ซึ่งเป็นปะการังโบราณในทะเลลึก มีความสามารถเรืองแสงตั้งแต่ราว 540 ล้านปีก่อน ถือเป็นการยืนยันว่าการเรืองแสงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เคยเชื่อไว้เดิม (267 ล้านปี) เกือบสองเท่า 🔬 วิธีการศึกษา ทีมวิจัยใช้ข้อมูลพันธุกรรมจากกว่า 185 สายพันธุ์ของ Octocorallia และวิเคราะห์ด้วยวิธี ancestral state reconstruction เพื่อย้อนหาความน่าจะเป็นของการเรืองแสงในบรรพบุรุษ ผลลัพธ์ชี้ว่า บรรพบุรุษร่วมของ Octocorallia มีโอกาสสูงที่จะเรืองแสงได้ และการค้นพบนี้ยังสอดคล้องกับการมีสัตว์ทะเลที่มีดวงตาในยุคเดียวกัน ซึ่งสามารถตรวจจับแสงได้ 🐠 ความหมายต่อระบบนิเวศโบราณ การเรืองแสงอาจถูกใช้เพื่อดึงดูดเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่ามากินสัตว์ที่ทำร้ายปะการัง ซึ่งสะท้อนถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตในทะเลลึกตั้งแต่ยุคแรก ๆ ของโลก การศึกษานี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ต่อวิวัฒนาการของการสื่อสารและการเอาตัวรอดในสิ่งมีชีวิตโบราณ 🚀 คำถามที่ยังค้างคา แม้บรรพบุรุษของ Octocorallia จะเรืองแสง แต่ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่สายพันธุ์ที่ยังคงคุณสมบัตินี้อยู่ นักวิทยาศาสตร์จึงตั้งคำถามว่า ทำไมสิ่งมีชีวิตจำนวนมากจึงสูญเสียความสามารถในการเรืองแสงไป และนี่คือเป้าหมายการวิจัยต่อไป 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเรืองแสงเกิดขึ้นกว่า 500 ล้านปีก่อน ➡️ ต้นกำเนิดจากกลุ่มปะการัง Octocorallia ในยุคแคมเบรียน ✅ การวิเคราะห์พันธุกรรมยืนยันบรรพบุรุษเรืองแสงได้ ➡️ ใช้ข้อมูลจาก 185 สายพันธุ์และวิธี ancestral state reconstruction ✅ การเรืองแสงมีบทบาทต่อระบบนิเวศโบราณ ➡️ อาจใช้ล่อเหยื่อหรือสร้างเงื่อนไขให้ผู้ล่า ✅ การค้นพบช่วยขยายความเข้าใจวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต ➡️ สะท้อนการสื่อสารและการเอาตัวรอดในทะเลลึกยุคแรก ‼️ ยังไม่เข้าใจว่าทำไมหลายสายพันธุ์สูญเสียการเรืองแสง ⛔ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาคำตอบ https://www.sciencealert.com/bioluminescence-on-earth-evolved-over-500-million-years-ago-study-finds
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Bioluminescence on Earth Evolved Over 500 Million Years Ago, Study Finds
    In the darkest corners of the planet, where the light of the Sun never touches, eerie glows can yet be found, illuminating the shadows.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • การค้นพบที่ไม่คาดคิด

    เมื่อ Curiosity Rover เคลื่อนตัวผ่านหินในช่องทาง Gediz Vallis Channel หินก้อนหนึ่งแตกออก เผยให้เห็นผลึกสีเหลืองสดของ กำมะถันบริสุทธิ์ (elemental sulfur) ซึ่งแตกต่างจากสารประกอบซัลเฟตที่เคยพบมาก่อนบนดาวอังคาร การค้นพบนี้ถือเป็นครั้งแรกที่พบกำมะถันในรูปแบบบริสุทธิ์บนดาวเคราะห์สีแดง

    ความสำคัญทางวิทยาศาสตร์
    ซัลเฟต (sulfates) มักเกิดจากการที่กำมะถันผสมกับแร่ธาตุในน้ำแล้วตกผลึกเมื่อระเหย แต่ กำมะถันบริสุทธิ์ ต้องการเงื่อนไขเฉพาะที่ยังไม่เคยถูกบันทึกในพื้นที่ดังกล่าว การพบกำมะถันจำนวนมากในพื้นที่นี้จึงบ่งชี้ว่าอาจมีปัจจัยทางธรณีวิทยาที่เรายังไม่เข้าใจ และอาจเป็นเบาะแสสำคัญต่อการศึกษาประวัติศาสตร์น้ำบนดาวอังคาร

    ความเชื่อมโยงกับชีวิต
    กำมะถันเป็นธาตุจำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต ใช้สร้างกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสร้างโปรตีน แม้การค้นพบนี้ยังไม่ใช่หลักฐานของชีวิต แต่ก็เพิ่มข้อมูลว่า ดาวอังคารมีองค์ประกอบที่สิ่งมีชีวิตต้องการ เช่น น้ำ แร่ธาตุ และสภาพที่เคยเอื้อต่อการอยู่อาศัยในอดีต

    ก้าวต่อไปของการสำรวจ
    นักวิทยาศาสตร์วางแผนใช้แบบจำลองทางธรณีวิทยาเพื่ออธิบายว่ากำมะถันบริสุทธิ์เกิดขึ้นได้อย่างไรบนดาวอังคาร ขณะเดียวกัน Curiosity จะยังคงสำรวจเส้นทางใน Gediz Vallis Channel ต่อไป เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของดาวอังคารและความเป็นไปได้ของสิ่งมีชีวิต

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Curiosity Rover พบกำมะถันบริสุทธิ์บนดาวอังคาร
    เป็นครั้งแรกที่พบธาตุนี้ในรูปแบบบริสุทธิ์ ไม่ใช่สารประกอบซัลเฟต

    กำมะถันบริสุทธิ์ต้องการเงื่อนไขเฉพาะในการเกิด
    บ่งชี้ว่ามีปัจจัยทางธรณีวิทยาที่เรายังไม่เข้าใจ

    กำมะถันเป็นธาตุสำคัญต่อสิ่งมีชีวิต
    ใช้สร้างกรดอะมิโนและโปรตีนที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต

    การค้นพบเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของชีวิตบนดาวอังคาร
    ดาวอังคารมีองค์ประกอบที่สิ่งมีชีวิตต้องการ เช่น น้ำและแร่ธาตุ

    ยังไม่ใช่หลักฐานของชีวิตโดยตรง
    ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความเชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิต

    ความเข้าใจปัจจัยทางธรณีวิทยายังไม่สมบูรณ์
    ต้องใช้แบบจำลองและการสำรวจต่อเนื่องเพื่อหาคำตอบ

    https://www.sciencealert.com/curiosity-cracked-open-a-rock-on-mars-and-revealed-a-big-surprise
    🚀 การค้นพบที่ไม่คาดคิด เมื่อ Curiosity Rover เคลื่อนตัวผ่านหินในช่องทาง Gediz Vallis Channel หินก้อนหนึ่งแตกออก เผยให้เห็นผลึกสีเหลืองสดของ กำมะถันบริสุทธิ์ (elemental sulfur) ซึ่งแตกต่างจากสารประกอบซัลเฟตที่เคยพบมาก่อนบนดาวอังคาร การค้นพบนี้ถือเป็นครั้งแรกที่พบกำมะถันในรูปแบบบริสุทธิ์บนดาวเคราะห์สีแดง 🔬 ความสำคัญทางวิทยาศาสตร์ ซัลเฟต (sulfates) มักเกิดจากการที่กำมะถันผสมกับแร่ธาตุในน้ำแล้วตกผลึกเมื่อระเหย แต่ กำมะถันบริสุทธิ์ ต้องการเงื่อนไขเฉพาะที่ยังไม่เคยถูกบันทึกในพื้นที่ดังกล่าว การพบกำมะถันจำนวนมากในพื้นที่นี้จึงบ่งชี้ว่าอาจมีปัจจัยทางธรณีวิทยาที่เรายังไม่เข้าใจ และอาจเป็นเบาะแสสำคัญต่อการศึกษาประวัติศาสตร์น้ำบนดาวอังคาร 🌍 ความเชื่อมโยงกับชีวิต กำมะถันเป็นธาตุจำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต ใช้สร้างกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสร้างโปรตีน แม้การค้นพบนี้ยังไม่ใช่หลักฐานของชีวิต แต่ก็เพิ่มข้อมูลว่า ดาวอังคารมีองค์ประกอบที่สิ่งมีชีวิตต้องการ เช่น น้ำ แร่ธาตุ และสภาพที่เคยเอื้อต่อการอยู่อาศัยในอดีต 🛰️ ก้าวต่อไปของการสำรวจ นักวิทยาศาสตร์วางแผนใช้แบบจำลองทางธรณีวิทยาเพื่ออธิบายว่ากำมะถันบริสุทธิ์เกิดขึ้นได้อย่างไรบนดาวอังคาร ขณะเดียวกัน Curiosity จะยังคงสำรวจเส้นทางใน Gediz Vallis Channel ต่อไป เพื่อค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของดาวอังคารและความเป็นไปได้ของสิ่งมีชีวิต 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Curiosity Rover พบกำมะถันบริสุทธิ์บนดาวอังคาร ➡️ เป็นครั้งแรกที่พบธาตุนี้ในรูปแบบบริสุทธิ์ ไม่ใช่สารประกอบซัลเฟต ✅ กำมะถันบริสุทธิ์ต้องการเงื่อนไขเฉพาะในการเกิด ➡️ บ่งชี้ว่ามีปัจจัยทางธรณีวิทยาที่เรายังไม่เข้าใจ ✅ กำมะถันเป็นธาตุสำคัญต่อสิ่งมีชีวิต ➡️ ใช้สร้างกรดอะมิโนและโปรตีนที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ✅ การค้นพบเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของชีวิตบนดาวอังคาร ➡️ ดาวอังคารมีองค์ประกอบที่สิ่งมีชีวิตต้องการ เช่น น้ำและแร่ธาตุ ‼️ ยังไม่ใช่หลักฐานของชีวิตโดยตรง ⛔ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความเชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิต ‼️ ความเข้าใจปัจจัยทางธรณีวิทยายังไม่สมบูรณ์ ⛔ ต้องใช้แบบจำลองและการสำรวจต่อเนื่องเพื่อหาคำตอบ https://www.sciencealert.com/curiosity-cracked-open-a-rock-on-mars-and-revealed-a-big-surprise
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Curiosity Cracked Open a Rock on Mars And Revealed a Big Surprise
    A rock on Mars spilled a surprising yellow treasure after Curiosity accidentally cracked through its unremarkable exterior.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts