• #โปรดเกล้า3วันออกลายกัน
    #รัฐบาล3วันงานหลักคือเปิดด่าน.
    #รัฐบาลไทยสู้เพื่อเขมรกอดmou43และ44ให้มั่น
    #ทหารไทยสู้เพื่อชาติรัฐบาลมาใหม่สู้เพื่อเปิดด่าน.
    #เชื่อใจได้งานเปิดด่านคืออุดมการณ์เรา.
    #รัฐบาลเพื่อประเทศญี่ปุ่นที่สาม
    #รัฐบาลเขมร3mouต้องรอเขมรเห็นชอบด้วยอย่างเดียว.
    #แก้ต่างช่วยเขมรคืองานของเรา
    #ปกป้องเขมรกลัวปะทะคืองานของเรา

    ..คลิปนี้นายกฯหนูพูดชัดมั้ย.

    https://youtube.com/watch?v=6HNNyIwgnhk&si=7zmjrufaq8-2iNwG
    #โปรดเกล้า3วันออกลายกัน #รัฐบาล3วันงานหลักคือเปิดด่าน. #รัฐบาลไทยสู้เพื่อเขมรกอดmou43และ44ให้มั่น #ทหารไทยสู้เพื่อชาติรัฐบาลมาใหม่สู้เพื่อเปิดด่าน. #เชื่อใจได้งานเปิดด่านคืออุดมการณ์เรา. #รัฐบาลเพื่อประเทศญี่ปุ่นที่สาม #รัฐบาลเขมร3mouต้องรอเขมรเห็นชอบด้วยอย่างเดียว. #แก้ต่างช่วยเขมรคืองานของเรา #ปกป้องเขมรกลัวปะทะคืองานของเรา ..คลิปนี้นายกฯหนูพูดชัดมั้ย. https://youtube.com/watch?v=6HNNyIwgnhk&si=7zmjrufaq8-2iNwG
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 0 รีวิว

  • ตอน 13
    มีคนมากระตุกแขนนิดๆ เอ! แล้ว พี่เบิ้มเขาทำไมเปลี๊ยนไป จากยุ่งกะสมันน้อยถึงขนาดเอาลงเปลเห่กล่อม แล้วช่วงนี้เขาหายไปไหนล่ะลุง ก็บอก แล้วไง พี่เบิ้มเขาเป็นจิ๊กโก๋๋ปากซอย ซอยไทยแลนด์นี้ เขาคุมเบ็ดเสร็จแล้ว วางแผนแล้วว่า ต้องมีวินมอเตอร์ไซด์ ตรงไหน คิวเป็นอย่างไร เขาไม่อยู่ใครดูแลแทน เส้นทางเป็นอย่างไร เก็บเงินอย่างไร ใครมาเบ่ง ตีหัวมันอย่างไร เจอสาวสวยนุ่งกระโปรงสั้นให้นั่งฟรีได้ไหม จัดไว้หมด ว่าแล้วก็ขยายไปดูซอยอื่น
    เวลาพี่เบิ้มเขาไปยุ่งกับภูมิภาคอื่น จะสังเกตง่าย ๆ ไปอยู่ที่ไหน ความ ฉ ห ก็เกิดขึ้นแถวนั้นแหละ เพราะอเมริกาหากินหรืออยู่ได้ด้วย 2 กรรมวิธี
    อย่างแรก ขโมยทรัพยากรชาวบ้าน (จิ๊กโก๋๋ขี้ขโมย)
    อย่างที่สอง สร้างสงครามเพื่อขายอาวุธ (จิ๊กโก๋๋ชวนตี)
    และทั้ง 2 เรื่อง มันก็โยงกัน
    ขบวนการก็ไม่ยาก หาเรื่องไปทะเลาะกับชาวบ้าน หรือหาเรื่องให้คนในบ้านทะเลาะกันเอง มีแค่นี้แหละ ดูไม่ยากหรอกเช่น กรณีสหภาพโซเวียต ก็ใช้วิธีปิดล้อมโซเวียต ยุโรปตะวันออก จนในที่สุดกำแพง เบอร์ลินทะลายในปี ค.ศ.1989
    สหภาพโซเวียตล่ม แตกกระจุย แล้วก็รบกันเอง จากเป็นสหภาพโซเวียต ท้ายสุดแตกเป็นหลายสิบประเทศ จนจำชื่อไม่ไหว เล่นเอาพี่เบิ้มผลิตอาวุธไป หัวร่อไป ขายแทบไม่ทัน
    สำหรับคุณอาแถวทะเลทราย พี่เบิ้มก็ยุแยง ทำให้แตกกัน วุ่นวายกัน ทะเลาะกันเองเพราะ พี่เบิ้มคิดจะขโมยน้ำมันเขา เลยใช้วิธีกล่าวหาว่าบ้านโน้นหักหลังบ้านนี้ บ้านนี้สะสมอาวุธ สารพัดจะโกหก
    แต่มันก็ได้ผลนะ อิหร่านรบกับอิรัก อิรักรบกับคูเวต อียิปต์ทะเลาะกับอิสราเอล อิสราเอลทะเลาะกับเลบานอน ซีเรียทะเลาะกันเอง ปาเลสไตน์ทะเลาะกับอิสราเอล ตุรกีทะเลาะกับอิหร่าน ตอนนี้อียิปต์กลับมาทะเลาะกันเองอีกฯลฯ
    เป็นไงฝีมือพี่เบิ้มไหม เข้าไปที่ไหนฉิบหายที่นั่น
    ยังไม่พอ เสือกต่อไปยุ่งแถวอเมริกาใต้ อาฟริกา วุ่นไปถึงอาฟกานิสถาน อันสุดท้ายนี้น่าสงสารมาก ประชาชนเขาจนจะตายอยู่แล้ว ยังไปทำให้เขาแตกแยก เพื่อฉวยโอกาสยึดทรัพยากรเขาอย่างหน้าด้านๆ ชั่วได้ใจจริงๆ
    ตัวอย่างที่เห็นชัดหมาดๆ คือ อิรัก หาว่าเขามีนิวเคลียร์ พี่เบิ้มยืนเท้ากระเอว ชี้นิ้วสั่งให้ UN ส่งคนไปตรวจไปดูเดี๋ยวนี้นะ CNN ก็ประโคมทำข่าวรายงานการตรวจทุกวัน แต่ผลปรากฏว่าไม่เจออะไรในก่อไผ่
    พี่เบิ้มเสียหน้า แก้เกี้ยว ยกทัพไปจับ ตั๊กกะแตนเองเลย รบไป 8 ปี อิรักฉิบหายทั้งประเทศ มีผู้ลี้ภัยหนีไปนอกประเทศ 4.7 ล้านคน (16% ของประชาชน)
    ประชาชนพลัดถิ่นในประเทศ 2.7 ล้านคน
    เด็ก 5 ล้านคน เป็นกำพร้า (35% ของประชาชน)
    เพียงเพราะจิ๊กโก๋๋อยากได้น้ำมันเขา แล้วไง ตอนยกทัพเข้าไปอ้างว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ ผู้นำแบบซัดดัมข่มเหงประชาชน พอเก็บซัดดัมได้ ยึดเมืองเขาแล้วเจอไหม นิวเคลียร์ที่อ้างน่ะ เจอแต่บ่อน้ำมัน!
    แบบนี้มันน่าส่งพี่ตุ๊ดตู่ กะป้าธิดาไปทวงถามความเป็นธรรมให้ประชาชนอิรักซะให้เข็ด ! แล้วท่านผู้อ่านอย่าลืมไปหาเรื่องสงครามอิรักมาอ่านต่อเป็นอุทาหรณ์นะครับ  เผื่อมันจะมาเกิดแถวนี้จะได้รู้ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง
    แล้วบ้านเราล่ะ พี่เบิ้มเขาใช้วิธีไหน เข้ามาเดินกร่างอยู่ในซอย!
    ขอพูดถึงอาฟกานิสถาน ต่ออีกหน่อย เพราะเป็นเหยื่อพี่เบิ้มที่นาสงสารมาก ถูกเอาประเทศเป็นสนามรบมาเกือบ 20 ปี จนบัดนี้ยังไม่เลิก ประชาชนก็จนลง จนลง อัฟกานิสถานได้ถูกระบุอยู่ในรายงานของเพนตากอน (Pentagon) ว่า เป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรแร่ธาตุสูงสุดที่ยังเหลืออยู่ในโลก (ก็ไอ้ที่มีๆ น่ะ พวกนักล่ามันเอาไปหมดแล้ว เหลือเจ้านี้หลุดตามาได้ ก็เพราะสภาพภูมิศาสตร์ของประเทศ)
    รัสเซียเข้าไปก่อน เพราะอยู่ใกล้กว่าพี่เบิ้มอเมริกา แบบนี้มันหักหน้ากันนี้หว่า จิ๊กโก๋๋จะทนได้ยังไง ว่าแล้วก็โดดเข้าไป ไอจะปกป้องยูเอง จากการคุกคามของรัสเซีย
    บทนี้คุ้นๆ ไหม แหม! คุณโดโนแวน เอ๊ย! จอห์น เวน มาเอง อีกแล้ว
    พี่เบิ้มลงทุนฝึกอาวุธให้ชาวอาฟกัน ต่อสู้กับรัสเซีย แถมส่งมือดีไปช่วย มือดีนั้นใคร ทายถูกไม่มีรางวัล .. มือดีก็คือ พี่บิน ลาเดน ไง เอ๊ะ อย่าทำเป็นงง พี่บินมาได้ไงกัน
    พี่บิน ลาเดน เป็นเศรษฐีอยู่ซาอุ มิตรรักของอเมริกาเขาไง ซี้ย่ำปึก ไอจะไปบุกที่ไหนยูไปด้วยไม๊ ไปไหนไปกัน พี่บินถึงได้รบเก่ง แถมรู้แกวรู้แนวการรบการจิ๊กโก๋๋หมด ก็จิ๊กโก๋๋ฝึกให้เขาเองนี่นะ อาวุธก็ส่งให้จะไปโทษใคร แล้วดันมาแตกคอกันเอง หักหลังกัน ซะหลังหักแต่ไม่รู้ใครหักกว่าใคร
    คงจำกันได้ ตอนพี่เบิ้มสั่งเก็บพี่บิน ภาพพี่บินหลังโดนถล่มยับที่บ้านลับ น่าขำมาก รูปถ่ายตอนตาย วางหน้ารูปถ่ายเหมือนตอนเป็นเปี๊ยบเลย เพียงแต่หน้าเยินกว่าเท่านั้น ไม่รู้มันจะหลอกใครกัน
    เล่าไป เล่ามา เกือบลืมเรื่องสำคัญ แร่ธาตุ ที่อาฟกานิสถานมีมาก คือโปแตส ยูเรเนียม และทองคำ 2 อย่างแรก เหมาะสำหรับทำอะไร เร็ว เข้าไปกดกูเกิลดู ก็รู้
    มันเหมาะสำหรับทำทุกอย่าง เป็นสารนำในการผลิตอุตสาหกรรมและที่สำคัญเหมาะสำหรับทำระเบิดครับผม
    แล้วใครล่ะ ผลิตอาวุธ ผลิตระเบิดขาย จนรวยล้น

    คนเล่านิทาน



    เป็นเอกสาร ต้ังแต่ปี 1951 เป็นรายงานการสนทนา ระหว่าง จอมพล ป สมัยเป็น
    นายกฯ กับ นาย Edwin Stanton ฑูดเอมริกา ประจำไทย ซึ่งฑูด มีไปถึงต้นสังกัด

    ดูจากเอกสาร เหมือนอเมริกามีความเป็นห่วงไทย ว่าจะมีน้ำมันไม่พอใช้
    ดูอีกที มันเป็นการมาล้วงตับเรา เพราะบอกให้ทางไทย แสดงรายละเอียดความต้องการของน้ำมัน ของหน่วยงานของเราแต่ละหน่วย แต่ความจรืงน่าจะเพราะ กลัวน้ำมันไปตกอยู่ในมือคอมมิวนิสต์มากกว่า

    สรุป น้ำมัน เป็นประเด็นใหญ่ของจิ๊กโก๋ ต้ังกะสมัยนั้น ถึงสมัยนี้ !?!
    ๑๓-๑
     ตอน 13 มีคนมากระตุกแขนนิดๆ เอ! แล้ว พี่เบิ้มเขาทำไมเปลี๊ยนไป จากยุ่งกะสมันน้อยถึงขนาดเอาลงเปลเห่กล่อม แล้วช่วงนี้เขาหายไปไหนล่ะลุง ก็บอก แล้วไง พี่เบิ้มเขาเป็นจิ๊กโก๋๋ปากซอย ซอยไทยแลนด์นี้ เขาคุมเบ็ดเสร็จแล้ว วางแผนแล้วว่า ต้องมีวินมอเตอร์ไซด์ ตรงไหน คิวเป็นอย่างไร เขาไม่อยู่ใครดูแลแทน เส้นทางเป็นอย่างไร เก็บเงินอย่างไร ใครมาเบ่ง ตีหัวมันอย่างไร เจอสาวสวยนุ่งกระโปรงสั้นให้นั่งฟรีได้ไหม จัดไว้หมด ว่าแล้วก็ขยายไปดูซอยอื่น เวลาพี่เบิ้มเขาไปยุ่งกับภูมิภาคอื่น จะสังเกตง่าย ๆ ไปอยู่ที่ไหน ความ ฉ ห ก็เกิดขึ้นแถวนั้นแหละ เพราะอเมริกาหากินหรืออยู่ได้ด้วย 2 กรรมวิธี อย่างแรก ขโมยทรัพยากรชาวบ้าน (จิ๊กโก๋๋ขี้ขโมย) อย่างที่สอง สร้างสงครามเพื่อขายอาวุธ (จิ๊กโก๋๋ชวนตี) และทั้ง 2 เรื่อง มันก็โยงกัน ขบวนการก็ไม่ยาก หาเรื่องไปทะเลาะกับชาวบ้าน หรือหาเรื่องให้คนในบ้านทะเลาะกันเอง มีแค่นี้แหละ ดูไม่ยากหรอกเช่น กรณีสหภาพโซเวียต ก็ใช้วิธีปิดล้อมโซเวียต ยุโรปตะวันออก จนในที่สุดกำแพง เบอร์ลินทะลายในปี ค.ศ.1989 สหภาพโซเวียตล่ม แตกกระจุย แล้วก็รบกันเอง จากเป็นสหภาพโซเวียต ท้ายสุดแตกเป็นหลายสิบประเทศ จนจำชื่อไม่ไหว เล่นเอาพี่เบิ้มผลิตอาวุธไป หัวร่อไป ขายแทบไม่ทัน สำหรับคุณอาแถวทะเลทราย พี่เบิ้มก็ยุแยง ทำให้แตกกัน วุ่นวายกัน ทะเลาะกันเองเพราะ พี่เบิ้มคิดจะขโมยน้ำมันเขา เลยใช้วิธีกล่าวหาว่าบ้านโน้นหักหลังบ้านนี้ บ้านนี้สะสมอาวุธ สารพัดจะโกหก แต่มันก็ได้ผลนะ อิหร่านรบกับอิรัก อิรักรบกับคูเวต อียิปต์ทะเลาะกับอิสราเอล อิสราเอลทะเลาะกับเลบานอน ซีเรียทะเลาะกันเอง ปาเลสไตน์ทะเลาะกับอิสราเอล ตุรกีทะเลาะกับอิหร่าน ตอนนี้อียิปต์กลับมาทะเลาะกันเองอีกฯลฯ เป็นไงฝีมือพี่เบิ้มไหม เข้าไปที่ไหนฉิบหายที่นั่น ยังไม่พอ เสือกต่อไปยุ่งแถวอเมริกาใต้ อาฟริกา วุ่นไปถึงอาฟกานิสถาน อันสุดท้ายนี้น่าสงสารมาก ประชาชนเขาจนจะตายอยู่แล้ว ยังไปทำให้เขาแตกแยก เพื่อฉวยโอกาสยึดทรัพยากรเขาอย่างหน้าด้านๆ ชั่วได้ใจจริงๆ ตัวอย่างที่เห็นชัดหมาดๆ คือ อิรัก หาว่าเขามีนิวเคลียร์ พี่เบิ้มยืนเท้ากระเอว ชี้นิ้วสั่งให้ UN ส่งคนไปตรวจไปดูเดี๋ยวนี้นะ CNN ก็ประโคมทำข่าวรายงานการตรวจทุกวัน แต่ผลปรากฏว่าไม่เจออะไรในก่อไผ่ พี่เบิ้มเสียหน้า แก้เกี้ยว ยกทัพไปจับ ตั๊กกะแตนเองเลย รบไป 8 ปี อิรักฉิบหายทั้งประเทศ มีผู้ลี้ภัยหนีไปนอกประเทศ 4.7 ล้านคน (16% ของประชาชน) ประชาชนพลัดถิ่นในประเทศ 2.7 ล้านคน เด็ก 5 ล้านคน เป็นกำพร้า (35% ของประชาชน) เพียงเพราะจิ๊กโก๋๋อยากได้น้ำมันเขา แล้วไง ตอนยกทัพเข้าไปอ้างว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ ผู้นำแบบซัดดัมข่มเหงประชาชน พอเก็บซัดดัมได้ ยึดเมืองเขาแล้วเจอไหม นิวเคลียร์ที่อ้างน่ะ เจอแต่บ่อน้ำมัน! แบบนี้มันน่าส่งพี่ตุ๊ดตู่ กะป้าธิดาไปทวงถามความเป็นธรรมให้ประชาชนอิรักซะให้เข็ด ! แล้วท่านผู้อ่านอย่าลืมไปหาเรื่องสงครามอิรักมาอ่านต่อเป็นอุทาหรณ์นะครับ  เผื่อมันจะมาเกิดแถวนี้จะได้รู้ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง แล้วบ้านเราล่ะ พี่เบิ้มเขาใช้วิธีไหน เข้ามาเดินกร่างอยู่ในซอย! ขอพูดถึงอาฟกานิสถาน ต่ออีกหน่อย เพราะเป็นเหยื่อพี่เบิ้มที่นาสงสารมาก ถูกเอาประเทศเป็นสนามรบมาเกือบ 20 ปี จนบัดนี้ยังไม่เลิก ประชาชนก็จนลง จนลง อัฟกานิสถานได้ถูกระบุอยู่ในรายงานของเพนตากอน (Pentagon) ว่า เป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรแร่ธาตุสูงสุดที่ยังเหลืออยู่ในโลก (ก็ไอ้ที่มีๆ น่ะ พวกนักล่ามันเอาไปหมดแล้ว เหลือเจ้านี้หลุดตามาได้ ก็เพราะสภาพภูมิศาสตร์ของประเทศ) รัสเซียเข้าไปก่อน เพราะอยู่ใกล้กว่าพี่เบิ้มอเมริกา แบบนี้มันหักหน้ากันนี้หว่า จิ๊กโก๋๋จะทนได้ยังไง ว่าแล้วก็โดดเข้าไป ไอจะปกป้องยูเอง จากการคุกคามของรัสเซีย บทนี้คุ้นๆ ไหม แหม! คุณโดโนแวน เอ๊ย! จอห์น เวน มาเอง อีกแล้ว พี่เบิ้มลงทุนฝึกอาวุธให้ชาวอาฟกัน ต่อสู้กับรัสเซีย แถมส่งมือดีไปช่วย มือดีนั้นใคร ทายถูกไม่มีรางวัล .. มือดีก็คือ พี่บิน ลาเดน ไง เอ๊ะ อย่าทำเป็นงง พี่บินมาได้ไงกัน พี่บิน ลาเดน เป็นเศรษฐีอยู่ซาอุ มิตรรักของอเมริกาเขาไง ซี้ย่ำปึก ไอจะไปบุกที่ไหนยูไปด้วยไม๊ ไปไหนไปกัน พี่บินถึงได้รบเก่ง แถมรู้แกวรู้แนวการรบการจิ๊กโก๋๋หมด ก็จิ๊กโก๋๋ฝึกให้เขาเองนี่นะ อาวุธก็ส่งให้จะไปโทษใคร แล้วดันมาแตกคอกันเอง หักหลังกัน ซะหลังหักแต่ไม่รู้ใครหักกว่าใคร คงจำกันได้ ตอนพี่เบิ้มสั่งเก็บพี่บิน ภาพพี่บินหลังโดนถล่มยับที่บ้านลับ น่าขำมาก รูปถ่ายตอนตาย วางหน้ารูปถ่ายเหมือนตอนเป็นเปี๊ยบเลย เพียงแต่หน้าเยินกว่าเท่านั้น ไม่รู้มันจะหลอกใครกัน เล่าไป เล่ามา เกือบลืมเรื่องสำคัญ แร่ธาตุ ที่อาฟกานิสถานมีมาก คือโปแตส ยูเรเนียม และทองคำ 2 อย่างแรก เหมาะสำหรับทำอะไร เร็ว เข้าไปกดกูเกิลดู ก็รู้ มันเหมาะสำหรับทำทุกอย่าง เป็นสารนำในการผลิตอุตสาหกรรมและที่สำคัญเหมาะสำหรับทำระเบิดครับผม แล้วใครล่ะ ผลิตอาวุธ ผลิตระเบิดขาย จนรวยล้น คนเล่านิทาน เป็นเอกสาร ต้ังแต่ปี 1951 เป็นรายงานการสนทนา ระหว่าง จอมพล ป สมัยเป็น นายกฯ กับ นาย Edwin Stanton ฑูดเอมริกา ประจำไทย ซึ่งฑูด มีไปถึงต้นสังกัด ดูจากเอกสาร เหมือนอเมริกามีความเป็นห่วงไทย ว่าจะมีน้ำมันไม่พอใช้ ดูอีกที มันเป็นการมาล้วงตับเรา เพราะบอกให้ทางไทย แสดงรายละเอียดความต้องการของน้ำมัน ของหน่วยงานของเราแต่ละหน่วย แต่ความจรืงน่าจะเพราะ กลัวน้ำมันไปตกอยู่ในมือคอมมิวนิสต์มากกว่า สรุป น้ำมัน เป็นประเด็นใหญ่ของจิ๊กโก๋ ต้ังกะสมัยนั้น ถึงสมัยนี้ !?! ๑๓-๑
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 552 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัททัวร์ eTravelWay.com บริษัททัวร์ต่างประเทศแห่งใหญ่ที่สุดบนโลกออนไลน์ ประสบการณ์กว่า 22 ปี
    จัดเต็มความเหนือระดับบริการนำเที่ยวทัวร์ต่างประเทศและทัวร์ในประเทศ ที่มีตัวเลือกเส้นทางท่องเที่ยวให้ลูกค้าได้เลือกกันอย่างจุใจ จำนวนมากและหลากหลายที่สุดบนโลกออนไลน์ พาชมครบทุกจุดแลนด์มาร์ก เช็คอินทุกมุมไฮไลต์ ดูแลทุกการเดินทางอย่างใกล้ชิดโดยทีมมัคคุเทศน์มืออาชีพที่มีใบอนุญาตถูกต้อง การันตีความน่าเชื่อถือจากการเป็นบริษัททัวร์ต่างประเทศ ที่มีลูกค้านับหมื่นรายต่อปีให้ความไว้วางใจเสมอมาตลอดระยะเวลากว่า 22 ปี เดินทางอย่างมีความสุขและประทับใจแบบไม่รู้ลืมไปกับเรา

    นอกจากโปรแกรมทัวร์ต่างประเทศและในประเทศแล้ว เรายังเป็นผู้ให้บริการจองโรงแรม เที่ยวบิน รถยนต์ ท่องเที่ยวเรือสำราญ รวมถึงตั๋วเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ระดับแนวหน้าของไทย ครบวงจรทุกเรื่องการเดินทางและการท่องเที่ยวในที่เดียว ด้วยราคามาตรฐานยุติธรรม ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษา แนะนำแพ็คเกจที่ใช่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เลือกให้เราเป็นผู้ช่วยสร้างความทรงจำดีๆ ในวันหยุดของทุกท่าน เลือก eTravelWay.com
    ✨บริษัททัวร์ eTravelWay.com บริษัททัวร์ต่างประเทศแห่งใหญ่ที่สุดบนโลกออนไลน์ ประสบการณ์กว่า 22 ปี จัดเต็มความเหนือระดับบริการนำเที่ยวทัวร์ต่างประเทศและทัวร์ในประเทศ ที่มีตัวเลือกเส้นทางท่องเที่ยวให้ลูกค้าได้เลือกกันอย่างจุใจ จำนวนมากและหลากหลายที่สุดบนโลกออนไลน์ พาชมครบทุกจุดแลนด์มาร์ก เช็คอินทุกมุมไฮไลต์ ดูแลทุกการเดินทางอย่างใกล้ชิดโดยทีมมัคคุเทศน์มืออาชีพที่มีใบอนุญาตถูกต้อง การันตีความน่าเชื่อถือจากการเป็นบริษัททัวร์ต่างประเทศ ที่มีลูกค้านับหมื่นรายต่อปีให้ความไว้วางใจเสมอมาตลอดระยะเวลากว่า 22 ปี เดินทางอย่างมีความสุขและประทับใจแบบไม่รู้ลืมไปกับเรา ✨นอกจากโปรแกรมทัวร์ต่างประเทศและในประเทศแล้ว เรายังเป็นผู้ให้บริการจองโรงแรม เที่ยวบิน รถยนต์ ท่องเที่ยวเรือสำราญ รวมถึงตั๋วเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ระดับแนวหน้าของไทย ครบวงจรทุกเรื่องการเดินทางและการท่องเที่ยวในที่เดียว ด้วยราคามาตรฐานยุติธรรม ทีมงานของเรายินดีให้คำปรึกษา แนะนำแพ็คเกจที่ใช่ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด เลือกให้เราเป็นผู้ช่วยสร้างความทรงจำดีๆ ในวันหยุดของทุกท่าน เลือก eTravelWay.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 514 มุมมอง 0 รีวิว
  • จาก ย.ย่งฮะเฮง สู่โรงงานคุณ! ส่งมอบเครื่องจักรแปรรูปชุดใหญ่...ด้วยใจ!
    ความสุขของเราคือการเห็นธุรกิจของคุณเติบโต! วันนี้ ย.ย่งฮะเฮง ได้ส่งมอบ เครื่องจักรแปรรูปอาหารหลายเครื่องให้กับลูกค้าคนสำคัญของเรา

    เราใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การคัดสรรเครื่องจักรคุณภาพ การทดสอบ ไปจนถึงการจัดส่ง เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องจักรเหล่านี้จะเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณ:

    ผลิตได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด
    ลดภาระงานและต้นทุน
    สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ

    ขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเราเสมอมา! เราพร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่สนับสนุนทุกย่างก้าวของความสำเร็จของคุณ
    อยากรู้ว่าเครื่องจักรของเราช่วยอะไรธุรกิจคุณได้บ้าง?
    แวะมาชมเครื่องจักรจริงและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ ย.ย่งฮะเฮง! ทีมงานของเราพร้อมให้คำแนะนำอย่างเป็นกันเอง เพื่อให้คุณได้รับโซลูชันที่เหมาะสมที่สุด

    เวลาทำการ:
    จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น.
    เสาร์: 8.00 - 16.00 น.

    ช่องทางติดต่อเรา:
    แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    แชทกับเรา:
    Facebook Messenger: m.me/yonghahheng
    LINE OA: @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/5H812n9

    โทรสายด่วน:
    02-215-3515-9
    081-3189098

    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com | yonghahheng@gmail.com

    อย่ารอช้า! โอกาสในการพัฒนาธุรกิจของคุณอยู่แค่เอื้อม!
    #ยย่งฮะเฮง #เครื่องจักรคุณภาพ #คู่คิดธุรกิจ #บริการครบวงจร #ยกระดับการผลิต #โรงงานทันสมัย #ความสำเร็จของคุณคือความสุขของเรา
    จาก ย.ย่งฮะเฮง สู่โรงงานคุณ! ✨ ส่งมอบเครื่องจักรแปรรูปชุดใหญ่...ด้วยใจ! ความสุขของเราคือการเห็นธุรกิจของคุณเติบโต! วันนี้ ย.ย่งฮะเฮง ได้ส่งมอบ เครื่องจักรแปรรูปอาหารหลายเครื่องให้กับลูกค้าคนสำคัญของเรา เราใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การคัดสรรเครื่องจักรคุณภาพ การทดสอบ ไปจนถึงการจัดส่ง เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องจักรเหล่านี้จะเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณ: ผลิตได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดภาระงานและต้นทุน สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ ขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเราเสมอมา! เราพร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่สนับสนุนทุกย่างก้าวของความสำเร็จของคุณ อยากรู้ว่าเครื่องจักรของเราช่วยอะไรธุรกิจคุณได้บ้าง? แวะมาชมเครื่องจักรจริงและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ ย.ย่งฮะเฮง! ทีมงานของเราพร้อมให้คำแนะนำอย่างเป็นกันเอง เพื่อให้คุณได้รับโซลูชันที่เหมาะสมที่สุด เวลาทำการ: จันทร์ - ศุกร์: 8.00 - 17.00 น. เสาร์: 8.00 - 16.00 น. ช่องทางติดต่อเรา: แผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 แชทกับเรา: Facebook Messenger: m.me/yonghahheng LINE OA: @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือคลิก https://lin.ee/5H812n9 โทรสายด่วน: 02-215-3515-9 081-3189098 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com อีเมล: sales@yoryonghahheng.com | yonghahheng@gmail.com อย่ารอช้า! โอกาสในการพัฒนาธุรกิจของคุณอยู่แค่เอื้อม! #ยย่งฮะเฮง #เครื่องจักรคุณภาพ #คู่คิดธุรกิจ #บริการครบวงจร #ยกระดับการผลิต #โรงงานทันสมัย #ความสำเร็จของคุณคือความสุขของเรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 693 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวดี⭐️⭐️
    HHS และกระทรวงการต่างประเทศ: สหรัฐอเมริกาปฏิเสธการแก้ไขกฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ

    วอชิงตัน—18 กรกฎาคม 2568—
    วันนี้ นายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกา และ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าสหรัฐอเมริกาไม่ยอมรับการแก้ไขข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ปี 2567 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเป็นทางการกฎหมายสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขนี้จะทำให้ WHO สามารถสั่งปิดประเทศทั่วโลก จำกัดการเดินทาง หรือมาตรการอื่นใดที่ WHO เห็นสมควร เพื่อรับมือกับ “ความเสี่ยงด้านสาธารณสุขที่อาจเกิดขึ้น” ที่คลุมเครือ กฎระเบียบเหล่านี้จะมีผลผูกพันหากไม่ได้รับการปฏิเสธภายในวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 โดยไม่คำนึงถึงการถอนตัวของสหรัฐอเมริกาจาก WHO-
    “การแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศที่เสนอขึ้นนี้เปิดโอกาสให้เกิดการจัดการเรื่องเล่า การโฆษณาชวนเชื่อ และการเซ็นเซอร์แบบที่เราพบเห็นในช่วงการระบาดของโควิด-19” รัฐมนตรีเคนเนดีกล่าว

    “สหรัฐอเมริกาสามารถร่วมมือกับประเทศอื่นๆ โดยไม่กระทบต่อเสรีภาพพลเมืองของเรา โดยไม่บ่อนทำลายรัฐธรรมนูญของเรา และโดยไม่สูญเสียอำนาจอธิปไตยอันล้ำค่าของอเมริกาไป”
    รัฐมนตรีเคนเนดียังเผยแพร่วิดีโอ ด้วยอธิบายการกระทำดังกล่าวให้ชาวอเมริกันทราบ“
    คำศัพท์ที่ใช้ตลอดทั้งฉบับแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2567 นั้นคลุมเครือและกว้างเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการตอบสนองระหว่างประเทศที่ประสานงานโดยองค์การอนามัยโลก ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ประเด็นทางการเมือง เช่น ความสามัคคี มากกว่าการดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” รัฐมนตรีรูบิโอกล่าว

    “หน่วยงานของเราได้ดำเนินการอย่างชัดเจนมาโดยตลอดและจะยังคงดำเนินการต่อไป นั่นคือ เราจะให้ความสำคัญกับชาวอเมริกันเป็นอันดับแรกในทุกการกระทำของเรา และเราจะไม่ยอมให้มีนโยบายระหว่างประเทศที่ละเมิดสิทธิในการพูด ความเป็นส่วนตัว หรือเสรีภาพส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน”เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2567 สมัชชาอนามัยโลก (WHA) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของ WHO ได้นำข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขมาใช้โดยผ่านกระบวนการเร่งรีบ ขาดการอภิปรายและการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะอย่างเพียงพอคำชื่นชมต่อการกระทำในวันนี้จากสมาชิกรัฐสภา:การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เผยให้เห็นว่าความไร้ประสิทธิภาพและการคอร์รัปชันขององค์การอนามัยโลก
    เรียกร้องให้มีการปฏิรูปอย่างครอบคลุม แทนที่จะจัดการกับนโยบายสาธารณสุขที่ย่ำแย่ในช่วงโควิด องค์การอนามัยโลกกลับต้องการให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎระเบียบสุขภาพระหว่างประเทศและสนธิสัญญาโรคระบาดเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในประเทศสมาชิก ซึ่งอาจรวมถึงการตอบสนองที่เข้มงวดแต่ล้มเหลว เช่น การปิดธุรกิจและโรงเรียน และคำสั่งให้ฉีดวัคซีน ตั้งแต่ปี 2565 ผมได้นำร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการไม่เตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาดขององค์การอนามัยโลกโดยปราศจากการอนุมัติจากวุฒิสภาซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างไปเมื่อปีที่แล้ว สหรัฐอเมริกาจะไม่อนุญาตให้องค์การอนามัยโลกใช้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเพื่อทำลายล้างประเทศชาติ ผมสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ที่จะปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมของกฎหมายอนามัยระหว่างประเทศ (IHR)”
    วุฒิสมาชิกรอน จอห์นสันกล่าว

    “นโยบายสาธารณสุขของอเมริกาเป็นของชาวอเมริกัน และไม่ควรถูกกำหนดโดยนักโลกาภิวัตน์ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งในองค์การอนามัยโลกหรือสหประชาชาติ WHO ได้แสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่า WHO ไม่สามารถไว้วางใจได้ และผมรู้สึกขอบคุณที่รัฐบาลทรัมป์ยังคงยืนหยัดอย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องอธิปไตยของอเมริกา” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทอม ทิฟฟานี กล่าว

    “สหรัฐอเมริกาต้องไม่สละอำนาจอธิปไตยของเราให้แก่องค์กรหรือหน่วยงานระหว่างประเทศใดๆ ทั้งสิ้น ผมขอชื่นชมรัฐมนตรีเคนเนดีและรัฐมนตรีรูบิโอที่ปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ไม่รอบคอบ ผมสนับสนุนให้สหรัฐฯ ถอนตัวจาก WHO และตัดงบประมาณองค์กรที่กระหายอำนาจของตนมานานแล้ว กฎหมายของผม HR 401 ซึ่งนำเสนอครั้งแรกในรัฐสภาชุดที่ 117 ถือเป็นการกระทำเช่นนั้น ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมพันธกิจของอเมริกาต้องมาก่อนและเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพ WHO ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ได้สูญเสียความน่าเชื่อถือที่อาจเกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 และเราต้องมั่นใจว่าจะไม่มีรัฐบาลชุดใดในอนาคตที่จะมอบความชอบธรรมหรืออำนาจใดๆ ให้แก่พวกเขาเหนือสุขภาพของชาวอเมริกัน” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชิป รอยกล่าว

    “รัฐมนตรีเคนเนดีและประธานาธิบดีทรัมป์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก WHO เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ปราศจากความรับผิดชอบ ซึ่งมอบสิทธิเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพของประชาชนให้กับข้าราชการที่ทุจริต ผมรู้สึกขอบคุณรัฐมนตรีเคนเนดีที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อข้อตกลงโรคระบาดของ WHO ซึ่งจะปกป้องเสรีภาพด้านสุขภาพและความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกัน เรามาทำให้อเมริกายิ่งใหญ่และมีสุขภาพดีอีกครั้งกันเถอะ” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแอนดี บิ๊กส์ กล่าว

    การประกาศในวันนี้ถือเป็นการดำเนินการล่าสุดของรัฐมนตรีเคนเนดีและ HHS ในการให้ WHOรับผิดชอบ

    HHS & State Department: The United States Rejects Amendments to International Health Regulations

    WASHINGTON—JULY 18, 2025—U.S. Health and Human Services Secretary Robert F. Kennedy, Jr. and Secretary of State Marco Rubio today issued a Joint Statement of formal rejection by the United States of the 2024 International Heath Regulations (IHR) Amendments by the World Health Organization (WHO).The amended IHR would give the WHO the ability to order global lockdowns, travel restrictions, or any other measures it sees fit to respond to nebulous “potential public health risks.” These regulations are set to become binding if not rejected by July 19, 2025, regardless of the United States’ withdrawal from the WHO.“The proposed amendments to the International Health Regulations open the door to the kind of narrative management, propaganda, and censorship that we saw during the COVID pandemic,” Secretary Kennedy said. “The United States can cooperate with other nations without jeopardizing our civil liberties, without undermining our Constitution, and without ceding away America’s treasured sovereignty.”Secretary Kennedy also released a video explaining the action to the American people.“Terminology throughout the amendments to the 2024 International Health Regulations is vague and broad, risking WHO-coordinated international responses that focus on political issues like solidarity, rather than rapid and effective actions,” Secretary Rubio said. “Our Agencies have been and will continue to be clear: we will put Americans first in all our actions and we will not tolerate international policies that infringe on Americans’ speech, privacy, or personal liberties.”On June 1, 2024, the World Health Assembly (WHA), the highest decision-making body of the WHO, adopted a revised version of the International Health Regulations through a rushed process lacking sufficient debate and public input.Praise for today’s action from members of Congress:“The COVID-19 pandemic exposed how the incompetency and corruption at the WHO demands comprehensive reforms. Instead of addressing its disastrous public health policies during COVID, the WHO wants International Health Regulation amendments and a pandemic treaty to declare public health emergencies in member states, which could include failed draconian responses like business and school closures and vaccine mandates. Since 2022, I have led the No WHO Pandemic Preparedness Treaty Without Senate Approval Act, which the House passed last year. The United States will not allow the WHO to use public health emergencies to devastate our nation. I fully support the Trump administration’s decision to reject the IHR amendments,” said Senator Ron Johnson.“America’s public health policy belongs to the American people and should never be dictated by unelected globalists at the WHO or the UN. Time and time again, the WHO has demonstrated it cannot be trusted, and I am grateful that the Trump administration is standing strong to protect American sovereignty,” said Congressman Tom Tiffany.“The United States must never cede our sovereignty to any international entity or organization. I applaud Secretary Kennedy and Secretary Rubio for rejecting the World Health Organization’s (WHO) ill-advised International Health Regulations (IHR) amendments. I have long supported the U.S. withdrawing from the WHO and defunding their power-hungry organization. My legislation, H.R. 401, first introduced in the 117th Congress, does just that while advancing the mission statements of America First and Healthcare Freedom. The WHO, a widely discredited international organization, lost any potential credibility during the COVID-19 pandemic, and we must ensure no future administration grants them any legitimacy or further power over the health of Americans," said Congressman Chip Roy.“Secretary Kennedy and President Trump have proven their commitment to putting America First. WHO is an unaccountable international organization that hands individuals’ healthcare freedoms to corrupt bureaucrats. I’m thankful for Secretary Kennedy’s firm stance against WHO’s Pandemic Agreement that will protect Americans’ health freedom and privacy. Let’s Make America Great and Healthy Again,” said Congressman Andy Biggs.Today’s announcement is the latest action by Secretary Kennedy and HHS to hold the WHO accountable.
    https://www.hhs.gov/press-room/state-department-hhs-rejects-amendments-to-international-health-regulations.html
    July 18, 2025
    ☘️🌿 ข่าวดี⭐️⭐️ HHS และกระทรวงการต่างประเทศ: สหรัฐอเมริกาปฏิเสธการแก้ไขกฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ วอชิงตัน—18 กรกฎาคม 2568— วันนี้ นายโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์แห่งสหรัฐอเมริกา และ นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าสหรัฐอเมริกาไม่ยอมรับการแก้ไขข้อบังคับด้านสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ปี 2567 ขององค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเป็นทางการกฎหมายสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขนี้จะทำให้ WHO สามารถสั่งปิดประเทศทั่วโลก จำกัดการเดินทาง หรือมาตรการอื่นใดที่ WHO เห็นสมควร เพื่อรับมือกับ “ความเสี่ยงด้านสาธารณสุขที่อาจเกิดขึ้น” ที่คลุมเครือ กฎระเบียบเหล่านี้จะมีผลผูกพันหากไม่ได้รับการปฏิเสธภายในวันที่ 19 กรกฎาคม 2568 โดยไม่คำนึงถึงการถอนตัวของสหรัฐอเมริกาจาก WHO- “การแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศที่เสนอขึ้นนี้เปิดโอกาสให้เกิดการจัดการเรื่องเล่า การโฆษณาชวนเชื่อ และการเซ็นเซอร์แบบที่เราพบเห็นในช่วงการระบาดของโควิด-19” รัฐมนตรีเคนเนดีกล่าว “สหรัฐอเมริกาสามารถร่วมมือกับประเทศอื่นๆ โดยไม่กระทบต่อเสรีภาพพลเมืองของเรา โดยไม่บ่อนทำลายรัฐธรรมนูญของเรา และโดยไม่สูญเสียอำนาจอธิปไตยอันล้ำค่าของอเมริกาไป” รัฐมนตรีเคนเนดียังเผยแพร่วิดีโอ ด้วยอธิบายการกระทำดังกล่าวให้ชาวอเมริกันทราบ“ คำศัพท์ที่ใช้ตลอดทั้งฉบับแก้ไขเพิ่มเติมกฎอนามัยระหว่างประเทศ พ.ศ. 2567 นั้นคลุมเครือและกว้างเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการตอบสนองระหว่างประเทศที่ประสานงานโดยองค์การอนามัยโลก ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ประเด็นทางการเมือง เช่น ความสามัคคี มากกว่าการดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ” รัฐมนตรีรูบิโอกล่าว “หน่วยงานของเราได้ดำเนินการอย่างชัดเจนมาโดยตลอดและจะยังคงดำเนินการต่อไป นั่นคือ เราจะให้ความสำคัญกับชาวอเมริกันเป็นอันดับแรกในทุกการกระทำของเรา และเราจะไม่ยอมให้มีนโยบายระหว่างประเทศที่ละเมิดสิทธิในการพูด ความเป็นส่วนตัว หรือเสรีภาพส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน”เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2567 สมัชชาอนามัยโลก (WHA) ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจตัดสินใจสูงสุดของ WHO ได้นำข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศฉบับแก้ไขมาใช้โดยผ่านกระบวนการเร่งรีบ ขาดการอภิปรายและการรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะอย่างเพียงพอคำชื่นชมต่อการกระทำในวันนี้จากสมาชิกรัฐสภา:การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เผยให้เห็นว่าความไร้ประสิทธิภาพและการคอร์รัปชันขององค์การอนามัยโลก เรียกร้องให้มีการปฏิรูปอย่างครอบคลุม แทนที่จะจัดการกับนโยบายสาธารณสุขที่ย่ำแย่ในช่วงโควิด องค์การอนามัยโลกกลับต้องการให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎระเบียบสุขภาพระหว่างประเทศและสนธิสัญญาโรคระบาดเพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขในประเทศสมาชิก ซึ่งอาจรวมถึงการตอบสนองที่เข้มงวดแต่ล้มเหลว เช่น การปิดธุรกิจและโรงเรียน และคำสั่งให้ฉีดวัคซีน ตั้งแต่ปี 2565 ผมได้นำร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการไม่เตรียมความพร้อมรับมือโรคระบาดขององค์การอนามัยโลกโดยปราศจากการอนุมัติจากวุฒิสภาซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างไปเมื่อปีที่แล้ว สหรัฐอเมริกาจะไม่อนุญาตให้องค์การอนามัยโลกใช้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเพื่อทำลายล้างประเทศชาติ ผมสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ที่จะปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมของกฎหมายอนามัยระหว่างประเทศ (IHR)” วุฒิสมาชิกรอน จอห์นสันกล่าว “นโยบายสาธารณสุขของอเมริกาเป็นของชาวอเมริกัน และไม่ควรถูกกำหนดโดยนักโลกาภิวัตน์ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งในองค์การอนามัยโลกหรือสหประชาชาติ WHO ได้แสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่า WHO ไม่สามารถไว้วางใจได้ และผมรู้สึกขอบคุณที่รัฐบาลทรัมป์ยังคงยืนหยัดอย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องอธิปไตยของอเมริกา” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทอม ทิฟฟานี กล่าว “สหรัฐอเมริกาต้องไม่สละอำนาจอธิปไตยของเราให้แก่องค์กรหรือหน่วยงานระหว่างประเทศใดๆ ทั้งสิ้น ผมขอชื่นชมรัฐมนตรีเคนเนดีและรัฐมนตรีรูบิโอที่ปฏิเสธการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสุขภาพระหว่างประเทศ (IHR) ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ไม่รอบคอบ ผมสนับสนุนให้สหรัฐฯ ถอนตัวจาก WHO และตัดงบประมาณองค์กรที่กระหายอำนาจของตนมานานแล้ว กฎหมายของผม HR 401 ซึ่งนำเสนอครั้งแรกในรัฐสภาชุดที่ 117 ถือเป็นการกระทำเช่นนั้น ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมพันธกิจของอเมริกาต้องมาก่อนและเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพ WHO ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ได้สูญเสียความน่าเชื่อถือที่อาจเกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิด-19 และเราต้องมั่นใจว่าจะไม่มีรัฐบาลชุดใดในอนาคตที่จะมอบความชอบธรรมหรืออำนาจใดๆ ให้แก่พวกเขาเหนือสุขภาพของชาวอเมริกัน” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชิป รอยกล่าว “รัฐมนตรีเคนเนดีและประธานาธิบดีทรัมป์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก WHO เป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ปราศจากความรับผิดชอบ ซึ่งมอบสิทธิเสรีภาพด้านการดูแลสุขภาพของประชาชนให้กับข้าราชการที่ทุจริต ผมรู้สึกขอบคุณรัฐมนตรีเคนเนดีที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อข้อตกลงโรคระบาดของ WHO ซึ่งจะปกป้องเสรีภาพด้านสุขภาพและความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกัน เรามาทำให้อเมริกายิ่งใหญ่และมีสุขภาพดีอีกครั้งกันเถอะ” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแอนดี บิ๊กส์ กล่าว การประกาศในวันนี้ถือเป็นการดำเนินการล่าสุดของรัฐมนตรีเคนเนดีและ HHS ในการให้ WHOรับผิดชอบ HHS & State Department: The United States Rejects Amendments to International Health Regulations WASHINGTON—JULY 18, 2025—U.S. Health and Human Services Secretary Robert F. Kennedy, Jr. and Secretary of State Marco Rubio today issued a Joint Statement of formal rejection by the United States of the 2024 International Heath Regulations (IHR) Amendments by the World Health Organization (WHO).The amended IHR would give the WHO the ability to order global lockdowns, travel restrictions, or any other measures it sees fit to respond to nebulous “potential public health risks.” These regulations are set to become binding if not rejected by July 19, 2025, regardless of the United States’ withdrawal from the WHO.“The proposed amendments to the International Health Regulations open the door to the kind of narrative management, propaganda, and censorship that we saw during the COVID pandemic,” Secretary Kennedy said. “The United States can cooperate with other nations without jeopardizing our civil liberties, without undermining our Constitution, and without ceding away America’s treasured sovereignty.”Secretary Kennedy also released a video explaining the action to the American people.“Terminology throughout the amendments to the 2024 International Health Regulations is vague and broad, risking WHO-coordinated international responses that focus on political issues like solidarity, rather than rapid and effective actions,” Secretary Rubio said. “Our Agencies have been and will continue to be clear: we will put Americans first in all our actions and we will not tolerate international policies that infringe on Americans’ speech, privacy, or personal liberties.”On June 1, 2024, the World Health Assembly (WHA), the highest decision-making body of the WHO, adopted a revised version of the International Health Regulations through a rushed process lacking sufficient debate and public input.Praise for today’s action from members of Congress:“The COVID-19 pandemic exposed how the incompetency and corruption at the WHO demands comprehensive reforms. Instead of addressing its disastrous public health policies during COVID, the WHO wants International Health Regulation amendments and a pandemic treaty to declare public health emergencies in member states, which could include failed draconian responses like business and school closures and vaccine mandates. Since 2022, I have led the No WHO Pandemic Preparedness Treaty Without Senate Approval Act, which the House passed last year. The United States will not allow the WHO to use public health emergencies to devastate our nation. I fully support the Trump administration’s decision to reject the IHR amendments,” said Senator Ron Johnson.“America’s public health policy belongs to the American people and should never be dictated by unelected globalists at the WHO or the UN. Time and time again, the WHO has demonstrated it cannot be trusted, and I am grateful that the Trump administration is standing strong to protect American sovereignty,” said Congressman Tom Tiffany.“The United States must never cede our sovereignty to any international entity or organization. I applaud Secretary Kennedy and Secretary Rubio for rejecting the World Health Organization’s (WHO) ill-advised International Health Regulations (IHR) amendments. I have long supported the U.S. withdrawing from the WHO and defunding their power-hungry organization. My legislation, H.R. 401, first introduced in the 117th Congress, does just that while advancing the mission statements of America First and Healthcare Freedom. The WHO, a widely discredited international organization, lost any potential credibility during the COVID-19 pandemic, and we must ensure no future administration grants them any legitimacy or further power over the health of Americans," said Congressman Chip Roy.“Secretary Kennedy and President Trump have proven their commitment to putting America First. WHO is an unaccountable international organization that hands individuals’ healthcare freedoms to corrupt bureaucrats. I’m thankful for Secretary Kennedy’s firm stance against WHO’s Pandemic Agreement that will protect Americans’ health freedom and privacy. Let’s Make America Great and Healthy Again,” said Congressman Andy Biggs.Today’s announcement is the latest action by Secretary Kennedy and HHS to hold the WHO accountable. https://www.hhs.gov/press-room/state-department-hhs-rejects-amendments-to-international-health-regulations.html July 18, 2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1116 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรกิจ ดิษฐาน คอลัมนิสต์นักเขียนประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ได้โพสต์ว่า “สองสามวันมานี้ผมอ่านบันทึกการเดินทางของ เอเจียน เอโมนิเยร์ (Étienne Aymonier) ผู้ที่ทำการสำรวจ "ขอบเขตของดินแดนเขมรโบราณ" โดยเข้ามาสำรวจในภาคอีสานไทยและบางส่วนของลาว

    หนังสือสองเล่มนั้นคือ Le Cambodge. Les provinces siamoises (การสำรวจโบราณสถานเขมรโบราณในดินแดนของประเทศสยาม) กับ Voyage dans le Laos (การสำรวจภาคอีสานของไทยโดยที่เขาเรียกดินแดนนี้ว่าลาว)

    ที่สำคัญคือ เมื่อถึงเทือกเขาพนมดงรักแล้ว เอเจียน เอโมนิเยร์ ได้ย้ำกับเราแล้วว่า "เรายังอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์" เมื่อมาถึงปราสาทตาเมือนธม

    สำหรับหนังสือการสำรวจทั้งสองนั้น เล่มแรกมีรสชาติเป็นวิชาการ คือ ค่อนข้างไร้อารมณ์ ส่วนเล่มสองนั้นมีเกร็ดสนุกๆ พอสมควร ทั้งสองเล่มต่างก็เล่าถึงการเดินทางมาที่ "เมืองสุรินทร์" อันเป็นจังหวัดของประเทศสยามและมีระเบียบการปกครองแบบสยาม เอโมนิเยร์ เดินทางกับลูกน้องชาวกัมพูชาจากสุรินทร์ลงมายังเทือกเขาพนมดงรักเพื่อสำรวจกลุ่มปราสาทตาเมือน ซึ่งบรรยากาศการสำรวจในหนังสือ Le Cambodge. Les provinces siamoises กล่าวถึงการรายละเอียดที่เป็นวิชาการมาก (เช่นปราสาทมีลักษณะแบบไหน ใครสร้าง จารึกว่าด้วยอะไร) แต่ Voyage dans le Laos ดูลี้ลับ สนุกเร้าใจ และน่าเสี่ยงภัยพอดู

    สิ่งสำคัญก็คือ เอเจียน เอโมนิเยร์ บอกว่า ปราสาทตาเมือน (ทั้งตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาเมือนธรรมดา) ตั้งอยู่ในเมืองสุรินทร์ แม้ว่าในเวลานั้นการกำหนดพรมแดนของไทยและอินโดจีนฝรั่งเศสยังไม่ชัด แต่การระบุว่ากลุ่มปราสาทตาเมือนอยู่ในเขตสุรินทร์ก็เท่ากับยอมรับว่าปราสาทเหล่านี้เป็นของไทย

    และเนื้อหาของ Voyage dans le Laos ก็กล่าวถึงเรื่องนี้ชัด รวมถึงการเข้ามาของข้าราชการจากสยามและบางกอกในพื้นที่นี้ ซึ่งผมจะแปลให้อ่านกัน ดังนี้ .... (บทว่าด้วยจากสังขะ ถึงสุรินทร์ สู่ดงรัก)

    "หมู่บ้านพนมได (พนมฎี?) แห่งนี้อยู่ห่างจากเทือกเขาพนมดงรักไป 4 ลีก (19.32 กิโลเมตร) นับจากช่องจุบสมัจที่ชาวสยามเรียกว่า ช่องเสม็ด ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่ผู้คนนำเครื่องบรรณาการจากเมืองลาวต่างๆ (อีสานและลาวฝั่งซ้าย) มายังกรุงเทพฯ เครื่องบรรณาการเหล่านี้ไม่ปลอดภัยจากการโจมตีของโจร ครั้งหนึ่งเคยถูกลักขโมยไปเมื่อปีที่แล้ว อีกครั้งหนึ่ง ขุนนางผู้หนึ่งซึ่งกลับมาจากกรุงเทพฯ โดยมีบรรดาศักดิ์เป็นผู้รักษาการเจ้าถูกปล้นทรัพย์จนหมดสิ้น เขาต้องหลบหนีกลับประเทศโดยที่แม้แต่สัญญาบัตรพระราชทานตำแหน่งก็สูญหายไป พวกโจรยังปล้นสะดมได้แม้พระมหากษัตริย์ และพวกเรากับชาวกัมพูชาคนอื่นๆ กล่าวว่า "พวกเราระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะให้ทุกคนเข้าใจว่าในสัมภาระของเราไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย นอกจากกระดาษพิมพ์ลายศิลาจารึก"

    วันพุธที่ 19 ธันวาคม พวกเขาออกจากหมู่บ้านพนมไดเวลา 7 โมงเช้าเพื่อไปเยี่ยมชมซากปรักหักพังที่เรียกว่าปราสาทตาเมือนบนภูเขา เวลา 9 โมง พวกเขาออกจากป่าที่โล่งและเข้าสู่ป่าสูงใหญ่ทึบที่ปกคลุมยอดเขาดงรัก ในภูมิภาคนี้ ป่าแห่งนี้มีลักษณะที่หาได้ยากในอินโดจีน แทบจะเรียกได้ว่าเป็นป่าที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีลักษณะเป็นหลุมดำทึบที่แสงแดดส่องไม่ถึง ประกอบกับเสาหินขนาดใหญ่ที่เรียงรายอยู่ตามลำต้นของต้นไม้ใหญ่ บริเวณเชิงเขา พื้นดินไม่ได้โล่งเตียน แต่ปกคลุมไปด้วยพืชพรรณไม้และพุ่มไม้เล็กๆ ไม่กี่วันต่อมา พวกเขาได้พบกับป่าแห่งนี้อีกครั้ง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของช่องเพลาจอมทัพเพชร เห็นได้ชัดว่าสามารถเดินได้ทั้งวันโดยไม่ต้องออกจากป่า

    หนึ่งชั่วโมงหลังจากเข้าไปในป่านี้ นักเดินทางก็มาถึงปราสาทตาเมือน ในป่า ไม่ไกลจากสันเขาของกำแพงสูงชันที่ก่อตัวขึ้นจากเขาดงรัก จากภูมิพนมได (บ้านพนมได) ไม่มีร่องให้ปีนป่ายให้เห็นเด่นชัด ภูมิประเทศดูเหมือนจะราบเรียบ และยังคงเป็นเช่นนี้จนกระทั่งถึงหน้าผาสูงชันครึ่งลีก (2.4 กิโลเมตร) เลยซากปรักหักพังไป ซึ่งมีทางเดินเท้าใกล้ๆ ซึ่งช่วยให้ลงจากภูเขาได้ มีคนเล่ากันว่าโจรขโมยวัวมักจะผ่านช่องเขาร้างที่เรียกว่า เพลาตาเมือน เรายังอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ ซากปรักหักพังเล็กๆ ของปราสาทตาเมือนตั้งอยู่บนพื้นดินที่ราบเรียบและเป็นทราย จากที่นั่น ลูกหาบชาวกัมพูชาของผมเดินทางไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 15 หรือ 1,800 เมตร เพื่อเยี่ยมชมซากปรักหักพังขนาดใหญ่หรือปราสาทตาเมือนธม อนุสรณ์สถานสุดท้ายนี้ ซึ่งอยู่ในป่าขนาดใหญ่เช่นกัน มีความสำคัญมากกว่า ตั้งอยู่ใกล้สันเขา มีบันไดขนาดใหญ่ที่ลงจากภูเขาไปยังที่ราบสูงตอนล่าง ในวันแรกนั้น จารึกของปราสาทตาเมือนธมถูกพิมพ์ทำสำเนาไว้ อันส่งอุกกลับไปยังพนมไดเพื่อเฝ้าสัมภาระและพักอยู่กับชานที่ซากปรักหักพัง

    ในวันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม เป็นวันที่ผมใช้เวลาทั้งวันในการขุดค้นจารึกของปราสาทตาเมือนธม เนื่องจากไม่ได้นำอาหารมาเพียงพอ และต้องอยู่ในซากปรักหักพังนี้เกินกว่าที่คาดไว้ คนของผมและผู้นำทางจึงต้องงดอาหารเย็นและนอนที่ปราสาทตาเมือนธม ในซากปรักหักพังที่ตั้งอยู่ในป่ารกร้างอันกว้างใหญ่นี้ พวกเขาได้รับสัญญาณเตือน ซึ่งอันเล่าว่า “พวกเราสี่คนนอนอยู่ที่นั่น จัน ผม (อัน) และชายสองคนจากภูมิพนมได ค่ำคืนนั้นเงียบสงัดจนใบไม้ร่วงแต่ละใบส่งเสียงประหลาด เราได้ยินเสียงคล้ายเสียงสัตว์เดิน ผมต้องชื่นชมความนิ่งของชายคนหนึ่งจากท้องถิ่นที่ดูเหมือนจะไม่เกรงกลัวสิ่งใด นิ่งสงบอยู่เสมอ แต่ราวๆ ช่วงเวลาไก่ขันครั้งแรก ชายคนนี้ก็กระโดดขึ้นอย่างกะทันหันและตะโกนว่า “อะไรมันยืนอยู่อย่างนี้?” พลันกองไฟของเราดับลง ผมกระโดดขึ้น คว้าปืนไรเฟิลไว้ในมือข้างหนึ่งและเขย่าจันด้วยมืออีกข้างเพื่อปลุกเขา เราถามชายคนนี้ว่าเขาเห็นอะไร แต่เขานิ่งลงตามปกติแล้ว หลังจากถามซ้ำหลายครั้ง เขาบอกเราเพียงว่าเขาได้ยินเสียงคล้ายเสียงนกบิน เราจึงกลับไปนอน เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากทำสำเนาจารึกเสร็จ เราหุงข้าวถ้วยเล็กๆ ที่เราเหลือไว้โดยการเจือจางด้วยน้ำปริมาณมาก และแบ่งโจ๊กหม้อเล็กๆ นี้ให้ทุกคนกิน งานของเรา เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ เราออกจากซากปรักหักพังทางทิศตะวันตก และทันใดนั้นก็พบกับงูสีดำตัวหนึ่ง ยาวสามถึง 4 เมตร ใหญ่กว่าลูกวัวเสียอีก มันกระโดดและหายเข้าไปในโพรงของซากปรักหักพังอย่างรวดเร็ว ผมขอปืนไรเฟิลไปอย่างไร้ผล ชายท้องถิ่นที่ถือมันไว้กลับวิ่งหนีไปแทนที่จะยื่นให้ผม ขณะที่ผมยังคงจ้องมองสัตว์เลื้อยคลานตัวนั้น ซึ่งน่าจะเป็นแขกยามราตรีที่ออกล่าสัตว์กับเรา"

    บันทึกนี้ระทึกใจเหมือนกำลังอ่านบทหนึ่งของเพชรพระอุมา

    แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เอเจียน เอโมนิเยร์ ได้ย้ำกับเราแล้วว่า "เรายังอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์" เมื่อมาถึงปราสาทตาเมือนธม

    ดังนั้นพวก "เขมรต่ำ" ไม่ต้องมาเถียงให้เสียเวลาอีก”

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/1FziKPwjkT/?mibextid=wwXIfr
    กรกิจ ดิษฐาน คอลัมนิสต์นักเขียนประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ได้โพสต์ว่า “สองสามวันมานี้ผมอ่านบันทึกการเดินทางของ เอเจียน เอโมนิเยร์ (Étienne Aymonier) ผู้ที่ทำการสำรวจ "ขอบเขตของดินแดนเขมรโบราณ" โดยเข้ามาสำรวจในภาคอีสานไทยและบางส่วนของลาว หนังสือสองเล่มนั้นคือ Le Cambodge. Les provinces siamoises (การสำรวจโบราณสถานเขมรโบราณในดินแดนของประเทศสยาม) กับ Voyage dans le Laos (การสำรวจภาคอีสานของไทยโดยที่เขาเรียกดินแดนนี้ว่าลาว) ที่สำคัญคือ เมื่อถึงเทือกเขาพนมดงรักแล้ว เอเจียน เอโมนิเยร์ ได้ย้ำกับเราแล้วว่า "เรายังอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์" เมื่อมาถึงปราสาทตาเมือนธม สำหรับหนังสือการสำรวจทั้งสองนั้น เล่มแรกมีรสชาติเป็นวิชาการ คือ ค่อนข้างไร้อารมณ์ ส่วนเล่มสองนั้นมีเกร็ดสนุกๆ พอสมควร ทั้งสองเล่มต่างก็เล่าถึงการเดินทางมาที่ "เมืองสุรินทร์" อันเป็นจังหวัดของประเทศสยามและมีระเบียบการปกครองแบบสยาม เอโมนิเยร์ เดินทางกับลูกน้องชาวกัมพูชาจากสุรินทร์ลงมายังเทือกเขาพนมดงรักเพื่อสำรวจกลุ่มปราสาทตาเมือน ซึ่งบรรยากาศการสำรวจในหนังสือ Le Cambodge. Les provinces siamoises กล่าวถึงการรายละเอียดที่เป็นวิชาการมาก (เช่นปราสาทมีลักษณะแบบไหน ใครสร้าง จารึกว่าด้วยอะไร) แต่ Voyage dans le Laos ดูลี้ลับ สนุกเร้าใจ และน่าเสี่ยงภัยพอดู สิ่งสำคัญก็คือ เอเจียน เอโมนิเยร์ บอกว่า ปราสาทตาเมือน (ทั้งตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาเมือนธรรมดา) ตั้งอยู่ในเมืองสุรินทร์ แม้ว่าในเวลานั้นการกำหนดพรมแดนของไทยและอินโดจีนฝรั่งเศสยังไม่ชัด แต่การระบุว่ากลุ่มปราสาทตาเมือนอยู่ในเขตสุรินทร์ก็เท่ากับยอมรับว่าปราสาทเหล่านี้เป็นของไทย และเนื้อหาของ Voyage dans le Laos ก็กล่าวถึงเรื่องนี้ชัด รวมถึงการเข้ามาของข้าราชการจากสยามและบางกอกในพื้นที่นี้ ซึ่งผมจะแปลให้อ่านกัน ดังนี้ .... (บทว่าด้วยจากสังขะ ถึงสุรินทร์ สู่ดงรัก) "หมู่บ้านพนมได (พนมฎี?) แห่งนี้อยู่ห่างจากเทือกเขาพนมดงรักไป 4 ลีก (19.32 กิโลเมตร) นับจากช่องจุบสมัจที่ชาวสยามเรียกว่า ช่องเสม็ด ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่ผู้คนนำเครื่องบรรณาการจากเมืองลาวต่างๆ (อีสานและลาวฝั่งซ้าย) มายังกรุงเทพฯ เครื่องบรรณาการเหล่านี้ไม่ปลอดภัยจากการโจมตีของโจร ครั้งหนึ่งเคยถูกลักขโมยไปเมื่อปีที่แล้ว อีกครั้งหนึ่ง ขุนนางผู้หนึ่งซึ่งกลับมาจากกรุงเทพฯ โดยมีบรรดาศักดิ์เป็นผู้รักษาการเจ้าถูกปล้นทรัพย์จนหมดสิ้น เขาต้องหลบหนีกลับประเทศโดยที่แม้แต่สัญญาบัตรพระราชทานตำแหน่งก็สูญหายไป พวกโจรยังปล้นสะดมได้แม้พระมหากษัตริย์ และพวกเรากับชาวกัมพูชาคนอื่นๆ กล่าวว่า "พวกเราระมัดระวังอย่างยิ่งที่จะให้ทุกคนเข้าใจว่าในสัมภาระของเราไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย นอกจากกระดาษพิมพ์ลายศิลาจารึก" วันพุธที่ 19 ธันวาคม พวกเขาออกจากหมู่บ้านพนมไดเวลา 7 โมงเช้าเพื่อไปเยี่ยมชมซากปรักหักพังที่เรียกว่าปราสาทตาเมือนบนภูเขา เวลา 9 โมง พวกเขาออกจากป่าที่โล่งและเข้าสู่ป่าสูงใหญ่ทึบที่ปกคลุมยอดเขาดงรัก ในภูมิภาคนี้ ป่าแห่งนี้มีลักษณะที่หาได้ยากในอินโดจีน แทบจะเรียกได้ว่าเป็นป่าที่มีลักษณะเฉพาะตัว มีลักษณะเป็นหลุมดำทึบที่แสงแดดส่องไม่ถึง ประกอบกับเสาหินขนาดใหญ่ที่เรียงรายอยู่ตามลำต้นของต้นไม้ใหญ่ บริเวณเชิงเขา พื้นดินไม่ได้โล่งเตียน แต่ปกคลุมไปด้วยพืชพรรณไม้และพุ่มไม้เล็กๆ ไม่กี่วันต่อมา พวกเขาได้พบกับป่าแห่งนี้อีกครั้ง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของช่องเพลาจอมทัพเพชร เห็นได้ชัดว่าสามารถเดินได้ทั้งวันโดยไม่ต้องออกจากป่า หนึ่งชั่วโมงหลังจากเข้าไปในป่านี้ นักเดินทางก็มาถึงปราสาทตาเมือน ในป่า ไม่ไกลจากสันเขาของกำแพงสูงชันที่ก่อตัวขึ้นจากเขาดงรัก จากภูมิพนมได (บ้านพนมได) ไม่มีร่องให้ปีนป่ายให้เห็นเด่นชัด ภูมิประเทศดูเหมือนจะราบเรียบ และยังคงเป็นเช่นนี้จนกระทั่งถึงหน้าผาสูงชันครึ่งลีก (2.4 กิโลเมตร) เลยซากปรักหักพังไป ซึ่งมีทางเดินเท้าใกล้ๆ ซึ่งช่วยให้ลงจากภูเขาได้ มีคนเล่ากันว่าโจรขโมยวัวมักจะผ่านช่องเขาร้างที่เรียกว่า เพลาตาเมือน เรายังอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์ ซากปรักหักพังเล็กๆ ของปราสาทตาเมือนตั้งอยู่บนพื้นดินที่ราบเรียบและเป็นทราย จากที่นั่น ลูกหาบชาวกัมพูชาของผมเดินทางไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 15 หรือ 1,800 เมตร เพื่อเยี่ยมชมซากปรักหักพังขนาดใหญ่หรือปราสาทตาเมือนธม อนุสรณ์สถานสุดท้ายนี้ ซึ่งอยู่ในป่าขนาดใหญ่เช่นกัน มีความสำคัญมากกว่า ตั้งอยู่ใกล้สันเขา มีบันไดขนาดใหญ่ที่ลงจากภูเขาไปยังที่ราบสูงตอนล่าง ในวันแรกนั้น จารึกของปราสาทตาเมือนธมถูกพิมพ์ทำสำเนาไว้ อันส่งอุกกลับไปยังพนมไดเพื่อเฝ้าสัมภาระและพักอยู่กับชานที่ซากปรักหักพัง ในวันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม เป็นวันที่ผมใช้เวลาทั้งวันในการขุดค้นจารึกของปราสาทตาเมือนธม เนื่องจากไม่ได้นำอาหารมาเพียงพอ และต้องอยู่ในซากปรักหักพังนี้เกินกว่าที่คาดไว้ คนของผมและผู้นำทางจึงต้องงดอาหารเย็นและนอนที่ปราสาทตาเมือนธม ในซากปรักหักพังที่ตั้งอยู่ในป่ารกร้างอันกว้างใหญ่นี้ พวกเขาได้รับสัญญาณเตือน ซึ่งอันเล่าว่า “พวกเราสี่คนนอนอยู่ที่นั่น จัน ผม (อัน) และชายสองคนจากภูมิพนมได ค่ำคืนนั้นเงียบสงัดจนใบไม้ร่วงแต่ละใบส่งเสียงประหลาด เราได้ยินเสียงคล้ายเสียงสัตว์เดิน ผมต้องชื่นชมความนิ่งของชายคนหนึ่งจากท้องถิ่นที่ดูเหมือนจะไม่เกรงกลัวสิ่งใด นิ่งสงบอยู่เสมอ แต่ราวๆ ช่วงเวลาไก่ขันครั้งแรก ชายคนนี้ก็กระโดดขึ้นอย่างกะทันหันและตะโกนว่า “อะไรมันยืนอยู่อย่างนี้?” พลันกองไฟของเราดับลง ผมกระโดดขึ้น คว้าปืนไรเฟิลไว้ในมือข้างหนึ่งและเขย่าจันด้วยมืออีกข้างเพื่อปลุกเขา เราถามชายคนนี้ว่าเขาเห็นอะไร แต่เขานิ่งลงตามปกติแล้ว หลังจากถามซ้ำหลายครั้ง เขาบอกเราเพียงว่าเขาได้ยินเสียงคล้ายเสียงนกบิน เราจึงกลับไปนอน เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากทำสำเนาจารึกเสร็จ เราหุงข้าวถ้วยเล็กๆ ที่เราเหลือไว้โดยการเจือจางด้วยน้ำปริมาณมาก และแบ่งโจ๊กหม้อเล็กๆ นี้ให้ทุกคนกิน งานของเรา เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ เราออกจากซากปรักหักพังทางทิศตะวันตก และทันใดนั้นก็พบกับงูสีดำตัวหนึ่ง ยาวสามถึง 4 เมตร ใหญ่กว่าลูกวัวเสียอีก มันกระโดดและหายเข้าไปในโพรงของซากปรักหักพังอย่างรวดเร็ว ผมขอปืนไรเฟิลไปอย่างไร้ผล ชายท้องถิ่นที่ถือมันไว้กลับวิ่งหนีไปแทนที่จะยื่นให้ผม ขณะที่ผมยังคงจ้องมองสัตว์เลื้อยคลานตัวนั้น ซึ่งน่าจะเป็นแขกยามราตรีที่ออกล่าสัตว์กับเรา" บันทึกนี้ระทึกใจเหมือนกำลังอ่านบทหนึ่งของเพชรพระอุมา แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เอเจียน เอโมนิเยร์ ได้ย้ำกับเราแล้วว่า "เรายังอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์" เมื่อมาถึงปราสาทตาเมือนธม ดังนั้นพวก "เขมรต่ำ" ไม่ต้องมาเถียงให้เสียเวลาอีก” ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/1FziKPwjkT/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 692 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวดมนต์ ภาวนา งานของเรา บูชาพระพุทธเจ้า. เหลือแต่งานบุญงานทางศาสนา แบกหามเอาบุญไปโลกหน้า
    สวดมนต์ ภาวนา งานของเรา บูชาพระพุทธเจ้า. เหลือแต่งานบุญงานทางศาสนา แบกหามเอาบุญไปโลกหน้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกวันนี้ YouTube คือขุมทรัพย์ของข้อมูลระดับโลก มีวิดีโอกว่า 20 พันล้านคลิป จากผู้คนทุกวงการ ทั้งสื่อ กระทรวงครู ช่างเทคนิค ไปจนถึง influencer ซึ่ง Google เองก็เก็บข้อมูลพวกนี้ไปฝึก AI ทั้ง Gemini และ Veo 3 โดยใช้วิธี “คัดเลือกบางส่วน” ของคลิปมาเทรนโมเดล

    แต่ประเด็นคือ… creators ส่วนใหญ่ “ไม่รู้เลย” ว่าผลงานของตัวเองถูกนำไปฝึก AI! ไม่มีอีเมลแจ้ง ไม่มีหน้าตั้งค่าให้ปฏิเสธ และแม้ Google จะอนุญาตให้ “ปิดไม่ให้บริษัทภายนอก เช่น Amazon หรือ Nvidia เข้าถึงข้อมูลได้” แต่ เจ้าของบ้านอย่าง Google เองกลับไม่มีทางเลือกให้ปิดกั้น

    รายงานบอกว่าต่อให้ใช้แค่ 1% ของวิดีโอบน YouTube มาฝึก AI ก็ได้ข้อมูลกว่า 2.3 พันล้านนาที — มากกว่าที่ OpenAI ใช้ฝึก GPT หลายสิบเท่า และนั่นยังไม่นับว่า OpenAI, Nvidia, Apple และบริษัทอื่นๆ ก็เคยแอบ scrape YouTube โดยไม่ได้ขออนุญาตมาก่อน

    บาง creators เริ่มยอมรับและใช้โมเดลอย่าง Veo 3 กลับมาช่วยทำคอนเทนต์ของตัวเอง แต่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าถ้าเทรนด์นี้ยังไม่มีมาตรฐานควบคุม อนาคต “AI ที่เกิดจากผลงานของเรา...อาจมาแย่งงานเราเอง”

    https://www.techspot.com/news/108391-youtube-creators-unaware-google-uses-their-videos-train.html
    ทุกวันนี้ YouTube คือขุมทรัพย์ของข้อมูลระดับโลก มีวิดีโอกว่า 20 พันล้านคลิป จากผู้คนทุกวงการ ทั้งสื่อ กระทรวงครู ช่างเทคนิค ไปจนถึง influencer ซึ่ง Google เองก็เก็บข้อมูลพวกนี้ไปฝึก AI ทั้ง Gemini และ Veo 3 โดยใช้วิธี “คัดเลือกบางส่วน” ของคลิปมาเทรนโมเดล แต่ประเด็นคือ… creators ส่วนใหญ่ “ไม่รู้เลย” ว่าผลงานของตัวเองถูกนำไปฝึก AI! ไม่มีอีเมลแจ้ง ไม่มีหน้าตั้งค่าให้ปฏิเสธ และแม้ Google จะอนุญาตให้ “ปิดไม่ให้บริษัทภายนอก เช่น Amazon หรือ Nvidia เข้าถึงข้อมูลได้” แต่ เจ้าของบ้านอย่าง Google เองกลับไม่มีทางเลือกให้ปิดกั้น รายงานบอกว่าต่อให้ใช้แค่ 1% ของวิดีโอบน YouTube มาฝึก AI ก็ได้ข้อมูลกว่า 2.3 พันล้านนาที — มากกว่าที่ OpenAI ใช้ฝึก GPT หลายสิบเท่า และนั่นยังไม่นับว่า OpenAI, Nvidia, Apple และบริษัทอื่นๆ ก็เคยแอบ scrape YouTube โดยไม่ได้ขออนุญาตมาก่อน บาง creators เริ่มยอมรับและใช้โมเดลอย่าง Veo 3 กลับมาช่วยทำคอนเทนต์ของตัวเอง แต่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าถ้าเทรนด์นี้ยังไม่มีมาตรฐานควบคุม อนาคต “AI ที่เกิดจากผลงานของเรา...อาจมาแย่งงานเราเอง” https://www.techspot.com/news/108391-youtube-creators-unaware-google-uses-their-videos-train.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    YouTube creators unaware Google uses their videos to train AI
    With more than 20 billion videos on the platform, YouTube is a treasure trove of data for AI companies to exploit – and many already have.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกี้ในการสัมภาษณ์กับ ABC News:


    สหรัฐฯ ปฏิเสธการส่งมอบขีปนาวุธต่อต้านโดรน 20,000 ลูก ตามที่สัญญาไว้ให้กับยูเครนตั้งแต่สมัยของไบเดน แต่เลือกส่งมอบไปให้กับประเทศในตะวันออกกลางแทน

    อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีไม่ได้แสดงอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเขากล่าวว่า ขณะนี้เขามีหนทางที่สามารถเอาชนะรัสเซียได้แล้ว!

    พูดตรงๆ ว่าเราเข้าใกล้จุดที่เราสามารถบังคับให้รัสเซียหยุดสงครามได้แล้ว หรืออย่างน้อยก็หยุดยิงชั่วคราว เราเข้าใกล้จุดนี้มากแล้ว เรารู้สึกถึงมันได้ จากปฏิบัติการของเราภายในดินแดนของพวกเขา มันทำให้พวกเขาโกรธจนบ้าคลั่งจากผลงานของเรา และนั่นทำให้พวกเขาเข้าใจทุกอย่างถึงความสามารถของเรา
    เซเลนสกี้ในการสัมภาษณ์กับ ABC News: สหรัฐฯ ปฏิเสธการส่งมอบขีปนาวุธต่อต้านโดรน 20,000 ลูก ตามที่สัญญาไว้ให้กับยูเครนตั้งแต่สมัยของไบเดน แต่เลือกส่งมอบไปให้กับประเทศในตะวันออกกลางแทน อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีไม่ได้แสดงอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเขากล่าวว่า ขณะนี้เขามีหนทางที่สามารถเอาชนะรัสเซียได้แล้ว! พูดตรงๆ ว่าเราเข้าใกล้จุดที่เราสามารถบังคับให้รัสเซียหยุดสงครามได้แล้ว หรืออย่างน้อยก็หยุดยิงชั่วคราว เราเข้าใกล้จุดนี้มากแล้ว เรารู้สึกถึงมันได้ จากปฏิบัติการของเราภายในดินแดนของพวกเขา มันทำให้พวกเขาโกรธจนบ้าคลั่งจากผลงานของเรา และนั่นทำให้พวกเขาเข้าใจทุกอย่างถึงความสามารถของเรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 27 0 รีวิว
  • ยกระดับการผลิตของคุณด้วยเครื่องบดแห้ง PULVERIZER 30B!
    คุณกำลังมองหาโซลูชันเพื่อ เพิ่มมูลค่าให้วัตถุดิบ และขยายไลน์การผลิตใช่ไหม?
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการ บดน้ำตาลทรายขาว ให้เป็นน้ำตาลไอซิ่ง หรือน้ำตาลผงละเอียด!

    เครื่องบดแห้ง Pulverizer 30B ของเราสามารถปรับใช้เพื่อบด น้ำตาลทรายขาว ให้ได้ขนาดอนุภาคที่สม่ำเสมอตามที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลไอซิ่งสำหรับเบเกอรี่ หรือน้ำตาลผงสำหรับอุตสาหกรรมอื่น ๆ
    ฟันตี 3 แบบ เลือกได้ตามใจ: สำหรับการบดน้ำตาลทรายขาว เราสามารถแนะนำฟันตีที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด:
    Pin Mill: เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับการบดน้ำตาลทรายขาวให้เป็นผงละเอียดมาก หรือน้ำตาลไอซิ่ง เนื่องจากออกแบบมาเพื่อการบดที่ให้ความละเอียดสูง
    Hammer Mill: อาจใช้สำหรับการบดน้ำตาลทรายขาวให้มีความละเอียดปานกลาง หรือใช้เป็นขั้นตอนแรกในการลดขนาดก่อนจะบดละเอียดด้วย Pin Mill

    ควบคุมความละเอียดได้แม่นยำ: สามารถปรับเปลี่ยนตะแกรงให้เหมาะสมกับขนาดอนุภาคของน้ำตาลผงที่คุณต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและตรงตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของคุณ

    มาตรฐานระดับโลก: มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยด้วยมาตรฐาน ยุโรป CE และรองรับระบบ GMP, HACCP ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร

    ทดลองบดก่อนตัดสินใจ: ไม่ต้องเสี่ยง! นำวัตถุดิบของคุณ (น้ำตาลทรายขาว) มาทดลองบดกับเครื่องจริงได้เลย (กรุณาแจ้งล่วงหน้า) เพื่อให้คุณมั่นใจในประสิทธิภาพและผลลัพธ์

    เปลี่ยนน้ำตาลทรายขาวให้เป็นน้ำตาลผงคุณภาพสูง สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างไม่จำกัด!

    สนใจสอบถามเพิ่มเติม หรือนัดทดลองบดน้ำตาลทรายขาว?
    ติดต่อเราได้เลย!

    โทร: 081-318-9098, 02-2153515-9
    อีเมล: yonghahheng@gmail.com, sales@yoryonghahheng.com
    แวะมาเยี่ยมชม: สำนักงานของเราตั้งอยู่ตรงข้ามจุฬาซอย 34 ถนนบรรทัดทอง (พระราม 6) ใกล้หัวลำโพง
    เลือกคุณภาพ เลือก BONNY – เครื่องจักรที่ตอบโจทย์ทุกความสำเร็จของคุณ!


    #เครื่องบด #เครื่องบดแห้ง #Pulverizer #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องจักรโรงงาน #บดน้ำตาล #น้ำตาลไอซิ่ง #น้ำตาลผง #อุตสาหกรรมเบเกอรี่ #วัตถุดิบอาหาร #เครื่องจักรอาหาร #โรงงานผลิต #SMEไทย #เพิ่มมูลค่า #GMP #HACCP #มาตรฐานCE #BONNY #ยย่งฮะเฮง #บดผง #เครื่องจักรอุตสาหกรรม #เทคโนโลยีการผลิต #เครื่องจักรคุณภาพ #การลงทุน #ธุรกิจอาหาร #นวัตกรรม #เครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหาร #FoodProcessing #SugarGrinding
    🚀 ยกระดับการผลิตของคุณด้วยเครื่องบดแห้ง PULVERIZER 30B! 🚀 คุณกำลังมองหาโซลูชันเพื่อ เพิ่มมูลค่าให้วัตถุดิบ และขยายไลน์การผลิตใช่ไหม? โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการ บดน้ำตาลทรายขาว ให้เป็นน้ำตาลไอซิ่ง หรือน้ำตาลผงละเอียด! เครื่องบดแห้ง Pulverizer 30B ของเราสามารถปรับใช้เพื่อบด น้ำตาลทรายขาว ให้ได้ขนาดอนุภาคที่สม่ำเสมอตามที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลไอซิ่งสำหรับเบเกอรี่ หรือน้ำตาลผงสำหรับอุตสาหกรรมอื่น ๆ ฟันตี 3 แบบ เลือกได้ตามใจ: สำหรับการบดน้ำตาลทรายขาว เราสามารถแนะนำฟันตีที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด: Pin Mill: เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับการบดน้ำตาลทรายขาวให้เป็นผงละเอียดมาก หรือน้ำตาลไอซิ่ง เนื่องจากออกแบบมาเพื่อการบดที่ให้ความละเอียดสูง Hammer Mill: อาจใช้สำหรับการบดน้ำตาลทรายขาวให้มีความละเอียดปานกลาง หรือใช้เป็นขั้นตอนแรกในการลดขนาดก่อนจะบดละเอียดด้วย Pin Mill ควบคุมความละเอียดได้แม่นยำ: สามารถปรับเปลี่ยนตะแกรงให้เหมาะสมกับขนาดอนุภาคของน้ำตาลผงที่คุณต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและตรงตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของคุณ มาตรฐานระดับโลก: มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยด้วยมาตรฐาน ยุโรป CE และรองรับระบบ GMP, HACCP ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร ทดลองบดก่อนตัดสินใจ: ไม่ต้องเสี่ยง! นำวัตถุดิบของคุณ (น้ำตาลทรายขาว) มาทดลองบดกับเครื่องจริงได้เลย (กรุณาแจ้งล่วงหน้า) เพื่อให้คุณมั่นใจในประสิทธิภาพและผลลัพธ์ เปลี่ยนน้ำตาลทรายขาวให้เป็นน้ำตาลผงคุณภาพสูง สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างไม่จำกัด! 📞 สนใจสอบถามเพิ่มเติม หรือนัดทดลองบดน้ำตาลทรายขาว? ติดต่อเราได้เลย! โทร: 081-318-9098, 02-2153515-9 อีเมล: yonghahheng@gmail.com, sales@yoryonghahheng.com แวะมาเยี่ยมชม: สำนักงานของเราตั้งอยู่ตรงข้ามจุฬาซอย 34 ถนนบรรทัดทอง (พระราม 6) ใกล้หัวลำโพง เลือกคุณภาพ เลือก BONNY – เครื่องจักรที่ตอบโจทย์ทุกความสำเร็จของคุณ! #เครื่องบด #เครื่องบดแห้ง #Pulverizer #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องจักรโรงงาน #บดน้ำตาล #น้ำตาลไอซิ่ง #น้ำตาลผง #อุตสาหกรรมเบเกอรี่ #วัตถุดิบอาหาร #เครื่องจักรอาหาร #โรงงานผลิต #SMEไทย #เพิ่มมูลค่า #GMP #HACCP #มาตรฐานCE #BONNY #ยย่งฮะเฮง #บดผง #เครื่องจักรอุตสาหกรรม #เทคโนโลยีการผลิต #เครื่องจักรคุณภาพ #การลงทุน #ธุรกิจอาหาร #นวัตกรรม #เครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหาร #FoodProcessing #SugarGrinding
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1334 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายละเอียดเพิ่มเติมในการพบปะกับสื่อมวลชนของเซเลนสกี:

    ยูเครนไม่ยอมรับการเป็นหนี้จากการสนับสนุนทางทหารของสหรัฐในนอดีต และสหรัฐได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าความช่วยเหลือในอนาคตจะไม่ฟรีอีกต่อไป

    ข้อตกลงแร่ธาตุของสหรัฐไม่หมือนที่เจรจากันไว้ และมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในตอนนี้ เงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายไม่เห็นด้วยร่วมกัน แต่มันกลับถูกนำมาเพิ่มเติมใหม่

    ปูตินไม่อยากให้มีการเจรจาเกิดขึ้นกับยูเครน เขากลัวการเจรจาโดยตรงกับผม เขาพยายามหาเหตุผลเพื่อยืดเวลาสงครามออกไป ในความคิดของเขา ยูเครนไม่ได้มีอำนาจอธิปไตย ซึ่งนั่นเป็นความคิดส่วนตัวของเขา

    ยูเครนพร้อมเปิดใจให้การเจรจากับรัสเซีย "แต่ไม่ใช่กับปูติน"

    หากภายในธุรกิจหรือประชาชนในภูมิภาคใดๆของรัสเซียที่พร้อมจะต่อต้านสงครามและทำงานเพื่อสันติภาพ แจ้งมาที่เรา เราพร้อมที่จะรับฟังและร่วมมือกัน

    ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรพร้อมส่งกองกำลังเข้าสู่ยูเครน เราเป็นสามเหลี่ยมที่จับมือกันอย่างแน่นหนา "ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และยูเครน"

    ยูเครนจะมีการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง ภาพถ่ายดาวเทียม รวมทั้งได้รับใบอนุญาตจากประเทศในยุโรป ในการผลิตกระสุน ขีปนาวุธ และเทคโนโลยีป้องกันภัยทางอากาศ

    สัปดาห์นี้ เคียฟจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฉุกเฉินแบบปิด(ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าร่วมฟัง) ของผู้นำกองทัพจากประเทศต่างๆ ที่พร้อมจะส่งกองกำลังเข้าสู่ยูเครน

    ก่อนหน้านี้สหรัฐรับปากจะทำงานร่วมกับซาอุดีอาระเบีย ตุรกี และพันธมิตรในยุโรป เกี่ยวกับวิธีการติดตามการโจมตีของรัสเซียต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน

    ยูเครนไม่เห็นด้วยที่จะให้ซาอุดีอาระเบียเข้ามากำกับดูแลโครงสร้างด้านพลังงานของเรา พวกเขาขาดอุปกรณ์ ประสบการณ์ความรู้ทางเทคนิค และความสามารถด้านข่าวกรอง

    การติดตามความปลอดภัยในทะเลดำ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และรัฐชายฝั่งทะเลดำ ได้แก่ โรมาเนียและบัลแกเรีย จะเป็นฝ่ายที่ต้องดูแลร่วมกัน
    รายละเอียดเพิ่มเติมในการพบปะกับสื่อมวลชนของเซเลนสกี: 👉ยูเครนไม่ยอมรับการเป็นหนี้จากการสนับสนุนทางทหารของสหรัฐในนอดีต และสหรัฐได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าความช่วยเหลือในอนาคตจะไม่ฟรีอีกต่อไป 👉ข้อตกลงแร่ธาตุของสหรัฐไม่หมือนที่เจรจากันไว้ และมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในตอนนี้ เงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายไม่เห็นด้วยร่วมกัน แต่มันกลับถูกนำมาเพิ่มเติมใหม่ 👉ปูตินไม่อยากให้มีการเจรจาเกิดขึ้นกับยูเครน เขากลัวการเจรจาโดยตรงกับผม เขาพยายามหาเหตุผลเพื่อยืดเวลาสงครามออกไป ในความคิดของเขา ยูเครนไม่ได้มีอำนาจอธิปไตย ซึ่งนั่นเป็นความคิดส่วนตัวของเขา 👉ยูเครนพร้อมเปิดใจให้การเจรจากับรัสเซีย "แต่ไม่ใช่กับปูติน" 👉หากภายในธุรกิจหรือประชาชนในภูมิภาคใดๆของรัสเซียที่พร้อมจะต่อต้านสงครามและทำงานเพื่อสันติภาพ แจ้งมาที่เรา เราพร้อมที่จะรับฟังและร่วมมือกัน 👉ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรพร้อมส่งกองกำลังเข้าสู่ยูเครน เราเป็นสามเหลี่ยมที่จับมือกันอย่างแน่นหนา "ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และยูเครน" 👉ยูเครนจะมีการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง ภาพถ่ายดาวเทียม รวมทั้งได้รับใบอนุญาตจากประเทศในยุโรป ในการผลิตกระสุน ขีปนาวุธ และเทคโนโลยีป้องกันภัยทางอากาศ 👉สัปดาห์นี้ เคียฟจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฉุกเฉินแบบปิด(ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าร่วมฟัง) ของผู้นำกองทัพจากประเทศต่างๆ ที่พร้อมจะส่งกองกำลังเข้าสู่ยูเครน 👉ก่อนหน้านี้สหรัฐรับปากจะทำงานร่วมกับซาอุดีอาระเบีย ตุรกี และพันธมิตรในยุโรป เกี่ยวกับวิธีการติดตามการโจมตีของรัสเซียต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน 👉ยูเครนไม่เห็นด้วยที่จะให้ซาอุดีอาระเบียเข้ามากำกับดูแลโครงสร้างด้านพลังงานของเรา พวกเขาขาดอุปกรณ์ ประสบการณ์ความรู้ทางเทคนิค และความสามารถด้านข่าวกรอง 👉การติดตามความปลอดภัยในทะเลดำ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และรัฐชายฝั่งทะเลดำ ได้แก่ โรมาเนียและบัลแกเรีย จะเป็นฝ่ายที่ต้องดูแลร่วมกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 872 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งให้มีการลดจำนวนพนักงานของ Voice of America (VOA) และองค์กรสื่ออื่นๆ ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาสหรัฐ ซึ่งรวมถึง U.S. Agency for Global Media ซึ่งเป็นสำนักงานของ Voice of America, Radio Free Europe and Asia และ Radio Marti ซึ่งส่งข่าวภาษาสเปนไปยังคิวบาทางการได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ขององค์กรสื่อเหล่านี้ในวันที่ 15 มีนาคม โดยผู้อำนวยการของ VOA กล่าวว่า พนักงานทั้งหมดถูกพักงาน หลังจากที่รัฐสภาได้ผ่านร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณฉบับล่าสุด ทรัมป์ได้สั่งให้มีการลดการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ลงเหลือเพียงขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนดไมเคิล อับรามอวิซ ผู้อำนวยการ VOA ระบุในแถลงการณ์ว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 83 ปีที่ VOA ซึ่งเป็นองค์กรอันทรงเกียรต์กำลังถูกทำให้เงียบเสียง พนักงานเกือบทั้งหมดจากพนักงานของเรา 1,300 คนถูกสั่งพักงาน ที่มา : https://www.matichon.co.th/foreign/news_5094149
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งให้มีการลดจำนวนพนักงานของ Voice of America (VOA) และองค์กรสื่ออื่นๆ ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาสหรัฐ ซึ่งรวมถึง U.S. Agency for Global Media ซึ่งเป็นสำนักงานของ Voice of America, Radio Free Europe and Asia และ Radio Marti ซึ่งส่งข่าวภาษาสเปนไปยังคิวบาทางการได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ขององค์กรสื่อเหล่านี้ในวันที่ 15 มีนาคม โดยผู้อำนวยการของ VOA กล่าวว่า พนักงานทั้งหมดถูกพักงาน หลังจากที่รัฐสภาได้ผ่านร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณฉบับล่าสุด ทรัมป์ได้สั่งให้มีการลดการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ลงเหลือเพียงขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนดไมเคิล อับรามอวิซ ผู้อำนวยการ VOA ระบุในแถลงการณ์ว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 83 ปีที่ VOA ซึ่งเป็นองค์กรอันทรงเกียรต์กำลังถูกทำให้เงียบเสียง พนักงานเกือบทั้งหมดจากพนักงานของเรา 1,300 คนถูกสั่งพักงาน ที่มา : https://www.matichon.co.th/foreign/news_5094149
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 462 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกี้ เรียกร้องให้รัสเซียเร่งมือในการตัดสินใจเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง หลังจากคณะผู้แทนยูเครนได้รายงานรายละเอียดการประชุมกับตัวแทนของสหรัฐฯ ในซาอุดีอาระเบียให้เขาทราบ ซึ่งรวมถึงความคืบหน้าของการเจรจาและประเด็นสำคัญต่างๆ

    "น่าเสียดายที่เป็นเวลากว่าหนึ่งวันแล้วที่โลกยังไม่ได้ยินการตอบสนองที่เป็นรูปธรรมจากรัสเซียต่อข้อเสนอดังกล่าว เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่ารัสเซียพยายามที่จะยืดเวลาสงครามและเลื่อนสันติภาพออกไปให้นานที่สุด เราหวังว่าแรงกดดันจากสหรัฐฯ จะเพียงพอที่จะบีบบังคับให้รัสเซียยุติสงคราม

    ทีมงานของเราพร้อมที่จะทำงานอย่างสร้างสรรค์ต่อไปกับพันธมิตรทั้งหมดในอเมริกา ยุโรป และส่วนอื่นๆ ของโลกที่มุ่งมั่นที่จะนำสันติภาพมาใกล้ชิดยิ่งขึ้น เราขอขอบคุณซาอุดีอาระเบียและมกุฎราชกุมารเป็นการส่วนตัวที่จัดเตรียมเวทีให้คณะผู้แทนของเราได้ทำงาน"
    เซเลนสกี้ เรียกร้องให้รัสเซียเร่งมือในการตัดสินใจเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง หลังจากคณะผู้แทนยูเครนได้รายงานรายละเอียดการประชุมกับตัวแทนของสหรัฐฯ ในซาอุดีอาระเบียให้เขาทราบ ซึ่งรวมถึงความคืบหน้าของการเจรจาและประเด็นสำคัญต่างๆ "น่าเสียดายที่เป็นเวลากว่าหนึ่งวันแล้วที่โลกยังไม่ได้ยินการตอบสนองที่เป็นรูปธรรมจากรัสเซียต่อข้อเสนอดังกล่าว เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่ารัสเซียพยายามที่จะยืดเวลาสงครามและเลื่อนสันติภาพออกไปให้นานที่สุด เราหวังว่าแรงกดดันจากสหรัฐฯ จะเพียงพอที่จะบีบบังคับให้รัสเซียยุติสงคราม ทีมงานของเราพร้อมที่จะทำงานอย่างสร้างสรรค์ต่อไปกับพันธมิตรทั้งหมดในอเมริกา ยุโรป และส่วนอื่นๆ ของโลกที่มุ่งมั่นที่จะนำสันติภาพมาใกล้ชิดยิ่งขึ้น เราขอขอบคุณซาอุดีอาระเบียและมกุฎราชกุมารเป็นการส่วนตัวที่จัดเตรียมเวทีให้คณะผู้แทนของเราได้ทำงาน"
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 514 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ส่งหนังสือขอโทษประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับศึกวิวาทะอื้อฉาวในทำเนียบขาว จากการเปิดเผยของ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษด้านตะวันออกกลางของสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากผู้นำอเมริกาสั่งระงับความช่วยเหลือด้านการทหารและแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับเคียฟ
    .
    วิตคอฟฟ์ เปิดเผยในเรื่องนี้ในวันจันทร์(10มี.ค.) ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ ก่อนหน้าการประชุมกันระหว่างคณะผู้แทนสหรัฐฯกับคณะผู้แทนยูเครน ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์นี้ โดยวอชิงตันคาดหมายว่าจะมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม และหวังลงนามในข้อตกลงแร่อันสำคัญกับเคียฟ
    .
    "เซเลนสกี ส่งหนังสือถึงประธานาธิบดี เขาขอโทษต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในห้องทำงานรูปไข่" วิตคอฟฟ์เน้นย้ำ "ผมคิดว่ามันเป็นก้าวย่างที่สำคัญและมีการพูดคุยหารือกันมากมายระหว่างคณะทำงานของเรากับคณะทำงานยูเครน รวมไปถึงจากยุโรป ซึ่งเกี่ยวข้องกับการหารือนี้เช่นกัน"
    .
    ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เผยว่าได้รับหนังสือที่สำคัญจากเซเลนสกีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เน้นว่าเคียฟแสดงถึงความพร้อม "ที่จะเข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ได้พาดพิงว่าเนื้อหาในจดหมายดังกล่าว มีถ้อยคำขอโทษเกี่ยวกับการโต้เถียงอันอื้อฉาวในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว
    .
    เซเลนสกี พูดเสียงดังแข่งกับ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ระหว่างพบปะพูดคุยกันที่ทำเนียบขาวเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวหาผู้นำยูเครนขาดความเคารพ ไม่สำนึกบุญคุณความช่วยเหลือของสหรัฐฯในอดีตที่ผ่านมาและลังเลที่แสวงหาสันติภาพกับรัสเซีย ยิ่งไปกว่านั้นยัง "กำลังเดิมพันด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3"
    .
    ประธานาธิบดียูเครนถูกไล่ออกจากทำเนียบขาว ก่อนหน้าการประชุมแบบลับๆจะเริ่มขึ้น
    .
    ศึกโต้เถียงกันในห้องทำงานรูปไข่ ทำให้ข้อตกลงแร่แรร์เอิร์ธของยูเครน ต้องล่าช้าออกไป และกระตุ้นให้สหรัฐฯระงับความช่วยเหลือด้านการทหารที่มอบแก่เคียฟ ตามด้วยระงับแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง
    .
    แม้ดูเหมือนจะเลือกขอโทษทรัมป์แบบลับๆ แต่ต่อหน้าสาธารณะแล้ว เซเลนสกี ยังคงแสดงท่าทีแข็งขืน บอกเพียงว่ารู้สึกเสียใจต่อความโกลาหลในทำเนียบขาว และเสียใจที่การพบปะพูดคุยที่ไม่เป็นไปตามแผน
    .
    มิคาอิล โพโดยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ได้ตอกย้ำท่าทีดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บอกว่า "เซเลนสกี มีสิทธิ์อย่างเต็มที่ทั้งในรูปแบบและเนื้อหาสาระที่เขาพยายามสื่อสารถ่ายทอดถึงคู่หูอเมริกาของเขา เกี่ยวกับแนวคิดหลักๆ ที่ว่าจะไม่มีอะไรประสบผลสำเร็จหากปราศจากการบีบบังคับรัสเซีย" เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนฝรั่งเศสในวันศุกร์(7มี.ค.) "เราจะไม่ขอโทษ สำหรับการทึกทักเอาเองว่ามันเป็นความผิดพลาด ทั้งที่มันไม่ได้เกิดขึ้น"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023258
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ส่งหนังสือขอโทษประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับศึกวิวาทะอื้อฉาวในทำเนียบขาว จากการเปิดเผยของ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษด้านตะวันออกกลางของสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากผู้นำอเมริกาสั่งระงับความช่วยเหลือด้านการทหารและแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองกับเคียฟ . วิตคอฟฟ์ เปิดเผยในเรื่องนี้ในวันจันทร์(10มี.ค.) ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฟ็อกซ์นิวส์ ก่อนหน้าการประชุมกันระหว่างคณะผู้แทนสหรัฐฯกับคณะผู้แทนยูเครน ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์นี้ โดยวอชิงตันคาดหมายว่าจะมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม และหวังลงนามในข้อตกลงแร่อันสำคัญกับเคียฟ . "เซเลนสกี ส่งหนังสือถึงประธานาธิบดี เขาขอโทษต่อเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในห้องทำงานรูปไข่" วิตคอฟฟ์เน้นย้ำ "ผมคิดว่ามันเป็นก้าวย่างที่สำคัญและมีการพูดคุยหารือกันมากมายระหว่างคณะทำงานของเรากับคณะทำงานยูเครน รวมไปถึงจากยุโรป ซึ่งเกี่ยวข้องกับการหารือนี้เช่นกัน" . ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ เผยว่าได้รับหนังสือที่สำคัญจากเซเลนสกีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เน้นว่าเคียฟแสดงถึงความพร้อม "ที่จะเข้าสู่โต๊ะเจรจาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่ได้พาดพิงว่าเนื้อหาในจดหมายดังกล่าว มีถ้อยคำขอโทษเกี่ยวกับการโต้เถียงอันอื้อฉาวในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว . เซเลนสกี พูดเสียงดังแข่งกับ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ระหว่างพบปะพูดคุยกันที่ทำเนียบขาวเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวหาผู้นำยูเครนขาดความเคารพ ไม่สำนึกบุญคุณความช่วยเหลือของสหรัฐฯในอดีตที่ผ่านมาและลังเลที่แสวงหาสันติภาพกับรัสเซีย ยิ่งไปกว่านั้นยัง "กำลังเดิมพันด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3" . ประธานาธิบดียูเครนถูกไล่ออกจากทำเนียบขาว ก่อนหน้าการประชุมแบบลับๆจะเริ่มขึ้น . ศึกโต้เถียงกันในห้องทำงานรูปไข่ ทำให้ข้อตกลงแร่แรร์เอิร์ธของยูเครน ต้องล่าช้าออกไป และกระตุ้นให้สหรัฐฯระงับความช่วยเหลือด้านการทหารที่มอบแก่เคียฟ ตามด้วยระงับแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง . แม้ดูเหมือนจะเลือกขอโทษทรัมป์แบบลับๆ แต่ต่อหน้าสาธารณะแล้ว เซเลนสกี ยังคงแสดงท่าทีแข็งขืน บอกเพียงว่ารู้สึกเสียใจต่อความโกลาหลในทำเนียบขาว และเสียใจที่การพบปะพูดคุยที่ไม่เป็นไปตามแผน . มิคาอิล โพโดยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ได้ตอกย้ำท่าทีดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บอกว่า "เซเลนสกี มีสิทธิ์อย่างเต็มที่ทั้งในรูปแบบและเนื้อหาสาระที่เขาพยายามสื่อสารถ่ายทอดถึงคู่หูอเมริกาของเขา เกี่ยวกับแนวคิดหลักๆ ที่ว่าจะไม่มีอะไรประสบผลสำเร็จหากปราศจากการบีบบังคับรัสเซีย" เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนฝรั่งเศสในวันศุกร์(7มี.ค.) "เราจะไม่ขอโทษ สำหรับการทึกทักเอาเองว่ามันเป็นความผิดพลาด ทั้งที่มันไม่ได้เกิดขึ้น" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000023258 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2377 มุมมอง 0 รีวิว
  • สามสำนักข่าวชื่อดังของโลกส่งสารถึงทรัมป์ หยุดคุกคามสื่อ ทุกสื่อมีความเป็นอิสระเสรีในการนำเสนอข่าวสารตามระบอบประชาธิปไตย อย่าเลือกปฏิบัติต่อสื่อ

    บรรณาธิการของสำนักข่าว Reuters, AP และ Bloomberg ส่งสารถึงรัฐบาลทรัมป์:

    “3 สำนักข่าวประจำทำเนียบขาว ได้แก่ Associated Press, Bloomberg News และ Reuters ได้ทำงานกันมาอย่างยาวนานเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งประธานาธิบดีจะถูกสื่อสารไปยังกลุ่มผู้ฟังที่หลากหลายทางการเมืองทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก

    ในการรายงานข่าวสารเกี่ยวกับทำเนียบขาว ที่ผู้คนจากทั่วโลกได้เห็น จากสำนักข่าวท้องถิ่นของพวกเขา ล้วนมาจากสำนักข่าวเหล่านี้

    ในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนจำเป็นต้องเข้าถึงข่าวสารเกี่ยวกับรัฐบาลของตนจากสื่ออิสระและเสรี

    เราเชื่อว่าการดำเนินการใดๆ ของรัฐบาลในการจำกัดจำนวนบริการข่าวที่สามารถเข้าถึงประธานาธิบดีได้นั้น ถือเป็นการคุกคามหลักการดังกล่าว

    นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อการเผยแพร่ข้อมูลที่เชื่อถือได้ไปยังประชาชน ชุมชน ธุรกิจ และตลาดการเงินทั่วโลก ซึ่งต้องพึ่งพาการรายงานของเราเป็นอย่างมาก”

    ก่อนหน้านี้ ทรัมป์มีคำสั่งกีดสำนักข่าวดังกล่าวในการรายงานข่าวในทำเนียบขาว เนื่องจากที่ผ่านมาสำนักข่าวเหล่านี้มักเสนอข่าวบิดเบือนจากข้อเท็จจริง และฝักใฝ่กลุ่มการเมืองบางกลุ่ม
    สามสำนักข่าวชื่อดังของโลกส่งสารถึงทรัมป์ หยุดคุกคามสื่อ ทุกสื่อมีความเป็นอิสระเสรีในการนำเสนอข่าวสารตามระบอบประชาธิปไตย อย่าเลือกปฏิบัติต่อสื่อ บรรณาธิการของสำนักข่าว Reuters, AP และ Bloomberg ส่งสารถึงรัฐบาลทรัมป์: “3 สำนักข่าวประจำทำเนียบขาว ได้แก่ Associated Press, Bloomberg News และ Reuters ได้ทำงานกันมาอย่างยาวนานเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งประธานาธิบดีจะถูกสื่อสารไปยังกลุ่มผู้ฟังที่หลากหลายทางการเมืองทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ในการรายงานข่าวสารเกี่ยวกับทำเนียบขาว ที่ผู้คนจากทั่วโลกได้เห็น จากสำนักข่าวท้องถิ่นของพวกเขา ล้วนมาจากสำนักข่าวเหล่านี้ ในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนจำเป็นต้องเข้าถึงข่าวสารเกี่ยวกับรัฐบาลของตนจากสื่ออิสระและเสรี เราเชื่อว่าการดำเนินการใดๆ ของรัฐบาลในการจำกัดจำนวนบริการข่าวที่สามารถเข้าถึงประธานาธิบดีได้นั้น ถือเป็นการคุกคามหลักการดังกล่าว นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อการเผยแพร่ข้อมูลที่เชื่อถือได้ไปยังประชาชน ชุมชน ธุรกิจ และตลาดการเงินทั่วโลก ซึ่งต้องพึ่งพาการรายงานของเราเป็นอย่างมาก” ➡️ก่อนหน้านี้ ทรัมป์มีคำสั่งกีดสำนักข่าวดังกล่าวในการรายงานข่าวในทำเนียบขาว เนื่องจากที่ผ่านมาสำนักข่าวเหล่านี้มักเสนอข่าวบิดเบือนจากข้อเท็จจริง และฝักใฝ่กลุ่มการเมืองบางกลุ่ม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 606 มุมมอง 0 รีวิว
  • #งานของเรา
    #งานของเรา
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • รองเท้าเก่าเอามาวาดให้ดูใหม่

    รองเท้าเก่าซักยังไงก็เหลือง จับมาเพ้นท์ตามแบบงานของเราดีกว่า

    รองเท้าพ่อเก่าไปแล้วบางทีเราก็ไม่อยากใส่เพราะมันก็ดูสกปรกถึงแม้จะซักแล้วก็ตาม. แต่ด้วยความเสียดายก็อยากจะชุบชีวิตมันขึ้นใหม่ จับสีขึ้นมาบรรเลงเลยออกมาเป็นเช่นนี้

    เทคนิค ปากกาเคมีมาร์คเกอร์ และสีอะคริลิค

    #artaeaa #painting #อาร์ตเอะอะ #ช๙
    #ช้างช่างวาด #shoespainting
    รองเท้าเก่าเอามาวาดให้ดูใหม่ รองเท้าเก่าซักยังไงก็เหลือง จับมาเพ้นท์ตามแบบงานของเราดีกว่า รองเท้าพ่อเก่าไปแล้วบางทีเราก็ไม่อยากใส่เพราะมันก็ดูสกปรกถึงแม้จะซักแล้วก็ตาม. แต่ด้วยความเสียดายก็อยากจะชุบชีวิตมันขึ้นใหม่ จับสีขึ้นมาบรรเลงเลยออกมาเป็นเช่นนี้ เทคนิค ปากกาเคมีมาร์คเกอร์ และสีอะคริลิค #artaeaa #painting #อาร์ตเอะอะ #ช๙ #ช้างช่างวาด #shoespainting
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 841 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอปของเราอัปเดตเป็น Version 3.8.2 แล้ว กรุณาเข้า Play Store หรือ App Store ค้นหาแอป Thaitimes แล้วกด "อัปเดต" , หากท่านใดอัปเดตเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม และถ้าท่านพบปัญหา กรุณาติดต่อทีมงานของเราผ่านทาง Line: @sondhitalk

    เปิดแอปฯ Thaitimes หรือเข้าเว็บไซต์ Thaitimes
    - หากยังไม่เคยสมัครสมาชิก ให้คลิกที่ปุ่ม "Sign in" หรือ "ลงทะเบียน" หรือ "สมัครสมาชิก"
    ---------------------------
    การกรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มสมัครสมาชิกใหม่
    **ช่อง ชื่อ และ นามสกุล
    - ใส่ชื่อและนามสกุลของคุณ

    **ช่อง ผู้ใช้งาน (Username)
    - ห้ามซ้ำกับผู้อื่น
    - แนะนำใช้ เบอร์โทรศัพท์ หรือเพิ่มตัวเลข/ตัวอักษร เช่น "ชื่อ123"

    **ช่อง เบอร์โทรศัพท์ หรือ Email
    - กรอก อย่างใดอย่างหนึ่ง
    - เบอร์โทร: ใช้รับ OTP ผ่าน SMS
    - Email: ใช้รับ OTP ทางอีเมล

    **ช่อง รหัสผ่าน
    - ตั้งรหัสผ่าน อย่างน้อย 6 ตัวอักษร
    - คลิก "" เพื่อแสดงหรือซ่อนรหัสผ่าน
    ---------------------------
    หมายเหตุ:
    - ใช้เบอร์โทรสะดวกกว่า Email
    - ตรวจสอบข้อมูลก่อนกดยืนยัน
    แอปของเราอัปเดตเป็น Version 3.8.2 แล้ว กรุณาเข้า Play Store หรือ App Store ค้นหาแอป Thaitimes แล้วกด "อัปเดต" , หากท่านใดอัปเดตเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม และถ้าท่านพบปัญหา กรุณาติดต่อทีมงานของเราผ่านทาง Line: @sondhitalk เปิดแอปฯ Thaitimes หรือเข้าเว็บไซต์ Thaitimes - หากยังไม่เคยสมัครสมาชิก ให้คลิกที่ปุ่ม "Sign in" หรือ "ลงทะเบียน" หรือ "สมัครสมาชิก" --------------------------- การกรอกรายละเอียดในแบบฟอร์มสมัครสมาชิกใหม่ **ช่อง ชื่อ และ นามสกุล - ใส่ชื่อและนามสกุลของคุณ **ช่อง ผู้ใช้งาน (Username) - ห้ามซ้ำกับผู้อื่น - แนะนำใช้ เบอร์โทรศัพท์ หรือเพิ่มตัวเลข/ตัวอักษร เช่น "ชื่อ123" **ช่อง เบอร์โทรศัพท์ หรือ Email - กรอก อย่างใดอย่างหนึ่ง - เบอร์โทร: ใช้รับ OTP ผ่าน SMS - Email: ใช้รับ OTP ทางอีเมล **ช่อง รหัสผ่าน - ตั้งรหัสผ่าน อย่างน้อย 6 ตัวอักษร - คลิก "👁️" เพื่อแสดงหรือซ่อนรหัสผ่าน --------------------------- หมายเหตุ: - ใช้เบอร์โทรสะดวกกว่า Email - ตรวจสอบข้อมูลก่อนกดยืนยัน
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1237 มุมมอง 0 รีวิว
  • MART Modular Technologies ได้รับการยอมรับจาก CXL Consortium สำหรับการ์ดหน่วยความจำ CXL (Compute Express Link) แบบ 4-DIMM และ 8-DIMM ของพวกเขา ซึ่งผ่านการทดสอบความเข้ากันได้ตามมาตรฐาน CXL 2.0 และได้รับการบรรจุในรายชื่อ Integrators' List ของ CXL Consortium.

    การ์ดหน่วยความจำ CXL ของ SMART Modular Technologies ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือในการประมวลผลข้อมูลที่มีความเร็วสูง การที่ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้รับการยอมรับในรายชื่อ Integrators' List แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมและการสร้างความเข้ากันได้กับสภาพแวดล้อมการคำนวณที่หลากหลาย

    Andy Mills รองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ขั้นสูงของ SMART Modular Technologies กล่าวว่า "การได้รับการยอมรับจาก CXL เป็นการยืนยันถึงความทุ่มเทและความมุ่งมั่นของทีมงานของเราในการสร้างสรรค์นวัตกรรม การ์ดหน่วยความจำ CXL แบบ 4-DIMM และ 8-DIMM ของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า และการยอมรับนี้ยิ่งเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือสูง."

    การที่ SMART Modular Technologies ได้รับการยอมรับในรายชื่อ Integrators' List ของ CXL Consortium เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญทางเทคนิคของบริษัทและการเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีหน่วยความจำแบบบูรณาการ

    https://www.techpowerup.com/331429/smart-modular-add-in-cards-now-listed-on-cxl-consortium-integrators-list
    MART Modular Technologies ได้รับการยอมรับจาก CXL Consortium สำหรับการ์ดหน่วยความจำ CXL (Compute Express Link) แบบ 4-DIMM และ 8-DIMM ของพวกเขา ซึ่งผ่านการทดสอบความเข้ากันได้ตามมาตรฐาน CXL 2.0 และได้รับการบรรจุในรายชื่อ Integrators' List ของ CXL Consortium. การ์ดหน่วยความจำ CXL ของ SMART Modular Technologies ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือในการประมวลผลข้อมูลที่มีความเร็วสูง การที่ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้รับการยอมรับในรายชื่อ Integrators' List แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการปฏิบัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมและการสร้างความเข้ากันได้กับสภาพแวดล้อมการคำนวณที่หลากหลาย Andy Mills รองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ขั้นสูงของ SMART Modular Technologies กล่าวว่า "การได้รับการยอมรับจาก CXL เป็นการยืนยันถึงความทุ่มเทและความมุ่งมั่นของทีมงานของเราในการสร้างสรรค์นวัตกรรม การ์ดหน่วยความจำ CXL แบบ 4-DIMM และ 8-DIMM ของเราได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า และการยอมรับนี้ยิ่งเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือสูง." การที่ SMART Modular Technologies ได้รับการยอมรับในรายชื่อ Integrators' List ของ CXL Consortium เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญทางเทคนิคของบริษัทและการเป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีหน่วยความจำแบบบูรณาการ https://www.techpowerup.com/331429/smart-modular-add-in-cards-now-listed-on-cxl-consortium-integrators-list
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    SMART Modular Add-In Cards Now Listed on CXL Consortium Integrators' List
    SMART Modular Technologies, Inc. ("SMART"), a Penguin Solutions, Inc. brand (Nasdaq: PENG) and a global leader in integrated memory solutions, solid-state drives, and hybrid storage products, today announced that its 4-DIMM and 8-DIMM CXL (Compute Express Link ) memory Add-in Cards (AICs) have succe...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย TikTok ที่ให้บริการผู้ใช้ชาวอเมริกันมากกว่า 170 ล้านบัญชี อาจต้องยุติการดำเนินงานในสหรัฐตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค. นี้ ซึ่งเป็นวันที่คำสั่งห้ามของรัฐบาลกลางมีผลบังคับใช้

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมกฎหมายของ TikTok ได้ยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาเกี่ยวกับกฎหมายที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามเมื่อเดือนเมษายนนั้นถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

    กฎหมายของไบเดนกำหนดให้ TikTok ต้องถอนการลงทุนจากบริษัทแม่ในจีนอย่าง ByteDance และขายให้กับนิติบุคคลในสหรัฐเท่านั้น และหากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ TikTok จะต้องยุติให้บริการในวันที่ 19 มกราคม หนึ่งวันก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง

    หากการตัดสินของศาลเป็นผลดีต่อ TikTok จะทำให้แพลตฟอร์มนี้สามารถกลับมาให้บริการชาวอเมริกันต่อไปได้

    มีการคาดเดากันว่า การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ของ TikTok ดีขึ้น เนื่องจากคำมั่นสัญญาของทรัมป์ที่จะใช้จุดยืนที่เข้มงวดยิ่งขึ้นกับปักกิ่งนั่นเอง

    ขณะเดียวกัน ในบันทึกภายในขององค์กร มีการแจ้งพนักงานกว่า 7,000 คนในสหรัฐว่าความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขาคือ "สิ่งสำคัญที่สุด" และจะยังคงจ่ายเงินให้พวกเขาต่อไป

    "เราขอย้ำว่า ความเป็นอยู่ของพนักงานคือสิ่งสำคัญที่สุด การจ้างงาน เงินเดือน และสวัสดิการของคุณยังมีความปลอดภัย และสำนักงานของเราจะยังคงเปิดทำการ แม้ว่าสถานการณ์นี้จะยังไม่ได้รับการแก้ไขก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 19 มกราคมก็ตาม" บางส่วนของบันทึกที่ส่งถึงพนักงาน TikTok

    อย่างไรก็ตาม กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ TikTok ต้องปิดตัวลงทันที เมื่อมีผลบังคับใช้วันที่ 19 มกราคมนี้ เพียงแต่ห้ามการติดตั้ง TikTok ใหม่ และถอดแอปออกจาก App Store ของ Apple หรือ Google เท่านั้น

    ผู้ใช้ปัจจุบันยังคงใช้แอปได้ต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง แต่การถอดออกจาก App Store จะทำให้แอปไม่ได้รับการอัปเดตเกี่ยวกับจุดบกพร่องหรือข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยอีกต่อไป

    TikTok ยังระบุถึงการรายงานข่าวเกี่ยวกับการขาย TikTok ให้กับ Elon Musk ว่าเป็น "เรื่องแต่งล้วนๆ"

    นอกจากนี้ ความโกรธแค้นของชาวอเมริกันที่มีต่อรัฐบาลสหรัฐ ทำให้ ผู้ใช้ TikTok หันไปใช้แอปจีนอื่นๆ และขณะนี้มากกว่าครึ่งล้านคนหันมาใช้แอป RedNote ของจีน

    บน RedNote ซึ่งในจีนเรียกว่า Xiaohongshu มีผู้ใช้ชาวอเมริกันและจีนเข้าร่วมห้องที่ชื่อว่า "ผู้ลี้ภัย TikTok" (TikTok Refugees) เฉพาะห้องนี้ห้องเดียวมีมากกว่า 50,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

    Lemon8 แอปโซเชียลมีเดียอีกแอปหนึ่งที่ ByteDance เป็นเจ้าของ ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองในรายชื่อ App Store ของ Apple เมื่อวันอังคาร โดยพบการเพิ่มขึ้นที่คล้ายคลึงกันในเดือนที่แล้ว โดยมียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น 190% ในเดือนธันวาคม เป็นประมาณ 3.4 ล้านครั้ง
    แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย TikTok ที่ให้บริการผู้ใช้ชาวอเมริกันมากกว่า 170 ล้านบัญชี อาจต้องยุติการดำเนินงานในสหรัฐตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 19 ม.ค. นี้ ซึ่งเป็นวันที่คำสั่งห้ามของรัฐบาลกลางมีผลบังคับใช้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทีมกฎหมายของ TikTok ได้ยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาเกี่ยวกับกฎหมายที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามเมื่อเดือนเมษายนนั้นถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ กฎหมายของไบเดนกำหนดให้ TikTok ต้องถอนการลงทุนจากบริษัทแม่ในจีนอย่าง ByteDance และขายให้กับนิติบุคคลในสหรัฐเท่านั้น และหากกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ TikTok จะต้องยุติให้บริการในวันที่ 19 มกราคม หนึ่งวันก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่ง หากการตัดสินของศาลเป็นผลดีต่อ TikTok จะทำให้แพลตฟอร์มนี้สามารถกลับมาให้บริการชาวอเมริกันต่อไปได้ มีการคาดเดากันว่า การเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ของ TikTok ดีขึ้น เนื่องจากคำมั่นสัญญาของทรัมป์ที่จะใช้จุดยืนที่เข้มงวดยิ่งขึ้นกับปักกิ่งนั่นเอง ขณะเดียวกัน ในบันทึกภายในขององค์กร มีการแจ้งพนักงานกว่า 7,000 คนในสหรัฐว่าความเป็นอยู่ที่ดีของพวกเขาคือ "สิ่งสำคัญที่สุด" และจะยังคงจ่ายเงินให้พวกเขาต่อไป "เราขอย้ำว่า ความเป็นอยู่ของพนักงานคือสิ่งสำคัญที่สุด การจ้างงาน เงินเดือน และสวัสดิการของคุณยังมีความปลอดภัย และสำนักงานของเราจะยังคงเปิดทำการ แม้ว่าสถานการณ์นี้จะยังไม่ได้รับการแก้ไขก่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 19 มกราคมก็ตาม" บางส่วนของบันทึกที่ส่งถึงพนักงาน TikTok อย่างไรก็ตาม กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ TikTok ต้องปิดตัวลงทันที เมื่อมีผลบังคับใช้วันที่ 19 มกราคมนี้ เพียงแต่ห้ามการติดตั้ง TikTok ใหม่ และถอดแอปออกจาก App Store ของ Apple หรือ Google เท่านั้น ผู้ใช้ปัจจุบันยังคงใช้แอปได้ต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง แต่การถอดออกจาก App Store จะทำให้แอปไม่ได้รับการอัปเดตเกี่ยวกับจุดบกพร่องหรือข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยอีกต่อไป TikTok ยังระบุถึงการรายงานข่าวเกี่ยวกับการขาย TikTok ให้กับ Elon Musk ว่าเป็น "เรื่องแต่งล้วนๆ" นอกจากนี้ ความโกรธแค้นของชาวอเมริกันที่มีต่อรัฐบาลสหรัฐ ทำให้ ผู้ใช้ TikTok หันไปใช้แอปจีนอื่นๆ และขณะนี้มากกว่าครึ่งล้านคนหันมาใช้แอป RedNote ของจีน บน RedNote ซึ่งในจีนเรียกว่า Xiaohongshu มีผู้ใช้ชาวอเมริกันและจีนเข้าร่วมห้องที่ชื่อว่า "ผู้ลี้ภัย TikTok" (TikTok Refugees) เฉพาะห้องนี้ห้องเดียวมีมากกว่า 50,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Lemon8 แอปโซเชียลมีเดียอีกแอปหนึ่งที่ ByteDance เป็นเจ้าของ ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองในรายชื่อ App Store ของ Apple เมื่อวันอังคาร โดยพบการเพิ่มขึ้นที่คล้ายคลึงกันในเดือนที่แล้ว โดยมียอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น 190% ในเดือนธันวาคม เป็นประมาณ 3.4 ล้านครั้ง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1055 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายเดวิด เบอร์ริตต์( David B. Burritt )ประธานและ CEO ของ U.S. Steel เดือดจัดออกหนังสือด่าไบเดนยับข้อหาล้มดีลยักษ์มูลค่า14,900 ดอลลาร์สหรัฐ(480,000 ล้านบาท) กับบริษัท นิปปอนสตีล ของญี่ปุ่น

    บริษัท Nippon Steel และ U.S. Steel กล่าวว่าการตัดสินใจของ Biden แสดงให้เห็นว่าการขัดขวางข้อตกลงดังกล่าวนั้นทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองที่ทุจริต
    นายเดวิด เบอร์ริตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ U.S. Steel เรียกการกระทำของนายไบเดนว่า "น่าละอายและฉ้อฉล" และเสริมว่า นายไบเดนได้ดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติที่สำคัญยิ่งของสหรัฐ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยง โดยแถลงการณ์ประณามไบเดน ข้อหาล้มดีลยักษ์กับบริษัทนิปปอน สตีล ของญี่ปุ่นว่า
    ”การกระทำของปธน.ไบเดนในวันนี้น่าละอายและฉ้อฉล เขาให้ผลตอบแทนทางการเมืองแก่หัวหน้าสหภาพแรงงาน ในขณะที่ทำร้ายอนาคตของบริษัท, คนงานของเราและความมั่นคงของชาติ เขาดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติที่สำคัญ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของอเมริกาตกอยู่ในความเสี่ยง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปักกิ่งกำลังเต้นรำบนถนน และไบเดนทำทั้งหมดนี้โดยปฏิเสธที่จะพบกับเราเพื่อรับรู้ข้อเท็จจริง
    พนักงานและชุมชนของเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ เราต้องการประธานาธิบดี. ซึ่งทำงานหนักและรู้วิธีทำข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับอเมริกา อย่าเข้าใจผิด: การลงทุนนี้คือสิ่งที่รับประกันอนาคตที่ยิ่งใหญ่สำหรับ U. S. Steel พนักงานของเรา ชุมชนของเรา และประเทศของเรา เราตั้งใจที่จะต่อสู้กับการทุจริตทางการเมืองของประธานาธิบดีไบเดน“
    บริษัททั้งสองแห่งขู่ว่าจะฟ้องรัฐบาลหากข้อตกลงดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่3มกราคมนี้ว่าจะ "ดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมายของพวกเขา" และระบุในแถลงการณ์ว่า "เราเชื่อว่าประธานาธิบดีไบเดนได้ทำลายอนาคตของคนงานโรงงานเหล็กชาวอเมริกันเพื่อวาระทางการเมืองของตัวเอง" และเสริมว่าการขัดขวางครั้งนี้ส่ง "ข้อความอันน่าสะพรึงกลัวไปยังบริษัทใดๆ ก็ตามที่มีฐานอยู่ในประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในสหรัฐฯ"
    ผลเสียหายที่ Nippon Steel อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาจำนวน 565 ล้านดอลลาร์หรือราว 19,000 ล้านบาทให้กับ US Steel หากข้อตกลงดังกล่าวไม่ผ่าน นอกจากนี้ทางบริษัทยังต้องประเมินกลยุทธ์ในตลาดสหรัฐใหม่ ซึ่งคาดว่าอุปสงค์จะยังคงมีเสถียรภาพ
    เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่าพวกเขาผิดหวังกับการตัดสินใจครั้งนี้ “มีความกังวลอย่างมากจากวงการเศรษฐกิจทั้งของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เกี่ยวกับการลงทุนในอนาคตระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง” โยจิ มูโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของญี่ปุ่น กล่าวในแถลงการณ์ถึงรอยเตอร์
    การตัดสินใจของประธานาธิบดี โจ ไบเดนเกิดขึ้นหนึ่งปีหลังจากที่Nippon Steel ประกาศข้อตกลงมูลค่า 14.9 พันล้านดอลลาร์ (12 พันล้านปอนด์)เพื่อซื้อบริษัทคู่แข่งUSS Steel ที่มีขนาดเล็กกว่าและมีฐานอยู่ในเพนซิลเวเนีย เป็นครั้งแรก
    สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญๆ เกี่ยวกับเส้นทางข้างหน้าของบริษัทUSS Steel  ซึ่งมีชื่อเสียงกว่า 124 ปี และครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของมหาอำนาจทางอุตสาหกรรมของอเมริกา แต่ปัจจุบันก็ความสำคัญลดน้อยลงไปมาก
    บริษัทUSS Steel ใช้เวลาหลายเดือนในการหาผู้ซื้อรายอื่นก่อนที่จะประกาศความร่วมมือกับบริษัท Nippon Steel ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ในเดือนธันวาคม 2023
    บริษัท US Steel ได้เตือนว่าบริษัทอาจจำเป็นต้องปิดโรงงานโดยไม่ได้ผู้ร่วมลงทุนเจ้าของใหม่ ความกังวลนี้ได้รับการสะท้อนจากพนักงานบางส่วนและนักการเมืองท้องถิ่น
    บริษัททั้งสองแห่งให้คำมั่นว่าจะไม่เลิกจ้างพนักงานและยอมประนีประนอมในประเด็นอื่น ๆ เพื่อพยายามหาเสียงสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว เมื่อสัปดาห์นี้เอง บริษัททั้งสองแห่งเสนอที่จะให้ทุนสนับสนุนศูนย์ฝึกอบรมแรงงาน และมีรายงานว่าให้สิทธิ์รัฐบาลในการยับยั้งการลดการผลิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
    แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่สามารถโน้มน้าวใจไบเดน ซึ่งออกมาคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวเมื่อต้นปีที่แล้ว เนื่องจากอยู่ระหว่างฤดูกาลเลือกตั้งที่กำลังเข้มข้นขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่จะมีบทบาท 
    ธุรกรรมดังกล่าวยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากประธานาธิบดีคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีคนใหม่ เจดี แวนซ์ ซึ่งการอุทธรณ์ต่อคนงานสหภาพแรงงานของเขาถือเป็นส่วนสำคัญของข้อความหาเสียงของพวกเขา
    คณะกรรมการรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ทบทวนข้อตกลงและความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ ไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ส่งผลให้ไบเดนต้องตัดสินใจแทน โดยเขาต้องดำเนินการภายในระยะเวลา 15 วัน
    ในประกาศของประธานาธิบีไบเดนเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มกราคมนี้  เขากล่าวว่าการเป็นเจ้าของUSS Steel โดยบริษัทชาวต่างชาตินั้นมีความเสี่ยงต่อความมั่นคง และสั่งให้บริษัททั้งสอง ยกเลิกข้อตกลงภายใน 30 วัน
    “อุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่เป็นเจ้าของและดำเนินการในประเทศที่แข็งแกร่งถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกด้านความมั่นคงของชาติและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น” เขากล่าว
    “นั่นเป็นเพราะเหล็กกล้าเป็นกำลังขับเคลื่อนประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมยานยนต์ และฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หากไม่มีการผลิตเหล็กกล้าในประเทศและแรงงานจากเหล็กกล้าในประเทศ ประเทศของเราจะไม่แข็งแกร่งและปลอดภัย”
    สหภาพแรงงานคนงานเหล็กกล้าแห่งสหรัฐอเมริกา เรียกการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็น "การตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับสมาชิกและความมั่นคงของชาติของเรา" และกล่าวว่าการคัดค้านของสหภาพฯ เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมนี้
    “เรารู้สึกขอบคุณประธานาธิบดีไบเดนที่เต็มใจดำเนินการอันกล้าหาญเพื่อรักษาอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในประเทศให้แข็งแกร่ง และสำหรับความมุ่งมั่นตลอดชีวิตของเขาที่มีต่อคนงานชาวอเมริกัน” เดวิด แมคคอลล์ประธานสหภาพUnited Steelworkers กล่าว
    ศาสตราจารย์สตีเฟน นาจี จากภาควิชาการเมืองและการศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยคริสเตียนนานาชาติแห่งโตเกียว เรียกการตัดสินใจของไบเดนว่าเป็น "เรื่องการเมือง" โดยระบุว่ารัฐบาลตั้งแต่แรกเริ่มได้สัญญาไว้ถึงนโยบายต่างประเทศ "สำหรับชนชั้นกลาง"
    “นี่คือการตอบสนองโดยตรงและสานต่อแผนงาน MAGA ของทรัมป์ในการทำให้ประเทศอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” เขากล่าว “รัฐบาลของไบเดนไม่สามารถแสดงท่าทีอ่อนแอต่อธุรกิจต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรหรือศัตรูก็ตาม”
    จอห์น เคอร์บี้ โฆษกทำเนียบขาว ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับพันธมิตรญี่ปุ่น โดยกล่าวว่าไบเดนได้ชี้แจงชัดเจนว่าการตัดสินใจครั้งนี้ "ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลญี่ปุ่น"
    “นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผลิตเหล็กกล้าของสหรัฐฯ และการรักษาให้ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ เป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของโดยชาวอเมริกัน” เขากล่าวในการแถลงข่าว
    หุ้นของบริษัท US Steel ร่วงลงมากกว่า 5% ในวันศุกร์
    นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจไม่ถือเป็นการสิ้นสุดข้อตกลง คำสั่งของไบเดนระบุว่าคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ สามารถขยายเวลา 30 วันในการยกเลิกธุรกรรมดังกล่าวได้
    ศาสตราจารย์ Nagy กล่าวว่าเขาคิดว่าบริษัทต่างๆ อาจตัดสินใจที่จะลองอีกครั้งภายใต้การนำของทรัมป์ โดยอาจเสนอเงื่อนไขที่แตกต่างออกไปซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีคนใหม่สามารถอ้างได้ว่าเขาเจรจาข้อตกลงที่ดีกว่าได้
    นักวิเคราะห์การเมือง Terry Haines จาก Pangaea Policy กล่าวด้วยเช่นกันว่า แม้ทรัมป์จะวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงดังกล่าว แต่เขาอาจมีเหตุผลให้พิจารณาการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้ง
    “สิ่งหนึ่งที่ยากในการตัดสินใจครั้งนี้ก็คือ ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ” เขากล่าว “รัฐบาลมีภาระทางหลักฐานมากมายในการพิสูจน์สิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน และสิ่งนี้ยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการหลีกเลี่ยง”

    นายเดวิด เบอร์ริตต์( David B. Burritt )ประธานและ CEO ของ U.S. Steel เดือดจัดออกหนังสือด่าไบเดนยับข้อหาล้มดีลยักษ์มูลค่า14,900 ดอลลาร์สหรัฐ(480,000 ล้านบาท) กับบริษัท นิปปอนสตีล ของญี่ปุ่น บริษัท Nippon Steel และ U.S. Steel กล่าวว่าการตัดสินใจของ Biden แสดงให้เห็นว่าการขัดขวางข้อตกลงดังกล่าวนั้นทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองที่ทุจริต นายเดวิด เบอร์ริตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ U.S. Steel เรียกการกระทำของนายไบเดนว่า "น่าละอายและฉ้อฉล" และเสริมว่า นายไบเดนได้ดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติที่สำคัญยิ่งของสหรัฐ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยง โดยแถลงการณ์ประณามไบเดน ข้อหาล้มดีลยักษ์กับบริษัทนิปปอน สตีล ของญี่ปุ่นว่า ”การกระทำของปธน.ไบเดนในวันนี้น่าละอายและฉ้อฉล เขาให้ผลตอบแทนทางการเมืองแก่หัวหน้าสหภาพแรงงาน ในขณะที่ทำร้ายอนาคตของบริษัท, คนงานของเราและความมั่นคงของชาติ เขาดูหมิ่นญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติที่สำคัญ และทำให้ความสามารถในการแข่งขันของอเมริกาตกอยู่ในความเสี่ยง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปักกิ่งกำลังเต้นรำบนถนน และไบเดนทำทั้งหมดนี้โดยปฏิเสธที่จะพบกับเราเพื่อรับรู้ข้อเท็จจริง พนักงานและชุมชนของเราสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ เราต้องการประธานาธิบดี. ซึ่งทำงานหนักและรู้วิธีทำข้อตกลงที่ดีที่สุดสำหรับอเมริกา อย่าเข้าใจผิด: การลงทุนนี้คือสิ่งที่รับประกันอนาคตที่ยิ่งใหญ่สำหรับ U. S. Steel พนักงานของเรา ชุมชนของเรา และประเทศของเรา เราตั้งใจที่จะต่อสู้กับการทุจริตทางการเมืองของประธานาธิบดีไบเดน“ บริษัททั้งสองแห่งขู่ว่าจะฟ้องรัฐบาลหากข้อตกลงดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และได้กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่3มกราคมนี้ว่าจะ "ดำเนินการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องสิทธิตามกฎหมายของพวกเขา" และระบุในแถลงการณ์ว่า "เราเชื่อว่าประธานาธิบดีไบเดนได้ทำลายอนาคตของคนงานโรงงานเหล็กชาวอเมริกันเพื่อวาระทางการเมืองของตัวเอง" และเสริมว่าการขัดขวางครั้งนี้ส่ง "ข้อความอันน่าสะพรึงกลัวไปยังบริษัทใดๆ ก็ตามที่มีฐานอยู่ในประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในสหรัฐฯ" ผลเสียหายที่ Nippon Steel อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาจำนวน 565 ล้านดอลลาร์หรือราว 19,000 ล้านบาทให้กับ US Steel หากข้อตกลงดังกล่าวไม่ผ่าน นอกจากนี้ทางบริษัทยังต้องประเมินกลยุทธ์ในตลาดสหรัฐใหม่ ซึ่งคาดว่าอุปสงค์จะยังคงมีเสถียรภาพ เจ้าหน้าที่รัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่าพวกเขาผิดหวังกับการตัดสินใจครั้งนี้ “มีความกังวลอย่างมากจากวงการเศรษฐกิจทั้งของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เกี่ยวกับการลงทุนในอนาคตระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง” โยจิ มูโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของญี่ปุ่น กล่าวในแถลงการณ์ถึงรอยเตอร์ การตัดสินใจของประธานาธิบดี โจ ไบเดนเกิดขึ้นหนึ่งปีหลังจากที่Nippon Steel ประกาศข้อตกลงมูลค่า 14.9 พันล้านดอลลาร์ (12 พันล้านปอนด์)เพื่อซื้อบริษัทคู่แข่งUSS Steel ที่มีขนาดเล็กกว่าและมีฐานอยู่ในเพนซิลเวเนีย เป็นครั้งแรก สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญๆ เกี่ยวกับเส้นทางข้างหน้าของบริษัทUSS Steel  ซึ่งมีชื่อเสียงกว่า 124 ปี และครั้งหนึ่งเคยเป็นสัญลักษณ์ของมหาอำนาจทางอุตสาหกรรมของอเมริกา แต่ปัจจุบันก็ความสำคัญลดน้อยลงไปมาก บริษัทUSS Steel ใช้เวลาหลายเดือนในการหาผู้ซื้อรายอื่นก่อนที่จะประกาศความร่วมมือกับบริษัท Nippon Steel ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ในเดือนธันวาคม 2023 บริษัท US Steel ได้เตือนว่าบริษัทอาจจำเป็นต้องปิดโรงงานโดยไม่ได้ผู้ร่วมลงทุนเจ้าของใหม่ ความกังวลนี้ได้รับการสะท้อนจากพนักงานบางส่วนและนักการเมืองท้องถิ่น บริษัททั้งสองแห่งให้คำมั่นว่าจะไม่เลิกจ้างพนักงานและยอมประนีประนอมในประเด็นอื่น ๆ เพื่อพยายามหาเสียงสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว เมื่อสัปดาห์นี้เอง บริษัททั้งสองแห่งเสนอที่จะให้ทุนสนับสนุนศูนย์ฝึกอบรมแรงงาน และมีรายงานว่าให้สิทธิ์รัฐบาลในการยับยั้งการลดการผลิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่ข้อเสนอดังกล่าวไม่สามารถโน้มน้าวใจไบเดน ซึ่งออกมาคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวเมื่อต้นปีที่แล้ว เนื่องจากอยู่ระหว่างฤดูกาลเลือกตั้งที่กำลังเข้มข้นขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นรัฐสำคัญที่จะมีบทบาท  ธุรกรรมดังกล่าวยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากประธานาธิบดีคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีคนใหม่ เจดี แวนซ์ ซึ่งการอุทธรณ์ต่อคนงานสหภาพแรงงานของเขาถือเป็นส่วนสำคัญของข้อความหาเสียงของพวกเขา คณะกรรมการรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ทบทวนข้อตกลงและความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ ไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้ในช่วงปลายเดือนธันวาคม ส่งผลให้ไบเดนต้องตัดสินใจแทน โดยเขาต้องดำเนินการภายในระยะเวลา 15 วัน ในประกาศของประธานาธิบีไบเดนเมื่อวันศุกร์ที่ 3 มกราคมนี้  เขากล่าวว่าการเป็นเจ้าของUSS Steel โดยบริษัทชาวต่างชาตินั้นมีความเสี่ยงต่อความมั่นคง และสั่งให้บริษัททั้งสอง ยกเลิกข้อตกลงภายใน 30 วัน “อุตสาหกรรมเหล็กกล้าที่เป็นเจ้าของและดำเนินการในประเทศที่แข็งแกร่งถือเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกด้านความมั่นคงของชาติและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น” เขากล่าว “นั่นเป็นเพราะเหล็กกล้าเป็นกำลังขับเคลื่อนประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมยานยนต์ และฐานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หากไม่มีการผลิตเหล็กกล้าในประเทศและแรงงานจากเหล็กกล้าในประเทศ ประเทศของเราจะไม่แข็งแกร่งและปลอดภัย” สหภาพแรงงานคนงานเหล็กกล้าแห่งสหรัฐอเมริกา เรียกการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็น "การตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับสมาชิกและความมั่นคงของชาติของเรา" และกล่าวว่าการคัดค้านของสหภาพฯ เกิดจากความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมนี้ “เรารู้สึกขอบคุณประธานาธิบดีไบเดนที่เต็มใจดำเนินการอันกล้าหาญเพื่อรักษาอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในประเทศให้แข็งแกร่ง และสำหรับความมุ่งมั่นตลอดชีวิตของเขาที่มีต่อคนงานชาวอเมริกัน” เดวิด แมคคอลล์ประธานสหภาพUnited Steelworkers กล่าว ศาสตราจารย์สตีเฟน นาจี จากภาควิชาการเมืองและการศึกษาระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยคริสเตียนนานาชาติแห่งโตเกียว เรียกการตัดสินใจของไบเดนว่าเป็น "เรื่องการเมือง" โดยระบุว่ารัฐบาลตั้งแต่แรกเริ่มได้สัญญาไว้ถึงนโยบายต่างประเทศ "สำหรับชนชั้นกลาง" “นี่คือการตอบสนองโดยตรงและสานต่อแผนงาน MAGA ของทรัมป์ในการทำให้ประเทศอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” เขากล่าว “รัฐบาลของไบเดนไม่สามารถแสดงท่าทีอ่อนแอต่อธุรกิจต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรหรือศัตรูก็ตาม” จอห์น เคอร์บี้ โฆษกทำเนียบขาว ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับพันธมิตรญี่ปุ่น โดยกล่าวว่าไบเดนได้ชี้แจงชัดเจนว่าการตัดสินใจครั้งนี้ "ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลญี่ปุ่น" “นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการผลิตเหล็กกล้าของสหรัฐฯ และการรักษาให้ผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ เป็นบริษัทที่เป็นเจ้าของโดยชาวอเมริกัน” เขากล่าวในการแถลงข่าว หุ้นของบริษัท US Steel ร่วงลงมากกว่า 5% ในวันศุกร์ นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจไม่ถือเป็นการสิ้นสุดข้อตกลง คำสั่งของไบเดนระบุว่าคณะกรรมการการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ สามารถขยายเวลา 30 วันในการยกเลิกธุรกรรมดังกล่าวได้ ศาสตราจารย์ Nagy กล่าวว่าเขาคิดว่าบริษัทต่างๆ อาจตัดสินใจที่จะลองอีกครั้งภายใต้การนำของทรัมป์ โดยอาจเสนอเงื่อนไขที่แตกต่างออกไปซึ่งจะทำให้ประธานาธิบดีคนใหม่สามารถอ้างได้ว่าเขาเจรจาข้อตกลงที่ดีกว่าได้ นักวิเคราะห์การเมือง Terry Haines จาก Pangaea Policy กล่าวด้วยเช่นกันว่า แม้ทรัมป์จะวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงดังกล่าว แต่เขาอาจมีเหตุผลให้พิจารณาการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้ง “สิ่งหนึ่งที่ยากในการตัดสินใจครั้งนี้ก็คือ ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ” เขากล่าว “รัฐบาลมีภาระทางหลักฐานมากมายในการพิสูจน์สิ่งที่กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน และสิ่งนี้ยังส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการหลีกเลี่ยง”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1174 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิหร่านอาจมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า จากเสียงเตือนจากหัวหน้าหน้วยข่าวกรองต่างประเทศของฝรั่งเศส
    .
    นิโคลัส เลอร์เนอร์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองต่างประเทศของฝรั่งเศส แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ในวันศุกร์(29พ.ย.) ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในกรุงปารีส เคียงข้าง ริชาร์ด มัวร์ หัวหน้าหน่วยข่างกรองลับของสหราชอาณาจักร โดยเขาให้คำนิยามโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ปารีสและลอนดอนกังวลมากที่สุด
    .
    "หน่วยงานของเรากำลังทำงานเคียงข้างกันและกัน ในการเผชิญกับหนึ่งในภัยคุกคามที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เป็นภัยคุกคามที่วิกฤตที่สุด ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ความเป็นไปได้ของการแผ่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ในอิหร่าน" เขากล่าว ตามรายงานของรอยเตอร์
    .
    มัวร์ สะท้อนความกังวลแบบเดียวกัน โดยชี้ว่า "ความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน คุกคามพวกเราทั้งมวล"
    .
    ปฏิบัติการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่าน ถูกตะวันตกมองมาช้านานว่าเป็นการอำพรางความพยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ความกังวลนี้มีมากขึ้นหลังจากสหรัฐฯถอนตัวฝ่ายเดียวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในปี 2018
    .
    ส่วนหนึ่งในข้อตกลงที่ลงนาม 3 ปีก่อนหน้านั้น ทางเตหะรานยินยอมระงับโครงการนิวเคลียร์ แลกกับการปลดเปลื้องมาตรการคว่ำบาตรบางส่วน อย่างไรก็ตาม โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น อ้างว่าข้อตกลงดังกล่าวล้มเลวในการสกัดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และทุกความพยายามทางการทูตในการรื้อฟื้นของตกลงนี้ในอีกหลายปีต่อไป ล้วนแต่ประสบความล้มเหลวในการผ่าทางตัน
    .
    อิหร่าน เน้นย้ำว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขามีจุดประสงค์เพื่อสันติ และไม่ได้เสาะหาการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ข้อตกลงพังครืนลง เตหะรานยกระดับเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเป็น 60% และอ้างอิงข้อมูลจากทบวงปรมาณูสากล ภายใต้สังกัดของสหประชาชาติ ในการใช้สร้างระเบิดนิวเคลียร์ลูกหนึ่งๆ จำเป็นต้องเสริมสมรรถนะยูเรเนียมสู่ระดับมากกว่า 90%
    .
    หน่วยงานเฝ้าระวังทางนิวเคลียร์แห่งนี้ บอกเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าอิหร่านเริ่มเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพิ่มขึ้นไปอีก โดยใช้เครื่องปั่นเหวี่ยงแยกตะกอน (Centrifuge) ที่ทันสมัยหลายพันเครื่อง
    .
    เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน คามาล คาร์ราซี ผู้ช่วยระดับสูงของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ยืนยันว่าเตหะราน "มีศักยภาพทางเทคนิคที่จำเป็นแล้ว สำหรับผลิตอาวุธนิวเคลียร์" เขากล่าว พร้อมเน้นว่าแม้อิหร่านไม่มีแผนทำเช่นนั้น "แต่ถ้าความอยู่รอดของอิหร่านถูกคุกคามร้ายแรง เราขอสงวนสิทธิ์ในการทบทวนใหม่"
    .
    สหรัฐฯเองก็ส่งเสียงแสดงความกังวลอย่างมากเช่นกัน เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา บ่งชี้ในเดือนกรกฏาคม ว่าบางที "อิหร่านอาจต้องการเวลาเพียงแค่ 1 หรือ 2 สัปดาห์ ในการผลิตวัสดุนิวเคลียร์เกรดอาวุธสำหรับระเบิดนิวเคลียร์"
    .
    พัฒนาการล่าสุดนี้ มีขึ้นในขณะที่ตะวันออกกลางยังคงอยู่ในสถานะตึงเครียดขั้นสูง โดยที่อิหร่านและอิสราเอลติดหล่มในการเผชิญหน้า เกี่ยวกับความขัดแย้งในกาซา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000115651
    ..............
    Sondhi X
    อิหร่านอาจมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า จากเสียงเตือนจากหัวหน้าหน้วยข่าวกรองต่างประเทศของฝรั่งเศส . นิโคลัส เลอร์เนอร์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองต่างประเทศของฝรั่งเศส แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ในวันศุกร์(29พ.ย.) ระหว่างให้สัมภาษณ์กับพวกผู้สื่อข่าวในกรุงปารีส เคียงข้าง ริชาร์ด มัวร์ หัวหน้าหน่วยข่างกรองลับของสหราชอาณาจักร โดยเขาให้คำนิยามโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ปารีสและลอนดอนกังวลมากที่สุด . "หน่วยงานของเรากำลังทำงานเคียงข้างกันและกัน ในการเผชิญกับหนึ่งในภัยคุกคามที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เป็นภัยคุกคามที่วิกฤตที่สุด ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ความเป็นไปได้ของการแผ่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ในอิหร่าน" เขากล่าว ตามรายงานของรอยเตอร์ . มัวร์ สะท้อนความกังวลแบบเดียวกัน โดยชี้ว่า "ความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน คุกคามพวกเราทั้งมวล" . ปฏิบัติการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่าน ถูกตะวันตกมองมาช้านานว่าเป็นการอำพรางความพยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ความกังวลนี้มีมากขึ้นหลังจากสหรัฐฯถอนตัวฝ่ายเดียวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในปี 2018 . ส่วนหนึ่งในข้อตกลงที่ลงนาม 3 ปีก่อนหน้านั้น ทางเตหะรานยินยอมระงับโครงการนิวเคลียร์ แลกกับการปลดเปลื้องมาตรการคว่ำบาตรบางส่วน อย่างไรก็ตาม โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น อ้างว่าข้อตกลงดังกล่าวล้มเลวในการสกัดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และทุกความพยายามทางการทูตในการรื้อฟื้นของตกลงนี้ในอีกหลายปีต่อไป ล้วนแต่ประสบความล้มเหลวในการผ่าทางตัน . อิหร่าน เน้นย้ำว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขามีจุดประสงค์เพื่อสันติ และไม่ได้เสาะหาการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ข้อตกลงพังครืนลง เตหะรานยกระดับเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเป็น 60% และอ้างอิงข้อมูลจากทบวงปรมาณูสากล ภายใต้สังกัดของสหประชาชาติ ในการใช้สร้างระเบิดนิวเคลียร์ลูกหนึ่งๆ จำเป็นต้องเสริมสมรรถนะยูเรเนียมสู่ระดับมากกว่า 90% . หน่วยงานเฝ้าระวังทางนิวเคลียร์แห่งนี้ บอกเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าอิหร่านเริ่มเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพิ่มขึ้นไปอีก โดยใช้เครื่องปั่นเหวี่ยงแยกตะกอน (Centrifuge) ที่ทันสมัยหลายพันเครื่อง . เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน คามาล คาร์ราซี ผู้ช่วยระดับสูงของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ยืนยันว่าเตหะราน "มีศักยภาพทางเทคนิคที่จำเป็นแล้ว สำหรับผลิตอาวุธนิวเคลียร์" เขากล่าว พร้อมเน้นว่าแม้อิหร่านไม่มีแผนทำเช่นนั้น "แต่ถ้าความอยู่รอดของอิหร่านถูกคุกคามร้ายแรง เราขอสงวนสิทธิ์ในการทบทวนใหม่" . สหรัฐฯเองก็ส่งเสียงแสดงความกังวลอย่างมากเช่นกัน เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา บ่งชี้ในเดือนกรกฏาคม ว่าบางที "อิหร่านอาจต้องการเวลาเพียงแค่ 1 หรือ 2 สัปดาห์ ในการผลิตวัสดุนิวเคลียร์เกรดอาวุธสำหรับระเบิดนิวเคลียร์" . พัฒนาการล่าสุดนี้ มีขึ้นในขณะที่ตะวันออกกลางยังคงอยู่ในสถานะตึงเครียดขั้นสูง โดยที่อิหร่านและอิสราเอลติดหล่มในการเผชิญหน้า เกี่ยวกับความขัดแย้งในกาซา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000115651 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1206 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิงโต .. ตัวหนึ่งเห็น, หมาบ้า : เดินใกล้เข้ามามัน.. จึงรีบเดินเลี่ยง, ไปทางอื่นลูกสิงโต, เห็นจึงพูดกับ : พ่อว่า...... “ เจอเสือตัวใหญ่ๆ พ่อ, ยังกล้าสู้กับมันแต่...“ เจอหมาบ้า, ตัวเดียว ”... พ่อ, กลับเดินหลบ“ ช่างขายหน้า..เสียจริง,จริง ”พ่อ : ได้ยินดังนั้น, จึงบอกกับลูกว่า...ลูกพ่อ : การเอาชนะหมา, ตัวหนึ่งนั้น...... เป็นเรื่อง “ มีเกียรตินักหรือ..? ”ลูกสิงโต : ส่ายหัว“ หากโดน, หมาบ้ากัด จะไม่ยิ่งซวย, กว่าหรือ ”ลูกสิงโต : พยักหน้า“ จำไว้น๊ะ..ลูก มิใช่ว่า... ใครทั้งหมดล้วนคู่ควร .. ที่เราจะ “ ต่อกรด้วย ”... ผู้คนในสังคม, ทุกวันนี้...ล้วนตกอยู่ใน... สภาวะที่เครียด, กลัดกลุ้มไม่ว่า... จะเรื่องปากท้อง, ครอบครัวทุกคน... ต่างมี “ ความโลภ, โกรธ, หลง ”... เปรียบเหมือน, มี..“ ขยะอยู่เต็มหัวใจ ”ไม่ว่า... พบใคร, ที่ไหน, มักจะหาโอกาสที่จะ... เทขยะเหล่านี้, ออกไปให้พ้น “ จากตัวเอง ”... ฉะนั้น, อย่าได้ไป..ใส่ใจเลยจง..“ ยิ้มให้กับเค้า ”..แล้วเดินจากไป... ตั้งหน้าตั้งตา, ทำงานของเรา..ให้ลุล่วง... อย่าไปรับ, เอา “ ขยะ ” เหล่านั้น, มาใส่หัวมัน... คู่ควรแล้วหรือ..? สำหรับ..“ ผู้มีปัญญา ”... เรา, จะไม่ไปทะเลาะ เพื่อ..“ เอาชนะ, คนแบบนั้น ”
    สิงโต .. ตัวหนึ่งเห็น, หมาบ้า : เดินใกล้เข้ามามัน.. จึงรีบเดินเลี่ยง, ไปทางอื่นลูกสิงโต, เห็นจึงพูดกับ : พ่อว่า...... “ เจอเสือตัวใหญ่ๆ พ่อ, ยังกล้าสู้กับมันแต่...“ เจอหมาบ้า, ตัวเดียว ”... พ่อ, กลับเดินหลบ“ ช่างขายหน้า..เสียจริง,จริง ”พ่อ : ได้ยินดังนั้น, จึงบอกกับลูกว่า...ลูกพ่อ : การเอาชนะหมา, ตัวหนึ่งนั้น...... เป็นเรื่อง “ มีเกียรตินักหรือ..? ”ลูกสิงโต : ส่ายหัว“ หากโดน, หมาบ้ากัด จะไม่ยิ่งซวย, กว่าหรือ ”ลูกสิงโต : พยักหน้า“ จำไว้น๊ะ..ลูก มิใช่ว่า... ใครทั้งหมดล้วนคู่ควร .. ที่เราจะ “ ต่อกรด้วย ”... ผู้คนในสังคม, ทุกวันนี้...ล้วนตกอยู่ใน... สภาวะที่เครียด, กลัดกลุ้มไม่ว่า... จะเรื่องปากท้อง, ครอบครัวทุกคน... ต่างมี “ ความโลภ, โกรธ, หลง ”... เปรียบเหมือน, มี..“ ขยะอยู่เต็มหัวใจ ”ไม่ว่า... พบใคร, ที่ไหน, มักจะหาโอกาสที่จะ... เทขยะเหล่านี้, ออกไปให้พ้น “ จากตัวเอง ”... ฉะนั้น, อย่าได้ไป..ใส่ใจเลยจง..“ ยิ้มให้กับเค้า ”..แล้วเดินจากไป... ตั้งหน้าตั้งตา, ทำงานของเรา..ให้ลุล่วง... อย่าไปรับ, เอา “ ขยะ ” เหล่านั้น, มาใส่หัวมัน... คู่ควรแล้วหรือ..? สำหรับ..“ ผู้มีปัญญา ”... เรา, จะไม่ไปทะเลาะ เพื่อ..“ เอาชนะ, คนแบบนั้น ”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 513 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เรารักชีวิตของเรา
    ก็คือการทำงานในหน้าที่อย่างตั้งใจ
    โดยคิดว่าเป็นงานของเราเองไม่มีใครสั่งให้ทำ

    จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงมีชีวิตอยู่

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #เหตุใดเราจึงมีชีวิตอยู่ #นิ้วกลม
    สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เรารักชีวิตของเรา ก็คือการทำงานในหน้าที่อย่างตั้งใจ โดยคิดว่าเป็นงานของเราเองไม่มีใครสั่งให้ทำ จากหนังสือ |เหตุใดเราจึงมีชีวิตอยู่ #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #เหตุใดเราจึงมีชีวิตอยู่ #นิ้วกลม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 548 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจ เลือกใช้บริการเปลี่ยนทรงผมกับร้านของเราเสมอมา ทางร้านรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมากที่ทุกท่านชื่นชอบผลงานของเรา ความพึงพอใจของลูกค้าคือกำลังใจสำคัญของช่างทุกคน เราจะตั้งใจรักษามาตรฐานและพัฒนาฝีมือต่อไป เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกท่านค่ะ
    เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจ เลือกใช้บริการเปลี่ยนทรงผมกับร้านของเราเสมอมา ทางร้านรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมากที่ทุกท่านชื่นชอบผลงานของเรา ความพึงพอใจของลูกค้าคือกำลังใจสำคัญของช่างทุกคน เราจะตั้งใจรักษามาตรฐานและพัฒนาฝีมือต่อไป เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกท่านค่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts