• ตามล่าหา 'ดาวเหนือ'
    ด๋องรู้สึกเหมือนกำลังพายเรืออยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่ที่ไร้จุดหมาย
    แต่ละวันเริ่มต้นขึ้นด้วยแรงเฉื่อย เขาลุกไปทำงานเพียงเพราะ "ต้องทำ" ไม่ได้มีเป้าหมายที่ชัดเจน
    งานที่ทำก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความหมายหรือความรักที่จะทำ มันเป็นแค่การทำตามคำสั่งไปวันๆ
    เหมือนเป็นฟันเฟืองตัวเล็กๆ ในเครื่องจักรขนาดใหญ่ หมุนไปตามแรงขับเคลื่อนของคนอื่น โดยไม่รู้เลยว่าปลายทางคือที่ใด
    เขาเคยได้ยินคำว่า "ดาวเหนือ" มาบ้าง ในฐานะสัญลักษณ์ของแรงบันดาลใจและเข็มทิศชีวิต
    แต่สำหรับด๋อง คำนี้ดูห่างไกลเหลือเกิน มันเป็นเพียงถ้อยคำสวยหรูในโลกอุดมคติ ที่ไม่มีอยู่จริงในชีวิตการทำงานอันแสนธรรมดาของเขา
    .
    วันหนึ่ง จุดเปลี่ยนเล็กๆ ก็มาถึง เมื่อหัวหน้ามอบหมายโปรเจกต์หนึ่งให้
    มันเป็นงานที่หนัก ต้องใช้ความละเอียดสูง และดูเหมือนจะไม่มีใครอยากทำ เพราะมันทั้งน่าเบื่อและซ้ำซาก
    เพื่อนร่วมงานหลายคนแสดงท่าทีเหนื่อยหน่าย แต่ด๋องเลือกที่จะรับมันไว้โดยไม่ปริปากบ่น
    ในหัวคิดเพียงแค่ว่า "ก็ต้องทำ" ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็แค่ก้มหน้าก้มตาทำให้เสร็จไป
    ด๋องทุ่มเทเวลาหลายสัปดาห์ให้กับโปรเจกต์นี้ อาศัยเพียง "เครื่องมือ" ที่มี ความรู้พื้นฐานที่ร่ำเรียนมา และความอึดเข้าแลก
    เขาจมดิ่งอยู่กับตัวเลขและเอกสาร แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปทีละจุด แม้จะไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่างานนี้จะนำไปสู่สิ่งใด
    .
    วันนำเสนอผลงานมาถึง
    ด๋องยืนอยู่หน้าห้องประชุม นำเสนอสิ่งที่เขาได้ทำลงไปอย่างละเอียด ทั้งขั้นตอน ปัญหาที่พบ และวิธีแก้ไขแบบตามตำรา
    หัวหน้าและผู้ใหญ่ในห้องพยักหน้าพอใจในความเรียบร้อยและครบถ้วนตามที่มอบหมาย
    โปรเจกต์นี้ "สำเร็จ" ในสายตาของทุกคน และด๋องก็ได้รับคำชมตามระเบียบ
    แต่เมื่อเดินออกจากห้องประชุม แสงแดดยามบ่ายกลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจเลย
    ความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาไม่ใช่ความภาคภูมิใจ แต่เป็นความว่างเปล่าที่กัดกินข้างใน
    เหมือนเพิ่งปีนขึ้นไปบนยอดเขาได้สำเร็จ แต่กลับพบว่าตัวเองมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดิน ไม่ได้แหงนมองวิวทิวทัศน์ระหว่างทางเลย
    "นี่คือทั้งหมดแล้วเหรอ?" คำถามนี้ดังก้องอยู่ในใจ "ชีวิตการทำงานมีแค่นี้เองเหรอ? แค่ทำสิ่งที่ 'ต้องทำ' ให้ดีที่สุด แล้วก็รู้สึกว่างเปล่าแบบนี้?"
    .
    ความว่างเปล่าครั้งนั้นกลายเป็นแรงผลักดันเงียบๆ ให้ด๋องเริ่มมองหาบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป
    เขาเริ่มหยิบหนังสือพัฒนาตนเองที่เคยเมินเฉยขึ้นมาอ่านอีกครั้ง แต่คราวนี้อ่านด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป
    ไม่ได้อ่านเพื่อหาสูตรสำเร็จ แต่เพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกสับสนภายในใจของตัวเอง
    เขาได้อ่านเรื่องราวของผู้คนมากมายที่ดูเหมือนจะมี "ดาวเหนือ" เป็นของตัวเอง ส่องนำทางชีวิตและการทำงาน
    ด๋องเริ่ม "มองแบบอย่าง" จากคนเหล่านั้น ไม่ใช่การเลียนแบบภายนอก แต่พยายามทำความเข้าใจความคิด "เจตนา" และคุณค่าที่ขับเคลื่อนพวกเขา
    เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองอย่างจริงจังว่า นอกจากการ "ต้องทำ" แล้ว มีอะไรที่เขา "อยากจะทำ" กันแน่? และต้อง "จำเป็นต้องทำ" อะไรบ้างเพื่อให้ไปถึงจุดนั้น?
    .
    ไม่นานหลังจากนั้น ด๋องได้เข้าร่วมเวิร์กช็อปของบริษัทเกี่ยวกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายองค์กร
    เขาได้ฟังเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จ ฟังความฝันของผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานจากแผนกต่างๆ
    เหมือนจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจายค่อยๆ ประกอบกันเป็นภาพใหญ่ที่เขาไม่เคยมองเห็นมาก่อน
    ด๋องเริ่มเข้าใจว่างานเล็กๆ ที่เขาทำ อาจมีความเชื่อมโยงกับเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น และเขาก็พบว่ามีบางประเด็นใน "วิสัยทัศน์ร่วม" นั้นที่สอดคล้องกับสิ่งที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจว่าเขา "อยากจะทำ"
    เขาตัดสินใจเริ่มต้นโปรเจกต์เล็กๆ นอกเหนือจากงานประจำ เป็นโปรเจกต์ที่เกิดจากความสนใจส่วนตัวและความตั้งใจที่อยากเห็นบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
    ครั้งนี้ ด๋องมี "เจตนา" ที่ชัดเจนในการลงมือทำ เขาพยายาม "จัดแนว" การกระทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับ "ดาวเหนือ" ที่เริ่มส่องแสงประกายอ่อนๆ ให้เห็น
    .
    เส้นทางของโปรเจกต์ใหม่นี้ไม่ได้ราบรื่นเลย
    เขาต้องเผชิญกับความไม่รู้ ต้องกล้าก้าวออกจาก comfort zone ไปขอความช่วยเหลือจากคนที่ไม่เคยแม้แต่จะคุยด้วย
    อุปสรรคถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งปัญหาที่ไม่คาดคิด ความผิดพลาดจากการลองผิดลองถูก
    แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง แม้จะเหน็ดเหนื่อย แต่ใจกลับเต็มไปด้วยพลังและความตื่นเต้น
    เขาล้มเหลวหลายครั้ง แต่ทุกครั้งคือการเรียนรู้ เขาไม่ได้ทำเพราะ "ต้องทำ" แต่ทำเพราะ "อยากทำ" และเริ่มรู้สึก "ชอบ" กระบวนการเรียนรู้และสร้างสรรค์นี้จริงๆ
    ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคือตอนที่ทีมเล็กๆ ของเขา (ซึ่งรวมตัวกันด้วย "วิสัยทัศน์ร่วม") ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่ใหญ่มากจนเกือบต้องยอมแพ้
    .
    แทนที่จะท้อถอย ด๋องกลับรู้สึกถึงพลังที่มองไม่เห็น ที่ผลักดันให้สู้ต่อไป
    เขาไม่ได้สู้แค่คนเดียว แต่สู้ไปพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมที่เชื่อในสิ่งเดียวกัน ด้วย "เจตนา" และ "วิสัยทัศน์ร่วม" ที่ชัดเจน
    พวกเขาช่วยกันระดมสมอง เรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับตัวอย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ (Unconscious to Conscious Learning)
    ในที่สุด พวกเขาก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคครั้งใหญ่นั้นไปได้สำเร็จ ไม่ใช่ด้วยเครื่องมือวิเศษ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการเรียนรู้ร่วมกัน
    ความรู้สึกหลังจากการฝ่าฟันครั้งนี้นั้นแตกต่างจากครั้งแรกราวฟ้ากับเหว
    มันไม่ใช่ความว่างเปล่า แต่เป็นความอิ่มเอมใจที่ได้ทำในสิ่งที่เชื่อ ได้ทุ่มเทอย่างสุดกำลัง และได้เติบโตผ่านความท้าทายร่วมกับทีม
    เมื่อมองย้อนกลับไปที่โปรเจกต์แรกที่เคยทำด้วยความรู้สึกว่างเปล่า
    .
    วันนี้เขาเพิ่งได้เรียนรู้ว่า งาน "น่าเบื่อ" และ "ซ้ำซาก" ที่เขาทำไปเพราะ "ต้องทำ" ในวันนั้น
    ที่จริงแล้ว มันไม่ใช่แค่การทำงานให้เสร็จไปวันๆ
    แต่มันคือบททดสอบและบทฝึกฝนที่สำคัญยิ่งยวด
    งานนั้นได้สร้างและลับคม "เครื่องมือ" ที่จำเป็นที่สุดให้เขา นั่นคือ ความอดทน ความละเอียดรอบคอบ และทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
    ทักษะพื้นฐานเหล่านี้เองที่กลายเป็นรากฐานอันแข็งแกร่ง
    ที่ทำให้เขามีความพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนกว่ามากในโปรเจกต์ที่สอง
    โปรเจกต์ที่เป็นสิ่งที่เขา "รักที่จะทำ" อย่างแท้จริง
    เรื่องราวของด๋องสอนเราว่า เส้นทางสู่การค้นพบสิ่งที่ "รักที่จะทำ" นั้น
    มักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป
    บางครั้งเราต้องผ่านช่วงเวลาของการ "ต้องทำ" ในสิ่งที่เราอาจยังไม่เห็นคุณค่าหรือความหมายในทันที
    แต่งานเหล่านั้น หากเรามี "เจตนา" ที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเอง
    จะช่วยสร้าง "เครื่องมือ" และทักษะพื้นฐานที่จำเป็นอย่างยิ่ง
    ซึ่งเครื่องมือเหล่านั้นจะกลายเป็นพลังสำคัญที่ช่วยให้เราคว้าโอกาสและเอาชนะอุปสรรคได้
    .
    การออกตามหา "ดาวเหนือ" ไม่ใช่แค่การมองหาแรงบันดาลใจจากภายนอก
    แต่คือกระบวนการภายในของการทำความเข้าใจตัวเอง การมองหาแบบอย่างที่ดี การตั้ง "เจตนา" ที่ชัดเจน
    และการ "จัดแนว (Align)" การกระทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับเป้าหมายและคุณค่าที่เรายึดมั่น
    และที่สำคัญที่สุด คือการค่อยๆ เปลี่ยนจาก mindset ที่ทำเพราะ "ต้องทำ"
    ไปสู่การได้ทำในสิ่งที่ "อยากทำ", "จำเป็นต้องทำ", "ชอบที่จะทำ"
    และท้ายที่สุดคือการได้ทำในสิ่งที่ "รักที่จะทำ" อย่างแท้จริง
    เพราะเมื่อใดที่เราได้ทำในสิ่งที่รักและมีความหมาย
    แม้ต้องเผชิญความยากลำบากใดๆ เราก็จะพบกับความอิ่มเอมใจที่แท้จริง
    และความหมายที่ลึกซึ้งในงานที่เราทำ เช่นเดียวกับที่ด๋องได้ค้นพบในที่สุด

    www.10x-consulting.com
    ตามล่าหา 'ดาวเหนือ' ด๋องรู้สึกเหมือนกำลังพายเรืออยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่ที่ไร้จุดหมาย แต่ละวันเริ่มต้นขึ้นด้วยแรงเฉื่อย เขาลุกไปทำงานเพียงเพราะ "ต้องทำ" ไม่ได้มีเป้าหมายที่ชัดเจน งานที่ทำก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความหมายหรือความรักที่จะทำ มันเป็นแค่การทำตามคำสั่งไปวันๆ เหมือนเป็นฟันเฟืองตัวเล็กๆ ในเครื่องจักรขนาดใหญ่ หมุนไปตามแรงขับเคลื่อนของคนอื่น โดยไม่รู้เลยว่าปลายทางคือที่ใด เขาเคยได้ยินคำว่า "ดาวเหนือ" มาบ้าง ในฐานะสัญลักษณ์ของแรงบันดาลใจและเข็มทิศชีวิต แต่สำหรับด๋อง คำนี้ดูห่างไกลเหลือเกิน มันเป็นเพียงถ้อยคำสวยหรูในโลกอุดมคติ ที่ไม่มีอยู่จริงในชีวิตการทำงานอันแสนธรรมดาของเขา . วันหนึ่ง จุดเปลี่ยนเล็กๆ ก็มาถึง เมื่อหัวหน้ามอบหมายโปรเจกต์หนึ่งให้ มันเป็นงานที่หนัก ต้องใช้ความละเอียดสูง และดูเหมือนจะไม่มีใครอยากทำ เพราะมันทั้งน่าเบื่อและซ้ำซาก เพื่อนร่วมงานหลายคนแสดงท่าทีเหนื่อยหน่าย แต่ด๋องเลือกที่จะรับมันไว้โดยไม่ปริปากบ่น ในหัวคิดเพียงแค่ว่า "ก็ต้องทำ" ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็แค่ก้มหน้าก้มตาทำให้เสร็จไป ด๋องทุ่มเทเวลาหลายสัปดาห์ให้กับโปรเจกต์นี้ อาศัยเพียง "เครื่องมือ" ที่มี ความรู้พื้นฐานที่ร่ำเรียนมา และความอึดเข้าแลก เขาจมดิ่งอยู่กับตัวเลขและเอกสาร แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปทีละจุด แม้จะไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่างานนี้จะนำไปสู่สิ่งใด . วันนำเสนอผลงานมาถึง ด๋องยืนอยู่หน้าห้องประชุม นำเสนอสิ่งที่เขาได้ทำลงไปอย่างละเอียด ทั้งขั้นตอน ปัญหาที่พบ และวิธีแก้ไขแบบตามตำรา หัวหน้าและผู้ใหญ่ในห้องพยักหน้าพอใจในความเรียบร้อยและครบถ้วนตามที่มอบหมาย โปรเจกต์นี้ "สำเร็จ" ในสายตาของทุกคน และด๋องก็ได้รับคำชมตามระเบียบ แต่เมื่อเดินออกจากห้องประชุม แสงแดดยามบ่ายกลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจเลย ความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาไม่ใช่ความภาคภูมิใจ แต่เป็นความว่างเปล่าที่กัดกินข้างใน เหมือนเพิ่งปีนขึ้นไปบนยอดเขาได้สำเร็จ แต่กลับพบว่าตัวเองมัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดิน ไม่ได้แหงนมองวิวทิวทัศน์ระหว่างทางเลย "นี่คือทั้งหมดแล้วเหรอ?" คำถามนี้ดังก้องอยู่ในใจ "ชีวิตการทำงานมีแค่นี้เองเหรอ? แค่ทำสิ่งที่ 'ต้องทำ' ให้ดีที่สุด แล้วก็รู้สึกว่างเปล่าแบบนี้?" . ความว่างเปล่าครั้งนั้นกลายเป็นแรงผลักดันเงียบๆ ให้ด๋องเริ่มมองหาบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไป เขาเริ่มหยิบหนังสือพัฒนาตนเองที่เคยเมินเฉยขึ้นมาอ่านอีกครั้ง แต่คราวนี้อ่านด้วยสายตาที่แตกต่างออกไป ไม่ได้อ่านเพื่อหาสูตรสำเร็จ แต่เพื่อทำความเข้าใจความรู้สึกสับสนภายในใจของตัวเอง เขาได้อ่านเรื่องราวของผู้คนมากมายที่ดูเหมือนจะมี "ดาวเหนือ" เป็นของตัวเอง ส่องนำทางชีวิตและการทำงาน ด๋องเริ่ม "มองแบบอย่าง" จากคนเหล่านั้น ไม่ใช่การเลียนแบบภายนอก แต่พยายามทำความเข้าใจความคิด "เจตนา" และคุณค่าที่ขับเคลื่อนพวกเขา เขาเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองอย่างจริงจังว่า นอกจากการ "ต้องทำ" แล้ว มีอะไรที่เขา "อยากจะทำ" กันแน่? และต้อง "จำเป็นต้องทำ" อะไรบ้างเพื่อให้ไปถึงจุดนั้น? . ไม่นานหลังจากนั้น ด๋องได้เข้าร่วมเวิร์กช็อปของบริษัทเกี่ยวกับวิสัยทัศน์และเป้าหมายองค์กร เขาได้ฟังเรื่องราวเบื้องหลังความสำเร็จ ฟังความฝันของผู้บริหารและเพื่อนร่วมงานจากแผนกต่างๆ เหมือนจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจายค่อยๆ ประกอบกันเป็นภาพใหญ่ที่เขาไม่เคยมองเห็นมาก่อน ด๋องเริ่มเข้าใจว่างานเล็กๆ ที่เขาทำ อาจมีความเชื่อมโยงกับเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น และเขาก็พบว่ามีบางประเด็นใน "วิสัยทัศน์ร่วม" นั้นที่สอดคล้องกับสิ่งที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจว่าเขา "อยากจะทำ" เขาตัดสินใจเริ่มต้นโปรเจกต์เล็กๆ นอกเหนือจากงานประจำ เป็นโปรเจกต์ที่เกิดจากความสนใจส่วนตัวและความตั้งใจที่อยากเห็นบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ครั้งนี้ ด๋องมี "เจตนา" ที่ชัดเจนในการลงมือทำ เขาพยายาม "จัดแนว" การกระทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับ "ดาวเหนือ" ที่เริ่มส่องแสงประกายอ่อนๆ ให้เห็น . เส้นทางของโปรเจกต์ใหม่นี้ไม่ได้ราบรื่นเลย เขาต้องเผชิญกับความไม่รู้ ต้องกล้าก้าวออกจาก comfort zone ไปขอความช่วยเหลือจากคนที่ไม่เคยแม้แต่จะคุยด้วย อุปสรรคถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ทั้งปัญหาที่ไม่คาดคิด ความผิดพลาดจากการลองผิดลองถูก แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง แม้จะเหน็ดเหนื่อย แต่ใจกลับเต็มไปด้วยพลังและความตื่นเต้น เขาล้มเหลวหลายครั้ง แต่ทุกครั้งคือการเรียนรู้ เขาไม่ได้ทำเพราะ "ต้องทำ" แต่ทำเพราะ "อยากทำ" และเริ่มรู้สึก "ชอบ" กระบวนการเรียนรู้และสร้างสรรค์นี้จริงๆ ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดคือตอนที่ทีมเล็กๆ ของเขา (ซึ่งรวมตัวกันด้วย "วิสัยทัศน์ร่วม") ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่ใหญ่มากจนเกือบต้องยอมแพ้ . แทนที่จะท้อถอย ด๋องกลับรู้สึกถึงพลังที่มองไม่เห็น ที่ผลักดันให้สู้ต่อไป เขาไม่ได้สู้แค่คนเดียว แต่สู้ไปพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมที่เชื่อในสิ่งเดียวกัน ด้วย "เจตนา" และ "วิสัยทัศน์ร่วม" ที่ชัดเจน พวกเขาช่วยกันระดมสมอง เรียนรู้จากความผิดพลาด และปรับตัวอย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ (Unconscious to Conscious Learning) ในที่สุด พวกเขาก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคครั้งใหญ่นั้นไปได้สำเร็จ ไม่ใช่ด้วยเครื่องมือวิเศษ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการเรียนรู้ร่วมกัน ความรู้สึกหลังจากการฝ่าฟันครั้งนี้นั้นแตกต่างจากครั้งแรกราวฟ้ากับเหว มันไม่ใช่ความว่างเปล่า แต่เป็นความอิ่มเอมใจที่ได้ทำในสิ่งที่เชื่อ ได้ทุ่มเทอย่างสุดกำลัง และได้เติบโตผ่านความท้าทายร่วมกับทีม เมื่อมองย้อนกลับไปที่โปรเจกต์แรกที่เคยทำด้วยความรู้สึกว่างเปล่า . วันนี้เขาเพิ่งได้เรียนรู้ว่า งาน "น่าเบื่อ" และ "ซ้ำซาก" ที่เขาทำไปเพราะ "ต้องทำ" ในวันนั้น ที่จริงแล้ว มันไม่ใช่แค่การทำงานให้เสร็จไปวันๆ แต่มันคือบททดสอบและบทฝึกฝนที่สำคัญยิ่งยวด งานนั้นได้สร้างและลับคม "เครื่องมือ" ที่จำเป็นที่สุดให้เขา นั่นคือ ความอดทน ความละเอียดรอบคอบ และทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทักษะพื้นฐานเหล่านี้เองที่กลายเป็นรากฐานอันแข็งแกร่ง ที่ทำให้เขามีความพร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนกว่ามากในโปรเจกต์ที่สอง โปรเจกต์ที่เป็นสิ่งที่เขา "รักที่จะทำ" อย่างแท้จริง เรื่องราวของด๋องสอนเราว่า เส้นทางสู่การค้นพบสิ่งที่ "รักที่จะทำ" นั้น มักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป บางครั้งเราต้องผ่านช่วงเวลาของการ "ต้องทำ" ในสิ่งที่เราอาจยังไม่เห็นคุณค่าหรือความหมายในทันที แต่งานเหล่านั้น หากเรามี "เจตนา" ที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเอง จะช่วยสร้าง "เครื่องมือ" และทักษะพื้นฐานที่จำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเครื่องมือเหล่านั้นจะกลายเป็นพลังสำคัญที่ช่วยให้เราคว้าโอกาสและเอาชนะอุปสรรคได้ . การออกตามหา "ดาวเหนือ" ไม่ใช่แค่การมองหาแรงบันดาลใจจากภายนอก แต่คือกระบวนการภายในของการทำความเข้าใจตัวเอง การมองหาแบบอย่างที่ดี การตั้ง "เจตนา" ที่ชัดเจน และการ "จัดแนว (Align)" การกระทำทุกอย่างให้สอดคล้องกับเป้าหมายและคุณค่าที่เรายึดมั่น และที่สำคัญที่สุด คือการค่อยๆ เปลี่ยนจาก mindset ที่ทำเพราะ "ต้องทำ" ไปสู่การได้ทำในสิ่งที่ "อยากทำ", "จำเป็นต้องทำ", "ชอบที่จะทำ" และท้ายที่สุดคือการได้ทำในสิ่งที่ "รักที่จะทำ" อย่างแท้จริง เพราะเมื่อใดที่เราได้ทำในสิ่งที่รักและมีความหมาย แม้ต้องเผชิญความยากลำบากใดๆ เราก็จะพบกับความอิ่มเอมใจที่แท้จริง และความหมายที่ลึกซึ้งในงานที่เราทำ เช่นเดียวกับที่ด๋องได้ค้นพบในที่สุด www.10x-consulting.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าฯกาญจน์ ยืนยันเครื่องบินรบเมียนมายังไม่ข้ามแดนมาฝั่งไทย F-16 ทำการบินสกัดกั้นและทำการบินลาดตระเวนรบต่อเนื่อง ระบุ มีการประเมินร่วมกับฝ่ายความมั่นคงเป็นระยะๆ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042405

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผู้ว่าฯกาญจน์ ยืนยันเครื่องบินรบเมียนมายังไม่ข้ามแดนมาฝั่งไทย F-16 ทำการบินสกัดกั้นและทำการบินลาดตระเวนรบต่อเนื่อง ระบุ มีการประเมินร่วมกับฝ่ายความมั่นคงเป็นระยะๆ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042405 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ.ไชยันต์ ไชยพร ร้อง ปอท.เอาผิดเพจ "สมศักดิ์ เจียม" โพสต์กล่าวหาเป็นหนึ่งในขบวนการ IO ของกองทัพบก ยันไม่ยอมให้ใครมาสั่งหรือตกอยู่ภายใต้อำนาจอิทธิพลใดๆ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042366

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    อ.ไชยันต์ ไชยพร ร้อง ปอท.เอาผิดเพจ "สมศักดิ์ เจียม" โพสต์กล่าวหาเป็นหนึ่งในขบวนการ IO ของกองทัพบก ยันไม่ยอมให้ใครมาสั่งหรือตกอยู่ภายใต้อำนาจอิทธิพลใดๆ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042366 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Wow
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 1 รีวิว
  • "อ.ไชยันต์ ไชยพร" ร้อง ปอท.เอาผิดเพจ "สมศักดิ์ เจียม" โพสต์กล่าวหาเป็นหนึ่งในขบวนการ IO ของกองทัพบก ยันไม่ยอมให้ใครมาสั่งหรือตกอยู่ภายใต้อำนาจอิทธิพลใดๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042378

    #SondhiX #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "อ.ไชยันต์ ไชยพร" ร้อง ปอท.เอาผิดเพจ "สมศักดิ์ เจียม" โพสต์กล่าวหาเป็นหนึ่งในขบวนการ IO ของกองทัพบก ยันไม่ยอมให้ใครมาสั่งหรือตกอยู่ภายใต้อำนาจอิทธิพลใดๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042378 #SondhiX #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัปดาห์ที่แล้วคุยเรื่องชีวประวัติ วันนี้เลยมาคุยให้ฟังถึงเรื่องราวของคนในตำนานอีกคู่หนึ่ง

    เพื่อนเพจที่ได้ติดตามละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> คงจำได้ถึงหนึ่งในตัวละครที่มีบทบาทเด่นคือเฟิ่งชีอู๋ ประมุขตระกูลเฟิ่งแห่งยงโจวผู้ดำรงตำแหน่ง ‘ซ่างซู’ (ขุนนางระดับเสนาธิการ) ในฉากที่นางได้เข้าพบกับท่านชายสองเฟิงหลันซี (พระเอก) ได้แสดงการสวามิภักดิ์ผ่านการเปรียบเปรยถึงซือหม่าเซียงหรูและจั๋วเหวินจวิน

    ความมีอยู่ว่า...
    ท่านชายสอง: ซือหม่าเซียงหรูต้องกักตัวเพราะป่วย เช่นเดียวกับข้า ตัวอยู่ในที่มืดมิด
    เฟิ่งชีอู๋: แทนที่จะอยู่ในที่มืด มิสู้จุดโคมเดินทาง หากท่านคิดเป็นซือหม่าเซียงหรู ข้ายอมเป็นจั๋วเหวินจวิน (ภรรยาของซือหม่าเซียงหรู) จุดโคมให้ท่าน
    - ถอดบทสนทนาจะละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> ตามซับไทย

    หากใครไม่ทราบเรื่องราวของซือหม่าเซียงหรูและจั๋วเหวินจวินคงจะไม่เข้าใจความนัยของบทสนทนาข้างต้นนี้ วันนี้เลยนำเรื่องราวของทั้งคู่มาเล่าให้ฟังอย่างย่อ

    ซือหม่าเซียงหรู (179-117 ปีก่อนคริสตกาล สมัยราชวงศ์ฮั่น) เป็นคนพื้นเพเสฉวน สันทัดด้านอักษรและดนตรีจนได้เป็นอาจารย์ ต่อมาเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อหาหนทางเข้ารับราชการ แต่ด้วยพื้นเพครอบครัวยากจนจึงไม่ได้รับความสนใจนัก สุดท้ายถอดใจอำลาเมืองหลวงไปอาศัยอยู่ที่เมืองหลิงฉยงตามคำชวนของสหายนามว่า ‘หวางจี๋’ เป็นผู้ว่าการเขตหลิงฉยง

    ที่หลิงฉยง ซือหม่าเซียงหรูแสร้งทำเป็นป่วย วันๆ ไม่ยอมพบใคร โดยมีหวางจี๋คอยไปเยี่ยมเยียนทุกวัน จนเกิดเป็นภาพลักษณ์ว่าซือหม่าเซียงหรูเป็นแขกพิเศษของหวางจี๋ ได้รับความสนใจจากผู้คนไม่น้อย

    หนึ่งในนั้นคือคหบดีพ่อค้านามว่า ‘จั๋วหวางซุน’ เขามีลูกสาวคือจั๋วเหวินจวิน นางออกเรือนไปได้ไม่นานก็เป็นหม้ายจึงกลับมาอยู่กับบิดา ยามนั้นนางอายุเพียงสิบเจ็ด เลื่องชื่อด้วยโฉมงามและความสามารถด้านการดนตรีและโคลงกลอน

    อยู่มาวันหนึ่งจั๋วหวางซุนได้จัดงานเลี้ยงขึ้นโดยตั้งใจเชิญหวางจี๋และซือหม่าเซียงหรูมาเป็นแขก หวางจี๋ถึงขนาดไปเชิญซือหม่าเซียงหรูด้วยตนเอง เขาจึงยอมมาร่วมงาน และเพื่อเป็นการสนองการต้อนรับอันอบอุ่น เขาบรรเลงเพลงพิณ ‘หงส์วอนหาคู่’

    การเล่นพิณครั้งนี้ ไม่ว่าเป็นแผนหรือไม่ แต่ผลก็คือจั๋วเหวินจวินที่มาแอบดูเขาที่หลังฉากและได้ยินเพลงพิณขอรักของเขาเข้าก็ตกหลุมรัก คืนนั้นนางหนีตามเขากลับไปเมืองหลวง ที่นั่นจั๋วเหวินจวินค้นพบความจริงแล้วว่าเขายากจนมาก บ้านของเขามีเพียงสี่ผนังที่ว่างเปล่า แต่นางก็ไม่ทิ้งเขา ใช้ชีวิตแบบกัดก้อนเกลือกินอยู่กับเขาโดยอาศัยเงินและเครื่องประดับที่นางพกติดตัวมา ส่วนจั๋วหวางซุนเมื่อได้ข่าวก็ทั้งอับอายทั้งเสียใจถึงกับตัดขาดไม่ยอมให้เงินช่วยเหลือลูกสาวแม้แต่แดงเดียว

    ต่อมาเงินหมด จั๋วเหวินจวินคิดแล้วว่าอยู่เมืองหลวงต่อไปก็ไม่มีหนทาง จึงชวนซือหม่าเซียงหรูกลับมาที่เมืองหลิงฉยง พวกเขาขายรถม้าซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายเพื่อเปิดร้านเหล้าเล็กๆ แห่งหนึ่งช่วยกันทำมาหากิน ทั้งสองทำงานหนักแต่ก็ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข สุดท้ายจั๋วหวางซุนใจอ่อนจึงมอบเงินและบ่าวให้จำนวนไม่น้อยเป็นเงินรับขวัญเขยคนนี้ พอที่ทั้งสองจะกลับไปเมืองหลวงซื้อที่ดินและใช้ชีวิตได้อย่างคนมีอันจะกิน

    ในช่วงเวลานั้นเอง บทประพันธ์ ‘จื่อซวีฟู่’ ของซือหม่าเซียงหรูเป็นที่ชื่นชอบขององค์ฮั่นอู่ตี้ เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนางผู้ติดตามใกล้ชิด ต่อมาหน้าที่การงานยิ่งเจริญรุ่งเรืองกลายเป็นคนเนื้อหอม จึงเกิดความคิดที่จะรับอนุ แต่ต่อมาจั๋วเหวินจวินแต่งกลอนทำให้เขารำลึกถึงความหลังและเปลี่ยนความคิด (Storyฯ เคยคุยถึงเรื่อง ‘ลำนำผมขาว’ นี้ไปแล้ว ไปหาอ่านย้อนหลังนะคะ)

    ดังนั้น บทสนทนาละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> ข้างต้น ไม่เพียงแต่แสดงเจตจำนงของเฟิ่งชีอู๋ที่จะยอมเป็นภรรยาของพระเอก หากแต่ยังสะท้อนถึงความนัยว่า นางยอมใช้ทุกสิ่งอย่างที่นางมีเพื่อช่วยสนับสนุนเขา ไม่ทิ้งไม่หนี จะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปตลอดโดยไม่แคร์ว่าผู้อื่นจะมองอย่างไร

    Storyฯ คิดว่านี่เป็นคำสวามิภักดิ์ที่จริงใจที่สุดเท่าที่สตรีนางหนึ่งจะมอบให้ชายใดได้แล้ว เพื่อนเพจคิดเหมือนกันไหม?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://auete.com/Tv/wangju/qieshitianxia/
    https://kknews.cc/zh-cn/entertainment/6ggbbpm.html
    https://kknews.cc/history/y39v3qk.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/卓文君/823759
    http://history.sina.com.cn/his/zl/2014-09-29/1551102344_2.shtml
    http://www.renwugushi.com/qinhan/a1043.html
    https://www.gugong.net/wenhua/34904.html

    #เทียบท้าปฐพี #เฟิ่งชีอู๋ #จั๋วเหวินจวิน #ซือหม่าเซียงหรู #กวีเอกราชวงศ์ฮั่น
    สัปดาห์ที่แล้วคุยเรื่องชีวประวัติ วันนี้เลยมาคุยให้ฟังถึงเรื่องราวของคนในตำนานอีกคู่หนึ่ง เพื่อนเพจที่ได้ติดตามละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> คงจำได้ถึงหนึ่งในตัวละครที่มีบทบาทเด่นคือเฟิ่งชีอู๋ ประมุขตระกูลเฟิ่งแห่งยงโจวผู้ดำรงตำแหน่ง ‘ซ่างซู’ (ขุนนางระดับเสนาธิการ) ในฉากที่นางได้เข้าพบกับท่านชายสองเฟิงหลันซี (พระเอก) ได้แสดงการสวามิภักดิ์ผ่านการเปรียบเปรยถึงซือหม่าเซียงหรูและจั๋วเหวินจวิน ความมีอยู่ว่า... ท่านชายสอง: ซือหม่าเซียงหรูต้องกักตัวเพราะป่วย เช่นเดียวกับข้า ตัวอยู่ในที่มืดมิด เฟิ่งชีอู๋: แทนที่จะอยู่ในที่มืด มิสู้จุดโคมเดินทาง หากท่านคิดเป็นซือหม่าเซียงหรู ข้ายอมเป็นจั๋วเหวินจวิน (ภรรยาของซือหม่าเซียงหรู) จุดโคมให้ท่าน - ถอดบทสนทนาจะละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> ตามซับไทย หากใครไม่ทราบเรื่องราวของซือหม่าเซียงหรูและจั๋วเหวินจวินคงจะไม่เข้าใจความนัยของบทสนทนาข้างต้นนี้ วันนี้เลยนำเรื่องราวของทั้งคู่มาเล่าให้ฟังอย่างย่อ ซือหม่าเซียงหรู (179-117 ปีก่อนคริสตกาล สมัยราชวงศ์ฮั่น) เป็นคนพื้นเพเสฉวน สันทัดด้านอักษรและดนตรีจนได้เป็นอาจารย์ ต่อมาเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อหาหนทางเข้ารับราชการ แต่ด้วยพื้นเพครอบครัวยากจนจึงไม่ได้รับความสนใจนัก สุดท้ายถอดใจอำลาเมืองหลวงไปอาศัยอยู่ที่เมืองหลิงฉยงตามคำชวนของสหายนามว่า ‘หวางจี๋’ เป็นผู้ว่าการเขตหลิงฉยง ที่หลิงฉยง ซือหม่าเซียงหรูแสร้งทำเป็นป่วย วันๆ ไม่ยอมพบใคร โดยมีหวางจี๋คอยไปเยี่ยมเยียนทุกวัน จนเกิดเป็นภาพลักษณ์ว่าซือหม่าเซียงหรูเป็นแขกพิเศษของหวางจี๋ ได้รับความสนใจจากผู้คนไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือคหบดีพ่อค้านามว่า ‘จั๋วหวางซุน’ เขามีลูกสาวคือจั๋วเหวินจวิน นางออกเรือนไปได้ไม่นานก็เป็นหม้ายจึงกลับมาอยู่กับบิดา ยามนั้นนางอายุเพียงสิบเจ็ด เลื่องชื่อด้วยโฉมงามและความสามารถด้านการดนตรีและโคลงกลอน อยู่มาวันหนึ่งจั๋วหวางซุนได้จัดงานเลี้ยงขึ้นโดยตั้งใจเชิญหวางจี๋และซือหม่าเซียงหรูมาเป็นแขก หวางจี๋ถึงขนาดไปเชิญซือหม่าเซียงหรูด้วยตนเอง เขาจึงยอมมาร่วมงาน และเพื่อเป็นการสนองการต้อนรับอันอบอุ่น เขาบรรเลงเพลงพิณ ‘หงส์วอนหาคู่’ การเล่นพิณครั้งนี้ ไม่ว่าเป็นแผนหรือไม่ แต่ผลก็คือจั๋วเหวินจวินที่มาแอบดูเขาที่หลังฉากและได้ยินเพลงพิณขอรักของเขาเข้าก็ตกหลุมรัก คืนนั้นนางหนีตามเขากลับไปเมืองหลวง ที่นั่นจั๋วเหวินจวินค้นพบความจริงแล้วว่าเขายากจนมาก บ้านของเขามีเพียงสี่ผนังที่ว่างเปล่า แต่นางก็ไม่ทิ้งเขา ใช้ชีวิตแบบกัดก้อนเกลือกินอยู่กับเขาโดยอาศัยเงินและเครื่องประดับที่นางพกติดตัวมา ส่วนจั๋วหวางซุนเมื่อได้ข่าวก็ทั้งอับอายทั้งเสียใจถึงกับตัดขาดไม่ยอมให้เงินช่วยเหลือลูกสาวแม้แต่แดงเดียว ต่อมาเงินหมด จั๋วเหวินจวินคิดแล้วว่าอยู่เมืองหลวงต่อไปก็ไม่มีหนทาง จึงชวนซือหม่าเซียงหรูกลับมาที่เมืองหลิงฉยง พวกเขาขายรถม้าซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายเพื่อเปิดร้านเหล้าเล็กๆ แห่งหนึ่งช่วยกันทำมาหากิน ทั้งสองทำงานหนักแต่ก็ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุข สุดท้ายจั๋วหวางซุนใจอ่อนจึงมอบเงินและบ่าวให้จำนวนไม่น้อยเป็นเงินรับขวัญเขยคนนี้ พอที่ทั้งสองจะกลับไปเมืองหลวงซื้อที่ดินและใช้ชีวิตได้อย่างคนมีอันจะกิน ในช่วงเวลานั้นเอง บทประพันธ์ ‘จื่อซวีฟู่’ ของซือหม่าเซียงหรูเป็นที่ชื่นชอบขององค์ฮั่นอู่ตี้ เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นขุนนางผู้ติดตามใกล้ชิด ต่อมาหน้าที่การงานยิ่งเจริญรุ่งเรืองกลายเป็นคนเนื้อหอม จึงเกิดความคิดที่จะรับอนุ แต่ต่อมาจั๋วเหวินจวินแต่งกลอนทำให้เขารำลึกถึงความหลังและเปลี่ยนความคิด (Storyฯ เคยคุยถึงเรื่อง ‘ลำนำผมขาว’ นี้ไปแล้ว ไปหาอ่านย้อนหลังนะคะ) ดังนั้น บทสนทนาละครเรื่อง <เทียบท้าปฐพี> ข้างต้น ไม่เพียงแต่แสดงเจตจำนงของเฟิ่งชีอู๋ที่จะยอมเป็นภรรยาของพระเอก หากแต่ยังสะท้อนถึงความนัยว่า นางยอมใช้ทุกสิ่งอย่างที่นางมีเพื่อช่วยสนับสนุนเขา ไม่ทิ้งไม่หนี จะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขไปตลอดโดยไม่แคร์ว่าผู้อื่นจะมองอย่างไร Storyฯ คิดว่านี่เป็นคำสวามิภักดิ์ที่จริงใจที่สุดเท่าที่สตรีนางหนึ่งจะมอบให้ชายใดได้แล้ว เพื่อนเพจคิดเหมือนกันไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://auete.com/Tv/wangju/qieshitianxia/ https://kknews.cc/zh-cn/entertainment/6ggbbpm.html https://kknews.cc/history/y39v3qk.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/卓文君/823759 http://history.sina.com.cn/his/zl/2014-09-29/1551102344_2.shtml http://www.renwugushi.com/qinhan/a1043.html https://www.gugong.net/wenhua/34904.html #เทียบท้าปฐพี #เฟิ่งชีอู๋ #จั๋วเหวินจวิน #ซือหม่าเซียงหรู #กวีเอกราชวงศ์ฮั่น
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เผยความคืบหน้าเหตุป่วนนราธิวาส ระบุผลพิสูจน์กระสุนปืนยิงชาวบ้านตากใบ 3 ศพ เกี่ยวโยงเหตุยิง 2 อส.ปี 67 และเหตุคาร์บอมบ์ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก ขณะที่เหตุยิงหญิงชราตาบอดเกี่ยวโยงเหตุยิงทหารพรานหญิงในตลาดจะแนะ ปี 67 และเหตุระเบิดกำแพงแฟลต สภ.โคกเคียนรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042343

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เผยความคืบหน้าเหตุป่วนนราธิวาส ระบุผลพิสูจน์กระสุนปืนยิงชาวบ้านตากใบ 3 ศพ เกี่ยวโยงเหตุยิง 2 อส.ปี 67 และเหตุคาร์บอมบ์ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก ขณะที่เหตุยิงหญิงชราตาบอดเกี่ยวโยงเหตุยิงทหารพรานหญิงในตลาดจะแนะ ปี 67 และเหตุระเบิดกำแพงแฟลต สภ.โคกเคียนรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042343 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกดีเอสไอ เผย การประชุม 3 วาระสำคัญคืบหน้าตึก สตง. ถล่ม เตรียมสรุปสำนวน "นอมินี" บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ให้ชั้นอัยการ ภายใน 20 วัน - ส่วน "บิงลิง วู" อยู่ระหว่างขยายผล

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042346

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    โฆษกดีเอสไอ เผย การประชุม 3 วาระสำคัญคืบหน้าตึก สตง. ถล่ม เตรียมสรุปสำนวน "นอมินี" บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ให้ชั้นอัยการ ภายใน 20 วัน - ส่วน "บิงลิง วู" อยู่ระหว่างขยายผล อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042346 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอากาศส่ง F-16 สองลำบินผ่านเหนือฟ้าเมืองกาญจน์ ป้องน่านฟ้าไทย หลังพบเครื่องบิน K-8 ของพม่าบินเข้าใช้ชายแดนบ้านทิกิ ตรงข้ามช่องทางด่านพุน้ำร้อน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042321

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กองทัพอากาศส่ง F-16 สองลำบินผ่านเหนือฟ้าเมืองกาญจน์ ป้องน่านฟ้าไทย หลังพบเครื่องบิน K-8 ของพม่าบินเข้าใช้ชายแดนบ้านทิกิ ตรงข้ามช่องทางด่านพุน้ำร้อน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042321 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • เ(สื่อ)มตัวแม่ แซะคนคอมเมนท์เป็น io ปรากฏ เป็นคู่ชีวิตตัวจริงของเจ้าหน้าที่ขาขาดจากภารกิจชายแดนใต้ เ(สื่อ)มที่คุยกับคนไทยเหมือนฝ่ายตรงข้าม แต่วางตัวกับBRN เหมือนครอบครัว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #เสื่อมมวลชนหิวแสง
    เ(สื่อ)มตัวแม่ แซะคนคอมเมนท์เป็น io ปรากฏ เป็นคู่ชีวิตตัวจริงของเจ้าหน้าที่ขาขาดจากภารกิจชายแดนใต้ เ(สื่อ)มที่คุยกับคนไทยเหมือนฝ่ายตรงข้าม แต่วางตัวกับBRN เหมือนครอบครัว #คิงส์โพธิ์แดง #เสื่อมมวลชนหิวแสง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ภูมิธรรม" ลั่น! หยุดเข่นฆ่าก่อนคุยใต้ ย้ำรัฐบาลพร้อมเจรจา แต่ไม่ยอมรับแบ่งแยกดินแดน
    https://www.thai-tai.tv/news/18529/
    "ภูมิธรรม" ลั่น! หยุดเข่นฆ่าก่อนคุยใต้ ย้ำรัฐบาลพร้อมเจรจา แต่ไม่ยอมรับแบ่งแยกดินแดน https://www.thai-tai.tv/news/18529/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • เตรียมคืนหนี้หุ้นกู้ แรงส่งEA (06/05/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #หุ้น #ตลาดหุ้น
    เตรียมคืนหนี้หุ้นกู้ แรงส่งEA (06/05/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #หุ้น #ตลาดหุ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • "อุ๊งอิ๊ง" สอบตกปราบคอลล์เซ็นเตอร์! ได้เยือนถึงถิ่นฮุนเซน แต่ไม่กล้ากระซิบเรื่องแก๊งคอลล์ ปล่อยให้คนไทยโดนหลอก ซ้ำซาก จากปอยเปต

    #อิ๊งสอบตกปราบคอลล์เซ็นเตอร์ #ปราบคอลล์เซ็นเตอร์ #แก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ปรอยเปรต #แพทองธารชินวัตร #ทักษิณชินวัตร #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    "อุ๊งอิ๊ง" สอบตกปราบคอลล์เซ็นเตอร์! ได้เยือนถึงถิ่นฮุนเซน แต่ไม่กล้ากระซิบเรื่องแก๊งคอลล์ ปล่อยให้คนไทยโดนหลอก ซ้ำซาก จากปอยเปต #อิ๊งสอบตกปราบคอลล์เซ็นเตอร์ #ปราบคอลล์เซ็นเตอร์ #แก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ปรอยเปรต #แพทองธารชินวัตร #ทักษิณชินวัตร #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • รีโนเวทรัฐสภา 'เพื่อไทย' อยากใช้เงิน 'ประชาชน' ขวางสุดตัว
    .
    การขุดคุ้ยการใช้งบประมาณของฝ่ายนิติบัญญัติในเวลานี้ ถือว่าเข้มข้นไม่แพ้กับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยล่าสุดพรรคประชาชน นำโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เปิดเผยข้อมูลการขอรับงบประมาณของสภาเพื่อปรับปรุงอาคารสถานที่ที่มีมากถึง 15 รายการ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042175

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รีโนเวทรัฐสภา 'เพื่อไทย' อยากใช้เงิน 'ประชาชน' ขวางสุดตัว . การขุดคุ้ยการใช้งบประมาณของฝ่ายนิติบัญญัติในเวลานี้ ถือว่าเข้มข้นไม่แพ้กับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยล่าสุดพรรคประชาชน นำโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เปิดเผยข้อมูลการขอรับงบประมาณของสภาเพื่อปรับปรุงอาคารสถานที่ที่มีมากถึง 15 รายการ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042175 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปมร้อนข่าวลึก : จีนเทาปล้นจีนเทา ตำรวจ สตม.คนกลาง ส่องานเข้า ติดร่างแห
    .
    ตำรวจ สตม. ส่องานเข้า ด้วยน้ำมือจีนเทา ที่บุกมาฝังตัวในไทย เป็นคดีความขึ้นมา เมื่อมีหญิงชาวเมียนมา ชื่อ น.ส.อินชันดา จอ เข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเดือน มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042151

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปมร้อนข่าวลึก : จีนเทาปล้นจีนเทา ตำรวจ สตม.คนกลาง ส่องานเข้า ติดร่างแห . ตำรวจ สตม. ส่องานเข้า ด้วยน้ำมือจีนเทา ที่บุกมาฝังตัวในไทย เป็นคดีความขึ้นมา เมื่อมีหญิงชาวเมียนมา ชื่อ น.ส.อินชันดา จอ เข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเดือน มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042151 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยอมรับว่าเขามีความตั้งใจปรับลดมาตรการรีดภาษีที่กำหนดเล่นงานสินค้านำเข้าจากจีน ในช่วงใดช่วงหนึ่ง เนื่องจากเพดานภาษีในตอนนี้นั้นสูงมากเสียจน ทำให้ 2 ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก จำเป็นต้องหยุดทำธุรกิจระหว่างกันไปโดยปริยาย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042111

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยอมรับว่าเขามีความตั้งใจปรับลดมาตรการรีดภาษีที่กำหนดเล่นงานสินค้านำเข้าจากจีน ในช่วงใดช่วงหนึ่ง เนื่องจากเพดานภาษีในตอนนี้นั้นสูงมากเสียจน ทำให้ 2 ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก จำเป็นต้องหยุดทำธุรกิจระหว่างกันไปโดยปริยาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042111 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • JPMorgan Chase ได้ใช้ AI เพื่อเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน โดย AI ช่วยให้ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น และ จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ในช่วงเดือนเมษายน 2025 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนสูงจาก ประกาศภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดลดลงหลายล้านล้านดอลลาร์ นักลงทุนจำนวนมากต้องการคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงิน และ AI ของ JPMorgan สามารถ ดึงข้อมูลการซื้อขายของลูกค้าและคาดการณ์คำถามที่อาจเกิดขึ้น ได้อย่างรวดเร็ว

    นอกจากนี้ JPMorgan ยังมี Coach AI ซึ่งช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95% ทำให้สามารถใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น

    ✅ AI ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า
    - ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น
    - AI ช่วย จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ Coach AI ช่วยให้ที่ปรึกษาค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้น
    - ค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95%
    - ช่วยให้ที่ปรึกษา ใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น

    ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ JPMorgan
    - ยอดขายเพิ่มขึ้น 20% ระหว่างปี 2023-2024
    - AI ช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถ ขยายฐานลูกค้าได้ 50% ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า

    ✅ งบประมาณด้านเทคโนโลยีของ JPMorgan
    - มีงบประมาณด้านเทคโนโลยี 17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024
    - คาดว่าจะเพิ่มการใช้ AI จาก 450 กรณีเป็น 1,000 กรณีในปีหน้า

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/jpmorgan-says-ai-helped-boost-sales-add-clients-in-market-turmoil
    JPMorgan Chase ได้ใช้ AI เพื่อเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน โดย AI ช่วยให้ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น และ จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในช่วงเดือนเมษายน 2025 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวนสูงจาก ประกาศภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้มูลค่าตลาดลดลงหลายล้านล้านดอลลาร์ นักลงทุนจำนวนมากต้องการคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงิน และ AI ของ JPMorgan สามารถ ดึงข้อมูลการซื้อขายของลูกค้าและคาดการณ์คำถามที่อาจเกิดขึ้น ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ JPMorgan ยังมี Coach AI ซึ่งช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95% ทำให้สามารถใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น ✅ AI ช่วยเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า - ที่ปรึกษาทางการเงินสามารถ ให้คำแนะนำด้านการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น - AI ช่วย จัดการคำขอจากลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ Coach AI ช่วยให้ที่ปรึกษาค้นหาข้อมูลได้เร็วขึ้น - ค้นหาข้อมูลและงานวิจัยได้เร็วขึ้นถึง 95% - ช่วยให้ที่ปรึกษา ใช้เวลาในการพูดคุยกับลูกค้าได้มากขึ้น ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจของ JPMorgan - ยอดขายเพิ่มขึ้น 20% ระหว่างปี 2023-2024 - AI ช่วยให้ที่ปรึกษาสามารถ ขยายฐานลูกค้าได้ 50% ในอีก 3-5 ปีข้างหน้า ✅ งบประมาณด้านเทคโนโลยีของ JPMorgan - มีงบประมาณด้านเทคโนโลยี 17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 - คาดว่าจะเพิ่มการใช้ AI จาก 450 กรณีเป็น 1,000 กรณีในปีหน้า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/jpmorgan-says-ai-helped-boost-sales-add-clients-in-market-turmoil
    WWW.THESTAR.COM.MY
    JPMorgan says AI helped boost sales, add clients in market turmoil
    NEW YORK (Reuters) -JPMorgan Chase's artificial-intelligence tools enabled it to boost sales to wealthy clients and manage scores of requests from worried customers even during April's market rout, the bank's CEO of asset and wealth management said.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปากีสถานทำการทดสอบขีปนาวุธเป็นครั้งที่ 2 และอินเดียสั่งฝึกซ้อมปกป้องพลเรือน ท่ามกลางเหตุเผชิญหน้าที่ลุกลามบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆระหว่าง 2 ชาติ เกี่ยวกับพื้นที่พิพาทแคชเมียร์ ที่ทางสหประชาชาติเตือนในวันจันทร์(5พ.ค.) ว่ากำลังลากทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ขอบเหวแห่งสงคราม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042110

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปากีสถานทำการทดสอบขีปนาวุธเป็นครั้งที่ 2 และอินเดียสั่งฝึกซ้อมปกป้องพลเรือน ท่ามกลางเหตุเผชิญหน้าที่ลุกลามบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆระหว่าง 2 ชาติ เกี่ยวกับพื้นที่พิพาทแคชเมียร์ ที่ทางสหประชาชาติเตือนในวันจันทร์(5พ.ค.) ว่ากำลังลากทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ขอบเหวแห่งสงคราม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042110 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน แถลงวันอาทิตย์ (4 พ.ค) ครบรอบ 25 ปีปกครองรัสเซีย ตั้งความหวัง มอสโกไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตียูเครน กลายเป็นผู้นำคนที่ 2 ที่อยู่ในอำนาจยาวนานที่สุดต่อจากสตาร์ลิน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042105

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ประธานาบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน แถลงวันอาทิตย์ (4 พ.ค) ครบรอบ 25 ปีปกครองรัสเซีย ตั้งความหวัง มอสโกไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตียูเครน กลายเป็นผู้นำคนที่ 2 ที่อยู่ในอำนาจยาวนานที่สุดต่อจากสตาร์ลิน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042105 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลอนุมัติแผนขยายปฏิบัติการทางทหารในกาซา ซึ่งครอบคลุมการ “ยึดครอง” ดินแดนนี้ทั้งหมด ขณะที่ผู้บัญชาการกองทัพยิวเรียกทหารกองหนุนนับหมื่นเข้าร่วมปฏิบัติการใหม่ ด้านฮูตีขู่ปิดล้อมทางอากาศอย่างครอบคลุมต่ออิสราเอลและโจมตีสนามบินซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเบนกูเรียน เพื่อตอบโต้แผนการล่าสุดของอิสราเอลในกาซา พร้อมเตือนสายการบินระหว่างประเทศทั้งหมดให้ยกเลิกเที่ยวบินไปยังอิสราเอล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042103

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    อิสราเอลอนุมัติแผนขยายปฏิบัติการทางทหารในกาซา ซึ่งครอบคลุมการ “ยึดครอง” ดินแดนนี้ทั้งหมด ขณะที่ผู้บัญชาการกองทัพยิวเรียกทหารกองหนุนนับหมื่นเข้าร่วมปฏิบัติการใหม่ ด้านฮูตีขู่ปิดล้อมทางอากาศอย่างครอบคลุมต่ออิสราเอลและโจมตีสนามบินซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเบนกูเรียน เพื่อตอบโต้แผนการล่าสุดของอิสราเอลในกาซา พร้อมเตือนสายการบินระหว่างประเทศทั้งหมดให้ยกเลิกเที่ยวบินไปยังอิสราเอล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042103 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหล่งข่าวดีเอสไอ เผย ส่งพยานหลักฐานที่รวบรวมมา ทั้ง "การสอบปากคำ-วิเคราะห์ข้อมูล-ความสัมพันธ์-เส้นทางการเงิน" ให้ กกต. พิจารณาคดีฮั้ว สว. ตามอำนาจหน้าที่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042048

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    แหล่งข่าวดีเอสไอ เผย ส่งพยานหลักฐานที่รวบรวมมา ทั้ง "การสอบปากคำ-วิเคราะห์ข้อมูล-ความสัมพันธ์-เส้นทางการเงิน" ให้ กกต. พิจารณาคดีฮั้ว สว. ตามอำนาจหน้าที่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042048 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดีเอสไอ" เชิญผู้จัดการบริษัท 3117 บิม เมเนจเม้นท์ฯ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการควบคุมงานก่อสร้าง ช่วยวิเคราะห์ปมตึก สตง.ถล่ม ชี้พิรุธเพียบ เริ่มสัญญาไป 501 วัน แล้วเสนอแก้แบบลดเสาเข็มงานชั้นใต้ดิน เชื่อจุดวิบัติอยู่ที่การแก้ครั้งที่ 4 ปรับผนังปล่องลิฟต์ แถมล็อกสเปกขนาดช่องลิฟต์ เพื่อเอายี่ห้อที่ผู้รับจ้างเลือกไว้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042033

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ดีเอสไอ" เชิญผู้จัดการบริษัท 3117 บิม เมเนจเม้นท์ฯ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการควบคุมงานก่อสร้าง ช่วยวิเคราะห์ปมตึก สตง.ถล่ม ชี้พิรุธเพียบ เริ่มสัญญาไป 501 วัน แล้วเสนอแก้แบบลดเสาเข็มงานชั้นใต้ดิน เชื่อจุดวิบัติอยู่ที่การแก้ครั้งที่ 4 ปรับผนังปล่องลิฟต์ แถมล็อกสเปกขนาดช่องลิฟต์ เพื่อเอายี่ห้อที่ผู้รับจ้างเลือกไว้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042033 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อนุสรณ์” เย้ย “พิธา” ประกาศอีก 9 ปีจะกลับมาเป็นนายกฯ ที่ดีที่สุดของประเทศไทย แค่พูดไปบนเวที ชี้การเมืองไม่ได้ถูกแช่แข็งเพื่อรอใคร มองถึงวันนั้นบริบทและสถานการณ์การเมืองอาจเปลี่ยนไปก็ได้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042026

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “อนุสรณ์” เย้ย “พิธา” ประกาศอีก 9 ปีจะกลับมาเป็นนายกฯ ที่ดีที่สุดของประเทศไทย แค่พูดไปบนเวที ชี้การเมืองไม่ได้ถูกแช่แข็งเพื่อรอใคร มองถึงวันนั้นบริบทและสถานการณ์การเมืองอาจเปลี่ยนไปก็ได้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000042026 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • Storyฯ เพิ่งได้มีโอกาสดูละครเรื่อง <ร้อยรักปักดวงใจ> ซึ่งเป็นเรื่องราวสมัยราชวงศ์หมิง สิ่งที่สะดุดตามากคือท่าทำความเคารพ รู้สึกว่าทำออกมาได้ดีมากในหลายฉาก วันนี้เลยมาคุยให้ฟังกันสั้นๆ

    ฉากที่สะดุดตา Storyฯ มากคือฉากพิธีกราบไหว้ฟ้าดินของพระเอกนางเอก ลักษณะการคำนับคือยกมือขึ้นประสานทับกันระดับหน้าอกโดยฝ่ามือหันเข้าหาตัว จากนั้นดันมือออกไปให้ห่างตัวพร้อมกับค้อมตัวลง (ดูรูปประกอบ)

    การโค้งคำนับแบบนี้มีชื่อเรียกค่ะ คือ ‘จั๊วอี๊’ (作揖)

    จั๊วอี๊เป็นการคำนับอย่างเป็นทางการโดยไม่คุกเข่าลง ด้วยการยกมือขึ้นแบบที่กล่าวมาข้างต้น (อาจวางมือทาบซ้อนกันหรือกุมมือก็ได้) หากเป็นชายจะเป็นมือซ้ายทับมือขวา และหากเป็นหญิงจะเป็นขวาทับซ้าย (สังเกตเปรียบเทียบได้จากรูป) จากนั้นก้มหลังตรงจากเอวลงมาพร้อมกับดันมือออกไปข้างหน้าเล็กน้อย

    ในบันทึกทางพิธีการสมัยราชวงศ์โจว (1050-256 ปีก่อนคริสตกาล) มีการจำแนกจั๊วอี๊ออกเป็นอีกหลายลักษณะ คือ
    - ‘ถู่อี๊’ (土揖) คือการโค้งเล็กน้อย (ประมาณ 30 องศา) แล้วมือโน้มลงต่ำเล็กน้อย เป็นการเคารพคนที่มีอาวุโสน้อยกว่าหรือศักดิ์ด้อยกว่า;
    - ‘สืออี๊’(時揖) คือการโค้งต่ำ (ประมาณ 60 องศา) โดยที่ระดับมือยังอยู่ที่หน้าอก เป็นการเคารพคนที่อาวุโสกว่า;
    - ‘เทียนอี๊’(天揖) คือการโค้งเล็กน้อย (ประมาณ 30 องศา) และมือยกขึ้นสูงเล็กน้อย เป็นการเคารพคนที่เสมอศักดิ์;
    - ‘เท่ออี๊’ (特揖) คือคำนับอีกฝ่ายทีละคนแทนที่จะคำนับครั้งเดียวต่อคนทั้งกลุ่ม;
    - ‘หลี่ว์อี๊’(旅揖) คือคำนับในแบบที่แตกต่างกันตามศักดิ์ของฝ่ายตรงข้าม;
    - ‘ผางซานอี๊’(旁三揖) คือการคำนับสามครั้งต่อคนทั้งกลุ่ม; และ
    - ‘ฉางอี๊’ (长揖) คือการคำนับแบบโค้งตัวลงต่ำมาก มือยืดออกไปมากขึ้นและยกขึ้นสูง เป็นการเคารพแบบสูงสุดของการทำจั๊วอี๊ แต่ยังเทียบไม่ได้กับการคุกเข่าคำนับ จึงมีวลีที่ว่า ‘ฉางอี๊ปู๋ไป้’ (长揖不拜) อันหมายถึงการแสดงความทะนงตนด้วยการเคารพนอบน้อมแต่ไม่ยอมคุกเข่าให้

    แต่ในกรณีที่เป็นการทำความเคารพในงานศพจะสลับมือกัน คือเป็นขวาทับซ้ายสำหรับชาย และซ้ายทับขวาสำหรับหญิงแทน

    จริงๆ แล้วตามบันทึกและภาพวาดทางประวัติศาสตร์กลับไม่ค่อยปรากฏสตรีมีการทำจั๊วอี๊สักเท่าไหร่ โดยเฉพาะตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังลงมา แล้วผู้หญิงเขาทำความเคารพอย่างไร? ในละครเรื่องเดียวกันจะเห็นผู้หญิงกำมือวางซ้อนกัน (ขวาบนซ้ายล่าง) อยู่ระดับเอวแล้วย่อตัวลงเล็กน้อย (ดูรูปประกอบ) ท่านี้เรียกว่า ‘ว่านฝู’ (万福) ซึ่งใช้ปกติทั่วไปในยุคสมัยหมิงยกเว้นกรณีที่เป็นทางการอย่างยิ่ง อย่างเช่นในเรื่อง <ร้อยรักปักดวงใจ> ที่นางเอกทำจั๊วอี๊ในพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน

    ทั้งจั๊วอี๊และว่านฝูที่กล่าวมาข้างต้นเป็นการทำความเคารพแบบของชาวจีนเชื้อสายฮั่น ไม่ใช่แมนจู ดังนั้นเพื่อนเพจที่ดูละครสมัยราชวงศ์ชิงจะไม่เห็นท่าทำความเคารพแบบนี้แม้ว่าในสมัยชิงจะมีท่าทำความเคารพที่เรียกว่าว่านฝูเหมือนกัน

    เขียนเพิ่มเมื่อวันที่ 11/6: ท่าทำความเคารพของจั๊วอี๊ที่ถูกต้องคือประสานมือก่อนแล้วค่อยดันมือออกไป (เหมือนที่ Storyฯ ได้บรรยายภาพที่เห็นในละครนะคะ ไม่ใช่กางแขนออกแล้วประสานไว้ไกลๆ เป็นวงใหญ่) อันนี้เป็นนัยว่าเรากำลังยื่นมือออกไปเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายเปิดใจกับเราและเรากำลังเปิดใจให้กับเขา

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://today.line.me/tw/v2/article/l5nNxB
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.hk/item/%E4%BD%9C%E6%8F%96/6203317
    https://kknews.cc/history/4lyoojx.html
    https://new.qq.com/omn/20190803/20190803A08S2B00.html
    https://www.newton.com.tw/wiki/%E4%BD%9C%E6%8F%96

    #จั๊วอี๊ #จัวอี #การคำนับแบบจีน #ว่านฝู #ราชวงศ์หมิง
    Storyฯ เพิ่งได้มีโอกาสดูละครเรื่อง <ร้อยรักปักดวงใจ> ซึ่งเป็นเรื่องราวสมัยราชวงศ์หมิง สิ่งที่สะดุดตามากคือท่าทำความเคารพ รู้สึกว่าทำออกมาได้ดีมากในหลายฉาก วันนี้เลยมาคุยให้ฟังกันสั้นๆ ฉากที่สะดุดตา Storyฯ มากคือฉากพิธีกราบไหว้ฟ้าดินของพระเอกนางเอก ลักษณะการคำนับคือยกมือขึ้นประสานทับกันระดับหน้าอกโดยฝ่ามือหันเข้าหาตัว จากนั้นดันมือออกไปให้ห่างตัวพร้อมกับค้อมตัวลง (ดูรูปประกอบ) การโค้งคำนับแบบนี้มีชื่อเรียกค่ะ คือ ‘จั๊วอี๊’ (作揖) จั๊วอี๊เป็นการคำนับอย่างเป็นทางการโดยไม่คุกเข่าลง ด้วยการยกมือขึ้นแบบที่กล่าวมาข้างต้น (อาจวางมือทาบซ้อนกันหรือกุมมือก็ได้) หากเป็นชายจะเป็นมือซ้ายทับมือขวา และหากเป็นหญิงจะเป็นขวาทับซ้าย (สังเกตเปรียบเทียบได้จากรูป) จากนั้นก้มหลังตรงจากเอวลงมาพร้อมกับดันมือออกไปข้างหน้าเล็กน้อย ในบันทึกทางพิธีการสมัยราชวงศ์โจว (1050-256 ปีก่อนคริสตกาล) มีการจำแนกจั๊วอี๊ออกเป็นอีกหลายลักษณะ คือ - ‘ถู่อี๊’ (土揖) คือการโค้งเล็กน้อย (ประมาณ 30 องศา) แล้วมือโน้มลงต่ำเล็กน้อย เป็นการเคารพคนที่มีอาวุโสน้อยกว่าหรือศักดิ์ด้อยกว่า; - ‘สืออี๊’(時揖) คือการโค้งต่ำ (ประมาณ 60 องศา) โดยที่ระดับมือยังอยู่ที่หน้าอก เป็นการเคารพคนที่อาวุโสกว่า; - ‘เทียนอี๊’(天揖) คือการโค้งเล็กน้อย (ประมาณ 30 องศา) และมือยกขึ้นสูงเล็กน้อย เป็นการเคารพคนที่เสมอศักดิ์; - ‘เท่ออี๊’ (特揖) คือคำนับอีกฝ่ายทีละคนแทนที่จะคำนับครั้งเดียวต่อคนทั้งกลุ่ม; - ‘หลี่ว์อี๊’(旅揖) คือคำนับในแบบที่แตกต่างกันตามศักดิ์ของฝ่ายตรงข้าม; - ‘ผางซานอี๊’(旁三揖) คือการคำนับสามครั้งต่อคนทั้งกลุ่ม; และ - ‘ฉางอี๊’ (长揖) คือการคำนับแบบโค้งตัวลงต่ำมาก มือยืดออกไปมากขึ้นและยกขึ้นสูง เป็นการเคารพแบบสูงสุดของการทำจั๊วอี๊ แต่ยังเทียบไม่ได้กับการคุกเข่าคำนับ จึงมีวลีที่ว่า ‘ฉางอี๊ปู๋ไป้’ (长揖不拜) อันหมายถึงการแสดงความทะนงตนด้วยการเคารพนอบน้อมแต่ไม่ยอมคุกเข่าให้ แต่ในกรณีที่เป็นการทำความเคารพในงานศพจะสลับมือกัน คือเป็นขวาทับซ้ายสำหรับชาย และซ้ายทับขวาสำหรับหญิงแทน จริงๆ แล้วตามบันทึกและภาพวาดทางประวัติศาสตร์กลับไม่ค่อยปรากฏสตรีมีการทำจั๊วอี๊สักเท่าไหร่ โดยเฉพาะตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถังลงมา แล้วผู้หญิงเขาทำความเคารพอย่างไร? ในละครเรื่องเดียวกันจะเห็นผู้หญิงกำมือวางซ้อนกัน (ขวาบนซ้ายล่าง) อยู่ระดับเอวแล้วย่อตัวลงเล็กน้อย (ดูรูปประกอบ) ท่านี้เรียกว่า ‘ว่านฝู’ (万福) ซึ่งใช้ปกติทั่วไปในยุคสมัยหมิงยกเว้นกรณีที่เป็นทางการอย่างยิ่ง อย่างเช่นในเรื่อง <ร้อยรักปักดวงใจ> ที่นางเอกทำจั๊วอี๊ในพิธีกราบไหว้ฟ้าดิน ทั้งจั๊วอี๊และว่านฝูที่กล่าวมาข้างต้นเป็นการทำความเคารพแบบของชาวจีนเชื้อสายฮั่น ไม่ใช่แมนจู ดังนั้นเพื่อนเพจที่ดูละครสมัยราชวงศ์ชิงจะไม่เห็นท่าทำความเคารพแบบนี้แม้ว่าในสมัยชิงจะมีท่าทำความเคารพที่เรียกว่าว่านฝูเหมือนกัน เขียนเพิ่มเมื่อวันที่ 11/6: ท่าทำความเคารพของจั๊วอี๊ที่ถูกต้องคือประสานมือก่อนแล้วค่อยดันมือออกไป (เหมือนที่ Storyฯ ได้บรรยายภาพที่เห็นในละครนะคะ ไม่ใช่กางแขนออกแล้วประสานไว้ไกลๆ เป็นวงใหญ่) อันนี้เป็นนัยว่าเรากำลังยื่นมือออกไปเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายเปิดใจกับเราและเรากำลังเปิดใจให้กับเขา (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://today.line.me/tw/v2/article/l5nNxB Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.hk/item/%E4%BD%9C%E6%8F%96/6203317 https://kknews.cc/history/4lyoojx.html https://new.qq.com/omn/20190803/20190803A08S2B00.html https://www.newton.com.tw/wiki/%E4%BD%9C%E6%8F%96 #จั๊วอี๊ #จัวอี #การคำนับแบบจีน #ว่านฝู #ราชวงศ์หมิง
    TODAY.LINE.ME
    鍾漢良、譚松韻《錦心似玉》開播倒數,「庶女逆襲」超勵志,老夫少妻寵溺甜炸! | Bella儂儂 | LINE TODAY
    2020年許多陸劇都已就定位,目前正被排在待播的佇列,最近由鍾漢良、譚松韻主演的《錦心似玉》就已經邁入開播倒數,不過男主角從原本的宋威龍換角成鍾漢良,與女主角譚松韻配對卻被大家吐槽沒有CP感?大家就來看看這部戲還有什麼精彩亮點吧! 延伸閱讀:2020網友熱議6部陸劇推薦!甜寵神劇、懸疑推理、都市溫馨,每部讓人想一看再看 「庶女逆襲」劇情設定 source:#锦心似玉#-weibo 《錦心似玉》改編自紅遍中國網路的吱吱小說《庶女攻略》,「庶女逆襲」的安排,與唐嫣主演的《錦繡未央》、趙麗穎的《知否知否應是綠肥紅瘦》,劇情設定相同,女主角不再是天真無害的甜白傻,而是一步一步晉級打怪的「庶女逆襲」
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จุลพันธ์" เผย จัดทำรายละเอียดแจกเงินหมื่น เฟส 3 กลุ่มอายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน พร้อมแล้ว เป็นไปได้ คลังเสนอเข้า ครม.พรุ่งนี้ ย้ำเริ่มได้ช่วงไตรมาส 2 พ.ค.-มิ.ย.2568

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000041956

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "จุลพันธ์" เผย จัดทำรายละเอียดแจกเงินหมื่น เฟส 3 กลุ่มอายุ 16-20 ปี 2.7 ล้านคน พร้อมแล้ว เป็นไปได้ คลังเสนอเข้า ครม.พรุ่งนี้ ย้ำเริ่มได้ช่วงไตรมาส 2 พ.ค.-มิ.ย.2568 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000041956 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าฯ กทม.เผยคืบหน้ารื้อซากตึก สตง.ถล่ม คาดใช้เวลา 4 วัน จะสามารถเปิดพื้นที่ได้หมด ส่วนหน้าที่หลักคือการค้นหาผู้ที่ยังติดค้างเพื่อส่งคืนญาติ พร้อมให้ความร่วมมือเก็บหลักฐานเต็มที่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000041952

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผู้ว่าฯ กทม.เผยคืบหน้ารื้อซากตึก สตง.ถล่ม คาดใช้เวลา 4 วัน จะสามารถเปิดพื้นที่ได้หมด ส่วนหน้าที่หลักคือการค้นหาผู้ที่ยังติดค้างเพื่อส่งคืนญาติ พร้อมให้ความร่วมมือเก็บหลักฐานเต็มที่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000041952 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts