• คณะบริหารไบเดนเสนอกรอบโครงใหม่จำกัดการส่งออกชิปเอไอ หวังสกัดจีน คู่แข่งตัวกลั่นในสงครามไฮเทค แต่กลับกลายเป็นการสร้างความกังวลในหมู่ผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศ ตลอดจนถึงอียู
    .
    ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียวก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พวกเจ้าหน้าที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุชัดเจนว่า กฎใหม่หล่านี้จะมีผลบังคับใช้ภายใน 120 วัน ดังนั้นจึงทำให้คณะบริหารของทรัมป์ต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะสานต่อหรือยกเลิกกรอบโครงเหล่านี้ที่จะส่งผลกระทบต่อ 120 ประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งเตือนว่า การระงับการใช้กฎนี้อาจเท่ากับเปิดโอกาสให้จีนมีเวลาสะสมมากขึ้นในการสะสมฮาร์ดแวร์ที่มาจากอเมริกา
    .
    เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวอ้างเมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค.) ว่า เดิมพันจะสูงมาก หากจีนกลายเป็นผู้กำหนดอนาคตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)
    .
    จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ขานรับว่า สิ่งสำคัญคือการรักษาความเป็นผู้นำของอเมริกาในด้านเอไอและการพัฒนาชิปเกี่ยวกับเอไอ และเสริมว่า กรอบโครงนี้ออกแบบมาเพื่อปกป้องเทคโนโลยีเอไอขั้นสูงสุด และให้ความมั่นใจว่า เทคโนโลยีนี้จะไม่ตกอยู่ในมือศัตรูต่างชาติ แต่ขณะเดียวกันจะสามารถเผยแพร่และแบ่งปันประโยชน์กับประเทศที่เป็นหุ้นส่วนของอเมริกา
    .
    แม้คณะบริหารชุดนี้ออกมาตรการจำกัดการส่งออกกับศัตรู เช่น จีนและรัสเซียไปแล้ว แต่พวกเขาอ้างว่าบางมาตรการยังมีช่องโหว่ และกฎล่าสุดมุ่งจะตั้งข้อจำกัดกับประเทศต่างๆ ในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น
    .
    ด้าน เอ็ด มิลส์ นักวิเคราะห์ของ เรย์มอนด์ เจมส์ ชี้ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับศูนย์ข้อมูลในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากบริษัทจีนใช้ศูนย์เหล่านั้นในการสร้างโมเดลเอไอด้วยเทคโนโลยีที่ตนเองไม่สามารถนำเข้าสู่จีนได้โดยตรง
    .
    อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่แล้ว สภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของอเมริกาเตือนไรมอนโดว่า การเร่งรีบใช้กฎใหม่ของคณะบริหารเดโมแครต อาจกลายเป็นการบ่อนทำลายห่วงโซ่อุปทานโลก และทำให้บริษัทอเมริกันเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
    .
    ต่อมาในวันจันทร์ สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอเมริกา (เอสไอเอ) แสดงความเห็นว่า ผิดหวังที่มีการเร่งรัดผลักดันนโยบายก่อนที่จะมีการเปลี่ยนผ่านคณะบริหาร
    .
    จอห์น นิวเฟอร์ ประธานและซีอีโอเอสไอเอ เตือนว่า กฎใหม่เสี่ยงทำให้เกิดความเสียหายยาวนานโดยไม่ตั้งใจกับเศรษฐกิจและขีดความสามารถแข่งขันระดับโลกของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และเอไอของอเมริกา เนื่องจากการทำเช่นนี้มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นการยกตลาดสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ให้แก่พวกคู่แข่ง
    .
    เอ็นวิเดีย บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ โพสต์บนบล็อก สำทับว่า แม้มีจุดประสงค์เพื่อต่อต้านจีน แต่มาตรการนี้ไม่ได้ช่วยส่งเสริมความมั่นคงของอเมริกาแต่อย่างใด
    .
    กฎใหม่นี้เนื้อหาสำคัญคือยกระดับการควบคุมการส่งออกชิป ด้วยการกำหนดให้ต้องมีการขออนุญาตสำหรับการส่งออก รวมทั้งการส่งออกต่อ และการถ่ายโอนภายในประเทศ ขณะที่ศูนย์ข้อมูลเอไอต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมมากขึ้นหากต้องการนำเข้าชิป รวมทั้งมีการเพิ่มความเข้มงวดในการแชร์โมเดลเอไอล้ำสมัย
    .
    กฎใหม่เหล่านี้มีข้อยกเว้นหลายอย่างสำหรับพันธมิตรและหุ้นส่วนสำคัญราว 20 ชาติ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอังกฤษ
    .
    อย่างไรก็ดี การตั้งข้อจำกัดกับบางประเทศในสหภาพยุโรป ทำให้เจ้าหน้าที่บรัสเซลส์ออกมาคัดค้านโดยระบุว่า การขายชิปเอไอขั้นสูงให้สมาชิกอียูถือเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับอเมริกา ไม่ใช่ความเสี่ยงด้านความมั่นคง
    .
    ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีนโยบายใหม่ของไบเดนว่า ละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศ พร้อมประกาศปกป้องผลประโยชน์ของชาติเต็มที่
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004280
    ..............
    Sondhi X
    คณะบริหารไบเดนเสนอกรอบโครงใหม่จำกัดการส่งออกชิปเอไอ หวังสกัดจีน คู่แข่งตัวกลั่นในสงครามไฮเทค แต่กลับกลายเป็นการสร้างความกังวลในหมู่ผู้บริหารในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศ ตลอดจนถึงอียู . ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงสัปดาห์เดียวก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พวกเจ้าหน้าที่คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระบุชัดเจนว่า กฎใหม่หล่านี้จะมีผลบังคับใช้ภายใน 120 วัน ดังนั้นจึงทำให้คณะบริหารของทรัมป์ต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่า จะสานต่อหรือยกเลิกกรอบโครงเหล่านี้ที่จะส่งผลกระทบต่อ 120 ประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งเตือนว่า การระงับการใช้กฎนี้อาจเท่ากับเปิดโอกาสให้จีนมีเวลาสะสมมากขึ้นในการสะสมฮาร์ดแวร์ที่มาจากอเมริกา . เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว กล่าวอ้างเมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค.) ว่า เดิมพันจะสูงมาก หากจีนกลายเป็นผู้กำหนดอนาคตของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) . จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ขานรับว่า สิ่งสำคัญคือการรักษาความเป็นผู้นำของอเมริกาในด้านเอไอและการพัฒนาชิปเกี่ยวกับเอไอ และเสริมว่า กรอบโครงนี้ออกแบบมาเพื่อปกป้องเทคโนโลยีเอไอขั้นสูงสุด และให้ความมั่นใจว่า เทคโนโลยีนี้จะไม่ตกอยู่ในมือศัตรูต่างชาติ แต่ขณะเดียวกันจะสามารถเผยแพร่และแบ่งปันประโยชน์กับประเทศที่เป็นหุ้นส่วนของอเมริกา . แม้คณะบริหารชุดนี้ออกมาตรการจำกัดการส่งออกกับศัตรู เช่น จีนและรัสเซียไปแล้ว แต่พวกเขาอ้างว่าบางมาตรการยังมีช่องโหว่ และกฎล่าสุดมุ่งจะตั้งข้อจำกัดกับประเทศต่างๆ ในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น . ด้าน เอ็ด มิลส์ นักวิเคราะห์ของ เรย์มอนด์ เจมส์ ชี้ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับศูนย์ข้อมูลในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากบริษัทจีนใช้ศูนย์เหล่านั้นในการสร้างโมเดลเอไอด้วยเทคโนโลยีที่ตนเองไม่สามารถนำเข้าสู่จีนได้โดยตรง . อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่แล้ว สภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของอเมริกาเตือนไรมอนโดว่า การเร่งรีบใช้กฎใหม่ของคณะบริหารเดโมแครต อาจกลายเป็นการบ่อนทำลายห่วงโซ่อุปทานโลก และทำให้บริษัทอเมริกันเป็นฝ่ายเสียเปรียบ . ต่อมาในวันจันทร์ สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของอเมริกา (เอสไอเอ) แสดงความเห็นว่า ผิดหวังที่มีการเร่งรัดผลักดันนโยบายก่อนที่จะมีการเปลี่ยนผ่านคณะบริหาร . จอห์น นิวเฟอร์ ประธานและซีอีโอเอสไอเอ เตือนว่า กฎใหม่เสี่ยงทำให้เกิดความเสียหายยาวนานโดยไม่ตั้งใจกับเศรษฐกิจและขีดความสามารถแข่งขันระดับโลกของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และเอไอของอเมริกา เนื่องจากการทำเช่นนี้มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นการยกตลาดสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ให้แก่พวกคู่แข่ง . เอ็นวิเดีย บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ โพสต์บนบล็อก สำทับว่า แม้มีจุดประสงค์เพื่อต่อต้านจีน แต่มาตรการนี้ไม่ได้ช่วยส่งเสริมความมั่นคงของอเมริกาแต่อย่างใด . กฎใหม่นี้เนื้อหาสำคัญคือยกระดับการควบคุมการส่งออกชิป ด้วยการกำหนดให้ต้องมีการขออนุญาตสำหรับการส่งออก รวมทั้งการส่งออกต่อ และการถ่ายโอนภายในประเทศ ขณะที่ศูนย์ข้อมูลเอไอต้องปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุมมากขึ้นหากต้องการนำเข้าชิป รวมทั้งมีการเพิ่มความเข้มงวดในการแชร์โมเดลเอไอล้ำสมัย . กฎใหม่เหล่านี้มีข้อยกเว้นหลายอย่างสำหรับพันธมิตรและหุ้นส่วนสำคัญราว 20 ชาติ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอังกฤษ . อย่างไรก็ดี การตั้งข้อจำกัดกับบางประเทศในสหภาพยุโรป ทำให้เจ้าหน้าที่บรัสเซลส์ออกมาคัดค้านโดยระบุว่า การขายชิปเอไอขั้นสูงให้สมาชิกอียูถือเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับอเมริกา ไม่ใช่ความเสี่ยงด้านความมั่นคง . ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีนโยบายใหม่ของไบเดนว่า ละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศ พร้อมประกาศปกป้องผลประโยชน์ของชาติเต็มที่ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004280 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับการส่งออกชิปที่ประกาศโดยรัฐบาล Biden ว่าเป็นการกระทำที่ 'ผิดพลาด' และยกย่องแนวทางของอดีตประธานาธิบดี Trump ที่ไม่เข้มงวดต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี

    ข้อจำกัดใหม่ที่ประกาศในวันนี้มีผลกระทบอย่างมาก เนื่องจาก Biden จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ข้อบังคับใหม่นี้เรียกว่า "Interim Final Rule on Artificial Intelligence Diffusion" ซึ่งเพิ่มข้อจำกัดใหม่ที่บริษัทและประเทศต่างๆ ต้องปฏิบัติตาม

    Interim Final Rule on Artificial Intelligence Diffusion นี้มีข้อปฎิบัติที่เข้มงวดมากเช่น กำหนดรายชื่อประเทศที่ได้รับอนุญาต จำกัดจำนวน GPU ที่สามารถซื้อได้ จำกัดการส่งออกชิปที่มีพลังการคำนวณสูง ต้องผ่านการรับรอง "Universal Verified End User" (UVEU) เพื่อที่จะสามารถขายของ หรือครอบครองชิปจำนวนมาก

    Nvidia ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ข้อจำกัดใหม่ โดยกล่าวว่า "รัฐบาล Biden พยายามบ่อนทำลายความเป็นผู้นำของอเมริกาด้วยข้อบังคับที่ยาวกว่า 200 หน้า ซึ่งร่างขึ้นอย่างลับๆ และไม่มีการตรวจสอบทางกฎหมายอย่างเหมาะสม"

    ข้อบังคับใหม่นี้ไม่ใช่การกำหนดรายชื่อประเทศที่ถูกห้าม แต่เป็นการกำหนดรายชื่อประเทศที่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีเพียง 18 ประเทศพันธมิตรและคู่ค้าที่สำคัญเท่านั้นที่ได้รับการยกเว้น ข้อบังคับนี้ยังมีผลกระทบต่อบริษัทต่างๆ โดยกำหนดให้บริษัทต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของสหรัฐฯ และจำกัดจำนวน GPU ที่สามารถซื้อได้

    Nvidia ยังได้ยกย่องแนวทางของอดีตประธานาธิบดี Trump ที่ไม่เข้มงวดต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยกล่าวว่า "อเมริกาชนะด้วยนวัตกรรม การแข่งขัน และการแบ่งปันเทคโนโลยีของเรากับโลก ไม่ใช่ด้วยการถอยหลังไปอยู่หลังกำแพงของการควบคุมของรัฐบาล"

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-blasts-bidens-new-ai-restrictions-as-misguided-gpu-giant-praises-trumps-hands-off-approach-to-tech-industry
    Nvidia ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับการส่งออกชิปที่ประกาศโดยรัฐบาล Biden ว่าเป็นการกระทำที่ 'ผิดพลาด' และยกย่องแนวทางของอดีตประธานาธิบดี Trump ที่ไม่เข้มงวดต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี ข้อจำกัดใหม่ที่ประกาศในวันนี้มีผลกระทบอย่างมาก เนื่องจาก Biden จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ข้อบังคับใหม่นี้เรียกว่า "Interim Final Rule on Artificial Intelligence Diffusion" ซึ่งเพิ่มข้อจำกัดใหม่ที่บริษัทและประเทศต่างๆ ต้องปฏิบัติตาม Interim Final Rule on Artificial Intelligence Diffusion นี้มีข้อปฎิบัติที่เข้มงวดมากเช่น กำหนดรายชื่อประเทศที่ได้รับอนุญาต จำกัดจำนวน GPU ที่สามารถซื้อได้ จำกัดการส่งออกชิปที่มีพลังการคำนวณสูง ต้องผ่านการรับรอง "Universal Verified End User" (UVEU) เพื่อที่จะสามารถขายของ หรือครอบครองชิปจำนวนมาก Nvidia ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ข้อจำกัดใหม่ โดยกล่าวว่า "รัฐบาล Biden พยายามบ่อนทำลายความเป็นผู้นำของอเมริกาด้วยข้อบังคับที่ยาวกว่า 200 หน้า ซึ่งร่างขึ้นอย่างลับๆ และไม่มีการตรวจสอบทางกฎหมายอย่างเหมาะสม" ข้อบังคับใหม่นี้ไม่ใช่การกำหนดรายชื่อประเทศที่ถูกห้าม แต่เป็นการกำหนดรายชื่อประเทศที่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีเพียง 18 ประเทศพันธมิตรและคู่ค้าที่สำคัญเท่านั้นที่ได้รับการยกเว้น ข้อบังคับนี้ยังมีผลกระทบต่อบริษัทต่างๆ โดยกำหนดให้บริษัทต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของสหรัฐฯ และจำกัดจำนวน GPU ที่สามารถซื้อได้ Nvidia ยังได้ยกย่องแนวทางของอดีตประธานาธิบดี Trump ที่ไม่เข้มงวดต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยกล่าวว่า "อเมริกาชนะด้วยนวัตกรรม การแข่งขัน และการแบ่งปันเทคโนโลยีของเรากับโลก ไม่ใช่ด้วยการถอยหลังไปอยู่หลังกำแพงของการควบคุมของรัฐบาล" https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-blasts-bidens-new-ai-restrictions-as-misguided-gpu-giant-praises-trumps-hands-off-approach-to-tech-industry
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่ามกลางสงครามสื่อของตะวันตก ที่พยายามโจมตีจีนว่าเศรษฐกิจกำลังล่มสลาย

    แต่กลายเป็นว่าในปี 2024 ที่ผ่านมา "ดุลการค้า" ของจีน แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 992,000,000,000 ดอลลาร์ (เกือบหนึ่งล้านล้านดอลลาร์) ในปี 2024 หรือเพิ่มขึ้น 10.7%

    ข้อมูลจากศุลกากรจีนเปิดเผยว่า การส่งออกของจีนเมื่อสิ้นสุดเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 10.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโต 7.3%

    ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นเพียง 1.0%
    ท่ามกลางสงครามสื่อของตะวันตก ที่พยายามโจมตีจีนว่าเศรษฐกิจกำลังล่มสลาย แต่กลายเป็นว่าในปี 2024 ที่ผ่านมา "ดุลการค้า" ของจีน แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 992,000,000,000 ดอลลาร์ (เกือบหนึ่งล้านล้านดอลลาร์) ในปี 2024 หรือเพิ่มขึ้น 10.7% ข้อมูลจากศุลกากรจีนเปิดเผยว่า การส่งออกของจีนเมื่อสิ้นสุดเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 10.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโต 7.3% ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นเพียง 1.0%
    Like
    Love
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ขาย GPU รุ่น H20 ที่ถูกลดคุณสมบัติในประเทศจีนได้ดีเกินคาด โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 50% ทุกไตรมาส

    เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ Nvidia ไม่สามารถขายโปรเซสเซอร์ Hopper H100, H200, และ H800 ให้กับจีนได้โดยไม่มีใบอนุญาตส่งออกจากรัฐบาลสหรัฐฯ ดังนั้น Nvidia จึงขาย GPU รุ่น HGX H20 ที่ถูกลดคุณสมบัติให้กับลูกค้าในจีนแทน

    นักวิเคราะห์ Claus Aasholm ระบุว่า HGX H20 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ Nvidia โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่าธุรกิจ H100 ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นเพียง 25% ต่อไตรมาส การเติบโตของ AI ในจีนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในการส่งออกจากสหรัฐฯ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidias-defeatured-h20-gpus-in-china-sell-surprisingly-well-50-percent-increase-every-quarter-in-sanctions-compliant-gpus-for-chinese-ai-customers
    Nvidia ขาย GPU รุ่น H20 ที่ถูกลดคุณสมบัติในประเทศจีนได้ดีเกินคาด โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 50% ทุกไตรมาส เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ Nvidia ไม่สามารถขายโปรเซสเซอร์ Hopper H100, H200, และ H800 ให้กับจีนได้โดยไม่มีใบอนุญาตส่งออกจากรัฐบาลสหรัฐฯ ดังนั้น Nvidia จึงขาย GPU รุ่น HGX H20 ที่ถูกลดคุณสมบัติให้กับลูกค้าในจีนแทน นักวิเคราะห์ Claus Aasholm ระบุว่า HGX H20 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ Nvidia โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่าธุรกิจ H100 ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นเพียง 25% ต่อไตรมาส การเติบโตของ AI ในจีนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในการส่งออกจากสหรัฐฯ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidias-defeatured-h20-gpus-in-china-sell-surprisingly-well-50-percent-increase-every-quarter-in-sanctions-compliant-gpus-for-chinese-ai-customers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีสโลวาเกีย ประกาศตอบโต้ยูเครนขั้นรุนแรงทันทีด้วยการหยุดส่งน้ำมันดีเซลและไฟฟ้าให้ยูเครน หากวันที่ 1 มกราคม 2025 ยูเครนหยุดส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังสโลวาเกีย

    “หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจะหยุดจ่ายไฟฟ้าทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่ยูเครนจำเป็นต้องการในช่วงที่ไฟฟ้าดับ”

    ที่ผ่านมาสโลวาเกียให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครนด้วยการส่งออกน้ำมันดีเซลและไฟฟ้าไปยังเพื่อนบ้านมาตลอดตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนของปีนี้ สโลวาเกียส่งออกไฟฟ้าให้ยูเครนไปแล้ว 2.4 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมง(MW-H) ซึ่งเพิ่มขึ้น 152% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
    โรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีสโลวาเกีย ประกาศตอบโต้ยูเครนขั้นรุนแรงทันทีด้วยการหยุดส่งน้ำมันดีเซลและไฟฟ้าให้ยูเครน หากวันที่ 1 มกราคม 2025 ยูเครนหยุดส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังสโลวาเกีย “หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจะหยุดจ่ายไฟฟ้าทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่ยูเครนจำเป็นต้องการในช่วงที่ไฟฟ้าดับ” ที่ผ่านมาสโลวาเกียให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ยูเครนด้วยการส่งออกน้ำมันดีเซลและไฟฟ้าไปยังเพื่อนบ้านมาตลอดตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนของปีนี้ สโลวาเกียส่งออกไฟฟ้าให้ยูเครนไปแล้ว 2.4 ล้านเมกะวัตต์ชั่วโมง(MW-H) ซึ่งเพิ่มขึ้น 152% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไบเดนจองเวรไม่เลิก ประกาศเปิดการสอบสวนเซมิคอนดักเตอร์ “รุ่นเก่า” ของจีนในนาทีท้ายๆ ก่อนพ้นตำแหน่ง มุ่งปูทางคณะบริหารชุดใหม่ของทรัมป์รีดภาษี 60% ตามที่ขู่ไว้ ด้านปักกิ่งโต้วอชิงตันกีดกันการค้า ขณะที่องค์กรตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกาเตือนว่า การสอบสวนล่าสุดนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบสลับซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องอเมริกา “อย่าด่วนตัดสินล่วงหน้า”
    .
    แคทเธอลีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แถลงเมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ว่า การสอบสวนล่าสุดนี้มีเป้าหมายในการปกป้องคุ้มครองผู้ผลิตชิปของอเมริกาและชาติอื่นๆ จากซัปพลายชิปจำนวนมากมายมหาศาลซึ่งผลิตในจีนภายใต้การผลักดันของปักกิ่ง
    .
    การสอบสวนที่อิงกับอำนาจตาม “มาตรา 301” ของกฎหมายการค้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตราเดียวกับที่โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ในการขึ้นภาษีศุลกากรเอากับสินค้าจีนตอนที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกนั้น เกิดขึ้น 4 สัปดาห์ก่อนที่คณะบริหาร โจ ไบเดน จะหมดอำนาจ และทรัมป์จะได้หวนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว ในวันที่ 20 ม.ค.2025 โดยพวกเจ้าหน้าที่ของไบเดนเผยว่า จะส่งต่อการสอบสวนนี้ให้คณะบริหารชุดใหม่ดำเนินการต่อไป เป็นการปูทางให้ทรัมป์สามารถเริ่มเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มในอัตรา 60% จากชิปนำเข้าจากจีนตามที่เขาข่มขู่ไว้ก่อนหน้านี้
    .
    ก่อนหน้านี้ คณะบริหารของไบเดนเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มจากชิปจีนที่นำเข้าสหรัฐฯในอัตรา 50% มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีนี้ รวมทั้งยังยกระดับมาตรการจำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์และชิปหน่วยความจำขั้นสูง ตลอดจนถึงเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปไปยังแดนมังกรอีกด้วย
    .
    ทั้งนี้ ชิปรุ่นเก่า (Legacy chip) ใช้กระบวนการผลิตที่เริ่มต้นเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว และมักซับซ้อนน้อยกว่าชิปเอไอหรือชิปขั้นสูง กระนั้นก็เป็นชิปที่ยังคงมีใช้งานกันอยู่อย่างกว้างขวางทั่วไป
    .
    จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงสำทับเมื่อวันจันทร์ว่า งานวิจัยของกระทรวงพบว่า ผลิตภัณฑ์ของอเมริกา 2 ใน 3 ทีเดียวยังคงใช้ชิปรุ่นเก่าของจีน และบริษัทอเมริกันราว 50% ไม่รู้ที่มาของชิปที่ใช้ ในจำนวนนี้รวมถึงบริษัทในอุตสาหกรรมการทหาร เธอบอกว่าว่า ข้อมูลนี้น่ากังวลอย่างยิ่ง
    .
    ทางด้าน ไท่ เสริมว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ของเธอ พบหลักฐานว่า จีนกำลังพุ่งเป้ามาที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ด้วยความมุ่งหมายที่จะครอบงำโลก โดยหวังจะเปิดทางให้บริษัทจีนเพิ่มศักยภาพทางด้านนี้ได้อย่างรวดเร็ว และเสนอชิปราคาถูกเกินจริงที่อาจเป็นอันตรายหรือกำจัดการแข่งขันที่อิงกับตลาด เช่นเดียวกับที่เคยทำในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ และรถอีวีมาแล้ว
    .
    ในส่วนปฏิกิริยาของทางฝ่ายจีน กระทรวงพาณิชย์แดนมังกรออกคำแถลงตอบโต้ว่า การสอบสวนเช่นนี้ของอเมริกาคือพฤติการณ์การกีดกันการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง กระทั่งไปถึงพวกบริษัทอเมริกันเอง รวมถึงทำให้ห่วงโซ่อุปทานชิปโลกสะดุดติดขัด ทั้งนี้ ปักกิ่งจะตอบโต้ดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของประเทศ
    .
    ขณะที่ เจสัน ออกซ์แมน ประธานสภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เป็นตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกา ออกมาเตือนว่า การสอบสวนของวอชิงตันอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจโลกและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องให้ยูเอสทีอาร์ “อย่าด่วนมีคำตัดสินล่วงหน้า” แต่ควรดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรม
    .
    ปัจจุบัน พวกเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป เครื่องเล่นวิดีโอเกม และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคอื่นๆ ที่ไม่ใช่รุ่นล้ำยุค ยังคงใช้เซมิคอนดักเตอร์รุ่นเก่ากันอยู่มาก โดยที่สินค้าเหล่านี้ซึ่งจำหน่ายกันในอเมริกาส่วนใหญ่ก็ยังคงนำเข้าจากจีน
    .
    เจ้าหน้าที่คณะบริหารของไบเดนคนหนึ่งเปิดเผยว่า การสอบสวนล่าสุดนี้ ในเบื้องต้นจะโฟกัสที่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งรวมถึงขอบเขตการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์การแพทย์ รถ และผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมการทหาร
    .
    ทั้งนี้ ตามหมายเกี่ยวกับการสอบสวนคราวนี้ ของสำนักงานทะเบียนสหรัฐฯ ระบุว่า คณะบริหารไบเดนจะเริ่มต้นเปิดรับความเห็นต่างๆ ของสาธารณชนเกี่ยวกับการสอบสวนนี้ในวันที่ 6 มกราคม และวางแผนจัดการไต่สวนสาธารณะขึ้นในวันที่ 11-12 มีนาคม โดยที่การสอบสวนมีกำหนดเสร็จสิ้นภายในเวลา 1 ปี
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123559
    ..............
    Sondhi X
    ไบเดนจองเวรไม่เลิก ประกาศเปิดการสอบสวนเซมิคอนดักเตอร์ “รุ่นเก่า” ของจีนในนาทีท้ายๆ ก่อนพ้นตำแหน่ง มุ่งปูทางคณะบริหารชุดใหม่ของทรัมป์รีดภาษี 60% ตามที่ขู่ไว้ ด้านปักกิ่งโต้วอชิงตันกีดกันการค้า ขณะที่องค์กรตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกาเตือนว่า การสอบสวนล่าสุดนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบสลับซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องอเมริกา “อย่าด่วนตัดสินล่วงหน้า” . แคทเธอลีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แถลงเมื่อวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ว่า การสอบสวนล่าสุดนี้มีเป้าหมายในการปกป้องคุ้มครองผู้ผลิตชิปของอเมริกาและชาติอื่นๆ จากซัปพลายชิปจำนวนมากมายมหาศาลซึ่งผลิตในจีนภายใต้การผลักดันของปักกิ่ง . การสอบสวนที่อิงกับอำนาจตาม “มาตรา 301” ของกฎหมายการค้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมาตราเดียวกับที่โดนัลด์ ทรัมป์ ใช้ในการขึ้นภาษีศุลกากรเอากับสินค้าจีนตอนที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกนั้น เกิดขึ้น 4 สัปดาห์ก่อนที่คณะบริหาร โจ ไบเดน จะหมดอำนาจ และทรัมป์จะได้หวนกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว ในวันที่ 20 ม.ค.2025 โดยพวกเจ้าหน้าที่ของไบเดนเผยว่า จะส่งต่อการสอบสวนนี้ให้คณะบริหารชุดใหม่ดำเนินการต่อไป เป็นการปูทางให้ทรัมป์สามารถเริ่มเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มในอัตรา 60% จากชิปนำเข้าจากจีนตามที่เขาข่มขู่ไว้ก่อนหน้านี้ . ก่อนหน้านี้ คณะบริหารของไบเดนเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มจากชิปจีนที่นำเข้าสหรัฐฯในอัตรา 50% มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปีนี้ รวมทั้งยังยกระดับมาตรการจำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์และชิปหน่วยความจำขั้นสูง ตลอดจนถึงเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปไปยังแดนมังกรอีกด้วย . ทั้งนี้ ชิปรุ่นเก่า (Legacy chip) ใช้กระบวนการผลิตที่เริ่มต้นเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว และมักซับซ้อนน้อยกว่าชิปเอไอหรือชิปขั้นสูง กระนั้นก็เป็นชิปที่ยังคงมีใช้งานกันอยู่อย่างกว้างขวางทั่วไป . จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ แถลงสำทับเมื่อวันจันทร์ว่า งานวิจัยของกระทรวงพบว่า ผลิตภัณฑ์ของอเมริกา 2 ใน 3 ทีเดียวยังคงใช้ชิปรุ่นเก่าของจีน และบริษัทอเมริกันราว 50% ไม่รู้ที่มาของชิปที่ใช้ ในจำนวนนี้รวมถึงบริษัทในอุตสาหกรรมการทหาร เธอบอกว่าว่า ข้อมูลนี้น่ากังวลอย่างยิ่ง . ทางด้าน ไท่ เสริมว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ของเธอ พบหลักฐานว่า จีนกำลังพุ่งเป้ามาที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ด้วยความมุ่งหมายที่จะครอบงำโลก โดยหวังจะเปิดทางให้บริษัทจีนเพิ่มศักยภาพทางด้านนี้ได้อย่างรวดเร็ว และเสนอชิปราคาถูกเกินจริงที่อาจเป็นอันตรายหรือกำจัดการแข่งขันที่อิงกับตลาด เช่นเดียวกับที่เคยทำในอุตสาหกรรมเหล็กกล้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ และรถอีวีมาแล้ว . ในส่วนปฏิกิริยาของทางฝ่ายจีน กระทรวงพาณิชย์แดนมังกรออกคำแถลงตอบโต้ว่า การสอบสวนเช่นนี้ของอเมริกาคือพฤติการณ์การกีดกันการค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง กระทั่งไปถึงพวกบริษัทอเมริกันเอง รวมถึงทำให้ห่วงโซ่อุปทานชิปโลกสะดุดติดขัด ทั้งนี้ ปักกิ่งจะตอบโต้ดำเนินมาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของประเทศ . ขณะที่ เจสัน ออกซ์แมน ประธานสภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่เป็นตัวแทนภาคเทคโนโลยีของอเมริกา ออกมาเตือนว่า การสอบสวนของวอชิงตันอาจทำให้เกิดผลกระทบที่ซับซ้อนและกว้างไกลต่อเศรษฐกิจโลกและห่วงโซ่อุปทานโลก พร้อมเรียกร้องให้ยูเอสทีอาร์ “อย่าด่วนมีคำตัดสินล่วงหน้า” แต่ควรดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรม . ปัจจุบัน พวกเครื่องโทรศัพท์สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์แล็ปท็อป เครื่องเล่นวิดีโอเกม และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคอื่นๆ ที่ไม่ใช่รุ่นล้ำยุค ยังคงใช้เซมิคอนดักเตอร์รุ่นเก่ากันอยู่มาก โดยที่สินค้าเหล่านี้ซึ่งจำหน่ายกันในอเมริกาส่วนใหญ่ก็ยังคงนำเข้าจากจีน . เจ้าหน้าที่คณะบริหารของไบเดนคนหนึ่งเปิดเผยว่า การสอบสวนล่าสุดนี้ ในเบื้องต้นจะโฟกัสที่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ซึ่งรวมถึงขอบเขตการนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์การแพทย์ รถ และผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมการทหาร . ทั้งนี้ ตามหมายเกี่ยวกับการสอบสวนคราวนี้ ของสำนักงานทะเบียนสหรัฐฯ ระบุว่า คณะบริหารไบเดนจะเริ่มต้นเปิดรับความเห็นต่างๆ ของสาธารณชนเกี่ยวกับการสอบสวนนี้ในวันที่ 6 มกราคม และวางแผนจัดการไต่สวนสาธารณะขึ้นในวันที่ 11-12 มีนาคม โดยที่การสอบสวนมีกำหนดเสร็จสิ้นภายในเวลา 1 ปี . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123559 .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 772 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกลาโหมอิสราเอลประกาศขายระบบป้องกันภัยทางอากาศ Barak MX ให้กับสโลวาเกีย โดยมีมูลค่าประมาณ 560 ล้านยูโร

    มีการลงนามในข้อตกลงการขายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นข้อตกลงการส่งออกด้านการป้องกันภัยทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดกับสโลวาเกียกระทรวงเจ้าหน้าที่กลาโหมอิสราเอลกล่าว

    ระบบป้องกันภัยทางอากาศ Barak MX ผลิตโดย Israel Aerospace Industries ของอิสราเอล ได้รับการออกแบบมาเพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศประเภทต่างๆ รวมถึงเครื่องบินขับไล่ เฮลิคอปเตอร์ โดรน ขีปนาวุธร่อน ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ และขีปนาวุธโจมตีทางอากาศ

    ระบบนี้ติดตั้งขีปนาวุธสกัดกั้นสามประเภทสำหรับภัยคุกคามในระยะสูงสุด 35, 70 และ 150 กิโลเมตร
    กระทรวงกลาโหมอิสราเอลประกาศขายระบบป้องกันภัยทางอากาศ Barak MX ให้กับสโลวาเกีย โดยมีมูลค่าประมาณ 560 ล้านยูโร มีการลงนามในข้อตกลงการขายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นข้อตกลงการส่งออกด้านการป้องกันภัยทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดกับสโลวาเกียกระทรวงเจ้าหน้าที่กลาโหมอิสราเอลกล่าว ระบบป้องกันภัยทางอากาศ Barak MX ผลิตโดย Israel Aerospace Industries ของอิสราเอล ได้รับการออกแบบมาเพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางอากาศประเภทต่างๆ รวมถึงเครื่องบินขับไล่ เฮลิคอปเตอร์ โดรน ขีปนาวุธร่อน ขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ และขีปนาวุธโจมตีทางอากาศ ระบบนี้ติดตั้งขีปนาวุธสกัดกั้นสามประเภทสำหรับภัยคุกคามในระยะสูงสุด 35, 70 และ 150 กิโลเมตร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • พิชัยลั่นไม่มีรัฐประหาร เร่งการค้าต่างประเทศ พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย
    .
    เมื่อเร็วๆนี้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่งประกาศวิสัยทัศน์ที่ว่าด้วยการออก “stable coin” หรือจะเรียกว่า พันธบัตรดิจิทัล เพื่อเพิ่มปริมาณเงินให้เพิ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีในรัฐบาลหลายคนออกมาสนับสนุนแนวความคิดนี้ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ
    .
    โดยนอกเหนือไปจากเรื่องการปั้นสกุลเงินดิจิทัลขึ้นมาแล้ว ภาคการค้าและการส่งออกก็เป็นอีกหนึ่งความหวังของรัฐบาลที่จะใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจเช่นกัน โดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แสดงความคิดเห็นระหว่างเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ หัวข้อ “การเมืองและเศรษฐกิจไทยในศตวรรษที่ 21 และนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน ที่มหาวิทยาลัยโตเกียว (Komaba Research Campus) ประเทศญี่ปุ่นว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยโตแค่ 1.9% ซึ่งต่ำมาก ส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนจากต่างประเทศที่หายไป
    .
    นายพิชัย กล่าวอีกว่า ปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ไตรมาสที่แล้วจีดีพีขยายตัว 3% และไตรมาสนี้น่าจะขยายตัวได้ 4% แต่จีดีพีไทยต้องโตอย่างน้อย 5% ขึ้นไป ต่อเนื่องไปอีก 20 ปี ถึงจะหลุดพ้นจากประเทศกับดักรายได้ปานกลาง และการส่งออกไทยเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา บวกถึง 14.6% คาดว่าการส่งออกทั้งปีของปีนี้จะเติบโตได้ถึง 5% และการลงทุนในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมาสูงที่สุดในรอบ 10 ปี สิ้นปีนี้น่าจะแตะ 1 ล้านล้านบาท เพราะรัฐบาลไทย มีนโยบายส่งเสริมในอุตสาหกรรมไฮเทค ที่ไทยได้รับความสนใจมากอย่าง PCB Data Center และ AI ซึ่งทางญี่ปุ่นกำลังจะมีการลงทุนเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของญี่ปุ่นในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยจะทุ่มงบประมาณมากกว่า 10 ล้านล้านเยน (2.2 ล้านล้านบาท) และทางไทยหวังว่าจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในซัพพลายเชนของญี่ปุ่นด้วย
    .
    “ส่วนเรื่องการเมืองของไทย กว่า 10 ปีที่ผ่านมา เรามีปัญหามาโดยตลอดตั้งแต่การรัฐประหาร รัฐบาลของนายกฯทักษิณ ก่อนหน้าการรัฐประหาร เศรษฐกิจไทยโต 5-8% หลังรัฐประหารขยายตัวเพียง 3% และตั้งแต่ปี 2557 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียง 1.9% เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ทางการเมืองมีผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เมื่อการเมืองกลับมามั่นคง เสถียรภาพรัฐบาลก็มั่นคง เศรษฐกิจไทยก็กลับมามั่นคง คนไทยรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่เห็นภาพนี้ชัดเจนเชื่อว่าจะเรียนรู้และไม่ยอมให้มีการรัฐประหารอีก แนวทางการบริหารงานและการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก็เป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้น ตอนนี้มีเพียงการแก้ปัญหาเรื่องหนี้ภาคครัวเรือน ถ้าแก้ได้เศรษฐกิจไทยก็จะฟื้นได้รวดเร็ว” นายพิชัย กล่าว
    ..............
    Sondhi X
    พิชัยลั่นไม่มีรัฐประหาร เร่งการค้าต่างประเทศ พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย . เมื่อเร็วๆนี้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่งประกาศวิสัยทัศน์ที่ว่าด้วยการออก “stable coin” หรือจะเรียกว่า พันธบัตรดิจิทัล เพื่อเพิ่มปริมาณเงินให้เพิ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งรัฐมนตรีในรัฐบาลหลายคนออกมาสนับสนุนแนวความคิดนี้ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ . โดยนอกเหนือไปจากเรื่องการปั้นสกุลเงินดิจิทัลขึ้นมาแล้ว ภาคการค้าและการส่งออกก็เป็นอีกหนึ่งความหวังของรัฐบาลที่จะใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการพลิกฟื้นเศรษฐกิจเช่นกัน โดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แสดงความคิดเห็นระหว่างเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ หัวข้อ “การเมืองและเศรษฐกิจไทยในศตวรรษที่ 21 และนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน ที่มหาวิทยาลัยโตเกียว (Komaba Research Campus) ประเทศญี่ปุ่นว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไทยโตแค่ 1.9% ซึ่งต่ำมาก ส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนจากต่างประเทศที่หายไป . นายพิชัย กล่าวอีกว่า ปีนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ไตรมาสที่แล้วจีดีพีขยายตัว 3% และไตรมาสนี้น่าจะขยายตัวได้ 4% แต่จีดีพีไทยต้องโตอย่างน้อย 5% ขึ้นไป ต่อเนื่องไปอีก 20 ปี ถึงจะหลุดพ้นจากประเทศกับดักรายได้ปานกลาง และการส่งออกไทยเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา บวกถึง 14.6% คาดว่าการส่งออกทั้งปีของปีนี้จะเติบโตได้ถึง 5% และการลงทุนในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมาสูงที่สุดในรอบ 10 ปี สิ้นปีนี้น่าจะแตะ 1 ล้านล้านบาท เพราะรัฐบาลไทย มีนโยบายส่งเสริมในอุตสาหกรรมไฮเทค ที่ไทยได้รับความสนใจมากอย่าง PCB Data Center และ AI ซึ่งทางญี่ปุ่นกำลังจะมีการลงทุนเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของญี่ปุ่นในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยจะทุ่มงบประมาณมากกว่า 10 ล้านล้านเยน (2.2 ล้านล้านบาท) และทางไทยหวังว่าจะได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในซัพพลายเชนของญี่ปุ่นด้วย . “ส่วนเรื่องการเมืองของไทย กว่า 10 ปีที่ผ่านมา เรามีปัญหามาโดยตลอดตั้งแต่การรัฐประหาร รัฐบาลของนายกฯทักษิณ ก่อนหน้าการรัฐประหาร เศรษฐกิจไทยโต 5-8% หลังรัฐประหารขยายตัวเพียง 3% และตั้งแต่ปี 2557 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียง 1.9% เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์ทางการเมืองมีผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เมื่อการเมืองกลับมามั่นคง เสถียรภาพรัฐบาลก็มั่นคง เศรษฐกิจไทยก็กลับมามั่นคง คนไทยรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่เห็นภาพนี้ชัดเจนเชื่อว่าจะเรียนรู้และไม่ยอมให้มีการรัฐประหารอีก แนวทางการบริหารงานและการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก็เป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้น ตอนนี้มีเพียงการแก้ปัญหาเรื่องหนี้ภาคครัวเรือน ถ้าแก้ได้เศรษฐกิจไทยก็จะฟื้นได้รวดเร็ว” นายพิชัย กล่าว .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    Sad
    7
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 691 มุมมอง 0 รีวิว
  • Gina Raimondo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวว่าการพยายามยับยั้งความก้าวหน้าของการผลิตชิปของจีนเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่า

    เธอกล่าวว่า "การพยายามยับยั้งจีนเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่า" และเสริมว่ากฎหมาย CHIPS and Science Act ของรัฐบาล Biden ซึ่งทำให้ประเทศใช้เงินมากขึ้นในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานชิปมากกว่าที่เคยทำในช่วง 28 ปีที่ผ่านมา "มีความสำคัญมากกว่าการควบคุมการส่งออก" อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี Biden ยังคงผลักดันให้มีการห้ามและคว่ำบาตรบริษัทจีน และกระตุ้นให้พันธมิตร เช่น เนเธอร์แลนด์และญี่ปุ่น หยุดจีนจากการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง

    Raimondo ยังกล่าวว่า "วิธีเดียวที่จะเอาชนะจีนได้คือการก้าวนำหน้าพวกเขา" และเน้นว่าการลงทุนในนวัตกรรมภายในประเทศเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแข่งขันกับจีน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/holding-back-chinas-chipmaking-progress-is-a-fools-errand-says-u-s-commerce-secretary
    Gina Raimondo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ กล่าวว่าการพยายามยับยั้งความก้าวหน้าของการผลิตชิปของจีนเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่า เธอกล่าวว่า "การพยายามยับยั้งจีนเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่า" และเสริมว่ากฎหมาย CHIPS and Science Act ของรัฐบาล Biden ซึ่งทำให้ประเทศใช้เงินมากขึ้นในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานชิปมากกว่าที่เคยทำในช่วง 28 ปีที่ผ่านมา "มีความสำคัญมากกว่าการควบคุมการส่งออก" อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดี Biden ยังคงผลักดันให้มีการห้ามและคว่ำบาตรบริษัทจีน และกระตุ้นให้พันธมิตร เช่น เนเธอร์แลนด์และญี่ปุ่น หยุดจีนจากการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง Raimondo ยังกล่าวว่า "วิธีเดียวที่จะเอาชนะจีนได้คือการก้าวนำหน้าพวกเขา" และเน้นว่าการลงทุนในนวัตกรรมภายในประเทศเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแข่งขันกับจีน https://www.tomshardware.com/tech-industry/holding-back-chinas-chipmaking-progress-is-a-fools-errand-says-u-s-commerce-secretary
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Holding back China's chipmaking progress is a fool’s errand, says U.S. Commerce Secretary
    Investments in semiconductor manufacturing and innovation matter more than bans and sanctions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA ได้ขอให้บริษัท Super Micro Computer (SMCI) ตรวจสอบว่าชิปของ NVIDIA ถูกนำเข้ามาในจีนอย่างผิดกฎหมายได้อย่างไร รวมถึงปัญหาการปลอมแปลงหมายเลขซีเรียลของเซิร์ฟเวอร์

    กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ขอให้ NVIDIA ตรวจสอบว่าชิปที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ถูกนำเข้ามาในจีนได้อย่างไร NVIDIA จึงได้ขอให้ผู้จัดจำหน่ายหลัก เช่น Super Micro Computer และ Dell ทำการตรวจสอบลูกค้าในภูมิภาคของตน ทาง NVIDIA กังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับวิธีที่ผู้ใช้ปลายทางในจีนสามารถปลอมแปลงหมายเลขซีเรียลของเซิร์ฟเวอร์เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดที่กำหนดภายใต้การควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ

    https://wccf.tech/1foff
    NVIDIA ได้ขอให้บริษัท Super Micro Computer (SMCI) ตรวจสอบว่าชิปของ NVIDIA ถูกนำเข้ามาในจีนอย่างผิดกฎหมายได้อย่างไร รวมถึงปัญหาการปลอมแปลงหมายเลขซีเรียลของเซิร์ฟเวอร์ กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ขอให้ NVIDIA ตรวจสอบว่าชิปที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ถูกนำเข้ามาในจีนได้อย่างไร NVIDIA จึงได้ขอให้ผู้จัดจำหน่ายหลัก เช่น Super Micro Computer และ Dell ทำการตรวจสอบลูกค้าในภูมิภาคของตน ทาง NVIDIA กังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับวิธีที่ผู้ใช้ปลายทางในจีนสามารถปลอมแปลงหมายเลขซีเรียลของเซิร์ฟเวอร์เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดที่กำหนดภายใต้การควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ https://wccf.tech/1foff
    WCCF.TECH
    NVIDIA Asks Super Micro Computer (SMCI) To Investigate How Its Chips Were Illicitly Procured By China, Including The Issue Of Forged Server Serial Numbers
    NVIDIA has asked its major distributors, including Super Micro Computer and Dell, to conduct spot checks on their regional customers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯบอกว่า "จะเป็นความคิดที่ดี" สำหรับแคนาดา ในการเข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา พูดหยอกล้ออีกรอบบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า "ชาวแคนาดาจำนวนมาก" ก็ขานรับด้วยความยินดีกับแนวคิดนี้ ในขณะที่ออตตาวากำลังตกอยู่ท่ามกลางความปั่นป่วนจากวิกฤตทางการเมือง
    .
    "ชาวแคนาดาจำนวนมากต้องการให้แคนาดาเป็นรัฐที่51" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง "พวกเขาจะประหยัดเงินอย่างมหาศาลในด้านภาษีและการคุ้มกันทางทหาร ผมคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี รัฐที่51!"
    .
    โพสต์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทรัมป์ แสดงความคิดเห็นติดตลกต่อสาธารณะต่อแนวคิดดังกล่าว ซึ่งบางส่วนมอบว่าเป็นมุกตลกที่ไม่ชวนขำเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามหลังการลาออกจากตำแหน่งอย่างน่าตกตะลึงของรองนายกรัฐมนตรีแคนาดาเมื่อวันจันทร์(16ธ.ค.)
    .
    กระนั้นผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักวิจัยตลาด Leger ที่เผยแพร่เมื่อต้นสัปดาห์ พบว่ามีชาวแคนาดาถึง 13% ที่สนับสนุนแนวคิดเข้าร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านทางใต้
    .
    ก่อนหน้านี้ครั้งที่ ทรัมป์ แสดงความคิดเห็นแบบเดียวกันกับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ระหว่างการรับประทานอาหารค่ำที่บ้านพักตากอากาศในมาร์อาโก ในฟลอริดา เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน มีรายงานว่ามันเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ร่วมโต๊ะ
    .
    ในครั้งนั้น ทรัมป์ ขู่แบบหยอกๆว่า แคนาดาควรกลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา จนกว่าประเทศแห่งนี้จะจัดการระงับกระแสการไหลบ่าเข้ามาของพวกผู้อพยพผิดกฎหมายและพวกขนยาเสพติดข้ามชายแดนติดกับสหรัฐฯ
    .
    ตามรายงานของฟ็อกซ์นิวส์ ทรัมป์ บ่งชี้ว่าการรวมประเทศของทั้ง 2 ชาติ จะไม่ใช่แค่สามารถคลี่คลายความกังวลของเขาเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าเฟนทานิล แต่ยังอาจช่วยสกัดการอพยพผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาสาหัสสากรรจ์ตามแนวชายแดนทางใต้ของสหรัฐฯ
    .
    ก่อนหน้านั้นไม่นาน ทรัมป์ขู่รีดภาษี 25% ต่อสินค้าต่างๆ ที่นำเข้ามาจากทั้งแคนาดาและเม็กซิโก ครั้งที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งแล้ว แก้แค้นกรณีผู้อพยพผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับ "อาชญากรรมและยาเสพติด" ที่ไหลบ่าข้ามชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ เข้าสู่สหรัฐฯ
    .
    คำพูดของทรัมป์ในตอนนั้น สร้างความตกใจในแคนาดา ด้วยบางส่วนแสดงความคิดเห็นว่ามัน "ไม่ใช่เรื่องตลก" เป็นเรื่องน่าอายและเป็นคำขู่ที่ไม่อ่อนโยน ที่หลุดออกมาจากปากของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
    .
    นับตั้งแต่นั้น ทรัมป์ พาดพิง ทรูโด ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในข้อความที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ ในฐานะผู้ว่าการรัฐแคนาดา ตำแหน่งที่ใช้เรียกผู้นำรัฐต่างๆใน 50 รัฐของสหรัฐฯ
    .
    มุกตลกนี้เริ่มก่อความกังวลมากยิ่งขึ้นแก่ชาวแคนาดา ตามหลังการลาออกอย่างน่าประหลาดในของ คริสเทีย ฟรีแลนด์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ฉุดให้ประเทศดำดิ่งสู่วิกฤตทางการเมืองในสัปดาห์นี้
    .
    รัฐมนตรีรายนี้ระบุในจดหมายลาออกว่า เธอและทรูโด มีความเห็นไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับแนวทางตอบโต้คำขู่รีดภาษีของทรัมป์ และการบริการจัดหารแนวโน้มสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
    .
    กว่า 75% ของการส่งออกของแคนา เป็นการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และแรงงานแคนาดาเกือบ 2 ล้านตำแหน่ง ต้องพึ่งพิงการค้า
    .
    ฟรีแลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุด และเป็นพันธมิตรมายาวนานของทรูโด ขณะที่รัฐบาลเสรีนิยมของเขา เริ่มสูญเสียความเชื่อมั่นหลังบริหารประเทศได้ 9 ปี และกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยเมื่อต้นปี หลังพรรคประชาธิปไตยใหม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ทำให้กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่เผชิญกระแสเรียกร้องให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหนักขึ้นเรื่อยๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121643
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯบอกว่า "จะเป็นความคิดที่ดี" สำหรับแคนาดา ในการเข้ามาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา พูดหยอกล้ออีกรอบบนสื่อสังคมออนไลน์ว่า "ชาวแคนาดาจำนวนมาก" ก็ขานรับด้วยความยินดีกับแนวคิดนี้ ในขณะที่ออตตาวากำลังตกอยู่ท่ามกลางความปั่นป่วนจากวิกฤตทางการเมือง . "ชาวแคนาดาจำนวนมากต้องการให้แคนาดาเป็นรัฐที่51" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง "พวกเขาจะประหยัดเงินอย่างมหาศาลในด้านภาษีและการคุ้มกันทางทหาร ผมคิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี รัฐที่51!" . โพสต์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทรัมป์ แสดงความคิดเห็นติดตลกต่อสาธารณะต่อแนวคิดดังกล่าว ซึ่งบางส่วนมอบว่าเป็นมุกตลกที่ไม่ชวนขำเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามหลังการลาออกจากตำแหน่งอย่างน่าตกตะลึงของรองนายกรัฐมนตรีแคนาดาเมื่อวันจันทร์(16ธ.ค.) . กระนั้นผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักวิจัยตลาด Leger ที่เผยแพร่เมื่อต้นสัปดาห์ พบว่ามีชาวแคนาดาถึง 13% ที่สนับสนุนแนวคิดเข้าร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านทางใต้ . ก่อนหน้านี้ครั้งที่ ทรัมป์ แสดงความคิดเห็นแบบเดียวกันกับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ระหว่างการรับประทานอาหารค่ำที่บ้านพักตากอากาศในมาร์อาโก ในฟลอริดา เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน มีรายงานว่ามันเรียกเสียงหัวเราะจากผู้ร่วมโต๊ะ . ในครั้งนั้น ทรัมป์ ขู่แบบหยอกๆว่า แคนาดาควรกลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา จนกว่าประเทศแห่งนี้จะจัดการระงับกระแสการไหลบ่าเข้ามาของพวกผู้อพยพผิดกฎหมายและพวกขนยาเสพติดข้ามชายแดนติดกับสหรัฐฯ . ตามรายงานของฟ็อกซ์นิวส์ ทรัมป์ บ่งชี้ว่าการรวมประเทศของทั้ง 2 ชาติ จะไม่ใช่แค่สามารถคลี่คลายความกังวลของเขาเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าเฟนทานิล แต่ยังอาจช่วยสกัดการอพยพผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาสาหัสสากรรจ์ตามแนวชายแดนทางใต้ของสหรัฐฯ . ก่อนหน้านั้นไม่นาน ทรัมป์ขู่รีดภาษี 25% ต่อสินค้าต่างๆ ที่นำเข้ามาจากทั้งแคนาดาและเม็กซิโก ครั้งที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งแล้ว แก้แค้นกรณีผู้อพยพผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับ "อาชญากรรมและยาเสพติด" ที่ไหลบ่าข้ามชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ เข้าสู่สหรัฐฯ . คำพูดของทรัมป์ในตอนนั้น สร้างความตกใจในแคนาดา ด้วยบางส่วนแสดงความคิดเห็นว่ามัน "ไม่ใช่เรื่องตลก" เป็นเรื่องน่าอายและเป็นคำขู่ที่ไม่อ่อนโยน ที่หลุดออกมาจากปากของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ . นับตั้งแต่นั้น ทรัมป์ พาดพิง ทรูโด ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในข้อความที่โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ ในฐานะผู้ว่าการรัฐแคนาดา ตำแหน่งที่ใช้เรียกผู้นำรัฐต่างๆใน 50 รัฐของสหรัฐฯ . มุกตลกนี้เริ่มก่อความกังวลมากยิ่งขึ้นแก่ชาวแคนาดา ตามหลังการลาออกอย่างน่าประหลาดในของ คริสเทีย ฟรีแลนด์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ฉุดให้ประเทศดำดิ่งสู่วิกฤตทางการเมืองในสัปดาห์นี้ . รัฐมนตรีรายนี้ระบุในจดหมายลาออกว่า เธอและทรูโด มีความเห็นไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับแนวทางตอบโต้คำขู่รีดภาษีของทรัมป์ และการบริการจัดหารแนวโน้มสงครามการค้ากับสหรัฐฯ . กว่า 75% ของการส่งออกของแคนา เป็นการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และแรงงานแคนาดาเกือบ 2 ล้านตำแหน่ง ต้องพึ่งพิงการค้า . ฟรีแลนด์ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ทรงอิทธิพลที่สุด และเป็นพันธมิตรมายาวนานของทรูโด ขณะที่รัฐบาลเสรีนิยมของเขา เริ่มสูญเสียความเชื่อมั่นหลังบริหารประเทศได้ 9 ปี และกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยเมื่อต้นปี หลังพรรคประชาธิปไตยใหม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ทำให้กลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่เผชิญกระแสเรียกร้องให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหนักขึ้นเรื่อยๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000121643 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 687 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนวางระเบิดสังหารผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ของรัสเซียเสียชีวิต

    แถลงการณ์จากคณะกรรมการสอบสวนของสหพันธรัฐรัสเซียเปิดเผยว่า:
    เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ เกิดเหตุระเบิดที่ถนน Ryazansky Prospekt ในกรุงมอสโก โดยมีอุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนอยู่ในสกู๊ตเตอร์ ที่จอดอยู่ข้างทางเข้าอาคารที่พักอาศัย และเกิดการระเบิดขึ้นขณะ พล.ท.อิกอร์ คิริลลอฟ(Igor Kirillov) ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมี (NBC - Chief of Nuclear, Chemical, and Biological Protection Troops of the Armed Forces of the Russian Federation) พร้อมผู้ช่วย กำลังออกจากที่พัก เป็นเหตุให้ทั้งสองคนเสียชีวิต

    คณะกรรมการสอบสวนรัสเซียได้ทำการเปิดการสอบสวนคดีอาญาที่กระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ 2 รายแล้ว โดยพนักงานสอบสวน ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการปฏิบัติงานในจุดที่เกิดเหตุ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงทุกด้านของอาชญากรรมครั้งนี้
    .
    นายพลคิริลอฟ วัย 54 ปี ของรัสเซียเป็นผู้เปิดโปงกิจกรรมเกี่ยวกับห้องทดลองทางชีวภาพในยูเครนที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ โดยอ้างถึงเอกสารหลักฐานจำนวนมากที่พบในห้องปฏิบัติการของยูเครนระหว่างช่วงเริ่มต้นของปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย

    - ในเดือนมีนาคม 2022 คิริลอฟค้นพบเอกสารที่อ้างว่าห้องแล็บชีวภาพที่ได้รับเงินทุนจากกระทรวงกลาโหมในยูเครนกำลังพัฒนาอาวุธชีวภาพโดยใช้ค้างคาวและนก

    - เอกสารเหล่านี้แสดงให้เห็นการทดลองกับประชากรของยูเครน การทดสอบยา และการส่งออกตัวอย่างทางชีวภาพไปยังสหรัฐฯ เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง

    - ในเดือนกันยายน 2023 เขาได้กล่าวหาเครือข่ายห้องแล็บชีวภาพของสหรัฐฯ ว่าเป็นภัยคุกคามทางชีวภาพ โดยอ้างถึงห้องแล็บผิดกฎหมายในแคลิฟอร์เนียที่เป็นแหล่งกักเก็บเชื้อโรค เช่น COVID-19, HIV และตับอักเสบ

    - ในเดือนมกราคม 2024 เขาได้กล่าวหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ รวมถึง Gina Haspel, Alex Azar และ Anthony Fauci ว่าขัดขวางการสืบสวนแหล่งกำเนิดของ COVID-19

    - คิริลอฟกล่าวหาสหรัฐฯ และยูเครนหลายครั้งว่าละเมิดอนุสัญญาอาวุธชีวภาพและสารพิษ (BTWC)

    - คิริลอฟมีหลักฐานว่ายูเครนใช้อาวุธเคมี DM-105 ที่ดัดแปลงให้มีรูปร่างเหมือนระเบิดควันเพื่อใช้ใน Sudzha ภูมิภาค Kursk ของรัสเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม 2024

    - เขาเตือนว่าเคียฟอาจจัดฉากในการใช้ “dirty bomb” โดยฝึกบุคลากรให้ผลิตและจุดชนวนอุปกรณ์ดังกล่าวในพื้นที่ที่มีประชากร

    - คิริลอฟอยู่ในรายชื่อบุคคลที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดของยูเครนเนื่องจากมีบทบาทในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร
    ยูเครนวางระเบิดสังหารผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ของรัสเซียเสียชีวิต แถลงการณ์จากคณะกรรมการสอบสวนของสหพันธรัฐรัสเซียเปิดเผยว่า: เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ เกิดเหตุระเบิดที่ถนน Ryazansky Prospekt ในกรุงมอสโก โดยมีอุปกรณ์ระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนอยู่ในสกู๊ตเตอร์ ที่จอดอยู่ข้างทางเข้าอาคารที่พักอาศัย และเกิดการระเบิดขึ้นขณะ พล.ท.อิกอร์ คิริลลอฟ(Igor Kirillov) ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ ชีวภาพ และเคมี (NBC - Chief of Nuclear, Chemical, and Biological Protection Troops of the Armed Forces of the Russian Federation) พร้อมผู้ช่วย กำลังออกจากที่พัก เป็นเหตุให้ทั้งสองคนเสียชีวิต คณะกรรมการสอบสวนรัสเซียได้ทำการเปิดการสอบสวนคดีอาญาที่กระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ 2 รายแล้ว โดยพนักงานสอบสวน ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการปฏิบัติงานในจุดที่เกิดเหตุ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงทุกด้านของอาชญากรรมครั้งนี้ . นายพลคิริลอฟ วัย 54 ปี ของรัสเซียเป็นผู้เปิดโปงกิจกรรมเกี่ยวกับห้องทดลองทางชีวภาพในยูเครนที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ โดยอ้างถึงเอกสารหลักฐานจำนวนมากที่พบในห้องปฏิบัติการของยูเครนระหว่างช่วงเริ่มต้นของปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย - ในเดือนมีนาคม 2022 คิริลอฟค้นพบเอกสารที่อ้างว่าห้องแล็บชีวภาพที่ได้รับเงินทุนจากกระทรวงกลาโหมในยูเครนกำลังพัฒนาอาวุธชีวภาพโดยใช้ค้างคาวและนก - เอกสารเหล่านี้แสดงให้เห็นการทดลองกับประชากรของยูเครน การทดสอบยา และการส่งออกตัวอย่างทางชีวภาพไปยังสหรัฐฯ เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง - ในเดือนกันยายน 2023 เขาได้กล่าวหาเครือข่ายห้องแล็บชีวภาพของสหรัฐฯ ว่าเป็นภัยคุกคามทางชีวภาพ โดยอ้างถึงห้องแล็บผิดกฎหมายในแคลิฟอร์เนียที่เป็นแหล่งกักเก็บเชื้อโรค เช่น COVID-19, HIV และตับอักเสบ - ในเดือนมกราคม 2024 เขาได้กล่าวหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ รวมถึง Gina Haspel, Alex Azar และ Anthony Fauci ว่าขัดขวางการสืบสวนแหล่งกำเนิดของ COVID-19 - คิริลอฟกล่าวหาสหรัฐฯ และยูเครนหลายครั้งว่าละเมิดอนุสัญญาอาวุธชีวภาพและสารพิษ (BTWC) - คิริลอฟมีหลักฐานว่ายูเครนใช้อาวุธเคมี DM-105 ที่ดัดแปลงให้มีรูปร่างเหมือนระเบิดควันเพื่อใช้ใน Sudzha ภูมิภาค Kursk ของรัสเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม 2024 - เขาเตือนว่าเคียฟอาจจัดฉากในการใช้ “dirty bomb” โดยฝึกบุคลากรให้ผลิตและจุดชนวนอุปกรณ์ดังกล่าวในพื้นที่ที่มีประชากร - คิริลอฟอยู่ในรายชื่อบุคคลที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดของยูเครนเนื่องจากมีบทบาทในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • แวะไปเรื่องการเมืองระหว่างประเทศหน่อยครับ

    รัฐบาล Biden ที่ถึงแม้กำลังจะหมดอำนาจในปีหน้า แต่ขณะนี้ก็กำลังวางแผนที่จะเสริมความเข้มงวดในการส่งออกของสหรัฐฯ ไปยังจีน โดยมีการวางแผนที่จะปิดช่องโหว่ทางการค้า

    นโยบายใหม่จะมุ่งเน้นไปที่การควบคุมการไหลของเทคโนโลยี AI accelerators ไปยังจีน เพื่อให้สหรัฐฯ ยังคงความเป็นผู้นำในตลาด AI จะรวมถึงการห้ามส่งออกไปยังจีนจากประเทศที่สหรัฐฯ สามารถทำการค้าได้ เช่น อินเดีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นแหล่งที่มาหลักของช่องโหว่ทางการค้า

    ทางจีนก็ได้เริ่มทำงานอย่างหนักในการส่งเสริมการผลิตในประเทศ และมีมาตรการต่อต้านการผูกขาดกับธุรกิจที่มีอิทธิพลของสหรัฐฯ เช่น NVIDIA

    การสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อ Donald Trump เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี เนื่องจากนโยบายภาษีของเขาจะกระตุ้นให้เกิดการกำกับดูแลการค้าจากทั้งสองประเทศ

    https://wccf.tech/1fnqn
    แวะไปเรื่องการเมืองระหว่างประเทศหน่อยครับ รัฐบาล Biden ที่ถึงแม้กำลังจะหมดอำนาจในปีหน้า แต่ขณะนี้ก็กำลังวางแผนที่จะเสริมความเข้มงวดในการส่งออกของสหรัฐฯ ไปยังจีน โดยมีการวางแผนที่จะปิดช่องโหว่ทางการค้า นโยบายใหม่จะมุ่งเน้นไปที่การควบคุมการไหลของเทคโนโลยี AI accelerators ไปยังจีน เพื่อให้สหรัฐฯ ยังคงความเป็นผู้นำในตลาด AI จะรวมถึงการห้ามส่งออกไปยังจีนจากประเทศที่สหรัฐฯ สามารถทำการค้าได้ เช่น อินเดีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งเป็นแหล่งที่มาหลักของช่องโหว่ทางการค้า ทางจีนก็ได้เริ่มทำงานอย่างหนักในการส่งเสริมการผลิตในประเทศ และมีมาตรการต่อต้านการผูกขาดกับธุรกิจที่มีอิทธิพลของสหรัฐฯ เช่น NVIDIA การสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อ Donald Trump เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี เนื่องจากนโยบายภาษีของเขาจะกระตุ้นให้เกิดการกำกับดูแลการค้าจากทั้งสองประเทศ https://wccf.tech/1fnqn
    WCCF.TECH
    US To Implement Further "Trade Restrictions" On China, Likely Covering Up Policy Loopholes
    The Biden administration is set to strengthen its hold on US exports to China, as new policies are being planned to close "trade loopholes".
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียระงับการส่งออกธัญพืชไปยังซีเรีย หลังอัสซาดถูกขับออกจากอำนาจ ซึ่งเป็นข้อตกลงความช่วยเหลือที่รัสเซียทำไว้กับอัสซาด
    รัสเซียระงับการส่งออกธัญพืชไปยังซีเรีย หลังอัสซาดถูกขับออกจากอำนาจ ซึ่งเป็นข้อตกลงความช่วยเหลือที่รัสเซียทำไว้กับอัสซาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia อาจโดนกับค่าปรับมหาศาลถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดในประเทศจีน

    การสอบสวนนี้เกิดขึ้นจากการที่ Nvidia เข้าซื้อกิจการ Mellanox Technologies ในปี 2019 ซึ่งได้รับการอนุมัติจากปักกิ่งในปี 2020 ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด หน่วยงานกำกับดูแลตลาดของจีนกล่าวหาว่า Nvidia ละเมิดเงื่อนไขเหล่านี้ โดยเฉพาะการจำกัดการส่งออก GPU ขั้นสูงไปยังจีนตามข้อจำกัดของสหรัฐฯ

    Nvidia อาจต้องจ่ายค่าปรับสูงถึง 1.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเท่ากับ 10% ของรายได้ในปี 2024 จากตลาดจีน

    ผู้วิเคราะห์ด้านการลงทุนคิดว่า การตัดสินใจของจีนในการตรวจสอบการเข้าซื้อกิจการที่ได้รับการอนุมัติก่อนหน้านี้แสดงถึงความเข้มงวดที่เพิ่มขึ้นในการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาด ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนต่างชาติลังเลที่จะลงทุนในจีน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidia-could-face-massive-usd1-billion-fine-over-antitrust-violations-in-china-nvidias-mellanox-acquisition-is-in-beijings-crosshairs
    Nvidia อาจโดนกับค่าปรับมหาศาลถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดในประเทศจีน การสอบสวนนี้เกิดขึ้นจากการที่ Nvidia เข้าซื้อกิจการ Mellanox Technologies ในปี 2019 ซึ่งได้รับการอนุมัติจากปักกิ่งในปี 2020 ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด หน่วยงานกำกับดูแลตลาดของจีนกล่าวหาว่า Nvidia ละเมิดเงื่อนไขเหล่านี้ โดยเฉพาะการจำกัดการส่งออก GPU ขั้นสูงไปยังจีนตามข้อจำกัดของสหรัฐฯ Nvidia อาจต้องจ่ายค่าปรับสูงถึง 1.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเท่ากับ 10% ของรายได้ในปี 2024 จากตลาดจีน ผู้วิเคราะห์ด้านการลงทุนคิดว่า การตัดสินใจของจีนในการตรวจสอบการเข้าซื้อกิจการที่ได้รับการอนุมัติก่อนหน้านี้แสดงถึงความเข้มงวดที่เพิ่มขึ้นในการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาด ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนต่างชาติลังเลที่จะลงทุนในจีน https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidia-could-face-massive-usd1-billion-fine-over-antitrust-violations-in-china-nvidias-mellanox-acquisition-is-in-beijings-crosshairs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ส่งเสียงเตือนไปยังสหรัฐฯ เกี่ยวกับการกระพือสงครามการค้ารอบใหม่ ระบุจะ "ไม่มีผู้ชนะ" แม้ในขณะเดียวกันผู้นำรายนี้ประกาศกร้าวจะปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ
    .
    ประธานธิบดีสี แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้เมื่อวันอังคาร (10 ธ.ค.) ระหว่างพบปะกับเหล่าผู้นำสถาบันการเงินระดับโลกหลายแห่ง ในนั้นรวมถึงเวิลด์แบงก์ และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หนึ่งวันหลังจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของจีน แถลงสืบสวนบริษัทเอ็นวิเดีย ผู้ผลิตชิปสัญชาติสหรัฐฯ ฐานต้องสงสัยละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด
    .
    การตรวจสอบดังกล่าวถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นการยกระดับครั้งสำคัญในการต่อสู้ที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อครองความเป็นเจ้าปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งทั้งวอชิงตันและปักกิ่งเชื่อว่ามีความสำคัญยิ่งสำหรับปกป้องความมั่นคงของชาติ แม้กระทั่งก่อนหน้าที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับคืนสู่ทำเนียบขาวก็ตาม
    .
    "สงครามรีดภาษี สงครามการค้าและสงครามเทคโนโลยีล้วนแต่สวนทางกับแนวโน้มทางประวัติศาสตร์และกฎหมายทางเศรษฐกิจ และจะไม่มีผู้ชนะ" สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี สื่อมวลชนหแงรัฐของจีน รายงานโดยอ้างคำกล่าวของสี
    .
    สี บอกต่อว่า "การปิดกั้นลานบ้านเล็กๆ ด้วยกำแพงสูงลิ่ว การแยกและทำลายห่วงโซ่อุปทาน จะสร้างความเจ็บปวดแก่คนอื่นๆ และไม่เป็นประโยชน์กับตนเอง จีนเชื่อเสมอว่าถ้าจีนดีโลกก็ดีด้วย และเมื่อโลกดี จีนก็ดียิ่งขึ้นไปอีก" เขากล่าว
    .
    เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เคยใช้คำพูดเกี่ยวกับ "ลานบ้านเล็กๆ และกำแพงสูง" จำกัดความยุทธศาสตร์หนึ่งที่จะเปิดทางให้การค้าส่วนใหญ่กับจีนดำเนินไปตามปกติ แต่จะกำหนดข้อจำกัดกับสินค้าบางประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ อย่างเช่นเซมิคอนดัคเตอร์ ที่เชื่อว่าอาจถูกนำไปใช้งานด้านการทหาร
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลไบเดน แถลงมาตรการควบคุมการส่งออกรอบที่ 3 ในรอบหลายปี จำกัดปักกิ่งจากการเข้าถึงเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์หลายสิบรุ่นและชิปความจำล้ำสมัย เช่นเดียวกับกำหนดมาตรการควบคุมบริษัทจีนมากกว่า 100 แห่ง
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนเมื่อเดือนที่แล้ว ว่า จีนจะต้องเจอกับการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าอีก 10% เพิ่มเติมจากระดับภาษีใดๆ ในปัจจุบัน จนกว่าปักกิ่งจะสกัดไม่ให้กระแสยาผิดกฎหมายไหลบ่าเข้าสู่สหรัฐฯ
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นบีซี ที่ออกอากาศในวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) ทรัมป์ บอกว่าเขาและสี "ได้พูดคุยสื่อสารกัน" ในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ขณะที่โฆษกระทรวงการต่างประเทศจีน ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธใดๆ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการสนทนาระหว่าง 2 ฝ่าย
    .
    จึง พึ่งพิงการส่งออก โดยเฉพาะกับคู่ค้ารายใหญ่อย่างเช่นสหรัฐฯ เป็นเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในระหว่างที่อุปสงค์ภายในประเทศดำดิ่ง สืบเนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจต่างๆ โดยข้อมูลของทางการที่เผยแพร่ออกมาในวันอังคาร (10 ธ.ค.) พบว่าการส่งออกลดลงอย่างมาก ส่วนการนำเข้าก็หดตัวอย่างไม่คาดคิดเมื่อเดือนที่แล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118740
    ..............
    Sondhi X
    สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ส่งเสียงเตือนไปยังสหรัฐฯ เกี่ยวกับการกระพือสงครามการค้ารอบใหม่ ระบุจะ "ไม่มีผู้ชนะ" แม้ในขณะเดียวกันผู้นำรายนี้ประกาศกร้าวจะปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ . ประธานธิบดีสี แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้เมื่อวันอังคาร (10 ธ.ค.) ระหว่างพบปะกับเหล่าผู้นำสถาบันการเงินระดับโลกหลายแห่ง ในนั้นรวมถึงเวิลด์แบงก์ และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หนึ่งวันหลังจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบของจีน แถลงสืบสวนบริษัทเอ็นวิเดีย ผู้ผลิตชิปสัญชาติสหรัฐฯ ฐานต้องสงสัยละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด . การตรวจสอบดังกล่าวถูกมองอย่างกว้างขวางว่าเป็นการยกระดับครั้งสำคัญในการต่อสู้ที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อครองความเป็นเจ้าปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งทั้งวอชิงตันและปักกิ่งเชื่อว่ามีความสำคัญยิ่งสำหรับปกป้องความมั่นคงของชาติ แม้กระทั่งก่อนหน้าที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับคืนสู่ทำเนียบขาวก็ตาม . "สงครามรีดภาษี สงครามการค้าและสงครามเทคโนโลยีล้วนแต่สวนทางกับแนวโน้มทางประวัติศาสตร์และกฎหมายทางเศรษฐกิจ และจะไม่มีผู้ชนะ" สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี สื่อมวลชนหแงรัฐของจีน รายงานโดยอ้างคำกล่าวของสี . สี บอกต่อว่า "การปิดกั้นลานบ้านเล็กๆ ด้วยกำแพงสูงลิ่ว การแยกและทำลายห่วงโซ่อุปทาน จะสร้างความเจ็บปวดแก่คนอื่นๆ และไม่เป็นประโยชน์กับตนเอง จีนเชื่อเสมอว่าถ้าจีนดีโลกก็ดีด้วย และเมื่อโลกดี จีนก็ดียิ่งขึ้นไปอีก" เขากล่าว . เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เคยใช้คำพูดเกี่ยวกับ "ลานบ้านเล็กๆ และกำแพงสูง" จำกัดความยุทธศาสตร์หนึ่งที่จะเปิดทางให้การค้าส่วนใหญ่กับจีนดำเนินไปตามปกติ แต่จะกำหนดข้อจำกัดกับสินค้าบางประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ อย่างเช่นเซมิคอนดัคเตอร์ ที่เชื่อว่าอาจถูกนำไปใช้งานด้านการทหาร . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลไบเดน แถลงมาตรการควบคุมการส่งออกรอบที่ 3 ในรอบหลายปี จำกัดปักกิ่งจากการเข้าถึงเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์หลายสิบรุ่นและชิปความจำล้ำสมัย เช่นเดียวกับกำหนดมาตรการควบคุมบริษัทจีนมากกว่า 100 แห่ง . ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนเมื่อเดือนที่แล้ว ว่า จีนจะต้องเจอกับการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าอีก 10% เพิ่มเติมจากระดับภาษีใดๆ ในปัจจุบัน จนกว่าปักกิ่งจะสกัดไม่ให้กระแสยาผิดกฎหมายไหลบ่าเข้าสู่สหรัฐฯ . ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นบีซี ที่ออกอากาศในวันอาทิตย์ (8 ธ.ค.) ทรัมป์ บอกว่าเขาและสี "ได้พูดคุยสื่อสารกัน" ในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ขณะที่โฆษกระทรวงการต่างประเทศจีน ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธใดๆ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการสนทนาระหว่าง 2 ฝ่าย . จึง พึ่งพิงการส่งออก โดยเฉพาะกับคู่ค้ารายใหญ่อย่างเช่นสหรัฐฯ เป็นเครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในระหว่างที่อุปสงค์ภายในประเทศดำดิ่ง สืบเนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจต่างๆ โดยข้อมูลของทางการที่เผยแพร่ออกมาในวันอังคาร (10 ธ.ค.) พบว่าการส่งออกลดลงอย่างมาก ส่วนการนำเข้าก็หดตัวอย่างไม่คาดคิดเมื่อเดือนที่แล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118740 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 775 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇷🇺🇨🇳 รัสเซียสร้างสถิติใหม่ในการส่งออกก๊าซไปยังจีนในแต่ละวัน
    .
    JUST IN: 🇷🇺🇨🇳 Russia sets new daily record in gas exports to China.
    .
    1:40 AM · Dec 10, 2024 · 148.1K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1866191201868689863
    🇷🇺🇨🇳 รัสเซียสร้างสถิติใหม่ในการส่งออกก๊าซไปยังจีนในแต่ละวัน . JUST IN: 🇷🇺🇨🇳 Russia sets new daily record in gas exports to China. . 1:40 AM · Dec 10, 2024 · 148.1K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1866191201868689863
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • แวะมาเรื่องสงครามหน่อยครับ
    พบชิปของ Texas Instruments จำนวนมากในอาวุธของรัสเซียที่ใช้ในสงครามยูเครน

    แม้ว่าจะมีการคว่ำบาตรอย่างเข้มงวดจากสหรัฐฯ ที่ห้ามการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ไปยังรัสเซีย แต่รัสเซียยังคงสามารถซื้อชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ ผ่านบุคคลที่สามได้ ชิปเหล่านี้ถูกใช้ในโดรน, ระเบิดนำวิถี, ระบบสื่อสารที่มีความแม่นยำ และขีปนาวุธ Iskander ที่มอสโกใช้โจมตีเมืองในยูเครน

    ลุงว่าชิปของ TI มันเป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้านของนักพัฒนาทั่วโลกอยู่แล้ว ไม่แปลกที่จะหาซื้อได้ง่ายทั่วทุกมุมของโลก สหรัฐจะใช้วิธีการอะไรไปขวางกัน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/alarming-amount-of-texas-instrument-chips-found-in-russian-based-weapons-in-ukraine-russian-military-using-third-parties-to-purchase-u-s-made-chips
    แวะมาเรื่องสงครามหน่อยครับ พบชิปของ Texas Instruments จำนวนมากในอาวุธของรัสเซียที่ใช้ในสงครามยูเครน แม้ว่าจะมีการคว่ำบาตรอย่างเข้มงวดจากสหรัฐฯ ที่ห้ามการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ไปยังรัสเซีย แต่รัสเซียยังคงสามารถซื้อชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ ผ่านบุคคลที่สามได้ ชิปเหล่านี้ถูกใช้ในโดรน, ระเบิดนำวิถี, ระบบสื่อสารที่มีความแม่นยำ และขีปนาวุธ Iskander ที่มอสโกใช้โจมตีเมืองในยูเครน ลุงว่าชิปของ TI มันเป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้านของนักพัฒนาทั่วโลกอยู่แล้ว ไม่แปลกที่จะหาซื้อได้ง่ายทั่วทุกมุมของโลก สหรัฐจะใช้วิธีการอะไรไปขวางกัน https://www.tomshardware.com/tech-industry/alarming-amount-of-texas-instrument-chips-found-in-russian-based-weapons-in-ukraine-russian-military-using-third-parties-to-purchase-u-s-made-chips
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนได้เปิดการสอบสวนการผูกขาดของ Nvidia ผู้ผลิตชิปของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการตอบโต้ล่าสุดของปักกิ่ง หลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยมาตรการควบคุมการส่งออกรอบที่เข้มงวดที่สุดต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนเมื่อวันจันทร์ที่9 ธันวาคม 2567 สำนักงานกำกับดูแลตลาดแห่งรัฐของจีนกล่าวว่า Nvidia ซึ่งเป็นผู้พัฒนาชิปที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ได้ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน รวมถึงละเมิดข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการที่บรรลุข้อตกลงในปี 2020 เมื่อปักกิ่งให้การอนุมัติแบบมีเงื่อนไขแก่ Nvidia สำหรับการเข้าซื้อ Mellanox Technologies มูลค่า 6.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตั้งอยู่ในอิสราเอล การสอบสวนดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ปักกิ่งเปิดเผยมาตรการควบคุมที่เข้มงวดต่อการส่งออกวัตถุดิบที่สำคัญไปยังสหรัฐฯ โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้ต่อข้อจำกัดล่าสุดของวอชิงตันเกี่ยวกับอุปกรณ์การผลิตชิปและซอฟต์แวร์ และการเพิ่มรายชื่อบริษัทนิติบุคคลของจีนมากกว่า 140 รายเข้าไปในรายชื่อบัญชีดำทางการค้าในวันเดียวกับที่ปักกิ่งประกาศข้อจำกัดในการส่งออก ทางสมาคมอุตสาหกรรมชั้นนำสี่แห่งของจีนได้ออกคำเตือนที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักว่า สมาชิกบริษัทจีนควรระมัดระวังในการซื้อชิปจากสหรัฐฯ ซึ่งพวกเขากล่าวว่า "ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป"จีนยังคงพึ่งพาชิปของ Nvidia อย่างมากในการฝึกอบรม AI แต่บริษัทสามารถขายชิป AI เวอร์ชันที่ลดระดับลงได้เท่านั้นในประเทศเนื่องจากมาตรการควบคุมการส่งออกของวอชิงตันซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อจำกัดความก้าวหน้าด้าน AI ของจีนรายได้จากจีนคิดเป็นประมาณ 15.4% ของรายได้ทั้งหมดของ Nvidia ในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 27 ตุลาคม2567และข่าวนี้ทำให้Nvidiaหุ้นของบริษัทร่วงลง 3% ในการซื้อขายช่วงเช้า
    จีนได้เปิดการสอบสวนการผูกขาดของ Nvidia ผู้ผลิตชิปของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการตอบโต้ล่าสุดของปักกิ่ง หลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยมาตรการควบคุมการส่งออกรอบที่เข้มงวดที่สุดต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนเมื่อวันจันทร์ที่9 ธันวาคม 2567 สำนักงานกำกับดูแลตลาดแห่งรัฐของจีนกล่าวว่า Nvidia ซึ่งเป็นผู้พัฒนาชิปที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ได้ละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดของจีน รวมถึงละเมิดข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการที่บรรลุข้อตกลงในปี 2020 เมื่อปักกิ่งให้การอนุมัติแบบมีเงื่อนไขแก่ Nvidia สำหรับการเข้าซื้อ Mellanox Technologies มูลค่า 6.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งตั้งอยู่ในอิสราเอล การสอบสวนดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ปักกิ่งเปิดเผยมาตรการควบคุมที่เข้มงวดต่อการส่งออกวัตถุดิบที่สำคัญไปยังสหรัฐฯ โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้ต่อข้อจำกัดล่าสุดของวอชิงตันเกี่ยวกับอุปกรณ์การผลิตชิปและซอฟต์แวร์ และการเพิ่มรายชื่อบริษัทนิติบุคคลของจีนมากกว่า 140 รายเข้าไปในรายชื่อบัญชีดำทางการค้าในวันเดียวกับที่ปักกิ่งประกาศข้อจำกัดในการส่งออก ทางสมาคมอุตสาหกรรมชั้นนำสี่แห่งของจีนได้ออกคำเตือนที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักว่า สมาชิกบริษัทจีนควรระมัดระวังในการซื้อชิปจากสหรัฐฯ ซึ่งพวกเขากล่าวว่า "ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป"จีนยังคงพึ่งพาชิปของ Nvidia อย่างมากในการฝึกอบรม AI แต่บริษัทสามารถขายชิป AI เวอร์ชันที่ลดระดับลงได้เท่านั้นในประเทศเนื่องจากมาตรการควบคุมการส่งออกของวอชิงตันซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อจำกัดความก้าวหน้าด้าน AI ของจีนรายได้จากจีนคิดเป็นประมาณ 15.4% ของรายได้ทั้งหมดของ Nvidia ในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 27 ตุลาคม2567และข่าวนี้ทำให้Nvidiaหุ้นของบริษัทร่วงลง 3% ในการซื้อขายช่วงเช้า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงพาณิชย์เผยจีนควบคุมการส่งออกสินค้าDual-use Items ไปยังสหรัฐฯ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงกระทรวงพาณิชย์ระบุเมื่อวันพฤหัสบดีที่5ธันวาคมว่าการตัดสินใจของจีนที่จะจำกัดการส่งออกสินค้าDual-Use Itemซึ่งเป็นสินค้าที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ทั้งทางด้านพาณิชย์และทางทหาร ซึ่งเมื่อผู้ประกอบการขายสินค้าดังกล่าวไปแล้ว ปลายทางสามารถใช้สินค้านั้นเพื่อการค้าทั่วไป แต่อาจสามารถไปเกี่ยวข้องกับอาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ หรืออาวุธนิวเคลียร์ได้ ซึ่ง DUI แทรกซึมอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรมจีได้จกัดส่งออกDUIนี้ไปยังสหรัฐฯ ตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของจีน ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่สมเหตุสมผลเพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของตนเองและปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ เช่น การไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์https://www.cctvplus.com/news/20241205/8406647.shtml#!language=1
    กระทรวงพาณิชย์เผยจีนควบคุมการส่งออกสินค้าDual-use Items ไปยังสหรัฐฯ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงกระทรวงพาณิชย์ระบุเมื่อวันพฤหัสบดีที่5ธันวาคมว่าการตัดสินใจของจีนที่จะจำกัดการส่งออกสินค้าDual-Use Itemซึ่งเป็นสินค้าที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ทั้งทางด้านพาณิชย์และทางทหาร ซึ่งเมื่อผู้ประกอบการขายสินค้าดังกล่าวไปแล้ว ปลายทางสามารถใช้สินค้านั้นเพื่อการค้าทั่วไป แต่อาจสามารถไปเกี่ยวข้องกับอาวุธเคมี อาวุธชีวภาพ หรืออาวุธนิวเคลียร์ได้ ซึ่ง DUI แทรกซึมอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรมจีได้จกัดส่งออกDUIนี้ไปยังสหรัฐฯ ตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของจีน ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่สมเหตุสมผลเพื่อปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของตนเองและปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศ เช่น การไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์https://www.cctvplus.com/news/20241205/8406647.shtml#!language=1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลไกแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสู่การพัฒนาสร้างสรรค์เศรษฐกิจผสมผสานในประเทศเศรษฐกิจผสมผสาน (Integrated Economy) เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการผสานความแข็งแกร่งจากหลายภาคส่วน ทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม บริการ และเทคโนโลยี เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีความหลากหลายด้านทรัพยากรและวัฒนธรรม สามารถใช้ประโยชน์จากกลไกแรงขับเคลื่อนเหล่านี้เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนานี้ได้---1. การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสามารถในการแข่งขันการวิจัยและพัฒนา (R&D): สนับสนุนการวิจัยในสถาบันการศึกษาและเอกชนเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้: ส่งเสริมการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI), IoT และ Big Data ในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบริการการพัฒนาสตาร์ทอัพ: ส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างแนวคิดธุรกิจที่เชื่อมโยงทรัพยากรในประเทศเข้ากับตลาดโลก---2. การสร้างเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Economy)เศรษฐกิจที่ยั่งยืนไม่สามารถมองข้ามความสำคัญของสิ่งแวดล้อมได้การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน: สนับสนุนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และชีวมวลการจัดการขยะและทรัพยากรหมุนเวียน: ส่งเสริมการรีไซเคิลและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าการสร้างผลิตภัณฑ์สีเขียว: พัฒนาสินค้าที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและกระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก---3. การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy)เศรษฐกิจสร้างสรรค์ช่วยเพิ่มมูลค่าผ่านความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมศิลปะและวัฒนธรรม: นำมรดกวัฒนธรรมไทย เช่น ผ้าไหม งานหัตถกรรม และอาหาร มาปรับใช้ในตลาดสมัยใหม่การออกแบบและสื่อดิจิทัล: ส่งเสริมการพัฒนาภาพยนตร์ ดนตรี และเกมที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทยการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น: พัฒนาผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพื่อการส่งออก---4. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจผสมผสานประสบความสำเร็จการศึกษาและการฝึกอบรม: ปรับปรุงระบบการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในศตวรรษที่ 21การส่งเสริมทักษะที่หลากหลาย: เช่น ทักษะด้านดิจิทัล การแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์การสนับสนุนแรงงานในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม: เพิ่มโอกาสให้แรงงานได้รับความรู้ใหม่และเทคโนโลยี---5. การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภาคส่วนการผสานความร่วมมือระหว่างเกษตร อุตสาหกรรม และบริการช่วยสร้างระบบเศรษฐกิจที่ครอบคลุมเกษตรกรรมอัจฉริยะ: ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเพื่อเพิ่มผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป: พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่การท่องเที่ยวแบบครบวงจร: ผสมผสานวัฒนธรรม ธรรมชาติ และสุขภาพในการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยว---6. การสนับสนุนนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานการสนับสนุนจากรัฐบาลและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นการจัดทำนโยบายที่ยั่งยืน: เช่น การลดภาษีสำหรับธุรกิจสีเขียวและสร้างสรรค์การพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์: สร้างเครือข่ายการขนส่งที่ช่วยลดต้นทุนและเวลาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน: สนับสนุน SMEs และสตาร์ทอัพผ่านกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจ---สรุปการพัฒนาสร้างสรรค์เศรษฐกิจผสมผสานในประเทศต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชน หากประเทศไทยสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งปรับตัวตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ก็จะสามารถสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและแข็งแกร่งได้ในระยะยาว
    กลไกแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสู่การพัฒนาสร้างสรรค์เศรษฐกิจผสมผสานในประเทศเศรษฐกิจผสมผสาน (Integrated Economy) เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการผสานความแข็งแกร่งจากหลายภาคส่วน ทั้งเกษตรกรรม อุตสาหกรรม บริการ และเทคโนโลยี เพื่อสร้างระบบเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและสามารถแข่งขันในระดับโลกได้ ประเทศไทยในฐานะประเทศที่มีความหลากหลายด้านทรัพยากรและวัฒนธรรม สามารถใช้ประโยชน์จากกลไกแรงขับเคลื่อนเหล่านี้เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนานี้ได้---1. การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสามารถในการแข่งขันการวิจัยและพัฒนา (R&D): สนับสนุนการวิจัยในสถาบันการศึกษาและเอกชนเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่มีมูลค่าเพิ่มการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้: ส่งเสริมการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI), IoT และ Big Data ในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบริการการพัฒนาสตาร์ทอัพ: ส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างแนวคิดธุรกิจที่เชื่อมโยงทรัพยากรในประเทศเข้ากับตลาดโลก---2. การสร้างเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Economy)เศรษฐกิจที่ยั่งยืนไม่สามารถมองข้ามความสำคัญของสิ่งแวดล้อมได้การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน: สนับสนุนการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ลม และชีวมวลการจัดการขยะและทรัพยากรหมุนเวียน: ส่งเสริมการรีไซเคิลและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าการสร้างผลิตภัณฑ์สีเขียว: พัฒนาสินค้าที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและกระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก---3. การส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy)เศรษฐกิจสร้างสรรค์ช่วยเพิ่มมูลค่าผ่านความคิดสร้างสรรค์และวัฒนธรรมศิลปะและวัฒนธรรม: นำมรดกวัฒนธรรมไทย เช่น ผ้าไหม งานหัตถกรรม และอาหาร มาปรับใช้ในตลาดสมัยใหม่การออกแบบและสื่อดิจิทัล: ส่งเสริมการพัฒนาภาพยนตร์ ดนตรี และเกมที่สะท้อนเอกลักษณ์ไทยการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น: พัฒนาผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพื่อการส่งออก---4. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจผสมผสานประสบความสำเร็จการศึกษาและการฝึกอบรม: ปรับปรุงระบบการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในศตวรรษที่ 21การส่งเสริมทักษะที่หลากหลาย: เช่น ทักษะด้านดิจิทัล การแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์การสนับสนุนแรงงานในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม: เพิ่มโอกาสให้แรงงานได้รับความรู้ใหม่และเทคโนโลยี---5. การสร้างความเชื่อมโยงระหว่างภาคส่วนการผสานความร่วมมือระหว่างเกษตร อุตสาหกรรม และบริการช่วยสร้างระบบเศรษฐกิจที่ครอบคลุมเกษตรกรรมอัจฉริยะ: ใช้เทคโนโลยีและข้อมูลเพื่อเพิ่มผลผลิตอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป: พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่การท่องเที่ยวแบบครบวงจร: ผสมผสานวัฒนธรรม ธรรมชาติ และสุขภาพในการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยว---6. การสนับสนุนนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานการสนับสนุนจากรัฐบาลและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นการจัดทำนโยบายที่ยั่งยืน: เช่น การลดภาษีสำหรับธุรกิจสีเขียวและสร้างสรรค์การพัฒนาโครงข่ายโลจิสติกส์: สร้างเครือข่ายการขนส่งที่ช่วยลดต้นทุนและเวลาการเข้าถึงแหล่งเงินทุน: สนับสนุน SMEs และสตาร์ทอัพผ่านกองทุนพัฒนาเศรษฐกิจ---สรุปการพัฒนาสร้างสรรค์เศรษฐกิจผสมผสานในประเทศต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน ทั้งรัฐบาล ภาคเอกชน ชุมชน และประชาชน หากประเทศไทยสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งปรับตัวตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ก็จะสามารถสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและแข็งแกร่งได้ในระยะยาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 436 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚡️🇮🇳ชัยศังกร (Jaishankar) เรียกร้องให้เพิ่มการส่งออกของอินเดียไปยังรัสเซีย🇷🇺

    🗯️"คุณรู้ไหมว่า, เราเป็นลูกค้าที่ดี, เราเป็นลูกค้าระยะยาว ดังนั้นลูกค้าที่ดีก็มีสิทธิ์เช่นกัน เรายังต้องการการเข้าถึงเศรษฐกิจของรัสเซียได้ดีขึ้นด้วย"
    .
    ⚡️🇮🇳Jaishankar Calls for Boost in Indian Exports to Russia🇷🇺

    🗯️"You know, we are good customers. We are long term customers. So good customer also has a right. We also need a better access to the Russian economy."
    .
    7:12 PM · Dec 5, 2024 · 157 Views
    https://x.com/Sputnik_India/status/1864643972192198871
    ⚡️🇮🇳ชัยศังกร (Jaishankar) เรียกร้องให้เพิ่มการส่งออกของอินเดียไปยังรัสเซีย🇷🇺 🗯️"คุณรู้ไหมว่า, เราเป็นลูกค้าที่ดี, เราเป็นลูกค้าระยะยาว ดังนั้นลูกค้าที่ดีก็มีสิทธิ์เช่นกัน เรายังต้องการการเข้าถึงเศรษฐกิจของรัสเซียได้ดีขึ้นด้วย" . ⚡️🇮🇳Jaishankar Calls for Boost in Indian Exports to Russia🇷🇺 🗯️"You know, we are good customers. We are long term customers. So good customer also has a right. We also need a better access to the Russian economy." . 7:12 PM · Dec 5, 2024 · 157 Views https://x.com/Sputnik_India/status/1864643972192198871
    Like
    Wow
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 442 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • 🇨🇳 จีนห้ามการส่งออกวัสดุไฮเทคที่สำคัญ รวมถึงแกลเลียมและเจอร์เมเนียมซึ่งอาจนำไปใช้ทางการทหารกับสหรัฐอเมริกา
    .
    JUST IN: 🇨🇳 China bans exports of key high-tech materials including gallium and germanium with potential military applications to the United States.
    .
    2:10 AM · Dec 4, 2024 · 299.7K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1864024542865236149
    🇨🇳 จีนห้ามการส่งออกวัสดุไฮเทคที่สำคัญ รวมถึงแกลเลียมและเจอร์เมเนียมซึ่งอาจนำไปใช้ทางการทหารกับสหรัฐอเมริกา . JUST IN: 🇨🇳 China bans exports of key high-tech materials including gallium and germanium with potential military applications to the United States. . 2:10 AM · Dec 4, 2024 · 299.7K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1864024542865236149
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปักกิ่งสวนกลับทันควัน ประกาศจำกัดการส่งออกแร่ธาตุที่มีความสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์บางรายการให้อเมริกา หลังจากเมื่อวันจันทร์ (2) วอชิงตันออกมาตรการสกัดอุตสาหกรรมชิปจีนรอบ 3 ซึ่งจะมีการควบคุมการส่งออกไปยังบริษัทแดนมังกร 140 แห่ง
    .
    คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินหมากใหญ่กระดานสุดท้ายในวันจันทร์ เพื่อปิดกั้นจีนไม่ให้เข้าถึงและผลิตชิปที่จะช่วยส่งเสริมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โดยอ้างว่าอาจถูกนำไปใช้งานทางทหารหรือคุกคามความมั่นคงของอเมริกา
    .
    คำสั่งใหม่คราวนี้ยังเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ก็เป็นที่คาดหมายกันว่า เขาจะยังคงสานต่อมาตรการแข็งกร้าวกับปักกิ่ง
    .
    สำหรับมาตรการรอบล่าสุดของสหรัฐฯ มุ่งครอบคลุมทั้งการจำกัดการจัดส่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปยังจีน ได้แก่ ชิปหน่วยความจำแบนด์วิดธ์สูงที่จำเป็นสำหรับการใช้งานระดับไฮเอนด์อย่างเช่นการฝึกเครื่องจักรเอไอ เครื่องจักรเครื่องมือผลิตชิปอีก 24 รายการ และเครื่องมือด้านซอฟต์แวร์ 3 รายการ และการจำกัดการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปที่ผลิตในประเทศ เช่น สิงคโปร์และมาเลเซีย
    .
    จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์จีน แถลงว่า มาตรการนี้มีเป้าหมายในการป้องกันไม่ให้จีนสามารถส่งเสริมระบบการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในแดนมังกร ซึ่งจะนำไปใช้สนับสนุนการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย
    .
    สำหรับบริษัทจีนที่จะได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดรอบใหม่คราวนี้ ประกอบด้วยบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์เกือบ 24 แห่ง บริษัทด้านการลงทุน 2 แห่ง และพวกผู้ผลิตเครื่องจักรเครื่องมือผลิตชิปกว่า 100 แห่ง เช่น สเวย์ชัวร์ เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำงานร่วมกับหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ที่ถูกอเมริกาแซงก์ชันและขณะนี้มีบทบาทสำคัญในการผลิตและพัฒนาชิปขั้นสูงของจีน
    .
    บริษัทเหล่านี้จะถูกขึ้นบัญชีดำใน entity list หรือรายชื่อบริษัทที่รัฐบาลอเมริกามองว่า มีอันตรายต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ซึ่งซัปพลายเออร์อเมริกันจะไม่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งผลิตภัณฑ์ให้โดยไม่ได้รับใบอนุญาตพิเศษ
    .
    ยิ่งไปกว่านั้น มาตรการล่าสุดคราวนี้ยังมีการขยายอำนาจของอเมริกาในการควบคุมการส่งออกเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปของพวกผู้ผลิตอเมริกัน ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ ที่ทำการผลิตในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกและจัดส่งไปห้โรงงานชิปบางแห่งในจีน โดยการควบคุมเช่นนี้จะส่งผลต่อเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ผลิตในอิสราเอล มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน ขณะที่อุปกรณ์ที่ผลิตในญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ได้รับการยกเว้น
    .
    มาตรการชุดใหม่นี้มีระเบียบจำกัดชิปความจำที่ใช้ในชิปเอไอซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี HBM 2 หรือสูงกว่า อันเป็นเทคโนโลยีที่ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และเอสเค ไฮนิกซ์ของเกาหลีใต้ และไมครอนของอเมริกาใช้อยู่
    .
    สำหรับปฏิกิริยาตอบโต้จากฝ่ายจีน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า พฤติกรรมของอเมริกาบ่อนทำลายระเบียบการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และขัดขวางห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ก่อนสำทับว่า จีนจะดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของบริษัทท้องถิ่น
    .
    ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีว่า มาตรการจำกัดของอเมริกาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ “การข่มขู่ทางเศรษฐกิจ” และ “แนวทางปฏิบัติที่ไม่อิงกับตลาด”
    .
    จีนประกาศห้ามส่งออกแร่ใช้ทำเซมิคอนดักเตอร์ไปยังสหรัฐฯ
    .
    ต่อมาในวันอังคาร (3) กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศใช้มาตรการห้ามการส่งออกพวกสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับแร่ แกลเลียม เจอร์มาเนียม และพลวง (แอนติโมนี) ซึ่งมีศักยภาพที่อาจนำไปใช้ทางทหารได้ ไปยังสหรัฐฯ นอกจากนั้น ยังให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดในเรื่องการส่งออกกราไฟต์ไปยังสหรัฐฯ อีกด้วย โดยต้องตรวจสอบผู้ใช้และการนำไปใช้อย่างถี่ถ้วน
    .
    คำชี้แนะว่าด้วยสิ่งของที่อาจนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งทหารและพลเรือนของกระทรวงพาณิชย์จีนฉบับนี้ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในทันที ได้ให้เหตุผลของการออกระเบียบเช่นนี้ว่า เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศชาติ
    .
    “โดยหลักการแล้ว การส่งออกแกลเลียม เจอร์มาเนียม พลวง และพวกวัสดุที่มีความแข็งเป็นพิเศษ (superhard materials) ไปยังสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ไม่ควรได้รับอนุมัติ” กระทรวงพาณิชย์จีนบอก
    .
    มาตรการใหม่เช่นนี้ เป็นการเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่การบังคับใช้ระเบียบจำกัดการส่งออกแร่ธาตุสำคัญยิ่งยวดเหล่านี้ซึ่งปักกิ่งทยอยประกาศออกมาในปีที่แล้ว เพียงแต่มาตรการใหม่นี้ยังมีการระบุเจาะจงว่าใช้กับการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ เท่านั้นอีกด้วย
    .
    ข้อมูลของศุลกากรจีนแสดงให้เห็นว่า ไม่มีการขนส่งเจอร์มาเนียม หรือแกลเลียม ทั้งแบบที่ขึ้นรูปแล้ว (wrought) และแบบที่ไม่ได้ขึ้นรูป (unwrought) ไปยังสหรัฐฯ เลยในปีนี้นับจนถึงเดือนตุลาคม ถึงแม้ในปีก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ คือตลาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 และอันดับ 5 ตามลำดับของแร่เหล่านี้ของจีน
    .
    แกลเลียม และเจอร์มาเนียม ใช้อยู่ในเซมิคอนดักเตอร์ นอกจากนั้นแล้ว เจอร์มาเนียม ยังใช้ในพวกเทคโนโลยีอินฟราเรด สายเคเบิลใยแก้วนำแสง และแผงโซลาร์เซลล์
    .
    ทำนองเดียวกัน การส่งออกพวกผลิตภัณฑ์พลวงของจีนโดยรวมในเดือนตุลาคม ได้หล่นฮวบลงมาถึง 97% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน หลังจากมาตรการจำกัดการส่งออกของปักกิ่งเริ่มมีผลบังคับใช้
    .
    ในปีที่แล้ว จีนเป็นผู้ผลิตพลวงที่ได้มาจากการทำเหมืองถึงประมาณ 48% ของที่ผลิตได้ทั่วโลก โดยที่พลวงถูกนำไปใช้ทั้งในพวกเครื่องกระสุน ขีปนาวุธอินฟราเรด อาวุธนิวเคลียร์ และกล้องสองตาให้มองกลางคืน ตลอดจนในแบตเตอรี่ และอุปกรณ์โฟโตโวลตาอิก
    .
    “ความเคลื่อนไหวคราวนี้ถือว่าเป็นการทำให้ความตึงเครียดในห่วงโซ่อุปทานยิ่งยกระดับบานปลายออกไปอย่างมากมาย ขณะที่การเข้าถึงพวกวัตถุนี้ก็อยู่ในสภาพตึงตัวอยู่แล้วในโลกตะวันตก” เป็นคำกล่าวของ แจ๊ก เบดเดอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง โปรเจ็คต์ บลู
    .
    ราคาของพลวงไตรออกไซด์ (antimony trioxide) ที่ตลาดรอตเตอร์ดัม อยู่ที่ 39,000 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน ณ วันที่ 28 พ.ย. เมื่อเปรียบเทียบกับตอนเริ่มต้นปีนี้ หมายความว่าราคาพุ่งสูงขึ้นถึง 228% ทั้งนี้ตามตัวเลขของ อาร์กุส กิจการด้านข้อมูลข่าวสาร
    .
    “ทุกๆ คนจะต้องพยายามลองขุดหาแถวๆ สนามหญ้าหลังบ้านของตัวเอง เพื่อค้นดูว่ามีพลวงหรือไม่ ประเทศจำนวนมากจะต้องพยายามค้นหาสินแร่พลวงให้เจอ” เป็นคำพูดของเทรดเดอร์ด้านโลหะรายหนึ่ง ซึ่งขอให้สงวนนาม
    ..............
    Sondhi X
    ปักกิ่งสวนกลับทันควัน ประกาศจำกัดการส่งออกแร่ธาตุที่มีความสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์บางรายการให้อเมริกา หลังจากเมื่อวันจันทร์ (2) วอชิงตันออกมาตรการสกัดอุตสาหกรรมชิปจีนรอบ 3 ซึ่งจะมีการควบคุมการส่งออกไปยังบริษัทแดนมังกร 140 แห่ง . คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เดินหมากใหญ่กระดานสุดท้ายในวันจันทร์ เพื่อปิดกั้นจีนไม่ให้เข้าถึงและผลิตชิปที่จะช่วยส่งเสริมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) โดยอ้างว่าอาจถูกนำไปใช้งานทางทหารหรือคุกคามความมั่นคงของอเมริกา . คำสั่งใหม่คราวนี้ยังเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ก็เป็นที่คาดหมายกันว่า เขาจะยังคงสานต่อมาตรการแข็งกร้าวกับปักกิ่ง . สำหรับมาตรการรอบล่าสุดของสหรัฐฯ มุ่งครอบคลุมทั้งการจำกัดการจัดส่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไปยังจีน ได้แก่ ชิปหน่วยความจำแบนด์วิดธ์สูงที่จำเป็นสำหรับการใช้งานระดับไฮเอนด์อย่างเช่นการฝึกเครื่องจักรเอไอ เครื่องจักรเครื่องมือผลิตชิปอีก 24 รายการ และเครื่องมือด้านซอฟต์แวร์ 3 รายการ และการจำกัดการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปที่ผลิตในประเทศ เช่น สิงคโปร์และมาเลเซีย . จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์จีน แถลงว่า มาตรการนี้มีเป้าหมายในการป้องกันไม่ให้จีนสามารถส่งเสริมระบบการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในแดนมังกร ซึ่งจะนำไปใช้สนับสนุนการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย . สำหรับบริษัทจีนที่จะได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดรอบใหม่คราวนี้ ประกอบด้วยบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์เกือบ 24 แห่ง บริษัทด้านการลงทุน 2 แห่ง และพวกผู้ผลิตเครื่องจักรเครื่องมือผลิตชิปกว่า 100 แห่ง เช่น สเวย์ชัวร์ เทคโนโลยี ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำงานร่วมกับหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ที่ถูกอเมริกาแซงก์ชันและขณะนี้มีบทบาทสำคัญในการผลิตและพัฒนาชิปขั้นสูงของจีน . บริษัทเหล่านี้จะถูกขึ้นบัญชีดำใน entity list หรือรายชื่อบริษัทที่รัฐบาลอเมริกามองว่า มีอันตรายต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ซึ่งซัปพลายเออร์อเมริกันจะไม่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งผลิตภัณฑ์ให้โดยไม่ได้รับใบอนุญาตพิเศษ . ยิ่งไปกว่านั้น มาตรการล่าสุดคราวนี้ยังมีการขยายอำนาจของอเมริกาในการควบคุมการส่งออกเครื่องจักรอุปกรณ์ผลิตชิปของพวกผู้ผลิตอเมริกัน ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ ที่ทำการผลิตในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกและจัดส่งไปห้โรงงานชิปบางแห่งในจีน โดยการควบคุมเช่นนี้จะส่งผลต่อเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ผลิตในอิสราเอล มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน ขณะที่อุปกรณ์ที่ผลิตในญี่ปุ่นและเนเธอร์แลนด์ได้รับการยกเว้น . มาตรการชุดใหม่นี้มีระเบียบจำกัดชิปความจำที่ใช้ในชิปเอไอซึ่งเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี HBM 2 หรือสูงกว่า อันเป็นเทคโนโลยีที่ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และเอสเค ไฮนิกซ์ของเกาหลีใต้ และไมครอนของอเมริกาใช้อยู่ . สำหรับปฏิกิริยาตอบโต้จากฝ่ายจีน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า พฤติกรรมของอเมริกาบ่อนทำลายระเบียบการค้าและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และขัดขวางห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ก่อนสำทับว่า จีนจะดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของบริษัทท้องถิ่น . ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนโจมตีว่า มาตรการจำกัดของอเมริกาเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ “การข่มขู่ทางเศรษฐกิจ” และ “แนวทางปฏิบัติที่ไม่อิงกับตลาด” . จีนประกาศห้ามส่งออกแร่ใช้ทำเซมิคอนดักเตอร์ไปยังสหรัฐฯ . ต่อมาในวันอังคาร (3) กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศใช้มาตรการห้ามการส่งออกพวกสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับแร่ แกลเลียม เจอร์มาเนียม และพลวง (แอนติโมนี) ซึ่งมีศักยภาพที่อาจนำไปใช้ทางทหารได้ ไปยังสหรัฐฯ นอกจากนั้น ยังให้ดำเนินการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดในเรื่องการส่งออกกราไฟต์ไปยังสหรัฐฯ อีกด้วย โดยต้องตรวจสอบผู้ใช้และการนำไปใช้อย่างถี่ถ้วน . คำชี้แนะว่าด้วยสิ่งของที่อาจนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งทหารและพลเรือนของกระทรวงพาณิชย์จีนฉบับนี้ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในทันที ได้ให้เหตุผลของการออกระเบียบเช่นนี้ว่า เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศชาติ . “โดยหลักการแล้ว การส่งออกแกลเลียม เจอร์มาเนียม พลวง และพวกวัสดุที่มีความแข็งเป็นพิเศษ (superhard materials) ไปยังสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ไม่ควรได้รับอนุมัติ” กระทรวงพาณิชย์จีนบอก . มาตรการใหม่เช่นนี้ เป็นการเพิ่มความเข้มแข็งให้แก่การบังคับใช้ระเบียบจำกัดการส่งออกแร่ธาตุสำคัญยิ่งยวดเหล่านี้ซึ่งปักกิ่งทยอยประกาศออกมาในปีที่แล้ว เพียงแต่มาตรการใหม่นี้ยังมีการระบุเจาะจงว่าใช้กับการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ เท่านั้นอีกด้วย . ข้อมูลของศุลกากรจีนแสดงให้เห็นว่า ไม่มีการขนส่งเจอร์มาเนียม หรือแกลเลียม ทั้งแบบที่ขึ้นรูปแล้ว (wrought) และแบบที่ไม่ได้ขึ้นรูป (unwrought) ไปยังสหรัฐฯ เลยในปีนี้นับจนถึงเดือนตุลาคม ถึงแม้ในปีก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ คือตลาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 และอันดับ 5 ตามลำดับของแร่เหล่านี้ของจีน . แกลเลียม และเจอร์มาเนียม ใช้อยู่ในเซมิคอนดักเตอร์ นอกจากนั้นแล้ว เจอร์มาเนียม ยังใช้ในพวกเทคโนโลยีอินฟราเรด สายเคเบิลใยแก้วนำแสง และแผงโซลาร์เซลล์ . ทำนองเดียวกัน การส่งออกพวกผลิตภัณฑ์พลวงของจีนโดยรวมในเดือนตุลาคม ได้หล่นฮวบลงมาถึง 97% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน หลังจากมาตรการจำกัดการส่งออกของปักกิ่งเริ่มมีผลบังคับใช้ . ในปีที่แล้ว จีนเป็นผู้ผลิตพลวงที่ได้มาจากการทำเหมืองถึงประมาณ 48% ของที่ผลิตได้ทั่วโลก โดยที่พลวงถูกนำไปใช้ทั้งในพวกเครื่องกระสุน ขีปนาวุธอินฟราเรด อาวุธนิวเคลียร์ และกล้องสองตาให้มองกลางคืน ตลอดจนในแบตเตอรี่ และอุปกรณ์โฟโตโวลตาอิก . “ความเคลื่อนไหวคราวนี้ถือว่าเป็นการทำให้ความตึงเครียดในห่วงโซ่อุปทานยิ่งยกระดับบานปลายออกไปอย่างมากมาย ขณะที่การเข้าถึงพวกวัตถุนี้ก็อยู่ในสภาพตึงตัวอยู่แล้วในโลกตะวันตก” เป็นคำกล่าวของ แจ๊ก เบดเดอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง โปรเจ็คต์ บลู . ราคาของพลวงไตรออกไซด์ (antimony trioxide) ที่ตลาดรอตเตอร์ดัม อยู่ที่ 39,000 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน ณ วันที่ 28 พ.ย. เมื่อเปรียบเทียบกับตอนเริ่มต้นปีนี้ หมายความว่าราคาพุ่งสูงขึ้นถึง 228% ทั้งนี้ตามตัวเลขของ อาร์กุส กิจการด้านข้อมูลข่าวสาร . “ทุกๆ คนจะต้องพยายามลองขุดหาแถวๆ สนามหญ้าหลังบ้านของตัวเอง เพื่อค้นดูว่ามีพลวงหรือไม่ ประเทศจำนวนมากจะต้องพยายามค้นหาสินแร่พลวงให้เจอ” เป็นคำพูดของเทรดเดอร์ด้านโลหะรายหนึ่ง ซึ่งขอให้สงวนนาม .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 862 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนประกาศยุติการส่งออกแกลเลียม เจอร์เมเนียม แอนติโมนี และวัสดุไฮเทคสำคัญอื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา

    จีนประกาศวันนี้ว่าจะห้ามส่งออกแกลเลียม เจอร์เมเนียม แอนติโมนี และวัสดุไฮเทคสำคัญอื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจนำไปใช้ทางการทหาร

    กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกประกาศดังกล่าว หลังจากที่วอชิงตันขยายรายชื่อคว่ำบาตรบริษัทจีนในการควบคุมการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ซึ่งชิปดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการใช้งานขั้นสูง

    ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนและประเทศอื่นๆ อย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ความตึงเครียดเกี่ยวกับการค้าและเทคโนโลยีที่ปะทุขึ้นรุนแรงขึ้น

    จีนคือประเทศที่จัดหาจัดส่งและดำเนินการผลิตพลวง (แอนติโมนี) รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยที่สารกึ่งโลหะนี้ถูกใช้ในการผลิตพวกขีปนาวุธอินฟราเรด, อาวุธนิวเคลียร์, และกล้องส่องกลางคืน, ตลอดจนเป็นสารทำให้พวกลูกปืนและรถถังมีความแข็งมากขึ้น

    สำหรับแกลเลียม-เจอร์เมเนียม ธาตุทั้งสองชนิดนิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ และจอแสดงผล แกลเลียมและเจอร์เมเนียมมีบทบาทในการผลิตสารกึ่งตัวนำแบบผสมจำนวนมาก ซึ่งรวมองค์ประกอบหลายอย่างเข้าด้วยกัน เพื่อปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพการส่งข้อมูล
    จีนประกาศยุติการส่งออกแกลเลียม เจอร์เมเนียม แอนติโมนี และวัสดุไฮเทคสำคัญอื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา จีนประกาศวันนี้ว่าจะห้ามส่งออกแกลเลียม เจอร์เมเนียม แอนติโมนี และวัสดุไฮเทคสำคัญอื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจนำไปใช้ทางการทหาร กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกประกาศดังกล่าว หลังจากที่วอชิงตันขยายรายชื่อคว่ำบาตรบริษัทจีนในการควบคุมการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ซึ่งชิปดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการใช้งานขั้นสูง ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนและประเทศอื่นๆ อย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ความตึงเครียดเกี่ยวกับการค้าและเทคโนโลยีที่ปะทุขึ้นรุนแรงขึ้น จีนคือประเทศที่จัดหาจัดส่งและดำเนินการผลิตพลวง (แอนติโมนี) รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยที่สารกึ่งโลหะนี้ถูกใช้ในการผลิตพวกขีปนาวุธอินฟราเรด, อาวุธนิวเคลียร์, และกล้องส่องกลางคืน, ตลอดจนเป็นสารทำให้พวกลูกปืนและรถถังมีความแข็งมากขึ้น สำหรับแกลเลียม-เจอร์เมเนียม ธาตุทั้งสองชนิดนิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ และจอแสดงผล แกลเลียมและเจอร์เมเนียมมีบทบาทในการผลิตสารกึ่งตัวนำแบบผสมจำนวนมาก ซึ่งรวมองค์ประกอบหลายอย่างเข้าด้วยกัน เพื่อปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพการส่งข้อมูล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts