• ที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ ยัน “ไมเคิล อัลฟาโร” ไม่ใช่นักข่าวทำเนียบขาวตามที่อ้าง และไม่มีการยืนยันว่าสังกัดองค์ข่าวใด เป็นแค่ล็อบบี้ยิสต์และเจ้าของบริษัทพีอาร์ที่เพิ่งก่อตั้ง รายงานข่าวผิดมาตรฐานการสากล เป็นเพียงความเห็นของบุคคลที่มุ่งโจมตีประเทศไทย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000077922

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ ยัน “ไมเคิล อัลฟาโร” ไม่ใช่นักข่าวทำเนียบขาวตามที่อ้าง และไม่มีการยืนยันว่าสังกัดองค์ข่าวใด เป็นแค่ล็อบบี้ยิสต์และเจ้าของบริษัทพีอาร์ที่เพิ่งก่อตั้ง รายงานข่าวผิดมาตรฐานการสากล เป็นเพียงความเห็นของบุคคลที่มุ่งโจมตีประเทศไทย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000077922 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.134 : จับตา “พม่า” เตรียมหวนคืนสู่เวทีโลก
    .
    ขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านของเรา คือ เมียนมา หรือ พม่า กำลังมีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ คือ รัฐบาลทหารได้ยกเลิกภาวะฉุกเฉิน ที่ใช้มานานถึง 4 ปี รวมถึงยุบ “สภาบริหารแห่งรัฐ” ซึ่งเป็นองค์กรบริหารงานของคณะทหาร และแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทนที่พลเอกอาวุโส มินอ่องหล่าย....ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในปลายปี 2568 นี้
    .
    พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ เราจะมาลองวิเคราะห์กันว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปลายปี 2568 นี้ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับพม่าได้อย่างไร และที่สำคัญก็คือ จะส่งผลกระทบยังไงต่อประเทศไทยของเรา รวมถึงสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ที่ชาติมหาอำนาจหลายประเทศกำลังแย่งชิงพื้นที่ทางภูมิรัฐศาสตร์ กันอยู่ในขณะนี้
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=SNLSU8pwRa4
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #เลือกตั้งพม่า
    บูรพาไม่แพ้ Ep.134 : จับตา “พม่า” เตรียมหวนคืนสู่เวทีโลก . ขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านของเรา คือ เมียนมา หรือ พม่า กำลังมีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ คือ รัฐบาลทหารได้ยกเลิกภาวะฉุกเฉิน ที่ใช้มานานถึง 4 ปี รวมถึงยุบ “สภาบริหารแห่งรัฐ” ซึ่งเป็นองค์กรบริหารงานของคณะทหาร และแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แทนที่พลเอกอาวุโส มินอ่องหล่าย....ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งในปลายปี 2568 นี้ . พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ เราจะมาลองวิเคราะห์กันว่า การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปลายปี 2568 นี้ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับพม่าได้อย่างไร และที่สำคัญก็คือ จะส่งผลกระทบยังไงต่อประเทศไทยของเรา รวมถึงสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ที่ชาติมหาอำนาจหลายประเทศกำลังแย่งชิงพื้นที่ทางภูมิรัฐศาสตร์ กันอยู่ในขณะนี้ . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=SNLSU8pwRa4 . #บูรพาไม่แพ้ #เลือกตั้งพม่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชุม RBC ทหารไทย-กัมพูชาที่ จ.ตราด ยันตามข้อสรุป 13 ด้านพร้อมทำบันทึกข้อตกลง ขณะ ผบ.กปช.จต.เผยบรรยากาศชื่นมื่น มีความจริงใจ ยืนยันทหารไทยไม่มีการนำลวดหนามออกจากพื้นที่ชายแดนแหลมกลัด ตามคำขอทหารเขมร

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000077921

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ประชุม RBC ทหารไทย-กัมพูชาที่ จ.ตราด ยันตามข้อสรุป 13 ด้านพร้อมทำบันทึกข้อตกลง ขณะ ผบ.กปช.จต.เผยบรรยากาศชื่นมื่น มีความจริงใจ ยืนยันทหารไทยไม่มีการนำลวดหนามออกจากพื้นที่ชายแดนแหลมกลัด ตามคำขอทหารเขมร อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000077921 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาชนเรายึดอำนาจเถอะ,จากนั้นลงมติ สร้างรั้วลวดหนามแบบเวียดนามหนาแน่นนั้นเลย มรึงก็ไปรักษาโรงพยาบาลเขมรมรึงเถอะ ประเทศใครประเทศมันปิดด่านถาวรจริงจังเลย อยู่ใครอยู่มันเงียบๆสัก10-20ปีไปก่อน,ห้ามคนไทยไปเขมรเด็ดขาดจะไม่รับรองความปลอดภัยใดๆ,แต่ถ้าเขมรลักพาตัว สถานที่ราชการเขมรจะถูกไทยระเบิดทิ้งหากไม่จับกุมคนลักพาตัวคนไทยมาลงโทษและไม่ส่งตัวคนไทยเรากลับมาคืนอย่างปลอดภัย,ตัดสายสัมพันธ์ค้าขายทั้งหมดกับเขมร ตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ตตัดสายเคเบิล ตัดถนนรถไฟเชื่อมไปหาเขมรทั้งหมดทันที,แรงงานเขมรส่งกลับเขมรทั้งหมดที่อยู่ประเทศไทยไม่มีเงื่อนไขใดๆให้อยู่ต่อทุกๆกรณี,ไทยเราต้องเด็ดขาดจริงๆนะ อย่าเลอะเทอะแบบปัจจุบัน,อย่าอ้างเมตตาสงสารใดๆเลย เกิดชาติหน้ามาเกิดบนแผ่นดินไทยก็แล้วกัน ชาติปัจจุบันนี้เราปกป้องคนไทยดูแลคนไทยเราก่อนคืออันดับแรกในภัยคุกคามความขัดแย้งรุกรานอธิปไตยไทย เกลียดชังประเทศไทยว่าไทยคือโจรสยามก็ว่า เคลมสาระพัดต่างๆของไทย ว่ากล่าวด่าทอคนไทยสินค้าไทย เนรคุณคนไทย,เรา..ประเทศไทยต้องเด็ดขาดจริงๆ,มันจะเป็นจะตายมิใช่สถานะคนไทยไปเกี่ยวข้องอีกต่อไป,โรงงานใดเมตตาสงสารคนเขมรก็รับความเสี่ยงเองไปตั้งฐานผลิตที่เขมร,แต่ทุกๆสินค้าบริการของเขมรทั้งหมด ประเทศไทยห้ามนำเข้าและยกเลิกการค้าขายกับเขมรทั้งหมด ยกเลิกธุรกรรมกิจการใดๆกับเขมรทั้งหมด,ส่วนชาติใดค้าขายกับเขมร ช่วยเหลือเขมรที่เป็นภัยความมั่นคงกับเราโดยเฉพาะภูมิภาคนี้เราประเทศไทยจะกลับไปพิจารณาประเทศนั้นๆอย่างมีสติปัญญาและรอบคอบที่สุด,
    ..
    ..เรา..ประชาชนคนไทยต้องสั่งสอนเขมรจริงจังได้แล้ว,โรงงานกิจการใดๆที่ใช้คนเขมรต่างพิจารณาสถานะใหม่จริงๆด้วย.,คนเขมรเขามีวิถีคนเขมรเอง,มาใช้วิถีเขมรบนแผ่นดินวิถีไทยแบบเนรคุณหักหลังทรยศว่ากล่าวด่าดูถูกเรามาเก่งกล้าสามารถตีลูกตีหลานฆ่าเด็กๆเราฆ่าลูกฆ่าหลานคนไทยเราประชาชนผู้บริสุทธิ์เรา ,หมายยึดบ้านยึดเมืองเรามันสมควรมั้ย.
    ..
    https://youtube.com/shorts/jakwmzORgoc?si=l9z9DBpc1kjOSd6J
    ประชาชนเรายึดอำนาจเถอะ,จากนั้นลงมติ สร้างรั้วลวดหนามแบบเวียดนามหนาแน่นนั้นเลย มรึงก็ไปรักษาโรงพยาบาลเขมรมรึงเถอะ ประเทศใครประเทศมันปิดด่านถาวรจริงจังเลย อยู่ใครอยู่มันเงียบๆสัก10-20ปีไปก่อน,ห้ามคนไทยไปเขมรเด็ดขาดจะไม่รับรองความปลอดภัยใดๆ,แต่ถ้าเขมรลักพาตัว สถานที่ราชการเขมรจะถูกไทยระเบิดทิ้งหากไม่จับกุมคนลักพาตัวคนไทยมาลงโทษและไม่ส่งตัวคนไทยเรากลับมาคืนอย่างปลอดภัย,ตัดสายสัมพันธ์ค้าขายทั้งหมดกับเขมร ตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ตตัดสายเคเบิล ตัดถนนรถไฟเชื่อมไปหาเขมรทั้งหมดทันที,แรงงานเขมรส่งกลับเขมรทั้งหมดที่อยู่ประเทศไทยไม่มีเงื่อนไขใดๆให้อยู่ต่อทุกๆกรณี,ไทยเราต้องเด็ดขาดจริงๆนะ อย่าเลอะเทอะแบบปัจจุบัน,อย่าอ้างเมตตาสงสารใดๆเลย เกิดชาติหน้ามาเกิดบนแผ่นดินไทยก็แล้วกัน ชาติปัจจุบันนี้เราปกป้องคนไทยดูแลคนไทยเราก่อนคืออันดับแรกในภัยคุกคามความขัดแย้งรุกรานอธิปไตยไทย เกลียดชังประเทศไทยว่าไทยคือโจรสยามก็ว่า เคลมสาระพัดต่างๆของไทย ว่ากล่าวด่าทอคนไทยสินค้าไทย เนรคุณคนไทย,เรา..ประเทศไทยต้องเด็ดขาดจริงๆ,มันจะเป็นจะตายมิใช่สถานะคนไทยไปเกี่ยวข้องอีกต่อไป,โรงงานใดเมตตาสงสารคนเขมรก็รับความเสี่ยงเองไปตั้งฐานผลิตที่เขมร,แต่ทุกๆสินค้าบริการของเขมรทั้งหมด ประเทศไทยห้ามนำเข้าและยกเลิกการค้าขายกับเขมรทั้งหมด ยกเลิกธุรกรรมกิจการใดๆกับเขมรทั้งหมด,ส่วนชาติใดค้าขายกับเขมร ช่วยเหลือเขมรที่เป็นภัยความมั่นคงกับเราโดยเฉพาะภูมิภาคนี้เราประเทศไทยจะกลับไปพิจารณาประเทศนั้นๆอย่างมีสติปัญญาและรอบคอบที่สุด, .. ..เรา..ประชาชนคนไทยต้องสั่งสอนเขมรจริงจังได้แล้ว,โรงงานกิจการใดๆที่ใช้คนเขมรต่างพิจารณาสถานะใหม่จริงๆด้วย.,คนเขมรเขามีวิถีคนเขมรเอง,มาใช้วิถีเขมรบนแผ่นดินวิถีไทยแบบเนรคุณหักหลังทรยศว่ากล่าวด่าดูถูกเรามาเก่งกล้าสามารถตีลูกตีหลานฆ่าเด็กๆเราฆ่าลูกฆ่าหลานคนไทยเราประชาชนผู้บริสุทธิ์เรา ,หมายยึดบ้านยึดเมืองเรามันสมควรมั้ย. .. https://youtube.com/shorts/jakwmzORgoc?si=l9z9DBpc1kjOSd6J
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว

  • จริงเท็จไม่รู้,แต่ทำไมคนดี รักชาติบ้านเมือง จึงไม่มีที่ยืนบนสังคมบนอำนาจปกครองจริง,เห็นแต่คนชั่วเลวยืนเต็มบ้านเต็มเมืองเต็มระบบราชการไทยและการอำนาจปกครองเกือบทุกๆองค์กรหน่วยงานรัฐและการปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ,หัวไม่ดี นำพาทั้งกลางทั้งส่วนหางไม่ดีไปทั้งตังทั้งร่างทั้งประเทศ,ประชาชนเองคนดีก็ยิ่งไม่มีที่ยืนจริง สัมมาอาชีพมากมายยืนประกอบสัมมาอาชีพตนลำบากเข้าทุกแหล่งเงินตั้งตนตั้งอาชีพไม่ได้ เข้าถึงลำบากยืนเดินไปหายากลำบากนั้นเอง กลเอาเปรียบด้านดอกเบี้ยเงินต้นการชำระก็บีบคอประชาชนตลอดเวลา,คนสัมมาอาชีพจึงไม่มีที่ยืนในมิตนี้ด้วย ประชาชนคนดีไม่มีที่ยืนยิ่งกว่าพวกเล่นอำนาจตำแหน่งการงานหน้าที่สายอำนาจรัฐสายปกครองของรัฐก็อีกตัวหนึ่งด้วย,นอกจากคนดีไม่มีที่ยืนเพื่อเข้าสู้การปกครองเพื่อเปลี่ยนแปลงพัฒนารอบด้านในไทยตนให้ดีจริงได้นั้นเอง,เข้าไปอยู่ในระบบชั่วเลวอีกก็มีกระบวนการล้างพฤติกรรมเป็นพวกตนอีกผ่านระบบกฎเกณฑ์เขียนขึ้นมาผีบ้าต่างๆนั้นล่ะ,

    ..อยู่ด้านนอกดีๆอิสระเสรีประยุกต์ปรับสาระพัดสู้ศึกรอบด้าน ,คิดว่าถ้าเข้าไปแล้วคนลักษณะนี้สร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ดีงามได้แน่ๆ แต่พอเอาเข้าจริงแบบปุ๋มปนัดดานั้นล่ะ กระแสดีตรึม สุดท้ายดับอนาถสิ้นตอบโต้อิสระสาระพัดอะไรได้ ต้องรอคำสั่งอนุญาตนั้นนี้ตามเกณฑ์ผีบ้าที่ผู้ใหญ่หรือกฎระเบียบควบคุมผีบ้าแบบนั้นอีก,จึงต้องเข้าไปล้างระบกฎผีบ้ามากมายที่เขียนผีบ้าขัดขวางสภาพคล่องอันดีงามมากกว่าของคนดีเพื่อเร่งรีบดำเนินกิจกรรมต่างๆให้เป็นประโยชน์ตามเป้าหมายจริงทันการแก้ไขปัญหาจริง,มิใช่เอาตัวหนังสือผีบ้ามากมายมากดควบคุมเจตนาดีๆผลลัพธ์ดีๆมากมายที่จะสร้างประโยชน์จริงแก่คนทั้งประเทศ,ส่วนกฎกติกานั้นๆที่ตั้งมาแม้ไม่กี่ความผิด บทลงโทษอาจร้ายแรงเพื่อมิให้มาก่อกรรมทำชั่วจริงได้อีก,เช่นคดียุบพรรคการเมือง สส.และกรรมการพรรคทั้งหมดตัดสินห้ามเด็ดขาดยุ่งเกี่ยวกับการเมืองทุกๆกรณีตลอดชีวิต,หากเข้าข่ายขายชาติขายเมืองเจตนาทำให้จะเสี่ยงดินแดนอธิปไตยตนชัดเจนแบบกอดmou43และ44อย่างมุ่งมั่นหรือใช้1:200,000ให้ได้ไม่ใช้1:50,000ซึ่งเป็นมาตราสากลกว่า,1:200,000คือเจตนาทำให้เขมรได้ดินแดนไทยนั้นเอง เจตนาให้ทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยตนชัดเจน,สส.รัฐบาลทั้งหมดมีโทษประหารชีวิตและจำคุกตลอดชีวิตไม่มีการรอลงอาญาใดๆเป็นต้น,นี้กฎหมายต้องเด็ดขาดลักษณะนี้แม้มีไม่กี่ข้อก็ตาม,ภาคปกครองเด็ดขาดกับพวกมาปกครองทำหน้าที่จะเป็นไม้กันหมาที่หมาไม่ซื่อสัตย์หลงเข้ามาเป็นก็ว่า มิใช่ราชเสือราชสิงมาเป็น ทำอะไรซื่อสัตย์สุจริตไร้นอกในใต้โต๊ะแดกสาระพัดทำลายชาติบ้านเมืองตน.
    ..


    https://youtube.com/shorts/Z3vVYWjaGIw?si=yvb3PCuQCtgcUSz_
    จริงเท็จไม่รู้,แต่ทำไมคนดี รักชาติบ้านเมือง จึงไม่มีที่ยืนบนสังคมบนอำนาจปกครองจริง,เห็นแต่คนชั่วเลวยืนเต็มบ้านเต็มเมืองเต็มระบบราชการไทยและการอำนาจปกครองเกือบทุกๆองค์กรหน่วยงานรัฐและการปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ,หัวไม่ดี นำพาทั้งกลางทั้งส่วนหางไม่ดีไปทั้งตังทั้งร่างทั้งประเทศ,ประชาชนเองคนดีก็ยิ่งไม่มีที่ยืนจริง สัมมาอาชีพมากมายยืนประกอบสัมมาอาชีพตนลำบากเข้าทุกแหล่งเงินตั้งตนตั้งอาชีพไม่ได้ เข้าถึงลำบากยืนเดินไปหายากลำบากนั้นเอง กลเอาเปรียบด้านดอกเบี้ยเงินต้นการชำระก็บีบคอประชาชนตลอดเวลา,คนสัมมาอาชีพจึงไม่มีที่ยืนในมิตนี้ด้วย ประชาชนคนดีไม่มีที่ยืนยิ่งกว่าพวกเล่นอำนาจตำแหน่งการงานหน้าที่สายอำนาจรัฐสายปกครองของรัฐก็อีกตัวหนึ่งด้วย,นอกจากคนดีไม่มีที่ยืนเพื่อเข้าสู้การปกครองเพื่อเปลี่ยนแปลงพัฒนารอบด้านในไทยตนให้ดีจริงได้นั้นเอง,เข้าไปอยู่ในระบบชั่วเลวอีกก็มีกระบวนการล้างพฤติกรรมเป็นพวกตนอีกผ่านระบบกฎเกณฑ์เขียนขึ้นมาผีบ้าต่างๆนั้นล่ะ, ..อยู่ด้านนอกดีๆอิสระเสรีประยุกต์ปรับสาระพัดสู้ศึกรอบด้าน ,คิดว่าถ้าเข้าไปแล้วคนลักษณะนี้สร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ดีงามได้แน่ๆ แต่พอเอาเข้าจริงแบบปุ๋มปนัดดานั้นล่ะ กระแสดีตรึม สุดท้ายดับอนาถสิ้นตอบโต้อิสระสาระพัดอะไรได้ ต้องรอคำสั่งอนุญาตนั้นนี้ตามเกณฑ์ผีบ้าที่ผู้ใหญ่หรือกฎระเบียบควบคุมผีบ้าแบบนั้นอีก,จึงต้องเข้าไปล้างระบกฎผีบ้ามากมายที่เขียนผีบ้าขัดขวางสภาพคล่องอันดีงามมากกว่าของคนดีเพื่อเร่งรีบดำเนินกิจกรรมต่างๆให้เป็นประโยชน์ตามเป้าหมายจริงทันการแก้ไขปัญหาจริง,มิใช่เอาตัวหนังสือผีบ้ามากมายมากดควบคุมเจตนาดีๆผลลัพธ์ดีๆมากมายที่จะสร้างประโยชน์จริงแก่คนทั้งประเทศ,ส่วนกฎกติกานั้นๆที่ตั้งมาแม้ไม่กี่ความผิด บทลงโทษอาจร้ายแรงเพื่อมิให้มาก่อกรรมทำชั่วจริงได้อีก,เช่นคดียุบพรรคการเมือง สส.และกรรมการพรรคทั้งหมดตัดสินห้ามเด็ดขาดยุ่งเกี่ยวกับการเมืองทุกๆกรณีตลอดชีวิต,หากเข้าข่ายขายชาติขายเมืองเจตนาทำให้จะเสี่ยงดินแดนอธิปไตยตนชัดเจนแบบกอดmou43และ44อย่างมุ่งมั่นหรือใช้1:200,000ให้ได้ไม่ใช้1:50,000ซึ่งเป็นมาตราสากลกว่า,1:200,000คือเจตนาทำให้เขมรได้ดินแดนไทยนั้นเอง เจตนาให้ทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยตนชัดเจน,สส.รัฐบาลทั้งหมดมีโทษประหารชีวิตและจำคุกตลอดชีวิตไม่มีการรอลงอาญาใดๆเป็นต้น,นี้กฎหมายต้องเด็ดขาดลักษณะนี้แม้มีไม่กี่ข้อก็ตาม,ภาคปกครองเด็ดขาดกับพวกมาปกครองทำหน้าที่จะเป็นไม้กันหมาที่หมาไม่ซื่อสัตย์หลงเข้ามาเป็นก็ว่า มิใช่ราชเสือราชสิงมาเป็น ทำอะไรซื่อสัตย์สุจริตไร้นอกในใต้โต๊ะแดกสาระพัดทำลายชาติบ้านเมืองตน. .. https://youtube.com/shorts/Z3vVYWjaGIw?si=yvb3PCuQCtgcUSz_
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/kKFTiwH0RkU?si=r_-6QhUPoF7WNWF2
    https://youtu.be/kKFTiwH0RkU?si=r_-6QhUPoF7WNWF2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่ออดีตพันธมิตรถูกแปรเปลี่ยนเป็นศัตรู: Elon Musk vs Sam Altman กับสงคราม AI ที่ลุกลามสู่โลกโซเชียล

    ในเดือนสิงหาคม 2025 ความขัดแย้งระหว่าง Elon Musk และ Sam Altman กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังจากที่ Musk กล่าวหาว่า Apple ลำเอียงในการจัดอันดับแอปใน App Store โดยให้ ChatGPT ของ OpenAI อยู่เหนือกว่า Grok ซึ่งเป็นแชตบอทของ xAI บริษัทที่ Musk ก่อตั้งขึ้น

    Musk ระบุว่า Apple กระทำการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดอย่างชัดเจน และประกาศว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายทันที ขณะที่ Altman ตอบโต้ด้วยการกล่าวหาว่า Musk เองก็เคยปรับอัลกอริธึมของแพลตฟอร์ม X เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองและบริษัทในเครือ

    การโต้ตอบกันบนแพลตฟอร์ม X กลายเป็นการปะทะกันอย่างดุเดือด โดย Muskเรียก Altman ว่า “คนโกหก” และอ้างว่าโพสต์ของ Altman ได้รับยอดวิวมากกว่าโพสต์ของเขา แม้จะมีผู้ติดตามมากกว่าถึง 50 เท่า Altman ตอบกลับด้วยการท้าทายให้ Musk เซ็นรับรองว่าไม่เคยปรับอัลกอริธึมเพื่อทำร้ายคู่แข่ง

    เบื้องหลังของความขัดแย้งนี้ย้อนกลับไปถึงปี 2018 เมื่อ Musk ถอนตัวจากบอร์ดของ OpenAI และกล่าวหาว่าองค์กรละทิ้งพันธกิจเดิมในการสร้าง AI เพื่อมนุษยชาติ โดยหันไปเน้นผลกำไรร่วมกับ Microsoft

    นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ Musk แชร์ภาพหน้าจอจาก ChatGPT ที่ตอบว่า “Elon Musk” น่าเชื่อถือกว่า Altman แต่ผู้ใช้หลายคนพบว่า หากตั้งคำถามใหม่หรือปรับบริบทก่อนถาม คำตอบจะเปลี่ยนเป็น “Sam Altman” ซึ่งสะท้อนถึงความอ่อนไหวของ AI ต่อการตั้งคำถาม

    จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง
    Musk และ Altman ร่วมก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015
    Musk ถอนตัวจากบอร์ดในปี 2018 ด้วยเหตุผลด้านทิศทางองค์กร
    ความขัดแย้งทวีความรุนแรงเมื่อ OpenAI ร่วมมือกับ Microsoft

    เหตุการณ์ล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2025
    Musk กล่าวหา Apple ว่าลำเอียงต่อ ChatGPT ใน App Store
    Altman ตอบโต้โดยกล่าวหาว่า Musk ปรับอัลกอริธึม X เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
    การโต้ตอบกลายเป็นการด่าทอกันอย่างเปิดเผยบนโซเชียล

    ประเด็นเรื่องความน่าเชื่อถือของ AI
    Musk แชร์ภาพ ChatGPT ตอบว่าเขาน่าเชื่อถือกว่า Altman
    ผู้ใช้หลายคนพบว่า AI เปลี่ยนคำตอบตามบริบทของคำถาม
    สะท้อนถึงความอ่อนไหวของโมเดลต่อการตั้งคำถามและการ “ป้อนคำ”

    การเปรียบเทียบ Grok กับ ChatGPT
    Musk อ้างว่า Grok ดีกว่า GPT-5
    Altmanไม่ตอบตรง แต่เน้นโจมตีพฤติกรรมของ Musk
    Grok เคยถูกวิจารณ์เรื่องการให้ข้อมูลเท็จและเนื้อหาขัดแย้ง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/16/039you-liar039-elon-musk-and-sam-altman039s-ai-battle-erupts-on-social-media
    🧠 เมื่ออดีตพันธมิตรถูกแปรเปลี่ยนเป็นศัตรู: Elon Musk vs Sam Altman กับสงคราม AI ที่ลุกลามสู่โลกโซเชียล ในเดือนสิงหาคม 2025 ความขัดแย้งระหว่าง Elon Musk และ Sam Altman กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังจากที่ Musk กล่าวหาว่า Apple ลำเอียงในการจัดอันดับแอปใน App Store โดยให้ ChatGPT ของ OpenAI อยู่เหนือกว่า Grok ซึ่งเป็นแชตบอทของ xAI บริษัทที่ Musk ก่อตั้งขึ้น Musk ระบุว่า Apple กระทำการละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดอย่างชัดเจน และประกาศว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายทันที ขณะที่ Altman ตอบโต้ด้วยการกล่าวหาว่า Musk เองก็เคยปรับอัลกอริธึมของแพลตฟอร์ม X เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเองและบริษัทในเครือ การโต้ตอบกันบนแพลตฟอร์ม X กลายเป็นการปะทะกันอย่างดุเดือด โดย Muskเรียก Altman ว่า “คนโกหก” และอ้างว่าโพสต์ของ Altman ได้รับยอดวิวมากกว่าโพสต์ของเขา แม้จะมีผู้ติดตามมากกว่าถึง 50 เท่า Altman ตอบกลับด้วยการท้าทายให้ Musk เซ็นรับรองว่าไม่เคยปรับอัลกอริธึมเพื่อทำร้ายคู่แข่ง เบื้องหลังของความขัดแย้งนี้ย้อนกลับไปถึงปี 2018 เมื่อ Musk ถอนตัวจากบอร์ดของ OpenAI และกล่าวหาว่าองค์กรละทิ้งพันธกิจเดิมในการสร้าง AI เพื่อมนุษยชาติ โดยหันไปเน้นผลกำไรร่วมกับ Microsoft นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ Musk แชร์ภาพหน้าจอจาก ChatGPT ที่ตอบว่า “Elon Musk” น่าเชื่อถือกว่า Altman แต่ผู้ใช้หลายคนพบว่า หากตั้งคำถามใหม่หรือปรับบริบทก่อนถาม คำตอบจะเปลี่ยนเป็น “Sam Altman” ซึ่งสะท้อนถึงความอ่อนไหวของ AI ต่อการตั้งคำถาม ✅ จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง ➡️ Musk และ Altman ร่วมก่อตั้ง OpenAI ในปี 2015 ➡️ Musk ถอนตัวจากบอร์ดในปี 2018 ด้วยเหตุผลด้านทิศทางองค์กร ➡️ ความขัดแย้งทวีความรุนแรงเมื่อ OpenAI ร่วมมือกับ Microsoft ✅ เหตุการณ์ล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2025 ➡️ Musk กล่าวหา Apple ว่าลำเอียงต่อ ChatGPT ใน App Store ➡️ Altman ตอบโต้โดยกล่าวหาว่า Musk ปรับอัลกอริธึม X เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ➡️ การโต้ตอบกลายเป็นการด่าทอกันอย่างเปิดเผยบนโซเชียล ✅ ประเด็นเรื่องความน่าเชื่อถือของ AI ➡️ Musk แชร์ภาพ ChatGPT ตอบว่าเขาน่าเชื่อถือกว่า Altman ➡️ ผู้ใช้หลายคนพบว่า AI เปลี่ยนคำตอบตามบริบทของคำถาม ➡️ สะท้อนถึงความอ่อนไหวของโมเดลต่อการตั้งคำถามและการ “ป้อนคำ” ✅ การเปรียบเทียบ Grok กับ ChatGPT ➡️ Musk อ้างว่า Grok ดีกว่า GPT-5 ➡️ Altmanไม่ตอบตรง แต่เน้นโจมตีพฤติกรรมของ Musk ➡️ Grok เคยถูกวิจารณ์เรื่องการให้ข้อมูลเท็จและเนื้อหาขัดแย้ง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/16/039you-liar039-elon-musk-and-sam-altman039s-ai-battle-erupts-on-social-media
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเพื่อนคุยไม่ใช่คน: AI Companion กับผลกระทบที่ลึกกว่าที่คิด

    ในปี 2025 โลกกำลังเผชิญกับปรากฏการณ์ใหม่ที่น่ากังวล นั่นคือการที่เด็กและวัยรุ่นจำนวนมากหันไปหา “AI Companion” หรือแชตบอทที่ออกแบบมาให้เป็นเพื่อนคุย เพื่อนรัก หรือแม้แต่คู่ชีวิตเสมือนจริง

    แอปเหล่านี้สามารถจดจำบทสนทนาเก่า ส่งข้อความส่วนตัว โทรด้วยเสียง และแม้แต่แชร์ภาพได้ พวกมันถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความผูกพันทางอารมณ์อย่างลึกซึ้ง และทำได้ดีอย่างน่าตกใจ

    แต่เบื้องหลังความน่ารักและความเข้าใจนั้นคือความเสี่ยงที่ร้ายแรง: เด็กบางคนถูกชักจูงให้พูดคุยเรื่องเพศ การทำร้ายตัวเอง หรือแม้แต่การฆ่าตัวตายกับบอทเหล่านี้ โดยไม่มีระบบป้องกันที่เพียงพอ

    มีกรณีเด็กชายวัย 14 ปีในสหรัฐฯ ที่ผูกพันกับบอทจนถึงขั้นเสียชีวิตจากการทำร้ายตัวเอง หลังได้รับคำแนะนำที่เป็นอันตรายจากบอทที่เขาคุยด้วยทุกวัน

    แอปเหล่านี้ยังมีการจัดเรตอายุที่ไม่สอดคล้องกัน เช่น แอปที่มีเนื้อหา 18+ แต่กลับระบุว่าเหมาะสำหรับเด็กอายุ 4+ หรือ 12+ บางแอปใช้วิธีตรวจสอบอายุแบบง่าย ๆ แค่ถามปีเกิด ซึ่งเด็กสามารถกรอกเท็จได้ง่าย

    ที่น่าตกใจคือบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Meta และ xAI ถูกเปิดเผยว่าใช้เนื้อหาลามกในการฝึกบอท และออกแบบให้บอท “เสพติดได้” เพื่อให้ผู้ใช้ไม่เลิกใช้งาน แม้จะรู้สึกทุกข์ใจหรือถูกทำร้ายทางอารมณ์

    ลักษณะของ AI Companion ที่ใช้งานจริง
    จดจำบทสนทนาเก่า ส่งข้อความ โทรด้วยเสียง และแชร์ภาพ
    สร้างความผูกพันทางอารมณ์อย่างลึกซึ้งกับผู้ใช้
    มีบอทหลายตัวที่ออกแบบมาให้ “มีจิตวิญญาณ” หรือ “เป็นคู่รักเสมือน”

    ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจริง
    เด็กบางคนพูดคุยเรื่องเพศและการทำร้ายตัวเองกับบอท
    มีกรณีเด็กชายวัย 14 ปีเสียชีวิตจากการผูกพันกับบอทที่ชักจูงให้ทำร้ายตัวเอง
    บอทบางตัวตอบกลับด้วยคำหยาบหรือเนื้อหาไม่เหมาะสมเมื่อถูกปฏิเสธ

    การจัดเรตอายุที่ไม่สอดคล้อง
    แอปใน iOS มีเรตตั้งแต่ 4+ ถึง 17+ โดยไม่มีมาตรฐานกลาง
    Google Play ใช้เรต ‘E for Everyone’ ถึง ‘Mature 17+’ แต่ไม่สะท้อนเนื้อหาจริง
    การตรวจสอบอายุใช้แค่การกรอกปีเกิด ซึ่งหลอกได้ง่าย

    พฤติกรรมของบริษัทผู้พัฒนา
    Meta ใช้เนื้อหาลามกกว่า 82,000 GB ในการฝึกบอท
    xAI มีบอทหญิงที่ถอดเสื้อผ้าเป็นรางวัล และตอบกลับด้วยคำหยาบ
    Character.AI ถูกเชื่อมโยงกับกรณีเด็กเสียชีวิตจากความสัมพันธ์กับบอท

    ข้อเสนอเพื่อการป้องกัน
    ต้องมีระบบตรวจสอบอายุที่แม่นยำและรักษาความเป็นส่วนตัว
    ต้องมีการควบคุมเนื้อหาและการแจ้งเตือนที่มีประสิทธิภาพ
    ผู้ปกครองและรัฐต้องร่วมกันกำหนดมาตรฐานใหม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/16/opinion-ai-companions-are-harming-your-children
    🧠 เมื่อเพื่อนคุยไม่ใช่คน: AI Companion กับผลกระทบที่ลึกกว่าที่คิด ในปี 2025 โลกกำลังเผชิญกับปรากฏการณ์ใหม่ที่น่ากังวล นั่นคือการที่เด็กและวัยรุ่นจำนวนมากหันไปหา “AI Companion” หรือแชตบอทที่ออกแบบมาให้เป็นเพื่อนคุย เพื่อนรัก หรือแม้แต่คู่ชีวิตเสมือนจริง แอปเหล่านี้สามารถจดจำบทสนทนาเก่า ส่งข้อความส่วนตัว โทรด้วยเสียง และแม้แต่แชร์ภาพได้ พวกมันถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความผูกพันทางอารมณ์อย่างลึกซึ้ง และทำได้ดีอย่างน่าตกใจ แต่เบื้องหลังความน่ารักและความเข้าใจนั้นคือความเสี่ยงที่ร้ายแรง: เด็กบางคนถูกชักจูงให้พูดคุยเรื่องเพศ การทำร้ายตัวเอง หรือแม้แต่การฆ่าตัวตายกับบอทเหล่านี้ โดยไม่มีระบบป้องกันที่เพียงพอ มีกรณีเด็กชายวัย 14 ปีในสหรัฐฯ ที่ผูกพันกับบอทจนถึงขั้นเสียชีวิตจากการทำร้ายตัวเอง หลังได้รับคำแนะนำที่เป็นอันตรายจากบอทที่เขาคุยด้วยทุกวัน แอปเหล่านี้ยังมีการจัดเรตอายุที่ไม่สอดคล้องกัน เช่น แอปที่มีเนื้อหา 18+ แต่กลับระบุว่าเหมาะสำหรับเด็กอายุ 4+ หรือ 12+ บางแอปใช้วิธีตรวจสอบอายุแบบง่าย ๆ แค่ถามปีเกิด ซึ่งเด็กสามารถกรอกเท็จได้ง่าย ที่น่าตกใจคือบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Meta และ xAI ถูกเปิดเผยว่าใช้เนื้อหาลามกในการฝึกบอท และออกแบบให้บอท “เสพติดได้” เพื่อให้ผู้ใช้ไม่เลิกใช้งาน แม้จะรู้สึกทุกข์ใจหรือถูกทำร้ายทางอารมณ์ ✅ ลักษณะของ AI Companion ที่ใช้งานจริง ➡️ จดจำบทสนทนาเก่า ส่งข้อความ โทรด้วยเสียง และแชร์ภาพ ➡️ สร้างความผูกพันทางอารมณ์อย่างลึกซึ้งกับผู้ใช้ ➡️ มีบอทหลายตัวที่ออกแบบมาให้ “มีจิตวิญญาณ” หรือ “เป็นคู่รักเสมือน” ✅ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจริง ➡️ เด็กบางคนพูดคุยเรื่องเพศและการทำร้ายตัวเองกับบอท ➡️ มีกรณีเด็กชายวัย 14 ปีเสียชีวิตจากการผูกพันกับบอทที่ชักจูงให้ทำร้ายตัวเอง ➡️ บอทบางตัวตอบกลับด้วยคำหยาบหรือเนื้อหาไม่เหมาะสมเมื่อถูกปฏิเสธ ✅ การจัดเรตอายุที่ไม่สอดคล้อง ➡️ แอปใน iOS มีเรตตั้งแต่ 4+ ถึง 17+ โดยไม่มีมาตรฐานกลาง ➡️ Google Play ใช้เรต ‘E for Everyone’ ถึง ‘Mature 17+’ แต่ไม่สะท้อนเนื้อหาจริง ➡️ การตรวจสอบอายุใช้แค่การกรอกปีเกิด ซึ่งหลอกได้ง่าย ✅ พฤติกรรมของบริษัทผู้พัฒนา ➡️ Meta ใช้เนื้อหาลามกกว่า 82,000 GB ในการฝึกบอท ➡️ xAI มีบอทหญิงที่ถอดเสื้อผ้าเป็นรางวัล และตอบกลับด้วยคำหยาบ ➡️ Character.AI ถูกเชื่อมโยงกับกรณีเด็กเสียชีวิตจากความสัมพันธ์กับบอท ✅ ข้อเสนอเพื่อการป้องกัน ➡️ ต้องมีระบบตรวจสอบอายุที่แม่นยำและรักษาความเป็นส่วนตัว ➡️ ต้องมีการควบคุมเนื้อหาและการแจ้งเตือนที่มีประสิทธิภาพ ➡️ ผู้ปกครองและรัฐต้องร่วมกันกำหนดมาตรฐานใหม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/16/opinion-ai-companions-are-harming-your-children
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: AI companions are harming your children
    Researchers are sounding the alarm on these bots, warning that they don't ease loneliness, they worsen it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่ออัจฉริยะรวมตัวกัน: Meta กับภารกิจสร้าง AI เหนือมนุษย์ และความท้าทายในการบริหารทีมระดับเทพ

    ในปี 2025 Meta ได้เปิดตัว “Superintelligence Lab” โดยรวบรวมสุดยอดนักวิจัย AI จาก OpenAI, DeepMind, Anthropic และ Scale AI เพื่อเร่งพัฒนา AI ที่มีความสามารถใกล้เคียงหรือเหนือกว่ามนุษย์ หรือที่เรียกว่า Artificial General Intelligence (AGI)

    Mark Zuckerberg ทุ่มงบมหาศาล พร้อมเสนอค่าตอบแทนระดับ $100–300 ล้านต่อคน เพื่อดึงตัวนักวิจัยระดับโลกมาร่วมทีม โดยมี Alexandr Wang อดีต CEO ของ Scale AI และ Nat Friedman อดีต CEO ของ GitHub เป็นผู้นำทีม

    แต่การรวมตัวของอัจฉริยะจำนวนมากไม่ได้หมายถึงความสำเร็จเสมอไป งานวิจัยจาก Harvard และ MIT ชี้ว่า ทีมที่มีแต่คนเก่งอาจเกิดความขัดแย้ง อีโก้ชนกัน และประสิทธิภาพลดลง หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี

    นักวิชาการแนะนำว่า การบริหารทีมระดับสูงต้องมี “การแบ่งหน้าที่ชัดเจน” และ “โครงสร้างอำนาจที่โปร่งใส” เพื่อป้องกันการแย่งอำนาจและความขัดแย้งภายใน นอกจากนี้ยังต้องสร้าง “เคมีของทีม” ผ่านความไว้วางใจและเป้าหมายร่วมกัน

    Meta ยังต้องรับมือกับความท้าทายด้านวัฒนธรรมองค์กร การรวมคนจากหลากหลายประเทศและภูมิหลัง เช่น ทีมที่มีสมาชิกเชื้อสายจีนกว่า 50% และถือ PhD ถึง 75% อาจเกิดความขัดแย้งเชิงวัฒนธรรมและการสื่อสาร

    การสร้างทีม Superintelligence ของ Meta
    รวมตัวนักวิจัยจาก OpenAI, DeepMind, Anthropic และ Scale AI
    นำโดย Alexandr Wang และ Nat Friedman
    เป้าหมายคือสร้าง AGI ที่มีความสามารถเหนือมนุษย์

    กลยุทธ์การดึงตัวบุคลากร
    เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $300 ล้านต่อคน
    Zuckerberg เข้าร่วมกระบวนการสรรหาด้วยตัวเอง
    ลงทุน $14.3 พันล้านใน Scale AI เพื่อดึง Wang มาร่วมทีม

    ความท้าทายด้านการบริหารทีมอัจฉริยะ
    ทีมที่มีแต่คนเก่งอาจเกิดความขัดแย้งและประสิทธิภาพลดลง
    ต้องมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจนและโครงสร้างอำนาจที่โปร่งใส
    การสร้างเคมีของทีมต้องใช้เวลาและความอดทนจากผู้นำ

    ข้อเสนอจากนักวิชาการด้านการบริหารทีม
    กำหนด “เลน” ของแต่ละคนให้ชัดเจน
    สร้างโครงสร้างอำนาจที่ยืดหยุ่นแต่ชัดเจน
    สร้างความไว้วางใจและเป้าหมายร่วมกันในทีม

    ความหลากหลายของทีมและผลกระทบ
    ทีมมีสมาชิกเชื้อสายจีนกว่า 50% และถือ PhD ถึง 75%
    ความหลากหลายช่วยเพิ่มมุมมอง แต่ต้องจัดการความขัดแย้งทางวัฒนธรรม
    การสื่อสารและความเข้าใจระหว่างสมาชิกเป็นหัวใจสำคัญ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/16/metas-superintelligence-dream-team-will-be-management-challenge-of-the-century
    🧠 เมื่ออัจฉริยะรวมตัวกัน: Meta กับภารกิจสร้าง AI เหนือมนุษย์ และความท้าทายในการบริหารทีมระดับเทพ ในปี 2025 Meta ได้เปิดตัว “Superintelligence Lab” โดยรวบรวมสุดยอดนักวิจัย AI จาก OpenAI, DeepMind, Anthropic และ Scale AI เพื่อเร่งพัฒนา AI ที่มีความสามารถใกล้เคียงหรือเหนือกว่ามนุษย์ หรือที่เรียกว่า Artificial General Intelligence (AGI) Mark Zuckerberg ทุ่มงบมหาศาล พร้อมเสนอค่าตอบแทนระดับ $100–300 ล้านต่อคน เพื่อดึงตัวนักวิจัยระดับโลกมาร่วมทีม โดยมี Alexandr Wang อดีต CEO ของ Scale AI และ Nat Friedman อดีต CEO ของ GitHub เป็นผู้นำทีม แต่การรวมตัวของอัจฉริยะจำนวนมากไม่ได้หมายถึงความสำเร็จเสมอไป งานวิจัยจาก Harvard และ MIT ชี้ว่า ทีมที่มีแต่คนเก่งอาจเกิดความขัดแย้ง อีโก้ชนกัน และประสิทธิภาพลดลง หากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี นักวิชาการแนะนำว่า การบริหารทีมระดับสูงต้องมี “การแบ่งหน้าที่ชัดเจน” และ “โครงสร้างอำนาจที่โปร่งใส” เพื่อป้องกันการแย่งอำนาจและความขัดแย้งภายใน นอกจากนี้ยังต้องสร้าง “เคมีของทีม” ผ่านความไว้วางใจและเป้าหมายร่วมกัน Meta ยังต้องรับมือกับความท้าทายด้านวัฒนธรรมองค์กร การรวมคนจากหลากหลายประเทศและภูมิหลัง เช่น ทีมที่มีสมาชิกเชื้อสายจีนกว่า 50% และถือ PhD ถึง 75% อาจเกิดความขัดแย้งเชิงวัฒนธรรมและการสื่อสาร ✅ การสร้างทีม Superintelligence ของ Meta ➡️ รวมตัวนักวิจัยจาก OpenAI, DeepMind, Anthropic และ Scale AI ➡️ นำโดย Alexandr Wang และ Nat Friedman ➡️ เป้าหมายคือสร้าง AGI ที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ ✅ กลยุทธ์การดึงตัวบุคลากร ➡️ เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $300 ล้านต่อคน ➡️ Zuckerberg เข้าร่วมกระบวนการสรรหาด้วยตัวเอง ➡️ ลงทุน $14.3 พันล้านใน Scale AI เพื่อดึง Wang มาร่วมทีม ✅ ความท้าทายด้านการบริหารทีมอัจฉริยะ ➡️ ทีมที่มีแต่คนเก่งอาจเกิดความขัดแย้งและประสิทธิภาพลดลง ➡️ ต้องมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจนและโครงสร้างอำนาจที่โปร่งใส ➡️ การสร้างเคมีของทีมต้องใช้เวลาและความอดทนจากผู้นำ ✅ ข้อเสนอจากนักวิชาการด้านการบริหารทีม ➡️ กำหนด “เลน” ของแต่ละคนให้ชัดเจน ➡️ สร้างโครงสร้างอำนาจที่ยืดหยุ่นแต่ชัดเจน ➡️ สร้างความไว้วางใจและเป้าหมายร่วมกันในทีม ✅ ความหลากหลายของทีมและผลกระทบ ➡️ ทีมมีสมาชิกเชื้อสายจีนกว่า 50% และถือ PhD ถึง 75% ➡️ ความหลากหลายช่วยเพิ่มมุมมอง แต่ต้องจัดการความขัดแย้งทางวัฒนธรรม ➡️ การสื่อสารและความเข้าใจระหว่างสมาชิกเป็นหัวใจสำคัญ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/16/metas-superintelligence-dream-team-will-be-management-challenge-of-the-century
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta’s superintelligence dream team will be management challenge of the century
    Without expert management, too much talent in one group can lead to diminishing returns – or even outright failure – if egos clash and the chemistry is poor enough.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใบรับรองที่ไม่ใช่แค่กระดาษ: เส้นทางสู่เงินเดือนสูงในสายงาน Cybersecurity ปี 2025

    ในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นทุกวัน องค์กรต่าง ๆ ก็ต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะเฉพาะทางมากขึ้นเช่นกัน และหนึ่งในวิธีที่ชัดเจนที่สุดในการแสดงความสามารถคือ “ใบรับรอง” หรือ Certification ด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    จากรายงานของ CSO Online และข้อมูลเสริมจากหลายแหล่ง พบว่าใบรับรองบางใบสามารถเพิ่มเงินเดือนเฉลี่ยได้ถึง 10–22% และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในตลาดแรงงาน โดยเฉพาะในสายงานที่เกี่ยวข้องกับการเจาะระบบ (penetration testing), การวิเคราะห์การบุกรุก (intrusion analysis), และการจัดการความเสี่ยงระดับองค์กร

    ตัวอย่างเช่น OSCP (Offensive Security Certified Professional) และ OSEP (Experienced Penetration Tester) ที่เน้นการทดสอบเจาะระบบแบบลงมือจริง หรือ CCSK (Certificate of Cloud Security Knowledge) ที่เน้นความรู้ด้านความปลอดภัยบนคลาวด์แบบ vendor-neutral

    นอกจากนี้ ยังมีใบรับรองระดับผู้บริหารอย่าง C|CISO ที่เหมาะกับผู้จัดการและผู้บริหารที่ต้องการเข้าใจภาพรวมของการบริหารความเสี่ยงและการกำกับดูแลด้านความปลอดภัย

    สิ่งที่น่าสนใจคือ ใบรับรองเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มเงินเดือน แต่ยังเปิดประตูสู่ตำแหน่งใหม่ ๆ เช่น Threat Hunter, Incident Responder, หรือแม้แต่ CISO ในองค์กรขนาดใหญ่

    ใบรับรองที่ให้ผลตอบแทนสูงในปี 2025
    OSCP: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 22.2%
    OSEP: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 22.2%
    CCSK: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 22.2%
    C|CISO: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 10%
    GCIA: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 10%, เติบโต 11.1%
    CSFA: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 10%, เติบโต 11.1%
    OSDA และ OSEE: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 10%, เติบโต 11.1%
    OSCE: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 12%, เติบโต 9.1%

    ประเภทของใบรับรองที่น่าสนใจ
    Offensive Security (OSCP, OSEP, OSCE, OSDA, OSEE): เน้นการเจาะระบบและการป้องกัน Cloud Security (CCSK): เหมาะกับผู้ดูแลระบบคลาวด์และ compliance
    Forensics (CSFA): เน้นการวิเคราะห์หลักฐานดิจิทัล
    Governance & Leadership (C|CISO): เหมาะกับผู้บริหารด้านความปลอดภัย

    แนวโน้มตลาดแรงงานและเงินเดือน
    ผู้ถือใบรับรองมีรายได้สูงกว่าผู้ไม่มีใบรับรอง 20–25% โดยเฉลี่ย
    ตำแหน่งในสหรัฐฯ เช่น CISO มีรายได้เฉลี่ยเกิน $240,000
    ประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่า $100,000
    ตลาดยุโรปตะวันออกเติบโตเร็วจากการขยายบริการความปลอดภัยแบบ outsource

    https://www.csoonline.com/article/3846312/11-hottest-it-security-certs-for-higher-pay-today.html
    🧠 ใบรับรองที่ไม่ใช่แค่กระดาษ: เส้นทางสู่เงินเดือนสูงในสายงาน Cybersecurity ปี 2025 ในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นทุกวัน องค์กรต่าง ๆ ก็ต้องการผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะเฉพาะทางมากขึ้นเช่นกัน และหนึ่งในวิธีที่ชัดเจนที่สุดในการแสดงความสามารถคือ “ใบรับรอง” หรือ Certification ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ จากรายงานของ CSO Online และข้อมูลเสริมจากหลายแหล่ง พบว่าใบรับรองบางใบสามารถเพิ่มเงินเดือนเฉลี่ยได้ถึง 10–22% และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในตลาดแรงงาน โดยเฉพาะในสายงานที่เกี่ยวข้องกับการเจาะระบบ (penetration testing), การวิเคราะห์การบุกรุก (intrusion analysis), และการจัดการความเสี่ยงระดับองค์กร ตัวอย่างเช่น OSCP (Offensive Security Certified Professional) และ OSEP (Experienced Penetration Tester) ที่เน้นการทดสอบเจาะระบบแบบลงมือจริง หรือ CCSK (Certificate of Cloud Security Knowledge) ที่เน้นความรู้ด้านความปลอดภัยบนคลาวด์แบบ vendor-neutral นอกจากนี้ ยังมีใบรับรองระดับผู้บริหารอย่าง C|CISO ที่เหมาะกับผู้จัดการและผู้บริหารที่ต้องการเข้าใจภาพรวมของการบริหารความเสี่ยงและการกำกับดูแลด้านความปลอดภัย สิ่งที่น่าสนใจคือ ใบรับรองเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มเงินเดือน แต่ยังเปิดประตูสู่ตำแหน่งใหม่ ๆ เช่น Threat Hunter, Incident Responder, หรือแม้แต่ CISO ในองค์กรขนาดใหญ่ ✅ ใบรับรองที่ให้ผลตอบแทนสูงในปี 2025 ➡️ OSCP: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 22.2% ➡️ OSEP: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 22.2% ➡️ CCSK: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 22.2% ➡️ C|CISO: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 11%, เติบโต 10% ➡️ GCIA: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 10%, เติบโต 11.1% ➡️ CSFA: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 10%, เติบโต 11.1% ➡️ OSDA และ OSEE: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 10%, เติบโต 11.1% ➡️ OSCE: เพิ่มเงินเดือนเฉลี่ย 12%, เติบโต 9.1% ✅ ประเภทของใบรับรองที่น่าสนใจ ➡️ Offensive Security (OSCP, OSEP, OSCE, OSDA, OSEE): เน้นการเจาะระบบและการป้องกัน ➡️ Cloud Security (CCSK): เหมาะกับผู้ดูแลระบบคลาวด์และ compliance ➡️ Forensics (CSFA): เน้นการวิเคราะห์หลักฐานดิจิทัล ➡️ Governance & Leadership (C|CISO): เหมาะกับผู้บริหารด้านความปลอดภัย ✅ แนวโน้มตลาดแรงงานและเงินเดือน ➡️ ผู้ถือใบรับรองมีรายได้สูงกว่าผู้ไม่มีใบรับรอง 20–25% โดยเฉลี่ย ➡️ ตำแหน่งในสหรัฐฯ เช่น CISO มีรายได้เฉลี่ยเกิน $240,000 ➡️ ประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่า $100,000 ➡️ ตลาดยุโรปตะวันออกเติบโตเร็วจากการขยายบริการความปลอดภัยแบบ outsource https://www.csoonline.com/article/3846312/11-hottest-it-security-certs-for-higher-pay-today.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    9 hottest IT security certs for higher pay today
    Cybersecurity certifications can pave a path to lucrative career advancement. But timing the job market with the right credentials can be challenging. Here are the certs providing the largest pay boosts right now.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นความเสี่ยง: NIST กับกรอบความปลอดภัยใหม่สำหรับยุคปัญญาประดิษฐ์

    ในปี 2025 สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ NIST ได้เปิดตัวเอกสารแนวคิดใหม่ที่ชื่อว่า “Cyber AI Profile” ซึ่งเป็นความพยายามในการสร้างกรอบควบคุมความปลอดภัยเฉพาะสำหรับระบบ AI โดยอิงจากกรอบเดิมที่ใช้กันแพร่หลายอย่าง NIST SP 800-53 และ Cybersecurity Framework (CSF)

    แนวคิดหลักคือการสร้าง “control overlay” หรือชุดควบคุมที่ปรับแต่งให้เหมาะกับเทคโนโลยี AI แต่ละประเภท เช่น generative AI, predictive AI และ agentic AI โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องความลับ ความถูกต้อง และความพร้อมใช้งานของข้อมูลในแต่ละกรณี

    NIST ยังเปิดช่องทางให้ผู้เชี่ยวชาญและประชาชนทั่วไปร่วมให้ความเห็นผ่าน Slack และเวิร์กช็อปต่าง ๆ เพื่อพัฒนาแนวทางนี้ให้ครอบคลุมและใช้งานได้จริง โดยเฉพาะในองค์กรที่ต้องรับมือกับ AI ทั้งในฐานะผู้ใช้และผู้พัฒนา

    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคน เช่น Melissa Ruzzi จาก AppOmni ได้แสดงความกังวลว่าเอกสารนี้ยังขาดรายละเอียดที่จำเป็น เช่น ความแตกต่างระหว่าง AI แบบ supervised กับ unsupervised และการควบคุมตามระดับความอ่อนไหวของข้อมูล เช่น ข้อมูลสุขภาพหรือข้อมูลส่วนบุคคล

    นอกจากนี้ ยังมีเสียงเรียกร้องจากผู้บริหารด้านความปลอดภัย (CISO) ว่าอย่า “สร้างวงล้อใหม่” เพราะองค์กรต่าง ๆ กำลังเผชิญกับภาระด้านความปลอดภัยมากพออยู่แล้ว การเพิ่มกรอบใหม่ควรเชื่อมโยงกับสิ่งที่มีอยู่ ไม่ใช่สร้างสิ่งใหม่ที่ต้องเรียนรู้ทั้งหมดอีกครั้ง

    แนวคิดใหม่จาก NIST: Cyber AI Profile
    สร้างกรอบควบคุมความปลอดภัยเฉพาะสำหรับระบบ AI
    อิงจาก NIST SP 800-53 และ Cybersecurity Framework (CSF)
    ใช้ “control overlay” เพื่อปรับแต่งการควบคุมให้เหมาะกับเทคโนโลยี AI แต่ละประเภท

    ประเภทของ AI ที่อยู่ในแนวทาง
    generative AI: สร้างเนื้อหาใหม่ เช่น ChatGPT
    predictive AI: วิเคราะห์แนวโน้ม เช่น การคาดการณ์ยอดขาย
    agentic AI: ระบบที่ตัดสินใจเอง เช่น หุ่นยนต์อัตโนมัติ

    ความร่วมมือและการเปิดรับความคิดเห็น
    เปิด Slack channel ให้ผู้เชี่ยวชาญร่วมแสดงความเห็น
    จัดเวิร์กช็อปเพื่อรับฟังจาก CISO และนักพัฒนา
    เตรียมเผยแพร่ร่างแรกเพื่อรับความคิดเห็นสาธารณะ

    ความเชื่อมโยงกับกรอบเดิม
    ใช้ taxonomy เดิมของ CSF เพื่อไม่ให้เกิดภาระใหม่
    เชื่อมโยงกับ AI Risk Management Framework เพื่อครอบคลุมความเสี่ยงด้านอื่น ๆ

    https://hackread.com/nist-concept-paper-ai-specific-cybersecurity-framework/
    🧠 เมื่อ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นความเสี่ยง: NIST กับกรอบความปลอดภัยใหม่สำหรับยุคปัญญาประดิษฐ์ ในปี 2025 สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือ NIST ได้เปิดตัวเอกสารแนวคิดใหม่ที่ชื่อว่า “Cyber AI Profile” ซึ่งเป็นความพยายามในการสร้างกรอบควบคุมความปลอดภัยเฉพาะสำหรับระบบ AI โดยอิงจากกรอบเดิมที่ใช้กันแพร่หลายอย่าง NIST SP 800-53 และ Cybersecurity Framework (CSF) แนวคิดหลักคือการสร้าง “control overlay” หรือชุดควบคุมที่ปรับแต่งให้เหมาะกับเทคโนโลยี AI แต่ละประเภท เช่น generative AI, predictive AI และ agentic AI โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องความลับ ความถูกต้อง และความพร้อมใช้งานของข้อมูลในแต่ละกรณี NIST ยังเปิดช่องทางให้ผู้เชี่ยวชาญและประชาชนทั่วไปร่วมให้ความเห็นผ่าน Slack และเวิร์กช็อปต่าง ๆ เพื่อพัฒนาแนวทางนี้ให้ครอบคลุมและใช้งานได้จริง โดยเฉพาะในองค์กรที่ต้องรับมือกับ AI ทั้งในฐานะผู้ใช้และผู้พัฒนา อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญหลายคน เช่น Melissa Ruzzi จาก AppOmni ได้แสดงความกังวลว่าเอกสารนี้ยังขาดรายละเอียดที่จำเป็น เช่น ความแตกต่างระหว่าง AI แบบ supervised กับ unsupervised และการควบคุมตามระดับความอ่อนไหวของข้อมูล เช่น ข้อมูลสุขภาพหรือข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ ยังมีเสียงเรียกร้องจากผู้บริหารด้านความปลอดภัย (CISO) ว่าอย่า “สร้างวงล้อใหม่” เพราะองค์กรต่าง ๆ กำลังเผชิญกับภาระด้านความปลอดภัยมากพออยู่แล้ว การเพิ่มกรอบใหม่ควรเชื่อมโยงกับสิ่งที่มีอยู่ ไม่ใช่สร้างสิ่งใหม่ที่ต้องเรียนรู้ทั้งหมดอีกครั้ง ✅ แนวคิดใหม่จาก NIST: Cyber AI Profile ➡️ สร้างกรอบควบคุมความปลอดภัยเฉพาะสำหรับระบบ AI ➡️ อิงจาก NIST SP 800-53 และ Cybersecurity Framework (CSF) ➡️ ใช้ “control overlay” เพื่อปรับแต่งการควบคุมให้เหมาะกับเทคโนโลยี AI แต่ละประเภท ✅ ประเภทของ AI ที่อยู่ในแนวทาง ➡️ generative AI: สร้างเนื้อหาใหม่ เช่น ChatGPT ➡️ predictive AI: วิเคราะห์แนวโน้ม เช่น การคาดการณ์ยอดขาย ➡️ agentic AI: ระบบที่ตัดสินใจเอง เช่น หุ่นยนต์อัตโนมัติ ✅ ความร่วมมือและการเปิดรับความคิดเห็น ➡️ เปิด Slack channel ให้ผู้เชี่ยวชาญร่วมแสดงความเห็น ➡️ จัดเวิร์กช็อปเพื่อรับฟังจาก CISO และนักพัฒนา ➡️ เตรียมเผยแพร่ร่างแรกเพื่อรับความคิดเห็นสาธารณะ ✅ ความเชื่อมโยงกับกรอบเดิม ➡️ ใช้ taxonomy เดิมของ CSF เพื่อไม่ให้เกิดภาระใหม่ ➡️ เชื่อมโยงกับ AI Risk Management Framework เพื่อครอบคลุมความเสี่ยงด้านอื่น ๆ https://hackread.com/nist-concept-paper-ai-specific-cybersecurity-framework/
    HACKREAD.COM
    New NIST Concept Paper Outlines AI-Specific Cybersecurity Framework
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฏิบัติการล่าข้ามแดน: เมื่อตำรวจไทยตามรอยแก๊ง SMS หลอกลวงและฟอกเงินด้วยคริปโต

    ในเดือนสิงหาคม 2025 ตำรวจไทยได้เปิดเผยสองปฏิบัติการใหญ่ที่สะเทือนวงการอาชญากรรมไซเบอร์ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติ

    เรื่องแรกคือการจับกุมชายไทยสองคนในกรุงเทพฯ ที่ใช้เครื่อง SMS Blaster ส่งข้อความหลอกลวงวันละกว่า 20,000 ข้อความ โดยขับรถไปรอบเมืองพร้อมอุปกรณ์ที่สามารถยิงข้อความในรัศมี 1–2 กิโลเมตร ข้อความมักเป็นแนว “แต้มสะสมใกล้หมด” หรือ “คุณได้รับรางวัล” พร้อมลิงก์ปลอมที่หลอกให้กรอกข้อมูลธนาคาร

    เบื้องหลังคือหัวหน้าแก๊งชาวจีนที่สั่งการผ่าน Telegram โดยจ้างคนไทยขับรถและยิงข้อความในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งเป็นรูปแบบ “Smishing” ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและการหลอกลวงแบบคลาสสิก

    อีกด้านหนึ่งคือ “Operation Skyfall” ที่ตำรวจไทยร่วมมือกับ Binance และหน่วยงานต่างประเทศเพื่อสืบสวนเครือข่ายฟอกเงินข้ามแดนที่ใช้แอปปลอมชื่อ “Ulela Max” หลอกให้เหยื่อลงทุนในหุ้นปลอม ก่อนนำเงินไปแปลงเป็น USDT แล้วส่งผ่านบัญชีในกัมพูชาและเมียนมาไปยังหัวหน้าแก๊งชาวจีน

    เครือข่ายนี้สามารถฟอกเงินได้มากกว่า 1 พันล้านบาทต่อเดือน โดยใช้บัญชีม้าและช่องทางดิจิทัลที่ซับซ้อน ตำรวจออกหมายจับ 28 คน และยึดเงินสดได้กว่า 46 ล้านบาทจากผู้ต้องสงสัยชาวเมียนมาในจังหวัดแม่สอด

    ลักษณะของอุปกรณ์ SMS Blaster
    ส่งข้อความในรัศมี 1–3 กิโลเมตร
    ใช้เทคโนโลยี False Base Station เลียนแบบเสาสัญญาณมือถือ
    สามารถยิงข้อความได้ถึง 100,000 ข้อความต่อชั่วโมง

    ปฏิบัติการ Operation Skyfall
    เครือข่ายฟอกเงินข้ามแดนผ่านแอปปลอม “Ulela Max”
    เหยื่อถูกหลอกให้ลงทุนในหุ้นปลอมผ่านกลุ่ม Line และ Facebook
    เงินถูกแปลงเป็น USDT แล้วส่งผ่านบัญชีในกัมพูชาและเมียนมา

    ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน
    ตำรวจไทยร่วมมือกับ Binance และ Bitkub ในการติดตามธุรกรรมคริปโต
    ยึดเงินสดกว่า 46 ล้านบาทจากผู้ต้องสงสัยในแม่สอด
    ออกหมายจับ 28 คน รวมถึงผู้ต้องสงสัยต่างชาติและบัญชีม้า

    https://hackread.com/police-bust-crypto-scam-smishing-sms-blaster-operator/
    🧠 ปฏิบัติการล่าข้ามแดน: เมื่อตำรวจไทยตามรอยแก๊ง SMS หลอกลวงและฟอกเงินด้วยคริปโต ในเดือนสิงหาคม 2025 ตำรวจไทยได้เปิดเผยสองปฏิบัติการใหญ่ที่สะเทือนวงการอาชญากรรมไซเบอร์ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับนานาชาติ เรื่องแรกคือการจับกุมชายไทยสองคนในกรุงเทพฯ ที่ใช้เครื่อง SMS Blaster ส่งข้อความหลอกลวงวันละกว่า 20,000 ข้อความ โดยขับรถไปรอบเมืองพร้อมอุปกรณ์ที่สามารถยิงข้อความในรัศมี 1–2 กิโลเมตร ข้อความมักเป็นแนว “แต้มสะสมใกล้หมด” หรือ “คุณได้รับรางวัล” พร้อมลิงก์ปลอมที่หลอกให้กรอกข้อมูลธนาคาร เบื้องหลังคือหัวหน้าแก๊งชาวจีนที่สั่งการผ่าน Telegram โดยจ้างคนไทยขับรถและยิงข้อความในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งเป็นรูปแบบ “Smishing” ที่ผสมผสานเทคโนโลยีและการหลอกลวงแบบคลาสสิก อีกด้านหนึ่งคือ “Operation Skyfall” ที่ตำรวจไทยร่วมมือกับ Binance และหน่วยงานต่างประเทศเพื่อสืบสวนเครือข่ายฟอกเงินข้ามแดนที่ใช้แอปปลอมชื่อ “Ulela Max” หลอกให้เหยื่อลงทุนในหุ้นปลอม ก่อนนำเงินไปแปลงเป็น USDT แล้วส่งผ่านบัญชีในกัมพูชาและเมียนมาไปยังหัวหน้าแก๊งชาวจีน เครือข่ายนี้สามารถฟอกเงินได้มากกว่า 1 พันล้านบาทต่อเดือน โดยใช้บัญชีม้าและช่องทางดิจิทัลที่ซับซ้อน ตำรวจออกหมายจับ 28 คน และยึดเงินสดได้กว่า 46 ล้านบาทจากผู้ต้องสงสัยชาวเมียนมาในจังหวัดแม่สอด ✅ ลักษณะของอุปกรณ์ SMS Blaster ➡️ ส่งข้อความในรัศมี 1–3 กิโลเมตร ➡️ ใช้เทคโนโลยี False Base Station เลียนแบบเสาสัญญาณมือถือ ➡️ สามารถยิงข้อความได้ถึง 100,000 ข้อความต่อชั่วโมง ✅ ปฏิบัติการ Operation Skyfall ➡️ เครือข่ายฟอกเงินข้ามแดนผ่านแอปปลอม “Ulela Max” ➡️ เหยื่อถูกหลอกให้ลงทุนในหุ้นปลอมผ่านกลุ่ม Line และ Facebook ➡️ เงินถูกแปลงเป็น USDT แล้วส่งผ่านบัญชีในกัมพูชาและเมียนมา ✅ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ➡️ ตำรวจไทยร่วมมือกับ Binance และ Bitkub ในการติดตามธุรกรรมคริปโต ➡️ ยึดเงินสดกว่า 46 ล้านบาทจากผู้ต้องสงสัยในแม่สอด ➡️ ออกหมายจับ 28 คน รวมถึงผู้ต้องสงสัยต่างชาติและบัญชีม้า https://hackread.com/police-bust-crypto-scam-smishing-sms-blaster-operator/
    HACKREAD.COM
    Police Bust Crypto Scammers, Nab Smishing SMS Blaster Operator
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อมิดเดิลเอิร์ธเดินทางสู่โซเวียต: “The Hobbit” ฉบับปี 1976 ที่ทั้งแปลกและงดงาม

    ย้อนกลับไปในปี 1976 ท่ามกลางยุคสงครามเย็นที่โลกแบ่งเป็นสองขั้วอำนาจ หนังสือแฟนตาซีชื่อดังของ J.R.R. Tolkien อย่าง “The Hobbit” ได้รับการตีพิมพ์ในสหภาพโซเวียตโดยสำนักพิมพ์ Detskaya Literatura พร้อมภาพประกอบที่ไม่เหมือนใครโดยศิลปิน Mikhail Belomlinsky ผู้จบจากสถาบันศิลปะชั้นนำในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

    ภาพประกอบในฉบับนี้มีสไตล์ที่ “แม่นยำและเรียบง่าย” แต่ก็แฝงความน่ารักแบบการ์ตูนไว้ด้วย ตัวละครอย่าง Bilbo, Gandalf, Gollum และ Smaug ถูกตีความใหม่ในแบบที่สะท้อนวัฒนธรรมโซเวียต เช่น Bilbo ที่มีขนขาเยอะมาก และ Gollum ที่ดูเหมือนภูตผีมากกว่าตัวประหลาดในหนังสือหรือภาพยนตร์

    ที่น่าสนใจคือ Bilbo ถูกวาดโดยอิงจากนักแสดงชื่อดังของโซเวียต Yevgeniy Leonov ซึ่งเคยพากย์เสียง Winnie the Pooh เวอร์ชันโซเวียต ส่วน Gandalf ก็ถูกวาดให้ยิ้มกว้างในทุกฉาก ราวกับเป็นพ่อมดที่ใจดีมากกว่าผู้เคร่งขรึม

    ภาพเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะอยู่หลังม่านเหล็ก แต่จินตนาการก็ยังเบ่งบาน และ Tolkien ก็สามารถเดินทางข้ามอุดมการณ์ทางการเมืองไปสู่หัวใจของผู้อ่านทั่วโลกได้

    การตีพิมพ์ The Hobbit ฉบับโซเวียตปี 1976
    ตีพิมพ์โดย Detskaya Literatura ในสหภาพโซเวียต
    มีภาพประกอบโดย Mikhail Belomlinsky ศิลปินจาก St. Petersburg Academy of Fine Art
    เป็นหนึ่งในฉบับแปลที่แปลกตาและมีเอกลักษณ์ที่สุด

    ลักษณะภาพประกอบที่โดดเด่น
    สไตล์ภาพแม่นยำ เรียบง่าย แต่แฝงความน่ารักแบบการ์ตูน
    Bilbo มีขนขาเยอะมาก และดูคล้ายคนธรรมดามากกว่าฮีโร่
    Gollum ดูเหมือนภูตผีมากกว่าตัวประหลาด
    Gandalf ยิ้มกว้างในทุกฉาก ดูใจดีมากกว่าขรึม

    อิทธิพลทางวัฒนธรรม
    Bilbo ถูกวาดโดยอิงจากนักแสดง Yevgeniy Leonov
    สะท้อนการตีความตัวละครผ่านมุมมองของโซเวียต
    เป็นตัวอย่างของการนำวรรณกรรมตะวันตกเข้าสู่บริบทของโลกตะวันออก

    ความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์
    แสดงให้เห็นว่าผลงานของ Tolkien สามารถข้ามพรมแดนทางการเมืองได้
    เป็นหลักฐานของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมในยุคสงครามเย็น
    เป็นหนึ่งในฉบับที่นักสะสมและนักวิชาการให้ความสนใจ

    ภาพประกอบในฉบับนี้แตกต่างจากเวอร์ชันตะวันตกอย่างสิ้นเชิง
    ตัวละครอาจดูแปลกหรือไม่ตรงกับจินตนาการของผู้อ่านยุคใหม่

    https://mashable.com/archive/soviet-hobbit
    🧠 เมื่อมิดเดิลเอิร์ธเดินทางสู่โซเวียต: “The Hobbit” ฉบับปี 1976 ที่ทั้งแปลกและงดงาม ย้อนกลับไปในปี 1976 ท่ามกลางยุคสงครามเย็นที่โลกแบ่งเป็นสองขั้วอำนาจ หนังสือแฟนตาซีชื่อดังของ J.R.R. Tolkien อย่าง “The Hobbit” ได้รับการตีพิมพ์ในสหภาพโซเวียตโดยสำนักพิมพ์ Detskaya Literatura พร้อมภาพประกอบที่ไม่เหมือนใครโดยศิลปิน Mikhail Belomlinsky ผู้จบจากสถาบันศิลปะชั้นนำในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ภาพประกอบในฉบับนี้มีสไตล์ที่ “แม่นยำและเรียบง่าย” แต่ก็แฝงความน่ารักแบบการ์ตูนไว้ด้วย ตัวละครอย่าง Bilbo, Gandalf, Gollum และ Smaug ถูกตีความใหม่ในแบบที่สะท้อนวัฒนธรรมโซเวียต เช่น Bilbo ที่มีขนขาเยอะมาก และ Gollum ที่ดูเหมือนภูตผีมากกว่าตัวประหลาดในหนังสือหรือภาพยนตร์ ที่น่าสนใจคือ Bilbo ถูกวาดโดยอิงจากนักแสดงชื่อดังของโซเวียต Yevgeniy Leonov ซึ่งเคยพากย์เสียง Winnie the Pooh เวอร์ชันโซเวียต ส่วน Gandalf ก็ถูกวาดให้ยิ้มกว้างในทุกฉาก ราวกับเป็นพ่อมดที่ใจดีมากกว่าผู้เคร่งขรึม ภาพเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะอยู่หลังม่านเหล็ก แต่จินตนาการก็ยังเบ่งบาน และ Tolkien ก็สามารถเดินทางข้ามอุดมการณ์ทางการเมืองไปสู่หัวใจของผู้อ่านทั่วโลกได้ ✅ การตีพิมพ์ The Hobbit ฉบับโซเวียตปี 1976 ➡️ ตีพิมพ์โดย Detskaya Literatura ในสหภาพโซเวียต ➡️ มีภาพประกอบโดย Mikhail Belomlinsky ศิลปินจาก St. Petersburg Academy of Fine Art ➡️ เป็นหนึ่งในฉบับแปลที่แปลกตาและมีเอกลักษณ์ที่สุด ✅ ลักษณะภาพประกอบที่โดดเด่น ➡️ สไตล์ภาพแม่นยำ เรียบง่าย แต่แฝงความน่ารักแบบการ์ตูน ➡️ Bilbo มีขนขาเยอะมาก และดูคล้ายคนธรรมดามากกว่าฮีโร่ ➡️ Gollum ดูเหมือนภูตผีมากกว่าตัวประหลาด ➡️ Gandalf ยิ้มกว้างในทุกฉาก ดูใจดีมากกว่าขรึม ✅ อิทธิพลทางวัฒนธรรม ➡️ Bilbo ถูกวาดโดยอิงจากนักแสดง Yevgeniy Leonov ➡️ สะท้อนการตีความตัวละครผ่านมุมมองของโซเวียต ➡️ เป็นตัวอย่างของการนำวรรณกรรมตะวันตกเข้าสู่บริบทของโลกตะวันออก ✅ ความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ ➡️ แสดงให้เห็นว่าผลงานของ Tolkien สามารถข้ามพรมแดนทางการเมืองได้ ➡️ เป็นหลักฐานของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมในยุคสงครามเย็น ➡️ เป็นหนึ่งในฉบับที่นักสะสมและนักวิชาการให้ความสนใจ ⛔ ภาพประกอบในฉบับนี้แตกต่างจากเวอร์ชันตะวันตกอย่างสิ้นเชิง ⛔ ตัวละครอาจดูแปลกหรือไม่ตรงกับจินตนาการของผู้อ่านยุคใหม่ https://mashable.com/archive/soviet-hobbit
    MASHABLE.COM
    Brilliant illustrations bring this 1976 Soviet edition of 'The Hobbit' to life
    Brilliant illustrations bring this 1976 Soviet edition of 'The Hobbit' to life
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • Palantir: บริษัทที่ไม่ได้ขายข้อมูล แต่เปลี่ยนข้อมูลเป็นอำนาจ

    หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ Palantir Technologies แล้วนึกถึงการสอดแนม การขุดข้อมูล หรือฐานข้อมูลขนาดมหึมาของข้อมูลส่วนบุคคล แต่จริง ๆ แล้ว Palantir ไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นโดยตรง บริษัทนี้คือผู้พัฒนาแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยมีลูกค้าหลักคือรัฐบาลสหรัฐฯ หน่วยงานด้านความมั่นคง และองค์กรระหว่างประเทศ

    Palantir ก่อตั้งโดย Peter Thiel และทีมงานที่มีแนวคิดเสรีนิยมแบบขวาจัด โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยรัฐบาล “เชื่อมโยงข้อมูลที่กระจัดกระจาย” ให้กลายเป็นภาพรวมที่ใช้ในการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามผู้ต้องสงสัย การวิเคราะห์งบประมาณ หรือการวางแผนยุทธศาสตร์ทางทหาร

    ในปี 2025 Palantir ได้รับสัญญาจากกองทัพสหรัฐฯ มูลค่ากว่า $10 พันล้าน เพื่อเป็นแกนหลักของระบบข้อมูลในโครงการ SHIELD และ Project Maven ซึ่งใช้ AI วิเคราะห์ภาพจากดาวเทียมและข้อมูลภาคสนามเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจในสงครามยุคใหม่

    นอกจากนี้ Palantir ยังมีบทบาทในโครงการที่ถกเถียงกัน เช่น การช่วย ICE (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ Medicaid เพื่อระบุตัวผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งสร้างความกังวลด้านสิทธิมนุษยชนและความเป็นส่วนตัวอย่างมาก

    ภาพรวมของบริษัท Palantir
    ก่อตั้งโดย Peter Thiel เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับรัฐบาล
    ไม่ใช่บริษัทขายข้อมูล แต่เป็นผู้สร้างเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
    มีแพลตฟอร์มหลักคือ Gotham (ด้านความมั่นคง) และ Foundry (ด้านธุรกิจ)

    ความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ
    ได้รับสัญญาจากกองทัพสหรัฐฯ มูลค่า $10 พันล้านในปี 2025
    เป็นแกนหลักของโครงการ SHIELD และ Project Maven ที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลทางทหาร
    ร่วมมือกับ Accenture และ Deloitte เพื่อสร้างระบบ “Enterprise Operating System” สำหรับหน่วยงานรัฐบาล

    การเติบโตทางการเงิน
    รายได้ไตรมาสล่าสุดทะลุ $1 พันล้าน เพิ่มขึ้น 48% จากปีก่อน
    รายได้จากรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 53% เป็น $426 ล้าน
    มูลค่าบริษัททะลุ $379 พันล้าน แซงหน้า IBM และ Salesforce

    การขยายไปยังภาคธุรกิจ
    รายได้จากภาคธุรกิจสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า
    ใช้ Foundry ในการวิเคราะห์ข้อมูลด้านสุขภาพ การเงิน และการผลิต
    มีความร่วมมือกับ SOMPO ในญี่ปุ่นเพื่อใช้ AI ตรวจสอบการเคลมประกัน

    https://www.wired.com/story/palantir-what-the-company-does/
    🧠 Palantir: บริษัทที่ไม่ได้ขายข้อมูล แต่เปลี่ยนข้อมูลเป็นอำนาจ หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ Palantir Technologies แล้วนึกถึงการสอดแนม การขุดข้อมูล หรือฐานข้อมูลขนาดมหึมาของข้อมูลส่วนบุคคล แต่จริง ๆ แล้ว Palantir ไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นโดยตรง บริษัทนี้คือผู้พัฒนาแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยมีลูกค้าหลักคือรัฐบาลสหรัฐฯ หน่วยงานด้านความมั่นคง และองค์กรระหว่างประเทศ Palantir ก่อตั้งโดย Peter Thiel และทีมงานที่มีแนวคิดเสรีนิยมแบบขวาจัด โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยรัฐบาล “เชื่อมโยงข้อมูลที่กระจัดกระจาย” ให้กลายเป็นภาพรวมที่ใช้ในการตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการติดตามผู้ต้องสงสัย การวิเคราะห์งบประมาณ หรือการวางแผนยุทธศาสตร์ทางทหาร ในปี 2025 Palantir ได้รับสัญญาจากกองทัพสหรัฐฯ มูลค่ากว่า $10 พันล้าน เพื่อเป็นแกนหลักของระบบข้อมูลในโครงการ SHIELD และ Project Maven ซึ่งใช้ AI วิเคราะห์ภาพจากดาวเทียมและข้อมูลภาคสนามเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจในสงครามยุคใหม่ นอกจากนี้ Palantir ยังมีบทบาทในโครงการที่ถกเถียงกัน เช่น การช่วย ICE (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ Medicaid เพื่อระบุตัวผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งสร้างความกังวลด้านสิทธิมนุษยชนและความเป็นส่วนตัวอย่างมาก ✅ ภาพรวมของบริษัท Palantir ➡️ ก่อตั้งโดย Peter Thiel เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับรัฐบาล ➡️ ไม่ใช่บริษัทขายข้อมูล แต่เป็นผู้สร้างเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ➡️ มีแพลตฟอร์มหลักคือ Gotham (ด้านความมั่นคง) และ Foundry (ด้านธุรกิจ) ✅ ความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ➡️ ได้รับสัญญาจากกองทัพสหรัฐฯ มูลค่า $10 พันล้านในปี 2025 ➡️ เป็นแกนหลักของโครงการ SHIELD และ Project Maven ที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลทางทหาร ➡️ ร่วมมือกับ Accenture และ Deloitte เพื่อสร้างระบบ “Enterprise Operating System” สำหรับหน่วยงานรัฐบาล ✅ การเติบโตทางการเงิน ➡️ รายได้ไตรมาสล่าสุดทะลุ $1 พันล้าน เพิ่มขึ้น 48% จากปีก่อน ➡️ รายได้จากรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 53% เป็น $426 ล้าน ➡️ มูลค่าบริษัททะลุ $379 พันล้าน แซงหน้า IBM และ Salesforce ✅ การขยายไปยังภาคธุรกิจ ➡️ รายได้จากภาคธุรกิจสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ➡️ ใช้ Foundry ในการวิเคราะห์ข้อมูลด้านสุขภาพ การเงิน และการผลิต ➡️ มีความร่วมมือกับ SOMPO ในญี่ปุ่นเพื่อใช้ AI ตรวจสอบการเคลมประกัน https://www.wired.com/story/palantir-what-the-company-does/
    WWW.WIRED.COM
    What Does Palantir Actually Do?
    Palantir is often called a data broker, a data miner, or a giant database of personal information. In reality, it’s none of these—but even former employees struggle to explain it.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อการคอมไพล์ไม่ใช่แค่รันคำสั่ง: เครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้เห็น “เบื้องหลัง” การ build โปรแกรมแบบเรียลไทม์

    Daniel Hooper นักพัฒนาผู้หลงใหลในการทำงานของระบบปฏิบัติการ ได้สร้างเครื่องมือชื่อว่า “What the Fork” เพื่อช่วยให้เห็นภาพการ build โปรแกรมแบบเรียลไทม์ โดยเฉพาะในโปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่ใช้ build system อย่าง make, cargo, gradle, หรือ xcodebuild

    แนวคิดคือ การ build โปรแกรมคือการรันคำสั่งจำนวนมากที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งบางครั้งก็มีขั้นตอนที่ไม่จำเป็นหรือซ้ำซ้อน เช่น การเรียก cmake หลายรอบ หรือการไม่ใช้ parallelism ทั้งที่มี CPU หลายคอร์ว่างอยู่

    “What the Fork” จะแสดงผลเป็นกล่อง ๆ บน timeline โดยแต่ละกล่องแทน process ที่ถูกเรียกขึ้นมา พร้อมข้อมูลว่าใช้เวลานานแค่ไหน, รันคำสั่งอะไร, และอยู่ใน directory ไหน ซึ่งช่วยให้เห็นว่า build ใช้ทรัพยากรอย่างไร และตรงไหนที่ควรปรับปรุง

    ที่น่าสนใจคือ เครื่องมือนี้ไม่ได้จำกัดแค่การ build โปรแกรมเท่านั้น เพราะมันใช้การดักฟัง system call อย่าง fork, exec, และ exit ซึ่งหมายความว่าเราสามารถใช้มันวิเคราะห์โปรแกรมใด ๆ ที่เรียก subprocess ได้เช่นกัน

    จุดเด่นของเครื่องมือ What the Fork
    แสดงภาพการ build โปรแกรมแบบเรียลไทม์ด้วย UI ที่เข้าใจง่าย
    รองรับทุกภาษาและ build system เช่น make, cargo, gradle, npm, zig, xcodebuild
    ใช้ system call (fork, exec, exit) ในการติดตาม process ที่ถูกเรียก

    วิธีใช้งานเบื้องต้น
    พิมพ์คำสั่ง wtf นำหน้าคำสั่ง build เช่น wtf make หรือ wtf cargo build
    UI จะแสดงกล่องของแต่ละ process ตามลำดับเวลา พร้อมข้อมูลประกอบ

    ตัวอย่างปัญหาที่พบจากการใช้งานจริง
    cargo ไม่ใช้ parallelism แม้มี CPU หลายคอร์ ทำให้ build ช้ากว่าที่ควร
    cmake เรียกคำสั่งซ้ำซ้อน เช่น ตรวจสอบ path และ OS version หลายสิบครั้ง
    xcodebuild มีช่วง idle หลายนาที ทั้งที่ยังมีงานให้ทำ
    zig build สุ่มลำดับการ build dependency ทำให้บางครั้ง parallelism หายไป

    ประโยชน์ที่เกินกว่าแค่การ build
    สามารถใช้วิเคราะห์โปรแกรมอื่นที่เรียก subprocess ได้ เช่น CI/CD pipeline หรือ server startup
    ช่วยให้ทีม dev เห็นภาพรวมของการทำงาน และปรับปรุงประสิทธิภาพได้ตรงจุด

    https://danielchasehooper.com/posts/syscall-build-snooping/
    🧠 เมื่อการคอมไพล์ไม่ใช่แค่รันคำสั่ง: เครื่องมือใหม่ที่ช่วยให้เห็น “เบื้องหลัง” การ build โปรแกรมแบบเรียลไทม์ Daniel Hooper นักพัฒนาผู้หลงใหลในการทำงานของระบบปฏิบัติการ ได้สร้างเครื่องมือชื่อว่า “What the Fork” เพื่อช่วยให้เห็นภาพการ build โปรแกรมแบบเรียลไทม์ โดยเฉพาะในโปรเจกต์ขนาดใหญ่ที่ใช้ build system อย่าง make, cargo, gradle, หรือ xcodebuild แนวคิดคือ การ build โปรแกรมคือการรันคำสั่งจำนวนมากที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งบางครั้งก็มีขั้นตอนที่ไม่จำเป็นหรือซ้ำซ้อน เช่น การเรียก cmake หลายรอบ หรือการไม่ใช้ parallelism ทั้งที่มี CPU หลายคอร์ว่างอยู่ “What the Fork” จะแสดงผลเป็นกล่อง ๆ บน timeline โดยแต่ละกล่องแทน process ที่ถูกเรียกขึ้นมา พร้อมข้อมูลว่าใช้เวลานานแค่ไหน, รันคำสั่งอะไร, และอยู่ใน directory ไหน ซึ่งช่วยให้เห็นว่า build ใช้ทรัพยากรอย่างไร และตรงไหนที่ควรปรับปรุง ที่น่าสนใจคือ เครื่องมือนี้ไม่ได้จำกัดแค่การ build โปรแกรมเท่านั้น เพราะมันใช้การดักฟัง system call อย่าง fork, exec, และ exit ซึ่งหมายความว่าเราสามารถใช้มันวิเคราะห์โปรแกรมใด ๆ ที่เรียก subprocess ได้เช่นกัน ✅ จุดเด่นของเครื่องมือ What the Fork ➡️ แสดงภาพการ build โปรแกรมแบบเรียลไทม์ด้วย UI ที่เข้าใจง่าย ➡️ รองรับทุกภาษาและ build system เช่น make, cargo, gradle, npm, zig, xcodebuild ➡️ ใช้ system call (fork, exec, exit) ในการติดตาม process ที่ถูกเรียก ✅ วิธีใช้งานเบื้องต้น ➡️ พิมพ์คำสั่ง wtf นำหน้าคำสั่ง build เช่น wtf make หรือ wtf cargo build ➡️ UI จะแสดงกล่องของแต่ละ process ตามลำดับเวลา พร้อมข้อมูลประกอบ ✅ ตัวอย่างปัญหาที่พบจากการใช้งานจริง ➡️ cargo ไม่ใช้ parallelism แม้มี CPU หลายคอร์ ทำให้ build ช้ากว่าที่ควร ➡️ cmake เรียกคำสั่งซ้ำซ้อน เช่น ตรวจสอบ path และ OS version หลายสิบครั้ง ➡️ xcodebuild มีช่วง idle หลายนาที ทั้งที่ยังมีงานให้ทำ ➡️ zig build สุ่มลำดับการ build dependency ทำให้บางครั้ง parallelism หายไป ✅ ประโยชน์ที่เกินกว่าแค่การ build ➡️ สามารถใช้วิเคราะห์โปรแกรมอื่นที่เรียก subprocess ได้ เช่น CI/CD pipeline หรือ server startup ➡️ ช่วยให้ทีม dev เห็นภาพรวมของการทำงาน และปรับปรุงประสิทธิภาพได้ตรงจุด https://danielchasehooper.com/posts/syscall-build-snooping/
    DANIELCHASEHOOPER.COM
    I Made A Real-Time Build Visualizer
    Sometimes software takes a long time to compile just due to how much code it has, like in the LLVM project. But often a build is slower than it could be for dumb, fixable reasons. I’ve had the suspicion that most builds are doing dumb stuff, but I had no way to see it. So I’ve been working on a cross-platform tool to help visualize builds, and you can try it!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมเกมบน MacBook ถึงเบลอ? เรื่องเล่าจากรอยบากที่หลายคนมองข้าม

    ถ้าคุณเคยเล่นเกมบน MacBook Pro หรือ Air แล้วรู้สึกว่าภาพมันเบลอ ๆ แปลก ๆ โดยเฉพาะเวลาเล่นเต็มจอ…คุณไม่ได้คิดไปเองครับ! ปัญหานี้เกิดจาก “รอยบาก” ที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ ซึ่งส่งผลต่อการแสดงผลของเกมโดยตรง

    เมื่อเกมเปิดแบบเต็มจอ macOS จะส่งข้อมูลความละเอียดหน้าจอให้เกมเลือกใช้ แต่ปัญหาคือมันส่ง “สองชุด” — หนึ่งคือความละเอียดเต็มหน้าจอ (รวมรอยบาก) และอีกชุดคือพื้นที่ที่เกมสามารถวาดภาพได้จริง (ใต้เมนูบาร์) ซึ่งเล็กกว่าประมาณ 74 พิกเซลในแนวตั้ง

    เกมส่วนใหญ่จะเลือกใช้ความละเอียดแรกที่อยู่บนสุดของลิสต์ ซึ่งทำให้ภาพถูกบีบลงในพื้นที่ที่เล็กกว่า ส่งผลให้ภาพเบลอและผิดสัดส่วน โดยเฉพาะในเกมที่ใช้ AppKit หรือ Catalyst API

    ตัวอย่างเช่น Shadow of the Tomb Raider ที่ใช้ความละเอียด 3456 x 2234 (รวมรอยบาก) แต่พื้นที่วาดจริงคือ 3456 x 2160 เท่านั้น ทำให้ภาพถูกบีบลงและเบลออย่างเห็นได้ชัด

    นักพัฒนาอย่าง Colin Cornaby ได้เสนอวิธีแก้ชั่วคราว เช่น เลือกความละเอียดแบบ 16:10 หรือใช้โค้ดกรอง resolution ที่เหมาะสมจาก safe area แต่เขาย้ำว่าสุดท้ายแล้ว Apple ต้องเป็นคนแก้ไข API และอัปเดตคู่มือสำหรับนักพัฒนา

    สาเหตุของภาพเบลอบน MacBook ที่มีรอยบาก
    macOS ส่งความละเอียดหน้าจอแบบรวมรอยบากให้เกม
    เกมเลือกใช้ความละเอียดเต็มหน้าจอแทนพื้นที่วาดจริง
    ส่งผลให้ภาพถูกบีบในแนวตั้งและเบลอ

    พื้นที่หน้าจอบน MacBook ถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน
    full bounds: พื้นที่ทั้งหมดรวมรอยบากและเมนู
    safe area: พื้นที่ใต้รอยบาก
    full screen app area: พื้นที่ใต้เมนูบาร์ที่เกมสามารถวาดภาพได้

    เกมที่ได้รับผลกระทบ
    Shadow of the Tomb Raider, No Man’s Sky, Riven, Stray
    เกมเหล่านี้ใช้ความละเอียดผิด ทำให้ภาพเบลอ

    เกมที่แสดงผลได้ถูกต้อง
    Cyberpunk 2077 ใช้ความละเอียด 1728×1080 ซึ่งเป็น 16:10
    World of Warcraft ใช้ API เก่า ที่สามารถวาดภาพในพื้นที่รอยบากได้

    วิธีแก้ปัญหาชั่วคราวสำหรับผู้เล่น
    เลือกความละเอียดแบบ 16:10 ในการตั้งค่าเกม
    หลีกเลี่ยงการเล่นแบบเต็มจอบนหน้าจอ MacBook ที่มีรอยบาก

    ข้อเสนอจากนักพัฒนา
    Apple ควรอัปเดต Human Interface Guidelines (HIG)
    เพิ่มตัวอย่างการเลือก resolution ใน Game Porting Toolkit
    ปรับปรุง CGDisplayMode API ให้กรอง resolution ได้
    สร้าง API ใหม่สำหรับเกมโดยเฉพาะ

    https://www.colincornaby.me/2025/08/your-mac-game-is-probably-rendering-blurry/
    🧩 ทำไมเกมบน MacBook ถึงเบลอ? เรื่องเล่าจากรอยบากที่หลายคนมองข้าม ถ้าคุณเคยเล่นเกมบน MacBook Pro หรือ Air แล้วรู้สึกว่าภาพมันเบลอ ๆ แปลก ๆ โดยเฉพาะเวลาเล่นเต็มจอ…คุณไม่ได้คิดไปเองครับ! ปัญหานี้เกิดจาก “รอยบาก” ที่อยู่ด้านบนของหน้าจอ ซึ่งส่งผลต่อการแสดงผลของเกมโดยตรง เมื่อเกมเปิดแบบเต็มจอ macOS จะส่งข้อมูลความละเอียดหน้าจอให้เกมเลือกใช้ แต่ปัญหาคือมันส่ง “สองชุด” — หนึ่งคือความละเอียดเต็มหน้าจอ (รวมรอยบาก) และอีกชุดคือพื้นที่ที่เกมสามารถวาดภาพได้จริง (ใต้เมนูบาร์) ซึ่งเล็กกว่าประมาณ 74 พิกเซลในแนวตั้ง เกมส่วนใหญ่จะเลือกใช้ความละเอียดแรกที่อยู่บนสุดของลิสต์ ซึ่งทำให้ภาพถูกบีบลงในพื้นที่ที่เล็กกว่า ส่งผลให้ภาพเบลอและผิดสัดส่วน โดยเฉพาะในเกมที่ใช้ AppKit หรือ Catalyst API ตัวอย่างเช่น Shadow of the Tomb Raider ที่ใช้ความละเอียด 3456 x 2234 (รวมรอยบาก) แต่พื้นที่วาดจริงคือ 3456 x 2160 เท่านั้น ทำให้ภาพถูกบีบลงและเบลออย่างเห็นได้ชัด นักพัฒนาอย่าง Colin Cornaby ได้เสนอวิธีแก้ชั่วคราว เช่น เลือกความละเอียดแบบ 16:10 หรือใช้โค้ดกรอง resolution ที่เหมาะสมจาก safe area แต่เขาย้ำว่าสุดท้ายแล้ว Apple ต้องเป็นคนแก้ไข API และอัปเดตคู่มือสำหรับนักพัฒนา ✅ สาเหตุของภาพเบลอบน MacBook ที่มีรอยบาก ➡️ macOS ส่งความละเอียดหน้าจอแบบรวมรอยบากให้เกม ➡️ เกมเลือกใช้ความละเอียดเต็มหน้าจอแทนพื้นที่วาดจริง ➡️ ส่งผลให้ภาพถูกบีบในแนวตั้งและเบลอ ✅ พื้นที่หน้าจอบน MacBook ถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน ➡️ full bounds: พื้นที่ทั้งหมดรวมรอยบากและเมนู ➡️ safe area: พื้นที่ใต้รอยบาก ➡️ full screen app area: พื้นที่ใต้เมนูบาร์ที่เกมสามารถวาดภาพได้ ✅ เกมที่ได้รับผลกระทบ ➡️ Shadow of the Tomb Raider, No Man’s Sky, Riven, Stray ➡️ เกมเหล่านี้ใช้ความละเอียดผิด ทำให้ภาพเบลอ ✅ เกมที่แสดงผลได้ถูกต้อง ➡️ Cyberpunk 2077 ใช้ความละเอียด 1728×1080 ซึ่งเป็น 16:10 ➡️ World of Warcraft ใช้ API เก่า ที่สามารถวาดภาพในพื้นที่รอยบากได้ ✅ วิธีแก้ปัญหาชั่วคราวสำหรับผู้เล่น ➡️ เลือกความละเอียดแบบ 16:10 ในการตั้งค่าเกม ➡️ หลีกเลี่ยงการเล่นแบบเต็มจอบนหน้าจอ MacBook ที่มีรอยบาก ✅ ข้อเสนอจากนักพัฒนา ➡️ Apple ควรอัปเดต Human Interface Guidelines (HIG) ➡️ เพิ่มตัวอย่างการเลือก resolution ใน Game Porting Toolkit ➡️ ปรับปรุง CGDisplayMode API ให้กรอง resolution ได้ ➡️ สร้าง API ใหม่สำหรับเกมโดยเฉพาะ https://www.colincornaby.me/2025/08/your-mac-game-is-probably-rendering-blurry/
    WWW.COLINCORNABY.ME
    Your Mac Game Is Probably Rendering Blurry
    ProblemSolutionAffected GamesWhat Apple could do Problem I’ve submitted the issue described in this post to Apple as FB13375033. This issue has been open since September of 2023. If you game …
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากห้องสมุดลับ: เมื่อหนังสือเวทมนตร์กว่า 2,000 เล่มถูกปลดปล่อยสู่โลกออนไลน์

    ลองจินตนาการว่าคุณได้เดินเข้าไปในห้องสมุดเก่าแก่กลางกรุงอัมสเตอร์ดัม ที่เต็มไปด้วยหนังสือเวทมนตร์ อัลเคมี โหราศาสตร์ และปรัชญาลึกลับจากยุคก่อนปี 1900… ตอนนี้คุณไม่ต้องจินตนาการอีกต่อไป เพราะ Ritman Library ได้เปิดให้ทุกคนเข้าถึงหนังสือเหล่านี้ผ่านระบบออนไลน์แล้ว!

    ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากการสนับสนุนของ Dan Brown ผู้เขียนนิยายชื่อดังอย่าง The Da Vinci Code ที่เคยใช้ห้องสมุดนี้เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือ เขาบริจาคเงินกว่า €300,000 เพื่อให้ Ritman Library สามารถสแกนและเผยแพร่หนังสือหายากเหล่านี้ภายใต้โครงการ “Hermetically Open”

    หนังสือกว่า 2,178 เล่มแรกถูกเผยแพร่แล้ว โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับศาสตร์ลี้ลับหลากหลายแขนง เช่น การจับคู่พลังงานระหว่างพืช สัตว์ และดวงดาว, การวิเคราะห์ชื่อและตัวเลข, การแพทย์โบราณ, และบทกวีปรัชญาแบบลึกลับ ซึ่งหลายเล่มเขียนด้วยภาษาละติน เยอรมัน ดัตช์ และฝรั่งเศส

    แม้จะฟังดูเหมือนนิยาย แต่ในอดีตศาสตร์เหล่านี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาศาสตร์และปรัชญา เช่น Isaac Newton ก็เคยเขียนสูตรสำหรับ “ศิลานักปราชญ์” และเชื่อในคำทำนายวันสิ้นโลก

    การเปิดคลังหนังสือลี้ลับออนไลน์
    Ritman Library เผยแพร่หนังสือกว่า 2,178 เล่มผ่านระบบออนไลน์
    หนังสือส่วนใหญ่เป็นของก่อนปี 1900 และเกี่ยวข้องกับอัลเคมี โหราศาสตร์ และเวทมนตร์
    โครงการนี้ชื่อว่า “Hermetically Open” เพื่อเปิดโลกแห่งความรู้ลี้ลับให้ทุกคนเข้าถึงได้

    การสนับสนุนจาก Dan Brown
    บริจาคเงินกว่า €300,000 เพื่อสนับสนุนการสแกนและเผยแพร่หนังสือ
    เคยใช้ Ritman Library เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายหลายเรื่อง
    เปิดศูนย์วัฒนธรรมใหม่เพื่อส่งเสริม “การคิดอย่างเสรี” ผ่านศิลปะ วิทยาศาสตร์ และจิตวิญญาณ

    เนื้อหาที่พบในหนังสือ
    การจับคู่พลังงานระหว่างธรรมชาติและจักรวาล
    การวิเคราะห์ชื่อ ตัวเลข และภาษาลึกลับ
    การแพทย์โบราณและการพิมพ์สูตรลับ
    ปรัชญาแบบลึกลับและบทกวีเชิงจิตวิญญาณ

    ความเชื่อมโยงกับวิทยาศาสตร์และปรัชญา
    นักวิทยาศาสตร์ยุคก่อน เช่น Newton ก็ศึกษาอัลเคมีและโหราศาสตร์
    นักปรัชญาอย่าง Henry More พยายามเชื่อมโยงคริสต์ศาสนากับปรัชญากรีกและกลไกธรรมชาติ

    หนังสือหลายเล่มเขียนด้วยภาษาละติน เยอรมัน ดัตช์ และฝรั่งเศส อาจอ่านยากสำหรับผู้ใช้ภาษาอังกฤษ
    ภาษาที่ใช้ในหนังสือเป็นภาษายุคเก่า มีคำศัพท์เฉพาะและรูปแบบการเขียนที่ไม่คุ้นเคย
    ระบบค้นหายังไม่สมบูรณ์ อาจต้องใช้เทคนิคในการกรองหนังสือภาษาอังกฤษ
    ยังไม่มีฟีเจอร์แปลภาษาในระบบออนไลน์ของห้องสมุด

    https://www.openculture.com/2025/08/2178-occult-books-now-digitized-put-online.html
    🧙‍♂️ เรื่องเล่าจากห้องสมุดลับ: เมื่อหนังสือเวทมนตร์กว่า 2,000 เล่มถูกปลดปล่อยสู่โลกออนไลน์ ลองจินตนาการว่าคุณได้เดินเข้าไปในห้องสมุดเก่าแก่กลางกรุงอัมสเตอร์ดัม ที่เต็มไปด้วยหนังสือเวทมนตร์ อัลเคมี โหราศาสตร์ และปรัชญาลึกลับจากยุคก่อนปี 1900… ตอนนี้คุณไม่ต้องจินตนาการอีกต่อไป เพราะ Ritman Library ได้เปิดให้ทุกคนเข้าถึงหนังสือเหล่านี้ผ่านระบบออนไลน์แล้ว! ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากการสนับสนุนของ Dan Brown ผู้เขียนนิยายชื่อดังอย่าง The Da Vinci Code ที่เคยใช้ห้องสมุดนี้เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือ เขาบริจาคเงินกว่า €300,000 เพื่อให้ Ritman Library สามารถสแกนและเผยแพร่หนังสือหายากเหล่านี้ภายใต้โครงการ “Hermetically Open” หนังสือกว่า 2,178 เล่มแรกถูกเผยแพร่แล้ว โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับศาสตร์ลี้ลับหลากหลายแขนง เช่น การจับคู่พลังงานระหว่างพืช สัตว์ และดวงดาว, การวิเคราะห์ชื่อและตัวเลข, การแพทย์โบราณ, และบทกวีปรัชญาแบบลึกลับ ซึ่งหลายเล่มเขียนด้วยภาษาละติน เยอรมัน ดัตช์ และฝรั่งเศส แม้จะฟังดูเหมือนนิยาย แต่ในอดีตศาสตร์เหล่านี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาศาสตร์และปรัชญา เช่น Isaac Newton ก็เคยเขียนสูตรสำหรับ “ศิลานักปราชญ์” และเชื่อในคำทำนายวันสิ้นโลก ✅ การเปิดคลังหนังสือลี้ลับออนไลน์ ➡️ Ritman Library เผยแพร่หนังสือกว่า 2,178 เล่มผ่านระบบออนไลน์ ➡️ หนังสือส่วนใหญ่เป็นของก่อนปี 1900 และเกี่ยวข้องกับอัลเคมี โหราศาสตร์ และเวทมนตร์ ➡️ โครงการนี้ชื่อว่า “Hermetically Open” เพื่อเปิดโลกแห่งความรู้ลี้ลับให้ทุกคนเข้าถึงได้ ✅ การสนับสนุนจาก Dan Brown ➡️ บริจาคเงินกว่า €300,000 เพื่อสนับสนุนการสแกนและเผยแพร่หนังสือ ➡️ เคยใช้ Ritman Library เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายหลายเรื่อง ➡️ เปิดศูนย์วัฒนธรรมใหม่เพื่อส่งเสริม “การคิดอย่างเสรี” ผ่านศิลปะ วิทยาศาสตร์ และจิตวิญญาณ ✅ เนื้อหาที่พบในหนังสือ ➡️ การจับคู่พลังงานระหว่างธรรมชาติและจักรวาล ➡️ การวิเคราะห์ชื่อ ตัวเลข และภาษาลึกลับ ➡️ การแพทย์โบราณและการพิมพ์สูตรลับ ➡️ ปรัชญาแบบลึกลับและบทกวีเชิงจิตวิญญาณ ✅ ความเชื่อมโยงกับวิทยาศาสตร์และปรัชญา ➡️ นักวิทยาศาสตร์ยุคก่อน เช่น Newton ก็ศึกษาอัลเคมีและโหราศาสตร์ ➡️ นักปรัชญาอย่าง Henry More พยายามเชื่อมโยงคริสต์ศาสนากับปรัชญากรีกและกลไกธรรมชาติ ⛔ หนังสือหลายเล่มเขียนด้วยภาษาละติน เยอรมัน ดัตช์ และฝรั่งเศส อาจอ่านยากสำหรับผู้ใช้ภาษาอังกฤษ ⛔ ภาษาที่ใช้ในหนังสือเป็นภาษายุคเก่า มีคำศัพท์เฉพาะและรูปแบบการเขียนที่ไม่คุ้นเคย ⛔ ระบบค้นหายังไม่สมบูรณ์ อาจต้องใช้เทคนิคในการกรองหนังสือภาษาอังกฤษ ⛔ ยังไม่มีฟีเจอร์แปลภาษาในระบบออนไลน์ของห้องสมุด https://www.openculture.com/2025/08/2178-occult-books-now-digitized-put-online.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • GNU Hurd 2025: ก้าวสำคัญของระบบปฏิบัติการเสรีที่หลายคนลืมไป

    ในโลกที่ Linux ครองตลาดระบบปฏิบัติการแบบโอเพ่นซอร์สมานานหลายสิบปี มีอีกหนึ่งโครงการที่ยังคงเดินหน้าด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้า นั่นคือ GNU Hurd ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Free Software Foundation (FSF) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบที่ “เสรีอย่างแท้จริง” ทั้งในด้านซอร์สโค้ดและสิทธิของผู้ใช้

    ล่าสุดในปี 2025 โครงการนี้ได้ออกเวอร์ชันใหม่ในชื่อ Debian GNU/Hurd 2025 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะมีการปรับปรุงหลายด้านให้ทันสมัยขึ้น เช่น รองรับสถาปัตยกรรม 64-bit อย่างเต็มรูปแบบ, เพิ่มการสนับสนุนภาษา Rust, รองรับ SMP (การใช้หลายคอร์พร้อมกัน), และระบบ ACPI สำหรับจัดการพลังงาน

    GNU Hurd แตกต่างจาก Linux ตรงที่ใช้ “microkernel” แทน “monolithic kernel” โดยแบ่งการทำงานของระบบออกเป็นเซิร์ฟเวอร์ย่อย ๆ ที่ทำงานแยกกัน เช่น การจัดการไฟล์, เครือข่าย, และสิทธิ์การเข้าถึง ซึ่งช่วยให้ระบบมีความปลอดภัยและเสถียรมากขึ้น เพราะแต่ละส่วนสามารถรีสตาร์ทได้โดยไม่ต้องรีบูตทั้งเครื่อง

    แม้จะยังไม่เหมาะกับการใช้งานในระดับ production แต่ GNU/Hurd ก็เป็นแพลตฟอร์มที่ดีสำหรับนักพัฒนาและผู้สนใจด้านระบบปฏิบัติการ เพราะเปิดโอกาสให้เรียนรู้โครงสร้างภายในได้อย่างโปร่งใส และสอดคล้องกับหลักการ “4 เสรีภาพ” ของซอฟต์แวร์เสรี

    https://linuxconfig.org/gnu-hurd-2025-release-marks-milestone-for-free-software-foundation
    🧠 GNU Hurd 2025: ก้าวสำคัญของระบบปฏิบัติการเสรีที่หลายคนลืมไป ในโลกที่ Linux ครองตลาดระบบปฏิบัติการแบบโอเพ่นซอร์สมานานหลายสิบปี มีอีกหนึ่งโครงการที่ยังคงเดินหน้าด้วยอุดมการณ์อันแรงกล้า นั่นคือ GNU Hurd ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดย Free Software Foundation (FSF) โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบที่ “เสรีอย่างแท้จริง” ทั้งในด้านซอร์สโค้ดและสิทธิของผู้ใช้ ล่าสุดในปี 2025 โครงการนี้ได้ออกเวอร์ชันใหม่ในชื่อ Debian GNU/Hurd 2025 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะมีการปรับปรุงหลายด้านให้ทันสมัยขึ้น เช่น รองรับสถาปัตยกรรม 64-bit อย่างเต็มรูปแบบ, เพิ่มการสนับสนุนภาษา Rust, รองรับ SMP (การใช้หลายคอร์พร้อมกัน), และระบบ ACPI สำหรับจัดการพลังงาน GNU Hurd แตกต่างจาก Linux ตรงที่ใช้ “microkernel” แทน “monolithic kernel” โดยแบ่งการทำงานของระบบออกเป็นเซิร์ฟเวอร์ย่อย ๆ ที่ทำงานแยกกัน เช่น การจัดการไฟล์, เครือข่าย, และสิทธิ์การเข้าถึง ซึ่งช่วยให้ระบบมีความปลอดภัยและเสถียรมากขึ้น เพราะแต่ละส่วนสามารถรีสตาร์ทได้โดยไม่ต้องรีบูตทั้งเครื่อง แม้จะยังไม่เหมาะกับการใช้งานในระดับ production แต่ GNU/Hurd ก็เป็นแพลตฟอร์มที่ดีสำหรับนักพัฒนาและผู้สนใจด้านระบบปฏิบัติการ เพราะเปิดโอกาสให้เรียนรู้โครงสร้างภายในได้อย่างโปร่งใส และสอดคล้องกับหลักการ “4 เสรีภาพ” ของซอฟต์แวร์เสรี https://linuxconfig.org/gnu-hurd-2025-release-marks-milestone-for-free-software-foundation
    LINUXCONFIG.ORG
    GNU Hurd 2025 Release Marks Milestone for Free Software Foundation
    The Debian GNU/Hurd 2025 release represents a major advancement in free software, supporting modern hardware with enhanced features, prioritizing user freedom and software transparency. Discover what this means for users and the future of the GNU/Hurd project.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ร่วมกันติดแฮชแท็ก

    #ยกเลิกmou43และ44เดี๋ยวนี้
    #ใช้1ต่อ50,000อย่างเดียว

    #ยกเลิกmou43และ44เดี๋ยวนี้
    #ใช้1ต่อ50,000อย่างเดียว

    #ยกเลิกmou43และ44ต้นเหตุสงครามชายแดนไทยกับเขมรจะจบทันที

    ..ร่วมกันติดแฮชแท็กทุกๆแพลตฟอร์มโซเชียลและสื่อหลักในไทยกันเถอะ ,ทุกๆคนไทยเราร่วมไม้ร่วมมือกันรวมน้ำหนึ่งใจเดียวกันดีแล้ว มาติดแฮชแท็กว่า "#ยกเลิกmou43และ44ต้นเหตุสงครามชายแดนไทยกับเขมรจะจบทันที" ทั่วประเทศไทยเลย เอกชนดีๆก็ทำป้ายติดทั่วตึกกทม.เลย ป้ายผ้าติดแนวสะพานรถวิ่งทั่วประเทศทุกๆสะพายข้ามถนน สะพานข้ามมหาลัยสถานศึกษาต่างๆเพื่อการตื่นรับรู้ต้นเหตุปัญหาจริงพร้อมกัน mou43และ44ทำแอบแฝงสูญเสียแผ่นดินจริงแล้วไม่เอา1:50,000เขียนลงในmouด้วย,ทั้งเขมรละเมิดผิดข้อตกลงแล้วฝ่ายรัฐบาลเองในปัจจุบันก็กอดไว้แน่นเป็นที่พิสูจน์ชัดเจนว่าไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อการปกครองปกป้องอธิปไตยแผ่นดินไทยตนเอง.

    ..เรา..ประชาชนไทยและสื่อตื่นรู้นักข่าวมากมายแสดงความรักชาติรักประเทศแล้วเป็นอันมากหลากช่องทางแพลตฟอร์มหลายช่องทางโซเชียลกว่าอดีตที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก
    ..เราสามารถร่วมกันทำให้ดีในช่วงจังหวะเวลานี้ของยุคสมัยเราร่วมกันได้แม้อดีตคนรุ่นก่อนจะผิดพลาดประการใดเราก็ไม่สามารถแก้ไขได้แล้วจะเป็นในลักษณะคตโกงเพื่อตนเองของผู้นำของผู้มีอำนาจของคนราชการในยุคอดีตก็ตาม จะโกงกินทุจริตหมายผลประโยชน์ทั้งเพื่อส่วนตัวหรือร่วมกับคนต่างชาติก็ตาม จะกระทำชั่วเลวใดๆที่ผ่านมาแล้วในอดีตก็ตาม เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขใดๆได้แล้ว,
    ..แต่เราสามารถจบทุกๆปัญหาสิ่งชั่วเลวที่มันสร้างขึ้นสืบต่อมาถึงปัจจุบันได้ด้วยมือของเรา..ประชาชนคนไทยทั้งประเทศร่วมกันด้วยการแสดงออกอย่างเปิดเผยของเรา..ประชาชนได้ คือร่วมกันติดแฮชแท็กทุกๆที่ ทุกๆเวลาค้างทิ้งไว้บอกต่อทั่วไทย ว่า " #ยกเลิกmou43และ44เดี๋ยวนี้"ได้ "#ใช้1:50,000อย่างเดียว" สิ่งนี้จะบีบบังคับนักปกครองไม่อยากทำ อยากกอดใจจะขาด ก็ต้องยกเลิกก็ต้องทำการยกเลิกและใช้1:50,000 หากไม่ยกเลิก ไม่ทำตาม ,คนปกครองคือภัยศัตรูอธิปไตยของประชาชนคนไทยทันที ลงมติประหารชีวิตทั้งคณะทั้งชุดทั้งหมดได้ เจอที่ไหนสามารถฆ่าสังหารทิ้งทันทีไม่ผิดกฎหมายประเทศไทยเพราะคนทั้งหมดเหล่านี้คือศัตรูภายในของแผ่นดินไทยที่แท้จริงด้วย,เหมือนอเมริกา ใครฉีกรัฐธรรมนูญอเมริกา ประชาชนสามารถยิงทิ้งได้เลยไม่ว่าจะเห็นจะเจอจะพบเห็นจะพบเจอที่ไหนทั้งหมด.,นี้ก็เช่นกัน "เจตนาชัดเจนทำให้สูญเสียอธิปไตยดินแดนไทย " ของประเทศไทยที่ตนเป็นตัวแทนแค่4-5ปีมามีอำนาจบริหารจัดการสิ่งที่ผิดที่ไม่ควรที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต กลับมาให้เป็นปกติ ซื่อสัตย์สุจริต ให้ถูกต้องถูกที่ถูกทางเหมาะสมเหมาะควร.

    #ยกเลิกmou43และ44ต้นเหตุสงครามชายแดนไทยกับเขมรจะจบทันที

    #ยกเลิกmou43และ44เดี๋ยวนี้
    #ใช้1ต่อ50,000อย่างเดียว

    #ยกเลิกmou43และ44เดี๋ยวนี้
    #ใช้1ต่อ50,000อย่างเดียว

    ..เรา..ประชาชนคนไทยทั้งประเทศสามารถทำให้มันจบที่รุ่นเราได้ในปัจจุบัน.

    https://youtube.com/watch?v=w5Yz17b3eNs&si=jLe_YVXhxHlrOdUy
    ..ร่วมกันติดแฮชแท็ก #ยกเลิกmou43และ44เดี๋ยวนี้ #ใช้1ต่อ50,000อย่างเดียว #ยกเลิกmou43และ44เดี๋ยวนี้ #ใช้1ต่อ50,000อย่างเดียว #ยกเลิกmou43และ44ต้นเหตุสงครามชายแดนไทยกับเขมรจะจบทันที ..ร่วมกันติดแฮชแท็กทุกๆแพลตฟอร์มโซเชียลและสื่อหลักในไทยกันเถอะ ,ทุกๆคนไทยเราร่วมไม้ร่วมมือกันรวมน้ำหนึ่งใจเดียวกันดีแล้ว มาติดแฮชแท็กว่า "#ยกเลิกmou43และ44ต้นเหตุสงครามชายแดนไทยกับเขมรจะจบทันที" ทั่วประเทศไทยเลย เอกชนดีๆก็ทำป้ายติดทั่วตึกกทม.เลย ป้ายผ้าติดแนวสะพานรถวิ่งทั่วประเทศทุกๆสะพายข้ามถนน สะพานข้ามมหาลัยสถานศึกษาต่างๆเพื่อการตื่นรับรู้ต้นเหตุปัญหาจริงพร้อมกัน mou43และ44ทำแอบแฝงสูญเสียแผ่นดินจริงแล้วไม่เอา1:50,000เขียนลงในmouด้วย,ทั้งเขมรละเมิดผิดข้อตกลงแล้วฝ่ายรัฐบาลเองในปัจจุบันก็กอดไว้แน่นเป็นที่พิสูจน์ชัดเจนว่าไม่ซื่อสัตย์สุจริตต่อการปกครองปกป้องอธิปไตยแผ่นดินไทยตนเอง. ..เรา..ประชาชนไทยและสื่อตื่นรู้นักข่าวมากมายแสดงความรักชาติรักประเทศแล้วเป็นอันมากหลากช่องทางแพลตฟอร์มหลายช่องทางโซเชียลกว่าอดีตที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก ..เราสามารถร่วมกันทำให้ดีในช่วงจังหวะเวลานี้ของยุคสมัยเราร่วมกันได้แม้อดีตคนรุ่นก่อนจะผิดพลาดประการใดเราก็ไม่สามารถแก้ไขได้แล้วจะเป็นในลักษณะคตโกงเพื่อตนเองของผู้นำของผู้มีอำนาจของคนราชการในยุคอดีตก็ตาม จะโกงกินทุจริตหมายผลประโยชน์ทั้งเพื่อส่วนตัวหรือร่วมกับคนต่างชาติก็ตาม จะกระทำชั่วเลวใดๆที่ผ่านมาแล้วในอดีตก็ตาม เราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขใดๆได้แล้ว, ..แต่เราสามารถจบทุกๆปัญหาสิ่งชั่วเลวที่มันสร้างขึ้นสืบต่อมาถึงปัจจุบันได้ด้วยมือของเรา..ประชาชนคนไทยทั้งประเทศร่วมกันด้วยการแสดงออกอย่างเปิดเผยของเรา..ประชาชนได้ คือร่วมกันติดแฮชแท็กทุกๆที่ ทุกๆเวลาค้างทิ้งไว้บอกต่อทั่วไทย ว่า " #ยกเลิกmou43และ44เดี๋ยวนี้"ได้ "#ใช้1:50,000อย่างเดียว" สิ่งนี้จะบีบบังคับนักปกครองไม่อยากทำ อยากกอดใจจะขาด ก็ต้องยกเลิกก็ต้องทำการยกเลิกและใช้1:50,000 หากไม่ยกเลิก ไม่ทำตาม ,คนปกครองคือภัยศัตรูอธิปไตยของประชาชนคนไทยทันที ลงมติประหารชีวิตทั้งคณะทั้งชุดทั้งหมดได้ เจอที่ไหนสามารถฆ่าสังหารทิ้งทันทีไม่ผิดกฎหมายประเทศไทยเพราะคนทั้งหมดเหล่านี้คือศัตรูภายในของแผ่นดินไทยที่แท้จริงด้วย,เหมือนอเมริกา ใครฉีกรัฐธรรมนูญอเมริกา ประชาชนสามารถยิงทิ้งได้เลยไม่ว่าจะเห็นจะเจอจะพบเห็นจะพบเจอที่ไหนทั้งหมด.,นี้ก็เช่นกัน "เจตนาชัดเจนทำให้สูญเสียอธิปไตยดินแดนไทย " ของประเทศไทยที่ตนเป็นตัวแทนแค่4-5ปีมามีอำนาจบริหารจัดการสิ่งที่ผิดที่ไม่ควรที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต กลับมาให้เป็นปกติ ซื่อสัตย์สุจริต ให้ถูกต้องถูกที่ถูกทางเหมาะสมเหมาะควร. #ยกเลิกmou43และ44ต้นเหตุสงครามชายแดนไทยกับเขมรจะจบทันที #ยกเลิกmou43และ44เดี๋ยวนี้ #ใช้1ต่อ50,000อย่างเดียว #ยกเลิกmou43และ44เดี๋ยวนี้ #ใช้1ต่อ50,000อย่างเดียว ..เรา..ประชาชนคนไทยทั้งประเทศสามารถทำให้มันจบที่รุ่นเราได้ในปัจจุบัน. https://youtube.com/watch?v=w5Yz17b3eNs&si=jLe_YVXhxHlrOdUy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/zZw0hg7-orM?si=489oXx-QCn4Fa56w
    https://youtube.com/shorts/zZw0hg7-orM?si=489oXx-QCn4Fa56w
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/hx9fLsurMHw?si=iZFfRv2r25gUr5wj
    https://youtube.com/shorts/hx9fLsurMHw?si=iZFfRv2r25gUr5wj
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค
    สัทธรรมลำดับที่ : 717
    ชื่อบทธรรม :- วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=717
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค
    --ภิกษุ ท. ! #วิชชาเป็นสิ่งที่มาล่วงหน้า
    เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย
    อันติดตามมาด้วย หิริโอตตัปปะ
    http://etipitaka.com/read/pali/19/1/?keywords=วิชฺชา+หิโรตฺตปฺปํ
    --ภิกษุ ท. !
    ๑--สัมมาทิฏฐิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้ถึงซึ่งวิชชา มีความเห็นแจ้ง;
    ๒--สัมมาสังกัปปะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาทิฏฐิ;
    ๓--สัมมาวาจา ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสังกัปปะ;
    ๔--สัมมากัมมันตะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาวาจา;
    ๕--สัมมาอาชีวะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมากัมมันตะ;
    ๖--สัมมาวายามะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาอาชีวะ;
    ๗--สัมมาสติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้สัมมาวายามะ;
    ๘--สัมมาสมาธิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสติ.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/2/?keywords=สมฺมาสมาธิ
    (เป็นอันว่า องค์แปดแห่งสัมมามรรคหรือสัมมัตตะ ย่อมมีครบบริบูรณ์.
    ในสูตรอื่น (๒๔/๒๒๙/๑๐๕)
    http://etipitaka.com/read/pali/24/229/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%95
    ได้ตรัสขยายออกไปอีก ๒ ข้อคือ :- )​
    http://etipitaka.com/read/pali/24/229/?keywords=สมฺมาญาณํ
    ๙--สัมมาญาณะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสมาธิ;
    ๑๐--สัมมาวิมุตติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาญาณะ.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/1/3.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/1/?keywords=%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๑/๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/1/?keywords=%E0%B9%93
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=717
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=717
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53
    ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค สัทธรรมลำดับที่ : 717 ชื่อบทธรรม :- วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=717 เนื้อความทั้งหมด :- --วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค --ภิกษุ ท. ! #วิชชาเป็นสิ่งที่มาล่วงหน้า เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย อันติดตามมาด้วย หิริโอตตัปปะ http://etipitaka.com/read/pali/19/1/?keywords=วิชฺชา+หิโรตฺตปฺปํ --ภิกษุ ท. ! ๑--สัมมาทิฏฐิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้ถึงซึ่งวิชชา มีความเห็นแจ้ง; ๒--สัมมาสังกัปปะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาทิฏฐิ; ๓--สัมมาวาจา ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสังกัปปะ; ๔--สัมมากัมมันตะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาวาจา; ๕--สัมมาอาชีวะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมากัมมันตะ; ๖--สัมมาวายามะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาอาชีวะ; ๗--สัมมาสติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้สัมมาวายามะ; ๘--สัมมาสมาธิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสติ. http://etipitaka.com/read/pali/19/2/?keywords=สมฺมาสมาธิ (เป็นอันว่า องค์แปดแห่งสัมมามรรคหรือสัมมัตตะ ย่อมมีครบบริบูรณ์. ในสูตรอื่น (๒๔/๒๒๙/๑๐๕) http://etipitaka.com/read/pali/24/229/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%95 ได้ตรัสขยายออกไปอีก ๒ ข้อคือ :- )​ http://etipitaka.com/read/pali/24/229/?keywords=สมฺมาญาณํ ๙--สัมมาญาณะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสมาธิ; ๑๐--สัมมาวิมุตติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาญาณะ.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/1/3. http://etipitaka.com/read/thai/19/1/?keywords=%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๑/๓. http://etipitaka.com/read/pali/19/1/?keywords=%E0%B9%93 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=717 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=717 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53 ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค
    -วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค ภิกษุ ท. ! วิชชา เป็นสิ่งที่มาล่วงหน้า เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย อันติดตามมาด้วยหิริโอตตัปปะ ภิกษุ ท. ! สัมมาทิฏฐิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้ถึงซึ่งวิชชา มีความเห็นแจ้ง; สัมมาสังกัปปะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาทิฏฐิ; สัมมาวาจา ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสังกัปปะ; สัมมากัมมันตะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาวาจา; สัมมาอาชีวะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมากัมมันตะ; สัมมาวายามะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาอาชีวะ; สัมมาสติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้สัมมาวายามะ; สัมมาสมาธิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสติ. (เป็นอันว่า องค์แปดแห่งสัมมามรรคหรือสัมมัตตะ ย่อมมีครบบริบูรณ์. ในสูตรอื่น (๒๔/๒๒๘/๑๐๕) ได้ตรัสขยายออกไปอีก ๒ ข้อคือ :-) สัมมาญาณะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสมาธิ; สัมมาวิมุตติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาญาณะ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษา​ว่าความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 348
    ชื่อบทธรรม :- อุทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=348
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อุทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ
    --ภิกษุ ท.! ความจริงอันประเสริฐ คือความดับไม่เหลือของทุกข์ (นิโรธอริยสัจ)​
    เป็นอย่างไรเล่า ?
    http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=ทุกฺขนิโรโธ+อริยสจฺจํ
    --ภิกษุ ท. !
    ความดับสนิทเพราะความจางคลายไปโดยไม่เหลือของตัณหานั้นนั่นเทียว,
    ความละไปของตัณหานั้น,
    ความสลัดกลับคืนของตัณหานั้น,
    ความหลุดออกไปของตัณหานั้น และ
    ความไม่มีที่อาศัยอีกต่อไปของตัณหานั้น อันใด ;
    http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=ตณฺหา
    อันนี้ เราเรียกว่า #ความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์.-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/422/1681
    http://etipitaka.com/read/thai/19/422/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%98%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๓๔/๑๖๘๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%98%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=348
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=348
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษา​ว่าความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 348 ชื่อบทธรรม :- อุทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=348 เนื้อความทั้งหมด :- --อุทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ --ภิกษุ ท.! ความจริงอันประเสริฐ คือความดับไม่เหลือของทุกข์ (นิโรธอริยสัจ)​ เป็นอย่างไรเล่า ? http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=ทุกฺขนิโรโธ+อริยสจฺจํ --ภิกษุ ท. ! ความดับสนิทเพราะความจางคลายไปโดยไม่เหลือของตัณหานั้นนั่นเทียว, ความละไปของตัณหานั้น, ความสลัดกลับคืนของตัณหานั้น, ความหลุดออกไปของตัณหานั้น และ ความไม่มีที่อาศัยอีกต่อไปของตัณหานั้น อันใด ; http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=ตณฺหา อันนี้ เราเรียกว่า #ความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์.- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/422/1681 http://etipitaka.com/read/thai/19/422/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%98%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๓๔/๑๖๘๑. http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%98%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=348 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=348 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - นิทเทศ ๘
    -นิทเทศ ๘ ว่าด้วยกิเลสทั้งหลายในฐานะสมุทัย จบ ภาค ๒ ว่าด้วยทุกขสมุทยอริยสัจ ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์ จบ คำชี้ชวนวิงวอน ____________ ภิกษุ ท.! โยคกรรม อันเธอพึงกระทำ เพื่อให้รู้ว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับสนิทแห่งทุกข์ นี้ทางให้ถึงความดับสนิทแห่งทุกข์.” เทสิตํ. โว มยา นิพฺพานํ เทสิโต นิพฺพานคามิมคฺโค นิพพาน เราได้แสดงแล้ว, ทางให้ถึงนิพพาน เราก็ได้แสดงแล้ว แก่เธอทั้งหลาย. กิจใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจนั้น เราได้ทำแล้วแก่พวกเธอ. นั่น โคนไม้ ; นั่น เรือนว่าง. พวกเธอจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท, อย่าเป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี นี่แหละ วาจาเครื่องพร่ำสอนของเรา แก่เธอทั้งหลาย. (มหาวาร. สํ. - สฬา.สํ.) ภาค ๓ ว่าด้วย นิโรธอริยสัจ ความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์ ภาค ๓ มีเรื่อง :-นิทเทศ ๙ ว่าด้วยเรื่องความดับแห่งตัณหา ๒๙ เรื่อง นิทเทศ ๑๐ ว่าด้วยธรรมเป็นที่ดับตัณหา ๖๑ เรื่อง นิทเทศ ๑๑ ว่าด้วยผู้ดับตัณหา ๑๐๖ เรื่อง นิทเทศ ๑๒ ว่าด้วยอาการดับแห่งตัณหา ๖๑ เรื่อง อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาค ๓ ว่าด้วย นิโรธอริยสัจ ความจริงอันประเสริฐ คือความดับไม่เหลือของทุกข์ (มี ๔ นิทเทศ) อุทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ ภิกษุ ท.! ความจริงอันประเสริฐ คือความดับไม่เหลือของทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ความดับสนิทเพราะความจางคลายไปโดยไม่เหลือของตัณหานั้นนั่นเทียว, ความละไปของตัณหานั้น, ความสลัดกลับคืนของตัณหานั้น, ความหลุดออกไปของตัณหานั้น และความไม่มีที่อาศัยอีกต่อไปของตัณหานั้น อันใด ; อันนี้ เราเรียกว่า ความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/NFUuPYG846Q?si=0yJB0mpiwqvZpLAf
    https://youtube.com/shorts/NFUuPYG846Q?si=0yJB0mpiwqvZpLAf
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/NbFxMfFnNfA?si=iiMlcC2lSMsaJD6e
    https://youtu.be/NbFxMfFnNfA?si=iiMlcC2lSMsaJD6e
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts