• https://www.youtube.com/watch?v=4cbYTHIphoM
    บทสนทนาเทศกาลลอยกระทง
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเทศกาลลอยกระทง
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #ลอยกระทง

    The conversations from the clip :

    Boy: This is incredible! The river is full of glowing krathongs, and there’s so much happening around us.
    Girl: I know! Look at all the food stalls. The smell of grilled satay and pad Thai is amazing!
    Boy: I’m definitely going to try some food later. But first, let’s float our krathongs. Have you made a wish?
    Girl: Yes, I wished for peace and happiness in my life. What about you?
    Boy: I wished for a wonderful year of travel and adventure! This festival feels so magical.
    Girl: It really does! The atmosphere is so lively with all the lights, the music, and the crowds. I love it!
    Boy: Me too! And the traditional Thai dance performances are so beautiful. Do you want to watch one later?
    Girl: Absolutely! I also want to try those sugarcane juice drinks. They look so refreshing.
    Boy: I had one earlier! It’s sweet and so refreshing after the hot weather. We should get another one.
    Girl: I definitely will. And look over there! There’s a game booth where you can throw rings at bottles. It looks fun!
    Boy: I’ve never played that game before. Do you want to try it?
    Girl: Let’s do it! I’m feeling lucky tonight. Oh, look, they’re also selling glowing toys and lanterns!
    Boy: That would make such a cute souvenir. We should get one before we leave.
    Girl: For sure! This is such an unforgettable experience. I’m so glad we’re here together.

    เด็กผู้ชาย: นี่มันน่าทึ่งจริง ๆ! แม่น้ำเต็มไปด้วยกระทงเรืองแสง แถมยังมีอะไรเกิดขึ้นรอบตัวเราเต็มไปหมดเลย
    เด็กผู้หญิง: ใช่เลย! ดูสิ มีร้านขายอาหารเต็มไปหมด กลิ่นของสะเต๊ะย่างกับผัดไทยหอมมาก!
    เด็กผู้ชาย: ฉันจะลองชิมอาหารทีหลังแน่นอน แต่ก่อนอื่นเรามาลอยกระทงกันก่อน คุณอธิษฐานหรือยัง?
    เด็กผู้หญิง: อธิษฐานแล้ว ฉันขอให้ชีวิตมีแต่ความสงบสุขและความสุข แล้วคุณล่ะ?
    เด็กผู้ชาย: ฉันขอให้ปีนี้เป็นปีแห่งการเดินทางและการผจญภัยที่ยอดเยี่ยม! เทศกาลนี้ให้ความรู้สึกมหัศจรรย์มากเลย
    เด็กผู้หญิง: จริงด้วย! บรรยากาศคึกคักไปด้วยแสงไฟ เสียงดนตรี และผู้คนมากมาย ฉันชอบจัง!
    เด็กผู้ชาย: ฉันก็เหมือนกัน! การแสดงรำไทยแบบดั้งเดิมก็สวยงามมาก คุณอยากดูไหม?
    เด็กผู้หญิง: อยากมาก! ฉันก็อยากลองน้ำอ้อยที่ขายอยู่ด้วย ดูแล้วน่าจะสดชื่นมาก ๆ
    เด็กผู้ชาย: ฉันเพิ่งลองไปตอนบ่ายเอง! รสหวานและสดชื่นสุด ๆ หลังจากเจออากาศร้อน เราน่าจะซื้อมาดื่มกันอีกนะ
    เด็กผู้หญิง: แน่นอน เดี๋ยวจะไปซื้อเลย ดูนั่นสิ! มีซุ้มเกมที่ให้โยนห่วงใส่ขวดด้วย ดูสนุกนะ!
    เด็กผู้ชาย: ฉันยังไม่เคยเล่นเกมนี้เลย คุณอยากลองไหม?
    เด็กผู้หญิง: ลองกันเถอะ! คืนนี้รู้สึกโชคดีจัง โอ้ ดูนั่นสิ! พวกเขายังขายของเล่นและโคมไฟเรืองแสงด้วยนะ!
    เด็กผู้ชาย: อันนั้นเป็นของที่ระลึกที่น่ารักมาก เราควรจะซื้อติดมือก่อนกลับบ้าน
    เด็กผู้หญิง: แน่นอน! นี่เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมจริง ๆ ฉันดีใจมากที่เราได้มาอยู่ที่นี่ด้วยกัน

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Incredible (อิน-เครด-ดิเบิล) adj. แปลว่า น่าทึ่ง
    River (ริฟ-เวอะ) n. แปลว่า แม่น้ำ
    Glowing (โกล-วิง) adj. แปลว่า ส่องแสง
    Stall (สตอล) n. แปลว่า ร้านเล็ก ๆ
    Smell (สเมล) n./v. แปลว่า กลิ่น / ได้กลิ่น
    Grilled (กริล-ด) adj. แปลว่า ย่าง
    Magical (แมจ-จิ-เคิล) adj. แปลว่า มหัศจรรย์
    Atmosphere (แอท-เมิส-เฟียร์) n. แปลว่า บรรยากาศ
    Crowds (เคราดส์) n. แปลว่า ฝูงชน
    Performance (เพอะ-ฟอร์-เมินซ) n. แปลว่า การแสดง
    Refreshing (รี-เฟรช-ชิง) adj. แปลว่า สดชื่น
    Weather (เวธ-เธอะ) n. แปลว่า สภาพอากาศ
    Booth (บูธ) n. แปลว่า ซุ้ม / บูธ
    Lucky (ลัค-คี) adj. แปลว่า โชคดี
    Unforgettable (อัน-เฟอะ-เก็ท-ทะ-เบิล) adj. แปลว่า น่าจดจำ / ไม่มีวันลืม
    https://www.youtube.com/watch?v=4cbYTHIphoM บทสนทนาเทศกาลลอยกระทง (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเทศกาลลอยกระทง มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #ลอยกระทง The conversations from the clip : Boy: This is incredible! The river is full of glowing krathongs, and there’s so much happening around us. Girl: I know! Look at all the food stalls. The smell of grilled satay and pad Thai is amazing! Boy: I’m definitely going to try some food later. But first, let’s float our krathongs. Have you made a wish? Girl: Yes, I wished for peace and happiness in my life. What about you? Boy: I wished for a wonderful year of travel and adventure! This festival feels so magical. Girl: It really does! The atmosphere is so lively with all the lights, the music, and the crowds. I love it! Boy: Me too! And the traditional Thai dance performances are so beautiful. Do you want to watch one later? Girl: Absolutely! I also want to try those sugarcane juice drinks. They look so refreshing. Boy: I had one earlier! It’s sweet and so refreshing after the hot weather. We should get another one. Girl: I definitely will. And look over there! There’s a game booth where you can throw rings at bottles. It looks fun! Boy: I’ve never played that game before. Do you want to try it? Girl: Let’s do it! I’m feeling lucky tonight. Oh, look, they’re also selling glowing toys and lanterns! Boy: That would make such a cute souvenir. We should get one before we leave. Girl: For sure! This is such an unforgettable experience. I’m so glad we’re here together. เด็กผู้ชาย: นี่มันน่าทึ่งจริง ๆ! แม่น้ำเต็มไปด้วยกระทงเรืองแสง แถมยังมีอะไรเกิดขึ้นรอบตัวเราเต็มไปหมดเลย เด็กผู้หญิง: ใช่เลย! ดูสิ มีร้านขายอาหารเต็มไปหมด กลิ่นของสะเต๊ะย่างกับผัดไทยหอมมาก! เด็กผู้ชาย: ฉันจะลองชิมอาหารทีหลังแน่นอน แต่ก่อนอื่นเรามาลอยกระทงกันก่อน คุณอธิษฐานหรือยัง? เด็กผู้หญิง: อธิษฐานแล้ว ฉันขอให้ชีวิตมีแต่ความสงบสุขและความสุข แล้วคุณล่ะ? เด็กผู้ชาย: ฉันขอให้ปีนี้เป็นปีแห่งการเดินทางและการผจญภัยที่ยอดเยี่ยม! เทศกาลนี้ให้ความรู้สึกมหัศจรรย์มากเลย เด็กผู้หญิง: จริงด้วย! บรรยากาศคึกคักไปด้วยแสงไฟ เสียงดนตรี และผู้คนมากมาย ฉันชอบจัง! เด็กผู้ชาย: ฉันก็เหมือนกัน! การแสดงรำไทยแบบดั้งเดิมก็สวยงามมาก คุณอยากดูไหม? เด็กผู้หญิง: อยากมาก! ฉันก็อยากลองน้ำอ้อยที่ขายอยู่ด้วย ดูแล้วน่าจะสดชื่นมาก ๆ เด็กผู้ชาย: ฉันเพิ่งลองไปตอนบ่ายเอง! รสหวานและสดชื่นสุด ๆ หลังจากเจออากาศร้อน เราน่าจะซื้อมาดื่มกันอีกนะ เด็กผู้หญิง: แน่นอน เดี๋ยวจะไปซื้อเลย ดูนั่นสิ! มีซุ้มเกมที่ให้โยนห่วงใส่ขวดด้วย ดูสนุกนะ! เด็กผู้ชาย: ฉันยังไม่เคยเล่นเกมนี้เลย คุณอยากลองไหม? เด็กผู้หญิง: ลองกันเถอะ! คืนนี้รู้สึกโชคดีจัง โอ้ ดูนั่นสิ! พวกเขายังขายของเล่นและโคมไฟเรืองแสงด้วยนะ! เด็กผู้ชาย: อันนั้นเป็นของที่ระลึกที่น่ารักมาก เราควรจะซื้อติดมือก่อนกลับบ้าน เด็กผู้หญิง: แน่นอน! นี่เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมจริง ๆ ฉันดีใจมากที่เราได้มาอยู่ที่นี่ด้วยกัน Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Incredible (อิน-เครด-ดิเบิล) adj. แปลว่า น่าทึ่ง River (ริฟ-เวอะ) n. แปลว่า แม่น้ำ Glowing (โกล-วิง) adj. แปลว่า ส่องแสง Stall (สตอล) n. แปลว่า ร้านเล็ก ๆ Smell (สเมล) n./v. แปลว่า กลิ่น / ได้กลิ่น Grilled (กริล-ด) adj. แปลว่า ย่าง Magical (แมจ-จิ-เคิล) adj. แปลว่า มหัศจรรย์ Atmosphere (แอท-เมิส-เฟียร์) n. แปลว่า บรรยากาศ Crowds (เคราดส์) n. แปลว่า ฝูงชน Performance (เพอะ-ฟอร์-เมินซ) n. แปลว่า การแสดง Refreshing (รี-เฟรช-ชิง) adj. แปลว่า สดชื่น Weather (เวธ-เธอะ) n. แปลว่า สภาพอากาศ Booth (บูธ) n. แปลว่า ซุ้ม / บูธ Lucky (ลัค-คี) adj. แปลว่า โชคดี Unforgettable (อัน-เฟอะ-เก็ท-ทะ-เบิล) adj. แปลว่า น่าจดจำ / ไม่มีวันลืม
    0 Comments 0 Shares 416 Views 0 Reviews
  • มา #ลอยกระทง ไกลสุดแหละ#loykrathongfestival #วันลอยกระทง
    มา #ลอยกระทง ไกลสุดแหละ#loykrathongfestival #วันลอยกระทง
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • Festival of colours
    Festival of colours
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 300 Views 121 0 Reviews
  • ยิ่งรู้ยิ่งอิน ก่อนไป เทศกาลน้ำแข็งฮาร์บิน Harbin Ice Festival 2025

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8
    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์จีน #เทศกาลน้ำแข็งฮาร์บิน #ฮาร์บิน #้harbin #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    ยิ่งรู้ยิ่งอิน ก่อนไป เทศกาลน้ำแข็งฮาร์บิน Harbin Ice Festival 2025 รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21ปี eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #เทศกาลน้ำแข็งฮาร์บิน #ฮาร์บิน #้harbin #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 2436 Views 256 0 Reviews
  • Islamic Fashion Festival (IFF)
    Bangkok 2024
    #queenazizah #azizahofmalaysia
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. IG : _inaijar10_
    Islamic Fashion Festival (IFF) Bangkok 2024 #queenazizah #azizahofmalaysia #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. IG : _inaijar10_
    Love
    Like
    7
    0 Comments 0 Shares 255 Views 0 Reviews
  • #หมายกำหนดการ
    วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2567
    พระราชินี เสด็จฯ ร่วมงานกาลาดินเนอร์
    Islamic Fashion Festival (IFF) Bangkok 2024
    ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียน เต็ล
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    #หมายกำหนดการ วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2567 พระราชินี เสด็จฯ ร่วมงานกาลาดินเนอร์ Islamic Fashion Festival (IFF) Bangkok 2024 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียน เต็ล #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Love
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 263 Views 0 Reviews
  • #Zurich #Film
    #Festival #เทศกาลหนังเมืองซูริค เริ่มแล้ว
    #Zurich #Film #Festival #เทศกาลหนังเมืองซูริค เริ่มแล้ว
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 Reviews
  • 2024 Arena di Verona Italian Opera Festival - Muti, Kaufmann, Flórez, Tézier, Buratto, and others
    2024 Arena di Verona Italian Opera Festival - Muti, Kaufmann, Flórez, Tézier, Buratto, and others
    0 Comments 0 Shares 141 Views 72 0 Reviews
  • วันอังคารที่ ๑๗ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๖๗

    - คณะสงฆ์วัดพัฒนาราม (พระอารามหลวง)
    นำโดยท่านพระอาจารย์พระธรรมธรสันชัย สญฺชโย เลขานุการวัดพัฒนาราม (พระอารามหลวง)
    ลงจัดสถานที่ ณ พระวิหาร เพื่อรับศรัทธาญาติโยม
    ที่นำปิ่นโตมารับตายายในวันสารทเดือนสิบที่จะมีในวันพรุ่งนี้ สถานที่พร้อม

    ขอเรียนเชิญทุกท่าน ช่วยสืบสานประเพณี
    โดยแบ่งช่วงเวลา
    #เวลาเช้า ๐๘.๐๐ น. & #เวลาเพล ๑๐.๐๐ น.
    ท่านสะดวกเวลาไหนก็มาได้ มี ๒ช่วงเวลานะ

    สารทไทย หมายถึงอะไร

    พระยาอนุมานราชธน ได้เขียนเล่าในหนังสือเทศกาลและประเพณีไทยว่า คำว่า "สารท" เป็นคำอินเดีย หมายถึง "ฤดู" ตรงกับฤดูในภาษาอังกฤษ ที่เรียกว่า "ออทั่ม" หรือ ฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะมีเฉพาะบางเขตของโลกอย่างยุโรป จีน และอินเดียตอนเหนือ เท่านั้น ช่วงนั้นเป็นระยะที่พืชพรรณธัญชาติ และผลไม้ เริ่มสุกให้พืชผลครั้งแรกในฤดู ดังนั้น ประชาชนจึงรู้สึกยินดี และถือเป็นเทศกาลแห่งความรื่นเริง จึงมักทำพิธีตามความเชื่อและเลี้ยงดูกันอย่างที่เรียกว่า "Seasonal Festival"

    โดยบางแห่งก็จะมีการนำพืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ครั้งแรกที่เรียกว่า "ผลแรกได้" ไปสังเวยหรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเองนับถือ เพื่อความเป็นสิริมงคล และแสดงความเคารพที่ท่านช่วยบันดาลให้พืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์จนเก็บเกี่ยวได้ เช่น พิธีปงคัล ในอินเดียตอนใต้ ที่มีพิธีต้มข้าวกับน้ำนมทำเป็นขนม เรียกว่า ข้าวทิพย์ ข้าวปายาส ถวายพระคเณศ เป็นต้น

    ที่มาบทความ : เว็บกระปุกดอทคอม

    อย่าลืมมารับ คุณตาคุณยายที่วัดพัฒนารามนะ

    เครดิตรูปภาพ : พระมหาวรสถิตย์ นาถธมฺโม 
    วันอังคารที่ ๑๗ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๖๗ - คณะสงฆ์วัดพัฒนาราม (พระอารามหลวง) นำโดยท่านพระอาจารย์พระธรรมธรสันชัย สญฺชโย เลขานุการวัดพัฒนาราม (พระอารามหลวง) ลงจัดสถานที่ ณ พระวิหาร เพื่อรับศรัทธาญาติโยม ที่นำปิ่นโตมารับตายายในวันสารทเดือนสิบที่จะมีในวันพรุ่งนี้ สถานที่พร้อม ขอเรียนเชิญทุกท่าน ช่วยสืบสานประเพณี โดยแบ่งช่วงเวลา #เวลาเช้า ๐๘.๐๐ น. & #เวลาเพล ๑๐.๐๐ น. ท่านสะดวกเวลาไหนก็มาได้ มี ๒ช่วงเวลานะ สารทไทย หมายถึงอะไร พระยาอนุมานราชธน ได้เขียนเล่าในหนังสือเทศกาลและประเพณีไทยว่า คำว่า "สารท" เป็นคำอินเดีย หมายถึง "ฤดู" ตรงกับฤดูในภาษาอังกฤษ ที่เรียกว่า "ออทั่ม" หรือ ฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะมีเฉพาะบางเขตของโลกอย่างยุโรป จีน และอินเดียตอนเหนือ เท่านั้น ช่วงนั้นเป็นระยะที่พืชพรรณธัญชาติ และผลไม้ เริ่มสุกให้พืชผลครั้งแรกในฤดู ดังนั้น ประชาชนจึงรู้สึกยินดี และถือเป็นเทศกาลแห่งความรื่นเริง จึงมักทำพิธีตามความเชื่อและเลี้ยงดูกันอย่างที่เรียกว่า "Seasonal Festival" โดยบางแห่งก็จะมีการนำพืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ครั้งแรกที่เรียกว่า "ผลแรกได้" ไปสังเวยหรือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเองนับถือ เพื่อความเป็นสิริมงคล และแสดงความเคารพที่ท่านช่วยบันดาลให้พืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์จนเก็บเกี่ยวได้ เช่น พิธีปงคัล ในอินเดียตอนใต้ ที่มีพิธีต้มข้าวกับน้ำนมทำเป็นขนม เรียกว่า ข้าวทิพย์ ข้าวปายาส ถวายพระคเณศ เป็นต้น ที่มาบทความ : เว็บกระปุกดอทคอม อย่าลืมมารับ คุณตาคุณยายที่วัดพัฒนารามนะ เครดิตรูปภาพ : พระมหาวรสถิตย์ นาถธมฺโม 
    0 Comments 1 Shares 541 Views 0 Reviews
  • งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 26 เฉลิมพระเกียรติ “บัลเลต์สวอนเลค” วันที่ 13 -15 ก.ย.2567 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

    งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 26 (Bangkok’s 26th International Festival of Dance & Music) ที่จัดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2542 ในครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในการเปิดโลกทัศน์ให้กับคนไทย ด้วยศิลปะระดับโลกผ่านการแสดงแขนงต่าง ๆ เช่น บัลเลต์ การเต้นร่วมสมัย รวมไปถึงดนตรีคลาสสิก ระหว่างวันที่ 7 กันยายนถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2567 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

    ขอเชิญรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
    เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแสดงบัลเลย์ งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 26 เรื่องสวอนเลค ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันศุกร์ที่
    13 กันยายน 2567 สำหรับการแสดงสวอนเลค (Swan Lake by Bolshoi Ballet) ของคณะบัลเลต์ชั้นนำจากมอสโกที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ได้เปิดการแสดงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทย จัดเต็มกับนักแสดงกว่า 170 ชีวิต พร้อมวงออร์เคสตราบรรเลงสด เพื่อการแสดง Swan Lake บัลเลต์ยอดนิยมสูงสุดตลอดกาล ที่ถือกำเนิด ณ บอลชอยบัลเลต์เมื่อเกือบ 150 ปีมาแล้ว เรื่องราวของ Swan Lake ได้แรงบันดาลใจมาจากนิทานพื้นบ้านทางฝั่งเยอรมันและรัสเซีย เล่าถึงซิคฟรีด เจ้าชายหนุ่มรูปงามที่เพิ่งอายุเต็ม 21 ปี มารดาของพระองค์อยากให้ลูกชายสมรสเป็นฝั่งเป็นฝา ซิคฟรีดไม่อยากมีครอบครัว ชอบที่จะผจญภัยในป่า เขาพบกับโอเด็ต – สาวงามผู้ต้องคำสาปให้กลายเป็นหงส์ สิ่งเดียวที่จะทำลายคำสาปได้คือคำสัญญาแห่งรักแท้จากชายผู้ไม่เคยรักใครมาก่อน ซีคฟรีดชวนโอเด็ตมางานเต้นรำเลือกคู่ของพระองค์ เพื่อจะได้ทรงกล่าวสัญญารัก แต่กลับถูกพ่อมดรอธบาร์ตซ้อนแผน เปลี่ยนให้ลูกสาวมีรูปกายเหมือนโอเด็ต ซีดฟรีดเข้าใจผิดจึงสาบานรักกับเธอแทน โอเด็ตใจสลาย คำสาปของเธอไม่อาจถอนได้อีก เธอจึงเลือกกระโดดลงหน้าผาเพื่อจบชีวิต ซีคฟรีดกระโดดตามลงไป ทั้งคู่ได้ครองรักกันบนสวรรค์และด้วยการเสียสละของทั้งสอง คำสาปของพ่อมดจึงสลาย หงส์ตัวอื่นในทะเลสาบกลับมาอยู่ในร่างของมนุษย์

    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยนาท กรมประชาสัมพันธ์
    งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 26 เฉลิมพระเกียรติ “บัลเลต์สวอนเลค” วันที่ 13 -15 ก.ย.2567 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 26 (Bangkok’s 26th International Festival of Dance & Music) ที่จัดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2542 ในครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในการเปิดโลกทัศน์ให้กับคนไทย ด้วยศิลปะระดับโลกผ่านการแสดงแขนงต่าง ๆ เช่น บัลเลต์ การเต้นร่วมสมัย รวมไปถึงดนตรีคลาสสิก ระหว่างวันที่ 7 กันยายนถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2567 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ขอเชิญรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแสดงบัลเลย์ งานมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติกรุงเทพฯ ครั้งที่ 26 เรื่องสวอนเลค ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2567 สำหรับการแสดงสวอนเลค (Swan Lake by Bolshoi Ballet) ของคณะบัลเลต์ชั้นนำจากมอสโกที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ได้เปิดการแสดงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทย จัดเต็มกับนักแสดงกว่า 170 ชีวิต พร้อมวงออร์เคสตราบรรเลงสด เพื่อการแสดง Swan Lake บัลเลต์ยอดนิยมสูงสุดตลอดกาล ที่ถือกำเนิด ณ บอลชอยบัลเลต์เมื่อเกือบ 150 ปีมาแล้ว เรื่องราวของ Swan Lake ได้แรงบันดาลใจมาจากนิทานพื้นบ้านทางฝั่งเยอรมันและรัสเซีย เล่าถึงซิคฟรีด เจ้าชายหนุ่มรูปงามที่เพิ่งอายุเต็ม 21 ปี มารดาของพระองค์อยากให้ลูกชายสมรสเป็นฝั่งเป็นฝา ซิคฟรีดไม่อยากมีครอบครัว ชอบที่จะผจญภัยในป่า เขาพบกับโอเด็ต – สาวงามผู้ต้องคำสาปให้กลายเป็นหงส์ สิ่งเดียวที่จะทำลายคำสาปได้คือคำสัญญาแห่งรักแท้จากชายผู้ไม่เคยรักใครมาก่อน ซีคฟรีดชวนโอเด็ตมางานเต้นรำเลือกคู่ของพระองค์ เพื่อจะได้ทรงกล่าวสัญญารัก แต่กลับถูกพ่อมดรอธบาร์ตซ้อนแผน เปลี่ยนให้ลูกสาวมีรูปกายเหมือนโอเด็ต ซีดฟรีดเข้าใจผิดจึงสาบานรักกับเธอแทน โอเด็ตใจสลาย คำสาปของเธอไม่อาจถอนได้อีก เธอจึงเลือกกระโดดลงหน้าผาเพื่อจบชีวิต ซีคฟรีดกระโดดตามลงไป ทั้งคู่ได้ครองรักกันบนสวรรค์และด้วยการเสียสละของทั้งสอง คำสาปของพ่อมดจึงสลาย หงส์ตัวอื่นในทะเลสาบกลับมาอยู่ในร่างของมนุษย์ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยนาท กรมประชาสัมพันธ์
    Love
    Like
    7
    0 Comments 1 Shares 738 Views 0 Reviews
  • ขนมไหว้พระจันทร์แลนด์มาร์ก "มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (北大)"
    .
    เมืองจีนไม่ได้ทำแค่ "ไอศกรีมแลนด์มาร์ก" โดยช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสเทศกาลไหว้พระจันทร์ ก็มีการคิดทำ "ขนมไหว้พระจันทร์แลนด์มาร์ก" ขึ้นมาเป็นจุดขายด้วย ปีนี้ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (北京大学) มหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าของจีนได้เปิดตัว ขนมไหว้พระจันทร์แลนด์มาร์กต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยด้วย
    .
    #MidAutumnFestival #PekingUniversity #thaitimes
    .
    Cr : FB Peking University
    ขนมไหว้พระจันทร์แลนด์มาร์ก "มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (北大)" . เมืองจีนไม่ได้ทำแค่ "ไอศกรีมแลนด์มาร์ก" โดยช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องในโอกาสเทศกาลไหว้พระจันทร์ ก็มีการคิดทำ "ขนมไหว้พระจันทร์แลนด์มาร์ก" ขึ้นมาเป็นจุดขายด้วย ปีนี้ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (北京大学) มหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้าของจีนได้เปิดตัว ขนมไหว้พระจันทร์แลนด์มาร์กต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยด้วย . #MidAutumnFestival #PekingUniversity #thaitimes . Cr : FB Peking University
    Like
    Love
    15
    0 Comments 0 Shares 1140 Views 0 Reviews
  • "🎉 Festival Spotlight 🎉 Experience the color and excitement of [Festival Name] through our latest photo and video coverage. From the traditional dances to the elaborate costumes, immerse yourself in this cultural celebration. 📸💃"
    "🎉 Festival Spotlight 🎉 Experience the color and excitement of [Festival Name] through our latest photo and video coverage. From the traditional dances to the elaborate costumes, immerse yourself in this cultural celebration. 📸💃"
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 160 Views 1 Reviews
  • “Persons” vs. “People” vs. “Peoples”: Which Word Is The Right Choice?

    Persons, people, and peoples: we know what they mean, but the relationship between them can be confusing. What’s the correct plural of person—persons or people? Why does people have its own plural?

    Some of these questions have easy answers. But there are a number of nuanced aspects to their use, including those related to legal language, personal identity, and decisions about whether to emphasize individuals or groups. Then there are questions about capitalization, particularly for terms like people of color and Indigenous Peoples.

    In this article, we’ll address the frequently asked questions surrounding persons, people, and peoples, including:

    - When should persons be used instead of people?
    - When should peoples be used instead of people?
    - When should peoples be capitalized?
    - What are the possessive forms of persons, people, and peoples?

    Quick summary

    Both persons and people can be used as plural forms of person. Persons is often used in formal, legal contexts to emphasize individuals as opposed to a group. People is the plural of person that’s most commonly used in everyday communication to simply refer to multiple humans. But people can also be used as a singular noun to refer to a population or particular community. The plural of this sense of people is peoples, and it’s often used in terms like Indigenous Peoples (in which it’s often capitalized since it refers to specific communities).

    What is the plural of person? Persons or people?

    Both persons and people are acceptable plural forms of person. They’re not necessarily always interchangeable, but there is some overlap.

    The plural form people is more common. That’s because it can be used in any context to refer to multiple individuals—one person, two people (or 100 people or 8 billion people, etc.).

    Usually, you’ll see persons in more formal contexts, especially in legal and technical text, as well as a few other situations.

    When to use persons vs. people

    Persons is especially associated with its use in legal language, in which it’s often used rather than people to ensure clarity by emphasizing that the text is referring to multiple individuals, as opposed to a group as a whole, as in Occupancy is limited to 200 persons or Any person or persons found to be in violation of these rules shall be prohibited from participating.

    When persons is used in this way outside of legal texts, it has historically been regarded as overly formal or stilted—it wouldn’t be natural to say I invited 10 persons to the party, for example. Increasingly, however, there are cases in which persons is thought to be more appropriate than people for other reasons.

    This is especially the case in situations when you want to talk about individuals within a group, rather than the group as a whole. In this way, persons is sometimes used with terms related to identity to emphasize individuality, such as saying Jewish persons instead of Jewish people. Regardless of intent, though, statements that are about individuals with a common identity can lead to overgeneralizations or stereotyping, so it’s always best to consider whether the individuals’ common identity is an essential part of what you’re trying to say. Choosing how to refer to people can also be informed by preferences around language that’s person-first (as in person with autism) or identity-first (as in autistic person).

    More generally, the word people can also be a collective noun that refers to a specific group, nation, tribe, or community, as in We are a resilient people or The Statue of Liberty was a gift to the American people.

    When to use peoples

    The word peoples is specifically used as the plural of people in its sense as a collective singular noun referring to a nation, or tribe, or other community, as in Indigenous Peoples or the many peoples of the world.

    This usage emphasizes that you’re talking about several different specific groups that share a commonality. This can be important for clarity—the many people of the world means something different than the many peoples of the world.

    In practical terms, using peoples in this way can help to prevent erasure and homogenization of groups that are often lumped together in ways that obscure their specific, complex identities. In this way, the term Indigenous Peoples emphasizes the vast diversity among the world’s Indigenous groups while also implying that there are, in fact, separate and distinct groups.

    When should People and Peoples be capitalized?

    You may have noticed that Peoples is capitalized in Indigenous Peoples in this article (and in other articles that use the term).

    Capitalization is increasingly used as a form of respect and distinction for terms that relate to identity. (capitalizes Indigenous across the dictionary when it relates to identity in this way, just as we do for the word Black.)

    The word Peoples is most often capitalized when it follows a specific modifier, as in Hispanic Peoples and Indigenous Peoples. In cases when it’s capitalized, it is often due to the fact that it refers not to people in general but to specific, distinct communities.

    Similarly, the term People of Color is also sometimes capitalized, though not always, likely because it is typically used as a broad term that encompasses more specific identities, including Black and Indigenous people, for example (relatedly, this is what’s represented in the first part of the the abbreviation BIPOC).

    - What are the possessive forms of person, persons, people and peoples? Where should I put the apostrophe?
    - Is it people’s or peoples’? Person’s or persons’? All of these are valid possessives, but they indicate different things. Here is a breakdown of each possessive form, along with examples of their use.

    Person

    Possessive form: person’s (singular possessive)
    Example: One person’s trash is another person’s treasure.
    Persons

    Possessive form: persons’ (plural possessive)
    Example: The suspect confessed to the theft of several persons’ social security numbers.
    People

    Possessive form: people’s (plural and singular possessive)
    Plural example: Tech support should be able to fix all six people’s issues by the end of the day.
    Singular example: The French people’s love of fine food is well known.
    Peoples

    Possessive form: peoples’ (plural possessive)
    Example: The goal of the festival is to celebrate many different peoples’ cultures.

    Examples of persons, people, and peoples used in a sentence

    Here are some examples of the ways that each word is commonly used.

    - We were hoping that at least one person would apply for the job, but we received applications from 60 people!
    - The person or persons who may have witnessed the incident are being sought by police.
    - My partner and I, as persons with autism, have a unique perspective on the issue.
    - The class will be focused on the history, peoples, and cultures of the region.
    Indigenous Peoples’ Day is a time to honor Indigenous Peoples in the Americas and around the world.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    “Persons” vs. “People” vs. “Peoples”: Which Word Is The Right Choice? Persons, people, and peoples: we know what they mean, but the relationship between them can be confusing. What’s the correct plural of person—persons or people? Why does people have its own plural? Some of these questions have easy answers. But there are a number of nuanced aspects to their use, including those related to legal language, personal identity, and decisions about whether to emphasize individuals or groups. Then there are questions about capitalization, particularly for terms like people of color and Indigenous Peoples. In this article, we’ll address the frequently asked questions surrounding persons, people, and peoples, including: - When should persons be used instead of people? - When should peoples be used instead of people? - When should peoples be capitalized? - What are the possessive forms of persons, people, and peoples? Quick summary Both persons and people can be used as plural forms of person. Persons is often used in formal, legal contexts to emphasize individuals as opposed to a group. People is the plural of person that’s most commonly used in everyday communication to simply refer to multiple humans. But people can also be used as a singular noun to refer to a population or particular community. The plural of this sense of people is peoples, and it’s often used in terms like Indigenous Peoples (in which it’s often capitalized since it refers to specific communities). What is the plural of person? Persons or people? Both persons and people are acceptable plural forms of person. They’re not necessarily always interchangeable, but there is some overlap. The plural form people is more common. That’s because it can be used in any context to refer to multiple individuals—one person, two people (or 100 people or 8 billion people, etc.). Usually, you’ll see persons in more formal contexts, especially in legal and technical text, as well as a few other situations. When to use persons vs. people Persons is especially associated with its use in legal language, in which it’s often used rather than people to ensure clarity by emphasizing that the text is referring to multiple individuals, as opposed to a group as a whole, as in Occupancy is limited to 200 persons or Any person or persons found to be in violation of these rules shall be prohibited from participating. When persons is used in this way outside of legal texts, it has historically been regarded as overly formal or stilted—it wouldn’t be natural to say I invited 10 persons to the party, for example. Increasingly, however, there are cases in which persons is thought to be more appropriate than people for other reasons. This is especially the case in situations when you want to talk about individuals within a group, rather than the group as a whole. In this way, persons is sometimes used with terms related to identity to emphasize individuality, such as saying Jewish persons instead of Jewish people. Regardless of intent, though, statements that are about individuals with a common identity can lead to overgeneralizations or stereotyping, so it’s always best to consider whether the individuals’ common identity is an essential part of what you’re trying to say. Choosing how to refer to people can also be informed by preferences around language that’s person-first (as in person with autism) or identity-first (as in autistic person). More generally, the word people can also be a collective noun that refers to a specific group, nation, tribe, or community, as in We are a resilient people or The Statue of Liberty was a gift to the American people. When to use peoples The word peoples is specifically used as the plural of people in its sense as a collective singular noun referring to a nation, or tribe, or other community, as in Indigenous Peoples or the many peoples of the world. This usage emphasizes that you’re talking about several different specific groups that share a commonality. This can be important for clarity—the many people of the world means something different than the many peoples of the world. In practical terms, using peoples in this way can help to prevent erasure and homogenization of groups that are often lumped together in ways that obscure their specific, complex identities. In this way, the term Indigenous Peoples emphasizes the vast diversity among the world’s Indigenous groups while also implying that there are, in fact, separate and distinct groups. When should People and Peoples be capitalized? You may have noticed that Peoples is capitalized in Indigenous Peoples in this article (and in other articles that use the term). Capitalization is increasingly used as a form of respect and distinction for terms that relate to identity. (capitalizes Indigenous across the dictionary when it relates to identity in this way, just as we do for the word Black.) The word Peoples is most often capitalized when it follows a specific modifier, as in Hispanic Peoples and Indigenous Peoples. In cases when it’s capitalized, it is often due to the fact that it refers not to people in general but to specific, distinct communities. Similarly, the term People of Color is also sometimes capitalized, though not always, likely because it is typically used as a broad term that encompasses more specific identities, including Black and Indigenous people, for example (relatedly, this is what’s represented in the first part of the the abbreviation BIPOC). - What are the possessive forms of person, persons, people and peoples? Where should I put the apostrophe? - Is it people’s or peoples’? Person’s or persons’? All of these are valid possessives, but they indicate different things. Here is a breakdown of each possessive form, along with examples of their use. Person Possessive form: person’s (singular possessive) Example: One person’s trash is another person’s treasure. Persons Possessive form: persons’ (plural possessive) Example: The suspect confessed to the theft of several persons’ social security numbers. People Possessive form: people’s (plural and singular possessive) Plural example: Tech support should be able to fix all six people’s issues by the end of the day. Singular example: The French people’s love of fine food is well known. Peoples Possessive form: peoples’ (plural possessive) Example: The goal of the festival is to celebrate many different peoples’ cultures. Examples of persons, people, and peoples used in a sentence Here are some examples of the ways that each word is commonly used. - We were hoping that at least one person would apply for the job, but we received applications from 60 people! - The person or persons who may have witnessed the incident are being sought by police. - My partner and I, as persons with autism, have a unique perspective on the issue. - The class will be focused on the history, peoples, and cultures of the region. Indigenous Peoples’ Day is a time to honor Indigenous Peoples in the Americas and around the world. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 Comments 0 Shares 472 Views 0 Reviews
  • Happy Lunar New Year – Learn All About This Celebration!

    For millions of Asian Americans and Asian peoples around the world, the Lunar New Year is a time to gather with family, start the year off right, and eat a lot of delicious food. Like, a lot. One of the biggest holidays in East Asia, the Lunar New Year will fall on February 1, 2022 in 2022. Because it’s based on the Chinese lunisolar calendar, it’s also often called Chinese New Year.

    While you may be familiar with Lunar New Year parades on TV, did you know the holiday encompasses a wide variety of unique traditions—from gifts exchanged to lucky fruit? Here’s a quick look at some of the things that happen behind the scenes.

    How do people prepare for Lunar New Year?
    There’s a lot to do leading up to the holiday. The general spirit of this preparation is to clean away the residue of the old year and start fresh, personally and financially. You can do this by giving your entire home a good deep cleaning and settling your debts and grudges. Clear away all the lingering bad luck of the old year, making room for the good luck of the new year.

    It’s also important to visit your family’s gravesites before the new year. It’s bad luck to visit a cemetery during the New Year’s celebration because it’s ill-advised to mix interactions with death and celebrations of life. It’s a chance to touch base with your ancestors and remember them fondly. Some believe that ancestral spirits help bring good fortune in the new year.

    What do people eat during Lunar New Year?
    During the Lunar New Year, families get together to eat lucky foods, exchange gifts, and bond with one another. These gatherings are the highlight of the season. Many people travel far and wide to visit all of their family in the new year. So you live in San Francisco, but your family’s in New York? Have fun on your road trip!

    Of course, as soon as you get through the door all your relatives will ask, “你食飯未呀” (“Have you eaten yet?”). What would family gatherings be without loads of food? But it’s considered bad luck to touch knives during the New Year’s season, so a lot of families take time to prep and store food ahead of time.

    Some traditional foods have symbolic meanings:

    fish

    Fish is the centerpiece of many New Year’s feasts. In some Chinese dialects, the word for fish (鱼 or yú) is a homophone with the word for surplus (余, also yú). Thanks to this, eating seafood is believed to symbolize a bountiful new year.

    dumplings

    Dumplings symbolize wealth because they look like little Chinese-style gold ingots (or like little purses). Some believe eating a lot of them will lead to wealth in the new year (which sounds like a great excuse to eat more dumplings).

    long noodles

    Long noodles symbolize longevity and happiness. They can be served fried, boiled, or as part of a soup. Cutting or breaking the noodles is seen to symbolize cutting your lifespan short. So if you have a habit of breaking your pasta before cooking it, you might want to rethink that.

    10-course banquets

    Some restaurants will host 10-course banquets for the occasion. The pricing for these banquets will usually end in the number eight, which is considered lucky in Chinese numerology. In both Mandarin and Cantonese, the word for eight (八, pronounced bā or bat) sounds similar to the word for prosperity (發 pronounced fā or fat). You might actually recognize 發 from a common Chinese New Year greeting: “恭禧發財”. (You can say gong she fa tsai in Mandarin or gong hey fat choi in Cantonese.) So if you see a feast for $888, you know that’s extra lucky.

    Lunar New Year celebrations and traditions

    Lunar New Year is a time to wish each other luck and prosperity in the year to come—while warding off any potential bad spirits.

    red envelopes

    When families gather, they’ll also exchange red envelopes. These are known as lai see (Cantonese) or hóng bāo (Mandarin). They’re gifts from adults (elders and married people) to children and unmarried young adults. They usually contain a few coins or small bills of “lucky money.” This symbolizes a wish for prosperity and plenty in the new year. At the end of the New Year’s celebration period, you’re supposed to spend the lucky money on something sweet (for a sweet new year).

    lucky words

    Many families also decorate their homes with bright red lanterns and signs for the holiday. These typically have lucky words written on them in gold lettering. One word used is fú (福), which means good fortune. You might see this character hung upside down on or near someone’s front door. This is because in some dialects, the word for upside down, dào (倒) is a homonym with the word for to arrive (到, also pronounced dào). Hanging the sign upside down symbolizes arrival of good fortune. Yay for wordplay.

    firecrackers

    One Chinese legend says that there was once a monster, called the nián, that terrorized a certain village every Lunar New Year. Then one day, the villagers learned that the nián was afraid of a bright shade of red, as well as loud noises. The villagers all wore red and set off firecrackers and fireworks. The nián was terrified and fled the village for good. Mulan would be proud. Today, you’ll still see plenty of red and hear plenty of fireworks. It’s all still meant to scare away evil spirits (the nián included).

    tangerines

    You might also see arrangements of tangerines or other citrus fruits. These are also meant to symbolize prosperity thanks to their golden color. Tangerines that still have leaves and stems symbolize fertility. It’s traditional to give tangerines as gifts when you visit someone’s home during the New Year’s celebration.

    Lunar New Year is an important time for many people in Asia, as well as for Asian communities worldwide. You probably know at least one person who celebrates it, and the traditions they observe won’t be the exact same as people of other families, regions, ethnicities, or religions.

    What are zodiac animals?

    The Chinese New Year specifically marks the end and beginning of a year of the Chinese zodiac. The Chinese zodiac consists of a cycle of 12 years, all named for animals. These animals are, in order: rat, ox, tiger, rabbit, dragon, snake, horse, sheep, monkey, rooster, dog, and boar.

    Just like the Western zodiac, the Chinese zodiac says that a person’s personality and horoscope can be determined by their personal zodiac sign—in this case, the one of their birth year. According to the Chinese zodiac, 2022 is the Year of the Tiger. To celebrate the occasion, Chinese New Year festivals, parties, and parades will be held around the world, and most will be adorned with tigers in the form of decorations, art, and toys. The occasion also motivated some organizations to raise awareness of tiger conservation as tigers are a critically endangered species. In 2002, you can also celebrate and share your support for tigers with the Tiger Face emoji 🐯 and Tiger emoji 🐅.


    ⚡️Chinese zodiac chart
    Starting in year 2020, here is a chart of the next 12-year cycle of the Chinese zodiac:

    Year Animal Emoji representation
    2020 rat 🐀
    2021 ox 🐂,
    2022 tiger 🐅, 🐯
    2023 rabbit 🐇, 🐰
    2024 dragon 🐉, 🐲
    2025 snake 🐍
    2026 horse 🐎, 🐴
    2027 goat 🐐
    2028 monkey 🐒, 🐵
    2029 rooster 🐓, 🐔
    2030 dog 🐕, 🐶
    2031 pig 🐖, 🐷

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Happy Lunar New Year – Learn All About This Celebration! For millions of Asian Americans and Asian peoples around the world, the Lunar New Year is a time to gather with family, start the year off right, and eat a lot of delicious food. Like, a lot. One of the biggest holidays in East Asia, the Lunar New Year will fall on February 1, 2022 in 2022. Because it’s based on the Chinese lunisolar calendar, it’s also often called Chinese New Year. While you may be familiar with Lunar New Year parades on TV, did you know the holiday encompasses a wide variety of unique traditions—from gifts exchanged to lucky fruit? Here’s a quick look at some of the things that happen behind the scenes. How do people prepare for Lunar New Year? There’s a lot to do leading up to the holiday. The general spirit of this preparation is to clean away the residue of the old year and start fresh, personally and financially. You can do this by giving your entire home a good deep cleaning and settling your debts and grudges. Clear away all the lingering bad luck of the old year, making room for the good luck of the new year. It’s also important to visit your family’s gravesites before the new year. It’s bad luck to visit a cemetery during the New Year’s celebration because it’s ill-advised to mix interactions with death and celebrations of life. It’s a chance to touch base with your ancestors and remember them fondly. Some believe that ancestral spirits help bring good fortune in the new year. What do people eat during Lunar New Year? During the Lunar New Year, families get together to eat lucky foods, exchange gifts, and bond with one another. These gatherings are the highlight of the season. Many people travel far and wide to visit all of their family in the new year. So you live in San Francisco, but your family’s in New York? Have fun on your road trip! Of course, as soon as you get through the door all your relatives will ask, “你食飯未呀” (“Have you eaten yet?”). What would family gatherings be without loads of food? But it’s considered bad luck to touch knives during the New Year’s season, so a lot of families take time to prep and store food ahead of time. Some traditional foods have symbolic meanings: fish Fish is the centerpiece of many New Year’s feasts. In some Chinese dialects, the word for fish (鱼 or yú) is a homophone with the word for surplus (余, also yú). Thanks to this, eating seafood is believed to symbolize a bountiful new year. dumplings Dumplings symbolize wealth because they look like little Chinese-style gold ingots (or like little purses). Some believe eating a lot of them will lead to wealth in the new year (which sounds like a great excuse to eat more dumplings). long noodles Long noodles symbolize longevity and happiness. They can be served fried, boiled, or as part of a soup. Cutting or breaking the noodles is seen to symbolize cutting your lifespan short. So if you have a habit of breaking your pasta before cooking it, you might want to rethink that. 10-course banquets Some restaurants will host 10-course banquets for the occasion. The pricing for these banquets will usually end in the number eight, which is considered lucky in Chinese numerology. In both Mandarin and Cantonese, the word for eight (八, pronounced bā or bat) sounds similar to the word for prosperity (發 pronounced fā or fat). You might actually recognize 發 from a common Chinese New Year greeting: “恭禧發財”. (You can say gong she fa tsai in Mandarin or gong hey fat choi in Cantonese.) So if you see a feast for $888, you know that’s extra lucky. Lunar New Year celebrations and traditions Lunar New Year is a time to wish each other luck and prosperity in the year to come—while warding off any potential bad spirits. red envelopes When families gather, they’ll also exchange red envelopes. These are known as lai see (Cantonese) or hóng bāo (Mandarin). They’re gifts from adults (elders and married people) to children and unmarried young adults. They usually contain a few coins or small bills of “lucky money.” This symbolizes a wish for prosperity and plenty in the new year. At the end of the New Year’s celebration period, you’re supposed to spend the lucky money on something sweet (for a sweet new year). lucky words Many families also decorate their homes with bright red lanterns and signs for the holiday. These typically have lucky words written on them in gold lettering. One word used is fú (福), which means good fortune. You might see this character hung upside down on or near someone’s front door. This is because in some dialects, the word for upside down, dào (倒) is a homonym with the word for to arrive (到, also pronounced dào). Hanging the sign upside down symbolizes arrival of good fortune. Yay for wordplay. firecrackers One Chinese legend says that there was once a monster, called the nián, that terrorized a certain village every Lunar New Year. Then one day, the villagers learned that the nián was afraid of a bright shade of red, as well as loud noises. The villagers all wore red and set off firecrackers and fireworks. The nián was terrified and fled the village for good. Mulan would be proud. Today, you’ll still see plenty of red and hear plenty of fireworks. It’s all still meant to scare away evil spirits (the nián included). tangerines You might also see arrangements of tangerines or other citrus fruits. These are also meant to symbolize prosperity thanks to their golden color. Tangerines that still have leaves and stems symbolize fertility. It’s traditional to give tangerines as gifts when you visit someone’s home during the New Year’s celebration. Lunar New Year is an important time for many people in Asia, as well as for Asian communities worldwide. You probably know at least one person who celebrates it, and the traditions they observe won’t be the exact same as people of other families, regions, ethnicities, or religions. What are zodiac animals? The Chinese New Year specifically marks the end and beginning of a year of the Chinese zodiac. The Chinese zodiac consists of a cycle of 12 years, all named for animals. These animals are, in order: rat, ox, tiger, rabbit, dragon, snake, horse, sheep, monkey, rooster, dog, and boar. Just like the Western zodiac, the Chinese zodiac says that a person’s personality and horoscope can be determined by their personal zodiac sign—in this case, the one of their birth year. According to the Chinese zodiac, 2022 is the Year of the Tiger. To celebrate the occasion, Chinese New Year festivals, parties, and parades will be held around the world, and most will be adorned with tigers in the form of decorations, art, and toys. The occasion also motivated some organizations to raise awareness of tiger conservation as tigers are a critically endangered species. In 2002, you can also celebrate and share your support for tigers with the Tiger Face emoji 🐯 and Tiger emoji 🐅. ⚡️Chinese zodiac chart Starting in year 2020, here is a chart of the next 12-year cycle of the Chinese zodiac: Year Animal Emoji representation 2020 rat 🐀 2021 ox 🐂, 2022 tiger 🐅, 🐯 2023 rabbit 🐇, 🐰 2024 dragon 🐉, 🐲 2025 snake 🐍 2026 horse 🐎, 🐴 2027 goat 🐐 2028 monkey 🐒, 🐵 2029 rooster 🐓, 🐔 2030 dog 🐕, 🐶 2031 pig 🐖, 🐷 Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 Comments 0 Shares 618 Views 0 Reviews
  • “Equinox” vs. “Solstice”: The Difference Between Them Is Like Night And Day

    Four times a year, the season officially changes. And each change is marked by a specific point known as an equinox or a solstice. One term is used for the transition from winter to spring and summer to fall, and one is used for the switch from spring to summer and fall to winter.

    Join us on a journey through the seasons as we break down the difference between equinoxes and solstices, tell you when they occur, and explain why this is different depending on what hemisphere you’re in.

    Quick summary

    An equinox is one of the two times of the year when the amount of daylight and nighttime hours are just about of equal length. The vernal equinox marks the start of spring, and the autumnal equinox marks the start of fall. A solstice is one of the two times of the year resulting in the most amount of daylight time or the least amount of daylight time in a single day. Solstices mark the start of summer and winter.


    What is an equinox?

    An equinox is one of the two times of the year when the amount of daylight and nighttime hours are just about of equal length. The two equinoxes occur around March 20–21 and September 22–23, marking the onset of both spring and autumn.

    During the equinox, the sun crosses the plane of Earth’s equator, making nighttime and daytime (roughly) equal length all over the world. In the Northern Hemisphere, the spring equinox, or vernal equinox, occurs around March 21, when the sun moves northward across the celestial equator. The autumnal equinox occurs around September 22 or 23, when the sun crosses the celestial equator going south. In the Southern Hemisphere, it’s the reverse. For this reason, the terms March equinox and September equinox are sometimes used to avoid a Northern Hemisphere bias.

    Contrary to popular usage, an equinox doesn’t last for a full 24 hours. Technically speaking, an equinox is one of the two specific moments in time when the sun is exactly above the celestial equator. The word equinox can also refer to the position of the sun at this moment.

    Where does the word equinox come from?

    The word equinox comes from the Latin aequinoctium, meaning “the time of equal days and nights,” from equi-, meaning “equal,” and nocti-, meaning “night.”

    What is a solstice?

    A solstice is one of the two times of the year when the positioning and tilt of Earth relative to the sun results in the most amount of daylight time or the least amount of daylight time in a single day.

    Technically speaking, a solstice is one of the two the exact moments in the year when the sun reaches its northernmost point (around June 21, when the North Pole tilts closest to the sun) or southernmost point (around December 22, during the winter solstice) from Earth’s equator.

    The solstices are traditionally considered to mark the start of summer and winter. But which season begins with each solstice depends on which hemisphere you’re in. In the Northern Hemisphere, the summer solstice occurs in June and the winter solstice occurs in December. In the Southern Hemisphere, it’s the opposite.

    The summer solstice results in the longest day of the year (sometimes called midsummer), meaning it has the most time of daylight, and the winter solstice results in the shortest day of the year, meaning it has the longest period of darkness.

    The winter solstice corresponds with some major cultural observances, including Christmas. Even in ancient times, Germanic peoples celebrated a 12-day festival to mark the winter solstice. Also known as yule, this festive period is considered one of the oldest celebrations of wintertime in the world.

    In the days of the Incan Empire, the winter solstice (in June in the Southern Hemisphere) was honored with Inti Raymi, or Festival of the Sun. It involved a ceremony in which an Inca priest would “tie” the sun to a column stone in a symbolic effort to keep it from escaping.

    Where does the word solstice come from?

    The word solstice ultimately derives from the Latin sōlstitium, which comes from the parts sōl, “sun,” and sistere, “to stand still.” This means that sōlstitium literally translates to something like “the standing still of the sun.”

    What is the difference between an equinox and a solstice?

    When the equinox occurs, as the equi- prefix might suggest, day and night are of equal length, and it marks the onset of spring (vernal equinox) and autumn (autumnal equinox).

    The solstice, meanwhile, marks the beginnings of summer and winter, and it’s either the longest day of the year (summer solstice) or the shortest (winter solstice).

    Remember, sol means sun, and solstices are the days with the most or the least amount of daylight.

    Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    “Equinox” vs. “Solstice”: The Difference Between Them Is Like Night And Day Four times a year, the season officially changes. And each change is marked by a specific point known as an equinox or a solstice. One term is used for the transition from winter to spring and summer to fall, and one is used for the switch from spring to summer and fall to winter. Join us on a journey through the seasons as we break down the difference between equinoxes and solstices, tell you when they occur, and explain why this is different depending on what hemisphere you’re in. Quick summary An equinox is one of the two times of the year when the amount of daylight and nighttime hours are just about of equal length. The vernal equinox marks the start of spring, and the autumnal equinox marks the start of fall. A solstice is one of the two times of the year resulting in the most amount of daylight time or the least amount of daylight time in a single day. Solstices mark the start of summer and winter. What is an equinox? An equinox is one of the two times of the year when the amount of daylight and nighttime hours are just about of equal length. The two equinoxes occur around March 20–21 and September 22–23, marking the onset of both spring and autumn. During the equinox, the sun crosses the plane of Earth’s equator, making nighttime and daytime (roughly) equal length all over the world. In the Northern Hemisphere, the spring equinox, or vernal equinox, occurs around March 21, when the sun moves northward across the celestial equator. The autumnal equinox occurs around September 22 or 23, when the sun crosses the celestial equator going south. In the Southern Hemisphere, it’s the reverse. For this reason, the terms March equinox and September equinox are sometimes used to avoid a Northern Hemisphere bias. Contrary to popular usage, an equinox doesn’t last for a full 24 hours. Technically speaking, an equinox is one of the two specific moments in time when the sun is exactly above the celestial equator. The word equinox can also refer to the position of the sun at this moment. Where does the word equinox come from? The word equinox comes from the Latin aequinoctium, meaning “the time of equal days and nights,” from equi-, meaning “equal,” and nocti-, meaning “night.” What is a solstice? A solstice is one of the two times of the year when the positioning and tilt of Earth relative to the sun results in the most amount of daylight time or the least amount of daylight time in a single day. Technically speaking, a solstice is one of the two the exact moments in the year when the sun reaches its northernmost point (around June 21, when the North Pole tilts closest to the sun) or southernmost point (around December 22, during the winter solstice) from Earth’s equator. The solstices are traditionally considered to mark the start of summer and winter. But which season begins with each solstice depends on which hemisphere you’re in. In the Northern Hemisphere, the summer solstice occurs in June and the winter solstice occurs in December. In the Southern Hemisphere, it’s the opposite. The summer solstice results in the longest day of the year (sometimes called midsummer), meaning it has the most time of daylight, and the winter solstice results in the shortest day of the year, meaning it has the longest period of darkness. The winter solstice corresponds with some major cultural observances, including Christmas. Even in ancient times, Germanic peoples celebrated a 12-day festival to mark the winter solstice. Also known as yule, this festive period is considered one of the oldest celebrations of wintertime in the world. In the days of the Incan Empire, the winter solstice (in June in the Southern Hemisphere) was honored with Inti Raymi, or Festival of the Sun. It involved a ceremony in which an Inca priest would “tie” the sun to a column stone in a symbolic effort to keep it from escaping. Where does the word solstice come from? The word solstice ultimately derives from the Latin sōlstitium, which comes from the parts sōl, “sun,” and sistere, “to stand still.” This means that sōlstitium literally translates to something like “the standing still of the sun.” What is the difference between an equinox and a solstice? When the equinox occurs, as the equi- prefix might suggest, day and night are of equal length, and it marks the onset of spring (vernal equinox) and autumn (autumnal equinox). The solstice, meanwhile, marks the beginnings of summer and winter, and it’s either the longest day of the year (summer solstice) or the shortest (winter solstice). Remember, sol means sun, and solstices are the days with the most or the least amount of daylight. Copyright 2024, XAKKHRA, All Rights Reserved.
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 372 Views 0 Reviews