• One Bangkok 13/1/2025
    One Bangkok 13/1/2025
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจไซเบอร์ลุยค้น 2 จุด ทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “Bangkok 198” พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001883

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจไซเบอร์ลุยค้น 2 จุด ทลายเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “Bangkok 198” พบเงินหมุนเวียนกว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001883 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Wow
    Haha
    11
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1184 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงาน ห้างดังฯ แจ้งจับ3 หนุ่มอเมริกัน เล่นพิเรนทร์โดดร่มชั้นดาดฟ้า พบกลุ่มผู้ก่อเหตุมีประวัติการลักลอบขึ้นอาคารสูงและก่อเหตุกระโดดร่มมาหลายอาคารในยุโรป และเอเชีย เป็นมืออาชีพ

    วันนี้ (2 ม.ค.) เพจ “POLICETV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ได้โพสต์รายงานกรณี 3 หนุ่มอเมริกัน เล่นพิเรนทร์โดดร่มชั้นดาดฟ้าบนห้างย่านสุขุมวิท ทางห้างดังฯ แจ้งจับจ่อเอาผิดข้อหาบุกรุก

    ทางเพจรายงานว่า “กรณีผู้ใช้บัญชี Tiktok ชื่อ "armankremer" โพสต์คลิปวีดีโอลักษณะการเล่นกระโดดร่มบนอาคารสูงในประเทศไทย พร้อมข้อความระบุว่า "Business trip to Bangkok และแฮชแท็ก #bangkok #basejump #parachute #city #night #urban #urbex #basejumping #skydiving #parkour "

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000000459

    #MGROnline #โดดร่ม #ดาดฟ้า
    สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงาน ห้างดังฯ แจ้งจับ3 หนุ่มอเมริกัน เล่นพิเรนทร์โดดร่มชั้นดาดฟ้า พบกลุ่มผู้ก่อเหตุมีประวัติการลักลอบขึ้นอาคารสูงและก่อเหตุกระโดดร่มมาหลายอาคารในยุโรป และเอเชีย เป็นมืออาชีพ • วันนี้ (2 ม.ค.) เพจ “POLICETV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ได้โพสต์รายงานกรณี 3 หนุ่มอเมริกัน เล่นพิเรนทร์โดดร่มชั้นดาดฟ้าบนห้างย่านสุขุมวิท ทางห้างดังฯ แจ้งจับจ่อเอาผิดข้อหาบุกรุก • ทางเพจรายงานว่า “กรณีผู้ใช้บัญชี Tiktok ชื่อ "armankremer" โพสต์คลิปวีดีโอลักษณะการเล่นกระโดดร่มบนอาคารสูงในประเทศไทย พร้อมข้อความระบุว่า "Business trip to Bangkok และแฮชแท็ก #bangkok #basejump #parachute #city #night #urban #urbex #basejumping #skydiving #parkour " • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000000459 • #MGROnline #โดดร่ม #ดาดฟ้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • Bangkok Thailand countdown 2025
    Bangkok Thailand countdown 2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • บิ๊กซี ฟู้ดเพลส เจาะพรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ต

    ปลายปี 2567 บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดสาขาโมเดลบิ๊กซี ฟู้ดเพลส (Big C Foodplace) ซึ่งเป็นพรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ต (Premium Supermarket) อย่างต่อเนื่อง เริ่มจากสาขามหาทุนพลาซ่า ถนนเพลินจิต เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2567 เป็นสาขาลำดับที่ 14 ขนาดพื้นที่ 386 ตารางเมตร เจาะกลุ่มลูกค้าโซนสำนักงาน รวมถึงกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีรายได้ระดับกลาง

    ตามมาด้วยสาขาดิโอลด์สยามพลาซ่า ถนนตรีเพชร เปิดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2567 มาพร้อมกับโซนเดลิก้า (Delica) ที่จำหน่ายอาหารพร้อมทาน และอาหารจานหลักหลากหลายเมนู พร้อมสินค้าอุปโภคบริโภค และของฝากสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ และสาขาล่าสุด เดอะแจ๊ส รามอินทรา เปิดเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2567 มาแทนแม็กซ์แวลู ทำให้ขณะนี้มีสาขาบิ๊กซี ฟู้ดเพลส รวม 16 สาขา

    พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวโมเดลใหม่ บิ๊กซี บางกอก มาร์เช่ (Big C Bangkok Marche) ที่อาคารเดอะฟอรั่ม วันแบงค็อก ถนนพระรามที่ 4 เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2567 มี 3 โซนหลัก ได้แก่ Delica โซนอาหารเช้าและอาหารพร้อมทาน ราคาเริ่มต้นที่ 99 บาท, Grilled Bar จำหน่ายเมนูซีฟู๊ด สเต็กเนื้อออสเตรเลีย และ Wine Cellar จำหน่ายสุราหลากหลายประเทศ พร้อมสินค้าอุปโภคบริโภค

    สำหรับบิ๊กซี ฟู้ดเพลส เป็นพรีเมียม ซูเปอร์มาร์เก็ต ในรูปแบบที่แตกต่างจากบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และบิ๊กซี มาร์เก็ต เน้นจำหน่ายอาหารสด อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารพร้อมรับประทาน และผลิตภัณฑ์นำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมพื้นที่รับประทานอาหาร เปิดสาขาต้นแบบที่ศูนย์การค้าเกตเวย์ แอท บางซื่อ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2561 ก่อนเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2562 ขณะนั้นเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเปิด 24 ชั่วโมง

    หลังจากนั้นจึงได้รีโนเวตห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี มาร์เก็ตบางสาขา ให้กลายเป็นบิ๊กซี ฟู้ดเพลส ช่วงปี 2562-2565 ได้แก่ สาขาสุขาภิบาล 5 สาขาเคหะร่มเกล้า สาขาสวนหลวง สาขาประชาอุทิศ สาขาหทัยราษฏร์ สาขาสายไหม เปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมได้แก่ สาขาท่าอิฐ เปิด 16 ก.ค.2563 สาขาหนามแดง เปิด 26 ส.ค.2563 สาขาสำนักงานใหญ่ บีเจซี 1 เปิด 1 ก.ค.2565 สาขาพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน เปิด 6 ก.ค.2566 และสาขาเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เปิด 16 พ.ย.2566

    นอกจากนี้ ยังมีโมเดลบิ๊กซี เพลส (Big C Place) สาขาลำลูกกา สาขาสระบุรี สาขารัชดาภิเษก สาขาฉะเชิงเทรา 1 (ถนนสิริโสธร) แผนกอาหารสดใช้คำว่า บิ๊กซี ฟู้ดเพลส แต่โปรโมชันสินค้าบางรายการของบิ๊กซี ฟู้ดเพลส จัดรายการเฉพาะสาขาข้างต้น 16 สาขาเท่านั้น

    #Newskit
    บิ๊กซี ฟู้ดเพลส เจาะพรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ต ปลายปี 2567 บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เปิดสาขาโมเดลบิ๊กซี ฟู้ดเพลส (Big C Foodplace) ซึ่งเป็นพรีเมียมซูเปอร์มาร์เก็ต (Premium Supermarket) อย่างต่อเนื่อง เริ่มจากสาขามหาทุนพลาซ่า ถนนเพลินจิต เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2567 เป็นสาขาลำดับที่ 14 ขนาดพื้นที่ 386 ตารางเมตร เจาะกลุ่มลูกค้าโซนสำนักงาน รวมถึงกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีรายได้ระดับกลาง ตามมาด้วยสาขาดิโอลด์สยามพลาซ่า ถนนตรีเพชร เปิดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2567 มาพร้อมกับโซนเดลิก้า (Delica) ที่จำหน่ายอาหารพร้อมทาน และอาหารจานหลักหลากหลายเมนู พร้อมสินค้าอุปโภคบริโภค และของฝากสำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ และสาขาล่าสุด เดอะแจ๊ส รามอินทรา เปิดเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2567 มาแทนแม็กซ์แวลู ทำให้ขณะนี้มีสาขาบิ๊กซี ฟู้ดเพลส รวม 16 สาขา พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวโมเดลใหม่ บิ๊กซี บางกอก มาร์เช่ (Big C Bangkok Marche) ที่อาคารเดอะฟอรั่ม วันแบงค็อก ถนนพระรามที่ 4 เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2567 มี 3 โซนหลัก ได้แก่ Delica โซนอาหารเช้าและอาหารพร้อมทาน ราคาเริ่มต้นที่ 99 บาท, Grilled Bar จำหน่ายเมนูซีฟู๊ด สเต็กเนื้อออสเตรเลีย และ Wine Cellar จำหน่ายสุราหลากหลายประเทศ พร้อมสินค้าอุปโภคบริโภค สำหรับบิ๊กซี ฟู้ดเพลส เป็นพรีเมียม ซูเปอร์มาร์เก็ต ในรูปแบบที่แตกต่างจากบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และบิ๊กซี มาร์เก็ต เน้นจำหน่ายอาหารสด อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารพร้อมรับประทาน และผลิตภัณฑ์นำเข้าจากต่างประเทศ พร้อมพื้นที่รับประทานอาหาร เปิดสาขาต้นแบบที่ศูนย์การค้าเกตเวย์ แอท บางซื่อ เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2561 ก่อนเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2562 ขณะนั้นเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเปิด 24 ชั่วโมง หลังจากนั้นจึงได้รีโนเวตห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี มาร์เก็ตบางสาขา ให้กลายเป็นบิ๊กซี ฟู้ดเพลส ช่วงปี 2562-2565 ได้แก่ สาขาสุขาภิบาล 5 สาขาเคหะร่มเกล้า สาขาสวนหลวง สาขาประชาอุทิศ สาขาหทัยราษฏร์ สาขาสายไหม เปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมได้แก่ สาขาท่าอิฐ เปิด 16 ก.ค.2563 สาขาหนามแดง เปิด 26 ส.ค.2563 สาขาสำนักงานใหญ่ บีเจซี 1 เปิด 1 ก.ค.2565 สาขาพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน เปิด 6 ก.ค.2566 และสาขาเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เปิด 16 พ.ย.2566 นอกจากนี้ ยังมีโมเดลบิ๊กซี เพลส (Big C Place) สาขาลำลูกกา สาขาสระบุรี สาขารัชดาภิเษก สาขาฉะเชิงเทรา 1 (ถนนสิริโสธร) แผนกอาหารสดใช้คำว่า บิ๊กซี ฟู้ดเพลส แต่โปรโมชันสินค้าบางรายการของบิ๊กซี ฟู้ดเพลส จัดรายการเฉพาะสาขาข้างต้น 16 สาขาเท่านั้น #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 470 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP5 นี้ขอนำเสนอข้อมูลเพื่อแลกเปลี่ยนประเด็นด้านความปลอดภัยทางการบินที่ขอมุ่งเน้นไปทางด้านความปลอดภัยของเครื่องบินขณะทำการวิ่งขึ้นหรือกำลังวิ่งลงบนทางวิ่งที่สนามบินนะครับ

    จากข้อมูลรายงานด้านความปลอดภัย (Safety Report) ปี 2024 ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) ได้จำแนกเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากที่จำเป็นจะต้องจัดการอย่างเร่งด่วนอยู่ 5 เหตุการณ์ คือ 1 การควบคุมอากาศยานเข้าสู่สภาพภูมิประเทศ (Controlled Flight Into Terrain: CFIT) 2 การสูญเสียการควบคุมขณะทำการบิน (Loss Of Control In-Flight: LOC-I) 3 การชนกันกลางอากาศ (Mid-Air Collision: MAC) 4 การเกิดอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่ง (Runway Excursion: RE) และ 5 การล่วงล้ำบนทางวิ่ง (Runway Incursion: RI)

    ที่จะขอพูดถึงในครั้งนี้ขอกล่าวถึงอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่งเป็นหลักเพื่อที่จะนำเข้าสู่หัวข้อและเนื้อหาการประชุมของ ICAO ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ( ICAO APAC) เมื่อต้นป 67 ที่ผ่านมา

    การไถลออกนอกทางวิ่ง ICAO ได้ให้นิยามไว้คือการที่เครื่องบินเบี่ยงเบนออกจากทางวิ่งหรือการวิ่งเลยออกปลายทางวิ่งในขณะที่ทำการบินลงหรือวิ่งขึ้นซึ่งในปัจจุบันเรามักจะได้ยินข่าวจากต่างประเทศตามสื่อต่างๆเกี่ยวกับเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งอยู่บ่อยครั้งโดยเฉพาะในช่วงที่สนามบินมีสภาพอากาศแปรปรวนหรือมีฝนตกฟ้าคะนอง เมื่อไม่กี่ปีมานี้ประเทศไทยเราก็มีกรณีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งเช่นเดียวกันที่จังหวัดเชียงรายซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีรายงานผลการสอบสวนอากาศยานอุบัติการณ์รุนแรงฉบับสุดท้าย (Final Aircraft Serious Incident Investigation Report) ที่จะแจ้งให้ทราบถึงสาเหตุหรือปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์นั้นว่าคืออะไร (โดยตามมาตรฐาน ICAO นั้น รายงานฉบับสุดท้ายควรออกมาภายใน 12 เดือนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์)

    การไถลออกนอกทางวิ่งบนพื้นที่ของสนามบินที่ออกแบบและสร้างได้ตามมาตรฐานหรือสูงกว่ามาตรฐานจะลดโอกาสการเกิดความเสียหายต่อตัวอากาศยานและการบาดเจ็บของผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องได้อย่างมีนัยสำคัญ ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คล้ายๆกับการที่เราบังเอิญขับรถพุ่งออกจากถนนจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ แต่พอดีพื้นที่ด้านข้างหรือไหล่ถนนนั้นเป็นพื้นที่โล่งๆที่มีความยาวและความกว้างเพียงพอให้เราควบคุมรถยนต์ให้ค่อยๆหยุดลงได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ได้ปะทะหรือชนเข้ากับสิ่งใดเราก็ปลอดภัย แต่ถ้าหากพื้นที่ด้านข้างถนนแคบหรือมีน้อยแถมมีสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เช่น ต้นไม้ เสาไฟฟ้า เกาะกลางถนนหรือเป็นคลองส่งน้ำชลประทานหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใด เราก็ยิ่งมีโอกาสได้รับอันตรายมากเท่านั้น แต่สำหรับสิ่งที่เราพูดถึงอยู่นี้เป็นอากาศยานหรือวัตถุที่มีขนาด มวล น้ำหนัก และความเร็วที่แตกต่างกันกับรถยนต์มาก ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจึงแตกต่างจากกรณีของรถยนต์อย่างสิ้นเชิง

    ในส่วนของพื้นที่ที่รองรับการออกนอกทางวิ่งของเครื่องบินเราเรียกว่าพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งหรือ Runway Strip ซึ่งจะมีขนาดที่แตกต่างกันตามประเภทของทางวิ่งที่รองรับอากาศยานรวมทั้งทางหยุด (Stop Way) (ถ้ามี) ทั้งนี้ยังรวมถึงอีกพื้นที่หนึ่งก็คือพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่ง (Runway End Safety Area: RESA) ที่เอาไว้สำหรับรองรับการวิ่งเลยปลายทางวิ่งออกไปและในกรณีที่เครื่องบินลงก่อนถึงจุดเริ่มต้นของหัวทางวิ่ง (Runway Threshold) ด้วยเช่นกัน (สามารถดาวน์โหลดข้อกำหนดสำนักงานการบินพลเรือน (กพท.) ฉบับที่ 37 ในเว็ปไซต์ กพท.หรือ ICAO Annex 14 Vol.1 ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อดูในรายละเอียดได้) พื้นที่เหล่านี้จะถูกออกแบบมาเพื่อให้เครื่องบินสามารถหยุดได้อย่างปลอดภัยในกรณีเกิด Runway excursion ขึ้น

    เราลองมาดูนิยามและมาตรฐานในข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ก่อนดีกว่า ความหมายของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งตามข้อกำหนด กพท. ฉบับที่ 37 (อ้างอิงจากมาตรฐานของ ICAO Annex 14 Vol.1 - Aerodrome Design and Operations) กำหนดไว้ว่า “พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) หมายความว่า พื้นที่ที่กําหนดไว้ซึ่งรวมถึงทางวิ่งและทางหยุด (ถ้ามี) ที่กําหนดไว้เพื่อ (1) ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายแก่อากาศยานที่วิ่งออกนอกทางวิ่ง และ (2) ป้องกันอากาศยานที่บินอยู่เหนือพื้นที่ดังกล่าวระหว่างการปฏิบัติการวิ่งขึ้นหรือการบินลงของอากาศยาน
    2. ขนาดของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง
    ข้อ 145 พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งต้องขยายต่อออกไปจากหัวทางวิ่งและยาวเลยปลายทางวิ่งหรือทางหยุดไม่น้อยกว่าระยะทาง ดังต่อไปนี้
    (1) หกสิบ (60) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 2, 3 หรือ 4
    (2) หกสิบ (60) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 และเป็นทางวิ่งแบบบินลงด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน
    (3) สามสิบ (30) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 และเป็นทางวิ่งแบบบินลงโดยไม่ใช้เครื่องวัดประกอบการบิน
    ข้อ 146 พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของทางวิ่งแบบพรีซิชั่น (Precision) และทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่น (Non-Precision) ต้องขยายไปทางด้านข้างแต่ละด้านของเส้นกึ่งกลางทางวิ่งและแนวเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ต่อขยายออกไปตลอดความยาวของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งนั้นเป็นระยะทางอย่างน้อย ดังต่อไปนี้
    (1) หนึ่งร้อยสี่สิบ (140) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4
    (2) เจ็ดสิบ (70) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 หรือ 2
    4. การปรับระดับพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง
    ข้อ 152 เพื่อประโยชน์ในการรองรับเครื่องบินที่จะใช้ทางวิ่ง ในกรณีที่เครื่องบินวิ่งออกนอกทางวิ่ง สนามบินต้องปรับระดับ (Graded portion) ส่วนของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของทางวิ่งแบบบินลงด้วยเครื่องวัด

    ประกอบการบิน อย่างน้อยภายในระยะจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งและแนวเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ขยายออกไปดังต่อไปนี้
    (1) หนึ่งร้อยห้า (105) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4 ตามรูปที่ 9
    (2) เจ็ดสิบห้า (75) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4
    (3) สี่สิบ (40) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบพรีซิชั่นและทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1หรือ 2
    ข้อ 161 หากมีความจำเป็นต้องมีการระบายน้ำที่เหมาะสม สนามบินอาจจัดให้มีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งบริเวณพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งได้ แต่ต้องวางตําแหน่งของรางระบายน้ำให้อยู่ห่างจากทางวิ่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้” อันนี้คือข้อมูลที่อยู่ในข้อกำหนด กพท.ฉบับ37

    สนามบินสุวรรณภูมิมีรหัสอ้างอิงของสนามบิน 4E (ตามข้อกำหนด กพท. ฉบับที่ 37 ส่วนที่ 4 รหัสอ้างอิงสนามบิน ข้อ 23, 24 และ25) คือมีความยาวของทางวิ่งเกิน 1800 เมตร และรองรับเครื่องบินที่มีระยะห่างระหว่างปลายปีก 65 เมตรขึ้นไปแต่ไม่ถึง 80 เมตร ดังนั้นพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งด้านข้างที่วัดออกจากจุดเส้นกึ่งกลางทางวิ่งจึงต้องมีขนาดอย่างน้อย 140 เมตรตลอดแนวความยาวของทางวิ่ง แต่ต้องไม่ลืมว่ามีการใช้คำว่า “อย่างน้อย” นั้น ถ้ามากกว่าก็จะยิ่งดี

    สำหรับสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นสนามบินหลักของบ้านเราที่มีภาพประกอบวาระการประชุมของ ICAO Asia and Pacific (ICAO APAC) ที่จะได้กล่าวต่อไป ได้มีการติดตั้งรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งตามความยาวของทางวิ่งฝั่งตะวันออกห่างจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ระยะ 120 เมตร (ข้อมูลจาก AIP Thailand) เพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยระบายน้ำสำหรับกรณีมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากอยู่บนทางวิ่งหรือพื้นที่โดยรอบ ตรงบริเวณที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion of Runway Strip) หรือตั้งแต่ 105 เมตรจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งเป็นต้นไป (ตามข้อกำหนด กพท. 4. การปรับระดับพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง ข้อ 152 วงเล็บ 1)

    ขณะที่มาตรฐานของ ICAO Annex 14 Vol.1 - Aerodrome Design and Operations, 9 edition July 2022 หน้า 3-13 ข้อ 3.4.16 บันทึก (Note) 1 ได้ระบุว่า รางระบายน้ำแบบเปิดโล่งสามารถที่จะติดตั้งได้ในกรณีที่มีความจำเป็นต่อการระบายน้ำฝนจำนวนมากแต่จะต้องพิจารณาติดตั้งให้ไกลที่สุดเท่าที่จะปฏิบัติได้บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับหรือพื้นที่ “Non-graded portion” ของทางวิ่ง (Note 1. - Where deemed necessary for proper drainage, an open-air storm water conveyance may be allowed in the non-graded portion of a runway strip and would be placed as far as practicable from the runway.) ดังนั้นการมีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งของสนามบินนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการติดตั้งที่ไม่สอดคล้องหรือผิดจากมาตรฐานการก่อสร้างแต่อย่างใด

    อย่างไรก็ตาม จากรายงานการประชุมครั้งที่ 5 ของ ICAO APAC ของคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force เมื่อวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 67 ที่จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงรายโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศภาคีสมาชิก 14 ประเทศและองค์กรทางการบินระหว่างประเทศอีก 3 หน่วยงานรวม 62 คน ( The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force: AP-ADO/TF/5: Chiang Rai) ในหัวข้อวาระประชุมที่ 4 เรื่อง “การวางแผน การออกแบบ และการก่อสร้างสนามบิน” (Planning, Design and Construction of Aerodromes) นั้น มีการหยิบยกประเด็นของรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งที่อยู่บนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (OPEN-AIR STORM WATER CONVEYANCE IN RUNWAY STRIP) ขึ้นมาใหม่ซึ่งนำเสนอโดย ICAO-The Cooperative Development of Operational Safety and Continuing Airworthiness Programme – South East Asia (COSCAP-SEA) โดยระบุว่าการมีอยู่ของรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) อาจนำมาซึ่งอันตรายต่างๆโดยเฉพาะกับเครื่องบินที่ไถลออกนอกทางวิ่ง ยิ่งในช่วงที่สนามบินมีสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกและทางวิ่งเปียกลื่น การมีอยู่ของรางระบายน้ำนั้นอาจจะทำให้เหตุการณ์ลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง(ที่ไปถึงบริเวณที่ติดตั้งรางระบายน้ำฯ) รุนแรงยิ่งขึ้น อันนี้เองอาจจะถือได้ว่าเป็นการเริ่มทบทวนมาตรฐานด้านกายภาพสนามบินของ ICAO ก็เป็นได้ และจากการนำเสนอข้อมูลในวาระนี้ก่อนที่จะสรุปอยู่ในรายงานในภาพรวมนั้นได้มีการนำรูปภาพตัวอย่างของกรณีการไถลออกนอกทางวิ่งในประเทศต่างๆ รวมทั้งตัวอย่างภาพของสนามบินสุวรรณภูมิที่มีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งและหยุดอยู่ตรงหน้ารางระบายน้ำคอนกรีตเพียงไม่กี่เมตรมาแสดงด้วย

    มีข้อที่น่าสนใจและน่าสังเกตก็คือจากภาพที่มีการนำเสนอที่มีการไถลออกนอกทางวิ่งจากวาระการประชุมนี้รูปหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นที่สนามบินฮิโรชิมาประเทศญี่ปุ่นมีการไถลออกจากทางวิ่งไปจนเกือบถึงขอบของ Runway Strip ซึ่งไม่โครงสร้างหรือสิ่งปลูกสร้างใดหรือแม้แต่รางระบายน้ำคอนกรีตอยู่บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) นี้เลย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากมีรางระบายน้ำอยู่บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับนี้ซึ่งตามมาตรฐานของ ICAO สามารถอยู่ได้เราคงพอจะนึกภาพออก และเมื่อไปดูข้อมูลด้านกายภาพของสนามบินฮิโรชิมานี้ใน AIP Japan (Aeronautical Information Publication, Japan) พบว่าพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งหรือ Runway Strip ของสนามบินนี้อยู่ที่ 150 เมตรจากกึ่งกลางทางวิ่งซึ่งสูงกว่ามาตรฐานปัจจุบันซึ่งมีการก่อสร้างมานานแล้วนั่นหมายความว่าถ้าหากมีรางระบายน้ำหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใดบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งนี้แม้มาตรฐานสากลจะยอมให้อยู่ได้ อากาศยานอุบัติการณ์รุนแรงก็สามารถจะคาดการณ์ว่าเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่นกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับสนามบินสมุยที่มีอาคาร Tower เก่าอยู่บน Runway Strip แล้วเครื่องไถลออกไปก็ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมาแล้วเมื่อ 4 สิงหาคม 2552 หรือกรณีของสายการบิน One to Go ที่สนามบินภูเก็ตที่ผ่านมาหลายปีมาแล้วเช่นกันที่พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการรองรับอากาศยาน

    ในที่ประชุมคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force - ICAO APAC ยังได้มีการกล่าวถึงข้อมูลสถิติการศึกษาการออกนอกทางวิ่งของอากาศยานในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ได้ทำไว้ โดยแสดงให้เห็นว่าในจำนวน 100 เปอร์เซ็นต์ของเหตุการณ์ออกนอกทางวิ่ง 90 เปอร์เซ็นต์เครื่องบินสามารถหยุดได้อย่างปลอดภัยบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) บนขอบเขตของพื้นที่ปรับระดับ (Graded portion) คืออยู่ในระยะ 105 เมตรจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่ง ส่วนที่เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์จะเลย 105 เมตรออกไปถึงพื้นที่ที่ไม่ปรับระดับ (Non-graded portion) คือตั้งแต่ 105 เมตรขึ้นไปจนถึงขอบของ Runway strip ซึ่งจากสถิติข้อมูลการศึกษาอันนี้ในจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์นี้ในบางครั้งมีการไถลออกไปไกลถึง 152 เมตร และบางครั้งถึง 210 เมตรเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามมีตัวอย่างหนึ่งที่เครื่องบินไถลออกไปจากทางวิ่งไปถึง 219 เมตรที่ประเทศอินเดียเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2019 ก็มีมาแล้ว (มีภาพประกอบ)

    เนื้อหาข้อมูลใน Final Report ของที่ประชุมคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force นี้ (ในหน้า 4-5) นี้ มีการระบุให้ข้อมูลว่ามีตัวอย่างของเอกสารคำแนะนำ (Advisory circular) AC150/5300-13B ของหน่วยงานการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) ว่าตำแหน่งของร่องน้ำหรือรางระบายน้ำหรือกำแพงป้องกันนั้นขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่แต่ละพื้นที่บริเวณนั้นแต่ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามจะไม่มีการตั้งอยู่บนขอบเขตของพื้นที่ปลอดภัยของทางวิ่งเลย โดยความกว้างของพื้นที่ปลอดภัยทางวิ่งของเขาจะอยู่ที่ 500 ฟุต หรือ152 เมตร
    “4.28 The WP/20 provided an example of the FAA advisory circular: AC150/5300-13B where it reads, “location of ditch, swale, or headwall depends on the site condition but in no case within the limits of runway safety area (RSA).” The width of the RSA, as specified in Appendix G of the AC is 500 feet (152m).”
    นอกจากนี้ผู้แทนของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของสาธารณรัฐเกาหลีได้ออกมาให้การสนับสนุนประเด็นหัวข้อนี้และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ากฎระเบียบด้านการบินของเกาหลีใต้ในหัวข้อที่เกี่ยวกับมาตรฐานพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของสนามบินนั้นออกข้อกำหนดไว้ว่าการก่อสร้างรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งจะต้องก่อสร้างให้เลยจากพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-graded portion) ของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) ออกไปเท่านั้นและยังเรียกร้องให้รัฐต่าง ๆ พัฒนาคู่มือนโนบายและวิธีปฏิบัติในการที่จะยอมรับกายภาพที่ไม่สอดคล้องตามมาตรฐานของตนบนพื้นฐานจากการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    “4.31 The Republic of Korea supported the Working Paper and shared that their regulations required open air drains to be constructed beyond the non-graded portion of the runway strips and expressed the need for States to develop Policy and Procedures for accepting non-compliances based on safety risk assessment”.

    สำหรับสนามบินหลักของบ้านเราที่มีรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) ในส่วนที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-graded portion) นี้นั้น ถ้าดูจากสถิติตามรายงานของที่ประชุมนี้แล้ว 90 เปอร์เซ็นของเครื่องบินที่ไถลออกนอกทางวิ่งจะออกไปไม่ถึงพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ หรือบริเวณที่มีรางระบายน้ำคอนกรีตฯนี้ ยกเว้นเพียง 10 เปอร์เซ็นเท่านั้น อย่างไรก็ดีจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่รัฐหรือผู้ดำเนินการสนามบินจะนำเรื่องดังกล่าวมาทบทวนข้อมูลสถิติ จำนวนและชนิดของอากาศยานที่มาใช้บริการ โอกาสความเป็นไปได้ต่าง ๆ รวมทั้งทบทวนกฎระเบียบหรือทำการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอีกครั้งตามที่หน่วยงานการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของสาธารณรัฐเกาหลีได้ได้นำเสนอมาในรายงาน เพื่อลดโอกาสความรุนแรงจากการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น ถ้าตัวเลขในปัจจุบันจำนวนเที่ยวบินของทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น จำนวนการไถลออกนอกทางวิ่งของทั้ง 90 เปอร์เซ็นและของ 10 เปอร์เซ็นก็น่าจะมากตาม คงไม่น่าจะมีใครอยากคิดว่าตนเองจะเป็นผู้ที่อยู่ใน 10 เปอร์เซ็นนั้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้หากดูข้อมูลเหตุการณ์ของสายการบิน Asiana airlines ที่ออกนอกทางวิ่งสนามบินฮิโรชิมาของญี่ปุ่นที่มี Runway strip ที่ 150 เมตรจากกึ่งกลางทางวิ่งโดยไถลไปไกลจนเกือบถึงขอบ Runway strip โดยไม่มีรางระบายน้ำฯหรือสิ่งปลูกสร้างใดบนพื้นที่บริเวณนี้แม้แต่น้อยตามที่กล่าวไว้ข้างต้นกับในขณะที่เหตุการณ์ของสุวรรณภูมิที่เครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งจนไปเกือบถึงรางระบายน้ำแบบเปิดโล่ง แต่โชคดีที่คานยึดของฐานล้อเครื่องบินมีการครูดเป็นร่องลึกและเป็นทางยาวไปกับทางวิ่งประมาณเกือบ 400 เมตร (อ้างอิงข้อมูลจากรายงานฉบับสุดท้ายของสำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน) ก่อนหยุดลง จึงเป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่ได้ก่อให้เกิดอากาศยานอุบัติเหตุแต่อย่างใด แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปได้ทุกครั้ง หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาขึ้นเราต้องสูญเสียอะไรบ้างกับการไม่ได้ป้องกันกันแต่เนิ่น ๆ เป็นเรื่องที่ผู้ที่เกี่ยวข้องน่าจะนำไปพิจารณาทบทวนดูหรือไม่

    โดยรวมแล้วการที่สนามบินมีรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่ง (Open-Air Storm Water Conveyance) อยู่บนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) ตรงบริเวณที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ(Non-Graded Portion) สามารถทำได้หรือจัดให้มีอยู่ได้โดยไม่ได้ถือว่าเป็นการดำเนินการที่ผิดจากมาตรฐานแต่อย่างใดเพราะ ICAO Annex 14 Vol. 1 เปิดไว้ให้ทำได้เพียงแต่ขอให้พิจารณาติดตั้งให้ไกลที่สุดจากทางวิ่งซึ่งไม่ได้กำหนดว่าระยะเท่าไร ดังนั้นจึงอยู่ในดุลยพินิจของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินหรือการดำเนินการของสนามบินในแต่ละประเทศที่จะพิจารณากันในมิติต่าง ๆ อย่างรอบคอบ
    จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ซึ่งรวมถึงเนื้อหาในรายงานการประชุมของ ICAO ในครั้งนี้จะเห็นได้ว่า
    1. ประเทศบางประเทศอย่างเช่นกรณีของสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐเกาหลีได้มีการพัฒนาให้มีกฎระเบียบหรือกฎหมายด้านความปลอดภัยทางการบินของตนเองที่สูงกว่ามาตรฐานของ ICAO โดยไม่ต้องมีข้อกำหนดด้านมาตรฐานที่ชัดเจนของ ICAO Annex ออกมาแต่อย่างใด
    2. มาตรฐานที่ ICAO ออกมาในรูปแบบ Annex ต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อให้แต่ละประเทศนำไปออกเป็นกฎหมายหรือกฎระเบียบข้อบังคับของตนเองนั้นยังมีช่องว่าง (Gap) ส่วนที่จะต้องมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงให้ดียิ่งขึ้นหรือปลอดภัยมากขึ้นอยู่เสมอ
    3. กรณีที่มีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งอีก โอกาสของ 10 เปอร์เซ็นต์ที่เครื่องบินจะวิ่งเลยไปถึงพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ยังมีอยู่หากยังไม่ได้ทำการประเมินความเสี่ยงและมีการกำหนดมาตรการลดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยเฉพาะสนามบินที่รองรับแบบอากาศยาน (Aircraft Code) ชนิดใหญ่ ๆ ได้
    4. รายงานฉบับสุดท้ายการสอบสวนอากาศยานแบบ Airbus A330-321ที่ไถลออกนอกทางวิ่งที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อ 8 กันยายน 2556 มีการระบุถึงการครูดของคานยึดฐานล้อหลักด้านขวาประมาณ 365 เมตร และวิ่งพ้นขอบทางวิ่งไปบนพื้นดินที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยของทางวิ่งระยะทางประมาณ ๑๐๐ เมตรจึงหยุดนิ่ง กรณีเช่นนี้ถ้าหากไม่มีการครูดกับทางวิ่งด้วยระยะทางและความลึกตามรายงานดังกล่าว โอกาสที่อากาศยานอาจจะไปถึงรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งก็เป็นได้เมื่อลองเปรียบเทียบกับกรณีของสายการบิน Asiana Airlines ที่สนามบินฮิโรชิมา อย่างไรก็ตามรายงานผลการสอบสวนฯควรมีข้อแนะนำโดยตรงไปยัง ICAO (Safety recommendations to ICAO) ด้วยหรือไม่ถึงความเป็นไปได้ของสภาวะอันตรายนี้เพื่อให้ ICAO มีการพิจารณาหรืออาจจะทบทวนมาตรฐานกายภาพของทางวิ่งที่ยอมให้มีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับนี้

    ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลที่จะนำสรุปได้ว่าแต่ละประเทศที่มีลักษณะทางกายภาพทางวิ่งของสนามบินแบบนี้โดยเฉพาะประเทศเรานั้นจะดำเนินการไปในในทิศทางใด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะนำมาเสนออีกครั้งการจะทำให้สมดุลกันระหว่างการลงทุนรายจ่ายการป้องกันด้านความปลอดภัย (Protection) กับการสร้างรายได้การดำเนินงาน (Production) เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วผู้ที่เกี่ยวข้องจะเลือกวิธีแบบใด และแบบไหนจะยั่งยืนกว่ากัน ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถมีส่วนร่วมได้หรือไม่

    ข้อมูลทั้งหมดเป็นทัศนคติส่วนบุคคลที่อ้างอิงจากเอกสารและรายงานที่เปิดเผยในเวปไซต์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ สามารถค้นหาและสืบค้นได้โดยทั่วไป อาจมีข้อมูลบางอย่างที่ไม่ได้กล่าวถึงและข้อมูลบางอย่างปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปแล้วตามช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป ผู้อ่านโปรดใช้ดุลยพินิจและพิจารณาอีกครั้ง

    เอกสารอ้างอิง(สามารสืบค้นได้บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต):
    1. ICAO Safety Report 2024Edition
    2. ICAO Annex 14 - Aerodrome Design and Operations, 9 edition, July 2022
    3. ข้อกำหนดสำนักงานการบินพลเรือนฉบับที่ 37
    4. Aircraft Accident Investigation Report, Asiana Airlines INC. HL-7762, November 24,2016 - JTSB
    5. www.telegraph.co.uk/travel/news/asiana-plane-skids-off-runway-in-japan-leaving-20-injured/
    6. รายงานฉบับสุดท้ายการสอบสวนอากาศยานแบบ Airbus A330-321 เครื่องหมายสัญชาติและทะเบียน HS-TEFฯ โดยคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักรปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยานประเทศไทย
    7. Agenda Item 4: Planning, Design and Construction of Aerodromes/ “Open-Air Strom Water Conveyance in Runway Strip” - The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force (AP-ADO/TF/5) Chaing Rai, Thailand 30 January – 2 February 2024
    8. Final Report: The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force (AP-ADO/TF/5) Chaing Rai, Thailand 30 January – 2 February 2024
    9. AIP Japan HIROSHIMA, RJOA AD2-6 (13/9/18)
    10. AIP Thailand, AD 2-VTBS-1-16, 28 NOV 24, VTBS AD2.12 RUNWAY PHYSICAL CHARACTERISTICS
    11. https://en.wikipedia.org/wiki/Bangkok_Airways_Flight_266
    12. https://www.theguardian.com/world/2009/aug/04/thailand-plane-crash
    13. https://en.wikipedia.org/wiki/One-Two-Go_Airlines_Flight_269
    14. https://www.aviation-accidents.net/jet-airways-boeing-b737-800-vt-jbg-flight-9w2374/



    EP5 นี้ขอนำเสนอข้อมูลเพื่อแลกเปลี่ยนประเด็นด้านความปลอดภัยทางการบินที่ขอมุ่งเน้นไปทางด้านความปลอดภัยของเครื่องบินขณะทำการวิ่งขึ้นหรือกำลังวิ่งลงบนทางวิ่งที่สนามบินนะครับ จากข้อมูลรายงานด้านความปลอดภัย (Safety Report) ปี 2024 ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) ได้จำแนกเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากที่จำเป็นจะต้องจัดการอย่างเร่งด่วนอยู่ 5 เหตุการณ์ คือ 1 การควบคุมอากาศยานเข้าสู่สภาพภูมิประเทศ (Controlled Flight Into Terrain: CFIT) 2 การสูญเสียการควบคุมขณะทำการบิน (Loss Of Control In-Flight: LOC-I) 3 การชนกันกลางอากาศ (Mid-Air Collision: MAC) 4 การเกิดอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่ง (Runway Excursion: RE) และ 5 การล่วงล้ำบนทางวิ่ง (Runway Incursion: RI) ที่จะขอพูดถึงในครั้งนี้ขอกล่าวถึงอากาศยานไถลออกนอกทางวิ่งเป็นหลักเพื่อที่จะนำเข้าสู่หัวข้อและเนื้อหาการประชุมของ ICAO ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ( ICAO APAC) เมื่อต้นป 67 ที่ผ่านมา การไถลออกนอกทางวิ่ง ICAO ได้ให้นิยามไว้คือการที่เครื่องบินเบี่ยงเบนออกจากทางวิ่งหรือการวิ่งเลยออกปลายทางวิ่งในขณะที่ทำการบินลงหรือวิ่งขึ้นซึ่งในปัจจุบันเรามักจะได้ยินข่าวจากต่างประเทศตามสื่อต่างๆเกี่ยวกับเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งอยู่บ่อยครั้งโดยเฉพาะในช่วงที่สนามบินมีสภาพอากาศแปรปรวนหรือมีฝนตกฟ้าคะนอง เมื่อไม่กี่ปีมานี้ประเทศไทยเราก็มีกรณีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งเช่นเดียวกันที่จังหวัดเชียงรายซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีรายงานผลการสอบสวนอากาศยานอุบัติการณ์รุนแรงฉบับสุดท้าย (Final Aircraft Serious Incident Investigation Report) ที่จะแจ้งให้ทราบถึงสาเหตุหรือปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุของเหตุการณ์นั้นว่าคืออะไร (โดยตามมาตรฐาน ICAO นั้น รายงานฉบับสุดท้ายควรออกมาภายใน 12 เดือนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์) การไถลออกนอกทางวิ่งบนพื้นที่ของสนามบินที่ออกแบบและสร้างได้ตามมาตรฐานหรือสูงกว่ามาตรฐานจะลดโอกาสการเกิดความเสียหายต่อตัวอากาศยานและการบาดเจ็บของผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องได้อย่างมีนัยสำคัญ ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คล้ายๆกับการที่เราบังเอิญขับรถพุ่งออกจากถนนจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ แต่พอดีพื้นที่ด้านข้างหรือไหล่ถนนนั้นเป็นพื้นที่โล่งๆที่มีความยาวและความกว้างเพียงพอให้เราควบคุมรถยนต์ให้ค่อยๆหยุดลงได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ได้ปะทะหรือชนเข้ากับสิ่งใดเราก็ปลอดภัย แต่ถ้าหากพื้นที่ด้านข้างถนนแคบหรือมีน้อยแถมมีสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เช่น ต้นไม้ เสาไฟฟ้า เกาะกลางถนนหรือเป็นคลองส่งน้ำชลประทานหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใด เราก็ยิ่งมีโอกาสได้รับอันตรายมากเท่านั้น แต่สำหรับสิ่งที่เราพูดถึงอยู่นี้เป็นอากาศยานหรือวัตถุที่มีขนาด มวล น้ำหนัก และความเร็วที่แตกต่างกันกับรถยนต์มาก ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจึงแตกต่างจากกรณีของรถยนต์อย่างสิ้นเชิง ในส่วนของพื้นที่ที่รองรับการออกนอกทางวิ่งของเครื่องบินเราเรียกว่าพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งหรือ Runway Strip ซึ่งจะมีขนาดที่แตกต่างกันตามประเภทของทางวิ่งที่รองรับอากาศยานรวมทั้งทางหยุด (Stop Way) (ถ้ามี) ทั้งนี้ยังรวมถึงอีกพื้นที่หนึ่งก็คือพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่ง (Runway End Safety Area: RESA) ที่เอาไว้สำหรับรองรับการวิ่งเลยปลายทางวิ่งออกไปและในกรณีที่เครื่องบินลงก่อนถึงจุดเริ่มต้นของหัวทางวิ่ง (Runway Threshold) ด้วยเช่นกัน (สามารถดาวน์โหลดข้อกำหนดสำนักงานการบินพลเรือน (กพท.) ฉบับที่ 37 ในเว็ปไซต์ กพท.หรือ ICAO Annex 14 Vol.1 ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อดูในรายละเอียดได้) พื้นที่เหล่านี้จะถูกออกแบบมาเพื่อให้เครื่องบินสามารถหยุดได้อย่างปลอดภัยในกรณีเกิด Runway excursion ขึ้น เราลองมาดูนิยามและมาตรฐานในข้อกำหนดของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ก่อนดีกว่า ความหมายของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งตามข้อกำหนด กพท. ฉบับที่ 37 (อ้างอิงจากมาตรฐานของ ICAO Annex 14 Vol.1 - Aerodrome Design and Operations) กำหนดไว้ว่า “พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) หมายความว่า พื้นที่ที่กําหนดไว้ซึ่งรวมถึงทางวิ่งและทางหยุด (ถ้ามี) ที่กําหนดไว้เพื่อ (1) ลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายแก่อากาศยานที่วิ่งออกนอกทางวิ่ง และ (2) ป้องกันอากาศยานที่บินอยู่เหนือพื้นที่ดังกล่าวระหว่างการปฏิบัติการวิ่งขึ้นหรือการบินลงของอากาศยาน 2. ขนาดของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง ข้อ 145 พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งต้องขยายต่อออกไปจากหัวทางวิ่งและยาวเลยปลายทางวิ่งหรือทางหยุดไม่น้อยกว่าระยะทาง ดังต่อไปนี้ (1) หกสิบ (60) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 2, 3 หรือ 4 (2) หกสิบ (60) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 และเป็นทางวิ่งแบบบินลงด้วยเครื่องวัดประกอบการบิน (3) สามสิบ (30) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 และเป็นทางวิ่งแบบบินลงโดยไม่ใช้เครื่องวัดประกอบการบิน ข้อ 146 พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของทางวิ่งแบบพรีซิชั่น (Precision) และทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่น (Non-Precision) ต้องขยายไปทางด้านข้างแต่ละด้านของเส้นกึ่งกลางทางวิ่งและแนวเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ต่อขยายออกไปตลอดความยาวของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งนั้นเป็นระยะทางอย่างน้อย ดังต่อไปนี้ (1) หนึ่งร้อยสี่สิบ (140) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4 (2) เจ็ดสิบ (70) เมตร สําหรับทางวิ่งที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1 หรือ 2 4. การปรับระดับพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง ข้อ 152 เพื่อประโยชน์ในการรองรับเครื่องบินที่จะใช้ทางวิ่ง ในกรณีที่เครื่องบินวิ่งออกนอกทางวิ่ง สนามบินต้องปรับระดับ (Graded portion) ส่วนของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของทางวิ่งแบบบินลงด้วยเครื่องวัด ประกอบการบิน อย่างน้อยภายในระยะจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งและแนวเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ขยายออกไปดังต่อไปนี้ (1) หนึ่งร้อยห้า (105) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4 ตามรูปที่ 9 (2) เจ็ดสิบห้า (75) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 3 หรือ 4 (3) สี่สิบ (40) เมตร สําหรับทางวิ่งแบบพรีซิชั่นและทางวิ่งแบบนอนพรีซิชั่นที่มีรหัสตัวเลขเป็น 1หรือ 2 ข้อ 161 หากมีความจำเป็นต้องมีการระบายน้ำที่เหมาะสม สนามบินอาจจัดให้มีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งบริเวณพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ที่อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งได้ แต่ต้องวางตําแหน่งของรางระบายน้ำให้อยู่ห่างจากทางวิ่งให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้” อันนี้คือข้อมูลที่อยู่ในข้อกำหนด กพท.ฉบับ37 สนามบินสุวรรณภูมิมีรหัสอ้างอิงของสนามบิน 4E (ตามข้อกำหนด กพท. ฉบับที่ 37 ส่วนที่ 4 รหัสอ้างอิงสนามบิน ข้อ 23, 24 และ25) คือมีความยาวของทางวิ่งเกิน 1800 เมตร และรองรับเครื่องบินที่มีระยะห่างระหว่างปลายปีก 65 เมตรขึ้นไปแต่ไม่ถึง 80 เมตร ดังนั้นพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งด้านข้างที่วัดออกจากจุดเส้นกึ่งกลางทางวิ่งจึงต้องมีขนาดอย่างน้อย 140 เมตรตลอดแนวความยาวของทางวิ่ง แต่ต้องไม่ลืมว่ามีการใช้คำว่า “อย่างน้อย” นั้น ถ้ามากกว่าก็จะยิ่งดี สำหรับสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งเป็นสนามบินหลักของบ้านเราที่มีภาพประกอบวาระการประชุมของ ICAO Asia and Pacific (ICAO APAC) ที่จะได้กล่าวต่อไป ได้มีการติดตั้งรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งตามความยาวของทางวิ่งฝั่งตะวันออกห่างจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งที่ระยะ 120 เมตร (ข้อมูลจาก AIP Thailand) เพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยระบายน้ำสำหรับกรณีมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากอยู่บนทางวิ่งหรือพื้นที่โดยรอบ ตรงบริเวณที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion of Runway Strip) หรือตั้งแต่ 105 เมตรจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่งเป็นต้นไป (ตามข้อกำหนด กพท. 4. การปรับระดับพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง ข้อ 152 วงเล็บ 1) ขณะที่มาตรฐานของ ICAO Annex 14 Vol.1 - Aerodrome Design and Operations, 9 edition July 2022 หน้า 3-13 ข้อ 3.4.16 บันทึก (Note) 1 ได้ระบุว่า รางระบายน้ำแบบเปิดโล่งสามารถที่จะติดตั้งได้ในกรณีที่มีความจำเป็นต่อการระบายน้ำฝนจำนวนมากแต่จะต้องพิจารณาติดตั้งให้ไกลที่สุดเท่าที่จะปฏิบัติได้บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับหรือพื้นที่ “Non-graded portion” ของทางวิ่ง (Note 1. - Where deemed necessary for proper drainage, an open-air storm water conveyance may be allowed in the non-graded portion of a runway strip and would be placed as far as practicable from the runway.) ดังนั้นการมีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งของสนามบินนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการติดตั้งที่ไม่สอดคล้องหรือผิดจากมาตรฐานการก่อสร้างแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จากรายงานการประชุมครั้งที่ 5 ของ ICAO APAC ของคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force เมื่อวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 67 ที่จัดขึ้นที่จังหวัดเชียงรายโดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศภาคีสมาชิก 14 ประเทศและองค์กรทางการบินระหว่างประเทศอีก 3 หน่วยงานรวม 62 คน ( The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force: AP-ADO/TF/5: Chiang Rai) ในหัวข้อวาระประชุมที่ 4 เรื่อง “การวางแผน การออกแบบ และการก่อสร้างสนามบิน” (Planning, Design and Construction of Aerodromes) นั้น มีการหยิบยกประเด็นของรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งที่อยู่บนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (OPEN-AIR STORM WATER CONVEYANCE IN RUNWAY STRIP) ขึ้นมาใหม่ซึ่งนำเสนอโดย ICAO-The Cooperative Development of Operational Safety and Continuing Airworthiness Programme – South East Asia (COSCAP-SEA) โดยระบุว่าการมีอยู่ของรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) อาจนำมาซึ่งอันตรายต่างๆโดยเฉพาะกับเครื่องบินที่ไถลออกนอกทางวิ่ง ยิ่งในช่วงที่สนามบินมีสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกและทางวิ่งเปียกลื่น การมีอยู่ของรางระบายน้ำนั้นอาจจะทำให้เหตุการณ์ลื่นไถลออกนอกทางวิ่ง(ที่ไปถึงบริเวณที่ติดตั้งรางระบายน้ำฯ) รุนแรงยิ่งขึ้น อันนี้เองอาจจะถือได้ว่าเป็นการเริ่มทบทวนมาตรฐานด้านกายภาพสนามบินของ ICAO ก็เป็นได้ และจากการนำเสนอข้อมูลในวาระนี้ก่อนที่จะสรุปอยู่ในรายงานในภาพรวมนั้นได้มีการนำรูปภาพตัวอย่างของกรณีการไถลออกนอกทางวิ่งในประเทศต่างๆ รวมทั้งตัวอย่างภาพของสนามบินสุวรรณภูมิที่มีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งและหยุดอยู่ตรงหน้ารางระบายน้ำคอนกรีตเพียงไม่กี่เมตรมาแสดงด้วย มีข้อที่น่าสนใจและน่าสังเกตก็คือจากภาพที่มีการนำเสนอที่มีการไถลออกนอกทางวิ่งจากวาระการประชุมนี้รูปหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นที่สนามบินฮิโรชิมาประเทศญี่ปุ่นมีการไถลออกจากทางวิ่งไปจนเกือบถึงขอบของ Runway Strip ซึ่งไม่โครงสร้างหรือสิ่งปลูกสร้างใดหรือแม้แต่รางระบายน้ำคอนกรีตอยู่บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) นี้เลย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากมีรางระบายน้ำอยู่บนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับนี้ซึ่งตามมาตรฐานของ ICAO สามารถอยู่ได้เราคงพอจะนึกภาพออก และเมื่อไปดูข้อมูลด้านกายภาพของสนามบินฮิโรชิมานี้ใน AIP Japan (Aeronautical Information Publication, Japan) พบว่าพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งหรือ Runway Strip ของสนามบินนี้อยู่ที่ 150 เมตรจากกึ่งกลางทางวิ่งซึ่งสูงกว่ามาตรฐานปัจจุบันซึ่งมีการก่อสร้างมานานแล้วนั่นหมายความว่าถ้าหากมีรางระบายน้ำหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นใดบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งนี้แม้มาตรฐานสากลจะยอมให้อยู่ได้ อากาศยานอุบัติการณ์รุนแรงก็สามารถจะคาดการณ์ว่าเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่นกรณีที่เคยเกิดขึ้นกับสนามบินสมุยที่มีอาคาร Tower เก่าอยู่บน Runway Strip แล้วเครื่องไถลออกไปก็ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมาแล้วเมื่อ 4 สิงหาคม 2552 หรือกรณีของสายการบิน One to Go ที่สนามบินภูเก็ตที่ผ่านมาหลายปีมาแล้วเช่นกันที่พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการรองรับอากาศยาน ในที่ประชุมคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force - ICAO APAC ยังได้มีการกล่าวถึงข้อมูลสถิติการศึกษาการออกนอกทางวิ่งของอากาศยานในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ได้ทำไว้ โดยแสดงให้เห็นว่าในจำนวน 100 เปอร์เซ็นต์ของเหตุการณ์ออกนอกทางวิ่ง 90 เปอร์เซ็นต์เครื่องบินสามารถหยุดได้อย่างปลอดภัยบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) บนขอบเขตของพื้นที่ปรับระดับ (Graded portion) คืออยู่ในระยะ 105 เมตรจากเส้นกึ่งกลางทางวิ่ง ส่วนที่เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์จะเลย 105 เมตรออกไปถึงพื้นที่ที่ไม่ปรับระดับ (Non-graded portion) คือตั้งแต่ 105 เมตรขึ้นไปจนถึงขอบของ Runway strip ซึ่งจากสถิติข้อมูลการศึกษาอันนี้ในจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์นี้ในบางครั้งมีการไถลออกไปไกลถึง 152 เมตร และบางครั้งถึง 210 เมตรเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามมีตัวอย่างหนึ่งที่เครื่องบินไถลออกไปจากทางวิ่งไปถึง 219 เมตรที่ประเทศอินเดียเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2019 ก็มีมาแล้ว (มีภาพประกอบ) เนื้อหาข้อมูลใน Final Report ของที่ประชุมคณะทำงาน Aerodrome Design and Operations Task Force นี้ (ในหน้า 4-5) นี้ มีการระบุให้ข้อมูลว่ามีตัวอย่างของเอกสารคำแนะนำ (Advisory circular) AC150/5300-13B ของหน่วยงานการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) ว่าตำแหน่งของร่องน้ำหรือรางระบายน้ำหรือกำแพงป้องกันนั้นขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่แต่ละพื้นที่บริเวณนั้นแต่ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามจะไม่มีการตั้งอยู่บนขอบเขตของพื้นที่ปลอดภัยของทางวิ่งเลย โดยความกว้างของพื้นที่ปลอดภัยทางวิ่งของเขาจะอยู่ที่ 500 ฟุต หรือ152 เมตร “4.28 The WP/20 provided an example of the FAA advisory circular: AC150/5300-13B where it reads, “location of ditch, swale, or headwall depends on the site condition but in no case within the limits of runway safety area (RSA).” The width of the RSA, as specified in Appendix G of the AC is 500 feet (152m).” นอกจากนี้ผู้แทนของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของสาธารณรัฐเกาหลีได้ออกมาให้การสนับสนุนประเด็นหัวข้อนี้และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่ากฎระเบียบด้านการบินของเกาหลีใต้ในหัวข้อที่เกี่ยวกับมาตรฐานพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งของสนามบินนั้นออกข้อกำหนดไว้ว่าการก่อสร้างรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งจะต้องก่อสร้างให้เลยจากพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-graded portion) ของพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) ออกไปเท่านั้นและยังเรียกร้องให้รัฐต่าง ๆ พัฒนาคู่มือนโนบายและวิธีปฏิบัติในการที่จะยอมรับกายภาพที่ไม่สอดคล้องตามมาตรฐานของตนบนพื้นฐานจากการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย “4.31 The Republic of Korea supported the Working Paper and shared that their regulations required open air drains to be constructed beyond the non-graded portion of the runway strips and expressed the need for States to develop Policy and Procedures for accepting non-compliances based on safety risk assessment”. สำหรับสนามบินหลักของบ้านเราที่มีรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway strip) ในส่วนที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-graded portion) นี้นั้น ถ้าดูจากสถิติตามรายงานของที่ประชุมนี้แล้ว 90 เปอร์เซ็นของเครื่องบินที่ไถลออกนอกทางวิ่งจะออกไปไม่ถึงพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ หรือบริเวณที่มีรางระบายน้ำคอนกรีตฯนี้ ยกเว้นเพียง 10 เปอร์เซ็นเท่านั้น อย่างไรก็ดีจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่รัฐหรือผู้ดำเนินการสนามบินจะนำเรื่องดังกล่าวมาทบทวนข้อมูลสถิติ จำนวนและชนิดของอากาศยานที่มาใช้บริการ โอกาสความเป็นไปได้ต่าง ๆ รวมทั้งทบทวนกฎระเบียบหรือทำการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยอีกครั้งตามที่หน่วยงานการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) และหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของสาธารณรัฐเกาหลีได้ได้นำเสนอมาในรายงาน เพื่อลดโอกาสความรุนแรงจากการเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้น ถ้าตัวเลขในปัจจุบันจำนวนเที่ยวบินของทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น จำนวนการไถลออกนอกทางวิ่งของทั้ง 90 เปอร์เซ็นและของ 10 เปอร์เซ็นก็น่าจะมากตาม คงไม่น่าจะมีใครอยากคิดว่าตนเองจะเป็นผู้ที่อยู่ใน 10 เปอร์เซ็นนั้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้หากดูข้อมูลเหตุการณ์ของสายการบิน Asiana airlines ที่ออกนอกทางวิ่งสนามบินฮิโรชิมาของญี่ปุ่นที่มี Runway strip ที่ 150 เมตรจากกึ่งกลางทางวิ่งโดยไถลไปไกลจนเกือบถึงขอบ Runway strip โดยไม่มีรางระบายน้ำฯหรือสิ่งปลูกสร้างใดบนพื้นที่บริเวณนี้แม้แต่น้อยตามที่กล่าวไว้ข้างต้นกับในขณะที่เหตุการณ์ของสุวรรณภูมิที่เครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งจนไปเกือบถึงรางระบายน้ำแบบเปิดโล่ง แต่โชคดีที่คานยึดของฐานล้อเครื่องบินมีการครูดเป็นร่องลึกและเป็นทางยาวไปกับทางวิ่งประมาณเกือบ 400 เมตร (อ้างอิงข้อมูลจากรายงานฉบับสุดท้ายของสำนักงานคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยาน) ก่อนหยุดลง จึงเป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่ได้ก่อให้เกิดอากาศยานอุบัติเหตุแต่อย่างใด แต่เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปได้ทุกครั้ง หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาขึ้นเราต้องสูญเสียอะไรบ้างกับการไม่ได้ป้องกันกันแต่เนิ่น ๆ เป็นเรื่องที่ผู้ที่เกี่ยวข้องน่าจะนำไปพิจารณาทบทวนดูหรือไม่ โดยรวมแล้วการที่สนามบินมีรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่ง (Open-Air Storm Water Conveyance) อยู่บนพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่ง (Runway Strip) ตรงบริเวณที่เรียกว่าพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ(Non-Graded Portion) สามารถทำได้หรือจัดให้มีอยู่ได้โดยไม่ได้ถือว่าเป็นการดำเนินการที่ผิดจากมาตรฐานแต่อย่างใดเพราะ ICAO Annex 14 Vol. 1 เปิดไว้ให้ทำได้เพียงแต่ขอให้พิจารณาติดตั้งให้ไกลที่สุดจากทางวิ่งซึ่งไม่ได้กำหนดว่าระยะเท่าไร ดังนั้นจึงอยู่ในดุลยพินิจของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินหรือการดำเนินการของสนามบินในแต่ละประเทศที่จะพิจารณากันในมิติต่าง ๆ อย่างรอบคอบ จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ซึ่งรวมถึงเนื้อหาในรายงานการประชุมของ ICAO ในครั้งนี้จะเห็นได้ว่า 1. ประเทศบางประเทศอย่างเช่นกรณีของสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐเกาหลีได้มีการพัฒนาให้มีกฎระเบียบหรือกฎหมายด้านความปลอดภัยทางการบินของตนเองที่สูงกว่ามาตรฐานของ ICAO โดยไม่ต้องมีข้อกำหนดด้านมาตรฐานที่ชัดเจนของ ICAO Annex ออกมาแต่อย่างใด 2. มาตรฐานที่ ICAO ออกมาในรูปแบบ Annex ต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อให้แต่ละประเทศนำไปออกเป็นกฎหมายหรือกฎระเบียบข้อบังคับของตนเองนั้นยังมีช่องว่าง (Gap) ส่วนที่จะต้องมีการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงให้ดียิ่งขึ้นหรือปลอดภัยมากขึ้นอยู่เสมอ 3. กรณีที่มีเครื่องบินไถลออกนอกทางวิ่งอีก โอกาสของ 10 เปอร์เซ็นต์ที่เครื่องบินจะวิ่งเลยไปถึงพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับ (Non-Graded Portion) ยังมีอยู่หากยังไม่ได้ทำการประเมินความเสี่ยงและมีการกำหนดมาตรการลดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยเฉพาะสนามบินที่รองรับแบบอากาศยาน (Aircraft Code) ชนิดใหญ่ ๆ ได้ 4. รายงานฉบับสุดท้ายการสอบสวนอากาศยานแบบ Airbus A330-321ที่ไถลออกนอกทางวิ่งที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อ 8 กันยายน 2556 มีการระบุถึงการครูดของคานยึดฐานล้อหลักด้านขวาประมาณ 365 เมตร และวิ่งพ้นขอบทางวิ่งไปบนพื้นดินที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยของทางวิ่งระยะทางประมาณ ๑๐๐ เมตรจึงหยุดนิ่ง กรณีเช่นนี้ถ้าหากไม่มีการครูดกับทางวิ่งด้วยระยะทางและความลึกตามรายงานดังกล่าว โอกาสที่อากาศยานอาจจะไปถึงรางระบายน้ำคอนกรีตแบบเปิดโล่งก็เป็นได้เมื่อลองเปรียบเทียบกับกรณีของสายการบิน Asiana Airlines ที่สนามบินฮิโรชิมา อย่างไรก็ตามรายงานผลการสอบสวนฯควรมีข้อแนะนำโดยตรงไปยัง ICAO (Safety recommendations to ICAO) ด้วยหรือไม่ถึงความเป็นไปได้ของสภาวะอันตรายนี้เพื่อให้ ICAO มีการพิจารณาหรืออาจจะทบทวนมาตรฐานกายภาพของทางวิ่งที่ยอมให้มีรางระบายน้ำแบบเปิดโล่งบนพื้นที่ที่ไม่ต้องปรับระดับนี้ ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลที่จะนำสรุปได้ว่าแต่ละประเทศที่มีลักษณะทางกายภาพทางวิ่งของสนามบินแบบนี้โดยเฉพาะประเทศเรานั้นจะดำเนินการไปในในทิศทางใด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะนำมาเสนออีกครั้งการจะทำให้สมดุลกันระหว่างการลงทุนรายจ่ายการป้องกันด้านความปลอดภัย (Protection) กับการสร้างรายได้การดำเนินงาน (Production) เมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วผู้ที่เกี่ยวข้องจะเลือกวิธีแบบใด และแบบไหนจะยั่งยืนกว่ากัน ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถมีส่วนร่วมได้หรือไม่ ข้อมูลทั้งหมดเป็นทัศนคติส่วนบุคคลที่อ้างอิงจากเอกสารและรายงานที่เปิดเผยในเวปไซต์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ สามารถค้นหาและสืบค้นได้โดยทั่วไป อาจมีข้อมูลบางอย่างที่ไม่ได้กล่าวถึงและข้อมูลบางอย่างปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปแล้วตามช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป ผู้อ่านโปรดใช้ดุลยพินิจและพิจารณาอีกครั้ง เอกสารอ้างอิง(สามารสืบค้นได้บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต): 1. ICAO Safety Report 2024Edition 2. ICAO Annex 14 - Aerodrome Design and Operations, 9 edition, July 2022 3. ข้อกำหนดสำนักงานการบินพลเรือนฉบับที่ 37 4. Aircraft Accident Investigation Report, Asiana Airlines INC. HL-7762, November 24,2016 - JTSB 5. www.telegraph.co.uk/travel/news/asiana-plane-skids-off-runway-in-japan-leaving-20-injured/ 6. รายงานฉบับสุดท้ายการสอบสวนอากาศยานแบบ Airbus A330-321 เครื่องหมายสัญชาติและทะเบียน HS-TEFฯ โดยคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักรปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ของอากาศยานประเทศไทย 7. Agenda Item 4: Planning, Design and Construction of Aerodromes/ “Open-Air Strom Water Conveyance in Runway Strip” - The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force (AP-ADO/TF/5) Chaing Rai, Thailand 30 January – 2 February 2024 8. Final Report: The Fifth Meeting of the Asia/Pacific Aerodrome Design and Operations Task Force (AP-ADO/TF/5) Chaing Rai, Thailand 30 January – 2 February 2024 9. AIP Japan HIROSHIMA, RJOA AD2-6 (13/9/18) 10. AIP Thailand, AD 2-VTBS-1-16, 28 NOV 24, VTBS AD2.12 RUNWAY PHYSICAL CHARACTERISTICS 11. https://en.wikipedia.org/wiki/Bangkok_Airways_Flight_266 12. https://www.theguardian.com/world/2009/aug/04/thailand-plane-crash 13. https://en.wikipedia.org/wiki/One-Two-Go_Airlines_Flight_269 14. https://www.aviation-accidents.net/jet-airways-boeing-b737-800-vt-jbg-flight-9w2374/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 507 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## กกพ. เมินคำสั่ง "พีระพันธุ์" ลุยรับซื้อไฟสะอาดเฟส 2 กว่า 2.1 พันเมกะวัตต์...!!! ##
    ..
    ..
    ก่อนหน้านี้ คุณ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
    .
    ได้มีหนังสือถึงสำนักงานเลขาฯ กกพ.ให้ระงับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ดังกล่าวเอาไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริง และ ข้อกฎหมายเสร็จสิ้น
    .
    เนื่องจาก คุณ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เห็นว่า การเปิดประมูลโดยให้สิทธิ์เฉพาะแก่ผู้ที่พลาดจากการประมูลในโครงการ 5,000 เมกะวัตต์ เท่านั้น...
    .
    เป็นการ "ไม่เปิดกว้าง" ตามที่มีผู้ร้องเรียน...
    ...
    ...
    แหม่...
    .
    องค์กรนี้มันแน่จริงๆ อะไรที่ทำแล้ว ประชาชนเดือดร้อน พี่ใส่เกียร์ เดินหน้าไม่ถอยเลยเหรอ...???
    .
    5,000 เมกะวัตต์ นี้ จะมาเพิ่มในส่วน "ค่าความพร้อมจ่าย"
    .
    ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่ต้องจ่ายให้ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนแม้จะไม่มีการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า ด้วยรึเปล่าหล่ะครับ...???
    .
    ทั้งๆที่ตอนนี้ ประเทศไทย ก็มีกำลังการผลิตไฟฟ้า สำรอง ปาเข้าไป กว่า 49% แล้ว
    .
    เป็น กำลังการผลิตไฟฟ้าสำรอง ล้นเกินอย่างมโหราฬ แบบที่ไม่เคยมี ประเทศอารยะใดในโลกเคยทำมาก่อนเลย...
    .
    หมายความว่า 49% ที่เกินมานี้ โรงไฟฟ้ามีอยู่จริง พร้อมเดินเครื่อง แต่ ไม่ต้องเดินเครื่องทำงานแม้แต่เครื่องเดียว
    .
    แต่ ประชาชนอย่างพวกเรายังคงต้องจ่าย "ค่าความพร้อมจ่าย" ที่รวมอยู่ในค่าไฟฟ้าที่จ่ายกันทุกๆเดือน...
    .
    หรือผมเข้าใจอะไรผิดไป...???
    .
    https://www.prachachat.net/economy/news-1710983
    .
    https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1158094
    ## กกพ. เมินคำสั่ง "พีระพันธุ์" ลุยรับซื้อไฟสะอาดเฟส 2 กว่า 2.1 พันเมกะวัตต์...!!! ## .. .. ก่อนหน้านี้ คุณ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน . ได้มีหนังสือถึงสำนักงานเลขาฯ กกพ.ให้ระงับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ดังกล่าวเอาไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริง และ ข้อกฎหมายเสร็จสิ้น . เนื่องจาก คุณ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เห็นว่า การเปิดประมูลโดยให้สิทธิ์เฉพาะแก่ผู้ที่พลาดจากการประมูลในโครงการ 5,000 เมกะวัตต์ เท่านั้น... . เป็นการ "ไม่เปิดกว้าง" ตามที่มีผู้ร้องเรียน... ... ... แหม่... . องค์กรนี้มันแน่จริงๆ อะไรที่ทำแล้ว ประชาชนเดือดร้อน พี่ใส่เกียร์ เดินหน้าไม่ถอยเลยเหรอ...??? . 5,000 เมกะวัตต์ นี้ จะมาเพิ่มในส่วน "ค่าความพร้อมจ่าย" . ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่ต้องจ่ายให้ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนแม้จะไม่มีการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้า ด้วยรึเปล่าหล่ะครับ...??? . ทั้งๆที่ตอนนี้ ประเทศไทย ก็มีกำลังการผลิตไฟฟ้า สำรอง ปาเข้าไป กว่า 49% แล้ว . เป็น กำลังการผลิตไฟฟ้าสำรอง ล้นเกินอย่างมโหราฬ แบบที่ไม่เคยมี ประเทศอารยะใดในโลกเคยทำมาก่อนเลย... . หมายความว่า 49% ที่เกินมานี้ โรงไฟฟ้ามีอยู่จริง พร้อมเดินเครื่อง แต่ ไม่ต้องเดินเครื่องทำงานแม้แต่เครื่องเดียว . แต่ ประชาชนอย่างพวกเรายังคงต้องจ่าย "ค่าความพร้อมจ่าย" ที่รวมอยู่ในค่าไฟฟ้าที่จ่ายกันทุกๆเดือน... . หรือผมเข้าใจอะไรผิดไป...??? . https://www.prachachat.net/economy/news-1710983 . https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1158094
    WWW.BANGKOKBIZNEWS.COM
    'กกพ.' เมินคำสั่ง 'พีระพันธุ์' ลุยรับซื้อไฟสะอาดเฟส 2 กว่า 2.1 พันเมกะวัตต์
    กกพ. ประกาศผลรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือก รับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ลม - โซลาร์ เฟส 2 รวม 72 ราย 2,145​.4​ เมกะวัตต์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9/12/67

    มุมมองที่ฝรั่งมองประเทศไทยเป็นโลกที่ 3 ถึงกับส่งสารถึงรัฐบาลตัวเอง หลังจากนั่งรถไฟฟ้าไทย

    มองชาวฝรั่ง ที่ตัวเค้าเองได้ยินมาตลอดทั้งจากคนรอบตัว และเพื่อนๆ จนพอได้มาเมืองไทยแล้วได้สัมผัสการนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ถึงกับส่งสารไปยังรัฐบาลตัวเองทันที!!!

    🚇 Experience Bangkok's Modern MRT Transportation! 🚇

    Join our foreign guest on an exciting one-day tour through the bustling city of Bangkok, as he explores the MRT train system and shares his thoughts on how modern, convenient, and impeccably clean this mode of transportation is! 🌟

    In this video, you'll discover why the MRT is a top choice for both locals and tourists alike, with highlights including:

    🛡️ Safety - Travel with peace of mind knowing that the MRT is one of the safest ways to get around the city. 🌟 Convenience - Enjoy the seamless connectivity and easy access to major attractions, shopping centers, and dining spots. ✨ Cleanliness - Be impressed by the spotless stations and trains, making every journey a pleasant experience.

    Whether you're a local or planning your next holiday to Thailand, this video will give you an insider's view of Bangkok's impressive MRT system. Watch as our guest navigates through the city with ease, enjoying every moment of this efficient and well-maintained transportation network.

    🚀 Call to Action: Thinking about visiting Thailand? 🇹🇭 Hop on the MRT and see for yourself why it's a favorite among tourists! Share your experiences and tips in the comments below. Help us promote Thailand by liking, sharing, and subscribing. Let’s spread the word about Thailand's amazing transportation and incredible tourism opportunities!

    📢 Make Bangkok your next travel destination and enjoy a smooth ride with the MRT!

    #avaganic #mamia #มุมมองเพื่อนบ้าน #มุมมองประเทศไทย #welovethailand #รักเมืองไทย #ชีวิตต่างประเทศ #คนต่างแดน #คนไทยใจดี #เมืองไทย #thailandtravel #thailand #thaifo
    cr:Mania 4.0

    https://youtu.be/V0K7g7nuSdU?si=oYitT6ib-gUw_fRY
    9/12/67 มุมมองที่ฝรั่งมองประเทศไทยเป็นโลกที่ 3 ถึงกับส่งสารถึงรัฐบาลตัวเอง หลังจากนั่งรถไฟฟ้าไทย มองชาวฝรั่ง ที่ตัวเค้าเองได้ยินมาตลอดทั้งจากคนรอบตัว และเพื่อนๆ จนพอได้มาเมืองไทยแล้วได้สัมผัสการนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ถึงกับส่งสารไปยังรัฐบาลตัวเองทันที!!! 🚇 Experience Bangkok's Modern MRT Transportation! 🚇 Join our foreign guest on an exciting one-day tour through the bustling city of Bangkok, as he explores the MRT train system and shares his thoughts on how modern, convenient, and impeccably clean this mode of transportation is! 🌟 In this video, you'll discover why the MRT is a top choice for both locals and tourists alike, with highlights including: 🛡️ Safety - Travel with peace of mind knowing that the MRT is one of the safest ways to get around the city. 🌟 Convenience - Enjoy the seamless connectivity and easy access to major attractions, shopping centers, and dining spots. ✨ Cleanliness - Be impressed by the spotless stations and trains, making every journey a pleasant experience. Whether you're a local or planning your next holiday to Thailand, this video will give you an insider's view of Bangkok's impressive MRT system. Watch as our guest navigates through the city with ease, enjoying every moment of this efficient and well-maintained transportation network. 🚀 Call to Action: Thinking about visiting Thailand? 🇹🇭 Hop on the MRT and see for yourself why it's a favorite among tourists! Share your experiences and tips in the comments below. Help us promote Thailand by liking, sharing, and subscribing. Let’s spread the word about Thailand's amazing transportation and incredible tourism opportunities! 📢 Make Bangkok your next travel destination and enjoy a smooth ride with the MRT! #avaganic #mamia #มุมมองเพื่อนบ้าน #มุมมองประเทศไทย #welovethailand #รักเมืองไทย #ชีวิตต่างประเทศ #คนต่างแดน #คนไทยใจดี #เมืองไทย #thailandtravel #thailand #thaifo cr:Mania 4.0 https://youtu.be/V0K7g7nuSdU?si=oYitT6ib-gUw_fRY
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 629 มุมมอง 0 รีวิว
  • ATMBKK2024 งานวิ่งมาตรฐานโลก

    วันที่ 1 ธ.ค. 2567 เวลา 05.47 น. สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงร่วมกิจกรรมวิ่ง Amazing Thailand Marathon Bangkok 2024 หรือ ATMBKK 2024 ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ เป็นการส่วนพระองค์ จัดขึ้นโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับสหพันธ์กรีฑาโลก (World Athletics) และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยใช้การวิ่ง (กีฬาวิ่ง) ดึงดูดนักกีฬาและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย อีกทั้งเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

    โดยมีนายเอลีอุด คิปโชกี (Eliud Kipchoge) นักวิ่งทางไกลชาวเคนยา และทูตสันถวไมตรีด้านจรรยาบรรณและค่านิยมด้านกีฬาประจำองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เจ้าของสถิติการวิ่งมาราธอนในระยะเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมง คนแรกของโลก และได้รับเหรียญทองวิ่งทางไกลในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศบราซิล เมื่อปี 2559 และกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2563 เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย

    งานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก เป็นรายการวิ่งของไทยที่ได้รับการรับรองจากสมาคมกรีฑาโลก ให้เป็นรายการมาราธอนที่จัดขึ้นในเมืองหลวงอย่างเป็นทางการของประเทศไทย (The official Thailand's capital city marathon) ที่ปรากฎอยู่ในปฏิทินการแข่งขันมาราธอนของสมาคมกรีฑาโลกในปัจจุบัน

    ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 7 มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางแข่งขันทุกระยะ โดยสหพันธ์กรีฑาโลก ส่งเจ้าหน้าที่อาวุโสมาวัดเส้นทางแข่งขันใหม่ทั้งหมด มีการออกแบบให้วิ่งง่ายขึ้น หลีกเลี่ยงเนินชันแทบทั้งหมด ผ่านแลนด์มาร์คของกรุงเทพมหานครตลอดเส้นทาง และเปลี่ยนจุดปล่อยตัว ระยะมาราธอนและฮาล์ฟมาราธอน จากสนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นหน้า MBK Center ถนนพญาไท และระยะ 10 กม. กับ 4.5 กม. เปลี่ยนจากป้อมพระกาฬ โลหะปราสาท เป็นสนามหลวงฝั่งศาลฎีกาแทน ส่วนจุดเส้นชัยของทุกระยะ เปลี่ยนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ไปที่สนามหลวงแทน

    โดยในปีนี้ มีจำนวนนักวิ่งทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมแข่งขันเป็นจำนวนทั้งสิ้น 33,712 คน จาก 77 ประเทศ แบ่งเป็น 42 กม. 5,806 คน 21 กม. 12,432 คน 10 กม. 11,896 คน และ 4.5 กม. (ไม่มีการแข่งขัน) 3,578 คน นักวิ่งสามารถติดตามผลการแข่งขันได้ที่ https://my.raceresult.com/319524/ และติดตามรูปถ่ายได้ที่ https://photo.thai.run/atmbkk2024

    #Newskit #ATMBKK2024
    ATMBKK2024 งานวิ่งมาตรฐานโลก วันที่ 1 ธ.ค. 2567 เวลา 05.47 น. สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงร่วมกิจกรรมวิ่ง Amazing Thailand Marathon Bangkok 2024 หรือ ATMBKK 2024 ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ เป็นการส่วนพระองค์ จัดขึ้นโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับสหพันธ์กรีฑาโลก (World Athletics) และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยใช้การวิ่ง (กีฬาวิ่ง) ดึงดูดนักกีฬาและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย อีกทั้งเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยมีนายเอลีอุด คิปโชกี (Eliud Kipchoge) นักวิ่งทางไกลชาวเคนยา และทูตสันถวไมตรีด้านจรรยาบรรณและค่านิยมด้านกีฬาประจำองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ เจ้าของสถิติการวิ่งมาราธอนในระยะเวลาต่ำกว่า 2 ชั่วโมง คนแรกของโลก และได้รับเหรียญทองวิ่งทางไกลในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศบราซิล เมื่อปี 2559 และกีฬาโอลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2563 เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย งานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก เป็นรายการวิ่งของไทยที่ได้รับการรับรองจากสมาคมกรีฑาโลก ให้เป็นรายการมาราธอนที่จัดขึ้นในเมืองหลวงอย่างเป็นทางการของประเทศไทย (The official Thailand's capital city marathon) ที่ปรากฎอยู่ในปฏิทินการแข่งขันมาราธอนของสมาคมกรีฑาโลกในปัจจุบัน ปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 7 มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางแข่งขันทุกระยะ โดยสหพันธ์กรีฑาโลก ส่งเจ้าหน้าที่อาวุโสมาวัดเส้นทางแข่งขันใหม่ทั้งหมด มีการออกแบบให้วิ่งง่ายขึ้น หลีกเลี่ยงเนินชันแทบทั้งหมด ผ่านแลนด์มาร์คของกรุงเทพมหานครตลอดเส้นทาง และเปลี่ยนจุดปล่อยตัว ระยะมาราธอนและฮาล์ฟมาราธอน จากสนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นหน้า MBK Center ถนนพญาไท และระยะ 10 กม. กับ 4.5 กม. เปลี่ยนจากป้อมพระกาฬ โลหะปราสาท เป็นสนามหลวงฝั่งศาลฎีกาแทน ส่วนจุดเส้นชัยของทุกระยะ เปลี่ยนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ไปที่สนามหลวงแทน โดยในปีนี้ มีจำนวนนักวิ่งทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมแข่งขันเป็นจำนวนทั้งสิ้น 33,712 คน จาก 77 ประเทศ แบ่งเป็น 42 กม. 5,806 คน 21 กม. 12,432 คน 10 กม. 11,896 คน และ 4.5 กม. (ไม่มีการแข่งขัน) 3,578 คน นักวิ่งสามารถติดตามผลการแข่งขันได้ที่ https://my.raceresult.com/319524/ และติดตามรูปถ่ายได้ที่ https://photo.thai.run/atmbkk2024 #Newskit #ATMBKK2024
    Like
    Love
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 675 มุมมอง 0 รีวิว
  • Bangkok … Sunday Morning ☀️🇹🇭
    Bangkok … Sunday Morning ☀️🇹🇭
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 334 มุมมอง 0 รีวิว
  • Good Morning Bangkok ☀️🕶️
    Good Morning Bangkok ☀️🕶️
    Like
    Wow
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดี๋ยวนี้โจรออนไลน์พัฒนาวิธีการหลอกเหยื่อบนfacebook ได้อย่างแนบเนียนยิ่งขึ้น ครั้งนี้เป็นการใช้หัว Bangkok Post และรูป พร้อมชื่อเสียงของเจ้าสัวธนินทร์ แห่ง CPF มาลงหลอกเหยื่อ. ผมว่าFB วันนี้น่ากลัวขึ้นมากๆ ไม่มีการกลั่นกรองข้อมูลใครลงอะไรได้เลยครับ. แชร์ให้เพื่อนทราบครับจะได้ระวังตัวครับ.
    เดี๋ยวนี้โจรออนไลน์พัฒนาวิธีการหลอกเหยื่อบนfacebook ได้อย่างแนบเนียนยิ่งขึ้น ครั้งนี้เป็นการใช้หัว Bangkok Post และรูป พร้อมชื่อเสียงของเจ้าสัวธนินทร์ แห่ง CPF มาลงหลอกเหยื่อ. ผมว่าFB วันนี้น่ากลัวขึ้นมากๆ ไม่มีการกลั่นกรองข้อมูลใครลงอะไรได้เลยครับ. แชร์ให้เพื่อนทราบครับจะได้ระวังตัวครับ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • Fit & Flow เรามีสตูดิโอให้เช่า
    สามารถนำสัตว์เลี้ยงมาเป็นเพื่อนได้ด้วยน้า

    🧡 PILATES STUDIO FOR RENT
    600.- / HOUR
    รักสุขภาพไปด้วยกัน ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง
    .
    more info please contact :
    🧘‍♀️ Group & Private Pilates
    🐱 Pet-friendly
    📲 @fitandflow.bkk
    ☎ 083-941-5537
    📍 Regent House 2 Floor 6, (BTS Rajadamri Exit 2)
    #พิลาทิส #พิลาทีสราชดำริ #พิลาทิสเพื่อการบำบัด #pilates #pilatesismagic #pilatesthailand #pilatesbangkok #ราชดำริ #heartofbangkok #thaitimes
    Fit & Flow เรามีสตูดิโอให้เช่า สามารถนำสัตว์เลี้ยงมาเป็นเพื่อนได้ด้วยน้า 🧡 PILATES STUDIO FOR RENT 600.- / HOUR รักสุขภาพไปด้วยกัน ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง . more info please contact : 🧘‍♀️ Group & Private Pilates 🐱 Pet-friendly 📲 @fitandflow.bkk ☎ 083-941-5537 📍 Regent House 2 Floor 6, (BTS Rajadamri Exit 2) #พิลาทิส #พิลาทีสราชดำริ #พิลาทิสเพื่อการบำบัด #pilates #pilatesismagic #pilatesthailand #pilatesbangkok #ราชดำริ #heartofbangkok #thaitimes
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 713 มุมมอง 0 รีวิว
  • พร้อมแล้วสำหรับเทศกาลคริตมาสอารีย์ 𝐂𝐥𝐚𝐲 𝐁𝐚𝐧𝐠𝐤𝐨𝐤 ความสดชื่นที่รายล้อมไปด้วยวิวธรรมชาติ ที่จัดธีม
    ให้ทุกคนมาสัมผัสกับเทศกาลความอบอุ่น และอาหารแสนอร่อย ตามคอนเซ็ปต์ทุกอย่างเกิดจากดิน ชูเรื่องวัตถุดิบจากท้องทะเล ไอเดียในการครีเอทเมนู อาหารแบบเรียบง่าย สไตล์โฮมเมด เพื่อคงรสชาติของวัตถุดิบตามธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด

    📍 Clay Bangkok
    ⏰ 11:00-22:00 (เปิดทุกวัน)
    🅿️ มีที่จอดรถ

    #ร้านอาหารบรรยากาศดี #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    พร้อมแล้วสำหรับเทศกาลคริตมาสอารีย์ 𝐂𝐥𝐚𝐲 𝐁𝐚𝐧𝐠𝐤𝐨𝐤 ความสดชื่นที่รายล้อมไปด้วยวิวธรรมชาติ ที่จัดธีม ให้ทุกคนมาสัมผัสกับเทศกาลความอบอุ่น และอาหารแสนอร่อย ตามคอนเซ็ปต์ทุกอย่างเกิดจากดิน ชูเรื่องวัตถุดิบจากท้องทะเล ไอเดียในการครีเอทเมนู อาหารแบบเรียบง่าย สไตล์โฮมเมด เพื่อคงรสชาติของวัตถุดิบตามธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด 📍 Clay Bangkok ⏰ 11:00-22:00 (เปิดทุกวัน) 🅿️ มีที่จอดรถ #ร้านอาหารบรรยากาศดี #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 444 มุมมอง 1 รีวิว
  • ** #หน้าใส​ ไม่=​ #เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ! **

    ในบางครั้ง แม้ผิวของเราจะดูใส ดูสุขภาพดีเมื่อมอง จากภายนอก แต่ลึกๆแล้ว ผิวอาจกำลังเผชิญปัญหาความอ่อนแออยู่ก็เป็นได้ โดยที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต

    >>> นี่คือ​ 3 สัญญาณ​สำคัญ‼️ ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณ "อาจจะ" ไม่ได้แข็งแรง​ อย่างที่เห็น

    1. ผิว #ระคายเคืองง่าย และ #มีรอยแดง

    หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองง่าย เช่น รู้สึกแสบ คัน มีรอยแดง หรือแม้กระทั่งมีผดเล็กๆ ขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผิวของคุณอาจจะอ่อนแอกว่าที่คิด อาการระคายเคืองง่ายนี้เกิดขึ้นจากการที่เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวไวต่อสิ่งเร้าจากภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (Purnamawati et al., 2017)

    2. ผิว #แห้ง หรือ #ขาดความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว

    อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังอ่อนแอ คือ การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย แม้จะใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หากผิวแห้งหรือขาดน้ำบ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติหรือโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงพอ การที่ผิวแห้งกร้านง่ายทำให้เกิดริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำเร็วกว่าปกติ (Proksch et al., 2008).

    3. ผิว #ฟื้นตัวช้า หลัง #โดนแสงแดด หรือ #ทำความสะอาด

    ผิวที่อ่อนแอมักจะฟื้นตัวได้ช้าหลังจากเจอความรุนแรงจากภายนอก เช่น การโดนแสงแดดแรงๆ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หากหลังจากออกแดดแล้วผิวมีรอยแดง นานกว่าปกติ หรือรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าโดยที่ผิวไม่คืนสภาพได้รวดเร็ว ผิวของคุณอาจกำลังส่งสัญญาณว่าต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอลงไปอีก (Krutmann et al., 2014).

    การดูแลผิวให้แข็งแรงจากภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ผิวจะดูใสแต่ก็ไม่ควรละเลยสัญญาณเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ สารให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือมลภาวะโดยตรง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง สดใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริง

    -------

    ทำไม " #สารอาหารผิวในรูปแป้ง #COCON " จึงเหมาะสมต่อการ "ฟื้นฟูผิวอ่อนแอ" และ "ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ" ?

    COCON คือ #สารอาหารผิว ที่ประกอบด้วย โปรตีนจาก #PureCocoon 100% ไม่มีสารสังเคราะห์ ไม่มีสารคงตัวเจือปน ที่ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง จากแลปที่เชี่ยวชาญทางด้าน #TissueEngineering อันดับต้นๆของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้โมเลกุลของสารอาหาร "เป็นทรงกลม" จึงไม่บาดเซลลผิว ในตอนทา และ สามารถซึมลงไปให้เซลล์ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอะไรตกค้าง ไม่ระคายเคืองเซลล์ผิวเลย จึงเป็นแบรนด์ที่ใช้ในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น

    ซึ่ง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและป้องกันผิว จากความอ่อนแอ ดังนี้

    1. ฟื้นฟูผิวอ่อนแอด้วยการซ่อมแซมเซลล์จากภายใน
    COCON เป็น สารอาหารผิวในรูปแป้งที่มี Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ลึกถึงระดับ DNA ทำให้โครงสร้างผิวที่เคยถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือการใช้งานหนักกลับมาแข็งแรงขึ้น ผิวที่เคยอ่อนแอจึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    2. ป้องกันการสูญเสียเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)
    ด้วยคุณสมบัติของ Silk Protein ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ COCON ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ และสารเคมี ทำให้ผิวที่ยังแข็งแรงไม่ถูกทำลายง่าย และลดโอกาสที่ผิวจะกลายเป็นผิวอ่อนแอในอนาคต

    3. ป้องกันและลดการอักเสบขนาดเล็ก (Micro-Inflammation)
    การอักเสบขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ COCON มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดปัญหาระยะยาว เช่น การเสื่อมสภาพหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

    4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์
    COCON เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารสังเคราะห์เจือปน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้สารอาหารผิวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผิวจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการระคายเคืองและส่งเสริมสุขภาพผิวในระยะยาว

    5. ช่วยรักษาสมดุลของผิวอย่างยั่งยืน
    การใช้ COCON อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยรักษาความสมดุลของผิว ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวที่ดีอยู่แล้วคงความสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน

    ไม่ว่าคุณจะมีผิวที่อ่อนแอหรือผิวที่ต้องการการป้องกันไม่ให้เสื่อมสภาพ COCON คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผิวคุณ ด้วย Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

    -------

    **สำหรับผู้ที่ใช้ COCON อยู่แล้ว** หากคุณใช้ COCON แล้วพบว่ามีอาการผื่นแดงขึ้น นั่นแปลว่า เซลล์ผิวของคุณอ่อนแอจากเคมีในผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณใช้ หรือ มลภาวะที่คุณต้องเผชิญในแต่ละวัน

    ดังนั้น แนะนำให้ลองใช้ COCON เฉพาะตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียวก่อน เพื่อให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีจากครีมหรือเครื่องสำอางตัวอื่นที่อาจปิดกั้นการทำงานของ COCON

    การใช้สารอาหารผิว COCON เพียงตัวเดียวก่อนนอน จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวในระยะยาว เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงแล้ว ค่อยเริ่มใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในช่วงกลางวัน

    #TheSignature #BangkokCraftmanship #skincare #สกินแคร์ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ** #หน้าใส​ ไม่=​ #เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ! ** ในบางครั้ง แม้ผิวของเราจะดูใส ดูสุขภาพดีเมื่อมอง จากภายนอก แต่ลึกๆแล้ว ผิวอาจกำลังเผชิญปัญหาความอ่อนแออยู่ก็เป็นได้ โดยที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต >>> นี่คือ​ 3 สัญญาณ​สำคัญ‼️ ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณ "อาจจะ" ไม่ได้แข็งแรง​ อย่างที่เห็น 1. ผิว #ระคายเคืองง่าย และ #มีรอยแดง หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองง่าย เช่น รู้สึกแสบ คัน มีรอยแดง หรือแม้กระทั่งมีผดเล็กๆ ขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผิวของคุณอาจจะอ่อนแอกว่าที่คิด อาการระคายเคืองง่ายนี้เกิดขึ้นจากการที่เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวไวต่อสิ่งเร้าจากภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (Purnamawati et al., 2017) 2. ผิว #แห้ง หรือ #ขาดความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังอ่อนแอ คือ การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย แม้จะใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หากผิวแห้งหรือขาดน้ำบ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติหรือโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงพอ การที่ผิวแห้งกร้านง่ายทำให้เกิดริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำเร็วกว่าปกติ (Proksch et al., 2008). 3. ผิว #ฟื้นตัวช้า หลัง #โดนแสงแดด หรือ #ทำความสะอาด ผิวที่อ่อนแอมักจะฟื้นตัวได้ช้าหลังจากเจอความรุนแรงจากภายนอก เช่น การโดนแสงแดดแรงๆ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หากหลังจากออกแดดแล้วผิวมีรอยแดง นานกว่าปกติ หรือรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าโดยที่ผิวไม่คืนสภาพได้รวดเร็ว ผิวของคุณอาจกำลังส่งสัญญาณว่าต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอลงไปอีก (Krutmann et al., 2014). การดูแลผิวให้แข็งแรงจากภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ผิวจะดูใสแต่ก็ไม่ควรละเลยสัญญาณเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ สารให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือมลภาวะโดยตรง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง สดใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริง ------- ทำไม " #สารอาหารผิวในรูปแป้ง #COCON " จึงเหมาะสมต่อการ "ฟื้นฟูผิวอ่อนแอ" และ "ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ" ? COCON คือ #สารอาหารผิว ที่ประกอบด้วย โปรตีนจาก #PureCocoon 100% ไม่มีสารสังเคราะห์ ไม่มีสารคงตัวเจือปน ที่ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง จากแลปที่เชี่ยวชาญทางด้าน #TissueEngineering อันดับต้นๆของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้โมเลกุลของสารอาหาร "เป็นทรงกลม" จึงไม่บาดเซลลผิว ในตอนทา และ สามารถซึมลงไปให้เซลล์ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอะไรตกค้าง ไม่ระคายเคืองเซลล์ผิวเลย จึงเป็นแบรนด์ที่ใช้ในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น ซึ่ง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและป้องกันผิว จากความอ่อนแอ ดังนี้ 1. ฟื้นฟูผิวอ่อนแอด้วยการซ่อมแซมเซลล์จากภายใน COCON เป็น สารอาหารผิวในรูปแป้งที่มี Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ลึกถึงระดับ DNA ทำให้โครงสร้างผิวที่เคยถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือการใช้งานหนักกลับมาแข็งแรงขึ้น ผิวที่เคยอ่อนแอจึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ป้องกันการสูญเสียเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ด้วยคุณสมบัติของ Silk Protein ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ COCON ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ และสารเคมี ทำให้ผิวที่ยังแข็งแรงไม่ถูกทำลายง่าย และลดโอกาสที่ผิวจะกลายเป็นผิวอ่อนแอในอนาคต 3. ป้องกันและลดการอักเสบขนาดเล็ก (Micro-Inflammation) การอักเสบขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ COCON มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดปัญหาระยะยาว เช่น การเสื่อมสภาพหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย 4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์ COCON เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารสังเคราะห์เจือปน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้สารอาหารผิวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผิวจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการระคายเคืองและส่งเสริมสุขภาพผิวในระยะยาว 5. ช่วยรักษาสมดุลของผิวอย่างยั่งยืน การใช้ COCON อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยรักษาความสมดุลของผิว ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวที่ดีอยู่แล้วคงความสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน ไม่ว่าคุณจะมีผิวที่อ่อนแอหรือผิวที่ต้องการการป้องกันไม่ให้เสื่อมสภาพ COCON คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผิวคุณ ด้วย Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก ------- **สำหรับผู้ที่ใช้ COCON อยู่แล้ว** หากคุณใช้ COCON แล้วพบว่ามีอาการผื่นแดงขึ้น นั่นแปลว่า เซลล์ผิวของคุณอ่อนแอจากเคมีในผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณใช้ หรือ มลภาวะที่คุณต้องเผชิญในแต่ละวัน ดังนั้น แนะนำให้ลองใช้ COCON เฉพาะตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียวก่อน เพื่อให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีจากครีมหรือเครื่องสำอางตัวอื่นที่อาจปิดกั้นการทำงานของ COCON การใช้สารอาหารผิว COCON เพียงตัวเดียวก่อนนอน จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวในระยะยาว เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงแล้ว ค่อยเริ่มใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในช่วงกลางวัน #TheSignature #BangkokCraftmanship #skincare #สกินแคร์ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1059 มุมมอง 0 รีวิว
  • ** #หน้าใส​ ไม่=​ #เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ! **

    ในบางครั้ง แม้ผิวของเราจะดูใส ดูสุขภาพดีเมื่อมอง จากภายนอก แต่ลึกๆแล้ว ผิวอาจกำลังเผชิญปัญหาความอ่อนแออยู่ก็เป็นได้ โดยที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต

    >>> นี่คือ​ 3 สัญญาณ​สำคัญ‼️ ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณ "อาจจะ" ไม่ได้แข็งแรง​ อย่างที่เห็น

    1. ผิว #ระคายเคืองง่าย และ #มีรอยแดง

    หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองง่าย เช่น รู้สึกแสบ คัน มีรอยแดง หรือแม้กระทั่งมีผดเล็กๆ ขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผิวของคุณอาจจะอ่อนแอกว่าที่คิด อาการระคายเคืองง่ายนี้เกิดขึ้นจากการที่เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวไวต่อสิ่งเร้าจากภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (Purnamawati et al., 2017)

    2. ผิว #แห้ง หรือ #ขาดความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว

    อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังอ่อนแอ คือ การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย แม้จะใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หากผิวแห้งหรือขาดน้ำบ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติหรือโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงพอ การที่ผิวแห้งกร้านง่ายทำให้เกิดริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำเร็วกว่าปกติ (Proksch et al., 2008).

    3. ผิว #ฟื้นตัวช้า หลัง #โดนแสงแดด หรือ #ทำความสะอาด

    ผิวที่อ่อนแอมักจะฟื้นตัวได้ช้าหลังจากเจอความรุนแรงจากภายนอก เช่น การโดนแสงแดดแรงๆ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หากหลังจากออกแดดแล้วผิวมีรอยแดง นานกว่าปกติ หรือรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าโดยที่ผิวไม่คืนสภาพได้รวดเร็ว ผิวของคุณอาจกำลังส่งสัญญาณว่าต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอลงไปอีก (Krutmann et al., 2014).

    การดูแลผิวให้แข็งแรงจากภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ผิวจะดูใสแต่ก็ไม่ควรละเลยสัญญาณเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ สารให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือมลภาวะโดยตรง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง สดใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริง

    -------

    ทำไม " #สารอาหารผิวในรูปแป้ง #COCON " จึงเหมาะสมต่อการ "ฟื้นฟูผิวอ่อนแอ" และ "ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ" ?

    COCON คือ #สารอาหารผิว ที่ประกอบด้วย โปรตีนจาก #PureCocoon 100% ไม่มีสารสังเคราะห์ ไม่มีสารคงตัวเจือปน ที่ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง จากแลปที่เชี่ยวชาญทางด้าน #TissueEngineering อันดับต้นๆของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้โมเลกุลของสารอาหาร "เป็นทรงกลม" จึงไม่บาดเซลลผิว ในตอนทา และ สามารถซึมลงไปให้เซลล์ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอะไรตกค้าง ไม่ระคายเคืองเซลล์ผิวเลย จึงเป็นแบรนด์ที่ใช้ในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น

    ซึ่ง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและป้องกันผิว จากความอ่อนแอ ดังนี้

    1. ฟื้นฟูผิวอ่อนแอด้วยการซ่อมแซมเซลล์จากภายใน
    COCON เป็น สารอาหารผิวในรูปแป้งที่มี Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ลึกถึงระดับ DNA ทำให้โครงสร้างผิวที่เคยถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือการใช้งานหนักกลับมาแข็งแรงขึ้น ผิวที่เคยอ่อนแอจึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    2. ป้องกันการสูญเสียเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)
    ด้วยคุณสมบัติของ Silk Protein ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ COCON ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ และสารเคมี ทำให้ผิวที่ยังแข็งแรงไม่ถูกทำลายง่าย และลดโอกาสที่ผิวจะกลายเป็นผิวอ่อนแอในอนาคต

    3. ป้องกันและลดการอักเสบขนาดเล็ก (Micro-Inflammation)
    การอักเสบขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ COCON มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดปัญหาระยะยาว เช่น การเสื่อมสภาพหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

    4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์
    COCON เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารสังเคราะห์เจือปน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้สารอาหารผิวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผิวจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการระคายเคืองและส่งเสริมสุขภาพผิวในระยะยาว

    5. ช่วยรักษาสมดุลของผิวอย่างยั่งยืน
    การใช้ COCON อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยรักษาความสมดุลของผิว ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวที่ดีอยู่แล้วคงความสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน

    ไม่ว่าคุณจะมีผิวที่อ่อนแอหรือผิวที่ต้องการการป้องกันไม่ให้เสื่อมสภาพ COCON คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผิวคุณ ด้วย Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

    -------

    **สำหรับผู้ที่ใช้ COCON อยู่แล้ว** หากคุณใช้ COCON แล้วพบว่ามีอาการผื่นแดงขึ้น นั่นแปลว่า เซลล์ผิวของคุณอ่อนแอจากเคมีในผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณใช้ หรือ มลภาวะที่คุณต้องเผชิญในแต่ละวัน

    ดังนั้น แนะนำให้ลองใช้ COCON เฉพาะตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียวก่อน เพื่อให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีจากครีมหรือเครื่องสำอางตัวอื่นที่อาจปิดกั้นการทำงานของ COCON

    การใช้สารอาหารผิว COCON เพียงตัวเดียวก่อนนอน จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวในระยะยาว เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงแล้ว ค่อยเริ่มใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในช่วงกลางวัน

    #TheSignature #BangkokCraftmanship #skincare #สกินแคร์ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ** #หน้าใส​ ไม่=​ #เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ! ** ในบางครั้ง แม้ผิวของเราจะดูใส ดูสุขภาพดีเมื่อมอง จากภายนอก แต่ลึกๆแล้ว ผิวอาจกำลังเผชิญปัญหาความอ่อนแออยู่ก็เป็นได้ โดยที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต >>> นี่คือ​ 3 สัญญาณ​สำคัญ‼️ ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณ "อาจจะ" ไม่ได้แข็งแรง​ อย่างที่เห็น 1. ผิว #ระคายเคืองง่าย และ #มีรอยแดง หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองง่าย เช่น รู้สึกแสบ คัน มีรอยแดง หรือแม้กระทั่งมีผดเล็กๆ ขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผิวของคุณอาจจะอ่อนแอกว่าที่คิด อาการระคายเคืองง่ายนี้เกิดขึ้นจากการที่เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวไวต่อสิ่งเร้าจากภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (Purnamawati et al., 2017) 2. ผิว #แห้ง หรือ #ขาดความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังอ่อนแอ คือ การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย แม้จะใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หากผิวแห้งหรือขาดน้ำบ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติหรือโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงพอ การที่ผิวแห้งกร้านง่ายทำให้เกิดริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำเร็วกว่าปกติ (Proksch et al., 2008). 3. ผิว #ฟื้นตัวช้า หลัง #โดนแสงแดด หรือ #ทำความสะอาด ผิวที่อ่อนแอมักจะฟื้นตัวได้ช้าหลังจากเจอความรุนแรงจากภายนอก เช่น การโดนแสงแดดแรงๆ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หากหลังจากออกแดดแล้วผิวมีรอยแดง นานกว่าปกติ หรือรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าโดยที่ผิวไม่คืนสภาพได้รวดเร็ว ผิวของคุณอาจกำลังส่งสัญญาณว่าต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอลงไปอีก (Krutmann et al., 2014). การดูแลผิวให้แข็งแรงจากภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ผิวจะดูใสแต่ก็ไม่ควรละเลยสัญญาณเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ สารให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือมลภาวะโดยตรง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง สดใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริง ------- ทำไม " #สารอาหารผิวในรูปแป้ง #COCON " จึงเหมาะสมต่อการ "ฟื้นฟูผิวอ่อนแอ" และ "ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ" ? COCON คือ #สารอาหารผิว ที่ประกอบด้วย โปรตีนจาก #PureCocoon 100% ไม่มีสารสังเคราะห์ ไม่มีสารคงตัวเจือปน ที่ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง จากแลปที่เชี่ยวชาญทางด้าน #TissueEngineering อันดับต้นๆของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้โมเลกุลของสารอาหาร "เป็นทรงกลม" จึงไม่บาดเซลลผิว ในตอนทา และ สามารถซึมลงไปให้เซลล์ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอะไรตกค้าง ไม่ระคายเคืองเซลล์ผิวเลย จึงเป็นแบรนด์ที่ใช้ในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น ซึ่ง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและป้องกันผิว จากความอ่อนแอ ดังนี้ 1. ฟื้นฟูผิวอ่อนแอด้วยการซ่อมแซมเซลล์จากภายใน COCON เป็น สารอาหารผิวในรูปแป้งที่มี Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ลึกถึงระดับ DNA ทำให้โครงสร้างผิวที่เคยถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือการใช้งานหนักกลับมาแข็งแรงขึ้น ผิวที่เคยอ่อนแอจึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ป้องกันการสูญเสียเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ด้วยคุณสมบัติของ Silk Protein ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ COCON ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ และสารเคมี ทำให้ผิวที่ยังแข็งแรงไม่ถูกทำลายง่าย และลดโอกาสที่ผิวจะกลายเป็นผิวอ่อนแอในอนาคต 3. ป้องกันและลดการอักเสบขนาดเล็ก (Micro-Inflammation) การอักเสบขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ COCON มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดปัญหาระยะยาว เช่น การเสื่อมสภาพหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย 4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์ COCON เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารสังเคราะห์เจือปน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้สารอาหารผิวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผิวจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการระคายเคืองและส่งเสริมสุขภาพผิวในระยะยาว 5. ช่วยรักษาสมดุลของผิวอย่างยั่งยืน การใช้ COCON อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยรักษาความสมดุลของผิว ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวที่ดีอยู่แล้วคงความสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน ไม่ว่าคุณจะมีผิวที่อ่อนแอหรือผิวที่ต้องการการป้องกันไม่ให้เสื่อมสภาพ COCON คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผิวคุณ ด้วย Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก ------- **สำหรับผู้ที่ใช้ COCON อยู่แล้ว** หากคุณใช้ COCON แล้วพบว่ามีอาการผื่นแดงขึ้น นั่นแปลว่า เซลล์ผิวของคุณอ่อนแอจากเคมีในผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณใช้ หรือ มลภาวะที่คุณต้องเผชิญในแต่ละวัน ดังนั้น แนะนำให้ลองใช้ COCON เฉพาะตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียวก่อน เพื่อให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีจากครีมหรือเครื่องสำอางตัวอื่นที่อาจปิดกั้นการทำงานของ COCON การใช้สารอาหารผิว COCON เพียงตัวเดียวก่อนนอน จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวในระยะยาว เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงแล้ว ค่อยเริ่มใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในช่วงกลางวัน #TheSignature #BangkokCraftmanship #skincare #สกินแคร์ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1257 มุมมอง 0 รีวิว
  • **อยากให้ของขวัญ คนที่เรารัก เราเคารพ แต่คิดไม่ออก ไม่รู้ต้องเลือกอย่างไร**

    เป็นสิ่งที่ตัวผมเองต้องพบเจอทุกครั้ง ในเวลาที่อยากให้ของขวัญ คนที่เรารัก เราเคารพ ผมจึงเรียบเรียงโพสต์นี้ขึ้นมา เพื่อเป็นแนวทาง ช่วยในการ เลือกของขวัญ ให้ผู้รับประทับใจ

    ---------

    3 แนวทาง ในการเลือกของขวัญให้ ผู้รับประทับใจ จาการสำรวจ ผู้ได้รับของขวัญในประเทศไทย

    1. ของขวัญที่ ตรงกับความสนใจ และ ความชอบของผู้รับ

    จากผลสำรวจโดยศูนย์วิจัยพฤติกรรมผู้บริโภค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (2565) พบว่าผู้รับจะรู้สึกประทับใจมากที่สุดหากของขวัญที่ได้รับสะท้อนความสนใจส่วนตัวหรือสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ

    ไม่ว่าจะเป็น "งานอดิเรกที่พวกเขาทำเป็นประจำ" "สิ่งของที่พวกเขาสะสม" หรือ "สิ่งที่เกี่ยวข้องกับความหลงใหลในบางเรื่อง" การที่ผู้ให้สละเวลา "สำหรับการคิดถึงความชอบของผู้รับ" จึงเป็นสิ่งที่สร้างความผูกพันและแสดงถึงความใส่ใจได้อย่างดี

    2. ของขวัญที่ มีคุณค่า หรือ มีประโยชน์ในการใช้งาน

    ผลสำรวจจากบริษัทวิจัยการตลาด InsightAsia (2564) แสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ชอบของขวัญ "ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง หรือ มีความคุ้มค่า" ไม่ว่าจะเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน หรือ สินค้าที่มีประโยชน์ในการใช้งานเฉพาะด้าน

    การให้ของขวัญที่มีประโยชน์ "ช่วยให้ผู้รับรู้สึกว่าของขวัญมีคุณค่าในระยะยาว และสามารถนำไปใช้ได้ตามความต้องการ" ทำให้ของขวัญนั้นเป็นมากกว่าของฝากทั่วไป

    3. ของขวัญที่ ใส่ใจในบรรจุภัณฑ์ และ การนำเสนอ

    นอกจากตัวของขวัญเองแล้ว ผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (2565) ยังชี้ให้เห็นว่าผู้รับให้ความสำคัญกับการนำเสนอและบรรจุภัณฑ์ของของขวัญที่ได้รับ "การห่อหรือจัดบรรจุภัณฑ์ที่ดูสวยงามใส่ใจในรายละเอียด" ช่วยเพิ่มความรู้สึกตื่นเต้น และทำให้ "ผู้รับรู้สึกถึงความเอาใจใส่จากผู้ให้"

    อีกทั้ง การ "เพิ่มคำบรรยาย" หรือ "การ์ดที่สื่อความหมาย" ยิ่งช่วยสามารถเพิ่มคุณค่าให้ของขวัญและทำให้ผู้รับรู้สึกพิเศษยิ่งขึ้น

    ---------

    การเลือกของขวัญที่ทำให้ผู้รับประทับใจนั้น ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไป สิ่งสำคัญคือการใส่ใจในความชอบและความสนใจของผู้รับ ให้ของขวัญที่มีประโยชน์ในการใช้งาน และใส่ใจการให้ของขวัญด้วยบรรจุภัณฑ์และการ์ด ก็สามารถทำให้ผู้รับประทับใจได้

    ---------

    หากคุณกำลังมองหาของขวัญ ที่ดูเรียบหรู ปราณีต ทำด้วยความใส่ใจ แต่ราคาไม่แพง

    และ เป็นของขวัญ ที่ใช้ประโยชน์ได้จริง ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น Passport Holder ที่จะช่วยป้องกันความเสียหายของพาสปอร์ต และช่วยจัดการเอกสารเดินทางต่างๆ หรือ เป็น Card Holder ที่ช่วยจัดการบัตรต่างๆ มีหลายรูปแบบให้เลือก หรือ กระเป๋าเครื่องหนังคุณภาพสูงอื่นๆ ที่ช่วยจัดการสิ่งของต่างๆ ได้จริง ในชีวิตประจำวัน

    ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง Vegan Leather คุณภาพสูง ออกแบบด้วยความใส่ใจใน "รายละเอียด การจัดการ" จาก The Signature อาจเป็นคำตอบ ของคุณ

    นอกจากนี้ สำหรับ งานแต่งงาน งานเกษียณอายุ หรือ ของขวัญสำหรับองค์กร The Signature ยังมีบริการรับผลิต ปั๊มโลโก้ ของคุณ ให้ผู้รับ "ได้นึกถึงคุณทุกครั้ง ที่หยิบสินค้าขึ้นมาใช้"

    ยินดีให้คำปรึกษา จัดเซ็ตของขวัญ สำหรับโอกาสพิเศษ ของคุณ

    ติดต่อได้ที่ โทร. 0892248802 (แอม) ช่องทางติดต่อออนไลน์ https://linkbio.co/6110917URkCFB

    ดูตัวอย่างสินค้าของขวัญได้ที่ https://www.instagram.com/p/DCLb6DRPeca/

    ให้ The Signature เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความประทับใจครั้งสำคัญของคุณ!

    #TheSignature #BangkokCraftmanship #การจัดการ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    **อยากให้ของขวัญ คนที่เรารัก เราเคารพ แต่คิดไม่ออก ไม่รู้ต้องเลือกอย่างไร** เป็นสิ่งที่ตัวผมเองต้องพบเจอทุกครั้ง ในเวลาที่อยากให้ของขวัญ คนที่เรารัก เราเคารพ ผมจึงเรียบเรียงโพสต์นี้ขึ้นมา เพื่อเป็นแนวทาง ช่วยในการ เลือกของขวัญ ให้ผู้รับประทับใจ --------- 3 แนวทาง ในการเลือกของขวัญให้ ผู้รับประทับใจ จาการสำรวจ ผู้ได้รับของขวัญในประเทศไทย 1. ของขวัญที่ ตรงกับความสนใจ และ ความชอบของผู้รับ จากผลสำรวจโดยศูนย์วิจัยพฤติกรรมผู้บริโภค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (2565) พบว่าผู้รับจะรู้สึกประทับใจมากที่สุดหากของขวัญที่ได้รับสะท้อนความสนใจส่วนตัวหรือสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น "งานอดิเรกที่พวกเขาทำเป็นประจำ" "สิ่งของที่พวกเขาสะสม" หรือ "สิ่งที่เกี่ยวข้องกับความหลงใหลในบางเรื่อง" การที่ผู้ให้สละเวลา "สำหรับการคิดถึงความชอบของผู้รับ" จึงเป็นสิ่งที่สร้างความผูกพันและแสดงถึงความใส่ใจได้อย่างดี 2. ของขวัญที่ มีคุณค่า หรือ มีประโยชน์ในการใช้งาน ผลสำรวจจากบริษัทวิจัยการตลาด InsightAsia (2564) แสดงให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ชอบของขวัญ "ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง หรือ มีความคุ้มค่า" ไม่ว่าจะเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน หรือ สินค้าที่มีประโยชน์ในการใช้งานเฉพาะด้าน การให้ของขวัญที่มีประโยชน์ "ช่วยให้ผู้รับรู้สึกว่าของขวัญมีคุณค่าในระยะยาว และสามารถนำไปใช้ได้ตามความต้องการ" ทำให้ของขวัญนั้นเป็นมากกว่าของฝากทั่วไป 3. ของขวัญที่ ใส่ใจในบรรจุภัณฑ์ และ การนำเสนอ นอกจากตัวของขวัญเองแล้ว ผลสำรวจจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (2565) ยังชี้ให้เห็นว่าผู้รับให้ความสำคัญกับการนำเสนอและบรรจุภัณฑ์ของของขวัญที่ได้รับ "การห่อหรือจัดบรรจุภัณฑ์ที่ดูสวยงามใส่ใจในรายละเอียด" ช่วยเพิ่มความรู้สึกตื่นเต้น และทำให้ "ผู้รับรู้สึกถึงความเอาใจใส่จากผู้ให้" อีกทั้ง การ "เพิ่มคำบรรยาย" หรือ "การ์ดที่สื่อความหมาย" ยิ่งช่วยสามารถเพิ่มคุณค่าให้ของขวัญและทำให้ผู้รับรู้สึกพิเศษยิ่งขึ้น --------- การเลือกของขวัญที่ทำให้ผู้รับประทับใจนั้น ไม่จำเป็นต้องมีราคาแพงเสมอไป สิ่งสำคัญคือการใส่ใจในความชอบและความสนใจของผู้รับ ให้ของขวัญที่มีประโยชน์ในการใช้งาน และใส่ใจการให้ของขวัญด้วยบรรจุภัณฑ์และการ์ด ก็สามารถทำให้ผู้รับประทับใจได้ --------- หากคุณกำลังมองหาของขวัญ ที่ดูเรียบหรู ปราณีต ทำด้วยความใส่ใจ แต่ราคาไม่แพง และ เป็นของขวัญ ที่ใช้ประโยชน์ได้จริง ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น Passport Holder ที่จะช่วยป้องกันความเสียหายของพาสปอร์ต และช่วยจัดการเอกสารเดินทางต่างๆ หรือ เป็น Card Holder ที่ช่วยจัดการบัตรต่างๆ มีหลายรูปแบบให้เลือก หรือ กระเป๋าเครื่องหนังคุณภาพสูงอื่นๆ ที่ช่วยจัดการสิ่งของต่างๆ ได้จริง ในชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง Vegan Leather คุณภาพสูง ออกแบบด้วยความใส่ใจใน "รายละเอียด การจัดการ" จาก The Signature อาจเป็นคำตอบ ของคุณ นอกจากนี้ สำหรับ งานแต่งงาน งานเกษียณอายุ หรือ ของขวัญสำหรับองค์กร The Signature ยังมีบริการรับผลิต ปั๊มโลโก้ ของคุณ ให้ผู้รับ "ได้นึกถึงคุณทุกครั้ง ที่หยิบสินค้าขึ้นมาใช้" ยินดีให้คำปรึกษา จัดเซ็ตของขวัญ สำหรับโอกาสพิเศษ ของคุณ ติดต่อได้ที่ โทร. 0892248802 (แอม) ช่องทางติดต่อออนไลน์ https://linkbio.co/6110917URkCFB ดูตัวอย่างสินค้าของขวัญได้ที่ https://www.instagram.com/p/DCLb6DRPeca/ ให้ The Signature เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความประทับใจครั้งสำคัญของคุณ! #TheSignature #BangkokCraftmanship #การจัดการ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 894 มุมมอง 0 รีวิว
  • แวะมาหาเพื่อนของฉัน เจ๊ไฝ ที่ร้านอาหารที่ไม่เหมือนใครและยอดเยี่ยมของเธอ
    แกงปู !
    ไข่เจียวปู !!
    ถ้าคุณรู้, คุณก็รู้
    ถ้าคุณไม่รู้ … คุณควรรู้
    เธอเป็นร็อคสตาร์ตัวจริง !
    กรุงเทพยังคงเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ดีใจมากที่ได้กลับมาที่ประเทศไทยที่น่าตื่นตาตื่นใจ !!

    Russell Crowe
    .
    Popped in to see my friend Jay Fai at her unique and wonderful restaurant.
    Crab curry !
    Crab omelette !!
    If you know, you know.
    If you don’t … you should.
    She is an absolute rockstar !
    Bangkok remains an exhilarating experience. So nice to be back in amazing Thailand !!
    .
    8:20 PM · Nov 6, 2024 · 235.5K Views
    https://x.com/russellcrowe/status/1854151762556629055
    แวะมาหาเพื่อนของฉัน เจ๊ไฝ ที่ร้านอาหารที่ไม่เหมือนใครและยอดเยี่ยมของเธอ แกงปู ! ไข่เจียวปู !! ถ้าคุณรู้, คุณก็รู้ ถ้าคุณไม่รู้ … คุณควรรู้ เธอเป็นร็อคสตาร์ตัวจริง ! กรุงเทพยังคงเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ดีใจมากที่ได้กลับมาที่ประเทศไทยที่น่าตื่นตาตื่นใจ !! Russell Crowe . Popped in to see my friend Jay Fai at her unique and wonderful restaurant. Crab curry ! Crab omelette !! If you know, you know. If you don’t … you should. She is an absolute rockstar ! Bangkok remains an exhilarating experience. So nice to be back in amazing Thailand !! . 8:20 PM · Nov 6, 2024 · 235.5K Views https://x.com/russellcrowe/status/1854151762556629055
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • Street Photography #bangkok
    Street Photography #bangkok
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • ป้ายยาโจ๊กตลาดน้อย เจริญกรุง #bangkok
    ป้ายยาโจ๊กตลาดน้อย เจริญกรุง #bangkok
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตลาดน้อย เจริญกรุง #bangkok
    ตลาดน้อย เจริญกรุง #bangkok
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟินต่อเนื่องแบบจุกๆ ด้วยกองทัพ บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด บุกประตูน้ำ! มากันทั้งทะเล กุ้ง กั้ง หอยนานาชนิด ปูม้า ปูทะเล ปูนิ่ม ปลาหมึก แซลมอน หอยนางรมนำเข้าหลากสายพันธุ์ มีให้เลือกลิ้มรสทั้งแบบ on ice และแบบทะเลเผาร้อนๆ รวมไปถึง อาหารอินเดียนเครื่องเทศเข้มข้นรสเลิศ จาก เชฟ Alam สุดยอดเชฟอาหารอินเดีย ทานกันแบบไม่อั้น 4 ชั่วโมง

    ราคา : ราคา 1,599 บาทสุทธิต่อท่าน รวมซอฟต์ดริ้งและน้ำดื่ม (ทานได้ 4 ชม.)
    ระยะเวลาโปรโมชั่น : ทุกวันเสาร์ 18.00 - 22.00 น.
    ที่อยู่ : Amari Watergate Bangkok
    ถนนเพชรบุรี แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
    พิกัด : https://maps.app.goo.gl/69fsWgyZSdNzjohW8

    #บุฟเฟ่ต์โรงแรม #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    ฟินต่อเนื่องแบบจุกๆ ด้วยกองทัพ บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด บุกประตูน้ำ! มากันทั้งทะเล กุ้ง กั้ง หอยนานาชนิด ปูม้า ปูทะเล ปูนิ่ม ปลาหมึก แซลมอน หอยนางรมนำเข้าหลากสายพันธุ์ มีให้เลือกลิ้มรสทั้งแบบ on ice และแบบทะเลเผาร้อนๆ รวมไปถึง อาหารอินเดียนเครื่องเทศเข้มข้นรสเลิศ จาก เชฟ Alam สุดยอดเชฟอาหารอินเดีย ทานกันแบบไม่อั้น 4 ชั่วโมง ราคา : ราคา 1,599 บาทสุทธิต่อท่าน รวมซอฟต์ดริ้งและน้ำดื่ม (ทานได้ 4 ชม.) ระยะเวลาโปรโมชั่น : ทุกวันเสาร์ 18.00 - 22.00 น. ที่อยู่ : Amari Watergate Bangkok ถนนเพชรบุรี แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พิกัด : https://maps.app.goo.gl/69fsWgyZSdNzjohW8 #บุฟเฟ่ต์โรงแรม #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 528 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิ่มอร่อยไม่อั้น ที่ โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ กับ All New Seafood with Crab Omakase พร้อมซีฟู้ดไลน์แบบจัดเต็ม เช่น กุ้งแม่น้ำ, กุ้งลายเสือ, หอยนางรม, ปลาหมึกไข่ และเมนูอื่นอีกหลากหลาย ให้อิ่มจุกถึง 4.30 ชั่วโมง จุใจ แบบไม่อั้น

    ราคา : 1,199 net/ท่าน (รวมน้ำเปล่า) ปกติ 2,599 บาท
    ระยะเวลาโปรโมชั่น : ทุกคืนวันศุกร์-วันเสาร์ เวลา 17.30 – 22.00 น.
    ที่อยู่ : โรงแรม Novotel Bangkok on Siam Square
    392/44 สยามสแควร์ ซอย 6 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
    พิกัด : https://maps.app.goo.gl/6goGeV19h2XedySG7

    #บุฟเฟ่ต์โรงแรม #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    อิ่มอร่อยไม่อั้น ที่ โรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ กับ All New Seafood with Crab Omakase พร้อมซีฟู้ดไลน์แบบจัดเต็ม เช่น กุ้งแม่น้ำ, กุ้งลายเสือ, หอยนางรม, ปลาหมึกไข่ และเมนูอื่นอีกหลากหลาย ให้อิ่มจุกถึง 4.30 ชั่วโมง จุใจ แบบไม่อั้น ราคา : 1,199 net/ท่าน (รวมน้ำเปล่า) ปกติ 2,599 บาท ระยะเวลาโปรโมชั่น : ทุกคืนวันศุกร์-วันเสาร์ เวลา 17.30 – 22.00 น. ที่อยู่ : โรงแรม Novotel Bangkok on Siam Square 392/44 สยามสแควร์ ซอย 6 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ พิกัด : https://maps.app.goo.gl/6goGeV19h2XedySG7 #บุฟเฟ่ต์โรงแรม #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 560 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=ZB-LhJf8kbI
    บทสนทนาในรถแท็กซี่
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาในรถแท็กซี่
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #conversations #listeningtest #taxi

    The conversations from the clip :

    Tourist: Hello, could you take me to the Grand Palace?
    Driver: Yes, of course! Please get in.
    Tourist: Thank you. Can you please turn on the meter?
    Driver: Oh, the Grand Palace is a bit far. How about 300 baht?
    Tourist: I’d prefer to go by meter, please.
    Driver: Alright, I’ll turn on the meter for you.
    Tourist: Thank you. Do you drive here every day?
    Driver: Yes, I drive in Bangkok every day. Lots of tourists like you go to the Grand Palace.
    Tourist: I can imagine! Is it usually busy around this time?
    Driver: Yes, especially in the mornings and evenings. Many people visit the temples.
    Tourist: I see. How long will it take to get there?
    Driver: Maybe 30 to 40 minutes, depending on traffic.
    Tourist: Alright, sounds good. Do you think it will be very crowded?
    Driver: Probably. But if you go early, it’s usually less crowded.
    Tourist: Good to know! Thank you for the advice.
    Driver: You’re welcome! Enjoy your time at the Grand Palace.

    นักท่องเที่ยว: สวัสดีค่ะ พาไปพระบรมมหาราชวังได้ไหมคะ?
    คนขับ: ได้ครับ เชิญขึ้นมาเลยครับ
    นักท่องเที่ยว: ขอบคุณค่ะ เปิดมิเตอร์ให้ด้วยได้ไหมคะ?
    คนขับ: อ๋อ พระบรมมหาราชวังไกลอยู่นะครับ สัก 300 บาทดีไหมครับ?
    นักท่องเที่ยว: ขอไปตามมิเตอร์ดีกว่าค่ะ
    คนขับ: ได้ครับ ผมจะเปิดมิเตอร์ให้นะครับ
    นักท่องเที่ยว: ขอบคุณค่ะ ขับที่นี่ทุกวันเลยหรือคะ?
    คนขับ: ใช่ครับ ผมขับในกรุงเทพทุกวัน มีนักท่องเที่ยวหลายคนที่ไปพระบรมมหาราชวังเหมือนคุณนี่แหละครับ
    นักท่องเที่ยว: คงจะเป็นที่นิยมมากเลยนะคะ ช่วงนี้คนเยอะไหมคะ?
    คนขับ: ครับ ช่วงเช้า ๆ กับเย็น ๆ จะเยอะเป็นพิเศษ เพราะคนไปไหว้พระที่วัดกันเยอะ
    นักท่องเที่ยว: เข้าใจแล้วค่ะ ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะถึงคะ?
    คนขับ: ประมาณ 30 ถึง 40 นาทีครับ ขึ้นอยู่กับการจราจร
    นักท่องเที่ยว: โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ คิดว่าคนจะเยอะมากไหมคะ?
    คนขับ: น่าจะเยอะครับ แต่ถ้าคุณไปเช้า ๆ ก็จะคนน้อยกว่า
    นักท่องเที่ยว: ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
    คนขับ: ยินดีครับ ขอให้สนุกกับการเที่ยวพระบรมมหาราชวังนะครับ

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Palace (พา-ลิซ) n. แปลว่า พระราชวัง
    Meter (มี-เทอะ) n. แปลว่า มิเตอร์
    Tourist (ทัว-ริสท) n. แปลว่า นักท่องเที่ยว
    Driver (ไดร-เวอะ) n. แปลว่า คนขับ
    Traffic (แทรฟ-ฟิค) n. แปลว่า การจราจร
    Temple (เทม-เพิล) n. แปลว่า วัด
    Morning (มอ-นิง) n. แปลว่า ตอนเช้า
    Evening (อีฟ-นิง) n. แปลว่า ตอนเย็น
    Crowded (เครา-ดิด) adj. แปลว่า แออัด, คนเยอะ
    Advice (แอด-ไวซ) n. แปลว่า คำแนะนำ
    Far (ฟาร์) adj. แปลว่า ไกล
    Usually (ยู-ชวล-ลิ) adv. แปลว่า โดยปกติ
    Imagine (อิ-แมจ-จิน) v. แปลว่า จินตนาการ
    Every day (เอฟ-วะ-รี เดย์) adv. แปลว่า ทุกวัน
    Welcome (เวล-คัม) v. แปลว่า ยินดีต้อนรับ
    https://www.youtube.com/watch?v=ZB-LhJf8kbI บทสนทนาในรถแท็กซี่ (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาในรถแท็กซี่ มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #conversations #listeningtest #taxi The conversations from the clip : Tourist: Hello, could you take me to the Grand Palace? Driver: Yes, of course! Please get in. Tourist: Thank you. Can you please turn on the meter? Driver: Oh, the Grand Palace is a bit far. How about 300 baht? Tourist: I’d prefer to go by meter, please. Driver: Alright, I’ll turn on the meter for you. Tourist: Thank you. Do you drive here every day? Driver: Yes, I drive in Bangkok every day. Lots of tourists like you go to the Grand Palace. Tourist: I can imagine! Is it usually busy around this time? Driver: Yes, especially in the mornings and evenings. Many people visit the temples. Tourist: I see. How long will it take to get there? Driver: Maybe 30 to 40 minutes, depending on traffic. Tourist: Alright, sounds good. Do you think it will be very crowded? Driver: Probably. But if you go early, it’s usually less crowded. Tourist: Good to know! Thank you for the advice. Driver: You’re welcome! Enjoy your time at the Grand Palace. นักท่องเที่ยว: สวัสดีค่ะ พาไปพระบรมมหาราชวังได้ไหมคะ? คนขับ: ได้ครับ เชิญขึ้นมาเลยครับ นักท่องเที่ยว: ขอบคุณค่ะ เปิดมิเตอร์ให้ด้วยได้ไหมคะ? คนขับ: อ๋อ พระบรมมหาราชวังไกลอยู่นะครับ สัก 300 บาทดีไหมครับ? นักท่องเที่ยว: ขอไปตามมิเตอร์ดีกว่าค่ะ คนขับ: ได้ครับ ผมจะเปิดมิเตอร์ให้นะครับ นักท่องเที่ยว: ขอบคุณค่ะ ขับที่นี่ทุกวันเลยหรือคะ? คนขับ: ใช่ครับ ผมขับในกรุงเทพทุกวัน มีนักท่องเที่ยวหลายคนที่ไปพระบรมมหาราชวังเหมือนคุณนี่แหละครับ นักท่องเที่ยว: คงจะเป็นที่นิยมมากเลยนะคะ ช่วงนี้คนเยอะไหมคะ? คนขับ: ครับ ช่วงเช้า ๆ กับเย็น ๆ จะเยอะเป็นพิเศษ เพราะคนไปไหว้พระที่วัดกันเยอะ นักท่องเที่ยว: เข้าใจแล้วค่ะ ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะถึงคะ? คนขับ: ประมาณ 30 ถึง 40 นาทีครับ ขึ้นอยู่กับการจราจร นักท่องเที่ยว: โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ คิดว่าคนจะเยอะมากไหมคะ? คนขับ: น่าจะเยอะครับ แต่ถ้าคุณไปเช้า ๆ ก็จะคนน้อยกว่า นักท่องเที่ยว: ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ คนขับ: ยินดีครับ ขอให้สนุกกับการเที่ยวพระบรมมหาราชวังนะครับ Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Palace (พา-ลิซ) n. แปลว่า พระราชวัง Meter (มี-เทอะ) n. แปลว่า มิเตอร์ Tourist (ทัว-ริสท) n. แปลว่า นักท่องเที่ยว Driver (ไดร-เวอะ) n. แปลว่า คนขับ Traffic (แทรฟ-ฟิค) n. แปลว่า การจราจร Temple (เทม-เพิล) n. แปลว่า วัด Morning (มอ-นิง) n. แปลว่า ตอนเช้า Evening (อีฟ-นิง) n. แปลว่า ตอนเย็น Crowded (เครา-ดิด) adj. แปลว่า แออัด, คนเยอะ Advice (แอด-ไวซ) n. แปลว่า คำแนะนำ Far (ฟาร์) adj. แปลว่า ไกล Usually (ยู-ชวล-ลิ) adv. แปลว่า โดยปกติ Imagine (อิ-แมจ-จิน) v. แปลว่า จินตนาการ Every day (เอฟ-วะ-รี เดย์) adv. แปลว่า ทุกวัน Welcome (เวล-คัม) v. แปลว่า ยินดีต้อนรับ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 598 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ตอนนั้น​ ถึงขั้น​ ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม**

    (โพสต์​นี้​ รูปแรก ใช้รูปของคนอื่นประกอบ​ เพราะตอนที่พาสปอร์ต​ตก​ในห้องน้ำ​ ตกใจอยู่​ จึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้)​

    มีครั้งหนึ่งที่ผมไป #ไต้หวัน ตอนที่ไปเข้าห้องน้ำที่เมือง #เกาสง เพื่อขึ้น #รถไฟความเร็วสูง กลับไปที่ #ไทเป ด้วยความเร่งรีบ ผมจึงลืมปิดกระเป๋าพอเดินไปเข้าห้องน้ำที่พื้นมีน้ำนองอยู่ที่พื้น สูงประมาณครึ่งซม. พาสปอร์ตที่อยู่ในกระเป๋า ก็หล่นลงไปที่พื้น ที่มีน้ำเจิ่งนอง

    ตอนนั้นผมใจหายวาบ รีบเก็บเล่มพาสปอร์ตขึ้นมาดู และ คิดในใจว่า "งานต้องเข้าแล้ว" คิดว่า "คงต้องไปทำธุระแทนที่จะได้เที่ยวแล้ว"

    แต่พอเช็คดู เล่มพาสปอร์ตยังปกติยังไม่ทันเปียกน้ำ เพราะผมใช้ Passport Holder แบรนด์ Signature ที่ตัวปกกันน้ำได้ และมีความหนาพอควร จึงทำให้น้ำที่เจิ่งนองที่พื้นประมาณครึ่งซม. ยังไม่ทันเข้าไปโดนตัวเล่ม จึงรอดไป จากงานที่จ่อเตรียมเข้า

    จึงทำให้ผมคิดได้ว่า หากตอนนั้นไม่ได้ใช้ Passport Holder และ เล่มพาสปอร์ตเกิดเปียก ผมควรต้องทำอย่าไรบ้างเพื่อแก้ปัญหานี้ จึงทำให้เรียบเรียงบทความนี้ขึ้นมา เพราะตอนไปต่างประเทศ เราก็ต้องสัมผัสกับน้ำ และเข้าห้องน้ำทุกวัน จึงมีโอกาสเกิดปัญหา #พาสปอร์ตตกน้ำ หรือ #พาสปอร์ตเปียก น้ำได้ง่ายกว่า ปัญหารูปแบบอื่นๆ

    ---------

    4 ขั้นตอน หลังพบว่า #เล่มพาสปอร์ตเปียก ตอนอยู่ต่างประเทศ

    1. รีบเช็ดให้แห้ง และ ตรวจสอบความเสียหาย

    นำพาสปอร์ตออกจากน้ำทันที เช็ดน้ำออกให้มากที่สุด ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่ซับน้ำ

    เมื่อซับน้ำแล้ว ให้วางพาสปอร์ตในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและหลีกเลี่ยงความร้อนจัด เพื่อป้องกัน "กระดาษย่นหรือ ซีลพลาสติกพัง" ที่จะส่งผลให้ เล่มพาสปอร์ตทำงานไม่ได้

    2. ใช้เครื่องมือเพื่อช่วยให้แห้ง ก่อนที่เล่มจะเสียหาย

    หากมีไดร์เป่าผม สามารถใช้ "ไดร์เป่า ลมเย็น" เป่าพาสปอร์ตเพื่อช่วยให้น้ำแห้งเร็วขึ้น ** ห้ามใช้ลมร้อนโดยเด็ดขาด** เพราะอาจทำให้พาสปอร์ต เสียหายมากกว่าเดิม

    ถ้ามีซองดูดความชื้นให้ใส่พาสปอร์ตในถุงพร้อมซองดูดความชื้น วิธีนี้จะช่วยให้พาสปอร์ตแห้งโดยไม่เสี่ยงต่อการเสียรูป

    3. ตรวจสอบความชัดเจน ของข้อมูลบนพาสปอร์ต

    ตรวจสอบ "หน้าแรกที่มีรูปถ่าย และ ข้อมูลสำคัญต่างๆ ว่ายังชัดเจนดีไหม" ถ้าหมึกเลือนหรือเสียหาย การยืนยันตัวตนอาจมีปัญหาเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าออกระหว่างประเทศ

    หากข้อมูลเริ่มไม่ชัดเจนหรือพาสปอร์ตบวมจากความชื้น ควรเตรียมตัวขอเอกสารใหม่

    4. ติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทย​ ในประเทศนั้นๆ

    ควรรีบติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยใกล้ที่สุด แจ้งเหตุการณ์และขอคำแนะนำ หากจำเป็นอาจต้อง ขอเอกสารชั่วคราวสำหรับการเดินทางกลับประเทศไทย

    ทางสถานทูตจะช่วยเหลือในการออก #เอกสารทดแทน (Emergency Travel Document) ซึ่งสามารถใช้แทนพาสปอร์ตในกรณีฉุกเฉิน

    ---------

    #พาสปอร์ต ถือเป็นหนึ่งในเอกสารที่มีความสำคัญสูงสุด ในการเดินทางต่างประเทศ การป้องกันความเสียหายแก่เอกสารนี้ จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องทำ เป็นงานที่ควรเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ

    หากคุณกำลังมองหา #PassportHolder ที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง สีสันสวยงาม มี 17 สีให้เลือกสรร การตัดเย็บดีเยี่ยม ราคาสมเหตุสมผล อีกทั้งยังออกแบบให้สนับสนุนการจัดเก็บและจัดการเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้คุณสะดวกในการใช้งาน

    The Signature Passport Holder อาจเป็น Passport Holder ที่ตอบโจทย์ของคุณ

    #TheSignature #BangkokCraftmanship #การจัดการ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes

    --------

    เพิ่มเติม

    ตัวอย่างปรากฏการณ์จริง ที่แสดงให้เห็นว่า พอ #พาสปอร์ตเปียกน้ำ แล้วยุ่งยาก เสี่ยงทริปล่มแค่ไหน อ่านได้ ตามลิงค์ด้านล่าง

    https://www.facebook.com/TravelNews.th/posts/pfbid02mdjSeF6DMwgDxj5UkzVhwJ7sFWEerVjas3Zuz2Ax67XGwUD6meH3NXC8JjW2RHpBl

    ขอบคุณข้อมูลจากเพจ #TravelNews ครับ
    **ตอนนั้น​ ถึงขั้น​ ใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม** (โพสต์​นี้​ รูปแรก ใช้รูปของคนอื่นประกอบ​ เพราะตอนที่พาสปอร์ต​ตก​ในห้องน้ำ​ ตกใจอยู่​ จึงไม่ได้ถ่ายรูปไว้)​ มีครั้งหนึ่งที่ผมไป #ไต้หวัน ตอนที่ไปเข้าห้องน้ำที่เมือง #เกาสง เพื่อขึ้น #รถไฟความเร็วสูง กลับไปที่ #ไทเป ด้วยความเร่งรีบ ผมจึงลืมปิดกระเป๋าพอเดินไปเข้าห้องน้ำที่พื้นมีน้ำนองอยู่ที่พื้น สูงประมาณครึ่งซม. พาสปอร์ตที่อยู่ในกระเป๋า ก็หล่นลงไปที่พื้น ที่มีน้ำเจิ่งนอง ตอนนั้นผมใจหายวาบ รีบเก็บเล่มพาสปอร์ตขึ้นมาดู และ คิดในใจว่า "งานต้องเข้าแล้ว" คิดว่า "คงต้องไปทำธุระแทนที่จะได้เที่ยวแล้ว" แต่พอเช็คดู เล่มพาสปอร์ตยังปกติยังไม่ทันเปียกน้ำ เพราะผมใช้ Passport Holder แบรนด์ Signature ที่ตัวปกกันน้ำได้ และมีความหนาพอควร จึงทำให้น้ำที่เจิ่งนองที่พื้นประมาณครึ่งซม. ยังไม่ทันเข้าไปโดนตัวเล่ม จึงรอดไป จากงานที่จ่อเตรียมเข้า จึงทำให้ผมคิดได้ว่า หากตอนนั้นไม่ได้ใช้ Passport Holder และ เล่มพาสปอร์ตเกิดเปียก ผมควรต้องทำอย่าไรบ้างเพื่อแก้ปัญหานี้ จึงทำให้เรียบเรียงบทความนี้ขึ้นมา เพราะตอนไปต่างประเทศ เราก็ต้องสัมผัสกับน้ำ และเข้าห้องน้ำทุกวัน จึงมีโอกาสเกิดปัญหา #พาสปอร์ตตกน้ำ หรือ #พาสปอร์ตเปียก น้ำได้ง่ายกว่า ปัญหารูปแบบอื่นๆ --------- 4 ขั้นตอน หลังพบว่า #เล่มพาสปอร์ตเปียก ตอนอยู่ต่างประเทศ 1. รีบเช็ดให้แห้ง และ ตรวจสอบความเสียหาย นำพาสปอร์ตออกจากน้ำทันที เช็ดน้ำออกให้มากที่สุด ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่ซับน้ำ เมื่อซับน้ำแล้ว ให้วางพาสปอร์ตในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและหลีกเลี่ยงความร้อนจัด เพื่อป้องกัน "กระดาษย่นหรือ ซีลพลาสติกพัง" ที่จะส่งผลให้ เล่มพาสปอร์ตทำงานไม่ได้ 2. ใช้เครื่องมือเพื่อช่วยให้แห้ง ก่อนที่เล่มจะเสียหาย หากมีไดร์เป่าผม สามารถใช้ "ไดร์เป่า ลมเย็น" เป่าพาสปอร์ตเพื่อช่วยให้น้ำแห้งเร็วขึ้น ** ห้ามใช้ลมร้อนโดยเด็ดขาด** เพราะอาจทำให้พาสปอร์ต เสียหายมากกว่าเดิม ถ้ามีซองดูดความชื้นให้ใส่พาสปอร์ตในถุงพร้อมซองดูดความชื้น วิธีนี้จะช่วยให้พาสปอร์ตแห้งโดยไม่เสี่ยงต่อการเสียรูป 3. ตรวจสอบความชัดเจน ของข้อมูลบนพาสปอร์ต ตรวจสอบ "หน้าแรกที่มีรูปถ่าย และ ข้อมูลสำคัญต่างๆ ว่ายังชัดเจนดีไหม" ถ้าหมึกเลือนหรือเสียหาย การยืนยันตัวตนอาจมีปัญหาเมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าออกระหว่างประเทศ หากข้อมูลเริ่มไม่ชัดเจนหรือพาสปอร์ตบวมจากความชื้น ควรเตรียมตัวขอเอกสารใหม่ 4. ติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทย​ ในประเทศนั้นๆ ควรรีบติดต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยใกล้ที่สุด แจ้งเหตุการณ์และขอคำแนะนำ หากจำเป็นอาจต้อง ขอเอกสารชั่วคราวสำหรับการเดินทางกลับประเทศไทย ทางสถานทูตจะช่วยเหลือในการออก #เอกสารทดแทน (Emergency Travel Document) ซึ่งสามารถใช้แทนพาสปอร์ตในกรณีฉุกเฉิน --------- #พาสปอร์ต ถือเป็นหนึ่งในเอกสารที่มีความสำคัญสูงสุด ในการเดินทางต่างประเทศ การป้องกันความเสียหายแก่เอกสารนี้ จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องทำ เป็นงานที่ควรเตรียมพร้อมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ หากคุณกำลังมองหา #PassportHolder ที่ทำจากวัสดุคุณภาพสูง สีสันสวยงาม มี 17 สีให้เลือกสรร การตัดเย็บดีเยี่ยม ราคาสมเหตุสมผล อีกทั้งยังออกแบบให้สนับสนุนการจัดเก็บและจัดการเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้คุณสะดวกในการใช้งาน The Signature Passport Holder อาจเป็น Passport Holder ที่ตอบโจทย์ของคุณ #TheSignature #BangkokCraftmanship #การจัดการ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes -------- เพิ่มเติม ตัวอย่างปรากฏการณ์จริง ที่แสดงให้เห็นว่า พอ #พาสปอร์ตเปียกน้ำ แล้วยุ่งยาก เสี่ยงทริปล่มแค่ไหน อ่านได้ ตามลิงค์ด้านล่าง https://www.facebook.com/TravelNews.th/posts/pfbid02mdjSeF6DMwgDxj5UkzVhwJ7sFWEerVjas3Zuz2Ax67XGwUD6meH3NXC8JjW2RHpBl ขอบคุณข้อมูลจากเพจ #TravelNews ครับ
    Like
    1
    6 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 939 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts